สุขสาระฉบับที่ 123

Page 1

มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)

ปีที่ 11 ฉบับที่ 121 ประจ�ำเดือน มกราคม 2557


ลาคอมรฺ

หักดิบอย่างมีหลักการ

ริมคลอง

สมุนไพรระงับกลิ่นปาก

อาหารกับสุขภาพ

อาหารต้องห้ามก่อนนอน

สุขภาพ

ระวังฟันผุท�ำปอดติดเชื้อรุนแรงถึงตาย

ย้อนรอย

ตุรกีกับไก่งวง

360 องศา

Bottle light ขวดแสงที่จะมาเปลี่ยนโลก

สาระน่ารู้

คุยฟุ้งเรื่องกาแฟ

ท่องโรค โรคลมชัก

ท่องโรค

ลมบ้าหมู

พบหมอจินตนา โรคติดเชื้อไวรัส โคโรน่า สายพันธ์ใหม่ 2012

แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะ มุสลิมไทย

Design by : ro-heem

4 5 6 8 9 10 12 13 14 15 17


WWW.Muslim4health.or.th

รณรงค์เลิกบุหรี่ในชุมชน จ.สมุทรปราการ ปีที่ 11 ฉบับที่ 123 มีนาคม 2557

เรื่องราวต่อไปนี้เป็ นเรื่องเล่าทีถ่ กู ดัดแปลง ตัวละครอาจเปลีย่ นไปตามความ เหมาะสมอ่านแลว้ ให้อ่มิ ใจไปกับความเสีย สละ ความช่วยเหลือ ทีเ่ ราควรจะมีให้กนั และกัน…เรื่องมีอยู่วา่ ... คืนวันหนึ่ง นางพยาบาลเดินตรง มาทีเ่ ด็กสาวคลุมฮิญาบทีอ่ อกมานัง่ อยู่หน้า ห้องระหว่างมาเฝ้ าไข้ญาติพร้อมเชิญเธอเข้า มาในห้อง “ลู ก สาวคุ ณ อยู่ น่ี แ ล ว้ ค่ ะ ” เธอ กล่ า วบอกหญิ ง ชรา เธอต้อ งพู ด ซ�ำ้ อยู่ หลายครัง้ เพราะว่าหญิงชราเพิ่งจะได้รบั ยาระงับประสาทอย่างแรง และก�ำลังรู ส้ กึ สะลึมสะลือภายหลังจากเกิดอาการหัวใจ วายอย่างรุนแรงเมือ่ คืนก่อน หญิงชรายื่นมือออกไป เด็กสาว กุม มือ อ่ อ นปวกเปี ย กของหญิง ชราไว้ใ น อุง้ มือของเธอ เธอบีบอย่างแผ่วเบา ขณะที่ นางพยาบาลยกเก้าอี้มาให้นงั ่ เด็กสาวนัง่ ลง พร้อมกล่าวขอบคุณนางพยาบาล

ตลอดคืนนัน้ เด็กสาวนัง่ กุมมือ หญิงชราและเฝ้ าพร�ำ่ พูดให้กำ� ลังใจอยู่ใน ห้องคนไข้ หญิงชราคนไข้ทีร่ ูเ้ วลาของตนเอง ไม่พดู อะไร แต่ยงั คงจับมือเด็กสาวไว้อย่าง หลวมๆ รอบๆ ตัวเธอนอกจากเสียงดังจาก เครื่องมือแพทย์แล ้ว ยังมีเสียงครวญคราง ของคนไข้เตียงข้างๆ และเสียงอึกทึกของ เจ้าหน้าทีเ่ วรกลางคืนทีเ่ วียนกันเข้าออกห้อง ผูป้ ่ วย ทุ ก ครัง้ ที่น างพยาบาลเข้า มาดู อาการคนไข้ เธอจะได้ยนิ เสียงกระซิบปลอบ ใจหญิงชราอยู่เป็ นระยะ เมือ่ บอกให้เธอพัก เสียบ้าง เด็กสาวกลับปฏิเสธ หญิงชราสิ้นใจในตอนกลางดึกคืน วันนัน้ เด็กสาวค่อยๆ วางมือของหญิงชรา ลง แล ้วออกไปตามนางพยาบาล ขณะที่เจ้าหน้าที่นำ� ร่ างของหญิง ชราออกไป เด็กสาวยังนัง่ อยู่ตรงนัน้ เมือ่ นางพยาบาลกลับเข้ามา เธอจึง เดินเข้าไปเพือ่ จะปลอบใจ

“คุณป้ าคนนัน้ เป็ นใครค่ ะ” เด็ก สาวถาม “ก็คณ ุ แม่ของคุณอย่างไรล่ะ” นาง พยาบาลตอบด้วยความประหลาดใจ “เขาไม่ใช่แม่หนู ” เด็กสาวตอบ “แลว้ ท�ำไมหนู ไม่บอก ตอนทีฉ่ นั พาเข้าไป” “หนู มาเฝ้ าไข้ญาติ แลว้ ก�ำลังจะ กลับบ้าน พอดีคุณพยาบาลมาเรียก...พอ มาเห็นคุณป้ าท่านนี้ หนู ก็รูว้ ่าคุณป้ าคงรอ ใครอยู่ และใครคนนัน้ คงมาไม่ทนั หรือยัง ไม่ทราบข่าว... ...หนู รูว้ า่ คุณป้ าป่ วยหนัก จนไม่รู ้ ว่าหนู เป็ นลูกของเธอหรือเปล่า..จึงตัดสิน ใจอยู่กบั เธอ เพราะหนู เชื่อว่าเวลานัน้ ..คุณ ป้ าคงต้องการใครสักคนมาอยู่ใกลๆ้ ...มาก เพียงไร”

วารสารสุขสาระ เป็นจดหมายข่าวรายเดือนของมูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.) องค์กรไม่แสวงหาผลก�ำไร (Non-Profit Organization) จัดท�ำขึ้นเพื่อเผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิ ที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กร พันธมิตร และการบริจาคจากพี่น้องมุสลิม และเพื่อให้ผู้อ่านได้รับประโยชน์ สูงสุด วารสารสุขสาระ ยังได้แทรกบทความและข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ให้ตระหนักถึงปัญหาทางด้านสุขภาวะ เพื่อจักได้เตรียมตัวป้องกัน มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.) มุ่งเน้นในการส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างจิตส�ำนึกในเรื่องของสุขภาวะและการพัฒนา มีเป้าหมายที่จะ ร่วมพัฒนาสังคมมุสลิมไทยให้มีสุขภาวะที่ดี ทั้งทางกายและใจ ให้มีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี ชุมชนมุสลิมสามารถเป็นตัวอย่างหรือต้นแบบแก่สังคม ไทย สนับสนุนและส่งเสริมให้มุสลิมไทยมีความรู้รอบด้าน มีศักยภาพ สามารถด�ำรงชีวิตอยู่ในโลกที่ก�ำลังเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีความสุข ร่วมสร้าง ความเข้าใจอันดีระหว่างสังคมมุสลิมและสังคมไทยทั่วไป ทั้งนี้การท�ำงานทั้งหมดของมูลนิธิฯ ใช้หลักการของศาสนาอิสลามเป็นทางน�ำ ส�ำนักงานวารสารสุขสาระ – มูลนิธสิ ร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.) เลขที่ 1 หมู่ 13 แขวง/เขตมีนบุรี กทม.10510 โทรศัพท์ 02-517-1309 พิมพ์ที่ : บริษทั ออฟเซ็ท จ�ำกัด เลขที่ 58/434 ซ.รามอินทรา 68 แขวง/เขต คันนายาว กรุงเทพฯ 10230 โทร. 02 918 0096 โทรสาร 02 918 0095 อีเมล์ offset321@gmail.com จดหมายข่าววารสารสุขสาระ

3


ลา คอมรฺ ครั้ง หนึ่ ง ... ผมเคยเป็ นสิ ง ห์ อมควัน ไม่ เ คยหยุ ด สู บ แม้แ ต่ ว นั เดีย ว แต่ ... ในที่สุดผมสามารถเลิกสู บบุหรี่ได้ ด้วยตนเอง ผมเขียนบทความนี้เพือ่ ต้องการ ช่ วยผู ท้ ่ีตอ้ งการเลิกสู บบุหรี่ ให้สามารถ เลิกสูบได้ดว้ ยตนเอง โดยไม่ตอ้ งใช้ยาหรือ สมุนไพร นับถึงวันนี้ผมเลิกสู บบุหรี่เป็ น เวลาเกือบ 2 ปี แลว้ ผมเริ่มสูบบุหรี่ตงั้ แต่ อายุ 19 ปี สูบเป็ นระยะเวลา 6 ปี เต็ม โดย สูบวันละครึ่งซอง เคยมีอยู่ช่วงหนึ่งสูบวัน ละ 1 ซอง ผมไม่เคยหยุดสูบได้เลยแม้แต่ วันเดียว มีอยูค่ รัง้ หนึ่งผมป่ วยด้วยโรคต่อม ทอนซิลอักเสบ ไอทัง้ คืน แต่ผมก็หยุดสูบไม่ ได้ ผมเคยพยายามเลิกตัง้ หลายครัง้ แต่กล็ ้ม เหลว จนในทีส่ ุดก็สามารถค้นพบวิธเี ลิกได้ ส�ำเร็จ ท�ำอย่างไรผมจึงเลิกสูบบุหรี่ได้ ผมเริ่มหยุดสูบบุหรี่ (หักดิบ) ใน วันที่ 31 ธ.ค.2547 ซึง่ เป็ นวันหยุดต่อเนื่อง กัน 5 วัน ในช่วงเทศกาลปี ใหม่ ผมตื่นแต่ เช้า สูดลมหายใจลึกๆ หลายๆครัง้ ดืม่ น�ำ้ มากๆ และงดดื่มกาแฟ (ปกติผมจะดื่ม กาแฟทุกๆ เช้า) ผมใช้เวลาทัง้ วันหมดไป กับการกินอาหารและขนมที่ชอบ ผมนอน ดูเคเบิลทีวที งั้ วันสลับกับการนอนกลางวัน เพราะเมือ่ ไม่สูบบุหรี่ก็จะรูส้ กึ ง่วงครับ ผม

4

มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)

อย่างมีหลักการ เรื่องดีดี จากอินเทอร์เน็ต โดย “ประวิทย์”

ออกไปซื้อของที่อยากได้เพื่อให้รางวัลแก่ ตัวเอง ผมไม่รูส้ กึ หงุดหงิดเหมือนกับการ พยายามเลิกสูบบุหรี่ในครัง้ ทีแ่ ล ้วๆ มา นัน่ อาจจะเป็ นเพราะในครัง้ นี้ผมวางแผนการ เลิกไว้แล ้วนัน่ เอง และแล ้ววันแรกของการ เลิกสู บก็ผ่านไปได้ดว้ ยดี ตามด้วยวันที่ สอง..สาม...สี่ ในวันทีห่ า้ ของการเลิกสูบผม มาท�ำงานด้วยความสดชื่น ไม่รูส้ กึ ง่วงนอน แต่ยงั งดการดื่มกาแฟ เพราะเมื่อดื่มแลว้ ท�ำให้รูส้ กึ อยากสูบบุหรี่ครับ (โชคดีนะทีผ่ ม เป็ นคนไม่ดม่ื เหล ้า) ผมอมลูกอมทัง้ วันเลย ครับ ในเวลาทีท่ ำ� งาน เพราะรูส้ กึ ว่ามันช่วย เราได้เยอะเลย เมือ่ เวลาผ่านไป 1 อาทิตย์ ผมก็ เริ่มชินครับ เมื่อเริ่มเข้าอาทิตย์ท่ี3 ผมก็ด่ืม กาแฟเหมือนที่เคยดื่มทุกเช้า โดยไม่รูส้ กึ

อยากสูบบุหรี่ แต่ในช่วงเดือนแรกผมยังฝัน ว่าตัวเองสูบบุหรีอ่ ยูเ่ ลยครับ ต่อมาก็คนุ ้ เคย กับการทีไ่ ม่ตอ้ งมีบหุ รีใ่ นชีวติ ประจ�ำวัน และ ปัจจุบนั ผมก็เลิกบุหรี่ได้อย่างถาวรและไม่ คิดทีจ่ ะกลับไปหามันอีก เลิกสูบบุหรีย่ ากไหม? …ยากครับ.. ส�ำหรับผูส้ ู บบุหรี่ คนที่ไม่สูบจะไม่รูห้ รอก ครับว่ามันยากอย่างไร แต่ถา้ ตัง้ ใจจริงแล ้ว ล่ะก็ไม่ยากครับ เลิกบุหรีไ่ ด้..มันอยูท่ ใ่ี จจริงเหรอ… จริงครับ.. แต่แค่ น้ ียงั ไม่พอ จะต้องมีส่งิ เหล่านี้ดว้ ย 1. ก�ำลังใจจากคนในครอบครัว คนรอบข้าง 2. วันหยุดติดต่อกันอย่างน้อย 3 – 4 วัน ในขณะทีเ่ ริ่มต้นเลิกบุหรี่ 3. วางแผนการเลิกสูบบุหรี่


