¨´ËÁÒ¢‹ÒÇ
สารัตถะ
http://http://www.pakping.com
กรกฎาคม 2558
www.thaiyogainstitute.com
สารัตถะ ·Õ ่ » ÃÖ ¡ ÉÒ ÊÒÃºÑ Þ ¤Ø  ¡Ñ ¹ ¡‹ Í ¹
2
»¯Ô · Ô ¹ ¡Ô ¨ ¡ÃÃÁ
2
º·¡Å͹
5
ÇÔ ¶ Õ â ¤Рเคาะระฆั ง
8
¡Í§ºÃÃ³Ò¸Ô ¡ ÒÃ
10
¾Ñ ² ¹Ò¨Ô µ โรคความบกพร อ งในการสอน
กฤษณ ฟ ก น อ ย ชนาพร เหลื อ งระฆั ง ชุ ต ิ ม า อรุ ณ มาศ วรพจน คงผาสุ ข วรรณวิ ภ า มาลั ย นวล วิ ล ิ น ทร วิ ภ าสพั น ธ สมดุ ล ย หมั ่ น เพี ย รการ
ÊÓ¹Ñ ¡ §Ò¹
àÅ‹ Ò ÊÙ ‹ ¡ Ñ ¹ ¿˜ § เล า สู ก ั น ฟ ง 4
¡ÃÃÁ¡ÒÃ
6
àÃ× ่ Í §¨Ò¡à¾× ่ Í ¹ คนหลงทาง
กวี คงภั ก ดี พ งษ แก ว วิ ฑ ู ร ย เ ธี ย ร ธี ร เดช อุ ท ั ย วิ ท ยารั ต น นพ.ยงยุ ท ธ วงศ ภ ิ ร มย ศ านติ ์ นพ.สมศั ก ดิ ์ ชุ ณ หรั ศ มิ ์
12
พรทิ พ ย อึ ง คเดชา วั ล ลภา ณะนวล สุ จ ิ ต ฏา วิ เ ชี ย ร
จิ ร วรรณ ตั ้ ง จิ ต เมธี ณั ต ฐิ ย า ป ย มหั น ต ณั ฏ ฐ ว รดี ศิ ร ิ ก ุ ล ภั ท รศรี ธนวั ช ร เกตน ว ิ ม ุ ต ธี ร ิ น ทร อุ ช ชิ น พรจั น ทร จั น ทนไพรวั น วิ ส าขา ไผ ง าม วี ร ะพงษ ไกรวิ ท ย ศั น สนี ย นิ ร ามิ ษ สุ จ ิ ต ฏา วิ เ ชี ย ร
ÈÔ Å »¡ÃÃÁ
กาญจนา กาญจนากร
สารัตถะ ¤Ø  ¡Ñ ¹ ¡‹ Í ¹ เหลียวมองไปรอบกายในทุกๆวันนี้ ยังคงเต็มไปดวยผูที่แบกรับความเจ็บปวดไวไมวาทางกาย หรือทางใจ จึงทำใหนึกไปถึงเมื่อหลายวันกอนที่ไดมีโอกาสเขารวมฝกนั่งสมาธิในกลุมเล็กๆ โดยครูโบกอล อดีตครูใหญแหงสถาบันไกวัลยธรรม ในคราวนั้นมีกัลยาณมิตรทานหนึ่งถามครูถึงความเจ็บปวดของ กลามเนื้อที่เกิดขึ้นขณะที่นั่งสมาธิ และคำตอบของครูยังคงกระจางชัดอยูในหัวใจจนกระทั่งตอนนี้วา “ความเจ็บปวดนั้นเปนสิ่งที่ดี ไมวาทางกายหรือทางใจ เพราะตราบใดที่เรายังมีความรูสึกนั่นหมายถึง ยังสามารถเยียวยาได ตรงขามกับการที่เราไมเจ็บปวดอีกตอไป เพราะนั่นหมายถึงวาหมดทางเยียวยาแลว” และครูยังบอกอีกดวยวายาที่ดีที่สุดที่ชวยเยียวยาบาดแผลไมวาจากทางกายหรือทางใจนั้นคือความผอนคลาย เพราะเมื่อกลามเนื้อเริ่มผอนลง นั่นหมายความวาใจจึงคอยๆคลาย และเมื่อนั้นสิ่งตางๆ ที่เรายึดมั่นถือมั่น ไมตางอะไรจากตัวตนที่เราถือไว ก็จะคอยๆ วางลงเชนกัน สวัสดีกรกฎาคม
»¯Ô · Ô ¹ ¡Ô ¨ ¡ÃÃÁ â¤ÐÍÒÊ¹Ð¢Ñ ้ ¹ ¾× ้ ¹ °Ò¹à¾× ่ Í ¤ÇÒÁÊØ ¢ ÊÓËÃÑ º ¼Ù Œ à ÃÔ ่ Á µŒ ¹ ¨Ñ ´ ÇÑ ¹ ÍÒ·Ô µ  · Õ ่ 26 ¡Ã¡®Ò¤Á 2557 àÇÅÒ 9.00 – 15.00 ¹.
