6.1 ความหมายของซอฟต์แวร์ 6.2 ซอฟต์แวร์ระบบ 6.3 ซอฟต์แวร์ประยุกต์ 6.4 โปรแกรมประมวลคา 6.5 โปรแกรมตารางทางาน 6.6 ซอฟต์แวร์จดั การฐานข้อมูล 6.7 ซอฟต์แวร์กราฟิ ก 6.8 ภาษาคอมพิวเตอร์ 6.9 ระบบติดต่อใช้งานคอมพิวเตอร์ 6.10 การพัฒนาซอฟต์แวร์ 6.11 แนวโน้มของซอฟต์แวร์
aaaaaการใช้งานระบบสารสนเทศด้วยคอมพิวเตอร์ จาเป็ นต้องมีซอฟต์แวร์ ควบคุมการทางาน เช่น การซื้ อ ของโดยใช้บตั รเครดิต ผูข้ ายจะตรวจสอบบัตรเครดิตโดยใช้เครื่ องอ่านบัตร แล้วส่ งข้อมูลของบัตรเครดิตไป ยังศูนย์ขอ้ มูลของบริ ษทั ผูอ้ อกบัตร การตรวจสอบจะกระทากับฐานข้อมูลกลาง โดยมีกลไกหรื อเงื่อนไขของ การตรวจสอบ จากนั้นจึงให้คาตอบว่าจะยอมรับหรื อปฏิเสธบัตรเครดิตใบนั้นการดาเนินการเหล่านี้เป็ นไป โดยอัตโนมัติตามคาสั่งของซอฟต์แวร์ aaaaaทานองเดียวกันเมื่อซื้ อสิ นค้าในห้างสรรพสิ นค้า พนักงานเก็บเงินจะใช้เครื่ องกราดตรวจอ่านรหัสแท่ง บนสิ นค้าทาให้บนจอภาพปรากฎชื่อสิ นค้า รหัสสิ นค้า และราคาสิ นค้า ในการดาเนินการนี้ตอ้ งใช้ซอฟต์แวร์ ซอฟต์แวร์ จึงเป็ นสิ่ งสาคัญที่ทาให้ระบบทางานได้ aaaaaซอฟต์แวร์ คือ ชุดคาสั่งที่สั่งงานคอมพิวเตออร์ เป็ นลาดับตามขั้นตอนของการทางานชุดคาสั่งเหล่านี้ได้
จัดเตรี ยมและทาขึ้นก่อนแล้วนาไปเก็บไว้ในหน่วยความจาของคอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ อ่านชุดคาสั่งแล้ว ทางานตาม ซอฟต์แวร์ จึงหมายถึง การสั่งการให้คอมพิวเตอร์ กระทาตามขั้นตอนและแผนงานต่าง ๆ ตาม เงื่อนไขและข้อตกลงที่ได้ดาเนินการหรื อจัดเตรี ยมไว้แล้ว ซอฟต์แวร์ จึงเป็ นผลที่มนุษย์จดั ทาขึ้น และ คอมพิวเตอร์ จะทางานตามกรอบของซอฟต์แวร์ ที่วางไว้แล้วเท่านั้น aaaaaการใช้งานไมโครคอมพิวเตอร์ จะเริ่ มขึ้นเมื่อไมโครคอมพิวเตอร์ พร้อมรับคาสั่ง โดยขึ้นตัวพร้อม (prompt) ดังรู ปที่ 6.1
รู ปที่ 6.1 จอภาพแสดงตัวพร้ อม aaaaaเมื่อผูใ้ ช้ป้อนคาสั่ง DIR ซึ่ งเป็ นคาสั่งให้คอมพิวเตอร์ แสดงข้อมูลเกี่ยวกับแฟ้ มข้อมูลที่อยูใ่ นแผ่นบันทึก ที่ติดต่ออยูข่ ณะนั้นผลลัพธ์ที่ได้อาจแสดง ดังรู ปที่ 6.2
รู ปที่ 6.2 ตัวอย่ างผลลัพธ์ ของการใช้ คาสั่ง DIR
aaaaaนัน่ หมายความว่า ผูใ้ ช้ได้สั่งให้คอมพิวเตอร์ ทางานตามคาสั่ง DIR ซึ่ งถูกเก็บไว้ในหน่วยความจาก่อน แล้ว เมื่อเรี ยกคาสั่ง คอมพิวเตอร์ จึงไปทางานตามชุดคาสั่งหรื อซอฟต์แวร์ นนั่ เอง aaaaaชนิดของซอฟต์แวร์ แบ่งเป็ นสองประเภทใหญ่ คือ ซอฟต์แวร์ ระบบ (system software) และซอฟต์แวร์ ประยุกต์ (application software) 6.1.1 ซอฟต์ แวร์ ระบบ aaaaaซอฟต์แวร์ ระบบ คือ ซอฟต์แวร์ ที่ช่วยในการจัดการระบบคอมพิวเตอร์ จัดการทางด้านอุปกรณ์รับเข้า และส่ งออก การรับข้อมูลจากแผงแป้ นอักขระ การแสดงผลบนจอภาพ การนาข้อมูลออกไปพิมพ์ยงั เครื่ องพิมพ์ การดูแล การจัดเก็บข้อมูลเป็ นแฟ้ ม การเรี ยกค้นข้อมูล การสื่ อสารข้อมูล ซอฟต์แวร์ ระบบจึง หมายถึง ซอฟต์แวร์ ที่ดูแลจัดการอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีอยูใ่ นระบบ ซอฟต์แวร์ ระบบที่รู้จกั กันดี คือ ระบบปฏิบตั ิการ (operating system) เช่น เอ็มเอสดอส ยูนิกซ์ โอเอสทู วินโดวส์ เป็ นต้น 6.1.2 ซอฟต์ แวร์ ประยุกต์ aaaaaซอฟต์แวร์ประยุกต์ คือ ซอฟต์แวร์ ที่เขียนขึ้นเพื่อประยุกต์กบั งานที่ผใู ้ ช้ตอ้ งการ เช่น ซอฟต์แวร์ ประมวลคา ซอฟต์แวร์ จดั เก็บภาษี ซอฟต์แวร์ สินค้าคงคลัง ซอฟต์แวร์ ตารางทางาน ซอฟต์แวร์ กราฟิ ก ซอฟต์แวร์จดั การฐานข้อมูล เป็ นต้น aaaaaการทางานใด ๆ โดยใช้ซอฟต์แวร์ ประยุกต์จาเป็ นต้องทางานภายใต้สิ่งแวดล้อมของซอฟต์แวร์ ระบบ ด้วย ตัวอย่างเช่น ซอฟต์แวร์ ประมวลคาต้องทางานภายใต้ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบตั ิการเอ็มเอสดอสหรื อ วินโดวส์ เป็ นต้น
รู ปที่ 6.3 ซอฟต์ แวร์ ประยุกต์ จะต้ องทางานภายใต้ ซอฟต์ แวร์ ระบบ aaaaaซอฟต์แวร์ ประยุกต์ยงั แบ่งแยกออกเป็ นซอฟต์แวร์ ที่เขียนขึ้นใช้งานเฉพาะและซอฟต์แวร์ สาเร็ จ aaaaa1) ซอฟต์ แวร์ ทเี่ ขียนขึน้ ใช้ งานเฉพาะ คือ ซอฟต์แวร์ที่เขียนตามความต้องการของผูใ้ ช้หรื อเฉพาะงาน ใดงานหนึ่ง ผูเ้ ขียนต้องเข้าใจงานและรายละเอียดของการประยุกต์น้ นั เป็ นอย่างดี เช่น ซอฟต์แวร์สาหรับงาน จัดเก็บภาษีของกรมสรรพากร ซอฟต์แวร์ งานธนาคาร
aaaaa2) ซอฟต์ แวร์ สาเร็จ เป็ นซอฟต์แวร์ ที่มีบริ ษทั ผูผ้ ลิตได้สร้างขึ้น และวางขายทัว่ ไปผูใ้ ช้สามารถหาซื้ อมา ประยุกต์ใช้งานทัว่ ไปได้ เช่น ซอฟต์แวร์ประมวลคา ซอฟต์แวร์ตารางทางาน ซอฟต์แวร์จดั การฐานข้อมูล ย้อนกลับ
aaaaaซอฟต์แวร์ ระบบที่รู้จกั กันดี คือซอฟต์แวร์ ควบคุมการปฏิบตั ิการของคอมพิวเตอร์ ที่เรี ยกว่า ระบบปฏิบตั ิการ aaaaaระบบปฏิบตั ิการเป็ นชุ ดคาสั่งที่ใช้ควบคุมระบบฮาร์ ดแวร์ และซอฟต์แวร์ อื่น ๆ ของคอมพิวเตอร์ให้ ทางานอย่างถูกต้อง ซอฟต์แวร์ น้ ีเชื่ อมอยูร่ ะหว่างซอฟต์แวร์ ประยุกต์กบั ฮาร์ ดแวร์ ที่เป็ นหน่วยประมวลผล หน่วยความจา หน่วยขับแผ่นบันทึก แผงแป้ นอักขระและจอภาพ ในเครื่ องระดับไมโครคอมพิวเตอร์ ระบบปฏิบตั ิการนี้ จะส่ งงานผ่านไปยังโปรแกรมควบคุมการจัดการพื้นฐาน ซึ่ งเป็ นโปรแกรมย่อยขั้นพื้นฐาน ของการติดต่อไปยังฮาร์ ดแวร์ ของระบบอีกต่อหนึ่ง aaaaaการนาไมโครคอมพิวเตอร์มาใช้งาน ผูใ้ ช้จาเป็ นต้องเรี ยนรู ้คาสั่งของโปรแกรมระบบปฏิบตั ิการให้ได้ ในระดับหนึ่ง เพื่อเป็ นพื้นฐานขั้นต้นของการเรี ยกติดต่อกับคอมพิวเตอร์ เช่น การขอดูรายการข้อมูลที่เก็บใน แผ่นบันทึก การจัดรู ปแบบแผ่นบันทึกเพื่อนามาเก็บข้อมูล การสาเนาแฟ้ มข้อมูล การลบแฟ้ มข้อมูล และการ เปลี่ยนชื่อแฟ้ มข้อมูลใหม่ เป็ นต้น การเรี ยนรู้ระบบปฏิบตั ิการได้ละเอียดลึกซึ้ งมากก็ยงิ่ จะช่วยให้สามารถ เรี ยกติดต่อใช้งานคอมพิวเตอร์ ได้มากยิง่ ขึ้น aaaaaระบบปฏิบตั