G e t away
SWEET & SCENT LIKE CAFFÈ LATTE IN JAPAN
ตืน่ เต็มตากับพิพธิ ภัณฑ์สตั ว์นำ�้ โอซาก้า
เกือบ 6 ชั่วโมงนับจากช่วงดึกที่เครื่องบิน พุง่ ทะยานขึน้ สูน่ า่ นฟ้าจากสนามบินสุวรรณภูมิ การหลับใหลท่ามกลางความแตกต่างด้านเวลา ซึง่ ประเทศญีป่ นุ่ จะเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชัว่ โมง ก็ท�ำให้เราไปถึงปลายทาง ณ สนามบินคันไซ นครโอซาก้า ในช่วงเช้าตรู่พอดี และหลังจาก ล้างหน้าแปรงฟันให้ฟื้นจากอาการงัวเงียพร้อม รับประทานอาหารเช้าเบาๆ เป็นซุปและผลไม้ รสสดชื่นสีสันสดใส รถบัสคันใหญ่ก็มาสตาร์ต รอให้เรากระโจนเข้าสู่เป้าหมายแรก เริ่ ม ต้ น ด้ ว ยการเที่ ย วพิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ สั ต ว์ น�้ ำ โอซาก้า ซึ่งแม้จะค่อนข้างเต็มไปด้วยเหล่าเด็ก น้อยญี่ปุ่นแก้มยุ้ยที่คุณครูพามาทัศนศึกษากับ โรงเรียน แต่ก็ใช่ว่าคนที่เรียนจบมานานแล้ว พอสมควรอย่างผู้เขียนหรือลิปสเตอร์หลายๆ คนจะต้ า นทานกั บ ความน่ า ตื่ น ตาตื่ น ใจของ ที่นี่ได้ เพราะอะแควเรี่ยมแห่งนี้นับเป็นหนึ่งใน อะแควเรี่ยมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งยังเป็นศูนย์ รวมของสัตว์นำ�้ กว่า 39,000 ชนิด โดยสิง่ ทีส่ ะกด สายตาและสั่งปากให้เปล่งเสียงว้าวได้คือเหล่า ปลาขนาดยักษ์ที่หาดูกันไม่ได้ง่ายๆ ทั้งยังมีเจ้า ปลาหน้าตาประหลาด อาทิ ปลาแสงอาทิตย์ รวมถึงสัตว์ทะเลหายากชนิดอื่นๆ ให้มองจน เพลินตาเพลินใจ ดังนั้น ไม่ว่าคุณผู้อ่านจะอยู่ ในวัยไหน ทีน่ กี่ น็ า่ จะท�ำให้รสู้ กึ ตืน่ เต้นได้เหมือน เมื่อครั้งวัยเยาว์
เรื่องและภาพ รัชชา - เมาท์เรนเนียร์
ลิปสเตอร์รู้สึกเหมือนกันใช่ไหมคะว่า เวลา นึกถึงประเทศญีป่ นุ่ ทีไร กลิน่ อายของความ หอมหวานที่แสนละมุนละไมก็จะย่างกราย เข้ามาเยือนและหลอกล่อให้เราหลงใหลได้ อย่างน่าประหลาดทุกที แต่กไ็ ม่ตอ้ งประหลาดใจนักหรอกค่ะ เพราะ ใครล่ะจะทนทานกับวัฒนธรรมคิกขุที่ล�้ำด้วย ดีไซน์และเทคโนโลยีหากแต่ยงั ผสมผสานไว้ดว้ ย ความประณีตงดงามแบบดัง้ เดิมไว้ได้อย่างลงตัว จนกลายเป็นหัวใจส�ำคัญทีด่ งึ ดูดให้นกั ท่องเทีย่ ว จากทัว่ โลกหลัง่ ไหลมาเยือนประเทศทีไ่ ด้สมญานามว่าดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัยนี้อย่างไม่ขาด สาย และผู้เขียนก็เป็นหนึ่งในจ�ำนวนคนไม่น้อย เหล่านั้น