ประวิทย์ 4. ในช่วงเริ่มต้นจะต้องงดการ เทีย่ วตอนกลางคืนด้วยนะ (ผมไม่ชอบ เทีย่ วครับ) เมือ่ หยุดสูบบุหรีแ่ ล ้วรูส้ กึ หงุดหงิด จะท�ำอย่างไรจากการสังเกตความลม้ เหลว ในการเลิกสูบบุหรี่ในอดีตของผม เมือ่ หยุด สูบบุหรี่แลว้ รูส้ กึ หงุดหงิดนัน้ อาจมีสาเหตุ ดังนี้ 1. คุณรูส้ กึ ง่วงนอน เมือ่ ต้อง ท�ำงานแต่อยากจะนอน ท�ำให้รูส้ กึ หงุดหงิด ครับ 2. สภาพแวดล ้อมไม่เอื้ออ�ำนวย เช่น ต้องอยู่ใกล ้ชิดกับคนทีส่ ูบบุหรี่ 3. เงินไม่พอใช้กเ็ ป็ นเหตุทท่ี ำ� ให้ หงุดหงิดได้ (ผมเลิกสูบในช่วงปี ใหม่จงึ มี เงินโบนัสอยู่ในกระเป๋ าตังค์ จึงไม่หงุดหงิด ครับ) 4. เครียดเพราะงาน ดังนัน้ คุณ ควรจะเลิกสูบบุหรี่ในช่วงวันหยุดยาวครับ กฎส�ำหรับผู ท้ ่ีคิดจะเลิกสู บหรือ เลิกได้แล ้ว 1. หลีกเลีย่ งการอยู่ใกล ้คนทีส่ ูบ บุหรี่จนกว่าจะแน่ใจว่าเลิกได้แล ้ว 2. งดการดืม่ กาแฟหรือเครื่องดืม่ แอลกอฮอล์ จนกว่าจะมันใจว่ ่ าเลิกสูบได้ 3. ห้ามสูบบุหรี่ไม่วา่ กรณีใดๆ เพราะการสูบแค่มวนเดียว จะท�ำให้คุณ หวนกลับมาสูบเหมือนเช่นเคย... เก็บมาจาก http://thai-stopsmoke.blogspot. com

เมืองมิน กานพลู

ระงับกลิ่นปาก กลิน่ ปากหรือปากเหม็น หากเกิด ขึ้นกับใครก็รูส้ กึ เป็ นสิ่งน่ าอาย ท�ำให้ขาด ความมันใจ ่ ผูเ้ ชี่ยวชาญทางด้านทันตกรรม บอกว่า หนึ่งในสีข่ องคนเรามีกลิน่ ปากและ งานวิจยั ระบุวา่ ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ของ ประชากรวัยผูใ้ หญ่ต่างก็มกี ลิน่ ปาก ขณะที่ ในชาวอเมริกนั เกือบ 60 ล ้านคนจะมีปญั หา ในเรื่องลมหายใจมีกลิน่ เรื้อรัง ผูเ้ ชีย่ วชาญกล่าวว่าประมาณ 75% ของกลิน่ ปาก มีสาเหตุมาจากเรื่องของช่อง ปาก สาเหตุอน่ื ๆ ประกอบด้วย ปัญหาทาง กระเพาะอาหาร การติดเชื้อทีไ่ ซนัส หรือโรค เหงือกทีม่ คี วามรุนแรง กล่าวว่า หนึ่งในความส�ำเร็จส�ำคัญ ในการรักษากลิ่นปาก คือ การตรวจหา สาเหตุ เมือ่ ทราบสาเหตุ การรักษาจึงจะเริ่ม ต้น กลิน่ ปากทีเ่ กิดจากสุขอนามัยของฟันไม่

ดี แก้ไขด้วยการอุดฟัน การขูดหินปูน และ การรักษาโรคเหงือกเป็ นต้น สมุนไพรต่อไปนี้อาจเป็ นทางเลือก ในการระงับกลิน่ ปาก 1. ใบฝรัง่ สารคลอโรฟิ ลล์ในใบ ฝรัง่ ช่วยระงับกลิน่ ปากได้ดี สูตรที ่ 1 น�ำใบฝรัง่ 2-3 ใบมาล ้าง ให้สะอาด น�ำมาเคี้ยวและคายทิ้งหลังอาหาร หรือเมือ่ ต้องการ สูตรที ่ 2 หัน่ ใบฝรัง่ เป็ นฝอยพอ ประมาณ แล ว้ น�ำ ไปคัว่ ไฟในกระทะพอ เหลือง ชงกับน�ำ้ ร้อน 1 แก้ว ใช้อมหรือบ้วน ปากเป็ นประจ�ำ จะช่วยระงับกลิน่ ปากได้ 2. กานพลู ใช้ดอกตูมแห้งของ กานพลู 2-3 ดอก อมไว้ในปากแล ้วคายทิ้ง หรืออาจบดเป็ นผงใช้อม หรือผสมในน�ำ้ ยา บ้วนปากก็ได้

เมล็ดผักชี จดหมายข่าววารสารสุขสาระ

5


ริมคลอง 3. เมล็ดผักชี ก็สามารถน�ำมาท�ำ น�ำ้ ยาบ้วนปาก หรือเครื่องดื่มเพือ่ กลิน่ ลม หายใจหอมสดชื่นได้ง่ายๆ เช่ นกัน โดย น�ำเมล็ดผักชีพอประมาณ ต้มในน�ำ ้ 250 มิลลิลติ ร ทิ้งให้เดือดสัก 2-3 นาที กรอง เอาแต่นำ�้ แลว้ ทิ้งไว้ให้เย็น ใช้ด่มื หรือบ้วน ปาก 4. เคี้ยวหรืออมเมล็ดกระวาน ซึง่ จะช่วยสร้างกลิน่ หอม และมีคุณสมบัตใิ น การระงับแบคทีเรียในช่องปาก 5. เคี้ยวใบพาร์สลีย ์ หรือ สมุนไพร ที่มีค ลอโรฟิ ล ล์เ ข้ม ข้น ชนิ ด อื่น เช่ น ใบ โหระพา สะระแหน่ 6. ดื่มชาเปปเปอร์มนิ ต์ชาสเปี ยร์ มินต์ หรือ ชามะกรูด ก็ช่วยได้เช่นกัน 7. น�ำ้ มะนาว ดื่มน�ำ้ อุ่น 1 แก้ว ผสมน�ำ้ มะนาว 1 ซีกทุกเช้าหลังตื่นนอน 8. เอนไซม์ร ะงับ กลิ่น ปาก-น�ำ แครอท เซเลอรี พาร์สลีย ์ ผักโขม พืชน�ำ ้ หรือแตงกวา ชนิดใดชนิดหนึ่งมาคัน้ น�ำ้ ดืม่ จะสามารถช่วยลดปัญหาเรื่องกลิน่ ปาก 9. สมอไทย ใช้ในการดับกลิน่ ปาก แก้แผลร้อนใน วิธคี อื น�ำไปต้มกับน�ำ ้ 1 แก้ว ใช้เวลาประมาณ 10 นาที จากนัน้ ก็นำ� น�ำ้ ที่ ได้ไปกรอง แล ้วน�ำไปใช้อมบ้วนปาก

ใบฝรั่ง

6

มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)

ป้ องกัน กลิ่นปากโดยใช้ไหมขัด ฟันท�ำความสะอาดซอกฟันทุกวัน และการ แปรงฟันอย่างถูกวิธี อย่างน้อยวันละ 2 ครัง้ ครัง้ ละไม่ตำ� ่ กว่า 2 นาที-การใช้นำ�้ ยา บ้วนปากเป็ นครัง้ เป็ นคราวหลังแปรงฟันไม่ ใช้ติดต่ อกันเป็ นระยะเวลานานๆ จะเป็ น อันตรายก่ อให้เกิดโรคอื่นๆ ทางช่องปาก ได้ และควรหมันพบทั ่ นตแพทย์เป็ นประจ�ำ อย่าปล่อยให้ปากแห้ง เพราะจะท�ำให้เกิด ความเข้มข้นของแบคทีเรียในปากเพิม่ มาก ขึ้น ท�ำให้เกิดกลิน่ ปากได้ง่ายดังนัน้ ควร ดืม่ น�ำ้ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว จะช่วยล ้าง แบคทีเรียออกจากน�ำ้ ลาย หลังอาหารทุก มื้อ ถ้าไม่สะดวกในการแปรงฟันควรจะบ้วน ปากทุกครัง้ ทีม่ าhttp://www.siamhealth.net http://www.colgate.co.th http://www.technologychaoban.com http://www.yourhealthyguide.com http://women.sanook.com/

อาหารกับสุขภาพ

อาหาร ต้อง หลายคนบอกว่า เมืองไทยเป็ น เมือ งแห่ ง อาหาร คุ ณ จะหาอาหารกิน ได้ ตลอดเวลา 24 ชัว่ โมง จนท�ำให้หลายๆ คน มีพฤติกรรมทีช่ อบกินอาหารตอนดึก หรือ กินอาหารก่อนนอน แต่คณ ุ ทราบหรือไม่วา่ พฤติกรรมเช่นนัน้ มันจะท�ำให้ร่างกายทรุด โทรมเร็ว คนทีช่ อบกินอาหารก่อนนอนจน ติดเป็ นนิสยั จนเกิดเป็ นความเคยชินทีไ่ ม่ดี จะท�ำให้นาฬกิ าชีวติ (Biological Clock) ในร่างกายเกิดอาการแปรปรวน ไปท�ำให้เกิด อาการนอนไม่หลับ ท้องอืด ตืน่ สาย กรดใน กระเพาะไหลย้อ นขึ้น มาและ เป็ น

โรคกระเพาะอาหาร ฯลฯ การกินอาหารมื้อ ดึกหรือกินอาหารก่อนนอนจะท�ำให้ร่างกาย ท�ำ งานหนัก ขึ้น กว่า ปกติ เหมือ นกับ การ ท�ำงานล่วงเวลา แทนทีร่ ่างกายจะได้พกั ผ่อน กลับต้องมาย่อยอาหารมื้อดึกที่มกั จะเป็ น มื้อใหญ่เสียด้วย โรคต่างๆทีจ่ ะเกิดตามมา สู่คุณจะเริ่มจากโรคอ้วน ตามมาติดๆด้วย โรคความดัน เบาหวาน ฯลฯ และด้วยความ ห่วงใย ผูเ้ ขียนจึงขอเสนออาหารต้องห้าม


รอมละห์

งห้าม ก่อนนอน ได้แก่ *อาหารไขมันสูง ในช่วงทีเ่ ลยเวลา อาหารเย็นไปแลว้ คุณไม่ควรเป็ นอย่างยิง่ ทีจ่ ะกินอาหารจ�ำพวกทีม่ ไี ขมันสูง อาทิเช่น มันฝรัง่ ทอด พิซซ่ากับชีสพิเศษและอืน่ ๆ เพราะเมือ่ ใดทีค่ ุณกินเข้าไป ไขมันเหล่านัน้ จะไปสะสม แลว้ คุณก็จะกลายเป็ นพะโล ้ ค้างปี *แฮมเบอร์เกอร์ ถ้าคุณกินก่อน นอน มันอาจจะท�ำให้เกิดกรดไหลย้อนได้ อีกอย่างหนึ่ง แฮมเบอร์เกอร์เป็ นอาหารที่ ไม่สร้างสรรค์เลย ไม่วา่ จะกินตอนกลางวัน หรือกลางคืนก็ตาม *อาหารรสจัด จะไปกระตุน้ ให้ ระบบย่อยอาหาร ระบบขับถ่าย และระบบหายใจตื่นตัว และ ท�ำให้คำ� ่ คืนนัน้ คุณอาจลม้ ตัวลงนอนอย่ างไม่มีความ สุข *คุณรูว้ า่ คุณไม่ควรทีจ่ ะ ดืม่ ชา หรือ กาแฟ แม้จะเป็ น แบบไม่มคี าเฟอีนก็ตาม เพราะคาเฟอีนนัน้ มี ฤทธิ์เป็ นสารกระตุน้ ซึง่ จะท�ำให้คณ ุ ตืน่ และ ท�ำให้คณ ุ ปวดปัสสาวะบ่อยครัง้ ขึ้นมาก การ นอนน้อยก็ไม่เป็ นผลดีต่อการลดน�ำ้ หนักอีก ด้วย ถ้าหากเกิดอาการหิวจริง ๆ แนะน�ำนม อุ่น ๆ สักแก้วน่าจะเป็ นทางเลือกทีด่ กี ว่าค่ะ *ถ้าคุณกินอาหารเย็นช้าพยายาม หลีกเลีย่ งเนื้อแดง เพราะเป็ นอาหารที่ใช้ เวลาในการย่อย และแยกปริมาณโปรตีน

