let's smile
the Power of Dream เราทุกคนล้วนมีความฝัน ไม่ว่าจะเป็นหญิง หรือชาย เด็ก หรือ ผู้ใหญ่ แม้จะล่วงเลยเข้าสู่วัยชราแล้ว ความฝันก็ยังไม่หายไปไหน ยังซุกซ่อนอยู่ในซอกมุมหนึ่งของหัวใจ แต่ความฝันจะเป็นเพียงแค่ ความฝัน หากเราปล่อยมันไว้อย่างนั้น ตราบเมื่อเราลงมือกระทำ�ด้วย ความมุ่งมั่น ตั้งใจ ความฝันที่คล้ายภาพป้ายปาดด้วยฝีแปรงแห่ง จินตนาการจึงจะแปรเปลี่ยนเป็นความจริงขึ้นมาได้ happy+ เอง ก็เกิดขึ้นจากแรงใจและไฟฝัน ที่อยากเห็นผู้คนมีความสุข เราเชื่อว่าเมื่อ แต่ละคนมีความสุข สังคมโดยรวมก็จะมีความสุขตามไปด้วย หนึ่งปีที่ผ่านมา happy+ ค่อยๆ ขยายเครือข่ายแห่งความสุขออกไปทีละเล็ก ทีละน้อย ทีละนิด ทีละหน่อย แม้ไม่ได้สร้าง ปรากฏการณ์ถึงขั้นที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมให้กลายเป็นสังคมที่เปี่ยมสุขได้ แต่เราก็มีความสุข และภาคภูมิใจที่ได้ทำ�ตามฝัน หนึง่ ปีทผ่ี า่ นมานอกจากเราจะได้ท�ำ ตามฝันแล้ว เรายังได้รบั กำ�ลังใจและความรักจากผูอ้ า่ น มากมาย ได้รับมิตรภาพ ได้เจอะเจอผู้คนที่มีแนวความคิดเดียวกัน นอกจากนี้ เรายังได้รับ ข่าวอันน่ายินดี ว่า happy+ ได้รับรางวัล “ตาราอวอร์ด” รางวัลสำ�หรับผู้ปลุกหัวใจสังคมด้วย หัวใจโพธิสัตว์จากเสถียรธรรมสถาน ซึ่งทำ�ให้เราอบอุ่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า มีผู้เห็นคุณค่าในสิ่งที่ เราทำ� และมีคนมากมายที่อยากจะเดินร่วมทางไปกับเรา ในโอกาสครบรอบหนึ่งปี นอกจากเรื่องราวแห่งความสุขที่เราคัดสรรมานำ�เสนออย่างจุใจ แล้ว เรายังอยากสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านทุกท่าน ด้วยเรื่องราวของ 10 ผู้กล้าท้าฝัน ที่ล้วน ต้องผ่านอุปสรรคมากมาย กว่าจะถึงจุดหมายปลายทางที่ตั้งใจไว้ พวกเขาได้แสดงให้เราเห็นว่า ไม่ว่าฝันจะเล็กหรือใหญ่ ไม่ว่าเส้นทางจะยากลำ�บากสักเพียงไหน เพียงไม่ละทิ้งฝันไปกลางทาง สักวันสิ่งที่ฝันไว้จะกลายเป็นจริงอย่างแน่นอน ทิพย์วรรณ แสวงศรี happyplusmag@gmail.com เจ้าของ : บริษทั ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชัน้ 27 ซอยสุขมุ วิท 13 ถนนสุขมุ วิท แขวงคลองเตย เหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 0-2168-7480 โทรสาร 0-2168-7481 คณะที่ปรึกษา : วิสุทธิ วิทยฐานกรณ์, คัมภีร์ ภาคสุวรรณ์ บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา : วิสา รัตตประดิษฐ์ บรรณาธิการบริหาร : ทิพย์วรรณ แสวงศรี หัวหน้ากองบรรณาธิการ : สโรบล วิบูลยเสข นักเขียน : ปิ่นอนงค์ วัชรปาณ, ประอรพิชญ์ คัจฉวัฒนา, อนุสรณ์ ศรีคำ�ขวัญ, นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา, นันทภา ปัญญารัตน์, ชัญญา เศรษฐบุตร, ญาดารัตน์ บาลจ่าย, ศศิ นี ปั ญ ญารั ต น์ , นพ.พั ฒ น ธั ญ ญกิ ต ติ กุ ล , มาริ น า โคบายาชิ , ศนิ ศ รา แสงอนั น ต์ , ดุ ษ ฎี พั น ธุ์ พจี , วีระโชติ, รัฐธนนท์ ธนาสินสิทธานนท์, ต้องการ, การะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์, นุชนาฏ เชาวลิต, Miss Beauty, วีรณัฐ โรจนประภา, ปัทมา กลิ่นทอง, พูลทรัพย์ เจตลีลา, อาจารย์คฑา ชินบัญชร, ฐชาภัทร ศรีหมื่นไวย พิสจู น์อกั ษร : ณรงค์ พึง่ บุญพา บรรณาธิการศิลปกรรม : กัมปนาท ศิลาวรรณ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ : ณัฐนนท์ สังข์กรทอง ช่างภาพ : สุภชัย รอดประจง ฝ่ายโฆษณาและการตลาด : เกรียงไกร พันจินา 08-9145-9319 ติดต่อกองบรรณาธิการ หรือฝ่ายสมาชิกได้ที่ : 0-2168-7481 แยกสี : 71 Interscan Co.,Ltd. โทรศัพท์ 0-2631-7171 พิมพ์ที่ : บริษทั ไซเบอร์พริน้ ท์ จำ�กัด 0-2641-9135-8 จัดจำ�หน่าย : บริษัท เวิร์ล ออฟ ดิสทริบิวชั่น จำ�กัด • ผู้อ่านท่านใดต้องการเขียนจดหมายมาพูดคุยกับเรา ต้องการติ ชม หรือเสนอแนะ เชิญส่งความคิดเห็นของท่านเข้า มาได้ที่ happyplusmag@gmail.com หรือเข้าไปติดตามความเคลื่อนไหว update ข่าวสารใหม่ๆ ได้ที่ : facebook.com/ happyplusmag
Letter สวัสดีคะ่ ชาวแฮปปีพ้ ลัส ชอบปกพีก่ อ้ ง สหรัถมาก เหมาะทีจ่ ะเป็น happy people เลย เพราะพีเ่ ขาดูเป็นคนทีส่ ขุ ภาพแข็งแรงทัง้ ร่างกาย และจิตใจ (ติดตามผลงานของเขาอยูแ่ ล้วด้วย) ชอบนิตยสารทีท่ มี งานผลิตออกมามาก เป็นนิตยสารทีม่ ี คุณภาพ ราคาสบายๆ อ่านได้ไม่เบือ่ เนือ้ หาทันสมัย แม้ เรือ่ งจะนำ�เสนอตรงกับฉบับอืน่ แต่เนือ้ หานัน้ ไม่เหมือน ใคร รูปเล่มทำ�ออกมาได้ดี น่าหยิบจับ ขอบคุณนะคะที่ ผลิตนิตยสารทีม่ คี ณ ุ ภาพมาให้อา่ น ขอเป็นกำ�ลังใจให้ ทีมงานค่ะ ขอแสดงความปรารถนาดี พิรยี ์ ไชยชนะ สวัสดีคะ่ คุณพิรยี ์ จำ�ได้วา่ คุณพิรยี เ์ คยเขียนมาหา happy+ ตอนฉบับ ปฐมฤกษ์ ตอนทีไ่ ด้รบั จดหมายดีใจมากๆ เลยค่ะ ขอบคุณสำ�หรับกำ�ลังใจนะคะ ยิง่ ได้รบั กำ�ลังใจดีๆ อย่างนี้ ทีมงาน happy + ขอทุม่ เททัง้ แรงกาย แรงใจ เพือ่ พัฒนาคุณภาพหนังสือให้ดยี ง่ิ ขึน้ ไปเรือ่ ยๆ ค่ะ หากอยากอ่านเรือ่ งใดเป็นพิเศษ ก็สง่ ความคิดเห็น เข้ามาได้เลยนะคะ ^^ • ส่งความคิดเห็น คำ�ติ ชม หรือข้อเสนอแนะทีม่ ตี อ่ happy+ ได้ท่ี กองบรรณาธิการนิตยสาร happy+ บริษทั ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด เลขที่ 10/196-197 อาคาร เดอะ เทรนดี้ ชัน้ 27 ซอยสุขมุ วิท 13 แขวงคลองเตย เหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 หรือทางเมล happyplusmag@gmail.com happy+ มีของขวัญ มอบให้แทนคำ�ขอบคุณ สำ�หรับคุณพิรยี ์ จะ ได้รบั ไวต้าทิพย์ นา้ํ มัน มะพร้าวสกัดเย็น 100% ชนิดแคปซูล 1 กระปุก ติดต่อรับของรางวัลได้ท่ี กองบรรณาธิการนิตยสาร happy+ โทร. 0-21687480 ต่อ 1010
เคล็ดลับความสุข จากผูอ้ า่ น happy+ “เคล็ดลับความสุขของดิฉนั คือการอ่านหนังสือ หรือข้อความดีๆ แนวให้ก�ำ ลังใจค่ะ เช่น happy+ ไงคะ อ่านแล้วใจเย็นขึน้ เยอะ ทำ�ให้ทราบว่า ยังมีคนดีๆ ในสังคมอีกเยอะค่ะ และอีกอย่างก็คอื ‘วาง ก็ ว่าง’ ขอบคุณค่ะ” จันทิมา ธรรมฤทธิ์
contents
20
ปีที่ 2 | ฉบับที่ 13 | พฤศจิกายน 2556 กายสุข 14 Healthy Planet / 6 Nature Secrets เปิดความลับอยู่ดี กินดี วิถี ธรรมชาติ 54 Q&A 55 Take Care / บอกลาความขี้ลืมในตัวคุณ 58 ยืดเส้น ยืดสาย / คลายเครียด ทั้งกายและใจ สร้างสุขเพื่อวันนี้และอนาคต 60 Well Being / ร่วมด้วยช่วยฝัน... 62 ธรรมชาติบำ�บัด / ความสุขสร้าง...ฝัน 64 Beauty by Nature / สวยสั่งได้ ใน 1 สัปดาห์ 66 Beauty Recommended / 3 ขั้นตอนสำ�คัญเพื่อดูแลผิวให้สดใส 90 กินอาหารเป็นยา / นํ้าส้มสายชูหมักอัญชัน 92 ระบำ�ทำ�ครัว / ผัดผักขมแดงใส่กะปิ ใจสุข 20 Happy People / My Dream, My Happiness พลังฝันสร้างสุข เต๋อ ฉันทวิชช์ 28 Feature / The Power of Dream แรงใจและไฟฝัน 10 เส้นทางของ 10 ผู้กล้าท้าฝัน 67 A Few good Stuff / สามวันอันพิเศษสำ�หรับฉัน 68 Family in Love / ฝันมีราก 70 ทรัพย์ในธรรม / อธิษฐานธรรม 72 สุขีในญี่ปุ่น / Cafe@กินซ่า 77 TRAVELOGUE / ปานามา 81 การเดินทางของนกสีฟ้า / Land of Love...ความรักและมิตรภาพ บนเกาะสีชัง 84 One Happy Day / ตามรอยความฝัน...ผู้สร้างตำ�นานคาวบอยไทย 86 Home Sweet Home / โคมไฟผักกาดขาว 88 Green Shop Review / 94 ชวนชิมอิ่มสุข / Moulin อาหารนิวยอร์กและแนวฟิวชั่นสุดลํ้า กินสนุกที่ Feast Kyo Roll En หวานตามแบบฉบับเกียวโต 98 ดูหนังกับฟ้า ฟังเพลงกับฝน / Girlfriend, Boyfriend and Folkfriend 99 ชวนอ่านสานสุข 100 Horoscopes สังคมสุข 10 Happy Planet / The Roof is “Green” หลังคานี้...สีเขียว 50 คนคิดดี / สุขของครูผู้ให้ สุขของ “ครูพายุ สอนว่ายนํ้า” 102 กิจกรรมนำ�สุข
28
72
92
อ.ไชยยันต คิดวา การไดนอนหลบัเตม็อิ่ม มผีลทาํใหอารมณแจมใสตามมาดวย เมือ่ เหน็ผล จึงไดสั่งซื้อน้ำปรับโมเลกุลมาดื่ม และตอมาไดตัดสินใจสั่งซื้อเครื่องปรับ โมเลกลุน้ำ มาทาํน้ำดื่มเองที่บานเพื่อใหคนในครอบครวัไดดื่มดวย
ีผานมา
contributors ต้องการ
green shop review p.88
นักวาดการ์ตูนผู้ผันชีวิตมาดูแลสุขภาพแบบ ธรรมชาติและตั้งตัวเองเป็น “นักวาดการ์ตูน ออร์แกนิกคนแรกของโลก” เพราะเล็งเห็นแล้วว่า วิถีออร์แกนิกนั้นเป็นคำ�ตอบให้กับปัญหาสุขภาพ ของคนและสิ่งแวดล้อมได้ ทุกวันนี้อาศัยอยู่ที่ ปากช่อง พยายามเรียนรู้การดูแลตัวเองแบบ ธรรมชาติและออร์แกนิกให้เก่งกล้ายิ่งขึ้น
ชัญญา เศรษฐบุตร ธรรมชาติบำ�บัด p.62
เคยป่วยหนักจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด กระทั่งมา พบแนวทางธรรมชาติบำ�บัดและได้เยียวยาตนเอง จนกลับมาเป็นปกติ จากนั้นจึงได้ศึกษาศาสตร์ ด้านธรรมชาติบำ�บัดเพิ่มเติม และปวารณาตน ออกเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับศาสตร์แห่งการใช้ ชีวิตและศิลป์แห่งการเยียวยา ซึ่งมีผู้นำ�ไปปฏิบัติ จนเห็นผลแล้วมากมาย
นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา Take Care p.55
คุณหมอบล็อกเกอร์ผู้เขียนบทความทางการ แพทย์ลงใน Mthai.com และ mor-maew.exteen. com เจ้าของรางวัล “เบสท์ออฟเดอะเบสท์” และ รางวัล “บล็อกยอดเยี่ยม สาขาสุขภาพ” จากการ ประกวดสุดยอดบล็อก ในงานประกวดไทยแลนด์ บล็อกอวอร์ด
พิทักษ์ ศุภบัณฑิตย์กุล ยืดเส้นยืดสาย p.58
อาจารย์พิทักษ์ เป็นวิทยากรฟุตบอล ประจำ� ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติส่วนกลาง การกีฬาแห่ง ประเทศไทย เป็นวิทยากรด้านวิทยาศาสตร์การ กีฬา และเป็นเทรนเนอร์ให้กับนักกีฬา รวมทั้ง ผู้ที่สนใจจะออกกำ�ลังกายอย่างถูกต้อง
วีรณัฐ โรจนประภา family in love p.68
“วิศวกรสังคม” ผู้มุ่งมั่นใช้หลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงขับเคลื่อนงานใน 3 มิติคือ การศึกษา เศรษฐกิจ และสังคม ด้วยการก่อตั้ง องค์กรทำ�งานใน 3 ระดับ คือ ขั้น “สอนให้รู้” ผ่านสถาบันคิดใหม่ ขั้น “ทำ�ให้ดู” ผ่านมูลนิธิ บ้านอารีย์, สมาคมบ้านปันรัก, ไร่กระต่าย และใช้ ชีวิตตนเองเผยแผ่ในขั้นสุดท้ายคือ “อยู่ให้เห็น”
มารินา โคบายาชิ สุขีในญี่ปุ่น p.72
ทำ�งานด้านประสานงานและเป็นอาสาสมัครช่วย เหลือเด็กไทยในประเทศญี่ปุ่นด้านการศึกษา มี ผลงานแปลหนังสือภาพหลายเล่มในนาม มารินา โฮริคาวา ให้กบั สำ�นักพิมพ์แพรวเพือ่ นเด็ก สำ�นักพิมพ์ Reading Party สำ�นักพิมพ์คมั ปาย อิมเมจจิง้ และมูลนิธิเอสซีจี ปัจจุบันแต่งงานและอาศัยอยู่ ในประเทศญี่ปุ่น
ป้าจาย-แม่มดดอกไม้ กินอาหารเป็นยา p.90
ผู้เขียนและวาดภาพประกอบหนังสือ ครัวดอกไม้ ที่ได้รับการตีพิมพ์ถึง 3 ครั้ง และยังเป็นเจ้าของ เครื่องหมายทะเบียนการค้า ครัวดอกไม้ ปัจจุบัน มีความสุขกับการเขียนหนังสือ และออกตลาดนัด สีเขียวซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำ�ได้ทุกวันโดยไม่รู้สึก เบื่อหน่าย
การะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์ ระบำ�ทำ�ครัว
p.92
นักเขียนและนักพยากรณ์ คอลัมนิสต์ผู้สนุกสนาน กับการใช้ชีวิตที่หลอมรวมเอาเรื่องงานและการ ละเล่นเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการวาดภาพ เขียน หนังสือ เรียนรู้โหราศาสตร์ และการทำ�อาหาร... การทำ�อาหารจึงเป็นเรื่องของการ “ระบำ�ทำ�ครัว” นั่นเอง
อาจารย์คฑา ชินบัญชร horoscope p.100
นักพยากรณ์ชื่อดัง เจ้าของรางวัล “สร้างสรรค์ สังคมไทยดีเด่น” ประจำ�ปี 2541 ปัจจุบันเป็น ทั้งคอลัมนิสต์ พิธีกร และวิทยากรพิเศษ รวม ถึงทำ�งานการกุศลมากมาย ได้แก่ เป็นประธาน กองทุน M.A.C. Aids Fund (ประเทศไทย) ประธานหาทุนมูลนิธิร่วมนํ้าใจต้านภัยเอดส์ เป็นต้น
ศนิศรา แสงอนันต์ TRAVELOGUE
p.77
“ศนิศรา” เป็นศิษย์อักษรศาสตร์แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย และวารสารศาสตรมหาบัณฑิตจาก สถาบัน ICDE แห่งกรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ ปัจจุบัน “ศนิศรา” ต้องติดตามสามีผู้ซึ่งเป็น นักการทูตของสหภาพยุโรป (EU) ไปประจำ�อยู่ใน หลายประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นนักเดินทาง ท่องเที่ยวตัวยง (คงกระพัน) อีกด้วย
นพ.พัฒน ธัญญกิตติกุล A Few Good Stuff p.67
จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และได้ ไปศึกษาต่อด้านจอประสาทตา ที่มหาวิทยาลัย บริติชโคลัมเบีย แคนาดา ในปี 2541 ปัจจุบัน เป็นจักษุแพทย์ คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช รักการว่ายนํ้า เทนนิส และการใช้ชีวิตให้มีความสุข
ศศินี ปัญญารัตน์ Beauty by Nature
p.64
ผันตัวเองจากการทำ�งานในบริษัทโฆษณาต่างชาติ ชื่อดัง มาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโยคะและธรรมชาติ บำ�บัด จบหลักสูตรจากสถาบันโยคะวิชาการ และ Kaivalyadhamma Yoga Institute, India ทุ่มเทเวลา ดูแลตัวเองทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ จิตวิญญาณ ปัจจุบันเปิดสอนโยคะส่วนตัวแนวธรรมชาติบำ�บัด
happy planet เรื่อง : ปิ่นอนงค์ วัชรปาณ
1
The Roof is “Green” หลังคานี้...สีเขียว
หลังคาเขียวในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงการนำ� สีเขียวไปทาหลังคาบ้านหรืออาคาร แต่เป็น “เขียว” จากการใช้พื้นที่ “หลังคา” เพื่อสร้าง ประโยชน์ทางสิ่งแวดล้อมและช่วยต่อสู้กับภาวะ โลกร้อนอีกทางหนึ่ง หรืออีกนัยหนึ่งก็คือแนวคิด แบบ eco ที่ทำ�ให้พื้นที่ด้านบนสุดของบ้านหรือ อาคาร...กลายเป็น “หลังคามีชีวิต” ด้วยการ ปลูกพืช แทนที่จะปล่อยพื้นที่ไว้เฉยๆ แต่ก็ต้อง ออกแบบโครงสร้างอาคารให้มีความแข็งแรงเป็น พิเศษด้วย แนวคิด “หลังคาเขียว” เริ่มต้นขึ้นที่ เยอรมนี เมื่อ พ.ศ. 2508 โดยมีการผลิตวัสดุ สำ�หรับใช้วางบนหลังคาเพื่อรองรับการปลูก พืช เนื่องจากเห็นว่าการปลูกพืชบนหลังคามี ประโยชน์มากมาย อาทิ สามารถใช้เป็นที่พัก 10 10 | happy+
2 3
ผ่อนหย่อนใจ ผลผลิตที่เกิด ขึ้นไม่ว่าจะเป็นพืช ผัก หรือ ดอกไม้ ก็นำ�มาใช้ประโยชน์ หรือรับประทานได้ นอกจาก นี้ยังช่วยชะลอนํ้าฝนที่ไหลลง ระบบสาธารณะ ช่วยกรอง มลพิษ ไปจนถึงช่วยยืดอายุ การใช้งานของหลังคา รวมทั้ง ความคาดหวังที่จะสร้าง “ป่า” ขนาดย่อมๆ ขึ้นใจกลางเมือง เพื่อเป็นแหล่งพักพิงให้กับนก ผีเสื้อ ผึ้งและแมลงต่างๆ ด้วยประโยชน์ที่อเนกอนันต์ ปานนี้แนวคิดหลังคาเขียว จึงได้แพร่หลายไปในยุโรป และอเมริกา อย่างที่ชิคาโก พอร์ตแลน และแอตแลนตา ได้มีการตราบทบัญญัติของ ท้องถิ่นขึ้นเพื่อให้การสนับสนุน แนวคิดหลังคาเขียว เนื่องจาก
1 Brooklyn
Grange Rooftop Farm 2 สวนผัก ดาดฟ้า Bell, Book and Candle Restaurant 3 จอห์น มูนยี ์ เชฟเจ้าของร้าน Bell, Book and Candle Restaurant
รู้เรื่องนี้ โดยมีการเปิดอบรม จัดเสวนาและเปิดรับอาสา สมัครมาช่วยทำ�งานนี้เพื่อเผย แพร่แนวคิดที่เป็นประโยชน์ให้ กระจายออกไปมากขึ้นด้วย ส่วนประเทศเพื่อนบ้าน แถบเอเชียก็ต้องมองญี่ปุ่น เป็นตัวอย่าง เพราะเขาปลูก ผักตามระเบียงบ้านและบน 4 ดาดฟ้ามานานแล้ว เนื่องจาก 6 มีการศึกษาพบว่า หากหลังคาอาคารในเมือง ที่พักตามเมืองใหญ่ไม่ค่อย ใหญ่ทุกแห่งเป็นหลังคาเขียวจะช่วยลดอุณหภูมิ มีบริเวณ โดยเฉพาะย่าน ของเมืองในวันที่ร้อนจัดได้มากถึง 7 องศา รปปงหงิฮิลล์เขตเศรษฐกิจใน เซลเซียสเลยทีเดียว โตเกียว พวกเขาจึงปลูกผัก หลังคาเขียวรูปแบบหนึ่งที่ผู้คนให้ความ ผลไม้ไปจนถึงทำ�นาข้าวขนาด สนใจมากขึ้นเรื่อยๆ คือ สวนผักดาดฟ้า อย่าง พอเพียงตามระเบียงบ้านหรือ ที่เนเธอร์แลนด์ได้มีการปลูกผักบนหลังคา ตึก และหลายแห่งยังสาธิต โรงเรียนหรือภัตตาคาร เพื่อนำ�ผลผลิตมาบริโภค กิจกรรมเรียนรู้และทดลองทำ� ที่นิวยอร์กก็มีสวนผักดาดฟ้าใหญ่ที่สุดคือ เกษตรบนดาดฟ้าด้วย เคยมี Brooklyn Grange Rooftop Farm ซึ่งทำ�หน้าที่ 7 โครงการนำ�ร่องที่ชื่อ “Green ซับนํ้าฝนเพื่อช่วยบรรเทาปัญหานํ้าท่วม Potato” ของบริษัทเอกชน ฉับพลันและยังเป็นแหล่งผลิตอาหารในเมือง แห่งหนึ่งในญี่ปุ่นที่ได้รับการ ด้วย ร้านอาหารชื่อดังในนิวยอร์กอย่าง Bell, สนับสนุนจากองค์การโทรศัพท์ Book and Candle Restaurant ก็ได้นำ�แนวคิด ด้วยการสละพื้นที่บนอาคาร “สวนผักดาดฟ้า” มาใช้ โดยการปลูกผักผลไม้ 2 แห่งให้พนักงานปลูกมันฝรั่ง ตามฤดูกาลไว้ปรุงอาหารภายในร้าน จอห์น มูนยี ์ เนื่องจากใบมันมีขนาดใหญ่ เชฟเจ้าของร้านจึงออกแบบเมนูอาหารตาม เมื่อแผ่คลุมพื้นที่ก็ช่วยป้องกัน ผลผลิตที่ปลูกได้ในแต่ละช่วง อาหารของที่นี่ ความร้อนจากแดดได้ และ ปรุงจากผัก ผลไม้สดจากต้น รสชาติจึงสมบูรณ์ พนักงานยังสามารถนำ�มัน และเปี่ยมด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ไม่เพียง เท่านั้น ยังกลายเป็นจุดขายที่น่าสนใจ เพราะ ลูกค้าที่มารับประทานอาหารมักขอขึ้นไปชมสวน ผักบนดาดฟ้าของร้านอยู่เป็นประจำ� ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ห้าง Thornton’s Budgens ก็ทำ�สวนผักดาดฟ้าของ ตัวเอง เพื่อนำ�ผักผลไม้สดใหม่จากดาดฟ้า ไม่ว่าจะเป็นสตรอว์เบอร์รี มะเขือเทศ อาร์ติโชก กะหลํ่าปลีม่วง แคร์รอต ถั่ว ผักโขม และดอกไม้ กินได้หลายชนิด มาจำ�หน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ต 5 ของห้างทุกวันศุกร์ ตามโครงการ “food from 4 อีกมุมหนึง่ ของสวนผักดาดฟ้า ร้าน Bell, Book and the sky” เพื่อให้คนในเมืองมีอาหารปลอดสาร Candle Restaurant พิษบริโภค เพราะเขาใช้วิธีปลูกแบบออร์แกนิกที่ 5 มุมจำ�หน่ายผักผลไม้ตามโครงการ “Food from the sky” ของห้าง Thornton’s Budgens ไม่ใช้สารเคมีใดๆ แต่นำ�ขยะอินทรีย์ภายในห้าง 6 สวนผักดาดฟ้าสำ�หนักงานเขตหลักสี่ มาทำ�เป็นปุ๋ยหมักและเลี้ยงไส้เดือนเพื่อผลิตปุ๋ย 7 โครงการ “Green Potato” ของญีป่ นุ่ ทีป่ ลูกมันฝรัง่ ไว้ บนดาดฟ้า ที่นี่จึงทำ�หน้าที่เป็นศูนย์กลางแลกเปลี่ยนความ 12 12 | happy+
มาต้มรับประทานกันในช่วงฤดูใบไม้ร่วงได้ด้วย บ้านเราเองก็ไม่น้อยหน้าเพราะมีหลาย โครงการที่ส่งเสริมให้คนเมืองทำ�เกษตรกัน ให้มากขึ้น ที่เห็นชัดก็ที่ดาดฟ้าชั้น 10 ของ สำ�นักงานเขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการ ปลูกสวนผักดาดฟ้า และเปิดเป็นศูนย์การเรียน รู้ ห้องเรียนธรรมชาติเกษตรอินทรีย์ อบรมความ รู้ในเรื่องนี้ให้ผู้สนใจฟรี โดยมีการสาธิตและให้ ผู้เข้าอบรมได้ลงมือปฏิบัติจริง (ใครสนใจลอง สอบถามที่โทร. 0-2576-1393) รวมไปถึงตาม ดาดฟ้าบ้านเรือนหรืออาคารหลายๆ แห่งก็มี ผู้สนใจปลูกผักกันมากขึ้น ลองเสิร์ชตามเว็บ ด้วยคำ�ว่า “สวนผักลอยฟ้า” หรือ “สวนผักคน เมือง” จะพบตัวอย่างหลายๆ ครอบครัวที่ทำ� เรื่องนี้ได้สำ�เร็จ มีผักสวนครัวงอกงามสำ�หรับนำ� มารับประทานเองแบบสดๆ อยู่เต็มพื้นที่เล็กๆ ตามระเบียงคอนโดหรือดาดฟ้าตึกที่ตนเองอาศัย อย่างน่าอิจฉา! ขณะที่มีมนุษย์ประหลาดในบ้านเราคิด แต่จะสร้างเขื่อนโดยไม่ศึกษาผลกระทบทาง นิเวศวิทยาให้รอบคอบ หลายๆ ประเทศ (ที่เขา พัฒนาแล้วจริงๆ) กลับพยายามสร้าง “ป่า” ในเมือง โดยที่ยังพยายามดูแลรักษาป่าตาม ธรรมชาติไว้อย่างดีอีกด้วย
healthy planet เรื่อง : แม่มะลิ | ภาพประกอบ : kampanatz.com
6
Nature Secrets
เปิดความลับอยู่ดี กินดี วิถีธรรมชาติ
“ธรรมชาติ มอบสิ่งดีๆ ให้มนุษย์เสมอ เพียงแค่เราไม่หลงลืมใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ” ด้วยความเชื่อนี้เองที่ทำ�ให้ผู้คนส่วนหนึ่งหันมาสนใจและปรับ รูปแบบการใช้ชีวิตให้เข้าใกล้ธรรมชาติมากขึ้น วันนี้เราจึงขอนำ�เสนอเคล็ดลับดีๆ จาก นายแพทย์บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล ผู้อำ�นวยการศูนย์ธรรมชาติ บำ�บัดบัลวี และผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพด้วยแนวทางธรรมชาติบำ�บัด เพื่อเติมเต็มและจุดประกายไอเดียดีๆ ให้ทุกท่านได้นำ�ไปใช้ต่อยอดเป็น แนวทางในการดูแลสุขภาพให้สดใสตลอดไป
2
ลด ละ การกินคาร์โบไฮเดรต นํ้าตาล แป้ง ข้าว ก๋วยเตี๋ยว ขนม ของหวาน ผลไม้บางชนิด หรือแม้แต่วุ้นเส้น ล้วนเป็นอาหารที่ อุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรตและนํ้าตาล เป็นตัวการก่อให้เกิดโรคอ้วนและโรคเบาหวาน ดังนั้นจึงขอ แนะนำ�ให้หลีกเลี่ยงอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตและนํ้าตาลอยู่ในปริมาณสูงโดยเฉพาะอาหารแปรรูป ที่คนส่วนใหญ่มักเลือกกินโดยไม่รู้ว่ามีคาร์โบไฮเดรตและนํ้าตาลเป็นส่วนผสมในปริมาณสูง เช่น โยเกิร์ตที่วางขายตามท้องตลาด ซึ่งมักปรุงแต่งรสให้น่ากินด้วยการเติมนํ้าตาลลงไป เมื่อกินบ่อยๆ นํ้าตาลย่อมไปสะสมในร่างกายมาก รวมไปถึงการลด ละ เลิก พฤติกรรมในชีวิตประจำ�วันที่ทำ�ให้ ร่างกายรับคาร์โบไฮเดรตสูงเกิน อย่างเวลาประชุมหรือทำ�งาน ที่มักมีการเสิร์ฟอาหารว่างเป็นเบเกอรี่ หรือกาแฟเป็นประจำ� เป็นต้น กินดี อยู่ดี ด้วยวิถีไทยแท้ กินอาหารอย่างมีสติ “ในนํ้ามีปลา ในนามีข้าว” คำ�กล่าวนี้ไม่ ในยุคหนึ่งมีความเชื่อว่าแนวทางการกินมังสวิรัติรวมถึงการ เพียงสื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนแผ่นดิน กินเจนั้นดีต่อสุขภาพ ส่งผลให้ผู้คนจำ�นวนหนึ่งเปลี่ยนวิถีการกิน ไทยเท่านั้น แต่ยังสื่อว่า คนไทยสมัยบรรพบุรุษ ไปกินมังสวิรัติหรือกินเจกันแบบสุดโต่ง ร่างกายจึงรับเอาอาหาร ของเรา มีอาหารหลักเป็นข้าว เป็นปลา ประเภทแป้ง คาร์โบไฮเดรตเข้าไปจำ�นวนมาก จนเพิ่มความเสี่ยง นอกจากนั้น คนไทยยังกินผัก กินเนื้อสัตว์อื่นๆ ต่อการเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน และเมื่อโรคร้ายเหล่านี้มาเยือน ที่หาได้ง่ายเป็นอาหาร เพราะฉะนั้นวิถีการกินที่ การที่ผู้คนเหล่านี้ยังกินอาหารในแนวทางนี้ต่อ ย่อมมีส่วนทำ�ให้ ผู้คนควรยึดถือ คือ การกินอาหารแบบเรียบง่าย ค่านํ้าตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ ส่วนในรายที่เป็นโรคอ้วน กินอาหารให้ครบ 5 หมู่ และให้ความสำ�คัญกับ ก็จะมีปัญหาสุขภาพตามมาอีกมากมาย ทั้งโรคข้อเสื่อม หลอด การกินอาหารที่เป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพดี นั่น เลือดหัวใจอุดตัน นับเป็นภัยร้ายที่แฝงอยู่ในกระแสการกินอาหาร คือเนื้อสัตว์ทุกชนิด โดยให้กินพร้อมกับผักหลาก ที่ทุกคนคิดว่าดีต่อสุขภาพก็ว่าได้ ดังนั้นคุณหมอบรรจบจึงขอ หลายชนิด ซึ่งจะทำ�ให้ร่างกายได้รับสารอาหาร แนะนำ�ให้กินอาหารอย่างมีสติ ยึดหลักทางสายกลางด้วยการกิน ครบถ้วน และมีสุขภาพแข็งแรงได้ไม่ยาก อาหารให้ครบ 5 หมู่จะดีที่สุด
