หนา บาน
WWW.Muslim4health.or.th
นํ้ า ท ว มใหญ ใ นพื้ น ที่ ภ าคใต ที่ ผ า นมา คื อ ความเดื อ ดร อ นที่ ไ ม ค าดฝ น เนื่องจากพื้นที่ ในภาคใตเปนพื้นที่ติดทะเล ปญหานํ้าทวมจึงเปนเรื่องที่ ไมนาจะเปน ไปได เพราะเปนพื้นที่ที่อยูติดทะเล นํ้าระบายไดงายกวาพื้นที่อื่นๆ แตปรากฏวา หลายจังหวัดในภาคใตนํ้าทวมหนัก และกวาจะระบายนํ้าออกหมด ก็ตองใชเวลานานกวาปกติ เมื่ อ ตรวจสอบพบว า สาเหตุ ม า จากการเปลี่ ย นสภาพภู มิ อ ากาศ และ การเกิ ด ปรากฏการณ ล านิ น ญ า แบบ ออนๆ อีกทั้งพื้นที่ที่ประสบภัย เปนพื้นที่ สุมเสี่ยงกับการเกิดนํ้าทวม เพราะเปน เสนทางการไหลของนํ้าที่มีอยูเดิมไดถูก ขวางกั้นดวยหมูบานจัดสรรเกือบทั้งหมด รวมไปถึ ง พื้ น ที่ เ ดิ ม ที่ เ ป น คลองรั บ นํ้ า กลับถูกถมเต็มพื้นที่ กลายเปนถนน เรียก ไดวาแทบจะไมมีคลอง หรือแหลงใดๆ ระบายนํ้าไดเลย อีกทั้งยังมีรายงานวา
ทอระบายนํ้าแทบทุกแหงก็เต็มไปดวย ขยะอุดตัน ยากตอการไหลผานของนํ้า แสดงวานอกเหนือจากปรากฏการณ ธรรมชาติแลว การบริหารจัดการนํ้าและ จัดการพื้นที่ก็มีปญหาดวย ปญหาตางๆ ที่เกิดขึ้นในบานเรา ดูแลวนาจะเกิดจาก “คน” เปนสวนใหญ นั่ น คื อ เราปล อ ยปละละเลยจน เกิดปญหา แลวจึงคอยมาหาทางออก
นั่นคือ เราปลอยใหมีการรุกที่รับ นํ้า แลวจึงคอยมาแกปญหา เราไมคอยแกปญหาที่ “คน” แต เรามั ก ไปแก กั น ที่ “ระบบ” ป ญ หาจึ ง ตองตามแกกันตลอดเวลา เราจึงไดยินวา ทอระบายนํ้าเล็ก ขยะอุ ด ตั น ถนนตํ่ า ...นํ้ า จึ ง ท ว มขั ง (รอระบาย) ซํ้าๆ ซากๆ เราจึงไดเห็นการถมถนนใหสูง แต ไม ย อมยกสายไฟ สายโทรศั พ ท ให สู ง ตามถนน ปลอยใหหอยตํ่าเตี้ยขวางทาง
คนและรถ รอใหเกิดอุบัติเหตุไมคาดฝน แลวคอยมายกใหสูงพนทางสัญจร ป ญ หาหลายอย า งที่ เ กิ ด ขึ้ น ดู เหมื อ นว า จะลุ ก ลามบานปลายออกไป เรื่อยๆ เราปล อ ยให วั ว หาย แล ว จึ ง มา ลอมคอก ปลอยใหผูคน จําตอง “ทน” อยู ตลอดไป
สมาชิกสุขสาระ (สนับสนุนคาจัดสง) ที่ ไมไดรับหนังสือ หรือเปลี่ยนที่อยู กรุณาติดตอที่ suksara@yahoo.co.th
ลา คอมรฺ ฮากีม
ไดอานกระทูในเว็บไซตพันทิป ที่เจาของกระทูตั้งคําถามวา
“ทําไมตองเลิกบุหรี่?
ใครมีประสบการณการเลิก บุหรี่ดีๆ แชรหนอยคะ! พลีสสสส ..” จึงนํามาบอกเลา...เผื่อจะเปน ประโยชนตอคุณผูอานที่สนใจ อยากเลิกบุหรี่
เลิ ก บุ ห รี่ เพราะ อะไร
“เลิกบุหรี่ดวยสาเหตุคือ เริ่มรูสึก เหม็นกลิ่นบุหรี่จากตัวเอง และอีกสาเหตุ คือบุหรี่ตอนนั้นขึ้นราคา สรุป เลิกบุหรี่ เพื่ อ ตั ว เองครั บ ไม ไ ด คิ ด เรื่ อ งเจ็ บ ป ว ย ไมไดคิดเรื่องโรคภัย คิดแควาพอดีกวา เปลืองเงิน” “ปกติดูดวันละ 2 ซองคะ เลิกมา ได พั ก ใหญ ๆ เพราะว า ท อ งค ะ แรกๆ ทําใจไมไดหรอกคะ แมเราเห็น ทานก็ บอกเราวา เห็นแกหลานแมนะลูก สามี เราก็ ใ ห ค วามร ว มมื อ ค ะ ไม ดู ด ให เ ห็ น เราก็หักดิบ เลิกเลย เพื่อลูกในทองคะ” จดหมายขาว...วารสารสุขสาระ
3
ริมคลอง สมุย
“กํ า ลั ง จะเลิ ก เพราะรู สึ ก เปลื อ ง ตังค...และเริ่มไมรูตัวเองวา “จะสูบไป ทําไม?” ครับ” “คุณพอผมเลิกบุหรี่เพราะลูก” “เพราะแมขอใหเลิกครับ ผมกําลัง จะเลิกเลยตอนนี้กําลังพยายามอยู เวลา ดู โ ฆษณาที่ พ อ บอกให ลู ก เลิ ก บุ ห รี่ ที ไร สะเทือนใจทุกที นึกถึงแมผม ทานขอให เลิ ก เหมื อ นกั น และอยากทํ า ให ไ ด เ พื่ อ แมครับ” “มีลูกคะ จากวันละซอง เลิกแบบ ตัดทิ้งไปเลย” “พี่ ช ายผมเลิ ก เพราะลู ก ครั บ เพราะมีวันนึงลูกไมยอมใหอุม แลวบอก วาพอเหม็นควัน หลังจากนั้นเขาเลิกเลย เลิกมาไดเกือบสิบปแลวครับ เพราะคํา พูดของลูกนี่แหละ” “ที่เลิกเพราะรูสึกวาดูดบุหรี่แลว มันแกเร็วอะ อยากสวย เลยตองเลิกคะ” “สาเหตุที่เลิกบุหรี่เพราะตอนนั้น ภรรยาผมตั้ ง ท อ งก็ เ ลยเลิ ก แบบหั ก ดิ บ เลย รูตอนนั้นเลิกสูบวันนั้นเดี๋ยวนั้นเลย ครับ” “เลิ ก เพราะกลั ว เป น ภาระคนที่ เรารัก” “ดู ด 2 วัน ซอง ดูด มาเกือ บ 20 ป ตอนลูกเพิ่งเกิดไปอุมลูกตอนเพิ่งดูด บุหรี่ พอไปอาบนํ้ากลับมาจะอุมลูกอีก ครั้ง ลูกมีกลิ่นบุหรี่ติดตัว เหม็นมาก จาก นั้นหักดิบเลย”
ที่มา : https://pantip.com/topic/30166844
4
มูลนิธิสรางสุขมุสลิมไทย (สสม.)
“เลิ ก เพราะ มี ลู ก ครั บ ไม อ ยาก ใหเคาเห็นเราตอนสูบบุหรี่” “เลิ ก มา 8 ป แล ว ค ะ สาเหตุ ที่ เลิกเพราะ เห็นคนที่เคาไมไดดูดบุหรี่ ยัง อยูได เลยคิดวามันไมมีประโยชนกับเรา ถ า เราไม ดู ด มั น เราก็ อ ยู ไ ด เพราะบุ ห รี่ ไมใชออกซิเจน เลยหักดิบ เลิกเลยคะ” “เลิกบุหรี่เพราะเหม็นตามศีรษะ ปากเหม็น เสื้อผามีกลิ่นบุหรี่ติด และที่ สําคัญเสียบุคลิกภาพเวลาพบปะลูกคา” “สาเหตุที่ทําใหเลิก? เพราะตอน นั้นเริ่มจะวางแผนอนาคตกับ (วาที่) สามี อยากมีครอบครัวและลูก.. ก็เลยอยาก มีชีวิตอยูดูวันที่ลูกโต (วาเขาไปนั่น)” “เจ็บหนาอก หายใจไมออก โยน บุหรี่ทิ้ง หักดิบ ก็ไมเห็นทุรนทุรายอะไร นี่เลยสรุป เลิกแบบไมมีเงื่อนไข” จะเห็นวา สวนใหญของผูที่บอก วาเลิกบุหรี่ เลิกไดเพราะความรักที่มีตอ คนในครอบครั ว เช น ภรรยาเลิ ก บุ ห รี่ เพราะรักสามี ลูกเลิกบุหรี่เพราะรักแม พอเลิกบุหรี่เพราะรักลูก...แลวคุณๆ ที่ กําลังสูบบุหรี่อยูเลาครับ?...ถายังไมรูวา จะเลิกเพื่อใคร...ก็เลิกบุหรี่เพื่อตัวเองสิ ครั บ ...เลิ ก บุ ห รี่ เ พื่ อ ตั ว เองได ก็ เ ท า กั บ ไดชวยคนรอบขางใหหางไกลจากควัน พิษอีกดวย... ยิงปนนัดเดียว ไดนกหลาย ตัวนะครับ
ต น มะลิ มี ต น กํ า เนิ ด ในประเทศ อิ น เดี ย มี ม ากมายรวม 200 สายพั น ธุ หลายทองที่ในประเทศไทย เรียกตนมะลิ ว า ข า วแตก เตี ย งมุ น มะลิ ป อ ม มะลิ หลวง ชื่อเหลานี้ก็คือ ตนมะลิ แตแตก ตางกันออกไปเพียงชื่อตามการเรียกใน ทองถิ่น ตนมะลิเปนพรรณไมยืนตน และ เป น ไม พุ ม ขนาดเล็ ก จนถึ ง ขนาดกลาง บางชนิดก็มีลําตนแบบเถาเลื้อย ลําตน มีความสูงประมาณ 1-3 เมตร ผิวเปลือก ลําตนสีขาว มีสะเก็ดรอยแตกเล็กนอย ลําตนเล็กกลมแตกกิ่งกานสาขาไปรอบๆ ลํ า ต น ใบเป น ใบเดี ย ว แตกใบเรี ย งกั น เปนคูๆ ตามกานและกิ่งลักษณะของใบ มนปอม โคนใบสอบเรียว ปลายใบแหลม ขอบใบเรี ย บเป น มั น สี เขี ย วเข ม ขนาด ใบกวางประมาณ 2-3 เซนติเมตร ยาว ประมาณ 3-5 เซนติ เ มตร ออกดอก เปนชอ ออกตามสวนยอดหรือตามงาม ใบ ดอกเล็ ก สี ข าวมี ก ลี บ ดอกประมาณ 6-8 กลีบ เรียงกันเปนวงกลมหรือซอน กันเปนชั้นแลวแตชนิดพันธุ ขนาดดอก บานเต็ ม ที่ ป ระมาณ 2-3 เซนติ เ มตร ผลเป น รู ป กลมรี เ ล็ ก เมื่ อ สุ ก จะมี สี ดํ า ภายในมี เ มล็ ด อยู 1 เมล็ ด นอกจากนี้ ลักษณะของลําตนและดอกแตกตางกัน ไปตามชนิดพันธุ มะลิ มีชื่อทองถิ่นอื่นๆ วา มะลิ ขี้ไก (เชียงใหม), มะลิหลวง (แมฮองสอน)
มะลิปอม (ภาคเหนือ), มะลิซอน มะลิลา (ภาคกลาง), มะลิ มะลิ ล า มะลิ ซ อ น (ทั่ ว ไป), เตี ย มู น (ละว า -เชี ย งใหม ) , ขาวแตก (เงี้ยว-แมงสอน), บักหลี่ฮวย เซี ย วหนํ่ า เคี้ ย ง (จี น ), หม อ ลี่ ฮ วา (จี น กลาง) เปนตน ดอกมะลิ สามารถนํ า มาทํ า เป น นํ้ า มั น หอมระเหย ให ค วามรู สึ ก ผ อ น คลาย ลดความตึงเครียด บรรเทาอาการ ปวดหัว นํ้ามันหอมระเหยจากดอกมะลิ นํ า มาใช เ ป น วั ต ถุ ดิ บ ทํ า เครื่ อ งสํ า อาง ขอควรระวังในการใชนํ้ามันหอมระเหย จากดอกมะลิ สามารถใช ท าภายนอก