ที่ชั้น 6 หอง 262 คณะมนุษยศาสตร มศว ประสานมิตรคาลงทะเบียน 650 บาท สนใจโทร.สอบถามรายละเอียดไดที่สถาบันโยคะวิชาการ â¤Ðã¹Êǹ¸ÃÃÁ ³ Ëͨ´ËÁÒÂà赯 ¾ Ø · ¸·ÒÊ ¿ÃÕ ·Ø ¡ àÂ็ ¹ ÇÑ ¹ ¾Ø ¸ áÅÐ ¾ÄËÑ Ê àÇÅÒ 17.00 – 18.30 ¹. ÇÑ ¹ àÊÒà · Õ ่ Ê Õ ่ ¢ ͧ·Ø ¡ à´× Í ¹
ลงทะเบียนรวมกิจกรรมไดหนางาน ไมมีคาใชจาย รวมสมทบคากิจกรรมไดดวยการบริจาค â¤ÐÈÙ ¹  » ¯Ô º Ñ µ Ô ¸ ÃÃÁ ¾Õ ਠ´Õ ä «¹ ³ ÈÙ ¹  » ¯Ô º Ñ µ Ô ¸ ÃÃÁ ¾Õ ਠ´Õ ä «¹ (ºÒ§áÇ¡/¨ÃÑ Þ Ê¹Ô Ç §È 13) ·Ø ¡ ÇÑ ¹ ÍÑ § ¤Òà 10.30-12.00 ¹.
คาใชจาย : รวมสมทบคาใชจายดวยการบริจาค
2
ÊÒÃÑ µ ¶Ð
º·¡Å͹
㹺ÃôÒáç¢Ñ º à¤Å× ่ Í ¹¢Í§ªÕ Ç Ô µ ¤ÇÒÁÃÑ ¡ ¤× Í áç¢Ñ º ·Õ ่ ´ Õ · Õ ่ Ê Ø ´ ÁÑ ¹ ·ÓãËŒ à ÃÒໂ ›  Áä»´Œ Ç Â¾ÅÑ § ´Ø ¨ ÁŒ Ò »† Ò ·Õ ่ ¾ ÃŒ Í Á·ÐÂҹ仢Œ Ò §Ë¹Œ Ò ´Ñ § ¹Ñ ้ ¹ ÊÔ ่ § ·Õ ่ ´ Õ · Õ ่ Ê Ø ´ ¨Ö § äÁ‹ ã ª‹ á ¤‹ à ¾Õ Â §»Å‹ Í ÂãËŒ ½ ‚ à ·Œ Ò ÍÑ ¹ ¡ÃŒ Ò Çá¡Ã‹ § ¹Ó· Ò§ËÑ Ç ã¨àÃÒä» Ëҡᵋ ¤ × Í ¡ÒÃÃÙ Œ ¨ Ñ ¡ 㪌 ¾ ÅÑ § àËÅ‹ Ò ¹Œ ¹ ¼ÅÑ ¡ ´Ñ ¹ ¼‹ Í ¹»Ã¹ áÅСÃÐµØ Œ ¹ àÁ× ่ Í ¶Ö § àÇÅÒ à¾× ่ Í ¤Çº¤Ø Á ¨Ô µ ÇÔ Þ ÞÒ³ÍÔ Ê ÃÐãËŒ Á Ø ‹ § ˹Œ Ò
ä » ÂÑ § ·Ô È · Ò § ·Õ ่ ¤ Ç Ã
อนัตตา
5
ÊÒÃѵ¶Ð
ÇÔ ¶ Õ â ¤Ð
photo : https://jeiijahttp://www.thetrippacker.com/th/reviewys.wordpress.com/author/jeiijays/page/2/
à¤ÒÐÃÐ¦Ñ § ล.เลง เสียงกระดิ่งหยก (ไมใชมังกรบิน)
เถาคุณกำลังมีปญหากับกระดูกตนคอ ถาคุณตองตื่นมาทะเลาะกับ “คอ-บา-ไหล” ทุกเชา ถาคุณตองนัดพบกับ “เครื่องดึงคอ” ทุกครั้งที่ไปทำ กายภาพบำบัดคุณนาจะไดอานบทความนี้… เมื่อปที่แลว เวลาที่เลงตื่นนอนในตอนเชา แลวมีอาการกลามเนื้อคอตึง-เกร็งคลายคนตกหมอน ถาบริหารคอแลวอาการไมดีขึ้นเลงก็มักจะไปคลินิก กายภาพบำบัด จากนั้นสิ่งแรกที่ทำกันจนเปนประเพณี คือ การยืดกลามเนื้อดวย “เครื่องดึงคอ” เครื่องดึงคอจะคอยๆยืดกระดูกสันหลัง ยืดกลามเนื้อที่หดเกร็งใหคลายออก ดึงให “หู – หาง – ไหล” ซึ่งเปนคำสั่งที่เรามักจะไดยินใน ชั้นเรียนโยคะเมื่อฝกอาสนะทาสุนัขแลลง หรือ ยืนตรง เปนภูเขา การนอนนิ่งๆ สบาย ๆ แลวปลอยให เครื่องมือทำงานของมันไป สวนตัวเราก็หลับสบายไป โดยที่ไมตองออกแรงใดๆ นิ่ง-สบาย-ใชแรงแตนอย ก็นาจะไมผิดอะไรใชไหมคะ แต...มันมีแต...อยูนิดนึงคะ แตหากเราเอาแตใชบริการเครื่องดึงคอไปเรื่อยๆ เพื่อนๆ คิดวามันจะมีผลขางเคียงอะไรเกิดขึ้นคะ ติ๊กตอก...ติ๊กตอก
