สุขสาระ เมษายน 2552

Page 1


www.muslimthaihealth.com

W E L L-B E I N G

www.dekdek.org

www.suksara.net

หน้าบ้านสุขสาระ

ปีท่ี 6 ฉบับที่ 64 เมษายน 2552

ช่วงปิดเทอมใหญ่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม มักจะเป็นช่วง 3 เดือนอันตราย ของเด็กไทย ทีพ่ อ่ แม่ ผูป้ กครอง ควรดูแลบุตร หลานอย่างใกล้ชดิ ยิง่ เป็นเด็กเล็กอายุนอ้ ยกว่า 7 ขวบ ยิง่ ไม่ ควรปล่อยให้อยู่ตามลำพัง สถิติย้อนหลังตั้งแต่ปี 2542-2547 ระบุชัดว่า เด็กจะเสียชีวิตในช่วงปิด เทอมมากที ่ ส ุ ด เฉลี ่ ย 1,000 กว่ า รายทุ ก ปี และไม่มีทีท่าว่าจะลดลง พ่อ แม่ และชุมชนต้อง ตระหนั ก และช่ ว ยกั น ป้องกัน สำรวจบ้านว่า มีจุดใดเสี่ยงต่อการเกิด อันตราย และเร่งแก้ไข ขณะที่ชุมชนก็ต้องสร้าง สิ่งแวดล้อมที่เหมาะกับ เด็ก Á

○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

กีฬา หรือทำกิจกรรมสันทนาการอืน่ ๆ ร่วมกัน หรืออาจขอความช่วยเหลือจากญาติที่สามารถ ปลีกเวลาให้ เป็นผูค้ อยติดตามดูแล ช่วยเหลือ เด็กได้ และต้องระวังคอยตักเตือนในเรื่องของ การเล่นน้ำในหน้าร้อน อย่าปล่อยให้เด็กไปกัน ตามลำพัง แม้จะว่ายน้ำเป็น ยังต้องระวังใน เรื่องของการเล่นผาดโผน โหนเชือก หรือเล่น ผ้าผูกตาในบ้าน คนแปลกหน้ารวมทั้งการเข้า อินเตอร์เน็ตอีกด้วย ควรบอกเด็ ก ถึ ง ความจำเป็ น ที ่ ค วรใช้ โทรศัพท์บ้าน หรือโทรศัพท์ส่วนตัว รวมถึง การขอความช่วยเหลือหากเกิดเหตุอันตราย และผู้ปกครองควรสอบถามความเป็นไปของ ลูกเป็นระยะ เพื่อจะได้เข้าใจความรู้สึกและ ความต้องการของลูก จะได้ช่วยป้องกันเหตุ อันไม่ควรจะเกิดขึน้ ได้ในระดับหนึง่

การเสียชีวติ ส่วนใหญ่เกิดขึน้ ในบ้าน และละแวกบ้าน อันดับ 1 คือจมน้ำ อันดับ 2 อุบตั เิ หตุ จราจร อันดับ 3 การบาดเจ็บอืน่ ๆ เช่น การพลัดตก หกล้ม การถูกสิง่ ของหนักล้มทับ ทำให้เสีย ชีวิตจากการบาดเจ็บของสมอง และการแตกของอวัยวะภายใน และอีกปัญหาหนึ่งที่พบมาก ในปัจจุบัน คือ ช่วงปิดเทอมเด็กจะเล่นเกมทั้งวัน ทำให้เส้นเอ็นบริเวณนิ้วมือเกิดการบาดเจ็บ อักเสบซ้ำ (โรคอาร์เอสไอ) ทำให้นิ้วติด คือเมื่อกำมือแล้วเหยียดนิ้วไม่ออก สุดท้ายต้องผ่าตัด มีโอกาสเป็นกลับซ้ำ ถ้ายังมีพฤติกรรมแบบเดิม การป้องกันโรคนี้ไม่ควรเล่นเกมต่อเนื่องเกิน 30 นาที และไม่เกินวันละ 2 ชั่วโมง พ่อแม่ควรต้องหาเวลาอยู่กับลูก อาจจะเล่นเกมกับลูกเพื่อให้ รู้ว่าลูกเล่นเกมแบบไหน และพยายามหาเกมที่ช่วยฝึกความคิด ฝึกสมองมาให้ลูกเล่น จะเป็น ประโยชน์มากกว่าการทีจ่ ะไปบอกให้ลกู เลิกเล่นเกมซึง่ เป็นไปได้ยาก อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องอาหารการกินในช่วงปิดเทอมที่เด็กต้องอยู่บ้าน จึงมักฝากท้องไว้กับ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่ไม่มีคุณค่าทางอาหาร ผู้ปกครองควรเตรียมเครื่องปรุงอื่นๆ เช่น เนื้อสัตว์, ไข่ และผัก ไว้ในตูเ้ ย็น ในลักษณะพร้อมปรุง โดยเตรียมเนือ้ สัตว์ทห่ี น่ั หรือสับไว้ ล้างหรือหัน่ ผัก ไว้ให้เลย เพื่อที่เด็กสามารถนำมาปรุงกินกับบะหมี่ได้ทันที จะได้คุณค่าทางอาหารมากกว่ากิน บะหมีอ่ ย่างเดียว สำหรับพ่อ แม่ ผู้ปกครอง ที่ต้องทำงานนอกบ้าน ถ้าอาศัยอยู่ในชุมชนเดียวกัน ควรจัด ระบบการดูแลเด็ก โดยจัดให้มีอาสาสมัครดูแลเด็ก ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันในแต่ละครอบครัว เพือ่ ช่วยดูแลเรือ่ งความปลอดภัย และยังช่วยให้เด็กรูจ้ กั สร้างความสัมพันธ์กบั ผูอ้ น่ื เช่น การเล่น

จากปก : มุมสงบ กลางป่าเขาใหญ่

Ø สุขสาระ เป็นวารสารเพื่อเผยแพร่กิจกรรมและข่าวสารของแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย (สสม.) ที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และศูนย์ศึกษานโยบายเพื่อการพัฒนา คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Ø สุขสาระ ยังได้เสนอบทความและข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมมุสลิมไทยและผู้สนใจ ทั่วไป ให้ตระหนักถึงปัญหาทางด้านสุขภาพหรือสุขภาวะที่กำลังรุกรานสังคมไทยอยู่ในปัจจุบัน เพื่อจะได้เตรียมตัวและหาทางป้องกันแก้ไข Ø บรรณาธิการ อาณัติ ศานติศาสน์ Ø กองบรรณาธิการ วิรชาติ มัสอูดี , เอนก ขันศรีทรง Ø ฝ่ายสมาชิก กัลยาณา วาจิ Ø รูปเล่ม เปรมจิต เจริญมิน Ø หากคุณต้องการบอกรับวารสารฉบับนี้ เชิญส่งจดหมายแจ้งที่อยู่ของคุณ ได้ที่ : สำนักงานแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย (สสม.) ศูนย์ศกึ ษานโยบายเพือ่ การพัฒนา คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. 10330 โทรศัพท์ 0-2218-6193 โทรสาร 0-2218-6194 Ø ศูนย์ประสานงานภาคกลาง โทรศัพท์ 0-2719-8721 Ø ศูนย์ประสานงานภาคอีสาน โทรศัพท์ 042-207-174 Ø ศูนย์ ประสานงานภาคเหนือ โทรศัพท์ 053-247-367 Ø ศูนย์ประสานงานภาคใต้ตอนบน โทรศัพท์ 08-6273-4185 Ø ศูนย์ประสานงานภาคใต้ตอนกลาง โทรศัพท์ 08-7293-3413 Ø ศูนย์ ประสานงานภาคใต้ตอนล่าง โทรศัพท์ 073-350-266 Ø โรงเรียนผู้นำสุขภาวะมุสลิมไทย โทรศัพท์ 0-2729-8816 Ø มัสยิดปลอดบุหรี่ โทรศัพท์ 08-9811-0105 Ø ชุมชนรักสุขภาวะ โทรศัพท์ 08-5072-4734 Ø พิมพ์ที่ หจก. มาร์ค เอ็ม พรินติง้ 36 ถนนหทัยราษฎร์ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม. 10510 โทรศัพท์ 0-2540-7870-2


X

ดัชนีสขุ ภาพ

อาซีซะห์

ผู้สูงอายุ เปรียบเสมือนคลังปัญญา ที่รวบรวมเรื่องราวในอดีตไว้ในประสบการณ์ รอวันถ่ายทอด ให้ลูกหลานจากรุ่นสู่รุ่นต่อๆ กันไป แต่ถ้าหากคลังปัญญาถูกปล่อยทิ้งให้ รกร้าง ไม่มีการบูรณะซ่อมแซมและนำมาใช้ ประโยชน์ ก็จะผุพังและเสื่อมสลายไปกับกาล เวลา เช่นเดียวกับผู้สูงอายุที่ขาดลูกหลาน เหลียวแล Á

ปัจจุบันสถานการณ์ผู้สูงอายุในสังคมไทยมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นทุกปี จากผลการสำรวจ ประชากรผู้สูงอายุ โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า ประเทศไทยมีจำนวนและสัดส่วนของ ผูส้ งู อายุเพิม่ ขึน้ อย่างต่อเนือ่ ง โดยในปี 2537 มีประชากรผูส้ งู อายุ ร้อยละ 6.8 ปี 2545 เพิม่ ขึน้ เป็นร้อยละ 9.4 ผลการสำรวจล่าสุด ปี 2550 พบว่าผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 10.7 ของ ประชากรทั้งประเทศ ซึ่งจากการคาดประมาณประชากรของประเทศไทยโดยสำนักงานคณะ กรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ ได้ประมาณการว่าในปี พ.ศ. 2553 และ 2563 ประเทศไทยจะมีสัดส่วนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 11 และร้อยละ 15 ตามลำดับ ในขณะที่ สังคมไทยขยับสูส่ งั คมของผูส้ งู อายุทะลุหลัก 6,800,000 คนอย่างรวดเร็วในเวลาไม่กป่ี ี ในช่วง 2 ปีทผ่ี า่ นมา พบว่า ผูส้ งู อายุซง่ึ ถูกทอดทิง้ กลับมีจำนวนสูงถึงกว่า 4 แสนคน ทัง้ นีเ้ นือ่ งจาก สภาพ

สถานการณ์ปัญหา

ผู้สูงอายุถูกทอดทิ้ง ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

แหล่งข้อมูล : 1. http://service.nso.go.t 2. http://www.thainhf.org 3. http://www.healthcorners.com 4. http://www.cps.chula.ac.th

แผนภูมแิ สดง : ร้อยละของผูส้ งู อายุจำแนกตามลักษณะ การอยูอ่ าศัยในครัวเรือน พ.ศ. 2537, 2545 และ 2550

ใ น สั ง ค ม ไ ท ย

      

เศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนไป กลายเป็นกระแสทุนนิยม ส่งผลกระทบ ต่อโครงสร้างครอบครัวให้กลายเป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น ความรักความ ผูกพันในครอบครัวน้อยลง ความตระหนักในคุณค่าของผูส้ งู อายุจงึ น้อยลง ตามไปด้วย ข้อมูลชุดเดียวกันยังชีเ้ ห็นได้อกี ว่า สัดส่วนของผูส้ งู อายุทอ่ี ยูค่ นเดียว ตามลำพังในครัวเรือนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยในปี 2537 มีผู้สูงอายุที่ อยูค่ นเดียวร้อยละ 3.6 ปี 2545 เพิม่ ขึน้ เป็นร้อยละ 6.3 และข้อมูลล่าสุด ในปี 2550 พบมีผู้สูงอายุอยู่คนเดียวในครอบครัวตามลำพังร้อยละ 7.7 ซึ่งร้อยละ 56.7 ของผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียวตามลำพังในครัวเรือนสามารถ ดำรงชีวติ อยูไ่ ด้โดยไม่มปี ญ ั หา ทีเ่ หลือร้อยละ 43.3 มีปญ ั หา โดยปัญหาที่ พบมากทีส่ ดุ คือ รูส้ กึ เหงา คิดเป็นร้อยละ 51.2 ของผูส้ งู อายุทอ่ี ยูค่ นเดียว ร้อยละ 27.5 มีปญ ั หาไม่มคี นดูแลเมือ่ เจ็บป่วย ส่วนร้อยละ 15.7 ต้องหา เลี้ยงชีพตนเองและมีปัญหาด้านการเงิน และร้อยละ 5.3 ไม่มีลูกหลาน มาช่วยแบ่งเบาภาระภายในบ้าน ฯลฯ ในขณะเดียวกัน ผู้สูงอายุจะประสบปัญหาด้านต่างๆ มากน้อยขึ้น อยู่สภาพร่างกายและปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจ โดยเฉพาะ อย่างยิ่งผู้ที่ประสบปัญหาถูกทอดทิ้ง นอกจากจะพบปัญหาด้านร่างกายที่ ส่งผลต่อสุขภาพที่อ่อนแอลง การช่วยเหลือตนเองลดน้อยลงแล้ว ปัญหา ด้านเศรษฐกิจและสังคมก็อาจทำให้ผู้สูงอายุเกิดทรรศนะทางลบ มองตน เป็นผู้ไร้ประโยชน์ และเป็นภาระทางสังคม เกิดความสับสนทางอารมณ์ 


ริมคลอง

กัลยาณา

X

เดือนที่แล้ว (มีนาคม) ได้กล่าวถึงความเป็นมาและสรรพคุณต่างๆ ของผงกะหรี่ไปแล้ว เดือนนี้ (เมษายน) จะขอนำเสนอประโยชน์และสรรพคุณต่างๆ ของเครือ่ งเทศ ทีเ่ ป็นส่วนผสม ของผงกระหรี่ ซึ่งมีอยู่หลายชนิด และจะทยอยนำเสนอในฉบับต่อๆ ไป สำหรับฉบับนี้จะขอ นำเสนอ 2 ชนิดสมุนไพร คือ ขมิน้ ชัน และ กานพูล Á

จิตใจ ความภาคภูมิใจและความเชื่อมั่นใน ตนเองลดน้อยลง จึงพบว่าผู้สูงอายุเหล่านี้ อยู่ในภาวะอารมณ์เศร้า ท้อแท้ ผิดหวัง มี ปมด้อย และสงสารตนเอง ซึง่ ปัญหาเหล่านี้ ถือเป็นปัญหาทางสังคมทีจ่ ะต้องช่วยกันแก้ไข โดยด่วน ดังนั้น เราควรหันมาสนใจผู้สูงอายุ โดยเอาใส่ใจและดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะ ในเวลาปกติหรือในเวลาเจ็บไข้ได้ปว่ ย พูดคุย และหาโอกาสพาไปพักผ่อน หากิจกรรมให้ ทำในเวลาว่าง สนับสนุนให้ได้รับการออก กำลังกายที่ถูกวิธีเพื่อเป็นการพัฒนาร่างกาย ควบคู่กันไป ทั้งนี้การสร้างความอบอุ่นและ ความสัมพันธ์ท ี่ด ีของสมาชิกในครอบครัว เช่นนี้ นอกจากจะช่วยให้ผู้สูงอายุมีสุขภาวะ ทีด่ แี ล้ว ยังจะกลายเป็นวัคซีนทีด่ ขี องสมาชิก ในครอบครัวอีกทางหนึง่ ด้วย

..ผงกะหรี.่ .

ตอนที่ 2

ขมิ้นชัน

ขมิ้นมีหลายชนิด ที่ นิยมนำมาใช้มี 2 ชนิด ได้แก่ ขมิ้นชันและ ขมิ้นอ้อย ขมิ้นที่ใช้ปรุงอาหารคือ ขมิ้นอ้อย ส่วนใยทางยานิยมใช้ขมิน้ ชัน ขมิ้นชันทั้ง 2 ชนิด มีลักษณะลำต้น คล้ายคลึงกันมาก เป็นพืชล้มลุก มีลำตันใต้ เหง้า ประกอบด้วย แง่งหลักเรียกว่าแง่งแม่ แขนงที่แตกออกมาจากแง่งแม่ ถ้ามีลักษณะ ขมิน้ ชัน

แหล่งข้อมูล : 1. www.iptvnews1.com 2. www.samunpri.com 3. www.thailandwealth.com 4. www.gooherb.com

○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

กลมเรียกว่า หัว แต่ถ้ามีลักษณะยาวคล้าย นิ้วมือเรียกว่า นิ้ว ขมิ้นชันจะมีเหง้าเล็กกว่า ขมิ้นอ้อย มีกลิ่นหอม ใบเป็นใบเดี่ยวออก สลับกัน อยู่รวมกันเป็นกอ ขึ้นมาจากเหง้า ขมิ ้ น ชั น มี ใ บยาวเรี ย วแหลมกว่ า ขมิ ้ น อ้ อ ย ด้านล่างของใบมีเส้นใบเห็นได้ชัดเจน ออก ดอกเป็นช่อ โดยแทงออกมาจากเหง้า ลักษณะ ช่ อ ดอกคล้ า ยทรงกระบอก ประกอบด้ ว ย ดอกย่อย ซึ่งดอกย่อยของขมิ้นชันมีสีเหลือง อ่อน ถูกหุ้มด้วยกลีบเลี้ยงหรือกลีบประดับ สีเขียวอมชมพู ส่วนดอกย่อยของขมิ้นอ้อย มีสีขาว มีกลีบเลี้ยงสีชมพูอ่อนๆ ขมิ้นชันมี ชื่อท้องถิ่นว่า ขมิ้นชัน, ขมิ้น (ทั่วไป), ขมิ้น

“สุขสาระ” มีข้อเสนอสำหรับเรื่องราวดีๆ ของคุณ ทัง้ ทีไ่ ด้รบั จากเพือ่ นสนิท หรือญาติพน่ี อ้ ง ที่สร้างความประทับใจ สร้างกำลังใจ ให้คุณยืน หยัดอย่างเข้มแข็งได้ ขอเชิญชวนคุณผู้อ่านส่งเรื่องน่าประทับใจ ดังกล่าว พร้อมที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ มาทีก่ องบรรณาธิการสุขสาระ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถนนพญาไท แขวง วังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. 10330 หรือที่อีเมล์ suksara@yahoo.co.th โดยความยาวของเรื่อง ไม่เกิน 1 หน้ากระดาษ เอ4 หรือ ขนาดบรรทัด พิมพ์ 20 บรรทัด สำหรับเรื่องของคุณที่ได้รับ การตี พ ิ ม พ์ “สุ ข สาระ” มี ค ่ า ขนมเล็ ก ๆ น้ อ ยๆ พร้อมทีจ่ ะมอบให้

...คุณผูอ้ า่ นครับ...

แกง, ขมิ้นหัว, ขมิ้นหยวก (เชียงใหม่), มิ้น, ขี้มิ้น (ภาคใต้), ขมิ้นขิ้น, ขมิ้นหัวขึ้น, ว่าน เหลืองละเมียด ในเหง้าของขมิ้นชันมีน้ำมันหอมระเหย ซึ่งเป็นน้ำมันเหลืองมีเซสควิเทอร์พีนคีโทน โดยมีสารส่วนใหญ่เป็นทูมีโรน นอกจากนี้ ยังมีสารเออาร์-เทอร์มโี รน อัลฟ้า-แอทแลนโทน ซิงจิเบอร์รีน บอร์นีออล ส่วนสารสี เหลืองส้มมีชอ่ื ว่า เคอร์ควิ มิน ซึง่ เป็นสารทีม่ ี ฤทธิย์ บั ยัง้ การหลัง่ ของกรดในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ขมิ้นชันประกอบด้วยสารอาหาร ประเภทโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมันและ แร่ธาตุ ซึง่ จะมีสรรพคุณมากมาย ดังนี้ แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย (สสม.)


ลา คอมรฺ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

ช่ ว ยย่ อ ยอาหาร และบรรเทา อาการแน่นจุกเสียด เพราะสารเคอร์คิวมิน มีฤทธิ์ขับน้ำดีโดยกระตุ้นถุงน้ำดีให้บีบตัว มากขึน้ ช่วยรักษาโรคนิว่ ในถุงน้ำดีดว้ ย

○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

น้ำมันหอมระเหยในขมิ้นมีสาระ สำคัญที่ออกฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของ เชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งช่วยรักษาโรค ผิวหนัง เช่น แผลสด แผลถลอก แผลพุพอง ผืน่ คัน แมลงกัดต่อย โดยใช้เหง้าขมิน้ ชันสด ตำให้ละเอียดคั้นเอาแต่น้ำทาบริเวณที่เป็น หรืออาจจะใช้ผงขมิ้นโรยหรือผสมน้ำต้นทา บริเวณทีเ่ ป็นแผล

5.

รักษาโรคทางเดินหายใจ บรรเทา อาการไอ ขับเสมหะ และช่วยรักษาโรคไขข้อ อักเสบ แก้อาการปวดตามข้อ ปวดเข่า โดย ใช้เหง้าขมิน้ ชันสดตำให้ละเอียดผสมกับเกลือ พอกบริเวณทีป่ วด

4.

3.

แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ โดย นำเหง้าขมิ้นชันบดให้ละเอียด คั้นเอาแต่น้ำ และผสมกับน้ำต้มสุกในอัตราส่วน 1 : 2 รับ ประทานครัง้ ละ 2 ช้อนโต๊ะ หลังอาหารและ ก่อนนอน

2.

ช่ ว ยป้ อ งกั น แผลในกระเพาะ อาหาร เพราะสารเคอร์คิวมินจะกระตุ้นการ หลัง่ มิวซินออกมาเคลือบกระเพาะ วิธกี ารทำ ต้มผงขมิ้นชันจนได้น้ำข้นๆ ผสมกับน้ำผึ้ง พอประมาณ รับประทานเป็นประจำ จะช่วย รักษาแผลเปื่อยในกระเพาะอาหาร และลำไส้ ให้หายเร็วขึน้ เนือ่ งจากมีฤทธิฝ์ าดสมานช่วย ห้ามเลือด

1.

