Unit 13

Page 1


เอกสารอิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส ข องมหาวิ ท ยาลั ย สุ โ ขทั ย ธรรมาธิ ร าชฉบั บ นี้ ได รั บ การสงวนลิ ข สิ ท ธิ์ แ ละคุ ม ครองภายใต ก ฎหมายลิ ข สิ ท ธิ์ รวมทั้ ง สนธิ สั ญ ญาว า ด ว ยทรั พ ย สิ น ทางป ญ ญา


หน่วย​ที่

13

ธ ส

รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์

ธ ส

ธ ส

ชื่อ วุฒ ิ ตำ�แหน่ง หน่วย​ที่​เขียน

ธ ส ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

ธ ส

อาจารย์ธน​นุช ตรีท​ ิพย​บุตร

ธ ส

ธ ส

ม ม

ธ ส

อาจารย์ธน​นุช ตรีท​ ิพย​บุตร วิทยา​ศาสตร​บัณฑิต (คณิตศาสตร์) จุฬาลงกรณ์​มหาวิทยาลัย รัฐศ​ าสตร​มหา​บัณฑิต (บริหาร​รัฐ​กิจ) มหาวิทยาลัยธ​ รรมศาสตร์ M.Sc. (Computer and Information Science), Syracuse University เลขาธิการ​สถิติ​แห่ง​ชาติ พ.ศ. 2549-2552 รอง​ปลัดก​ ระทรวง​เทคโนโลยีส​ ารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร พ.ศ. 2545-2549 ผู้ต​ รวจ​ราชการ​สำ�นัก​นายก​รัฐมนตรี พ.ศ. 2544-2545 ผู้ช​ ่วย​เลขาธิการ​คณะ​รัฐมนตรี พ.ศ. 2540-2544 หน่วย​ที่ 13

ธ ส

13-1


13-2

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

หน่วย​ที่ 13

ธ ส

รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์

เค้าโครง​เนื้อหา

แนวคิด

ตอน​ที่ 13.1 ความ​หมาย​และ​ความ​สำ�คัญ​ของ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ 13.1.1 ความ​หมาย​ของ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ 13.1.2 นโยบาย​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ใน​มิติ​ของ​รัฐบาล​ไทย ตอน​ที่ 13.2 พัฒนาการ​ของ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ประเทศไทย 13.2.1 การ​เริ่ม​ใช้​คอมพิวเตอร์​ใน​ประเทศไทย 13.2.2 พัฒนาการ​การ​ใช้​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร ตอน​ที่ 13.3 กรณี​ตัวอย่าง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ไทย​ใน​ปัจจุบัน 13.3.1 รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​เพื่อ​การ​บริการ​สำ�คัญ​ของ​ภาค​รัฐ 13.3.2 การ​เชื่อม​โยง​ข้อมูล​ภาค​รัฐ​เพื่อ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ 13.3.3 โครงสร้าง​พื้น​ฐาน​ที่​สำ�คัญ​ต่อ​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ ตอน​ที่ 13.4 รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ไทย​ก้าว​สู่​เวที​โลก 13.4.1 การ​จัด​อันดับ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ของ​ประเทศไทย​เทียบ​กับน​ านา​ประเทศ 13.4.2 ดัชนีแ​ ละ​ปัจจัย​ใน​การ​ขับ​เคลื่อน​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ 13.4.3 กรณีต​ ัวอย่าง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​จาก​ต่าง​ประเทศ 13.4.4 ก้าว​ต่อ​ไป​ของ​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ไทย

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

1. รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​เป็น​กลไก​สำ�คัญ​เพื่อ​การ​บริหาร​ประเทศ​อย่าง​ธร​รมาภิ​บาล​โดย​ยึด​ ประชาชน​เป็น​ศูนย์กลาง​เพื่อ​การ​บริหาร​ด้วย​การ​ใช้​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​ ใน​การ​สนับสนุน ทั้งนี้เ​พื่อก​ าร​มี​ส่วน​ร่วม และ​ความ​โปร่งใส​ที่​สามารถ​ตรวจ​สอบ​ได้ 2. การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​มี​ผลก​ระ​ทบ​ต่อ​การ​เปลี่ยนแปลง​เป็น​อย่าง​มาก ทั้ง​ กฎหมาย กฎ​ระเบียบ ข้อ​บังคับ และ​วิธี​การ​ปฏิบัติ​งาน​เพื่อ​แปลง​งาน​ที่​เคย​ทำ�​ด้วย​มือ​ เป็น​ดำ�เนิน​การ​ผ่าน​ทาง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร ต้อง​ได้​รับ​การ​สนับสนุน​ ทั้ง​ใน​ด้าน​คน และ​เงิน​งบ​ประมาณ​ที่​เพียง​พอ​อย่าง​ต่อ​เนื่อง​เป็น​ระยะ​เวลา​นาน 3. ประเทศไทย​ได้​ให้​ความ​สำ�คัญ​ต่อ​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​อย่าง​จริงจัง​เริ่ม​ตั้งแต่​ ปี พ.ศ. 2544 ทั้ง​ใน​ด้าน​การ​ให้​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์ การ​เชื่อม​โยง​ข้อมูล ตลอด​จน​ โครงสร้าง​พื้นฐ​ าน​ที่ส​ ำ�คัญ​ด้าน​สารสนเทศ

ธ ส


ธ ส

13-3

ธ ส

4. ถึงแ​ ม้​การ​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์​ของ​ประเทศไทย​จะ​มี​อย่าง​หลาก​หลาย โดยที่​หลาย​ระบบ​ ต่าง​ก็ได้​รับ​รางวัล​จาก​องค์กร​ระหว่าง​ประเทศ และ​บาง​ระบบ​ก็ได้​มี​การ​พัฒนา​ล้ำ�​หน้า​ ไป​กว่า​ประเทศ​ที่​พัฒนา​แล้ว​ก็ตาม แต่​ประเทศไทย​ก็​ยัง​มิได้​ถูก​จัด​อันดับ​ไว้​ใน​อัน​ดับ​ ต้นๆ ของ​เวที​โลก ทั้งนี้​เพราะ​ยัง​มี​จุด​อ่อน​ใน​ตัว​ชี้​วัด​หลาย​ประการ​ที่​ต้อง​พัฒนา​เพิ่ม​เติม ​ให้​ตรง​ประเด็น​ตาม​เกณฑ์​ของ​องค์กร​ที่​เป็น​ผู้​จัด​อันดับ​นั้น นอกจาก​นี้ การ​ทำ�ให้​เกิด ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ได้ ผู้นำ�​ประเทศ​ต้อง​มี​วิสัย​ทัศน์ ทัศนคติ​ที่​รุด​หน้า​ทัน​เทคโนโลยี ทัน​โลกา​ภิ​วัต​น์ และ​จะ​ต้อง​ผลัก​ดัน​อย่าง​จริงจัง ผู้นำ�​ประเทศ​สามารถ​ทำ�ให้​การ​พัฒนา​ รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​เป็น​ไป​อย่าง​ก้าว​กระโดด​ได้ แต่​ใน​ทาง​ตรง​กัน​ข้าม​ผู้นำ�​ประเทศ​ก็​มี​ ผล​ให้​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ทรุด​ตัว​ลง​อย่าง​รวดเร็ว​ได้​เช่น​กัน

ธ ส

วัตถุประสงค์

ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

ธ ส

ธ ส

ธ ส

เมื่อศ​ ึกษา​หน่วย​ที่ 13 จบ​แล้ว นักศึกษา​สามารถ 1. อธิบาย ความ​เป็น​มา ความ​หมาย ความ​สำ�คัญ และ​องค์​ประกอบ​ของ​การ​พัฒนา​รัฐบาล​ อิเล็กทรอนิกส์​ใน​ภาพ​รวม​ได้ 2. อธิบาย พัฒนาการ​ของ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ประเทศไทย ตลอด​จน​ความ​ก้าวหน้า ไม่​ ว่า​จะ​เป็น​ใน​ด้าน​การ​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์ การ​เชื่อม​โยง​ข้อมูล​ข่าวสาร ตลอด​จน​การ ​พัฒนา​โครงสร้าง​พื้น​ฐาน​ที่​สำ�คัญ​ต่อ​การ​พัฒนา พร้อม​ทั้ง​สามารถ​ยก​ตัวอย่าง​ให้​เห็น​ภาพ​ พอ​สังเขป​ได้ 3. วิเคราะห์ เปรียบ​เทียบ สถานภาพ​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ของ​ประเทศไทย เทียบ​กับ​ต่าง​ประเทศ และ​สามารถ​ค้นคว้า​หา​ตัวอย่าง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์เ​พิ่ม​เติม​เพื่อ​ เปรียบ​เทียบ​กับ​ประเทศ​ที่เ​จริญ​แล้ว เพื่อ​สร้าง​ความ​เข้าใจ​เพิ่ม​เติม​ใน​ประเด็น​การ​แข่งขัน​ ใน​เวที​โลก​ได้ 4. อธิบาย​แผน​ทิศทาง​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ท​ ีก่​ ระทรวง​เทคโนโลยีส​ ารสนเทศ​และ​ การ​สื่อสาร​เป็น​หน่วย​งาน​รับ​ผิด​ชอบ​หลัก เพื่อ​การ​พัฒนา​ระบบ​การ​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์​ ภาค​รัฐข​ อง​ประเทศไทย​แบบ​ก้าว​กระโดด และ​ปัจจัยแ​ ห่งค​ วาม​สำ�เร็จใ​ น​การ​พัฒนา​รัฐบาล​ อิเล็กทรอนิกส์​พอ​สังเขป​ได้

ธ ส

ธ ส

ธ ส


13-4

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ตอน​ที่ 13.1

ธ ส

ความ​หมาย​และ​ความ​สำ�คัญ​ของ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์

ธ ส

โปรด​อ่าน​แผนการ​สอน​ประจำ�​ตอน​ที่ 13.1 แล้วจ​ ึง​ศึกษา​เนื้อหา​สาระ พร้อม​ปฏิบัติ​กิจกรรม​ใน​แต่ละ​เรื่อง

หัว​เรื่อง

แนวคิด

ธ ส

เรื่อง​ที่ 13.1.1 ความ​หมาย​ของ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง​ที่ 13.1.2 นโยบาย​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ใน​มิติ​ของ​รัฐบาล​ไทย

ธ ส

1. องค์กร​ระดับ​โลก และ​ระดับ​นานาชาติ​ได้​ให้​ความ​สำ�คัญ และ​ความ​หมาย​ของ​รัฐบาล​ อิเล็กทรอนิกส์​ไว้ ซึ่ง​ใน​แต่ละ​ความ​หมาย​จะ​มี​คำ�​สำ�คัญ​หรือ​ประโยค​สำ�คัญ​ที่​เหมือน​กัน​ อยู่ ด้ ว ย​ก าร​ใ ช้ ​เ ทคโนโลยี ​ส ารสนเทศ​แ ละ​ก าร​สื่ อ สาร​เ พื่ อ ​ก าร​บ ริ ห าร​ป ระเทศ​แ บบ ​ธร​รมาภิ​บาล​เพื่อ​ประชาชน​เป็น​หลัก แต่​จะ​มี​ส่วน​ขยาย​ที่​แตก​ต่าง​กัน​ใน​ราย​ละเอียด​ไป​ บ้าง​เท่านั้น 2. รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ได้​ปรากฏ​อยู่​ใน​นโยบาย​รัฐบาล​ตั้ง​แต่​ปีพ.ศ. 2544 เป็นต้น​มา ไม่ ​ว่ า ​จ ะเป็ น ​น โยบาย​ที่ ​แ ถลง​ต่ อ ​รั ฐ สภา หรื อ ​ที่ ​ป รากฏ​ไ ว้ ​ใ น​เ อกสาร​ก รอบ​น โยบาย ​เทคโนโลยี​สารสนเทศ แผน​แม่บท​เทคโนโลยีสารสนเทศ แผน​ทิศทาง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ และ​แม้​กระทั่ง​ใน​การ​ประชุม​คณะ​รัฐมนตรี ตลอด​จน​ใน​คำ�​ปราศรัย​เนื่อง​ใน​ โอกาส​ต่างๆ ของ​นายก​รัฐมนตรี และ​รัฐมนตรี ถือ​เป็น​วาระ​สำ�คัญ​ของ​ประเทศ

ธ ส

ธ ส

วัตถุประสงค์

ธ ส

ธ ส

เมื่อ​ศึกษา​ตอน​ที่ 13.1 จบ​แล้ว นักศึกษา​สามารถ 1. อธิบาย​ความ​หมาย​และ​ความ​ส�ำ คัญข​ อง​รฐั บาล​อเิ ล็กทรอนิกส์ใ​ น​ทศั นะ​ของ​องค์กร​ทสี​่ �ำ คัญ​ ใน​ระดับ​โลก และ​ระดับ​ภูมิภาค​ได้ 2. อธิบาย​ความ​เป็น​มา​และ​ความ​สำ�คัญ​ของ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ใน​มิติ​ของ​รัฐบาล​ไทย ตั้งแต่ย​ ุค​บุกเบิก​จนถึงย​ ุค​ปัจจุบัน​ได้

ธ ส


ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

ธ ส

เรื่อง​ที่ 13.1.1 ความ​หมาย​ของ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์

ธ ส

13-5

พัฒนาการ​อินเทอร์เน็ต​เข้า​มา​มี​อิทธิพล​ที่​สำ�คัญ​ใน​ระดับ​เวที​โลก ปรากฏ​เป็น​รูป​ธรรม​ชัดเจน​ตั้งแต่​ ปี พ.ศ. 2539 ที่​สหรัฐอเมริกา​โดย​ประธานาธิบดี​ค​ลิน​ตัน และ​รอง​ประธานาธิบดี​อัล​กอร์​ของ​สหรัฐอเมริกา​ ได้​เริ่ม​โครงการ​สร้าง​ทางด่วน​สารสนเทศ (information superhighway) ทำ�ให้​มี​การ​พัฒนา​เว็บไซต์​และ​ อินเทอร์เน็ต​ก้าวหน้า​ไป​อย่าง​รวดเร็ว เป็น​ช่อง​ทาง​ที่​สำ�คัญ​ใน​การ​ปฏิสัมพันธ์​และ​ทำ�​ธุรกิจ​ทาง​สื่อ​อิเล็กทรอนิกส์ผ​ า่ น​ทาง​เว็บไซต์ห​ รือส​ ือ่ อ​ เิ ล็กทรอนิกส์อ​ ืน่ ๆ ต่อม​ าก​ระ​แส​ของ​พาณิชย์อ​ เิ ล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) และ​ธุรกิจ​อิเล็กทรอนิกส์ (e-Business) ได้​ขยาย​เข้า​มา​ใน​กิจการ​ภาค​รัฐ​จน​กลาย​เป็น​รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) ซึ่ง​ประเทศไทย​ก็​ตก​อยู่​ใน​กระแส​นั้น​ด้วย เป็น​จุด​กำ�เนิด​ของ e-Thailand ที่​มี​รัฐบาล​ อิเล็กทรอนิกส์​เป็น​เครื่อง​มือ​สำ�คัญ​ครั้ง​แรก​ของ​ประเทศไทย​เมื่อ​ต้น​ปี พ.ศ. 2544 ประกอบ​กับ​ขณะ​นั้น ​แนวคิด​การ​ปฏิรูป​ระบบ​ราชการ​ได้​ตกผลึก และ​มี​ผล​ใน​ทาง​ปฏิบัติ​ใน​ปลาย​ปี พ.ศ. 2545 จึง​ทำ�ให้​ภาค​รัฐ​ ตื่น​ตัวอย่าง​มาก​ต่อ​การ​บริหาร​ราชการ​ตาม​แนวทาง​ใหม่ ที่​ประยุกต์​ใช้​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​ เป็น​เครื่อง​มือใ​ น​การ​ทำ�งาน โดย​เฉพาะ​ใน​โครงการ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ของ​หน่วย​งาน​ต่างๆ แนวคิด​เรื่อง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ได้​แผ่​กระจาย​ไป​ทั่ว​โลก​สนอง​นโยบาย​ธร​รมาภิ​บาล​ของ​รัฐ ด้วย​ ยุทธศาสตร์ก​ าร​ใช้​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​เป็นต​ ัว​ขับ​เคลื่อน ไม่​ว่า​จะ​เป็น​ประเทศ​ที่​พัฒนา​แล้ว​ หรือ​ประเทศ​ที่​กำ�ลัง​พัฒนา​ก็ตาม​ต่าง​พา​กัน​ให้ค​ วาม​สำ�คัญ​ใน​เรื่อง​นี้ จน​ทำ�ให้​หัวข้อ “รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์” กลาย​เป็น​ประเด็น​สำ�คัญ​ที่​องค์กร​ระดับ​โลก​และ​ระดับ​นานาชาติ​หลาย​องค์กร​ต่าง​จับตา​มอง​ให้​ความ​หมาย​ และ​ให้ค​ วาม​สำ�คัญ

ธ ส

ธ ส

ธ ส

1. ความ​หมาย​จาก​สหประชาชาติ

ธ ส

ธ ส

สหประชาชาติ (United Nations - UN) หรือ​องค์การ​สหประชาชาติ (United Nations Organization - UNO) เป็น​องค์การ​ระหว่าง​ประเทศ​ซึ่ง​มี​วัตถุประสงค์​เพื่อ​ก่อ​ให้​เกิด​ร่วม​มือ​กัน​ของ​กฎหมาย​ ระหว่าง​ประเทศ ความ​มั่นคง​ระหว่าง​ประเทศ การ​พัฒนา​เศรษฐกิจ การ​เปลี่ยนแปลง​ทาง​สังคม สิทธิม​ นุษยชน และ​การ​บรรลุ​สันติภาพ​โลก สหประชาชาติ​ถูก​ก่อ​ตั้ง​ขึ้น​ภาย​หลัง​สงครามโลก​ครั้ง​ที่​สอง​ยุติ​ลง​ใน​ปี พ.ศ. 2488 เพื่อ​แทนที่​สันนิบาต​ชาติ​ใน​การ​ยับยั้ง​สงคราม​ระหว่าง​ประเทศ และ​เพื่อ​เป็น​เวที​สำ�หรับ​การ​เจรจา​ เพื่อ​ยุติ​ข้อ​พิพาท ปัจจุบัน​สหประชาชาติ​มี​สมาชิก​ทั้งหมด 192 ประเทศ ครอบคลุม​รัฐ​อธิปไตย​เกือบ​ทุก​รัฐ​ บน​โลก และ​ประเทศไทย​ก็เ​ป็น​หนึ่งใ​ น​สมาชิก​ของ​สหประชาชาติ สหประชาชาติ ได้​ให้​ความ​สำ�คัญ​ของ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ไว้​ว่า​เป็น “ความ​ผูกมัด​ตลอด​ไป​ของ​ รัฐบาล​ใน​การ​ปรับปรุง​ความ​สัมพันธ์​ระหว่าง​ประชาชน​และ​ภาค​รัฐ โดย​ยก​ระดับ​การ​สร้าง​ความ​คุ้ม​ค่า และ​ การ​สร้าง​ประสิทธิภาพ​ใน​เรื่อง​การ​ให้​บริการ​ข้อมูลข​ ่าวสาร​และ​องค์​ความ​รู้”

ธ ส

ธ ส


13-6

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

2. ความ​หมาย​จาก​ธนาคารโลก

ธ ส

ธนาคารโลก (World Bank) เป็นอ​ งค์กร​ระหว่าง​ประเทศ​มุ่งเ​น้นเ​พื่อช​ ่วย​เหลือ​ประชาชน​และ​ประเทศ​ ที่​ยากจน โดย​ใช้​ทุน​ทรัพย์ ทรัพยากร​บุคคล รวม​ถึง​ความ​รู้​และ​ประสบการณ์​ของ​ธนาคาร​เพื่อ​ช่วย​เหลือ​ ประเทศ​กำ � ลั ง ​พั ฒ นา ใน​ก าร​ล ด​ค วาม​ย ากจน การ​ส่ ง ​เ สริ ม ​ใ ห้ ​เ กิ ด ​ค วาม​เ ติ บ โต​ท าง​เ ศรษฐกิ จ และ​ย ก​ มาตรฐาน​การ​ครอง​ชีพข​ อง​ประชากร​ให้​สูงข​ ึ้น ธนาคารโลก​ได้ก​ ่อ​ตั้งข​ ึ้น​เมื่อ​ปี พ.ศ. 2487 ใน​ฐานะ​เป็นธ​ นาคาร​ระหว่าง​ประเทศ​เพื่อ​การ​บูรณะ​และ​ พัฒนา ปัจจุบัน​มี​สมาชิก 187 ประเทศ และ​ประเทศไทย​ก็​เป็นห​ นึ่ง​ใน​ประเทศ​สมาชิก ธนาคารโลก​ไ ด้ ​ใ ห้ ​รั ฐ บาล​อิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ หมาย​ถึ ง “การ​ที่ ​ห น่ ว ย​ง าน​ข อง​รั ฐ ​ใ ช้ ​ป ระโยชน์ ​จ าก​ เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร เช่น คอมพิวเตอร์ เครือ​ข่าย​การ​สื่อสาร​แบบ​แวน (WAN - Wide Area Network) อินเทอร์เน็ต และ​ระบบ​การ​ทำ�งาน​จาก​ระยะ​ไกล (mobile computing) เป็นต้น เพื่อ​ การ​ปรับเ​ปลี่ยน​รูป​แบบ​การ​ติดต่อ​ประสาน​สัมพันธ์​กับ​ประชาชน ธุรกิจ​เอกชน และ​ระหว่าง​หน่วย​งาน​ของ​รัฐ​ ด้วย​กัน” หรือ​อีก​นัย​หนึ่ง​ว่า​เป็น “การ​ใช้​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร (Information and Communication Technology - ICT) ใน​การ​ปรับปรุง​ประสิทธิภาพ ความ​สัมฤ​ทธิ​ผล ความ​โปร่งใส และ​ ความ​น่า​เชื่อ​ถือ​ของ​รัฐบาล”

ธ ส

ธ ส

ธ ส

3. ความ​หมาย​จาก​องค์กร​ความ​ร่วม​มือ​และ​พัฒนา​ทาง​เศรษฐกิจ

ธ ส

ธ ส

องค์ ก ร​ค วาม​ร่ ว ม​มื อ ​แ ละ​พั ฒ นา​ท าง​เ ศรษฐกิ จ ​ห รื อ ​โ อ​อี ​ซี ดี (Organisation for Economic Co-operation and Development - OECD) จัด​ตั้ง​ขึ้น​ใน​ปี ค.ศ. 1961 (พ.ศ. 2504) โดย​มี​บทบาท​ สำ�คัญ​ใน​การ​เสริม​สร้าง​ความ​แข็งแกร่ง​ทาง​เศรษฐกิจ​ใน​หมู่​ประเทศ​สมาชิก ด้วย​การ​ปรับปรุง​ประสิทธิภาพ​ การ​บริหาร​จัดการ ส่ง​เสริม​การ​ค้า​เสรี และ​ให้​ความ​ช่วย​เหลือ​เพื่อ​การ​พัฒนา​ทั้ง​ใน​ประเทศ​อุตสาหกรรม ​และ​ประเทศ​กำ�ลัง​พัฒนา ปัจจุบัน​องค์กร​ความ​ร่วม​มือ​และ​พัฒนา​ทาง​เศรษฐกิจ​ประกอบ​ไป​ด้วย​สมาชิก​ ทั้ง​สิ้น 31 ประเทศ​และ​ยังร​ ่วม​มือ​และ​มีข​ ้อ​ตกลง​ต่างๆ กับ​ประเทศ​ที่​ไม่​ได้​เป็น​สมาชิก​กว่า 70 ประเทศ ประเทศไทย​เอง​ก็​มี​ความ​สนใจ​อยาก​จะ​เข้า​เป็น​สมาชิก​อยู่​ด้วย จึง​ถือ​เป็น​เรื่อง​สำ�คัญ​ที่​ประเทศไทย ​จะ​ต้อง​ติดตาม​ความ​เคลื่อนไหว และ​ร่วม​กิจกรรม​ของ​องค์กร​นี้ เพื่อ​จะ​ทราบ​ข้อมูล​ว่า​ประเทศไทย​มี​การ​ พัฒนา​เข้า​ใกล้​มาตรฐาน​ของ​องค์กร​ความ​ร่วม​มือ​และ​พัฒนา​ทาง​เศรษฐกิจ​หรือ​ไม่ อย่างไร องค์กร​ความ​ร่วม​มือ​และ​พัฒนา​ทาง​เศรษฐกิจ ได้​ให้​ความ​หมาย​ของรัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ไว้​ว่า “เป็นการ​ใช้​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​การ​ใช้​อินเทอร์เน็ต​เป็น​เครื่อง​มือ​เพื่อ​ ช่วย​ให้​บรรลุ เป้า​หมาย​ใน​การ​เป็น​รัฐบาล​ที่​ดี​ขึ้น และ​เน้น​การ​ใช้​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​สมัย​ ใหม่ ของ​ภาค​รัฐ​เพื่อ​ให้การ​ดำ�เนิน​การ​ต่างๆ เป็น​ไป​ได้​อย่าง​สมบูรณ์ โดย​เฉพาะ​การ​สร้าง​ศักยภาพ​การ ​เชื่อม​โยง​เครือ​ข่าย​ด้วย​อินเทอร์เน็ต​หรือ​เทคโนโลยี​ที่​เกี่ยวข้อง เพื่อ​การ​เปลี่ยนแปลง​โครงสร้าง​หรือ​การ​ ดำ�เนิน​การ​ของ​ภาค​รัฐ”

ธ ส

ธ ส

ธ ส


4. ความ​หมาย​จาก​สหภาพ​ยุโรป

ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

13-7

ธ ส

สหภาพ​ยุโรป (European Union - EU) พัฒนา​มา​จาก​การ​ก่อ​ตั้ง​ประชาคม​ถ่านหิน​และ​เหล็กกล้า​ แห่ง​ยุโรป (European Coal and Steel Community - ECSC) เมื่อ​ปี ค.ศ. 1952 และ​มี​การ​ลง​นาม​ใน​ สนธิ​สัญญา​กรุง​โรม (Treaties of Rome) ใน​ปี ค.ศ. 1957 ซึ่ง​ถือ​เป็น​จุด​กำ�เนิด​ของ​การ​ก่อ​ตั้ง​ประชาคม​ เศรษฐกิจ​ยุโรป ต่อ​มา​ได้​มี​การ​ลง​นาม​ใน​สนธิ​สัญญา​ก่อ​ตั้ง​สหภาพ​ยุโรป (Treaty of the European Union) หรือ​อีก​ชื่อ​หนึ่ง​ว่า สนธิ​สัญญา​มาส​ทริชต์ (Maastricht Treaty) เรียก​ชื่อ​ใหม่​ว่า สหภาพ​ยุโรป เมื่อ​ปี ค.ศ. 1992 (พ.ศ. 2535) ปัจจุบัน​มี​ประเทศ​สมาชิก 27 ประเทศ ใน​ภาพ​รวม​สหภาพ​ยุโรป​เป็นก​ลุ่ม​ ประเทศ​ที่​มี​บทบาท​สำ�คัญ​ยิ่ง​ใน​การ​สร้าง​กระแส​และ​ทิศทาง​การเมือง ความ​มั่นคง เศรษฐกิจ และ​สังคม​ ระดับ​โลก สหภาพ​ยุโรป​ได้​ให้​ความ​หมาย​ของ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ ไว้​ว่า “เป็นการ​ใช้​เครื่อง​มือ​และ​ระบบ ​ทาง​เทคโนโลยีส​ ารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​ใน​การ​ให้​บริการ​ของ​ภาค​รัฐ​ที่​ดี​ยิ่ง​ขึ้น​แก่​ประชาชน และ​ผู้​ประกอบ​ ธุรกิจ​ภาค​เอกชน ทั้งนี้​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ไม่​ได้​หมาย​ถึง​แต่​เพียง​เป็น​เครื่อง​มือ​หรือ​ระบบ​เท่านั้น แต่​ยัง​ หมาย​รวม​ถึง​การ​เปลี่ยนแปลง​การ​บริหาร​จัดการ และ​ขั้น​ตอน​การ​ดำ�เนิน​งาน​ของ​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​ใน​ทาง​ ที่​จะ​ช่วย​ให้การ​บริการ​มี​ประสิทธิภาพ​มาก​ยิ่ง​ขึ้น ซึ่ง​การ​มี​ระบบ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ที่​ดี​จะ​ช่วย​การ​ติดต่อ ​ประสาน​งาน​ระหว่าง​รัฐบาล​กับ​ประชาชน หน่วย​งาน และ​องค์กร​ต่างๆ ที่​ให้​มี​ความ​สะดวก ง่ายดาย รวดเร็ว และ​มีค​ ่า​ใช้​จ่าย​น้อย​ลง”

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

5. ความ​หมาย​จาก​ศูนย์วิจัย​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์แ​ ห่ง​มหาวิทยาลัย​วา​เซ​ดะ ประเทศ​ญี่ปุ่น

ศูนย์วิจัย​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​แห่ง​มหาวิทยาลัย​วา​เซ​ดะ (APEC e-government Research Center at Waseda University) ก่อ​ตั้ง​ขึ้น​เมื่อ​ปี ค.ศ. 2004 โดย​มี​วัตถุประสงค์​เพื่อ​ให้​ความ​ช่วย​เหลือ ​ใน​การ​มอง​หา​แนวทาง​แก้ไข​ปัญหา​ต่างๆ ของ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ และ​เสนอ​แนะ​ใน​การ​ปรับปรุง​การ​ ดำ�เนิน​งาน​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ ศูนย์​ไม่​เพียง​แต่​มุ่ง​เน้น​ไป​ที่​ความ​ท้าทาย​เกี่ยว​กับ​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​ของ​ ประเทศ แต่ร​ วม​ถึง​หน่วย​งาน​ราชการ​ท้อง​ถิ่นอ​ ีกด​ ้วย ศูนย์วิจัย​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​แห่งม​ หาวิทยาลัย​วา​เซ​ดะ​ได้ใ​ ห้ค​ วาม​หมาย​ของ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ ไว้​ว่า หมาย​ถึง “รัฐบาล​ที่​สามารถ​ให้​บริการ​ภาค​รัฐ​ที่​ดี​ยิ่ง​ขึ้น​ด้วย​การ​ใช้​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​ สื่อสาร โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง อินเทอร์เน็ต​เป็น​เครื่อง​มือ​หลักใ​ น​การ​ให้​บริการ​ต่างๆ”

ธ ส

6. ความ​หมาย​จาก​วิกิ​พี​เดีย

ธ ส

ธ ส

นอกจาก​นี้​ยัง​มี​การ​ให้​ความ​หมาย​ของ​คำ�​ว่า​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ไว้​ใน​ที่​ต่างๆ แบบ​ไม่​เป็น​ทาง การ​อีก​หลาย​แห่ง เช่น ใน​วิกิ​พี​เดีย (Wikipedia) ซึ่ง​เป็น​สารานุกรม​เปิด​ที่​ให้​บุคคล​ทั่วไป​สามารถ​เข้าไป​ ให้​ข้อมูล​แบบ​ไม่​เป็น​ทางการ​อย่าง​หลาก​หลาย เพื่อ​เป็น​ข้อมูล​หรือ​องค์​ความ​รู้​เบื้อง​ต้น​นั้น ได้​มี​คน​ให้​ ความ​หมาย​ของ​คำ�​ว่า​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ไว้​ว่า​เป็น “การ​ปฏิสัมพันธ์​กัน​ระหว่าง​ภาค​รัฐ​กับ​ประชาชน​หรือ ​จี​ทู​ซี (G2C) ภาค​รัฐ​กับ​ภาค​ธุรกิจ การ​พาณิชย์ การ​พาณิชย์​อิเล็กทรอนิกส์​หรือ​จี​ทูบี (G2B) และ​ระหว่าง​


13-8

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

ภาค​รัฐ​กับ​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​กันเอง​หรือ​จี​ทู​จี (G2G) โดย​การ​ใช้​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​สมัย​ ใหม่ เพื่อ​เพิ่ม​ประสิทธิภาพ​ของ​กระบวนการ​บริหาร​จัดการ​และ​การ​ดำ�เนิน​งาน​ภาค​รัฐ​ใน​ทุก​ระดับ ปรับปรุง​ การ​บริการ​แก่​ประชาชน การ​บริการ​ด้าน​ข้อมูล​และ​สารสนเทศ​เพื่อ​ส่ง​เสริม​การ​พัฒนา​เศรษฐกิจ​และ​สังคม ประชาชน​มี​ความ​ใกล้​ชิด​กับ​ภาค​รัฐ​มาก​ขึ้น​โดย​ใช้​สื่อ​อิเล็กทรอนิกส์​เป็น​เครื่อง​มือ​สำ�คัญ​ใน​การ​เข้า​ถึง​บริการ​ ของ​รัฐ และ​ประการ​สำ�คัญ​จะ​ต้อง​มี​ความ​ร่วม​มือ​อย่าง​ใกล้​ชิด​และ​เต็มใจ​จาก​ทั้ง 3 ฝ่าย ได้แก่ ภาค​รัฐ ภาค​ธุรกิจ และ​ภาค​ประชาชน”

ธ ส

ธ ส

7. ความ​หมาย​จาก​ทิศทาง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ป​ ระเทศไทย พ.ศ. 2548 - 2550

แผน​ทิศทาง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ประเทศไทย (e-Government Roadmap) พ.ศ. 2548-2550 ได้​ให้​ความ​หมาย​ของ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์โ​ ดย​สรุป​ไว้​ว่า​เป็น “กระบวนการ​ปฏิรูป​ระบบ​บริหาร บริการ​และ​ กระบวนการ​ทำ�งาน​ของ​รัฐ​ให้ม​ ี​ประสิทธิภาพ​และ​มี​ธร​รมาภิ​บาล โดย​ใช้​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​ มา​เป็น​เครื่อง​สนับสนุน มี​เป้า​หมาย​เพื่อ​นำ�​บริการ​ของ​รัฐ​ไป​สู่​ประชาชน​อย่าง​สะดวก รวดเร็ว และ​เพิ่ม​ความ​ โปร่งใส​ต่อ​ประชาชน​ด้วย​มิติ​ของ​การ​ให้​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์​ใน​ลักษณะ​รัฐ​ต่อ​ประชาชน (G2C) รัฐ​ต่อ​ เอกชน (G2B) รัฐต​ ่อ​รัฐ (G2G) และ​รัฐต​ ่อ​ข้าราชการ​และ​พนักงาน​ของ​รัฐ​หรือ​จี​ทู​อี (G2E)” หรือ​พูด​อีก​นัย​หนึ่ง​ได้​ว่า​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​เป็น​วิธี​การ​บริหาร​จัดการ​ภาค​รัฐ​สมัย​ใหม่ โดย​การ ​ใช้​เทคโนโลยี​คอมพิวเตอร์​และ​เครือ​ข่าย​สื่อสาร​เพื่อ​เพิ่ม​ประสิทธิภาพ​การ​ดำ�เนิน​งาน​ภาค​รัฐ ปรับปรุง​การ​ บริการ​แก่​ประชาชน การ​บริการ​ด้าน​ข้อมูล​และ​สารสนเทศ​เพื่อ​ส่ง​เสริม​การ​พัฒนา​เศรษฐกิจ​และ​สังคม ประชาชน​มี​ความ​ใกล้​ชิด​กับ​ภาค​รัฐ​มาก​ขึ้น ทั้งนี้​สื่อ​อิเล็กทรอนิกส์​จะ​เป็น​เครื่อง​มือ​ที่​สำ�คัญ​ใน​การ​เข้า​ถึง​ บริการ​ของ​รัฐ และ​ประการ​สำ�คัญ​จะ​ต้อง​มี​ความ​ร่วม​มือ​อย่าง​ใกล้​ชิด​และ​เต็มใจ​จาก​ทั้ง 3 ฝ่าย ได้แก่ ภาค​รัฐ ภาค​ธุรกิจ และ​ภาค​ประชาชน

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

ธ ส

Delivery Channels

ธ ส

Other Systems

Presentation Services

ธ ส

E-Government Gateway

ธ ส

ที่มา: www.mict-egov.net

Infrastructure Services

Other Systems Central Services

ธ ส

Hosted Service Platform

ภาพ​ที่ 13.1 ภาพ​รวม​ของ​สถาปัตยกรรม​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์

ธ ส

13-9

ผลพลอยได้​สำ�คัญ​ที่​จะ​ได้​รับ​คือ ธร​รมาภิ​บาล​และ​ความ​โปร่งใส​ที่​มี​มาก​ขึ้น​ใน​กระบวนการ​ทำ�งาน ​ของ​ระบบ​ราชการ อัน​เนื่อง​มา​จาก​การ​เปิด​เผย​ข้อมูล และ​ประชาชน​สามารถ​เข้า​มา​ตรวจ​สอบ​ได้​ตลอด​เวลา จึง​คาด​ว่า​จะ​นำ�​ไป​สู่​การ​ลด​คอร์รัปชัน​ได้ใ​ น​ที่สุด

ธ ส

ธ ส

หลังจากศึกษาเนื้อหาสาระเรื่องที่ 13.1.1 แล้ว โปรดปฏิบัติกิจกรรม 13.1.1 ในแนวการศึกษาหน่วยที่ 13 ตอนที่ 13.1 เรื่องที่ 13.1.1

ธ ส


13-10

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

เรื่อง​ที่ 13.1.2 นโยบาย​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ใน​มิติ​ของ​รัฐบาล​ไทย

ธ ส

1. รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์จ​ าก​กรอบ​นโยบาย​เทคโนโลยี​สารสนเทศ

คณะ​รัฐมนตรี​มี​มติ​เมื่อ​วัน​ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2535 อนุมัติ​กรอบ​นโยบาย​เทคโนโลยี​สารสนเทศ ระยะ​ที่ 1 พ.ศ. 2534-2543 หรือ​ไอที 2000 (IT2000) ของ​ประเทศไทย ตาม​ที่​กระทรวง​วิทยาศาสตร์​เทคโนโลยี​และ​สิ่ง​แวดล้อม​เสนอ โดย​นโยบาย​ไอที 2000 ได้​กำ�หนด​กรอบ​กลยุทธ์​ภาย​ใต้​พันธ​กิจ ดังนี้ การ​ลงทุน​ใน​โครงสร้าง​พื้น​ฐาน​สารสนเทศ​แห่ง​ชาติ​ที่​เสมอ​ภาค การ​ลงทุน​ใน​การ​ศึกษา​ด้าน​สารสนเทศ​ ที่​ดี​ของ​พลเมือง​และ​บุคลากร การ​พัฒนา​สารสนเทศ​และ​ปรับปรุง​บทบาท​ภาค​รัฐ​เพื่อ​บริการ​ที่​ดี​ขึ้น และ​การ​ สร้าง​รากฐาน​อุตสาหกรรม​สารสนเทศ​ที่แ​ ข็งแกร่ง กรอบ​นโยบาย​เทคโนโลยี​สารสนเทศ ดัง​กล่าว​มิได้​กล่าว​ถึง​คำ�​ว่า​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​โดยตรง แต่​ได้​มี​การ​กำ�หนด​ทิศทาง​ยุทธวิธี​ให้​ใช้​สมรรถนะ​ของ​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​อย่าง​เต็ม​รูป​แบบ​ใน​หน่วย​งาน​ ของ​รัฐ​ทุก​แห่ง​เพื่อ​อำ�นวย​ความ​สะดวก​ใน​ด้าน​งาน​บริการ​แก่​ประชาชน และ​สร้าง​รากฐาน​ที่​ดี​เพื่อ​พัฒนา​ อุตสาหกรรม​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ใน​ทุก​สาขา​โดย​กำ�หนด​ให้​มี​การ​ลงทุน​ด้าน​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​อย่าง​ เต็ม​ที่ เพื่อ​สนับสนุน​การ​บริการ​ภาค​รัฐ โดย​เฉพาะ​การ​ดำ�เนิน​โครงการ​ระบบ​สารสนเทศ​ภาค​รัฐ​ครอบคลุม​ ทั่ว​ประเทศ แต่​จาก​การ​ประเมิน​ผล​จาก​หลาย​องค์กร​พบ​ว่า​กรอบ​นโยบาย​ดัง​กล่าว​ไม่​ได้​รับ​การ​สนับสนุน​หรือ​ ตอบ​สนอง​ดัง​ที่​ได้​ตั้ง​เป้า​ไว้​เป็น​ส่วน​ใหญ่ ไม่​ว่า​จะ​เป็น​ด้าน​นโยบาย​ภาค​รัฐ ด้าน​การ​ลงทุน หรือ​ด้าน​การ​ให้​ บริการ

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

2. รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์จ​ าก​นายก​รัฐมนตรีใ​ น​ยุค​บุกเบิก

2.1 แนวคิด​ใน​การ​ปฏิรูปร​ ะบบ​ราชการ​เพื่อ​การ​เป็น​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 พัน​ตำ�รวจ​โท​ ทักษิณ ชินว​ ัตร นายก​รัฐมนตรี​ขณะ​นั้น ได้​ให้​ทัศนะ​เกี่ยว​กับ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ไว้ ดังนี้ “อยาก​เห็น​รัฐบาล​นี้​เรียก​ว่า e-Government เป็น​รัฐบาล​ที่​ใช้​ระบบ​อิเล็กทรอนิกส์ ใช้​ ระบบ​อินเทอร์เน็ตใ​ ห้​มาก​ที่สุด​เพื่อก​ าร​บริการ​ประชาชน​ได้​รวดเร็ว คล่อง​ตัว และ​สะดวก​ขึ้น ” “ปรับ​โครงสร้าง​ระบบ​ราชการ เพื่อ​ให้​เกิด​ความ​คล่อง​ตัว​ใน​การ​บริการ​ประชาชน​และ​การ ​แก้​ปัญหา​ของ​ชาติ ข้าราชการ​ต้อง​พัฒนา​ตัวเ​อง​เพราะ​สังคม​ข้าง​หน้าต​ ้อง​เป็นส​ ังคม​แห่งค​ วาม​รู้” “ข้าราชการ​ทุก​ระดับ​ต้อง​ปรับ​ตัว เพื่อ​รองรับ​การ​เข้าส​ ู่ e-Government” “ให้​หน่วย​งาน​ดำ�เนิน​การ​ตาม​ความ​เหมาะ​สม เพื่อ​ให้​ผู้​บริหาร​ระดับ​สูง (ระดับ 9-11) ของ​ หน่วย​งาน​ทุก​คน​สามารถ​ใช้​คอมพิวเตอร์​ใน​การ​ค้นหา​ข้อมูล และ​รับ​ส่ง​จดหมาย​อิเล็กทรอนิกส์​หรือ​อีเมล (e-mail) ใน​การ​สื่อสาร หรือ​ติดตาม​การ​ดำ�เนิน​งาน​ด้าน​ต่างๆ ของ​หน่วย​งาน​ใน​กำ�กับ​ได้​อย่าง​รวดเร็ว​และ ​มีป​ ระสิทธิภาพ​เพื่อเ​ป็นการ​ผลัก​ดันใ​ ห้​เกิด​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ได้​รวดเร็วข​ ึ้น​ตาม​นโยบาย​ของ​รัฐบาล”

ธ ส

ธ ส


ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

ธ ส

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.2 ห้อง​ประชุม​คณะ​รัฐมนตรี​ไฮเทค​เริ่ม​ใช้​ปฏิบัตงิ​ าน​ต้น​ปี พ.ศ. 2544

ที่มา: สำ�นัก​เลขาธิการ​คณะ​รัฐมนตรี

13-11

นอกจาก​นี้​คณะ​รัฐมนตรี​ยัง​ได้​มี​มติ​เมื่อ​วัน​ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2545 ว่า “รัฐมนตรี​ทุก​คน​ควร​ให้​ ความ​สนใจ​กับ​เทคโนโลยีส​ ารสนเทศ​เป็น​พิเศษ เพื่อ​การ​พัฒนา​ไป​สู่​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) โดย​จะ​ต้อง​มี​ความ​รู้​และ​ความ​พร้อม​ที่จ​ ะ​รองรับ​เทคโนโลยี​สาร​สน​เทศ​ใหม่ๆ” อีก​ทั้ง​ยัง​ได้​แถลง​นโยบาย​รัฐบาล​ต่อ​รัฐสภา เมื่อ​วัน​ที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2548 ข้อ 6 ความ​ว่า “รัฐบาล​จะ​พัฒนา​ระบบ​ราชการ​อย่าง​ต่อ​เนื่อง​ต่อ​ไป​ด้วย​การ​ปรับ​โครงสร้าง​ราชการ และ​นำ�​เทคโนโลยี​ สารสนเทศ​มา​ใช้​ใน​การ​วางแผน​และ​ตัดสิน​ใจ​ให้​มี​ประสิทธิภาพ ปรับปรุง​ระบบ​บริการ​ประชาชน​ให้​เป็น ​เชิง​รุก​มาก​ขึ้น ดำ�เนิน​การ​ป้องกัน​และ​ปราบ​ปราม​การ​ทุจริต​ใน​วง​ราชการ​โดย​การ​วาง​ระบบ​การ​ตรวจ​สอบ ลงโทษผู้​ทุจริต​อย่าง​เด็ด​ขาด เปิด​เผย​ข้อมูล​ข่าวสาร ปรับปรุง​ระบบ​การ​จัด​ซื้อ​จัด​จ้าง​ตลอด​จน​การ​จ่าย​เงิน ​แผ่น​ดิน​ให้เ​กิด​ความ​โปร่งใส และ​มีป​ ระสิทธิภาพ” และ​นี่​ถือ​เป็นการ​จุด​ปะทุ​ครั้ง​ใหญ่ และ​เป็น​ยา​เร่ง​ขนาน​หนัก​ต่อ​การ​ขับ​เคลื่อน​การ​พัฒนา​รัฐบาล​ อิเล็กทรอนิกส์​ของ​ประเทศไทย​ใน​สมัย​นั้น 2.2 เป้า​หมาย​แห่ง​ความ​สำ�เร็จ​ของ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2545 รัฐบาล​ได้​ให้​ความ​สำ�คัญ​ ต่อ​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​อย่าง​มาก โดย​ได้​กำ�หนด​ให้​เป็น​นโยบาย​เร่ง​ด่วน ทั้งนี้​การ​สร้าง​รัฐบาล​ อิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) เป็น​เรื่อง​ที่​ท้าทาย​ของ​รัฐบาล​ทั่ว​โลก หาก​ทำ�​สำ�เร็จ​จะ​เป็นการ​สร้าง​มิติ​ ใหม่​ของ​หน่วย​งาน​ของ​รัฐ​ใน​ลักษณะ ที่​เดียว ทันใจ ทั่ว​ไทย ทุก​เวลา ซึ่ง​ก็​คือ​การ​ให้​ประชาชน​ได้​พบ​กับ​ บริการ​ของ​ภาค​รัฐ​ด้วย​การ​เสีย​เวลา​น้อย​ที่สุด ใช้​เวลา​กับ​การ​บริการ​น้อย​ที่สุด สิ้น​เปลือง​น้อย​ที่สุด ให้​สังคม​ มี​ส่วน​เกี่ยวข้อง​กับ​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​อย่าง​ใกล้​ชิด เอกชน​สามารถ​ค้าขาย​กับ​รัฐ​คล่อง​ขึ้น ค่า​ใช้​จ่าย​ใน​การ​ประกอบ​การ​ลด​ลง และ​ยัง​เพิ่ม​ความ​โปร่งใส​ใน​การ​ทำ�งาน​ของ​ภาค​รัฐ​มาก​ขึ้น