ที่ต้องยอมยกธงขาวให้กับความน่ารัก ของประเทศญี่ปุ่นทุกครั้ง ครั้งแรกหากยังจ�ำกันได้ก็เมื่อปลายปีที่แล้ว ทีท่ มี ลิปส์ปดิ ออฟฟิศยกขบวนกันไปตะลุยโอซาก้า ในฤดูหนาว ซึ่งนับว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ ณ ประเทศญี่ปุ่นของผู้เขียน ครานั้นเราแบก กระเป๋าใบใหญ่ที่อัดแน่นด้วยเสื้อผ้าอุ่นหนา พร้อมด้วยรองเท้าบู๊ตดีไซน์เก๋หลายคู่ตามแบบ 0188
ฉบับแฟชัน่ นิสต้าสาวไทยทีไ่ ม่เคยยอมแพ้ความ คาวาอีข้ องสาวญีป่ นุ่ เพราะแน่นอนว่าต้องเผชิญ กับอุณหภูมทิ แี่ ตะเลขตัวเดียวซึง่ แตกต่างกับช่วง เหมันต์ของประเทศไทยทีก่ ย็ งั ไม่แน่ใจว่าจะเรียก ว่าฤดูหนาวได้หรือเปล่าโดยสิ้นเชิง ทว่าครานีแ้ ม้จะเป็นการไปเยือนญีป่ นุ่ แบบ กระเป๋าใบเล็กกว่าเพราะไม่ต้องแบกเครื่องกัน หนาวไปมากเนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูร้อน แถม ยังเป็นเมืองเดิม คือ โอซาก้า อีกครั้ง แต่ความ สดใสในธีมซัมเมอร์แบบเจแปนสไตล์ ก็มีอะไร สนุกๆ ให้ผู้เขียนเก็บเป็นเรื่องใหม่กลับมาฝาก คุณผูอ้ า่ นได้ไม่นอ้ ย ยิง่ ไปกว่านัน้ ยังจะแอบพา ไปเทีย่ วเมืองโกเบกับโตเกียวอีกนิดหน่อยให้พอ หอมปากหอมคออีกด้วย ก่ อ นอื่ น ต้ อ งขอบอกก่ อ นว่ า ฤดู ร ้ อ นของ ญี่ปุ่นนั้นร้อนไม่แพ้ประเทศไทย อุณหภูมิน่า จะอยู่ประมาณ 24-32 องศาเซลเซียส แดดจ้า อ่อนๆ มีมากพอที่จะแผดเผาผิวสาวๆ ให้แดง อมชมพู และเครื่องดื่มรสชาติถูกใจเย็นๆ สัก แก้วก็คงเป็นอีกหนึ่งรีเฟรชเชอร์คู่มือที่หลายคน ปรารถนาถึง
ซึง่ นับว่าสอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลักใน การไปญีป่ นุ่ ครัง้ นีอ้ ย่างมากทีส่ ดุ เพราะเป็นการ เดินทางไปกับบริษัท ดัชมิลล์ จ�ำกัด ผู้ผลิตและ จ�ำหน่ายผลิตภัณฑ์นมรายใหญ่ของไทย ที่ขอ อาสาพาสื่อมวลชนไปสัมผัสกับกลิ่นอายทาง วัฒนธรรมแบบญี่ปุ่น ผ่านสถานที่ท่องเที่ยว รสชาติอาหารอันละมุนละไม พร้อมท�ำความ รูจ้ กั กับต้นก�ำเนิดผลิตภัณฑ์นำ� เข้าใหม่ทเี่ พิง่ เปิด ตัวให้คนไทยได้ลิ้มลองกันไปไม่นาน คือ เมาท์ เรนเนียร์ คาเฟ่ ลาเต้ (MT. RAINIER CAFFÈ LATTE) กาแฟลาเต้ระดับพรีเมี่ยมอันเกิดจาก การผสมอย่างกลมกลืนระหว่างเอสเปรสโซจาก เมล็ดกาแฟอาราบิกา้ 100% กับนมสดคุณภาพ เยี่ยมจากฮอกไกโด ดังนั้น ทริปญี่ปุ่นฤดูร้อน แสนหอมและหวานด้วยกรุ่นกลิ่นรสกาแฟนมนี้ จึงเริม่ ต้นอย่างน่าตืน่ ตาตืน่ ใจ และดูมที ที า่ ว่าจะ สนุกไปตลอดการเดินทาง 4 วัน 2 คืน