เอนก ขันศรีทรง

กานพลู

X

“ลา คอมรฺ” มาจากภาษา อาหรั บ โดยคำว่ า “ลา” ในภาษา อาหรั บ นั ้ น ตรงกั บ ภาษาไทยว่ า ไม่ หรือ ห้ามและคำว่า “คอมรฺ” ในภาษา อาหรับนั้นตรงกับภาษาไทยว่า สิ่งที่ ทำให้มึนเมา (ไม่ว่าจะเป็นสุรา, บุหรี่ หรือยาเสพติด ฯลฯ) ถ้าแปลรวมกัน ตามตั ว แล้ ว ก็ ค ื อ ไม่ เ อาของมึ น เมา ถ้าจะให้สวยก็จะแปลว่า ไม่บริโภคสิ่งที่ มึนเมา Á

จับตา มาตรการ เด็ด พิชติ

7

○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

ใช้ดอกกานพลูแห้ง 5-8 ดอก (0.12-0.6 กรัม) นำมาต้มหรือบดเป็นผงรับประทาน แก้อาการท้องอืด, ท้องเฟ้อ, ปวดท้อง หรือ ใช้ดอกกานพลู 3 ดอก ทุบแล้วแช่ในน้ำเดือด ประมาณ 700 มล. นำมาใช้ชงนมเด็ก จะ ช่วยป้องกันไม่ให้เด็กท้องอืด, ท้องเฟ้อได้ หรือกลั่นเอาน้ำมัน หยดใส่ฟันหรือใช้เคี้ยว ทั้งดอก แล้วอมไว้ตรงบริเวณฟันที่ปวด เพื่อ ระงับอาการปวดฟันได้

เป็ น ไม้ ย ื น ต้ น ขนาด 5-14 เมตร ใบเดีย่ วติดกับลำต้นแบบตรงข้าม เนื้อใบหนาเป็นมันเมื่อส่องกับแสงแดดจะ เห็นจุดน้ำมัน ตัวใบรี หรือรูปไข่เกือบขอบ ขนาน ปลายใบและโคนใบแหลม ใบมีขนาด กว้าง 2-5 ซ.ม. ยาว 6-13 ซ.ม. ดอกออก เป็นช่อตามปลายกิง่ ประกอบด้วย 3-20 ดอก เมือ่ แก่ดอกจะยาว 1-2 ซ.ม. มีสแี ดงอมชมพู ผลรูปรี หรือรูปไข่ สีแดงเข้มยาว 2-3 ซ.ม. ภายในมีเมล็ด 1-2 เมล็ด ส่วนทีใ่ ช้เป็นยาคือ ดอก (ดอกกานพลูที่ดีจะต้องเป็นดอกที่มิได้ สกัดเอาน้ำมันออกและมีกลิน่ ฉุนรสเผ็ดจัด)

กานพลู

“ วัน อันตราย”

      


○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

ทีม่ า : www.thaihealth.or.th www.stopdrink.com www.manager.co.th

นอกจากนี้ ยังพบว่าตัวเลขผู้เสียชีวิต จากการดื่มสุรายังคงสูงอยู่ โดยเฉพาะใน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ จากสถิติย้อนหลัง ของผู้เสียชีวิตจากการดื่มที่ผ่านมา พบยอด ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วง เทศกาลสงกรานต์ปี 2547 มียอดผู้เสียชีวิต 654 คน, ปี 2548 เสียชีวิต 522 คน, ปี 2549 เสียชีวติ 476 คน, ปี 2550 เสียชีวติ 361, ปี 2551 เสียชีวติ 368 คน พฤติกรรม เสีย่ งทีส่ ำคัญอันดับแรกคือ การไม่สวมหมวก นิรภัย 54.08% รองลงมาคือเมาสุรา 36.74 % และมอเตอร์ไซค์ทำสถิติสูงสุด 86.53%

ไทยส่วนใหญ่ติดและเมื่อติดแล้วก็เลิกไม่ได้ ถึงขัน้ เรียกได้วา่ “ตกเป็นทาส” ของมัน ทัง้ ๆ ที่รู้กันดีว่าเหล้ามีแต่โทษ แต่จำนวนตัวเลข ของผู้ที่ดื่มกลับสวนกระแสเพิ่มขึ้นอย่างน่า ใจหาย อีกทั้งอายุของนักดื่มหน้าใหม่ๆ ก็ยิ่ง น้อยลงไปทุกๆ วัน เราทุ ก คนต่ า งรู ้ ด ี ว ่ า “เหล้ า ” ไม่ ม ี ประโยชน์ต่อตัวผู้ดื่มเลยแม้แต่น้อย แต่ใน ทางตรงกันข้าม เหล้ายังเป็นบ่อเกิดของโรค ร้ายนานาชนิด อีกทั้งยังก่อเกิดปัญหาความ รุนแรงในครอบครัว การทะเลาะวิวาท การ ทำร้ายร่างกาย อาชญากรรม และที่สำคัญ สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่มาจากการ ดื่มเหล้าทั้งสิ้น ทั้งหมดนี้จะเป็นปัญหาลูกโซ่ ที่จะเกิดขึ้นตามมา เมื่อมีจำนวนผู้ดื่มเหล้า มากขึน้ ตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ มีนโยบายที่จะห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในช่วงเทศกาล โดยเริม่ จากเทศกาลสงกรานต์ ปีนี้นั้น หากพิจารณาจากสถิติการเกิดอุบัติเหตุ ใ นช่ ว งเทศกาลสงกรานต์ ป ี ท ี ่ ผ ่ า นมา วันที่มีความเหมาะสมที่จะห้ามขายมากที่สุด ได้แก่ วันที่ประชาชนต้องเดินทางไปและกลับ เนื่องจากเป็นวันที่มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุ มากที ่ ส ุ ด เนื ่ อ งจากมี ก ารใช้ ร ถใช้ ถ นนมาก โอกาสการเกิดอุบัติเหตุก็จะสูงตามไปด้วย ยิง่ หากเมาแล้วขับโอกาสก็สงู เป็นเท่าตัว

“เหล้า” อบายมุขอันดับต้นๆ ที่คน

ถึงแม้ว่าตัวเลขของการเสียชีวิตจะลดลงใน แต่ละปี แต่กย็ งั คงเป็นจำนวนทีส่ งู อยู่ จากการสำรวจทัศนคตินักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติอายุระหว่าง 20-40 ปี พบว่า นักท่องเที่ยวร้อยละ 66.88 เห็นด้วยในการ ใช้มาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ช่วงเทศกาล และไม่เห็นด้วยเพียงร้อยละ 33.12 โดยนักท่องเที่ยวร้อยละ 84.54 มอง ว่ า การห้ า มขายเครื ่ อ งดื ่ ม แอลกอฮอล์ ช ่ ว ง เทศกาล ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และคิ ด ว่ า จะส่ ง ผลกระทบร้ อ ยละ 15.45 เนือ่ งจากเป็นเรือ่ งของสิทธิเสรีภาพ อย่ า งไรก็ ต าม หากประเทศไทยใช้ มาตรการดั ง กล่ า วช่ ว งเทศกาลสงกรานต์ นักท่องเที่ยวร้อยละ 94.63 ยังยืนยันว่าจะ มาเทีย่ วเมืองไทย ขณะทีม่ เี พียงร้อยละ 5.36 ตอบว่าไม่มา ซึ่งในจำนวนนี้ไม่รู้จักเทศกาล สงกรานต์ หากมีมาตรการหรือกฎหมายตัว ใดที่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่าง จริงจัง จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตก็คงมี จำนวนลดลงอย่างมาก

ถ้อยคำโดนใจ :

“สุราฆ่าชีวติ ...สิง่ เสพติดเป็นพิษต่อร่างกาย” โดย : หนิหมุ เสมอภพ จ.สตูล แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย (สสม.)


X

ปาซียะห์

ชีวติ กับธรรมชาติ

การขยายพันธุม์ ี 3 วิธี คือ การแยกหน่อ, การเพาะ เมล็ด, การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ แต่วิธีที่สะดวกและนิยมใช้ กันคือ การแยกหน่อ เมื่อต้นแม่เดิมออกดอกติดผลแล้ว อาจมีอายุอยูไ่ ด้อกี ประมาณ 1-2 เดือน มันจึงสร้างหน่อ ไว้ขยายพันธุใ์ ห้ดำรงเผ่าพันธุต์ อ่ ไป การตัดหน่อเพือ่ ปักชำ ไม่ควรตัดเมื่อหน่อยังเล็ก ควรตัดเมื่อหน่อมีขนาดใหญ่ ช่วงเวลาปักชำทีเ่ หมาะทีส่ ดุ คือ หลังฤดูฝนหรือก่อนฤดูฝน เล็กน้อย เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงช่วงฝนที่มีความชื้นมาก เกินไป จะทำให้เกิดโรคเน่าได้ง่าย ส่วนการเพาะเมล็ด และการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเป็นวิธีที่ไม่นิยมนัก สับปะรดสี เป็นพืชที่นิยมใช้ในการตกแต่งสวน เป็นไม้กระถาง จัด วางตั้งบนพื้น แบบแขวน ทั้งภายในอาคารและภายนอก อากาศ ส่วนผลสามารถนำมารับประทานได้ ลำต้นและ ใบนำไปเป็นอาหารของสัตว์ เช่น หมีและช้าง

สับปะรดสี เป็นพืชทีอ่ ยูใ่ นวงศ์ Bromeliaceae ทีม่ ปี ระมาณ 60 สกุล และมากกว่า 2,000 ชนิด เป็นพืชใบเลีย้ งเดีย่ ว มีถน่ิ กำเนิดแถบทวีปอเมริกา เกือบทั้งหมด พบอยู่ในทวีปแอฟริกาใต้เพียงชนิดเดียว สับปะรดสีเป็นพืชที่ ขึน้ ได้ตง้ั แต่ปา่ ดงดิบชืน้ ทีส่ ดุ จนถึงอากาศแล้งของทะเลทราย สับปะรดสี มีรูปร่าง ขนาด และสีสันมากมาย ใบมีสีเขียวขลิบเหลือง ริ้วเหลือง บางชนิดมีใบสีม่วงแต้มสีชมพูเป็นปื้นตามใบ หรือมีจุดประสะดุดตา ใบกว้างจนคล้ายใบหญ้า บางชนิดขอบใบเรียบ บางชนิดขอบใบเป็นหยักหรือ เป็นหนาม และบางชนิดใบจะมาก่ายทับกันใบต่อใบ และทับกันแน่นโดยรอบ ฐาน แลดูเป็นแอ่งน้ำอยู่ตรงกลางอย่างหลวมๆ หรืออาจจะมีลักษณะคล้าย หลอด คล้ายถ้วย โดยใบที่ก่ายทับกันจะทำหน้าที่ขังน้ำไว้เก็บใช้ในช่วงที่ อากาศแห้ง รากเป็นรากฝอยโดยทำหน้าที่ดูดอาหาร ความชื้น และยึดเกาะ ลำต้นแข็ง บางชนิดมีลำต้นยาว บางชนิดสั้น ทำให้ใบเหลื่อมกันเป็นวงเห็น เป็นรูปกรวยกว้าง ต้นสูงตั้งแต่ 2 นิ้ว ถึง 9 เมตร ลักษณะต้นมีทั้งตั้งตรง และเลือ้ ย ดอก มีกลีบดอก 2 กลีบ กลีบเลีย้ ง 3 กลีบ เกสรตัวผู้ 6 อัน เกสร ตัวเมีย 3 อัน มีรงั ไข่ 3 อัน Á