และไขมันนาน จะท�ำให้คุณรูส้ กึ นอนไม่หลับ ได้ *ถัว่ นั้น เป็ นแหล่ ง โปรตี น และ ไฟเบอร์ท่ดี ี แต่ยงั ไงตอนก่อนนอนก็ควร จะอยู่ห่างๆ มันไว้ดกี ว่า เพราะมันจะท�ำให้ ท้องคุณมีแก๊สซึง่ ก็จะเกิดความไม่สบายตัว ตามมา เก็บไว้ไปกินในเวลาอื่นๆ ระหว่าง วันดีกว่า ไม่อย่างนัน้ คุณจะนอนไม่ค่อย หลับแน่นอน *ไอศกรีมมีส่วนประกอบของไข มันค่ อนข้างสู งซึ่งท�ำให้ระบบย่ อยอาหาร ท�ำงานได้ชา้ ลง นอกจากนัน้ ปริมาณน�ำ้ ตาล ทีม่ มี ากเกินไปอาจไปกระตุน้ ให้ร่างกายหลัง่ สารอะดรีนาลีนท�ำให้กระปรี้กระเปร่า แทนที่ จะอยากนอน *เรามัก จะคิด ว่า การบริโ ภคผัก น่าจะเป็ นทางเลือกทีป่ ลอดภัยทีส่ ุดส�ำหรับ มื้อ เย็น แต่ ส ำ� หรับ ผัก บางประเภทโดย เฉพาะอย่างยิง่ บรอกโคลี กะหล�ำ่ ปลี หัว หอม ซึง่ เป็ นผักทีม่ เี ส้นใยสูง จะมีผลท�ำให้ กระบวนการย่อยอาหารท�ำงานช้าลง และ แม้มนั จะท�ำให้เรารูส้ กึ อิม่ ไม่หวิ ง่ายในช่วง ดึก แต่ผกั เหล่านี้ก็ทำ� ให้เกิดแก๊ส หรือลม ในกระเพาะอาหาร ซึง่ อาจรบกวนการนอน ท�ำให้เกิดอาการนอนไม่หลับได้ *เครื่ อ งดื่ ม แอลกอฮอล์ ข้อ นี้ ต้องห้ามส�ำหรับมุสลิมอยู่แลว้ แต่สำ� หรับ คุ ณ ผู อ้ ่ า นที่มิใ ช่ มุส ลิม ขอเตื อ นว่ า อย่ า ได้ด่ืมหรือจิบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อน นอนเป็ นอันขาด เพราะนักโภชนาการบอก

ว่า แอลกอฮอล์จะมีฤทธิ์ไปเร่งและกระตุน้ กระบวนการเผาผลาญในร่างกายให้เร็วขึ้น หัวใจจะเต้นแรง และนัน่ จะท�ำให้คุณต้อง สะดุง้ ตืน่ เป็ นพักๆ ตลอดทัง้ คืน ทีแ่ ย่ไปกว่า นัน้ มีรายงานยืนยันว่า แอลกอฮอล์ทำ� ให้ อัตราการนอนกรนเพิม่ ขึ้น ทีน้ ีไม่เพียงแต่ ช่วงเวลานอนของคุณจะแย่เพียงอย่างเดียว คนข้างๆ ทีต่ อ้ งทนกับเสียงกรนทีห่ นักขึ้นก็ จะต้องทรมานไปทัง้ คืนด้วยอย่างแน่นอน *มีคนเคยบอกไว้ว่า ช็อกโกแลต ท�ำให้นอนหลับฝันดี... แต่ นกั โภชนาการ กลับบอกว่า ช็อกโกแลตนัน้ ไม่ได้มีแค่ ปริมาณแคลอรีทส่ี ูงเพียงอย่างเดียว แต่มี คาเฟอีนอยู่ดว้ ย โดยเฉพาะอย่างยิง่ ดาร์ก ช็อกโกแลต หรือช็อกโกแลตเข้มข้นมากๆ นัน่ เอง ตัวอย่างเช่น ช็อกโกแลตแท่งขนาด 1.55 ออนซ์นนั้ มีปริมาณคาเฟอีนมากถึง 12 มิลลิกรัมซึ่งเป็ นปริมาณมากพอๆ กับการ ดืม่ กาแฟดีแคฟ 3 ถ้วยทีเดียว ซึง่ ทัง้ หมด นี้จะไปกระตุน้ หัวใจของคุณให้ทำ� งานหนัก ขึ้นไปอีกขณะเข้านอน รูจ้ กั อาหารที่ไม่ควรกินก่อนนอน กันแล ้ว ก็หวังว่าต่อไปนี้คงจะนอนหลับฝัน ดีกนั นะคะ ทีม่ า http://health.kapook.com http://beauty.yopi.co.th http://www.foodslender.com จดหมายข่าววารสารสุขสาระ

7


สุขภาพปาก ฟันผุ เป็ นผลลัพธ์ของกระบวนการ ท�ำ ลายแร่ ธ าตุข องโครงสร้า งฟั น ที่ มี ส าเหตุ ม าจากการสร้า งกรดของ แบคที เ รี ย เพื่อ มาย่ อ ยเศษอาหาร ที่ตกค้างหลังจากที่เราทานอาหาร เข้า ไป หรือ ที่มี ก ารเรีย กกัน แบบ บ้านๆ ว่า “แมงกินฟัน” ฟันผุ ถ้า ปล่อยไว้ไม่รกั ษา จะท�ำลายฟันและ เส้นประสาท ที่ไวต่อความรูส้ กึ ซึ่ง อาจท�ำให้เกิดหนอง และอาจจะติด เชื้อไปถึงรากฟัน ฟันผุจะเป็ นเรือ่ งใหญ่ถ ้าปล่อย ทิ้ง ไว้ อาจท�ำ ให้เ ชื้ อ โรคในฟัน ผุ ป นกับ น�ำ้ ลายเข้าสูป่ อดท�ำให้ปอดติดเชื้อ มีรายงาน ระบุ ว่ า พบผู ป้ ่ วยปอดติ ด เชื้ อ จากฟัน ผุ หลายราย โดยรายล่าสุด พบมีเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์เป็ นตัวกระตุน้ ท�ำให้เกิดการ ท�ำปฏิกิริยาอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ผูป้ ่ วย หายใจติดขัด แน่นหน้าอก น�ำ้ ท่วมปอด และ อาการอยูใ่ นขัน้ สาหัสไม่นานหลังจากปรากฏ อาการดังกล่าว ส�ำหรับเชื้อโรคในฟันผุทก่ี ่อให้เกิด อาการปอดติดเชื้อรุนแรง มีช่อื ว่า “แอนอา นาโรป” (Ananarob) จะปนกับน�ำ้ ลายเข้าสู่ ปอด ผ่านการกลืนหรือส�ำลักน�ำ้ ลายในขณะ

ราไว

ระวัง!!ฟันผุ ท�ำปอดติดเชื้อ รุนแรงถึงตาย หลับ ท�ำ ให้ เกิดหนองใน ปอด ซึ่งคน ทีเ่ สีย่ งจะเป็ น โรคนี้ นอกจาก จ ะ มี ฟั น ผุแ ล ว้ ยัง อัน ตราย มากในผู ท้ ่ีฟ นั ผุ แ ล ว้ ดื่ม แอลกอฮอล์ เนื่ อ งจากเชื้ อ แอนอานาโรป เป็ น เชื้ อ ที่ ไม่ พ่ึง ออกซิเ จน และจะท�ำ ปฏิกิริย ากับ แอลกอฮอล์ ท�ำให้ปอดเป็ นหนองหลายๆ จุด เกิดน�ำ้ ท่วมปอด อาการรุนแรงกว่าเดิม หลายเท่า และรักษาค่อนข้างยากอีกด้วย โดยสถิตจิ ำ� นวนผูต้ ดิ เชื้อดังกล่าว จากฟันผุกบั ดืม่ สุราทัว่ ไป มีไม่ตำ� ่ กว่า 20% พบบ่อย ๆ ในช่วงทีม่ กี ารสังสรรค์ ผูป้ ่ วย ส่วนใหญ่จะหายเป็ นปกติได้ แต่จะมีบาง รายที่มภี าวะการก่ อตัวของหนองในปอด มาก และไม่สามารถท�ำลายด้วยการเจาะ

ปอด หรือการให้ยาฆ่าเชื้อ จนต้องผ่าตัดใน ทีส่ ุด วิธกี ารรักษา มีอยู่ 3 แนวทาง คือ... 1. เจาะปอด เพือ่ ต่อท่อสายยางดูด เอาน�ำ้ ท่วมปอด และน�ำ้ เหลืองออก ซึง่ ปอด จะเป็ นเหมือนแอ่งน�ำ ้ ในบางรายเจาะเพียงรู เดียว ต้องเจาะหลายรูเพือ่ ดูดหนองออก 2. ยาฉีดฆ่าเชื้อ หากใช้วธิ แี รกไม่ ได้ผล แพทย์จะใช้ยาเฉพาะฉีดเข้าไปเพือ่ ท�ำลายเชื้อ ซึง่ วิธนี ้ ีจะมีผลข้างเคียง ท�ำให้ผู ้ ป่ วยไข้สูงต่อเนื่อง 3. ผ่าตัดใหญ่ หากผูป้ ่ วยอาการ ยังไม่ดขี ้นึ ยาฉีดไม่สามารถท�ำลายเชื้อทีอ่ ยู่ ในปอดได้ แพทย์จะท�ำการผ่าตัดใหญ่เปิ ด ปอด เพือ่ ดูดน�ำ้ เหลืองออกจากปอด แต่วธิ ี นี้จะส่งผลข้างเคียงมาก ต้องเฝ้ าระวังภาวะ แทรกซ้อน ทัง้ นี้ ห ากพบว่ า มีอ าการเหนื่ อ ย หอบ แน่ น หน้า อก ไอ มีไ ข้สู ง เจ็บ ใน ซี่โครง และหายใจไม่ค่อยออก ภายหลัง จากดืม่ แอลกอฮอล์ และมีฟนั ผุ ควรรีบไป พบแพทย์ เพราะอาจจะท�ำให้เสียชีวติ ได้ เนื่องจากเชื้อนี้ใช้เวลาก่ อตัวเพื่อท�ำให้น�ำ้ ท่วมปอดแลว้ กลายเป็ นปอดอักเสบเรื้อรัง ใช้เวลาเพียงแค่ 6 ชัว่ โมงเท่านัน้ ทีม่ าhttp://health.kapook.com http://www.li.mahidol.ac.th http://www2.mcot.net

8

มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)


ฮากีม

คนตุรกี กับ ไก่งวง

เราสงสัยกันมานานแลว้ ว่าท�ำไม คนอเมริกนั จึงเรียกประเทศตุรกีว่าแดน ไก่งวง และค�ำว่า “ไก่งวง” เป็ นค�ำดูถกู จริง หรือ? คนอเมริกนั ไม่ได้เรียกประเทศ ตุรกีวา่ “ดินแดนไก่งวง” แต่คนทีข่ นานนาม นี้กลับเป็ นแฟนบอล และสือ่ ไทย ทีม่ กั ชอบ ขนานนามใครเขาไปทัว่ เช่น แดนปลาดิบ หมายถึงประเทศญี่ป่ นุ แดนผูด้ กี ็หมายถึง ประเทศอังกฤษ หรือ แดนน�ำ้ หอมก็ประเทศ ฝรัง่ เศส เป็ นต้น มาถึงค�ำว่า “ไก่ งวง” ท�ำไมต้อง เป็ น “turk” เรื่ อ งมัน เริ่ ม ต้น ที่บ นเกาะ มาดากัสการ์ มีนกหรือจะเรียกว่าไก่ชนิด หนึ่ง คล ้ายๆ นกกระทา ตัวใหญ่ ซึง่ คนที่ น�ำนกชนิดนี้เข้าไปขายในยุโรปนัน้ เป็ นพ่อค้า ชาวตุรกี ทีเ่ รียกว่า Turkish merchant พ่อค้าชาวตุรกียคุ นัน้ เรียกนกชนิด นี้วา่ นกกินี หรือ Guinea fowl ตามชื่อ ของประเทศกินปี ระเทศเล็กๆทีอ่ ยูท่ างตะวัน ตกเฉียงเหนือของทวีปแอฟริกา เพราะเชื่อ ว่านกชนิดนี้มาจากประเทศกินี (ทัง้ ๆ ทีน่ ก ชนิดนี้มาจากเกาะมาดากัสการ์ ส่วน fowl

