ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหารและพนักงาน บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด
let’s smile
Letter
เนื่องด้วยวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในวันที่ 2 เมษายนนี้ ทางนิตยสาร happy+ จึงได้จดั ทำ�คอลัมน์ พิเศษเกี่ยวกับพระปรีชาสามารถในด้านต่าง ๆ เช่น ดนตรี อักษรศาสตร์ และ ศิ ล ปวั ฒ นธรรม จนกระทั่ ง พระองค์ ท่ า นได้ รั บ การทู ล เกล้ า ทู ล กระหม่ อ ม ถวายพระสมั ญ ญาว่ า “เอกอั ค รราชู ป ถั ม ภกมรดกวั ฒ นธรรมไทย” และ “วิศิษฏศิลปิน” ขอทรงพระเจริญยิง่ ยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า คณะผูจ้ ดั ทำ�นิตยสาร happy+
สวัสดีครับ กองบรรณาธิการ เล่มทีแ่ ล้วหน้าปกเป็นพีซ่ นั นีส่ วยงามมากครับ ผมอ่านเรือ่ งราวของพีเ่ ขา แล้วรูส้ กึ ว่าเขาเป็นคนเท่ดี ดูอาร์ต ๆ เป็นตัวของตัวเอง ไม่ตามใครดี ชอบมาก เลยครับ หวังว่านิตยสาร happy+ จะหาดาราทีม่ คี วามคิดและความสามารถ แบบนีม้ าให้ผมได้อา่ นกันอีกเรือ่ ย ๆ เพราะนอกจากผมอ่านเองแล้วยังแบ่งปัน ให้เพือ่ น ๆ ได้อา่ นด้วย ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าชอบมาก ขอบคุณพี่ ๆ ทีมงานมาก ๆ เลยนะครับ ศตพรรษ จัน่ รอด สวัสดีคะ่ คุณศตพรรษ หน้าปกซันนี่พวกเราใช้เวลาติดต่อนานมาก แต่แล้วเมื่อจังหวะและ โอกาสเหมาะสมลงตัว ทีมงานจึงได้เข้าไปพูดคุย และก็ไม่ผดิ หวังจริง ๆ ค่ะ เพราะซันนีเ่ ป็นคนน่ารัก เฮฮา สร้างเสียงหัวเราะได้ตลอดการสัมภาษณ์เลย เป็นคนทีม่ คี วามคิดและเป็นตัวของตัวเองอย่างทีค่ ณ ุ ศตพรรษบอกเลยค่ะ ทีม งานรูส้ กึ ดีใจทีค่ ณ ุ ศตพรรษและเพือ่ น ๆ ชอบนิตยสารของเรานะคะ หวังว่าจะ ติดตามกันไปนาน ๆ อยูก่ นั ไปเรือ่ ย ๆ แบบนีน้ ะคะ • ส่งความคิดเห็น คำ�ติ ชม หรือข้อเสนอ แนะที่มีต่อ happy+ ได้ท่ี กองบรรณาธิการ นิตยสาร happy+ บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด เลขที่ 10/196-197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชัน้ 27 ถนนสุขมุ วิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 หรือทางอีเมล happyplusmag@gmail.com happy+ มีของ ขวัญมอบให้แทนคำ�ขอบคุณ • สำ�หรับคุณศตพรรษ จะได้รบั นา้ํ มันนวดตัว จาก Sabai Sabai ติดต่อ ขอรับของรางวัลได้ทค่ี ณ ุ เบล โทร. 0-2168-7480 ต่อ 1021
เจ้าของ : บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชั้น 27 ถนนสุขุมวิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 0-2168-7480 โทรสาร 0-2168-7481 คณะที่ปรึกษา : วิสุทธิ วิทยฐานกรณ์, ศักดิ์ชัย พฤฒิภัค บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา : วราภรณ์ ชูพระคุณ Social Editor : ทูน หิรัญทรัพย์ กองบรรณาธิ ก าร : ภั ท รามน ผุ ด เพชรแก้ ว , ภั ท ราภรณ์ เตชะธรรมวงศ์ , พิ ช ญา สิ ท ธิ บุ ต ร์ , ณั ฐ ธิ ช า อามิ น เซ็ น นั ก เขี ย น : ภญ.ดร.สุ ภ าภรณ์ ปิ ติ พ ร, ดร.วีรณัฐ โรจนประภา, ณัฐพบธรรม, ศศิน เฉลิมลาภ, ป้าจาย-แม่มดดอกไม้, อาจารย์คฑา ชินบัญชร, ผมอยู่ข้างหลังคุณ, นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา, ศศินี ปัญญารัตน์, อรพิมพ์ รักษาผล, เจ้าชายผัก, ญาดารัตน์ พิสูจน์อักษร : ณรงค์ พึ่งบุญพา บรรณาธิการศิลปกรรม : กัมปนาท ศิลาวรรณ ช่างภาพ : สุภชัย รอดประจง, วิกรม วิสุทธิปราณีิ ฝ่ายโฆษณาและการตลาด : 0-2168-7480 ต่อ 1010 แยกสี : 71 Interscan Co., Ltd. โทรศัพท์ 0-2631-7171 พิมพ์ที่ : บริษัท ไซเบอร์พริ้นท์ จำ�กัด 0-2641-9135-8 จัดจำ�หน่าย : บริษัท เวิร์ล ออฟ ดิสทริบิวชั่น • ผู้ อ่ า นท่ า นใดต้ อ งการเขี ย นจดหมายมาพู ด คุ ย กั บ เรา ต้ อ งการติ ชม หรื อ เสนอแนะ เชิ ญ ส่ ง ความคิ ด เห็ น ของท่ า นเข้ า มาได้ ที่ happyplusmag@gmail.com หรือเข้าไปติดตามความเคลื่อนไหว update ข่าวสารใหม่ ๆ ได้ที่ : facebook.com/happyplusmag หรือ Line ID : happyplusmagazine เว็บไซต์ : www.happyplusmagazine.com
นิตยสาร รางวัลตาราอวอร์ด ‘ปลุกหัวใจสังคมด้วยหัวใจโพธิสัตว์’ ประจำ�ปี 2556
contents
ปีที่ 5 ฉบับที่ 53 เมษายน 2560
กายสุข 14 healthy planet / ทางเลือกใหม่กับการศัลยกรรม 62 take care / ไวรัสตับอักเสบเอ 65 q & a 66 ยืดเส้น ยืดสาย / แก้ง่วงยามบ่าย กับการ คลายกล้ามเนื้อ 68 happy herb / ผักปลัง แต่งสวย แถมช่วยดีท็อกซ์ 72 beauty by nature / สูตรผักชีมีแล้วสวย 92 กินอาหารเป็นยา / กระทงทองโทงเทง ใจสุข
20 special scoop / สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี เจ้าฟ้านักประพันธ์ และศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ 30 happy heart / ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ชัยชนะของประเทศ ชัยชนะของการพัฒนา 38 feature / เพราะอายุเป็นเพียงตัวเลข
48 ตัวอักษร ซ่อนพลัง / ผ้ายันต์กันความ
เปลี่ยนแปลง 54 family in love / สูงวัยอย่างใจใส 56 นัดพบกับธรรมะ / ให้สิ่งดี ๆ ? 58 wired world / Empathy ไม่ใช่ยาวิเศษ 60 ระหว่างทาง / 4 คาบชีวิต (2) 70 well being / ผู้หญิงในเทพนิยาย 74 สิ่งนี้ที่เรารัก / ชุมพล นรเศรษฐีกุล วันสบาย ๆ กับน้องหมี Rilakkuma 76 travelogue / Tokyo Disneyland สู่ดินแดน แห่งความเป็นเด็กอีกครั้ง 80 การเดินทางของนกสีฟ้า / กิ่วแม่ปาน ความงดงามที่ความสูง 2,200 เมตร 84 one happy day / เรือนคำ�เที่ยง เสน่ห์ล้านนา ใจกลางเมือง 88 green corner / สวนพฤกษศาสตร์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
94 ชวนชิม อิ่มสุข
• Café Kantary Prachinburi • อันยองชีส Annyong Cheese 96 ชวนดูหนัง / Hidden Figures ทีมเงาอัจฉริยะ 97 ชวนอ่านสานสุข 98 horoscopes สังคมสุข 10 happy planet / ประเพณี สร้างสีสัน 50 คนคิดดี / มูลนิธสิ อ่ื ชาวบ้าน (มะขามป้อม) 100 กิจกรรมนำ�สุข
contributors
ป้าจาย-แม่มดดอกไม้ กินอาหารเป็นยา horoscope p.92 p.98 ผู้เขียนและวาดภาพประกอบหนังสือ ครัวดอกไม้ นักพยากรณ์ชื่อดัง เจ้าของรางวัล “สร้างสรรค์สังคม ที ่ได้รับการตีพิมพ์ถึง 3 ครั้ง และยังเป็นเจ้าของ ไทยดีเด่น” ประจำ�ปี 2541 ปัจจุบนั เป็นทัง้ คอลัมนิสต์ เครื่องหมายทะเบียนการค้า ครัวดอกไม้ ปัจจุบัน พิธีกร และวิทยากรพิเศษ รวมถึงทำ�งานการกุศล มีความสุขกับการเขียนหนังสือ และออกตลาดนัด มากมาย ได้แก่ เป็นประธานกองทุน M.A.C. Aids Fund (ประเทศไทย) ประธานหาทุนมูลนิธิร่วมนํ้าใจ สีเขียวซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำ�ได้ทุกวันโดยไม่รู้สึกเบื่อ ต้านภัยเอดส์ ผู้ช่วยผู้จัดการโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษาฯ จ.ลำ�พูน เป็นต้น อาจารย์คฑา ชินบัญชร
ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร happy herb p.68
เจ้าแม่สมุนไพรผูไ้ ด้รบั พระราชทานรางวัลบุคคลดีเด่น ของชาติ สาขาเผยแพร่เกียรติภูมิของไทย (ด้าน การแพทย์แผนไทย) เจ้าของรางวัลบุคคลดีเด่นแห่ง ชาติ สาขาผลงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ดีเด่น และ เป็น 1 ใน 21 ผู้หญิงเก่งที่ได้รับรางวัล Women Who Make a Difference จากนิตยสาร Thailand Tatler ปัจจุบันดำ�รงตำ�แหน่งหัวหน้ากลุ่มงาน เภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
ณัฐพบธรรม นัดพบกับธรรมะ p.56
เป็นนักเขียน Best Seller ที่เน้นเขียนธรรมะที่อ้างอิง จากพระไตรปิฎกโดยมีผลงานเป็นที่รู้จักก็คือ ถ้ารู้... (กู)...ทำ�ไปนานแล้ว, นี่หรือเมืองพุทธ ปัจจุบันมี ความสุขอยู่กับการเป็นคนธรรมดา ที่ทำ�ตามคำ� สั่งสอนของพระพุทธเจ้าในทุก ๆ วัน
ผมอยู่ข้างหลังคุณ (นพ.พีรพล ภัทรนุธาพร) wired world p.58
แพทยศาสตรบัณฑิตจากโรงพยาบาลรามาธิบดี แพทย์เฉพาะทางวุฒบิ ตั รสาขาจิตเวชศาสตร์ และ วุฒิบัตรจิตเวชเด็กและวัยรุ่น หลังเรียนจบได้ปฏิบัติ ภารกิจตามที่ศึกษามาในโรงพยาบาล ขณะเดียวกัน ยังเป็นคอลัมนิสต์ประจำ�นิตยสาร มีงานเขียนอยู่ ประจำ�ที่ facebook.com/ibehindyou และมีผลงาน พ็อกเก็ตบุ๊กมาแล้วทั้งหมดสิบเล่ม
เบส อรพิมพ์ รักษาผล ตัวอักษรซ่อนพลัง p.48
เบส อรพิมพ์ รักษาผล ผู้หญิงที่รักการแสดงออก ชอบร้อง ชอบเต้น ชอบพูด ชอบการขีดเขียนมา ตั้งแต่เด็ก บวกกับการทำ�งานด้านการเป็นนักพูดที่ ต้องอยูก่ บั การค้นคว้าขีดเขียนด้วยตนเอง จนพบว่า หลงรักการเขียนและอยากให้ตัวอักษรเป็นอีกหนึ่ง ช่องทางในการสร้างกำ�ลังใจแก่ผู้อ่านได้ต่อไป..
ศศิน เฉลิมลาภ ระหว่างทาง p.60
ได้มีโอกาสเดินทางผ่านไปในเส้นทางธรรมชาติ พบปะผู้คน และสถานที่ที่สะดุดให้คิดถึงเรื่องดี ๆ ที่เกิดขึ้นในห้วงการพบเจอ และชวนให้จดจำ�นำ� มาเล่าให้ฟัง เป็นเส้นทางแห่งการทำ�งานอนุรักษ์ ธรรมชาติ ทีม่ คี วามสุข แทรกอยูใ่ นภารกิจทีห่ นักหนา แต่เลือกแล้วว่าจะต้องทำ� และเดินทางต่อไป
นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา take care p.62
คุณหมอบล็อกเกอร์ผู้เขียนบทความทางการแพทย์ ลงใน Mthai.com และ mor-maew.exteen.com เจ้าของรางวัล “เบสท์ออฟเดอะเบสท์” และรางวัล “บล็อกยอดเยี่ยม สาขาสุขภาพ” จากการประกวด สุดยอดบล็อก ในงานประกวดไทยแลนด์บล็อก อวอร์ด ติดตามบทความของคุณหมอได้ในคอลัมน์ Take Care
ดร.วีรณัฐ โรจนประภา family in love p.54
“วิศวกรสังคม” ผู้มุ่งมั่นนำ�หลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงมาใช้ขับเคลื่อนงานในทั้ง 3 มิติคือ การ ศึกษา สังคม และเศรษฐกิจ ด้วยเครื่องมือ 3 ชนิด คือ มูลนิธิบ้านอารีย์ สมาคมบ้านปันรัก และบจก. คิดใหม่ เพื่อส่งต่อความรู้ในทั้ง 3 ระดับคือ ขั้นสอน ให้รู้ ทำ�ให้ดู และอยู่ให้เห็น
ญาดารัตน์ well being p.70
“เด็กวิทย์ชอบศิลป์” ลูกชาวสวนที่มีความศรัทธา ต่ออาชีพของบรรพบุรุษ เป็นพยาบาลที่มีความ ภาคภูมิใจในวิชาชีพ และเห็นคุณค่าของการ ทำ�งานศิลปะในเชิงการบำ�บัดเยียวยาจิตใจผู้คน เป็นผู้ที่หลงใหลในการเดินทางและการบันทึก เป็นชีวิตจิตใจ ปัจจุบันเป็นอาจารย์พยาบาลใน มหาวิทยาลัยที่มีความเชี่ยวชาญด้านผู้สูงอายุ และ ทำ�งานอาสาสมัครด้านศิลปะบำ�บัดให้กับสังคม ใน บทบาท Therapeutic Art Specialists
เจ้าชายผัก ปลูกความสุข ในบ้านคุณกับเจ้าชายผัก p.90 ฉายาของคุณ “ปริ๊นซ์’ นคร ลิมปคุปตถาวร เจ้าของ ‘ศูนย์เรียนรู้เกษตรในเมือง สาขาเจ้าชายผัก’ ย่าน ลาดพร้าว 71 ผู้มีใจรักในการปลูกผัก และยัง ถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้ที่สนใจ เพราะอยากเห็น คนเมืองปลูกผักปลอดสารพิษไว้กินเอง ด้วยความ เชื่อว่า การปลูกผักทำ�ให้สุขกายที่ได้อาหารดี สุขใจที่ได้ปลูก และสุขที่ได้ร่วมแบ่งปัน
ศศินี ปัญญารัตน์
beauty by nature p.72
ผันตัวเองจากการทำ�งานในบริษัทโฆษณาต่างชาติ ชื่อดัง มาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโยคะและธรรมชาติ บำ�บัด จบหลักสูตรจากสถาบันโยคะวิชาการ และ Kaivalyadhamma Yoga Institute, India ทุ่มเทเวลา ดูแลตัวเองทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ จิตวิญญาณ และทำ�งานเพื่อสังคม ปัจจุบันเปิดสอน โยคะส่วนตัวแนวธรรมชาติบำ�บัด
happy planet เรื่อง : Patty Pom
ประเพณี สร้างสีสัน เดือนเมษายนมาถึงทีไร เชื่อได้ว่าทุกท่าน น่าจะคิดถึงวันหยุดยาว อากาศร้อน ๆ และแน่นอน ‘วันสงกรานต์’ ซึง่ ถ้าจะบอกว่าเป็นวันทีใ่ ครต่อใคร รอคอยก็ ค งจะไม่ ผิ ด นั ก เพราะนอกจากจะได้ หยุดยาวเพื่อไปท่องเที่ยว ได้เดินทางกลับบ้านไป พบปะครอบครัวและญาติพน่ี อ้ ง ได้พกั ผ่อนหลายวัน แล้ ว ยั ง คงอยากจะสนุ ก สนานกั บ การสาดนํ้ า เพื่อคลายร้อนกันด้วย นอกจากจะเป็นประเพณีที่ สำ�คัญของไทยแล้ว ตอนนีป้ ระเพณีสงกรานต์ของ เรามีชื่อเสียงไปทั่วโลก แต่คุณผู้อ่านรู้จักประวัติ และความเป็นมาของประเพณีสงกรานต์กันหรือ เปล่าคะ ฉบับนี้เราขอมาเล่าให้ฟังสั้น ๆ ค่ะ และ แถมด้วยประเพณีชอื่ ดังและสนุกสนานจากทัว่ โลก มาฝากอีกด้วยค่ะ
ประเพณี ส งกรานต์ เป็ น ประเพณี ข อง ประเทศไทย ลาว กัมพูชา พม่า ชนกลุ่มน้อย ชาวไตแถบเวียดนามและมณฑลยูนนานของจีน ศรีลังกา และทางตะวันออกของประเทศอินเดีย คำ�ว่าสงกรานต์เป็นภาษาสันสกฤต แปลว่าการ 10 | happy+
เคลือ่ นย้าย ซึง่ ในทีน่ หี้ มายถึง การเคลือ่ นย้ายการ ประทับของจักรราศี การเคลือ่ นขึน้ ปีใหม่ในความเชือ่ ของไทยและบางประเทศในเอเชี ย ตะวั น ออก เฉียงใต้ ความเชื่อดั้งเดิมมีการใช้นํ้าเป็นตัวแทน แก้กันกับความหมายของฤดูร้อน เป็นช่วงเวลาที่ พระอาทิตย์เคลือ่ นเข้าสูร่ าศีเมษ เราจึงใช้นาํ้ รดให้ แก่กนั เพือ่ ความชุม่ ชืน่ เป็นการอวยพรปีใหม่ให้กนั นํ้าที่รดมักใช้นํ้าหอมเจือด้วยนํ้าธรรมดา มีการ สรงนํ้าพระรดนํ้าพระพุทธรูปที่บ้านและที่วัด มี การขอพรจากผูใ้ หญ่ รำ�ลึกถึงพระคุณและกตัญญู ต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับ การขนทรายเข้าวัด ทาง ภาคเหนือนิยมขนทรายเข้าวัดเพื่อโชคลาภ ให้มี ความสุขความเจริญ เงินทองไหลมาเทมาดุจทราย ทีข่ นเข้าวัด แต่กม็ บี างทีเ่ ชือ่ ว่าตลอดปีทเี่ ราเข้าวัด จะมีทรายติดเท้าเราออกจากวัดซึง่ ถือเป็นบาป จึง ขนทรายเข้าวัดมาทดแทน และทีข่ าดไม่ได้เลยคือ การสาดนํา้ กัน ปัจจุบนั มีการประชาสัมพันธ์ในเชิง ท่องเทีย่ วว่าเป็น Water Festival หรือเทศกาลแห่งนํา้ จนตอนนี้เทศกาลสงกรานต์ของไทยติดอันดับ เทศกาลที่มีสีสันที่สุด 1 ใน 5 ของเอเชียไปแล้ว เทศกาลโฮลี ประเทศอินเดีย จัดขึ้นทุกปี ในช่ ว งเดื อ นมี น าคม ณ เมื อ งโอริ ส สาและรั ฐ เบงกอลตะวันตก เป็นเทศกาลของชาวฮินดูซึ่ง จัดเป็นประจำ�ทุกปี ปีละสองวัน เรียกอีกอย่างว่า “เทศกาลแห่งสีสัน” เพราะทุกคนจะสาดผงสีหรือ สาดนํา้ ใส่กนั อย่างสนุกสนาน คล้าย ๆ สงกรานต์ บ้านเรา นิยมเล่นกันในเวลาเช้าถึงเที่ยงวันก็เลิก
ต่างคนต่างกลับบ้านไปอาบนํ้าและพักผ่อน ตก ตอนเย็นก็จะออกมาพบปะสังสรรค์ แจกขนม หวานและสวมกอดกัน เทศกาลโฮลีจึงถือเป็น เทศกาลแห่งมิตรภาพ ที่มิตรสหายจะได้แสดง ไมตรี ต่ อ กั น ผู้ ที่ เคยขั ด แย้ ง กั นก็ จ ะปรั บ ความ เข้าใจกันอีกครั้ง การเล่นสาดสีบางทีก็เลอะเทอะ จนสี ติ ด ตั ว ติ ด เสื้ อ ผ้ า ล้ า งและซั ก ไม่ อ อก แต่ สำ�หรับคนอินเดียแล้วกลับมีความหมายที่ลึกซึ้ง ค่ะ หมายถึงมิตรภาพจะอยู่ติดตรึงอยู่ตลอดกาล ไม่มีวันจางหาย เสื้อผ้าที่ใส่เล่นโฮลีจึงนิยมผ้าสี ขาว และแม้จะเลอะเทอะเปรอะเปือ้ นด้วยสีตา่ ง ๆ ก็จะไม่ทิ้งไป และในช่วงเวลาของเทศกาลนี้ชาวอินเดีย จะลืมเรื่องชนชั้นวรรณะ ฐานะยากดีมีจน ความ ไม่พอใจ ความขัดแย้งการทะเลาะกันต่าง ๆ จนหมดสิน้ เป็นระยะเวลาหนึ่ง เพื่อร่วมฉลองเทศกาลนี้ แถม ยั ง เป็ น สั ญ ญาณบอกว่ า ฤดู ห นาวได้ สิ้ น สุ ด ลง แล้ว และฤดูร้อนกำ�ลังย่างกรายเข้ามา สีที่ใช้นั้น ส่วนใหญ่ทำ�มาจากใบหรือดอกของพืช แล้วผสมสี ที่ไม่เป็นอันตราย แต่มีความละเอียดและติดแน่น ทนนาน บางทีก็ผสมกากเพชรหรือกระดาษสีชิ้น เล็ก ๆ เข้าไปด้วย เพื่อสร้างสีสันเมื่อสาดหรือ ป้ายผงสีเปียกหรือแห้งไปที่ร่างกาย แต่ละสีก็มี ความหมายในตัว เช่น สีแดงแทนพลังและอำ�นาจ สีนํ้าเงินแทนความสุขสงบ สีเขียวแทนความอุดม สมบูรณ์ สีเหลืองแทนความเบิกบานและอบอุ่น สีสม้ แทนความสร้างสรรค์ สีมว่ งแทนความยิง่ ใหญ่ อลังการ ส่วนสีเทาแทนความสงบภูมฐิ าน เป็นต้น
มาใช้ในเทศกาลนี้มาจาก Extremadura เนื่องจาก มะเขือเทศจากที่นี่มีรสชาติไม่อร่อย ราคาถูก แต่ ก่อนที่นำ�มะเขือเทศมาใช้ในเทศกาลนี้ จะต้องนำ� มะเขือเทศมาคลึงให้น่วมก่อน เพื่อป้องกันการ บาดเจ็บรุนแรง ต่อมามีผู้คนจากทั่วโลกให้ความ สนใจเทศกาลนีม้ ากขึน้ เรือ่ ย ๆ ทำ�ให้การท่องเทีย่ ว ของที่นี่ดีขึ้นไปตาม ๆ กัน มีนักท่องเที่ยวจำ�นวน ไม่น้อยหลั่งไหลเข้ามาที่เมืองเล็ก ๆ อย่างเมือง บูโยลไม่ขาดสาย แต่ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา ต้องซื้อตั๋วก่อนที่จะเข้าร่วมเทศกาล ซึ่งตั๋วก็ถูก จำ�กัดเพียงแค่ปีละ 20,000 คนเท่านั้น
แล้วคนอินเดียจะพูดว่า “โฮลีแฮ” แปลว่า โฮลีแล้ว เหตุการณ์นี้ แต่ในปีต่อมาพวกวัยรุ่นก็ยังคงมา นะจ๊ะ (It’s Holi) เปิดศึกกันอีกเช่นเคย แต่สงิ่ ทีต่ า่ งออกไปคือ ในปีนี้ พวกเขาเตรี ย มมะเขื อ เทศมาจากบ้ า นกั น เลย เทศกาลปามะเขือเทศ หรือลา โตมาตินา และก็ต้องลำ�บากคุณตำ�รวจเข้ามายุติเหตุการณ์ จั ด ขึ้ น เป็ น ประจำ � ทุ ก ปี ทุ ก วั น พุ ธ สุ ด ท้ า ยของ ทะเลาะวิวาทเหมือนเดิม แต่มันก็คือปฐมบทแห่ง เดือนสิงหาคม ณ หมู่บ้านบาเลนเซียน ในจังหวัด เทศกาลปามะเขือเทศอันลือลั่น ที่ถูกจัดขึ้นมา บาเลนเซีย ประเทศสเปน เทศกาลนีไ้ ม่มอี ะไรมาก อย่างต่อเนื่องเรื่อยมาทุกปี สิ่งที่คุณต้องทำ�ก็คือ การขว้างปามะเขือเทศเข้า เทศกาลนี้จะเริ่มเวลา 10 โมงเช้า โดยการ ใส่กันอย่างสนุกสนาน ต้นกำ�เนิดของเทศกาลนี้ ปีนเสาทานํา้ มันทีด่ า้ นบนมีแฮมแขวนอยู่ ถ้ามีคน ย้อนไปเมื่อปี ค.ศ. 1944 ระหว่างขบวนพาเหรด สามารถปีนไปโยนแฮมลงมาได้ ถือเป็นการเริม่ ต้น Gigantes Y Cabzudos เกิดมีเหตุการณ์วัยรุ่น สงคราม และเวลา 11 โมง รถบรรทุกมะเขือเทศจะ ทะเลาะกัน แล้วดันมีแผงขายมะเขือเทศอยูใ่ กล้ ๆ แล่นออกมายัง พลาซ่า Del Pueblo แล้วเริม่ ขว้างปา พวกวั ย รุ่ น พวกเขาจึ ง ใช้ มั น เป็ น อาวุ ธ ในการ มะเขือเทศจากบนรถสู่นักท่องเที่ยว นักท่องเที่ยว ขว้างปาเข้าใส่กัน จนตำ�รวจต้องเข้ามายุติศึก ก็ ต่ า งเก็ บ มะเขื อ เทศขึ้ น มาขว้ า งใส่ กั น อย่ า ง มะเขือเทศนี้ และปรับค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจาก เมามัน ไม่ถือโทษโกรธเคืองกัน มะเขือเทศที่นำ� 12 | happy+
เทศกาลโคมไฟ คือ เทศกาลฉลองในวันที่ 15 เดือน 1 ตามปฏิทินจันทรคติ เป็นสัญลักษณ์ ของวันสุดท้ายในการฉลองเทศกาลปีใหม่ของจีน ในเทศกาลโคมไฟ เด็ก ๆ จะถือโคมไฟกระดาษ ออกไปวัดในตอนกลางคืน และพากันทายปริศนา ที่อยู่บนโคมไฟ เรียกว่า ไชเติงหมี ในสมัยโบราณ โคมไฟจะทำ�เป็นรูปแบบง่าย ๆ จะมีเพียงของ กษัตริย์และขุนนางเท่านั้นที่จะมีโคมไฟที่หรูหรา ใหญ่โต แต่ในปัจจุบันโคมไฟได้ถูกประดิษฐ์ด้วย รูปแบบที่สวยงามและซับซ้อนมากขึ้น ตัวอย่าง เช่น มักจะทำ�โคมไฟเป็นรูปสัตว์ต่าง ๆ โคมไฟ มักจะทำ�เป็นสีแดงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความ โชคดี ในฮ่องกงยังยกให้วันนี้เปรียบเสมือนกับ วันวาเลนไทน์ Valentine’s Day อีกด้วย แต่มีความเชื่อที่หลากหลายมากเกี่ยวกับ ต้นกำ�เนิดของเทศกาลโคมไฟ และตำ�นานทีด่ เู หมือน จะเป็นสิ่งที่ก่อกำ�เนิดจริง ๆ คือ “ความมืดลง ของฤดูหนาว” และผูค้ นในชุมชนสามารถทีจ่ ะลบ ความมืดนั้นออกไป ด้วยแสงสว่างที่เกิดจากฝีมือ มนุษย์ที่เรียกว่า โคมไฟ ในอดีตกษัตริย์ฮั่นหวู่ตี้ แห่งราชวงศ์ฮั่น มีความสนใจในเทศกาลนี้มาก ในปีคริสต์ศักราช 104 พระองค์จึงได้ประกาศให้ เทศกาลนี้เป็นเทศกาลที่สำ�คัญที่สุดเทศกาลหนึ่ง และให้มีการเฉลิมฉลองกันตลอดทั้งคืนสำ�หรับ อาหารการกินในเทศกาลโคมไฟ คือ ทังหยวน เป็น ข้าวเหนียวปั้นเป็นลูกกลม ๆ ข้างในมีไส้ถั่วแดง หวาน ๆ งา หรือถั่ว เนย ชาวจีนมีความเชื่อ ว่ารูปร่างกลม ๆ ของทังหยวนและชามกลม ๆ ที่ บรรจุทังหยวน เป็นสัญลักษณ์ของการอยู่ร่วมกัน อย่างกลมเกลียวของคนในครอบครัว และการ กินทังหยวนจะเป็นการนำ�ความสุขและความโชคดี มาให้กับครอบครัวในปีใหม่อีกด้วย
healthy planet เรื่อง : Patty Pom
ทางเลือกใหม่ กับการศัลยกรรม ทุกวันนี้การทำ�ศัลยกรรมได้รับการยอมรับ มากขึน้ เพราะไม่ได้ท�ำ เพียงแค่วา่ อยากสวยเท่านัน้ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงแก้ไขจุดบกพร่องในส่วน ต่าง ๆ เพือ่ เสริมบุคลิกภาพ เสริมความมัน่ ใจ รวมถึง ให้เราสามารถใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น และมีความสุข มากยิ่งขึ้นอีกด้วย เพราะเราทุกคนก็อยากได้รับ การยอมรับ ได้รับการชื่นชม การทำ�ศัลยกรรมจึง ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้น
แต่การเลือกทำ�ศัลยกรรมก็ยงั ต้องเลือกสิง่ ทีด่ ี ที่สุด ปลอดภัยและทำ�โดยศัลยแพทย์มืออาชีพที่ ได้รับการรับรอง ใน happy+ ฉบับนี้ นายแพทย์ นพรัตน์ รัตนวราห CEO & Director NCC: Nopparat Cosmetic Clinic (คลินิกศัลยกรรมตกแต่งนพรัตน์) ได้มาให้ค�ำ แนะนำ�ดี ๆ และการเลือกทำ�ศัลยกรรม ที่ปลอดภัยค่ะ 14 | happy+
“ก่อนการทำ�ศัลยกรรมส่วนใหญ่คนไข้เขา ก็จะหาข้อมูลกันมาก่อน คนไข้ของผมส่วนใหญ่ จะมาจากการบอกต่อ เขาก็จะรู้คร่าว ๆ แล้ว ถึง ราคา ฝีมอื และผลงาน เมือ่ เขาศึกษามาแล้วเขาก็ จะรู้ถึงขั้นตอนวิธีการ ผลการรักษา ผลแทรกซ้อน เป็นอย่างไร แล้วก็จะนัดวันเข้ามาผ่าตัด พอวัน ผ่าตัดมาเจอกับผมแล้ว ผมก็จะคุยอย่างละเอียด ว่าจะทำ�อะไร ปรึกษาว่าควรทำ�หรือเปล่า อันไหน ไม่ควรทำ� ผมก็บอกตรง ๆ ว่าไม่ต้องทำ� อันไหน ทีค่ วรทำ�ก็จะบอกว่าผลจะได้ออกมาประมาณไหน และต้องดูแลตัวเองอย่างไร อีกอย่างที่สำ�คัญคือ คนไข้ต้องดูแลสุขภาพตัวเอง เช่น ยาที่มีผลต่อ การแข็งตัวของเลือด สุขภาพที่ไม่แข็งแรง ภาวะ เป็ นหวั ดขั้ นรุ นแรงหรื อไซนั สอั กเสบ การทาน อาหารเสริมบางชนิดที่ทำ�ให้เลือดหยุดช้า ทำ�ให้ บวมมาก ชํ้ามากหรือหายช้า เช่น วิตามินเอ, วิตามินอี, อีฟนิ่ง พริมโรส ออยล์, แอสไพรินหรือ คลอโรฟิลล์ หรืออะไรก็ตามที่มีสรรพคุณเพิ่มการ หมุนเวียนของเลือดพวกนี้จะไม่ดี พอผ่าแล้วจะ บวมและชํ้ามาก หรือสภาพร่างกายที่ไม่พร้อม นอนไม่ พ อ นี่ คื อ การเตรี ย มตั ว ก่ อ นการผ่ า ตั ด นอกจากนัน้ ก็ตอ้ งเตรียมจิตใจ ทำ�ใจให้สบาย อย่า
ไปเครียดกังวล หรือเตรียมตัวหาข้อมูลมาว่า การ ผ่าตัดแบบนี้เป็นอย่างไร ผลเป็นอย่างไร มีภาวะ แทรกซ้อนอะไรบ้าง “และต้องดูถึงความชอบด้วยว่าแต่ละคน ชอบแบบไหน พอทราบถึงสไตล์และความชอบ แล้ว การปรับให้เข้ากับโครงหน้าเป็นหน้าที่ของ ผม ผมก็จะเอาทุกอย่างมาจูนให้ตรงกันทัง้ ศาสตร์ และศิลป์ แล้วก็ต้องมีการดูแลหลังผ่าตัด ตรวจ ซํ้า และคอยเช็กว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่า ให้คำ� แนะนำ�หลังการผ่าตัด”
การดูแลหลังการผ่าตัด
เมื่อเราทำ�การศัลยกรรมแล้ว เราก็มักจะ คาดหวั ง ผลและคอยส่ อ งกระจกดู ค วาม เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อาจจะมีความกังวล ไม่สบายใจอยู่บ้างคุณหมอก็มีคำ�แนะนำ�มาฝาก ค่ะ “อันดับแรกคือ ด้านจิตใจ ต้องมัน่ ใจในตัวเอง ในระยะ 3 สัปดาห์แรกนั้น ไม่ต้องส่องกระจก ไม่ตอ้ งไปกังวลว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร เพราะ มันคือ ความบวมล้วน ๆ มันยังไม่เข้าที่ ไปดูแล้ว ก็จะเครียด ทำ�ไมจมูกใหญ่ ทำ�ไมหัวตาสูง หรือ
ราดหน้าเต้าหู้นํ้าแดง เรือ่ ง : Nasry
คุณค่าทางอาหาร เ ต้ า หู้ ถั่ ว เ ห ลื อ ง ช่ ว ย ล ด คอเลสเตอรอลในเส้ น เลื อ ด ป้ อ งกั น การสะสมของไขมั น ในหลอดเลือดชั้นใน อันเป็น สาเหตุสำ�คัญของการเกิดโรค หัวใจและความดันโลหิตสูง
ใครเบื่ออาหารแบบเดิม ๆ ซํ้า ๆ จำ�เจ ลองมาทางนี้ค่ะ “ราดหน้า เต้าหู้นํ้าแดง” เมนูจานเส้นดัดแปลงสูตรจากราดหน้าไก่สับ โดย ใช้เต้าหู้แทนเนื้อไก่ แต่ยังคงใส่เครื่อง ไม่ว่าจะเป็นมะเขือเทศและผัก หลากชนิด เช่น เห็ดฟาง เห็ดชิเมจิ แคร์รอต พริกหวาน ที่ให้ สีสันสดใส น่ากินอยู่ไม่น้อย แถมเมนูอร่อยของเราในวันนี้มีทั้ง คาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ ครบถ้วนคุณค่า ดังนั้น อย่ารอช้า มาดูวธิ ีทำ�ราดหน้าเต้าหู้นาํ้ แดง แล้วลงมือไปพร้อมกับ เราได้เลยค่ะ
เริ่มต้นด้วยการนำ�ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ลงผัดในนํ้ามันที่ร้อนได้ที่ ใส่ซีอิ๊วดำ�ลงไปเล็กน้อย ผัดให้เข้ากันจนเส้นนุ่ม ให้พอมีกลิ่นหอม ตักขึ้นพักไว้ (หากใช้เส้นก๋วยเตี๋ยวแห้ง ให้นำ� เส้นก๋วยเตี๋ยวไปต้มนํ้าเดือดให้สุก เมื่อสุกดีให้เทนํ้าออก และนำ�ไปแช่นํ้าเย็นสักครู่ แล้วจึงค่อยนำ�มาผัด) จากนัน้ ใส่นาํ้ มันอีกครัง้ ใส่เต้าหูล้ งผัดจนเหลือง แล้วพักไว้ ตามด้วย วิธีท�ำ นํ้าราดหน้า เจียวกระเทียมในนํ้ามันร้อนพอให้เหลือง ใส่นํ้าซุปผักหรือนํ้าเปล่า ต้ม ให้พอเดือด เติมซีอวิ๊ ขาว ซีอวิ๊ ดำ� พริกไทย ชิมรสตามชอบ ใส่เห็ดฟาง เห็ดชิเมจิ แคร์รอต มะเขือเทศ และพริกหวาน ที่หั่นเตรียมไว้ลงไป ต้มต่อให้ผักนิ่มแล้วจึงใส่แป้งมันละลาย คนแป้ ง มั น กั บ นํ้ า จนเข้ า กั น ดี มี ค วามเหนี ย วตามต้ อ งการ แล้ ว ใส่ ถั่ ว ขาวในซอส มะเขือเทศ คนเบา ๆ ให้เข้ากันอีกครั้ง สุดท้ายจัดเสิร์ฟด้วยการนำ�ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ ใส่จาน ราดด้วยส่วนผสมของราดหน้า โรยพริกไทยป่น เท่านี้ก็อิ่มอร่อยได้แล้วค่ะ
เห็ดฟาง เป็นยาบำ�รุงร่างกายให้ สมบูรณ์แข็งแรง สามารถลดความ ร้อนในร่างกายได้ดี เป็นยารสจืด และเย็น ทำ�ให้เส้นเอ็นและกล้ามเนือ้ สมบู ร ณ์ แก้ อ าการเบื่ อ อาหาร บำ�บัดอาการอ่อนเพลีย พร้อมทั้ง สามารถระงั บ เซลล์ ข องเนื้ อ งอก และมะเร็งได้ แคร์รอต มีธาตุเหล็กและสารอาหาร มากมาย เช่น วิตามินเอและเบต้าแคโรทีน ซึง่ ในช่วงมีประจำ�เดือนผูห้ ญิงส่วนใหญ่ จะสู ญ เสี ย ธาตุ เ หล็ ก ไปมากกว่ า ปกติ ส่ ง ผลให้ ร่ า งกายอ่ อ นเพลี ย ผมร่ ว ง ขาดสมาธิและเป็นโรคโลหิตจางได้ อีก ทั้งยังช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือด และควบคุมให้ประจำ�เดือนมาเป็นปกติ เห็ดชิเมจิ ช่วยล้างและขับ สารพิ ษ ที่ ต กค้ า งอยู่ ใ นตั บ อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของการ ควบคุมนํ้าหนักได้ดี เพราะ ไม่มไี ขมันทีท่ �ำ ให้อว้ น และมี โซเดียมในปริมาณที่ตํ่ามาก ทำ�ให้ไม่เกิดภาวะตัวบวม มะเขือเทศ ช่วยขับอุจจาระ ลดอาการท้องผูก จึงลดความ เสี่ยงโรคมะเร็งลำ�ไส้ ช่วยใน เรื่องของความจำ� ลดความ เสี่ ย งในการเป็ น โรคสมอง เสื่ อ มหรื อ โรคอั ล ไซเมอร์ ได้ดี
ตาโตกว่าปกติ นั่นคือความบวม ก็ปล่อยไป อย่า ไปทำ�อะไร แค่ประคบเย็นอย่างต่อเนื่อง แล้วก็ สังเกตแผลว่าผิดปกติอย่างไร ถ้าผิดปกติก็รีบ มาพบแพทย์ พอหน้าเริ่มเข้าที่ก็ค่อยอธิบายเป็น ขั้นตอนไป”
พิจารณาให้ดีก่อนการทำ�ศัลยกรรม
“ในบางครัง้ การตัดสินใจทำ�ศัลยกรรมมักจะ เป็นเรือ่ งจิตใจมากกว่า แต่ถา้ คนทีม่ โี รคประจำ�ตัว ก็ตอ้ งปรึกษาแพทย์ทรี่ กั ษาก่อนว่า ถ้าจะต้องหยุด ยาตัวนี้ เป็นเวลานานเท่านี้จะมีผลต่อโรคหรือ เปล่า พอร่างกายพร้อมก็ผ่าตัดได้เลย หลังจาก นัน้ ก็รกั ษาโรคได้ตามเดิม ส่วนโรคประจำ�ตัวอืน่ ๆ ไม่ ค่ อ ยเป็ น อุ ป สรรคในการทำ � ศั ล ยกรรม ถ้ า อายุเยอะ มีภาวะเบาหวาน ความดัน ก็จะต้อง ระมัดระวังเป็นพิเศษในระหว่างการผ่าตัด แต่สิ่ง ทีส่ �ำ คัญคือ สภาพจิตใจ ปัญหาไม่ใช่เรือ่ งสุขภาพ มันเป็นเรื่องของความคิด จะมีคนไข้อยู่ประมาณ 3-5% จะว่าเป็นโรคก็ไม่ใช่ เราจะเรียกว่า มีปญ ั หา
ความไม่พึงพอใจในรูปร่างหน้าตาของตัวเอง คน กลุม่ นีจ้ ะทำ�ศัลยกรรมไม่หยุด ถึงแม้ผลจะออกมา ดีแล้ว เขาก็จะรูส้ กึ ว่ายังไม่ดี ยังไม่ใช่และยังไม่พอ จะทำ�จุดเดิมซํา้ ๆ เรือ่ ย ๆ จนกระทัง่ เนือ้ เสียไป และ สุดท้ายหน้าก็ผดิ เพีย้ นไปจากความเป็นธรรมชาติ ของตัวเอง คนอีกกลุ่มคือ อารมณ์ไม่พร้อมที่จะ ทำ�ศัลยกรรม เช่น มีปัญหาเรื่องครอบครัว รู้สึก ว่าดวงไม่ดี จะมาทำ�ศัลยกรรมแก้ดวง กลุ่มนี้จะ ไม่เหมาะกับการทำ�ศัลยกรรม เพราะไม่มีทางที่ จะบรรลุวตั ถุประสงค์ของเขาได้เลย ต่อให้ท�ำ ออกมา สวยแค่ไหน แต่ชีวิตเขาก็ไม่ได้ดีขึ้น คนกลุ่มนี้ ยังไม่ควรทำ� เพราะสุดท้ายสิ่งที่เราทำ�แล้วก็เอา กลับคืนมาไม่ได้”
ต้องปลอดภัยและได้มาตรฐาน
เพิม่ มากขึน้ ก็ศกึ ษาหาข้อมูลให้ดกี อ่ น แต่ตอ้ งหา แหล่งข้อมูลทีน่ า่ เชือ่ ถือด้วย อย่าไปเชือ่ ในเว็บไซต์ ทีโ่ ฆษณาเกินจริง และดูวา่ เหมาะกับเราหรือเปล่า แล้วก็ต้องเลือกแพทย์กับสถานที่ที่ได้มาตรฐาน ควรเลื อ กหมอเฉพาะทางจริ ง ๆ สามารถไป ตรวจสอบรายชื่อแพทย์ที่ได้รับการรับรองได้จาก เว็บสมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย ในนั้นจะมีรายชื่อแพทย์ที่เป็นสมาชิก และดูผล งานของหมอก่อน ต้องเป็นคนที่เคยผ่านการทำ� มาจริง และดูสถานที่ให้ดี เพราะการผ่าตัดก็ ค่อนข้างเสีย่ ง ถ้าเกิดการติดเชือ้ ขึน้ มาจะลำ�บาก และ การดูแลรับผิดชอบหลังผ่าตัดต้องมี ถ้าไปทำ�ถูก ๆ ก็อาจจะไม่ได้คุณภาพ แล้วจะมาเสียใจได้ใน ภายหลัง”
เพราะการทำ�ศัลยกรรมเท่ากับการผ่าตัด เรา จึงต้องศึกษาหาข้อมูลให้มาก เตรียมร่างกายและ จิตใจให้พร้อม เพราะทำ�ไปแล้วก็อาจจะเปลีย่ นไป ไม่เหมือนเดิม กลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และเพื่อความ ปลอดภัย คุณหมอจึงมีคำ�แนะนำ�ดังนี้ค่ะ “ถ้ า เรามี ค วามมั่ น ใจในตั ว เองอยู่ แ ล้ ว มี นพรัตน์ รัตนวราห CEO & Director NCC: ความสุขดีอยู่แล้ว อย่าไปทำ� มันไม่จำ�เป็น แต่ นายแพทย์ Nopparat Cosmetic Clinic (คลินิกศัลยกรรมตกแต่ง ถ้ามีความรู้สึกอยากปรับหรืออยากมีความมั่นใจ นพรัตน์) 16 | happy+
นํ้ามันมะกอก
อาหารธาตุร้อนช่วยเผาผลาญ
