www.muslimthaihealth.com
W E L L-B E I N G
www.dekdek.org
www.suksara.net
หน้าบ้านสุขสาระ
ปีท่ี 6 : ฉบับที่ 65 : พฤษภาคม 2552
ผูเ้ ขียนมีเพือ่ นชือ่ อิทธิพล และอำนาจ แต่ไม่มเี พือ่ นชือ่ บารมี และมักจะบอกกล่าวกับเพือ่ นๆ ว่า ผูเ้ ขียนนีแ้ หละทีม่ อี ำนาจและอิทธิพลตัวจริง แค่นก้ี เ็ รียกเสียงหัวเราะจากเพือ่ นๆ ได้แล้ว Á
อำนาจและอิทธิพล ดูจะเป็นของวิเศษที่ใครๆ ก็อยากจะครอบครอง และเมื่อได้ ครอบครองแล้ว ต่างก็พากันติดใจ ไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือไปง่ายๆ คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย บางคนอาจหลงผิดคิดไปเองว่าความ สำเร็จนั้น เป็นเพราะความเก่งกาจของตนเพียงผู้เดียว จึงมักไม่ค่อยยอมรับฟังความคิดเห็นของ ผูค้ นรอบข้าง นอกจากบรรดากาฝากทีป่ ลิน้ ปล้อนหยอดคำหวานแสร้งชืน่ ชมไปวันๆ แต่บางคนแม้จะประสบความสำเร็จ มีอำนาจ อิทธิพล และบารมีแล้ว ก็ไม่หยิ่งผยอง ก็เพราะว่าคนกลุ่มนี้รับรู้ว่าแท้จริงแล้วตัวเขาเป็นเพียงปุถุชน มีเลือด เนื้อ โลภ หลง เกิด ตาย พวกเขาเป็นแค่เพียงมนุษย์ตวั เล็กๆ มากจนไม่สามารถไปเทียบกับอะไรได้เลย อำนาจ บารมี และอิทธิพล ทำให้เราเป็นคนโกรธง่าย หลงผิด ไม่ยอมให้อภัยผูอ้ น่ื ไม่รสู้ กึ เห็นใจผูใ้ ด อยากได้กเ็ พียงเพือ่ ให้ตนเองได้สำเร็จผลเท่านัน้
จากปก : ศาสตราจารย์เกียรติคณ ุ นายแพทย์สนาน สิมารักษ์ กรรมการกำกับทิศแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย (สสม.) ร่วมกิจกรรมปลูกป่าชายเลนที่ ชุมชนบ้านยายม่อม อ.แหลมงอบ จ.ตราด นักธุรกิจหญิงผู้บริหารบริษัทโฆษณาที่ประสบความสำเร็จ ตั้งแต่อายุยังน้อยผู้หนึ่ง เล่าเรือ่ งของเธอไว้ในนิตยสารฉบับหนึง่ ว่า เพราะเธอประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย ประกอบกับการ ที่เธอเป็นคนที่มีอีโก้สูง มั่นใจในตัวเองอย่างสุดๆ เธอเคยเกรี้ยว กราดใส่พนักงานขายที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เพียงเพราะ พนักงานผู้นั้นบริการไม่ได้ดังใจ เมื่อได้กล่าววาจาล่วงเกินไปแล้ว เธอเกิดสำนึกผิดต่อการกระทำของตน จึงเริ่มแก้ไขข้อบกพร่อง ของตนเองตัง้ แต่นน้ั มา น่ายินดีทเ่ี ธอรูจ้ กั สำรวจตนเอง แต่นา่ เสียดายทีค่ นเก่งๆ อีก หลายคนในบ้านเมืองของเรา ยังหลงติดอยูใ่ นบ่วงของมัน อำนาจ อิทธิพล และบารมี จึงไม่รจู้ กั แพ้ ไม่รจู้ กั ส่องกระจกสำรวจตัวเอง บ้านเมืองจึงวุน่ วายอย่างทีไ่ ด้เห็น
“เจ้าได้เห็นผูท้ ย่ี ดึ เอากิเลสของตนเอง เป็นพระเจ้าบ้าง หรือไม่...” อัลกุรอาน 25:43
Ø สุขสาระ เป็นวารสารเพื่อเผยแพร่กิจกรรมและข่าวสารของแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย (สสม.) ที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และศูนย์ศึกษานโยบายเพื่อการพัฒนา คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Ø สุขสาระ ยังได้เสนอบทความและข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมมุสลิมไทยและผู้สนใจ ทั่วไป ให้ตระหนักถึงปัญหาทางด้านสุขภาพหรือสุขภาวะที่กำลังรุกรานสังคมไทยอยู่ในปัจจุบัน เพื่อจะได้เตรียมตัวและหาทางป้องกันแก้ไข Ø บรรณาธิการ อาณัติ ศานติศาสน์ Ø กองบรรณาธิการ วิรชาติ มัสอูดี , เอนก ขันศรีทรง Ø ฝ่ายสมาชิก กัลยาณา วาจิ Ø รูปเล่ม เปรมจิต เจริญมิน Ø หากคุณต้องการบอกรับวารสารฉบับนี้ เชิญส่งจดหมายแจ้งที่อยู่ของคุณ ได้ที่ : สำนักงานแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย (สสม.) ศูนย์ศกึ ษานโยบายเพือ่ การพัฒนา คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถนนพญาไท แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. 10330 โทรศัพท์ 0-2218-6193 โทรสาร 0-2218-6194 Ø ศูนย์ประสานงานภาคกลาง โทรศัพท์ 0-2719-8721 Ø ศูนย์ประสานงานภาคอีสาน โทรศัพท์ 042-207-174 Ø ศูนย์ ประสานงานภาคเหนือ โทรศัพท์ 053-247-367 Ø ศูนย์ประสานงานภาคใต้ตอนบน โทรศัพท์ 08-6273-4185 Ø ศูนย์ประสานงานภาคใต้ตอนกลาง โทรศัพท์ 08-7293-3413 Ø ศูนย์ ประสานงานภาคใต้ตอนล่าง โทรศัพท์ 073-350-266 Ø โรงเรียนผู้นำสุขภาวะมุสลิมไทย โทรศัพท์ 0-2729-8816 Ø มัสยิดปลอดบุหรี่ โทรศัพท์ 08-9811-0105 Ø ชุมชนรักสุขภาวะ โทรศัพท์ 08-5072-4734 Ø พิมพ์ที่ หจก. มาร์ค เอ็ม พรินติง้ 36 ถนนหทัยราษฎร์ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม. 10510 โทรศัพท์ 0-2540-7870-2
ดัชนีสขุ ภาพ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○
○
○
ป่าชายเลนในประเทศไทย ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○
การจัดการวางแผนการใช้ที่ดินชายฝั่งทะเล ให้เหมาะสม จะเป็นทางหนึ่งที่จะรักษาพื้นที่ ป่าชายเลนไว้และที่สำคัญที่สุดคือการเพิ่ม พื้นที่ป่าชายเลน โดยการปลูกป่า ทั้งในส่วน ของราชการและเอกชน ตามพื้นที่ว่างเปล่า บริเวณชายฝั่งทะเล ทั้งที่ผ่านการทำเหมือง แร่ หรือพื้นที่นากุ้ง หรือนาข้าวที่เลิกไปแล้ว ซึ่งมีอยู่มากมายและมีโอกาสที่จะฟื้นฟูให้เป็น ป่าชายเลนขึ้นมาได้ ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้อง หาแนวทางในการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ ทรัพยากรป่าชายเลนให้ได้ผลเต็มที่ตลอดไป และในขณะเดียวกันก็ไม่เป็นการทำลายระบบ นิเวศด้วย หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ การจัดการ ทรัพยากรป่าชายเลนเพื่อให้สามารถนำมา ใช้ประโยชน์ได้ยง่ั ยืนต่อไป
แหล่งข้อมูล : 1. http://www.thaienvimonitor.net 2. http://www.forest.go.th 3. http://www.geocities.com
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
รูป : แสดงพืน้ ทีป่ า่ ชายเลนในประเทศไทยตัง้ แต่ปี 2504 – 2547
○
○
○
มีนโยบายการฟืน้ ฟูปา่ ชายเลน เช่น การปลูก ป่าทดแทนและการลดการบุกรุกทำลายป่า มีผลทำให้ในปี 2543 พืน้ ทีป่ า่ ชายเลนเพิม่ ขึน้ 1,579,693 ไร่ และเพิม่ เป็น 1,723,781 ในปี 2547 ดังแสดงในรูป การรักษาพื้นที่ป่าชายเลนที่มีอยู่ให้คงไว้ ซึง่ เป็นเรือ่ งทีย่ ากพอสมควร และจะต้องช่วย กันหลายฝ่าย การป้องกันอย่างจริงจัง รวมทัง้
○
○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○
ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าชายเลนมากเป็น อันดับ 9 ของประเทศในเขตร้อนแถบเอเชีย ขึ้นอยู่กระจัดกระจายตามชายฝั่งทะเลภาค ตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ รวม 23 จังหวัด ยาวประมาณ 2,614 กิโลเมตร เป็น พื้นที่ป่าชายเลนร้อยละ 36 ของความยาว ชายฝั่งทั้งหมด ในอดีตป่าชายเลนมีความ อุดมสมบูรณ์มาก ซึง่ ในปี พ.ศ.2504 มีเนือ้ ที่ ทัง้ หมดประมาณ 2,299,375 ไร่ แต่หลังจาก นัน้ ได้ถกู ทำลายลงด้วยกิจกรรมหลายประเภท ของมนุษย์ โดยเฉพาะในช่วงหลังปี 2522 พื้นที่ป่าชายเลนลดลงเนื่องจากมีการตื่นตัว ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง โดยเฉพาะ อย่างยิ่งการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนเพื่อการ เพาะเลีย้ งกุง้ , การทำเกษตรกรรม, การขยาย ตัวของชุมชน, การสร้างท่าเทียบเรือ, การ สร้างถนนและสายส่งไฟฟ้า, การสร้างโรงงาน อุตสาหกรรม และการขุดลอกร่องน้ำ ทำให้ พืน้ ทีป่ า่ ชายเลนลดลงอย่างรวดเร็ว จากข้อมูลการสำรวจโดยการแปลจาก ภาพถ่ายดาวเทียม Landsat-5(TM) มาตรา ส่วน 1:50,000 เมื่อปี พ.ศ. 2539 พบว่า ประเทศไทยมีป่าชายเลนลดลงเหลือเพียง 1,047,390 ไร่ จำแนกเป็นภาคตะวันออก 79,113 ไร่ ภาคกลาง 34,057 ไร่ และภาค ใต้ฝั่งอ่าวไทย 103,571 ไร่ ฝั่งอันดามัน 830,650 ไร่ จังหวัดที่มีพื้นที่ป่าชายเลนมาก ที ่ ส ุ ด ของประเทศไทยได้ แ ก่ จ ั ง หวั ด พั ง งา 190,265 ไร่ รองลงมาได้แก่ สตูล 183,402 ไร่ และกระบี่ 176,709 ไร่ หลังจากนัน้ ก็ได้ Á
○
อาซีซะห์
○
X
ลา คอมรฺ Á
อะหมัด ซอและห์
X
ธุรกิจค้าไวน์ในปัจจุบันมักจะอ้างอิงข้อมูลว่าการดื่มไวน์ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ
○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○
ยกตัวอย่างการศึกษาในสมัยก่อนที่ไป สรุปว่า คนดืม่ กาแฟมักจะเป็นมะเร็งตับอ่อน ก็เพราะว่าไปศึกษาดูวา่ คนทีเ่ ป็นมะเร็งตับอ่อน กับคนที่ไม่เป็นแตกต่างกันอย่างไร และพบว่า คนที่เป็นมะเร็งตับอ่อนจะดื่มกาแฟมากกว่า คนที่ไม่เป็นมะเร็งตับอ่อน ก็เลยไปสรุปว่า กาแฟทำให้เกิดมะเร็งของตับอ่อน อีกหลายปี ต่อมาถึงได้รู้ว่าจริงๆ แล้วไม่ใช่เป็นเพราะ กาแฟ แต่เกิดจากบุหรี่ที่คนไข้สูบต่างหาก ที่ ทำให้เป็นมะเร็งตับอ่อน ที่บังเอิญคนสูบบุหรี่ มักจะดื่มกาแฟ และคนไม่สูบบุหรี่ไม่ค่อยดื่ม กาแฟ
มีตัวอย่างของคนที่ดื่มไวน์ในเมืองตูลูส ซึ่งเป็นเมืองกสิกรรม ของฝรั่งเศส ถึงแม้จะ กินอาหารทีม่ ไี ขมันสูงแต่เขาก็มกี ารออกกำลัง กายอย่างสม่ำเสมอ มีชวี ติ ความเป็นอยูอ่ ย่าง สังคมชนบทที่มีความเครียดต่ำ ซึ่งแตกต่าง กับคนในเมืองกลาสโกว์ เมืองอุตสาหกรรม
○
ไวน์ ○
○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○
จึ ง มี ค ำถามว่ า การศึ ก ษานี ้ เ ป็ น การ ศึกษาแบบใด เป็นการศึกษาแบบการทดลอง ที่เอาคนกลุ่มหนึ่งมาดื่มไวน์แล้วอีกกลุ่มไม่ดื่ม ไวน์ แล้วเอาผลการทดสอบมาเปรียบเทียบกัน หรือเป็นการศึกษาโดยการสังเกต นั่นก็คือ ไปดูว่าคนในเมืองนี้ตายจากโรคนี้มากน้อย แค่ไหน แล้วก็ไปดูความเป็นอยู่ของเขาว่า เป็นอย่างไร? เขาดื่มไวน์อยู่เท่าไรมากน้อย แค่ไหน ขณะเดียวกันก็ไม่สามารถสรุปได้ว่า การดื่มไวน์นั้นจะป้องกันไม่ให้เกิดโรคหลอด เลือดหัวใจได้จริง เพราะอาจจะมีปัจจัยลวง ต่างๆ อยูอ่ กี มากมายในกลุม่ คนทีท่ ำการศึกษา
○
โดยมีการยกตัวอย่างในประเทศจีนที่ประชากรเสียชีวิตด้วยโรคหลอดเลือดหัวใจต่ำกว่า อังกฤษ ทั้งที่ผู้คนในสองเมืองกินอาหารที่มีระดับไขมันสูงพอๆ กัน แต่ในประเทศจีนดื่มไวน์ มากกว่า ผู้สำรวจก็บอกว่าคงจะเป็นจากการดื่มไวน์ที่ทำให้คนในประเทศนี้มีอัตราการเกิด โรคหลอดเลือดหัวใจต่ำและมีอตั ราการตายจากโรคต่ำกว่าทีอ่ น่ื ๆ ในแถบเดียวกัน
มีประโยชน์ต่อหัวใจ จริงหรือ? ข้อมูล : - เว็บไซต์มูลนิธิหมอชาวบ้าน : บทความพิเศษ - ไวน์ / รศ.นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา - http://gotoknow.org/blog/health2you/134770 นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ โรงพยาบาลห้างฉัตร ลำปาง
...ถ้อยคำโดนใจ...
โดย สมาน ฮะยีตำมะลัง อ.เมือง จ.สตูล
“สูบบุหรีม่ วนเดียว เสพย์ตดิ ไปทัง้ ชีวติ ”
แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย (สสม.)
X
ของอังกฤษ ที่คนเหล่านั้นมีความเครียดสูง เพราะอยู่ในสังคมเมือง มีการออกกำลังกาย น้อย มีระดับคอเลสเตอรอลที่สูงกว่ามาก สิ่งเหล่านั้นอาจจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ เกิดโรคหลอดเลือดหัวใจในปริมาณทีส่ งู ได้ เพราะฉะนั้น การที่ไปสรุปว่าคนใน เมืองตูลสู ดืม่ ไวน์มากกว่าคนในเมืองกลาสโกว์ แล้วเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจน้อยกว่านั้น จึงยังไม่เป็นข้อสรุปทีเ่ หมาะสม รายงานของคณะนั ก วิ จ ั ย จากมหาวิทยาลัย หลุยส์ ปาสเตอร์ เดอ ชตราสบวก ประเทศฝรั่งเศส ที่ทำการศึกษาพบว่า น้ำ องุ่นแดงกับไวน์มีฤทธิ์ขยายเส้นเลือดแดง นาน 6 ชัว่ โมงเท่าๆ กัน แต่คณ ุ ค่าขององุน่ แดงและไวน์นา่ จะอยูท่ ่ี “องุน่ (grape effect)” ไม่ใช่แอลกอฮอล์ น้ำองุ่นนั้นปลอดภัยกว่าไวน์ เนื่องจาก แอลกอฮอล์ในไวน์เพิ่มความเสี่ยงโรคไขมัน ในตับสูงมากกว่า นอกจากนั้นยังเสี่ยงตับ อักเสบ ตับแข็ง และตับอ่อนอักเสบด้วย แต่การดื่มน้ำองุ่น ก็ไม่ใช่จะปลอดภัย ไปเสียทีเดียว เพราะน้ำองุ่นมีน้ำตาลหรือ แคลอรีสูง ทำให้เสี่ยงต่อโรคอ้วนและอ้วน ลงพุง ดังนั้นการกินผลไม้จึงน่าจะปลอดภัย และดีกบั สุขภาพมากกว่า
...คุณผูอ้ า่ นครับ... “สุขสาระ” มีข้อเสนอสำหรับเรื่องราวดีๆ ของคุณ ทัง้ ทีไ่ ด้รบั จากเพือ่ นสนิท หรือญาติพน่ี อ้ ง ที่สร้างความประทับใจ สร้างกำลังใจ ให้คุณยืน หยัดอย่างเข้มแข็งได้ ขอเชิญชวนคุณผู้อ่านส่งเรื่องน่าประทับใจ ดังกล่าว พร้อมที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์ของคุณ มาทีก่ องบรรณาธิการสุขสาระ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถนนพญาไท แขวง วังใหม่ เขตปทุมวัน กทม. 10330 หรือที่อีเมล์ suksara@yahoo.co.th โดยความยาวของเรื่อง ไม่เกิน 1 หน้ากระดาษ เอ4 หรือ ขนาดบรรทัด พิมพ์ 20 บรรทัด สำหรับเรื่องของคุณที่ได้รับ การตี พ ิ ม พ์ “สุ ข สาระ” มี ค ่ า ขนมเล็ ก ๆ น้ อ ยๆ พร้อมทีจ่ ะมอบให้
กัลยาณา
ลา คอมรฺ
สุขสาระฉบับเดือนเมษายน ได้กล่าวถึงสรรพคุณของผงกะหรีไ่ ปแล้ว 2 ชนิด ฉบับนีจ้ ะได้นำเสนอเพิม่ เติมในส่วนทีเ่ หลืออยูท่ ง้ั หมด ดังนี้ Á
