Suksara062016

Page 1

ปีที่ 13 ฉบับที่ 150 มิถุนายน 2559

มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)



Contents

หน้าปก :

มัสยิดอัลฮะรอม...(หน้า 19)

ปีท่ี 13 ฉบับที่ 150 มิถุนายน 2559

วารสารสุขสาระ เป็นจดหมาย ข่าวรายเดือนของมูลนิธิสร้างสุขมุสลิม ไทย (สสม.) องค์กรไม่แสวงหาผลก�ำไร (Non-Profit Organization) จัดท�ำขึ้น เพื่อเผยแพร่กิจกรรมของมูลนิธิ ที่ได้รับ การสนับสนุนจากองค์กร พันธมิตร และ การบริจาคจากพี่น้องมุสลิม และเพื่อให้ ผู้อ่านได้รับประโยชน์สูงสุด วารสารสุข สาระ ยังได้แทรกบทความและข่าวสาร ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ให้ตระหนักถึง ปัญหาทางด้านสุขภาวะ เพื่อจักได้เตรียม ตัวป้องกัน มูลนิธสิ ร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.) มุ่งเน้นในการส่งเสริมและสนับสนุนการ สร้างจิตส�ำนึกในเรื่องของสุขภาวะและ การพัฒนา มีเป้าหมายที่จะร่วมพัฒนา สังคมมุสลิมไทยให้มีสุขภาวะที่ดี ทั้งทาง กายและใจ ให้มีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ ดี ชุมชนมุสลิมสามารถเป็นตัวอย่างหรือ ต้นแบบแก่สังคมไทย สนับสนุนและส่ง เสริมให้มุสลิมไทยมีความรู้รอบด้าน มี ศักยภาพ สามารถด�ำรงชีวิตอยู่ในโลก ที่ก�ำลังเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีความสุข ร่วมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างสังคม มุ ส ลิ ม และสั ง คมไทยทั่ ว ไป ทั้ ง นี้ ก าร ท�ำงานทั้งหมดของมูลนิธิฯ ใช้หลักการ ของศาสนาอิสลามเป็นทางน�ำ

5 ลา คอมรฺ 6 ริมคลอง 8 สาระน่ารู้ 10 ท่องโรค 12 อาหารกับสุขภาพ 14 ห้องข่าว สสม. 17 พลังชีวิต ควันบุหรี่มือสาม ข้าวโพด

18 สุขภาพน่ารู้ 20 เลิกบุหรี่เริ่มที่บ้าน เบาหวานขึ้นตา

ตอน ฮีโร่ต้านบุหรี่

มันฝรั่งกับคุณสาวๆ มะเร็งล�ำใส้ใหญ่

เนยแข็ง (Cheese)

ส�ำนักงานวารสารสุขสาระ มูลนิธสิ ร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.) เลขที่ 1 หมู่ 13 แขวง/เขตมีนบุรี กทม. 10510 โทรศัพท์ 02-517-1309 พิมพ์ที่ : บริษทั แอ๊ดวานซ์ อินเตอร์ พริน ติง้ จ�ำกัด เลขที่ 45 ม.1 ซ.เพชรเกษม 69 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ 10160 โทร. 0-2444-0245-7, 0-2808-6130-4 โทรสาร 0-2444-2490

เรื่องราวดีๆ จาก สสม. ภูมิอากาศที่เปลี่ยนไป

รูปเล่ม : ดลรอฮีม พันหวัง

จดหมายข่าววารสารสุขสาระ

3


WWW.Muslim4health.or.th

เป็ นอีกหนึ่งนักร้องหนุ่มทีม่ กั จะมีขอ้ คิดดีๆ ในการด�ำรงชีวติ อยู่เสมอ ส�ำหรับ “โย่ง อาร์มแชร์” หรือ โย่ง-อนุสรณ์ มณีเทศ ทีล่ า่ สุดเจ้าตัวก็ได้เขียนข้อความผ่านเฟสบุค๊ “Yong Armchair” บอกเล่าช่วงเวลาทีต่ นติดการสูบบุหรี่เกือบ 20 ปี ก่อนทีจ่ ะหาวิธหี กั ดิบเลิกขาด จน ปัจจุบนั สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้นมาก และมีความสุข ซึง่ ข้อความนี้กถ็ กู เผยแพร่ในโลกออนไลน์ กว่า 2,400 ครัง้ โดยชาวเน็ตต่างพากันชื่นชมวิธคี ดิ ของนักร้องหนุ่มเป็ นจ�ำนวนมาก “สูบบุหรีม่ าเกือบยีส่ บิ ปี ตอนบอกลามันก็หงุดหงิดนิดหน่อย ไม่หรอก.. โคตรหงุดหงิด เลย แต่กต็ อ้ งทน...ตอนนี้เริ่มรูส้ กึ ดีข้นึ เริ่มไม่ตอ้ งการมันแล ้ว สักพักคงไม่นึกถึงมันเลย และ คงรังเกียจมันในทีส่ ุด.... ...จริงๆ มันเหมือนการเลิกกับแฟนเลยล่ะ ต้องเลิก เพราะอยู่ดว้ ยกันไม่ได้อกี ต่อ ไป ตอนเลิกก็ฟูมฟายนะ แต่ก็ตดั สินใจแลว้ ว่าจะท�ำ แถมตอนเลิกกันใหม่ๆ ก็ตอ้ งพยายาม ไม่คดิ ถึง เวลาเดินผ่านทีเ่ ดิมๆหรือเวลาท�ำอะไรๆ ทีม่ กั จะมีเค้าอยู่ขา้ งๆ เสมอ...เพราะจะได้ไม่ อนุสรณ์ มณีเทศ หรือทีร่ ูจ้ กั กันดีใน กระวนกระวายถึงเค้าอีก.... ...ตอนนี้นอนหลับสบายขึ้น กินข้าวอร่อยขึ้น ร้องเพลงทรงพลังขึ้น ออกก�ำลังกายได้ นาม “โย่ง อาร์มแชร์” เล่าเรื่องเลิกบุหรี่ผ่าน เฟสบุค๊ ว่า ตนเองติดบุหรี่เกือบ 20 ปี แต่ใช้ นานขึ้น อึดขึ้น แถมแฟนยังมาหอมแก้มบ่อยขึ้นอีก......โคตรมีความสุขเลย ปลดพันธนาการใน วิธหี กั ดิบ ตัดขาดบุหรี่ ก็สามารถเลิกได้ และ ชีวติ ได้อกี หนึ่งอย่าง........เฟี้ ยวจริงๆ ! ” เอามาเล่าให้ฟงั เพราะอยากให้คุณเลิกบุหรี่ ! คุณภาพชีวติ ก็ดขี ้นึ “...แค่เหมือนการเลิกกับแฟน แรกๆ ขอบคุณภาพประกอบจากเฟสบุค๊ Yong Armchair เจ็บ หลังๆ ท�ำใจได้ จนปัจจุบนั สุขภาพดีข้นึ ทันตา”

4

มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)


ลา คอมรฺ ฮามิด

คุณผูอ้ ่านเคยได้ยนิ ค�ำว่า บุหรี่มอื สองกันมาแล ้ว ถ้าท่านยังไม่เข้าใจจะขออธิบายเพิม่ ว่า บุหรี่มอื สอง คือคุณไม่ได้สูบแต่รบั ควันบุหรี่จากพ่อ สามี ลูก หรือ ญาติพน่ี อ้ งในบ้าน หรือ แม้แต่จากเพือ่ นทีท่ ำ� งาน นักสูบบุหรี่มอื สองก็คอื ตัวเรา ลูกเรา และทุกคนทีอ่ ยู่ใกล ้ชิด ทีต่ อ้ งทน รับกลิน่ รับควันพิษจากคนทีเ่ รารัก คนทีเ่ รารูจ้ กั รวมทัง้ คนทีเ่ ราไม่รูจ้ กั อย่างไม่เต็มใจ แต่ “บุหรี่มอื สาม” คืออะไร?... บุหรี่มอื สาม คือ สารพิษจากควันบุหรี่ทต่ี กค้างหลังจากบุหรี่ได้ดบั แล ้ว โดยจะตกค้าง ตามพื้นผิวต่างๆ เช่น ผ้าม่าน เสื้อผ้า พรม โซฟา ทีน่ อน โดยเฉพาะห้องทีไ่ ม่ค่อยได้เปิ ดให้อากาศ ได้ถา่ ยเท และนอกจากนี้สารพิษเหล่านัน้ ยังตกค้างอยู่ตาม ซอกเล็บ เส้นผม ร่องฟัน ผิวหนัง เป็ นต้น ทุกวันนี้นอ้ ยคนนักทีจ่ ะรูว้ า่ การได้รบั สัมผัสควันบุหรี่มอื สามเป็ นอันตรายมีความเสีย่ ง

ต่อสุขภาพอย่างมาก โดยเฉพาะต่อทารกและ เด็กจากการได้รบั สัมผัสควันบุหรี่มอื สามตาม เสื้อผ้า เส้นผมของผูท้ อ่ี มุ ้ หรือผูใ้ กลช้ ดิ แม้ ขณะไม่ได้สูบบุหรี่กต็ าม สารพิษบางชนิดในควันบุหรี่มอื สาม สามารถท�ำปฏิกริ ยิ ากับสารอืน่ ในสิง่ แวดล ้อม ก่อให้เกิดสารพิษซึง่ เป็ นอันตรายเพิม่ มากยิ่ง ขึ้นเช่น นิโคติน เมือ่ มันท�ำปฏิกิริยากับแก๊ส nitrous acid ซึง่ พบได้ทวั ่ ไปในอากาศ จะ ท�ำ ให้ม นั กลายเป็ น สารก่ อ มะเร็ง ที่เ รีย กว่า nitrosamine เด็กมีโอกาสได้รบั สัมผัสควันบุหรี่ มือสามเป็ นสองเท่าของผูใ้ หญ่เพราะสารพิษ ในควันบุหรี่มอื สามเกาะตามพื้นผิวสิ่งต่างๆ ทีเ่ ด็กมักจะคล�ำ แตะ ลูบ เอาเข้าปาก หรือ หายใจเข้าไปในระบบทางเดินหายใจได้อย่าง ง่ายดาย อีกทัง้ ร่างกายของเด็กยังมีนำ�้ หนัก น้อยกว่าผูใ้ หญ่เป็ น 10 เท่า นัน่ คือ เด็กจะได้ รับสารพิษ 20 เท่าของผูใ้ หญ่! ถ้าคุณเป็ นแม่ลูกอ่อนที่ได้สูบบุหรี่ ก่ อนหน้าการให้นมลู กหรือได้รบั สัมผัสกับ ควันบุหรี่มอื สามแลว้ เมือ่ ขณะมาให้นมลูก คุณก็อาจส่งสารพิษไปถึงตัวลูกได้! และถ้าคุณมีโอกาสย้ายไปอยูใ่ นบ้าน ทีเ่ คยเป็ นของนักสูบมือหนึ่ง แน่นอนบ้านหลัง นัน้ คงเต็มไปด้วยสารพิษ และ...สารพิษเหล่า นัน้ ยังคงตกค้างอยู่ไม่ยอมย้ายตามเจ้าของไป ง่ายๆ ...แม้ว่าบ้านจะได้รบั การท�ำความสะอาด รวมทัง้ ทาสีใหม่แล ้วก็ตาม กล่าวได้วา่ บ้านพัก อาศัยของผูส้ ูบบุหรีเ่ ปรียบได้กบั แหล่งเก็บกัก สารพิษจากควันบุหรี่ ทีพ่ ร้อมจะท�ำอันตรายผู ้ ทีเ่ ข้ามาอยู่ใหม่โดยไม่รูต้ วั …. …. เรื่องบุหรี่อนั ตรายกว่าที่คิด...รอม ฎอนนี้ จึงเป็ นโอกาสดีทบ่ี รรดานักสูบทัง้ หลาย จะตัง้ มัน่ เลิกบุหรี่....“เลิกบุหรี่โทร 1600”