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


13-12

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

การ​ก้าว​ไป​สู่​การ​เป็น​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​จะ​ต้อง​อาศัย​ปัจจัย​พื้น​ฐาน​ที่​จำ�เป็น​หลาย​ประการ อาทิ การ​บริการ​อินเทอร์เน็ต​ที่​มี​ประสิทธิภาพ​และ​ราคา​ถูก มี​ข้อมูล​และ​สารสนเทศ​ที่​ใช้​งาน​ได้ มี​คอมพิวเตอร์​ และ​เครื่อง​มือ​สื่อสาร​ราคา​ประหยัดท​ ี่​สามารถ​ซื้อ​หา​ได้ และ​ประการ​สำ�คัญ​ก็​คือ การ​ปฏิรูป​วิธี​การ​ทำ�งาน​ของ ​ภาค​รัฐ​ให้​สามารถ​เอื้อ​อำ�นวย​ต่อ​การ​บริการ​ประชาชน​ใน​มิติ​ใหม่ ซึ่ง​ประชาชน​จะ​ต้อง​ให้​ความ​สนใจ​กับ​ พัฒนาการ​และ​ผลลัพธ์​ที่​เกิด​ขึ้น​จาก​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ ทำ�​หน้าที่​เป็นก​ระ​จก​เงา​สะท้อน​ให้​รัฐบาล​ได้​รับ​รู้​ ใน​สิ่ง​ที่​ต้องการ​บน​พื้น​ฐาน​การ​พัฒนา​ที่ย​ ั่งยืน และ​นำ�​ไป​สู่​สังคม​ที่​เป็นสุข​ร่วม​กัน พ.ศ. 2547 รัฐบาล​ได้​มอบ​หมาย​ให้​ทุก​หน่วย​งาน​ราชการ​เร่ง​พัฒนา​องค์กร ระบบ​การ​ทำ�งาน​และ​ การ​ให้​บริการ​ด้วย​ระบบ​เทคโนโลยี​ที่​มี​ความ​รวดเร็ว​และ​ก้าว​ทัน​ความ​เปลี่ยนแปลง​ของ​โลก​ใน​ยุค​ปัจจุบัน​ โดย ใน​เบื้อง​ต้น​ทุก​หน่วย​งาน​จะ​ต้อง​มี​เว็บไซต์​เพื่อ​เป็น​ช่อง​ทางใน​การ​บริการ​ข้อมูล มี​บริการ​เว็บ​บอร์ด​ เพื่อ​รับ​ฟัง​ความ​คิด​เห็น​ของ​ผู้​ใช้​บริการ​และ​ประชาชน รวม​ถึง​จัด​ให้​มี​ไปรษณีย์​อิเล็กทรอนิกส์​หรือ​อีเมล (e-mail) ที่​สามารถ​ติดต่อ​พูด​คุย​กับ​ผู้บ​ ริหาร​ของ​องค์กร​ได้​ทุก​ระดับ ระดับ​ของ​การ​ทำ�งาน กำ�หนด​ให้​ต้อง​มี​การ​เชื่อม​โยง​และ​การ​ประสาน​งาน​ระหว่าง​หน่วย​งาน​ผ่าน​ทาง​ เครือ​ข่าย​อินเทอร์เน็ต มี​ระบบ​ส่ง​ผ่าน​ข้อมูล​ที่ส​ ามารถ​นำ�​ไป​สู่​การ​ตัดสิน​ใจ​ที่​ถูก​ต้อง​ของ​ผู้​บริหาร โดย​เฉพาะ​ อย่าง​ยิ่ง​หน่วย​งาน​ระดับ​กรม​ที่​มี​การก​ระ​จาย​ทั่ว​ทุก​ภูมิภาค​ของ​ประเทศ​ต้อง​มี​ระบบ​อินทราเน็ต​ที่​เชื่อม​โยง​ ข้อมูล​ภายใน ระดับ​กระทรวง​จะ​ต้อง​มี​ระบบ​เชื่อม​โยง​ศูนย์​ปฏิบัติ​การ​ของ​ทุก​กระทรวง และ​เชื่อม​โยง​กับ​ศูนย์​ ปฏิบัติ​การ​นายก​รัฐมนตรี เพื่อ​ให้​มี​ระบบ​ข้อมูล​ที่​ได้​มาตรฐาน รวดเร็ว ทัน​ต่อ​เหตุการณ์ เพื่อ​ประกอบ​การ​ ตัดสิน​ใจ​ของ​รัฐบาล การ​ให้​บริการ​ของ​ภาค​รัฐ​ต่อ​ภาค​รัฐ​ด้วย​กัน (Government to Government - G2G) มี​ลักษณะ​เป็นเ​ครือข​ ่าย​ภายใน​ระบบ​ราชการ (government intranet) ที่​มี​ระบบ​ความ​มั่นคง​ปลอดภัย เพื่อ​ ให้​สามารถ​แลก​เปลี่ยน​ข้อมูล​ระหว่าง​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​ทาง​ระบบ​อิเล็กทรอนิกส์ นอกจาก​นี้ ภาค​รัฐ​ยัง​ได้​กำ�หนด​นโยบาย​ใน​การ​ติด​ตั้ง​คอมพิวเตอร์​และ​อินเทอร์เน็ต​ที่​สำ�นักงาน​ องค์การ​บริหาร​ส่วน​ตำ�บล (อบต.) หรือ​ที่​ศูนย์​บริการ​สารสนเทศ​ชุมชน (telecenter) อีก​ประมาณ 7,000 แห่ง​ภายใน 3-4 ปี ซึ่ง​ประชาชน​สามารถ​เข้าไป​ใช้​บริการ​ใน​สถาน​ที่​เหล่า​นี้​ได้​อย่าง​กว้าง​ขวาง​มาก​ขึ้น​ใน​ อนาคต และ​ด้วย​เทคโนโลยี​ที่​ก้าว​ล้ำ�​ของ​โทรศัพท์​มือ​ถือ​ที่​ได้​มี​การ​พัฒนา​ศักยภาพ​กัน​อย่าง​หลาก​หลาย ผูใ้​ ช้โ​ ทรศัพท์ม​ ือถ​ ือจ​ ะ​สามารถ​เข้าถ​ ึงข​ ้อมูลข​ ่าวสาร​ทีต่​ ้องการ​ได้อ​ ย่าง​ง่ายดาย​พร้อม​ฟังก์ชั่นใ​ น​การ​รับ-ส่งอ​ ีเมล ภาพ ข้อความ​สั้น ผ่าน​โทรศัพท์​มือ​ถือ​ได้​ตลอด​เวลา จึง​นับ​ว่า​ช่อง​ทางใน​การ​เข้า​สู่​ข้อมูล​ข่าวสาร​ผ่าน​ทาง​อินเทอร์เน็ต​ถูก​เปิด​กว้าง​ใน​หลาย​รูป​แบบ อัน​ เป็นการ​อำ�นวย​ความ​สะดวก​ต่อ​ประชาชน​ผู้รับ​บริการ​ได้​อย่าง​ดี​ยิ่ง รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​จึง​เป็น​นโยบาย​ สำ�คัญ​เพื่อ​นำ�​ไป​สู่อ​ ีก​ระดับ​หนึ่งข​ อง​การ​ให้​บริการ​ของ​ภาค​รัฐ​ที่ส​ อด​รับ​กับ​โลก​ยุค​ปัจจุบัน​และ​อนาคต

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

13-13

ธ ส

3. รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์จ​ าก​กรอบ​นโยบาย​เทคโนโลยี​สารสนเทศ

จาก​แนวคิด​ของ​นายก​รัฐมนตรี​ประกอบ​กับ​นโยบาย​และ​วิสัย​ทัศน์​ข้าง​ต้น​ของ​รัฐบาล กระทรวง​ วิทยาศาสตร์​ เทคโนโลยี​และ​สิ่ง​แวดล้อม​จึง​ได้​จัด​ทำ�​กรอบ​นโยบาย​เทคโนโลยี​สารสนเทศ พ.ศ. 2544-2553 หรือ​ไอที 2010 (IT2010) ของ​ประเทศไทย​เสนอ​คณะ​รัฐมนตรี และ​คณะ​รัฐมนตรี​ได้​มี​มติ​เมื่อ​วัน​ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2545 “อนุมัติ​กรอบ​นโยบาย​เทคโนโลยี​สารสนเทศ พ.ศ. 2544-2553 ของ​ประเทศไทย ตาม​ที่​เสนอ และ​ให้​เร่ง​ผลัก​ดัน​กิจกรรม​ด้าน​โทรคมนาคม​เพื่อ​ให้​ประชาชน​เข้า​ถึง​ข้อมูล​ได้​อย่าง​ทั่ว​ถึง​และ​ เท่า​เทียม​กัน พร้อม​ที่​จะ​ส่ง​เสริม​โครงการ​อินเทอร์เน็ต​ตำ�บล โครงการ​อินเทอร์เน็ต​โรงเรียน โดย​ให้​จัด​ตั้ง​ งบ​ประมาณ​สนับสนุน คิด​ค่า​บริการ​ใน​ราคา​ต้นทุน​เพื่อใ​ ห้​อัตรา​ค่า​บริการ​มี​ราคา​ถูก นอกจาก​นั้น​ให้​พิจารณา​ คิดอ​ ัตรา​ค่า​บริการ​เชื่อม​โยง​ระบบ​โทรคมนาคม​ระหว่าง​ประเทศ​ใน​อัตรา​ที่ถ​ ูก​ลง​ด้วย” กรอบ​นโยบาย​เทคโนโลยีส​ ารสนเทศ พ.ศ. 2544-2553 ของ​ประเทศไทย ได้​กำ�หนด​เป้า​หมาย​และ​ ยุทธศาสตร์​ไว้ 5 ด้าน อัน​ได้แก่ ยุทธศาสตร์​ใน​ภาค​รัฐ (e-Government) ภาค​อุตสาหกรรม (e-Industry) ภาค​การ​พาณิชย์ (e-Commerce) ภาค​การ​ศึกษา (e-Education) และ​ใน​ภาค​สังคม (e-Society) สำ�หรับ​ยุทธศาสตร์​ใน​ภาค​รัฐ​ใน​กรอบ​นโยบาย​เทคโนโลยี​สารสนเทศ พ.ศ. 2544-2553 ของ​ ประเทศไทย​นั้น​มีก​ าร​กำ�หนด​ให้ 3.1 ส่ง​เสริม​การนำ�​เทคโนโลยีส​ ารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​มา​ใช้​ใน​การ​บริการ​ภาค​รัฐ (front office) ตาม​ลักษณะ​งาน​ของ​หน่วย​งาน​ต่างๆ เพื่อ​เพิ่ม​ทาง​เลือก​ให้​แก่​ประชาชน​ทั้ง​ใน​การ​ได้​รับ​บริการ​และ​ข้อมูล​ ข่าวสาร​จาก​ภาค​รัฐ​อย่าง​สะดวก รวดเร็ว 3.2 มุ่ง​พัฒนา​ระบบ​บริหาร​งาน​ภาค​รัฐ (back office) โดย​ใช้​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​ อย่าง​ครบ​วงจร​มา​ดำ�เนิน​การ​เพื่อ​เพิ่ม​ประสิทธิภาพ​และ​ประสิทธิผล​ใน​การ​บริหาร​จัดการ​ภาค​รัฐ ทั้ง​ส่วน ​กลาง ส่วน​ภูมิภาค และ​ส่วน​ท้อง​ถิ่น ซึ่ง​ประกอบ​ด้วย ระบบ​งาน​สารบรรณ ระบบ​งาน​พัสดุ ระบบ​งาน​ บุคลากร ระบบ​งานการ​เงิน​การ​คลัง​และ​การ​บัญชี และ​ระบบ​งาน​งบ​ประมาณ การ​พัฒนา​นโยบาย​และ​แผน​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​เทียบ​กับ​ดัชนีความ​พร้อม​ของ​เครือ​ข่าย (Networked Readiness Index) ของ​ประเทศไทย ดัง​แสดง​ใน​ภาพ​ที่ 13.3

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


13-14

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.3 พัฒนาการ​ของ​นโยบาย​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ป​ ระเทศไทย

ที่มา: http://www.ntc.or.th/index.php?option=com_content&task=view&id=5702&Itemid=109 http://www.etda.or.th/main/contents/display/91

4. รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์จ​ าก​แผน​แม่บท​เทคโนโลยี​สารสนเทศ ฉบับ​ที่ 1

ธ ส

คณะ​รัฐมนตรี​มี​มติ​เมื่อ​วัน​ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2545 เห็น​ชอบ​แผน​แม่บท​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ และ​การ​สื่อสาร​ของ​ประเทศไทย พ.ศ. 2545–2549 ตาม​ที่​กระทรวง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร ​เสนอ และ​ให้​จัด​ทำ�​แผน​ปฏิบัติ​ของ​ทุก​ส่วน​ราชการ​และ​หน่วย​งาน​รวม​ไป​ถึง​องค์กร​ปกครอง​ส่วน​ท้อง​ถิ่น​ให้​ สอดคล้อง​ตรง​ตาม​แผน​แม่​บทฯ ทั้งนี้​ให้​บูรณ​า​การ​ความ​สอดคล้อง​ใน​ทาง​ปฏิบัติ​ของ​มาตรฐาน​ข้อมูล และ​ มาตรฐาน​กลาง​ระบบ​การ​อ่าน​ของ​สมา​ร์​ตการ์ด​ให้​สามารถ​ใช้​บัตร​เดียว​เก็บ​ข้อมูล​ร่วม​กัน​ได้​หลาย​หน่วย​งาน และ​ให้​สำ�นักงาน​สถิติ​แห่ง​ชาติ​เป็น​หน่วย​งาน​หลัก​ดำ�เนิน​งาน​เพื่อ​ลด​ความ​ซ้ำ�​ซ้อน​ใน​การ​เก็บ​ข้อมูล​สำ�รวจ ​ที่​ลง​ไป​ถึง​ท้อง​ถิ่น ทั้งนี้ คณะ​รัฐมนตรี​มี​ความ​เห็น​เพิ่ม​เติม​ว่า​ร่าง​แผน​แม่บท​ดัง​กล่าว​ควร​ให้​ความ​สำ�คัญ​ต่อ​การ​จัด การ​ศึกษา​ซึ่ง​มี​ความ​เชื่อม​โยง​กับ​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​โดยตรง​ตาม​ที่​ปรากฏ​ใน​ยุทธศาสตร์ โดย​ให้​ระบุ​ไว้​ ใน​พันธ​กิจ​อย่าง​ชัดเจน รวม​ถึง​การ​บริหาร​และ​พัฒนา​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​ควร​มี​กฎหมาย​ เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้​ให้​น้อย​ที่สุด​เพื่อ​ให้​มี​ความ​คล่อง​ตัว​และ​เป็นการ​เปิด​กว้าง​ทาง​เทคโนโลยี เพราะ​เทคโนโลยี​ ด้าน​นี้​มีก​ าร​พัฒนา​เปลี่ยนแปลง​ที่ร​ วดเร็ว

ธ ส

ธ ส


ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

13-15

ธ ส

แผน​แม่บท​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​ของ​ประเทศไทย พ.ศ. 2545–2549 ดัง​กล่าว​ ได้​กำ�หนด​เป้า​หมาย​การนำ�​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​หรือ​ไอ​ซี​ที (ICT) มา​ใช้​ประโยชน์​ใน​การ​ บริหาร​และ​การ​ให้​บริการ​ของ​ภาค​รัฐ​ไว้​หลาย​ประการ เช่น การ​บริหาร​ให้​หน่วย​งาน​ของ​รัฐ​มี​ระบบ​บริหาร ​ที่​ใช้​เทคโนโลยีส​ ารสนเทศ​อย่าง​ครบ​วงจร ให้​ทุก​กระทรวง​สามารถ​เชื่อม​โยง​ข้อมูล​ผ่าน​ระบบ​อิเล็กทรอนิกส์​ ได้​ทั่ว​ประเทศ ให้​หน่วย​งาน​ภายใน​กระทรวง​สามารถ​แลก​เปลี่ยน​ข้อมูล​และ​บริการ​ฐาน​ข้อมูล​ภายใน​และ​ ระหว่าง​กรม​ผ่าน​อิเล็กทรอนิกส์​ได้​ทั่ว​ประเทศ ให้​ภาค​รัฐ​สามารถ​จัด​ซื้อ​จัด​จ้าง​ทาง​อิเล็กทรอนิกส์ ให้​มี​การ​ จัด​ทำ�​ระบบ ระเบียบ และ​วิธี​กำ�กับ​การ​ใช้​เทคโนโลยีส​ ารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​เพื่อ​ความ​มั่นคง​ของ​ชาติ ให้​ มี​ซอฟต์แวร์​ระบบ​บริหาร​ขั้น​พื้น​ฐาน ได้แก่ ระบบ​สารบรรณ ระบบ​บริหาร​งาน​บุคคล ระบบ​งบ​ประมาณ การ​เงิน การ​บัญชี และ​การ​พัสดุ​ที่​ใช้​กับ​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ ส่วน​ใน​การ​บริการ​นั้น​กำ�หนด​ให้​หน่วย​งาน​ของ​ ภาค​รัฐ​สามารถ​ให้​บริการ​พื้น​ฐาน​ผ่าน​สื่อ​อิเล็กทรอนิกส์​ที่​เกี่ยว​กับ​การ​ชำ�ระ​ค่า​ธรรมเนียม​ของ​รัฐ​ใน​ระดับ​ จังหวัด​ทุก​จังหวัด และ​ให้​มี​การ​แลก​เปลี่ยน​ข้อมูล​ระหว่าง​กระทรวง​เพื่อ​บริการ​ประชาชน​อย่าง​ครบ​วงจร (e-citizen) ทั้งนี้​ให้​ภาค​รัฐ​และ​เอกชน​ร่วม​มือ​กัน​ใน​การ​พัฒนา​ระบบ​ข้อมูล​ประชากร เพื่อ​ให้​ประชาชน​ทั่วไป ​มี​บัตร​ประจำ�​ตัว​อัจฉริยะ (smart ID card) สำ�หรับ​ใช้​ใน​การ​ติดต่อ​กับ​ภาค​ราชการ​และ​รับ​บริการ​จาก​หน่วย​ งาน​ของ​รัฐ อีก​ทั้ง​เพื่อ​ใช้​ประโยชน์​ใน​การ​บริหาร​ราชการ ใน​การ​นี้​จะ​ต้อง​ดำ�เนิน​การ​อย่าง​มี​ประสิทธิภาพ ประหยัด และ​สนับสนุน​อุตสาหกรรม​ใน​ประเทศ นอกจาก​นี้ ​ยั ง ​กำ � หนด​ใ ห้ ​รั ฐ ​จั ด ​ใ ห้ ​มี ​ร ะบบ​ข้ อ มู ล ​ภู มิ ​ส ารสนเทศ (Geographic Information System - GIS) ที่​ทัน​สมัย สามารถ​แลก​เปลี่ยน​ภูมิ​สารสนเทศ​ร่วม​กัน​ทั้ง​เครือ​ข่าย​เพื่อ​การ​ใช้​งาน​อย่า​ง บู​รณา​การ​ใน​หน่วย​งาน​ของ​รัฐ และ​ให้​พัฒนา​ระบบ​โครง​ข่าย​ประสาท​ดิจิทัล โดย​การ​จัด​ตั้ง​ศูนย์​ปฏิบัติ​การ​ สารสนเทศ​ระดับ​ชาติ (National Operation Center) ศูนย์​ปฏิบัติ​การ​สารสนเทศ​ระดับ​กระทรวง (Ministerial Operation Center) รวม​ทั้ง​การ​พัฒนา​ศูนย์​รวม​ข้อมูล​ข่าวสาร​สารสนเทศ​และ​บริการ​ภาค​รัฐ (e-Government portal) เพื่อใ​ ห้ป​ ระชาชน​สามารถ​เข้า​ถึงบ​ ริการ​ของ​ภาค​รัฐ​ได้​อย่าง​สะดวก รวดเร็ว โครงการ​หลัก​ใน​ระยะ​ยาว​ที่​กำ�หนด​ให้​เร่ง​ดำ�เนิน​การ​มี​หลาย​โครงการ เช่น โครงการ​พัฒนา​บัตร​ ประจำ�​ตัว​ประชาชน​อิเล็กทรอนิกส์​ที่​สามารถ​ใช้​งาน​ได้​หลาก​หลาย (multi-application smart ID card) โครงการ​พัฒนา​ระบบ​จัด​ซื้อ​จัด​จ้าง​ทาง​อิเล็กทรอนิกส์ (e-Procurement) โครงการ​พัฒนา​และ​จัด​ทำ� ​มาตรฐาน​ซอฟต์แวร์​กลาง​เพื่อ​การ​บริหาร​ของ​ภาค​รัฐ​หรือ​ระบบ​สำ�นักงาน​ส่วน​หลัง (back office) โครงการ ​จัด​ตั้ง​ศูนย์​แลก​เปลี่ยน​ข้อมูล​ภาค​รัฐ (Government Data Exchange - GDX) โครงการ​จัด​ทำ�​โครงสร้าง​ พื้น​ฐาน​ข้อมูล​เชิง​พาณิชย์ (National Spatial Data Infrastructure) และ​โครงการ​จัด​ตั้ง​สถาบัน​รัฐบาล​ อิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) เป็นต้น

ธ ส

ธ ส

ธ ส

5. แผน​ทิศทาง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

คณะ​รัฐมนตรี​มี​มติ​เมื่อ​วัน​ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2548 เห็น​ชอบ​แผน​ทิศทาง​การ​พัฒนา​รัฐบาล​ อิเล็กทรอนิกส์ (e-Government roadmap) พ.ศ. 2548-2550 ตาม​ที่​กระทรวง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​


13-16

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

การ​สื่อสาร​เสนอ โดย​ใน​แผน​ทิศทาง​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ดัง​กล่าว​ระบุ​ปัญหา​ใน​ขณะ​นั้น​ว่า ภาค​รัฐ​มี​มาตรฐาน​ที่​แตก​ต่าง​กัน​ทั้ง​ใน​ด้าน​ข้อมูล ด้าน​การ​เชื่อม​โยง​เครือ​ข่าย และ​ยัง​ไม่มี​ความ​พร้อม​ใน โครงสร้าง​พื้น​ฐาน​และ​ปัจจัย​อื่นๆ ที่​สำ�คัญ ทำ�ให้​ระบบ​ที่​มี​อยู่​ไม่​สา​มา​รถ​บูรณ​า​การ​เชื่อม​โยง​ให้​เกิด​บริการ​ แก่​ประชาชน​และ​ภาค​ธุรกิจ​ได้​ตาม​เป้าประสงค์​ที่​กำ�หนด แผน​ทิศทาง​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ ได้​กำ�หนด​แผนการ​ดำ�เนิน​การ​ไว้ 4 หัวข้อ​คือ 5.1 การ​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์ (e-Services) กำ�หนด​ให้​ดำ�เนิน​การ​โดย​การ​พัฒนา​เว็บ​ท่า​ของ​รัฐบาล (government portal) เป็น​ศูนย์กลาง​ของ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ใน​การ​ให้​บริการ​ประชาชน​และ​ภาค​ธุรกิจ ​ใน​ลักษณะ​รัฐ​ต่อ​ประชาชน (G2C) รัฐ​ต่อ​เอกชน (G2B) รัฐ​ต่อ​รัฐ (G2G) และ​รัฐ​ต่อ​ข้าราชการ​และ​พนักงาน​ ของ​รัฐ (G2E) 5.2 การ​พัฒนา​โครงสร้าง​พื้น​ฐาน infrastructure) ให้​พัฒนา​ใน 3 ด้าน​คือ ด้าน​เครือ​ข่าย​สื่อสาร (network) ด้าน​ข้อมูล​สารสนเทศ (information) และ​ด้าน​ความ​มั่นคง​ปลอดภัย (security) 5.3 การ​ออก​กฎ​ข้อ​บังคับ (regulation) ให้ ​ผ ลั ก ​ดั น ​ก าร​ป ระกาศ​ใ ช้ ​ก ฎหมาย​ธุ ร กรรมอิ เ ล็ ก ทรอนิกส์ กฎหมาย​ความ​คุ้มครอง​ข้อมูล​ส่วน​บุคคล กฎหมาย​การก​ระ​ทำ�ความ​ผิด​เกี่ยว​กับ​คอมพิวเตอร์ กฎหมาย​เกี่ยว​กับ​การ​พัฒนา​โครงสร้าง​พื้นฐ​ าน ​ให้​ทั่ว​ถึง​และ​เท่า​เทียม​กัน 5.4 การ​จัด​ตั้งส​ ำ�นักงาน​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ (E-Government Agency - E-GA) ภาย​ใต้​กระทรวง​ เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​เพื่อเ​ป็น​หน่วย​งาน​ขับ​เคลื่อน​งาน​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​อย่าง​ยั่งยืน

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

6. รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์จ​ าก​แผน​แม่บท​เทคโนโลยี​สารสนเทศ ฉบับ​ที่ 2

ธ ส

คณะ​รัฐมนตรี​มี​มติ​เมื่อ​วัน​ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552 เห็น​ชอบ​แผน​แม่บท​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ และ​การ​สื่อสาร​ของ​ประเทศไทย พ.ศ. 2552–2556 ตาม​ที่​กระทรวง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร ​เสนอ และ​ได้ก​ ำ�หนด​มาตรการ​เรื่อง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ไว้ ดังนี้ 6.1 สร้าง​ความ​เข้ม​แข็ง​ของ​หน่วย​งาน​กลาง​ที่​รับ​ผิด​ชอบ​การ​ผลัก​ดัน​การ​ใช้​เทคโนโลยี​สารสนเทศ ​และ​การ​สื่อสาร​ใน​การ​บริหาร​และ​บริการ​ของ​ภาค​รัฐ รวม​ถึง​การ​พัฒนา​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์​ของ​รัฐ​แบบ​ บูรณาการ โดย​การ​ออกแบบ​สถาปัตยกรรม​ของ​ระบบ​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​ของ​รัฐ (government ICT architecture) ให้​สอดคล้อง​กับ​มาตรฐาน​สากล​เพื่อ​ให้​ทุก​หน่วย​งาน​สามารถ​เชื่อม​โยง​และ​แลก​ เปลี่ยน​ข้อมูล​กัน​ได้​อย่าง​มี​เอกภาพ​และ​ประสิทธิภาพ รวม​ทั้ง​มาตรฐาน​ข้อมูล (data standard) มาตรฐาน​ การ​เชื่อม​โยง​ข้อมูล (interoperability standard) มาตรฐาน​ด้าน​กฎหมาย (legal standard) มาตรฐาน ​ด้าน​ความ​มั่นคง​ปลอดภัย​ของ​ระบบ​สารสนเทศ (information security standard) มาตรฐาน​การ​เข้า​ถึง ​ข้อมูล (web accessibility standard) และ มาตรฐาน​ด้าน​อื่นๆ ที่​จำ�เป็น​ต่อ​การ​ใช้​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ และ​การ​สื่อสาร​ภาค​รัฐ​ใน​อนาคต​เพื่อ​ให้​ระบบ​ทั้งหมด​ทำ�งาน​ร่วม​กัน​ได้​ภาย​ใต้​ความ​หลาก​หลาย​ของ​ระบบ ​ที่​มี​ใช้​อยู่​ใน​แต่ละ​หน่วย​งาน ทั้งนี้ใ​ ห้​สร้าง​ความ​รู้​ความ​เข้าใจ​การ​ใช้​มาตรฐาน​เปิด (open standard) ใน​การ​ พัฒนา​หรือจ​ ัดท​ ำ�​ระบบ​เทคโนโลยีส​ ารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​ของ​ภาค​รัฐเ​พื่อส​ ามารถ​รองรับก​ าร​ทำ�งาน​ร่วม​กัน​ ระหว่าง​ระบบ และ​มีค​ วาม​ยืดหยุ่นใ​ น​การ​ขยาย​ระบบ​ใน​อนาคต​โดย​ไม่ต​ ้อง​ยึดต​ ิดก​ ับเ​ทคโนโลยีใ​ ด​เทคโนโลยี​

ธ ส

ธ ส

ธ ส


ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

13-17

ธ ส

หนึ่ง รวม​ทั้ง​เร่ง​ดำ�เนิน​การ​จัด​ตั้ง​กรม​สำ�รวจ​และ​จัด​ทำ�​แผนที่​พลเรือน​เพื่อ​เป็น​หน่วย​งาน​กลาง​ของ​ประเทศ​ ใน​การ​บริหาร​จัดการ กำ�กับ ดูแล และ​รับ​ผิด​ชอบ​ด้าน​โครงสร้าง​พื้น​ฐาน​ข้อมูล​ภูมิ​สารสนเทศ (National Spatial Data Infrastructure - NSDI) พัฒนา​ซอฟต์แวร์​ภูมิ​สารสนเทศ​โดย​ใช้​มาตรฐาน​เปิด (open GIS software) รวม​ทั้งส​ ร้าง​กลไก​ให้​เกิด​การ​ใช้​ข้อมูล​ภูมิ​สารสนเทศ​ร่วม​กัน โดย​ให้​สามารถ​เริ่ม​ดำ�เนิน​งาน​ได้​ใน​ ปี พ.ศ. 2552 6.2 ให้​ทุก​กระทรวง​ดำ�เนิน​การ​เพื่อ​พัฒนา​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์​ของ​รัฐ​แบบ​บูรณาการ โดย​ให้​ทุก​ หน่วย​งาน​ปรับปรุง​ระบบ​ข้อมูล และ​ระบบ​บริหาร​จัดการ​ให้​สามารถ​เชื่อม​โยง​กับ​โครงสร้าง​พื้น​ฐาน​ข้อมูล ​ภูมิ​สารสนเทศ (NSDI) และ​เครือ​ข่าย​สารสนเทศ​รัฐบาล (Government Information Network - GIN) ทั้ง​ภายใน​และ​ระหว่าง​หน่วย​งาน​ภาย​ใต้​กรอบ​มาตรฐาน​การ​ทำ�งาน​ร่วม​กัน (Thailand e-Government Interoperability Framework - TH e-GIF) และ​ให้​ทุก​หน่วย​งาน​ใช้​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร ​เป็น​ช่อง​ทาง​หนึ่ง​ใน​การ​ส่ง​เสริม​และ​สนับสนุน​ให้​ภาค​ประชา​สังคม​เข้า​มา​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​การ​บริหาร​ราชการ​ แผ่นดิน โดย​เฉพาะ​การ​พัฒนา​นโยบาย​หรือ​บริการ​สาธารณะ ​การ​ออก​กฎหมาย และการ​ติดตาม​ตรวจ​สอบ 6.3 สร้าง​ความ​เข้ม​แข็ง​ด้าน​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​แก่​หน่วย​งาน​ของ​รัฐ​ทั้ง​ใน​ส่วน​ กลาง​และ​ส่วน​ภูมิภาค​โดย​สร้าง​ความ​เข้ม​แข็ง​ให้​แก่​ผู้​บริหาร​สารสนเทศ​ระดับ​สูง (Chief Information Officer - CIO) ระดับ​กระทรวง กรม และ​จังหวัด รวม​ทั้ง​บุคลากร​ที่​รับ​ผิด​ชอบ​งาน​ด้าน​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สือ่ สาร​ของ​องค์กร​ปกครอง​สว่ น​ทอ้ ง​ถิน่ ใ​ น​ทกุ ร​ ะดับ และ​ผลักด​ นั ก​ าร​ด�ำ เนินง​ าน​ดา้ น​เทคโนโลยี​ สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​ที่​สอดคล้อง​กับ​แนว​ปฏิบัติ​ของ​ส่วน​กลาง และ​สร้าง​กลไก​ให้​มี​การ​ทำ�งาน​ร่วม​กับ​ ผู้​บริหาร​สารสนเทศ​ระดับ​สูง (CIO) ของจังหวัด

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

7. รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์จ​ าก​กรอบ​นโยบาย​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร พ.ศ. 2554–2563

คณะ​รัฐมนตรี​มี​มติ​เมื่อ​วัน​ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2554 เห็น​ชอบ​กรอบ​นโยบาย​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ และ​การ​สื่อสาร พ.ศ. 2554–2563 หรือ​ไอที 2020 (IT2020) ตาม​ที่​กระทรวง​เทคโนโลยีส​ ารสนเทศ​และ​การ​ สื่อสาร​เสนอ มี​เนื้อหา​สาระ​สำ�คัญ​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ คือ​การ​มุ่ง​สู่​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ ที่​ฉลาด​รอบรู้ (intelligence) มี​การ​เชื่อม​โยง​กัน (integration) และ​เปิด​โอกาส​ให้​ทุก​ภาค​ส่วน​เข้า​มา​มี​ บทบาท​ร่วม​ใน​การ​กำ�หนด​นโยบาย​สาธารณะ​ที่​เกี่ยวข้อง หรือ​กำ�หนด​รูป​แบบ​บริการ​ของ​รัฐ​เพื่อ​ให้​ทุก​คน​ ได้​ร่วม​รับ​ประโยชน์จ​ าก​บริการ​อย่าง​เท่า​เทียม​กัน (inclusion) ภาย​ใต้​ระบบ​บริหาร​ที่​มี​ธร​รมาภิ​บาล (good governance) โดย​มี​เป้า​หมาย ดังนี้ 1) ประชาชน​สามารถ​ดำ�รง​ชีวิต​อย่าง​มี​คุณภาพ มี​สัมมา​อาชีพ​ภาย​ใต้​ระบบ​การ​บริหาร​ประเทศ​ที่​มี​ ธร​รมาภิบ​ าล​ด้วย​กลไก​การ​อำ�นวย​ความ​สะดวก​จาก​การ​บริการ​ของ​รัฐ​อย่าง​ทั่ว​ถึง​และ​เท่าเ​ทียม 2) ภาค​ธุรกิจ​ไทย​สามารถ​แข่งขัน​ได้​ใน​เวที​โลก ด้วย​กลไก​การ​อำ�นวย​ความ​สะดวก​จาก​บริการ​ของ​ รัฐ​อย่าง​ทั่ว​ถึง​และ​เท่า​เทียม

ธ ส

ธ ส

ธ ส


13-18

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

3) บริการ​อิเล็กทรอนิกส์​ของ​ภาค​รัฐ​มี​ความ​มั่นคง​ปลอดภัย​และ​น่า​เชื่อ​ถือ โดย​มี​ระบบ​การ​บริหาร​ และ​การ​จัดการ​ที่​มี​ประสิทธิภาพ เป็น​มิตร​กับ​สิ่ง​แวดล้อม และ​ประหยัด​พลังงาน​ตาม​แนวทาง​มาตรฐาน​ สากล

ธ ส

8. นโยบาย​บรอดแบนด์แ​ ห่ง​ชาติ

คณะ​รัฐมนตรี​มี​มติ​เมื่อ​วัน​ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 เห็น​ชอบ​นโยบาย​บรอดแบนด์​แห่ง​ชาติ ตาม​ที่​กระทรวง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​เสนอ โดย​นโยบาย​บรอดแบนด์​แห่ง​ชาติ​เป็นก​รอบ​ นโยบาย​สำ�หรับ​การ​ส่ง​เสริม​ให้​มี​บริการ​บรอดแบนด์​เป็น​สาธารณูปโภค​เพื่อ​การ​พัฒนา​เศรษฐกิจ สังคม และ​ความ​มั่นคง และ​ทำ�ให้​ประชาชน​สามารถ​เข้า​ถึง​แหล่ง​ความ​รู้ ข้อมูล​ข่าวสาร รวม​ทั้ง​บริการ​สาธารณะ ​ต่างๆ และ​มี​เป้า​หมาย​เพื่อ​ทำ�ให้​คุณภาพ​ชีวิต​และ​สภาพ​ทาง​เศรษฐกิจ​ของ​ประชาชน​ไทย​ดี​ขึ้น​ทั่ว​ทุก​แห่ง​ ใน​ประเทศ ครอบคลุม​ประชากร​ไม่​ต่ำ�​กว่า​ร้อย​ละ 80 ภาย​ใน​ปีพ.ศ. 2558 และ​ร้อย​ละ 95 ภาย​ใน​ปีพ.ศ. 2563 ภาย​ใต้​มาตรฐาน​และ​ราคา​ที่​เป็น​ธรรม​อย่าง​ทั่ว​ถึง​และ​เท่าเ​ทียม ประชาชน​จะ​สามารถ​ได้​รับ​บริการ​บรอดแบนด์​ด้าน​การ​ศึกษา​ปีพ.ศ. 2558 ใน​ระดับ​ตำ�บล​และ​ปี พ.ศ. 2563 ทั่ว​ประเทศ ด้าน​สาธารณ​สุขป​ ีพ.ศ. 2558 ใน​ระดับ​ตำ�บล ด้าน​การ​ให้​บริการ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ ปีพ.ศ. 2558 ใน​ระดับ​องค์การ​ปกครอง​ท้อง​ถิ่น ด้าน​การ​เฝ้า​ระวัง​และ​เตือน​ภัย​พิบัติ​และ​ภัย​ธรรมชาติ​ให้​ ข้อมูล​ข่าวสาร​ที่​ถูก​ต้อง​อย่าง​ทัน​ท่วงที ภาค​ธุรกิจ​จะ​สามารถ​เข้า​ถึง​และ​ใช้​ประโยชน์​จาก​บรอดแบนด์​เพื่อ​การ​แข่งขัน​ของ​ประเทศ ให้​อยู่​ ใน​กลุ่มต​ ิดอ​ ันดับ 25 เปอร์เซนต์ (TOP 25%) ของ​การ​จัด​อันดับก​ าร​แข่งขันร​ ะดับโ​ ลก (World Competitiveness Ranking) เกิด​การ​ขยาย​ตัว​ของ​ธุรกิจเ​ชิง​สร้างสรรค์ และ​มูลค่า​ของ​อีคอมเมิร์ซ (e-Commerce) ต่อ​จี​ดี​พี (GDP) เป็น​ร้อย​ละ 10 ภาย​ใน​ปีพ.ศ. 2558 ทั้งนี้​นโยบาย​บรอดแบนด์​แห่ง​ชาติ​มี​แนวทาง​ดำ�เนิน ​การ​ด้วย​การ​พัฒนา​โครงสร้าง​พื้น​ฐาน​และ​บริการ​บรอดแบนด์ การ​พัฒนาการ​ใช้​ประโยชน์​จาก​บรอดแบนด์ การ​ประกัน​ความ​มั่นคง​ปลอดภัย​ของ​โครง​ข่าย​บรอดแบนด์​และ​ความ​ปลอดภัย​ของ​สังคม​โดย​รวม และ​การ​ บริหาร​จัดการ​ขับเ​คลื่อน​นโยบาย​และ​การ​ประสาน​การ​กำ�กับด​ ูแล จาก​นโยบาย​และ​แผน​ทั้งหมด​ที่​กล่าว​มา​แล้ว อาจ​สรุป​ได้​ว่า​ภาค​รัฐ​มีน​โย​บาย​และ​แผน​ต่อ​การ​ พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​มา​โดย​ตลอด แต่​จะ​ถูก​กำ�หนด​ให้​เป็น​วาระ​สำ�คัญ​มาก​หรือ​น้อย​ใน​ระดับ​ที่​ แตก​ต่าง​กัน​บ้าง​ขึ้น​อยู่​กับ​ปัจจัย​แวดล้อม​หลาย​ประการ โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​นโยบาย​และ​ทัศนคติ​ของ​ผู้นำ� ​รัฐบาล ซึ่ง​มี​บทบาท​ต่อ​ความ​ก้าวหน้า​อย่าง​ก้าว​กระโดด​หรือ​ความ​ถดถอย​อย่าง​ต่อ​เนื่อง​ได้ ดัง​ที่​จะ​ได้​กล่าว​ ใน​ราย​ละเอียด​ต่อ​ไป

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

หลังจากศึกษาเนื้อหาสาระเรื่องที่ 13.1.2 แล้ว โปรดปฏิบัติกิจกรรม 13.1.2 ในแนวการศึกษาหน่วยที่ 13 ตอนที่ 13.1 เรื่องที่ 13.1.2

ธ ส


ตอน​ที่ 13.2

ธ ส

ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

พัฒนาการ​ของ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ประเทศไทย

13-19

ธ ส

โปรด​อ่าน​แผนการ​สอน​ประจำ�​ตอน​ที่ 13.2 แล้วจ​ ึง​ศึกษา​เนื้อหา​สาระ พร้อม​ปฏิบัติ​กิจกรรม​ใน​แต่ละ​เรื่อง

หัว​เรื่อง

แนวคิด

ธ ส

เรื่อง​ที่ 13.2.1 การ​เริ่ม​ใช้​คอมพิวเตอร์​ใน​ประเทศไทย เรื่อง​ที่ 13.2.2 พัฒนาการ​การ​ใช้​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร

ธ ส

1. ประเทศไทย​ได้​นำ�​คอมพิวเตอร์​มา​ใช้​เพื่อ​การ​ประมวล​ผล​ข้อมูล​เป็น​ครั้ง​แรก​ที่​สำ�นักงาน​ สถิติ​แห่ง​ชาติ​เมื่อ​ปี พ.ศ. 2506 ซึ่ง​ถือ​เป็น​รากฐาน​ของ​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ ของ​ประเทศไทย และ​เมื่อ​อุปกรณ์​คอมพิวเตอร์​มี​ราคา​ถูก​ลง ประกอบ​กับ​ความ​จำ�เป็น​ ที่​ต้อง​พัฒนาการ​ทำ�งาน หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​ทุก​หน่วย​งาน​จึง​มี​ระบบ​คอมพิวเตอร์​และ​ เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​เป็น​ของ​ตนเอง​กัน​อย่าง​กว้าง​ขวาง 2. เมื่อ​มี​การ​จุด​ปะทุ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ขึ้น​ใน​ประเทศไทย งาน​แรก​ที่​ทุก​หน่วย​งาน​ต้อง เร่งดำ�เนิน​การ​ให้​แล้ว​เสร็จ​โดย​เร็ว​ได้แก่ การ​มี​เว็บไซต์​เพื่อ​ให้​บริการ​ประชาชน โดย​ เริ่ม​จาก​การ​เปิด​เผย​ข้อมูล​ข่าวสาร การ​มี​ปฏิสัมพันธ์ และ​มี​การ​แลก​เปลี่ยน สามารถ​ ตรวจ​สอบ​ข้อมูล และ​ตอบโต้​ได้ ซึ่ง​ใน​เวลา​ต่อ​มา​หลาย​หน่วย​งาน​ก็​สามารถ​พัฒนา​ต่อ ย​อด​จนถึง​ขั้น​การ​บูรณาการ และ​ขั้น​เรียน​รู้​พฤติกรรม จาก​การ​ที่​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ และ​การ​สื่อสาร​มีค​ วาม​ก้าวหน้าอ​ ย่าง​รวดเร็วม​ าก ภาค​ธุรกิจ ภาค​อุตสาหกรรม และ​ภาค​ ประชาชน​จึง​มี​และ​ใช้​อุปกรณ์​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​เพิ่ม​ขึ้น​อย่าง​รวดเร็ว โดย​เฉพาะ​การ​ใช้​โทรศัพท์​มือ​ถือ​เพื่อ​รองรับ​การ​ประยุกต์​ใช้​งาน​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ ใน​อนาคต

ธ ส

ธ ส

วัตถุประสงค์

ธ ส

ธ ส

ธ ส

เมื่อ​ศึกษา​ตอน​ที่ 13.2 จบ​แล้ว นักศึกษา​สามารถ 1. อธิบาย พัฒนาการ​การ​มี​การ​ใช้​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​ของ​ภาค​รัฐ ใน​ฐานะ​ เป็น​ผู้พ​ ัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ และ​ให้​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์​ใน​ภาพ​รวม​ได้ 2. อธิบาย พัฒนาการ​การ​มี​การ​ใช้​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​ใน​ภาค​ครัว​เรือน ใน​ฐานะ​เป็น​ผู้ใ​ ช้​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์​ของ​ภาค​รัฐ​ได้


13-20

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

เรื่อง​ที่ 13.2.1 การ​เริ่ม​ใช้​คอมพิวเตอร์ใ​ น​ประเทศไทย

ธ ส

จาก​ปีพ.ศ. 2506 ที่ไ​ ด้​มีก​ ารนำ�​คอมพิวเตอร์​มา​ใช้​ใน​การ​ประมวล​ผล​ข้อมูล​ที่​สำ�นักงาน​สถิติ​แห่ง​ชาติ และ​ใช้​ใน​การ​เรียน​การ​สอน​ที่​จุฬาลงกรณ์ม​ หาวิทยาลัยเ​ป็น​ครั้ง​แรก​นั้น จาก​นั้น​การ​ประยุกต์​ใช้​คอมพิวเตอร์​ ก็​เป็น​ที่​ยอมรับ​กัน​อย่าง​กว้าง​ขวาง​ทั้ง​ใน​ภาค​รัฐ ภาค​เอกชน และ​ภาค​ประ​ชาชน จน​มี​การ​ใช้​งาน​รอบ​ด้าน​ หลาก​หลาย​สาขา​และ​ใน​ทุก​ระดับ ต่อ​มา​เทคโนโลยี​คอมพิวเตอร์​ได้​ขยาย​วง​กว้าง​ไป​สู่​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ และ​การ​สื่อสาร​ที่​ถูก​พัฒนา​ก้าวหน้า​ไป​รวดเร็ว​มาก​อย่าง​ไม่​หยุด​ยั้ง การ​พัฒนา​เศรษฐกิจ​และ​สังคม​ของ ​ทุก​ประเทศ​จึง​ไม่​อาจ​หนี​พ้น​จาก​เทคโนโลยี​ดัง​กล่าว และ​อย่าง​หลีก​เลี่ยง​ไม่​ได้ และ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ ก็​เป็น​ผล​พวง​หนึ่ง​ที่​พัฒนา​มา​จาก​การ​เจริญ​เติบโต​ของ​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​ผนวก​กับ​ ยุทธศาสตร์​การ​บริหาร​กิจการ​บ้าน​เมือง​ด้วย​ธร​รมาภิ​บาล​โดย​การ​ยึด​ประชาชน​เป็น​ศูนย์กลาง​นั่นเอง