ลูกกระวาน มีการใช้กันมากทั้งในด้านการครัวและการแพทย์ ลูกกระวานมีลักษณะ กลมรี สีขาวนวล เปลือกสีขาวไม่แข็ง ภายในมีเม็ดสีน้ำตาลจำนวนมาก มีกลิ่นหอมฉุน มี รสเผ็ดใช้ดับกลิ่นคาวและทำให้แกงมีกลิ่นหอม นิยมใช้เป็นเครื่องเทศในน้ำพริกแกงมัสมั่น, แกงกะหรี่ เป็นต้น และยังใช้แต่งกลิน่ และสีของอาหารหลายชนิด เช่น ขนมปัง, เค้ก, ตับบด, ไส้กรอก, แฮม, อาหารหมักดอง และผลิตภัณฑ์เนือ้ สัตว์ตา่ งๆ ลูกกระวาน เป็นยาบำรุงธาตุ ช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร, ขับเสมหะ, แก้อาการ ท้องเดิน, ท้องอืด, ท้องเฟ้อ, จุกเสียดแน่นและใช้เป็นส่วนผสมในยาถ่ายมีสรรพคุณช่วยไล่ แก๊สในกระเพาะอาหารและลดเสมหะ อบเชย เป็นเครือ่ งเทศทีม่ กี ลิน่ หอม ได้มาจากเปลือกไม้ชน้ั ในทีแ่ ห้งแล้วของต้นอบเชย แท่งอบเชยมีสีน้ำตาลแดง มีลักษณะเหมือนแผ่นไม้แห้งที่หดงอหลังจากโดนความชื้น มักจะ เรียกตามแหล่งเพาะปลูกเช่น อบเชยจีน, อบเชยลังกา, อบเชยญวน เป็นต้น ในประเทศไทย ไม่นิยมปลูกเพราะภูมิอากาศไม่เหมาะสม ลักษณะทั่วไปเป็นไม้ยืนต้น ต้นสูงประมาณ 4-10 เมตร ส่วนเปลือกและใบมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ใบมีลักษณะเป็นใบเดี่ยวเรียงตรงข้ามกัน เส้นใบหยัก 3 เส้น เวลาออกดอกจะออกที่บริเวณซอกใบ หรือปลายกิ่ง โดยออกดอกย่อย สีเหลืองอ่อนรวมกันเป็นช่อ พืชที่อยู่ในตระกูลเดียวกับอบเชยได้แก่ ชะเอม, กะเพราต้น, ข่าต้น, สมุแว้ง, การบูร, เทพธาโร ในการทำอาหารไทย มักใช้อบเชยในการทำเครื่องแกง เช่น พริกแกงกะหรี่ ประเภทผัดที่ใช้ผงกะหรี่ ใช้เป็นไส้กะหรี่ปั๊ป หรือใช้ร่วมกับโป๊ยกั้ก ใน อาหารคาวประเภทต้มเช่น พะโล้และเนื้อตุ๋น ส่วนในประเทศแถบตะวันตก มักใส่อบเชย
..ผงกะหรี.่ . ต อ น ที่
ลูกกระวาน
3
○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○
○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○
○
ไว้ในภาชนะที่มิดชิดไม่ให้สัมผัสอากาศได้ ส่วนสรรพคุณช่วยลดอาการปวดเกร็งท้อง, ช่วยระบบย่อยอาหาร, ป้องกันโรคท้องร่วง และโรคทีเ่ กีย่ วกับลำไส้และกระเพาะอาหาร ดอกจันทน์ มักจะนำไปคั่วจนหอม และเก็บในภาชนะที่มิดชิด มีสรรพคุณช่วย ให้เจริญอาหาร, ไล่แก๊สในกระเพาะอาหาร, รักษาอาการอาหารไม่ย่อยและมีส่วนช่วย บำรุงหัวใจด้วย สมุนไพรหลักๆ ที่กล่าวมาทั้งหมดล้วน แต่มีสรรพคุณและประโยชน์มากมาย ซึ่งจะ
○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○
○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○
ลูกผักชี เม็ดสีเหลืองอมน้ำตาล มัก นิยมนำมาโขลกรวมกับกระเทียมและพริกไทย ใช้หมักเนื้อสัตว์เพื่อดับกลิ่นคาว ลูกผักชี ช่วยบำรุงกระเพาะอาหาร, ช่วยเจริญอาหาร, กระทุ้งพิษไข้, แก้ลมวิงเวียน, ขับลม, ขับ ปัสสาวะ เป็นต้น ยี่หร่า มีลกั ษณะยาวเรียว สีออกขาว อมเทา ก่อนปรุงอาหารมักนำไปคั่วและบด เป็ น ผง ยี ่ ห ร่ า มี ส รรพคุ ณ ช่ ว ยไล่ แ ก๊ ส ใน กระเพาะอาหาร บรรเทาอาการปวดท้ อ ง และยังช่วยรักษาอาการอาหารไม่ยอ่ ยอีกด้วย ลูกจันทน์ เมล็ดมีรปู ทรงไข่ สีนำ้ ตาล เข้ม ส่วนมากจะนำไปคัว่ และบดเป็นผง เก็บ
ประกอบเข้ า ด้ ว ยกั น อยู ่ ใ นผงกะหรี ่ ส่ ว น เครื่องเทศอื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวถึงนั้นถือเป็น เครื่องเทศย่อยๆ ที่ใช้ปรับปรุงรสและกลิ่น ในผงกะหรี่เท่านั้นเอง แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น เครื่องเทศหรือสมุนไพรต่างๆ ที่ได้นำเสนอ นั้นล้วนแต่มีประโยชน์และสรรพคุณคล้ายๆ กั น การรั บ ประทานอาหารหรื อ การนำ สมุนไพรต่างๆ มาใช้นน้ั เราต้องรูจ้ กั ควบคุม ปริมาณอย่าให้มากหรือน้อยจนเกินไป และ ต้องศึกษารายละเอียดถึงคุณประโยชน์ของ สิ่งนั้นก่อนที่จะนำมาใช้ทุกครั้ง เพื่อความ ปลอดภั ย และได้ ป ระโยชน์ จ ากสิ ่ ง ที ่ ใ ช้ น ั ้ น จริงๆ
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
ขิง
แหล่งข้อมูล 1. http://praphansarn.com/herb/herb32.php 2. www.rspg.thaigov.net/plants_data/use/spicies10-3.htm 3. www.rspg.or.th/plants_data/herbs/herbs_06_1.htm 4. www.salasamunprai.com/herbs/cinnamon.html
○
ในของหวาน เช่น ซินนามอนโรลล์ ใช้ผง อบเชยละเอียดโรยหน้ากาแฟใส่นม ใช้ผง อบเชยกับน้ำตาลโรยหน้าเพรทส์เซล และ นอกจากนีย้ งั มีลกู อม หมากฝรัง่ และยาสีฟนั รสอบเชยอีกด้วย เนื่องจากอบเชยมีแทนนินสูงที่ให้รส ฝาดจึงนิยมใช้ในยาตำรับแผนโบราณเช่น เป็นส่วนผสมในยาหอมต่างๆ โดยใช้ส่วน ของเปลือกลำต้น ใช้ในการแก้จกุ เสียด, แน่น ท้อง หรือใช้ในการทำยานัตถุ์ใช้สูดดมเพื่อ เพิม่ ความสดชืน่ ลดอาการอ่อนเพลีย แก้โรค ท้องร่วงเพราะมีส่วนช่วยต้านแบคทีเรียใน กระเพาะอาหาร ขับปัสสาวะ ช่วยในการย่อย อาหาร และสลายไขมัน ส่วนเปลือกลำต้น อายุมากกว่า 6 ปี หรือใบกิ่งยังนำมาสกัด น้ำมันหอมระเหยได้อีกด้วย (Essential oil) ซึ่งจะมีมากในอบเชยญวนที่ให้น้ำมันหอม ระเหย 2.5% ขิง เป็นเครือ่ งเทศทีใ่ ช้แต่งกลิน่ อาหาร เพิ่มรสชาติ และดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ ซึ่งขิงมีสารอาหารที่มีคุณค่าต่อร่างกาย คือ โปรตีน, ไขมัน, คาร์โบไฮเดรต, แคลเซียม, วิตามินเอ, ขิงมีฤทธิ์อุ่น ช่วยขับเหงื่อ, ไล่ ความเย็น, ขับลม, แก้ทอ้ งอืด, ท้องเฟ้อ, ช่วย ให้เจริญอาหาร และทำให้ร่างกายอบอุ่น ใน ทางยานิยมใช้ขิงแก่ เพราะขิงแก่จะยิ่งเผ็ด ร้อนและมีใยอาหารมาก ลูกซัด เป็นพืชล้มลุกขนาดเล็ก มี ความสูงประมาณ 30-60 เซนติเมตร มีใบ ประกอบคล้ายขนใบนก มีใบย่อยเป็นรูปไข่ ขอบใบหยัก ดอกสีเหลืองมีลักษณะคล้าย
○
○
○
○
อบเชย
ดอกถั่วฝักยาว เมล็ดเป็นสี่เหลี่ยมมน มีสี เหลืองอ่อนตรงกลางเมล็ดมีร่องในฝักมีเมล็ด หรือลูกซัดประมาณ 10-20 เมล็ด ลูกซัดช่วย ขับลม ทำให้เจริญอาหาร, แก้อักเสบ, บวม, ใช้เป็นยาพอกฝีหรือแผลต่างๆ ในลูกซัดมี สารเมือก ซึง่ ทำให้ผา้ แข็งตัวเป็นเงางาม คน ไทยสมัยโบราณใช้น้ำต้มลูกซัดและเปลือก ชะลูดต้มผ้า เพือ่ ให้ผา้ มีกลิน่ หอมและแข็งตัว เป็นเงางาม ปัจจุบ ันได้มีการใช้เมือกของ ลูกซัดอาบกระดาษมันและผสมในการทำยา เม็ดเพือ่ ให้การแตกตัวของยาดีขน้ึ
แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย (สสม.)
X
อาหารกับสุขภาพ
โนรีซนั ด์
ถ้าพูดถึงข้าวเหนียวมะม่วงแล้วละก็ หลายคนบอกว่าต้องกินหน้าร้อน โดยเฉพาะ ช่วงเดือนเมษายน จะได้บรรยากาศ บางคนกินเพลินจนอร่อยปาก ก็เลยลำบากกาย เพราะข้าวเหนียวสำหรับมะม่วงนั้น เขาเพิ่มรสชาติด้วยน้ำกะทิในขณะที่มูน และเมื่อนำ มาเสิรฟ์ หลายๆ คนก็ใส่หวั กะทิเพิม่ เข้าไปอีก นัยว่าเพือ่ ให้หวานมัน อย่างทีท่ ราบกันดี อยู่แล้วว่า น้ำกะทินั้นมีประโยชน์หรือโทษอย่างไร? แต่อาหารเพื่อสุขภาพในวันนี้ จะไม่ พูดถึงน้ำกะทิ เพราะได้พูดกันมาบ่อยแล้ว เอาเป็นว่า เราจะพูดกันแต่เรื่องดีๆ ของ มะม่วง
