หนา บาน
WWW.Muslim4health.or.th
ผู ค า บุ ห รี่ มั ก จะอ า งว า “การซื้ อ บุ ห รี่ แ บบแบ ง ขายเป น มวนๆ ทําใหเลิกสูบบุหรี่งายขึ้น” เมื่อสํารวจขอเท็จ จริงกลับพบวาขออางดังกลาวไมคอยจะถูกตอง นัก การซื้อบุหรี่แบบแบงขายเปนมวนๆ กลับจะทําให “เลิกบุหรี่” ไดยากขึ้น เพราะเขาจะไดบุหรี่มา สูบทุกครั้งที่อยากสูบ แมเขาจะมีเงินไมมากพอที่ จะซื้อบุหรี่เปนซองในเวลานั้นก็ตาม
งานวิ จั ย ยั ง ยื น ยั น ว า การห า ม แบ ง ขายบุ ห รี่ เ ป น มวนๆ จะช ว ยให ผู ที่ สู บ บุ ห รี่ แ บบเป น ครั้ ง เป น คราว เลิกสู บได ง า ยขึ้ น ซึ่งในประเทศไทย มี ผู ที่ สู บ บุ ห รี่ ใ นลั ก ษณะนี้ ม ากถึ ง ลานสี่แสนคน การหามแบงขายบุหรี่
แมวาผูคาบุหรี่จะอางวาการซื้อบุหรี่แบบแบงขาย เป น มวนๆ จะทํ า ให ผู สู บ บุ ห รี่ สู บ จํ า นวนน อ ยมวนลง ก็ ไมมีหลักฐานทางวิชาการใดๆ มาสนับสนุน เพราะบรรดา สิ ง ห นั ก สู บ นั้ น ความต อ งการบุ ห รี่ ต อ วั น ขึ้ น อยู กั บ ระดั บ การเสพติ ดหรือความต องการสารนิโคตินในร างกายซึ่ง จะคงที่ จํานวนมวนบุหรี่ที่แตละคนจะสูบตอวันจึงคงเดิม ไมไดขึ้นกับวาเขาจะซื้อบุหรี่มาไดคราวละกี่มวน ความ กังวลที่วา การที่กฎหมายกําหนดใหผูสูบบุหรี่ตองซื้อเปน ซอง จะทํ า ให ค นสู บ บุ ห รี่ ยิ่ ง สู บ มากขึ้ น จึ ง ไม เ ป น จริ ง เพราะคนสู บ บุ ห รี่ เ มื่ อ ร า งกายได รั บ ปริ ม าณสารนิ โ คติ น เข า ไปในวั น นั้ น ๆ ตามที่ ร า งกายแต ล ะคนต อ งการแล ว ก็ไมอยากสูบเพิ่มอีก
เปนมวน จึงมีอานิสงสโดยตรงตอคน กลุมนี้ ทําใหตัดใจเลิกบุหรี่ไดมากขึ้น ที่สําคัญการแบงขายบุหรี่แบบ เปนมวน ทําใหคนที่มีรายไดนอย ทั้ง เด็กและคนยากจนสามารถเขาถึงบุหรี่ ไดงายและไดตลอดเวลา โดยเฉพาะ
สมาชิกสุขสาระ (สนับสนุนคาจัดสง) ที่ ไมไดรับหนังสือ หรือเปลี่ยนที่อยู กรุณาติดตอที่ suksara@yahoo.co.th
เด็ ก ๆ จะสามารถซื้ อ บุ ห รี่ เ ป น มวนๆ เพื่ อ ทดลองสู บ จนเกิ ด การเสพติ ด บุหรี่ขึ้น การสํารวจที่ทําดวยมาตรฐาน เดียวกันทั่วโลกเมื่อ พ.ศ. 2554 พบ ว า “เด็ ก ไทย” อายุ 15-17 ป ที่ สู บ บุ ห รี่ ร อ ยละ 88.3 ซื้ อ บุ ห รี่ แ บบ แบงขายเปนมวน นี้เปนเหตุผลสําคัญ ที่อนุสัญญาควบคุมการบริโภคยาสูบ ขององคการอนามัยโลกไดกําหนดไว อย า งชั ด เจนให ป ระเทศภาคี ดํ า เนิ น การห า มการแบ ง ขายบุ ห รี่ แ บบเป น มวนๆ และขณะนี้ มี 93 ประเทศที่ ออกกฎหมายนี้แลว
ขอบคุ ณ ทุ ก ภาคส ว น สํ า หรั บ กฎหมายห า มแบ ง ขายบุหรี่แกเยาวชน ขอมูล : มูลนิธิรณรงคเพื่อการไมสูบบุหรี่ ภาพประกอบ smokefreezone จดหมายขาว...วารสารสุขสาระ
3
ลา คอมรฺ ฮามิด
เมื่อ
เดื อ นนี้ มี เ รื่ อ งเล า ของ คนดังที่เลิกบุหรี่ ได บางคน เลิ ก ได เ พราะหั ก ดิ บ บ า งก็ เพราะกลัววาลูกจะเจ็บปวย และบางคนเพราะความรั ก ภรรยา เรามาดูกันวาพวก เขาเปนใครกันบาง
Jennifer Aniston
คนดัง
เลิกบุหรี่
Brad Pitt
ณิชาภา แซโซว (แวร โซว) Won Bin
Jennifer Aniston เลิกบุหรี่ เริ่มดวย นางเอกสาว
ตั้งแตป 2012 กอนที่จะเลิกไดเธอเคย สู บหนั ก มาก หลายคนคิ ด วาเธอเลิก เพราะทองรึเปลา? แตเธอบอกเองวา จุดเปลี่ยนในการเลิกบุหรี่คือสุขภาพ เริ่ ม แย นํ้ า หนั ก ขึ้ น เธอจึ ง เริ่ ม หั น มา เลนโยคะ ฝกจิตใจ จนคิดวาไมจําเปน ตองสูบบุหรี่ก็มีอีกหลายวิธีทําใหหาย เครียดได แถมสุขภาพดีขึ้นอีกตังหาก 4
มูลนิธิสรางสุขมุสลิมไทย (สสม.)
Uma Thurman
เคี้ยวหมากฝรั่งเลิกไดจริง เธอสารภาพว า เป น การฝ น ตัวเองที่ยากที่สุดในชีวิต ในอดีตเธอ ติ ด บุ ห รี่ ม ากจนสุ ข ภาพเสี ย เป น ไป ได ย ากที่ จ ะเลิ ก แบบหั ก ดิ บ ได เธอ ตั ด สิ น ใจเคี้ ย วหมากฝรั่ ง นิ โ คติ น และ พยายามจะเลิ ก แบบถาวรให ไ ด โ ดย ไมพึ่งตัวชวย จนปจจุบันเธอสามารถ เลิกบุหรี่ไดสําเร็จ
โกวิท วัฒนกุล
อนุสรณ มณีเทศ
Barack Obama
โดนภรรยาทักทุกวัน อดีตประธานาธิบดี ของสหรั ฐ ฯ เริ่ ม สู บ บุ ห รี่ ตั้ ง แต วั ย รุ น และพยายามจะเลิ ก หลายครั้ ง จน สํ า เร็ จ เมื่ อ ตอนเขามี ภ รรยาและโดน ภรรยาบังคับทุกวัน หามสูบต อหนา ลูกหรือเลิกไดก็จะดีมาก จนทุกวันนี้ เปนเวลา 6 ปแลวที่เขาไมไดแตะบุหรี่ อีกเลย
ริมคลอง สมุย
Brad Pitt แปะแผน
นิโคติน เขาเคยลองที่จะใชวิธีแบบหัก ดิ บ แต ดู เ หมื อ นจะฝ น ตั ว เองเกิ น ไป จึงหันมาพึ่งตัวชวยอยางแผนนิโคติน เปนบางครั้งบางคราว และพยายาม จะหั ก ห า มใจตั ว เองไม ใ ห สู บ ให ไ ด เพราะแผ น นิโ คติน มั นทิ้ง รอยบากไว ตามตัว เปนอุปสรรคในการแสดงเปน อยางมาก
Matt Damon
เลิกดวยการสะกดจิต เขาเลือกวิธีการ พบผู เชี่ ย วชาญด า นการสะกดจิ ต ใน ราคาที่แพงมากซะดวย โดยเขาตอง เลิกเพื่อทําใหสเปรมของเขาแข็งแรง พรอมมีลูกเต็มที่ และไดผลจริงเพราะ ปจจุบันลูก 4 แลว ซึ่งเขาคิดวาวิธีนี้ ใชไดกับสิ่งเสพติดทุกชนิด
Yoo Jae Suk
พิธีกรชื่อดัง ฝงเกาหลี เคยพูดถึงเรื่อง การเลิ ก บุ ห รี่ ข องเขาในรายการ “Infinite Challenge” วาเหตุผลที่ เขาเลิกบุหรี่นั้นเกิดจากอาการหายใจ ไมออกระหวางที่วิ่ง
Won Bin เลิกสูบบุหรี่
ระหว า งที่ ถ า ยทํ า ภาพยนตร เ รื่ อ ง “Ajusshi” เนื่ อ งมาจากว า กั ง วล ป ญ หาเรื่ อ งสุ ข ภาพของ Kim Sae
Ron นั ก แสดงร ว มที่ มี อ ายุ เ พี ย ง 10 ขวบในตอนนั้น
“อนุสรณ
นักรองหนุม (โยง อารมแชร) เปน อีกหนึ่งคนบันเทิงที่ตัดสินใจเลิกเปน สิงหอมควันมาไดรวมปแลว หลังจาก สูบบุหรี่มา 20 ป และหนักสุดคือเกือบ 2 ซองตอวัน กําลังใจสําคัญคือ ภรรยา สาว “กอย แซทเทอรเดย เซโกะ” ที่ เคยรองขอใหเลิกสูบบุหรี่มาตลอด
มณีเทศ”
“โกวิ ท
ดารารุ น ใหญ ได กํ า ลั ง ใจจาก ครอบครัวหนุนจนเลิกบุหรี่ไดในที่สุด
วั ฒ นกุ ล ”
“สาย ปาน อภิญญา” ก็ตัดสิน ส ว น นางเอกสาว
ใจเลิกบุหรี่เพื่อแม
ณิชาภา แซโซว (แวร
โซว) กลาววา 13 ปที่เลิกขาดจากบุหรี่ ยอมรั บ มี บ างครั้ ง ที่ เ ครี ย ดหนั ก จน อยากกลับมาสูบบุหรี่เพราะเชื่อวาชวย บรรเทาทุกขในใจได หากคําถามสั้นๆ ของ “คนดี ” ลู ก สาวที่ ถ ามแม ด ว ย ความใสซื่อวาทําไมตองสูบบุหรี่ ก็ชวย เตือนสติไวเสมอ
ฟ ก ข า ว ...มี ถิ่ น กํ า เนิ ด ใน
เอเชี ย และเอเชี ย ตะวั น ออกเฉี ย งใต ตั้ ง แต ป ระเทศจี น ตอนใต พม า ไทย ลาว กั ม พู ช า เวี ย ดนาม มาเลเซี ย ฟลิปปนส บังกลาเทศ มีชื่อเรียกตาม ท อ งถิ่ น เช น ฝ ก ข า ว (ภาคเหนื อ ) มะขาว (แพร) ขี้พราไฟ (ภาคใต) ขี้กา เครือ (ปตตานี) แก็ก (Gag ในภาษา เวียดนาม), Baby Jackfruit, Spiny Bitter Gourd, Sweet Ground และ Cochinchin Goud เปนพืชในวงศ แ ต ง ( C u c u r b i t a c e a e ) มี ชื่ อ วิ ท ยาศาสตร ว า Momordica cochinchinensis (Lour.) Spreng. อยูใน Genus เดียวกับมะระ เปนไม เลื้อยอายุหลายป ใบเดี่ยว ออกเรียง สลับ แผนใบหยักเวา มีมือเกาะตาม ขอ ชอดอกออกจากซอกใบปลายยอด ดอกสี เ หลื อ ง มี แ ต ม สี ม ว งเข ม ที่ โ คน กลีบ ซึ่งถาดูจากภายนอกจะไมเชื่อวา มี ส ายพั น ธุ ที่ ใ กล เ คี ย งกั บ มะระ แต ถาหากมาลวกจิ้มนํ้าพริกกินแบบคน โบราณจะรู ว า รสชาติ ใ กล เ คี ย งกั น มาก
ขอมูล : http://www.undubzapp.com http://www.daradaily.com/news/54925/read http://news.thaipbs.or.th/content/252737 จดหมายขาว...วารสารสุขสาระ
5
..ฟกขาว..
