อันเดอร์กราวด์ [UNDERGROUND]

Page 1


UNDERGROUND

อันเดอร์กราวด์

Haruki Murakami พีรวัธน์ เสาวคนธ์ และ อาภากร รุจีรไพบูลย์

เขียน

บรรณาธิการต้นฉบับ บรรณาธิการบริหาร บรรณาธิการจัดการ

โช ฟุกุโตมิ อธิชา มัญชุนากร กาบูล็อง มณฑา มัญชุนากร ศรรวริศา เมฆไพบูลย์

ออกแบบปก รูปเล่ม พิสูจน์อักษร

wrongdesign สิริมา สุวรรณไตรภพ ชุลีพร วุ่นบ�ารุง

แปล

UNDERGROUND by Haruki Murakami Copyright © 1997 Haruki Murakami All rights reserved. Originally published in Japan by Kodansha Ltd., Tokyo Thai translation rights arranged with Haruki Murakami through THE SAKAI AGENCY and SILKROAD AGENCY. ISBN 978-616-7591-57-5 ราคา 480 บาท


จัดพิมพ์ โดย : ส�านักพิมพ์ก�ามะหยี่ 74/1 รังสิต-นครนายก 31 ต�าบลประชาธิปัตย์ อ�าเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12130 โทรศัพท์ : 084 146 1432 โทรสาร : 02 996 1514 Homepage : www.gammemagie.com Facebook Page : GammeMagieEditions Email : gammemagie@gammemagie.com พิมพ์ที่ : ห้างหุ้นส่วนจ�ากัด ภาพพิมพ์ 45/12-14, 33 หมู่ที่ 4 ต�าบลบางขนุน อ�าเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130 โทรศัพท์ : 02 879 9154-6 โทรสาร : 02 879 9153 Homepage : www.parbpim.com จัดจ�าหน่ายทั่วประเทศโดย : บริษัทเคล็ดไทย จ�ากัด 117-119 ถนนเฟื่องนคร ตรงข้ามวัดราชบพิธ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทรศัพท์ : 02 225 9536-9 โทรสาร : 02 222 5188 Homepage : www.kledthai.com ค�าเตือน : การอ่านหนังสืออาจจะท�าให้มีความเห็นใจคนอื่นมากขึ้น


จากส�านักพิมพ์

1. เรื่องทุกเรื่อง จะ นุก ไม่ นุก จะซึ้ง ไม่ซึ้ง มันขึ้นอยู่กับคนเล่า เรื่องตลกเดียวกัน คนเล่าต่างกัน ข�าไม่เท่ากัน เรื่อง ามัญเดียวกัน คนเรียบเรียง คนเล่าคนละคนกัน ความ ามัญไม่เท่ากัน ท่านจะเ ็นตัวอย่างชัดเจนในเล่มนี้ 2. งานแนว ารคดีเล่าเรือ่ งจริง บางครัง้ มี ี นั - เ นือความคาดคิด - ของความเป็น นิยายที่เล่าเรื่องแต่ง มากกว่านิยายบางเรื่อง 3. เรามีชีวิตเดียว และมันก็ไม่ได้ยาวนัก จะใ ้รู้จักไปเ ียทุกเรื่อง รู้ ึกไปเ ีย ทุกอย่าง มีประ บการณ์รอบด้าน คงไม่ได้ รอก การอ่าน นัง ือเป็นทางลัดที่ ั้น ที่ ุด ะดวก ประ ยัด บาย และปลอดภัยที่ ุด ในการลองไปมีชีวิตของคนอื่น


4. นัง ือเล่มนี้ไม่ใช่เล่มเดียวกับ UNDERGROUND : The Tokyo Gas Attack and the Japanese Psyche ในภา าอั ง กฤ เพราะเล่ ม นั้ น ฝรั่ ง ได้ น� า UNDERGROUND เล่ม 2 มาผ ม และตัดบท ัมภา ณ์ ลาย ่วนของเล่มแรก (เล่มนี้ ซึ่งแปลตรงแปลเต็มจากเล่มภา าญี่ปุ่น) ออกไป เรายื่นความประ งค์ขอแปล UNDERGROUND 2 ซึ่งเป็นบท ัมภา ณ์ มาชิก โอมชินริเกียวไปเรียบร้อยแล้ว เพราะท�าต้นฉบับเล่มนี้แล้วอยากรู้จัก อยากรู้ ึก อยากเ ็นมุมมองของกลุ่มคนผู้ลงมือกระท�าว่าเป็นอย่างไร ขอใ ้มีความ ุขในการอ่าน ด้วยไมตรี �ำนักพิมพ์ก�ำมะ ยี่ ตุลาคม 2559



จากผู้เขียน

บ่ายวัน นึ่ง ผม ยิบนิตย ารเล่มนั้นที่บังเอิญวางอยู่บนโต๊ะมาเปิดผ่านๆ อ่าน ลายคอลัมน์คร่าวๆ ไล่ดูจด มายซึ่งผู้อ่าน ่งถึงกองบรรณาธิการทีละฉบับ จ�าไม่ค่อยได้ว่าท�าไมท�าอย่างนั้น คงเป็นอารมณ์ชั่ววูบเล็กๆ น้อยๆ รือไม่ก็ว่าง พอตัว เพราะการที่ผมจะอ่านนิตย ารผู้ ญิงและจด มายถึงกองบรรณาธิการ เป็นเรื่องค่อนข้างแปลก จด มายเขียนโดยผู้ ญิงคน นึ่ง ามีของเธอต้องออกจากงานเพราะ เ ตุการณ์ซารินในรถไฟใต้ดินระ ว่างเดินทางไปท�างาน เขาโชคร้ายประ บเ ตุ มด ติ แ ละถู ก น� า ่ ง โรงพยาบาล เพี ย งไม่ กี่ วั น ก็ ก ลั บ บ้ า นได้ แต่ โ ชคร้ า ยยั ง ลงเ ลือ มีอาการ ืบเนื่องจนท�างานไม่ได้ดั่งใจ ช่วงแรกยังดี แต่เมื่อเวลาผ่านไป เจ้านายกับเพื่อนร่วมงานเริ่มพูดประชดทิ่มแทง เขาทน ภาพแวดล้อมอันเย็นชา ไม่ไ วจึงลาออกจากงานด้วย ารรูปเ มือนถูกขับไล่ ตอนนี้นิตย ารไม่ได้อยู่ใกล้ๆ ผม จึงนึกประโยคเป๊ะๆ ไม่ออก แต่เนื้อ า ใจความเป็นเช่นนั้น เท่าที่จา� ได้ เนื้อความไม่ได้ ‘บีบคั้น’ เท่าใดนัก ไม่ได้เกรี้ยวกราดด้วยซ�า้ น่าจะเรียกว่านิ่งๆ คล้ายกับ ‘บ่นใ ้ฟัง’ เฉยๆ เ ียมากกว่า เ มือนเจ้าตัวก�าลัง งงว่า ‘ท�าไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้...’ เอียงคอ ง ัย ด้วยยังไม่อาจเข้าใจโชคชะตาที่ ผวนผันกะทัน ัน ผมอ่านจด มายแล้วตกใจ ท�าไมถึงเกิดเรื่องแบบนั้น UNDERGROUND

7


ไม่บอกก็รู้ว่าบาดแผลในใจ อง ามีภรรยาต้อง า ั ากรรจ์และฝังลึก แน่ ‘น่า ง ารจริง’ ผมคิดจากใจ แม้จะรู้ดีว่า �า รับเจ้าตัวเป็นเ ตุการณ์ที่ไม่ อาจจบลงแค่เพียงค�าว่า ‘น่า ง าร’ กระนั้นใช่ว่า ณ เวลานี้ตรงนี้ ผมจะท�าอะไรได้ ผม—อย่างที่คนอื่นคง ท�ากัน—ถอน ายใจ ปิดนิตย าร กลับ ู่งานและชีวิตเดิมๆ ของตน แต่ ลังจากนั้นผมกลับนึกถึงจด มายนั่นโดยไม่มีเ ตุผล ข้อกังขาว่า ‘ท�าไม’ ไม่ยอมออกไปจาก ัว เป็นเครื่อง มายค�าถามใ ญ่มาก ท�าไม ‘ผู้เ ีย าย’ ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวแต่โชคร้ายประ บเ ตุการณ์ซารินต้อง เจ็บปวดกับเ ตุการณ์ไม่พอ ยังต้องเจอ ‘ภัยซ�้า อง’ อันโ ดร้าย (พูดอีกอย่าง คือความรุนแรงซึ่ง ังคมธรรมดาที่อยู่ทุก นแ ่งรอบตัวเราก่อ) อีก รอบๆ ตัว ไม่มีใคร ยุดยั้งได้เลย รือ ในที่ ุดผมเริ่มคิดดังนี้ ต่อใ ้คนนอกตั้งทฤ ฎีจ�าแนกความรุนแรงซ�้า องซึ่งมนุ ย์เงินเดือน นุ่มน่า ง ารต้องเผชิญว่า ‘นี่มาจากโลกผิดปกติ’ ‘ ่วนนี่มาจากโลกปกติ’ ก็ ไม่ช่วยใ ้ผู้ร่วมเ ตุการณ์คล้อยตามได้เลย เขาคงคิดจ�าแนกความรุนแรง อง ประเภทใ ้เป็นฝ่ายตรงข้ามกับฝ่ายตนไม่ได้ รอก ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้ ึกว่า ิ่งเ ล่านี้ แตกต่างกันแค่รูปลัก ณ์ที่มองจากภายนอก แต่มีคุณ มบัติเ มือนกัน งอกมา จากรากใต้ดินเดียวกัน ผมเริ่มอยากรู้จักผู้ ญิง (ทั้ง ลาย) ที่เขียนจด มาย อยากรู้จัก ามีของ เธอ (ทั้ง ลาย) เป็นการ ่วนตัวด้วย เริ่มอยากรู้ความจริงใ ้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับ ความเป็นมาของ ังคมเราที่ก่อบาดแผลฉกรรจ์ซา�้ องเช่นนี้ ลังจากนั้นเล็กน้อย ผมตัด ินใจอย่างเป็นรูปเป็นร่างว่าจะลอง ัมภา ณ์ ผู้เ ีย ายจากเ ตุการณ์ซารินบนรถไฟใต้ดิน แน่นอนว่าจด มายถึงบรรณาธิการไม่ใช่ าเ ตุเดียวที่ท�าใ ้ผมเขียน นัง ือเล่มนี้ จด มายเป็นเ มือน ัวเทียนในเชิงรูปธรรม ตอนนั้นผมมีเ ตุจูงใจ 8

HARUKI MURAKAMI


่ นตั ใ ญ่ๆ ลายข้ออยู่ก่อนแล้ จึงเ ็น ่าค รเขียนมันขึ้น แต่ผมอยากค่อยๆ เล่าในช่ งท้าย อันดับแรก อยากใ ้ท่านลองอ่าน นัง ือดูก่อน ±ª ±ª ±

การ ัมภา ณ์เริ่มเมื่อต้นเดือนมกราคมปี 1996 ถึงปลายเดือนธัน าคมปีเดีย กัน ใช้เ ลา นึง่ ปีพอดี ผมออกไปพบผูค้ นทีย่ นิ ยอมเล่าเรือ่ ง อบถามเรือ่ งรา ประมาณ ชั่ โมงครึ่งถึง องชั่ โมงและอัดเทปการ นทนานั้น แน่นอน ่าเป็นแค่เ ลาเฉลี่ย บางกรณีการ ัมภา ณ์กินเ ลาถึง ี่ชั่ โมง เทปจะถูก ่งต่อใ ้ผู้เชี่ย ชาญเพื่อท�า ิ่งที่เรียก ่า ‘ถอดเทป’ พูดง่ายๆ คือถอดค�าพูดเป็นตั นัง ือใ ่เครื่องเ ิร์ดโปรเซ เซอร์1 โดยคงประโยคเดิม ไ ้แทบทั้ง มด ยกเ ้น ่ นที่เ ็นชัด ่าไม่จ�าเป็นต่อ ัตถุประ งค์การ ัมภา ณ์ แน่นอน ่าบางครั้งบท ัมภา ณ์ก็ออกมายา มากเ มือนบท นทนา ่ นใ ญ่ ในชี ิตประจ�า ันของเรา มี ลุดประเด็นไปเรื่องโน้นเรื่องนี้บ้าง ลงออกข้าง ทาง โดนตัดบทกลางคันบ้าง กลับเข้าเรื่องแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยบ้าง ผมต้องเลือก ่าจะเก็บ รือตัดเนื้อ าไ น ลับล�าดับก่อน ลัง ตัด ่ นซ�้าซ้อนออก ประกบ ค�าบ้าง แยกค�าบ้าง เรียบเรียงใ ้เป็นประโยคอ่านง่ายพอประมาณ แล้ ร ม เป็นต้นฉบับค ามยา พอเ มาะ บางครั้งการอ่าน ‘บทถอดเทป’ อย่างเดีย อาจ จับค ามนัยละเอียดอ่อนได้ยาก ผมจึงต้องฟังเทปซ�้า ลายๆ รอบเพื่อเช็ก ่ น ยิบย่อย มีเพียง ามครั้งที่ผมจ�าต้องเอาบทถอดเทปมาเป็นต้นฉบับทั้งบท ด้ ย เ ตุผลบางประการ เ ลาท�าต้นฉบับลัก ณะนี้ ‘ค ามรู้ ึก’ และ ‘ค ามทรงจ�า’ ของเจ้า ตั ขณะเกิดเ ตุมักเป็นตั บอกเล่าเรื่องรา ลักๆ ถ้าจับบรรยากา ค ามเป็นไป 1 อุปกรณ์ส�าหรับจัดท�าเอกสาร ประกอบด้วยแป้นพิมพ์และหน้าจอ อาจเรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่อยู่

ระหว่างทางของวิวัฒนาการจากเครื่องพิมพ์ดีดถึงคอมพิวเตอร์ส่วนตัว

UNDERGROUND

9


โดยร มของเรื่องรา ขณะเกิดเ ตุไม่ได้ แม้จะเก็บรายละเอียดอย่างพิถีพิถัน เพียงใด รือลองฟังเทปกี่ครั้งก็ตาม ก็อาจพลาดใจค าม �าคัญของบท นทนา ท�าใ ้ ูญเ ียพลังของค�าบอกเล่า ฉะนั้น ระ ่าง ัมภา ณ์ผมจึงตั้งใจจดจ่อกับ ผู้เล่าใ ้มากที่ ุด ซึมซาบเรื่องรา ไปทีละเรื่องๆ มีเพียงครั้งเดีย ที่ถูกปฏิเ ธไม่ใ ้บันทึกเทป ผมโทร ัพท์แจ้งล่ ง น้า แล้ ่า “ขอบันทึกการ นทนานะครับ” แต่ไปถึงจริงๆ พอ ยิบเครื่องบันทึกเทป ออกจากกระเป๋า อีกฝ่ายกลับท้ ง ่า “อะไรกัน ไม่เ ็นบอกกันก่อนเลย” ผมจึง ไม่มีทางเลือก ต้องจดบันทึกตั เลขและชื่อ ถานที่มือเป็นระ ิงตลอดการ ัมภา ณ์ เกือบ องชั่ โมง พอกลับถึงบ้านก็นั่งที่โต๊ะเขียนต้นฉบับทันที ผมเขียนบท นทนา ตอนนั้นโดยใช้แค่เมโมที่จดมา ั้นๆ กับค ามทรงจ�า จนแม้แต่ตั เองยังทึ่ง ่า ‘ค ามทรงจ�าคนเรานี่ ถึงครา จ�าเป็นก็พึ่งพาได้แฮะ’ แต่คนที่ท�างาน ัมภา ณ์ ผู้คนเป็นประจ�าคงเจอเรื่องแบบนี้เป็นปกติกระมัง ุดท้าย พอเรียบเรียงค�าใ ้ ัมภา ณ์เป็นต้นฉบับเ ร็จเรียบร้อย เขากลับไม่อนุญาตใ ้ผมตีพิมพ์ ค าม พยายามของผมจบลงอย่าง ูญเปล่า รายชื่อผู้บอกเล่าเรื่องรา (จากนี้ไปจะเรียก ่า ‘ผู้ใ ้ ัมภา ณ์’) ผมได้ โอชิคา ะ เซต ึโอะ กับ ทาคาอาชิ ฮิเดมิเนะ ามาใ ้ ทั้ง องรับ น้าที่ค้นค ้า ข้อมูลใ ้ นัง ือนี้ ิธีการโดยละเอียดมีดังนี้ 1. ร บร มจากประกา รายชื่อ ‘ผู้เ ีย ายในเ ตุการณ์ซารินบนรถไฟ ใต้ดิน’ จาก นัง ือพิมพ์ รือรายงานข่า ของแต่ละ ื่อ 2. ถามไถ่คนรอบตั ่า ‘รู้จักใครที่ได้รับผลกระทบจากเ ตุการณ์ซาริน บนรถไฟใต้ดินบ้างไ ม’ รือ าโดยใช้ ิธีปากต่อปากอีกรูปแบบ นึ่ง (มีเ ตุ จ�าเป็นท�าใ ้ผมเปิดเผย ิธีการโดยละเอียดไม่ได้)