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○
มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระได้ดี กว่ า การได้ ร ั บ วิ ต ามิ น ตั ว ใดตั ว หนึ ่ ง เดี ่ ย วๆ นอกจากนีย้ งั มีสว่ นเกีย่ วข้องกับการสร้างเสริม และบำรุงเนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกายไม่ให้ เกิดความชราก่อนวัยอันสมควรอีกด้วย วิตามินบี วิตามินเค โปแตสเซียม และ ทองแดง : ช่วยในการทำงานของร่างกายและ ปรับสมดุลภายในร่างกายให้เป็นปกติ ช่วย ในการเผาผลาญอาหาร เพื่อให้เกิดพลังงาน สำหรับใช้ในกิจกรรมประจำวันต่างๆ หาก ขาดสารอาหารเหล่านีอ้ าจทำให้การเผาผลาญ อาหารผิดปกติ เกิ ด การสะสมกลายไขมั น นั่นเอง
○
สารฟลาโวนอยด์ กำจัดไขมันในเลือด ได้ สารไตรเทอปีน ต้านการเกิดมะเร็งต่อม ลู ก หมากและมะเร็ ง ผิ ว หนั ง กรดอะมิ โ น ทริปโตแฟน ช่วยให้ร ่างการหลั่งฮอร์โมน โนเซโรโทนิน ทำให้ผอ่ นคลาย และหลับสบาย ยังพบว่า เปลือกต้น และเนื้อในเมล็ด ของมะม่วงก็มฤี ทธิฝ์ าดสมาน ใช้รกั ษาอาการ ท้องเสีย แก้บดิ และอาเจียนได้ ผลสดแก่ รับ ประทานแก้คลืน่ ไส้อาเจียน วิงเวียน กระหาย น้ำ ผลสุกหลังรับประทานแล้วล้างเมล็ดตาก แห้ง ต้มเอาน้ำดืม่ หรือบดเป็นผง รับประทาน แก้ท้องอืดแน่น ขับพยาธิ แก้ลำไส้อักเสบ เรื้อรัง แก้ปวดประจำเดือน มะม่วงยังนิยม นำมาปรุ ง เป็ น อาหารไทยนานาชนิ ด เช่ น ยอดอ่อนและใบอ่อนรับประทานเป็นผักสด แกล้มกับน้ำพริกหรือนำไปยำได้ ท้ า ยสุ ด ขอแนะนำมะม่ ว งมั น ขุ น ศรี แสนอร่อย ปลูกกันแพร่หลายในเขตบางกอก น้อย และจังหวัดนนทบุรี เป็นมะม่วงมัน ตามชื่อ เนื้อในฉ่ำน้ำเยอะ เหมาะสำหรับไว้ กินตอนดิบคือรอให้ผลแก่สักหน่อย หัวออก เหลืองนวล จะมีรสหวานมันอมเปรี้ยวนิดๆ ถ้ารอให้สุกก็จะให้รสชาติหวานแหลมและ กลิน่ หอม
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
มะม่วงมันขุนศรี
○
○
○
ในมะม่วงนั้นมีคุณค่าทางอาหารมาก มาย โดยเฉพาะในมะม่วงสุกนั้น พบว่ามี ปริมาณพลังงานที่ค่อนข้างสูงกว่ามะม่วงดิบ โดยมะม่วงสุกหนึง่ ผลนัน้ ให้พลังงานประมาณ 120-160 กิโลแคลอรี่ อีกทั้งยังอุดมด้วยแร่ ธาตุและวิตามินต่างๆ ซึ่งมีประโยชน์ต่อร่าง กายดังนี้ ไฟเบอร์ : ช่วยในการย่อยอาหาร และ เผาผลาญพลังงาน วิตามินเอ ซี และอี : มีปริมาณวิตามิน เอประมาณ 1 ใน 4 ของปริมาณที่ร่างกาย ต้องการ และมีวติ ามินซีและอี ร้อยละ 76 และ 9 ตามลำดั บ วิ ต ามิ น ทั ้ ง 3 ชนิ ด นี ้ มี หน้าทีห่ ลายประการ โดยเฉพาะเป็นสารต้าน อนุมลู อิสระซึง่ เมือ่ มีครบทัง้ 3 ชนิด จะทำให้
○
Á
แหล่งข้อมูล http://vivaldi.cpe.ku.ac.th/~note/newscrawler/view_news.php?id=309910 http://narakbeauty.blogspot.com/2008/12/blog-post_05.html http://care-tips.blogspot.com/2008/12/blog-post_17.html http://learners.in.th/blog/kung550/212903
พบหมอจินตนา
แพทย์หญิงจินตนา โยธาสมุทร
มนมวั าดืม่ นมแพะ ว
○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
ดื่มนมทั้งสองชนิดได้ ยกเว้นในกรณีที่แพ้ นมวัว จึงควรเปลีย่ นมาเป็นดืม่ นมแพะแทน ...นมแพะมีคุณค่าทางอาหารเช่นเดียว กับนมวัว แต่ยอ่ ยได้งา่ ยกว่านมวัว เนือ่ งจาก ลิ่มของนมแพะซึ่งเกิดจากโปรตีน มีขนาด เล็กกว่าลิ่มของนมวัว หยดไขมันในนมแพะ มีขนาดเล็กกว่านมวัว จึงไม่จำเป็นต้องนำ นมแพะไปผ่านกระบวนการตีไขมันให้แตก ละเอียดเหมือนนมวัว นมแพะสามารถเปลีย่ น คาโรทีน (Carotene) ให้เป็นวิตามินเอได้ ส่วนในนมวัวยังคงมีบางส่วนของคาโรทีน อยู่ในรูปของคาโรทีนอยด์ (Carotenoid) จึง ทำให้นมแพะมีสีค่อนข้างขาวมากกว่านมวัว
○
○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○
ฟาฏิมะฮฺเป็นหญิงอายุ 32 ปี มีลกู ชาย อายุ 4 ปี เธอได้รบั ฟังข่าวคราวเกีย่ วกับการ ดื่มนมของเด็กนักเรียนในโรงเรียนมาตลอด เธอจึงต้องการให้ลูกดื่มนมแพะหรือนมวัว เพือ่ ให้มรี า่ งกายแข็งแรง จึงไปพบแพทย์เพือ่ ขอคำแนะนำในเรือ่ งนี้ แพทย์อธิบายว่า “นมแพะเป็ น อาหารประเภทนมเช่ น เดียวกับนมวัว โดยมีส่วนประกอบพื้นฐาน ของสารอาหารคล้ายคลึงกัน แต่นมทั้งสอง ชนิ ด ไม่ ไ ด้ ม ี ส ่ ว นประกอบคล้ า ยกั บ นมคน เหมือนอย่างที่บางคนเข้าใจ จึงไม่ควรใช้นม แพะหรือนมวัวมาเลี้ยงทารกในระยะขวบปี แรก แต่ลกู ของคุณอายุ 4 ปีแล้ว จึงสามารถ Á
กันดีกว่า...
○
หรือ
X
ในนมแพะมีวติ ามินบี 2 และไนอาซินสูงกว่า นมวัว แต่นมแพะมีวติ ามินบี 6 และวิตามิน บี 12 น้อยกว่านมวัว ทั้งนมแพะและนมวัว มีวิตามินซีและวิตามินดีต่ำทั้งคู่ นอกจากนั้น ในนมแพะมีแร่ธาตุพวกแคลเซียม, โปแตสเซียม, แมกนีเซียม, ฟอสฟอรัส, คลอไรด์ และแมงกานีสสูงมากกว่านมวัว แต่นมแพะ มีโซเดียม, เหล็ก, กำมะถัน, สังกะสี และ โมลิเดียมน้อยกว่านมวัว ดังนั้นจึงไม่ควรนำ นมแพะมาใช้เลีย้ งทารกในช่วงอายุ 1 ปีแรก เนื่องจากจะทำให้เกิดโรคโลหิตจางได้ สำหรับ คนที ่ แ พ้ น ้ ำ เหลื อ งวั ว มั ก จะแพ้ ต ่ อ นมและ ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ท ี ่ ท ำมาจากนมวั ว ทุ ก ชนิ ด ด้ ว ย ไม่ว่าจะเป็นเนยหรือเนยแข็ง แต่ถ้าต้องการ ดื ่ ม นมวั ว จริ ง ๆ ให้ เ ปลี ่ ย นไปรั บ ประทาน โยเกิรต์ หรือดืม่ นมเปรีย้ วแทนก็ได้” ฟาฏิมะฮฺถามต่อไปว่า “นมแพะมีกลิ่น และรสเหม็นมากกว่านมวัว จึงน่ากลัวว่า จะมีโอกาสติดเชื้อโรคได้ไหมคะ” “ข้อเสีย ที่กล่าวถึงกันมากคือเรื่องกลิ่นและรสของ นมแพะ ซึ่งเกิดจากวิธีการเลี้ยงดูและการรีด นม แต่ถา้ ได้รบั การเลีย้ งดูอย่างดี ได้อาหารดี จะทำให้รสของนมแพะไม่แตกต่างไปจากนม วัว ส่วนในด้านการติดเชื้อโรคนั้น มีวิธีการ ป้องกันได้โดยให้ผ่านกระบวนการความร้อน ตามมาตรฐานเพือ่ ฆ่าเชือ้ ในน้ำนม” แพทย์ตอบ ฟาฏิมะฮฺพยักหน้าด้วยความเข้าใจว่า ถ้าไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการย่อยอาหาร หรือ แพ้น้ำเหลืองวัว ก็สามารถดื่มนมแพะหรือ นมวัวได้อย่างสบายใจจากถุงพาสเจอร์ไรส์ที่ บรรจุนมอย่างถูกสุขลักษณะ แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย (สสม.)
เรือ่ งน่ารูก้ บั หมอกษิดษิ
นายแพทย์กษิดิษ ศรีสง่า
○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○
โรคกล้ามเนือ้ สลาย หรือ rhabdomyolysis นี้ ความจริงไม่ใช่โรค เพราะไม่มเี ชือ้ โรคโดย ตรง แต่เป็นอาการแสดงอย่างหนึ่งหรือภาวะอย่างหนึ่ง ที่เกิดกับร่างกายของเรา โดยจะเกิด เฉพาะที่กล้ามเนื้อลาย หรือกล้ามเนื้อที่เราใช้ออกกำลังในการทำสิ่งต่างๆ เป็นกล้ามเนื้อที่อยู่ ภายใต้อำนาจของจิตใจเรา คือ เราสามารถสัง่ ให้มนั ทำงานได้นน่ั เอง