ฟกขาว เป นพืชที่แข็งแรง มัก พบขึ้นเลื้อยกับไมใหญ บางก็ปลูกเปน ซุมไมเลื้อยเพื่อใหรมเงา ฟกขาวชอบ แสงแดดตลอดวัน สามารถเติบโตได ในทุ ก สภาพหากปลู ก ด ว ยดิ น ร ว น ระบายนํ้าดี จะโตเร็วมาก ผลกลมหรือรี เสนผานศูนยกลาง 10-15 เซนติ เ มตร มี ห นามแหลม เล็กๆ รอบผลดูคลายผลออนของขนุน จึงมีชื่อสามัญวา Baby Jackfruit เมื่อ ผลแกจะเปลี่ยนจากสีเขียวเปนสีเหลือง อมเขียวจนกลายเปนสีสม เนื้อในนุม มี เ มล็ ด รู ป ไข เ ปลื อ กแข็ ง สี นํ้ า ตาล จํานวนมาก สามารถเด็ดยอดออนมาตมจิ้ม นํ้ า พริ ก หรื อ ใส แ กงเลี ย ง แกงส ม สําหรับผลออนเก็บมาฝานเปนชิ้น นํา มาลวกหรื อต ม กิ น เป น ผักจิ้มนํ้าพริก หรือนํามาปรุงอาหารก็ไดเชนกัน ให รสขม หากรอจนผลแกเปนสีแดงสด สามารถปนเนื้อและเยื่อหุมเมล็ดเปน เครื่องดื่มสุขภาพได คณะนั ก วิ จั ย จากคณะเภสั ช ศาสตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม และ คณะวิทยาศาสตร มหาวิทยาลัยพายัพ ไดรวมกันศึกษาเรื่องการนํานํ้ามันของ เยื่อหุมเมล็ดฟกขาวในอนุภาคไขมัน ระดั บ นาโน มาพั ฒ นาเป น เครื่ อ ง 6
มูลนิธิสรางสุขมุสลิมไทย (สสม.)
สํ า อางลดเลื อ นริ้ ว รอย ซึ่ ง จากการ ทดสอบก็ ไ ด ผ ลเป น ที่ น า พอใจ และ ทํ า ให ง านวิ จั ย ชิ้ น นี้ ไ ด รั บ รางวั ล “IFSCC Host Society Award 2011” จากงานประชุ ม สมาพั น ธ นักเคมีเครื่องสําอางนานาชาติ 2011 (IFSCC 2011) นอกจากนี้ ยั ง มี ง านวิ จั ย ของ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่พบวา ในเมล็ด ฟกขาวมีโปรตีนที่มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญ เติบโตของเชื้อเอชไอวี และยับยั้งเซลล มะเร็งไดดวย ขณะที่นักวิจัยจากคณะ เกษตรศาสตร มหาวิทยาลัยขอนแกน ก็ กํ า ลั ง ศึ ก ษาวิ จั ย เพื่ อ ปรั บ ปรุ ง และ พัฒนาพันธุฟกขาวใหมีปริมาณเบตา
แคโรทีนและสารไลโคปนสูงขึ้น และ มีผลผลิตของเยื่อหุมเมล็ดเพิ่มมากขึ้น ดวย ผลของฟ ก ข า วรวมถึ ง เนื้ อ เยื่ อ หุ ม เมล็ ด ที่ มี สี แ ดงสดมี คุ ณ ค า ทาง โภชนาการสูงผลฟกขาวประกอบดวย สารเบต า แคโรที น สู ง มาก มากกว า แครอทถึง 10 เทา นอกจากนี้ผลของ ฟ ก ข า วยั ง อุ ด มไปด ว ยสารไลโคป น และกรดไขมันไมอิ่มตัวสูง มีการสกัด เอาสารสําคัญเหลานี้เพื่อใชเปนสวน ประกอบสําคัญในการทําเครื่องสําอาง สําหรับใชบนใบหนา เพื่อชะลอความ เหี่ยวยนบนใบหนา เนื่องจากสารสําคัญ เหลานี้มีฤทธิ์ตานอนุมูลอิสระสูง
สรรพคุ ณ ทางยาไทยของฟ ก ข า ว 1. ใบฟกขาว ใชปรุงเปนยาเขียว ใชถอนพิษ ดับพิษทุกชนิด ตําพอกแก ปวดหลัง 2. เมล็ ดฟ ก ข า ว ใชบํารุง ปอด แกทอนํ้าดีอุดตัน และแกวัณโรค 3. รากฟกขาว ใชตมนํ้าดื่มหรือ ตากแหง บดเปนผงแลวปนรับประทาน จะชวยขับเสมหะ ดับพิษไขหรือใชราก แชนํ้าแกผมรวงและรักษาเหา ประเทศจี น นิ ย มนํ า เมล็ ด แก ของฟกขาวมาบดใหแหง นําไปผสม นํ้ามัน หรือนํ้าสมสายชูเล็กนอย แลว ทาผิ ว หนั ง บริ เวณที่ มี อ าการอั ก เสบ บวม จะช ว ยรั ก ษาอาการบวมได นอกจากนั้ น ยั ง ช ว ยรั ก ษาโรคกลาก เกลื้อน ฟกชํ้า แกอาการผื่นคัน โรค ผิวหนังตางๆ ไดดวย ประเทศเวียดนาม ชาวเวียดนาม นิ ย มนํ า ฟ ก ข า วมาปรุ ง อาหารใน เทศกาลป ใ หม และงานมงคลสมรส โดยจากงานวิ จั ย ของมหาวิ ท ยาลั ย ฮานอย พบว า นํ้ า มั น จากเยื่ อ เมล็ ด ฟ ก ข า วมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพในการรั ก ษา มะเร็งตับ คนเวียดนามใชฟกขาวเปน องคประกอบในอาหารพื้นบานหลาย ชนิ ด เนื่ อ งจากสี แ ดงที่ ส ดใสของ ฟ ก ข า วและคุ ณ ค า ทางอาหาร นอก จากนี้นักวิจัยชาวเวียดนามไดผสมเนื้อ ฟกขาวลงในขาวเพื่อใหเด็กนักเรียน ชนบทที่ขาดวิตามินเอไดทาน ผลการ วิ จั ย พบว า เด็ ก นั ก เรี ย นเหล า นี้ ห าย จากอาการขาดวิตามินเออยางนาพึง พอใจ ประเทศฟ ลิ ป ป น ส นํ า ราก ฟกขาวมาบดแลวนําไปหมักผม เพื่อ
ช ว ยให ผ มดกและยั ง สามารถกํ า จั ด เหาได ด ว ย ซึ่ ง ในประเพณี ล า นนา ของไทยก็มีการนําฟกขาวไปสระผม เชน กัน เพื่อช วยแก อาการคั นศี รษะ แกรังแค แกผมรวง และชวยใหผมดก ดําขึ้น ประเทศญี่ปุน มีการวิจัยพบวา โปรตีนจากสารสกัดนํ้าของผลฟกขาว ช ว ยยั บ ยั้ ง การเจริ ญ ของก อ นมะเร็ ง ลําไสใหญในหนูทดลอง มี สู ต รนํ้ า ฟ ก ข า วจากนิ ต ยสาร แมบาน มาฝากกัน ดื่มแลวชวยเสริม ภู มิ คุ ม กั น ให ร า งกาย มี ส ว นช ว ยลด ความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือด หัวใจ โรคมะเร็งตอมลูกหมาก มะเร็ง ปอด และมะเร็งกระเพาะอาหารอีก ดวย ส ว นผสม 1. ลูกฟกขาวสุก 1 กิโลกรัม 2. นํ้าตมสุก 1,500 มิลลิลิตร 3. นํ้าตาลทราย 150 กรัม 4. นํ้ามะนาว 3 ชอนโตะ 5. เกลือปนหยาบ 1 ชอนชา
วิ ธี ทํ า
1. ผ า ครึ่ ง ฟ ก ข า ว ใช ช อ นตั ก เมล็ดออก ใสลงในกระชอนตาหางๆ ใชชอนขูดจนเนื้อเยื่อสีแดงๆ ออกจาก เมล็ดจนหมด 2. ใสเนื้อเยื่อสีแดงๆ ลงในนํ้า ตมสุก คนใหเขากัน กรองดวยกระชอน ตาถี่ๆ 3. ใส นํ้ าตาลทราย นํ้ามะนาว และเกลื อ ป น คนให เ ข า กั น ชิ ม รส เปรี้ยว หวาน ตามชอบ นําเขาตูเย็น กอนดื่ม
เห็ น แบบนี้ แ ล ว ต อ งยกให “ฟกขาว” เปนพืชมหัศจรรยอีกหนึ่ง ชนิด หากรั้วบานยังวางอยู ลอง ปลูกฟกขาวเปนไมประดับดู เพราะ นอกจากจะช ว ยให รั้ ว บ า นสวยขึ้ น แล ว ยั ง ได อ าหารบํ า รุ ง สุ ข ภาพอี ก ดวย
ขอมูล : http://health.haijai.com/3758/ https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B 8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7 http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/223/%E0%B8%9 F%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8 %A7-Momorodica-cochinchinensis/ https://health.kapook.com/view40767.html จดหมายขาว...วารสารสุขสาระ
7
อาหารกับสุขภาพ ครูกุก