ธ ส

ธ ส

1. การนำ�​คอมพิวเตอร์เ​ครื่อง​แรก​มา​ใช้​ใน​ประเทศไทย

ธ ส

คณะ​รัฐมนตรี​มี​มติ​อนุมัติ​เมื่อ​วัน​ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2506 ให้​สำ�นักงาน​สภา​พัฒนาการ​เศรษฐกิจ ​แห่ง​ชาติ​ดำ�เนิน​การ​จัด​ซื้อ​เครื่อง​คอมพิวเตอร์​ไอบีเอ็ม 1401 (IBM 1401) โดย​วิธี​การ​ผ่อน​ชำ�ระ​เงิน​และ​ ให้​ผูกพัน​งบ​ประมาณ​ราย​จ่าย​ใน​ปี​ต่อ​ไป​ตาม​ที่​สำ�นัก​งบ​ประมาณ​เสนอ และ​เมื่อ​มี​การ​ก่อ​ตั้ง​สำ�นักงาน​สถิติ​ แห่งชาติด​ ้วย​การ​แยก​ตัว​ออก​มา​จาก​สภา​พัฒนาการ​เศรษฐกิจแ​ ห่งช​ าติ​ใน​ปี​เดียวกัน สำ�นักงาน​สถิติ​แห่งช​ าติ​ จึง​ได้​ทำ�การ​ผูกพัน​งบ​ประมาณ​ค่า​เช่า​ซื้อเ​ครื่องจักร​คอมพิวเตอร์​โดย​วิธี​ผ่อน​ส่ง​ใน​มูลค่า 8 ล้าน​บาท (ภาพที่ 13.4) นับ​เป็น​ระบบ​คอมพิวเตอร์​เพื่อ​การ​ประมวล​ผล​ข้อมูล​เครื่อง​แรก​ของ​ประเทศไทย และ​เป็น​รากฐาน​ ของ​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ของ​ประเทศไทย​ใน​เวลา​ต่อ​มา “เมื่อ​วัน​ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2506 เครื่อง​คอมพิวเตอร์​ไอบีเอ็ม 1401 ได้​มา​ถึง​ท่าเรือ​คลองเตย หลัง​จาก​ที่​ได้​รับ​ข่าว​การ​มา​ถึง​ของ​เครื่อง สำ�นักงาน​สถิติ​แห่ง​ชาติ​ก็ได้​รีบ​ทำ�การ​เดิน​สาย​เคเบิล ชนิด 330 โวลต์ 3 เฟส 4 สาย (wire) เพื่อ​รอ​การ​ติด​ตั้งเ​ครื่อง​ทันที งาน​เดิน​สาย​เคเบิลค​ ่อน​ข้าง​จะ​ขลุกขลัก​ในระยะ​แรก เพราะ​อุปกรณ์ไ​ ฟฟ้าช​ นิดแ​ รง​ดันส​ ูงห​ า​ซื้อย​ าก​ใน​ประเทศไทย อย่างไร​ก็ด​ ีเ​จ้าห​ น้าที่ก​ ็ได้แ​ ก้ไข​จะ​จัดหา​อุปกรณ์​ มา​เดิน​สาย​เคเบิล​ได้​แล้ว​เสร็จ​ทัน ต่อ​มา​ก็ได้​บรรทุก​เครื่องและ​อุปกรณ์​มา​ที่​สำ�นักงาน​สถิติ​แห่ง​ชาติ​เมื่อ​วันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2506 และ​ให้​เจ้า​หน้าที่​ของ​ไอบีเอ็ม​ลงมือ​เปิด​หีบ​ใน​วัน​เดียวกัน​นั้น​ทันที ครั้น​รุ่ง​ขึ้นวัน​ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2506 เจ้า​หน้าที่​ไอบีเอ็ม​ก็​ลงมือ​ติด​เครื่อง​และ​ทดลอง​การ​ทำ�งาน​ของ​เครื่อง และ​ส่ง​มอบ​ ให้​หน่วย​คอมพิวเตอร์​ใช้​เครื่อง​ได้​ตั้งแต่ วัน​ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2506 เป็นต้น​มา” ทั้งนี้ เพื่อ​ใช้​ใน​งาน​ สำ�มะโน​เกษตร 2506 เป็น​หลัก

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


ธ ส

ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.4 เครื่อง​คอมพิวเตอร์เ​ครื่อง​แรก​ของ​ประเทศไทย

ที่มา: รายงาน​ประจำ�​ปี พ.ศ. 2506 สำ�นักงาน​สถิติ​แห่ง​ชาติ

ธ ส

ธ ส

ธ ส

13-21

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.5 การ​ลง​นาม​เซ็น​สัญญา​ซื้อ​ขาย​เครื่อง​คอมพิวเตอร์เ​ครื่อง​แรก​ของ​ประเทศไทย ​โดย​ศาสตราจารย์บ​ ัณฑิต กัน​ตะ​บุตร เลขาธิการ​สถิติ​แห่ง​ชาติ กับผ​ ู้​แทน​บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำ�กัด พ.ศ. 2506

ที่มา: รายงาน​ประจำ�​ปี พ.ศ. 2506 สำ�นักงาน​สถิติ​แห่ง​ชาติ

สำ�นักงาน​สถิตแิ​ ห่งช​ าติจ​ ึงก​ ลาย​เป็นศ​ ูนย์กลาง​แห่งก​ าร​เรียน​รู้ และ​เป็นห​ น่วย​บริการ​งาน​คอมพิวเตอร์​ ให้​แก่​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ และ​รัฐวิสาหกิจ เช่น สำ�นักงาน​ข้าราชการ​พลเรือน สำ�นักงาน​สภา​พัฒนาการ​ เศรษฐกิจ สำ�นักงาน​เร่งรัด​พัฒนา​ชนบท สำ�นักงาน​สภา​การ​ศึกษา​แห่ง​ชาติ สภา​วิจัย​แห่ง​ชาติ สถาบันวิจัย​ วิทยาศาสตร์ประยุกต์ จุฬาลงกรณ์​มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัย​ธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย​แพทยศาสตร์ คณะ​แพทยศาสตร์​และ​ศิริราช​พยาบาล มหาวิทยาลัย​เชียงใหม่ มหาวิทยาลัย​เกษตรศาสตร์ โรงเรียน​ เตรียมทหาร ศูนย์วิจัย​และ​พัฒนาการ​ทหาร กอง​บัญชาการ​ทหาร​สูงสุด กรม​ป่า​ไม้ กรม​การ​ขนส่ง​ทาง​บก

ธ ส


13-22

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

กรม​ไปรษณีย์​โทรเลข การ​ท่าเรือ​แห่ง​ประเทศไทย องค์การ​รับ​ส่ง​สินค้า​และ​พัสดุ กรม​เจ้า​ท่า กรม​สรรพากร การ​พลังงาน​แห่ง​ชาติ กรมชลประทาน กรม​วิเทศ​สหการ การ​ไฟฟ้า​นครหลวง กรม​ทางหลวง​แผ่นดิน กรม ​การ​ปกครอง กรม​พัฒนา​ชุมชน กรม​ตำ�รวจ กรม​ที่ดิน ผู้​ว่า​ราชการ​จังหวัด​อุบลราชธานี กอง​การ​ศึกษา​ ประชาบาล สำ�นักงาน​วางแผน​การ​ศึกษา วิทยาลัย​การ​ศึกษา​ประสานมิตร เป็นต้น และ​ให้​บริการ​แก่​องค์กร​ ระหว่าง​ประเทศ เช่น จัสแม็ก (JUSMAG) คณะ​กรรมการ​แม่น้ำ�​โขง (Maekong Committee) หน่วย​งาน​ สันติภาพ (Peace Corps) องค์การ​ยู​ซอม (USOM)1 เทรด​เซ็นเตอร์ (Trade Center, USA) แอร์​อเมริกา (Air America Co.) เอส​โซ่ (ESSO) ไอบีเอ็ม (IBM) ตลอด​จน​ภาค​เอกชน บริษัท ห้าง​ร้าน เช่น เมือง​ไทย​ ประกัน​ชีวิต (Muang Thai Insurance) บริษัทเ​งิน​ทุน​สิน​อุตสาหกรรม​จำ�กัด (มหาชน) (Siam Industrial Credit PCL) รวม​ไป​ถึงธ​ นาคาร เช่น ธนาคาร​แห่ง​ประเทศไทย เป็นต้น ตั้งแต่​ใน​ยุค​นั้น

ธ ส

ธ ส

หลัง​จาก​ศึกษา​เนื้อหา​สาระ​เรื่อง​ที่ 13.2.1 แล้ว โปรด​ปฏิบัติ​กิจกรรม 13.2.1 ใน​แนว​การ​ศึกษา​หน่วย​ที่ 13 ตอน​ที่ 13.2 เรื่อง​ที่ 13.2.1

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ม ม

ธ ส

ธ ส

ธ ส

1องค์การ​บริหาร​วิเทศ​กิจ​ของ​สหรัฐอเมริกา​หรือ​ยู​ซอม (USOM – US Operations Mission) ปัจจุบัน​คือ องค์การ​เพื่อ​การ​

พัฒนา​ระหว่าง​ประเทศ​แห่ง​ชาติ​สหรัฐอเมริกา​หรือ​ยู​เอส​เอด (USAID)


ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

ธ ส

เรื่อง​ที่ 13.2.2 พัฒนาการ​การ​ใช้​เทคโนโลยี​สารสนเทศ ​และ​การ​สื่อสาร

ธ ส

13-23

1. การ​สำ�รวจ​การ​มี​การ​ใช้​คอมพิวเตอร์​ภาค​รัฐ พ.ศ. 2514 โดย​สำ�นักงาน​สถิติ​แห่ง​ชาติ

ธ ส

หลัง​จาก​ที่​ประเทศไทย​ได้​เปิด​ศักราช​แห่ง​การ​ใช้​คอมพิวเตอร์​ไป​เมื่อ​ปี พ.ศ. 2506 การ​มี​การ​ใช้​ คอมพิวเตอร์​ก็ได้​ขยาย​วง​กว้าง​ไป​ใน​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ จน​กระทั่ง​สำ�นักงาน​สถิติ​แห่ง​ชาติ​ได้​ทำ�การ​สำ�รวจ​ การ​มี​การ​ใช้ค​ อมพิวเตอร์​ภาค​รัฐ​เป็น​ครั้งแ​ รก​เมื่อ​ พ.ศ. 2514 จาก​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​ทั้งหมด 221 แห่ง และ​ มี​หน่วย​งาน​ตอบ​กลับ​มา 178 แห่ง ทั้งนี้​เพื่อ​สนอง​นโยบาย​คณะ​กรรมการ​คอมพิวเตอร์​ของ​รัฐ​ซึ่ง​สำ�นักงาน​ สถิติ​แห่ง​ชาติ​เป็นฝ​ ่าย​เลขานุการ​อยู่ใ​ น​ขณะ​นั้น สรุป​ผล​ได้​ดังนี้

ธ ส

ตาราง​ที่ 13.1 ผล​การ​สำ�รวจ​การ​มี​การ​ใช้​คอมพิวเตอร์​ภาค​รัฐ

สถานภาพ การมีการใช้ คอมพิวเตอร์

เป็นหน่วยงานที่มี คอมพิวเตอร์ใช้เอง

สถานภาพ ของหน่วยงาน

ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ อื่น ๆ

ธ ส

ม รวม

ธ ส

จำ�นวนหน่วยงานที่มี/ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์แยกตามหน่วยงานภาครัฐ

7 4 1 12

เป็นหน่วยงานที่ยัง ไม่มีคอมพิวเตอร์ แต่เคยใช้หรือกำ�ลัง ใช้คอมพิวเตอร์ ของหน่วยงานอื่น

เป็นหน่วยงาน ที่ยังไม่เคยใช้ คอมพิวเตอร์

28 3 2

101 31 1

33

133

ธ ส

ที่มา: สำ�นักงาน​สถิติ​แห่งช​ าติ

ธ ส

รวม

ธ ส 136 38 4

178

หน่วย​งาน 12 หน่วย​งาน​ที่​มี​เครื่อง​คอมพิวเตอร์​ใช้​งาน​เอง​แล้ว​ใน​ขณะ​ที่​สำ�รวจ คือ​ สำ�นักงาน​ สถิติ​แห่ง​ชาติ จุฬา​ลง​กรณ์​มหาวิทยาลัย สถาบัน​เทคโนโลยี​แห่ง​เอเชีย กรม​การ​เงิน​ทหาร​อากาศ ศูนย์​กรรม วิ ธี ​ข้ อ มู ล กระทรวง​ก ลาโหม กรม​บั ญ ชี ​ก ลาง กระทรวง​ก าร​ค ลั ง องค์ ก าร​โ ทรศั พ ท์ ​แ ห่ ง ​ป ระเทศไทย บริษัทการบินไทย จำ�กัด กรม​ตำ�รวจ การ​ไฟฟ้า​นครหลวง การ​ไฟฟ้า​ฝ่าย​ผลิต​แห่ง​ประเทศไทย และ​กรม


13-24

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

ชลประทาน โดย​ใช้ง​ าน​เพื่อก​ าร​ประมวล​ผล​ข้อมูล​จาก​สำ�มะโน​และ​สำ�รวจ การ​เรียน​การ​สอน งาน​งบ​ประมาณ และ​บัญชี ราย​ได้-ราย​จ่าย เงิน​เดือน ออก​ใบ​เสร็จ งาน​ทะเบียน สร้าง​แฟ้ม​ข้อมูล​กำ�ลัง​พล ออกแบบ​และ​ คำ�นวณ​ด้าน​วิศวกรรม เป็น​ส่วน​ใหญ่ ปัญหา​สำ�คัญๆ ที่​เป็น​อุปสรรค​ใน​ขณะ​นั้น​ก็​มี​ลักษณะ​คล้ายๆ กับ​ปัญหา​ใน​ปัจจุบัน เช่น ขาด ​ผู้​เชี่ยวชาญ หา​ยาก เจ้า​หน้าที่​ที่​มี​อยู่​ได้​รับ​ฝึก​อบรม​ไม่​เพียง​พอ ติดต่อ​ประสาน​งาน​และ​การ​ให้​ความ​ ร่วม​มือ​ของ​หน่วย​งาน​ต่างๆ ยัง​ไม่​ดี​เท่า​ที่​ควร อัตรา​เงิน​เดือน​ข้าราชการ​ต่ำ� ขาด​ความ​เข้าใจ งบ​ประมาณ เครื่อง​คอมพิวเตอร์ท​ ีม่​ อี​ ยูน่​ ั้นมีขนาด​และ​ความ​สามารถ​ไม่เ​หมาะ​สม​กับจ​ ำ�นวน​และ​ประเภท​ของ​งาน​ทีก่​ ำ�ลังใช้ ข้อมูล​ยัง​ไม่​ตรง​เวลา​และ​ไม่​เรียบร้อย กฎหมาย​หรือ​งาน​ที่​ต้อง​บังคับ​โดย​ระเบียบ​ที่​กำ�หนด​ไว้​เดิม​เป็น​เหตุ​ให้ การ​เตรียม​เอกสาร​และ​ข้อมูล​เพื่อถ​ ่ายทอด​เข้า​เครื่อง​ไม่​สะดวก​รวดเร็ว

ธ ส

ธ ส

2. ผล​การ​สำ�รวจ​การ​มี​การ​ใช้​คอมพิวเตอร์​ของ​ภาค​รัฐ

ธ ส

สำ � นั ก งาน​ส ถิ ติ ​แ ห่ ง ​ช าติ ได้ ​ทำ � การ​สำ � รวจ​ก าร​มี ​ก าร​ใ ช้ ​ค อมพิ ว เตอร์ ​ภ าค​รั ฐ พ.ศ. 2528 จาก​ หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​เป็น​ครั้ง​ที่ส​ อง ซึ่งม​ ี​หน่วย​งาน​ตอบ​กลับ​มา 200 แห่ง​จาก​ทั้งหมด 206 แห่ง สรุป​ผล​ได้​ดังนี้

ธ ส

ตาราง​ที่ 13.2 ผล​การ​สำ�รวจ​การ​มี​การ​ใช้​คอมพิวเตอร์​ภาค​รัฐ พ.ศ. 2528

จำ�นวนหน่วยงานที่มี/ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์แยกตามหน่วยงานภาครัฐ

สถานภาพ การมีการใช้ คอมพิวเตอร์ สถานภาพ ของหน่วยงาน

ธ ส

79(58.09%)

รัฐวิสาหกิจ

24(37.50%)

ราชการและรัฐวิสาหกิจ

103(51.50%)

ไม่มี แต่ใช้จาก หน่วยงานอื่นๆ

ไม่มี และไม่เคยใช้

25(18.38%)

32(23.53%)

11(17.19%)

29(45.31%)

36(18.00%)

61(30.50%)

ส่วนราชการ

ที่มา: สำ�นักงาน​สถิติ​แห่งช​ าติ

ธ ส

มี

ธ ส

รวม

ธ ส 136 64

200

จาก​จำ�นวน​คอมพิวเตอร์​ที่​สำ�รวจ​ได้​ทั้งหมด 498 ระบบ​นี้ จะ​เป็น​​คอมพิวเตอร์​ขนาด​เล็ก​เสียส่วน​ ใหญ่​คือ ถึง​ร้อย​ละ 92.57 และ​เป็น​คอมพิวเตอร์​ขนาด​ใหญ่​เพียง​ร้อย​ละ 4.02 เท่านั้น ส่วน​ที่​เหลือ​เป็น​ คอมพิวเตอร์​ขนาด​กลาง​จำ�นวน​ร้อย​ละ 3.41 และ​มี​ข้อ​สังเกต​ว่า​กระทรวง​ที่​มี​จำ�นวน​หน่วย​งาน​ที่​มี​ระบบ​ คอมพิวเตอร์​ใช้​งาน​มาก​ที่สุด ได้แก่ ทบวง​มหาวิทยาลัย​ของ​รัฐ ลำ�ดับ​รอง​ลง​มา​คือ กระทรวง​มหาดไทย และ​กระทรวง​ที่​มี​อัตราส่วน​ของ​จำ�นวน​หน่วย​งาน​ภายใน​กระทรวง​ที่​มี​คอมพิวเตอร์​ไว้​ใช้​งาน​สูงสุด​ก็ได้​แก่​


ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

13-25

ธ ส

ทบวง​มหาวิทยาลัย​เช่น​กัน ส่วน​ปัญหา​ก็​ยัง​เป็น​เช่น​เดิม รวม​ถึง​ปัญหา​ด้าน​บุคลากร​ทาง​ด้าน​คอมพิวเตอร์​ ด้วย

ธ ส

3. ผล​การ​สำ�รวจ​เว็บไซต์ภ​ าค​รัฐ พ.ศ. 2547

จาก​นโยบาย​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ที่​ได้​ประกาศ​ไว้​อย่าง​ชัดเจน​เมื่อ​ปี พ.ศ. 2545 และ​กำ�หนด​ให้​ ทุก​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​ต้อง​มี​เว็บไซต์ข​ อง​ตนเอง​เพื่อ​บริการ​ข้อมูล​ข่าวสาร​และ​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์อ​ ย่าง​น้อย ห​นึ่ง​บริการ​แก่​ประชาชน​ภายใน​หนึ่ง​ปี​นับ​จาก​วัน​สั่ง​การ​นั้น กระทรวง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​ และ​ศูนย์​เทคโนโลยี​อิเล็กทรอนิกส์​และ​คอมพิวเตอร์​แห่ง​ชาติ​จึง​ได้​ทำ�การ​สำ�รวจ​เว็บไซต์​ภาค​รัฐ ครั้ง​ที่ 1 เพื่อ​วัด​ระดับ​ความ​พร้อม​ใน​การ​พัฒนาการ​ให้​บริการ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ โดย​ใช้​ระบบ​กึ่ง​อัตโนมัติ​ใน​การ​ สำ�รวจ ปรากฏ​ผล​สำ�รวจ​ที่​สำ�คัญ​ดังนี้ 3.1 ประเภท​บริการ​ข้อมูล​ข่าวสาร (information) ปรากฏ​ว่า​มี​บริการ​ข้อมูล​ข่าวสาร​ทั้งหมด​หรือ​ ร้อย​ละ 100 โดย​จัด​อยู่​ใน​ขั้น​สูง​ร้อย​ละ 87 และ​อยู่​ใน​ขั้น​พื้น​ฐาน​ร้อย​ละ 13 3.2 ประเภท​ปฏิสัมพันธ์ (interaction) ปรากฏ​ว่า​มี​ปฏิสัมพันธ์​ได้​ร้อย​ละ 77 โดย​จัด​อยู่​ใน​ขั้น​สูง ​ร้อย​ละ 60 และ​อยู่ใ​ น​ขั้น​กลาง​ร้อย​ละ 17 3.3 ประเภท​ดำ�เนิน​ธุรกรรม​ทาง​อิเล็กทรอนิกส์​ได้​โดย​สมบูรณ์​ใน​ตัว​เอง (interchanged transaction) ปรากฏ​ว่า สามารถ​ดำ�เนิน​ธุรกรรม​ทาง​อิเล็กทรอนิกส์​ได้​ร้อย​ละ 55 โดย​จัด​อยู่​ใน​ขั้น​สูง​ร้อย​ละ 6 จัด​อยู่​ใน​ขั้น​กลาง​ร้อย​ละ 5 และ​จัด​อยู่ใ​ น​ขั้น​พื้น​ฐาน​ร้อย​ละ 44 3.4 ประ​เภท​บูรณ​า​การ​งาน​บริการ​ระหว่าง​หน่วย​งาน (integration) ปรากฏ​ว่า​ไม่​พบ​หน่วย​งาน​ ที่ผ​ ่าน​เกณฑ์ก​ าร​สำ�รวจ​ที่ต​ ั้งไ​ ว้ 3.5 ประเภท​ความ​สามารถ​เรียน​รู้​พฤติกรรม​ของ​ผู้​ที่มา​ใช้​บริการ​เป็น​ราย​บุคคล (intelligence) ปรากฏ​ว่า​ผ่าน​เกณฑ์​ขั้น​พื้น​ฐาน​เพียง​ร้อย​ละ 7 สำ�หรับ​ผล​การ​ประเมิน​ปัจจัย​สำ�คัญ​เพื่อ​การ​พัฒนา​เว็บไซต์​นั้น​พบ​ว่า หน่วย​งาน​ให้​ความ​สำ�คัญ ​ต่อ​ความ​ทัน​สมัย​ของ​ข้อมูล​มาก​ที่สุด​หรือ​คิด​เป็น​ร้อย​ละ 91 ส่วน​ปัจจัย​ด้าน​ความ​มั่นคง​ปลอดภัย​นั้น​ หน่วย​งาน​ให้​ความ​สำ�คัญน​ ้อย​ที่สุด​หรือ​คิด​เป็น​ร้อย​ละ 12 เท่านั้น แสดง​ว่า​ใน​ขณะ​นั้น​เว็บไซต์​ส่วน​ใหญ่​อยู่​ใน​ระดับ​เพียง​แค่​การ​สร้าง​ปฏิสัมพันธ์​กับ​ลูกค้า​ได้ แต่​ยัง​ พบ​ว่า​มี​สิ่ง​ที่​ต้องการ​ให้​รัฐ​ดำ�เนิน​การ​มี​อีก​หลาย​เรื่อง​โดย​เฉพาะ​ใน​เรื่อง​โครงสร้าง​พื้น​ฐาน​เพื่อ​การ​บูรณาการ (integration) และ​การ​สร้าง​ความ​สามารถ​ใน​การ​เรียน​รู้​พฤติกรรม​ของ​ผู้​ที่มา​ใช้​บริการ​เป็น​ราย​บุคคล (intelligence) เพื่อใ​ ห้​สามารถ​ถึง​จุด​หมาย​ของ​การ​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์​ที่​สมบูรณ์​แบบ​อย่าง​แท้จริง​ต่อ​ไป

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

4. ผล​การ​สำ�รวจ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ของ​ประเทศไทย พ.ศ. 2552

ธ ส

ธ ส

บริการ​อิเล็กทรอนิกส์​ถือ​เป็น​องค์​ประกอบ​สำ�คัญ​ของ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ กระทรวง​เทคโนโลยี​ สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​จึง​ร่วม​กับ​สถาบัน​บัณฑิต​พัฒนบริหารศาสตร์​หรือ​นิด้า (NIDA) ทำ�การ​สำ�รวจ​ สถานภาพ​ของ​การ​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์​ภาค​รัฐ​ภาพ​รวม​ใน​ปัจจุบัน เพื่อ​ศึกษา และ​ประเมิน​ความ​ก้าวหน้า​ ใน​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ข​ อง​ประเทศไทย ได้​ผล​สรุป ดังนี้


13-26

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

4.1 หน่วย​งาน​ส่วน​ใหญ่​มี​ความ​ก้าวหน้า​ใน​การ​พัฒนา​มา​ตาม​ลำ�ดับ โดย​เฉพาะ​ใน​เรื่อง​กา​รบู​รณา​การ​ภายใน​หน่วย​งาน​และ​ระหว่าง​หน่วย​งาน ซึ่ง​แสดง​ให้​เห็น​ถึง​ความ​ตื่น​ตัว​ใน​เรื่อง​การ​พัฒนา​เพื่อ​การ​ บูรณาการ แต่​การ​บริการ​ก็​ยัง​เป็นการ​บริการ​ข้อมูล​ข่าวสาร (information) แต่​มี​การ​ปรับปรุงใ​ ห้​ทัน​สมัย​อยู่​ เสมอ​เป็นห​ ลัก 4.2 ระดับ​ความ​ก้าวหน้า​ที่​รอง​ลง​มา​คือ ด้าน​การ​ปฏิสัมพันธ์ (interaction) ที่​ให้​บริการ​ใน​เรื่อง​ ของ​เว็บ​บอร์ด (webboard) เสิร์ช​เอน​จิน (search engine) การ​ตอบ​ข้อ​ซัก​ถาม และ​การ​ไขข้อ​ข้องใจ​ของ ​ผู้​ใช้บ​ ริการ​เป็น​หลัก 4.3 ระดับ​การ​ดำ�เนิน​ธุรกรรม​ทาง​อิเล็กทรอนิกส์​ได้​โดย​สมบูรณ์​ใน​ตัว​เอง (interchanged transaction) เริ่ม​มี​การ​ตื่น​ตัว​ใน​การ​ให้​บริการ​ทาง​เว็บไซต์​แบบ​บูรณ​า​การ​ภายใน​หน่วย​งาน มี​การ​โต้ตอบ​ ออนไลน์​ใน​ธุรกรรม​ที่​ให้​บริการ โดย​เฉพาะ​ใน​เรื่อง​การ​ตรวจ​สอบ​ยืนยัน​ตัว​บุคคล การ​ลง​ทะเบียน​เข้า​ใช้​งาน การ​แจ้ง​เตือน เช่น กรณี​รหัส​ผิด การ​ดำ�เนิน​การ​ที่​เกี่ยว​กับ​ระบบ​รักษา​ความ​ปลอดภัย และ​เริ่ม​มี​สัญญาณ​ ใน​การ​เริ่ม​ใช้​งาน​ระบบ​ลายมือ​ชื่อ​อิเล็กทรอนิกส์ (digital signature) เริ่ม​มี​ธุรกรรม​การ​ชำ�ระ​เงิน​ผ่าน​ บัญชี​ธนาคาร และ​พบ​ว่าจ​ ำ�นวน​หน่วย​งาน​ที่​มีบ​ ริการ​เชิง​ธุรกรรม​เสร็จ​สมบูรณ์​ภายใน​หน่วย​งาน​อย่าง​น้อย 1 ธุรกรรม​มี​จำ�นวน​มากกว่า​ร้อย​ละ 20 แล้ว 4.4 ระดับ​การ​บูรณาการ (integration) ผล​การ​สำ�รวจ​ด้าน​การ​ความ​สามารถ​ใน​กา​รบู​รณา​การ​ งาน​บริการ​ระหว่าง​หน่วย​งาน พบ​ว่า​มี​แอพ​พลิ​เคชั่​นที่​เรียก​ใช้​บริการ​จาก​แอพ​พลิ​เคชั่​นข​อง​หน่วย​งานอื่นๆ จำ�นวน 51 หน่วย​งาน หรือ​คิดเ​ป็น​ร้อย​ละ 34 มี​การ​เรียก​ใช้​บริการ​จาก​หน่วย​งา​นอื่นๆ อย่าง​น้อย 1 รายการ​ จำ�นวน 52 หน่วย​งาน​หรือ​คิด​เป็น​ร้อย​ละ 35 และ​ที่​สำ�คัญ​มี​หน่วย​งาน​ร่วม​กัน​พัฒนา​ระบบ​ให้​มีหน้า​ต่าง ​เดียว (single window) สำ�หรับ​บริการ​ประชาชน​ด้วย​คลิก​เดียว​เพื่อ​รับ​บริการ​จาก​หลาย​หน่วย​งาน​จำ�นวน 18 หน่วย​งาน​หรือค​ ิด​เป็น​ร้อย​ละ 12 ผล​การ​สำ�รวจ​ใน​ครั้ง​นี้​ชี้​ให้​เห็น​ว่า กา​รบู​รณา​การ​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์​หรือ​อี​เซอร์วิส (e-Services integration) มี​ความ​ก้าวหน้า​มาก​ขึ้น แต่​หลาย​หน่วย​งาน​ก็​ยัง​ต้องการ​การ​สนับสนุน​ใน​เรื่อง​โครงสร้าง​ พื้น​ฐาน​และ​มาตรฐาน​กลาง​เพื่อ​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์แบบ​บูรณ​า​การ​ข้าม​หน่วย​งาน ซึ่ง​จะ​ทำ�ให้​ การ​ให้​บริการ​เปลี่ยนแปลง​ไป​จาก​รูป​แบบ​เดิม 4.5 ระดับ​ความ​สามารถ​เรียน​รู้​พฤติกรรม​ของ​ผู้​ที่มา​ใช้​บริการ​เป็น​ราย​บุคคล (intelligence) ผล​การ​สำ�รวจ​ความ​สามารถ​ใน​การ​เรียน​รู้​พฤติกรรม​ของ​ประชาชน​ที่มา​ใช้​บริการ พบ​ว่า​มี​บริการ​ส่ง​ข้อมูล​ ให้​ประชาชน​เป็น​ราย​บุคคล​จำ�นวน 35 หน่วย​งาน​หรือ​คิด​เป็น​ร้อย​ละ 24 เรียน​รู้​พฤติกรรม​ของ​ประชาชน​ จำ�นวน 18 หน่วย​งาน​หรือ​คิด​เป็น​ร้อย​ละ 12 และ​ประชาชน​สามารถ​เลือก​รูป​แบบ​ข้อมูล​ที่​ต้องการ​จำ�นวน 26 หน่วย​งาน​หรือ​คิด​เป็น​ร้อย​ละ 18

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


ธ ส

ธ ส

ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.6 การ​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์ร​ ะดับ​การ​บูรณาการ

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.7 การ​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์ร​ ะดับ​ราย​บุคคล

ธ ส

ที่มา: ผล​การ​สำ�รวจ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ของ​ประเทศไทย พ.ศ. 2552 กระทรวง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร

ธ ส

13-27

ธ ส

ที่มา: ผล​การ​สำ�รวจ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ของ​ประเทศไทย พ.ศ. 2552 กระทรวง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร


13-28

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

5. การ​มี​การ​ใช้​เทคโนโลยีส​ ารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​ใน​ครัว​เรือน

ดัง​ที่​ได้​กล่าว​มา​แล้ว​ว่า ประการ​สำ�คัญ​ที่​จะ​ทำ�ให้​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​บรรลุ​ตาม​วัตถุประสงค์​ ได้​นั้น จะ​ต้อง​มี​ความ​ร่วม​มือ​อย่าง​ใกล้​ชิด​และ​เต็มใจ​จาก​ทั้ง​ภาค​รัฐ​และ​ภาค​ประชาชน สำ�นักงาน​สถิติ​ แห่ง​ชาติ​จึง​ได้​ทำ�การ​สำ�รวจ​การ​มี​การ​ใช้​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​ใน​ครัว​เรือน​จาก​หัวหน้า​ ครัว​เรือน​และ​สมาชิก​ใน​ครัว​เรือน​ที่​มีอายุ 6 ปี​ขึ้น​ไป​เป็น​ประจำ�​ทุก​ปี​ตั้ง​แต่​ พ.ศ. 2547 จนถึง​ปัจจุบัน เพื่อ​ ให้​ทราบ​สถานภาพ พฤติกรรม และ​ความ​สามารถ​ใน​การ​รองรับ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ที่​ภาค​รัฐ​หยิบ​ยื่น​ให้ สรุป​ผล​ที่​สำ�คัญ​ได้​ดังนี้ 5.1 การ​ใช้​คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต และ​โทรศัพท์​มือ​ถือ ใน​ช่วง​ปี พ.ศ. 2547–2553 พบ​ว่า​มี​ สัดส่วน​ผู้​ใช้​คอมพิวเตอร์​เพิ่ม​ขึ้น​จาก​ร้อย​ละ 21.4 (จำ�นวน 12.5 ล้าน​คน) เป็น​ร้อย​ละ 30.9 (จำ�นวน 19.1 ล้าน​คน) และ​ผู้​ใช้​อินเทอร์เน็ต​เพิ่ม​ขึ้น​จาก​ร้อย​ละ 11.9 (จำ�นวน 7.0 ล้าน​คน) เป็น​ร้อย​ละ 22.4 (จำ�นวน 13.8 ล้าน​คน) และ​ผู้​ใช้​โทรศัพท์​มือ​ถือ​เพิ่ม​ขึ้น​จาก​ร้อย​ละ 28.2 (จำ�นวน 16.6 ล้าน​คน) เป็น​ร้อย​ละ 61.8 (จำ�นวน 38.2 ล้าน​คน) โดย​ครัว​เรือน​มี​เครื่อง​คอมพิวเตอร์​เพิ่ม​ขึ้น​จาก​ร้อย​ละ 17.1 เป็น​ร้อย​ละ 22.8 และ​มี​การ​เชื่อม​ต่ออ​ ินเทอร์เน็ต​ด้วย​สัดส่วน​ที่เ​พิ่ม​ขึ้น​จาก​ร้อย​ละ 7.2 เป็น​ร้อย​ละ 11.4

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ม ม

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.8 ร้อย​ละ​ของ​ประชากร​อายุ 6 ปี​ขึ้น​ไป​ที่​ใช้​คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต และ​โทรศัพท์​มือ​ถือ พ.ศ. 2547 – 2553

ธ ส

ม ม

ธ ส

ที่มา: ผล​การ​สำ�รวจ​การ​มีก​ าร​ใช้เ​ทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​ใน​ครัว​เรือน​ พ.ศ. 2553 สำ�นักงาน​สถิติ​แห่ง​ชาติ


ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

13-29

ธ ส

แม้ว่า​การ​ใช้​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​ของ​ประชาชน​มี​สัดส่วน​เพิ่ม​ขึ้น​อย่าง​ต่อ​เนื่อง แต่​ยัง​มี​ช่อง​ว่าง​ใน​การ​ใช้​ระหว่าง​ผู้​ที่​อยู่​ใน​เขต​เทศบาล​และ​นอก​เขต​เทศบาล กล่าว​คือ​ใน​ช่วง​ปี พ.ศ. 25472553 ผู้​ใช้​คอมพิวเตอร์​ที่​อยู่​ใน​เขต​เทศบาล​มี​สัดส่วน​เพิ่ม​ขึ้น​จาก​ร้อย​ละ 33.2 เป็น​ร้อย​ละ 43.4 ส่วน​ผู้​ใช้​ คอมพิวเตอร์​ที่​อยู่​นอก​เขต​เทศบาล​เพิ่ม​ขึ้น​จาก​ร้อย​ละ 15.6 เป็น​ร้อย​ละ 25.2 ใน​ขณะ​ที่​ผู้​ใช้​อินเทอร์เน็ต ​ที่​อยู่​ใน​เขต​เทศบาล​มี​สัดส่วน​เพิ่ม​ขึ้น​จาก​ร้อย​ละ 21.4 เป็น​ร้อย​ละ 35.1 ส่วน​ผู้​ใช้​อินเทอร์เน็ต​ที่​อยู่​นอก ​เขต​เทศบาล​เพิ่ม​ขึ้น​จาก​ร้อย​ละ 7.2 เป็น​ร้อย​ละ 16.5 ทั้งนี้​มี​สัดส่วน​ของ​ผู้​ใช้​โทรศัพท์​มือ​ถือ​นอก​เขต​เทศบาล​เพิ่ม​ขึ้น​มากกว่า​ใน​เขต​เทศบาล กล่าว​คือ ผู้​ใช้​โทรศัพท์​มือ​ถือ​ที่​อยู่​ใน​เขต​เทศบาล​มี​สัดส่วน​เพิ่ม​ขึ้น​จาก​ร้อย​ละ 41.9 เป็น​ร้อย​ละ 72.2 ส่วน​ผู้​ใช้​ โทรศัพท์​มือ​ถือ​ที่​อยู่​นอก​เขต​เทศบาล​เพิ่ม​ขึ้น​จาก​ร้อย​ละ 21.5 เป็น​ร้อย​ละ 57.0 5.2 การ​มี​การ​ใช้​อินเทอร์เน็ต​แยก​ตาม​กลุ่ม​อายุ เมื่อ​พิจารณา​การ​ใช้​อินเทอร์เน็ต​ใน​กลุ่ม​อายุ​ต่างๆ พบ​ว่า​ใน​ปี พ.ศ. 2553 กลุ่ม​อายุ 15-24 ปี มี​สัดส่วน​การ​ใช้​อินเทอร์เน็ต​สูงสุด​คือ​ร้อย​ละ 50.0 รอง​ลง​มา​ คือ​กลุ่ม​อายุ 6-14 ปี​ร้อย​ละ 35.9 กลุ่ม​อายุ 25-34 ปี​ร้อย​ละ 24.6 กลุ่ม​อายุ 35-49 ปี​ร้อย​ละ 13.6 และ​ ต่ำ�​สุด​ใน​กลุ่มอ​ ายุ 50 ปี​ขึ้น​ไป​ร้อย​ละ 4.2

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ม ม

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.9 ร้อย​ละ​ของ​ประชากร​อายุ 6 ปี​ขึ้น​ไป ทีใ่​ ช้​อิน​เท​อร์​เน็ต จำ�แนก​ตาม​กลุ่ม​อายุ พ.ศ. 2547 – 2553

ที่มา: ผล​การ​สำ�รวจ​การ​มีก​ าร​ใช้เ​ทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​ใน​ครัว​เรือน​ พ.ศ. 2553 สำ�นักงาน​สถิติ​แห่ง​ชาติ


13-30

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

สำ�หรับ​สถาน​ที่​ใช้​อินเทอร์เน็ต​ใน​ปี พ.ศ. 2553 พบ​ว่า ส่วน​ใหญ่​ใช้​ใน​สถาน​ศึกษา​ร้อย​ละ 45.3 รอง​ลง​มา​คือ​บ้าน​ร้อย​ละ 35.5 และ​ที่​ทำ�งาน​ร้อย​ละ 29.0 ส่วน​กิจกรรม​ที่​ใช้​ส่วน​ใหญ่​เป็นการ​ใช้​ใน​การค้นหา​ ข้อมูล​ทั่วไป​ร้อย​ละ 82.2 รอง​ลง​มา​คือ​รับ–ส่ง​อีเมลร้อย​ละ 26.5 และ​เล่น​เกม ดาวน์โหลด​เกม​ร้อย​ละ 25.6 สำ�หรับ​ความถี่​ใน​การ​ใช้​อินเทอร์เน็ต​พบ​ว่า มากกว่า​ครึ่ง​หนึ่ง​ของ​ผู้​ใช้​อินเทอร์เน็ต​ใช้​ค่อน​ข้าง​บ่อย (1-4 วันใ​ น 1 สัปดาห์) ร้อย​ละ 58.4 รอง​ลง​มา​ใช้​เป็น​ประจำ� (5-7 วัน​ใน 1 สัปดาห์) ร้อย​ละ 26.3 สำ�หรับ​การ​เชื่อม​ต่อ​อินเทอร์เน็ต​ของ​ครัว​เรือน​ใน​ปี พ.ศ. 2553 พบ​ว่า มี​การ​เชื่อม​ต่อ​อินเทอร์เน็ต​ ด้วย​ประเภท​บรอดแบนด์ (fixed broadband) มาก​ที่สุด​คือ​ร้อย​ละ 57.4 รอง​ลง​มา​เป็น​ประเภท​แถบ​แคบ (narrowband) โมเด็ม​แบบ​แอ​นา​ล็อก/ไอ​เอ​สดี​เอ็น (analog/ISDN modem) ร้อย​ละ 23.6 และ​แบบ ​ไร้​สาย​เคลื่อนที่ โทรศัพท์​มือ​ถือ 2 จี หรือ 2.5 จี เช่น จี​เอส​เอ็ม (GSM) ซี​ดี​เอ็ม​เอ (CDMA) จี​พี​อาร์​เอส (GPRS) ร้อย​ละ 9.5 ส่วน​ประเภท​บรอดแบนด์​แบบ​ไร้​สาย​เคลื่อนที่ โทรศัพท์​มือ​ถือ 3 จี เช่น ดับเบิล​ยู​ ซี​ดี​เอ็มเ​อ (WCDMA) อี​วี-ดีโ​ อ (EV-DO) มีเ​พียง​ร้อย​ละ 3.0

ธ ส

ธ ส

ธ ส

หลัง​จาก​ศึกษา​เนื้อหา​สาระ​เรื่อง​ที่ 13.2.2 แล้ว โปรด​ปฏิบัติ​กิจกรรม 13.2.2 ใน​แนว​การ​ศึกษา​หน่วย​ที่ 13 ตอน​ที่ 13.2 เรื่อง​ที่ 13.2.2

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ม ม

ธ ส

ธ ส


ตอน​ที่ 13.3

ธ ส

ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

กรณี​ตัวอย่าง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ไทย​ใน​ปัจจุบัน

13-31

ธ ส

โปรด​อ่าน​แผนการ​สอน​ประจำ�​ตอน​ที่ 13.3 แล้วจ​ ึง​ศึกษา​เนื้อหา​สาระ พร้อม​ปฏิบัติ​กิจกรรม​ใน​แต่ละ​เรื่อง

หัว​เรื่อง

แนวคิด

ธ ส

เรื่อง​ที่ 13.3.1 รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์เ​พื่อ​การ​บริการ​สำ�คัญ​ของ​ภาค​รัฐ เรื่อง​ที่ 13.3.2 การ​เชื่อม​โยง​ข้อมูล​ภาค​รัฐ​เพื่อ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง​ที่ 13.3.3 โครงสร้าง​พื้นฐ​ าน​ที่​สำ�คัญ​ต่อ​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์

ธ ส

ธ ส

1. บริการ​อิเล็กทรอนิกส์​เป็น​กลไก​สำ�คัญ​หนึ่ง​ของ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​เพื่อ​ให้​เกิด​ธร​รมาภิ​บาล ประชาชน​สามารถ​เข้า​ถึง​ข้อมูล​และ​รับ​รู้​การ​ปฏิบัติ​งาน​ของ​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ สามารถ​ตรวจ​สอบ และ​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​การ​บริหาร​ประเทศ ประชาชน​สามารถ​ใช้​บริการ​ อิเล็กทรอนิกส์​จาก​ภาค​รัฐ​เพื่อ​ความ​สะดวก รวดเร็ว และ​ประหยัด​ได้​ทุก​วัน​ตลอด 24 ชั่วโมง โดย​ใช้​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​สนับสนุน 2. สิ่ง​ที่​น่า​ภูมิใจ​ของ​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์​ไทย​หลาย​บริการ​ก็​เพราะ​มี​ความ​ทัน​สมัย​กว่า​ ประเทศ​ที่​พัฒนา​แล้ว​หลาย​ประเทศ หลาย​บริการ​ก็​เป็น​ที่​ยอมรับ​ใน​สากล และ​บ้าง​ก็ได้​ รับ​รางวัล​จาก​องค์กร​ระดับ​โลก​และ​ระดับ​นานาชาติ การ​เชื่อม​โยง​ข้อมูล​และ​บริการ​ ระหว่าง​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐภ​ าย​ใต้ก​ รอบ​แนวทาง​การ​เชื่อม​โยง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์แ​ ห่งช​ าติ มี​ความ​สำ�คัญต​ ่อ​การ​พัฒนาการ​เข้า​ถึง​ข้อมูล​และ​บริการ​ต่างๆ ได้​อย่าง​บูรณาการ 3. การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ต้อง​คำ�นึง​ถึง​โครงสร้าง​พื้น​ฐาน​สารสนเทศ​สำ�คัญ ทั้ง​ใน​ ด้าน​การ​สื่อสาร โทรคมนาคม ความ​มั่นคง​ปลอดภัย​ของ​ระบบ และ​กฎหมาย ตลอด​จน​ บุคลากร​ที่​เกี่ยวข้อง โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูง​ทั้ง​ใน​ ภาค​รัฐ​และ​ใน​ภาค​ประชาชน​ประกอบ​กัน

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


13-32

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

วัตถุประสงค์

ธ ส

เมื่อ​ศึกษา​ตอน​ที่ 13.3 จบ​แล้ว นักศึกษา​สามารถ 1. อธิบาย พร้อม​ยก​ตัวอย่าง​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์ และ​ประโยชน์​ใน​แต่ละ​บริการ​ได้ 2. อธิบาย ความ​สำ�คัญข​ อง​การ​ใช้ม​ าตรฐาน​กรอบ​แนวทาง​การ​เชื่อม​โยง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ แห่ง​ชาติ พร้อม​ยก​ตัวอย่าง​การ​เชื่อม​โยง​ข้อมูล​ระหว่าง​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​พอ​สังเขป​ได้ 3. อธิบาย โครงสร้าง​พื้น​ฐาน​ที่​สำ�คัญ​และ​จำ�เป็น​ต่อ​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ได้

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ม ม

ธ ส

ธ ส

ม ม

ธ ส


ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

เรื่อง​ที่ 13.3.1 รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​เพื่อ​การ​บริการ​สำ�คัญ​ ของ​ภาค​รัฐ

