photo from: http://neutralnotes.tumblr.com/post/13854792255/ dailyfotojournal-a-bit-of-this-and-a-bit-of
¨´ËÁÒ¢‹ Ò Ç
µØ Å Ò¤Á 2556
ÊÒÃѵ¶Ð
www.thaiyogainstitute.com
ÊÒÃѵ¶Ð ÊÒÃºÑ Þ
·Õ ่ » ÃÖ ¡ ÉÒ
»¯Ô · Ô ¹ ¡Ô ¨ ¡ÃÃÁ
2 2
¡ÃÃÁ¡ÒÃ
¡Ô ¨ ¡ÃÃÁà¤Ã× Í ¢‹ Ò Â
4
¤Ø  ¡Ñ ¹ ¡‹ Í ¹
§Ò¹ÇÔ ª Ò¡ÒÃÈÖ ¡ ÉÒÇÔ ¨ Ñ Â ทิ ศ ทางการสร า งมาตรฐานครู โ ยคะวิ ช าการ
5
6
µÓÃÒâÂ¤Ð´Ñ ้ § à´Ô Á ผลของความตั ้ ง มั ่ น ในการปฏิ บ ั ต ิ ส ั ต ยะ
9
àÃ× ่ Í §àÅ‹ Ò ¨Ò¡ÍÔ ¹ à´Õ  ชี ว ิ ต ที ่ อ าศรมนิ ศ าร โ กปจาร ( จบ)
กฤษณ ฟ ก น อ ย ชนาพร เหลื อ งระฆั ง ชุ ต ิ ม า อรุ ณ มาศ วรพจน คงผาสุ ข วรรณวิ ภ า มาลั ย นวล วิ ล ิ น ทร วิ ภ าสพั น ธ สมดุ ล ย หมั ่ น เพี ย รการ
ÊÓ¹Ñ ¡ §Ò¹
พรทิ พ ย อึ ง คเดชา วั ล ลภา ณะนวล สุ จ ิ ต ฏา วิ เ ชี ย ร
¾ÃÐäµÃ» ® ¡á¡‹ ¹ ¸ÃÃÁ พระไตรป ฎ ก เล ม ที ่ ๑๔ (พระสุ ต ตั น ตป ฎ ก เล ม ที ่ ๖) มั ช ฌิ ม นิ ก าย อุ ป ริ ป ณ ณาสก . อานาปานสติ ส ู ต ร
กวี คงภั ก ดี พ งษ แก ว วิ ฑ ู ร ย เ ธี ย ร ธี ร เดช อุ ท ั ย วิ ท ยารั ต น นพ.ยงยุ ท ธ วงศ ภ ิ ร มย ศ านติ ์ นพ.สมศั ก ดิ ์ ชุ ณ หรั ศ มิ ์
11
¡Í§ºÃÃ³Ò¸Ô ¡ ÒÃ
จิ ร วรรณ ตั ้ ง จิ ต เมธี ณั ต ฐิ ย า ป ย มหั น ต ณั ฏ ฐ ว รดี ศิ ร ิ ก ุ ล ภั ท รศรี ธนวั ช ร เกตน ว ิ ม ุ ต ธี ร ิ น ทร อุ ช ชิ น พรจั น ทร จั น ทนไพรวั น วิ ส าขา ไผ ง าม วี ร ะพงษ ไกรวิ ท ย ศั น สนี ย นิ ร ามิ ษ สุ จ ิ ต ฏา วิ เ ชี ย ร
ÈÔ Å »¡ÃÃÁ
กาญจนา กาญจนากร photo from; http://wishflowers.tumblr.com/page/6
ÊÒÃѵ¶Ð ¤Ø  ¡Ñ ¹ ¡‹ Í ¹ สังคมเคลื่อนตัวไปอยางรวดเร็ว โดยเฉพาะในเรื่องของการสื่อสาร ทั้งการสื่อสารแบบมวลชน การสื่อสารระหวางบุคคล ฯลฯ แมวาสถาบันโยคะวิชาการจะเนนความสำคัญของตำราโยคะดั้งเดิมแตเรา ก็เปนสวนหนึ่งของสังคมใหญ การปรับตัวจึงเปนเรื่องที่ตองทำอยางไมอาจหลีกเลี่ยงได นอกจากการสื่อสารระหวางเรากับเครือขายครูผานแผนกระดาษแลว เรากำลังปรับปรุงเวบไซท ซึ่งจะเปดดำเนินการใหมในตนเดือนตุลาคม เรายังตองอาศัยเฟซบุค ทวิตเตอร บลอก ฯลฯ เปนแรงหนุน คือ เขาทุกชองทางที่จะนำพาเราไปพบกับกลุมเปาหมาย คือ คนรักโยคะเพื่อการพัฒนาจิต
»¯Ô · Ô ¹ ¡Ô ¨ ¡ÃÃÁ Ê¶ÒºÑ ¹ â¤ÐÇÔ ª Ò¡Òà Ë Ç Á¡Ñ º ÀÒ¤ÇÔ ª Ò»ÃÑ ª ÞÒáÅÐÈÒÊ¹Ò ¤³ÐÁ¹Ø É ÂÈÒʵà ÁËÒÇÔ · ÂÒÅÑ Â ÈÃÕ ¹ ¤ÃÔ ¹ ·ÃÇÔ â ò ¨Ñ ´ ͺÃÁ¤ÃÙ â ¤РËÅÑ ¡ ÊÙ µ õ‹ Í à¹× ่ Í § »‚ 2556 ÊÓËÃÑ º ¼Ù Œ ¼ ‹ Ò ¹¡ÒÃͺÃÁËÅÑ ¡ ÊÙ µ äÃÙ â ¤Р¢Í§Ê¶ÒºÑ ¹ ÏÁÒáÅŒ Ç (ÃÐÂÐÊÑ ้ ¹ ËÃ× Í ÃÐÂÐÂÒÇ¡็ ä ´Œ )
โดยครูฮิโรชิ ครูฮิเดโกะ ไอคาตะ (บรรยายเปนภาษาอังกฤษ พรอมลามแปลเปนไทย) วันที่ 4 – 23 พฤศจิกายน 2556 ณ คณะมนุษยศาสตร มศว และ มีการเขาคาย 1 ครั้ง การอบรมนี้เพื่อพัฒนาครูใหลึกซึ้งในโยคะ เพื่อใหครูมีความเชื่อมั่น ในกาวเดินของโยคะตำราดั้งเดิม เพื่อนำมาประยุกต ใชฝกโยคะนอกเสื่อของตน ไมใชการอบรมเพื่อเพิ่มทา หรือเพิ่มเทคนิคใหครูนำไปใชสอน µÒÃÒ§àÃÕ Â ¹
ทุกวันจันทร อังคาร พุธ พฤหัสบดี เรียนที่ มศว เวลา 17.30 – 20.00 น. วันศุกรที่ 15 – วันอาทิตยที่ 17 พ.ย. คายโยคะ บานกานนิสา นนทบุรี วันเสารที่ 9, 23 พ.ย. เรียนที่ มศว เวลา 8.00 – 12.00 น. รับจำนวนจำกัด 20 ทาน เทานั้น สนใจสมัครไดที่ สำนักงานสถาบันโยคะวิชาการ 02 732 2016 – 7 มือถือ 081 401 7744 เลขที่บัญชี ในการโอนเงินคาลงทะเบียน 12,000 บาท ธ.ไทยพาณิชย สาขาเดอะมอลล 3 รามคำแหง ชื่อบัญชี มูลนิธิหมอชาวบาน สถาบันโยคะวิชาการ เลขที่ 173 -241-685-8 ออมทรัพย
2
ÊÒÃÑ µ ¶Ð â¤ÐÍÒÊ¹Ð¢Ñ ้ ¹ ¾× ้ ¹ °Ò¹à¾× ่ Í ¤ÇÒÁÊØ ¢ ÊÓËÃÑ º ¼Ù Œ à ÃÔ ่ Á µŒ ¹ ÇÑ ¹ ÍÒ·Ô µ  · Õ ่ 27 µØ Å Ò¤Á àÇÅÒ 9.00 – 15.00 ¹
ที่ชั้น 6 หอง 262 คณะมนุษยศาสตร มศว ประสานมิตร คาลงทะเบียน 650 บาท สนใจโทร.สอบถามรายละเอียดไดที่ สถาบันโยคะวิชาการ