จดหมายข่าววารสารสุขสาระ

5


ริมคลอง

สมุย

ข้าวโพด (ชื่อวิทยาศาสตร์ : Zea mays Linn.) ชื่ออืน่ ๆ ข้าวสาลี สาลี (เหนือ) คง (กระบี)่ โพด (ใต้) บือเคเส่ะ (กะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน) เป็ นพืชตระกูลเดียวกับหญ้ามี ล�ำต้นสูง โดยเฉลีย่ 2.2 เมตร ขนาดเส้นผ่า ศูนย์กลางของล�ำต้น 0.5-2.0 นิ้ว เมล็ดจาก ฝักใช้เป็ นอาหารคนและสัตว์ ข้าวโพดมีถน่ิ ก�ำเนิดในทวีปอเมริกา อาจจะเป็ นอเมริ ก ากลางเช่ น ในประเทศ เม็ก ซิโ ก หรือ อาจจะเป็ น อเมริก าใต้ ในปี พ.ศ. 2035 เมื่อคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสค้น พบทวีปอเมริกา ต่อมาได้นำ� ข้าวโพดกลับไป ยังยุโรปแลว้ ข้าวโพดจึงได้เกิดการขยายพันธุ ์ ต่อไป ปัจจุบนั นิยมปลูกแพร่หลายในสภาพ ทีภ่ มู อิ ากาศแตกต่างกันมากๆ ทัง้ ยังเป็ นแหล่ง อาหารทีส่ ำ� คัญของคนและสัตว์ ส�ำหรับบ้านเรา หลังสงครามโลก ครัง้ ที่ 1 หม่อมเจ้าสิทธิพร กฤดากร ได้นำ� ข้าวโพดพันธุท์ ใ่ี ช้เลี้ยงสัตว์มาปลูกและทดลอง ใช้เลี้ยงสัตว์ ซึ่งในขณะนัน้ ยังเป็ นที่รูจ้ กั กัน น้อย จนกระทัง่ หลังสงครามโลกครัง้ ที่ 2 การ ใช้ขา้ วโพดเริ่มแพร่หลายขึ้นเนื่องจาก หลวง สุ ว รรณวาจกกสิกิจ ได้น�ำ การเลี้ย งไก่ แ บบ การค้ามาเริ่มสาธิต และกระตุน้ ให้ประชาชน ปฏิบตั ติ ามผูเ้ ลี้ยงไก่จงึ รูจ้ กั ใช้ข ้าวโพดมากขึ้น

6

มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)

กว่าเดิม แต่เนื่องจากระยะนัน้ ข้าวโพดมีราคาสูงและหายาก การใช้ขา้ วโพดจึงใช้เป็ นเพียงส่วน ประกอบของอาหารหลัก ซึง่ มีรำ� และปลายข้าวเป็ นส่วนใหญ่ นอกจากความอร่อยของเมล็ดข้าวโพดแล ้ว ข้าวโพดยังมีคุณประโยชน์มากมาย โดย เฉพาะ“ไหมข้าวโพด หรือ ยอดเกสรตัวเมีย” ทีอ่ ยู่บริเวณเปลือกข้าวโพดยังมีประโยชน์ทางยา อีกด้วย ในหนังสือ สมุนไพร 91 ชนิด พิชติ โรค ชุด ต�ำรายาล�ำ้ ค่าของหมอโฮจุน ทีย่ ูเนสโกคัด เลือกให้เป็ นมรดกความทรงจ�ำแห่งโลก จากส�ำนักพิมพ์อนิ สปายร์ บันทึกไว้วา่ ไหมข้าวโพดใช้แก้อาการบวมได้ วิธกี ารคือ น�ำไหมข้าวโพด 50 กรัม กับเมล็ดเทียน เกล็ดหอย 15 กรัมมาต้มน�ำ ้ แบ่งดืม่ วันละ 3 ครัง้ จะเกิดผลดีต่อร่างกาย ส่วนคนที่ป่วยเป็ นโรคเยื่อหุม้ ปอดอักเสบ อาการคือเจ็บหน้าอกที่มลี กั ษณะจ�ำเพาะ กล่าวคือ เจ็บแปลบทีห่ น้าอกเพียงจุดใดจุดหนึ่ง (ตรงกับต�ำแหน่งทีม่ อี าการอักเสบ) อาจเป็ น ซีกซ้ายหรือขวาก็ได้ และเจ็บเพียงชัว่ ขณะทีห่ ายใจเข้าลึกๆ ส�ำหรับอาการทีเ่ ห็นทัว่ ไปจะมีเหงือ่ เย็นๆ ออกจนเปี ยกข้างล�ำตัว ปรุงยาโดยน�ำไหมข้าวโพด 1 กิโลกรัม มานึ่งแล ้วพอกบริเวณปอด อาการจะดีข้นึ หรือน�ำมาต้มแล ้วก็ดม่ื ได้ผลดีเช่นกัน โรคไตอักเสบจะท�ำให้รูส้ กึ เหมือนมีนำ�้ เย็นๆ ในช่องท้อง โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เรื้อรังหรือเฉียบพลัน โรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ โรคดีซ่าน โรคตับอักเสบ มะเร็งถุงน�ำ้ ดี นิ่ว ในกระเพาะปัสสาวะ รวมทัง้ นิ่วในอวัยวะอืน่ ๆ ซึง่ เกิดได้ทงั้ ในไต กระเพาะปัสสาวะ ถุงน�ำ้ ดี หรือ ท่อของต่อมบางชนิดในร่างกาย เช่น ต่อมน�ำ้ ลาย ตับอ่อน อาการหลักๆ ของโรคคือ รูส้ กึ ปวด หนักๆ ในท้องเป็ นบางเวลา ท�ำให้เกิดการอาเจียน มีไข้ และเป็ นโรคดีซ่าน โดยปกติแลว้ พบ มากในผูห้ ญิงอายุ 40 ปี ข้นึ ไป วิธแี ก้อาการคือ ให้นำ� ไหมข้าวโพด 10-20 กรัม มาต้มดืม่ ทุกวัน อาการจะทุเลาลง แต่ถา้ เกิดบาดแผล ให้นำ� ไหมข้าวโพดสดๆ มาต�ำให้ละเอียดแลว้ พอกไว้จะ ท�ำให้อาการดีข้นึ ต�ำรับยา 1. แก้บวมน�ำ ้ ใช้ซงั ข้าวโพดแห้ง 60 กรัม ฮวงเฮียงก้วย (ผลของ Liquidambar Taiwaniana Hance) 30 กรัม ต้มน�ำ้ กิน หรือใช้ยอดเกสรตัวเมียแห้ง 60 กรัม ต้มน�ำ้ กิน (ห้ามใส่ เกลือแกง)


2. แก้ไตอักเสบ หรือเริ่มเป็ นนิ่วในไต ใช้ยอดเกสรตัวเมียพอประมาณ ต้มให้ขน้ กิน 3. แก้น่วิ ใช้ตน้ และใบ สดหรือแห้งต้มน�ำ้ กินหรือใช้รากแห้ง 60-120 กรัม ต้มน�ำ้ กิน 4. ขับปัสสาวะ ใช้ยอดเกสรตัวเมียหรือซังข้าวโพด ต้มน�ำ้ กินแทนน�ำ้ ชา 5. แก้ตรากตร�ำท�ำงานหนัก ไอเป็ นเลือด ตกเลือด ใช้ยอดเกสรตัวเมียต้มกับ เนื้อสัตว์กนิ 6. แก้เบาหวาน ใช้ยอดเกสรตัวเมียแห้ง 30 กรัม ต้มน�ำ้ กิน 7. แก้ความดันเลือดสูง ใช้ยอดเกสรตัวเมียแห้ง เปลือกแตงโมแห้ง เปลือกกล ้วยหอม แห้งต้มน�ำ้ กิน 8. แก้ทอ้ งร่วง ใช้ซงั ข้าวโพดเผาเป็ นถ่าน บดผสมน�ำ้ กิน 9. แก้เด็กเป็ นแผลทีผ่ วิ หนังมีเลือดออก ใช้ซงั ข้าวโพดเผาเป็ นเถ้า ผสมน�ำ้ มันเมล็ด ป่ านหรือน�ำ้ มันพืชทา 10. ไหมแห้ง เปลือกกลว้ ยหอมแห้ง เปลือกแตงโมแห้ง ปริมาณเท่ากัน ต้มน�ำ้ ดื่ม สามารถรักษาอาการความดันโลหิตสูง 11. ซังข้าวโพด รสชุ่มนุ่มนวล มีสรรพคุณเป็ นยาแก้อาการ ท้องร่วง โรคบิด โรคบวมน�ำ ้ ช่วยขับปัสสาวะ และบ�ำรุงม้าม 12. ต้นข้าวโพดและใบข้าวโพด มีสรรพคุณแก้ โรคนิ่ว ช่วยขับปัสสาวะ โดยน�ำมารับประทานสดๆ หรือตากแห้งแล ้วต้มน�ำ้ ดืม่ 13. รากข้าวโพดมีฤทธิ์ช่วย แก้อาการอาเจียนเป็ นเลือด โรค นิ่ว ช่วยขับปัสสาวะ โดยใช้ รากแห้งน�ำไปต้มน�ำ้ ดืม่ จ ะ เ ห็ น ได้ว่าข้าวโพด ต้นเดียวมี

สรรพคุณมหาศาล..เสาร์น้ ี ต้มข้าวโพดเป็ น อาหารว่างถ้าจะดีนะ.. ข้อมูล http://hs8jyx-food.blogspot.com/2010/05/ blog-post_11.html https://th.wikipedia.org/wiki ศูนย์ขอ้ มูลสมุนไพร สถาบันวิจยั สมุนไพร กรม วิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข https://www.doctor.or.th/article/detail/4813 http://m.dailynews.co.th/Article.do?contentId=31308