เอา! เฉลยก็ได (วัยรุนใจรอน) เพื่อนๆ จะไดไมตอง เอาคอไปลองขึ้นเขียง...เอย! เอาคอไปเขาเครื่องเอง แตตองบอกกอนนะวาที่เลานี่ก็เปนประสบการณสวน บุคคล คนอื่นๆ อาจไมเปนอยางที่เลงเปนก็ได หลังจากไปดึงคอ (ไมใชดึงหนา) มาจน จำไมไดวากี่ครั้ง...นาจะมากกวา 20 ครั้งนะ พอสมควรแกเวลา และคาใชจาย เห็นวาทำแลวชีวิต ก็ยังไมมีอะไรดีขึ้น เห็นเคาลางวานาจะเริ่มเขาสูวงจร อุบาทว ตื่นมา-คอเอียง-คอเกร็ง-มึนหัว-ไปทำกายภาพ -เริ่มบำบัดดวยการดึงคอ-จบดวยหักคอดังกร็อบ... กระดูกคอดูเหมือนจะเขาที่เขาทาง หายมึน หัวโลง โปรงสบาย กลับบานได แตเดี๋ยวเดียวก็ตองมาใหมอีก ทำอยูอยางนี้เปนป ปรากฏวาเมื่อตนปนี้ หลังจากที่คอไดผานสมรภูมิบำบัดมาไดครบป กระดูกคอก็มีเสียงดึงกึก...กึก เวลาที่เราบริหารคอ ตอนเชา มารูทีหลังวา กลามเนื้อที่พยุงรอบกระดูก คอ-มันเริ่มจะยวย-มันไมกระชับ-ไมรักษากระดูกคอแต ละขอใหอยูในที่ชอบๆ ของมันแลวคอก็เอียงไปทางซาย คางก็เอียงไปทางขวา (อาการคอเอียงนาจะเปนมา สักพักแลว แตอาการยังไมหนักมากจนมาถึงเมื่อป ที่แลว)
6
ÊÒÃѵ¶Ð
เราจะโทษวาที่คอเอียง-คอยวยเปนความผิด ของเครื่องดึงคอแตเพียงอยางเดียวก็เห็นจะไมยุติธรรม แตโทษไดเต็มๆ วา ผิดแนๆ คือ ตัวเราเอง ความคิด ของเราเองที่หวังจะไปพึ่งเครื่องมือทางการแพทย โดยที่ไมคิดจะพึ่งตนเอง ภายหลังเลงคนกรุมหาสมบัติ ไปเจอทาบริหารเพื่อเพิ่มกำลังกลามเนื้อตนคอจากหนัง สือที่หมอดุล (ทันตแทพยสมดุล หมั่นเพียรการ) เคยใหมา ตอนแรกก็อานไมคอยจะรูเรื่อง โชคยังดี ไดอาจารย ปราณีต เพ็ญศรี ที่คลีนิคกายภาพฯจุฬาฯ อนุเคราะหอธิบายเพิ่มเติม เลยเอามาบอกตอ รายละเอียดก็มีดังนี้... Neck Strengthening วิธีฝกกลามเนื้อคอใหแข็งแรง ทาเตรียม 1. นอน...ชันเขา ฝาเทาวางใกลสะโพก 2. แขน..วางราบกับพื้น อยูในทายกมือ ยอมแพ 3. ศอก เปนมุมฉาก อยูแนวเดียวกับหัวไหล 4. บีบสะบัก (ดึงสะบักซาย-ขวา เขาหากัน) และดึงลง ไปหาสะโพก (กระดูกเชิงกราน) เพื่อฝกกลามเนื้อ Trapezius วิธีทำ แบบที่1 (งายมาก) หายใจออก เก็บคางชิดอก ยกศีรษะขึ้น (ขมิบกัน แขมวทอง รักษาแนวกระดูกสันหลังไวตลอดเวลา ที่ยกศีรษะขึ้น) หายใจเขา -คืนกลับ -ผอนคลายใบหนา และกลามเนื้อคอ -ทำซ้ำอยางนุมนวล -หยุดเมือรูสึกสั่น หรือ ลา จนทนไมไหว -ฝกไมเกิน 12 รอบ แบบที่2 Twist & Lift หันหนาไปทางซาย แขนวางราบกับพื้น หายใจออก ตามองไปที่ไหลซาย แลวยกศีรษะขึ้น (หัน + ยกหู ขึ้นจากพื้น) หายใจเขา คืนกลับ วางศีรษะลง -ฝกไมเกิน 6 รอบ/ ตอขาง -ทำซ้ำ ขางขวา แบบที่3 Lift & Twist (ทานี้คอนขางยาก) หายใจออก ยกศีรษะขึ้น คางไว หันหนาไปทางขวา คืนกลับมาตรงกลาง หันหนาไปทางซาย คืนกลับมา ตรงกลาง ลดศีรษะลง (มองไปที่กระดูกอก) ฝกไมเกิน 6 รอบ ประโยชน -ใชฝกลามเนื้อคอ (Sternocleidomustoid)
7
