กายใจ Detox your Life Delight your Mind
3
ปที่ 2 ฉบับที่ 45 26 ธันวาคม 2553-8 มกราคม 2554
โกลดิล็อก กับทางสายกลาง อานคงเคยอานหรือไดฟงนิทาน เรื่องโกลดิล็อกกับหมีสามตัว มาบางแลว เพื่อเตือนความจํากันถึงนิทาน วัยเยาว ขอนํากลับมาเลาอยางยนยออีกครั้ง เรื่องมีอยูวาหนูนอยนามโกลดิล็อกไปเดิน เลนในปาแลวไปเจอบานหลังหนึ่ง หลังจากเคาะประตูแลวไมมีเสียงตอบ เธอจึงถือวิสาสะเขาไปในบาน เธอไดลองชิมซุป 3 ชามที่วางอยูบนโตะ อาหาร ชามแรก เธอวา รอนไป ชามที่สอง เธอวา เย็นชืดไป ชามที่สามเธอวา อืม...กําลังดี ตอนทายเรื่องเธอเดินเขาไปในหองนอน ที่มีเตียงวางอยู 3 เตียง เธอลองลมตัวนอนบนเตียงแรกแลวบอก วา แข็งไป โกลดิล็อกเปลี่ยนมานอนบนเตียงที่สอง แลววา นุมไป พอเปลี่ยนมาเปนเตียงที่สาม เธอบอกวา อืม...กําลังดี และนอนหลับผล็อย เรื่องเลาโกลดิล็อกมีแงมุมตรงกับคําสอน ของพุทธศาสนาวาดวยทางสายกลาง เปนนิทานปรัมปราสอนใหเด็กเขาใจชีวิต บนทางสายกลาง ไมตึงไป ไมหยอนไป ใหทุกยางกาวของชีวิต “อืม...กําลังดี”
ผู
เอส.เค health@nationgroup.com
บรรณาธิการที่ปรึกษา ดวงกมล โชตะนา เบ็ญจวรรณ เผาจินดามุข บรรณาธิการ สมสกุล เผาจินดามุข กองบรรณาธิการ นันชนก มีสุวรรณ ชฎาพร นาวัลย ลักษโตเยน วุฒิศักดิ์ จุฑารัตน ทิพยนำภา สาลินีย ทับพิลา กานตดา บุญเถื่อน Beauty & Fashion เอื้อพันธุ ศรีสุนทร วลัญช สุภากร ปนอนงค ปานชื่น บรรณาธิการศิลปกรรม จักรพงษ ศรีสุนทร หัวหนาศิลปกรรม นพดล สุขพิทักษ ศิลปกรรม ทวีศักดิ์ อุระนันท ประไพพรรณ จันทรัตน จีรศักดิ์ สุมาลัย กราฟฟกดีไซน สุเจตน ชุมภูนท ผูอํานวยการอาวุโสฝายโฆษณา ณัฐวรา แสงวารินทร ติดตอโฆษณา วิจิตรา ศิริวรากุล 02-338-3052 พิชญา ทัศนกุล 02-338-3143 พรปรางค สุริสาร 02-338-3046
ความสุขแท แกที่ใจ ฉลองอยางพอเพียง โรงพยาบาลสัตวอารมณรีสอรท ออทิสติก อยาใหสายเกินแก
13
22
Email health@nationgroup.com 1854 ถนนบางนา-ตราด แขวงบางนา เขตบางนา กรุงเทพฯ 10260
Family “อาชญากรตัวจอย” ตัวปวนโลกไซเบอร
Experience พระอาจารยสุมโน ภิกขุ
26
16
Beauty & Fashion
11 เกาะติดเทรนด กับดักสามหลุม ของขุมทรัพยแหงความรัก12 Tokyo Street Fashion 16 ใครจะ(หาย)หนาว...กวากัน 18 ฉลองสีเขียว-แดง พรอมบอกลาผิวรวงโรย 20 22 4 บทบาทสมมติ 13 ผูชายอินเทรนด ในงานปารตี้ อยู ก บ ั ธรรมชาติ 24 6 พระเจาความเงียบ 24 14 26 8 เปลี่ยนแปลงอยางยั่งยืน 15 ลูกหมอน...หม่ำอรอย 10
Soulmate
Food สุขภาพดี รับปกระตาย กลองถายรูป eye2
27 30
26 ธันวาคม 2553 กรุงเทพธุรกิจ
บตั้งแตพระฝรั่งทานนี้ เริ่มเผยแพร แนวทางธรรมผานตัวอักษร เอ บี ซี มา ตลอดระยะเวลากวาสองทศวรรษ พระ อาจารยสุมโน ภิกขุ หนึ่งในศิษยของหลวงพอ ชา สุภทฺโท ไดรับการกลาวขานวามีลูกศิษยลูกหา ชาวไทย คอยติดตามไปทุกหนแหงเพื่อหวังจะไดฟง ขอคิดหลักธรรมอยูเนื่องๆ บุคลิกของทาน มักไมคอยชอบเผยตัวสัก เทาไร นานๆ ครั้ง ทานจะสละความสันโดษ และ สงบเงียบที่ถํ้าสองตา สถานที่พําพักประจําในเขต พื้นที่เขาใหญ ทางแถบตะวันออกเฉียงเหนือออก มาบรรยายธรรมและพูดคุยวิถีการเจริญสติ เพื่อจะ เปนแนวทางบําบัดฟนฟูจิตใจ ใหเกิดความรื่นรมย และผองแผวรับปกระตายเริงรา โอกาสดีๆ สงทายปเสือเชนนี้ บรรดาผูมีจิต ศรัทธาตางก็พูดวา อยาปลอยใหคําวา “ธรรมะเปน เรื่องของพระ” แตใหเปดประตูใจใชธรรมนําหนทาง ไปสูความดับทุกขปุถุชน เพื่อกาวสูป 2554 อยาง เปยมสุข “การเขาถึงธรรมไมใชเรื่องยากเลย แตพวกเรา จะจริงจังตั้งใจกับมันแคไหนเทานั้น อยางอาตมาเอง หลังจบการศึกษาดานกฎหมายและออกมาประกอบ กิจการสวนตัวดานการคาขายอสังหาริมทรัพย เคย ใชชีวิตที่สุขสบาย เปนเศรษฐีชิคาโก มีทุกสิ่ง ไดทุก อยาง แตวันหนึ่ง นั่งเฉยๆ แลวคิดวาทําไมไมมีความ
นั
สุขเลย จะเรียกวา อกหักกับชีวิตก็ไดนะ (หัวเราะ) นั่นแหละจุดเริ่มตนการเดินทางเสนใหมของอาตมา” กอนที่ทานจะสละทิ้งวัตถุแหงกิเลสทั้งหลายใน วัยหนุม (35 ป) แลวเลือกศึกษาวิถีพุทธในประเทศ อังกฤษในชวงแรกนั้น ทานเคยเปนฆราวาสที่ โปรดปรานหนังสือเกี่ยวกับภาวะทางจิต สมาธิ และ การปรับปรุงตัวเองอยูแลว แตก็ยังไมสามารถตอบ คําถามที่คางคาใจมาตลอดไดวา “ทําอยางไรจึงจะมี ความสุขที่แทจริง?” ครั้นพอไดแสวงหาคําตอบจากหลายๆ นิกาย ลองมาใชชีวิตผูปฏิบัติธรรมเครงครัด และถูกบท ทดสอบอันหนักหนวงจากครูอุปช ฌายอาจารย จากความไมเชื่อ แตสนใจใครรู จนไดลอง รักษาศีลแลวเห็นวามีประโยชนจริง ที่สุดแลว ธรรมะ นั่นเองที่เปนคําตอบของชีวิต และความสุข ที่แทจริงนั้นมาจากการปลอยวาง ทานจึงใชมันเปน “เข็มทิศนําทาง” แลวยึดถือไวกวา 30 ปแลว จากนั้นไดตกลงปลงใจเดินทางมาบวชที่วัด หนองปาพง อ. วารินชําราบ จ.อุบลราชธานี เพื่อ หันเหสูเสนทางจิตวิญญาณ หวังจะศึกษาธรรมใตรม กาสาวพัตรใหแตกฉานและขั้นสูงขึ้นไปอีก ภารกิจระหวางเดินทางเพื่อไปสูจุดสูงสุดนั้น พระอาจารยสุมโน ภิกขุ บอกวา จะเดินขึ้นเขา เรา ตองรดนํ้าตนไมขางๆ ทางใหงดงามดวย นั่นแปลวา ตองเผยแพรสิ่งที่รู ไปสูสาธารณชนคนที่ใจยัง
พระอาจารยสุมโน ภิกขุ เรื่อง : ชฎาพร นาวัลย ภาพ : สกล สนธิรัตน
พวกเราตั้ง “ปุจฉา” กับชีวิตไวจนฟุง บางถามเกิดมาทําไม ตายแลวไปไหน ความสุขอยูหนใด ... ณ เวลานี้ เราจะได “วิสัจนา” กับพระอาจารยฝรั่งวัย 74 พรรษา ผูมีใบหนา เปยมลนดวยเมตตาพรอม ไขปริศนาธรรม...
กรุงเทพธุรกิจ 26 ธันวาคม 2553
ความสุขแท...แกที่ใจ
กายใจ Experience มืดบอดอยู ผลงานหนังสือของทานมีทั้งที่ เขียนขึ้นเอง อยาง Questions from the city, Answer from the Forest ; Monk in the Mountain ซึ่งไดรับการ แปลเปนไทยในชื่อ ธรรมะจากพระภูเขา หรือ The Brightened Mind มีชื่อไทย วา จิตที่สวางไสว กับผลงานแปลจาก เทศนาธรรมของพระอาจารยธุดงคผูยิ่ง ใหญ อยาง พระอาจารยชา พระอาจารย เทสก เทสรังสี และพระอาจารยพุธ ฐานิโย เปนตน ลาสุด กับหนังสือ พบลิงที่ครึ่งทาง (Meeting The Monkey Halfway) ซึ่ง เนนวิธีการพัฒนาจิตดวยตนเอง พรอม จะนําจิตวิญญาณไปสูอิสรภาพเหนือการ พึ่งพาสิ่งอื่นใด
เขาถึงการเจริญในธรรมที่นําไปสูหนทาง อันถูกตอง หลังจากรูหลักการและที่มาของ ปญหานานาในโลกใบนี้วา ทุกปญหาลวน เกิดจาก “จิตฟุงซาน” ของมนุษย ขณะเดียวกันเหลาสัตวประเสริฐทั้ง หลายกลับไมรูจักการแกปญหาที่ตนเหตุ ไมเคยพอใจสิ่งใดๆ ไมเคยเติมเต็มตัวเอง สักที แลวก็หาความสุขจากภายนอก วนเวียนอยูในความยึดมั่นสรรพสิ่ง ทั้งปวง หรือ ขันธ 5 (รูปขันธ เวทนาขันธ สัญญาขันธ สังขารขันธ วิญญาณขันธ) และการรับรูและตอบสนอง หรือ อาตยนะ 6 ทั้งภายใน คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และ ใจ และภายนอก ไดแก รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และ ธัมมารมณ “วงจรชีวิตเดินตามครรลองของมัน ทํา “ใจ” ไมให “สุดโตง” อยูแลว แตบางคนพยายามหาความสุข คําสอนอันงดงามและมีคุณคาให ที่มากกวาทั่วไป บางเที่ยว หรือทํางาน สังคม ยอมเหมาะกับชวงเวลาที่ทุกคน เพื่อเอาเงินมาซื้อความสุขทางวัตถุอื่นๆ กําลังคนหาคําตอบใหกับชีวิตในขณะนี้ มันเปนภาพลวงตาของความสุข เพราะ แตคําสอนที่วานั้น ตองทะลุเขาไปในใจ เราจะตั้งความหวังใหมไปเรื่อยๆ” และตอบคําถามไดตรงจุด ดวยภาษาที่ พระอาจารยยกตัวอยาง และอธิบายใน เรียบงาย คมคาย แตลึกซึ้ง อีกมุมหนึ่งวา พระที่เครงในพระวินัยอยางแรงกลา หรือบางคนก็รูหลักหลุดพนจากการ เลาถึงเหตุผลที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาวา ได ยึดมั่นและรับรู แตเลือกวิธีปฏิบัติสุดโตง ตระหนักถึงกลไกการทํางานอันรายกาจ ฝนธรรมชาติของชีวิต เราจึงไมพนทาง ของจิตที่ซนเหมือนลิง มีลักษณะไมอยู ดับทุกข ไมสามารถควานหาความสุขที่ นิ่ง ไมเชื่อฟง ผันแปร และเปลี่ยนแปลง จริงแทไดสักที และที่สําคัญที่สุดคือ พวก ไดงาย เปนความสับสนวุนวายในจิตใจ ที่ เราไมเคยวกกลับตามหาความสุขที่อยู คอยแตจะสรางความสับสนวุนวายใหกับ ในใจเลยสักครั้ง ชีวิตทุกครั้งที่มีโอกาส มันจะจูโจมเราโดย ไมรูตัว คนพบแลว สละทิ้ง ครั้นจะคุมตัวเขากรงขังไวเสีย หรือ พระอาจารยสุมโน ภิกขุ จึงเผย ปลอยใหมันเปนไปตามยถากรรมเชนนั้น แนวทางการปฏิบัติเริ่มแรกใหใชวิธี ก็ใชวาจะแกปญหาได รังแตจะเพิ่มความ “B-ME” ทั้งที่แปลวา จงเปนตัวของ รุนแรงขึ้นกวาเดิม ฉะนั้นเราตองทําใหมัน ตัวเอง และเปนตัวยอของใหเขาใจถึง อยูบนทางสายกลาง หรือครึ่งทาง แลวนํา ความเปนจริงของทุกสรรพสิ่ง คือ Begin มาเปนอุบายอันชาญฉลาดในการบริหาร (มีจุดเริ่มตน) , Middle (ดําเนินมาได จิต ที่ไมตึง แข็งกระดาง หรือหยอนยาน ครึ่งทาง) และ End (แลวเดี๋ยวก็จบ) วา จนเกินไป ตั้งอยูบนหลักการของความ มันจะหมุนเวียนกันไปอยางนี้ไมมีสิ้นสุด สมดุลเปนกลาง ทานยังเพิ่มเติมขอธรรมหลากหลาย ทั้งนี้ เราจะเห็นหัวใจของเรา และ อันงดงาม และมีคุณคาเปยมดวยพลัง พบทางที่อยูตรงกลางได ก็ตอเมื่อเรา แหงการใหกําเนิดชีวิตใหม เพื่อใหเราหัน มีความอุตสาหะที่จะบรรลุเปาหมายใน กลับมาดูตัวเอง แกไขตัวตนใหสมบูรณ การทําจิต ซึ่งเปนสิ่งที่สงบไดยาก ให และเมื่อเราเปนสัตวสังคม เราก็ เกิดความตั้งมั่นและเปนกลาง และดวย จําเปนตองปฏิบัติตอผูอื่นใหถูกตอง ความพยายามมุงมั่น ประกอบกับความ อยางการใหอภัย ซึ่งเปนปญญาธรรมวา พากเพียร ซื่อตรงและปญญา ก็จะทําให ดวยความรัก เมตตา ซึ่งพวกเราหลงลืม
และละเลยกันมากในยุคสมัยนี้ สวนอีกหลักธรรมคําสอนที่ถือวา เปนจุดไคลแมกซ นั่นคือ วิธีการเจริญ ภาวนาที่พระอาจารยเรียกวา การคลาย ออก ซึ่งตรงขามกับการสั่งสม เปนการ ปลอยวาง อันจะนําไปสูความสุขสงบที่ มนุษยเราตางแสวงหามาตลอดชีวิต พระอาจารยสุมโน ภิกขุ อธิบาย ตอวา เราตองมีศีลเปนพื้นฐานเพื่อใหเปน มนุษยที่สมบูรณแบบเสียกอน แลวใช สมาธิเพื่อทําใหเกิดพลัง จากนั้นใหมองความสุขที่แทจาก การมองไปรอบๆ จะเห็นความงามของ ดอกไมเปนสิ่งชั่วคราว ประเดี๋ยวก็จะ เห็นความเสื่อม แลวจะพบวาที่ใจเราทุกข เพราะเรายึดติดกับกาย ความจริงแลว ธรรมชาติมันเปนอยางนั้นของมันอยูแลว “เราตางหากที่ประดิษฐจิต สมมุติมัน ขึ้นมา เราตองมีสติ สนใจปจจุบัน และรู วาทุกสิ่ง เกิดขึ้น ตั้งอยู แลวจะผานไป เรา ตองมองความเปนจริง วาทุกอยางมักเปน อยางนี้ เปนอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา” พระอาจารยนักเขียน สรุปใหฟงวา ฝกการเจริญภาวนานั้นใหเจริญสติเสมอ วา เดี๋ยวก็ดับไป ระลึกไวทุกขณะ อาจเริ่ม ทําเชา-เย็นกอนก็ได หรือระหวางเดิน จงกลม ไมนานเราก็จะไมยึดติด การนําเสนอทัศนคติตามแนวทางที่ พระพุทธเจาทรงมีตอโลกนี้ เปนการสอน วิธีเยียวยาจิตในลักษณะเดียวกับการ บําบัดรักษาความเจ็บปวยและทุพพลภาพ ของรางกาย มันจึงเปนหนทางเพื่อการ เจริญเติบโตแหงจิตวิญญาณ และเปน เครื่องมือฟนฟูจิตใจใหเกิดความรื่นรมย ผองแผว สองประกายดวยความสงบสุข เปนสภาวะที่จิตใจไดกลับคืนสูบา นที่แท จริง ทานทิ้งทายสําหรับผูมีกิเลสหนา กลัววาจะทําไมสําเร็จไววา แคคิดวาอยาก จะพนทุกข ยิ่งมากขึ้นเทาไร ก็จะยิ่งเกิด พลังมากขึ้นเทานั้น คุณภาพชีวิตคนเรา อยูที่ปญญาของเรา ตองเจริญในทาง ปญญา ซึ่งจําเปนตองฝกฝน เพราะการ สรางปฏิบัติธรรมก็เหมือนการปลูกตนไม สภาวะเกิดปญญาไดรวดเร็วตองมีปจจัย ที่ดี และตองโนมนาวจิตเราไปในทาง ธรรมเสมอ แลวแสงสวางแหงความสุขก็จะเปลง ประกายออกมา รับชีวิตใหมที่พนหวง ทุกขอยางแทจริง •
ทางลัดสูธรรม กับ ขอธรรมรวมมิตร ลองใหเวลากับขอธรรมหรือขอคิดขางลางนี้สักสามหรือเจ็ดวัน มันอาจชวยเปลี่ยนชีวิตเราได... • วันเวลาลวงเลยไปมากกวาที่คุณคิด แตก็ยังมีเวลาเหลือมากพอ • เสี่ยงทําอะไรดวยความฉลาด • การทําอะไรงายๆ ดวยความตื่นรู ดีกวาการทําอะไรที่ซับซอน ดวยความหลงและใจเหมอลอย • การคิดมากเกินไปเกี่ยวกับการตัดสินใจ ทําใหเปนคนไมกลาทําอะไรเลย • โชคลาภแหงชีวิตมักมาในรูปแบบของความเจ็บปวดกอน แลวสักพักตัวตนแทจริงจะเผยออกจากที่ซอน • โปรดระวัง! ชีวิตที่ไมมีการพัฒนาจะจมลงสูความซึมเศราทอแทสิ้นหวังในชีวิต เหมือนฆาตัวตายทางจิตวิญญาณ • อุปนิสัยและความเคยชินเดิมๆ ทําใหยํ่าอยูกับที่ ลองถอยมาสักกาว แลวจะเริ่มมองเห็นภาพไดดีขึ้น • การเจริญภาวนาตองใชจิตที่มีพลัง มุงมั่น ตั้งใจ และคลองแคลว วองไว ไมเหมาะกับผูมีจิตเขลา ดอยปญญา • ผูมีปญญาใชการเจริญภาวนาเพื่อควบคุมชีวิตตนเองได เสมือนมีเมล็ดพันธุแหงปญญาอยูในจิตใจตน
5
พรปใหม ...นิทาน ว.วชิรเมธี
เรื่องที่หนึ่ง... ไกซีอีโอ ทุกวัน พอไกตองลุกขึ้นมาขันบนหลังคา มันเชื่อวา พระอาทิตยจะขึ้นทุกเชาเพราะมันตื่นมาขัน วันหนึ่งปวยมาก แตก็พยายามกระเสือกกระสนปนขึ้นมาขัน เพราะกลัววาถา ไมทําหนาที่นี้แลว สิ่งมีชีวิตบนโลกจะเดือดรอน ลูกไกหนุม แสดงความปรารถนาจะชวย แตผูเปนพอคาน จนกระทั่ง ตัวเองตายไปไมไดสงเสียงขันอีกแลว พระอาทิตยก็ยังขึ้นของ มันอยูทุกวัน เรื่องนี้ สอนใหรูวา ทุกวันนี้เราชอบเปนพอไก คนจํานวน มากชอบแบกภาระไว เพราะคิดวาไมมีใครทําไดดีกวาตน ทํางานไมเกงเทา เรียกวาปลอยไมลง ปลงไมเปน ฉะนั้นอยาไป หลงตัวเองวา ทุกอยางเกิดจากเรา ตองเรียนรูที่จะปลอยวาง ใหโอกาสคนรุนใหมไดเรียนรู
เรื่องที่สอง...ดอกทานตะวัน ลองสังเกตเจาดอกสีเหลืองออยที่อยูกลางทุงดูสิ มันตื่น มาพรอมกับแสง คอยเสนอหนาแขงกับแดด แมพระอาทิตย จะเคลื่อนคลอยไปดานไหน เจาทานตะวันก็จะหันไปโชวหนาสู กับแสงอยูทุกเมื่อ ขอเท็จจริงนี้เปนกฎธรรมชาติที่นํามาสอนไดวา คนเรา ตองรูจักศิลปะของดอกทานตะวัน เพื่อที่จะมองหาสิ่งดีๆมา ใสชีวิต และนอกจากเราจะใชดวงตามองหาสิ่งดีๆในชีวิตแลว เราตองใชดวงใจกลั่นกรองใหความดีนั้นอยูกับเราไปนานแสน นานดวย
เรื่องที่สาม...เวิรกกิ้งวูแมน มีหญิงสาวคนหนึ่งทํางานหามรุงหามคํ่า ไมสนใจเรื่อง อาหารและการดูแลตัวเอง จนเพื่อนๆสงสัยกันวาทําไมเธอตอง ทํางานหนักขนาดนั้น แลววันหนึ่งก็พบกับภาพที่หญิงสาวคน นั้นหยิบรูปสามีขึ้นมาดู แลวนั่งทํางานอันแสนหนักหนวงตอ ไป เพื่อนๆตางคิดวากันเธอรักสามีมากจึงตองทําขนาดนี้ เมื่อ เธอรูก็ไดตอกกลับเพื่อนๆไปวา “เพราะไมมีอะไรที่จะแยและ เหนื่อยมากไปกวาการทนอยูกับสามีคนนี้อีกแลว” (ฮา) เรื่องนี้เปนตลกราย แตก็สะทอนใหเห็นแงคิดศิลปะการ มองโลกในแงดี เปนวิธีชารตแบตใหตัวเองที่ชาญฉลาด เปลี่ยน วิกฤติมาสรางโอกาสการเรียนรูครั้งสําคัญ สรุปไดวา การเติม พลังใหตัวเองก็คือการมองโลกในแงบวกนั่นเอง •
26 ธันวาคม 2553 กรุงเทพธุรกิจ
6
กายใจ Experience
• กานตดา บุญเถื่อน
ทําใหอวัยวะในรางกาย เชน ตับทํางานไมหนัก จนเกินความจําเปน การดื่มแอลกอฮอลทั่วไปปริมาณที่ รรยากาศสงทายปเกาตอนรับปใหม เหมาะสม หมอแนะนําวา แครูสึกหนารอน กําลังใกลเขามา หลายคนมีแผน วูบวาบ เริ่มพูดมากจากเดิม หรือรูสึกครึ้มอก ฉลองใหญ เพราะเปนวันหยุดพิเศษ ครึม้ ใจ สนุกสนาน เบิกบานใจก็ถอื วาพอไดแลว กวาทุกเทศกาล นานทีปหนจะไดมีโอกาสพบปะ และสําหรับคนที่เมาแตไมรูตัว ใหทองไวกอน เพื่อนสนิทมิตรสหายอยางเต็มที่ชนิดขามวัน ดื่มวา เดินไมตรงทาง ทรงตัวไดยาก สะดุด ขามป ลมไดงายนั่นละเริ่มเมา ซึ่งวิธีแกที่ดีควรดื่ม พญ.ดวงจิตร สมิทธิ์นราเศรษฐ แพทย นํ้าเปลาใหมากขึ้น หรือ เตนรําเพื่อขับปริมาณ ทั่วไปเฉพาะทางดานเวชกรรมฟนฟู โรง แอลกอฮอลออกทางเหงื่อ พยาบาลโพธาราม จังหวัดราชบุรี แนะเคล็ดลับ สิ่งสําคัญอยางยิ่งคือ พอเหลาเขาปากแลว การฉลองอยางถูกสุขอนามัยในชวงเทศกาล ไมควรขับรถ เพราะนอกจากชีวิตตนเองแลว ปใหมวา ควรกินอาหารและดื่มใหพอดีกับ ยังเสี่ยงใหผูอื่นบนทองถนนไดรับอันตราย รางกาย ไมควรกินมากเกินความจําเปน เพราะ จนถึงแกชีวิตไดดวย แตกรณีที่จําเปนจริงๆ อาจเปนที่มาของโรคภัยหรือความเจ็บปวยที่ไม และเผลอจิบไปไมเกิน 1-2 แกว ควรนั่งพัก ตองการได กอน 1-2 ชั่วโมงกอนขับ โดยดื่มนํ้าใหมากๆ “การปลดปลอยตัวเองอยางเต็มที่กับการ ใหแอลกอฮอลถูกขับออกจากรางกายเสียกอน ฉลอง โดยเฉพาะคนที่มีวันหยุดยาวหลายๆ วัน “หลายคนอานมาถึงตรงนี้อาจสงสัยวา อาจเปนที่มาของโรคที่ไมพึงปรารถนาก็ได โดย หมอมาแนะนําวิธีการดื่มเหลา เขาขายผิดจรรยา เฉพาะคนที่มีโรคประจําตัวเปนทุนเดิม อยาง บรรณไหม กรณีนี้ถือวาเปนการแลกเปลี่ยน โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง เสนเลือด เรียนรูและใหแงคิดเตือนสติชวงเทศกาลวา ดื่ม หัวใจอุดตัน อาจสงผลใหสุขภาพแยลงกวาที่ เปนอยู” แพทยโพธารามเตือน สารอาหารทีเ่ ปนประโยชนและปราศจากเชือ้ โรค มะนาว สม เพื่อใหความสดชื่นแกรางกาย และ ฉลองได แตควรดื่มอยางมีสติเพื่อปองกันไมให อาหารประจําเทศกาลฉลองและงานปารตี้ อาหารที่นํามาขึ้นโตะควรระวังพิเศษเรื่อง เพิม่ ประสิทธิภาพในการดูดซึมของรางกาย เพราะ รางกายตองเจ็บปวยโดยไมจําเปน”พญ.ดวงจิตร กลาว และวา สิ่งที่ควรเลี่ยงอยางจริงจังคือ สวนใหญที่มักเปนเมนูทอด ปง ยาง และอาหาร ของความสะอาด เพราะอาจเปนสาเหตุใหเกิด หากเสิรฟเปนนํ้าหวานอยางเดียวจะทําใหอิ่ม และนํ า ้ หนั ก ขึ น ้ หลั ง จากการฉลองป ใ หม โ ดย ไมดื่มเหลาเถื่อนโดยเด็ดขาด เพราะนอกจาก รสจัด เชน ไกยาง สมตํา ขาวเหนียว บารบีคิว โรคอุจจาระรวง อาหารเปนพิษ ขออักเสบจาก ฯลฯ รวมถึงอาหารเมนูกะทิ อยางแกงเขียว โรคเกาตกําเริบตามมาได รวมถึงลักษณะการ ใชเหตุ ทําลายอวัยวะในรางกายโดยตรงแลว อาจสงผล สําหรับคุณผูชายที่ชอบดื่มแอลกอฮอล ใหเกิดภาวะตับหรือไตวายไดทันทีหลังดื่มเพียง หวาน บัวลอย ซึ่งเสี่ยงตอการกําเริบของโรค กินตองไมเรงรีบเกินไป เพราะอาจเกิดการ ควรรับประทานอาหารใหอิ่มกอน แลวจึงเริ่ม ครั้งเดียว หลอดเลือดหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมองได สําลักจนถึงแกชีวิตไดเชนกัน โดยควรระวัง เมื่อผานพนเทศกาลแหงการฉลองไป งายแลว รวมถึงทําใหเกิดอาการรอนใน อาหาร ขณะรับประทานลูกชิ้นหรือขนมชั้นที่สวาปาม เดินเครื่องสําหรับเครื่องดื่มมึนเมา โดยดื่มทีละ นอยๆ พูดคุยใหมาก (แบบเหมือนไมไดเจอกัน กอนกลับมาเริ่มทํางานหลังปใหมควรพักผอน ยอยยากขึ้นกวาปกติ โดยไมทันไดเคี้ยว หรือกินไปหัวเราะไปจะ นาน) อยูบาน 1 วันเต็มๆ เพื่อใหรางกายไดพักผอน การสังสรรคอยางถูกสุขลักษณะ อรอย ทําใหอาหารเขาไปอุดหลอดลมสวนบนขาด เคล็ดลับดังกลาวจะทําใหนักดื่มทั้งหลาย อยางเต็มที่ หากมีโอกาสควรทําบุญ ฝกสมาธิ สนุก สุขภาพแข็งแรง ควรเสริมอาหารประเภท อากาศหายใจได ซึ่งเคยมีกรณีศึกษาที่เกิดขึ้น นั่งฉลองอยูไดนานกวาคนอื่นและเมาชา เพราะ เจริญสติ ตอบแทนบุญคุณพอแม ญาติพี่นอง ผักเขาไปดวย เชน สลัด ยํา หรือ แกงจืดเตาหู มากอนแลว การรับประทานอาหารกอนจะทําใหการดูดซึม ผูมีพระคุณ เตรียมตัวรับสิ่งดีๆ ที่กําลังจะเขามา หมูสับลอยหนาดวยแครอท โดยใชหมอไฟฟา เครื่องดื่มที่นํามาเลี้ยงฉลอง ควรเปน เปดรับประทานแบบรอนก็ได เพือ่ ใหรา งกายไดรบั นํ้าผลไม หรือ มีสวนผสมจากผลไมจริง เชน แอลกอฮอลของรางกายทําไดชาลง โดยมีผล ในชีวิต หลังจากปเกาผานพนไป