ิการสาหรับเครื่ องไมโครคอมพิวเตอร์ แบ่งได้เป็ นระบบปฏิบตั ิการที่ทางานเพียงงานเดียว ในเวลาหนึ่ง เช่น ซี พีเอ็ม เอ็มเอสดอส พีซีดอส แอปเปิ้ ลดอส และระบบปฏิบตั ิการที่ทางานพร้อม ๆ กัน หลาย ๆ งานในเวลาเดียวกันเรี ยกว่าระบบหลายภารกิจ (multitasking system) เช่น โอเอสทู วินโดวส์ 95 6.2.1 ซีพเี อ็ม (Control Program/Microcomputer : CP/M) aaaaaซีพีเอ็ม (Control Program/Microcomputer : CP/M) จัดเป็ นระบบปฏิบตั ิการรุ่ นแรก ๆ ที่นามาใช้งาน กับเครื่ องไมโครคอมพิวเตอร์ ขนาด 8 บิต ซึ่ งปั จจุบนั นี้ลา้ สมัยแล้วหลังจากเครื่ องไมโครคอมพิวเตอร์ ได้ ขยายมาเป็ นเครื่ องขนาด 16 บิต ก็ได้มีการเขียนระบบปฏิบตั ิการขึ้นใหม่ คือ เอ็มเอสดอส (Microsoft Disk Operating System : MS-DOS) พีซีดอส (Personal Computer Disk Operating System : PC-DOS) ระบบปฏิบตั ิการเอ็มเอสดอสนี้ได้รับความนิยมนามาใช้งานกับเครื่ องไมโครคอมพิวเตอร์ ระดับพีซี 6.2.2 เอ็มเอสดอส aaaaaเอ็มเอสดอส มีรากฐานมาจากระบบปฏิบตั ิการซี พีเอ็มนัน่ เอง โดยการเขียนโปรแกรมสาหรับใช้งานกับ ไมโครโพรเซสเซอร์ ตระกูลอินเทล ขนาด 16 บิต เบอร์ 8088 ขึ้นใหม่ที่ยงั คงรู ปแบบลักษณะคาสั่งคล้าย
ของเดิม เมื่อมีการปรับปรุ งเพิ่มขยายในเวลาต่อมาเป็ นรุ่ น 2.0 จึงได้มีการพัฒนาขีดความสามารถให้สูงขึ้นอีก มากมาย โดยในรุ่ น 2.0 นี้จะมีรูปแบบคาสั่งที่คล้ายคลึงกับคาสั่งในระบบปฏิบตั ิการยูนิกซ์ โดยเฉพาะด้าน การจัดการข้อมูลในฮาร์ ดดิสก์ที่จดั เป็ นโครงสร้างต้นไม้ของการแบ่งระบบแฟ้ มเป็ นระบบย่อย aaaaaเอ็มเอสดอสเป็ นระบบปฏิบตั ิการที่เหมาะสาหรับงานงานเดียว แม้จะมีซอฟต์แวร์ มาเสริ มช่วยการใช้ งานในลักษณะหน้าต่าง (window) ทาให้สามารถทางานหลายอย่างพร้อมกันแต่ก็ยงั ทาได้ไม่ดีนกั เพราะ ไม่ได้มีการออกแบบมาเพื่องานหลายชิ้นโดยเฉพาะ เมื่อขีดความสามารถของฮาร์ ดแวร์ สูงขึ้น ระบบปฏิบตั ิการที่เหมาะสาหรับฮาร์ดแวร์ จึงได้รับการพัฒนาเพื่อมาทดแทนเอ็มเอสดอส เช่น ระบบปฎิบตั ิ การ โอเอสทู และวินโดวส์ 95 6.2.3 ระบบปฎิบัติการโอเอสทู และวินโดวส์ 95 aaaaaระบบปฎิบตั ิการโอเอสทู และวินโดวส์ 95 ถือเป็ นระบบปฎิบตั ิการที่ออกแบบและสร้างมาใช้กบั เครื่ อง ไมโครคอมพิวเตอร์ ตระกูลพีเอสทูของบริ ษทั ไอบีเอ็มจากัดเป็ นระบบปฎิบตั ิการที่นามาชดเชยขีดจากัด ของเอ็มเอสดอสเดิม ด้วยการเพิ่มลักษณะพิเศษของการทางานหลายงานพร้อมกัน เทคนิคการเรี ยกใช้คาสัง่ เป็ นเมนูและสัญรู ป (icon) 6.2.4 ระบบปฎิบัติการยูนิกซ์ aaaaaระบบปฎิบตั ิการยูนิกซ์ เป็ นระบบปฎิบตั ิการที่พตั นาและออกแบบสาหรับงานด้านวิชาการ และ ประยุกต์ใช้ทางด้านวิทยาศาสตร์ บนเครื่ องมินิคอมพิวเตอร์ แต่ในภายหลังก็ได้ปรับปรุ งไปใช้บนเครื่ อง เกือบทุกระดับ รวมถึงเครื่ องไมโครคอมพิวเตอร์ ดว้ ย ระบบปฎิบตั ิการยูนิกซ์เป็ นระบบใหญ่และซับซ้อน สามารถให้ผใู ้ ช้หลายรายทางานหลายงานพร้อมกัน อย่างไรก็ตามจะมีขีดจากัดที่หน่วยความจาของระบบ เป็ นระบบปฎิบตั ิการที่นิยมใช้เป็ นเครื อข่ายเพื่อการติดต่อสื่ อสารข้อมูลร่ วมกัน ย้อนกลับ
aaaaaซอฟต์แวร์ ประยุกต์ได้รับความนิยมใช้งานอย่างแพร่ หลายในทุกวงการ ความนิยมส่ วนหนึ่งมาจากขีด ความสามารถของซอฟต์แวร์ ประยุกต์น้ นั ๆ เพราะซอฟต์แวร์ ที่ผลิตออกจาหน่าย ต่างพยายามแข่งขันกัน หลาย ๆ ด้าน เช่น เรี ยนรู ้และใช้งานได้ง่าย สนับสนุนให้ใช้กบั เครื่ องพิมพ์ได้ดี มีคู่มือการใช้ซอฟต์แวร์ ที่อ่าน เข้าใจง่าย ให้วธิ ี หรื อขั้นตอนที่อธิ บายไว้อย่างชัดเจน และมีระบบโอนย้ายข้อมูลเข้าออกกับซอฟต์แวร์ อื่นได้ ง่าย aaaaaซอฟต์แวร์ ประยุกต์มีอยูม่ ากมาย อาจแบ่งได้เป็ นสองประเภทใหญ่ คือ ซอฟต์แวร์ ใช้งานทัว่ ไป และ ซอฟต์แวร์ใช้งานเฉพาะทาง
6.3.1 ซอฟต์ แวร์ ใช้ งานทัว่ ไป aaaaaซอฟต์แวร์ ใช้งานทัว่ ไป เป็ นซอฟต์แวร์ ที่ไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะสาหรับงานใดงานหนึ่ง ผูใ้ ช้งานจะต้อง เป็ นผูน้ าไปประยุกต์กบั งานของตน ผูใ้ ช้อาจต้องมีการสร้างหรื อพัฒนาชิ้นงานภายในซอฟต์แวร์ ต่อไปอีก ราคาของซอฟต์แวร์ ใช้งานทัว่ ไปนี้จะไม่สูงมากเกินไป aaaaaซอฟต์แวร์ ใช้งานทัว่ ไปซึ่ งนิยมเรี ยกว่า ซอฟต์แวร์ สาเร็ จ แบ่งออกเป็ นหลายกลุ่มตามลักษณะการใช้ งาน คือ aaaaa- ด้านการประมวลคา aaaaa- ด้านการวิเคราะห์ขอ้ มูล หรื อตารางทางาน aaaaa- ด้านการเก็บและเลือกค้นข้อมูลเป็ นระบบฐานข้อมูล aaaaa- ด้านการติดต่อสื่ อสารทางไกล aaaaa- ด้านการพิมพ์ต้ งั โต๊ะ aaaaa- ด้านการลงทุนและการจัดการเงิน aaaaa- ด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม aaaaa- ด้านภาพกราฟิ กและการนาเสนอข้อมูล aaaaa- ด้านการจาลอง เกม และการตัดสิ นใจ aaaaaในบรรดาซอฟต์แวร์ สาเร็ จทั้งหลายในกลุ่มนี้ กลุ่มซอฟต์แวร์ ที่มีการใช้งานมากและจาเป็ นต้องมีประจา หน่วยงาน มักจะเป็ นสี่ รายการแรก คือ ด้านการประมวลคา ด้านตารางทางาน ด้านระบบฐานข้อมูล และด้าน การสื่ อสาร นอกจากนี้ซอฟต์แวร์ ที่กาลังได้รับความนิยมสู งขึ้น ได้แก่ ซอฟต์แวร์ ดา้ นกราฟิ กเพื่อนาเสนอ ข้อมูล และซอฟต์แวร์ การพิมพ์ต้ งั โต๊ะ aaaaaซอฟต์แวร์ สาเร็ จส่ วนใหญ่หรื อเกือบทั้งหมดเป็ นโปรแกรมประยุกต์เชิงพาณิ ชย์ที่มาจากต่างประเทศ ยกเว้นเฉพาะกลุ่มแรก คือ โปรแกรมประมวลคาที่ประเทศไทยมีสร้างและพัฒนาขึ้นมาเอง เพื่อให้สามารถ นามาใช้งานร่ วมกับภาษาไทย โดยการนาซอฟต์แวร์ เดิมมาดัดแปลงและเพิ่มเติมส่ วนที่ใช้งานเป็ นภาษาไทย aaaaaนอกจากซอฟต์แวร์ สาเร็ จที่กล่าว ยังมีซอฟต์แวร์สาเร็ จซึ่งนาความสามารถของงานหลาย ๆ ด้านมา รวมอยูใ่ นโปรแกรมเดียวกัน เพื่อให้สามารถใช้งานหลายอย่างได้พร้อมกัน คือ จะใช้ได้ท้ งั ประมวลคา ตารางทางาน จัดการฐานข้อมูล การนาเสนอข้อมูล และอาจรวมถึงการสื่ อสารข้อมูลด้วย aaaaaซอฟต์แวร์ สาเร็ จอาจไม่สามารถนาไปใช้กบั งานโดยตรง จะต้องมีการเปลี่ยแปลงแก้ไขหรื อพัฒนา เพิ่มเติม ซึ่ งการแก้ไขนี้อาจต้องใช้เวลาและกาลังงาน ในบางครั้งก็ยงั ไม่สามารถสนองความต้องการได้ จึง เกิดการพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อใช้งานเฉพาะอาชีพหรื อเฉพาะทาง 6.3.2 ซอฟต์ แวร์ ประยุกต์ เฉพาะทาง aaaaaซอฟต์แวร์ประยุกต์เฉพาะทาง เป็ นโปรแกรมที่ได้รับการออกแบบและพัฒนาสาหรับนาไปใช้งาน เฉพาะด้าน หรื อในอาชีพใดอาชีพหนึ่ง เช่น โปรแกรมช่วยจัดการด้านการเงิน โปรแกรมช่วยจัดการบริ การ