บางทีกลามเนื้อมัดนี้ไมแข็งแรงเพราะกลามเนื้อสะบัก เกร็งเกินไป (เราจึงบีบสะบักและดึงลง เพื่อปลดปลอย Sternocleidomustoid ใหเปนอิสระ -ประหยัดเงิน ไมตองไปหาหมอจัดกระดูกบอยๆ -เปนทาเตรียมกลามเนื้อคอ กอนฝกทา Utthita Trikonasan และ Jathara Parivartanasan ขอควรระวัง 1. คางทาแลว ยังคงหายใจไดสบาย 2. ฝกมากเกิน (คางทานานเกิน) กลามเนื้อจะสั่น กระตุก ใหคลายทาแลวพัก (แปลยอๆ มาจากหนังสือ Structural Yoga Therapy ของ Mukunda Stiles) สุดทายนี้ ก็อยากเคาะระฆังมาเตือนเพื่อนๆ วา ถาเราทำอะไร/รักษาโรคอะไรไปสักระยะแลว อาการไมดีขึ้น อาจเปนไดวา 1.เรายังทำไดไมมากพอ กินยาไมถึงขนาดฝกไปไมถึงที่ หรือ 2.เราทำพอแลว แตมันทำไปผิดทาง เหมือนที่เลงเอาแตดึงคอใหยืด ออก โดยไมไดฝกใหมันแข็งแรงมีแต Stretching แตไมมี Strengthening ดังนั้น การตรวจสอบ ตนเองวากำลังทำอะไรอยู...นี่ใช ทางที่ถูกตองแลว หรือไม ขาดสติเอาแตพึ่งพา วิทยาการกาวหนา แตกาย-จิตของเรามีแตออนแรงลง เรื่อยๆ หรือการ มีกัลยาณมิตร มาชวยตรวจสอบใหเปนระยะๆ ก็เปน เรื่องที่ดีนะจะ จะบอกให
ÊÒÃѵ¶Ð
àÃ× ่ Í §¨Ò¡à¾× ่ Í ¹ ¤¹Ëŧ·Ò§ ทัณฑิมา ธรรมโร (ครูเอส)
photo :http://www.trueplookpanya.com/new/cms_detail/knowledge/13719
แรกเริ่มเดิมที เปนคนสุขภาพรางกาย แข็งแรงสมบูรณ เปนนักกีฬาโรงเรียนและเปน นักกีฬากอลฟ แตเนื่องดวยในป พ.ศ. 2554 ไดเริ่ม ประกอบธุรกิจรานอาหารแหงหนึ่ง ขายดีมีเวลานอย ทำงานหนัก เพราะแคคิดวายังอายุนอยยังแข็งแรง พลังเยอะใชไมหมด ใครบอก! แค4เดือนเทานั้นเอง รางกายเริ่มเตือนดวยอาการเจ็บที่ตอมไทรอยด เจ็บราวมาที่หูและหัวไหล ไปหาหมอกี่ทานก็คิดวา เราเปนทอมซิลอักเสบ ฉีดยาแกปวดใหมาปรากฏวา ไมหาย อาการเจ็บยังมีเรื่อยๆ และตระเวนหาหมอ ไปจนสุดทายรพ.กรุงเทพ หมอแจงวาโรคนี้ในญี่ปุนพบ แค 3 รายเทานั้นเอง เรียกวา “ไวรัสโจมตีตอม ไทรอยด” แยกวานั้นคือไมมียารักษา ตองทานยา สเตียรอยดวันละหลายเม็ดเพื่อบรรเทาอาการปวดเทา นั้นเอง โดยผลขางเคียงก็คือตัวบวมกระดูกไมแข็งแรง ซึ่งวิธีจะลดตัวบวมและน้ำหนักขึ้นไดก็คือการออกกำลัง กาย เพราะเปนโรคประเภทนี้ไมสามารถทานยาลด น้ำหนักหรือวิตามินบางตัวที่ทำใหน้ำหนักลดลงไมได เลย จึงคิดคนหากีฬาที่นอกเหนือไปจากการเลนกอลฟ นั่นก็คือ โยคะ วันแรกเขาสตูดิโอแหงหนึ่ง โอววววววว! พระเจา ชางเหมือนกีฬาผาดโผน เหงื่อทวมกาย หายใจไมคอยทัน มือไมสั่น ไมทันคนอื่นเขาเลย เรียนไปครั้งหนึ่งสงสัยจะยังไมพอ ที่สำคัญจายตังค ไปทั้งเดือน บวกกับความอยากลดน้ำหนักอยากลดบวม ตามรางกายและใบหนา เลยจัดทุกวันคะ 1เดือน ทายากก็ไมคอยยากละสำหรับเรา แถมน้ำหนักลด และตัวก็ลดบวมดวยนะ แตเหนื่อยมากกวาทรมาน ไปนิดนึง และยังไมหยุดแคสตูฯ นี้ มีคนหาไปตออีก สตูฯ หนึ่งที่มีขาววาโยคะที่นี่สอน Anatomy โดยสอน ตามวิทยาศาสตรการกีฬาเลยนะ มีการดูแลเสนเอ็น ขอตอกลามเนื้ออะไรประมาณนี้ตามคำร่ำลือ เลยไป เขาคลาสคะ วันแรกก็ถูกใจเพราะ ชาๆ ซ้ำๆ คางทา นานหนอย ซึ่งยังคงมีเปาหมายคือทำทายากได แบบสบายๆ ดวยการใชกลามเนื้อขอตอใหเปน จาก สตูฯนี้ หลงทางไปถึงขั้นคิดโยงใยระหวางการทำสมาธิ วิปสสนาใหจิตสงบแลวกลับมาฝกโยคะไดนิ่งและงาย