      

ปัจจุบันมีการปลูกเลี้ยงและผสมพันธุ์สับปะรดสี ใหม่ๆ เกิดขึน้ มากมายนับพัน มีทง้ั ใบทีส่ วยงามสีสนั ฉูดฉาด เมื่อออกดอกอยู่ได้เป็นเดือนๆ ในประเทศไทย เริ่มให้ ความสนใจและเพิ่มความนิยมไม้ประดับชนิดนี้เพิ่มมาก ขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นพันธุ์ไม้ที่มีความทนทาน ต้องการ การดูแลน้อย ทั้งยังมีความหลากหลายในลักษณะรูปทรง สีสนั และขนาด

แหล่งข้อมูล: 1. http://.msw40106470.212cafe,com/archive/ 2. www.thai.net/cpflower/bromeliad.htm 3. http://www.bromeliadsthailand.com/Home%2001.htm 


เรือ่ งน่ารูก้ บั หมอกษิดษิ

○ ○

ฮาเร๊ะ เจ๊ะโด : แปลเป็นภาษามลายู

นายแพทย์กษิดิษ ศรีสง่า

X

ท่านผู้อ่านเคยมีอาการเวลามองอะไร แล้วเหมือนมีฝุ่นหรืออะไร ลอยไปลอยมา อยู่ข้างหน้าเราหรือไม่ครับ ถ้าท่านมีอาการ เป็นเช่นนี้ ท่านก็ไม่ต้องตกใจไปว่า เห็นผี หรือมีวญ ิ ญาณซานติกา้ ผับมาหลอกหลอนท่าน จนต้องดิ้นรนไปหาหมอผีมาปัดรังควานท่าน หรอกนะครับ แต่ทา่ นควรจะรีบไปหาหมอตา หรือจักษุแพทย์ จะดีกว่า เพราะท่านกำลัง มีสิ่งที่จักษุแพทย์เรียกว่า โฟลตเตอร์ (Floater) หรือสารแขวนลอยอยูค่ รับ ลูกนัยน์ตาเรานั้น เหมือนกับกล้องถ่าย รูปชั้นดี เพียงแต่เป็นรูปทรงกลม ไม่ใช่เป็น ทรงสีเ่ หลีย่ มแบบกล้องทัว่ ๆ ไป โดยมีเปลือก ตาอยู่ด้านนอกสุด เพื่อคอยปิดตาป้องกัน ภยันตรายต่างๆ ที่จะมากระทบตาเรา หลัง จากนั้น จะเป็นลูกตาซึ่งมีส่วนของตาขาว และตาดำอยู่ ส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือตาดำ ซึ่งเราจะเห็นเป็นรูเล็กๆ ข้างในอีกอันหนึ่ง เรียกว่ารูม่านตา ส่วนนี้เองเป็นส่วนที่แสง สว่ า งจากวั ต ถุ จ ะสะท้ อ นเข้ า ไปในตาเรา ทำให้เรามองเห็นภาพ ส่วนสีดำหรือน้ำตาล หรือฟ้า ด้านนอกนัน้ ก็คอื ม่านตา คอยขยาย ตัว และหดตัว เพื่อปรับระดับแสงให้เข้ามา ในตาเราได้พอดีๆ ไม่มากไปจนเกิดอันตราย และไม่นอ้ ยไปจนมองไม่เห็น เลยจากรู ม ่ า นตาลึ ก เข้ า ไปข้ า งในอี ก ก็จะเป็นเลนส์ตา ซึ่งเป็นน้ำวุ้นใสๆ อยู่ในถุง รูปร่างเหมือนจานบิน ซึ่งจะเป็นตัวรวมแสง ให้ ไ ปตกที ่ จ อตาที ่ อ ยู ่ ด ้ า นหลั ง สุ ด ของตา จอตาซึ่งติดกับประสาทรับภาพ ก็จะส่งภาพ นั้นเข้าไปในสมองของเรา และแปลผลออก มาเป็นการเห็นสิง่ ต่างๆ นัน่ เอง Á

แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย (สสม.)


○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

น้ำวุ้นนั้น เวลาเรามองดูอะไร ภาพที่ได้ก็ไป วิ่งผ่านก้อนที่ลอยไปลอยมานี้ เลยติดเป็น ภาพไปด้วยกันหมดที่จอตา เราจึงพบจุดดำๆ ลอยไปลอยมาในตาด้วยประการฉะนีเ้ องครับ สิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวอะไร เป็นเพียง การเสื่อมสภาพตามอายุ และไม่ได้ทำให้การ มองเห็นผิดปกติไป แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้น ก็ ค ื อ การเสื ่ อ มสภาพของน้ ำ วุ ้ น ในลู ก ตา มักจะตามมาด้วย การหดตัวหรือลดลงของ น้ำวุน้ ทำให้ถงุ น้ำวุน้ ฟีบลง และดึงให้จอตานัน้ หลุดออกมาจากผนังลูกตา (retinal detachment) เกิดการฉีกขาดของจอตา ทำให้จอตา รับภาพไม่ได้ หรือรับภาพเป็นรูปทีบ่ ดิ เบีย้ วไป ซึ่งเป็นภาวะอันตรายที่จะต้องรีบรักษาทันที มิฉะนั้น ตาท่านอาจจะมองเห็นไม่ชัด หรือ

นั่นคือการอธิบายเกี่ยวกับการมองเห็น ของตาทั่วๆไป ซึ่งก็ดูเข้าใจกันได้ดี แต่ความ จริงแล้วยังขาดอยู่สิ่งหนึ่งซึ่งมีความสำคัญ มากเช่นกัน แต่มักจะถูกละเลยไป นั่นก็คือ ระยะระหว่าง เลนส์ตา จนไปถึงจอตานั้น มันไม่ได้เป็นความว่างเปล่า ไม่ได้เป็นอากาศ แต่มนั กลับเป็นถุงน้ำวุน้ ใสๆ อีกถุงหนึง่ เรียก ว่า Vitreous หรือน้ำวุ้นในลูกตา ถ้าผู้อ่าน บางท่านชอบ รับประทานลูกตาแพะแล้วกัด เข้าไปจะมีนำ้ เป็นวุน้ ๆ ไหลออกมา นัน่ แหละ ครับน้ำวุน้ ในลูกตาเรา น้ำวุ้นในลูกตาเรา มีลักษณะเป็นเจล ใสๆ นุม่ ๆ อยูใ่ นถุงใสๆ เช่นกัน เป็นตัวช่วย ส่งผ่านรูปภาพจากเลนส์ตาไปยังจอรับภาพ หรือเรตินา นอกจากนั้นมันยังมีหน้าที่ทำให้ ลู ก ตาคงรู ป อยู ่ ไ ด้ ไ ม่ ฟ ี บ แบนลงไปด้ ว ย ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งของน้ำวุ้นตาซึ่งสำคัญ มากก็ ค ื อ มั น ติ ด กั บ จอรั บ ภาพหรื อ เรติ น า และช่วยดันให้เรตินานี้ อยู่ชิดกับผนังลูกตา ตลอดเวลา ทำให้จอรับภาพไม่หลุดลอกออก ง่ายๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปนานๆ เข้า มันก็ ต้ อ งมี ก ารเสื ่ อ มสลายกั น บ้ า งเป็ น ธรรมดา น้ำวุ้นที่เคยใส ก็เริ่มมีการขุ่นมัวตกตะกอน ทำให้ ก ลายเป็ น ก้ อ นลอยไปลอยมาอยู ่ ใ น

      


○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

แต่ร่างกายเรา ใช้มาเป็นสิบๆ ปี บางคน แทบจะไม่เคยตรวจเคยเช็คเลย ดังนั้น ถ้ามี โอกาสก็ควรจะไปตรวจเช็คอวัยวะต่างๆ บ้าง เขาอุตส่าห์รับใช้เรามาเป็นสิบๆ ปีตามคำสั่ง ของพระผู้เป็นเจ้า เราก็ควรเอาใจใส่ดูแล เขาให้สมกับที่เขาเป็นอะมานะฮฺอย่างหนึ่ง ที่พระผู้เป็นเจ้าฝากไว้กับเรา ดังนี้จึงจะเป็น สิง่ ทีถ่ กู ต้องและดีงาม วัสสลามฯ

มองไม่เห็นไปตลอดชีวิตได้ ซึ่งอาการจอ ประสาทตาหลุดลอกนี้ จะมีอาการเฉพาะ ของมัน ก็คอื เวลาทีถ่ กู กดดึงรัง้ แรงๆ จนฉีก ขาดเส้ น ประสาทจะถู ก กระตุ ้ น อย่ า งแรง ทำให้เกิดกระแสประสาทวิ่งไปที่สมอง เกิด เป็ น ความรู ้ ส ึ ก เหมื อ นกั บ เห็ น แสงแปลบๆ แบบฟ้าแลบ หรือเมื่อประสาทตาหลุดลอก ภาพที่เราเห็นแทนที่จะเป็นเรียบๆ ธรรมดา กลับกลายเป็นลอนเป็นคลื่น เห็นไม้บรรทัด แทนที่จะเป็นเส้นตรงกลับบิดเบี้ยวไป เห็น ต้นมะพร้าวกลางทุ่งงอไปงอมา ทั้งๆ ที่มัน ตัง้ ตรงอยู่ ถ้าหากท่านมีอาการอย่างนี้ ก็แสดงว่า จอประสาทตาของท่านกำลังมีปัญหา ต้อง การรีบแก้ไขด่วน ดังนั้น ท่านต้องรีบไปพบ หมอตา หรือจักษุแพทย์โดยทันทีอย่าปล่อย ทิ้งไว้อย่างเด็ดขาด แต่ถ้าท่านเห็นเพียงของ ลอยไปลอยมาเฉยๆ ท่านก็ควรจะไปพบจักษุ แพทย์เพือ่ ตรวจดูจอตา และน้ำวุน้ ในลูกตาดู สักครั้ง แม้ไม่ต้องรีบด่วนมาก แต่ก็ควรทำ เพื่อจะได้รู้สภาพที่แท้จริงของมันและจะได้ รักษาได้ทนั ท่วงที อย่าลืมว่า แม้รถยนต์ทเ่ี รา ใช้อยู่ประจำ เรายังต้องเอาเข้าศูนย์เพื่อเช็ค เครือ่ งทุกๆ หกเดือน ถ้าลองไม่เช็คสักสามสีป่ ี รับรองว่ารถคันนัน้ คงพังไปแล้วอย่างแน่นอน



แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย (สสม.)