ธ ส

13-33

ธ ส

พ.ศ. 2545 รัฐบาล​ได้​ดำ�เนิน​การ​ปฏิรูป​ระบบ​ราชการ​ไทย​โดย​มี​วัตถุประสงค์​เพื่อ​ปรับ​เปลี่ยน​แนว ทาง​การ​ดำ�เนิน​งาน​ของ​ภาค​รัฐ​ให้​มี​ความ​โปร่งใส​ใน​การ​ตัดสิน​ใจ รวม​ทั้ง​มี​วิธี​ทำ�งาน​ที่​รวดเร็ว​และ​คล่อง​ตัว​ เพิ่ม​มาก​ขึ้น เพื่อ​ตอบ​สนอง​ความ​ต้องการ​ของ​สังคม ตลอด​จน​ตอบ​สนอง​การ​บริหาร​ประเทศ​ที่​ยึด​ประชาชน​ เป็น​ศูนย์กลาง​โดย​มุ่ง​เน้น​กระจาย​อำ�นาจ​จาก​ส่วน​กลาง​ไป​สู่​ระดับ​ล่าง​และ​ท้อง​ถิ่น ใน​ภาพ​รวม​ของ​การ​ บริหาร​ประเทศ​รัฐบาล​ได้​มีน​โย​บาย​พัฒนาการ​บริหาร​งาน​ให้​ก้าว​สู่​แนวทาง​ของ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้​ รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​เป็น​กลไก​สำ�คัญ​ใน​การ​พัฒนา​กลยุทธ์ และ​เป็น​องค์​ประกอบ​ที่​สำ�คัญ​ใน​การ​ปฏิรูป ​ระบบ​ราชการ​ไทย รวม​ถึงเ​ป็น​กลไก​ใน​การ​พัฒนา​ระบบ​งาน​อิเล็กทรอนิกส์​อื่นๆ ใน​อนาคต หาก​เปรียบ​เทียบ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​กับ​การ​พาณิชย์​อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) แล้ว การ​พาณิชย์​อิเล็กทรอนิกส์​อาจ​เป็น​บริการ​ทาง​สื่ออ​ ิเล็กทรอนิกส์​แบบ​บี​ทู​ซี (B2C) และ​บี​ทูบี (B2B) เป็น​หลัก ใน​ขณะ​ที่​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​จะ​เป็น​แบบ​จี​ทู​จี (G2G) จี​ทูบี (G2B) และ​จี​ทู​ซี (G2C) ภาย​ใต้​ระบบ​เครือ​ข่าย​ ราชการ (government intranet) ที่​มี​ความ​มั่นคง​ปลอดภัย​สูง เพื่อ​การ​แลก​เปลี่ยน​ข้อมูล​อิเล็กทรอนิกส์​ ระหว่าง​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ ใน​ขณะ​ที่​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์ (e-service) เป็นการ​ให้​บริการ​โดย​มี​ภาค​ธุรกิจ ​กับ​ภาค​ประชาชน​เป็น​ผู้รับ​บริการ​ด้วย​การ​ใช้​ระบบ​อินเทอร์เน็ต​เป็น​สื่อ ประชาชน​สามารถ​รับ​บริการ​และ​ ชำ�ระ​เงิน​ค่า​บริการ​ได้ ธุรกิจส​ ามารถ​ดำ�เนิน​การ​ค้าขาย​กับห​ น่วย​งาน​ของ​รัฐ​ด้วย​การ​ใช้​ระบบ​อินเทอร์เน็ต​เป็น​ สื่อ​การ​ให้​บริการ สามารถ​จัด​กลุ่ม​การ​ปฏิบัติ​ของ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ออก​เป็น ภาค​รัฐ​กับป​ ระชาชน (Government to Citizen - G2C) ภาค​รัฐ​กับ​ภาค​ธุรกิจเ​อกชน (Government to Business - G2B) ภาค​รัฐ​กับ​ภาค​รัฐ (Government to Government - G2G) และ​ภาค​รัฐ​กับ​ข้าราชการ​และ​พนักงาน​ของ​รัฐ (Government to Employee - G2E) ซึ่งส​ ามารถ​อธิบาย​ความ​หมาย​ของ​แต่ละ​กลุ่ม​ตาม​การ​ปฏิบัติ​ได้ ดังนี้ 1) รัฐ​กับ​ประชาชน​หรือ​จี​ทู​ซี (G2C) เป็นการ​ให้​บริการ​ของ​รัฐ​สู่​ประชาชน​โดยตรง โดยที่​บริการ ​ดัง​กล่าว​ประชาชน​จะ​สามารถ​ดำ�เนิน​ธุรกรรม​โดย​ผ่าน​เครือ​ข่าย​สารสนเทศ​ของ​รัฐ เช่น การ​ชำ�ระ​ภาษี การ​ จด​ทะเบียน การ​จ่าย​ค่า​ปรับ การ​รับ​ฟัง​ความ​คิด​เห็น​ของ​ประชาชน การ​มี​ปฏิสัมพันธ์​ระหว่าง​ตัวแทน ​ประชาชน​กับ​ผู้​ลง​คะแนน​เสียง และ​การ​ค้นหา​ข้อมูล​ของ​รัฐ​ที่​ดำ�เนิน​การ​ให้​บริการ​ข้อมูล​ผ่าน​เว็บไซต์ เป็นต้น โดยที่​การ​ดำ�เนิน​การ​ต่างๆ นั้น​จะ​ต้อง​เป็นการ​ทำ�งาน​แบบ​ออนไลน์​ (online) และ​เรี​ยล​ไทม์ (real time) มี​การ​รับรอง​และ​การ​โต้ตอบ​ที่ม​ ี​ปฏิสัมพันธ์ 2) รัฐ​กับ​เอกชน​หรือ​จี​ทูบี (G2B) เป็นการ​ให้​บริการ​แก่​ภาค​ธุรกิจ​เอกชน โดยที่​รัฐ​จะ​อำ�นวย​ความ​ สะดวก​ต่อ​ภาค​ธุรกิจ​และ​อุตสาหกรรม​ให้​สามารถ​แข่งขัน​กัน​ด้วย​ความเร็ว​สูง มี​ประสิทธิภาพ และ​มี​ข้อมูล

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


13-34

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

​ที่​ถูก​ต้อง​อย่าง​เป็น​ธรรม​และ​โปร่งใส เช่น การ​จด​ทะเบียน​ทางการ​ค้า การ​ลงทุน และ​การ​ส่ง​เสริม​การ​ลงทุน การ​จัด​ซื้อ​จัด​จ้าง​ทาง​อิเล็กทรอนิกส์ การ​ประมูล​ทาง​อิเล็กทรอนิกส์ การ​ส่ง​ออก​และ​นำ�​เข้า การ​ชำ�ระ​ภาษี และ​การ​ช่วย​เหลือ​ผู้ป​ ระกอบ​การ​ขนาด​กลาง​และ​เล็ก 3) รัฐ​กับ​รัฐ​หรือ​จี​ทู​จี (G2G) เป็น​รูป​แบบ​การ​ทำ�งาน​ที่​เปลี่ยนแปลง​ไป​มาก​ของ​หน่วย​ราชการ จาก​การ​ติดต่อ​สื่อสาร​ระหว่าง​กัน​ด้วย​กระดาษ​และ​การ​ลง​ลายมือ​ชื่อ​ใน​ระบบ​เอกสาร​ราชการ​อย่าง​เดิม เป็น การ​รั บ ​ส่ ง ​เ อกสาร​อิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ​โ ดย​ใ ช้ ​ร ะบบ​เ ครื อ ​ข่ า ย​ส ารสนเทศ​แ ละ​ล ายมื อ ​ชื่ อ ​อิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ​เ ป็ น ​เครื่อง​มือ​ใน​การ​แลก​เปลี่ยน​ข้อมูล​อย่าง​เป็น​ทางการ เพื่อ​เพิ่ม​ความ​รวดเร็ว​ใน​การ​ดำ�เนิน​การ (economy of speed) ลด​ระยะ​เวลา​ใน​การ​ส่ง​เอกสาร​และ​ข้อมูล​ระหว่าง​กัน นอกจาก​นั้น​ยัง​เป็น​กา​รบู​รณา​การ​การ​ให้​ บริการ​ระหว่าง​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​โดย​การ​เชื่อม​ต่อ​โครง​ข่าย​สารสนเทศ​เพื่อ​เอื้อ​ให้​เกิด​การ​ทำ�งาน​ร่วม (collaboration) และ​การ​แลก​เปลี่ยน​ข้อมูล​ระหว่าง​กัน (government data exchange) ทั้งนี้​รวม​ไป​ถึง​การ ​เชื่อม​โยง​กับ​รัฐบาล​ของ​ต่าง​ชาติ และ​องค์กร​ปกครอง​ท้อง​ถิ่น​อีก​ด้วย ระบบ​งาน​ต่างๆ ที่​ใช้​ใน​เรื่อง​นี้ ได้แก่ ระบบ​งาน​สำ�นักงาน​ส่วน​หลัง (back office) ต่างๆ ได้แก่ ระบบ​งาน​สารบรรณ​อิเล็กทรอนิกส์ ระบบ​การ​ บริหาร​การ​เงินก​ าร​คลัง​ภาค​รัฐ​แบบ​อิเล็กทรอนิกส์ และระบบ​จัด​ซื้อ​จัด​จ้าง​อิเล็กทรอนิกส์ 4) รั ฐ กั บ ข้ า ราชการ​แ ละ​พ นั ก งาน​ข อง​รั ฐ ​ห รื อ ​จี ​ทู ​อี (G2E) เป็ น การ​ใ ห้ ​บ ริ ก าร​ที่ ​จำ � เป็ น ​ข อง ​ข้าราชการ​และ​พนักงาน​ของ​รัฐ​กับ​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​โดย​การ​สร้าง​ระบบ​เพื่อ​ช่วย​ให้​เกิด​เครื่อง​มือ​ที่​จำ�เป็น ​ใน​การ​ปฏิบัติ​งาน​และ​การ​ดำ�รง​ชีวิต เช่น ระบบ​สวัสดิการ ระบบ​ที่​ปรึกษา​ทาง​กฎหมาย​และ​ข้อ​บังคับ​ใน​การ​ ปฏิบัติ​ราชการ และ​ระบบ​การ​พัฒนา​บุคลากร​ภาค​รัฐ เป็นต้น เรา​อาจม​อง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ได้​เป็น 3 มิติ ได้แก่ มิติ​การ​ให้​บริการ มิติ​การ​เชื่อม​โยง​ข้อมูล​ และ​บริการ​ภาค​รัฐ และ​มิติ​โครงสร้าง​พื้น​ฐาน​ที่​สำ�คัญ​ต่อ​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ ดัง​จะ​ได้​อธิบาย ​ใน​ราย​ละเอียด​และ​หยิบยก​เป็น​กรณี​ตัวอย่าง​ต่อ​ไป

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

กรณี​ตัวอย่าง​ที่ 1 ระบบ​การ​บริการ​ค้นหา​มติค​ ณะ​รัฐมนตรี​ของ​สำ�นัก​เลขาธิการคณะ​รัฐมนตรี

ธ ส

สำ�นักเ​ลขาธิการ​คณะ​รัฐมนตรี (สลค.) เป็น​องค์กร​หลัก​ที่​สำ�คัญ​ยิ่ง​ใน​การ​สนับสนุน​รัฐบาล​เพื่อ​การ​ บริหาร​ราชการ​แผ่น​ดิน​ภาย​ใต้​การ​บริหาร​งาน​ด้วย​การ​มี​มติ​ร่วม​กัน​ของ​คณะ​รัฐมนตรี ซึ่ง​มติ​คณะ​รัฐมนตรี​ จะ​มี​ผล​บังคับ​ใช้​กับ​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ ข้าราชการ​และ​พนักงาน​ของ​รัฐ​ต้อง​ปฏิบัติ​ตาม​ระเบียบ​ว่า​ดัว​ยการ ​เสนอ​เรื่อง​ต่อ​คณะ​รัฐมนตรี สำ�นัก​เลขาธิการ​คณะ​รัฐมนตรี​มีหน้า​ที่​เป็น​แกน​กลาง​ใน​การนำ�​เรื่อง​ของ​ส่วน​ราชการ​ทั้งหมด​เข้า​ที่​ ประชุม​คณะ​รัฐมนตรี โดย​จะ​ต้อง​รวบรวม​ความ​คิด​เห็น​จาก​ส่วน​ราชการ​ที่​เกี่ยวข้อง​ให้​ครบ ทำ�การ​ประมวล และ​ผนวก​ความ​คิด​เห็น​ของ​สำ�นัก​เลขาธิการ​คณะ​รัฐมนตรี​เอง นำ�​เข้า​ที่​ประชุม​คณะ​รัฐมนตรี ตลอด​จน​ส่ง​ ผล​การ​พิจารณา​ของ​คณะ​รัฐมนตรี​หรือ​ที่​เรียก​กัน​ว่า “มติ​คณะ​รัฐมนตรี” ให้​หน่วย​งาน​ของ​รัฐ​นำ�​ไป​ปฏิบัติ​ หรือ​แก้ไข​ปัญหา​ต่างๆ แล้วร​ ายงาน​ผล​ให้​คณะ​รัฐมนตรี​ทราบ

ธ ส

ธ ส


ธ ส

ธ ส

ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

ธ ส

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.10 คณะ​รัฐมนตรี​หารือป​ ระธาน​วุฒิสภา (นายมีช​ ัย ฤชุ​พันธุ์) เรื่อง​ร่าง พรบ.บริหาร​สินทรัพย์​ไทย (TAMC) เมื่อ​วัน​ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2544 ผ่าน​ทาง​วดิ​ ี​โอ​คอน​เฟอเรนซ์ (VDO Conference) ณ ห้อง​ประชุม​คณะ​รัฐมนตรี

ธ ส

13-35

มติ​คณะ​รัฐมนตรี​ใน​แต่ละ​คราว​ประชุม​จะ​ถูก​จัด​เก็บ​ไว้​เพื่อ​ใช้​ใน​การ​ตรวจ​สอบ​และ​ติดตาม​ผล ใน​แต่ละ​ปี​จะ​มี​มติ​คณะ​รัฐมนตรี​เป็น​จำ�นวน​มาก ซึ่ง​มติ​คณะ​รัฐมนตรี​เหล่า​นั้น​จะ​มี​ผล​บังคับ​ใช้​ไป​จนกว่า ​จะ​มี​การ​ยกเลิก​หรือ​แก้ไข และ​หาก​มี​การ​ยกเลิก​หรือ​แก้ไข​ก็​ต้อง​ดำ�เนิน​การ​ใน​ลักษณะ​เดียวกัน ด้วย​เหตุ​นี้​ สำ�นัก​เลขาธิการ​คณะ​รัฐมนตรี​จึง​ได้​พัฒนา​ระบบ​จัด​เก็บ​และ​ค้นหา​มติ​คณะ​รัฐมนตรี​แบบ​อิเล็กทรอนิกส์​ขึ้น​ เพื่อ​ใช้​เป็นการ​ภายใน สำ�นัก​เลขาธิการ​คณะ​รัฐมนตรี​มี​เอกสาร​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​การ​ประชุม​คณะ​รัฐมนตรี​ที่​ต้อง​เก็บ​รักษา​ไว้​ มากมาย รวบรวม​ไว้​ตั้งแต่​ปี พ.ศ. 2475 และ​ยัง​มี​เรื่อง​ที่​นำ�​เข้า​ที่​ประชุม​คณะ​รัฐมนตรี​ทุก​สัปดาห์ การ​เก็บ​ เอกสาร​ย้อน​หลัง​ทำ�​โดย​วิธี​การ​สแกน (scan) เป็น​ภาพเสมือน และ​ใช้​ดัชนี​รายการ​ข้อมูล เช่น รายการ​วัน ​ที่​มี​มติ เลข​ที่​หนังสือ​ส่ง​ออก ชื่อ​เรื่อง หรือ​คำ�​สำ�คัญ​ใน​ชื่อ​เรื่อง หรือ​ใน​ส่วน​คัด​ย่อ​ของ​เรื่อง ตลอด​จน​ใช้​ คำ�​เหมือน​เป็น​ตัว​ค้น ระบบ​จัด​เก็บ​และ​ค้นหา​มติ​คณะ​รัฐมนตรี​แบบ​อิเล็กทรอนิกส์​ได้​รับ​การ​ยกย่อง​ให้​ เป็นต้น​แบบ​ของ​การ​ปฏิบัติ​งาน​ระบบ​ประมวล​ผล​เอกสาร (Document Processing System - DPS) ด้วย​ เทคโนโลยี​เสิร์ช​เอน​จิน (search engine) แก่​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ ทำ�ให้​สำ�นัก​เลขาธิการ​คณะ​รัฐมนตรี​ได้​ ชื่อ​ว่า​เป็น​หน่วย​งาน​ชั้น​นำ�​ที่​มี​การ​เปลี่ยนแปลง​สูงสุด​ด้วย​การนำ�​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ที่​ทัน​สมัย​มา​ตั้งแต่​ปี พ.ศ. 2530 ซึ่งเ​ป็น​สมัย​ที่น​ าย​อนันต์ อนันต​กูล เป็น​เลขาธิการ​คณะ​รัฐมนตรี ต่อ​มา​เมื่อ​ปี พ.ศ. 2544 รัฐบาล​ประกาศ​นโยบาย​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​เพื่อ​ความ​โปร่งใส​ของ​การ​ บริหาร​ราชการ​แผ่นดิน สำ�นัก​เลขาธิการ​คณะ​รัฐมนตรี​จึง​สามารถ​สนอง​นโยบาย และ​สามารถ​เปิด​บริการ​ให้​ ประชาชน​เข้า​มา​สืบค้น​หาม​ติ​คณะ​รัฐมนตรี​ด้วย​ตนเอง​ผ่าน​ทาง​อินเทอร์เน็ต​ได้​ทันที

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


13-36

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.11 หน้าจ​ อ​ระบบ​การ​ค้นหา​มติ​คณะ​รัฐมนตรี

ที่มา: www.cabinet.thaigov.go.th สำ�นัก​เลขาธิการ​คณะ​รัฐมนตรี

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ม ม

ธ ส


ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.12 ผล​จาก​การ​ค้นหา​มติ​คณะ​รัฐมนตรี​เป็น​ราย​เรื่อง

ที่มา: www.cabinet.thaigov.go.th สำ�นัก​เลขาธิการ​คณะ​รัฐมนตรี

13-37

ธ ส

ธ ส

ม ม

ธ ส


13-38

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

อนึ่ง ด้วย​เหตุ​ที่​สำ�นักเ​ลขาธิการ​คณะ​รัฐมนตรี​ต้อง​บริหาร​จัดการ​นำ�​เรื่อง​เข้า​ที่​ประชุม​คณะ​รัฐมนตรี​ ให้ท​ ัน​ภายใน​ระยะ​เวลา​ที่​กำ�หนด ซึ่งม​ ี​กระบวนการ​และ​ขั้น​ตอน​หลาย​ขั้น​ตอน โดย​เฉพาะ​การ​สอบถาม​ความ​ เห็น​จาก​ส่วน​ราชการ​ที่​เกี่ยวข้อง​ซึ่ง​มี​จำ�นวน​มาก​บ้าง น้อย​บ้าง แล้ว​แต่​ความ​ยุ่ง​ยาก ซับ​ซ้อน และ​ความ เกี่ยวข้อง​กับ​เรื่อง​นั้นๆ การ​ติดตาม​เรื่อง​จึง​เป็น​เรื่อง​ที่​ไม่​ง่าย​นัก​ที่​จะ​ตอบ​ให้​ได้​ว่า​ขณะ​นี้​แต่ละ​เรื่อง​อยู่​ใน ขั้น​ตอนใด เมื่อ​นายก​รัฐมนตรี หรือ​รัฐมนตรี หรือ​หน่วย​งาน​เจ้าของ​เรื่อง​ถาม​ถึง เลขาธิการ​คณะ​รัฐมนตรี​ จะ​ต้อง​ตอบ​ได้ และ​นี่​คือ​ความ​จำ�เป็น​ที่​ทำ�ให้​เกิด​ระบบ​อิเล็กทรอนิกส์​เพื่อ​การ​ติดตาม​ความ​เคลื่อนไหว​ของ​ เรื่อง​ที่​จะ​เสนอ​คณะ​รัฐมนตรี จน​กลาย​เป็นต้น​แบบ​ของ​ระบบ​สารบรรณ​อิเล็กทรอนิกส์​ประเทศไทย และ​ นำ�​ไป​สู่​การ​เชื่อม​โยง​ระบบ​สารบรรณ​อิเล็กทรอนิกส์​ระหว่าง​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​ใน​ยุคข​ อง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์

ธ ส

ธ ส

กรณี​ตัวอย่าง​ที่ 2 ระบบ​การ​บริหาร​การ​เงิน​การ​คลัง​ภาค​รัฐแ​ บบ​อิเล็กทรอนิกส์​ของ​ กรม​บัญชี​กลาง

ธ ส

2.1 ระบบ​การ​บริหาร​การ​เงิน​การ​คลัง​ภาค​รัฐ​แบบ​อิเล็กทรอนิกส์ จาก​นโยบาย​ของ​รัฐ​บาล​ พ.ศ. 2544 “ใน​การ​บริหาร​งาน​ด้าน​การ​เงิน​การ​คลัง​ของ​ภาค​รัฐ​ให้​มี​ประสิทธิภาพ​และ​ประสิทธิผล​มาก​ขึ้น​โดย​ มุ่ง​เน้น​ที่​เป้า​หมาย​และ​ผลลัพธ์​ของ​การ​ดำ�เนิน​งาน รวม​ถึง​ให้​สามารถ​เปิด​เผย​ข้อมูล​ต่อ​สาธารณะ​เพื่อ​ความ​ โปร่งใส รัฐบาล​จึง​ได้​ปฏิรูป​ระบบ​การ​บริหาร​และ​การ​ปฏิบัติ​งาน​ด้าน​การ​เงิน​การ​คลัง​สู่​ระบบ​อิเล็กทรอนิกส์​ เพื่อ​เป็น​เครื่อง​มือ​ใน​การ​บริหาร​ทรัพยากร​ของ​ชาติ สอดคล้อง​กับ​นโยบาย​และ​ยุทธศาสตร์​ใน​การ​พัฒนา​ ประเทศ” จาก​นโยบาย​ดัง​กล่าว คณะ​รัฐมนตรี​จึง​ได้​มี​มติ​วัน​ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 เห็น​ชอบ​ให้​มี​ การ​ออกแบบ​ระบบ​การ​บริหาร​การ​เงิน​การ​คลัง​แบบ​อิเล็กทรอนิกส์​หรือ​จี​เอฟ​เอ็ม​ไอ​เอส (Government Fiscal Management Information System - GFMIS) โดย​จัด​สร้าง​เป็น​ระบบ​ระดับ​ชาติ (National System) เพื่อ​เป็น​ลิขสิทธิ์​ของ​รัฐบาล ให้​ทุก​ส่วน​ราชการ​ทั่ว​ประเทศ​ใช้ โดย​ได้​นำ�​ระบบ​การ​บริหาร​การ​เงิน ​การ​คลัง​ภาค​รัฐ​แบบ​อิเล็กทรอนิกส์​มา​ปฏิบัติ​งาน​แบบ​ออนไลน์​โต้​ตอบ​แบบ​เรี​ยล​ไทม์ (online interactive real time) และ​บันทึก​ข้อมูล​แบบ​บันทึก​ครั้ง​เดียว (single entry) ด้วย​การ​จัดการ​และ​ดำ�เนิน​งาน​อย่าง​ อัตโนมัติต​ ั้งแต่​วัน​ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2547 ทั้งนี้​ได้​เริ่ม​เบิก​จ่าย​ตรง​ให้​แก่​หน่วย​งาน​และ​แก่​คู่​ค้า​ของ​ภาค​รัฐ​ ด้วย​ระบบ​การ​บริหาร​การ​เงิน​การ​คลังแ​ บบ​อิเล็กทรอนิกส์​เพียง​ระบบ​เดียว​ตั้งแต่​วัน​ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2548 และ​ใช้​ปฏิบัติ​มา​จนถึง​ปัจจุบัน ระบบ​บริหาร​การ​เงิน​การ​คลัง​ภาค​รัฐ​ประกอบ​ด้วย ระบบ​งาน​รายรับ ราย​จ่าย การ​กู้​เงิน เงิน​คงคลัง บัญชี​การ​เงิน​แบบ​เกณฑ์ค​ ง​ค้าง บัญชี​สินทรัพย์​ถาวร บัญชี​ต้นทุน บัญชี​บริหาร​ของ​ประเทศ​ทั้ง​ระบบ ซึ่ง​เป็น​ ระบบ​ใหญ่​มาก เกี่ยวข้อง​กับ​ส่วน​ราชการ​ทุก​ภาค​ส่วน​หรือ​จี​ทู​จี (G2G) และ​ยัง​เกี่ยวข้อง​กับ​ภาค​ธุรกิจ​หรือ ​จี​ทูบี (G2B) และ​ภาค​ประชาชน​หรือ​จี​ทู​ซี (G2C) ที่​ติดต่อ​กับ​รัฐ​ด้าน​การ​เงิน​ทั้งหมด นอกจาก​นี้​ยัง​ครอบ คลุม​ระบบ​การ​จัด​ซื้อ​จัด​จ้าง​ของ​รัฐ​โดย​รวม ตั้งแต่​การ​จัด​ทำ�การ​อนุมัติ การ​เบิก​จ่าย การ​ปรับปรุง และ​การ​ ติดตาม​การ​ใช้​งบ​ประมาณ​ของ​หน่วย​งาน​ราชการ​ของ​ทุก​กระทรวง กรม โดย​ผู้​บริหาร​ประเทศ​สามารถ​วัด​ ประสิทธิภาพ​และ​ประสิทธิผล​ของ​การ​ใช้​งบ​ประมาณ​ของ​ประเทศ​ได้​เป็น​อย่าง​ดี และ​ที่​สำ�คัญ​ที่สุด​ระบบ​งาน​

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

13-39

ธ ส

นี้​มี​การ​สร้าง​ฐาน​ข้อมูล​กลาง​ด้าน​การ​เงิน​การ​คลัง​ภาค​รัฐ​เพื่อ​ให้​ผู้​บริหาร​ใน​แต่ละ​ระดับ​สามารถ​นำ�​ข้อมูล​มา บ​ริ​หาร​ด้าน​การ​เงิน​การ​คลัง​ของ​หน่วย​งาน​ตนเอง​ได้​ด้วย และ​ถ้า​จะ​กล่าว​อย่าง​วิชาการ​เทคโนโลยีส​ ารสนเทศ​ แล้ว ระบบ​บริหาร​การ​เงิน​การ​คลังภ​ าค​รัฐ​ก็​คือ​ระบบ​การ​วางแผน​ทรัพยากร​องค์กร​หรือ​อี​อาร์​พี (Enterprise Resource Planning - ERP) นั่นเอง แต่​เป็น​ระบบ​การ​วางแผน​ทรัพยากร​องค์กร​ที่​ใหญ่​มาก ครอบคลุม​ การ​วางแผน​ทรัพยากร​องค์กร​ภาค​รัฐ​ทั่ว​ประเทศ อนึ่ง ทันที​ที่​มี​การ​ประกาศ​ใช้​ระบบ​บริหาร​การ​เงิน​การ​คลัง​ภาค​รัฐ (GFMIS) นายก​รัฐมนตรี​ก็ได้​ ใช้​ระบบ​ดัง​กล่าว​เป็น​เครื่อง​มือ​หนึ่ง​ใน​การ​บริหาร​การ​เงิน​การ​คลัง​ของ​ประเทศ​ทันที โดย​กำ�หนด​ให้​สำ�นัก​ เลขาธิการ​คณะ​รัฐมนตรี​นำ�​รายงาน​การ​ใช้​งบ​ประมาณ​แผ่น​ดิน​ที่​ได้​จาก​ระบบ​บริหาร​การ​เงิน​การ​คลัง​ภาค​รัฐ (GFMIS) เสนอ​ที่​ประชุม​คณะ​รัฐมนตรี​เป็น​ประจำ�​ทุก​เดือน เพื่อ​เป็นการ​เร่งรัด​ให้​ส่วน​ราชการ​ดำ�เนิน​การ ​บริหาร​การ​เงิน​การ​คลัง​ใน​แต่ละ​ระดับ​ให้​เป็น​ไป​ตาม​แผนการ​เบิก​จ่าย​งบ​ประมาณ​แผ่น​ดิน​เป็น​ประโยชน์​ อย่าง​ยิ่ง 2.2 บทบาท​ของ​หน่วย​งาน​ที่​เกี่ยวข้อง จาก​การ​ที่​ระบบ​บริหาร​การ​เงิน​การ​คลัง​ภาค​รัฐ (GFMIS) เป็น​ระบบ​ที่​ใหญ่​มาก​ครอบคลุม​การ​ปฏิบัติ​งาน​ของ​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​ทั่ว​ประเทศ จึง​เกี่ยวข้อง​กับ​หน่วย​งาน​ หลาย​หน่วย​อย่าง​บูรณาการ ดังนี้ 1) สำ�นัก​งบ​ประมาณ จะ​วางแผน ควบคุม และ​จัดสรร​งบ​ประมาณ​ของ​ประเทศ​ผ่าน​ระบบ ระบบ​บริหาร​การ​เงิน​การ​คลัง​ภาค​รัฐ (GFMIS) เพื่อ​การ​เบิก​จ่าย ตลอด​จน​ติดตาม​และ​ประเมิน​ผล​การ​ ปฏิบัติต​ าม​แผน​งาน​โครงการ​ต่างๆ ที่​หน่วย​งาน​กำ�หนด​ตาม​เป้าห​ มาย ภารกิจ และ​พันธ​กิจ 2) กรม​บัญชี​กลาง เป็น​สมุห์​บัญชี​ทำ�​หน้าที่​บริหาร​และ​ปฏิบัติ​การ​เพื่อ​ควบคุม​การ​บัญชี​การ​ เงิน​และ​การ​คลัง​ของ​ประเทศ ดูแล​การ​รายงาน​ทาง​บัญชี​การ​เงิน ตรวจ​สอบ​การ​เบิก​จ่าย​และ​กระทบ​ยอด​ทั้ง​ ใน​ส่วน​กลาง​และ​ส่วน​ภูมิภาค​กับ​แผนการ​เบิก​จ่าย​ราย​เดือน/ราย​ปี 3) กระทรวง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร ร่วม​พิจารณา​การเต​รี​ยม​ระบบ​งาน​ให้​ สอดคล้อง​กับ​สำ�นักงาน​ส่วน​หลัง (back office) ของ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ ตลอด​จน​จัดหา​ระบบ​เครือ​ข่าย​ การ​สื่อสาร​โทรคมนาคม​ให้​ทุก​หน่วย​งาน​ของ​รัฐ 4) สำ�นักงาน​การ​ตรวจ​เงิน​แผ่นดิน ใช้​ระบบ​บริหาร​การ​เงินก​ าร​คลัง​ภาค​รัฐ (GFMIS) ตรวจ ​สอบ​การ​ปฏิบัติ​งาน​และ​การ​เงิน​ของ​หน่วย​​งาน​ของ​รัฐ ตรวจ​สอบ​การ​รับ​จ่าย​เงิน​ตาม​งบ​ประมาณ​ประจำ�​ปี และ​งบ​แสดง​ฐานะ​การ​เงิน​แผ่นดิน และ​ตรวจ​สอบ​เชิง​ปฏิบัติ​การ​เทียบ​เป้า​หมาย​ที่​กำ�หนด 5) ธนาคาร​แห่ง​ประเทศไทย ทำ�​หน้าที่​ดูแล​การก​ระ​ทบ​ยอด​เงิน​ตาม​บัญชี​รับ​จ่าย​ประจำ�​วัน​ และ​ฐานะ​การ​คลัง ตลอด​จน​ประสาน​การ​โอน​เงิน​ต่าง​ระบบ​ผ่าน​บาท​เน็ต (Bahtnet) 6) ธนาคาร​กรุง​ไทย เป็น​ตัวแทน​การ​รับ​จ่าย​เงิน​ของ​รัฐ​ทั้ง​ระบบ หรือ​เรียก​อีก​อย่าง​ว่า​เป็น​ แคชเชียร์ (cashier) ให้​กับ​ระบบ เป็นผ​ ู้​รวบรวม​เม็ด​เงินด​ ้าน​การ​จ่าย​เงิน รับเ​งิน​เข้า​คลังโ​ ดย​ผ่าน​หน่วย​งาน​ ด้าน​การ​เงิน​ของ​รัฐ นอกจาก​การ​รับ​ผิด​ชอบ​ใน​ฐานะ​ผู้​พัฒนา​และ​ดูแล​บำ�รุง​รักษา​ระบบ​บริหาร​การ​เงิน​การ​ คลัง​ภาค​รัฐ (GFMIS)

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


13-40

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ที่มา: GFMIS Powerpoint Presentation วันท​ ี่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 สหัส ตรี​ทิพย​บุตร ธนาคาร​กรุง​ไทย จำ�กัด

ธ ส

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.13 หน่วย​งาน​ราชการ​ทั่ว​ประเทศ​สามารถ​ขอ​ให้​กรม​บัญชี​กลาง​ชำ�ระ​หนี้​ ให้เ​จ้า​หนี้​ได้​ทั่วป​ ระเทศ​โดย​ผ่าน​ระบบ​ธนาคาร​กรุง​ไทย จำ�กัด

2.3 ประโยชน์​ที่​ได้ร​ ับ​จาก​ระบบ​บริหาร​การ​เงิน​การ​คลังภ​ าค​รัฐ (GFMIS) 1) ด้าน​หน่วย​งาน​ผู้ป​ ฏิบัติ​ทั่ว​ประเทศ ระบบ​บริหาร​การ​เงิน​การ​คลัง​ภาค​รัฐ (GFMIS) ทำ�ให้​ ลด​การ​ซ้ำ�​ซ้อน​ใน​การ​บันทึก​ข้อมูล ตัด​ขั้น​ตอน​ทาง​เดิน​ของ​เอกสาร และ​ลด​ขั้น​ตอน​และ​เอกสาร​ใน​การ​ ปฏิบัติง​ าน 2) ด้าน​การ​บริหาร​งบ​ประมาณ​ของ​องค์กร ระบบ​บริหาร​การ​เงิน​การ​คลัง​ภาค​รัฐ (GFMIS) สามารถ​จัดสรร​งบ​ประมาณ​ของ​ประเทศ​ได้​สะดวก และ​สามารถ​จ่าย​งบ​ประมาณ​ของ​ทุก​หน่วย​งาน​และ​ทุก​ รายการ​ด้วย​ระบบ​บริหาร​การ​เงิน​การ​คลัง​ภาค​รัฐ (GFMIS) หน่วย​งาน​ที่​ใช้​งบ​ประมาณ​และ​ผู้​จัดสรร​งบ​ ประมาณ​สามารถ​ดู​รายการ​งบ​ประมาณ​ได้​โดยตรง​พร้อม​กัน ทำ�ให้​การ​บริหาร​งบ​ประมาณ​มี​ประสิทธิภาพ​ รวดเร็วแ​ ละ​ถูก​ต้อง หน่วย​งาน​ที่​ใช้​งบ​ประมาณ​สามารถ​เบิก​จ่าย​เงิน​งบ​ประมาณ​ได้​อย่าง​รวดเร็ว และ​ไม่​จำ�เป็น​ ต้อง​รักษา​เม็ด​เงิน​ใน​บัญชี​ของ​ตนเอง​เพราะ​สามารถ​เบิก​จ่าย​ได้​ตรง​กับ​กรม​บัญชี​กลาง และ​กรม​บัญชี​กลาง​ สามารถ​สั่ง​จ่าย​ผ่าน​ธนาคาร​กรุง​ไทย​ให้​หน่วย​งาน​หรือ​คู่​ค้า (เจ้า​หนี้) ของ​หน่วย​งาน​ได้​โดยตรง​ผ่าน​ธนาคาร​ กรุง​ไทย​ด้วย​เครือ​ข่าย​แบบ​ออนไลน์ 3) ด้าน​บริหาร​การ​เงิน​ของ​ประเทศ ระบบ​บริหาร​การ​เงิน​การ​คลัง​ภาค​รัฐ (GFMIS) สามารถ​ ให้ห​ น่วย​งาน​บริหาร​ประเทศ​ทั้งหมด คือ สำ�นักน​ ายก​รัฐมนตรี สำ�นักงาน​พัฒนา​เศรษฐกิจแ​ ละ​สังคม​แห่งช​ าติ สำ�นัก​งบ​ประมาณ กรม​บัญชี​กลาง สำ�นักงาน​การ​ตรวจ​เงิน​แผ่นดิน ธนาคาร​แห่ง​ประเทศไทย และ​หน่วย​งาน​

ธ ส

ธ ส

ธ ส


ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

13-41

ธ ส

บริหาร​ของ​ทุก​กระทรวง​และ​ทุก​กรม​สามารถ​ดู​ข้อมูล​หรือ​การ​บริหาร​ของ​หน่วย​งาน​ตนเอง​และ​ของ​ประเทศ สามารถ​ตรวจ​สอบ​ดูแล​การ​ใช้​งบ​ประมาณ​ว่า​ถูก​ต้อง​ตรง​เป้า​หมาย ใช้​งบ​ประมาณ​ใน​ช่วง​เวลา​อัน​ควร และ​ใช้​ งบ​ประมาณ​ตรง​ตาม​โครงการ​ที่​กำ�หนด​และ​ได้​ผล​ตาม​ที่​กำ�หนด​หรือ​ไม่ ระบบ​สามารถ​ออก​รายงาน​แยกแยะ เปรียบ​เทียบ ตลอด​จน​กำ�หนด​แผน​และ​คาด​การณ์​การ​ใช้​จ่าย​ต่างๆ ได้ อีก​ทั้ง​ยัง​สามารถ​ใช้​บริหาร​ต้นทุน​ของ​การ​ใช้​จ่าย​จาก​งบ​ประมาณ ทำ�ให้​ผู้​ใช้​งบ​ประมาณ​ต้อง​ ระมัดระวัง​การ​ใช้​งบ​ประมาณ​ให้​มี​ประสิทธิภาพ และ​สามารถ​ใช้​ข้อมูล​เหล่า​นี้​เปรียบ​เทียบ​ว่า​งบ​ประมาณ​ เดียวกัน​ซื้อ​ทรัพย์สิน​เหมือน​กัน ทำ�ไม​ราคา​จึง​ต่าง​กัน​ได้​อีก​ด้วย 2.4 ความ​ภูมิใจ​ใน​ระบบ​บริหาร​การ​เงินก​ าร​คลังภ​ าค​รัฐ (GFMIS) 1) ประเทศไทย​ถือ​เป็นป​ ระ​เท​ศต้นๆ ของ​โลก​ที่น​ ำ�​ระบบ​บริหาร​การ​เงิน​การ​คลัง​ภาค​รัฐ (GFMIS) มา​ใช้​กับ​หน่วย​ภาค​รัฐท​ ั่ว​ประเทศ​สำ�เร็จ​อย่าง​จริงจัง 2) แม้โ​ ครงการ​ระบบ​บริหาร​การ​เงินก​ าร​คลัง​ภาค​รัฐ (GFMIS) จะ​เป็น​ระบบ​ใหญ่​ที่​เกี่ยวข้อง​ กับ​ระบบ​การ​เงิน​การ​คลัง​ของ​ประเทศ​ทั้ง​ระบบ และ​เกี่ยวข้อง​กับ​ข้าราชการ​ทั้ง​ประเทศ แต่​โครงการ​นี้​เป็น​ โครงการ​ตัวอย่าง​ที่​ต้อง​ชมเชย เพราะ​ใช้​เวลา​ใน​การ​พัฒนา​ตั้งแต่​ต้น​จน​สามารถ​ใช้​งาน​ได้​เพียง 18 เดือน คือ มิถุนายน พ.ศ. 2546 ถึง ธันวาคม พ.ศ. 2547 เท่านั้น นับ​เป็น​ผล​งาน​ชิ้น​โบว์​แดง​ชิ้น​หนึ่ง​ของ​รัฐบาล​ อิเล็กทรอนิกส์​ไทย

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ม ม

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.14 ประชาชน​สามารถ​ตรวจ​สอบ​การ​ใช้​จ่าย​เงินภ​ าค​รัฐ​ได้​จาก​ระบบ​บริหาร​การ​เงิน​การ​คลัง​ภาค​รัฐ

ที่มา: www.gfmis.go.th


13-42

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

กรณี​ตัวอย่าง​ที่ 3 ระบบ​ศูนย์กลาง​ข้อมูล​และ​สารสนเทศ​ด้าน​การ​จัด​ซื้อ​จัด​จ้าง​ภาค​รัฐ​ ของ​กรม​บัญชีก​ ลาง

ธ ส

เพื่อ​สนอง​นโยบาย​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ กรม​บัญชี​กลาง​จึง​ได้​พัฒนา​ระบบ​ศูนย์กลาง​ข้อมูล​และ​ สารสนเทศ​ด้าน​การ​จัด​ซื้อ​จัด​จ้าง​ภาค​รัฐ​หรือ​ระบบ​การ​จัด​ซื้อ​จัด​จ้าง​ภาค​รัฐ (g-Procurement) เพื่อ​สร้าง​ ความ​โปร่งใส ลด​ปัญหา​ทุจริต เพิ่มค​ วาม​คุ้ม​ค่า มี​ประสิทธิภาพ และ​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​สามารถ​จัด​ซื้อ​จัดจ​ ้าง​ พัสดุ​ได้​ใน​ราคา​ยุติธรรม​ขึ้น เปิด​ให้​บริการ​ตั้งแต่ พ.ศ. 2549 ระบบ​ศูนย์กลาง​ข้อมูล​และ​สารสนเทศ​ด้าน​การ​จัด​ซื้อ​จัด​จ้าง​ภาค​รัฐ​จะ​ทำ�ให้​ทั้ง​ภาค​รัฐ ภาค​เอกชน​ และ​ภาค​ประชาชน​สามารถ​เข้า​ถึง​แหล่ง​ข้อมูล​การ​จัด​ซื้อ​จัด​จ้าง​ภาค​รัฐ​ที่​มี​ความ​ถูก​ต้อง รวดเร็ว ครบ​ถ้วน และ​ทั่ว​ถึง​ได้​โดย​ผ่าน​ทาง​เว็บไซต์ www.gprocurement.go.th สามารถ​ติดตาม ตรวจ​สอบ​กระบวนการ​ จัด​ซื้อ​จัด​จ้าง​ได้​ทุก​ขั้น​ตอน เป็นการ​สร้าง​โอกาส​ให้​ผู้​ขาย​และ​ผู้รับ​จ้าง​เข้า​ถึง​ข้อมูล​การ​จัด​ซื้อ​จัด​จ้าง​ได้​ อย่าง​เท่า​เทียม​กัน ประชาชน​ทั่วไป​หรือ​ผู้​มี​ส่วน​ได้​เสีย​สามารถ​เข้า​มา​ตรวจ​สอบ​ข้อมูล​ข่าวสาร​ต่างๆ ของ​ การ​จัด​ซื้อ​จัด​จ้าง​ภาค​รัฐ​ได้​อย่าง​โปร่งใส อัน​จะ​เป็น​กลไก​ใน​การ​ป้องกัน​การ​ทุจริต คอร์รัปชั่น​ได้​อย่าง​มี​ ประสิทธิภาพ​ด้วย ระบบ​จะ​เผย​แพร่​ข้อมูล​จัด​ซื้อ​จัด​จ้าง เช่น ประกาศ​แผนการ​จัด​ซื้อ​จัด​จ้าง เอกสาร​ประกวด​ราคา ประกาศ​ประกวด​ราคา ประกาศ​ร่าง​ข้อ​ตกลง (TOR) ประกาศ​จัด​ซื้อ​จัด​จ้าง (เชิญ​ชวน) ประกาศ​ราย​ชื่อ​ผู้​ขอ รับ/ซื้อ​เอกสาร ประกาศ​ราย​ชื่อ​ผู้​ยื่น​เสนอ​ราคา ประกาศ​ชื่อ​ผู้​มี​สิทธิ​ยื่น​ข้อ​เสนอ และ​ประกาศ​ผู้​ชนะ​การ​ เสนอ​ราคา เป็นต้น เพื่อ​ให้​ผู้​ค้า​สามารถ​ค้นหา​และ​เข้า​ร่วม​การ​แข่งขัน​ได้ ตลอด​จน​นำ�​ข้อมูล​ราคา​กลาง​งาน​ ก่อสร้าง​และ​บัญชี​ราย​ชื่อ​ผู้​ทิ้ง​งาน​จาก​ระบบ​เพื่อ​เป็น​แหล่ง​ข้อมูล​สำ�หรับ​เจ้า​หน้าที่​ของ​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ ผู้​ค้า และ​ผู้​สนใจ​ทั่วไป​สามารถ​รับ​รู้​ข้อมูล​ข่าวสาร​การ​จัด​ซื้อ​จัด​จ้าง​ภาค​รัฐ​ที่​มี​ความ​สมบูรณ์ ทัน​สมัย และ ​มี​ประสิทธิภาพ​ที่​บันทึก​โดยตรง​จาก​หน่วย​จัด​ซื้อ​ภาค​รัฐ การ​ค้นหา​ประกาศ​จัด​ซื้อ​จัด​จ้าง​ใน​เว็บไซต์ http://www.gprocurement.go.th ระบบ​จะ​แสดง​ ผล​จาก​การ​ค้นหา​จาก “ระบบ​ศูนย์กลาง​ข้อมูล​และ​สารสนเทศ​ด้าน​การ​จัด​ซื้อ​จัด​จ้าง​ภาค​รัฐ​หรือ​ระบบ​การ​ จัด​ซื้อ​จัด​จ้าง​ภาค​รัฐ” ว่า​มี​ส่วน​ราชการ​ใด​บ้าง​ที่​กำ�ลัง​ประกาศ​ประกวด​ราคา​โครงการ​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​การ ​พัฒนา​ระบบ​อยู่​บ้าง​ใน​ขณะ​นี้ ภาย​ใต้​วงเงิน​งบ​ประมาณ​ที่​สูง​ตั้งแต่ 2 ล้าน​บาท​ขึ้น​ไป

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.15 ตัวอย่าง​การ​ค้นหา​ประกาศ​จัด​ซื้อ​จัดจ​ ้าง

ที่มา: www.gprocurement.go.th

ธ ส

13-43

ธ ส

ธ ส

ธ ส

หลัง​จาก​ศึกษา​เนื้อหา​สาระ​เรื่อง​ที่ 13.3.1 แล้ว โปรด​ปฏิบัติ​กิจกรรม 13.3.1 ใน​แนว​การ​ศึกษา​หน่วย​ที่ 13 ตอน​ที่ 13.3 เรื่อง​ที่ 13.3.1

ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์


13-44

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

เรื่อง​ที่ 13.3.2 การ​เชื่อม​โยง​ข้อมูล​ภาค​รัฐ​เพื่อ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์

ธ ส

1. กรอบ​แนวทาง​การ​เชื่อม​โยง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​แห่ง​ชาติ ของ​กระทรวง​เทคโนโลยี​ สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร

ธ ส

1.1 กรอบ​แนวทาง​การ​เชื่อม​โยง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​แห่ง​ชาติ กรอบ​แนวทาง​การ​เชื่อม​โยง​รัฐบาล​ อิเล็กทรอนิกส์​แห่ง​ชาติ (Thailand e-Government Interoperability Framework - TH e-GIF) ถูก​ พัฒนา​ขึ้น เพื่อ​ส่ง​เสริม​นโยบาย​การ​เชื่อม​โยง​ข้อมูล​และ​การ​ปฏิบัติ​การ​ร่วม​ทาง​อิเล็กทรอนิกส์​หรือ​กระบวน การ​ทำ�งาน​ระหว่าง​ระบบ​สารสนเทศ​ภาค​รัฐ​ที่​มี​ความ​แตก​ต่าง​กัน​ได้​อย่าง​อัตโนมัติ นำ�​ไป​สู่​กา​รบู​รณา​การ​ แลก​เปลี่ยน​ข้อมูล​และ​การ​ให้​บริการ​ร่วม​แบบ​เบ็ดเสร็จ ณ จุด​เดียวกัน ซึ่ง​ต่าง​จาก​เดิม​ที่​ต้อง​เข้า​สู่​แต่ละ ​ระบบ​งาน​หรือเ​ว็บ​แอพ​พลิ​เคชั่นใ​ น​แต่ละ​หน่วย​งาน​เตรียม​ไว้ โดย​ให้​บริการ​ด้วย​มาตรฐาน​ที่​แตก​ต่าง​กัน​และ​ ไม่มี​การ​เชื่อม​โยง​เพื่อ​การ​แลก​เปลี่ยน​หรือ​บูรณ​า​การ​ใดๆ กรอบ​แนวทาง​การ​เชื่อม​โยง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ แห่ง​ชาติ (TH e-GIF) ประกอบ​ด้วย กรอบ​และ​แนวทาง​ตาม​มาตรฐาน​ต่างๆ ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​การ​เชื่อม​โยง (interconnection) การ​แลก​เปลี่ยน​ข้อมูล (data exchange) การ​จัด​เก็บ​และ​นำ�​เสนอ​ข้อมูล (storage and presentation) ด้วย​ความ​มั่นคง​ปลอดภัย (security) และ​ใช้​มาตรฐาน​เปิด (open standard) ทั้งนี้​ ได้​เริ่มเ​ผย​แพร่แ​ ละ​ใช้​อย่าง​เป็น​ทางการ​เมื่อ​ปีพ.ศ. 2549 นับ​เป็น​กลไก​สำ�คัญ​ใน​การ​สร้าง​ขีด​ความ​สามารถ​ใน​การ​ปฏิบัติ​การ​ร่วม​ระหว่าง​หน่วย​งาน​และ​ ขับเคลื่อน​ให้​บรรลุเ​ป้า​หมาย​การ​บริการ​ประชาชน และ​การ​ปฏิบัติ​งาน​ของ​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​ให้​มี​ประสิทธิภาพ​ และ​เกิดผ​ ล​ใน​การ​ลด​ต้นทุน และ​เพิ่ม​ผล​ตอบแทน​ใน​เชิงเ​ศรษฐกิจ​และ​สังคม​ของ​ประเทศ