ลูกค้า ฯลฯ ตามปกติจะไม่ค่อยได้พบเห็นซอฟต์แวร์ ประเภทนี้ในท้องตลาดทัว่ ไป แต่จะซื้ อหาได้จากผูผ้ ลิต หรื อตัวแทนจาหน่ายในราคาค่อนข้างสู งกว่าซอฟต์แวร์ ที่ใช้งานทัว่ ไป aaaaaโครงสร้างของซอฟต์แวร์เฉพาะทางมักจะประกอบด้วย ฐานข้อมูลเพื่อใช้เก็บข้อมูลลูกค้า และระบบ ของงาน ภายในซอฟต์แวร์ ควรจะมีส่วนทางานประมวลคาเพื่อใช้สร้างรายงาน ติดต่อโต้ตอบจดหมาย และ การนัดหมายตามกาหนดการ ลักษณะของซอฟต์แวร์ เฉพาะทางนี้ มีท้ งั รู ปแบบที่มีผใู ้ ช้งานคนเดียว หรื อ ผูใ้ ช้งานได้พร้อมกันหลายคน aaaaaในประเทศไทยมีการใช้ซอฟต์แวร์ ประเภทใช้งานเฉพาะทางอยูบ่ า้ ง ส่ วนใหญ่จะเป็ นซอฟต์แวร์ ที่ บริ ษทั ผูผ้ ลิตต่างประเทศได้ออกแบบมาเพื่อรองรับงานด้านธุ รกิจ ในที่น้ ีได้รวบรวมจัดประเภท ไว้ดงั นี้ aaaaa1) ซอฟต์แวร์ ระบบงานด้านบัญชี ได้แก่ ระบบงานบัญชีเจ้าหนี้ บัญชีลูกหนี้ บัญชี สินทรัพย์ถาวรและ ค่าเสื่ อมราคาสะสม บัญชีแยกประเภททัว่ ไป และบัญชีเงินเดือน aaaaa2) ซอฟต์แวร์ ระบบงานจัดจาหน่าย ได้แก่ ระบบงานรับใบสั่งซื้ อสิ นค้า ระบบงานบริ หารสิ นค้าคงคลัง ระบบงานควบคุมสิ นค้าแบบจานวนและรายชิ้น และระบบงานประวัติการขาย aaaaa3) ซอฟต์แวร์ ระบบงานในโรงงานอุตสาหกรรม ได้แก่ ระบบงานกาหนดโครงสร้างผลิตภัณฑ์ การ วางแผนกาลังการผลิต การคานวณต้นทุนของงาน การประเมินผลงานของพนักงาน การวางแผนการผลิต หลัก การวางแผนความต้องการวัสดุ การควบคุม การทางานภายในโรงงาน การกาหนดเงินทุนมาตรฐาน สิ นค้า และการกาหนดขั้นตอนการผลิต aaaaa4) ซอฟต์แวร์ อื่น ๆ ได้แก่ ระบบการสร้างรายงาน การบริ หารการเงิน การเช่าซื้ ออสังหาริ มทรัพย์ และ การเช่าซื้ อรถยนต์ ย้อนกลับ
aaaaaซอฟต์แวร์ ประมวลคาเป็ นซอฟต์แวร์ ในการนาตัวอักษรมาเรี ยงต่อเป็ นคา ประโยคหรื อย่อหน้า คล้าย เครื่ องพิมพ์ดีดพิมพ์ขอ้ ความบนกระดาษ แต่ต่างกันที่ตวั อักษรที่พิมพ์หรื อป้ อนเข้าทางแผงแป้ นอักขระ จะ เข้าไปเก็บอยูใ่ นหน่วยความจาของคอมพิวเตอร์ ทาให้สามารถดัดแปลงได้ง่าย ภายใต้ขอ้ กาหนดของ ซอฟต์แวร์ ผใู ้ ช้สามารถกาหนดปรับแต่งรู ปแบบได้ตามต้องการ เช่น การกาหนดเส้นกั้นหน้าและกั้นหลัง กั้น บนและกั้นล่าง เมื่อมีการแก้ไขจนเป็ นที่พอใจแล้ว สามารถสั่งพิมพ์เอกสารออกทางเครื่ องพิมพ์ได้หลายชุด ตามที่ตอ้ งการ เอกสารที่พิมพ์จากเครื่ องพิมพ์ จะมีคุณภาพดีไม่มีรอยเปื้ อนจากการแก้ไขดัดแปลง aaaaaนอกจากนี้ยงั สามารถเก็บบันทึกเอกสารนั้นเป็ นแฟ้ มในสื่ อบันทึก เช่น แผ่นบันทึกเพื่อให้พกพาติดตัว ไปใช้กบั เครื่ องอื่น แฟ้ มเอกสารที่เก็บไว้แล้วนี้สามารถเรี ยกมาแสดงผลบนจอภาพเพื่อทาการดัดแปลงใหม่ ได้อีกด้วย
aaaaaลักษณะใช้งานซอฟต์แวร์ประมวลคาจะเป็ นการเตรี ยมเอกสารที่มองเห็นงานพิมพ์ไปปรากฎที่จอภาพ ถ้าพิมพ์ผดิ และต้องการแก้ไขเพิ่มหรื อตัดทอนที่ตาแหน่งใด จะต้องเคลื่อนย้ายตัวชี้หรื อตัวกระพริ บบน จอภาพไปยังตาแหน่งนั้น เพื่อทาการแก้ไข เนื่องจากสามารถแทรก หรื อลบอักษรหรื อข้อความได้ตลอด และ โปรแกรมจะคงรู ปให้เป็ นไปตามที่กาหนดไว้ จึงทาให้ไม่เสี ยเวลาและสิ้ นเปลืองเหมือนการพิมพ์เอกสารด้วย เครื่ องพิมพ์ดีดซึ่ งถ้ามีขอ้ ผิดพลาดจะต้องพิมพ์ใหม่
รู ปที่ 6.4 ตัวอย่ างการใช้ ซอฟต์ แวร์ ประมวลคา Microsoft Word aaaaaซอฟต์แวร์ประมวลคา มีคุณสมบัติดีเด่นกว่าการเตรี ยมเอกสารด้วยเครื่ องพิมพ์ดีดหลายประการ อาจ สรุ ปได้ดงั นี้ aaaaa1) สามารถควบคุมสัง่ จัดวางรู ปแบบเอกสารได้ใหม่ตามต้องการ โดยจะพิมพ์ผลลัพธ์ออกมาตาม รู ปแบบที่กาหนด เช่น การกาหนดจานวนตัวอักษรในแต่ละบรรทัด การกาหนดตาแหน่งเริ่ มต้นว่าจะชิดขอบ ซ้ายและตาแหน่งจบบรรทัดให้ชิดขอบขวาที่ตาแหน่งใด เป็ นต้น aaaaa2) ช่วยควบคุมให้แก้ไขดัดแปลงข้อความเป็ นกลุ่ม คือ สามารถสั่งทาการลบ เคลื่อนย้าย หรื อสาเนา ข้อความเป็ นคา ประโยคหรื อย่อหน้า จากตาแหน่งหนึ่งไปยังตาแหน่งอื่นของเอกสารได้ง่าย aaaaa3) สามารถควบคุมการแสดงตัวอักษรของข้อความที่อาจเป็ นตัวเข้ม ตัวหนา ตัวเอียง และขีดเส้นใต้ที่ ตาแหน่งต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ การพิมพ์เอกสารออกทางเครื่ องพิมพ์จะได้แบบของตัวอักษรที่สวยงามตาม ต้องการ aaaaa4) เอกสารที่จดั เตรี ยมไว้สามารถทาการจัดเก็บลงในเผ่นบันทึกในรู ปของแฟ้ มข้อมูล และสามารถเรี ยก แฟ้ มนั้นออกจากแผ่นบันทึกกลับมาลงหน่วยความจาของเครื่ องคอมพิวเตอร์ เพื่อทาการแก้ไขข้อความบน จอภาพได้ทนั ที aaaaa5) มีคาสั่งในการเรี ยกค้นคาหรื อข้อความที่มีอยูใ่ นเอกสารได้อย่างรวดเร็ ว ช่วยให้สามารถแก้ไข ดัดแปลงได้สะดวกและรวดเร็ วขึ้น นอกจากการเรี ยกค้นแล้ว ยังสามารถให้มีการแทนที่คาหรื อข้อความเดิม