10 HARUKI MURAKAMI


เราใช้ อง ิธีนี้ เรียนตามตรง ่างานยากล�าบากเกินคาด ตอนแรกผมคิดตื้นๆ ่ามีผู้ เ ยี ายอยูใ่ กล้โตเกีย ตัง้ มาก คงไม่ยากถ้าจะร บร มค�าบอกเล่าเกีย่ กับเ ตุการณ์ แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้น รายชื่ออย่างเป็นทางการของ ‘ผู้เ ีย ายในเ ตุการณ์ซารินบนรถไฟ ใต้ดิน’ มีเก็บไ ้แค่ที่องค์กรทางกฎ มาย เช่น าลและ �านักงานอัยการเขต เท่านั้น แน่นอน ่าคนนอกดูรายชื่อไม่ได้ เพราะต้องเคารพ ิทธิ ่ นบุคคลของ ผู้อื่น จะดูรายชื่อผู้เข้ารัก าตั ในแต่ละโรงพยาบาลก็ประ บปัญ าเดีย กัน ท้าย ที่ ุด เรา าชื่อผู้เข้ารัก าตั ในโรงพยาบาลมาจนได้ จากรายชื่อที่ประกา ตาม น้า นัง ือพิมพ์ใน ันเกิดเ ตุ แต่มีเพียงชื่อและนาม กุล ไม่รู้ไปถึงที่อยู่และ มายเลขโทร ัพท์ เราจึงเริ่มงานโดยท�ารายชื่อคนเจ็ดร้อยคนที่ทราบเพียงชื่อก่อน แต่คน ที่ระบุ ‘ตั ตน’ ได้มีแค่ประมาณยี่ ิบเปอร์เซ็นต์ ถ้าชื่อโ ลๆ อย่าง ‘นากามุระ อิจิโร’ เราจะตาม าอีกฝ่ายโดยใช้ชื่อเพียงอย่างเดีย ได้ยากมาก แต่พอผ่าน ขั้นตอนนั้นไปจนพอจะติดต่อได้ประมาณร้อย ี่ ิบก ่าคน ลายคนกลับปฏิเ ธ ไม่ใ ้ ัมภา ณ์ด้ ยเ ตุผลต่างๆ เช่น “ไม่อยากนึกถึงเ ตุการณ์อีก” “ไม่อยาก ยุ่งกับโอมชินริเกีย ” “ไม่ไ ้ใจ ื่อ” โดยเฉพาะค ามไม่พอใจและไม่ไ ้ใจใ ้ ื่อ ัมภา ณ์รุนแรงก ่าที่คาด เพียงผมแจ้งชื่อ �านักพิมพ์ก็โดน าง ูใ ่ทันทีเป็น เรื่องปกติ ุดท้าย คนตอบรับค�าขอ ัมภา ณ์มีเพียง ี่ ิบเปอร์เซ็นต์นิดๆ จาก ร้อย ี่ ิบก ่าคน ่ นใ ญ่ ลังเ ตุการณ์ผ่านไป ค าม าดกลั โอมชินริเกีย จะทุเลาลง เรื่อยๆ เมื่อแกนน�า ลักเกือบทุกคนถูกจับไปทีละคน แต่บ่อยครั้งก็โดนปฏิเ ธ ่า “ฉันมีอาการแค่นิดเดีย ไม่ถึงกับต้องเล่า รอก” (อาจเป็นแค่ข้ออ้างปฏิเ ธการ ัมภา ณ์ จริงเท็จอย่างไรไม่อาจทราบได้) มี ลายกรณีที่เจ้าตั มัครใจอยากเล่า แต่อด ัมภา ณ์ เพราะครอบครั คนรอบข้างขอร้องเ ียงแข็ง ่า “กรุณาอย่าดึง เขาไปพั พันอีกเลย” ากพูดแยกตามอาชีพ เราไม่ค่อยจะได้ ัมภา ณ์ข้าราชการ UNDERGROUND 11


ตาม น่ ยงานต่างๆ และคนท�างานด้านการเงินเท่าไรนัก ผมได้ มั ภา ณ์ผเู้ ยี าย ญิงเพียงไม่กคี่ น าเ ตุ ลักเพราะการแกะรอย าตั ตนจากชือ่ นัน้ ยากในทางปฏิบตั ิ และ ญิง า ผูย้ งั ไม่ได้แต่งงานบางคนคงรู้ กึ อึดอัดที่จะใ ้ ัมภา ณ์เรื่องเช่นนี้ นี่เป็นเพียงข้อ ันนิ ฐานของผม แต่ ลายคนก็ ยอมใ ้ มั ภา ณ์ แล้ บอกผม า่ “ทีจ่ ริงทางบ้านคัดค้านนะคะเนีย่ ” ด้ ยเ ตุนกี้ ารตาม า ‘ผูเ้ ยี ายทีย่ อมเล่าเรือ่ ง’ เกือบ ก บิ คนจึงเป็นงาน ซึ่งใช้เ ลาและแรงงานมากเ ลือเกิน ทั้งที่มีประกา ชื่อผู้เ ีย ายอย่างเป็นทางการ ถึง ามพันแปดร้อยคน มี ิธีประกา ผ่าน ื่อเพื่อเปิดรับผู้เ ีย ายที่ มัครใจเล่าเรื่องใ ้ นัง ือ เช่นกัน โดยประกา ่า ‘ผมจะเขียน นัง ือแบบนี้ ขอฟังเรื่องของคุณด้ ย’ ากใช้ ิธีนี้ ุดท้ายเราคงเก็บเกี่ย ค�าบอกเล่าได้มากขึ้น มันดึงดูดใจผมใ ้อยาก ลองท�าทุกครั้งที่เรา าข้อมูลแล้ ถึงทางตัน จุด นึ่งผมปรึก า ารือกับผู้ค้นค ้า ข้อมูลและบรรณาธิการ ลายครั้ง ท้าย ุดเราตัด ินใจเลี่ยง ิธีนั้นด้ ยเ ตุผล ดังต่อไปนี้ 1. อันดับแรก เราไม่มี ธิ ที ดี่ พี อจะพิ จู น์ า่ ค�าบอกเล่าของอีกฝ่ายจริง รือ เท็จ เทียบกันแล้ ากเราเป็นฝ่ายแกะรอยไป าเอง ค ามเ ี่ยงจะลดน้อยลงมาก 2. ากมีคนที่ ‘ มัครใจอยากเล่าเอง’ ปรากฏตั ย่อมเป็นเรื่องดี แต่ าก อัตรา ่ นผู้ใ ้ ัมภา ณ์ที่กระตือรือร้นมีมากขึ้น ภาพลัก ณ์โดยร มของ นัง ือ อาจเปลี่ยนไปเล็กน้อย ผู้เขียน (มูราคามิ) อยากเน้นไปที่การ ุ่มตั อย่างโดย มดุล มากก ่า 3. ด้ ยลัก ณะการเก็บข้อมูล ถ้าเป็นไปได้ผมอยากด�าเนินงานอย่างลับๆ ไม่ดงึ ดูดค าม นใจจาก งั คม ากมิเช่นนัน้ ผมเกรง า่ ผูใ้ ้ มั ภา ณ์ทไี่ ม่เชือ่ ใจ อื่ อยู่แล้ จะระแ ดระ ังตั ยิ่งขึ้น ผู้เขียนเองก็ไม่ค่อยอยากออก ื่อ ตราบที่ท�าได้ 12 HARUKI MURAKAMI


พอลองย้อนคิดดู การ ลีกเลี่ยง ไม่ ‘ประกา เปิดรับ มัครผู้เล่าเรื่อง’ ่งผลดีอีกข้อ นึ่ง เมื่อเราตัด ิธีที่ง่ายก ่าทิ้งไป ค ามเป็นน�้า นึ่งใจเดีย ระ ่าง ผู้เขียน ผู้ค้นค ้าข้อมูลและบรรณาธิการก็เพิ่มขึ้น รู้ ึกปลาบปลื้มเ มือนเราท�า �าเร็จไปแล้ เรื่อง นึ่ง เ มือนมีเ ียงตอบรับชื่นชม ่า “นี่เราทุกคนตั้งใจร บร ม มานะ” การท�า นัง ือเล่มนี้ทีมเ ิร์คอันแน่นแฟ้นเป็นปัจจัย �าคัญยิ่ง และเรายัง เ ็นคุณค่าของผู้ใ ้ ัมภา ณ์แต่ละคนมากขึ้นด้ ย บท มั ภา ณ์ทกี่ ลายเป็นต้นฉบับแล้ จะถูก ง่ ใ ผ้ ใู้ ้ มั ภา ณ์ตร จ อบ ก่อน เราแนบจด มายไปด้ ย า่ ‘ถ้าเป็นไปได้ทางเราอยากใช้ชอื่ จริงในการถ่ายทอด เรื่องรา ไม่ทราบ ่าได้ รือไม่ รือ ากไม่ประ งค์ใช้ชื่อจริง ทางเราก็เตรียมนาม มมุติไ ้แล้ กรุณาเลือกด้ ย ่าจะใช้ชื่อไ น’ มีผู้ใ ้ ัมภา ณ์ประมาณ ี่ ิบเปอร์ เซ็นประ งค์จะใช้นาม มมุติใน นัง ือ เราไม่ปฏิเ ธใ ้มากค าม ่าใครใช้ชื่อจริง ใครใช้นาม มมุติ เพื่อเลี่ยงการคาดเดาที่ไม่จ�าเป็น การระบุ ่าเป็น ‘นาม มมุติ’ อาจยิ่งกระตุ้นค ามอยากรู้อยากเ ็นบางประเภทเข้าก็ได้ เราระบุไปด้ ย า่ เ ลาตร จ อบค ามถูกต้องของตั ต้นฉบับบท มั ภา ณ์ ากมี ่ นที่ ‘ไม่อยากใ ้เขียน’ ขอค ามกรุณาระบุโดยละเอียด ่าต้องการใ ้ปรับ อย่างไร รืออยากใ ้ตัดทิ้งไปเลย แทบทุกคนมีค ามประ งค์ใ ้ปรับเปลี่ยน รือ ตัดทิ้ง มากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันไป ผู ้ เ ขี ย นปรั บ เปลี่ ย นและตั ด ออกตามที่ ผู ้ ใ ้ ั ม ภา ณ์ ชี้ แ จงมา โดย ่ นตั ผู้เขียนแล้ รู้ ึกเ ียดายเ ลือเกิน เพราะบ่อยครั้ง ่ นที่ตัดทิ้ง รือปรับ เปลี่ ย นมี เ นื้ อ าที่ ท� า ใ ้ ั ม ผั นิ ั ย ใจคอและการใช้ ชี ิ ต ของผู ้ ใ ้ ั ม ภา ณ์ ไ ด้ แบบ มจริ ง แต่ ผ มก็ ท� า ตามที่ เ ขาขอมาทุ ก ประการ ยกเ ้ น บางกรณี ที่ ตั ด ทิ้ ง รือปรับเปลี่ยนแล้ จะท�าใ ้ทิ ทางของเรื่องเปลี่ยนไป ากท�าตามค�าขอไม่ได้ เราจะเ นอตั เลือกอื่นใ ้พร้อมขออนุญาต กรณีแก้และตัดทิ้ง ลายจุด เราจะ ่งต้นฉบับใ ม่ที่เขียนแก้แล้ ไปใ ้ ผู้ใ ้ ัมภา ณ์ตร จ อบอีกครั้ง เพื่อค ามถูกต้องแม่นย�า ต้นฉบับที่เขียนขึ้น UNDERGROUND 13


ใ ม่จะถูกตร จอีกครั้ง ากยังมีจุด ‘อยากใ ้เปลี่ยน’ อยู่อีก เราจะด�าเนินขั้นตอน เดิมซ�้าเท่าที่เ ลาเอื้ออ�าน ย มีผู้ใ ้ ัมภา ณ์คน นึ่งคุยตอบโต้กันแบบนี้ถึง ้ารอบ เราไม่อยากท�าใ ผ้ ใู้ ้ มั ภา ณ์ซงึ่ ยินดีตอบรับค�าขอทุกท่านต้องเดือดร้อน ในโลกค ามเป็นจริง และอยาก ลีกเลี่ยงเต็มที่ ไม่ท�าอะไรใ ้รู้ ึกไม่ดี ผมอยาก ขจัดค ามไม่ไ ้ างใจ อื่ ทีม่ อี ยูโ่ ดยทั่ ไป ไม่อยากใ ท้ กุ ท่านรู้ กึ ่า ‘มันไม่น่าจะเป็น แบบนี้นี่’ ‘อุต ่า ์เชื่อใจใ ้ค ามร่ มมือแต่กลับ ลอกกัน’ งานแก้และตัดทิ้งตาม ค�าขอผู้ใ ้ ัมภา ณ์จึงกระท�าอย่างประณีตและใ ้เ ลามากที่ ุดเท่าที่จะใ ้ได้ จ�าน นผู้ใ ้ ัมภา ณ์ทั้ง มดมี ก ิบ องคน แต่ดังที่กล่า ไปแล้ ่า โดนปฏิเ ธไม่ใ ้ตีพิมพ์บท ัมภา ณ์ ลังท�าต้นฉบับเ ร็จแล้ มี องรายเป็น บท ัมภา ณ์ �าคัญมีเนื้อ าลึกซึ้งทั้งคู่ บอกตามตรง ่ามันเจ็บป ดเ มือนถูก เฉือนร่าง เ ลาต้องทิ้งต้นฉบับที่ท�าเ ร็จแล้ แต่เมื่อผู้ใ ้ ัมภา ณ์เซย์ ‘โน’ จะไม่ตัดใจคงไม่ได้ ไม่ ่าอย่างไรเราก็ ัมภา ณ์โดยเคารพค าม มัครใจของ ผู้ใ ้ ัมภา ณ์เ มอมาตั้งแต่ต้นจนจบ แน่นอน ่าบางครั้งเราต้องอธิบายและพูด โน้มน้า บ้าง แต่ถ้าค�าตอบยังเป็น ‘โน’ เราก็ต้องถอย ากกล่า ในอีกมุม นึ่ง ค�าบอกเล่าของผู้คนซึ่งร บร มไ ้ใน นัง ือนี้ เกิดขึ้นโดยค าม มัครใจทั้ง มด และเป็นไปในแง่บ ก เราไม่ได้เ ริมเติมแต่ง ประโยค ไม่ได้ชี้น�า ไม่ได้ ั่งใ ้ท�าใดๆ ทั้ง ิ้น ค าม ามารถในการเขียนของผม ( าก ่ามันพอจะมีอยู่บ้าง) จดจ่ออยู่แค่เรื่องเดีย คือ ‘ผมจะน�าค�าบอกเล่าของ ทุกคนมาถ่ายทอดอย่างที่มันเป็นใ ้อ่านง่ายขึ้นได้อย่างไร” ตอนท้าย เราย�้ากับผู้ใ ้ ัมภา ณ์ ่ น นึ่งซึ่งยินยอมใ ้ใช้ชื่อจริง ่า “ ากใช้ชื่อจริง อาจมีปฏิกิริยาจาก ังคมรอบข้างในระดับ นึ่ง รับได้ใช่ไ มครับ” เมื่อถามแล้ เราจึงลงชื่อจริงของผู้ที่ตอบ ่า “รับได้” ผมขอขอบคุณอย่าง ุดซึ้ง ที่ท่านยินยอมใ ้ใช้ชื่อจริง เพราะการตีพิมพ์คา� ัมภา ณ์ลง นัง ือโดยใ ้ผู้เล่า ใช้ชื่อจริง ารที่อยู่ในข้อค ามจะ ่งผลไปยังผู้อ่านได้รุนแรงขึ้นมาก ไม่ ่าจะเป็น อารมณ์โกรธ ค�าอ้อน อน ค ามเ ร้าโ ก รืออะไรก็ตาม... 14 HARUKI MURAKAMI