â¤Ðã¹Êǹ¸ÃÃÁ ³ Ëͨ´ËÁÒÂà赯 ¾ Ø · ¸·ÒÊ ¿ÃÕ ·Ø ¡ àÂ็ ¹ ÇÑ ¹ ¾Ø ¸ áÅÐ ¾ÄËÑ Ê àÇÅÒ 17.00 – 18.30 ¹. áÅÐ ÇÑ ¹ àÊÒà · Õ ่ 26 µØ Å Ò¤Á àÇÅÒº‹ Ò Â 2 – 4 âÁ§àÂ็ ¹
รายชื่อครูโยคะที่สวนโมกข เดือน ต.ค. มีดังนี้ พุธที่ 2 ต.ค. 56 งดสอนสวนโมกขขอใชสถานที่ พุธที่ 9 ต.ค. 56 วรพจน คงผาสุข (เบนซ ) พุธที่ 16 ต.ค. 56 สุจิตฏา วิเชียร(เจี๊ยบ) พุธที่ 23 ต.ค. 56 สุวัณนา จันทิมา(นา) พุธที่ 30 ต.ค. 56 วิลินทร วิภาสพันธ(เตย ) พฤหัสบดีที่ 3 ต.ค. 56 งดสอน สวนโมกข ขอใชสถานที่ พฤหัสบดีที่ 10 ต.ค. 56 นีลชา เฟองฟูเกียรติ(เบิรด) โยคะเรียบงายรูกายรูใจ พฤหัสบดีที่ 17 ต.ค. 56 อัมพร สิทธิพันธ โรเบิรดส (จูน) พฤหัสบดีที่ 24 ต.ค. 56 พิมลพันธ ศุขไพบูลย(ปอก ) พฤหัสบดีที่ 31 ต.ค. 56 วัลลภา ณะนวล(กลอย) เสารที่ 26 ต.ค. 56 ชุติมา อรุณมาศ(กลวย) ลงทะเบียนรวมกิจกรรมไดที่ www.bia.or.th
â¤ÐÊÃŒ Ò §ÊØ ¢ ³ ËŒ Í §ÍÒÈÃÁÊØ ¢ ÀÒÇÐ ÊÊÊ ·Ø ¡ ÇÑ ¹ ¾ÄËÑ Ê àÇÅÒ 17.00 – 18.30 ¹. áÅÐ ÇÑ ¹ àÊÒà àÇÅÒ 10.30 – 12.00 ¹.
สำรองที่เขารวมกิจกรรมไดที่ activity.thc@thaihealth.or.th หรือ โทร.02 343 1500 ตอ 2 และ 081 731 8270
3
ÊÒÃѵ¶Ð
¡Ô ¨ ¡ÃÃÁà¤Ã× Í ¢‹ Ò Â
โดย ครูดล ชีวิตสิกขา,อาจารยแพทยหญิงรุจิรา มังคละศิริ, และคณะ จำนวน 30 ชั่วโมง วันที่ 8-10 พ.ย. 56 ทามกลางบรรยากาศเงียบสงบ อากาศดี อาหารอรอยเพื่อสุขภาพ ภายในศูนยสุขภาพ มิชชั่น มวกเหล็ก สระบุรี ผูที่ตองการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาสอบถามไดที่อีเมล tanawatk@gmail.com โทร. 087-678-1669 ปดรับสมัครภายในวันที่ 15 ตุลาคม 56 หรือเมื่อเต็มกอน (รับจำนวนจำกัดเพียง 30 คน) คาลงทะเบียน 4,500 บาท / คน รวมคาที่พักปรับอากาศ นอนหองละ 2 คน) และอาหารสุขภาพปลอดเนื้อสัตวและสารพิษตลอดการอ บรม ไมรวมคาเดินทาง (มีรถตูจากอนุสาวรียชัยฯ ไปยังศูนยสงเสริมสุขภาพมิชชั่น ราคา 130.-) วิธีการสมัคร 1.กรอกใบสมัครในแบบฟอรมลงทะเบียนออนไลนที่ https://docs.google.com/forms/d/1cq1iGPikXobDS 3XpjX56cGdunh5UlHYpvVyxtObF0KI/edit# 2. ทานจะไดรับใบตอบรับการลงทะเบียน ภายใน7วัน พรอมกับวิธีการชำระคาลงทะเบียน 3. การลงทะเบียนจะสมบูรณเมื่อทานโอนเงินคา ลงทะเบียน และแจงยืนยันการชำระเงิน หมายเหตุ ËÔ Á ÒÅÒÂÑ ¹ â¤ÐÊÁÒ¸Ô ( »ÃÐà·Èä·Â) ÁÕ ¤ ÇÒÁÂÔ ¹ ´Õ ¢ ÍàªÔ Þ ·‹ Ò ¹à¢Œ Ò Ã‹ Ç Á¿˜ § ºÃÃÂÒÂã¹ËÑ Ç ¢Œ Í “ÈÔ Å »Š á Ë‹ § ªÕ Ç Ô µ - The Art of Joyful Living” (ÍÔ Ê ÃШҡ¤ÇÒÁà¤ÃÕ Â ´áÅФÇÒÁ¡ÅÑ Ç )
ซึ่งอิงพื้นฐานคำสอนจาก“ปตัญชลีโยคะสูตร”ที่ ถอดความ โดยทานสวามี รามา โดย ดร.สตีเฟน พารคเกอร ผูเชี่ยวชาญเรื่องจิตวิทยาและโยคะสมาธิบำบัด มีผูแปล เปนภาษาไทยตลอดงาน ในวันเสารที่ 7 ธันวาคม 2556 เวลา 8.00-17.00 น. ณ หองประชุมใหญ ชั้น 11 อาคารรวมจิตเพียรธรรม
photo from; http://whatchathinkaboutthat.tumblr.com/post/53359663361/sweet-angel-1
à¤Ã× Í ¢‹ Ò ÂªÕ Ç Ô µ ÊÔ ¡ ¢Ò www.lifebhavana.net ¢ÍàªÔ Þ ªÇ¹·Ø ¡ ·‹ Ò ¹à¢Œ Ò ÍºÃÁÀÒÇ¹Ò ÇÔ ª ÒªÕ Ç Ô µ áÅФÇÒÁµÒ 1
โรงพยาบาลเซ็นตหลุยส ถนนสาธรใต คาลงทะเบียน 600 บาทตอทาน (รวมอาหารกลางวัน และอาหารวาง 2 มื้อ) ผูสนใจกรุณาตอบกลับที่ ahymsinthailand@gmail.com หรือโทร 08-6755-3869, 08-9212-6296, 081700-3011โดยกรุณาแจงรายละเอียดชื่อ-สกุล อีเมล และเบอรติดตอกลับ (สำหรับผูลงทะเบียนทุกทาน) การลงทะเบียนจะสมบูรณหลังจากเจาหนาที่ไดรับเงินคา ลงทะเบียนและมีการยืนยันกลับแลวเทานั้น รายละเอียด การชำระเงินคาลงทะเบียน ชื่อบัญชี นายธนิยะ เกวลี ธนาคารกรุงเทพ เลขที่บัญชี 031-0-23586-6 ผูคนสวนใหญมุงมั่นที่จะสรางทรัพยสมบัติภายนอกจนเกิน พอดี หรือไมก็คิดกังวลหมกมุนอยูกับความตายจนลืมไปวา