ช้อปปิ้ง ชิมปูยักษ์ ที่ชินไซบาชิ
เป็นเรื่องปกติมากถ้าเวลาไปญี่ปุ่นแล้วเรา จะถูกหยิบยืน่ รายการฝากซือ้ ของทีย่ าวเป็นหาง ว่าว แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเมื่อมีโอกาสไปเดินจับ จ่ายที่ย่านชินไซบาชิ เพราะที่นี่เต็มไปด้วยร้าน รวงละลานตา ทั้งแบรนด์เนม ไม่แบรนด์เนม เครื่องส�ำอาง ขนม และสินค้าโลคัลให้เลือกซื้อ ถ้ามีแรงและเงินในกระเป๋าพอรับรองว่าอยาก ได้อะไรสไตล์ญี่ปุ่นที่นี่ก็มีหมด แต่อย่าเพิ่งช้อป เพลินจนหมดพลังล่ะ เพราะต้องเหลือแรงเอาไว้ ไปยืนรอคิวกินปูยักษ์อันเลื่องชื่อในย่านนี้ด้วย ที่ชินไซบาชิมีร้านอาหารขายปูยักษ์หลาย ร้าน โดยบริการเป็นเซต อันประกอบด้วย ปูซูไว และปูทาราบะ ที่ส่งตรงมาจากเมืองฮอกไกโด แล้วน�ำมาปรุงเป็นหลายเมนูรสอร่อย ทั้งนึ่ง ต้ม เผา หรือท�ำเป็นซาซิมจิ มิ้ โชยุผสมวาซาบิกอ็ ร่อย ไม่เบา ครั้งนี้ก้ามปูใหญ่ๆ เนื้อแน่นถูกเสิร์ฟให้ คณะสื่อมวลชนด้วยหลายกรรมวิธีจนพากันอิ่ม แปล้ และก็มีบางคนที่เริ่มตาปรืออีกครา
เดินย่อยชมปราสาทโอซาก้า
ในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น สร้างขึ้นโดย โชกุนโตโยโตมิ ฮิเดโยชิ ผูร้ วบรวมดินแดนให้เป็น ปึกแผ่นในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 16 ซึ่งปัจจุบัน ปราสาทแห่งนี้ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์อัจฉริยะ ที่แสดงประวัติความเป็นมาของปราสาท ตลอด จนความเป็นอยู่ของชาวเมืองโอซาก้า รอบๆ ปราสาทถูกกั้นด้วยก�ำแพงหินสูง ท�ำให้ต้องใช้ระยะเวลาเดินนานพอสมควรจาก ลานจอดรถกว่าจะถึงตัวอาคาร แต่ระหว่างทางก็ พอจะมีรา้ นขนมเย็นๆ ให้คลายร้อนได้ เช่น คาคิ โกริ หรือน�้ำแข็งใสสไตล์ญี่ปุ่น และที่น่าสนุกอีก อย่างคือบรรดาตู้ไข่น�ำโชคแบบหยอดเหรียญที่ มีรางวัลให้ลุ้นเป็นของที่ระลึกน่ารักๆ พวกมาสคอตซามูไรตัวจิ๋วบ้าง หรือพวงกุญเจในรูปแบบ ที่เกี่ยวกับปราสาทโอซาก้า เป็นต้น
ดินเนอร์แบบต้นต�ำรับและผ่อนคลาย กับอะริมะ ออนเซ็น เพื่อให้หายเหนื่อยกับการเดินทางที่ยาว นานและการทัวร์ญปี่ นุ่ แบบเต็มสตรีมในวันแรก ทางดัชมิลล์จึงจัดสรรที่พักไว้อย่างดีที่สุด เป็น
หลังจากได้แอบงีบเพราะหนังท้องตึงสัก พัก รสบัสคันเก่งก็พาเรามาถึงยังแลนด์มาร์ก ของเมืองนี้ คือ ปราสาทโอซาก้า อันเป็นหนึ่ง 0189