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

13-45

ธ ส

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.16 การ​พัฒนา​ระบบ​ไอ​ซี​ที​ภายใน​หน่วย​งาน​เป็น​ระบบ​การ​บริการ​ร่วม​เพื่อ​ให้บ​ ริการ​ประชาชน

ที่มา: กรอบ​แนวทาง​การ​เชื่อม​โยง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์แ​ ห่งช​ าติ เวอร์ชั่น 1.1 เสนอ​กระทรวง​เทคโนโลยีส​ ารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร โดย ดร.ชุมพล บุญม​ ี มหาวิทยาลัย​ธรรมศาสตร์

1.2 เป้า​หมาย​ของ​กรอบ​แนวทาง​การ​เชื่อม​โยง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​แห่ง​ชาติ กรอบ​แนวทาง​การ ​เชื่อม​โยง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​แห่ง​ชาติ (TH e-GIF) สามารถ​ใช้​เป็น​แนวทาง​ใน​การ​เชื่อม​โยง​เอกสาร​ อิเล็กทรอนิกส์​ระหว่าง​หน่วย​งาน​ที่​มี​ระบบ​สารสนเทศ​ที่​แตก​ต่าง​กัน​ได้​อย่าง​อัตโนมัติ (cross platforms interconnection) มี​การ​ใช้ “มาตรฐาน​เปิด” ที่​ยอมรับ​ใน​ระดับ​สากล (open & international standards) โดย​ไม่​ถูก​ผูกขาด​กับ​ผลิต​ภัณฑ์​ใดๆ มี​กติกา​ร่วม (common rules) ใน​การ​ตั้ง​ชื่อ​รายการ​ข้อมูล (data elements) ที่​นำ�​ไป​สู่​การ​กำ�หนด​ชื่อ​รายการ​ข้อมูล​ที่​เป็น​มาตรฐาน​ของ​ประเทศ (national standardized data set) โดย​อิง​กับ​ชื่อ​รายการ​ข้อมูล มาตรฐาน และ​หลัก​การ​ใน​การ​กำ�หนด​ชื่อ​รายการ​ข้อมูล และ​ความ​หมาย​ของ​รายการ​ข้อมูล​ตาม​มาตรฐาน​ของ​ศูนย์​อำ�นวย​ความ​สะดวก​ด้าน​การ​ค้า​และ​ธุรกรรม​ อิเล็กทรอนิกส์​แห่ง​สหประชาชาติ​หรือ​เอ็น​ดี​อาร์ (UN/CEFACT XML Naming and Design Rules – NDR) ตลอด​จน​มี​การ​กำ�หนด​มาตรฐาน​ทาง​เทคนิค​เพื่อ​การ​เชื่อม​โยง​แลก​เปลี่ยน​ข้อมูล​ระหว่าง​ระบบ​ซึ่ง​ สามารถ​เลือก​ได้​หลาก​หลาย เช่น เว็บเซอร์วิส (web services) เอ็กซ์​เอ็ม​แอล (eXtensible Markup Language - XML) และ​อีบ​ ี​เอ็กซ์เ​อ็ม​แอล (ebXML as ISO/TS 15000) เอฟ​ที​พี (FTP) หรือ​เอส​เอ็ม​ทีพ​ ี (SMTP) เพื่อ​ให้​หน่วย​งาน​ที่​เกี่ยวข้อง​นำ�​ไป​ใช้​ใน​การ​พัฒนา​ระบบ​เชื่อม​โยง​ข้อมูล​อิเล็กทรอนิกส์ และ​ระบบ​ ให้​บริการ​ร่วม​แบบ​เบ็ดเสร็จ​ต่อ​ไป กรอบ​แนวทาง​การ​เชื่อม​โยง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​แห่ง​ชาติ (TH e-GIF) เกิด​ขึ้น​ภาย​ใต้ “โครงการ​ ศูนย์​ข้อมูล​กลาง​แปลง​ทรัพย์สิน​เป็น​ทุน” ซึ่ง​คณะ​รัฐมนตรี​มี​มติ​เมื่อ​วัน​ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2546 ให้​ กระทรวง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​ทำ�การ​จัด​ตั้ง​ขึ้น​โดย​มีว​ ัตถุประสงค์​เพื่อ​การ​แลก​เปลี่ยน​ข้อมูล​

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


13-46

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

ของ​หน่วย​งาน​ใน​โครงการ 11 หน่วย​งาน ได้แก่ สำ�นักงาน​ปฏิรูป​ที่ดิน​เพื่อ​การเกษตร​กรรม กรม​ที่ดิน กรม​ ส่ง​เสริม​สหกรณ์ กรม​พัฒนา​สังคม​และ​สวัสดิการ กรม​ธนารักษ์ กรม​อุทยาน​แห่ง​ชาติ​สัตว์​ป่า​และ​พันธุ์​พืช การ​เคหะ​แห่ง​ชาติ กรุงเทพมหานคร กรม​ส่ง​เสริม​การ​ปกครอง​ท้อง​ถิ่น กรม​ทรัพย์สิน​ทาง​ปัญญา และ​กรม​ โรงงาน​อุตสาหกรรม นับ​เป็น​ระบบ​แรก​ของ​ประเทศ​และ​เป็นต้น​แบบ​ที่​ใช้​กรอบ​แนวทาง​การ​เชื่อม​โยง​รัฐบาล​ อิเล็กทรอนิกส์​แห่งช​ าติ (TH e-GIF) ใน​การ​เชื่อม​โยง​ข้อมูล​จาก​หลาย​หน่วย​งาน 1.3 หลัก​เกณฑ์ใ​ น​การ​พัฒนา​ระบบ​เชื่อม​โยง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ ด้วย​กรอบ​แนวทาง​การ​เชื่อม​โยง​ รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​แห่ง​ชาติ เพื่อ​ให้​กา​รบู​รณา​การ​แลก​เปลี่ยน​ข้อมูล​และ​การ​ให้​บริการ​ร่วม​แบบ​เบ็ดเสร็จ ณ จุด​เดียว​มี​ผล​ยั่งยืน กระทรวง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​จึง​ได้​กำ�หนด​ประเด็น​หรือ​เกณฑ์​ใน ​การ​วัดผล​สัมฤทธิ์​ไว้​หลาย​ประเด็น เช่น ผล​สัมฤทธิ์​ของ​ระบบ​จะ​ต้อง​มี​จำ�นวน​รายการ​ข้อมูล​ที่​บันทึก​และ​ จำ�นวน​ขั้น​ตอน​ใน​กระบวนการ​ทาง​ธุรกรรม​ลด​ลง​ทั้ง​ใน​องค์กร​และ​ระหว่าง​องค์กร สามารถ​แบ่ง​ปัน​ข้อมูล ​ให้​ระบบ​อื่น​นำ�​ไป​ใช้ได้​และ​สามารถ​รับ​ข้อมูล​จาก​ระบบ​อื่น​มา​ใช้​งาน​ต่อ​ได้ มี​การ​ใช้​ข้อมูล​ร่วม​กัน​หลาย​ระบบ​ เพื่อ​ให้​ได้​ผล​สำ�เร็จ​ของ​งาน​ที่​มุ่ง​เน้น​ไป​ที่​การ​ให้​บริการ​แบบ​เบ็ดเสร็จ มี​การ​ลด​หรือ​ยกเลิก​การ​ใช้​กระดาษ​ ใน​การ​ติดต่อ​สื่อสาร​ระหว่าง​องค์กร​และ​ระหว่าง​ผู้​ให้​และ​ผู้​ใช้​บริการ สามารถ​ทำ�งาน​ได้​เสมือน​เป็น​ระบบ​ เดียวกัน​และ​มี​ระบบ​ตรวจ​สอบ​การ​ใช้​งาน​ร่วม​กัน สามารถ​ลด​ค่า​ใช้​จ่าย บริการ​ได้​รวดเร็ว​และ​รองรับ​ ปริมาณ​ผู้​ใช้​บริการ​ได้​มาก​ขึ้น ทำ�ให้​ต้นทุน​การ​ดำ�เนิน​การ​ธุรกรรม​ลด​ลง เป็นต้น

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

กรณี​ตัวอย่าง​ที่ 1 การ​เชื่อม​โยง​ระบบ​สารบรรณ​อิเล็กทรอนิกส์​ระหว่าง​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​ของ​ กระทรวง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร

ธ ส

คณะ​รัฐมนตรี​มี​มติ​เมื่อ​วัน​ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2548 ให้​กระทรวง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​ การ​สื่อสาร​เป็น​หน่วย​งาน​กลาง​ใน​การ​พัฒนา​ระบบ​สำ�นักงาน​ส่วน​หลัง (back office) ของ​ภาค​รัฐ​จำ�นวน 11 ระบบ และ​หนึ่งใ​ น​จำ�นวน​นั้น​ได้แก่ ระบบ​สารบรรณ​อิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจาก​ระบบ​สารบรรณ​หรือ​ระบบ​การ​ติดตาม​เรื่อง​หรือ​หนังสือ​หรือ​เอกสาร​มี​ความ​สำ�คัญ​มาก ดัง​นั้น​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​จึง​มี​ระบบ​สารบรรณ​อิเล็กทรอนิกส์​ไว้​ใช้​ภายใน​แต่ละ​หน่วย​งาน​เป็น​ที่​เรียบร้อย​ แล้ว​เป็น​ส่วน​ใหญ่ ระบบ​เหล่า​นั้น​จะ​ทำ�​หน้าที่​ลง​รายการ​รับ-ส่ง​เรื่อง​หรือ​หนังสือ​ที่​หน่วย​งาน​ได้​รับ-ส่ง และ​ เคลื่อน​ไป​ภายใน​หน่วย​งาน​ใน​แต่ละ​ขณะ​ตาม​ที่​เอกสาร​ไป​ปรากฏ ซึ่ง​ระบบ​สารบรรณ​อิเล็กทรอนิกส์​จะ​ สามารถ​ตรวจ​สอบ​ได้​ว่า เรื่อง​เข้า​มา​เมื่อ​ใด ใคร​เป็น​คน​รับ ผ่าน​ใคร​ไป​แล้ว​บ้าง นาน​เท่าใด ใกล้​ถึง​กำ�หนด​ ต้อง​ดำ�เนิน​การ​ให้​เสร็จ​แล้ว​หรือ​ยัง หรือ​ได้​ตอบ​หนังสือ​กลับ​ไป​แล้ว โดย​ใคร เมื่อไร เลข​หนังสือ​ออก และ​ เวลา​ใด

ธ ส

ธ ส

ธ ส


ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

13-47

ธ ส

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.17 แผนผังแ​ สดง​การ​เชื่อม​โยง​ข้อมูลห​ รือ​บริการ​ภาค​รัฐ​แบบ​บูรณาการ

ที่มา: TH e-GIF Powerpoint Presentation ดร.ชุมพล บุญ​มี มหาวิทยาลัย​ธรรมศาสตร์ นำ�​เสนอ​ต่อ​กระทรวง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ และ​การ​สื่อสาร​ใน​โครงการ​สารบรรณ​อิเล็กทรอนิกส์ร​ ะหว่าง​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ

ธ ส

ธ ส

ระบบ​สารบรรณ​อิเล็กทรอนิกส์​ภายใน​ของ​หน่วย​งาน​ที่​กล่าว​มา มี​หลาก​หลาย​รูป​แบบ หลาก​หลาย​ มาตรฐาน ครั้น​เมื่อ​ต้องการ​ขยาย​ระบบ​ให้​สามารถ​ติดตาม​ความ​เคลื่อนไหว​ของ​เอกสาร​ข้าม​ออก​ไป​นอก ​หน่วย​งาน​ด้วย​จะ​มี​ความ​ยุ่ง​ยาก​มาก จำ�เป็น​ต้อง​สร้าง​มาตรฐาน​ใน​การ​เชื่อม​โยง​ข้อมูล​ระหว่าง​ระบบ​โดย​ ใช้​กรอบ​แนวทาง​การ​เชื่อม​โยง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​แห่ง​ชาติ (TH e-GIF) มา​เป็นก​รอบ​ใน​การ​กำ�หนด​ มาตรฐาน​เทคนิค ตลอด​จน​มาตรฐาน​ของ​รายการ​ข้อมูล​ที่​ต้องการ​ส่ง​ต่อ เช่น รายการ​เลข​ที่​หนังสือ​ส่ง​ออก วัน​ที่​ส่ง​ออก ชั้นค​ วาม​ลับ ความเร่งด​ ่วน ชื่อ​ผู้ส​ ่ง ชื่อ​หน่วย​งาน เป็นต้น

ธ ส


13-48

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.18 XML Schema ทีใ่​ ช้​ใน​โครงการ​ระบบ​สารบรรณ​อิเล็กทรอนิกส์ร​ ะหว่าง​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ

ที่มา: TH e-GIF Powerpoint Presentation ดร.ชุมพล บุญ​มี มหาวิทยาลัย​ธรรมศาสตร์ นำ�​เสนอ​ต่อ​กระทรวง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ และ​การ​สื่อสาร​ใน​โครงการ​สารบรรณ​อิเล็กทรอนิกส์ร​ ะหว่าง​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ

ระบบ​สารบรรณ​อิเล็กทรอนิกส์​ระหว่าง​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​เป็น​ตัวอย่าง​ระบบ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ แบบ​จี​ทู​จี (G2G) ส่ง​ข้อมูล​ข้าม​หน่วย​งาน โดย​ใน​ช่วง​แรก​ของ​โครงการ​ได้​ทำ�การ​ทดลอง​ระหว่าง​หน่วย​งาน​ ภายใน​กระทรวง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร และ​สำ�นักงาน​ปลัด​สำ�นัก​นายก​รัฐมนตรี​ใน​ฐานะ​ ผู้​ดูแล​ระเบียบ​ว่า​ด้วย​งาน​สารบรรณ ปัจจุบัน​ได้​มี​หน่วย​งาน​เข้า​ร่วม​โครงการ​แล้ว 41 หน่วย​งาน และ​กำ�ลัง​ ขยาย​ผล​การ​เชื่อม​โยง​ระบบ​ไป​จนกว่า​จะ​ครบ​ทุก​กระทรวง อนึ่ง​โครงการ​เชื่อม​โยง​ระบบ​สารบรรณ​อิเล็กทรอนิกส์​ระหว่าง​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ ได้​รับ​รางวัล eASIA Awards ประ​จำ�​ปี ค.ศ.2009 ใน​ประเภท​ระบบ​อิเล็กทรอนิกส์​ของ​ภาค​รัฐ (Electronic Business Public Sector) ด้วย

ธ ส

ธ ส

ธ ส


ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

13-49

ธ ส

กรณี​ตัวอย่าง​ที่ 2 ศูนย์ส​ ารสนเทศ​แห่งช​ าติ​เพื่อ​การ​บริหาร​สารสนเทศ​สถิติ​ของ​ประเทศ​ของ​ สำ�นักงาน​สถิติ​แห่ง​ชาติ

ธ ส

ใน​การ​พัฒนา​เศรษฐกิจ​และ​สังคม​ของ​ประเทศ​จำ�เป็น​ต้อง​ใช้​ข้อมูล​สถิติ​ที่​ถูก​ต้อง ครบ​ถ้วน และ​ ทัน​สมัย​ประกอบ​ใน​การ​กำ�หนด​นโยบาย วางแผน และ​ตัดสิน​ใจ แต่​เมื่อ​ข้อมูล​อยู่​กระจาย​ตาม​หน่วย​งาน​ ซึ่ง​แต่ละ​หน่วย​งาน​ต่าง​เก็บ​ข้อมูล​ตาม​ความ​ต้องการ​ของ​หน่วย​งาน​เป็น​หลัก​ใน​รูป​แบบ​หลาก​หลาย แตก​ต่าง​ กัน​นั้น ทำ�ให้ย​ าก​ต่อ​การ​บริหาร​งาน จาก​พระ​ราช​บัญญัติ​สถิติ พ.ศ. 2550 กำ�หนด​ให้​สำ�นักงาน​สถิติ​แห่ง​ชาติ​เป็น​หน่วย​งาน​กลาง​ใน​การ​ ประสาน​การ​จัด​ทำ�​และ​บริหาร​ข้อมูล​สถิติ​ของ​ประเทศ ตลอด​จน​ประสาน​กับ​หน่วย​งาน​ใน​การ​สร้าง​เครือ​ข่าย​ สถิติ​เพื่อ​ให้​ได้​มา​ซึ่ง​ฐาน​ข้อมูล​สถิติ​ที่​สำ�คัญ​ของ​ประเทศ​อย่าง​บูรณาการ และ​มติ​คณะ​รัฐมนตรี​เมื่อ​วัน​ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2547 ให้​สำ�นักงาน​สถิติ​แห่ง​ชาติ​เป็น​หน่วย​งาน​ดำ�เนิน​การ​โครงการ​ศูนย์​สารสนเทศ​แห่ง​ชาติ ซึ่ง​มี​วัตถุประสงค์​เพื่อ​ทำ�​หน้าที่​ใน​การ​บริหาร​ข้อมูล​ของ​ชาติ​โดย​เป็น​แหล่ง​รวบรวม​และ​บูรณ​า​การ​ข้อมูล​เพื่อ​ กลั่น​กรอง​และ​สนับสนุน​ข้อมูล​ให้​แก่​ศูนย์​ปฏิบัติ​การ​นายก​รัฐมนตรี​ใน​การ​วินิจฉัย​สั่ง​การ​บริหาร​ราชการ​ แผ่นดิน ตลอด​จน​ใน​การ​ประสาน​งาน​ด้าน​ข้อมูล​ระหว่าง​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​และ​เอกชน​ภาย​ใต้​มาตรฐาน​ เดียวกัน ดังน​ ั้น เพื่อใ​ ห้เ​กิดป​ ระสิทธิภาพ​สูงสุดแ​ ละ​ลด​ความ​ซ้ำ�​ซ้อน​ใน​การ​ดำ�เนินง​ าน สำ�นักงาน​สถิติแ​ ห่งช​ าติ​ จึงไ​ ด้ท​ ำ�​แผน​แม่บท​สถิตแิ​ ละ​แนวทาง​ใน​การ​แลก​เปลี่ยน​และ​เชื่อม​โยง​ข้อมูลภ​ าค​รัฐเ​พื่อใ​ ห้ส​ ามารถ​ใช้ป​ ระโยชน์​ จาก​ข้อมูลแ​ ละ​สารสนเทศ​สถิติ​ที่ห​ น่วย​งาน​ผลิต​ร่วม​กัน​ขึ้น

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ม ม

ธ ส

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.19 แผนผังแ​ สดง​โครง​ข่าย​การ​เชื่อม​โยง​และ​บูรณ​า​การ​สารสนเทศ​ สถิติ​ภาค​รัฐ​เพื่อ​พัฒนา​เป็น​ศูนย์ส​ ารสนเทศ​แห่งช​ าติ

ที่มา: ศูนย์​สารสนเทศ​แห่งช​ าติ สำ�นักงาน​สถิติ​แห่ง​ชาติ

ธ ส


13-50

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

ใน​การ​เชื่อม​โยง​เพื่อ​แลก​เปลี่ยน​ข้อมูล​สถิติ​ระหว่าง​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ สำ�นักงาน​สถิติ​แห่ง​ชาติ​ได้​ ติต​ตั้ง​เครื่อง​คอมพิวเตอร์​แม่​ข่าย (server) ณ ศูนย์​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​ประจำ�​กระทรวง​ ทั้ง 20 กระทรวง พร้อม​ระบบ​เชื่อม​โยง​และ​แลก​เปลี่ยน​ข้อมูล​ด้วย​ระบบ​สแทต​เอ็กซ์​เชน​จ์ (statXchange) ด้วย​เทคโนโลยี​เว็บเซอร์วิส (web services) เพื่อ​ช่วย​ให้​หน่วย​งาน​สามารถ​สร้าง​ระบบ​เว็บเซอร์วิส​ใน​การ​ แลก​เปลี่ยน​ข้อมูลไ​ ด้​อย่าง​รวดเร็ว​ภาย​ใต้​มาตร​ฐาน​สแทต​เอ็กซ์​เอ็ม​แอล (statXML) และ​แนวทาง​ของ​กรอบ​ แนวทาง​การ​เชื่อม​โยง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​แห่ง​ชาติ (TH e-GIF) ซึ่ง​ปัจจุบัน​มี​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​ระดับ​ กระทรวง​และ​กรม​ได้น​ ำ�​ข้อมูลเ​ข้า​สู่ร​ ะบบ​เพื่อ​การ​แลก​เปลี่ยน และ​เริ่ม​ให้​บริการ​ตั้งแต่​ปี พ.ศ. 2551 ศูนย์​สารสนเทศ​แห่ง​ชาติ เป็น​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​แบบ​จี​ทู​จี (G2G) และ​จี​ทู​ซี (G2C) ผู้​ใช้​อัน​ ได้แก่​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​และ​ประชาชน​สามารถ​ค้นหา​รายการ​ข้อมูล​ได้​จาก www.nso.go.th หรือ www. nic.go.th ซึ่ง​เชื่อม​โยง​ไป​ยัง​ข้อมูลต​ าม​รายการ​ที่อ​ ยู่​ใน​ฐาน​ข้อมูล​ของ​แต่ละ​หน่วย​งาน​โดย​อัตโนมัติ จาก​ความ​ร่วม​มือ​ระหว่าง​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ ทำ�ให้​เกิด​จุด​เริ่ม​ต้น​ของ​กา​รบู​รณา​การ​และ​เชื่อม​โยง ​ข้อมูล​ภาค​รัฐ หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​สามารถ​ใช้​ประโยชน์​จาก​ข้อมูล​สถิติ​หรือ​สารสนเทศ​ที่​หน่วย​งาน​ต่างๆ เป็น ผ​ ูผ้​ ลิตร​ ่วม​กันไ​ ด้ เกิดก​ า​รบูร​ ณา​การ​ข้อมูลต​ ัวช​ ีว้​ ัดแ​ ละ​ข้อมูลส​ ถิตทิ​ ีเ่​กี่ยวข้อง​เพื่อใ​ ช้ใ​ น​การ​วิเคราะห์ผ​ ลก​ระ​ทบ​ ใน​การ​ดำ�เนิน​นโยบาย​ต่างๆ เนื่องจาก​ข้อมูล​มี​ความ​ทัน​สมัย​เป็น​เอกภาพ​จาก​แหล่ง​ผลิต​โดยตรง ผู้​ใช้​ข้อมูล​ สามารถ​ค้นหา​และ​เรียก​ใช้​ข้อมูล​สถิติ​ภาค​รัฐ​ผ่าน​อินเทอร์เน็ต​จาก​แหล่ง​เดียว​ได้​ตลอด​เวลา ลด​ปัญหา​และ ​งบ​ประมาณ​ใน​การ​เก็บ​ข้อมูล​ซ้ำ�​ซ้อน และ​ลด​ภาระ​ใน​การ​จัด​เก็บ​ข้อมูล​แก่​ผู้​ใช้​งาน​แต่ละ​ครั้ง

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ม ม

ธ ส

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.20 หน้าจ​ อแส​ดง​ผล​การ​ค้นหา​ข้อมูล​อัตรา​การ​ว่าง​งาน​ราย​เดือน​ย้อน​หลัง 3 ปี

ที่มา: www.nic.go.th

ธ ส


ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

13-51

ธ ส

กรณี​ตัวอย่าง​ที่ 3 ศูนย์ส​ ารสนเทศ​แห่งช​ าติ​กับ​การ​บริการ​ภูมิ​สารสนเทศ​สถิติ​ของ​สำ�นักงาน​ สถิติ​แห่งช​ าติ

ธ ส

ระบบ​เอ็น​เอส​โอ-จีไ​ อ​เอส (NSO-GIS - National Statistical Office-Geographic Information System) หมาย​ถึง ระบบ​สารสนเทศ​สถิติ​บน​พื้นที่​ตั้ง​ทาง​ภูมิศาสตร์ หรือ​อาจ​เรียก​สั้นๆ ว่า “ภูมิ​สารสนเทศ​ สถิต”ิ ก็ได้ เป็นน​ วัตกรรม​ใหม่เ​พือ่ ก​ าร​บริการ​ของ​ส�ำ นักงาน​สถิตแ​ิ ห่งช​ าติ เปิดใ​ ห้บ​ ริการ​ตัง้ แต่ว​ นั ท​ ี่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 เป็นต้นม​ า ผู้​ใช้​สามารถ​นำ�​ภูมิ​สารสนเทศ​สถิติ​หลาก​หลาย​รายการ​บน​พื้นที่​เดียวกัน​มา​เปรียบ​เทียบ​กัน​เพื่อ​ การ​วิเคราะห์​แบบ​เจาะ​ลึก​ได้ จาก​ตัวอย่าง​ข้าง​ล่าง​จะ​เห็น​การ​แสดง​ความ​เข้ม​ของ​สี​แตก​ต่าง​กัน​บน​พื้นที่​ของ​ แต่ละ​จังหวัด เป็นการ​นำ�​เสนอ​เรื่อง​ความ​หนา​แน่น​ของ​ประชากร​ประเทศไทย​ซึ่ง​ผู้​ใช้​สามารถ​กำ�หนด​เงื่อนไข​ หรือ​หลัก​เกณฑ์​ใน​การ​แบ่งก​ ลุ่ม​โดย​ผู้ใ​ ช้​เอง​ได้

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.21 แผนทีแ่​ สดง​สถาน​ที่​ท่อง​เที่ยว​และ​เส้น​ทาง​คมนาคม​เพื่อ​นำ�​ไป​ทับ​ซ้อน​ บน​ภูมิ​สารสนเทศ​ความ​หนา​แน่น​ของ​ประชากร

ธ ส

ธ ส

ที่มา: การ​สัมมนา​เปิด​ตัว NSO - GIS Powerpoint Presentation วัน​ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 สำ�นักงาน​สถิติ​แห่ง​ชาติ

ผู้​ใช้​ยัง​สามารถ​นำ�​ภูมิ​สารสนเทศ​ที่​สำ�นักงาน​สถิติ​แห่ง​ชาติ​เตรียม​ไว้​ไป​ทับ​ซ้อน​กับ​ภูมิ​สารสนเทศ​ ของ​หน่วย​งาน​อื่น ตัวอย่าง​เช่น เมื่อ​กระทรวง​คมนาคม​ต้องการ​ตัดถนน​ซึ่ง​มี​ความ​สัมพันธ์​กับ​ความ​หนา​แน่น​ ของ​ประชากร​ไทย​ใน​แต่ละ​พื้นที่ กระทรวง​คมนาคม​ก็​สามารถ​นำ�​ร่าง​แผนที่​การ​สร้าง​เส้น​ทาง​คมนาคม​มา​ทับ​ ซ้อน​ลง​ไป​บน​ภูมิ​สารสนเทศ​ความ​หนา​แน่น​ของ​ประชากร​ที่​สำ�นักงาน​สถิติ​แห่ง​ชาติ​ประกอบ​การ​วิเคราะห์ได้ หรือ​ใน​กรณี​กระทรวงการ​ท่อง​เที่ยว​ต้องการ​ให้​กระทรวง​คมนาคม​ตัดถนน​ไป​ยัง​พื้นที่​ที่​จะ​จัด​ให้​เป็น​อัน​ซีน​ ไทย​แลนด์ (Unseen Thailand) ตาม​ที่​กำ�ลัง​ส่ง​เสริม​ให้​ไป​ท่อง​เที่ยว​กัน​อยู่​นั้น ก็​สามารถ​ทำ�การ​ทับ​ซ้อน 3 ชั้น เพื่อต​ อบ​โจทย์​ของ​กระทรวง​การ​ท่อง​เที่ยว​ได้

ธ ส


13-52

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.22 ผล​จาก​การ​ทับซ​ ้อน​สถาน​ที่​ท่อง​เที่ยว​เส้น​ทาง​คมนาคม​และ​ความ​หนา​แน่นข​ อง​ประชากร

ธ ส

ที่มา: รายงาน​ผล​การ​สัมมนา​เปิด​ตัว NSO – GIS

Powerpoint Presentation วันท​ ี่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 สำ�นักงาน​สถิติ​แห่งช​ าติ

ธ ส

ที่มา: www.nic.go.th

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.23 หน้าจ​ อ​การ​เข้าถ​ ึง NSO – GIS ผ่าน​ทาง www. nic.go.th

ธ ส

ธ ส

สำ�หรับ​กระทรวง​สาธารณสุข อาจ​ต้องการ​ทราบ​ว่า​ควร​มี​โรง​พยาบาล​อยู่​ที่​ใด​จึง​จะ​เหมาะ​สม​กับ​ สถานภาพ​ของ​ประเทศ กระทรวง​สาธารณสุข​อาจ​พิจารณา​จาก​พื้นที่​ที่​ประชากร​หนา​แน่น และ​เส้น​ทาง​ คมนาคม​และ​ข้อ​มูลอ​ ื่นๆ เพื่อ​ประกอบ​การ​วิเคราะห์​ใน​ลักษณะ​เดียวกัน


ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

13-53

ธ ส

สำ�นักงาน​สถิติ​แห่ง​ชาติ​ใช้​มาตรฐาน​ของ​โอ​จี​ซี (Open Geospatial Consortium - OGC) ใน​ เรื่อง​ของ​บริการ​ข้อมูล​ภาพ​แผนที่​บน​เว็บ (Web Map Service2 - WMS) และ​บริการ​ข้อมูล​เว็ก​เตอร์​บน​ เว็บ (Web Feature Service3) ตาม​กรอบ​แนวทาง​การ​เชื่อม​โยง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​แห่ง​ชาติ (TH e-GIF) ซึ่ง​ผู้​ใช้​สามารถ​สืบค้น​ระบบ​เอ็น​เอส​โอ-จี​ไอ​เอส (NSO-GIS) ได้​จาก 2 ช่อง​ทาง​คือ เว็บไซต์​ของ​สำ�นักงาน ​สถิติ​แห่ง​ชาติ​ที่ www.nso.go.th หรือ​เว็บไซต์​ของ​ศูนย์​สารสนเทศ​แห่ง​ชาติ​ที่ www.nic.go.th นับ​เป็น​ ระบบ​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์​ที่​ได้จ​ าก​การ​เชื่อม​โยง​ข้อมูล​ภาค​รัฐ​อีก​บริการ​หนึ่ง

ธ ส

ธ ส

หลัง​จาก​ศึกษา​เนื้อหา​สาระ​เรื่อง​ที่ 13.3.2 แล้ว โปรด​ปฏิบัติ​กิจกรรม 13.3.2 ใน​แนว​การ​ศึกษา​หน่วย​ที่ 13 ตอน​ที่ 13.3 เรื่อง​ที่ 13.3.2

ธ ส

ธ ส

เรื่อง​ที่ 13.3.3 โครงสร้าง​พื้น​ฐานที่​สำ�คัญ​ต่อ​การ​พัฒนา​ รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์

ธ ส

โครงสร้าง​พื้น​ฐาน​สารสนเทศ​ใน​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​มี​หลาย​ส่วน​ด้วย​กัน ไม่​ว่า​จะ​เป็น​ ใน​ด้าน​เครือ​ข่าย​สื่อสาร​และ​โทรคมนาคม ด้าน​ความ​มั่นคง​ปลอดภัย​ของ​ระบบ​สารสนเทศ ด้าน​กฎหมาย และ​ด้าน​บุคลากร แต่​ที่​จะ​นำ�​มา​กล่าว​ใน​ที่​นี้​จะ​เป็น​เพียง​ตัวอย่าง​สำ�คัญ​บาง​ส่วน​เพื่อ​ประกอบ​ให้​เห็น​ภาพ​ โดย​รวม​เท่านั้น

ธ ส

1. โครง​ข่าย​สื่อสาร​ข้อมูลเ​พื่อ​เชื่อม​โยง​สารสนเทศ​ของ​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ

ธ ส

เพื่อ​ให้การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​เป็น​รูป​ธรรม​อย่าง​จริงจัง กระทรวง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ ​และ​การ​สื่อสาร จึง​ได้​สร้าง​ความ​พร้อม​ด้าน​โครง​ข่าย​ที่​สามารถ​ประสาน เชื่อม​โยง​ข้อมูล​และ​สารสนเทศ ​ระหว่าง​หน่วย​งาน​ด้วย​เครือ​ข่าย​ความเร็ว​สูง ที่​มีป​ ระสิทธิภาพ มี​ความ​ปลอดภัย สามารถ​ใช้​งาน​กับ​สื่อ​หลาก​ หลาย​รูป​แบบ (multimedia)

ธ ส

2 Web Map Service (WMS) คือ ส่วน​ที่ใ​ ห้บ ​ ริการ​ข้อมูลใ​ น​ส่วน​ของ​ข้อมูลภ​ าพ​ใน​ระบบ​เว็บเซอร์วิสแ​ บบ​เปิด (Open Web

Service - OWS) อันไ​ ด้แก่ ภาพถ่าย​ดาวเทียม​ ภาพถ่าย​ทาง​อากาศ 3 Web Feature Service (WFS) คือ ส่วน​ที่​ให้​บริการ​ข้อมูล​ที่​เป็น​เว็ก​เตอร์ (vector) ใน​ระบบ​เว็บเซอร์วิส​แบบ​เปิด (Open Web Service - OWS)


13-54

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

โครง​ข่าย​สื่อสาร​ข้อมูล​เชื่อม​โยง​สารสนเทศ​ของ​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​หรือ​จิน (Government Information Network - GIN) จะ​สามารถ​ลด​ค่า​ใช้​จ่าย​ใน​การ​ปฏิบัติ​งาน​ทั้ง​ระบบ​ใน​ภาพ​รวม เป็นการ​ลงทุน​ ที่​คุ้ม​ค่า ไม่​ซ้ำ�​ซ้อน หรือ​เกิด​ผล​ใน​ทาง​ปฏิบัติ ทั้งนี้​เป็นการ​รองรับ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ของ​หน่วย​งาน​ ภาค​รัฐ​และ​การ​ให้​บริการ​แก่​ประชาชน​ได้​ครอบคลุม​พื้นที่​ทั่ว​ประเทศ ตลอด​จน​เพิ่ม​ประสิทธิภาพ​และ​ความ​ รวดเร็ว​ใน​การ​ทำ�งาน​ระหว่าง​ภาค​รัฐ เอกชน และ​ประชาชน โดย​การ​พัฒนา​เครือ​ข่าย​ระดับ​กระทรวง​และ​ หน่วย​งาน​ระดับ​กรม​ทั้ง​ใน​ส่วน​กลาง​และ​ส่วน​ภูมิภาค เพื่อ​เป็น​เครือ​ข่าย​สื่อสาร​ภายใน​ที่​เชื่อม​โยง​หน่วย​งาน​ ของ​ภาค​รัฐ​เข้า​ด้วย​กัน ทำ�ให้​ทุก​ส่วน​ราชการ​สามารถ​สื่อสาร​ส่ง​ผ่าน​ข้อมูล​และ​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์​ระหว่าง​ กัน​ได้​อย่าง​รวดเร็ว นอกจาก​นั้น​ยัง​เป็น​เครือ​ข่าย​สารสนเทศ​กลาง​ภาค​รัฐ​ที่​สร้าง​โอกาส​ใน​การ​เข้า​ถึง​บริการ​ ของ​รัฐ​อย่าง​เท่า​เทียม​กัน​เพื่อ​ให้​ประชาชน ชุมชน และ​องค์กร​ต่างๆ สามารถ​เข้า​ถึง​แหล่ง​ข้อมูล​ข่าวสาร​ ภาค​รัฐ การ​ให้​บริการ​ด้าน​การ​ศึกษา การ​สาธารณสุข และ​โล​จิ​สติ​กส์ รวม​ทั้ง​เพิ่ม​ประสิทธิภาพ​การ​ใช้​งาน​ อินเทอร์เน็ตเ​กตเวย์ (internet gateway) ของ​ภาค​รัฐ​โดย​การ​จัดสรร​แบนด์วิธ (bandwidth) ให้เ​หมาะสม​ กับ​การ​ใช้​งาน​ผ่าน​ระบบ​อินทราเน็ต (intranet) และ​อินเทอร์เน็ต (internet) ของ​ภาค​รัฐ ทำ�ให้​ประหยัด​ งบ​ประมาณ​ค่า​อินเทอร์เน็ต​เกตเวย์ (internet gateway) และ​เพิ่ม​ขีด​ความ​สามารถ​ใน​การ​แข่งขัน​ของ ​ประเทศ​เพื่อ​พัฒนา​ประเทศไทย​ไป​สู่เ​ศรษฐกิจ​ฐาน​ความ​รู้

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.24 แผนผังแ​ สดง​การ​ต่อ​เชื่อม​โครง​ข่าย GIN กับส​ ่วน​ราชการ​ และ​แสดง Network Design – Access Network

ที่มา: Powerpoint Presentation หัวข้อ “ศักยภาพ​ด้าน​สื่อสาร​โทรคมนาคม​ของ​กลุ่ม consortium กับ​โครง​ข่าย Government Information Network” โดย กลุ่ม Consortium บมจ.ที​โอ​ที และ บมจ.กสท. โทรคมนาคม

ปัจจุบัน​ได้​มี​การ​เริ่ม​ใช้​เครือ​ข่าย​โครง​ข่าย​สื่อสาร​ข้อมูล​เชื่อม​โยง​สารสนเทศ​ของ​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​ แล้ว​ใน​หลาย​ระบบ​ที่​สำ�คัญ เช่น ระบบ​บริหาร​การ​เงิน​การ​คลัง​ภาค​รัฐ​แบบ​อิเล็กทรอนิกส์ (Government Fiscal Management Information System - GFMIS) เพื่อ​การ​เบิก​จ่าย​และ​นำ�​ส่ง​งบ​ประมาณ ระบบ​


ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

13-55

ธ ส

การ​ประชุม​ทาง​ไกล​ผ่าน​จอภาพ​หรือ​วิ​ดี​โอ​คอน​เฟอเรนซ์ (video conference) ระหว่าง​ราชการ​ส่วน​กลาง​ กับ​ราชการ​ส่วน​ภูมิภาค ระบบ​การ​สื่อสาร​ด้วย​เทคโนโลยี​เพื่อ​การ​สื่อสาร​โทรศัพท์​ทาง​ไกล​หรือ​วี​โอ​ไอ​พี (Voice Over Internet Protocol - VoIP) และ​ระบบ​สาย​ด่วน​เพื่อ​ให้​บริการ​แก่​ประชาชน​ใน​การ​แจ้ง​เหตุ​ ใน​พืน้ ที่ และ​ระบบ​จะ​เชือ่ ม​ตอ่ ก​ าร​แจ้งเ​หตุร​ ะหว่าง​ส�ำ นักงาน​ปอ้ งกันแ​ ละ​บรรเทา​สาธารณภัยจ​ งั หวัดท​ ัว่ ป​ ระเทศ​ กับ​กรม​ป้องกัน​และ​บรรเทา​สาธารณภัย รวม​ทั้ง​เป็น​ช่อง​ทาง​สาย​ด่วน​ผู้​ว่า​ราชการ​จังหวัด รวม​ถึง​จังหวัด​ ชายแดน​ภาค​ใต้​ใช้เ​พื่อเ​ชื่อม​โยง​ไป​ยังศ​ ูนย์​อำ�นวย​การ​บริหาร​จังหวัด​ชายแดน​ภาค​ใต้ (ศอ.บต.) เป็นต้น นอกจาก​นี้​ยัง​ใช้​เพื่อ​การ​บริการ​ระบบ​เชื่อม​โยง​และ​แลก​เปลี่ยน​ข้อมูล​ภาค​รัฐ เช่น ระบบ​สารบรรณ​ อิเล็กทรอนิกส์​ระหว่าง​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ ระบบ​ศูนย์​สารสนเทศ​แห่ง​ชาติ ระบบ​เชื่อม​โยง​แลก​เปลี่ยน​ข้อมูล​ สถิติร​ ะหว่าง​สำ�นักงาน​สถิติ​แห่ง​ชาติ​และ​สำ�นักงาน​สถิติ​จังหวัด​ทั่วป​ ระเทศ ระบบ​เชื่อม​โยง​ข้อมูล​ใน​กระบวน การ​ยุติธรรม​ของ​ศูนย์แ​ ลก​เปลี่ยน​ข้อมูลก​ ระบวนการ​ยุติธรรม​กับส​ ำ�นักงาน​ตำ�รวจ​แห่งช​ าติ กรม​การ​ปกครอง สำ�นักงาน​คณะ​กรรมการ​ป้องกัน​และ​ปราบ​ปราม​ยา​เสพ​ติด ระบบ​เชื่อม​โยง​ข้อมูล​เพื่อ​การนำ�​เข้า​และ​ส่ง​ออก (e-Logistics) ระหว่าง​หน่วย​งาน​ด้วย​เครือ​ข่าย​สารสนเทศ​กลาง​ภาค​รัฐ​กับ​กรม​ศุลกากร กรม​สรรพสามิต กรม​อุทยาน​แห่ง​ชาติ สัตว์​ป่า​และ​พันธุ์​พืช กรม​ประมง สำ�นักงาน​คณะ​กรรมการ​อาหาร​และ​ยา กรม​ปศุสัตว์ ระบบ​เชื่อม​โยง​ข้อมูล​งาน​ด้าน​ประกัน​สังคม​ระหว่าง​สำ�นักงาน​ประกัน​สังคม​และ​สำ�นักงาน​ประกัน​สังคม ​จังหวัด​ทั่ว​ประเทศ และ​ระบบ​เชื่อม​โยง​ข้อมูล​ร้อง​ทุกข์​สำ�นักงาน​ปลัด​สำ�นัก​นายก​รัฐมนตรี​กับ​หน่วย​งาน​ ระดับ​กรม​และ​สำ�นักงาน​จังหวัด​ต่างๆ ตลอด​จน​ให้​บริการ​ระบบ​งาน​ด้าน​การ​พัฒนา​สังคม​และ​ความ​มั่นคง​ ของ​มนุษย์ ระบบ​ข้อมูล​ข่าวสาร​สู่ส​ าธารณะ​ด้วย​เว็บไซต์​ของ​จังหวัด เป็นต้น

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

2. ผู้​ให้​บริการ​ออก​ใบรับ​รอง​อิเล็กทรอนิกส์แ​ ห่ง​ชาติ : ศูนย์กลาง​ใน​การ​สร้าง​ความ​เชื่อ​มั่น​ใน​ การ​ใช้​งาน​ร่วม​กันร​ ะหว่าง​ผู้​ให้​บริการต่าง​ราย​กัน ของ​กระทรวง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ และ​การ​สื่อสาร และ​สำ�นัก​บริการ​เทคโนโลยีส​ ารสนเทศ​ภาค​รัฐ

ธ ส

ปัจจุบัน​การ​ให้​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์​ผ่าน​เครือ​ข่าย​สาธารณะ เช่น การ​ให้​บริการ​ทาง​อินเทอร์เน็ต​ ได้​รับ​ความ​นิยม​เพิ่ม​สูง​ขึ้น​อย่าง​มาก โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ใน​การ​ติดต่อ​ซื้อ​ขาย​หรือ​ให้​บริการ​โดย​การ​ทำ�​ ธุรกรรม​ทาง​อิเล็กทรอนิกส์ (e-Transactions) หรือ​การ​พาณิชย์​อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) ทั้ง​ใน ​ภาค​เอกชน​และ​ใน​ภาค​รัฐ เช่น การ​ตกลง​ทำ�​ธุรกรรม​ระหว่าง​บริษัท​แม่​และ​บริษัท​ใน​เครือ การ​ซื้อ​ขาย​หลัก ​ทรัพย์​ทาง​ออนไลน์ การ​ชำ�ระ​ภาษี​แบบ​ออนไลน์ และ​ระบบ​แลก​เปลี่ยน​ข้อมูล​ทาง​อิเล็กทรอนิกส์ (EDI) เป็นต้น ล้วน​จำ�เป็น​ต้อง​มี​มาตรการ​ใน​การ​รักษา​ความ​มั่นคง​ปลอดภัย​ของ​ข้อมูล​และ​การ​ยืนยัน​ตัว​บุคคล​ ที่​ทำ�​ธุรกรรม​ดัง​กล่าว​ทั้งส​ ิ้น ทั้งนี้ เพื่อใ​ ห้ธ​ ุรกรรม​ที่​ทำ�​นั้น​มี​ความ​น่า​เชื่อ​ถือ ด้วย​เหตุ​นี้ เทคโนโลยี​โครงสร้าง​พื้น​ฐาน​กุญแจ​สาธารณะ​หรือ​พีเค​ไอ (Public Key Infrastructure - PKI) จึง​ได้​ถูก​พัฒนา​ขึ้น​เพื่อ​ให้​สามารถ​นำ�​ไป​ประยุกต์​ใช้​ใน​การ​รักษา​ความ​ลับ​ของ​ข้อมูล​และ​ยืนยัน ตัว​บุคคล​ได้​อย่าง​มี​ประสิทธิภาพ ใน​ทาง​ปฏิบัติ​ผู้​ให้​บริการ​เกี่ยว​กับ​เทคโนโลยี​โครงสร้าง​พื้น​ฐาน​กุญแจ​ สาธารณะ​ดัง​กล่าว​หรือ​ที่​มัก​เรียก​กัน​ว่า “ผู้​ให้​บริการ​ออก​ใบรับ​รอง​อิเล็กทรอนิกส์” หรือ​ซี​เอ (Certification Authority - CA) จะ​ทำ�​หน้าที่​ออก​ใบรับ​รอง​อิเล็กทรอนิกส์​ซึ่ง​บรรจุ​กุญแจ​สาธารณะ (public key)