เห็ ด โคนน อ ย (เห็ ด เจ็ ด วั น ) มี ชื่ อ วิ ท ยาศาสตร ว า โคไพรนัส ไฟมิทาเรียส (Coprinus fimetarrius) จัดอยู ในตระกูลเห็ด (Basidiomycetes) ในประเทศไทยมีชื่อเรียก แตกต า งกั น ไป เช น เห็ ด ถั่ ว เห็ ด ถั่ ว เหลื อ ง เห็ ด ถั่ ว เน า เห็ ด โคนน อ ย เห็ ด โคนบ า น เห็ ด โคนขาว (ภาคเหนื อ ) เห็ ด คราม เห็ ด ปลวกน อ ย (ภาคตะวั น ออกเฉี ย งเหนื อ ) เห็ดโคนเพาะ เห็ดโคนนอย เห็ดหมึก (ภาคกลาง)
เห็ดโคนนอย เห็ดโคนนอย เปนเห็ดที่มีคุณคา ทางอาหารสูง แลวยังพบวามีสรรพคุณ ทางสมุนไพร ชวยในการยอยอาหาร และลดเสมหะ จึ ง ทํ า ให เ ป น ที่ นิ ย ม รับประทานและเพาะกันมากขึ้น เห็ดโคนนอย มีวิธีการเพาะเลี้ยง คล ายกั บ วิ ธีก ารเพาะเห็ด ฟางโดยใช ฟางข า ว เป น วั ส ดุ เ พาะ นอกจากนี้ ยังสามารถใชวัสดุเพาะอื่นๆ ไดอีกมาก ไมวาจะเปน ตนและใบถั่วตางๆ ตน ขาวโพด ทะลายปาลมนํ้ามัน ผักตบชวา ต น และใบกล ว ย สามารถนํ า มาเป น วั ส ดุ ไ ด ซึ่ ง หาได ง า ยในท อ งถิ่ น เป น เห็ ด ที่ ขึ้ น ง า ย และให ผ ลผลิ ต สู ง
ลั ก ษณะคล า ยเห็ ด โคนสี ข าวหมวก สวยงามสมสวน กานดอกขนาดเทา ดิ น สอดํ า ความยาวของต น เห็ ด ประมาณ 2-3 นิ้ว ป ญ หาที่ สํ า คั ญ อย า งหนึ่ ง ของ การเพาะเห็ดโคนนอยคือ การสลาย ตัวงายของดอกเห็ด เนื่องจากเปนเห็ด ที่มีวงจรชีวิตสั้นมากไมเกิน 36 ชั่วโมง แต ส ว นใหญ ที่ พ บคื อ ประมาณ 24 ชั่วโมงเทานั้น โดยตอนเชาจะมีขนาด เล็กและจะโตขึ้นในชวงบาย ซึ่งจะตอง รีบเก็บ และทําการลวกใหสุกเสียกอน ก็พอที่จะสามารถเก็บไดนานขึ้น ทั้ ง นี้ เ นื่ อ งจากเห็ ด โคนน อ ยมี
ขอมูล : https://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1465972922 http://www.ifarm.in.th/index.php?option=com_content&view=article&id=101:bean-mushroom&catid=46:mushroom&Itemid=198 http://www.vcharkarn.com/blog/54756
8
มูลนิธิสรางสุขมุสลิมไทย (สสม.)
การเจริญเติบโตเร็ว สวนของครีบจะ สลายกลายเป น ของเหลวสี ดํ า คล า ย หมึ ก เป น ผลมาจากการย อ ยตั ว เอง
(autolysis) เปนที่มาของชื่อเห็ดหมึก ซึ่งไมสามารถนํามาบริโภคได อย า งไรก็ ต ามในต า งประเทศ ได มี ก ารนํ า ของเหลวจากการสลาย ตัวนี้มาใชประโยชนไดเชนทํานํ้าหมึก เพื่ อ ทํ า ต น ฉบั บ เอกสารพิ เ ศษเพื่ อ ปองกันการปลอมแปลง เห็ ด โคนน อ ยที่ เ พาะกั น ทั่ ว ไป มีการคัดเลือกสายพันธุที่แนนอนแลว จะไมมี สารพิษ Coprine ซึ่งสารชนิด นี้พบวาจะทําใหเกิดอาการที่เรียกวา Coprinus syndrome (Bresinsky and Besel,1990) ซึ่ ง เป น ผลเนื่ อ ง มาจากสารพิษ coprine ออกฤทธิ์ตอ ระบบประสาทอั ต โนมั ติ สารพิ ษ นี้ มี ฤทธิ์เสริมกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล ดังนั้นเมื่อผูบริโภครับประทานเห็ดใน กลุมใกลเคียงเหลานี้รวมกับเครื่องดื่ม ที่มีแอลกอฮอลไมวากอนหรือหลัง จะ มีอาการเมาคาง หายใจหอบ หนาแดง เนื่ อ งจากหลอดเลื อ ดขยาย ใจสั่ น
ชี พ จร เต น เร็ ว เจ็ บ หน า อก ปวดศีรษะ มึนงง สับสน หรื อ ประสาทหลอน และความดั น โลหิ ต ตํา่ อาการจะปรากฏ อยู ไ ม น านและดี ขึ้ น ภายใน 5 วั น การรั ก ษา เนื่ อ ง จากพิ ษ โดยปกติ จะหายไดเอง ยกเวน ถ า อาการคงอยู น าน ตองทําใหอาเจียน ลาง กระเพาะลําไส ถาความดัน ตํ่ามากตองใหการรักษาทันที เนื่องจากความนิยมบริโภคเห็ด โคนของประชาชนทั่วไปมีสูง เพราะ เป น เห็ ด ที่ มี ร สชาติ อ ร อ ย อุ ด มด ว ย โปรตีนและคุณคาทางอาหารสูง และ มีราคาคอนขางสูง แตในปจจุบันยัง ไม ส ามารถเพาะเลี้ ย งได เพราะเกิ ด ขึ้ น เองตามธรรมชาติ โดยพบว า มี ความสัมพันธกับปลวก และจะพบขึ้น ในชวงปลายฤดูฝน ประมาณกันยายน ถึงตุลาคม เห็ ด โคนน อ ย มี คุ ณ ค า ทาง
อาหารสู ง แล ว ยั ง พบว า มี ส รรพคุ ณ ทางสมุนไพร ชวยในการยอยอาหาร และลดเสมหะ ถ า ตํ า ให ล ะเอี ย ดใช พอกภายนอกจะชวยบรรเทาอาการ ปวดตางๆ ได มีรายงานวิจัยที่แสดง ว า เห็ ด นี้ ส ามารถยั บ ยั้ ง เซลล ม ะเร็ ง sarcoma 180 และ เซลล ม ะเร็ ง Ehrlich carcinoma ได สู ง 90 และ100 เปอรเซ็นต ตามลําดับและ ยังพบวามีสารออกฤทธิ์ตานเชื้อราได อีกดวย
จดหมายขาว...วารสารสุขสาระ
9
สาระสุขภาพ นูรีน
อยางไรก็ตาม สิ่งที่ไมควรละเลย ก อ นออกกํ า ลั ง กายคื อ การอบอุ น รางกาย เพื่อที่จะชวยใหรูตัววาพรอม หรือไมอยางไร หากมีอาการเหนื่อย หอบ หัวใจเตนเร็ว ก็จะรูไดวาขณะนี้ รางกายของเรายังไมพรอมที่จะออก กําลังกายตอไป ระหว า งออกกํ า ลั ง กายควร สั ง เกตอาการตั ว เองด ว ยว า มี อ าการ เหนื่อย ใจสั่น พูดติดขัดขาดเปนชวงๆ หรือไม และควรชะลอการออกกําลัง กายหรื อ พั ก รวมถึ ง ต อ งไม ลื ม การ คลายความอบอุน เพื่อใหรางกายปรับ ตัวสูสมดุลเดิมดวย โรคที่ไมควรออกกําลังกายไดแก หั ว ใจ หลอดเลื อ ดหั ว ใจ ยิ่ ง มี อ าการ แนนหนาอก ปวดราวหนาอก ไหลซาย เหมื อ นมี ค นเอาผ า มารั ด หรื อ เหงื่ อ ออกเยอะมากผิ ด สั ง เกตไม ค วรออก กําลังกาย แคกายบริหารเล็กๆ นอยๆ พอ สําหรับชวงเวลาหากแดดรอนเกิน ไปก็ควรขยับปรับมาออกชวง 15.30 น. แทน
อยางที่ทราบกันวาเรื่องสวยๆ งามๆ กับผูหญิงจะเปนของคูกัน แตผูหญิง สวยใสเชนเรา ก็ควรตระหนักถึงอันตรายของเครื่องสําอางไวดวย โดยเฉพาะ ยาทาเล็บราคาถูก สีสันหลากหลายที่มาพรอมสารพิษ สัญญาณเบื้องตนที่บอกวายาทาเล็บไมไดมาตรฐาน คือมีกลิ่นเหม็นรุนแรง โชยออกมาเมื่อเปดฝาขวด มีสารตะกั่วปนเปอน รวมถึงสารพิษ
สารอันตรายในยาทาเล็บมีดังตอไปนี้
1. ไดบิวทิลพทาเลต ที่เปนปจจัยเพิ่มอัตราการเปนหมันในหญิงและ ชาย ในระยะยาวจะสงผลตอไตและตับ 2. สารประกอบไทลูอิน สงผลตอระบบสืบพันธุ ระบบประสาท ระคาย เคืองผิวหนัง สูดดมมากๆจะหนามืด ตาลาย ปวดศีรษะ 3. “ฟอรมาลดีไฮด” หากสัมผัสจะขึ้นผื่นแพและคัน ระคายเคืองในลํา คอ ทําใหเปนมะเร็งในระบบทางเดินหายใจได จะเห็นไดวายาทาเล็บที่ไมได มาตรฐานเพียงขวดเดียว สามารถสรางอันตรายตอรางกายไดมากมาย จดหมายขาว...วารสารสุขสาระ