○
○
○
○
มีโรคหนึ่งที่สามารถเกิดกับเราทุกๆ คนได้ตลอดเวลา แต่เรามักจะ ไม่ค่อยรู้ตัว หรือไม่ค่อยรู้จักกันนัก แต่มันกลับเป็นโรคที่มีอันตราย มากทีเดียวถ้ารักษาผิดพลาด โรคนั้นก็คือ โรคกล้ามเนื้อสลายตัว หรือทีภ่ าษาอังกฤษ เรียกว่า rhabdomyolysis นัน่ เอง Á
○
○
X
ล้มเหลวได้ นอกจากนี้ กล้ามเนื้อที่ตายไป มั น ก็ จ ะเกิ ด อาการบวมน้ ำ มี น ้ ำ คั ่ ง อยู ่ ใ น กล้ามเนื้อที่ตายนั้น ทำให้น้ำไหลเข้าไปกอง อยูใ่ นกล้ามเนือ้ ทีต่ าย น้ำในกระแสเลือดจึงมี น้อยลง ผู้ป่วยก็จะขาดน้ำ กระแสโลหิตที่ หมุนเวียนอยู่ก็ลดลง ทำให้เกิดมีความดันต่ำ เป็นลม และทำให้เลือดไปเลี้ยงไตลดลง ผล ก็คอื เกิดไตวายได้อกี เช่นกัน สาเหตุ ที่เกิดกล้ามเนื้อสลาย มักพบ ได้จากหลายสาเหตุ แต่สาเหตุหลักๆ มีดังนี้ ก็คือ
เกิดจากการบาดเจ็บทีก่ ล้ามเนือ้ กล้ามเนือ้ ถูกบดขยีอ้ ย่างรุนแรง เช่น รถทับขา ทับแขน หรือทับตามตัวเป็นต้น z เกิดจากเป็นลมแดด เพราะอยูก ่ ลางแดดนานเกินไป z เกิดจากการใช้งานหนักเกินไป โดยเป็นกล้ามเนื้อเดียวกันติดต่อกัน นานๆ เช่นวิง่ มาราธอน วิดพืน้ หลายๆ ครัง้ ติดๆ กัน หรือทำงานทีซ่ ำ้ ๆ กัน อยูน่ านๆ เช่นทำงานในโรงงาน เป็นต้น z เกิดจากเลือดมาเลี้ยงกล้ามเนื้อน้อยไป ขณะกล้ามเนื้อกำลังทำงาน หนักอยู่ เช่นมีเส้นเลือดที่มากล้ามเนื้อนั้นอุดตัน ทำให้ไม่มีเลือดมาเลี้ยง กล้ามเนือ้ จึงสลายตัว ตายไป z เกิดจากการสัน ่ หรือชักกระตุกของกล้ามเนือ้ เป็นเวลานานๆ z เกิดจากการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาลดไขมันบางชนิด ดืม ่ สุราจัด ใช้โคเคน หรือเฮโรอีน เป็นต้น ยาพวกนี้ จะไปทำลายกล้ามเนือ้ ทำให้กล้ามเนือ้ สลายตัวลง อาการ ทีเ่ ราจะพบได้กค็ อื z อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่มีแรง เนื่องจากกล้ามเนื้อที่ใช้ทำงานนั้นสลายตัวไปแล้ว นั่นเอง z มีอาการปวดเกร็งตามกล้ามเนื้อ อ่อนเพลียไม่มีแรง หรือบางทีก็มีการชักกระตุกของ กล้ามเนือ้ บางมัดได้
○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○
กล้ า มเนื ้ อ ลายพวกนี ้ ประกอบด้ ว ย โปรตีนที่มีชื่อเรียกว่า ไมโอโกลบิน (myoglobin) เมือ่ กล้ามเนือ้ สลายตัว หรือถูกทำลาย ไปแล้ว เจ้าโปรตีนชนิดนี้ ก็จะหลุดออกมา จากกล้ามเนื้อเข้าสู่กระแสเลือด และถูกขับ ออกไปทางไตต่อไป แต่เมื่อพอไปถึงไต และไตต้องกรอง มันออกไปจากร่างกาย มันกลับไปอุดตันอยู่ ในไต และทำให้เกิดไตวายเฉียบพลัน หรือไต
○
z
○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○
ปัสสาวะจะเป็นสีแดงๆ จากไมโอโกลบินที่ถูกขับออกมาทางปัสสาวะ เราคง จะเคยได้ยินว่านักมวยบางคนที่ถูกชกในเวที มากๆ จนบอบช้ำ พอเลิกลงจากเวทีแล้วถึง กับปัสสาวะเป็นเลือดเลยก็มี นั่นแหละคือ อาการของกล้ามเนือ้ สลายตัว ถ้าเราไปพบแพทย์ และแพทย์สงสัยว่า เรามีปัญหาเรื่องกล้ามเนื้อสลายตัว แพทย์ก็ จะเจาะเลือดตรวจดูสารบางอย่างที่สลายตัว ออกมาจากกล้ามเนือ้ เช่น ซีพเี ค เป็นต้น ถ้า สารเหล่านี้มีสูงก็แสดงว่า น่าจะเป็นโรคนี้ ก็จะต้องรีบทำการรักษา การรักษาทีส่ ำคัญก็คอื การให้นำ้ มากๆ เพือ่ ให้นำ้ ช่วยทำให้สารไมโอโกลบินเจือจางลง สารไมโอโกลบิน จะได้ไปที่ไตได้น้อยลง ทำ อันตรายไตได้น้อยลง และยังช่วยขับสารพิษ เหล่านี้ ออกจากร่างกายได้อย่างปลอดภัย และน้ำยังเป็นตัวเพิ่มจำนวนน้ำในกระแส เลือด ทำให้ร่างกายไม่ขาดน้ำ และไม่ช็อค หมดสติไป การให้นำ้ เช่นนี้ บางทีเพียงแค่ดม่ื เองอาจจะไม่พอ อาจจะต้องให้ทางน้ำเกลือ และต้ อ งอยู ่ ใ นโรงพยาบาลเพื ่ อ รั บ การให้ น้ำเกลือทางเส้นเลือด จนกว่าร่างกายจะ หายจากอาการขาดน้ำ และแพทย์แน่ใจว่า ไมโอโกลบินถูกขับออกหมด หรือเหลือน้อย จนไม่เกิดอันตรายแล้ว จึงจะให้กลับบ้านได้ เมื ่ อ รั ก ษาเรี ย บร้ อ ยแล้ ว กล้ า มเนื ้ อ เหล่านี้ ส่วนที่เหลืออยู่ ส่วนที่ยังไม่สลายตัว z
○
X
ก็จะสามารถทำงานได้เหมือนเดิมต่อไป แต่ กำลังวังชาจะได้เท่าเดิมหรือเปล่า ก็คงจะ ต้องขึ้นอยู่กับจำนวนของกล้ามเนื้อที่สลายตัว ไปว่ามากน้อยเพียงใด วิ ธ ี ก ารป้ อ งกั น ก็ ค ื อ เราจะต้ อ งไม่ พยายามใช้กล้ามเนื้อมัดหนึ่งมัดใดซ้ำๆ กัน ติดต่อกันเป็นเวลานานเกินไป เช่น วิดพื้น อยู่นานๆ เป็นร้อยครั้ง เป็นต้น วิธีการที่ถูก ต้องก็คือ การทำทีละสิบครั้ง และพักสักครู่ แล้วทำซ้ำใหม่ อย่างนี้ไปเรื่อยๆ และหมั่น สังเกตว่า มีอาการปวดมากหรือไม่มีแรงหรือ เปล่า ถ้ามีกต็ อ้ งรีบหยุดทันที อย่างที่สองก็คือ เราจะต้องระวังไม่ อยู่ในที่ร้อนๆ เกินไป เช่น กลางแจ้ง หรือ ตากแดด เป็นเวลานานๆ และเมื่ออยู่ที่ร้อน ก็ต้องดื่มน้ำให้มากๆ ถ้าหากเสียเหงื่อไปมาก ก็ต้องดื่มน้ำที่มีเกลือแร่ผสมอยู่ เพื่อไม่ให้ เกิดการขาดเกลือแร่และน้ำในเวลาเดียวกัน เช่นเดียวกัน ยาบางชนิด เช่นยาลด ไขมันบางตัว หรือ สุรา หรือยาเสพติด เช่น โคเคน, เฮโรอีน ก็เป็นสิ่งที่จะต้องหลีกเลี่ยง และระมัดระวังให้มากๆ เช่นกัน อย่างสุดท้ายก็คือ ถ้ามีอาการไม่มีแรง ปวดตามแขนขา กล้ า มเนื ้ อ ต่ า งๆ และมี ปัสสาวะแดงเป็นเลือด ก็อย่าได้วางใจ ต้อง รีบดื่มน้ำมากๆ และไปพบแพทย์โดยด่วน ก็จะช่วยให้ท่านปลอดภัยจากกล้ามเนื้อสลาย ได้ครับ วัสสลามฯ
ปาซียะห์
ป่าชายเลน หรือป่าโกงกาง เป็น กลุ่มสังคมพืชซึ่งขึ้นอยู่ตามบริเวณชายฝั่ง ทะเลปากแม่น้ำหรืออ่าว ซึ่งเป็นบริเวณ ระดับน้ำทะเลท่วมถึงในช่วงน้ำทะเลขึ้น สูงสุดของประเทศในแถบโซนร้อนเป็น ส่ ว นใหญ่ ป่ า ชนิ ด นี ้ ไ ด้ ม ี ก ารค้ น พบมา ตั้งแต่สมัยโคลัมบัส โดยพบอยู่ทางชาย ฝั ่ ง ตะวั น ตกของเกาะคิ ว บา เป็ น แหล่ ง ทรัพยากรธรรมชาติที่มีความสำคัญอย่าง ยิง่ ทัง้ ในด้านการป่าไม้ การประมง และ สิ่งแวดล้อม เช่น ในด้านป่าไม้ ไม้จาก ป่าชายเลน โดยเฉพาะไม้โกงกางนำมา ทำฟืน เผาถ่าน ให้ถ่านที่มีคุณภาพดี ไม้ ป่าชายเลนอีกหลายชนิดนำไปทำสิ่งก่อ สร้าง เฟอร์นิเจอร์ และกลั่นสารเคมีที่ เป็นประโยชน์ เช่น แทนนิน แอลกอฮอล์ กรดน้ำส้ม ในด้านการประมงป่าชายเลน เป็นแหล่งขยายพันธุ์ และเป็นแหล่งที่อยู่ อาศัยของสัตว์นานาชนิด ในด้านสิ่งแวด ล้ อ ม ป่ า ชายเลนมี ค วามสำคั ญ ในด้ า น การอนุรักษ์พื้นที่ชายฝั่งทะเล โดยเฉพาะ ช่วยลดภาระน้ำเสียและยังช่วยทำให้เกิด การงอกของแผ่นดินขยายออกไปสูท่ ะเล Á
แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย (สสม.)
