กรุงเทพธุรกิจ Bizweek

Page 1

สูตรเล่นหุน้ ‘ชาคริต ทีปกรสุขเกษม’ เอ็มดีหนุม่ CCP 7

3 พุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ ไต่เพดานบินเร็ว เผชิญทุกทัศนวิสัย www.bangkokbiznews.com

หนังสือพิมพ์ธุรกิจรายสัปดาห์ กรุงเทพธุรกิจ BizWeek : bizweek@nationgroup.com ปีที่ 6 ฉบับที่ 351 วันที่ 7 มีนาคม 2554

อีอ้ ู โมเดล ลามปรากฏการณ์ อาเซียน-ลาว จีน ‘ฮุบ’! ประกายดาว แบ่งสันเทียะ

‘โครงการการเงินขนาดจิ๋ว’ แง่งามความคิด

ไม่เพียงไทยจะถูกทุนจีนเดินเกม ตั้งโชว์รูมสินค้าจีนใหญ่คับอาเซียน ในชื่อ China City Complex จีนยังใช้ “อี้อู โมเดล” นี้ เผยแผ่อาณานิคมการค้า ลามไปทั่วอาเซียน ทั้งสิงคโปร์ มาเลย์ อินโด ไปถึง ลาว ปักธงการค้า-ลงทุน ขณะที่มูลค่าการค้าจีน กลายเป็นเบอร์ 1 ในอาเซียน พม่า ลาว แซงหน้าไทย ไปเรียบร้อยโรงเรียนจีน

นิสิตเพื่อชุมชน

4

เส้นทางลัดก้าวสู่ ธุรกิจ

‘บูติค โฮเต็ล’

5 ยุทธศาสตร์การเคลื่อนทัพของกลุ่มทุนจีน ที่เริ่มประชิด

ทฤษฎีว่าด้วย ความเกรงใจ

3

ยุทธศาสตร์สิบปี

อาเซียนมากขึ้นเรื่อยๆ แถมยังเป็นการมาอย่างมีชั้นเชิงทั้งขนาดของเงิน ทุน และขนาดของพื้นที่ หน�ำซ�้ำยังเคลื่อนไหวเร็วรุนแรง อย่างมังกรหนุ่ม ไทยยังไม่ใช่รายแรกทีท่ นุ จีนรุกเข้ามาสร้างศูนย์การค้าส่ง และกระจาย สินค้าครบวงจร หรือ China City Complex โดยใช้ “อี้อู” โมเดล หรือ รูปแบบศูนย์การค้าส่งขนาดใหญ่ทสี่ ดุ ในโลกอยูใ่ นมณฑลเจ้อเจียง เป็นต้น แบบ ก่อนหน้านีส้ นิ ค้าจีนได้เข้าไปแทรกซึมในลักษณะของการเปิดศูนย์คา้ ส่งและกระจายสินค้าลักษณะเช่นนี้ในหลายประเทศ ประสบความส�ำเร็จ บ้าง โดนต่อต้านหนักจากผู้ประกอบการในประเทศบ้าง ไม่ต่างจากการ ฟาดหัวฟาดหางของภาคเอกชนไทย ผ่านสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) อาทิเช่น การเข้าไปตัง้ ศูนย์กระจายสินค้าจีนในประเทศสเปน และเมือง ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึง่ ได้รบั การตอบรับค่อนข้างดี ต่างจาก ศูนย์กระจายสินค้าจีนหลายแห่งในรัสเซีย ทีถ่ กู ต่อต้านหนัก ถึงขัน้ “จุดไฟ เผา” จนศูนย์เหล่านี้ต้องทยอยลดขนาดอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัวมากขึ้น

ส�ำหรับอาเซียนนั้น จีนพยายามอาศัยข้อตกลงทางการค้า การลงทุน และภาคบริการ เพื่อเป็นแต้มต่อในการเข้ามาลงทุนในอาเซียน โดยความ ตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน (ACFTA) ที่ได้ลงนามไปแล้วเมื่อเดือน พฤศจิกายน 2547 เริ่มมีผลลดภาษีน�ำเข้าสินค้าระหว่างกันในปี 2548 โดยตัง้ แต่วนั ที่ 1 มกราคม 2553 อัตราภาษีของสินค้าซึง่ ครอบคลุมรายการ สินค้ากว่า 90% ของรายการสินค้าทั้งหมดได้ลดภาษีน�ำเข้าลงเหลือ 0% ส่วนการเปิดเสรีการลงทุนและภาคบริการภาษีนำ� เข้ารอบแรก (ใน บางสาขา) เริม่ มีผลบังคับใช้ในปี 2550 ส่วนรอบสองเพิง่ เจรจาแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างรอเสนอให้ ครม.พิจารณา ก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ต่อไป นัน่ เท่ากับว่าในอนาคตอาจจะ “เปิดกว้าง” ให้ธรุ กิจค้าส่งและค้าปลีก ของจีนขยายการลงทุนในไทยได้มากกว่าเดิมที่ถูกกันไว้เป็นอาชีพสงวน ส�ำหรับคนไทย ตามบัญชีแนบท้าย 3 ของ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของ คนต่างด้าว โดยให้ต่างชาติถือหุ้นได้ไม่เกิน 49% และเป็นธุรกิจที่ไม่ได้รับ การส่งเสริมการลงทุน โครงการนี้ยังจัดเป็นศูนย์ค้าส่งและกระจายสินค้า ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ตามแผนจะเปิดให้บริการปี 2556 วัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

‘ธนาคารกรุงเทพ’

โตนอกบ้าน รับขาขึ้น ‘ทศวรรษแห่งเอเชีย’

โอกาสโตในประเทศเริ่ ม ‘ตัน’ ยุทธศาสตร์ ‘ธนาคารกรุงเทพ’ ภายในสิบปี หลังจากนี ้จึงมุง่ ขยายสาขาและออกไปเติบโตนอก บ้ านรองรับ ‘ทศวรรษแห่งเอเชีย’ ซึง่ ถือเป็ นจุดแข็งของธนาคาร แห่งนี ้ที่คแู่ ข่งไม่สามารถก้ าวตามได้ ทนั ในมุมมองของ ‘โฆสิต ปั น้ เปี่ ยมรัษฎ์’ ยังเห็นว่าภูมิภาคนี ้น่า จะเติบโตต่อเนื่องได้ ยาวนานถึงสิบปี และศักยภาพเศรษฐกิจน่า จะเหนือกว่าฝั่ งตะวันตก 8

(ส.อ.ท.) ในฐานะหนึ่งในคณะกรรมการศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรี อาเซียน-จีนฝ่ายภาคเอกชน ให้ความเห็นว่า มีโอกาสอย่างสูงที่จีนจะใช้ เวทีความตกลงการค้าอาเซียน-จีน เพื่อเจรจาเปิดเสรีการลงทุนและภาค บริการ โดยขอให้ไทยขยายสัดส่วนการถือหุ้นของนักลงทุนต่างชาติใน กลุ่มธุรกิจบริการ โดยเฉพาะธุรกิจค้าส่ง ค้าปลีก หรือหากไม่ได้รับการ ตอบสนองจากอาเซียน ก็เป็นไปได้ที่จีนจะผลักดันผ่านเวทีเจรจา 2 ฝ่าย (ทวิภาคี) ตามข้อตกลงเขตการค้าเสรีไทย-จีน (เอฟทีเอไทย-จีน) วัลลภบอกว่า ในอาเซียนนักลงทุนจีนเคยเข้าไปเจรจาขอตั้งศูนย์ค้า ส่งและกระจายสินค้าลักษณะนี้ในสิงคโปร์ และมาเลเซีย แต่ได้รับการ ปฏิเสธข้อเสนอ เพราะสองประเทศนี้เป็นเทรดเดอร์ (ท�ำธุรกิจซื้อมาขาย ไป) เข้าใจดีถึงมหันตภัย ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับการเข้ามาเปิดศูนย์ค้า ส่ง หรือกระจายสินค้าอย่างเป็นล�่ำเป็นสัน แม้แต่ในอินโดนีเซีย ก็เกือบจะได้ตั้งศูนย์กระจายสินค้าจีนเช่นกัน แต่ด้วยความแข็งแกร่งพ่อค้าในอินโดนีเซีย ลุกฮือขึ้นมาต่อต้านสินค้าจีน อย่างรุนแรง จนจีนต้องจบความคิดที่จะเผยแพร่อิทธิพลทางการค้าใน

2


2 100

รอยละของผูที่รูจักประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

80 %

60 40

100

100 80

86.67

% รูจัก ACE ไมรูจัก ACE

20 0

รอยละของผูที่เขาใจความตกลงประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

13.33

ชาวนา

โรงสี

60 40

100

90.00

20 0

ชาวนา

10.00

โรงสี

เขาใจ ACE ไมเขาใจ ACE

สำรวจการรับรูและความเขาใจ ของชาวนาไทยและโรงสี

ที่มีตอประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่มา : ศูนยศึกษาการคาระหวางประเทศ

1

ทางเดินลอยฟ้า???

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมเชื่อว่าท่านผู้อ่านหลายท่านคง

ผ่านตา กับข่าวที่คนกรุงเทพฯ ก�ำลังจะมีทางเดินลอยฟ้าตามเส้นทาง รถไฟฟ้ามหานครกันนะครับ ผมคิดไม่ผิดครับว่าเมื่อมีข่าวนี้ออกมาจะ ต้องมีทั้งเสียงสนับสนุนและค�ำถามตามมาอีกมากมาย เท่าทีต่ ดิ ตามข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ไม่คอ่ ยเห็นการวิเคราะห์หรือ การตัง้ ค�ำถามเกีย่ วกับเรือ่ งนีส้ กั เท่าไหร่ ซึง่ อาจจะเป็นเพราะตอนนีม้ เี รือ่ ง วุน่ วายภายในประเทศเราเอง รวมถึงเหตุการณ์ความวุน่ วายในต่างประเทศ อีกมากมาย แต่ส�ำหรับคนกรุงเทพฯอย่างเราผมเชื่อว่าหลายคนให้ความ สนใจมากครับ ประเด็นเรื่องของอภิมหาทางเดินลอยฟ้ากว่า 30 กิโลเมตร ยังท�ำให้ ผมหวนคิดถึงเรื่องเรื่องหนึ่งที่ผมเคยคบคิดและตั้งค�ำถาม ซึ่งมีความ คล้ายคลึงด้านนัยของการเปลี่ยนแปลง ที่ผมเองคิดว่าน่าจะเกิดผลลัพธ์ ที่ยิ่งใหญ่มหาศาล นัน่ คือเรือ่ งของระบบเวลาของสหราชอาณาจักรทีแ่ บ่งเป็นหน้าหนาว และหน้าร้อน โดยปัจจุบันเวลาหน้าหนาวของสหราชอาณาจักรจะปรับให้ ตรงกับ GMT (Greenich Mean Time) ส่วนหน้าร้อนก็จะปรับให้เป็น GMT+1 ชัว่ โมง ซึง่ ถ้าท่านผูอ้ า่ นเคยเดินทางไปสหราชอาณาจักรช่วงหน้าหนาว ก็คงจะเคยทราบว่าในเวลาตอนเช้าพระอาทิตย์จะขึ้นเร็วมากๆ ในขณะที่ เวลาตอนเย็นก็จะมืดเร็วมาก 4 โมงเย็นก็มืดสนิทแล้ว ในช่วงระยะเวลา 2-3 ปีนี้มีการถกเถียงกันในเชิงนโยบายระดับ ประเทศทีจ่ ะเปลีย่ นแปลงการจัดระบบเวลาดังกล่าวโดยมีการเสนอให้ใน หน้าหนาว สหราชอาณาจักรจะใช้เวลา GMT+1 และในหน้าร้อนจะใช้เป็น GMT+2 ซึง่ ถ้าท่านผูอ้ า่ นนึกตามก็พอจะมองออกว่าถ้าปรับเป็นเวลาแบบ ใหม่แล้ว ตอนเช้าของหน้าหนาวที่กรุงลอนดอน แทนที่พระอาทิตย์จะขึ้น ตอนตี 5 ก็จะเปลี่ยนมาขึ้นตอน 6 โมงเช้าแทน และตอนเย็นที่เคยมืดสนิท ตอน 4 โมงเย็น ก็จะมืดตอน 5 โมงแทน พอนึกออกใช่ไหมครับ ฟังดูอาจจะเหมือนเรื่องเล็กน้อยมากๆ แค่เปลี่ยนเวลาท�ำไมต้อง คิดมากและเป็นเรื่องเชิงนโยบายระดับประเทศ แต่ถ้าหากผมยกตัวอย่าง ตามนี้ให้ท่านทราบ ท่านก็พอจะเห็นภาพว่าท�ำไมต้องเป็นเรื่องใหญ่ครับ ถ้าผมบอกว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวของสหราชอาณาจักรจะมีราย ได้เพิ่มขึ้นกว่า 3 พันล้านปอนด์ต่อปี เกิดการสร้างงานให้คนได้มากกว่า 8 หมื่นคน ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่าปีละ 5 แสนตัน ซึ่งเทียบเท่ากับการเอารถออกจากถนนทั้งสิ้น 1.5 แสนคัน ค่าใช้จ่ายใน การจัดการกับมลภาวะจะไม่ถูกส่งผ่านมายังราคาสินค้าและบริการ และ อัตราภาษีเงินได้ที่สูงอยู่แล้วส�ำหรับคนในสหราชอาณาจักร ประชาชนมีสุขภาพดีขึ้นจากการออกก�ำลังกาย ลดปัญหาโรคอ้วน ในประเทศ สหราชอาณาจักรจะสามารถประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้า จากถ่านหินได้อีกมากโข รวมถึงลดมลภาวะที่เกิดจากการเผาไหม้แหล่ง พลังงานไฟฟ้าดังกล่าว ถ้าหากชีวิตนับร้อยจะไม่ถูกพรากไปรวมถึงอีก หลายพันที่ต้องพิการเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ ท่านผู้อ่านคิดว่าเรื่อง การเปลี่ยนเวลานี้เป็นเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็กครับ ทีผ่ มยกตัวอย่างทัง้ หมดให้เห็นภาพก็เพราะว่า ถ้าหากมีการปรับเวลา ดังกล่าว ทุกคนรวมทัง้ นักท่องเทีย่ วจะสามารถใช้เวลาอยูก่ บั แสงตะวันได้ นานมากขึ้น คนมีการใช้จ่ายมากขึ้น โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ร่วงและใบไม้ ผลิ ลองนึกถึงกีฬาโอลิมปิกในปีหน้าที่จะมีนักท่องเที่ยวมากมายเดินทาง มาสิครับ อาคารส�ำนักงานและบ้านเรือนจะใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยลงเพราะ มีแสงสว่างนานขึ้น คนใช้เวลาอยู่นอกอาคารบ้านเรือนมากขึ้น อุบัติเหตุที่ เกิดจากชัว่ โมงเร่งด่วนตอนเย็นก็จะเกิดน้อยลง เพราะความสว่างจากแสง อาทิตย์มีนานขึ้น เห็นประเด็นไหมครับว่า การเปลีย่ นแปลงเวลาเพียงชัว่ โมงเดียวกลับ ส่งผลยิ่งใหญ่มหาศาลต่อกลุ่มประเทศสหราชอาณาจักร ดังนั้นไม่ใช่เรื่อง แปลกใจเลยถ้าการน�ำเสนอนโยบายนีจ้ ะถูกสนับสนุนด้วยตัวเลขทางสถิติ ต่างๆ มากมายทีผ่ า่ นการเก็บข้อมูล ศึกษา วิเคราะห์อย่างถีถ่ ว้ นและมีหลัก มีการ กลับมาทีเ่ รือ่ งทีผ่ มกล่าวไว้ขา้ งต้นถึงอภิมหาทางเดินลอยฟ้าของชาว กรุงเทพฯ ตามข่าวแล้วงบประมาณทีจ่ ะใช้ดำ� เนินโครงการนีเ้ ป็นหลักหลาย พันล้านบาท ไม่ใช่เงินจ�ำนวนน้อยๆ นะครับ ผมอยากลองถามทางทุกฝ่าย ที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดการสร้างทางเดินนี้ว่า เราได้ลองเก็บข้อมูล ศึกษา และวิเคราะห์อะไรต่ออะไรอย่างถี่ถ้วน แล้วหรือยังก่อนทีจ่ ะเริม่ ด�ำเนินการดังกล่าว ถ้าผมบอกว่าแค่เราเพียงแค่ เข้มงวดกับการวางขายของตามทางเท้า ถ้าเราเข้มงวดกับกฎหมายการ เดินรถมิให้จักรยานยนต์วิ่งบนทางเท้า ถ้าเรามีการวางแผนที่ดีในการ ขุด เจาะ ต่อเติม วางระบบท่อหรือสายไฟต่างๆ ถ้าเรายกเอาตูโ้ ทรศัพท์ ตามทางเท้าทีใ่ ช้การไม่ได้แต่เป็นทีส่ ำ� หรับแปะโฆษณาออกไปให้หมด เราอาจจะไม่จ�ำเป็นที่จะต้องเสียเงินภาษีของประชาชนอีกหลายพันล้าน บาทในการสร้างอภิมหาทางเดินลอยฟ้านี้นะครับ ผมเชื่อครับว่าเรื่องการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยากถ้าหน่วย งานที่เกี่ยวข้องต้องการที่จะเปลี่ยนจริงๆ แต่ผมคิดว่าที่ยากที่สุดที่จะ เปลี่ยน คือ “การเปลี่ยนใจคน” ที่จะได้รับผลประโยชน์จากอภิมหาทาง เดินลอยฟ้านี่ต่างหากครับ

เศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท แสนสิริ จ�ำกัด (มหาชน) แม่ทัพใหญ่ค่ายเรียลเอสเตท นักก�ำหนดกลยุทธ์ธุรกิจและ สร้างแบรนด์ให้องค์กร เขาจบเอ็มบีเอด้านไฟแนนซ์จาก Claremont Gradute School

วันที่ 7 มีนาคม 2554

อินโดนีเซียไปในที่สุด ทว่าบางประเทศที่ทุนน้อย ต้องการเงิน ลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะสาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว กลับเปิดทางให้ จีนเข้ามาช่วยเหลือทางการเงินแบบให้เปล่าผ่าน กองทุนสร้างสาธารณูปโภคของจีน แลกกับการ เปิดรับทุนจีนในธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะการขอ ตัง้ ศูนย์คา้ ส่งและกระจายสินค้าในลาว ซึง่ ลาว ตอบโอเคไปแล้ว ปัจจุบันในลาวยังมีพ่อค้า จีนเกลื่อน ทั้งขายมือถือ ขายเสื้อผ้า เครื่องใช้ เบ็ดเตล็ด ของเล่นฯลฯ จนท�ำให้ทุนไทยเคย ครองความเป็นเบอร์ 1 ในลาวมายาวนานตลอด 10 ปีทผี่ า่ นมา ต้องตกชัน้ มาอยูใ่ นอันดับ 3 เป็น รองทุนเวียดนามและจีน ข้อมูลจากส�ำนักงานส่งเสริมการค้าใน ต่างประเทศ ณ นครเวียงจันทน์ ระบุว่า หาก พิจารณามูลค่าการลงทุนสะสมของลาวในรอบ 10 ปีทผี่ า่ นมา (2543-2553) จะพบว่าจีนมีการ ลงทุนในลาวสูงสุด จ�ำนวน 356 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 2,929,644,688 ล้าน ดอลลาร์ โดยมีไทยรั้งอันดับ 2 จ�ำนวน 245 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวม 2,653,360,197 ล้านดอลลาร์ เช่นเดียวกับในพม่าทีข่ ณะนีท้ นุ จีนกลาย เป็นนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ทสี่ ดุ ในพม่า แซง ไทยที่ครองแชมป์มานาน 7 ปี โดยส่วนใหญ่

เป็นการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังน�้ำและ ก๊าซธรรมชาติ โดยยอดรวมการลงทุนตั้งแต่ปี 2531 ถึงปัจจุบนั ของทุนจีนในพม่าอยูท่ ี่ 9,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะทีไ่ ทยมียอดลงทุนรวม 9,560 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้หากพิจารณาตัวเลขทางการ ค้าระหว่างจีนกับอาเซียน ข้อมูลจากกรมเจรจา การค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ระบุ ว่า การค้าของอาเซียนและจีนขยายตัวอย่างต่อ เนือ่ ง โดยในปี 2552 จีนเป็นคูค่ า้ อันดับ 1 ของ อาเซียน มีมลู ค่าการค้ารวมกว่า 178,185 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่จีนยังเป็นคู่ค้าส�ำคัญอันดับต้นๆ ของไทยด้วยมีมลู ค่าการค้ารวมในช่วงปี 2553 (มค.-พย.) ประมาณ 41,498 ล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ เป็นมูลค่าการน�ำเข้าประมาณ 22,119 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึง่ ในปริมาณการน�ำเข้านี้ มีสดั ส่วนการใช้สทิ ธิภายใต้ความตกลงการค้า เสรีอาเซียน-จีน ประมาณ 3,721 ล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ หรือประมาณ 17% ของมูลค่าน�ำเข้า ทั้งหมดจากจีน และมีมูลค่าส่งออกประมาณ 19,379 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีสดั ส่วนการ ใช้สิทธิภายใต้ความตกลงการค้าเสรีอาเซียนจีน ประมาณ 6,588 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ ประมาณ 34% ของมูลค่าการส่งออกสินค้า ทั้งหมดไปยังจีน สินค้าส�ำคัญที่ไทยใช้สิทธิภายใต้ความ ตกลงการค้าเสรีอาเซียน-จีน ได้แก่ มันส�ำปะหลัง

การคาระหวางอาเซียนกับประเทศคูคาสำคัญในปหนวย 2552 : พันดอลลารสหรัฐ ประเทศคูคา จีน ญี่ปุน สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย สิงคโปร เกาหลีใต ไทย

อาเซียนสงออก อาเซียนนำเขา มูลคาการคารวม สวนแบงการตลาดในอาเซียน (%) 81,591,028.2 96,594,336.8 178,185,365.0 13.3 78,068,589.7 82,795,138.7 160,863,728.4 11.4 82,201,773.0 67,370,316.1 149,572,089.0 9.3 48,585,402.1 48,169,958 96,755,360.2 6.6 45,230,856.5 44,419,845.6 89,650,702.1 6.1 34,292,890.5 40,447,398.6 74,740,289.0 5.6 27,654,709.6 31,455,181.8 59,109,891.4 4.3

ที่มา : กรมสงเสริมการสงออก กระทรวงพาณิชย

ยางพารา พลาสติกขั้นปฐม และเคมีภัณฑ์ อินทรีย์ ส่วนสินค้าที่ไทยใช้สิทธิภายใต้ความ ตกลงฯเพื่อน�ำเข้าสินค้าจากจีน เช่น กระเบื้อง เครื่องจักร ผัก ผลไม้ ผ้าทอ เป็นต้น ขณะที่ในระดับโลกญี่ปุ่นเสียต�ำแหน่ง ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจอันดับ 2 ของโลก ทีค่ รองมายาวนาน 42 ปีให้จนี ไปเรียบร้อยแล้ว ในปี 2553 โดย GDP ของญี่ปุ่นอยู่ที่มูลค่า 5.474 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ GDP ของจีนอยู่ที่มูลค่า 5.879 ล้านล้านดอลลาร์ สหรัฐ โกลด์แมน แซคส์ ยังวิเคราะห์ว่า จีนจะ ขึน้ แท่นประเทศทีม่ ขี นาดเศรษฐกิจเป็นอันดับ หนึ่งของโลกแทนที่สหรัฐภายในปี 2568 ผศ.ดร.อักษรศรี พานิชสาส์น ผู้ช่วย ศาสตราจารย์ ศูนย์บริการวิชาการเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นักวิชาการผูเ้ ชีย่ วชาญ ด้านจีน วิเคราะห์การเข้ามาของกลุ่มทุนจีน ว่า นโยบายของรัฐบาลจีนต้องการส่งเสริมให้ ประชากรจีนก้าวขาไปลงทุนนอกประเทศเพือ่ ลดปัญหาเงินเฟ้อ

‘ไชน่าทาวน์’จีน กลางเมืองหลวงลาว ปรากฏการณ์เปิดประเทศล่อกลุ่มทุนต่างชาติ ด้วยมาตรการส่งเสริม