จดหมายข่าววารสารสุขสาระ

7


สาระน่ารู้

รียานา

มันฝรั่งกับคุณสาวๆ

มันฝรัง่ พืชสวนครัวที่มคี ุณค่ าทาง อาหารมากมาย ไม่เพียงแต่นำ� มาปรุงอาหาร แสนอร่อยหลากหลายชนิดนัน้ มันฝรัง่ ยังมีดี มาอวดในเรื่องของการบ�ำรุงความสวยความ งามให้คุณสาวๆ ได้ทงั้ เส้นผมและผิวพรรณ เลยทีเดียวใครทีช่ อบมีปญั หา..อย่างว่า...ลอง เดินเข้าไปในครัวแลว้ หยิบมันฝรัง่ มาท�ำตาม สูตรบ�ำรุงที่ทำ� ได้งา่ ยแสนง่ายเหล่านี้กนั ด่วน เลยจ้า หากคุณมีปญั หารอยคล�ำ้ รอบดวงตา มันฝรัง่ สามารถช่วยลดรอยคล�ำ้ รอบดวงตา ของคุณได้ เพราะมันฝรัง่ มีเอนไซม์ทท่ี ำ� ให้สี ผิวดู อ่อนและจางลงได้ เพียงแค่ นำ� มันฝรัง่ มาฝานบางๆ แล ้วน�ำมาวางพักไว้รอบดวงตา ประมาณ 15-20 นาที (หากน�ำมันฝรัง่ ไปแช่ เย็นก่อนน�ำมาใช้ก็จะยิ่งดี เพราะจะช่วยลด ปัญ หาตาบวมและท�ำ ให้ต าสดชื่น ได้ด ว้ ย) ส�ำหรับผูท้ ่มี อี าการคันยุบยิบเล็กน้อย ก็ไม่ ต้องเอามือไปเกานะคะ เพราะตามข้อมูลบอก ไว้วา่ อาจรูส้ กึ คันยิบๆ เพียงเล็กน้อย แต่ไม่มี ผลร้ายแต่อย่างใด ขอแนะน�ำให้ทำ� ซ�ำ ้ 2 ครัง้ ต่อสัปดาห์เพือ่ ผลลัพธ์ทด่ี คี ่ะ เพื่อผิวที่ชุ่มชื้น ด้วยการใช้นำ�้ มัน

8

มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)

ฝรัง่ ต้ม 4 ช้อนโต๊ะ และนม 140 มิลลิกรัม ขัน้ ตอนแรกให้นำ� มันฝรัง่ มาต้ม แล ้วกรองเอาน�ำ้ ต้ม ทีไ่ ด้มา 4 ช้อนโต๊ะ ใส่ลงไปในนมแล ้วคนให้เข้ากัน เก็บใส่ขวดแล ้วน�ำไปแช่เย็น เมือ่ จะน�ำมาใช้ ก็ให้เขย่าขวดก่อน แล ้วน�ำมาทาหน้าด้วยการนวดเบาๆ เป็ นวงกลม ทิ้งไว้สกั ครู่แล ้วจึงใช้ผา้ ซับ ออก ท�ำความสะอาดผิว ให้ใช้นำ�้ ต้มมันฝรัง่ 2 ช้อนชา, สบูป่ ่ น 2 ช้อนชา, เนย 2 ช้อนชา, และน�ำ้ มันอัลมอนด์ 8 ช้อนโต๊ะ ขัน้ ตอนแรกให้นำ� สบูแ่ ละน�ำ้ มันอัลมอนด์ใส่ถว้ ย และอุ่นในน�ำ้ ร้อนจนผสมเข้ากัน จากนัน้ ใส่เนยลงไปคนและตามด้วยน�ำ้ ต้มมันฝรัง่ แล ้วน�ำออกจากเตาและคน ต่อไปอีกจนส่วนผสมเย็นตัวลง เสร็จแล ้วเก็บไว้ในขวด เมือ่ จะใช้กใ็ ห้นำ� ครีมทีไ่ ด้มาใช้ทำ� ความ สะอาดใบหน้าเหมือนโลชัน่ ด้วยการนวดคลึงใบหน้าเบาๆ เป็ นวงกลม ทิ้งไว้สกั ครู่ แล ้วค่อยล ้าง ออกด้วยน�ำ้ อุ่น มาส์กหน้ามันฝรัง่ สูตรผิวกระชับผิวเต่งตึง และท�ำให้เลือดไหลเวียนดี ด้วยการใช้มนั ฝรัง่ ป่ น 2 ช้อนโต๊ะ แล ้วให้เทน�ำ้ อุ่นลงในถ้วยทีใ่ ส่มนั ฝรัง่ ป่ นและคนเข้ากันจนเนื้อข้น ก่อนมาส์ก หน้าให้ใช้ครีม หรือน�ำ้ มันเบบี้ออยล์เล็กน้อยทาใบหน้าให้ทวั ่ และให้ใช้พกู่ นั จุ่มมาส์กมันฝรัง่ มา ทาใบหน้าและคอ ยกเว้นรอบดวงตา ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที เมือ่ ครบแล ้วให้ใช้ผา้ อุ่นประคบ ใบหน้าให้มาส์กอ่อนตัวก่อน แล ้วค่อยล ้างออกด้วยน�ำ้ อุ่น (สูตรนี้จะท�ำให้ผวิ แห้ง จึงไม่ควรท�ำ บ่อยจนเกินไป) แก้ปญั หาผิวแห้งหยาบกร้านให้เนียนนุ่มชุ่มชื้น น�ำมันฝรัง่ มาลา้ งให้สะอาดทัง้ เปลือก จากนัน้ น�ำมาต้มให้สุก การต้มทัง้ เปลือกจะช่วยคงคุณค่าของวิตามินซีเอาไว้ได้ จากนัน้ จึงน�ำมา ปัน่ ให้ละเอียดผสมกับไข่แดงและนมสด ปัน่ ให้ส่วนผสมเข้ากันอย่างละเอียดจนกลายเป็ นเนื้อ เดียวกันอีกครัง้ เมือ่ ได้ส่วนผสมเรียบร้อยแลว้ ให้นำ� มาพอกผิวทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที ทัง้ นี้


คุณสามารถนวดวนเป็ นวงกลมได้เช่นเดียวกัน เพือ่ กระตุน้ ระบบไหลเวียนเลือดแลว้ จึงปล่อย ทิ้งไว้ให้ครบก�ำหนด จึงค่อยล ้างออกให้สะอาด สามารถท�ำได้ทงั้ ผิวหน้าและผิวกายจนทัว่ เรือน ร่าง แนะน�ำให้พอกสัปดาห์ละ 2 ครัง้ รับรองได้วา่ ผิวพรรณทีแ่ ห้งหยาบกร้านจะกลับมาเนียน นุ่มและชุ่มชื้นอย่างน่าอัศจรรย์ใจทีเดียว โลชัน่ มันฝรัง่ (ส�ำหรับผิวมันและผิวธรรมดา) ให้ใช้นำ�้ คัน้ จากมันฝรัง่ ดิบ 1 แก้ว และ น�ำ้ มะเขือเทศ 1 แก้ว ขัน้ ตอนแรกให้ไสมันฝรัง่ และคัน้ เอาแต่นำ�้ โดยใช้ผา้ กรองคัน้ อีกครัง้ จาก นัน้ ให้คนั้ เอาแต่นำ�้ มะเขือเทศ น�ำมาผสมเข้าด้วยกัน แลว้ ใช้สำ� ลีชบุ โลชัน่ ทีไ่ ด้เช็ดหน้าเช้าเย็น ส่วนทีเ่ หลือให้เก็บไว้ในตูเ้ ย็น มืออ่อนนุ่มด้วยมันฝรัง่ ให้ใช้มนั ฝรัง่ 2-3 ลูก และนมอุ่น 3-4 ช้อนโต๊ะ ขัน้ ตอนแรก ให้ตม้ มันฝรัง่ ให้สุก ปอกเปลือกและบดให้เละ แล ้วใส่นมลงไปคนให้เข้ากัน เสร็จแล ้วให้นำ� มา พอกมือให้หนา ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล ้วค่อยล ้างออก ใครทีม่ ปี ญั หาสีผวิ ใต้วงแขนด�ำคล�ำ ้ ให้ลองน�ำน�ำ้ มันฝรัง่ มาผสมกับน�ำ้ มะนาวและน�ำ้ ผึ้ง จากนัน้ น�ำมาทาตรงส่วนใต้วงแขนทีด่ ำ� คล�ำ้ แล ้วทิ้งไว้ประมาณ 1 ชัว่ โมงครึ่ง ท�ำบ่อยๆ สัก 2 ครัง้ ต่อสัปดาห์รบั รองเลยว่าผิวใต้วงแขนของคุณจะต้องสว่างกระจ่างใสขึ้นแน่ๆ ลดผมหงอก วิธนี ้ สี าวๆ อาจจะหยิบไปท�ำให้คณ ุ แม่ทไ่ี ม่อยากมีผมหงอกได้นะคะ โดย การน�ำเปลือกมันฝรัง่ มาต้ม จากนัน้ ให้กรองเอาแต่นำ�้ มาลา้ งผมหลังจากสระด้วยแชมพูเสร็จ แล ้ว ให้ทำ� แบบนี้ทกุ ครัง้ หลังสระ ว่ากันว่าผมทีห่ งอกขาวจะกลับมีสเี ข้มขึ้น แถมยังเงางามและ มีสุขภาพดีดว้ ย หากคุณเป็ นอีกคนหนึ่งทีต่ อ้ งเจอกับปัญหาผมแห้งเสีย ให้ลองจัดการด้วยการน�ำน�ำ้ มัน ฝรัง่ มาผสมกับว่านหางจระเข้แลว้ น�ำมามาสก์ผมและหนังศีรษะ เพราะน�ำ้ มันฝรัง่ อุดมไปด้วย โปรตีน ฟอสฟอรัส วิตามินเอ บี ซี และแร่ธาตุทส่ี ำ� คัญอีกมากมายทีส่ ามารถช่วยฟื้ นฟูผมทีแ่ ห้ง ให้นุ่มชุ่มชื้นน่าสัมผัสและช่วยให้เส้นผมดูสุขภาพดีมากยิง่ ขึ้น สาวๆ ทีไ่ ม่อยากดูแก่ไปตามวัยหรือแก่ก่อนวัย ให้นำ� น�ำ้ มันฝรัง่ มาผสมกับโยเกิรต์ มา มาส์กทิ้งไว้บนหน้า ซึง่ มันจะช่วยเติมความชุ่มชื้น ช่วยให้ผวิ หน้าดูสุขภาพดี และช่วยต่อต้านริ้ว

รอยได้ อีกทัง้ คุณยังสามารถหยิบน�ำ้ มันฝรัง่ มาผสมกับน�ำ้ มันมะกอก แล ้วน�ำมานวดหน้า เพือ่ ต่อต้านริ้วรอยและตีนกาได้ดว้ ย นอกจาก นี้หากหยิบน�ำ้ มันฝรัง่ มาผสมกับโคลนพอก หน้า แล ว้ บีบ น�ำ้ มะนาวใส่ นิ ด หน่ อ ย น�ำ มา มาส์กทิ้งไว้ก็จะช่วยให้ผวิ ของคุณดูขาวใสและ เฟิ รม์ มากขึ้น ถ้าสาวๆ ต้องออกไปเจอกับแสงแดด แรงจ้าจนแสบผิวไปหมด ให้นำ� น�ำ้ มันฝรัง่ เย็น มาบ�ำรุงผิวตรงส่วนทีม่ ปี ญั หาเพือ่ บรรเทาให้ อาการแสบหายไป เพราะน�ำ้ มันฝรัง่ จะช่วย ปลอบประโลมผิวและช่วยลดอาการระคาย เคืองได้ ...บอกเลยแจ๋วจริงๆ คุ ณ ผู อ้ ่ า นสามารถติ ด ตามราย ละเอียดได้ท่ี คอลัมน์อาหารกับสุขภาพ เผือ่ จะได้เมนู อร่อยส�ำหรับมื้อต่อไป ข้อมูล http://women.kapook.com/view101022.html http://beautifulstarthere.com/index.php/ beauty/the-skin/190-beautiful-with-potato http://www.naewna.com/lady/126855 http://frynn.com จดหมายข่าววารสารสุขสาระ