11
4. สี ใ นยาทาเล็ บ ส ว นใหญ
เป น สี สั ง เคราะห ส ว น ยาทาเล็ บ ที่ ผลิตดวยสีธรรมชาติก็จําเปนตองเติม แรไมกาเพื่อเพิ่มประกายแวววาว สิ่ง ที่คุณอาจไมรูก็คือ การทําเหมืองไมกา มีการใชแรงงานเด็กและผูหญิง
5. นอกจาก ยาทาเล็บ แลว
นํ้า ยาลางเล็บ ก็อันตรายไมเบา ยิ่ง ทาเล็บติดทนนานเพียงใด ยิ่งตองใช นํ้ายาที่ผสมดวยตัวทําละลายเขมขน สูง จึงมีฤทธิ์มากพอจะลางสีออกจาก เล็บไดงายดาย
6. นํ้า ยาลางเล็บ สวนใหญ
มีสวนผสมสารเคมี 2 ชนิด คือ อะซิโตน และเอทิลอะซิเตต ซึ่งตางก็สรางความ ระคายเคืองแกดวงตาและระบบทาง เดิ น หายใจ ไม เ พี ย งเท า นั้ น ยั ง ทํ า ให
ผิวหนังแหงและลดทอนความแข็งแรง ของเล็บอีกดวย ยาทาเล็บควรปดฝาใหสนิทและ เก็บไวในตูเย็นเพื่อยืดอายุการใชงาน และเก็บในที่ๆ ปลอดภัยจากมือเด็ก เวลากอนจะใชใหนําออกมาวางทิ้งไว
ขอมูล : Krobkruakao 3 - ครอบครัวขาว 3 https://aoseiei.wordpress.com/2013/08/20 http://elib.fda.moph.go.th/2008/default.asp?page2=subdetail&id=30115
12
มูลนิธิสรางสุขมุสลิมไทย (สสม.)
ประมาณ 1 ชั่วโมง สวนการใชนํ้ายา เคลือบเงาเล็บแบบใสทาทับยาทาเล็บ เพื่ อ เคลื อ บให เ ล็ บ เป น เงา สวยงาม ลดการกรอนและหักของเล็บ เมื่อทา แล ว ต อ งทิ้ ง ไว ใ หแ ห ง นาน 15 นาที เนื่องจากถาเล็บยังไมแหงแลวไปถูก ผิ ว หนั ง ส ว นอื่ น ของร า งกายอาจเกิ ด การระคายเคืองได เมื่อยาทาเล็บแหง สนิ ท แล ว มั ก จะไม ทํ า ให เ กิ ด อาการ แพ เพราะส ว นใหญ จ ะแพ ส ารที่ ใช เคลือบเล็บ ไมควรทาเล็บสีเขมติดตอ กั น นานๆ ควรสลั บ สี อ อ นบ า ง และ หยุดพักการทาเล็บบาง เด็ ก อนุ บ าลหรื อ เด็ ก ประถม ไม แ นะนํ า ให ใช นํ้ า ยาทาเล็ บ เพราะ อาจทําใหเกิดการแพและระคายเคือง เมื่ อ เด็ ก ๆ ใช อ าจนํ า มื อ ไปขยี้ ต าจะ ทํ า ให เ คื อ งตา เปลื อ กตาแดงและ บวมได การเลือกซื้อยาทาเล็บตองอาน ฉลากดานขางขวด บอกสวนประกอบ ที่ใช สถานที่ที่ผลิต และวันเดือนปที่
เรื1องนารูกับหมอกษิดิษ นายแพทยกษิดิษ ศรีสงา
ผลิ ต และหมดอายุ ยาทาเล็ บ ปลอม หรือยาทาเล็บที่ไมไดมาตรฐานที่ไมมี ฉลากภาษาไทย ไมระบุผูผลิต อาจมี ส ว นผสมของสี ห า มใช สารแปลก ปลอมอั น ตราย เช น สารตะกั่ว ที่ปน เปอนในยาทาเล็บ ซึ่งเมื่อใชมือที่ทา เล็ บ ไปรั บ ประทานอาหารจะทํ า ใหมี พิษของสารตะกั่วปนเปอนในรางกาย เมื่อสะสมในปริมาณมากจะทําใหเกิด อันตรายตอรางกายได ซึ่งในเด็กเล็กๆ ที่ ช อบทายาทาเล็ บ หากได รั บ พิ ษ ตะกั่ ว จะมี อ าการเบื่ อ อาหาร ซึ ม ลง กระสั บ กระส า ย ถ า ได รั บ พิ ษ ใน ปริมาณมากทําใหมีอาการทางระบบ ประสาท ชัก และหมดสติได นอกจากนี้ สีในยาทาเล็บสวน ใหญ เ ป น สี จ ากสารสั ง เคราะห ควร เลือกใชสีที่ผลิตจากสารในธรรมชาติ การใชนํ้ายาลางเล็บควรระวังอยาให โดนผิ ว หนั ง รอบๆ เพราะอาจทํ า ให เกิ ด การระคายเคื อ งได หลั ง ทาแล ว ควรลางออก ไมควรทิ้งไวนาน
จะเห็ น ได ว า ยาทาเล็ บ ที่ ไ ม ไ ด มาตรฐานเพียงขวดเดียว สามารถ สรางอันตรายตอรางกายไดมากมาย ดั ง นั้ น อย า เห็ น เพี ย งแค ร าคาถู ก นะคะ แตเราตองดูรายละเอียดสําคัญ บนฉลากดวย ไมอยางนั้นละก็….
ในระยะนี้ (กุมภาพันธ 2553) เรื่องหนึ่งที่กอความตื่นตระหนกใหกับ คนไทย หลายๆคนก็คือ ขาวผูที่ผาตัด ตอกระจกที่โรงพยาบาลแหงหนึ่ง เกิด ติดเชื้อหลังการผาตัด ทําใหตาอักเสบ และตาบอดในที่สุด โดยเชื้อที่เปนตน เหตุ เปนเชื้อโรคชื่อเรียกยากนั่นก็คือ Pseudomonas aeruginosa อาน วา ซูโดโมแนส ออรูจิโนซา หรือเรียก กันสั้นๆ ตามประสาแพทยไทยวา เชื้อ ซูโด จดหมายขาว...วารสารสุขสาระ
13
ในโลกที่เราเรียกวาโลกมนุษยนี้ ยั ง มี สิ่ ง มี ชี วิ ต เล็ ก ๆ ที่ เรามองไม เ ห็ น อยูมากมาย และถึงแมพวกเหลานี้ จะ ไมมีวิทยาการกาวหนาอยางพวกเรา สรางเครื่องบินไมได สรางจรวดไมได แต พ วกเขากลั บ ต อ สู กั บ เราได อ ย า ง สมนํ้าสมเนื้อ ไมเพลี่ยงพลํ้าเลย นั่น ก็คือ พวกเชื้อโรคต างๆ ไมวาเราจะ ใชวิทยาการที่สูงสง คิดคน สรางยา ปฏิ ชี ว นะ ยาฆ า เชื้ อ ชนิ ด ใดๆ ขึ้ น มา เพื่อนํามาฆาพวกเขา โดยมากยาชนิด ใหมๆ เชนนั้น จะใชไดผลเพียงไมกี่ป
หามเชื้อโรคเขาเลยทีเดียว และวิธีการ ทําใหปลอดเชื้อก็คือ การฆา เชื้อโรค เหลานั้น ดวยยาฆาเชื้อเชน นํ้ายาฆา เชื้ อ เบตาดี น ที่ เราเอามาทาแผลกั น หรื อ ฆ า ด ว ยยาปฏิ ชี ว นะที่ ฆ า เชื้ อ แบคที เรี ย โดยเฉพาะอี ก หลายขนาน ซึ่ ง มั ก จะต อ งให ก อ นการผ า ตั ด ด ว ย หรือฆาดวยรังสี เชน แสงยูวี เปนตน นอกจากนี้ เรายังมีวิธีไลเชื้อโรค ออกจากห อ งผ า ตั ด โดยการใช ล ม ทํ า ให เ กิ ด กระแสลมวิ่ ง ไปทางเดี ย ว ไม วิ่ ง ย อ นไปย อ นมา ดั ง นั้ น เมื่ อ มี
แลวหลังจากนั้นเชื้อโรคทั้งหมดเหลา นั้น ก็จะสามารถปรับปรุงตัวเอง และ แก ไขลั ก ษณะภายในจนสามารถจะ ตอตาน และทนตอยาตางๆ ได กลาย เป น เชื้ อ โรคที่ ฆ า ไม ต าย หรื อ ฆ า ไม หมดสิ้น โดยเฉพาะอยางยิ่ง เชื้อโรค ในโรงพยาบาล ซึ่งถือไดวาเปนสุดยอด สถานที่แหงความสะอาด ทุกแหงตอง ปลอดเชื้อ (โรค) โดยเฉพาะอยางยิ่ง ห อ งผ า ตั ด ต อ งปลอดจากเชื้ อ อย า ง ร อ ยเปอร เซ็ น ต เรี ย กได ว า เป น เขต
เชื้อโรคหลงเขามาก็จะตองออกไปอีก ทาง ไม ส ามารถเลี้ ย วกลั บ มาทํ า อันตรายผูอยูภายในหองผาตัดได ประตู ทุ ก บานในหอ งผ า ตั ด จะ เปนแบบใชตัวดันเปดได และปดเอง เพื่ อ ไม ใ ห บุ ค ลากรต อ งใช มื อ ในการ สัมผัสประตู เพราะจะกลายเปนแหลง ที่เชื้อโรคสามารถหลบไปซอนได อุ ป กรณ ต า งๆ ในการผ า ตั ด ทั้งหมด ก็จะตองผานการฆาเชื้อโรค ใหปลอดเชื้อทั้งหมด เรียกวา ขบวนการ
14
มูลนิธิสรางสุขมุสลิมไทย (สสม.)