เท า นั้ น ห า มรั บ ประทาน หรื อ ใส ใ น อาหาร หรือ ขนม จะเปนอันตรายมาก ในสตรีมีครรภ เราสามารถนํ า ดอกมะลิ ม าเป น สวนประกอบของอาหาร และ ขนมไทย เพื่อเพิ่มความหอมของอาหารและขนม ไทย เชน ซาหริ่ม ทับทิมกรอบ ลอดชอง นํ้ากะทิได ดอกสดนํ า มาตํ า ให ล ะเอี ย ด ใช พอกขมับ จะชวยแกอาการปวดศีรษะ ได ดอกมะลิแก นํามาเปนสวนผสมของ ยาหอม สรรพคุณ แกหืดหอบและบํารุง หัวใจ แกอาการออนเพลีย ชูกําลัง ตํารา
ขอมูล : https://medthai.com/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B4/ http://www.maipradabonline.com/maimongkol/mali.htm http://beezab.com
ยาไทยจะใชดอก มะลิแหงปรุงเปนยา หอม โดยจัดใหดอกมะลิ อยู ใ นพิ กั ด เกสรทั้ ง 5 พิ กั ด เกสรทั้ ง 7 พิกดั เกสรทัง้ 9 เปนตํารับยาทีม่ สี รรพคุณ แก ไข ช ว ยทํ า ให จิ ต ใจชุ ม ชื่ น ในตํ า รั บ ยาหอมเทพจิ ต ร ยาหอมทิ พ โอสถ ยาหอมนวโกฐ และยาหอมอิ น ทจั ก ร มีสวนประกอบหลักเปนดอกมะลิ และ ยั ง ใช เ ป น ส ว นผสมในตํ า รั บ ยาแก ไข มิรูจักสติสมปฤดี ยาประสะจันทนแดง ยามหานิลแทงทอง เปนตน ใบของตนมะลิ สามารถนํามาทํา ยา แกอาการไข พอกแกฟกชํ้า ปวดทอง แน น ท อ ง ท อ งเสี ย แผลเรื้ อ รั ง บํ า รุ ง สายตา ชวยขับถาย โรคผิวหนัง รากของต น มะลิ สามารถนํ า มา ทําเปนยา แก ร อนใน ขับประจํ าเดื อน เสี ย ดท อ ง รั ก ษาหลอดลมอั ก เสบ แก ปวดเคล็ดขัดยอก ชาวโอรังอัสลี ในรัฐ เปรัด ประเทศมาเลเซีย จะนํารากไปตม ดื่ ม กิ น เป น ยาแก เ บาหวาน รากแห ง ประมาณ 1-1.5 กรั ม นํ า มาฝนกั บ นํ้ า รับประทานแกอาการนอนไม หลับ นํา มาตมเปนยาแกหวัดได ส ร ร พ คุ ณ ข อ ง ต น ม ะ ลิ มี อี ก มากมาย คุ ณ ผู อ า นสามารถศึ ก ษาหา ขอมูลเพิ่มเติมได ตามแหลงขอมูลทาย บทความนี้ จดหมายขาว...วารสารสุขสาระ
5
เรื1องนารู รียาณา
ถาจะถามวาในรางกาย คนเราอวัยวะใดทํางานหนักที่สุด
คงมีคําตอบหลากหลาย แตทราบหรือ ไม ค ะว า เท า เป น อวั ย วะที่ ม หั ศ จรรย ประกอบไปดวยกระดูกชิ้นเล็กๆ 26 ชิ้น เทา 2 ข า งมี ก ระดู ก รวมกั น ทั้ ง หมด 52 ชิ้ น ขอตอในเทา มีทั้งหมด 38 ขอ มีกลาม เนื้อ 31 มัด มีเสนเอ็นทั้งหมด 107 เสน...
สุขภาพ เทา
เทาเปนอวัยวะที่ทํางานหนัก และมีผูประมาณการไววาชั่วชีวิต
ของมนุษยผูหนึ่งจะใชเทาเดินเปนระยะทางเฉลี่ยถึง 120,000 – 160,000 กิโลเมตร ซึ่งยาวมากกวา 3 ถึง 4 เทาของระยะทางรอบโลกเสียอีก
8
ปญหาของเทาที่พบบอย
1. เชื้อราที่เล็ บ เชื้อราจะเขาไป ทางรอยแผลเล็กๆ ที่เราอาจไมเห็นดวย ตาเปลา หรือในตําแหนงที่มีการฉีกขาด ของเล็ บ กั บ ผิ ว หนั ง ใต เ ล็ บ มี ลั ก ษณะ เริ่มตนดวยมีจุดสีขาว หรือสีเหลืองที่เล็บ หรือใตจุดปลายของเล็บ และเมื่อมีการ
6
มูลนิธิสรางสุขมุสลิมไทย (สสม.)
ติ ด เชื้ อ มากขึ้ น เรื่ อ ยๆ จะทํ า ให เ ล็ บ มี สี เปลี่ยนไป หนาขึ้น และมีขอบดานๆ รวม ไปถึงจะมีอาการเจ็บที่เล็บดวย เปนโรค ที่ รั ก ษาให ห ายได ย าก และต อ งใช ก าร รั ก ษาเป น ระยะเวลานานกว า ที่ เ ล็ บ จะ กลับมาเปนปกติ
โรคนี้ มั ก พบได ใ นคนที่ ป ระกอบ อาชีพที่มือหรือเทามีการสัมผัสนํ้า หรือ ความเปยกชืน้ ตลอดเวลา รวมทัง้ ในหองนํา้ หรือสระวายนํ้า 2. นิ้วหัวแมเทาเอียง เปนภาวะ ความผิดรูปของนิ้วหัวแมเทาที่สวนปลาย เอียงออกดานนอกเขาหานิ้วชี้ และโคน นิ้ ว หั ว แม เ ท า เอี ย งเข า ด า นในแยกออก จากนิ้วอื่น ทําใหปลายเทาแบนกวางขึ้น เมื่ อ เป น มากขึ้ น ปลายนิ้ ว หั ว แม เ ท า จะ ซอนใตนิ้วเทา เมื่อนิ้วเทาเอียงไปทําให แรงดึ ง ในเส น เอ็ น ต า งๆ ของนิ้ ว เท า ผิดแนวไป ก็จะเปนตัวเสริมทําใหผิดรูป เปนมากขึ้นเรื่อยๆ และมีการอักเสบของ ขอโคนนิ้วหัวแมเทา โรคนี้สามารถที่จะปองกันไดโดยที่ ไมสวมใสรองเทาที่มีลักษณะบีบตรงสวน หัวมาก รวมทั้งรองเทาสนสูง เพราะจะ ทําใหนิ้วเทามาเกยกัน แตถาในกรณีที่ ผูปวยมีอาการเทาเอียงนั้น ผูปวยมีความ
จําเปนที่ตองใสแผนรองรองเทา เพื่อที่ จะช ว ยปรั บ ระดั บ ของเท า ให เ ป น ปกติ และลดอาการอักเสบของนิ้วหัวแมเทา 3. ตาปลา โรคตาปลาเกิ ด จาก การที่ ผิ ว หนั ง ถู ก เสี ย ดสี ห รื อ ถู ก กดทั บ กับสิ่งตางๆ บอยๆ และ เปนเวลานาน ซึ่งอาจเกิดจากการกระทําของเราหรือ เกิ ด จากความผิ ด ปกติ ข องร า งกายเอง ก็ ไ ด ทํ า ให เ กิ ด ความด า นหนาขึ้ น ที่ บริเวณปมกระดูกนูน และบริเวณฝาเทา นิ้วเทา การรักษา เพื่อลดแรงเสียดสี จึง ควรเปลี่ยนไปใชรองเทาที่มีขนาดพอดี ไมคับหรือบีบแนนเกินไปและใชฟองนํ้า รองสวนที่เปนตาปลาหรือหนังหนาดาน ไวเวลาใสรองเทา หรือไปพบแพทยเพื่อ ใชใบมีดผาตัดผานผิวเนื้อรอยโรคที่ตาย แลวออกทีละนอย 4. หูด ลักษณะเปนไต แผนหนา แข็ง เปนปนใหญ มักพบบริเวณฝาเทา เกิดจากเชื้อไวรัสเขาสูผิวหนังที่มีบาดแผล วิ ธี ก ารรั ก ษาทํ า ได ห ลากหลายวิ ธี เช น ทายากลุ ม กรดซาลิ ซิ ลิ ก (ซึ่ ง อาจทํ า ให เกิ ด อาการแสบร อ น), จี้ ด ว ยไฟฟ า , จี้ ดวยเลเซอร หรือ ผาตัดออก 5. นํ้ากัดเทา โรคผิวหนังบริเวณ เท า ติ ด เชื้ อ รา โดยผิ ว หนั ง ส ว นเกิ ด โรค จะแห ง ตกสะเก็ ด แตกเป น ร อ ง บวม เจ็บ และคัน บางครั้งอาจขึ้นเปนตุมนํ้า
เชื้ อ ราชนิ ด นี้ จ ะเจริ ญ เติ บ โตได ดี ใ นที่ อับชื้น เปยกนํ้า เปยกเหงื่อ เชน การลุย นํ้าทวมขัง หรือใสรองเทาที่มีเชื้อราอยู ทั้งยังติดตอไดจากการใชสิ่งของรวมกัน รองเทา ถุงเทาที่ไมสะอาด ผู ที่ เ ป น โรคนํ้ า กั ด เท า ควรใส ย า แผลอยางนอยวันละ 2 ครั้ง (กอนใสยา ลางเทา ซอกนิ้วเทา และแผลใหสะอาด ดวยสบูออนโยน แลวเช็ด/ซับใหแหง) หรือกินยาและไปพบแพทยหากอาการ ไมดีขึ้น 6. นิ้ ว หั ว แม เ ท า เก ผู ที่ มี ค วาม ผิ ด ปกติ ข องกล า มเนื้ อ และเส น เอ็ น นิ้ ว เท า จะทํ า ให เ กิ ด การอั ก เสบและ ผิ ด รู ป โดยนิ้ ว หั ว แม เ ท า จะเกหรื อ บิ ด เข า สู นิ้ ว ชี้ บางครั้ ง นิ้ ว หั ว แม เ ท า เบี ย ด นิ้วเทาอื่นๆ ทําใหนิ้วเกยกัน นอกจากนี้ การมีนิ้วหัวแมเทาเกทําใหนิ้วหัวแมเทา ไมสามารถรับนํ้าหนักได ทําใหเจ็บบริเวณ ฝาเทาและมีหนังดานเกิดขึ้น ทั้งนี้ยังพบ วาโรคนิ้วหัวแมเทาเกยังมีสาเหตุมาจาก พันธุกรรมอีกดวย หากไมมีอาการรุนแรง สามารถ แกไขดวยการใสรองเทาที่เหมาะสม คือ หั ว รองเท า กว า ง ไม บี บ รั ด นิ้ ว เท า พื้ น รองเทานุม แตหากมีอาการปวด หรือ ขอผิดรูปมากควรเขารับการผาตัด 7. เล็บขบ คือ อาการที่เกิดจาก ปลายเล็ บ ของเราจิ ก หรื อ ทิ่ ม เข า ไปยั ง