มะกอก ได้รบั การขนานนามว่าเป็น “ผลไม้ทองคำ�” หรือ “สมบัตแิ ห่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน” เพราะเมือ่ สกัดนํ้ามันออกจากผลมะกอก จะทำ�ให้ได้น้าํ มันที่ อุดมด้วยวิตามินอี วิตามินเค อีกทัง้ ยังมีกรดไขมัน ไม่อม่ิ ตัวเชิงเดีย่ ว ซึง่ มีกรดโอเลอิก (Oleic Acid) เป็น หลักอยูถ่ งึ ร้อยละ 70 ซึง่ กรดไขมันไม่อม่ิ ตัวเชิงเดีย่ วนี้ มีคณ ุ สมบัตใิ นการลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ด้วยเหตุน้ี จึงถือว่าเป็นนํ้ามันที่กินแล้วดีต่อสุขภาพ ช่วยบำ�รุง ร่างกายได้แทบจะทุกด้าน การรับประทานนํ้ามันมะกอกเป็นประจำ� จะ ช่วยทำ�ให้ระบบเผาผลาญดีขน้ึ อีกด้วย เนือ่ งจากนํา้ มัน มะกอกเป็นอาหารที่มีธาตุร้อน ช่วยเพิ่มความร้อน และปรับสมดุลในร่างกาย จึงสามารถกระตุน้ ระบบ เผาผลาญให้ท�ำ งานได้ดี และเหมาะสำ�หรับควบคุม ระดับนํ้าตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวาน จาก การศึกษาวิจยั พบว่าระดับกลูโคสของผูท้ ม่ี สี ขุ ภาพดีจะ ลดลง 12 เปอร์เซ็นต์ เมือ่ รับประทานนํา้ มันมะกอก ที่มา : http://www.kinlakestars.com/นํ้ามันมะกอก_ประโยชน์/
จัดจำ�หน่ายโดย บริษัท นํ้ามันพืชไทย จำ�กัด (มหาชน)
special scoop
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เจ้าฟ้านักประพันธ์และศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ เวลาที่เราเห็นพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงงานหรือเสด็จออกเยีย่ มราษฎร ไม่วา่ จะเป็นทีไ่ หน เราจะเห็นสมเด็จพระ เทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเคียงข้างพระองค์ทา่ น เพือ่ ทรงเรียนรูแ้ ละช่วยงานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช อยู่ตลอดเวลา จนเป็นภาพชินตาสำ�หรับประชาชนชาวไทยทุกคน ที่เห็น เจ้าหญิงองค์น้อยผู้ที่ร่าเริงและแจ่มใสตลอดเวลา ทรงตั้งใจทรงงานมา ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์
20 | happy+
happy+ | 21
22 | happy+
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช กุมารี โปรดการศึกษาค้นคว้า การเรียนรู้จากการ สังเกต สิ่งแวดล้อมรอบพระองค์ ทรงงานหนัก และหลายหลากหลายด้าน ทรงปรีชาสามารถใน ศาสตร์หลายแขนงทั้งศาสตร์และศิลป์ อีกทั้งการ เรียนภาษาจะเป็นพื้นฐานที่ดี สำ�หรับการเรียนรู้ วิชาการสาขาต่าง ๆ จึงทำ�ให้ทรงเลือกศึกษา ในระดับปริญญาตรีและปริญญาโทด้านอักษร ศาสตร์ ต่อมาได้ทรงศึกษาต่อระดับปริญญาเอก ในหลักสูตรวิชาพัฒนศึกษาศาสตร์ ซึ่งเป็นการ นำ�ความรู้ด้านการศึกษาประกอบกับความรู้ใน ศาสตร์ต่าง ๆ มาร่วมกันใช้ประโยชน์เพื่อพัฒนา ประเทศ จากการที่ ท รงเห็ นความสำ � คั ญ ของ ศาสตร์ตา่ ง ๆ นีเ้ อง จึงสนพระทัยศึกษาหาความรู้ และติ ด ตามความก้ า วหน้ า ของความรู้ ในด้ า น อื่ น ๆ อยู่ เ สมอ โดยเฉพาะอย่ า งยิ่ ง ทางด้ า น อักษรศาสตร์และดนตรีไทย ซึ่งพระองค์ได้นำ�มา ใช้ในการอนุรักษ์ ส่งเสริมและให้การอุปถัมภ์ใน ด้านศิลปวัฒนธรรมของประเทศ จากพระราช กรณียกิจในด้านศิลปวัฒนธรรมนี้ พระองค์จึงได้ รับการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระสมัญญา ว่า “เอกอัครราชูปถัมภกมรดกวัฒนธรรมไทย” และ “วิศิษฏศิลปิน” นอกจากนี้ พระองค์ยังทรง ประกอบพระราชกรณียกิจในด้านต่าง ๆ เช่น ด้าน การศึกษา ด้านการพัฒนาสังคม ทรงมีโครงการใน พระราชดำ�ริส่วนพระองค์หลายโครงการ และใน วันคล้ายวันพระราชสมภพของพระองค์ วันที่ ๒ เมษายน จึงได้รับการยกย่องให้เป็น “วันอนุรักษ์ มรดกของชาติ” ซึ่งเป็นวันสำ�คัญอีกวันหนึ่ง เพื่อ เป็นการเทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราช สุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ให้ฐานะทีพ่ ระองค์เป็นผู้ อุปถัมภ์และอนุรกั ษ์มรดกและวัฒนธรรมของชาติ เนื่องในวันที่ ๒ เมษายน เป็นวันคล้ายวัน พระราชสมภพของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นิตยสาร happy+ จึงขอ เฉลิมพระเกียรติด้วย Special Scoop ที่จะบอกเล่า เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจและพระปรีชาสามารถ ด้านดนตรี บทพระราชนิพนธ์และการอนุรักษ์ วัฒนธรรมไทยค่ะ
พระอัจฉริยภาพด้านภาษา
พระองค์ ท รงมี ค วามรู้ ท างด้ า นภาษาบาลี ภาษาสันสกฤต และภาษาเขมร ทรงสามารถ รับสัง่ เป็นภาษาอังกฤษ ภาษาฝรัง่ เศส และภาษา จีนได้อย่างคล่องแคล่ว และทรงกำ�ลังศึกษาภาษา
เยอรมันและภาษาละตินเพิ่มเติมอีกด้วย ขณะที่ พระองค์ ยั ง ทรงพระเยาว์ นั้ น สมเด็ จ พระนาง เจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงสอนภาษาไทยแก่ พระราชโอรสและพระราชธิดา โดยทรงอ่านวรรณคดี เรื่องต่าง ๆ พระราชทาน และทรงให้พระองค์ทรง คัดบทกลอนต่าง ๆ หลายตอน ทำ�ให้พระองค์ โปรดวิชาภาษาไทยตั้งแต่นั้นมา เมื่อพระองค์ทรงเข้าเรียนที่โรงเรียนจิตรลดา ทรงได้รับการถ่ายทอดความรู้ทางด้านภาษาทั้ง ภาษาไทย ภาษาบาลี ภาษาเขมร ภาษาอังกฤษ และภาษาฝรั่งเศส โดยภาษาไทยนั้นพระองค์ ทรงเชี่ยวชาญทั้งด้านหลักภาษา วรรณคดี และ ศิลปะไทย เมื่อทรงจบชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น พระองค์พอรู้แน่ว่าอย่างไรก็คงไม่ได้เรียนแผนก วิทยาศาสตร์ จึงพยายามหัดเรียนภาษาบาลี อ่าน เขียนอักษรขอม เนื่องจากในสมัยนั้นผู้ที่จะเรียน ภาษาไทยให้กว้างขวางและลึกซึ้ง จะต้องเรียน ทั้งภาษาบาลี สันสกฤตและเขมรควบคู่ไปด้วย ซึ่งภาษาบาลีนั้นเป็นภาษาที่พระองค์สนพระทัย ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ แต่ได้เริ่มเรียนอย่างจริงจัง ในระดั บ มั ธ ยมศึ ก ษาตอนปลาย จนสามารถ จำ�การแจกวิภัตติเบื้องต้นที่สำ�คัญได้ และเข้า พระทัยโครงสร้างและลักษณะทั่วไปของภาษา บาลี นอกจากนี้ยังทรงเลือกเรียนภาษาฝรั่งเศส แทนการเรียนเปียโน เนื่องจากมีพระราชประสงค์ ที่จะอ่านหนังสือภาษาฝรั่งเศสที่มีอยู่มากมายใน ตู้หนังสือมากกว่าการซ้อมเปียโน เมื่อทรงเข้าศึกษา ณ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พระองค์ทรงเลือกเรียน สาขาประวัติศาสตร์เป็นวิชาเอก วิชาภาษาไทย ภาษาบาลี และภาษาสั น สกฤตเป็ น วิ ช าโท ทำ�ให้ทรงศึกษาวิชาภาษาไทยในระดับชั้นสูงและ ละเอียดลึกซึ้งยิ่งขึ้น ทั้งด้านภาษาและวรรณคดี ส่วนภาษาบาลีและสันสกฤตนั้น ทรงศึกษาทั้ง วิธีการแบบดั้งเดิมของไทย คือ แบบที่เรียนกันใน พระอารามต่าง ๆ และแบบภาษาศาสตร์ซง่ึ เป็นวิธกี าร ตะวันตก ตั้งแต่ไวยากรณ์ขั้นพื้นฐานไปจนถึง ขัน้ สูง และเรียนตามวิธกี ารอินเดียโบราณในระดับ ปริญญาโท ซึ่งรัฐบาลอินเดียได้ส่งศาสตราจารย์ ดร.สัตยพรต ศาสตรี มาถวายพระอักษรภาษา สันสกฤต โดยวิทยานิพนธ์ในระดับปริญญาโทของ พระองค์ เรือ่ งทศบารมีในพุทธศาสนาเถรวาท นัน้ ยังได้รับการยกย่องจากมหามกุฏราชวิทยาลัยว่า เป็นวิทยานิพนธ์ที่แสดงถึงพระปรีชาสามารถใน ภาษาบาลีพุทธวจนะเป็นพิเศษ
พระปรี ช าสามารถทางด้ า นภาษาของ พระองค์นั้นเป็นที่ประจักษ์ จึงได้รับการทูลเกล้า ทู ล กระหม่ อ มถวายปริ ญ ญาดุ ษ ฎี บั ณ ฑิ ต กิตติมศักดิท์ างด้านภาษาจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั้ ง ในและต่ า งประเทศ เช่ น มหาวิ ท ยาลั ย รามคำ�แหง มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัย มาลายา ประเทศมาเลเซีย มหาวิทยาลัยบักกิงแฮม สหราชอาณาจักร เป็นต้น
พระอัจฉริยภาพด้านดนตรี
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช กุมารี ทรงคุ้นเคยกับเสียงดนตรีไทยมาตั้งแต่ยัง ทรงพระเยาว์ นับจากวันเสด็จพระราชสมภพ ใน การพระราชพิธีสมโภชต่าง ๆ เช่น เมื่อพระชันษา ครบ ๓ วัน หรือพระราชพิธสี มโภชเดือน ขึน้ พระอู่ ก็ มี ว งดนตรี ไ ทยประโคมประกอบในพิ ธีต าม โบราณราชประเพณีทุกครั้งไป พระพี่เลี้ยงกล่อม พระบรรทมก็ร้องเพลงกล่อมเด็กหรือเพลงไทย ง่าย ๆ ถวาย ครัน้ เจริญพระชันษา ได้โดยเสด็จพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ไปในการพระราชพิธีต่าง ๆ หลายงาน มีวงดนตรีหรือแตร สังข์ บัณเฑาะว์ บรรเลงประกอบในพิธี ก่อนที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม บรมราชกุมารี จะตัดสินพระทัยฝึกดนตรีไทยนั้น เป็นเวลาที่เพลงไทยประเภทลูกทุ่งกำ�ลังเฟื่องฟู ทรงติดตามฟังและโปรดเป็นอันมาก เพราะเป็น เพลงที่แสดงถึงชีวิตและอารมณ์ของคนไทยได้ดี ทรงร้องเพลงลูกทุ่งได้หลายเพลง เพลงลูกทุ่ง หลายเพลงใช้ท�ำ นองเพลงไทยเดิมง่าย ๆ แล้วแต่ง เนือ้ เพลงขึน้ ใหม่ ทำ�ได้ไพเราะน่าฟัง ทำ�ให้ทรงรูจ้ กั ทำ�นองเพลงไทยเดิมหลายเพลง จึงเป็นเหตุผลหนึง่ ที่ ทำ � ให้ พ ระองค์ ท รงดนตรี ไ ทยในระยะต่ อ มา ในชั่วโมงภาษาไทย อาจารย์กำ�ชัย ทองหล่อ มัก จะสอนให้นกั เรียนในโรงเรียนจิตรลดาอ่านหนังสือ บทกลอนเข้าทำ�นองต่าง ๆ ตั้งแต่หัดสวดกาพย์ พระไชยสุริยาไปจนร้องเพลงไทยง่าย ๆ นักเรียน คนใดอ่ า นทำ � นองเสนาะ ขั บ เสภา การเล่ น หุ่นกระบอกและเพลงต่าง ๆ ได้เหมาะสมถูกต้อง จะได้คะแนนเพิม่ ขณะเดียวกัน นักเรียนได้ความรู้ ด้านดนตรีไทย ก่อให้เกิดความภูมใิ จในวัฒนธรรมไทย ยิ่งทำ�ให้ทรงซึมซับความไพเราะของดนตรีไทย มากขึ้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช กุมารี ทรงเริ่มหัดดนตรีไทยขณะทรงศึกษาอยู่ชั้น happy+ | 23
24 | happy+
มัธยมศึกษาปีที่ ๒ ทรงเลือกหัดซอด้วง ต่อมา ทรงเรียนพิเศษและทรงเรียนร้องเพลงกับคุณหญิง ไพฑูรย์ กิตติวรรณ เมื่อสมเด็จพระเทพรัตนราช สุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเข้าศึกษาต่อที่ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทรงเข้าเป็นสมาชิกชมรมดนตรีไทย ทั้งของคณะ อั ก ษรศาสตร์ แ ละชมรมดนตรี ไทยสโมสรนิ สิ ต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทรงซอด้วงเป็นหลัก และทรงหัดเล่นเครื่องดนตรีชนิดอื่น ๆ ด้วย เช่น ซออู้ จะเข้ ขลุย่ นอกจากนัน้ ทรงเรียนร้องเพลงไทย กับอาจารย์เจริญใจ สุนทรวาทิน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม ราชกุมารี โปรดระนาดมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ทรงเรียนระนาดเอกกับครูสิริชัยชาญ ฟักจำ�รูญ อย่ า งจริ ง จั ง เมื่ อ เดื อ นกรกฎาคม พุ ท ธศั ก ราช ๒๕๒๘ เมื่อเสด็จฯ ไปทรงดนตรีเป็นประจำ�ที่ บ้านปลายเนิน คลองเตย ซึ่งเป็นวังของสมเด็จ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรา นุวดั ติวงศ์ ทรงฝึกหัดอย่างถูกแบบแผน ตัง้ แต่การ จับไม้ระนาดและท่าประทับ ขณะทรงระนาดทรง ปรารภว่า ตีระนาดนี้เมื่อยพระองค์ ทรงเรียนตี ระนาดตามแบบอย่างโบราณ ทรงฝึกไล่ระนาดทุก เช้าในห้องพระบรรทม และทรงฝึกการตีระนาด แบบต่าง ๆ ซึ่งบุคคลภายนอกไม่มีผู้ใดทราบว่า ทรงฝึกระนาดเอก จนถึงปีพุทธศักราช ๒๕๒๙ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นเจ้าภาพจัดงานดนตรี ไทยอุดมศึกษา ครัง้ ที่ ๑๗ ได้ทรงบรรเลงระนาดเอก ให้ ส าธารณชนได้ ช มเป็ นครั้ ง แรก เพลงที่ ท รง บรรเลงคือเพลงนกขมิ้น (เถา) ร่วมกับครูอาวุโส ของวงการดนตรีไทยหลายท่าน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช กุมารีเสด็จฯ ทรงร่วมงานชุมนุมดนตรีไทยของ สถาบันระดับอุดมศึกษาเป็นครัง้ แรก ในงานดนตรี ไทยอุดมศึกษา ครั้งที่ ๑๒ งานครั้งนี้จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัยเป็นเจ้าภาพจัดงาน นับแต่นั้นได้ เสด็จฯ ไปทรงร่วมงานอย่างสมํ่าเสมอ
ในงานดนตรี ไทยอุ ด มศึ ก ษา ครั้ ง ที่ ๑๗ ซึ่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่เป็นเจ้าภาพ สมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรง พระราชนิพนธ์คำ�ร้องเพลงชื่นชุมนุมกลุ่มดนตรี ที่อาจารย์มนตรี ตราโมท เป็นผู้ประพันธ์ทำ�นอง เพือ่ พระราชทานให้เป็นเพลงประจำ� และเป็นเพลง สัญลักษณ์ของงานดนตรีไทยอุดมศึกษา ในวันเปิดงานดนตรีไทยครั้งนี้ได้ทรงระนาด เอกนำ�วงดนตรีทกุ สถาบัน บรรเลงเพลงชืน่ ชุมนุม กลุ่มดนตรี โดยใช้นิสิต นักศึกษาจำ�นวนมาก ขับร้องหมู่ และออกอากาศเป็นรายการสดทางสถานี วิทยุกระจายเสียง จากภาควิชาสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ต่อมาได้ใช้เพลงนี้บรรเลง เป็นเพลงเปิดงานในงานดนตรีไทยอุดมศึกษาทุกปี มาจนถึงทุกวันนี้ นอกจากนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยังได้เสด็จฯ ไปทรงเป็น ประธานในงานมหกรรมมหาดุริยางค์ไทย (งาน ดนตรีไทยมัธยมศึกษา) และงานดนตรีไทยประถม ศึ ก ษา และทรงพระกรุ ณาทรงดนตรี ร่ ว มกั บ นักเรียนด้วย ต่อมาทรงพระราชนิพนธ์บทความ เรื่ อ ง เด็ ก และดนตรี ไ ทย ลงพิ ม พ์ ใ นหนั ง สื อ ทีร่ ะลึกงานดนตรีไทยอุดมศึกษา ซึง่ มหาวิทยาลัย ขอนแก่นเป็นเจ้าภาพ เมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๓๐ ในบทพระราชนิ พ นธ์ นี้ ได้ พ ระราชทาน ข้อสังเกตเกีย่ วกับการสอนดนตรีไทยให้แก่เด็ก ๆ และ ทรงเสนอแนะวิธีการสอนดนตรีไทยเด็ก ในแง่มุม ต่าง ๆ ถึง ๑๐ ประการ และทรงแสดงทัศนะ เรื่องการสอนดนตรีเด็กชั้นประถมศึกษาตอนต้น ไว้ในบทความ เหตุใดข้าพเจ้าจึงชอบดนตรีไทย ในฐานะที่ทรงเป็นทูลกระหม่อมอาจารย์ สมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ ทรงดนตรี ไ ทยร่ ว มกั บ นั ก เรี ย นนายร้ อ ยชมรม ดนตรีไทย โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ แพร่ภาพออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์กองทัพบก ช่ อ ง ๕ ทุ ก วั น ที่ ๒๓ ตุ ล าคม ซึ่ ง เป็ น วั น
ปิยมหาราช พร้อมทั้งทรงพระราชนิพนธ์บทเพลง เพือ่ แสดงความรำ�ลึกถึงพระมหากรุณาธิคณ ุ และ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้ า อยู่ หั ว พระผู้ พ ระราชทานกำ � เนิ ด โรงเรี ย น นายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ นอกจากสมเด็ จ พระเทพรั ต นราชสุ ด าฯ สยามบรมราชกุมารี จะทรงศึกษาดนตรีไทยแล้ว ยังทรงศึกษาดนตรีสากลด้วย พระอาจารย์คนแรก ทีถ่ วายการสอนดนตรีสากลคือ อาจารย์มาลัยวัลย์ บุณยะรัตเวช ถวายการสอนเปียโน ขณะทรงมี พระชนมายุ ๑๐ พรรษา อีก ๒ ปีต่อมา สมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึง กราบบังคมทูลสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินีนาถ ขอพระราชทานพระราชานุญาตเรียน ภาษาฝรั่งเศสแทนการเรียนเปียโน สมเด็จพระ เทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงฝึก เครือ่ งดนตรีสากลประเภทเครือ่ งเป่าจากพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จนสามารถทรงทรัมเป็ต โซโลนำ�วงดุริยางค์ในงานคอนเสิร์ตสายใจไทย และทรงระนาดฝรั่งนำ�วงดุริยางค์ในงานกาชาด คอนเสิร์ต พระองค์เคยตรัสว่า “...ข้าพเจ้าเคยหัดเล่นดนตรีมาหลายอย่าง ตั้งแต่เด็ก เริ่มจากเปียโน แล้วก็มาสนใจดนตรี ไทย นอกจากเรียนดนตรีไทยแล้ว ข้าพเจ้าหัดเล่น ทรัมเป็ต บีแฟลตในวงแตรวง (สมัครเล่น) เล่นได้ ทัง้ เพลงไทยและเพลงสากล ซึง่ ทำ�ให้ขา้ พเจ้าอ่าน โน้ตสากลได้ดีขึ้น นอกจากนั้นยังชอบฟังเพลง โยธวาทิตมาตั้งแต่ยังเด็ก ๆ...” ในปี ๒๕๑๖ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุ ม ารี เสด็ จ พระราชดำ � เนิ น ไปยั ง กรุ ง บรั ส เซลส์ ประเทศเบลเยี ย ม ได้ ทอดพระเนตรพิพธิ ภัณฑ์ดนตรีเป็นครัง้ แรก ทรงเห็นว่า พิพธิ ภัณฑ์นีจ้ ดั ได้ดมี าก เครือ่ งดนตรีทจี่ ดั แสดงมี คำ�บรรยายประกอบ และยังจัดพิมพ์หนังสือแสดง เรื่องราวของเครื่องดนตรีที่จัดแสดงอย่างละเอียด ให้ ค วามรู้ แ ก่ ผู้ ม าชมได้ เป็ น อย่ า งดี ต่ อ มาได้ happy+ | 25
special scoop
ทอดพระเนตรพิพิธภัณฑ์ดนตรีที่อื่น ๆ อีกหลาย แห่ง ทำ�ให้มพี ระราชดำ�ริเห็นว่า ประเทศไทยก็ควร คิดจัดพิพิธภัณฑ์ดนตรี เพื่อให้ความรู้เรื่องศิลปะ ประจำ�ชาติแก่ผู้สนใจทั่วไปเช่นเดียวกัน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช กุมารี ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ในหนังสือมณีพลอย ร้อยแสง เกี่ยวกับเรื่อง “เหตุใดข้าพเจ้าจึงชอบ ดนตรีไทย” ว่าการที่พระองค์ได้ยินเสียงดนตรีมา ตั้งแต่ประสูตินั้น พระองค์ตรัสว่าในระยะต้น ๆ ก็ ไม่ได้สนใจมากนัก ทรงมีความรูส้ กึ อยากเล่นเพียง นิดหน่อย แต่เมื่อได้เห็นและได้ฟังอย่างตั้งใจแล้ว จึงได้รแู้ จ้งว่าเพลงไทยนัน้ มีความไพเราะและสนุก คนไทยจำ�นวนมากเห็นว่าเพลงไทยเป็นเพลงทีฟ่ งั แล้วน่าเบื่อหรือไม่รู้เรื่อง แต่พระองค์ได้พิสูจน์ให้ เห็นแล้วว่า ถ้ามีความใส่ใจที่จะศึกษาจริง ๆ แล้ว จะเข้าถึงความไพเราะ สนุกสนาน ก่อนทรงเรียน ดนตรีไทย พระองค์ยังไม่ทรงรู้จักเครื่องดนตรีไทย ด้วยซํา้ ไป เพียงแต่ทรงรูจ้ กั ทำ�นองเพลงไทยง่าย ๆ ที่คุ้นหูเท่านั้น แต่ปัจจุบันพระองค์เป็นผู้ที่ทรง รอบรู้ทั้งทางด้านวิชาการด้านดนตรี และทรง ปรีชาสามารถในการบรรเลงเครื่องดนตรีไทยได้ หลายชนิดรวมไปถึงการขับร้องและพระราชนิพนธ์ บทร้องไว้หลายเพลงด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุ ม ารี โปรดงานร้ อ ยกรองมาตั้ ง แต่ ยั ง ทรง ศึกษาอยู่ในโรงเรียนจิตรลดา จึงพระราชนิพนธ์ บทกลอนและบทเพลงไว้เป็นอันมาก เพลงแรกที่ ทรงคือเพลงลูกทุ่ง ชื่อเพลงส้มตำ� ต่อจากนั้นก็ พระราชทานบทร้องต่าง ๆ เป็นครัง้ คราว และทรง คัดลายพระหัตถ์เนื้อเพลงเหล่านั้นอย่างงดงาม นอกจากนี้ก็มีเพลงเต่าเห่ ซึ่งเป็นบทกล่อมนอน สอนใจเด็กทีม่ ชี อื่ เสียงมาก จนสมาคมกุมารแพทย์ แห่งประเทศไทย ขอพระราชทานไปพิมพ์เผย แพร่ เป็นที่น่าสนใจว่า โปรดพระราชนิพนธ์เพลง 26 | happy+
อำ�ลา ปรากฏว่าทรงบทร้องเพลงปลาทองเถา เพลงเต่ า กิ น ผั ก บุ้ ง เพลงอกทะเลและเพลง พระอาทิตย์ชิงดวง ซึ่งเป็นทำ�นองเพลงอำ�ลาที่ นิยมใช้กันในวงการดนตรีไทยบ่อยที่สุด
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม บรมราชกุมารีกับงานพระราชดำ�ริ เกี่ยวกับดนตรี
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช กุมารี ทรงมีเครื่องดนตรีทั้งของไทยแท้ และของ ต่างชาติเป็นเครือ่ งดนตรีสว่ นพระองค์จ�ำ นวนมาก รับสั่งว่า ของเหล่านี้มาเองโดยมิได้ทรงกะเกณฑ์ หรื อ ขอใครมา ที่ ท รงซื้ อ ด้ ว ยเงิ น ส่ ว นพระองค์ ก็ มี บ้ า งแต่ น้ อ ยมาก ครั้ ง หนึ่ ง ทรงพระกรุ ณา โปรดเกล้าฯ ให้ทำ�บัญชีเครื่องดนตรีส่วนพระองค์ พบว่ามีมากกว่า ๔๐๐ ชิ้น มากพอที่จะจัดเป็น พิพิธภัณฑ์เครื่องดนตรีได้อย่างสบาย แต่ยังหา สถานที่และโอกาสเหมาะที่จะสร้างไม่ได้ ยิ่งไป กว่านั้น ได้มีผู้น้อมเกล้าฯ ถวายเครื่องดนตรีชนิด ที่เรียกว่ายกวงทั้งวงมาถวาย เช่น ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ถวายเครื่องดนตรีของเก่าสมัยรัชกาล ที่ ๓ เป็นไม้สลักรูปดอกไม้ด้วยงาช้าง งดงาม มาก คุณชวลิสตร์ กันตารัติ ถวายเครือ่ งปีพ่ าทย์มอญ ทั้งชุดและปี่พาทย์ไทยทั้งชุด ดร.มนู อมาตยกุล ถวายซอสามสายของเก่าของต้นตระกูลอมาตยกุล ครูสุดจิตต์ ดุริยประณีต ถวายกรับเสภาของ สกุลดุริยประณีต วังคลองเตยถวายระนาดแก้ว สองราง ฯลฯ มากมายสุดจะบรรยายได้หมดสิ้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รวบรวมประวัติ เครื่องดนตรีเอกบางชิ้นของชาติ และเกร็ดที่น่า สนใจเกี่ยวกับเครื่องดนตรีต่าง ๆ บรรดาที่มีชื่อ ในประเทศไทยและมีประวัตหิ รือตำ�นานเกีย่ วข้อง กิจกรรมสร้างสรรค์ดนตรีที่เห็นชัดเจนและ เป็นเรือ่ งทีส่ มควรจะบันทึกไว้กค็ อื การสร้างเครือ่ ง
ปีพ่ าทย์ดกึ ดำ�บรรพ์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๐ เมื่อทรงทราบว่าป่าไม้ไทย ไม่สามารถหาไม้มะริดมาทำ�รางระนาดได้ ก็ทรง พระอุตสาหะให้กรมป่าไม้มาถวายบ้าง พระราชทาน ไม้ ต ะเคี ย นทองของส่ ว นพระองค์ ใ ห้ ท ดลอง ทำ � บ้ า ง ตลอดจนถึ ง เมื่ อ เสด็ จ พระราชดำ � เนิ น ไปประเทศพม่าก็ทรงหาไม้มะริด ก็ได้มาตาม พระราชประสงค์ แต่ไม่เพียงพอที่จะใช้ทำ�เครื่อง ดนตรีได้ทง้ั วง คงได้แต่เพียงระนาดเอกงดงามมาก เพียงรางเดียว จากพระปรีชาสามารถทางด้านดนตรีและ พระราชกรณียกิจมากมายทางด้านการอนุรักษ์ และอุปถัมภ์ด้านดนตรีไทยมาตลอด จนมีผู้ถวาย พระราชสมัญญา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีวา่ “องค์เอกอัครราชูปถัมภก มรดกวัฒนธรรมไทย” นั้นเป็นความจริงที่ไม่อาจ ปฏิเสธได้ เฉพาะในส่วนของดนตรีก็ได้เห็นพระ ราชจริยาวัตรมากมายหลายประการ
พระอัจฉริยภาพด้านพระราชนิพนธ์
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช กุมารี โปรดการอ่านหนังสือและการเขียนมาตัง้ แต่ ครั้งยังทรงพระเยาว์ ประกอบกับพระปรีชาด้าน อักษรศาสตร์และภาษา ทั้งภาษาไทยและภาษา ต่างประเทศ เป็นเหตุให้ทรงเริม่ งานพระราชนิพนธ์ ทัง้ ร้อยแก้วและร้อยกรองมากมาย งานพระราชนิพนธ์ ทีเ่ ป็นทีร่ จู้ กั โดยทัว่ ไป ได้แก่ หนังสือพระราชนิพนธ์ ชุดเสด็จพระราชดำ�เนินเยือนต่างประเทศ งานพระราช นิพนธ์บทกวีและงานพระราชนิพนธ์แปล เป็นต้น พระปรีชาสามารถทางด้านภาษาทั้งภาษา ไทยและต่างประเทศ ร้อยแก้วและร้อยกรอง ดังนัน้ จึงทรงพระราชนิพนธ์หนังสือประเภทต่าง ๆ ออกมา มากกว่า ๑๐๐ เล่ม ซึ่งมีหลายหลากประเภท ทั้ ง สารคดี ท่ อ งเที่ ย วเมื่ อ เสด็ จ พระราชดำ � เนิ น
happy+ | 27
28 | happy+
เยือนต่างประเทศ เช่น เกล็ดหิมะในสายหมอก ทั ศ นะจากอิ น เดี ย มนต์ รั ก ทะเลใต้ ประเภท วิ ช าการและประวั ติ ศ าสตร์ เช่ น บั นทึ ก เรื่ อ ง การปกครองของไทยสมั ย อยุ ธ ยาและต้ น รัตนโกสินทร์ กษัตริยานุสรณ์ หนังสือสำ�หรับ เยาวชน เช่น แก้วจอมแก่น แก้วจอมซน หนังสือที่ เกีย่ วข้องกับพระบรมวงศานุวงศ์ไทย เช่น สมเด็จแม่ กับการศึกษา สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี กั บ พระราชกรณี ย กิ จ พระราชจริ ย าวั ต รด้ า น การศึกษา ประเภทพระราชนิพนธ์แปล เช่น หยก ใสร่ายคำ� ความคิดคำ�นึง เก็จแก้วประกายกวี และ หนังสือทัว่ ไป เช่น นิทานเรือ่ งเกาะ (เรือ่ งนีไ้ ม่มคี ติ) เรื่องของคนแขนหัก เป็นต้น และมีลักษณะการ เขียนที่คล้ายคลึงกับพระราชนิพนธ์ในพระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กล่าวคือ ใน พระราชนิพนธ์เรื่องต่าง ๆ นอกจากจะแสดงพระ อารมณ์ขันแล้ว ยังทรงแสดงการวิพากษ์ วิจารณ์ ในแง่ต่าง ๆ เป็นการแสดงพระมติส่วนพระองค์ นอกจากพระนาม “สิรินธร” แล้ว พระองค์ ยังทรงใช้นามปากกาในการพระราชนิพนธ์หนังสือ อีก ๔ พระนาม ได้แก่ “ก้อนหินก้อนกรวด” เป็นพระนามแฝงที่ ทรงหมายถึง พระองค์และพระสหาย สามารถ แยกได้เป็น ก้อนหิน หมายถึง พระองค์เอง ส่วน ก้อนกรวด หมายถึง กุณฑิกา ไกรฤกษ์ พระองค์ มีรับสั่งถึงพระนามแฝงนี้ว่า “เราตัวโตเลยใช้ว่า ก้อนหิน หวานตัวเล็ก เลยใช้วา่ ก้อนกรวด รวมกัน จึงเป็น ก้อนหิน-ก้อนกรวด” นามปากกานี้ทรงใช้ ครั้งเดียวตอนประพันธ์บทความ “เรื่องจากเมือง อิสราเอล” เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๐ “แว่นแก้ว” เป็น ชื่อที่พระองค์ทรงตั้งขึ้นเอง ซึ่งพระองค์มีรับสั่งถึง พระนามแฝงนี้ว่า “ชื่อแว่นแก้ว นี้ตั้งเอง เพราะ ตอนเด็ก ๆ ชือ่ ลูกแก้ว ตัวเองอยากชือ่ แก้ว ทำ�ไมถึง เปลีย่ นไปไม่รเู้ หมือนกัน แล้วก็ชอบเพลงน้อยใจยา
ที่นางเอกชื่อ แว่นแก้ว” พระนามแฝงแว่นแก้วนี้ พระองค์เริ่มใช้เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๑ เมื่อทรงพระ ราชนิพนธ์และทรงแปลเรือ่ งสำ�หรับเด็ก ได้แก่ แก้ว จอมซน แก้วจอมแก่น และขบวนการนกกางเขน “หนูน้อย” พระองค์มีรับสั่งถึงพระนามแฝงนี้ว่า “เรามีชื่อเล่นที่เรียกกันในครอบครัวว่า น้อย เลย ใช้นามแฝงว่า หนูน้อย” โดยพระองค์ทรงใช้เพียง ครั้งเดียวในบทความเรื่อง “ป๋องที่รัก” ตีพิมพ์ใน หนังสือ ๒๕ ปีจิตรลดา เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๓ และ “บันดาล” พระองค์มีรับสั่งถึงพระนามแฝงนี้ว่า “ใช้วา่ บันดาล เพราะคำ�นีผ้ ดุ ขึน้ มาในสมอง เลยใช้ เป็นนามแฝง ไม่มีเหตุผลอะไรในการใช้ชื่อนี้เลย” ซึ่งพระองค์ทรงใช้ในงานแปลภาษาอังกฤษเป็น ภาษาไทยที่ทรงทำ�พระราชทานสำ�นักเลขาธิการ คณะกรรมการแห่ ง ชาติ ว่ า ด้ ว ยการศึ ก ษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ กระทรวงศึกษาธิการ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๖ นอกจากนี้ ยั ง ทรงพระราชนิ พ นธ์ เ พลง เป็นจำ�นวนมาก โดยบทเพลงทีด่ งั และนำ�มาขับร้อง บ่อยครัง้ ได้แก่ เพลงส้มตำ� รวมทัง้ ยังทรงประพันธ์ คำ � ร้ อ งในบทเพลงพระราชนิ พ นธ์ ใ นพระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้แก่ เพลงรัก และเพลงเมนูไข่
พระราชกรณียกิจด้านการอนุรักษ์ ศิลปวัฒนธรรมไทย
พระองค์ ส นพระทั ย ด้ า นศิ ล ปวั ฒ นธรรม มาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ โดยเฉพาะทางด้าน ดนตรี ไ ทย ซึ่ ง พระองค์ ท รงสนั บ สนุ น ในการ อ นุ รั ก ษ์ สื บ ท อ ด เ ผ ย แพ ร่ ค ว า ม รู้ ด้ า น ดนตรีไทยอย่างต่อเนือ่ งมาโดยตลอด โดยทรงเป็น แบบอย่างในการเสด็จทรงเครือ่ งดนตรีไทยร่วมกับ ประชาชนทัง้ ในและต่างประเทศ นอกจากนีย้ งั ทรง อนุรักษ์ดนตรีไทยโดยการชำ�ระโน้ตเพลง บันทึก
เพลงเก่าและเผยแพร่งานเหล่านั้นอย่างต่อเนื่อง และส่งเสริมให้สถาบันการศึกษาต่าง ๆ จัดการ เผยแพร่งานทางด้านดนตรีไทย ซึ่งจากงานทาง ด้านการอนุรักษ์ดนตรีไทย ครูเสรี หวังในธรรม ได้กล่าวไว้ว่า “ดนตรีไทยไม่สิ้นแล้ว เพราะพระ ทูลกระหม่อมแก้วเอาใจใส่” นอกจากด้ า นดนตรี ไทยแล้ ว พระองค์ ยั ง ประกอบพระราชกรณี ย กิ จ มากมายเพื่ อ การ อนุ รั ก ษ์ แ ละพั ฒ นาศิ ล ปวั ฒ นธรรมไทยทั้ ง ใน ด้านการช่างไทย นาฏศิลป์ไทย งานพิพิธภัณฑ์ ประวั ติ ศ าสตร์ แ ละโบราณสถาน ภาษาและ วรรณกรรมไทย พระองค์ ได้ รั บ การทู ล เกล้ า ฯ ถวายพระสมั ญ ญาว่ า “เอกอั ค รราชู ป ถั ม ภก มรดกวัฒนธรรมไทย” เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๑ และ “วิศิษฏศิลปิน” เมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๖ เพื่อเทิดพระเกียรติที่พระองค์ทรงพระ ปรีชาสามารถในศิลปะหลายสาขา รวมทั้งทรง มีคุณูปการต่อเหล่าศิลปินและศิลปวัฒนธรรม ของชาติ นอกจากนี้พระองค์ทรงรับเป็นประธาน ที่ ป รึ ก ษาการจั ด งานพระราชพิ ธีพ ระราชทาน เพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้า เพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดีอีกด้วย ทรง เป็ น ประธานคณะกรรมการอำ � นวยการบู ร ณปฏิ สั ง ขรณ์ วั ด พระศรี รั ต นศาสดาราม และ พระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. ๒๕๒๓ นี่เป็นเพียงพระราชกรณียกิจเพียงส่วนเดียว ที่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช กุมารี ทรงทำ�เพือ่ ประโยชน์และความสุขแก่ปวงชน ชาวไทย ยั ง มี พ ระราชกรณี ย กิ จ อี ก มากมาย หลายประการที่ทรงทุ่มเทและตั้งพระทัยปฏิบัติ เพื่อให้พสกนิกรของพระองค์ได้อยู่ดีมีสุข และ เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระองค์ วันที่ ๒ เมษายน พวกเราชาวไทย น้อมใจ ขอทรง พระเจริญยิ่งยืนนาน happy+ | 29
happy heart
30 | happy+
ชัยชนะของประเทศ ชัยชนะของการพัฒนา ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เรื่อง : ภัทราภรณ์ เตชะธรรมวงศ์ ภาพ : วิกรม วิสุทธิปราณี มูลนิธชิ ยั พัฒนา เป็นมูลนิธหิ นึง่ ซึง่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช ได้มพี ระราชดำ�ริให้จดั ตัง้ ขึน้ เพือ่ สนับสนุนการดำ�เนินงาน ตามโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำ�ริ และโครงการพัฒนาอื่น ๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวไทยทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ให้มี คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นและสามารถพึ่งพาตนเองได้ การดำ�เนินงานของมูลนิธิชัยพัฒนาจะเน้น กิจกรรมเพื่อการพัฒนาที่ไม่ซํ้าซ้อนกับโครงการ ของทางรัฐที่มีอยู่แล้ว แต่จะพยายามสนับสนุน ส่งเสริม และประสานงานให้โครงการต่าง ๆ เกิด ความสมบูรณ์และสามารถดำ�เนินการได้อย่าง รวดเร็ว สอดคล้องกับสถานการณ์ ซึ่งให้ความ ร่วมมือกับส่วนราชการและองค์กรการกุศลต่าง ๆ เพื่ อ สนั บ สนุ นงานทางด้ า นสาธารณประโยชน์ โดยมี ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิ ชัยพัฒนา เป็นหัวเรือใหญ่ในการทำ�งานพัฒนาซึง่ จะ นำ�ไปสู่ความมั่นคงของประเทศ
ชีวิตอันโลดโผน
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เป็นชาวจังหวัดเพชรบุรี ซึ่ ง ก่ อ นที่ จ ะก้ า วขึ้ น มาเป็ น เลขาธิ ก ารมู ล นิ ธิ ชัยพัฒนาและดูแลโครงการต่าง ๆ สนองเบื้อง พระยุคลบาทอย่างใกล้ชิดอย่างที่ทุกคนรู้จักกันดี ยั ง มี อี ก ด้ า นหนึ่ ง ที่ ห ลายคนอาจจะยั ง ไม่ เคยรู้ ซึ่ง ดร.สุเมธได้เกริ่นกับทีมงานว่า “ผมมีชีวิตที่ ค่อนข้างโลดโผน” “สมั ย ก่ อ นผมก็ เป็ น เด็ ก ต่ า งจั ง หวั ด ทั่ ว ไป แต่ด้วยความที่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง การเรียน
จึงกระท่อนกระแท่น เรียกได้ว่า เกือบจะไม่ได้ เข้าเรียนเลยด้วยซํ้า แต่หลังจากเข้ามาเรียนใน กรุงเทพฯ ทีโ่ รงเรียนวชิราวุธวิทยาลัยในช่วงมัธยม ปลายซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ� ก็ได้ใช้ชีวิตในอีก รูปแบบหนึง่ เลย เล่นกีฬา ใช้ชวี ติ อย่างเต็มทีเ่ หมือน คนไม่เคยมาก่อน จนกระทั่งได้ทุนรัฐบาลฝรั่งเศส ไปศึ ก ษาต่ อ ที่ ป ระเทศเวี ย ดนามและประเทศ ลาว ได้ไปอยู่ท่ามกลางคนแปลกหน้า ที่ที่ไม่ใช่ วัฒนธรรมของเรา ไม่ใช่ภาษาแบบเรา ตอนนั้น รู้ภาษาอังกฤษ แต่ไม่รู้ภาษาฝรั่งเศส เรียกได้ว่า เริม่ จากไม่รอู้ ะไรเลย มีเราทูซ่ เี้ รียนจนกระทัง่ สำ�เร็จ ตอนนั้นมีนักเรียนทุนที่ไปด้วยกัน 4-5 คน ทุกคน ก็ทนไม่ไหว ออกไปหมด ผมก็เคยคิดนะว่าทำ�ไม เราถึงเรียนในมหาวิทยาลัยที่ต่างจากคนอื่นเขา แต่กลับกลายเป็นข้อดี เพราะตอนหลังได้ทำ�งาน เกี่ยวกับภูมิภาคทางนี้ทำ�ให้เราทำ�งานได้สบาย แต่ถามว่าตอนเรียนรูไ้ หมว่าจะได้มาทำ�งานตรงนี้ เราไม่รู้หรอก ผมจบปริญญาตรีทางรัฐศาสตร์ มหาวิ ท ยาลั ย เกรอนอบ และปริ ญ ญาโท-เอก ทางรัฐศาสตร์การทูต มหาวิทยาลัยมองแปลลิเย ประเทศฝรั่งเศส นี่ก็เป็นเรื่องแปลกอีกอย่างหนึ่ง เหมื อ นกั น คื อ เราเรี ย นที่ ป ระเทศลาวและ