1
14 | happy+
3
4
อย่าหลงลืมการออกกำ�ลังกาย เชื่อว่าทุกคนทราบกันดีถึงประโยชน์ของการออกกำ�ลังกาย ไม่ว่าจะเป็นผลการวิจัยล่าสุดที่พบว่าการออกกำ�ลังกายเป็นประจำ�ช่วยชะลอความเสื่อม ของสมอง ช่วยป้องกันการเกิดภาวะสมองตือ้ (Brain Fog) ในผูส้ งู อายุได้ หรือเมือ่ ออกกำ�ลังกาย ร่างกายจะหลัง่ สารแห่งความสุข หรือ Endorphin ออกมา ทำ�ให้รู้สึกสดชื่น ช่วยลดความวิตกกังวล และผ่อนคลายความเครียดได้ แต่ทั้งๆ ที่รู้เช่นนี้ ผู้คนส่วนใหญ่ก็ยังห่างหายจากการออกกำ�ลังกาย โดยให้ เหตุผลว่าไม่มีเวลา เพราะฉะนั้นมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หาเวลาให้การออกกำ�ลังกาย รับรองคุณภาพชีวิตจะดีขึ้นอย่างแน่นอน
5
ล้างพิษตับอ่อนเป็นประจำ� พิษภัยของการกินแป้งและนํ้าตาลยังไม่หมดค่ะ เพราะแป้งและนํ้าตาลยัง เป็นศัตรูตัวฉกาจที่จะเข้าไปทำ�ร้ายอีกหนึ่งอวัยวะสำ�คัญ คือ ตับอ่อน ที่มีหน้าที่ สร้างฮอร์โมนอินซูลินตามธรรมชาติเพื่อควบคุมระดับนํ้าตาลในเลือดให้สมดุล และ กระตุ้นให้เซลล์ต่างๆ เผาผลาญนํ้าตาลเพื่อให้ร่างกายนำ�ไปใช้ แต่เมื่อใดที่เรากิน แป้ง นํ้าตาล ในปริมาณมากเกินไป นํ้าตาลในเลือดย่อมจะเพิ่มขึ้น พอนานเข้า ตับอ่อนจะถูกทำ�ร้ายจนเผาผลาญนํ้าตาลได้น้อยลง ไม่สามารถสร้างอินซูลินตาม ธรรมชาติได้ หรือสร้างได้น้อยกว่าปกติ ส่งผลให้ระบบการพานํ้าตาลเข้าเซลล์เสีย ไป นํ้าตาลจึงตกค้างในร่างกายและในกระแสเลือด เป็นสาเหตุให้เกิดโรคร้ายอย่าง เบาหวานได้ คุณหมอบรรจบจึงแนะนำ�สูตรลับง่ายๆ ในการล้างพิษตับอ่อนด้วย การเน้นกินเนื้อสัตว์กับผัก และหยุดการบริโภคอาหารจำ�พวกแป้ง นํ้าตาล อย่าง เด็ดขาด เพื่อสุขภาพตับอ่อนที่ดีขึ้น
16 | happy+
6
รู้ทัน! ยาลดไขมัน ทำ�ลายตับ เมื่อแพทย์ตรวจพบว่าร่างกายเกิดภาวะคอเลสเตอรอลและ ไตรกลีเซอไรด์สูง หมอส่วนใหญ่จะสั่งยาลดไขมันให้ผู้ป่วยกินทันที ซึ่งการกินยาลดไขมันตามหมอสั่งภายใน 2 อาทิตย์นี้จะทำ�ให้ ระดับไขมันในร่างกายลดลงอย่างเห็นได้ชัด พอผ่านไป 1 เดือน ไขมันในร่างกายจะอยู่ในเกณฑ์ปกติ เพราะกลไกการออกฤทธิ์ ของยาลดไขมันคือการไปเพิ่มปุ่มรับไขมันบนเซลล์ตับ ทำ�ให้ไขมัน จากกระแสเลือดเข้ามาสู่ตับได้มากขึ้น ปริมาณไขมันในร่างกาย จึงลดลง ทั้งที่หลายคนก็ไม่ได้ปรับเปลี่ยนแนวทางการกินอาหาร เลี่ยงอาหารที่อุดมไปด้วยไขมันและคอเลสเตอรอลสูงแต่อย่างใด ดังนั้นการกินยาลดไขมันจึงไม่ต่างอะไรกับการกวาดฝุ่นหน้าบ้าน มาซุกไว้ใต้พรม เมื่อสะสมมากเข้า ก็ย่อมทำ�ให้เกิดโรคไขมันพอก ตับ ดังนั้นขอแนะนำ�ให้หันมาควบคุมอาหารและหมั่นออกกำ�ลัง กายเป็นประจำ� จะเป็นหนทางที่ดีที่สุด
SURVEY
64%
วิธีเดินตามความฝันแบบ happy+
เมื่อ 10 ปีก่อนพบอัตราเชื้อแบคทีเรียดื้อยา ปฏิชีวนะทั่วโลกแค่ 2% แต่ปัจจุบันพุ่งสูงขึ้น เป็น 64%
100,000
ในแต่ละปีพบคนไทยติดเชื้อดื้อยามากกว่า 100,000 คน
30,000
ในจำ�นวน 100,000 คนที่ติดเชื้อดื้อยา มี ผู้เสียชีวิตมากกว่า 30,000 คน เฉลี่ยแล้ว 100 คนต่อวัน
3 อันดับ
ยาปฏิชีวนะที่ใช้กันบ่อย 3 อันดับแรก ได้แก่ 1. อะม็อกซีซิลลิน 2. เพนนิซิลลิน 3. เตตราซัยคลิน *การกินยาปฏิชีวนะ (Antibiotic) พรํ่าเพรื่อ ด้วยความเข้าใจผิด จะไปกระตุ้นให้เชื้อ แบคทีเรียกลายพันธุ์เป็นเชื้อดื้อยา จนต้อง เปลี่ยนยาปฏิชีวนะชนิดที่ใหม่ขึ้น แพงขึ้น และ ออกฤทธิ์แรงขึ้น สุดท้ายแล้วจึงมียาที่เหลือให้ ใช้อยู่เพียงไม่กี่ชนิด เมื่อไม่มียาใดรักษาโรคได้ คนไข้ก็ย่อมเสียชีวิตในที่สุด
เตือนภัยโรคผิวหนังที่มากับฝน
สมาคมโรคผิวหนัง เตือน 2 โรคผิวหนังสุดฮิต ได้แก่ โรค นํ้ากัดเท้าและโรคติดเชื้อที่ผิวหนัง มักเกิดในช่วงหน้าฝนและจะ ทวีความรุนแรงมากขึ้นในพื้นที่ที่มีนํ้าท่วมขัง แนะให้รักษาความ สะอาดเท้า พยายามทำ�เท้าให้แห้งอยู่เสมอ จะช่วยป้องกันโรค และการกลับเป็นซํ้าของโรคได้ดีที่สุด โดยโรคนํ้ากัดเท้า จะเกิดหลังการสัมผัสนํ้าสกปรกต่อเนื่องซํ้าๆ กันจนเกิดการระคายเคืองของ ผิวหนังและผื่นผิวหนังอักเสบขึ้น ทำ�ให้ผิวหนังเปื่อยลอกโดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วเท้า อาจมีอาการ ผื่นแดง แสบคันร่วมด้วย ผู้ที่มีอาการเหล่านี้ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสนํ้าท่วมขัง หากเลี่ยงไม่ได้ต้อง ล้างเท้าด้วยนํ้าสะอาดและสบู่ทันทีหลังการสัมผัสนํ้าสกปรก แล้วเช็ดเท้าโดยเฉพาะบริเวณซอกนิ้วให้ แห้งอยู่เสมอ หากมีแผลถลอกบริเวณเท้าอาจต้องใช้นํ้ายาฆ่าเชื้อชะล้างด้วย ส่วนโรคติดเชื้อที่ผิวหนัง แบ่งออกเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียและการติดเชื้อรา โดยผู้ที่ติดเชื้อ แบคทีเรียจะมีผื่นนํ้ากัดเท้าเกิดขึ้น จากนั้นผิวจะเปื่อยลอกเป็นเหตุให้เชื้อแบคทีเรียในนํ้าสกปรกเข้าสู่ ผิวหนังแล้วเกิดอาการติดเชื้อได้ โดยอาการจะพัฒนาจากการติดเชื้อในผิวหนังชั้นตื้น ซึ่งจะมีอาการ ฝ่าเท้าเปื่อยยุ่ยเป็นหลุมเล็กๆ มีกลิ่นเหม็นหรือเป็นตุ่มหนอง รูขุมขนอักเสบ ต่อมาการติดเชื้อจะ ลุกลามลงในผิวหนังชั้นลึกเกิดเป็นกลุ่มโรคจำ�พวกไฟลามทุ่ง ผิวหนังจะบวมแดงร้อน กดเจ็บ และ ลามไปยังบริเวณใกล้เคียงอย่างรวดเร็ว หากมีอาการของการติดเชื้อดังที่กล่าวมาข้างต้น ต้องรีบไป พบแพทย์ทันที ส่วนการติดเชื้อรา เกิดขึ้นได้เพราะปล่อยให้มีอาการนํ้ากัดเท้าต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยผิวที่เปื่อยลอกบริเวณซอกนิ้วจะเป็นส่วนที่ติดเชื้อราได้ง่ายที่สุด ผู้ป่วยจะมีผื่นแดงแฉะ มีขุยขาว ลอกบริเวณซอกนิ้ว หรือเป็นชนิดผื่นหนา เปื่อยยุ่ย ลอกเป็นขุยทั้งที่ฝ่าเท้าและซอกนิ้ว มีกลิ่นเหม็น หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า ฮ่องกงฟุต หากปล่อยให้การติดเชื้อราที่เท้าเรื้อรัง ผื่นที่ขึ้นย่อมจะหนาขึ้น เรื่อยๆ และยากต่อการรักษาให้หายขาดในที่สุด ที่มา : เอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ สมาคมโรคผิวหนัง
18 | happy+
“ทำ�ทุกอย่างให้เป็นเรือ่ ง สนุก แม้ไม่ใช่สง่ิ ทีเ่ ราชอบ ตัง้ แต่ตน้ แต่เมือ่ เราเห็น ผลจากการลงมือทำ�มันก็ จะมีความสุขได้ อย่างเวลา ทีอ่ าจารย์เห็นเด็กๆ ได้รใู้ น สิง่ ทีเ่ ขาไม่เคยรู้ ทำ�ในสิง่ ที่ ไม่เคยทำ�ได้ มันก็เป็นความ สุขและความสำ�เร็จของเรา เหมือนกันนะ” -สุวพัชร โสวภาค, อาจารย์มหาวิทยาลัย “ถามตัวเองว่าชอบอะไร จริงๆ หาสิง่ ทีเ่ ป็นความฝัน ของเราให้เจอ คิดว่าสิง่ ที่ ทำ�นัน้ เป็นความฝันของเรา จริงๆ หรือเป็นความฝัน ของคนอืน่ ทีเ่ อามาใส่ตวั เรา ถ้ามันเป็นสิง่ ทีใ่ ช่ เราก็ท�ำ มันได้ด”ี -จิราภา ป้อมสินทรัพย์, เจ้าของร้านคาเฟ่ดนิ เผา “ชีวติ ก็มจี งั หวะของมัน แค่ เราทำ�ในสิง่ ทีเ่ รามีโอกาส ได้ท�ำ ณ ตอนนัน้ ให้ดที ส่ี ดุ ด้วยความพยายามและ ความตัง้ ใจ ผลมันก็จะออก มาดีทส่ี ดุ ในความพยายาม ของเรา” -ดังพรสวรรค์ มัน่ คง, ศิลปินค่ายแพนด้าเรคคอร์ด “เรียนรูใ้ นสิง่ ทีท่ �ำ ให้มากๆ ตอนนีท้ �ำ งานเกีย่ วกับเด็กก็ ต้องเรียนรูค้ วามคิด การใช้ ชีวติ ของเขา เขาชอบแบบ ไหนไม่ชอบแบบไหน เพือ่ ให้การทำ�งานง่ายขึน้ เราก็ ต้องรูจ้ กั ปรับตัวเข้าหากัน” -ปุณฑริก ดีเจริญ, ฟรีแลนซ์
“ถ้าจะทำ�อะไรมันอยูท่ ค่ี วาม ตัง้ ใจและใช้ชวี ติ แบบมีสติ ตัง้ ใจและจริงใจทีส่ ดุ กับมัน คนเราประสบความสำ�เร็จ ในชีวติ ได้ในทุกๆ วัน เช่น ตัง้ ใจทำ�กับข้าวให้แม่แล้ว แม่ชมว่าอร่อย ก็ถอื ว่าเรา ประสบความสำ�เร็จอย่าง หนึง่ แล้ว” -สิรธี ร ปะทิเก, นักศึกษา
INSEE X happy+
ปูนอินทรีส่งมอบ อาคารธารนํ้าใจ ช่วยภัยนํ้าท่วม ร.ร.วัดเจ้าแปดทรงไตรย์ จ.พระนครศรีอยุธยา
เรื อ อากาศโทคั น ธนิ ธิ์ สุ ค นธทรั พ ย์ รองประธาน ด้ า นธุ ร กิ จ สั ม พั น ธ์ บริ ษั ท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำ�กัด (มหาชน) และคุณเพ็ญศรี สุ ธี ร ศานต์ ผู้ อำ�นวยการ สมาคมบริ ษั ท จดทะเบี ย น ไทย ร่วมในพิธีส่งมอบอาคาร อเนกประสงค์ “อาคารธาร นํ้ า ใจ” ในโครงการ “คื น โรงเรี ย นให้ ลู ก หลาน สาน สัมพันธ์ชุมชน” โดยให้ความ ช่ ว ยเหลื อ ฟื้ น ฟู โ รงเรี ย นที่ ประสบอุทกภัยเมื่อปี 2554 โ ด ย มี คุ ณ สุ วิ ล อ ยู่ ยื ด ผู้ อำ� น ว ย ก า ร โ ร ง เ รี ย น วั ด เจ้ า แปดทรงไตรย์ เป็ น ผู้ รั บ มอบ ณ โรงเรี ย น วัดเจ้าแปดทรงไตรย์ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา
รองประธานด้านธุรกิจสัมพันธ์ ปูนอินทรี เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับมอบหมายจากทาง สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย ให้เป็นเจ้าภาพ ดูแลช่วยเหลือโรงเรียนในโครงการ “คืนโรงเรียน ให้ลูกหลาน สานสัมพันธ์ชุมชน” โดยให้ความ ช่วยเหลือฟื้นฟูโรงเรียนที่ประสบอุทกภัยเมื่อปี 2554 ทางปูนอินทรีได้เข้ามาช่วยเหลือโรงเรียน วัดเจ้าแปดทรงไตรย์ หลังจากนํ้าลด โดยเข้ามา ช่วยซ่อมแซมขัดล้างทาสีอาคารใหม่ ปรับปรุง สภาพภูมิทัศน์ เทพื้นคอนกรีตสนามเด็กเล่น กิจกรรมเสริมความรู้รักสิ่งแวดล้อม และดำ�เนิน การก่อสร้างห้องส้วม แบบ สพฐ. 4 จำ�นวน 1 หลัง และอาคารอเนกประสงค์ แบบ สปช. 204/2526 ดัดแปลงจำ�นวน 1 หลัง ในการ ก่อสร้างครัง้ นี้ ทางบริษทั ฯ ได้สนับสนุนปูนอินทรี ให้กับทางโรงเรียนวัดเจ้าแปดทรงไตรย์ จำ�นวน 40 ตัน หรือ 800 ถุง มาใช้ในการก่อสร้างอาคาร อเนกประสงค์หลังนี้จนแล้วเสร็จ ปูนอินทรีและสมาคมบริษทั จดทะเบียนไทย ผู้สนับสนุนโครงการ “คืนโรงเรียนให้ลูกหลาน สานสัมพันธ์ชุมชน” สร้างอาคารอเนกประสงค์ “อาคารธารนํา้ ใจ” จนแล้วเสร็จในครัง้ นี้ ถือว่าเป็น แบบอย่างความร่วมมือทีจ่ ะให้สงั คมไทยเข้มแข็ง และพัฒนาการศึกษาของเยาวชนไทยตลอดไป