ซอกเล็บบริเวณผิวหนังดานขางจนทําให เกิดการอักเสบ บวม แดง และเจ็บปวด ทรมานมาก สํ า หรั บ ผู ที่ ยั ง มี อ าการไม มาก เพียงแคปวดบวมแดงเล็กนอย และ ยังไมมีหนอง รักษาไดโดย แชเทาในนํ้า อุน เพื่อบรรเทาอาการปวด และคอยๆ ตัดเล็บสวนเกินที่ไมเจ็บออก เพื่อไมให มี สิ่ ง สกปรกค า งอยู รวมถึ ง หมั่ น รั ก ษา เทาใหแหงและสะอาด งดสวมรองเทา สนสูงหรือรองเทาที่คับเกินไป 8. เทาแบน เปนปญหาของเทา ซึ่งอาจเปนภาวะปกติหรือผิดปกติ และ อาจแสดงหรื อ ไม แ สดงอาการใดๆ ลักษณะของภาวะเทาแบน พบในผูที่มี อุงเทาเพียงเล็กนอยหรือไมมีเลย สาเหตุ สวนหนึ่งมาจากพันธุกรรม หรือเกิดขึ้น ไดภายหลัง อาจไดรับอุบัติเหตุ หรือเทา ที่ เ ป น โรคข อ อั ก เสบรูม าตอยด รวมถึ ง คนที่ นํ้ า หนั ก เกิ น มาตรฐาน ทํ า ให ป วด เมื่อยเทา ขอเทาพลิกบอย วิธีแกไขงายๆ ก็คือเลือกรองเทา ที่มีสวนโคงนูนรับกับฝาเทา เชน รองเทา สุขภาพ โดยการใสรองเทาที่มีแผนชวย เสริ ม อุ ง เท า เป น ประจํ า จะช ว ยแก ไข ภาวะเท า แบนได อ ย า งมี ป ระสิ ท ธิ ภ าพ มากยิ่งขึ้น รวมถึงดูแลสุขภาพเทาดวย การนวดหรื อ ออกกํ า ลั ง กายยื ด เส น ยื ด สาย เพื่ อ กระตุ น การไหลเวี ย นของ เลือด
ขอมูล : http://www.thaihealth.or.th/Content/34628 http://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=356 http://www.vejthani.com/web-thailand/Health-foot.php จดหมายขาว...วารสารสุขสาระ
7
วิธีดูแลสุขภาพเทาแบบงายๆ
1. หลังกลับจากทํางานและกอน เขานอนควรลางเทาดวยนํ้าสบูและนํ้า สะอาด แลวใชผาสะอาดซับใหแหงทุก ซอกทุกมุม 2. สํารวจเทาทุกวันวามีบาดแผล หรือไม โดยการสองกระจก 3. ทาครี ม หรื อ โลชั่ น ให ทั่ ว ทั้ ง หลังเทาและฝาเทา เพื่อความชุมชื้นโดย หลีกเลี่ยงบริเวณซอกนิ้วเทา 4. สวมถุงเทาทีเ่ ปนผาฝายระบาย ความรอนไดดี และควรเปลี่ยนทุกวัน 5. เลือกใสรองเทาหุมสนใหพอดี กับเทา ไมคับไมหลวมเกินไป 6. หลีกเลี่ยงการแชเทาในนํ้าอุน หรื อ นํ้ า ร อ นโดยเด็ ด ขาด เพราะอาจ ทําใหเทาพุพองได 7. การตัดเล็บ ควรตัดในแนวตรง และตะไบบริ เวณมุ ม เล็ บ เพื่ อ ป อ งกั น การเกิ ดเล็ บขบหรื อใหผู เชี่ยวชาญเปน ผูตัดเล็บให 8. หมั่นนวดบริเวณเทาอยูเสมอ เพื่อใหเลือดไหลเวียนดีขึ้น 9. หลี ก เลี่ ย งการสู บ บุ ห รี่ เ พื่ อ ปองกันเสนเลือดตีบ 10. หากพบวามีแผลที่เทาควรรีบ ไปพบแพทยเพื่อรักษาทันที ไมควรนิ่ง นอนใจ
8
มูลนิธิสรางสุขมุสลิมไทย (สสม.)
11. ผู ป ว ยเป น โรคเบาหวานเป น ผูปวยที่มีอาการทางเทาโดยเฉพาะ โดย เฉพาะอาการเทาบวมเปนแผล การดูแล รักษาความสะอาดเทาใหแหงสนิทหรือ การดูแลรักษาความสะอาดไมใหติดเชื้อ อะไรงายๆ จะถือวาเปนอีกหนึ่งที่จะชวย ใหหายจากโรคเบาหวานไดอีกดวย 12. ควรหมั่นขัดผิวเทาโดยเฉพาะ อย า งยิ่ ง ส น เท า ด ว ยแปรงขนนุ ม อย า ง สมํ่าเสมอเพื่อขัดเอาผิวเซลลเกาที่ตาย แล ว ออกไป ผิ ว เท า จะได มี สุ ข ภาพผิ ว ที่ดี การออกกําลังเพื่อบริหารขอเทา และกล า มเนื้ อ เท า โดยมี วั ต ถุ ป ระสงค เพื่อคงความแข็งแรงของกลามเนื้อและ กระตุนการไหลเวียนเลือดมาสูปลายเทา ทาบริหารทําไดโดย 1. กระดกขอเทาขึ้นและลงสลับ กันชาๆ 2. หมุนขอเทา โดยหมุนเขาและ หมุนออกชาๆ 3. ใชนิ้วเทาจิกผาที่วางอยูบนพื้น เพื่อบริหารกลามเนื้อเล็กๆในเทา 4. นั่ ง ยกขาขึ้ น เหยี ย ดเข า ตึ ง แล ว กระดกข อ เท า ขึ้ น ค า งไว นั บ 1-6 ในใจ ถือเปน 1 ครั้ง
สาระสุขภาพ ฮากีม
“การเดิ น ” คื อ การออก
กําลังกายที่งาย สะดวก และปลอดภัย ที่ สุ ด แถมมี ป ระโยชน ต อ สุ ข ภาพอี ก มากมาย ทั้งการเสริมสรางความแข็ง แรงใหกับกลามเนื้อ โดยเฉพาะชวงขา ช ว ยให ร ะบบการทํ า งานของหั ว ใจ ดี ขึ้ น เผาผลาญพลั ง งานได ดี การ เดินระยะทาง 1.6 กิโลเมตร สามารถ เผาผลาญไขมันสวนเกินไดถึง 100 กิโลแคลอรี
การเดินออกกําลังกายควรกระทํา ใหเปนประจําสมํ่าเสมอ อยางนอยครั้ง ละ 30-45 นาที วันเวนวัน หรือสัปดาห ละ 3-5 วั น เวลาที่ คุ ณ ใช กั บ การเดิ น จะสามารถช ว ยเพิ่ ม ขี ด ความสุ ข และ สุ ข ภาพที่ ดี ไ ด ในเรื่ อ งของความเร็ ว และระยะทางในการเดิ น นั้ น ขึ้ น กั บ สภาพรางกายของแตละคน การเดินเร็ว หรื อ จ อ กกิ้ ง รวมไปถึ ง การเดิ น ขึ้ น ลง บั น ไดช ว ยเผาผลาญไขมั น ได ม ากกว า เมื่อเทียบกับการเดินปกติ การเดินเพื่อออกกําลังกายแมจะ งาย สะดวก และปลอดภัยก็ตาม แตก็ ไมเหมาะสําหรับผูที่มีปญหาขอเทาและ หั ว เข า เพราะการเดิ น มากๆ จะทํ า ให ข อ และเข า เจ็ บ ควรเปลี่ ย นเป น การ ออกกํ า ลั ง กายประเภทหรื อ ชนิ ด อื่ น เช น เดิ น ในนํ้ า ว า ยนํ้ า หรื อ รํ า มวยจี น เปนตน
ผูที่มีโรคประจําตัว เชน เบาหวาน ความดัน ควรออกกําลังกายดวยการเดิน ผูที่เปนโรคเบาหวาน มีนํ้าตาลในรางกาย มากกว า คนธรรมดา เนื่ อ งจากเซลล นํ า ไปใช ไ ด ไ ม ดี เมื่ อ ไมถู ก ใชก็ จ ะเหลือ นํ้าตาลในกระแสเลือด นักวิทยาศาสตร การกี ฬ าจะแนะนํ า คนไข ที่ เ ป น โรค เบาหวานใหเดินออกกําลังกายมากกวา การจอกกิ้ง เพราะจะทําใหเซลลไดรับ ฮอร โ มนต า งๆ สมบู ร ณ ขึ้ น นํ้ า ตาลใน เลื อ ดถู ก ใช ม ากขึ้ น ปริ ม าณนํ้ า ตาลใน เลือดตํ่าลง การเดิ น ออกกํ า ลั ง กาย ควรเริ่ ม ที่ทายืนกอน ปลอยตัวตามสบายหายใจ ปกติ ขณะเดิ นควรเงยหนามองตรงไป ใหไกลที่สุด เทคนิคการเดินที่ขอแนะนํา คื อ “ควรเดิ น เร็ ว ๆ ก า วเท า ถี่ ๆ แกว ง แขนแรงๆ” เพราะการเดิ น เร็ ว จะเป น การกระตุ น ร า งกาย โดยเฉพาะระบบ หั ว ใจและหลอดเลื อ ด ให ทํ า งานเพิ่ ม มากขึ้นกวาภาวะปกติในชีวิตประจําวัน เป น เสมื อ นการฝ ก ให หั ว ใจทํ า งานเพิ่ ม ขึ้ น นั่ น เอง และควรปล อ ยวางป ญ หา ความเครียดตางๆ ไวขางหลัง แต ก ารเดิ น หรื อ ทํ า งานในชี วิ ต ประจําวันนั้น ไมสามารถฝกระบบหัวใจ และหลอดเลือดใหทํางานเพิ่มขึ้นอยาง ตอเนื่องได จึงไมถือวาเปนการออกกําลัง กายที่ ส ามารถเพิ่ ม ความแข็ ง แรงของ รางกายไดอยางเต็มที่ อยางไรก็ตามการทํางานบานหรือ การเดิ น ในชี วิ ต การทํ า งานของเรานั้ น นั บ เป น กิ จ กรรมการออกแรงที่ ดี อ ย า ง หนึ่ง ดีกวาคนที่ไมทําอะไรเลย และก อ นออกกํ า ลั ง กายอย า ลื ม อบอุนรางกายกอนเดิน โดยการยืดเสน ยืดสาย เพื่อใหรางกายรับรูถึงการเตรียม พรอมของการทํางานของระบบตางๆ ที่ จะเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังชวยลดการบาดเจ็บ
ของระบบกลามเนื้อและขอตอ เชน การ เกิดขอเทาแพลง เอ็นอักเสบ กลามเนื้อ ยอก หรือปวดขอ สิ่ ง สํ า คั ญ ของการออกกํ า ลั ง กาย ดวยการเดินอีกอยางหนึ่งก็คือ “เดินแลว ต อ งรู สึ ก เหนื่ อ ย” ไม ใช เ ดิ น นวยนาด สวนในผูที่มีสุขภาพคอนขางดี เดินอยาง เดี ย วอาจไม รู สึ ก เหนื่ อ ย แนะนํ า ให ใช การเดินสลับวิ่ง เพื่อชวยเพิ่มการทํางาน ของหัวใจก็ได อยางเชน เดิน 50 กาว สลับกับวิ่ง 50 กาว ประมาณ 5 ชุด กอน ในตอนแรก แล ว ค อ ยๆ เพิ่ ม จนได 10 ชุด/วัน หลังจากนั้นก็ลดจํานวนกาวเดิน ลงเปน 40 กาวสลับกับวิ่ง 50 กาว จน