การลงทุนต่างๆ ส่งผลให้กลุ่มทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในลาวมากขึ้น จังหวะบวกกับ แรงหนุนการเปิดเสรีทางการค้าในภูมิภาคอาเซียน และการแสวงหาประเทศที่ยังมี ทรัพยากรธรรมชาติและต้นทุนค่าแรงต�่ำของทุนข้ามชาติ เพื่อสร้างความสามารถในการ แข่งขัน ท�ำให้ลาวเนื้อหอมกว่าเดิม โดยเฉพาะในสายตากลุ่มทุนจีนที่เป็นประเทศบ้าน ใกล้เรือนเคียง ที่เริ่มแผ่อิทธิพลในลาวมากขึ้นๆ ราวปี 2550 จีนเริ่มเข้าไปมีบทบาทในลาว โดยเข้าไปสนับสนุนทางการเงินในการ ก่อสร้างสนามกีฬา ซีเกมส์ มูลค่ากว่า 58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจัดขึ้นในปี 2552 กลาย เป็นการเปิดประตูการค้าลาวจีนกว้างขึ้นนับแต่บัดนั้น ภาพที่เห็นชินตาคือพ่อค้าจีนบุก เข้าตั้งตลาดค้าส่งในลาว ในชื่อตลาดซันเจียง (SAN JIANG) ในนครเวียงจันทน์ เมือง หลวงของลาว ไม่ตา่ งจาก “ไชน่าทาวน์” ในลาว ทีเ่ ต็มไปด้วยคนจีนและสินค้าจีนทีว่ างขาย เกลื่อน ตั้งแต่ โทรศัพท์มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า เสื้อผ้า ปัจจุบนั ตลาดซันเจียง มีชาวจีนอาศัยอยูห่ ลายหมืน่ ครอบครัว นอกจากจะค้าขายใน ตลาดที่ว่านี้แล้ว ยังไปเปิดศูนย์ขายสินค้าในเมืองท่องเที่ยวส�ำคัญของลาว อย่างไซยะบุรี ปากเซ และหลวงพระบาง บางศูนย์ฯเปิดเป็นศูนย์ “บัวหิมะ” ขายโปรดักท์แชมเปี้ยนของ จีน จิตราช พิลาพันเดช รองประธานบริษัท เค.พี จ�ำกัด นักธุรกิจผู้ให้บริการด้าน โลจิสติกส์ในลาว มองปรากฏการณ์ของกลุ่มทุนจีนที่เข้ามาในลาวว่า เป็นหนึ่งในหน้า ประวัติศาสตร์ของการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจในลาว เพราะลาวเริ่มพาตัวเองเข้าสู่ตลาด สากลให้โลกรับรูม้ ากขึน้ ภายใต้การประกาศแผนทีจ่ ะเปลีย่ นจากการเป็นประเทศ Land Lock เป็น Land Link การเปิดตลาดหลักทรัพย์ในลาวเพื่อรับการระดมทุนเมื่อต้นปี 2554 ที่ผ่านมา สะท้อนถึงการอ้าแขนรับทุนข้ามชาติได้เป็นอย่างดี โดยโครงการส่วนใหญ่ทที่ นุ จีนเข้าไปลงทุนในลาว ได้แก่ การลงทุนในโครงการเหมือง แร่ ที่ผ่านมาทุนจีนเข้าไปเทคโอเวอร์เหมืองแร่ทองค�ำและทองแดงขนาดใหญ่ 3 แห่งใน ลาวจากออสเตรเลีย เพื่อผลิตและส่งออกแร่ดังกล่าวป้อนความต้องการในจีน ขณะที่มูลค่าการลงทุนของทุนไทยในลาวที่ปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะ โครงการขนาดใหญ่ของลาวต่างถูกทุนจีน และเวียดนามเข้าไปรับสัมปทานแทนไทยที่ เคยได้รับสัมปทานโครงการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ผ่านบริษัทเอกชนไทย แต่ขณะนี้ทุน ไทยเริ่มลดบทบาทในส่วนนี้ลง ต่างจากจีนที่น�ำเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการผลิตไฟฟ้าเข้าไป ลงทุนในลาว รวมถึงลาวเองเริ่มมีเงินที่จะเข้าไปลงทุนสร้างเขื่อนด้วยตนเอง เพื่อตอบ สนองแผนการเป็นแบตเตอรี่แห่งเอเชีย(Battery of Asia) หรือการผลิตไฟฟ้าเพื่อขาย ไปยังไทย เวียดนาม และกัมพูชา ค�ำคล่อง กองวงสา ที่ปรึกษาประธานบริษัท เคพี จ�ำกัด เขายังเป็นอดีตรองอธิบดี กรมข่าวสารของลาว มองว่า ไม่มีอ�ำนาจใดจะสกัดเงินทุนจากจีนที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะทุนจีนได้เข้าไปลงทุนทั่วโลกไม่เว้นในสหรัฐฯหรือทวีปแอฟริกาดังนั้นลาวจึงควร เปิดรับทุนจีนเพื่อให้เศรษฐกิจลาวเติบโต เขาบอกว่า ไม่ได้รู้สึกกลัวกับการเข้ามาของกลุ่มทุนต่างชาติ เพราะชัยภูมิของลาว ถูกขนาบข้างด้วยเวียดนาม จีน และไทย ที่ต่างก็สนใจเข้ามาลงทุน ซึ่งกลุ่มทุนที่เข้ามาจะ คานอ�ำนาจกันเองอยู่แล้ว สอดคล้องกันนโยบายของรัฐบาลลาวที่มีแผนเปิดประเทศ ผลักดันตัวเองให้ก้าว ไปสู่ตลาดสากล ให้ทัดเทียมประเทศต่างๆ ในอาเซียนที่จะมีการรวมกลุ่มเป็นประชาคม เศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2015 โดยมีเป้าหมายให้เป็นลาวหลุดจากการเป็นกลุ่ม ประเทศที่ยากจนที่สุด (Least of Developed Country) ขณะเดียวกันก็ถอื เป็นการกระจายสินค้า จีนทีไ่ ม่ได้มาตรฐานบางส่วน ทีน่ บั วันจะท�ำการ ค้าในจีนยากขึน้ เรือ่ ยๆ จากการทีร่ ฐั บาลจีนเพิม่ ความเข้มงวดในเรื่องมาตรฐานสินค้ามากขึ้น เพราะต้องการหลุดพ้นจากภาพลักษณ์ไม่ดี ในเรื่องของคุณภาพและการผลิตสินค้าราคา ถูกที่ทั่วโลกมอบฉายาให้ ไปสู่การผลิตสินค้า ไฮเอนด์ ดังนั้น กลุ่มสินค้าราคาถูกต้นทุนต�่ำที่มี การผลิตมหาศาลในตลาดจีน ที่มีอยู่เกลื่อน เมือง ทั้งที่ผลิตและขายในตลาด และที่ค้าง สต็อกยังระบายไม่ทนั รวมถึงโรงงานทีย่ งั ไม่มี

ศักยภาพในการปรับปรุงมาตรฐานการผลิต จึง วิ่งหาแหล่งกระจายสินค้าในต่างประเทศ “ด้วยต้นทุนแรงงานที่เริ่มสูงขึ้น ขณะที่ รัฐบาลจีนก็เพิ่มความเข้มงวดด้านมาตรฐาน สินค้า ท�ำให้การผลิตในจีนไม่ง่ายเหมือนเดิม รวมถึงการท�ำการค้าในจีน ก็ค่อนข้างยากมาก ขึน้ ” ดร.อักษรศรี อธิบายถึงการค้าในจีน ทีเ่ ป็น แรงกดดันให้พอ่ ค้าจีนบางส่วนอพยพมาท�ำการ ค้าในต่างประเทศในรูปแบบการลงทุนศูนย์คา้ ส่งและกระจายสินค้าในต่างประเทศ โดยเฉพาะ ในอาเซียน

วัลลภ วิตนากร

ตัน ภาสกรนที

ไปด้วยกัน ไปด้วยใจ...ไปได้ไกล คอนดักเตอร์เปรียบไม่ต่างกับต�ำแหน่งผู้น�ำอย่างซีอีโอ ที่ แต่สิ่งดีๆ ย้อนกลับเข้ามาสู่ชีวิตเราเสมอ

วิธบี ริหารเวลาพร้อมกับดูแลสุขภาพให้เพลิดเพลิน สร้างจังหวะการก้าวเดินของสมาชิกเปรียบเหมือนวัฒนธรรม โน้ส อุดม แต้พานิช เป็นคนหนึ่งที่ตอกย�้ำความเชื่อนี้ ส�ำหรับผม คือ ใช้เวลาดูทวี แี ละออกก�ำลังกายไปด้วยกันครับ วันหนึง่ ระหว่างยืดเส้นยืดสายเพลินๆ บังเอิญเปิดทีวชี อ่ ง 3 เจอนางร�ำชาวจีนนับ 20 ชีวิตก�ำลังร่ายร�ำ’กวนอิมพันมือ แต่ละคนเคลือ่ นไหวมืออย่างอ่อนช้อยทรงพลัง ยืนซ้อน ตัวกันเป็นรัศมีอยู่ข้างหลังเจ้าแม่กวนอิม อย่างพร้อมเพรียง ตอนแรกผมแค่ดูเพลินๆ ไม่ได้สนใจเท่าไหร่ เพราะการ แสดงสุดอลังการโดยใช้การฝึกฝนอย่างหนักแบบนี้มีให้เห็น ทั่วไปส�ำหรับคณะนาฏศิลป์จีน จนกระทัง่ ความคิดสะดุดขึน้ อีกครัง้ หลัง โชว์จบ เมื่อได้ยินเสียงผู้ประกาศดังขึ้น “ถ้า ชอบการแสดงนี้ขอให้ผู้ชมช่วยชูมือขึ้นแล้ว ตบมือเหนือศีรษะ” ท�ำไมหรือครับ..ก็เพราะบรรดานักแสดง สาวบนเวทีเป็นชาวจีนทีพ่ กิ ารทางการได้ยนิ ทัง้ หมด การทีผ่ ชู้ มชูมอื ขึน้ ปรบบนศีรษะจะ ท�ำให้พวกเธอรับรูถ้ งึ ก�ำลังใจทีส่ ง่ ขึน้ มา..แม้ ไม่ได้ยนิ ด้วยประสาทหูแต่กร็ บั รูไ้ ด้ดว้ ยประสาทตา เบื้องหลังกว่าจะเป็นโชว์กวนอิมพันมือบันลือโลกชุดนี้ ชักน่า สนใจขึ้นมาแล้วใช่ไหมครับ กว่าคนปกติจะฝึกฝนการแสดงสวยงามได้แบบนีก้ ย็ าก พอตัวอยู่แล้ว แล้วคนหูพิการที่ไม่สามารถได้ยินจังหวะของ ดนตรีประกอบแม้แต่น้อย..เขาท�ำอย่างไร ค�ำตอบคือระหว่างการแสดงนางร�ำในโลกเงียบทัง้ 20 คน จะมุ่งสมาธิจดจ่อไปที่คนคนเดียว คือ คอนดักเตอร์ที่ยืนข้าง เวทีทำ� หน้าทีช่ ไู ม้สง่ สัญญาณให้จงั หวะตามเสียงดนตรีนนั่ เอง เมื่อดูการแสดงแล้วก็ย้อนกลับมาดูในองค์กรของเรา

องค์กร กฎระเบียบ และเป้าหมายของบริษทั ทีท่ ำ� ให้ทกุ คน ก้าวเป็นจังหวะเดียวกัน องค์กรที่ใหญ่มากๆ มีพนักงานเยอะๆ ว่าไปแล้วก็ยัง เหมือนริว้ ขบวนมังกรตัวยาวๆ คนเชิดหัวมังกรทีต่ ำ� แหน่งแถว หน้าไม่กี่คนเท่านั้นครับที่จะได้พบปะใกล้ชิดกับซีอีโอ ส่วน คนข้างหลังไกลออกไปอย่างพนักงานระดับล่าง ต้องเคลื่อน ตัวตามจังหวะกลองที่เสียงดังฟังชัด ซีอโี อเป็นคนชีน้ ำ� ให้เกิดวัฒนธรรมองค์กร ส่วนวัฒนธรรม องค์กรก็เป็นเบ้าหล่อหลอมทัศนคติของ คนในบริษัท ดังนัน้ เราจึงเห็นคาแรคเตอร์ของแต่ละ บริษทั ผุดในหัวทันทีทมี่ กี ารเอ่ยถึงชือ่ บริษทั ต่างๆ ในวงสนทนา ทุกองค์กรจ�ำเป็นต้องมีคอนดักเตอร์ ไม่เช่นนัน้ แล้วคงไม่มหี างเสือในการก�ำหนด ทิศทาง และถ้าไม่มวี ฒ ั นธรรมองค์กรคอยท�ำ หน้าทีเ่ ป็นเหมือนเสียงกลอง จังหวะก้าวเดิน คงสะเปะสะปะ ขัดแข้งเกี่ยวขา..เละกันไปข้าง ในฐานะสมาชิกถ้าคุณสามัคคีกันก็สามารถร่วมกันสร้าง วัฒนธรรมขององค์กรอย่างทีป่ รารถนาได้ เริม่ ต้นจากตัวเอง ก่อน หากต้องการอะไร ต้องให้สงิ่ เดียวกันนัน้ กับคนรอบข้าง ใช้ “ใจแลกใจ” ...ให้โดยไม่หวังการตอบแทนจากคน รอบข้าง ยึดหลักใจเขาใจเรา...ฝึกบ่อยๆ จนกระทัง่ กลายเป็นนิสยั ท�ำมาจากใจ ผมเชื่อว่าถ้าเราตั้งใจท�ำแต่สิ่งดีๆ ที่สุดแล้วก็จะยิ่งมี

กับผม เรารูจ้ กั กันมาตัง้ แต่กอดคอชวนกันท�ำเรือ่ งดีๆ เริม่ จาก งาน ศอช. (ศูนย์อำ� นวยความสะดวกในการชอปปิง) เพือ่ ช่วย เหลือร้านค้าทีไ่ ด้รบั ผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบเมือ่ ปีที่แล้ว ถ้าเริ่มต้นคบกันด้วย “เงิน” นักธุรกิจอย่างผมกับศิลปิน อย่างเขา..เราคงคุยกันไม่รู้เรื่อง แต่เพราะเริ่มต้นคบกันด้วย “ใจ” ทุกวันนี้ เราถึงกลาย มาเป็นคู่ซี้ต่างขั้วที่หากันจนเจอ เชือ่ ไหมครับ ตัง้ แต่อดุ มให้ความช่วยเหลือลงแรงร่วมใจ กับผมเรื่อยมา ทั้งหมดนี้เขาไม่เคยคิดค่าตัวสักบาทเดียว ทั้ง ที่ผ่านมาไม่เคยใจอ่อนท�ำงานฟรีแบบนี้ให้ใครง่ายๆ อุดมท�ำให้เห็นว่าค�ำว่า “มิตรภาพ” เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่แค่ ไหน ไปๆ มาๆ โชว์นางร�ำในโลกเงียบคั่นเวลาออกก�ำลังกาย และมิตรภาพกับอุดม ชวนให้ผมอมยิม้ นึกถึงหลักการบริหาร ใจคน บริหารองค์กร นอกจากคอนดักเตอร์กบั เสียงกลอง ยังมีสงิ่ ส�ำคัญทีอ่ าจ จะไม่เห็นได้ดว้ ยตา ไม่ได้ยนิ ด้วยหู แต่สามารถรับรูไ้ ด้ดว้ ยใจ นัน่ คือ มิตรภาพทีจ่ ะน�ำพาองค์กรของเราก้าวไปด้วยกัน ถ้าไปด้วยใจ..แล้วจะไปได้ไกลครับ พบกับข้อคิด มุมมองทางธุรกิจและการใช้ชีวิตแบบ 360 องศาที่ถ่ายทอดจากประสบการณ์จริงของผมได้ ใน “วิถีตัน” ทางกรุงเทพธุรกิจทุกวันจันทร์ พร้อมแลก เปลี่ยนพูดคุยติดตามเรื่องราวดีๆ ใน Facebook กับ ผมได้ที่ http://www.facebook.com/tanmaitan


วันที่ 7 มีนาคม 2554 หนังสือพิมพ์ กรุ งเทพธุรกิจ BizWeek : ก่ อตัง้ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2547 เป็ นสมาชิกสภาการหนังสือพิมพ์ แห่ งชาติ พิมพ์ ท่ ี : 1854 ถนนบางนา-ตราด แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260 โทรศัพท์ 0-2338-3333 โทรสาร 0-2338-3947-8 E-mail : bizweek@nationgroup.com

3

B-school

• เจ้ าของ : บริ ษัท เอ็นเคที นิวส์ จ�ำกัด • บรรณาธิการและผู้พมิ พ์ ผ้ ูโฆษณา : ดวงกมล โชตะนา kteditor@nationgroup.com • บรรณาธิการบริหาร : เบ็ญจวรรณ เผ่าจินดามุข benjawan_p@nationgroup.com • บรรณาธิการอาวุโส : วัชรา จรูญสันติกลุ pen@nationgroup.com • บรรณาธิการศิลปกรรม : จักรพงษ์ ศรี สนุ ทร artdi2005@yahoo.com • หัวหน้ าฝ่ ายศิลป์ : ทวีศกั ดิ์ อุระนันท์ thaweesak@nationgroup.com

For Display Advertising โทร 0-2338-3333 ต่อ 3155, 3136, 3157, 3161-2, 3173 ฝ่ ายสมาชิกและลูกค้ าสัมพันธ์ โทร 0-2338-3000 (customer@nationgroup.com) เลขากองบรรณาธิการ: กาญจนา สุขเพิ่ม kanchana@nationgroup.com เบอร์ ตอ่ 3385

รุกตลาดผ่าน ‘โซเชียล มีเดีย’ กัปตันเต๋ ยอมรับว่า การเข้ามารับต�ำแหน่งกรรมการผูอ้ �ำนวยการใหญ่

ลมลเพ็ชร อภิสิทธิ์นิรันดร์

พุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ ไต่เพดานบินเร็ว เผชิญทุกทัศนวิสัย “กัปตันเต๋” พุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ ลูกชายสุดเลิฟของ หมอเสริฐ ในวันที่ นั่งเก้าอี้นักบิน (ธุรกิจ) ที่ 1 ต่อจากผู้พ่อมากว่า 2 ปี คนรุ่นใหม่อย่างเขามีแผน จะพาบางกอกแอร์เวย์ส หลบหลีกหลุมอากาศธุรกิจ ด้วยการไต่เพดานบินให้ เร็ว พร้อมเผชิญ ทุกทัศนวิสัย

หลังจาก “หมอเสริฐ” นายแพทย์ ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ถอยฉาก ออกจากธุรกิจการบินในบริษัทการบิน กรุงเทพ จ�ำกัด เจ้าของสายการบินบาง กอกแอร์เวย์ส เพื่อเปิดทางให้ทายาทรุ่น

ที่สองอย่าง “กัปตันเต๋” พุฒพ ิ งศ์ ปราสาท ทองโอสถ บุตรชายขึ้นนั่งเก้าอี้กรรมการ ผู้อ�ำนวยการใหญ่แทน ขณะที่หมอเสริฐหันมาให้ความสนใจ ธุรกิจโรงพยาบาล ในฐานะประธานคณะ ผู้บริหารและกรรมการผู้อ�ำนวยการใหญ่ บริษทั กรุงเทพดุสติ เวชการ จ�ำกัด (มหาชน) จอมเทคโอเวอร์ธุรกิจโรงพยาบาลโดยเมื่อ ปลายปีทผี่ า่ นมากับดีลการควบรวมกิจการ ระหว่างเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ - สมิตเวช กับเครือโรงพยาบาลพญาไท-เปาโล ของ ทนายวิชัย ทองแตง ล่าสุด กับดีลการเข้าไปซื้อหุ้นบริษัท โรงพยาบาลบ�ำรุงราษฎร์ จ�ำกัด (มหาชน) สัดส่วน 11.11% ซึง่ อาจจะเดินไปสูก่ ารควบ รวมกิจการกันในอนาคต เพือ่ ต่อยอดความ เป็นเบอร์ 1 ธุรกิจโรงพยาบาลในเอเชีย ขณะที่ธุรกิจการบินของหมอเสริฐก็ มีความคิดติดอันดับเอเชียไม่ต่างกัน โดย ปลุกปัน้ แบรนด์บางกอกแอร์เวย์สจนได้รบั รางวัล สายการบินระดับภูมิภาคยอดเยี่ยม ของเอเชีย (Best Regional Airline for Asia) จาก Skytrax หนึ่งในนิตยสารด้าน การเดินทางโดยอากาศยานของยุโรป มาตัง้ แต่ ปี 2547-2552 ก่อนจะส่งต่อหน้าที่นักบิน (ธุรกิจ) ที่ 1 ให้กัปตันเต๋เป็นผู้ขับเคลื่อน อากาศยาน มาเป็นเวลากว่า 2 ปี (ตั้งแต่ 1 พ.ค. 2551) กัปตันเต๋ บอกว่า ทีผ่ า่ นมาสายการบิน

บูติคแห่งแรกของเมืองไทยอย่างบางกอก แอร์เวย์ส ไม่ต่างจากสายการบินอื่นๆ ที่ ต้องเผชิญกับภาวะ “ตกหลุมอากาศ” เป็น ระยะๆ ไม่ว่าจะเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจ ท�ำให้ธุรกิจการบินทั่วโลกชะลอตัว และภัย ธรรมชาติในบางประเทศ เช่น ภูเขาไฟระเบิด ในยุโรป ท�ำให้จ�ำนวนผู้โดยสารลดลง ทว่า บางกอกแอร์เวย์ส ภายใต้การ บัญชาการของนักบินที่ 1 เช่นเขา เน้นการ ปรับตัวเร็วตามสไตล์คนรุน่ ใหม่ในการแก้ไข ปัญหา โดยเฉพาะวิกฤติเศรษฐกิจรอบทีผ่ า่ น มา บางกอกแอร์เวย์สเลือกที่จะใช้แผนการ ลดต้นทุนของสายการบินทุกทิศทุกทาง โดยการปรับลดเงินเดือนผู้บริหารไปเมื่อปี 2552 ถือเป็นมาตรการแรกๆ ของเขาหลัง รับต�ำแหน่ง ไม่เพียงการปรับลดเงินเดือนผูบ้ ริหาร การจะท�ำให้ทัศนวิสัยทางธุรกิจดีขึ้นได้ นั้น กัปตันเต๋เลือกที่จะลดต้นทุนน�้ำมันซึ่ง เป็นต้นทุนหลักของธุรกิจการบิน ด้วยการ ใช้เทคนิคการบินหนึ่งในวิชาการบินที่เขา ร�่ำเรียนมาเข้ามาช่วย เช่น บินอย่างไรให้ประหยัด หากบิน ท�ำเวลาได้ดีขึ้นแค่ 1 นาทีก็ช่วยประหยัด น�้ำมันได้มากขึ้นไม่ต่างจากการขับรถยนต์ ปีหนึ่งๆ เขาบอกว่า สามารถลดต้นทุนการ บินได้เป็นสิบๆ ล้านบาท การไต่เพดานบินให้เร็วของบางกอก แอร์เวย์ส ยังหมายถึง การวางแผนปรับ

เปลี่ยนฝูงบินใหม่ เพื่อตอบโจทย์ในเรื่อง ของ Economy of Scale กัปตันเต๋บอกว่า ที่ผ่านมาบางกอก แอร์เวย์สพยายามปรับเปลีย่ นไปใช้ฝงู บิน แอร์บสั (Airbus) ทัง้ หมด จากทีก่ อ่ นหน้า นีใ้ ช้ทงั้ ฝูงบิน Airbus และ Boeing เพือ่ ต้องการรองรับจ�ำนวนผูโ้ ดยสารให้ได้มาก ขึน้ รวมถึงเพิม่ ประสิทธิภาพในการประหยัด น�้ำมัน ส�ำหรับแผนการขยายเส้นทางการ บินในภูมิภาคเอเชียและภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก รับการแข่งขันที่รุนแรงของธุรกิจ สายการบินในภูมภิ าค เช่น การแข่งขันจาก สายการบินต้นทุนต�่ำ เขาบอกว่า สิ่งที่บาง กอกแอร์เวย์ให้น�้ำหนักมากที่สุดคือ การ จับมือพันธมิตรในการท�ำ Code Share (การท�ำเส้นทางการบินร่วมในเส้นทางบิน ใหม่ๆ) ล่าสุดยังได้เพิม่ การท�ำ Code Share กับสายการบินอื่นๆ โดยอยู่ระหว่างเจรจา กับสายการบินฟินแอร์ มาเลเชีย่ น แอร์ไลน์ และคิงฟิชเชอร์ แอร์ไลน์ ซึ่งคาดว่าจะได้ ข้อสรุปในปีนี้ สเต็ปนี้ยังครอบคลุมไปถึงการปรับ เส้นทางการบิน เพื่อแก้โจทย์ให้สายการ บินพลิกกลับมามีก�ำไร หลังจากที่ต้อง ขาดทุนค่อนข้างมากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่าน มา ด้วยการเพิ่มเส้นทางบินให้ครอบคลุม ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียใต้ เช่น การเปิดเส้นการบินใหม่ไปยังประเทศ อินเดีย และบังกลาเทศ ไม่ว่าจะเจอะเจอพายุลูกใหญ่อีก สักกี่ลูก แต่ภายใต้กลยุทธ์ที่ชัดเจน และ รัดกุม ท�ำให้ “กัปตันเต๋” เบาใจไปได้มาก แต่หนทางข้างหน้ายังคงรอพิสจู น์ฝมี อื ของ เขาว่าจะพาสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส “แลนดิ้ง” ได้อย่างปลอดภัยหรือไม่

สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส มีเรื่องที่ท�ำให้เขาต้องปรับตัวอยู่เสมอ นอกจากต้องท�ำงาน หนักมาก เพื่อให้สายการบินฟื้นกลับมามีก�ำไรแล้ว ยังต้องแข่งขัน กับสายการบินต้นทุนต�่ำ ที่มีอัตราเติบโตต่อเนื่อง ทว่า บางกอกแอร์เวย์ส ไม่มนี โยบายเข้าไปเล่นเรือ่ งสงคราม ราคา ด้วยการปรับลดค่าโดยสารลง เพราะเชือ่ ว่าลูกค้าลูกค้าพร้อมที่ จะจ่ายเพิม่ ให้ได้รบั บริการทีไ่ ม่สามารถหาได้จากสายการบินต้นทุน ต�่ำ เช่น ลูกค้าทุกคนสามารถให้บริการห้องรับรองผู้โดยสารเทียบ เท่าลูกค้าระดับวีไอพี เป็นต้น นอกจากจะไม่ลงไปเล่นสงครามราคาแล้ว เขาบอกว่า บางกอกแอร์ เวย์ส จะหันไปรุกช่องทางใหม่ในการสือ่ สารกับลูกค้าเก่าใหม่ หรือ แฟนคลับผ่าน Social Media ทั้ง Facebook Twitter และ Website ก็ถือเป็นอีกกลยุทธ์ที่บางกอกแอร์เวย์สเล็งเห็นประโยชน์ ที่จะได้รับจากการเติบโตของ Social Media ที่เพิ่มขึ้นทุกปี โดยปัจจุบันบางกอกแอร์เวย์สมีแฟนคลับทาง Fackbook มากกว่า 42,000 คนแล้ว หลังจากทีเ่ ปิดช่องทางสือ่ สารนีไ้ ด้ไม่ถงึ ปี ขณะทีช่ อ่ งทาง สือ่ สารนีย้ งั มีสว่ นช่วยกระตุน้ ยอดขายตัว๋ เครือ่ งบินได้มาก ทั้งนี้ในปัจจุบันบริษัทฯมีสัดส่วนการจองตั๋วเครื่องบิน ออนไลน์อยู่ที่ 20-25% คิดเป็นยอดขายประมาณ 2,000 ล้านบาท ของยอดขายรวมกว่า 8,000 ล้านบาท และตั้งเป้า จะเพิ่มสัดส่วนการจองตั๋วออนไลน์เป็น 30-40% ของยอด ขายให้ได้ในปีนี้ ซึ่งเขามองว่าน่าจะท�ำได้ไม่ยาก กัปตันเต๋ยงั บอกว่า การทีเ่ ขาสามารถประเมินสถานการณ์ และแก้ไขปัญหาในธุรกิจการบินได้นั้น เกิดจากการมอง การณ์ไกลของผู้พ่อที่วางแนวทางการศึกษาให้เขาเรียนเพื่อ เป็น “นักบิน” “การได้พูดจากภาษาเดียวกันกับคนในธุรกิจนี้ และได้เรียน รู้เรื่องเทคโนโลยีการบินใหม่ๆ เป็นเรื่องจ�ำเป็นส�ำหรับผม จากคนที่เรียนปริญญาตรีด้าน บัญชี ไม่มีความรู้ด้านการบินเลย พอมาเรียนเป็นนักบินท�ำให้ผมมองเห็นภาพรวมของ อุตสาหกรรมการบินทั้งหมด ผมว่าธุรกิจนี้ไม่เหมือนกับธุรกิจอื่นๆ เพราะคุณต้องมีความ รู้เกี่ยวกับการบิน ไม่งั้นคุณจะบริหารงานยากแน่นอน” ส่วนการก้าวมาเป็นนักธุรกิจการบิน เขายอมรับว่า เป็นเรื่องใหม่ที่จ�ำเป็นต้องเรียนรู้ อีกมาก เมื่อมีเวลาว่างก็จะพยายามหาหนังสือแนว How To มาอ่าน เขายังบอกด้วยว่า มีความกังวลว่าราคาน�้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น จะส่งผลกระทบต่อ ต้นทุนการบินของบริษัท ท�ำให้ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการชุมนุมประท้วงขับ ไล่ผู้น�ำประเทศในแอฟริกาเหนือและตะวันออกกลางหลายแห่ง แม้ว่าโดยทั่วไปบริษัทจะ ท�ำประกันความเสี่ยงราคาน�้ำมันไว้ประมาณ 25-30% ก็ตาม