หมายถึงสัตว์ปีกครับ เหมาเรียกได้ทงั้ ไก่ และนก) ชาวยุโรปสมัยนัน้ ไม่รูจ้ กั ทัง้ ประเทศกินี และ เกาะมาดากัสการ์ เลยเหมาเรียกนกทีซ่ ้อื มา นี้ตามเชื้อชาติของพ่อค้าที่นำ� มาขาย เช่ น นกจากพ่อค้าตุรกี สุดท้ายนกชนิดนี้เลย ได้ช่อื ว่า turkey ตามเชื้อชาติของพ่อค้าไป เหมือนอย่าง “บางกะปิ ” ทีม่ าจากค�ำว่า กะปิ เยาะห์ ซึง่ เป็ นหมวกถักของมุสลิม เพราะ ในอดีตมุสลิมมาตัง้ บ้านเรือนอาศัยอยู่เป็ น จ�ำนวนมากในย่านนัน้ เมือ่ เห็นผูช้ ายมุสลิม สวมหมวกกะปิ เ ยาะห์ ก็ เ ลยเรีย กพื้น ที่ ตรงนัน้ กันว่ากะปิ เยาะห์ แลว้ ก็เพี้ยนเป็ น บางกะปิ ในปัจจุบนั แต่ turkey ทีค่ นยุโรปกินในตอน นัน้ กับ turkey ทีก่ นิ กันในปัจจุบนั มันเป็ น นกคนละสายพันธุ ก์ นั สมัยนัน้ เขากินนก ที่มาจากมาดากัสการ์แต่ คนขายไปเข้าใจ ว่านกชนิดนี้มาจากประเทศกินี ต่ อ มาเมื่อ พ่ อ ค้า หรือ นัก รบชาว สเปนชื่อคอนคิสตาดอร์ (conquistadors) เดินทางไปถึงทวีปอเมริกาเพือ่ ทีจ่ ะไปค้นหา ทองค�ำ ก็ไปพบนกสายพันธุห์ นึ่งทีช่ าวพื้น เมืองชื่อ แอซเทค (Aztec) เลี้ยงไว้เป็ น

อาหาร นกชนิดนี้หน้าตามันคลา้ ยกับ นก กินี (ทีม่ าจากมาดากัสการ์แลว้ ฝรัง่ เรียกว่า ตุรกี) มาก รสชาติกย็ งั คล ้ายๆ กันด้วย ก็ เลยจับนกชนิดนี้ลงเรือกลับมาให้ชาวยุโรป ได้ลองชิมกันบ้าง ชาวบ้า นทัว่ ไปเมื่อ เห็ น นกจาก ดินแดนห่างไกลสองแห่ง ก็เกิดการสับสน หน้าตามันก็คล ้ายกัน รสชาติกอ็ ร่อยคล ้ายๆ กัน มาจากเมืองนอกที่อะไรก็ไม่รู ้ ก็เกิด ความสับสน แล ้วเหมารวมไปว่าเป็ นนกหรือ ไก่ turkey เหมือนๆ กัน ดังนัน้ ค�ำว่า turkey ในช่วงแรก จึงเป็ นค�ำที่เรียกสัตว์ปีกสองสายพันธุท์ ่มี า จากสองทวีปสุดท้ายเมื่อชาวยุโรปอพยพ ไปอยู่ในทวีปอเมริกา สัตว์ปีกที่ฝรัง่ เรียก ว่า turkey ก็เลยกลายเป็ นสัตว์ปีกทีม่ าจาก ทวีปอเมริกาไป แต่คนตุรกีเขาไม่เรียกว่า turkey นะครับ แต่เขาเรียกมันว่า Hindi (ฮินดู) ซึง่ ก็คอื อินเดีย สงสัยใช่ไหมครับ? ก็เพราะว่า โคลัมบัสทีค่ น้ พบทวีปอเมริกา คงจะสับสน เข้าใจผิดคิดว่าเป็ นอินเดียพอมีไก่ มาจาก อเมริกา เลยเรียกไปว่าไก่จากอินเดีย ภาษา ฝรัง่ เศสก็เหมือนกัน เรียกไก่งวงว่า dinde (ดานเดะ) ซึง่ หมายถึงอินเดีย เพราะแรกๆ เรียกว่า ไก่จากอินเดีย แล ้วหดสัน้ ลงเหลือ ค�ำว่าอินเดีย ค�ำเดียว ชาวฮอลแลนด์เ รี ย กไก่ ง วงว่ า kalkoen ออกเสียงประมาณว่า โกลกุ่น

จดหมายข่าววารสารสุขสาระ

9


ย้อนรอย ซึง่ มาจากชื่อเมือง โคริโคด หรือ คาลิคตั (Calicut) เมืองค้าขายเก่าแก่ทางตอนใต้ ของอินเดีย ส่วนคนโปรตุเกสเรียกไก่งวง ว่า เปรู เพราะรู ว้ ่าสัตว์ปีกชนิดนี้มาจาก อเมริกาใต้ ครับ อีกเรื่องที่ตอ้ งท�ำความเข้าใจกัน ก็คือ ภาษาอังกฤษ ถ้าพูดถึงประเทศตุรกี ต้องใช้ตวั เขียนใหญ่ ส่วนถ้าเป็ นไก่หรือนก ก็เป็ นตัวเขียนเล็ก เช่น ชือ่ ประเทศ Turkey -ชื่อคน Turk, Turkish -ชื่อไก่ turkey ยังมีเรือ่ งเล่าในสมัยประธานาธิบดี แฟรงคลินแห่งสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดี อยากได้ wild turkeys มาเป็ นสัตว์ประจ�ำ ชาติ เพราะคุณสมบัติท่มี นั ปราดเปรียว และ ฉลาด จับยาก ท่านใช้คำ� ว่า noble แต่ สภาไม่เห็นด้วยเพราะว่ามันไม่สวย ไม่เท่ห ์ ไม่สง่าเหมือน Bald Eagle ประธานาธิบดี ท้วงว่าเจ้า Bald Eagle มันเป็ นนกทีม่ ลี ลี า การบินทีส่ ง่างามก็จริงอยู่ แต่โดยนิสยั นัน้ ขี้เกียจ ไม่ลา่ สัตว์แต่รอกินสัตว์ทต่ี ายแลว้ ท้ายทีส่ ุดประธานาธิบดีกแ็ พ้โหวต ส�ำนวนอเมริกนั ที่ว่า Let’s talk Turkey. หมายความว่า มาพูดกันเป็ นเรื่อง เป็ นราวดีกว่าส่วนทีเ่ รียก ไอ้งงั ่ ทัง้ หลายว่า turkey ซึง่ turkey ในทีน่ ้ ีหมายถึง ไก่บา้ น หรือไก่เลี้ยง ทีว่ นั วันก็รอกินข้าว แล ้วก็รอ ให้คนจับไปลงหม้อ ไม่ใช่ wild turkeys ที่ฉลาด ว่องไว เพราะเป็ นไก่ป่าที่ตอ้ งเอา ตัวรอดให้ได้ในป่ า หวังว่าข้อมูลนี้ จะช่วยคุณผูอ้ ่าน ที่เคยรับทราบเรื่องราวของ “ไก่ งวง” กับ “turk” ว่าเป็ นเรื่องของการดูหมิน่ มุสลิมนัน้ ว่าทีจ่ ริงแล ้วยังมีข ้อมูลอีกด้านหนึ่ง คงพอที่ จะท�ำให้คุณผู อ้ ่านได้ตดั สินใจว่าจะเลือก ด้านใด... “ด้านบวก หรือว่า ด้านลบ” ข้อมูล https://m.facebook.com/notes/chatchapolbook http:// tinglish’.bloggang.com

10

มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)

360 องศา

Bottle Light ในปี 2002 ช่างยนต์ชาวบราซิล Alfredo Moser ได้นำ� เสนอโคมไฟรูปแบบ ใหม่ทจ่ี ะส่องสว่างในช่วงกลางวันได้โดยไม่ ต้องใช้ไฟฟ้ า ใช้เพียงขวดเปล่าใส่นำ�้ และผง ซักฟอกเล็กน้อย หรือคลอรีนชนิดน�ำ้ กับน�ำ้ เต็มขวดขนาดเหมาะสม เพือ่ ไม่ให้นำ�้ กลาย เป็ นสีเขียวจากตะไคร่ เจาะหลังคาบ้านด้วย สว่านให้เป็ นรูพอใส่ขวดน�ำ้ และใช้โพลีเอสเต อร์เรซิ่นทาทับ ซึ่งจะท�ำให้หลังคาไม่รวั ่ แม้ ฝนจะตก แสงสว่างจะขึ้นอยูก่ บั แสงจากดวง อาทิตย์ (ส่วนมากจะอยู่ท่ี 40 ถึง 60 วัตต์) ซึ่งพอที่จะท�ำให้ภายในห้องหรือบ้านสว่าง และยังสามารถใช้ในการปลูกพืชในร่ มได้ ด้วย ในช่วงสองปี ทผ่ี ่านนวัตกรรมของ เขาได้แพร่กระจายไปทัวโลก ่ เป็ นทีค่ าดหวัง กันว่า Bottle Light จะถูกน�ำมาใช้ถงึ หนึ่ง ล ้านหลังคาเรือนราวต้นปี 2014 แรงบันดาลใจส�ำหรับ “โคมไฟโม

เซอร์” เกิดขึ้นในช่วงปี 2002 เกิดไฟดับบ่อย ครัง้ ทีเ่ มืองอูเบรา ทางตอนใต้ของประเทศ บราซิลเป็ นเหตุให้ Alfredo Moser ได้ คิดไอเดียขวดแสงไฟนี้ข้ นึ มาได้ จากการ สังเกตเห็นขวดพลาสติกใส่นำ �้ ส่องแสงสว่าง ตอนทีแ่ สงอาทิตย์ส่องมากระทบ จึงน�ำขวด พลาสติกมาเติมน�ำ้ ให้เต็มและเพิม่ ส่วนผสม สารฟอกขาวเข้าไปด้วยเพือ่ ไว้รวมแสง น�ำมา ติดไว้บนหลังคาบ้านใช้แทนแสงไฟ โดยมัน ให้แสงไฟเท่ากับหลอดไฟ 60 วัตต์ ต่อมาคลิปของเขาถูกเผยแพร่ทาง ยูทูป ท�ำให้ Miguel Marchand ชาวชิลี นึกถึงชุมชนในเขตไม่พฒั นา ที่ไม่มไี ฟฟ้ า ใช้ในชิลี ที่เขาเคยไปอาศัยอยู่เพื่อถ่ายท�ำ สารคดีกว่า 1 ปี เกิดไอเดียเอาขวดแสงไฟ ไปติดหลังคาบ้านให้กับคนในชุมชนเหล่านัน้ เพือ่ ใช้แทนหลอดไฟ Bottle Light ได้รบั การยอมรับ จากหลายประเทศ ไม่วา่ จะเป็ นประเทศชิลี


ฮามิด

ขวดแสงที่จะมาเปลี่ยนโลก

ฟิ ลปิ ปิ นส์ หรือบังกลาเทศ ช่วยให้คนยากไร้ มีแสงสว่างในชีวติ เพิม่ ขึ้น วิธีการท�ำนัน้ แสนง่ายดาย แค่ มี ขวดพลาสติก แผ่นสังกะสีแบบลอน กาว กันซึม น�ำ้ ยาฟอกขาว เป็ นวัตถุดิบหลัก เริ่มประกอบโดยเอาแผ่นสังกะสีหรือวัสดุท่ี ต้องการใช้เป็ นฐาน ซึง่ ควรจะทนทานลมฝน และอากาศ มาตัดเป็ นวงกลมให้เท่าขนาด เส้นผ่าศูนย์กลางของขวด และอีกวงใหญ่ กว่าขวดเล็กน้อย หลังจากนัน้ ขัดด้านนอก ขวดเพือ่ เตรียมทากาว เติมน�ำ้ ให้เต็มเกือบ ถึงขอขวดแลว้ ใส่นำ�้ ยาฟอกขาวลงไปสอง