บ
ฉลองอยางพอเพียง
นีเ่ ปนหนึง่ งานอดิเรกของหนูดที สี่ นุกทีเดียว ที่สําคัญหนูดีวา อะไรก็แลวแตที่มี “ตรรกะ” ให เราเรียนรูและจับตองได ก็ดีสําหรับสมองทั้งนั้น ตรรกะของเขาคืออะไร มีการคํานวนแบบ ไหน ผลที่ไดมีพื้นฐานมาจากอะไร หนูดีเรียน กระตายใกลเขามาแลวนะคะ ปใหม แลวก็สนุกดีคะ เรียนแลวก็ไมไดลี้ลับอะไร ดู แบบนี้หนูดีมีกิจกรรมโปรดที่ตองทํา เปนวิทยาศาสตรเสียดวยซํ้า หนูดีก็เลยมานั่ง ทุกสิ้นปดวยคะ คํานวนเลนๆเองทุกปใหมแบบนี้ อันดับแรก ตองสารภาพกอนวา หนูดี ปใหมปนี้ เปนปพิเศษคะ เพราะหนูดีเพิ่ง เคยไปเรียนการดูดวงปแบบจีนทีเ่ รียกวา “ปาซือ่ ” เมื่อสองปที่แลว และไดมาลองนั่งคํานวนป กระตายหนาของเราเลนๆ ก็พบวาปหนา เปนป ที่ทั้งดีและตองระวังทีเดียว ปหนาเปนปกระตาย โลหะนะคะ ดุดันทีเดียว เชื่อไหมวา ใน 5 ธาตุ ดิน นํ้า ไฟ ไม และ โลหะ - กระตายของเราตัวนี้ ไมมีธาตุดินอยูเลย มีธาตุนํ้าอยู 1 ตัว ธาตุไฟอยู 1 ตัว ธาตุโลหะอยู มีผลงานออกใหมอีกเลม เพื่อเตรียมรับปใหม 3 ตัว และธาตุไมอยู 3 ตัว แถมธาตุเหลานี้ยัง โดยเฉพาะ คือ “หนังสือคูมือ สมองดี” หรือ บอนทําลายกันอีกดวย Brain Power Organizer เปนหนังสือ นํา้ ดับไฟคะ ไฟเปนธาตุความคิดสรางสรรค พ็อกเก็ตบุกที่รวมกับออกาไนเซอรเลยใน สวนธาตุดินที่หายไป เปนตัวแทน “ทรัพยากร” เลมเดียว อยากสรางหนังสือขึ้นมาสักเลมที่ ระวังหลังไวบา งก็ดนี ะคะ โดยเฉพาะคนทีเ่ ลนหุน จะทําใหคนอานมีชีวิตในปใหมที่ดีกวาป หมั่นตรวจเช็คการตัดสินใจของตัวเองเสมอ ป ที่แลวมา ทีจ่ ะถึงนี้ เขาวา อยามัน่ ใจเกินไปก็จะดีกบั ตัวเรา หนูดแี บงปหนาออกเปน 12 เดือน 12 ภารกิจ เองคะ ใหพวกเราไดลองฝกวางแผนกันดู ในครึง่ ปแรก แตแมในปที่ยากก็มีสิ่งดีๆซอนอยูมากมาย หนูดีเริ่มจาก คนที่โชคดี คือ คนที่ตาแหลม มองเห็นโอกาส เดือนมกราคม - เดือนแหงการตั้ง ใหมๆนั่นเองคะ เปาหมายใหมใหชีวิต - เดือนนี้ เราตองลงมือ
ป
ตั้งเปาหมาย ถามตัวเองวา ถาเราไมไดทําอะไร แลวเราจะเสียดายที่สุด มีงานไหนที่เราอยาก ฝากฝมือ หรือ เราอยากพาลูกไปทําอะไร เรา อยากเรียนอะไรใหมๆไหม ทั้งหมดนี้ ควรถาม ตัวเองกอนสิ้นป พอเริ่มปใหมจะไดออกสตารต เลย ไมตองเงอะๆ งะๆ เดือนกุมภาพันธ - จัดการเวลาได ก็ จัดการไดทงั้ ชีวติ - นีเ่ ปนจุดออนของคนเมือง เกินกวาครึ่ง เรารูสึกวาเรามีเวลาไมพออยูเสมอ
บางสวน รวบรวมของที่หมดอายุขัยการใชงาน หรือ เชย หรือ พัง ทิ้งไปบาง บริจาคบาง ทํา อยางนี้ทุกปใหม บานก็หมดโอกาสรกคะ เดือนเมษายน - เดือนแหงการฟนฟู ความจํา - เรื่องนี้ เปนหนามยอกอกคนงานยุง จํานวนมาก มันเหมือนเราไมมีเซลลสมองพอจะ จําทุกเรื่องที่ตองจําเสียที แตจริงๆแลวเชื่อไหม คะวา ยิ่งเราอายุมากขึ้น ความจําของเรายิ่งตอง ดีขึ้นคะ ไมใชแยลง แตทั้งหมด ขึ้นอยูกับการฝกและการให สมาธิกบั สิ่งตรงหนา 100% ไมใชอยากจํา แต เปนคนใจลอย อันนี้ ชวยไดยาก ไมมียาที่กิน แลวสมองดีขึ้นแบบทันตาเสียดวย ทุกอยาง เปนผลจากสุขภาพโดยรวม การใชชวี ติ โดยรวมๆ มากกวาคะ ชวนคุยมาแค 4 เดือนแรกของปหนา แตจริงๆเรามีเวลาพอที่จะทําสิ่งที่สําคัญไดครบ เนื้อที่ก็หมดลงเสียแลว เดี๋ยวฉบับหนา หนูดี ทั้งหมดคะ ประเด็นคือ จัดลําดับสิ่งสําคัญไว มาชวนคุยและชวนวางแผนปหนาตอกันใน ตนๆ แลวสิ่งที่สนุกมาก แตไมสําคัญสําหรับ 8 เดือนที่เหลืออยูวา มีภารกิจอะไรอีกบางดีกับ ความสุขและความสําเร็จ “ระยะยาว” ของเรา สมองและรอเราอยู ก็จัดไวทายๆคะ สวนวันปใหม 31 ธค - 3 มค 2554 หนูดี เดือนมีนาคม - จัดระเบียบบาน จัด ไปปฏิบัติธรรมที่ศูนยวัฒนธรรมเตาเตอซิ่นซี ระเบียบสมอง - เดือนนี้ ปของเราผานไป 2 อําเภอบอพลอย กาญจนบุรี เนนการกลับสู เดือนแลว เอกสารนาจะเริ่มกอง และตัวเรา ธรรมชาติ ทําตัวชาลง หายใจลึกขึ้น รํามวยจีน ก็อาจเริ่มยุงมาก จัดเวลาสักนิดหนึ่งมาจัด ฝงดินบําบัด ทานมังสวิรัติ แลวก็พักผอนจิตใจ ระเบียบบานดีกวาคะ เพราะบานที่ทําใหสมอง คะ ไปทีไร สบายใจกลับมาเสมอ ใครสนใจและ ทํางานไดดี คือ บานที่โลง อยูแลวปลอดโปรง ยังไมมีแผนจะทําอะไร อาจลองปฏิบตั ิแนวเตา ชวงกอนปใหมนี้ หนูดีเองก็เริ่มจัดบานไปแลว แบบนี้ไดนะคะ แลวพบกันคะ
รับมือ กระตายดุ
กรุงเทพธุรกิจ 26 ธันวาคม 2553
8
กายใจ Experience
วิมานในกะโหลก คหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ใหมๆ ภาพยนตรที่ฉาย สวนใหญเปนหนังขาวดํา เริ่มมีสีบางก็ในชวงสงคราม สวนใหญจะเปนภาพยนตรขาว มากกวาที่ตองฉายกอน ภาพยนตรเรื่องหลักในโรง แตสาํ หรับภาพยนตรบนั เทิงนัน้ ถาจะมีหนังสีเรือ่ งเดนอยูส กั เรือ่ ง ก็คงตองเปน “กอนด วิธ เดอะ วิน” หรือในชือ่ ไทยวา “วิมานลอย” พนมาถึงยุคใหมมหี นังใชแอนนิเมชัน่ สามมิติ สีม่ ติ ิ หรือเอาแค จอโทรทัศนในบานหลายหลังก็ชดั แจวยิง่ กวาจอในโรงหนังแลว การดูหนังจึงกลายเปนเรือ่ งใกลตวั มากขึน้ จริงแลวจอภาพยนตรทชี่ ดั เจนแจมแจวทีส่ ดุ ในโลกยังมีอกี ทีห่ นึง่ ซึง่ เปนโลกทีแ่ สนงาม มีภาพสวยจับใจ คมชัดทุกรายละเอียด สี แถมยังมีกลิน่ มีรส ชัดเจนดัง่ ใจนึก ฝกสักนิดก็จะมาเปนมิตรเรา ไดทกุ เวลา หาไมไกลเลยครับ อยูใ น “กะโหลก” เราเอง จอดีทสี่ สี ดทะลุมติ ิ เวลาปวดขมับเอามือจับ 2 ขางหัวชีใ้ หฝรัง่ ดู ฝรัง่ จะเรียกวา “เท็มปอรัล เพน(Temporal pain)” เปนแตละทีปวดตุบๆเห็นดาว ทรมานสิน้ ดี แตทฝี่ รัง่ อุตสาหเรียกขานเสียเสนาะก็เพราะขางในขมับนีค้ อื “วิหาร (Temple)” แทของเราครับ สําหรับทานทีไ่ มเคยสํารวจวิหารนีจ้ ริงจังอาจยังไมไดตนื่ ตะลึง กับความสามารถอันนาอัศจรรยของสมอง จะลองดูกไ็ ดครับ ลองจับบทพรรณนาโวหารของอาจารยสนุ ทรภูม าอานสักบท หรือจะลองใหมนั หยดจะเอาแฮรี่ พ็อตเตอรมาอานเงียบๆก็ไม วากัน แลวลองเทียบกันกับภาพยนตรแลวจะเห็นวาสมองคนแปล ภาพออกมาไดสวยสดจับใจเสียยิง่ กวาคอมพิวเตอรกราฟฟกใดๆ เราเสียอีกทีโ่ ชคดีไดมสี มองทีใ่ ชมองแทนตาไดอยางบรรเจิด เกิด ภาพฝนไมมที เี่ ปรียบ สราง “วิมานลอย” ใหคอยฝนถึง เทคนิคทีว่ า นีจ้ ะเรียกใหดวี า สรางวิมานก็พอได แตไมใชวมิ าน ในอากาศ เพราะวิมานชนิดนีเ้ ปนของทีอ่ ยูค งทนเปนเทคนิคทีใ่ ชได ตลอดชีวติ พิชติ ทุกขไดชะงัดดีนกั ครับ นัน่ คือใหลองหลับตานิง่ แลว “วิมาน” ในใจใหดสี กั หนอย คอยๆสรางใหเปนภาพแหงความสําเร็จในใจแบบทีเ่ ราปรารถนาครับ อยางนักขับรถแขงสูตรหนึง่ บางคนก็ใชเทคนิคนีก้ อ นลงแขงจริง โดยการแตงตัวเหมือนกับจะแขงจริงแลวก็นงั่ หลับตายกมือไมขนึ้ มาเหมือนกําลังกําพวงมาลัยแลวบิดซายบิดขวาไปตามภาพในหัวจะ จินตนาการ แกปญ หาทางโคง แกแรงตกตอนแซง โดยมีเคล็ดคือถือใหเหมือนอยูใ นสนามแขงจริง ยิง่ ถือแนนจนเหงือ่ เปยกถุงมือไดยงิ่ ดี แปลวามีวมิ านทีส่ วยอยู ในหัวใชไดแลว ซึง่ ปรากฏวาคนทีเ่ ห็นภาพ(ในหัว)ชัดดีมวี มิ านแบบ บานตัวอยางนีม้ กั จะประสบความสําเร็จดีกวาคนอืน่ ๆครับ สําหรับนักแขงก็ควาถวยรางวัลมาไดโดยงายทําลายสถิตทิ งั้ ของ ตัวและของคูแ ขง เหมือนกับไดแบงภาคความสําเร็จสวนนัน้ ไวในหัว แลว พอลงทําจริงถึงยิง่ “เปะ”ไมผดิ คิว สําหรับเทคนิคนีท้ จี่ ริงเขาเรียกวา “สรางภาพจริงในหัว (Visualization technique)” แตผมขอแปลงมาเปนวิมานให สําราญใจครับ เพราะเราสามารถแปลงมันเอามาใชสรางภาพแหงชีวติ ไดทกุ ประการ ไมวา จะเปนภาพครอบครัวทีอ่ บอุน ภาพลูกวัยรุน ทีน่ า รัก ภาพแหงการไดพกั จากอาการฟน ไขหายปวยจากโรครุมเราทีเ่ ปนอยู หรือจะดูใหเปนภาพแหงความรักในระดับโลกก็ได สนุกมากมาย กลายเปนบ็อกซออฟฟศเล็กๆในหัวเรา เฝาฝก(ฝน)ใหดี จะมีแตจบสุข ทุกคนปลืม้ ครับ •
ยุ
กายน2553 2553 กรุงเทพธุรกิจ 28 26 พฤศจิ ธันวาคม
โรงพยาบาลสัตว บุษกร ภูแส
อารมณรีสอรท
าพูดถึงโรงพยาบาลสัตว ภาพตึกแถวหนึ่งคูหา หรือไมก็สองคูหาเปดใหบริการรักษาสัตวเลี้ยง ประเภทสุนัข แมว ลอยขึ้นมาในหัวทันที แตอยาเพิ่งเหมารวม ยังมีโรงพยาบาลสัตวอารมณ รีสอรท บรรยากาศรมรื่นดวยตนไม และสนามหญากวาง สําหรับคนและสัตวเดินเลน นอกจากมีหองพักผูปวย (หมาและแมว) ยังมีหองพักสําหรับเจาของสัตวเลี้ยงใหแวะ มาเยี่ยมไขไดสะดวก ผูอยูเบื้องหลังไอเดียรีสอรทรักษาสัตวคือ น.สพ. บูรพงษ สุธีรัตน ลูกคาเรียกอยางกันเองวา หมอตั๋ง วัย 32 บุตรชายคนเล็กของตระกูลสุธีรัตนที่หันมาสานตอธุรกิจตอ จากมารดาเมื่อ 8 ปที่ผานมาบนเนื้อที่ 1 ไรเศษ ปรับปรุงมา จากโรงพยาบาลสัตวตลิ่งชันที่เปดบริการมา 17 ปแลว บริการหลักของโรงพยาบาลยังเนนรักษาอาการเจ็บ ปวยทั่วไปใหกับสัตวเลี้ยง แตสิ่งที่แตกตางคือ บรรยากาศ ของโรงพยาบาลที่ดูรมรื่นเปนธรรมชาติ และสบายจมูก “ผมแยกการดูแลรักษาสัตวทเี่ ขามาเปน 2 กลุม กลุม แรกปลอดเชือ้ ทีเ่ ขามาดูอาการ ฉีดวัคซีน อยูช นั้ 1 ชัน้ ใตดนิ บางสวนสามารถติดแอรบา ง มีการแยกหองตรวจชัดเจน สวนกลุม สองเปนสัตวทตี่ ดิ เชือ้ ทองเสีย ประสบอุบตั เิ หตุ ไมตดิ แอรแตเปดพัดลมแทน สวนชัน้ 3 เปนหองฝากเลีย้ ง ตัวอาคารจะดีไซนใหโลงกวางมีหนาตางระบายอากาศรอบ ดานเพือ่ ความสบายใจวา สัตวทเี่ ขามาจะไมไดตดิ เชือ้ จากเรา” หมอตั๋งฉีกรูปแบบโรงพยาบาลสัตวที่ดูขึงขังจริงจังเปน ทางการ มาเนนแนวคิดการอยูใกลชิดกับธรรมชาติ สัตว และ คนอยูดวยกันจนออกมาเปนโรงพยาบาลอารมณรีสอรท ใชเนื้อไมมาตบแตงทําใหเกิดความรูสึกอบอุนสบายตา สบายใจมากขึ้น พรอมกันนี้ก็ยังมีบริการใหเจาของและสัตวเลี้ยงที่ สามารถมาพักรวมกันได ในบรรยากาศที่รมรื่นเสมือนพัก ตามสถานที่ทองเที่ยว หองพักไดความนิยมถึงขั้นมีเจาของ สุนัขจากตางประเทศเขามาใชบริการสมํ่าเสมอรวมทั้งเจาของ สัตวในเมืองไทย ตนคิดไอเดียรีสอรทรักษาสัตวมาจากประสบการณที่ สัมผัสกับความตองการของลูกคาที่นําสัตวเลี้ยงมารักษา “เคสสวนใหญที่มาใชบริการ คือ สัตวเลี้ยงผาตัดตอง นอนพักรักษาตัวอยูที่โรงพยาบาล เจาของเองคงไมอยากทิ้ง
ถ
สัตวเลี้ยงตนเองไวตามลําพัง ตรงนี้แคลูกคามาใชบริการแลว พอใจผมรูสึกวามันคุมคา เพราะคาใชจายตอคืน 1,200 บาท รวมอาหาร (ทั้งคนและสัตวเลี้ยง) เหมือนกับราคาหองพัก โรงแรม” ไมใชแคบรรยากาศเทานั้นที่หมอตั๋งใหความสําคัญ เขา เปดใหบริการ 24 ชั่วโมงราวกับรานสะดวกซื้อทําใหรองรับ ลูกคาไดมากขึ้น และยังไดพัฒนาบริการในดานอื่นๆ อยาง ตอเนื่อง โดยเฉพาะเทคโนโลยี “ผมคิดวารูปแบบของเครื่องมือสมัยกอนมันถึง เวลาที่ตองเปลี่ยนเพื่อใหมันกาวหนามากไปกวานั้น พวกเทคโนโลยีอุปกรณตางๆ จําเปนตองพัฒนาใหดีขึ้นให ทัดเทียมกับตางประเทศเพื่อทําใหคุณภาพชีวิตของสัตว เลี้ยงดีขึ้น ไดรับการตรวจ วินิจฉัยที่ถูกตองจะทําใหผล การรักษาดีกวาเดิม” กระนั้นมีบางครั้งที่ลูกคาตั้งขอสงสัยวาเทคโนโลยี ทันสมัยพลอยทําใหคารักษาสัตวเลี้ยงแพงโดยใชเหตุ ซึ่ง หมอตั๋งอธิบายเคลียรปญหาคาใจวา “การฉายภาพเอกซเรยระบบดิจิทัลทําใหหมอเห็นภาพ ชัดเจนและสามารถวางแผนไดวาเราจะผาอะไร ทําอยางไร แกอยางไร ในตางประเทศเขาทํากันตามปกติ แพงจริงครับ แตมันดีตอการพยากรณโรคได” ปญหาความไมเขาใจดังกลาว ขึ้นอยูที่มุมมองลูกคา มากกวา เชน การขูดหินปูนสุนัข หลายคนคงสงสัยวาทําไม แพงกวาคน คนอาจ 500 บาท ของสุนัข 1,000 บาท เขา อธิบายวา ถาสุนัขยอมใหขูดหินปูนงายก็ไมจําเปนตองใช วางยาสลบ หมอไมใชคนผลิตเครื่องดม ยา ยาสลบ จึงมี ตนทุนเพิ่มขึ้น ทุกคนคงเคยเห็นหินปูนหมาถาเทียบกับคน แตกตางกัน “หมอหมางานหนักกวาหมอฟนนะ เพราะเนื้องานผม ทํางานหนักกวา (หัวเราะ) คนมักมองหมาแควาเปนหมา ตัวหนึ่ง คนคนหนึ่ง มีความสําคัญตางกัน จึงมองวาคาใชจาย ในการดูแล รักษาแพง แตถาคิดดีจะรูวา เหตุผลสวนหนึ่ง ทําใหยาสุนัขแพงกวายาคนเพราะปริมาณผลิตนอยกวา สวน การนํายาคนมาใชรักษาสัตวนั้น ในทางปฏิบัติบางอยางทําได แตบางอยางทําไมได และที่สําคัญ ยาที่ไมไดผลิตมาใชกับ สัตวโดยเฉพาะผลการรักษาไมดีเทากับยาที่ผลิตมาใชรักษา สัตว โดยตรง” สัตวแพทยแจงสี่เบี้ย •
10
กายใจ Experience
• จุฑารัตน ทิพยนําภา เปนที่เขาใจกันดีในหมูผูหญิง วา การตั้งครรภชวง อายุมาก บุตรที่คลอด ออกมามีความเสี่ยงสูง ตอโรครายแรง
แ
มสาเหตุของโรคจะยังไมชัดเจน มีคน พูดถึงพันธุกรรมหรือยีนที่เกี่ยวของ แตสิ่งที่แพทยพบยังมีอีกหลายปจจัย เชน โภชนาการ การขาดสารอาหารบางชนิด การไดรับสารเคมีบางประเภท ทําใหไมเฉพาะ แตมารดาสูงวัยเทานั้น แมวัยเจริญพันธุแตไม บํารุงครรภก็มีความเสี่ยงไมตางกัน “ตอนนี้ยังไมมีใครบอกได 100% วาอะไร เปนสาเหตุหลัก การวินิจฉัยของหมอจะดูจาก อาการเปนหลัก หมอหลายคนพยายามเก็บ ขอมูลเด็กที่มีอาการสมาธิสั้นและมีภาวะไม อยูนิ่ง เพื่อหาวามีปจจัยอะไรที่ทางการแพทย สามารถบอกไดวามีสวนเกี่ยวของกับอาการ
จะควบคุม การสนองตอบที่ผิดปกติ ทาง สายตา และปฏิสัมพันธที่ไมเปนไปอยางที่ ควรจะเปน “บางคนไมพูดเลย หรือบางคน 2 ขวบ แลวยังพูดไมได หรือมีอารมณกาวราว ควบคุมไมได เหลานี้เปนจุดสังเกตที่มาจาก คุณพอคุณแม” คุณหมอกลาวและบอกวา นอกจากพอแมผูปกครองจะเห็นถึง ความผิดปกติที่เกิดขึ้นแลว คุณครูประจำชั้น ทีม่ คี วามใกลชดิ กับเด็กและเห็นความแตกตาง ที่เกิดขึ้นอยางชัดเจนเมื่อเทียบกับเด็กปกติ ในวัยเดียวกัน เชน เด็กไมมีสมาธิตั้งใจเรียน ซนผิดปกติ หรือเลนกับเพื่อนในวัยเดียวกัน
ออทิสติก อยาใหสายเกินแก
นพ.ภานุวัฒน พุทธเจริญ
ผิดปกติ เชน ตรวจปสสาวะ เลือด เสนผม เพื่อโยงไปถึงสาเหตุของกลุมอาการ ไมวาจะ เปน กระบวนการทางเคมี สารอาหารที่ขาด ไป กระบวนการขับสารพิษ ซึ่งปจจุบันเราพบ หลายปจจัยที่มีความแตกตางกันระหวางเด็ก ออทิสติกกับเด็กปกติ” นพ.ภานุวัฒน พุทธเจริญ ผูเชี่ยวชาญ ดานการแพทยผสมผสาน จากสถาบันการแพทย์ ผสมผสานตรัยยา โรงพยาบาลปยะเวท กลาว แมจะยังไมสามารถฟนธงตนตอของโรค ได แตแพทยก็ไดทดลองนำศาสตรการรักษา แบบตางๆ มาผสมผสานเขาดวยกัน โดยมอง ถึงการพยากรณโรคที่ดีกวา เพื่อบรรเทา และ บำบัดภาวะออทิสติกในเด็กใหทุเลาและหมด ไป ปจจุบัน แพทยสามารถตรวจพบอาการ ออทิสติกในเด็กเร็วขึ้น ชวงเวลาที่พบบอยเปน เด็กในวัยขวบครึ่ง ถึง 2 ขวบ ชวงที่เด็กเริ่ม มีพัฒนาการในการสื่อสาร ใชภาษา แตกลับ สื่อสารไมได หรือมีอารมณกาวราวจนเกินที่
ไมได ครูจงึ เปนอีกบุคคลสำคัญทีช่ ว ยคัดกรอง และนำเด็กมาสูการรักษาที่ถูกตอง “สมาธิในหองเรียนไมปกติ พฤติกรรม ในหองเรียนเปลี่ยนไป คำถามเหลานี้สงกลับ มาใหผูปกครองที่อาจจะไมคอยมีเวลาไดอยู ใกลชิดกับลูกได เมื่อถูกตั้งขอสังเกต คุณพอ คุณแมมักจะตื่นเตนตกใจ และมองหาผู เชีย่ วชาญ เขามาปรึกษาถึงพฤติกรรมของเด็ก เพื่อหาทางออก” คุณหมอเลาถึงกรณีศึกษา การรักษาเด็กออทิสติกจะเริ่มสังเกต พฤติกรรมของเด็กจากการพูดคุย เนื่องจาก โรคนี้มีลักษณะอาการและความรุนแรงของ โรคที่ตางกัน บางครั้งแพทยไมไดวัดความ รุนแรงของโรคจากภาษาเพียงอยางเดียว การสบตา ปฏิกิริยาโตตอบ ก็เปนสวนหนึ่ง กระบวนการรักษาออทิสติกสวนใหญ เริ่มตนจากการปรับปรุงแกไขสิ่งปกติที่ เกิดขึ้น เชน นักโภชนาการจะชวยแนะนำ อาหารกลุมทดแทน ปรับสมดุลของระบบ ยอยอาหาร การฝงเข็มชวยทำใหเด็กนิ่งขึ้น
ความเปนจริง ทำไมไมลองเริ่มจากการยอมรับ ในสิ่งดีที่แกมีอยู” นาสนใจนะครับ มีอีกหลายหัวขอที่พอๆ แมๆ คงถูกใจ อาทิเชน เรื่องของการอุมลูกจน ติดเปนนิสัย ทำไดไมผิด, ใหเด็กออนไดอยาง เต็มที่จนถึงสิบขวบ, เด็กมีทั้งประเภทที่ดุได และดุไมได, เวลาเลี้ยงลูกแลวเกิดโมโห ทำ อยางไรดี, ทั้งสามีภรรยาตางทำงาน ไมมีเวลา ใหกับลูกเพียงพอ ทำอยางไรดี ฯลฯ ตอนทาย ยังมีบทซึ้งๆ จากเรื่องราวอบอุนของคุณพอ คุณแม และคุณลูก เขียนสงมาใหอานกัน นอกเหนือจากนี้ ผมในฐานะคุณพอที่แอบ มาอานหนังสือประเภทนี้ ก็เพิ่งตระหนักถึง บางเรื่อง (ผมวาแมๆ โดนใจสุดๆ) “คุณแมไมมี วันหยุด” หรือ “การเลี้ยงดูเด็กของคุณพอที่เริ่ม ไดตั้งแตเดี๋ยวนี้” เปนเนื้อหาที่สามี (อยางผม) มักจะมองขางความเหนื่อยยากในการเลี้ยงลูก ของภรรยา เนื้อหาในเลมนี้จะเปนวิถีเอเชียคลายๆ กับ บานเรา และที่ผมชอบมากก็คือ ภาพประกอบ นารักในเรือ่ งซึง่ ทำเปนการตนู ดูเพลินๆ ประกอบ “เด็กที่มีความคิดเปนตัวของตัวเอง สวน เนื้อหา ทำใหหนังสือ How to เลมนี้นาอานขึ้น ใหญคงไมวานอนสอนงาย เด็กที่ชอบออกไป อีกมากโข เลนนอกบาน งานก็ชว ยทำ การบานก็รบั ผิดชอบ ปใหมนี้ลองหามาอานดูนะครับ Happy นั้น ปกติคงจะไมมี แทนที่จะเปนกังวลเรื่องที่ New Year ทั้งทีแลว เราก็นาจะมี Happy ลูกไมไดเปนเด็กในอุดมคติ หาไมไดในโลกแหง New Child ประจำบานดวย
Happy New Child แ
ปลกดีนะครับ พอรูวากําลังจะมีลูก คน ที่ไดชื่อวาเปนพอเปนแมก็จะตื่นเตนกับ สมาชิกใหมในครอบครัว แตในขณะ เดียวกันก็กงั วลเพราะไมรวู า จะเตรียมตัวเริม่ ตน อยางไร ถาเปนเมื่อกอนก็ปลอยใหเปนไปตาม สัญชาตญาณ ถึงเวลาเดี๋ยวความเปนพอเปนแม ก็ออกมาเอง หรือไมก็ฟงคำสอนของผูใหญที่ บอกเลาตอๆ กันมา อยางไรก็ตาม ไมเคยมีกฎตายตัววาเลี้ยง ลูกแบบไหนที่การันตีวาทำวิธีนี้ไดผลแนๆ เอา เขาจริง พอเกิดเหตุการณไมคาดฝน คุณพอ คุณแมมอื ใหมกไ็ มรวู า จะรับมือกับลูกและสถานการณตรงหนายังไง ปจจุบันเริ่มมีผูเชี่ยวชาญเฉพาะทางไมวา จะเปนดานสุขภาพ โภชนาการ จิตวิทยา มาตอบ ปญหาไขขอของใจดานพัฒนาการตามชวงวัย ของเด็กทางเว็บไซต หรือไมก็มีโรงเรียนพอแม ขึ้นมา (เชนที่เสถียรธรรมสถาน) ใหคุณพอ