ทฤษฎีว่าด้วยความเกรงใจ

เมือ่ ช่วงทีผ่ า่ นมา ดิฉนั ได้มโี อกาสท�ำงาน

ร่วมกับบริษทั ข้ามชาติสญั ชาติเยอรมันทีม่ งุ่ มัน่ ที่จะบุกตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ ASEAN Economic Community : AEC ซึง่ จะคลอดเป็นตัวเป็นตนในอีก ไม่กี่ปีข้างหน้า ประเทศไทย (ยัง) ถือ เป็นประเทศหนึง่ ทีเ่ ป็นพีใ่ หญ่ ในภูมิภาค แม้จะต่อให้ชาวบ้าน โดยทะเลาะเบาะแว้งกันเองบ้าง แต่ศกั ยภาพและเสน่หข์ องไทย ก็ยงั ขจรขจาย หากไม่ถล่มทลาย ละเลงกันเองมากไปกว่านี้ ก็ยัง เป็นที่น่าย�ำเกรงในภูมิภาค อย่างน้อยจากมุมมองน้องพี่ชาวเยอรมัน ที่ดิฉันได้สัมผัส หน้าทีห่ ลักของดิฉนั ในฐานะเทรนเนอร์ คือสร้างความพร้อมให้ ผูบ้ ริหารเยอรมันทีไ่ ด้รบั มอบหมายให้ขยายตลาดในไทย ให้เขาเข้าใจ สภาวะการท�ำงานก่อนมาท�ำงานในประเทศไทยอย่างผุดผ่องถ่องแท้ ภายใน 3 วัน! ดิฉันต่อรองว่า แทน 3 วัน ขอให้เรียนรู้ทั้งชีวิตของท่าน ก็ยังไม่ แน่ว่าจะถ่องแท้แค่ไหน เพราะแม้พวกเราที่อยู่ด้วยกันมาตลอดชีวิต ก็ยังไม่สู้เข้าใจกันดีนี่นา ในห้องเรียนเรื่องการท�ำงานข้ามวัฒนธรรม Working Cross Culturally หัวข้อคลาสสิกทีเ่ ราคนไทยมักต้องอธิบายให้ชาวต่างชาติ ฟัง คือ เรื่องของความ “เกรงใจ” ที่ไม่มีค�ำแปลใดในภาษาอังกฤษที่

ตรงไปตรงมา ได้อรรถรสและอารมณ์ กลมกลืนกับความรู้สึกเกรงใจแบบ ไทยๆ หลังจากเราคุยและอธิบาย กันหลายย่อหน้า หยิบยกตัวอย่าง พฤติกรรมของความเกรงใจ พรรคพวกที่มิใช่คนไทย ก็เห็น พ้องต้องกันว่า คนไทยน่ารักจัง! หลังจากคุยกันเฮฮา เรา เลยได้ทฤษฎีใหม่ เรือ่ ง “ความ เกรงใจในทีท่ ำ� งาน” มาให้ทา่ น ผูอ้ า่ นน�ำไปใช้ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ค่ะ 1.ความเกรงใจ ใส่ใจ ให้ เกียรติกนั เป็นพลังงานแสนดีทกี่ ระเพือ่ มและสะท้อนไปมาไม่รจู้ บ คนท�ำงานจะมีความสุขมากขึน้ หากต่างรูจ้ กั เกรงใจ และให้เกียรติกนั ต่างต้องตระหนักว่า หมวกทีแ่ ต่ละคนสวม จะหมวกของลูกน้อง หรือ ของหัวหน้า ไม่ได้เป็นอะไรมากกว่า...หมวก ใส่ได้ ก็ถอดได้ แถมบางครัง้ มิได้เป็นคนถอดเอง อยากกอดมันไว้ แต่ตอ้ งถอด อย่างจ�ำใจ คนให้เขาจะเอาคืน ยิ่งเป็นผู้ใหญ่ ยิ่งให้ความเกรงใจและให้เกียรติผู้น้อยเป็น จะเป็นผู้ใหญ่ที่ยิ่งใหญ่จริง ค�ำพูดสวัสดี ทักทาย ขอบคุณ และขอโทษยามตระหนักว่า ผิดพลั้ง เป็นวิธีน้อมน�ำพลัง ท�ำเมื่อไร ได้เมื่อนั้น แรงกระเพือ่ มในใจคนรอบตัวทีเ่ กิดจากการดูแลเอาใจใส่ เกรงใจ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน จะเป็นพลังงานที่ไม่สูญหายไปไหน เดี๋ยวก็

ศศิธร พงศธร ชอบอ่าน ‘ผมจะเป็นคนดี’

กระเพื่อมกลับมาหาผู้ให้ ให้ดีใจชื่นใจไม่รู้จบ นักเรียนปริญญาเอกสาขาฟิสิกส์ชาวเยอรมัน กับคุณครูคนไทย หัวใจพุทธ ร่วมกันยืนยันว่าใช่...พลังนี้มีจริง 2. มืออาชีพต้องสร้างช่องว่างบางๆ แห่งความเกรงใจในที่ ท�ำงาน น้องใหม่ หรือ ใครที่ได้โอกาสตั้งหลักกับทีมใหม่ในที่ท�ำงาน ต้องตั้งสติ ตั้งหลักให้ดี โดยมีข้อแนะน�ำในการสร้างความสัมพันธ์ โดยเฉพาะกับหัวหน้างานของท่านผู้อ่าน ดังนี้ ซี้เกินไป หรือ ห่างไกลเกินไป ไม่ดีทั้งคู่ ห่างเกินไปก็หนาว ใกล้เกินไปก็ร้อน หากเริม่ ท�ำงานกันใหม่ๆ พูดให้นอ้ ย - ฟังให้มาก เป็นคูท่ ดี่ ดู กี ว่า ฟังน้อย- พูดมาก แบบปราศจากข้อสงสัย ค่อยๆ บรรจงประสานความสัมพันธ์อย่างค่อยเป็นค่อยไป ในขั้นต้น ห่างไว้หน่อย ดีกว่าใกล้ไปนิด เพราะไกลยังขยับเข้า ใกล้ได้ ไม่ผิดปรกติ แต่เมือ่ ใกล้ชดิ เกินไป จะขยับออกให้พอดี เอาละซี ! หมากนีย้ าก กว่ามาก ดิฉันกับดอกเตอร์เยอรมันจึงสร้างทฤษฎี “ช่องว่างแห่งความ เกรงใจ” ในที่ท�ำงาน ต้องสร้างให้พอดี หากซี้กันเกินไป บางครั้งลืม เกรงใจกัน เผลอเหยียบหัวแม่โป้งกันบ้าง จะหมางเมินผิดใจกันง่าย กระนั้นก็ดี ห่างกันเกินไปก็ใช่ที่ ถือว่า ขาดศิลป์ในการครองใจ คนใกล้ตัว เมือ่ เริม่ รูส้ กึ ว่าห่างหัวหน้าเกินไป ก็ตอ้ งใส่ใจนัดหมาย ขอรายงาน ผล ขอความเห็นในบางประเด็น เพือ่ การพัฒนา ได้ทงั้ ใจและงานอย่าง มืออาชีพ ความท้าทาย คือ ช่องว่างนีว้ ดั ไม่ได้ดว้ ยไม้บรรทัดมาตรฐาน ว่ากี่

ศศิธร พงศธร กรรมการผู้จัดการธนาคาร

แลนด์แอนด์เฮ้าส์ เพื่อรายย่อย จ�ำกัด (มหาชน) บอกว่า ส่วนตัวชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับเรื่องราวของผู้บริหารที่ ประสบความส�ำเร็จ กรองออกมาเป็นแง่คดิ เพือ่ น�ำมาปรับ ใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อองค์กร โดยเฉพาะในเรื่องของการ บริหารทรัพยากรมนุษย์ โดยเธอมองว่าศาสตร์แห่งความ ส�ำเร็จนี้เป็นศาสตร์เฉพาะบุคคลที่ล�้ำลึก น่าค้นหา อย่างตอนนี้เธอก�ำลังอ่านหนังสือเรื่อง “ฉันจะเป็น คนดี” ผลงานของวิกรม กรมดิษฐ์ ท�ำให้รู้ว่าคนคนหนึ่ง กว่าจะก้าวสูค่ วามส�ำเร็จทางธุรกิจได้นนั้ ต้องผ่านร้อนผ่าน หนาวมามาก การจะประสบความส�ำเร็จได้นั้นยังต้องรู้จัก ดูแลผู้ใต้ปกครอง ผู้ใต้บังคับบัญชา ใช้คนให้ถูกกับงาน เธอยังได้มุมมองความคิดของผู้คนในแต่ละเจเนอเรชั่น จากหนังสือเล่มนี้ ท�ำให้อ่านใจลูกค้าในแต่ละช่วงวัยได้ มากขึ้น

ฟุตดี หรือ กี่เซ็นต์ จึงจะเหมาะ เพราะเป็นเรื่องความรู้สึก ที่ต้องใส่ใจ ต้องใช้ประสบการณ์ และความประณีตในการวัด ส�ำหรับบางคน หนึ่งนิ้วก็ว่าไกล ส�ำหรับอีกคน หนึ่งเมตรก็ยังใกล้เกิน “เก่งงาน” เป็นเรื่องท้าทาย “เก่งคน” ก็ไม่น่าจะท้าทายน้อยไป กว่ากัน ท่านผู้อ่าน ลองวัดช่องว่างนี้ ว่ามีพอดีแล้วหรือยัง จะได้ปรับให้ พอดี เป็นที่มาของความเกรงใจ ที่ท�ำให้ได้ทั้งงานและใจจากคนรอบ ข้าง 3. คนที่เราควรเกรงใจที่สุดก็คือ...ตัวเราเอง ผู้บริหารชาวเยอรมันบอกว่า เพื่อนคนไทยครับ มัวแต่เกรง นั่นกลัวนี่ ไม่กล้าบอกว่าคิดอย่างไร แล้วผมจะรู้ไหม ว่าท่านคนไทย ต้องการอะไร ได้แต่นั่งเทียนเดา มีความคิดเห็นอย่างไร ต้องให้เกียรติและเกรงใจตัวเองบ้าง กล้า น�ำเสนอประเด็นให้เป็นทีป่ ระจักษ์ ไม่ควรนัง่ ฟังฝัง่ เดียว แห้งเหีย่ วหัว โต แถมไม่ได้เติบโตในที่ท�ำงาน นอกจากนั้น หากโหดร้ายและเข้มกับตัวเองมากเกินไป ก็ต้อง รู้จักเกรงใจตัวเอง แต่ใจดีกบั ตัวเองพร�ำ่ เพรือ่ เกินสมควร ก็ตอ้ งรูจ้ กั เกรงใจตัวเอง บ้าง สรุปว่ามากไปหรือน้อยไป ไม่ว่าเรื่องใด ไม่ดีทั้งสิ้น ความสมดุล พอดี เป็นศิลปะที่คนทั่วโลกโหยหา อยากมาเมือง ไทยเพื่อเรียนรู้ คนไทย เจ้าของ ได้แต่มอง ไม่ลองใช้ .. น่าเสียดายแย่นะคะ พอใจ พุกกะคุปต์ เป็ นวิทยากรและที่ปรึกษาของ องค์ กรชัน้ น�ำจ�ำนวนมากจบการศึกษาปริญญาโท สาขาความสัมพันธ์ ระหว่ างประเทศ จาก Stanford University


วันที่ 7 มีนาคม 2554

เปลี่ยนชุมชนแออัด ให้เป็นชุมชนสีขาว

ชุมชนแออัดเป็นสิง่ ทีม่ าคูก่ บั การขยายตัวของเมืองใหญ่ เพราะท่ามกลาง

การรุกล�้ำของอาณาเขตเมือง ท�ำให้ชมุ ชนคนจ�ำนวนไม่นอ้ ยไม่มที อี่ ยูอ่ าศัย และจ�ำเป็นต้องไปหลบอยู่ตามซอกหลืบของเมือง พื้นที่ซึ่งไม่มีเจ้าของ และเมื่อคนกลุ่มนี้รวมตัวกันมากขึ้น จึงก่อให้เกิดเป็นชุมชนแออัดอย่าง หลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนชุมชนแออัดทีค่ งอยูใ่ นสภาพเช่นนัน้ มาช้านาน ปราศจากการรุกล�ำ้ ไล่ทเี่ องก็เป็นอีกหนึง่ ปัญหาใหญ่ทกี่ รุงเทพมหานครจ�ำเป็นต้องเข้าไปจัดการ เพราะครอบครัวบางครอบครัวที่ปักหลักอาศัยอยู่หลายชั่วคนไม่สามารถ โยกย้ายถิ่นฐานออกจากพื้นที่ได้ ด้วยภาวะทางเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออ�ำนวย ส่งผลให้ชมุ ชนแออัดหลายแห่งในพืน้ ทีก่ รุงเทพมหานครกลายเป็นชุมชนที่ นอกจากจะไม่น่าอยู่ด้วยภูมิทัศน์ และสุขอนามัยแล้ว ยังเป็นแหล่งซ่องสุม ของอาชญากรรม และยาเสพติดอีกด้วย เมือ่ ไม่มที างทีจ่ ะกวาดล้างพืน้ ทีช่ มุ ชนเหล่านีใ้ ห้หมดไป ทางภาครัฐ และเอกชนจึงเลือกทีจ่ ะส่งเสริม และสนับสนุน ปฏิวตั ริ ปู แบบของชุมชน แออัดโบราณในเขตพืน้ ทีก่ รุงเทพมหานครให้กลายเป็นชุมชนสีขาว เป็น พืน้ ทีแ่ ห่งการสร้างสรรค์ และการเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิง่ มีการส่งเสริม ให้เยาวชนคนรุน่ ใหม่ทเี่ ติบโตขึน้ หันมาท�ำกิจกรรมเพือ่ สังคม เพือ่ ยกระดับให้ ชุมชนแออัดกลายเป็นชุมชนทีส่ ะอาด ปราศจากอบายมุข และอาชญากรรม ทีช่ มุ ชนนางเลิง้ บริเวณวัดแคนางเลิง้ หรือวัดสุนทรธรรมทาน มีกจิ กรรม ดีๆ ที่ก่อตัวขึ้นจากแนวคิดของเด็กและเยาวชนที่เติบโตขึ้นมากับชุมชน เก่าแก่แห่งนี้ ภายใต้ชื่อกลุ่ม “อีเลิ้ง” ร่วมกับคณะท�ำงานจาก สสส. หรือ ส�ำนักกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ จัดงานถนนเด็กเดินขึ้นเมื่อ เดือนที่ผ่านมา โดยใช้ชื่องานว่า “มัน เล็ก มาก” เป็นงานที่ชูคอนเซปต์ การสร้างสรรค์ศิลปวัฒนธรรมประจ�ำชุมชน โดยใส่ประเด็นในแง่ของการ ให้คน 3 วัยของชุมชนมาท�ำงานด้วยกัน เด็กๆ ที่เป็นผู้น�ำกลุ่มเยาวชนยอมรับว่า พื้นที่กว่า 90% ของชุมชน แออัดย่านวัดแคนางเลิง้ ข้องแวะกับอาชญากรรม และปัญหาสังคม ดังนัน้ เด็กๆ ทีไ่ ด้ชอื่ ว่าเป็น “เด็กสลัม” จึงเข้ามารวมตัวกัน และระดมสมองคิดค้น ว่าท�ำอย่างไรจะกวาดล้างสิง่ มอมเมา ปฏิวตั ใิ ห้พนื้ ทีแ่ ห่งนีก้ ลายเป็นชุมชน ที่แม้จะแออัด แต่ก็เป็นชุมชนสีขาว “เราท�ำงานกันบนพื้นฐานของปัญหาชุมชน และเราน�ำเอาสิ่งเหล่านี้ มาเป็นโจทย์ และคิดกันว่า ถ้าเราน�ำศิลปวัฒนธรรมที่มีมากล่อมเกลาให้คน ในชุมชนเห็นคุณค่าของตัวเอง คุณค่าของความเป็นชุมชนโบราณ?โอกาส ข้องแวะกับอาชญากรรมเหล่านี้ก็คงจะน้อยลงได้” นวรัตน์ แววพลอยงาม นักพัฒนาจากชุมชนแห่งนี้ กล่าว ถนนสายศิลปะ ในงาน “มัน เล็ก มาก” ของชุมชนนางเลิ้งในวันนั้น จึงชูประเด็นของวัฒนธรรมชุมชนโบราณทีค่ วรค่าแก่การสืบสานและอนุรกั ษ์ เช่น การเต้นร�ำสามัคคีลลี าศ ละครชาตรี บ้านล�ำตัด บ้านกลองยาว บ้านศิลปะ และยังมีการตัดชุดละคร การท�ำหัวโตเพือ่ ใช้ในงานบวชและแห่นาค ทัง้ หมด นี้คืองานศิลปะที่เป็นอาชีพโบราณของชาววัดแคนางเลิ้งที่นับวันมีแต่จะ สูญหายไปตามกาลเวลา เยาวชนบางส่วนยังเดินหน้าเรียนรู้เรื่องราวของชุมชนในอดีต เช่น ความเป็นมาของวัดแคนางเลิง้ และสิง่ ศักดิส์ ทิ ธิป์ ระจ�ำชุมชน และรวมกลุม่ กัน เป็นกลุม่ มัคคุเทศก์นอ้ ย พานักท่องเทีย่ วเดินชมสถานทีส่ ำ� คัญของชุมชน สร้าง ความประทับใจให้กบั นักท่องเทีย่ วทีส่ ำ� คัญ พวกเขายังได้รบั ความภาคภูมใิ จ ติดตัวไปในฐานะหนึง่ ในสมาชิกคนรุ่นใหม่ของชุมชนโบราณที่มคี วามมุง่ มัน่ ทีจ่ ะคงไว้ซงึ่ วิถชี วี ติ แบบดัง้ เดิม ปราศจากการรุกล�ำ้ ของวัฒนธรรมตะวันตก “กิจกรรมในครั้งนี้เป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เยาวชนได้แสดงพลัง ได้เปิดความคิดสร้างสรรค์และสร้างภูมิคุ้มกันจากภัยที่มีอยู่หลากหลาย ในสังคม ในอนาคตตั้งใจจะจัดงานลักษณะนี้อีกปีละ 4 ครั้ง โดยครั้งต่อไป จะมีประมาณช่วงปลายเดือนเมษายน-เดือนพฤษภาคม ตามด้วยเดือน กันยายน-เดือนตุลาคม และเดือนธันวาคม” ตัวแทนเยาวชนที่เป็นตัวตั้ง ตัวตีในการจัดงานกล่าว ในขณะทีเ่ ด็กชายปราโมทย์ ภิรมย์ เยาวชนในชุมชนหลังวัดสุนทรธรรมทาน และมัคคุเทศก์น้อยภายในงาน บอกว่า “ถึงแม้ว่าบ้านของพวกเราจะเป็น ชุมชนแออัด มีสภาพทรุดโทรมก็ตาม แต่สิ่งที่ซ่อนตัวอยู่ในชุมชนแห่งนี ้ ก็คอื ความรัก สามัคคี สนิทสนมกลมเกลียวกันของคนในชุมชน ซึง่ วิถชี วี ติ แบบนี้อาจจะหาได้ยากแล้วในสังคมปัจจุบัน” ทางด้านผูส้ นับสนุนรายการอย่าง สสส. ทีต่ อ้ งการสร้างชุมชนต้นแบบ แห่งความสุขก็ยืนยันว่ากิจกรรมเช่นนี้จะขยายผลลงไปในอีกหลากหลาย ชุมชนเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ และคุณภาพชีวิตของคนไทย โดยเฉพาะ ในเขตชุมชนแออัดในกรุงเทพมหานครให้ดีขึ้นไปตามความเจริญของเมือง ด้วย

การปลูกฝังแนวคิดท�ำธุรกิจด้วยความรับผิดชอบ ต่อสังคม ต้องเริ่มตั้งแต่ ในรั้วการศึกษา เพื่อที่วันหนึ่ง เมื่อพวกเขาเติบใหญ่ ไปเป็นผู้ประกอบการหรือ ก�ำลังหลักในหลายองค์กร จะได้น�ำพาแนวคิดดีๆ เหล่านี้ ไปเจริญงอกงามในพื้นที่เหล่านั้น • จีราวัฒน์ คงแก้ว

“นักศึกษาควรส�ำเร็จการศึกษาไปพร้อมกับ เวลาเพียง 3 วัน 2 คืน ในการส�ำรวจสภาพปัญหา จิตวิญญาณการท�ำงานเพื่อสังคม ควบคู่ไปกับ การค�ำนึงถึงธุรกิจ” รศ.ดร.กุลภัทรา สิโรดม คณบดี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คิดเช่นนัน้ ก่อนจะน�ำ นิสติ 12 ชีวติ เข้าร่วมโครงการ “ธุรกิจเพือ่ ความ ยัง่ ยืน” ซึง่ เป็นความร่วมมือระหว่างคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กับธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) เป้าหมายก็เพือ่ ปลูกฝังแนวคิดการท�ำธุรกิจ เพือ่ ความยัง่ ยืน มีสว่ นสร้างสรรค์สงั คมเป็นสุข ให้กบั นักศึกษาทีก่ ำ� ลังจะก้าวสูโ่ ลกธุรกิจในอนาคต อันใกล้ การปลูกฝังแนวคิดทีแ่ ยบยล ผ่านการให้นอ้ งๆ สิบกว่าคนได้ลงสนามจริง ไปอยูท่ า่ มกลางปัญหา ที่เกิดขึ้นจริงกับชุมชน แล้วระดมสมองหาวิธี แก้ไขปัญหาเพือ่ จัดการกับชุมชนแห่งนัน้ ร่วมกัน โจทย์ทโี่ ยนไปพิสจู น์พลังความดีของน้องๆ คือการพัฒนาและวางกลยุทธ์ให้ “บ้านหนอง พฤกษ์” จังหวัดนครราชสีมา ได้เติบโตทั้งทาง เศรษฐกิจ ชุมชนเลีย้ งตัวเองได้ มีสงั คมทีอ่ ยูเ่ ย็น เป็นสุขอย่างยั่งยืน สิง่ ทีท่ า้ ทายพลังสามัคคีมากขึน้ คือน้องๆ มี

ในพื้นที่ โดยก่อนหน้านั้นจะได้รับฟังข้อสรุป พืน้ ฐานเกีย่ วกับบ้านหนองพฤกษ์ จากทีมงานของ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดและสมาคม พัฒนาประชากรและชุมชน (Population and Community Development Association: PDA) บนพื้นที่กว่า 3,325 ไร่ของบ้านหนองพฤกษ์ ในจ�ำนวนนีม้ ชี าวบ้านอาศัยอยูร่ าว 103 ไร่ บนสภาพ พื้นที่ราบสูงและแห้งแล้ง อาชีพส่วนใหญ่คือ เกษตรกรรม ปลูกข้าวโพดหวาน มันส�ำปะหลัง ข้าว และรับจ้าง แล้วอะไรคือปัญหาของชุมชนแห่งนี้ ? หากมอง 360 องศา จะพบปัญหาซ่อนอยู่ใน ชุมชนค่อนข้างมาก แต่ถา้ ถามว่าแล้วน้องๆ จะมี ส่วนเข้าไปน�ำเสนอทางออกของปัญหาในแง่มมุ ใดได้บ้าง “น้องเต๋า” นันทรัตน์ ศรีวัฒนางกูร นักศึกษาชั้นปีที่ 4 เล่าว่า “ปัญหาของชุมชนมีหลากหลาย แต่การ จะเลือกให้ความช่วยเหลือเรือ่ งใดก่อนนัน้ พวก เราเห็นว่า ควรเป็นอะไรที่เราถนัด มีความรู้ และไม่เกินก�ำลังที่จะช่วยเหลือ” อย่างปัญหาเรือ่ ง “การขาดแคลนน�ำ้ ” ส�ำหรับ ท�ำการเกษตร แม้จะเป็นปัญหาใหญ่ในพื้นที่