เวียดนาม ไม่เคยไปเรียนมหาวิทยาลัยที่ฝรั่งเศส สักครั้ง แต่พอเรียนจบกลับได้รับปริญญาบัตร จากทัง้ สองมหาวิทยาลัย ซึง่ ระบุวา่ เราจบจากทีน่ นั่ เพราะในตอนนั้นประเทศลาวและเวียดนามเป็น อาณานิคมของฝรัง่ เศส เขาจึงใช้หลักสูตรเดียวกัน นั่นเอง “ก่อนได้มาทำ�งานถวายสมเด็จพระปรมินทร มหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช ผมเคยทำ � งานที่ ก อง วางแผนเตรียมพร้อมด้านเศรษฐกิจ สำ�นักงาน คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ อยูใ่ นสนามรบมา 11 ปี เล่าไปแล้วอาจจะ ไม่เชื่อ ตอนนั้นเหนือจรดใต้ผมไปมาหมดแล้ว เจอมาสารพัดอย่าง ทัง้ โดนยิง เดินเฉียดกับระเบิด เฮลิคอปเตอร์ตก ฯลฯ ตอนจบมาอยากจะเป็นทูต แต่ต้องมาสะพายปืนไปนอนอยู่กลางป่ากลางดง พบเห็นอะไรมาเยอะทัง้ ด้านมืดและด้านสว่าง เห็น สงคราม คนตาย คนฆ่ากันเป็นเบือ แต่หลังจาก สงครามจบ ผูก้ อ่ การร้ายคอมมิวนิสต์ยอมมอบตัวแล้ว ผมในขณะนั้ น เป็ น เลขาธิ ก ารสภาความมั่ นคง แห่งชาติ (สมช.) ได้รับการชักชวนให้มาทำ�งาน ในสำ�นักงาน กปร. (สำ�นักงานคณะกรรมการ พิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจาก happy+ | 31
happy heart
32 | happy+
พระราชดำ�ริ) และเริม่ ทำ�งานถวายพระองค์ทา่ นในช่วง ปี พ.ศ. 2524 เป็นต้นมา ชีวิตเปลี่ยนมาเป็นอีก รูปแบบหนึง่ ผมถือว่าตัวเองได้รบั ประสบการณ์เยอะดี ถ้าใช้ชีวิตธรรมดาคงไม่มีโอกาสแบบนี้ ผมก็รู้สึก ดีใจและภูมิใจที่ทำ�ให้ประเทศชาติรอดพ้นวิกฤต ในช่วงนั้นมาได้ แม้เราจะเป็นฟันเฟืองตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่งก็ตาม”
มองถึงประโยชน์ส่วนรวม มองถึงประเทศชาติ มากกว่าประโยชน์ส่วนตน
ใกล้เบื้องพระยุคลบาท
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ได้ท�ำ งานประสานงาน โครงการอั น เนื่ อ งมาจากพระราชดำ � ริ ม านาน ทำ � ให้ ม องเห็ น แง่ มุ ม ของการทำ � งานและ ความประทับใจในตัวพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมพิ ลอดุลยเดชท่านมากเกินกว่าคำ�บรรยาย “ตลอดการทำ�งานใกล้ชดิ เบือ้ งพระยุคลบาท ผมตามเสด็จเหมือนนักเรียนตามครู ผมได้รับ ข้อคิดและบทเรียนอันมีคา่ มากมาย ซึง่ สิง่ ทีส่ �ำ คัญ ทีส่ ดุ คือ การทำ�งานพัฒนาเพือ่ ประชาชนโดยไม่มี วันหยุด และพระองค์ไม่เคยหยุดทำ�งาน “ความคิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ 9 คิดถึงแต่ทางแก้ไขเท่านั้น คิดไม่รู้จบ ไม่ ห ยุ ดหย่ อ นเพื่อ จะแก้ ปัญ หา เวลาที่ท รงแก้ ปัญหาอะไรมักตั้งอยู่บนฐานของธรรมชาติ ไม่ใช่ เลือกเทคโนโลยีสูง ๆ พระองค์ทรงแก้ปัญหาด้วย วิธีที่เรียบง่ายและทรงปัญญา จะเห็นว่าวิธีแก้ ปัญหาของพระองค์สะท้อนให้เห็นถึงความเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา “พระองค์ ท่ า นทรงรั ก แผ่ น ดิ น ทรงรั ก ประชาชน ทรงทำ�ทุกอย่างให้แผ่นดินไทย ให้ ประชาชนชาวไทย ขณะที่เสด็จแปรพระราชฐาน ได้ ท อดพระเนตรเห็นความทุ กข์ข องประชาชน ประชาชนเมือ่ มาเฝ้าฯ รับเสด็จก็จะกราบบังคมทูล ถึ ง ปั ญ หาต่ า ง ๆ ซึ่ ง พระองค์ ท่ า นทรงรั บ ฟั ง ปัญหาจากปากคำ�ของพสกนิกรด้วยพระองค์เอง
ทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ทรงรับฟังปัญหาและ ทรงเข้าไปแก้ไข ไม่ทรงวางเฉย “ผมได้ เ รี ย นรู้ ง านผ่ า นพระบาทสมเด็ จ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มากมาย พระองค์ท่าน ทรงสอนในหลายมิติ ทรงเป็นต้นแบบนำ�ทาง และ เป็นต้นแบบทีม่ พี ลังอย่างมหาศาล นับว่าเป็นบุญ วาสนาทีไ่ ด้รบั พระมหากรุณาธิคณ ุ ให้ถวายงานรับใช้ เบื้องพระยุคลบาท ได้มีโอกาสอยู่ใกล้ชิดและ เรียนรู้ความเป็นปราชญ์ของพระองค์ท่าน ซึ่งเรา ก็ซึมซับพลังนั้นมา ทั้งพลังความรู้ พลังปัญญา ความคิด จิตสำ�นึก ความอดทน ความเสียสละ เพื่อส่วนรวม พระองค์ท่านทรงสอนหมดทุกอย่าง ผมจึงเสมือนมีแสงประทีปของพระองค์ท่านเป็น เครื่องนำ�ทางอยู่ตลอดเวลา “ตั้งแต่ผมถวายงานและตามเสด็จพระองค์ ท่าน พระองค์ท่านเสด็จพระราชดำ�เนินไปทั่วทุก สารทิศ และทุกที่ที่ประสบปัญหา แม้จะทรงเป็น ประมุขของประเทศก็มิทรงอยู่เฉย ทรงตรากตรำ� พระวรกายทำ�งาน ทรงเหน็ดเหนือ่ ย แม้วา่ ในทีน่ นั้ จะห่างไกล ทุรกันดาร ไม่มีถนน ภูเขาสูงชัน
นํ้ า หลาก หรื อ มี ผู้ ก่ อ การร้ า ย พระองค์ ท่ า นก็ เสด็จฯ ไป โดยมิห่วงพระองค์เอง แต่ทรงห่วง ราษฎรมากกว่า พระองค์ประทับอยู่ต่างจังหวัด ปีละ 8 เดือน “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงเห็นว่า ความสุขที่แท้จริงนั้นหาได้จากเรื่อง งานทั้งสิ้น แต่ความสนุกนั้นหาได้หลากหลาย พระองค์ท่านทรงทำ�งานด้วยความสุขทุกขณะ ทรงมีความสุขยามได้อยู่ท่ามกลางประชาชน ได้ ทำ�ประโยชน์แก่ผอู้ น่ื ส่งผลให้ความสุขนัน้ ได้เผือ่ แผ่ มายั ง ทุ ก คนที่ มี โ อกาสได้ ถ วายงานพระองค์ ท่านด้วย “หากถามผมว่า ผมได้รับความประทับใจ อะไรบ้างในการถวายงาน ผมคงจะตอบว่าใน ฐานะส่วนตัวผมซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ ทรงมีต่อตัวผม และในฐานะประชาชนคนไทย คนหนึง่ ผมซาบซึง้ ในพระมหากรุณาธิคณ ุ ทีท่ รงมี ต่อประชาชนชาวไทยและประเทศชาติ “เรื่ อ งราวความประทั บ ใจสำ � หรั บ ผมมี มากมาย หรืออาจกล่าวได้ว่าทุกเรื่องในทุกวัน happy+ | 33
happy heart
34 | happy+
ตั้งแต่ได้เริ่มทำ�งานกับพระองค์ท่าน นี่คือสิ่งที่นับ เป็นที่สุดของชีวิต ทรงให้โอกาส หลายเรื่องที่ผม ไม่รกู้ พ็ ระราชทานความรู้ ทรงสอนและทรงเป็นครู ที่เปี่ยมด้วยพระเมตตา เป็นครูของผมในทุกด้าน หลาย ๆ คนอาจรู้สึกว่าผมโชคดี แต่จริง ๆ แล้ว พวกเราทุกคนได้รับการสอนมาตั้งแต่จำ�ความได้ ทุกพระราชกระแส ทุกอิริยาบถของพระองค์ท่าน ทรงสอนอยูต่ ลอดเวลา อย่าเพียงแต่เห็น ขอให้มอง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 อย่า เพียงแต่ได้ยิน ขอให้ฟัง ทุกอย่างต้องหาความ หมายให้ได้ แล้วจะเป็นประโยชน์อย่างมาก และ หากทุกคนนำ�ไปปฏิบตั ใิ ห้เกิดความเจริญก็จะเป็น ประโยชน์ต่อประเทศสืบไป”
รู้รักสามัคคี
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล อายุ 78 ปีแล้ว แต่ท่าน ยังคงทำ�งานในทุกวันอย่างแข็งขัน มองข้ามเรื่อง ผลงานว่าเคยทำ�อะไรมาบ้าง แต่กลับมุ่งเน้นไปที่ ผลลัพธ์ให้เกิดประโยชน์แก่ส่วนรวมมากที่สุด ทำ� ทุกอย่างอย่างเต็มที่และดีที่สุด “การทำ�งานเพือ่ ส่วนรวม เป็นการทำ�งานร่วมกัน ไม่มีใครทำ�งานสำ�เร็จได้ด้วยตัวคนเดียวหรอก เราต้องรูร้ กั สามัคคี ต้องใช้ความรูใ้ นการดำ�เนินการ ไม่ อ ย่ า งนั้ นจะเป็ นการช่ ว ยเหลื อ อย่ า งสะเปะ สะปะ และต้องใช้ความรักเป็นพืน้ ฐาน ใจทีม่ อี คติ ใจที่เกลียดชัง ทำ�งานอย่างไรก็ไม่สำ�เร็จผล ต้อง ช่วยกันแก้ปัญหา ตอนนี้เจ้าหน้าที่ของเรามีอยู่ 100 กว่าคน ผมสามารถทำ�ให้เป็น 1,000 กว่าคนได้ อย่างเช่น เหตุการณ์สนึ ามิทผ่ี า่ นมา มูลนิธชิ ยั พัฒนา ต้องไปสร้างบ้านให้ผู้ประสบภัย 170 หลัง และ ต้ อ งเสร็ จ อย่ า งรวดเร็ ว ถามว่ า เรามี พ นั ก งาน 100 กว่าคน เรารับผิดชอบไหวหรือ ใครจะไป ทำ�ได้ ผมจึงระดมคนเพียงชัว่ ข้ามคืนจาก 100 คน ให้กลายเป็น 1,000 คนได้ จากกองพันทหารช่าง ได้มา 400 คน นักเรียนอาชีวะเหนือจรดใต้ได้มา
600 คน แบ่งกันสร้างบ้านภายใน 3 เดือนจนเสร็จ “ผมก็บอกกับอาจารย์เด็กอาชีวะว่า เด็กเขา มาช่วยงานถือเป็นการเรียนนอกห้องเรียนอย่างหนึง่ ให้ ม าลงมื อ ทำ � จริ ง เรี ย นรู้ จ ากเหตุ ก ารณ์ จ ริ ง ก็ให้คะแนนเด็กไป แถมเขาสร้างบ้านเสร็จแล้ว ยั ง ได้ ค วามภู มิ ใ จอี ก ด้ ว ย ได้ ช่ ว ยชาวบ้ า นที่ กำ�ลังเดือดร้อน เราต้องบริหารจัดการให้ได้ หมด ยุคที่เราจะมานั่งอยู่เฉย ๆ ในที่ของตัวเองแล้ว อยู่ กับผมต่อให้มาจากเหนือจรดใต้ไม่เห็นว่าจะมีตกี นั สักที วันทีป่ ดิ โปรเจ็กต์ กอดกันร้องไห้ราํ่ ลา แต่พอ เข้ากรุงเทพฯ แล้วต้องตีกนั เจอหน้ากันแล้วยิงกัน มันเกิดอะไรขึ้น อยู่กับผมไม่มีเวลาทำ�อย่างนั้น หรอก ต้องตีกับปูน ตีกับไม้ เหนื่อยหมดแรงกัน ไปทุกวัน แถมต้องรีบทำ�บ้านให้เสร็จด้วยเพราะ ชาวบ้านเขามารอแล้ว “มูลนิธิชัยพัฒนาจึงเป็นหน่วยงานที่ทำ�งาน ตามปัญหาที่เกิดขึ้น เช่น เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม ขยะ นํา้ เน่า นํา้ เสีย ปัญหาคือ โจทย์ของเรา ตอนนี้ ประชาชนพ้นทุกข์หรือยัง ก็ยงั มีอยู่ การทำ�มาหากิน บางแห่งดีแล้ว แต่ก็ยังมีบางแห่งที่เดือดร้อนอยู่
ปัญหาจะเป็นตัวกำ�หนดงานให้เราทำ� ไม่มีใครรู้ ว่าพายุจะพัดเข้ามาเมือ่ ไหร่ นํา้ จะท่วมทีไ่ หน เมือ่ ปัญหามันเกิด เราก็ต้องเผชิญหน้า เราทำ�งาน แก้ไขปัญหาไม่ใช่แค่การพัฒนาเพียงอย่างเดียว และเมื่อปัญหาได้รับการแก้ไขแล้วงานของเราก็ จะเบาลง “ผมผ่านเรื่องราวต่าง ๆ มามากแล้ว ในวัย 78 ปีคงไม่มคี วามหนักใจในการทำ�งานอีกแล้ว แต่ สำ�หรับอุปสรรคในการทำ�งาน อาจจะเป็นเรือ่ งของ สุขภาพ ผมอายุขนาดนี้แล้ว ก็ย่อมมีโรคภัยบ้าง เป็นธรรมดา ช่วงป่วยก็ถือว่าได้พัก หายแล้วก็ลุย กันต่อ แต่ร่างกายก็ยังถือว่าแข็งแรงกว่าคนในวัย เดียวกัน แต่อาจจะเพราะเราทำ�งานทุกวันด้วย ผม ทำ�งานตรงนีม้ าจนชินแล้ว รูส้ กึ เหมือนจบเป็นงาน ๆ ไป แต่ความจริงแล้วไม่มีอะไรที่จบจริง ๆ หรอก ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ปัญหามักจะมาควบคู่กับ มนุษย์ ตอนนี้เรายังไหวอยู่ก็ทำ�ไป หมดแรงเมื่อ ไหร่ ไปไม่ไหวก็หยุด สถานการณ์รอบข้างเป็นตัว กำ�หนดชีวิต เราก็เพียงแต่เดินไปตามทางเท่านั้น อย่าไปคิดมาก happy+ | 35
happy heart
36 | happy+
“การทำ�งานของผมก็คือ การดูแลตัวเอง เมื่อเราทำ�งาน สมองได้คิด ร่างกายได้ออกกำ�ลัง การพบเจอผู้คนถือเป็นการดูแลในเรื่องอารมณ์ ความรู้สึก การทำ�งานยังคงเป็นการสร้างคุณค่า ทั้งต่อตนเอง ผู้อื่นและสังคม อีกทั้งงานที่ก่อเกิด ประโยชน์ส่วนรวม ก็จะนำ�มาซึ่งความสุข ดัง พระราชดำ�รัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมพิ ลอดุลยเดชทีพ่ ระราชทานแก่ผมครัง้ แรก เมื่ อ ได้ รั บ การเข้ า เฝ้ า ฯ ว่ า ‘ขอบใจนะที่ ม า ช่วยฉันทำ�งาน แต่ทำ�งานกับฉัน ฉันไม่มีอะไรจะ ให้ นอกจากความสุขที่จะมีร่วมกัน ในการทำ� ประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น’ สิ่งนี้ถือเป็นแนวทางในการ ทำ�งานและการดำ�เนินชีวติ อย่างมีความสุขสำ�หรับ ผมตลอดมา”
ต้องตีให้แบน เวลาตีกต็ อ้ งนำ�ไปเผา เผาไปตีไปอีก หลาย ๆ รอบ จนกว่าจะเป็นรูปดาบที่เราต้องการ ต้องผ่านความเจ็บปวด ความร้อนอยู่นาน เมื่อ เสร็จแล้ว จะให้สวยงามดัง่ ใจก็ตอ้ งนำ�ไปแกะสลัก ลวดลาย ต้องใช้ของมีคมมาตีให้เกิดลวดลายอีก แต่เมื่อเสร็จสมบูรณ์เป็นดาบที่สวยงาม ก็จะมี คุณค่าสูงมาก ถ้าเทียบกับเศษเหล็กก็จะต่างกัน ลิบลับ จะเห็นว่ากว่าที่เศษเหล็กธรรมดา ๆ ไม่มี คุณค่ามากนัก จะกลายเป็นดาบอันงดงามต้อง ผ่านอุปสรรคมากมายและความเจ็บปวดต่าง ๆ กว่าจะประสบความสำ�เร็จ ดังนั้นขอให้จงจำ�ไว้ อย่างหนึ่งว่า ใครที่ไม่เคยถูกตี ถูกทุบ หรือเจอ เรื่องราวร้าย ๆ ในชีวิตมาเลยนั้น ชีวิตนี้ทำ�งาน ใหญ่ให้แก่แผ่นดินไม่ได้”
ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ
ละเว้น ปล่อยวาง
การทำ�งานที่เกี่ยวข้องกับคน โดยเฉพาะ งานที่ต้องเข้าไปแก้ปัญหา คืนความสุขให้กับ ประชาชน ย่ อ มมี อุ ป สรรคและปั ญ หาเข้ า มา ทดสอบความรู้ ความสามารถ และกำ�ลังใจของ คนทำ�งานอยู่เรื่อย ๆ ซึ่ง ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล มี แนวคิดในการรับมือกับอุปสรรคได้อย่างน่าสนใจ “เวลาเจอปัญหาก็แก้ไขกันไป เพียงแต่ต้อง ทำ�ให้ดที สี่ ดุ แต่หากเกิดท้อแท้กอ็ ยูน่ งิ่ ๆ สักพักหนึง่ แล้วค่อยเดินหน้าต่อไป ที่ต้องหยุดนิ่งก็เพื่อให้ ใจได้พัก เพราะความท้อแท้เกิดขึ้นเมื่อใจไม่มี กำ�ลัง ไม่มีแรง เหนื่อย ก็จำ�เป็นที่จะต้องหยุดพัก คนเราท้อแท้ได้ แต่อย่าท้อถอย สิ่งที่ผ่านไปแล้ว บางอย่างสร้างบทเรียนให้เรา บางอย่างเป็นแรง ผลักดัน ทุกอย่างในชีวิตจึงขึ้นอยู่กับชีวิตและ มุมมองของตัวเราเองทั้งสิ้น “และเวลาทีผ่ มท้อแท้กม็ กั จะนึกถึงพระราชดำ�รัส ของพระบาทสมเด็ จ พระปรมิ นทรมหาภู มิ พ ล อดุลยเดช ทีไ่ ด้พระราชทานไว้เป็นข้อคิดแก่ตวั ผม เองว่า ‘เศษเหล็กเวลาเราขายคุณค่ามันตํ่ามาก คงได้เงินไม่กี่บาท แต่ถ้าเรานำ�เศษเหล็กเหล่านั้น มาหลอมรวมกัน เวลาที่หลอม เศษเหล็กคงรู้สึก ร้อนมาก เมื่อหลอมเสร็จเราเอามาทำ�เป็นดาบ
ชือ่ เสียง เกียรติยศ รางวัล เป็นสิง่ ทีใ่ ครหลายคน ไขว่คว้าอยากได้มา เพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่แสดง ถึงความตัง้ ใจหรือผลตอบแทนในการทำ�งานอย่าง ยากลำ�บากของแต่ละคน แต่ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กลับมีมุมมองความคิดที่ต่างออกไปในเรื่องนี้ “สมัยก่อนผมก็ยอมรับว่า เราอยากได้รับ การยอมรับ อยากมีชื่อเสียง เกียรติยศ รางวัล เหมือนอย่างคนอื่นเขาบ้าง ยึดติดกับสิ่งผิวเผิน เหล่านี้ แต่พอได้ศึกษาธรรมะ ประกอบกับอายุ เท่านีแ้ ล้ว ก็เลยรูส้ กึ ปล่อยวาง ตัดทุกอย่างออกไป ไม่ อ ยากได้ ไม่ อ ยากมี แต่ ชี วิ ต คนเราก็ แ ปลก อยูเ่ หมือนกัน เวลาทีอ่ ยากได้อยากมี กลับไม่เคยได้ แต่ พ อเวลาที่ ไม่ ส นใจกลั บ เข้ า มาหา ทุ ก วั นนี้ ได้ รั บ รางวั ล มาเยอะแยะมากมาย บางครั้ ง ไม่อยากได้ แต่เขาก็ยัดเยียดให้เรามา ปริญญา ดุษฎีบณ ั ฑิตกิตติมศักดิ์ ได้รบั มา 16 มหาวิทยาลัย แล้ว ซึ่งผมไม่เคยเรียนที่ประเทศไทยเลยแต่ก็ได้ รับมา หรืออย่างเรื่องของตำ�แหน่งหน้าที่ บางครั้ง อยากเป็ น อาชี พ นี้ อยากทำ � งานตรงนี้ ม าก กลับไม่ได้ อันที่ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาทำ� กลับได้ รับตำ�แหน่งนั้นมา มันเป็นเรื่องที่เราควบคุมไม่ได้ ผมเป็นเด็กนักเรียนนอกทีค่ อ่ นข้างจะเชือ่ เรือ่ งดวง
เพราะหลาย ๆ ครัง้ เหตุการณ์มนั พิสจู น์ตวั เองแล้ว เพราะฉะนั้ น พออายุ เ ยอะประมาณหนึ่ ง ผ่ า นประสบการณ์ ม าเยอะระดั บ หนึ่ ง เราจะ ค่ อ นข้ า งนิ่ ง ค่ อ นข้ า งสงบ กลั บ คิ ด ว่ า ชี วิ ต เรียบ ๆ ง่าย ๆ นี่แหละกลับดีที่สุด”
ประเทศไทยในวันข้างหน้า
ประเทศไทยเคยเป็นประเทศที่ยืนอยู่หัวแถว มาโดยตลอด แต่ปัจจุบันนี้เรากลับยํ่าอยู่กับที่ เพียงเพราะปัญหาการทะเลาะเบาะแว้ง ไม่เข้าใจกัน และเห็ น แก่ ป ระโยชน์ ส่ ว นตน ทำ � ให้ ห ลาย ๆ ประเทศรอบด้านต่างเดินหน้านำ�เราไปหลายก้าว ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล จึงฝากแง่คดิ ให้กบั ทุกคนว่า “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดชทรงเหนื่อยมาก ทรงพยายามรักษาสิ่ง ที่พวกเราทำ�ลาย เราทำ�ลายป่า พระองค์ท่าน ทรงฟื้นฟูป่า เราทำ�ลายนํ้า พระองค์ท่านก็ทรงสู้ อุตส่าห์บำ�บัดนํ้าให้สะอาด เพื่อให้พวกเรามีนํ้า ใช้ได้อีก เราทำ�ลายดิน พระองค์ท่านก็ไปนำ�หญ้า แฝกมาปลูก ด้านพลังงานขาดแคลน พระองค์ทา่ น ก็ทรงคิดค้นไบโอดีเซล พลังงานทดแทน และ อีกมากมายที่พระองค์ท่านทรงทำ�เพื่อเราทุกคน และเพื่ อ ลู ก หลานของเราในภายภาคหน้ า ซึ่งความจริงแล้ว หลายสิ่งที่พระองค์ท่านทรงทำ� เป็นประโยชน์กับพวกเราทุกคน เหตุใดพวกเรา จึงไม่ทำ�ตามอย่างพระองค์ท่าน พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ 9 ทรงทำ�นุบ�ำ รุงรักษาดิน นํา้ ลม ไฟ อันเป็นหน้าที่ของประชาชนคนไทยทุกคน ต้ อ งรั ก ษาทรั พ ยากรของชาติ รั ก ษาแผ่ นดิ น เพราะนี่คือชีวิตของพวกเราทุกคน พระองค์ท่าน ทรงตระหนักดีว่า แผ่นดินคือชีวิตของทุกคน เรา ต้ อ งอาศั ย อยู่ ในแผ่ นดิ นชั่ ว ลู ก ชั่ ว หลาน หาก พวกเราไม่รกั ษาแผ่นดิน คิดแต่จะเอาประโยชน์ โดยไม่ ช่วยทำ�นุบำ�รุงให้แผ่นดินผืนนี้สุขสมบูรณ์ตลอด จนวันข้างหน้า ผมคิดว่าพวกเราควรตระหนักถึง แผ่ นดิ น ให้ ดี ควรใช้ ท รั พ ยากรอย่ า งพอเพี ย ง อยากให้ทุกคนมองถึงประโยชน์ส่วนรวม มองถึง ประเทศชาติ มากกว่าประโยชน์ส่วนตน” happy+ | 37
feature
เพราะอายุเป็นเพียงตัวเลข เรื่อง : It’s a bell / Nasry ภาพ : วิกรม วิสุทธิปราณี / TepiN
หลายคนมักจะกังวลเรือ่ งของอายุทเ่ี พิม่ มากขึน้ ทุกวัน กลัวริว้ รอยแห่งความสูงวัยจะเข้ามาเยือน กลัวปัญหาสุขภาพ จะมาเคาะประตูเรียก หรือบางท่านถึงกับกลัวว่าอายุเยอะแล้วจะไร้ประโยชน์ กลายเป็นภาระให้กบั ลูกหลาน แต่ความจริงแล้ว อายุเป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้นเอง อย่าปล่อยให้ตัวเลขนี้มีความสำ�คัญมากจนถึงขั้นมากำ�หนดชีวิตของแต่ละคนได้ เพราะหากมองอีกแง่มุมหนึ่ง อายุที่เพิ่มขึ้นเท่ากับประสบการณ์ก็เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย เราจึงได้เห็นคนรุ่นใหญ่บางกลุ่ม ลุกขึ้นมาทำ�อะไรแปลกใหม่ เท่ ๆ เก๋ ๆ ที่บางครั้งคนอายุน้อยกว่ายังต้องยกนิ้วให้ นิตยสาร happy+ ฉบับเมษายน ต้อนรับวันสงกรานต์ปีใหม่ไทย ด้วยการพาทุกท่านไปพบกับบุคคลที่มีแนวคิด แบบคนรุ่นใหม่ อายุไม่ใช่ปัญหา เพราะสิ่งที่สำ�คัญนั้นอยู่ที่ใจ ไปพบกับพวกเขากันเลยดีกว่าค่ะ 38 | happy+
เจมส์ ฮุง
ครูจิตอาสาปันเวลาสอนภาษาจีน วัยเกษียณในความคิดของใครหลาย ๆ คน อาจมองว่าเป็นวัยแห่งการพักผ่อนอยูก่ บั บ้าน หรือออกเดินทางท่องเทีย่ วอย่างสงบสุข แต่ส�ำ หรับ คุณเจมส์ ฮุง ชายชาวไต้หวัน วัย 71 ปี ที่มาอาศัยอยู่ในเมืองไทยนานกว่าสามสิบปี กลับเลือกใช้ชีวิตหลังเกษียณด้วยการมาเป็นครูจิตอาสา สอนภาษาจีนให้กับคนไทยฟรี เพื่อเป็นการแบ่งปันสิ่งที่มีค่าให้กับสังคมไทยที่เขารัก “เมื่อประมาณสามสิบปีก่อน เพื่อนบอกว่า เมืองไทยกำ�ลังเจริญ และชาวไต้หวันเดินทางเข้ามา ลงทุ น ที่ นี่ เ ยอะ ซึ่ ง ก่ อ นหน้ า นั้ น เหล่ า ซื อ เป็ น สถาปนิกอยู่แล้ว เพื่อนก็เลยชักชวนมาลงทุนที่ เมืองไทย ทำ�ให้เหล่าซือได้เปิดบริษัทรับเหมา ก่อสร้าง ซึ่งในปัจจุบันมีการพัฒนาผู้รับเหมา ก่ อ สร้ า งเยอะมาก และมี ก ารแข่ ง ขั น กั น สู ง เลยคิ ด ว่ า ถ้ า อายุ ม ากขึ้ นก็ จ ะไม่ ไปสู้ กั บ คนอื่ น
ตอนนั้ นเป็ นเจ้ าของจะเป็ นห่ วงและกั งวลเรื่ อง บริษทั อยูต่ ลอดเวลา แต่พอเกษียณออกมาเหล่าซือ สบายใจมากจริง ๆ “ก่ อ นที่ จ ะเกษี ย ณเหล่ า ซื อ มารำ � ไทเก๊ ก ที่ สวนลุมพินี แล้วทุกคนที่เข้าร่วมรำ�ไทเก๊กเป็นชาว ไทย เขารู้ว่าเหล่าซือเป็นคนไต้หวัน เขาจึงอยาก เรียนรู้ภาษาจีน พอรู้อย่างนั้นเหล่าซือก็ยินดีที่ จะสอนให้ทันที เราจะทำ�การเรียนการสอนอยู่ที่
ใต้ตน้ ไม้ พอหลังจากทีเ่ กษียณจริง ๆ แล้ว เหล่าซือ ก็ ทุ่ ม เทกั บ การสอนมากขึ้ น เหล่ า ซื อ จะสอน ภาษาจีนที่มีการสอนทั้งการอ่านและการเขียน ตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับสูง ส่วนเรื่อง ค่าใช้จ่ายไม่ต้องพูดถึง เพราะเหล่าซือเกษียณ แล้ว ด้วยตัวเราเป็นคนกินเจและไม่ได้ชอบเที่ยว อะไรมากมาย เงินจึงไม่ใช่สงิ่ จำ�เป็นสำ�หรับเหล่าซือ ขอแค่ตอนนี้แข็งแรงและไม่ต้องเครียดมากก็พอ happy+ | 39
feature
แค่ เหล่ า ซื อ เห็ นนั ก เรี ย นทุ ก คนชอบและเรี ย น เข้าใจเหล่าซือก็ดีใจแล้ว สิ่งที่เหล่าซือทำ�แล้ว ไม่ได้หวังสิง่ ตอบแทนก็ถอื ว่ามีบญ ุ มาก แต่สดุ ท้าย ที่เหล่าซือได้รับกลับมามันมากกว่าที่ให้เขาไปอีก คนเราต้ อ งรู้ จั ก ให้ ไม่ ใช่ เ อาแต่ ข ออย่ า งเดี ย ว ซึง่ ทุกวันนีส้ นุกกับการทีไ่ ด้สอนภาษาจีนมาก เหล่าซือ ว่าคนสมัยนี้ให้ความสำ�คัญกับภาษาจีนมากขึ้น เหมือนเราได้แลกเปลี่ยนภาษากัน ตัวเหล่าซือ เองก็ศึกษาภาษาไทยอยู่นานเหมือนกัน พอจะ พูดภาษาไทยโต้ตอบกันได้ แต่เวลาอ่านหนังสือ ยังอ่านได้ไม่ค่อยมากเท่าไหร่” เหล่าซือไม่เพียงสอนภาษาจีนเฉพาะในตำ�รา อย่างเดียว แต่ยังสอนให้ทุกคนตระหนักถึงความ สําคัญ และนําคุณธรรม จริยธรรมกลับมาใช้ใน การดํารงชีวิต “เมืองไทยนับถือศาสนาพุทธอยูแ่ ล้ว ตัวเหล่าซือ ก็ นั บ ถื อ ศาสนาพุ ท ธ ในสั ง คมที่ วุ่ น วายและ มีความคิดที่ไม่ถูกต้อง ทำ�ให้เหล่าซือพยายาม ที่จะสอนว่า คนเราจะเป็นคนดีได้อย่างไร แล้วก็ พยายามสอนว่า การศึกษาธรรมะต้องทำ�ยังไง สร้างบุญเพือ่ อะไร ไม่ใช่จะใช้บญ ุ อย่างเดียว บุญ ต้องเก็บไว้ เหล่าซือจะไม่ได้สอนแค่ในตำ�ราเพียง 40 | happy+
อย่างเดียว แต่จะสอนคุณธรรมการรูจ้ กั ผิดชอบชัว่ ดี อย่างในโรงเรียนสอนภาษาปัจจุบันเขาอาจจะ สอนแต่วิชาการ แต่อาจจะไม่ได้สอนเรื่องศาสนา คุณธรรม จริยธรรม เขาอาจจะรูเ้ รือ่ งภาษาแต่ไม่รู้ ว่าคุณธรรมต้องเป็นยังไง ภาษาจีนคือการเรียนรู้ ภาษาจีนสำ�คัญเพราะมีมาหลายพันปีแล้วก็จริง แต่สิ่งที่สำ�คัญที่สุดคือ ตัวเราจะเป็นคนดียังไง เหล่าซืออยากให้ทกุ คนมีความคิดทีถ่ กู ต้อง ไม่โลภ มาก เราต้องช่วยเหลือตัวเอง ครอบครัวและสังคม ให้ได้ อย่าทำ�ให้สังคมวุ่นวาย” การเป็ น ครู จิ ต อาสาสอนภาษาจี น ในวั ย เกษียณ จึงเป็นตัวช่วยอีกหนึง่ ข้อทำ�ให้เหล่าซือรูส้ กึ ภาคภูมิใจในตนเองเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังทำ�ให้ เหล่าซือมีปฏิสมั พันธ์กบั ผูค้ นรอบข้างมากขึน้ และ ทำ�ให้เขารู้สึกมีความสุขกับชีวิตมากยิ่งขึ้น “ที่ยังคงทำ�งานอยู่ทุกวันนี้ เพราะต้องการ ออกกำ�ลังกายไปในตัวด้วย อยู่บ้านเฉย ๆ ทุกวัน ก็คงเบื่อ เหมือนใช้ชีวิตไปวัน ๆ แบบไม่มีอะไรทำ� เหล่ า ซื อ อยากนำ � ความสามารถที่ มี อ ยู่ ม าช่ ว ย เหลือคนอื่น เพื่อเป็นประโยชน์ให้สังคมต่อไป จริง ๆ เหล่าซืออยากสอนเด็ก ๆ วัยรุน่ กว่านีห้ น่อย (หัวเราะ) แต่แปลกที่วัยรุ่นสมัยนี้ไม่ยอมเรียนกัน
กลัวว่าภาษาจีนจะยาก จริง ๆ ภาษาจีนไม่ยากเลย ในอนาคตสามารถนำ � มาใช้ ป ระโยชน์ ไ ด้ อีกมากมาย ในคลาสของเราจะไม่ได้เรียนแค่ในตำ�รา อย่างเดียว แต่เราจะมีการร้องเพลงภาษาจีนเพื่อ เป็นการผ่อนคลายไปในตัว เหล่าซือยังมีนักเรียน อายุ 94 มาเรียนอยู่เลย ตัวเขาเองก็มีความสุข คนรอบข้างของเขาก็ดีใจที่พ่อแม่ได้มีกิจกรรมทำ� ส่ ว นลู ก ๆ ของเหล่ า ซื อ ทุ ก คนยิ นดี ที่ เหล่ า ซื อ เกษียณแล้วยังมีอะไรทำ� เขามีความสุขทีเ่ หล่าซือ ใช้ความสามารถสอนคนอื่นและมีสถานที่พบปะ ผู้คน แถมยังได้ออกกำ�ลังกายไปในตัว เหล่าซือ คิดว่าถึงเราจะอายุมากแล้วก็ตอ้ งดูแลตัวเองให้ได้ และจะต้องไม่เป็นภาระของลูกหลาน “แค่เห็นทุกคนมาเรียนเหล่าซือก็ดีใจและ มีความสุขแล้ว เวลาเราใช้เวลาร่วมกันกับทุกคน มันมีความสุขมาก เหมือนได้พบปะเจอเพื่อน ที่ สามารถนัดไปกินข้าวและท่องเที่ยวไปในสถานที่ ต่าง ๆ ด้วยกัน เหมือนเหล่าซือได้มีเพื่อนใหม่ หลังเกษียณ เหล่าซือเชื่อว่า ลูกศิษย์แต่ละคน ไม่ว่าจะช่วงอายุไหนจะรักเหล่าซือทุกคน เขา จะคอยเทคแคร์ดูแลเหล่าซือเป็นอย่างดี ดูแล และช่วยเหมือนเหล่าซือเป็นคนในครอบครัวของเขา
คนหนึ่ ง ทำ � ให้ เหล่ า ซื อ อบอุ่ น มากและรู้ สึ ก ดี ทุกครั้งที่ได้มาสอนและได้พบกับทุก ๆ คน ซึ่ง เหล่าซือว่าบางครัง้ การทีม่ คี นเข้ามาหาเราเยอะ ๆ มันอยู่ที่เราด้วยนะ เราเป็นคนดี เราไม่เห็นแก่ตัว เรายินดีชว่ ยคนอืน่ คนอืน่ ก็จะรักเราเอง นีค่ อื สิง่ ที่ สำ�คัญทีส่ ดุ เหล่าซือจะบอกทุกคนเสมอว่า คนเรา ต้ อ งยิ้ ม ปากยิ้ ม ตายิ้ ม หน้ า ยิ้ ม และใจยิ้ ม เพราะถ้าใจเบิกบานสิ่งดี ๆ จะเข้ามา เราต้อง เปิดใจให้กว้าง” สำ � หรั บ เหล่ า ซื อ การที่ ไ ด้ อ ยู่ เ มื อ งไทย คื อ สิ่ ง ที่ ดี ม ากที่ สุ ด ในชี วิ ต ของเขา อี ก ทั้ ง ยั ง มี พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช เป็ น ต้ น แบบในการดำ � เนิ น ชี วิ ต ของเหล่ า ซื อ มาโดยตลอด “พระองค์สอนให้เราเป็นคนดีและต้องพอใจ ในสิ่งที่เรามีอยู่ มีเท่าไหร่ก็ใช้เท่านั้น ใช้ชีวิตอย่าง มีความสุข ไม่ต้องรํ่ารวยเป็นเศรษฐี แต่ก็ไม่ได้ อดอยากจนต้องเบียดเบียนตนเอง และก็ไม่ใช่ว่า อยากได้จนต้องเบียดเบียนคนอื่น ทำ�ให้ชีวิตหลัง เกษียณและการได้อยู่ที่ประเทศไทยของเหล่าซือ มีความสุขมากขึ้นไปอีก พูดได้เลยว่าเหล่าซือรัก เมืองไทยมาก คนทีน่ ดี่ มี าก เหล่าซือเจอแต่คนทีด่ ี ๆ
ลูก ๆ ของเหล่าซือทุกคนยินดีทเ่ี หล่าซือเกษียณแล้ว ยังมีอะไรทำ� เขามีความสุขทีเ่ หล่าซือใช้ความสามารถ สอนคนอืน่ ถึงเราจะอายุมากแล้วก็ตอ้ งดูแลตัวเองให้ได้ และจะต้องไม่เป็นภาระของลูกหลาน
เหล่าซือเชื่อว่าถ้าเราเป็นคนดีเราก็จะเจอแต่คน ดี ๆ เข้ามา” แม้เหล่าซือเจมส์ ฮุงจะเป็นชาวไต้หวันที่มา อาศัยอยู่ในเมืองไทย แต่ด้วยความรักที่เขามีต่อ เมืองไทยและคนไทย ทำ�ให้รู้ว่าเหล่าซือมีความ คิ ด อั น เปี่ ย มล้ น ไปด้ ว ยความต้ อ งการแทนคุ ณ แผ่นดินที่เขาได้อาศัยอยู่ โดยการนำ�ความรู้และ ความสามารถที่เขาพอจะทำ�ได้ในช่วงวัยเกษียณ
มาแบ่งปันให้กับคนไทยทุก ๆ คนที่สนใจเรียน ภาษาจีน พร้อมทั้งยังเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจ ให้ ผู้ สู ง วั ย หั นกลั บ มาเชื่ อ มั่ น ในตนและกล้ า ทำ � ในสิ่งที่ตัวเองรักต่อไป หากผู้ อ่ า นท่ า นใดสนใจเรี ย นภาษาจี น สามารถติดต่อได้ที่ โทร. 08-5126-0371 Line ID : jamesnihao happy+ | 41
feature
เมธาวี อ่างทอง
ดีไซเนอร์สุดชิคแบรนด์ Black Sugar หากใครที่ชอบใส่เสื้อผ้าสีขาว-ดำ�หรือโทนขรึม ๆ จะต้องรู้จักเสื้อผ้าแบรนด์ Black Sugar ที่มีสาขามากถึง 7 สาขาทั่วกรุงเทพมหานคร เช่น อิเซตัน เซ็นทรัลเวิร์ด, เทอมินัล 21, รามอินทรา 14, มาบุญครอง, โตคิว พาราไดซ์ ศรีนครินทร์, เซ็นทรัลเวสต์เกต และยอดพิมาน ริเวอร์วอล์ก ซึ่งคุณเม เมธาวี อ่างทอง เป็นดีไซเนอร์รุ่นใหญ่ที่ยังคงมีหัวใจวัยรุ่น ผู้ออกแบบเสื้อผ้าที่ช่วยเสริมความมั่นใจ สุดชิค สุดเก๋ให้กับผู้สวมใส่ “พี่ เริ่ ม ต้ นจากการทำ � งานข้ า ราชการอยู่ ที่ วิทยาลัยเทคนิค จังหวัดสุพรรณบุรี ประมาณ 5 ปี เพราะว่าเราเกิดในครอบครัวที่ต้องช่วยพ่อแม่ ทำ�งาน ความมั่นคงในอาชีพจึงมาเป็นอันดับแรก แต่พเี่ ป็นคนทีช่ อบวาดภาพ ออกแบบเสือ้ ผ้าตุก๊ ตา มาตั้งแต่เด็ก เป็นคนมีศิลปะอยู่ในหัวใจ หลังจาก มีเพื่อนมาชวนทำ�แบรนด์เสื้อผ้าเด็ก จึงตัดสินใจ ลาออกจากข้าราชการมาทำ�เสื้อผ้าเด็กส่งออก 42 | happy+
อย่างเต็มตัว ทำ�มานานแล้ว แต่เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว แบรนด์เสื้อผ้าเด็กเริ่มเกิดวิกฤตเสื้อผ้า ล้นตลาด ตอนนั้นเรามีลูกน้องที่ต้องรับผิดชอบ จำ � นวนมากก็ เ ลยคิ ด หาทางออกให้ กั บ ปั ญ หา คิดขึ้นว่าลองทำ�ในสิ่งที่เราชอบจริง ๆ เพราะ โดยส่วนตัวพี่ชอบแต่งตัว ชอบใส่เสื้อผ้าแปลก ประหลาด ซึ่งถ้ามาทำ�ขายก็น่าจะมีคนที่ชอบ แบบเดียวกับเรา ก็เลยชักชวนแฟนว่ามาลองทำ�
แบรนด์ Black Sugar ไปเสนอห้างดู โดยนำ�เสนอ ควบคู่ไปกับแบรนด์ Botanique เป็นเสื้อผ้าแม่ และเด็กแนวธรรมชาติ แต่ปรากฏว่าทางห้างชอบ แบรนด์ Botanique มากกว่า หลังจากกระแสของ Botanique ค่อนข้างดี ทางห้างจึงติดต่อให้เรานำ� แบรนด์ Black Sugar เข้าไปขายด้วย นีค่ อื จุดเริม่ ต้น ที่เราได้เข้าไปวางขายในห้าง “พีเ่ ป็นคนบ้าเรียน เรียนอยูต่ ลอดเวลา เพราะ
ตอนเด็ก ๆ เราไม่ค่อยมีโอกาสได้เรียนต้องช่วย พ่อแม่ทำ�งาน เรียนภาคคํ่าหาความรู้ด้วยตัวเอง พอมาทำ�เสื้อผ้าอย่างเต็มตัว และพอมีโอกาส เข้ามา มีเงินสะสมอยู่บ้าง คราวนี้ก็เลยเรียน แหลกเลย อยากเรียนอะไรก็ลงเรียน เริ่มต้นที่แดง ดีไซน์ โรงเรียนสอนตัดเสื้อระพี โรงเรียนปกรณ์ สถาบันสอนออกแบบและตัดเย็บชั้นสูง สถาบัน ออกแบบนานาชาติชนาพัฒน์ จนจบปริญญาโท ด้านเทคโนโลยีอตุ สาหกรรมสิง่ ทอและการจัดการ สินค้าแฟชั่น ตอบสนองความอยากของตัวเอง ตอนนี้ ก็ เรี ย นในสิ่ ง ที่ ช อบพวกงานศิ ล ปะ เช่ น งานปั้น จำ�พวกนูนสูง นูนตํ่า” และแบรนด์ Black Sugar ได้มีโอกาสออกไป เผยโฉมความโฉบเฉี่ ย วในเวที ต่ า งชาติ MQ Vienna Fashion Week กรุงเวียนนา ประเทศ ออสเตรีย แสดงให้เห็นถึงความสามารถของคุณเม เป็นอย่างมาก
“ตอนนั้ น พี่ ไปร่ ว มโครงการหนึ่ ง เป็ นงาน จัดแสดงเสื้อผ้าครั้งใหญ่ของไทย แล้วมีลูกค้า ที่เป็นผู้จัดงาน MQ Vienna Fashion Week เขา ถูกใจเสื้อผ้าแบรนด์ของเรา แล้วเชิญให้ไปร่วม เดินที่รันเวย์งานแฟชั่นของกรุงเวียนนา ตอนแรก ก็ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะไปดีไหมเพราะมีเรื่องของ ค่าใช้จ่ายด้วย แต่ทางกระทรวงพาณิชย์ให้การ สนับสนุนในการเดินทาง ก็เลยตัดสินใจไปกันหมด ทั้งครอบครัว เพราะหากจะส่งลูกชายไปคนเดียว ก็กลัวว่าจะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้หรือเปล่า เพราะหน้ า งานต้ อ งมี แ ก้ ไ ขเสื้ อ ผ้ า ให้ เ ข้ า กั บ นางแบบอยู่แล้ว ถือเป็นงานแรกที่ได้ไปในฐานะ แบรนด์ ก็สนุกสนานกันมาก แต่ถา้ เป็นผลงานของ พี่เองก็เคยได้ไปเดินในงานที่อิตาลีและสิงคโปร์ มาแล้ว “ตอนแรก ๆ ที่เริ่มทำ�แบรนด์ Black Sugar ก็ ไม่รู้ว่าจะไปรอดไหม เพราะเสื้อผ้าเรามันจะเป็น