My Dream, My Happiness พลังฝันสร้างสุข เต๋อ ฉันทวิชช์ เรื่อง : ประอรพิชญ์ คัจฉวัฒนา ภาพ : สุภชัย รอดประจง เชื่อแล้วละว่า 1 ปีผ่านไป ไวเหมือนโกหกจริงๆ ที่พูดอย่างนี้เพราะ happy+ ฉบับที่อยู่ในมือคุณนี้ เป็นฉบับครบรอบ 1 ปี ที่เราได้รู้จักกัน และใน โอกาสพิเศษเช่นนี้ เราชาว happy+ ก็ตั้งใจจะส่งผ่านความสุข ความสดใส ในแบบกายสุข ใจสุข สังคมสุข ไปยังคุณผู้อ่านทุกคน ดังนั้น Happy People ที่เราเลือกมาเป็นตัวแทนสื่อความสุขในคราวนี้ จึงไม่มีใครเหมาะสมไปกว่า นักแสดงหนุ่มหน้าทะเล้น เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี ที่ไม่ว่าใครหากได้เห็น หน้าเขา ย่อมคิดถึงความสนุกสนาน ซึ่งทำ�ให้อารมณ์ดีขึ้นมาแบบไม่ยาก นอกเหนือจากความเหมาะสมข้างต้นแล้ว ความสำ�เร็จล่าสุดของการร่วมเป็นหนึ่งในทีมเขียนบทภาพยนตร์เรื่อง “พี่มาก พระโขนง” ที่โกยรายได้ เป็นประวัติการณ์กว่า 1,000 ล้าน ยังทำ�ให้หลายคนอยากรู้จัก เต๋อ ฉันทวิชช์ ในแง่มุมของนักเขียนบทภาพยนตร์ที่ประสบความสำ�เร็จด้วย ไม่เพียงเท่านั้น เรายังมีเรื่องราวความฝันขั้นต่อไปของนักแสดงหนุ่มคนนี้มาอัพเดตให้ทราบกัน
สุขวัยเยาว์ จุดเริม่ ต้นแห่งการสานฝัน
ถ้าเราต้องใช้ไปเพื่อเรียนรู้ในสิ่งที่เราไม่ชอบ ผมว่ามันเสียเวลาและเราต้องไม่มีความสุข “จำ�ได้ว่า ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้ไป แน่ๆ แถมพอเรียนจบมาก็ต้องไปทำ�งาน ดูหนัง” เต๋อเล่าให้เราฟังถึงความทรงจำ�ครั้ง ในสายที่เราไม่ได้ชอบอีก ผมไม่อยากให้ชีวิต วัยเยาว์ที่เป็นจุดเริ่มต้นนำ�เขาสู่เส้นทางสาย เป็นอย่างนั้น เมื่อคิดได้แบบนี้ ผมก็มาคิดต่อว่า ภาพยนตร์ที่เขารัก “ผมชอบดูหนังตลกเบาสมองมาตั้งแต่ไหน แล้วอะไรล่ะที่เราทำ�แล้วมีความสุข อ๋อ ก็การ ดูหนังไง แล้วเราก็สนใจด้วยนะว่าการทำ�หนัง แต่ไร เพราะดูแล้วผ่อนคลาย มีความสุข ยิ่งมี สักเรื่องมันต้องทำ�อย่างไร ผมเลยลองหาข้อมูล เรื่องราวแนวแอคชั่นแทรกอยู่ด้วย ยิ่งตื่นเต้น และสนุกดีครับ หนังไทยเรื่องแรกๆ ที่ดูแล้วรู้สึก ว่ามีคณะไหนที่สอนเรื่องการทำ�หนังบ้าง ก็เจอ ว่าที่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ มีเปิดสอนสาขา ชอบมาก คือ เรื่องสยึ๋มกึ๋ย จำ�ได้ว่าคุณแม่พา ภาพยนตร์ ผมจึงตัดสินใจเปลี่ยนสายมาสอบ ไปดู พอดูจบ รู้สึกเลยว่าอยากดูหนังแนวนี้อีก มันทำ�ให้เรารักหนังแนวนี้ไปเลย จากนั้นพอใกล้ entrance ทางสายศิลป์ และได้เรียนคณะนี้ ในที่สุดครับ” เรียนจบ ม.6 ก็ต้องตัดสินใจว่าจะเรียนต่อ แล้วชีวิตการเรียนอันแสนสุขในแบบคนทำ� มหาวิทยาลัยอะไร คณะไหน ด้วยความทีผ่ มเรียน หนังของเต๋อก็เริ่มต้นขึ้นในรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่ง สายวิทย์มา ช่วงแรกก็มีความคิดตามเพื่อนว่า เขาเล่าให้ฟังว่า จะสมัครเข้าเรียนคณะแพทย์หรือวิศวะ แต่มัน “ผมมีความสุขกับการตื่นเช้าไปเรียนทุก เกิดความคิดขึน้ มาว่า เวลา 4 ปีในมหาวิทยาลัย 20 | happy+
วัน เพราะในแต่ละวันผมได้ไปเรียนรู้เรื่องราว ของโลกอีกใบที่น่าสนใจมาก ผมสนุกกับการ ได้รู้ว่าการทำ�ภาพยนตร์ขึ้นสักเรื่องมันต้องทำ� อย่างไรบ้าง ต้องเริ่มจากอะไร บทภาพยนตร์ เขาเขียนกันอย่างไร การถ่ายทำ�ภาพยนตร์มี ขั้นตอนอย่างไรบ้าง ไปจนถึงวิธีการใช้กล้องถ่าย ภาพยนตร์ และมีวชิ าหนึง่ ทีผ่ มชอบมาก วิชานี้ อาจารย์จะมาเปิดหนังให้เราดูและเปิดโอกาสให้ เราได้แสดงความคิดวิพากษ์วิจารณ์หนังเรื่องนั้น มันตอบโจทย์ความชอบของผมสุดๆ เพราะ ผมชอบดูหนัง วิชานี้ทำ�ให้ได้ดูหนังเพิ่มขึ้น แถม ได้ดูในเวลาเรียนด้วย จนตอนผมอยู่ปี 4 ใกล้ เรียนจบแล้ว เพื่อนของผมชื่อ เมษ ธราธร ผู้กำ�กับหนังเรื่อง ATM เออรัก เออเร่อ นี่ละครับ เขามาชวนผมไปช่วยเขียนบทภาพยนตร์ให้กับ ทางจีทีเอช จากนั้นมา ผมก็ได้ทำ�งานในแวดวง ภาพยนตร์ที่ผมรักมาตลอด”
happy+ | 21
22 | happy+
ก้าวผ่านอุปสรรค เพื่อความฝันที่ตั้งใจ
ภาพยนตร์เรื่องแรกที่มีชื่อของ “เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี” เป็นหนึ่งในทีมผู้เขียน บทคือ เรื่องเก๋า เก๋า ซึ่งไม่เพียงสร้างความภาคภูมิใจให้เขาแบบที่สุดในชีวิตเท่านั้น แต่ในอีกด้าน การทำ�งานชิ้นนี้ยังมอบประสบการณ์การทำ�งานหลากรสชาติให้เขา ด้วย เพราะเขาต้องใช้เวลากว่า 2 ปีในการเขียนบทภาพยนตร์ร่วมกับเพื่อน อีก 5 คน ผ่านอุปสรรคหลากหลายทั้งเรื่องความคิดไม่ตรงกัน และการตะลุยหา ข้อมูลวงดนตรียุค 70's ที่พวกเขาต่างไม่เคยรู้มาก่อน แถมในระหว่างนั้น เขายัง ต้องหารายได้เพื่อมาเลี้ยงชีพด้วยการไปของานพิเศษจากรุ่นพี่ในวงการภาพยนตร์ ทำ� ซึ่งในที่สุดเขาก็ได้ทำ�งานเป็นฝ่ายเบื้องหลังในกองถ่าย ต้องทำ�งานทุกอย่าง แบบหนักเอาเบาสู้ กระทั่งได้มาทำ�งานที่เขาถนัดที่สุด คือ การเป็นตากล้อง behind the scenes ทำ�หน้าที่เก็บภาพเบื้องหลัง ถ่ายความเป็นไปของทุกฝ่าย ในกองถ่าย เพื่อนำ�มาตัดต่อเป็น VTR ฉายในวันงานเลี้ยงปิดกล้อง หรือใส่ใน โฆษณาโปรโมตหนัง โดยเต๋อบอกถึงความรู้สึกช่วงนั้นว่า แม้จะเหนื่อยขนาดไหน แต่เขาก็มีความสุขและสนุกกับการทำ�งานทุกอย่าง นั่นเพราะเขาได้ทำ�งานอยู่ใน วงการภาพยนตร์ที่เขารักนั่นเอง “ถ้าให้ย้อนกลับไปคิดถึงตอนนั้น ก็มีบ้างนะครับที่รู้สึกท้อและเหนื่อย แต่ ความรู้สึกแย่ๆ มันอยู่กับผมไม่นาน เพราะผมมีพลังมหาศาลที่เกิดจากการได้ทำ�ใน สิ่งที่รัก ศรัทธา และสนใจอยากเรียนรู้ นั่นคือการทำ�หนัง ผมอยากรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยว กับการทำ�หนัง เพราะฉะนั้นไม่ว่าผมจะเหนื่อย ผิดหวัง หรือเจอเรื่องเครียดแค่ไหน ก็ตาม ผมจะมองมันว่าเป็นเหมือนบทเรียนใหม่ๆ ความรู้ใหม่ๆ ที่มาสอนให้เราได้ เรียนรู้ ทั้งการทำ�งานกับคนหลากหลายรูปแบบ และกระบวนการทำ�หนัง ยิ่งถ้าเป็น เรื่องที่เราทำ�ผิดพลาด มันยิ่งมาสอนให้เรารู้ทางแก้ ในการทำ�งานครั้งหน้าเราก็จะ ไม่ทำ�พลาดอีก “ส่วนใหญ่เวลารู้สึกท้อหรือแย่ ผมจะลุกขึ้นได้เองด้วยวิธีคิดให้กำ�ลังใจตัวเอง ในแบบของผม แต่ในช่วงทีร่ สู้ กึ ยํา่ แย่มากๆ ก็มบี า้ งทีผ่ มจะระบายให้คนทีเ่ ราไว้ใจฟัง ให้เขาช่วยฉุดเราขึ้นมาจากความทุกข์นั้น อย่างตอนที่ผมมาทำ�งานเป็นนักแสดง ใหม่ๆ ก็มีคนวิพากษ์วิจารณ์การแสดงของผมแบบเสียๆ หายๆ พอรู้เข้าก็อดเครียด ไม่ได้ เพราะการแสดงไม่ใช่สิ่งที่ผมชอบหรือถนัด แต่เมื่อมีโอกาสเข้ามา ผมก็ เลือกที่จะไม่ทิ้งโอกาสนั้นและทำ�มันให้ดีที่สุด ผมยังเคยคิดเลยว่าหากสถานการณ์ แย่ๆ แบบนี้ไปเกิดกับการทำ�งานเบื้องหลังที่ผมชอบ ผมคงไม่รู้สึกอะไรมากขนาดนี้ เพราะงานเบื้องหลังเป็นงานที่ผมทำ�แล้วมีความสุขนั่นเอง” happy+ | 23
24 | happy+
ฝันให้ไกล แล้ว (ค่อยๆ) ไปให้ถึง
ถ้าถามว่าผมชอบทำ�อะไรมากที่สุด ในชีวิต ผมตอบได้ทันทีเลยว่า ผมชอบดูหนัง ผมอยากดูหนังเป็น อาชีพ ผมเชื่อว่าใครที่ได้ฟัง คำ�ตอบนี้ก็ต้องบอกว่าผมบ้า รึเปล่า ดูหนังเป็นอาชีพมีที่ไหน แต่ที่สุดแล้วเมื่อเรารู้ตัวว่าเรารัก ที่จะทำ�อะไร แล้วขยายผลทำ� สิ่งนั้นไปในทางที่ถูก ผมรับรองว่า คุณจะทำ�มันได้ดีที่สุด
ถึงวันนี้จะดูเหมือนว่าเต๋อได้เดินตามฝันมาจนถึงจุดที่เขาพึงพอใจแล้ว แต่เขากลับบอกว่ามัน เป็นเพียงแค่ครึ่งทางเท่านั้น แล้วความฝันสูงสุดของเขาคืออะไร ไปฟังคำ�เฉลยกัน “ความสำ�เร็จที่ได้รับ ผมเชื่อว่าเป็นเพราะผมซื่อสัตย์กับสิ่งที่ผมรัก และโชคดีที่ผมรู้ตัวเร็ว ว่าความฝันของผมคืออะไร อย่างที่บอก พอจบ ม.6 ผมก็คิดได้เลยว่า ผมชอบที่จะอยู่ในโลก ของภาพยนตร์ อยากเรียนรู้มันให้ลึกซึ้งในทุกด้าน ตอนนั้นผมยังไม่รู้หรอกว่าการทำ�งานเกี่ยวกับ ภาพยนตร์มันจะเลี้ยงชีวิตผมได้ไหม แต่ผมก็สนุกกับการเรียนรู้มัน ไม่สิ้นหวังกับมัน แม้ตอนเรียน จบปี 4 จะเป็นเวลาที่วงการหนังไทยอยู่ในช่วงขาลงมากๆ ไม่มีหนังไทยที่ทำ�รายได้ถล่มทลายเลยสัก เรื่อง คนทำ�หนังตกงานกันหมด แต่ผมก็เชื่อมั่นนะว่ากระแสความนิยมมันมีขึ้น มีลง เพียงแค่เราต้อง รอเวลา จนถึงวันนี้ผมพูดได้เต็มปากว่าผมตัดสินใจถูกที่สุดในชีวิตแล้วที่เลือกจะทำ�ตามฝัน ตามสิ่ง ที่ตัวเองชอบ “ผมถือว่าตอนนี้ตัวเองทำ�ตามฝันมาได้ครึ่งทาง ในระดับ 5 แล้ว ในระดับสูงสุด คือระดับ 10 คือการที่ผมจะได้เป็นผู้กำ�กับหนัง ผมกำ�ลังเดินขึ้นไปหาความฝันนี้อยู่ ผมตั้งใจว่าจะค่อยๆ ปีนขึ้น ไป ไม่รีบร้อน เพราะผมเลือกแล้วว่าจะสนุกและมีความสุขกับการทำ�สิ่งต่างๆ ระหว่างทางสู่ฝันของ ผมไปด้วย ทั้งการเขียนบทภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่คาดว่าอีก 1 ปี คงจะได้ดูกัน ส่วนการเป็นนักแสดง ล่าสุดผมก็เพิ่งเปิดตัวละครเรื่อง ATM 2 คู่เว่อร์ เออเร่อ...เออรัก ภาคต่อจากหนังดัง ATM เออรัก... เออเร่อ ในรูปแบบละคร และผมยังทำ�งานเบื้องหลังอีกหลายอย่าง เช่น ตอนนี้ผมรับเป็น Acting Coach ให้นักแสดงหน้าใหม่ด้วย สรุปว่าทุกวันนี้ผมยังคงเดินตามฝันของผมไปเรื่อยๆ เดินไปเรื่อยๆ ไม่หยุดเดิน แต่ผมจะค่อยๆ เดินนะ ไม่วิ่ง ผมกลัวหกล้มแล้วเจ็บ (ยิ้ม) “สำ�หรับหนังเรื่องแรกที่ผมกำ�กับ ก็คิดไว้แล้วครับว่าน่าจะเป็นแนวโรแมนติกคอเมดี้ (RomanticComedy) ผมเชื่อว่าจะสามารถทำ�มันออกมาให้ดีได้ เพราะมันตรงกับตัวตนของผมที่สุดแล้ว โดย เฉพาะความเป็นคนเฮฮา ส่วนความโรแมนติก ที่คิดว่าจะใส่ลงไปในหนังก็เพื่อเพิ่มมุมมอง ความน่า ติดตามให้หนังเรื่องนี้ เพราะถ้ามันตลกอย่างเดียว พอคนดูจบอาจไม่ได้อะไรกลับมา แต่ถ้ามีเรื่องราว ของความรักด้วย เมื่อดูจบ คนดูจะได้ทั้งความอิ่มใจและความประทับใจ” ครั้นถามถึงมุมมองต่อการทำ�งานที่เป็นทั้งคนเบื้องหน้าและเบื้องหลัง เต๋อบอกเล่าถึงความ ประทับใจว่า “การที่ผมเคยทำ�งานเป็นคนเบื้องหลัง ก่อนที่จะได้มาทำ�งานเบื้องหน้า มันเป็นโอกาสที่ดีที่สุด ในชีวิตของผมเลยนะ เพราะมันทำ�ให้ผมเข้าใจการทำ�งานของคนเบื้องหลังว่าเหนื่อยและหนักกว่า นักแสดงเยอะ พวกเขาอดทนกันสุดๆ เลยนะครับ ลองคิดดูว่าเมื่อหนังเรื่องหนึ่งประสบความสำ�เร็จ คนที่ได้รับการชื่นชมคือดารากับผู้กำ�กับ ถูกไหมครับ ขณะที่คนเบื้องหลัง ไม่ว่าจะเป็นคนเขียนบท ช่างไฟ ตากล้อง ฝ่ายเสื้อผ้า ช่างแต่งหน้า ไม่มีใครรู้จักพวกเขาเลย เพราะฉะนั้น เมื่อผมเป็นนัก แสดง ผมจะนับถือและให้เกียรติกับคนทำ�งานเบื้องหลังทุกคน ในฐานะที่เขาคือคนที่ทำ�งานหนักเพื่อ ให้คนเบื้องหน้าอย่างเราทำ�งานกันอย่างราบรื่น อย่างช่างไฟ เขาเป็นคนที่ต้องไปแบกไฟหนักๆ มา ส่องหน้าให้เราดูดี ขาว สวย หล่อกันทุกคน เพราะฉะนั้นพวกเขามีคุณค่าไม่ต่างกับคนเบื้องหน้า เลย” happy+ | 25
เคล็ดลับ สร้างสุขตามฝัน สไตล์ เต๋อ ฉันทวิชช์