ธ ส

ธ ส


13-56

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

สำ�หรับใ​ ช้ใ​ น​การ​ตรวจ​สอบ​หรือพ​ ิสูจน์ต​ ัวบ​ ุคคล​ผู้ถ​ ือใ​ บรับร​ อง​อิเล็กทรอนิกส์ บุคคล​ดังก​ ล่าว​จะ​ยืนยันต​ ัวต​ น​ ด้วย​การนำ�​กุญแจ​ส่วน​ตัว (private key) ที่​สร้าง​ขึ้น​คู่​กัน​กับ​กุญแจ​สาธารณะ​ซึ่ง​บรรจุ​ไว้​ใน​ใบรับ​รอง​ อิเล็กทรอนิกส์ดัง​กล่าว​ไป​ใช้​สร้าง​ลายมือ​ชื่อ​ดิจิทัล (digital signature) อัน​เป็น​ลายมือ​ชื่อ​อิเล็กทรอนิกส์​ ที่​เชื่อ​ถือ​ได้ (reliable electronic signature) ชนิด​หนึ่ง อีก​ทั้ง​ยัง​สามารถ​นำ�​เอา​กุญแจ​สาธารณะ​ดัง​กล่าว ​นั้น​ไป​ใช้​ใน​การ​เข้า​รหัส​ลับ​เพื่อ​รักษา​ความ​ลับ​ของ​ธุรกรรม​ที่​ทำ�​ขึ้น โดย​เจาะจง​ให้​แต่​เพียง​บุคคล​ที่​ถือ​กุญแจ ส่วน​ตัว​อัน​เป็น​กุญแจ​ที่​ต้อง​ใช้​คู่​กับ​กุญแจ​สาธารณะ​ข้าง​ที่​มี​การนำ�​ไป​ประยุกต์​ใช้​เพื่อ​รักษา​ความ​ลับ​นั้น​ สามารถ​อ่าน​ข้อมูล​ที่​เข้า​รหัส​ลับ​นั้น​ได้​เท่านั้น ดัง​นั้น​ใบรับ​รอง​อิเล็กทรอนิกส์​ที่​ออก​โดย​ผู้​ให้​บริการ​ออก​ ใบรับ​รอง​อิเล็กทรอนิกส์ (CA) จึง​มี​ความ​สำ�คัญ​อย่าง​ยิ่ง​ใน​การ​ประยุกต์​ใช้​ทั้ง​ใน​ขั้น​ตอน​ของ​การ​ตรวจ​ สอบ​หรือ​พิสูจน์​ตัว​บุคคล​และ​ใน​ขั้น​ตอน​ของ​การนำ�​ไป​ใช้​เข้า​รหัส​ลับ​เพื่อ​รักษา​ความ​ลับ​ของ​ธุรกรรม​ที่​ทำ�​ ทาง​อิเล็กทรอนิกส์​ทั้ง​หลาย​ตาม​ราย​ละเอียด​ที่​ปรากฏ​ใน​เรื่อง​ความ​มั่นคง​ปลอดภัย​ของ​ระบบ​สารสนเทศ (information security) แล้วน​ ั้น อย่างไร​ก็ตาม ใน​การ​ใช้ใบ​รับรอง​อิเล็กทรอนิกส์ท​ ี่​ออก​โดย​ผู้​ให้บ​ ริการ​ออก​ใบรับร​ อง​อิเล็กทรอนิกส์ (CA) นั้น บาง​ครั้ง​ผู้​ใช้​งาน​อาจ​ประสบ​กับ​ปัญหา​ใน​การ​ทำ�งาน​ร่วม​กัน​ระหว่าง​ระบบ​สำ�หรับ​ใบรับ​รอง​ที่​ออก ​โดย​ผู้​ให้​บริการ​ออก​ใบรับ​รอง​อิเล็กทรอนิกส์ (CA) ต่าง​ราย​กัน ด้วย​เหตุ​นี้​จึง​ได้​มี​การ​พัฒนา​ระบบ​การ​มอบ​ ความ​ไว้​วางใจ (trust model) ระหว่าง​ผู้​ให้​บริการ​ออก​ใบรับ​รอง​อิเล็กทรอนิกส์ (CA) ขึ้น​ด้วย​การ​รับรอง​ ใบรับ​รอง​อิเล็กทรอนิกส์​ที่​ออก​โดย​ผู้​ให้​บริการ​ออก​ใบรับ​รอง​อิเล็กทรอนิกส์ (CA) แต่ละ​ราย​เป็น​ลำ�ดับ​ชั้น (hierarchy) โดย​มี​ผู้​ให้​บริการ​ออก​ใบรับ​รอง​อิเล็กทรอนิกส์ (CA) ราย​หนึ่ง​อยู่​ใน​ลำ�ดับ​ชั้น​สูงสุด​ที่​นิยม เ​รียก​กันว​ ่า ผูใ้​ ห้บ​ ริการ​ออก​ใบรับร​ อง​อิเล็กทรอนิกส์ห​ ลัก (Root CA) ทำ�​หน้าทีร่​ ับรอง​ใบรับร​ อง​อิเล็กทรอนิกส์​ ของ​ผู้​ให้​บริการ​ออก​ใบรับ​รอง​อิเล็กทรอนิกส์ (CA) รา​ยอื่นๆ และ​หาก​ผู้​ให้​บริการ​ออก​ใบรับ​รอง​อิเล็กทรอนิกส์​หลัก (Root CA) นั้น​เป็น​ของ​ระดับ​ประเทศ จะ​เรียก​ว่า ผู้​ให้​บริการ​ออก​ใบรับ​รอง​อิเล็กทรอนิกส์​ หลัก​ของ​ชาติ​หรือเ​อ็น​อาร์​ซี​เอ (National Root CA - NRCA) ผู้​ให้​บริการ​ออก​ใบรับ​รอง​อิเล็กทรอนิกส์​หลัก​ของ​ชาติ (NRCA) เป็น​ศูนย์กลาง​ใน​การ​สร้าง​ความ ​เชื่อ​มั่น​ใน​การ​ใช้​ระบบ​การ​ออก​ใบรับ​รอง​อิเล็กทรอนิกส์ และ​การ​ใช้​งาน​ร่วม​กัน (interoperability) ระหว่าง​ ผู้​ให้​บริการ​ออก​ใบรับ​รอง​อิเล็กทรอนิกส์​ต่าง​ราย​กัน โดย​เป็น​ผู้​ออก ต่อ​อายุ และ​เพิก​ถอน​ใบรับ​รอง​ อิเล็กทรอนิกส์​ของ​ผู้​ให้​บริการ​ออก​ใบรับ​รอง​อิเล็กทรอนิกส์ (CA) ตลอด​จน​เป็น​ศูนย์กลาง​ใน​การ​แลก​ เปลี่ยน​ใบรับ​รอง​อิเล็กทรอนิกส์​กับ​ผู้​ให้​บริการ​ใน​ต่าง​ประเทศ​ให้​สามารถ​ติดต่อ​สื่อสาร​กัน​ได้​โดย​ไม่มี​ข้อ

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

ธ ส

​ขัดข้อง เพิ่มค​ วาม​เชื่อ​มั่นใ​ น​การ​ทำ�​ธุรกรรม​ออนไลน์

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.25 ตัวอย่าง​ระบบ​การ​มอบ​ความ​ไว้ว​ างใจ (trust model) ของ​ประเทศไทย

ที่มา: http://www.nrca.go.th/about_nrca.html

ธ ส

13-57

ปัจจุบันไ​ ด้ด​ ำ�เนินก​ าร​เชื่อม​โยง​ระบบ​การ​ออก​ใบรับร​ อง​อิเล็กทรอนิกส์ข​ อง​ผูใ้​ ห้บ​ ริการ​ภายใน​ประเทศ เช่น บมจ.ที​โอ​ที บมจ.กสท. โทรคมนาคม และ​บจ.ไทย​ดิจิทัล​ไอ​ดี เป็นต้น เสร็จ​เรียบร้อย​แล้ว และ​อยู่​ใน ​ระหว่าง​ทดสอบ​การ​เชื่อม​โยง​ใบรับ​รอง​อิเล็กทรอนิกส์​ระหว่าง​ประเทศ (CA-CA interoperability) โดย​ ทดสอบ​ร่วม​กับ​ประเทศ​สิงคโปร์ สาธารณรัฐ​ไต้หวัน และ​เขต​ปกครอง​พิเศษ​ฮ่องกง​ภาย​ใต้​กรอบ​การ​ค้า​ เสรี​ระหว่าง​ประเทศ (FTA) ผู้​ให้​บริการ​ออก​ใบรับ​รอง​อิเล็กทรอนิกส์​หลัก​ของ​ชาติ (NRCA) เป็น​หนึ่ง​ใน​โครงสร้าง​พื้น​ฐาน​ เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ที่​มี​ความ​สำ�คัญต​ ่อ​การ​ทำ�​ธุรกรรม​ทาง​อิเล็กทรอนิกส์ เพราะ​เป็น​กลไก​ใน​การ​เชื่อม​โยง​ ระบบ​ลายมือ​ชื่อ​อิเล็กทรอนิกส์​ที่​มี​การ​ใช้​งาน​ใน​ประเทศ และ​ต่าง​ประเทศ ให้​สามารถ​ยืนยัน​ตัว​ตน​ของ​ผู้​ใช้​ บริการ​ได้ แม้ว่า​จะ​ใช้ใบ​รับรอง​อิเล็กทรอนิกส์​จาก​ผู้​ให้​บริการ​ต่าง​ราย​กัน ผู้​ทำ�​ธุรกรรม​ทาง​อิเล็กทรอนิกส์​ หรือ​นัก​ลงทุน​เกิด​ความ​เชื่อ​มั่น​ใน​การ​ยืนยัน​ตัว​บุคคล​และ​ระบบ และ​ลด​ความ​ยุ่ง​ยาก​ซับ​ซ้อน​ใน​การ​ทำ� ​ธุรกรรม​ทาง​อิเล็กทรอนิกส์​ระหว่าง​ประเทศ ส่ง​ผล​ทำ�ให้​อัตรา​การ​ทำ�​ธุรกรรม​ทาง​อิเล็กทรอนิกส์​ทั้ง​ใน​และ​ ระหว่าง​ประเทศ​เพิ่มส​ ูง​มาก​ขึ้น นอกจาก​นี้ ผู้​ให้​บริการ​ออก​ใบรับ​รอง​อิเล็กทรอนิกส์​หลัก​ของ​ชาติ (NRCA) ยัง​เป็น​โครงสร้าง​ พื้น​ฐาน​สำ�คัญ​ใน​การ​ลด​กระดาษ อัน​จะ​ทำ�ให้​ประเทศไทย​ก้าว​สู่​ระบบ​ไร้​กระดาษ (paperless) ได้​ใน​อนาคต ส่ง​ผล​ต่อ​การก​ระ​ตุ้น​เศรษฐกิจ​ใน​ด้าน​การ​สร้าง​และ​เพิ่ม​ความ​เชื่อ​มั่น​ใน​การ​ทำ�​ธุรกรรม​ทาง​อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่ง​จะ​ส่ง​ผล​ต่อ​การ​เพิ่ม​มูลค่า​ทาง​เศรษฐกิจโ​ ดย​รวม

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


13-58

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

ต่อ​มา​ใน​ปี พ.ศ. 2552 ที่​ประชุม TELSOM4 ครั้ง​ที่ 10 และ​การ​ประชุม​รัฐมนตรี​อาเซียน​ด้าน​ โทรคมนาคม​และ​เทคโนโลยี​สารสนเทศ ครั้ง​ที่ 9 (9th TELMIN5) ยัง​ได้​เห็น​ชอบ​ให้​ประเทศไทย​จัดการ​ ประชุม​เชิง​ปฏิบัติ​การ​เกี่ยว​กับ​การ​ทำ�งาน​ระหว่าง​ผู้​ให้​บริการ​ออก​ใบรับ​รอง​อิเล็กทรอนิกส์ (CA) ใน​ภูมิภาค​ อาเซียน เป็นการ​ขยาย​ความ​ร่วม​มือ​ด้าน​การ​ใช้​งาน​ระหว่าง​ผู้​ให้​บริการ​ออก​ใบรับ​รอง​อิเล็กทรอนิกส์ (CA) ไป​ยัง​ประ​เท​ศอื่นๆ ใน​ภูมิภาค​อาเซียน เพื่อ​ให้​บรรลุ​ผล​ตาม​เป้าห​ มาย​ที่​วาง​ไว้​ต่อ​ไป​อีก​ด้วย

ธ ส

ธ ส

3. ผู้​บริหาร​เทคโนโลยีส​ ารสนเทศ​ระดับส​ ูง

ประเทศไทย​ได้ใ​ ห้ค​ วาม​สำ�คัญ และ​ตระหนักถ​ ึงค​ วาม​จำ�เป็นข​ อง​การ​มผี​ ูบ้​ ริหาร​เทคโนโลยีส​ ารสนเทศ​ ระดับ​สูง​ของ​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​มา​ตั้ง​แต่​ปี พ.ศ. 2541 โดย​คณะ​รัฐมนตรี​ได้​มี​มติ​เมื่อ​วัน​ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2541 ให้​แต่ง​ตั้ง​ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูง (Chief Information Officer - CIO) ประจำ�​ กระทรวง ทบวง กรม โดย​มี​ร อง​ป ลั ด​ก ระทรวง​ห นึ่ ง​ค น และ​ร อง​อ ธิ บ ดี ​ห นึ่ ง​ค น​เ ป็ น​ผู้​บ ริ ห าร โดย​ใ ห้​ สำ�นักงาน ก.พ. เป็น​ผู้ก​ ำ�หนด​ราย​ละเอียด​คุณสมบัติ​และ​อำ�นาจ​หน้าที่​ให้​ส่วน​ราชการ​ถือ​ปฏิบัติ​ต่อ​ไป กับใ​ ห้​ กระทรวง ทบวง และ​หน่วย​งาน​อิสระ​จัด​ทำ�​แผน​แม่บท​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​อย่าง​เป็น​ระบบ​โดย​จัด​ทำ�​แผน 3 ปี และ​ปรับ​ทุก​ปี​ตาม​ความ​เหมาะ​สม​แล้ว​เสนอ​แผน​ควบคู่​ไป​กับ​การ​ขอ​งบ​ประมาณ​ด้าน​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ใน​งบ​ประมาณ​ราย​จ่าย เริ่ม​ตั้งแต่ป​ ี พ.ศ. 2543 เป็นต้น​ไป ต่อ​มา​คณะ​รัฐมนตรี​มี​มติ​เมื่อ​วัน​ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2542 วัน​ที่ 11 มกราคม พ.ศ.2543 วัน​ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2545 และ​วัน​ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 เป็นการ​ย้ำ�​ความ​สำ�คัญ​ต่อ​ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูง ทั้ง​ใน​เรื่อง​การ​พัฒนา จัด​สัมมนา​เชิง​ปฏิบัติ​การ​สำ�หรับ​ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​ สารสนเทศ​ระดับ​สูง​อย่าง​ต่อ​เนื่อง เพื่อ​ประโยชน์​ต่อ​การ​ประสาน​งาน​ระหว่าง​ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ ระดับ​สูง​ใน​อนาคต เพื่อ​ให้​เกิด​ความ​เชื่อม​โยง​เครือ​ข่าย​ข้อมูล​ภาค​รัฐ​ทั้งหมด​ซึ่ง​จะ​มี​ผล​การ​บริหาร​และ​ บริการ​แก่ป​ ระชาชน​อย่าง​มี​ประสิทธิภาพ​เพื่อก​ ้าว​สู่​การ​ปกครอง​ที่​ดี รวม​ทั้งก​ าร​สร้าง​วิสัยท​ ัศน์ด​ ้าน​เทคโนโลยี​ สารสนเทศ​สำ�หรับ​ผู้​บริหาร​ระดับ​สูง และ​ได้​มอบ​หมาย​ให้​ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​กระทรวง​ทุก​ กระทรวง​ไป​บูรณ​า​การ​แผน​ปฏิบัติ​การ​ระดับ​กระทรวง อีก​ทั้ง​ยัง​ให้​กระทรวง​พิจารณา​จัด​ตั้ง​หน่วย​งาน​หรือ ​ทีม​งาน​ภายใน​สำ�นักงาน​ปลัด​กระทรวง​ที่​จะ​ทำ�​หน้าที่​รับ​ผิด​ชอบ​งาน​ใน​ส่วน​ที่​เป็น​ภารกิจ​ของ​ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูงข​ อง​กระทรวง และ​ให้​ทุก​กระทรวง​จัด​ให้​มี​หน่วย​งาน​หรือ​บุคลากร​ที่​จะ​รับ​ผิด​ชอบ​ สนับสนุน​ภารกิจ​ของ​ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูง​ขึ้น​ใน​สำ�นักงาน​ปลัด​กระทรวง​โดย​ให้​มี​ลักษณะ​ ถาวร​ด้วย

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

4 TELSOM ย่อ​มา​จาก the Association of South East Asian Nations (ASEAN) Telecommunications Senior

Officials Meeting 5 TELMIN ย่อ​มา​จาก the Association of South East Asian Nations (ASEAN) Telecommunications and IT Ministers


ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

ธ ส

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.26 หน้าจ​ อแส​ดง​การ​เข้า​ถึง​เว็บ​ผบู้​ ริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูง

ที่มา: www.cio.mict.go.th

ธ ส

13-59

กระทรวง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​เอง​ก็ได้​รับ​มอบ​หมาย​จาก​รัฐบาล​ให้​เป็น​เจ้า​ภาพ ใน​การ​ดำ�เนิน​การ​สร้าง​เครือ​ข่าย​และ​เสริม​สร้าง​ความ​เข้ม​แข็ง​ของ​ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​ สูง​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ ดัง​นั้น​ใน​ปี พ.ศ. 2547 กระทรวง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​จึง​ได้​จัด​ทำ� ​โครงการ​สร้าง​เครือ​ข่าย​และ​เสริม​สร้าง​ความ​เข้ม​แข็ง​ของ​ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูง​หน่วยงาน​ ภาค​รัฐ หรือ​โครงการ​ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูง​เข้ม​แข็ง​ขึ้น โดย​มี​วัตถุประสงค์​เพื่อ​สร้าง ​เครือ​ข่าย​ความ​สัมพันธ์​ของ​ผู้บ​ ริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูง​ภาค​รัฐ​ให้​แน่นแฟ้น​อย่าง​ยั่งยืน มี​พลัง​ใน​ การ​ขับเ​คลื่อน​แผน​งาน​โครงการ​ตาม​นโยบาย​รัฐบาล​และ​ตาม​ภารกิจไ​ ด้อ​ ย่าง​มีป​ ระสิทธิภาพ​โดย​ใช้เ​ทคโนโลยี​ สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​เป็น​เครื่อง​มือ​ใน​การ​สนับสนุน และ​เพื่อ​ให้การ​บริหาร​งาน​เทคโนโลยี​สารสนเทศ ​และ​การ​สื่อสาร เป็น​ไป​ใน​ลักษณะ​บูรณาการ ลด​ขั้น​ตอน​และ​ใช้​ทรัพยากร​อย่าง​มี​ประสิทธิภาพ เป็น​ไป​ใน​ ทิศทาง​เดียวกัน​อย่าง​มี​เอกภาพ โดย​มี​กิจกรรม​ร่วม มี​การ​จัด​ประชุม​เสวนา​ระหว่าง​ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​ สารสนเทศ​ระดับ​สูง​เป็น​ประจำ�​ซึ่ง​จะ​นำ�​ไป​สู่​การ​พัฒนา​ความ​สามารถ​ของ​ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ ​ระดับ​สูง​อย่าง​ก้าว​กระโดด ตลอด​จน​มี​เว็บไซต์​กลาง​รวบรวม​องค์​ความ​รู้​ที่​สำ�คัญ​และ​ประมวล​กิจกรรม​ของ​ ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูง เป็น​ศูนย์กลาง​ใน​การ​รวบรวม​ปัญหา​ของ​ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​ สารสนเทศ​ระดับ​สูง​หน่วย​งาน​ต่างๆ เป็น​เวที​ใน​การ​แลก​เปลี่ยน​ประสบการณ์​และ​พิจารณา​แนวทาง​แก้ไข​ ปัญหา​ร่วม​กัน ตลอด​จน​จัด​ทำ�​วารสาร​ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูง​เข้ม​แข็ง คู่มือ​ปฏิบัติ​งาน​ของ​

ธ ส

ธ ส

ธ ส


13-60

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูง และ​จัด​ทำ�​เอกสาร​แนวทาง​เพื่อ​การ​จัด​ตั้ง​สภา​ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​ สารสนเทศ​ระดับส​ ูง ซึ่งท​ ั้งหมด​นี้​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ที่ท​ ำ�ให้​ประเทศไทย​ได้​รับ​การ​ประเมิน​ด้าน​ผู้​บริหารเทคโนโลยี​ สารสนเทศ​ร ะดั บ ​สู ง จาก​ก าร​จั ด ​อั น ดั บ ​รั ฐ บาล​อิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ​ข อง​ศู น ย์ วิ จั ย ​รั ฐ บาล​อิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ​แ ห่ ง​ มหาวิทยาลัย​วา​เซ​ดะ​ให้​อยู่ใ​ น​ลำ�ดับ​ที่ 3 ของ​ปี​สำ�รวจ​ พ.ศ. 2548 ซึ่ง​เผย​แพร่​ใน​ปี พ.ศ. 2549 (ค.ศ. 2006) อย่างไร​ก็ตาม จาก​การ​สำ�รวจ​ความ​ก้าวหน้า​ใน​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ของ​ประเทศไทย ​โดย​กระทรวง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​เมื่อ​ปี พ.ศ. 2552 พบ​ว่า จาก​พื้น​ฐาน​ความ​รู้​ด้าน​ไอ​ซี​ที​ของ​ผู้​บริหาร​ เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูง ที่​มี​ความ​แตก​ต่าง​กัน​ทำ�ให้​การ​ปรับ​ฐาน​ความ​รู้​ที่​จำ�เป็น​ตาม​หน้าที่​และ​ บทบาท​ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูง ใน​มาตรฐาน​เดียวกัน​ทำ�ได้​ยาก ประกอบ​กับ​ความ​พร้อม​ ด้าน​ไอ​ซี​ที​ของ​แต่ละ​หน่วย​งาน​ก็​มี​ไม่​เท่า​กัน จึง​เป็น​อุปสรรค​ใน​การ​พัฒนา​ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ ระดับ​สูง ให้​มี​ขีด​ความ​สามารถ​พร้อม​ใน​การ​บริหาร​จัดการ​และ​ดูแล​ระบบ​ไอ​ซี​ที​ของ​หน่วย​งาน​ให้​มี​คุณภาพ ​เท่า​เทียม​หรือ​ใกล้​เคียง​กัน รวม​ทั้ง​นโยบาย​เรื่อง​การ​กำ�หนด​เส้น​ทาง​ความ​เจริญ​ก้าวหน้า​ของ​ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูง และ​ผู้​ที่​มี​ศักยภาพ​ใน​ตำ�แหน่ง​ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูง ก็​ยัง​ไม่มี​ หน่วย​งาน​ใด​ดูแล​รับ​ผิด​ชอบ​อย่าง​ชัดเจน จึง​ทำ�ให้​ตำ�แหน่ง​ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูง หลาย​ หน่วย​งาน​ไม่​ได้​รับ​ความ​สนใจ​และ​เป็น​อุปสรรค​ใน​ความ​ต่อ​เนื่อง​ใน​การ​พัฒนา​ด้าน​ไอ​ซี​ทีด​ ้วย ขณะ​เดียวกัน บริษัท ไอบีเอ็ม (IBM) ได้​เชิญ​ชวน​ให้​องค์กร​ต่างๆ ส่ง​เสริม​บทบาท​ผู้​บริหาร​ นวัตกรรม​ระดับ​สูง (Chief Innovation Officer) ใน​องค์กร​ของ​ตน โดย​การ​แปลง​ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​ สารสนเทศ​ระดับ​สูง ให้​เป็น​ผู้​บริหาร​นวัตกรรม​ระดับ​สูง ​เพราะ​ปัจจุบันสารสนเทศ​กลาย​เป็น​เส้นเลือด​ที่​ ทำ�ให้​เกิด​การ​สร้าง​นวัตกรรม ดัง​นั้น ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูง​จำ�​ต้อง​เดิน​ไป​สู่​การ​พัฒนา​ ใน​เชิง​ยุทธศาสตร์​มาก​ขึ้น ทำ�ให้​ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูง จะ​ต้อง​ทำ�​หน้าที่​เป็น​ผู้​บริหาร ​นวัตกรรม​ระดับ​สูง โดย​ปัจจัย​ที่​เร่งเร้า​ใน​เรื่อง​นี้​อีก​ประการ​หนึ่ง​ก็​คือ ปัญหา​ที่​เกิด​ขึ้น​ใน​โลก​ปัจจุบัน​เป็น ​ปัญหา​ที่ม​ ี​ความ​ซับ​ซ้อน เช่น การ​เกิด​ภัย​พิบัติ ภาวะ​โลก​ร้อน เป็นต้น ต่าง​ล้วน​ต้องการ​การ​แก้ไข​ด้วย​ความ ​ร่วม​มือ​หลาย​ฝ่าย​หรือ​ใน​เชิง​บูรณ​า​การ​ทั้ง​ใน​ประเทศ​และ​ต่าง​ประเทศ นอกจาก​นี้​ยัง​มี​การ​ใช้​เทคโนโลยี​ใน​ ด้าน​ไอ​ซี​ที เข้า​มา​เป็น​เครื่อง​มือ​ทั้ง​ใน​เรื่อง​การ​ป้องกัน​และ​การ​แก้ไข​เยียวยา ดัง​นั้น ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​ สารสนเทศ​ระดับ​สูง​ใน​ยุค​ใหม่ ต้อง​พัฒนา​แนว​ความ​คิด​แบบ​นอก​กรอบ กล่าว​คือ จะ​ต้อง​พัฒนา​ไป​สู่​การ​ ร่วม​มือ​กับ​หน่วย​งาน​ที่​เกี่ยวข้อง ใน​กา​รบู​รณา​การ​แผน​งาน​และ​การ​ดำ�เนิน​งาน ให้​เกิด​ประโยชน์​ไม่​เพียง​ ต่อ​หน่วย​งาน​ของ​ตน​เท่านั้น แต่​จะ​ต้อง​มี​ผล​ดี​ต่อ​การ​พัฒนา​เศรษฐกิจ​และ​สังคม​โดย​รวม​อีก​ด้วย

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

หลัง​จาก​ศึกษา​เนื้อหา​สาระ​เรื่อง​ที่ 13.3.3 แล้ว โปรด​ปฏิบัติ​กิจกรรม 13.3.3 ใน​แนว​การ​ศึกษา​หน่วย​ที่ 13 ตอน​ที่ 13.3 เรื่อง​ที่ 13.3.3

ธ ส

ธ ส


ตอน​ที่ 13.4

ธ ส

ธ ส

รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ไทย​ก้าว​สู่​เวทีโ​ ลก

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

13-61

ธ ส

โปรด​อ่าน​แผนการ​สอน​ประจำ�​ตอน​ที่ 13.4 แล้วจ​ ึง​ศึกษา​เนื้อหา​สาระ พร้อม​ปฏิบัติ​กิจกรรม​ใน​แต่ละ​เรื่อง

หัว​เรื่อง

แนวคิด

ธ ส

เรื่อง​ที่ 13.4.1 การ​จัด​อันดับ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ของ​ประเทศไทย​เทียบ​กับ​นานา​ประเทศ เรื่อง​ที่ 13.4.2 ดัชนี​และ​ปัจจัยใ​ น​การ​ขับ​เคลื่อน​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง​ที่ 13.4.3 กรณี​ตัวอย่างรัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​จาก​ต่าง​ประเทศ เรื่อง​ที่ 13.4.4 ก้าว​ต่อ​ไป​ของ​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ไทย

ธ ส

ธ ส

1. การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ถือ​เป็น​ภารกิจ​สำ�คัญ​ของ​ทุก​ประเทศ หลาย​ประเทศ​ได้​ มี​การ​พัฒนา​ไป​อย่าง​รวดเร็ว และ​บาง​ประเทศ​ได้​มี​การ​พัฒนา​อย่าง​ก้าว​กระโดด ทั้งนี้​ขึ้น​ อยู่​กับ​การ​ให้​ความ​สำ�คัญข​ อง​ผู้นำ�​ประเทศ​ซึ่ง​ประจักษ์​ชัด​ด้วย​กรณี​ตัวอย่าง​ประเทศไทย 2. องค์กร​ระดับ​โลก​และ​ระดับ​ภูมิภาค​หลาย​องค์กร​ได้​ให้​ความ​สำ�คัญ​ต่อ​การ​พัฒนา​รัฐบาล​ อิเล็กทรอนิกส์ก​ ัน​อย่าง​มาก โดย​ต่าง​ก็ได้​ทำ�การ​สำ�รวจ​ความ​พร้อม​และ​วัด​ความ​ก้าวหน้า​ ใน​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ ตลอด​จน​จัด​อันดับ​เปรียบ​เทียบ​กัน​ทั้ง​ใน​ระดับ​โลก​ และ​ระดับ​ภูมิภาค​ไว้​อย่าง​ต่อ​เนื่อง 3. ประเทศ​ที่​พัฒนา​แล้วส​ ่วน​ใหญ่จ​ ะ​มีก​ าร​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ไ​ ป​อย่าง​ก้าวหน้า ไม่​ ว่า​จะ​เป็น​ประเทศ​ใน​ทวีป​อเมริกา หรือ​ยุโรป และ​แม้​กระทั่ง​ใน​ทวีป​เอเชีย​เอง​ก็ตาม การ​ ออกแบบ​บาง​ระบบ​อาจ​เป็นต​ ัวอย่าง​ให้แ​ ก่ป​ ระเทศไทย แต่บ​ าง​ระบบ​ก็อ​ าจ​ใช้ป​ ระเทศไทย​ เป็นต้น​แบบ​ให้แ​ ก่​ต่าง​ประเทศ​ได้​เช่น​กัน 4. เพื่อ​ให้​ประเทศไทย​ก้าว​ไป​สู่​การ​บริการ​ประชาชน​ได้​ทุก​เวลา​และ​ทุก​สถาน​ที่ ทัดเทียม​กับ​ ประเทศ​ที่​ก้าวหน้า​ใน​เวที​สากล​ได้​นั้น ประเทศไทย​จำ�เป็น​ต้อง​วางแผน​แบบ​ก้าว​กระโดด​ ด้วย​การ​แปลง​สภาพ c-Government เป็น m-Government เป็น u-Government และ​เป็น t-Government จน​มี​การ​เชื่อม​โยง​กัน​ระหว่าง​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​ผ่าน​ช่อง​ทาง ​ที่ห​ ลาก​หลาย และ​เป็นการ​บริการ​ตลอด​เวลา​แบบ 24x7 โดย​การ​ต่อย​อด​การ​บริการ​ผ่าน​ ช่อง​ทาง​โทรศัพท์​มือ​ถือ เครื่อง​คอมพิวเตอร์​โน้ตบุ๊ก มัลติมีเดีย และ​พี​ดี​เอ ด้วย​การ​ผสม​ ผสาน​ไอ​ซี​ที​ทุก​รูป​แบบ การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ถึง​แม้​จะ​มีน​โย​บาย แผน​งาน โครงการ ทิศทาง และ​แนวทาง​ผลัก​ดัน​ที่​ชัดเจน​แล้ว​ก็ตาม แต่​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​จะ​

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


13-62

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

ธ ส

ประสบ​ความ​สำ�เร็จ​ได้​ยัง​ขึ้น​อยู่​กับ​ปัจจัย​ที่​สำ�คัญ​หลาย​ประการ อันได้แก่ ความ​พร้อม​ ของผู้นำ�ประเทศ ความ​พร้อม​ใน​เชิง​โครงสร้าง​พื้น​ฐาน ความ​พร้อม​ของ​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ และความ​พร้อม​ของ​ประชาชน​และ​สิ่ง​แวดล้อม เป็นส​ ำ�คัญ

วัตถุประสงค์

ธ ส

เมื่อ​ศึกษา​ตอน​ที่ 13.4 จบ​แล้ว นักศึกษา​สามารถ 1. อธิบาย​พัฒนาการ​ของ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ของ​ประเทศ​ต่างๆ ที่​ได้​จาก​การ​สำ�รวจ​และ​ จัด​อันดับ โดย​องค์กร​ระหว่าง​ประเทศ และ​องค์กร​ที่​มีชื่อ​เสียง​ใน​การ​ทำ�​วิจัยไ​ ด้ 2. อธิบาย​เกณฑ์แ​ ละ​ตัวช​ ีว้​ ัดท​ ีใ่​ ช้ป​ ระกอบ​ใน​การ​ประเมินเ​พื่อจ​ ัดอ​ ันดับร​ ัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ ได้ 3. อธิบาย​พร้อม​ยก​ตัวอย่าง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ของ​บาง​ประเทศ​ได้ 4. อธิบาย​แนวทาง​การ​ดำ�เนิน​งาน​ต่อ​ไป​ของ​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ไทย​ได้ 5. อธิบาย​องค์ป​ ระกอบ​หรือป​ ัจจัย​ที่​ทำ�ให้​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​บรรลุ​ผล​สำ�เร็จ​ได้

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ม ม

ธ ส

ธ ส

ธ ส


ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

13-63

ธ ส

เรื่อง​ที่ 13.4.1 การ​จัด​อันดับร​ ัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ข​ อง​ประเทศไทย​ เทียบ​กับ​นานา​ประเทศ

ธ ส

องค์การ​สหประชาชาติ​และ​ศูนย์วิจัย​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​แห่ง​มหาวิทยาลัย​วา​เซ​ดะ ประเทศ​ ญี่ปุ่น เป็น​สอง​องค์กร​ตัวอย่าง​ที่ทำ�การ​สำ�รวจ ประเมิน และ​จัด​อันดับ​ความ​ก้าวหน้า​ของ​การ​พัฒนา​รัฐบาล​ อิเล็กทรอนิกส์​ไว้​เพื่อ​ประโยชน์​ใน​การ​เปรียบ​เทียบ​ของ​นานา​ประเทศ ทั้งนี้​มี​การ​ประเมิน​ความ​ก้าวหน้า​ของ​ การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ด้วย​เกณฑ์​และ​ตัว​ชี้​วัด​ที่​หลาก​หลาย​ซึ่ง​แต่ละ​องค์กร​จะ​เป็น​ผู้​กำ�หนด การ​ จัด​อันดับเ​ป็นท​ ี่​ยอมรับ​และ​ใช้​อ้างอิงก​ ัน​ทั่วโ​ ลก มี​ราย​ละเอียด ดังนี้

ธ ส

ธ ส

1. การ​จัดอันดับร​ ัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ของ​โลก ​โดย​องค์การ​สหประชาชาติ

ธ ส

ผล​การ​สำ�รวจ​การ​จัด​อันดับ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ของ​โลก (World e-Government Ranking) ปี ค.ศ. 2010 ของ​องค์การ​สหประชาชาติ ปรากฏ​ว่า​ประเทศ​เกาหลี​ใต้ได้​รับ​การ​จัด​อันดับ​ไว้​ใน​ลำ�ดับ​ที่ 1 นับ​เป็น​ครั้ง​แรก​ที่​ได้​อยู่​ใน​อันดับ​นี้​หลัง​จาก​ที่​ถูก​จัด​อันดับ​ไว้​ที่ 6 และ 15 ใน​ปี ค.ศ.2008 และ​ ค.ศ.2001 ตาม​ลำ�ดับ ประเทศ​สหรัฐอเมริกา​ได้​รับ​การ​จัด​อันดับ​ไว้​ใน​อันดับ​ที่ 2 ขึ้น​มา​จาก​อันดับ​ที่ 4 ใน​ปีค.ศ.2008 หลัง​จาก​ที่​ถูก​จัด​อันดับ​ไว้​ที่ 1 มา​โดย​ตลอด​ตั้ง​แต่​ปี ค.ศ.2001 ประเทศ​แคนาดา​ได้​รับ​การ​จัด​อันดับ​ไว้​ใน ลำ�ดับ​ที่ 3 โดย​ขึ้น​มา​จาก​อันดับ​ที่ 7 สห​ราช​อาณาจักร​อยู่​ใน​อันดับ​ที่ 4 ตาม​ต่อ​ด้วย​ประเทศ​เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ เดนมาร์ก ออสเตรเลีย สเปน และ​ฝรั่งเศส ตาม​ลำ�ดับ โดยที่​ประเทศ​สิงคโปร์​ถูก​จัด​อันดับ​ไว้​ที่ 11 นับ​เป็นป​ ระเทศ​ใน​อันดับ​ที่ 2 ของ​ภูมิภาค​เอเชีย สำ�หรับ​ประเทศไทย​ผล​การ​ประเมิน​ปรากฏ​ว่า ประเทศไทย​สามารถ​ก้าว​กระโดด​จาก​อันดับ​ที่ 103 ใน​ปี พ.ศ. 2544 ขึ้น​มา​เป็น​อันดับ​ที่ 56 ใน​ปี พ.ศ.2546 และ​ขยับ​ขึ้น​เป็น​อันดับ​ที่ 50 ใน​ปี พ.ศ. 2547 และ ​ยัง​ขึ้น​มา​เป็น​อันดับ​ที่ 46 ใน​ปี พ.ศ. 2548 อีก แต่​กลับ​ต้อง​ตกลง​ไป​เป็น​อันดับ​ที่ 64 และ​เป็น​อันดับ​ที่ 76 ใน​ปี พ.ศ. 2551 และ​ใน​ปี พ.ศ. 2553 ตาม​ลำ�ดับ

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


13-64

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

ตาราง​ที่ 13.3 การ​จัด​อันดับ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ของ​โลก

ธ ส

ประเทศ เกาหลีใต้ อเมริกา แคนาดา

2010 / 2553 2008 / 2551 Rank Score Rank Score 1 0.8785 6 0.8317 2 0.8510 4 0.8644 3 0.8448 7 0.8172

สหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ เดนมาร์ก

ออสเตรเลีย สเปน ฝรั่งเศส สิงคโปร์ สวีเดน บาห์เรน นิวซีแลนด์ เยอรมนี

4 5 6 7

0.8147 0.8097 0.8020 0.7872

10 5 3 2

0.7872 0.8631 0.8921 0.9134

4 12 10 2

8 9 10 11 12 13 14 15

0.7863 0.7516 0.7510 0.7476 0.7474 0.7363 0.7311 0.7309

8 20 9 23 1 42 18 22

0.8108 0.7228 0.8038 0.7009 0.9157 0.5723 0.7392 0.7136

6 39 23 7 3 53 13 11

16 17 18

0.7225 0.7152 0.7136

24 0.6779 11 0.7703 12 0.7626

0.6967 0.6965 0.4653

15 0.7488 13 0.7600 64 0.5031 192

ธ ส

เบลเยี่ยม ญี่ปุ่น

สวิตเซอร์แลนด์ ฟินแลนด์ 19 เอสโทรเนีย 20 * ไทย 76 จำ�นวนประเทศ 192

ธ ส

ปีสำ�รวจ ค.ศ./พ.ศ. 2005 / 2548 2004 / 2547 2003 / 2546 2001 / 2544 Rank Score Rank Score Rank Score Rank Score 5 0.8727 5 0.8575 13 0.7440 15 2.30 1 0.9062 1 0.9132 1 0.9270 1 3.11 8 0.8425 7 0.8369 6 0.8060 6 2.52

ธ ส 0.8777 0.8021 0.8228 0.9058

3 11 10 2

0.8852 0.8026 0.8178 0.9047

5 11 7 4

0.8679 0.5847 0.6925 0.8503 0.8983 0.5282 0.7987 0.805

6 34 24 8 4 46 13 12

0.8377 0.5844 0.6687 0.834 0.8741 0.5323 0.7811 0.7873

3 29 19 12 2 46 14 9

18 14 17

0.7381 0.7801 0.7548

16 18 15

9 19 46 191

0.8231 0.7347 0.5518

9 20 50 191

7 8 5 9

2.52 2.51 2.55 2.47

0.8310 0.6020 0.6900 0.7460 0.8400 0.5100 0.7180 0.7620

2 16 14 4 11 33 3 10

2.60 2.30 2.33 2.58 2.45 2.04 2.59 2.46

0.7525 0.7260 0.7538

23 0.6700 18 0.6930 8 0.7640

12 27 37

2.39 2.12 1.96

0.8239 0.7029 0.5096

10 0.7610 16 0.6970 56 0.4460 191

13 32 103 190

2.33 2.05 0.94

ธ ส

ม 0.8140 0.7460 0.7780 0.8200

ธ ส

ประเทศที่ไม่ได้อยู่ใน 20 อันดับแรกในปีสำ�รวจ 2010 แต่เคยติดอันดับในปีสำ�รวจ (ค.ศ./พ.ศ.) ก่อนหน้านั้น 2008/2551

ประเทศ

Rank

ลักแซมเบิร์ก

14

ออสเตรเลีย

16

อิสราเอล

17

ไอร์แลนด์

19

2005/2548

Score

ประเทศ

Rank

ธ ส

2004/2547 Score

ประเทศ

Rank

2003/2546

Score

ประเทศ

Rank

ธ ส

2001/2544

Score

ประเทศ

Rank

Score

17

2.2

0.7512 ไอซ์แลนด์

15

0.7794 ไอซ์แลนด์

14

0.7699 ไอซ์แลนด์

15

0.7020 อิสราเอล

0.7428 ออสเตรีย

16

0.7602 ออสเตรีย

17

0.7487 ไอร์แลนด์

17

0.6970 บราซิล

18

2.2

0.7393 ไอร์แลนด์

20

0.7251 ไอร์แลนด์

19

0.7058 อิตาลี

20

0.6850 อิตาลี

19

2.2

20

2.2

0.7296

ลักแซมเบิร์ก


ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

ธ ส

เกาหลีใต้ อเมริกา สิงคโปร์ สเปน บาห์เร​ น * ไทย

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.27 การ​เปรียบ​เทียบ​การ​เคลื่อนไหว​ของ​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ ใน​ช่วง​ปี พ.ศ. 2544-2553 จัดท​ ำ�​โดย​สหประชาชาติ

ธ ส

13-65

2. การจัด​อันดับข​ อง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ใ​ น​กลุ่ม​ประเทศ​เอ​เปก​​โดย​ศูนย์วิจัย​รัฐบาล​ อิเล็กทรอนิกส์​แห่งม​ หาวิทยาลัย​วา​เซ​ดะ ประเทศ​ญี่ปุ่น

ศูนย์วิจัย​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​แห่ง​มหาวิทยาลัย​วา​เซ​ดะ ประเทศ​ญี่ปุ่น ได้​ทำ�การ​สำ�รวจ​เพื่อ​นำ�​ เสนอ​ผล​การ​จัด​อันดับ​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ใน​กลุ่ม​ประเทศ​เอ​เปก (APEC) ของ​ปี​ที่​ผ่าน​มา ปรากฏ​ผล 10 อันดับ​แรก​ของ​แต่ละ​ปี​เป็น​ดังนี้

ธ ส

ธ ส

ธ ส


13-66

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

ตาราง​ที่ 13.4 การจัดอ​ ันดับ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ ใน​กลุ่ม​ประเทศ​เอ​เปก​โดย​ ศูนย์วิจัยร​ ัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​แห่ง​มหาวิทยาลัยว​ า​เซ​ดะ

เกาหลีใต้

ธ ส 4

87.50

7

76.50

5

ฟินแลนด์

5

86.90

12

72.90

9

ประเทศ

2011 / 2554

ม สิงคโปร์

อเมริกา

สวีเดน

2010 / 2553

ปี ค.ศ./พ.ศ. ที่เผยแพร่

2009 / 2552

2008 / 2551

1

92.14

1

83.20

1

2

92.13

2

83.00

2

3

88.32

9

83.00

3

ธ ส

ธ ส

92.89

2

67.80

2

3

0.981

89.31

1

68.30

1

1

1.000

86.94

9

56.60

10

55.70

5

0.947

82.30

4

63.20

4

61.44

11

0.880

76.02

8

58.60

7

59.72

4

0.952

82.30

5

62.20

4

61.44

7

0.938

80.00

3

66.80

3

0.985

6

86.90

6

76.80

5

7

85.13

4

79.70

7

8

84.10

14

72.20

9

83.55

22

64.20

15

71.26

17

สหราชอาณาจักร

10

82.40

2

83.00

4

85.45

9

เดนมาร์ก

10

82.40

13

72.50

23

67.67

25

63.20

แคนาดา

เบลเยี่ยม

* ไทย

2005 / 2548

Rank Score Rank Score Rank Score Rank Score Rank Score Rank Score

ญี่ปุ่น เอสโทรเนีย

2007 / 2550

จำ�นวนประเทศ

50

40

50.00

ธ ส

21

34

64.51

20

44.90

34

 20

17

66.60

67.18

ธ ส

62.59

2

45.95

56.85

10

49.96

32

14

0.792

23

ธ ส

หมายเหตุ  หมายถึง ไม่ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน 10 ลำ�ดับแรกของปีนั้น

ธ ส

0.923

จาก​การ​เผย​แพร่​ปี พ.ศ. 2554 ของ​​ศูนย์วิจัย​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​แห่ง​มหาวิทยาลัย​วา​เซดะ ปรากฏ​ว่า​ประเทศ​สิงคโปร์​ได้​รับ​การ​จัด​อันดับ​ไว้​เป็น​ลำ�ดับ​ที่ 1 เป็น​สมัย​ที่ 3 สลับ​กับ​ประเทศ​สหรัฐอเมริกา​ ที่​ได้​เคย​ถูก​จัด​อันดับ​ไว้​เป็น​ลำ�ดับ​ที่ 1 มา​แล้ว​ถึง 3 สมัย​ก่อน​หน้า​นี้ ใน​ขณะ​ที่​ประเทศ​สวีเดน​ได้​รับการ​จัด​ อันดับ​ไว้​ใน​ลำ�ดับ​ที่ 3 ประเทศ​เกาหลี​ใต้ซึ่ง​เป็น​ประเทศ​ใน​ลำ�ดับ​ที่ 2 ของ​เอเชีย​ได้​รับ​การ​จัดอันดับ​ไว้​ใน​ ลำ�ดับ​ที่ 4 ตาม​ต่อ​ด้วย​ประเทศ​ฟินแลนด์ ญี่ปุ่น แคนาดา เอส​โทร​เนีย เบลเยี่ยม และ​สห​ราชอาณาจักร ตาม​ลำ�ดับ ส่วน​ประเทศไทย​ได้​รับ​การ​จัด​อันดับ​ไว้​เป็น​ลำ�ดับ​ที่ 23 จาก​ทั้งหมด 50 ประเทศ หลัง​จาก​ที่​ได้​ เคย​ถูก​จัดไ​ ว้​อันดับ​ที่ 14 จาก 23 ประเทศ​เมื่อป​ ี พ.ศ. 2548

ธ ส

หลัง​จาก​ศึกษา​เนื้อหา​สาระ​เรื่อง​ที่ 13.4.1 แล้ว โปรด​ปฏิบัติ​กิจกรรม 13.4.1 ใน​แนว​การ​ศึกษา​หน่วย​ที่ 13 ตอน​ที่ 13.4 เรื่อง​ที่ 13.4.1


ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

เรื่อง​ที่ 13.4.2 ดัชนีแ​ ละ​ปัจจัย​ใน​การ​ขับ​เคลื่อน​รัฐบาล​ อิเล็กทรอนิกส์

ธ ส

13-67

ธ ส

ตาม​ที่​ได้​กล่าว​แล้ว​ว่า​สหประชาชาติ และ​ศูนย์วิจัย​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​แห่ง​มหาวิทยาลัย​วา​เซ​ดะ ต่าง​ก็​ให้​ความ​สำ�คัญ​ต่อก​ าร​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​และ​ได้​นำ�​เสนอ​ผล​การ​สำ�รวจ​ความ​พร้อม​และ​ความ​ ก้าวหน้า​ใน​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ ตลอด​จน​จัด​อันดับ​เปรียบ​เทียบ​ใน​ระดับ​โลก​และ​ใน​ระดับ ​ภูมิภาค​ดัง​ที่​ได้​กล่าว​มา​แล้ว​ใน​เรื่อง​ที่ 13.4.1 ส่วน​ใน​เรื่อง​นี้​จะ​เป็นการ​กล่าว​ถึง​ดัชนี​ตัว​ชี้​วัด​ที่​แต่ละ​องค์กร ​ใช้​ใน​การ​ประเมิน​และ​จัด​อันดับ ซึ่ง​ดัชนี​ตัว​ชี้​วัด​ดัง​กล่าว​อาจ​ถือ​เป็น​ปัจจัย​ใน​การ​ขับ​เคลื่อน​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ด้วย​ก็ได้

ธ ส

ธ ส

ธ ส

1. ดัชนี​ที่​ใช้​ใน​การ​ประเมินร​ ัฐ​บาล​อิ​เล็ก​ทร​อนิกส์​ของ​องค์การ​สหประชาชาติ ปี ค.ศ. 2010