ด้วยข้อความใหม่ได้ทนั ทีอย่างอัตโนมัติ เช่น การเปลี่ยนข้อความจาก "คอมพิวเตอร์ " เป็ น "ไมโครคอมพิวเตอร์ " ในทุก ๆ แห่งที่พบในเอกสารนั้นเป็ นต้น aaaaa6) มีคุณสมบัติให้สามารถทาการเชื่ อมแฟ้ มข้อความที่อาจเป็ นจดหมายกับแฟ้ มข้อมูลที่เป็ นชื่อหรื อที่อยู่ บริ ษทั เพื่อทาการพิมพ์เอกสารเอกสารลักษณะแบบเดียวกันหลาย ๆ ชุด พร้อม ๆ กัน เช่น การส่ งจดหมาย เชิญประชุมถึงผูจ้ ดั การบริ ษทั ต่างๆ จานวนมาก โดยเนื้อหาของข้อความในจดหมายทุกฉบับเหมือนกัน ต่างกันที่ชื่อบริ ษทั ซอฟต์แวร์ประมวลคาจะพิมพ์จดหมายให้เองครบทุกฉบับด้วยการเปลี่ยนแปลงชื่อบริ ษทั เท่านั้น aaaaaลักษณะพิเศษที่กล่าวมาแล้วข้างต้นเป็ นเกณฑ์มาตรฐานทัว่ ไปของซอฟต์แวร์ ประมวลคา ในปัจจุบนั ซอฟต์แวร์ ได้มีการพัฒนาให้ทางานได้มากขึ้น ใช้งานได้สะดวกขึ้น ซอฟต์แวร์ ประมวลคายุคใหม่ก็ได้มีการ พัฒนาเพิ่มคุณสมบัติอื่น ๆ อีกมาก คุณลักษณะที่เพิ่มขึ้นได้แก่ aaaaa- การช่วยงานด้านการตรวจสอบตัวสะกด โดยการเปรี ยบเทียบข้อมูลกับพจนานุกรมอิเล็กทรอนิกส์ที่ เก็บในรู ปของแฟ้ ม ถ้ามีการสะกดผิดก็จะมีคาที่คาดว่าถูกต้องแสดงให้เลือกพิจารณาเข้ามาแทนที่ aaaaa- การแสดงความหมายของคาต่าง ๆ ที่มีเก็บในพจนานุกรมเรี ยบร้อยแล้ว และการเลือกคาพ้อง ความหมายแทนที่คาเดิม aaaaa- การสร้างข้อมูลในรู ปแบบตารางได้ง่ายและสะดวก aaaaa- การนารู ปภาพมาผสมรวมกับข้อมูลที่มีแต่ตวั อักษร โดจะทางานอยูใ่ นภาวะกราฟิ ก พิมพ์ได้ท้ งั ตัวอักษรและรู ปภาพ เราสามารถเลือกชุดแบบตัวอักษรได้หลายแบบอย่าง aaaaa- การช่วยงานด้านการตรวจสอบรู ปแบบหรื อรู ปแบบของประโยค ซึ่งจะเป็ นการตรวจสอบไวยากรณ์ ทางภาษา และวิเคราะห์ความน่าอ่านหรื อความสละสลวยของเอกสาร วิธีการของการตรวจสอบนี้จะใช้หลัก วิชาทางปั ญญาประดิษฐ์วา่ ด้วยกฎและข้อเท็จจริ งทางภาษาศาสตร์ ซึ่งรู ปแบบของประโยคที่โปรแกรม สามารถวิเคราะห์ได้ในปัจจุบนั จะยังอยูใ่ นวงจากัดเฉพาะที่ใช้งานในวงการบริ หารธุ รกิจเท่านั้น ย้อนกลับ
aaaaaการวิเคราะห์และคานวณตัวเลขของวิศวกร ด้วยการสร้างเป็ นรู ปแบบจาลองในลักษณะของสู ตร คานวณ และสมการทางคณิ ตศาสตร์ มักมีการขีดเขียน คานวณ และจดบันทึกลงในกระดาษ โดยมีเครื่ องคิด เลขเป็ นเครื่ องมือช่วยในการคานวณ การคานวณตามงานที่ออกแบบ หรื อการค้นหาคาตอบของรู ป แบบจาลองสมการที่สร้างขึ้น นับเป็ นงานที่น่าเบื่อ และต้องใช้ความอดทนมากพอสมควร เพราะวิศวกร จะต้องทาการคานวณใหม่ ซ้ าแล้วซ้ าเล่าหลาย ๆ ครั้ง ตามการแปรเปลี่ยนอย่างไม่หยุดนิ่งขององค์ประกอบ
หรื อปั จจัยสาคัญของงาน โดยเฉพาะอย่างยิง่ หากงานนั้นเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของชีวติ และทรัพย์สิน ด้วย การคานวนต่าง ๆ ก็ตอ้ งยิง่ ระมัดระวังให้มีการตรวจทาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องและแม่นยา
รู ปที่ 6.5 ตัวอย่ างการใช้ ซอฟต์ แวร์ ตารางทางาน aaaaaซอฟต์แวร์สาเร็ จตารางทางาน หรื อกระดาษอิเลกทรอนิกส์ เป็ นเครื่ องมือช่วยเพื่อการวิเคราะห์และ คานวณตัวเลขให้กบั วิศวกรได้เป็ นอย่างดี เพราะการใช้งานซอฟต์แวร์ น้ ี จะเปรี ยบเหมือนกับการนัง่ ทางาน บนโต๊ะทางาน ที่มีกระดาษแผ่นใหญ่ ๆ ประกอบด้วยตารางสี่ เหลี่ยมของช่องตามแนวแถวและสดมภ์จานวน มากมายปรากฏบนจอภาพ โดยแต่ละช่องบนแผ่นกระดาษอิเลกทรอนิกส์น้ ีจะเก็บข้อความเป็ นตัวอักษร หรื อ ตัวเลข หรื อสู ตรคานวณ aaaaaภายในซอฟต์แวร์ ตารางทางานจะมีฟังก์ชนั ต่าง ๆ จัดมาให้เลือกใช้เรี ยบร้อยแล้ว เช่น ฟังก์ชนั การ คานวณทางคณิ ตศาสตร์ ฟังก์ชนั การคานวณทางสถิติ ฯลฯ ซึ่ งฟังก์ชนั เหล่านี้เปรี ยบได้กบั เครื่ องคิดเลขที่วาง บนโต๊ะทางาน ผูใ้ ช้สามารถนาข้อมูลจากช่องต่าง ๆ บนกระดาษมาเป็ นตัวแปรของฟังก์ชนั หรื อสู ตรคานวณ เพื่อคานวณให้ได้ผลลัพธ์ออกมา และนาไปใช้ในการคานวณของช่องอื่น ๆ ต่อไปได้อีก aaaaaข้อมูลในช่องต่าง ๆ บนตารางทางานสามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้โดยง่ายด้วยการสั่งงานตามคาสั่งที่ ปรากฏบนรายการเมนู ซึ่ งการเปลี่ยนแปลงแก้ไขนี้เปรี ยบได้กบั การมียางลบที่ทาการลบ แล้วบันทึกค่าลงไป ใหม่ ถ้าตารางทางานนี้ไม่ถูกต้องใช้งานไม่ได้ ผูใ้ ช้อาจลบทั้งตารางและสร้างใหม่เหมือนการขยากระดาษ โยนใสถังขยะทิ้งไป แต่ถา้ ตารางทางานนี้ใช้งานได้ดีแล้ว ผูใ้ ช้ก็สามารถทาการบันทึกข้อมูลไว้ในแผ่นบันทึก เพื่อนามาใช้งานใหม่ภายหลัง aaaaaขีดความสามารถพิเศษของตารางการทางานมีมากมาย เช่น สามารถแสดงรายงาน ต่าง ๆ ในรู ปแบบที่ สวยงาม พิมพ์เป็ นกราฟิ กรู ปภาพ หรื อการแสดงผลอื่น ๆ ย้อนกลับ
aaaaaในสังคมเทคโนโลยีสารสนเทศยุคปัจจุบนั ข้อมูลที่มีอยูจ่ านวนมากมายจะต้องมีการจัดเก็บนามาใช้ อย่างมีประสิ ทธิ ภาพ การรวบรวมและเก็บข้อมูลไว้ดว้ ยกันจะช่วยให้การเรี ยกค้นเพิม่ เติมเพื่อเปลี่ยนแปลงทา ได้ง่าย ซึ่ งการรวบรวมข้อมูลเข้าด้วยกันนี้เรี ยกว่าฐานข้อมูล ประโยชน์ของการใช้ฐานข้อมูลจะช่วยให้ สามารถใช้ขอ้ มูลร่ วมกัน ช่วยหลีกเลี่ยงความซ้ าซ้อนของข้อมูลที่จะเกิดขึ้น ช่วยขจัดความขัดแย้งของข้อมูล และสามารถกาหนดความเป็ นมาตรฐานเดียวกันได้ง่าย เป็ นต้น aaaaaซอฟต์แวร์ จดั การฐานข้อมูลช่วยให้ผใู ้ ช้ดาเนิ นการจัดการข้อมูลได้ง่าย และมีให้เลือกใช้ได้หลาย ซอฟต์แวร์ ทุกซอฟต์แวร์เน้นให้ผใู้ ช้สามารถสร้างแฟ้ มข้อมูล ช่วยในการจัดเก็บ การขอดู การเรี ยกค้น การ เพิ่มเติม การลบ การจัดเรี ยง และการทารายงาน aaaaaการจัดเก็บฐานข้อมูลภายใต้การทางานของซอฟต์แวร์ จดั การฐานข้อมูล เป็ นเรื่ องทางเทคนิคภายในที่ ยุง่ ยากซับซ้อน ผูใ้ ช้งานฐานข้อมูลทัว่ ไปไม่จาเป็ นต้องเข้าใจ เพราะซอฟต์แวร์ จดั การฐานข้อมูลยังสามารถ ควบคุมความถูกต้องของข้อมูล ในฐานข้อมูลข้อมูลที่ปรากฎในฐานข้อมูลจะต้องเป็ นไปตามกฎเกณฑ์ความ ถูกต้อง เช่น เมื่อกาหนดว่าพนักงานของบริ ษทั แต่ละคน จะทางานได้เพียงแผนกเดียว พนักงานนั้นจะมีชื่อ ไปปรากฎสังกัดแผนกอื่นมากกว่าหนึ่งไม่ได้ หรื ออายุของพนักงานจะมีค่ามากกว่าร้อยปี ไม่ได้ เป็ นต้น นอกจากนี้ความถูกต้องของข้อมูลจะรวมถึงว่าข้อมูลในฐานข้อมูลต้องสอดคล้องหรื อไม่เกิดการขัดแย้งกัน เช่น วันเกิดของพนักงานที่แสดงไว้ในที่ต่าง ๆ จะต้องบันทึกไว้ตรงกัน aaaaaซอฟต์แวร์ จดั การฐานข้อมูลจะต้องมีคาสั่งซึ่ งอาจเลือกได้จากเมนูรายการคาสั่ง เพื่อให้ผใู้ ช้งานสามารถ กาหนดกฏเกณฑ์ในการควบคุมการทางาน เมื่อมีกาหนนดกฏเกณฑ์ไว้แล้ว ซอฟต์แวร์จดั การฐานข้อมูลจะ ทาหน้าที่ตรวจสอบและควบคุมความถูกต้องให้กบั ผูใ้ ช้