อย่ามองข้ามทุกความฝัน
“ผมเชื่อว่าทุกคนมีความฝัน เพียงแต่หลายคนอาจจะยังหาไม่เจอ หรือเจอ แล้วแต่ไม่รู้ว่านั่นคือความฝันที่ถ้าได้ทำ�แล้วตัวเองจะมีความสุข เพราะฉะนั้น อยาก ให้ทุกคนลองคิดทบทวนดูว่า เราทำ�อะไรแล้วมีความสุข สิ่งไหนที่เมื่อได้ทำ�แล้ว อยากกลับมาทำ�อีกบ่อยๆ สิ่งไหนที่ทำ�แล้ว สร้างแรงบันดาลใจให้เราอยากทำ�มัน ให้เจ๋งสุดๆ ไปเลย สิ่งนั้นละ ผมว่ามันใกล้เคียงกับความฝันมากที่สุด แม้ว่าใน บางครั้งสิ่งนั้นอาจจะดูไร้สาระมากในสายตาคนอื่น แต่ที่สุดแล้วเมื่อเราได้ตั้งใจ ทุ่มเท เรียนรู้และทำ�มันอย่างจริงจัง มันอาจจะกลายเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ขึ้นสักวัน ยก ตัวอย่าง คนที่ชอบเล่นหุ่นยนต์มาตั้งแต่เด็ก แล้วโตขึ้นก็ยังชอบสะสม หรือหลงใหล การเล่นหุ่นยนต์อยู่ ผมว่านี่ละเป็นสิ่งที่คุณรัก และสมควรทำ�อะไรกับมันสักอย่าง ซึ่งในเคสแบบนี้ คนรอบข้างอาจจะมองว่า โตป่านนี้แล้วยังเล่นหุ่นยนต์อยู่อีก ไร้ สาระมาก ผมอยากบอกว่าอย่าไปดูถูกสิ่งเหล่านี้ว่าไร้สาระนะครับ เพราะไม่แน่ สัก วันหนึ่งคนคนนี้อาจจะได้เป็นเจ้าของบริษัทผลิตหุ่นยนต์ที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุด ในประเทศไทยหรือในโลกก็ได้ อย่างในมุมของตัวผม ถ้าถามว่าผมชอบทำ�อะไร มากที่สุดในชีวิต ผมตอบได้ทันทีเลยว่า ผมชอบดูหนัง ผมอยากดูหนังเป็นอาชีพ ผมเชื่อว่าใครที่ได้ฟังคำ�ตอบนี้ก็ต้องบอกว่าผมบ้ารึเปล่า ดูหนังเป็นอาชีพมีที่ไหน แต่ที่สุดแล้วเมื่อเรารู้ตัวว่าเรารักที่จะทำ�อะไร แล้วขยายผลทำ�สิ่งนั้นไปในทางที่ถูก ผมรับรองว่าคุณจะทำ�มันได้ดีที่สุด และความสุขในการใช้ชีวิตมันจะเกิดขึ้นได้ แบบไม่ยากเลย”
หาสิ่งที่รักในทุกงานที่ทำ�
“ในอีกด้าน ผมมองว่าไม่ใช่ทุกคนหรอกครับที่จะได้ทำ�ตามฝัน หรือทำ�ในสิ่ง ที่ตนเองชอบ เพราะเงื่อนไขในชีวิตของแต่ละคนนั้นต่างกัน แม้จะไม่ได้ทำ�ตามฝัน แต่เราก็มีความสุขในสิ่งที่เราทำ�ได้ แค่ต้องหาสิ่งที่ชอบในทุกสิ่งที่เราทำ�ให้เจอแล้ว ความสุขจะมาหาเราเอง แม้จะเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ มันก็สร้างสุขให้เราได้ครับ เช่น ทุกเช้าที่มาทำ�งาน เราได้เจอสาวหรือหนุ่มออฟฟิศข้างๆ ซึ่งสวย หล่อ ถูกใจเรา มากๆ แค่นี้มันก็ทำ�ให้เรามีความสุขและมีแรงอยากมาทำ�งานแต่เช้าทุกวันแล้ว ใช่ไหมครับ ไม่ต่างกันเลย ลองหาผู้หญิงสวยๆ หรือผู้ชายหล่อๆ ในงานของ คุณให้เจอ ถ้าเจอแล้ว ผมรับรองว่าคุณจะมาทำ�งานทุกวันอย่างมีความสุขแน่นอน หรือไม่แน่คุณอาจพบว่าได้ตกหลุมรักงานที่ทำ�อยู่แบบไม่รู้ตัวก็ได้” เชื่อว่าความสุขจากความสำ�เร็จเพราะมุ่งมั่นทำ�ตามฝันของ เต๋อ ฉันทวิชช์ ที่ เขาได้พิสูจน์ให้เห็นในวันนี้ จะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลายคนได้เริ่มเดินตาม ฝัน อย่าปล่อยให้ความฝันลอยนวลอยู่เลยค่ะ 26 | happy+
feature
28 | happy+
The Power Dream of
แรงใจและไฟฝัน 10 เส้นทางของ 10 ผู้กล้าท้าฝัน เรื่อง : อนุสรณ์ ศรีคำ�ขวัญ, ประอรพิชญ์ คัจฉวัฒนา ภาพ : กุลวัฒน์ นะมิ
เส้นทางแห่งชัยชนะ น้อยนักที่จะปูพรมแดงไว้ให้เราก้าวเดินสู่จุดหมายแบบง่ายๆ สบายๆ หรือหากมีพรมแดงปูลาดไว้ก็อาจจะซ่อนหลุมลึก และขวากหนามไว้เบื้องล่าง บนหนทางที่เต็ม ไปด้วยอุปสรรค ผู้ที่จะฝ่าฟันปัญหา ไปสู่ความสำ�เร็จได้นั้นจะต้องมีทั้งแรงใจ และไฟฝัน ซึ่งเขาและเธอพร้อมแล้วที่จะเผยประสบการณ์แห่งพลังฝันนั้นให้เราได้นำ�ไปจุดประกายความ ฝันของเราบ้าง... happy+ | 29
feature สมจิตร จงจอหอ
เจียระไนความชํ้า เป็นพรมแดงสู่ความสำ�เร็จ
“ผมผ่านมาเยอะ เจ็บก็เยอะ” วลีนี้ คง อธิบายถึงความมุ่งมั่นในเส้นทางฝันของนักมวย เหรียญทองโอลิมปิก 2008 ปักกิ่งเกมส์ สมจิตร จงจอหอ ได้เป็นอย่างดี แม้จะเริ่มชกมวยตั้งแต่อายุ 8 ขวบ แต่ เส้นทางเหรียญทองโอลิมปิกของสมจิตรเรียกได้ ว่า เริ่มจริงจังเมื่อเขาเรียนจบชั้นมัธยมศึกษา ปีท่ี 3 ด้วยฐานะทางบ้านทีไ่ ม่คอ่ ยสูด้ ี เขาจึงไม่มี โอกาสเรียนต่อ ครั้นจะอยู่บ้านทำ�นา ก็เห็นแล้ว ว่า ลำ�บากเพียงใด จึงตัดสินใจเข้าฝากตัวเป็น ศิษย์มวยยังค่ายที่จังหวัดชลบุรี ซึ่งเพื่อนสมัย ประถมสังกัดอยู่ ด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเท ขยัน ฝึกซ้อม ชื่อของสมจิตร นักมวยที่เดินทางมา จากจังหวัดบุรีรัมย์ จึงไต่ขึ้นเป็นอันดับต้นๆ ของแวดวงมวยไทยในเวลาอันรวดเร็ว ระยะเวลา 5 ปี (อายุ 15-21 ปี) ของ 30 | happy+
การชกมวยไทย ด้วยความบากบั่นทุ่มเททำ�ให้ ชื่อเสียงของสมจิตรโด่งดังทั้งเวทีลุมพินี และ ราชดำ�เนิน กระทั่งผันตัวเองเข้าสู่วงการมวย สากลสมัครเล่น ชื่อเสียง และฟอร์มของเขาก็ ยังโดดเด่นอย่างยิ่งยวด สมจิตร จงจอหอ ติด ทีมชาติ และกลายเป็นเต็ง 1 ที่จะคว้าแชมป์ ใน โอลิมปิก 2004, เอเธนส์เกมส์ ครั้งนั้นเขาบินไปแข่งพร้อมด้วยความ มั่นใจ และความหวังของคนไทยทั้งประเทศ แต่... “แพ้กลับมา... โอ้โห! เศร้าเลยทีนี้ เหมือนฟ้าผ่า จากคนที่โด่งดัง จากคนที่มีชื่อ เสียง กลับมาเหมือนไม่มีอะไรเลย ใครๆ ก็ไม่ มอง ใครๆ ก็ทอดทิ้ง ท้อแท้มาก อยู่คนเดียว 3 เดือน ร้องไห้ตลอดเวลา ไม่มีใครเป็นเพื่อน ไม่มี ใครมาปลอบใจ น้อยใจว่า ทำ�ไมก่อนที่เราจะไป
01
แข่ง สื่อต่างๆ ล้วนประโคมข่าวจังเลย แต่เวลา เราแพ้กลับมา เงียบ! ไม่มใี ครดูแล ก็เลยตัดสินใจ ว่าจะเลิกชกมวย “แต่ก่อนที่จะทำ�อย่างนั้น มานั่งนึก พิจารณาตัวเอง พบว่า นอกจากครอบครัว แล้ว ไม่มีใครจะมาปลอบใจเราเลย ไม่มีใคร มาบอกว่า ไม่เป็นไรนะ แล้วค่อยสู้ใหม่ สิ่งนี้คือ พลังที่ทำ�ให้รู้สึกว่า เออเว้ย! เราต้องกลับมาสู้ ใหม่ สู้! สู้เพื่อใคร? สู้เพื่อครอบครัว เพื่อตัวเรา เอง แล้วจะไปแคร์คำ�คนที่เขาดูถูกทำ�ไม แล้ว จะเลิกเพราะคำ�คนพูดหรือ มันไม่แฟร์ อีก 4 ปี ผมต้องไปชกโอลิมปิกให้ได้ แล้วต้องมีเหรียญ ติดมือมาให้ได้ ด้วยวัยที่แก่มาก อายุ 30 กว่า ปี แต่ก็ เอาวะ! ถ้าเรายังมีจิตใจมั่นคง มีความ ทะเยอทะยานอยู่ อะไรก็ขวางไม่ได้ นั่นแหละ เป็นสิ่งที่ทำ�ให้ลุกขึ้นมาทันที ทำ�ให้ลืมเรื่องอดีต
เลวร้ายหนหลัง แล้วกลับมายืนหยัดต่อสู้ใหม่ จนได้เหรียญทองโอลิมปิก” แม้จะพูดว่า ยังมีความมุ่งมั่นอยู่ ต้องคว้าเหรียญทองมาให้ได้ แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเพียงแค่ด่านแรก คือ การได้เป็นตัวแทนก็ ยากเต็มทน เพราะอายุเป็นเรื่องสำ�คัญ “เขาก็ไม่อยากจะเอานะ แต่ด้วย ความที่เด็กใหม่สู้ผมไม่ได้ ก็ต้องเลือกผม เขา ก็ยังบอกนะว่า แก่ไปแล้วหรือเปล่า? ไหวไหม? แต่ด้วยความที่ได้ประกาศให้ทุกคนรับรู้แล้ว ว่า คนอายุ 30 กว่าอย่างผม ยังมีฟอร์มที่ดี ไม่ แพ้เด็กๆ แถมมีความรับผิดชอบเยอะขึ้น มี ประสบการณ์ มีความนิ่งมากขึ้น สิ่งเหล่านี้ช่วย ได้เยอะ แล้วความมุ่งมั่นเต็มร้อย เพราะสิ่งที่ อยากได้มันยังไม่ถึง ต้องคว้ามาให้ได้” สำ�หรับการพิสูจน์ว่า 30 ยังแจ๋วนั้น สมจิตรได้นำ�วิทยาศาสตร์การกีฬามาเสริม กล้ามเนื้อ และสร้างความแกร่งให้กับร่างกาย จึงทำ�ให้พละกำ�ลังหนุ่มแน่นเหมือนวัย 20 ต้นๆ และนำ�ประสบการณ์ที่เคยสร้างความเจ็บปวด มาเป็นพลังบวก “ปี 2004 ที่เอเธนส์ ผมมองในแง่ลบ ก่อนชกตื่นเต้น เหงื่อออกมาก จะชนะหรือเปล่า วะ? จะต่อยดีไหมวะ? นี่คือมองในแง่ลบ ทำ�ให้ กล้ามเนื้อ หัวใจ แรงที่สะสมมา หายไปหมด เพราะเกิดการเกร็งของกล้ามเนื้อ...แต่ปี 2008 ที่ ปักกิ่ง ไม่คิดอย่างนั้นแล้ว ฮ่าๆ เดี๋ยวมึง เดี๋ยว ขึ้นไปโชว์ มึงต่อยกูไม่โดนแน่ กูจะแย็บ ปั๊บๆ หลบซ้าย หลบขวา ได้แต้มแล้วถอย สบายๆ ฟุตเวิรก์ ดีๆ คือคิดคนละอย่างกัน มีความสุข ไหม? มี! ไม่เครียดด้วย เหงื่อก็เลยไม่ออก สบายใจ กล้ามเนื้อเต็มที่ คิดว่าขึ้นไปโชว์ ไม่ได้ ขึน้ ไปต่อย ทำ�ให้ฟอร์มการชกไม่มอี ะไรทีต่ ดิ ขัดเลย “ที่เอเธนส์ ตอนนั้นผมอายุ 29 ปี เป็นวัยที่ฟิตมาก ยอมรับว่าทุกอย่างพร้อมหมด แต่พอชกจริง กลับแพ้ กีฬาย่อมมีแพ้มีชนะ ที่ แพ้ผมไม่ได้มองว่า ตัวเองชกไม่ดีนะ แต่มอง ว่า แพ้เพราะอะไร แล้วมาปรับปรุงมากกว่า ถ้า ไม่มองว่าแพ้เพราะอะไร ก็จะถือว่าตัวเองเก่ง สุดยอดขั้นเทพตลอดเวลา แต่ถ้าเรามองตัวเอง ตลอดเวลา จะทำ�ให้พัฒนาได้มากขึ้น เพราะถ้า ไม่มองตัวเอง นั่นคือ คนหลงทาง “ผมเป็นคนที่ชอบหาโอกาส เพราะ โอกาสไม่มาหาเราแน่นอน ถ้าเกิดวันหนึ่งเรา
ก้าวไป แล้วมันพลาด ให้หยุดก่อน แล้วค่อย ทำ�ใหม่ แต่ต้องให้ดีกว่าเดิม โดยการพัฒนา ตัวเองขึน้ ไป ถ้าหากเราทำ�เหมือนเดิม ผลลัพธ์กจ็ ะ เหมือนเดิม การชกมวยนี่ ถ้าผมไม่คิด ไม่พัฒนา ตัวเอง ผมก็จะชกแบบเดิม ผมแพ้เพราะอะไร แพ้เพราะ อ๋อ! ต่อยน้อย แพ้เพราะหลบหลีกไม่ดี นั่นแหละ เอาข้อด้อยตรงนั้นกลับมาพัฒนา ตัวเอง พอพัฒนาแล้ว กลับไปชกใหม่ ก็สามารถ ชนะคู่ต่อสู้ได้” เมื่อถามว่า เพราะอะไร จึงทำ�ให้เป็น สมจิตร อย่างทุกวันนี้ ผู้ถูกถามตอบทันทีว่า “เพราะผมเป็นคนไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ทุกคนเจอโชคชะตาเล่นตลกมาเยอะมาก ผมว่าถ้านำ�มาเขียนเป็นบทละคร ทุกคนมีเรื่อง เล่าหมด ผมก็เหมือนกับทุกๆ คนนั่นแหละ มี เรือ่ งเล่า มีลม้ ลุกคลุกคลานมาโดยตลอด แต่สง่ิ ที่จะทำ�ให้เราถึงจุดหมายได้ คือ ความพยายาม ความไม่ละทิ้งมัน ความเอาใจใส่มัน ความ อดทน เรียกว่า ความสำ�เร็จไม่ได้หล่นมาจาก ฟากฟ้า แต่มีสิ่งที่เป็นองค์ประกอบ คือ การรอ
คอย และการลงมือทำ� รอคอยโอกาสที่จะกลับ มาอีก แล้วก็การทำ�ให้มันสำ�เร็จ” ในฐานะที่เคยมีความคิดจะหยุดเดิน บนเส้นทางฝัน สมจิตรจึงฝากทิ้งท้ายสำ�หรับผู้ที่ รู้สึกอ่อนล้าบนเส้นทางของตัวเองว่า “ความสำ�เร็จต้องรอคอยเวลา อย่าเร่ง เหมือนการเดินขึ้นบันได ต้องเดินทีละขั้น จนถึงขั้นสุดท้าย การเดินข้ามทีเดียว 3-4 ขั้น อาจพลาดตกลงมาคอหักตายได้ ฉะนั้นต้อง ค่อยๆ ก้าวไป ถ้าเหนื่อยก็พักก่อน พอมีแรงค่อย เดินต่อ หรือเหนื่อยมากๆ ก็ถอยมาก่อนสักขั้น หนึ่ง เมื่อมีแรงแล้วค่อยเดินขึ้นไปใหม่... การเดิน ทาง ถอยได้ แต่ต้องก้าวไปใหม่ ถอยเพื่อตั้งหลัก เจอปัญหาอย่าไปดันมันด้วยกำ�ลัง ให้ใช้ สมองคิด แต่อย่าถอยเพื่อเลิก อย่างนั้นไม่เอา ถอยได้ แต่ถอยเพื่อสู้กับมัน ตั้งหลักก่อน คิดแก้ ปัญหาให้ได้ว่ามันคืออะไร พอเราแก้ได้ จะเห็น เลยว่า ปัญหาเป็นเรื่องเล็กน้อย แล้วปัญหานี้จะ ไม่มีอีกแน่นอน ทีนี้ก็มองเรื่องอนาคตต่อไป” happy+ | 31
feature ดร.นิศรา การุณอุทัยศิริ
ความเร็วในการค้นพบตัวเอง เท่ากับความเร็วของความสำ�เร็จ
32 | happy+