9


ท่องโรค

ฮะกีม

มะเร็งล�ำไส้ใหญ่คร่าชีวติ คนไทยเป็ น อันดับต้นๆ มักพบในผูท้ ม่ี อี ายุตงั้ แต่ 50 ปี ขึ้นไป แต่อาจพบในเด็กโตได้ อายุเฉลีย่ ของ คนไทยทีต่ รวจพบมะเร็งชนิดนี้อยู่ในช่วงอายุ 60-65 ปี ในปี พ.ศ. 2551 พบว่ามีผูป้ ่ วยมะเร็ง ล�ำไส้ใหญ่และทวารหนักรายใหม่กว่า 9,000 ราย พบบ่อยเป็ นอันดับ 3 ในภาพรวมทัง้ สอง เพศ แต่เมือ่ พิจารณาแยกเพศแล ้ว เพศชายมี แนวโน้มเป็ นโรคนี้มากกว่าเพศหญิง โดยพบ บ่อยเป็ นอันดับ 3 ในเพศชาย และอันดับ 5 ในเพศหญิง แต่ทน่ี ่าเป็ นห่วงก็คอื แนวโน้มที่ พบมีเพิม่ มากขึ้นเช่นเดียวกับมะเร็งเต้านม ปั จ จัย เสี่ ย งที่ ก่ อ ให้เ กิ ด มะเร็ ง ล�ำไส้ใหญ่ ได้แก่ 1. การกินอาหารไขมันสูงเป็ นประจ�ำ ร่วมกับอาหารใยอาหารต�ำ่ (ขาด ผัก และผล ไม้) 2. พัน ธุ ก รรม เพราะพบคนที่มี ครอบครัวสายตรง(บิดา มารดา พี่ น้องท้อง เดียวกัน)เป็ นโรคมะเร็งเต้านมมีโอกาสเกิด โรคมะเร็งเต้านมได้สูงกว่า 3. มีพนั ธุกรรมผิดปกติ เพราะพบ ได้สูงกว่า เมือ่ มีคนในครอบครัวเป็ นโรคมะเร็ง ล�ำไส้ใหญ่ 4. เป็ นโรคล�ำไส้ใหญ่อกั เสบเรื้อรัง 5. เป็ นโรคติง่ เนื้อเมือก (polyp หรือ

10

มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)

มะเร็งล�ำไส้ใหญ่ โพลิป) ล�ำไส้ใหญ่ โดยเฉพาะชนิดทีเ่ กิดจากพันธุกรรม 6. การไม่อ อกก�ำ ลังกายและความ อ้วน อาจเพิ่มความเสี่ยง ต่ อ มะเร็ ง ล�ำ ไส้ใ หญ่ มากขึ้น 7. การสูบบุหรี่ จากการศึ กษาพบว่าผู ท้ ่ี สู บ บุห รี่มีค วามเสี่ย งของ โรคมะเร็งล�ำไส้ใหญ่มากกว่า ผูท้ ไ่ี ม่สูบบุหรี่ การตรวจคัด กรอง เพือ่ ป้ องกันโรคมะเร็งล�ำไส้ใหญ่ และการมาพบแพทย์ต ั้ง แต่ มี อาการผิด ปกติใ นระยะเริ่ ม แรก เป็ นวิธีท่ีดีท่ีสุด เพราะส�ำหรับโรค มะเร็งล�ำไส้ใหญ่แลว้ ถ้ารูเ้ ร็ว รักษา เร็วและถูกวิธกี จ็ ะมีโอกาสหายมากขึ้น ปัจจุบนั ยังไม่ทราบสาเหตุทแ่ี ท้ จริงของการเกิดมะเร็งล�ำไส้ใหญ่ แต่เชื่อ ว่าการรับประทานอาหารทีม่ ใี ยอาหารมาก ทานอาหารทีม่ ไี ขมันน้อย ร่วมกับการออก


เลิกบุหรี่เริ่มที่บ้าน

กัลยาณา

ก�ำลังกายสม�ำ่ เสมอ และการป้ องกันภาวะท้องผูกจะลดโอกาสการเกิดมะเร็งล�ำไส้ใหญ่ได้ ส�ำหรับการตรวจพบแต่เนิ่นๆ ต้องท�ำตัง้ แต่ยงั ไม่มอี าการผิดปกติ เรียกการตรวจนี้วา่ “การตรวจคัดกรอง มะเร็งล�ำไส้ใหญ่” ซึง่ แนะน�ำให้เริ่มตรวจคัดกรองใน ผูท้ อ่ี ายุ 50 ปี ข้นึ ไป และมีหลายวิธี เช่น การตรวจ เม็ดเลือดแดงในอุจจาระทุก 1-2 ปี , การสวนสาร ทึบรังสีตรวจล�ำไส้ใหญ่ หรือการส่องกลอ้ งตรวจ ล�ำไส้ใหญ่ทกุ 5 ปี เป็ นต้น อาการที่สงั เกตและพบได้ในผู ป้ ่ วย มะเร็งล�ำไส้ใหญ่ ได้แก่ (ในผูป้ ่ วยบางรายที่ เป็ นมะเร็งล�ำไส้ใหญ่ อาจจะไม่พบอาการผิด ปกติใดๆ เลยก็เป็ นได้) 1. ขับถ่ายผิดปกติ (ถ่าย บ่อยหรือน้อยกว่าปกติ) 2. ท้องผูก ปวดเบ่งในช่อง ทวารหนัก 3. อุจจาระเหลวกับอุจจาระ แข็งสลับกัน บางครัง้ เหมือนถ่ายไม่ หมด 4. อุจจาระล�ำเล็กกว่าปกติ 5. ท้องอืดแน่นท้องตลอด เวลา 6. ถ่ายอุจจาระเป็ นมูกเลือด หรือเป็ นเลือดแดงสด (อาจมีเลือดปนมากับ อุจจาระคล ้ายกับโรคริดสีดวงทวารหนักก็ได้) 7. คล�ำพบก้อนในท้อง 8. ซีด เบือ่ อาหารและน�ำ้ หนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ เป็ นต้น

ส�ำหรับการรักษามะเร็งล�ำไส้ใหญ่ และทวารหนักนัน้ ขึ้น อยู่ ก บั ต�ำ แหน่ งของ มะเร็ง ระยะของโรค รวมถึงสภาพร่างกาย และความพร้อมของผูป้ ่ วยขณะนัน้ ว่าเหมาะ สมกับวิธีใดมากที่สุด โดยทัว่ ไปการรักษา มะเร็งล�ำไส้ใหญ่วธิ ที ด่ี ที ส่ี ุด ได้แก่การผ่าตัด เอาล�ำไส้ใหญ่สว่ นทีม่ เี นื้อร้ายออก ส�ำหรับการ ให้ยาไปท�ำลายเซลล์มะเร็ง (เคมีบำ� บัด) และ/ หรือ การฉายรังสีรกั ษา เป็ นการรักษาเพิม่ เติม ในกรณีทม่ี ขี อ้ บ่งชี้ อาการผิด ปกติข องระบบขับ ถ่ า ย แม้เพียงเล็กน้อยอาจเป็ นอาการเริ่มแรกของ มะเร็ ง ล�ำ ไส้ใ หญ่ ก็ เ ป็ น ได้ ดัง นัน้ หากท่ า น มีค วามผิดปกติดงั กล่า วข้า งต้น ควรมาพบ แพทย์ เพราะ รูเ้ ร็ว รูไ้ ว รักษาได้ทนั ท่วงที มี โอกาสหาย ข้อมูล http://www.thaihealth.or.th/Content/31136 http://haamor.com/th http://www.komchadluek.net/de tail/20150605/207398 https://www.bumrungrad.com/th/horizon-cancer-treatment-center-chemotherapy-bangkok-thailand/conditions/colon-cancer จดหมายข่าววารสารสุขสาระ

11


อาหารกับสุขภาพ

หนองจอก

เนยแข็(cheese) ง

ชี ส หรื อ เนยแข็ ง เป็ นอาหารที่ มี ประวัติศาสตร์ความเป็ นมายาวนาน กลุ่ม นักรบโรมันเป็ นผูม้ บี ทบาทส�ำคัญในการเผย แพร่ให้คนทัว่ โลกได้รูจ้ กั เนยแข็ง เพราะไม่ ว่าจะยกทัพไปทีใ่ ดก็มกั จะน�ำเนยแข็งไปด้วย เสมอและมักจะแบ่งปันเนยแข็งทีม่ ใี ห้กบั คน ท้องถิน่ นัน้ ๆ และมีการปรับปรุงไปตามพื้นที่ จนปัจจุบนั มีเนยแข็งมากกว่า 3,000 ชนิด คนไทยเรามักเข้าใจกันว่า ชีสก็คือ เนย แต่ ในความเป็ นจริงแลว้ ชีสและเนยมี ความแตกต่างกันอย่างมากมาย ชีส หรือ เนยแข็ง (cheese) เป็ น ผลิตภัณฑ์ท่ไี ด้จากโปรตีนในน�ำ้ นมสัตว์เป็ น วัตถุดบิ เช่นน�ำ้ นมวัว น�ำ้ นมแกะ และน�ำ้ นม ควาย ในขณะทีเ่ นยหรือเนยเหลว (butter) เป็ นผลิตภัณฑ์ทไ่ี ด้จากไขมัน (fat) ในน�ำ้ นม ซึ่ง ส่ ว นใหญ่ ใ ช้น�ำ้ นมวัว เป็ น วัต ถุดิบ ส่ ว น มาร์การีน (margarine) ท�ำจากไขมันพืช กระบวนการผลิตชีส เริม่ จากการตก ตะกอนโปรตีนเคซีน (casein) ซึง่ เป็ นโปรตีน หลัก ในน�ำ้ นมด้ว ยกรดแลกติก ที่ส ร้า งจาก แบคทีเรียทีผ่ ลิตกรดแลกติก (lactic acid