รู ปที่ 6.6 ระบบฐานข้ อมูลเชื่ อมโยงได้ ทั้งภาพ เสี ยงและวีดิทัศน์
aaaaaซอฟต์แวร์จดั การฐานข้อมูลมีมากมายหลายโปรแกรม ส่ วนใหญ่เน้นการใช้งานที่ง่ายและใช้งานใน ระบบผูใ้ ช้คนเดียว หรื อเชื่ อมโยงเป็ นกลุ่ม ตลอดจนเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลอื่น ซอฟต์แวร์ จดั การฐานข้อมูลที่ รู ้จกั กันดี ได้แก่ ดีเบส ฟอกซ์เบส แอกเซส เป็ นต้น ย้อนกลับ
aaaaaการนาเสนอข้อมูลตัวเลข โดยปกติจะอยูใ่ นรู ปของตาราง เป็ นแถวและสดมภ์ ซึ่ งไม่ใช่วธิ ี การนาเสนอ ข้อมูลที่ดี เพราะการนาเสนอข้อมูลในรู ปแบบตารางไม่ดึงดูดความสนใจ และตีความข้อมูลตัวเลขได้ลาบาก ไม่สมบูรณ์ การแปลงข้อมูลตัวเลขให้อยูใ่ นรู ปภาพและแผนภูมิจะเป็ นวิธีที่ดีและมีประสิ ทธิ ภาพสู ง เพราะ การนาเสนอข้อมูลด้วยวิธีน้ ี จะดึงดูดความสนใจสื่ อความหมายได้กระจ่างชัด และเข้าใจง่าย aaaaaในปัจจุบนั นิยมนาข้อมูล มาเขียนเป็ นแผนภูมิ หรื อนาข้อมูลมาวิเคราะห์คานวณตัวเลขทางสถิติ ได้ ข้อมูลตัวเลขชุดใหม่ แล้วจึงค่อยนามาสร้างเป็ นแผนภูมิ ซึ่ งแผนภูมิที่ได้น้ ีจะนาไปเสนอต่อผูบ้ ริ หารระดับสู ง เพื่อใช้วางแผนและตัดสิ นใจ หรื ออาจใช้เพื่อนาเสนอบุคคลทัว่ ไป เพื่อการประชาสัมพันธ์ แผนภูมิทางธุ รกิจ เพื่อการนาเสนอมักมีการจัดทาขึ้นเป็ นพิเศษเพราะจะต้องให้เข้าใจง่าย ดึงดูดความสนใจต่อผูพ้ บเห็น aaaaaนักธุ รกิจส่ วนใหญ่ไม่มีความรู ้หรื อทักษะในการเลือกชนิดและสร้างแผนภูมิเพื่อการนาเสนอ เพราะ แผนภูมิทางธุ รกิจมีหลายชนิด เช่น แผนภูมิแท่ง แผนภูมิวงกลม กราฟเส้นตรง ฯลฯ แผนภูมิแต่ละชนิดก็ เหมาะสาหรับการนาเสนอที่แตกต่างกัน การเลือกชนิ ดของแผนภูมิก็เป็ นเรื่ องสาคัญมากอันหนึ่งที่ช้ ีบอก ข้อมูล ทางออกที่ดีของนักธุ รกิจจึงเป็ นการแจ้งความต้องการของตน แล้วมอบให้กบั แผนกศิลป์ ช่วยเลือก ชนิดแล้วสร้างแผนภูมิให้ ในกรณี น้ ีค่าใช้จ่ายของการสร้างแผนภูมิจะค่อนข้างสู ง และใช้เวลาค่อนข้างนาน จึงจะเสร็ จ ถึงแม้วา่ เสร็ จเรี ยบร้อยแล้วก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่มเติม ทาให้ค่าใช้จ่ายสู งขึ้นและใช้ เวลายาวนานขึ้นอีก aaaaaปัจจุบนั มีซอฟต์แวร์ทางด้านกราฟิ กให้เลือกใช้มาก ซึ่ งซอฟต์แวร์ เหล่านี้จะเน้นการใช้งานที่ง่ายและ สะดวก มีชนิดของแผนภูมิให้เลือกใช้หลายแบบตามความเหมาะสมของข้อมูล การจัดแต่งและการจัดรู ป แผนภูมิใหม่สามารถทาได้ง่ายด้วยคาสัง่ เพียง 1 หรื อ 2 คาสัง่ นอกจากนี้ยงั สามารถโอนย้ายข้อมูลจาก ซอฟต์แวร์ สาเร็ จอื่น เช่น จากระบบฐานข้อมูลและตารางทางาน มาแสดงแผนภูมิได้ดว้ ย aaaaaแผนภูมิที่ได้จากซอฟต์แวร์สาเร็ จข้างต้นให้ผลของภาพชัดเจน และละเอียดดี ไม่แพ้ภาพของแผนก ศิลป์ การสร้างปรับแต่งภาพ ก็สามารถทาได้รวดเร็ ว นอกจากนี้ยงั สามารถเก็บภาพที่ได้ใส่ ไว้ในแผ่นบันทึก ในรู ปของแฟ้ มข้อมูล และนาผลออกทางเครื่ องพิมพ์ เครื่ องวาดรู ป หรื อออกเป็ นภาพสไลด์ก็ได้ การฝึ กใช้ ซอฟต์แวร์ สาเร็ จด้านกราฟิ กจะเป็ นการตัดบทบาทขั้นตอนของแผนกศิลป์ ออกไป หน่วยงาน หรื อบริ ษทั เล็ก ๆ ก็สามารถสร้างงานกราฟิ กทางธุ รกิจได้เป็ นอย่างดีเป็ นการประหยัดเงินและเวลาได้มาก
aaaaaซอฟต์แวร์ ดา้ นกราฟิ กแบ่งได้หลายประเภทของการใช้งาน เช่น ทางธุ รกิจ ทางการออกแบบ ซอฟต์แวร์ กราฟิ กทางธุ รกิจจะช่วยในงานด้านวิเคราะห์และเสนอข้อมูลในรู ปของแผนภูมิโดยสามารถจัด แต่งรู ปแผนภูมิเพื่อสวยงามและนาเสนอและจูงใจผูช้ ม aaaaaโดยทัว่ ไปแล้วซอฟต์แวร์ ดา้ นนี้จะสามารถสร้างแผนภูมิหลักที่สาคัญต่อไปนี้ได้ คือ แผนภูมิแท่ง แผนภูมิแท่งซ้อน แผนภูมิแท่งเหลื่อมทับ แผนภูมิวงกลม แผนภูมิวงกลมแยกส่ วน กราฟเส้นตรง แผนภูมิ กระจัดกระจาย แผนภูมิพ้นื ที่ และแผนภูมิสูงต่า aaaaaในการปรับแต่งรู ปแผนภูมิ สามารถกาหนดข้อความ หัวเรื่ อง ข้อความอธิ บายแกน เลือกขนาด และชุด แบบอักษร เลือกสี และแถบระบายของแท่ง หรื อชิ้นส่ วนแผนภูมิ และแทรกภาพสัญลักษร์ เข้ารวมในรู ป แผนภูมิ นอกจากนี้ในการรับข้อมูลเข้า สามารถเลือกรับจากแผงแป้ นอักขระ จากแฟ้ มข้อมูล หรื อจาก โปรแกรมสาเร็ จอื่น เช่น รับแฟ้ มตารางทางานมาปรับแต่งแผนภูมิให้ดีข้ ึนได้ เพิ่มความสะดวกในการใช้งาน กราฟิ กเชิงธุ รกิจอีกด้วย ย้อนกลับ
aaaaaมนุษย์ใช้ภาษาในการสื่ อสารมาตั้งแต่สมัยโบราณ การใช้ภาษาเป็ นเรื่ องที่มนุษย์พยายามถ่ายทอด ความคิดและความรู ้สึกต่าง ๆ เพื่อการโต้ตอบและสื่ อความหมาย ภาษาที่มนุษย์ใช้ติดต่อสื่ อสารใน ชีวติ ประจาวัน เช่น ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ต่างเรี ยกว่าภาษาธรรมชาติ (artificial language) เพระมี การศึกษาได้ยนิ ได้ฟังกันมาตั้งแต่เกิด aaaaaการใช้งานทางคอมพิวเตอร์ซ่ ึงเป็ นเครื่ องมือทางอิเล็กทรอนิกส์ให้ทางานตามที่ตอ้ งการ จาเป็ นต้องมี การกาหนดภาษาสาหรับใช้ติดต่อสั่งงานกับคอมพิวเตอร์ ภาษาคอมพิวเตอร์จะเป็ น ภาษาประดิษฐ์ (artificial language) ที่มนุษย์คิดสร้างมาเอง เป็ นภาษาที่มีจุดมุ่งหมายเฉพาะ มีกฎเกณฑ์ที่ตายตัวและจากัด คือ อยูใ่ น กรอบให้ใช้คาและไวยากรณ์ที่จากัด และมีการตีความหมายที่ชดั เจน จึงจัดภาษาคอมพิวเตอร์เป็ น ภาษาที่มี รู ปแบบเป็ นทางการ (formal language) ต่างกับภาษาธรรมชาติที่มีขอบเขตกว้างมาก ไม่มีรูปแบบตายตัวที่ แน่นอน กฎเกณฑ์ของภาษา จะขึ้นกับหลักไวยากรณ์ และการยอมรับของกลุ่มผูใ้ ช้น้ นั ๆ aaaaaภาษาคอมพิวเตอร์ อาจแบ่งได้เป็ น 3 ระดับ คือ ภาษาเครื่ อง (machine language) ภาษาระดับต่า (lowianguage) และภาษาระดับสู ง (high-level language) 6.8.1 ภาษาเครื่อง aaaaaภาษาเครื่ อง เป็ นภาษาที่ข้ ึนกับฮาร์ ดแวร์ ของคอมพิวเตอร์ แต่ละระบบ โดยเขียนอยูใ่ นรู ปของรหัสของ ระบบเลขฐานสอง ประกอบด้วยเลข 0 และเลข 1 ที่นามาเขียนเรี ยงติดต่อกัน ประโยคคาสั่งของภาษาเครื่ อง