แบบแปลก ๆ อยูส่ กั หน่อย ดูแรง ๆ ดูคม ๆ คนทีใ่ ส่ น่าจะเป็นคนที่ค่อนข้างมั่นใจ แหวกแนว ฉีกกฎ อยู่สักหน่อย จะมีคนชอบแบบเราบ้างหรือเปล่า แต่คิด ๆ ไปคนบนโลกนี้มีตั้งหลายล้านคน น่าจะ มีคนทีช่ อบแบบเราบ้างแหละ ก็เลยตัดสินใจทำ�ขึน้ มา แล้วปรากฏว่าค่อนข้างไปได้สวย เราไม่ได้เป็น แฟชั่นตามกระแส แต่เป็นแฟชั่นที่แสดงออกถึง ตัวตน และไม่ตกกระแส เพราะเราไม่ได้ตามกระแส อยู่แล้ว จะหยิบมาใส่เมื่อไหร่ก็ได้ ลูกค้าของพี่จะ อายุประมาณ 35-40 ปีแล้ว ค่อนข้างจะเป็นรุ่น ใหญ่ คุณป้าบางคนอายุ 70 ปีแล้วมาเห็นนี่ชอบ มาก กรี๊ดเลย สำ�หรับลูกค้าที่เราประทับใจ ก็เช่น คุณหมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์ คุณหมอบอกเราว่า เป็นเสื้อผ้าที่ตามหามาทั้งชีวิตเพิ่งจะได้พบกัน คุณหมอพูดเล่น ๆ ว่า ถ้ามีเดินแฟชั่นโชว์ที่ไหน ชวนได้เลยนะไม่คิดเงิน (หัวเราะ) “ลูกค้าบางคนพอเข้ามาในร้าน ซึง่ บางสาขา happy+ | 43
feature
พี่ จ ะขายทั้ ง เสื้ อ ผ้ า ของ Black Sugar และ Botanique โดยแบ่งฝั่งกัน พอเขารู้ว่านี่คือผลงาน ดีไซน์ของดีไซเนอร์เดียวกัน เขาก็งงว่าทำ�ไมถึง แตกต่างกันได้ขนาดนี้ เพราะคอนเซ็ปต์ Black Sugar จะเน้นขาวดำ�เป็นหลัก และจะมีสีเข้าไป เพิ่มเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น เทา นํ้าตาล เป็นโทน ขรึม ๆ งานของเราจะเป็นแนวครีเอท มีสไตล์ เป็ น ของตั ว เอง จะมี ค วามคมในตั ว เอง แต่ Botanique จะบางเบาใส่สบาย โครงสร้างหลวม ๆ ซึ่ ง มั นขั ด แย้ ง กั น เอง เพราะในชี วิ ต ประจำ � วั น ของพี่ ก็ จ ะเป็ น แบบนี้ คื อ จะใส่ เ สื้ อ ผ้ า เข้ ม ๆ ขรึม ๆ แต่บางครัง้ พอได้ไปเทีย่ ว เรานึกถึงอารมณ์ ทุ่งหญ้า ดอกหญ้า ใส่เสื้อผ้าพลิ้ว ๆ ไปวิ่งเล่น ใส่หมวกถ่ายรูปสวย ๆ เหมือนกัน จึงเป็นความ ต่างอย่างลงตัวของทั้งสองแบรนด์” คุณเม เมธาวี ถือเป็นตัวอย่างของการได้ทำ� ในสิง่ ทีร่ กั สิง่ ทีช่ อบ และแน่นอนว่าสิง่ เหล่านีท้ �ำ ให้ คุณเมมีความสุข โดยมองเรื่องของอายุเป็นเพียง แค่ตัวเลขเท่านั้น 44 | happy+
“บางคนพอเกษียณอายุมาแล้ว ก็คือเตรียม ตัวแก่เลย เลี้ยงหลานอยู่บ้าน ปลูกผักปลูกหญ้า แต่สำ�หรับพี่แล้ว 60 ก็คือ 60 มันไม่เกี่ยวกัน พี่ ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองจะมีวันนั้นที่อยู่บ้านเฉย ๆ หรือเปล่า ตอนนี้ 60 ปีแล้วเรายังมันกับชีวิตอยู่ เลย ยังอยากเรียนนั่นเรียนนี่ ทำ�นั่นทำ�นี่อยู่เลย แต่เพราะมีเวลาจำ�กัดทำ�ให้เลือกทำ�ได้บางอย่าง เท่านัน้ แต่ถา้ ถามว่าเราจะหยุดไหม พีต่ อบเลยว่า ไม่หยุดอย่างแน่นอน เรายังเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้อยู่ ตลอดเวลา การที่คิดว่า 60 ปีแล้วคือการเกษียณ อายุมนั เหมือนกับเราไปหยุดตัวเองไว้ทอี่ ายุแค่นนั้ แก่แล้วแก่เลย 60 ก็ 60 ไม่เห็นเป็นไรเลย เรายังมี กำ � ลั ง ยั ง มี แ รงอี ก มาก ความคิ ด ของเราก็ ยั ง พลุ่งพล่าน ยังสนุกอยู่ “อย่าให้อายุเป็นตัวจำ�กัดความคิดของตัวเอง อย่ า คิ ด ว่ า พอเกษี ย ณแล้ ว คื อ แก่ ให้ ก ลั บ มา คิดใหม่ว่าพอเกษียณแล้ว เรามีเวลามากขึ้น ยิ่ง มีเวลาให้เราได้ทำ�อะไรที่เราอยากทำ�มากขึ้น ยิ่ง อายุเยอะประสบการณ์ของเราก็ยิ่งมีมาก ไอ้ที่
เก็บ ๆ ไว้ พอว่างแล้วก็นำ�ออกมาใช้ ออกมาทำ� ในสิง่ ทีเ่ ราอยากทำ� และทีส่ �ำ คัญคือเรือ่ งท่องเทีย่ ว พี่ไม่ใช่คนที่จะมานั่งรอเกษียณแล้วค่อยไปเที่ยว มี ตั ง ค์ แ ล้ ว ค่ อ ยไปเที่ ย ว เราทำ � งานไปเที่ ย วไป เราใช้ ก ารทำ � งานเพื่ อ การท่ อ งเที่ ย ว เราไม่ ได้ เดือดร้อนหรือไปเบียดเบียนใคร แม้ไม่ได้รํ่ารวย แต่เราก็มีใช้อย่างพอดี ใช้ชีวิตแบบสบาย ๆ แถม การไปเที่ยวทำ�ให้เราได้เห็นศิลปวัฒนธรรมการ แต่งตัวของผู้คนจากต่างที่ต่างถิ่น พี่ชอบดูชอบรู้ ชอบเห็น พี่ไม่ชอบอุดอู้อยู่ในโรงแรม ไปเที่ยวเรือ สำ�ราญหรูหราก็ไม่ใช่สไตล์เรา เราชอบเดินไปเรือ่ ย ๆ ดูโน่นดูนั่น ช่วยให้เรานำ�กลับมาคิดสร้างสรรค์ ผลงานได้ แถมยังเป็นการผ่อนคลายอีกด้วยค่ะ” นอกจากแบรนด์เสื้อผ้าแล้ว คุณเม เมธาวี ยังนำ�เข้าผลิตภัณฑ์ย้อมผมออร์แกนิก YouGee และมีบริษัท AGA Siam อีกด้วย จะเห็นว่าคุณเม ไม่เคยหยุดนิง่ คิดและสร้างสรรค์สงิ่ ใหม่อยูต่ ลอด เวลา เหมือนอย่างคำ�กล่าวทีว่ า่ ขิงยิง่ แก่ ก็ยิง่ เผ็ด และยิ่งมีประโยชน์นะคะ
น้าโย่ง น้านงค์ น้าพวง
สามน้าเพลงฉ่อย จำ�อวดหน้าจอ หลายคนเมื่อเห็นหน้าของนักแสดงตลกทั้งสามท่าน คือ น้าโย่ง เชิญยิ้ม, น้านงค์ เชิญยิ้ม และน้าพวง เชิญยิ้ม ก็คงร้องอ๋อ พร้อมกับคิดถึง รายการวาไรตี้ส่งเสริมวัฒนธรรมแบบไทยของเราในรายการ คุณพระช่วย ซึ่งมีช่วงจำ�อวดหน้าม่านให้ทั้งสามน้าสำ�แดงฝีมือทางด้านเพลงฉ่อย ผสมมุกตลกสร้างเสียงหัวเราะให้กบั ผูช้ ม ซึง่ ปัจจุบนั ช่วงจำ�อวดหน้าม่าน ได้ขยายออกเป็นรายการจำ�อวดหน้าจอ ซึง่ ดำ�เนินรายการโดยทัง้ สามน้า ทางช่องเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำ�กัด (มหาชน) ทุกวันอาทิตย์ เวลา 20.50 น. น้านงค์ : “ความจริงพวกเราร้องเล่นเพลงฉ่อย กั น แบบนี้ ม านานแล้ ว ตามคาเฟ่ แต่ ไ ม่ ค่ อ ย เป็นที่รู้จักสักเท่าไหร่ แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่ง เรา ได้รับเชิญให้ไปโชว์ในช่วงหนึ่งในทอล์กโชว์ของ อาจารย์จตุพล ชมภูนิช ซึ่งเราได้เตรียมแต่งเพลง โดยนำ�มุกมาผสมผสานกันใส่ในเพลงฉ่อย” น้ า โย่ ง : “เพลงฉ่ อ ยต้ น ตำ � รั บ จะมี ตั บ มีล็อกเสียง ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี้ยวพาราสี แต่ เราก็คดิ ว่าเอามุกมาใส่เพือ่ โต้ตอบกันน่าจะสนุกดี เพื่อเล่าเรื่องและเพิ่มความทันสมัยทันเหตุการณ์
ลงไป จากงานทอล์กโชว์ก็ได้รับเสียงตอบรับเป็น อย่างดี เราก็เลยเริ่มทำ�ต่อ นำ�ความรู้เดิมที่เราได้ รํ่าเรียนมาใส่ความทันสมัยลงไป จากขวดใบเก่า เราก็เปลี่ยนรสชาติภายในไปบ้าง แต่เมื่อพวกเรา อยู่ในคณะตลก เพลงฉ่อยที่เราเล่นก็เลยอาจจะ ไม่ค่อยชัดเจนนัก บางครั้งคนดูเขาก็ฟังแล้วรู้สึก ตลกแต่ไม่รู้ว่าเราร้องอะไรกัน จนกระทั่งเราได้มา แสดงในงานคุณพระช่วยสำ�แดงสดครัง้ ที่ 1 พวกเรา ไปเล่นอยูห่ น้าม่าน คัน่ เวลาพักครึง่ ให้ผชู้ มไปเข้า ห้องนํา้ แต่พอเล่นเสร็จ คนดูกลับชอบมาก นัน่ เป็น
จุดเริ่มต้นที่ทำ�ให้การฉ่อยของเราชัดเจนขึ้น” น้าพวง : “ช่วงแรก ๆ อยู่ในช่วงจำ�อวด หน้ าม่ าน เราก็ นำ�มุ ก ที่ เราเคยเล่นในคาเฟ่มา ดัดแปลง จากการเล่นตลกมาเป็นการร้อง เราก็คดิ กันเอง แต่งเพลงกันเอง ร้องกันเอง แต่ทางทีมงาน ก็จะมาช่วยกันปรับแต่งดูวา่ อันไหนเหมาะสมควร ออกอากาศ” การร้ อ งเพลงฉ่ อ ยดู เ หมื อ นง่ า ย แต่ ต้องใช้ชั้นเชิงและไหวพริบในการใช้คำ�และการ ร้อง ต้องมีประสบการณ์ที่สั่งสมมาเพื่อความ happy+ | 45
feature
เชีย่ วชาญในการขับร้อง ซึง่ ทัง้ สามน้าล้วนบอกว่า เกิดจากการฝึกฝนและร้องบ่อย ๆ น้านงค์ : “ลิเกกับเพลงฉ่อยมันคนละอย่าง กันเลย เพียงแต่ว่าโดยประสบการณ์ส่วนตัวเรา เคยเล่นลิเกมาก่อน เคยเป็นทั้งพระเอก เป็นตัว ร้าย เราก็เลยได้ร้องเพลงฉ่อยมาบ้าง เช่น ฉาก เกี้ยวพาราสีนางเอกบนเวที เป็นความเคยชินจาก ตรงนั้นมากกว่าที่ช่วยให้เราร้องเพลงฉ่อยได้” น้าโย่ง : “ส่วนตัวน้าโย่งหัดร้องเพลงฉ่อยมา ตัง้ แต่อายุ 11 ขวบ ป้าของน้าโย่งหัดให้รอ้ ง จากนัน้ จึงมาเล่นลิเกในภายหลัง พอได้มาเล่นลิเกเรา ก็เอาเพลงฉ่อยมาเล่นด้วยผสมผสานกันไป เราได้ ร้องอยู่ตลอดเวลาเพียงแต่ว่าคนดูไม่ค่อยทราบ เท่านั้นเอง” น้าพวง : “ผมไม่ได้หดั เพลงฉ่อยมาก่อนเลย เคยเป็นลิเกเฉย ๆ ก็ได้มาเริ่มเรียนรู้หลังจากนั้น มันปน ๆ กันอยู่ แต่ก็ไม่ใช่ว่าคนที่เล่นลิเกทุกคน จะร้องเพลงฉ่อยได้ ลิเกที่เสียงดี ๆ บางคนก็ร้อง ไม่ได้ ก็มีเหมือนกันนะ” เพลงฉ่ อ ย นอกจากเป็ น การสื บ สาน 46 | happy+
เราต้องใช้ความพยายามให้เปลืองเพราะใช้เท่าไหร่ ก็ไม่หมด อย่าไปตระหนี่ความพยายาม ใช้ไปไม่ต้องประหยัด วัฒนธรรมไทยให้คงอยู่แล้ว ยังถือเป็นงานที่ทั้ง สามน้าทำ�เพราะเป็นสิ่งที่รักและทำ�ให้พวกเขามี ความสุข น้านงค์ : “เราทำ�งานตรงนี้เพราะพวกเรารัก ไม่ ใ ช่ ทำ � เพราะมั น เป็ น งานเพี ย งอย่ า งเดี ย ว เราทำ�เพราะเรารักจะอนุรกั ษ์มนั ไว้ อยากให้เด็ก ๆ ได้เห็นว่าเพลงฉ่อยไม่ได้หมดค่า หมดความนิยม ลงไป เมื่อก่อนวัยรุ่นอาจจะไม่ค่อยรู้จักเพลงฉ่อย สักเท่าไหร่ แต่ทุกวันนี้เวลาเจอหน้าพวกเขาก็จะ
‘เอ่ชา เอ๊ช้า ชาฉ่าชา ชา หนอยแม่’ ใส่เราแล้ว” น้าโย่ง : “ความจริงต้องขอบคุณเวิรค์ พอยท์ ขอบคุ ณ คุ ณ พระช่ ว ยเลยที่ ทำ � ให้ พ วกเรามี ทุกวันนี้ เราไม่รวู้ า่ อีกนานเท่าไหร่ หรือจะมีโอกาส ไหมทีจ่ ะนำ�เสนอเพลงพืน้ บ้านทางทีวแี บบนี้ จริง ๆ แล้ ว ก็ มี ก ลุ่ ม คนที่ เ ล่ น เพลงฉ่ อ ยเพลงพื้ น บ้ า น อยู่นะ แต่ว่าไม่ได้ออกเผยแพร่ให้มีคนรู้จักทั่วทั้ง ประเทศแบบนี้ ไม่มีใครกล้าทำ� หรืออาจจะมีคน อยากทำ�แต่ว่าขาดการสนับสนุน”
น้านงค์ : “คนอาจจะคิดว่าเพลงพื้นบ้าน คนเขาไม่นยิ มแล้ว ก็เลยไม่กล้าทีจ่ ะหยิบเอามาไว้ ในรายการทีวี จะทำ�ก็เกรงว่าจะมีปัญหาอะไร หรือเปล่า คุ้มไหม แต่หลังจากที่เราเข้ามาทำ� มีกระแสที่ดี ทำ�ให้หลายคนรู้ว่าการทำ�รายการ แบบนี้ก็ยังประสบความสำ�เร็จได้” น้าพวง : “พอเราเป็นที่รู้จัก คนนิยม ก็ พลอยทำ�ให้พวกคณะเพลงฉ่อยต่าง ๆ เขาก็พอที่ จะมีรายได้ มีงานเพิ่มขึ้นไปด้วย หรือพวกนักร้อง ปัจจุบนั ก็มกี ารนำ�ทำ�นองของเพลงฉ่อยเข้าไปแต่ง ไปดัดแปลงอีกหลายคนด้วย” น้ า โย่ ง : “ผมก็ ยั ง คงชื่ น ชมคนรุ่ น ใหม่ ที่สนใจเพลงฉ่อย ออกไปเข้าค่ายฝึกฝนเพลงฉ่อย ทำ�กิจกรรมกัน เช่น คณะของแม่ขวัญจิต ศิลปิน แห่งชาติ หรือคณะของแม่ศรีนวล ภรรยาพ่อหวังเต๊ะ ก็ชว่ ย ๆ กันหลายด้าน เราก็พยายามเป็นกำ�ลังใจ ถึงแม้บางทีเราจะไม่ได้เข้าไปร่วมด้วย แต่เราเห็น แบบนี้เราก็ดีใจว่าเด็ก ๆ สมัยนี้ยังคงมีคนสนใจ อยากร้องอยากเล่น เป็นหนึ่งในกำ�ลังใจของเรา เหมือนกัน ชื่นชม เราอยากให้มีคนสืบสานเพลง
พื้นบ้านแบบนี้ไปเรื่อย ๆ” และทั้งสามน้ายังฝากถึงผู้อ่านถึงแง่คิดใน การใช้ชีวิตอย่างมองไปข้างหน้า โดยอายุไม่ใช่ เรื่องสำ�คัญ น้าพวง : “หยุดอะไรก็หยุดได้ ขออย่างเดียว อย่ า หยุ ด หายใจ คนเรามี ห นึ่ ง สมองสองมื อ เหมือนกัน คนอื่นเขาประสบผลสำ�เร็จด้วยเรื่อง อะไร เขาประสบความสำ�เร็จในแง่มุมที่ต่างกันไป ถ้าเราคิดจะทำ�อะไรสักอย่างเราก็ตอ้ งทำ�ได้เหมือน เขา เพราะเรามีทุกอย่างเหมือนกัน ต้อง ‘ใฝ่รู้ ดูให้จำ� ทำ�ให้จริง’ เราจะประสบความสำ�เร็จเอง แน่นอน” น้านงค์ : “สมอง ความคิดที่เรามี และ ยังคงใช้ได้ในทุกวันนี้ เราต้องไม่ปล่อยให้มันฝ่อ ลงไปโดยที่ไม่ได้มีอะไรเพิ่มเติมเข้ามา เราต้อง พยายามฝึกเข้าไว้ อย่างละนิดอย่างละหน่อย แม้จะไม่มีเวลามาก แต่ก็ต้องพยายาม เวลาเข้า ห้องนํา้ ก็ลองคิดว่าจะทำ�อะไรต่อไปในชีวติ ของเรา คิดโน่นคิดนีค่ ดิ นัน่ ไปเรือ่ ย ๆ อย่าให้สมองว่าง แต่วา่ ไม่ใช่คิดอยู่ตลอดเวลาไม่ให้สมองได้พักผ่อนเลย
เราก็ต้องแบ่งเวลาให้สมองได้พักบ้าง ลองดูว่า สมควรคิดตอนไหน พักตอนไหน และทีส่ �ำ คัญต้อง คิดแต่สิ่งที่ดีเข้าไว้” น้าโย่ง : “บางครั้งเราเดินสวนกับคนรวย เขาก็ ตั ว เท่ า เรานะ เขาทำ � อย่ า งไร แต่ ก็ อ ย่ า ง ที่ น้ า พวงว่ า คนเรามี ห นึ่ ง สมองสองมื อ เท่ า กัน เขาทำ�อย่างไรถึงประสบความสำ�เร็จ เราก็ ต้องทำ�ให้ได้บ้าง ความจริงทุกคนมีของมีพลังใน ตนเอง อยู่ที่ว่าเราจะใช้มันออกมาอย่างไร ทำ� อะไรก็แล้วแต่จะต้องมีจุดเริ่มต้นที่เราไม่เคยทำ� มาก่อนหรอก ทอล์กโชว์ก็ไม่เคย แต่ลองทำ� ลิเก ก็เล่นไม่เป็น แต่ก็ลองทำ� เพลงฉ่อยก็ไม่เคยร้อง แต่ก็ลองดู ลองจนกระทั่งมาเป็นตัวเราในทุกวันนี้ ผมต้องขอบคุณความพยายามของตัวเอง เรา ต้องใช้ความพยายามให้เปลืองเพราะใช้เท่าไหร่ก็ ไม่หมด อย่าไปตระหนีค่ วามพยายาม ใช้ไปไม่ตอ้ ง ประหยัด ใช้ความพยายามให้สุรุ่ยสุร่ายเข้าไว้ จะ เป็นสะพานที่ปไู ปสู่ความสำ�เร็จในอนาคตของเรา ได้อย่างแน่นอนครับ” happy+ | 47
ตัวอักษร...ซ่อนพลัง เรื่อง : อรพิมพ์ รักษาผล
ผ้ายันต์กันความเปลี่ยนแปลง
...หลายครั้งในชีวิตเรามักเสียใจกับความคิดของคนมากมายที่เรา ไม่สามารถควบคุมได้ เรามักเสียใจกับคำ�พูดทีห่ ลุดออกจากปากของคนทีเ่ ราไม่คดิ ว่าจะได้ยนิ และหลายครั้งในชีวิตเรามักเสียใจกับการกระทำ�ของคนมากมายที่เรา ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้พบเจอในหนึ่งชีวิตเรา ...ทุกเรื่องราว ทุกคำ�พูด ทุกความคิดเหมือนเป็นการสะกิดสอนเรา ว่า โลกใบนีไ้ ม่มอี ะไรแน่นอน ชัดเจนหรือไม่มอี ะไรทีไ่ ม่เปลีย่ นแปลง เราล้วน อยู่บนความไม่แน่นอน อยู่บนความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อยู่ที่ว่าเราจะ ทำ�ใจยอมรับความจริงกับสิ่งที่เราเจอได้หรือไม่
ไม่มีกำ�ลังพอที่จะเดินเข้าไปในร้านนั้นได้ แล้วเราก็ได้คิดว่า -เราโชคดีแล้ว-
หลายครัง้ เปิดตูเ้ สือ้ ผ้าแล้วไม่รวู้ า่ จะใส่เสือ้ ผ้าอะไร ทัง้ ๆ ทีม่ เี สือ้ ผ้าเต็มตู้ แต่เรากลับมีความรูส้ กึ ว่าไม่มเี สือ้ ผ้ามากพอ ไม่ถกู ใจ ไม่ได้ดงั่ ใจ ความรูส้ กึ นัน้ จะเบาลง เมื่อเราย้อนคิดถึงวันที่ชีวิตมีเสื้อผ้าเพียงไม่กี่ชิ้น ต้องใส่ซํ้า ๆ ต้องวางแผน ต้องคิดเผื่อ เพื่อให้ตนเองมีเสื้อผ้าเพียงพอกับความต้องการ แล้วเราก็ได้คิดว่า -เราโชคดีแล้ว-
หลายครั้งมองบ้านตัวเองแล้วมีความรู้สึกว่า เมื่อไหร่จะมีบ้านหลัง ใหญ่ เมื่อไหร่จะมีบ้านที่สะดวกสบาย เมื่อไหร่จะมีบ้านในฝันเหมือนที่ใคร จากเรื่องราวที่พบเจอด้วยตนเองอาจสามารถบอกใครหลายคนได้ว่า หลายคนมี ความรู้สึกที่เข้ามาสอนใจคือ เมื่อก่อนแค่มีที่ให้นอนก็ดีใจแล้ว “บนโลกใบนี้มีเพียงความไม่แน่นอนที่เป็นสิ่งแน่นอน” มีที่ที่ปลอดภัยให้เอนกายก็พอแล้ว มีหลังคากันลมกันฝนก็โชคดีแล้ว บ้าน จะเล็กหรือจะใหญ่ วันนี้เราก็มีบ้านแล้ว แล้วเราก็ได้คิดว่า -เราโชคดีแล้วจากชีวิตจริงของใครหลายคน หลายครั้งที่เรานึกเบื่ออาหาร ไม่รู้จะกินอะไรในชีวิตประจำ�วัน เพราะ หลายครั้งเวลาเจ็บป่วย ต้องรับประทานยา ต้องไปหาหมอก็รู้สึก มองเห็นอะไรก็รู้สึกเบื่อ รู้สึกคุ้นชินไปเสียหมด อาการนั้นหายไปเมื่อเรา เบือ่ หน่าย อึดอัดกับภาวะทีต่ อ้ งเจ็บป่วยและต้องรักษา ความรูส้ กึ เบือ่ หน่าย นึกถึงอดีต ตอนที่มองเห็นอะไร อยากกินอะไรแต่ได้แค่มอง ไม่มีเงินที่จะซื้อ อึดอัดก็หายไป เมือ่ คิดได้วา่ เราเคยมีเพียงยาแก้ปวดเป็นยาสามัญประจำ�ชีวติ 48 | happy+
ใช้รักษาทุกโรค ทุกอาการ ทุกความเจ็บปวด เพราะข้อจำ�กัดในการดูแล ทั้งที่เคยเดินร่วมทางกันมาอย่างยาวนาน ตัวเองที่มี แล้วเราก็ได้คิดว่า -เราโชคดีแล้วไม่เว้นแม้แต่คนในครอบครัว บางครอบครัวเกิดความขัดแย้ง แตกแยก กับปัจจัยสี่ พื้นฐานในการดำ�รงชีวิต ก็ทำ�ให้เห็นว่า ชีวิตคนเราอยู่กับ เพราะเรื่องความเห็นไม่ลงรอย เรื่องทรัพย์สมบัติ เรื่องทัศนคติ จนลุกลาม ความเปลี่ยนแปลงและไม่แน่นอน บานปลายกลายเป็นความห่างเหิน ความห่างไกล จนไม่ใช่ครอบครัวอีกต่อไป ...เมื่อ ‘ไม่มี’ ถ้ามุ่งมั่น บากบั่น พากเพียร ก็อาจแปรเปลี่ยนเป็น ‘มี’ ได้ในวันหนึ่ง นั่นล้วนสอนใจเรื่องความไม่แน่นอน ...เมื่อ ‘มี’ แต่ไม่รู้จักอดออม วางแผน พอเพียง ก็อาจเสี่ยงต่อการ ‘ไม่มี’ ในที่สุด ผ้ายันต์กันความไม่แน่นอนที่ดีที่สุดในชีวิตมนุษย์คือ ‘สติ’ ความรู้ตัว อยู่ตลอดเวลา ถ้าเราเอาหัวใจของเราไปหลงยึดติดกับของนอกกาย วันหนึ่ง แม้แต่ความรู้สึกของคน...ก็เป็นสิ่งไม่แน่นอน เปลี่ยนแปลงไป ชีวิตก็เสียหลัก ถ้าเราเอาหัวใจไปยึดติดกับความรัก ความ ยิ่งโตขึ้นเราจะยิ่งพบว่ามีคนหลายคนในชีวิตที่เคยเป็นเพื่อน เป็นมิตร เกลียดชัง วันหนึง่ ไม่คงเดิม ชีวติ ก็เริม่ สัน่ คลอน การรูเ้ ท่า รูท้ นั อยูก่ บั ปัจจุบนั แล้วกลับกลายเป็นคนไม่รจู้ กั หรือทีร่ า้ ยแรงกว่านัน้ กลับกลายเป็นศัตรู ความ นั่นคือ ผ้ายันต์กันการเปลี่ยนแปลงได้ดีที่สุดจริง ๆ รู้สึกเจ็บปวดไม่ใช่การที่อยู่ดี ๆ ก็กลายเป็นศัตรูหรือคนไม่รู้จัก แต่ความรู้สึก เจ็บปวดมาจากการที่ครั้งหนึ่งเราเคยเป็นเพื่อน เป็นมิตรที่ใกล้ชิดกัน อย่าลืมว่าขาดอาหาร เสือ้ ผ้า ยารักษาโรค ทีอ่ ยูอ่ าศัยและความรักใด ๆ ถ้ า มี ส ติ เราสามารถสร้ า งทุ ก สิ่ ง ทุ ก อย่ า งกลั บ คื น มาได้ แต่ ห ากขาดสติ เมือ่ โตจนรูจ้ กั ความรัก หลายคนรักจนฝังจิตฝังใจ รักจนไม่คดิ ว่าจะต้อง เราไม่สามารถเรียกสิง่ ใดกลับคืนมาได้ แม้กระทัง่ สิง่ ทีม่ คี า่ ทีส่ ดุ นัน่ คือ “ชีวติ ” พลัดพราก รักจนไม่คดิ ว่าต้องเปลีย่ นแปลง แต่แล้วคำ�ทีใ่ ช้เรียกคนรัก ก็มคี �ำ ว่า ของเราเอง อดีตมาเติมข้างหน้า บ้างกลายเป็นคนไม่รู้จัก บ้างหมางเมิน บ้างเกลียดชัง happy+ | 49
คนคิดดี
50 | happy+
สร้างสรรค์สังคมด้วยละคร มูลนิธิสื่อชาวบ้าน (กลุ่มละครมะขามป้อม) เรื่อง : ภัทรามน ผุดเพชรแก้ว การทำ�งานเพือ่ สังคมมีหลากหลายรูปแบบตามความถนัด ความสนใจและความคิดสร้างสรรค์ ไม่ได้จ�ำ กัดอายุ วุฒกิ ารศึกษา สถานะทางสังคม หรืออะไรก็ตาม ใครมีความสามารถ มีความสนใจด้านใด สามารถทำ�อะไรเพื่อสังคมและผู้อื่นได้ ก็ลงมือทำ�ในแบบที่ตนถนัด เหมือนอย่างเช่น กลุม่ ละครมะขามป้อม ซึง่ เป็นทีร่ วบรวมคนทีม่ คี วามสนใจในศิลปะและการละคร มารวมตัวกันและนำ�เสนอสิง่ ทีพ่ วกเขาสนใจ ผ่านสือ่ ทีส่ ามารถ เข้าถึงจิตใจของผู้คนได้ง่ายอย่างละคร นับเป็นโอกาสดีที่เราได้คุยกับตัวแทนของกลุ่มละครมะขามป้อม นายธนุพล ยินดี เจ้าหน้าที่ มูลนิธิสื่อ ชาวบ้าน (มะขามป้อม) ศูนย์เชียงดาว ว่าพวกเขาสนใจอะไรและจะนำ�ละครมาสร้างสังคมที่ดีได้อย่างไร “เมื่อเอ่ยถึงกลุ่มละคร ‘มะขามป้อม’ คน ทั่วไปมักจะรู้จักเราในฐานะกลุ่มละคร แต่จริง ๆ แล้ว เราเหมือนเป็นอะไรหลาย ๆ อย่างในเวลา เดียวกัน ไม่วา่ จะเป็นครอบครัวใหญ่ เป็นโรงเรียน อนุบาล เป็นมหาวิทยาลัย หรือเป็นแหล่งรวมพล คนประหลาด ๆ ผูร้ กั การละคร และภารกิจหลักของ เราก็คือ นำ�ศาสตร์ของละครมาใช้เป็นเครื่องมือ ในการทำ�งาน เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม “กลุ่ ม ละครมะขามป้ อ มนั้ น เกิ ด ขึ้ น เมื่ อ ปี พ.ศ. 2523 เป็นกลุ่มสื่อที่ทำ�งานกับชุมชน เพื่อ สร้างความรู้ ความเข้าใจ และความตระหนัก ในประชาธิปไตย จนถึงวันนี้ มะขามป้อมเป็น กลุ่มละครที่มีสมาชิกและอาสาสมัครมากกว่า 200 คน เรารับแสดงหลายบทบาท เป็นทั้งแหล่ง ชุมนุมของการแสดงหลากหลายประเภท เป็น หัวเรือใหญ่ของกลุม่ เครือข่ายละครเด็กและเยาวชน เป็ นกลุ่ ม นั ก กิ จ กรรมที่ ทำ � งานกั บ ชุ ม ชน ร่ ว ม รณรงค์ประเด็นสังคมต่าง ๆ รวมทั้งเป็นนักการ ศึ ก ษา ซึ่ ง ใช้ ก ระบวนการสร้ า งสรรค์ เพื่ อ การ เรียนรู้ เป็นวิทยากรด้านการจัดการความขัดแย้ง เป็นผูป้ ระกอบการเพือ่ สังคม และร่วมผลิตผลงาน กับศิลปินและองค์กรจากนานาประเทศ
“เมื่อปี พ.ศ. 2548 เราได้จดทะเบียนเป็น มู ล นิ ธิสื่ อ ชาวบ้ า น (มะขามป้ อ ม) เพื่ อ ขยาย ขอบเขตการทำ�งานให้เปิดกว้างและหลากหลาย มากยิง่ ขึน้ เราใช้สือ่ ละครเป็นกระบอกเสียงให้กบั เด็ก เยาวชนและชุมชน เพือ่ สร้างเครือข่ายเชือ่ มโยง ทั้งในระดับชุมชน ภูมิภาคและนานาชาติ เรา พยายามที่ จ ะเปลี่ ย นแปลงสั ง คมตามที่ เราฝั น ครอบครัวของเราแบ่งกำ�ลังออกเป็นหลายฝ่าย หลัก ๆ ได้แก่ ฝ่ายการแสดง ฝ่ายละครการศึกษา ฝ่ายละครชุมชน ฝ่ายต่างประเทศและฝ่ายพัฒนา ศักยภาพอาสาสมัคร ตอนนีเ้ รามีบา้ นอยูส่ องหลัง หลังแรกตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ และหลังที่สองอยู่ที่ อำ�เภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่”
ครั้งนี้อย่างชัดเจน “การทำ � งานของเรามี เ ป้ า หมายหลาย ประการด้ ว ยกั น เช่ น ส่ ง เสริ ม ให้ ชุ ม ชนผลิ ต และเข้าถึงสื่ออย่างเท่าทัน, เป็นสื่อกลางในการ แลกเปลี่ ย นเรี ย นรู้ ด้ า นละครและสื่ อ เพื่ อ การ เปลี่ ย นแปลงในระดั บ ประเทศและนานาชาติ รวมทั้งผลิตและเผยแพร่สื่อเพื่อการเปลี่ยนแปลง สังคม, มีการส่งเสริมและสนับสนุนพลังของคน หนุ่มสาว เพื่อให้เป็นผู้นำ�ในการเปลี่ยนแปลง สังคม และเป้าหมายสูงสุด คือ เป็นองค์กรที่มี ศักยภาพในการระดมทรัพยากรมาดำ�เนินการ อย่างยั่งยืนต่อไป”
ส่งเสริมอย่างสร้างสรรค์
กลุ่มมะขามป้อมมีสมาชิกและอาสาสมัครที่ มีความสนใจและความถนัดในศิลปะหลากหลาย ด้าน แต่หลัก ๆ ทีพ่ วกเขาสนใจและเลือกมาเป็นสือ่ ในการแสดงออกและนำ�เสนอประเด็นต่าง ๆ ของ สังคม คือ ละคร ซึง่ เป็นสือ่ ทีเ่ ข้าถึงจิตใจของผูร้ บั ชม ได้ง่าย และละครของมะขามป้อมก็ได้รับการ ยอมรับกันมาเป็นเวลานาน และได้สร้างกระแส หลายอย่ า งให้ เ กิ ด แรงกระเพื่ อ มในสั ง คมไทย
นอกจากการทำ�งานด้านละครแล้ว ในวัน ที่ ก ลุ่ ม มะขามป้ อ มเติ บ โตขึ้ น จึ ง ได้ ข ยายการ ทำ�งานไปในหลาย ๆ ด้านมากขึ้น ร่วมมือกับ หลายองค์กร เพื่อการทำ�งานด้านเด็ก เยาวชน และสังคมอย่างยั่งยืน บนความเชื่อที่ว่าพลังของ เด็กและคนหนุ่มสาวจะเป็นตัวขับเคลื่อนสังคม ที่ดีต่อไปในอนาคต โดยมีเป้าหมายการทำ�งาน
ละครสะท้อนชีวิตและสังคม
happy+ | 51
คนคิดดี
52 | happy+
ได้ไม่น้อยเลย “เราเลือกที่จะทำ�ละครเพราะสื่อละครและ ศิลปะต่าง ๆ คนทุกคนสามารถเข้าถึงได้ พวก เราทุกคนสามารถค้นพบตัวตนของตัวเองได้ ผ่าน กิจกรรมการแสดงละคร อีกทัง้ เครือ่ งมือเหล่านีย้ งั ทำ�ให้พวกเราผู้ผลิตมีความสุขกับการทำ�งานและ มีความสุขในชีวติ มากขึน้ ด้วย แต่กลุม่ มะขามป้อม ไม่ได้สนใจเฉพาะศิลปะการแสดงเพือ่ ความบันเทิง เพียงอย่างเดียว ทุกครั้งที่ทำ�กระบวนการเรียนรู้ การแสดงหรื อ ผลิ ต การแสดง เราจะนำ � เสนอ ประเด็นปัญหาสังคมด้วย ซึ่งศิลปะการแสดง ละครสามารถย่อยเรื่องที่เข้าใจยาก ให้ทำ�ความ เข้าใจและรับรู้ได้ง่ายขึ้น ทั้งเนื้อหา ข้อเท็จจริง และอารมณ์ของตัวละคร ที่จะเข้าถึงจิตใจของ ผู้ชมได้มากขึ้น “ตลอดระยะเวลาเกื อ บ 40 ปี ที่ ผ่ า นมา เราทำ � งานโดยใช้ ก ระบวนการละครเพื่ อ การ เปลีย่ นแปลงสังคม ทุกครัง้ ทีท่ �ำ งานไปเราจะพบว่า คนจำ�นวนมากในสังคมไม่เชือ่ ว่าพวกเราซึง่ เป็นคน ตัวเล็กตัวน้อย ก็สามารถเปลี่ยนแปลงสังคมได้
ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเยาวชน นักเรียน ครู ลูกจ้าง มนุษย์เงินเดือน กลุ่มคนชาติพันธุ์ คนไร้สัญชาติ ผู้ป่วย หรือนักโทษในเรือนจำ� พวกเขาใช้ชีวิตอยู่ ท่ามกลางปัญหารอบตัว ด้วยความรู้สึกสิ้นหวัง ในพลังของตนและสังคมรอบข้าง กระบวนการ ละครจึงเป็นการส่งเสริมพลังให้พวกเขา ทำ�ให้ พวกเขาเห็นคุณค่าของตัวเขาเอง แล้วเขาก็จะเห็น คุณค่าของคนอื่น และปรารถนาที่จะเห็นสังคม ที่ดีขึ้นในอนาคต”
ก้าวสู่อนาคตด้วยพลังศรัทธา
ทุ ก การทำ � งานย่ อ มมี ปั ญ หาและอุ ป สรรค เป็นสิ่งธรรมดาสามัญ แต่การทำ�งานด้วยกันเป็น หมู่คณะ ย่อมทำ�ให้เรามีพลังและกำ�ลังใจมากขึ้น จากการที่เรามีคนที่อยู่เคียงข้าง ศรัทธาร่วมกัน และพร้อมจะจูงมือและก้าวไปพร้อม ๆ กัน ดังเช่น กลุ่มมะขามป้อม “เรามีความศรัทธาในพลังของตัวเอง ของ กลุ่ม ของเครื่องมือศิลปะการละครและสังคม เรา ทำ�งานในสิ่งที่ตัวเองรัก ด้วยความหวังที่จะเห็น
สังคมดีขึ้น และเรายังมีความหวังว่า เราจะเป็น องค์กรที่ส่งเสริมพลังภาคประชาสังคม เพื่อการ พัฒนาและการเปลี่ยนแปลงสังคมที่ยั่งยืน ผ่าน การเรียนรู้จากกระบวนละครและสื่อ “ทุกวันนี้กลุ่มเรามีความสุข มีพลังในการ ทำ�งาน เนื่องจากได้ค้นพบว่า สิ่งที่เราทำ� สิ่งที่เรา เป็น สิ่งที่เราอยู่ สามารถเป็นส่วนหนึ่งของกลไก เพื่อการขับเคลื่อนสังคมให้เป็นไปในทางที่ดีขึ้น โดยมองเห็นว่าเราทุกคน ทุกกลุ่ม ที่แตกต่างกัน สามารถเชื่อมต่อกันได้ เพื่อสร้างเครือข่ายในการ พัฒนาได้ในอนาคตต่อไป” และสุดท้ายกลุ่มมะขามป้อมฝากเราบอก ทุก ๆ คนในสังคมว่า “เชิญชวนทุ ก คนที่ รู้ สึ ก และมี ห วั ง ว่ า อยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลงสังคมในทางที่ดีขึ้น และมีความรักในศิลปะแขนงต่าง ๆ มาเป็นเพื่อน กับพวกเราชาวมะขามป้อมได้นะครับ ติดตาม พวกเราได้ที่ facebook : Makhampom Art Space และ Website : http://makhampom.org/” happy+ | 53
family in love เรื่อง : ดร.วีรณัฐ โรจนประภา
สูงวัยอย่างใจใส มีประเทศมากมายในโลกนี้ ชนิดที่แม้แต่คนซึ่งสนใจภูมิศาสตร์โลกเอง ก็ยงั อาจไล่เรียงได้ไม่ถงึ ครึง่ ยังไม่ต้องพูดถึงผู้นำ�ประเทศกันเลย ที่มีมากยิ่งกว่าเป็นทวีคูณ ชนิดที่ แม้แต่นกั การปกครองด้วยกันเอง ก็ยงั อาจนึกชือ่ เพือ่ นร่วมอาชีพเดียวกันนีไ้ ด้ น้อย นึกได้แต่คนทีก่ �ำ ลังเป็นข่าวหรือมีบทบาทอยูใ่ นปัจจุบนั ส่วนนักการเมือง รุน่ ก่อนนัน้ ถ้าไม่ดงั จริง ๆ ไม่นานก็จะถูกลืมเลือนชือ่ ไป เหลือทีค่ นรุน่ หลัง จำ�กันได้อาจมีเพียงแค่นว้ิ มือนับ แต่แน่นอน 1 ในนิว้ มือทีน่ บั ได้นน้ั จะต้องมีชอ่ื ของ ลี กวน ยู ชายผูพ้ ลิก ประเทศเล็ก ๆ ทีไ่ ม่มที รัพยากรอะไรเลยอย่างสิงคโปร์ ให้กลายมาเป็นประเทศ ชัน้ นำ�ของโลกในหลายด้าน ทัง้ ด้านการศึกษา การขนส่ง หรือด้านคุณภาพชีวติ ยิง่ ใครได้ศกึ ษาประวัตกิ ารสร้างชาติของเขาแล้ว จะพบว่าเพียงในช่วงอายุ รุน่ เดียวเขาก็ท�ำ ให้สงิ คโปร์ทเ่ี ริม่ ความเป็นชาติเมือ่ 50 ปีกอ่ น เติบโตแบบก้าว กระโดดจนทัว่ โลกต้องตะลึง ซึง่ นีส่ ะท้อนให้เห็นถึงวิสยั ทัศน์อนั เฉียบคมของเขา ที่มองอนาคตข้างหน้าได้ขาดอย่างน่าทึ่ง และจากผลงานเชิงประจักษ์อัน โดดเด่นนีเ้ อง ทีท่ �ำ ให้ค�ำ พูดของเขาควรค่าแก่การพิจารณาอย่างทีส่ ดุ ซึง่ ในวันผูส้ งู อายุน้ี ผมขอนำ�คำ�กล่าวของลี ทีม่ ตี อ่ ผูส้ งู อายุสงิ คโปร์มาฝาก ผูส้ งู อายุไทยเรากันนะครับ ลี ได้ฝากบอกผูส้ งู วัยว่า... “ถ้าคุณอยากเห็นดวงอาทิตย์ขน้ึ ในวันพรุง่ นี้ คุณต้องหาอะไรมากระตุน้ ให้คณ ุ ใช้ชวี ติ ทีส่ นุกสนานและมีความหมายต่อไปเรือ่ ย ๆ ไม่ใช่คดิ แต่พกั ผ่อน หลับนอนอย่างเดียว การทำ�อย่างนัน้ เท่ากับคุณรอความตายอย่างเดียวเท่านัน้ ” 54 | happy+
เพราะหากคิดว่าเกษียณแล้ว จะเอาแต่เล่นกอล์ฟ ดืม่ ไวน์ไปวัน ๆ ไม่นานคุณ ก็จะเบือ่ มีชวี ติ ทีเ่ หีย่ วเฉาทัง้ ร่างกายและจิตใจ ลียังให้คำ�แนะนำ�แก่ผ้สู ูงอายุอีกว่า “จะต้องไม่แยกตัวเองไปอยู่อย่าง โดดเดีย่ ว เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สงั คม ต้องมีอะไรมากระตุน้ ตลอดเวลา และต้อง พบปะผูค้ น คอยติดตามเรือ่ งราวของสังคมและของโลก” จากคำ�กล่าวของลี เช่นนี้ เราจึงสรุปได้วา่ ถึงแม้จะสูงวัยแล้ว ชีวติ ก็ยงั ต้องมีเป้าหมายทีท่ า้ ทาย ให้ไปถึง ซึง่ นีก่ ต็ รงกับสิง่ ทีผ่ มได้ประสบพบเห็นมาตลอดการทำ�งานเกีย่ วกับ ผูส้ งู อายุวา่ คุณตาคุณยายหลาย ๆ ท่านในบ้านเรา แม้จะมีความมัน่ คงทางฐานะ ความเป็นอยู่ แต่กลับยังรูส้ กึ ว่า ชีวติ ของตัวเองเหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง ซึง่ สิง่ ทีข่ าดนัน้ ผมกล้าฟันธงเลยครับว่าก็คอื การขาด “เป้าหมายของชีวติ ” เกือบจะร้อยทัง้ ร้อยของคุณตาคุณยายทีผ่ มได้สมั ผัสทุกท่านจะบอกตรง กันว่า เป้าหมายในบัน้ ปลายคือ การมีชวี ติ ทีส่ งบสุข มีลกู หลานมีครอบครัวที่ อบอุน่ มีสขุ ภาพแข็งแรง ฯลฯ ซึง่ ทัง้ หลายทัง้ ปวงนัน้ ไม่ใช่เป้าหมายในความ หมายนีค้ รับ นัน่ เป็นเพียงความอยากอันเลือ่ นลอย เป็นเป้าเชิงนามธรรมทีไ่ ม่ สามารถสร้างแรงบันดาลใจ จนเกิดการเดินทางไปสูเ่ ป้าหมายนัน้ ได้จริง ขณะ ทีเ่ ป้าหมายทีเ่ ราต้องการนัน้ ต้องเป็นเป้าทีเ่ ป็น “รูปธรรม” จับต้องได้ และให้ ความท้าทายทีจ่ ะเดินทางไปถึง หากยังนึกไม่ออกก็ลองย้อนไปสมัยเราเด็ก ๆ แล้วมีคนมาถามว่า โตขึน้ หนูอยากเป็นอะไรสิครับ คำ�ตอบทีเ่ ราตอบก็จะเป็น “ผมอยากเป็นหมอ” “หนู อยากเป็นครู” นีส่ คิ รับคือเป้าหมายให้เราใช้เดินทางได้จริง ไม่เลือ่ นลอย “แต่แก่แล้ว ไม่ได้ท�ำ งานแล้ว จะไปอยากเป็นหมอ เป็นครูอกี หรือ” บางท่าน
อาจสงสัย ใช่ครับ เพราะหากคิดว่าแก่แล้วได้พกั ก็จะเป็นดัง่ ทีล่ ี กวน ยูบอก ละครับว่า ชีวติ จะเริม่ เหีย่ วรอวันตายเท่านัน้ หากอยากมีชวี ติ ยืนยาวแบบมี ความสุข ก็จ�ำ เป็นต้องมีเป้าหมายทีจ่ บั ต้องได้ เพียงแต่เราไม่ได้มงุ่ ไปทีก่ ารทำ� เพือ่ หาเงิน แต่มงุ่ ไปทีก่ ารทำ�เพือ่ ความตระหนักรูค้ ณ ุ ค่าในตนเอง เพือ่ ทิง้ ไว้เป็น มรดกไว้ให้แก่ชนรุน่ หลัง เมือ่ เราทำ�จนรูถ้ งึ คุณค่าแห่งตน ได้เห็นประโยชน์จากการยังมีชวี ติ อยูข่ องตน ว่ายังประโยชน์ให้แก่ลกู หลานได้แค่ไหน เราจะตืน่ เช้ามาด้วยกำ�ลังแห่งความ ฮึกเหิม เป็นความพึงใจที่จะมีชีวิตและใช้ชีวิต ซึ่งความพึงใจในการมีชีวิตนี้ จะเป็นตัวส่งต่อไปสูค่ วามขยันพากเพียรในการทำ�เพือ่ สังคม อันจะทำ�ให้ได้ผล เป็นจิตใจและร่างกายทีแ่ ข็งแรงอีกด้วย จากนัน้ ความเพียรก็จะต่อไปจนเกิด ความมุง่ มัน่ มีสมาธิ ส่งผลให้จติ ใจมีก�ำ ลังและมีความสุข สุดท้ายจะเกิดการ ไตร่ตรอง ต้องการให้งานดีขน้ึ เป็นเหมือนการท้าทายความสามารถของตน ดัง่ ทีล่ ี กวน ยูกล่าวไว้ และทัง้ หมดนัน่ คือ วงจรแห่งอิทธิบาท 4 ฉันทะ วิรยิ ะ จิตตะ วิมงั สา ที่ เราคุน้ กันนัน่ เอง แต่ทเ่ี ราอาจไม่คนุ้ ก็คอื อานิสงส์ของอิทธิบาท 4 นี้ ไม่เพียง จะใช้เพือ่ ให้เกิดความสำ�เร็จในงานเท่านัน้ แต่ยงั ใช้เพือ่ จะทำ�ให้มชี วี ติ ยืนยาว ยิง่ ขึน้ ได้ดว้ ย ก็ขนาดพระพุทธเจ้าท่านยังตรัสด้วยพระองค์เองว่า “อานนท์ ถ้าบุคคล ใดเจริญอิทธิบาท 4 (ฉันทะ - วิรยิ ะ - จิตตะ - วิมงั สา) ปรารถนาจะดำ�รงอยู่ ประมาณกัปหนึง่ หรือมากกว่านัน้ ก็สามารถจะอยูไ่ ด้” ใครอยากอายุยนื แบบยังฟิตปัง๋ ก็ลองหาเป้าหมายให้ตวั เองดูนะครับ ลอง ถามตัวเองดูวา่ “เรามีชวี ติ อยูเ่ พือ่ ...”