12

มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)

bacteria) หรือตกตะกอนโปรตีนด้วยเอนไซม์เรนนิน (renin) หรือใช้ทงั้ สองอย่างร่วมกัน ความ เป็ นกรดรวมทัง้ การถูกย่อยด้วยเอนไซม์ทำ� ให้โปรตีนเคซีนเสียสภาพ (denature) เป็ นตะกอน สีขาวมีลกั ษณะเป็ นลิม่ น�ำ้ นมเรียกว่า เคิรด์ (curd) มีลกั ษณะคลา้ ยโยเกิรต์ กรองส่วนทีเ่ ป็ น เคิรด์ ไปท�ำชีส ส่วนของเหลวทีเ่ หลืออยู่เรียกว่า เวย์ (whey) ซึง่ ยังมีโปรตีนบางส่วนหลงเหลือ อยู่ สามารถน�ำไปท�ำเป็ นผงทีเ่ รียกว่าโปรตีนเวย์ (whey protein) ได้ นิยมใช้เป็ นอาหารเสริม ส�ำหรับนักเพาะกาย ชีสที่ผลิตได้มหี ลากหลายชนิด ขึ้นอยู่กบั ประเภทและชนิดของน�ำ้ นมที่นำ� มาใช้ใน การผลิต ชนิดของแบคทีเรียทีน่ ำ� มาใช้ในการหมัก (fermentation) ระยะเวลาทีใ่ ช้ในการบ่ม (incubation) และอาจจะมีขนั้ ตอนวิธกี ารผลิตทีเ่ ฉพาะซึง่ แตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิน่ เมือ่ เสร็จสิ้นกระบวนการผลิตแล ้วจะเก็บไว้ในทีเ่ ย็นหรือตูเ้ ย็นตลอดเวลาเพือ่ รักษาคุณภาพของชีส ชีสสดไม่มกี ลิน่ แรง มีชนิดต่างๆตามความแห้งและตามปริมาณไขมันทีต่ กค้างอยู่ คน ไทยชอบชีสสด เพราะไม่มกี ลิน่ นมบูด ชีสทีห่ มักไว้นานจะมีกลิน่ แรง บางชนิดมีราขึ้น คนไทย เหม็นจนทนไม่ได้ แต่ฝรัง่ ชอบ คงเหมือนคนไทยชอบกลิน่ ปลาร้า กลิน่ ทีเ่ กิดจากการหมักต่างๆ ท�ำให้เกิดชีสชนิดต่างๆ มากมาย ประโยชน์ของชีส ชีส เป็ นแหล่งอาหาร ทีป่ ระกอบไปด้วยโปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสีสูงไม่แพ้ นม และวิตามินบี 12 ของอาหารประเภทมังสวิรตั อิ กี ด้วย ขณะทีม่ นี ำ�้ ตาลแลคโตสในอัตราทีต่ ำ� ่ กว่านม ซึง่ เป็ นผลดีต่อผูท้ ม่ี ปี ญั หาในการดืม่ นม ส�ำหรับท่านทีม่ ปี ญั หาในการดืม่ นม เนื่องจากร่างกายขาด “น�ำ้ ย่อยแลคโตส” หรือมีนอ้ ย ท�ำให้เมือ่ ดืม่ นมแล ้ว ร่างกายไม่สามารถทีจ่ ะย่อย “น�ำ้ ตาลแลคโตส” ทีม่ อี ยู่ในนมได้ ส่งผลให้ น�ำ้ ตาลแลคโตสทีเ่ หลืออยู่ในร่างกายผ่านเข้าสู่ลำ� ไส้ใหญ่ และถูกย่อยโดยแบคทีเรีย จนเกิดการ หมักหมมเป็ นก๊าซ และกรด ท�ำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเสีย หรือปวดท้อง ดังนัน้ ผูท้ ม่ี ปี ญั หาใน


การดืม่ นม จึงหันมารับประทาน ชีส แทนโดยไม่เกิดอาการแพ้เหมือนการดืม่ นม ชีส จึงเหมาะสมส�ำหรับเด็กวัยก�ำลังเจริญเติบโต ซึง่ ต้องการอาหารทีม่ พี ลังงาน และสารอาหารสูง โดยเฉพาะโปรตีน และ แคลเซียมซึ่งเป็ น ส่วนประกอบที่สำ� คัญของเนื้อกระดู ก ช่วยท�ำให้ กระดูกแข็งแรง และสามารถป้ องกันโรคกระดูกพรุนได้ (การเสริม สร้างกระดูกให้แข็งแกร่งควรจะเริ่มตัง้ แต่วยั เด็ก จนเป็ นผูใ้ หญ่ และ เข้าสูว่ ยั สูงอายุ) นอกจากนี้ ชีส ยังเป็ นอาหารทีม่ ปี ระโยชน์ต่อสุขภาพ ฟัน เพราะมีนำ�้ ตาลในปริมาณต�ำ ่ แต่มโี ปรตีนในรูปของ แคลเซียมที่ ช่วยเคลือบผิวฟัน และป้ องกันฟันผุ การรับประทาน ชีส อาจจะได้รบั ไขมันมากกว่าการดืม่ นมเล็กน้อย แต่ จะให้คณ ุ ประโยชน์มากกว่า การรับประทานเค้ก คุกกี้ หรือช็อกโกแลต ซึง่ ให้แต่พลังงาน และ ไขมันเป็ นส่วนใหญ่ ในขณะที่ ชีส ให้สารอาหารทีม่ ปี ระโยชน์มากมายเหมือนนม ส�ำหรับผูท้ ม่ี ปี ญั หาเรื่องน�ำ้ หนัก อาจเลือกรับประทาน ชีส ทีท่ ำ� จากไขมันต�ำ ่ เพราะจะ มีคอเลสเตอรอลต�ำ่ ด้วยเช่นกัน ชีสก็มโี ทษเหมือนกัน - แม้วา่ การบริโภคชีสจะมีประโยชน์มากมาย แต่กม็ ขี อ้ ควรระวัง เช่นกัน เพราะชีสมักมีเกลือในปริมาณสูง ดังนัน้ คนทีม่ ปี ญั หาโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและ หลอดเลือด ควรระวังเรือ่ งปริมาณการรับประทานหรือควรเลือกประเภททีม่ ปี ริมาณของเกลือต�ำ ่ (Low Sodium) จะดีกว่า ส่วนการเก็บรักษาชีสก็ควรศึกษาวิธกี ารเก็บให้ดี เพราะอาจมีการปนเปื้ อนเชื้อราได้ ซึง่ ควรเก็บในทีแ่ ห้งและเย็นเพือ่ รักษาทัง้ คุณภาพและความปลอดภัยในการบริโภคชีส

ข้อมูล http://health.kapook.com/view9901. html https://eatwellbyamornrat.wordpress. com/2011/06/14/buttercheese-2/ http://guru.sanook.com/26695/

จดหมายข่าววารสารสุขสาระ

13


ยากาว ห้องข่าว สสม.

ผู้ใหญ่บ้านชัยยุทธ หมันหลัง วันที่ 30 เม.ย. – 1 พ.ค. 2559 แผนงานสร้างสุขมุสลิมไทย จัด โครงการยากาว ศิษย์เก่าโรงเรียนผูน้ ำ� สุขภาวะมุสลิมไทย (หรือศิษย์ เก่า สสม.) ณ โรงแรมปาร์ควิว ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี และชุมชนบ้านเขานา ต.คลองทราย อ.นาทวี จ.สงขลา โดย มี ศ.ดร.อิศรา ศานติศาสน์ ประธานมูลนิธฯิ เป็ นประธาน เปิ ดโครงการฯ พร้อมด้วยนายสุรนิ ทร์ เหมนุกูล รอง ประธานมูลนิธิฯ และนายฮาซัน หะยีมะเย็ง รอง ผูอ้ ำ� นวยการศูนย์กจิ กรรม สสม.ภาคใต้ตอนล่าง โรงเรี ย นผู น้ �ำ สุ ข ภาวะมุส ลิม ไทยเป็ น นวัต กรรมของแผนงานสร้า งสุ ข ภาวะมุส ลิม ไทย เป็ นภารกิจหนึ่งที่แผนงานฯ ให้ความส�ำคัญต่อการ พัฒนาบุคลากรเพื่อสร้างศักยภาพในการเป็ นผูน้ ำ� การ เปลีย่ นแปลงทีเ่ ข้าใจปัญหาสุขภาวะให้กบั ชุมชนมุสลิม โดย ตลอดระยะเวลา 12 ปี ทผ่ี ่านมา แผนงานฯ ได้ดำ� เนินการสร้าง

14

มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)


ห้องข่าว สสม.

ผูน้ ำ� การเปลีย่ นแปลงในระดับชุมชนผ่านการฝึ กอบรมหลักสูตรผูน้ ำ� สุข ภาวะมุสลิมไทย และหลักสูตรมุสลิมะฮฺตน้ แบบ ซึง่ มีศิษย์เก่าผ่าน การอบรมทัว่ ประเทศแล ้ว จ�ำนวน 1,348 คน ศิษย์เก่า สสม. เหล่านี้ได้กลับไปพัฒนาชุมชนและสานต่อกิจกรรมด้าน สุขภาวะ ตลอดจนมีจติ ส�ำนึกร่วมในการพัฒนาคุณภาพ ชีวติ ของมุสลิมไทย อย่างไรก็ตาม ยังมีศษิ ย์เก่าจ�ำนวนหนึ่งทีย่ งั ขาด โอกาสในการเข้าถึงแหล่งงบประมาณและการพัฒนา ชุมชน เนื่องด้วยสภาวะแวดลอ้ มที่ไม่เอื้ออ�ำนวย การขาดความรู ค้ วามเข้าใจเรื่องแหล่งทุน รวมถึง ความต่อเนื่องในการเชื่อมต่อกับเครือข่ายศิษย์เก่ า โรงเรียนผูน้ ำ� ฯ ด้วยเหตุดงั กล่าว แผนงานฯ จึงได้จดั โครงการยากาวศิษย์เก่า สสม.ขึ้น โดยมีวตั ถุประสงค์เพือ่ ส่งเสริมให้ศิษย์เก่าโรงเรียนผูน้ ำ� สุขภาวะมุสลิมไทย สร้างเครือ จดหมายข่าววารสารสุขสาระ

15


ห้องข่าว สสม.