แต่พวกเราไม่มีความรู้ในเรื่องพวกนี้ ก็ต้องตัด ออกไป “น้องเต๋า” เล่า แล้วอะไรคือสิง่ ทีน่ สิ ติ คณะพาณิชยศาสตร์ และการบัญชี ถนัดและน่าจะท�ำได้ดี ค�ำตอบ ที่ได้คือ การเข้าไปแก้ปัญหาทางการเงิน แนะ วิธีวางแผนทางการเงิน เพื่อสร้างความมั่นคง ทางการเงินให้กับชาวบ้าน ดอกผลของการระดมสมองน�ำไปสูก่ ารจัดท�ำ “แผนพัฒนาโครงการการเงินขนาดจิว๋ ” เพือ่ ขจัดความยากจนและสร้างสรรค์เศรษฐกิจยัง่ ยืน ผ่านธนาคารเพือ่ การพัฒนาหมูบ่ า้ น แก้ปญ ั หา ของชาวบ้านทีม่ รี ายจ่ายมากกว่ารายรับ มีหนีส้ นิ มากกว่าเงินเก็บ ขณะที่อาชีพหลักอย่างการ ท�ำนาถือเป็นรายได้ที่ไม่แน่นอน เรียกว่าฝาก อนาคตไว้กบั ดินฟ้าอากาศ ถ้าฝนตกน�ำ้ ท่วม หรือ แล้งจัด ต้นข้าวก็เสียหาย แนวทางแก้ไขปัญหายังไม่ได้มาจากการ “โหวต” แต่คอื การเลือกวิธที ที่ กุ คนเห็นตรงกัน มากทีส่ ดุ แนวคิดนี้ น้องภูม-ิ ภูมสิ รวล อร่ามเจริญ นักศึกษาสาขาการบัญชี ชั้นปีที่ 4 บอกเราว่า “แนวทางทีอ่ อกมา จะต้องได้รบั การยอมรับ จากทุกฝ่ายหรือเห็นตรงกันมากทีส่ ดุ ไม่ใช่อาศัย เพียงเสียงส่วนใหญ่ที่แสดงว่าบางคนยังเห็น ขัดแย้ง” บทสรุปจากการแชร์ความคิด กลายเป็น ทางออกในการแก้ไขปัญหา เริ่มจากเสนอให้มี การจัดระบบการบริหารการเงินของธนาคาร หมู่บ้าน จัดท�ำคู่มือทางการเงินเพื่อให้ชาวบ้าน รูจ้ กั ท�ำบันทึกรายรับ-รายจ่าย รวมทัง้ การเสนอ ให้ชาวบ้านท�ำอาชีพเสริมเพือ่ หารายได้เพิม่ เติม โดยมองอาชีพที่ลดความเสี่ยง ลงทุนต�่ำ และ น่าจะสามารถท�ำได้ดีในพื้นที่ของคนในพื้นที่ เช่น การเพาะเห็ดฟางและเลี้ยงจิ้งหรีดให้มาก ยิง่ ขึน้ เพราะถ้าชาวบ้านมีรายได้เพิม่ เข้ามา ก็จะ สามารถคืนเงินกูใ้ ห้กบั ธนาคารหมูบ่ า้ นได้มากขึน้

“โครงการการเงินขนาดจิ๋ว” แง่งามความคิด นิสิตเพื่อชุมชน

สื่อสารทั่วถึง องค์กรก็เป็นสุข ความสุขของคนในองค์กร นอกจากจะได้รับเงินเดือน สวัสดิการ ทีเ่ หมาะสมแล้ว การได้รบั โอกาสในการพัฒนาอย่าง ต่อเนือ่ ง และการได้รบั การเอาใจใส่ให้ความส�ำคัญ มีเครือ่ งมือ ที่สะดวกต่อการท�ำงาน กับฝ่ายต่างๆ ก็มีส่วนส�ำคัญ ช่วงนี้มีโอกาสได้ท�ำความรู้จักกับบริษัท บริการเชื้อเพลิง การบินกรุงเทพ จ�ำกัด (มหาชน) หรือ บาฟส์ ซึ่งท�ำธุรกิจ ให้บริการน�้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน ที่มีส่วนการท�ำงานฝ่าย การตลาด ฝ่ายบัญชี ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และ ฝ่ายบริหาร และคลังน�ำ้ มัน ทีด่ อนเมือง ซึง่ ถือเป็นส�ำนักงานใหญ่ และส่วน ปฏิบัติการเติมเชื้อเพลิงอากาศยาน และส่วนคลังน�้ำมันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ความน่าสนใจของที่นี่ อยู่ที่บรรยากาศการท�ำงาน ที่ นอกจากผูบ้ ริหารและพนักงานทีอ่ ยูต่ า่ งส�ำนักงานสามารถท�ำงาน ประสานความร่วมมือกันได้อย่างราบรื่น ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน อย่างดีแล้ว ยังพบว่าพนักงานอาวุโส คนเก่าแก่ที่มีอายุงาน กว่ายี่สิบปีขึ้นไปสามารถท�ำงานร่วมกับน้องใหม่ๆ ได้อย่าง ดีเยี่ยม ในการประชุมงาน เด็กรุน่ ใหม่ ซึง่ รับหน้าทีเ่ ป็นหัวหน้าคณะ

การเก็บตกจากค�ำแนะน�ำของคณะกรรมการ ยังท�ำให้พวกเขาฉุกคิดว่า “การลงมือท�ำอะไร อย่าคิดเพียงแค่เรา หรือชุมชนจะได้อะไร แต่ ต้องคิดว่าท�ำอย่างไรชุมชนถึงจะอยู่ได้ด้วย ตัวเอง และสิ่งที่เรามองว่ามันเป็นปัญหาของ ชุมชนนั้น ความจริงแล้วมันใช่ปัญหาหลักของ ชุมชนไหม แก่นของปัญหาที่แท้จริงอยู่ที่ไหน การแก้ปัญหานอกจากน�ำความรู้ที่มีมาใช้แล้ว ...สิง่ ส�ำคัญทีส่ ดุ คือต้องใช้หวั ใจในการแก้ไข ปัญหา” การลงมือฝึกปฏิบัติจริง ไม่เพียงเติมเต็ม สิง่ ทีเ่ คยเรียนรูจ้ ากในต�ำรา หากสร้างประสบการณ์ ที่ดีให้กับน้องๆ เหมือนที่พวกเขาบอกว่า “หนังสือหยิบมาอ่านเมือ่ ไรก็ได้ แต่โอกาส ได้ทำ� กิจกรรมดีๆ มันไม่งา่ ย ถ้าโอกาสมาถึงต้อง รีบคว้าเอาไว้” แต่สงิ่ ส�ำคัญไปกว่าความสุข ความสนุก ที่ รุน่ พีร่ นุ่ น้องได้ทำ� กิจกรรมร่วมกัน ประสานพลัง ความสามัคคีทำ� สิง่ ดีๆ ให้กบั สังคม คือการสร้าง แรงบันดาลใจทีจ่ ะน�ำวิธคี ดิ แบบนี้ ไปใช้ในอนาคต การท�ำงานของพวกเขาในอนาคต “พวกเราเรียนจบไปก็อยากท�ำงานในสาขา ที่ร�่ำเรียนมา แต่สิ่งหนึ่งที่จะติดตัวเราไปตลอด คือความคิดทีจ่ ะท�ำสิง่ ดีๆ ให้กบั สังคม ท�ำธุรกิจ บนความรับผิดชอบต่อสังคมไปพร้อมๆ กัน ไม่ใช่ ระดมท�ำกิจกรรมซีเอสอาร์ ในวันทีธ่ รุ กิจได้กำ� ไร มามากๆ เท่านั้น ธุรกิจต้องไม่ท�ำผิด ไม่ท�ำให้ สังคมเสื่อม ต้องมีส่วนท�ำให้สังคมดีขึ้น” นีค่ อื สิง่ ทีพ่ วกเขาคิด ในวันทีค่ วามหวังยัง ผลิบาน หากเมือ่ สลัดชุดนักศึกษา แล้วไปอยูใ่ น สนามธุรกิจจริง แรงกดดันหลายๆ อย่าง อาจ ท�ำให้ความคิดดีงามเหล่านี้เปลี่ยนไป แต่หากทุกคนยังเข้มแข็งและยึดมั่นท�ำ สิ่งดีๆ สังคมก็คงเป็นสุขได้ ด้วยแง่งามทาง ความคิดของพวกเขาในวันนี้

ท�ำงาน เช่น กิจกรรมสังคม สามารถแสดงศักยภาพน�ำการประชุม ได้อย่างไม่เกร็ง ขณะที่การให้ความเห็น ของผู้บริหารระดับสูง ที่ให้กับเด็กรุ่นใหม่ก็สร้างสรรค์ ไม่ใช่จ้องจับผิด ในบางงานที่มี ข้อจ�ำกัดด้านงบประมาณ แต่ละคณะท�ำงานก็หันหน้าเข้าหากัน เพื่อแบ่งปันทรัพยากรสร้างงานหรือกิจกรรมที่ใหญ่ขึ้น มีคุณค่า และความหมายมากขึน้ โดยไม่ตงั้ แง่ หรือตัง้ ป้อมกันว่า “นีง่ บข้า ใครอย่าแตะ” หลังจากได้ท�ำความรู้จักและได้มีโอกาสพบปะผู้บริหาร ระดับสูงหลายท่าน รวมทัง้ ได้สอบถามพนักงานทีน่ ถี่ งึ บรรยากาศ การท�ำงาน ก็พบว่า หัวใจส�ำคัญประการหนึ่งที่เป็นพื้นฐานที่ ท�ำให้ ผู้บริหาร และพนักงานจ�ำนวนกว่าสองร้อยคนของบาฟส์ มีความเป็นเอกภาพเป็นหนึ่งเดียวก็คือ การสื่อสาร ที่เข้าถึง ทุกคน ดังค�ำบอกเล่าของผู้บริหารท่านหนึ่งว่า “ทุกคนที่เข้ามา ท�ำงานจะได้รบั Email Account ทีใ่ ช้เชือ่ มต่อกับระบบอินทราเน็ต เพื่อรับข่าวสารต่างๆ กันทุกคน ท�ำให้ไม่ว่าจะออกไปท�ำงานที่ สนามบิน หรือในส�ำนักงาน ก็จะได้รบั ทราบข้อมูล กิจกรรมทีจ่ ะท�ำ รวมถึงมีบอร์ดข้อมูล ที่มีการส่งเสริมให้ใช้ประโยชน์ในการให้

ความสุขของคน ในองค์กร นอกจาก จะได้รับเงินเดือน สวัสดิการ ที่เหมาะสมแล้ว การได้รับโอกาสในการ พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ก็มีส่วนส�ำคัญ

ข่าวสาร อย่างไรก็ตามเพือ่ ให้พนักงานทีเ่ ข้ามาท�ำงานได้ใช้เทคโนโลยี อย่างถูกทางและใช้ให้เกิดประโยชน์ ก็จะมีการจัดอบรมให้ความรู้ แนะน�ำเทคนิคการใช้ด้วย ขณะที่พนักงานระดับล่างสามารถ ส่งอีเมล์ถึงผู้บริหารระดับสูงได้โดยตรง ท�ำให้ปัญหาการท�ำงาน ต่างๆ ได้รับการแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว โดยจากการประเมินพบว่า ทุกคนพอใจมาก” ปัจจัยที่เอื้อให้พนักงานของที่นี่มีเอกภาพ ร่วมแรงร่วมใจกัน ในการท�ำงานและท�ำกิจกรรมพัฒนาชุมชน โดยแต่ละงานจะได้รบั ความสนใจและความร่วมมืออย่างสูง ก็คือ นโยบายขององค์กร ที่ชัดเจนในการเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในกิจกรรม โดย หมุนเวียนไปเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการก�ำหนดรูปแบบ ในการบริหารงาน และกิจกรรม เช่น กิจกรรมซีเอสอาร์ กิจกรรม ด้านความปลอดภัย ผ่านคณะท�ำงานที่มาจากฝ่ายต่างๆ โดยจะมี การหมุนเวียนให้พนักงานเข้ามาท�ำหน้าที่เป็นหัวหน้าคณะท�ำงาน โดยจะมีการเปลี่ยนคนมาด�ำรงต�ำแหน่งทุกสองปี อีกปัจจัยหนึง่ ทีส่ ำ� คัญก็คอื การจัดกิจกรรมสันทนาการ และ กีฬา ผ่านสโมสรพนักงาน รวมถึงการเปิดโอกาสให้ครอบครัว พนักงานเข้ามามีสว่ นร่วมในกิจกรรม ท�ำให้พนักงานในแต่ละระดับ มีสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน ถามว่าแต่ละคนแต่ละฝ่ายรับรู้ถึงกิจกรรมที่จะท�ำได้อย่างไร ตรงนี้เห็นชัดว่า ระบบการสื่อสาร ที่เข้าถึงทุกฝ่าย ที่ได้มีการ ออกแบบไว้อย่างดี ท�ำหน้าทีข่ องมันได้อย่างดีเยีย่ มทีเดียว “เรียกว่า ต่อให้คนใดไม่มาท�ำงานสองวัน ก็ยังไม่ตกข่าว” เข้าท�ำนอง สื่อสารดี องค์กรมีสุขเกินร้อยนั่นเองค่ะ


5

Rich&Risk

วันที่ 7 มีนาคม 2554

ความเป็นไปได้ การหาสถาปนิก ผู้ออกแบบ และ ที่ปรึกษา เพื่อร่วมพัฒนาแนวคิดและการออกแบบ การก�ำหนดการเงินของโครงการ ก�ำหนดแผน งานการก่อสร้าง ควบคุมการก่อสร้าง การบริหาร จัดการภายใน แผนการเปิดโรงแรม ตลอดจนการ บริหารหลังการเปิดโรงแรม เป็นต้น ขณะทีค่ วามท้าทายของธุรกิจนี้ ปีเตอร์บอกว่า อยู่ที่ขนาดของกิจการและผลก�ำไร ความเชี่ยวชาญ เฉพาะด้านเพื่อการพัฒนาธุรกิจ คุณภาพการให้ บริการ หากรู้วิธีสกัดจุดอ่อนในเรื่องเหล่านี้ ก็จะ คว้าชัยในธุรกิจมาครองได้ในที่สุด มาดูต้นแบบของบูติค โฮเต็ล ที่ได้รับรางวัล ดีเด่นและรางวัลยอดเยี่ยมจากโครงการไทยแลนด์ บูติค อวอร์ด 2010 กันบ้าง “บ้านดินสอ” เจ้าของรางวัลบูติคโฮเต็ลดีเด่น แห่งภาคกลาง (ประเภทปรับปรุงสถาปัตยกรรม) พุทธิมา อัครวิวัฒน์ เริ่มเปิดให้บริการบ้านดินสอ เมื่อปี 2550 ด้วยการปรับปรุงบ้านเก่าอายุราว 90 ปี “พุทธิมา” เลือกน�ำประสบการณ์จากอาชีพตกแต่ง ภายในและรับเหมาก่อสร้างโรงแรมต่างๆ มาปรับ ใช้กบั ธุรกิจในฝันของตัวเอง โดยใช้ทมี งานทีม่ คี วาม เชีย่ วชาญด้านท�ำเล ความรูด้ า้ นการช่างเพือ่ ออกแบบ ทีอ่ ยูอ่ าศัยให้อยูส่ บาย บวกกับบริการทีม่ ใี ห้เลือกสรร ครบครัน ท�ำให้บา้ นดินสอ เป็นอีกต้นแบบของบูตคิ โฮเต็ล ที่มีความพอเหมาะพอดี ให้ความสุขแก่ ผู้เยี่ยมเยือนอย่างเต็มอิ่ม ขณะที่ “จิตติพันธ์ ศรีกสิกรณ์” ผู้จัดการ “หลับดี โฮสเตล” เจ้าของรางวัลบูตคิ โฮเต็ล ยอดเยีย่ ม แห่งภาคกลาง (ประเภทสร้างเสริมประสบการณ์)

ที่ผ่านมาโรงแรมเชนใหญ่ มีแบรนด์เตะหู อาจเป็น เป้าหมายของนักเดินทาง แต่ในวันนี้ โลกเปลี่ยน ไปแล้ว คนที่มีไลฟ์สไตล์ เป็นของตัวเอง ต่างเทใจ ให้ “บูติค โฮเต็ล” โรงแรมทางเลือก ขายประสบการณ์มีเอกลักษณ์ชัด อีกโอกาส ธุรกิจเอสเอ็มอี

เส้นทางลัดก้าวสู่

ธุรกิจ บูติค

โฮเต็ล

ถามว่าที่พักแบบไหนที่โดนใจนักท่องเที่ยว บูติค โฮเต็ล ยังเป็นการลงทุนที่สบายกระเป๋า ขณะที่พัฒนาการของนักท่องเที่ยว กูรู บูติค ไทยแลนด์บูติค อวอร์ด พาเอาความแตกต่างของ

ปีเตอร์ เคลลี่

กว่ า โรงแรมขนาดใหญ่ ห ลายเท่ า ตั ว เรี ย กว่ า “พอเหมาะพอเจาะ” กับผู้ประกอบการพันธุ์เล็ก ทีม่ เี งินทุนและชัว่ โมงบินในการบริหารกิจการโรงแรม ไม่มากนัก แต่ทุกการลงทุนไม่มีอะไรง่าย นั่นคือเหตุผล ที่เอสเอ็มอีต้องหา “กูรู” มาช่วยชี้แนะ โดยเฉพาะ ผู้ที่คร�่ำหวอดในธุรกิจนี้มายาวนาน เห็นทั้งความ หอมหวานและช�้ำชอก ในธุรกิจบูติค โฮเต็ล ครบรส “ปีเตอร์ เคลลี่” ซีอีโอ เดอะยูนีค คอลเลคชั่น ผู้บริหารบูติคโฮเต็ลในไทยมาเกือบ 20 แห่ง หนึง่ ในวิทยากรผูเ้ ชีย่ วชาญธุรกิจนี้ พร้อมจะเข้าร่วม Workshop เปิดสูตรธุรกิจ เป็นเจ้าของบูตคิ โฮเต็ล ด้วยตัวเอง (Boutique Hotel Management) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2554 โดย ปีเตอร์ จะน�ำหัวข้อโดนๆ เรื่อง “Boutique Hotel Management เปิดกลยุทธ์ปน้ั บูตคิ โฮเต็ลสูค่ วาม ส�ำเร็จ” มาถ่ายทอดให้ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าสู่ ธุรกิจนี้ ได้ “รู้เท่าทัน” สถานการณ์ หลายคนสนใจธุรกิจ “บูติค โฮเต็ล” เพราะ เห็นความหอมหวานในตลาดนี้ โดยเฉพาะในช่วง 5-7 ปีที่ผ่านมา ที่โรงแรมรูปแบบนี้เพิ่มจ�ำนวนขึ้น อย่างรวดเร็ว รองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายและ ตอบสนอง “ตัวตน” ที่แตกต่างของนักเดินทาง ทว่า สิ่งที่ผู้ประกอบการควรรู้ ไม่เพียงแค่ ไลฟ์สไตล์ของลูกค้า แล้วผลีผลามเข้ามาในธุรกิจนี้ แต่ต้องศึกษา และเข้าใจธุรกิจนี้เป็นอย่างดี ปีเตอร์ เคลลี่ จึงเลือกที่จะน�ำพาทุกคนไปสู่ ความเข้าใจที่แท้จริงเกี่ยวกับ “บูติค โฮเต็ล” อย่าง การเป็นโรงแรม ที่มีเอกลักษณ์ มีความ “ยูนีค” เป็น โรงแรมขนาดเล็ก และมักจะเป็นอิสระ มีการออกแบบ ที่แตกต่าง มีดีไซน์เฉพาะ ทีส่ ำ� คัญคือ ต้องให้ประสบการณ์พเิ ศษ น่าจดจ�ำ กับลูกค้า

โฮเต็ล บอกว่า เมือ่ 20 ปีกอ่ น ตลาดอาจนิยมโรงแรม เชนที่มีแบรนด์ หากแต่ปัจจุบันนักเดินทาง ต่างหัน มานิยมโรงแรมบูติค ขนาดเล็ก ที่มีลักษณะเฉพาะ ขณะที่ตลาดมีความคาดหวังสูงด้านการออกแบบ สินค้าและการให้บริการ ขณะที่ความเสี่ยงด้านการลงทุน ซึ่งเป็นความ เสี่ยงสูงสุดของการท�ำธุรกิจ ปีเตอร์ จะเลือกน�ำ ประสบการณ์ในแวดวงนี้ มาถอดสูตรการลงทุน ทีผ่ ปู้ ระกอบการควรพิจารณา ตัง้ แต่ การก�ำหนดกลุม่ เป้าหมาย วางต�ำแหน่งตัวเองให้ชัดเจน การศึกษา

Key to Success

ทีส่ ดุ ในเวลานี้ ผูป้ ระกอบการส่วนใหญ่คงต้องยกนิว้ ให้ “บูติค โฮเต็ล” (Boutique Hotel) โรงแรม ขนาดเล็ก ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดดเด่นทั้งการ ออกแบบ ไอเดียแหวกแนว พร้อมสร้างประสบการณ์ ประทับใจแบบสุดๆ ให้แก่ลูกค้า เหตุผลส�ำคัญอาจมาจากไลฟ์สไตล์ของนัก ท่องเที่ยว ที่ต่างต้องการแสวงหาประสบการณ์สุด พิเศษ น่าจดจ�ำ ในการท่องเที่ยวและพักผ่อนมาก ขึ้น จึงให้ความส�ำคัญกับการเสาะหาที่พักดีๆ แปลก ใหม่ มากกว่าแค่เลือกที่พักแบบ “คิดสั้น” สถานที่ พืน้ ๆ มีแต่หอ้ งพัก และบริการอาหาร “สูตรเดียวกัน”

เติบใหญ่ในธุรกิจ “บูติค โฮเต็ล” แตกต่าง รับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ สร้างประสบการณ์สุดพิเศษ ในการเข้าพัก ลงทุนไม่สูงเท่าโรงแรมขนาดใหญ่ กระแสนิยมโรงแรมบูติคยังแรง จับกลุม่ ลูกค้ากระเป๋าหนักขยับราคาได้ มีต้นแบบคนส�ำเร็จให้เรียนรู้

โครงการในเครือนารายณ์ โฮเต็ลแห่งนี้ โดยโฟกัสกลุม่ เป้าหมายไปที่ Youth Travel Accommodation รองรับตลาดการท่องเที่ยวที่ฉีกจากกลุ่มโรงแรม ระดับ 4-5 ดาว และโรงแรมเชนต่างประเทศ พวก เขายังตั้งใจให้ หลับดี โฮสเตล เป็นแบรนด์ไทยที่ ไปแข่งขันได้ในตลาดโลก หัวใจของ หลับดี โฮสเตล อยู่ที่การสร้างความ เป็นมิตร สร้างสังคม รูปแบบการสร้างสรรค์ที่พัก ที่เน้นทั้งด้าน Functional & Emotional เพื่อตอบ สนองความต้องการของนักเดินทางได้อย่างสมบูรณ์ ไม่เพียงการทิ้งพื้นที่ด้านหน้าอาคารไว้ค่อนข้างมาก เพื่อให้ลูกค้าได้นั่งคุย นั่งดูบรรยากาศของกรุงเทพ ยังมีสว่ นทีเ่ ป็นห้องดูหนังรวม มุมนัง่ พักหน้าห้องน�ำ้ รวม รวมถึงการเล่าเรื่องราวผ่านกราฟฟิกในห้อง พัก เพื่อบอกเล่าถึงสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาคาร แหล่งชอปปิงในกรุงเทพฯ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้ารู้จัก กรุงเทพฯ มากขึ้น สองตัวอย่างไอเดียดีๆ ของผู้ประกอบการ บูติคโฮเต็ล มือรางวัล พร้อมกับอีกหนึ่งกูรู บอกเรา ว่า บูติคโฮเต็ล ยังมีตลาดแจ้งเกิดได้อีกมาก และไม่ ยากจนเกินไป ขอเพียงรู้ลึก รู้จริง เท่านั้น ผูป้ ระกอบการทีส่ นใจเข้าร่วม Workshop เปิดสูตรธุรกิจ เป็นเจ้าของบูติค โฮเต็ล ด้วยตัวเอง (Boutique Hotel Management) สอบถามรายละเอียด ได้ที่ โทร.0-2338-3705-7, 086-313-1903 โทรสาร : 0-2338-3334 ต่อ 3705 www. facebook.com/Panyaturakij (มีค่า ใช้จ่าย) ก่อนเข้าร่วมกิจกรรมครบสูตร ในวันเสาร์ที่ 26 มีนาคม 2554 นี้

การสร้างคุณค่าจากนวัตกรรม ดุจห่วงโซ่ทเี่ รียงร้อยกัน และทุกครัง้ ทีม่ กี ารเชือ่ มโยง ส่งมอบงานจาก การมองว่า การสร้างนวัตกรรม คือการทุ่มความพยายามไปที่ การหาไอเดียดีๆ ให้ได้เป็นจ�ำนวนมากๆ แต่เพียงอย่างเดียว ไม่อาจ เช่น ธุรกิจซือ้ วัตถุดบิ เข้ามาในราคาหนึง่ เมือ่ น�ำเข้าสูก่ ระบวนการ จะท�ำให้ธุรกิจหรือองค์กร ประสบความส�ำเร็จในเชิงนวัตกรรมได้ ผลิต ต้องอาศัยแรงงาน เครื่องจักร หรือปัจจัยการผลิตอย่างอื่น หากไอเดียดีๆ เหล่านั้นๆ ไม่สามารถแปรสภาพไปสู่การเป็นสินค้า มาช่วย จะพบว่า ค่าแรง ค่าเสื่อมราคาจากการใช้เครื่องจักร หรือ หรือบริการใหม่ๆ ที่จะน�ำเสนอออกสู่ตลาดได้ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในการผลิต ก็จะถูกฝังเข้าไปในตัวของวัตถุดิบ ที่จะ ความส�ำเร็จในโซ่ขั้นแรก โดยไม่ได้ดู หรือให้ความสนใจกับ แปรสภาพกลายมาเป็ น สิ น ค้ า หรื อ ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ที่ มี มู ล ค่ า สู ง ขึ้ น ห่วงโซ่ในข้อต่อๆ ไป กลับจะเป็นการสร้างปัญหายุ่งยากให้กับธุรกิจ การจัดเก็บสินค้าในโกดัง ก็จะมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าแรงพนักงาน เสมือนกับการพยายามปั๊มไอเดียมากมาย เข้าสู่ระบบอื่นๆ ของธุรกิจ ที่จะต้องยกสินค้าขึ้นบนชั้น ดูแลความสะอาด และความถูกต้อง ที่ยังไม่พร้อมที่จะรองรับ ครบถ้วนของจ�ำนวนสินค้า ฯลฯ มูลค่าทีฝ่ งั อยูใ่ นตัวสินค้า ก็เพิม่ มากขึน้ ไปอีก แม้จะมีไอเดียดีๆ มากมาย แต่ธุรกิจที่ไม่มีระบบที่จะใช้กลั่น กว่าสินค้าจะถูกส่งมอบไปถึงมือของลูกค้า ก็จะมีค่าใช้จ่าย หรือ กรอง คัดเลือกว่า จะน�ำไอเดียใดไปปฏิบัติก่อนหลัง และการเตรียม ต้นทุนอื่นๆ เกิดขึ้นกับตัวสินค้าอีกมากมาย ทรัพยากรทางการเงิน เพื่อลงทุนผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนไอเดีย ห่วงโซ่คณ ุ ค่าของนวัตกรรมก็จะมีการท�ำงานที่คล้ายกัน แต่อาจ ให้เป็นรูปธรรมขึ้นมา ซึ่ง อาจต้องเกี่ยวข้องกับการปรับระบบงาน เป็นห่วงโซ่ที่มีขั้นตอนน้อยกว่า ท�ำงาน การสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ การจัดหาเครื่องมืออุปกรณ์มา กระบวนการสร้างมูลค่าเพิ่มของนวัตกรรม จะเริ่มจากกิจกรรม เพิ่มเติม เป็นต้น “การสร้างไอเดีย” ไปสู่ “การกลั่นกรองไอเดีย” และ “การลงทุนเพื่อ การมองการสร้างนวัตกรรม ในรูปแบบของห่วงโซ่คุณค่า จะ พัฒนาไอเดียให้กลายเป็นสินค้านวัตกรรมออกสู่ตลาด” ท�ำให้เจ้าของธุรกิจหรือผูบ้ ริหาร สามารถบริหารการสร้างนวัตกรรมได้ การสร้ า งนวั ต กรรมขึ้ น มาในธุ ร กิ จ ไม่ ไ ด้ เ ป็ น กิ จ กรรม ครบวงจร ให้ความสนใจและสรรหาทรัพยากรต่างๆ เพือ่ ใช้สนับสนุน เดียวโดดๆ แต่ประกอบด้วยห่วงโซ่หลายข้อที่ร้อยต่อกัน กิจกรรมการสร้างนวัตกรรมในสายโซ่ทุกข้อ ก็จะท�ำให้กระบวนการ

ธุรกิจในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดใหญ่หรือธุรกิจขนาด โซ่ข้อหนึ่งไปยังโซ่ข้อต่อไป ก็จะเกิดมูลค่าเพิ่มขึ้น เล็ก ต่างก็ให้ความสนใจกับเรื่องของการสร้างนวัตกรรม แต่ใน ข้อเท็จจริงแล้ว อาจจะพบว่า ไม่ใช่ธรุ กิจทุกรายทีห่ นั มาท�ำนวัตกรรม แล้ว จะประสบความส�ำเร็จเสมอไป ธุรกิจนวัตกรรม จึงถูกจัดให้อยู่ในประเภทธุรกิจที่มีความเสี่ยง สูง แต่แรงจูงใจให้เจ้าของธุรกิจหรือผู้บริหารที่มุ่งท�ำนวัตกรรมก็คือ หากนวัตกรรมประสบความส�ำเร็จขึ้นมา ผลตอบแทนหรือผลก�ำไร ที่เกิดขึ้น ก็จะมีมูลค่าสูงเช่นกัน โดยพื้นฐานแล้ว การท�ำนวัตกรรม ไม่ควรจะเป็นการน�ำธุรกิจ เข้าสู่ความเสี่ยง แต่ควรจะเป็นกระบวนการที่สร้างคุณค่าเพิ่มให้กับ ธุรกิจมากกว่า การที่ จ ะท� ำ และบริ ห ารนวั ต กรรมให้ ป ระสบความส� ำ เร็ จ ผู้บริหารธุรกิจ จะต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการสร้างคุณค่า ของนวัตกรรม ที่มักเรียกว่า Innovation Value Chain หรือ IVC เช่นเดียวกับพื้นฐานของการท�ำธุรกิจในมุม Value Chain หรือ ห่วงโซ่คุณค่า ที่มองว่า การท�ำธุรกิจไม่ใช่เป็นเรื่องของกิจกรรมใด กิจกรรมหนึ่งโดดๆ แต่เป็นเรื่องของการน�ำกระบวนการหรือขั้นตอน ต่างๆ หลายตอนที่เกิดขึ้นต่อเนื่องกันตั้งแต่ต้นทางไปสู่ปลายทาง

witty@tu.ac.th

Value Innovation ถ้าถามว่า อะไรคือหัวใจ “Blue Ocean Strategy (BOS)”

ค�ำตอบทีช่ ดั เจนมากคือ ค�ำว่า “Value Innovation” และ Keyword นี้เป็นแนวทางเชิงกลยุทธ์ที่เป็นหลักของ BOS ในการพิจารณาว่า ผลิตภัณฑ์ที่ก�ำลังจะคลอดออกมาใหม่ แนวคิดธุรกิจหรือกิจกรรม ที่องค์กรคิดจะท�ำอยู่ในกรอบของ BOS หรือไม่ และถ้าถามต่อว่า Value Innovation คืออะไร ผมขอถอดค�ำ 2 ค�ำนี้ออกจากกันครับ Value คือ คุณค่า ซึ่งตามแนวทางของ BOS เน้นที่คุณค่า ที่ลูกค้าได้รับจากผลิตภัณฑ์หรือบริการขององค์กร โดยเน้นที่การ เพิ่มคุณค่าให้กับลูกค้า (Increase Buyer Value) Innovation คือ นวัตกรรม การสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับลูกค้า ตามกรอบของ BOS ไม่ได้ต้องการให้เกิดแค่ความแตกต่างจาก คู่แข่ง (Differentiation) แต่เน้นที่การสร้างตลาดใหม่ผ่านสินค้า บริการหรือแนวคิดทางธุรกิจที่ใหม่ ไม่เหมือนกับสิ่งที่มีอยู่ในตลาด ปัจจุบัน นั่นคือความหมายของค�ำว่า Innovation ใน BOS โดยที่ Innovation นัน้ ถ้ามีเทคโนโลยีมาช่วยสนับสนุนจะช่วยให้เกิดคูแ่ ข่ง ในตลาดช้าลง เป็นการรักษาสถานะตลาดแบบ Blue Ocean ไว้ไม่ ให้กลายเป็น Red Ocean ในเวลาอันสั้น สิ่งที่ BOS ให้ความส�ำคัญในการสร้างให้เกิด Value Innovation และท�ำให้ BOS เป็นกลยุทธ์น่าสนใจในการน�ำมาใช้ทางธุรกิจ คือ การให้ความส�ำคัญกับการลดต้นทุน (Cost) ในการพิจารณาว่า สิง่ ทีอ่ งค์กรจะท�ำเป็น BOS หรือไม่ ให้ดวู า่ 1. สร้างคุณค่าเพิม่ ให้ลกู ค้า หรือไม่ และ 2 ช่วยลดต้นทุนในการด�ำเนินธุรกิจหรือไม่ นวัตกรรม ใดที่ไม่เข้าข่าย 2 ข้อนี้ ไม่ถือว่าเป็น BOS ครับ ในด้านการสร้างคุณค่าให้ลูกค้า (Buyer Value) นั้นต้องเข้าใจ ก่อนว่าคุณค่าที่ลูกค้าต้องการมีหลายประเภท เช่น 1. คุณค่าในเชิงตัวเงิน (Value For Money) ที่เรียกกัน ง่ายๆ ว่า “คุ้ม” ตัวอย่างของสายการบินประเภทต้นทุนต�่ำที่ถือได้ว่า เป็นตัวอย่างหนึ่งของ BOS ก็เป็นการสร้างคุณค่าบนความคุ้มค่า (เมื่อเทียบกับบริการของสายการบินปกติ) 2. คุณค่าเชิงอารมณ์ (Emotional Value) เช่น ความภูมิใจ ที่ได้เป็นเจ้าของ ความอิ่มเอมกับการได้รับรู้เรื่องราวของสินค้าและ ความรู้สึกเชิงอารมณ์อื่นๆ ที่ลูกค้าได้รับจากสินค้าและบริการนั้น ท�ำให้ลูกค้าจ�ำนวนมากไปเข้าคิวรอซื้อ Iphone 4 ในการเปิดตัว วันแรก (เพราะอยากเป็นเจ้าของก่อนคนอืน่ ) ความรูส้ กึ ทีไ่ ด้กนิ โดนัท Krispy Creme แตกต่างจากโดนัทยี่ห้ออื่นไม่ใช่แค่รสชาติ แต่เป็น เพราะรูว้ า่ หาซือ้ ยาก ท�ำให้โดนัทยีห่ อ้ อืน่ ถึงจะท�ำรสชาติได้เหมือนแต่ ก็เป็นสินค้าที่ทดแทนกันไม่ได้ 3. คุณค่าจากการใช้ประโยชน์ (Functional Value) คือการ ที่สินค้าใหม่ภายใต้ BOS สามารถตอบสนองในเชิงประโยชน์ ใช้สอยได้ดีกว่าสินค้าที่มีอยู่ในตลาดอย่างชัดเจน โดยช่วยแก้ปัญหา หรือความไม่สะดวกที่ใน BOS เรียกว่า Pain Points ของสินค้า เดิม เช่น iPad ตอบโจทย์ในด้านของการเปิดใช้งานได้เร็ว พกพา สะดวก ใช้งานต่อเนื่องได้นาน ขณะที่ Notebook หรือ Netbook ยังต้องใช้เวลาในการ Boot เครื่องนาน พกพาล�ำบากกว่าและใช้งาน ต่อเนื่องได้ไม่กี่ชั่วโมง 4. คุณค่าจากระยะเวลา (Value of Time) เช่น การส่งมอบ สินค้าได้เร็วขึน้ จากกระบวนการผลิตทีล่ ดขัน้ ตอน การประหยัดเวลา โดยรวมในการใช้บริการ เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มด้านเวลาให้กับ ลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าที่ตีราคาของเวลาออกมาเป็นเงินได้ ในกรณีศึกษาของ BOS ได้ยกตัวอย่างของธุรกิจบริการเครื่องบิน ขนาดเล็กส่วนตัวเช่าเหมาล�ำของบริษัท Netjets ที่ให้บริการกับ ผูบ้ ริหารระดับสูงขององค์กรทีส่ ามารถเดินทางได้ในเวลาและสถานที่ ทีต่ อ้ งการ ไม่ตอ้ งรอเวลาเทีย่ วบินของสายการบินพาณิชย์ ขณะเดียวกัน ก็มีค่าใช้จ่ายที่ต�่ำกว่าการลงทุนซื้อเครื่องบินเล็กของตัวเองเอาไว้ ใช้งาน ฉบับนี้เนื้อที่หมด ผมค้างไว้ตอนหน้าจะอธิบายถึงการ ลดต้นทุนที่สร้าง Value Innovation ให้องค์กรครับ

รศ.วิทวัส รุ่งเรืองผล อาจารย์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทีป่ รึกษาใน Blue Ocean Strategy Thailand ตัวแทน ที่ได้รับลิขสิทธิ์จาก The Blue Ocean Strategy Regional Center Asia Pacific ในด้านการให้บริการที่ปรึกษา และให้ ความรูเ้ พือ่ พัฒนาธุรกิจภายใต้หลักสูตรและเครือ่ งมือของ Blue Ocean : www.blueocean-thailand.com

เปลี่ยนไอเดียให้กลายเป็นโปรดักท์ เกิดขึ้นได้โดยไม่สะดุด ธุรกิจทีบ่ ริหารนวัตกรรมด้วยการให้ความส�ำคัญกับ IVC จะเป็น บริษทั ทีป่ ระสบความส�ำเร็จและมีความสามารถในการสร้างนวัตกรรม ให้เกิดขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง และน�ำไปสู่ยอดขายและผลก�ำไรที่จะเกิด ขึ้นกับบริษัทอย่างยั่งยืน Apple กับความส�ำเร็จในการน�ำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมออก มาก้าวน�ำความต้องการของผูบ้ ริโภคได้อย่างต่อเนือ่ งตลอดเวลา ตัง้ แต่ Mac Computer, Notebook, iPod, iPhone, iPad และยังไม่รู้ ว่าจะมีอะไรต่ออะไรที่จะออกมาสร้างความต้องการให้กับผู้บริโภค ทั่วโลกอีก แสดงให้เห็นความพร้อมขององค์กร ในแง่ของ “การสร้างไอเดีย” “การคัดเลือกไอเดียที่ประสบความส�ำเร็จ” และ “การลงทุนเพื่อผลัก ดันไอเดียไปสู่การเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตลาดยอมรับ” ครบทุกห่วงโซ่คุณค่าของนวัตกรรม!!!! ดร.เรวัต ตันตยานนนท์ เชี่ยวชาญด้านธุรกิจเอสเอ็มอี จบปริญญาโท ส�ำหรับผู้บริหารรุ่นที่ 13 คณะพาณิชยศาสตร์ และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ “บทความนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานที่สังกัด”


6

วันที่ 7 มีนาคม 2554

“ภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังอยู่ ในเกณฑ์ที่ดีคาดว่าก�ำไรบริษัทจดทะเบียนในปีนี้จะโต 18-20% ขณะที่ต่างชาติก็น่าจะปรับพอร์ตการลงทุนระยะสั้นใกล้เสร็จแล้ว ด้วยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยโอกาสที่จะเห็น SET ลงไปลึกระดับ 950 จุด อีกครั้งน่าจะเกิดขึ้นได้ยาก บริเวณแนวรับ 980-970 จุดน่าจะสามารถรับไว้ได้... หากมองการเติบโตของก�ำไรบริษัทจดทะเบียนในอีก 2 ปีข้างหน้าเฉลี่ยปีละ 10-15% มีโอกาสเห็น SET ขึ้นไประดับ 1,200-1,300 จุด ในปีนี้ และระดับ 1,400-1,500 จุด ในปีหน้า” ประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.อยุธยา

เครดิตภาษีเงินปันผล ผลประโยชน์ที่ ไม่ควรมองข้าม สวัสดีครับ เดือนมีนาคมเข้าสูช่ ว่ งสุดท้ายของการยืน่ แบบเสียภาษีเงินได้บคุ คลธรรมดา

กันแล้วนะครับ ผมขอแนะน�ำให้ยนื่ เสียแต่เนิน่ ๆ จะดีทสี่ ดุ เนือ่ งจากมีหลายคนทีน่ ยิ มยืน่ ใน ช่วงโค้งสุดท้าย โดยเฉพาะการยืน่ ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตซึง่ มักจะเจอปัญหาเกีย่ วกับระบบ ขัดข้องเพราะมีปริมาณผู้เข้าใช้งานเป็นจ�ำนวนมาก ส�ำหรับเงินได้ที่น�ำมาค�ำนวณภาษีประกอบด้วย เงินเดือน ค่าจ้าง เบี้ยเลี้ยง โบนัส ค่า ธรรมเนียม ค่านายหน้า ดอกเบี้ย เงินปันผล เป็นต้น ส่วนค่าใช้จ่ายที่เราสามารถน�ำมาใช้ หักลดหย่อนภาษีได้นั้น ประกอบด้วย เงินสนับสนุนเพื่อการศึกษาและการกีฬา เงินบริจาค เงินสะสมกองทุนส�ำรองเลี้ยงชีพ เงินสมทบกองทุนประกันสังคม เบี้ยประกันชีวิต ค่าซื้อ หน่วยลงทุน RMF และ LTF ดอกเบีย้ เงินกูย้ มื เพือ่ ทีอ่ ยูอ่ าศัย และล่าสุดคือเงินค่าเดินทาง ท่องเทีย่ วภายในประเทศ เป็นต้น ซึง่ ในฉบับนี้ ผมจะขอพูดถึงสิง่ ทีห่ ลายคนอาจมองข้ามไป นั่นคือ “เงินปันผล” ครับ ท่านสามารถน�ำเงินปันผลจากหุน้ ของบริษทั จดทะเบียนต่างๆ ทีล่ งทุนเอาไว้ มาใช้ประกอบในการ ยืน่ ภาษีได้ดว้ ย เนือ่ งจากเรามีโอกาสทีจ่ ะขอคืนภาษีบางส่วนได้ หรือทีเ่ รียกว่า “เครดิตภาษีเงินปันผล” ซึง่ อาจท�ำให้ผลตอบแทนของเราเพิม่ ขึน้ อย่างมีนยั ส�ำคัญ เพราะตามหลักการแล้ว หลายท่าน อาจเป็นผูม้ สี ทิ ธิได้ภาษีคนื จากเงินปันผลจากหุน้ ของบริษทั จดทะเบียนทีเ่ ข้าไปลงทุน เนือ่ งจาก เงินปันผลนัน้ ถูกหักภาษี ทัง้ ภาษีนติ บิ คุ คล และภาษีหกั ณ ทีจ่ า่ ยไปเรียบร้อยแล้ว หากผูล้ งทุน เสียภาษีซ�้ำอีกจึงเข้าข่ายซ�้ำซ้อน และมีสิทธิขอคืนครับ ผมขอขยายความเพิ่มขึ้นอีกหน่อย นั่นคือ นอกจากเงินปันผลที่เราได้รับมานั้นจะถูก หักภาษี ณ ที่จ่าย 10% แล้ว ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่หลายท่านอาจยังไม่ทราบว่าแท้จริงแล้ว ก่อนหน้าจะถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายแล้ว เงินปันผลของท่านยังถูกหักภาษีเงินได้นิติบุคคลไป แล้วอีกด้วย โดยฐานภาษีเงินได้นิติบุคคลอยู่ที่ 20% 25% และ 30% ตัวอย่างเช่น หาก บริษัทดังกล่าวเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลอยู่ที่ 30% และมีก�ำไรก่อนหักภาษีที่ 100 บาท ดัง นั้นจะถูกหักภาษีนิติบุคคล 30 บาท และเหลือก�ำไรสุทธิ 70 บาท ต่อมาน�ำเงิน 70 บาทไป จ่ายเงินปันผลทัง้ หมด ซึง่ ก็จะถูกหักภาษี ณ ทีจ่ า่ ยอีก 10% หรือเท่ากับ 7 บาท หมายความ ว่า ภาษีที่รัฐจัดเก็บไปแล้วคือ 37% หรือ 37 บาท ดังนัน้ หากท่านเสียภาษีเงินได้บคุ คลธรรมดาในฐานสูงสุดที่ 37% ท่านก็จะไม่ได้รบั เงินคืน จากเงินภาษีกอ้ นนีเ้ ลย เนือ่ งจากถูกหักไปเต็มจ�ำนวนแล้ว และไม่จำ� เป็นต้องเอาเงินก้อนนี้ ไปรวมเป็นเงินได้ เพือ่ ค�ำนวณภาษีแต่อย่างใด แต่ถา้ เมือ่ ไหร่กต็ ามอัตราภาษีเงินได้บคุ คล ธรรมดาของท่านน้อยกว่า 37% (เช่น 30% 20% 10% หรือไม่เสียเลย) ท่านก็สามารถขอคืน ในส่วนทีถ่ กู หักภาษีเกินไปได้ครับ ดังนัน้ กลุม่ ผูท้ มี่ ฐี านภาษีนอ้ ยกว่า 37% จึงควรน�ำเงินปันผล ไปรวมในฐานเงินได้ นีค่ อื ตัวอย่างอย่างง่ายเพือ่ ให้คณ ุ ผูอ้ า่ นเห็นภาพ ในความเป็นจริงเครดิตภาษีเงินปันผล ยังมีความซับซ้อนเนื่องจากบริษัทต่างๆ เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราที่ไม่เท่ากัน เช่น 20% 25% และ 30% ซึง่ ก็จะต้องค�ำนวณเครดิตภาษีเงินปันผลตามอัตรานัน้ ๆ หรือ หากเป็น บริษทั ทีไ่ ม่เสียภาษีเนือ่ งจากเป็นกิจการทีไ่ ด้รบั การส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ก็ไม่สามารถ ใช้เครดิตภาษีเงินปันผลได้ เป็นต้น การทีจ่ ะได้คนื มากหรือน้อยจึงขึน้ อยูก่ บั การค�ำนวณ ซึง่ ท่านสามารถลองเข้าไปค�ำนวณได้จากเว็บไซต์ของกรมสรรพากร (www.rd.go.th) โดยอาจ ทดลองท�ำการค�ำนวณดูก่อนว่า ถ้าหากน�ำเงินปันผลไปรวมเป็นเงินได้แล้ว ผลของภาษีจะ ออกมาเป็นอย่างไร หากผลการค�ำนวณออกมาว่าได้รับเงินภาษีคืนก็ยื่นไปเลยครับ หากท่านใดมีข้อข้องใจเกี่ยวกับการวางแผนการเงินของตนเอง สามารถส่งค�ำถาม ของท่านมาได้ที่ pr.tisco@gmail.com พบกันใหม่ตอนต่อไปครับ www.tiscowealth.com

Mission CEO ฉบับที่ 351 ประจ�ำ

วันที่ 7 - 13 มีนาคม 2554  วีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผูจ ้ ดั การ บมจ. ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชัน่ เปิดเผยว่า ในช่วง 2 เดือนทีผ่ า่ นมามีการปล่อยเช่าพืน้ ที่ แล้ว 7 หมืน่ ตร.ม. ซึง่ บริษทั ตัง้ เป้าปล่อยเช่า พื้นที่ปีนี้อยู่ที่ 1.8-2 แสนตร.ม. จากปีก่อน 1.6 แสนตร.ม. จะท�ำให้บริษัทมีรายได้รวม เติบโตขึน้ 15-20% จากปีกอ่ น 3.14 พันล้าน บาท เนื่องจากความต้องการพื้นที่โรงงาน เพิ่มขึ้นเกินคาด รวมถึงการขยับราคาพื้นที่ เช่า 5-6% เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนค่า ก่อสร้างทีป่ รับขึน้ ส่วนลูกค้าเดิมจะปรับขึน้ ในอัตรา 1% ปีนบี้ ริษทั ตัง้ งบลงทุน 3 พันล้าน บาท ได้ซอื้ ทีด่ นิ แถวลาดกระบังไว้แล้ว 220 ไร่ เพื่อสร้างคลังสินค้าขนาดพื้นที่ 2 แสน ตร.ม. โดยอยูร่ ะหว่างยืน่ ขอ BOI ช่วงครึง่ หลัง ของปีนี้ คาดว่าจะขายสินทรัพย์เข้ากองทุน TLOGIS และ TFUND มูลค่ารวม 2.2-2.3 พันล้านบาท  ปกรณ์ บริมาสพร ประธานกรรมการ บริหาร บมจ.ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ เปิดเผยว่า ปีนบี้ ริษทั เตรียมขยายการส่งออก สินค้าโคมไฟฟ้าและอุปกรณ์แสงสว่างเข้าไป ยังตลาดอาเซียนมากขึน้ ตัง้ เป้าสัดส่วนการ ส่งออกเพิม่ ขึน้ เป็น 8% จากปี 2553 ทีท่ ำ� ได้ 6% ปัจจุบันก�ำลังรอเซ็นสัญญาจ�ำหน่าย สินค้า LED ให้กบั ลูกค้ารายใหม่ในประเทศ เวียดนาม มูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท จะ ทยอยรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 3/2554 ในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-15% จากปี 2553 ที่มีรายได้จากการขาย 1,623 ล้านบาท เพิม่ ขึน้ 11% ส่วนอัตราก�ำไรขัน้ ต้น จะพยายามรักษาให้ใกล้เคียงกับปี 2553 ที่ ระดับ 26-27% โดยจะพยายามลดต้นทุน การด�ำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ บรรลุเป้าหมายที่วางไว้  ศิรว ิ รรณ สุกญ ั จนศิริ กรรมการผูจ้ ดั การ บมจ.ที . เค.เอส.เทคโนโลยี เชื่ อ ว่ า ปี นี้

1. SET Daily ฟอร์ม ตัวเป็นรูป

สามเหลีย่ มลูข่ นึ้ กรอบเล็กๆ ก�ำลังพยายาม จะกระชากกรอบสามเหลี่ยมขึ้นไป แต่ขึ้น ไปแตะ 1,000 จุดยังไม่สามารถตีทะลุให้ ผ่านขึ้นไปให้ได้ หากผ่าน 1,000 จุดขึ้นไป ได้และปิดชิดจุดสูงสุดได้ถงึ จะดูวา่ SET จะ เริ่มไต่ระดับขึ้นไปเป็นขาขึ้นใหม่ได้อีกครั้ง และถึงจะมีโอกาสขึ้นไปทดสอบแนวต้าน จุดสูงสุดเดิม 1,056 จุดอีกครั้ง 2. การดูเส้นค่าเฉลีย่ เคลือ่ นที่ (EMA) จะ พบว่า EMA 5 วัน = 1,043 จุด, 10 วัน = 1,036 จุด, 25 วัน = 1,027 จุด, 75 วัน = 993.8 จุด, 200 วัน = 901.52 จุด ตาม ล�ำดับ เส้นค่าเฉลีย่ เริม่ กระจุกตัวเป็นแนวโน้ม ทีด่ หี าก SET สามารถตีทะลุผา่ น 1,000 จุด ขึน้ ไปได้ ทิศทางจะเริม่ ชัดเจนและการเกิด Golden cross แบบกระจุกตัว จะส่งผล เชิงบวกทันที อย่างน้อยๆ ก็มีโอกาสลุ้น แนวต้าน 1,020-1,030 จุด ต่อไป 3. การก�ำหนดจุดสูงสุด ที่ 1,056.44 จุด และจุดต�ำ่ สุด 937 จุด แล้วจะได้ Fibonacci Retracement 38.2% = 1,010 จุด, 50% = 996.75 จุด, 61.8% = 982.66 จุด ตามล�ำดับ ซึ่งปัจจุบัน SET ก�ำลังทดสอบ แนวต้านบริเวณ 997-1,000 จุด อยู่หาก ผ่านขึ้นไปได้มีแนวต้านถัดไปที่ 1,010 จุด หากผ่านแนวต้านนี้ไม่ได้ ให้หาจังหวะขาย ลดพอร์ต ไปบ้างแต่ถา้ ผ่านได้ ลุน้ แนวต้าน ถัดไปที่ 1,030, 1,050 - 1,056 จุด ตาม ล�ำดับ ช่วงนี้แนวต้านบริเวณดังกล่าวมี ความส�ำคัญมากๆ หากผ่านไม่ได้ขายลด พอร์ตแต่ถ้าผ่านได้ลุ้นแนวต้านถัดไปที่ 1,100 และ 1,150 จุด ตามล�ำดับ 4. SET และ Daily Indicators (MACD, 14RSI) จะพบว่าหลังจากที่ SET เกิด สัญญาณเชิงบวก Bullish Divergence ช่วงที่ SET มีจดุ ต�ำ่ สุดใหม่ (937 จุด) ก่อนที่ จะมีรบี าวด์กลับขึน้ มาอีกครัง้ และก�ำลังฟอร์ม ตัวเป็นรูปสามเหลี่ยมลู่ขึ้น (Ascending Triangle) ปัจจุบนั SET ก�ำลังเป็นสัญญาณ เชิงบวกทางเดียวกันทัง้ MACD, 14RSI คือ สัญญาณ Bullish Convergence ซึ่งจะ เป็นสัญญาณช่วยให้ SET วิ่งขึ้นต่อไปได้ และไปช่วยเสริมให้การเกิด Golden cross แบบกระจุกตัว ดันดัชนีขนึ้ ไปต่อไปได้ และ MACD ยืนเหนือเขตศูนย์ (0) ช่วยเสริม อีกที, 14RSI ยังสั่งเป็นสัญญาณซื้ออยู่ 5. SET Weekly เริ่มรีบาวด์กลับขึ้นมา