การอยูกับปจจุบันขณะ ดวยความสัมพันธที่ราบรื่นกับ ตัวเองและผูอื่น คือกุญแจสาคัญที่จะไขไปสูความสาเร็จ ทั้งในโลกแหงวัตถุและจิตวิญญาณ ดร. สตีเฟน พารคเกอรปนทั้งนักจิตวิทยาและนัก ปฏิบัติ สมาธิที่มีประสบการณมาอยางยาวนาน มีความ ยินดีเปนอยางยิ่งที่จะรวมแบงปนหลักสาคัญในการพัฒนา ชีวิตใหมีความสุขและเบิกบานอยางแทจริง โดยอิงพื้นฐาน จากปตัญชลีโยคะสูตรฉบับที่ทานสวามี รามา เปนผู ถอดความ ดวยประสบการณกวา 27 ป ในการเปน อาจารยและนักจิตวิทยาบาบัดจากเมือง มินเนสโซตา (Minnesota) ประเทศสหรัฐอเมริกา ในป ค.ศ. 1970 ดร.สตีเฟน ไดพบกับทานสวามี เวทะ ภารตี ผูซึ่งเปนแรง บันดาลใจใหทานแสวงหาความรูทางดานจิตวิญญาณอยาง ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นโดยการฝกปฎิบัติสมาธิทุกวัน ดร.สตีเฟน เปนครูโยคะที่ขึ้นทะเบียนและไดรับการ รับรองจาก Yoga Alliance หลังจากผานคอรสการฝกถึง 500 ชม ทานได เดินทางไปทั่วทวีปอเมริกาเหนือและหลาย ประเทศในแถบ ทวีปยุโรปและเอเชีย เพื่อจัดสัมมนาทางดาน โยคะสมาธิ และการปฏิบัติทางดานจิตวิญญาณตามแนว ทางของ หิมาลายันโยคะสมาธิ “มนุษยทุกคนคือประชากร ของโลกแหงวัตถุและ โลกแหงจิตวิญญาณในเวลาเดียวกันเราตองจึงใชชีวิตอยาง มีทักษะและปญญา ศิลปแหงการใชชีวิตดวยความสุข คือการเตรียมตัวที่ดีที่สุดสาหรับลมหายใจสุดทาย” สวามี รามา 4
ÊÒÃѵ¶Ð
§Ò¹ÇÔ ª Ò¡ÒÃÈÖ ¡ ÉÒÇÔ ¨ Ñ Â
photo from; http://stoppingoffplace.blogspot.com/2011_11_01_archive.html
·Ô È ·Ò§¡ÒÃÊÃŒ Ò §Áҵðҹ¤ÃÙ â ¤ÐÇÔ ª Ò¡ÒÃ
5
สภารับรองคุณภาพโยคะนานาชาติ (Council for Yoga Accreditation International) หรือ CYAI จัดตั้งขึ้นดวยโครงสรางระบบเดียวกันการรับรองคุณภาพ ของโรงเรียนเฉพาะสาขาวิชาชีพตางๆ ในมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกา เชน โรงเรียน กฏหมาย โรงเรียนธุรกิจ โรงเรียนแพทย ฯลฯ CYAI จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2555 ดวยความหวงใยของสถาบันโยคะ ชั้นนำของโลก เพื่อรักษาบรรทัดฐานของโยคะซึ่งถูกบิดเบือนจากศูนยโยคะที่จัดตั้ง กันเองแบบไมมีคุณภาพ ที่ไดเผยแพรโยคะที่ปราศจากแกนและมี แตจะสรางความ สับสนใหกับสังคม โยคะที่แทเปนการฝกทางดานจิตวิญญาณ ในอินเดียดินแดนที่ใหกำเนิด โยคะไมใชอาชีพหากแตเปนเรื่องของครูที่อบรมศิษยอยางเปนวิทยาทาน ทุกวันนี้ หลายคนมองโยคะเปนเรื่องของวิชาชีพ เปนเรื่องของธุรกิจ การที่โลกตะวันตก ใหความสำคัญในการทำวิจัย สงผลใหโยคะเปนที่นิยมแพรหลายแตในขณะเดียวกัน ก็เปนการทำใหสาระสำคัญของโยคะเจือจางลงดวย CYAI หวังจะฟนฟูความ บริสุทธิ์ของโยคะโดยใหผูที่จะทำหนาที่อธิบายเรื่องโยคะตองเปนผูมีความเหมาะสม เปนที่ยอมรับ เปนที่รับรองโดย CYAI ไมใชดวยการแตงตั้งตนเองขึ้นมา สมาชิกของ CYAI คือสถาบันโยคะตางๆ ครูโยคะที่ไดรับประกาศนียบัตรจากสถาบันโยคะเหลานี้ สามารถใหสถาบันฯ ที่ตนสังกัดสงรายชื่อมายัง CYAI ชื่อเหลานี้จะไดรับการประกาศในฐานขอมูลของ CYAI เปนเวลา 3 ป โดยครูโยคะจะตองทำการศึกษาตอเนื่องเพื่อทำการตออายุ ในทุกๆ 3 ป ตัวอยางสถาบันโยคะใน CYAI AHYMSIN - Association of Himalayan Yoga Meditation Societies International Kaivalyadhama Yoga Institute Krishnamacharya Healing and Yoga Foundation Swami Vivekananda Yoga Anusandhana Samsthana (S-VYASA) The Yoga Institute, Santacruz The Yoga Portuguese Confederation ฯลฯ ตัวอยางกรรมการใน CYAI Mahamandaleshwara Dr. Swami Veda Bharati, head of the Swami Rama's Ashram, Sadhana Mandir Om Prakash Tiwari, Secretary General of the Kaivalyadhama Institute Dr HR Nagendra, Vice Chancellor of SVYASA Yoga University Smt. Hansaji Jayadeva Yogendra, Director of The Yoga Institute ฯลฯ ศีกษาเพิ่มเติมไดที่ เวบไซทของ CYAI ( http://www.cyai.org/ )