Sterilization หรื อ สเตอริ ไ ลซ บาง ครั้ ง ด ว ยไอนํ้ า บางครั้ ง เป น ความ ร อ น บางครั้ ง เป น นํ้ า ยา สุ ด แต ช นิ ด ของอุปกรณเหลานั้น บุคลากรที่จะเขาไปในนั้น ก็จะ ตองลาง ทําความสะอาดตัวเอง และ ตองเปลี่ยนเสื้อผา ที่แมจะดูใหมและ สวยงาม ใหถอดออกและใช เสื้อผา เฉพาะของหองผาตัด ที่หามนําออก ไปใชขางนอก เปนชุดเรียบๆ ที่สะอาด สวนมากจะสีเขียวๆ และเมื่อถึงเวลา ผ า ตั ด จริ ง ยั ง ต อ งล า งมื อ ด ว ยนํ้ า ยา ฆาเชื้อ ใชแปรงแบบที่แมบานใชถูเสื้อ นั้ น มาขั ด ตามแขน ตามมื อ เพื่ อ ให เชื้อโรคที่จะติดตามผิวหนังนั้นออกไป ใหหมด และเมื่อเขาไปในหองผาตัด ยังตองใสชุดเฉพาะอีกหนึ่งชุดเพื่อใช ในการผาตัดผูปวยคนนั้นๆ โดยเฉพาะ ซึ่งมีความสะอาดรอยเปอรเซ็นต เมื่อ ใชเสร็จรายนั้นแลว เสื้อผาชุดนี้ ก็จะ ตองถูกเปลี่ยนออกทันที และถาตอง มีการผาตัดคนใหม ก็จะตองใชชุดใหม อี ก ทั้ ง หมดเป น อย า งนี้ ทุ ก ๆ รายที่ ผาตัด ถือเปนมาตรฐานหองผาตัดที่ จะต อ งทํ า ให ไ ด ไม ว า ผู ป ว ยจะเป น ใคร ยากดีมีจ นเชนใดก็ ตาม จะไมมี การใชซํ้าเด็ดขาด แตอยางไรก็ตาม เหนือฟายังมี ฟา เหนือคนยังมีเชื้อโรค แพทยทุกๆ คนยอมรั บ และตระหนั ก ดี ว า จาก ประสบการณที่ผานมา แมจะทําอยาง ดี ที่ สุ ด แล ว แต อั ต ราการติ ด เชื้ อ ก็ ยั ง ไมเปนสูญอยูดี ยังจะมีอยูบางเสมอ เชน สองคนในพันคน สามคนในพัน คน เป น ต น แต เรื่ อ งนี้ กลั บ ไม ค อ ย เปนที่ตระหนักของผูเขารับการรักษา
หองสืบสวน นายดี เอส ไอ
และญาติพี่นองเทาไร เพราะดูจากวิธี การที่ แ พทย ทํ า แล ว ก็ มั่ น ใจร อ ย เปอรเซ็นตไปเลยวา ตองไมเกิดอะไร ขึ้ น แน น อน โดยลื ม นึ ก ไปว า คู ต อ สู ของแพทยซึ่งก็คือตัวเชื้อโรคชนิดตางๆ นั้นตางก็เปนสิ่งมีชีวิต และพยายาม เอาชีวิตรอด เพื่อดํารงอยูไดในโลกนี้ เชนกัน และศัตรูที่เกงที่สุดตัวหนึ่งก็ คื อ Pseudomonas aeruginosa นั่นเอง เชื้ อ ซู โ ด เป น แบคที เ รี ย ชนิ ด แกรมลบ คื อ เอาไปย อ มสี แ กรม (สี ชนิ ด หนึ่ ง ทางการแพทย ใ ห สี นํ้ า เงิ น ) แล ว มั น ไม ติ ด สี เมื่ อ นํ า มาส อ งดู ใ น กลองจุลทรรศนจะเห็นตัวเชื้อนั้น เปน สีแดงแทนทีจ่ ะเปนสีนาํ้ เงิน มีลกั ษณะ เป น แท ง ยาวๆ มี ห นวดอยู ห นึ่ ง เส น ทําหนาที่เปนใบพัดไวคอยเคลื่อนไหว รูปรางเหมือนประทัด หรือไดนาไมท ที่มีชนวนอยูตรงปลายนี่เอง โดยมากแลวเชื้อตัวนี้ เปนเชื้อ มี ร ะดั บ มั ก จะไม ค อ ยยุ ง กั บ คนทั่ ว ๆ ไปเท า ไร แต มั น จะมุ ง เป า ไปที่ ค น ออนแอ คนที่ภูมิคุมกันตํ่าๆ อยูแลว และคนที่ เขาไปในโรงพยาบาลเป น หลั ก คุ ณ สมบั ติ พิ เ ศษของมั น ก็ คื อ มีความทนทานตอการทําลายแทบทุก ชนิด ไมวาจะเปนนํ้ายาฆาเชื้อ หรือ ยาปฏิชีวนะใดๆ ก็ตาม และสามารถ หลบเลี่ยงหาซอกมุมชองวาง ชองโหว ที่บุคลากรทางการแพทยปกปองไมถึง แลวไปหลบอยู คอยออกมาอาละวาด ในเวลาที่เหมาะสม การฆาแบคทีเรียชนิดนี้ ตองใช ยาปฏิ ชี ว นะชนิ ด ใหม ๆ และต อ งใช พรอมๆ กันหลายตัว เพื่อใหเขาไปรุม
จัดการจึงจะสามารถเอาชนะเชื้อโรค ตัวนี้ได แตก็เปนเพียงชัยชนะชั่วคราว เพราะในเวลาไมนานนัก เชื้อโรคพวก นี้ ก็ จ ะเรี ย นรู ย าใหม เ หล า นั้ น และ สามารถปรั บ ตั ว เอง จนยาเหล า นั้ น ทําอันตรายไมไดอีก เชื้ อ โรคเหล า นี้ จึ ง เป น สิ่ ง ที่ ยั ง คงอยูตอไป คูกับหองผาตัด คูกับการ ผาตัด คูกับ บุคลากรทางการแพทย และผูปวย เปนคูตอสูอันมหาอมตะ นิรันดรกาล และสิ่งนี้อาจจะเปนพระ ประสงค ข องพระผู เ ป น เจ า ที่ ท รง ประสงค จ ะตั ก เตื อ นพวกมนุ ษ ย ทั้ ง หลายให ต ระหนั ก ว า แท จ ริ ง คํ า อหังการที่พวกเขาเรียกโลกทั้งหมดนี้ วาโลกมนุษย โดยที่คิดวาตนเองเกง ที่สุด ใหญโตที่สุด มีวิทยาการมากที่สุด มีสมองมากที่สุด ในโลกนี้นั้น ยังมีสิ่ง เล็ ก ๆ ที่ ส ามารถจะต อ กรกั บ เขาได ตลอดมา และตลอดไป พวกเขาเปน เพี ย งสิ่ ง ถู ก สร า งที่ อ อ นแอสิ่ ง หนึ่ ง เทานั้นเอง สมดังคําดํารัสของพระองค อัลลอฮฺที่วา “พระองคอัลลอฮฺทรงประสงค ที่ จ ะผ อ นเบาให กั บ พวกเจ า เพราะ พระองค นั้ น ได ท รงสร า งมนุ ษ ย ม า อย า งอ อ นแอ” อั ล กุ ร อานซู เราะฮฺ อันนิซาอฺ อายะฮฺที่ 28 วัสลามฯ
หองสืบสวนเดือนนี้ เราจะพูด ถึ ง สารเคมี ช นิ ด หนึ่ ง ที่ นิ ย มใช กั น อย า งแพร ห ลาย ด ว ยวิ ธี ก ารใช ที่ สะดวก ทํ า ให เ ราอาจตกเป น เหยื่ อ ของมันไดงายๆ โดยเฉพาะผูหญิง สําหรับคอละคร เราคงเคยเห็นเมื่อ ตัวรายที่ตองการจะไดนางเอก มัก วางกลอุ บ ายให น างเอกกิน หรือดื่ม เครื่องดื่มที่ผสมยา ทําใหนางเอกไม ไดสติ และกอนที่ตัวรายจะลวงเกิน นางเอก พระเอกก็ ขี่ ม า ขาวเข า มา ชวย ..!