กระนั้น เราไม่ได้ทิ้งข ้างผู้ที่เลือกใช้นาม มมุติ แน่นอน แต่ละคนย่อม มีเ ตุผลแตกต่างกันไป ผมเข้าใจดียิ่ง ต้องขอบคุณอีกครั้งด้ ยซ�้า ที่ยังกรุณาใ ้ ัมภา ณ์ แม้จะมีเ ตุจ�าเป็น ่ิ ง ที่ ผู ้ เ ขี ย นถามเป็ น อั น ดั บ แรกในการ ั ม ภา ณ์ คื อ ภู มิ ลั ง ของผู ้ ใ ้ ัมภา ณ์แต่ละคน เกิดที่ไ น เติบโตมาอย่างไร มีงานอดิเรกอะไร ท�างาน แบบไ น ใช้ ชี ิ ต กั บ ครอบครั อย่ า งไร—ประมาณนั้ น โดยเฉพาะเรื่ อ งงาน ผมจะถามละเอียดเป็นพิเ ผมแบ่งพื้นที่และเ ลามากมายใ ้กับการ อบถามภูมิ ลัง ่ นตั ของ ผูใ้ ้ มั ภา ณ์ เพราะผมอยากใ น้ กึ โฉม น้าโดยละเอียดของ ‘ผูเ้ ยี าย‘ แต่ละคน ได้ถูกต้องและชัดเจนขึ้น ักนิด ไม่อยากใ ้คนมีเลือดเนื้อที่อยู่ตรง น้าต้องจบ ลงด้ ยการเป็น ‘ นึ่งในผู้เ ีย ายไร้ น้าจ�าน นมาก ( ันออฟเด็ม)’ ผมไม่ นใจ ข้อมูล ‘คร่า ๆ โดยร มๆ’ ักเท่าไร จะ นใจเฉพาะ ถานภาพค ามเป็นไปโดย ละเอียดของมนุ ย์แต่ละคน—ที่ทดแทนกันไม่ได้ ( รือทดแทนได้ยาก) — ่ น นึ่งอาจเพราะผมเป็นนักเขียนอาชีพด้ ยกระมัง ฉะนั้นเ ลาผู้ใ ้ ัมภา ณ์อยู่ตรง น้า ผมจะใช้เ ลา องชั่ โมงอันจ�ากัด ร บร ม ติ พยายามท�าค ามเข้าใจอย่าง ละเอียดลึกซึ้ง ่า ‘คนคนนี้เป็นคนอย่างไร’ และเขียนออกมาเป็นประโยคถ่ายทอด ใ ้ผู้อ่านโดยตรง แม้จริงๆ แล้ จะมีเรื่องรา มากมายซึ่งไม่อาจถ่ายทอดเป็นตั อัก รได้ เพราะผู้ ัมภา ณ์ไม่ยินยอมก็ตาม ผม ั ม ภา ณ์ ใ นลั ก ณะนี้ เ พราะข้ อ มู ล ่ นตั ของ ‘ผู ้ ก ระท� า ผิ ด = ผู้เกี่ย ข้องกับโอมชินริเกีย ’ ถูก ื่อม ลชนขุดคุ้ยจนรู้ชัดไปถึง ่ นยิบย่อยแล้ เผยแพร่ ู่ ังคม งก ้างในรูปแบบของเรื่องเล่าและข้อมูลน่า ลงใ ลประเภท นึ่ง เทียบกันแล้ การน�าเ นอข้อมูลฝั่ง ‘ผู้เ ีย าย = ประชาชนธรรมดา’ เ มือนแค่ น�าเ นอเพราะจ�าเป็นต้องท�า แทบทุกครัง้ พ กเขาจะได้รบั เพียงบทบาท ‘คนเดินผ่าน A’ มีน้อยมากที่จะน�าเ นอเรื่องรา น่า นใจ จนผู้คนอยากฟัง น�าซ�้าเรื่องรา อัน น้อยนิดเ ล่านั้นยังถูกเล่าด้ ย ไตล์การเขียนซึ่งแต่งจนน�า้ เน่าซ�้าซาก UNDERGROUND 15


ผมเกรงว่า ไตล์การเขียนของ ื่อทั่วไปพยายามจะตราภาพลัก ณ์ผู้ เ ีย ายใ ้เป็น ‘ประชาชนธรรมดาไร้เดียง าผู้ถูกท�าร้าย’ พูดแบบเถรตรง คือ ถ้าผู้เ ีย ายไม่มีตัวตนเรื่องราวจะด�าเนินไปได้ ะดวกกว่า อีกทั้งการจับคู่ขั้ว ตรงข้ามแบบดั้งเดิมอย่าง ‘ประชาชนผู้เริงร่า (ไร้ น้าตา)’ กับ ‘ตัวโกงผู้มี น้าตา’ ท�าใ ้นึกภาพตามได้ง่ายมาก ากท�าได้ ผมอยากถอดแบบแผนทีถ่ กู ตราไว้ทงิ้ ไปเ ยี ผูโ้ ดย ารแต่ละคน ทีข่ นึ้ รถไฟใต้ดนิ เช้าวันนัน้ มี น้าตา มีไลฟ์ ไตล์ มีชวี ติ มีครอบครัว มีเรือ่ งน่ายินดี มี ปัญ า มีดราม่า มีความขัดแย้ง ภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ต้องมีเรื่องราวซึ่งรวม เอา ิ่งเ ล่านั้นทั้ง มดไว้ด้วยกัน ไม่มีทางที่จะไม่มี เพราะคุณยังมีเลย ผมเองก็มี เ มือนกัน ผมจึงอยากรู้จักตัวตนของเขา/เธอก่อนเป็นอันดับแรก จะเอามาเขียนเล่า โดยละเอียดได้ รือไม่ เป็นอีกเรื่อง เมื่อ อบถามข้อมูล ่วนตัวแล้ว จะเปลี่ยนไปคุยเรื่องวันเกิดเ ตุ ไม่บอกก็ คงรู้ว่า นี่คือประเด็น ลัก ผมตั้งใจฟังเรื่องราวของทุกคน แล้วถามค�าถาม “ �า รับคุณ วันนั้นเป็นวันยังไงครับ” “คุณได้เ ็นอะไร ัมผั อะไร และรู้ ึกยังไง” (บางคน) “คุณเจ็บปวด (ทางร่างกาย/จิตใจ) อย่างไรบ้างจากเ ตุการณ์ นั้น” “ ลังเ ตุการณ์นั้น คุณยังคงเจ็บปวดอยู่ไ ม” ระดับความเ ีย ายจากเ ตุการณ์มี ลาก ลายระดับ มากน้อยแล้ว แต่คน มีทั้งคนที่แทบไม่ได้รับผลกระทบอะไรเป็นรูปธรรม คนที่โชคร้ายต้องจบ ชีวิต คนที่อาการ า ั ยังต้องท�ากายภาพบ�าบัดจนบัดนี้ก็มี ลายคนตอนเกิด เ ตุไม่เป็นอะไรมาก แต่ภาย ลังต้องทรมาน ( รือยังทรมานอยู่) กับอาการ PTSD (ภาวะ วาดผวาจากภัยพิบัติ; Post-Traumatic Stress Disorder) แต่ ากมอง 16 HARUKI MURAKAMI


จากมุมของ ื่อทั่ ไป การมีบทค ามเกี่ย กับคนอาการ า ั มากมายเรียงเป็น แถ อาจมีค่าทาง ังคมมากก ่า แต่ �า รับผม ขอแค่เป็นผู้บังเอิญอยู่ในที่เกิดเ ตุและโดนฤทธิ์ซาริน เล่นงานในทางใดทาง นึ่ง ผมก็เดิน น้าเก็บข้อมูล โดยไม่ นใจ ่าอาการ นัก รื อ เบา ากได้ รั บ อนุ ญ าตก็ จ ะน� า มาลง นั ง ื อ ทั้ ง มด แน่ น อน ่ า ผู ้ ไ ด้ รั บ ค ามเ ีย ายระดับเบาจะกลับไปใช้ชี ิตปกติได้เร็ ค ามเ ีย ายที่มองเ ็น ได้ มี น ้อ ย แต่ ่าพ กเขาก็มีค ามรู้ ึกในแบบของพ กเขา มีค าม าดกลั และได้รบั บทเรียน ากได้อา่ นจะทราบ ่า ไม่ใช่เรื่องจะมองข้ามง่ายๆ เพียงเพราะ ‘อาการไม่ นัก’ ันที่ 20 มีนาคมถือเป็น ันพิเ ที่มีค าม �าคัญแตกต่างกัน ไป า� รับทุกคนในที่นั้น นอกจากนี้ ผม ัมผั ได้ ่าการ ยิบเรื่องรา ของผู้เ ีย ายจ�าน นมากมา เล่าอย่างเท่าเทียม ไม่เกี่ยงอาการ นักเบา อาจเป็นการล้างภาพร มของเ ตุการณ์ ใ ม่อีกรอบก็ได้ ในเรื่องนี้ผมอยากใ ้ทุกท่านตัด ินเมื่อได้อ่านจริง มีผู้ใ ้ ัมภา ณ์จ�าน น นึ่งเคยใ ้ ัมภา ณ์ ื่ออื่นมาก่อน แต่ต่างก็ ไม่พอใจเพราะ ‘ ุดท้ายเรื่องที่อยากพูดจริงๆ ก็ถูกตัดทิ้ง ค�าพูดเ ลือแค่ ั้นๆ ฟังดูครึ่งๆ กลางๆ’ รุปคือ ‘ถูกตัดต่อไปใช้แบบ ่งเดชเฉพาะ ่ นที่ ื่อน�าไป ร้าง เรื่องรา ได้ง่าย’ เราใช้เ ลานานพอค รก า่ จะอธิบายใ บ้ างคนเข้าใจ า่ การ มั ภา ณ์ของ เราครา นี้ใช้ ิธีการและมีจุดมุ่ง มายตรงข้ามกับที่เคยมีมาอย่าง ิ้นเชิง เพราะทุก คนก็ งุด งิดกันไม่น้อย น่าเ ียดายที่บางคนก็ยังไม่เข้าใจ แม้จะอธิบายเต็มที่แล้ เพื่อจะ ื่อค ามนัยเช่นนั้น ผมจึงอยากบันทึกเรื่องรา ที่ได้ฟังในการ ัมภา ณ์ครั้งนี้เก็บเป็นข้อมูลใ ้มากที่ ุด แต่แน่นอน ่าเรามี น้ากระดา จ�ากัด และมีข้อจ�ากัดเรื่องปริมาณ น้าใ ้อ่านง่าย เราจึงต้องเรียบเรียงโดยตั้งกรอบ แต่ละด้านใ ้เ มาะ ม ในที่ ุดจึงลงตั ที่กระดา ต้นฉบับขนาด ี่ร้อยตั อัก ร ประมาณยี่ ิบถึง าม ิบแผ่นโดยเฉลี่ย บทที่ยา ุดมีถึง ้า ิบแผ่น UNDERGROUND 17


ผมบอกไป ่า “ไม่เกี่ยงอาการ นักเบา” แต่ถึงกระนั้น เค ที่อาการ นั ก ก็ มี จ� า น น น้ า กระดา ยา ก ่ า อยู ่ ดี เพราะขั้ น ตอนเข้ า รั ก าพยาบาล ขั้นตอนฟื้นตั รือค าม นัก นาในค ามรู้ ึก ขนาดบาดแผล มีเรื่องที่ค รถูก กล่า ถึงอยู่มาก ผมอยากใ ้ตั้งใจฟังเรื่องที่ทุกคนจะเล่า ักพัก ไม่ ิ ก่อนอื่น ผมอยากใ ้นึกภาพดู ันนั้นเป็น ันจันทร์ที่ 20 มีนาคมปี 1995 เช้าต้นฤดูใบไม้ผลิ อากา แจ่ ม ใ ดชื่ น ลมยั ง นา อยู ่ ผู ้ ค นตามถนนทุ ก คนยั ง มเ ื้ อ โค้ ต เมื่ อ าน เป็น ันอาทิตย์ ่ นพรุ่งนี้เป็น ัน ยุด ันต ิ ุ ัต2 —พูดง่ายๆ คือขนาบด้ ย ัน ยุด คุณคงคิด ่า ‘ถ้า ันนี้ ยุดได้ก็อยาก ยุดจัง’ แต่น่าเ ียดาย คุณลา ไม่ได้ เพราะติดเ ตุจ�าเป็น ลายๆ อย่าง คุณจึงตื่นเ ลาเดิม ล้าง น้า กินอา ารเช้า แต่งตั มุ่ง น้าไป ถานีรถไฟ ขึ้นรถไฟแน่นขนัดไปบริ ัทเ มือนเคย เป็นเช้าในแบบเดิมๆ ไม่มีอะไรพิ ดาร เป็นเพียงอีก ัน นึ่งของชี ิตที่ไม่ต่างจาก ันอื่น จนกระทั่งชายแต่งตั อ�าพราง ้าคนใช้ปลายร่มซึ่งเ ลาด้ ยเครื่องเจียร จนแ ลม เจาะถุงพลา ติกบรรจุของเ ล ประ ลาด...