¾ÃÐäµÃ» ® ¡á¡‹ ¹ ¸ÃÃÁ
ÊÒÃѵ¶Ð
photo from; http://www.tumblr.com/
¾ÃÐäµÃ» ® ¡ àÅ‹ Á ·Õ ่ ñô (¾ÃÐÊØ µ µÑ ¹ µ» ® ¡ àÅ‹ Á ·Õ ่ ö) ÁÑ ª ¬Ô Á ¹Ô ¡ Ò ÍØ » ÃÔ » ˜ ³ ³ÒÊ¡ ๘. อานาปานสติสูตร (ตอจากตอนที่แลว)
จากเวบไซทhttp://www.84000.org /tipitaka/ pitaka2/v.php?B=14&A=3924&Z=4181 [๒๙๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุที่เจริญสติปฏฐาน ๔ แลวอยางไรทำใหมากแลวอยางไร จึงบำเพ็ญโพชฌงค ๗ ใหบริบูรณได ดูกรภิกษุทั้งหลายสมัยใด ภิกษุพิจารณาเห็นกายในกาย มีความเพียร รูสึกตัว มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียไดอยู ในสมัยนั้น สติยอมเปนอันเธอผูเขาไปตั้งไวแลวไมเผลอเรอ ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใด สติเปนอันภิกษุเขาไปตั้งไวแลวไมเผลอเรอ ในสมัยนั้น สติสัมโพชฌงคยอมเปนอันภิกษุปรารภแลว สมัยนั้น ภิกษุชื่อวายอมเจริญสติสัมโพชฌงค สมัยนั้น สติสัมโพชฌงคยอมถึงความเจริญและความบริบูรณแก ภิกษุ เธอเมื่อเปนผูมีสติอยางนั้นอยู ยอมคนควา ไตรตรอง ถึงความพิจารณาธรรมนั้นไดดวยปญญา ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใด ภิกษุเปนผูมีสติอยางนั้นอยู ยอมคนควาไตรตรอง ถึงความพิจารณาธรรมนั้นดวยปญญา ในสมัยนั้น ธรรมวิจยสัมโพชฌงคยอมเปนอันภิกษุปรารภแลวสมัย นั้น ภิกษุชื่อวายอมเจริญธรรมวิจยสัมโพชฌงค สมัยนั้น ธรรมวิจยสัมโพชฌงคยอมถึงความเจริญ และความบริบูรณแกภิกษุ เธอเมื่อคนควา ไตรตรอง ถึงความพิจารณาธรรมดวยปญญาอยู
6
ÊÒÃѵ¶Ð ยอมเปนอันปรารภความเพียรไมยอหยอน ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใด ภิกษุคนควา ไตรตรอง ถึงความพิจารณาธรรมนั้นดวยปญญา ปรารภ ความเพียรไมยอหยอน ในสมัยนั้น วิริยสัมโพชฌงค ยอมเปนอันภิกษุปรารภแลว สมัยนั้น ภิกษุชื่อวายอม เจริญวิริยสัมโพชฌงค สมัยนั้นวิริยสัมโพชฌงคยอมถึง ความเจริญและความบริบูรณแกภิกษุปติปราศจาก อามิส ยอมเกิดขึ้นแกภิกษุผูปรารภความเพียรแลว ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใด ปติปราศจากอามิสเกิดขึ้นแกภิกษุผูปรารภความเพียร แลว ในสมัยนั้น ปติสัมโพชฌงคยอมเปนอันภิกษุปรารภแลว สมัยนั้นภิกษุชื่อวายอมเจริญปติสัมโพชฌงค สมัยนั้น ปติสัมโพชฌงคยอมถึงความเจริญและความบริบูรณแก ภิกษุ ภิกษุผูมีใจเกิดปติ ยอมมีทั้งกายทั้งจิตระงับได ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใด ทั้งกายทั้งจิตของภิกษุผูมีใจเกิดปติ ระงับได ในสมัยนั้น ปสสัทธิสัมโพชฌงคยอมเปนอันภิกษุ ปรารภแลว สมัยนั้น ภิกษุชื่อวายอมเจริญปสสัทธิ สัมโพชฌงค สมัยนั้น ปสสัทธิสัมโพชฌงคยอมถึงความ เจริญและความบริบูรณแกภิกษุ ภิกษุผูมีกายระงับแลว มีความสุข ยอมมีจิตตั้งมั่น ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใด จิตของภิกษุผูมีกาย ระงับแลว มีความสุขยอมตั้งมั่น ในสมัยนั้น สมาธิสัมโพชฌงคยอมเปนอันภิกษุ ปรารภแลว สมัยนั้นภิกษุชื่อวายอมเจริญสมาธิ สัมโพชฌงค สมัยนั้น สมาธิสัมโพชฌงคยอมถึงความ เจริญและความบริบูรณ แกภิกษุ ภิกษุนั้นยอมเปนผู วางเฉยจิตที่ตั้งมั่นแลว เชนนั้นไดเปนอยางดี ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใดภิกษุเปนผูวางเฉย จิตที่ตั้งมั่นแลวเชนนั้นไดเปนอยางดี ในสมัยนั้น อุเบกขาสัมโพชฌงคยอมเปนอันภิกษุปรารภแลว สมัยนั้นภิกษุชื่อวายอมเจริญอุเบกขาสัมโพชฌงค สมัยนั้น อุเบกขาสัมโพชฌงคยอมถึงความเจริญ และความบริบูรณแกภิกษุ ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใด ภิกษุพิจารณา เห็นเวทนาในเวทนา มีความเพียร รูสึกตัว มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียไดอยู ในสมัยนั้น สติยอมเปนอันเธอผูเขาไปตั้งไวแลวไมเผลอเรอ...