ฝา ก่ อนน�ำขวดใส่ไว้ดา้ นในรู ท่ีเจาะตอน แรก ปิ ดฝาขวดด้วยกาวกันซึม เมือ่ น�ำขวด ใส่ไว้ในรูทเ่ี จาะแลว้ ให้ปิดรอบขวดให้แน่น ด้วยโพลีเอสเตอร์เรซิน่ หากต้องการแสงทีส่ ว่างมากทีส่ ุด ก็เป็ นน�ำ้ ผสมน�ำ้ ยาฟอกขาวด้วย (Bleach) หรือ คลอรีน และหากต้องการให้มสี สี นั สามารถใช้นำ�้ ผสมสีทต่ี อ้ งการได้เช่นกัน แ ม้ว่ า หล อ ด ไฟ จ ากขว ดน�้ ำ พลาสติกนี้จะประหยัดค่าไฟได้ 100% แต่ ก็ยงั มีขอ้ จ�ำกัด เพราะสามารถให้พลังงาน ได้เ พีย งตอนกลางวัน เท่ านัน้ แต่ . .อย่ าง

น้อยก็สามารถช่ วยลดค่ าใช้จ่ายในบ้านที่ ต้องการแสงสว่างในตอนกลางวันได้ไปมาก พอสมควร http://www.creativemove.com/design/ liter-of-light/#ixzz2r2K3BnWN http://fb.com/samrujlok www.nextstetptv.com http://www.bbc.co.uk/news/magazine-23536914 banideadotcom@gmail.com

จดหมายข่าววารสารสุขสาระ

11


สาระน่ารู้

เรื่อง

หนองจอก

คุยฟุ้ง

“กาแฟ”

กาแฟ เป็ นเครื่องดืม่ ทีไ่ ด้รบั ความ นิยมอย่างแพร่หลาย และได้เข้ามามีบทบาท หรือเป็ นส่วนหนึ่งในชีวติ ประจ�ำวันของใคร หลายๆ คน นัน่ เป็ นเพราะว่า หลังจากดืม่ กาแฟแลว้ จะท�ำให้เกิดความรู ส้ ึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และช่วยท�ำให้หายง่วงซึม แม้บางคนจะกังวลกับข้อมูลเก่าๆ เรื่องโทษ ของกาแฟ แต่ก็มคี นแย้งมาว่า มีงานวิจยั ระบุวา่ กาแฟให้คณ ุ มากกว่าโทษ ถ้าคุณรูจ้ กั ดืม่ งานวิจ ยั เกี่ย วกับ ความสัม พัน ธ์ ของพฤติกรรมการดืม่ กาแฟต่อการเกิดโรค เบาหวานชนิดที่ 2 พบว่าผลงานวิจยั ส่วน ใหญ่ให้ผลเชิงบวกคือมีแนวโน้มลดความ เสีย่ งการเกิดโรคเบาหวานโดยสันนิษฐานว่า เป็ นผลมาจากสารส�ำคัญในเมล็ดกาแฟทีช่ อ่ื ว่า กรดคลอโรจีนิก (chlorogenic acid) ส่วนการศึ กษาถึงความสัมพันธ์ ของการดื่มกาแฟกับโรคที่เกิดจากความ เสือ่ มของระบบประสาทซึง่ ได้แก่ โรคพาร์กนิ สันและโรคอัลไซเมอร์พบว่า การดืม่ กาแฟ มีแนวโน้มช่ วยลดความเสี่ยงต่ อการเกิด โรคพาร์กนิ สันในเพศชายและผูท้ ด่ี ม่ื กาแฟ ตัง้ แต่มอี ายุอยูใ่ นช่วงวัยกลางคนมีแนวโน้ม ทีจ่ ะป่ วยเป็ นโรคความจ�ำเสือ่ มเมือ่ มีอายุยา่ ง เข้าสู่วยั สูงอายุนอ้ ยกว่าผูท้ ไ่ี ม่ดม่ื กาแฟเลย และในการศึ กษาความสัมพันธ์ ของการดื่มกาแฟกับภาวะความเสี่ยงต่ อ การเกิดโรคมะเร็งชนิดต่างๆ ได้แก่ มะเร็ง ล�ำ ไส้ใ หญ่ แ ละทวารหนัก มะเร็ ง เต้า นม

12

มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)

มะเร็งรังไข่ และมะเร็งตับ มีทงั้ ผลเชิงบวก คือ มีแ นวโน้ม ลดความเสี่ย งการเกิด โรค มะเร็ง และไม่มคี วามสัมพันธ์ทางสถิตติ ่อ การเกิดโรค จึงยังไม่สามารถสรุปได้วา่ การ ดื่มกาแฟจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิด โรคมะเร็งดังกล่าวได้ นอกจากนี้ผลจากการศึกษาความ สัมพันธ์ของการดืม่ กาแฟกับการสะสมและ การเสือ่ มของกระดูกพบว่า การดืม่ กาแฟไม่ เกินวันละ 3 ถ้วย (ได้รบั คาเฟอีนไม่เกิน 300 มก.) ต่อวัน อาจช่วยลดความเสีย่ งของการ เกิดโรคกระดูกพรุนและกระดูกสะโพกหัก ได้ ส�ำหรับผู ้ทีด่ ม่ื กาแฟเพราะต้องการ แก้ง่วง แนะน�ำให้ด่ืมปริมาณน้อยๆ แต่ กระจายการดืม่ ออกไปตลอดวัน เช่น แทนที่ จะดืม่ ถ้วยใหญ่ 16 ออนซ์ (500 มล.) ใน ตอนเช้า ให้ดม่ื เพียงครัง้ ละ 2-3 ออนซ์ (6090 มล.) แต่บอ่ ยขึ้น กาแฟจะเริ่มออกฤทธิ์ ใน 15 นาที และจะอยู่ในร่างกายนานหลาย ชัว่ โมง และต้องใช้เวลาถึง 6 ชัว่ โมงกว่าทีจ่ ะ ถูกขจัดออกจากร่างกาย ข้อควรระวัง องค์ประกอบหลัก ของกาแฟคือ สารคาเฟอีน ซึ่ง เป็ น สาร กระตุน้ ที่มผี ลต่ อระบบหลอดเลือดและ หัวใจ ท�ำให้หวั ใจเต้นเร็วขึ้น หรือเต้น ผิดปกติในบางครัง้ และเพิม่ ความ ดัน โลหิต งานวิจ ยั ล่ า สุ ด จาก มหาวิทยาลัยโทรอนโตเปิ ดเผย ว่า การดื่มกาแฟมากอาจเพิ่ม

ความเสีย่ งหัวใจวายเฉียบพลันในผูท้ ม่ี ยี นี ขจัดคาเฟอีนช้าท�ำให้คาเฟอีนอยู่ในกระแส เลือดนานขึ้น แต่สำ� หรับคนที่มยี นี ปกติท่ี ขจัดคาเฟอีนได้เร็วกาแฟก็จะไม่มผี ล ผู ้ทีด่ ม่ื กาแฟสกัดคาเฟอีน อาจคิด ว่าปลอดภัย แต่นกั วิจยั เตือนว่า กาแฟสกัด คาเฟอีนอาจเพิม่ ระดับกรดไขมันในเลือดให้ สร้างแอลดีแอล ซึง่ เป็ นคอเลสเตอรอลตัว ร้ายได้ เพราะในกระบวนการสกัดคาเฟอีน จะสกัดเอาสารฟลาโวนอยด์ซ่งึ มีฤทธิ์ตา้ น อนุมลู อิสระและสารอืน่ ๆ ทีใ่ ห้รสชาติกาแฟ แท้ๆ ออกไปด้วย ดังนัน้ การดืม่ กาแฟสกัด คาเฟอีนนอกจากจะอร่อยน้อยลงแล ้ว ยังมี ผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย ในปี พ.ศ. 2501 องค์การอาหาร และยาของสหรัฐ อเมริ ก า (FDA) ได้ รับรองว่าคาเฟอีนเป็ นอาหารกลุม่ ค่อนข้าง ปลอดภัย แม้ยงั มีขอ้ ถกเถียงในเรื่องผลดี ผลเสียต่อสุขภาพ แต่ โดยรวมมีความเห็น ร่วมกันว่าไม่เกิดผลเสียต่อสุขภาพ หากดืม่ กาแฟไม่เกินระดับปกติ คือ ประมาณ 300 มก./วัน หรือเท่ากับกาแฟถ้วยมาตรฐาน 8 ออนซ์ 3 ถ้วยหรือชาชง 6 ถ้วยต่อวัน http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/thai/ knowledgeinfo.php?id=180 http://www.dmh.go.th/news/view.asp?id=1017 https://www.facebook.com/wellnessthai


ท่องโรค

รุ่งเรือง

โรคลมชัก

โรคลมชัก (Epilepsy) มาจากค�ำ กรีกว่า epilambaneinหมายถึง ‘to seize’ หรือ ‘to attack’ มีการบันทึกครัง้ แรกใน โลกตะวันตกในต�ำราของบาบิโลเนียนทีค่ น้ พบในทางใต้ของตุรกี ต่อมาพบว่าโรคลม ชักมีการเขียนในต�ำราการแพทย์ของจีนเมือ่ 770 ถึง 221 ปี ก่อนคริสตกาล เมือ่ ราว 400 ปี ก่อนคริสต์ศกั ราช ฮิปโปเครติสได้บรรยายถึงโรคลมชักว่าเป็ น ‘the sacred disease’ แต่สงั คมส่วนใหญ่ เข้าใจในทางว่าเป็ นโรคของปี ศาจเนื่องจาก อาการและอาการแสดงของโรค จนกระทัง่ ในปี ค.ศ. 1875 ที่ป ระสาทแพทย์ช าว

อังกฤษ John Hughlings Jackson ได้ พบว่าอาการชักเป็ นความผิดปกติจากสมอง โรคลมชักเป็ นความผิดปกติทาง ระบบประสาทที่พบบ่อยทัว่ โลก ถึงแม้มนั จะหายไปได้ในบางคน แต่คนไข้หลายคน มีอาการชักไปตลอดชีวติ มันเกิดได้ทกุ อายุ และทุกภูมภิ าค ประมาณ 50 ล ้านคนทัวโลก ่ เป็ นโรคลมชัก โรคลมชัก เป็ นความผิ ด ปกติ ของระบบประสาทที่พบมากชนิดหนึ่ง ใน ประเทศทีพ่ ฒั นาแล ้วพบได้ประมาณ 50-70 รายต่อประชากร 100,000 คนในประเทศ ก�ำลังพัฒนา ตัวเลขอาจสูงกว่านี้เนื่องจาก

ปัญหาเรื่องสาธารณสุข การคลอด อาจพบ มีการติดเชื้อของระบบประสาทและบาดเจ็บ ทีศ่ ีรษะมากกว่า ความชุกของโรคลมชักประมาณ 1% ในประเทศทีพ่ ฒั นาแลว้ และประเทศ ก�ำลังพัฒนาอุบตั ิการณ์ต่างกันไปตามอายุ และพบอุบตั กิ ารณ์สูงขึ้นในวัยเด็กโต และ อีกช่วงคือเมือ่ อายุมากกว่า 65 ปี และพบ ในระดับต�ำ่ ในวัยผูใ้ หญ่ตอนต้นเมือ่ ไม่ก่ีปี มานี้ พบว่าจ�ำนวนเด็กทีม่ โี รคลมชักลดลง และการเพิ่มขึ้นในวัยชราและพบได้บ่อย ที่สุด เนื่องจากปัจจุบนั จ�ำนวนผูส้ ูงอายุได้ เพิม่ มากขึ้น อัตราการตายในคนไข้โรคลมชัก มีมากกว่าประชากรทัว่ ไปประมาณ 2-3 เท่า ในหลายรายที่สาเหตุมาจากสาเหตุท่ที ำ� ให้ ชัก แต่การเสียชีวติ โดยไม่ทราบสาเหตุใน คนไข้โรคลมชัก (SUDEP: sudden unexpected death in epilepsy) เชื่อว่ามีถงึ 17% ของการตายทีเ่ กี่ยวข้องกับโรคลมชัก SUDEP หมายถึงการเสียชีวติ ในคนไข้โรค ลมชักโดยทันที ไม่ได้คาดคิด อาจมีพยาน หรือไม่มพี ยานเห็น ไม่เกิดจากอุบตั เิ หตุหรือ จมน�ำ ้ โดยมีหรือไม่มหี ลักฐานว่าอาการชัก และไม่เกี่ยวกับการชักแบบไม่หยุด (status epilepticus) และการชันสูตรศพไม่พบมี สารพิษหรือกายวิภาคทีเ่ ป็ นสาเหตุของการ เสียชีวติ รายงานการเสียชีวติ จาก SUDEP พบได้ 0.35-10 ต่อคนไข้ 1,000 รายต่อปี และจะสูงกว่านี้ในคนไข้ทีค่ วบคุมชักได้ไม่ดี สาเหตุการตายอื่นๆในคนไข้โรคลมชักเช่น จมน�ำ้ , ไฟไหม้, น�ำ้ ร้อนลวก, ปอดบวม, ชัก ไม่หยุดและฆ่าตัวตาย http://www.thaiepilepsy.com