X

พบหมอจินตนา

แพทย์หญิงจินตนา โยธาสมุทร

      

○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

เติบโตของเส้นผมแบ่งได้เป็น 3 ระยะ ระยะ แรกเป็นระยะที่เส้นผมกำลังเจริญเติบโตและ อยู่ลึกที่สุดในบริเวณหนังศีรษะ ระยะที่สอง ใช้เวลาเติบโตประมาณ 2 สัปดาห์ ระยะที่ สามเป็นระยะเจริญเติบโตเต็มที่ ผมจะค่อยๆ เลือ่ นตืน้ ขึน้ และร่วงหลุดไปภายใน 3 เดือน ปกติแล้วเส้นผมจะร่วงน้อยกว่าวันละ 100 เส้น ถ้าผมร่วงมากกว่าวันละ 100 เส้น ถือว่า ผิดปกติ สาเหตุของผมร่วงมีหลายชนิด เช่น ผมร่ ว งชนิ ด หั ว ล้ า นกลางศี ร ษะซึ ่ ง มี ค วาม เกีย่ วข้องกับกรรมพันธุ์ และฮอร์โมนเพศชาย พบได้ในคนทีม่ อี ายุมากกว่า 50 ปีขน้ึ ไป ผม ร่วงทีเ่ กิดจากภาวะของโรค เช่น การติดเชือ้ รา ทำให้มีการอักเสบ มีสะเก็ด มีการลอกของ หนังศีรษะ จากภูมิคุ้มกันบกพร่อง ทำให้มี ผมร่วงเป็นหย่อมบางๆ ไปจนถึงผมร่วงทั่ว ศี ร ษะ ผมร่ ว งที ่ เ กิ ด จากภาวะต่ า งๆ เช่ น การฉายรังสี, การได้รับยาบางชนิด, ความ เครียด, การเจ็บป่วยเรื้อรัง, การขาดสาร อาหาร, โรคไทรอยด์เป็นพิษ, การดึงรั้งผม แรงๆ ต่อเนื่องนานๆ ส่วนสาเหตุที่ทำให้ คุณมาเรียมมีผมร่วง น่าจะเกิดจากภาวะ เครียดจากการตัง้ ครรภ์และการคลอดบุตร”

○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

มาเรียมเป็นหญิงอายุ 30 ปี หลังจาก คลอดบุตรได้ 6 เดือน มีเส้นผมร่างเป็น จำนวนมาก เมื่อนับจำนวนเส้นผมที่ร่วงใน แต่ละวัน พบว่ามีจำนวนมากกว่าวันละ 100 เส้น มาเรียมเป็นคนชอบไว้ผมยาวและผูก ดึงรัง้ ผมเป็นประจำ เธอจึงรีบไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าน โรคผิวหนัง หมอตรวจแล้วพบว่า “ผมของ คุณดูบางลงมาก ผมมีลกั ษณะร่วงเป็นหย่อมๆ บางๆ แต่ไม่มีการอักเสบ ไม่มีสะเก็ดและ ไม่มกี ารลอกของหนังศีรษะ” มาเรียมตอบว่า “ปกติ แ ล้ ว ดิ ฉ ั น เป็ น คนแข็ ง แรงดี แต่ เ พิ ่ ง คลอดบุตรได้ 6 เดือน ต้องยอมรับว่าในช่วง ตั้งครรภ์มีความเครียดอยู่บ้าง ดิฉันชอบไป ทำผมตามร้ า นเสริ ม สวยเป็ น ประจำ ชอบ ยืดยม ดัดผม ม้วนผม และบางครั้งจะทำ การย้อมสีเปลีย่ นสีเส้นผม” แพทย์อธิบายว่า “ปกติแล้วคนเรามี เส้นผมทั้งศีรษะประมาณ 1 แสนเส้น ผม ยาวขึ้นวันละ 0.35 มิลลิเมตร ผมยาวขึ้น เดือนละ 1 เซนติเมตร ขั้นตอนการเจริญ Á

จะทำ อย่างไรดี  “ในกรณี ผ มร่ ว งเป็ น หย่ อ มเช่ น เดี ย ว กับกรณีของคุณนัน้ มักจะหายได้เองภายใน 6– 24 เดื อ น แต่ ห มอจะให้ ย าเคอร์ ต ิ โ คสตี รอยด์ชนิดฉีดที่หนังศีรษะ และให้ยาทาภาย นอกที่หนังศีรษะเพื่อให้หายเร็วขึ้น แต่ไม่ ต้องใช้ยาปลูกผม เพื่อกระตุ้นการงอกของ เส้นผม ซึ่งยาปลูกผมเหล่านี้คือไมน็อกซิดิล (minoxidil) ซึ่งเคยใช้เป็นยาลดความดัน เลือดและยาไฟนาสเตอไรด์ (finasteride) ซึง่ เคยใช้เป็นยารักษาต่อมลูกหมากโต อย่างไร ก็ตามสิ่งสำคัญก็คือจะต้องสระผมด้วยแชมพู ทัว่ ไปสัปดาห์ละ 2-3 ครัง้ ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ แต่งสีกัดสีเส้นผม พยายามนวดศีรษะเบาๆ ในขณะสระผม เพื่อกระตุ้นการไหลเวียน ของเลือด หลังจากสระผมให้เช็ดเบาๆ ให้ แห้ง ด้ ว ยผ้ า ขนหนู ห รื อ ปล่ อ ยให้ ผ มแห้ ง ตาม ธรรมชาติไม่ควรใช้เครื่องเป่าผม เนื่องจาก จะทำให้หนังศีรษะแห้ง หลังสระผมแล้ว ให้ หวีผมเบาๆ ด้วยหวีซี่ห่างๆ โดยเริ่มหวีจาก รากไปตลอดความยาวของเส้นผม เพื่อช่วย การกระจายไขมันจากหนังศีรษะไปให้ทั่วเส้น ผม ไม่ควรใช้หวีแข็งและหวีทม่ี ซี ถ่ี เ่ี กินไป” มาเรียมได้รับการฉีดยาบนหนังศีรษะ เธอรับยาทาหนังศีรษะกลับไปด้วย และมี ความหวังว่า ผมของเธอจะกลับมาดกดำอีก ในเวลาอันไม่นานนัก 


เก็บมาฝาก ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

Á

ข้ า วจะแตกหั ก ไปบ้ า ง ขณะที ่ ข ้ า วสารนั ้ น ทั้งเอาเปลือกออกและขัดสีหลายครั้ง จนเยื่อ หุ้มเมล็ดและจมูกข้าวหลุดออกไปเหลือแต่ เนือ้ ในของข้าว ซึง่ เป็นแป้งล้วนๆ ข้าวฮางมีโปรตีนประมาณร้อยละ 6-12 และยังมีวิตามินและเกลือแร่ ได้แก่ วิตามิน บี 1, บี 2, ไนอะซิน (ช่วยรักษาระบบผิวหนัง และระบบประสาทไว) ฟอสฟอรัส, แคลเซียม, ธาตุเหล็ก ส่วนข้าวสารนั้นโปรตีนหลุดหาย ไปแล้วกว่าร้อยละ .30 เปรียบเทียบให้เห็นง่ายๆ ถ้ากินข้าว ฮางสุก 1 กรัม จะได้โปรตีน 7.60 ส่วนข้าว สวยธรรมดามีโปรตีน 6.40 คิดแล้วข้าวฮาง มีโปรตีนมากกว่าร้อยละ 19 เป็นต้น ข้าวฮาง มี เส้นใยสูงกว่าข้าวขาว ถึง 8 เท่า เส้นใยมีประโยชน์ คือช่วยในการขับ ถ่าย ทั้งของเสียและของมีพิษ จากกระบวน การย่อยของลำไส้ ให้ขับถ่ายออกมาจึงช่วย ป้องกันมะเร็งลำไส้ มีโปรตีนสูงกว่า 2 เท่า วิตามินบี 1, บี 2, อี ก็สงู กว่าหลายเท่า ยังมี แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, ธาตุเหล็ก, เซเลเนียม,

ข้าวฮางเป็นภูมิปัญญาชาวภูไท บ้าน นาบ่อ ตำบลปลาโหล อำเภอวาริชภูมิ จังหวัด สกลนคร ทีน่ ำข้าวทีย่ งั ไม่แก่จดั นำมานึง่ และ นำไปตากแดดให้แห้งแล้วจึงนำไปสี โดยจะ นำข้าวหอมทองมะลิ ที่ใกล้จะเก็บเกี่ยวได้ แต่ยงั มีนำ้ นมอยู่ นำมานวดจนเป็นข้าวเปลือก

ภาพจากวิสาหกิจชุมชนข้าวหอมทองสกลทวาปี บ้านจำปา

อับดุรเราะฮีม บินฮาซัน

X

แมกนีเซียม พวกนี้ช่วยเสริมสร้างกระดูก และฟัน ธาตุเหล็กสร้างเม็ดเลือดแดงป้องกัน โรคโลหิตจาง แร่ธาตุเหล่านี้ข้าวฮางมีมาก กว่าข้าวขาว เพราะกระบวนการสีข้าว ที่ขัด เอารำและจมูกข้าวไป ก็ขัดเอาแร่ธาตุสำคัญ ออกไปด้วย อาทิ ไนอะซีน ที่มีคุณสมบัติที่ คุณสาวๆ ชอบใจคือช่วยให้ผิวหนังยืดหยุ่น ไม่ต้องไปซื้อคอลลาเจนมาทาหน้าให้เปลือง เงิน วิตามินบี ในข้าวฮาง จะช่วยเผาผลาญ พลังงานได้อย่างหมดจด ทำให้ไม่อ้วน แถม ยังอิ่มเร็ว ในขณะที่ข้าวขาวมีวิตามินบีน้อย กิ น แล้ ว เผาผลาญไม่ ห มด เกิ ด สะสมเป็ น ไขมันตามต้นขา, ต้นแขน, สะโพก, อก, เอว อ้วนง่ายและไร้เรี่ยวแรง โรคเบาหวาน ข้าว ฮาง ยังป้องกันโรคเบาหวาน เนื่องจากเป็น คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เมื่อรับประทานเข้าไป แล้ว ร่างกายต้องใช้เวลาในการย่อย ร่างกาย จะค่อยๆ ผลิตอินซูลนิ ในระดับปกติ เพือ่ การ ย่อยอาหาร ทำให้เกิดความสมดุลระหว่าง การกินกับการใช้นำ้ ตาลของร่างกาย ตับอ่อน ที่ผลิตอินซูลินทำงานอย่างเป็นระบบ ขณะ



○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

ภาพจากเว็บไซต์ Baanmaha.com

ทีม่ า : 1. www.baanmaha.com/community 2. www.geocities.com/sakon_nakhon/ menuhang.html 3. http://info.matichon.co.th/techno/techno

แล้วนำมาหุงทั้งเปลือก จนเมล็ดข้าวแตก ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นนำข้าว ที่สุกมาผึ่งลมหรือตากแดดจนแห้งเหมือน เป็นข้าวเปลือกอีกครั้ง จากนั้นจึงนำไปสี ดังนั้นรำข้าว และเส้นใยอาหารจึงยังคงอยู่ ในเมล็ ด ข้ า วอย่ า งครบครั น เมื ่ อ กะเทาะ เปลือกออกคุณค่าทางอาหารจึงไม่สูญเสียไป เนื่องจากการนึ่งสุกมาแล้ว ไม่มีเมล็ดแตก ร้าวเลย ได้สเี หลืองธรรมชาติสวยงาม ส่วนข้าวที่สีเอาเปลือกออกแล้ว แต่ยัง ไม่ได้ขดั ให้ขาว เรียกว่า ข้าวซ้อมมือ ซึง่ จมูก

..ข้าวฮางต้านมะเร็ง..

แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย (สสม.)


เรือ่ งเล่า เดียวกัน ถ้ารับประทานข้าวขาว ขนมปั ง ขั ด ขาว กิ น ของหวาน น้ ำ อั ด ลม ซึ่งเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว ทำให้ ตั บ อ่ อ นผลิ ต อิ น ซู ล ิ น ออกมาไม่ ท ั น ตับอ่อนทำงานหนักเกินไป ทำให้เกิด เป็ น โรคเบาหวานขึ ้ น ได้ นอกจากนี ้ สารเส้ น ใยในข้ า วกล้ อ งทำหน้าที่ ซ ั บ น้ ำ มั น ในอาหารทิ ้ ง และยั ง คอยซั บ น้ำตาลที่กินเข้าไปมากเกินไป จึงช่วย ป้องกันระดับน้ำตาลในเลือดสูงได้อีก ข้าวฮางจึงกลายเป็นยาควบคุมเบาหวานได้ดี เห็นประโยชน์จากข้าวฮาง มากมายขนาดนี้ ถึงเวลาที่จะเปลี่ยน ใจหันมากินข้าวฮางกันได้หรือยัง

จดหมาย

อาหารพืน้ บ้าน กับงานบุญ ขอขอบคุ ณ ที ่ ท ่ า นได้ จ ั ด ส่ ง วารสาร ฉบับที่ 61 ประจำเดือนมกราคม 2552 ได้อ่านวารสารฉบับนี้รู้สึกประทับใจ และเป็ น แบบอย่ า งต่ อ สั ง คมเป็ น อย่ า งยิ ่ ง นั้นคือ แบบอย่างวัฒนธรรมดั้งเดิม คือพิธี แต่งงานกับอาหารพืน้ บ้านสูส่ ขุ สาระ สุขภาพ ดีฯ Á

ดอเล๊าะ ยูโซ๊ะ : ยะลา สมาชิกย้ายทีอ่ ยูใ่ หม่ กรุณาแจ้งที่ คุณกัลยาณา วาจิ โทรศัพท์ : 02-2186193 หรือที่ โทรสาร : 02-2186194       

..ขอสุขสาระเพิ่ม.. วารสารสุขสาระฉบับเดือนพฤศจิกายน 2551 มีสาระดีๆ ภาพเด่นๆ ทีน่ ำไปเผยแพร่ สำเนาแจกจ่ายคนอื่นๆ ได้ เพราะเป็นเรื่อง ในชี ว ิ ต ประจำวั น การรณรงค์ ใ ห้ ค นไทย ตระหนักเอาใจใส่สุขภาพ งดเว้นสิ่งเสพติด ต่างๆ ผมกำลังริเริ่มระดมพลังทางศาสนา คริสต์, อิสลาม, พุทธ และอื่นๆ เข้ามาร่วม กันสร้างสังคมมุกดาหารปลอดบุหรี่ สุรา ใน ระยะยาว จึงต้องการให้การศึกษาเผยแพร่ ความรู,้ สุขภาพ, บุหรี,่ สุรา ไปสูป่ ระชาชน ให้กว้างขวางโดยเฉพาะผู้นำ กำนัน, ผู้ใหญ่ บ้ า น, ผู ้ น ำศาสนาคื อ ผู ้ ส อนศาสนาต่ า งๆ รวมทั้งครูและข้าราชการ ซึ่งใคร่ขอความ อนุเคราะห์วารสารสุขสาระ ฉบับละ 50-100 เล่ม ผมจะนำไปเผยแพร่ให้ครอบคลุมทุก กลุ่มดังกล่าว ถ้าเขาได้อ่าน ได้พลิกดู หรือ เก็บไว้ศึกษา ระยะยาว จะเป็นประโยชน์ อย่างมาก ผูใ้ หญ่บา้ น, กำนัน นำไปอ่านทาง หอกระจายข่าวได้ครับ ส่วนซีดีเพลงรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ หรือ ซีดวี ฒ ั นธรรมอิสลามต้านอบายมุข หรือเรือ่ ง ราวให้การศึกษาแก่เด็กและเยาวชนให้เป็น คนดี ให้ความรู้ ดูแลสมาชิกในครอบครัว ให้เป็นคนดี ถ้ามีกรุณาอนุเคราะห์ให้ดว้ ย ที่จังหวัดมุกดาหารประสบปัญหาจัด งานศพมีเหล้า ผมเผยแพร่ “อานิสงส์งาน ศพ” ให้แก่กำนัน ผู้ใหญ่บ ้าน ได้อ่านให้ ประชาชนฟัง และนำประชาชนจัดงานศพ ปลอดเหล้า ก็จะทำต่อเนือ่ งไปเรือ่ ยๆ จนกว่า จะลดลงครับ Á

สัญชัย ตุลาบดี (ลุงจุน่ ) : มุกดาหาร ลุงจุ่นครับ สุ ข สาระ ได้ จ ั ด ส่ ง ซี ด ี อิ ส ลามกั บ สุขภาวะ โดยท่านจุฬาราชมนตรีไปให้แล้ว จำนวน 3 แผ่น หวังว่าคงได้รับเป็นที่เรียบ ร้อย ส่วนทีข่ อวารสารสุขสาระเดือนละ 50100 นัน้ ขอเวลาอีกระยะหนึง่ ถ้างบฯ ผ่าน คงจะจัดให้ได้ในระดับหนึง่ บรรณาธิการ

ดาบตำรวจอิสมาแอล เพียรมานะ ...

เจาะเขา... เข้ามัสยิด

ผมอายุ 62 ปี รับราชการตำรวจ มาประมาณ 30 ปี สมรสแล้วกับคุณศิริ หนูแก้ว มีลูกด้วยกัน 3 คน เป็นชาย 2 คน และหญิง 1 คน ลูกๆ ก็ทำงานกัน หมดแล้ว เป็นตำรวจทางหลวง สมัย พล.ต.ต. บันเทิง กัมปนาทแสนยากร เป็นผู้บังคับ การ ผมมีหน้าที่เป็นพลขับให้ผู้บังคับการ ท่ า นให้ ค วามสนิ ท สนมกั บ ผมมาก ถึ ง ขนาดกินนอนที่บ้านของท่าน...ต่อมาได้ ย้ายไปเป็นตำรวจรถไฟ แผนก 2 กอง กำกับการ 2 กองตำรวจรถไฟ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช... หน้ า ที ่ ข องตำรวจรถไฟ...ก็ ค อยดู ความสงบเรี ย บร้ อ ย รวมทั ้ ง การปราบ ปรามโจรผู้ร้าย และของผิดกฎหมาย บน ขบวนรถ เวลาทำงานก็จะไปประจำตาม ที่ต่างๆ ตั้งแต่กรุงเทพฯ จนถึง สถานี ปลายทาง ส่วนตัวผมจะขึ้นไปรับเวรที่ สถานีทงุ่ สง และจะอยูป่ ฏิบตั งิ านบนรถไฟ ตลอดทางจนถึงสถานีปลายทาง ที่สถานี นครศรีธรรมราช แล้วย้อนกลับไปจนถึง Á




○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

ทางขึน้ -ลงมัสยิดบารอกัตเดิม ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

ยินดียกที่เพื่อสร้างมัสยิดถาวรให้ แต่มีข้อแม้ ว่าผมต้องยกทีข่ องผมให้เป็นทางเข้าออก... ผมตัดสินใจเดินทางขึ้นกรุงเทพฯ เข้า พบรัฐมนตรีมหาดไทย ได้พบกับรัฐมนตรี ชำนิ ศักดิ์เศรษฐ์ สมัยนั้นเป็นรัฐมนตรีช่วย มหาดไทย เล่าให้รัฐมนตรีฟังถึงความลำบาก ในการปฏิบัติศาสนกิจของชาวมุสลิมทุ่งสง ที่ไม่มีมัสยิด ทางรัฐมนตรีช่วยก็ยินดีให้ความ ช่วยเหลือ และบอกว่าให้กลับไปทำหนังสือ เป็นเรือ่ งเป็นราว... ...แต่ผมได้เตรียมหนังสือขออนุญาต ไปแล้ว พอรัฐมนตรีรับปาก ก็หยิบหนังสือ เสนอไปในทันที่ ท่านรัฐมนตรีชำนิ ได้รับ หนังสือแล้วยังพูด “แซว” ผมเลยว่า...ทำ หนังสือเร็วจัง... ก็มาดำเนินการระเบิดช่องทางเข้าที่ นายนำ ...และได้ก่อสร้างมัสยิดเสร็จในปี 2542 ได้ชื่อว่ามัสยิดบารอกัต ทุ่งสง และ ต่ อ มาด้ ว ยความเป็ น ห่ ว งเด็ ก ๆ ก็ ไ ด้ ม ี ก าร สร้ า งโรงเรี ย นสอนศาสนาชื ่ อ โรงเรี ย น ศาสนวิทย์บารอกัต... มั ส ยิ ด บารอกั ต ยิ น ดี ต ้ อ นรั บ พี ่ น ้ อ ง มุสลิมทุกคนครับ...