8
ÊÒÃѵ¶Ð กวาเดิม(ความคิดปรุงแตง) ไปวัด ไปทำสมาธิ และฝก ที่บานมากขึ้นๆ แลวมาลองฝกโยคะตอประสานกันแบบ หลงๆ เปนเวลาเกือบปสิ่งที่ไดคือทายากงายขึ้น แตไมสงบ อยางที่คิดไวหลงทางไปถึงอินเดียไปเพื่อได บุญไดสงบ ไดเห็นอะไรที่เกี่ยวของกับโยคะบางก็ยังดี แตก็กลับมาอยางคนใหม มีความสุขมากขึ้นและคงยังฝก โยคะเชนเดิม ทำบุญทำทานในประเทศตางประเทศ สมาธิ วิปสสนา ทุกเวลาทุกโอกาสที่มีเพราะหลงคิดวา มาถูกทางแลว ดีที่สุดแลวขณะนั้น ซึ่งอันที่จริงทางที่ หลงไปไมมีผลเสียหรอก หากแตไมไดทำใหเราพัฒนา ไปไดถูกทางไมถูกเปาหมายของเราและเราก็จะวิ่งหามัน ตอไป พัฒนาสมาธิทำบุญทำทานพัฒนาจิตเพื่อไปสูโยคะ อยางสมบูรณ และเมื่อไดคนพบวาสถาบันโยคะวิชาการ เปด สอนคอรสครูโยคะเพื่อการพัฒนาจิต ก็ไมรีรอที่จะลง เรียนในทันที และเมื่อไปคายแรกก็หลงคิดวาเขาคงจัด เต็มทายากทาสวยคงพรอมเพราะเปนคอรสครู ปรากฏ วาไมใชอยางที่เราคิด นับจากสัปดาหแรกที่เรียน มันแตกตาง มันตรงขามกับทางเดิมโดยสิ้นเชิง สิ่งที่ คิดวาจะเห็นจะเกิดขึ้นก็ไมมี ถึงวันนี้เขาใจแลววาโยคะ คือองครวม คือรวมกายรวมใจ โยคะเปนศาสตรในการ เคลื่อนกายใหจิตสงบผลพลอยไดคือระบบรางกายสมดุล เมื่อทุกอยางลงตัวดีก็จะไมมีอุปสรรคตอการทำใหจิตสง บไปสูสมาธิไดงาย วัตถุประสงคที่แทจริงของโยคะคือ นำพาเราเขาสูสภาวะสมาธินั่นเอง มาถูกทางแลวคะตรงเปาหมายที่ตัวเอง ตองการ หลังจากเรียนคอรสครูจบมีอีกหลายสิ่ง หลายอยางที่ครูสอน ไมวาจะเปนการฝกหายใจ การฝก อาสนะนอกเสื่อ การดูตัวเองอยางใกลชิด การอยูกับ ปจจุบัน การเปลี่ยนโยคะจากการออกกำลังกายมาเปน โยคะแบบสงบนิ่งเบาสบายใชแรงนอย มาถึงวันนี้ไมตอง ไปเขาสตูฯ ที่ไหนแลว เรียนกับตัวเอง ฝกกับตัวเอง และคนรอบขาง สอนกัลยาณมิตรที่ชิดใกล ปรับตัวเอง ใหอยูกับปจจุบันไดอยางสมดุล เพราะเมื่อจิตเราสมดุล กายเราก็สมดุลตามไป แลวจึงไดคนพบวาโยคะมีคุณประโยชน มากมายตอทั้งตนเองและผูอื่น โยคะคือยารักษาโรค อวิชชา โยคะแกปญหาสุขภาวะได โยคะเปนยารักษา อาการทางกาย และโยคะยังพัฒนาจิตไดอีกดวย
9
จึงสมควรอยางยิ่งที่ทุกคนควรศึกษา และฝกโยคะ กันเปน ประจำสม่ำเสมอใหถูกที่ถูกทางและถูกตองตาม เปาหมายที่แทจริง ตองขอขอบพระคุณ สถาบันโยคะวิชาการ และคณะครุทุกทานรวมถึงเพื่อนครู Ts21 ทุกทานที่ รวมกันทำใหวันนี้ดีที่สุด
àÅ‹ Ò ÊÙ ‹ ¡ Ñ ¹ ¿˜ §
ÊÒÃѵ¶Ð
photo : http://topicstock.pantip.com/writer/topicstock/2009/09/W8291375/W8291375.html
àÅ‹ Ò ÊÙ ‹ ¡ Ñ ¹ ¿˜ § 4 ศิษยเกา หนาใหม