จะประกอบด้วยส่ วนที่ระบุให้คอมพิวเตอร์ ทางานอะไร เช่น สั่งให้ทาการบวกเลข สั่งให้ทาการเคลื่อนย้าย ข้อมูล เป็ นต้น และอีกส่ วนเพื่อบอกแหล่งข้อมูลที่จะนามาทางานตามที่ระบุในตอนแรก aaaaaการเขียนโปรแกรม หรื อชุดคาสั่งด้วยภาษาเครื่ อง นับเป็ นเรื่ องที่ยงุ่ ยากไม่สะดวกและเสี ยเวลา เพราะ ผูใ้ ช้จะต้องทราบรหัสแทนการทางานต่าง ๆ และต้องรู ้ข้ นั ตอนการทางานภายในของเครื่ องคอมพิวเตอร์ โดย ละเอียด ถ้าใช้คาสั่งไม่ถูกต้องเกิดการผิดพลาด โอกาสที่จะเข้าไปทาการแก้ไขก็ทาได้ยากและเสี ยเวลามาก มนุษย์จึงพยายามคิดภาษาให้ติดต่อกับคอมพิวเตอร์ ได้ง่ายขึ้น ด้วยการสร้างภาษาระดับต่าในเวลาต่อมา 6.8.2 ภาษาระดับต่าหรือภาษาแอสเซมบลี aaaaaภาษาระดับต่า หรื อภาษาแอสเซมบลี ลักษณะของภาษานี้จะเป็ นการใช้ตวั อักษรมาเรี ยงกันเป็ นคา แทน เลขฐานสอง โดยคาที่กาหนดขึ้นจะมีความหมายที่สามารถเข้าใจและจาได้ง่าย เช่น จะใช้คาสั่ง ADD แทน การบวก คาสั่ง SUB แทนการลบ เป็ นต้น ขณะดียวกัน ส่ วนที่ใช้บอกแหล่งข้อมูลก็จะแทนด้วยชุดของ ตัวอักษรที่เรี ยกว่าตัวแปร เช่น คาสั่ง ADD A,B จะหมายถึงให้นาข้อมูลที่ตาแหน่ง A และตาแหน่ง B มาบวก รวมกัน แล้วนาผลลัพธ์ไปเก็บที่ตาแหน่ง a เป็ นต้น aaaaaเนื่องจากลักษณะของเครื่ องคอมพิวเตอร์จะรับรู้ หรื อทางานด้วยภาษาเครื่ องที่เป็ นเลขฐานสองเท่านั้น การเขียนโปรแกรมด้วยภาษาแอสแซมบลี จะต้องผ่านกระบวนการแปลเสี ยก่อน โดยแปลภาษาแอสแซมบลี ตัวแปลภาษาแอสแซมบลีน้ ีเรี ยกว่า แอสแซมเบลอร์ (assembler) aaaaaการเขียนโปรแกรมด้วยภาษาแอสแซมบลี ถึงแม้วา่ จะง่ายและเสี ยเวลาน้อยกว่าการเขียนโปรแกรมด้วย ภาษาเครื่ อง แต่มีขอ้ เสี ยคือผูใ้ ช้จะต้องเรี ยนรู ้โครงสร้างของระบบเครื่ องนั้นอย่างละเอียด เพราะภาษาแอส แซมบลีเป็ นภาษาที่ข้ ึนกับฮาร์ ดแวร์ จะใช้กบั เครื่ องระบบนั้น ถ้าใช้เครื่ องต่างระบบที่มีตวั ประมวลผลต่างกัน จะต้องเรี ยนรู ้โครงสร้างภายในและชุดคาสั่งสาหรับเครื่ องนั้นใหม่ท้ งั หมด ดังนั้นจึงเป็ นเรื่ องที่ยงุ่ ยากและไม่ สะดวก 6.8.3 ภาษาระดับสู ง aaaaaภาษาระดับสู ง การพัฒนาภาษาคอมพิวเตอร์ ในยุคต่อมา จึงพยายามให้เป็ นภาษาที่สามารถนาไปใช้กบั เครื่ องต่างระบบกัน ไม่ตอ้ งเสี ยเวลาเรี ยนรู ้ใหม่ท้ งั หมด โปรแกรมที่เขียนสัง่ งานกับเครื่ องระบบหนึ่ง ก็ สามารถนาไปใช้หรื อดัดแปลงเพียงเล็กน้อยเพื่อสั่งงานกับเครื่ องอีกระบบหนึ่งได้ ลักษณะของภาษาจะ พยายามให้ใกล้เคียงกับภาษาธรรมชาติมากขึ้น ทาให้เราสามารถศึกษาและเรี ยนรู้ได้ในเวลาอันรวดเร็ ว ภาษา ในยุคหลังนี้ เรี ยกว่า ภาษาระดับสู ง ซึ่ งได้มีการคิดค้นพัฒนาออกมาหลายภาษาด้วยกัน ที่เด่น ๆ และนิยมกัน มาก ได้แก่ ภาษาฟอร์ แทรน (FORTRAN) ภาษาโคบอล (COBOL) ภาษาเบสิ ก (BASIC) ภาษาปาสกาล (PASCAL) ภาษาซี (C) ภาษาเอดา (ADA) ภาษาลิสป์ (LISP) และภาษาโปรลอก (PROLOG) เป็ นต้น aaaaaเมื่อเราเขียนโปรแกรมด้วยภาษาระดับสู งแล้ว จะนาไปสั่งงานคอมพิวเตอร์ โดยตรงยังไม่ได้ จะต้อง ผ่านขั้นตอนการแปลภาษาอีก เหมือนกรณี ของภาษาแอสเซมบลี ตัวแปลภาษา เพื่อแปลภาษาระดับสู งให้
เป็ นภาษาเครื่ อง อาจแบ่งได้เป็ นสองแบบ คือ อินเทอร์ พรี เตอร์ (interpreter) และคอมไพเลอร์ (compiler) aaaaaลักษณะของการแปลภาษาของอินเตอร์ พรี เตอร์ จะแปลและสั่งเครื่ องให้ทางานตามคาสั่ง ทันทีทีละ คาสั่งจนจบโปรแกรม แต่การแปลภาษาด้วยคอมไพเลอร์ จะเป็ นการแปลทุกคาสั่งที่อยูใ่ นโปรแกรมให้เป็ น ภาษาเครื่ องเก็บไว้เป็ นแฟ้ มก่อน การเรี ยกทางานจะเป็ นการนาแฟ้ มภาษาเครื่ องมาทางานทีเดียว ดังนั้นการ ทางานด้วยตัวแปลแบบคอมไพเลอร์ จึงทางานได้รวดเร็ วและนิยมกันมากในปั จจุบนั aaaaaตัวอย่าง โปรแกรมภาษาเบสิ กแสดงการคานวณ พื้นที่ของสามเหลี่ยมที่กาหนดฐานและส่ วนสู งมาให้ และแสดงผลลัพธ์อาจเขียนได้ง่าย ๆ ดังนี้ aaaaaBASE = 4 aaaaaHEIGHT = 6 aaaaaAREA = 0.5 * BASE * HEIGHT aaaaaPRINT AREA aaaaaEND ย้อนกลับ
aaaaaตามปกติเมื่อซื้ อเครื่ องไมโครคอมพิวเตอร์ มาใช้งาน มักจะได้ระบบปฏิบตั ิการมาพร้อมกับเครื่ อง ซึ่ง สามารถช่วยจัดการให้ผใู ้ ช้เรี ยกใช้หรื อติดต่อกับเครื่ องได้ทนั ที โดยรู ปแบบของการติดต่อกับเครื่ องจะขึ้นกับ ระบบปฏิบตั ิการที่ติดตั้ง และซอฟต์แวร์เสริ มสภาพแวดล้อมการใช้งานซึ่งเป็ นซอฟต์แวร์ปรับปรุ ง เปลี่ยนแปลงระบบติดต่อระหว่างเครื่ องกับผูใ้ ช้ให้ใช้ง่ายและทางานได้รวดเร็ วขึ้น aaaaaระบบติดต่อใช้งาน คอมพิวเตอร์ อาจแบ่งได้เป็ นสามกลุ่มด้วยกัน กลุ่มพิมพ์คาสั่งเข้าไปทีละบรรทัด กลุ่มเลือกรายการเมนู และ กลุ่มเลือกสัญรู ป 6.9.1 กลุ่มพิมพ์ คาสั่ งเข้ าไปทีละบรรทัด aaaaaกลุ่มพิมพ์คาสั่งเข้าไปทีละบรรทัด เป็ นการป้ อนคาสั่งทีละบรรทัด ซึ่ งไม่เอื้อต่อการใช้งานคอมพิวเตอร์ เท่าใดนัก เพราะผูใ้ ช้จะต้องเรี ยนรู ้หรื อจดจาคาสั่งต่าง ๆ ไว้ให้ได้เสี ยก่อน เช่น การเรี ยนใช้คาสั่งของดอส ระบบนี้ผใู ้ ช้จะมีความสับสนในระยะแรก เพราะจะต้องเรี ยนรู ้คาสั่งว่าใช้งานอะไร และใช้ได้อย่างไร ซึ่งการ ป้ อนหรื อพิมพ์คาสั่งเข้าไปจะต้องพิมพ์ไม่ผดิ เลย ระบบติดต่อนี้ จะใช้ยากและเสี ยเวลาบ้างถ้าจาคาสั่งไม่ได้ แต่ถา้ ใช้ไปนาน ๆ จนคุน้ เคย อาจมีขอ้ ดีที่สามารถเรี ยกโปรแกรมมาทางานได้รวดเร็ วที่สุด ใช้พ้นื ที่ หน่วยความจาน้อยและมีกาลังประมวลผลสู งกว่าระบบติดต่อกลุ่มอื่น สาหรับผูช้ านาญการใช้คอมพิวเตอร์ แล้วนิยมการใช้ระบบติดต่อกลุ่มนี้มาก เพราะทางานได้รวดเร็ วกว่ากลุ่มอื่น