7
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใด ภิกษุพิจารณาเห็นธรรม ในธรรม มีความเพียร รูสึกตัว มีสติ กำจัดอภิชฌาและโทมนัสในโลกเสียไดอยู ในสมัยนั้น สติยอมเปนอันเธอผูเขาไปตั้งไวแลวไมเผลอเรอ ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใด สติเปนอันภิกษุ เขาไปตั้งไวแลว ไมเผลอเรอ ในสมัยนั้น สติสัมโพชฌงคยอมเปนอันภิกษุปรารภแลว สมัยนั้น ภิกษุชื่อวา ยอมเจริญสติสัมโพชฌงค สมัยนั้น สติสัมโพชฌงคยอมถึงความเจริญและความบริบูรณแก ภิกษุ เธอเมื่อเปนผูมีสติอยางนั้นอยู ยอมคนควา ไตรตรอง ถึงความพิจารณาธรรมนั้นดวยปญญา ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใด ภิกษุเปนผู มีสติอยางนั้นอยู ยอมคนควาไตรตรอง ถึงความ พิจารณาธรรมนั้นดวยปญญา ในสมัยนั้น ธรรมวิจยสัมโพชฌงค ยอมเปนอันภิกษุปรารภแลว สมัยนั้น ภิกษุชื่อวายอมเจริญธรรมวิจยสัมโพชฌงค สมัยนั้น ธรรมวิจยสัมโพชฌงคยอมถึงความเจริญ และความ บริบูรณแกภิกษุ เมื่อเธอคนควา ไตรตรอง ถึงความพิจารณาธรรมนั้นดวยปญญาอยู ยอมเปนอันปรารภความเพียรไมยอหยอน ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใด ภิกษุคนควา ไตรตรอง ถึงความพิจารณาธรรมนั้นดวยปญญา ปรารภความเพียรไมยอหยอน ในสมัยนั้น วิริยสัมโพชฌงคยอมเปนอันภิกษุปรารภแลว สมัยนั้น ภิกษุชื่อวายอมเจริญวิริยสัมโพชฌงค สมัยนั้นวิริยสัมโพชฌงคยอมถึงความเจริญและความ บริบูรณแกภิกษุ ปติปราศจากอามิสยอมเกิดขึ้นแกภิกษุ ผูปรารภความเพียรแลว ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลายสมัยใดปติปราศจากอามิส เกิดขึ้นแกภิกษุผูปรารภความเพียรแลว ในสมัยนั้น ปติสัมโพชฌงคยอมเปนอันภิกษุปรารภแลว สมัยนั้นภิกษุชื่อวายอมเจริญปติสัมโพชฌงค สมัยนั้น ปติสัมโพชฌงคยอมถึงความเจริญและความบริบูรณแก ภิกษุ ภิกษุผูมีใจเกิดปติ ยอมมีทั้งกายทั้งจิตระงับได ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใด ทั้งกายทั้งจิตของ ภิกษุผูมีใจเกิดปติ ระงับได ในสมัยนั้น ปสสัทธิสัมโพชฌงคยอมเปนอันภิกษุปรารภแลว สมัยนั้น ภิกษุชื่อวายอมเจริญปสสัทธิสัมโพชฌงค สมัยนั้น ปสสัทธิสัมโพชฌงค ยอมถึงความเจริญ
ÊÒÃѵ¶Ð และความบริบูรณแกภิกษุ ภิกษุผูมีกายระงับแลว มีความสุข ยอมมีจิตตั้งมั่น ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลายสมัยใดจิตของภิกษุผูมีกาย ระงับแลว มีความสุข ยอมตั้งมั่น ในสมัยนั้น สมาธิสัมโพชฌงคยอมเปนอันภิกษุปรารภแลว สมัยนั้นภิกษุชื่อวายอมเจริญสมาธิสัมโพชฌงค สมัยนั้น สมาธิสัมโพชฌงคยอมถึงความเจริญและความบริบูรณ แกภิกษุ ภิกษุนั้นยอมเปนผูวางเฉยจิตที่ตั้งมั่น แลวเชนนั้นไดเปนอยางดี ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใด ภิกษุเปนผูวางเฉยจิตที่ตั้งมั่นแลวเชนนั้นไดเปนอยางดี ในสมัยนั้น อุเบกขาสัมโพชฌงคยอมเปนอันภิกษุ ปรารภแลว สมัยนั้นภิกษุชื่อวายอมเจริญอุเบกขา สัมโพชฌงค สมัยนั้น อุเบกขาสัมโพชฌงคยอมถึง ความเจริญ และความบริบูรณแกภิกษุ ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุที่เจริญสติปฏฐาน ๔ แลวอยางนี้ ทำใหมากแลวอยางนี้แล ชื่อวาบำเพ็ญโพชฌงค ๗ ใหบริบูรณได ฯ [๒๙๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุที่เจริญโพชฌงค ๗ แลวอยางไร ทำใหมากแลวอยางไร จึงบำเพ็ญวิชชาและวิมุตติใหบริบูรณได ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ยอมเจริญสติสัมโพชฌงคอันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ อันนอมไปเพื่อความปลดปลอย ยอมเจริญธรรมวิจยสัมโพชฌงค ... ยอมเจริญวิริยสัมโพชฌงค ... ยอมเจริญปติสัมโพชฌงค ... ยอมเจริญปสสัทธิสัมโพชฌงค ... ยอมเจริญสมาธิสัมโพชฌงค ... ยอมเจริญอุเบกขาสัมโพชฌงคอันอาศัยวิเวก อาศัยวิราคะ อาศัยนิโรธ อันนอมไปเพื่อความปลดปลอย ฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุที่เจริญโพชฌงค ๗ แลวอยางนี้ ทำใหมากแลวอยางนี้แล ชื่อวาบำเพ็ญวิชชาและวิมุตติใหบริบูรณได ฯ พระผูมีพระภาคไดตรัสพระภาษิตนี้แลว ภิกษุเหลานั้นตางชื่นชมยินดีพระภาษิตของพระผูมีพระ ภาคแล ฯ จบ อานาปานสติสูตร ที่ ๘
8
ÊÒÃѵ¶Ð
µÓÃÒâÂ¤Ð´Ñ ้ § à´Ô Á
photo from; http://olgabennett.blogspot.com/
¼Å¢Í§¤ÇÒÁµÑ ้ § ÁÑ ่ ¹ 㹡Òû¯Ô º Ñ µ Ô Ê Ñ µ ÂÐ วีระพงษ ไกรวิทย และจิรวรรณ ตั้งจิตเมธี
9