จดหมายข่าววารสารสุขสาระ

13


ท่องโรค

ลมบ้าหมู

ลม

บ้าหมู Epilepsy, Grand mal หมายถึง โรคลมชักชนิดหนึ่ง ที่มอี าการเป็ นลมหมดสติ และชักกระตุก ทัง้ ตัว ซึง่ จะเป็ นอยู่นานไม่ก่ีนาที แลว้ ฟื้ น คืนสติได้เอง มักจะมีอาการเกิดขึ้นเป็ นครัง้ คราว ผู ้ทีม่ อี าการของโรคนี้ควรไปพบแพทย์ เพือ่ ตรวจวินิจฉัย หากได้รบั การรักษาอย่าง ถูกต้องต่อเนื่อง ผูป้ ่ วยก็จะสามารถด�ำเนิน ชีวติ เช่นคนปกติทวั ่ ไป แต่ถา้ ขาดการรักษา ปล่อยปละให้เกิดอาการชักบ่อยๆ ก็อาจได้ รับอันตรายจากอุบตั ิเหตุขณะเกิดอาการ เช่น ตกจากทีส่ ูง จมน�ำ ้ รถชน เป็ นต้น อาการ : ผูป้ ่ วยอยู่ๆ ก็มอี าการ หมดสติ เป็ นลมลม้ พับกับพื้นทันทีทนั ใด พร้อ มกับ มีอ าการกล า้ มเนื้ อ เกร็ ง ทัง้ ตัว หายใจล�ำบาก หน้าเขียว ซึง่ จะเป็ นอยู่นาน ไม่ก่ีวนิ าทีถงึ 20 วินาที ต่อมาจะมีอาการ ชักกระตุกของกล ้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกาย เป็ นระยะๆ และมีอาการตาค้าง ตาเหลือก ในระยะแรกมักจะชักถี่แลว้ ค่ อยๆ ลดลง

14

มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)

ตามล�ำดับ จนกระทัง่ หยุดกระตุก ในช่วงนี้ จะมีอาการน�ำ้ ลายฟูมปาก และอาจมีเลือด ออกจากการกัดถูกริมฝี ปาก หรือลิ้นตัวเอง อาจมีอาการปัสสาวะหรืออุจจาระราดร่วม ด้วย อาการชักจะเป็ นอยู่นานประมาณ 1-3 นาที (บางรายอาจนาน 5-15 นาที) แล ว้ ฟื้ นสติ ต่ื น ขึ้น ด้ว ยความรู ส้ ึก มึน งง อ่อนเพลีย บางรายอาจม่อยหลับไปนานเป็ น ชัว่ โมงๆ หลังจากม่อยหลับและตื่นขึ้นมา แล ้ว อาจมีอาการ ปวดศีรษะ มึนงง สับสน อ่อนเปลี้ยเพลียแรง หาวนอน ลืมตัว และ อาจท�ำอะไรทีต่ วั เองจ�ำไม่ได้ในภายหลังบาง รายอาจมีอาการเตือนหรือออรา (aura) น�ำ มาก่อนจะหมดสติ เช่น แขนหรือขาชาหรือ กระตุกเพียงข้างหนึ่ง หรืออาจเห็นแสงวาบ ได้กลิน่ รส หรือได้ยนิ เสียงดังๆ หรือมีความ รูส้ กึ กลัวอย่างไม่มเี หตุผล เป็ นต้นผู ้ป่ วยอาจ เกิดอาการชักในเวลากลางวันหรือ หลังเข้า นอนตอนกลางคืนก็ได้ บางรายเกิดขึ้นโดย ไม่มสี าเหตุกระตุน้ บางครัง้ ก็พบสาเหตุท่ี กระตุน้ ให้ผูป้ ่ วยชัก เช่น อดนอน หิวข้าว กินอาหารมากเกินไป ท�ำงานเหนื่อย เกินไป คิดมาก ดืม่ สุรา กินยากระตุน้ ประสาท ท้อง ผูก มีประจ�ำเดือน มีไข้สูง อยู่ในสถานทีท่ ่ี

มีเสียงอึกทึกหรือมีแสงจ้าหรือแสงวูบวาบ เล่นเกมคอมพิวเตอร์ การหายใจเข้าออก เร็วๆ เป็ นต้น อาการแทรกซ้อ น : ระหว่ า ง ชัก ผู ป้ ่ วยอาจกัดลิ้นตัวเอง หรืออาจได้ รับบาดเจ็บหรือกระดูกหัก ข้อส�ำคัญ คือ อาจท�ำให้ได้รบั อุบตั ิเหตุ เช่น ตกน�ำ ้ รถ ชน ตกจากทีส่ ูง อาจถึงตายได้ในรายทีช่ กั บ่อย อาจมีความผิดปกติของอารมณ์ และ บุคลิกลักษณะ บางคนอาจมีสติปญั ญาต�ำ่ กว่าปกติในรายที่ชกั รุนแรงติดต่อกันเป็ น ชัว่ โมง ๆ อาจเป็ นอันตรายถึงตายได้ อาการเป็ น ลมหมดสติ และชัก กระตุก อาจมีสาเหตุอน่ื เช่น โรคติดเชื้อของสมอง (เช่น สมอง อักเสบ เยือ่ หุม้ สมองอักเสบ) ผูป้ ่ วยจะมีไข้ สูง ปวดศีรษะ อาเจียน ซึม ต่อมาจะไม่ค่อย รูส้ กึ ตัว และชักกระตุก ชักจากไข้ พบในเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 5 ขวบ เด็กจะมีไข้ และชักกระตุกนาน 2-3 นาที (ไม่เกิน 5-15 นาที) แล ้วฟื้ นสติ เป็ นปกติได้ อย่ า งไรก็ ต ามผู ป้ ่ วยที่มีอ าการ หมดสติและชักกระตุก ไม่วา่ จะเกิดจากสา เหตุใดๆ ควรจะรีบไปพบแพทย์ เพือ่ ตรวจ หาสาเหตุและให้การรักษาตามสาเหตุ การดูแลตนเอง : ผูป้ ่ วยควร รูจ้ กั ดูแลตนเอง ดังนี้ 1. กินยากันชักทุกวัน ตามขนาดทีแ่ พทย์ แนะน�ำ ควรท�ำบันทึกการกินยาและการนัด ของแพทย์เพือ่ กันลืม 2. อย่าหยุดยาหรือปรับเปลีย่ นขนาดยา หรือซื้อยากินเอง 3. ถ้าลืมกินยาไปเพียงมื้อเดียวหรือวัน เดียว ให้เริ่มกินในมื้อต่อไปตามปกติ 4. ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร ก่อนใช้ ยาชนิดอื่นร่วมกับยากันชัก เพราะยาบาง ชนิดอาจต้านฤทธิ์ยากันชัก ท�ำให้อาการชัก ก�ำเริบได้ บางชนิดอาจเสริมฤทธิ์ยากันชัก


อะหมัดซอและห์ ท�ำให้เกิดพิษขึ้นได้ 5. ควรแจ้งให้แพทย์ทราบ เมือ่ พบผลข้าง เคียงทีเ่ กิดจากยากันชัก เช่น อาการมึนงง คลืน่ ไส้ อาเจียน เดินเซ ผื่นคัน ผิวหนัง พุพอง เหงือกบวม ดีซ่าน มีไข้ เป็ นต้น 6. ผูป้ ่ วยทีก่ นิ ยาคุมก�ำเนิดหรือมีแผนที่ จะตัง้ ครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ เพือ่ ให้การ ดูแลทีเ่ หมาะสมต่อไป 7. หากตัง้ ครรภ์ หรือเจ็บป่ วยอย่างอื่น ควรแจ้งให้แพทย์ทร่ี กั ษาทราบ และน�ำยาที่ กินอยู่ไปให้แพทย์ดูดว้ ย 8. ในกรณีท่เี ปลีย่ นสถานที่รกั ษา ควร น�ำประวัตแิ ละยาทีก่ นิ อยู่ไปให้แพทย์ดูดว้ ย ข้อควรปฏิบตั สิ ำ� หรับผูป้ ่ วย 1. เพื่อความปลอดภัยและหลีกเลี่ยง ปัจจัยกระตุน้ ให้เกิดการชัก ผูป้ ่ วยควรนอน หลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่าอดนอน อย่า ท�ำงานเหนื่อยเกินไป อย่าใช้ความคิดมาก หลีกเลีย่ ง การกระทบกระเทือนทางจิตใจ อย่าอดอาหาร ระวังอย่าให้ทอ้ งผู ก ห้าม ดื่มแอลกอฮอล์หรือกินยากระตุน้ ประสาท อย่าเข้าไปในทีท่ ม่ี เี สียงอึกทึก หรือมีแสงจ้า แสงวูบวาบ เพราะสิง่ เหล่านี้อาจกระตุน้ ให้ เกิดอาการชักได้ นอกจากนี้ ควรหลีกเลีย่ ง การกระท�ำและสิง่ แวดลอ้ มทีเ่ สีย่ งอันตราย เช่น ว่ายน�ำ ้ ปี นขึ้นทีส่ ูง อยู่ใกล ้ไฟ ใกล ้น�ำ ้ ท�ำงานกับเครื่องจักร ขับรถ ขับเรือ เดิน ข้ามถนนตามล�ำพัง เป็ นต้น ถ้าจ�ำเป็ นต้อง ว่ายน�ำ ้ ควรมีคนอื่นอยู่ดว้ ยตลอดเวลาใน บางประเทศจะอนุญาตให้ผูป้ ่ วยมีใบขับขีไ่ ด้ เมือ่ ปลอดจากอาการชักแล ้วอย่างน้อย 1 ปี 2. ผูป้ ่ วยควรเปิ ดเผยให้เพือ่ นที่ทำ� งาน หรือทีโ่ รงเรียนทราบถึงโรคทีเ่ ป็ น เพือ่ ว่าเมือ่ เกิดอาการชักจะได้ไม่ตกใจ และหาทางช่วย เหลือให้ปลอดภัย 3. พ่อแม่ ญาติพน่ี อ้ งและเพือ่ นฝูงควร มีความรู ค้ วามเข้าใจในธรรมชาติของโรค และวิธชี ่วยเหลือผูป้ ่ วย ไม่ควรแสดงความ รังเกียจ ควรให้กำ� ลังใจผูป้ ่ วย และให้เข้า

ร่วมกิจกรรมในชีวติ ประจ�ำวันเช่นคนอืน่ ๆ เมือ่ พบผู ้ป่ วยมีอาการหมดสติและ ชักกระตุก ควรให้การปฐมพยาบาลก่อนส่ง ผูป้ ่ วยไปโรงพยาบาล ดังนี้ 1. ป้ องกันอันตราย หรือการบาดเจ็บ โดย ให้ผูป้ ่ วยนอนอยู่ในพื้นทีโ่ ล่งและปลอดภัย ไม่มสี ง่ิ กีดขวางหรือระเกะระกะอยู่ขา้ งกาย (ถ้ามีขา้ วของที่อยู่รอบบริเวณ ผูป้ ่ วยควร เคลือ่ นย้ายออกไป) ระวังการตกจากที่สูง และให้อยู่ห่างจากน�ำ้ และไฟ 2. ปลดเสื้อผ้า เข็มขัด เครื่องแต่งกาย ให้หลวม 3. จับผูป้ ่ วยนอนในท่าตะแคง เพือ่ ให้ทาง เดินหายใจโล่ง (โดยการผลักล�ำตัวผูป้ ่ วย ไม่ใช่การดึงแขนผูป้ ่ วย อาจท�ำให้ไหล่หลุด ได้) ให้ผูป้ ่ วยหนุนหมอนหรือผ้าห่ม 4. ถ้ามีเศษอาหาร เสมหะ หรือฟันปลอม ให้นำ� ออกจากปาก ถ้าผูป้ ่ วยใส่แว่นตาควร ถอดออก 5. อย่าใช้วตั ถุ (เช่น ไม้ ด้ามช้อน ปากกา ดินสอ) สอดใส่ปากผูป้ ่ วยเพือ่ ป้ องกันไม่ให้ กัดลิ้น เพราะนอกจากไม่ได้ประโยชน์เท่า ที่ควรแลว้ ยังอาจท�ำให้ปากและฟันได้รบั บาดเจ็บได้ 6. อย่าผูกหรือมัดตัวผูป้ ่ วย อาจท�ำให้ผู ้ ป่ วยบาดเจ็บได้ 7. อย่ า ปล่อ ยให้ผู ป้ ่ วยอยู่ ต ามล�ำ พัง จนกว่าจะหายเป็ นปกติ 8. อย่าให้ผูป้ ่ วยกินอะไรระหว่างชัก หรือ หลังชักใหม่ๆ อาจท�ำให้ผูป้ ่ วยส�ำลักได้ “ลมบ้าหมู” เมื่อได้รบั การรักษา อย่างถูกต้องจนควบคุมโรคได้แลว้ ผูป้ ่ วย สามารถท�ำงาน เรียนหนังสือ เล่นกีฬา หรือ ออกสัง คมได้ต ามปกติ รวมทัง้ สามารถ แต่งงานได้