6.9.2 กลุ่มเลือกรายการเมนู aaaaaกลุ่มเลือกรายการเมนู ในระบบนี้จะแสดงรายการย่อยของคาสั่งต่าง ๆ ซึ่ งโดยทัว่ ไปจะเป็ นข้อความ ตัวอักษรไม่เป็ นรู ปกราฟิ ก ผูใ้ ช้เพียงแต่เลื่อนตัวชี้ แถบสี หรื อสัญลักษณ์ลูกศรขึ้นหรื อลง รู ปสัญลักษณ์อื่น ๆ ไปยังรายการที่ตอ้ งการ แล้วกดปุ่ มเลือกรายการนั้น หรื ออาจใช้เมาส์เลือกรายการได้เช่นกัน ระบบติดต่อใช้ งานคอมพิวเตอร์ กลุ่มนี้จะใช้งานได้ง่ายขึ้นไม่ตอ้ งจดจาคาสั่งมาก เพราะจะมีรายการคาสั่งแสดงไว้ให้เลือก ดังนั้นจึงเหมาะสาหรับผูใ้ ช้รายใหม่ที่เพิง่ เริ่ มใช้เครื่ องคอมพิวเตอร์ 6.9.3 กลุ่มเลือกสั ญรู ป aaaaaกลุ่มเลือกสัญรู ป มีลกั ษณะคล้ายระบบติดต่อกลุ่มที่สองที่เป็ นรายการเมนูให้เลือก เพียงแต่วา่ รายการ ของกลุ่มที่สามจะเป็ นรู ปภาพ หรื อสัญรู ปสาหรับเลือกโดยมีอุปกรณ์เมาส์เป็ นตัวเลื่อนตัวชี้และเลือกรายการ ในบางกรณี ก็อาจเป็ นรายการเมนูยอ่ ยของข้อมูลในระบบ การติดต่อระหว่างเครื่ องกับผูใ้ ช้ในลักษณะนี้ได้รับ ความสนใจมาก เพราะใช้งานง่ายไม่ตอ้ งเรี ยนรู ้ หรื อจดจาคาสั่งที่ซบั ซ้อน aaaaaระบบติดต่อใช้งานในกลุ่มที่สามที่มีผนู ้ ิยมหรื อกล่าวถึงกันมาก คือ ระบบติดต่อผูใ้ ช้เชิงกราฟิ ก เรี ยกว่า กุย นับเป็ นระบบที่แสดงรู ปกราฟิ กแบบบิตแมพ (bit map) ระบบปฏิบตั ิการคอมพิวเตอร์ ในปั จจุบนั ส่ วน ใหญ่ ไม่วา่ จะเป็ นวินโดวส์ ดอส โอเอสทู หรื อ ยูนิกส์ ต่างก็มีซอฟต์แวร์ มาเสริ มสภาพการใช้งานเป็ นแบบ กุยกันทั้งหมด aaaaaโปรแกรมประเภทกุย ส่ วนใหญ่เป็ นโปรแกรมที่ซบั ซ้อนและมีขีดความสามารถสู ง ดังนั้นการติดต่อ หรื อการเรี ยนรู ้จึงยากกว่าปกติ แต่หลังจากติดตั้งเสร็ จเรี ยบร้อยแล้วโปรแกรมกุยจะใช้งานได้ง่าย และถ้า นาไปทางานในเครื่ องความเร็ วสู ง ก็จะช่วยประหยัดเวลา และทาให้โปรแกรมต่าง ๆ ใช้งานง่ายขึ้น โปรแกรมประเภทกุยเป็ นโปรแกรมขนาดใหญ่จึงใช้พ้นื ที่หน่วยความจามาก ต้องใช้ตวั ประมวลผลที่มีขีด ความสามารถสู ง จึงจะทางานได้ผล aaaaaลักษณะเด่นของระบบติดต่อกุยเมื่อใช้กบั ซอฟต์แวร์ ระบบปฏิบตั ิการหลายภาระกิจ คือ สามารถทา หลายงานได้ในเวลาเดียวกัน โดยงานหนึ่ง ๆ จะปรากฎในช่องหน้าต่างที่เปิ ดขึ้นมาบนจอภาพ สามารถสลับ ระหว่างช่องหน้าต่างไปมา เปลี่ยนขนาดและย้ายตาแหน่งของช่องหน้าต่างและการโอนย้ายข้อมูลระหว่าง ช่องหน้าต่าง หรื อระหว่างโปรแกรมได้ ในส่ วนของผูท้ ี่เป็ นนักเขียนโปรแกรมก็จะได้ประโยชน์ สามารถ เขียนโปรแกรมประยุกต์สร้างเป็ นเมนู ภาพ สัญรู ป และช่องหน้าต่างแสดงข้อมูล aaaaaระบบติดต่อกุยที่มีในท้องตลาดปั จจุบนั ไม่จดั เป็ นระบบกุยที่สมบูรณ์แบบ ซึ่ งคงยากที่จะได้ระบบที่ สมบูรณ์แบบจริ ง ๆ เพราะต้องพิจารณาถึงขีดความสามารถ ความเร็ ว และความง่ายของการใช้งานเข้ามา ประกอบด้วย ระบบติดต่อกุยที่สมบูรณ์แบบควรมีองค์ประกอบ ดังนี้ aaaaa1) มีระบบที่ใช้รูปกราฟิ กและสัญรู ป aaaaa2) มีการแสดงรายการบนจอที่สวยงาม น่าดู และให้ความสนุกเพลิดเพลินกับการใช้งาน
aaaaa3) สามารถพิมพ์ผลลัพธ์ที่ปรากฎบนจอได้เหมือนกับที่เห็น (What You See Is What You Get : WYSIWYG) aaaaa4) สนับสนุนการใช้เครื่ องพิมพ์หลายรุ่ น aaaaa5) แสดงองค์ประกอบของระบบไม่วา่ จะเป็ นช่องหน้าต่าง หรื อรายการเมนูเป็ นมาตรฐานเดียวกัน จน ทาให้แยกไม่ออกว่ากาลังทางานอยูเ่ ครื่ องต่างระบบ หรื อทางานต่างโปรแกรม เป็ นต้น aaaaa6) มีลกั ษณะการใช้งานแบบเลือกรายการ เลือกชิ้นวัตถุที่สามารถชี้และเลือกด้วยเมาส์ aaaaa7) มีระบบที่ติดตั้งได้ง่ายและสามารถปรับเปลี่ยนระบบภายในได้ง่าย aaaaa8) สามารถทางานเข้ากันได้กบั ฮาร์ ดแวร์ และซอฟต์แวร์ รุ่นเก่า aaaaa9) สนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างโปรแกรม ย้อนกลับ
aaaaaการผลิตผลิตภัณฑ์ที่จะต้องใช้วธิ ี การพัฒนาทางวิศวกรรมไม่วา่ จะเป็ นรถยนต์ซี่งเป็ น วิศวกรรมเครื่ องกล เครื่ องโทรทัศน์ซ่ ึงเป็ นวิศวกรรไฟฟ้ า ตลอดไปจนถึงงานการก่อสร้างสะพานหรื ออาคาร สู งซึ่งเป็ นวิศวกรรมโยธา ล้วนต้องมีกระบวนการหรื อขั้นตอนพัฒนาและบารุ งรักษาที่ประกอบด้วยวิธีการ ต่าง ๆ มากมาย ในงานพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ ขนาดใหญ่ก็เช่นเดียวกัน จาเป็ นต้องมีกระบวนการเชิง วิศวกรรมที่เรี ยกว่า วิศวกรรมซอฟต์แวร์ ในการพัฒนาและบารุ งรักษาซอฟต์แวร์ อย่างเป็ นขั้นตอน เพื่อให้ งานสาเร็ จลุล่วงตามเวลาและบรรลุเป้ าหมายที่ตอ้ งการ aaaaaการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ ขนาดใหญ่ ๆ เช่น ระบบสิ นค้าคงคลังในงานธุ รกิจ ระบบการลงทะเบียน เรี ยนในมหาวิทยาลัย หรื อระบบบัญชีลูกหนี้เจ้าหนี้ของบริ ษทั ร้านค้า นับเป็ นงานที่ค่อนข้างซับซ้อน มี ขอบเขตเกิดกว่าที่สมองของมนุษย์จะจดจาได้อย่างครบถ้วนไม่ใช่งานเล็ก ๆ หรื อโปรแกรมเล็กๆ สาหรับ ผูพ้ ฒั นาเพียงคนเดียว จาเป็ นต้องอาศัยผูร้ ่ วมพัฒนาหลายคนทางานร่ วมกันในช่วงเวลาที่ยาวพอสมควร เพราะในระหว่างการพัฒนาอาจมีปัญหาอุปสรรคเกิดขึ้นได้เสมอ เช่น เป้ าหมายของระบบอาจมีการ ปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมขึ้น หรื อ ปั ญหาด้านบุคลากรที่ร่วมโครงการอาจมีการสับเปลี่ยนเนื่ องจากการ เปลี่ยนตาแหน่ง หรื อ ย้ายงานใหม่ เป็ นต้น aaaaaวิศวกรรมซอฟต์แวร์ ไม่ใช่เป็ นเรื่ องที่เกี่ยวข้องเฉพาะกับปั ญหาเทคนิคของกระบวนการพัฒนาเท่านั้น ยังจะรวมไปถึงปัญหาด้านบุคลากรและการควบคุมติดตามโครงการ ซึ่ งในที่น้ ีจะกล่าวเฉพาะ กระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร ์์และระบบซอฟต์แวร์ ที่มีการหมุนเวียนใช้งานเป็ นวัฎจักรซอฟต์แวร์ ดังรู ป ที่ 6.5