กรุงเทพธุรกิจ 26 ธันวาคม 2553
คุณแมรับฟงธรรมะ ขอแนะนำไปปรับใชใน ครอบครัว แตที่คนสวนใหญนิยมใชคือ หนังสือคูมือ การเลี้ยงลูกจากคุณหมอชื่อดังในประเทศ หรือ แปลมาจากตางประเทศ ผมเชื่อวาคนที่เปน คุณพอคุณแมสมัยนีต้ อ งมีตดิ บานคนละหนึง่ เลม อยางนอยก็มีไวเพื่อความอุนใจ เวลาไมรูจะหัน ไปถามใคร ตัวผมเองผานชวงแรกที่ตองวุนวายกับ การเปลี่ยนผาออม ชงนมมาแลว ก็นึกวาไมนา จะมีปญหาอะไรอีก แตพอลูกเริ่มโตขึ้นพูดจา รูเรื่องขึ้น เริ่มมีดื้อและตอตาน สารพัดตำรา ทั้งไทยและเทศมีใหเลือกสรรมากมาย แตผมไปสะดุดอยูเลมหนึ่ง “แนะนำวิธี เลีย้ งลูกแบบ Happy” แคอา นบทนำของผูเ ขียน ที่เปนจิตแพทยชาวญี่ปุน ก็รูสึกดีกับการมอง โลกในแงบวกของเขาที่มีตอเด็กๆ ที่ตางคนก็มี พฤติกรรมไมเหมือนกัน แตพอ แมมกั จะคาดหวัง สิ่งดีๆ ทุกอยางใหมาอยูกับลูกของตัวเอง
ขณะที่การบำบัดดวยออกซิเจนความดันสูง ชวยกระตุนการทำงานของสมอง และปรับ กระบวนการอักเสบที่เกิดจากเซลลสมอง ผิดปกติ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดมีสวนทำให เด็กมีอาการตอบสนองที่ดีขึ้น รูปแบบของการรักษายังขึ้นอยูกับ ความรุนแรงของอาการ และชวงเวลาที่ ตรวจพบ เพราะถาการตรวจวินจิ ฉัยทำไดเร็ว ยิ่งพบชาหนทางแกคอนขางจะลำบาก โดย เฉพาะเด็กที่อายุเกิน 5 ขวบไปแลว เนื่องจาก พฤติกรรมและสมองเปลีย่ นแปลงไปมากแลว โดยปกติเด็กในออทิสติกอาจตองพึง่ พา ยาระงับประสาท ควบคุมอารมณ ควบคุม การแสดงออกของระบบประสาท ควบคูกับ การทำพฤติกรรมบำบัด ซึ่งในแตละวัน พวกเขาตองรับประทานยามากกวา 3-4 ตัว ขึ้นไป แนนอนการทานยาตอเนื่องไมใชผลดี สำหรับพวกเขาในระยะยาว อยางไรก็ตาม คุณหมอบอกวา โรคนี้ ตองดูในระยะยาว อาจจะบอกไมไดชัดเจน วาจะดีขึ้นไประยะเทาไหร การรักษาตอง อาศัยความตอเนื่องดวย แตถามาพบแพทย ไดเร็ว ในชวง 1 -2 เดือนของการรักษา อาการจะเริ่มเปลี่ยนแปลงและมีพัฒนาการ ไปในทางทีด่ ขี น้ึ ซึง่ จะตองอาศัยความรวมมือ จากทุกฝาย ทั้งตัวเด็ก ครอบครัว และ โรงเรียน ขณะทีต่ วั หมอเองเปนเพียงสวนหนึง่ เทานั้น “คุณพอคุณแมที่มีลูกเปนออทิสติก ตองเปดใจยอมรับและพาลูกมาพบแพทย อยางตอเนื่อง แมการรักษาจะมีคาใชจายสูง เปนหลักหมื่นตอเดือน เพราะการประเมิน โรคตองอาศัยเทคโนโลยี แตขอมูลไดมาจะ ชวยแกไขอยางตรงจุด ในขณะที่พัฒนาการ ของเด็กเปลี่ยนไปทุกวัน” คุณหมอ กลาว และยืนยันวา เด็กออทิสติกสามารถใชชีวิต รวมกับเด็กทัว่ ไปได แตตอ งมีการดูแลตอเนือ่ ง ปรับแกใหมีพัฒนาที่เหมาะสม
กายใจ Family
• ชฎาพร นาวัลย
pinkpinksnail@gmail.com
เด็กกิน: คุน (เคย) ลิ้น
ท
ราบไหมวาลิ้นกับสมองเราสามารถจดจํารสชาติได หลายคนกินไขเจียวที่ไหนไมอรอยเทาไขเจียวที่ แมทําใหกินตอนเด็กๆ เมือ่ เวลาผานไปนานแคไหน แมกท็ าํ ไขเจียวไดอรอยอยาง ไมมีใครทําไดเหมือน ทาส ตลาดติดแอร อาหารอื่นๆ ที่ปรุงบานลวนแตสรางประสบการณและ การจดจําของลิ้นกับสมอง บวกกับเรื่องราวตางๆ ที่เกิดขึ้น ในบาน และในครัว หากใครเกิดทันในยุคทีต่ อ งไปเดินตลาดชวยแมทาํ กับขาว จัดการกับผัก ขอดเกล็ดปลา ควักไสปลาหมึกจนนํา้ ดําเต็มกระมัง นึกถึงตอนนี้แลวนึกภาพไมออก เพราะตลาดที่พอแม สมัยนี้รูจักเปนตลาดติดแอร ที่สามารถเปลี่ยนปลาที่วายใน ตูใหเปนปลาทอดไดเพียงชี้นิ้ว ผักที่ไปทีไรก็เห็นผักหนาตา เดิมๆ กะหลํ่าปลี ผักกาดขาว ผักบุง ไกหมู ปลาที่จัดทาทาง ไวเรียบรอยแลวในหอพลาติก คุณแมยคุ นีก้ แ็ ทบจะทําอาหารกันไมเปน เพราะชวงชีวติ วัยรุนใชเวลาทั้งหมดไปกับการเรียน และการสอบเพื่อให ไดที่เรียนดีๆจบออกมาจะมีงานทํา หากแตงงานไดเปนแมบานก็มีคนงานชวยทําให หรือ บางทีคุณแมของแมก็รับงานตอในการทําอาหารเลี้ยงหลาน ติดกับดัก ฟาสตฟูด หากไปตามหางสรรพสินคา จะพบรานอาหารตางๆที่ สรางบรรยากาศใหเด็กๆอยากเขา และทําราคาลอใหเด็กๆ รองขอใหพอแมทุกชนชั้นซื้อได และโฆษณาเสมือนเปนที่ที่ ครอบครัวจะมามีความสุขรวมกันที่นี่ และก็ไดผล เด็กๆ กินขนมปงประกบเนื้อราคาไมถึง 20 บาท และ มันฝรั่งทอดโรยเกลือที่ความเค็มแทบจะเกิน 50% ของความ ตองการในแตละวันของเด็ก ที่แคนาดา พบวาเด็กๆ บริโภคเกลือตอวันถึง 2 เทาใน ปริมาณที่ตองการตอวัน หากมีใครชางสังเกตจะพบวา แฮมเบอรเกอร และมันฝรั่งทอด ที่นาจะมีราคาตนทุนที่สูงกลับ ขายถูกวานํ้าอัดลมที่กดขายในราน รานอาหารประเภท “แ_กดวน” เหลานีท้ าํ กําไรอยางมาก จากการขายนํา้ อัดลมเพราะความเค็มในอาหารทําใหอยากกินนํา้ และหากกินนํา้ เย็นเฉยๆ ความรูส กึ “มัน” ในปากไมหาย ไป เพราะรานพวกนี้ไมขายชาจีนรอน แบบที่เราสั่งเมื่อกิน อาหารจีนมันๆ ดังนั้นนํ้าอัดลมที่มีความซา และกรดเล็กนอย ชวยลาง ความมันในปาก และทําใหรสชาติของไกทอด แฮมเบอรเกอร มันฝรั่งทอด อรอยและกินไดอยางไมหยุด และเมื่อเขาโตขึ้น เขาก็จะซื้อหาอาหารที่เขาคุนลิ้นนี้กิน ตอไปอยางที่ไมรูวา “ทําไมมันอรอยอยางนี้” แม...เชฟขั้นเทพ การกินอาหารไมใชเพียงแตอิ่มทองเทานั้น คนไทย มีพรสวรรคในการสรางสรรมากวาชาติใดในโลก ที่สําคัญ การทําอาหารที่บาน ที่แมทําใหเรานั้นมีรสชาติของความรัก ความผูกพัน และความหวงใยใสลงไปดวยเสมอ แมเลือกสวนที่ดีที่สุด ปรุงอยางดีที่สุด และอารมณดี ที่สุด อาหารที่แมทําจึงสรางทั้งกายและใจใหลูกที่จะเติบโต อยางแข็งแรงและมีความสุข เขาครัว ทํากับขาวใหลกู ๆ กินกันเถอะ ใสความรักเยอะๆ มากกวาผงปรุงรส และซุปกอน รับรองวาลูกจะเติบโตขึน้ มา ทั้ง “กาย ใจ” หากมีโอกาส หาหนังเรื่อง Food Inc ดูซะหนอยนะ จะไดรูวา อาหารนั้นฆาลูกเราไดอยางไร โอย โหดสุดๆ มีทั้ง โหดรายแบบคอยๆ ฆาใหตาย กับ ใหฆาใหตายปจจุบันเลย ทีเดียว
11
เผยผลวิจัย เด็กไทยกวา ครึ่งประเทศ “นินทา ดาทอ สงขอความ กอกวนกันและกัน”
พ
อาชญากรตัวจอย
อไดยินสรุปผลรายงานวิจัย “ปจจัยที่มีผลตอทัศนคติ และพฤติกรรมการกระทํา ความรุนแรงทัง้ ทางกายภาพและการขมเหง รังแกผานโลกไซเบอรของเยาวชนไทย” ขององคกรปญญาสมาพันธเพื่อการวิจัย ความเห็นสาธารณะแหงประเทศไทย รวมกับ บริษัท ซีพี ออลล จํากัด (มหาชน) ก็ตองตกใจไมเชื่อหูตัวเองวา เด็กไทยยุคนี้ หันมารังแกกันในรูปแบบใหมทชี่ อื่ Cyberbullying โดยไมตองใชปนผาหนาไมกัน แลวหรือ? พวกเขาเพลิดเพลินไปกับการ ตอวา ดาทอ ทําใหเสียชื่อเสียง ขมขู คุกคาม ลอลวง เลนสงครามประสาทตอกัน และ ดวยการกระทําอืน่ ๆ ทีเ่ ขาขายการทํารายกัน โดยไมเผชิญหนา ทั้งทางโทรศัพทมือถือ อีเมล เว็บไซตหรือหองสนทนา หวังสราง ความเจ็บปวดทางรางกาย และจิตใจกับ คนที่เกี่ยวของ แถมความรุนแรงสามารถเกิดขึ้นได โดยไมจํากัดสถานที่และเวลา ไมวาจะเปน ในบาน ในสถานศึกษา ทีท่ าํ งาน หรือแมแต บนทองถนน ภัยราย เด็กสราง ดร.วิมลทิพย มุสิกพันธ หัวหนา โครงการวิจยั ฯ และอาจารยสถาบันแหงชาติ เพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว กลาวถึง แนวโนมความนากลัวนี้ผานผลสํารวจ ความคิดเห็นสาธารณะผานกลุมตัวอยาง เยาวชนไทยอายุ 12-24 ป พบวา ผล : รอยละ 91.3 มีโทรศัพทมือถือ และในจํานวนนี้มีผูเลนอินเตอรเน็ตดวย รอยละ 86.6 เหตุ : เด็กและเยาวชนไทยเกือบทุกคน สามารถเขาถึงอุปกรณสื่อสารที่ทันสมัย ประเภทโทรศัพทมือถือและอินเทอรเน็ต ไดอยางรวดเร็ว และมีความถี่ในการใช อุปกรณเหลานี้มาก จึงยอมมีโอกาสเขาถึง ความรุนแรงรูปแบบนี้ไดมากขึ้น ผล : รอยละ 33.6 เคยเปน “ผูร งั แก” บุคคลอื่นผานโลกไซเบอร และรอยละ 43.1 เคย “ถูกรังแก” ผานชองทางนีม้ าแลว เหตุ : เด็กๆ ตางโตตอบการกระทํา เพื่อรังแกกัน เปนวงจรสับเปลี่ยนบทบาท ระหวางผูกระทําและเหยื่อ ผล : รอยละ 19.8 เด็กที่โดนทําราย
ตัวปวนโลกไซเบอร มักเลือกที่จะเลาใหเพื่อนฟง สวนรอยละ 1.9 และ 4.9 บอกคุณครูและผูปกครอง ตามลําดับ เหตุ : ผูใหญนอยคนจะรับรูวามีการ ขมเหงรังแกเชนนี้เกิดขึ้น พ.ต.อ. ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดี กรมสอบสวนพิเศษ (DSI) และนายกสมาคม ผูดูแลเว็บไทย ยังขยายความ โดยยก ตัวอยางการทํารายกันในมุมมืดใหฟงวา เคยมีเด็กถูกรังแกดวยวิธีไซเบอรบลู ลี่ จาก เพือ่ นจนทนไมไดตอ งลาออกจากโรงเรียน หรือวัยรุนคูหนึ่งตองการหองชุดวิวสวย ริมสุดทางเดิน จึงโพสตขอ ความดาทอจนไล เจาของเดิมไปได ถาขืนปลอยให “อาชญากรกางเกง (กระโปรง) ขาสั้น” สรางความผิดออนไลน โดยไมควบคุม เราสามารถทํานายอนาคต ไดโดยไมตองพึ่งหมอดูชื่อดังวาเยาวชน กําลังเลือกชองทางโลกไรสายทํารายกัน เปนวิถีปกติ พวกเขาคิดวามันเปนเรื่อง ธรรมดาที่ทุกคนทําไดโดยไมมีความผิด ทุกคนหลงลืมไปวา ความรุนแรง รูปแบบนี้ยอมสงผลกระทบโดยตรงตอ คุณภาพชีวติ ของมนุษย ทําใหสงั คมเจ็บปวย ได ขัดเกลาผูใหญ ฉะนั้น ผูใหญควรหันมาศึกษาสาเหตุ และปจจัยที่กอใหเกิดการทํารายกันผาน อุปกรณอเิ ล็กทรอนิกส เพือ่ คนหาทางแกไข ที่ตรงจุด ทําใหเหรียญดานไมดี มีความคม นอยลง เริม่ จากการปรับ “ทัศนคติลบ พฤติกรรม เดิมสุดแยของเด็ก” เมื่อมีการตั้งคําถามเกี่ยวกับตัวเด็ก เอง พบวาเยาวชนไทยมีแนวโนมของการ เปนบุคคลที่เห็นคุณคาตนเองในระดับตํ่า โดยมีกลุมตัวอยาง 1 ใน 4 แสดงถึงการ ไมเห็นคุณคาในตนเอง ขาดความมั่นใจ ตัวเอง มักจะคิดอยูเสมอวา “ฉันไมดีพอ” ชอบที่จะเปรียบเทียบตนเองในทางลบกับ ผูอื่นเสมอ หรือจําเปนตองทําบางสิง่ บาง อยางทีไ่ มถกู ตอง เพื่อใหบุคคลอื่นยอมรับ ดร.วิมลทิพย กลาวตอวา พวกเขายัง คิดวาพฤติกรรมการขมเหงรังแกกันเปน
พฤติกรรมที่เปนเรื่องปกติ “ปกติที่ใครๆ ก็ทาํ ” และคิดวาผูท กี่ ระทํามีอาํ นาจเหนือผูอ นื่ รูสึกวาผูกระทําสนุกสนาน มีอิสระที่จะทํา ตามทีต่ นเองตองการ และไดระบายความรูส กึ ขณะเดียวกันก็ยังมีความเห็นวาผูที่กระทํา เกง และไมไดเปนการทํารายใคร ผูใหญทุกคนควรกระตุนใหเด็กๆ รูจัก สรางคุณคาใหตนเองในทางที่ถูกตอง โดย ยกกรณีศึกษาของญี่ปุนวา ตองแกที่ตนทาง เขาใหถึงตัวและจิตใจของเด็ก แลวคัดเลือก เด็กที่มีแนวโนมจะกระทําความรุนแรงดวย วิธนี ี้ และอยูใ นระดับทีค่ วบคุมได มาเขาคอรส อบรมดานคุณธรรมและจริยธรรม วิธีนี้ไดผลดีกวา การแกที่กลางทาง อยาง บล็อกขอความของเด็ก ซึ่งพวกเขา จะหาทางออกดวยการใหคําแสลงอื่นๆ แทน หรือ ใชบทลงโทษครูใหญในโรงเรียนที่เด็ก มีอัตราทํารายกันสูง รังแตจะทําใหเกิดการ ปกปด และปลอยปละละเลยในที่สุด นอกจากนั้น ยังตองเสริม “ความอบอุน และดูแลกันอยางถูกวิธขี องพอแมผปู กครอง” เพราะเมื่อตรวจสอบระดับสัมพันธภาพ ในครอบครัว พบวาสมาชิกในครัวเรือน ทะเลาะกันเปนประจํา เด็กรูสึกวาบิดามารดา ไมเขาใจในตัวเขา เมื่อเขาทําผิดก็จะถูกดุดา โดยไมถามเหตุผลเสมอ และในครอบครัว ไมมีใครสนใจกันและกัน และกลุมตัวอยางมากกวาครึ่งเคยเห็น การกระทํารุนแรงในครอบครัว โดยในจํานวน นีเ้ ห็นสมาชิกในครอบครัวใชความรุนแรงทาง วาจาตอกันคอนขางบอย (มากกวาสัปดาห ละครั้ง) ทางแก คือ พอแมผูปกครองตอง กลับมาวิเคราะหบทบาทของตนเองวามีสว น ทําใหเด็กๆ ซึมซับพฤติกรรมรุนแรงนีไ้ ปใช ในโลกไซเบอรหรือไม สวนผูไ มมภี าวะเสีย่ ง ก็ควรหันมาศึกษาวิธีใชงานในโลกไซเบอรทงั้ ดานดีและลบ ตลอดจนฟงกชนั่ อุปกรณ ตางๆ เพื่อแนะนําการใชเชิงบวกใหกับลูก หรือชีภ้ ยั ใหลกู เห็นได และไมใชคาํ วา “หาม” แตตอง “ชี้แนะ” อยาหลุดคําวา “อยา” แต เปลี่ยนเปน “เราจะทํายังไงกันดี” เมื่อรูแลวก็ควรจะ “รีบแกไข” กอนจะ “สายเกินแก”
26 ธันวาคม 2553 กรุงเทพธุรกิจ
12
กายใจ Family
เ
มื่อสัปดาหกอนไดชวนคุยชวนคิดถึง เรื่องของสัญญาณอันตรายที่เกิดขึ้น ในชีวิตคู รูไวเพื่อแกปญหาไมให บานปลายนะคะ สวนครั้งนี้ เราก็มาเรียนรูถึงปญหาธรรมชาติที่ เกิดขึ้นไดในวงจรชีวิตของการสมรสดวย กันดีไหมคะ มีโอกาสไดสัมภาษณ ดร.จอหน อึ้ง ผูกอตั้ง EMCC (www.emcc.org.sg) ที่ประเทศสิงคโปรซึ่งใหบริการทางสังคม ในการปรึกษาปญหาความขัดแยงตางๆ โดยเฉพาะปญหาในครอบครัวมาตั้งแต
เพื่อนฝูง ไลฟสไตลเดิมๆ คือลืมไปวามี คนขางกายที่ตองคอยหวงใยจึงทําใหยิ่ง ถอยหางกันไปคนละกาวไดอยางงายดาย ไรความผูกพัน แถมทายดวยปญหาเรื่อง เงินๆ ทองๆ ที่เพิ่งสรางเนื้อสรางตัวกัน ซึ่งอาจมีบางที่มีปากมีเสียงกันเรื่องนี้ก็ ยิ่งบั่นทอนความสัมพันธที่มีอยูนอยนิด ไดงาย ตบทายดวยความหางเหินทางกาย ทีต่ ามมาหลังจากเกิดความขุน ของหมองใจ ตอกัน มุงไมกาง การบานไมทํา แตถึง คราวเหงาก็ไปควาเอาใครก็ไมรูมาทําแทน
ที่ไดรับจาก ดร.จอหนคือ สวนใหญแลว ความสัมพันธของคูสมรสเกิดการหางเหิน ตอกันมาตัง้ แตปท ี่ 5 หลังการมีลกู แลวหละ ประกอบกับการที่ผานรอนผานหนาวดวย กันมาก็จริงแตติดแหงกอยูที่ปญหาเกาๆ ที่ไมไดรับการแกไขจนกลายเปนดินพอก หางหมูแตยังอยูระหวางการกอตัวของ สงครามเย็นที่ยังไมปะทุขึ้นมา รอเวลา จนวันที่ลูกที่รักโตเปนผูใหญและเริ่มมีชีวิต เปนของตนเอง หางพอหางแมออกไป เมื่อนั้นเองที่พอแมแปรสภาพอีกครั้ง กลายเปนคูผัวตัวเมียเผชิญหนากันอีกครั้ง โดยไมมีลูกนอยมาคอยวนเวียนเปนภาระ อยูใกลๆ แตครั้งนี้สงครามวันโลกาวินาศ ไดปะทุขึ้นมาอยางดุเดือด ประกอบกับ การมองโลกที่เปลี่ยนไปของผูหญิงที่เพิ่ง คนพบวาการเปนภรรยาที่ตองนั่งขอเงิน จากสามีผูเปนเหมือนนายจางนั้นเปนงาน
กับดักสามหลุม ของขุมทรัพยแหงความรัก
ป 1993 กลาววา กลุมที่พบปญหาการ หยารางสูงทามกลาง “วงจรธรรมชาติชีวิต สมรสในภาพรวม” สําหรับในประเทศ สิงคโปรนั้นมีอยู 3 กลุมใหญๆ กลาวคือ กลุมแรก ปญหาธรรมชาติของกลุม ที่เพิ่งแตงงานกันใหมๆ ประมาณ 2-3 ป แรก กลุมที่สอง กลุมที่แตงงานกันมาแลว ประมาณ 5 ป มีลูกแลวประมาณ 2-3 คน กลุมที่สาม กลุมที่แตงงานกันมาแลว ประมาณ 20 ป ฟงดูนา ตกใจวากลุม แรกทีเ่ พิง่ แตงงาน กันมาหมาดๆ เปนขาวใหมปลามันจะพา กันหยารางไดอยางไรหนอ พอไดคําตอบ จากทาน ดร.จอหนก็ถงึ บางออทันที ปญหา ของกลุมแรกนั้นมาจากการที่คูแตงงานทั้ง สองฝายหรือฝายใดฝายหนึ่งตางก็ไมมี เวลาใหแกกนั และกัน ทอดทิง้ กันโดยไมได ตั้งใจเพราะมัวแตไปสนใจเรื่องหนาที่ การงานของตนเองวาจะกาวหนามากนอย เพียงใด จึงเผลอใชเวลาสวนใหญหลัง แตงงานไป “แตงกับงาน” แถมยังมีเรื่อง หมกมุนกับตนเองมากมายเชน งานอดิเรก
กรุงเทพธุรกิจ 26 ธันวาคม 2553
เปนงั้นไปได กลุมที่สอง แตงงานกันมา 5 ปมีลูก เล็ก มักเกิดปญหาเรื่องการเลี้ยงดูลูก นั่นเอง ไมใชเรื่องของความคิดเห็นไมตรง กันแตเปนเรื่องการใชเวลาไมตรงกัน มากกวา เพราะผูหญิงมักจะเปลี่ยนคูใจ หลังการมีลูกทุกครั้งไป จากคนขางกาย ที่เปนคุณสามีก็กลายเปนคุณลูกคนใหม ที่มานอนแทนที่ ทําใหเกิดความหางเหิน ตอกัน งานวิจยั ทีด่ ร.จอหนไดพบก็บง ชีช้ ดั วาการมีลูกทําใหเกิดภาวะความเปน พอเปนแมที่เหนียวแนนขึ้นแตมักทําให ภาวะความเปนสามีภรรยาตกตํ่าลง ประกอบกับความคาดหวังทีส่ งู ของผูห ญิง ที่มักจะอยากใหสามีมาทําหนาที่คุณพอ ที่แสนดีคอยชวยดูแลลูกนอยใหแตโดย สวนใหญแลวผูชายก็มักจะใหความสนใจ กับหนาที่การงานเปนเรื่องหลักมากกวา ทําใหผูหญิงเกิดความนอยอกนอยใจ กลายเปนปญหาใหญโตกันไป กลุมที่สาม แตงงานกันมา 20 ปแลว ก็นาจะผานรอนผานหนาวกันมานานจน ผูกพันกันดีมากยิ่งขึ้นมิใชหรือ คําตอบ
ที่ยากเย็นเสียนี่กระไร สูเรานําเอาบานไป ขายแลวแบงเงินทองกันก็จะไดเปนอิสระ จากความลําบากในการขอเงินจะดีกวา ในที่สุดชีวิตแตงงานและความสัมพันธจึง ขาดสะบั้นลง คุณผูอานก็คงจะเห็นไดวาคูสมรส แตละคูก็มีลักษณะเฉพาะมีปญหาเฉพาะ ของตน ไมใชเรื่องผิดปกติที่จะมีปญหา เพียงแตตองใหปญหาตางๆ นั้นไดรับการ แกไขใหทุเลาเบาบางลงใหไดตางหากเลา! นี่คือทางออกที่สําคัญคะ จงเพงมองไปที่ ทางออกของปญหาใหมากกวาการมองหา ปญหาคะ ! ขอใหความรักจงเจริญ ใครมีคําถามเชิญพูดคุยแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นกันไดที่ facebook - หาคําวา mrslaura wattanagool คะ พบบทเรียนอันทรงคาในการเปน “แม” ที่บมเพาะประสบการณ ทั้งที่ผานตรง เขามาในชีวิตและศึกษาคนควาหาขอมูล เพิ่มเติมจากกูรูลอรา ศศิธร วัฒนกุล ใน M.O.M Academy ฟูมฟก รัก สไตลลอรา ไดแลววันนี้ที่แผงหนังสือ
เหนื่อยนัก พักกอน... (ตอนแรก)
เ
รื่องที่ครูแนนจะเลาในฉบับนี้ เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อ 2 วัน กอนวันเขียน เรื่องมีอยูวา.. เด็กชายวัย 9 ขวบ ลูกศิษยเจาประจําของครูแนน เดินเขามาในโรงเรียนดวยหนาตาออนระโหยโรยแรง โดยมี คุณแมคอยประคองกึ่งผลักดันใหเดินเขามา พรอมทั้งถามไม หยุดวา คุณแม: “เปนอะไรละลูก..เปนอะไร? เมื่อกี้ยังดีๆ อยูเลย เปนอะไรครับ” เจาตัวเล็ก: “เวียนหัว..” พรอมทาทางกะปลกกะเปลี้ย ประมาณวาปวยมาก คุณแม: “เมื่อกี้ยังไมเปนไรเลย พอเลี้ยวเขามาโรงเรียน เวียนหัวไดไง” ครูแนน: คิดวาควรใหคุณแมคุณลูกเคลียรกันให เรียบรอยกอนดีกวา เลยบอกไปวา “เอา! ครูไปรอในหองนะ พรอมเมื่อไหรแลวเจอกัน” พรอมเดินขึ้นขางบน เขาไปรอ ในหอง แต..คุณแมคงเกรงใจคุณครูมาก ไมอยากใหรอนาน เลย โอบ (เออ..ถาจะใหถูกจริงๆ คือ ล็อกตัวไว) พาเดินขึ้น บันได ตามหลังครูแนนมาติดๆ โดยมีเจาลูกศิษยตัวเล็ก พยายามเหนี่ยวราวบันไดไว พรอมหนาตาที่งอไดอีก หลังจากคุณแมลกู ยือ้ ยุดอยูท บี่ นั ไดไดประมาณนาทีกวาๆ ครูแนนเห็นทาไมไดการ เลยขอคุณแมเขาแทรกแซงวา ครูแนน: “วันนี้ไมเรียนไมเปนไร แตตองขึ้นมาคุยกับ คุณครูใหรูเรื่องกอน โตแลว! ไมใชเด็กๆ จะเอาอะไรก็คุยกัน ดีๆ ทําตัวเปนเบบี๋ไปได..มาเลย เดี๋ยวนี้เลยครับ!” พรอมพา เจาตัวเล็กเขาหองไปไดสําเร็จ และแลวครูแนนก็เปดฉากสอบสวน... ครูแนน: “วันนี้ไมอยากเรียนเหรอครับ เกิดอะไรขึ้น?” เจาตัวเล็ก: “เบื่อ....” ครูแนน: “วันนี้เบื่อมาก ถาวันนี้ไมเรียน แลวอาทิตย ตอๆ ไปละ จะเรียนมั้ย?” ครูแนนถามเพื่อวัดระดับความเบื่อ จะไดเลือกใชแผนถูก เจาตัวเล็ก: สายหัว…ไมเรียนแลวอีกตอไป... ครูแนน: แสดงวาเบื่อขนาดหนัก ใชไมแข็งไมได บังคับ ไปเจงแนๆ เลยบอกไปวา “เวลาเรียนเบื่อไดลูก ไมใชเรือ่ งผิด แตถา เบือ่ แลวไมเอาเลย ทิง้ เลย อันนีไ้ มถกู เวลาเรียน ก็ตองอดทน เหมือนไปโรงเรียน ไมอยากไปแตก็ตองไปใชมั้ย ถาเบื่อแลวไมไปเลยก็ไมได เรียนหนังสือ ไมมีความรู.. เอางี้!ถาตอนนี้อยากพัก ครูใหพัก ไมตองเรียนได อยากหยุดกี่อาทิตย..วามา” เจาตัวเล็ก: หายหนางอ แตก็ยังทําตัวหอเหี่ยว คอยๆ ชู นิ้วชี้ขึ้นมาชาๆ หนึ่งนิ้ว.. ครูแนน: “อะไรกัน อาทิตยเดียวเอง นอยไป...ไมเอาๆ บอกมาเลย อยากหยุดกี่อาทิตย 1, 2, 3, 4 เลือกเลย” เจาตัวเล็ก: หายตัวเหี่ยว ชูเพิ่มเปน 2 นิ้ว ครูแนน: “2 อาทิตย.. โอเค หยุดไปเลย 2 อาทิตย มาดูปฏิทินกัน..นี่นะ วันนี้นับเปนอาทิตยที่ 1 นะ อาทิตยหนา หยุดอีก รวมเปน 2 เพราะฉะนั้น หนูมาเจอคุณครูวันที่ 27 โอ เคนะ?” เจาตัวเล็ก: พยักหนายิ้ม ดวยความดีใจ ครูแนน: “คุยกันรูเรื่องแลวนะ มาวันที่ 27 นี่ ขึ้นมาเรียน เองเลยไดมั้ย ไมเอาอาการแบบวันนี้เลยนะ ตกลงมั้ย” เจาตัวเล็ก: ยิ้ม พยักหนาตกลงหงึกหงัก ครูแนน: “งั้นวันนี้กลับบานได ไปพักใหสบายเลยลูก วันที่ 27 เจอกัน..” มารอดูกนั วาวันที่ 27 นี้ เจาตัวเล็กจะทําตามสัญญารึปา ว