พิมพครั้งแรก กุมภาพันธ 2553
จดหมายขาว...วารสารสุขสาระ
15
ยาหรื อ สารเคมี ที่ ว า นั้ น ก็ คื อ GHB (จี เอชบี) GHB หรือชื่อเต็มคือ Gamma-hydroxybutyrate หรือชื่อ ที่ผูใชนิยมเรียกกันวา liquid ecstasy, liquid E, liquid X หรือ blue verve หรื อ ชื่ อ ที่ รู จั ก กั น ดี ก็ คื อ ยาเสี ย สาว ยาเสี ย หนุ ม GHB ที่ เ ตรี ย มขึ้ น มาได จะอยูในรูปเกลือโซเดียม ซึ่งอาจจะมี รสเค็ ม เล็ ก น อ ย แต คุ ณ สมบั ติ ที่ โ ดด เดนของมันในการนําไปใชในทางที่ผิด คื อ การที่ มั น เป น สารที่ ล ะลายนํ้ า ได ทําใหไดของเหลวใสที่ไมมีสี ไมมีกลิ่น GHB ทําใหเกิดการผอนคลาย เคลิ บ เคลิ้ ม และเพิ่ ม ความต อ งการ ทางเพศ มีรายงานระบุวา GHB ถูก นํามาใชแทน “ยาอี” โดยที่ทําใหเกิด ความรู สึ ก พึ ง พอใจกั บ การถู ก สั ม ผั ส และมีฤทธิ์กดประสาท โดยเฉพาะเมื่อ นําไปผสมกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล ซึ่ ง ฤทธิ์ ย าในลั ก ษณะดั ง กล า ว เป น สาเหตุสําคัญที่ทําใหผูใชยาเบี่ยงเบน วัตถุประสงคของการใช ยาไปในทาง ที่ผิดได GHB ออกฤทธิ์ ไ ด เร็ ว มากคื อ ภายใน 5-20 นาที ออกฤทธิ์ น าน ชั่วโมงครึ่งถึงสามชั่วโมง และเมื่อหมด ฤทธิ์แลวก็จะไมมีอาการเมาคางและ ตรวจหาไมพบในปสสาวะ 16
มูลนิธิสรางสุขมุสลิมไทย (สสม.)
ในทางการแพทย ใช GHB ถู ก นํามาใชเปนยาสลบ ยานอนหลับ ยา รักษาภาวะงวงหลับ ใชสําหรับชวยใน การคลอด ตลอดจนใชรักษาผูปวยโรค พิษสุราเรื้อรัง นอกเหนือไปจากนั้น ยังมีการ ใช GHB เพื่อการเสริมสรางกลามเนื้อ ด ว ย เนื่ อ งจาก GHB มี ฤ ทธิ์ ใ นการ กระตุ น การหลั่ ง ของ โกรทฮอร โ มน หรือฮอรโมนแหงการเจริญเติบโต และ กระตุนกระบวนการสังเคราะหโปรตีน ของรางกาย ถึงแมอาการอันไมพึงประสงค ที่เกิดจาก GHB เปนอาการที่ไมรุนแรง ไดแก อาการงวงนอน มึนงง คลื่นไส อาเจี ย น เคลื่ อ นไหวลํ า บาก แต ใ น ขนาดยาที่สูงมาก อาจทําใหเกิดการ
กดการทํางานของหัวใจ กดการหายใจ ชักและหมดสติ การใช GHB โดยรูเทาไมถึงการณ เชนใชในขนาดที่สูงมาก หรือใชรวม กั บ แอลกอฮอล แ ละยากดประสาท ชนิ ด อื่ น ๆ จะทํ า ให เ กิ ด การชั ก การ หายใจถูกกดและหมดสติได นอกจาก นี้ ข นาดยาที่ ทํ า ให ถึ ง ระดั บ การออก ฤทธิ์ในแตละบุคคล อาจจะแตกตาง กั น มากจนไม อ าจจะคาดหมายได การนํายามาใชใ นทางที่ผิ ดโดยไมได อยูในความดูแลของแพทย อาจกอให เกิดอันตรายถึงชีวิตได ตามกฎหมายไทย GHB จัดอยู ในกลุมวัตถุออกฤทธิ์ตอจิตและประสาท ประเภท 1 ตามพระราชบัญญัติวัตถุ ที่ออกฤทธิ์ตอจิตและประสาท พ.ศ. 2518 บทกําหนดโทษก็คือ ผูเสพตอง ระวางโทษจําคุกตั้งแต 1 ป-5 ป และ ปรั บ ตั้ ง แต 20,000 บาท-100,000 บาท (มาตรา 106 ตรี ) ผู ผ ลิ ต ขาย นําเขา หรือสงออก ตองระวางโทษจํา คุกตั้งแต 5 ป-20 ป และปรับตั้งแต 100,000 บาท-400,000 บาท (มาตรา 89)
ขอมูล : http://www.thaihealth.or.th/Content/35207-GHB http://health.sanook.com/4741 http://narcotic.fda.moph.go.th/welcome/?p=2531
คนแกขี้บน คนรีมน้ํา
เมื่อทราบกันอยางนี้แลว หนุมๆ และ โดยเฉพาะสาวๆ ก็ ไ ม ค วรรั บ อาหาร และเครื่องดื่มจากคนแปลกหนา เมื่อ ลุกไปเขาหองนํ้าแลว กลับมาที่โตะก็ ควรเปลี่ยนอาหาร เปลี่ยนเครื่องดื่ม ดวย และที่สําคัญ หากจําเปนตองไป ไหนกับใครที่ไมสนิทดวย 2 ตอ 2 ควร พาเพื่ อ นที่ ไว ใจได ไ ปด ว ย เพราะใน ชีวิตจริง พระเอกขี่มาขาวมักมาไมทัน เวลา
มีเยาวชนของเรามากมายตองถูกจับกุมเขาไปอยู ในสถานบําบัด
สถานพิ นิ จ ต า งๆ อั น เนื่ อ งมาจากการกระทํ า ผิ ด กฎหมายและผิ ด ศีลธรรม หลังจากผานไประยะหนึ่งพวกเขาก็ถูกปลอยออกมาสูสังคม และอีกไมนานพวกเขาก็ถูกจับกุมเขาไปอยู ในสถานที่เดิมอีกดวยความ ผิดที่ ใหญขึ้น และใหญขึ้นไปเรื่อยๆ
ดวยวัยของเยาวชนเหลานี้ เขา ควรจะอยูในโรงเรียน ไดรับการอบรม บมนิสัย และไดรับความรูตามควรแก วั ย ของพวกเขาจะได รั บ เช น เยาวชน คนอื่นๆ แตพวกเขากลับขาดโอกาส การที่ ท างการจั บ พวกเขาไป กักขังชั่วครู ชั่วยาม ไดใหอะไรกับเขา บาง ไดทําอะไรเพื่อเปลี่ยนแปลงทัศนคติ และวิถีชีวิตพวกเขา เพื่อใหอยูกับผูคน ในสังคมไดอยางมีศักดิ์ศรีเทาที่มนุษย คนหนึ่ ง ควรจะมี เมื่ อ พวกเขาถู ก จั บ ไป พวกเขาไดมีโอกาสศึกษาเลาเรียน ตามวัยของพวกเขาพึงจะไดเรียนไหม อั น นี้ ซึ่ ง ส ว นใหญ สื บ เนื่ อ งมาจาก ปญหาครอบครัวของพวกเขาที่ทําให พวกเขาต อ งหนี อ อกมาใช ชี วิ ต ตาม ลําพังกอนวัยอันควร เสมือนหนึ่งพวก เขาถูกผลักใหมาอยูอีกโลกหนึ่งที่มิใช โลกของผู ค นส ว นใหญ พวกเขาขาด โอกาสทางการศึกษา ขาดการอบรม ในเรื่ อ งบาปบุ ญ คุ ณ โทษ ขาดอาชี พ
เพื่อหารายไดมาประทังชีวิต แตพวก เขามีความหิวโหย มีความตองการ มี ความอยาก มิตางอะไรกับเยาวชนคน อื่นๆ ในฐานะที่ถูกเกิดมาเปนมนุษย ฉะนั้นพวกเขาจึงตองทําทุกวิถีทางที่ จะสนองความต อ งการนั้ น ๆ โดยไม ใสใจวาสิ่งที่เขากระทําไปนั้นถูกหรือ ผิด จดหมายขาว...วารสารสุขสาระ
17
ทองโรค ฮากีม
พวกเขาได รั บ การอบรมให เข า ใจถึ ง การกระทําที่ถูกตอง และออกหางจาก สิ่งไมดีตางๆ หรือเปลา และเมื่อพวก เขาถูกปลอยออกมาแลว ทางการมั่นใจ อยา งไรวา พวกเขาจะใชชี วิ ต รว มกั บ บุคคลอื่นในสังคมได หรือปลอยพวก เขาออกมาใหกลับไปอยูในโลกใบเดิม ของพวกเขาอีก ซึ่งแนนอนพวกเขาก็ ต องใชชี วิตแบบเดิ ม ๆ และในที่สุ ด ก็ ถูกจับเขาไปอยูในสถานกักกันอีก สถานกักกันแทนที่จะเปนสถาน ที่ขัดเกลาสิ่งไมดีออกจากตัวพวกเขา เปนสถานที่ใหการศึกษาแกพวกเขา จนกว า พวกเขาจะนํ า วิ ช าความรู ม า ประกอบอาชี พ ที่ สุ จ ริ ต หลั ง จากถู ก ปลอยตัวออกมา เปนสถานที่เปลี่ยน แปลงพวกเขามิ ใ ห อ อกมาอยู ใ นโลก ใบเดิ ม ของพวกเขาอี ก มิ ก ลายเป น สถานที่เพิ่มพูนวิชามารอันเลวรายขึ้น ไปเรื่อยๆ จนในที่สุดพวกเขาก็ตองคดี อาญาที่รายแรงอันเนื่องมาจากการมี พฤติ ก รรมที่ รุ น แรงมากขึ้ น เรื่ อ ยๆ ที่ ไดมาจากสถานกักกันนั้นๆ หรือเปลา ภาครัฐก็รูอยูเต็มอกวาเยาวชน เหลานี้มาจากอีกโลกหนึ่งซึ่งเปนโลก ที่ทําลายชีวิตพวกเขา แทนที่จะแกไข ใหตรงจุดและใหโอกาสแกพวกเขาได รั บ ในสิ่ ง ที่ ผู เ ป น เยาวชนจะพึ ง ไดรั บ เพื่อมิใหพวกเขากลับไปสูโลกใบเดิม ที่เขาจากมา กลับปลอยพวกเขาออก มาในสภาพเดิ ม โดยมิ ไ ด ใ ห อ ะไรกั บ พวกเขาที่ เ ป น การเปลี่ ย นแปลงชี วิ ต พวกเขาและเพื่อปองกันพวกเขามิให กลับสูโลกใบเดิมอีกใชหรือไม ถาใช มันก็เปนเรื่องที่นาอดสูสําหรับสังคม ไทยยิ่งนัก 18
มูลนิธิสรางสุขมุสลิมไทย (สสม.)