มัสยิดบารอกัต

รวมกลุม่ กันได้ 3 ปี ก็มองหาที่ เพือ่ จัด สร้างมัสยิด...ต่อมามีนายนำ มาขอซื้อที่ผม เพื่อจะทำทางเข้าไปยังที่ดินของเขา เพื่อจะ สร้างหมู่บ้านจัดสรร ที่ของเขาอยู่หลังเขา ไม่มีทางเข้าออก และมีที่ผมอยู่ด้านหน้าและ บาลายซึ่งเป็นห้องแถวอยู่ใกล้ๆ กัน มีแนว เขากั้นระหว่างที่ทั้งสอง หนทางเดียวที่จะ เข้าไปในที่ของนายนำได้ต้องเจาะเขาและ ผ่านทีข่ องผมเข้าไป... ทางนายนำ ได้พยายามวิง่ เต้นหลาย ทาง เพื ่ อ หาทางเจาะช่ อ งทางเข้ า พื ้ น ที ่ ข อง ตนเองแต่ไม่สำเร็จ...ก็มาติดต่อกับผม โดย

○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

กรุงเทพฯ และในวันรุ่งขึ้นก็ขึ้นรับงานจาก กรุ ง เทพฯ จนไปเปลี ่ ย นเวรที ่ ส ถานี ท ุ ่ ง สง ผลัดเปลีย่ นเช่นนีเ้ ป็นประจำ ช่วงทีถ่ กู ย้ายไปทุง่ สง นครศรีธรรมราช ก็ดีใจ เพราะเข้าใจว่าที่นครฯ คงจะมีมุสลิม อยู่มาก แต่ไปถึง กลับไม่มีชุมชนมุสลิม ...มี แต่มุสลิมที่อพยพเข้าไปทำมาหากิน กระจัด กระจายกันอยู.่ .. ผมเดิ น ตามหาพี ่ น ้ อ งมุ ส ลิ ม ในทุ ่ ง สง ก็ไปพบร้านอาหารมุสลิมอยูร่ า้ นหนึง่ ชือ่ ร้าน ไก่ย่างจีรพันธ์ ตอนแรกไม่รู้ว่าเป็นญาติกัน พอได้ไปพูดคุยก็รวู้ า่ เป็นญาติกนั ...เนื่องจากมุสลิมในทุ่งสง ไม่ค่อยมี การรวมตัว กระจัดกระจายกันไปทำมาหากิน อยู่โดยรอบ หามัสยิดหรือบาลาย (บาแล) ทำละหมาดไม่ได้...สมัยนั้นพี่น้องมุสลิมที่เดิน ทางโดยรถไฟก็จะละหมาดกันตามมุม ตาม ทางเท้าบริเวณสถานี...ผมดูแล้วไม่คอ่ ยเหมาะ สม...ก็รวบรวมเพื่อนๆ ที่ทำมาหากินอยู่ใน ตลาดทุง่ สงไปเปิดบาลาย (บาแล) ใช้บา้ นผม ทำบาลาย ช่วงแรกๆ มีคนมาร่วมละหมาด อยู่ 5-6 คน ต่อมาก็เพิม่ ขึน้ เรือ่ ยๆ...

แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย (สสม.)


X

พ. อิสมาอีล

“บรรดาผู้ที่กินดอกเบี้ยนั้น เขา ไม่สามารถจะทรงตัวอยูไ่ ด้ นอกจาก จะขึ้นมาอย่างคนที่ถูกมารร้ายครอบ งำ ทำให้บ้า ที่เป็นเช่นนั้น เพราะ พวกเขาทั้งหลายพูดว่า การค้าก็ เหมือนกับการดอกเบี้ย แต่อัลลอฮฺ ทรงอนุ ม ั ต ิ ก ารค้ า ทรงห้ า มการ ดอกเบี้ย ผู้ใดที่คำเตือนของพระเจ้า มายังเขา แล้วเขาก็ยุติการกระทำ สิ ่ ง ที ่ ผ ่ า นมาแล้ ว ย่ อ มแล้ ว ไป และ เรื่องของเขาขึ้นอยู่กับอัลลอฮฺ แต่ ผู้ใดกลับไปทำใหม่อีก ผู้นั้นย่อมเป็น ชาวนรก พวกเขาจะอยู่ในนรกนั้น ตลอดไป” อัลกุรอาน บทอัลบะกอเราะฮ Á

โองการที่ 2:275

      

พลังชีวติ

..ดอกเบีย้ .. จากพระดำรัสของพระผู้เป็นเจ้าข้างต้น พระองค์ทรงสั่งห้ามเรื่องการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ ดอกเบีย้ มา 1,400 กว่าปีแล้ว เพราะดอกเบีย้ จะนำมาซึง่ ความวิบตั อิ ย่างใหญ่หลวง ซึง่ ชาวโลก ได้ประจักมาเป็นระยะๆ และผลเสียทีร่ นุ แรงก็นบั วันจะเพิม่ มากขึน้ เรือ่ ยๆ ดังปรากฏให้เห็นเช่น ทุกวันนี้ แต่ผู้คนก็ยังคงระบบดอกเบี้ยไว้ต่อไป ราวกับว่าระบบเศรษฐกิจโลกนั้นขาดดอกเบี้ย ไม่ได้ ทั้งที่ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อระบบเศรษฐกิจทุกครั้งล้วนมาจากระบบดอกเบี้ยทั้งสิ้น และดูเหมือนจะเป็นทางตันที่ไม่มีใครออกมาต่อต้านระบบดอกเบี้ยและหาวิธีการอื่นมาทดแทน ในระบบเศรษฐกิจโลก คงมี แ ต่ ช าวมุ ส ลิ ม เท่ า นั ้ น ที ่ อ อกมาต่ อ ต้ า นระบบ ดอกเบี้ยอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่มีพลังพอที่จะเปลี่ยนระบบ เศรษฐกิจโลกให้ปลอดดอกเบีย้ ได้ เพราะยังมีมสุ ลิมบางคน ที่ยังคงเข้าไปยุ่งกับระบบดอกเบี้ย ไม่ว่าจะเป็นดอกเบี้ยใน ระบบ และดอกเบี้ยนอกระบบ จนเป็นเหตุให้ตัวเองญาติ พี่น้องและลูกหลานที่อยู่รอบข้าง ต้องได้รับผลกระทบที่ รุนแรงทัง้ กายและใจไปตามๆ กัน บางครอบครัวถึงกับต้องสิ้นเนื้อประดาตัว แม้แต่ที่ ซุกหัวนอนก็แทบจะไม่มี เงินทองทีเ่ คยมีและจับจ่ายใช้สอย อย่างฟุม่ เฟือย ก็ตอ้ งใช้จา่ ยอย่างกระเหม็ดกระแหม่ไม่ตา่ ง อะไรกับผู้ที่หาเช้ากินค่ำ บางคนต้องหลบหนีซ่อนตัวไม่ให้ เจ้าหนี้ตามหาพบ บางคนถึงกับฆ่าตัวตายเพื่อหนีหนี้ บาง คนมีชีวิตอยู่อย่างผู้ที่ตายทั้งเป็น ความโกลาหลที่ประสบ มิต่างอะไรกับพวกเขากำลังตกอยู่ในภาวะสงคราม ใช่แล้ว เขากำลังอยูใ่ นภาวะสงคราม และเป็นสงครามระหว่างเขา กับพระผู้เป็นเจ้า ดังพระดำรัสของพระองค์ที่ทรงกล่าวไว้ ในบทอัลบะกอเราะฮ โองการที่ 2:278 และ 2:279 ว่า “ศรัทธาขนทั้งหลาย พึงยำเกรงต่ออัลลอฮเถิด จงทิ้ง ดอกเบี้ยส่วนที่เหลือที่แล้วๆ มาเสีย หากว่าพวกเจ้าเป็นผู้ ศรัทธาที่แท้จริง” “หากพวกเจ้าไม่ยอมปฏิบัติ ก็จงคอยการ ประกาศสงครามจากอั ล ลอฮฺ และศาสนทู ต ของพระองค์ หากพวกเจ้ากลับเนื้อกลับตัวก็ให้ถือเอาเงินต้นเป็นของพวกเจ้า (โดยไม่มีดอกเบี้ย) พวกเจ้าจะได้ไม่เบียดเบียนผู้อื่น และพวก เจ้าก็ไม่ถกู เบียดเบียนจากผูอ้ น่ื ” 


อาหารกับสุขภาพ

โนรีซนั ด์

X



○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

ปัจจุบันได้มีการคิดค้นและวิจัย จนได้ ผลิตภัณฑ์กะทิเทียม หรือ “กะทิธญ ั พืช” ขึน้ มา ซึ่งกะทิธัญพืชนี้ ทำมาจากผลิตภัณฑ์ ธัญพืช เช่น น้ำมันรำข้าว, น้ำมันเมล็ดดอก ทานตะวัน, โปรตีนจากถั่วเหลืองมาใช้เป็น ส่วนผสมหลัก และนำมาผ่านกระบวนการ โฮโมจิไนเซชั่น ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะ เป็นของเหลวข้นสีขาว มีความเข้มข้นและมัน โดยยังคงรสชาติคล้ายกะทิจากมะพร้าวและ สามารถใช้ในการปรุงอาหารได้เหมือนกับ การใช้กะทิมะพร้าว ปัจจุบันมีผู้ที่คิดค้นกะทิธัญพืชขึ้นมา 2 ยีห่ อ้ ด้วยกัน คือ “ฟอร์แคร์” และ “กูดไลฟ์”

2. กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (Polyunsaturated fatty acids : PUFA) กรดไขมันไม่อม่ิ ตัวเชิงเดีย่ ว ช่วยยับยัง้ การสร้างคอเลสเตอรอลในเลือดโดยเฉพาะ LDL คอเลสเตอรอล และช่วยลดการสะสม ของคอเลสเตอรอลทีผ่ นังเลือด

ในกะทินั้นมีไขมันอิ่มตัว (Saturated fatty acids) สูงมาก ซึง่ ไขมันอิม่ ตัวนีจ้ ะเป็น ตัวสร้างคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) มีผล ในการเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ และเมือ่ บริโภคมากเป็นประจำ จะเพิม่ ความ เสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดและโรคหัวใจ ได้ ไขมั น อิ ่ ม ตั ว ในอาหารที ่ เ ราบริ โ ภค ส่วนใหญ่ได้มาจากสัตว์และพืชบางชนิด เช่น น้ำมันปาล์ม, น้ำมันมะพร้าว ไขมันอิ่มตัว เป็นของแข็งที่อุณหภูมิห้องและมีความคงตัว สูง เนื่องจากไม่ถูกออกซิไดซ์ด้วยออกซิเจน ไขมั น อิ ่ ม ตั ว และไขมั น ที ่ ผ ่ า นกระบวนการ เติมไฮโดรเจน เช่น เนยขาว, มาการีน เป็น สาเหตุหลักของการเพิม่ ขึน้ ของคอเลสเตอรอล ในเลือด ไขมันไม่อิ่มตัว ส่วนใหญ่ได้มาจากพืช เป็นของเหลวทีอ่ ณ ุ หภูมหิ อ้ งและมีความคงตัว ต่ำ เมื่อถูกความร้อนจะเกิดควัน และมีกลิ่น หืนง่ายกว่าไขมันอิ่มตัว กรดไขมันไม่อิ่มตัว สองชนิด คือ 1. กรดไขมันไม่อม่ิ ตัวเชิงเดีย่ ว (Monounsaturated fatty acids : MUFA) Á

หลายคนยังเข้าใจว่าในกะทินั้นมี คอเลสเตอรอลสู ง อั น ที ่ จ ริ ง แล้ ว ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ท ี ่ ไ ด้ จากพืชนั้นจะไม่มีคอเลสเตอรอล แต่อาจจะมี กรดไขมันทรานซ์ (ไขมันไม่อิ่มตัว) ที่ได้จาก กระบวนผลิต (ไฮโดรจีเนต) ซึ่งจะแปรสภาพ จากกรดไขมันไม่อม่ิ ตัวเป็นกรดไขมันอิม่ ตัว

แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย (สสม.)