เคยไหมครับทีเ่ วลาตืน่ ขึน้ มาตอนเช้าแล้ว รูส้ กึ ว่าทำ�ไมไม่มคี วามสุข เลย เช้านีจ้ ะทำ�อะไรดี ทำ�ไมชีวติ น่าเบือ่ ซํา้ ซากจำ�เจแบบนี้ อย่าปล่อย ให้ความรูส้ กึ แบบนีท้ �ำ ร้ายหัวใจคุณอีกต่อไป พบคอร์ส “ออกแบบชีวติ ... เดอะ ซีเนียร์” ทีไ่ ด้ดไี ซน์หลักสูตรมาเป็นพิเศษ ในคอร์สนีค้ ณ ุ จะได้คน้ พบเป้าหมายของชีวติ หลังเกษียณ ทีม่ คี ณ ุ ค่า ผ่านการเรียนรูก้ ระบวนการของความสุขและ “3 ห่วงเปลีย่ นชีวติ ” เครือ่ ง มือทีใ่ ช้แสวงหาเจตจำ�นงและศักยภาพในตนเอง พร้อมแนวทางในการใช้ ชีวติ ประจำ�วัน ตามหลักเคล็ด (ไม่ลบั ) 5 ส. สร้างสุขวัยเกษียณ ทีจ่ ะเป็น มิตใิ หม่ของความสุขทีแ่ ท้จริงอย่างยัง่ ยืน คอร์สนี้ พิเศษมาก ๆ ทีส่ �ำ คัญไม่มคี า่ ใช้จา่ ยใด ๆ ทัง้ สิน้ รับจำ�นวน จำ�กัดเพียง 15 ท่านเท่านัน้ เพราะอยากให้ทกุ ท่านทีม่ าได้คน้ พบเป้าหมาย ใหม่ ๆ ในชีวติ และกลับบ้านไปแบบแฮปปีก้ นั ทุกคน ลงทะเบียนสำ�รองทีน่ ง่ั ได้ท่ี Line ID : @dr.veeranut (มี @ นำ�หน้า) โทร. 0-2619-6655 แล้วพบกันวันพุธที่ 26 เมษายน 2560 เวลา 13.00-15.30 น. ณ ห้อง ประชุมอเนกประสงค์ บริษทั คิดใหม่ จำ�กัด ซอยอารีย์ 1 ถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ (ใกล้ BTS อารีย)์ นะครับ
ติดตามบทความและข้อคิดการใช้ชีวิตได้ที่ Fanpage : Kid-Mai by Dr.Veeranut Line @ : @dr.veeranut happy+ | 55
นัดพบกับธรรมะ เรื่อง : ณัฐพบธรรม
ให้สิ่งดี ๆ? ในตอนที่ผมเขียนบทความ เป็นช่วงเวลาที่ เพิ่งผ่านวันตรุษจีนซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน ทัว่ โลกมาไม่นาน ส่วนในช่วงทีห่ นังสือเล่มนีว้ างแผง ก็จะเป็นช่วงวันสงกรานต์ ซึ่งเป็นวันขึ้นปีใหม่ของ ชาวไทยเช่นกัน สิ่งที่มีความคล้ายคลึงกันของเทศกาลทั้ง สองก็คือ ในช่วงเวลาดังกล่าว ผู้คนจะพยายาม อยู่กับครอบครัว คนที่อยู่ไกลบ้าน ไกลครอบครัว ก็จะพยายามกลับไปรวมตัวกัน หลังจากนั้นบ้าง ก็พาคนในครอบครัวไปเที่ยว บ้างก็พากันไปกิน อาหารดี ๆ บ้างก็ซื้อหรือทำ�อาหารดี ๆ กินที่บ้าน เมื่อพูดถึงอาหารดี ๆ คนส่วนหนึ่งก็มักจะ นึกถึงอาหารทีห่ ากินได้ยากหรืออาหารทีม่ รี าคาสูง ฉะนั้นในช่วงเทศกาลแบบนี้ หลายคนจึงอยาก ให้คนในครอบครัวได้กินอาหารราคาสูง ๆ ได้กิน อาหารที่ปกติไม่ค่อยได้กินกัน เพื่อเป็นการเฉลิม ฉลอง แต่คำ�ถามสำ�คัญที่เรามักจะลืมนึกถึงก็คือ อาหารที่ราคาสูงหรือหากินได้ยากนั้น เป็นของดี มีประโยชน์จริงหรือไม่ หรือมันเป็นเพียงค่านิยม 56 | happy+
ที่หลายคนยึดถือตาม ๆ กันมาโดยไม่ได้ไตร่ตรอง ให้ลึกซึ้งว่า อาหารนั้นไม่ได้ดีและไม่ได้ควรค่ากับ ช่วงเวลาดี ๆ อย่างที่คิด ผมขอยกตัวอย่างที่ใกล้ตัวก็คือ อาหารจีน ที่คน (คิดว่า) ดีและพากันไปกิน ก็มักจะเป็น หมูหนั เป็ดปักกิง่ เป๋าฮือ้ หูฉลาม รังนก และอืน่ ๆ อีกมากมาย ซึ่งถ้าเราพิจารณาให้ละเอียดก็จะ เห็นว่า อาหารส่วนหนึ่งอุดมไปด้วยไขมัน เช่น (หนัง) หมูหัน (หนัง) เป็ดปักกิ่ง ผัดผัก ในขณะที่ อาหารอีกส่วนก็อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต (แป้ง, นํ้าตาล) เช่น นํ้าของเป๋าฮื้อ หูฉลาม รังนก แต่ กลับมีวิตามิน เกลือแร่และใยอาหารในปริมาณ ที่น้อย กล่าวได้ว่า อาหารราคาสูงที่ไม่ค่อยได้กิน บ่อย ๆ เหล่านี้ และเป็นอาหารที่คน (คิดว่า) ดี กลั บ ส่ ง ผลเสี ย ต่ อ สุ ข ภาพและเป็ น อาหารที่ ให้ พลังงานสูง ซึง่ ถ้าเรากินอาหารแบบนีเ้ ข้าไปก็อาจ ทำ�ให้ไขมันในเลือดสูงขึน้ ปริมาณนํา้ ตาลในเลือด สูงขึน้ นํา้ หนักเพิม่ ขึน้ สุขภาพยํา่ แย่ลง เพิม่ ความ
เสี่ยงเป็นโรคหัวใจ ความดัน เบาหวานมากขึ้น อาหารแบบนีจ้ งึ ไม่ใช่อาหารทีด่ ตี อ่ ผูก้ นิ โดยเฉพาะ ผู้กินที่สูงอายุ ถ้าเรามองสิ่งที่เกิดขึ้น โดยไม่เอาวัฒนธรรม ธรรมเนียมหรือความเชื่อมาบดบัง เราก็จะเห็น ความจริงว่า การพยายามเฉลิมฉลองเทศกาล ประจำ�ปีด้วยการแสวงหาอาหารบางประเภทให้ คนที่เรารักได้กิน โดยจ่ายเงินในมูลค่าที่สูงขึ้น กว่าปกติ กลับเป็นการจ่ายมากขึ้น เพื่อทำ�ลาย สุขภาพของคนที่เรารัก และยิ่งเราประเคนของที่ (คิ ด ว่ า ) ดี ให้ เขาเท่ า ไหร่ ก็ ยิ่ ง เป็ นการทำ � ร้ า ย เขาเท่ า นั้ น บางที ถ้ า พากั น ไปกิ นข้ า วราดแกง ก๋วยเตี๋ยว สุกี้ ราคาไม่กี่บาท อาจจะส่งผลดีต่อ ร่างกายมากกว่าด้วยซํ้า ก่ อ นที่ คุ ณ ผู้ อ่ า นจะเข้ า ใจผิ ด คิ ด ว่ า ผม ต้องการจะสือ่ ว่า ในช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองแบบนี้ ไม่ควรกินอาหารราคาสูง ผมขอบอกเลยว่าไม่จริง แก่ นของสิ่ ง ที่ ผ มต้ อ งการจะสื่ อ ก็ คื อ ในขณะ ที่เรารักและห่วงใยคนในครอบครัว อยากให้เขา
ได้สิ่งดี ๆ เราทุกคนก็ควรจะตั้งสติ แล้วคิดและ ไตร่ตรองให้ดีว่า ของดังกล่าวเป็นสิ่งที่ดีจริงหรือ เปล่า เรากำ�ลังจะจ่ายเงินจำ�นวนมาก ๆ เพื่อให้ คนที่เรารักได้รับสิ่งที่ดีจริง ๆ ใช่ไหม (รักแบบมี สติ) ซึ่งแน่นอนว่าบางกรณีของราคาไม่สูงมาก ก็ อาจเป็นของที่ดีมีประโยชน์มากกว่า อย่างไรก็ตาม บางครั้งการจ่ายราคาที่สูงขึ้น ก็จะทำ�ให้ได้ของที่ดีกว่าจริง ๆ เช่น แกงเลียงที่ อุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่มากมายที่ใช้พืช ผักออร์แกนิก ย่อมดีกว่ากินแกงเลียงทีใ่ ช้พชื ผักที่ มียาฆ่าแมลง กุง้ ผัดไข่เค็มทีใ่ ช้กงุ้ จากธรรมชาติไม่ ใส่ยาปฏิชีวนะ ใช้ไข่ที่ไม่ใช้ฮอร์โมนและใช้นํ้ามัน น้อย ๆ ย่อมดีกว่ากุ้งผัดไข่เค็มที่ใช้กุ้งเลี้ยงที่โหม ใส่ยา ไข่ทใี่ ช้ฮอร์โมนและใช้นาํ้ มันเยอะ ๆ เป็นต้น ซึ่งการจ่ายเงินสูงขึ้นกว่าปกติเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีกว่า แบบนี้ ถือเป็นการใช้เงินที่คุ้มค่าและทำ�ให้ผู้กิน ได้รับสิ่งดี ๆ อย่างแท้จริง
สรุปว่า ก่อนทีเ่ ราจะให้สงิ่ ทีเ่ รา (คิดว่า) ดี กับ คนที่เรารัก โดยเฉพาะสิ่งดี ๆ ที่ต้องใช้เงินมาก หรือความพยายามมากในการให้ เราควรจะคิด ให้ถี่ถ้วน ว่าสิ่งสิ่งนั้นส่งผลดีต่อคนที่เรารักจริง ๆ เมื่อพูดถึงการให้สิ่งดี ๆ ในมุมของการเลี้ยง อาหาร ผมก็นึกการให้ในมุมกว้าง ที่เรียกว่าการ ทำ�บุญ (ทาน) ซึ่งก็มีมุมที่ต้องพิจารณาคล้ายกัน เพราะคนส่วนหนึง่ เชือ่ ว่า การให้ของกับผูอ้ นื่ ไม่วา่ ของสิ่งนั้นเป็นอะไร ก็ถือว่าได้บุญทั้งสิ้น ยิ่งถ้าให้ สิ่งที่ผู้รับชื่นชอบ ก็จะยิ่งได้บุญมาก แต่ความจริงก็ไม่ได้เป็นแบบนัน้ เพราะมีการ ให้หลาย ๆ อย่างทีไ่ ด้บาป แม้วา่ จะเป็นการให้สงิ่ ที่ เราเชื่อมั่นมากว่าเป็นสิ่งดี หรือเราให้ในสิ่งที่เขา ชอบเขาอยากได้มากก็ตาม ตัวอย่างการให้ที่ได้บาป ก็คือ การให้สิ่งที่ กระตุน้ หรือส่งเสริมให้คนทำ�บาปมากขึน้ เช่น การ ให้สุรา ไวน์ ยาเสพติด ของละเมิดลิขสิทธิ์ การให้
เครือ่ งมือทำ�บาป เช่น เบ็ดตกปลา ปืน การให้สงิ่ ที่ กระตุน้ ให้มกี เิ ลสตัณหา อยากทำ�บาปมากขึน้ เช่น วิดโี อโป๊ ภาพโป๊ การให้ความรูท้ ชี่ ว่ ยให้ท�ำ บาปได้ ดีขึ้น เช่น คู่มือแฮกมือถือ หนังสือสอนโกหก ให้ ความรู้ที่ทำ�ให้มีเพศสัมพันธ์กับคนจำ�นวนมาก หนังสือสอนให้ด่าคนได้เก่งขึ้น เป็นต้น รวมถึง บาปจากการให้สิ่งที่ตั้งอยู่บนฐาน ของความเชือ่ ทีผ่ ดิ (มิจฉาทิฐ)ิ ทีข่ ดั แย้งกับกฎแห่ง กรรม เช่น การให้เครือ่ งรางของขลัง การให้ปฏิทนิ ฤกษ์ยาม ให้ของแก้ปชี ง การให้คมู่ อื ลบล้างกรรม ฯลฯ ก็เป็นสิ่งที่คนเชื่อกันว่าเป็นสิ่งดี ๆ ที่ควรให้ และให้แล้วได้บุญ ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วได้บาป ฉะนั้นในเวลาที่เราจะให้อะไรกับใคร เราก็ ต้องมีสติ ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ พิจารณา ค่อย ๆ ใช้ปัญญา แล้วดูว่าอะไรคือสิ่งที่อาจจะดีไม่จริง ที่เราไม่ควรให้ และสิ่งไหนคือสิ่งที่ดีจริง ๆ ที่เรา ควรให้
ถามคำ�ถาม พูดคุย หรือติดตาม ณัฐพบธรรม ได้ที่ www.Nutpobtum.com, www.facebook.com/Pobtumbook, Pobtumbook@yahoo.com happy+ | 57
wired world เรื่อง : ผมอยู่ข้างหลังคุณ
Empathy ไม่ใช่ยาวิเศษ Empathy เป็นสิง่ ดี ๆ ทีถ่ กู พูดถึงในรอบหลายปี มานี้ ผมเองก็เคยเขียนถึงในคอลัมน์นี้ไปแล้ว แต่ ก็ขอทบทวนนิยามง่าย ๆ อีกครั้งหนึ่งนะครับ ว่ามันคล้ายกับการเข้าใจผูอ้ นื่ ในระดับทีเ่ อาใจเขา มาใส่ใจเรา (ซึง่ ต่างจาก Sympathy ทีแ่ ปลว่าสงสาร โดยไม่ต้องเข้าใจความรู้สึกอีกฝ่ายอย่างแท้จริง) สำ�นวนฝรัง่ ทีใ่ ช้บอ่ ย ๆ ในการอธิบาย Empathy คือ ประมาณว่าลองจินตนาการว่า เราสวมรองเท้า ของเขาแล้วใช้ชีวิตเป็นเขา รู้สึกเหมือนที่เขารู้สึก และสิ่งที่จะตามมาก็เป็นสรรพคุณด้านดี คือเมื่อ เกิด Empathy นำ�ไปสู่ความเข้าใจ ก็จะทำ�ให้เรา เห็นคนอื่นมีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน ทำ�ให้ คนใจร้ายต่อกันน้อยลง ฯลฯ กระบวนการ Empathy ได้รบั การศึกษาอย่าง ต่อเนื่อง ในช่วงหลายปีหลังถึงกับค้นพบเซลล์ สมองที่มีอยู่ในตัวเราทุกคนชื่อ Mirror Neuron ซึ่ง มีคุณสมบัติเหมือนกระจกเงา มันทำ�งานเมื่อเรา พบบางคนที่เคยมีประสบการณ์แบบเดียวกับเรา ซึ่งเชื่อว่าเมื่อมีเซลล์พวกนี้มากขึ้น ก็มีแนวโน้ม 58 | happy+
จะมีความเห็นอกเห็นใจจากการแบ่งปันความรู้สึกร่วมกัน นอกจากนี้มันยังเป็นกระบวนการที่สามารถ เรียนรู้ ฝึกฝนและพัฒนาให้เกิดขึ้นได้ด้วย ทัง้ ฝึกได้ ทัง้ ทำ�ให้โลกน่าอยู่ ก็ดจู ะไม่มอี ะไรให้นา่ พูดถึงมากนักนะครับ จนกระทัง่ หนังสือ Against Empathy : The Case for Rational Compassion โดย พอล บลูม ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยา จาก มหาวิทยาลัยเยล ทีโ่ ผล่มาสวนกระแสของเทรนด์ Empathy โดยเสนอการมองอีกด้านทีช่ วนให้เราฉุกคิด และทบทวนการใช้ Empathy เพราะบางคนเริ่มใช้ Empathy เหมือนยาวิเศษด้วยเข้าใจว่า สามารถ แก้ไขได้ทุกปัญหาในโลกและมีแต่ผลดี ๆ ตามมา แต่หนังสือเล่มนี้ชี้ให้เห็นว่า Empathy ก็สามารถ สร้างปัญหาตามมาได้มากมาย ตัวอย่างทีผ่ มคิดว่าชัดเจนทีส่ ดุ คือ ตัวอย่างทีค่ นเขียนยกงานวิจยั ชิน้ หนึง่ ซึง่ สมมุตสิ ถานการณ์ให้ มีคนไข้ทปี่ ว่ ยด้วยโรคระยะสุดท้าย ต่อแถวเข้าคิวรอรับการรักษาในโครงการช่วยเหลือด้านคุณภาพชีวติ แล้วมีคนหนึง่ ทีต่ อ่ คิวรอในแถวเป็นเด็ก 10 ขวบ ป่วยเป็นมะเร็งทีร่ กั ษาไม่หายแล้วก็ก�ำ ลังมีอาการปวด อยู่ด้วย จากนั้นก็สัมภาษณ์คนเข้าร่วมงานวิจัย (ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นสถานการณ์สมมุติ) ซึ่งแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกคือ กลุ่ม Low-Empathy Condition ที่ถูกกำ�หนดให้ฟังเรื่องราวของเด็กคนนี้ โดยพยายาม ไม่ให้เกิดความผูกพัน คือฟังแต่อย่าเก็บเอาความรู้สึกของคนไข้เข้ามาอยู่ในใจตัวเอง ส่วนอีกกลุ่มคือ High-Empathy Condition ที่มีเงื่อนไขตรงกันข้าม คือให้ฟังที่เด็กเล่า แล้วพยายามจินตนาการถึงความ เจ็บปวดของเด็กตามไปด้วย ว่าเด็ก 10 ขวบคนนี้จะคิดหรือรู้สึกอย่างไร แล้วพยายามรู้สึกเหมือนที่ เด็กรู้สึก ปรากฏว่ามีผู้ร่วมวิจัยเพียง ⅓ ของกลุ่ม Low-Empathy Condition ที่ฟังเรื่องราวชีวิตของเด็ก คนนี้ แล้วต้องการให้เธอแซงคิวคนไข้คนอืน่ ๆ แต่มผี รู้ ว่ มวิจยั จำ�นวนถึง ¾ ของกลุม่ High-Empathy Condition ที่ ต้ อ งการให้ เ ด็ ก คนนี้ ไ ด้ แ ซงคิ ว เท่ า กั บ ว่ า เมื่ อ เติ ม Empathy เข้ า ไปแล้ ว ให้ ตั ด สิ น ใจใน
สถานการณ์หนึ่ง ๆ Empathy สามารถทำ�ให้คนเราเกิดความลำ�เอียงหรือตัดสินใจโดยไม่สนใจเรื่อง ความยุติธรรมในระบบได้ ซึง่ ก็คงไม่นา่ แปลกใจนะครับ เพราะเมือ่ เราเอาตัวเองเข้าไปอยูใ่ นใจอีกฝ่าย จินตนาการจนรูส้ กึ เจ็บ เหมือนเขา ทรมานเหมือนเขา มันก็คงจะเป็นความใจร้ายและเห็นแก่ตวั หากตัดสินใจไม่ชว่ ยเหลือคนคนนัน้ ทำ�ให้เราลืมนึกถึงคนอีกจำ�นวนมากที่เข้าคิวอยู่แล้วทุกข์ทรมานอยู่เหมือนกัน เพราะกระบวนการ เกิด Empathy ที่ว่า ไม่สามารถทำ�หลายคนพร้อม ๆ กันได้ แต่เราเข้าไปในใจของคนได้ครั้งละแค่ คนเดียว (ลองนึกตามสำ�นวนสวมรองเท้าของอีกฝ่าย เราสามารถสวมเข้าไปในชีวติ ของคนได้แค่ทลี ะคน) อีกตัวอย่างหนึ่งที่ผมคิดว่าใกล้ตัวเรามากขึ้น คือ กรณีให้เงินขอทาน ลองนึกว่าเมื่อเราเดินไปเจอ ขอทานเด็กคนหนึง่ แล้วเกิด Empathy (เช่น เข้าถึงชีวติ ของเด็กทีอ่ ยูต่ รงหน้าว่าคงหิวโหย แล้วรูส้ กึ ว่าหิว มาก ๆ เป็นอย่างไร รูส้ กึ ได้ถงึ ความยากลำ�บากในการผ่านชีวติ ไปแต่ละวัน ฯลฯ) ย่อมมีความเป็นไปได้สงู ที่เราจะให้เงินเด็กคนนั้น ซึ่งการให้ก็จะสอดคล้องกับความรู้สึกร่วมที่เราเข้าถึงเด็กตรงหน้า แต่มันก็ จะทำ�ให้เราลืมไปว่า ความช่วยเหลือด้วยการให้เงิน อาจเป็นการช่วยเหลือระยะสั้น (ช่วยให้คุณที่เป็น ผูใ้ ห้รสู้ กึ ดี, ช่วยให้ขอทานเด็กคนนีม้ เี งินใช้) แต่มนั ก็เท่ากับคุณกำ�ลังสนับสนุนวงจรของธุรกิจขอทานเด็ก ให้ดำ�เนินต่อไป ตัวอย่างข้างต้นคือส่วนหนึ่งที่ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ชี้ให้เห็นว่า Empathy สามารถ ก่อให้เกิดความลำ�เอียงทีน่ �ำ ไปสูค่ วามอยุตธิ รรมและปัญหาระยะยาวตามมา (Long Term Eonsequence) นอกจากนี้ Empathy อาจทำ�ให้เรามีส่วนสนับสนุนการใช้ความรุนแรงแบบไม่รู้ตัว เช่น เมื่อเรา เกิด Empathy ต่อญาติของเหยื่อที่โดนทำ�ร้าย (ญาติของชาวยิวที่ถูกนาซีสังหาร, ญาติของเหยื่อที่โดน ข่มขืน ฯลฯ) แล้วฝัง่ ของเหยือ่ ต้องการแก้แค้นฝ่ายผูก้ ระทำ�ด้วยการเข่นฆ่าเหมือนกัน เราก็อาจคล้อยตาม ไปด้ ว ย เพราะเข้ า ถึ ง ความเจ็ บ แค้ นของอี ก ฝ่ า ยจนเห็ นดี เห็ นงามกั บ การเอาคื น ยั ง มี ตั ว อย่ า ง
อีกมากมายในหนังสือ ซึ่งผมคิดว่าแนวคิดของ ผู้เขียนแหลมคมและน่าเก็บไปคิดตามเป็นอย่าง มากครับ โดยเฉพาะอย่างยิง่ การอยูใ่ นยุคทีก่ ระแส สังคมถูกสร้างได้ง่าย และเมื่อเป็นกระแสแล้วมัก ไหลเร็วไปตามความรู้สึกจนลืมคิดถึงเหตุผล ซึ่ง Empathy ก็เป็นหนึ่งในเทรนด์ที่ชวนให้เราเคลิ้มว่า มันกำ�ลังจะนำ�ไปสู่โลกที่น่าอยู่ เช่นเดียวกับศัพท์ บางคำ�ที่ดูจะเป็นคำ�ที่ไม่น่ามีด้านลบ เช่น ความ เมตตา, เอาใจเขามาใส่ใจเรา ฯลฯ แต่ ห นั ง สื อ เล่ ม นี้ ช่ ว ยเตื อ นให้ เราไม่ ลื ม ว่ า การอยู่ร่วมกันในโลกไม่สามารถเลือกหลักการ ทางจิตวิทยา หรือศาสนา หรือสังคมวิทยา ฯลฯ เพียงอย่างเดียว เมื่อคุณเกิด Empathy กับใคร ก็ตาม ย่อมไม่ใช่สงิ่ ผิดและมันจะมักนำ�ไปสูส่ งิ่ ดี ๆ แต่เมือ่ ถึงขัน้ ตอนการลงมือทำ� (Action) ทีส่ ามารถ ส่งผลกระทบต่อคนอืน่ ๆ ด้วย การลงมือทำ�สิง่ ดี ๆ ที่ถูกผลักดันโดย Empathy จึงควรควบคู่ไปกับ การมองผลกระทบในระยะยาว และคิดถึงการ ลงมือทำ�แบบมีเหตุมีผลด้วย
ถามคำ�ถาม พูดคุย หรือติดตาม ผมอยู่ข้างหลังคุณ ได้ที่ www.facebook.com/ibehindyou, i_behind_you@yahoo.com happy+ | 59
ระหว่างทาง เรื่อง : ศศิน เฉลิมลาภ
4 คาบชีวิต (2) เมือ่ เดือนทีแ่ ล้วผมเขียนเล่าเรือ่ งชีวติ วัยเด็กของผม ที่เกิดมาในอำ�เภอชนบท และได้ย้ายเข้ามาอยู่ใน เมือง แต่ยงั ต้องเดินทางไปเรียนในโรงเรียนเก่าทีต่ า่ ง อำ�เภอ มีการผจญภัยใหญ่คอื ได้โหนรถเมล์แน่น ๆ ทัง้ ๆ ทีต่ วั เล็กนิดเดียวแต่ความรูส้ กึ สนุกจริง ๆ นัน้ น่าจะได้มชี วี ติ อยูน่ อกสายตาแม่เสียมากกว่า การได้มเี วลาเดินทางนัง่ รถ รอรถกลับบ้าน ขณะ ทีเ่ พือ่ น ๆ ชัน้ ประถมแค่เดินออกจากโรงเรียนก็ถงึ บ้าน ทำ�ให้ผมได้อา่ นหนังสือเรียนในกระเป๋าใบใหญ่ลว่ งหน้า จบเกือบทุกเล่ม เพราะไม่มอี ะไรจะทำ� ไม่มกี าร์ตนู และโทรศัพท์ให้เล่นเหมือนเดีย๋ วนี้ ทำ�ให้ผมแทบไม่เคย อ่านหนังสือสอบ และรูเ้ นือ้ หาวิชาเกือบทุกวิชาล่วงหน้า ก่อนที่ครูจะสอน ยกเว้นวิชาเลขที่อ่านไม่รู้เรื่อง ผมคิดว่านีเ่ องทีท่ �ำ ให้ผมติดนิสยั ไม่ตง้ั ใจเรียน และ ประมาทว่าถึงไม่อา่ นหนังสือก็สอบได้ แถมได้ทห่ี นึง่ ของอำ�เภอเสียอีก ชวี ติ วัยเด็กก่อนอายุ 12 ปีของผม มีเหตุการณ์ท่ี น่าจะเป็นพืน้ ฐานสำ�คัญนอกจากทีเ่ ล่า ๆ มาในฉบับ ทีแ่ ล้ว ก็นา่ จะเป็นเรือ่ งทีอ่ ยูด่ ี ๆ พีส่ าวของผมทีม่ าเรียน มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ก็ไปสมัครให้ไปค่ายพักแรม เยาวชน YMCA โดยต้องไปเข้าค่ายทีบ่ างละมุงถึงเจ็ดวัน 60 | happy+
นัน่ เป็นครัง้ แรกทีต่ อ้ งจากบ้านและจากแม่ไปนาน ๆ ปกติผมนีข่ แ้ี ย ขนาดไม่ได้นอนกับแม่กร็ อ้ งไห้ใหญ่โต มาจนถึงเป็นเด็กโต การต้องออกไปไกลบ้านขนาดนัน้ ในวัยสิบขวบช่างเป็นความทรงจำ�ทีไ่ ม่รเู้ ลือน แต่เมือ่ ได้ เข้าค่ายเรียนรูเ้ รือ่ งราวอีกโลก ก็ท�ำ ให้ได้ทกั ษะพืน้ ฐาน ทีผ่ มเชือ่ อย่างยิง่ ว่ามีประโยชน์ตอ่ ชีวติ มาตลอด อย่าง เช่น สมัยเมือ่ สีส่ บิ กว่าปีทแ่ี ล้ว คงมีเด็กไม่กค่ี นถูกฝึกให้ ว่ายนํา้ อย่างถูกวิธี และต้องทดสอบว่ายนํา้ ท่าต่าง ๆ และว่ายเก็บระยะทางในทะเลจริง ๆ รวมถึงมีโอกาส ไปดูปะการังทีเ่ กาะล้าน มีประสบการณ์ทค่ี า่ ยสอน ว่าเราสามารถลงนํา้ ทะเล แล้วขึน้ มาเปลีย่ นเสือ้ ผ้า อยู่ต่อ ได้ เ ลยโดยไม่ ต้อ งอาบนํ้า จื ด เหมื อ นตอน ไปเทีย่ วกับทีบ่ า้ น ยงั ไม่นบั กิจกรรมทีด่ ลู า้ํ ไปมาก ๆ ในสมัยนัน้ อย่างการฝึกเล่นแทรมโพลีนหรือเตียงสปริงใหญ่ การพายเรือแคนู การยิงธนู และการเดินทางไกลทีไ่ ม่ น่าเบือ่ เหมือนในวิชาลูกเสือ และทีส่ �ำ คัญคือได้เรียนรู้ กิจกรรมและกระบวนการกลุม่ ต่าง ๆ สิง่ ทีผ่ มจำ�ได้ แม่นยำ�คือ การดูแลเอาใจใส่ของพีเ่ ลีย้ งกลุม่ ทีด่ เู ป็น พี่ ๆ วัยรุน่ ใจดี สามารถพูดคุยปรึกษาหารือกับพีเ่ ขา ได้ทกุ เรือ่ ง ผมจำ�ได้วา่ เราติดต่อกันจนกระทัง่ ผมเข้า
มหาวิทยาลัย ดี ท่ี ป ระสบการณ์ ต อนไปค่ า ยนี้ เ กิ ด ก่ อ น ประสบการณ์ใหญ่อกี เรือ่ ง ดังทีจ่ ะเล่าต่อไป ในชีวิตช่วงวัยเด็กเรื่องใหญ่ท่ไี ด้เรียนรู้และได้ ผจญภัยในการเล่นซนกับญาติท่เี ป็นเด็กโตกว่าที่ กรุงเทพฯ คือได้เล่นปืนแก๊บอัดเทียน ซึ่งยิงออก มาได้แรงและไกลมาก ผมพลาดโดนยิงเข้าทีต่ าซ้าย ขณะโดนยิงตามืด วิง่ ไปบอกใคร ๆ ว่าตาบอดแล้ว ๆ จนกระทัง่ ถูกพาไปโรงพยาบาล ไม่กว่ี นั ต่อมา เริม่ มอง เห็นแม้พร่าเลือน จนมองเป็นปกติ หมอบอกว่าผม ม่านตาขาดอาจส่งผลให้เลนส์ตาหลุด หากกระทบ กระเทือนแรง ๆ เช่น วิง่ เล่นเร็ว ๆ อย่าว่าแต่เล่นฟุตบอล กระโดดโลดเต้นก็ยงั ไม่ได้ ผมคิดเอาว่าปล่อยให้ตาบอด เสียดีกว่า ยังมินับอีกว่า สภาพดวงตาของผมมี แนวโน้ ม ว่ า จะต้ อ งเป็ นต้ อ หิ น เนื่อ งจากระบบ นํา้ หล่อเลีย้ งตาถูกรบกวน ผมอยูน่ ง่ิ ๆ อยูห่ ลายเดือน และแอบไปวิง่ เล่นบ้าง เตะฟุตบอลบ้าง แอบไปแข่งวิง่ โดยไม่บอกแม่ แต่โชคดีทต่ี าของผมค่อย ๆ ดีขน้ึ โดย ไม่เป็นอะไร มาจนทุกวันนี้ ผมก็ไม่รวู้ า่ เพราะอะไรจึงรอดจากการตาบอด มาได้ อาจจะเป็นเพราะพลังใจของแม่เป็นปาฏิหาริย์
รักษา เพราะแม่พาผมไปหลายที่ท่คี ิดว่าจะช่วย ได้ แม้แต่การรักษาโดยใช้พลังจิตและทางทรงเจ้า อะไรแบบนั้น ผมตระเวนไปหลายที่จนคุ้นเคยกับ บรรยากาศลึกลับอะไรแบบนั้น แม้จนโตมาเป็น นักวิทยาศาสตร์ ก็ยังรู้สึกว่าบรรยากาศลึกลับ แบบนัน้ สนุกดี วัยเด็กทีน่ า่ ประทับใจอีกเรือ่ งคือ ครอบครัวของ ผมเป็นพวกธรรมะธัมโมพาเข้าวัด ฟังพระสวดมาแต่เด็ก คุน้ กับการฟังอาราธนาศีล อาราธนาธรรม กรวดนํา้ อะไรทำ�นองนี้ กลางคืนแม่จะพาสวดมนต์ชดุ ใหญ่ หลังจากนัน้ แม่จะพยายามท่องคาถาชินบัญชร ผมก็ จะนอนฟังจนจำ�ได้ เวลาแม่หดั ท่องโดยไม่ดหู นังสือ ติดขัดตรงไหน เราก็จะคอยบอกแม่ จนดูเหมือนจะ ท่องคาถาบทยาวนีไ้ ด้กอ่ นแม่เสียอีก เป็นงัน้ ไป จนถึง เดีย๋ วนีผ้ มก็ยงั ท่องได้อยูเ่ ลย ชวี ติ ทีเ่ ข้าสูว่ ยั รุน่ ผมย้ายจากโรงเรียนต่างอำ�เภอ มาเรียนโรงเรียนใหญ่ในเมืองในชัน้ ประถมปลาย จำ� ได้ถึงความสุขอย่างยิ่ง ที่ไม่ต้องมีสถานภาพเป็น ลูกครูใหญ่ และทีส่ �ำ คัญคือ ไม่รสู้ กึ เป็นปมด้อย ปมแปลก ทีต่ วั เองมีรองเท้าผ้าใบใส่ เพราะคนอืน่ ๆ ก็มเี หมือนกัน ดูใหม่และสวยกว่าเราด้วย ผมยังเป็นเด็กเรียนเก่ง
อยูพ่ อสมควร แม้จะไม่ได้ทห่ี นึง่ ของห้องของโรงเรียน เหมือนเคย แต่นน่ั กลับทำ�ให้เราสบายใจกว่าเดิมมาก แม้ลกึ ๆ ก็ยงั พยายามอยู่ แต่สง่ิ แวดล้อมในเมืองก็ ท้าทายให้ไปชม ไปเล่น มากกว่าจะมาเป็นเด็กเรียน อ่านหนังสือ ชว่ งคาบวัยรุน่ ทีอ่ ายุ 12-24 ผมทบทวนตัวเองพบว่า โตมาในยุคทีฝ่ รัง่ เรียกว่าปี 80 เป็นช่วงเปลีย่ นผ่านจาก ยุคฮิปปี้ ยุคต่อสูก้ บั คอมมิวนิสต์ ยุคเพลงโฟล์กซอง และเฮฟวี่ร็อกหนัก ๆ รวมถึงยุคเพลงปลุกใจสู้ คอมมิวนิสต์ทด่ี นู า่ กลัว สมัยทีผ่ มเป็นเด็ก มาเป็นเพลง ป๊อปแบบดอน สอนระเบียบ ดิอมิ พอสซิเบิล รวมถึง แกรนด์เอ็กซ์ และรอยัล สไปรท์ บรรยากาศของความ ผ่อนคลาย มีลานสเกต แสงสีวบู วาบ มีเพลงฝรัง่ สนุก ๆ อย่างมาดอนน่าและไมเคิล แจ็คสันให้ได้คนุ้ หู แต่แปลกทีผ่ มไม่คอ่ ยสนใจเพลงอะไรพวกนี้ ก็ ฟัง ๆ ไปตามเขา อาจเป็นเพราะแม่ไม่ให้สตางค์มาก พอจะไปซื้อเทปคาสเซตราคาแพง ผมชอบไปเช่า หนังสือกำ�ลังภายในเล่มใหญ่มาอ่านตามพีส่ าว จน จำ�ได้วา่ อ่านจนหมดห้องสมุด หมดร้านเช่าตัง้ แต่ยงั ไม่ขน้ึ มัธยมปลาย นัน่ เป็นเหตุหนึง่ ทีท่ �ำ ให้การเรียน ของผมแย่ลงเรือ่ ย ๆ แต่มจี นิ ตนาการเรือ่ งราวต่าง ๆ
ผิดจากเพือ่ นวัยเดียวกัน ครุน่ คิดแต่ปรัชญา คุณธรรม นักบู๊ ฮีโร่สายพันธุจ์ นี แบบก๊วยเจ๋ง เล็กเซียวหงส์นเ่ี ป็น คนโปรดของผมเลย นักเขียนในดวงใจ จะเป็นใครไป ไม่ได้นอกจาก โกวเล้ง ประสบการณ์ส�ำ คัญทีจ่ �ำ ได้คอื การขอแม่ไป เรียนพิเศษทีก่ รุงเทพฯ ผมเปลีย่ นจากนัง่ รถทางไกลไป ต่างอำ�เภอ เป็นนัง่ รถประจำ�ทางเข้ากรุงเทพฯ ไปคน เดียว เพือ่ เรียนภาษาอังกฤษสองชัว่ โมงแถว ๆ ถนน ราชดำ�เนิน การเรียนไม่ตน่ื เต้นเท่ากับทีพ่ บว่า ไม่ไกล จากทีเ่ รียนพิเศษคือ สนามหลวง สมัยนัน้ สนามหลวง เป็นแหล่งขายหนังสือเก่า หนังสือคูม่ อื เรียน หนังสือโป๊ และอีกสารพัด สนามหลวงจึงเป็นทีโ่ ปรดปรานของ ผมมาก แต่เนือ่ งจากผมไม่มสี ตางค์มากนัก ก็เลือกได้ แต่หนังสือลดราคา เล่มละห้าบาทสิบบาท แต่โชคดีท่ี ไม่มสี ตางค์ซอ้ื หนังสือโป๊ แม้จะเป็นความเย้ายวนใหญ่ ก็ตาม หนังสือทีช่ อบทีส่ ดุ ในแผงสนามหลวงและต้อง เก็บสตางค์ซอ้ื อยูห่ ลายเดือน คือ หนังสือสารคดีของ ต่วย’ตูนทีร่ วมสกูป๊ และรูปเรือ่ งอารยธรรมโบราณแบบ อียปิ ต์ เมโสโปเตเมีย สกูป๊ วิทยาศาสตร์ลกึ ลับแบบ จานบิน ไดโนเสาร์ จำ�ได้เลยว่า หนังสือพวกนีย้ งั อยู่ กับผมมาถึงเมือ่ ไม่กป่ี ที แ่ี ล้วด้วยซํา้ ทีต่ อ้ งตัดใจทิง้ ไป เพราะปลวกกิน จุดเปลี่ยนใหญ่ในชีวิตน่าจะเป็นแผงเทปใน ตลาด ทีผ่ มต้องเดินผ่านเวลาเดินทางกลับบ้าน ขณะ ทีเ่ พือ่ น ๆ กำ�ลังสนใจเพลงป๊อปทีก่ �ำ ลังเฟือ่ งฟู ผม กลับไปสะดุดหูกบั เพลงเพือ่ ชีวติ แต่กย็ งั ไม่มสี ตางค์ ไปซือ้ เทป ปรากฏว่าในช่วงหลังปี 2525 สถานการณ์ สงครามคอมมิวนิสต์ยตุ ลิ ง นักศึกษากลับมาเรียน หนังสือ ผมไม่ทราบอะไรพวกนีม้ ากนัก ในขณะนัน้ รูแ้ ต่วา่ ทีแ่ ผงเทปคาสเซตมีเพลงแปลกก๊อบปีม้ าขาย ราคาถูก เป็นเพลงปฏิวตั ิ เพลงเพือ่ ชีวติ ยุคเดือนตุลา 19 ผมมีสตางค์พอซือ้ ได้ เพราะม้วนละแค่ 20 บาท เดือนหนึง่ เก็บสตางค์ซอ้ื ได้หลายม้วน นำ�มาฟังอย่าง เอาเป็นเอาตาย และพยายามศึกษาเรือ่ งราวต่าง ๆ ตามความหมายของเพลง พบเรือ่ งราวอีกด้านหนึง่ ของการต่อสูข้ องนักศึกษาประชาชน ทีต่ า่ งอย่างสิน้ เชิง กับข่าวสารทีเ่ ราได้ยนิ มาในช่วงสงครามประชาชน ในยุคนัน้ ทง้ั หมดนีผ้ มย้อนคิดด้วยความสุข และคิดว่าไม่ เสียดายเวลาทีไ่ ปเรียนรูเ้ รือ่ งอะไรก็ไม่รู้ ทีไ่ ม่มผี ลอะไรต่อ การเรียนในชัน้ เรียนเลย แม้วา่ ผลการเรียนจะห่างจาก ระดับทีเ่ คยได้รบั มาเมือ่ สมัยประถมอย่างสิน้ เชิง และไม่ เสียใจเลยทีไ่ ม่ได้ไปสอบเข้าโรงเรียนเตรียมอุดมเหมือน เพือ่ น ๆ ทีเ่ รียนเก่ง ๆ มาด้วยกัน เมือ่ ย้อนกลับไปคิดว่า เราได้เรียนรูเ้ รือ่ งอืน่ ๆ อะไรมาบ้างในช่วงนัน้ happy+ | 61
take care เรื่อง : นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา
ไวรัสตับอักเสบเอ โรคตับอักเสบจากการติดเชื้อสามารถเกิดได้จากเชื้อหลายชนิด ซึ่งเชื้อที่สำ�คัญตัวหนึ่งก็คือ เชื้อไวรัสตับอักเสบเอ เพราะมีการติดต่อง่าย และสามารถก่อให้เกิดอาการข้างเคียงที่รุนแรงได้ในผู้ป่วยบางราย
ไวรัสตับอักเสบเอ คืออะไร อาการหลังติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอเป็นอย่างไร
อาการของผูท้ ตี่ ดิ เชือ้ ตับอักเสบเอ มักจะเกิดหลังจากได้รบั เชือ้ ไวรัสเข้าไปแล้วประมาณ 15-50 วัน โดยจะมีอาการในระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ คลืน่ ไส้ อาเจียน ท้องเสีย นอกจากนีย้ งั สามารถมีอาการอ่อนเพลีย ไข้ ปวดกล้ามเนือ้ เบือ่ อาหาร ไม่อยากบุหรีห่ รือเครือ่ งดืม่ แอลกอฮอล์ ในรายทีก่ ารอักเสบของตับ มากพอจะมีปัสสาวะสีเข้มขึ้น ปวดเจ็บที่ชายโครงขวา ตัวเหลืองตาเหลืองได้ โดยอาการของตับอักเสบเอมักจะพบในเด็กโตและผู้ใหญ่ สำ�หรับในเด็กเล็ก ที่ติดเชื้อมักจะไม่แสดงอาการ โดยส่วนใหญ่แล้วการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ มักจะหายเองได้โดยไม่เกิดอันตราย แต่ในผู้ที่อายุมากและมีการทำ�งาน ของตับไม่ดีอยู่เดิม การติดเชื้อก็สามารถทำ�ให้ตับอักเสบรุนแรงและเกิดภาวะตับวายได้ 62 | happy+
โรคนี้ติดต่อได้อย่างไร
เมื่อเชื้อไวรัสนี้เข้าไปในร่างกาย มันจะผ่านจากทางเดินอาหารเข้าสู่ เลือดและไปยังตับ จากนัน้ ก็ไปเพิม่ จำ�นวนภายในตับจนเกิดการอักเสบ และ ปล่อยเชื้อผ่านจากนํ้าดีลงสู่ลำ�ไส้ปะปนไปกับอุจจาระ ซึ่งเมื่ออุจจาระออก จากร่างกายแล้วมีการปนเปือ้ นในสิง่ แวดล้อมและอาหาร ก็จะสามารถติดต่อ ไปยังผูอ้ นื่ ได้ ซึง่ การแพร่กระจายเชือ้ นีส้ ามารถเกิดขึน้ ได้แม้ผปู้ ว่ ยยังไม่แสดง อาการ โดยช่องทางการติดต่อที่พบได้คือ • การติดเชื้อจากคนสู่คน : หากผู้ที่มีเชื้อถ่ายอุจจาระแล้วไม่รักษา สุขอนามัยทีเ่ พียงพอ อาจทำ�ให้เชือ้ ไปปนเปือ้ นในสิง่ แวดล้อมรอบ ๆ ตัว ทำ�ให้ คนรอบข้างทีใ่ ช้มอื สัมผัสสามารถรับเชือ้ เข้าสูร่ า่ งกายได้ หรือหากไปประกอบ อาหารหรือหยิบจับอาหาร ก็สามารถทำ�ให้เกิดการปนเปื้อนเชื้อได้เช่นกัน • รับประทานผักผลไม้ที่ปนเปื้อนเชื้อ : การทำ�การเกษตรที่มีการใช้สิ่ง ปฏิกูลจากมนุษย์ หรือมีการใช้นํ้าที่ปนเปื้อนเชื้อ (เช่น นํ้าที่ผ่านการบำ�บัด แต่ไม่สมบูรณ์) ก็จะทำ�ให้เชื้อไปติดอยู่ตามผิวหรือตามซอกของผักผลไม้ได้ • รับประทานหอยทะเลที่มีเชื้อแล้วไม่ได้ทำ�ให้สุก : หอยหลายชนิด หาอาหารด้วยการกรองนํา้ ทะเล ซึง่ หากในนํา้ ทีห่ อยนัน้ อาศัยอยูม่ กี ารปล่อย สิง่ ปฏิกลู หรืออุจจาระของผูท้ ม่ี เี ชือ้ ลงไป เชือ้ ก็สามารถไปกักเก็บอยูใ่ นตัวหอยได้ • ดื่มนํ้าหรือรับประทานนํ้าแข็งที่ปนเปื้อนเชื้อ การตรวจวินิจฉัย • การมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ติดเชื้อ เมื่อผู้ป่วยมีอาการที่เข้าได้กับภาวะตับอักเสบ และแพทย์คิดว่ามี โอกาสเป็นตับอักเสบจากไวรัสตับอักเสบชนิดเอ แพทย์จะตรวจเลือดเพือ่ หา ภูมิต้านทานของร่างกายที่จำ�เพาะกับไวรัสนี้ เนือ่ งจากมีหลายโรคทีส่ ามารถทำ�ให้เกิดอาการของตับอักเสบได้เหมือน กับไวรัสตับอักเสบเอ ไม่ว่าจะเป็นโรคไวรัสตับอักเสบชนิดอื่น ๆ การติดเชื้อ ไวรัสบางชนิด การติดเชือ้ แบคทีเรียบางชนิด พยาธิ สารพิษ สารเคมี รวมไปถึง โรคความผิดปกติทางระบบภูมคิ มุ้ กัน ดังนัน้ อาจจะมีการตรวจอืน่ ๆ เพิม่ เติม และระหว่างที่ผู้ป่วยมีอาการของตับอักเสบ อาจจะมีการอาเจียน ถ่ายเหลว หรือขาดนํ้าได้ ดังนั้นอาจจะมีการตรวจเพิ่มเติมอื่น ๆ เช่น การตรวจ ค่าการทำ�งานของตับ เกลือแร่ในเลือด หรือตรวจการทำ�งานของไต เพือ่ ช่วย ประเมินระหว่างการรักษา การรักษา ในผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่อาการไม่รุนแรง การรักษาจะเป็นการรักษาตาม อาการ • ให้นํ้าให้เพียงพอ สำ�หรับผู้ที่มีการขาดนํ้ามาก อาจจะให้สารนํ้าทาง หลอดเลือด • หลีกเลีย่ งอาหารหรือยาทีม่ ผี ลต่อตับได้ เช่น พาราเซตามอล เครือ่ งดืม่ แอลกอฮอล์ • พักผ่อนให้เพียงพอ เนื่องจากผู้ป่วยมักจะมีอาการอ่อนเพลีย • รับประทานอาหารให้เพียงพอ โดยอาจจะรับประทานอาหารอ่อน ๆ แบ่งเป็นหลายมื้อ และในรายที่อาเจียน คลื่นไส้มากอาจดื่มเครื่องดื่มที่ให้ พลังงาน เช่น นํ้าผลไม้ นม หรือนํ้าหวาน สำ�หรับผูป้ ว่ ยทีม่ อี าการมากหรือรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพือ่ พิจารณา รักษาในโรงพยาบาล
ผลข้างเคียงของโรค
โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอจะมีอาการที่ไม่รุนแรง และหายเองได้ แต่ในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำ�ตัวที่ทำ�ให้การทำ�งานของ happy+ | 63
ตับแย่กว่าปกติ จะมีความเสี่ยงในการเกิดภาวะ ตับอักเสบรุนแรงและตับวายได้ โดยความเสี่ยง ในการเกิดภาวะตับวายมีอยูท่ ปี่ ระมาณ 0.2-0.5% สำ�หรับอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่พบได้ในการ ติดเชื้อไวรัสอื่น ๆ เช่น ไตอักเสบ สมองอักเสบ ไขสันหลังอักเสบ ข้ออักเสบ เม็ดเลือดแดงแตกตัว หรือเกล็ดเลือดตํ่า สามารถพบได้ในการติดเชื้อ ตับอักเสบเอเช่นเดียวกันซึ่งพบได้ไม่บ่อย
เป็นแล้วจะเป็นเรื้อรังไหม
หลายคนกั ง วลว่ า จะมี ก ารติ ด เชื้ อ เรื้ อ รั ง เหมือนในไวรัสตับอักเสบบีและซี ซึ่งสำ�หรับไวรัส ตับอักเสบเอนี้ เป็นโรคที่ไม่ได้เป็นเรื้อรังครับ โดย เมือ่ ติดเชือ้ แล้วร่างกายจะสร้างภูมติ า้ นทานขึน้ มา และจะไม่กลับมาเป็นอีก ทัง้ นีจ้ ะมีผปู้ ว่ ยประมาณ 10% ที่ช่วงแรกอาการจะดีขึ้น แต่หลังจากนั้นก็ กลับมาติดเชือ้ ซํา้ ใหม่ (มักเกิดขึน้ ภายในช่วง 6 เดือน หลั ง จากป่ ว ยครั้ ง แรก) แต่ เ มื่ อ หายแล้ ว มี ภูมิต้านทานก็จะไม่กลับมาเป็นอีก
การป้องกันการติดเชื้อในบ้านของผู้ป่วย
เนื่องจากเชื้อไวรัสตับอักเสบเอมีการติดต่อ ได้งา่ ย เมือ่ ผูป้ ว่ ยได้รบั การวินจิ ฉัยและกลับไปพัก ที่บ้าน จึงควรระมัดระวังในเรื่องการรักษาความ สะอาด โดยจะต้องล้างมือฟอกสบู่ทุกครั้งที่มีการ ขับถ่ายหรือสัมผัสกับอุจจาระ ผู้ที่อาศัยใกล้ชิด ควรระมัดระวังการรับประทานอาหารหรือการทำ� 64 | happy+
กิจกรรมใด ๆ ที่อาจจะทำ�ให้มีการรับเชื้อเข้าไป (เช่น เอามือไปจับตามโต๊ะเก้าอี้แล้วไปหยิบขนม เข้าปาก) ในกรณีทมี่ กี ารปนเปือ้ นสารคัดหลัง่ หรือ อุจจาระตามพืน้ ผิวในบ้าน อาจจะใช้นา้ํ ยาฟอกขาว ผสมนํ้ า ในอั ต ราส่ ว น 1:1,000 ในการเช็ ด ถู ทำ�ความสะอาดได้ ทั้งนี้เนื่องจากโรคตับอักเสบ จากไวรัสตับอักเสบเอ จะมีการแพร่เชื้อตั้งแต่ยัง ไม่มีอาการ การมาเริ่มป้องกันเมื่อป่วยแล้วมักจะ ไม่ทนั กาล ดังนัน้ เราทุกคนจึงควรรักษาสุขอนามัย อยู่ตลอดไม่ว่าจะป่วยหรือไม่ก็ตามทีครับ
ป้องกันได้อย่างไร
1. รับประทานอาหารที่สุกและผ่านความ ร้อน : เนื่องจากเชื้อนี้ถูกทำ�ลายได้ด้วยความ ร้อน การรับประทานอาหารที่สุกก็จะปลอดภัย จากการติดเชื้อได้ โดยอาหารจะต้องมีความร้อน ทั่วถึงอย่างน้อย 85 องศาเซลเซียส เป็นเวลา ประมาณ 2 นาที 2. หากจะรับประทานอาหารที่ไม่สุก ต้อง มั่ น ใจว่ า สะอาด : อาหารบางชนิ ด ที่ ต้ อ งรั บ ประทานแบบไม่สกุ เราต้องมัน่ ใจในความสะอาด ตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บวัตถุดิบ การล้าง การปรุง อาหาร ไปจนถึงการนำ�มาให้เราทาน 3. ผักสด หากจะนำ�มารับประทานควรล้าง ให้สะอาด : ตัดส่วนที่ล้างทำ�ความสะอาดไม่ได้ ออก และเลีย่ งการรับประทานผักผลไม้ดบิ ทีต่ อ้ ง รับประทานพร้อมเปลือกหรือมีซอกหลืบหลายชัน้
4. ไม่ควรรับประทานหอยทะเลดิบหรือหอย ไม่สุกไม่ว่ากรณีใด ๆ : เนื่องจากหอยหลายชนิด กินอาหารด้วยการกรองนํ้าและสารแขวนลอยใน นํ้าทะเล จึงทำ�ให้เชื้อโรคทั้งหลายสามารถสะสม ในตัวหอยได้ ซึ่งหากหอยนั้นมาจากแหล่งที่มี การปล่อยของเสียสิ่งปฏิกูลที่ปนเปื้อนเชื้อ ก็จะ เกิ ด ความเสี่ ย งในการติ ด เชื้ อ ได้ สำ � หรั บ การ รับประทานหอยให้ปลอดภัย ควรนำ�หอยมาทำ�ให้ สุกด้วยความร้อนอย่างน้อย 85 องศาเซลเซียส เป็นเวลาอย่างน้อย 2 นาที โดยให้เริ่มนับเวลา หลังจากหอยนั้นเปิดฝาเรียบร้อยแล้ว 5. ล้างมือฟอกสบูท่ กุ ครัง้ หลังถ่ายอุจจาระ และ ก่อนรับประทานอาหาร : ทำ�อย่างสมํ่าเสมอ แม้เราไม่ปว่ ย เพราะตับอักเสบเอเป็นโรคทีแ่ พร่เชือ้ ทางอุจจาระได้แม้ไม่มีอาการ 6. นํ้าและนํ้าแข็ง : ควรใช้นํ้าบริโภคจาก แหล่งทีเ่ ชือ่ ใจได้เท่านัน้ หากไม่มนั่ ใจให้ตม้ นํา้ ก่อน เสมอ สำ�หรับนํ้าแข็ง เนื่องจากเราไม่สามารถนำ� นํ้าแข็งไปต้มก่อนรับประทานได้ จึงควรหลีกเลี่ยง นํา้ แข็งทีไ่ ม่สะอาด หรือไม่กก็ นิ เฉพาะนํา้ แข็งทีเ่ รา ทำ�เองจากการต้มนํ้า 7. ฉีดวัคซีน : ในผูท้ มี่ คี วามเสีย่ ง เช่น เป็นตับ อักเสบเรือ้ รังจากไวรัสตับอักเสบบี และซี, ตับแข็ง, สู ง อายุ หรื อ อาศั ย ในบ้ า นหรื อ สถานที่ ที่ เ สี่ ย ง ต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ ในปัจจุบันก็มี วัคซีนที่ฉีดเพื่อป้องกันแล้วครับ
เรื่อง : นพ.ฉัตรชัย อิ่มอารมณ์ ภาพประกอบ : จัง เสนารักษ์ q&a
วิตามินซี
Q A