ครบ 10 ชุด/วันเชนกัน ทําเชนนี้เรื่อย ไปจนเหลือการเดินเปน 10 กาวสลับกับ วิ่ง 50 กาว แลวจึงเพิ่มกาววิ่ง เปนตน นอกจากความรู สึ ก เหนื่ อ ยแล ว “ความต อ เนื่ อ งของการเดิ น ” ก็ เ ป น สิ่งสําคัญ ไมใชเดินๆ หยุดๆ สําหรับผูที่ ไมคอยมีเวลามากนัก อาจแบงการเดิน ออกเปน 2 ชวงเวลา ชวงละประมาณ 10-15 นาที และในผู ที่ ไ ม เ คยออก กํ า ลั ง กายมาก อ น ควรเริ่ ม จากน อ ยๆ กอน เชน เดิน 5 นาที และคอยๆ เพิ่ม เวลาให ม ากขึ้ น ค อ ยเป น ค อ ยไป อย า หักโหม เพราะอาจทําใหเกิดผลเสียได ถารางกายไมพรอมออกกําลังกาย
ขอมูล : http://www.thaihealth.or.th/Content/34429 https://www.doctor.or.th/article/detail/4471 http://www.thaihealth.or.th/Content/11697 http://health.kapook.com/view76000.html จดหมายขาว...วารสารสุขสาระ
9
แมและเด็ก
ขอดีของ การเดิน
1. ช ว ยให ก ารทํ า งานของ
หัวใจและปอดดีขึ้น ซึ่งอวัยวะทั้ง 2 นี้มี ความสําคัญตอเซลลตางๆ ทุกสวนของ รางกายจําเปนตองไดรับเลือดที่นําเอา ออกซิเจนมาหลอเลี้ยงตลอดเวลา ซึ่งใน ปจจุบันนี้ยังไมมียาหรือสารอาหารใด ที่ จะทําใหหัวใจและปอดมีความแข็งแรง ทนทานได เทาการออกกําลังกาย
2. ชวยเสริมสรางความแข็ง
แรงของกระดูกและกลามเนื้อ โดยเฉพาะ ในวัยสูงอายุที่มักมีปญหากระดูกบาง
3. ชวยเพิ่มความยืดหยุนของ ขอตอตางๆ ในรางกาย 4. ในผูท มี่ นี าํ้ หนักตัวมาก อาจ
ใชการเดินชวยลดนํ้าหนักตัวได โดยเดิน วันละประมาณ 1 ชั่วโมง จะทําใหการ เผาผลาญพลังงานในรางกายเพิ่มขึ้น นํ้า หนั ก ตั ว จึ ง ลดลง ก็ จ ะเป น ผลพลอยได เพิ่มเติม
5. ลดความเสี่ยงในการเกิด
โรคตางๆ เชน ในผูปวยเบาหวานที่มีการ ทํางานของฮอรโมนอินซูลินลดลงนั้น พบ วาการออกกําลังกายอยางสมํ่าเสมอจะ
10
มูลนิธิสรางสุขมุสลิมไทย (สสม.)
นูรีน
ช ว ยให อิ น ซู ลิ น ทํ า งานดี ขึ้ น ร า งกาย สามารถนํานํ้าตาลไปใชงานไดดีขึ้น อัน หมายถึงสามารถควบคุมเบาหวานไดดี ขึ้นนั่นเอง
6. เพิ่มความสามารถในการ คิด การจําดีขึ้น 7. ลดปญหาการนอนไมหลับ
การเดิ น ออกกํ า ลั ง กายตอนเย็ น แดด ออนๆ จะชวยใหการนอนหลับดียิ่งขึ้น
8. ชวยใหคลายเครียด รูสึก
สบายหลังเดินออกกําลังกาย เนื่องจาก การออกกํ า ลั ง กายจะกระตุ น ให ส มอง เกิดการหลั่งสารเอ็นโดฟนสขึ้น ซึ่งเปน สารเคมีธรรมชาติที่มีฤทธิ์บรรเทาอาการ ปวดและทําใหรูสึกสุขสบาย
ปจจุบันปญหาการเจริญเติบโตที่ พบบอยในเด็กมีทั้งภาวะตัวเตี้ย มีการ เจริ ญ เติ บ โตช า โดยพบความชุ ก ของ ภาวะโรคเตี้ยอยูที่รอยละ 1-5 หรือใน เด็ ก 100 คน จะพบเด็ ก ที่ ตั ว เตี้ ย กว า เกณฑอยู 1-5 คน ทั้งนี้ภาวะเด็กเตี้ยที่ เปนปญหาดานการเติบโต หมายถึงเด็ก ที่ เจริ ญ เติ บ โตช า กว า อั ต ราปกติ ทั้ ง นํ้ า หนั ก และส ว นสู ง โดยสํ า หรั บ เด็ ก อายุ นอยกวา 5 ป จะยึดตามเกณฑความสูง ที่ ต อ งไม ตํ่ า กว า เส น ล า งสุ ด ของกราฟ มาตรฐานการเจริญเติบโตขององคการ อนามัยโลก
9. รางกายหลั่งฮอรโมนเพศ
มากขึ้ น ความรู สึ ก ทางเพศจึ ง ดี ขึ้ น ทั้ ง ชายและหญิง
10. จิตใจสดชืน่ เบิกบาน ปลอด
โปร ง แจ ม ใส กระชุ ม กระชวย รู สึ ก มี ความสุข
11. การเดินสามารถปองกัน
โรคมะเร็งลําไสไดถึง 31% ในผูหญิง สําหรับรองเทาที่ ใช เดิ น ออกกํ า ลั ง กายนั้ น ก็ มี สวนในการปองกันการบาดเจ็บ ไดไมนอยจึงควรเลือกรองเทา ที่ มี พื้ น กั น แรงกระแทกและ รองรับอยางมั่นคง
ในชวงเขาวัยหนุมสาว เด็กหญิง มี อั ต ราการเจริ ญ เติ บ โตน อ ยกว า 7-9 ซม./ป แต โ ดยเฉลี่ ย 5 ซม./ป และ เด็ ก ชายเติ บ โตน อ ยกว า 8-10 ซม./ป ผู ป กครองควรสั ง เกตการเติ บ โตอย า ง ใกลชิด การจะสั ง เกตว า เด็ ก ตั ว เตี้ ย หรื อ ไม นั้ น ต อ งพิ จ ารณาจากหลายป จ จั ย รวมกัน โดยเฉพาะความสูงและลักษณะ รูปรางของพอแม บวกกับการติดตามดู กราฟการเจริญเติบโตของเด็ก วามีการ เพิ่ ม อยู ใ นเกณฑ ม าตรฐานของวั ย หรื อ ไม ไมใชประเมินจากการเทียบสวนสูง กั บ เด็ ก ๆ ในวั ย เดี ย วกั น ซึ่ ง ถ า หากพ อ แมเปนคนรูปรางเตี้ยอยูแลว เด็กก็มีแนว โนมที่เปนคนตัวเตี้ย แตหากเด็กที่เคยมี
ประวัติการเจริญเติบโตปกติดี แตสวน สูงเกิดการหยุดชะงักหรือเพิ่มในอัตราที่ ตํ่ากวาเกณฑ โดยที่มีภาวะโภชนาการ ปกติ ดี นั่ น อาจมาจากความผิ ด ปกติ ของฮอร โ มนการเจริ ญ เติ บ โตภายใน รางกายเด็ก
ซึ่งหากผูปกครองพบวาความสูง ตํ่ากวาเกณฑมาตรฐานดังกลาว ควรพา เด็ ก ไปพบกุ ม ารแพทย เ พื่ อ ตรวจหา สาเหตุที่ทํ าใหการเจริญเติบโตผิดปกติ เพื่อทําการรักษาแกไขใหเด็กตัวสูงขึ้น ป จ จั ย สํ า คั ญ ที่ ส ง ผลต อ ความสู ง ประกอบดวย 1. ยีนหรือพันธุกรรม ยีนทีค่ วบคุม ความสู งมีหลายยีน และเด็ กที่มีพ อแม สูงหรือรวมกับปูยาตายายสูง ลูกมักจะ สู ง ในทางตรงข า มเด็ ก ที่ มี พ อ แม ปู ย า ตายายเตี้ ย เด็ ก คนนั้ น ก็ มั ก จะเตี้ ย แต
เนื่องจากลูกแตละคนไดรับถายทอดยีน จากพอแมไมเหมือนกัน ดังนั้น พอแม เดียวกัน มีลูกหลายคน ลูกก็อาจสูงไม เทากัน 2. ฮอร โ มนที่ ก ระตุ น การเจริ ญ เติ บ โตในวั ย เด็ ก คื อ ฮอร โ มนไทรอยด และฮอรโมนเจริญเติบโต (Growth Hormone) ซึ่ ง ทํ า ให มี ก ารขยายตั ว ของ กระดูกเปนผลใหกระดูกยาวขึ้น 3. ฮอร โ มนเพศ ในช ว งเข า วั ย หนุมสาวเด็กจะมีการเจริญเติบโตเร็วขึ้น เนื่องจากฮอรโมนเพศกระตุ นการหลั่ ง เพิ่ ม ขึ้ น ของฮอร โ มนการเจริ ญ เติ บ โต และทําใหมีการพัฒนาของกระดูกและ เมื่ อ เข า วั ย หนุ ม สาวสั ก ระยะหนึ่ ง แล ว ฮอร โ มนเพศจะทํ า ให ก ระดู ก ป ด และ หยุดการเจริญเติบโต
4. อาหารการกิ น สารอาหารมี สวนสําคัญมากในการเจริญเติบโตของ รางกายซึ่งรวมถึงกระดูก การกินอาหาร ครบหมู ช ว ยให ไ ด รั บ พลั ง งาน โปรตี น ไขมัน และแรธาตุตางๆ เชน แคลเซียม ฟอสฟอรั ส สั ง กะสี และอื่ น ๆ มี ผ ลต อ การเจริญเติบโต การขาดพลังงาน โปรตีน และแรธาตุตางๆ ทําใหการเจริญเติบโต ชา สารอาหารหลักที่มีผลตอการสราง เสริมกระดูก เชน แคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินดี มีความสําคัญตอความสูง เชนกัน 5. การออกกําลังกายที่เหมาะสม จะช ว ยกระตุ น การหลั่ ง ฮอร โ มนการ เจริ ญ เติ บ โต แต ก ารออกกํ า ลั ง กายใน เด็ ก ที่ ม ากและหนั ก เกิ น ไปจะกดการ เจริ ญ เติ บ โตทํ า ให ตั ว เล็ ก แกร็ น โดย จดหมายขาว...วารสารสุขสาระ
11
เรื1องนารูกับหมอกษิดิษ นายแพทยกษิดิษ ศรีสงา
โรคคุชชิง หลายๆ คน คงจะไม เคยได ยิ น ชื่ อ หรื อ ไม รู จั ก เลยก็ เ ป น ได แตอยางไรก็ตาม มันกลับเปนโรคที่เรา พบบอยไดอยางมากไมนาเชื่อทีเดียว
เฉพาะเด็กที่ผอมมากเพราะกินนอยแต ออกกําลังมากเกินไป การออกกําลังกาย ชนิ ด ลงนํ้ า หนั ก เช น การกระโดด บาสเก็ ต บอล ช ว ยให ม วลกระดู ก เพิ่ ม ขึ้ น แต ไ ม มี ข อ มู ล ยื น ยั น ว า จะทํ า ให เด็ ก ตั ว สู ง มากกว า การออกกํ า ลั ง กาย ชนิดอื่น แตมีขอเสียในเด็กอวนคือจะมี แรงกดตอหัวเขาดานในมาก ทําใหเกิด อาการขาโกง 6. การนอนหลับมีความเกี่ยวของ กับการหลั่งฮอรโมนการเจริญเติบโต จึง แนะนําใหเด็กนอนหลับสนิทใหเพียงพอ เพื่อการเจริญเติบโตที่ดี เด็กที่ขาดฮอรโมนเจริญเติบโตจะ มีอาการเติบโตชา อัตราการเจริญเติบโต นอยไปกวาคาปกติดังกลาวขางตน เสียง เล็ ก แหลม รู ป ร า งเตี้ ย แตจํ้ า มํ่า ในเด็ก ผู ช ายอาจพบว า มี อ วั ย วะเพศเล็ ก กว า เด็ ก ทั่ ว ๆ ไป บางรายที่ ข าดฮอร โ มน เจริญเติบโตชนิดรุนแรงจะพบวามีโอกาส มีนํ้าตาลในเลือดตํ่า และอาจเปนเหตุให เด็ ก ชั ก จากภาวะนํ้ า ตาลในเลื อ ดตํ่ า ไดอีกดวย เด็กที่ขาดไทรอยดฮอรโมน นอกจากจะทําใหเด็กเตี้ยแลวในบางราย