ธุรกิจของ TKS ยังเติบโตได้ดีทั้งงานพิมพ์ เพิม่ มากขึน้ ทัง้ นีผ้ ลก�ำไรจากภูมภิ าคเอเชีย Security Forms และ Digital printing แปซิฟิก มีสัดส่วนสูงที่สุดเมื่อเทียบกับ ส่วนงานบริหารคลังสินค้าขณะนี้บริหาร ภูมิภาคอื่นๆ เติบโตขึ้น 29% หรือคิดเป็น ให้กับ 5 แบงก์ใหญ่และก�ำลังเจรจาอยู่อีก มูลค่า 5,700 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยผลก�ำไร 2 รายจะเห็นการเติบโตได้อย่างชัดเจนในปีนี้ จากฮ่องกงเติบโต 11% HSBC มีนโยบาย ส่วนงานต่างประเทศก็มเี ข้ามาอย่างต่อเนือ่ ง ธุรกิจทีช่ ดั เจนในการเพิม่ ขนาดสินทรัพย์ และ คาดว่าในปีนจี้ ะโตกว่าปีกอ่ นประมาณ 15% เติบโตรายได้ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ซึ่ง แต่สดั ส่วนรายได้ยงั คงเป็น 10% ของรายได้ เป็นตลาดทีเ่ ติบโตเร็วทีส่ ดุ ในโลก ส�ำหรับปี รวม ซึง่ คาดว่ารายได้รวมในปี 2554 จะเติบโต 2554 คาดว่าธุรกิจยังเติบโตได้อย่างต่อเนือ่ ง ไม่น้อยกว่า 10% จากผลประกอบการปี  พิธาน องค์โฆษิต รองกรรมการผูจ้ ดั การ 2553 ที่บริษัทมีรายได้จากการขาย 1,142 บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ เปิดเผยว่า ล้านบาท เพิม่ ขึน้ 13.9% และมีผลก�ำไรสุทธิ บริษัทวางเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโต 18% 150 ล้านบาท เพิม่ ขึน้ 185% บริษทั จ่ายปันผล หรือประมาณ 270 ล้านดอลลาร์ จากปีกอ่ น หุ้นละ 0.25 บาท รวมทั้งปีจ่าย 0.33 บาท ทีม่ รี ายได้รวม 7,245 ล้านบาท หรือประมาณ  ธนิตย์ ธารีรต ั นาวิบลู ย์ ประธานเจ้าหน้าที่ 230 ล้านดอลลาร์ ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา บริหาร บมจ.เอเชียน อินซูเลเตอร์ เปิดเผย กับลูกค้ารายใหญ่ในกลุ่มอุตสาหกรรม ว่า ในปี 2554 บริษทั คาดว่าอัตราก�ำไรสุทธิ ยานยนต์ 5-6 ราย คาดว่าปีนี้จะได้ข้อสรุป มีโอกาสสูงกว่าปี 2553 ทีท่ ำ� ได้ 9% เนือ่ งจาก นอกจากนี้ยังมีแผนขยายสู่สินค้าไฮเทค ธุรกิจลูกถ้วยไฟฟ้ามีกำ� ไรอยูใ่ นระดับทีด่ ี โดย มากขึน้ ขณะเดียวกันเคซีอกี ำ� หนดเป้าหมาย ปีนคี้ าดว่าจะเพิม่ ขึน้ มาอยูท่ ี่ 40% คาดรายได้ อัตราก�ำไรสุทธิปนี ที้ ี่ 9% เพิม่ จากปีทแี่ ล้ว 7.4% จากลูกถ้วยไฟฟ้าจะเติบโต 5-10% จากปี ปัจจุบันบริษัทมีหนี้ 4.9 พันล้านบาท เป็น 2553 มีรายได้ 760 ล้านบาท ส่วนเป้าหมาย หนี้ระยะยาว 18% และ 70% เป็นหนี้ระยะ รายได้ในปีนี้คงขึ้นอยู่กับธุรกิจไบโอดีเซล สัน้ บริษทั จะแปลงหนีร้ ะยะยาวเป็นสกุลเงิน ที่มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยปีนี้ไม่มี ดอลลาร์ 1-1.5 พันล้านบาท และจะเจรจา แผนการลงทุนใหม่ๆ แต่จะลงทุนต่อเนื่อง ขยายโรงงานผลิตลูกถ้วย 2 แห่งมูลค่า 550 ล้านบาท โดยใช้ลงทุนในปีนี้ 400 ล้านบาท และลงทุนอีก 100 ล้านบาท ส�ำหรับปรับปรุงหอกลัน่ โรงงานไบโอดีเซล ซึง่ คาดว่ากลางเดือนเม.ย.จะเริม่ เดินเครือ่ ง เชิงพาณิชย์ได้จะท�ำให้กำ� ลังการผลิตเพิม่ อีก 800,000 ลิตรต่อวัน จาก เดิม 350,000 ลิตรต่อวัน  ปีเตอร์ วอง ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร ประจ�ำ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ธนาคารเอชเอสบีซี เปิด เผยว่า กลุม่ เอชเอสบีซี ประกาศผลก�ำไรก่อน หักภาษีประจ�ำปี 2553 มีมูลค่า 19,000 ล้าน เหรียญสหรัฐ ซึง่ เติบโต กว่าเท่าตัวจากปี 2552 โดยทุกกลุ่มธุรกิจและ ทุกภูมิภาคมีผลก�ำไรที่ พิธาน องค์ โฆษิต วันจักร์ บุรณศิริ

SET INDEX - SET9

หลังจากท�ำจุดต�่ำสุด 937.06 จุด โดย EMA 5 week = 983.69 จุด, 10 week = 995.90 จุด, 25 week = 971.70 จุด, 75 week = 854.75 จุด, 200 week = 753.57 จุด ดัชนีก�ำลังทดสอบแนวต้าน บริเวณ 996-1,000 จุด หากผ่านขึ้นไปได้ จะเป็นสัญญาณซื้อที่ดี ขณะที่ MACD, 14RSI ยังไม่สั่งเป็นสัญญาณซื้อกลับมา อีกครัง้ หากดัชนีฯ ยืนเหนือ 1,000 จุด ได้ มีโอกาสที่ MACD, 14RSI จะกลับมาเป็น สัญญาณซื้ออีกครั้ง ในทางกลับกัน ดัชนี ไม่ควรให้หลุดต�ำ่ กว่าเส้นค่าเฉลีย่ EMA 25 week คือ บริเวณ 975 - 977 จุด ลงมา หากหลุดลงมาจะท�ำให้ดัชนีมีความเสี่ยง ที่จะปรับตัวลดลงแรงและจะไม่สามารถ เปลี่ยนขาขึ้นใหม่ได้อีกรอบ หรือหาก จะยังเป็นขาขึ้นอยู่ จะท�ำให้การเหวี่ยงตัว ไม่รุนแรงมากนัก 6. หากดัชนีหลุดแนวรับบริเวณ 975 977 จุด ลงมา ให้หาจังหวะท�ำการขายหุ้น ชอร์ตพอร์ต (Short Against Port) เพือ่ ลด ความเสีย่ ง เพราะดัชนีไม่สามารถสร้างจุด สูงสุดใหม่ได้ การฟอร์มตัวจะเป็นแบบบันได ขาลง ดังนัน้ หากเป็นเช่นนี้ ต้องบริหารพอร์ต อย่างระมัดระวังให้มากที่สุด ท�ำการขาย ชอร์ตเพื่อลดความเสี่ยงและหากปรับตัว ลดลงมามีสว่ นต่างค่อยหาจังหวะทยอยซือ้ หุ้นคืนเข้าพอร์ตอาจจะดีกว่า 7. SET weekly การลากเส้นแนวโน้ม ขาขึ้น (Up trend line) จากจุดต�่ำสุดที่ 409.91 (สัปดาห์ที่ 9/3/2009) ผ่าน จุด ต�่ำสุด (L2 = 720.47 จุด) สัปดาห์ที่

ขอดอกเบี้ยคงที่น่าจะได้ที่ 4.7-4.8% จาก ดอกเบี้ยตอนนี้อยู่ที่ 3.5% ที่ต้องขอคงที่ เพราะมองว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับเพิ่มขึ้น ต่อเนื่องตลอด 1-2 ปีนี้  วันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารฝ่าย ปฏิบัติการ บมจ.แสนสิริ เปิดเผยว่า ปีนี้ แสนสิริ มีแผนทีจ่ ะเปิดตัวทัง้ สิน้ 23 โครงการ มูลค่า 30,000 ล้านบาท ประกอบด้วย แนวราบ 12 โครงการ 13,000 ล้านบาท และแนวสูง 11 โครงการ 17,000 ล้านบาท และจากความส�ำเร็จในปี 2553 ที่สามารถ สร้างยอดขายได้สูงถึง 27,000 ล้านบาท ท�ำให้บริษัทได้คาดการณ์ยอดขายปีนี้ไว้ที่ 30,000 ล้านบาท โดยในปัจจุบนั มียอดขาย รอโอน (Backlog) สูงถึง 25,000 ล้านบาท ทีจ่ ะรอรับรูร้ ายได้ในอีก 3 ปีขา้ งหน้าอยูแ่ ล้ว ท�ำให้บริษทั มัน่ ใจว่าจะมีรายได้ทเี่ ติบโตอย่าง ต่อเนื่อง โดยในปี 2553 ที่ผ่านมาบริษัทมี ก�ำไรขัน้ ต้น 33.13% และก�ำไรสุทธิ 10.12% ซึ่งในปีนี้แสนสิริจะคงให้ความส�ำคัญกับ การควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายของบริษัท ต่อไป นอกจากนีบ้ ริษทั มีมติให้จ่ายเงินปันผล เป็นเงินสดหุน้ ละ 0.117975 บาท และปันผล เป็นหุ้นในอัตรา 6 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล

ปัจจุบัน SET ก�ำลัง ทดสอบแนวต้าน บริเวณ 9971,000 จุด หากผ่าน ไปได้แนวต้านถัดไป ที่ 1,010 จุด หากผ่านแนวต้านนี้ ไม่ได้ให้หาจังหวะ ‘ขายลดพอร์ต ออกไปบ้าง’ 24/5/2010 จะได้เส้นแนวโน้มขาขึน้ ทีเ่ ป็น แนวรับของดัชนีขาขึ้นที่บริเวณ 912-920 จุด หากดัชนีมีการปรับตัวลดลงมาแล้ว ไม่หลุดบริเวณนี้ ตลาดยังเป็นขาขึ้นอยู่ หากหลุดต้องระวังการปรับตัวลดลงแรงให้ มากๆ และยิง่ หากหลุด 865-870 จุด ถือว่า จบขาขึ้น เป็นขาลงสมบูรณ์แบบ 8. การวัดระยะเป้าหมาย (Fibonacci Retracement) โดยก�ำหนด จุดสูงสุด ที่ 1,056.44 จุด, จุดต�ำ่ สุด (666.81 จุด) จะได้ 38.2% = 907.6 จุด, 50% = 861.63 จุด, 61.8% = 815.65 จุด ตามล�ำดับนั่นคือ

อดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผูจ้ ดั การใหญ่ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร เปิดเผยว่า บริษทั ได้ปรับเพิม่ งบลงทุน 5 ปี (2554-2558) เป็น 4 หมื่นล้านบาท โดยใช้ลงทุนเฉลี่ย ปีละ 8,000 ล้านบาท จากเดิมทีไ่ ด้ตงั้ งบลงทุน ไว้ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท โดยเงินลงทุน ดังกล่าวมาจากกระแสเงินสดหมุนเวียน ของบริษัทซึ่งในปี 2553 บริษัทมี EBITDA อยูท่ ี่ 1.8 หมืน่ ล้านบาท จากแผนงานดังกล่าว จะส่งผลให้ยอดขายจากกิจการต่างประเทศ เพิ่มขึ้นจาก 26% ในปีที่ผ่านมาเป็น 40% ของยอดขายรวมในอีก 5 ปีข้างหน้า ส�ำหรับ ผลการด�ำเนินงานในปีนี้ คาดว่าก�ำไรจะโต ไม่ตำ�่ กว่า 10-15% เช่นเดียวกับยอดขายที่ ตัง้ เป้าโต 10-15% จากปี 2553 ทีม่ ยี อดขาย รวม 189,049 ล้านบาท เพิม่ ขึน้ 15% โดย มีก�ำไรสุทธิ 13,563 ล้านบาท นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษทั มีมติจ่ายปันผลหุ้นละ 0.55 บาท คิดเป็นการจ่ายปันผลรวมทั้งปี หุ้นละ 1.05 บาท  วิบูลย์ กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่ ปฏิบตั กิ าร บมจ.อมตะคอร์ปอเรชัน เปิดเผย ว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ดิน 1.5-1.8 พันไร่ โดยมีรายได้ทคี่ า้ งจากปีกอ่ นประมาณ 500 ไร่ ส�ำหรับปีนจี้ ะเน้นขายทีน่ คิ มอุตสาหกรรมอมตะซิตสี้ ดั ส่วน 60% และอมตะนคร 40% โดยช่วง 2 เดือนทีผ่ า่ นมามีลกู ค้าทีร่ อ เซ็นสัญญาแล้วประมาณ 28 ไร่ ปีนี้เชื่อว่า จะเป็นปีทองของธุรกิจที่ดินอีกครั้ง คาดว่า รายได้ปีนี้น่าจะเกิน 4,000 ล้านบาท และ ก�ำไรน่าจะโตได้เท่ากับทีโ่ บรกเกอร์ประมาณ การไว้ระดับ 1,000 ล้านบาท ส่วน แผนการลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้า ใหม่ 5 โรง ขนาด 800-900 เมกะวัตต์ ขณะนี้อยู่ระหว่าง พิจารณาสัดส่วนการลงทุน คาดว่าจะผลิตกระแสไฟฟ้า ได้อกี ประมาณ 4 ปีขา้ งหน้า  สรรพัชญ์ รัตคาม กรรมการผูจ้ ดั การ บมจ. ควอลลีเทค เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าการ เติ บ โตไม่ ต�่ ำ กว่ า 10% จากปี 2553 ทีม่ รี ายได้รวม 278 ล้านบาท และก�ำไรสุทธิ อดิเรก ศรี ประทักษ์ 

หากดัชนีปรับตัวลดลงรุนแรงอีกครัง้ และ หากแนวรับส�ำคัญ 975 - 977, 950, 940 จุด ตามล�ำดับรับไม่อยู่ให้รอเป้าหมาย 900 - 907, 912 - 915 จุด ตามล�ำดับ เป็นแนวรับ 38.2% และแนวรับจุดต�่ำเดิม บริเวณ 937 - 940 จุดจะสามารถรับอยู่ ได้หรือไม่ ต้องคอยติดตามอย่างใกล้ชิด 9. หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ BANPU, BBL, SCB, IVLM TOP, KTB, SCC, PTT, PTTEP, IRPC, ESSO, TUF, SPALI, SGP, LH, NINE, AP, ARIP สรุปง่ายๆ คือ เม็ดเงินยังอยูใ่ นหุน้ ใหญ่กลุม่ พลังงาน, แบงก์, ปิโตรเคมี, และอสังหาริมทรัพย์ ตามล�ำดับ 10.สรุปช่วงนี้คอยติดตามสถานการราคา น�ำ้ มันในตลาดโลกจะปรับตัวขึน้ อย่างต่อเนือ่ ง หรือเปล่า ค่าเงินบาทจะยังคงแข็งค่า ต่อเนื่องหรือไม่ล่าสุดอยู่ที่ 30.47 บาท/ ดอลลาร์ เงินทุนไหลเข้าตลาดไทยอีกครั้ง แล้วแต่การซือ้ ของต่างชาติชว่ งนีไ้ ม่ตอ่ เนือ่ ง หากต่อเนื่องแนวต้านบริเวณ 1,000 จุด ก็ไม่มีปัญหา จากการฟอร์มตัวเป็นรูป สามเหลี่ยมลู่ขึ้นขนาดเล็ก (Ascending Triangle), การเกิด Golden cross แบบ กระจุกตัว, MACD ยืนเหนือศูนย์ (0) มี โอกาสมากกว่า 60% ทีจ่ ะสามารถตีผา่ น แนวต้าน 1,000 จุดขึ้นไปได้ และหาก ต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องระดับ 3,000 5,000 ล้านบาท/วัน ได้มีโอกาสสูงที่จะ ไปทดสอบแนวต้านเก่า 1,056 จุด ถ้า หากเข้าไปซื้อแล้วพลาดให้ตัดขายขาด ทุน 5-10% แต่ถ้ายืนเหนือ 1,000 จุด ได้ ให้ ถื อ ต่ อ -ซื้ อ เพิ่ ม ไปลุ ้ น แนวต้ า น ที่ 1,100-1,150 จุด ต่อไป คุณฉุยเปิดหลักสูตร ไต่บันไดเซียน รุ่นที่ 7: เรียน 5 วันเต็ม ศุกร์, เสาร์, อาทิตย์, จันทร์, อังคาร ที่ 22 - 26 เม.ย. 2554 เวลา 8.30 - 17.00 น. ทุกวัน ใช้โปรแกรม Apex-IRS คอมพิวเตอร์ 1 คน/เครื่อง โทรศัพท์ส�ำรองที่นั่งด่วน ก่อนโอนเงินที่คุณฉุยและทีมงาน 081-441-3638, 02-646-9652-3 เรียนที่อาคาร Soft Ware Park ชั้น 3 เช่นเดิม

61.27 ล้านบาท โดยปี 2554 มี Backlog ในมือประมาณ 220 ล้านบาท และปัจจุบัน ก�ำลังอยู่ระหว่างการติดตามผลการประมูล ผู้รับเหมาด้าน NDT กับบริษัทของประเทศ อินเดีย ทีเ่ ป็นผูร้ บั เหมาให้ทำ� งานในโครงการ วางท่อก๊าซเส้นที่ 4 (ส่วนที่ 2) มูลค่างาน ประมาณ 100 ล้านบาท บริษัทคาดว่าจะมี โอกาสได้งานนี้ ส�ำหรับผลประกอบการปี 2553 บริษัทจ่ายปันผลหุ้นละ 0.35 บาท แบ่งจ่ายไปแล้ว 0.10 บาท ส่วนที่เหลือ อี ก 0.25 บาท จะจ่ า ยในช่ ว งเดื อ น พฤษภาคมนี้  อัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่ บริหารด้านการเงิน บมจ.ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ ไพรส์ เปิดเผยว่า ผลการด�ำเนินงานในปีที่ ผ่านมาท�ำยอดขายได้เกินเป้ามีรายได้รวม 689 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% โดยมีก�ำไร สุทธิ 103 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72% ส�ำหรับ ปี 2554 บริษัทยังคงให้ความส�ำคัญกับ ภาพลักษณ์ของแบรนด์ยบู ลิ ลี่ เพือ่ ยกระดับ ให้เป็นแบรนด์ที่เทียบชั้นกับแบรนด์เพชร ในระดับโลก พร้อมกันนี้ยังมีแผนลงทุน เปิดสาขาใหม่อกี 10 สาขาทัง้ ในกรุงเทพและ ต่างจังหวัด จากปัจจุบันที่มีอยู่ 79 สาขา พร้อมลงทุนเปิดสาขาต้นแบบโดยปรับปรุง สาขาเดิมที่มีอัตราการเติบโตสูงจากเดิม 10-30 ตารางเมตร เป็น 40-50 ตารางเมตร คาดว่าในปี 2554 ผลการด�ำเนินงานจะ เติบโตขึ้นกว่า 15%  สมัย ลี้สกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น เปิดเผยว่า บริษทั สนใจทีจ่ ะเข้าด�ำเนินธุรกิจด้านการให้ บริการซ่อมบ�ำรุงรักษาโรงงานปิโตรเคมีและโรง กลัน่ ในประเทศโอมาน การท�ำธุรกิจดังกล่าว ถือเป็นธุรกิจใหม่คาดว่าจะใช้งบลงทุน 2030 ล้านบาท ขณะนี้เริ่มเจรจากับผู้สนใจ รายหนึ่งเป็นบริษัทในประเทศไทย ส�ำหรับ คาดการณ์รายได้ในปี 2554 บริษทั ทีต่ งั้ เป้าไว้ ที่ 2,000 ล้านบาท เติบโต 30% จากปี 2553 ที่มีรายได้รวม 1,567 ล้านบาท โดยในปีนี้ จะมีการทยอยรับรู้รายได้จาก Backlog ณ สิ้นปี 2553 จ�ำนวน 2,955 ล้านบาท และ หากรวมโครงการวางท่อก๊าซจากกลุม่ Gulf JP ท�ำให้ Backlog เพิ่มเป็นประมาณ 4,630 ล้านบาท ทยอยรับรู้ต่อเนื่องถึงปี 2556


ถนนนักลงทุน

วันที่ 7 มีนาคม 2554

ธุรกิจ

ยอดขายป 2552 ยอดขายป 2553 (ลานบาท) (ลานบาท) สำรวจและผลิตปโตรเลียม 119,310 141,978 กาซธรรมชาติ 313,738 357,018 น้ำมัน 398,686 480,852 การคาระหวางประเทศ 861,897 1,061,694 ปโตรเคมี 32,423 46,459 ถานหิน 20,200 24,652 ยอดขายรวม 1,586,174 1,900,005 กำไรสุทธิ 59,548 83,088

‘ยอดขาย-EBITDA’

กลุมธุรกิจในเครือปตท.ป 2553

เล่นหุ้นตั้งแต่เรียน ‘บัญชีจุฬาฯ’ ผู้บริหาร หนุ่มแห่ง บมจ. ผลิตภัณฑ์คอนกรีต ชลบุรี (CCP) ‘เคลียร์’ ชาคริต ทีปกรสุขเกษม ทายาทนักธุรกิจพันล้าน แห่งจังหวัดชลบุรี

ส่วนหุ้น SPALI ที่ชอบเพราะบริษัทนี้ มี เ สถี ย รภาพมาก มื อ การเงิ น ของเขาเก่ ง สามารถบริหารจัดการระบบการเงินได้ดเี ยีย่ ม ที่ส�ำคัญบริษัทนี้ (ประทีป ตั้งมติธรรม) ดูแล ผู้ถือหุ้นดีมาก ส่วนตัวได้รับผลตอบแทน จากการลงทุนหุน้ SPALI เฉลีย่ 7% ต่อปีอย่าง ต่อเนื่อง ตอนนั้นซื้อมา 3 บาท วันนี้ขึ้นไป 10 บาท

วอร์เรน บัฟเฟตต์ ออกแนวอนุรักษนิยม คงเหมาะกับคนชือ่ “เคลียร์” อย่างผมมากทีส่ ดุ บัฟเฟตต์จะไม่ลงทุนในธุรกิจที่เขาไม่เข้าใจ แต่จะลงทุนในหุ้นที่มีคุณภาพสูง และเขาจะ ถือหุ้นนั้นไปนานเท่านาน ผมมองว่าทฤษฎี นี้มันเยี่ยมมาก ต้องขอบคุณ คุ ณ มนตรี ศรไพศาล ซีอีโอ บล.กิมเอ็ง ที่ท�ำให้ผมรู้จัก กับค�ำว่า..รวยอย่างบัฟเฟตต์” อีกคนทีต่ อ้ งพูดถึงคือ คุณศิรชิ ยั สมบัต-ิ ศิริ รองผูจ้ ดั การใหญ่กลุม่ ลูกค้าธุรกิจ ธนาคาร ไทยพาณิชย์ เขาเคยบอกผมว่า “ทุกคนไม่ ได้มีมาตั้งแต่เกิด พ่อแม่ให้มาทั้งนั้น ฉะนั้น (รุ่นลูก) ต้องท�ำให้มันงอกเงยไม่ใช่เอาเงิน ไปเสี่ยง ที่ส�ำคัญลงทุนอะไรต้องได้ก�ำไร” ซึ่งประโยคนั้นท�ำให้คิดว่าก่อนลงทุนอะไร ต้องคิดและหาข้อมูลให้รอบด้าน ปัจจุบนั ชาคริตซือ้ ขายหุน้ อยูท่ ี่ บล.ยูไนเต็ด

เดือน ออกแนว “ขาจร” ไม่เหมือนตัวใหญ่ “ถือเป็นปี” อย่างปี 2553 ลงทุนหุ้นล้วนๆ ไม่มี กองทุนน�้ำมัน กองทุนทองค�ำเลย ส�ำหรับกลยุทธ์การลงทุนของชาคริต ส่วนใหญ่จะดูค่า P/E และเงินปันผลเป็น หลัก เขาบอกว่า ส่วนใหญ่จะเลือกซื้อหุ้น ที่มีค่า P/E ต�่ำ มีประวัติการจ่ายเงินปันผล ต่ อเนื่อง และธุร กิจ นั้น ต้อ งมี เสถียรภาพ โดยไม่ได้ดู SET Index ว่าจะขึ้นหรือลงจะ ตัดสินใจซื้อหรือขายหุ้นโดยดูที่ปัจจัยพื้นฐาน ของหุ้นตัวนั้นมากกว่า เขาเชื่อว่า SET Index มันวัดอะไรแทบไม่ได้ หุ้นพื้นฐานดีไม่จ�ำเป็น