2 วันที่ช่วงระยะเวลากลางวันยาวนานเท่ากับกลางคืน ในฤดูใบไม้ผลิ ญี่ปุ่นถือเอาวันนี้เป็นวัน

เปลี่ยนจากฤดูหนาวมาเป็นฤดูใบไม้ผลิ และเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ 18 HARUKI MURAKAMI


สายจิโยดะ A725K ที ม ปล่ อ ยซาริ น บนรถไฟใต้ ดิ น ายจิ โ ยดะคื อ คู ่ ข องฮายาชิ อิ คุ โ อะ กั บ นิ อิ มิ โทโมมิต ึ ฮายาชิเป็นผู้ลงมือ ่ นนิอิมิขับรถ เ ตุใดฮายาชิซึ่งเป็นแพทย์แถม อายุมาก อยู่คนละขั้ กับ ‘ขาลุย’ ของกระทร ง ิทยา า ตร์และเทคโนโลยี แ ่งลัทธิโอมชินริเกีย ถึงถูกเลือกใ ้เป็นผู้ลงมือนั้นไม่เป็นที่กระจ่าง แต่เจ้าตั ฮายาชิคาด ่า ‘น่าจะเพื่อปิดปาก’ โดยใ ้มี ่ นร่ มในเ ตุการณ์เพื่อปิดทาง นี ณ ตอนนั้น ฮายาชิรู้อะไรต่ออะไรมากเกิน แล้ เขาก็ รัทธาในตั อาซาฮาระโชโก อย่างลึกซึ้ง แต่เ มือนฝ่ายอาซาฮาระจะไม่ไ ้ใจเขาแบบ นิทใจนัก ตอนโดน ั่ง ่า “ปล่อยซารินซะ” “ผมรู้ ึกเ มือนใจมัน ดเล็กลงอยู่ข้างในอก” เจ้าตั เล่า พร้อมแก้ ่า “แต่ใจก็ต้องอยู่ในอกอยู่แล้ เนอะ” เขาขึ้นรถไฟ ายจิโยดะ ขบ นไปโยโยงิอุเอฮาระตู้ น้า ุด ออกจาก ถานี คิ ต ะเซ็ น จุ 7.48 น. เจาะถุ ง ซาริ น ที่ ถานี ชิ น โอจาโนะมิ ซึ แ ละลงที่ นั่ น นิอิมิรออยู่ น้า ถานีชินโอจาโนะมิซึ รับฮายาชิซึ่งปฏิบัติภารกิจเ ร็จ ขึ้นรถกลับ ฐานที่ ชิ บุ ย ะ—นั่ น คื อ ภารกิ จ ที่ ทั้ ง คู ่ ไ ด้ รั บ มอบ มาย ฮายาชิ ไ ม่ อ าจปฏิ เ ธได้ เขาบอกตั เอง ่า “นี่คือ นึ่งในการฝึกม ามุทรา” การฝึกม ามุทราคือการฝึก �าคัญเพื่อใ ้ได้ล�าดับชั้นผู้รู้แจ้ง3 “ถ้าจะปฏิเ ธก็ปฏิเ ธได้ไม่ใช่ รือ” ทีมทนายค ามของอาซาฮาระถามจี้ ฮายาชิตอบ ่า “ถ้าผมปฏิเ ธได้ คดีโอมชินริเกีย ทั้ง มดคงไม่เกิดขึ้น (แต่แรก) รอกครับ” ฮายาชิเกิดปี 1947 เป็นลูกชายคนรองของแพทย์ที่เปิดคลินิก ่ นตั ในชินางา ะ เรียนมัธยมโรงเรียน าธิตม า ิทยาลัยเคโอ และ ึก าต่อในคณะ แพทย า ตร์ม า ิทยาลัยเดีย กัน เข้าท�างานที่โรงพยาบาลเคโอในฐานะแพทย์ ผู้เชี่ย ชาญด้าน ัลยกรรม ั ใจ ลังจากนั้นเป็น ั น้าแผนก ทัย ิทยาของ 3 Seigoshi ล�าดับชั้นผู้น�าระดับสูงของลัทธิโอมชินริเกียว UNDERGROUND 19


โรงพยาบาลโคคุ ริ ท ึ เ รี ย โยโชะ ที่ มู ่ บ ้ า นโทไค จั ง ั ด อิ บ ารากิ ุ ด ยอด ปัญญาชนอย่างไม่ต้อง ง ัย น้าตา ล่อเ ลา ใบ น้าบ่งบอกถึงค ามมั่นใจใน อาชีพตนคงได้มาโดยธรรมชาติเมื่อเป็น มอ ดูเ มือนผมกลางกระ ม่อมจะเริม่ บางเล็กน้อย ลังตรง ใบ น้ามองตรง นักแน่นเ มือนแกนน�าโอมชินริเกีย ่ นใ ญ่ แต่ ธิ กี ารพูดกลับราบเรียบไม่เป็นธรรมชาติบอกไม่ถกู ตอนผมไปร่ มฟัง ค�าใ ้การใน าล โดย ่ นตั ผมรู้ ึกเ มือนอารมณ์ชนิด นึ่งในตั เขาถูก กัด กั้นไ ้ไม่ใ ้แ ดงออกมา เขา ันมานับถือโอมชินริเกีย กะทัน ัน ขณะ น้าที่การงานก�าลังรุ่งโรจน์ เขาลาออกจากงานในปี 1990 และออกบ ชพร้อมครอบครั ลูก องคนก็เข้ารับ การ ึก าพิเ ภายในลัทธิ โรงพยาบาลเ ียดายค าม ามารถของเขา จึงรั้งตั ไ ้ แต่ฮายาชิตัด ินใจแน่ แน่แล้ เ มือนเขาแทบจะไม่อาลัยอา รณ์งานแพทย์เลย ในลัทธินั้นอาซาฮาระโชโกนิยมชมชอบปัญญาชน จึงไ ้ างใจเขาใ ้ท�า น้าที่ ‘รัฐมนตรีกระทร งการรัก าพยาบาล’ พอถึงจุดจุด นึ่งฮายาชิเริ่มกังขาเกี่ย กับงานแพทย์ซึ่งตนท�าอยู่แบบ ลัดไม่ออก ตอนนั้นเอง ลักค�า อนของอาซาฮาระ โชโกใ ้ค�าตอบที่ก้า ข้าม ิทยา า ตร์ไปได้ จนเขา ลงใ ลชนิดยากจะต้านทาน เ ลาตี าม ันที่ 20 ฮายาชิ อิคุโอะผู้ได้รับเลือกใ ้ลงมือปล่อยซาริน บนรถไฟใต้ดินถูกพาไปที่ซาเทียม4 มายเลขเจ็ดใน มู่บ้านคามิคุอิชิกิ เพื่อซ้อม เจาะถุงซารินกับผู้ลงมืออีก ี่คน ใช้ปลายร่มเ ลาด้ ยเครื่องเจียรเจาะถุงพลา ติก ขนาดเดีย กันซึ่งบรรจุน�้าแทนซารินใ ้ทะลุ ผู้ค บคุมการฝึกคือมุราอิ ฮิเดโอะ ผู้น�าระดับ ูงของลัทธิ มาชิกคนอื่นดูจะ นุกกับการฝึกภาคปฏิบัติบ้าง แต่ฮายาชิ อิคุโอะกลับ รี่ตามองการกระท�าของ มาชิกคนอื่นทั้ง ี่คน เขาไม่ลงมือเจาะด้ ย ใน ายตาของแพทย์อา ุโ อายุ ี่ ิบแปด ทุกอย่างดูเ มือนเกมบอกไม่ถูก ฮายาชิเล่า ่า “ผมไม่ได้ซ้อมเลย ผม ่าแค่ดูก็น่าจะท�าได้น่ะ แต่จริงๆ แล้ 4 ชื่อสถานที่ประกอบพิธีของโอมชินริเกียว มาจากภาษาสันสกฤตแปลว่า ‘ความจริง’ 20 HARUKI MURAKAMI


ผมไม่ซ้อม เพราะไม่มีแก่ใจมากกว่า” ลังซ้อม ผู้ลงมือทั้ง ้านั่งรถยนต์กลับฐานที่ชิบุยะ ฮายาชิผู้เป็น มอ แจกจ่ายเข็มฉีดยาบรรจุอาโทรปินซัลเฟต5 ใ ้ทุกคน ั่งว่า “ถ้าปรากฏอาการจาก พิ ซาริน รีบฉีดยานี้ใ ้ตัวเองทันที” ระ ว่างทางไป ถานี ฮายาชิขอซื้อถุงมือ คัตเตอร์ เทปกาว และรองเท้า แตะที่ร้าน ะดวกซื้อ อิชิงายะ นิอิมิ คนขับรถ ซื้อ นัง ือพิมพ์ �า รับ ่อถุ ง พลา ติกบรรจุซารินมา เป็น นัง อื พิมพ์เซเกียว กับ อำคำฮำตะ อารมณ์ขนั ชัน้ ยอด ของนิอิมิ "ใช้ นัง ือพิมพ์แปลกๆ ที่ าซื้อยาก มัน นุกกว่า” จากตัวเลือกทั้ง อง ฮายาชิเลือก อำคำฮำตะ เพราะถ้าใช้ นัง ือพิมพ์เซเกียวของ มาคม ร้างคุณค่า ซึ่งเป็นปฏิปัก ์กันมานาน จะดูโจ่งแจ้งเกินจน ่งผลตรงข้าม ฮายาชิ วมผ้าปิดปากก่อนขึ้นรถไฟ มายเลขขบวนคือ A725K พอเ ็น ผู้ ญิงและเด็กในตู้โดย าร จิตใจของฮายาชิก็ ั่นไ วเกินคาด “ถ้าปล่อยซาริน ตอนนี้ ผู้ ญิงเยื้องขวาด้าน น้าเราต้องตายแน่ ถ้าเธอลงไปก่อนก็คงดี” ฮายาชิคิด แต่มาถึงขัน้ นีไ้ ม่ลงมือไม่ได้แล้ว นีค่ อื การต่อ เู้ พือ่ จั ธรรม จะใจเ าะแพ้ตวั เองไม่ได้ ตอนรถไฟใกล้ถึง ถานีชินโอจาโนะมิซึ เขาทิ้งถุงซารินลงตรงเท้า ตัด ิน ใจแน่วแน่ ใช้ปลายร่มเจาะเข้าไป มีแรงต้านมือ “รู้ ึกดึ๋งๆ เ มือนมีแรงต้าน” เขา เจาะอีก ลายครั้ง แต่จ�าไม่ได้ว่ากี่ครั้ง ุดท้ายมีถุงซารินทะลุเป็นรูเพียงถุงเดียว จากทั้ง มด องถุง อีกถุงไม่ได้แตะต้องเลย แต่น�้าซารินไ ลออกจากถุงที่เจาะรูจนเกลี้ยงระเ ยเป็นแก๊ ร้างความ เ ยี ายอย่าง นักต่อผูโ้ ดย าร เจ้า น้าที่ ถานีคา มุ งิ าเซกิ องคนซึง่ พยายามเก็บ ่อไปทิ้งเ ียชีวิตใน น้าที่ รถขบวน A725K ยุดเดินรถที่ ถานีคกไคงิจิโดมาเอะ ใ ้ผู้โดย ารลงทั้ง มดเพื่อล้างตู้ ซารินทีฮ่ ายาชิ อิคโุ อะปล่อยท�าใ ม้ ผี เู้ ยี ชีวติ องคน และบาดเจ็บ องร้อย าม ิบเอ็ดคน 5 Atropine sulfate ยาฉีดต้านสารชีวพิษที่เป็นพิษต่อระบบประสาท UNDERGROUND 21


อิซึมิ คิโยกะ ขณะเกิดเหตุอายุ 26 ปี “มองแวบเดียวก็รู้ค่ะ ไม่มีใครรับมือได้อย่างมีสติเลยสักคน” คุณอิซึมิเกิดที่คานาซา ะ ปัจจุบันท�างานฝ่ายประชา ัมพันธ์ของ ายการบิน ร่ มทุนต่างประเท ลังจบม า ิทยาลัย เข้าท�างานธุรการทั่ ไปที่ JR6 ด้ ยอะไร ลายๆ อย่าง แต่ ลังจากท�าไป ามปีเธอเริม่ อยากท�างาน ายการบินขึน้ มาแบบ ดุ จิต ดุ ใจ จึงตัด ินใจเปลี่ยนงานเมื่อ องปีก่อน งาน ายการบินเป็นค ามฝันมาตั้งแต่เด็ก แต่การเข้าท�างาน ายการบินนี้แบบกลางคัน ต้องฝ่าฟันอุป รรคใ ญ่ถึงขั้น นึ่ง พันคนรับแค่คนเดีย และเปลี่ยนงานได้ไม่ทันไร ก็ประ บเ ตุการณ์ซารินระ ่าง ไปบริ ัท คุณอิซึมิบอกเอง ่า “ฉันชอบเรียนรู้เป็นพิเ ค่ะ” เท่าที่ดู เป็นคน กระตือรือร้นและคิดบ กไม่ ่าเรื่องอะไร มีนิ ัยเมื่อตั้งเป้า มายใ ้ตั เองแล้ จะมุ่งตรงไป ามัน กล่า แบบมี าท ิลป์คือ เป็นพ ก ‘รักค ามถูกต้อง’ คงจะ ฟังโบราณไป น่อย แต่ ัมผั ได้ ่าเธอซื่อตรง ชัดเจน ไม่อ้อมค้อมตั้งแต่ต้นจนจบ เธอบอก ่า ถ้าไม่ได้ท�างาน ายการบิน ก็อยากเป็นเลขานุการนักการเมือง เ ็น ่า เตรียมอ่าน นัง ือเพื่อจะ อบเข้าท�างานแล้ ด้ ย ากได้เป็นจริง ผม ่าเธอต้อง เป็นเลขานุการที่เก่งฉกาจแน่ จะเล่าก็กระไรอยู่ แต่เ ็นเธอแล้ ผมอด ‘ร�าลึกอดีต’ ไม่ได้ รู้ ึก ่า มัยมัธยมปลายในชั้นเรียนจะมีเด็กผู้ ญิง นักแน่นแบบนี้อยู่คน นึง่ มัยนี้จะยัง มีไ มนะ 5 Japan Railway Group กลุ่มบริษัทรถไฟญี่ปุ่นซึ่งมี 7 บริษัท แปรรูปมาจากการรถไฟญี่ปุ่น

เมื่อวันที่ 1 เมษายน ค.ศ. 1987 22 HARUKI MURAKAMI


เธอบอกตามตรงว่างานที่ JR ไม่ค่อย นุก ถึงจะได้เรียนรู้ ังคม ลาย อย่างก็จริง แต่ในที่ท�างาน บุคลากรคือทุก ิ่ง ภาพแรงงานในบริ ัทมีอ�านาจ มากเ มือนเป็นพื้นที่เฉพาะ ดูรวมๆ แล้วคับแคบไม่เข้ากับตัวเธอเลย เธออยาก ท�างานทีใ่ ช้ภา าอังกฤ ด้วย รอบข้างคัดค้านว่า “ไม่เ น็ ต้องลาออกเลยนี”่ แต่เธอ ไม่ฟังและท�าตามการตัด ินใจของตัวเองแน่วแน่ ย้ายมาบริ ัทปัจจุบัน แต่ตอน เจอเ ตุการณ์ซาริน บทเรียนรับมือ ถานการณ์ฉุกเฉินซึ่งเคยฝึก มัยเรียนงาน ที่ JR กลับมีประโยชน์อย่างคาดไม่ถึง เธอมีนิ ัยชอบปฏิ ัมพันธ์กับผู้คนอย่างยิ่ง ขนาดไม่ยอมเข้าร้านกาแฟ คนเดียว และยังบอกด้วยว่า“อยู่คนเดียวมันเ งาเกิน ฉันท�าไม่ได้ รอกค่ะ”

UNDERGROUND 23


ช่วงเกิดเหตุ ฉันพักอยู่แถววาเซดะ แต่เริ่มรู้สึกว่าแคบเลยเพิ่งย้ายออกมาค่ะ บริษัทอยู่คามิยะโจ เวลาไปท�างาน ฉันขึ้นสายโทไซจากวาเซดะไปลง โอเตะมาจิ ต่อสายจิโยดะไปลงคาสุมิงาเซกิ แล้วนั่งสายฮิบิยะ ต่ออีกสถานีเดียวก็ ถึงคามิยะโจค่ะ บริษัทเริ่มงาน 8.30 น. ปกติฉันจึงออกจากบ้านประมาณ 7.45 น. หรือ 7.50 น. ถึงบริษัทก่อน 8.30 น. เล็กน้อย แต่เทียบกับคนอื่นแล้วถือว่าฉัน ไปท�างานเร็วนะ ทุกคนมาฉิวเฉียดกว่านั้น ที่บริษัทญี่ปุ่นเราถูกสอนกันว่ามาก่อน เวลาสามสิบนาทีหรือหนึ่งชั่วโมงเป็นเรื่องธรรมดา แต่ที่บริษัทร่วมทุนต่างชาติ เรามองว่าแต่ละคนควรเริ่มงานเวลาที่สะดวก มาเร็วก่อนเวลาเริ่มงานใช่ว่าจะได้ คะแนนดีขึ้นนะคะ ตอนเช้าตื่นประมาณ 6.15 น. หรือ 6.20 น. ค่ะ ฉันไม่ค่อยกินอาหารเช้า แค่ดื่มกาแฟนิดหน่อย รถไฟสายโทไซแน่นพอสมควร ถ้าไม่นับเรื่องรถแน่นก็ ไม่ได้ มีอะไรไม่พอใจ ที่ผ่านมายังไม่เคยเจอพวกโรคจิตอะไรเลย ปกติฉันแทบไม่ป่วยเลย แต่วันที่ 20 มีนาคมไม่สบายแต่เช้า หนักด้วย แต่ คิ ด ว่ า ไปท� า งานดี ก ว่ า เลยขึ้ น รถไฟ ฉั น ลงจากสายโทไซต่ อ สายจิ โ ยดะที่ โอเตะมาจิ คิดว่า ‘วันนี้ ไม่ค่อยสบาย‘ แล้วสูดหายใจเข้าแบบไม่ได้คิดอะไร แต่จู่ๆ ลมหายใจก็ชะงักไปเฉยๆ ตอนนั้นฉันอยู่ตู้ โดยสารหน้าสุดของสายจิโยดะ ถ้าอยู่ตู้หน้าสุด เวลาถึง สถานีคาสุมิงาเซกิจะใกล้ทางเดินไปสายฮิบิยะสุดน่ะค่ะ รถไฟไม่แน่นมาก ที่นั่งเต็ม ก็จริง แต่คนยืนมีแค่ประปราย มองเห็นไปถึงอีกฝั่งได้ค่ะ ฉันยืนจับราวประตูอยูส่ ว่ นหน้าสุด ตรงทีม่ หี อ้ งพนักงานเดินรถ พอหายใจ อย่างทีบ่ อกเมือ่ กีก้ อ็ ดึ อัดขึน้ มาทันที ไม่สิ ไม่ใช่แค่อดึ อัด มันเหมือนโดน ‘ต่อยจังๆ‘ น่ะค่ะ ลมหายใจชะงักไปเลย มันรุนแรงมาก จนรู้สึกว่าถ้าฝืนหายใจต่อเครื่องใน จะหลุดพรวดออกมาทางปาก เอาเป็นว่าฉันรู้สึกเหมือนอยู่ ในสุญญากาศเลยค่ะ คิดอยูว่ า่ เพราะไม่สบายหรือเปล่า แต่ตอ่ ให้ ไม่สบายแค่ไหน ก็ไม่นา่ เป็นมากขนาดนี้ มันรุนแรงถึงขัน้ นัน้ เลยค่ะ 24 HARUKI MURAKAMI