ความตอนที่แลวของโยคสูตรประโยคที่ ๒:๓๕ สรุปไดวา ผลของการตั้งมั่นในการปฏิบัติอหิงสา (การไมเบียดเบียนทำราย ไมใชความรุนแรง) คือ การขจัดความเกลียดชังและความเปนศัตรูไมเพียงแตใน โยคีผูปฏิบัติโยคะเทานั้น แมแตผูคนที่อยูรอบๆ ตัวเขาก็จะคลายจากความรูสึกเกลียดชังหรือความเปน ศัตรูไปดวย ในประโยค ๒:๓๖ กลาววา “สัตยะ-ประติษฐายาง กริยา-ผลาศรยัตวัม” แปลวา ผลของการตั้งมั่นในการปฏิบัติสัตยะ (ตั้งมั่นอยูบนความจริง) คือ การเชื่อมโยงสัมพันธกัน อยางเปนเหตุเปนผลระหวาง การกระทำและผลแหง การกระทำ ประโยคนี้หากพิจารณาจากความ หมายของคำอยาง ตรงไปตรงมาธรรมดา ดูเหมือนจะไมไดบงบอกถึงผลอันพิเศษใดๆ จากการปฏิบัติยมะในเรื่อง ความจริง ไดอยางตั้งมั่น เพราะวาผลนั้นยอมขึ้นอยูกับเหตุหรือการกระทำอยาง แนนอนตาม “กรรมะ-สิทธานตะ” แตตาม “กฎแหงกรรม” นี้ ก็เกือบจะเปนไปไมไดเลยที่จะ ทำนายได ๑๐๐ เปอรเซ็นตเต็มวา ผลอะไรจะเกิดขึ้นจากการกระทำใดๆก็ตาม เพราะผล ที่เกิดขึ้นจริง ณ เวลาใดเวลาหนึ่งไมไดขึ้นอยูกับ การกระทำเพียงอยางเดียว แตมันเปนผลรวมของผล ทั้งหลาย จากการกระทำอันมากมายหลายอยาง
อยาง สมบูรณ ณ ปจจุบัน และอาจจะเปนเรื่องที่ เหนือความสามารถของใครๆ ที่จะคำนวณไดอยาง ถูกตอง หรือกำหนดอยางชัดเจนในผล ที่เกิดจาก กฎธรรมชาตินี้ ดังนั้นแมวาตามกฎแหงกรรม ผลของทุกการกระทำยอมเกิดตามมาอยางไมอาจหลีก เลี่ยงได แตก็ไมมีใครสามารถทำนายธรรมชาติ ที่แนนอนหรือระยะเวลาที่สุกงอมของผลแหงการ กระทำนั้นได อยางไรก็ตามสิ่งที่ประโยคนี้หมายถึงก็คือ ผูที่ปฏิบัติยมะในขอสัตยะอยางสมบูรณแลวจะสามารถ ทำนายธรรมชาติที่แนนอนของผลแหงการกระทำใดๆ ก็ตามที่ตัวเขาเปนผูกระทำหรือแมแตคนอื่นๆ กระทำ อาจจะรูสึกไดวาผูที่ปฏิบัติตามยมะขอสัตยะ ไดอยางสมบูรณนั้นสามารถที่จะลมลางกฎของการไม สามารถทำนายผลกรรมที่กลาวไวขางตนได แตนั่นไมใชประเด็น การพยายามอยางจริงใจและ เขมงวด มากของการฝกตั้งมั่นอยูบนความจริง(สัตยะ) ในทุกๆ แงมุมของมัน จะปรับเปลี่ยนจิตของผูปฏิบัติ ไปในทางที่วาจะไมมีความคิดหรือจินตนาการใดเลยที่ไ มสอด คลองกับความเปนจริง แมแตเรื่องที่เกี่ยวของ กับอนาคต อาจกลาวไดวาจิตของผูปฏิบัติที่ตั้ง มั่นอยูกับสัตยะเชนนี้มีสภาพที่เปนธรรมชาติ และอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นในจิตของเขาตอเหตุการณใดก็ ตามที่จะเกิดขึ้นแมแตในอนาคต ก็จะมีความสอดคลองกันอยางแนนอนระหวางสิ่งที่เขา คิดในใจกับความเปนจริงที่เกิดตามมาในอนาคต ดังนั้นเมื่อไรก็ตามที่เขาคาดเดาสิ่งใด มันจึงเปนจริงราวกับปาฏิหาริย ตัวอยางตางๆ ของผูที่มีความสามารถที่จะทำนายสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาค ตนี้ดูเหมือนจะมีอยูมากมายหลายคนแมแตในคนปกติ ธรรมดา และในบรรดาตัวอยางเหลานี้โดยสวนใหญ พบวาเปนบุคคลที่ประพฤติตนอยูบนความซื่อสัตยและ ตั้งอยูบนความจริงอยางมาก เอกสารอางอิง : ๑. Karambelkar, P. V. (1986). PATANJALA YOGA SUTRAS Sanskrta Sutras with Transliteration, Translation & Commentary. Lonavla : Kaivalyadhama, p. 266-268. ๒. Karma Siddhantha [online], ๑๕ กันยายน ๒๕๕๖. แหลงที่มา http://karmasiddhantha.blogspot.com/2010/11/karmasidhantha.html
ÊÒÃѵ¶Ð
10
ÊÒÃѵ¶Ð
àÃ× ่ Í §àÅ‹ Ò ¨Ò¡ÍÔ ¹ à´Õ  (µ‹ Í ¨Ò¡©ºÑ º ·Õ ่ á ÅŒ Ç ) ภาคสุดทายของภารกิจที่อาศรมนิศาโกปจาร วันที่ยี่สิบสองมกราคมเปนวันที่สิบสอง ของการอยูที่นี่ เอาละ พอไมกินยาฝรั่ง หนาก็เยิน เลยคิดวาจะตองรอพบดร.ไนซาล ผูอำนวยการที่นี่ใหได หลังจากรอคิวอยูสองชั่วโมงกวา ก็ไดพบหมอ หมอบอกวา “เธอไมนากินยาแกแพเลย มันอยูในขั้นตอนการบำบัดนะ” อาว หมอชรูติใหกินนี่นา แลวยังไงละเนี่ย วันนี้ลิมบิกซิสเต็มทำงานมาก อีโมชันนอลมากคะแนนความแข็งแรงทางกายเต็มสิบได หา คะแนนความแข็งแรงทางใจเต็มสิบไดหนึ่ง จิตตกสุดๆ หมอบอกวา”คนที่เขามารักษากัน เรื่องโรคภูมิแพ ผิวหนังนะ เขาอยูกันเปนเดือนๆ ดูรูปนี่ ผูชายคนนี้เห็นผิวเขาไหม แทบมองไมเห็นผิวเนื้อเลย มีแตแผลพุพอง กับรอยดาง เขารักษาอยูเปนปๆ ถึงหาย ตองอดทน เขาใจไหม” ดวยความจิตตก และผื่นขึ้นคันคะเยอตะพึดตะพือ เลยงอแงใสหมอวา “กอนหนานี้หนูไมเปนไรเลยนะหมอ มานี่ พอกโคลนหนาก็เยิน นวดตัวขาก็เละ
11
àÃ× ่ Í §àÅ‹ Ò ¨Ò¡ÍÔ ¹ à´Õ Â