กายใจ Soulmate http://www.jittapanya.com
• มนสิกุล โอวาทเภสัชช
ความเปนไปไดใหม
เ
ชาวันนีผ้ มเห็นเขาเดินกะเผลก จากปกติทเี่ ขามักนัง่ มองเรา ทานมือ้ เชาและสงเสียงรองเรียก ก็กลับไปนัง่ หมอบ หลบมุม แมจะยังกินอาหารทีเ่ ทใหแตกด็ รู ะแวดระวังตัว มาก ทําใหผมรูส กึ กังวลและคอนขางไมสบายใจ พลอยฟุง ซาน หลงคิดไปพักหนึง่ วาเขาทะเลาะกับแมวอืน่ หรือถูกตีเพราะ ยองไปคาบปลาบานใกลเคียงหรือเปลา ดวยความทีเ่ ลีย้ งเขา ไวนอกบาน จะปนปายเดินเลนไหนก็ไดตามใจ ลองนึกทบทวนแลวผมยังแปลกใจตัวเองที่หวงแมว ไดเพียงนี้ ยอนไปราวสามสี่ปกอนหนา ทัศนคติที่ผมมีตอ สัตวเลี้ยงตางจากนี้ ตัวโปรดประจําใจของผมมาโดยตลอด คือ หมา และหมาเทานั้น ผมวาหมาชางมีขอดีมากมายกวา สัตวเลี้ยงอื่น โดยเฉพาะแมว แมปจจุบันผมจะไมไดมีเพื่อน สี่ขาขยันเหาในครอบครองเหมือนเมื่อสมัยเปนเด็ก แตยัง ประทับใจในความสัตยซื่อ เปดเผย อดทน และไวใจไดของ เขาตลอดมา ขณะที่แมวเห็นจะเปนไปในทางตรงกันขาม ดู เยอหยิ่ง เก็บตัว และเอาแตใจตัวเอง จนกระทั่งวันที่มีแมแมวคาบลูกนอยตัวเล็กสองตัวมา ที่รั้วบาน แมเราจะไมอยากไดแตก็สงสาร ผลัดกันคลุกขาว กับปลา หมั่นใหอาหารอยูเสมอ จนลูกแมวโตขึ้นมากและ แมแมวก็จากไป ไมมาอาศัยประจําบานอีก สวนลูกแมวสองตัว ก็พาํ นักถาวร พรอมเปลีย่ นจากหลบๆ ซอนๆ เขามาเคลาเคลีย สงเสียงรอง และหงายทองยอมใหลูบเลนแตโดยดี ชัดเจนมาก วาผมใชเวลากับเขาไปไมนอย ยามวางผม นั่งในบานก็เพลินกับการดูเขานอนในทาทางนาขัน สังเกต การเติบโตและเปนอยูของเขาในระยะประชิด อยางเนิ่นนาน มากขึน้ ผมไดเห็นและสัมผัสเขา ไดใชประสบการณกบั แมว จริงตรงหนา ไมใชแมวในความคิดนึกทึกทักเอาเองเหมือนกอน นึกถึงกระบวนการจิตตปญญาศึกษาที่ผมมักแนะนํา ผูเขารวมการอบรมวา ขอใหเราพยายามออกจากรองความ เคยชินเดิมๆ เพื่อเปดความเปนไปไดใหมๆ อีกมากมายให กับชีวิต ทวาผมยังไมเคยยกตัวอยางสัตวเลี้ยงเชนแมวที่ เรารูจักดี อาจจะเปนเพียงแมวในขอมูลความจํา เปนแมว ของประสบการณเกาที่เราเอามาใชคาดการณแมวจริง จน เคยชินเปนนิสัย กระทั่งเรามักจะหลงเชื่อไปวานี่แหละขอบเขตความ เปนตัวเรา อะไรที่เราเห็นและอะไรที่เราทําได และแลวเรา จึงไดจํากัดโอกาสความเปนไปไดใหตัวเองไวเพียงแคนั้น จํากัดเรื่องราวและบุคคลอื่นในชีวิตเราไวเทานั้น ประสบการณวาดวยแมวไดสะทอนใหผมเห็นตัวชวย ดึงเราออกจากรองความเคยชินได สองสิ่งนั้นคือ ระยะทาง และระยะเวลา เดิมผมคิดตัดสินไวในใจวาแมวเยอหยิ่ง เอาแตใจ ผมจึงไมคิดจะเอาตัวเขาใกล ไมเคยไดสังเกตมอง เขาเปนเวลานานกวาวินาที เรียกวาเห็นผานตาเทานั้น เมื่อ ระยะระหวางผมกับเขาหดสั้นลง และเวลาของเราเพิ่มมาก ขึน้ เดีย๋ วนีผ้ มบอกไดเลยวาเขาทัง้ สองมีนสิ ยั บุคลิกความชอบ ผิดแผกกันอยางไร ผมแปลกใจในคุณภาพการสังเกตนี้มาก แตอัศจรรยใจยิ่งกวาที่พบวา เรื่องราวนี้คือสิ่งเดียวกัน กับการเปดความเปนไปไดใหมใหตัวเอง การสรางความ สามารถมองเห็นความงามในของเดิมที่เคยชิงชัง และการ เขาอกเขาใจคนอื่นผูที่ชอบไมเหมือนเรา ผมเห็นแมวไม เหมือนเดิม และกลายเปนวาผมก็มองคนรักแมวเปลี่ยนไป ไมใชคนลักษณะเดิมอีกตอไป อาจเปนเรื่องธรรมดาทั่วไปในชีวิต ที่เรามักหางเหินกัน ใหเวลากันเทาที่จําเปน แตมันทําใหเราเห็นแคสิ่งที่ตัวเรา อยากจะเห็น เปนไปไดไหมวา เราจะใชเวลาใหกันนานขึ้น และใกลกันมากขึ้น เพื่อใหเราไดเห็นอะไรตางไป และนําเอา ความเปนไปไดใหมๆ ในฐานะของขวัญที่ไมธรรมดาใหแก ชีวิตเราเอง
ชื่อเสียงของขอทาน บริเวณรอบๆ มหาเจดียพุทธคยา ที่เปนสัญลักษณของ องคพระสัมมา สัมพุทธเจาตรัสรู ณ ใตตนพระศรีมหาโพธิ์ เมืองคยา รัฐพิหาร ประเทศ อินเดีย ดูเหมือนวา จะโดงดังไมแพเรื่องราว ของพระองค
13
บทบาทสมมุติ พระมหา-
เดียว ปญญาอันชาญฉลาดของพวกเขา ก็พลันเกิดขึ้น เด็กหญิงคนหนึ่งหยิบ ทอฟฟที่อยูในกระเปาของเธอมาใหฉัน แลวฉันก็ไหวเธอแทนคําของคุณ หลัง จากนั้นเราก็คุยกันอีกเล็กนอย แลวฉัน ก็มอบแอปเปลที่มีอยูในกระเปาที่พระ บเนือ่ งตัง้ แตสถานทีด่ งั กลาว ใหมาจากพระมหาเจดียใหกับเธอไป ไดกลายเปนสถานทีจ่ าริก เธอยิ้มอายๆ และเฝามองดูเราเดินกลับ แสวงบุญของชาวพุทธทัว่ โลก วัด พอหันมาอีกทีพวกเธอก็หายไปแลว ไมแปลกใจเลยวา ทําไมพระพุทธเจา จริงๆ แลว บทบาทของเด็กๆ จึงมาตรัสรูท นี่ ี่ เพราะจะมีสถานทีไ่ หน เหลานัน้ มีศกั ยภาพในการเปนผูใ หดว ย ในโลกเลา ทีม่ ผี ขู อไดอยางเหนียวแนน ไมจําเปนที่เราเคยเปนอยางไร และจะ มาเปนพันๆ ป แมวา พวกเขาจะรํา่ รวย ตองเปนอยางนั้นตลอดไป ทําใหฉัน มือที่ยื่นมา นึกถึง ภิกษุณีที่กอตั้งมูลนิธิพุทธ จากการขอ แตพวกเขาก็ยงั คงยึดอาชีพ ที่จะถอดถอนไดภายในชั่วขามคืน ดังกลาวมารุน แลวรุน เลา ไมยอม ในวันแรกๆ ที่ไปถึงพุทธคยา ขอทาน ฉือจี้ไตหวัน ที่ทานนําเงินบริจาคของ เปลีย่ นแปลง ในบรรดาหนังสือไกดบคุ ตอนแรกฉันเองก็รูสึกรําคาญเด็กๆ ในบริเวณ คนมาทําสาธารณประโยชนทุกดานให ทุกเลม จึงไมมเี ลมไหนทีจ่ ะไมเอยถึง ขอทานบริเวณนั้นเชนเดียวกับหลายๆ พระมหา กับผูยากไร ประเด็นหนึ่งที่นาสนใจ ขอทาน และมักจะมีแงมมุ ตลอดจน คน เพราะไมเขาใจวา ทําไมเจอกัน เจดีย ของฉือจี้ก็คือ เขาไมไดเนนเงินของ ยุทธศาสตรและยุทธวิธใี นการจัดการ ก็ตองยื่นมือมาขอ ขอ และขอ อยู เศรษฐี แตฝกใหเศรษฐีมีจิตสาธารณะ กับขอทานตามมุมมองของตนไป ตลอดเวลา พอใหคนหนึ่ง ก็ตองให คือ มาชวยเก็บ บางคนเลาวา ขอทานเหลานั้น อีกเปนสิบ ในทีส่ ดุ คํา่ วันหนึง่ หลังจาก กวาด ขัดหองนํ้า ในอดีตชาติ เคยเปนผูที่ทําลายพระ- ไปนั่งสมาธิใตตนมหาโพธิ์ และกําลัง สาธารณะเปนตน มหาเจดียมากอนบาง บางคนก็บอกวา เดินทางกลับวัดปาพุทธคยา ซึ่งอยู ขณะเดียวกับก็ไป พวกเขาเหลานั้น เคยเปนผูที่ฆาพระ ดานหลังของมหาเจดีย ระหวางเดิน ขอรับ ฆาชาวพุทธที่เคยมาปฏิบัติธรรมที่นี่ ในทามกลางแสงจันทรกับยางกาวที่ เงินบริจาคจาก บาง บางคนก็กลาววา เปนเพราะพวก สงบ และลมหายใจที่ตอเนื่อง หูก็ได ขอทาน ซึ่งทําให เขาแลงนํ้าใจจึงเกิดมาเปนขอทานบาง ยินเสียงสวดมนตที่แววมาจากใตตน ขอทานเขารูสึกภาค และบางคนก็มองวา เปนเรื่องนาเศรา พระศรีมหาโพธิ์ ทันใดนั้นเองก็ไดยิน ภูมิใจ และเห็นวา ที่พวกเขายึดติดในบทบาทสมมติของ เสียงเด็กอินเดียเปนคลื่นแทรกขึ้นมา ตนเองก็มีศักยภาพ ตนเองมากเกินไปวา ตนนั้นเปนพวก จากเสียงสวดมนตนั้น อยางไมทัน ในการเปนผูใหได จัณฑาล วรรณะที่ถูกเหยียดหยาม ตั้งตัว เด็กหญิงขี้มูกโปงสองคน ผม เหมือนกัน นี่เอง มากที่สุดในอินเดีย พวกเขาจะไมมี แหงกรัง เสื้อผามอมแมมก็ยื่นมือมา บริเวณ ทําใหเขาใจวา เมื่อเปลี่ยนวิธีคิด การก ทางเปนอืน่ ใดได นอกจากเปนจัณฑาล จับตัว และยื่นมือมาขอ ฉันหยุดมอง ใตตน ระทําก็จะเปลี่ยน ไมจําเปนวา พระศรี มีขอทานบางคนที่เสียชีวิตไป และมี เด็กๆ และคิดวาจะทําอยางไรดี เราจะตองเปนอะไรไปตลอดชีวิต มหาโพธิ ์ คนไปขุดบริเวณทีเ่ ขานัง่ ขอทานตรงนัน้ ตอนนั้น ก็เลยนึกถึงวิชาที่เคย นี่เองเปนสิ่งที่พระพุทธเจาทรง ปรากฏวามีเงินมหาศาล ทําใหฉันรูสึก เรียนมาในวิชาศิลปะการละครก็คือ พระแทน คนพบวา ไมมีสิ่งใดที่จะโหดรายเทากับ เปนปริศนามากๆ วา ทําไมเขาจึงไม บทบาทสมมติ เอาหละ เปนไงเปนกัน วัชรอาสน ความคิดปรุงแตง ความยึดมั่นถือมั่น สถานที่ สามารถพลิกวิธคี ดิ ทีจ่ ะออกจากกรงขัง ฉันคิด ในอัตตาตัวตนของเรา ถาหากเปนภาษา ตรั ส รู ของกรอบดังกลาวไปได แมวาระบบ แลวฉันก็ยื่นมือไปขอเด็กบาง ของทานเวนหลาง พระสังฆปริณายก ขององค วรรณะในปจจุบนั ของอินเดียจะเบาบาง เลียนแบบพวกเขา เด็กๆ งง ตอน องคที่หก ในสายเซน ก็กลาวไวไมตาง ลงไปมากแลวก็ตาม แตความเชื่อที่ฝง แรกก็ถอยหลังไป เพราะไมคิดวาจะ พระสัมมา กันวา เมื่อเราถอดถอนความคิดปรุง สัมพุทธเจา แตงเสียได ทุกขทั้งปวงก็ดับหมด รากลึกมาหลายชั่วอายุคน บางทีก็ยาก เจอมุขนี้จากคนไทย เพียงแคนาที เจดีย พุทธคยา
นั
26 ธันวาคม 2553 กรุงเทพธุรกิจ
14
กายใจ Soulmate
นเปนวันแรกที่หัดนุงโสรงในบาหลี และ เปนวันแรกที่ตองนุงมันแทบทั้งวันดวย เปนที่รูกันดีวา บาหลีเปนดินแดนและ เกาะแกงแหงศาสนาฮินดู มีวัดนับพันตลอดทั่ว ทั้งเกาะ และการเขาไปในวัดเหลานั้น นอกจาก ศรัทธาแลวเรายังตองมีโสรงพันกาย ไมวาคุณจะ เปนใคร เชื้อชาติใด มาจากแหงหนไหน มันคือ เครื่องแบบที่คุณไมอาจหลีกเลี่ยงไมได วินาทีนี้ ผมมีโสรงเปนเครื่องแบบเรียบรอย ที่พรอมตอการเดินเขาสูอารามและศาสนสถาน แหงนี้แลว หลงเหลือเพียงศรัทธา-ที่ผมคาดวาจะ ไดพบในขางในนั้น ทามปกซิริง-Tampaksiring คือ มหาวิหาร นํ้าพุศักดิ์สิทธิ์ที่สําคัญที่สุดแหงเกาะบาหลี มันตั้ง อยูในบริเวณหมูบานทามปกซิริง ที่หางจากเดนปาซารเมืองหลวงของเกาะบาหลีขึ้นไปทางทิศ ตะวันออกราวสามสิบเกากิโลเมตร นํ้าพุศักดิ์สิทธิ์ ในที่นี้อุบัติจากตานํ้าที่เชื่อกันวาจะหลั่งไหลออกมา ไมมีวันเหือดแหง ความเกาแกของนํ้าพุแหงนี้ บันทึกยอนไดถงึ เมือ่ ราวพันปกอ นในจารึกสมัยของ
นั่
กลิ่นหอมของนํ้าอวลออกมา จากระยะไกล ผมขยับโสรงให กระชับ ดวยไมมั่นใจนักในฝมือ การนุงของตนเองวาจะรับมือ การเดินไดไกล ขนาดไหน
พระเจาความเงียบ 24 กษัตริยอินทรชัยสิงหวรมเดวา แตหากยึดถือ ตามตํานาน นํ้าพุนี้อุบัติขึ้นในสงครามระหวาง พระอินทรกับกษัตริยบาหลีนามมายะเทวนะที่ ทรงอิทธิฤทธิ์และมีวิชามากจนถึงขั้นหลงใหลใน ตนเองวาเปนเทพเจาองคหนึ่ง และทรงสั่งหาม ประชาชนของพระองคบูชาเทพเจาองคอื่น ความ ทราบถึงพระอินทรในสวรรคดุสิตจึงเสด็จลงมา ปราบปราม องคอนิ ทรไลมายะเทวนะมาถึงบริเวณ นี้กอนที่มายะเทวนะหายตัวไปในผนังภูเขา และ เนรมิตสระนํ้าพิษที่ทําใหบริวารขององคอินทรที่ ไดกลิน่ เปนลมลมและผูท ดี่ มื่ นํา้ นัน้ ถึงแกความตาย องคอินทรไดแกอาถรรพนี้ดวยการเอาตรีศูล ลงจุมนํ้าและไดเปลี่ยนนํ้าแหงนี้เปนนํ้าอมฤตที่ สามารถแกไขชีวิตใหฟนคืนและเยียวยาโรคภัย ทั้งหลายได แมสงครามระหวางองคอินทรและ มายะเทวนะจะจบลงแลวโดยองคอินทรเปนฝาย
กรุงเทพธุรกิจ 26 ธันวาคม 2553
มีชัย แตนํ้าพุศักดิ์สิทธิ์นี้ก็ยังคงอยูคูเกาะบาหลี คงอยู พรอมกับความเชื่อที่วานี่คือนํ้าพุศักดิ์สิทธิ์ที่จะขจัด โรครายและภัยพิบัติทั้งปวงของชีวิตได ผมถอดรองเทาไวที่หนาทางเขาประตูสูนํ้าพุนั้น บริเวณศักดิ์สิทธิ์ถูกแบงออกเปนสองสวน สวนที่หนึ่ง โอโถง กวางขวาง สําหรับผูประสงคการชําระรางกาย ใหสะอาดและเปนมงคลดวยสายนํ้า มีชนชาวบาหลี จํานวนมากทั้งแหวกวาย ทั้งยืนสงบนิ่ง ทั้งคอมศีรษะ ตอนํ้าพุ ในขณะที่อีกสวนหนึ่งมีอาณาเขตเล็กกวา เปนสวนที่เตรียมไวสําหรับผูที่ตองการตักตวงนํ้าพุ ศักดิ์สิทธิ์นี้กลับไปสูเคหสถานของตน มีทั้งหญิงชรา ที่มาพรอมกับครุนํ้าขนาดใหญ หญิงสาวที่มาพรอมกับ ขวดนํ้า PVC จํานวนมาก และเด็กนอยที่กําลังรองนํ้า ใสถว ยใบเล็กเพือ่ ดืม่ กินอยางชา ผมเบียดผูค นหยอนขา ลงในสระนํ้า วักนํ้าในสระขึ้นพรมหัวเบาๆ สามครั้ง กอนเคลือ่ นยายตนเองไปยังอีกสวนหนึง่ ของนํา้ พุ เอาขวด
ใบยอมออกจากเปหลังแลวรองนํ้าใสขวดนั้นจนเต็ม กอนจะนั่งลงที่โถงศาลาขางนอกและจิบนํ้าที่รองมา มัน มีรสชาติที่ดีและไรกลิ่นใดๆ ทั้งที่เปนนํ้าจากพื้นดินที่ มีอายุนบั พันป อาจเปนเพราะความรอนในวันนัน้ ผมรูส กึ วานํ้านั้นแกกระหายไดเปนอยางดี ผมไดพบคุณคาของ นํ้าพุศักดิ์สิทธิ์นี้แลวในทางกายภาพ แตในทางจิตใจเลา สําหรับผูที่เคยไปเยือนบาหลี ไมชาก็เร็ว พวกเขา จะประจักษวาผูคนในเกาะเล็กๆ แหงนี้ลวนเปยมดวย ความศรัทธาตอสิง่ ทีม่ องไมเห็นจํานวนมาก ในวันสําคัญ ทางศาสนาเราจะเห็นหญิงสาวจํานวนมากตั้งแถวเดิน เรียง เทินสิง่ ของสําคัญไวบนศีรษะเพือ่ นําไปบูชาเทพเจา ในเวลาเชา บายและคํ่า เราจะไดกลิ่นของธูปเทียนที่จุด บูชาเทพเจา หอม ตลบ อบอวล ในที่พักของเรา ไมวา ที่พักแหงนั้นจะเปนเกสทเฮาส โรงแรมขนาดเล็กหรือ บูติคโฮเต็ลสุดหรูก็ตาม ขณะยํ่าเทาทอดนองตามถนน เราตองคอยระวังไมใหเหยียบยํ่าลงไปบนกระทงเล็กๆ ทีว่ างอยูห นาบานและรานคาทีใ่ ชบชู าเทพเจา ทุกการแสดง ไมวาจะเปนบารองหรือเกจั๊กลวนแฝงนัยและตํานาน แหงองคเทพเจา การอยูในบาหลีเปนการใชชีวิตรวมกับ เทพเจา นับแตตื่นจนเขานอน อาจมีเวลาเดียวที่เราได อยูหางจากเทพเจาคือในยามที่เราหลับและฝน แตก็ นั่นเองสําหรับคนตางถิ่นอยางผม ไมวาพิธีกรรมจะ แข็งแรงอยางไร การมองมันจากสายตาคนนอกก็ลวน ทิ้งคําถามไวให ผมจะเขาใจสิ่งนี้ไดอยางไร ผมจะเปด หัวใจยอมรับไดอยางไรวาเทพเจาของพวกเขามีอยูจริง สิ่งนั้นไมใชเพียงความคิด สิ่งนั้นตองอาศัยศรัทธาและ ผมยังไมพบศรัทธา อยางไรก็ตาม เทพเจาไมไดปลอยใหผมรอคอย นานทีจ่ ะพบความจริงนี้ พระองคปรากฏตัวขึน้ ในรูปของ นกตัวนอยที่บินลงกินนํ้าในแอง ในทามกลางความ หวาดกลัวผูคน มันพยายามหาแหลงนํ้าที่เงียบสงบ แต ก็ดูจะไรผล เด็กสาวที่กําลังจิบนํ้าอยูขางผม สังเกตเห็น สิ่งนั้นพรอมกับผม เธอลุกออกจากที่นั่ง เทนํ้าในขวด ใสฝาและวางมันไวใกลเจานก ไมนานนักหลังหายจาก ความหวาดระแวง นกตัวนัน้ คอยจิบๆ นํา้ จากฝาจนพอใจ แลวบินจากไป เด็กสาวหยิบฝาขึ้นจากพื้นและใชมัน ปดขวดนํ้าอยางไรความรังเกียจ เหตุการณสั้นเพียงไม ชั่วนาทีนั้นไดแสดงสิ่งสําคัญอันซอนเรนออกมา นํ้าพุ ศักดิ์สิทธิ ์ ธูป เทียน อาหารบูชาตางๆ ตอองคเทพเจา ทั้งหลายนั้นแทบไมมีความหมายเลย หากผูที่ทําการ สักการะนั้นขาดศรัทธาในสิ่งหนึ่ง สิ่งนั้นไมใชพิธีกรรม แตเปนอะไรทีเ่ รียบงายกวานัน้ และแฝงอยูใ นเราทุกผูค น อันไดแกศรัทธาในการมีชีวิตอยูรวมกัน การมีชีวิตอยู รวมกันอยางสิ่งมีชีวิตตางๆ อยางเทาเทียม เด็กสาว คนนั้นเดินจากไปแลวพรอมกับพอแม ไมมีรองรอย ของเธออีกตอไป เวนแตสิ่งที่เธอไดทิ้งไวอันไดแก ศรัทธาที่ใหผมไดคนพบ
¡ÒÂ㨠Soulmate
15
ÈÔÃÃÔ μÑ ¹ ³ ¾Ñ·Åا heartcompass@gmail.com
àμÃÕÂÁ͹ҤμãËŒà´ç¡ 4
Ê
“¡©∫—∫∑’˺à“π¡“ ‡≈à“∂÷߇հ “√¢Õß°√–∑√«ß»÷°…“ ‘ߧ‚ª√å ‡√◊ËÕßøŸ¡øí°¬ÿ«™π¢Õ߇√“‡æ◊ËÕÕπ“§μ §«“¡ “¡“√∂‡™‘ß ¡√√∂π–‡æ◊ËÕ»μ«√√…∑’Ë 21 ·≈– ‰¥â‡≈à“∂÷ß«ß„π ´÷Ë߇ªì𧫓¡ “¡“√∂‡™‘ß ¡√√∂π–¥â“π —ߧ¡ ·≈–Õ“√¡≥å ·≈–«ßπÕ° ´÷Ë߇ªì𧫓¡ “¡“√∂‡™‘ß ¡√√∂π– ¥â“π∑—°…–∑’Ë®”‡ªìπ„π —ߧ¡‚≈°“¿‘«—μπå ‰ª·≈â« ©∫—∫π’È¢Õ‡≈à“∂÷ߧ«“¡ “¡“√∂‡™‘ß ¡√√∂π–·°àπ·°π ¢Õß«ß„π·≈–«ßπÕ°‡ªìπ‡√◊ËÕß ÿ¥∑⓬„π™ÿ¥π’È ·°àπ·°π¢Õߧ«“¡ “¡“√∂‡™‘ß ¡√√∂π–‡æ◊ËÕ»μ«√√… ∑’Ë 21 ¡’ 6 ¥â“π
1. ¤ÇÒÁà¤Òþ - ¹Ñº¶×Í ‡¬“«™πæ÷ß· ¥ß§«“¡‡§“√æπ—∫∂◊Õ„πμ—«‡Õß·≈–ºâŸÕ◊Ë𠇙◊ËÕ„π§ÿ≥§à“¢Õßμπ‡Õß·≈–§π√Õ∫¢â“ß
2. ¤ÇÒÁÃѺ¼Ô´ªÍº ‡¬“«™πæ÷ßμ√–À𗰄𧫓¡√—∫º‘¥™Õ∫μàÕμπ‡Õß §√Õ∫§√—« ™ÿ¡™π ª√–‡∑»™“μ‘·≈–‚≈° · ¥ß§«“¡√—∫º‘¥™Õ∫ ¥â«¬§«“¡√—°·≈–¡àÿß¡—Ëπ
3. ¤ÇÒÁ«×Íè ÊÑμ ‡¬“«™πæ÷߬÷¥¡—Ëπ„πÀ≈—°°“√·Ààß®√‘¬∏√√¡·≈–· ¥ß §«“¡°≈â“À“≠∑“ß»’≈∏√√¡∑’ˬπ◊ À¬—¥μàÕ âŸ ‡æ◊ËÕ ‘Ëß∑’Ë∂°Ÿ μâÕß
4. ¤ÇÒÁàÍ×Íé ÍÒ·Ã ‡¬“«™πæ÷ß· ¥ß§«“¡‡¡μμ“°√ÿ≥“·≈–‡Õ◊ÈÕÕ“∑√ √«¡∑—Èß ¡’ à«π√à«¡„π°“√ √â“ß™ÿ¡™π·≈–‚≈°„À⥒¢÷Èπ
5. ¤ÇÒÁÊÒÁÒö㹡Òÿ„¹œ ¤×¹Ê‹ÊÙ ÀÒÇл¡μÔ ‡¬“«™πμâÕß¡’§«“¡ “¡“√∂„π°“√øóôπ§◊π àŸ ¿“«–ª°μ‘ ¥â«¬§«“¡¡—Ëπ§ß∑“ßÕ“√¡≥å·≈–‡º™‘≠°—∫§«“¡∑â“∑“¬μà“ß Ê ‰¥â ‡¬“«™πæ÷ß· ¥ß§«“¡°≈â“À“≠ ¡Õß‚≈°„π·ß॒ ª√—∫μ—«‰¥â ·≈–‡ªìπ§π‡®â“§«“¡§‘¥ ¡’ 쑪í≠≠“¥’
6. ¤ÇÒÁÊÒÁѤ¤Õ ‡¬“«™πμâÕ߇ÀÁπ§ÿ≥§à“¢Õߧ«“¡ “¡—§§’ · «ßÀ“§«“¡ ÿ¢ ¿“¬„πμπ‡Õß à߇ √‘¡§«“¡ ¡“π©—π∑å„π —ߧ¡ ™◊Ëπ™¡„π —ߧ¡∑’Ë¡’‡Õ°¿“æ·≈–§«“¡À≈“°À≈“¬∑“ß«—≤π∏√√¡ §«“¡ “¡“√∂‡™‘ß ¡√√∂π–‡æ◊ËÕ»μ«√√…∑’Ë 21 ∑—ÈßÀ°¥â“π ∑’Ë°√–∑√«ß»÷°…“ ‘ߧ‚ª√噄’È Àâ ∂“π»÷°…“·≈–ºâŸª°§√Õß ‡ÀÁπ·π«∑“ßπ’È §ß‡ªìπ¢âÕ§‘¥∑’ˇªìπª√–‚¬™πå ”À√—∫æàÕ·¡à ºâŸª°§√Õß·≈–∫ÿ§≈“°√∑“ß°“√»÷°…“¢Õ߇√“¥â«¬‡™àπ°—π ë
à
¡◊ËÕ«—π°àÕπ ‡æ◊ËÕπ√—°‰¥â‚∑√¡“§ÿ¬∂÷ߪ√– ∫°“√≥å ≈¥§«“¡Õâ«π∑’Ë· π®–∑√¡“π¢Õ߇∏Õ„Àâøíß«à“ ∑ÿ°§√—Èß ∑’ˇ∏Õ‡√‘Ë¡ªØ‘∫—μ‘°“√≈¥§«“¡Õâ«π‡∏Õ®–¡’§«“¡μ—Èß„® Õ¬à“ß·πà«·πà ·≈–‡∏Õ°Á¡—°®–‡ªìπÀπ÷Ëß„π‡À≈à“§π∑’Ë‚™§¥’°Á§◊Õ “¡“√∂≈¥πÈ”Àπ—°≈߉¥âÕ¬à“߇ªìπ∑’Ëπà“æÕ„®·∑∫∑ÿ°§√—Èß ·¡â«à“«‘∏’∑’Ë„™â®–‡ªìπ«‘∏’∑’Ë·μ°μà“ß°—π À“°°Á‰¡à‡§¬∑”„Àâ‡∏Õ º‘¥À«—ß ·μà‡ªìπ∑’Ëπà“‡ ’¬¥“¬∑’ËÀ≈—ß®“°ºÕ¡‡æ√’¬«‰¥â‰¡àπ“π ‡∏Õ°Á°≈—∫‰ª∑“π¢Õß‚ª√¥·∫∫‡¥‘¡Ê ®π∑”„ÀâπÈ”Àπ—°‡æ‘Ë¡¢÷Èπ ¡“Õ¬à“ß√«¥‡√Á«·∑∫∑ÿ°§√—È߇™àπ‡¥’¬«°—𠇙àπ‡¥’¬«°—∫À≈“¬§π∑’ËμâÕß°“√‡ª≈’ˬπ·ª≈ß™’«‘μ ·≈â«™à«ßªï„À¡à°Á‡ªìπ™à«ß‡«≈“¬Õ¥Œ‘μ ∑’ˇ¢“‡À≈à“π—Èπ„™â‡ªìπ ®ÿ¥‡√‘Ë¡μâ𧔠—≠≠“ ·≈–§π¡“°¡“¬°Á “¡“√∂∑”‰¥âÕ¬à“ß ∑’Ë —≠≠“‰«â°—∫μ—«‡ÕßÕ¬à“ßπà“™◊Ëπ™¡ ·μàπà“‡ ’¬¥“¬∑’ˉ¡àπ“π... ‘Ëß·«¥≈âÕ¡‡¥‘¡Ê §«“¡‡§¬™‘π ·∫∫‡¥‘¡ °Á àßæ«°‡¢“°≈—∫‰ª∑”„π ‘Ëß∑’˧πâÿ ‡§¬Õ’°§√—Èß π—Ëπ‡ªìπ‡æ√“–«à“ ‘Ëß∑’ˇ¢“‡À≈à“π—Èπ∑” ‡ªìπ°“√ ‡ª≈’ˬπ·ª≈߇撬߷§à à«πº‘« ·μà‰¡à‰¥â≈ß≈÷°∂÷ß√“°¢Õß ‘Ëß ∑’ËμâÕߥŸ·≈·°â‰¢Õ¬à“ß®√‘ß®—ß §π à«π„À≠à„™â«‘∏’À—°À“≠ ∫—ߧ—∫ ·∑π°“√‡√‘Ë¡μâπ∑”§«“¡‡¢â“„®°—∫μâπ‡Àμÿ ∑’Ë∑”„À⇰‘¥ „π ‘Ëß∑’Ëμπ‰¡àμâÕß°“√