องค์กรเครือข่ายนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ของโลก, ได้รับเชิญจากผู้แทนพระองค์ราชินีอังกฤษ ใน ประเทศแคนาดา ให้เป็น 1 ใน 14 คน ที่จะเข้า ร่วมเสวนาวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นตัวแทนคนเดียว จากทวีปเอเชีย และล่าสุดยังได้รับเลือกให้เป็น “ผู้นำ�รุ่นใหม่ของโลก” (Young Global Leader of 2013) โดย WEF ซึ่งคณะกรรมการพิจารณา จะมาจากทั่วโลก และมีประธานกรรมการ คือ สมเด็จพระราชินีรานยา อัล อับดุลลาห์ แห่ง ราชอาณาจักรฮัชไมต์จอร์แดน แรงบันดาลใจในสายงานอาชีพนัก วิทยาศาสตร์ สำ�หรับเด็กหลายคนอาจมาจาก การ์ตูน หรือผลงานของนักวิทยาศาสตร์ก้องโลก แต่สำ�หรับ ดร.ต่าย คือ พ่อแม่ผู้เป็นอาจารย์ และพี่สาวที่เรียนเก่ง (มากๆ) ดร.ต่ายบอกว่า แม่เป็นครูสอนคณิตศาสตร์ เธอจึงเหมือนโตมากับตัวเลข ในช่วงปิดเทอม เธอ และพี่สาวมักหารายได้พิเศษด้วยการขายของ
เป็นประจำ� จึงทำ�ให้สนุกกับตัวเลข และ คณิตศาสตร์ก็เป็นพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ แรงบันดาลใจต่อมา คือพี่สาวซึ่งเรียน เก่งมาก สอบเทียบได้ทั้ง ม.3 และ ม.6 เป็น นักศึกษาแพทย์ได้โดยไม่ยากเย็น ซํ้ายังเป็นที่รัก ของทุกคนในโรงเรียนด้วย เมื่อมีแบบอย่างที่ดี ดร.ต่ายจึงมุ่งมั่น ขยัน ในที่สุดก็เดินตามรอย พี่สาวสำ�เร็จ โดยเธอสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์ ได้ด้วยวัยเพียง 15 ปี “พอติดคณะแพทย์ ทางโรงเรียนก็อยากให้ ไปสอบทุนรัฐบาล ก็เลยลองไปสอบดูค่ะ โดย เขาให้เลือก 2 ทุน ต่ายจึงเลือกทุนของกระทรวง วิทยาศาสตร์ กับกระทรวงการต่างประเทศ เป็นวิศวกรรมเคมี กับเศรษฐศาสตร์ระหว่าง ประเทศ” ผลออกมา ติดทั้ง 2 ทุน เมื่อรวมกับคณะ แพทย์ จึงเท่ากับเธอมีทางเลือกถึง 3 ทาง แต่ เลือกได้เพียง 1 ทางเท่านั้น ในที่สุด ดร.ต่ายจึง
ขอขอบคุณศูนย์สุขภาพ โรงพยาบาลบี.แคร์ เมดิคอลเซ็นเตอร์ โทร. 0-2523-3359-71 ที่เอื้อเฟื้อสถานที่
ดร.นิศรา การุณอุทัยศิริ หรือต่าย หัวหน้า ห้องปฏิบัติการไมโครอะเรย์แบบครบวงจร ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพ แห่งชาติ (ไบโอเทค) เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ มุ่งมั่นปั้นฝันให้เป็นจริง และรวดเร็ว ด้วยวัย เพียง 26 ปี เธอก็สามารถจบดอกเตอร์ และ ทำ�งานในสายอาชีพนักวิทยาศาสตร์อันเป็นที่ ตั้งใจได้สำ�เร็จ ซํ้ายังโดดเด่นด้วยรางวัลระดับ ประเทศ และนานาชาติ อาทิ รางวัลทุนวิจัย ลอรีอัลเพื่อสตรีในงานวิทยาศาสตร์, รางวัล ผลงานประดิษฐ์คิดค้นจากสภาวิจัยแห่งชาติ ชุดตรวจเชือ้ ก่อโรคในอาหาร, รางวัลนักเทคโนโลยี รุ่นใหม่ดีเด่นของประเทศไทย พระราชทานจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช กุมารี, ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 43 ตัวแทน นักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่จากทั่วโลก เพื่อเข้าร่วม เวทีประชุมวิชาการระดับโลก World Economic Forum (WEF), ดำ�รงตำ�แหน่งประธานร่วมของ
02
ตัดสินใจเลือกวิศวกรรมเคมีเพื่อเดินบนเส้นทาง สายวิทยาศาสตร์ที่เธอรัก เมื่อพูดคุยมาถึงจุดนี้ ผมมีความรู้สึกว่า เส้นทางฝันของ ดร.ต่าย ช่างคล้ายปูด้วยกลีบ กุหลาบ แต่เจ้าตัวบอก ไม่ง่ายอย่างนั้น จุดที่ ดร.ต่ายบอกว่า เส้นทางฝันของเธอ ไม่ได้งา่ ยอย่างทีค่ ดิ อยูใ่ นช่วงเริม่ ต้นของการเป็น นักเรียนทุน ซึ่งแม้ผ่านมาแล้วกว่า 19 ปี แต่เมื่อ หวนกลับไปนึกถึงวันนั้น ร่องรอยของอุปสรรคยัง แสดงให้เห็นด้วยรอยรื้นแดงจางๆ บนดวงตา “ตอนนั้นอายุ 16 เอง เป็นครั้งแรกที่ต้อง จากอกพ่อแม่ไปอยู่เมืองนอก แล้วตลอดเวลาเรา ไม่ได้ตระหนักว่า มีปัญหาในเรื่องภาษาอังกฤษ เพราะเราสอบอะไรก็ได้ สอบอะไรก็ติด เป็นเด็ก เรียนดีมาโดยตลอด พอได้ไปเมืองนอก ต้อง บอกว่าตั้งแต่ขึ้นเครื่องบินเลย ต่ายนั่งกับผู้หญิง ฝรั่ง ด้วยความที่เป็นนักโต้วาที คุยเก่ง ความ มั่นใจสูง จึงชวนเขาคุยว่า ‘ทานอาหารเช้าหรือ ยัง?’ กี่ครั้งเขาก็ฟังไม่รู้เรื่อง เสียความมั่นใจ มาก กระทั่งต้องเขียนลงบนกระดาษทิชชู่ เขา จึงเข้าใจ แต่ก็ยังมีข้ออ้างให้กับตัวเองว่า เป็น ฝรั่งแท้หรือเปล่า? เราจัดฟันอยู่ทำ�ให้พูดไม่ชัด หรือเปล่า? ใช้ข้ออ้างอย่างนี้เป็นเดือนเลยค่ะ สอบโทเฟล คะแนนตํ่ามาก สงสัยเจ็ตแล็กอยู่ แน่ ไม่เคยคิดว่าตัวเองผิดเลย ตัวเองดีเสมอ กระทั่งเวลาผ่านไป เริ่มรู้สึกว่า ไม่ใช่แล้ว ปัญหา ทั้งหมดอยู่ที่เรา และเมื่อตื่นขึ้นมาแล้วยอมรับ ว่า เรามีปัญหาเรื่องภาษาอังกฤษ ตอนนั้นรู้ได้ เลยว่า ถ้าคุณยอมรับปัญหาเท่ากับเป็นการแก้ ปัญหาไปแล้วครึ่งทาง เพราะส่วนใหญ่คนเรา มักนำ�ข้อแก้ตัวขึ้นมาก่อน เช่น อ้วน! อ๋อ เพราะ ไม่มีเวลาออกกำ�ลังกาย เป็นต้น “ตอนนั้นพอรู้ว่ามีปัญหาก็พยายามตลอด เวลา แต่ก็ไม่ดีขึ้น ความกังวลว่าจะสอบเข้า มหาวิทยาลัยไม่ได้ก็รุมเร้า เพราะนักเรียนทุน ต้องเรียนเพื่อเตรียมตัวก่อนเข้ามหาวิทยาลัย 1 ปี ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนกำ�ลังว่ายนํ้าแล้ว มองไม่เห็นฝั่ง จึงโทรศัพท์หาแม่ บอกว่า จะคืน ทุนแล้วกลับมาเรียนหมอ นิศราไม่เคยร้องไห้ เรื่องการเรียน สิ่งที่จดว่าจะคุยอะไรกับแม่บ้าง ไม่ได้คุยเลย เพราะร้องไห้ตลอด บอกเพียงว่า หนูจะคืนทุนแล้วกลับไปเรียนหมอ...แม่พูดขึ้นมา คำ�เดียวว่า ตอนตัดสินใจ ใครตัดสินใจ ตอบว่า
หนูค่ะ แม่ก็พูดให้ฟังอีกว่า ‘แล้วหนูรู้ไหมว่า ทุน นี้ใครให้ รัฐบาลให้ รัฐบาลเอาเงินมาจากไหน ก็ จากภาษีของประชาชน หนูเอาโอกาสของชาวไร่ ชาวนา ที่แม้กระทั่งโอกาสทางการศึกษาเขายัง ไม่มี แต่เขาส่งหนูเรียนต่างประเทศ แค่นี้หนูจะ ท้อแล้วเหรอ’ เหมือนถูกแม่ตีเลยค่ะ สะเทือน ใจมาก แต่ว่าคำ�พูดนั้นมันทำ�ให้เกิดแรงฮึด เมื่อ มองย้อนกลับไป โอ้โห! เราเป็นเด็กน้อยมากเลย แต่สำ�หรับตอนนั้นมันหนักมากๆ สุดท้ายก็ฝ่าฟัน มาถึงปัจจุบันได้” หลังจากวางสายโทรศัพท์ ดร.ต่ายก็ขยัน และตั้งใจเรียนอย่างจริงจัง ด้วยความที่เก่ง คณิตศาสตร์ และวิญญาณความเป็นครูวิ่งวน อยู่ในสายเลือด เมื่อเห็นเพื่อนติดขัด ดร.ต่ายจึง อาสาติวให้เสมอ และการติวนี่เองที่ช่วยพัฒนา ทักษะทางด้านภาษาให้ รวมทั้งเพื่อนเมื่อรู้ว่า ดร.ต่ายอ่อนภาษาก็เต็มใจแนะนำ�ให้เป็นอย่างดี
ท้ายสุดของการพูดคุย ดร.ต่ายได้ฝากถึง ทุกคนที่กำ�ลังก้าวเดินบนเส้นทางฝัน หรือยังค้น ฝันของตัวเองไม่เจอว่า “ต่ายค้นพบตัวเองตั้งแต่เด็กๆ สิ่งแรกที่มัก ถูกถาม คือ ทำ�อย่างไรจึงจะประสบความสำ�เร็จ เร็ว ก็จะบอกว่า พยายามค้นหาตัวเองให้เร็ว ที่สุด เพื่อจะได้ใช้เวลาทั้งชีวิตมุ่งไปหาเป้าหมาย นั้น ถ้าเราใช้เวลาครึ่งค่อนชีวิตในการค้นหา ตัวเอง เท่ากับเหลือเวลาแค่นิดเดียวที่จะเดินไปสู่ เป้าหมาย แต่ไม่ใช่ว่าทำ�ไม่ได้ แค่อยากให้ค้นหา ตัวเองให้เจอก่อน...โดยลำ�ดับแรก ต้องเลือกใน สิ่งที่รัก แล้วก็รักในสิ่งที่ทำ� ลำ�ดับที่สอง อยาก ให้เป็นคนที่กัดไม่ปล่อย มุ่งมั่น ตั้งใจฝึกฝน ตัวเองสมํา่ เสมอ และเมือ่ วันนีท้ �ำ ได้ดเี ท่านี้ พรุง่ นี้ ขอให้ดีกว่าเดิม ต่ายเชื่อว่าทุกคนมีศักยภาพ และสามารถพัฒนาศักยภาพของตัวเองได้ อย่าลืมว่า ชีวิตเรา เรากำ�หนดเอง” happy+ | 33
feature ชาญยุทธ ฉัตรพิริยะพันธ์
เจ้าพ่อขยะส่งออก ขยัน ซื่อสัตย์ 2 เครื่องมือพิชิตฝัน
“เขาทำ�ได้ แล้วทำ�ไมเราถึงจะทำ�ไม่ได้ เหมือนเขา” เป็นดัง่ คำ�ตัง้ ใจในวัยหนุม่ ของ ชาญยุทธ ฉัตรพิริยะพันธ์ เจ้าพ่อขยะส่งออก เจ้าของบริษัท ไคฮวดจั่นโลหะกิจ มีนบุรี จำ�กัด เมื่อครั้งที่ธุรกิจรับซื้อของเก่าที่ปู่ทำ�มา อยู่ใน ช่วงขาลง เพราะหุ้นส่วนต่างแยกย้ายกัน ออกไป “ที่บ้านมีอาชีพค้าของเก่าอยู่ที่ประตูนํ้า ซึ่งสมัยก่อนอากงเคยทำ�เป็นรูปแบบหุ้นส่วน หลังจากนั้นหุ้นส่วนก็แยกย้ายกันไป ต่างคนต่าง ไปทำ�เอง เมื่อมาถึงรุ่นผม จึงเป็นยี่ปั๊วที่อยู่ใน ระดับบ๊วยๆ เลย ทำ�แค่พอเลี้ยงตัวเองเท่านั้น ดีไม่ดีอาจจะไม่พอด้วยซํ้า แล้วผมเห็นคนอื่นที่ ทำ�ธุรกิจประเภทนี้หลายคนรวย มีเงินซื้อรถเบนซ์ ขับ มองดูเขายิ่งใหญ่มากเลย คิดอย่างเดียวว่า จะทำ�อย่างไรให้ได้เหมือนเขา เขาทำ�ได้ แล้วทำ�ไมเราถึงจะทำ�ไม่ได้ จึงมาคิดว่า 34 | happy+
อันดับแรกเราต้องมีลูกค้าก่อน เพื่อที่จะ ต่อรองกับโรงงานได้” แม้มีพลังความคิดที่หนักแน่นและยิ่งใหญ่ แต่ทว่ากำ�ลังทรัพย์กลับสวนทาง เขาไม่มีแม้ กระทั่งจักรยานยนต์เก่าๆ สักคันออกไปหาลูกค้า “ตอนนั้น ปี 2528 ผมต้องยืมมอเตอร์ไซค์ เพื่อนออกไปหาสามล้อที่รับซื้อของเก่าตามบ้าน เพื่อไปแจกนามบัตรให้เขา แล้วบอกว่า คุณไป ส่งร้านนี้หน่อย ร้านนี้เขาเปิดทุกวัน แล้วจ่าย สด ให้ราคาสูงกว่าที่อื่น ซึ่งสามล้อเหล่านี้ที่ไหน ให้ราคาดีก็จะไปขายที่นั่น เมื่อผมให้ราคาดีและ จ่ายสดทันที ลูกค้าก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้น จากตอน เริ่มต้นซื้อของแค่วันละ 2,000 บาท กลายเป็น 5,000 บาท เป็น 10,000 บาท ค่อยๆ ขยาย ทุกวัน จนมาปี 2547 จึงได้เปิดโรงงานอัด กระดาษที่มีนบุรี” ชาญยุทธบอกว่า ปัจจุบันบริษัทซื้อของ
03
เข้าวันหนึ่งประมาณ 30 ล้านบาท นอกจาก เป็นเบอร์ 1 ด้านธุรกิจรีไซเคิลของประเทศไทย แล้ว ยังทำ�ธุรกิจส่งออกขยะรีไซเคิล โดยเฉพาะ ทองแดง ไปต่างประเทศ ได้แก่ จีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี, ไต้หวัน, อินเดีย อีกด้วย กลยุทธ์สู่ความ สำ�เร็จนี้เขาเผยว่า “ใหม่ๆ ผมทำ�แบบไม่มีกำ�ไรนะ คือให้ ลูกค้ารู้จักเราก่อน พอลูกค้ารู้จัก เขาก็ไม่หนีละ เขาอยู่แถวนี้ รู้ว่าที่อื่นซื้อเท่าไหร่ เราไม่มีตัด มีแต่เท่ากันหรือสูงกว่า เขาก็แห่กันมาขาย พอมาขายปุ๊บ! ตลาดผมก็เลยกว้าง ทำ�ให้มี ของในมือเยอะ พอเอาไปขายต่อให้โรงงาน ราคาก็เลยได้เยอะกว่าเจ้าอื่น เพราะการมีของ เยอะ สามารถต่อรองราคาได้ แถมคุณภาพ ของผมก็ดี” ในส่วนของปัจจัยแห่งความสำ�เร็จ ชาญยุทธบอกว่า “ซื่อสัตย์ คือ ความสำ�เร็จ
อันยิ่งใหญ่ ที่นี่เราขึ้นชื่อว่าเป็นอันดับ 1 ในเรื่องความซื่อสัตย์ ไม่เคยพูดโกหกแม้แต่ คำ�เดียว การเงินสำ�คัญ เรารับปากว่าจะ โอนเงินให้เขาวันนี้ ต้องโอนวันนี้เลย จ่าย เงินสด ได้ทุกบาท ลูกค้าย่อมอยากได้เงินสด อยู่แล้ว “และต้องขยัน ผมทำ�งาน 24 ชั่วโมง เหนื่อย แต่ต้องสู้ ลูกค้าเราจะมาตอนไหนก็ได้ แต่เฉพาะรายใหญ่เท่านั้นที่จะมาได้ตอน กลางคืน ถ้ามากระจุกกระจิก ไม่เอา เพราะ คนจดของน้อย อยู่ 2-3 คนเอง จะสับสนได้ แต่ถ้ากลางวันนี่คนเยอะ สบายมาก” ชาญยุทธขยายความเรื่องการทำ�งานตลอด 24 ชั่วโมงว่า ตัวเขาเองดูแลกะกลางวัน ร่วมกับ ลูกๆ อีก 3 คน ส่วนภรรยาอยู่กะกลางคืนกับ ลูกสาวอีก 1 คน ช่วยกันทำ�งาน ด้วยปัจจัยหลักสู่ความสำ�เร็จคือความ