เคยมีคนบอกว่าวิตามินซีจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินอื่น ๆ ได้ดขี นึ้ เราจึงต้องทานวิตามินซีควบคูก่ บั วิตามินอืน่ เป็นวิธกี าร ทานที่ถูกต้องหรือเปล่าคะ ปัจจุบนั แนวโน้มการดูแลสุขภาพของคนไทยก็มมี ากขึน้ เรือ่ ย ๆ นะครับ ไม่วา่ จะเป็นการออกกำ�ลังกาย ทัง้ โยคะ การวิง่ เพือ่ สุขภาพ การรับประทาน อาหารเพือ่ สุขภาพ อาหารคลีน อาหารลีน อาหารออร์แกนิก รวมถึงอาหาร เสริมจำ�พวกวิตามินต่าง ๆ ก็มีมากขึ้นครับ วิตามินซี เป็นวิตามินที่อยู่ในกลุ่มวิตามินยอดฮิตของผู้รักสุขภาพ เพราะเชื่อว่าทำ�ให้ดูอ่อนวัย ต้านมะเร็ง ป้องกันการเจ็บป่วยอีกหลายโรค หลายท่านอาจจะสงสัยว่าวิตามินซีมีดีอย่างที่เขาว่ากันหรือเปล่า ก็มีผู้ได้ ค้นคว้ากันมากมายถึงผลของวิตามินซีต่อร่างกายครับ • มีการศึกษาพบว่า วิตามินซีมปี ระโยชน์กบั ผูท้ มี่ ปี ญ ั หาเกีย่ วกับระบบ ภูมคิ มุ้ กัน โดยเฉพาะเมือ่ เกิดความเครียดกับร่างกาย อาจจะมีประโยชน์ใน กลุ่มที่มีการสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ� • วิตามินซีไม่ได้เป็นตัวทีร่ กั ษาอาการของไข้หวัดให้ดขี น้ึ แต่กม็ รี ายงานว่า วิ ต ามิ นซี ส ามารถลดความเสี่ ย งต่ อ การเกิ ด ภาวะแทรกซ้ อ นได้ เช่ น ลดโอกาสการเกิดปอดอักเสบ เป็นต้น • มีเพียงการศึกษาเดียวจากหลาย ๆ การศึกษาที่บอกว่า วิตามินซี สามารถลดปั จ จั ย เสี่ ย งต่ อ การเกิ ด โรคหลอดเลื อ ดสมองได้ ถึ ง แม้ ว่ า ข้อสรุปนีจ้ ะไม่ได้ชดั เจนนัก แต่อย่างหนึง่ ทีช่ ดั เจนและสมเหตุสมผลทีไ่ ด้จาก การศึกษานี้คือ การพบว่าหากรับประทานผักและผลไม้มาก ๆ แล้ว ก็จะ มีระดับวิตามินซีในเลือดสูงตามไปด้วย (ตามที่ท่านผู้อ่านทราบกันดีครับ) อย่างทีก่ ล่าวไว้ขา้ งต้นครับว่า การรับประทานอาหารทีม่ ผี กั ผลไม้มาก ๆ จะทำ�ให้ร่างกายได้รับวิตามินซีมากขึ้นไปด้วย และผลไม้ที่มีวิตามินซีใน
ปริมาณสูงก็เช่น ส้ม ฝรั่ง มะขาม มะกอก หรือในผลไม้ รสเปรี้ยวทั่ว ๆ ไปครับ ซึ่งแหล่งวิตามินซีที่ดีที่สุดก็คือ จากผั ก และผลไม้ ส ดนั่ น เอง แต่ สำ � หรั บ ท่ า นผู้ อ่ า น ทีไ่ ม่สามารถรับประทานผักและผลไม้สดได้ หรือรับประทาน ได้ไม่มากพอ ก็อาจจะลองหาวิตามินซีมาเสริมได้ครับ ผลของวิตามินซีตอ่ วิตามินชนิดอืน่ ๆ ในเรือ่ งของการ ดูดซึมนั้น มีรายงานเพียงธาตุเหล็กเท่านั้นครับ กล่าวคือ วิตามินซีทำ�ให้ดูดซึมธาตุเหล็กได้มากขึ้น แต่ก็ไม่ได้มาก จนกระทั่งทำ�ให้ธาตุเหล็กเกินจนเป็นพิษกับร่างกายครับ ส่วนจะส่งผลให้การดูดซึมวิตามินชนิดอื่น ๆ มากขึ้นนั้น ยังไม่ชัดเจนครับ สรุปก็คอื ว่า ยังไม่มขี อ้ ห้ามทีช่ ดั เจน รวมถึงไม่ได้มผี ล ชัดเจนของวิตามินซี เมือ่ รับประทานพร้อมกับวิตามินชนิด อื่น ๆ ครับ แต่ที่ชัดเจนคือ แหล่งของวิตามินซีที่ดีที่สุด ก็คือ ผักและผลไม้สดครับ
นพ.ฉัตรชัย อิม่ อารมณ์ แ พ ท ย์ ป ร ะ จำ � ห น่ ว ย ตรวจสวัสดิการสุขภาพ โรงพยาบาลรามาธิบดี happy+ | 65
ยืดเส้น ยืดสาย เรื่อง : TepiN ภาพประกอบ : giftdoii
แก้ง่วงยามบ่าย กับการคลายกล้ามเนื้อ
ช่วงเวลาตอนบ่ายในวันทำ�งาน เป็นช่วงเวลาทรมานของใครหลายคนเลยใช่ไหมคะ เพราะความง่วงมักจะบุกจูโ่ จมเราทุกครัง้ เมือ่ เข็มนาฬิกา เคลื่อนตัวไปที่เวลาบ่ายของวัน ยิ่งทำ�งานอยู่ในอิริยาบถเดิม ๆ นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ขยับร่างกายแค่มือกับสายตา ยิ่งทำ�ให้ง่วงเข้าไปกันใหญ่ บางครั้งกาแฟก็ไม่ช่วยทำ�ให้สดใสขึ้นมาสักนิด รอช้าไม่ได้แล้วค่ะ ถ้าเกิดอาการแบบนี้เมื่อไหร่ ให้ลองลุกขึ้นมายืดเส้นยืดสาย ละสายตาจากคอมพิวเตอร์มาทำ�ท่าง่าย ๆ ที่ช่วยดึงความ สดชื่นของร่างกายให้กลับมากันดีกว่าค่ะ 66 | happy+
ท่ายืดแขน
ท่ายืดข้อมือ
ท่าหมุนไหล่
นั่งหลังตรง วางเท้ากับพื้นให้มั่นคง เหยียด แขนทั้งสองข้างออกไปด้านหน้า ประสานมือไว้ โดยหันฝ่ามือออกจากลำ�ตัว แล้วดันขึ้นไปเหนือ ศีรษะให้ตึงที่สุด ค้างไว้ 30 วินาที ท่านี้จะช่วย ผ่อนคลายกล้ามเนือ้ แขนและป้องกันโรคการกดทับ เส้นประสาทบริเวณข้อมือ
ยืนตัวตรง ยืดแขนขวาตรงไปด้านหน้า โดย ให้ฝ่ามือหันออกด้านนอก ใช้มือซ้ายดึงปลายนิ้ว มือเข้าหาตัว ทำ�ค้างไว้ 20 วินาที แล้วทำ�สลับข้าง ซ้าย เป็นอีกท่าหนึ่งที่ช่วยป้องกันโรคการกดทับ เส้นประสาทบริเวณข้อมือ
ยืนตัวตรง ปล่อยแขนตามสบาย และค่อย ๆ หมุนหัวไหล่ไปด้านหลัง 3 รอบ แล้วสลับกลับ มาด้านหน้าอีก 3 รอบ ทำ�ซํ้าอีก 2 เซต จะช่วย คลายความเมื่อยล้าบริเวณคอ หลัง และเพิ่ม ท่าทางการเคลื่อนไหว
ท่ายืดต้นแขนด้านบน
ท่ายืดไหล่และคอ
ท่ายืดหลัง
ยืนตัวตรง ยกแขนขวาขึ้นมาชิดศีรษะแล้ว งอแขนขวาลง ใช้มอื ซ้ายจับข้อศอกขวาแล้วค่อย ๆ ดึงมาทางด้านซ้าย ค้างไว้ 15 วินาที แล้วทำ� สลับอีกข้าง ท่านี้จะช่วยยืดบริเวณส่วนหลังของ แขนและไหล่
ยืนตัวตรง วาดแขนซ้ายไปทางด้านหลัง ใช้ มือขวาจับข้อมือข้างซ้ายแล้วดึงไปทางด้านขวา พร้อมทั้งเอียงศีรษะไปด้านซ้าย ทำ�ค้างไว้ 10 วินาที กลับมาอยู่ในท่าปกติ แล้วสลับไปทำ�แบบ เดียวกันกับแขนขวา และเอียงศีรษะไปด้านขวา ท่านี้จะช่วยคลายกล้ามเนื้อคอและไหล่
ท่านี้จะช่วยคลายความเมื่อยล้าบริเวณหลัง โดยนัง่ หลังตรง วางเท้าให้มน่ั คง แยกขาออกจากกัน เล็กน้อย ใช้แขนทั้งสองข้างอ้อมไปดันบริเวณเอว ด้านหลัง แล้วยืดตัวขึ้นให้สุด ค้างไว้ 15 วินาที ก่อนจะพักและทำ�ซํ้าอีกครั้ง happy+ | 67
HAPPY HERB เรื่อง : ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
ผักปลัง แต่งสวย แถมช่วยดีท็อกซ์ ผักปลังเป็นผักที่ชาวบ้านทุกภาคกินกัน เป็นอาหารที่ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำ�งานได้ดีขึ้น ช่วยบำ�รุงร่างกาย ลดความดันโลหิต ทำ�ให้เจริญ อาหาร พ่อหมอยาบอกว่า ผักปลังเป็นสมุนไพรที่ถ่ายความร้อน ใช้รักษามะเร็งลำ�ไส้ ทำ�ให้ล�ำ ไส้เดินดี เมือกของผักปลังช่วยล้างลำ�ไส้ ผักปลังมี รสเย็นจืด ทั้งผักปลังขาวและผักปลังแดงใช้ประโยชน์ทางยาได้เหมือนกัน
ใครเคยกินผักปลังจะรู้ว่า มีลักษณะเป็นเมือกลื่น ๆ ชาวบ้านนำ�คุณสมบัติข้อนี้มาใช้เป็นยาระบาย ในเด็กและสตรีมีครรภ์ เนื่องจากเป็นยาระบายที่ อ่อนโยน ภูมิความรู้ของชาวบ้านนั้นน่าทึ่งอย่างยิ่ง กลไกที่ผักปลังช่วยระบายท้องนั้น ส่วนหนึ่งมาจากความเป็นเมือกลื่น ๆ ที่ช่วยหล่อลื่นทำ�ให้ถ่ายสะดวก และจากสารกลูแคน (Glucan) ที่มีอยู่ใน ผักปลัง สารนี้มีคุณสมบัติในการก่อเจล สารเพิ่มความหนืดให้กับยา เป็นสารก่อฟิล์มธรรมชาติที่ใช้เคลือบยา ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์พบว่า สารกลูแคน มีคุณสมบัติเป็นพรีไบโอติกส์ (Prebiotics) หรือเป็นอาหารของโปรไบโอติกส์ (Probiotics) ซึ่งเป็นจุลินทรีย์มีประโยชน์ที่เกาะอยู่ตามผนังลำ�ไส้เล็กส่วนปลาย โปรไบโอติกส์ ทำ�หน้าที่ปรับสมดุลของแบคทีเรียในลำ�ไส้ ทำ�ให้การขับถ่ายดีขึ้น กำ�จัดสารพิษ เพิ่มภูมิคุ้มกัน ปรับปฏิกิริยาภูมิแพ้ ลดคอเลสเตอรอล 68 | happy+
สร้างวิตามินบี 12 ไบโอติน (Biotin) และวิตามินเค ป้ อ งกั น มะเร็ ง ในลำ � ไส้ แ ละกระเพาะปั ส สาวะ โปรไบโอติกส์จึงมีความสำ�คัญต่อสุขภาพอย่าง มาก มีงานศึกษาวิจยั ออกมาแล้วว่า พรีไบโอติกส์ อย่างสารกลูแคนช่วยทำ�ให้โปรไบโอติกส์แข็งแรง ขึ้นและเกาะติดผนังลำ�ไส้ได้ดีขึ้น ในปัจจุบันมีผู้นิยมใช้การล้างพิษแบบที่เรียก ว่า ดีทอ็ กซ์ (Detox) โดยเข้าใจว่า เป็นการทำ�ให้ผนัง ลำ�ไส้สะอาดเกลี้ยงเกลา ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด อย่ า งยิ่ ง เพราะวิ ธีก ารดั ง กล่ า วจะไปรบกวน สมดุลของแบคทีเรียในลำ�ไส้ ก่อให้เกิดภูมิแพ้ การขาดวิตามิน และมีปญ ั หาสุขภาพอืน่ ๆ ตามมา ผั ก ปลั ง เป็ น สมุน ไพรที่ส ามารถใช้ล้า งพิ ษแบบ ธรรมชาติ โดยใช้กลไกการทำ�งานของโปรไบโอติกส์ ช่ ว ยขั บ ถ่ า ยและกำ � จั ด สารพิ ษ นอกจากนี้ ยั ง ช่ ว ยขั บ ปั ส สาวะอั น เป็ นการช่ ว ยกำ � จั ด สารพิ ษ ได้อีกทางหนึ่ง พื้นบ้านยังมีความเชื่อว่า ผักปลัง สามารถ รักษาโรคกระเพาะได้ และยังนิยมรับประทาน ผักปลังเพื่อรักษาโรคริดสีดวงทวารอีกด้วย ซึ่งมี งานวิจัยพบว่า ผักปลังมีฤทธิ์ในการช่วยรักษา แผลและต้ า นการเกิ ด แผลในกระเพาะอาหาร โดยไปเคลือบเนื้อเยื่อกระเพาะอาหาร และยับยั้ง การหลั่งกรด และมีฤทธิ์ต้านการเป็นพิษต่อไต ที่ เ กิ ด จากยาปฏิ ชี ว นะกลุ่ ม อะมิ โนไกลโคไซด์ (Aminoglycosides) ยาเจนต้าไมซิน (Gentamicin) ผั ก ปลั ง ยั ง สามารถยั บ ยั้ ง การเกิ ด นิ่ ว จากการ ตกตะกอนของแคลเซียมออกซาเลต (Calcium Oxalate) ได้ เนื่องจากผักพื้นบ้านของไทยหลาย ชนิดมีปริมาณแคลเซียมออกซาเลตสูง การบริโภค มาก ๆ อาจทำ�ให้เกิดก้อนนิ่วในไตและกระเพาะ ปัสสาวะได้ ดังนั้นการกินผักปลังจะเป็นการช่วย ป้องกันนิ่วได้ทางหนึ่ง ผักปลังยังเป็นยารักษาโรคผิวหนังชั้นเยี่ยม แก้ ล มพิ ษ ผื่ นคั น แผลไฟไหม้ แผลสด โดย ใช้ใบตำ�พอก จะช่วยลดอาการอักเสบ ใบและ ดอกเอามาตำ�ให้ละเอียด เอานํ้าทารักษากลาก
เกลื้อน สระผมแก้รังแค ใช้ตำ�พอกหน้าป้องกัน สิวได้ เนื่องจากผักปลังมีฤทธิ์ปกป้องเซลล์ ลด การอักเสบและการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิว ช่วย สมานรักษาผิวแห้ง ผื่นคัน ลดอาการระคายเคือง นอกจากสรรพคุณทางยาแล้ว ผักปลังยัง เป็ น สุ ด ยอดผั ก ที่ ให้ วิ ต ามิ น เอ เบต้ า แคโรที น (Beta-Carotene) และวิตามินซีในปริมาณสูงมาก มี กรดอะมิโน (Amino Acid) ธาตุเหล็ก แคลเซียมสูง ตลอดจนวิตามินอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีการวิจัยพบว่า ผักปลังมีคุณสมบัติเพิ่มปริมาณ เม็ดเลือดทั้งเม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดง และ เฮโมโกลบิน (Hemoglobin) ซึ่งเป็นโปรตีนสำ�คัญ ในเม็ดเลือดแดง และเพิ่มปริมาณของเอนไซม์ อไมเลส (Amylase) จึ ง เป็ น ไปได้ ที่ ผั ก ปลั ง จะช่วยลดอาการแทรกซ้อนที่เกิดจากเบาหวาน ได้ด้วย ชาวบ้านสมัยก่อนจะนำ�ผลผักปลังมาใช้แต่งสี อาหารทัง้ คาวหวาน โดยนำ�มาตำ�ให้ละเอียด เติม นํ้า แล้วคั้นเอาแต่นํ้าได้สีม่วงแดง ใช้แต่งสีขนม ต่าง ๆ เช่น ขนมบัวลอย ขนมเปียกปูน ขนมนํ้า ดอกไม้ ซาหริ่ม เป็นต้น ปัจจุบันพบว่า สีในผลผัก ปลังเป็นสารกลุ่มแอนโธไซยานิน (Anthocyanin) ที่มีความคงตัว เหมาะจะใช้แทนสีสังเคราะห์ใน การแต่งสีอาหาร ยา และเครื่องสำ�อาง เพราะ มีความปลอดภัยกว่า บ้านไหนที่ปลูกผักปลังไว้ เมื่อไหร่ที่ผลแก่ ก็ให้ตากแดดเก็บไว้ จะใช้ก็เอา มาละลายนํา้ แต่งสีให้อาหาร หรือจะใช้เป็นเมคอัพ ธรรมชาติ เอามาทาแก้มทาปากก็ได้ ผักปลังยังมีคุณสมบัติเป็นยาเย็น จึงนำ�มา แก้ร้อนใน นิยมต้มนํ้ากินแก้ไข้ แก้ร้อนใน ส่วน เนื้อจากนํ้าต้ม ก็นำ�มารับประทานได้ การที่ผัก ปลังมีฤทธิ์เย็น ท่านใดที่หนาวง่าย แขนขาเย็น ไม่กระหายนํ้า ปัสสาวะใสและปริมาณมาก ไม่ ควรกินผักปลังมากนัก เพราะจะทำ�ให้รา่ งกายเย็น เกินไป แต่ถา้ ชอบกินเป็นพิเศษ ก็ควรกินนํา้ ขิงหรือ สมุนไพรที่มีรสร้อนอื่น ๆ ร่วมด้วย
ตำ�รับยา
ยาระบายสำ�หรับเด็กและคนท้อง : ผัก ปลังสดราวครึ่งขีด (ประมาณ 60 กรัม) ถ้า เป็นเด็กลดจำ�นวนลงตามส่วน หรือบางพืน้ ที่ นิยมต้มรากผักปลังรับประทานแก้ท้องผูก และช่วยขับปัสสาวะ รักษาสิว ช่วยลดการอักเสบของสิว : นำ�ใบมาขยี้ผสมนํ้าเล็กน้อยให้เข้ากัน แล้ว นำ�มาพอกหรือนำ�นํา้ ทีไ่ ด้มาทาสิวบริเวณทีม่ ี อาการ ทิง้ ไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออก ด้วยนํ้าสะอาด (ควรล้างหน้าให้สะอาดก่อน ทาทุกครั้ง)
น่ารู้
• หมอตำ�แยทางภาคเหนือมักจะเอา ใบสดมาตำ�ให้ละเอียด คั้นเอานํ้าเมือกมา ทาบริ เวณช่ อ งคลอดของสตรี มี ค รรภ์ ทั้ ง ยั ง แนะนำ � ให้ กิ น ผั ก ปลั ง ด้ ว ย เพื่ อ ช่ ว ยให้ คลอดบุตรได้ง่าย โดยทำ�เป็นแกงผักปลังให้ แม่ทานทุกวันเดือนดับเดือนเต็ม เชื่อว่าจะ ทำ�ให้คลอดบุตรง่าย ไหลลื่นเหมือนผักปลัง (จากความเชื่อนี้เอง ทำ�ให้ผู้มีคาถาอาคมไม่ กล้ากินผักปลัง เพราะกลัวคาถาเสื่อม) happy+ | 69
well being เรื่อง : ญาดารัตน์
ผู้หญิงในเทพนิยาย เด็กทุกคนชอบฟังนิทานหรือเทพนิยายและ ฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น ผู้ใหญ่มักให้เด็ก ๆ ทำ�งาน หรือทำ�กิจกรรมอะไรที่เป็นสิ่งที่ต้องใช้ความตั้งใจ และความพยายาม เพือ่ แลกกับการได้ฟงั เรือ่ งราว สนุก ๆ ฉันคิดว่ามันเป็นกุศโลบายที่ดีมาก ๆ ที่ เด็กจะได้ฝึกความมุ่งมั่นและอดทน เพื่อแลกกับ ความเพลิดเพลินสนุกสนานและเต็มเปี่ยมไปกับ การจินตนาการ หรือแม้กระทัง่ การอบรมสัง่ สอนที่ แฝงมากับเรื่องเล่าเหล่านั้น กลับส่งพลังให้เด็ก ๆ ปฏิบัติตามอย่างไม่อิดออด ฉันจำ�ได้วา่ คุณยายมักจะเตือนเสมอว่า อย่า กินข้าวเหลือนะลูก แม่โพสพจะเสียใจ และอย่า เหยียบเมล็ดข้าวที่ตกอยู่บนพื้นนะลูก แม่โพสพ จะตำ�หนิ ฉันกับน้องต่างอยากทำ�ความรู้จักกับ แม่โพสพให้มากขึ้น จึงรบเร้าให้คุณยายเล่าให้ฟัง แม่โพสพเป็นเทวีแห่งข้าว มีปลากรายทอง เป็นพาหนะ ในวันหนึง่ ทีเ่ มืองไพสาลี มีการประชุม กันระหว่างเหล่าเทพ เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ด้วยคำ�ถามทีว่ า่ ใครมีบญ ุ คุณกับมนุษย์มากทีส่ ดุ คำ�ตอบของที่ประชุมคือ พระพุทธเจ้า ในวันนั้น 70 | happy+
แม่โพสพนัง่ อยูใ่ นทีป่ ระชุมด้วย รูส้ กึ น้อยเนือ้ ตํา่ ใจ เป็นอย่างยิ่ง คิดว่าตนเองช่วยเหลือให้มนุษย์มี ความสมบูรณ์พูนสุขมาช้านาน แต่ไม่มีใครเห็น คุณค่า นางจึงหนีไปอยูท่ ปี่ า่ หิมพานต์ หลังจากนัน้ เมื อ งมนุ ษ ย์ จึ ง มี แ ต่ ค วามทุ ก ข์ ย ากแร้ น แค้ น จนในที่สุด พระพุทธเจ้าจึงได้ช่วยเหลือโดยให้ พระมาตุลไี ปตามแม่โพสพกลับมา แต่พระมาตุลี ก็ไปได้แค่ครึ่งทาง เพราะผ่านด่านภูเขาเข้าไป ไม่ได้ ท่านจึงได้ให้ปลาสลาดช่วยทำ�หน้าที่แทน เมื่อเจอแม่โพสพนางไม่ยอมกลับ แต่ก็ใจอ่อน จึง มอบเมล็ดข้าวมา 9 เมล็ด เพือ่ แจกจ่ายให้กบั ชาว โลก พร้อมทัง้ ให้ท�ำ พิธบี ชู าแม่โพสพเมือ่ ข้าวในนา ตั้งท้อง และเมื่อเก็บเกี่ยวก็ให้ทำ�ขวัญข้าว เพื่อ เชิญแม่โพสพให้มาเยีย่ ม ตัง้ แต่นนั้ มาเมืองมนุษย์ ก็กลับมามีความอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง แทบไม่น่าเชื่อตำ�นานที่คุณยายเล่าให้ฟัง กลับมีอิทธิพลให้ฉันและน้อง ๆ ไม่กล้ากินข้าว เหลือทิ้งในจาน ตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน พวกเรา ต่างก็ฝังใจ ไม่อยากทำ�ให้แม่โพสพเสียใจ หาก เราอยากกินน้อยก็ตักน้อย ถ้าหากตักมาเกิน
พอดีก็ต้องรับผิดชอบและเรียนรู้ที่จะหาจุดพอดี ของตัวเองให้เจอ สำ�หรับฉันแล้ว รู้สึกว่ามีความผูกพันกับแม่ โพสพมาอย่างยาวนาน มโนว่าท่านคงเป็นเทพ ทีเ่ ข้าถึงได้งา่ ย เข้าได้กบั คนทุกชนชัน้ ไม่ได้ดนู า่ กลัว เพียงแต่มีความเกรงใจ เพราะท่านมีความเป็น ผูห้ ญิงสูง ขีน้ อ้ ยใจ ขีง้ อน แต่กลับก็มคี วามเมตตา กั บ ทุ ก สรรพสั ต ว์ ที่ ก ล่ า วมาทั้ ง หมดคื อ การ จินตนาการ นอกจากในตำ�นานของเมืองไทยแล้ว ตำ�นาน อียิปต์และตำ�นานกรีก ก็มีผู้หญิงที่เป็นเทพแห่ง ความอุดมสมบูรณ์เช่นเดียวกันกับบ้านเรา เทพนิยายอียิปต์โบราณ ได้ยกให้เทพีไอซิส Isis เป็ น เทวี แ ห่ ง ความอุ ด มสมบู ร ณ์ แ ละ ภูมิปัญญา ในสมัยนั้นนับถือเทพีไอซิสเปรียบ เสมื อ นแม่ แ บบของ “หญิ ง ที่ ส มบู ร ณ์ ” และ พระนางถูกเรียกว่า “หนึ่งเดียวผู้คือทุกสิ่ง” เทพี ไอซิ ส ได้ อ ภิ เษกสมรสเทพโอซิ ริ ส ซึ่ ง ทั้ ง สอง เติบโตมาด้วยกันและรักกันมาก เทพโอซิริสได้ ขึน้ ครองบัลลังก์กเ็ พราะมีเทพีไอซิสเป็นผูเ้ กือ้ หนุน
ทัง้ สองต่างใช้เวลาส่วนมากไปกับการสัง่ สอนและ ปกป้องผูค้ นของพระองค์ ยุคนัน้ จึงเป็นยุคทองของ อียิปต์ที่มีแต่ความเจริญรุ่งเรืองและอุดมสมบูรณ์ ทั้ ง ด้ า นอารยธรรมและการประดิ ษ ฐ์ แต่ แ ล้ ว เวลาแห่งความสุขก็คงอยู่ได้ไม่นาน เมื่อเทพเซธ ผู้อิจฉาริษยา อยากแย่งชิงบัลลังก์ เทพเซธได้ ฉีกร่างของเทพโอซิริสออกเป็น 14 ชิ้น และนำ� เอาชิ้นส่วนเหล่านี้ไปโปรยจนทั่วอียิปต์ แต่เทพี ไอซิสก็ได้ตามหาร่างทั้ง 14 ส่วนของสวามี และ นางได้ใช้เวทมนตร์ปลุกให้เขาฟื้นคืนชีพ และได้ มีทายาทคือ เทพฮอรัส ในตำ�นานเทพอียิปต์นั้น เทพีไอซิสถูกยกย่องว่านางคือ ภรรยาและมารดา ผู้ประเสริฐอีกด้วย ส่วนเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ของกรีกก็ น่าสนใจไม่ยงิ่ หย่อนไปกว่ากัน เป็นเทพแห่งอาหาร มี ชื่ อ ว่ า เทพี ดี มี เตอร์ (Demeter) หรื อ เรี ย กใน ฉบั บ ละติ น ว่ า เซเรส (Ceres) เป็ น เทพี รั ก ษา ข้าวโพด แต่ครัง้ หนึง่ นางก็เคยทิง้ ให้โลกเกิดความ แห้งแล้ง เพาะปลูกอะไรไม่ได้ผลเหมือนกัน เนือ่ งจาก นางโทมนัสเสียใจ ที่ลูกสาวสุดที่รักถูกเทพเฮเดส (Hades) แห่งบาดาลลักพาตัวไป นางออกติดตาม
ด้วยความทุกข์ระทม เมื่อหาจนเจอกลับพบว่า เทพเฮเดสกับลูกมีความรักที่ดีต่อกัน ตัวบุตรสาวเอง ก็รกั ทัง้ มารดาและสวามี ร้อนถึงจอมเทพซุส (Zeus) ต้องลงมาช่วยเหลือ โดยให้นางได้ลกู สาวคืนกึง่ หนึง่ ของเวลา ส่วนอีกกึ่งหนึ่งต้องแบ่งให้เทพเฮเดส ซึ่งเปลี่ยนสถานภาพมาเป็นลูกเขยของนางไปแล้ว นี่จึงเป็นที่มาของฤดูกาลที่เกิดขึ้นบนโลก จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าจะเป็นตำ�นานหรือเทพนิยายที่ไหน เทพแห่งพืชพรรณธัญญาหาร หรือเทพ ที่ให้ความอุดมสมบูรณ์ ล้วนแล้วแต่เป็นผู้หญิงแทบทั้งสิ้น คงเป็นเพราะธัญญาหาร ข้าว เป็นสิ่งที่ช่วย หล่อเลี้ยงชีวิต เปรียบเสมือนแม่ที่คอยดูแลลูกอยู่ไม่ห่าง เป็นส่วนสำ�คัญยิ่งที่ทำ�ให้ลูกได้เจริญเติบโต ความเชื่อเรื่องเทพ เทวดา มีอยู่คู่กับมนุษย์มาอย่างยาวนาน ถึงแม้ว่าวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะก้าวหน้าเพียงใด แต่ทกุ วันนีม้ นุษย์กบั เทพ เทวดา ก็ยงั เป็นมิตรข้างกายทีไ่ ม่ทง้ิ กัน ทัง้ นีห้ ากความเชือ่ ในมิติจิตวิญญาณ (Spiritual) ก่อให้เกิดสุนทรียภาพในการดำ�รงชีวิต แต่อีกด้านหนึ่ง ความเชื่อจน เกิดความลุม่ หลง งมงายและมัวเมา ใครเล่าจะเป็นคนตัดสินนอกจากตัวเราเอง ดังนัน้ ความเชือ่ ทีด่ งี าม จึงควรอยู่บนพื้นฐานของสติและใช้ความคิดอย่างมีวิจารณญาณ... เกร็ดความรู้ : https://th.wikipedia.org สัญลักษณ์แม่โพสพ (ไทย) คือ หญิงสาวท่าทางอ่อนช้อยสวยงาม ภาพของนางที่สร้างขึ้น เพื่อเคารพบูชา เป็นท่านั่งพับเพียบ มือขวาถือรวงข้าว มือซ้ายถือถุงข้าว แต่งกายนุ่งผ้าถุง ห่มผ้าสไบเฉียงแบบหญิงในวังสมัยก่อน สัญลักษณ์เทพีไอซิส (อียิปต์) คือ เป็นเทพีมีปีก (บางครั้งอาจไม่มี) เครื่องทรงศิราภรณ์ เป็นรูปบัลลังก์คล้ายขั้นบันได สัญลักษณ์เทพีเซเรส (กรีก) คือ หญิงสาวถือคทา ตะกร้าดอกไม้และผลไม้ และพวงมาลัย ที่ท�ำ จากรวงข้าว happy+ | 71
beauty by nature เรื่อง : ศศินี ปัญญารัตน์ ภาพประกอบ : boysandgirls www.facebook.com/boysandgirls.art
สวย เริด เชิด หยิ่ง ด้วยธรรมชาติ ตอน สูตรผักชีมีแล้วสวย
สวัสดีปใี หม่ไทยวันสงกรานต์คะ่ สาวงามของดิฉนั ทุกท่าน คิดถึง้ ...คิดถึง...บรรยากาศสาดนํา้ กันอย่างเมามัน เต้นกันกระจายเช้าจรดคํา่ ทีเ่ มืองไทยสุด ๆ เรือ่ งอากาศร้อนมาก ๆ ไม่เป็นปัญหา แถมยังเป็นทีช่ นื่ ชอบอีกต่างหาก เพราะสาว ๆ ทัง้ หลายได้มโี อกาสแต่งองค์ทรงเครือ่ งเอ็กซ์กนั สุดขีด นัน่ หมายความว่า สาว ๆ เขาได้เตรียมตัวกันเป็นอย่างดีแล้วในการโชว์ความงามของผิวสวยกระจ่างใส แลดูสขุ ภาพดี รวมทัง้ รูปร่างอันแสนจะเซ็กซีเ่ พือ่ ดึงดูดหนุม่ ๆ จริงไหมคะ เดี๋ยวค่อยกลับมาว่ากัน ว่าทำ�อย่างไรให้แลดูสวยตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าต้อนรับเทศกาลที่ร้อนแสนร้อนแบบนี้นะคะ
ที่อินเดียเขาก็มีเทศกาลที่คล้าย ๆ กันแบบนี้ เหมือนกันค่ะ ชือ่ ว่า เทศกาลโฮลีค่ ะ่ เป็นปีใหม่ของ เขาเหมือนบ้านเรา แต่เขาใช้สเี ป็นผง ๆ สาดแทนนํา้ เคยถามเพื่อนว่าสีผง ๆ นี้ เป็นอันตรายหรือเปล่า เขาบอกว่ า ไม่ เป็ น ไร เพราะทำ�จากสี ด อกไม้ ดิฉันก็จินตนาการเลยสิว่าทุ่งดอกไม้ที่อินเดียท่า จะใหญ่มากจริง ๆ แถมยังหลากหลายสีสันอีก ต่างหาก เพราะเขาใช้ดอกไม้เยอะมาก ๆ กับ ทุกสิ่งอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการบูชาพระเจ้า งาน แต่งงาน และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่สนุกมาก เหมือนกันค่ะ แบบภารตะ ๆ นะคะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า แต่ ยังไงดิฉันก็ชอบแบบสาดนํ้ามากกว่าค่ะ ทีนกี้ ลับมาทีส่ ตู รความงามกัน ดิฉนั ได้เกริน่ ๆ ไว้แล้วว่า คราวนี้ขอแนะนำ�สูตรความงามแบบ ธรรมชาติ ๆ จากพืชผักสวนครัวในบ้านเรา เปิด ตู้เย็นปั๊บ อย่างน้อยต้องมีติดบ้านไว้บ้าง แล้วยิ่ง อากาศร้อนแบบนี้ ขอแนะนำ�สูตรสวยด้วย คลาย ร้ อ นได้ ด้ ว ยดี ที่ สุ ด ค่ ะ แล้ ว สู ต รความงามจาก ธรรมชาติครั้งนี้มาจาก “ผักชี” ค่ะ 72 | happy+
หลาย ๆ ท่านคงยังไม่ทราบว่า ผักชีนี้แสน มหัศจรรย์ในเรื่องความงามไม่แพ้ผักหรือผลไม้ ชนิดอืน่ ๆ เพียงแต่กลิน่ อาจจะไม่ได้สำ�หรับบางคน เท่านั้นเองค่ะ แต่ถ้าหากไม่มายด์เรื่องกลิ่นแล้ว ละก็ มาดูกันต่อค่ะว่ามีสูตรเด็ด ๆ สำ�หรับความ งามอย่างไรบ้าง ผักชีอยูใ่ นพืชตระกูลแคร์รอตค่ะ ซึง่ ประกอบ ไปด้วยเซเลรี่ (Celery) พาร์สลีย์ (Parsley) ยี่หร่า (Cumin) พาร์สนิป (Parsnip) และแคร์รอต ทุกส่วน ของผักชีตั้งแต่เม็ดจนถึงใบ ล้วนแต่มีประโยชน์ ทั้งนั้น ส่วนมากก็จะใช้ในการทำ�อาหารค่ะ กรี ก โบราณใช้ นํ้ า มั น เม็ ด ผั ก ชี เ ป็ น ส่ ว น ประกอบในการทำ�นํ้าหอม นอกจากประโยชน์ ในการปรุงอาหารแล้ว ยังเป็นส่วนสำ�คัญในการ ปกป้องและป้องกันสุขภาพอีกด้วยนะคะ ผักชี อุดมไปด้วยวิตามินทีส่ ำ�คัญ ๆ มากมายและแอนติ ออกซิแดนต์ เช่น เบต้าแคโรทีน วิตามินซี และ โฟเลท เป็นต้นค่ะ
สูตรความงามสำ�หรับสุขภาพ
1. รักษาความเครียด ด้วยคุณสมบัตใิ นการช่วยผ่อนคลายกล้ามเนือ้ ผักชีชว่ ยทำ�ให้ระบบประสาทสงบ และผ่อนคลาย ความตึงเครียด ลดผลกระทบในการทำ�ให้เกิด ความวิตกกังวลค่ะ ดื่ ม นํ้ า ผั ก ชี ผ สมกั บ นํ้ า แตงกวาและเซเลรี่ ทุกเย็น จะช่วยทำ�ให้จติ ใจสงบและลดความเครียด ด้วยวิตามินบีหลากหลายชนิดในผักชี ทำ�ให้ไม่แก่ ก่อนวัยด้วยนะคะ 2. ทำ�ให้หลับสบาย ด้วยการลดความเครียดและความวิตกกังวล ผักชีช่วยพัฒนาการนอนหลับได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ค่ะ อย่างนี้ไม่ทำ�ให้ผิวพรรณยิ่งงามได้อย่างไร ใช่ไหมคะ 3. ดับกลิ่นกายธรรมชาติ ผั ก ชี ทำ�หน้ า ที่ เ ป็ น ตั ว ดั บ กลิ่ น กายตาม ธรรมชาติจากภายใน ด้วยความที่อุดมไปด้วย คลอโรฟิ ล ล์ ซึ่ ง สามารถดี ท็ อ กซ์ ร่ า งกายจาก
ภายในสู่ภายนอก ล้างสารพิษจากตับ ไต และ ทางเดิ น ระบบย่ อ ย ช่ ว ยในการขจั ด แบคที เรี ย ส่วนเกินออกจากร่างกาย ดังนัน้ สมุนไพรนีจ้ งึ ช่วย ในการทำ�ให้ร่างกายมีกลิ่นหอมสดชื่นค่ะ 4. ช่วยในการลดนํ้าหนัก สมุนไพรนี้เป็นสุดยอดสำ�หรับคนอ้วนเลย ละค่ะ เพราะช่วยในเรื่องการลดไขมัน ดังนั้นจึง ช่วยในการลดนํ้าหนักได้เป็นอย่างดี ใครอยาก ลดความอ้วนหรือควบคุมนํา้ หนักรับประทานผักชี เป็นประจำ�นะคะ
สูตรความงามสำ�หรับผิวพรรณ
5. รักษาสิวและสิวเสี้ยน ทำ�ได้งา่ ย ๆ ค่ะ เพียงนำ�นํา้ ผักชีสด 1 ช้อนชา ผสมกับนํ้ามะนาว 1 ช้อนชา ทาลงบนบริเวณผิว ที่มีสิวและสิวเสี้ยน ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง ล้าง ออกด้วยนํ้าอุ่น เพียงเท่านี้ก็ช่วยขจัดสิวได้เป็น อย่างดีทีเดียวเชียวค่ะ
6. ดีสำ�หรับผิวมัน ผักชีสามารถดูดซับนํา้ มันบนใบหน้าได้เป็นอย่าง ดี เพียงนำ�นํา้ ผักชีสดทาให้ทวั่ ใบหน้า ทิง้ ไว้ 1 ชัว่ โมง แล้วล้างออกด้วยนํ้าสะอาด ความมันส่วนเกิน บนไปหน้าก็จะหมดไปค่ะ ทำ�เป็นประจำ�นะคะ 7. ช่วยในการชะลอวัย ในผั ก ชี อุ ด มไปด้ ว ยแอนติ อ อกซิ แ ดนต์ มากมาย ซึ่ ง ช่ ว ยในการปกป้ อ งเซลล์ ผิ ว จาก การถูกทำ�ลายด้วยรังสีต่าง ๆ วิตามินเอ เป็น ส่วนสำ�คัญในการรักษาผิว วิตามินซี เป็นแอนติ ออกซิแดนต์ธรรมชาติที่มีพาวเวอร์มาก ๆ ใน การต่อสู้กับรังสีต่าง ๆ และช่วยในการปกป้อง สัญญาณการแก่กอ่ นวัย เช่น ริว้ รอยเหีย่ วย่น หรือ สีผิวไม่สมํ่าเสมอ เป็นต้นค่ะ 8. ช่วยให้ริมฝีปากอมชมพู เพียงนำ�นํา้ ผักชีคัน้ สดทาลงบนริมฝีปากเป็น ประจำ�สมํ่าเสมอค่ะ
สูตรความงามสำ�หรับผม
9. ป้องกันผมร่วง นํ้าผักชีคั้นสด ช่วยให้ผมขึ้นใหม่และลดการ หลุดร่วงของเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก ค่ะ เพราะอุดมไปด้วยโปรตีนและวิตามินหลาก หลายชนิด ในการทำ�ให้ผมขึ้น คุณสามารถนำ� ใบผักชีมาผสมกับนํ้าสะอาดเล็กน้อย ปั่นจนเป็น เนือ้ เนียนเหลว จากนัน้ นำ�มาทาให้ทวั่ ศีรษะ ทิง้ ไว้ ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วสระผมตามปกติค่ะ ให้ ทำ� 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ติดต่อกัน 2-3 สัปดาห์ ก็ เห็นผลได้อย่างชัดเจน หรืออีกวิธใี ห้คณ ุ นำ�แฮร์ออยล์ผสมกับผงเม็ด ผักชี ป่นให้เข้ากัน แล้วนำ�มานวดให้ทั่วศีรษะ ทิ้ง ไว้ 1 ชั่วโมง แล้วสระผมค่ะ แบบวิธีไหนก็ได้ตาม สะดวกนะคะ ทีส่ �ำ คัญหมัน่ ทำ�เป็นประจำ�ค่ะ
เอาละค่ะสาว ๆ ทีนี้เราก็เตรียมพร้อมสำ�หรับไปงานเทศกาลวันสงกรานต์ โดยไม่ต้องห่วงเรื่องผิวและผมจะเสีย เพราะอากาศร้อนและนํ้าไม่สะอาด อีกต่อไป สนุกกันให้เต็มที่ไปเลยค่ะ ฉบับหน้าขอแนะนำ�สูตรความงามแบบธรรมชาติ ๆ จากมังคุดกันบ้างนะคะ ฉบับนี้ ดิฉันลาไปก่อน สนุกกันวันสงกรานต์เผื่อดิฉันด้วยนะคะ พบกัน ฉบับหน้า สวัสดีวันสงกรานต์ค่ะ happy+ | 73
สิ่งนี้ที่เรารัก เรื่อง : Bella ภาพ : TepiN
แชมป์ ชุมพล นรเศรษฐีกุล
วันสบาย ๆ กับน้องหมี Rilakkuma ตุ๊กตาเป็นของขวัญที่เรามักจะมอบให้กับ ผู้รับเนื่องในโอกาสสำ�คัญต่าง ๆ ตุ๊กตาจึงถือเป็น ตัวแทนของความสุขทีอ่ ยากจะส่งต่อไปให้กบั ใคร ก็ตามทีเ่ ราผูกพัน แต่บางครัง้ ตุก๊ ตาทีเ่ ห็นว่าน่ารัก น่าสัมผัสก็เป็นสิ่งที่เราซื้อให้กับตัวเองได้เช่นกัน และเมือ่ คุณแชมป์ ชุมพล นรเศรษฐีกลุ ซึง่ ชอบเล่น ตู้ คี บ ตุ๊ ก ตาเป็ น ชี วิ ต จิ ต ใจ ได้ พ บกั บ น้ อ งหมี สีนา้ํ ตาล หน้าตาบูดบึง้ และชอบการพักผ่อนนามว่า ริลัคคุมะ จึงกลายเป็นความหลงใหลและเป็น จุดเริ่มต้นของการสะสมน้องหมีตัวนี้อย่างจริงจัง “เวลาไปเที่ยวที่ญี่ปุ่น โดยส่วนตัวจะชอบไป เล่นเกมตู้เพื่อคีบตุ๊กตาเป็นปกติ แต่พอได้เจอเจ้า หมีที่ชื่อว่าลิลัคคุมะในตู้คีบ รู้สึกว่ามันน่ารักดี 74 | happy+
ตัวกลม ๆ หน้าบึ้ง ๆ ดูขี้เกียจ ๆ รู้สึกว่าคล้ายกับ ตัวเรา ก็เลยเริ่มสะสมมาตั้งแต่นั้น ที่ตู้คีบจะ มีหลายไซส์ หลายขนาด ทั้งตัวเล็ก ตัวกลาง ตัวใหญ่ ช่วงนั้นก็เริ่มสะสมพร้อมกับที่เริ่มมีผู้นำ� เข้ามาขายในประเทศไทย “เจ้าหมีริลัคคุมะ มาจากคำ�ว่า Relax + Kuma ก็คอื หมีผอ่ นคลาย เป็นหมีสนี าํ้ ตาลทีช่ อบ นอนมาก ๆ และในกลุ่มผองเพื่อนของเขาก็จะมี โคริลคั คุมะ เป็นน้องหมีตวั เล็กสีขาว คิอโิ ระอิโทะริ น้องไก่สีเหลือง และตัวที่ออกมาเมื่อปีก่อน ชื่อ โคกุมะจัง เป็นหมีสนี าํ้ ตาลมีขนตรงหน้าอกยาว ๆ และมีรอยเท้าเป็นรูปหมี ซึง่ ข้อดีของตุก๊ ตาเหล่านี้ คือ จะมีคอลเลคชั่นต่าง ๆ ผลิตออกมาให้เรา
ได้เลือกสะสมกัน เช่น ทั้งคริสต์มาสต์ ฮัลโลวีน ปีใหม่ ปีนักษัตร ชุดยูกาตะ ซึ่งบางคอลเลคชั่น จะเป็นลิมิเต็ด และมีขายเฉพาะบางสาขาเท่านั้น เราก็ ต้ อ งไปเสาะหามาให้ ได้ เช่ น ฮอกไกโด ซัปโปโร กว่าจะตามหาได้ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือน กัน (หัวเราะ) “สำ � หรั บ ตั ว ที่ ช อบที่ สุ ด ในบรรดาที่ ส ะสม จะเป็นตัวน้องหมีรลิ คั คุมะสีทอง ซึง่ เพือ่ นซือ้ มาฝาก จากญี่ปุ่น คือพอเราเริ่มสะสมเพื่อน ๆ ก็จะรู้ว่า เราบ้าน้องหมีตัวนี้มาก เวลาเขาไปที่ไหนแล้ว เจอ ก็จะซื้อมาฝาก บางครั้งก็ซํ้ากับที่เรามีบ้าง บางครั้งก็เป็นตัวใหม่ ๆ ที่เราอยากได้ แต่สำ�หรับ น้องหมีสที อง ส่วนตัวรูส้ กึ ว่ามันแปลกและไม่คอ่ ย
เห็นในประเทศไทยสักเท่าไหร่ แถมยังเป็นลิมิเต็ด ในประเทศญี่ปุ่นด้วย เพราะการที่จะได้มาต้องไป เล่นจากตู้คีบตุ๊กตาเท่านั้น และอีกตัวหนึ่งที่ชอบ มากก็คือ หมีริลัคคุมะปีเสือ ซึ่งอยู่ในคอลเลคชั่น ปีนักษัตร แชมป์เกิดปีเสือก็ไปตามหา แต่กว่าจะ ได้มา ยากมาก เพราะตอนที่เราเก็บสะสมมันเลย ปีเสือไปแล้ว จึงเป็นคอลเลคชั่นเก่าซึ่งหาซื้อไม่ได้ แล้ว ต้องซือ้ ต่อจากคนทีม่ ไี ว้อกี ทอดหนึง่ ซึง่ แชมป์ จะเก็บแทร็กไว้หมดทุกตัว ไม่แกะออกเลย เพื่อที่ จะได้รู้ว่าอันนี้ซื้อมาปีไหน ราคาเท่าไหร่ “นอกจากตุก๊ ตาแล้ว ทางบริษทั ผูผ้ ลิตก็แตก ไลน์สินค้าออกมามากมาย เช่น สมุดโน้ต ปากกา ถ้วย ชาม จาน ช้อน ส้อม สติก๊ เกอร์ จักรยาน ฯลฯ ซึ่งแชมป์ก็สะสมด้วย” ความสุขทีไ่ ด้จากการสะสมตุก๊ ตาหมีพกั ผ่อน คุณแชมป์บอกกับเราว่า
“เวลาทำ�งานเครียด ๆ มา มองดูกี่ครั้งก็รู้สึก ดีขึ้น บางตัวแชมป์ยังไม่เคยแกะออกจากถุงเลย ดูแลดีมาก ถ้าหากอยากลองสะสมอะไรสักอย่าง ต้องดูว่าเราชอบอะไร ถามตัวเองให้แน่ใจก่อน เมื่อมั่นใจแล้ว เราก็เดินหน้าต่อได้เลย เพียงแต่ อย่าทำ�ให้คนอื่นเดือดร้อน เพราะของสะสมมัน ช่วยให้เราผ่อนคลายและทำ�ให้เรามีความสุขได้ จริง ๆ อันนี้รับรอง” นอกจากน้องหมีริลัคคุมะแล้ว คุณแชมป์ ยังสะสมของจำ�พวกฟิกเกอร์จากแอนิเมชั่นญี่ปุ่น เรื่องต่าง ๆ อีกด้วย เช่น Kantai Collection, Mahou Shoujo Lyrical Nanoha, Miku Hatsune ฯลฯ ถื อ เป็ นความสุ ข เล็ ก ๆ น้ อ ย ๆ ใกล้ ตั ว ที่ เรา สามารถสร้างได้ด้วยตัวเองค่ะ
happy+ | 75
travelogue เรื่องและภาพ : TepiN
1
Tokyo Disneyland
สู่ดินแดนแห่งความเป็นเด็กอีกครั้ง 76 | happy+
1 ปราสาทจากเรื่องซินเดอเรลลา 2 พายเรือแคนูในโซน Adventureland 3 วอลเตอร์ อีเลียส ดิสนีย์ ผู้ก่อตั้งวอลต์ ดิสนีย์
2
สำ�หรับหลายคนที่เลือกไปโตเกียว ประเทศ ญี่ปุ่น หนึ่งในสถานที่ที่ต้องไปให้ได้ คงหนีไม่พ้น Tokyo Disneyland ใช่ไหมละคะ เพราะในช่วงวัย เด็ก เราเติบโตมาพร้อมกับภาพยนตร์การ์ตูนของ ค่ายวอลต์ ดิสนีย์ พอสิ่งที่เราเคยได้ดู ทั้งปราสาท เจ้าหญิงเจ้าชายที่สวยงาม ทั้งตัวการ์ตูนน่ารัก ๆ ที่หลากหลาย ได้มีตัวตนมาโลดแล่นในชีวิตจริง ก็พลาดไม่ได้ที่จะพาตัวเองเข้าไปสัมผัสโลกแห่ง จินตนาการในความเป็นจริงสักครั้ง สำ�หรับในภูมภิ าคเอเชีย ดิสนียแ์ ลนด์ มีอยูด่ ว้ ยกัน สามที่ คือ ที่ประเทศฮ่องกง ที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งที่ฮ่องกงเคยไป มาแล้ ว รู้ สึ ก ถึง บรรยากาศที่ แตกต่ างกั น ได้ เป็ น อย่างดี ประมาณว่าที่ฮ่องกงคนจะเที่ยว และเล่น เครือ่ งเล่นกันอย่างสนุกสนาน เป็นสวนสนุกให้ความ บันเทิง แต่ทโี่ ตเกียว สวนสนุกมักเป็นหนึง่ ในสถานที่ นัดเดตของหนุ่มสาว จะมีความน่ารัก สนุกสนาน ปนโรแมนติกนิด ๆ แบบนั้นแหละค่ะ สำ�หรับทีโ่ ตเกียว สวนสนุกดิสนียแ์ ลนด์จะแบ่งเป็น 2 2 สวนสนุ ก ที่ มี ค วามแตกต่ า งกั น คื อ โตเกี ย ว
ดิสนีย์แลนด์ เป็นสวนสนุกสำ�หรับเด็ก ๆ เน้นตัว การ์ตูนน่ารัก ๆ และเรื่องราวจากโลกเทพนิยาย เครื่ อ งเล่ น ไม่ โลดโผนมากเท่ า ไหร่ ส่ ว นโตเกี ย ว ดิสนียซ์ ี สวนสนุกริมทะเล เครือ่ งเล่นยกระดับความ หวาดเสียวขึ้นมาอีกหน่อย เหมาะสำ�หรับคนที่ชอบ ความท้าทายมากขึ้น จริ ง ๆ แล้ ว โตเกี ย วดิ ส นี ย์ แ ลนด์ ไม่ ได้ อ ยู่ ในโตเกียวเสียทีเดียว แต่ตั้งอยู่ในเมืองชิบะ ซึ่ง อยู่ ติ ด กั บ โตเกี ย ว เดิ น ทางด้ ว ยรถไฟฟ้ า จาก ตัวเมืองโตเกียวไปไม่นาน เปิดให้บริการมาตัง้ แต่ 15 เมษายน ค.ศ. 1983 ซึ่งถือเป็นดิสนีย์แลนด์แห่งแรก ทีส่ ร้างขึน้ นอกสหรัฐอเมริกา มีรปู แบบของสวนสนุก เช่นเดียวกับดิสนีย์แลนด์ในแคลิฟอร์เนีย และเมจิค คิงดอมในฟลอริดา เจ้าของคือ The Oriental Land Company จัดสร้างขึ้นภายใต้การดูแลเรื่องลิขสิทธิ์ โดย The Walt Disney Company การซื้อตั๋วมีด้วยกันหลายช่องทาง ทั้งซื้อจาก เอเยนซี่ที่รับเข้ามาขายในประเทศไทย ซื้อผ่านช่อง ทางออนไลน์ ซื้อในร้านสะดวกซื้อของญี่ปุ่น หรือ ซื้ อ ที่ ห น้ า เคาน์ เตอร์ ส วนสนุ ก ก็ ได้ ราคาของตั๋ ว
3
ประเภทวันเดียวของผู้ใหญ่อยู่ที่ 7,400 เยน แต่จะมี ตั๋วอีกประเภท ที่ราคาถูกลงมาหน่อย คือ ตั๋วแบบ สตาร์ไลท์ เข้าสวนสนุกได้ตง้ ั แต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป ในวันเสาร์อาทิตย์ กับตั๋วแบบอาฟเตอร์ 6 ที่ใช้ เข้าสวนสนุกได้ตั้งแต่เวลา 18.00 น.ในวันธรรมดา 3 ที่มีตั๋วแบบนี้ ก็อย่างที่เกริ่นกันไปตั้งแต่แรก ว่า สวนสนุกเป็นสถานทีน่ ดั เดตทีไ่ ด้รบั ความนิยมในญีป่ นุ่ หนุม่ สาวทีน่ กี่ จ็ ะมาเดตกันในช่วงหลังเลิกเรียน หรือ หลังเลิกงาน หรือบางคนอาจจะแค่เข้ามาดูขบวน พาเหรด ที่จัดเต็มแสงสีเสียงในตอนกลางคืนค่ะ สำ � หรั บ การเดิ นทางมายั ง สวนสนุ ก โตเกี ย ว ดิสนียแ์ ลนด์ ให้ขนึ้ รถไฟสายไคโย หรือสายมุซาชิโนะ ทีส่ ถานีโตเกียว และลงทีส่ ถานีไมฮามะ หลังจากนัน้ จะขึ้ น รถไฟของดิ ส นี ย์ รี ส อร์ ต หรื อ เดิ น จาก สถานีตรงทางเชื่อมไปยังโตเกียวดิสนีย์แลนด์ก็ได้ เพราะระยะทางก็ไม่ไกลมากนัก หากเดินมาจาก สถานีรถไฟ ตรงทางเข้าจะเห็น Tokyo Disney Resort เป็นโรงแรมที่ตกแต่งสไตล์ธีมปาร์ค มีของประดับ เป็นตัวละครจากดิสนีย์มากมาย เมือ่ ผ่านโรงแรมและเดินไปต่อ ก็จะถึงซุม้ ประตู happy+ | 77
4
