ปิยพัชร์ จีโน
…ผมจะชอบเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิต วัยรุ่นที่ไม่เกินช่วงมหาวิทยาลัย เพราะรู้สึกว่า มันมีเพื่อน มีความฝัน มีความสนุกเต็มที่ แต่ จริงๆ แล้วการ์ตูนจะเป็นเรื่องของคนอายุเท่า ไหร่ก็ได้ ซึ่งผมคิดว่าการท�ำหนังสือการ์ตูนสัก เล่มก็คล้ายๆ กับการท�ำหนังเรื่องหนึ่งนะครับ แต่แตกต่างกันตรงที่ถ้าจะท�ำหนังอาจต้องใช้ เงินเยอะ ใช้ทีมงานเยอะ ทว่าพอเป็นการเขียน การ์ตูนนั้นเราสามารถท�ำเองทุกอย่างได้หมด เลย มันจึงสนุกและท้าทายมากครับ” ด้วยความที่เรื่องราวผ่านปลายพู่กันของ ปิยพัชร์เกิดขึ้นโดยแรงบันดาลใจจากเรื่องจริง จึงท�ำให้คนอ่านสามารถเข้าถึงได้ง่าย และเมื่อ ผนวกเข้ากับมุกตลกและลายเส้นทีม่ เี อกลักษณ์ เฉพาะตัว ความนิยมในผลงานของปิยพัชร์จึง ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในแวดวงคอการ์ตูน แต่ยังรวม ถึงเวทีการประกวดทัง้ ระดับในประเทศและต่าง ประเทศด้วย “ผลงานเล่มที่ 2 ของผม D Day เป็นการ์ตนู ฉบับเรื่องสั้นที่ผมพยายามยัดทุกอย่างที่มีใน สมองตอนนั้นเข้าไปหมดเลย ซึ่งการ์ตูนเล่มนี้มี ผลตอบรับที่ดีมากครับ ได้รางวัลอันดับที่ 3 มา 2 เวที ในระดับประเทศก็เป็นของ 7 บุ๊คอวอร์ด ประเภทนิยายภาพ ส่วนระดับนานาชาติก็เป็น เวที อินเตอร์เนชั่นแนล มังงะอวอร์ด ครั้งที่ 7 ครับ (มังงะอวอร์ด คือ รางวัลการ์ตูนนานาชาติ จัดขึน้ ทีป่ ระเทศญีป่ นุ่ เพือ่ มอบเป็นเกียรติแก่นกั วาดการ์ตนู ทัว่ โลก ถ้าเปรียบเทียบความยิง่ ใหญ่ ของรางวัลนี้ ก็เหมือนรางวัลออสการ์ในสาขา หนังสือการ์ตูนต่างประเทศนั่นเอง)”
เรื่อง รัชชา ภาพ สุทธิวัฒน์
หากเราถามนักอ่านการ์ตนู รุน่ ใหม่ทชี่ นื่ ชอบ ภาพสีน�้ำกับลายเส้นกวนๆ หรือเรื่องราวที่ ถอดแบบจากชีวติ จริงได้อย่างตลกขบขันจน ชวนอ่าน เชื่อว่าชื่อของ ART JEENO หรือ อาร์ต-ปิยพัชร์ จีโน คงเป็นค�ำตอบทีห่ ลายๆ คนต้องกล่าวถึง เพราะเขา คือเจ้าของความ น่าสนใจอันเป็นเอกลักษณ์ขา้ งต้น และเรียก ได้เลยว่าก�ำลังเป็นหนึ่งในนักเขียนการ์ตูน รุ่นใหม่ไฟแรงที่น่าจับตามองอยู่ ณ ขณะนี้ ย้อนกลับไปในวัยเยาว์ ปิยพัชร์นั้นชื่นชอบ การอ่านการ์ตูนมาตั้งแต่เด็กๆ เขาเติบโตมา กับสิ่งนี้ โดยมีไอดอลเป็นนักเขียนการ์ตูนชื่อดัง อย่าง ทาเคฮิโกะ อิโนอุเอะ เจ้าของผลงานเรื่อง สแลมดังก์และวากาบอนด์เหมือนกับเด็กผู้ชาย วัยรุ่นทั่วไป แต่ที่แตกต่างออกไปก็คือ ปิยพัชร์ ไม่ได้หยุดแค่การอ่านเท่านั้น หากแต่เกิดเป็น แรงบันดาลใจ ที่ชวนให้เขาเริ่มวาดการ์ตูนด้วย ตัวเองตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา จวบจนเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ทีก่ ลับกลาย เป็นช่วงเวลาแห่งจุดเปลี่ยน ซึ่งท�ำให้ปิยพัชร์ เกือบละทิ้งงานเขียนการ์ตูนไป แต่ถึงอย่างไรก็ ดี การเปลี่ยนแปลงนี้ ก็คือกุญแจส�ำคัญที่ท�ำให้ เขาค้นพบแนวทางการวาดภาพของตัวเองที่ไม่ เหมือนใครด้วยเช่นกัน “ตอนไปเรียนที่คณะวิจิตรศิลป์ สาขาจิตรกรรม มหาวิ ท ยาลั ย เชี ย งใหม่ ผมรู ้ สึ ก ว่ า ลื ม การ์ตูนไปแล้ว เพราะอยากไปท�ำงานวาดภาพ แบบจริงๆ จังๆ เช่น เขียนภาพสีน�้ำมัน ผมก็ ไปสนุกอยู่ตรงนั้นสักพักหนึ่งครับ แต่พอใกล้ จะเรียนจบ กลับเริ่มคิดว่าน่าจะไปไม่รอดแล้ว มากกว่า (หัวเราะ) เพราะรู้สึกว่ามันยากมาก ก็เลยลองเริ่มกลับมาเขียนการ์ตูนอีกครั้ง ซึ่งน่า แปลกว่างานการ์ตูนนี่แหละท�ำให้ผมท�ำงาน เรี ย ลลิ ส ติ ก ได้ ดี ขึ้ น และในทางกลั บ กั น งาน เรียลลิสติกก็ท�ำให้ภาพการ์ตูนของผมสมบูรณ์ มากขึ้นกว่าเก่า กล่าวคือ ทั้งวิธีคิด คอนเซ็ปต์ และทักษะลายเส้น ตลอดจนสัดส่วนต่างๆ ผม ก็ได้อิทธิพลมาจากการวาดภาพแนวเรียลลิสติกทั้งสิ้น ดังนั้น ภาพการ์ตูนของผมจึงเป็นภาพ ที่ดูออกว่าแต่ละตัวละครไม่เหมือนกัน เหมือน ที่ในโลกความเป็นจริงที่ไม่มีใครเหมือนใครอยู่ แล้วครับ 0144
…เอกลักษณ์ในงานวาดของผม คือการลด รายละเอียดแล้วคัดแต่เฉพาะส่วนที่จ�ำเป็นต่อ คาแร็กเตอร์เอาไว้ ภาพที่ได้จึงค่อนข้างจะมีเส้น น้อยๆ แต่จะสื่อถึงรายละเอียดที่แตกต่างกันได้ ของตัวละครแต่ละตัว ซึง่ ผมคิดว่านีค่ อื คุณสมบัติ ทีด่ ขี องนักวาดการ์ตนู อย่างหนึง่ นะครับ คนวาด ต้องสือ่ สารให้คนอ่านรูเ้ รือ่ ง ต้องท�ำให้ดงู า่ ย ต้อง เปิดดูปุ๊บแล้วอยากดูต่อ ซึ่งบางทีการโชว์พลัง หรือเส้นสายที่รกรุงรังมากเกินไป ก็อาจไม่ได้ ผลเท่าไหร่นัก” แต่ ก็ ใ ช่ ว ่ า มี เ อกลั ก ษณ์ ข องตั ว เองแล้ ว ปิยพัชร์จะได้เป็นนักเขียนการ์ตนู ทีป่ ระสบความ ส�ำเร็จขึ้นมาเลย หลังจากเรียนจบ เขาเคยหอบ ผลงานจากเชียงใหม่เข้ากรุงเทพฯ เพื่อมาเสนอ ส�ำนักพิมพ์หลายครั้ง แต่ก็ถูกปฏิเสธ ทว่าถ้า ไม่รู้จักล้มเลิก โอกาส ก็อาจจะเข้ามาในวันที่ เราไม่รู้ตัว “พอเริ่มเขียนการ์ตูนได้เรื่องหนึ่ง ผมก็เอา ไปเสนอให้ส�ำนักพิมพ์สองสามที่แต่ก็ไม่ผ่าน เลยตัดสินใจกลับบ้านไปตั้งหลักใหม่ แล้วก็ไป ลองเขียนการ์ตูนเล่นๆ ลงบล็อกไปด้วย ก็เขียน แบบเขีย่ ๆ ไปนัน่ แหละ (หัวเราะ) แต่มนั ก็บมู ขึน้ มาเฉยเลย หลังจากนั้นก็มีส�ำนักพิมพ์แซลมอน ไปเห็น เขาก็เลยติดต่อขอรวบรวมเอามาท�ำเป็น หนังสือครับ