มาคิดตอนนี้ก็แปลกเหมือนกัน ตอนนั้นฉันคิดว่า ‘หรือคุณตาจะเสียแล้ว‘ คุณตาอยู่จังหวัดอิชิคาวะค่ะ ตอนนั้นอายุเก้าสิบสี่ แต่เสียไปเมื่อปีที่แล้ว เผอิญ ช่วงนั้นได้ยินว่าคุณตาเป็นหวัด เลยคิดไปก่อนว่าเป็นลางบอกเหตุหรือเปล่า สงสัย คุณตาจะเสียแล้ว ผ่านไปสักพัก เริ่มพอจะหายใจได้บ้าง แต่พอผ่านสถานีฮิบิยะ ก่อนถึง คาสุมิงาเซกิหนึ่งสถานี คราวนี้เริ่มไอหนักค่ะ ตอนนั้นทุกคนในตู้ โดยสารเริ่ม ไอค่อกแค่ก ฉันรู้สึกว่าสภาพในรถไฟมันแปลกๆ คนรอบข้างเริ่มแตกตื่นกัน... ในที่สุดรถไฟก็ถึงคาสุมิงาเซกิ ฉันไม่ได้คิดอะไร ลงจากรถไฟมาเลย แต่มผี ู้ โดยสารหลายคนลงไปบอกเจ้าหน้าทีด่ แู ลรถแถวนัน้ ว่า “มีอะไรแปลกๆ ช่วย มาดูหน่อย” แล้วพาเขาขึ้นไปบนรถไฟ ฉันไม่ได้อยู่ดูต่อ แต่เห็นว่านายสถานีคนนั้น เก็บห่อซารินในรถไฟออกมา แล้วเสียชีวิตในภายหลังค่ะ ฉันออกจากสถานีเดินไปทางสายฮิบิยะเหมือนเคย พอลงบันไดมาถึง ชานชาลาสายฮิบยิ ะก็ได้ยนิ เสียงสัญญาณไฟไหม้เสียงดัง ฉันฟังเสียงแจ้งเหตุฉกุ เฉิน ของสถานีจนชินตัง้ แต่สมัยอยู่ JR เลยรูท้ นั ที ‘อ๊ะ สงสัยจะมีอบุ ตั เิ หตุอะไรสักอย่าง’ ตอนนั้นมีเสียงไมค์ประกาศในสถานีด้วย ก�าลังคิดอยู่ว่า ‘ออกไปนอกสถานีดีไหม’ รถไฟสายฮิบิยะก็เข้าชานชาลาพอดี เห็นเจ้าหน้าที่สถานีปฏิบัติงานกันก็รู้ว่าเกิดเหตุโกลาหล ฉันเลยคิดว่า ‘สถานการณ์ ไม่ปกตินะเนี่ย’ รถไฟที่เข้าชานชาลามาเป็นรถไฟฝั่งตรงข้ามกับที่ฉัน จะขึ้น ไม่มีผู้ โดยสารแม้แต่คนเดียว ว่างเปล่าเลยค่ะ ฉันเพิ่งมารู้ทีหลังว่าจริงๆ บนรถขบวนนี้ก็มีซารินด้วย เห็นว่าเกิดเหตุผิดปกติที่คามิยะโจหรือที่ ไหนสักแห่ง นี่แหละ เลยให้ผู้ โดยสารลงจนหมด แล้วมาจอดที่ชานชาลาคาสุมิงาเซกิ หลังสัญญาณเตือนภัยดัง มีเสียงประกาศในสถานีว่า “ขอให้ทุกคนออก จากสถานี” ทุกคนรอบข้างจึงเริ่มขยับตัวมุ่งไปทางออก ตอนนั้นฉันเริ่มอาการ ไม่ ดี ขึ้ น มา คิ ด ว่ า แวะห้ อ งน�้ า ก่ อ นน่ า จะดี ก ว่ า ยั ง ไม่ ต ้ อ งรี บ ออกไปข้ า งนอก ฉันเลยหาห้องน�้าทั่วตึกจนเจอ อยู่ข้างๆ ห้องท�างานนายสถานี UNDERGROUND 25


พอฉันเดินผ่านหน้าห้อง ก็เห็นเจ้าหน้าที่สถานีประมาณสามคนนอนอยู่ ข้างใน มีเหตุถึงขั้นบาดเจ็บเสียชีวิตหรือไงนะ ฉันสงสัย แต่ก็ยังเดินไปเข้าห้องน�้า สักพักออกมาขึ้นบันได ไปโผล่ฝั่งหน้ากระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมระหว่าง ประเทศ ฉันเข้าห้องน�้าไปน่าจะประมาณสิบนาทีค่ะ ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่สถานี ที่นอนอยู่ในห้องถูกหามออกมาข้างนอกแล้ว ฉันขึ้นบันไดมาตรงทางออกแล้วหันไปมองรอบๆ จะเรียกว่าอะไรดีล่ะ สภาพมั น เหมาะกั บ ค� า เปรี ย บว่ า ‘นรก’ เลยละ มี ค นสามคนนอนอยู ่ บ นพื้ น มีช้อนเสียบคาปาก น่าจะมีคนสอดเข้าไปไม่ ให้ลิ้นจุกคอ มีเจ้าหน้าที่สถานีคนอื่น อยูอ่ กี ประมาณหกคน แต่ทกุ คนเอามือกุมหัวนัง่ ร้องไห้ทแี่ ปลงดอกไม้ ตรงช่วงพ้น จากบันไดออกมา มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งร้องไห้ โฮอยู่ (หมายเหตุ : คนนีค้ ือคุณโนซากิ ซึง่ จะปรากฏในหนังสือภายหลัง) พริบตาทีอ่ อกมาข้างนอก ฉันถึงกับพูดอะไรไม่ออก ไม่เข้าใจแม้แต่นิดว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ฉันทักเจ้าหน้าที่สถานีแถวนั้น ถามว่า “ฉันเคยท�างานที่ JR ค่ะ คุ้นเคย เรือ่ งจัดการสถานการณ์ฉกุ เฉินดี มีอะไรให้ชว่ ยไหมคะ” แต่ดวงตาเขากลับไม่โฟกัส ฉันเลย สภาพตาเหม่อลอยไร้จุดหมาย พูดแค่ว่า “ช่วยที!” ฉันเลยบอกเจ้าหน้าที่ สถานีที่นั่งอยู่ว่า “ไม่เอานะคะ ไม่ ใช่เวลามัวนั่งร้องไห้นะ” ได้ค�าตอบกลับมาว่า “เปล่า ผมไม่ได้ร้อง” แต่ตอนนั้นฉันมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากทุกคนก�าลัง ร้องไห้ค่ะ คิดว่าคงร้องไห้เสียใจที่เพื่อนเจ้าหน้าที่คนที่นอนอยู่ตายแล้ว พอถามว่า “เรียกรถพยาบาลหรือยัง” เขาบอกว่าเรียกแล้ว จะว่าไป ก็ ได้ ยินหวอรถพยาบาล แต่ไม่ได้มาทางนี้ ไม่รู้ท�าไมจุดที่พวกฉันอยู่ถึงโดนโยกไปช่วย ทีหลัง สุดท้ายกลายเป็นว่า คนอาการสาหัสสุดถูกน�าส่งโรงพยาบาลท้ายสุด และ ทั้งสองคนเสียชีวิตค่ะ กล้องของสถานี โทรทัศน์ทีวี โตเกียวจับภาพอยู่ตลอดข้างๆ มีรถตู้ติดป้าย ‘สถานี โทรทัศน์ทีวี โตเกียว’ จอดอยู่ตามคาด ฉันเลยเข้าไปเจรจา “ไม่ใช่เวลามัว ถ่ายภาพนะคะ ขอยืมรถพาพวกเขาไปโรงพยาบาลหน่อยค่ะ” คนขับรถเลยคุยกับ 26 HARUKI MURAKAMI


คนอื่นเล็กน้อย ก่อนบอกว่า “ได้เลยครับ มาเลย” ตอนอยู่ JR พวกฉันต้องพกผ้าพันคอสีแดงเสมอ เอาไว้ โบกเวลามี เหตุฉุกเฉิน พอโบกรถไฟจะหยุด ผ้าพันคอจึงผุดขึ้นในหัวเป็นอันดับแรก “ใครมี ผ้าพันคอสีสดๆ บ้างคะ” ฉันถามคนรอบๆ มีคนหนึ่งให้ยืม แต่มันผืนเล็กเกินไป สุดท้ายฉันเลยเอาผ้าเช็ดหน้าตัวเองให้คนขับรถสถานี โทรทัศน์ บอกว่า “พา พวกเขาไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดค่ะ สถานการณ์ก�าลังฉุกเฉิน ไฟแดงก็ ไม่เป็นไร บีบแตรแล้วขับไปเรื่อยๆ เลยค่ะ” ฉันจ�าสีผา้ เช็ดหน้าไม่ได้ น่าจะเป็นลายสีๆ คิดว่าอารมณ์นนั้ ค่ะ นึกไม่ออก ว่าบอกให้ โบกผ้าเช็ดหน้าหรือผูกกับกระจกข้าง ฉันเองก็ตื่นเต้นไม่น้อย ความจ�า ช่วงนั้นเลยไม่ค่อยแม่นนัก เอาเป็นว่า ฉันให้คุณทาคาฮาชิ เจ้าหน้าที่สถานีที่เสีย ชีวติ กับผูช้ ว่ ยนายสถานีขนึ้ รถ เบาะหลังยังนัง่ ได้อกี เลยมีเจ้าหน้าทีอ่ กี คนขึน้ ไปด้วย ภายหลังพอฉันได้พบคุณโทโยดะอีกครั้ง เขาให้ผ้าเช็ดหน้าผืนใหม่เป็น ของขวัญบอกว่า “พอดีคนื ผ้าเช็ดหน้าให้ ไม่ได้” เห็นว่าตอนนัน้ คนทีเ่ บาะหลังอาการ ไม่ดีเลยใช้ผ้าเช็ดหน้าไป ตอนนั้นคุณทาคาฮาชิน่าจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ฉันคิดตั้งแต่มองแวบแรกว่า “เขาไม่น่าจะรอด” ฉันไม่เคยเห็นคนใกล้ตายมาก่อน แต่มันแวบเข้ามาในหัวเลยค่ะ ว่า เขาคงตายไปทั้งสภาพนี้ แต่ก่อนอื่น ยังไงก็ต้องพยายามช่วย คนขับบอก “น้องนั่งไปด้วยสิ” แต่ฉันตอบว่า “ไม่ค่ะ ฉันไปไม่ได้” ยังมี คนถูกหามพาดบ่าขึ้นมาอีกหลายคนต้องดูแล ฉันเลยอยู่ต่อ ไม่รู้ว่ารถคันนั้นไป โรงพยาบาลไหน ไม่รู้ด้วยว่าสุดท้ายพวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง ข้างๆ ยังมีเด็กหญิงคนหนึ่งก�าลังร้องไห้ โฮตัวสั่นเทา ฉันจึงเข้าไปหา ปลอบว่า “ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร” จากนั้นไม่นาน รถพยาบาลก็มาเสียที ระหว่าง นั้นฉันคอยดูอาการหลายคน สีหน้าทุกคนน่าจะเรียกว่าหมองคล�้ามากกว่าซีด หนึ่งในนั้นมองผ่านๆ เหมือนรุ่นคุณตา ก�าลังพ่นฟองฟอดออกจากปาก พ่นเยอะ UNDERGROUND 27


ขนาดฉันคิดว่าคนเราพ่นฟองออกมาได้เยอะขนาดนี้เลยหรือ ฉันปลดกระดุม เสื้อเชิ้ตของเขาออกทุกเม็ด คลายเข็มขัดกางเกงให้หลวม พอจับชีพจรดูปรากฏว่า เต้นเร็วมาก ฉันส่งเสียงเรียก “คุณตา คุณตา!” แต่แกไม่ตอบ ไม่มีสติเลยค่ะ คนที่เหมือนคุณตา จริงๆ เป็นเจ้าหน้าที่สถานีค่ะ เขาถอดเสื้อคลุมที่เป็น เครื่องแบบออกแล้ว ฉันเลยไม่รู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ หน้าเขาซีดไม่มีสี ผมค่อนข้าง บาง เลยคิดไปว่าเป็นผู้ โดยสารสูงอายุ มาทราบทีหลังว่าเขาชื่อคุณโทโยดะ เป็น เพือ่ นร่วมงานของเจ้าหน้าทีท่ งั้ สองคนทีเ่ สียชีวติ (หมายเหตุ : ทาคาฮาชิกบั ฮิชนิ มุ ะ) เขาท�างานที่ชานชาลาสายจิโยดะ เป็นผู้รอดชีวิตคนเดียวในบรรดาเจ้าหน้าที่ สามคนที่ล้มทรุด ได้ยินว่าหลังจากนั้นเขาเข้าโรงพยาบาลนานที่สุดด้วย รถพยาบาลมาถึงถามว่า “รูส้ กึ ตัวหรือเปล่า” ฉันเลยตะโกนตอบ “ไม่รสู้ กึ ตัว แต่มีชีพจรค่ะ” พูดจบ คนในรถพยาบาลก็เอาหน้ากากออกซิเจนมาครอบปากเขา บอกว่า “ยังมี (เครื่องช่วยหายใจ) อีกเครื่องหนึ่งนะครับ ถ้าใครอาการแย่ให้ขึ้น (รถพยาบาล) ได้เลย” มีการให้ออกซิเจนกันบนรถ ฉันสูดไปนิดหน่อย เด็กผู้หญิงที่ ร้องไห้ตัวสั่นสูดออกซิเจนตลอดเลยค่ะ พอเสร็จ สื่อมวลชนก็กรูเข้ามา ทุกคนล้อม เด็กผู้หญิงตัวสั่นคนนั้น ผลคือวันนั้นเธอได้ออกโทรทัศน์ตลอดทั้งวัน ระหว่างดูอาการทุกคน ตัวฉันไม่รสู้ กึ อึดอัดหรืออะไรเลยค่ะ มีแค่พอได้ยนิ ค�าว่าให้ออกซิเจนถึงนึกขึน้ ได้วา่ ‘จริงสิ เราก็หายใจแปลกๆ นีน่ า’ แต่ตอนนัน้ ฉัน นึกไม่ถงึ ว่าเหตุการณ์จะเกีย่ วข้องอะไรกับตัวเอง คิดแค่วา่ ฉันสบายดี เลยต้องดูแล คนได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ (ซึ่งไม่รู้เป็นเหตุการณ์อะไร เอาเป็นว่าใหญ่ก็แล้ว กัน) และคอยช่วยเหลือต่างๆ นานา อย่างที่เล่าไป ฉันไม่สบายอยู่แล้วตั้งแต่เช้า พออาการแย่ลงนิดหน่อย เลยนึกว่าเป็นปัญหาที่ตัวฉันเอง ไม่เกี่ยวกับคนอื่นน่ะค่ะ ขณะทีท่ า� อยู่ เพือ่ นร่วมงานทีบ่ ริษทั ผ่านมาพอดี เขาเลยเข้ามาช่วยฉันกัน เด็กผู้หญิงคนนั้นจากพวกสื่อ แต่สักพัก เพื่อนชวนว่าเดินไปบริษัทกันเถอะ ฉันเลย ว่า ไปบริษัทก่อนดีกว่า จากคาสุมิงาเซกิถึงบริษัทใช้เวลาเดินประมาณสามสิบนาที 28 HARUKI MURAKAMI


