ความรู้ พนื้ ฐานเกีย่ วกับนวัตกรรม เทคโนโลยี และสารสนเทศ
ความสำา คัญ ของนวัต กรรม
นวัตกรรมมีความสำาคัญต่อการศึกษาหลายประการ ทั้งนี้เนื่องจากในโลกยุคโลกาภิวัตต์โลกมีการ เปลี่ยนแปลงในทุกด้านอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความก้าวหน้าทั้งด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ การ ศึกษาจึงจำาเป็นต้องมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงจากระบบ การศึกษาที่มีอยู่เดิม เพื่อให้ทันสมัยต่อการ เปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และสภาพสังคมที่ เปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งเพื่อแก้ไขปัญหาทางด้านศึกษา บางอย่างที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ
ความหมายของนวัตกรรม “นวัตกรรม” หมายถึงความคิด การปฏิบตั ิ หรื อสิ่ งประดิษฐ์ ใหม่ ๆ ที่ยงั ไม่เคยมีใช้มาก่อนหรื อเป็ นการพัฒนาดัดแปลงมาจาก ของเดิมที่มีอยูแ่ ล้วให้ทนั สมัยและใช้ได้ผลดียิง่ ขึ้น เมื่อนำา นวัตกรรมมาใช้จะช่วยให้การทำางานนั้นได้ผลดีมีประสิ ทธิ ภาพและ ประสิ ทธิ ผลสูงกว่าเดิมทั้งยังช่วยประหยัดเวลาและแรงงานได้ดว้ ย
“นวัตกรรม” (Innovation) มีรากศัพท์มา จาก innovare ในภาษาลาติน แปลว่า ทำาสิ่งใหม่ ขึ้นมา ความหมายของนวัตกรรมในเชิง เศรษฐศาสตร์คือ การนำาแนวความคิดใหม่หรือการ ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มอ ี ยูแ ่ ล้วมาใช้ในรูปแบบใหม่ เพือ ่ ทำาให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ
ลักษณะของนวัตกรรม 1. นวัตกรรมใหม่อย่างสิ้ นเชิง(Radical Innovation) หมายถึง ขบวนการเสนอสิ่ งใหม่ที่ใหม่อย่างแท้จริ ง สู่สังคม โดยการเปลี่ยนแปลงค่านิยม (value), ความเชื่อ (belief ) 2. นวัตกรรม ที่มีลกั ษณะค่อยเป็ นค่อยไป เป็ น ขบวนการการค้นพบ (discover) หรื อ คิดค้นสิ่ งใหม่(invent)โดยการประยุกต์ ใช้แนวคิด ใหม่ (new idea) หรื อ ความรู ้ใหม่ (new knowledge)
ที่มีลกั ษณะต่อเนื่องไม่สิ้นสุ ด โดยการประยุกต์ใช้ แนวคิดใหม่ หรื อความรู ้ ใหม่ ของมนุษย์ และการค้นค้นประเภทของนวัตกรรม 1. นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ (Product Innovation) คือ การปรับปรุ งผลิตภัณฑ์ที่ ผลิตขึ้นในเชิงพาณิ ชย์ที่ได้ให้ดีข้ ึนหรื อเป็ นสิ่ ง ใหม่ในตลาด นวัตกรรมนี้ อาจ จะเป็ นของใหม่ต่อโลก, ต่อประเทศหรื อแม้แต่ต่อองค์กร 2. นวัตกรรมกระบวนการ (Process Innovation) เป็ นการ เปลี่ยนแนวทาง หรื อ วิธีการผลิตสิ นค้า หรื อบริ การ ให้การให้บริ การในรู ปแบบที่แตกต่าง ออกไปจากเดิม เช่น การผลิตแบบทันเวลาพอดี
ความหมายของคำา ว่า “เทคโนโลยี” สิป ปนนท์ เกตุท ต ั (ม.ป.ป. 81) อธิบายว่า เทคโนโลยี คือ การนำาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และ ศาสตร์อื่น ๆ มาผสมผสานประยุกต์ เพื่อสนองเป้าหมาย เฉพาะตามความต้องการของมนุษย์ด้วยการนำาทรัพยากร ต่าง ๆ มาใช้ในการผลิตและจำาหน่ายให้ต่อเนือ ่ งตลอด ทัง้ กระบวนการ
ธรรมนูญ โรจนะบุร านนท์ (2531 : 170) กล่าวว่า เทคโนโลยี คือ ความรู้วิชาการรวมกับความรู้วิธี การ และความชำานาญทีส ่ ามารถนำาไปปฏิบัติภารกิจ ให้มป ี ระสิทธิภาพสูงโดยปกติเทคโนโลยีนั้นมีความรู้
บีแ ฮนและโฮลัม ส์ ให้ความหมายไว้ว่า "เทคโนโลยีสารสนเทศหมายถึง เทคโนโลยีที่ ทำาให้มนุษย์สามารถสร้างระบบสารสนเทศได้ อย่างมีประสิทธิภาพ จนทำาให้เกิดประสิทธิผล และประโยชน์อย่างมหาศาล