”
ชีวติ กับธรรมชาติ
แหล่งข้อมูล: 1. www.talaythai.com/Education/43206483.php3 2. http://flaw2-49-6.blogspot.com/2007/01/blog-post.html
○ ○ ○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
”
จังหวัดตราด นายประทีป จงสืบธรรม เป็นประธานในพิธเี ปิด กิจกรรมทีจ่ ดั ขึน้ ในครัง้ นีไ้ ด้ให้ประโยชน์และสิง่ ดีๆ กลับมามากมาย ไม่วา่ จะเป็นการปลูกจิตสำนึกในกับเยาวชน การสร้างความสามัคคีของคนในชุมชน และการเพิ่มป่าชายเลนให้กับชุมชนบ้านยายม่อม เพราะป่าชายเลนได้ให้ ประโยชน์กับมนุษย์ ทั้งในด้านพลังงานและไม้ใช้สอย ตลอดจนเป็นแหล่งผลิต อาหารโปรตีนและแหล่งเจริญเติบโตของสัตว์น้ำเศรษฐกิจนานาชนิด ดังนั้น เราต้องช่วยกันดูแลรักษาป่าชายเลนให้คงอยู่กับเรา และเป็นที่พึ่งพิงของเหล่า สัตว์เล็กใหญ่ รวมทัง้ ให้ระบบนิเวศกลับมาอุดมสมบูรณ์เหมือนเดิม
○
○
○
วิธีการปลูกป่าชายเลนจะ แตกต่างกันไปตามลักษณะ ของพันธุไ์ ม้แต่ละชนิด สำหรับพันธุไ์ ม้ทม่ี ขี นาดของฝักยาว เช่น ไม้โกงกาง รังกะแท้ สามารถปลูกลงในพื้นที่ได้ทันที โดยใน การปลูกควรจับฝักห่างจากโคนของฝักอยู่ทางด้านนิ้วหัวแม่มือ กับนิ้วชี้ คือมีลักษณะเหมือนกำฝักไว้ในอุ้มมือ ทั้งนี้เพื่อให้ สามารถปักฝักลงในดินไปได้สะดวกและอยู่ในแนวดิ่งโดยเมื่อ ปลูกให้ปักฝักลงในดินจนนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ชิดผิวดิน แต่ หากพื้นที่ปลูกเป็นดินทรายและแน่นทึบ ควรใช้ไม้แหลมขนาด เท่าหรือโตกว่าฝักของชนิดไม้ที่จะปลูกเล็กน้อยแทงนำร่องก่อน เพื่อลงความกระทบกระเทือนของการเสียดสีระหว่างดินกับ ผิวของฝักที่ปลูก ส่วนการปลูกพันธุ์ไม้ที่มีฝักขนาดเล็กหรือสั้น การปลูกควรจับฝักห่างจากโคนฝักประมาณหนึง่ ในสามลักษณะ เหมือนจับปากกา เพื่อความสะดวกในการปลูก ควรปักลงใน ดินไม่ให้ลึกนัก ประมาณ 1 ใน 3 ส่วนของความยาวของฝัก ทัง้ หมด ในการนี้ทางแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทยได้ เล็งเห็นความสำคัญของป่าชายเลน จึงมีการจัดโครงการปลูก ป่าชายเลนเชิงอนุรักษ์ เพื่อสร้างจิตสำนึกให้กับเยาวชนและ ประชาชน ซึ่งได้จัดโครงการปลูกป่าชายเลนนี้เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2552 ณ ชุมชนบ้านยายม่อม อ.แหลมงอบ จ.ตราด โดยมีผู้เข้าร่วมทั้งหมด 120 คน การจัดโครงการปลูกป่า ชายเลนในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุน สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยมีรองผูว้ า่ ราชการ
○
○
○
○
○
ปลูกป่า ชายเลน
รายงาน ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○
เสียก่อน และการเริ่มต้นนั้นก็คงต้องศึกษาไป ทีว่ ชิ าเศรษฐศาสตร์ ระบบ Islamic Finance และเศรษฐศาสตร์อสิ ลาม (Islamic Economics) มีทั้งข้อเหมือนและต่างจากระบบของ ตะวันตก (Conventional System) หรือ ระบบทุนนิยม (Capitalism) ผูเ้ ขียนเองและ คนในแวดวง Islamic Finance จำนวนไม่ น้อยต่างมีความเชื่อมั่นว่า ถ้าโลกของเรา ได้นำหลักการของอิสลามนี้ไปใช้อย่างเคร่ง ครัด ปัญหาเศรษฐกิจและการเงินจำนวน
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
จำนวนไม่ น ้ อ ยต่ า งกล่ า วถึ ง ผลกระทบใน เอเชียและคาดว่าจะมีการเลิกจ้างงานเป็น จำนวนมาก ปัญหา Sub-prime Financial Crisis จึงถูกมองว่าร้ายแรงและอาจก่อให้ เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยและซบเซาทั่วโลก ไปอีกหลายปี ท่ า นผู ้ อ ่ า นอาจจะเคยได้ ย ิ น มาบ้ า ง
X
○
○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○
ในช่วงปีที่ผ่านมา หนึ่งในประเด็นร้อน ทีผ่ คู้ นทัว่ โลกต่างให้ความสนใจคงจะหนีไม่พน้ ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจระลอกใหม่ที่มีชื่อว่า Sub-prime Financial Crisis จริงอยูท่ ป่ี ญ ั หา นี้เริ่มก่อ ตัวขึ้นจากแวดวงการเงินและการ ธนาคารในสหรัฐฯ แต่เนื่องด้วยระบบเศรษฐกิจ ของโลกที่มีความเกี่ยวข้อง พึ่งพาซึ่งกันและกัน Á
CIFP
เศรษฐศาสตร์อสิ ลาม
○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○
ประเทศไทยของเราก็คงจะได้รับผลกระทบ บ้างไม่มากก็น้อย ท่านผู้อ่านอาจจะพอทราบ สาเหตุของวิกฤตเศรษฐกิจครั้งนี้และผลพวง ของมันจากสือ่ ต่างๆ มาบ้างแล้ว นักเศรษฐศาสตร์ทั่วโลกกำลังหาวิธีรับมือกับมันเพราะ ผลกระทบนัน้ คงจะถึงระดับรากหญ้าประชาชน ทั่วไปอย่างเราๆ แน่ เท่าที่ผ่านมาสถาบัน การเงินและธนาคารจำนวนมากในสหรัฐฯ และยุโรปต่างต้องล้มละลายไป หรือพวกที่ ยังอยู่ได้ก็เพราะได้รับเงินอัดฉีดจากภาครัฐ จำนวนมหาศาล (Bail-out) มีนักวิเคราะห์
○
à ¾×è Í à È Ã É ° ¡Ô ¨ ·Õè ÂÑè § Â× ¹ เกี่ยวกับระบบการเงินการธนาคารอิสลาม (Islamic Finance) Islamic Finance นั้น ยังถือว่าใหม่อยู่สำหรับโลกของเรา ระบบนี้ ได้เริม่ เป็นรูปเป็นร่างขึน้ มาเมือ่ ไม่กส่ี บิ ปีนเ้ี อง แต่ ถ ื อ ได้ ว ่ า อั ต ราการเติ บ โตของ Islamic Finance นัน้ สูงมาก ประเทศไทยของเราเอง ก็มี ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย สิง่ หนึง่ ที่ทุกคนกำลังเฝ้าดูอยู่คือ Islamic Finance นั ้ น จะสามารถรอดพ้ น จากวิ ก ฤตครั ้ ง นี ้ ไ ด้ หรือไม่ การทีเ่ ราจะตอบคำถามนีไ้ ด้สว่ นหนึง่ เราคงจะต้องเข้าใจ ระบบ Islamic Finance
มากในทุกวันนีค้ งจะไม่เกิดขึน้ หรือถ้าเกิด ผล กระทบก็นา่ จะน้อยกว่าทีเ่ ป็นอยู่ หนึ ่ ง ในรู ป แบบของระบบทุ น นิ ย มที ่ แพร่ ห ลายทั ่ ว โลกทุ ก วั น นี ้ ก ็ ค ื อ ดอกเบี ้ ย ใน ระบบเศรษฐกิจและการเงินการธนาคาร การ ทำงานของดอกเบี้ยนั้น อธิบายด้วยตัวอย่าง ง่ายๆ คือว่ามีนกั ลงทุนมาขอกูเ้ งินจากธนาคาร ไปลงทุน ไม่ว่าผลของการลงทุนนั้นจะไปได้ ด้วยดีมีกำไร หรือล้มเหลวขาดทุน นักลงทุน ยังคงจะต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยคืนแก่ธนาคาร ธนาคารเองจะไม่รับรู้ผลของกำไรหรือร่วม แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย (สสม.)
○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○
ศาสตร์อิสลามยึดหลักความเป็นพี่น้องของ มุสลิมทั่วโลก เราส่งเสริมในเรื่องของสวัสดิการที่ทุกคนในสังคมควรจะได้รับเพื่อความ เติบโตก้าวหน้าของสังคมประเทศชาติอย่าง เท่าเทียมและยุตธิ รรม เพราะฉะนัน้ อิสลาม จึงห้ามอย่างเด็ดขาดที่จะให้มีการใช้รูปแบบ ของดอกเบีย้ ในการทำการค้าการลงทุน ปัญหาความไม่เท่าเทียมในสังคมหรือ ปัญหาการกระจายรายได้ถูกมองว่าเป็นผล เสียที่ชัดเจนของระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม ในแวดวงนักเศรษฐศาสตร์โดยเฉพาะสาย การพัฒนา (Development Economics) ต่างให้ความสำคัญกับประเด็นนี้และถือได้ว่า เป็นเป้าหมายหลักของงานวิจัยจำนวนมาก ทีต่ อ้ งการหาวิธกี ารแก้ไขและทางออก อิสลามคัดค้านการผูกขาดทางเศรษฐกิจ แต่สนับสนุนความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ สำหรับทุกภาคส่วนของสังคม อิสลามส่งเสริม ให้ทุกคนขยันทำงาน หาความรู้ เพื่อความ อยู่ดีกินดีของตนเองและครอบครัว หากว่า การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจไม่ใช่เป้าหมาย อย่างเดียวสำหรับชีวิตนี้ นักเศรษฐศาสตร์ จำนวนมากต่างใช้ GDP per Capita หรือ ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติต่อหัว เพื่อ บ่งบอกว่าประเทศพัฒนามากน้อยเพียงใด ผูเ้ ขียนมีความเห็นว่า GDP per Capita นัน้
○
○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○
แบกรับการขาดทุนนั้น หลักการอิสลามของ เราได้ห้ามการทำการค้าการลงทุนในรูปแบบ นี้ เราส่งเสริมให้มีการร่วมแบ่งกำไรและรับ ผิดชอบการขาดทุนระหว่างเจ้าของเงินทุน (ในที่นี้ธนาคาร) และนักลงทุน (Profit and Loss Sharing) หรือทีฝ่ รัง่ เขาพูดกันว่า “no risk, no return” (อาหรับเรียกว่า al ghorm bil ghonm) อิ ส ลามได้ ก ล่ า วถึ ง ผลเสี ย ของระบบ ดอกเบี้ยว่าก่อให้เกิดการกระจุกตัวของเงิน อยู่ในมือของคนส่วนน้อย ก่อให้เกิดความ ไม่เป็นธรรมในสังคม และเป็นการสร้างชน อีกชั้นหนึ่งที่ร่ำรวยมหาศาลหรือที่เรียกว่า พวกนายทุน ระบบดอกเบี้ยนั้นยังก่อให้เกิด ผลเสียทางอ้อมต่างๆ ไม่วา่ จะเป็นการคดโกง การทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินนั้นโดยไม่ คำนึงถึงผูอ้ น่ื และสังคมโดยรอบข้าง ตัวอย่าง ที่สำคัญคงจะดูได้จากคดีสองบริษัทยักษ์ใหญ่ ของอเมริกา Enron และ Worldcom ทีม่ กี าร ตกแต่งทางบัญชี หรือบริษัทยักษ์ใหญ่ทาง ด้าน IT ของอินเดีย Satyam เมือ่ ไม่กเ่ี ดือน มานี้เอง ระบบทุนนิยมนั้นสามารถกล่าวได้อีก อย่างว่าใช้หลัก “มือใครยาวสาวได้สาวเอา” ในทางกลับกัน ระบบเศรษฐศาสตร์อิสลาม ถึงแม้ทุกคนจะมีเสรีภาพทางเศรษฐกิจ แต่ จะต้องอยู่บนพื้นฐานของคุณธรรม เศรษฐ-