ข่ายการด�ำเนินงาน แลกเปลีย่ นประสบการณ์ สานต่ อการพัฒนาชุมชนอย่างต่ อเนื่องและ ยัง่ ยืน และเพือ่ พัฒนาศักยภาพของศิษย์เก่า โรงเรียนผูน้ ำ� สุขภาวะมุสลิมไทยให้สามารถ เสนอโครงการเพื่อ ขอรับ การสนับ สนุ น งบ ประมาณจากหน่วยงานอืน่ ๆทีเ่ กี่ยวข้องอย่าง เป็ นระบบและมีประสิทธิภาพ ทัง้ นี้โครงการ ยากาวจัดขึ้นภายใต้ความรับผิดชอบของทีม งาน PB (หรือทีมหนุ่มสาว สสม) โดยในครัง้ นี้ นายตอฮีตร์ สายสอิด รอง ผอ.ศูนย์กจิ กรรม สสม.ภาคใต้ตอนกลาง เป็ นหัวหน้าทีม โครงการยากาวศิ ษย์เก่ า สสม.มี ศิษย์เก่า สสม. ในพื้นทีภ่ าคใต้เข้าร่วมโครง การฯจ�ำนวน 20 คน ได้แก่จงั หวัด กระบี่ ตรัง สุราษฎร์ธานี สงขลา นครศรีธรรมราช ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ได้มาพบปะแลกเปลีย่ น เรียนรู ป้ ระสบการณ์การท�ำงานในพื้นที่ของ แต่ละคน อีกทัง้ ยังได้ลงสัมผัสพื้นทีศ่ ึกษาดู งานชุมชน ณ ชุมชนบ้านเขานา ต.คลองทราย อ.นาทวี จ.สงขลา ซึง่ เป็ นชุมชนต้นแบบด้าน เศรษฐกิจพอเพียง และเป็ นชุมชนเข้มแข็ง มี การบริหารจัดการทีด่ ี อีกทัง้ ชุมชนดังกล่าวยัง

16

มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)

เป็ นชุมชนของเพือ่ นสมาชิกศิษย์เก่า สสม. อีกด้วย คือ ผูใ้ หญ่บา้ นชัยยุทธ หมันหลัง และนาย ซัยฟุตดีน เหร็มอะ ทีไ่ ด้นำ� เอาความรูแ้ ละประสบการณ์จากการเข้าอบรมโรงเรียนผูน้ ำ� สุขภาวะ มุสลิมไทยกลับมาประยุกต์ใช้ในชุมชน “...ตอนแรกทีม่ ี คณะท�ำงานของ สสม.เข้ามาชักชวนให้เข้าร่วมอบรมโรงเรียนผูน้ ำ� สุข ภาวะมุสลิมไทย ก็คดิ ว่าถ้าไปก็คงจะไปนัง่ ฟังบรรยายศาสนา หรือเรื่องสุขภาวะเหมือนบรรยาย ทัวไป ่ ผนวกกับระยะเวลาการอบรม 5 วัน ..ก็ไม่คดิ อยากจะไป แต่ดว้ ยการพูดชักชวนของ คณะ สสม. จึงตัดสินใจร่วมเดินทางมาอบรมด้วย ..ก็รูส้ กึ ดีใจทีไ่ ด้มาอบรมครัง้ นี้หากตัดสินใจไม่มา คงจะรูส้ กึ เสียดายและเสียใจเป็ นอย่างยิง่ ... ...การอบรมครัง้ นี้ผดิ ไปจากเดิมทีค่ ดิ มาก่อนหน้านี้ (นัง่ ฟังบรรยายศาสนา) แต่เมือ่ ได้ มาสัมผัสจริงมันแตกต่างกันสิ้นเชิง มันเป็ นการผสมผสานระหว่างหลักการค�ำสอนของศาสนา อิสลามกับหลักวิชาการกันอย่างลงตัว อีกทัง้ ยังได้รูจ้ กั พบปะ ผูน้ ำ� ในพื้นทีต่ ่างๆ อาทิ ผูน้ ำ� ใน ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ และได้ไปศึกษาดูงานชุมชนในจังหวัดสุพรรณบุรี ซึง่ ก็ได้นำ� แนวคิดของผูใ้ หญ่บา้ นชุมชน และความรูจ้ ากการเข้าอบรมครัง้ นี้กลับมาประยุกต์ใช้ในชุมชน ของเราเอง โดยอาศัยความร่วมมือร่วมใจของคนในชุมชนประกอบกับความตัง้ ใจทีจ่ ะบริหาร จัดการชุมชนให้เป็ นชุมชนต้นแบบและให้คนอืน่ ๆ ได้มาศึกษาดูงานชุมชนของตน เสมือนทีต่ วั เราเคยได้ไปศึกษาดูงานชุมชนอืน่ ๆ เราและทีมงานบ้านเขานาร่วมแรง ร่วมกันพัฒนาชุมชนจน ประสบผลส�ำเร็จเป็ นทีร่ ูจ้ กั ของคนในจังหวัดสงขลาและจังหวัดใกล ้เคียง ณ ตอนนี้ทำ� ให้ชมุ ชน ของเรามีคนหลังไหลเข้ ่ ามาศึกษาดูงานเกือบทุกๆวัน และรูส้ กึ ดีใจทีท่ าง สสม.ได้นำ� บรรดาศิษย์ เก่าฯ มาเยีย่ มชมชุมชนบ้านเขานา” ...ผญ.ชัยยุทธ กล่าว ..นี่คอื อีกหนึ่งผลผลิตของโรงเรียนผูน้ ำ� สุขภาวะมุสลิมไทย มูลนิธสิ ร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)


พลังชีวิต

พ.อิสมาอีล

ภูมิอากาศที่เปลี่ยนไป

เป็ นทีท่ ราบกันดีแล ้วว่าภูมอิ ากาศในปัจจุบนั ได้เปลีย่ นแปลงไปจากอดีตมาก ฤดูหนาว ก็หนาวเหน็บ ฤดูรอ้ นก็รอ้ นปานจะละลายไปกับแสงแดด ฤดูฝนน�ำ้ ก็ท่วม ดินทะลาย ไร่นาจม อยู่ใต้นำ �้ เป็ นเพราะโลกขาดความสมดุล เมือ่ คิดมาถึงจุดนี้กท็ ำ� ให้อดคิดต่อไปไม่ได้วา่ ถ้าโลกเราอยูใ่ กล ้ดวงอาทิตย์หรือห่างจาก ดวงอาทิตย์อกี เพียงไม่กเ่ี ซนติเมตรสิง่ มีชวี ติ บนโลกคงมีชวี ติ อยูไ่ ม่ได้ ถ้าโลกเรามีพ้นื ดินมากกว่า พื้นน�ำ ้ สิง่ มีชวี ติ บนโลกนี้คงขาดน�ำ้ ทีม่ าจากน�ำ้ ฝนทีก่ ลันมาจากน� ่ ำ้ ทะเลจนมีชวี ติ อยู่อย่างล�ำบาก หรือไม่กไ็ ม่สามารถด�ำรงชีวติ อยูบ่ นโลกนี้ได้ ถ้าโลกนี้ขาดนก แมลง หรือสัตว์รวมทัง้ แรงลมทีช่ ่วย ผสมเกสร และกระจายพันธุไ์ ม้ ไปสูส่ ถานทีต่ ่างๆ ก็จะท�ำให้ป่าไม้มีไม่มากพอทีจ่ ะผลิตออกซิเจน เพือ่ ให้มนุษย์และสัตว์มชี วี ติ อยู่ได้ อีกทัง้ ยังมีสตั ว์กนิ เนื้อคอยควบคุมมิให้สตั ว์บางชนิดมีมาก เกินไปจนเป็ นภัยต่อระบบนิเวศและมนุษย์ และถ้าโลกนี้ไม่มพี ชื และสัตว์เพือ่ เป็ นอาหารในการ ยังชีพแก่สง่ิ มีชวี ติ ต่างๆ รวมทัง้ มนุษย์ สิง่ มีชวี ติ บนโลกก็คงสูญพันธุไ์ ปจากโลกนี้นานแล ้ว เพียงบางส่วนทีก่ ล่าวมาข้างต้น ย่อมแสดงให้เห็นว่าโลกและสิง่ มีชวี ติ บนโลกรวมทัง้ จักรวาล มิได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญอย่างทีห่ ลายคนเข้าใจ หากแต่ทงั้ หมดถูกให้บงั เกิดขึ้นโดยมี เป้ าประสงค์ทแ่ี น่นอน พร้อมทัง้ ถูกวางระบบทีส่ มดุลและเหมาะสมเพือ่ ความอยู่รอดของมนุษย์ และสิง่ มีชวี ติ อีกทัง้ ยังมีการควบคุมให้ทกุ อย่างด�ำรงอยู่ ณ จุดทีค่ วรจะเป็ น ไม่หา่ งจนเกินไป ไม่ ใกล ้จนเกินไป และไม่มากไม่นอ้ ยจนเกินไป แต่ปญั หาทีเ่ กิดขึ้นจนท�ำให้ภมู อิ ากาศของโลกต้อง เปลีย่ นไปก็คอื มนุษย์ เพราะมนุษย์กเ็ ป็ นสิง่ ถูกสร้างเช่นกัน แต่ถกู สร้างให้มคี วามสามารถเหนือ กว่าสิง่ มีชวี ติ อืน่ ๆ ซึง่ แน่นอนด้วยความเหนือกว่าสิง่ มีชวี ติ อืน่ ๆ นี่เอง มนุษย์จงึ สามารถสร้างสรรค์ สิง่ ใหม่ๆ เพือ่ สนองความสุขของตนได้ อีกทัง้ ก็สามารถรักษาความสมดุลของสิง่ ต่างๆ บนโลก นี้ได้ดว้ ย แต่ตรงกันข้าม มนุษย์กส็ ามารถท�ำลายความสมดุลทีถ่ กู สร้างมาเพือ่ สนองตัณหาของ ตนได้เช่นกัน ...มาถึง ณ จุดนี้ เชือ่ หรือยังว่าพระเจ้ามีจริง เพราะจักรวาลนี้หากไม่มผี ู ้ก�ำหนด

ของทุกสิง่ จะไม่บงั เกิดขึ้นอย่างแน่ นอน ทุก อย่ า งจะสับ สนอลหม่า น ดวงดาว ต่างๆ ทีม่ แี รงดึงดูดไม่เท่ากันคงจะวิง่ ชนกันจนแหลกลาน ฉะนัน้ จงก้มหน้า ผากของเราลงสู่พ้ ืนเพือ่ ขอบคุณพระผู ้ เป็ นเจ้าทีพ่ ระองค์ทรงมีเมตตาต่อพวก เราเถิด และอย่าได้ทำ� ลายสิง่ ทีพ่ ระองค์ ประทานมาให้อีกเลย และจงกระท�ำใน สิง่ ทีพ่ ระองค์ทรงใช้ และจงออกห่างจาก สิง่ ทีพ่ ระองค์ทรงห้ามเถิด โอ้เพือ่ นร่วม และคอยควบคุมดูแล ความเป็ นระเบียบและความสัมพันธ์และเอื้อประโยชน์ต่อกัน โลกเอ๋ย... จดหมายข่าววารสารสุขสาระ

17


สุขภาพน่ารู้

อะหมัดซอและห์

เบาหวาน

ผลส�ำรวจในประเทศไทยล่าสุดพบ ว่า ประชากรทีม่ อี ายุ 15 ปี ขึ้นไป เป็ นเบาหวาน ถึง 7% นัน่ คือ ขณะนี้มปี ระชากรไทยมากกว่า 3 ล ้านคนเป็ นเบาหวาน เป็ นทีท่ ราบกันว่าโรค เบาหวานเป็ นโรคถ่ายทอดทางกรรมพันธุ ์ อีก ทัง้ การด�ำเนินชีวิตของคนในปัจจุบนั อยู่ใน ภาวะรีบเร่ ง รับประทานอาหารที่เพิ่ม แป้ ง น�ำ้ ตาล และไขมันมากกว่าอาหารประเภทมีใย อาหาร รวมทัง้ ขาดการออกก�ำลังกายทีเ่ หมาะ สม โรคเบาหวานขึ้ น ตา เป็ นโรค แทรกซ้อนที่เกิดขึ้นกับจอประสาทตาของผู ้ ป่ วยโรคเบาหวาน ในระยะแรกๆ นัน้ จะไม่ แสดงอาการใดๆ ออกมาให้เห็น อาการจะ ค่อยเป็ นค่อยไป จึงท�ำให้ผูป้ ่ วยส่วนใหญ่ไม่รู ้ ตัว และละเลยไม่เข้ารับการตรวจสภาพตาตาม ค�ำแนะน�ำของแพทย์ เมือ่ ผูป้ ่ วยโรคเบาหวาน มีภาวะน�ำ้ ตาลในเลือดสูงกว่าปกตินานหลายปี จะท�ำให้เส้นเลือดฝอยทัวร่​่ างกายเปลีย่ นแปลง ไป เช่น ทีผ่ นังหลอดเลือดในจอประสาทตา ผิดปกติ มีเม็ดเลือด น�ำ้ เหลืองและไขมันซึม

18

มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)

ขึ้นตา

ออกมาในจอประสาทตา ท�ำให้จอประสาทตาบวมขาดออกซิเจน เมือ่ เป็ นเช่นนี้นานๆ จะท�ำให้ เส้นเลือดงอกใหม่มเี ลือดออกง่าย น�ำ้ วุน้ ตาขุน่ มัว จอประสาทตาลอกและท�ำให้ตาบอดในทีส่ ุด ...........................