à»ÅÕÂè ¹á»Å§Í‹ҧÂÑè§Â×¹ º≈—°¥—π„Àâ‡√“∑”„π ‘Ëß∑’ˉ¡à‡Õ◊ÈÕª√–‚¬™πå°—∫μ—«‡√“‡Õß Õ¬àŸ‡ ¡Õ °“√‡ª≈’ˬπ·ª≈߉¥â„π√–¬–¬“«®–μâÕß„™â°“√‡√’¬π√⟠·≈–‡¢â“„®„πμ—«‡ÕßÕ¬à“߇μÁ¡§«“¡ “¡“√∂ √âŸ«à“ ‘Ëß„¥∑’Ë®–∑” „Àâ‡√“¡’§«“¡ ÿ¢§«“¡æÕ„®‰¥âÕ¬à“߇μÁ¡‡ªïò¬¡ ·≈–‡√“§«√ ¡’·π«∑“ß°“√¥”‡π‘π™’«‘μÕ¬à“߉√ ®÷ß®– “¡“√∂∫√√≈ÿ∂÷ß ®ÿ¥À¡“¬∑’ˇ√“μâÕß°“√ ¡πÿ…¬å∑ÿ°§π¡’§«“¡·μ°μà“ß ‘Ëß∑’Ë∑”„Àâ‡√“¡’§«“¡ ÿ¢ Õ“®‰¡à„™à ‘Ëß∑’˧πÕ◊Ëπ„ΩÉÀ“ ·≈–‡√“°Á‰¡à®”‡ªìπ∑’Ë®–μâÕß∑” „π ‘Ëß∑’Ë·μ°μà“߇æ◊ËÕμàÕμâ“π°√–· ‡¥‘¡ ‡æ√“–°“√μàÕμâ“π ¡’·μà®–∑”„Àâ‡√“ÕàÕπ≈â“ ‘Ëß∑’˧«√∑”°àÕπÕ◊Ëπ§◊Õ °“√‡¥‘πÕÕ°®“°§«“¡‡™◊ËÕ‡¥‘¡Ê ·≈â« √â“ߧ«“¡‡™◊ËÕ„À¡à∑’ˇªìπ¢Õßμ—«‡√“‡Õß·∫∫∑’ˉ¡àμâÕ߉ª ∑–‡≈“–°—∫„§√ „™â™’«‘μ„Àâ‡Õ◊ÈÕ°—∫°“√‡√’¬π√⟢Õ߇√“„Àâ¡“° ∑’Ë ÿ¥ ∑”ß“πÀ√◊ÕÕ¬àŸ„π∑’Ë∑’ˇÀ¡“– ¡ ·≈–‡°◊ÈÕ°Ÿ≈°—∫°“√ ¥”‡π‘π™’«‘μ∑’ˇ√“μâÕß°“√ ‡¡◊ËÕ„®‰¡à∂Ÿ°∫’∫§—È𠧫“¡ ß∫ ∑’ˇ°‘¥¢÷Èπ ®–∑”„Àâ‡√“¡Õ߇ÀÁπ∏√√¡™“μ‘∑’Ë·∑â®√‘ß¿“¬„π μ—«‡Õß ·≈–· ¥ßμ—«ÕÕ°¡“„Àâ‡√“√âŸ«à“ ‘Ëß„¥ ∑’Ë ”§—≠°—∫‡√“ ¡“°∑’Ë ÿ¥ ·π«∑“ß„À¡à∑’ˉ¡à¡’°√Õ∫‡¥‘¡„π™’«‘μ ®–™à«¬„Àâ‡√“‡ÀÁπ ‚Õ°“ „À¡àÊ ‡ÀÁ𧫓¡‡ª≈’ˬπ·ª≈ß∑’ËÕ¬àŸ‰¥â¬“«π“π°«à“ ·≈– “¡“√∂√—°…“§«“¡ ¡Ë”‡ ¡Õ„π°“√ª√—∫μ—«‰¥âÕ¬à“ß ßà“¬¥“¬ ‘Ëß∑’Ëπà“ π„®∑’Ë ÿ¥°Á§◊Õ „π∑ÿ°«—π∑’Ë„Àâ‚Õ°“ °—∫μ—«‡Õß ‡√“®–‰¥â‡√’¬π√⟠‘Ëß„À¡à∑’ËÕ¬àŸ„π„®∑’ˉ¡à‡§¬√⟠‡¡◊ËÕ§âπæ∫ °“√μàÕμâ“π∫“ß ‘Ëß ‡ª≈’ˬπ·ª≈ß∫“ßÕ¬à“ß ‚¥¬‰¡à‰¥â §«“¡®√‘ß·μà≈–Õ¬à“ß „®°Á®–ª√—∫μ—«¢Õß¡—π‡Õß‚¥¬∑’ˇ√“ √â“ß √√§å ‘Ëß„À¡à¢÷Èπ¡“ °Á®–‡ªìπ‡æ’¬ß·§à°“√À≈’°‡≈’Ë¬ß ‰¡àμâÕß欓¬“¡®–‡ª≈’ˬπ À√◊ÕÕ¬à“ß∑’ˇ§¬∑”§◊Õ∫—ߧ—∫ ‘Ëßπ—Èπ™—Ë«§√—Èß™—Ë«§√“« ·μà®–‰¡à„Àâº≈∑’ˬ◊𬓫‰¥âÕ¬à“ß „À⇪≈’¬Ë π ‡æ√“–∏√√¡™“μ‘®–‡√’¬π√⟉¥â¥â«¬μ—«‡Õß ¥—߇™àπ ∑’ËμâÕß°“√ ‡™àπ ®–≈¥πÈ”Àπ—°°Á∫—ߧ—∫μ—«‡Õß„ÀâÀ¬ÿ¥°‘π ‡¡◊ËÕ¡◊Õ®—∫∂Ÿ°¢Õß√âÕπ ‡√“‡√’¬π√⟧«“¡‡®Á∫ª«¥ ®“°π—Èπ‡√“®– ‡∫◊ËÕ‡®â“𓬰Á‡ª≈’ˬπß“π ‡∫◊ËÕ∫â“π°Á‡ª≈’ˬπ∑’ËÕ¬àŸ„À¡à ‰¡àæÕ„® ‰¡àÕ¬“°‰ª®—∫¢Õß√âÕπ¥â«¬¡◊Õ‡ª≈à“Õ’° ™’«‘μ°Á«‘ËßÀπ’ À“ ‘ËßÕ◊Ëπ¡“∑¥·∑π·°â‡∫◊ËÕ‰ª™—Ë«¢≥– ¥—ßπ—Èπ‡√“®–¡’§«“¡ ÿ¢°—∫°“√¡Õ∫ ‘Ëߥ’Ê „Àâ·°à™’«‘μ À≈“¬§π√⟷°à„®¥’«à“ ‘Ë߇À≈à“π—Èπ‡ªìπ°“√·°â‰¢‡æ’¬ß ‚¥¬‰¡à‡°’ˬ«¢âÕß°—∫°“√∫—ߧ—∫ Ωóπ„®∑’Ë®–∑” ‡æ√“–∏√√¡™“μ‘ √–¬– —Èπ À“°‡√“¡àÿß¡—Ëπ∑’Ë®–‡ª≈’ˬπ·ª≈ßÕ¬à“߬—Ë߬◊π ‡√“®”‡ªìπ ®–‡≈◊Õ°„π ‘Ëß∑’Ë¥’∑’Ë ÿ¥ ”À√—∫μ—«‡Õ߇ ¡Õ ‡æ’¬ß·§àπâÕ¡√—∫ ∑’Ë®–μâÕ߇¢â“„®∑’Ë¡“∑’ˉª¢Õ߇Àμÿ „π ‘Ëß∑’˧âπæ∫Õ¬à“ßÕàÕπ‚¬π ‡¡◊ËÕπ—Èπ °“√‡ª≈’ˬπ·ª≈ß ‡√“®÷ß®”‡ªìπ®–μâÕß°≈—∫¡“∂“¡μ—«‡Õß«à“ ‘Ëß∑’ˇ√“∑”Õ¬àŸ Õ¬à“߬—Ë߬◊π°Á®–‡¢â“¡“‡ªìπ à«πÀπ÷Ëß„π™’«‘μ¢Õ߇√“ π’È¡’º≈μàÕ™’«‘μ¢Õ߇√“Õ¬à“߉√ ·≈–Õ–‰√‡ªìπμâπ‡Àμÿ∑’Ë μ≈Õ¥‰ª... ë
¡ÒÃà»ÅÕÂè ¹á»Å§ ä´Œã¹ÃÐÂÐÂÒÇ ¨ÐμŒÍ§ãªŒ¡Òà àÃÕ¹ÌÙáÅÐࢌÒ㨠ã¹μÑÇàͧÍ‹ҧ àμçÁ¤ÇÒÁÊÒÁÒö
26 2553 ë
Checks & Stripes : ลายตารางและลายผาริ้ว
Folklore : พื้นบาน
Safari Trend : ลวดลายซาฟารี
นแผนที่มหานครแฟชั่นของโลก นักวิจารณแฟชั่นปก เข็มหมุุดลงไปที่กรุุง โตเกียว ของประเทศญี่ปุนดวย เมืองหนึ่ง ดวยความที่เปนมหานครแหงความทันสมัย แหลงรวมเทคโนโลยีสุดลํ้าในทุกุ ดานของการใชชีวิต ทําให คนญีป่ นุ พัฒนาการแตงกายใหสอดคลองกับชีวติ ประจําวัน ดีไซเนอรชาวญี่ปนุ หยิบจับความตองการของคนเมือง ผสมเขากับความคิดสุดสรางสรรคในแบบฉบับของชน ชาวอาทิตยอุทัย สรางกระแสแฟชั่นที่มีเอกลักษณโดดเดน เฉพาะตัวสูง ไมแครใคร ไมยิ่งหยอนไปกวาแฟชั่นจากซีก
ใ วลัญช สุภากร ภาพ : อมรเทพ อักษร
เกาะติดเทรนด
Tokyo Street Lace & Crochet : ลูกไมและโครเชต
กรุงเทพธุรกิจ 26 ธันวาคม 2553
กายใจ Beauty&Fashion โลกตะวันตก จึงไมนาแปลกใจที่เหลาดีไซเนอรทั้ง หลาย รวมถึงบรรดาวัยรุนไทยตางก็เกาะติดกระแส แฟชั่นแดนอาทิตยอุทัยไมขาดสาย คอตตอน ยูเอสเอ (Cotton USA) รายงาน วา เมื่อเร็วๆ นี้ คุณ อายาโกะ เคเนตะ Executive Account Manager, Global Product Supply Chain, คอตตอน อินคอรปอเรท แหงประเทศญี่ปุน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการแนะนําและคาดการณ เทรนดแฟชั่นจากประเทศญี่ปุน ไดเก็บรวบรวมและ แสดงความเห็นเกี่ยวกับ ‘เทรนด แฟชั่น’ ที่ชาวญี่ปุน ใหความสนใจ นํามาสูความฮอตฮิตทั้งในฤดูแฟชั่นที่ กําลังจะมาถึง “ในปนี้ตองยอมรับวาอุณหภูมิที่ญี่ปุนคอน ขางสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปกอน จากผลกระทบของ ภาวะโลกรอน ทําใหผูคนทั่วโลกเริ่มตื่นตัว และปรับ เปลี่ยนรูปแบบการใชชีวิตใหเขากับสถานการณและ สภาพแวดลอมที่เปลี่ยนไป เทรนดการแตงตัวจึงเนน ความเบาบาง คลองตัว และสดใส ดีไซเนอรชื่อดัง หลายคนจึงนิยมออกแบบเสื้อผาที่ทําจาก ‘ฝาย’
Safari Trend : ลวดลายซาฟารี ยังคงครองใจหนุมสาวชาวญี่ปุนอยางเหนียว แนกับเสื้อผาลาย ซาฟารี (Safari) ซึ่งมีแรงบันดาล ใจมาจากการสรรหาลวดลายที่เลียนแบบธรรมชาติ มาประยุกตใหเขากับยุคสมัย เชน ลายเสือ ลาย มาลาย ดีไซเนอรมักใสความคิดสรางสรรคลงไป ดวยการแตงแตมสีสันตางๆ ใหมีความสดใส ตรง ตามความชื่นชอบของกลุมวัยรุน ไมวาจะเปนสีโทน พาสเทล แฝงความออนหวานไวในความดุดัน โดยเฉพาะ สีเทา ที่มาแรงมาก นอกจากนี้ยังมีการ คิดคนไอเดียใหมๆ มาสรางสรรคลวดลายซาฟารีให มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ทั้งการใชรูปรางสัตว สัตวปานานาชนิด ปาไม ทิวทัศน ซึ่งใหความรูสึก ใกลชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
Checks & Stripes : ลายตารางและลายผาริ้ว ลวดลายธรรมดาที่เห็นกันไดทั่วๆ ไป อยาง ลายตาราง และ ลายขวาง แตถูกนํามาใชในซีซัน
Regimentals : ลายทหาร
17
เช เชน การนําลายซาฟารีมาปะติดกับลายทหาร เทคนิค เพิ เพ่มฟงกชันการใชประโยชน โดยใช สายคาด เพื่อ ให ใ เสื้อผาสามารถสวมใสไดหลากสไตลมากยิ่งขึ้น ไม ไ วาจะเปนการจั๊มพ การพับ หรือการมวนก็ตาม
DDenim : เดนิม / ยีนส เปนความแตกตางที่เห็นไดอยางชัดเจนจาก ซีซันที่แลว คือ การกลับมาอีกครั้งของ ยีนส ซึ่งใน โโตเกียวขณะนี้เปนที่นิยมมาก แบบที่เรียกไดวาตอง มีในตูเสื้อผา ซึ่งผูเชี่ยวชาญแนะนําวา สําหรับอากาศ รอน ควรเลือกยีนสที่มีนํ้าหนักเบา บาง และสวมใส สสบาย โดยมีการสรางสรรคเทคนิคในการตกแตง ยีนสใหดูเกไก มีสไตลขึ้น ไมวาจะเปนการเลือก ใใชรูปแบบทรงแปลกตา อยางกางเกงทรง ฮาเร็ม ((Harem) ที่เลียนแบบมาจากเครื่องแตงกายของชาว อินเดีย หรือไอเท็มสําหรับสาวๆ อยางเดรสสั้นติด ซิปกลางลําตัว นอกจากนี้ยงั มีการใชเทคนิค สะบัดสี ที่ทําใหยีนสดูไมแข็ง แฝงความสนุก เทคนิคการ กัดสียีนส สรางกลิ่นอายแสนโมเดิรน หรือแมแต เทรนด เท แดมเมจ (Damaged) ยีนสฉีกขาดมาด เซอร เซ ก็ไดความนิยมเชนเดียวกัน
FFolklore : พื้นบาน
Denim : เดนิม / ยีนส
มากขึ้น ดวยคุ ยคณสมบั ณสมบัติของฝาย ที่นอกจากจะให นี้อยางแพรหลาย โดยสวนใหญจะเนนเปนสี ‘ทโทน’ ‘ทูโทน’ สัมผัสความนุมสบายอยางเปนธรรมชาติกับผูสวมใส สลับกัน โดยเฉพาะอยางยิ่งสี ขาว-นํ้าเงิน เปนที่ แลว ยังชวยระบายความรอนไดดี เหมาะสมกับ นิยมมากในชวงนี้ ซึ่งนอกจากลายขวางธรรมดาๆ แลว ดีไซเนอรยังผสมผสานลวดลายตางๆ ไวดวย กกัน เชนลายขวางกับลายตั้ง ลายขวางกับลายจุด รรวมถึงการใชสีสันที่ตัดกันดวย ในไอเท็มเสื้อผา ตตางๆ ทั้งเสื้อ กางเกง และ เลคกิ้ง เพื่อสรางความ แแปลกใหมไมจําเจ เทรนดลวดลายตารางแบบเบสิกยังมีให เห เห็นอยูในรูปแบบตางๆ เชน เทคนิคการอัดจีบผา (S (Seersucker) คือ การอัดจีบผาลายทางใหเปนริ้ว ยยน เทคนิคการปะติด (Patchwork) หมายถึงการนํา ผามาเย็บปะติดกันเพื่อใหเกิดลวดลายใหม เทคนิค ก็อซ (Gauze) คือ การนําผาโปรงตาขายมาซอนทับ ผาลายทาง เพื่อใหเกิดมิติแบบ ‘เลเยอร’ หรือแมแต ภูมิอากาศที่มีอุณหภูมิสูงขึ้น” คุณอายาโกะ กลาว ผาลายสก็อตก็ยังคงมีปรากฏในซีซันนี้ “นอกจากนี้จากสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกที่มี ความผันผวนสูง คาเงินออนคาลง ทําใหธุรกิจหลาย Regimentals : ลายทหาร เปนการกลับมาอีกครั้งหนึ่งของ เสื้อผาลาย ภาคสวนไดรับผลกระทบอยางหลีกเลี่ยงไมได รวม ถึงธุรกิจแฟชั่น จึงเปนโจทยสําคัญของดีไซเนอรที่จะ ทหาร แตมีความพิเศษกวาเดิม คือ มีการนําไอเดีย ตองออกแบบใหเสื้อผาสอดคลองกับสถานการณที่ ใหมๆ มาใช โดยเฉพาะอยางยิ่ง เทคนิคการใช พิเซลเลท (Pixelate) คือ การใชจุดสีลายตาราง เปนอยู โดยลวดลายเสื้อผาของซีซันนี้จะเนนไป เล็กๆ มาเรียงตอกัน เพื่อใหเกิดความแปลก และพบ ที่แนว Back to Basic ที่เรียบงาย อยางเชน ลายขวาง ลายตาราง และยีนส แตแฝงไวซึ่งกิมมิค การใชกิมมิคตกแตงเสื้อ โดยใชอินทรธนู กระเปาเสื้อ การตัดเย็บที่ดูเกไก มีสไตล หรือแมแตแนวเสียดสี เลียนแบบ ‘เครื่องแบบทหาร’ รวมถึง เทรนด สังคม อยางเชน ลายสกุลเงินดอลลารก็มีปรากฏให นโปเลียน ที่มีกระดุมทั้ง 2 ฝงของเสื้อ ใหความรูสึก เท มาดมั่น แตแฝงไปดวยความหรูหรา เห็นเชนกัน” นอกจากนี้ ดีไซเนอรยังมีการใชเทคนิคผสมกัน ลองมาชมเทรนดยอดฮิตของ โตเกียว สตรีท ระหว างลวดลาย 2 ชนิด เพื่อสรางความแปลกใหม แฟชั่น วามีในลักษณะไหนกันบาง
กลับมาตอกยํา้ ความแรงอีกครัง้ หนึง่ กับ เท เทรนด โฟลคลอร ยอนยุคสุดเทแหงฤดูกาล นํา ขขนบธรรมเนียมพืน้ บานรวมถึงความเชือ่ ของชน พืน้ เมืองมาปรับใชใหเขากับสไตลการแตงตัว มี กกลิน่ อายของความเปนคันทรีปนกับแนวพืน้ เมือง ให คความรูส กึ ถึงความคลาสสิก เรียบงาย แตกม็ คี วามเท แแฝงอยูภ ายใน สวนมากเนนไปที่ ลวดลายการปก ทีค่ งเอกลักษณดงั้ เดิม ปรากฏออกมาในรูปแบบของ ลลวดลาย ทัง้ ลายสีเ่ หลีย่ มขนมเปยกปูนสลับสี ลลายไมกางเขน นอกจากนีย้ งั มีการประดับพูต าม ชชายเสือ้ -ปลายแขน แฟชัน่ นิสตาไมควรพลาดไอเท็ม ทีม่ าแรงสุดๆ อยางเสือ้ คารดแิ กนไหมพรมติด กกระดุม เปนตน
L & Crochet : Lace ลลูกไมและโครเชต ยังคงเปนเทรนดที่ไดรับความนิยมมาโดย ตลอดทุ ต กยุคทุกสมัยสําหรับแฟชั่น ลูกไม และ โครเชต โ ไอเท็มชิ้นโปรดของสาวหวานใสสไตล คาวาอี ค ้ ซึ่งเหมาะกับสภาพอากาศรอนอบอาว เพราะ เสื เ ้อแนวลูกไมระบายอากาศไดดี ทําใหสวมใสสบาย รูปู ทรงของลูกไมเนนเปนลักษณะผาฉลุทรงกลม นํนาไปตกแตงเสื้อผาไดทุกสวน ทั้งคอเสื้อ ระบายที่ คอเสื ค ้อยืด-ขอบแขน ปกรอบเอว ไอเท็มที่มาแรงและ ตองมีคือ เดรสระบายชั้นๆ หรือกระโปรงทรงเลเยอร ได ไ รับความนิยมมากในญี่ปุน นอกจากสวมใสสบาย แล แ วยังปรับลุคใหดูออนหวานและสดใสมากยิ่งขึ้น แต แ หากตองการกลิ่นอายความเปนร็อคก็สามารถ แมทช แ กบั เสื้อกั๊กยีนสกัดสีซีด ที่ดูไมแรงจนเกินไป คอตตอน ยูเอสเอ ใหความเห็นวา ขอมูล ขางตนนาจะเปนประโยชนสําหรับผูประกอบการ อุอตสาหกรรมสิ่งทอไทย ใหสรางสรรคสินคาที่ทัน สมั ส ย ตรงกับความตองการของผูบริโภค รวมถึง ส สาวกแฟชั ่นเมืองปลาดิบ ในการเลือกเสื้อผาสไตล โตเกี โ ยว สตรีท แฟชั่น ที่ไมเพียงแตจะสนุกสนาน ไปกั ไ บการมิกซแอนดแมทช แตยังเปนการสรางสไตล ของตั ข วเองไดอีกดวย ดวยสภาพอากาศที่รอนมากกวาเย็นของ บบานเรา นอกจากผาฝายที่ใสสบายแลว เทรนด เ ‘โตเกียว สตรีท แฟชั่น’ เซตนี้ก็นาจะ ไปได ไ ดีกับถนนแฟชั่นในหลายจังหวัด •
กรุงเทพธุรกิจ 26 ธันวาคม 2553
18
กายใจ Beauty&Fashion
ใครจะ (หาย) หนาว...กวากัน มิโคล
นกรุงดีใจจะไดหนาว (จริง ๆ) เสียที... ลมหนาวมาลาปนี้ หองเสื้อแบรนดดังนําเสนอคอลเลคชั่น ฤดูใบไม รวง/ฤดูหนาว 2010 ที่หนุม ๆ สาว ๆ บานเรายินดีรับมาเก็บไวประจําตู เสื้อผาที่บาน จะใสปนี้ ปหนา หรือโอกาสที่ตองไปยํ่ายุโรป ในหลายเมืองที่หิมะ กําลังถลม หนานี้มีดีไซนใหหยิบยืม เริ่มที่ Diesel : อวดคอลเลคชั่น ‘ดีเซล แบล็ค โกลด’ เฉพาะปนี้เทานั้น นําเสนอเสื้อผาที่ดู งายแฝงความสบาย การตัดเย็บเฉียบคมดวยการซอนทับวัสดุ หรือใชสิ่งที่ตัดกัน สื่อถึงความซับซอนของผูหญิง เชน กระโปรงทรงเพรียว จั๊มพสูทจับคูหนังกับยีนส เดรสกํามะหยี่ซอนทับดวยผาโปรง หนังกลับกระโปรงไหลเดี่ยวผายืด แจคเก็ตนักบิด การ ตกแตงลายปกผสมโลหะกระโปรงผาขนสัตวฟอกขาว ยีนสแตงชายลุยขัดและขาดอยางงานฝมือ ตะเข็บตอกยํ้าดวยหมุดวินเทจ กับเครื่องประดับดุดัน AlX Armani Exchance : ‘เออรเบินไนทส’ คือคอลเลคชั่นรับฤดูใบไมรวงของ เอเอ็กซ อารมานี่ เอ็กซเชนจ ที่พาชาวเมืองเหินสูรัตติกาลแหงความเยายวน ชุดแนวทหารและเสื้อผาอนาคต ผสานเขากับอารมณโรแมนติกและความตื่นเตนยามราตรี เสื้อผาเนนโครงสรางสวยโก ดูเปน สตรีทแวร สปอรตแวร ที่เปรี้ยวและหวานไปพรอมกัน ผาจับเดรปตกแตงเพชรพลอย หมุดโลหะ แจคเก็ตนักบิดหญิง เลกกิ้งยอนยุคยาวแคขอเทา ยีนสฟอกกับแจคเก็ตตัวสั้น Balenciaga : ภูมิใจอวดกระเปาตระกูล Arena ที่บาเลนเซียกา บอกวาไดรับความนิยมตอเนื่อง จนกลายเปน IT BAG ที่ทุกคนตองมี โดยหนาวนี้เปลี่ยนเฉดสีใหม ผานการตัดเย็บอยางพิถีพิถัน เริ่ม จากการฟอกหนังใหนิ่มกอน ฟอกซํ้าอีกครั้งดวยนํ้ามันพิเศษ จากนั้นยอมสีและเคลือบซํ้าอีกครั้งดวย แว็กซ สวนลวดลายผานกระบวนการ kicker mill หรือการตีหนัง จุดประสงคเพื่อสรางลวดลายบน คอลเลคชั่น Diesel กระเปาใหออกมาไมเหมือนกัน เพื่อใหกระเปาแตละใบมีเอกลักษณเฉพาะตัว ซีซันนี้ขอแนะนํา Arena เสื้อประจํา ฤดูหนาวของ Black Gold Classique หมุดเล็ก รุนคลาสสิก ตัดเย็บจากหนังแกะ นํ้าหนักเบา รูปู ทรงเหลี่ยม รุนุ Arena giant ลาคอสท ฤดูใบไมรวง/ มีสี Sorbet แดงอมสมฉํ่าตา รุน Giant Pompon Cycladee สีนํ้าเงินอมฟา ฤดูหนาว 2010 กระเปาบาเลนเซียกา ดีไซนใหมลาสุดเปนกระเปาไซสเล็ก สายสะพายยาว คํานึงถึงการใชงานใน รุ น Giant Pompon Cyclade วันพักผอน 75,000.Lacoste : ครีเอทีฟ ไดเรคเตอร เสื้อจระเขเกาะอก ‘ลาคอสท’ Christophee Lemaire บอกวา “เปนเรื่องสําคัญมากที่เราตองนําแฟชั่นโชวมาสูราวแขวนใหได” หนาวนี้คน สรางสรรคจึงคิดถึง “ความมาก-นอยกับสัดสวนที่เกินขนาด” ไดเปนสเวต เตอร เดรส คอปดที่มว นขึ้นเปนฮูด จั๊มพสูทผาวูลเจอรซี่ สีแดงที่ใสไดตั้งแต หนาวนี้จนถึ น งฤดูใบไมผลิปนี้ หรือเสืสื้อ บาเลนเซียกา โปโลคลาสสิ โปโลคลา กผาวูล 2 ดาน ที่นํามา รุน Giant Hip Sorbet เล็มแลวขยายจนดู ข คลายเสื้อคลุมแนว นว ราคา 31,500.ระบําสเปน สเป หรือทําใหยาวขึ้นจนดูเปนแม็กซี่ เดรส ติดกระดุมุ เม็ดใหญ มีเดรสทรงกระบอกกับการเย็บขอบผาแบบ Cocktail length สวมทับ เสื้อโปโลแขนยาว โปโลแ เลกกิ้งที่มีขอบปลายขากวางเปนพิเศษ ทําใหแนบชิดกับสวนบนของรองเทา และสเวตเชิ และสเวต ้ตที่ยาวขึ้นจนสามารถสวมใสเปนมินิ เดรส ได โดยอาจเลือกเสื้อนี้เปนแบบคอปด เอวรวบ หรื ห อแบบผานิตเนื้อนุมมีขอบเอวขนาดใหญอยูตํ่าลงมาบริเวณสะโพก และคอเสื้อที่ ดึงลงมาอยู ลงมาอ เหนือชวงไหลได เปนสปอรตแวร นิตแวร และเดรสสีดําตัดสีดวยบล็อกกิ้งสีชมพู ฟูเชีย สีเหลื ห อง และสีเขียว Steve S Madden : สตีฟ แมดแดน แบรนดรองเทาอเมริกันสไตล จัดธีม BootieLicious คอลเลคชั ค ่นที่สูหนาวไดทุกรูปแบบ ไดแก บูตสนสูง สนเข็ม สนเตี้ย หรือแบบ Cassiee เปนบูตแพลตฟอรมผสานหนังกลับเขากับซิปสุดเปรี้ยว แบบ Jipiterr บูตหนังสีดํา ความยาวครึ ความยาวค ่งนอง เลนเลเยอรทับซอนดวยการพับหนังกลับลงมา งมา ยังมีไฮบูตสนเตี้ยเลนตะเข็บ กกบลวดลายสีเทศกาลคริสตมาส บูตผูกเชือกกั รองเทาสนสูงู ผูกู เชือก รองเทาคล็อกหนัง กลับสนไม ที่ไปกั ปกบยีนส แจคเก็ตหนัง เดรส ดรูป หรือชุดอะไรก็ไดที่คุณ เลกกิ้ง หรือเดรสรั คิดออก... ลมหนาวชวนขยั ลมหนาวชว บเนื้อ ตัวใหเตนไปตามจั ไปตามจงหวะของ เอเอ็กซ อารมานี่ แฟชั่น... • เอ็กซเชนจ
ค
คอลเลคชั่น ฤดูใบไมรวง 2010
กรุงเทพธุรกิจ 26 ธันวาคม 2553
บูตสุดเทจาก สตีฟ แมดแดน
ไข ม ก ุ แหงสายลมหนาว ขมุก ไมเคยตกยุค ไมมีเครื่อง ประดับอื่นใดที่นาถวิลหา เทา... หนาวนี้ ไขมุก มิกิโมโต (Mikimoto) เปดบูติคอวดเทรนด ไขมุกรับป 2011 ที่สยาม พารากอน พรอมดีไซนไขมุกสําหรับคริสตมาส และปใหม ใหคนรักไขมุกชื่นชม ในฐานะที่เปนราชินีแหงไขมุกจากญี่ปุน เทรนดนําสมัยกอนใครของปหนาแบงออกเปน 4 เทรนดใหญ ไดแก Multiple Strands of Pearl คือการใสสรอยมุกหลาย ๆ เสนซอนกัน มีความ สั้น-ยาวตางกัน ดีไซนจากการผสมผสานขนาดและ สีของไขมุก Pearl Bangle เทรนดยอนยุคที่กลับ มานิยมอีกครั้ง เนนดีไซน ชิ้นใหญ ๆ ดูโดดเดน เห็น เปนสงาและจดจําได ไดแก กําไลมุกเรียงรอย เปนแถวประกอบตัวเรือน แพลทินัม Gold is Black เปน เทรนดของสีทองที่มาแรงสุด ๆ จากปนี้ถึงปหนา เชน มุกประดับกับตัวเรือนทอง 18 เค มีทั้งไขมุก อะโกยาสีขาว ไขมุกเซาธซีสีขาวและสีทอง ออกแบบ เปนจี้ไขมุก ตางหู สรอยคอ โดยเฉพาะไขมุกสีทอง เปนไขมุกสีที่หายากที่สุด เกิดจากหอยมุก ขนาดใหญชื่อ Golden lipped เม็ดมุกมีขนาด 9.0 มิลลิเมตร ขึ้นไป พบไดในแถบแปซิฟก ตอนใต ตอ เชน ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย ฟลิปปนส และใช เวลานาน ราว 10 ป กวาที่มิกิโม โตจะรวบรวมมุกแตละ เม็ด ที่มีความมันวาว สี ที่สมํ่าเสมอไดคุณภาพ จนรอยเปนสรอยคอไขมุก สัก 1 เสน เทรนดสุดทาย Baroque Couture เปน ไขมุกรูปทรงธรรมชาติหรือฟรีฟอรม แตกวาจะได ตองคัดสรรคุณภาพของความเรียบเนียน เกลี้ยง เกลา เงางามทุกพื้นสัมผัส แมไขมุกบางเม็ดจะบูด เบี้ยว ไมกลม แตในสวนเวาโคงนั้นจะตองมีความ เรียบเนียนและสีเปลงประกาย เงางามเทาเทียมกันทั่วทั้งเม็ด ถือวาเปนไขมุกที่หายากยิ่ง กว ก าไขมุกแบบกลมเสียอีก นํนามาออกแบบเปนคอสตูม จิวเวลรี่ เชน ตางหู แหวน สสรอยคอ
ไ
ไขมุก คือความงามที่บันดาล จากผืนนํ้าสูเรือนรางอิสตรี อยางแทจริง... •
¡ÒÂ㨠20 Beauty&Fashion
ºÃÙàªçμμŒÒ
©ÅͧÊÕà¢ÕÂÇ - á´§
¾ÃŒÍÁºÍ¡ÅÒ¼ÔÇËǧâÃÂ..