เนื่องจากเดือนนี้เมื่อวันที่ 13-14 ที่ผานมา สถาบันโยคะวิชาการไดจัดอบรมที่บานผูหวาน จ.นครปฐม เรื่อง “จากโยคะสูจิตตภาวนา” ขึ้น โดย อดีตครูใหญของสถาบันไกวัลยธรรม เมืองโลนาฟลา ประเทศอินเดีย ซึ่งเปนสถาบันที่เรานำหลักสูตรเคา มาสอนใหคนไทย ที่เมืองไทย ครูตูน ซึ่งเปน 1 ในทีม ทำงานก็เสนอเราวา สัมภาษณคนที่มารวมงานนี้ ลงสารัตถะเดือนนี้สิ เราเห็นดีดวยทันที แตเราอบรม กัน 2 วัน ก็ควรจะสัมภาษณในวันที่ 2 กอนจะลา จากกันดีกวา หลังอาหารเชาในวันที่ 2 (การอบรม จะจบลงตอน เที่ยง) ชาวเรา (หมายถึงผูเขาอบรม ทั้งหมดอะนะ) ก็ไปเก็บกระเปาเพื่อเตรียม Check out ออกจากที่พัก เพราะกวาเราจะอบรมเสร็จก็เกินเที่ยง กันแหละ ชวงกอนเขาหองอบรมก็เลยถือโอกาส เพียงไมกี่นาทีนี้ ขอสัมภาษณซะหนอย กะไววาซัก 4 คน แตวา เวลาไมอำนวยเลยไดแค 3 ละกันนะ เนื่องจากเนื้อเรื่องก็มายาวจนไมสามารถจบในเดือนนี้ ไดก็ขอลงคนเดียวไปกอน อีก2คนไวไปลงเดือนหนา
10
ÊÒÃѵ¶Ð เริ่มเลย คนที่ 1 เรา : สวัสดีคะ พี่ชื่อไรคะ (เสียงเราดุอะมาสังเกต เอาตอน กลับมาฟงที่อัดไวเพื่อจะเขียนเนี่ยแหละ) เคา : พี่กุลคะ เรา : พี่กุลรูเรื่องการอบรมครั้งนี้จากที่ไหนคะ เคา : จากเพื่อนที่เคยเรียนศิลปะบำบัดดวยกัน ชื่อจิ๊บ เรา : ออ ไมไดเกี่ยวอะไรกับทางสถาบันเลย เคา : เห็นลง facebook share ตอๆ กันมาอะคะ เรา : หมายความวาเพื่อนพี่ชวนพี่ กอนที่พี่จะเห็นใน facebook ใชมั้ยคะ เคา : คะ เรา : ตอนที่เคาชวนพี่ เคาพูดวาไงคะ เคา : คือเราเปนคน “ไหลติด” แลวเราเจอเคาที่ ศิลปะ บำบัด จิ๊บบอกวาเคาเปนครูโยคะดวยเราก็ ถาม จิ๊บวา ไหลติดทำทาไหนถึงจะหาย เพราะตอนนี้ เราก็ทำกายภาพบำบัดอยูวชิร จิ๊บก็เลยสอนมาทานึง ทาเดียวกับที่ครูสอนเมื่อเชา ก็รูสึกดีขึ้น จิ๊บก็เลยชวน ใหมาที่นี่ (หมายถึงบานผูหวานนะ) บอกวามีสอน โยคะ พี่ก็เห็นวาที่นี่ใกลบานพี่ พี่ก็เลยสนใจ อยากมา เพื่อที่จะไดขอมูลหรือเรื่องราวตางๆ ไปบูรณาการ สอนเด็กคะ (เราพอรูมานิดนึงวา พี่เคาเปนครู) เรา : แตภาพที่พี่คิดไวละคะ เคา : ภาพที่คิดไว เขาใจวาเปนโยคะที่มีทาตางๆ คะ เปนแบบแนวออกกำลังกาย เรา : พอพี่มาที่นี่แลวพบวา ไมใช เคา : เมื่อวานยังคุยกับเพื่อนเลย พี่รูสึกงง เพราะวา เขาใจวาเคาจะมาสอนทาโนน ทานี้ บำบัดอันนั้น อันนี้ และนี่กลายเปนวานั่งสมาธิ แลวก็เหมือนใหเราดูขางใน ตัวเอง แสดงวาเราโยคะขางในใชมั้ย เพื่อนตอบวาใช ตอนนี้พี่ก็เลยปรับสภาพวามันคือการโยคะขางในเรา ใจเรา เรา : แลวพอพี่รูวาภาพที่เราคิดกับภาพที่เราเห็นมัน ตางกัน ผิดหวังมั้ยคะ เคา : ไมผิดหวังเลย เพราะวาสนใจตั้งแตจิ๊บบอกวา เปนครู บินมาจากอินเดีย ก็คิดวาอินเดียนาจะมีอะไรดี ถึงแมวาเราคาดหวังวาจะเปนทานั้นทานี้แตกลายเปนวา โยคะจากขางใน มันก็เปนอีกเรื่องนึงที่เราไมเคยรู คือเราก็ blank มาเลย ศูนยมาเลยเมื่อวานยังบอกกับ นองๆที่นี่วา ถามีอีกก็จะมาอีก จะไดมีความรูดานนี้เพื่อ ใชกับตัวเอง อันดับแรก แลวก็บูรณาการสอนเด็กๆตอ