…ตอนนีผ้ มมีผลงานออกมาทัง้ หมด 6 เล่ม แล้ว สองเล่มแรกชื่อ กลับหลังหัน จะเป็นเรื่อง ในอดีตของตัวผมเองที่ถูกเอามาดัดแปลง เอา มาวางพล็อตเรื่องให้มีความตลกและสนุกมาก ขึ้น ส่วนหลังจากนั้นอีกหลายเล่ม ส่วนใหญ่จะ เป็นเรื่องแต่ง แต่ก็ยังคงแรงบันดาลใจจากชีวิต สมั ย เด็ ก ของผมเหมื อ นเดิ ม ซึ่ ง ผมคิ ด ว่ า แรง บันดาลใจอยูร่ อบๆ ตัวเรานะ และอะไรทีเ่ ราเคย มีประสบการณ์ร่วมเราก็จะเข้าใจมันได้ดี
และช่วงต้นปีที่ผ่านมา ฝีมือของปิยพัชร์ ก็ยังไปเตะตาทีมงาน จีทีเอช ผู้สร้างซีรีส์ชื่อดัง อย่างฮอร์โมนส์ วัยว้าวุ่น จนเกิดขึ้นมาเป็นซีรีส์ เรือ่ งดังกล่าวแบบการ์ตนู ขึน้ มา ซึง่ ใช้ชอื่ ว่าฉบับ Act-Art ทีอ่ าจมีเนือ้ หาแตกต่างจากในจอทีวสี กั นิด เนือ่ งจากถูกเล่าเรือ่ งผ่านมุมมองของปิยพัชร์ เอง และหนังสือการ์ตนู เล่มนี้ ก็นบั ว่าเป็นผลงาน เล่มล่าสุดของเขา ทว่าแม้จะประสบความส�ำเร็จอย่างต่อเนือ่ ง แต่นักวาดการ์ตูนหนุ่มไฟแรงคนนี้ก็ไม่เคยหยุด กับที่ เขาบอกกับเราว่า “ผมยังไม่มีชิ้นงานมาสเตอร์พซี ” และต่อจากนี้ สิง่ ทีเ่ ขาใฝ่ฝนั ไว้กค็ อื การ พัฒนาตัวเองเผื่อสร้างมันขึ้นมา “ในอนาคตผมอยากสร้างเรือ่ งดีๆ ขึน้ มาสัก เรือ่ งทีส่ ามารถให้ตวั เองเรียกมันว่าเป็นมาสเตอร์ พีซได้ ซึ่งตอนนี้ส�ำหรับผมยังคงไม่มีถึงระดับ นั้น เพราะผมรู้สึกว่าเหมือนตัวเองก�ำลังค้นหา อะไรบางอย่างอยู่ ยังอยากพัฒนาตรงนั้นตรงนี้ ไปเรื่อยๆ อย่างเร็วๆ นี้ผมก็จะออกหนังสือเล่ม พิเศษ ที่ไม่ใช่แค่การ์ตูนอย่างเดียวแล้ว แต่จะ เป็ น หนั ง สื อ แนวภาพประกอบการท่ อ งเที่ ย ว ประเทศญี่ปุ่น ก็จะมีเนื้อหา มีภาพวาด แล้ว
ก็มีอะไรตลกๆ หน่อย บางทีก็มีการ์ตูนเข้าไป แทรกด้วย สักประมาณเดือนมิถุนายนคงได้ เห็นกันครับ …โดยส่วนตัวผมคิดว่าถ้าอยากจะประสบ ความส�ำเร็จในอาชีพนักวาดการ์ตนู หรือวาดภาพ อะไรก็แล้วแต่ สิง่ ส�ำคัญคือ เราต้องมีเอกลักษณ์ ของตัวเองที่ชัดเจน บางทีก็แหกกฎที่นักวาด คนอื่นๆ เคยท�ำ หรือที่เราเคยเรียนรู้มาบ้างก็ได้ อย่างเวลาผมเขียนสีน�้ำ ผมก็ไม่ได้ใช้กระดาษ ส�ำหรับวาดสีน�้ำ แต่ผมจะใช้กระดาษวาดรูป เพราะชอบพื้นผิวกระดาษที่เรียบๆ มากกว่า …คิดว่าอะไรดีก็ท�ำเถอะครับ แต่ต้อง เกิดจากความชอบของตัวเองด้วย ว่าสิ่งที่ เราเลือกมันถูกจริตกับเราไหม ถ้ายังไม่ใช่ ก็ต้องลองต้องหาไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอ สิ่งที่เราชอบหรือเป็นสไตล์ของเราจริงๆ แล้วนัน่ แหละ มันจะกลายเป็นเอกลักษณ์ใน ผลงานของเราครับ” สไตล์ จีรัชญ์
0145