ระหว่างเดินมีอาการหายใจติดขัดอย่างบอกไม่ถูกบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นทรุดลงนั่ง เดินได้ปกติค่ะ เจ้านายเห็นฉันในโทรทัศน์ พอถึงบริษัท เลยโดนทุกคนถามว่า “คุณอิซึมิ ไม่เป็นไรจริงๆ หรือ” ฉันไปถึงบริษทั ก็สบิ โมงกว่าแล้ว เจ้านายบอก “หยุดสักหน่อย ก็ ได้นะ ไม่ต้องฝืนหรอก” แต่ฉันยังไม่ค่อยเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นเลยท�างานต่อ สักพักคนของฝ่ายบุคคลติดต่อมา “เห็นว่าเป็นแก๊สพิษนะ ถ้ารู้สึกไม่ดี ให้รีบไป โรงพยาบาลทันที” ตอนนั้นสภาพร่างกายฉันเริ่มแย่ลงพอดี เลยขอขึ้นรถพยาบาล ตรงสี่แยกคามิยะโจไปโรงพยาบาล เป็นโรงพยาบาลเล็กๆ ชื่ออาซาบุ มีคนมารอ ก่อนหน้าฉันประมาณยี่สิบคน หลังจากนัน้ มีอาการคล้ายหวัดตลอดทัง้ สัปดาห์ เริม่ ไอเหมือนเป็นหอบหืด สามวันต่อมามีไข้ ลองวัดดู สูงถึงสี่สิบองศา นึกว่าเครื่องวัดเสียเพราะปรอทพุ่งไป จนสุดหลอดแน่ะค่ะ ไม่แน่อุณหภูมิร่างกายจริงๆ อาจสูงกว่าสี่สิบองศาก็ ได้ เอา เป็นว่าฉันขยับตัวไม่ได้เลย หลังไข้ลด ยังไอคล้ายหอบหืดอีกเป็นเดือน รูเ้ ลยว่าเป็นเพราะซาริน มันคง เข้าไปในหลอดลม ทรมานสุดๆ เลยค่ะ พอเริม่ ไอเมือ่ ไรจะไอไม่หยุด อึดอัดถึงขนาด หายใจไม่ออก เป็นบ่อยด้วย บางทีพูดๆ อยู่แบบนี้แล้วไอขึ้นมาเฉยๆ ฉันอยู่แผนก ประชาสัมพันธ์ ต้องท�างานกับผู้คน ให้ท�างานในสภาพนั้น ทรมานจนพูดไม่ออก ฉันฝันบ่อยๆ ด้วย ภาพเจ้าหน้าทีส่ ถานีคาบช้อนในปากติดตามาก ตามมา โผล่ถึงในฝัน ในฝันจ�านวนคนนอนบนพื้นไม่ใช่ธรรมดาๆ แต่นอนเรียงเป็นแถวยาว ไปถึงนู่น ท�าเอาฉันตื่นขึ้นมากลางดึกหลายหน กลัวแบบสุดๆ เลยค่ะ พวกฉันอยู่ตรงด้านหน้าประตูกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมระหว่าง ประเทศที่คาสุมิงาเซกิพอดี มีคนพ่นฟองออกจากปากหลายคนล้มลงไปกองกับพื้น ภาพริมถนนฝั่งนี้เป็นเหมือนนรกจริงๆ แต่ริมถนนฝั่งด้านโน้นกลับเป็นโลกที่ผู้คน ไปท�างานตามปกติเหมือนไม่มอี ะไรเกิดขึน้ ฉันดูแลคนเจ็บพลางเหลียวมองฝัง่ ตรงข้าม เห็นคนบนถนนมองมา ท�าหน้าสงสัยเล็กน้อย ท�านองว่า ‘เกิดอะไรขึ้น‘ แต่ไม่มีทีท่า UNDERGROUND 29


จะข้ามมาดูเลย ฝั่งนั้นเป็นคนละโลกไปแล้ว ไม่มี ใครหยุดเดิน ไม่มี ใครสนใจเรา คนคล้ายยามเฝ้าประตูกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ ยืนประจันหน้าเราพอดีค่ะ ฝั่งเรามีสามคนล้มไปนอนกองกับพื้น ชะเง้อรอรถ พยาบาลซึ่งไม่มาเสียที เรารอกันนานมาก แต่คนของกระทรวงไม่ยอมเรียกคนมา ช่วยเลย แค่เรียกรถให้ยังไม่ท�า ซารินถูกปล่อยเวลา 8.10 น. กว่ารถพยาบาลจะมาใช้เวลากว่าชั่วโมง ครึ่ง ก่อนรถมา ทุกคนถูกปล่อยให้นอนกองอยู่เฉยๆ นานๆ ครั้ง ทีวีก็ฉายภาพ คุณทาคาฮาชิทเี่ สียไปถูกทิง้ ให้นอนคาบช้อนอยูแ่ บบนัน้ เห็นแล้วฉันทนเก็บอารมณ์ ไม่อยู่จริงๆ ค่ะ — มมุติว่าตอนนั้นคุณเดินอยู่บนถนนฝั่งตรงข้าม ก�าลังไปท�างาน คุณจะข้าม มาดูแลคนเจ็บฝั่งนี้ไ มครับ ไปค่ะ ฉันจะไป ใจฉันรู้สึกว่าปล่อยพวกเขาไว้ ไม่ได้ แม้การกระท�าจะ ผิดแผกจากชาวบ้าน แต่คิดว่าฉันคงไปอยู่ดี พูดตามตรง ในสถานการณ์นั้น ฉันอยากร้องไห้ออกมาให้รู้แล้วรู้รอด แต่ฉันคิดว่าสติแตกไปตอนนี้ก็ ไม่ได้อะไร ขึ้นมา มองแวบเดียวก็รู้ค่ะ ไม่มี ใครรับมือได้อย่างมีสติเลยสักคน คนดูแลคนเจ็บ ก็ ไม่มี ทุกคนถูกกองทิ้งเอาไว้เฉยๆ ฉันเลยคิดว่าต้องท�าอะไรสักอย่าง ปล่อยไว้ แบบนี้ ไม่ดีแน่ ส่วนคนร้ายที่ปล่อยซาริน พูดตรงๆ ฉันไม่ค่อยโกรธหรือเคียดแค้นเท่าไร จะว่าจับต้นชนปลายไม่ถูกก็ ไม่เชิง แต่ฉันรู้สึกอะไรแบบนั้นไม่ออกค่ะ ฉันเห็นคน ตายไป และครอบครัวที่ต้องแบกความเศร้าไว้กับตา ส�าหรับฉัน ความเจ็บปวด เวลามองคนเหล่านั้นมันยิ่งใหญ่กว่าความโกรธหรือเคียดแค้นที่มีต่อคนร้ายเสียอีก ใครในโอมชินริเกียวจะเอาซารินขึ้นรถไฟจริงหรือไม่... ไม่ใช่ประเด็นส�าหรับฉันเลย ค่ะ หัวฉันไม่ยอมปะติดปะต่อเรื่องที่ว่าเหตุการณ์ซารินเป็นฝีมือโอมชินริเกียว ฉันไม่ดูข่าวคดี โอมชินริเกียวในทีวี ไม่อยากดู ไม่คิดจะให้สัมภาษณ์ด้วย 30 HARUKI MURAKAMI


ถ้ามันเป็นประโยชน์กับผู้เสียหายหรือญาติผู้สูญเสีย ฉันก็ยินดีพูด แต่ฉันไม่อยาก โดนลากมาออกสื่อ เพียงเพราะความสนใจใคร่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเฉยๆ แน่นอนว่าสังคมควรไล่ตามคดีนี้อย่างละเอียด โดยเฉพาะความรู้สึกของ ญาติผู้สูญเสีย แค่คิดฉันก็ทนไม่ได้แล้วค่ะ ตอนนี้พวกเขาเป็นอย่างไรบ้างก็ ไม่รู้... ต่อให้คนร้ายโดนโทษประหาร แต่มันแก้ ไขปัญหาหลักของคดีได้หรือ อาจเป็น เพราะฉันเห็นคนตายไปต่อหน้าต่อตา เลยอ่อนไหวกับความตายของมนุษย์มากขึ้น แต่ไม่ว่าจะยังไง สุดท้ายคนร้ายได้รับโทษหนักแค่ไหน ฉันก็ ไม่มีค�าพูดใดจะกล่าว กับพวกเขาค่ะ

UNDERGROUND 31


ยุอาสะ มาซารุ ขณะเกิดเหตุอายุ 24 ปี “ตั้งแต่เริ่มท�างานก็อยู่ที่นี่ (สถานีคาสุมิงาเซกิ) ตลอด เลยไม่รู้จะเปรียบเทียบกับสถานีอื่นยังไงดี แต่ยังไงผมก็ชอบที่นี่สุด” ากเทียบกับคุณโทโยดะ ซึ่งจะปรากฏใน นัง ือภาย ลัง รือคุณทาคาฮาชิ ที่เ ียชีวิต คุณยุอา ะถือว่ารุ่นลูกทีเดียว เขาเป็นชาย นุ่มเยาว์วัย ผมเรียบแปล้ ผมได้พบตอนเขาอายุยี่ ิบ ก แต่ใบ น้ายังคง ลงเ ลือเงาของเด็ก นุ่มอ่อนไ ว ไร้เดียง า ดูเด็กกว่าอายุ เขาเกิดและโตที่เมืองอิชิกาวะ จัง วัดจิบะ มีลูกพี่ลูกน้องแก่กว่าท�างาน ที่บริ ัทรถไฟใต้ดินเอดัง ท�าใ ้เขาเริ่ม นใจรถไฟอย่างไม่รู้ตัว เขาเข้าเรียนมัธยม ปลายทีโ่ รงเรียนอิวาคุระในอุเอโนะ เป็นโรงเรียนทีค่ นฝันอยากท�างานเกีย่ วกับรถไฟ ในวันข้าง น้ามาเข้ากันเป็น ่วนใ ญ่ ตอนแรกอยากเป็นพนักงานเดินรถ จึง เลือกเรียนภาควิชาเครื่องกล เขาเข้าท�างานบริ ัทรถไฟใต้ดินเอดังในปีเฮเซที่ นึ่ง7 และท�างานอยู่ ถานีคา ุมิงาเซกิมาตลอด เขารัก ถานีคา ุมิงาเซกิจากใจจริง เป็นชาย นุ่มน่าชื่นชม เ ็นแล้วรู้ว่าเป็นคนซื่อตรง เอาจริงเอาจัง ท�างานแต่ละวัน โดยตระ นักชัดเจนในจุดมุ่ง มาย นั่นยิ่งท�าใ ้เขา ะเทือนใจรุนแรงต่อเ ตุการณ์ ซาริน คุ ณ ยุ อ า ะท� า ตามค� า ั่ ง ผู ้ บั ง คั บ บั ญ ชา ามคุ ณ ทาคาฮาชิ ซึ่ ง นอน มด ติอยู่บนชานชาลา ายจิโยดะขึ้นเปลพาไปข้างบน รอรถพยาบาลมาตาม จุ ด ที่ ก�า นด แต่รถพยาบาลที่ควรจะมาทันทีกลับไม่ยอมโผล่มา ไม่ว่าจะรอ เท่าใด เขาเ ็นคุณทาคาฮาชิย�่าแย่ลงต่อ น้าต่อตา ดูก็รู้ว่าท่าไม่ดี แต่ท�าอะไร ไม่ได้เลย น่าเ ียดายที่ ุดท้ายก็รัก าไม่ทันการณ์ คุณทาคาฮาชิจบชีวิตไปทั้ง 7 ปีที่เริ่มนับจากที่จักรพรรดิอะกิฮิโตะเริ่มครองราชย์ ปีที่ 1 ตรงกับ ค.ศ. 1989 32 HARUKI MURAKAMI


ภาพนั้น อารมณ์ลุกลน ับ นและโท ะที่เขาประ บในเ ตุการณ์ไม่ใช่ระดับ ธรรมดา เป็น ิ่งที่เกินจะนึกจินตนาการได้ อาจเพราะเ ตุนั้น ความทรงจ�าในที่ เกิดเ ตุบางช่วงจึงเลือนรางไม่ชัดเจน ตัวเขาเองยอมรับว่าบาง ่วน ายวับไป เกือบ มด ดังนั้น ากเทียบค�าบอกเล่าของเขากับผู้อื่นในเ ตุการณ์ ล�าดับและเรื่อง ราวอาจมีรายละเอียดบาง ่วนไม่ อดคล้องกัน แต่ผมก็บันทึกไว้ใน ภาพเดิมเกือบ ทั้ง มด เพราะมันคือ ิ่งที่คุณยุอา ะได้ประ บในวันนั้น

UNDERGROUND 33


ตอนมัธยมปลาย ภาควิชาทีเ่ กีย่ วข้องกับรถไฟ มีภาควิชาเครือ่ งกลและภาควิชาการ ขนส่ง พวกทีค่ ลัง่ ไคล้รถไฟมากๆ มักจะอยูภ่ าควิชาขนส่งกัน มีคนเอาตารางเดินรถ ใส่ไว้ ในลิ้นชักโต๊ะด้วยนะ (หัวเราะ) ผมชอบรถไฟเหมือนกัน แต่คนละระดับกันเลย มีคนระดับแฟนพันธุ์แท้ที่เราสู้ ไม่ได้เยอะมาก บริษัทที่นิยมสมัครงานกัน ยังไงก็ต้อง JR ครับ มีคนอยากเป็นพนักงาน ขับชิงกันเซ็นกันเยอะ ผมไม่ได้อยากเป็นกับเขาหรอก แต่ตอนผมเรียนจบ JR ไม่ได้เปิดรับสมัคร โดยรวมๆ แล้วเซบุ โอดะคิว โตคิวเลยเป็นที่นิยมแทน แต่พวกนี้ เงื่อนไขเยอะกว่าที่คิด เช่น ต้องพักอยู่ตามแนวทางรถไฟ ไม่งั้นไม่รับ หรือต้องเคย ท�างานพิเศษที่นั่นมาก่อน อะไรแบบนี้ครับ ค่อนข้างหินเอาเรื่อง ผมอยากท�างานรถไฟใต้ดินแต่แรกอยู่แล้ว เอดังก็เป็นที่นิยมพอควร เงินเดือนเทียบกับที่อื่นก็ ไม่เลว แถมไม่มีสั่งให้ ไปประจ�าห้าง ทั้งที่เข้ามาเพราะ อยากท�างานรถไฟด้วย งานในสถานีมีหลายรูปแบบ ไม่ ใช่แค่ประจ�าช่องตรวจตั๋วกับเฝ้าชาน ชาลานะครับ ยังมี ให้ค�าแนะน�าผู้ โดยสารที่ลืมของ คอยไกล่เกลี่ยปัญหาระหว่าง ผู้ โดยสาร งานเบ็ดเตล็ดสารพัดเลยครับ ผมเข้าบริษัทตอนอายุสิบแปดก็ โดนให้ ท�างานพวกนี้เลย หนักเอาเรื่องครับ ตอนผมนอนค้างที่สถานีครั้งแรกสุด รู้สึกว่า หนึ่งวันมันยาวนานเหลือเกิน ช่วงเริ่มงานใหม่ๆ พอผมเดินไปดึงประตูม้วนเหล็กลง หลังรถไฟขบวนสุดท้ายหมดกลางดึก ผมจะโล่งใจและผ่อนคลาย ‘เฮ้อ หมดไปหนึง่ วันละ’ ตอนนี้ ไม่ได้รู้สึกแล้ว แต่ช่วงแรกก็อารมณ์ประมาณนั้นครับ ที่ ไม่ชอบสุด คือคนเมาครับ บางคนเมาแล้วหาเรื่อง ทะเลาะวิวาทบ้าง อ้วกบ้าง คาสุมิงาเซกิไม่มีย่านเริงรมย์ คนเมาถือว่าน้อยมากแล้ว แต่นานๆ ครั้งก็ มี โผล่มาบ้างครับ