องค์การ​สหประชาชาติ (UNO) ได้​เริ่ม​สำ�รวจ​ความ​พร้อม​ด้าน​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ตั้งแต่ พ.ศ. 2544 (ค.ศ. 2001) โดย​มีว​ ัตถุประสงค์เ​พื่อ​ประเมิน​ความ​สามารถ​ของ​ประเทศ​สมาชิก​ทั้งหมด 192 ประเทศ​ ใน​การ​เปลี่ยนแปลง​ภาค​รัฐ​ด้วย​การนำ�​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร (ICT) มา​ใช้​เพื่อ​ให้​บริการ​ผ่าน​ สื่อ​ออนไลน์​แก่​ประชาชน และ​เพื่อ​เป็น​เครื่อง​มือ​ใน​การ​วัดผล​เปรียบ​เทียบ​ความ​ก้าวหน้า​ใน​การ​ให้​บริการ​ อิเล็กทรอนิกส์ (e-Services) ของ​ภาค​รัฐ ดัชนี​ตัว​ชี้​วัด (The United Nations e-Government Development Index) หรือ​เกณฑ์​การวัด​ และ​ประเมิน​ผล​มี 3 มิติ​คือ มิติ​การ​ให้​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์​ผ่าน​ทาง​ออนไลน์ (Online Service Index) คิด​เป็น​ร้อย​ละ 34 มิติ​โทรคมนาคม (Telecommunication Index) คิด​เป็น​ร้อย​ละ 33 และ​มิติ​ความ​ สามารถ​ของ​ทรัพยากร​มนุษย์​ภายใน​ประเทศ (Human Capital Index) คิด​เป็น​ร้อย​ละ 33 ทั้งนี้​การ​ คำ�นวณ​ใน​แต่ละ​มิติ​จะ​นำ�​คะแนน​ประเมิน​ของ​ประเทศ​ที่​ได้​สูงสุด​และ​ต่ำ�​สุด​มา​ประกอบ​ใน​การ​คำ�นวณ​ด้วย โดย​ดัชนีที่​ใช้​ใน​การ​ประเมิน ได้แก่ 1.1 ดัชนี​ตัว​ชี้​วัดก​ าร​ให้​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์​ผ่าน​ทาง​ออนไลน์ ประเมิน​ข้อมูล​จาก 2 แหล่ง คือ 1.1.1 จาก​แบบสอบถาม ครอบคลุม​ถึง​การ​มี​และ​ไม่มี​ของ​ปัจจัย​ต่างๆ ที่​เกี่ยว​กับ​การ​พัฒนา​ รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ เช่น แผนการ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ของ​ประเทศ กฎหมาย​และ​กฎ​ระเบียบ หน่วย​งาน​ที่​รับ​ผิด​ชอบ ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูง (CIO) เว็บไซต์​กลาง​ของ​รัฐบาล และ​ เว็บไซต์​ของ 5 หน่วย​งาน​ที่​จะ​กล่าว​ต่อ​ไป​ใน​ข้อ 1.1.2 นอกจาก​นั้น ยัง​มี​คำ�ถาม​เกี่ยว​กับ​ข้อมูล​ใน​ประเด็น​ ของ​จำ�นวน​แบบ​ฟอร์ม​และ​การ​ให้บ​ ริการ​อิเล็กทรอนิกส์​ต่างๆ ที่​มี​อยู่​อีก​ด้วย 1.1.2 จาก​การ​สำ�รวจ เว็บไซต์​ของ​หน่วย​งาน​หลัก 5 หน่วย ได้แก่ กระทรวง​ศึกษาธิการ กระทรวง​แรงงาน กระทรวง​การ​พัฒนา​สังคม​และ​ความ​มั่นคง​ของ​มนุษย์ กระทรวง​สาธารณสุข และ​กระทรวง​

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


13-68

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

การ​คลัง​ของ​ประเทศ​สมาชิก รวม​ถึง เว็บไซต์​ต่างๆ ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​เว็บไซต์​เหล่า​นี้ โดย​การ​ทดสอบ​การ ​เข้า​ถึง​เนื้อหา​ใน​เว็บไซต์ การ​ออกแบบ​ที่​ทัน​สมัย การ​ยึด​ประชาชน​เป็น​ศูนย์กลาง การ​จัด​ทำ�​เว็บไซต์​ตาม​ มาตรฐาน และ​มี​การ​ใช้​เครื่อง​มือ อาร์​เอส​เอส (RSS) วิดีโอ (video) เครื่อง​มือ​เครือ​ข่าย​สังคม (social network tools) การ​เข้า​ใช้​อินเทอร์เน็ต​ผ่าน​มือ​ถือ (mobile access) ตลอด​จน​การ​มี​แบบ​ฟอร์ม​​ออนไลน์ (online form) และ​บริการ​ธุรกรรม​ทาง​อิเล็กทรอนิกส์ การ​ชำ�ระ​เงิน​ทาง​อิเล็กทรอนิกส์ และการ​ทำ�การ​เข้า​ สู่​ระบบ​ครั้ง​เดียว (single sign on) การ​บริหาร​ตัว​ตน​ทาง​อิเล็กทรอนิกส์ (electronic identification management) และ​การ​พิสูจน์​ตัว​ตน (authentication) การ​มี​บริการ​ร้าน​ค้า​จุด​เดียว (one stop shop) และ​ที่​สำ�คัญ​การ​มี​ปฏิสัมพันธ์​ติดต่อ​กับ​ประชาชน โดย​ประชาชน​สามารถ​สอบถาม​ข้อมูล​ส่วน​ตัว​เอง และ​ ติดตาม​ธุรกรรม​ที่​ทำ�​กับ​ภาค​รัฐ​ได้ ทั้งนี้ร​ วม​ไป​ถึง เว็บ​ท่า​ของ​ประเทศ (national portal) ด้วย 1.2 ดัชนี​ตัว​ชี้​วัด​ทาง​ด้าน​โทรคมนาคม ซึ่ง​วัด​จาก​การ​แพร่​กระจาย​โครงสร้าง​พื้น​ฐาน​สารสนเทศ​ ภายใน​ประเทศ ซึ่งป​ ระกอบ​ด้วย ตัว​ชี้ว​ ัดย​ ่อย 5 ตัว ได้แก่ จำ�นวน​คอมพิวเตอร์​ส่วน​บุคคล​ต่อ​ประชากร 100 คน จำ�นวน​ผู้​ใช้​อินเทอร์เน็ต​ต่อ​ประชากร 100 คน จำ�นวน​โทรศัพท์​พื้น​ฐาน​ต่อ​ประชากร 100 คน จำ�นวน​ ผู้​ใช้​บริการ​โทรศัพท์​เคลื่อนที่​ต่อ​ประชากร 100 คน และ​จำ�นวน​ผู้​ใช้​บริการ​อินเทอร์เน็ต​ความเร็ว​สูง (fixed broadband) ต่อป​ ระชากร 100 คน 1.3 ดัชนี​ตัว​ชี้​วัด​ทาง​ด้าน​ความ​สามารถ​ของ​ทรัพยากร​มนุษย์​ภายใน​ประเทศ ประกอบ​ด้วย ตัวช​ ี้​วัด​ ย่อย 2 ตัว คือ ความ​สามารถ​ใน​การ​อ่าน​ออก​เขียน​ได้ และ​อัตราส่วน​ของ​ประชากร​ที่​ศึกษา​ใน​ระดับ​ประถม มัธยม และ​อุดมศึกษา โดย​ใช้​ข้อมูล​จาก​ยู​เนส​โก (UNESCO) ใน​ระยะ​หลัง​องค์การ​สหประชาชาติ​ได้​ขยาย​มิติ​ให้​ครอบคลุม​ถึง​การ​มี​ส่วน​ร่วม (e-Participation Index) ของ​ประชาชน​ใน​การ​บริหาร​บ้าน​เมือง​ด้วย ซึ่ง​เน้น​ที่​คุณภาพ​ของ​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​ใน​การเต​รี​ยม​ ข้อมูล​ที่​จำ�เป็น​ต่างๆ ให้​กับ​ประชาชน​ผ่าน​การ​ใช้​งาน​ทาง​อินเทอร์เน็ต เพื่อ​ดู​ว่า​ประเทศ​ต่างๆ ใช้​เครื่อง​มือ ​ผ่าน​ทาง​ออนไลน์​อย่างไร​ใน​การ​สร้าง​ปฏิสัมพันธ์​ระหว่าง​ภาค​รัฐ​กับ​ประชาชน แต่​ใน​ปี​ที่​ผ่าน​มายัง​ไม่​ได้​รวม​ คะแนน​ใน​ส่วน​นี้​ใน​การ​จัด​ลำ�ดับ

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

2. ดัชนี​ที่​ใช้​ใน​การ​ประเมินร​ ัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ข​ อง​ศูนย์วิจัย​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​แห่ง​ มหาวิทยาลัย​วา​เซ​ดะ ปี ค.ศ. 2011

ศูนย์วิจัย​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์แห่ง​มหาวิทยาลัย​วา​เซ​ดะ​พิจารณา​ดัชนี​ตัว​ชี้​วัด​ใน​การ​จัด​อันดับจาก 7 มิติ คือ มิติ​ความ​พร้อม​ด้าน​เครือ​ข่าย มิติ​ความ​สามารถ​ใน​การ​บริหาร​จัดการ​อย่าง​เหมาะ​สม มิติ​รูป​แบบ​ การ​ใช้​งาน มิติ​เว็บ​ท่า​ของ​ประเทศ มิติ​ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูง​ภาค​รัฐ มิติ​การสนับสนุน ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ และ​มิติ​การ​มี​ส่วน​ร่วม​ของ​ประชาชน มี​ราย​ละเอียด​ดังนี้ 2.1 ความ​พร้อม​ด้าน​เครือ​ข่าย ระบบ​เครือ​ข่าย​ถือ​เป็น​ปัจจัย​พื้น​ฐาน​ใน​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ และ​ใน​แต่ละ​ประเทศ​ได้​มี​การ​พัฒนา​ศักยภาพ​ระบบ​เครือ​ข่าย​อย่าง​ต่อ​เนื่อง จำ�นวน​ผู้​ใช้​งาน​ อินเทอร์เน็ต บรอดแบนด์​จึง​เป็น​ตัว​ชี้​วัด​หนึ่ง​ที่​จะ​แสดง​ให้​เห็น​ถึง​การ​ใช้​งาน​และ​บริการ​ต่างๆ ผ่าน​ระบบ ​เครือ​ข่าย​ได้ รวม​ถึง​การ​ใช้​งาน​โทรศัพท์​เคลื่อนที่​สามารถ​สะท้อน​ให้​เห็น​ถึง​การ​เข้า​ถึง​การ​บริการ​ได้​โดย​ไม่​

ธ ส


ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

13-69

ธ ส

ต้อง​คำ�นึง​ถึง​สถาน​ที่​ใช้​งาน​อินเทอร์เน็ต​อีก​ต่อ​ไป สำ�หรับ​ตัว​ชี้​วัด​นี้​ประเทศ​ที่มา​เป็น​อันดับ​หนึ่ง ได้แก่ ประเทศ​สวีเดน ลำ�ดับ​ที่​สอง​มี​สอง​ประเทศ ได้แก่ ประเทศ​นอร์เวย์ และ​ประเทศ​เนเธอร์แลนด์ สำ�หรับ​ใน​ ภูมิภาค​เอเชีย ประเทศ​เกาหลีใต้ มี​การ​ดำ�เนิน​งาน​ที่​คืบ​หน้า​ไป​อย่าง​รวดเร็ว เพราะ​มี​การ​วาง​กลยุทธ์​ และ​ยุทธศาสตร์​การ​พัฒนา​ระบบ​โครงสร้าง​พื้น​ฐาน​สารสนเทศ​ที่​ดี ส่วน​ประเทศ​สิงคโปร์​ถึง​แม้ว่า​รัฐบาล​ อิเล็กทรอนิกส์​จะ​อยู่​ใน​อันดับ 1 แต่​สำ�หรับ​ตัวช​ ี้ว​ ัดน​ ี้​ประเทศ​สิงคโปร์​อยู่​ใน​อันดับ​ที่ 8 2.2 ความ​สามารถ​ใน​การ​บริหาร​จัดการ​อย่าง​เหมาะ​สม ตัว​ชี้​วัด​นี้​สะท้อน​ให้​เห็น​ถึง​การ​พัฒนา​ กระบวนการ​ใช้​งาน​และ​วัด​ระดับ​ความ​สำ�เร็จ​ใน​กา​รบู​รณา​การ​งาน​ด้าน​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร (ICT) ของ​แต่ละ​ประเทศ กระบวนการ​สร้าง​มาตรฐาน​การ​ให้​บริการ​ที่​จะ​นำ�​ไป​สู่​ความ​สำ�เร็จ​ได้​นั้น​ขึ้น​อยู่​ กับ​การ​ดำ�เนิน​งาน​ของ​แต่ละ​ประเทศ ประเทศ​ที่​ได้​เป็น​อันดับ​ที่​หนึ่ง​มี​สอง​ประเทศ ได้แก่ ประเทศ​ฝรั่งเศส​ และ​ประเทศ​เยอรมนี ตาม​มา​ด้วย​ประเทศ​สิงคโปร์แ​ ละ​ประ​เทศ​เอส​โทร​เนีย 2.3 รูป​แบบ​การ​ใช้​งาน เป้า​หมาย​สูงสุด​ของ​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​คือ การ​ที่​ประชาชน​ สามารถ​เข้า​ถึง​การ​บริการ​ภาค​รัฐ​ได้​อย่าง​สะดวก​และ​ปลอดภัย ตัว​ชี้​วัด​หลัก​ที่​จะ​ชี้​ให้​เห็น​ถึง​การ​บริการ​ อิเล็กทรอนิกส์​ภาค​รัฐ ได้แก่ ระบบ​ทำ�​คำ�​เสนอ​อิเล็กทรอนิกส์ (e-Tender) ระบบ​ยื่น​ภาษี​ออน​ไลน์ (e-Tax) ระบบ​ลง​คะแนน​เสียง​เลือก​ตั้งด​ ้วย​เครื่อง​ลง​คะแนน (e-Voting) ระบบ​ชำ�ระ​เงินอ​ ิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ระบบ​สวัสดิการ​สังคม และระบบ​ทะเบียน​ราษฎร์ ผล​การ​จัด​อันดับ​ใน​ตัว​ชี้​วัด​นี้ ประเทศ​สหรัฐอเมริกา​มา​เป็น​อันดับ​หนึ่ง อันดับ​ที่​สอง​และ​สาม​เป็น​ ของ​ประเทศ​สิงคโปร์​และ​ประเทศ​ออสเตรเลีย ส่วน​ประเทศ​เกาหลีใต้​และ​ประเทศ​ญี่ปุ่น​มา​เป็น​อันดับ ​ที่​สี่และห้า 2.4 เว็บ​ท่า​ของ​ประเทศ เว็บ​ท่า​ของ​ประเทศ ถือ​เป็น​ช่อง​ทาง​พื้น​ฐาน​ที่​ผู้​ใช้​งาน​จะ​สามารถ​เข้า​ถึง ​บริการ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ การ​จัด​อันดับ​จะ​พิจารณา​จาก แผนผัง​ของ​เว็บ​ (site map) เครื่อง​มือ​ใน ​การ​ค้นหา (search engine) เครื่อง​มือ​ช่วย​เหลือ​การ​ใช้​งาน (help function) ช่อง​ทางการ​ติดต่อ​ที่​สามารถ ​ใช้​งาน​ได้จ​ ริง อีเมล การ​ให้​บริการ​ผ่าน​เครือ​ข่าย​สังคม​หรือ​การ​ให้​บริการ​ชุมชน​ออนไลน์ โพลล์​ออนไลน์ ความ​ถูก​ต้อง​ซึ่ง​ถือว่า​เป็น​จุด​สำ�คัญ การ​บริการ​หลาย​ภาษา รวม​ถึง การ​แสดง​ผล​ใน​รูป​แบบ​ มัลติมีเดีย โดย​มี​ความ​คิด​สร้างสรรค์​และ​ใช้​เทคนิค​ใน​การ​พัฒนา​ที่​เหมาะ​สม รวม​ถึง​การ​ให้​บริการ​ที่​ ปลอดภัยด​ ้วย 2.5 ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูง​ภาค​รัฐ ผู้ ​บ ริ ห าร​เ ทคโนโลยี ​ส ารสนเทศ​ร ะดั บ ​สู ง​ ภาค​รัฐ (Government CIO) เป็น​ผู้​ที่​มีหน้า​ที่​บูรณ​า​การ​ยุทธศาสตร์​การ​จัดการ​ด้าน​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ และ​การ​สื่อสาร​เพื่อ​ให้การ​กำ�หนด​ยุทธศาสตร์ การ​ปฏิรูป​องค์กร และ​การ​ปฏิรูป​การ​บริหาร​จัดการ​เกิด​ความ​ สมดุล​ขึ้น​ได้ ศูนย์​ประเมิน​ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูง โดย​พิจารณา​จาก​จำ�นวน​ของ​ผู้​บริหาร​ เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูง ขอบเขต​งาน องค์กร​ที่​ส่ง​เสริม​ให้​เกิด​การ​พัฒนา​ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูง และ​การ​พัฒนา​หลักสูตร​อบรม​หรือ​จำ�นวน​หลัก​สูต​รอื่นๆ ที่​เกี่ยวข้อง​ที่​สอน​ให้​กับ​ผู้​บริหาร​ เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูง

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


13-70

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

ผล​ของ​การ​ประเมิน​ปรากฏ​ว่า ประเทศ​สหรัฐอเมริกา​ได้​ผล​การ​ประเมิน​อยู่​ใน​อันดับ​ที่​หนึ่ง ตาม​มา​ ด้วย​ประเทศ​สิงคโปร์ เกาหลีใต้ แคนาดา และ​ญี่ปุ่น ตาม​ลำ�ดับ สำ�หรับ​ใน​หัวข้อ​นี้​ประเทศไทย​อยู่​ใน​อันดับ​ ที่ 6 โดย​เคย​อยู่​ใน​อันดับ​ที่ 3 มา​แล้ว​เมื่อ​ปี​เผย​แพร่ ค.ศ. 2006 (ปี​สำ�รวจ พ.ศ. 2548) ซึ่ง​ถือ​เป็น​จุด​เด่น ​ของ​ประเทศ 2.6 การ​สนับสนุน​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ ขอบเขต​ของ​การ​สนับสนุน​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​หมาย​ รวม​ถึง​กิจกรรม​ต่างๆ ที่​เป็นการ​ส่ง​เสริม​การ​ปฏิบัติ​งาน เช่น ข้อ​กำ�หนด กฎ​ระเบียบ กฎหมาย หน่วย​งาน​ ที่เ​กี่ยวข้อง ระบบ​การ​งบ​ประมาณ และ​การ​จัด​ตั้งค​ ณะ​กรรมการ​ประเมิน สำ�หรับ​ตัว​ชี้​วัด​นี้​ใช้​ผล​การ​ประเมิน ​รวม​จาก​ระดับ​ของ​การ​พัฒนา​ใน​แต่ละ​หัวข้อ​และ​สถานะ​ปัจจุบัน​ใน​การ​สนับสนุน​ให้​เกิด​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ ผล​ของ​การ​ประเมิน​ปรากฏ​ว่า ประเทศ​สิงคโปร์​อยู่​อันดับ​หนึ่ง ตาม​ด้วย​ประเทศ​เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น แคนาดา ออสเตรเลีย นอร์เวย์ สหรัฐอเมริกา และ​โปรตุเกส ตาม​ลำ�ดับ 2.7 การ​มี​ส่วน​ร่วม​ของ​ประชาชน ตั ว ​ชี้​วั ด ​นี้​มี​ขึ้ น ​เ พื่ อ​ใ ห้ ​ภ าค​รั ฐ ​คำ�นึ ง ​ถึ ง ​ช่ อ ง​ท าง​ที่ ​ป ระชาชน ​สามารถ​เข้า​ร้อง​เรียน​หรือ​แสดง​ความ​ต้องการ​ไป​ยัง​รัฐบาล​ผ่าน​ช่อง​ทาง​อิเล็กทรอนิกส์ไ​ ด้ อีก​ทั้ง​ยัง​แสดง​ให้​ เห็นร​ ะดับ​ที่ป​ ระชาชน​ใช้​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​อีกด​ ้วย ผล​ของ​การ​ประเมิน​ปรากฏ​ว่า ประเทศ​ออสเตรเลีย ประ​เทศ​เอส​โทร​เนีย และ​ประเทศ​สหรัฐอเมริกา​ อยู่​ใน​อันดับ​ที่​หนึ่ง​ร่วม​กัน​สำ�หรับ​ตัว​ชี้​วัด​นี้ ใน​ขณะ​ที่​ประเทศ​เดนมาร์ก และ​ประเทศ​เยอรมนี​อยู่​ใน​อันดับ​ ที่ส​ ี่ ตาม​ด้วย​สห​ราช​อาณาจักร

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

หลัง​จาก​ศึกษา​เนื้อหา​สาระ​เรื่อง​ที่ 13.4.2 แล้ว โ​ ป​รด​ปฏิ​บัติ​กิจกรรม 13.4.2 ใน​แนว​การ​ศึกษา​หน่วย​ที่ 13 ตอน​ที่ 13.4 เรื่อง​ที่ 13.4.2

ธ ส

ม ม

ธ ส

ธ ส


ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

13-71

ธ ส

เรื่อง​ที่ 13.4.3 กรณีต​ ัวอย่าง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​จาก​ต่าง​ประเทศ

ธ ส

รัฐบาล​ของ​ประเทศ​ต่างๆ พา​กัน​เร่ง​พัฒนา​กระบวนการ​บริหาร​งาน​และ​บริการ​ของ​รัฐ​ให้​มี​ประสิทธิภาพ​และ​ทัน​สมัย​มาก​ขึ้น​ด้วย​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​เพื่อ​เข้า​สู่​ยุค​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ โดย​มี​อินเทอร์เน็ต​เป็นก​ระ​บอก​เสียง​ใน​การ​เผย​แพร่​ข้อมูล​ข่าวสาร​ต่างๆ และ​เป็น​สื่อ​ให้​บริการ​ของ​รัฐบาล​ อิเล็กทรอนิกส์​สู่​ประชาชน ผู้นำ�​หลาย​ประเทศ​หัน​ไป​ให้​ความ​สำ�คัญ และ​พิจารณา​นำ�​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​ไป​ ใช้​สนับสนุน​งาน​ด้าน​บริหาร​และ​บริการ​ประชาชน เช่น ประเทศ​สหรัฐอเมริกา​มี​เว็บไซต์​รัฐบาล​อเมริกัน​และ​ เว็บไซต์​ให้​บริการ​ต่างๆ ของ​รัฐ (www.usa.gov) นอกจาก​นี้ ประธานาธิบดี​โอ​บา​ม่า​ได้​นำ�​เทคโนโลยี​อื่นๆ ไป​ประยุกต์​ใช้​ใน​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​โดย​มี​ตัวอย่าง​เช่น การนำ�​เครือ​ข่าย​สังคม (social network) ไป​ใช้​ใน​การ​เข้า​ถึง​ประชาชน​เพื่อ​ลด​ช่อง​ว่าง​ใน​การ​ติดต่อ​สื่อสาร และ​การ​ใช้​โทรศัพท์​อัจฉริยะ (smart phone) ใน​หน้าที่​การ​งาน​และ​ติดต่อ​สื่อสาร​กับ​ประชาชน ซึ่ง​นอกจาก​จะ​ทำ�ให้​สามารถ​ทำ�ให้​เข้า​ถึง​ประชาชน​ วัย​ทำ�งาน​จนถึง​ผู้​สูง​วัย​แล้ว ก็​ยัง​ได้​ใกล้​ชิด​กับ​ประชาชน​คน​วัย​รุ่น​ด้วย​เพราะ​เป็น​วัย​ที่​ชอบ​เทคโนโลยี โดย​ ทำ�ให้​ประธานาธิบดี​โอ​บา​ม่า​ได้​ทราบ​ถึง​ความ​ต้องการ พฤติกรรม และ​ทัศนคติ​ของ​วัย​รุ่น​ที่​มี​ต่อ​รัฐบาล​และ​ ประเทศ​ชาติ จาก​การ​ที่ป​ ระธานาธิบดี​สหรัฐอเมริกา​ติดต่อส​ ื่อสาร​กับ​ประชาชน​ด้วย​เทคโนโลยี​ต่างๆ และ​มี​บริการ​ ของ​รัฐ​ทาง​อินเทอร์เน็ต ทำ�ให้​ภาค​รัฐ​มี​ข้อมูล​มาก​พอที่​จะ​นำ�​ไป​ใช้​ต่อย​อด​ใน​การ​พัฒนา​ประเทศ​ให้​เข้ม​แข็ง​ ยิ่งๆ ขึ้น​ไป ทั้งนี้​ขอ​หยิบยก​การ​พัฒนา​และ​การ​ส่ง​เสริม​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ที่​มี​ความ​โดด​เด่น​และ​น่า​สนใจ​ เพื่อ​เป็น​กรณี​ตัวอย่าง​ไว้​ดังนี้

ธ ส

กรณี​ตัวอย่าง​ที่ 1 สหภาพ​ยุโรป

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

เมื่อ​พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 ใน​การ​ประชุม​ว่า​ด้วย​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​แห่ง​ยุโรป กลุ่ม​ประเทศ ใ​ น​สหภาพ​ยุโรป​ได้ร​ ่วม​ลง​นาม​เพื่อผ​ ลักด​ ันโ​ ครงการ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ โดย​มีจ​ ุดป​ ระสงค์เ​พื่อล​ ด​อุปสรรค​ ด้าน​ดิจิทัล​ใน​แง่​ของ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ของ​ประเทศ​สมาชิก​ใน​ยุโรป และ​ปรับปรุง​กระบวนการ​ทำ�งาน​ ให้​รวดเร็ว​ขึ้น​โดย​ลด​ขั้น​ตอน​การ​บริหาร​จัดการ​และ​ให้​บริการ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ซึ่ง​จะ​ช่วย​ให้การ​ดำ�เนิน​ ธุรกรรม​ต่างๆ ระหว่าง​ประเทศ​ของ​ภาค​รัฐ ภาค​ธุรกิจ และ​ภาค​ประชน​ชน​ผ่าน​อินเทอร์เน็ต​มี​ความ​สะดวก​ รวดเร็ว​ขึ้น ทั้งนี้​เมื่อ​ปี พ.ศ. 2551 มี​โครงการ​เพื่อ​ร่วม​กัน​แก้​ปัญหา​การ​บริหาร​จัดการ​ภาค​รัฐ​ใน​ยุโรป ซึ่ง ​เป็น​โครงการ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ระหว่าง​ประเทศ​ที่​ประสบ​ความ​สำ�เร็จ​ใน​ยุโรป โครงการ​มี​วัตถุประสงค์​เพื่อ​ปรับปรุง​การ​สื่อสาร​ทาง​อิเล็กทรอนิกส์​ระหว่าง​ประเทศ​สมาชิก​ของ​ สหภาพ​ยุโรป นอกจาก​นี้ สหภาพ​ยุโรป​ยัง​ได้​จัด​ให้​มี​ระบบ​สารสนเทศ​ทางการ​ตลาด​ภายใน เพื่อ​ใช้​เป็น​ เครื่อง​มืออ​ ิเล็กทรอนิกส์ใ​ น​การ​แลก​เปลี่ยน​ข้อมูล​ด้าน​การ​บริหาร​จัดการ​ระหว่าง​ประเทศ​สมาชิก จะ​เห็น​ได้​ว่า​

ธ ส


13-72

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

โครงการ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ใน​สหภาพ​ยุโรป​นั้น​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ที่​ช่วย​ทลาย​กำ�แพง​และ​ช่วย​กระชับ​ความ​ สัมพันธ์​ระหว่าง​ประเทศ​โดย​ใช้​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​เป็น​สะพาน​เชื่อม​โยง​ทางการ​ค้า​ระหว่าง​ ประเทศ​ซึ่ง​ช่วย​เพิ่ม​มูลค่า​การ​ค้า​ระหว่าง​ประเทศ​ใน​สหภาพ​ยุโรป​ได้​แบบ​ไร้​พรมแดน ทั้งนี้​ตัวอย่าง​รัฐบาล​ อิเล็กทรอนิกส์ใ​ น​สหภาพ​ยุโรป​ก็​น่า​จะ​เป็น​ประโยชน์​สำ�หรับ​ผู้นำ�​ประเทศ​ต่างๆ ใน​ภูมิภาค​อาเซียน​ให้​ได้​เห็น​ ประโยชน์ แล้ว​นำ�​ไป​เป็น​แนวทาง​ใน​การ​ประยุกต์​ใช้​และ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ต่อ​ไป​เพื่อ​ประโยชน์​ ใน​ด้าน​การ​ค้า​ระหว่าง​ประเทศ​ได้​ไม่​น้อย

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.28 หน้าจ​ อแส​ดง​ผล​การ​เข้า​ถึง www.usa.gov

กรณี​ตัวอย่าง​ที่ 2 ประเทศ​สหรัฐอเมริกา

ธ ส

ม ม

ธ ส

สหรัฐอเมริกา​ซึ่ง​เป็น​ประเทศ​ผู้นำ�​ด้าน​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ได้​จัด​ตั้ง​เว็บไซต์ www. usa.gov เป็นเ​ว็บไซต์​กลาง​หรือ​เว็บ​ท่า​ที่​เชื่อม​โยง​การ​บริการ​ภาค​รัฐ​มากกว่า 100 บริการ มี​การ​แบ่งห​ มวดหมู่​ ออก​เป็น​ภาค​ประชาชน ภาค​ธุรกิจ องค์กร​ที่​ไม่​หวัง​ผล​กำ�ไร บุคลากร​ภาค​รัฐ และ​ชาว​ต่าง​ชาติ อีก​ทั้ง​ยัง ​แบ่ง​ย่อย​ลง​ไป​ตาม​หมวด​หมู่​ของ​ผู้​ใช้​บริการ​ให้​สามารถ​ค้นหา​ข้อมูล​และ​การ​บริการ​ได้​ละเอียด​มาก​ยิ่ง​ ขึ้น นอกจาก​นี้​ยัง​มี​ข้อมูล​ทั่วไป​ที่​บริการ​ออนไลน์​ให้​แก่​ชาว​ต่าง​ชาติ​ที่​ประสงค์​จะ​ดำ�เนิน​ธุรกิจ​การ​งาน การ​ ศึกษา และ​ท่อง​เที่ยว​ใน​ประเทศ​สหรัฐอเมริกา​กว่า 88 ภาษา ประชาชน​สามารถ​ติดต่อ​สื่อสาร​หรือ​ขอ​ความ​

ธ ส


ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

13-73

ธ ส

ช่วย​เหลือ​จาก​ภาค​รัฐ​ได้​แบบ​เรี​ยล​ไทม์​ผ่าน​ทางการ​ช่วย​เหลือ​ออนไลน์​หรือ​ไลฟ์​เฮลพ์ (live help) การ ​สนทนา​ผ่าน​เว็บ​หรือ​เว็บ​แชต (web chat) หรือ​สื่อสาร​ผ่าน​เครือ​ข่าย​สังคม​ออนไลน์ (social media) เช่น ยู​ทิว​บ์ (YouTube) ทวิ​ต​เตอร์ (twitter) เฟ​ซบุ๊ก (facebook) และ​บล็อก (blog) ซึ่ง​นัก​เขียน​บล็อก (blogger) สามารถ​แลก​เปลี่ยน​ข้อมูล​ให้​กับ​ภาค​รัฐ และ​แลก​เปลี่ยน​ประสบการณ์ ความ​คิด​เห็น​ระหว่าง​กัน​ได้

ธ ส

กรณี​ตัวอย่าง​ที่ 3 ประเทศ​แคนาดา

ธ ส

รัฐบาล​แคนาดา มี​ความ​โดด​เด่น​ใน​การ​ให้​บริการ​ภาค​รัฐ​ผ่าน​ระบบ​ออนไลน์​ด้วย​เว็บไซต์​กลาง​ที่​ ทำ�ให้​สามารถ​เข้า​ถึง​การ​บริการ​ภาค​รัฐ​ได้​อย่าง​รวดเร็ว ที่​แสดง​อยู่​บน​หน้า​จอ “บริการ​ที่​ได้​รับ​ความ​นิยม” (Popular Services)

ธ ส

ธ ส

ที่มา: www.canada.gc.ca

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.29 หน้าจ​ อแส​ดง​ผล​การ​เข้า​ถึง Popular Services

ธ ส

ธ ส

ม ม

ธ ส

www.canada.gc.ca เว็บไซต์ก​ ลาง​ของ​แคนาดา​ได้เ​ชือ่ ม​โยง​การ​บริการ​ภาค​ประชาชน ผูป​้ ระกอบการ และ​ชาว​ต่าง​ชาติ นอกจาก​นี้​ยัง​มี​คุณสมบัติ​ของ​บัญชี​ผู้​ใช้​จาก​ภาค​รัฐ (My Government Account) ที่​ ใช้​เป็น​จุด​เดียว​ของ​การ​เข้า​ถึง​ของ​ประชาชน​โดย​การ​จัดการ​ตั้ง​ค่า​ส่วน​บุคคล​เพื่อ​เชื่อม​โยง​ไป​ยัง​ข้อมูล​และ​ การ​บริการ​ของ​รัฐบาล​แคนาดา การ​ให้​บริการ​แบบ​ไร้​สาย (wireless portal) ถูก​พัฒนา​ขึ้น​ให้​ประชาชน​ สามารถ​เข้า​ถึง​บริการ​ภาค​รัฐ​ได้​ทุก​ที่ ทุก​เวลา ซึ่ง​ประชาชน​สามารถ​ศึกษา​วิธี​การ​ใช้​งาน​ผ่าน​อุปกรณ์​สื่อสาร​ เคลื่อนที่​ได้จ​ าก​เว็บ​ท่า​นี้


13-74

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

กรณี​ตัวอย่าง​ที่ 4 สห​ราช​อาณาจักร

ธ ส

รัฐบาล​สห​ราช​อาณาจักร​ก็ม​ ีแ​ ผน​เปิดต​ ัวบ​ ริการ​ร้อง​ทุกข์ผ​ ่าน​อินเทอร์เน็ต (e-Petition) ให้ป​ ระชาชน​ สามารถ​เข้าไป​ร้อง​ทุกข์​แบบ​เรี​ยล​ไทม์​ได้ ทั้งนี้ เป็น​โครงการ​ที่​อยู่​ใน​ความ​ดูแล​ของ​กระทรวง​การ​สื่อสาร​และ​ การ​ปกครอง​ส่วน​ท้อง​ถิ่น (Department of Communication and Local Government) โดย​รัฐบาล ​สห​ราช​อาณาจักร​ได้​ออก​กฎหมาย​บังคับ​ให้​มี​เว็บไซต์​รับ​เรื่อง​ราว​ร้อง​ทุกข์​จาก​ประชาชน​ซึ่ง​มี​ผล​บังคับ​ใช้​ใน​ เดือน​เมษายน พ.ศ. 2553 นอกจาก​นี้ ยังม​ ี​แนว​โน้ม​ว่า​อาจ​จะ​มีก​ าร​ให้​บริการ​เรื่อง​ราว​ร้อง​ทุกข์​ผ่าน​ทาง​โทรศัพท์​มือ​ถือ​และ​เว็บ​ เครือ​ข่าย​สังค​มอ​ย่าง​เฟ​ซบุ๊ก และ​ทวิ​ต​เท​อร์​ด้วย ซึ่ง​ทำ�ให้​รัฐบาล​สห​ราช​อาณาจักร​เข้า​ถึง​ประชาชน​ได้​มาก​ขึ้น ทั้งนี้​เมื่อ​ต้น​เดือน​ธันวาคม พ.ศ. 2552 รัฐบาล​สห​ราช​อาณาจักร​ประกาศ​ว่า​ใน​ปี พ.ศ. 2557 บริการ​ของ​ หน่วย​งาน​รัฐ​เกือบ​ทั้งหมด​จะ​ให้​บริการ​ประชาชน​ผ่าน​อินเทอร์เน็ต​ได้ โดย​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​ได้​รับคำ�​สั่ง​ให้​ จัดทำ�​แผน​กลยุทธ์​ใน​การ​บริหาร​จัดการ​และ​การ​ให้​บริการ​ประชาชน ซึ่ง​รัฐบาล​ก็ได้​รวบรวม​แผน​กลยุทธ์​ ดัง​กล่าว​ไป​ใช้​เป็น​แนวทาง​ใน​การ​สร้าง​แผน​กลยุทธ์​ที่​จะ​ผลัก​ดัน​ให้​สห​ราช​อาณาจักร​ไป​สู่​ประเทศ​แห่ง​รัฐบาล​ อิเล็กทรอนิกส์​ซึ่ง​ประกาศ​ใช้​ใน​ปลาย​ปี พ.ศ. 2553

ธ ส

ธ ส

กรณี​ตัวอย่าง​ที่ 5 ประเทศ​อิรัก

ธ ส

ธ ส

เมื่อ​เดือน​พฤศจิกายน พ.ศ. 2552 รัฐบาล​อิรัก​ได้​ประกาศ​ใช้​เว็บไซต์​ยู​ทิวบ​ ์​เป็นก​ระ​บอก​เสียง​ให้​กับ​ รัฐบาล​สำ�หรับ​นำ�​เสนอ​ผล​งาน​ต่างๆ สู่​สายตา​ประชาชน​และ​คน​ทั่ว​โลก​ได้​รับ​ทราบ​ว่า หลัง​จาก​โค่น​ล้ม​อำ�นาจ​ อดีต​ผู้นำ�​เผด็จการ​แล้ว​อิรัก​ประสบ​ความ​สำ�เร็จ​ใน​ด้าน​ต่างๆ อาทิ ความ​มั่นคง เศรษฐกิจ การเมือง และ​ การ​สร้าง​ระบบ​ประชาธิปไตย จะ​เห็น​ได้​ว่า​เป็น​ความ​ชาญ​ฉลาด​ของ​รัฐบาล​อิรัก​ที่​ได้​หยิบยก​เอา​เครือ​ข่าย ​แบ่ง​ปัน​วิดีโอ​ยอด​นิยม​จาก​ผู้​ใช้​อินเทอร์เน็ต​ทั่ว​โลก​อย่าง​ยู​ทิว​บ์​ไป​เป็น​สื่อ​และ​กระบอก​เสียง ซึ่ง​ช่วย​ให้​เข้า​ ถึง​ผู้คน​ได้​เป็น​จำ�นวน​มาก​ใน​รูป​แบบ​วิดีโอ​ที่​มี​ทั้ง​ภาพ​และ​เสียง ทั้งนี้​ยัง​สามารถ​ส่ง​สื่อ​วิดีโอ​นี้​ไป​ถึง​ผู้​ใช้​ อินเทอร์เน็ต​ได้​ทั่ว​โลก นับ​เป็น​อีก​ตัวอย่าง​ที่​รัฐบาล​ไทย​ไม่​ควร​มอง​ข้าม​เว็บ​มหาชน​อย่าง​ยู​ทิว​บ์​ที่​จะ​นำ�​ไป​ ปรับ​ใช้ใ​ น​การ​เผย​แพร่​ข้อมูล​ข่าวสาร​จาก​ภาค​รัฐส​ ู่​ภาค​ประชาชน นอกจาก​กรณี​ตัวอย่าง​ข้าง​ต้น สำ�หรับ​ใน​ภาค​พื้น​เอเชีย​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ โดย​ เฉพาะ​ใน​เรื่อง​ของ​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์​บาง​ประเทศ​ก็​มี​ความ​ก้าวหน้า​ไป​อย่าง​รวดเร็ว​เช่น​กัน เช่น ประเทศ​ สิงคโปร์​มี​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์​ของ​ภาค​รัฐ​ให้​บริการ​แล้ว​ไม่​ต่ำ�​กว่า 1 พัน​บริการ และ​ประเทศ​เกาหลีใต้​ที่​มี​ โครงสร้าง​พื้น​ฐาน​อินเทอร์เน็ต​ดี​มาก​ให้บ​ ริการ​อิเล็กทรอนิกส์​แล้วก​ว่า 500 บริการ ส่ ว น​ป ระเทศไทย​ก็ ​มี ​ก าร​พั ฒ นา​รั ฐ บาล​อิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ ​ม า​แ ล้ ว ​อ ย่ า ง​ต่ อ ​เ นื่ อ ง มี ​ก าร​ใ ห้ ​บ ริ ก าร​ อิเล็กทรอนิกส์​ผ่าน​ทาง​เว็บไซต์​ของ​หน่วย​งาน​ได้​ทันที​ที่​ต้องการ 7 วัน 24 ชั่วโมง ไม่มี​วัน​หยุด บาง​เรื่อง​ อาจ​ถือ​เป็น​ตัวอย่าง​ของ​โลก​ก็​ว่า​ได้ เช่น การ​บริหาร​การ​เงิน​การ​คลัง​ภาค​รัฐ​แบบ​อิเล็กทรอนิกส์ (GFMIS) การ​ยื่น​แบบ​ชำ�ระ​ภาษี​ออนไลน์ (e-Revenue) การ​ใช้​บัตร​ประจำ�​ตัว​ประชาชน​เอนกประสงค์ (smart card) และ​ห นั ง สื อ เดิ น ทาง​อิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ (e-Passport) เป็ น ต้ น ทั้ ง นี้ ​รั ฐ บาล​ยั ง ​ไ ด้ ​จั ด ​ตั้ ง ​ศู น ย์ ก ลาง​บ ริ ก าร​ ภาค​รัฐ​ออนไลน์​หรือ www.egov.go.th เพื่อ​บริการ​ประชาชน​แบบ​รวม​ศูนย์​ข้อมูล​ให้​สามารถ​เข้า​ถึง​ข้อมูล​

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

13-75

ธ ส

หน่วย​งาน​ราชการ​ทั้งหมด​ได้​ใน​เว็บไซต์​เดียว ซึ่ง​อาจ​จะ​เรียก​ว่า​เป็น​ศูนย์​ราชการ​ไทย​ไซเบอร์​ที่​ให้​บริการ​ได้​ อย่าง​ครอบคลุมแ​ ละ​ครบ​วงจร​ได้

ธ ส

หลัง​จาก​ศึกษา​เนื้อหา​สาระ​เรื่อง​ที่ 13.4.3 แล้วโ​ ปรด​ปฏิบัติ​กิจกรรม 13.4.3 ใน​แนว​การ​ศึกษา​หน่วย​ที่ 13 ตอน​ที่ 13.4 เรื่อง​ที่ 13.4.3

ธ ส

เรื่อง​ที่ 13.4.4 ก้าว​ต่อ​ไป​ของ​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ไทย

ธ ส

บริษัท​การ์​ต​เนอ​ร์ (Gartner) ซึ่ง​เป็น​บริษัท​ที่​ปรึกษา​ระดับ​โลก​ได้​ทำ�นาย​แนว​โน้ม​ของ​เทคโนโลยี 10 ลำ�ดับ​ที่​จะ​เข้า​มา​มี​บทบาท​ต่อ​หลัก​การ​และ​แนว​โน้ม​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​การ​พัฒนา​ด้าน​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ และ​การ​สื่อสาร (ICT) และ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ (e-Government) สำ�หรับป​ ี พ.ศ. 2552 (Gartner’s Top 10 Strategic Technologies for 2009) ไว้ ได้แก่ Virtualization, Cloud Computing, Computing Fabrics, Web Oriented Architecture, Enterprise Mashups, Specialized systems/appliances, Social Software and Social Networking, Unified Communications, Business Intelligence และ Green IT ซึ่ง​เทคโนโลยี​เหล่า​นี้ จะ​ผลัก​ดัน​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ก้าว​ไป​สู่​การ​เป็น​รัฐบาล​ ที่​มี​กา​รบู​รณา​การ​ระหว่าง​หน่วย​งาน​หรือ c-Government (Connected Government) จาก​นั้น​จึง​ขยาย​ ช่อง​ทาง​บริการ​ไป​สู่ m-Government (Mobile Government) และ u-Government (Ubiquitous Government) และ t-Government (Transformed Government) ใน​ที่สุด และ​เทคโนโลยี​ดัง​กล่าว จะ​มี​ผลก​ระ​ทบ​ต่อ​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ ของ​ประเทศไทย​ทั้ง​ใน​ระยะ​สั้น​และ​ระยะ​กลาง​อย่าง​ หลีก​เลี่ยง​ไม่​ได้ รัฐบาล​ที่​แปลง​สภาพ​โดย​สมบูรณ์​ตาม​แนวทาง​ของ​องค์การ​สหประชาชาติ​กำ�หนด​ไว้​ว่า จุด​หมาย​ ปลาย​ทาง​ของ​รัฐบาล​ทั่ว​โลก​ก็​คือ​การ​แปลง​สภาพ​ไป​สู่​ยุค​สารสนเทศ​ที่​มี​การ​เชื่อม​โยง​กัน​ทั้งหมด​ใน​ภาค​รัฐ ปฏิกิริยา​ตัว​เร่ง​ที่​จะ​ทำ�ให้​ก้าว​ไป​ได้แก่ หลัก​การ​พัฒนา​โดย​มี​ประชาชน​เป็น​ศูนย์กลาง (Citizen Centric Development) หลัก​การ​พัฒนา​เว็บ​ท่า​ภาค​รัฐ (e-Government Web Portal) เพื่อ​เป็น​ประตู​สู่​ข้อมูล​ ข่าวสาร​และ​บริการ​ของ​ภาค​รัฐ​ทั้งหมด และ​หลัก​การ​ร่วม​ลงทุน​ระหว่าง​ภาค​รัฐ​กับ​เอกชน (Public-PrivatePartnership - 3P หรือ PPP) ซึ่ง​ทั้งหมด​จะ​นำ�​ไป​สู่​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ยุค​ใหม่​ตาม​ที่​ธนาคาร โลก​ได้​ทำ�การ​วิจัย​ไว้

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


13-76

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

1. แนวทาง​ใน​การ​ผลัก​ดัน​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ป​ ระเทศไทย