พญ. จินตนา โยธาสมุทร

โรคติดเชื้อ ไวรัส

โคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2012 อาด�ำเป็ นชายอายุ 46 ปี ได้เดิน ทางไปประกอบพิธหี จั ญ์ ณ เมืองเมกกะ ประเทศซาอุ ดิ อ าระเบี ย นานประมาณ 30 วัน ก่อนเดินทางกลับประเทศไทย 1 สัปดาห์ เขามีอาการไข้ ไอ เจ็บคอมาก และยังคงไอมาก เสียงแหบ มีเสมหะสี เหลือง หลังจากกลับมาเขาจึงไปพบแพทย์ หลังจากซักประวัติและตรวจร่ างกายแล้ว แพทย์อธิบายว่า “สงสัยว่าคุณอาจจะเป็ นโรคติด เชื้อไวรัสโคโรน่า ซึง่ เกิดจากไวรัส ทีท่ ำ� ให้ เกิดอาการป่ วยในคนและสัตว์ โดยสายพันธุ ์ ที่ก่อให้เกิดอาการป่ วยในคนคือสายพันธุ ์ 2012 นัน้ จะมีความรุนแรงต่างกันตัง้ แต่มี

จดหมายข่าววารสารสุขสาระ

15


พบหมอจินตนา อาการเหมือนไข้หวัดธรรมดา จนถึงอาการ คลา้ ยโรคซาร์ ท�ำให้มอี าการของระบบทาง เดินหายใจเฉียบพลัน อาการท้องเสีย เกิด ภาวะไตวาย และอาจเสียชีวติ ได้ ซึง่ ไวรัส สายพันธุใ์ หม่น้ ี เป็ นกลุ่มอาการของระบบ ทางเดินหายใจเฉียบพลันในกลุ่มประเทศ ตะวันออกกลาง ซึง่ ถูกค้นพบเป็ นครัง้ แรก เมือ่ เดือนเมษายน พ.ศ. 2555 และมีขอ้ มูล เมือ่ วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2556 ว่าได้มกี าร ติดเชื้อไวรัสชนิดนี้แล ้วใน 9 ประเทศ ได้แก่ ฝรัง่ เศส เยอรมัน อิตาลี จอร์แดน กาตาร์ ซาอุดอิ าระเบีย ตูนีเซีย สหรัฐอาหรับเอมิ เรตส์ อังกฤษ โดยพบผูป้ ่ วยโรคนี้ 138 ราย เสียชีวติ 60 ราย ท�ำให้องค์การอนามัยโลก ได้ส่งเสริมให้ประเทศสมาชิกทุกประเทศ

16

มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)

เพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้ าระวังโรค ใน กลุม่ ผูป้ ่ วยทีม่ อี าการทางเดินหายใจรุนแรง เฉียบพลัน เพือ่ ตรวจสอบอาการปอดอักเสบ และอาการผิดปกติต่างๆ... ...ปัจ จุบ นั ยัง ไม่ส ามารถระบุได้ ว่า ไวรัสชนิ ด นี้ เ จริญเติบโตได้ดีในสภาพ แวดล อ้ มแบบไหน มีก ารติด ต่ อ มาสู่ ค น ได้อย่างไร แต่มขี อ้ มูลว่ามีการค้นพบเชื้อ ไวรัสโคโรน่ าหรือไวรัสที่มคี วามคลา้ ยคลึง กันมากกับไวรัสชนิดนี้ในตัวอูฐ แต่ยงั ไม่ สามารถยืนยันแน่ นอนได้ว่าเป็ นไวรัสสาย พันธุเ์ ดียวกันกับทีพ่ บในคนหรือไม่ จึงยังไม่ สามารถหาค�ำตอบได้ เนื่องจากผูป้ ่ วยเกือบ ทุกราย ไม่เคยมีประวัตสิ มั ผัสโดยตรงกับอูฐ ถ้าหากอูฐหรือสัตว์ชนิดใดเป็ นแหล่งของโรค

จริง การติดต่อมายังคนอาจเป็ นการติดต่อ ทางอ้อมก็ได้ ท�ำให้ไม่ทราบแหล่งทีม่ า และ ช่องทางการติดเชื้อไวรัสนี้อย่างแน่ ชดั ดัง นัน้ จึงจัดให้มมี าตรการในการป้ องกันโรค นี้ โดยการหลีกเลีย่ งการสัมผัสโดยตรงกับ สัตว์ป่วย ไม่นำ� สัตว์ป่วยไปประกอบอาหาร ไม่ด่ืมนมดิบ ไม่รบั ประทานเนื้อสัตว์ดิบ ไม่รบั ประทานผักและผลไม้ท่ยี งั ไม่ได้ลา้ ง ท�ำความสะอาด ไม่ดม่ื น�ำ้ ทีไ่ ม่สะอาด รักษา สุขอนามัยขัน้ พื้นฐานส่วนบุคคล ด้วยการ ลา้ งมือบ่อยๆ หลีกเลีย่ งการคลุกคลีกบั ผู ้ ป่ วยโรคทางเดินหายใจ และหลีกเลีย่ งการ เข้าไปอยู่ในสถานทีแ่ ออัด... ...ขณะนี้ยงั ไม่มวี คั ซีนป้ องกันและ ยารักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่ าโดยตรง การรักษาส่วนใหญ่เป็ นแบบประคับประคอง และรักษาตามอาการของผู ป้ ่ วย ส�ำหรับ คุณนัน้ มีกล่องเสียงอักเสบ แต่ยงั ไม่มปี อด อักเสบ หมอจะให้ยาไปรับประทานที่บา้ น แนะน�ำ ให้พ กั ผ่ อ นอยู่ ก บั บ้า น ให้ป ฏิบ ตั ิ ตามมาตรการลดการแพร่เชื้อสู่คนรอบข้าง ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย และลา้ งมือ บ่อยๆ ถ้าอีก 2-3 วันข้างหน้ายังมีไข้สูง หอบเหนื่อย หายใจล�ำบาก ให้รีบมาโรง พยาบาลทันที และจะนัดให้คุณมาตรวจอีก ใน 2 สัปดาห์ขา้ งหน้า” อาด�ำมีอาการดีข้นึ ตามล�ำดับหลัง จากได้พกั ผ่อนอยู่ทบ่ี า้ นนาน 2 สัปดาห์ เขา ได้ไปพบแพทย์อีกครัง้ ตามนัด แพทย์ยงั คงแนะน�ำให้เขาพักผ่อนต่ออีก 2 สัปดาห์ เพือ่ ป้ องกันการแพร่เชื้อ เนื่องจากประเทศ ซาอุดอิ าระเบีย ยังคงเป็ นพื้นทีใ่ นการระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่ าสายพันธุ ใ์ หม่ 2012 อยู่


ส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เมือ่ เร็วๆ นี้ ศูนย์กจิ กรรมสสม.ภาคอีสาน ได้ดำ� เนินการติดตัง้ ป้ ายรณรงค์ลาคอมรฺบริเวณถนนสายหลักในภาคอีสาน ดังนี้ ถ.มิตรภาพ ติดตัง้ ทีส่ แ่ี ยก อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น และ ทางเข้ามัสยิดกลางจังหวัดหนองคาย อ.เมือง จ.หนองคาย, ถ.สายเอเชียแม่สอด – มุกดาหาร ติดตัง้ ทีส่ แ่ี ยก อ.ชุมแพมัสยิดยามีอตั ตุล้ อิสลาม จ.ขอนแก่น และมัสยิดนู รุล้ รอฮีม ต.ดอนโมง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ต่อมาได้ออกเยีย่ มเพือ่ หาแนวทางในการจัดท�ำโครงการมัสยิดปลอดบุหรี่ ในจังหวัดชัยภูมิ โดยได้เข้าพบกับคณะกรรมการอิสลามประจ�ำ จังหวัดชัยภูมิ และอิหม่ามมัสยิดต่างๆ พร้อมกันนี้ยงั ได้เข้าพบ ผศ.ดร.ดนัย งามมานะ ณ มุศ็อลลาอามานา อ.เมือง จ.สกลนคร เมือ่ วันที่ 11 มกราคม 2557 เพือ่ ปรึกษาหาแนวทางในการจัดท�ำโครงการธุรกิจชุมชมและได้เก็บข้อมูลเบื้องต้นก่อนทีจ่ ะลงท�ำโครงการธุรกิจชุมชน

สสม. ร่วมกับผูน้ � ำศาสนาจัดรณรงค์ รุกคืบให้ความรูถ้ งึ พิษภัยของบุหรี่ พร้อมจัดทีมให้คำ� ปรึกษาผูเ้ ลิกบุหรี่ เป็ นที่ทราบกันดีแล้วว่า บุหรี่ เป็ นสินค้าท�ำลายสุขภาพ เป็ น พิษร้ายต่อร่างกาย ทัง้ ต่อตัวผูส้ ูบเอง หรือผูท้ ่ีได้รบั ควันบุหรี่ท่ีไม่ได้ เสพโดยตรง ที่มีโอกาสเป็ นโรคร้ายแรงสูง เป็ นเหตุให้นักวิชาการ ด้านสาธารณสุขออกมาคัดค้านการสูบบุหรี่กนั ทัว่ โลก ไม่เว้นแม้แต่นกั จดหมายข่าววารสารสุขสาระ

17


วิชาการด้านศาสนาอิสลาม รวมทัง้ ส�ำนักฟัตวาทัว่ โลก ก็ได้ออกค�ำฟัตวา (วินิจฉัย) ว่า การสูบบุหรีเ่ ป็ นสิง่ ต้องห้ามในอิสลาม แต่กย็ งั มีนกั สูบหลาย คนไม่ยอมรับฟังค�ำเตือนของบรรดานักวิชาการด้านสาธารณสุข รวมทัง้ ไม่ยอมรับค�ำวินิจฉัยดังกล่าว ด้วยเหตุดงั กล่าวนี้ ศูนย์กจิ กรรม สสม.ภาคกลาง แผนงานสร้าง เสริมสุขภาวะมุสลิมไทย โดย มูลนิธสิ ร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.) ภายใต้ การสนับสนุนงบประมาณจากส�ำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุข ภาพ สสส. จึงได้จดั กิจกรรมรณรงค์เลิกบุหรี่ในชุมชนขึ้น ร่วมกับคณะ กรรมการอิสลามจังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ จังหวัดประจวบคีรขี นั ธ์ เพือ่ ให้รูเ้ ท่าทันพิษภัยของบุหรี่ พร้อมคณะท�ำงาน ให้คำ� ปรึกษาแก่ผูท้ ต่ี อ้ งการจะเลิกบุหรี่ โดยจัดอบรมให้ความรูเ้ กี่ยวกับพิษภัยจากการสูบบุหรี่แก่ผูน้ ำ� ศาสนาจังหวัดละ 5 มัสยิด พร้อมกิจกรรมรณรงค์ในชุมชนโดยรอบมัสยิด และแจกจ่ายเอกสาร แผ่นพับ สติก๊ เกอร์ให้แก่ผูส้ นใจในชุมชนบริเวณใกล ้ เคียงรอบมัสยิด โดยมีผูน้ ำ� ศาสนา เป็ นแกนน�ำรณรงค์ จัดมุมนิทรรศการ ให้ความรูพ้ ษิ ภัยของบุหรี ่ แสดงธรรม (คุตบะฮฺ) วันศุกร์ และจัดให้มกี าร บรรยายหลังละหมาดโดยเน้นหัวข้อทีส่ ง่ เสริมท�ำความเข้าใจถึงพิษภัยของ ยาเสพติด สิง่ มึนเมา และบุหรี่ ซึง่ กิจกรรมทัง้ หมดนี้เป็ นหนึ่งในโครงการ ให้คำ� ปรึกษาแก่ผูต้ อ้ งการเลิกบุหรี่ ทีไ่ ด้ดำ� เนินการมาตัง้ แต่เดือน มกราคม 2557 สิ้นสุดโครงการในเดือนมิถนุ ายน 2557 ทัง้ นี้กจิ กรรมรณรงค์เริ่มขึ้นเมือ่ วันที่ 18 มกราคม 2557 น�ำโดย นายสาโรจน์ สุดใจดี อิหม่ามมัสยิดอัลเกาษัร ต.บางพึง่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ พร้อมกรรมการมัสยิดและเยาวชน รณรงค์ในชุมชนรอบ มัสยิด วันที่ 25 มกราคม 2557 นายสมนึก เจ๊ะมะ อิหม่ามมัสยิด กอมรุสมาน เลขที่ 5 ม. 2 ถ.เทพารักษ์ ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ น�ำกรรมการมัสยิดและเยาวชนร่วมเดินรณรงค์