สูตรเล่นหุ้น

“เคลียร์” ชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการ

ผู้จัดการ บมจ.ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี ผู้บริหารหนุ่มวัย 33 ปี ทายาทคนเล็ก เถ้าแก่ ประทีป ทีปกรสุขเกษม นักธุรกิจป.4 เจ้าของ อาณาจักรธุรกิจพันล้านแห่งจังหวัดชลบุรี ผู้มีความแนบแน่นกับ “ปู ่ จิ้ น ” ชวรั ต น์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย ผู้ก่อตั้ง บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น ที่ท�ำธุรกิจเกื้อกูลกันมาโดยตลอด ชาคริตเริม่ ลงทุนในตลาดหุน้ ครัง้ แรกเมือ่ ปี 2541 ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นระดับ “แสน บาท” ขณะก�ำลังศึกษาระดับปริญญาตรีคณะ พาณิชยศาสตร์และการบัญชี สาขาการเงิน ธนาคาร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนจะ บิ น ไปต่ อ ปริ ญ ญาโทสาขา Operation Management มหาวิทยาลัย De Paul สหรัฐอเมริกา และได้พบกับภรรยา ซู หยวน หวัง ชาวไต้หวัน ปัจจุบันเป็นกรรมการและ ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ บมจ.ผลิตภัณฑ์คอนกรีต ชลบุรี นอกจากบทบาทผู ้ บ ริ ห ารบริ ษั ท จด ทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ชาคริตยังเป็น นักลงทุนตัวยงคนหนึง่ ทีไ่ ม่เคยละทิง้ การลงทุน ในตลาดหุน้ เขาเล่าให้กรุงเทพธุรกิจ BizWeek ฟั ง ว่ า มี ค วามสุ ข กั บ การเล่ น หุ ้ น มากกว่ า เอาเงิ น ไปลงทุ น ในสิ น ทรั พ ย์ ป ระเภทอื่ น อย่างในปีนี้คิดว่าจะลงทุนในตลาดหุ้นและ สินค้าโภคภัณฑ์สูงถึง 70% ของเงินในกระเป๋า ที่เหลือ 30% จะเก็บเป็นเงินสด และบางส่วน จะน�ำไปซื้อกองทุน LTF และ RMF เพื่อ ประหยัดภาษี “ผมเริม่ เล่นหุน้ ครัง้ แรกก่อนไปเมืองนอก ตอนนั้นเพื่อนเป็นมาร์เก็ตติ้งอยู่โบรกเกอร์ แห่งหนึ่งมาชวนก็เลยซื้อหุ้น ไทยยูเนียน โฟรเซ่น โปรดักส์ (TUF) พอไปเรียนต่อก็ ฝากฝังให้คุณพ่อ (ประทีป) ช่วยดูแล แต่พอ กลับมาพ่อขายไปหมดแล้ว รูส้ กึ จะได้กำ� ไรคืน มาค่อนข้างมากด้วย” แผนการลงทุนปี 2554 ของชาคริต 80% ของเงินลงทุนทั้งหมด (70%) จะน�ำไปลงทุน ในตลาดหุ้น ส่วนที่เหลือ 20% จะแบ่งไปลง ในกองทุ น น�้ ำ มั น และกองทุ น ที่ ล งทุ น ใน ทองค�ำ “ส่วนตัวผมชอบหุน้ กลุม่ อสังหาริมทรัพย์ มากที่สุด โดยเฉพาะหุ้น PS กับ SPALI หุ้น สองตัวนี้มีติดพอร์ตตลอดเวลา ลงทุนมานาน 3 ปีแล้ว เหตุผลทีช่ อบหุน้ PS เพราะครอบครัว ผมขายสินค้าให้เขา (ทองมา วิจติ รพงศ์พนั ธุ)์ ตั้งแต่ยังไม่เข้าตลาดหุ้น พฤกษาถือเป็น เจ้าแรกที่สร้างบ้านเสร็จเร็วมากเมื่อเทียบ กับเจ้าอื่นๆ ผมลงทุนหุ้น PS มาตั้งแต่ ราคา 10 บาท ตอนนี้ 19 บาท ซื้อหนักๆ ตอนเสื้อแดงเผาเมืองช่วงนั้นหุ้นลงแรง ผมเลยถือโอกาสเข้าไปเก็บ”

“มาร์เก็ตติง้ ชวนขายหุน้ SPALI เห็นก�ำไร เยอะ ผมบอกว่า “ไม่ขาย” จะเก็บเอาไว้ถือไป เรื่อยๆ แค่เงินปันผลก็คุ้มแล้ว” อีกตัวที่นักลงทุนหนุ่มกล่าวถึงคือหุ้น SC ของตระกูลชินวัตร จุดที่น่าสนใจเพราะ ความมีเสถียรภาพของธุรกิจ และจ่ายเงินปันผล สม�่ ำ เสมอ หุ ้ น KK ก็ โ อเค จ่ า ยปั น ผลดี และ P/E ไม่สงู แต่หนุ้ ลักษณะนีจ้ ะถือแค่ 6-7

‘ชาคริต ทีปกรสุขเกษม’ เอ็มดีหนุ่ม CCP พอร์ตลงทุนก็เพิ่มขึ้นจากอดีตหลายเท่าตัว แต่เท่าไรเจ้าตัวไม่ขอบอกสาเหตุที่เปิดพอร์ต ที่นี่เพราะรู้จักกับมาร์เก็ตติ้งเป็นการส่วนตัว ชอบบุคลิกของเขาที่เป็นคนไม่เชียร์ซื้ออะไร ไร้สาระ “ถ้ า แม่ (ชลธิ ช า ที ป กรสุ ข เกษม) กับ ภรรยา (ซู หยวน หวัง) มาอ่านเจอว่า ผมเอาเงินไปลงทุนในตลาดหุ้นต้องโดนดุ แน่นอน เพราะเขาไม่ค่อยชอบเท่าไร แต่ ผมมองว่ามันเป็นการออมเงินที่ดีอย่างหนึ่ง ดีกว่าเอาเงินไปนอนกองไว้ในแบงก์เฉยๆ” เอ็มดีหนุ่มกล่าว

ต้องลงตามตลาดถ้าราคาลดลงน่าจะเป็นโอกาส ซื้อมากกว่า การลงทุนส่วนใหญ่จะโฟกัสที่ “ตัวหุ้น” มากกว่า “ดัชนี” การตั้งเป้าหมายผลตอบแทนนักลงทุน หนุ่มรายนี้ไม่ได้หวังสูง เขากล่าวว่า ถ้าได้ ผลตอบแทนต่อปีเกิน 7% ก็โอเคแล้ว ส่วน ผลตอบแทนจากกองทุนน�้ำมัน และทองค�ำ ถ้าท�ำได้ 5-6% ก็ถอื ว่ายอดเยีย่ มแล้ว การลงทุน ที่ผ่านมาจะเล่นคนเดียวไม่มีกลุ่มก๊วน เวลา เพื่อนถามว่าเล่นหุ้นตัวไหนดียังไม่อยาก จะบอกเลย “สไตล์ผมจะเล่นหุ้นตามแนวทางของ

ชาคริต ทีปกรสุขเกษม

เพิ่ม EBITDA ป 2552 EBITDA ป 2553 (%) (ลานบาท) (ลานบาท) 19 81,423 99,524 13.8 41,329 46,875 20.6 11,732 11,858 23.2 2,026 2,349 43.3 1,077 1,248 22 7,317 5,431 19.8 142,704 167,376 39.5

7

เพิ่ม (%) 22.2 13.4 1.1 15.9 15.9 -25.8 17.3

TFEX เตรียมเทรด Single Stock Futures รุ่น 3

บมจ.ตลาดอนุพนั ธ์ (ประเทศไทย) มี ก�ำหนดทีจ่ ะจัดให้มกี ารซือ้ ขายฟิวเจอร์สของ หุ้นรายตัว หรือ Single Stock Futures เพิม่ เติม โดยจะเพิม่ หุน้ สามัญอ้างอิงอีก 16 ตัว ซึง่ เป็นหุน้ ทีอ่ ยูใ่ นกลุม่ ของดัชนี SET50 จาก 9 หมวดธุรกิจ ได้แก่ STA, TCAP, TMB, CPALL, HMPRO, IRPC, TOP, CPF, MINT, TUF, DTAC, TRUE, IVL, PS, BTS, และ THAI นอกจากนี้ ยังมี การปรับปรุงช่วงราคาซื้อขายขั้นต�่ำให้มี ขนาดเล็กลงจากเดิม 0.1 บาท เป็น 0.01 บาท เพื่อให้เหมาะสมกับราคาซื้อขายขั้น ต�่ำของหุ้นอ้างอิง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02-229-2222

สมาชิก กบข.เรียน ‘โท-เอก’ กู้ธนชาตได้ 100%

ธนาคารธนชาต ร่วมกับ กองทุนบ�ำเหน็จ บ�ำนาญข้าราชการ (กบข.) ลงนามบันทึกข้อ ตกลง โครงการ “สินเชือ่ การศึกษาธนาคาร ธนชาต เพื่อสมาชิก กบข.” โดยมอบสิทธิ พิเศษ สินเชื่อเพื่อการศึกษาต่อปริญญา โท และปริญญาเอก (Scholar Loan) ด้วยวงเงินกูเ้ ต็ม 100% และอัตราดอกเบี้ย 0% ใน 4 เดือนแรก สมาชิก กบข.ที่สนใจ โครงการนี้ สามารถสอบถามรายละเอียด เพิ่มเติมได้ที่ธนาคารธนชาตทุกสาขา หรือ โทร. 02-217-8000 ต่อ 3786 และ 3789 หรือโทร.1770 รวมถึงติดต่อศูนย์บริการ ข้อมูลสมาชิก กบข. โทร. 1179 กด 6 หรือ เว็บไซต์ กบข. www.gpf.or.th

ธ.กสิกรไทย สนับสนุน SME 24 ชั่วโมง 7 วัน

ปี 2554 กลับมา ‘ก�ำไรครั้งแรก’ ในรอบ 7 ปี ผลการด�ำเนินงาน บมจ.ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี (CCP) เป็นบวกครั้ง

สุดท้ายเมื่อปี 2547 มีก�ำไรสุทธิ 118.92 ล้านบาท และก�ำไรสุทธิต่อหุ้น 0.38 บาท หลังจากนั้นบริษัทก็ขาดทุนต่อเนื่อง 6 ปีติดต่อกัน จุดเปลี่ยนส�ำคัญของบริษัทเกิดขึ้น ภายหลังขยายการลงทุนร้านกันยงโฮมสโตร์ สาขาพัทยา มูลค่าการลงทุน 400 ล้านบาท และขยายกิจการไปยังธุรกิจคอนกรีตมวลเบา ในปี 2553 ทีผ่ า่ นมาบริษทั ยังขาดทุนสุทธิ 1.78 ล้านบาท เทียบกับปี 2552 ที่ขาดทุนสูงถึง 124.61 ล้านบาท ชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี กล่าว ว่า ตัวเลขทางการเงินหลายๆ ตัวในปี 2554 จะ “ดีขึ้น” โดยเฉพาะก�ำไรขั้นต้นจาก 11% ในปี 2553 จะขึ้นมายืน 15% ในปีนี้ แต่ในแง่ของการจ่ายเงินปันผลในปี 2554 คงยังไม่ เห็นแม้ว่าบริษัทมีแผนจะล้างขาดทุนสะสม 200 ล้านบาทหมดภายในปีนี้ก็ตาม ผู้บริหารหนุ่ม กล่าวว่า ปีนี้รัฐบาลมีโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าหลายสายเช่นสาย สีแดง และสายสีม่วง ภาคเอกชนก็มีการลงทุนมากขึ้นเพราะฉะนั้นในปีนี้ก�ำไรสุทธิของ บริษัทคงเติบโตขึ้นค่อนข้างมาก ส่วนรายได้คาดว่าจะขยายตัว 15-20% นี่ยังไม่ได้พูด ถึงตัวเลขยอดขายที่ยังไม่รับรู้รายได้ (Backlog) 1,900 ล้านบาท และงานประมูลใน ประเทศ 2 งาน และต่างประเทศอีก 1 งาน ด้านแผนธุรกิจในช่วง 3 ปีข้างหน้า (2554-2556) บริษัทจะพยายามผลักดัน ผลประกอบการให้ขยายตัวเฉลีย่ ปีละ 15% ในอดีตเคยเติบโตปีละ 30% โดยเฉพาะช่วงปี 2545-2548 เพราะฉะนัน้ ตัวเลข 15% เชือ่ ว่าท�ำได้ ขณะเดียวกันบริษทั สมาร์ทคอนกรีต จ�ำกัด ประกอบธุรกิจผลิตและจ�ำหน่ายคอนกรีตมวลเบา ภายใต้ชื่อ “สมาร์ท บล็อก” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยก็มีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภายใน 2 ปีข้างหน้า “ผมเชื่อมั่นว่าอนาคตบริษัทเราก�ำลังดีขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจคอนกรีตมวลเบา ที่พฤติกรรมผู้บริโภคหันมาใช้อิฐมวลเบาแทนอิฐมอญมากขึ้น ผมยังเชื่อว่ามีโอกาส

ราคาหุน CCP ชวงป 2551-ปจจุบัน CCP ‘ขาดทุนสุทธิ’ ในรอบ 5 ป ที่ผานมา ป 2549 2550 2551 2552 2553

รายได (ลานบาท) 2,814 2,659 2,171 1,801 2,164

2551

0.92

3.16

2552

4.50 4.00 3.50 3.00 2.50 2.48

2.24 2.00 1.50

1.08

0.72

0.68

5.00

4.28 3.70

1.72 1.66

1.57 1.18

4.96

ขาดทุนสุทธิ (ลานบาท) -197.53 -52.8 -113.51 -124.61 -1.78

1.00 0.50

2553

3 มี.ค. 2554

ที่ CCP จะกลับไปมีก�ำไรก่อนภาษีประมาณ 150 ล้านบาทเหมือนช่วงปี 2547 ซึ่งเป็น “จุดพีค” ที่สุดของเราได้” ผู้บริหารหนุ่ม ทิ้งท้ายว่า ตอนนี้เริ่มมีกองทุนที่เคยซื้อหุ้น CCP สมัยก่อนเริ่มกลับ มาเยี่ยมชมบริษัทอีกครั้ง ซึ่งอยากฝากบอกนักลงทุนที่ถือ (ติด) หุ้นของบริษัททุกคนว่า วันนี้สภาพแวดล้อมหลายๆ อย่างของบริษัทดีขึ้นมาก..ขอให้อดทนอีกนิด

ยุทธศาสตร์การลงทุน 7 : กระจายการลงทุน จากประสบการณ์อนั ยาวนานในการลงทุนสินทรัพย์ กับเรือ่ งเล็กๆ น้อยๆ มันอาจท�ำให้เราเสียหายค่อนข้าง สินทรัพย์เหล่านี้ปรับตัวลดลง เศรษฐกิจล้มพังทลาย ได้ การมองภาพทีก่ ำ� ลังจะเกิดขึน้ นัน้ เป็นสิง่ ส�ำคัญอย่างยิง่ หลายชนิดทั่วโลกของ เซอร์จอห์น เทมเพอร์ตัน ท่านได้ น�ำเอาสิง่ ทีไ่ ด้พบได้เห็นและได้ปฏิบตั มิ าเป็นยุทธศาสตร์ ที่น่าสนใจ นั่นคือการ “กระจายการลงทุน” และไม่ใช่ แค่เพียงการกระจายไปในหุ้นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ประเทศ ใดประเทศหนึ่ง แต่เป็นการกระจายไปในสินทรัพย์ หลายๆ ชนิด จากการผ่านร้อนผ่านหนาวมามากจากการเป็นผู้ บุกเบิกการลงทุนทั่วโลก ท่านกล่าวว่า “การลงทุนใน สินทรัพย์ชนิดใดชนิดหนึ่งนั้น ไม่ว่าเราจะรอบคอบ ละเอียดถี่ถ้วนอย่างไรก็ตาม เราก็ไม่สามารถท�ำนาย หรือแม้แต่ควบคุมอนาคตได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด” ไม่ว่าจะเป็นภัยธรรมชาติ การหยุดงานประท้วง หรือความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีและสินค้าใหม่ๆ ที่ออกมาโดยบริษัทคู่แข่ง หรือแม้กระทั่งกฎระเบียบ ที่รัฐออกมาควบคุมบังคับ ทั้งหมดที่กล่าวมานี้อาจสร้าง ผลกระทบต่อรายได้ ต้นทุน และก�ำไรของบริษัทที่แม้ว่า จะมีการบริหารจัดการที่ดีเยี่ยม มีประวัติการด�ำเนินงาน ที่ดีมาโดยตลอดได้โดยที่เราไม่อาจรับรู้หรือคาดการณ์ ล่วงหน้าได้เลย ส่วนตัวผมเองนั้นก็เคยมีประสบการณ์กับเรื่อง เช่นนี้เหมือนกัน ปกติผมจะเป็นคนที่จะลงทุนอะไร ค่อนข้างยาก ประสบการณ์สอนผมว่า ถ้าเราพลาดแม้

รุนแรง ฉะนั้นผมจะไม่เพียงลงทุนในบริษัทที่ดีแล้ว ผมยังคงต้องมีความอดทนรอที่จะซื้อตอนมันมีราคา ถูก และถึงแม้วา่ จะซือ้ มันได้ในราคาทีถ่ กู มีสว่ นต่างความ ปลอดภัยที่สูงแล้ว ก็ยังไม่อาจล่วงรู้หรือควบคุมเหตุที่ ไม่สามารถคาดถึงได้อยู่ในหลายๆ ครั้ง เซอร์จอห์น เทมเพอร์ตนั ได้แนะน�ำการกระจายการ ลงทุนในแบบกว้างๆ ต่อไปอีกว่า “ในการกระจายการลงทุนนั้น เราควรกระจาย ไปหลายๆ อุตสาหกรรม หลายๆ ประเทศ ถ้าคุณมอง ออกไปสู่โลกกว้าง คุณจะเห็นโอกาสมากมาย และ อาจจะเป็ น โอกาสที่ ดี ก ว่ า การลงทุ น ในสิ น ทรั พ ย์ ชนิดเดียวในประเทศเดียวอย่างแน่นอน” ข้อความข้างต้นนี้ได้เปลี่ยนทัศนคติและการลงทุน ของผมไปจากเดิมมาก ประกอบกับการหันกลับมามอง สิง่ แวดล้อมรอบตัวรวมถึงการลงทุนทีล่ งทุนอยูใ่ นปัจจุบนั ผมพบว่า ผมพลาดการลงทุนในทองค�ำ สินค้าโภคภัณฑ์ และหุน้ ในประเทศเกิดใหม่ตงั้ แต่ปี 2000 แต่โชคยังเข้าข้าง ผมอยู่บ้างคือเกิดวิกฤติการเงินในปี 2007-2009 ท�ำให้ สินทรัพย์ดังกล่าวปรับตัวลงมาในจุดที่เรียกว่า “เริ่มต้น ใหม่” และเนื่องจากมันขึ้นไปสูงมากและลดลงกลับมา ที่เดิมในเวลาไม่ถึงปีสิ่งที่ต้องคิดต่อไปคือ “หากลงทุนไปแล้วในอนาคตอาจเกิดเหตุการที่

ลงมาอีก จะท�ำอย่างไร?” หากเราพิจารณาค�ำแนะน�ำของเซอร์จอห์น เทมเพอร์ตัน ให้ลึกซึ้งเราจะเห็นสิ่งที่เป็นกฎที่ไม่อาจละเมิด ได้เลยห้าประเด็นคือ 1) กระจายการลงทุนไปใน สินทรัพย์หลายๆ ชนิด ในหลายๆ แห่งทั่วโลก 2) เน้นไปที่สิ่งที่น่าจะเกิดในระยะยาว ใช้ประโยชน์ จากความผันผวนในระยะสั้น 3) ให้ความส�ำคัญกับ พื้นฐานเฉพาะตัวของหุ้น หรือสินทรัพย์ที่จะลงทุน เพื่อก�ำหนดตัวแปรที่จะชี้ให้เห็นจุดพลิกผันของพื้น ฐานเฉพาะตัวที่จะกระทบต่อมูลค่าของมัน 4) บริหาร เงินลงทุนโดยก�ำหนดสัดส่วนการลงทุนและต้องมีการ ปรับสมดุลสินทรัพย์ไปตามระดับความเสีย่ งตลอดเวลา และมีเงินสดไว้เสมอเพื่อพร้อมรับโอกาสที่อาจจะเกิด ตลอดเวลา 5) จัดพอร์ตการลงทุนให้มีการลงทุนแกน หลัก และแกนรอง เหตุผลทีเ่ กิดห้าประเด็นนีข้ นึ้ มาคือ หุน้ หรือสินทรัพย์ อื่นๆ อาจมีการปรับตัวขึ้นลงไม่เท่ากัน หรืออาจสวนทาง กันด้วยซ�ำ้ เนือ่ งจากตัวแปรทีก่ ระทบต่อพืน้ ฐานไม่เท่ากัน หรือไม่เหมือนกัน บางบริษทั มีอำ� นาจต่อรองสูง สามารถ ผลักต้นทุนไปให้ผู้ขายวัตถุดิบหรือแม้กระทั่งลูกค้าได้ หรือแม้แต่บริษทั ทีค่ รอบครองแหล่งสินค้าทีเ่ ป็นทีต่ อ้ งการ และขาดแคลนก็จะมีความได้เปรียบเหนือคูแ่ ข่งและลูกค้า

เพราะการลงทุนนัน้ คือการลงทุนกับสิง่ ทีก่ ำ� ลังจะเกิดไม่ใช่ สิง่ ทีเ่ กิดมาแล้ว มองภาพทีก่ ำ� ลังจะเกิดไม่ได้ ก็ลงทุนไม่ได้ และแม้วา่ ระหว่างทางอาจจะมีความผันผวนเกิดขึน้ ถ้าภาพ ข้างหน้าชัดเจนแล้วนั้น ความผันผวนจะเป็นตัวช่วยเพิ่ม ผลตอบแทนและส่วนต่างความปลอดภัย แน่นอนว่าในสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น บางบริษัท หรื อ สิ น ทรั พ ย์ ที่ อ ยู ่ ใ นข่ า ยที่ จ ะได้ รั บ ประโยชน์ นั้ น อาจจะได้รับประโยชน์ไม่เท่ากันหรืออาจจะถูกกระทบให้ ย�่ำแย่ลงด้วยซ�้ำ ฉะนั้นพื้นฐานเฉพาะตัวของบริษัทและ สินทรัพย์นั้นก็ส�ำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อเป็นการควบคุม ความเสีย่ งให้อยูใ่ นวงจ�ำกัด การก�ำหนดสัดส่วนการลงทุน ในสินทรัพย์ตา่ งๆ ไปตามระดับความเสีย่ งให้แน่นอนและ ต้ อ งคอยลดหรื อ เพิ่ ม สั ด ส่ ว นของสิ น ทรั พ ย์ ต ่ า งๆ ตลอดเวลา สุดท้ายนั้นการจัดพอร์ตการลงทุนนั้นต้องมีส่วนที่ เป็นแกนหลักที่เน้นผลตอบแทนในระยะยาว และมีส่วน ที่เป็นแกนรองที่จะได้รับผลตอบแทนตามสถานการณ์ เช่นจากหุน้ ทีม่ มี ลู ค่าต�ำ่ มากๆ ในขณะนัน้ หรือจากสินทรัพย์ ที่มูลค่าต�่ำเกินกว่าปัจจัยที่เป็นจริง ส�ำคัญที่สุดคือ “เงินสดต้องมีตลอดเวลา และใน สัดส่วนที่พอเพียงที่พร้อมจะรับโอกาสงามๆ จากความ ผันผวนที่อาจจะเกิดขึ้นในขณะใดขณะหนึ่ง”

ธนาคารกสิกรไทย เปิดตัวบริการ “สนับสนุน SME 24 ชั่วโมง 7 วัน” เพื่อ ให้บริการแก่ลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็ มอี ทัง้ ค�ำปรึกษา ติดตามปัญหา ข้อมูลราย ละเอียดบริการต่างๆ ตลอด 24 ชัว่ โมง 7 วัน เป็นธนาคารแรก ลูกค้าสามารถใช้บริการ ได้ตงั้ แต่วนั นีเ้ ป็นต้นไป หรือสอบถามราย ละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร 02-888-8822

ธ.กรุงไทย ดอกเบีย้ ฝากสูงสุด 5% ต่อปี

ธนาคารกรุงไทย ฉลองครบรอบ 45 ปี ออก 3 ผลิตภัณฑ์เงินออมให้ลกู ค้าได้เลือก ลงทุนให้อัตราดอกเบี้ยสูงสุดถึง 5% ต่อปี ประกอบด้วย เงินฝาก KTB Birthday Step up 11 เดือน จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือน ในอัตราเฉลี่ย 2.25% ต่อปี เงินฝาก KTB Birthday 11 เดือน จ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 2.20% ต่อปี และตั๋วแลกเงิน KTB B/E Birthday ยอดซื้อขั้นต�่ำครั้งละ 100,000 บาท จ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 2.40% ต่อปี โดยลูกค้าสามารถเปิดบัญชีเงินฝากได้ที่ ทุกสาขากว่า 960 แห่งทั่วประเทศ จนถึง วันที่ 31 มีนาคม 2554 นี้

‘HomePro EXPO 13’ 18-27 มีนาคม 2554

บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จ�ำกัด (มหาชน) หรือ “โฮมโปร” ผู้น�ำธุรกิจศูนย์ รวมวัสดุและอุปกรณ์ตกแต่งบ้านครบวงจร ร่วมกับบัตรเครดิตกรุงศรี และบัตรเครดิต โฮมโปร วีซา่ ลดและรับเพิม่ สูงสุด 25% เมือ่ ช้อปครบทุก 2,000 บาท รับคูปองลุ้นรับ ทองและบัตรก�ำนัลโฮมโปร ทุกวัน พิเศษ สุดสมาชิก HomeCard ช้อปทุก 5,000 บาท รับ 1 สิทธิ์ลุ้นรับโตโยต้า วีโก้ ดับเบิล แคบ ตั้งแต่วันที่ 18-27 มีนาคม 2554 ณ อิมแพ็คเมืองทองธานี ฮอลล์ 5-8

KK ติวเข้มทายาทผู้ประกอบ การอสังหาฯ

ธนาคารเกียรตินาคิน ร่วมกับสมาคม ผูบ้ ริหารธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ร่วมมือในโครงการ “KKRE New Generation” หลั ก สู ต ร อสังหาริมทรัพย์ส�ำหรับผู้ประกอบการ คนรุ่นใหม่ ส�ำหรับทายาทผู้ประกอบการ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นลูกค้าของ ธนาคาร โดยมุ่งพัฒนาผู้ประกอบการคน รุน่ ใหม่ทมี่ พี นื้ ฐานครอบครัวประกอบธุรกิจ อสังหาริมทรัพย์ โครงการดังกล่าวใช้เวลา เรียน 3 เดือน ผูท้ สี่ นใจข้อมูลสามารถติดต่อ เพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-680-3333