รู ปที่ 6.7 วัฎจักรซอฟต์ แวร์ aaaaaซอฟต์แวร์ที่พฒั นามาแล้ว จะเข้าสู่ วฎั จักรของการนาไปใช้งานแล้วนามาปรับปรุ งแก้ไข และย้อนกลับ นามาใช้งานใหม่ ตลอดระยะเวลาการใช้งานซอฟต์แวร์ น้ นั จนกว่าจะมีซอฟต์แวร์ ใหม่มาแทนที่ ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมต่าง ๆ มีวฎั จักรเช่นเดียวกัน เพียงแต่วา่ วัฎจักรของผลิตภัณฑ์ ไม่ใช่การปรับปรุ ง แก้ไข แต่จะเป็ นการซ่อมบารุ งให้ใช้งานต่อไปได้ ซอฟต์แวร์ ต่างกับผลิตภัณฑ์ตรงที่ไม่มีส่วนสึ กหรอ aaaaaการปรับปรุ งแก้ไขซอฟต์แวร์ อาจเกิดขึ้นจากข้อผิดพลาดของซอฟต์แวร์ ที่ยงั หลงค้างอยู่ หรื อจาก ข้อกาหนดของเงื่อนไขภายในซอฟต์แวร์ ที่มีการเปลี่ยนแปลง เช่น การเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดเก็บภาษีของ ระบบบัญชี ต้องแก้ไขเงื่อนไขในซอฟต์แวร์ ใหม่ ตามปกติซอฟต์แวร์ ที่พฒั นามาแล้วมักมีการปรับปรุ งแก้ไข อยูเ่ สมอ เพราะเป้ าหมายความต้องการของผูใ้ ช้งานมักจะเปลี่ยนแปลงภายหลังการทดลองใช้ไประยะหนึ่ง aaaaaปั ญหาสาคัญของการปรับปรุ งแก้ไขซอฟต์แวร์ ส่ วนใหญ่จะอยูท่ ี่ผปู ้ รับปรุ งแก้ไขเป็ นคนละคนกับ ผูพ้ ฒั นา ดังนั้นผูป้ รับปรุ งจะต้องศึกษาโปรแกรมและเอกสารประกอบให้เข้าใจอย่างถ่องแท้เสี ยก่อนจึงจะ สามารถปรับปรุ งได้ ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร และถ้าโปรแกรมและเอกสารประกอบไม่ได้มีรูปแบบ โครงสร้างที่ดีพอแล้ว ผูป้ รับปรุ งซอฟต์แวร์ จะประสบปั ญหากับการแก้ไขมากยิง่ ขึ้น จนบางครั้งต้องพัฒนา ซอฟต์แวร์ ข้ ึนใหม่ เหตุการณ์เช่นนี้พบเห็นกันอยูเ่ สมอ ๆ aaaaaตามปกติระยะเวลาที่ใช้เพื่อการพัฒนาซอฟต์แวร์ จะน้อยกว่าระยะเวลาของการปรับปรุ งแก้ไขเพราะ เมื่อซอฟต์แวร์ นาไปใช้งานแล้วจะมีการย้อนกลับมาปรับปรุ งแก้ไขได้ตลอดเวลา การปรับปรุ งแก้ไข ซอฟต์แวร์ สามารถทาได้ง่ายและรวดเร็ ว หากมีการเตรี ยมการตั้งแต่ข้ นั ตอนการพัฒนาซอฟต์แวร์ โดย พยายามศึกษาวิเคราะห์และออกแบบให้ละเอียดและให้เอื้อต่อการนาไปแก้ไขปรับปรุ งได้ง่ายในภายหลัง 6.10.1 ขั้นตอนการพัฒนาซอฟต์ แวร์ aaaaaการพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่ใช้กนั ทัว่ ไป จะแบ่งออกเป็ นขั้นตอน ดังนี้ การวิเคราะห์ การออกแบบ การเขียน โปรแกรม หรื อการสร้างชิ้นงานจริ ง และการตรวจสอบซอฟต์แวร์ aaaaa1) การวิเคราะห์ เป็ นขั้นตอนแรกของการพัฒนาซอฟต์แวร์ ซึ่ งอาจแบ่งได้เป็ นสองตอน ตอนแรกจะ เป็ นการสารวจความต้องการ และเหตุผลของการตัดสิ นใจนาคอมพิวเตอร์ เข้ามาช่วยในการทางานให้เป็ นไป โดยอัตโนมัติ ตอนที่สองจึงเป็ นการวิเคราะห์ระบบงานที่ใช้อยูป่ ั จจุบนั หากนาระบบที่ใช้คอมพิวเตอร์มา
ช่วยงานจะตอบสนองความต้องการได้อย่างไร ข้อมูลที่ใช้และระบบซอฟต์แวร์ จะต้องกาหนดได้อย่าง เด่นชัด ผลลัพธ์จากการวิเคราะห์ จะทาให้เราได้ชุดของข้อกาหนดของระบบเพื่อนาไปใช้ในการออกแบบ ซอฟต์แวร์ ต่อไป aaaaa2) การออกแบบ ในการออกแบบซอฟต์แวร์ จะเป็ นงานพัฒนาทางด้านเทคนิคเพื่อแบ่งแยกงานให้เป็ น หน่วยย่อยเรี ยก มอดูล (module) ที่สามารถแยกจัดการเฉพาะส่ วนได้โดยง่าย การนาระบบใหญ่มาแบ่งย่อย เป็ นส่ วนเล็ก ๆ และสามารถนามาเชื่อมรวมกันเป็ นระบบใหญ่ถือเป็ นส่ วนสาคัญที่ช่วยให้งานใหญ่สาเร็ จลง ได้ เพราะการสร้างระบบซอฟต์แวร์ ขนาดใหญ่แต่เพียงลาพัง เป็ นเรื่ องสุ ดวิสัยเหนือกาลังของคนคนเดียว การแยกส่ วนแบ่งงานกันทาจะทาให้ผพู ้ ฒั นาแต่ละคนสามารถทางานเฉพาะในส่ วนของตนได้ดี ขณะเดียวกันจะง่ายแก่การบารุ งรักษาในอนาคตอีกด้วย aaaaa3) การเขียนโปรแกรมหรือการสร้ างชิ้นงานจริง เป็ นขั้นตอนของการสร้างหรื อเขียนโปรแกรม การ สร้างแฟ้ มข้อมูลและการพัฒนาฐานข้อมูล การออกแบบซอฟต์แวร์ เป็ นหน่วยย่อยหลาย ๆ มอดูลทาให้ สามารถแบ่งงานเขียนโปรแกรมหรื อสร้างชิ้นงานให้กบั นักเขียนโปรแกรมหลาย ๆ คนทาพร้อมกันได้ aaaaa4) การตรวจสอบซอฟต์ แวร์ ขั้นตอนสุ ดท้ายเป็ นการตรวจสอบซอฟต์แวร์ วา่ ทางานได้ครบถ้วนตาม ต้องการหรื อไม่ โดยมีการตรวจแก้ไขซอฟต์แวร์ เป็ นชุดมอดูล และตรวจสอบการทางานร่ วมกันของมอดูล ต่าง ๆ ซึ่ งขั้นตอนนี้จะต้องพิถีพิถนั กระทาการตรวจสอบอย่างละเอียด aaaaaการพัฒนาซอฟต์แวร์ ขนาดใหญ่จาเป็ นต้องดาเนิ นตามขั้นตอนที่กล่าวแล้วข้างต้น เพื่อให้ได้ระบบ ซอฟต์แวร์ที่สมบูรณ์มีขอ้ ผิดพลาดน้อยที่สุด ในทุกขั้นตอนควรเขียนเอกสารประกอบอย่างครบถ้วน เพื่อให้ ผูร้ ่ วมงานคนอื่น ๆ เข้าใจและทางานร่ วมกันได้ ย้อนกลับ
aaaaaพัฒนาการทางซอฟต์แวร์ มีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ วไม่แพ้ทางด้านฮาร์ ดแวร์ สิ่ งที่เป็ นประจักษ์พยาน ในเรื่ องนี้คือ ผูพ้ ฒั นาซอฟต์แวร์ได้ปรับปรุ งซอฟต์แวร์ รุ่นใหม่ตลอดเวลา aaaaaแนวโน้มของซอฟต์แวร์ จึงอยูท่ ี่การทาให้ซอฟต์แวรนั้นใช้งานง่าย มีระบบกุย ที่ให้ผใู้ ช้เมาส์ หรื อ อุปกรณ์ช้ ี ตาแหน่งชี้ได้โดยตรง aaaaaขณะนี้มีโปรแกรมจัดระบบงานที่เป็ นแบบกุย หลายระบบที่มีแนวโน้มของการใช้งานเชื่อมโยงต่อกัน เป็ นเครื อข่ายและใช้งานร่ วมกันได้ดี เช่น โปรแกรมวินโดวส์เอ็นที วินโดวส์ 95 โปรแกรมเหล่านี้ทาให้ผใู ้ ช้ ใช้งานคอมพิวเตอร์ ได้สะดวกขึ้น aaaaaเมื่อเชื่อมโยงระบบเป็ นเครื อข่ายมากขึ้น ซอฟต์แวร์ รุ่นใหม่จาเป็ นต้องทางานเชื่ อมโยงถึงกันในระบบ เครื อข่ายด้วย การทางานจะทางานเป็ นกลุ่ม และใช้งานร่ วมกัน สามารถดาเนินกิจกรรมต่าง ๆ ร่ วมกัน
aaaaaตัวอย่างโปรแกรมบนเครื อข่ายที่ประสบผลสาเร็ จอย่างดีในขณะนี้ได้แก่ โปรแกรมการเปิ ดอ่านหนังสื อ ไฮเปอร์ เท็กซ์ แบบสื่ อประสมที่เรี ยกว่า โปรแกรมค้นผ่าน (Browser) โปรแกรมค้นผ่านที่มีชื่อเสี ยง เช่น เน็ตสเคป (netscape) โมเสก (mosaic) และ อินเทอร์เน็ต เอ็กโพลเลอร์ (Internet Explorer) โปรแกรมเหล่านี้ ทาให้ผใู ้ ช้สามารถใช้งานผ่านเครื อข่ายได้โดยง่าย aaaaaอนาคตของซอฟต์แวร์ยงั มีหนทางอีกยาวไกล และการพัฒนาซอฟต์แวร์ จะยังคงต่อดาเนินการเนื่ อง ต่อไปอีกมาก