มีรายงานพบว่า 2% ของผูป้ ่ วยเบาหวาน มักสูญเสียสายตาเหตุจากโรคเบาหวาน นอกจากนัน้ ยังพบว่า โอกาสที่คนเป็ นเบาหวานจะตาบอดมีมากกว่าคนปกติถึง 20 เท่า ...........................

ซึง่ โอกาสการเกิดโรคเบาหวาน ขึ้นตาจะเป็ นไปตามระยะเวลาทีเ่ ป็ นโรคเบาหวาน เช่น เป็ นโรคเบาหวานนาน 10 ปี มีโอกาสพบโรคเบาหวานขึ้นตาได้ ประมาณ 10% เป็ นโรคเบาหวาน นาน 15 ปี มีโอกาสพบโรคเบาหวานขึ้นตาได้ประมาณ 50% และเป็ นโรคเบาหวานนาน 25 ปี มี โอกาสพบโรคเบาหวานขึ้นตาได้ประมาณ 80-90% ผูป้ ่ วยเบาหวานควรมารับการตรวจตาจากจักษุแพทย์ แม้วา่ ตาจะมองเห็นปกติกต็ าม โดยระยะเวลาทีค่ วรได้รบั การตรวจครัง้ แรก และติดตามผล ซึง่ แนะน�ำโดยราชวิทยาลัยจักษุ แพทย์แห่งประเทศไทย คือ 1. ผูป้ ่ วยทีเ่ ริ่มเป็ นเบาหวานเมือ่ มีอายุ 0-30 ปี ควรตรวจตาหลังเป็ นเบาหวาน 5 ปี หลังจากนัน้ ควรตรวจอย่างน้อยปี ละครัง้ 2. ถ้าเป็ นเบาหวานตอนอายุ 31 ปี ข้นึ ไป ควรรับการตรวจตาทันทีทพ่ี บเบาหวาน และ ตรวจตาต่อเนื่องอย่างน้อยปี ละครัง้ 3. ผูป้ ่ วยเบาหวานทีต่ งั้ ครรภ์ ควรตรวจตาทันทีทต่ี งั้ ครรภ์หรือใน 3 เดือนแรกของการ ตัง้ ครรภ์ นอกจากนี้ผูป้ ่ วยโรคเบาหวานควรคุมระดับน�ำ้ ตาลในเลือด ระดับไขมันในเส้นเลือด และความดันโลหิต เพือ่ ป้ องกันไม่ให้เกิดโรคเบาหวานขึ้นตา


การมองเห็น ของคนปกติทั่วไป

การมองเห็น ของคนเบาหวานขึ้นตา

การรักษาโรคเบาหวานขึ้นตาในระยะแรกต้องมาตรวจตาตามทีแ่ พทย์นดั หากพบความ ผิดปกติแพทย์จะพิจารณาให้การรักษาทีเ่ หมาะสมต่อไป ซึง่ ผลการรักษาจะขึ้นอยู่กบั หลายปัจจัย เช่น ระยะเวลาทีป่ ่ วยเป็ นโรคเบาหวาน การ ควบคุมระดับน�ำ้ ตาลในเลือดของผูป้ ่ วยโรคเบาหวาน สุขภาพทัวไปของผู ่ ป้ ่ วย โรคเบาหวานและ ทีส่ ำ� คัญคือความผิดปกติของตาก่อนรับการรักษาว่าเป็ นมากน้อยระดับใด ผูป้ ่ วยโรคเบาหวานทุกรายจ�ำเป็ นต้องรับการตรวจตาโดยจักษุแพทย์ เป็ นประจ�ำอย่าง มัสยิดอัลฮะรอม ตัง้ อยู่ทน่ี ครมักกะฮฺหรือทีค่ นไทยรูจ้ กั ในชื่อ เมกกะ ประเทศซาอุดอิ าระเบีย เป็ นศูนย์กลางในการปฏิบตั ิ ศาสนกิจของมุสลิมทัว่ โลก และเป็ นสถานทีต่ งั้ ของสิง่ ส�ำคัญต่างๆ เช่น กะอฺบะฮฺ บ่อน�ำ้ ซัมซัม มะกอมอิบรอฮีม รวมทัง้ เส้นทางสะแอ ระหว่างภูเขาศอฟากับเนินเขามัรวะ มัส ยิด เป็ น อาคารล อ้ มรอบลานโล่ ง ที่มีก ะอฺ บ ะฮ์เ ป็ น ศูนย์กลาง “แท้จริงบ้านหลังแรกที่ถูกสร้างขึ้นส�ำหรับมนุ ษย์ นัน้ คือ ที่มกั กะฮฺ (กะอฺ บะฮฺ ) เป็ นที่จำ� เริญและเป็ นทางน�ำแก่ประชาชาติ ทัง้ หลาย” (อัลกุรอาน ซูเราะฮฺ อาลีอมิ รอน : 96)

น้อยปี ละครัง้ เนื่องจากระยะแรกของโรคอาจ ไม่มอี าการแสดงใดๆ นอกจากการควบคุม ระดับน�ำ้ ตาล ในเลือดแลว้ ต้องรักษาสุขภาพ ควบคุมความดันโลหิตและไขมันในเส้นเลือด ออกก�ำลังกายสม�ำ่ เสมอ เลือกทานอาหารทีม่ ี ประโยชน์เน้นรับประทานประเภทผักใบ เช่น ผักกาดขาว ขึ้นฉ่ าย ต�ำลึง คะน้า หลีกเลีย่ ง อาหารหวาน มัน เค็ม งดสูบบุหรี่ และเครื่อง ดืม่ แอลกอฮอล์จะช่วยให้สุขภาพแข็งแรงและ ลดความเสีย่ งจากโรคเบาหวานขึ้นตาได้ ข้อมูล กรมการแพทย์ http://www.thairath.co.th/content/296939 http://haamor.com/th

ภาพปก

จดหมายข่าววารสารสุขสาระ

19


เลิกบุหรี่เริ่มที่บ้าน

กัลยาณา

นายมะรอนิง ยูนุ (แบเฮง) ต�ำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน และเป็นประธาน อสม.

ส�ำหรับสุ ขสาระฉบับนี้ขอเล่าย้อน เรื่องของนายมะรอนิง ยู นุ (แบเฮง) ซึ่งมี ต�ำ แหน่ ง เป็ น ผู ใ้ หญ่ บ า้ นและเป็ น ประธาน อสม. ทีม่ าร่วมเป็ นอาสาสมัครพาเลิกบุหรี่ใน โครงการเลิกบุหรี่เริ่มที่บา้ น ที่ดฉิ นั น�ำเสนอ เรือ่ งราวของแบเฮงมาเล่าอีกครัง้ ก็สบื เนื่องจาก ที่ดฉิ นั ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าผลการ ด�ำเนินงานเมือ่ วันที่ 25 เมษายน 2559 ทีผ่ ่าน มา ดิฉนั เองมีความรูส้ กึ ว่าการด�ำเนินงานของ แบเฮงมีความก้าวหน้าอย่างมีรูปแบบตัง้ แต่วนั แรกทีเ่ ข้ามาร่วมกับโครงการฯ โดยดิฉนั จะขอ เริ่มต้นเล่าจากวันแรกจนถึงปัจจุบนั เรามาดู กันว่าแบเฮงคนนี้เขามีอะไรทีน่ ่าสนใจและรูป แบบการด�ำเนินงานของเขาเราสามารถน�ำมา เป็ นต้นแบบการด�ำเนินงานของเราได้หรือไม่ อย่างไรมาดูกนั ค่ะ นายมะรอนิง ยูนุ หรือเรียกสัน้ ๆ ว่า แบเฮง เริ่มแรกทีท่ มี งานดิฉนั เข้าไปติดต่อกับ แบเฮงเพือ่ ทาบทามให้มาร่วมโครงการฯ เรา นัดเจอกันทีส่ วนสาธารณะแห่งหนึ่งในอ�ำเภอ เมืองนราธิวาส เนื่องจากแบเฮงมาท�ำธุระแถว

20

มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)

...เลิกบุหรี่เริ่มที่บ้าน...

ตอน ฮีโร่ ตา้ นบุ หรี่

นัน้ พอดี เริ่มต้นเลยเราก็อธิบายความเป็ นมา รายละเอียดการด�ำเนินงาน และความมุง่ หวังของ โครงการฯ ให้แบเฮงฟัง จากนัน้ ทางทีมงานชวนให้แบเฮงหาทีมมาร่วมโครงการฯ ด้วยประมาณ ต�ำบลละ 2 คน ในอ�ำเภอเมือง โดยให้แบเฮงเป็ นคนคัดเลือกเองว่าจะเอาใครมาร่วมทีม และหลัง จากนัน้ ดิฉนั ก็ประสานแบเฮงอีกครัง้ เพือ่ มาร่วมรับฟังข้อมูลและรูปแบบการท�ำงานฉบับเต็มใน งานเปิ ดตัวโครงการฯ เมือ่ วันที่ 18 พฤษภาคม 2558 ณ โรงแรม ซีเอสปัตตานี และนัดอีกครัง้ เมือ่ วันที่ 18 มิถนุ ายน 2558 รอบนี้เป็ นการอบรมให้ความรูใ้ นเนื้อหารายละเอียดและอันตราย เกี่ยวกับบุหรี่ อีกทัง้ ยังให้ความรูเ้ กี่ยวกับการให้คำ� แนะน�ำและให้กำ� ลังใจแก่ผูท้ ต่ี อ้ งการเลิกบุหรี่ ซึง่ เป็ นหัวใจส�ำคัญในการทีจ่ ะกลับไปเป็ นอาสาสมัครพาเลิกบุหรี่ และช่วงสุดท้ายของงานดิฉนั ได้ช้ แี จงรายละเอียด กระบวนการท�ำงานและการติดตามผลการลงพื้นทีท่ ำ� งานจริงหลังจากได้ มีการอบรมเสร็จเรียบร้อย ระยะเวลาผ่านไป 3 เดือน ทีมงานได้นดั ทีมอาสาสมัครพาเลิกบุหรีม่ ารายงานผล แรกๆ ผลการด�ำเนินงานของแบเฮงเป็ นการเริ่มต้นชักชวนให้คนเลิกบุหรี่โดยเริ่มจากคนใกลช้ ดิ ซึง่ ยัง ไม่มคี วามร่วมมืออย่างมีกระบวนการ แต่เป็ นการท�ำงานแบบส่วนตัวหรือเป็ นการชักชวนแบบตัว ต่อตัว ซึง่ ก็สามารถท�ำให้คนเลิกบุหรี่ได้ 2 คน แต่หลังจากระยะเวลาผ่านไป 6 เดือน เห็นความ ชัดเจนกับวิธกี ารทีแ่ บเฮงได้ดำ� เนินการ แบเฮงเล่าว่าหลังจากทีไ่ ด้ไปน�ำเสนอวิธกี ารทีจ่ ะรณรงค์