8

วันที่ 7 มีนาคม 2554

โอกาสโตในประเทศเริ่ม ‘ตัน’ ยุทธศาสตร์ ‘ธนาคารกรุงเทพ’ ภายในสิบปีหลังจากนี้ มุ่งขยายสาขาและออกไปเติบโตนอกบ้านรองรับ ‘ทศวรรษแห่งเอเชีย’ ด�ำรงความเป็นธนาคารที่มีสินทรัพย์ แต่ทว่าจุดแข็งของธนาคารกรุงเทพที่ อันดับหนึ่งในประเทศมายาวนานหลายสิบปี และใหญ่ อันดับ 4 ในอาเซียน ณ สิ้นเดือน มกราคม 2554 ธนาคารกรุงเทพมีสินทรัพย์ รวม 1.9 ล้านล้านบาท มีเงินรับฝาก 1.37 ล้านล้านบาท และเงินให้สินเชื่อกว่า 1.14 ล้านล้านบาท อย่างไรก็ตามในช่วงไม่กี่ปีที่ ผ่านมาธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทย พาณิชย์เร่งเครื่องขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ท�ำให้ ธนาคารกรุงเทพสูญเสียกลุม่ ลูกค้ารายย่อย และลูกค้าเอสเอ็มอีไปค่อนข้างมาก

สองคู่แข่งไม่สามารถก้าวตามทันคือการมี สาขาในต่างประเทศทีแ่ ข็งแกร่งโดยวิสยั ทัศน์ ของ ชิน โสภณพนิช ธนาคารกรุงเทพเปิดให้ บริการสาขาต่างประเทศสาขาแรกในฮ่องกง ในปี พ.ศ.2497 หรือเมื่อ 57 ปีที่แล้ว ปัจจุบันยังเป็นธนาคารพาณิชย์ไทย แห่งเดียวทีม่ รี ากฐานมัน่ คงในประเทศจีน โดย มีการด�ำเนินธุรกิจในประเทศจีนมายาวนานกว่า 20 ปี ผ่านสาขาและส�ำนักงานตัวแทนที่ตั้ง อยูใ่ นปักกิง่ เซีย่ งไฮ้ เซียะเหมิน และเสิน่ เจิน้

เติบโตของสินเชือ่ ต่างประเทศโตไปพร้อมกับ ธุรกิจในประเทศ” ปัจจุบันธนาคารกรุงเทพมีสาขาต่าง ประเทศ 25 แห่ง กระจายอยูใ่ น 13 ประเทศ ทั่วโลก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, จีน, ญีป่ นุ่ , ฮ่องกง, ไต้หวัน, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, เวียดนาม, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, พม่า, และ ลาว ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554 ได้เปิดสาขาในรัฐสลังงอ เป็นธนาคารท้องถิน่ ในประเทศมาเลเซียสาขาที่ 4 (2 สาขาแรก ตั้งอยู่ในรัฐยะโฮร์ และอีก 2 สาขาอยู่ในรัฐ ปีนัง และรัฐสลังงอ) โดยใช้ชื่อว่า Bangkok Bank Berhad ซึ่งมีธนาคารกรุงเทพเป็น ผู้ถือหุ้น 100% โฆสิต กล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพยังมีแผนที่ จะขยายสาขาในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศอาเซียน+3 (จีน, ญีป่ นุ่ , เกาหลี) ในกลุม่ ประเทศอาเซียนขณะนี้ ธนาคารกรุงเทพได้เปิดสาขาเกือบหมดแล้ว ยกเว้นที่กัมพูชาประเทศเดียว แนวโน้มการ เปิดสาขาในอนาคตสนใจทีป่ ระเทศจีนเพราะ

Bangkok Bank (China) กล่าวว่า ปัจจุบัน ธนาคารกรุงเทพได้เปิดสาขาที่ประเทศจีน 4 สาขา มีสถานะเป็นธนาคารท้องถิ่นและ มีส�ำนักงานใหญ่อยู่ที่เซี่ยงไฮ้ สามารถท�ำ ธุรกรรมทางการเงินได้ทั้งสกุลเงินหยวน, ดอลลาร์สหรัฐ, ฮ่องกงดอลลาร์ และสกุลยูโร มีพอร์ตสินเชือ่ คงค้างรวม 1,000 ล้านเหรียญ สหรัฐ หรือ ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท ลูกค้าในพอร์ตทีป่ ระเทศจีนส่วนมากเป็น ผูป้ ระกอบการจากไต้หวันและสิงคโปร์ทเี่ ข้ามา ลงทุนในจีนประมาณ 60% มีลูกค้าคนจีน ประมาณ 10% ส่วนลูกค้าไทยแต่ก่อนมี เพียง 10% ปัจจุบันเพิ่มเป็นประมาณ 35% มีทงั้ ผูป้ ระกอบการขนาดกลางทีเ่ มืองเสิน่ เจิน้ ส่วนลูกค้ารายใหญ่ ได้แก่ เครือซีพี, เครือซิ เมนต์ไทย, กลุ่ม ปตท., สหยูเนี่ยน, บ้านปู และน�้ำตาลมิตรผล ฯลฯ แนวโน้มสินเชื่อ เติบโตขึ้นทุกปี กรรมการผูจ้ ดั การใหญ่ธนาคารกรุงเทพใน ประเทศจีน กล่าวว่า ปัจจุบนั ธนาคารต่างชาติ ยังมีส่วนแบ่งตลาดสินเชื่อต�่ำมากเพียงแค่

1.7% ของสินเชื่อทั้งระบบโอกาสเติบโตยัง มีอีกมาก แผนการขยายสาขาในอนาคต เราก�ำลังศึกษาอยู่หลายเมืองเช่น ฉงชิ่ง เฉินตู และซูโจว แนวโน้มเศรษฐกิจจีน ภายใน 3 ปีข้างหน้านี้ (2554-2556) คาด ว่าจีดีพีน่าจะยังโตได้ 9-10% ส่วนเป้าหมาย การปล่อยสินเชื่อในประเทศจีนปีนี้ คาดว่า จะท�ำได้ตามแผนใกล้เคียงกับปีทแี่ ล้วทีเ่ ติบโต ขึ้น 10% ชลิต เตชัสอนันต์ ผู้จัดการทั่วไปสาขา จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย กล่าวว่า ธนาคาร กรุงเทพได้เข้าไปตัง้ สาขาตัง้ แต่ปี พ.ศ. 2511 คาดว่าอีก 5 ปีจากนี้อินโดนีเซียจะมีจ�ำนวน ประชากรรวม 256 ล้านคน มากกว่าไทยถึง 4 เท่า และมีทรัพยากรธรรมชาติจำ� นวนมาก โดยเฉพาะเหมืองถ่านหิน จีดีพีของเขาโต 5-6% ทุกปี เรียกได้ว่าก�ำลัง “เทคออฟ” (ทะยาน) อย่างแท้จริง พอร์ตสินเชื่อของเราในปัจจุบันมีอยู่ 360 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลูกค้าส่วนใหญ่ 90% เป็นผู้ประกอบการท้องถิ่น 10% เป็น

ผู้ประกอบการไทยและก�ำลังเติบโตเพราะ เริ่มมีการลงทุนระหว่างกันมากขึ้น ตอนนี้ ธนาคารกรุงเทพมีแผนที่จะขยายสาขาเพิ่ม อีกหนึ่งสาขา ส�ำหรับในปี 2553 ที่ผ่านมา สินเชื่อมีการเติบโต 12-13% ส่วนปี 2554 คาดว่าจะมีการเติบโต 15-20% ส่วนมากเป็น กลุม่ อาหารและเม็ดพลาสติกทีน่ กั ลงทุนไทย เข้าไปลงทุนในอินโดนีเซียมากขึ้น ธาราบดี ซึ้งอดิชัยวิทย์ ผู้จัดการทั่วไป สาขาโฮจิมินห์ ซิตี สาขาประเทศเวียดนาม กล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพได้เข้าไปตั้งสาขา เมื่อ 50 ปีที่แล้วและหยุดไปช่วงสงคราม ปัจจุบันมีอยู่ 2 สาขาที่ฮานอยกับโฮจิ มินห์ จุดแข็งของเวียดนามคือการมีรัฐบาล พรรคเดียวท�ำให้การเมืองนิ่ง จีดีพีของเขา โต 7-8% ทุกปี พอร์ตสินเชื่อในปัจจุบัน มีอยู่ประมาณ 20,000 ล้านบาท 3-4 ปี ที่ผ่านมาโต 30% ทุกปี ส่วนใหญ่เป็นภาค การผลิต ลูกค้ามีตั้งแต่ผู้ประกอบการไทย ไต้หวัน สิงคโปร์ ปีนี้การเติบโตน่าจะท�ำได้ ใกล้เคียงกับที่ผ่านมา

ยุทธศาสตร์สิบปี ‘ธนาคารกรุงเทพ’ โตนอกบ้าน รับขาขึน้ ‘ทศวรรษแห่งเอเชีย’ พอรตลงทุนสวนตัว ‘เจาสัวชาตรี โสภณพนิช’ ในตลาดหลักทรัพย หุน

BBL BLA BKI ASP BTS DTC BH ASK UVAN SMIT CNS KWC CSR รวม

จำนวน (หุน) 15,280,278 45,690,860 1,795,738 96,497,310 320,000,000 4,325,666 3,666,035 11,212,360 549,118 14,400,000 473,100 174,260 141,750

สัดสวน (%) 0.71 3.81 2.36 4.59 0.57 5.09 0.5 4.87 0.58 2.72 0.66 2.9 0.69

ราคาปด 2 มี.ค. 2554 160 30.5 249 2.84 0.71 39.5 36.25 9.15 81.5 2.7 28 63.5 49.5

หมายเหตุ : ขอมูลการลงทุนเปนของป 2553 แตราคาหุนอางอิงราคาปจจุบัน

มูลคาตลาด (บาท) 2,444,844,480 1,393,571,230 447,138,762 274,052,360 227,200,000 170,863,807 132,893,769 102,593,094 44,753,117 38,880,000 13,246,800 11,065,510 7,016,625 5,308,119,554

และเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2552 ธนาคาร ได้เปลี่ยนสถานะ 4 สาขาดังกล่าวขึ้นเป็น “ธนาคารท้องถิ่น” โดยใช้ชื่อว่า Bangkok Bank (China) Company Limited ซึ่ง มีธนาคารกรุงเทพเป็นผู้ถือหุ้นเต็ม 100% ยุทธศาสตร์ของธนาคารยักษ์ใหญ่อนั ดับ หนึง่ ของไทยก�ำลังวางบทบาทตัวเองเพือ่ ก้าวไป สูก่ ารเป็น “ธนาคารภูมภิ าค” โดยล่าสุด โฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ มองว่า ในช่วง 10 ปีจากนี้ จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของ เศรษฐกิจโลก จากทีเ่ คยเน้นพึง่ พิงการเติบโต ของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาและเศรษฐกิจ ของประเทศพัฒนาแล้ว มาเป็นการพึ่งพิง เศรษฐกิจของเอเชียมากขึ้น โดยเฉพาะ ประเทศที่มีประชากรจ�ำนวนมากอย่างจีน และอินเดีย ถือเป็น “ทศวรรษแห่งเอเชีย” บริษัทขนาดใหญ่ของไทยเริ่มออกไปลงทุน ในต่างประเทศ ขณะที่การเติบโตในประเทศ ตลาดเริ่มจ�ำกัดมากขึ้น “ธนาคารกรุงเทพต้องตามพวกเขา (เครือ ซีพ,ี เครือซิเมนต์ไทย, กลุม่ ปตท., บ้านปู ฯลฯ) ออกไปลงทุนข้างนอกด้วย เราต้องการให้การ

มีการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ส่วนทีอ่ นิ เดียได้ ชะลอแผนออกไปก่อน “ทศวรรษแห่งเอเชีย” ในมุมมองของโฆสิต ภูมิภาคนี้น่าจะเติบโตต่อเนื่องได้ยาวนานถึง สิบปี และศักยภาพเศรษฐกิจน่าจะเหนือกว่า ฝัง่ ตะวันตก ขณะทีป่ จั จัยในประเทศเริม่ จ�ำกัด ลงเรื่อยๆ “ปีนเี้ ราตัง้ เป้ารักษาสัดส่วนสินเชือ่ จาก ต่างประเทศที่ 17-18% ของสินเชื่อรวม เนือ่ งจากในประเทศเราก็โตเช่นกัน เราอยาก ให้ทั้งสองขาโตไปในทิศทางเดียวกัน” มุมมองจากทีมงานสาขาต่างประเทศ ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ส�ำนักกิจการต่างประเทศ กล่าวว่า ปีทผี่ า่ นมา สินเชือ่ ธุรกิจของธนาคารพาณิชย์เติบโตเป็น บวกครัง้ แรกในรอบหลายปี แสดงถึงแนวโน้ม เศรษฐกิจที่ก�ำลังฟื้นตัวชัดเจน โดยเฉพาะ ประเทศในเอเชียก�ำลังพัฒนาตัวเองจาก “ผูส้ ง่ ออก” ขยายออกไปลงทุนในต่างประเทศ มากขึ้นจะส่งผลดีต่อสาขาของธนาคารใน ต่างประเทศ ประกอบกับตลาดในประเทศ เริ่มเต็มแล้ว สุวชั ชัย ทรงวานิช กรรมการผูจ้ ดั การใหญ่

เจ้าพ่อแลนด์ฯ “อนันต์ อัศวโภคิน” เดินถือ “ไอแพด” ติดมือ เจ้าตัวบอกว่า ตอนนี้ ก�ำลังเน้นให้ฝา่ ยขาย “แลนด์แอนด์เฮ้าส์” ลองท�ำ “การตลาด” บน “ดิจติ อล มีเดีย” ดูจะได้ประหยัด “ค่าโฆษณา” ที่ลงใน ริมถนนนักลงทุน ฉบับที่ 351 ประจ�ำ “หนังสือพิมพ์” เพราะต้นทุน “ถูกกว่าเยอะ” วันที่ 7 - 13 มีนาคม 2554 • งานประชุมผูถ้ อื หุน้ “รพ.กรุงเทพ” • เจอะเจอ “ทวีฉัตร จุฬางกูร” นัก ผูถ้ อื หุน้ บางส่วน “ข้องใจ” กับการเข้ามานัง่ เป็น ลงทุน “พันล้าน” ในงานแถลงข่าว “บ.ไอร่า “กรรมการ” ของ “ทนาย วิชยั ทองแตง” แคปปิตอล” ที่เพิ่งเข้าซื้อกิจการ อยากจะให้มาแสดง “วิสยั ทัศน์” ให้ฟงั “ธนมิตร แฟคตอริ่ง” จากกลุ่ม ท�ำเอา “นพ.ปราเสริฐ ปราสาททอง “จิราธิวัฒน์” ไถ่ถามถึงแนวโน้ม โอสถ” ต้องออกมาชี้แจงว่าควรให้ “ตลาดหุน้ ” เจ้าตัวบอกว่า ช่วงนีเ้ น้น “โอกาส” เขา “แสดงฝีมือ” ก่อน “ถือยาว” อย่างเดียว สถานการณ์ ผลเป็นอย่างไรค่อยว่ากัน แบบนี้ “เล่นยาก” กลยุทธ์ • เก็บเงินลูกเดียว การลงทุนปีนตี้ อ้ ง “เลือก “เสีย่ ตา” ปัญญา นิรนั ดร์กลุ รายตัว” ให้ดี ส่วนตัว หนีส้ นิ บริษทั ก็ไม่มี ขนาดชือ่ เห็นว่า “กลุ่มสถาบัน อาคารส�ำนักงานใหญ่ การเงิน” น่าสนใจ เพราะ “เวิร์คพอยท์” ยังตั้ง ได้ประโยชน์จากทิศทาง ชือ่ ว่า “อาคารยุง้ ข้าว” ดอกเบี้ย “ขาขึ้น” ปีนี้เวิร์คพอยท์ก�ำไรโต • ก�ำลังหัดเรียนรู้ 155% ก�ำไรต่อหุ้น 0.93 “เทคโนโลยี” ใหม่ๆ แอบเห็น บาท “เสี่ยตา” ใจป�้ำจ่าย อนันต์ อัศวโภคิน

ปันผล 0.82 บาท “ครึง่ ปีแรก” จ่ายไปแล้ว 0.32 บาท “ครึง่ ปีหลัง” จ่ายอีก 0.50 บาท แบ่งจ่ายเป็น “เงินสด” 0.25 บาท และ จ่าย “หุ้นปันผล” 4 หุ้นเดิมได้ “1 หุ้นฟรี” • พีส่ าวเปิดร้านโดนัท “คริสปี้ ครีม” ขาย ดิบขายดี ด้านน้องสาว “อุษณา มหากิจศิร”ิ ลูกสาว “เสี่ยเนสกาแฟ” ดูแลธุรกิจ “อสังหาริมทรัพย์” ของครอบครัว ล่าสุด แตกไลน์มาเปิด “คอนโดสุดหรู” แห่งใหม่ ชื่อ “The Nest” ใกล้สี่แยก “เพลินจิต” เปิดตัว “มีนาคม” นี้ ราคาขายเริ่มต้น 2.5 ล้านบาท • งบการเงิน “ซี.ไอ.กรุป๊ ” ของ “อารีย์ พุม่ เสนาะ”ถูก ตลท.ให้แก้ไขงบ “ครัง้ ที่ 2” อ่านรายงาน “ผูส้ อบบัญชี” ของส�ำนักงาน “เอ.เอ็ม.ที.แอสโซซิเอท” ถูก “ตั้งข้อ สังเกต” ไว้ค่อนข้างเยอะ “งบไม่เคลียร์” ล่าสุด “วันชัย ธนิตติราภรณ์” ประธาน กรรมการตรวจสอบ “ไขก๊อก” แล้ว • “ชวนพิศ ฉาย-เหมือนวงศ์” กรรมการ ผู้จัดการ “พี พลัส พี” กิจการของ “ฉาย บุนนาค” ส่งเทียบเชิญ “สื่อมวลชน” แถลงข่าว “ริมทะเล” ณ โรงแรมการ์เด้น

โฆสิต ปั้ นเปี่ ยมรั ษฎ์

เจ้าสัว ‘ชาตรี โสภณพนิช’ ลุยเก็บหุ้น BBL

เจ้าสัวชาตรี โสภณพนิช ประธานกรรมการ ธนาคาร

กรุงเทพ เจ้าของวลี “เจ้าสัวเยสเตอร์เดย์” ในยุคต้มย�ำกุ้ง วันนี้กลับมาเป็น “เจ้าสัวทูเดย์” อย่างเต็มภาคภูมิ จากการ ตรวจสอบของกรุงเทพธุรกิจ BizWeek พบว่าตัง้ แต่เดือนตุลาคม ปี 2553 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2554 เจ้าสัวชาตรี เข้าเก็บ หุ้น BBL ไปแล้วจ�ำนวน 1,717,500 หุ้น ที่ราคาเฉลี่ย 149.35 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 256.50 ล้านบาท โดยเป็นการ “ซือ้ เก็บ ขาเดียว” ไม่มีขายออก ขณะที่บุตรชาย ชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการ ใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2554 ซื้อหุ้น

ชาตรี โสภณพนิช

‘ชาตรี-ชาติศิริ โสภณพนิช’ เก็บหุน BBL ในชวงที่ผานมา ผูซื้อ ชาตรี โสภณพนิช ชาตรี โสภณพนิช ชาตรี โสภณพนิช ชาตรี โสภณพนิช ชาตรี โสภณพนิช ชาตรี โสภณพนิช ชาตรี โสภณพนิช ชาตรี โสภณพนิช ชาตรี โสภณพนิช รวม ชาติศิริ โสภณพนิช

วันที่ซื้อ 19/10/2553 20/10/2553 21/10/2553 24/11/2553 26/11/2553 29/11/2553 16/12/2553 21/12/2553 11/2/2554 31/1/2554

จำนวน (หุน) 200,000 200,000 200,000 400,000 100,000 100,000 200,000 17,500 300,000 1,717,500 100,000

BBL จ�ำนวน 100,000 หุ้น ที่ราคา 149 บาท คิดเป็นมูลค่า 14.90 ล้านบาท เป็นเสมือนเครื่องยืนยันว่าสองผู้ยิ่งใหญ่แห่ง ธนาคารกรุงเทพมั่นอกมั่นใจในอนาคตของธนาคาร (หุ้น) ว่ายัง สามารถเติบโตต่อไปได้ ซึ่งสอดคล้องกับมุมมองของ โฆสิต ปัน้ เปีย่ มรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพทีม่ องว่า ในช่วง 10 ปีจากนี้จะเป็น “ทศวรรษแห่งเอเชีย” ที่แกน เศรษฐกิจโลกจะหมุนจากประเทศพัฒนาแล้วมาพึง่ พิงเศรษฐกิจ ของเอเชียมากขึ้น

ราคาเฉลี่ย (บาท) 154.5 154 154 148.11 145 145 148.25 144.5 145.28 149.35 149

มูลคาที่ซื้อ (บาท) 30,900,000 30,800,000 30,800,000 59,244,000 14,500,000 14,500,000 29,650,000 2,528,750 43,584,000 256,506,750 14,900,000

ส�ำหรับเป้าหมายในปีนี้ ชาติศิริ กล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพ ตั้งเป้าสินเชื่อขยายตัว 6-8% เพิ่มจากเดิมที่เคยตั้งเป้าโตเพียง 5-7% ภายใต้คาดการณ์ว่าจีดีพีจะเติบโต 4-5% โดยสินเชื่อจะ กระจายตัวทุกกลุม่ ทัง้ ในและต่างประเทศ ปัจจัยสนับสนุนมาจาก การลงทุนของภาครัฐ ขณะทีส่ ว่ นต่างอัตราดอกเบีย้ สุทธิ (NIM) คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 3% ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อ ให้เกิดรายได้ (NPL) คาดว่าจะรักษาให้อยูใ่ นระดับไม่เกิน 4% จาก ปีที่แล้ว

คลิฟ รีสอร์ต แอนด์ สปา 2554 วงเงิน 3,000-4,000 (พัทยา) ระหว่างวันที่ 12ล้านบาท 13 มีนาคม นี้ • “เสนาดีเวลลอปเม้น • แข่งเดือด “ชาลทอง ท์” อายุครบ 30 ปีในปีนี้ ปัทมพงศ์” อดีตผู้ก่อตั้ง “ดร.ยุย้ ” เกษรา ธัญลักษณ์“บิสนิวส์” ปัจจุบันเป็น ภาคย์ จัดงานใหญ่ “SENA เจ้าของส�ำนักข่าว “อินโฟPride” จะเปิดเผยกลยุทธ์ “4 เควสท์” จับมือกับ “แอสเพนValue key to success” รีเสิรช์ กรุป๊ ” เจ้าของลิขสิทธิ์ ของบริษัท พร้อมท�ำโปร โปรแกรม “วิเคราะห์ เกษรา ธัญลักษณ์ ภาคย์ โมชั่น30 ปี ร่วมกับ CIMB หุน้ ” ชัน้ น�ำของโลก “Apex” 0% นาน 30 เดือน งานนี้ ได้เข้ามาท�ำตลาดโดยตรงในประเทศไทย เชิญ “ภัทรียาเบญจพลชัย” อดีต ผจก. เปิดตัวบริการ “Aspen” โปรแกรมเรียกดู ตลาดหลักทรัพย์มาร่วมพูดคุยด้วย งานจะ ข้อมูล “หุ้นเรียลไทม์” เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด มีขึ้นในวันพุธที่ 9 มีนาคม 2554 ที่โรงแรม ปรับปรุงจากโปรแกรมเดิม Apex แต่ราคา เซ็นทารา ปทุมวัน ต�่ำกว่าคู่แข่ง 35-50% • เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนรายการ • ไทยเป็นประเทศที่ 4 ของโลกทีอ่ อก Thailand s Got Talent “กวิน กาญจนพาสน์” “พันธบัตรรัฐบาลอายุ 50 ปี” ต่อจาก ใจป�้ำมอบคอนโดสุดหรูใจกลางเมือง อังกฤษ, ฝรั่งเศส และจีน ล็อตแรกวงเงิน “Abstracts พหลโยธิน พาร์ค” พร้อมบัตร 3.5 พันล้านบาท ดอกเบีย้ 4.85% นักลงทุน รถไฟฟ้า BTS ฟรี 10 ปี ไม่จ�ำกัดจ�ำนวน แห่ซื้อเกินถึง 6,320 ล้านบาท “กรณ์ จา เที่ยวเป็น “รางวัล” ให้แก่ “ผู้ชนะเลิศ” ติกวณิช” ติดใจปีนี้จะออกอีก 2 ครั้งใน ในรายการ “ไตรมาส 3 และ 4” ของปีงบประมาณ • “กรุงเทพธุรกิจ” ผนึก “ธ.ทิสโก้”

จัดสัมมนา TISCO Wealth-KT Investment Forum วันที่ 15 มี.ค.2554 เวลา 08.00- 11.30 ณ รร.พลาซ่า แอทธินี พลาดไม่ได้ส�ำหรับนักลงทุนที่มองหาวิธี สร้างความมั่งคั่ง งานนี้งานเดียวที่รวบรวม “กูรู” หุ้น, น�้ำมัน, ทองค�ำ, อสังหาฯ จอง เก้าอี้ด่วน! รับจ�ำกัดโทร. 087-075-9338, 087-511-3381 หรือ E-mail : suree_s@ nationgroup.com • บล.คันทรี่ กรุ๊ป สัมมนา “เคาะขวา คว้าหุ้น” นักลงทุนจะได้กระทบไหล่ กิตติ ชีวะเกตุ (UAC) สมัย ลี้สกุล (TRC) งาน จัดขึ้นวันเสาร์ที่ 12 มีนาคม 2554 เวลา 13.00-17.00 น. ณ ห้องประชุมวิวฒ ั น์ไชย ชัน้ 8 อาคารไทยซัมมิท ทาวเวอร์ ถ.เพชรบุรี ส�ำรองที่นั่งได้ที่ 02-205-7000 ต่อ 1023 และ 1024 • บล.เคที ซีมโิ ก้ เสวนา “มองต่างมุม กับ การลงทุนในทอง” ในงาน KTB Fair 2554 วันที่ 11 มีนาคม 2554 เวลา 16.00 18.00 น. ที่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ส�ำรองที่นั่งได้ที่ www.ktzmico.com หรือ โทร. 02-695-5174


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.