»
“√åμ’È¥÷°‰ªÀ√◊Õ‡ª≈à“... À√◊Õ𗥇§“∑奓«πå°—π®π≈◊¡μ◊Ëπ ·μà‡¡◊ËÕ≈◊¡μ“¢÷Èπ¡“°≈“¬‡ªìπÀ¡’·æπ¥â“ ·≈â«∂â“μâÿ¬πâÿ¬ ‡æ√“–À¡Ë”¢π¡‡§â°©≈Õߧ√‘ μå¡“ ·≈–ªï„À¡à¡“°‰ª≈à– °Á... „™à‡≈¬ ·æπ¥â“μ—«πâÕ¬·Ààߪï°√–μà“¬ Õ¬à“‡≈¬ ªïÀπâ“øÑ“„À¡à ‡ªìπ°√–μà“¬«àÕ߉« ‡μ√’¬¡√—∫»—°√“™„À¡àÕ¬à“ß ¥„ °—π¥’°«à“ ‚Õ°“ ¥’‡™àππ’È¡’º≈‘μ¿—≥±å ’‡¢’¬«-·¥ß ∫Õ°„Àâ√⟫à“∂÷߇∑»°“≈ √◊Ëπ‡√‘ß°—π·≈â« ‰¥â·°à πÈ”ÀÕ¡ ‚©¡„À¡à º≈‘μ¿—≥±å∑”§«“¡ –Õ“¥º‘«À≈—ß°≈—∫®“°ß“π‡≈’È¬ß À√◊Õ§√’¡∫”√ÿߺ‘«·°âÕ“°“√ √à«ß‚√¬®“°ß“π‡§“∑奓«πå ‡≈◊Õ°„Àâμ—«‡ÕßÀ√◊Õ§π√⟄®‰¥â‡ ¡Õ ‚Õ°“ 摇»…¡“∂÷ߧÿ≥·≈â« ... ≈à“ ÿ¥ ‡Õ ‡μ ≈Õ‡¥Õ√å (Estee Lauder) ¢Õ·π–π” Time Zone Night Anti-Line/Wrinkle Creme
§√’¡∫”√ÿߺ‘«™à«ß°≈“ߧ◊π Ÿμ√∑√ßæ≈—ß ¡Õ∫§«“¡™àÿ¡™◊Ëπ àŸº‘« „À⇠âπ√‘È«·≈–√‘È«√Õ¬·≈¥Ÿ‡≈◊Õπ≈ß ¡’§ÿ≥ ¡∫—쑇©æ“–‡æ◊ËÕ∑”ß“π ¬“¡§Ë”§◊πÕ¬à“ßμ√ß®ÿ¥ ¥â«¬‡∑§‚π‚≈¬’≈È”ÀπⓉ¥â·°à 1.Sirtuin EX-1 ‡∑§‚π‚≈¬’≈‘¢ ‘∑∏‘χ©æ“– ™à«¬‡ √‘¡°“√øóôπ∫”√ÿߺ‘« μ“¡∏√√¡™“μ‘ 2.Amino Acid Complex Ÿμ√„À¡à „À⺑« ∑”ß“π‡μÁ¡ª√– ‘∑∏‘¿“欓¡§Ë”§◊π ‡æ◊ËÕ√—∫¡◊Õ°—∫‡ âπ√‘È«·≈– √‘È«√Õ¬„π™à«ß∑’˺‘«øóôπ∫”√ÿß„π™à«ß°≈“ߧ◊π 3.Tri-Hyaluronic Night Complex ‡¢â¡¢âπ Ÿμ√„À¡à‡æ◊ËÕμàÕ°√°—∫Õ“°“√º‘«¢“¥πÈ” μÕπ°≈“ߧ◊π æ√âÕ¡°—ππ’È ºâŸ‡™’ˬ«™“≠¥â“πº‘«¢Õß‡Õ ‡μ ≈Õ‡¥Õ√å „À⧫“¡√⟠‡°’ˬ«°—∫°“√πÕπ ‚¥¬ ◊∫§âπ¢âÕ¡Ÿ≈®“°‡«Á∫‰´μå¥â“π ÿ¢¿“æ·≈– §«“¡ß“¡ √«∫√«¡¡“„Àâ “« Ê ®—¥°“√∫√‘À“√°“√πÕπÀ≈—∫ ¢Õ߇√“„À≥âª√– ‘∑∏‘º≈‡μÁ¡∑’Ë μ◊ËππÕπ¢÷Èπ¡“®–‰¥â ¥„ ªï„À¡à·≈â« ®–ª“√åμÀ’È π—°Àπà«ß≈◊¡«—π≈◊¡§◊π ·μà∂â“√⟮—°¥Ÿ·≈ μ—«‡Õß ÿ¢¿“溑«°Á®–‰¡à√à«ß‚√¬ ‡™àπ
- °“√πÕπ §◊Õ‡«≈“∑’Ë√à“ß°“¬º≈‘삪√μ’π‡æ‘Ë¡¢÷Èπ §◊Õ°“√ √â“߇´≈≈庑« °√–∫«π°“√‡ √‘¡°“√º≈‘삪√μ’π®–‡ªìπ°“√ øóôπ∫”√ÿ߇π◊ÈÕ‡¬◊ËÕ·≈–‡´≈≈庑« Õ’°∑—Èß¡’ à«π ”§—≠„π°√–∫«π°“√®” ·≈– ¡“∏‘ - °“√Õ¥πÕπ Õ¬à“ßμàÕ‡π◊ËÕß®–‡æ‘Ë¡§«“¡‡ ’ˬߢÕß‚√§Õâ«π ‡∫“À«“π À—«„® ·≈–‚√§μ‘¥‡™◊ÈÕμà“ß Ê ·≈– àߺ≈μàÕ√–∫∫ ‰À≈‡«’¬π‡ âπ‡≈◊Õ¥ ∑”„À⇰‘¥Õ“°“√μ“∫«¡ ‡°‘¥∂ÿß„μâ쓉¥â - πÕπ‰¡à‡æ’¬ßæÕ Õ“®∑”„Àâ°“√º≈‘μ§Õ≈≈“‡®π¢Õߺ‘« ∑”ß“π™â“≈ß °“√πÕπÀ≈—∫„π∑ÿ°¢—ÈπμÕπ ¡’º≈‚¥¬μ√ßμàÕ°“√ ·Õπμ’ÈÕÕ°´‘·¥π∑å ´÷Ëß¡’º≈μàÕ°“√‡°‘¥º‘«√à«ß‚√¬°àÕπ«—¬ - Õÿ≥À¿Ÿ¡‘ª°μ‘¢Õß√à“ß°“¬ ‰¡à„™à 37 Õß»“ (Õ¬à“ß∑’ˇ¢â“„®) ºâŸ„À≠à∑—Ë«‰ª‡«≈“πÕπ™à«ß°≈“ߧ◊π Õÿ≥À¿Ÿ¡‘√à“ß°“¬®–≈¥≈ßμË” ∑’Ë ÿ¥™à«ß‡«≈“μ’ 4- μ’ 5 - Õÿ≥À¿Ÿ¡‘°“√πÕπ¢Õß√à“ß°“¬ ¡’º≈°√–∑∫‚¥¬μ√ß®“° ªØ‘°‘√‘¬“¢Õß· ß·¥¥·≈–§«“¡¡◊¥„π«ß®√¢Õß·μà≈–«—π ∑’Ë¡’μàÕ ‡¡≈“‚∑π‘π ŒÕ√å‚¡π∑’ˇ°‘¥¢÷Èπμ“¡∏√√¡™“μ‘„π ¡Õß §«“¡¡◊¥ ∑”„À⇡≈“‚∑π‘π‡æ‘Ë¡¢÷Èπ Õÿ≥À¿Ÿ¡‘√à“ß°“¬≈¥≈ß ∑”„ÀâπÕπÀ≈—∫ ßà“¬¢÷Èπ πÕπ¥÷°À√◊Õª“√åμ’ÈÀπ—°¢π“¥‰Àπ°Á¡’‡§√◊ËÕß¡◊Õæ√âÕ¡√∫ Õ¬à“≈◊¡®—¥√–∫∫°“√πÕπ¢Õßμ—«‡Õß„Àâ‡æ’¬ßæÕ ‚¥¬‡©≈’ˬ§◊Õ 6-8 ™¡. (¢÷ÈπÕ¬àŸ°—∫·μà≈–∫ÿ§§≈) ë ¹Ò§áºº¢Í§ àÍÊàμ ÅÍà´Íà Hilary Rhoda
ªØ´»Ã¹¹ÔºμÑ ¼Ô ÔÇ 4 ¢Ñ¹é μ͹ ÃѺ»‚ãËÁ‹ ¢Í§ DHC 䴌ᡋ ´Õ¾à¤Å¹«Ô§è ÍÍÂÅ , ʺ‹ã٠ʿͧ¤ÃÕÁÅÐàÍÕ´¹‹ÁØ , âŪѹè ÊÒÃÊ¡Ñ´¨Ò¡áμ§¡ÇÒ áÅÐÍÍÂÅ ºÓÃا¼ÔÇμŒÒ¹Í¹ØÁÅÙ ÍÔÊÃÐ ÃÒ¤Ò 3,390.- (»¡μÔ 4,930.-)
Time Zone Night Anti-Line/Wrinkle Creme ¨Ò¡ àÍÊàμ ÅÍà´Íà ¤ÃÕÁºÓÃا¼ÔÇ ÃѺÁ×͡ѺÃÔÇé ÃÍ ¢¹Ò´ 50 ml. 3,200.Botany Ambiance Diffuser ªØ´¡ŒÒ¹äÁŒËÍÁ ¨Ò¡ »˜−− »ÃØ Ô ã¹¢Ç´á¡ŒÇÊÕ¹éÓμÒŷͧÊÓËÃѺ »˜¡¡ŒÒ¹äÁŒËÍÁ ÁÕ 6 ¡ÅÔ¹è ËÍÁ 䴌ᡋ ÁÐÅÔ&ÁÔ¹é · ¡Ãдѧ§Ò&à¨ÍÃÒà¹ÕÂÁ à¡Ã¾¿ÃØμ&ÂÙ¤ÒÅÔ»μÑÊ μÐä¤ÃŒ&ÊŒÁ ᫹à´ÔÅÇŒ´Ù &Ë−ŒÒὡ áÅÐ ÂÙ¤ÒÅÔ»μÑÊ&ÅÒàǹà´Íà ÃÒ¤Ò 5,600.-
ªØ´»Ã¹¹ÔºÑμÔ¼ÔÇ 3 ¢Ñé¹ Must Have Kit (Daily Microfoliant Box Set) ¨Ò¡ Dermalogica 䴌ᡋ ¼§·Ó¤ÇÒÁÊÐÍÒ´ ¼ÔÇ˹ŒÒ¨Ò¡ÃÓ¢ŒÒÇ 75 ml., à¨ÅãÊŌҧ˹ŒÒ 50 ml. áÅÐ Active Moist 22 ml. âÅªÑ¹è ºÓÃا¼ÔÇà¹×Íé ºÒ§àºÒ ÃÒ¤Ò 2,600.(»¡μÔ 3,650.- ¶Ö§ 31 ¸.¤.53)
Pretty Day to Night ¨Ò¡ Clinique ªØ´àÁ¤ÍѾªØ´à´ÕÂÇ ÊÇÂä´Œ·Ñé§Åؤ ·Ó§Ò¹¨¹¶Ö§Åؤ»Òà μÂÕé ÒÁ¤èӤ׹ μѧé áμ‹à»Å×Í¡μÒ ¾Ç§á¡ŒÁ ÁÒʤÒÃ‹Ò áÅÐÅÔ»ÊμÔ¡ ÃÒ¤Ò 1,800.-
Apple a Day Holiday Set ¨Ò¡ DKNY Be Delicious »ÃСͺ´ŒÇ Eau de Toilette Spray 100 ml., ºÍ´Õâé Ūѹè 100 ml. áÅйéÓËÍÁ¢¹Ò´ ¾¡¾Ò㹡ŋͧÊÕà¢ÕÂÇàÁ¸ÑÅÅÔ¤ ÃÒ¤Ò 3,850.-
ë 26 2553
à«μ¢Í§¢ÇÑ−ÃѺ»‚¡ÃÐμ‹Ò Botany Ambiance Mist Êà»Ã ËÍÁ㹢ǴᡌÇÊշͧ ÅÒÂÇԹ෨ÊäμÅ μÐÇѹÍÍ¡¨Ò¡ »˜−− »ÃØ Ô ã¹ªØ´ÁÕ 3 ¡ÅÔ¹è ËÍÁ ¨Ò¡ËÁ‹ÁÙ ÇÅ´Í¡äÁŒ ÃÒ¤Ò 2,500.-
¹éÓËÍÁ RL Green #3 ¨Ò¡ Ralph Lauren ÃÇÁ¡ÅÔ¹è ËÍÁàÃŒÒ㨢ͧ ÊÐÃÐá˹‹áÅТԧ »ÃСͺ´ŒÇ Big Pony No.3 EDT 125 ml. áÅЪÒÇàÇÍà à¨Å 200 ml. ÃÒ¤Ò 3,750.- (»¡μÔ 4,650.-)
Kisses from the Heart ¨Ò¡ Clinique ªØ´¢Í§¢ÇÑ−ÊÓËÃѺ¤¹¾ÔàÈÉ »ÃСͺ´ŒÇ Êà»Ã ¹éÓËÍÁ 50 ml. ºÍ´Õé¤ÃÕÁ 75 ml. ÁÔ¹ÔÅÔ»¡ÅÍÊ SPF15 2 á·‹§ ¡Ñº¾Ç§¡Ø−ᨠÃÒ¤Ò 2,500.Fresh Blossom Holiday Set ¨Ò¡ DKNY Be Delicious Fresh Blossom ¹éÓËÍÁÊÓËÃѺË−Ô§ÊÒÇ ·Õºè ͺºÒ§Í‹Í¹ËÇÒ¹ »ÃСͺ´ŒÇ Eau de Toilette Spray 50 ml. áÅÐàªÒàÇÍà à¨Å 100 ml. ÃÒ¤Ò 2,550.-
¹éÓËÍÁ¡ÅÔ¹è à«ç¡«Õè ÃÇÁ¡ÅÔ¹è àÂŒÒÂǹ¢Í§ªçÍ¡â¡áÅμáÅÐÁÑÊ¡ RL Red #2 ¨Ò¡ Ralph Lauren »ÃСͺ´ŒÇ Big Pony No.2 EDT 125 ml. áÅЪÒÇàÇÍà à¨Å 200 ml. ÃÒ¤Ò 3,750.- (»¡μÔ 4,650.-)
22 ¡ÒÂ㨠Beauty&Fashion ÁÔÊàμÍà ´ºÑ àºÔÅÂÙ ÀÒ¾ : á¾ÃÊÔÃ¹Ô ¸Ã ¹Ñ¹ҹ¹·
ÃÐÂйէé Ò¹»Òà μ©Õé ÅͧÃѺà·È¡ÒÅáË‹§¤ÇÒÁÊØ¢ÃѺ»‚ãËÁ‹ÍÒ¨¨ÐÊ‹§à·ÕºàªÔ−ÁÒ¶Ö§¤Ø³ËÅÒ¹Ѵ ¨Ðá싧μÑÇÍ‹ҧäÃä»Ê¹Ø¡ä»ÊѧÊÃä ¤Óμͺ§‹ÒÂæ ¤×Í á싧μÑÇÍ‹ҧ·Õ¤è ³ Ø ÃŒÊÙ ¡Ö ÁÑè¹ã¨ã¹μÑÇàͧ ¾ÃŒÍÁ¡Ñº ãËŒà¡ÕÂÃμÔ à¨ŒÒ¢Í§§Ò¹´ŒÇ ¶ŒÒÊѧÊÃä ã¹ËÁ‹àÙ ¾×Íè ¹Ê¹Ô·¤Ø³ÍÒ¨ÁÕ¤Óμͺã¹ã¨ áÅŒÇÇ‹Ò¨Ðá싧μÑÇẺä˹ áμ‹¶ÒŒ ໚¹»Òà μ¡Õé §Öè ÍÍ¡§Ò¹Êѧ¤ÁáÅŒÇÂѧ¹Ö¡äÁ‹ÍÍ¡Ç‹Ò¨Ðá싧μÑÇẺä˹´Õ á¿ªÑ¹è ¿Íà àÁ¹ ©ºÑº¹Õ¾ é Ò仺ء§Ò¹ Men Intrend Man of The Year 2010
¹Í¡¨Ò¡ÃÒ§ÇÑÅ 11 ÊÒ¢Ò á¿ªÑ¹è âªÇ 㹧ҹ¡ç·Óãˌ䴌á¹Ç¤Ô´ã¹¡ÒÃá싧μÑÇà·‹æ ÍÍ¡§Ò¹»Òà μàÕé ¾Õº Í‹ҧáá ¤×Í àÊ×Íé ¼ŒÒâ·¹ÊÕà·Ò ÊÕຨ ÊÕ¹éÓμÒÅ ÊÕ´Ó Âѧ¤§·ÓãËŒ¼ªŒÙ Ò´ٴãÕ ¹§Ò¹Êѧ¤Á àÅ×͡ᨠ¤à¡çμÍÍ¡§Ò¹ä´Œμ§Ñé áμ‹Ê·Ù ÊÙ·ÅÓÅͧ 仨¹¶Ö§á¨ ¤à¡çμῪѹè à¾ÔÁè ¤ÇÒÁà·‹´ÇŒ Âä· áÅÐâºä·áÅŒÇáμ‹âÍ¡ÒÊ
¼ŒÙªÒÂÍÔ¹à·Ã¹´ 㹧ҹ»Òà μÕé
§
“π¡Õ∫√“ß«—≈·Ààߪï„Àâ°∫— Àπà¡ÿ ¡’ ‰μ≈å ºâ¡Ÿ ∫’ §ÿ ≈‘°‚¥¥‡¥àπ ·≈– √â“ß ·√ß∫—π¥“≈„®®“°À≈“°À≈“¬«ß°“√ ¥Ÿμ«— Õ¬à“ß°“√‡≈◊Õ°‡ ◊ÕÈ ºâ“ ”À√—∫·μàßμ—« ÕÕ°ß“πª“√åμ¢’È Õß∫√√¥“™“¬Àπà¡ÿ ∑’‡Ë ¢â“μ“ ‡¥Õ– ¡Õ≈≈å °√äªÿ ·≈–π‘μ¬ “√ Wallpaper ∑’Ë ‡ªìπ‡®â“¿“æ™à«¬°—π®—¥ß“ππ’„È π§Õπ‡´ªμå Bangkok Gentlemenûs Night Out Party ª“√åμ√’È «¡‡´‡≈∫Õ‘π‡∑√π¥å‰«â¡“°¡“¬ ®“°√“ß«—≈ Men Intrend ®”π«π 11 “¢“ ≈Õß¡“¥Ÿμ—«Õ¬à“ß°“√·μàß°“¬®“° ºâŸ‰¥â√—∫√“ß«—≈„π “¢“ The Legend Maker by Daks ´÷Ëß¡Õ∫„Àâ°—∫™“¬Àπàÿ¡∑’Ë¡’º≈ß“π ‚¥¥‡¥àπ·≈– √â“ßμ”π“π„À¡à‰¡à´È”„§√ ‰¥â·°à √æ®πå ‡μ™–‰°√»√’ π—°∏ÿ√°‘®Õ —ßÀ“√‘¡∑√—æ¬å ¥â«¬§«“¡∑’ˇªìππ—°∏ÿ√°‘®μâÕß·μàßμ—«
‡ªìπ∑“ß°“√·∑∫®–μ≈Õ¥‡«≈“ ®÷ß¡—°®–‡≈◊Õ° ‡ ◊ÈÕºâ“∑’ˇπâ𧫓¡ ÿ¿“æ ‚¥¬ª°μ‘®–„ à‡ ◊ÈÕ‡™‘Èμ ’¢“«‡ªìπÀ≈—° ¡’‡ ◊ÈÕ‡™‘Èμ ’¢“«¡“°°«à“ 20 μ—« ®÷ß„™â«‘∏’‡æ‘Ë¡ ’ —π„Àâμ—«‡Õß∑’Ë°“߇°ß ¡’°“߇°ß À≈“¬‡©¥ ’ ∑—Èß‚∑π‡¢â¡·≈–‚∑πÕàÕπ Õ’°∑—Èß ‡≈◊Õ°„ à Ÿ∑μ“¡ß“π ‡™àπ ß“π°≈“ߧ◊π„ à Ÿ∑ ‡¢â¡ ß“π°≈“ß«—π‡≈◊Õ° Ÿ∑ ’ÕàÕπ ’∑’Ë™Õ∫®– ‡ªìπ‚∑π ’πÈ”‡ß‘πÀ√◊Õ ’øÑ“ ‚¥¬ à«πμ—«™Õ∫ ‡π◊Èպ⓫Ÿ≈ ”À√—∫ Ÿ∑ ‚¥¬ Ÿ∑¢Õ߇¢“π—Èπ à«π¡“°®– —Ëßμ—¥ ‡π◊ËÕß®“°®–‰¥â ∑Ÿ ∑’ËæÕ¥’μ—« ‡≈◊Õ°·∫∫‰¥âμ√ß°—∫§«“¡μâÕß°“√ à«π¡“° ‡πâπ‡ ◊ÈÕºâ“∑’ˇ√’¬∫ßà“¬ ·μà¡’≈Ÿ°‡≈àπ∑’Ëπ“Ñ°“ À√◊Õ√Õ߇∑Ⓡªìπ·Õ ‡´ ‡´Õ√’ˇ √‘¡ √“ß«—≈ “¢“ The Breathtaking Gentleman by Arrow ∑’¡Ë Õ∫„Àâ°∫— ÿ¥¬Õ¥ ÿ¿“æ∫ÿ√…ÿ ¡’ ‰μ≈å ‡æ’¬∫æ√âÕ¡∑—ßÈ Àπâ“μ“
ǧ Buddha Bless ÍÍ¡§Ò¹´ŒÇÂà·Ã¹ª ⤌μ-àÊ×éÍÂ×´ ¤ÍÇÕ-àªÔμé -ÊÙ·Êѹé
Á³±Å ¨ÔÃÒ ÊÇÁÊÙ·¾Ô¹ÊμÃÔ»· ÃѺÃÒ§ÇÑÅÊÒ¢ÒÊØ´Âʹ˹‹ÁØ ÊØ´ÎÔ¾
ë 26 2553
Êþ¨¹ àμªÐä¡ÃÈÃÕ ÊÙ·ÊÕࢌÁáμ‹ ÍÔ¹à·Ã¹´ ´ÇŒ  ÊÙ·¡ÃдØÁÊͧàÁç´ à¨Â Ê໹à«Íà ¤ØÁâ·¹ÊÕࢌÁ à¾ÔÁè ÅÙ¡àÅ‹¹·Õàè ªÔμé áÅÐä·ÅÒ·ҧ
™“μ‘μ√–°Ÿ≈ ·≈–§«“¡ “¡“√∂ ‰¥â·°à ‡®¬å ‡ªπ‡´Õ√å π—°∫√‘À“√Àπà¡ÿ ≈Ÿ°§√÷ßË ‰∑¬-Õ—ß°ƒ… ‡§¬∑”ß“π„π·«¥«ß°“√‡ß‘π·≈⫺—πμ—«‡Õß¡“ ∫√‘À“√ß“π¥â“π √â“ß √√§åß“πÕÕ°·∫∫ ‚¥¬ Õ“™’æ·≈–Àπâ“∑’°Ë “√ß“π·≈â«¡—°ÕÕ°ß“π¥â«¬
ªÔ¹ÀÒ³Ø Í¸ÔªÒ¸¹º´Õ ÊÙ·ÊÕà·Ò à´‹¹ μçâºä·ÊÕÊ´ ÃѺÃÒ§ÇÑÅ˹‹ÁØ ÁÕÊäμÅ ã¹áǴǧ´Õ䫹 áÅФÃÕàÍ·Õ¿
â·¹Õè ÃÒ¡á¡‹¹ »Òà μ´Õé ÇŒ ÂÊàÇμàμÍà ¤ÍÇÕÊáÕ ´§·ÑºàªÔμé ÊÕà·Ò àÅ×͡ᨠ¤à¡çμ ÊÕ´ÓÁѹ ¤Ãºà¤Ã×Íè §´ŒÇÂâºä·
‡ ◊ÕÈ ºâ“‚∑π ’‡¢â¡‡ ¡Õ ™Õ∫·μàßμ—«·∫∫‡√’¬∫Ê ‡≈◊Õ°„ à ∑Ÿ ·∫∫ ∫“¬Ê ‚∑π ’¥”-‡∑“ ‰¡à¡≈’ “¬ ·μàÕ“®®–¡’æ«°‡¢Á¡¢—¥À√◊Õ√Õ߇∑â“∑’‡Ë ªìπ ’ π— ¥„ ‡æ‘¡Ë ‡¢â“¡“„π∫“ß‚Õ°“ √“ß«—≈ “¢“ The Kinetic Crew by Croquis ¡Õ∫„Àâ°—∫«ß¥πμ√’π—°√âÕßÀπàÿ¡ ºâŸ¡’æ≈—ß ·≈– ‰μ≈å°“√·μàßμ—«™—¥‡®π ‰¥â·°à «ß Buddha Bless ´÷Ëß “¡π—°√âÕßπ” π∑’ ‡Õ°«‘®‘μ√, °‘μμ‘æß…å §” “μ√å ·≈– ÿ√π—πμå ™àÿ¡∏“√“∏√ ‡≈◊Õ°·μàßμ—«ÕÕ°ß“π¥â«¬ ‡™‘Èμ¢“«§≈“ ‘° §≈ÿ¡∑—∫¥â«¬§“√契·°π·≈– Ÿ∑μ—« —Èπ‚∑π ’‡¥’¬«°—π ‡∑√π™å‚§âμ-‡ ◊ÈÕ¬◊¥ §Õ«’ ·≈–‡∑√π™å‚§âμ·π«∑À“√-‡™‘Èμ √“ß«—≈∑’Ë¡Õ∫„Àâ°—∫Àπàÿ¡‰Õ§Õπ¥â“π °“√·μàßμ—« ·≈–∑√ߺ¡‚¥¥‡¥àπ¡’ ‰μ≈å À√◊Õ The Common Muse by Project1.1 by Greyhound ¡Õ∫„Àâ°—∫ ‚∑π’Ë √“°·°àπ ´÷Ë߇ªìπ∑—Èß·Œ√å ‰μ≈‘ μå π—°· ¥ß·≈–𓬷∫∫ ·§à¥Ÿ°“√·μàßμ—«¢Õߺ⟡“√—∫√“ß«—≈°Á‰¥â ·π«§‘¥„À¡àÊ „™à¬àÕ¬ ë
กายใจ Beauty&Fashion
24
เรื่อง/ภาพ พี-พี
อยูกับธรรมชาติ คือที่ออฟฟศในฝนของคนทํางาน โดยแท ไมเพียงแตมีหองทํางานที่ เปนระเบียบสวยงาม ปลูกตนไมได มีระบบหมุนเวียนอากาศไดเปนอยางดี ยัง มีสปา ฟตเนสเซ็นเตอร สระวายนํ้า คาเฟที่ ใหบริการอาหารสุขภาพ ยังไมนับรวมดีไซน ของอาคารและสภาพแวดลอมที่เต็มไปดวย ธรรมชาติ ฝนกลางวันของใครหลายคน มีภาพ ปรากฏใหเห็นเปนจริงแลวที่ แบลคมอรส แคมปส ประเทศออสเตรเลีย บริษัท แบลคมอรส จํากัด กอตั้งขึ้นเมื่อ ป พ.ศ.2473 โดย มร.มอริช แบลคมอรส ผูมี ความมุงมั่นในการดูแลและเสริมสรางสุขภาพ รางกายในเชิงธรรมชาติบาํ บัด โดยการนํา ภูมิปญญาดั้งเดิมมาผสานกับหลักวิทยาศาสตร และรักษาสิ่งแวดลอมใหคงอยูอยางยั่งยืน แนวคิดนี้ เขาไมไดคิดเพียงอยางเดียว เขาลงมือปฏิบัติและสืบทอดปรัชญาดังกลาว ใหกับผูบริหารในยุคปจจุบัน ดวยเหตุนี้ ผลิตภัณฑอาหารเสริมของแบลคมอรสจึงเปน แบรนดที่มีชื่อเสียงในระดับโลกโดยเฉพาะที่ ประเทศไทย ปที่แลว แบลคมอรส ไดยายออฟฟศไป อยูที่เมือง Warriewood ทางตอนเหนือของ
นี่
กรุงเทพธุรกิจ 26 ธันวาคม 2553
หาดซิดนีย อาคารหลังใหมไดรับการออกแบบ ใหเปนมิตรกับสิ่งแวดลอมทั้งภายในและ ภายนอก รวมไปถึงระบบพลังงานที่เนนแสง ลม จากธรรมชาติใหมากที่สุด บริเวณดานหนาของอาคารรมรื่นไปดวย ตนไมใหญ มองทีแรกเผลอคิดวาเปนมุมพัก ผอนในสวนสาธารณะ มีพนักงานหลายคนมา นั่งรับแดดอุนๆ บางก็อานหนังสือ บางก็นั่งหา ไอเดียใหมๆ การเดินเขาสูอาคารจะตองผานสะพาน ไมเล็กที่สองขางเปนธารนํ้าตื้นๆซึ่งนอกจากจะ ใหความเย็น สดชื่นแลว ยังเปนสวนหนึ่งของ ระบบการนําประโยชนจากพลังงานธรรมชาติ มาใชรวมไปถึงการดูแลบําบัดนํ้าเสียกอนสูทอ นํ้าทิ้งอีกดวย ใกลกับธารนํ้าเปนสวนสมุนไพร ที่ปลูกไวเพื่อการศึกษา ภายในอาคารสวางไสวดวยแสงสวางจาก แสงแดดที่มีมากมายในประเทศนี้ ไมวาจะเปน สวนของออฟฟศ หองประชุม คาเฟ ลวนแลว แตออกแบบใหแสงไดทําหนาที่ของมันอยาง เต็มที่ เชนเดียวกับลม ระบบการถายเทอากาศ และความเย็นไดรับการออกแบบไวใหพรอม รับกับความหนาวเย็น และเมื่ออากาศอบอุน โดยอาศัยลมและอากาศธรรมชาติในฤดูกาลที่ เหมาะสม