ไม่เพียงพอที่จะบ่งบอกระดับของการพัฒนา เพราะเป็นการมองเพียงด้านวัตถุ ประชาชน ของประเทศที่ได้ช ื่อว่าพัฒนาแล้วจำนวน มากซึ่งมีรายได้สูงแต่ทำไมไม่มีความสุข มี ปัญหาการหย่าร้าง ฆ่าตัวตาย และปัญหา ทางสังคมจำนวนมาก ในทางกลับกัน ได้มี การสำรวจวิจยั มาแล้วว่าประเทศเล็กๆ อย่าง ภูฏาน หรือ ประเทศที่ได้ชื่อว่ารายได้น้อย ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอย่างบังคลาเทศ กลับ มีระดับความสุขมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เราคงจะต้ อ งถามตั ว เองแล้ ว ว่ า เป้ า หมาย ในชีวิตนี้คืออะไรกันแน่ เราจะอยู่กันเพียง เพือ่ โลกนีห้ รือเพือ่ โลกหน้า ในมุมของอิสลามแล้ว สินทรัพย์ของ ทุกคนนั้นถือว่าเป็นของพระเจ้า มนุษย์มี หน้าที่เพียงดูแลสินทรัพย์เหล่านั้นและใช้ไป ในหนทางของพระเจ้าเพื่อประโยชน์สุขของ สังคมโดยรวม เพราะฉะนั้นผู้ที่มีสินทรัพย์ มากกว่าหรือพูดง่ายๆ ว่าร่ำรวย ก็จะต้อง มีหน้าที่ความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม มากยิ่งขึ้นตามไปด้วย อิสลามยังให้ความ สำคัญกับการได้มาซึ่งสินทรัพย์เหล่านั้นด้วย ว่าถูกต้องตามหลักการของอิสลามหรือไม่ ไปโกงมาหรือเบียดเบียนใครมาหรือเปล่า ในระบบเศรษฐกิ จ แบบอิ ส ลาม สิ น ทรัพย์และเงินทองคงจะไม่อยูน่ ง่ิ ในกระเป๋า
อาหารกับสุขภาพ ของใครเป็นแน่ เพราะอิสลามได้ใช้ระบบ ซะกาตเข้ามาช่วยให้สินทรัพย์เหล่านั้นหมุน เวียนไปในทุกส่วนของระบบเศรษฐกิจ โดย เฉพาะคนยากคนจน คนที่ได้รับความเดือด ร้อน ซะกาตและระบบการค้าการลงทุนแบบ Profit and Loss Sharing นีเ่ องทีจ่ ะช่วยให้ ปัญหาความไม่เท่าเทียมทางรายได้บรรเทาลง สังคมมีความรักความปรองดองเผื่อแผ่ซึ่งกัน และกัน ผู้เขียนเองก็มีความเชื่อมั่นว่าจะได้ เห็นรูปแบบการจัดการซะกาตในระดับชาติ สำหรับประเทศไทยในเร็วๆ นี้ นี่เป็นความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่าง ระบบเศรษฐกิจแบบอิสลาม แบบทุนนิยม และแบบสังคมนิยม (Socialism) ระบบทุน นิยมนั้นสินทรัพย์เป็นของผู้ที่หามาได้ จะหา มาอย่างไร จะใช้สำหรับอะไร ทุนนิยมนั้น ไม่ ใ ส่ ใ จ คนรวยก็ ร วยไป คนจนก็ ช ่ า งมั น สำหรับระบบสังคมนิยม (ก่อนสงครามเย็น จะพบได้ ใ นสหภาพโซเวี ย ตและประเทศ บริวาร จีน, เกาหลีเหนือ, เวียดนามเหนือ, ลาว ฯลฯ) ไม่มีใครเป็นเจ้าของสินทรัพย์ หรือธุรกิจต่างๆ รัฐบาลคอมมิวนิสต์จะจัด การแบ่งสินทรัพย์เหล่านั้นแก่ทุกๆ คนอย่าง เท่ า เที ย มกั น เอง ฟั ง ดู ผ ิ ว เผิ น เหมื อ นจะดี ลองนึกดูสิว่าหากคุณทำงานหนักด้วยความ พากเพียร แต่ทกุ สิง่ ทีค่ ณ ุ หามาได้ตอ้ งตกเป็น ของรัฐ คุณจะมีแรงบันดาลใจที่จะพัฒนา ตนเอง ทำงานหนักอีกต่อไปหรือไม่ โดยสรุ ป แล้ ว ระบบเศรษฐกิ จ แบบ อิสลาม ในมุมมองของผู้เขียน ถึงแม้จะไม่ หวือหวา อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ สูงลิว่ แต่ระบบเศรษฐกิจจะมัน่ คง แม้ทกุ คน จะได้รบั สิง่ ต่างๆ ตามทีต่ นหามาได้ สังคมจะ มีความเหลื่อมล้ำน้อยลง ผู้คนจะเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่กันมากขึ้น โลกโดยรวมจะมีความสุข มากขึน้ เพราะปัญหาต่างๆ ทางสังคมทีเ่ กิดขึน้ ทุกวันนีจ้ ะน้อยลง ทุกสิง่ ทีก่ ล่าวมานีส้ ามารถ เกิดขึ้นได้ถ้าในระบบเศรษฐกิจนั้นไม่มีดอก เบีย้ แต่ใช้ Profit and Loss Sharing แทน มีการนำหลักการของซะกาตมาบังคับใช้ และ ที่สำคัญไม่น้อยไปกว่านั้นคือทุกคนต่างทำ ทุกอย่างโดยระลึกถึงพระเจ้าและผู้คนรอบ ข้างในสังคมที่มีโอกาสทางเศรษฐกิจน้อยกว่า ตนเอง
วิรชาติ มัสอูดี
X
มีดาวดวงอืน่ ทีเ่ หมือนโลกอีกไหม มนุษย์อยูโ่ ดดเดีย่ วในจักรวาล นี้จริงหรือ? เมื่อมีคำถามจึงมีการออกไปค้นหาคำตอบ และเมื่อต้น เดือนมีนาคม 2552 องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ องค์การนาซา ได้ส่งยานอวกาศ “เคปเลอร์” ออกไปสำรวจหา ดวงดาวที่มีลักษณะคล้ายโลก โดยติดตั้งกล้องที่มีความละเอียดถึง 95 ล้านพิกเซล ซึง่ เป็นกล้องทีใ่ หญ่ทส่ี ดุ เท่าทีเ่ คยส่งไปสำรวจอวกาศ Á
ปฏิบัติการ ค้นหา... ดาวเหมือนโลก
แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย (สสม.)
X
อับดุรเราะฮีม บินฮาซัน
เก็บมาฝาก
งบประมาณที่ใช้จ่ายไปในโครงการนี้ ประมาณ 21,000 ล้านบาท โดยมีระยะเวลา ราว 3 ปีทย่ี านลำนีจ้ ะปฏิบตั หิ น้าทีบ่ นิ สำรวจ อวกาศ เพื่อสำรวจดาวฤกษ์ในกลุ่มดาวหงส์ และกลุ่มดาวพิณในกาแลกซี่ทางช้างเผือก โดยมีวัตถุประสงค์ของการสำรวจครั้งนี้ เพื่อ ค้นหาดาวเคราะห์ที่มีอุณหภูมิไม่ร้อนและ ไม่ เ ย็ น เกิ น ไป เป็ น อุ ณ หภู ม ิ ท ี ่ น ้ ำ คงสภาพ เป็นของเหลวอยูบ่ นพืน้ ผิวของดาวดวงนัน้ ได้
สลัมด็อก มิลเลีย่ นแนร์ : เกมชีวติ (จริง) “Who wants to be a millionaire?” Á
จากประโยคนี้เองที่ได้ดึงดูดเด็กชายจากสลัมเมืองมุมไบ “ญะมาล มาลิก” ให้ ก้าวสูร่ ายการฮิตอย่างเกมเศรษฐี ทีจ่ ะทำให้เขากลายเป็นเด็กสลัมเงินล้านในชัว่ พริบตา
อั ล ลอฮฺ ต รั ส ไว้ ใ นคั ม ภี ร ์ อ ั ล กุ ร อาน ซูเราะฮฺอนั นูรฺ โองการที่ 45 ความว่า “และ อัลลอฮฺทรงให้บังเกิดสิ่งมีชีวิตทุกชนิดจากน้ำ ดังนั้นในหมู่พวกมันจะเคลื่อนที่ด้วยท้องของ มั น และในหมู่พวกมันเดินด้วยขาทั้งสอง และในหมู่พวกมันเดินด้วยเท้าทั้งสี่ อัลลอฮฺ ทรงบังเกิดสิง่ ทีพ่ ระองค์ทรงประสงค์ แท้จริง อัลลอฮฺนน้ั ทรงอานุภาพเหนือทุกสิง่ ” หากพื้นที่ที่ยานอวกาศเคปเลอร์ผ่านไป นั้น มีดวงดาวที่มีลักษณะคล้ายกับโลกใน จำนวนมาก อาจจะมีความเป็นไปได้ว่าโลก ใบนีม้ ไิ ด้อยูอ่ ย่างโดดเดีย่ วในจักรวาล โอกาส ที่จะพบสิ่งมีชีวิตอื่นหรืออาจจะมีอีกโลกหนึ่ง ที่อยู่ห่างไกลออกไป และในทางตรงกันข้าม หากการสำรวจไม่พบ หรือพบดาวที่มีลักษณะ คล้ายโลกน้อย ก็เป็นตัวบ่งชีว้ า่ ดาวทีม่ ลี กั ษณะ คล้ า ยโลกมนุ ษ ย์ ข องเรานั ้ น หาได้ ย ากใน จักรวาลนี้ หวั ง ว่ า การสำรวจครั ้ ง นี ้ ค งได้ พ บกั บ สิง่ แปลกใหม่เพือ่ ให้เราได้สำรวจกันต่อไป
○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○
ทีว่ า่ ...เขาจะต้องตอบถูกทุกคำถาม “โกงแน่ๆ จะเป็นไปได้ยงั ไง ทีเ่ ด็กสลัม ไร้การศึกษาอย่างญะมาล (เดฟ พาเทล) จะ ตอบถูกหมด ยังไม่เคยมีใครทำได้ แม้แต่หมอ หรือศาสตราจารย์” เป็นเหตุผลทีท่ างรายการ อธิบายให้ตำรวจฟัง หลังจากยัดญะมาลเข้า ห้องสอบสวนก่อนทีจ่ ะตอบคำถามสุดท้าย แต่ในเมื่อคำตอบสุดท้ายคือรู้กับไม่รู้ ในเมื่อญะมาล “รู้” เพราะคำถามไปตรงกับ ปัญหาชีวิตจริงๆ ของตนเอง คำตอบจึงหนี ไม่พน้ “เป็นคำตอบทีถ่ กู ต้อง”
○
○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○
ใครๆ ก็อยากจะรวย เงินเป็นที่มาของ อำนาจและความสะดวกสบาย “สลัมด็อก มิลเลี่ยนแนร์” (Slumdog Millionaire) เรื่องราวของเด็กมุสลิมอินเดีย มีฐานะยากจนในสลัม ณ นครมุมไบ ที่ชนะ รางวัลแจ๊คพ็อต ได้เงินล้านจากการแข่งขัน เกมเศรษฐี แต่กลับถูกทางรายการแจ้งจับ เพราะสงสัยว่าจะชนะด้วยกลโกง หนังเรื่อง นี้ใช้ทุนสร้างเพียง 5 ล้านดอลลาร์ (ราว 175.5 ล้านบาท) และใช้ดารานำเป็นเด็กๆ มุสลิมอินเดีย ภายใต้เกมเศรษฐีนี้มีเงื่อนไข
○
○
○
○
ซ้ายไปขวา แดนนี่ บอย และ เอ อาร์ เราะฮฺมาน พร้อมทีมงาน
ก็รู้ๆ กันอยู่คุณภาพชีวิตและสิ่งแวด ล้อมในสลัมเกือบทั่วโลกที่เต็มไปด้วยปัญหา ไม่ว่าอาชญากรรมและสังคมตั้งแต่รากหญ้า ถึ ง ระดั บ ชาติ ความยากจน โสเภณี เ ด็ ก ความขัดแย้งทางศาสนา อิทธิพลมืด แก๊ง ขอทาน การค้ามนุษย์ ยิ่งสลัมในนครมุมไบ แล้วปัญหาเหล่านี้หมักหมมแน่น การเข้าถึง การศึกษาของเด็กๆ ที่ขาดปัจจัยหลักอย่าง เงิ น รวมถึ ง ความพยายามในการพั ฒ นา ประเทศสู ่ ค วามเจริ ญ ที ่ ไ ม่ ต ่ า งกั บ ฟองสบู ่ จนหลงลืมรากเหง้าทางวัฒนธรรม แม่ของญะมาลและซาลิมเป็น “เหยือ่ ” ทีถ่ กู ฆ่าตายในเหตุการณ์ทช่ี าวฮินดูบกุ ทำลาย บ้านเรือนและฆ่าชาวมุสลิมจำนวนมาก เป็น ความตายด้วยสาเหตุที่ว่า “นับถือพระเจ้า คนละองค์กัน” และเป็นเหตุการณ์จุดเปลี่ยน ของเรื่อง เพราะทำให้คนเล็กๆ กลายเป็น เด็กกำพร้าทีต่ อ้ งพยายามมีชวี ติ แง่คิดที่เฉียบขาดของสังคมที่บูชาเงิน เป็นพระเจ้าและใช้ต่อมคิดแบบอเมริกันคือ แก้ปัญหาด้วยเงิน บุคคลต้องฝืนทำแม้จะ ละเมิดบทบัญญัตศิ าสนา นักแสดงไม่ใช่ดารา แต่เป็นเด็กมุสลิม จากสลัมแห่งนั้นจริงๆ ที่น่าสนใจ ผู้ช่วยผู้ กำกับก็เป็นมุสลิม เอ.อาร์, เราะฮฺมาน ผู้ แสดงเป็นมุสลิม เช่น รูบนิ า อาลี, อัซฮารุดดิน มุฮัมมัด อิสมาอีล และสู้กับภาพยนตร์
สภาพชีวติ จริง
แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย (สสม.)