จะมีพัฒนาการชารวมดวย นอกจากนั้น เด็ ก ที่ ข าดฮอร โ มนเพศ เนื่ อ งมาจาก ความผิดปกติของรังไขในเด็กหญิง หรือ ความผิ ด ปกติ ข องอั ณ ฑะในเด็ ก ชายก็ เปนเหตุใหเด็กเจริญเติบโตชาในระยะ เขาสูวัยรุนได เด็ ก เตี้ ย อาจจะมี เ หตุ จ ากโรค บางชนิดที่มีฮอรโมนมากเกินไป ไดแก โรคของต อ มหมวกไตซึ่ ง สร า งฮอร โ มน สเตียรอยดมากเกินไปเปนสาเหตุทําให เด็ ก เตี้ ย แต อ ว นได สํ า หรั บ เด็ ก ที่ ไ ด รั บ ยาที่มีสเตี ยรอยด เปนสวนประกอบจะ ตองใชดวยความระมัดระวังเพราะการ ไดรับยาที่มีสเตียรอยดมากเกินไปจะเปน เหตุใหเด็กเตี้ยได พอแมควรดูแลใสใจอยางใกลชิด เพื่ อ ให ท ราบถึ ง ภาวะผิ ด ปกติ ที่ เ กิ ด ได แตเนิ่นๆ จะไดปรึกษาแพทยและหาทาง ดู แ ลรั ก ษาได ทั น ท ว งที หากพาเด็ ก ที่ สงสั ย ว า เตี้ ย จากการขาดฮอร โ มนการ เจริ ญ เติ บ โตไปพบแพทย ก อ นที่ เ ด็ ก จะ เขาสูวัยรุน การรักษาจะไดผลดีกวารอ เมื่อเด็กโตแลว
ขอมูล : http://www.rakluke.com/article/5/19/401 http://www.thaihealth.or.th/Content/34624-
12
มูลนิธิสรางสุขมุสลิมไทย (สสม.)
ความจริ ง แล ว ไม ค วรเรี ย กว า “โรคคุ ช ชิ ง ” แต น า จะเรี ย กว า “กลุ ม อาการคุชชิง” มากกวา เพราะมันเปน กลุ ม อาการที่ แ สดงถึ ง ความผิ ด ปกติ ของร า งกายเราที่ เ กิ ด จากมี ฮ อร โ มน สเตียรอยด หรือ คอรติโซนมากเกินไป ซึ่งอาจจะเกิดไดจากหลายๆ โรค หลายๆ สาเหตุ
ในร า งกายเรานั้ น มี ฮ อร โ มน มหั ศ จรรย อ ยู ช นิ ด หนึ่ ง คื อ คอร ติ โซน หรือ สเตียรอยด มันมีหนาที่ชวยควบคุม ระดั บ ความดั น โลหิ ต ไม ใ ห ตํ่ า เกิ น ไป ควบคุมการทํางานของหัวใจและหลอด เลือด ควบคุมกลไกการเผาผลาญนํ้าตาล โปรตีน และไขมันตางๆ ในรางกาย ชวย ลดการอั ก เสบ ถ า ขาดฮอร โ มนชนิ ด นี้ ไป เราก็ จ ะไม ส ามารถดํ า รงชี วิ ต อยู ไ ด ฮอรโมนชนิดนี้สรางขึ้นที่ตอมหมวกไต ที่อยูบนไตทั้งสองขาง ซึ่งจะหลั่งฮอรโมน คอรติโซนออกมา กลไกการหลั่งฮอรโมน นี้ มีลําดับขั้นตอนที่ซับซอน คลายๆ กับ การสั่งงานราชการเลยทีเดียว และเปน สวนสนุก ยi-city กัวลาลั การสั่งการโดยอวั วะเหล านีม้ เปอร ไมจําเปน
Cushing Syndrome โรคหรือกลุมอาการ ตองมีสายเชื่อมตอกัน แตโดยการสั่งการ ผานฮอรโมนชื่อตางๆ กัน คลายๆ กับ ระบบ Wireless ในสมัยนี้ โดยเริ่มจากเมื่อระดับคอรติโซน ในเลื อ ดตํ่ า จะไปกระตุ น ต อ มไฮโปทาลามั ส ให ป ล อ ยฮอร โ มนชื่ อ corticotropin-releasing hormone (CRH) ฮอร โ มนนี้ จ ะวิ่ ง ไปตามกระแสเลื อ ด ไปสู ต อ มใต ส มอง เมื่ อ ต อ มใต ส มอง ได รั บ คํ า สั่ ง แล ว ก็ จ ะออกคํ า สั่ ง ในรู ป ฮอร โ มนที่ ชื่ อ ACTH (adrenocorticotropin hormone) ต อ ไปยั ง ต อ ม หมวกไตที่ อ ยู บ นไตทั้ ง สองข า ง ต อ ม หมวกไตก็จะตอบสนองตอคําสั่งโดยการ หลั่งฮอรโมนคอรติโซนออกมาในกระแส
เลื อ ด เมื่ อ ในกระแสเลื อ ดมี ค อร ติ โซน เพี ย งพอก็ จ ะหยุ ด กระตุ น ต อ มไฮโปทาลามัส ตอมไฮโปทาลามัสนั้นก็จะหยุด การหลั่ง CRH ออกมา ดังนั้นขบวนการ หลั่ ง คอร ติ โซนจึ ง สิ้ น สุ ด ลง แต เ มื่ อ ใด
คุชชิง
ระดั บ คอร ติ โ ซนในเลื อ ดตํ่ า อี ก ก็ จ ะ เกิดการกระตุนใหม ไมมีที่สิ้นสุด และ นี่ คื อ ขบวนการที่ เรี ย กว า feedback mechanism ที่วงการบริหารสวนใหญ เลียนแบบนําไปใชในปจจุบัน แตเมื่อใด ก็ ต ามเกิ ด ป ญ หาขึ้ น ในขบวนการผลิ ต ดั ง กล า ว ทํ า ให ไ ม มี ก ารฟ ง คํ า สั่ ง กั น ต า งฝ า ยต า งทํ า กั น เองโดยไม ส นใจกั น feedback mechanism ก็ ไ ม เ กิ ด ขึ้ น ระดับฮอรโมนในเลือดจึงผิดปกติไป คือ มากกว า ปกติ เช น เกิ ด เนื้ อ งอกที่ ต อ ม หมวกไต หรือ ตอมใตสมองเปนตน เมื่อ สารสเตียรอยดในเลือดสูงขึ้นเปนเวลา นานๆ คนๆ นั้นก็จะกลายเปนโรคคุชชิง ไปดวยประการฉะนี้ ไม ใช เ พี ย ง ร า งกายเท า นั้ น ที่ สรางฮอรโมนเหลา นี้ ขึ้ น มาได เราก็ สามารถสรางสเตียรอยด ขึ้ น มาเลี ย น แบบสเตียรอยดใน ร า งกายได เช น กั น ทางการแพทย เรา นํ า เอาสเตี ย รอยด มาใชหลายอยางใน รู ป ของยาที่ ชื่ อ ว า เพรดนิ โซโลน หรื อ เดกซาเมทาโซน เช น นํ า มารั ก ษาโรค ภู มิ แ พ หอบหื ด หรื อ โรคข อ อั ก เสบ รูมาตอยด นํามาใชกดภูมิคุมกันในผูปวย ที่เปลี่ยนอวัยวะ นอกจากนี้ ยังมีการใช
อยางผิดๆ โดยนํามาสรางกลามเนื้อใน พวกนั ก กี ฬ า หรื อ นํ า มาเป น ยาเจริ ญ อาหาร แก ป วดข อ ปวดเข า ในรู ป ยา ลูกกลอนหรือสมุนไพรเปนตน ซึ่งจะให ผลดี ม ากในระยะสั้ น เพราะทํ า ให ก าร อักเสบหายหมด ผูใชก็จะคิดวา เปนยา วิ เ ศษ แต เ มื่ อ ใช ไ ปนานๆ จะเกิ ด การ เปลี่ ย นแปลงในร า งกายขึ้ น การ เปลี่ยนแปลงเหลานี้คืออาการที่เรียกวา “คุชชิง” ที่สําคัญๆ ไดแก 1. หนาบวมกลมเหมือนดวงจันทร หรือ moon face 2. ตัวอวนแตแขนขาลีบ 3. มีไขมันเปนกอนที่ตนคอ คลาย หนอกของวัว หรือ buffalo hump 4. หน า ท อ งและตามผิ ว หนั ง เปนลายแตกคลายคนคลอดลูก 5. ความดันสูง เปนเบาหวาน 6. เปนแผลในกระเพาะอาหาร
จดหมายขาว...วารสารสุขสาระ
13
สาระนารู ราไว
7. ภูมิคุมกันตํ่า ออนแอ ติดเชื้อ ไดงาย 8. เปนแผลงายหายชา 9. มั ก เกิ ด ในเพศหญิ ง มากกว า เพศชาย อายุในชวง 20-50 ป 10. มี ข นขึ้ น ตามใบหน า หน า อก เหมือนผูหญิงมีหนวด ถ า ไม รั ก ษามั ก จะเป น มากขึ้ น และเสี ย ชี วิ ต จากการติ ด เชื้ อ หรื อ หั ว ใจ ล ม เหลวในที่ สุ ด เมื่ อ แพทย ไ ด พ บกั บ ผู ป ว ยที่ มี ลั ก ษณะต อ งสงสั ย ว า จะเป น โรคคุชชิง แพทยก็จะทําการเจาะตรวจ ระดับฮอรโมนตางๆ ที่กลาวมาแลวใน รางกาย รวมทั้งการทํา เอ็มอารไอ (MRI) สแกนที่ ส มอง และในท อ งเพื่ อ ดู ต อ ม หมวกไต แพทยก็จะสามารถบอกไดวา สาเหตุเกิดจากสวนใด และใหการรักษา ไดอยางถูกตอง ถาเกิดจากการกินยาสเตียรอยด มากเกินก็จะตองคอยๆ ลดขนาดของยา จนถึงขนาดที่นอยที่สุดที่จําเปนหรืออาจ ให กิ น ยาแบบวั น เว น วั น เพื่ อ ช ว ยลดผล ขางเคียงที่เกิดขึ้น ถ า เป น เนื้ อ งอกก็ ต อ งพยายาม ตัดออก เชน เนื้องอกของตอมใตสมอง ก็สามารถรักษาโดยการผาตัดกอนเนื้อ งอกออก โดยสอดกลองเขาไปทางรูจมูก เพื่อไปตัดออก ไดผลดีมากกวารอยละ 80 หรืออาจพิจารณารักษาโดยการฉาย แสง หรือใชยารวมดวยก็ได ถารักษาได ทันทวงที ผูปวยก็จะมีอาการดีขึ้น และ กลับกลายเปนคนปกติไดในที่สุด แตอาจ จะเหลือรองรอยแผลเปนไวบางตามตัว ดังนั้น ถาหากผูใดรูสึกวาตัวเอง มี อ าการของโรคคุ ช ชิ ง และใช ย า ลู ก กลอน สมุ น ไพรอยู ก็ ต อ งรี บ ไปพบ แพทยเพื่อรักษาใหถูกตองกอนที่จะสาย เกินไปครับ วัสลาม พิมพครั้งแรก สิงหาคม 2554 14
มูลนิธิสรางสุขมุสลิมไทย (สสม.)