ซื่อสัตย์ ฐานะที่เป็นบริษัทรับซื้อของเก่า ที่ยึด มั่นว่า ของมาเงินต้องไป ทำ�ให้อุปสรรคสำ�คัญ ของชาญยุทธ ก็คือ เงิน “เรื่องเงินอย่างเดียว เพราะไม่รู้ว่าจะหาเงิน ที่ไหนมาจ่าย บางครั้งจังหวะมันลงตัวดีมากๆ แต่ไม่มีเงินจ่าย เมื่อก่อนผมจะมีเพื่อนที่ รํ่ารวยมากๆ หลายคน พอขาดเงินก็สามารถไป ยืมเขาได้ในราคาที่สูงกว่าดอกเบี้ยธนาคารนิด หน่อย ตอนหลังจึงได้ธนาคารมาหนุนแทน ที่ธนาคารหนุนหลังก็เพราะความซื่อสัตย์ของเรา เป็นสำ�คัญ “ทำ�การค้าทุกอย่าง เงินเป็นอุปสรรคใหญ่ นอกนั้นก็ใช้ความสามารถเฉพาะตัว เช่น พูดจา ดี ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของตลาด ตลอดเวลา รู้จักคิดวิเคราะห์ เป็นต้น แล้วการไม่ เบี้ยว ไม่โกงเขา เขาก็จะไม่โกงเรา ระดับบริษัท ใหญ่ๆ ในญี่ปุ่นหลายเจ้ามาซื้อของที่นี่ เงินหมุน
ระดับแสนๆ ล้าน เขารับปากจะโอนวันนี้ ก็โอน เลย เราไม่ต้องทำ�อะไร เขาก็โอนเข้าบัญชีมาให้ เรียบร้อย ในทางตรงกันข้าม เขาซื้อของเรา เขา ก็ไม่กลัวเราโกง” ท้ายนี้เจ้าพ่อขยะส่งออก ได้ฝากถึงผู้ที่ กำ�ลังมุ่งมั่นปั้นฝันให้เป็นจริงว่า “ให้มองไปข้างหน้า อย่าไปเปรียบเทียบกับ สิ่งที่สูงกว่า ถ้าเปรียบกับสิ่งที่สูงกว่าแล้วมันจะ ไม่มีความสุข ให้เปรียบกับตัวเราเองว่า ที่ผ่าน มา เราดีกว่าเมื่อก่อนตั้งเยอะ อย่างสมัยก่อน ผมนอนกับพื้น ใช้พัดลม จะไปไหนมอเตอร์ไซค์ ก็ไม่มี ต้องไปยืมของเขาขับ ตอนนี้ก็ดีขึ้นมาก ฉะนั้นมองตัวเราแค่นี้พอ ไม่ต้องไปเปรียบกับ คนอื่น ถ้ามัวมานั่งเปรียบเทียบว่า คนนั้นรวย กว่าเราตั้งเยอะ มันจะไม่มีความสุข ขอให้ ภูมิใจในตัวเองครับ แล้วสำ�คัญต้องขยัน และซื่อสัตย์”
happy+ | 35
feature ประวัติ วะโฮรัมย์
วงล้อแห่งชัย ไม่หมุนกลับหลัง
ประวัติ วะโฮรัมย์ เจ้าของเหรียญทองการ แข่งขัน วีลแชร์เรซซิ่ง พาราลิมปิก (โอลิมปิก คนพิการ) 3 สมัย อาทิ พาราลิมปิกที่ ซิดนีย์ ปี 2000, เอเธนส์ ปี 2004 และปักกิ่ง ปี 2008 คือ ประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งของวงการนักกีฬาคน พิการ ที่ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา แม้เบื้องบนจะ ประทานมาให้ไม่สมบูรณ์ก็ตาม ประวัติกำ�เนิดมาพร้อมขาขวาที่ลีบไร้กำ�ลัง เพราะเป็นโปลิโอ ต้องอาศัยไม้คํ้ายันในการก้าว ย่าง กระทั่งเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จาก จังหวัดสระแก้ว เขาจึงเข้ามาศึกษาต่อในระดับ มัธยมที่โรงเรียนศรีสังวาลย์ อำ�เภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ณ ที่แห่งนี้เอง ที่แรงบันดาลใจ ในการเป็นนักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่งงอกเงย “ตอนผมเข้ามา ได้เห็นรุ่นพี่เล่นกีฬาหลาย ชนิดด้วยกัน ก็เหมือนที่คนปกติเล่น เขาเล่น อะไรเราก็มีทุกอย่าง เพียงแต่ว่าตอนเล่นเราใช้ 36 | happy+
วีลแชร์เท่านั้นเอง ทั้งบาสเกตบอล, ปิงปอง, แบดมินตัน มีหมด...แล้ววีลแชร์เรซซิง่ นี่ พอเห็นผม ชอบเลย เพราะเห็นรุ่นพี่เล่นแล้วท้าทาย เป็น กีฬาที่ใช้พลังเยอะ ก็เลยไปนั่งดูพี่เขาซ้อมทุกวัน จนได้คุย ได้ทำ�ความรู้จัก เวลาไปซ้อมที่ถนน เขาจึงพาไปด้วย” ตลอดระยะเวลาที่ฝึกซ้อมกับรุ่นพี่ หน่วย ก้านของประวัติได้ไปเตะตา อ.สุพรต เพ็งพุ่ม หัวหน้าโค้ชวีลแชร์เรซซิ่งทีมชาติไทยเข้า จึงเรียก ตัวมาร่วมทีม หนทางแชมป์ ไม่ได้ราบเรียบดั่งลู่แข่งขัน แม้จะตอบตกลง แต่กว่าประวัติจะได้ลงแข่งขัน ในนามทีมชาติก็ต้องผ่านด่านโหดถึง 2 ปี “อาจารย์บอกว่า ท่าว่ายนํ้าฟรีสไตล์ กับ ท่าปั่นวีลแชร์คล้ายๆ กัน จึงให้ผมไปว่ายนํ้า อยู่ 1 ปี หลังจากนั้นจึงให้มานั่งวีลแชร์อีก 1 ปี...นั่งวีลแชร์แรกๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยครับ
04
เพราะเวลาที่เรานั่งลงไป ต้องคุกเข่าอยู่กับที่ กระดุกกระดิกไม่ได้เลย แล้ววีลแชร์ เขาจะ ออกแบบมาให้พอดีตัวเราเป๊ะ! ตอนผมนั่งครั้ง แรกเป็นตะคริวครึ่งตัวเลย ทรมานมาก เมื่อก่อน ซ้อมที่ถนนบางไทร รถยังไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ จะมีเสียงจิ้งหรีดร้องข้างทางเต็มไปหมด ผมก็ ปั่นไปด้วย ร้องไห้ไปด้วย บอกทีหลังจะไม่เอา แล้ว มันไม่ไหว ปวดไปหมดจริงๆ “ตอนนั้นคิดว่า ไม่เอาแล้ว ครั้งนี้ครั้งเดียว เลิก! ท้อ! แต่พอซ้อมเสร็จ ผมก็ไปหารุ่นพี่ที่ เขานั่งดื่มนํ้ากันอยู่ ไอ้ที่ร้องไห้มาก็พยายาม ไม่ให้เขาเห็น แล้วคิดขึ้นมาได้ว่า แรกๆ รุ่นพี่ เขาก็ต้องเป็นเหมือนผมนี่แหละ เขายังทนฝ่า อุปสรรคเหล่านี้ไปได้ เราแค่เพิ่งเริ่มแท้ๆ ทำ�ไม ต้องมาท้อ ขยัน แล้วก็ฝึกไปเรื่อยๆ เดี๋ยวมันก็ ชินเอง...แล้วมันก็จริงตามนั้นครับ พอเราเริ่มนั่ง ไปเรื่อยๆ ซ้อมไปเรื่อยๆ ก็ชินกับสิ่งที่เป็น แต่ก็
เป็นปีเหมือนกัน เพราะรถแข่งกับคนต้องสมดุล กัน บางคนไปนั่งปุ๊บ! หงายท้องเลยก็มี คือ ต้อง ทำ�ความเข้าใจกันก่อน อยู่ๆ จะไปจับเขาเลย มันก็ไม่ได้ ก็เหมือนเราขึ้นขี่ม้านั่นแหละ” ตลอดระยะเวลา 1 ปีในการทำ�ความคุ้นชิน กับวีลแชร์คู่กาย ประวัติบอกว่า ซ้อมหนักทุกวัน หลังจากอดทน และพยายาม ประวัติก็ได้ ติดทีมชาติครั้งแรกในเฟสปิกเกมส์ ที่ไทยเป็น เจ้าภาพ เมื่อปี 1999 ด้วยอายุเพียง 14 ปี ต่อจากนั้นเขาได้เป็นตัวแทนนักกีฬาทีมชาติไทย ไปแข่งกีฬาพาราลิมปิกที่ซิดนีย์ เมื่อปี 2000 ท่ามกลางเสียงข่มขวัญของพี่ๆ “ตอนนั้นผมก็หวังเหรียญทองนิดๆ แต่ คิดในใจว่า คงเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะรุ่นพี่ที่ไป แข่งต่างประเทศมาก่อนบอกว่า แชมป์โลกเก่ง อย่างนั้นอย่างนี้ ทำ�ให้ท้อใจเหมือนกันนะ ผม เริ่มมีความมั่นใจตอนแข่งเฟสปิกเกมส์ที่บ้าน
เรา แล้วได้เหรียญทอง 800 เมตร กับเหรียญ ทองแดง 10,000 เมตร มานี่แหละ ที่ทำ�ให้มี ความมั่นใจว่า สิ่งที่ซ้อมมาไม่ได้สูญเปล่า “วิธซี อ้ มของผม คือ ซ้อมให้หนักกว่าทุกคน เขาวอร์มกัน 10 กว่ารอบ ผมต้อง 30 รอบ แล้ว วิ่งลู่ 7 ลู่ 8 เพื่อให้มันได้กำ�ลัง พอถึงเวลาไปแข่ง จริงจึงสบาย เพราะแข่งจริง วิ่งแค่ลู่ 1-3 เท่านั้น แล้วตอนแข่งจริงเมื่อปี 2000 เขาก็ต้องยอมรับ ผม เพราะสมัยนั้น แข่ง 10,000 เมตร ผมไล่น็อก แชมป์โลกตั้ง 2 รอบสนาม” เส้นทางฝันของประวัติล้วนเต็มไปด้วยการ ต่อสู้ กำ�ลังใจเมื่ออ่อนล้ามาจากไหน... “พ่อ แม่ และแฟนครับ ที่ให้กำ�ลังใจ แต่ ส่วนมากผมเป็นคนที่ท้อแป๊บเดียว เป็นตอนซ้อม เพราะเหนื่อย พักก็หาย คือ ท้อแต่ไม่ถึงขนาด ที่ว่าทิ้งไปทันที โค้ชเขาก็บอกว่า ทนเอาหน่อย เดี๋ยวก็สบายเอง นี่แหละที่ทำ�ให้ฮึดตลอด”
สำ�หรับความสุขบนทางฝันสายนี้ ประวัติ บอกว่า “อันดับแรกเลยนะ ผมเป็นคนพิการคน หนึ่ง ที่สามารถทำ�ให้คนไทยทั้งประเทศมีความ สุขและยิ้มได้ แล้วเขาก็ชื่นชม ผมจึงภูมิใจที่ สามารถทำ�ชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ พ่อแม่ พี่น้อง วงศ์ตระกูลได้ คนคนหนึ่งสามารถสร้าง ชื่อให้คนรู้จัก มีคนเข้ามาแสดงความยินดี มาให้ก�ำ ลังใจ นีค่ อื สิง่ ทีผ่ มดีใจทีส่ ดุ ว่า เราก็ท�ำ ให้ คนอื่นมีความสุขได้เหมือนกัน “และอยากฝากเป็นกำ�ลังใจให้ทุกคนว่า ถ้า เหนื่อย ท้อได้ แต่แค่แป๊บเดียวนะ เพราะหากเรา มุ่งมั่น เราจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านั้นมา ได้ ผมคิดว่า คนเราถ้ามีความตั้งใจ และอดทน ก็จะประสบความสำ�เร็จ คนที่ล้มเหลวก็คือคนที่ ไม่สู้เท่านั้นเอง สู้! ถ้าเหนื่อยก็ถอย แต่ถอยแล้ว คุณไม่สู้ใหม่ ย่อมไม่ประสบความสำ�เร็จ ท้อได้ แต่อย่าถอยครับ” happy+ | 37
feature ชัยพร พรหมพันธุ์
ความสำ�เร็จ บนทางเบี่ยงของคันนา
หากจู่ๆ เอ่ยวลี “ทำ�งานมีรายได้ปีละ 1 ล้านบาท” ใครได้ยิน คงต้องเหลียวมอง และ เกิดความสงสัยว่า เอ๊ะ! ทำ�ธุรกิจอะไรหรือ? ถ้า เฉลยไปว่า “ทำ�นา” สีหน้าของผู้รับคำ�ตอบอาจ จะเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ ชัยพร พรหมพันธุ์ ชาวนา อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี พิสูจน์ให้ เห็นแล้วว่า นี่คือความจริง “เราเป็นชาวนา ก็ต้องตั้งใจทำ�ให้มันดี ให้ ประสบความสำ�เร็จ” เป็นคำ�ตอบจากเจ้าของ ผืนนา 108 ไร่ กับรายได้หลักล้านบาทต่อปี เมื่อ ถามถึงเป้าประสงค์แรกเริ่มในการทำ�นา จุดเริ่มต้นบนเส้นทางชาวนาเงินล้าน ของ ชัยพร ไม่ต่างกับเพื่อนบ้านทั่วไปนัก เขาบอก ออกสำ�เนียงเหน่อ เอกลักษณ์ชาวสุพรรณว่า ก็ ทำ�ตามๆ เขา “เมื่อก่อนเราก็ใช้สารเคมี แต่ใช้แล้วมันไม่มี กำ�ไร เกือบๆ จะขาดทุน เพราะไม่ได้ผลผลิต 38 | happy+
ค่าใช้จา่ ยสูง จุดเริม่ ต้นของการทำ�นาแบบอินทรีย์ คือ อ.เดชา ศิริภัทร ได้มาใช้นาของพ่อเป็นแปลง ทดลองปลูกแบบใช้สมุนไพร แล้วเราเป็นลูกชาย คนโต มีเครื่องไม้เครื่องมือเยอะ ก็เลยไปช่วยทำ� พอเห็นว่าพ่อได้ผลผลิตดี เราจึงทำ�ตามบ้าง เริ่มทำ�ปี 2532 หลังจากนั้นก็มีกำ�ไรเยอะ แล้วก็ สามารถขยาย ซื้อนาเพิ่มได้ ปี 2538 ก็ได้รับโล่ เกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ พอเราได้โล่ก็เหมือนถูก ขีดเส้นให้เดินทางสายนี้” เส้นทางของชัยพรดูเหมือนราบเรียบ คล้าย คันนากว้าง ซึ่งถูกแต่งให้เดินได้อย่างสะดวก ง่ายดาย แต่กว่าทางเดินจะราบรื่น เขาต้องผ่าน อุปสรรคมามากมาย โดยเฉพาะความเชื่อมั่น จากคนรอบกาย “ทีแรกชาวบ้านเขาว่าบ้า ยาขวดละ 400-500 ยังเอาไม่อยู่ นี่ใช้ต้นไม้ใบหญ้าจะไปได้เรื่องอะไร ก็วา่ กันไป แม้กระทัง่ แม่บา้ น ตอนใหม่ๆ ยังไม่ยอม
05
ให้ทำ�เลย บอกว่ามันจะไม่ได้ผล เราก็รั้นทำ� ก็เริ่มทำ�ทีละน้อย แต่ก็จดบันทึก เพื่อให้เห็นภาพ ว่า นาแปลงที่ใช้สมุนไพรสามารถลดต้นทุนได้ แล้วก็ได้ข้าวเหมือนกับที่ใช้สารเคมี พอเขาเห็น อย่างนั้น ก็ยอมให้ทำ� พอยอม เราก็ทำ�หลายๆ พื้นที่ ปัจจุบันนี้ไม่ต้องฉีดอะไร ก็ได้ข้าวไร่ละ เกวียนเหมือนกัน เพราะดินดี แค่ไม่เผาฟาง ข้าว ก็งามแล้ว” จากที่นาเดิม 40 ไร่ สามารถขยายเป็น 108 ไร่ กับรายได้มหาศาล ชัยพรมีหลักคิดง่ายๆ คือ “อย่าทำ�นาแบบผู้จัดการนา” “จ้างเขาทำ�ทุกอย่าง มันจะไม่เหลือ” ชัยพรบอก แล้วอธิบายเพิ่มว่า แม้จะมีนาถึง ร้อยกว่าไร่ แต่เขาลงมือทำ�เองทุกอย่าง ไม่มีจ้าง จึงทำ�ให้ลดต้นทุนการผลิตได้ อีกทั้งเขาไม่เคย ทำ�ตัวโก้เก๋อวดรํ่าอวดรวย “เราทำ�เองหมด เหมือนเป็นลูกจ้างตัวเอง
เช่น เวลาทำ�เทือกหว่านข้าว ถ้าจ้างเขา ไร่ละ 600 บาท แต่เราทำ�เองเสียแค่ค่านํ้ามัน ไร่หนึ่ง ก็ประมาณ 100 บาท ประหยัดไปแล้ว 500 บาท แล้วค่าหว่านข้าว ถ้าจ้างเขา ไร่ละ 60 บาท เราทำ�เองไร่ละ 10 นาที เท่ากับได้มาแล้ว 60 บาท...แล้วหลายคนพอข้าวราคาดีหน่อย รถยนต์นี่สั่งจองกันเป็นตับๆ เลย แต่ข้าวไม่ได้ ดีทุกปี พอข้าวถูกก็ผ่อนกันไม่ทัน จอดเต็นท์มือ สองเต็มเลย” ไม่ใช่เพียงคำ�พูดสวยหรู แต่รอบบ้านของ ชัยพร มีแต่รถเก่าๆ โทรมๆ จอดพร้อมใช้งาน ที่แม้จะเก่า แต่เจ้าของบ้านยืนยันหนักแน่นว่า เครื่องฟิต สตาร์ตติดง่าย เพราะตัวเขานั้น คือ ช่างตัวจริง “ตอนจบ ป.4 ไม่มีเงินเรียนต่อ พ่อก็ส่งไป อยู่อู่ ตอนนั้นช่างที่ไม่เปื้อนเขามีคนอยู่แล้ว เรา ก็ต้องไปทำ�อะไรที่เปื้อน เช่น ล้างเครื่อง ซ่อม