สรุป "เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ ทำาให้เกิดวิธีการใหม่ ๆ ในการจัดเก็บข้อมูล ข่าวสาร ความรู ้ การ ประมวลผล แสดงผล การเข้าถึงสารสนเทศ การรับสารสนเทศ และ การจัดการสารสนเทศให้มีประสิ ทธิภาพ
นวัต กรรมการศึก ษา (Educational Innovation ) “นวัตกรรมการศึกษา (Educational Innovation)” หมายถึง นวัตกรรมทีจ ่ ะช่วยให้การศึกษา และการ เรียนการสอนมีประสิทธิภาพดียงิ่ ขึ้น ผู้เรียนสามารถ เกิดการเรียนรู้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิผลสูงกว่าเดิม เกิด แรงจูงใจในการเรียนด้วยนวัตกรรมการศึกษา และ ประหยัดเวลาในการเรียนได้อีกด้วย
ป้อนเข้า 2. การประมวลผล เป็นการกำาหนดความสัมพันธ์ของข้อมูล จัดกระทำาข้อมูล เพือ ่ ให้เหมาะสมต่อการนำาไปใช้ 3. การจัดเก็บ เป็นวิธีการทีจ ่ ะเก็บข้อมูลให้เป็นระบบที่ สะดวกต่อการใช้ และ สามารถแก้ไขปรับปรุงให้ เป็นปัจจุบัน 4. เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการเก็บข้อมูล การประมวล ผลทำาให้เกิดผล ผลิต ได้แก่ คอมพิวเตอร์ โปรแกรมสำาเร็จ รูป อุปกรณ์การสื่อสาร เป็นต้น 5. สารสนเทศผลผลิตของระบบสารสนเทศจะต้อง ถูกต้อง ตรงกับความต้อง การใช้ และทัน ต่อ เหตุการณ์ใช้งาน การผลิตสารสนเทศจาก
การผลิต สารสนเทศ จะมีข ั้น ตอนหรือ วิธ ี การต่า งๆ ในการปฏิบ ัต ิ 9 วิธ ี
1. การรวบรวม (Capturing) 3. การจำาแนก (Classifying) 5. การสรุป (Summarizing) 7. การจัดเก็บ (Storing)
2. การตรวจสอบ (Verifying)
4. การจัดเรียงลำาดับ (Arranging) 6. การคำานวณ (Calculating)
8. การเรียกใช้ (Retrieving) 9. การเผยแพร่ (Disseminating andReproducing)
ประโยชน์ ของเทคโนโลยีทวั่ ไป 1 ลดแรงงานคนในการทำางานต่าง ๆ เช่น ควบคุมการ ผลิต และช่วยในการคำานวณ 2 เพิม ่ ความสะดวกสบายตั้งแต่ส่วนบุคคล จนถึงการ คมนาคมและสื่อสารทัว ่ โลก 3 เป็นแหล่งความบันเทิง 4 ได้ผลผลิตทีม ่ ม ี าตรฐาน เหมือนกันหมดทุดชิ้น 5 ลดต้นทุนการผลิต
6 ทำาให้เกิดคุณภาพชีวิตทีด ่ ีขึ้น 7 ทำาให้เกิดความเท่าเทียมกันในสังคม และ เกิด การกระจายโอกาส 8 ทำาให้เกิดสื่อการเรียนการสอนต่างๆมากขึ้น 9 ทำาให้เกิดการจัดการทรัพยากรธรรมชาติได้ดย ี ิ่งขึ้น 10 ทำาให้เกิดระบบการป้องกันประเทศทีม ่ ีประสิทธิภาม มากยิ่งขึ้น 11 ในกรณีของอินเตอร์เน็ต ผู้ใช้สามารถเลือกการ ผ่อนคลายได้ตามอิสระ
โทษของเทคโนโลยีท ั่ว ไป
1 สิ้นเปลืองทรัพยากร เช่น นำ้ามัน แก็ส และ ถ่านหิน จนกระทัง้ นำ้า 2 เปลี่ยนสังคมชาวบ้าน ให้กลาย เป็นวัตถุนย ิ ม 3 ทำาให้มนุษย์ขาดการออกกำาลังกาย 4 ทำาให้เกิดปัญหาการว่างงาน เพราะใช้ แรงงานเครื่องจักรแทนแรงงานคน 5 ทำาให้เสียเวลา ทั้งจากรายการไร้สาระ ในโทรทัศน์ จนกระทัง่ นัก chat 6 หากใช้เว็บไซด์จำาพวก Social Network จะ ทำาให้ผู้ใช้มโี ลกเป็น ของตนเอง ขาดการติดต่อกับ ผู้อื่น
ลัก ษณะสารสนเทศทีด ่ ี เนือ ้ หาความสมบูรณ์ครอบคลุมความสัมพันธ์กับ เรื่อง มีความถูกต้อง ความเชื่อถือได้การตรวจสอบได้ รูปแบบชัดเจน ระดับรายละเอียด รูปแบบ การนำาเสนอ สื่อการนำาเสนอ ความยืดหยุ่น ประหยัดเวลา ความรวดเร็วและ ทันใช้ การปรับปรุงให้ทน ั สมัย มีระยะ เวลา กระบวนการ ความสามารถในการเข้าถึงการ มีส่วนร่วม การเชื่อมโยง
สารสนเทศคือ 1.รวบรวมข้อมูลจากภายในและภายนอกทีม ่ ค ี วาม จำาเป็นต่อหน่วยงาน 2.ประมวลผลข้อมูลเพือ ่ ให้ได้สารสนเทศทีม ่ ี ประโยชน์นำาไปใช้งานได้ 3.มีระบบการจัดเก็บข้อมูลให้เป็นหมวดหมู่ สะดวกต่อ การค้นหาและนำาไปใช้ 4.ปรับปรุงข้อมูลให้อยูใ ่ นสภาพทีถ ่ ูกต้อง ทันสมัยอยู่ เสมอ