ยาดม
ป จ จุ บั น กํ า ลั ง เป น ที่ นิ ย มในท อ งตลาด โดยในอดี ต ผูใชสวนใหญจะเปนผูสูงอายุเลยวัยกลางคนขึ้นไป อยางไรก็ตามยาดม สมัยใหมมีการปรับปรุง ออกแบบใหมีความทันสมัย ขนาดกะทัดรัดเหมาะมือ เพื่ อ ให มี ค วามทั น สมั ย เป น ที่ เ ตะตาของคนยุ ค ใหม วั ย ทํ า งานมากขึ้ น เนื่ อ งจากคนยุ ค ใหม มั ก มี กิ จ กรรมและการผ อ นคลายหลั ง การทํ า งาน ในเวลาที่คอนขางจํากัด จึงมักผอนคลายดวยกลิ่นบําบัด ยาดมจึงเปน หนึ่งทางเลือกที่นําเสนอ ทําใหเกิดคําถามวา ยาดมมีอันตรายหรือไม
ÂÒ´Á
-¾Ô Á àʹ’
ภัยเงียบใกลตัว! ยาดม ส ว นใหญ ป ระกอบด ว ย เมนทอล การบู ร พิ ม เสน นํ้ า มั น หอม ระเหยและอื่ น ๆ เช น นํ้ า มั น สะระแหน นํ้ า มั น เขี ย ว นํ้ า มั น กานพลู หรื อ นํ้ า มั น ยู ค าลิ ป ตั ส และยั ง มี นํ้ า มั น ระเหยยาก ชวยในการละลาย เชน นํ้ามันงา นํ้ามัน แร หรืออาจมีสารสกัดจากสมุนไพรบาง องคประกอบหลักของเมนทอลหรือเรียก วาเกล็ดสะระแหน การบูรและพิมเสน รวมถึงนํ้ามันหอมระเหยเหลานี้จะทําให เกิดความรูสึกเย็น ซา ในโพรงจมูก รูสึก สดชื่น ตื่นตัวไดบาง แตการสูดดมสาร
เหลานี้บอยๆ อาจทําใหเยื่อเมือกบุทาง เดินจมูก ที่สัมผัสกับกลิ่นที่เขมขน เกิด การระคายเคืองได บางรายอาจรายแรง ถึ ง ขั้ น ปอดอั ก เสบจากการสู ด ดมสาร เมนทอลที่มากเกิน “การบูร” มีลักษณะเปนเกล็ดมัน วาว สีขาว มีกลิ่นหอมเย็นฉุน เดิมสกัด จากต น การบู ร แต ป จ จุ บั น เป น สาร สังเคราะห เนื่องจากทําไดงายและราคา ถูก การบูรถูกดูดซึมทางผิวหนังไดดี และ รูสึกเย็นเมื่อสัมผัสกับผิวหนัง มีฤทธิ์เปน ยาชาและตานจุลินทรียอยางออนๆ ใช
ทาเฉพาะที่แกเคล็ดบวม ขัดยอก แพลง แกพิษแมลงสัตวกัดตอย และโรคผิวหนัง นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์กระตุนระบบประสาท ส ว นกลาง อาจเกิ ด อั น ตรายจากการ สู ด ดม เนื่ อ งจากระคายเคื อ งทางเดิ น หายใจ เคยมีรายงานการชักในเด็กทารก เมื่ อ กิ น โดยบั ง เอิ ญ มี ก ารนํ า การบู ร มา ใสในรถยนต เพื่อปรับอากาศ ทําใหหอม สดชื่น พบวาการบูรเปนสารระเหิดได เมื่อใสในรถยนตที่เปดเครื่องปรับอากาศ ตลอดเวลา การบู รจะระเหิดไปเกาะที่ ชองแอร และหากจอดรถยนตทิ้ง ไว ใ นที่ อ ากาศร อ น อั ต ราการ ระเหิดก็จะเร็วยิ่งขึ้น ทําให รู สึ ก ว า การบู ร ลดจํ า นวน ลง หากมี ก ารใส ก ารบู ร เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยไมได เปดประตู หรือหนาตาง ทิ้ ง ไว ใ ห ร ะเหิ ด ออกมา ดานนอก ความเขมขนของ กลิ่ น การบู ร เพิ่ ม ขึ้ น และ ทํ า ให เ ป น อั น ตรายต อ สุ ข ภาพ โดยเฉพาะปอดและตับได “เมนทอลหรือเกล็ดสะระแหน” มีลักษณะเปนผลึกสีขาว มีกลิ่นหอมเย็น มี อ ยู ใ นนํ้ า มั น หอมระเหยที่ ไ ด จ ากใบ มิ้ น ต หรื อ ที่ เรี ย กว า ใบสะระแหน ฝ รั่ ง
มีประโยชนในการขับลม มักใชแตงกลิ่น และรสยา เช น ยาเคลื อ บกระเพาะ อาหาร มี ฤ ทธิ์ เ ป น ยาชาเฉพาะที่ อ ย า ง ออนๆ ลดการบวมของหลอดเลือดที่จมูก และลดอาการปวด สารนี้ เ มื่ อ สั ม ผั ส กั บ ผิ ว หนั ง ทํ า ให รู สึ ก เย็ น แต ใ นความ เข ม ข น สู ง และใช ติ ด ต อ กั น สารนี้ อ าจ ทํ า ให เ กิ ด อาการระคายเคื อ งบริ เ วณ ทางเดินหายใจ เมื่อสูดดม และอาจทําให เกิดปอดอักเสบ “พิ ม เสน” มี ลั ก ษณะเป น เกล็ ด เล็ ก ๆ แบนๆ สี ข าวขุ น หรื อ แดงเรื่ อ ๆ กลิ่ น หอมเย็ น พิ ม เสนบริ สุ ท ธิ์ รู ป ร า ง เปนหกเหลี่ยม ไดจากการนําการบูรมา หุ ง กั บ ยาอื่ น ๆ แต ป จ จุ บั น ได จ ากสาร สังเคราะหซึ่งจะมีรสเผ็ดกัดลิ้น ถาเปน ของแทจากธรรมชาติจะไมกัดลิ้นแตจะ ทําใหเย็นปากคอ ประโยชนทางยา ใช สู ด ดมแก ล มวิ ง เวี ย น ทาภายนอกแก เคล็ดขัดยอก แตอาจเปนอันตรายหาก สูดดม เนื่องจากสารนี้ทําใหเกิดอาการ ระคายเคื อ งบริ เ วณทางเดิ น หายใจ นอกจากนี้ ส ารนี้ ยั ง มี ฤ ทธิ์ ก ระตุ น และ สงบระบบประสาทสวนกลาง ยาดมที่ประกอบดวยสารหลัก 3 ตั ว นี้ เมื่ อ สู ด ดมจะทํ า ให โ ล ง จมู ก และ ทําใหเกิดความรูสึกเย็น ซา สดชื่น ตื่นตัว มีประโยชนในขณะที่เปนลมวิงเวียน หรือ คัดจมูก แตการใชยาดมที่ถูกตอง ควร สูดดมใกลๆ แตไมสัมผัสโดยตรง ไมควร ใหหลอดยาเขาไปคางไวในจมูก เพราะ สารทุ ก ตั ว อาจทํ า ให ร ะคายเคื อ งเมื่ อ สัมผัส ควรหลีกเลี่ยงการใชหลอดยาดม ที่สัมผัสจมูกผูอื่นแลว เพราะอาจทําให ติดเชื้อได ยาดมมีฤทธิ์เพียงลดอาการเพียง ชั่ ว คราว ถ า เป น มากควรไปพบแพทย ยาดมที่เปนลักษณะยานํ้า หรือ ยาขี้ผึ้ง
พิมเสน
ใหปายสําลีหรือผาเช็ดหนา หรือทาบางๆ ที่หนาอก แลวสูดไอระเหย หรืออาจทา ดานนอกของจมูก แตตองใชยาปริมาณ นอยๆ และหากมีโรคของโพรงจมูกอยู เช น โพรงจมู ก อั ก เสบจากการแพ ติ ด เชื้ อ ในโพรงจมู ก หรื อ ไซนั ส อั ก เสบ ควรหลี ก เลี่ ย งการใช เนื่ อ งจากอาการ แพซึ่งอาจมีเยื่อบุโพรงจมูกเสียหายอยู แล ว หากสู ด ยาดมที่ มี ค วามเข ม ข น มากๆ อาจระคายเคื อ งมากขึ้ น อนึ่ ง ยาสู ด ดมนี้ อ าจเกิ ด อั น ตรายกั บ เด็ ก ดังนั้นควรเก็บรักษาไวใหหางมือเด็ก ยาดมยังอาจทําใหเกิดการเสพติด ได เนื่องจากสารเคมีที่ใชผลิตบางชนิด เชน เมนทอล และการบูร มีผลตอระบบ ประสาทจึงอาจทําใหเกิดการเสพติดได แตการ “ติดยาดม” นั้นจะเปนรูปแบบ ที่ใชจนติดเปนนิสัย คลายคลึงกับการที่ เราชอบหมุนปากกา ตองกอดหมอนขาง ในเวลานอน โดยสังเกตวาหากวันไหน ที่เราลืมเอายาดมออกจากบาน ไมไดดม ยาดมตลอดวั น อย า งมากเราอาจรู สึ ก อยากสูดยาดมบาง แตเมื่อทํางานหรือ เรียนในระหวางวันเราก็ละเลยความคิด นั้นไปได ดั ง นั้ น การใช ย าสู ด ดมควรเพิ่ ม ความระมัดระวังใหเปนพิเศษ ไมควรสูด ดมตอกันเปนเวลานาน ไมควรสูดดมใน ระยะใกลจนเกินไป อยางเชนใสหลอด
ขอมูล : http://www.thaihealth.or.th/Content/34657 http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/th/knowledge/article/106 จดหมายขาว...วารสารสุขสาระ
15
คนแกขี้บน คนรีมน้ํา
ยาเข า ไปค า งไว ใ นจมู ก เพราะอาจจะ ทําใหเกิดการระคายเคืองได ควรหลีก เลี่ ย งการใช ย าดมร ว มกั บ ผู อื่ น เพื่ อ ปองกันการติดเชื้อที่เกิดขึ้นไดงาย และ ในกรณีที่ใชนํ้ายาดมทาถูควรหยดใสสําลี หรือผาเช็ดหนาแลวสูดไอระเหยหางๆ ไมค วรนํ า มาปา ยที่จ มูก โดยตรง ใหท า บริ เวณกลางอกเพื่ อ สู ด ไอระเหยแทน ทายที่สุดหากเกิดอาการผิดปกติควรเลิก ใช ทั น ที แ ละรี บ ปรึ ก ษาแพทย เ พื่ อ การ รักษาที่ถูกตอง
16
มูลนิธิสรางสุขมุสลิมไทย (สสม.)