34 HARUKI MURAKAMI


—ก่อนเริ่มงาน คุณฝันอยากเป็นพนักงานเดินรถใช่ไ มครับ เคย อบพวก ใบอนุญาตบ้างรึเปล่า ไม่ครับ ยังไม่เคยสอบเลยสักครั้ง มี โอกาสจะสอบหลายครั้งเหมือนกัน แต่คิดสะระตะแล้วไม่สอบดีกว่า ผ่านปีแรกไป มีสอบพนักงานรักษารถ คนสอบ เยอะครับ แต่ส�าหรับผม ผ่านไปปีเดียวยังเพิ่งเริ่มชินกับงานสถานีเอง เลยรอดูไป ก่อน จริงอยู่ เรื่องที่ ไม่ชอบก็มี อย่างคนเมาที่เล่าเมื่อกี้ แต่ผมกะว่าจะลองท�างาน สถานีไปอีกสักหน่อย นั่นสินะครับ พอผมท�างานในสถานีไปเรื่อยๆ ความรู้สึกว่า ‘อยากเป็น พนักงานเดินรถให้ ได้’ เมื่อตอนแรกมันค่อยๆ เปลี่ยนไป สถานีคาสุมิงาเซกิมีรถไฟเข้าสามสาย คือ สายมารุโนอุจิ สายฮิบิยะ สายจิ โ ยดะ แต่ละสายจะมีพนักงานสถานีประจ� า ตอนนั้นผมประจ� าอยู่สาย มารุโนอุจิ ส�านักงานของสายฮิบิยะจะใหญ่สุด ถือเป็นส�านักงานรวมของเขต ให้บริการสถานีคาสุมิงาเซกิ แต่ทั้งสายมารุโนอุจิกับสายจิโยดะก็มีส�านักงาน เป็นของตัวเอง มีห้องพักเจ้าหน้าที่ด้วย วันก่อนหน้าวันที่ 20 มีนาคมซึ่งเกิดเหตุการณ์ซารินเป็นวันอาทิตย์ แต่ผมไปนอนค้างทีส่ า� นักงานสายจิโยดะ เพราะเจ้าหน้าที่ไม่พอ เลยต้องไปเป็นก�าลัง เสริมครับ มีเรื่องแบบนี้บ่อยๆ เราก�าหนดไว้แล้วว่า ต้องมีคนมาค้างกี่คน จ�านวน คนต้องครบ ถ้าจุดของตัวเองจัดคนลงไม่ครบ สายฮิบิยะหรือสายมารุโนอุจิก็จะมา เป็นเหมือนก�าลังเสริม แม้เราจะประจ�าคนละสาย แต่ก็อยู่สถานีเดียวกัน ทุกคน คุ้นหน้าคุ้นตากันดี ไปขอร้องเขาบ้าง เขามาขอร้องบ้าง สุดท้ายก็น�้าพึ่งเรือ เสือพึ่งป่าแหละครับ จะเรียกว่าเราบริหารจัดการกันแบบครอบครัวก็ ได้ ผมปิดประตูม้วนเหล็กประมาณเที่ยงคืนครึ่ง ปิดช่องตรวจตั๋ว ปิดสวิตช์ เครื่องขายตั๋ว จากนั้นล้างหน้า ประมาณตีหนึ่งกว่าถึงได้นอน ส่วนคนผลัดเร็วจะ เลิก 23.30 น. ประมาณเที่ยงคืนก็นอนแล้ว วันรุ่งขึ้น คนผลัดเร็วจะตื่น 4.30 น. UNDERGROUND 35


ผลัดสายตืน่ สัก 5.30 น. รถขบวนแรกของแต่ละสายเวลาต่างกัน แต่อยูท่ ปี่ ระมาณ ตีห้าครับ ตื่นเช้ามาท�าความสะอาดเป็นอันดับแรก เปิดประตูเหล็กม้วน เตรียม ช่องตรวจตั๋ว แล้วผลัดกันไปกินข้าวเช้า เราหุงข้าวและท�าซุปเต้าเจี้ยวกินกันเอง เวรท�าอาหารก็รวมเป็นส่วนหนึ่งในหน้าที่ด้วย เป็นอย่างส�านวน ‘กินข้าวหม้อ เดียวกัน’ ตรงตามตัวอักษรเลย วันนั้นผมเป็นเวรผลัดสายเลยตื่น 5.30 น. เปลี่ยนเครื่องแบบก่อนไป ช่องตรวจตั๋วตอน 5.55 น. ท�างานถึง 7.00 น. พอเจ็ดโมงปุ๊บก็เปลี่ยนผลัดไปกิน ข้าวถึง 7.30 น. คราวนี้ ไปประจ�าช่องตรวจตั๋วตรงทางออกโทระ A ฝั่งตรงข้าม ทางออกโทระ A หมายถึง ช่องตรวจตั๋วฝั่งทางออก A12 กับ A13 ครับ ประจ�า อยู่ตรงนั้นถึงประมาณ 8.15 น. ก็เลิกงาน ผมส่งมอบงานให้เวรผลัดต่อไปเรียบร้อย ก�าลังเดินไปทางส�านักงาน หัวหน้ามัตสึ โมโตะก็ถือไม้ถูพื้นออกมาพอดี “มีอะไรหรือครับ” ผมถาม ได้ความ ว่าก�าลังจะไปท�าความสะอาดตู้ โดยสาร ผมส่งมอบงานเสร็จเรียบร้อยแถมว่าง อยู่เลยบอกไปว่า “เหรอครับ งั้นผมไปด้วย” แล้วขึ้นบันไดเลื่อนไปชานชาลากับ คุณมัตสึ โมโตะ พอขึ้นไป คุณโทโยดะ คุณทาคาฮาชิ คุณฮิชินุมะ สามคนอยู่ที่นั่นแล้ว บนชานชาลามีกระดาษหนังสือพิมพ์เปียกกองอยู่ พอใช้มือหยิบมันใส่ถุงพลาสติก ของเหลวในนั้นก็หกลงชานชาลา คุณมัตสึ โมโตะใช้ ไม้ถูพื้นเช็ดออก ผมไม่มีไม้ถูพื้น กระดาษหนังสือพิมพ์ก็ ไม่มากเท่าไร และส่วนใหญ่เก็บลง ถุงพลาสติกแล้ว ไม่มีอะไรให้ผมช่วยมากมาย ผมเลยแค่ยืนดูอยู่ข้างๆ มากกว่า มันคืออะไรกันนะ ผมคิดแต่นึกไม่ออกเลย ไม่มีกลิ่นอะไรเป็นพิเศษ ด้วย จากนั้นคุณทาคาฮาชิเดินไปทางถังขยะตรงริมสุดชานชาลา สงสัยกระดาษ หนังสือพิมพ์ส�าหรับเช็ดจะไม่พอเลยจะเอาหนังสือพิมพ์ที่ทิ้งในถังขยะมาเช็ด รอยเปียกบนชานชาลากระมัง ผมคิด แต่ตอนนั้นเอง คุณทาคาฮาชิโซซัดโซเซ แล้วล้มไปนอนขดตัวหน้าถังขยะ 36 HARUKI MURAKAMI


ทุกคนเลยรีบวิ่งไปหา ส่งเสียงเรียกคุณทาคาฮาชิ “เป็นอะไรครับ” เขาอยู่ผลัดเช้ามืดและวิ่งด้วย คงจะไม่สบายนิดหน่อย ไม่ได้คิดเลยว่าจะเป็น เรื่องใหญ่ขนาดนั้น “เดินไหวไหมครับ” ผมถาม แต่ดูสภาพแล้วไม่น่าจะเดินไหว สรุปว่า “ต้องใช้เปล!” ตรงชานชาลามี โทรศัพท์ภายในส�าหรับติดต่อ ผมเลยใช้มัน ติดต่อส�านักงานว่า “ขอเปลที” ดูหน้าคุณทาคาฮาชิทา่ ทางอึดอัด สภาพพูดคุยไม่ได้เลย เขาตะเกียกตะกาย ท�าท่าเหมือนจะเอามือคลายเนคไท จะอึดอัดอะไรขนาดนัน้ ... ท่าทางเขาอึดอัดจริงๆ เราหามคุณทาคาฮาชิขึ้นเปลไปถึงส�านักงานแล้วโทรเรียกรถพยาบาล ทันที ผมถามคุณโทโยดะว่า “รถพยาบาลจะมาทีท่ างออกหมายเลขอะไรครับ” เรา ก�าหนดไว้แล้วว่าเวลาแบบนี้รถพยาบาลจะมาจอดตรงไหน ผมเลยถามดู แต่คุณ โทโยดะกลับพูดอ้อแอ้ ท่าทางแปลกๆ นิดหน่อย แต่ตอนนั้นผมคิดว่าเขาต้องลน แหงๆ เลยพูดไม่ค่อยออก เอาเป็นว่าสถานที่คือทางออก A11 ครับ ก่อนอื่น ผมรีบพุ่งไปทางออก A11 ไปรอรถพยาบาล ก่อนจะหามคุณ ทาคาฮาชิขึ้นไป พอรถพยาบาลมา ผมค่อยน�าทางว่า “ทางนี้ครับ” ให้พวกเขาเป็น คนหามขึน้ ไป ผมออกไปข้างนอกมารอรถพยาบาลแถวๆ ข้างกระทรวงการค้าและ อุตสาหกรรมระหว่างประเทศ ระหว่างมุ่งหน้าไปทางออก A11 ผมได้ฟังจากเจ้าหน้าที่สายฮิบิยะซึ่งเจอ โดยบังเอิญ “เห็นว่าเกิดเหตุระเบิดที่สถานีสึกิจิ สายฮิบิยะแน่ะ” แต่ไม่ทราบราย ละเอียดมากกว่านั้น เมื่อวันที่ 15 สถานีเราก็มีของน่าสงสัยวางไว้ เรื่องนั้นเรื่อง นี้ประดังประเด จนผมคิดว่า ‘เรื่องเยอะจังแฮะ วันนี้ประหลาดชะมัด’ พลางรอรถ พยาบาลที่ทางออก A11 แต่รอนานแค่ไหนรถพยาบาลก็ ไม่มาเสียที จนเจ้าหน้าที่ส�านักงานคนอื่น ขึ้นมาถาม “ยังไม่มาอีกหรือ เอาไงดี” จึงคุยกันว่า งั้นพาคุณทาคาฮาชิขึ้นมาถึง ทางออกก่อนละกัน แต่สองสามคนที่ขึ้นมาจากส�านักงานเล่าประมาณว่า ยิ่งอยู่ที่ ส�านักงาน ยิง่ รูส้ กึ แย่ลงเรือ่ ยๆ เลยยังไม่อยากกลับลงไป ผมอยูข่ า้ งนอกตลอดเลย UNDERGROUND 37


ไม่รู้เรื่อง คงเป็นเพราะเก็บของในถุงพลาสติก (ถุงซาริน) ไว้ ในส�านักงานนั่นแหละ ครับเป็นสาเหตุ แต่จะยังไงเราก็ต้องหามคุณทาคาฮาชิขึ้นมา ทุกคนจึงลงบันไดกลับไป ส�านักงานอีกครั้ง พอกลับมาถึงส�านักงาน มีผู้ โดยสารหญิงคนหนึ่งท่าทางไม่สบายนั่งอยู่ บนโซฟาตรงทางเข้า (คุณโนซากิซึ่งจะปรากฏในหนังสือภายหลัง) คุณทาคาฮาชิ อยู่ด้านใน นอนบนเปล ถูกวางไว้บนพื้น จะว่าขยับตัวไม่ได้ก็ ไม่เชิง เหมือน ร่างกายเขาแข็งเกร็งไปแล้วน่ะครับ อาการแย่ลงกว่าก่อนมาก แทบไม่มีสติแล้ว เจ้าหน้าที่คนอื่นส่งเสียงเรียก แต่ดูเหมือนจะไม่ตอบสนอง พวกผมสี่คนหามเปล คุณทาคาฮาชิขึ้นไปข้างบน แต่รอนานแค่ไหนรถพยาบาลก็ยังไม่มาเหมือนเดิม ผมหงุดหงิดพอตัว อะไรมันจะมาช้าขนาดนี้ มาย้อนคิดดู คงเพราะรถพยาบาลไปสึกิจิกันหมดสิ ผมได้ยนิ เสียงหวอไกลๆ แต่รถไม่ยอมมาทางเรา หรือรถพยาบาลจะไปผิดทีเ่ สียแล้ว ผมร้อนรน รู้สึกอยากวิ่งไปตะโกนเรียก “ทางนี้” แล้วพารถมาเองเสียเลย ผมลองวิง่ ไปหารถจริงๆ แต่ตอนวิง่ ก็ตาลายนิดหน่อย ไม่สิ มึนหัวน่ะครับ... รู้สึกครับว่าไม่สบาย แต่ตอนนั้นผมคิดแค่ “คงเพราะเข้าผลัดเช้ามืดมา” ตอนหามคุณทาคาฮาชิขนึ้ มาข้างบน พวกนักข่าวมารออยูแ่ ถวทางออกแล้ว ช่างภาพหญิงเข้ามาถ่ายภาพแชะๆ ไม่ครับ ไม่ใช่โทรทัศน์ เป็นกล้องถ่ายภาพธรรมดา ผมว่าน่าจะเป็นช่างภาพข่าว เพราะถือกล้องใหญ่แบบพวกมืออาชีพใช้กัน เหมือน เธอจะถ่ายภาพคุณทาคาฮาชิท่ีนอนอยู่ ผมเห็นอย่างนั้นนะ รถพยาบาลก็ยังไม่มา ผมเลยยิ่งอารมณ์ขึ้น พูดเสียงแข็งกับช่างภาพว่า “อย่าถ่าย!” ผู้ชายที่มากับ ช่างภาพเข้ามาขวาง ผมเลยบอกเขาไปเหมือนกันว่า “เลิกถ่ายได้แล้ว!” แน่นอนว่า การถ่ายภาพเป็นงานของช่างภาพ แต่ส�าหรับผมเรื่องบางเรื่องมันก็ยอมไม่ได้ครับ จากนั้นรถตู้สถานี โทรทัศน์ก็มา มาทราบทีหลังว่าเป็นรถตู้ของสถานี โทรทัศน์ทีวี โตเกียว ผมคลับคล้ายคลับคลาว่าถูกใครสักคนสัมภาษณ์ค�าถาม 38 HARUKI MURAKAMI