ปจจุบันปญหาเชื้อดื้อยาตานจุลชีพเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ยาปฏิชีวนะ ซึ่ง ใช ใ นการป อ งกั น และรั ก ษาการติ ด เชื้ อ แบคที เ รี ย และจุ ล ชี พ อื่ น ๆ กลั บ มี ประสิทธิภาพลดลง เนื่องจากมีการใชเกินความจําเปน ทําใหเชื้อแบคทีเรียมี พัฒนาการดื้อยาไดอยางรวดเร็ว ประกอบกับบริษัทผูผลิตยาไมมีแรงจูงใจใน การผลิตยาปฏิชีวนะชนิดใหมๆ ทําใหโลกตกอยูในวิกฤตรวม คือกําลังเขาสูยุค ที่โรคติดเชื้อที่เดิมเคยรักษาหาย กลับรักษาไมหายเพราะเชื้อดื้อยา หากไมรีบ แกไขคาดวาในป พ.ศ. 2593 ทั่วโลกจะมีคนเสียชีวิตจากปญหาเชื้อดื้อยารวม 10 ลานคน และประเทศในทวีปเอเชียจะไดรับผลกระทบมากที่สุดเพราะจะ เสียชีวิตมากที่สุดสูงถึง 4.7 ลานคน
นอกจากนี้ ปญหาเชื้อดื้อยา ยัง สงผลกระทบเปนวงกวาง ทั้งตอการ ปศุ สั ต ว การประมง การเพาะปลู ก การคาระหวางประเทศ อุตสาหกรรม การทองเที่ยวทั่วไป และการทองเที่ยว เชิงการแพทยและสุขภาพ (medical tourism) เนื่องจากปญหาการดื้อยา ตานจุลชีพ สามารถแพรกระจายขาม พรมแดนไดโดยผานการเคลื่ อนยาย ของคน สั ต ว และสิ น ค า ทางการ เกษตร ทางการแพทยพบเชื้อแบคทีเรีย ดื้อยาซึ่งคือ ดื้อตอยาปฏิชีวนะซึ่งเปน ยาใชรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียหรือ ยาฆาเชื้อแบคทีเรียนั่นเอง โดยพบมา
นานแล ว แต ยั ง เป น การดื้ อ ยาที่ ไ ม รุนแรงมากเพราะยังมียาตัวอื่นใหพอ รั ก ษาได ผ ล แต ที่ กํ า ลั ง หวั่ น เกรงกั น ทั่ ว โลกขณะ นี้ คื อ การพบโรคที่ เ กิ ด จากแบคทีเรียสายพันธุดื้อยาปฏิชีวนะ ทุกชนิดและปจจุบันยังไมมีตัวยารักษา ซึ่ ง สื่ อ มวลชนทั่ ว โลกเรี ย กแบคที เรี ย กลุมนี้วา “ซูเปอรบั๊ก” (Superbug) ดั ง นั้ น เมื่ อ ติ ด เชื้ อ แบคที เรี ย กลุ ม นี้ ผู ป ว ยจึ ง มี อ าการรุ น แรงและมี โ อกาส เสียชีวิตสูงมาก เชื้ อ ซู เ ปอร บั๊ ก ที่ พ บในป จ จุ บั น มี ส องชนิ ด ได แ ก เชื้ อ Escherichia coli ซึ่ ง นิ ย มเรี ย กว า เชื้ อ อี โคไล (E. coli) และเชื้อ Klebsiella pneumonia
(เครบซีลลา นิวโมนิอี) แตแพทยและ นักวิทยาศาสตรคาดวาแบคทีเรียทุก ชนิดสามารถกลายพันธุเปนซูเปอรบั๊ก ไดทั้งนั้น เชื้อ อี โคไล มักทําใหเกิดการ ติ ด เชื้ อ ระบบทางเดิ น ป ส สาวะและ ระบบทางเดิ น อาหาร (เช น โรค กระเพาะป ส สาวะอั ก เสบ โรคไต อักเสบ และโรคทองเสีย) สวนเชื้อ เครบซีลลา มักทําให เกิ ด การติ ด เชื้ อ ระบบทางเดิน หายใจ เชน โรคปอดบวม แตอยาง ไรก็ตาม เมื่อโรคดื้อยา แบคทีเรียทั้งสองชนิด นี้สามารถทําใหเกิดการติดเชื้อลุกลาม เขากระแสโลหิต (กระแสเลือด)/ภาวะ พิษเหตุติดเชื้อ และกระจายติดเชื้อได ในทุกๆอวัยวะ
ผูที่เสี่ยงตอการติดเชื้อซูเปอรบั๊ก
1. ผูสูงอายุ 2. ผูที่มีโรคประจําตัวเรื้อรัง เชน เบาหวาน 3. ผูที่มีภูมิคุมกันโรคตํ่า หรือรับยากดภูมิคุมกันตานทานโรค เชน ผูปวยมะเร็ง ภูมิแพ หรือผูปวยปลูกถายอวัยวะ 4. ผูที่ ใชยาปฏิชีวนะพรํ่าเพรื่อ ซึ่งเปนสาเหตุหนึ่งของอาการดื้อยา 5. ผูที่เดินทางไปตางประเทศ ที่เปนแหลงโรคติดตอกําลังระบาด
อาการของโรคติดเชื้อซูเปอรบั๊ก
เชนเดียวกับอาการจากการติดเชื้อจากแบคทีเรียทั่วไป แต อาการรุนแรงกวา มากไดแก 1. มีไขสูง หนาวสั่น 2. คลื่นไส อาเจียน วิงเวียน มึนงง 3. ไอ มีเสมหะ 4. ปสสาวะ ปวด แสบ ขัด 5. ปวดหัว ปวดหลัง 6. ทองเสีย ปวดทอง แพทยวินิจฉัยการติดเชื้อซูเปอร บั๊กไดจาก ประวัติอาการ ประวัติการ เดินทาง/ทองเที่ยว การตรวจรางกาย การดื้ อ ยาปฏิ ชี ว นะต า งๆ เมื่ อ ได รั บ การรักษา และการเพาะเชื้อจากสาร คัดหลั่งตางๆ การติ ด เชื้ อ ซู เ ปอร บั๊ ก เป น การ ติ ด เชื้ อ รุ น แรงมาก แต ทั้ ง นี้ ขึ้ น กั บ ปริมาณเชื้อที่รางกายไดรับ และสุขภาพ ก อ นการติ ด เชื้ อ ด ว ย ซึ่ ง ระยะฟ ก ตั ว ของโรค (ระยะติ ด เชื้ อ จนถึ ง เกิ ด อาการ) แตกตางกันตามปริมาณเชื้อ ที่รางกายไดรับและสุขภาพของผูปวย ซึ่ ง อาจเป น ภายใน 1 วั น หรื อ อาจ หลายๆ วั น หรื อ เป น สั ป ดาห และ ถึ ง แม ต อ งใช เวลารั ก ษายาวนานใน โรงพยาบาล เสียคาดูแลรักษาสูงมาก แต ผ ลลั พ ธ ยั ง คงเป น อั ต ราเสี ย ชี วิ ต ขอมูล : http://health.sanook.com/3649/ (ตาย) ที่สูง เมื่อไดรับเชื้อในปริมาณ http://haamor.com/th/ มากหรื อ เมื่ อ เป น บุ ค คลที่ มี สุ ข ภาพ https://www.hfocus.org/content/2016/04/12052 ออนแอ http://www.thairath.co.th/content/872528
เชื้ อ ดื้ อ ยา
จดหมายขาว...วารสารสุขสาระ
19
หองขาว
แผนงานสรางสุขมุสลิมไทย
การใช ย าปฏิ ชี ว นะอย า งไม เหมาะสม เป น สาเหตุ ห นึ่ ง ของเชื้ อ
ดื้อยา ซึ่งมาจาก การใชยาที่มีระยะเวลาใน การใชยาที่สั้นเกินไป ซึ่งอาจเกิดจาก ใชยาไมครบตามจํานวนวันที่แพทยสั่ง ลืมรับประทานยา รวมถึง การหยุดยา ปฏิ ชี ว นะเมื่ อ อาการดี ขึ้ น เช น หาย เจ็บคอ ไมมีไขจึงหยุดยา การใชยาปฏิชวี นะมากเกิน ไป มากเกินความจําเปน เชนการใช ยาติดตอเปนระยะเวลายาวนานโดย ไมมีขอบงชี้ในการใช การใชย าในขนาดตํ่าเกิน ไป เชน รับประทานยาแค 2 มื้อแตที่ ควรจะเป น คื อ 4 มื้ อ ทํ า ให ไ ม เ พี ย ง พอตอการออกฤทธิ์ใหมีประสิทธิภาพ สูงสุด การใชยาไมถูกกับโรค เชน การใชยาปฏิชีวนะในการรักษาโรคไข หวัดที่เกิดจากเชื้อไวรัส ยาปฏิ ชี ว นะหาซื้ อ ไดง า ย เกินไป ทําใหการใชยาอยางไมเหมาะ สมสูงขึ้น และ การแบ ง ยากั น ใช ทํ า ให เกิดการใชยาอยางไมเหมาะสมหลาย อยาง เชน ใชยาไมถูกกับโรค ใชขนาด ยาไมถูกตอง เปนตน การปองกัน การติดเชื้อซูเปอร บั๊ก ไดแก การรูจักใชยาปฏิชีวนะ การ รักษาสุขอนามัยพื้นฐาน (สุขบัญญัติ แหงชาติ) และการรูจักดูแลตนเองเมื่อ เจ็บปวย 20
มูลนิธิสรางสุขมุสลิมไทย (สสม.)