กระทรวง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​ใน​ฐานะ​หน่วย​งาน​หลัก​ได้​กำ�หนด​แนวทาง​ใน​การ​ ผลัก​ดัน​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ไว้​หลาย​ด้าน เช่น ด้าน​โครงสร้าง​พื้น​ฐาน​สารสนเทศ​ภาค​รัฐ ด้าน​การ​พัฒนา​ กำ�ลัง​คน​ด้าน​ไอ​ซี​ที ด้าน​การ​พัฒนา​ตาม​มาตรฐาน​และ​เป็นส​ ากล ด้าน​บทบาท​ของ​รัฐ​ใน​เรื่อง​ไอ​ซี​ที ด้าน​เกณฑ์​ การ​สำ�รวจ​ของ​องค์การ​สหประชาชาติ​และ​องค์​กร​อื่นๆ และ​ด้าน​การ​ยก​ระดับ​การ​พัฒนา ดัง​จะ​ได้​กล่าว​ถึง​ พอ​เป็นส​ ังเขป​ดังนี้ 1.1 โครงสร้าง​พื้น​ฐาน​สารสนเทศ​ภาค​รัฐ โครงสร้าง​พื้น​ฐาน​สารสนเทศ​หลัก​ของ​ภาค​รัฐ ที่​เป็น ​สิ่งจ​ ำ�เป็น​ใน​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ป​ ระกอบ​ด้วย 1.1.1 โครง​ข่าย​ติดต่อ​สื่อสาร​ความเร็ว​ใน​ระดับ​บรอดแบนด์ (broadband) ปัจจุบัน​ได้​มี​การ​ ให้​บริการ​โครง​ข่าย​สื่อสาร​ใน​เขต​เมือง​ใหญ่​ไป​มาก​แล้ว จึง​ควร​ขยาย​บริการ​ให้​ทั่ว​ถึง​ทั้ง​ประเทศ​จนถึง​ระดับ​ ตำ�บล​และ​หมู่บ้าน โดย​มุ่ง​เป้า​หมาย​ให้​ประชาชน​สามารถ​เข้า​ถึง​บริการ​ข้อมูล​ข่าวสาร​และ​บริการ​ธุรกรรม​ของ​ ภาค​รัฐ​ด้วย ทั้งนี้​คณะ​รัฐมนตรี​ได้​มี​มติ​เมื่อ​วัน​ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ให้​ความ​เห็น​ชอบ​ใน​นโยบาย ​บร​อด​แบรนด์​แห่ง​ชาติ​ตาม​ที่​กระทรวง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​เสนอ เพื่อ​ใช้​เป็น​เครื่อง​มือ​ใน​ การ​พัฒนา​โครงสร้าง​พื้น​ฐาน​ที่​สำ�คัญ​ด้าน​โทรคมนาคม​ของ​ประเทศ​ให้​มี​ความ​ก้าวหน้า​และ​ทัน​สมัย รองรับ​ และ​ครอบคลุม​ความ​ต้องการ​ของ​ทุก​ภาค​ส่วน​ได้​อย่าง​ทั่ว​ถึง โดย​มี​เป้า​หมาย​ให้​ครอบคลุม​ประชากร​ไม่​ต่ำ�​ กว่า​ร้อย​ละ 80 ภายใน​ปี พ.ศ. 2558 และ​ไม่​ต่ำ�​กว่า​ร้อย​ละ 95 ภายใน​ปี พ.ศ. 2563 และ​ให้​มี​บริการ บ​ ร​อด​แบรนด์ค​ วามเร็วส​ งู ผ​ า่ น​เคเบิลใ​ ย​แก้วน​ �​ำ แสง​ใน​เมือง​ทเี​่ ป็นศ​ นู ย์กลาง​ทาง​เศรษฐกิจข​ อง​ภมู ภิ าค ความเร็ว​ ไม่​ต่ำ�​กว่า 100 เมกะ​บิต​ต่อ​วินาที (Mbps) ภายใน​ปี พ.ศ. 2563 ตลอด​จน​ให้​คณะ​กรรมการ​เทคโนโลยี​ สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​แห่ง​ชา​ติ​บูรณ​า​การ​และ​ทำ�​กรอบ​แผนการ​ดำ�เนิน​งาน กำ�หนด​ตัว​ชี้​วัด และ​วิธี​ ประเมิน​ผล​ที่จ​ ำ�เป็น​สำ�หรับ​การ​ติดตาม​ความ​สำ�เร็จ​ของ​นโยบาย ทั้งนี้​เพื่อ​เป็นการ​ยก​ระดับ​คุณภาพ​ชีวิต​และ​ เสริมส​ ร้าง​ราย​ได้​ให้แ​ ก่​ประชาชน​และ​ผู้ป​ ระกอบ​ธุรกิจ​ขนาด​กลาง​และ​ขนาด​ย่อม​ด้วย 1.1.2 ช่อง​ทาง​ติดต่อ​ข้อมูล​ข่าวสาร​และ​แลก​เปลี่ยน​ข้อมูล​ของ​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​ที่​มี​ความ​ มั่นคง​ปลอดภัย (secured government intranet) จะ​ช่วย​ให้​กา​รบู​รณา​การ​ด้าน​ข้อมูล​ข่าวสาร​ของ​ภาค​รัฐ​ ได้​อย่าง​มั่นคง​ปลอดภัย และ​ช่วย​ให้การ​บริหาร​ราชการ​มี​ประสิทธิภาพ​และ​ประสิทธิผล รวม​ทั้ง​เป็นการ​ สนับสนุน​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์​สำ�หรับ​ประชาชน ธุรกิจ และ​ภาค​ส่วน​ต่างๆ สัมฤ​ทธิ​ผล​ใน​เชิง​บูรณ​า​การ​ ระหว่าง​หน่วย​งาน​ได้​อย่าง​สมบูรณ์ 1.1.3 ช่อง​ทาง​ชำ�ระ​เงิน​ที่​มี​ความ​มั่นคง​ปลอดภัย (secured payment gateway) จะ​ช่วย​ ให้​ประชาชน​และ​ผู้​ใช้​บริการ​ทุก​ภาค​ส่วน​มี​ความ​มั่นใจ​ใน​การ​ใช้​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​การ​ ชำ�ระ​เงิน ซึ่ง​จะ​ช่วย​ยก​ระดับ​ความ​ต้องการ​การ​ให้​บริการ​ช่อง​ทาง​อิเล็กทรอนิกส์​ใน​การ​ทำ�​ธุรกรรม​กับ​ภาค​ รัฐ​มี​ประสิทธิภาพ​เพิ่ม​ขึ้น ทำ�ให้​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​สามารถ​ดำ�เนิน​งานการ​ให้​บริการ​ตาม​แนวทาง​รัฐบาล​ อิเล็กทรอนิกส์ไ​ ด้อ​ ย่าง​สมบูรณ์​แบบ 1.2 การ​พัฒนา​กำ�ลัง​คน​ด้าน​ไอ​ซี​ที การ​พัฒนา​กำ�ลัง​คน​ด้าน​ไอ​ซี​ที​ใน​ทุก​ภาค​ส่วน​ทั้ง​ใน​เรื่อง การ​ สร้าง​ให้​ประชาชน​รู้แ​ ละ​ใช้ไ​ อที​ให้เ​ป็น การ​เพิ่มข​ ีดค​ วาม​สามารถ​ให้ก​ ับ​ผู้บ​ ริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูง

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

13-77

ธ ส

การ​ส่ง​เสริม​การ​สร้าง​กำ�ลัง​คนใน​ภาค​พาณิชย์​อิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรม​อิเล็กทรอนิกส์ และ​อุตสาหกรรม​ ด้าน​เทคโนโลยีส​ ารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร การ​กำ�หนด​ความ​ก้าวหน้า​ใน​อาชีพ​เทคโนโลยีส​ ารสนเทศ​และ​การ​ สื่อสาร​สำ�หรับ​บุคลากร​ภาค​รัฐ การ​จัด​ตั้ง​สภา​ผู้​บริหาร​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​ระดับ​สูง และ​การ​วิจัย​พัฒนา ​ด้าน​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร ล้วน​มี​ความ​สำ�คัญ​เป็น​อย่าง​ยิ่ง 1.3 การ​พัฒ นา​ตาม​แนวทาง​และ​แนว​ปฏิบัติ​ที่​มี​ม าตรฐาน​แ ละ​เป็น ​สากล การ​พั ฒ นา​รั ฐ บาล​ อิเล็กทรอนิกส์​โดย​ยึด​ประชาชน​เป็น​ศูนย์กลาง การ​พัฒนา​หน้า​จอ​เพื่อ​การ​ติดต่อ​เพียง​ที่​เดียว (single window) ทาง​อินเทอร์เน็ต​เพื่อ​อำ�นวย​ความ​สะดวก​ใน​การ​ติดต่อ​ราชการ​หลาย​หน่วย การ​พัฒนา​เคาน์เตอร์​ เพื่อ​การ​ติดต่อ​ประชาชน​อิเล็กทรอนิกส์ (e-Citizen Contact Counter) การ​พัฒนา​เว็บท​ ่า​เพื่อ​เป็นศ​ ูนย์​รวม​ บริการ​อิเล็กทรอนิกส์ (e-Services) หรือพ​ อร์ทัล​สำ�หรับป​ ระชาชน​อิเล็กทรอนิกส์ (e-Citizen portal) การ​ พัฒนากร​อบ​แนวทาง​การ​เชื่อม​โยง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​แห่ง​ชาติ (TH e-GIF) ให้​เป็น​แนวทาง​และ​มาตรฐาน​ กลาง​ทั้ง​ใน​ด้าน​ข้อมูล การ​สื่อสาร​ข้อมูล และ​วิธี​การ​เพื่อ​ส่ง​เสริม​การ​ดำ�เนิน​การ​ใน​เชิง​บูรณาการ การ​สร้าง​ ความ​มั่นใจ​ใน​ระบบ​ความ​มั่นคง​ปลอดภัย​ที่ร​ วม​ถึง​การ​พัฒนา​ระบบ​ผู้​ให้​บริการ​ออก​ใบรับ​รอง​อิเล็กทรอนิกส์​ หลัก​ของ​ชาติ​หรือ​เอ็น​อาร์​ซี​เอ (National Root CA – NRCA) และ​กฎหมาย​ด้าน​ไอ​ซี​ที ตลอด​จน​กา​ร บู​รณา​การ​ระบบ​บริหาร​จัดการ​สำ�นักงาน​ส่วน​หลัง (back office) ข้าง​ต้น ต้อง​ดำ�เนิน​การ​ตาม​แนวทาง​และ​ แนว​ปฏิบัติท​ ี่​เป็น​มาตรฐาน​และ​เป็น​สากล 1.4 บทบาท​ของ​รัฐ​ใน​เรื่อง​ไอ​ซี​ที รัฐบาล​จะ​ต้อง​ตระหนัก​ว่า บทบาท​ของ​รัฐ​ใน​เรื่อง​ไอ​ซี​ที​นั้น​มี​ หลาก​หลาย​หน้าที่​ทั้ง​ใน​ฐานะ​ของ​ผู้​ใช้​เทคโนโลยี ใน​ฐานะ​ผู้​ให้​บริการ ใน​ฐานะ​ผู้​ให้การ​สนับสนุน และ​ ประการ​สำ�คัญ​สุดท้าย​ก็​คือ ใน​ฐานะ​ผู้​กำ�หนด​มาตรฐาน​และ​แนวทาง​ใน​การ​ดำ�เนิน​งาน​นั้น รัฐบาล​จะ​ต้อง​ให้​ ความ​สำ�คัญ​เท่า​เทียม​และ​ขนาน​กัน​ไป​เพราะ​เป็น​เรื่อง​ที่​เกี่ยวข้อง​กับ​การ​พัฒนา​ทั้ง​ใน​ด้าน​โครงสร้าง​พื้น​ฐาน การ​พัฒนา​คน และ​ที่ส​ ำ�คัญ​ก็ค​ ือ การ​พัฒนา​ใน​เชิง​บูรณ​าก​ าร​ที่​จะ​ทำ�ให้​เกิด​ความ​สัมฤ​ทธิ​ผล 1.5 การ​ให้​ความ​สำ�คัญ​กับ​เกณฑ์​การ​สำ�รวจ​ของ​องค์การ​สหประชาชาติ​และ​องค์​กร​อื่นๆ ใน​การ​ยก​ ระดับร​ ัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ป​ ระเทศไทย​ใน​เวทีโ​ ลก องค์การ​สหประชาชาติแ​ ละ​ศูนย์วิจัยร​ ัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ แห่ง​มหาวิทยาลัย​วา​เซ​ดะ​เป็น​เวที​ที่​มี​การ​อ้างอิง​กัน​มาก​ตาม​ที่​ได้​กล่าว​มา​แล้ว​ข้าง​ต้น ทั้ง​สอง​องค์กร​นี้​ต่าง​ ก็ได้​ใช้​ดัชนี​ใน​การ​ชี้​วัด​เหมือน​และ​ต่าง​กัน​บ้าง​ตาม​ที่​กล่าว​มา​แล้ว และ​หาก​ต้องการ​ปรับปรุง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ให้อ​ ยู่​ใน​อันดับท​ ี่​ดีข​ ึ้น​ก็​ต้อง​พิจารณา​จาก​ตัว​ชี้​วัดเ​หล่า​นั้น​เป็น​สำ�คัญ 1.6 การ​เน้นก​ าร​พฒ ั นา​ใน​เรือ่ ง​ทจ​ี่ ะ​น�​ำ ไป​สก​ู่ าร​ยก​ระดับก​ าร​พฒ ั นา การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ จะ​เน้น​การ​พัฒนา​ใน​เรื่อง ประตู​เข้า​สู่​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ (web portal) อย่าง​เป็น​เอกภาพ การ​ประกาศ​ ใช้​เลข​ประจำ�​ตัว​ประชาชน 13 หลัก​ใน​การ​เข้า​สู่​บริการ​ของ​ทุก​หน่วย​งาน การ​พัฒนา​ช่อง​ทาง​ชำ�ระ​เงิน​ที่​มี​ ความ​มั่นคง​ปลอดภัย​เพื่อ​ให้​ผู้​เข้า​มา​ใช้​บริการ​มี​ความ​มั่นใจ​และ​ประหยัด​งบ​ประมาณ การ​ใช้​อินเทอร์เน็ต​ บรอดแบนด์ใ​ น​ราคา​ถูก​ลง​อย่าง​ทั่ว​ถึงท​ ั้งป​ ระเทศ การ​ส่ง​เสริม​คอมพิวเตอร์​ราคา​ถูก​อย่าง​จริงจัง​และ​ต่อ​เนื่อง และ​การ​เป็น​เจ้า​ภาพ​กลาง​ใน​การ​ให้​มี​การ​ใช้​พีเค​ไอ (Public Key Infrastructure - PKI) ตลอด​จน​กา​ร บู​รณา​การ​ใบรับร​ อง​อิเล็กทรอนิกส์ข​ อง​ผู้​ประกอบ​การ​ทุก​ราย ให้​มี​ความ​สมบูรณ์​ที่​จะ​นำ�​ไป​สู่​การ​ยก​ระดับ​ขึ้น​ ตาม​มาตรฐาน​สากล

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


13-78

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

2. ทิศทาง​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์แ​ บบ​ก้าว​กระโดด

แนวทาง​ใน​การ​ผลัก​ดัน​ข้าง​ต้น หาก​มี​การ​ดำ�เนิน​การ​อย่าง​ต่อ​เนื่อง​และ​จริงจัง จะ​ทำ�ให้​ประเทศไทย​ สา​มา​รถ​บูรณ​า​การ​ไป​สู่​สิ่ง​ที่​เรียก​ว่า การ​เชื่อม​โยง​กัน​อย่าง​ไร้​รอย​ตะเข็บ (Connected Government) และ​ ขณะ​เดียวกันช​ ่วง​ปี พ.ศ. 2553-2557 กระทรวง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​ก็ได้​กำ�หนด​ทิศทาง​การ​ พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์แ​ บบ​ก้าว​กระโดด​ซึ่งป​ ระกอบ​ด้วย​หลาย​โครงการ และ​หนึ่งใ​ น​นั้นไ​ ด้แก่ โครงการ​ ขับ​เคลื่อน​จาก e-Government ไป​สู่ m-Government ไป​สู่ u-Government และ​ไป​สู่ t-Government ซึ่ง​จะ​ได้​ยก​ขึ้น​เป็นต​ ัวอย่าง​พอ​สังเขป​ดังนี้

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ม ม

ธ ส

ภาพ​ที่ 13.30 ทิศทาง​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์แ​ บบ​ก้าว​กระโดด

ที่มา: รายงาน​ฉบับ​สมบูรณ์​โครงการ​สำ�รวจ​สถานภาพ​ปัจจุบัน​ของ​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ประเทศไทย เพื่อ​กำ�หนด​แนวทาง ​ผลัก​ดัน​เสนอ​กระทรวง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​โดย​ศูนย์​บริการ​วิชาการ​สถาบัน​บัณฑิต​พัฒนบริหารศาสตร์ วัน​ที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2552


ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

13-79

ธ ส

เพื่อ​ให้​ประเทศไทย​สามารถ​ก้าว​ไป​สู่​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์​อย่าง​สมบูรณ์​แบบ หลาก​หลาย​ช่อง​ทาง​ แบบ ที่​เดียว ทันใด ทั่วไป ทุก​เวลา ตาม​มาตรฐาน​สากล รวม​ทั้ง​ยก​ระดับ​ให้​สูง​ขึ้น​แบบ​ก้าว​กระโดด​ใน​การ ​จัด​อันดับ​ของ​นานาชาติ​พร้อม​ทั้ง​แปลง​สภาพ​เป็น t-Government ตาม​นิยาม​ของ​องค์การ​สหประชาชาติ​ ได้​ใน​ที่สุด จึง​กำ�หนด​เป้า​หมาย​ภาพ​รวม​ใน​การ​พัฒนา​ไว้ ดังนี้ ระยะ​ที่ 1 กำ�หนด​เป้า​หมาย​เป็น c-Government ที่​มี​การ​เชื่อม​โยง​กัน​ระหว่าง​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​ ใน​การ​ให้​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์​อย่าง​หลาก​หลาย​ผ่าน​ทาง​อินเทอร์เน็ต ระยะ​ที่ 2-3 เป็น m-Government ที่​มี​การ​เชื่อม​โยง​บริการ​กัน​ระหว่าง​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​ผ่าน​ช่อง ​ทาง​โทรศัพท์​เคลื่อนที่​และ​อุปกรณ์​คอมพิวเตอร์​เคลื่อน​ที่​อื่นๆ ระยะ​ที่ 4 เป็น u-Government ที่​มี​การ​เชื่อม​โยง​บริการ​กัน​ระหว่าง​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ ผ่าน​ช่อง​ทาง​ ที่​หลาก​หลาย ณ ที่ใ​ ด​ก็ได้ และ​เป็น​บริการ​ตลอด​เวลา​แบบ 24x7 ระยะ​ที่ 5 เป็น t-Government หรือ​รัฐบาล​ที่​ผ่าน​การ​แปลง​สภาพ​ตาม​นิยาม​ของ​องค์การ​สหประชาชาติ​ที่​เป็น​รัฐบาล​ที่​ใกล้​ชิด​กับ​ประชาชน​ทุก​ภาค​ส่วน​ที่​มี​การ​เชื่อม​โยง​กัน​ระหว่าง​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​ ผ่าน​ช่อง​ทาง​ที่​หลาก​หลาย​ใน​การ​ให้​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์ ณ ที่​ใด​ก็ได้ และ​เป็นบ​ ริการ​ตลอด​เวลา​แบบ 24x7 โครงการ​ขับ​เคลื่อน​จาก c-Government ไป​สู่ m-Government ไป​สู่ u-Government และ​ ไป​สู่ t-Government จะ​เป็น​โครงการ​ที่​ต่อย​อด​ให้​สามารถ​บริการ​ผ่าน​ช่อง​ทาง​โทรศัพท์​มือ​ถือ เครื่อง​ คอมพิวเตอร์โ​ น้ตบุ๊ก มัลติมีเดีย และ​พี​ดีเ​อ (Personal Digital Assistant - PDA) รวม​ถึง​การ​ที่​ประชาชน​ สามารถ​ขอรับ​ข้อมูล​และ​บริการ​ผ่าน​ทาง​อิเล็กทรอนิกส์​ด้วย​การ​ผสม​ผสาน​ไอ​ซี​ที​ทุก​รูป​แบบ​ที่​ทำ�ให้​สามารถ​ บริการ​ประชาชน​ได้​ทุก​เวลา​และ​ทุก​สถาน​ที่ ทัดเทียม​กับ​ประเทศ​ที่​ก้าวหน้าใ​ น​เวที​สากล​ได้​ต่อ​ไป

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

3. ปัจจัย​แห่งค​ วาม​สำ�เร็จ​ของ​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์

ธ ส

การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ ถึง​แม้​จะ​มีน​โย​บาย แผน​งาน โครงการ ทิศทาง และ​แนวทาง​ ผลัก​ดัน​ที่​ชัดเจน​แล้ว​ก็ตาม แต่​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​จะ​ประสบ​ความ​สำ�เร็จ​ได้​ยัง​ขึ้น​อยู่​กับ​ความ​พร้อม​ หลาย​ประการ เช่น ความ​พร้อม​ของ​ผู้นำ�​ประเทศ ความ​พร้อม​ของ​โครงสร้าง​พื้น​ฐาน​ด้าน​สารสนเทศ ความ​ พร้อม​ของ​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ และ​ความ​พร้อม​ของ​ประชาชน​และ​สิ่ง​แวดล้อม เป็นต้น 3.1 ความ​พร้อม​ของ​ผู้นำ�​ประเทศ ความ​พร้อม​ของ​ผู้นำ�​ประเทศ​ถือ​เป็น​เรื่อง​สำ�คัญ​ที่สุด​ก็​ว่า​ได้ เพราะ​เรื่อง​ของ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​เป็นการ​ทำ�งาน​ที่​จะ​ต้อง​ใช้​การ​ตัดสิน​ใจ​ของ​ผู้​บริหาร​ประเทศ​ใน​ ลักษณะ​ของ​จาก​บน​ลง​ล่าง (top down) ใน​ระดับ​สูง เนื่องจาก​ต้อง​อาศัย​การ​ตัดสิน​ใจ​ใน​การ​เปลี่ยนแปลง​ เป็นอ​ ัน​มาก​ทั้ง​กฎหมาย ระเบียบ ข้อ​บังคับ และ​วิธี​การ​ปฏิบัติ​งาน​เพื่อ​แปลง​งาน​จำ�นวน​มาก​ที่​เคย​ทำ�​ด้วย​มือ​ เป็นร​ ะบบ​คอมพิวเตอร์ห​ รือ​อิเล็กทรอนิกส์​และ​ผ่าน​ระบบ​อินเทอร์เน็ต นอกจาก​นั้น​ยัง​ต้องการ​การ​สนับสนุน​ ทั้ง​ด้าน​คน เงิน งบ​ประมาณ​ใน​จำ�นวน​ที่​เพียง​พอ​และ​ต่อ​เนื่อง​เป็นร​ ะยะ​เวลา​นาน ดังน​ ั้น​การ​ทำ�ให้​เกิด​รัฐบาล​ อิเล็กทรอนิกส์ จะ​ต้อง​ได้​รับ​การ​ผลักด​ ัน​จาก​ผู้นำ�​ประเทศ​อย่าง​เข้ม​แข็ง​ให้​เกิด​การ​เปลี่ยนแปลง ปี พ.ศ. 2544 จาก​การ​ที่​ประเทศไทย​มี​ผู้นำ�​รัฐบาล​ที่​มี​ศักยภาพ​และ​มี​ความ​มุ่ง​มั่น​ใน​การ​ใช้​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​เพื่อ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​สูงสุด​ใน​ประวัติศาสตร์​ที่​ผ่าน​มา ปรากฏ​

ธ ส

ธ ส

ธ ส


13-80

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

ผล​การ​ประเมิน​และ​จัด​อันดับ​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ประเทศไทย​ประสาน​เสียง​สอดคล้อง​กัน ​ทุก​องค์กร​ออก​มา​ว่า ประเทศไทย​ก้าว​สู่​อันดับ​สูง​ขึ้น​รวดเร็ว​อย่าง​ก้าว​กระโดด แต่​ก็​ต้อง​ตก​อันดับ​ลง​มา​ ทันที​เมื่อ​มี​การ​เปลี่ยนแปลง​ผู้นำ� นอกจาก​ผู้นำ�​จะ​ต้อง​มุ่ง​มั่น​แล้ว ผู้นำ�​ยัง​ต้อง​ให้​ความ​สำ�คัญ​ต่อ​การ​พัฒนา​สิ่ง​ที่​เกี่ยว​เนื่อง​ใน​ทุก​ องค์กร ดังนี้ 1) พัฒนา​ความ​มุ่ง​มั่น​ของ​ผู้​บริหาร​ใน​ระดับ​องค์กร เช่น ผู้​บริหาร​อาวุโส​สูงสุด (CEO) จะ​ ต้อง​สนใจ​และ​มุ่งม​ ั่นใ​ น​การ​พัฒนา​เทคโนโลยีส​ ารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร และ​ต้อง​ทุ่มเท​ทรัพยากร​ที่เ​กี่ยวข้อง​ ใน​การ​พัฒนา​อย่าง​เต็ม​ที่ 2) พัฒนา​โครงสร้าง​การ​บริหาร​และ​กฎหมาย​ควบคุมต​ า่ งๆ โดย​จะ​ตอ้ ง​มก​ี าร​ปรับปรุงโ​ ครงสร้าง ตลอด​จน​ปรับ​กระบวนการ​ให้​สามารถ​ใช้​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​ได้​อย่าง​มี​ประสิทธิภาพ 3) พัฒนาการ​บริหาร​โครงการ​ที่​มี​ประสิทธิภาพ มี​การ​วางแผน การ​จัดการ​ทางการ​เงิน​ที่​ดี มี​กลยุทธ์ และ​มี​ผล​ตอบแทน​ที่​สามารถ​ชี้ว​ ัดไ​ ด้ 3.2 ความ​พร้อม​ใน​เชิง​โครงสร้าง​พื้น​ฐาน การ​ทำ�ให้​เกิด​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ได้​จะ​ต้อง​มี​โครงสร้าง​พื้น​ฐาน​ที่จ​ ำ�เป็น​ต่อก​ าร​เข้า​ถึงก​ าร​ให้บ​ ริการ โดย​สามารถ​แยก​ออก​เป็นค​ วาม​พร้อม​ของ​เรื่อง​ต่างๆ ดังนี้ 3.2.1 โครง​ข่าย​การ​สื่อสาร​โทรคมนาคม​ที่​พร้อม​ใช้​เพื่อ​การ​สื่อสาร และ​สามารถ​เข้า​ถึง​ได้ ทุกที่ ทั่ว​ถึง และ​เท่า​เทียม ใน​กรณี​นี้​รัฐ​ต้อง​เร่ง​พัฒนา​โครง​ข่าย​โทรคมนาคม​รวม​ถึง​ปัจจัย​อื่น​ที่​ทำ�ให้กระแส สารสนเทศ (flow of information) สามารถ​ส่งไ​ ป​ถึง​ประชาชน​อย่าง​ทั่ว​ถึง ใน​ราคา​ที่​เป็น​ธรรม 3.2.2 ฮาร์ดแวร์​และ​ซอฟต์แวร์ (hardware and software) ต้อง​มี​อย่าง​พอ​เพียง​เพื่อ​ให้​ทั้ง​ ภาค​รัฐ​และ​ประชาชน​สามารถ​ใช้​เป็น​เครื่อง​มือ​ใน​การ​ให้​และ​รับ​บริการ​ของ​ภาค​รัฐ ประชาชน​สามารถ​เข้า​ ถึง​บริการ​ต่างๆ ที่​รัฐ​จัด​ทำ�ให้ โดย​ใช้​ฮาร์ดแวร์​ที่​เหมาะ​สม​กับ​สภาพ​ท้อง​ถิ่น​และ​ภูมิประเทศ เช่น ตู้​บริการ​ สาธารณะ (kiosk) และ​ศูนย์ชุมชน​ทาง​ไกล (tele center) ที่​เป็น​เครื่อง​มือ​ที่​รัฐ​จัดหา​และ​ส่ง​ไป​ยัง​พื้นที่​ ต่างๆ ได้ 3.2.3 ทรัพยากร​มนุษย์ (human resources) ข้าราชการ​และ​ประชาชน​จะ​ต้อง​มี​การ​พัฒนา​ ทักษะ การ​เรียน​รู้​ที่​จะ​ยอมรับ​การ​เปลี่ยนแปลง​ใน​การ​ปฏิบัติ​งาน การ​ให้​และ​การ​รับ​บริการ​เพื่อ​ให้​เกิด​ผล​ แบบ​พลวัต (dynamic) ​อัน​เกิด​จาก​เทคโนโลยี​ที่​เปลี่ยนแปลง​ไป 3.2.4 เนือ้ หา​และ​สือ่ (content and media) จะ​ตอ้ ง​มก​ี าร​พฒ ั นา​เนือ้ หา​ทเี​่ หมาะ​สม​กบั ท้องถิน่ (local content) ซึ่ง​ต้อง​มี​การ​ปรับ​แต่ง​ให้​เหมาะ​สม​กับ​เทคโนโลยี ทั้งนี้​จะ​ต้อง​พัฒนา​ทรัพยากร​มนุษย์​ จำ�นวน​มาก​เพื่อ​ปรับแ​ ต่ง​เนื้อหา​ให้​ตรง​ตาม​สภาพ​แวดล้อม​และ​โครงสร้าง​ของ​ประเทศไทย 3.3 ความ​พร้อม​ของ​หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ นอกจาก​ภาค​รัฐ​มี​กระทรวง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​ สื่อสาร​เป็น​เจ้า​ภาพ​ใน​การ​ประสาน​งาน (collaboration) และ​บูรณาการ (integration) เพื่อ​ให้​เกิด​รัฐบาล​ อิเล็กทรอนิกส์​โดย​เร็ว​แล้ว นอกจาก​นั้น​ยัง​ต้อง​จัด​ตั้ง​ศูนย์​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร​ขึ้น​ใน​ระดับ​ กระทรวง​ทุก​กระทรวง​เพื่อ​ให้​เป็น​ศูนย์กลาง​สั่ง​การ​และ​ศูนย์​รวม​ข้อมูล​ข่าวสาร ส่ง​และ​แลก​เปลี่ยน​ระหว่าง​ กระทรวง ตลอด​จน​ใช้​ใน​การ​ตัดสิน​ใจ​และ​สั่ง​การ​ของ​แต่ละ​กระทรวง​อีก​ด้วย

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

13-81

ธ ส

หน่วย​งาน​ภาค​รัฐ​ใน​ส่วน​ต่างๆ จะ​ต้อง​มี​ความ​พร้อม แต่​หาก​ได้​รับ​การ​ผลัก​ดัน​จาก​ผู้นำ�​ประเทศ ​และ​ผู้​บริหาร​ใน​ระดับ​สูง ก็​จะ​ทำ�ให้​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​มี​ความ​เป็น​ไป​ได้​สูง​ที่​จะ​ประสบ​ความ​ สำ�เร็จ 3.4 ความ​พร้อม​ของ​ประชาชน​และ​สิ่ง​แวดล้อม ความ​สำ�เร็จ​ของ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​ที่แท้​จริง​ จะ​ต้อง​มี​เป้า​หมาย​คือ ทำ�​เพื่อ​ประชาชน​อย่าง​ทั่ว​ถึง​และ​เท่า​เทียม ดัง​นั้น “ความ​สำ�เร็จ​ของ​การ​ออกแบบ ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ คือ​การ​ยึด​ประชาชน​เป็น​ศูนย์กลาง” และ​เนื่องจาก​ประชาชน​ใน​ประเทศไทย​มี​ความ​ แตก​ต่าง​กัน​มาก ทั้ง​ใน​ด้าน​ของ​โอกาส และ​พื้น​ฐาน​การ​ศึกษา ความ​หลาก​หลาย​ดัง​กล่าว​จึง​ทำ�ให้​การ​บริการ​ ที่เ​หมือน​กัน ไม่อ​ าจ​กระจาย​สู่ป​ ระชาชน​ทุก​กลุ่ม​อย่าง​เท่าเ​ทียม​กัน​ได้ เช่น กลุ่ม​ผู้​มี​ความ​รู้​ระดับส​ ูง มี​เครื่อง​ คอมพิวเตอร์​ของ​ตนเอง และ​สามารถ​เข้า​ถึง​ระบบ​อินเทอร์เน็ต​ได้​โดยตรง​เป็นก​ลุ่ม​ที่​สามารถ​ใช้​บริการ​ต่างๆ ที่​ภาค​รัฐ​มี​ใน​โครงการ​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ กลุ่ม​นี้​อาจ​ไม่​ต้อง​ฝึก​อบรม​เพิ่ม​เติม​แต่​อย่าง​ใด ส่วน​กลุ่ม​ผู้​มี​ ความ​รู้​ปาน​กลาง​อาจ​จะ​มี​เครื่อง​มือ​เป็น​ของ​ตนเอง หรือ สามารถ​เข้า​ถึง​ร้าน​อินเทอร์เน็ต​หรือ​สถาน​ที่​บริการ ​ของ​รัฐ​ได้ กลุ่ม​นี้​สามารถ​ใช้​การ​ฝึก​อบรม​ของ​สถาบัน​การ​ศึกษา​ต่างๆ ใน​โครงการ​อินเทอร์เน็ต​โรงเรียน โครงการ One Tablet per Child หรือ​ใช้​ตู้​บริการ​อินเทอร์เน็ต​หรือ​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์​สาธารณะ และ​ ใช้​การ​บริการ ณ ที่ทำ�การ​ไปรษณีย์​ไทย​ได้​โดยตรง แต่​สำ�หรับ​กลุ่ม​ผู้​มี​ความ​รู้​น้อย​และ​ด้อย​โอกาส​ตก​อยู่​ ใน​ฐานะ​ที่​ไม่​สามารถ​หาความ​รู้​และ​ใช้​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์​ที่​รัฐบาล​จัด​ทำ�ให้​ได้ อาจ​ใช้ โครงการ Tele Center หรือ​โครงการ 1 วัด 1 ศูนย์​เรียน​รู้ หรือ​โครงการ​ไอ​ซี​ที​ชุมชน และ​อินเทอร์เน็ต​ตำ�บล ตลอด​จน ตู้ (kiosk) และ​ที่ทำ�การ​ไปรษณีย์ เป็น​เครื่อง​มือ​ใน​การ​ลด​ช่อง​ว่าง​ทาง​ดิจิทัล​ของ​ประชาชน​ใน​กลุ่ม​นี้

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

หลัง​จาก​ศึกษา​เนื้อหา​สาระ​เรื่อง​ที่ 13.4.4 แล้ว โป​รด​ปฏิ​บัต​ิกิจกรรม 13.4.4 ใน​แนว​การ​ศึกษา​หน่วย​ที่ 13 ตอน​ที่ 13.4 เรื่อง​ที่ 13.4.4

ธ ส

ธ ส

ธ ส


13-82

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

บรรณานุกรม

ธ ส

ธ ส

กระทรวง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร (2545) แผน​ทิศทาง​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​กระทรวง​ เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร กรุงเทพมหานคร กรอบ​แนวทาง​การ​เชื่อม​โยง​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​แห่ง​ชาติ เวอร์ชั่น 1.1 กรุงเทพมหานคร กระทรวง​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร ศูนย์​เทคโนโลยี​อิเล็กทรอนิกส์​และ​คอมพิวเตอร์​แห่ง​ชาติ กระทรวง​ วิทยาศาสตร์​และ​เทคโนโลยี (2552) แผน​แม่บท​เทคโนโลยี​สารสนเทศ​และ​การ​สื่อสาร (ฉบับ​ที่ 2) ของ​ ประเทศไทย พ.ศ. 2552 – 2556 กรุงเทพมหานคร (2554) (ร่าง) กรอบ​นโยบาย​เทคโนโลยี​สารสนเทศ ระยะ พ.ศ. 2554 – 2563 ของ​ประเทศไทย (IT2020) [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้​จาก http://www.ict2020.in.th/ การ​ชำ�ระ​ภาษี​ผ่าน​อินเทอร์เน็ต​ของ​กรม​สรรพากร [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้จ​ าก http://rdserver.rd.go.th กา​รบู​รณา​การ​และ​เชื่อม​โยง​ข้อมูล​ภาค​รัฐ [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้​จาก http://sgis.nso.go.th/sgis/GeoStatistic. asp การ​ให้​บริการ​ชำ�ระ​ภาษี​รถยนต์ผ​ ่าน​อินเทอร์เน็ต [ออนไลน์] เข้าถ​ ึง​ได้​จาก http://www.dlt.go.th [ออนไลน์] เข้า​ถึงไ​ ด้​จาก https://www.dlte-serv.in.th/dltWeb/ คณะ​กรรมการ​ธุรกรรม​ทาง​อิเล็กทรอนิกส์ [ออนไลน์] เข้าถ​ ึง​ได้จ​ าก http://www.etcommission.go.th คณะ​กรรมการ​พิจารณา​เกี่ยว​กับ​เครื่อง​คอมพิวเตอร์ (2514) รายงาน​ผล​การ​สำ�รวจ​ปริมาณ​และ​ความ​ต้องการ​ใน​ การ​ใช้เครื่อง​คอมพิวเตอร์​ของ​ส่วน​ราชการ​และ​รัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2514 กรุงเทพมหานคร สำ�นักงาน​สถิติ​ แห่ง​ชาติ เครือ​ข่าย CIO เข้มแ​ ข็ง [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้​จาก http://cio.mict.go.th เคาน์เตอร์​บริการ​ประชาชน [ออนไลน์] เข้า​ถึงไ​ ด้​จาก http://www.opdc.go.th/oldweb/thai/gcs.pdf โครงการ​พฒ ั นา​เครือข​ า่ ย​สอื่ สาร​ขอ้ มูลเ​ชือ่ ม​โยง​หน่วย​งาน​ภาค​รฐั (GIN) [ออนไลน์] เข้าถ​ งึ ไ​ ด้จ​ าก http://203.113.25.35/ gin/objective.htm ชุมพล บุญ​มี (2553) “เอกสาร​ประกอบ​การ​สัมมนา เรื่อง​การ​พัฒนา​ระบบ​จดหมาย​อิเล็กทรอนิกส์​เพื่อ​การ​สื่อสาร​ใน​ ภาค​รฐั และ​การ​พฒ ั นา​ระบบ​การ​บริหาร​จดั การ​องค์กร​ภาค​รฐั ” กรุงเทพมหานครสถาบันวิจยั แ​ ละ​ให้ค​ �ำ ปรึกษา ​แห่ง​มหาวิทยาลัย​ธรรมศาสตร์ ตลาด​กลาง​บริการ​จัด​ประมูล [ออนไลน์] เข้า​ถึงไ​ ด้​จาก http://www.catcommerce.com ธนาคารโลก [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้​จาก http://www.worldbank.org ผู้​ให้​บริการ​ออก​ใบรับ​รอง​อิเล็กทรอนิกส์แ​ ห่ง​ชาติ [ออนไลน์] เข้าถ​ ึง​ได้จ​ าก http://www.nrca.go.th มติ​คณะ​รัฐมนตรี [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้​จาก http://www.cabinet.thaigov.go.th ระบบ​การ​ทะเบียน​อิเล็กทรอนิกส์แ​ ห่งช​ าติ [ออนไลน์] เข้าถ​ ึง​ได้จ​ าก www.khonthai.com ระบบ​การ​จัด​ซื้อ​จัด​จ้าง​ภาค​รัฐ [ออนไลน์] เข้า​ถึงไ​ ด้​จาก http://www.gprocurement.go.th ระบบ​บริหาร​การ​เงิน​การ​คลังภ​ าค​รัฐ​แบบ​อิเล็กทรอนิกส์ [ออนไลน์] เข้าถ​ ึง​ได้จ​ าก http://www.gfmis.go.th

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


ธ ส

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์

13-83

ธ ส

ระบบ​ภูมิ​สารสนเทศ​สถิติ [ออนไลน์] เข้า​ถึงไ​ ด้​จาก http://sgis.nso.go.th/sgis/GeoStatistic.asp ระบบ​เว็บไซต์​เพื่อ​การ​ร้อง​ทุกข์ [ออนไลน์] เข้า​ถึงไ​ ด้​จาก http://www.1111.go.th รายงาน​ฉบับส​ มบูรณ์โ​ ครงการ​สำ�รวจ​สถานภาพ​ปัจจุบันข​ อง​การ​พัฒนา​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์ป​ ระเทศไทย เพื่อก​ ำ�หนด​ แนวทาง​ผลักด​ นั เ​สนอ​กระทรวง​เทคโนโลยีส​ ารสนเทศ​และ​การ​สือ่ สาร​โดย​ศนู ย์บ​ ริการ​วชิ าการ​สถาบันบ​ ณ ั ฑิต​ พัฒนบริหารศาสตร์ 16 มีนาคม 2552 เว็บไซต์​รับ​ฟัง​ความ​คิด​เห็น​ด้าน​กฎหมาย​ไทย [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้จ​ าก www.LawAmendment.go.th ศักยภาพ​ด้าน​สื่อสาร​โทรคมนาคม​ของ​กลุ่ม consortium กับ​โครง​ข่าย Government Information Network. [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้​จาก http://203.113.25.35/gin/seminardata_a/tot.pdf ศูนย์​ข้อมูล​กลาง​เพื่อก​ าร​เข้า​ถึง​บริการ​อิเล็กทรอนิกส์ภ​ าค​รัฐ [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้จ​ าก http://www.egov.go.th ศูนย์​บริการ​ข้อมูล​ภาค​รัฐ​เพื่อ​ประชาชน [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้จ​ าก http://www.gcc.go.th ศูนย์​เทคโนโลยีอ​ ิเล็กทรอนิกส์แ​ ละ​คอมพิวเตอร์​แห่งช​ าติ กระทรวง​วิทยาศาสตร์แ​ ละ​เทคโนโลยี (2547) รายงาน​การ​ วิจัย ผล​การ​สำ�รวจ​เว็บไซต์​ภาค​รัฐ ครั้ง​ที่ 1: ระดับ​กรม กรุงเทพมหานคร พิมพ์ง​ าม บท​สรุปห​ นึง่ ท​ ศ​วงรรษ​การ​ส�ำ รวจ​กลุม่ ผ​ ใู​้ ช้อ​ นิ เทอร์เน็ตใ​ น​ประเทศไทย (2542-2553) กรุงเทพมหานคร ศูนย์​ เทคโนโลยีอ​ ิเล็กทรอนิกส์แ​ ละ​คอมพิวเตอร์​แห่ง​ชาติ. ศูนย์วิจัย​รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์​แห่ง​มหาวิทยาลัย​วา​เซ​ดะ ประเทศ​ญี่ปุ่น [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้​จาก http://www. waseda.jp/eng/news10/110114_egov.html ศูนย์​สารสนเทศ​แห่ง​ชาติ [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้​จาก http://services.nic.go.th/gsic/index.php สืบค้น​เมื่อ 19 เมษายน 2554 สหภาพ​ยุโรป [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้​จาก http://www.mfa.go.th/web/52.php สำ�นักงาน​เลขานุการ​คณะ​กรรมการ​เทคโนโลยีส​ ารสนเทศ​แห่งช​ าติ (2539) ไอที 2000 : นโยบาย​เทคโนโลยีส​ ารสนเทศ​ แห่ง​ชาติ (พิมพ์​ครั้งท​ ี่ 2) กรุงเทพมหานคร อม​ริ​นทร์พ​ ริ้นต​ ิ้ง แอนด์ พับลิช​ชิ่ง (2544) รายงาน​การ​ประเมิน​ผล​นโยบาย​เทคโนโลยี​สารสนเทศ IT 2000 [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้จ​ าก http:// www.nectec.or.th/pld/documents_pris/IT2000%20Report.pdf (2545) กรอบ​นโยบาย​เทคโนโลยี​สารสนเทศ ระยะ พ.ศ. 2544 – 2553 ของ​ประเทศไทย กรุงเทพมหานคร ธนา​เพรส แอนด์ กราฟฟิก (2545) แผน​แม่บท​เทคโนโลยีส​ ารสนเทศ​และ​การ​สอื่ สาร​ของ​ประเทศไทย พ.ศ. 2545 – 2549 กรุงเทพมหานคร จิร​รัช​การ​พิมพ์ สำ�นักงาน​สถิติ​แห่ง​ชาติ (2506) รายงาน​ประจำ�​ปี 2506 กรุงเทพมหานคร สำ�นักงาน​สถิติ​แห่งช​ าติ (2528) รายงาน​ภาค​สมบูรณ์​ของ​การ​สำ�รวจ การ​มี/การ​ใช้คอมพิวเตอร์ใน​ส่วน​ราชการ​และ​รัฐวิสาหกิจ​ พ.ศ. 2528 กรุงเทพมหานคร สำ�นักงาน​สถิติ​แห่งช​ าติ สำ�นักงาน​สถิติ​แห่งช​ าติ [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้​จาก www.nso.go.th สำ�นักงาน​หลัก​ประกัน​สุขภาพ​แห่ง​ชาติ [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้จ​ าก http://www.nhso.go.th หนังสือเดินทาง​อิเล็กทรอนิกส์ [ออนไลน์] เข้า​ถึงไ​ ด้​จาก http://www.consular.go.th หลาย​ประเทศ​พา​กันเ​ร่งรัดพ​ ัฒนา “รัฐบาล​อิเล็กทรอนิกส์”. [ออนไลน์] เข้าถ​ ึงไ​ ด้จ​ าก http://www.tele comjournal. net/index.php?option=com_content&task=view&id=2852&Itemid=39 สืบค้นเ​มื่อ 19 เมษายน 2554

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


13-84

ธ ส

ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์และการประยุกต์

ธ ส

องค์กร​ความ​ร่วม​มือแ​ ละ​พัฒนา​ทาง​เศรษฐกิจ [ออนไลน์] เข้าถ​ ึง​ได้จ​ าก http://www.oecd.org/\ [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้​จาก http://www.mfa.go.th/web/2137.php?id=3988 [ออนไลน์] เข้า​ถึงไ​ ด้​จาก http://www.mfa.go.th/web/2026.php องค์การ​สหประชาชาติ [ออนไลน์] เข้า​ถึงไ​ ด้​จาก http://www2.unpan.org/egovkb [ออนไลน์] เข้า​ถึงไ​ ด้​จาก http://www.un.or.th e-Government Canada. [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้​จาก www.canada.gc.ca e-Government Europa. [ออนไลน์] เข้า​ถึงไ​ ด้​จาก www.usa.gov e-Government USA. [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้​จาก www.usa.gov Gartner Identifies the Top 10 Strategic Technologies for 2009. [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้จ​ าก http://www. gartner.com/it/page.jsp?id=777212 Government Information Network: GIN [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้จ​ าก http://www.mict-egov.net สืบค้นเ​มื่อ​ 19 เมษายน 2554 Road Map e-Government [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้​จาก http://www.mict-egov.net/content/blogcategory/32/49 The 2005 Waseda University e-Government Ranking released. [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้จ​ าก http://unpan1. un.org/intradoc/groups/public/documents/APCITY/UNPAN021484.pdf สืบค้น​เมื่อ 19 เมษายน 2554 The 2007 Waseda University e-Government Ranking released. [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้จ​ าก http://www. ictliteracy.info/rf.pdf/Waseda_University_3nd_rankings_en_2007%5B2%5D.pdf สืบค้น​เมื่อ 19 เมษายน 2554 The 2008 Waseda University e-Government Ranking released. [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้จ​ าก http://www. kikou.waseda.ac.jp/sougou/uploadfile/news/news_lab/each_news/20080212denshiseifu_en. pdf The 2009 Waseda University e-Government Ranking released. [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้จ​ าก http://www. gits.waseda.ac.jp/GITS/news/download/e-Government_Ranking2009_en.pdf The 2010 Waseda University e-Government Ranking released. [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้จ​ าก http://www. sip.gob.mx/documentos/World_e-Gov_Ranking10_en.pdf The 2011 Waseda University e-Government Ranking released. [ออนไลน์] เข้า​ถึง​ได้จ​ าก http://www. cicc.or.jp/english/news/e-GovRanking2011e.PDF UN E-Government Surveys [ออนไลน์] เข้าถ​ งึ ไ​ ด้จ​ าก http://www.unpan.org/egovkb/globalreports/08report. htm สืบค้นเมื่อ 19 เมษายน 2554 Wikipedia. [ออนไลน์] เข้า​ถึงไ​ ด้​จาก http://th.wikipedia.org

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส

ธ ส


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.