ช ว งป ใ หม ไ ด ผ า นพ น ไปแล ว หลายคนไดมีโอกาสไปพักผอนหยอนใจ ซึ่งสวนใหญมักจะไปสัมผัสอากาศหนาว เย็ น ยั ง ภาคเหนื อ และภาคอี ส าน หรื อ ตามสถานที่ทองเที่ยวที่มีอากาศเย็น ซึ่ง ปหนึ่งจะมีไมกี่เดือน บางคนก็ถือโอกาส วั น หยุ ด ยาวกลั บ ไปบ า นเกิ ด เพื่ อ เยี่ ย ม เยี ย นพ อ แม ญาติ พี่ น อ ง แต ข ณะ เดียวกันบางคนก็เดินทางไปเพื่อเปลี่ยน สถานที่กินเหลาเทานั้นเอง
แต จ ะมี สั ก กี่ ค นที่ จ ะถื อ โอกาส ทบทวนชีวิตในรอบปที่ผานมาวาตนได กระทําในสิ่งที่ไมดีอะไรไวบาง เชนการ คอรรัปชั่น การเอารัดเอาเปรียบผูอื่นไม วาดานการทํางานหรือดานการทําธุรกิจ การอิจฉาริษยา การนินทาและใหราย ผูอื่น การติดสินบน การรับสินบน การ ข ม ขู รี ด ไถ การขาดการเอาใจใส ต อ สมาชิกในครอบครัวใหพวกเขาไดมีชีวิต อยูที่ดีตามควรแกภาวะที่จะมอบใหได การปล อ ยปละละเลยต อ หน า ที่ ข อง ผูเปนพอและแมที่มีตอลูก การไมใสใจ ตอบุพการี ปลอยใหตองอยูตามลําพัง อยางยากเข็น หรือทําให ท า นต อ งเสี ย ใจเพราะ ความอกตั ญ ู ต อ ท า น การไมใสใจและรับผิดชอบ ตอหนาที่การงาน ทํางาน แบบเช า ชามเย็ น ชาม ขาดความรับผิดชอบ ไมมี ความคิดริเริ่มสราง สรรค ทํางานไปวันๆ เพื่อรอวัน เกษี ย ณ การเสพสิ่ ง เสพ ติ ด ต า งๆ ไม ว า จะเป น บุหรี่ สุรา ยาเสพติดหรือ สิ่งมึนเมาและสิ่งเสพติดอื่น ฯลฯ สิ่งตางๆ เหลานี้ไมเฉพาะผูที่เปน เจาหนาที่ระดับลางหรือผูมีฐานะยากจน เทานั้น รวมไปถึงเจาหนาที่ระดับสูง หรือ เรียกกันวาระดับนโยบาย และผูที่มีฐานะ รํ่ารวย จะตองทบทวนและตั้งใจมั่นวา จะตองปรับปรุงตัวเองเพื่อเปลี่ยนแปลง พฤติ ก รรมไม ดี เ หล า นั้ น ที่ ไ ด ทํ า มาเป น เวลานาน จริงอยูบางอยางอาจเปลี่ยน แปลงไม ไ ดใ นทั น ที เพราะมั น ได ฝ ง ลึ ก ลงไปในกมลสันดาน แตถามีความตั้งใจ จริงทีจ่ ะแกไขปรับปรุง ละ เลิก พฤติกรรม เหล า นั้ น ก็ ส ามารถเปลี่ ย นแปลงได ไมยาก
เรื1องเลาโครงการ กัลยาณา
มี บ างคนได แ บ ง ช ว งชี วิ ต มนุ ษ ย ไว สี่ ช ว ง ช ว งแรกคื อ ช ว งที่ เ ป น ทารก เป น ช ว งที่ ทุ ก ส ว นของร า งกายกํ า ลั ง เจริ ญ เติ บ โต ช ว งนี้ ยั ง อยู ใ นความดู แ ล รับผิดชอบของพอแม ชวงที่สองคือชวง วั ย ศึ ก ษาเล า เรี ย นเป น ช ว งที่ แ ต ล ะคน ตองรับผิดชอบในสวนของการศึกษาเลา เรี ย น ช ว งที่ ส ามคื อ วั ย ทํ า งานและวั ย มี ครอบครัว ซึ่งตองมีความรับผิดชอบเพิ่ม มากขึ้น และช วงที่ สี่ คือวัยหลั งเกษียณ (เขาสูวัยชรา) ในแตละชวงชีวิตมีความ สําคัญแตกตางกันไป แตชวงชีวิตที่สําคัญ ที่สุดของมนุษยทุกคนคือชวงชีวิตในวัย
เลิกบุหรี่เริ่มที่บาน…(ตอน)
บานนี้ปลอดบุหรี่ ฉบับนี้ขอเลากิจกรรมลาสุดที่ทีม งาน สสม.ได ล งพื้ น ที่ ติ ด ตามความ กาวหนาของโครงการเลิกบุหรี่เริ่มที่บาน ครั้ ง นี้ที ม งานได เ ปลี่ ย นจากการนั ด เจอ ทีมอาสาสมัครพาเลิกบุหรี่เพราะทุกครั้ง เราจะนัดเจอกันในหองสี่เหลี่ยมแคบๆ แล ว นั่ ง คุ ย เล า ความก า วหน า เกี่ ย วกั บ ป ญ หาที่ พ บเจอและแนวทางแก ไ ข ระหว า งอาสาสมั ค รพาเลิ ก บุ ห รี่ ที่ อ ยู คนละหมูบาน ซึ่งเปนบรรยากาศที่คอน ข า งจะเย็ น สบายและไม เ หนื่ อ ยเท า ไร และที่ สํ า คั ญ รู สึ ก ว า ยั ง ไม ไ ด สั ม ผั ส และ
พบเจอกั บ ผู ค นในชุ ม ชนที่ ส ามารถเลิ ก บุหรี่ไดจริงๆ แบบตัวตอตัว ครั้ ง นี้ ที ม งาน สสม.จึ ง ได นั ด เจอ ทีมอาสาสมัครพาเลิกบุหรี่ของ อ.เมือง จ.ยะลา ลงพื้ น ที่ ชุ ม ชนเพื่ อ พบปะและ เยี่ยมเยียนชาวบานในชุมชน พรอมทั้ง เข า ไปมอบป า ย “บ า นนี้ ป ลอดบุ ห รี่ ” เป น ขวั ญ และกํ า ลั ง ใจให กั บ ชาวบ า นที่ สามารถเลิกบุหรี่ไดและทั้งบานไมมีคน สูบแลว โดยเริ่มตนสํารวจจาก ตําบลลิดล เป น ชุ ม ชนแรก นํ า โดย นายสะแปอิ ง กาเร็ง ประธาน อสม. และเปนหัวหนา
ทํ า งานและมี ค รอบครั ว ถึ ง แม จ ะเป น ชวงชีวิตที่ไมยาวมากนัก แตถือวาเปน ชวงชีวิตที่สามารถทําลายตัวเอง ทําลาย ครอบครั ว และประเทศชาติ ไ ด ถ า ไม ระมัดระวังในการดําเนินชีวิต เพราะบน ถนนชี วิ ต ช ว งนี้ เ ต็ ม ไปด ว ยขวากหนาม และหลุ ม บ อ ถ า ก า วพลาดเราท า น ทั้ ง หลายอาจได รั บ บาดเจ็ บ จนยากแก การเยี ย วยารั ก ษาได แต ต รงกั น ข า มก็ เป น ช ว งชี วิ ต ที่ นํ า ความสุ ข มาสู ตั ว เอง ครอบครั ว และประเทศชาติ ไ ด เช น กั น ขอใหทุกทานมีความสุขในชวงชีวิตที่ยัง เหลือตลอดไปนะครับ - วัสลาม จดหมายขาว...วารสารสุขสาระ
17
แนวคิ ด ดี ๆ และเป น กํ า ลั ง ใจให ต อ ไป
ในภาพนางสาวหาฟเสาะห เจะหะ ภรรยา เปนผูรับปายแทน
รายชื่อผูไดรับปาย “บานนี้ปลอดบุหรี่” บนซาย นายอารีเพ็น มะแซ นายอับดุลรอเราะมาน โละซิ นายอิบบราฮิน มาลีลา นายบือราเฮง ยูโซะ ที ม ของอาสาสมั ค รพาเลิ ก บุ ห รี่ ข องที ม อําเภอเมืองยะลาดวย เริ่มตนจากบาน ปลอดบุหรี่ที่อยูในความดูแลของอาสา สมัครพาเลิกบุหรี่ในตําบลลิดลประกอบ ดวย 3 ทาน ดวยกันคือ นางหาสนะ สาอุ นางไอนี เวดือโอะ และนายสะแปอิง กาเร็ง โดยทั้งสามทานไดแจงวามีบานทั้งหมด 7 หลั ง ที่ ต อนนี้ ทั้ ง บ า นไม มี ค นสู บ บุ ห รี่ เลย ทางที ม งานจึ ง เดิ น ทางลงพื้ น ที่ ไ ป เยี่ยมแตละบานและไดพูดคุยเพื่อใหผูที่ สามารถเลิกบุหรี่ชวยกันรณรงคใหคนที่ อยู ใ กล บ า นเราเลิ ก บุ ห รี่ ใ ห ไ ด ด ว ยเช น กัน และไดมีการมอบปายใหกับหัวหนา ครัวเรือนที่สามารถจัดการใหทุกคนใน บานพรอมกับตัวเองที่สามารถเลิกบุหรี่ ได ใ นที่ สุ ด กล า วได ว า ครั้ ง นี้ เ ป น การ เริ่ ม ต น ของที ม งาน สสม.ที่ ล งไปสั ม ผั ส กั บ พื้ น ที่ ใ นชุ ม ชนจริ ง ๆ และถื อ เป น ปรากฏการณ ห นึ่ ง ที่ น า จะสร า งแรง กระตุ น ให กั บ เพื่ อ นบ า นที่ ยั ง มี ก ารสู บ บุ ห รี่ อ ยู เ กิ ด ความตระหนั ก และความ กระตื อ รื อ ร น มากขึ้ น ในเรื่ อ งการเลิ ก สูบบุหรี่ 18
มูลนิธิสรางสุขมุสลิมไทย (สสม.)