คณะท�ำงาน

18

มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)


เมือ่ วันที่ 26 มกราคม 2557 นายสวัสดิ์ เนียมประพันธ์ อิหม่ามมัสยิดอัลเอีย๊ ะห์ซาน เลขที่ 6 ม.4 ต.ปากน�ำ ้ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ น�ำขบวนรณรงค์พร้อมกรรมการมัสยิดและเยาวชน 1209-12

เมือ่ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557 กิจกรรมน�ำโดย นายสมศักดิ์ วงศ์ประเสริฐ อิหม่ามมัสยิดคอยรียาตุล้ อิสลามมียะห์ เลขที่ 4 ม. 9 ถ.เทพารักษ์ ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พร้อมกรรมการมัสยิดและเยาวชน

เมือ่ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2557 กิจกรรมน�ำโดย นายชาญ เวชกิจ อิหม่ามมัสยิดเนีย๊ ะอฺมา่ ตุล้ มูฮ่ ายีรนี ต.คลองพระยา บันลือ อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เป็ นแกนน�ำรณรงค์พร้อมกรรมการมัสยิดและเยาวชน ในภาพ อ.ประดิษฐ์ รัตนโกมล ประธานคณะกรรมการอิสลามประจ�ำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขอพรก่อนเริ่มรณรงค์”

จดหมายข่าววารสารสุขสาระ

19


โครงการมัสยิดครบวงจร

เมือ่ ช่วงเดือนมกราคม 2557 ที่ ผ่านมามัสยิดครบวงจร บ้านพลีใต้ได้จดั ท�ำห้องสมุดบริเวณมัสยิด เพือ่ ส่งเสริมการ ศึ กษาและเป็ นศู นย์การเรียนรู ข้ องคนใน ชุ ม ชน ซึ่ ง เป็ นอี ก หนึ่ ง ในกิ จ กรรมของ โครงการมัสยิดครบวงจรโดย ศูนย์กจิ กรรม สสม.ภาคใต้ตอนกลาง ศูนย์กจิ กรรม สสม. ภาคใต้ตอน กลาง จัดกิจกรรมมัสยิดครบวงจร โดย ร่วมกับชาวชุมชน และเยาวชนในการร่วม แรงร่วมใจ พัฒนาปรับปรุงทัศนียภาพรอบ มัสยิด ท�ำความสะอาดโดยรอบและปลูก ต้นไม้ โดยเมือ่ วันเสาร์ท่ี 8 กุมภาพันธ์ 2557 ทีผ่ ่านมา ร่วมกับ มัสยิดดารุลมุมนี ีน (บ้าน ควนโท๊ะ) ต.แประ อ.ท่าแพ จ.สตูล และใน วันอาทิตย์ท่ี 9 กุมภาพันธ์ 2557 ร่วมกับ มัสยิดบ้านดินลานเหนือ ต.ท่าช้าง อ.บางกล�ำ ่ จ.สงขลา

บ้านพลีใต้

มัสยิดดารุลมุมนี ีน (บ้านควนโท๊ะ) ต.แประ อ.ท่าแพ จ.สตูล

คณะทำ�งาน ส�ำนักงานส่วนกลาง, โรงเรียนผูน้ �ำสุขภาวะมุสลิมไทย, สือ่ สร้างสุขมุสลิมไทย อาคารคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โทรศัพท์ 02-2186193 โทรสาร 02-2186194 ศูนย์กจิ กรรมภาคเหนื อ อาคารโรงเรียนจิตรภักดี 80 ถ.หน้าวัดเกตุ ซ.1 ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โทรศัพท์ 053-247367 ศูนย์กจิ กรรมภาคอีสาน 707/25 หมู่ 12 หมูบ่ า้ นโนนม่วง ซ.อิงมอ 2 ถนนโนนม่วง-มอขอ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40000 โทรศัพท์ 08-68513528 ศูนย์กจิ กรรมภาคกลาง อาคารมูลนิธเิ พือ่ ศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย 87/2 ถ.รามค�ำแหง แขวง/เขตสวนหลวง กทม.10240

20

มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)

แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย เพื่อการพัฒนา โทรศัพท์ 02-719-8721 โทรสาร 02-7198717 ศูนย์กจิ กรรมภาคใต้ตอนบน 91 หมู่ ต.ท่าทองใหม่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี 84290 โทรศัพท์ 08-72730648 ศูนย์กจิ กรรมภาคใต้ตอนกลาง อาคารมัสยิดกลางประจ�ำจังหวัดสงขลา ถ.ลพบุรรี าเมศวร์ ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110 โทรศัพท์ 074-305375 ศูนย์กจิ กรรมภาคใต้ตอนล่าง อาคารวิทยาลัยอิสลามศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี 94000 โทรศัพท์ 073-350266


ห้องข่าวมูลนิธิฯ

เมือ่ วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2557 ฮัจยะฮ์ ฟาตีมะ (ดร.บุญจันทรา ฮูเซ็น) พร้อมคณะ ได้เดินทางมามอบทีด่ นิ สวน ล�ำใยในจังหวัดล�ำพูนจ�ำนวน 1 ไร่เศษ ให้ก บั มูล นิ ธิส ร้า งสุ ข มุส ลิม ไทย โดย มี รศ.ดร.อิศรา ศานติศาสน์ ประธาน มูลนิธฯิ เป็ นผู้รบั มอบ ณ ห้องอิสกานดา โรงแรมรีเจ้นท์รามค�ำแหง กรุงเทพฯ เพือ่ ให้มลู นิธฯิ น�ำไปใช้ประโยชน์ต่อไป

ทุนการศึกษา

สสม.

มุ ส ลิ ม ในเมื อ งไทยโดยทั่ว ไป จะอาศัยอยู่เป็ นชุ มชน โดยมีมสั ยิดเป็ น ศู น ย์ก ลางเพื่ อ สะดวกในการประกอบ ศาสนกิจ การมีชีวติ เช่นนี้ จึงท�ำให้ผูค้ นใน ชุมชนรู จ้ กั และสนิ ทสนมกัน ทัง้ นี้ รวมถึง บรรดาเยาวชนซึ่งเป็ นลูกหลานชองคนใน ชุมชนด้วย การได้รูจ้ กั และใกล้ชิดกัน หาก พวกเขารวมตัว กัน ท�ำ ในสิ่งที่ดี ก็จ ะเป็ น ประโยชน์ทงั้ แก่ตวั พวกเขาเองและชุมชน ที่พวกเขาอยู่อาศัย แต่เกือบทุ กชุมชนมีผู ้ ไม่หวังดีใช้ความเป็ นชุมชนน�ำสิ่งไม่ดีมาสู่ เยาวชน โดยเฉพาะเยาวชนทีพ่ ่อแม่ยากจน ไม่มโี อกาสได้ศึกษาต่อในระดับทีส่ งู ขึ้น จะ ถูกดึงลงสูห่ ว้ งหายนะได้โดยง่าย ด้วยความตระหนักในสิง่ นี้ มูลนิธิ สร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.) จึงได้มดี ำ� ริให้มี ทุนการศึกษาแก่เด็กยากจนขึ้น เพือ่ ให้พวก เขาได้มโี อกาสศึกษาต่อในระดับทีส่ ูงขึ้น เพือ่ น�ำความรูไ้ ปประกอบชีพเลี้ยงดูครอบครัว

ได้ในอนาคต และเพือ่ ดึงพวกเขาให้ออกห่างจากอบายมุขต่างๆ ต่อยอดจากการรณรงค์ต่างๆ ทีก่ ำ� ลังท�ำอยู่ และได้กำ� หนดให้มอี นุกรรมการขึ้นชุดหนึ่งเพือ่ ด�ำเนินการเกี่ยวกับทุนการศึกษานี้ ทุนการศึกษาที่มูลนิธิฯ ได้ทำ� การมอบให้แก่นกั เรียน นักเรียนนักศึกษาที่ยากจน เป็ นทุนการศึกษาทีใ่ ห้แบบต่อเนื่องในแต่ละระดับการศึกษาจนกว่าผูไ้ ด้รบั ทุนจะน�ำความรูไ้ ป ประกอบอาชีพได้ แต่ไม่เกินระดับปริญญาตรี ทัง้ นี้ได้กำ� หนดเงินทุนในแต่ละระดับไว้ดงั นี้ 1) ระดับมัธยมศึกษาทุนละ 8,000 บาท ต่อปี 2) ระดับอาชีวศึกษาทุนละ 10,000 บาท ต่อปี 3) ระดับปริญญาตรีทนุ ละ 12,000 บาท ต่อปี ส�ำหรับปี การศึกษา 2556 ทางมูลนิธฯิ ได้มอบทุนการศึกษาแก่นกั เรียนยากจนไปแล ้ว จ�ำนวน 24 ทุน โดยแบ่งเป็ นแต่ละระดับและภูมภิ าคดังนี้ 1) ภาคเหนือจ�ำนวน 1 ทุน ในระดับปริญญาตรี 2) ภาคกลางจ�ำนวน 9 ทุน (ระดับมัธยมศึกษาจ�ำนวน 5 ทุน, ระดับอาชีวศึกษาจ�ำนวน 2 ทุน และระดับปริญญาตรีจำ� นวน 2 ทุน) 3) ภาคใต้ตอนกลางจ�ำนวน 2 ทุน ในระดับมัธยมศึกษา 4) ภาคใต้ตอนล่างจ�ำนวน 12 ทุน (ระดับมัธยมศึกษาจ�ำนวน 7 ทุน, ระดับอาชีวศึกษา จ�ำนวน 3 ทุน และระดับปริญญาตรีจำ� นวน 2 ทุน) โดยได้แบ่งจ่ายเป็ น 2 ภาคการศึกษา และในภาคการศึกษาที่ 2 ได้มอบเป็ นทีเ่ รียบร้อย แล ้วในเดือน ธันวาคม 2556 และเดือน มกราคม 2557 ทีผ่ ่านมา จึงขอเรียนเชิญผูม้ กี ศุ ลจิตร่วมบริจาคเงินเพือ่ เป็ นทุนการศึกษาแก่นกั เรียนยากจนได้ โดยผ่านธนาคารอิสลาม สาขารามค�ำแหง 87 บัญชีเลขที่ 109 – 1 – 03034 – 0 และ ธนาคารไทยพาณิ ชย์ สาขาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บัญชีเลขที่ 403 – 687420 - 1 จดหมายข่าววารสารสุขสาระ

21


22

มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)


มูลนิ ธสิ ร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.) ขอเชิญร่วมบริจาค

สร้างอาคารส�ำนักงานถาวรของมูลนิธิ

ได้ทบ่ี ญั ชี “ร่วมสร้างบ้าน สสม.” บัญชีเลขที่ 402-741990-9 ธนาคารไทยพาณิ ชย์ สาขาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อานสุขสาระที่บาน

งายๆ

ับสนุน น ส น า  ท ง ย ี พ เ คาจัดสง บาท ปละ

200

สมาชิกที่ชำระคาจัดสงแลว หากยังไม ไดรับหนังสือ กรุณาแจงที่อยู ใหมพรอมรายละเอียด มาที่ โทรศัพท. 02-218-6193 j ¡ ­ o

¨

พื้นที่

โฆษณา

ติดต่อ 02 2186193-4 สนับสนุ น “สุขสาระ” โดยการลงโฆษณา

ด้วยความปรารถนาดีจาก

แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย


ด้วยความปรารถนาดีจาก

แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.