11
เรา : พี่คิดวา 2 วันที่พี่มาเนี่ย อยางนอยพี่ก็มีอะไร กลับไปทั้งกับตัวพี่และเด็กๆดวย เคา : มีแนนอนทั้งกับเด็กๆ และสังคมที่เราอยูและ เพื่อนครูดวยกัน เพราะพี่เปนครูสอน social study เด็กป.6 และพี่วางหลักสูตรใหมของโรงเรียน เซ็นคาเบรียล เพื่อไมใหเด็กนั้นเกงอยางเดียว แตตอง ดีดวย เรื่องพวกเนี้ยจะสามารถนำไปใชกับเคาได นำไป วางหลักสูตรใหกับเด็กพวกนี้ดวย พี่ก็ยังมีหนาที่ดูแลเด็ก พิเศษของโรงเรียนดวย คิดวาเอาพวกเนี้ยไปชวยเคา อาจจะปรับสมดุลเคาไดดวย แลวพี่ก็ยังเปนวิทยากร อบรมใหกับเพื่อนครูดวยกัน เรื่องเกี่ยวกับการศึกษา แนว Wardrobe ดานศิลปะบำบัดเพื่อใหครูไดปรับ สมดุล ตัวเองทั้งดานอารมณ จิตใจ ความคิด ครูสมดุล แลวจะไดถายทอดใหเด็กๆได เพราะฉะนั้น เรื่องที่ไดไป เนี่ยจะไมมีวันสูญเปลาเลยคะ เพราะไมใชเฉพาะแค ตัวเอง ยังไปถึงคนในครอบครัว เพื่อนครูดวยกัน เด็ก ผูปกครอง แลวผูปกครองก็จะบอกตอๆกัน ไดเยอะ เรา : ดีใจจังเลยคะ ที่ไดยินวาประโยชนจากงานนี้มัน กวางขวางมาก เคา : จริงๆพี่อยากไดเรื่องความรูพื้นฐานของอันนี้ ดวยอะคะ เราก็เลยนำเสนอไปวา มีอยางที่พี่ตองการ ที่มศว. เดือนละ1 วัน แลวก็ลากันไปดวยความรีบ เพราะคุณครูเดินมาพอดี นักเรียนตองเขาหองแลว
¾Ñ ² ¹Ò¨Ô µ
ÊÒÃѵ¶Ð
»ÃÐÂØ ¡ µ · ‹ Ò â¤РãËŒ § ‹ Ò Â ãªŒ ä ´Œ ¨ ÃÔ § ã¹ªÕ Ç Ô µ »ÃШÓÇÑ ¹ กวี คงภักดีพงษ
ชวงนี้สถาบันโยคะฯกำลังแปลตนฉบับตำรา โยคะโบราณอีก 1 เลม ตั้งใจจะใหเสร็จทันเดือน สิงหาคมเพื่อใชประกอบการอบรมหลักสูตรครูโยคะรุน ที่ 15 ตำราที่วาคือ “เฆรัณฑะสัมหิตา” เขียนขึ้น ราวป พ.ศ.2200 เปนตำราสำคัญของทางหฐโยคะ นิยมศึกษาประกอบกับตำราหลัก “หฐประทีปกา” (พ.ศ. 1900) ในคำนำของเฆรัณฑะสัมหิตาระบุไววา “การฝกโยคะเปนความกาวหนาไปตามลำดับอยางคอย เปนคอยไปจากรางกายผานทางจิตใจไปจนถึงจิต วิญญาณ ลำดับขั้นที่จะปนขึ้นไปนั้นมีเจ็ดขั้น โดยการ ฝกในแตละขั้น ผูฝกก็ยังคงมองจองเปาหมายปลาย ทางอยางแนวแน”เมื่อไดอานประโยคนี้แลว ทำใหนึก ไปถึงเวลาที่ผมสอนทา“วัคราสนะ”หรือ“ทาบิดสันหลัง” ผมชอบแนะนำใหคนเริ่มฝกโยคะดวยทานี้ โดยจะเริ่มสอนจากรูปแบบที่งาย ในอิริยาบถตางๆ ที่คนเรียนสามารถจะนำไปใชไดจริง และที่สำคัญ เปนทาที่นักเรียนสวนใหญจะรูสึกสบาย รูสึกไดถึง ความสมดุลของรางกายและจิตใจทันทีที่ฝก อันเปน เปาหมายของการฝกทาโยคะ
ทาวัคราสนะ หรือ ทาบิดสันหลัง ตามตำรา