ลดความเครียด ดวยวิธีธรรมชาติ
การใหความสําคัญของสภาพแวดลอม ในที่ทํางาน รวมไปถึงสุขภาพนั้น เห็นไดจาก การเปดศูนยสุขภาพขึ้นสําหรับพนักงาน โดย มีบริการสปา ฟตเนส และคาเฟที่เสิรฟอาหาร สุขภาพ โดยมีวิตามินใหรับประทานไดฟรี จึงไมแปลกใจเลยที่พนักงานที่นี่เต็มไป ดวยรอยยิ้ม และความกระตือรือรนในการ ทํางานอยูเสมอ อีกไมกี่วันปเกาก็จะหมดไป เรามาเริ่ม ตนปใหมดวยการจัดโตะทํางานใหเขาที่เขาทาง อยางนอยก็เพื่อสะดวกในการหยิบจับคนหา ความสะอาดสะอานนําพาไปสูสุขภาพที่ดีงาม ทั้งกายและใจ ใครที่เคยคิดวา บรรยากาศของสถานที่ ทํางานไมมีความสําคัญ หรือ ไมจําเปนตอความ คิดสรางสรรค และสุขภาพของพนักงานเปน เรื่องรองๆ ไดเห็นตัวอยางของแบลคมอรสแลว หวังวาคงจะไดไอเดียดีๆสําหรับการเริ่มตนป ใหม ที่แลวก็แลวไป เริ่มใหมไดเสมอหากเรามี “ใจ” จริง •
ความเครียดทําใหรางกายสูญเสีย วิตามินบี และวิตามินซีได การรับประทาน วิตามินบีรวมและวิตามินซีจึงชวยผอน คลายความเครียดได และเพื่อใหเกิดผลที่ ดีที่สุดควรเสริมแมกนีเซียมดวย จะชวยลด อาการตึงเครียดของกลามเนื้อซึ่งเกิดจาก ความเครียดได ใชสมุนไพรที่มีสรรพคุณชวยระงับ ประสาท เชน วาเลอเรียน (Valerian) ดอกเสาวรส (Passion flower) และฮอบส (Hops) ชวยลดความตึงเครียด ความวิตก กังวล โดยมีฤทธิ์เปนยากลอมประสาทออนๆ หากใชในปริมาณไมมากก็ไมสงผลกระทบให เกิดอาการงวงซึมในเวลากลางวัน จึงสามารถ ใชไดกับคนที่เครียดจากการทํางาน เครียด จากการเรียนหรือการสอบ ทําใหผอนคลาย จิตใจสงบ และนอนหลับงายขึ้น ถาคุณมีอาการวิตกกังวล ลองใชสมุน ไพรไฮเปอรริคัม ( Hypericum) ซึ่งไดรับ การพิสูจนทางคลินิกแลววาชวยบรรเทา อาการวิตกกังวลได •
ที่มา : เคล็ดลับสุขภาพจากแบลคมอรส ประเทศไทย
¡ÒÂ㨠26 Beauty&Fashion
àÍ×Íé ¾Ñ¹¸ Ø
ã¤Ãæ ¡ç¾Ù´¶Ö§ “ÊÒÃÊÕ” 㹼ѡ¼ÅäÁŒ ãËŒ¡Ô¹¼Ñ¡ ÇѹÅÐ 5 ÊÕ ¶ŒÒ·Óä´Œ ËÃ×ÍÅͧÁÍ§Å§ä» Ë¹ŒÒ¨Ò¹¢ŒÒÇ·Õ¡è ÓÅѧ¨Ð¡Ô¹ ËÒãˌ䴌ËÅÒÂæ ÊÕ áŌǤ‹ÍÂËÁèÓ...
≈Ÿ°À¡àÕπ ¡—¬°àÕπ‡¢“§ß°‘π‡≈àπÊ ·μàμÕππ’È μâÕß°‘π®√‘ßÊ ‡æ√“–„Àâ “√Õ“À“√∑√ߧÿ≥§à“ ‡ªìπæ◊™æ◊πÈ ∂‘πË ∑’‡Ë ÀÁπ°—π‡π‘πË π“π · ¥ß«à“∫â“π‡√“°Á¡’º≈‰¡â®”æ«° ç‡∫Õ√å√’é ∑’ËÀ“°‘πßà“¬ √“§“‰¡à·æß ‰¡àμâÕ߉ª °‘π “√æ—¥‡∫Õ√å√’π”‡¢â“ ≈Ÿ°À¡àÕππ’Ë·À≈–°‘π¥’ ∑—Èß ¥ ·≈–∑”·¬¡ ‰«πå ‡À≈â“ ∑”πÈ”º≈À¡àÕπ §—Èπ ¥ À√◊Õ„ à„π‡∫‡°Õ√’Ëμ—Èß·μà擬 ∑“√åμ ¡—øøîòπ §ÿ°°’Èμà“ßÊ π’˧π‡√“·¬àßÀπÕπ°‘π À¡àÕπ°—πÀ√◊Õ‡ª≈à“ ÀπÕπ‰À¡μâÕß°‘π
‡μ‘∫‚μ·ºà°‘Ëß°â“πÕÕ°‰ª§≈⓬μâπ‰∑√ «¬ß“¡ Õ∫Õàÿπ ¡’§π∫—π∑÷°‰«â„π∫≈ÁÕ°«à“‡®ÕμâπÀ¡àÕπ À√◊Õ¡—≈‡∫Õ√å√’ „π·∂∫μ–«—πμ°¢Õß‚´‚π¡“ „π√—∞·§≈‘øÕ√å‡π’¬ π—∫‰ªπ—∫¡“Õ“¬ÿ∂÷ß 135 ªï ¡’§π‡≈à“«à“ª≈Ÿ°®“°‡¡≈Á¥À¡àÕπ∑’Ëπ”‡¢â“®“° Ω√—Ë߇» ·≈– ‡ªπ ‡æ◊ËÕ„™â„∫‡≈’Ȭßμ—«‰À¡ ∑’Ëπ”‡¢â“¡“®“°‡Õ‡™’¬ ¢â“¡‰ª‡Õ‡™’¬‡Àπ◊Õ ∑’Ë®’π ¡’μâπÀ¡àÕπÀ≈“¬ ªï™’ π—°«‘∑¬“»“ μ√凧¬®—∫ ¡“«‘®—¬ “√Õ“À“√„π≈Ÿ°À¡àÕπ æ∫«à“ «‘μ“¡‘π ·√à∏“μÿ·μ°μà“ß°—πÕ¬à“ß¡“° ®“° “¬æ—π∏åÿ∑’Ë
™–≈Õ«—¬ ™–≈Õ§«“¡‡ ◊ËÕ¡¢Õß√à“ß°“¬ μâ“π¡–‡√Áß∫“ß™π‘¥ ¡’‰ø‡∫Õ√å ‡ªìπ “√ ’ ‡æ◊ËÕ ÿ¢¿“æ ¥—ßπ—Èπ ≈Ÿ°À¡àÕπ®÷ߌ‘μ°≈“¬‡ªìπ «‘μ“¡‘π‡¡Á¥ À√◊Õ‡μ‘¡„πÕ“À“√ ‡§√◊ÕË ß¥◊Ë¡ ∑’ˇ√’¬°«à“ Funtional Food À√◊Õ Medicinal Food ¬°μ—«Õ¬à“ß ´’‡√’¬≈∑’Ë‡μ‘¡‰ø‡∫Õ√å ‚¬‡°‘√åμ∑’ˇæ‘Ë¡·∫§∑’‡√’¬∑’ˇªìπª√–‚¬™πå ‡§√◊ËÕߥ◊Ë¡‡æ‘Ë¡‚ª√μ’π∫“ß™π‘¥ °‘π·≈⫧«“¡ ®”¥’ ‡ªìπμâπ À¡àÕπ¡’À≈“¬ ªï™’Õ¬à“ß∑’Ë«à“ à«π„À≠à
ÅÙ¡ËÁ‹Í¹...ËÁèÓÍËÍ Ê
“√ ’π ’È ”§—≠¥â«¬π—°‚¿™π“°“√μ—Èß™◊ËÕ „À¡à«à“ ‰ø‚μ𑫇∑√’¬π∑å ´÷Ëß°Á§◊Õ æƒ°…‡§¡’ À√◊Õ Phytochemical ∑’ˇ§¬æŸ¥∂÷߇¡◊ËÕÀ≈“¬ ‘∫ªï°àÕπ μÕππ’È¡“‡√’¬° ™◊ËÕ„À¡à·≈â«·¬°º—°º≈‰¡âÕÕ°‡ªìπ 5 ’ ·μà≈– ’¡’§ÿ≥ ¡∫—μ‘„Àâ§ÿ≥ª√–‚¬™πåμàÕ√à“ß°“¬ ¥—ßπ—Èπ„§√°‘πÕ“À“√øÕ° ’ À√◊Õ¡’ ’®“° “√‡§¡’æ÷ß√–«—ß ‰¡à„™à ’¢“« Ê π–‡æ√“– “√ ’¢“«„πº—°º≈‰¡â°Á¡’ª√–‚¬™πå ‡™àπ „π°–À≈Ë”ª≈’ °√–‡∑’¬¡ ÀÕ¡„À≠à ∏—≠æ◊™ ∫“ß™π‘¥ æ«°π’È°Á‡ªìπ ’¢“«≈â«πÊ ·≈â« “√ ’∑’Ë¥·Ÿ ≈⫇¢â¡¢âπ‰¥â„® °‘π‡¢â“‰ª μâÕ߉¥â«‘μ“¡‘π‡¬Õ–·¬–·πà‡≈¬ ‰¥â·°à ’¡à«ß πÈ”‡ß‘π ·¥ß‡¢â¡®π∂÷ß ’¥” ∑’Ë¡’¡“°¡“¬„π‚≈°π’È ·μà®–‰¥â°‘π°—πÀ√◊Õ‡ª≈à“ ‡™àπ ¢â“«‡À𒬫¥” ¢â“«¡—πªŸ °–À≈Ë”ª≈’¡à«ß ‡ª≈◊Õ°¡—ߧÿ¥ ¡–‡¢◊Õ¡à«ß Õ–‰√∑’Ë¡—π¥”Ê ·¥ßÊ §π¬ÿ§„À¡à ‡¢“®–‡Õ“‡¢â“‚√ßß“π¢—¥øÕ° ’‡ ’¬¢“« «¬ Õ“À“√‰¡à‡À¡◊Õπ μ√’π– ∑’ËμâÕߢ“«°√–®à“ß ‡ªìπ‰«∑å‡∑ππ‘Ëß ·≈– “√ ’·¥ßÕ¡¡à«ß ’πÈ”‡ß‘π ∑’ˇ¢â¡®π¥”∑’ËμÕππ’ÈŒ‘μπ—°§◊Õ ≈Ÿ°À¡àÕπ À√◊Õ º≈À¡àÕπ Ω√—Ë߇√’¬° Mulberry ∂Ⓣª ¿“§‡Àπ◊Õ§π·∂«π—Èπ‡¢“§âÿπ‡§¬¥’ ‡æ√“–ª≈Ÿ° À¡àÕπ‡ªìπ·π«√—È«°—π≈¡ ‡Õ“„∫À¡àÕπ‡≈’È¬ß ÀπÕπ‰À¡ À√◊Õ‡¥Á¥„∫À¡àÕπ¡“∑”„∫™“
ë 26 2553
„∫À¡àÕπ à«π§π°‘π∑—Èß„∫·≈–≈Ÿ°À¡àÕπ °√–®‘√‘¥ À«“π´àÕπ‡ª√’Ȭ« Õ√àÕ¬ ¥©Ë” À¡àÕπ À√◊Õ ¡—≈‡∫Õ√å√’ πà“®–‡ªìπμâπ‰¡â ∑’ˇ°‘¥‰ª∑—Ë«‚≈° π—°æƒ°…»“ μ√å‡√’¬°«à“ Morus À√◊Õ Murus ”√«®·≈â«æ∫«à“ ¡’μ√–°Ÿ≈¢Õßæ◊™ª√–‡¿∑‡¥’¬«°—ππ’ȇμ‘∫‚μ ‰ª∑—Ë«∑ÿ°∑«’ª ¡’√“« 10-16 ªï™’ ∑’ˇªìπ∑’Ë√⟮—° ·μà “¬æ—π∏åÿπ—Èπ¡’¡“°√“« 150 “¬æ—π∏åÿ ™Õ∫Õ“°“»Õ∫Õàÿπ·≈–¿Ÿ¡‘Õ“°“»°÷Ëß√âÕπ™◊È𠇙àπ∑’Ë¿“§‡Àπ◊Õ¢Õ߉∑¬ª≈Ÿ°μâπÀ¡àÕπ‰¥âº≈¥’ „π‡Õ‡™’¬ ·Õø√‘°“ Õ‡¡√‘°“ °Á¡’μâπ¡—≈‡∫Õ√å√’ μ—Èß·μà™π‘¥∑’ËΩ√—Ë߇√’¬°«à“ Plant μâπ‡≈Á°Ê Õ¬à“ß∫â“π‡√“ª≈Ÿ°‰«â π”„∫‰ª‡≈’ȬßÀπÕπ‰À¡ ∂â“μâπ‚μ¢÷Èπ¡’Õ“¬ÿ¬◊𬓫¢÷Èπ‡√’¬°«à“ Tree ¡’Õ“¬ÿ‰¥âπ—∫‡ªìπ√âÕ¬ªï μâπÀ¡àÕπ∑’ËÕ“¬ÿ¬◊𬓫
·μ°μà“ß°—π ‚¥¬πÈ”º≈À¡àÕπ§—Èπ ¥¡’πÈ”μ“≈ ·≈–«‘μ“¡‘π·μ°μà“ß°—π √–À«à“ß 148 2,725 ¡‘≈≈‘°√—¡ μàÕ≈‘μ√ ‚¥¬ “√ ”§—≠§◊Õ ·Õπ‚∏‰´¬“π‘𠇧«Õ∑‘´‘π “√ ’¡à«ß ·¥ß°Ë” ·≈–πÈ”‡ß‘𠇪ìπ “√·Õπμ’ÈÕÕ°´‘·¥π∑å
®–·∫àß°«â“ßÊ ÕÕ°‡ªìπ ¡—≈‡∫Õ√å√’‡Õ‡´’¬ ‰¥â·°à ‰™π’ ¡—≈‡∫Õ√å√’, Œ‘¡“≈“¬—π ¡—≈‡∫Õ√å√’, ‰«∑å ¡—≈‡∫Õ√å√’ ∑’ˇ¡◊ËÕÕàÕπ ’‡¢’¬« ÿ°¡’ ’¢“«, Õ‘π‡¥’¬ ¡—≈‡∫Õ√å√’ ®“°ª√–‡∑»Õ‘π‡¥’¬ ·∫≈Á§ ¡—≈‡∫Õ√å√’ ·≈–¡—≈‡∫Õ√å√’ ’·¥ß ª“°’ ∂“π·≈–Õ—ø°“π‘ ∂“π °Á¡’μâπÀ¡àÕπ ∂Ⓡ≈¬‰ª·∂∫‡ªÕ√凴’¬ ™“«Õ“‡´Õ√å‰∫®“π ™Õ∫°‘ππÈ”º≈À¡àÕπ ∑’ˇ≈∫“πÕπ°Á¡’μâπÀ¡àÕπ ™“«®Õ√凮’¬·≈–™“«Õ“√凡‡π’¬‡Õ“º≈À¡àÕπ ∑”«Õ¥°â“ Õ‘À√à“π μÿ√°’ ·≈–™“«‡ªÕ√凴’¬ ‡√’¬°¡—≈‡∫Õ√å√’«à“ Toot À√◊Õ Shahtoot ∑’˪≈Ÿ°μâπÀ¡àÕπ·≈–μ—¥„∫‡Õ“‰ª‡≈’È¬ß ÀπÕπ‰À¡∂÷ߪ√–‡∑»Õ—ß°ƒ… μ—Èß·μà»μ«√√… ∑’Ë 17 ·≈–„™â·∑∫∑ÿ° à«π¢ÕßμâπÀ¡àÕπ ‡À¡◊Õπ§π‰∑¬∑’Ë„™â√“° ≈”μâπ °‘Ëß º≈ ·≈–„∫ „π√Ÿª¢Õ߬“æ◊Èπ∫â“π ¡’ª√–«—μ‘«à“™“«°√’° ‚∫√“≥°Áª≈Ÿ°À¡àÕπ‰«â‡≈’Ȭ߉À¡ · ¥ß«à“¡’ ºâ“‰À¡ ·≈–‡Õ“º≈À¡àÕπ∑”‰«πå „∫À¡àÕπ §ß°‘πÕ√àÕ¬‡æ√“–πÕ°®“°ÀπÕπ‰À¡·≈â« ∫√√¥“º’‡ ◊ÈÕ°≈“ߧ◊π°Á™Õ∫°‘π ∑’ˉÀπÊ °Á¡’μâπÀ¡àÕπ ·≈–ºâ“‰À¡ π—°«‘®—¬‡√◊ËÕߺⓉÀ¡®“°≠’˪Éÿπ∫Õ°«à“ ÀπÕπ‰À¡μâÕß°‘π„∫À¡àÕπ§ÿ≥¿“楒 ∂÷ß®– ‰¥âº≈º≈‘μ‡ âπ„¬‰À¡§ÿ≥¿“楒 ºâ“‰À¡‰∑¬ ¥’®√‘ß·μ৫“¡‡π’¬π∫“ßπàÿ¡ ¬—߉¡à‡∑à“‰À¡®’π ·≈–‰À¡Õ‘π‡¥’¬ ®–‡°’ˬ«°—∫„∫À¡àÕπ μâπæ—π∏åÿ À√◊Õ‡°’ˬ«°—∫μ—«ÀπÕπ °Á‰¡à√⟠·μà∑’Ë·πàÊ ≈Ÿ°À¡àÕπ°‘πÕ√àÕ¬ ¥©Ë”‰¥â„® ¢Õ‡√’¬°«à“ ¡—≈‡∫Õ√å√’Ë°Á·≈â«°—𠇪ìπ‰∑¬¡—≈‡∫Õ√å√‡’ μ‘¡ “√ ’¡à«ßÊ ·¥ßÊ ‡æ◊ËÕ ÿ¢¿“æ ë
À¡“¬‡Àμÿ¿“æ : flash-screen.com, brightol007.en.made-in-china.com, wallcoo.com, woofmanjack.com
¡ÒÂ㨠Explore
¢
ÕμâÕπ√—∫‡¢â“‡∑»°“≈‡©≈‘¡©≈Õߪï„À¡à ∑’Ë„°≈â®–¡“∂÷ß À≈“¬μàÕÀ≈“¬∑à“π §ß‡μ√’¬¡¢Õߢ«—≠‡æ◊ËÕ§π∑’˧ÿ≥√—° ·≈–‡μ√’¬¡°ä«π™«πŒ“°—π‡ªìπ∑’ˇ√’¬∫√âÕ¬·≈â« À“°·μà«à“§ÿ≥‰¥â‡μ√’¬¡§«“¡æ√âÕ¡¥â“π ÿ¢¿“æ ‰«âÀ√◊Õ¬—ß ‡π◊ËÕß®“°∑ÿ°‡∑»°“≈ À√◊Õ«—πÀ¬ÿ¥ ∑’Ëμ‘¥°—πÀ≈“¬...À≈“¬«—π ¡—°‡ªìπμâπ‡Àμÿ ¢Õߪí≠À“ ÿ¢¿“æ∑’ˬ˔·¬à≈ß ®“°Õ“À“√ ¡◊ÈÕÕ√àÕ¬®π∑”„Àâ°√–‡æ“– ·≈–√–∫∫¬àÕ¬ μâÕß∑”ß“πÀπ—° ß“π‡≈’Ȭߩ≈Õߪïπ’È ®÷ßÕ¬“°¢Õ„Àâ‡æ‘Ë¡ ‡√◊ËÕß ÿ¢¿“æ∑—Èß à«πμ—« ·≈– à«π√«¡‡¢â“‰ª¥â«¬ ‡√‘Ë¡®“°‡§√◊ËÕߥ◊Ë¡μâÕπ√—∫∑’Ë∑”¡“®“°º≈‰¡â “¡“√∂ √â“ߧ«“¡ ¥™◊Ëπ„Àâ°∫— √à“ß°“¬ ·∂¡¬—ß ∑”„À⇮√‘≠Õ“À“√„π¡◊ÈÕ‰¥âÕ¬à“ߥ’ ‡¥‘π∑“ß¡“∂÷ß °—π‡Àπ◊ËÕ¬ çæ—Èπ´åé Õ¬à“ߥ’æ√âÕ¡»‘≈ª–„π°“√ ·μàߪ“°·°â«¥â«¬º≈‰¡â À√◊Õ¥Õ°‰¡â°Á¬ß‘Ë ‡æ‘Ë¡ ’ —π™«π¡Õß ‡√’¬°«à“‰¥â∑—Èß∑“ß°“¬ ·≈–„® ¥◊Ë¡·≈â«μâÕß¢Õ‡μ‘¡Õ’° —°·°â« æ—Èπ´å‰¡à®”‡ªìπ
27
“¤ÇÒÁÊÁ´ØÅ” ËÁÒ¶֧ ¤ÇÒÁ෋ҡѹ ËÒ¡·ÓÊÔè§ã´ ÁÒ¡à¡Ô¹ä»ËÃ×Í ¹ŒÍÂà¡Ô¹ä»¨Ð·ÓãËŒ à¡Ô´ÀÒÇÐàÊÕÂÊÁ´ØÅ
ÊØ¢ÀÒ¾´Õ ÃѺ»‚¡ÃÐμ‹Ò μâÕß„ àπÈ”μ“≈ ºâŸ∑” “¡“√∂‡≈◊Õ° √√º≈‰¡â∑’Ë¡’ √ ™“쑇ª√’Ȭ«À«“πÕ¬àŸ„πμ—«¡“ª√–°Õ∫°—π‰¥â Õ¬à“ߥ’ ‡™àπ Õßàÿπ ·Õª‡ªî≈‡¢’¬« ·Õª‡ªî≈·¥ß ¡–≈–°Õ —∫ª–√¥ ¡–¡à«ß ÿ° º≈°’«’ ·≈â«·μà §«“¡§‘¥ √â“ß √√§å¢Õß·μà≈–∑à“π ®“°π—Èπ °Áπ”¡“À—πË ‡ªìπ™‘πÈ ‡≈Á° à«πÕ“À“√∑’Ë√—∫ª√–∑“π°Á§«√„Àâ‡À¡“– ¡ ‡æ◊ËÕ ÿ¢¿“懙àπ°—π Õ“∑‘‡™àπ ≈—¥ À√◊Õ™ÿ¥πÈ”æ√‘° ‡æ◊ËÕ ÿ¢¿“æ°Á®– à߇ √‘¡°—π‰¥âÕ¬à“ßπ’È ‡æ√“– „πº—°-º≈‰¡â¡’‡Õπ‰´¡å‡æ‘Ë¡ª√– ‘∑∏‘¿“æ ¢Õß√–∫∫¬àÕ¬Õ“À“√ √à“ß°“¬°Á “¡“√∂¥÷ß “√Õ“À“√‰ª∑”ß“π‰¥â‡√Á«¢÷Èπ ‡¡πŸμÕâ π√—∫ªï°√–μà“¬∑’Ë®–¡“‡¬◊Õπ¥â«¬ æ—πÈ ´å™’Ë...‡ø√ ∑”‰¡à¬“°..¡“°¡“¬À≈“¬ √ ™“μ‘ ë
¾Ñ¹é « ªÕè...à¿ÃÊ à«πª√–°Õ∫ ≈Ÿ°μ“≈ ‡π◊ÈÕ —∫ª–√¥ ·Õª‡ªî≈·¥ß ·Õª‡ªî≈‡¢’¬« ¡–≈–°Õ ÿ° πÈ”¡–π“« πÈ” —∫ª–√¥ πÈ”ÕâÕ¬ πÈ”‡ “«√
15 15 15 15 15 15 15 15 15
°√—¡ °√—¡ °√—¡ °√—¡ °√—¡ °√—¡ °√—¡ °√—¡ °√—¡
«‘∏’∑” 1. °—¥πÈ” —∫ª–√¥ §—ÈππÈ”‡ “«√ ∫’∫πÈ”¡–π“« „À≥⮔π«π μ“¡∑’Ë°”Àπ¥ 2. º ¡∑—ÈßÀ¡¥≈ß„π∂⫬·°â«∑’ˇμ√’¬¡‰«â ·≈â«‡μ‘¡πÈ”ÕâÕ¬ 15 °√—¡ ≈߉ª §π à«πº ¡∑—Èß À¡¥„À⇢⓰—π 3. À—Ëπ ≈Ÿ°μ“≈,‡π◊ÈÕ —∫ª–√¥,·Õª‡ªî≈·¥ß, ·Õª‡ªî≈‡¢’¬« ·≈– ¡–≈–°Õ ÿ° ‡ªìπ ’ˇÀ≈’ˬ¡≈Ÿ°‡μã“ 4. π”º≈‰¡â∑’ËÀ—Ëπ‡ªìπ ’ˇÀ≈’ˬ¡≈Ÿ°‡μã“∑—ÈßÀ¡¥ º ¡ °—∫πÈ”æ—Èπ™å∑’ˇμ√’¬¡‰«â ·≈⫧π„À⇢⓰—π 5. π”‡¢â“™àÕßø√’´ ª√–¡“≥ 2 ™—Ë«‚¡ß °Á®–‰¥â Fruit punch ∑’ˇªìπ‡°≈Á¥πÈ”·¢Áß æ√âÕ¡‡ ‘√åø
26 2553 ë
¡ÒÂ㨠Explore
29
A MUST... ÊÌҧÊØ¢ãËŒà´ç¡»†ÇÂ
9»‚äÇ·ÑÅäÅ¿Š
ÁËÑȨÃà¡ÒÂÇÔÀÒ¤ »Ÿπ¬å à߇ √‘¡ ÿ¢¿“扫∑—≈‰≈øá „π‡§√◊Õ‚√ß欓∫“≈ ∫”√ÿß√“…Æ√å Õ‘π‡μÕ√å‡π™—Ëπ·π≈ ©≈Õߧ√∫√Õ∫ 9 ªï®—¥ °‘®°√√¡μÕ∫·∑π —ߧ¡ ®—¥μ√«® ÿ¢¿“æ‡∫◊ÈÕßμâπ æ√âÕ¡ ®—¥‡≈’ȬßÕ“À“√°≈“ß«—π·≈–¡Õ∫‡§√◊ËÕß„™â®”‡ªìπ·≈– ∑ÿπ°“√»÷°…“ 100,000 ∫“∑ „Àâ·°àπâÕßÊ ∑’Ëæ‘°“√∑“ß ¡Õß·≈–ªí≠≠“ ≥ ∫â“π√“™“«¥’À≠‘ß ®—ßÀ«—¥ππ∑∫ÿ√’
¢Í§¢ÇÑ−ÊØ¢ÀÒ¾
§√—Èß·√°„πª√–‡∑»‰∑¬∑’Ë “∏“√≥™ππÕ°«ß°“√·æ∑¬å·≈–«‘∑¬“»“ μ√å ®–‰¥â ‡√’¬π√⟷≈– —¡º— §«“¡ß¥ß“¡∑’Ë ≈—∫´—∫´âÕπ∑ÿ°´Õ°∑ÿ°¡ÿ¡¢Õß √’√–¡πÿ…¬å„πÕ“°—ª °‘√‘¬“μà“ßÊ ´÷Ëߺà“π°“√®—¥·μàß∑à“∑“ßÕ¬à“ߪ√–≥’μߥߓ¡„À⥇Ÿ ªìπ∏√√¡™“μ‘ „ππ‘∑√√»°“√·Ààߪï 燥Ֆ∫Õ¥’È‚™«åé ‡ªî¥„À⇢ⓙ¡®π∂÷ß«—π∑’Ë 3 ‡¡…“¬π 2554 ≥ ‡¥Õ–·§ªªîμÕ≈§≈—∫ °√ÿ߇∑æœ (‚∑√.02 625 3095 ·≈– 086 044 2145)
ª‹Ç¹ŒÍ§¼ŒÙÂÒ¡äÃŒ ‚√ß欓∫“≈À—«‡©’¬«√—∫¡Õ∫‡§√◊ËÕß Õÿª‚¿§∫√‘‚¿§ ¬“√—°…“‚√§·≈–Õÿª°√≥å °’Ó ®“°μ—«·∑π¡Ÿ≈π‘∏‘®‘𥓠ÿ¢ (°äÕ°πÈ” ´—π«“) ‡æ◊ËÕ𔉪∫√‘®“§·°à‡¥Á°π—°‡√’¬π ¬“°‰√â ≥ ‚√߇√’¬πμ”√«®μ√–‡«π ™“¬·¥π¡‘μ√¡«≈™π 2 μ”∫≈‡¢“‚®¥ Õ”‡¿Õ»√’ «— ¥‘Ï ®—ßÀ«—¥°“≠®π∫ÿ√’
»Ÿπ¬å´Ÿæ’‡√’¬ ‡Õ.Õ“√å.∑’. »Ÿπ¬å√—°…“ºâŸ¡’∫ÿμ√¬“°·≈–«‘π‘®©—¬ æ—π∏ÿ°√√¡μ—«ÕàÕπ √à«¡°—∫ ‚¡ √ ‚√μ“√’®—ßÀ«—¥Õÿ¥√∏“π’ ¡Õ∫ºâ“Àà¡ ‡æ◊ËÕ∫√√‡∑“¿—¬Àπ“«„Àâ·°à™“«∫â“π ≥ ‚√߇√’¬π™“¬·¥πª√–™“ √√§å Õ”‡¿Õπ“¬Ÿß ®—ßÀ«—¥Õÿ¥√∏“π’
ÊØ¢ÀÒ¾´ÕÃѺ»‚ãËÁ‹ μŒ¹Í‹Í¹¢ŒÒÇÊÒÅÕ (ÇÕ·¡ÃÒÊ) ÊØ´ÂÍ´ÍÒËÒÃμŒÒ¹ÁÐàÃç§
ªÁÃÁâäÅÁªÑ¡ Why?