ทางเข้าโตเกียวดิสนีย์แลนด์ เมื่อซื้อตั๋วเสร็จ เขาจะ ให้โบรชัวร์ที่เป็นแผนผังในสวนสนุก รวมทั้งข้อมูล เครื่ อ งเล่ น แต่ ล ะเครื่ อ งเล่ น ว่ า เด็ ก สามารถเล่ น คนเดียวหรือต้องมีผปู้ กครองไปด้วย รวมทัง้ เครือ่ งเล่น ที่มีความหวาดเสียว ไม่เหมาะสำ�หรับผู้ทโ่ ี รคประจำ�ตัว อย่างโรคความดันโลหิตสูงหรือโรคหัวใจ ที่ตั๋วจะ มีบาร์โค้ดอยู่ ใช้สำ�หรับผ่านเข้าประตู เมื่อผ่าน เข้าไปด้านในอย่าเพิ่งทิ้งตั๋วนะคะ เพราะตั๋วนี้ยังมี ประโยชน์อยู่ โซนแรกที่เราจะเจอ ถือเป็นธรรมเนียมของทุก สถานทีท่ อ่ งเทีย่ ว ดักเราทัง้ ทางเข้าทางออก นัน่ ก็คอื โซนจำ�หน่ายของทีร่ ะลึก World Bazaar มีรา้ นขายของ มากมายที่ เป็ นของลิ ข สิ ท ธิ์ ข องทางดิ ส นี ย์ ของ ที่ขายดีตั้งแต่เริ่มเห็นจะเป็นหมวกตุ๊กตาน่ารัก ๆ ที่ มักจะใส่กนั เป็นคู่ ไม่วา่ จะตัวการ์ตนู ในตำ�นานอย่าง มิกกีเ้ มาส์-มินนีเ่ มาส์ หรือเจ้าเป็ดขีโ้ มโหกับแฟนสาว โดนัลด์ดกั๊ -เดซี่ พีน่ อ้ งชิปมังก์จอมซ่าอย่างชิพแอนด์ เดล และตัวการ์ตนู อืน่ ๆ อีกมากมาย มองไปทางไหน ก็ เ ห็ น คนใส่ ห มวกแบบนี้ แ ทบทุ ก คน ถื อ เป็ น บรรยากาศน่ารัก ๆ อย่างหนึ่งเลยละค่ะ ถั ด จากโซนร้ า นขายของ ก็ จ ะมาถึ ง ไฮไลต์ ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของดิสนีย์แลนด์ นั่นคือ 78 | happy+
ปราสาทของเจ้าหญิง ซึ่งที่โตเกียวจะเป็นปราสาท ในเรื่องซินเดอเรลลา ตัวปราสาทมีความยิ่งใหญ่ สวยงาม ล้อมรอบด้วยสวนและคูนํ้าตามแบบฉบับ การ์ตนู ใครทีเ่ ป็นแฟนตัวยง รับรองว่าต้องปลืม้ ปริม่ เป็นที่สุด ภายในปราสาทก็จะจัดตกแต่งตามแบบ ภาพยนตร์การ์ตูน รวมทั้งมีโมเดลในตอนต่าง ๆ เช่น ฉากงานเต้นรำ�ระหว่างเจ้าชายกับซินเดอเรลลา ฉากซิ น เดอเรลลาวิ่ ง ออกจากงานเต้ น รำ � ในช่ ว ง เวลาเที่ยงคืน หลังจากเยี่ยมชมปราสาทเป็นที่เรียบร้อย ก็ เอาแผนผังในสวนสนุกมากางดูกันอีกครั้ง โดยเริ่ม เข้าไปจากทางฝั่งซ้ายก่อน ในโซน Adventureland เป็นโซนการผจญภัยในป่าใหญ่และดินแดนแห่ง โจรสลัด เราจะได้ลอ่ งเรือผจญภัยไปตามแม่นา้ํ ในป่าที่ ยั ง รอการค้ น พบ ก่ อ นจะไปต่ อ ที่ Westernland ซึง่ ย้อนยุคไปในช่วงคาวบอย เครือ่ งเล่นทีไ่ ด้รบั ความ นิยมคือ Big Thunder Mountain รถไฟที่วิ่งเลาะไป ตามภูเขาที่สลับซับซ้อน เครื่องเล่นที่คนเล่นเยอะ ๆ จะมีคิวต่อแถวสองช่องทาง ช่องทางแรกสำ�หรับ แถวธรรมดา อีกช่องทางเป็นแถว Disney FASTPASS หรือทีค่ นญีป่ นุ่ ออกเสียงกันว่า ฟาสโตะ พาสโตะ ซึง่ จะใช้ เข้าไปเล่นในรอบที่ระบุไว้ในตั๋ว FASTPASS ได้ทันที
5
การที่เราจะได้ FASTPASS มา ก็ต้องการนำ�ตั๋วผ่าน ประตูทไี่ ด้มาตัง้ แต่แรก ไปสแกนทีเ่ ครือ่ ง FASTPASS เมื่อได้รอบเวลาที่กำ�หนดแต่ยังไม่ถึงเวลา เราก็จะ สามารถไปเล่นเครือ่ งเล่นอืน่ ก่อนได้ แล้วค่อยกลับมา เล่นเครือ่ งเล่นทีเ่ ราต้องการเมือ่ ถึงรอบ และเครือ่ งจะ ไม่สแกนบาร์โค้ดซํ้าเพื่อให้ FASTPASS ของเครื่อง เล่นอื่นได้ ถ้ารอบเวลาตรงกัน
4 ทางเข้า Small World 5 รูปปั้นมิกกี้เม้าส์ในโซน Toontown 6 ขบวนพาเหรดยามคํ่าคืน 7 สโนไวท์ในขบวนพาเหรด
6
หลังจากได้ FASTPASS ของโซน Westerland แล้ว เราก็ขา้ มไปทีโ่ ซน Critter Country เป็นการเดินทาง ในแม่ นํ้ า สายหลั ก ของประเทศอเมริ ก า ต่ อ แถว เครือ่ งเล่น Splash Mountain เพือ่ รอเวลากลับไปเล่น ที่ Big Thunder Mountain หลังจากเล่นเครื่องเล่น จนครบ ก็ทันได้ดูขบวนพาเหรดในรอบ 14.00 น. พอดี ขบวนพาเหรด Happiness is Here รวบรวมเอา เพือ่ นพ้องชาวดิสนีย์ ไม่วา่ จะเป็นมิกกีเ้ มาส์ มินนีเ่ มาส์ กู๊ฟฟี่ โดนัลด์ดั๊ก และอื่น ๆ อีกมากมาย ออกมา เดินขบวนพาเหรด เต้นประกอบเพลง สร้างความ สนุกสนานให้กับคนรอดูที่อยู่กันแน่นทางเดิน หลังจากขบวนพาเหรดจบ ก็ถึงเวลาเติมพลัง ให้ร่างกาย ในสวนสนุกจะมีร้านอาหารตามธีม ของแต่ละโซน รวมทั้งซุ้มขายขนม ขายเครื่องดื่ม หลากหลายรูปแบบ อยู่โซนไหนก็สามารถอิ่มอร่อย กับเมนูที่ไม่มีซํ้ากันเลยค่ะ หลังจากนั้น เราข้ามโซนของ Fantasyland เครื่ อ งเล่ น เด่ น ๆ อย่ า ง Pooh’s Hunny Hunt ปิดให้บริการไปตัง้ แต่ 15.00 น. จึงเหลือแค่ Haunted Mansion บ้านผีสงิ ทีท่ ง้ั น่ากลัวและน่าตืน่ ตาตืน่ ใจ เพราะ ระบบฮอโลกราฟิกของภูตผีวิญญาณ ที่ออกมา หลอกหลอนตลอดสองข้างทางที่เรานั่งรถรางผ่าน
ก่ อ นจะเข้ า ไปในโซนของ Toontown เป็ น โซนที่ อยู่ อ าศั ย ของมิ ก กี้ เมาส์ แ ละผองเพื่ อ น ก่ อ นจะ ปิดท้ายที่โซน Tomorrowland โซนนี้ได้รับความนิยม เป็นอย่างมาก ทุกคนจะหลุดเข้าห้วงอวกาศและ โลกอนาคต เมื่อเปรียบเทียบกับทุกโซนแล้ว โซนนี้ ถื อ ว่ า มี เครื่ อ งเล่ นที่ ส นุ ก และน่ า หวาดเสี ย วที่ สุ ด อย่าง Star Tours : The Adventures Continue ที่จะ พาเราไปตะลุยอวกาศด้วยยาน Starspeeder 1000 ความเร็วสูง สนุกจนต้องมาต่อแถวเล่นซํ้า และ ออกไปสำ�รวจดวงดาวด้ ว ยกระสวยอวกาศที่ เครื่องเล่น Space Mountain เล่นกันมาจนถึงช่วงหัวคํ่า สวนสนุกเริ่มเต็มไป ด้วยสีสันของแสงไฟหลากสี นักท่องเที่ยวก็ดูจะ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากคนที่เข้ามารอบเย็น ปราสาท ซินเดอเรลลาทีส่ วยอยูแ่ ล้ว พอตกตอนกลางคืนแล้ว เปิดไฟ ก็ยิ่งดูสวยเข้าไปใหญ่ เดินเล่นดูไฟไปรอบ ๆ เห็นนักท่องเที่ยวเริ่มจับจองที่นั่งสำ�หรับดูพาเหรด รอบคํ่า พาเหรดช่วงกลางคืนของที่นี่ ถือเป็นไฮไลต์ อีกอย่างที่ไม่ควรพลาดเลยนะคะ ถึงขนาดมีคนมา จองที่นั่งหน้า ๆ กัน เพื่อให้ได้มุมที่ดีที่สุด เวลา 19.30 น. ฟ้ า มื ด สนิ ท เสี ย งเพลงก็ ดังขึน้ พร้อมการปรากฏตัวของขบวนพาเหรดทีเ่ ต็ม
7
ไปด้วยแสงไฟหลากสีนบั แสนดวง เริม่ ด้วยขบวนหลัก อย่างมิกกีเ้ มาส์และผองเพือ่ น ต่อด้วยขบวนเจ้าหญิง ดิสนีย์ทั้งสโนไวท์ ซินเดอเรลลา ตัวการ์ตูนดัง ๆ มากมาย อย่างยักษ์จินนี่จากเรื่องอะลาดิน วูดดี้ บั๊กไลค์เยียร์ จากทอยส์สตอรี่ หมีพูห์ ทิกเกอร์ และ พิกเลท จากวินนีเ่ ดอะพูห์ ปลานีโม่ จากเรือ่ งไฟดิง้ นีโม่ และตัวละครอื่น ๆ อีกมากมาย ที่มาสร้างสีสันและ ความสุขให้กับคนที่รอดูขบวนพาเหรด สำ�หรับเด็ก ๆ แล้ว ขบวนพาเหรดและการ มาเที่ยวสวนสนุกแบบนี้ คงเป็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ อยู่ไม่น้อย แต่สำ�หรับผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ การได้ เห็นตัวการ์ตูนต่าง ๆ เหมือนเราได้เจอกับเพื่อนเก่า ที่ไม่ได้เจอกันมานาน ได้กลับไประลึกถึงตอนที่เรา เป็นเด็ก ต้องตื่นแต่เช้าขึ้นมาดูการ์ตูนดิสนีย์ รอชม ภาพยนตร์การ์ตนู ทีม่ าเข้าฉายในบ้านเรา และอาจจะ มี ตั ว การ์ ตู น บางตั ว ที่ เราชื่ นชอบมากเป็ น พิ เศษ แต่ เ มื่ อ เราโตขึ้ น บางครั้ ง ก็ ห ลงลื ม ไปแล้ ว ว่ า ก่อนหน้านั้น เราเคยรู้สึกแบบไหน จนได้มีโอกาส มาเที่ ย วโตเกี ย วดิ ส นี ย์ แ ลนด์ ก็ เ ป็ น การย้ อ น ความทรงจำ�ดี ๆ ในวัยเด็กของเราให้กลับมาหวน คิดถึงอีกครั้งอย่างไรอย่างนั้นเลยค่ะ happy+ | 79
การเดินทางของนกสีฟ้า เรื่อง : TepiN
1
กิ่วแม่ปาน
ความงดงามที่ความสูง 2,200 เมตร
หากถามถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่กำ�ลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน เชื่อแน่ว่า เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน จะต้องเป็นหนึ่งใน คำ�ตอบของใครหลาย ๆ คนอย่างแน่นอน บางคนอาจวางแผนที่จะไป บางคนอาจเคยไปมาแล้ว และมีหลายคนที่ไปแล้วก็อยากจะไปอีก เพราะ ความสวยงามของทิวทัศน์บนจุดชมวิวยอดกิ่วแม่ปานนั่นเอง 80 | happy+
1 จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน 2 ต้นกุหลาบพันปี 3 นํ้าตกลานเสด็จ
3
2
กิ่วแม่ปาน อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอย อินทนนท์ บริเวณกิโลเมตรที่ 42 ของถนนสาย จอมทอง-ยอดดอยอินทนนท์ เป็นเส้นทางเดิน ศึกษาธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร จุดยอดสุดของกิ่วแม่ปานคือ 2,200 เมตรจาก ระดั บ นํ้ า ทะเล หากไปถึ ง ในช่ ว งเช้ า จะได้ เห็ น วิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่สวยงามอีก ด้วยค่ะ 1 ด้วยความที่เราพักอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ และอยากจะขึ้นกิ่วแม่ปานในช่วงเช้า เราจึงเริ่ม ออกเดินทางกันตั้งแต่ตีห้าครึ่ง โดยใช้เส้นทาง สายเชียงใหม่-ฮอด ก่อนจะเข้าอำ�เภอแม่แจ่ม และเปลีย่ นไปใช้ถนนสายจอมทอง-ดอยอินทนนท์ เพื่อขึ้นสู่ยอดดอย อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จะมีการเก็บค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน โดยอัตรา
ค่าบริการสำ�หรับชาวไทยคือ เด็ก 20 บาท ผู้ใหญ่ 50 บาท เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานอยู่ก่อน ถึงยอดดอยอินทนนท์ เมื่อเรามาถึงที่ศูนย์บริการ นักท่องเทีย่ วกิว่ แม่ปานตอนแปดโมงเช้า สิง่ แรกที่ รับรู้ได้เมื่อลงจากรถตู้ คือ อากาศหนาวที่พัดเข้า ใส่แบบเต็ม ๆ อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 9 องศา เซลเซียส ถึงกับต้องรีบหาเสื้อผ้ามาใส่เพิ่มความ อบอุ่นกันอย่างรวดเร็ว และหาอะไรรับประทาน ก่อนจะไปเดินขึ้นเขาอีกหลายกิโลเมตร วันทีไ่ ปเป็นวันเสาร์ ทำ�ให้มนี กั ท่องเทีย่ วเดินทาง กันมาอย่างคับคัง่ แถวสำ�หรับรอคิวเพือ่ เตรียมตัว เข้ า ไปศึ ก ษาธรรมชาติ ย าวเลยมาจนถึ ง ลาน จอดรถ เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวต้องอาศัยไกด์ ท้องถิน่ นำ�ทาง โดยไกด์ 1 คนจะดูแลนักท่องเทีย่ ว
ได้ไม่เกิน 10 คน และด้วยจำ�นวนนักท่องเที่ยว ที่มีมากกว่าจำ�นวนไกด์ จึงต้องรอคิวไกด์ที่พา นักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น ๆ กลับลงมาก่อน เพื่อสับ เปลี่ยนหมุนเวียนกัน รออยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง ไกด์ของกลุ่มเราก็มาถึง ไกด์ของที่นี่จะคิดค่า นำ�ทาง 200 บาท ต่อ 1 กลุ่ม ส่วนการแต่งกายก็ ควรจะแต่งกายให้รัดกุม ใส่เสื้อกันหนาวแขนยาว กางเกงขายาว รองเท้าหุ้มส้น รวมทั้งพกหมวก และนํ้าดื่มขึ้นไปด้วย ไกด์จะแนะนำ�เส้นทางศึกษาธรรมชาติทั้ง 21 จุดแบบคร่าว ๆ ก่อนจะพาเราเข้าไปเดินใน กิ่วแม่ปาน ที่นี่จะเปิดให้เดินได้ตั้งแต่ช่วงเวลา หกโมงเช้าจนถึงสี่โมงเย็น ไกด์ส่วนใหญ่จะเป็น ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ ผ่านการอบรมมัคคุเทศก์มาแล้ว ก่อนทางขึ้นไกด์ จะแนะนำ�ให้นำ�ไม้คํ้าติดตัวไปด้วย สำ�หรับช่วย พยุงตัวเวลาเดินขึ้นทางลาดชัน เส้นทางช่วงแรกจะเป็นป่าดิบเขาที่เรียกว่า ป่าเมฆ เพราะมีความสูงที่ระดับเดียวกับเมฆ มี เมฆปกคลุมตลอดทั้งปี บรรยากาศโดยทั่วไปของ ทีน่ จี่ ะมืดครึม้ มีแสงแดดลอดผ่านเข้ามาแบบรำ�ไร มีตน้ ไม้ใหญ่ตลอดสองข้างทาง รวมทัง้ มอสส์ และ เฟินหลากหลายชนิด เส้นทางการเดินไม่ค่อย ลำ�บากมาก ช่วงไหนที่เป็นทางชันมาก ๆ จะมี การทำ�พื้นเป็นเหมือนขั้นบันไดเพื่อให้เดินง่ายขึ้น happy+ | 81
แม้เส้นทางจะทำ�ไว้ให้เดินง่าย แต่ก็ใช่ว่า จะไม่เหนื่อย เพราะเป็นทางเดินสลับขึ้น ๆ ลง ๆ และลาดชันให้ได้ออกแรงกันอยู่เป็นระยะ จนถึง จุดแวะพักแรก สิ่งที่นักท่องเที่ยวหลายคนทำ�ก็ คือ ดื่มนํ้าที่พกติดตัวกันมาพร้อมถอดเสื้อกัน หนาวชั้นนอก ๆ ออก เพราะยิ่งเดินก็ยิ่งเหนื่อย พอเหนื่อยก็เริ่มร้อน เดินไปตามทางเรื่อย ๆ ก็ได้ยินเสียงนํ้าตก แว่วมา จนมาเจอกับ นํ้าตกลานเสด็จ แม้ว่า จะเป็นนํ้าตกเล็ก ๆ ที่ไม่สามารถลงเล่นได้ แต่ นํ้าตกแห่งนี้ก็ช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับกิ่ว แม่ปานได้เป็นอย่างดี ตรงนี้เราสามารถนั่งเล่น ฟังเสียงนํ้าตกและเก็บภาพสวย ๆ เป็นการพัก เหนื่อยไปในตัว ใช้เวลาเดินต่ออีกประมาณครึ่งชั่วโมง ทาง เดิ นขึ้ น เขาจะทะลุไปยัง ทุ่ง โล่ง กว้างของสันกิ่ว แม่ปาน ทุ่งหญ้าเมืองหนาวบริเวณยอดเขา เริ่ม เปลี่ยนจากสีเขียวชอุ่มเป็นสีนํ้าตาล มีดอกไม้
6
4
5 82 | happy+
ดอกหญ้า และเฟินขึ้นอยู่ตามทาง ช่วงเวลาที่ขึ้น มาถึงประมาณสิบโมงกว่าเกือบ ๆ สิบเอ็ดโมง วันที่ไปเป็นวันแดดจัด ท้องฟ้าเลยเปิดโล่ง ไม่เห็น ทะเลหมอก แต่เห็นทะเลภูเขาแทน พร้อมกับภาพ ของทุ่งหญ้าสีเหลืองทองตัดกับสีสดของท้องฟ้า อย่างลงตัว แดดจัดแต่รู้สึกไม่ร้อนมาก ทำ�ให้ยัง มีแรงเดินไปกันต่อ ไม่ไกลกันนักก็จะถึงจุดสูงสุด ที่เป็นจุดชมวิวของกิ่วแม่ปาน เพียงแค่ได้เห็นทิวทัศน์ตรงหน้า ก็ทำ�ให้เรา ลืมความเหน็ดเหนือ่ ยทีผ่ า่ นมาเกือบหนึง่ ชัว่ โมงไป เป็นปลิดทิ้ง วิวท้องฟ้ากว้าง ๆ แบบ 180 องศา พร้อมภูเขาลูกเล็กลูกน้อยในเชียงใหม่ที่ทอดตัว ไกลสุดสายตา บนความสูงกว่า 2,200 เมตร เป็น วิวทีไ่ ม่ได้เห็นกันง่าย ๆ ในชีวติ ประจำ�วัน นอกจากนี้ ยั ง มี ร ะเบี ย งไม้ ให้ ห ยุ ด ยื น เก็ บ ภาพและชื่ นชม บรรยากาศ เราใช้เวลาตรงนั้นกันอยู่พักใหญ่ เพื่อ ดืม่ ดํา่ กับความงดงามให้คมุ้ ค่าทีไ่ ด้เดินทางกันมา ถึงจุดนี้ กลุม่ นักท่องเทีย่ วจะต้องเลือกว่า จะ
เดินต่อไป หรือกลับลงไปทางเดิม เพราะระยะทาง ทีไ่ ปต่ออีก 2 กิโลเมตรนัน้ เส้นทางค่อนข้างลาดชัน กว่าขามา ท้ายที่สุดเราก็เลือกที่จะไปต่อ เพราะ มาถึงตรงนี้แล้ว ก็ต้องไปให้สุด และเส้นทางที่เราได้พบหลังจากนั้น ถือว่า การเลือกไปต่อเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องไม่น้อย ทีเดียว เพราะมีวิวที่เรียกได้ว่าไม่อาจละสายตา ไปได้อยูม่ ากมาย ทัง้ เส้นทางทีเ่ ลาะสันเขาบริเวณ ริมหน้าผา เรียกความเสียวแต่ก็เต็มไปด้วยความ สวยงาม ทางจะค่อย ๆ แคบลงจนเดินได้ทีละ คน ช่วงไหนที่ชันหน่อยก็จะมีไม้กระดานมาปูพื้น กันลื่น และมีรั้วไม้กันนักท่องเที่ยวพลัดตก ซึ่ง แต่เดิมเส้นทางนี้เป็นเส้นทางสำ�หรับเจ้าหน้าที่ไว้ เดินสำ�รวจป่า ก่อนจะมาเปิดเป็นเส้นทางศึกษา ธรรมชาติ และมาได้รับความนิยมเมื่อไม่กี่ปีที่ ผ่านมา ผ่ า นผาแง่ ม น้ อ ย ที่ เ ป็ น หิ น 2 แท่ ง ตั้ ง ตระหง่ า นอยู่ คู่ กั นตรงหน้ า ผาริ ม สั น เขา หิ นที่
4 ดอกไม้ป่าริมทางเดิน 5 นกออกมาหาอาหาร 6 ทางเดินริมสันเขา 7 ด้วงกว่าง 8 ดอกหญ้า 9 ยอดเฟิร์นกูดเกี๊ยะ 10 ผาแง่มน้อย
7
10
8
7
9
ผาแง่ ม น้ อ ยเป็ น หิ น แกรนิ ต เนื้ อ ปานกลางยุ ค ไทรแอสซิก มีอายุประมาณ 200 ล้านปี สมัยก่อน ชาวบ้านที่มีคู่มักจะพาคนรักของตนมาสาบาน รักต่อหน้าผาแง่มน้อยแห่งนี้ โดยมีความเชื่อว่า จะช่วยให้ครู่ กั ได้ครองคูก่ นั ไปจนแก่เฒ่า นอกจากนี้ แล้วจุดเด่นอีกอย่างหนึง่ ทีส่ นั เขาก็คอื ต้นกุหลาบ พันปี ที่ออกดอกสีแดงสดให้ได้ชื่นชมกันในช่วง ฤดูหนาว พอเดิ น มาสุ ด ช่ ว งสั น เขา จะมี จุ ด ชม พระอาทิ ต ย์ ขึ้ น ที่ ส วยที่ สุ ด บนกิ่ ว แม่ ป านอยู่ ด้วย เนื่องจากพระอาทิตย์จะขึ้นมาระหว่างพระ มหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิ สิริพอดี ซึ่งบริเวณนี้ถือเป็นจุดชมวิวลับ เรียกว่า ต้องเป็นคนเคยมาหลายครั้งถึงจะรู้ เพราะถ้า หากอยากมาดูพระอาทิตย์ขึ้นจากตรงนี้ ต้อง บอกให้ไกด์พาขึ้นจากอีกฝั่ง คือเดินสวนทางมา นั่นเอง ลงจากสันเขาจะเป็นทางเดินเข้าสู่ป่าดิบชื้น
อีกครั้ง ทางเดินเป็นทางลาดชันสลับขึ้นลง เดิน ค่อนข้างยากกว่าทางก่อนหน้า ไกด์บอกว่าต้อง ผ่านสะพานข้ามลำ�ห้วยสายเล็ก ๆ ไป 15 สะพาน จะถึงทางออก แต่ละคนก็ได้แต่นบั สะพานทีผ่ า่ นไป อย่างใจจดใจจ่อ จนในที่สุดก็มาถึงทางออก ใช้ เวลาทัง้ สิน้ ประมาณ 3 ชัว่ โมง ทัง้ เดินขึน้ เขาลงเขา และแวะพักแวะถ่ายภาพตามจุดต่าง ๆ ถื อ เป็ น 3 ชั่ ว โมงที่ คุ้ ม ค่ า มากเลยนะคะ หากใครชอบท่องเทีย่ วธรรมชาติ อยากเจอวิวสวย ๆ แบบพาโนรามา และใช้เวลาไม่นาน กิ่วแม่ปาน น่ามาเยีย่ มเยือนมากเลยละค่ะ ช่วงเวลาทีเ่ หมาะ จะมาที่ สุ ดจะเป็ นช่ วงเดื อ นธันวาคม-มกราคม ไกด์แอบกระซิบมาว่า ช่วงปลายฝนต้นหนาว ทีน่ กี่ ็ สวยไม่แพ้กัน แต่ช่วงเดือนมิถุนายน-ตุลาคม เส้น ทางนี้จะปิดให้บริการ เพื่อรอเวลาให้ธรรมชาติ ฟื้นตัวค่ะ
happy+ | 83
one happy day เรื่อง : Bella ภาพ : TepiN
เรือนคำ�เที่ยง เสน่ห์ล้านนาใจกลางเมือง 84 | happy+
1
พื้นที่การเรียนรู้ใต้ถุนบ้าน
พิพิธภัณฑ์เรือนคำ�เที่ยง อยู่ในการดูแลของ สยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อปี พ.ศ. 2506 โดยเรือนคำ�เที่ยงนี้ เป็นเรือนเครื่องสับแบบ ล้านนาไทยดั้งเดิม หรือที่รู้จักกันว่า "เรือนกาแล" เป็นเรือนเก่าแก่อายุกว่าร้อยปี ผูส้ ร้างคือนางแซ้ด ลูกหลานสืบเชื้อสายธิดาเจ้าเมืองแช่ ชาวไทลื้อ จากแคว้ น สิ บ สองปั นนา ซึ่ ง ถู ก กวาดต้ อ นมา อยู่เมืองเชียงใหม่สมัยที่พระเจ้ากาวิละเป็นเจ้า เมืองเชียงใหม่ จนเมื่อนางกิมฮ้อ นิมมานเหมินท์ เจ้ า ของเรื อ นในขณะนั้ น ได้ ม อบเรื อ นเก่ า แก่ ของตระกู ล ให้ แ ก่ ส ยามสมาคม เพื่ อ จั ด ทำ � เป็ น พิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยา และรักษาศิลปะ ล้านนาไทยชิ้นนี้เอาไว้ เรือนหลังนี้จึงถูกรื้อถอน ขนย้ า ยมาประกอบขึ้ น ใหม่ ในบริ เวณปั จ จุ บั น พร้อมทัง้ ตัง้ ชือ่ ว่า "เรือนคำ�เทีย่ ง" ซึง่ มาจากชือ่ ของ นางคำ�เทีย่ ง อนุสารสุนทร แม่ของนางกิมฮ้อ
ด้ า นล่ า งเรื อ นคำ � เที่ ย งจั ด เป็ น พื้ นที่ เรี ย นรู้ เกีย่ วกับความเชือ่ ทางศาสนาและการทอผ้า ทอตุง ของคนทางภาคเหนือ ยกตัวอย่างเช่น การบูชา แก้วทั้งสาม คือ ความศรัทธาของชาวบ้านที่นำ� ดอกไม้ ธูป เทียนไปใส่ไว้ใน “ขันแก้วทัง้ สาม” เพือ่ ประกอบพิธีกรรมทางศานา ขันแก้วทั้งสาม จะมี 3 มุม ดอกไม้ ธูป เทียน จำ�นวน 3 ชุด อันหมายถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ การทอตุง ชาวล้านนาจะนิยมทอตุง ทอซิ่น หรือทำ�งานประเภทจักสานใต้ถนุ บ้านทีย่ กสูงและ เปิดโล่ง มีความเชื่อกันว่า หากใครทอตุงถวาย จะได้เสวยผลบุญ 30 กัลป์ หากยังเวียนว่ายตายเกิด ก็จะเกิดเฉพาะบนสวรรค์ และหากจุติลงบนโลก ก็ จ ะเป็ น มนุ ษ ย์ ที่ เหนื อ กว่ า บุ ค คลทั่ ว ไป หรื อ อีกหนึ่งความเชื่อที่ว่า หากทอตุงให้แก่ผู้ล่วงลับ วิญญาณของผู้นั้นจะเกาะชายตุงขึ้นสวรรค์หรือ พ้นจากทุกขเวทนา ชาวล้านนาจึงทำ�ตุงด้วยการ ตัดกระดาษหรือทอผ้าเป็นผืน เพื่ออุทิศบุญกุศล แก่ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว สำ�หรับสีที่ใช้ย้อมผ้าของชาวล้านนาจะถือ เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบ้านที่คิดค้นสูตรด้วย ตนเอง ซึง่ จะสืบทอดกันรุน่ ต่อรุน่ จากแม่สลู่ กู สาว วัสดุที่ใช้จะเป็นไม้ชนิดต่าง ๆ เปลือกไม้ ราก ใบ ผล เมล็ดหรือดอกไม้ เช่น ครั่งต้มแล้วใส่กรด นํา้ ส้มและนํา้ มะกรูดจะให้สชี มพูบานเย็น ครามจะให้ สีนาํ้ เงิน ขมิน้ บดผสมนํา้ เย็นจะให้สเี หลือง เปลือก มะพร้ า วจะให้ สี นํ้ า ตาล หรื อ ไม้ ข นุ นนำ � มาต้ ม จะได้สีเหลือง เรียกว่า สีกรัก ใช้ย้อมผ้าที่ใช้ในกิจ สงฆ์ ซึง่ การย้อมผ้าให้ตดิ ทนนาน มักจะแช่นาํ้ ด่าง ขี้เถ้าเป็นขั้นตอนสุดท้าย แล้วจึงนำ�ไปตาก
อร่อยจนลืมพี่ลืมน้อง และยุ้งข้าว
ชาวล้านนามักจะทำ�กับข้าววันละหนตอนเช้า เท่ า นั้ น อาหารหลั ก คื อ ข้ า วเหนี ย วและ สัตว์เล็กสัตว์น้อยที่หามาได้ เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา ไข่มดแดง จิง้ หรีด หนู งู เป็นต้น โดยจะให้ผอู้ าวุโส ทานก่อน โดยหญิงสาวจะตื่นตั้งแต่เช้ามืด เพื่อ มาหุงหาอาหารให้สามีและลูก ๆ ซึ่งสัตว์จะได้มา จากสามีที่ออกไปหามาให้ และพืชผักก็ได้มาจาก ผักสวนครัวที่ปลูกไว้หลังบ้าน โดยการทำ�อาหาร หากหญิงสาวที่มีฝีมือ มีเสน่ห์ปลายจวัก มักได้ รับคำ�ชมว่า อาหารที่ทำ�นั้นอร่อยจนลืมพี่ลืมน้อง แม่ ชี ไฟ (อ่ า นว่ า แม่ จี ไฟ) เป็ น เตาไฟที่ ประกอบด้วยหินสามก้อน (ก้อนเส้า) โดยผีประจำ� ก้อนเส้าทั้งสาม จะช่วยรักษาหม้อนึ่งหม้อแกง และทรัพย์สินต่าง ๆ ในเรือน นิยมบูชาผีก้อนเส้า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ happy+ | 85
ผู้ชายกับการสักยันต์ในสมัยก่อน
การสักยันต์ในสมัยก่อนมักจะสักเพือ่ ป้องกัน สิ่งไม่ดีเข้ามา เช่น การสักยันต์หัวเสา ก็เพื่อ ป้องกันเหตุไฟไหม้ โจรขโมย ผีสาง หรือเพื่อให้ อยู่เย็นเป็นสุข มีความเจริญ ค้าขายดี มั่งมีทรัพย์ นอกจากเสาเรือนแล้ว ยังนิยมมียันต์ไว้ที่หัวนอน หลังประตู เหนือกรอบประตู เป็นต้น ผ้ายันต์ทใี่ ช้จะ มีการลงอักขระ อักษรลวดลายทีไ่ ด้รบั การปลุกเสก ให้ เ กิ ด ความศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ และผู้ ช ายในสมั ย นั้ น ต้องออกรบทำ�ศึกสงคราม จึงต้องมีเครื่องราง ของขลังเพือ่ ใช้ปอ้ งกันตัว เช่น เสือ้ ยันต์ เพือ่ ป้องกัน ศาสตราวุธ สัตว์ร้าย ฯลฯ มักสวมทับเสื้อที่ใส่อยู่ หรือใส่เฉพาะเสื้อยันต์เวลาออกศึก เพื่อข่มขวัญ ศั ต รู นอกจากนี้ ยั ง ห้ อ ยตะกรุ ด รอบเอว ร้ อ ย ด้วยเชือกหรือด้าย บางเส้นมีหนึ่งดอก บางเส้น มีหลายดอก ผู้ชายนิยมสักยันต์ โดยหมึกสีดำ�จะนิยม มากที่สุด ทำ�จากห้อมหรือคราม ซึ่งมักจะสัก เรือนกาแล ล้านนา ตั้งแต่ช่วงหัวไหล่ลงมาถึงเอว เพื่อป้องกันตัวเอง เมื่อศึกษาพื้นที่เรียนรู้ที่ใต้ถุนเรือนเรียบร้อย จากสัตว์ร้าย ภยันอันตราย อาคมคุณไสย หรือ แล้ว เราเดินขึ้นมาบนตัวเรือน ซึ่งจะแบ่งออกเป็น สักยันต์เพื่อมหานิยม มหาเสน่ห์ เพื่อให้เจ้านาย 5 ส่วนใหญ่ ๆ คือ ชานบ้าน เติน๋ (ภาษาล้านนา หมายถึง มิตรสหายชอบพอ ห้ อ งโถงเปิ ด โล่ ง ยกระดั บ สู ง ขึ้ น จากชานบ้ า น เป็นบริเวณอเนกประสงค์สำ�หรับรับแขก นั่งเล่น สืบสานงานเย็บ ปัก ถัก ร้อย จากแม่สู่ลูกสาว หรือทานข้าว) ห้องนอน ห้องครัว และยุ้งข้าว ซึ่ง เมือ่ เข้าสูห่ อ้ งนอน หญิงสาวชาวล้านนาจะต้องฝึกฝีมอื ด้านการเย็บ ปัก ถัก ร้อยจากผูเ้ ป็นแม่ตงั้ แต่ ปลูกเป็นเรือนเล็ก ๆ เชื่อมต่อกับชานบ้าน เยาว์วัย เพราะเป็นธรรมเนียมปฏิบัติต่อกันมา ถ้าหากหญิงสาวจะต้องออกเรือนไป ต้องทำ�เครื่องนอน เมือ่ เดินผ่านชานบ้านและกำ�ลังจะขึน้ ไปยังเติน๋ ได้ครบทุกอย่าง ได้แก่ ฟูก ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม มุ้ง แม่ของหญิงสาวจะต้องดูแลสั่งสอนให้ดี เพื่อไม่ให้ บริ เ วณนี้ ใ นสมั ย ก่ อ นถื อ เป็ น พื้ น ที่ แ อ่ ว สาว น้อยหน้าหญิงสาวเรือนอื่น นอกจากนี้ ยังมีการทอผ้าซิ่นตีนจก ที่มีลวดลายสวยงาม อีกหนึ่งอย่างที่ เพราะหญิงสาวในสมัยนัน้ มักจะมานัง่ ทำ�งานเล็ก ๆ หญิงสาวจะได้เรียนรู้จากแม่ โดยต้องเก็บลวดลายให้ครบ เมื่อชำ�นาญแล้วจะทอซิ่นนุ่งเอง ซึ่งผ้าซิ่น น้อย ๆ เช่น สาวไหม ตำ�หมากพลู ฯลฯ หนุม่ ๆ มักจะ ตีนจกจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เฉพาะพื้นที่ จึงสามารถบอกได้วา่ ผ้าซิ่นผืนนี้ทอจากที่ใด ผ้าซิ่นตีนจก แวะเวียนมาหามาแอ่ว เพื่อสนทนา หยอกเย้า นิยมใช้เป็นของไหว้แม่สามี มอบให้แก่ผู้ใหญ่ที่เคารพ หรือใช้ประกอบพิธีต่าง ๆ เช่น เรียกขวัญข้าว หรือเล่นดนตรีสันทนาการ หากถูกอกถูกใจกัน เครื่องบูชาแม่โพสพ เครื่องแต่งกายผีที่มาลงทรงในการเลี้ยงผีอีกด้วย ก็ จ ะได้ แ ต่ ง งานในอนาคต บริ เ วณนี้ ก็ มี ก าร หนึง่ วันสบาย ๆ คุณผูอ้ า่ นสามารถเลือกมายังเรือนคำ�เทีย่ ง เพือ่ เรียนรูค้ วามเป็นมาของชาวล้านนา จัดแสดงส่วนของการเรียนรู้ไว้เช่นเดียวกัน เช่น ได้นะคะ บายศรีสู่ขวัญ หมากสุ่มหมากเบ็ง พลูสุ่ม ต้นผึ้ง ต้นเทียน สุ่มดอก ที่เกิดจากแรงศรัทธา จัดทำ�ขึ้น • การเดินทาง : รถไฟฟ้าใต้ดนิ สถานีสขุ มุ วิท ทางออก 1 หรือรถไฟฟ้า สถานีอโศก ทางออก 3 เพื่อถวายเป็นเครื่องสักการะอันสูงสุด เพื่อนำ�ไป เดินตรงไปประมาณ 200 เมตร จะเห็นพิพิธภัณฑ์เรือนคำ�เที่ยงตั้งอยู่ทางซ้ายมือ ถวายวัด สักการะเจ้านายและพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ • เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-วันเสาร์ เวลา 09.00-17.00 น. และก่อนเข้าสูห่ อ้ งนอน เราจะเห็นไม้แกะสลักเป็น • ค่าเข้าชม : คนไทยผูใ้ หญ่ 100 บาท / เด็ก 50 บาท / นักเรียนเข้าชมเป็นหมูค่ ณะ 20 บาท/คน ลวดลายต่าง ๆ อยูเ่ หนือช่องประตู เพือ่ ป้องกันสิง่ และชาวต่างชาติ 100 บาท ชั่วร้ายไม่ให้ผ่านเข้าสู่ห้องนอน เรียกว่า หำ�ยนต์ • สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : 0-2661-6470-7 หรือ หัมยนต์ นั่นเอง 86 | happy+
green corner เรื่องและภาพ : TepiN
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ สำ�หรับคนที่ชอบท่องเที่ยว จังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นจังหวัดฮอตฮิตติดลมบนสำ�หรับนักท่องเที่ยวเลยนะคะ เพราะมีครบครันทั้งธรรมชาติป่าเขา และ แหล่งท่องเที่ยวเก๋ ๆ ในตัวเมือง อีกทั้งยังมีสถานที่ใหม่ ๆ รอให้นักท่องเที่ยวไปเยี่ยมไปเยือนอยู่เรื่อย ๆ ชอบเที่ยวเมืองก็ไปได้ ชอบป่าเขาก็ไปได้ ชอบทั้ง สองอย่างยิ่งน่าไป และตอนนี้สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ก็กำ�ลังได้รับความนิยม เพราะเป็นสถานที่ที่มีความสวยงาม เหมาะสำ�หรับคน ที่รักธรรมชาติเป็นอย่างยิ่ง สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2536 มีพื้นที่ประมาณ 6,500 ไร่ ตั้งอยู่ที่อำ�เภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เดิมชื่อว่า สวนพฤกษศาสตร์แม่สา ตัง้ ขึน้ มาเพือ่ ให้เป็นสวนพฤกษศาสตร์ประจำ�ภาคเหนือ หลังจากนัน้ ได้โอนย้ายเข้าไปอยูใ่ นความดูแลขององค์การสวนพฤกษศาสตร์ พร้อมทั้งวางแผนและพัฒนาให้เป็นสวนพฤกษศาสตร์ระดับสากลแห่งแรกของประเทศ และในปี พ.ศ. 2537 องค์การสวนพฤกษศาสตร์ได้รับพระราชทาน พระราชานุญาต จากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ให้ใช้ชื่อสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ว่า สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ สภาพโดยทั่วไปของสวนพฤกษศาสตร์เป็นที่ราบและที่สูงสลับกันเป็นชั้น ๆ ความสูง 300-970 เมตรจากระดับนํ้าทะเลปานกลาง ทำ�การอนุรักษ์และ รวบรวมพรรณไม้ไว้เป็นหมวดหมูต่ ามวงศ์สกุลต่าง ๆ ทัง้ ในและต่างประเทศ โดยจัดสวนแบ่งพันธุไ์ ม้ตามวงศ์และความเหมาะสมของสภาพพืน้ ที่ ให้มคี วาม สอดคล้องกับธรรมชาติมากที่สุด 88 | happy+
ภายในสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ประกอบไปด้วย ศูนย์สารนิเทศ เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการพรรณไม้ไทย นิทรรศการ ด้านพฤกษศาสตร์ และมีหนังสือเกี่ยวกับพรรณไม้ ที่สวนพฤกษศาสตร์ จัดทำ�ขึ้นเพื่อจำ�หน่ายแก่ผู้ที่สนใจ กลุม่ อาคารเรือนกระจก มีอาคารเรือนกระจกขนาดใหญ่ตงั้ อยูก่ ลาง ลานกว้างบนเนินเขา รวบรวมพรรณไม้จากทุกภูมิภาคของทวีปเอเชีย ภายในอาคารนี้ยังมีนํ้าตกจำ�ลอง และจัดแต่งสภาพเหมือนได้เข้าไปเดิน อยู่ในป่า นอกจากนี้ที่อาคารเรือนกระจกอื่น ๆ ก็มีพรรณไม้ที่น่าสนใจ เช่น พืชทะเลทราย พรรณไม้นํ้า เฟิน และกล้วยไม้ เป็นต้น เรือนกล้วยไม้ไทย เป็นเรือนที่รวบรวมพันธุ์กล้วยไม้กว่า 350 ชนิด จากป่าดงดิบและป่าเต็งรัง ซึง่ เป็นกล้วยไม้ปา่ ทีม่ สี สี นั สวยงาม หลายชนิด มีกลิ่นหอม ส่วนใหญ่จะทยอยออกดอกตลอดทั้งปี บางพันธุ์หาดูได้ยาก และบางพันธุ์ใกล้สูญพันธุ์แล้ว จุดเด่นอีกอย่างของสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ที่ทำ�ให้คนนิยมไปท่องเที่ยวกันมากก็คือ ทางเดินเรือนยอด (Canopy Walkway) ที่เพิ่งเปิดในปี พ.ศ. 2558 เป็นทางเดินสูงประมาณ 20 เมตร จากพืน้ ดิน โครงสร้างทำ�มาจากเหล็กกล้า แข็งแรง บางช่วงเป็นกระจกใส สามารถมองเห็นลงไปด้านล่างได้ ระยะทางทั้งสิ้น 369 เมตร ใช้เป็น เส้นทางศึกษาระบบนิเวศเรือนยอดไม้ชนั้ บนของป่าดิบแล้งและหุบเขาของ ป่ามรสุมเขตร้อน แต่หากวันไหนฝนตก ทางเดินดังกล่าวจะปิดไม่ให้เข้าชม เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติอีก 4 เส้นทาง คือ 1. เส้นทาง นํ้าตกแม่สาน้อย-สวนหิน-เรือนรวมพันธุ์กล้วยไม้ไทย (Waterfall Trail) ระยะ ทาง 300 เมตร 2. เส้นทางสวนรุกขชาติ (Arboretum Trail) ระยะทาง 600 เมตร 3. เส้นทางวลัยชาติ (Climber Trail) ระยะทาง 2 กิโลเมตร 4. เส้นทางพันธุ์ไม้ ประจำ�จังหวัด ระยะทาง 800 เมตร สามารถเดินชมพรรณไม้ที่รวบรวมไว้กว่า 30 วงศ์ ซึ่งแต่ละชนิดจะมีป้ายชื่อพรรณไม้ไว้ให้ศึกษา สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ มีการจัดสรรพื้นที่ได้อย่าง ลงตัว มีพันธุ์ไม้มากมาย รวมทั้งไม้ดอกไม้ประดับที่มีสีสันสวยงาม ทำ�ให้สวน แห่งนี้เป็นทั้งแหล่งพักผ่อนหย่อนใจและสถานที่ศึกษาธรรมชาติ ด้านพืชและ ภูมิทัศน์ที่โดดเด่น สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ตั้งอยู่ที่องค์การสวนพฤกษศาสตร์ 100 หมู่ 9 ตำ�บลแม่แรม อำ�เภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ 50180 โทรศัพท์ : 0-5384-1234 Email : bgo@qsbg.org Website : www.qsbg.org วัน-เวลาทำ�การ : ทุกวัน 08.30-17.00 น. ค่าธรรมเนียม ผู้ใหญ่ 40 บาท นักเรียน นักศึกษา 20 บาท ผู้มีอายุเกิน 60 ปี ภิกษุ สามเณร เด็กอายุตํ่ากว่า 12 ปี ไม่เสียค่าเข้าชม รถยนต์ 4 ล้อ คันละ 100 บาท รถบัส คันละ 200 บาท
happy+ | 89
ปลูกความสุขในบ้านคุณ กับเจ้าชายผัก เรื่อง : เจ้าชายผัก
มะรุม ผักพื้นบ้าน สรรพคุณระดับโลก สวัสดีครับท่านผู้อ่าน happy+ ทุกท่าน กลับมาเจอกันอีกครั้งนะครับ ฉบับนี้ผมอยากจะพาท่านมารู้จักผักพื้นบ้านอีกชนิดหนึ่งครับ ที่ปลูก ได้งา่ ยมากจริง ๆ หลายท่านอาจจะพอรูจ้ กั แล้ว เพราะในช่วงหลายปีหลังนีม้ คี นพูดถึงผักพืน้ บ้านชนิดนีก้ นั มาก ผักทีว่ า่ นีก้ ค็ อื “มะรุม” นัน่ เองครับ เรื่องราวของมะรุมที่ผมจะนำ�มาฝากกันจะเป็นอย่างไร มาติดตามกันได้เลยนะครับ 90 | happy+
ปลูกง่าย ปลูกแล้ว (แทบ) ไม่ต้องปลูกอีก
มะรุม เป็นพืชพื้นบ้านชนิดหนึ่งที่มีในประเทศไทย พบได้ทั่วทุกภาค มีชื่อเรียกแตกต่างกันไป ทั้ง “อีฮุม” ในภาคอีสาน หรือ “บักค้อนก้อม” ใน ภาคเหนือ เป็นพืชที่ปลูกง่าย ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด และการปักชำ�ลงดิน อย่างที่บ้านผมเองก็เคยปลูกจากต้นกล้า เคยตัดทิ้งไปแล้วต้นหนึ่ง เพราะ อยู่ใกล้กำ�แพงและบังแดดผักต้นอื่น ๆ มากไป แต่ก็มีเมล็ดที่ปลิวหลุดไป จากฝักของต้นเดิมไปงอกอีกที่หนึ่ง แต่คราวนี้ไม่ได้ตัดทิ้ง จนปัจจุบันนี้ สูงใหญ่ได้ขนาดตามตำ�ราถึง 4 เมตรเลยทีเดียว ใครอยากได้ต้นเล็กก็ปลูก ในกระถาง หรือตัดแต่งทรงพุ่มได้ตามใจ จะเอาต้นเท่ากระถินหรือชะอม ไว้กินแต่ใบก็ได้ครับ
กินได้ทุกส่วน สรรพคุณมากมาย รู้จักกันไปทั่วโลก
มะรุม เป็นทัง้ ผักพืน้ บ้านและสมุนไพรในต้นเดียว ทีม่ สี รรพคุณสารพัด ประโยชน์ นำ�ไปกินได้ตั้งแต่ใบ ดอก และฝักอ่อน ซึ่งมีสรรพคุณมากมาย เช่น ใบมะรุมเล็ก ๆ นี้ มีวิตามินซีมากกว่าส้มถึง 7 เท่า มีวิตามินเอมากกว่า แคร์รอตถึง 4 เท่า มีแคลเซียมมากกว่านมถึง 4 เท่า มีโพแทสเซียมมากกว่ากล้วย
ถึง 3 เท่า และมีโปรตีนมากกว่าโยเกิรต์ ถึง 2 เท่า ส่วนดอกมะรุมก็เป็นแหล่งของ ธาตุสงั กะสี ซึง่ เป็นแร่ธาตุทรี่ า่ งกายต้องการในปริมาณน้อยแต่ส�ำ คัญ เพราะ ขาดไม่ได้ ช่วยในการชะลอวัย ป้องกันความชรา ป้องกันความอ่อนเพลีย และความผิดปกติของฮอร์โมนเพศ จึงมีสรรพคุณเป็นแร่ธาตุเพือ่ อายุวฒ ั นะ นอกจากนี้ที่ทำ�ให้มะรุมดังไปทั่วโลกแบบสุด ๆ ก็คือ ใบและดอกมะรุม ยังสามารถป้องกันมะเร็งได้ เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่มากนี่เอง นอกจากนีย้ งั ป้องกันการอักเสบของตับและแผลในกระเพาะอาหารได้อกี ด้วย วิธีทำ�อาหารจากมะรุมก็ง่ายนิดเดียว ก็ลวกจิ้มนํ้าพริก หรือจะต้มยำ� แกงส้ม ก็ทำ�ได้ง่าย ๆ ตามสะดวกกันเลยครับ ส่วนฝักแก่จนมีเมล็ดแล้ว ก็ ยังนำ�มาทุบให้แตก แช่นํ้าดื่มเป็นยาฆ่าเชื้อไวรัส ใช้เคี้ยวแก้เจ็บคอได้ หรือ ถ้ามีเยอะ ๆ ยังสามารถนำ�มาบีบนํา้ มันเมล็ดมะรุม ซึง่ เป็นนํา้ มันทีส่ รรพคุณ ไม่แพ้นํ้ามันมะกอกของต่างประเทศเลยทีเดียว สรรพคุณมากมาย มะรุมมะตุ้มเป็นซูเปอร์ฟู้ดในสวนซูเปอร์มาร์เก็ต ในบ้ า นเราแบบนี้ จะไม่ ใ ห้ ม ารุ ม รั ก มะรุ ม กั น ได้ อ ย่ า งไรใช่ ไ หมครั บ ปลูกมะรุมกันดูสักต้นไหมครับ happy+ | 91
กินอาหารเป็นยา เรื่องและภาพ : ป้าจาย แม่มดดอกไม้
กระทงทองโทงเทง
เพื่อนสาวชาวปายได้กรุณาจัดส่งผลิตผลจากสวนเกษตรอินทรีย์ของตัวเอง ให้แก่ครัวแม่มดดอกไม้ติดต่อกันมาสองปี เราจึงมีโทงเทงฝรั่งสด ๆ รสดี ไร้สารเคมี สำ�หรับการบริโภคสดอย่างจุใจ แถมยังพลิกแพลงทำ�อาหารรับประทานกันได้อีกหลายชนิด เช่น แยม พาย สลัด นํ้าคั้น เป็นต้น โทงเทงฝรั่ง หรือ Physalis Peruviana มีรากเหง้ามาจากประเทศเปรู แต่ก็เรียกขานกันทั่วไปว่า เคป กูสเบอรี่ หรือ Cape Gooseberry ซึ่งไม่ได้ เป็นญาติกับพืชที่มีชื่อตามว่า Gooseberry ทั้งหลายเลย เช่น มะขามป้อม หรือ Indian Gooseberry กลับไปมีญาติสนิทชิดใกล้เป็นพืชในกลุ่ม ของพริก มะเขือเทศ และที่เห็นมีในบ้านเราก็คือ โทงเทงไทย ที่มีชื่อเรียกตามภาษาถิ่นอีกมากมายว่า โทงเทงนํ้า ทุ้งทิ้ง พุ้งพิ้ง โคมจีนหรือกิมเต็งลั้ง เป็นต้น โทงเทงไทยเป็นสมุนไพรชั้นดี แต่มีผลเล็กกว่า กลิ่นไม่หอม รสไม่หวาน จึงไม่นิยมนำ�มาทำ�อาหารหรือขนมใด ๆ โทงเทงฝรั่งผลแก่ มีเปลือก หรือกลีบเลี้ยงหุ้มที่แห้งและบางเบา สามารถเก็บได้เป็นเวลานาน นำ�เมล็ดสดจากผลแก่จัดไปเพาะได้เลย ขึ้นและเลี้ยงดูง่าย การปลูกโทงเทงฝรั่งที่ อำ�เภอปายได้ผลดีเกินคาด เพราะอากาศเย็นมากในช่วงที่ติดผลและเริ่มสุก ขายได้ราคาดีไม่น้อยทีเดียว การกินผลสดทันทีทเี่ ก็บจากต้นคือสิง่ ทีด่ ที สี่ ดุ แต่ผลผลิตทีม่ ากเกินต้องการทำ�ให้เราต้องหาทางแปรรูปเป็นอาหารอืน่ ๆ และหนึง่ ในอาหารจานสวย น่ารัก คือ กระทงทองโทงเทง ที่ขอปรับจากการทอดแผ่นแป้งเป็นกระทงทอง มาเป็นแผ่นขนมปังโฮลวีท นุ่ม ๆ บาง ๆ ขึ้นรูป อบให้กรอบ ใส่ เนื้อในกระทง ก็จะได้อาหารว่างที่จะกินเล่น กินอิ่ม ได้ทุกความต้องการ แถมซัลซ่ารสจัดชวนให้เปรี้ยวปาก แก้เลี่ยนได้เป็นอย่างดี 92 | happy+