หมอเอามือหรือหนังสืออะไรสักอยางนี่แหละตีหัวหนึ่งที “อดทนหนอย” ไอตอนตีนะไมเจ็บ แตตกใจ แถมอายดวย เพราะอีตาโรเบิรตก็นั่งฟงอยูขางๆ แตตอนนี้คิดวาไมมีอะไรจะเสียแลว ชางหัวโรเบิรตปะไร หมอก็ไดแตบอกวา “ทำธรรมชาติบำบัดตองใชเวลา ตองอดทน ถาไมดีขึ้นเดี๋ยวจะจัดยาอายุรเวทใหนะ” มามาขอดูขาหนอยสิ หมอบอกวาใหเอาน้ำมันมะพราวทาแกคันไปพลางๆ แตขอโทษทีเถอะ ยิ่งทายิ่งคันอะหมอ จากนั้นหมอใหรายชื่อหนังสือเกี่ยวกับธรรมชาติบำบัด เพื่อใหไปหาอาน จะไดเขาใจการรักษาแบบธรรมชาติบำบัดมากขึ้น หลังจากรองไหโฮกใหญก็รูสึกวา ไดระบายอะไรหนักๆ ออกไป แตแบบจิตใจย่ำแยมากเหอะจุดนี้ กลับมาที่หอง เตรียบเก็บของพรอมกลับไกวัลเลย ไมไหวแลววอย วันนี้เปนวันที่อารมณขึ้นๆ ลงๆ เปนอยางมาก สวิงสุดๆ พยายามสวดมนตก็แลวอะไรก็แลว ก็ยังไมหาย เลยไดแตเฝาดูอาการกระเพื่อม ของจิตไปเรื่อยๆ วันรุงขึ้นยี่สิบสี่มกรา วันที่สิบสามของการ อยูที่นี่ วันนี้ไมไดไปนวดน้ำมัน หมอบอกวาน้ำมัน อาจทำใหผื่นแยกวาเดิม เลยไดแตทำดีท็อกซ
ÊÒÃѵ¶Ð ดื่มน้ำแครอท แชสะโพกดวยความรูสึกเซ็งๆ แลวก็ออกไปเช็คเมล เห็นเมลจากครูฮิโรชิแจงวันนัดพบเพื่อกลับไกวัลก็ดีใจ แทบแย รีบจดใสโทรศัพทไวเลย อยากจะถามครูฮิโรชิชะมัดเลย ไมเห็นครูบอกเลยวามาทำธรรมชาติบำบัดจะทรมาน ทรกรรมขนาดนี้ คราวที่แลวที่พี่ไขนุนมาเห็น บอกวาชิลๆ ไอเราก็ลืมไปวาพี่เคามาแคไมกี่วัน คงจะสบายๆ แตจะวาไป การมีประสบการณตรงแบบนี้ อยูคนเดียวกับสถานที่ที่ไมคุนเคย คนใหมๆ อารมณแปลกใหม ทำตามตารางกิจกรรมเปนเวลาครึ่งเดือนก็ทำใหไดรูจัก ตัวเองเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย นี่ตางหากที่สำคัญ ครูฮิโรชิคงมองเห็นตรงนี้เลยอยากใหมาอยูทำ ธรรมชาติบำบัดมากกวาไปชอปปงตออีกหนึ่งอาทิตย ที่เหลือ จากนั้นก็แวะไปเอาเสื้อที่ตัดไว และเออ เนื่องจากสื่อสารกันไดนอยมาก เสื้อก็เลยทำออกมาอยางมีเอกลักษณมาก ประหนึ่งชุดแขกผสมชุดลิเก ผาแวววาวสองประกายระยิบระยับ เลยแอบคิดไปวา วันหนึ่งจะตองหาโอกาสใสไปงานปารตี้อะไรสักอยางให ได คริคริ วันนี้เริ่มกินผลไมตามที่หมอบอก โดยเลือกกินมะละกอ ซึ่งหอมหวาน เอร็ดอรอยมาก ตอนสองทุมก็ไปเขาฟงโยคะนิทราเปนภาษามาราตี ฟงไมรูเรื่อง ฟงออกแตชื่อของจักราตางๆ รูแตวาระหวางนอนโยคะนิทรา มีอาการคันคะเยอ และรางกายกระตุกตลอดเวลา พอกลับมาที่หอง หนาเริ่มบวม ขาเริ่มแดง เหงื่อเริ่มออก แถมวันนี้ไดยินเสียงระฆังดังทั้งคืน นอนก็นอนไมหลับ ตื่นมาถอดกางเกงกลางดึกเพราะเหงืออกที่ขาเยอะมาก ผื่นขึ้นเยอะมาก แทบอยากจะรองไห แตหมดอารมณจะรอง ไดแตบอกตัวเองวาใหอดทน เดี๋ยวก็ไดกลับบานแลว วันตอมายี่สิบหามกรา วันที่สิบสี่ของการ อยูที่นี่ ตอนเชาเจอหมอเลยเลาใหฟงเรื่องผื่นขึ้น หมอบอกวาไปกินอะไรมา เลยบอกวากินมะละกอ หมอบอกวา กินมะละกอไมไดนะ รางกายจะรอน จะคันคะเยอมากขึ้นกวาเดิม โถ ผลไมมีให เลือกตั้งเยอะตั้งแยะ ทำไมชั้นถึงไดไปเลือกอะไร ที่รางกายไมรับเนี่ย
เนื่องจากวันรุงขึ้นจะไดกลับแลว เลยไปทำเรื่องออกจากอาศรม จัดการเรื่องเงินๆทองๆ ใหเรียบรอย เหลือบมองแขนตัวเองแลวน้ำตาแทบรวง นอกจากผื่นแลวยังดูพุพองมีน้ำใสๆ ดวย เลยตัดสินใจ ไปหองเจาหนาที่เพื่อใหโทรหาดร.ไนซาล ปรึกษาวา จะเอาอยางไรดี ตอนแรกเจาหนาที่ก็ไมยอมโทรให เพราะเปนวันหยุดของหมอไนซาล และเขาใจวาดวย ความที่เปนหมออาวุโส เจาหนาที่เลยไมอยากโทรไป รบกวน เราเลยโชวแขนใหดูสองขาง พูดแควา “ดูแขนฉัน แลวเธอจะเขาใจวาทำไมฉันถึงตองการ ความชวยเหลือ” พอเจาหนาที่เห็นแขนเลยตอโทรศัพท ใหทันที ไดความวาใหไปหาหมออารยา ซึ่งเปนหมอ อาวุโสของที่นี่ หมออารยาใจดี และใจเย็นมาก หมออธิบายใหฟงวาอาการที่เกิดขึ้นถือวาเปนอาการที่ ดี แสดงวาสิ่งตางๆ ที่รางกายเก็บเอาไวคอยๆ ทยอยออกมาจากยาตางๆ ที่เคยกินเคยฉีดตั้งแตเด็ก อาจเปนเสตียรอยดเปนตน ชวงอดอาหารจะมีอาการ ออกมาแบบนี้ ถือเปน ฮีลลิ่งไครซิส ฟงหมอไปเราก็ รองไหไป แบบเราไมสามารถควบคุมรางกายเราไดเลย ไดแตเห็นรางกายเปนไปอยางนั้นเอง เห็นเลยวา กายนี้เนาเปอยผุพังไปตอหนาตอตา ดังนั้นเราตอง ฝกใจไว จะไดรับมือกับชีวิตได หลังจากโชวขาสุดเยินใหหมอดู หมอใหยาอายุรเวท และเขียนใบสั่งยาใหไปซื้อมากิน และบอกวา ยาฝรั่ง หรืออะโลพาติกนานๆ กินทีได หมอจบบทสนทนาวา แตงงานหรือยัง หาคูตแตงงานซะนะ เออ..แลวมันจะชวยใหผื่นหนูหายไหมคะหมอ สุดทายรูสึกวาถาตองกลับเมืองไทย ดวยสภาพแบบนี้ตายแน เลยออกไปอีเมล หาดร.จารกาดิช ซึ่งเปนหมอที่ดูแลแผนกอายุรเวท ที่ไกวัลยธรรม บอกหมอวาใหชวยดวย อาการโคมามาก หมอเมลกลับมาบอกวา ไมตองหวง กลับมาจะเตรียมยาไวให อานเมลแลวรูสึกใจชื้น คิดวา ยังไงก็รอดแน เพียงแตสภาพกี่เปอรเซ็นตก็คอยวา กันอีกที วันนี้เปนวันสุดทายที่จะไดทานขาวเย็นที่นี่ เราคอยๆ เคี้ยวอาหารในปาก เคี้ยวจนแทบละลาย เปนน้ำ เลยใชเวลาทานขาวอยูนาน กวาจะไปเดินออกกำลังยามเย็น ตอนเดินก็คอยๆ เดิน เพราะถาขาสีกัน หรือแขนสีกับเสื้อผาจะเจ็บมาก