X
ระดับฮอลลีวดู ได้สบายๆ รางวัลต่างๆ จากหนังเรื่องนี้ ได้แก่ BAFTA British Independent Film Awards ได้ 7 รางวัล, Academy Awards ได้ 8 รางวัล และ Golden Globe Awards ได้ 4 รางวัล ล่าสุดรางวัลออสการ์ กวาดไป 8 รางวัล รวมทัง้ ผูก้ ำกับยอดเยีย่ ม และนี ่ ค ื อ คำถามทดสอบที ่ จ ะทำได้ ความฝันของเด็กสลัมเป็นจริงขึ้นมา แต่ตัว เขาเองต้องการทีจ่ ะได้เงิน 20 ล้านรูปี หรือ ต้องการอะไรกันแน่ เราต้องไปติดตามกัน หมายเหตุ “สุขสาระ” ขณะปิดต้นฉบับ มีรายงานข่าวระบุว่า พ่อของรูบินา อาลี นักแสดงเด็กหญิงวัย 9 ขวบ ชาวอินเดียผูร้ บั บท “ลาติกา” ในวัยเด็ก พยายามที่จะขายเธอไปเป็นลูกบุญธรรมผู้อื่น เพื่อหลีกหนีชีวิตที่ยากจนในนครมุมไบ ก่อน หน้านีก้ ม็ ขี า่ วว่า “อัซฮารุดดิน มุฮมั มัด อิสมาอีล “เด็กชายวัย 10 ขวบ ซึ่งรับบทเป็น พีช่ ายของพระเอก ถูกพ่อบังเกิดเกล้า “ตบ-ตี” เพราะไม่ยอมออกไปโชว์ตัวนอกบ้านตามที่ พ่อต้องการมาแล้ว รายงานข่าวยังระบุว่า มหาเศรษฐีชาวอินเดียผู้หนึ่งได้ติดต่อเป็นผู้ อุปการะ และให้การศึกษาแก่รูบินา อาลี แล้ว หลังจากทราบข่าวการพยายามขายเธอ ให้ไปเป็นลูกบุญธรรมผูอ้ น่ื แหล่งข้อมูล : - หนังสือพิมพ์มติชน 27 ก.พ.52, film and stars, vol.no.80, march, 2009 - เว็บไซต์ไอเลิฟอินเดีย ดอทคอม - เทีย่ งวันทันเหตุการณ์ ช่อง 3
พ.อิสมาอีล
อัลฮัมดุลิลลลาฮฺ (มวลการสรรเสริญเป็นสิทธิของอัลลอฮฺ) เหตุการณ์ความวุ่นวาย ในสังคมไทยได้คลี่คลายลงด้วยดี ในระดับหนึ่ง แต่ความแตกแยกในสังคมไทยยังคงมีต่อ ไปโดยไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อใด เพราะคนไทยนั้นได้ถูกแบ่งแยกมานับทศวรรษแล้ว แต่ที่ ผ่านมาไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเช่นปัจจุบัน เนื่องจากคนไทยส่วนใหญ่มักจะยอมรับในเรื่อง บุญวาสนา แต่เมื่อคนไทยมีการศึกษามากขึ้น ประกอบกับการสื่อสารก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้คนไทยได้รับข่าวสารอย่างรวดเร็วและลึกซึ้ง ทั้งข่าวสารภายในประเทศและต่าง ประเทศ จึงทำให้คนไทยที่เป็นรากหญ้าและลูกหลานของพวกเขาซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของ ประเทศได้หันมามองตัวเอง และครุ่นคิดถึงสิ่งที่ประสบกับตนว่ามันไม่ใช่เรื่องของบุญ วาสนา หากแต่มันเป็นความอยุติธรรมในสังคมที่ตนอาศัยอยู่ และเมื่อถึงจุดหนึ่ง ความ คับแค้นใจจึงได้ระเบิดออกมา เพื่อส่งสัญญาณให้สังคมได้รับรู้ถึงความรู้สึกของพวกเขา ผ่านการกระทำทีไ่ ม่มกี ารวางแผนและเงือ่ นงำเช่นการกระทำของปัญญาชนทัง้ หลาย คนไทยนั้นได้ถูกแบ่งแยกด้วยสาเหตุแห่งความอยุติธรรมมานาน ซึ่งความอยุติธรรม ในสังคมไทยนัน้ แบ่งกว้างๆ ได้เป็น 2 ประการ กล่าวคือความอยุตธิ รรมทางด้านกฎหมาย และความอยุตธิ รรมด้านสวัสดิการทีไ่ ด้รบั จากภาครัฐ Á
ความ แตกแยก
○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○
○
พนักงานรัฐวิสาหกิจ เพราะผู้เขียนเองก็มี ญาติ พ ี ่ น ้ อ ง เพื ่ อ นฝู ง เป็ น ข้ า ราชการและ พนักงานรัฐวิสาหกิจหลายคน แต่ต้องการ จะสื่อให้เห็นถึงแก่นแท้ของปัญหา เพื่อให้ ทุ ก คนได้ ส ำรวจตั ว เอง และช่ ว ยกั น แก้ ไ ข และเป็นความจำเป็นที่รัฐบาลในอนาคตทุก รัฐบาล จะต้องเปลี่ยนนโยบายประชานิยม เป็นรัฐสวัสดิการให้ได้ ทั้งนี้เพื่อลดช่องว่าง แห่งความแตกแยกลง และเพื่อลดเงื่อนไข ที ่ จ ะนำไปสู ่ ค วามแตกแยกของคนไทยใน อนาคต
○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○
ความอยุติธรรมด้านกฎหมาย : เป็น ความอยุ ต ิ ธ รรมระหว่ า งคนรวยกั บ คนจน ระหว่างผู้มีตำแหน่งหน้าที่การงานสูงกับชาว บ้านระดับรากหญ้า หรือระหว่างข้าราชการ, คนมีสี, นักการเมืองเลวๆ กับชาวบ้านทั่วไป เช่น เหตุการณ์ทม่ี สั ยิดกรือเซะ หรือทีต่ ากใบ ซึ่งผู้กระทำผิดก็ยังคงลอยนวลอยู่จนถึงทุก วันนี้ ความอยุ ต ิ ธ รรมทางด้ า นสวั ส ดิ ก าร ที่คนไทยพึงได้รับจากภาครัฐ : เช่นเดียวกัน มี ค วามแตกต่ า งกั น มากระหว่ า งพนั ก งาน ลูกจ้าง/ชาวไร่ชาวนากับบรรดาข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ คนไทยที่ไม่ได้เป็น ข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ จะหา ความมัน่ คงในชีวติ ไม่ได้เลย จะตกงานเมือ่ ใด ก็ไม่รู้ เจ็บไข้ได้ป่วยก็ต้องอยู่ในสภาพมิต่าง อะไรกับประชาชนชั้นสอง หาความสะดวก สบายไม่ได้ โอกาสทางการศึกษาก็เช่นเดียว กัน ถึงแม้รัฐบาลชุดนี้จะมีนโยบายให้เรียนฟรี 15 ปีกล็ ดช่องว่างได้ระดับหนึง่ มิได้ทำให้การ เล่นพรรคเล่นพวกลดน้อยลง ผู้ที่ด้อยโอกาส ก็ยังคงด้อยโอกาสเช่นเดิม ให้เรียนฟรีแต่ไม่มี ที่เรียน หรือมีก็ไม่มีคุณภาพเท่าที่ควร ทั้งที่ บรรดาข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ เหล่านั้น ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่กินเงินเดือน จากภาษีของประชาชนคนทำงานไม่ทางตรง
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
○
ก็ทางอ้อม แต่ตรงกันข้ามผู้ที่จ่ายเงินเดือน ต้องทำงานหนัก และไม่มีความมั่นคงในชีวิต ขณะที่ผู้ที่รับเงินเดือนกับมีความมั่นคงและ มีสวัสดิการทีด่ กี ว่า ซึง่ เป็นเรือ่ งทีส่ วนทางกับ ความเป็ น จริ ง โดยสิ ้ น เชิ ง และด้ ว ยเหตุ น ี ้ จึงทำให้บรรดาข้าราชการบางกลุ่มเข้าใจผิด คิดว่าตนเป็นนายของประชาชน ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงปัจจัยบาง ส่วนที่แบ่งแยกประชาชน พวกเขารู้สึกว่าถูก ทอดทิ้ง ขณะที่บุคคลอีกกลุ่มหนึ่งได้รับการ ดูแลจากภาครัฐเป็นอย่างดี และเช่นเดียวกัน ผู้เขียนมิได้มีอคติต่อบรรดาข้าราชการ หรือ
แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย (สสม.)