‚√ß欓∫“≈‡∑æ∏“√‘π∑√å √à«¡°—∫∫√‘…∑— ‚π«“√åμ’ (ª√–‡∑»‰∑¬) ®”°—¥ ®—¥ß“π çÕߧå°√ª≈Õ¥‡∫“À«“π Together Itûs Easieré √≥√ߧå„Àâª√–™“™π°≈àÿ¡‡ ’Ë¬ß ‚¥¬‡©æ“–ºâŸ ŸßÕ“¬ÿ·≈–«—¬∑”ß“π „ à„®¥Ÿ·≈ ÿ¢¿“æ „Àâª≈Õ¥®“°‡∫“À«“π
‚√ß欓∫“≈∫’‡ÕÁπ‡Õ™ ®—¥°‘®°√√¡ ‡æ◊ËÕ à߇ √‘¡ ÿ¢¿“æ BNH Healthy Gift Away 2010 ‡æ◊ËÕ àß∑⓬ªï‡°à“ μâÕπ√—∫ªï„À¡à ¥â«¬™ÿ¥μ√«® ÿ¢¿“æ ‡æ◊ËÕμ—«§ÿ≥‡Õß·≈–§π∑’˧ÿ≥√—° æ∫°—∫ ‚ª√·°√¡μ√«® ÿ¢¿“æμà“ßÊ ‡™àπ °“√μ√«® ÿ¢¿“æª√–®”ªï °“√μ√«® ÿ¢¿“æ μ√’ ™ÿ¥μ√«® Ÿμ√ ”‡√Á®§«“¡ß“¡ ·≈– ÿ¢¿“æ «—§´’πªÑÕß°—𪓰¡¥≈Ÿ° ™ÿ¥μ√«®°√–¥Ÿ° —πÀ≈—ß ™ÿ¥μ√«® ÿ¢¿“æøíπ ·≈–«—§´’π‡¥Á° œ≈œ μ—Èß·μà«—ππ’È -31 ∏.§. 2553 ‚√ß欓∫“≈∏π∫ÿ√’¡Õ∫‚ª√·°√¡ μ√«® ÿ¢¿“æ 6 ‚ª√·°√¡ ‡™àπ μ√«® √à“ß°“¬æ◊Èπ∞“π μ√«®√à“ß°“¬ª√–®”ªï ”À√—∫∫ÿ§§≈∑—Ë«‰ª ·≈–ºâŸ∑’Ë¡’Õ“¬ÿ 35 ªï ¢÷Èπ‰ª ‚ª√·°√¡ ”À√—∫§àŸ√—° À√◊Õ‡μ√’¬¡ §«“¡æ√âÕ¡°àÕπ¡’∫ÿμ√ ·≈–‚ª√·°√¡ μ√«® ÿ¢¿“æ ”À√—∫ ÿ¿“æ∫ÿ√ÿ…- μ√’ ∑’Ë¡’Õ“¬ÿ 45 ªï¢÷Èπ‰ª ‡μ√’¬¡√à“ß°“¬ „Àâæ√âÕ¡μâÕπ√—∫ªï°√–μà“¬Õ¬à“ß ¥„ ·≈–·¢Áß·√߉¥â μ—Èß·μà«—ππ’È-31 ¡.§.π’È
¡πμå «√√§å ®‘𥓷 ß ∂à“¬∑Õ¥¢âÕ¡Ÿ≈ §«“¡√⟠∑’˺à“π°“√»÷°…“‡™‘ß≈÷°®“°μ”√“¿“…“ Õ—ß°ƒ…·≈–‡«Á∫‰´μåμà“ßÊ ‡°’ˬ«°—∫μâπÕàÕπ ¢â“« “≈’ √«¡∑—Èߪ√– ∫°“√≥å¢Õߺ⟧πÕ—π À≈“°À≈“¬ °√–∑—Ëߧâπæ∫ √√æ§ÿ≥Õ—π‡À≈◊Õ‡™◊ËÕ ¢Õßæ◊™™π‘¥π’È ´÷Ë߇∏Õ¬°„À⇪ìπ çÕ“À“√∑‘æ¬å ·Ààß»μ«√√…é ( ”π—°æ‘¡æå¿“√°‘® √“§“ 250 ∫“∑)
»ÅÍ´àºÒËÇÒ¹
ÃÑ¡áÅÐˋǧã ‚√ß欓∫“≈ªî¬–‡«∑ Àà«ß„¬§ÿ≥ ·≈–§π∑’˧ÿ≥√—°¥â«¬·æÁ§‡°®μ√«® ÿ¢¿“æ Love & Care ¡’„Àâ‡≈◊Õ°À≈“¬ ·æÁ§‡°® ‡À¡“– ”À√—∫∑ÿ°™à«ß«—¬ „πÕ—μ√“∑’˧ÿ≥¬‘È¡‰¥â Õ“∑‘‡™à𠂪√·°√¡ μ√«® ÿ¢¿“æ°àÕπ«‘«“Àå 11 √“¬°“√ ·æÁ§‡°® ≈“¬μâÕ°√–®°§◊𧫓¡ ¥ „π„Àâ°—∫¥«ßμ“¥â«¬§≈◊Ëπ‡ ’¬ß «—ππ’È-31 ¡.§. 2554
¢Í§¢ÇÑ−ÊØ¢ÀÒ¾
¹éÓã¨μŒÒ¹ÀÑÂ˹ÒÇ
𓬪√–∏“𠉙¬ª√– ‘∑∏‘Ï √Õß°√√¡°“√ºâŸ®—¥°“√ Õ“«ÿ‚ ·≈–ºâŸ∫√‘À“√ ∫√‘…—∑ ‚Õ ∂ ¿“ ®”°—¥ √à«¡°—π ª≈àÕ¬√∂§“√“«“π‡ªª∑’π¢Õߢ«—≠ °‘®°√√¡ª√–™“ —¡æ—π∏å¿“¬„μâ·π«§‘¥ ç¡“°°«à“°“√„Àâ ¡“°°«à“ §«“¡ºŸ°æ—πé ·≈–°“√¡Õ∫¢Õߢ«—≠¥â«¬‡ªª∑’𠇪ìπ°“√· ¥ßÕÕ°∂÷ߧ«“¡√⟠÷°¥’Ê ∑’Ë¡’μàÕ°—π
∂“∫—π ÿ¢¿“懥Á°·Ààß™“μ‘ ¡À“√“™‘π’ ‡™‘≠√à«¡∫√‘®“§Àπ—ß ◊Õπ‘∑“π ¢Õ߇≈àπ Õÿª°√≥å°“√‡√’¬π À√◊Õ¢Õß„™â ª√–®”«—π ”À√—∫‡¥Á° ‡æ◊ËÕ√à«¡ √â“ß §«“¡ ÿ¢„Àâ·°à‡¥Á°ªÉ«¬·≈–‡¥Á°∑’Ë¡“ √à«¡ß“π«—π‡¥Á°ª√–®”ªï 2554 ‚¥¬√à«¡ ∫√‘®“§‰¥â∑’Ë ß“π°√–μâÿπæ—≤π“°“√‡¥Á° ™—Èπ 2 Õ“§“√¡À‘μ≈“∏‘‡∫»√ ∂“∫—π ÿ¢¿“懥Á°·Ààß™“μ‘¡À“√“™‘π’ μ—Èß·μà ∫—¥π’ȇªìπμâπ‰ª (‚∑√. 0-2354-8333 μàÕ 3201)
“√“πÿ°√¡§«“¡√⟫‘∑¬“ »“ μ√å ©∫—∫°“√åμŸπ™ÿ¥ Why? ‡º¬·æ√àÕÕ°¡“·≈â« 22 ‡≈à¡ √«¡∂÷߇√◊ËÕß ç ¡Õßé ∑’Ë®–æ“ ‡¥Á°Ê ‰ª√⟮—°°—∫°“√§âπ§«â“ ‡°’ˬ«°—∫ ¡Õß ·≈–‡√◊ÕË ß çª∞¡æ¬“∫“≈é ´÷Ëß¡’°“√¬°μ—«Õ¬à“߇Àμÿ°“√≥å Õÿ∫—쑇Àμÿ·≈–§«“¡‡®Á∫ªÉ«¬ æ√âÕ¡‡ πÕ·π–«‘∏’°“√ª∞¡æ¬“∫“≈¥â«¬Õÿª°√≥åß“à ¬Ê ∑—ßÈ Õ߇≈à¡π’‡È À¡“– ‡ªìπÀπ—ß ◊ÕÕà“ππÕ°‡«≈“‰¥â‡ªìπÕ¬à“ߥ’
™¡√¡‚√§≈¡™—°‡æ◊ËÕª√–™“™π ®—¥°“√ª√–™ÿ¡ ”À√—∫ª√–™“™π À—«¢âÕ ç‚√§Õ◊ËπÊ ∑’ˇ°’ˬ«¢âÕß°—∫‚√§≈¡™—°é ‡æ◊ËÕ„À⧫“¡√⟷°àºâŸªÉ«¬ ºâŸ¥Ÿ·≈ ·≈–ºâŸ∑’Ë ‡°’ˬ«¢âÕß ‰¥â∑√“∫‡°’ˬ«°—∫ “‡Àμÿ «‘∏’ °“√¥Ÿ·≈√—°…“μπ‡Õß ·≈–ºâŸªÉ«¬∑’Ë∂Ÿ° μâÕß ‚¥¬‰¡àμâÕ߇ ’¬§à“„™â®à“¬·μàÕ¬à“ß„¥ ≥ ÀâÕߪ√–™ÿ¡æ≠“‰∑ ™—Èπ 11 Õ“§“√ ‡©≈‘¡æ√–‡°’¬√μ‘ ‚√ß欓∫“≈√“™«‘∂’ «—πÕ“∑‘μ¬å∑’Ë 23 ¡.§. 2554 ‡«≈“ 12.3015.45 π.
26 2553 ë
¡ÒÂ㨠30 Explore
¡ÅŒÍ§¶‹ÒÂÃÙ» EYE 2 ©Ñ
π‰¥â¡’‚Õ°“ ‰ª‡¥‘π∑“ß∑àÕ߇∑’ˬ«π“π∂÷ß ÕßÕ“∑‘μ¬å °àÕπ‰ª©—πμ—Èß„®Õ¬à“ß¡“° «à“®–À“‡√◊ËÕß®“°°“√ ‡∑’ˬ«§√—Èßπ’È¡“‡¢’¬π„π§Õ≈—¡πå≈ÿ°®“°‡μ’¬ß„À≥⠉ÀπÊ °Á‰¥â‰ª‡∑’ˬ«‰°≈Ê ·≈â«πà“®–¡’Õ–‰√πà“ π„®¡“‡≈à“ àŸ °—πøíß „Àâ¡’‡√◊ËÕß∑’Ë·μ°μà“߉ª®“°∑’ˇ§¬‡¢’¬πÕ¬àŸ∑ÿ°§√—Èß πà“®–¥’·πàÊ ·μà°“√§“¥À«—ßÕ–‰√¡“°Ê ¡—°®–∑”„À⺑¥À«—߇ ¡Õ ºà“π‰ª®π‡°◊Õ∫®–§√∫ ÕßÕ“∑‘μ¬å ©—π¬—ßÀ“‡√◊ËÕߥ’Ê ∑’ˇªìπ ‡√◊ËÕ߇ªìπ√“«¡“‡¢’¬π‰¡à‰¥â‡≈¬ ¡’·§à¢âÕ§‘¥¢âÕ‡¥’¬«∑’ˉ¥â§◊Õ «—πÀ≈—ßÕ¬à“‰¥â§‘¥®–‡Õ“ß“π¡“∑”‡«≈“‡∑’ˬ« ‡™àπ °“√§‘¥®– ‡¢’¬π§Õ≈—¡πåπ’È„À⇠√Á®„π√–À«à“߇¥‘π∑“ß πÕ°®“°√—∫√Õß«à“ ®–‰¡à‰¥â∑”ß“π∑’Ë·∫°‰ª ‘Ëß∑’ˉ¥â·∫°°≈—∫¡“°Á§Õ◊ §«“¡√⟠÷° º‘¥∑’ˉ¡à‰¥â∑”Õ–‰√‡ªìπ™‘Èπ‡ªìπÕ—πμà“ßÀ“° ‰Õâ∑’˧¥‘ «à“®–À“ ‡√◊ËÕߥ’Ê ¡“‡¢’¬π‡ªìπÕ—πÀ¡¥°—π ∫√√¬“°“»¥’Õ¬à“ßπ—Èπ„§√ ®–¡“π—Ëß∑”ß“π °Á®–‰ª∑”‰¥âÕ¬à“߉√ „π‡¡◊ËÕ∑’Ë∑’Ë©π— ‰ª§√—Èßπ’È ‡ªìπÀ¡àŸ∫“â π °≈“ߪɓ∑’Ë «¬Õ¬à“ß°—∫Õ¬àŸ„πΩíπ À√◊Õ‰¡à°Á‡À¡◊ÕπÀ¡àŸ∫â“π „ππ‘∑“π‡¥Á° ‡ªìπ∫â“πÀ≈—߇≈Á°Ê ¡’ªÉ“Õ¬àŸÀ≈—ß∫â“π Àπâ“∫â“𠇪ìπ∑àÿßÀ≠Ⓡ¢’¬« ¥ ¡’«—«·≈–·°–°√–®“¬Õ¬àŸ‡ªìπ®ÿ¥Ê ‰ª∑—Ë« ‘Ëß∑’Ë©—π∑”‰¥â„°≈⇧’¬ß°—∫§”«à“∑”ß“π¡“°∑’Ë ÿ¥°Á§Õ◊ ‡Õ“ °√–¥“…‡ª≈à“°—∫ª“°°“¡“«“ßμ√ßÀπâ“ ·≈⫧‘¥Õ–‰√‰ª ‡√◊ËÕ¬‡ªóòÕ¬®π‰¥â‡«≈“‰ª∑”Õ¬à“ßÕ◊Ëπ... À¡¥‰ªÕ’°Àπ÷Ëß«—π ∑’Ë∫Õ°«à“§‘¥‡√◊ËÕ¬‡ªóòÕ¬π—Èπ‡√◊ËÕ¬‡ªóòÕ¬®√‘ßÊ à«π¡“° °Á‡ªìπ°“√§‘¥‡√◊ËÕ߉ª‡∑’ˬ«π’Ë·À≈– ‡æ√“–©—πμ—Èß„®®–‡¢’¬π ‡√◊ËÕß°“√‰ª‡∑’ˬ« ·μà·∑π∑’Ë®–§‘¥«à“®–‡≈à“‡√◊ËÕß°“√¡“‡∑’ˬ« §√—Èßπ’Ȭ—߉ߥ’ ©—π°≈—∫§‘¥‡√◊ËÕß«à“∂â“¡’·æÁ§‡°®∑àÕ߇∑’ˬ«·∫∫ ®à“¬‡ß‘π·§à 1/4 ¢Õß√“§“‡μÁ¡ ·μà¡’¢âÕ·¡â«à“Àâ“¡∂à“¬√Ÿª ®–¡’„§√Õ¬“°‰ª‰À¡π– À√◊Õ∂Ⓣª‡∑’ˬ«·∫∫∂à“¬√Ÿª‰¥â·μà Àâ“¡„À℧√¥Ÿ·≈–Àâ“¡‡≈à“„À℧√øíß ·μà®à“¬·§à§√÷Ëß√“§“≈à– ®–¡’§π π„®À√◊Õ‡ª≈à“ ‡æ√“–æÕπ—Ëߧ‘¥∂÷ߧ”«à“ 牪‡∑’ˬ«é ´È”‰ª´È”¡“À≈“¬Ê §√—Èß ©—π°Á‡√‘Ë¡§‘¥«à“μÕπ‰Àπ¢Õß°“√‡∑’ˬ«∑’ˇªìπ™à«ß‡«≈“∑’Ë§π ‰ª®–¡’§«“¡ ÿ¢∑’Ë ÿ¥ ™à«ß°àÕπ‰ª∑’ˉ¥âπ—Ëß®—¥¢Õß À“¢âÕ¡Ÿ≈«à“ ®–‰ª‡∑’ˬ«‰Àπ∫â“ß ·≈–π—Ëߧ“¥‡¥“«“¥·ºπ°“√‡¥‘π∑“ß «à“®– πÿ°ß—Èπß’È (À≈“¬§√—Èß∑’ËμÕπ‰ª®√‘ßÊ °≈—∫æ—߉¡à‡ªìπ∑à“) À√◊ÕμÕπ∑’ˇ√“‰¥â‰ª¬◊πÕ¬àŸ ≥ ∑’Ëμ√ßπ—Èπ®√‘ßÊ...·μàæÕ‡√“‰¥â‰ª
ë 26 2553
∑’Ëμ√ß∑’Ë„ΩÉΩíπ«à“®–‰ª ‡√“°Á°≈—∫∂à“¬√ŸªÊÊÊÊ °—π®π‡æ≈‘π ‡æ◊ËÕ®–‡Õ“°≈—∫¡“¥Ÿ∑’À≈—ß´–¡“°°«à“ ”À√—∫©—π °“√∂à“¬√Ÿª¡—π‡À¡◊Õπ°“√¬◊¡‡«≈“®“°Õπ“§μ ¡“„™âÕ¬àŸÀπàÕ¬Ê ‡æ√“–μÕπ∑’ˇ√“∂à“¬√Ÿª ‡√“‰¡à‰¥â„™â‡«≈“ μÕππ—È𠇥’ά«π—È𠉪°—∫¡—π ·μà„™â‡«≈“ªí®®ÿ∫—π‡æ◊ËÕ∑’Ë®–¡’ §«“¡ ÿ¢„πÕπ“§μ (μÕπ∑’ˇՓ√Ÿª¡“¥Ÿ) ·≈–©—π°Á¬—߉¡à‡§¬∂à“¬√Ÿª‰¥âÕÕ°¡“ «¬°«à“ À√◊Õ·§à «¬ ‡∑à“°—∫ ∂“π∑’Ë®√‘ßÊ ∑’ËÕ¬àŸμ√ßÀπⓉ¥â —°§√—Èß °“√‡∑’ˬ«§√—Èßπ’È ©—π®÷ß≈Õß∂à“¬√Ÿª·∫∫‰¡à„™â°≈âÕß ‚¥¬°“√‰ª¬◊πÀπâ“∑’Ë∑’Ë®– ∂à“¬√Ÿª¡ÕßÕÕ°‰ª„Àâ∑—Ë«Ê ·≈â« Ÿ¥°≈‘Ëπ∫√√¬“°“»π—Èπ‰«â
„Àâ‡μÁ¡ªÕ¥ ∫Õ°μ—«‡Õß„Àâ®”ÊÊ ‡«≈“¢≥–π—Èπ‰«â æÕ‡«≈“ ºà“π‰ª·∑π∑’Ë©—π®–μâÕ߉ª§âπ√Ÿª„π°≈âÕß¡“¥Ÿ°Á·§àπ÷°∂÷ß ¿“æ∑’Ë®”‰«â„πÀ—« √“¬≈–‡Õ’¬¥∑’ˉ¥â‰¡à§¡™—¥‡∑à“°≈âÕß∂à“¬√Ÿª ·πàπÕπ ·μà°“√∂à“¬√Ÿª¥â«¬«‘∏’π’È°Á‡°Á∫Õߧåª√–°Õ∫À≈“¬ Õ¬à“ß∑’Ë°≈âÕß∂à“¬√Ÿª‰¡à¡’∑“ß∑”‰¥â‡™àπ°—π ©—π‡§¬„™â«‘∏’π’È®√‘ßÊ ®—ßÊ §√—Èß·√°‡¡◊ËÕª√–¡“≥ 13 ªï ∑’Ë·≈â« μÕπ‡¥‘π‰ª‚√߇√’¬π ‡™â“«—ππ—ÈπΩπ‡æ‘ËßÀ¬ÿ¥μ°®“° ‡¡◊ËÕ°≈“ߧ◊π∑”„Àâ∫√√¬“°“»¥Ÿ„À¡à ¥ „∫‰¡â‡ªìπ¡—π«“««—∫ ºà“π°“√∑”§«“¡ –Õ“¥¥â«¬πÈ”Ωπ¡“„À¡àÊ ≈Ÿ°‡∫Õ√å√’Õ–‰√ —°Õ¬à“ßÕÕ°º≈ ’·¥ß·®ä¥ ‡ªìπæ«ß «¬ ‡√’¬°«à“∑“߇¥‘π‰ª ‚√߇√’¬π«—ππ—È𠫬 ¥™◊Ëπ®π©—πÕ¬“°∂à“¬√Ÿª‡°Á∫‰«â ·μà¥—π ‰¡à‰¥â‡Õ“°≈âÕß∂à“¬√Ÿª¡“¥â«¬ ©—π‡≈¬∫Õ°μ—«‡Õß„Àâ¬◊ππ‘ËßÊ ·≈â«®”«‘π“∑’π—Èπ‰«â«à“ ¡—𠫬¬—ß‰ß ¡’§«“¡ ÿ¢¬—ß‰ß ºà“π¡“ 13 ªï ©—π¬—ߧßÀ¬‘∫√Ÿª „∫π—Èπ¡“¥Ÿ®“°§«“¡∑√ß®”‡ªìπ§√—Èߧ√“« √“¬≈–‡Õ’¬¥¢Õß ¿“æÀ“¬‰ªμ“¡°“≈‡«≈“·μà©π— °≈—∫®”§«“¡ ¥ „ ‡¬Áπ ¢ÕßÕ“°“»μÕπ¬◊πÕ¬àŸμ√ßπ—Èπ‰¥âÕ¬à“ß™—¥‡®π ‡À¡◊Õπ·∑∫ ®–‰¥â Ÿ¥Õ“°“»‡¡◊ËÕ ‘∫°«à“ªï∑’Ë·≈â«Õ’°§√—Èß ‡∑à“∑’Ë©—π√⟬—߉¡à¡’°≈âÕß∂à“¬√Ÿª√àÿπ‰Àπ‡≈¬∑’Ë®–‡°Á∫ 秫“¡ ÿ¢é ‰«â„Àâ‡√“‰¥â ·¡â«à“¿“æ®–§¡™—¥¢π“¥‰Àπ ·μà∂â“ ‡√“‰¡à‰¥â„™â‡«≈“μ√ßπ—Èπ‰ª°—∫¡—πÕ¬à“ß√⟠÷°μ—« ©—π«à“√Ÿª∑’Ë ™—¥·®ã« °Á‰¡à‰¥â∑”„Àâ‡√“Õ¬“°À¬‘∫¢÷Èπ¡“¥Ÿ´È” —°‡∑à“‰√π—° ∂Ⓣª‡∑’ˬ«§√—ÈßÀπâ“©—π¢Õ™«π„Àâ„™â°≈âÕß∂à“¬√Ÿª·∫∫∑’Ë©—π ·π–π”¥Ÿ πÕ°®“°®–‡°Á∫¿“扥âÀ≈“¬¡‘μ‘·≈â« ¬—߇À¡“–°—∫§π ª«¥À≈—߇æ√“–‰¡àμâÕß·∫°„ÀâÀπ—° ¡’¢âÕ‡ ’¬Õ¬àŸπ‘¥‡¥’¬«§◊Õ ‡¡¡‚¡√’ÕÕ°®–πâÕ¬‰ª —°ÀπàÕ¬ ·μà°Á¡’√–∫∫°“√§—¥‡≈◊Õ° √ŸªÕ¬à“ߥ’·∫∫Õ—μ‚π¡—μ‘ √Ÿª∑’ˉ¡àª√–∑—∫„®®√‘ß®–§àÕ¬Ê ∂Ÿ° delete ‰ª®“° ¡Õß ∑”„ÀâÀπ૬§«“¡®”‰¡àμâÕß∑”ß“π Àπ—°‡°‘π‰ª ç§“¥À«—ßÕ–‰√¡“°Ê ¡—°®–º‘¥À«—ßé ·μàæÕ‡¢’¬π·∫∫ ‰¡à§“¥À«—ß °≈—∫æÕ¡’À«—ß´–Õ¬à“ßπ—Èπ ®“°∑’Ëπ÷°«à“‰¡à¡’Õ–‰√ ¡“Ω“°ºâŸÕà“π≈ÿ°®“°‡μ’¬ß °≈—∫°≈“¬‡ªìπ«à“©—π‰¥â¡’°≈âÕß ∂à“¬√Ÿª¡“Ω“°ºâŸÕà“π∑ÿ°§π ‡ªìπ°≈âÕß√àÿπ EYE 2 (¢â“ß) æ°æ“μ‘¥μ—«‰¥âμ≈Õ¥‰ª·∫∫‰¡à‡°–°– Õà“π®∫·≈⫇™‘≠√—∫ ‰¥â‡≈¬ ë