มี เ รื่ อ งน า ชื่ น ชมอี ก เรื่ อ งหนึ่ ง ก็ คื อ ในพื้ น ที่ มี ร า นค า ของนายอนั น ต เกาะเห็ง เปนรานคาที่ ไมนําบุหรี่มาวาง ขายในร า นค า กว า 3 ป ม าแล ว ด ว ย ความชื่นชมทางทีมงานจึงไดมอบปาย บานนี้ปลอดบุหรี่เพื่อเปนการสนับสนุน
ทัง้ นี้ จากผลของการลงพืน้ ทีต่ าํ บล ลิดล จังหวัดยะลา ทางทีมงาน สสม. ได คุยปรึกษากันวาจะมีการวางแผนลงทุก พื้นที่เพื่อไปพูดคุยใหกําลังใจพรอมกับ มอบป า ย “บ า นนี้ ป ลอดบุ ห รี่ ” ให กั บ เจาของบานที่สามารถทําใหบานปลอด บุหรี่ไดในที่สุดใหครบทุกตําบลที่ทีมงาน สสม.ไดรวมกับอาสาสมัครพาเลิกบุหรี่ ดําเนินการรวมกันในการรณรงคใหเกิด บานปลอดบุหรี่ขึ้น เพื่อเปนแรงกระตุน ใหชาวบานที่อยูบานใกลเรือนเคียงเกิด ความสนใจและเกิดความกระตือรือรน ที่อยากจะทําใหบานตนเองปลอดบุหรี่ ดวยเชนกัน อนาคตเราจะพยายามทําให บานเปนบานที่ปลอดบุหรี่ใหมากขึ้น ซึ่ง เปาหมายสูงสุดอยากใหถึงขั้นเปนชุมชน ทั้งชุมชนปลอดบุหรี่ อินชาอัลลอฮฺ
บนซาย นายอะหมาด สะอุ นายรอเซะ มะอะ นายอาหามะ ดีมะดี นางสาวหาฟเสาะห เจะหะ
หองขาว
แผนงานสรางสุขมุสลิมไทย
...สสม.ดําเนินโครงการดานสุขภาวะอยางตอเนื่อง ตลอดเดือนธันวาคม 2559 ที่ผานมา...
คุฏบะฮฺเพื่อสุขภาวะ
วั น ที่ 8 ธั น วาคม 2559 ศู น ย กิจกรรม สสม.ภาคใตตอนกลาง รวมกับ สํานักงานคณะกรรมการอิสลามประจํา จังหวัดสงขลา จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ “โครงการอบรมคุฏบะฮฺเพื่อสุขภาวะ” ณ หองประชุมสํานักงานคณะกรรมการ
อิสลามประจําจังหวัดสงขลา โดยมีนาย ศักดิ์กริยา บิลเสละ ประธานกรรมการ อิสลามประจําจังหวัดสงขลา เปนประธาน เปดงาน พรอมการบรรยายพิเศษ จาก วิทยากรผูทรงคุณวุฒิ อาทิเชน ดร.วิสุทธิ์ บิลลาเตะ และ ผศ.อับดุลรอชีด เจะมะ
หนังสือคุฏบะฮฺ เพื่อสุขภาวะ ได รวบรวมคํ า สอนและหลั ก ปฏิ บั ติ ท าง ศาสนาอิ ส ลามที่ มี เ นื้ อ หาเกี่ ย วกั บ สุขภาวะ รวมไปถึงปญหาของบุหรี่และ ยาสู บ และได นํ า ออกแจกจ า ยไปยั ง มัสยิดทั่วประเทศแลวนั้น เพื่อใหมีการ นําคุฏบะฮฺไปใชไดตรงตามวัตถุประสงค อยางมีประสิทธิภาพ จึงไดจัดโครงการ อบรมคุ ฏ บะฮฺ เพื่ อ สุ ข ภาวะขึ้ น เพื่ อ ให คอเต็บทุกมัสยิดสามารถ ใหความรูตอ ผู ที่ ม าละหมาดวั น ศุ ก ร ไ ด เข า ใจอย า ง ถูกตองในเรื่องของอิสลามกับสุขภาวะ อี ก ทั้ ง ยั ง สร า งความตระหนั ก ถึ ง พิ ษ ภั ย ของบุ ห รี่ แ ละผลิ ต ภั ณ ฑ ย าสู บ และ เป น การรณรงค ส ง เสริ ม ให มั ส ยิ ด เป น ศาสนสถานที่ปลอดบุหรี่ ตามประกาศ กระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 19 พ.ศ. 2553 อีกดวย ทั้ ง นี้ โ ครงการฯดั ง กล า วได รั บ ความสนใจจากคณะกรรมการมั ส ยิ ด ในจั ง หวั ด สงขลา ให ค วามสนใจและ เข า ร ว มโครงการฯ พร อ มแลกเปลี่ ย น ความคิด
ปอเนาะสรางสุข วันที่ 19 ธันวาคม 2559 ศูนยกิจกรรม สสม.ภาคใต ตอนกลาง จัดโครงการเพิ่มศักยภาพความพรอมในการ ประกอบอาชีพ ภายใตโครงการปอเนาะสรางสุข โดยมี นั ก เรี ย นจากสถาบั น ปอเนาะอิ ส ลาฮู ด ดี น ต.เป ย น อ.สะบายอย จ.สงขลา เขารวมโครงการฯ เพื่อใหสามารถ มีอาชีพ เพิ่มรายได ยืนไดดวยลําแขงของตนเอง และ สามารถแบงปนการชวยเหลือไปยังผูอื่นไดตอไป “ปอเนาะ” ถือเปนการศึกษาเพื่อชุมชนแบบพึ่ง ตนเอง เปนสํานักศึกษาเลาเรียนวิชาการศาสนาอิสลาม ซึ่งหมายถึงมีที่พักนักเรียนอยูในบริเวณสํานัก จดหมายขาว...วารสารสุขสาระ
19
ดําเนินงานโดย มูลนิธิสรางสุขมุสลิมไทย (สสม.) สนับสนุนโดย สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสรางเสริมสุขภาพ (สสส.)
เปดตัวหนังสือแบบเรียนบูรณาการอิสลาม เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2559 ณ โรงแรมซีเอส ปตตานี แผนงานสรางสุข มุ ส ลิ ม ไทย จั ด โครงการเป ด ตั ว หนั ง สื อ แบบเรียนบูรณาการอิสลามวิชาสุขศึกษา และพลศึกษา โดย ศ.ดร.อิศรา ศานติศาสน ประธานมูลนิธิสรางสุขมุสลิมไทย (สสม.) ได ก ล า วถึ ง ที่ ม าและวั ต ถุ ป ระสงค ข อง โครงการฯ การจัดงานในครั้งนี้ไดรับเกียรติ จากนายอารี ดิเรกกิจ ผูอํานวยการสํานัก ประสานนโยบายการศึกษา ศาสนาและ วั ฒ นธรรม ตั ว แทนจาก ศอ.บต. เป น ประธานในพิ ธี โดยผู เข า ร ว มงานเป น ตั ว แทนจากโรงเรี ย นในจั ง หวั ด ป ต ตานี จังหวัดนราธิวาส จังหวัดยะลา จังหวัด สงขลา จังหวัดสตูล และจังหวัดพัทลุง
กวา 50 โรงเรียน นอกจากนี้ ยังมีตัวแทน จากสํ า นั ก งานการศึ ก ษาเอกชน (สช.)
ตัวแทนหนวยงานภาครัฐฯ ที่ดูแลดาน การศึกษา และนักศึกษาที่มีความสนใจ แบบเรียนฉบับดังกลาว รวมทั้งสิ้น 110 คน ภายในงาน รศ.ดร.อิบรอฮีม ณรงครักษาเขต พรอมคณะทํางานบูรณาการแบบเรียนฯ เปดเวทีแลกเปลี่ยนความคิดจากตัวแทน เครือขายที่เขารวมโครงการฯ
ทั้งนี้แผนงานฯไดจัดพิมพหนังสือแบบเรียนครบทั้ง 6 ชั้นป ในระดับ ประถมศึกษา 1-6 และมัธยมศึกษา 1-6 ซึ่งในงานเปดตัวหนังสือดังกลาว ไดเปดเวทีใหมีการแลกเปลี่ยนจากเครือขายโรงเรียนตางๆ เพื่อใหหนังสือ มีเนื้อหาครบถวนตามความตองการที่แทจริงของพื้นที่ โดยแผนงานฯ มีเปา หมายที่จะจัดพิมพเพื่อเผยแพรแกโรงเรียนที่มีความตองการใชเปนตํารายืม เรียนและอนาคตขางหนาจะไดมีการขยายผลไปสูการบูรณาการอิสลามใน รายวิชาอื่นๆ ที่เกี่ยวของตอไป จดหมายขาว...วารสารสุขสาระ
21
ดําเนินงานโดย มูลนิธิสรางสุขมุสลิมไทย (สสม.) สนับสนุนโดย สํานักงานกองทุนสนับสนุนการสรางเสริมสุขภาพ (สสส.)
ผูนํายุวชนสรางสุข
เมื่อวันที่ 23-26 ธันวาคม 2559 ที่ ผ า นมา แผนงานสร า งสุ ข มุ ส ลิ ม ไทย ได จั ด การอบรมหลั ก สู ต ร “ผู นํ า ยุ ว ชน สรางสุข” รุนที่ 2 ระดับอุดมศึกษา เปน
ระยะเวลา 4 วั น ให กั บ ผู นํ า นิ สิ ต นักศึกษาจากสถาบันตางๆ ในพื้นที่สาม จังหวัดชายแดนภาคใต จํานวน 37 คน ณ สนามกีฬาเมืองหลักภาคใต พรุคางคาว
อํ า เภอหาดใหญ จั ง หวั ด สงขลา โดย ศ.ดร.อิศรา ศานติศาสน ประธานมูลนิธิ สร า งสุ ข มุ ส ลิ ม ไทย (สสม.) บรรยาย พิ เ ศษหั ว ข อ “บุ ค คลสํ า คั ญ ของโลก” พรอมพบปะผูเขารวม นอกจากนี้ สสม. ยั ง ได รั บ เกี ย รติ จ ากวิ ท ยากรอี ก หลาย ทานมารวมบรรยาย ไดแก ผศ.ดร.สุกรี หลังปูเตะ ในเรื่อง “ภาวะผูนําในอิสลาม” อ.หริรักษ แกวกับทอง ใหขอคิดในเรื่อง “ทั ก ษะชี วิ ต ” อ.อุ ส มาน ราษฎร นิ ย ม ให ค วามรู เ รื่ อ ง “หลั ก การพู ด ” ผศ. อั บ ดุ ล รอชี ด เจะมะ ให ค วามรู ใ นเรื่ อ ง “หลั ก การวิ เ คราะห แ ละการจั ด การ ป ญ หาสั ง คม” พร อ มกิ จ กรรมสนุ ก ๆ เสริมความรูทักษะการเปนผูนํา โดยนาย ยาฮารี กาเซ็ง ประธานคายและทีมงาน พี่เลี้ยง
ทุนการศึกษามูลนิธิสรางสุขมุสลิมไทย (สสม.) มูลนิธิสรางสุขมุสลิมไทย (สสม.) มอบ ทุนการศึกษาแกนักเรียนยากจน ภาคเรียนที่ 2 ปการศึกษา 2559 ทั่วประเทศ ทั้ ง นี้ ทุ น การศึ ก ษาของมู ล นิ ธิ ส ร า งสุ ข มุสลิมไทย (สสม.) เปนทุนใหเปลาไมมีภาระ ผู ก พั น ต อ งใช คื น และเป น ทุ น การศึ ก ษาต อ เนื่ อ งตั้ ง แต ร ะดั บ มั ธ ยมศึ ก ษา อาชี ว ศึ ก ษา จนถึงระดับปริญญาตรี การคัดเลือก “นักเรียนทุน” จะพิจารณา จากรายไดของครอบครัว จํานวนพี่นอง ปญหา ของครอบครัว และการขาดผูอุปการะสงเสีย เลาเรียน ผลการเรียนพอใช มีความประพฤติ ดี และมี ค วามมุ ง มั่ น ตั้ ง ใจ ในการศึ ก ษาเล า เรียน
22
มูลนิธิสรางสุขมุสลิมไทย (สสม.)
คุณผูอานสามารถรวมบริจาคชวยเหลือนักเรียนยากจน กับ สสม. ไดโดยบริจาคผาน ธ.อิสลามแหงประเทศไทย สาขารามคําแหง 87 บัญชีเลขที่ 109-1-03034-0