12
ÊÒÃѵ¶Ð เลยเดินอยางชาๆ สงบสุข รูสึกวาใจเบาสบายขึ้น อาจเปนเพราะวาจะไดกลับแลวเลยสบายใจ เดินจนเมื่อยเทา พอกลับมาก็อาบนน้ำ แชเทาในน้ำอุน นอนหลับสบาย ตื่นมาก็เอาของออกจากหอง เจอครูฮิเดโกะมารับไปไกวัลยธรรม ตอนเจอครูฮิเดโกะมารับ ดีใจเหมือนไดเจอญาติ หลังจากที่มาอยูที่นี่ตั้งครึ่งเดือน รูสึกเหมือนมารบเลย สวนตัวคิดวามาทำธรรมชาติ บำบัดที่นี่ตองใจแข็งพอสมควรแหละ เพราะเราไมรูเลยวาจะเจออะไรบาง อยาทอ จำไดวาตอนแรกครูฮิโรชิบอกวาอยูที่นี่ยุงนะ กิจกรรมเยอะเลย ตองทำตามตาราง แตจะดีกับเธอ เธอเหมาะกับธรรมชาติบำบัดมากกวาปญจกามา หลายคนคงอยากรูวาสุดทายแลวผื่นที่ขึ้นตามหนา ตามตัว แขนขา หลังขานั้นหายไหม คำตอบคือ หายคะ แตใชเวลาพอสมควรเลย กลับมาเมืองไทยก็กินยาอายุรเวทที่ดร.จารกาดิชใหมา กับยาที่ไปซื้อตามที่หมออารยาสั่ง อาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆ จากที่หลังขาดำ เปนปนหนาและแข็ง ผิวก็คอยๆ ออนนุมลง สีจางลงไป ผื่นคอยๆ ยุบตัวทีละนิด แตก็ใชเวลาเปนเดือนกวาจะหายดี ครูฮิโรชิบอกวา ถาเธออยูที่อาศรมนิศาโกปจาร ไดครึ่งเดือน กลับมาเมืองไทยเธอจะรูวาอาหารปกติ ที่เราทานนั้นรสจัดกวาที่เราคิด ลิ้นเราจะสะอาดมาก เพราะทานแตอาหารที่ปรุงแตงนอยมาก คงความเปนธรรมชาติของวัตถุดิบไวมาก ตั้งแตกลับมาก็แทบจะไมใสเครื่องปรุงเพิ่มเติมเลย เคยบอกแมวา แกงจืดวันนี้รสจัดจัง แมยังงงเลยวา แกงจืดเนี่ยนะรสจัด เขาใจวาคงเปนน้ำสต็อก ผักมากกวาที่สรางรส หลังจากนั้นเวลาจะทานอะไร ก็จะคิดมากขึ้น จะวาไปไมใชแคอาหารอยางเดียว แตรวมไปถึงสิ่งตางๆ ที่รับเขามาในชีวิตดวย ยาฝรั่งนี่แทบบอกศาลาไปเลย หนังสือหรือขาวบาง ประเภทก็งด เว็บไซตบางเว็บที่ไมเกิดประโยชนก็ ตัดใจเลิกอานไป คอยๆ เปนคอยๆ ไปอยางเปนธรรมชาติ ไมไดรูสึกวาตองกดดันตัวเอง แกงไวนตอนแรกก็ยังไปแบบดื่มน้ำผลไม ตอนหลังๆ ก็งดไปตามธรรมชาติ อยูกับตัวเองไดสบายๆ
13
ก็อยากแนะนำสำหรับคนที่อยากลองทำธรรมชาติบำบัด ที่อินเดีย ถาสนใจก็ลองเขาไปดูรายละเอียดที่เว็บ หรือถาสนใจปญจกามาที่ไกวัลยธรรมก็ลองเขาไปดูที่ www.kdham.com ถามาภายในเมษายนปหนา รับรองวาไดเจอเตยแนนอน เพราะตอนนี้เตยมาเรียนคอรสดิพโพลมาเกาเดือนคะ สวนคนที่อยากสอบถามเพิ่มเติมเปนการสวนตัว ปลายเดือนตุลาเตยจะกลับเมืองไทยสองอาทิตย มีสอนโยคะที่สวนโมกขนะตอนเย็นวันพุธที่ 30 ตุลาคม เวลา 17.00-18.30 ถาสนใจมาเจอกันไดนะคะ สำหรับเรื่องเลาจากอินเดียยังคงมีตอไปเนื่องจากมาเต ยเรียนคอรสเกาเดือน ซึ่งตอนนี้ใกลจะผานพนชวงที่หฤโหดที่สุดคือชวงมรสุม ของที่นี่ แงมๆ ใหฟงสักนิดวา เรียนหนักไมบนเลย แตฝนตก ชื้นแฉะจนราขึ้นทุกสิ่งทุกอยาง ตั้งแตประตู หนังสือ กระเปาสตางค นาิกา รองเทา นี่เลนเอาแทบแยเหมือนกัน สนุกดีคะ หัวเราะทั้งน้ำตา แข็งแรงสลับปวย ผื่นขึ้นสลับหาย ทองผูกยันทองเสีย น้ำหนักลงมาเกือบสี่โลแลวคะภายในสองเดือน ชีวิตนักเรียนโยคะจะเปนอยางไร รอติดตามอานกันนะคะ นมัสเต เตยคะ
ÊÒÃѵ¶Ð
สถาบันโยคะวิชาการดำเนินการโดยมีรายไดจาก คาลงทะเบียนกิจกรรม จากการจำหนายผลิตภัณฑตางๆ สถาบัน ฯ ยินดีรับการสนับสนุนจากผูสนใจรวมเผยแพร เพื่อนำเงินมาใชดำเนินการใหบรรลุวัตถุประสงคตามที่ตั้งไว เชิญบริจาคเขาบัญชีออมทรัพย ธนาคารไทยพาณิชย สาขา The Mall 3 รามคำแหง ชื่อบัญชี มูลนิธิหมอชาวบาน (สถาบันโยคะวิชาการ) เลขบัญชี 173-232-9491 à´×͹ ¡Ñ¹ÂÒ¹ 2556 ÁÕ¼ÙŒºÃԨҤʹѺʹع¡Ò÷ӧҹ¢Í§Ê¶ÒºÑ¹Ï ´Ñ§¹Õ้
กิจกรรมจิตสิกขา เดือน ก.ย. ตูบริจาคสำนักงาน เดือนกันยายน นักเรียนโยคะนมัสเต ที่เขารวมกิจกรรมโยคะเด็ก งานมหกรรมสมุนไพรแหงชาติครั้งที่ 10 ครูบุญศิริ ทะวงษา (เต) T11, ครูวิไลวรรณ สุพรม (เป) T11 ครูธงชัย จิรัฐติพันธุ (เบิรด) T12, ครูอัมพร สิทธิพันธ (จูน) T12
100 1,823 400
ทพญ.ศุภลัคน เลิศมโนรัตน ครูวีระชัย เล็กตระกูล
4,500 2,800
ÃÇÁ
3,100
12,723
14
Ê¶ÒºÑ ¹ â¤ÐÇÔ ª Ò¡Òà ÁÙ Å ¹Ô ¸ Ô Ë ÁͪÒǺŒ Ò ¹ 201 «ÍÂÃÒÁ¤Óá˧ 36/1 ºÒ§¡Ð» ¡·Á.10240 â·ÃÈÑ ¾ · 02 732 2016-7, 081 401 7744 â·ÃÊÒà 02 732 2811 ÍÕ à ÁÅ yoga.thaiyga@gmail.com àÇ็ º ä«· www.thaiyogainstitute.com