ประมาณว่า “สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง” ผมจ�าไม่ค่อยได้ว่าใช่สถานี โทรทัศน์ทีวี โตเกียวหรือเปล่า แต่ผมไม่อยู่ในอารมณ์จะให้สัมภาษณ์ เพราะผ่านไปนานแค่ไหน รถพยาบาลก็ยังไม่มา ไม่นาน ผมก็ทราบว่าคนของสถานีโทรทัศน์มาด้วยรถตูค้ นั ใหญ่ เลยเจรจา ว่า “มีรถ ก็พาไปโรงพยาบาลสิครับ” น�า้ เสียงคงจะแข็งกร้าวอยู่ นึกไม่ออกเป๊ะๆ ว่าพูดไปแบบไหน เพราะผมก็ลนไม่น้อย ต่างฝ่ายยังไม่เข้าใจสถานการณ์ เราเลย ต้องอธิบายกันสักพัก พวกเขาไม่ได้ยินยอมตอบ “โอเค” ทันทีต้องเจรจากัน ใช้ เวลาอยู่ พอคุยรู้เรื่อง เราก็เอนเบาะหลังลงให้คุณทาคาฮาชินอน เจ้าหน้าที่อีกคน หนึ่ง (คุณโอโฮริ) ก็อาการไม่ดีเหมือนกัน เลยให้ขึ้นไปด้วย เขาดูแลคุณทาคาฮาชิ อย่างใกล้ชดิ ตลอด แต่พอขึน้ มาข้างบนอาการก็แย่ลง อาเจียนด้วย เราให้เจ้าหน้าที่ ขึ้นไปด้วยอีกคน (คุณซาวางุจิ) รวมแล้วใช้รถคันนั้นพาส่งโรงพยาบาลสามคน พอถามคนขับรถว่า “รู้จักโรงพยาบาลไหม” ค�าตอบคือ “ไม่รู้” ผมเลย ต้องนั่งข้างคนขับไปด้วย จุดหมายคือโรงพยาบาล H ที่ฮิบิยะ เพราะปกติเวลามี คนป่วยในสถานีเราจะพาไปที่นั่น ตอนนั้นมีผู้ โดยสารหญิงคนหนึ่งแนะน�าว่า “ถ้ามี ผ้าสีแดงหรืออะไรคล้ายๆ กัน คนอื่นจะรู้ว่าเป็นรถฉุกเฉินค่ะ เอามาโบกที่หน้าต่าง นะคะ” ตอนหลังได้ฟังจากคุณโทโยดะว่าเธอเคยท�างานที่ JR มาก่อน แต่ตอนนั้น ผมไม่มีผ้าสีแดง ผู้หญิงคนนั้นเลยให้ผ้าเช็ดหน้ามา ผมยื่นมือจากหน้าต่างฝั่งข้าง คนขับ แล้วโบกผ้าเช็ดหน้าจนถึงโรงพยาบาล เปล่าครับ ไม่ ใช่ผ้าเช็ดหน้าสีแดง เป็นผ้าเช็ดหน้ามีลายแบบธรรมดาครับ เวลาประมาณ 9.00 น. ถนนจึงแออัดมากพอสมควร ผมเห็นแล้วแทบจะ คุมสติไม่อยู่ แค่รถพยาบาลไม่มาก็เสียเวลาไปเยอะแล้ว ผมจ�าหน้าคนขับและหน้า ผู้หญิงที่ให้ผ้าเช็ดหน้าไม่ได้เลย นึกไม่ออกครับ ผมไม่อยู่ในสภาพจะนั่งจ�าอะไรทั้ง สิ้น ไม่มีกะจิตกะใจกระทั่งจะคิดว่ามันเกิดอะไรขึ้นด้วยซ�า้ ระหว่างนั่งรถคุณโอโฮริ ที่นั่งอยู่เบาะหลังอาเจียน เรื่องนั้นผมจ�าได้ ตอนไปถึง โรงพยาบาลยังไม่เปิด จ�าไม่ได้ครับว่าถึงกี่ โมง แต่ไปก่อนเวลา UNDERGROUND 39


เปิดท�าการ ก็นา่ จะก่อน 9.00 น. พวกผมเอาเปลลง เดินเข้าไปหาประชาสัมพันธ์ ข้างใน แล้วบอกว่า “คนไข้ฉกุ เฉินครับ รบกวนด้วย” จากนัน้ ออกมานอกโรงพยาบาล ทีหนึ่ง รออยู่กับคุณทาคาฮาชิ เขาขยับตัวไม่ได้เลย คุณโอโฮริก็ขดตัวนิ่งอยู่ ตรงนัน้ แต่ไม่มี ใครในโรงพยาบาลออกมาเลย — ไม่มีใครออกมาเลยเหรอครับ ครับ เขาคงคิดว่าไม่ได้ฉุกเฉินขนาดนั้น ผมเองก็ โวยวาย ไม่ยอมอธิบาย ให้ละเอียดเหมือนกัน “ฝากท�าอะไรสักอย่างทีเถอะ มันฉุกเฉิน” ผมพูดแค่นั้น โรงพยาบาลเลยคิดว่าไม่ ใช่เรื่องใหญ่อะไรล่ะมั้ง เพราะรอนานแค่ไหน ก็ ไม่มี ใคร ออกมาเลย ผมเลยไปที่ประชาสัมพันธ์อีกครั้ง พูดเสียงแข็งว่า “ขอร้องล่ะ ใครสักคน ช่วยมาที จะแย่แล้ว!” จึงมีสองสามคนออกมาดูอาการคุณทาคาฮาชิกับคุณโอโฮริ และเข้าใจในที่สุดว่าพวกเขาอาการหนัก ทั้งสองถูกพาเข้าไปในโรงพยาบาลทันที ใช้เวลาเท่าไรเหรอครับ นั่นสินะ น่าจะไม่เกินสองสามนาที ผมเองคงพูดจากระโชก โฮกฮากอยู่บ้าง อาจใช้คา� พูดแรงด้วย ผมให้คณ ุ ซาวางุจอิ ยูเ่ ฝ้า แล้วกลับไปสถานีกบั คนขับรถของสถานีโทรทัศน์ ผมกลับไปทางออก A11 เหมือนเดิม ตอนนั้นยังไม่เชิงใจเย็นลงหรอกครับ เรียก ว่าพยายามบอกตัวเองให้ ใจเย็นลงดีกว่า คุณโอโฮริอาเจียนท�าเบาะเปื้อน ผมเลย ขอโทษคนขับรถสถานี โทรทัศน์ทีวี โตเกียว ซึ่งช่วยพาไปส่งว่า “ขอโทษที่ท�าเบาะ เปื้อนนะครับ” เขาตอบกลับอย่างมีไมตรีว่า “ไม่เป็นไรครับเรื่องเล็กน้อย อย่าใส่ใจ เลย” แค่พูดคุยกันง่ายๆ แค่นี้คือเต็มที่แล้ว ส่วนเรื่องที่เหลือผมจ�าไม่ค่อยได้ ตอนกลับมา รูส้ กึ ว่าคุณโทโยดะกับคุณฮิชนิ มุ ะจะถูกหามขึน้ มาข้างบนแล้ว สภาพของทั้งสองคนคือขยับตัวไม่ได้เลย เรามีถังออกซิเจนส�าหรับใช้ตอนเกิด เหตุเพลิงไหม้อยู่ เลยเอาไปครอบปากคุณโทโยดะ ไม่กค็ ณ ุ ฮิชนิ มุ ะไว้ แล้วนวดหัวใจ 40 HARUKI MURAKAMI


นอกจากสองคนนี้ ยังมีเจ้าหน้าทีจ่ า� นวนหนึง่ กับผู้ โดยสารหลายคนนัง่ ยองๆ อยูแ่ ถว นั้น ข้างประตูกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมระหว่างประเทศมีรั้วอยู่ หลายคน นั่งกันบนนั้น ผมไม่รู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไรแน่ ผ่านไปอีกสักพัก รถพยาบาลก็มาเสียที ความทรงจ�าผมช่วงนั้นไม่ค่อย ชัดเจนนัก แต่คิดว่าคุณโทโยดะกับคุณฮิชินุมะน่าจะถูกน�าตัวส่งด้วยรถคนละคัน เพราะรถคันเดียวขึ้นสองคนไม่ได้ คนหนึ่งก็น่าจะต้องนั่งรถอื่นที่ ไม่ ใช่รถพยาบาล ไป เราพาไปโรงพยาบาลแค่สองคน เพราะคนที่เหลือไม่มี ใครอาการหนักเท่าไร ตอนนั้น คนมารวมกันแถวประตู A11 เยอะ นักข่าวก็มากันเพียบ มี ต�ารวจกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาด้วย จ�าได้ว่าคนเยอะครับ นักข่าวถือไมค์สัมภาษณ์ ผู้ โดยสารกับเจ้าหน้าที่ ไม่ลดละ ผมจ�าได้ว่าตอนนั้นน่าจะเข้าไปในสถานีไม่ได้แล้ว หลังสถานการณ์ ในที่เกิดเหตุสงบลง ผมเดินไปโรงพยาบาล H พอถึงใน ล็อบบี้มี โทรทัศน์เปิดอยู่ ก�าลังฉายข่าวของ NHK บนจอปรากฏภาพสถานที่เกิด คดีรถไฟใต้ดิน ผมรู้ตอนนั้นเองว่าคุณทาคาฮาชิเสียชีวิตแล้ว รู้จากตัวหนังสือบน จอโทรทัศน์ เฮ้อ เราช้าไปจริงๆ มันสายเกินไป... น่าเสียดายจริงๆ อาการที่เกิดกับตัวผมเองเรียกว่า รูม่านตาหด รอบตัวจะมืด คลื่นไส้ นิดหน่อย แต่ไม่มีอะไรร้ายแรง ไม่มีตรวจร่างกายหรือซักถามอะไรเป็นพิเศษ ผ่านไปสักพักก็ ให้น�้าเกลือ แค่นั้นเอง เหมือนให้ๆ น�้าเกลือไปก่อน ระหว่างนั้น ผมยังคงสวมเครื่องแบบตลอด อาการผมยังถือว่าเบา น่าจะอาการน้อยสุดใน บรรดาคนที่อยู่ใกล้มันแล้วครับ คุณโอโฮริเข้าโรงพยาบาลนานทีเดียว กรณีผมน่า จะเป็นเพราะออกมานอกสถานีเร็วครับ หลังให้น�้าเกลือเสร็จ ผมเดินกลับสถานีพร้อมเจ้าหน้าที่อีกสองสามคน สายจิโยดะเดินรถโดยไม่แวะจอดสถานีคาสุมิงาเซกิ พวกผมเลยกลับไปส�านักงาน สายมารุโนอุจิ จัดการโน่นนี่ กว่าจะถึงบ้านก็มืดค�า่ แล้ว เป็นหนึ่งวันที่ยาวนานมาก จริงๆ วันรุ่งขึ้น ผมหยุดหนึ่งวัน พอวันที่ 22 ก็เข้าผลัดค้างคืนครับ

UNDERGROUND 41


พูดตามตรง ความทรงจ�าตอนเกิดเหตุไม่ปะติดปะต่อเลย บางจุดจ�าได้ แม่นเป๊ะๆ ที่เหลือแค่คร่าวๆ เรียกว่าขาดตอนไปเยอะน่าจะดีกว่า คงเพราะผม ลนลานมากตอนคุณทาคาฮาชิทรุดลงไป หรือตอนพาส่งโรงพยาบาล นี่นับว่าจ�าได้ เยอะอยู่ แต่ที่เหลือ ผมนึกรายละเอียดไม่ค่อยออก ผมไม่ได้สนิทกับคุณทาคาฮาชิเป็นการส่วนตัวสักเท่าไร คุณทาคาฮาชิเป็น ถึงผู้ช่วยนายสถานีฝ่ายงานสถานี ผมยังเด็กกว่ามาก สถานะมันต่างกัน ลูกชาย คุณทาคาฮาชิก็ประจ�าอยู่สถานี ** (แน่นอนว่าเป็นพนักงานเอดัง) อายุไม่ต่างกับ ผมมาก หากดูแค่อายุก็เหมือนพ่อลูกน่ะครับ แต่ตอนคุยกับคุณทาคาฮาชิตัวต่อตัว ผมกลับแทบไม่รู้สึกว่าอายุห่างกัน ไม่ใช่คนที่ท�าให้เรารู้สึกว่า ต้องวางตัวเป็นรุ่นพี่ รุ่นน้อง เขาอ่อนโยนเป็นที่รักของทุกคน กับผู้ โดยสารก็บริการสุภาพ มีมิตรไมตรี เสมอ ผมเรียกเขาว่า ‘คุณทาคาฮาชิ’ แต่ทุกคนเรียกชื่อเล่น ‘คุณอิชโช’ อย่างสนิท ชิดเชื้อ เจอเหตุการณ์แบบนี้ ส่วนตัวผมไม่รู้สึกเลยนะว่า ‘ไม่เอาแล้ว อยากย้าย ไปทีอ่ นื่ ’ ตัง้ แต่เริม่ ท�างานก็อยูท่ นี่ ี่ (สถานีคาสุมงิ าเซกิ) ตลอด เลยไม่รจู้ ะเปรียบเทียบ กับสถานีอื่นยังไงดี แต่ยังไงผมก็ชอบที่นี่ที่สุด ผูกพันมากครับ

42 HARUKI MURAKAMI


เตรียมพบกับ The Place That Was Promised: Underground 2 บทสัมภาษณ์สมาชิกโอมชินริเกียว ผู้เกี่ยวข้องกับการปล่อยแก๊สพิษซาริน ในไม่ช้านี้


เกี่ยวกับผู้เขียน

ต�านานกล่าวว่า ในวันที่อากาศอบอุ่นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ปี 1978 ขณะดู เบสบอลอยู่ ฮารูกิ มูราคามิ ก็เกิดแรงบันดาลใจในงานเขียนนิยายเล่มแรก ที่ ต่อมาได้ชื่อว่า สดับลมขับขาน (Hear the Wind Sing) หลังจากนั้นงานเขียน ของเขาประสบความส�าเร็จได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และมีผลงานออกมา อย่างสม�่าเสมอ ไม่ว่าจะเป็นนวนิยาย เรื่องสั้น ความเรียง และบทความสารคดี เกิดทีเ่ มืองเกียวโต เมือ่ ปี 1949 ใช้ชวี ติ ช่วงวัยเด็กทีเ่ มืองโกเบ พ่อเป็นพระ นักบวช ส่วนแม่เป็นลูกสาวพ่อค้าในเมืองโอซากา ทัง้ สองเป็นครูสอนวิชาวรรณกรรมญี่ปุ่น มูราคามิได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมตะวันตกมาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะดนตรี และวรรณกรรม เขาเติบโตพร้อมกับการอ่านผลงานของนักเขียนอเมริกนั มากมาย ผลงานของเขาแตกต่างจากนักเขียนญี่ปุ่นคนอื่นๆ เป็นที่นิยมชื่นชอบของนักอ่าน ทั่วโลกจากลักษณะความเป็นสากล ไม่ขึ้นอยู่กับรากฐานวัฒนธรรมเฉพาะแห่งใดๆ


เกี่ยวกับผู้แปล

พีรวัธน์ เสาวคนธ์ เรียนจบด้านเครื่องยนต์กลไก เป็นมนุ ย์เงินเดือนใน ายที่เรียนจบมา แค่ช่ ง ั้นๆ แต่งานนั้นเป็นจุดเริ่มต้นในการเรียนภา าญี่ปุ่น ปัจจุบันเป็นนักแปล อิ ระ แปลทั้ง นัง ือการ์ตูน บทละครทางโทรทั น์ รับงานล่ามเป็นครั้งครา แต่ที่ชอบที่ ุดคือการแปล รรณกรรม เ ลา ่าง ่ นใ ญ่ มดไปกับการเ าะ า ของอร่อยและการท่องเที่ย ถ่ายรูป อาภากร รุจีรไพบูลย์ ชอบและ นใจในประเท ญี่ ปุ ่ น มาตั้ ง แต่ เ ด็ ก จึ ง ตั ด ิ น ใจเรี ย นภา า ตั้งแต่มัธยมปลายเพราะอยากเข้าถึงญี่ปุ่นใ ้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น จนเข้าม า ิทยาลัยได้ทุน ไปแลกเปลีย่ นทีโ่ ตเกีย นึง่ ปี เข้า ู่ งการนักแปลครัง้ แรกตัง้ แต่ มัยปี นึง่ ด้ ยการ แปลการ์ตนู ลังจากนัน้ จึงรับงานแปลและงานล่ามมาตลอด จนมาเป็นบรรณาธิการ ต้นฉบับและนักแปลที่ า� นักพิมพ์กา� มะ ยีใ่ นที่ ดุ ปัจจุบนั ยังคงท�างานเป็นล่ามและ นักแปลฟรีแลนซ์ ชอบท่องเที่ย และชอบแม มาก


หากพบหนังสือที่มีข้อผิดพลาดหรือไม่ได้มาตรฐาน อาทิ หน้ากระดาษหายหรือสลับกัน โปรดแจ้งมาที่ gammemagie@gammemagie.com เพื่อเปลี่ยนเล่มใหม่


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.