มัสยิดนูรุลอิบาดะห ต.ทาแซะ อ.ทาแซะ จ.ชุมพร เปนอีกหนึ่งมัสยิดที่ เข า ร ว มโครงการมั ส ยิ ด ครบวงจร กั บ แผนงานสร า งสุ ข มุ ส ลิ ม ไทย โดยศู น ย กิจกรรม สสม.ภาคใตตอนบน โครงการมัสยิดครบวงจร เปนโครงการที่มุงเนนการมีสวนรวมของชุมชน เป น หลั ก โดยอาศั ย ความร ว มมื อ ของคนในชุ ม ชนและหน ว ยงานในพื้ น ที่ สนับสนุนกิจกรรมตางๆ ของมัสยิด โดยมุงหวังใหมัสยิดเปนตนแบบแหงการ เรียนรูของชุมชนตอไป หลังจากเขารวมโครงการทางมัสยิดไดมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงมัสยิด ในสวนตางๆ อาทิเชน การปรั บ ภู มิ ทั ศ น บริ เวณมั ส ยิ ด ใหเ ปน ระเบี ย บ สะอาด สวยงาม การจั ด มุ ม หนั ง สื อ ใหค วามรู ภ ายในมั ส ยิ ด การติ ด ปา ยมั ส ยิ ด ปลอดบุ ห รี่ เ พื่ อ ประกาศเป น เขตปลอดบุ ห รี่ การรวมกลุ ม ในการออกกํ า ลั ง กาย การจั ด ตั้ ง กองทุ น สวั ส ดิ ก ารแกส มาชิ ก จั ด ทํ า ห อ งนํ้ า ผู สู ง อายุ และผู พิ ก ารเพื่ อ ความสะดวกและปลอดภั ย ในการใชบริการตามมาตรฐานที่กําหนด มี ก ารเทศนาต า นยาสู บ เดื อ นละ 1 ครั้ ง การจดทะเบี ย นเปน มู ล นิ ธิ โดยใชชื่ อ “มู ล นิ ธิ อ าวั ง มู ฮํ า หมั ด นู ร เบ็ญอาหมัดดารุสซาลาม”
ดําเนินงานโดย มูลนิธิสรางสุขมุสลิมไทย (สสม.) สนับสนุนโดย สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสรางเสริมสุขภาพ (สสส.)
ชุมชนบานทอนตรน ต.คลองทราย อ.กงหรา จ.พัทลุง เปนชุมชนที่เขารวม โครงการชุมชนรักษสุขภาวะของแผนงานสรางสุขมุสลิมไทย โดยศูนยกิจกรรม สสม.ภาคใตตอนกลาง เพื่อพัฒนาชุมชนมุสลิมตัวอยางดานสุขภาวะ ที่ตั้งของ ชุมชนลอมรอบไปดวยหุบเขาและปาไมที่เขียวขจี อากาศบริสุทธิ์สดชื่น แวดลอม ไปดวยธรรมชาติที่สมบูรณและอบอวลไปดวยมิตรภาพของคนในชุมชน ที่ชวน นาหลงไปแกผูที่ไดไปเยือนและสัมผัส เมื่อเร็วๆ นี้ ศาสตราจารย ดร. อิศรา ศานติศาสน ประธานมูลนิธิสรางสุขมุสลิมไทย (สสม.) เขาพบตัวแทน กระทรวงศึ ก ษาธิ ก าร โดยนางรั ต นา ศรี เ หรั ญ ผู ช ว ย เลขานุ ก ารรั ฐ มนตรี ว า การกระทรวงศึ ก ษาธิ ก ารให ก าร ตอนรับ ในโอกาสนี้ ประธานมูลนิธิฯ ไดเสนอโครงการแบบ เรียนบูรณาการอิสลามกับสุขภาวะเพื่อผลักดันใหมีการใช แบบเรียนสุขภาวะอิสลามใหแพรหลายในพื้นที่ 5 จังหวัด ชายแดนภาคใต แบบเรี ย นสุ ข ภาวะดั ง กล า วแบ ง เป น ระดั บ ประถม ศึกษาทั้ง 6 ชั้นป และระดับมัธยมศึกษา 3 ชั้นป ประกอบ ดวย 3 วิชาหลัก คือ สุขศึกษาและพลศึกษา วิทยาศาสตร และคณิตศาสตร โดยเนื้อหาในแบบเรียนเหลานี้จะอิงตาม หลักสูตรแกนกลางของกระทรวงศึกษาธิการและสอดแทรก หลักศาสนาอิสลามใหเขากับจุดประสงคที่พึงประสงคของ แตละวิชา
ชุ ม ช น รั ก ษ สุ ข ภ า ว ะ เ ป น โครงการพัฒนาชุมชนโดยดําเนินชีวิต แบบพึ่งตนเอง เชน การปลูกผักปลอด สารพิษ การรณรงคการคัดแยกขยะ (การเพิ่ ม มู ล ค า ขยะ) การส ง เสริ ม อาชีพใหกับชุมชน(การเลี้ยงปลา เลี้ยง ไก เลี้ ย งผึ้ ง ) การสร า งฝายนํ้ า เพื่ อ รักษาความอุดมสมบูรณของธรรมชาติ และการสรางกองทุนสวัสดิการชุมชน เช น กองทุ น ข า วสารเพื่ อ สร า งความ เขมแข็งและความมั่นคงใหกับชุมชน โรงเห็ดของกลุมเพาะเห็ด หมู ที่ 5 ตํ า บลคลองทรายขาว จั ง หวั ด พัทลุง บานทอนตรน ที่สําเร็จไดดวย การสนั บ สนุ น จากโครงการแผนงาน สรางสุขมุสลิมไทย ที่ใหความสําคัญ ในเรื่องอาชีพแกชาวชุมชน เปนศูนย เรียนรูอีกแหงหนึ่งของชุมชนรักษสุข ภาวะบานทอนตรน
ในการเสนอโครงการครั้งนี้ ทางมูลนิธิและกระทรวง ศึกษาธิการ จะรวมกันผลักดันตําราเรียนสุขภาวะนี้ผาน ทางสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานระดับ เขตพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใตตอไป จดหมายขาว...วารสารสุขสาระ
21
ดําเนินงานโดย มูลนิธิสรางสุขมุสลิมไทย (สสม.) สนับสนุนโดย สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสรางเสริมสุขภาพ (สสส.)
แผนงานสรางสุขมุสลิมไทย โดยศูนยกิจกรรม สสม. ภาคเหนือ ไดดําเนินงานโครงการชุมชนรักษสุขภาวะมัสยิด อัตตักวา กิจกรรมหนึ่งในโครงการ คือ “ลานกีฬาชุมชน” ชุ ม ชนมั ส ยิ ด อั ต ตั ก วา มี ล านกี ฬ ากลางแจ ง อยู ใ นบริ เวณ สสม.เหนื อ ส งเสริมการพัฒนา สังคมมุสลิมสูความยั่งยืน มัสยิดดารุลบิร รวมกับแผนงาน สรางสุขมุสลิมไทย โดยศูนยกิจกรรม สสม.ภาคเหนื อ จั ด กิ จ กรรม สร า ง อาชี พ สร า งรายได แก ค นในชุ ม ชน โดย เริ่มจากกลุมสตรี หรือมุสลิมะฮฺ โดยครั้ ง นี้ เริ่ ม จากการผลิ ต ไส อั่ ว อาหารพื้นเมืองขึ้นชื่อของเมืองลานนา และของฝาก สําหรับนักทองเที่ยวจาก ตางเมืองซื้อติดไมติดมือไปฝากเพื่อน สนิทมิตรสหาย และเพื่อสรางรายได ใหกับผูคนในชุมชน การทํ า ธุ ร กิ จ ชุ ม ชน เป น องค ประกอบหนึ่ ง ในการจั ด การทุ น ของ ชุมชน เพื่อประโยชนของคนในชุมชน โดยคนในชุมชน มีเปาหมายทายสุด อยู ที่ ก ารใช ทุ น เพื่ อ ส ง เสริ ม กระบวน การเรียนรู การสรางสวัสดิการสังคม 22
มูลนิธิสรางสุขมุสลิมไทย (สสม.)
โรงเรียนจิตตภักดี และหองออกกําลังกายในรมอยู ชั้น 3 อาคารดารุตตักวา ซึ่งเปดบริการใหทุกคนใช โดยไมเสียคาใชจายใดๆ ชุ ม ชนมั ส ยิ ด อั ต ตั ก วา มี ช มรมกี ฬ าและ สั น ทนาการอั ต ตั ก วาเป น กํ า ลั ง ในการขั บ เคลื่ อ น กิจกรรมตางๆ ของชุมชน ทั้งกิจกรรมภายในและ ภายนอกชุมชน เมื่ อ วั น เสาร ที่ 7 มกราคม พ.ศ.2560 ที่ผานมา ชมรมกีฬาและสันทนาการอัตตักวา ได จั ดงานกี ฬาชุมชนสัมพั นธ ปที่ 2 เพื่อสร างความสามัคคี ของคนในชุมชนไมเฉพาะมุสลิม โดยไดรับความสนใจจาก พี่ น อ งเพื่ อ นบ า นย า นมั ส ยิ ด อั ต ตั ก วา และชาวชุ ม ชนย า น วัดเกตเขารวมงานเปนอยางดี
ในภาพจากซาย นายจินดา พงษมณี อิหมามมัสยิดดารุลบิร และ นายเลิศ ชัยคํา แกนนําผูขับเคลื่อนชุมชน การฟนฟูอาชีพ การพัฒนาคน ชุมชน สังคม วัฒนธรรม สุขภาพอนามัย ซึ่งก็ คือการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนนั่นเอง