วัตถุดิบกระทงและไส้ • • • • • • • •
ขนมปังแซนด์วิชโฮลวีท 6 แผ่น เนยสด 1 ช้อนโต๊ะ ไข่ต้ม 1 ฟอง มันฝรั่ง ฟักทอง หอมใหญ่ อย่างละ 1 ช้อนแกง เนยแข็งป่น 1 ช้อนแกง ออริกาโนป่น พริกไทยป่น เกลือป่น อย่างละ ½ ช้อนชา ครีมสลัด เนยถั่ว อย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ ต้นหอมซอย งา อย่างละ 1 ช้อนชา
วัตถุดิบซัลซ่า
• โทงเทงฝรั่ง 15-20 ผล • กล้วยหอมห่าม แอปเปิล พริกจินดา ผักชีฝรัง่ หอมแดง หัน่ รวม ๆ ให้ได้ ½ ถ้วย • นํ้าส้มสายชู นํ้ามันมะพร้าว อย่างละ 2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น ¼ ช้อนชา
วิธีทำ�เนื้อไส้และกระทงทอง
• มันฝรั่ง ฟักทอง หอมใหญ่ หั่นลูกเต๋าเล็ก ๆ ต้มสุก โรยเนยแข็งป่น ออริกาโนป่น พริกไทยป่น เกลือป่น • ผสมกับครีมสลัด เนยถั่ว ต้นหอมซอย งา เคล้าให้เข้ากัน วางพักไว้ ไปทำ�กระทงต่อ • ขนมปังทาเนยสด แล้วกรุลงในถาด จับกลีบให้สวยเป็นกระทงสี่กลีบ • ฝานไข่ต้มให้ได้ 6 ชิ้น วางรองก้นกระทง • ตักส่วนผสมของไส้วางบนไข่ ไม่ต้องใส่เต็ม • นำ�เข้าเตาอบเล็กด้วยไฟกลาง สัก 8-10 นาที นานกว่านี้ขนมปังจะกรอบจนแห้ง ไม่อร่อย
วิธีทำ�ซัลซ่าโทงเทง
• หัน่ โทงเทงฝรัง่ เป็นชิน้ เล็ก ๆ ให้ได้ครึง่ ถ้วย แล้วเติมแตงกวา มะเขือเทศ แอปเปิล กล้วยหอม • ซอยหอมแดง พริกจินดา เอาแต่เนื้อแดงแล้วสับให้ละเอียด ใส่ใบผักชีฝรั่ง • ผสมนํ้ามันมะพร้าว นํ้าส้มสายชู เกลือป่น คนให้เข้ากัน จะแยกรับประทานกระทงทอง แล้วค่อยตักซัลซ่าเคี้ยวตามไปก็ดี หรือจะตักซัลซ่าราดบน กระทงทองที่อบเสร็จแล้วเสิร์ฟขณะที่ยังอุ่น ๆ กรอบ ๆ หอม ๆ ก็ดีไปอีกแบบ เมนูนี้รับประกัน ความอร่อยแสนเพลิน ชนิดที่นึกภาพว่าจะปลูกโทงเทงฝรั่งในสวนหลังบ้านกันเลยทีเดียว happy+ | 93
ชวนชิม เรื่อง : China Girl / Bella ภาพ : POP / TepiN
Café Kantary Prachinburi ปราจีนบุรเี ป็นจังหวัดทีม่ สี ถานทีท่ อ่ งเทีย่ วหลากหลาย ทัง้ ทีท่ อ่ งเทีย่ วเชิงประวัตศิ าสตร์ แบบแอดเวนเจอร์อย่างการ ล่องแก่ง หรือจะมาออกรอบตีกอล์ฟก็ยังได้ และที่นี่คุณจะได้พบกับคาเฟ่สุดชิค ซึ่งมีการตกแต่งที่โดดเด่น มองเห็นได้ • ร้าน Café Kantary Prachinburi อย่างเด่นชัด คือร้านคาเฟ่ แคนทารี สาขาปราจีนบุรี ตั้งอยู่ด้านหน้าโรงแรมแคนทารี 304 ปราจีนบุรี จริง ๆ แล้วคาเฟ่ ตั้งอยู่ด้านหน้าโรงแรมแคนทารี แคนทารีมีหลากหลายสาขา แต่สาขาปราจีนบุรีนั้นเป็นสาขาเดียวที่มีภาพวาดของน้องมาร์ดี ภาพวาดแนวกราฟฟิตี้ 304 ปราจีนบุรี • เปิดทุกวัน 10.00-22.00 น. ของศิลปินแนว Street Art ชื่อดัง ที่มีผลงานทั้งในไทยและต่างประเทศนาม Alex Face นอกจากจะมาถ่ายภาพกับ น้องมาร์ดีแล้ว Caféé Kantary Prachinburi ยังมีเมนูแนะนำ�มากมายทั้งของคาว ของหวาน และเครื่องดื่ม จานแรกทีพ่ ลาดไม่ได้เลย คือ สลัดปลาดิบรวมฮอกไกโด (210 บาท) ผักสลัดสด ๆ มาพร้อมกับปลาแซลมอน ปลาหมึกชิน้ โต ยำ�สาหร่ายโรยไข่กงุ้ ราดซอส งาญี่ปุ่นเข้มข้น จานแนะนำ�สำ�หรับคนชอบความแซ่บ ต้องยกให้ แซลมอนแซ่บ (190 บาท) ต่อด้วย พิซซ่าปลาแซลมอนรมควันโรยไข่ปลาแซลมอน (290 บาท) พิซซ่าทีน่ เี่ ป็นสไตล์อติ าเลียน แป้งบางกรอบหน้าเยอะ จัดเต็ม ส่วนเมนูของหวานของเด็ดของทีน่ ีเ่ ลย คือ Oh Lah La Honey Toast (180 บาท) ขนมปังกรอบนอก ข้างในนุ่ม ชุ่มเนยเน้น ๆ ทานคู่กับไอศกรีมวานิลลา เพิ่มความหวานด้วยนํ้าผึ้ง ตบท้ายด้วยกาแฟสูตรพิเศษประจำ�คาเฟ่ แคนทารี Kantary Coffee (70 บาท) บอกเลยว่าชักจะหลงเสน่ห์น้องมาร์ดีและความอร่อยจนหยุดไม่อยู่ของ Café Kantary Prachinburi ซะแล้วละ 94 | happy+
อันยองชีส Annyong Cheese • Annyong Cheese ถนนจุฬา
42 โครงการ U Center เลขที่ ร้านอันยองชีส มีรสชาติอาหารทีโ่ ดดเด่น เหมือนยกร้านอาหารจากประเทศเกาหลีมาตัง้ ไว้บริเวณหอยู ถนนจุฬา 42 H03-04 ใกล้รถไฟใต้ดิน สถานี ไม่ใกล้ไม่ไกลจากใจกลางเมืองค่ะ เมนูแปลกใหม่ทเี่ ราคนไทยอาจจะยังไม่คอ่ ยชิน แต่ทเี่ กาหลีนยิ มมาก ได้แก่ ซีโ่ ครงหมู สามย่าน (จามจุรีสแควร์) FB : อั น ยอง ชี ส IG : พันชีส (459 บาท โปรโมชั่นเปิดร้าน ลดเหลือ 399 บาท) ซี่โครงหมูหมักซอสเนื้อนุ่มพันด้วยชีสรสเข้มแบบเต็มคำ�, annyong_cheese โทร : 09ต็อกปกกีหม้อไฟ (359 บาท) หม้อไฟร้อน ๆ จัดเต็มด้วยเส้นรามยอน เกี๊ยวไส้กิมจิ ต็อกชีส แป้งต็อกและโอเด้ง 4165-9542, 09-1565-2665 เผ็ดร้อนสมเป็นหม้อไฟเกาหลี, จิมดัก (399 บาท) ไก่ผัดวุ้นเส้นสไตล์เกาหลีที่ต้องบอกว่าอร่อยสมคำ�รํ่าลือ พร้อมด้วย เครื่องเคียงมากถึง 6 ชนิดด้วยกัน ปิดท้ายด้วยของหวาน ไอศกรีมเมลอน ที่เข้ากันอย่างลงตัว นอกจากอาหารจานเดี่ยวแล้ว ทางร้านยังจัดโปรโมชั่นเซตอาหารต่าง ๆ ในราคาสบายกระเป๋าอีกด้วย ไม่ว่าคุณจะมาคนเดียวหรือมาเป็นกลุ่มก็อิ่ม อร่อยที่ร้านอันยองชีสกันได้ค่ะ happy+ | 95
ชวนดูหนัง เรื่อง : It’s a bell
Hidden Figures ทีมเงาอัจฉริยะ ก่อนทีม่ นุษยชาติจะส่งยานอวกาศขึน้ ไปโคจรรอบโลกได้นน้ั เรือ่ งราวจะเป็นอย่างไร Hidden Figures (ทีมเงาอัจฉริยะ) ได้ไขข้อสงสัยให้เราได้ทราบ เพราะ ภาพยนตร์เรือ่ งนีส้ ร้างขึน้ จากเรือ่ งจริงของ แคทเธอรีน จี. จอห์นสัน (ทาราจิ พี. เฮนสัน) นักคณิตศาสตร์ผวิ สีชาวแอฟริกนั -อเมริกนั , โดโรธี วอห์น (ออกตาเวีย สเปนเซอร์) หัวหน้าแผนก West Area Computer และแมรี แจ็คสัน (จาเนล โมเน) วิศวกรอวกาศผิวสีคนแรก ทัง้ สามสาวจะมาร่วมกันเปลีย่ นโฉมหน้าประวัตศิ าสตร์โลก และนำ�ความเชือ่ มัน่ ของประชาชนให้กลับคืนมายังประเทศสหรัฐอเมริกาอีกครัง้ เมือ่ พูดถึงชือ่ นีล อาร์มสตรอง, จอห์น เกลน หรืออลัน เชพเพิรด์ เรามักจะทราบกันดีวา่ พวกเขาคือนักบินอวกาศทีป่ ระสบความสำ�เร็จและมีชอ่ื เสียง แต่ น้อยคนนักทีจ่ ะรูจ้ กั ชือ่ ของสาว ๆ ทัง้ 3 คน ทีม่ คี วามสำ�คัญต่อองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือทีเ่ รารูจ้ กั กันในชือ่ NASA ภาพยนตร์เรือ่ งนีจ้ ะนำ� พวกเราไปรูจ้ กั กับบุคคลเหล่านี้ ผ่านเรือ่ งราวการฝ่าฟันเพือ่ เดินตามความฝันของพวกเธอ ท่ามกลางความขัดแย้ง แบ่งแยกชนชัน้ ทางสีผวิ พวกเธอจะตัดสินใจ เลือกเดินทางไหน คงต้องไปติดตามดูกนั นะคะ 96 | happy+
เรื่อง : Patty Pom ภาพ : TepiN ชวนอ่านสานสุข
ดุจเรือนใจ / เรือ่ ง : เอือ้ งอลิน / สำ�นักพิมพ์ : Royal Wedding “บันทึกของเจ้าหญิง” ตอน View Finder ออกไปเจอบอลติก / เรือ่ ง : ชนพัฒน์ New STAR by พิมพ์ค�ำ / ราคา : 510 บาท งานแต่งงานของเจ้าหญิง / เรือ่ ง : Meg Cabot เศรษฐโสรัถ / สำ�นักพิมพ์ : a book / ราคา : การทีเ่ ราจะให้ความสนใจใครเป็นพิเศษจาก แปล : มณฑารัตน์ ทรงเผ่า / สำ�นักพิมพ์ : 325 บาท ประชากรหลายพันล้านคนบนโลกนี้ คงไม่ใช่เรื่อง แพรวสำ�นักพิมพ์ / ราคา : 365 บาท คนเรามีเหตุผลในการเก็บกระเป๋าออกเดินทาง บังเอิญแน่นอน สำ�หรับภามินแล้ว ลูกชายเจ้าของ ร้านเพชรที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครกล้าเหมือน เพราะทัง้ คลัง่ เพชร รักแมว ฟังเพลงดิสโก้ เป็นเจ๊สี่ กูรเู รือ่ งเครือ่ งสำ�อางชือ่ ดัง แล้วไหนจะแฟชัน่ แหวก ตลาดนัน่ อีกละ แต่กไ็ ม่รวู้ า่ ทำ�ไมถึงมาเป็นแฟนกัน ได้ แม้จะเริ่มต้นแบบงง ๆ แต่ก็ลงท้ายหวาน ๆ รับรองว่าทำ�ให้คุณอบอุ่นหัวใจแน่นอนค่ะ
เจ้าหญิงมีอาที่รักของทุกคนกลับมาแล้ว ยัง คงตลกและน่ารักเหมือนเดิม แต่ชวี ติ ของเจ้าหญิง มีอาทีด่ ทู า่ ว่าน่าจะราบรืน่ ก็ยงั คงเต็มไปด้วยเรือ่ ง วุ่น ๆ บ้าบอคอแตกและปวดหัวได้ตลอดสิน่า แต่ ตอนนี้มีอาโตเป็นสาวแล้วนะ เรียนจบ มีงานทำ� แถมกำ�ลังจะแต่งงานกับไมเคิล แฟนหนุ่มสุด เพอร์เฟ็กต์อีกต่างหาก แต่ยังค่ะ ยังต้องผ่านด่าน กรองด์แมร์สดุ เฮีย้ บให้ได้ซะก่อน มาร่วมเป็นกำ�ลังใจ สัตว์มหัศจรรย์และถิ่นที่อยู่ / เรื่อง : J.K. ให้มีอากันเถอะค่ะ
กันมากมาย แต่สำ�หรับ ตอง-ชนพัฒน์นั้น เขา เลื อ กออกเดิ นทางตามรอยช่ า งภาพในดวงใจ อย่ า ง ฮิ เดอากิ ฮามาดะ ไปยั ง ดิ น แดนที่ ทั้ ง เราและเขาก็ไม่คุ้นเคย อย่าง ลิทัวเนีย ลัตเวีย เอสโตเนีย หรือแม้กระทัง่ คาลินนิ กราดและโปแลนด์ เพือ่ ตามหาอะไรสักอย่าง ในหนังสือเล่มนีค้ ณ ุ อาจจะ ได้เห็นมุมแปลก ๆ สถานที่ใหม่ ๆ อาจเป็นที่ที่ใช่ สำ � หรั บ คุ ณก็ ได้ มาร่ ว มเดิ นทางและค้ น หาไป พร้อม ๆ กันค่ะ
และพ่อมดแม่มดยังคงเปีย่ มเสน่หแ์ ละน่าติดตาม เสมอ เจ.เค. โรว์ลิ่งร่ายเวทมนตร์ให้เราสนุกไป กับเรื่องราวเหนือจินตนาการได้เหมือนเช่นเคย แต่คราวนี้มาในรูปแบบของบทภาพยนตร์ ให้เรา เปิดมุมมองแบบใหม่ในการอ่าน ผู้ที่รักในแฮร์รี่ พอตเตอร์จะยังคงพบเจอตัวละครทีค่ นุ้ เคยในเรือ่ งนี้ และได้รจู้ กั ตัวละครใหม่ ๆ เพิม่ ขึน้ ทีค่ ณ ุ จะรักเขาเช่นกัน มาออกผจญภัยครั้งใหม่ไปพร้อมกันค่ะ
มีเพียงสิง่ เดียวทีท่ �ำ ให้หวั ใจของอินเดียนแดง หนุ่ มผู้ ที่ มี ดวงตาสี เขี ย วมี เสน่ห์ แถมยังฉลาด เก่งกาจและกล้าหาญ หวั่นไหวได้ก็คือ หญิงสาว ผูก้ ล้าหาญอย่าง อลิเดีย จอห์นสัน คูห่ มัน้ ของศัตรู ตัวฉกาจ เอ็ดเวิรด์ ฮันทิงตัน คนขาวทีอ่ พยพเข้ามา ตั้งถิ่นฐานและหวังจะครอบครองดินแดนของเขา เนื้ อ หาที่ เ ข้ ม ข้ น เกี่ ย วกั บ การสู้ ร บเพื่ อ ปกป้ อ ง ดินแดนบ้านเกิด ความรักที่หอมหวาน จะทำ�ให้ คุณสนุกจนแทบวางไม่ลง
ROWLING แปล : พลอย โจนส์ / สำ�นักพิมพ์ : NANMEEBOOKS / ราคา : 395 บาท พม่าพักรัก / เรือ่ ง : รตี / สำ�นักพิมพ์ : HER JAGUAR จากัวร์ / เรือ่ ง : ชญาน์พมิ พ์ / เรื่องราวแสนมหัศจรรย์ของโลกเวทมนตร์ Publishing / ราคา : 265 บาท สำ�นักพิมพ์ : พิมพ์ค�ำ / ราคา : 230 บาท พม่าเป็นประเทศหนึ่งที่มีมนต์ขลัง ไปกี่ครั้ง ก็ไม่มีเบื่อ เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความศรัทธา ในพระพุทธศาสนา ความเรียบง่ายของวิถีชีวิต ธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และทรงคุณค่า เป็นประเทศที่มีการผสมผสาน ที่ ล งตั ว ระหว่ า งตะวั น ตกกั บ ตะวั น ออกแบบ East Meet West การออกเดินทางครั้งนี้แม้จะมี วัตถุประสงค์เพือ่ ลืมใครบางคน แต่สิง่ ทีเ่ ธอพาไป พบใน 6 เมืองน่าเที่ยวของพม่านั้น กลับน่าจดจำ� มากเหลือเกิน
happy+ | 97
horoscopes
พยากรณ์ เดือนเมษายน 2560
สวัสดีคณ ุ ผูอ้ า่ นนิตยสาร happy+ ทุกท่านครับ เข้าสูเ่ ดือนเมษายน ในเดือนนีม้ วี นั สำ�คัญ คือ วันสงกรานต์ หรือวันขึน้ ปีใหม่ของคนไทยเรา ถัดมาอีก 1 วัน ผมว่ามีความสำ�คัญไม่แพ้กนั คือวันที่ 14 เมษายนของทุกปี ทีร่ ฐั บาลกำ�หนดให้เป็น “วันครอบครัว” เพือ่ สนับสนุนและส่งเสริมให้ประชาชนตระหนักถึงคุณค่าของสถาบัน ครอบครัว เนือ่ งจากวันสงกรานต์เป็นช่วงทีค่ นไทยส่วนใหญ่เดินทางกลับบ้าน เพือ่ พบปะญาติมติ ร บุพการี รดนํา้ ดำ�หัว ขอพรผูเ้ ฒ่าผูแ้ ก่ เสริมสร้างความเป็นสิรมิ งคลและความอบอุน่ เป็นสุขของครอบครัว ในชีวติ ผม มีคณ ุ ยาย คุณพ่อและคุณแม่ ซึง่ เป็นผูส้ งู อายุในบ้าน แต่ทา่ นยังแข็งแรง ทำ�งานหรือกิจกรรมหนัก ๆ ได้สบาย เลยครับ จนบางทีกล็ มื อายุของท่านไปเลย ทุกวันนีผ้ มไปทำ�งาน นำ�ทัวร์ไหว้พระก็จะชวนคุณยาย คุณพ่อ คุณแม่ และครอบครัว ร่วมเดินทางไปทำ�บุญด้วยกัน ผมมี กิจกรรมร่วมกับครอบครัวตลอดครับ ทำ�ให้ทกุ คนมีความสุข แข็งแรงและอายุยนื ยาว สำ�หรับท่านทีต่ ดิ ตามหนังสือพยากรณ์ชะตาชีวติ ปี 2560 ตอนนีม้ วี างจำ�หน่ายที่ 7-Eleven และร้านหนังสือชัน้ นำ�แล้วนะครับ และสามารถติดตามผมได้ในรายการ คุยข่าวสิบโมง ททบ.5 ทุกวันจันทร์ เวลา 10.00 น. สามารถดูฤกษ์งามยามสบายและคาถาเด็ดได้ทกุ วันที่ Facebook : คฑา ชินบัญชร และ Instagram : akhata.c ครับ 98 | happy+
เรื่อง : อาจารย์ คฑา ชินบัญชร
ราศีมังกร (16 ม.ค.-12 ก.พ.) การทำ�งานยุ่งสุด ๆ โยนความรับผิดชอบ กันตลอด หัวหน้าก็ผีเข้าผีออก ช่วงต้นควรมุ่งมั่น ทำ�ให้เต็มที่ จะได้ไม่มีใครว่าภายหลัง “ไพ่ 2 เหรียญ” เงินทองทำ�ให้ว้าวุ่น มีแต่เรื่องน่าปวดหัว หัวปั่น จับอะไรเป็นต้องควักจ่ายตลอด เงินทอง หมุนเวียน พอจะกระเตื้องขึ้นบ้างก็ช่วงปลาย ความรักเริม่ มีปญ ั หา มีมอื ทีส่ ามเข้ามาแทรก อย่า ปล่อยเรือ่ งให้คาใจนาน จะเป็นเหตุแห่งการเลิกรา คนโสดช่วงปลายได้เจอคนที่ใช่ สุขภาพมีปัญหา จุกจิกเกี่ยวกับช่องท้องและมดลูก
ราศีกุมภ์ (13 ก.พ.-13 มี.ค.) “ไพ่ The Sun” ขยันขันแข็งแบบไม่มีสาเหตุ การทำ�งานมาแรงแซงโค้ง ใครที่คิดแข่งกับคุณ เป็นอันต้องยอมแพ้ ดวงงานพุ่ง ผู้ใหญ่ให้การ สนับสนุน ช่วงกลางมีการโยกย้าย เปลีย่ นแปลงที่ ดีขนึ้ การเงินคล่องตัว เดินทางไปไหน ติดต่อเจรจา เรือ่ งใดก็เป็นผลสำ�เร็จ อยากลงทุนให้รบี ทำ� ความ รักหวานชื่น ชวนกันไปดูหนังฟังเพลงสบายใจ คนโสดเสน่ห์แรงทั้งเพศเดียวกัน เพศตรงข้าม เข้ามารุมจีบ หลงตัวเองเป็นพิเศษ สุขภาพไมเกรน พักผ่อนน้อย วูบได้ง่าย
ราศีมีน (14 มี.ค.-12 เม.ย.) รู้สึกเซ็ง ๆ เจอปัญหาเก่า การทำ�งานไม่ โดดเด่น มักกลายเป็นตัวสำ�รอง ทำ�ให้เกิดความ น้อยใจ บางครัง้ ทำ�ดีกไ็ ม่ได้ดี ช่วงกลางทัง้ หนักและ เหนื่อย แถมยังมีปัญหาขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงาน การเงิ นติ ด ขั ด มี ค นมาขอหยิ บ ยื ม ขอความ ช่วยเหลือ ช่วงปลายพอมีลาภจากการเดินทาง ความรักไม่ได้ดังใจ ผิดสัญญาซํ้าซาก อยากอยู่ ห่างกันสักพัก คนโสดยังไม่มีวี่แวว คิดเรื่องอื่น ที่ทำ�ให้คุณก้าวหน้าจะดีกว่า สุขภาพระวังโรค โลหิตจาง ติดเชื้อจากคนป่วยง่าย
ราศีเมษ (13 เม.ย.-13 พ.ค.) “ไพ่ The Devil” ส่งผลให้อารมณ์ร้อน คุ้มดี คุ้มร้าย การทำ�งานมีการแข่งขัน แก่งแย่งความดี ความชอบ เรื่องพวกนี้ถึงแม้จะเจอบ่อย ๆ แต่ก็ ทำ�ให้อารมณ์ขึ้นได้ทุกครั้ง การเงินสะดุดตลอด มีเรื่องต้องจ่ายโดยไม่มีสาเหตุ ทำ�ของสำ�คัญหาย มือถือ กระเป๋าสตางค์ ความรักเกิดจากความ ลุ่มหลง ความสัมพันธ์ไปเร็วแต่ไม่ยืนยาว คุณที่ เป็นหญิงระวังตัวระวังความคิดไว้หน่อย เสียหาย ไปแล้วอาจต้องมานัง่ เสียใจภายหลัง สุขภาพระวัง อุบัติเหตุจากความใจร้อนประมาท
ราศีพฤษภ (14 พ.ค.-13 มิ.ย.) การงานกำ�ลังมองหางานใหม่ มีการเปลี่ยน ตำ�แหน่งหน้าที่ แต่ต้องขยัน งานท่องเที่ยว งาน ต่างประเทศก้าวหน้าสุด ๆ ช่วงนี้คุณเหมาะกับ งานที่ไม่จำ�เจ การเงินหายห่วง เงินทองไหลเข้า มากกว่าออก ช่วงกลางเดินทางไกล หรือคนจาก ที่ไกลจะให้ลาภ ความรักมีโอกาสได้ท่องเที่ยว ตากอากาศ หอมกรุน่ ไปด้วยความสุข ส่วนคนโสด หลังจากทีต่ ามหาใครสักคนอยูน่ าน ช่วงปลายจะ ได้เจอใครคนนั้น “ไพ่ 7 ดาบ” สุขภาพปวดหลัง ปวดเอว อาการคนแก่กำ�เริบ
ราศีเมถุน (14 มิ.ย.-14 ก.ค.) การทำ�งานได้รับผลดีจากความพยายาม ช่วงนี้มีไอเดียเด็ด ๆ อย่าเก็บไว้คนเดียว การเงิน หมุ น เวี ย นคล่ อ ง มี ช่ อ งทางทำ � กำ � ไรมากขึ้ น หยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทอง ยิ่งถ้าเป็นเรื่อง อสังหาริมทรัพย์ ทีด่ นิ จะมีผลตอบแทนสูง ความรัก หลบ ๆ ซ่อน ๆ แอบรักคนมีเจ้าของ แต่ช่วงนี้คุณ ดูจะได้ใจเขามากกว่า คนโสดเจอคนถูกใจ แต่ ต้องระวังคนเจ้าชู้ ถ้ามีคนรักแล้วต้องหมั่นเอาใจ เขามาใส่ใจเรา “ไพ่ 3 ดาบ” สุขภาพเจ็บคอ เสียงแหบ ทอนซิลอักเสบ กล่องเสียงอักเสบ
ราศีกรกฎ (15 ก.ค.-16 ส.ค.) การทำ�งานมองการณ์ไกลเข้าไว้จะมีชอ่ งทาง ที่ดี ได้รับความร่วมมือเต็มที่จากลูกน้องและ เพื่อนร่วมงาน ช่วงปลายมีผลงานเข้าตา การเงิน หมดไปกับความสำ�ราญ บริหารจัดการด้วย พอ มีลาภปากเข้ามาเรื่อย ๆ “ไพ่ 9 ถ้วย” ความรัก อยากรู้อยากลอง บวกกับความเสน่ห์แรง ทำ�ให้ มีประสบการณ์เพียบ เป็นที่หมายปองของใครต่อ ใคร ถ้ามีคนรักแล้วความสัมพันธ์ก้าวหน้าไป มี ข่าวดีเรื่องบุตร สุขภาพปวดตามข้อ ปวดกระดูก ระวังผิดท่า หมอนรองกระดูกอักเสบ
ราศีสิงห์ (17 ส.ค.-16 ก.ย.) “ไพ่ 2 คทา” การงานมีเพื่อนคู่คิด คอย ช่ ว ยเหลื อ ดวงคุ ณดี ในเรื่ อ งของคนสนั บ สนุ น ช่วงปลายงานหนัก เหนื่อย แต่ผลตอบแทนที่ ได้ก็นับว่าคุ้มค่า การเงินพุ่งขึ้น เพราะเลิกนิสัย ฟุ่มเฟือยและหันมาเก็บออม ใช้ จ่ายประหยัด มากขึ้ น แถมยั ง ขยั น หาเงิ น อี ก ด้ ว ย ความรั ก ก่อตัวจากความเป็นเพือ่ น ถ้ามีคนรักแล้วหวานชืน่ เข้าอกเข้าใจกัน เป็นที่ปรึกษา เป็นกำ�ลังใจให้กัน สุขภาพความซุ่มซ่าม ใจร้อนจะเป็นเหตุให้เจ็บตัว
ราศีกันย์ (17 ก.ย.-16 ต.ค.) การทำ �งานคุ ณจะเป็ น รองคู่ แข่ ง หลายขุ ม ดวงบริ ว ารหรื อ คนสนั บ สนุ น มี น้ อ ยลง ต้ อ งใช้ ความสามารถของตนเองมากขึ้น การเงินตั้งแต่ ต้นถึงช่วงกลางจับจ่ายใช้สอยเป็นว่าเล่น มีเรื่อง นั้นเรื่องนี้ให้ต้องจ่ายอยู่เสมอ เงินเริ่มน้อยลง “ไพ่ 4 ถ้วย” ความรักไม่ค่อยได้ดังใจ ต้องมานั่งบ่น ให้เพื่อนรักฟังกันจนรำ�คาญไปข้าง ส่วนคนโสด ยังหาคนถูกใจไม่ได้เสียที คนที่เข้ามาก็ไม่ชอบ ซะอย่างนั้น สุขภาพปวดท้องบ่อยจนน่ารำ�คาญ ต้องดูแลเรื่องอาหารบ้างแล้ว
ราศีตุลย์ (17 ต.ค.-16 พ.ย.) การทำ � งานเจอแต่ เรื่ อ งน่ า ปวดหั ว ช่ ว งนี้ คุมอารมณ์ตวั เองไม่คอ่ ยอยู่ หงุดหงิดง่าย ทัง้ ดือ้ ทัง้ แรง ทำ � ให้ เรื่ อ งงานขั ด แย้ ง กั บ ผู้ บั ง คั บ บั ญ ชาบ่ อ ย “ไพ่ 8 ดาบ” การเงิ น ตะขิ ด ตะขวง มี ค น มาขอหยิบยืม ปฏิเสธยาก ได้คืนยาก เลือกเอา แล้วกัน ว่าจะเลือกทางไหน ช่วงปลายมีโชคจากการ เดินทาง ความรักขี้บ่น ขี้โมโห มีเรื่องทะเลาะกัน ตลอด ถ้าเงียบลงบ้าง บรรยากาศจะดีขนึ้ คนโสด คงต้องลุกมาแต่งตัว สังสรรค์กบั เพือ่ นฝูงให้มากขึน้ สุขภาพปวดคอ นอนตกหมอน
ราศีพิจิก (17 พ.ย.-15 ธ.ค.) การทำ�งานอารมณ์เสียเพราะคอยเกี่ยงงาน คุณเองไม่ชอบเอาเปรียบใคร และไม่ชอบให้ใคร มาเอาเปรียบ เลยยอมไม่ค่อยได้ มีปากเสียงกับ เพื่อนร่วมงาน เหนื่อยทั้งกาย เหนื่อยทั้งใจ การ เงินถ้าลงทุนไปจะมีความขัดแย้งด้านผลประโยชน์ มักเป็นฝ่ายเสียเปรียบ “ไพ่ 9 ดาบ” ความรัก เหม่อลอย ว้าวุ่นใจ มีแต่เรื่องคิดมาก แต่ถ้ายัง โสดตืน่ เต้นกับประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้เจอคนถูกใจ สุขภาพอาจเจ็บท้อง มีเนื้องอก หากรู้สึกผิดปกติ ปรึกษาแพทย์ด่วน
ราศีธนู (16 ธ.ค.-15 ม.ค.) “ไพ่ 3 ถ้วย” ใช้เงินฟุ่มเฟือย หมดกับการ ไปเทีย่ ว แต่งตัว แต่กช็ ว่ ยให้คณ ุ มีชวี ติ ชีวามากขึน้ มี เ สน่ ห์ การทำ � งานมี ค วามคิ ด ริ เริ่ ม โดดเด่ น เป็นที่ยอมรับของคนรอบข้าง หมกมุ่นอยู่แต่เรื่อง ของความรัก คนโสดก็อยากมีคนรักใจแทบขาด ถ้ามีคนรักแล้ว ก็หลงกันหัวปักหัวปำ� เผลอ ๆ มี กิ๊กให้วุ่นวาย ตั้งสติไว้บ้าง เรื่องบางเรื่องมากไป ก็ไม่ดี มีความรักให้โลกสวยงาม อย่าทำ�ร้ายใครดี ที่สุด สุขภาพเจ็บเหงือก ร้อนใน มีปัญหาเกี่ยวกับ ช่องปากและฟัน happy+ | 99
กิจกรรมนำ�สุข
MPI จัดสัมมนาหัวข้อ “Trump and the End of the World Order” เพื่อเตรียมความพร้อมนักบริหารต่อ แนวโน้มธุรกิจปี 2017
สถาบันการบริหารและจิตวิทยา MPI ได้จัดงานสัมมนาในหัวข้อ “Trump and the End of the World Order” ณ เดอะ เฮ้าส์ ออน สาธร โรงแรม ดับเบิล้ ยู กรุงเทพฯ โดยได้รบั เกียรติจาก ผศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ผูเ้ ชีย่ วชาญด้านการวิเคราะห์เศรษฐกิจ และผูอ้ �ำ นวยการศูนย์อาเซียนศึกษาแห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย มาเป็นวิทยากรให้ความรูเ้ กีย่ วกับการกำ�หนดกรอบเศรษฐกิจโลกภายใต้ผนู้ �ำ สหรัฐฯ คนใหม่ โดนัล ทรัมป์ และอิทธิพลต่อการจัดระเบียบโลก ปี 2017 ซึ่งบรรยากาศภายในงานเป็นการสัมมนาแบบ Open House นักบริหารที่มาเข้าร่วมสัมมนาได้อัพเดทความเปลี่ยนแปลงในกระแสโลกตั้งแต่อดีต ถึงปัจจุบัน เสริมด้วยการคาดการณ์ความเปลี่ยนแปลงด้านการค้า การลงทุนและการเงินระหว่างประเทศ พร้อมแนวทางการรับมือกับธุรกิจไทยในอนาคต ถือเป็นอีกหนึ่งหัวข้อสัมมนาที่นักบริหารสามารถนำ�มาต่อยอดและพัฒนาธุรกิจได้จริง ในปีนี้ ทางสถาบัน MPI กำ�ลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 30 ซึ่งยังมีหลักสูตรต่าง ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย เพื่อพัฒนาทักษะการบริหารธุรกิจให้มีความเพียบพร้อม สามารถสอบถามรายละเอียดเพิม่ เติมได้ที่ 02-168-7243-7 ,09-1818-2288-90 หรือติดตามข่าวสารทางธุรกิจที่ www.trainingmpi.com และเฟซบุก๊ Training MPI
The Boss Night ครั้งที่ 1
การจั ด กิ จ กรรมนี้ เจตนารมณ์ ข อง ดร.วิ สุ ท ธิ วิ ท ยฐานกรณ์ นายกสมาคม เดอะบอสส์ เพื่อให้สมาชิกแต่ละรุ่นได้พบปะ สังสรรค์ ทำ�ความรู้จักกันในบรรยากาศเป็นกันเอง อัน จะเป็นประโยชน์ในการเชื่อมความสัมพันธ์ แลกเปลี่ยนทัศนคติ มุมมอง ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในเรื่อง ต่างๆ ต่อไปในอนาคต กิจกรรม The Boss Night ครั้งที่ 1 จึงได้มีขึ้นในวันพุธที่ 25 มกราคม 2560 เวลา 18.00 น. ณ สโมสรสังกะสี (สี่แยกรัชดา-ท่าพระ) สมาชิกชาวเดอะบอสส์แต่ละรุน่ ต่างให้ความสนใจการตอบรับเข้าร่วมกิจกรรมในครัง้ นี้ จำ�นวนมาก ภายในงานมีกิจกรรม มีเกมบัดดี้ เกมแฟนพันธุ์แท้ สร้างความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกรุ่นพี่และ รุ่นน้อง อาหารและเครื่องดื่มนานาชนิดที่จัดสรรเตรียมไว้ให้กับพวกเราชาวเดอะบอสส์ ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ทางสมาคมเดอะบอสส์และสมาชิกเดอะบอสส์รุ่น 80 (BSE) เจ้าภาพร่วม ต้องขอขอบคุณ บริษัท นํ้ามันพืชไทย จำ�กัด (มหาชน), คุณกรรณิกา พลัสสินทร์ กรรมการ บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำ�กัด (มหาชน), คุณรัตนา เตชะพันธ์งาม กรรมการผูจ้ ดั การบริษทั สมพลเบดดิง้ แอนด์ แมทเทรส อินดัสตรี จำ�กัด ที่ให้การสนับสนุนของรางวัล, สถานที่ ฯลฯ เจ้าภาพร่วม เดอะบอสส์รุ่น 80 (BSE) ยังร่วมสมทบทุนในการจัดกิจกรรมดีดีให้สมาชิกชาวเดอะ บอสส์มูลค่า 30,000 บาท และขอขอบคุณเดอะบอสส์รุ่นที่ 84 ที่รับเป็นเจ้าภาพร่วมในการจัดกิจกรรม The Boss Night ครั้งที่ 2 ขอขอบคุณที่ร่วมกันสร้างสรรค์กิจกรรมดีดีให้พวกเราชาวเดอะบอสส์ สามารถติดตามข่าวสาร,กิจกรรมต่างๆ ของสมาคมบอสส์ได้ทชี่ อ่ งทาง www.facebook.com / thebossthai 100 | happy+
TVO ได้รับการคัดเลือกอยู่ในรายชื่อ “หุ้นยั่งยืน” ประจำ�ปี 2559
บริษัท นํ้ามันพืชไทย จำ�กัด (มหาชน) โดยคุณวิสุทธิ วิทยฐานกรณ์ ประธานกรรมการบริหาร และคุณอรัญญา วิทยฐานกรณ์ รองประธาน กรรมการบริหาร ร่วมรับรางวัล “Thailand Sustainability Investment (THSI) : หุ้นยั่งยืน” จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560 ทีผ่ า่ นมา เนือ่ งในโอกาสทีบ่ ริษทั ฯ ได้รบั การคัดเลือกให้อยู่ ในรายชือ่ หุน้ ยัง่ ยืน ประจำ�ปี 2559 สำ�หรับบริษทั จดทะเบียนทีม่ กี ารดำ�เนิน ธุรกิจที่คำ�นึงถึงความสมดุลด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance : ESG) ดำ�เนินงานอย่างโปร่งใส พร้อมผลประกอบการที่โดดเด่น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุน happy+ | 101
beauty recommended
SLIMMING PLUS
สลิมมิ่ง พลัส สถาบันดูแลรูปร่างและผิวพรรณครบวงจร เชี่ยวชาญในการดูแลรูปร่าง ลดกระชับสัดส่วน ด้วยนวัตกรรม ของเครื่องมืออันทันสมัยและอุปกรณ์ใหม่ล่าสุดจากประเทศฝรั่งเศส เพียบพร้อมด้านความงาม ทั้ ง การดู แ ลผิ ว หน้ า ด้ ว ย High Collagen ที่ ช่ ว ยเติ ม เต็ ม คอลลาเจนให้ กั บ ผิ ว หน้ า โดยตรง เสริมสร้างความแข็งแรง เพิ่มความ ชุ่มชื้น ต่อต้านริ้วรอย เผยผิวหน้า กระจ่ า งใสตั้ ง แต่ ค รั้ ง แรก และ การดู แ ลผิ ว กายที่ จ ะทำ � ให้ คุ ณดู ดี ทั่วเรือนร่าง และที่พลาดไม่ได้คือ Diva Shape Treatment ที่ช่วยสลาย ไขมัน ขจัดเซลลูไลท์ กระตุน้ ให้ไขมัน แตกตัว โดยใช้อณ ุ หภูมคิ วามร้อนด้วย แร่ธาตุ และสารสกัดอันทรงคุณค่าจาก โคลนภูเขาไฟ ทำ�ให้ผิวมีความชุม่ ชืน้ กระชั บ และเรี ย บเนี ย นมากยิ่ง ขึ้น นอกจากนี้ ยั ง มี บ ริ ก ารสปาที่ มี การนวดอันเป็นเอกลักษณ์ของ สลิมมิง่ พลั ส ที่ ช่ ว ยกระตุ้ นการไหลเวี ย น โลหิตและช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด พร้อมปรับเปลี่ยนเซลล์ผิวอย่าง อ่อนโยน ดูดซับสิ่งสกปรกที่ตกค้างบนผิว ปรับสีผิวให้สว่างอย่างสมํ่าเสมอ กระจ่างใส ช่วยกระชับรูขุมขน ทำ�ให้ผิวเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ สลิ ม มิ่ ง พลั ส จะมี ผู้ เชี่ ย วชาญที่ ค อยให้ คำ � ปรึ ก ษา พร้ อ มทั้ ง ออกแบบเมนูในโปรแกรมที่ให้ผลสูงสุด และตอบโจทย์ความงามของคุณได้ ดีที่สุด สลิมมิ่ง พลัส สถาบันความงามสมบูรณ์แบบ สำ�หรับผู้หญิงที่สวย ทั่วเรือนร่าง ดูดีทั้งภายนอกและภายใน ครบได้ในที่เดียว สามารถสอบถามข้อมูลเพม่ิ เตมิ ได้ทส่ี าขา ซีคอนบางแค ชัน้ 3, เดอะมอลล์บางแค ชัน้ 1, เดอะมอลล์บางกะปิ ชัน้ 3, เดอะมอลล์งามวงศ์วาน ชัน้ 7, เซน็ ทรัล ซิต้ี ทาวเวอร์บางนา ชัน้ 23, ซีคอนสแควร์ ชัน้ 3, เมเจอร์ รัชโยธิน ชัน้ 3, เซน็ ทรัลพลาซา พระราม 3 ชัน้ 2, เซน็ ทรัลพลาซา พระราม 3 (Exclusive) ชัน้ 2, เซน็ ทรัล พลาซา รามอินทรา ชัน้ 3, เซน็ ทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 ชัน้ 8, เซน็ ทรัลพลาซา ปิน่ เกล้า ชัน้ 8 (Tower A), เซน็ ทรัล พลาซา แจ้งวัฒนะ ชัน้ 4, เซน็ ทรัลพลาซา อุดรธานี ชัน้ 3, เซน็ ทรัล พลาซา อุบลราชธานี ชัน้ 2, เซน็ ทรัล พลาซา สุราษฎร์ธานี ชัน้ 2, เมกา บางนา ชัน้ 1-2, เกตเวย์ เอกมัย ชัน้ 1, เซน็ ทรัลเฟสติวลั ภูเก็ต ชัน้ 4, เซน็ ทรัล พลาซา พระราม 2 ชัน้ 2 happy+ | 82
www.slimmingplusthai.com โทร. 0-2196-2040 Facebook : slimmingplus Instagram : slimmingplus_thailand
game for reader
Q : คอลัมน์ travelogue พาไปเที่ยว สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ที่ประเทศใด ทราบแล้วส่งคำ�ตอบมายังนิตยสาร happy+ บริษทั ไทย ภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะเทรนดี้ ชัน้ 27 ถ.สุขมุ วิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110 หรือส่งมาทีอ่ เี มล happyplusmag@gmail.com ภายในวันที่ 30 เมษายน 2560
ร่ ว มลุ้ น รั บ Detox Daily Powder จาก Sponge Me จำ�นวน 2 รางวัล (ประกาศราย ชื่อผู้ได้รับรางวัลใน happy+ ฉบับเดือนมิถนุ ายน 2560) หมายเหตุ : ภายในไปรษณีย์ โปรดระบุเบอร์ตดิ ต่อกลับ และหากได้รางวัล กรุณาเดินทางมารับรางวัลด้วย ตนเอง
รายชื่อผู้รับรางวัลเล่ม 51
โครงการมอบความสุขให้กบั ชุมชน โดยการสมัครเป็นสมาชิกอุปถัมภ์นติ ยสาร happy+ ให้โรงเรียน โรงพยาบาลในชนบท และชุมชนทีข่ าดแคลน เพื่ อ ส่ ง เสริ ม ประชาชนให้ มี คุ ณ ภาพชี วิ ต ที่ ดี มี ค วามสุ ข ทั้ ง กาย ใจ และสั ง คม นิตยสาร happy+ จึงขอเชิญชวนผู้อ่านร่วมเป็นผู้อุปถัมภ์กิตติมศักดิ์ สมัครเป็นสมาชิกอุปถัมภ์ ให้โรงเรียน โรงพยาบาลในชนบท และชุมชนที่ขาดแคลน โดยท่านสามารถใช้ใบสมัครเดียวกับใบ สมัครสมาชิกทั่วไป เพียงระบุชื่อโรงเรียนที่ต้องการอุปถัมภ์ลงไปในช่องชื่อและที่อยู่ ซึ่งเว้นไว้ นิตยสาร happy+ ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแบ่งปันความสุข และมีส่วนร่วมในการดูแล สังคมไทย 104 | happy+
วัดในประเทศไต้หวัน ที่นักท่องเที่ยวนิยมไป กราบไหว้เพื่อให้สมหวังในความรัก คือวัดใด คำ�ตอบ วัดหลงซาน รายชื่อผู้โชคดี ได้รับ นํ้ามันนวดตัวจาก Sabai Sabai จำ�นวน 2 รางวัล 1. คุณแสงจันทร์ แจ่มมี กรุงเทพฯ 2. คุณอัศวิน พุทธทองนาค กรุงเทพฯ ติดต่อเพือ่ รับของรางวัลได้ที่ คุณเบล บริษทั ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชั้น 27 ถนนสุขุมวิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110 โทร. 0-2168-7480 ต่อ 1021 หากไม่ตดิ ต่อขอรับรางวัล ภายในวันที่ 30 เมษายน 2560 ถือว่าสละสิทธิ์ ** โปรดมารับรางวัลด้วยตนเองค่ะ
Next Issue นักวาดภาพประกอบ อาชีพนักวาดภาพประกอบ ถือเป็น อาชีพหนึง่ ทีน่ า่ สนใจและกำ�ลังมาแรง ในช่วงนี้ เราจะเห็นว่าหนังสือใน ยุคหลัง ๆ จะเน้นตัวหนังสือน้อย ๆ แต่ใช้ภาพประกอบเพือ่ สือ่ สารสิง่ ที่ ผูเ้ ขียนต้องการมากขึน้ ในประเทศไทย เราก็มนี กั วาดภาพประกอบหลายท่าน ทีก่ �ำ ลังเป็นทีน่ ยิ ม เนือ่ งด้วยลายเส้น และความน่ารักของผลงานของเขา หรือเธอ โดนใจผูอ้ า่ นหรือผูพ้ บเห็น นิตยสาร happy+ ฉบับหน้าจะพา คุณผูอ้ า่ นทุกท่านไปรับรูถ้ งึ ตัวตนของ พวกเขา อย่าลืมติดตามกันได้ แล้วพบกันทีแ่ ผงหนังสือนะคะ เลขที่ใบสมัคร No…………………………………………………รหัสสมาชิก...................................................................................................... (สำ�หรับเจ้าหน้าที่)
ใบสมัครสมาชิก
สมาชิกทั่วไป
สมาชิกอุปถัมภ์
วันที่สมัคร............................................................................................................................................................... สมัครสมาชิก 1 ปี (12 ฉบับ) ราคา 780 บาท เริ่มฉบับที่.....................................................................ถึงฉบับที่............................................................................ ชื่อ................................................................................นามสกุล............................................................................ วัน/เดือน/ปีเกิด..............................................................อายุ.................................................................................. เพศ ชาย หญิง อาชีพ..............................................................รายได้ต่อเดือน....................................... ระดับการศึกษา ตํ่ากว่า ป.ตรี ป.ตรี ป.โท อื่นๆ สถานภาพ โสด สมรส ม่าย/หย่าร้าง ปัจจุบันมีบุตรหรือไม่ ยังไม่มี มีแล้ว จำ�นวน...............................คน สถานที่สำ�หรับจัดส่งนิตยสาร ชื่อ........................................................................................................................................................................... ที่อยู่........................................................................................................................................................................ รหัสไปรษณีย์.......................................................................................................................................................... โทรศัพท์ (บ้าน).................................................................โทรศัพท์ (มือถือ).......................................................... โทรสาร............................................................................อีเมล............................................................................... ชำ�ระค่าสมัครโดย โอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ในนาม บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบางโคล่ : เลขที่บัญชี 095-273056-5 *กรุณาส่งใบสมัครสมาชิก พร้อมเอกสารการชำ�ระเงินมาที่ ฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์ นิตยสาร happy+ บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชั้น 27 ถนนสุขุมวิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110 หรือแฟกซ์มาที่หมายเลข 0-2168-7481 หรือสแกนหลักฐานส่งมาทางอีเมล happyplusmag@gmail.com **บริษัทจะส่งเลขที่สมาชิกและนิตยสารฉบับแรกไปยังท่าน เมื่อได้รับหลักฐานการชำ�ระเงินแล้ว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือแนะนำ� ติ ชม ได้ที่ฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์ นิตยสาร happy+ โทรศัพท์ 0-2168-7480 ต่อ 1021 (แบบฟอร์มนี้สามารถถ่ายเอกสาร หรือคัดลอกลงกระดาษ A4 แล้วส่งมาตามที่อยู่ของบริษัท)
พิเศษ
สมัครสมาชิก happy+ เดือนเมษายน รับทันที ผลิตภัณฑ์ปดิ ผมขาว Color Herbal Hair Coat + Mineral Herbal Liquid จาก Nanovech
พิเศษยิ่งกว่า
สำ�หรับสมาชิกที่ต่ออายุ ในเดือนเมษายน รับเพิ่มผลิตภัณฑ์บำ�รุงขนคิ้ว Brow Boost Serum จาก Nanovech
happy ending
ผู้ที่จะรักษาความเป็นไทยได้มั่นคงที่สุด ดี และเหมาะสมที่สุด ไม่มีใครอื่นนอกจากคนไทย เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะอยู่ ณ แห่งใด คนไทยมีหน้าที่ต้องรักษาความเป็นไทยเสมอ พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานแก่สมาคมนักเรียนไทยในประเทศญี่ปุ่น ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๗