เรื่องบุหรี่วา่ จะต้องท�ำอย่างไรบ้างในกิจกรรมรวมพลศิษย์เก่า สสม. ในการมหกรรมอาหารและ วัฒนธรรมมุสลิมไทย ครัง้ ที่ 6 ทีผ่ ่านมา ก็เห็นความจ�ำเป็ นและเห็นความส�ำคัญทีจ่ ะต้องท�ำงาน รณรงค์เรื่องบุหรี่อย่างจริงจัง และสิง่ ทีส่ ำ� คัญมากไปกว่านัน้ แบเฮง บอกว่า เมือ่ น�ำเสนอในห้อง ประชุมแล ้ว ก็ควรน�ำสิง่ ทีน่ ำ� เสนอมาท�ำให้สำ� เร็จให้ได้ จึงมุง่ เป้ าทีจ่ ะรณรงค์เรื่องบุหรี่ให้กระจาย ในหมูบ่ า้ น และมุง่ มันที ่ จ่ ะท�ำให้ชมุ ชนทีอ่ ยู่ในความรับผิดชอบเป็ นชุมชนปลอดบุหรีใ่ ห้ได้ แบเฮง จึงเริ่มต้นการด�ำเนินงานอย่างมีระบบตามทีเ่ สนอ ดังนี้ 1. ส�ำรวจข้อมูลในชุมชน ว่ามีจำ� นวนผูส้ ูบบุหรี่ในชุมชนเท่าไร มากน้อยแค่ไหน ซึง่ ได้ ท�ำการส�ำรวจเรียบร้อยแล ้ว 2. จัดตัง้ กลุม่ ทีม่ แี นวความคิดเดียวกัน เป็ นคณะท�ำงานในชุมชน เพือ่ วางแผนการ ท�ำงานรณรงค์ลดละเลิกบุหรี่ โดยได้รบั ความร่วมมือเป็ นอย่างดีกบั อิหม่ามและทีมกรรมการ มัสยิดและกรรมการชุมชน และกลุม่ อืน่ ๆ ทีม่ ใี นชุมชน 3. ประชาสัมพันธ์ เสียงตามสาย เรือ่ งโทษพิษภัยของบุหรี่ โดยของแบเฮงได้มกี ารบรรจุ เรื่องบุหรี่ในคุตบะฮฺวนั ศุกร์เดือนละ 1 ครัง้ 4. รณรงค์กบั กลุม่ ผูท้ ย่ี งั สูบบุหรี่ ให้ลดจนถึงเลิกสูบบุหรี่ และหามาตรการป้ องกันกลุม่ เสีย่ ง ทีไ่ ม่สูบบุหรี่และกลุม่ เยาวชนทีก่ ำ� ลังสนใจอยากจะลองโดยให้ผูท้ เ่ี คยสูบบุหรี่มาก่อน เล่า ประสบการณ์การเลิกสูบบุหรี่ ทัง้ นี้ได้เริ่มต้นแล ้วด้วยการจัดค่ายเยาวชนให้เกิดขึ้นในหมูบ่ า้ น 5. ประสานความร่วมมือจากหน่วยงานทีเ่ กี่ยวข้อง 6. เริ่มต้นรณรงค์ให้เลิกสูบบุหรี่ทค่ี รอบครัวของคณะท�ำงานก่อน และขยายผลไปสู่ ครอบครัวอืน่ ๆต่อไป 7. หางบประมาณมาสนับสนุ นการท�ำงาน ซึ่งล่าสุดแบเฮงขอไว้กบั ทางเทศบาลอยู่ ระหว่างประสานงาน

ซึง่ จะเห็นได้วา่ จากการทีแ่ บเฮงได้มา ร่วมเป็ นอาสาสมัครพาเลิกบุหรี่และดึงเขาเข้า มาร่วมงานกับ สสม. ท�ำให้แบเฮงเกิดการต่อย อดโครงการ ซึ่งไม่เพียงแต่จะท�ำแค่รณรงค์ ให้คนเลิกบุหรี่แบบตัวต่ อตัวกับบุคคลใกล ้ ชิด แต่แบเฮงพยายามสร้างเครือข่ายให้เกิด เป็ นกลุ่มใหญ่ เพื่อให้เกิดผลกระทบที่กว้าง มากขึ้นโดยครอบคลุมทัง้ หมดในชุมชน ซึ่ง อนาคตข้างหน้าคาดว่าชุมชนทีอ่ ยู่ในความรับ ผิดชอบของแบเฮงจะได้เป็ นชุมชนปลอดบุหรี่ ได้ในทีส่ ุด โดยทีมงานเองจะพยายามเข้าไปมี ส่วนร่วมให้ได้มากทีส่ ุดเท่าทีม่ คี วามสามารถ จะลงไปร่วมได้ อินชาอัลลอฮฺ จดหมายข่าววารสารสุขสาระ

21


อานสุขสาระที่บาน งายๆ

โดย โอนเงินเขาบัญชี “วารสารสุขสาระ” บัญชีเลขที่ 403-514520-1 ธนาคารไทยพาณิชย สาขา จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย พรอมสำเนาใบโอน มาที่ มูลนิธิสรางสุขมุสลิมไทย (สสม.) เลขที่ 1 หมู 13 แขวง/เขตมีนบุรี กทม.10510

น ุ น ส บ ั น ส เพียงทาน ัดสง คาจ ท า บ ปละ

200

สมาชิกที่ชำระคาจัดสงแลว หากยังไม ไดรับหนังสือ กรุณาแจงที่อยู ใหมพรอมรายละเอียด มาที่ โทรศัพท. 02-218-6193

พื้นที่

โฆษณา

ธนาคารอิสลาม สาขารามค�ำแหง 87 บัญชีเลขที่ 109-1-03034-0

ติดต่อ 08-7290-2680 e-mail : hidayahdesign@gmail.com www.facebook.com/hidayahdesignHD Line id : ar-ie-cha

สนับสนุ น “สุขสาระ” โดยการลงโฆษณา 22

มูลนิธิสร้างสุขมุสลิมไทย (สสม.)


ÀÑÂà§Õº...ã¹ËŒÍ§¹Í¹

ÊÒà˵Ø

à¤Ã×่ͧ»ÃѺÍÒ¡ÒÈ

໚¹·Õ่ÊÐÊÁ¢Í§½†Ø¹áÅÐàª×้Íâä â´Â੾ÒкŒÒ¹·Õ่ÍÂÙ‹ã¡ÅŒºÃÔàdz·Õ่ÁÕ ½Ø†¹àÂÍÐËÃ×ÍÍÂÙ‹µÔ´¡Ñº¶¹¹

ËÁ͹áÅзÕ่¹Í¹

໚¹áËÅ‹§ÃÇÁ¢Í§àª×้ÍẤ·ÕàÃÕ ʻÍà ¢Í§àª×้ÍÃÒ äý؆¹ áÅÐÊÔ่§Ê¡»Ã¡µ‹Ò§æ ÍÒ¨·ÓãËŒà¡Ô´ ÍÒ¡ÒÃᾌ à¨็º¤Í »Ç´ÈÕÃÉÐ

ÊÑµÇ àÅÕ้§

¢¹¨Ò¡ÊÑµÇ àµ็Áä»´ŒÇÂÊÒá‹ÍÀÙÁÔᾌ ઋ¹ ÊÐà¡็´¼ÔÇ˹ѧ¢Í§ÊÑµÇ àÅÕ้§ ½Ø†¹ ÅÐÍͧà¡Êô͡äÁŒ áÅÐẤ·ÕàÃÕÂ

¾ÃÁ

໚¹áËÅ‹§ÊÐÊÁ½Ø†¹ áÅÐÊÔ่§Ê¡»Ã¡ ¨Ò¡à·ŒÒ áÅÐ໚¹·Õ่ÊÐÊÁ¢Í§ËÁÑ´ ¨Ò¡ÊÑµÇ àÅÕ้§·Õ่Áҹ͹º¹¾ÃÁ

à¿Íà ¹Ôà¨ÍÃ

ÇԸըѴ¡ÒÃ...

ÍØ»¡Ã³ à¤Ã×่ͧ㪌áÅÐà¿Íà ¹Ôà¨Íà ÁÕÊÒÃà¤ÁÕÃÐàËÂÍÂÙ‹ÀÒÂã¹ËŒÍ§ Ê‹§¼Å¡Ãзºµ‹ÍÊØ¢ÀÒ¾

à¿Íà ¹Ôà¨ÍÃ

ËÁ͹ áÅзÕ่¹Í¹

à¤Ã×่ͧ»ÃѺ ÍÒ¡ÒÈ

¾ÃÁ

ÊÑµÇ àÅÕ้§

à» ´»Ãе٠˹ŒÒµ‹Ò§ à¾×่ÍãËŒÊÒÃà¤ÁÕ ¨Ò¡à¿Íà ¹Ôà¨Íà ÃÐàËÂÍÍ¡¨Ò¡ ˌͧãËŒËÁ´

«Ñ¡·Õ่¹Í¹ ãËŒÊÐÍÒ´ µÒ¡ãËŒáËŒ§ à»ÅÕ่¹»ÅÍ¡ËÁ͹ ·Ø¡ÊÑ»´ÒË

¤ÇõÃǨÊͺ ¡ÒÃÍØ´µÑ¹¢Í§á¼‹¹ ¡ÃͧÍÒ¡ÒÈ ÅŒÒ§Í‹ҧ¹ŒÍ à´×͹ÅÐ 1 ¤ÃÑ้§

¤Çëѡ ·Ø¡à´×͹ áÅдٴ½Ø†¹ ·Ø¡ÊÑ»´ÒË

¨Ñ´ËÒ·Õ่¹Í¹ãËŒàËÁÒÐ ÊÓËÃѺÊÑµÇ àÅÕ้§ äÁ‹¤ÇÃãËŒÊÑµÇ à¢ŒÒÁÒ ÀÒÂã¹ËŒÍ§

ด้วยความปรารถนาดีจาก

แผนงานสร้างเสริมสุขภาวะมุสลิมไทย



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.