ทำใหผูเริ่มฝกเกิดความ ประทับใจแตตน (first impression)เกิดการฝงจำวา เปาหมายของทาโยคะคือความสงบสบาย พูดไดวาเปน ทาที่สอดคลองไปกับประโยคขางตนนั่นเอง ขณะที่ทำก็ทำไปตามความรูสึกของตนเอง ดวยหลัก 4 ประการ 1) นิ่ง 2) สบาย 3) ใชแรงแตนอย และ 4) มีสติ ตามที่เราไดย้ำมาตลอดการนำเสนอโยคะตามตำรา ดั้งเดิม เขียนมาถึงตรงนี้ ผูอานบางทานอาจจะ ลังเลใจวาเราจะทำทาอาสนะในรูปแบบตามใจฉันได หรือ? ก็อยากจะชวนยอนกลับไปพิจารณาประโยคที่ ยกมาขางตน สำหรับตัวเอง ผมเชื่อวาเปาหมายของ ทาโยคะคือ รางกายคืนสูความสบาย (จากที่มัน แข็งเกร็งตึงเกินปกติ) ไปพรอมๆ กับจิตใจที่สงบ (จากที่มันวาวุน ปรุงแตงไปตางๆ นานาจนเครียดเกิน) และจากที่ไดกลาวในฉบับที่แลววาประโยชนที่จะไดรับ จากการไดฝกทาอาสนะนั้นไมไดมาจากการทำทายากๆ แตไดมาจากการทำเปนประจำสม่ำเสมอ แลวทาไหน ละที่เราจะทำไดเปนประจำ ก็ทางายๆที่เราทำแลว รูสึกดีนั่นเอง จึงอยากชวนผูอานฝกทานี้ทุกเชาหลังตื่น นอนในอิริยาบถนอนหงาย ฝกทานี้บอยๆในที่ทำงาน ในอิริยาบถนั่ง และฝกทานี้ทุกคืนกอนนอน
ในตอนเริ่มตน ผมมักสอนใหนักเรียน ลองทำจากอิริยาบถนอน จะเปนการบิดไปพรอมกันทั้ง 2 ขา หรือทีละขาก็ไดในบางรายที่รางกาย ยังไมคอยผอนคลาย บิดตัวแลวเขาลอย อาจจะใชผารองเขา เพื่อจะไดอยูในทา ไดดวยความรูสึกสบาย
photo : http://www.oknation.net/blog/mettapc/2012/01/03/entry-1
รวมถึงการสอนใหนักเรียน ทำทานี้บนเกาอี้โดยเฉพาะ คนวัยทำงานที่ใชเวลา สวนใหญอยูบนเกาอี้ จะไดมีโอกาสฝก ทาโยคะไดมากขึ้น
12
ÊÒÃѵ¶Ð
ʶҺѹâ¤ÐÇÔªÒ¡ÒôÓà¹Ô¹¡ÒÃâ´ÂÁÕÃÒÂä´Œ¨Ò¡¤‹Òŧ·ÐàºÕ¹¡Ô¨¡ÃÃÁ ¨Ò¡¡ÒèÓ˹‹Ò¼ÅÔµÀѳ± µ‹Ò§æ Ê¶ÒºÑ¹Ï ÂÔ¹´ÕÃѺ¡ÒÃʹѺʹع¨Ò¡¼ÙŒÃ‹ÇÁʹã¨à¼Âá¾Ã‹ à¾×่͹Óà§Ô¹ÁÒ㪌´Óà¹Ô¹¡ÒÃãËŒºÃÃÅØÇѵ¶Ø»ÃÐʧ¤ µÒÁ·Õ่µÑ้§äÇŒ àªÔÞºÃԨҤࢌҺÑÞªÕÍÍÁ·ÃѾ ¸¹Ò¤ÒÃä·Â¾Ò³ÔªÂ ÊÒ¢Òà´ÍÐÁÍÅÅ 3 ÃÒÁ¤Óá˧ ª×่ͺÑÞªÕ ÁÙŹԸÔËÁͪÒǺŒÒ¹ ʶҺѹâ¤ÐÇÔªÒ¡ÒÃàÅ¢ºÑÞªÕ 173-241-6858
ÊÓËÃѺà´×͹ ¡Ã¡®Ò¤Á 2558 ÁÕ¼ÙŒºÃԨҤʹѺʹع¡Ò÷ӧҹ¢Í§Ê¶ÒºÑ¹Ï ´Ñ§¹Õ้ ¤ÃÙá´§ ³Ñ°ÔÂÒ â¡ÊÔ¹·ÃÒ¹¹·
à§Ô¹ºÃÔ¨Ò¤¡ÒÃÊ͹ÊǹâÁ¡¢
2,210 ºÒ·
¤ÃÙáËÁ‹Á ÇÅÑÂÅѡɳ
à§Ô¹ºÃÔ¨Ò¤¡ÒÃÊ͹ÊǹâÁ¡¢
3,140 ºÒ·
¤ÃÙáËÁ‹Á ÇÅÑÂÅѡɳ
ºÃÔ¨Ò¤
2,000 ºÒ·
ºÃÔ¨Ò¤ §Ò¹¡Ô¨¡ÃÃÁ ¨Ò¡â¤РÊÙ‹¨ÔµµÀÒÇ¹Ò ¤ÃÙÇÃÃ³Õ Ê׺¾§É ÈÔÃÔ ¤ÃÙ¹¡ ÈÃÕÃѵ¹ àÅÒËä¾ÈÒÅ
3,800 ºÒ·
ºÃÔ¨Ò¤ ¡Ô¨¡ÃÃÁ¨ÔµÊÔ¡¢Ò ºÃÔ¨Ò¤
200 ºÒ· 2,000 ºÒ·
¤ÃÙá´§ ÁÒ¹Ô´Ò ¾§É ÈÔÃÔÃÑ¡É áÅФÃÙà¨Õ๊º àºÞ¨ÇÃó ¾Ñ¹¸ à¹ÕÂÁ à§Ô¹ºÃÔ¨Ò¤¡ÒÃÊ͹ÊǹâÁ¡¢
620 ºÒ·
ÃÇÁ
13,970 ºÒ·
µÔ´µ‹ÍʶҺѹâ¤ÐÇÔªÒ¡Òà â·Ã. 02-732 2016-7 ËÃ×Í 081-401 7744 àǺ䫵 www.thaiyogainstitute.com à¿ÊºØ ¤ www.facebook.com/thaiyogainstitute ** ÊÓËÃѺ·‹Ò¹·Õ่ÃѺ¨ØÅÊÒ÷ҧä»ÃɳÕ ÊÒÁÒö·Ó¡Òõ‹ÍÍÒÂØÊÁÒªÔ¡ä´Œâ´Â¡ÒÃâ͹à§Ô¹à¢ŒÒàÅ¢·Õ่ºÑÞªÕ¢ŒÒ§µŒ¹ (»‚ÅÐ 250 ºÒ·) áÅÐâ»Ã´á¨Œ§¡ÅѺÁÒÂѧʶҺѹâ¤ÐÇÔªÒ¡ÒÃà¾×่Í·ÃÒº
13
สถาบันโยคะวิชาการ มูลนิธิหมอชาวบาน 201 ซอยรามคำแหง 36/1 บางกะป กทม.10240 โทร. 02-732 2016-7, 081-401 7744, 091-003 6063 wanlapa.tyi@gmail.com www.thaiyogainstitute.com