○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

o ไม่มคี อเลสเตอรอล o มีไขมันอิม่ ตัวต่ำกว่ากะทิจากมะพร้าว ถึง 3 เท่า o มีสัดส่วนของกรดไขมันอิ่มตัว (SFA) : กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว (MUFA): กรด ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (PUFA) เป็น 1:1:1 ซึ่งสามารถช่วยควบคุมและลดระดับคอเลสเตอรอลได้

ประโยชน์ที่ได้จากกะทิธัญพืช

คุ ณ ผู ้ อ ่ า นสามารถเปรี ย บเที ย บประโยชน์ ระหว่างกะทิธรรมชาติกบั กะทิธญ ั พืชได้ กะทิธญ ั พืช “ฟอร์แคร์” ทำจากโปรตีน ถั่วเหลือง 0.3%, น้ำมันรำข้าว 18% (ไม่มี ส่วนผสมของกะทิ) โดยกะทิปริมาณ 1/3 ถ้วย (80 มิลลิลติ ร) มีไขมันอิม่ ตัว 2.4 กรัม คิดเป็น 12% ของขีดจำกัดใน 1 วัน กะทิ ธ ั ญ พื ช “กู ด ไลฟ์ ” ทำจากกะทิ 10%, น้ำมันดอกทานตะวัน 8%, น้ำมัน รำข้าว 5%, โปรตีนถั่วเหลือง 0.5% โดย กะทิปริมาณ 1/3 ถ้วย (80 มิลลิลิตร) มี ไขมันอิ่มตัว 3.5 กรัม คิดเป็น 17.5% ของ ขีดจำกัดใน 1 วัน กะทิธรรมชาติ 100% ปริมาณ 1 ใน 3 ถ้วยตวง (1 ถ้วยตวง = 240 มิลลิลติ ร; 1 ใน 3 ถ้วยตวง = 80 มิลลิลิตร) มีปริมาณ ไขมัน 14 กรัม (มีไขมันอิ่มตัวมากถึง 10 กรัม) คิดเป็น 50% ของขีดจำกัดใน 1 วัน

จับประเด็น o มี ก รดไขมั น ที ่ จ ำเป็ น ที ่ ร ่ า งกายไม่ สามารถสร้างขึ้นเองได้ ต้องได้รับจากการ บริโภคอาหารเท่านัน้ สูงกว่ากะทิจากมะพร้าว ถึง 15 เท่า o ไม่มกี รดไขมันชนิดทรานซ์ (Trans-fatty acid) o มีวติ ามินอี (สารต้านอนุมลู อิสระ) จาก ธรรมชาติสงู ปัจจุบัน คนไทยกินไขมันมากกว่าใน อดีต และมีแนวโน้มมากขึน้ เรือ่ ยๆ จากชนิด ของอาหาร และวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป รวมทั้ง การขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้น การป้องกันไม่ให้เกิด คือการเลือก บริโภคอาหาร และเลือกชนิดของไขมันอย่าง ถูกต้อง ในแกงมัสมั่น อาหารหลักในงานบุญ ก็มีส่วนประกอบด้วยกะทิมะพร้าวที่มีไขมัน อิ่มตัวสูงถึง 95% ซึ่งเพิ่มคอเลสเตอรอล ตัวร้าย LDL หรือแม้แต่อาหารในบ้านทั่วไป บรรดาแกงหรือขนมหวานต่างๆ ไม่วา่ จะเป็น แกงเผ็ด, แกงเขียวหวาน หรือขนมหวานอีก หลายชนิด ก็ลว้ นอุดมไปด้วยกะทิมะพร้าว ถ้าเพียงแต่เรารู้จักลดหรือไม่ใช้กะทิ จากมะพร้าว มองหาส่วนประกอบอื่น เช่น กะทิธัญพืช ที่มีไขมันอิ่มตัวน้อยกว่า เราคง ลดภาระโรคร้ายต่างๆ ได้บา้ ง แม้วา่ กับความ รู้สึกที่คุ้นกับกะทิมะพร้าวจะหลอกตัวเราใน ช่วงแรก แต่ถา้ แลกกับสุขภาพ กะทิทท่ี ำจาก ธัญพืชจึงเป็นทางเลือกอีกทางหนึง่

อ้างอิง : 1. www.bangkokbiznews.com 2. http://gotoknow.org/blog/health2you/236594 3. Food Innovation 31 สิงหาคม 2550 สถาบันอาหาร 4. “ใครว่า...ไขมันไม่ดี” ผศ.ดร.เรวดี จงสุวัฒน์ เลขานุการโครงการ “อาหารไทย หัวใจดี” มูลนิธหิ วั ใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์

      

วิรชาติ มัสอูดี

X

เมื่อ 4 มีนาคม ที่ผ่านมาศาล ปกครองเชียงใหม่ได้อ่านคำพิพากษา คดีที่ชาวบ้านฟ้องการไฟฟ้าฝ่ายผลิต เรียกร้องค่าเสียหายจากการดำเนิน งานของโรงไฟฟ้ า แม่ เ มาะ ซึ ่ ง ได้ ร ั บ ผลกระทบจากฝุ ่ น ละอองและก๊ า ซ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ นับแต่เดือนตุลาคม ปี 2535 โรงไฟฟ้าพลังงานร้อนจาก ถ่านหินลิกไนต์ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต แห่งประเทศไทย อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ปล่อยสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ออกจาก ปล่ อ งโรงไฟฟ้ า ส่ ง ผลให้ ช าวแม่ เ มาะ เจ็บป่วยเป็นจำนวนมาก

คำตั ด สิ น ของศาลให้ ท างการ ไฟฟ้าฝ่ายผลิตชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ให้ผู้ฟ้องคดีโรงไฟฟ้าแม่เมาะ โดยทาง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตน้อมรับในคำพิจารณา ของศาลปกครองเชียงใหม่ ที่วินิจฉัย ว่าระหว่างปี 2535-2541 การดำเนิน งานของโรงไฟฟ้ า แม่ เ มาะได้ ส ่ ง ผล กระทบต่อผูฟ้ อ้ งคดี




○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

อำเภอเมื อ งเมื อ งระยอง ตลอดจนตำบล บ้านฉาง อำเภอบ้านฉางทั้งตำบล เป็นเขต ควบคุมมลพิษ เพื่อดำเนินการควบคุม ลด ขจัดมลพิษ ตามทีก่ ำหนดไว้ในกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในกำหนด 60 วัน นับตัง้ แต่ศาลมีคำพิพากษา

มวลสารทางอากาศออกมาในอั ต ราสู ง สุ ด ตามค่าทีไ่ ด้รบั อนุญาต จะมีผลทำให้คา่ ความ เข้มข้นของมวลสารในบางค่าสูงกว่ามาตรฐาน ของคุณภาพอากาศในบรรยากาศ สถิ ต ิ ก ารเกิ ด โรคมะเร็ ง ทุ ก ชนิ ด และ โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในพื้นที่อำเภอเมือง ระยอง สูงกว่าอำเภออื่นๆ เป็น 3 เท่าและ

○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ เป็นออกไซด์ชนิด หนึง่ ของกำมะถัน ซัลเฟอร์ไดออกไซด์จะเป็น อันตรายต่อสุขภาพอนามัยมากหรือไม่ขึ้นอยู่ กับฝุน่ ละออง เนือ่ งจากทำให้เพิม่ ความระคาย เคืองต่อเนื้อเยื่อในระบบหัวใจ นอกจากนั้น ฝุ่นละอองบางชนิดเป็นสารมีพิษ และบาง ชนิดทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้ซัลเฟอร์



○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

ในปี 2551 น้ำคลองสาธารณะในพืน้ ที่ มาบตาพุดอยู่ในระดับเสื่อมโทรม น้ำมีสีดำ กลิ่นเหม็น พบการปนเปื้อนของแบคทีเรีย ค่อนข้างสูง เกินค่ามาตรฐาน บางแห่งระดับ คุ ณ ภาพแหล่ ง น้ ำ ผิ ว ดิ น เสื ่ อ มโทรมมาก คุ ณ ภาพน้ ำ ทะเลในบางครั ้ ง พบค่ า ปรอท ไฮโดรคาร์บอน เหล็ก ทองแดง เกินเกณฑ์ มาตรฐานคุณภาพน้ำทะเลชายฝัง่ นอกจากนี้ ยั ง มี เ อกสารทางวิ ช าการอี ก หลายรายการ ซึ่งล้วนระบุว่าปัญหามลพิษในท้องที่มาบตาพุ ด กระทบต่ อ สิ ่ ง แวดล้ อ มและสุ ข ภาพ ของประชาชน ศาลจึงมีคำพิพากษาให้คณะกรรมการ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ประกาศให้ท้องที่เขต เทศบาลเมืองมาบตาพุดทัง้ หมด รวมทัง้ ตำบล เนิ น พระ ตำบลมาบข่ า และตำบลทั บ มา

5 เท่า

○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○

ไดออกไซด์กลายเป็นกรดซัลฟุริกได้รวดเร็ว ยิง่ ขึน้ เช่น ละอองไอของเฟอรัส แมงกานีส วานาเดียม เป็นต้น ซึ่งเป็นอันตรายต่อปอด อย่างรุนแรง ตลอดจนเพิ่มความต้านทาน การเคลือ่ นทีข่ องอากาศภายในทางเดินหายใจ และเมือ่ วันที่ 3 มีนาคม ศาลปกครอง ระยองพิพากษาให้ประกาศพื้นที่ระยอง เป็น เขตควบคุ ม มลพิ ษ โดยผู ้ ฟ ้ อ งอ้ า งว่ า การ ดำเนินงานนิคมอุตสาหกรรมในเขตเทศบาล มาบตาพุด ได้กอ่ ให้เกิดผลกระทบทางสิง่ แวด ล้อมและต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน ในพื้นที่มาบตาพุดอย่างรุนแรง ทั้งมลพิษ ทางอากาศ มลพิ ษ ทางน้ ำ และมลพิ ษ จาก กากของเสี ย อั น ตราย จนทำให้ ป ระชาชน ในท้องถิน่ เจ็บป่วยเป็นจำนวนมาก มี ร ายงานระบุ ว ่ า หากแหล่ ง กำเนิ ด มลพิ ษ ทุ ก แหล่ ง ในพื ้ น ที ่ ม าบตาพุ ด ระบาย

คดีสง่ิ แวดล้อม

แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย (สสม.)




Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.