เครื่อง มอมตลอด ก็เลยทำ�ให้เราสามารถซ่อม เครื่องได้ แล้วก็สร้างได้” เล่าจบชัยพรยํ้าว่า รถยนต์ของเขา แม้เห็น สภาพเก่าๆ ซื้อมาในราคา 35,000 บาท แต่ สมรรถนะไม่ด้อยกว่ารถป้ายแดง ชนิดที่ว่า รถ ใหม่เร่งได้ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รถของเขาก็ ทำ�ได้ แถมไม่เปลืองนํ้ามัน เพราะใช้แก๊ส แม้จะมีรายได้จากการทำ�นามากมายจน สามารถส่งลูกทั้งสามให้เรียนถึงระดับปริญญา โทได้ แต่ชัยพรก็ยอมรับว่า ทำ�นาใช่ว่าจะได้ผล ดีทุกปี “เราเน้นแนวทางของในหลวง คือ เกษตร แบบผสมผสาน แต่ทีนี้จะไปผสมผสานด้วยพืช มันก็ไม่ได้เพราะเขตนี้เป็นที่ลุ่ม นํ้าท่วมบ่อย ทำ�ไร่ ทำ�สวน พอเกือบจะได้เก็บเกี่ยวผลผลิต ปรากฏนํ้าท่วม ก็เลยไม่ได้ผลผลิต ลงทุนไป เยอะ แต่ว่าไม่ได้เงิน ผมก็เลยเปลี่ยนแผน มาซื้อ
สิบล้อวิ่งข้าวส่งกรุงเทพฯ เป็นอาชีพเสริม เวลาไม่มีรายได้จากนา ก็ยังมีรายได้จาก รถสิบล้อ แล้วเงินที่ได้จากรถสิบล้อ ปีหน้าไป ลงทุนทำ�นา เราก็ไม่ต้องชักเงินเก็บเลย เป็น เกษตรแบบผสมผสานเหมือนกัน แต่ผสมกับ รถสิบล้อ” แนวคิดการทำ�เกษตรแบบผสมผสานตำ�รับ ประยุกต์ของชัยพร เรียกได้ว่า เป็นความคิดนอก กรอบอย่างแท้จริง สุดท้าย ชัยพรแอบกระซิบว่า ที่บอกตอน ต้นว่า ทำ�คนเดียวไม่จ้างใครนั้น ตัวเขาแอบมี ผู้ช่วยตัวน้อยอยู่จำ�นวนหนึ่ง พร้อมชี้ให้ดูเหล่า แมลงปอจิ๋ว แตน และแมลงเต่าทองที่ไต่อยู่บน ยอดข้าว “พอทำ�นาแบบอินทรีย์ มันก็ไม่ทำ�ลายสิ่ง แวดล้อม พวกตัวหํ้าตัวเบียนก็ไม่ตาย พวกนี้คือ แมลงที่มีประโยชน์ เป็นผู้ช่วยเรา” happy+ | 39
feature พิศาล แสงจันทร์, ทายาท เดชเสถียร ความสำ�เร็จที่หนังพาไป
หากใครจะทำ� “รายการโทรทัศน์” ขึ้นมา สักหนึ่งรายการ เขาคนนั้นจะต้องมีทั้งทุน และ สายป่านที่ยาวไกล (เพียงแค่ค่าอุปกรณ์ และค่า เช่าเวลาออกอากาศก็หนักอกแล้ว) แต่สำ�หรับ 2 หนุม่ ยอด - พิศาล แสงจันทร์, บอล - ทายาท เดชเสถียร เจ้าของรายการท่องเที่ยวอินดี้ “หนังพาไป” ที่ออกอากาศทางช่อง ThaiPBS ใช้ เพียงฝัน และความมุ่งมั่น ก็สามารถทำ�รายการ โทรทัศน์ให้เข้าไปอยู่ในใจแฟนๆ ได้ แม้จะต้อง ฟันฝ่าขวากหนามมากมายก็ตาม ความสำ�เร็จของ หนังพาไป เริ่มจากการที่ สองหนุ่มวิศวะ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เกิดไปตกหลุมรักการทำ�หนังสั้นขึ้นมา ทั้งๆ ที่ ไม่มีพื้นฐานมาก่อน แต่ใช่ว่าความไม่รู้จะเป็น อุปสรรคใหญ่ ทั้งคู่ศึกษาเรียนรู้ กระทั่งหนังผี ของพวกเขาได้เข้ารอบการประกวดหนังสั้น โครงการหนึ่ง และกรรมการก็บอกว่า 40 | happy+
“ในบรรดาหนังสัน้ ทีเ่ ข้ารอบมีเรือ่ งหนึง่ ทีม่ ศี กั ยภาพ พอจะไปประกวดเมืองนอกได้” เท่านั้นเอง ทั้ง ยอดและบอลพลันลิงโลดด้วยมั่นใจว่าหนังที่ กรรมการเอ่ยถึงจะต้องเป็นผลงานของพวกเขา แน่ๆ พวกเขาจึงเข้าไปถามทันทีว่า “งานนั้นคือ ของพวกผมใช่ไหมครับ?” “เขาก็มองหัวจรดเท้า แล้วตอบว่า ไม่ใช่ หนังของน้อง แล้วเดินไป” บอลเผยความรู้สึก ณ วินาทีนั้นว่า ใจเหี่ยวลงมาเลย ส่วนยอดบอก “เหมือนถูกถีบลงเหว” แทนที่จะเสียความรู้สึก และเศร้ากับความ ผิดหวัง พวกเขากลับนำ�มันมาเป็นลูกฮึด! บอล บอกว่า “มันทำ�ให้เราทั้งโกรธ ทั้งน้อยใจ เสียใจ และคิดว่า การจะส่งหนังไปเมืองนอก ทำ�ไมต้อง ผ่านความเห็นชอบจากคนอื่นก่อน เราเลยไปค้น ข้อมูล ก็พบว่าเทศกาลหนังในโลกนี้ มีเป็นพันๆ งานต่อปี เราสามารถเอาหนังของเราใส่ดีวีดี
06
พร้อมกับข้อมูลส่งไปรษณีย์ให้กรรมการได้เลย ซึ่งคณะกรรมการในเมืองไทย เขาก็ใช้วิธีนี้ส่งไป เหมือนกัน” เมื่อเจอช่องทาง ยอดและบอลจึงส่งหนัง ไปประกวดทั่วโลกกว่า 20 เวที ผลออกมา มี 2 ที่ เชิญหนังสั้นของพวกเขาไปฉายในงาน คือ อิตาลี กับสวิตเซอร์แลนด์ รอยยิ้มแห่งความดีใจยังไม่ทันจาง ความ ห่อเหี่ยวก็เข้ามาแทนที่ เมื่อทราบว่า กอง ประกวดเชิญหนัง ไม่ได้เชิญผู้สร้าง…ถึงกระนั้น ยอดและบอลก็ไม่ยอมแพ้ ด้วยคิดว่า ต้องมี องค์กรใดสักแห่งที่เห็นถึงความตั้งใจและ ให้การสนับสนุนพวกเขาบ้าง ดังนั้นจึงส่ง จดหมายของบประมาณไปยังหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งผลตอบกลับก็คือ ความเงียบ สุดท้ายทั้งคู่ได้รับการสนับสนุนจาก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในฐานะศิษย์เก่า
“มหาวิทยาลัยไม่เคยอนุมัติงบลักษณะนี้ มาก่อน นี่เป็นกรณีแรกจริงๆ ก็เลยได้ไป” บอล อธิบาย “เมื่อได้ไปก็พบว่า การไปต่างประเทศ อย่างคนไม่มีเงินนั้น เราต้องอยู่อย่างประหยัด มาก กินขนมปังแค่วันละมื้อ พอให้ท้องอิ่ม แล้ว เราได้เจออะไรเยอะแยะมากมายที่สามารถเล่า ออกมาเป็นเรื่องได้ ตอนนั้นเอากล้องถ่ายวิดีโอ ไป ก็เลยถ่ายเก็บไว้ เผื่อจะทำ�สารคดี แล้วไป ประกวดต่อ เพื่อจะได้ไปต่างประเทศอีก” ระหว่างที่ยอดและบอลตัดต่อสารคดี ท่องเที่ยวต่างแดนอยู่ในเมืองไทย โทรทัศน์ช่อง ITV กำ�ลังเปลี่ยนรูปแบบเป็น ทีวีไทย (ThaiPBS ในปัจจุบัน) ซึ่งต้องการทีมทำ�รายการอิสระ ทั้งสองจึงนำ�งานไปเสนอ ปรากฏว่า ผ่าน! “แต่กว่าจะรู้ผลว่ารายการได้ออกอากาศ แน่นอน ก็ต้องรอเป็นปี เพราะต้องผ่านกรรมการ หลายขั้น” บอลบอก “ช่วงที่รอฟังคำ�ตอบนี่ ทรมานมาก เพราะเราไม่รู้อนาคตว่าจะเป็น อย่างไร แล้วเราเลือกที่จะไม่ทำ�งาน แต่เลือกมา นั่งตัดต่อหนังพาไปเรื่อยๆ เพราะคิดว่า ถ้าเกิด ได้รับเลือก แล้วมีอยู่แค่ 2 คน ส่งงานไม่ทันแน่ ก็เกิดคำ�ถามทุกวันนะครับว่า ถ้ามันไม่ได้ละ สิ่งที่เราทำ�มาหลายปี มันล้มเหลวหรือเปล่า งานประจำ�ก็เลือกที่จะไม่ทำ� เงินก็ไม่มี แต่ก็ เดินหน้าทำ�ไปเรื่อยๆ แค่รู้สึกว่า อยากทำ�ให้มัน สุดทาง ถ้ามันไม่ได้ ก็ให้รู้ว่า มันไม่ได้เกิดเพราะ เรา แต่เกิดเพราะปัจจัยอื่น เราทำ�ดีที่สุดแล้ว จะได้ไม่มาเสียใจภายหลัง” ส่วนยอดเสริมว่า “รู้สึกว่า เฮ้ย! ทำ�ไมถึง เป็นอย่างนี้...แต่พอมองย้อนกลับไปยังจุดนั้น รู้สึกว่า การที่เราต้องรอมันก็มีข้อดีเหมือนกันนะ เพราะช่วงที่นั่งรอ เราก็เอารายการมานั่งดูแล้วดู อีก ถ้าพบว่าช่วงไหนยังไม่ดีก็ปรับไปเรื่อยๆ จน แก้จุดบกพร่องได้ทั้งหมด มันก็เลยออกมาดี” ส่วนมุมมองของการฝ่าด่านแรงกดดันทาง สังคม ในฐานะคนไม่มีงาน ไม่มีเงิน ยอดตอบ สั้นๆ ว่า “อย่าคิดอะไรมาก ถ้าคิดให้น้อยก็จะไม่ รู้สึกอะไร” จากประสบการณ์การฝ่าฟันอุปสรรค ยอด ได้ฝากบอกว่า “สิ่งที่ทำ�ให้ผมมีวันนี้คือ ความทุ่มเทอย่าง เต็มที่จริงๆ อย่างเรื่องตัดต่อ ผมสองคนไม่ได้จบ
นิเทศ ไม่รู้เรื่องตัดต่อเลย และรู้สึกว่าคอมพ์เป็น อะไรที่น่ากลัว แต่ก็เรียนรู้มันมาได้จนเชี่ยวชาญ จึงอยากให้กำ�ลังใจว่า สิ่งที่ทำ�อยู่วันนี้ มันอาจ จะนำ�พาไปสู่บางสิ่งบางอย่างก็ได้ ซึ่งเราอาจยัง มองไม่ออก แต่ถ้ามองย้อนกลับไปจะเห็นชัดเจน เลย เพราะเราทำ�ตรงนี้ จึงมีตรงนั้น แล้วต้องมี ตรงนี้มาประกอบด้วย ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เพราะ หนังพาไปแท้ๆ ครับ” ส่วนบอลทิ้งท้ายว่า “มันอยู่ที่การตัดตอน เล่าเรื่องด้วยครับ อย่างช่วงชีวิตของพวกผม ถ้า ตัดแค่ชว่ งทีท่ �ำ หนังสัน้ ประกวดกับช่วงทีห่ นังพาไป ยังไม่ได้รับการพิจารณาจากไทยพีบีเอส ก็จะพบ ว่า สิ่งที่ทำ�มา มันแทบจะคว้านํ้าเหลว แต่ถ้าเรา อดทนรออีกหน่อย ให้ชีวิตเดินต่อไป จะพบว่า มันมีตอนจบอีกแบบที่สวยงาม ซึ่งขึ้นอยู่กับว่า เราเดินถึงขั้นไหน ให้มองว่า ต่อให้ทำ�ไปแล้วมัน ไม่สำ�เร็จ มันก็คือประสบการณ์ชีวิตครับ” happy+ | 41
feature เกียรติศักดิ์ ลิ้มไพบูลย์
สานต่อความฝัน บนเส้นทางแจ่มใส
ณ ตำ�แหน่งแห่งเส้นชัย ผมมีโอกาสร่วม พูดคุยประเด็นการก้าวเดินบนทางสายฝันสู่จุด หมาย กับ เกียรติศักดิ์ ลิ้มไพบูลย์ กรรมการ ผู้จัดการ บริษัท แจ่มใส พับลิชชิ่ง จำ�กัด ผู้ซึ่ง ยิ้มสดใส ต้อนรับอย่างเป็นกันเอง สมกับเป็น ผู้บริหารบริษัทซึ่งมอบความสุขให้กับนักอ่าน ทุกวัย ได้แจ่มใสทุกสถานการณ์ ย้อนไปยังจุดเริ่มต้น เมื่อ พ.ศ. 2544 สำ�นัก พิมพ์แจ่มใส เกิดขึ้นจากความฝันของคนกลุ่ม หนึ่งที่รักการอ่าน และได้เสนอนิยายรักแนวใหม่ ออกสู่ตลาด ด้วยเนื้อหาที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย จึงได้รับการตอบรับที่ดี... จากศรัทธาในความ ฝัน ทำ�ให้พวกเขามองหาโอกาสใหม่ๆ ปรับปรุง พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ในที่สุดความทุ่มเทก็กลาย มาเป็นที่สุดแห่งความประทับใจของนักอ่าน... งานสัปดาห์หนังสือจัดขึ้นครั้งใด พิสูจน์ได้ด้วย คลื่นนักอ่านที่พร้อมใจกันมาอุดหนุน รวมทั้งให้ 42 | happy+
กำ�ลังใจนักเขียนอย่างหนาแน่น และใช่เพียงงาน หนังสือเท่านั้น ทุกช่องทางการสื่อสาร สังคม ออนไลน์ หรือร้านหนังสือชั้นนำ� รวมทั้งกิจกรรม ต่างๆ ล้วนได้รับการต้อนรับจากแฟนคลับเป็น อย่างดี เกียรติศักดิ์กล่าวถึงปัจจัยสู่ความสำ�เร็จ ว่า “คนอ่านหนังสือในบ้านเรา เขารอหนังสือ ดีๆ อยู่เยอะนะ เพียงแต่เราต้องตอบโจทย์ให้ ได้ว่า เขาอยากอ่านอะไร แล้วทำ�ออกมาให้มี คุณภาพ สำ�นักพิมพ์แจ่มใสทำ�การบ้านกันเยอะ มาก เพื่อให้ได้หนังสือที่ตรงตามความต้องการ ของผู้อ่าน เพราะแต่ละช่วงวัยก็จะชอบอ่าน หนังสือไม่เหมือนกัน พออายุมากขึ้น เราก็ต้อง อ่านหนังสือที่โตขึ้นตาม ฐานของแจ่มใสจึงค่อน ข้างกว้างมาก” ในบรรณพิภพผืนนี้ หลายสำ�นักพิมพ์ค่อยๆ หดตัว แต่แจ่มใสกลับขยายสวนทาง อะไรคือ
07
ปัจจัยสู่ความสำ�เร็จ คำ�ถามนี้ เกียรติศักดิ์ตอบ พร้อมรอยยิ้มว่า “เพราะเราให้ความสำ�คัญกับความสุขของ ผูอ้ า่ นเป็นอันดับ 1 ถ้าอะไรทีเ่ ราคิดว่าเขาจะไม่ชอบ หรือไม่มีความสุข เราจะไม่ทำ� เราไม่ได้ มองแค่ว่า ทำ�แล้วจะต้องกำ�ไรมากน้อย แต่ คำ�นึงถึงความสุขของผู้อ่านก่อนเป็นอันดับแรก สังเกตได้จากกระดาษที่เราใช้ก็เป็นกระดาษ ถนอมสายตา เราไม่ได้คำ�นึงเรื่องต้นทุน แต่คิด ว่าสิ่งนี้ช่วยทำ�ให้สายตาไม่ล้าเวลาอ่าน เราเน้น เรื่องความสุข และคุณภาพเป็นหลัก ผมเชื่อ ว่าสิ่งนี้เมื่อเราส่งออกไปแล้ว ลูกค้าเขารับรู้ได้ สัมผัสได้ เราจึงได้รับการต้อนรับจากลูกค้าอย่าง ดีและต่อเนื่อง” สำ�นักพิมพ์แจ่มใส กำ�เนิดมาจากกลุ่ม คนที่รักในการอ่าน หากเปรียบเป็นคนก็คือได้ ทำ�งานในสิ่งที่ตัวเองรัก พลังการทุ่มเทจึง
เกินร้อย เช่นเดียวกับกรรมการผู้จัดการ “การจะมายืนตรงจุดนี้ได้ อันดับแรกเลย ต้องมีความอดทน แล้วก็ทุ่มเท พยายาม และมีใจรักในงานที่ทำ� อย่างหลังนี่ผมว่า สำ�คัญมากเลย เพราะเวลารักอะไรแล้ว เราจะมีความรู้สึกสนุกกับมัน มีความสุข กับการได้ทำ�ตรงนั้น ไม่ว่าจะเจออุปสรรค อะไร ก็พร้อมจะตั้งรับแล้วจัดการสิ่งเหล่านั้น ได้ดี เพราะมีใจ เราจึงไม่กลัว เข้ามาเลย พร้อมสู้กับมัน “อย่างผมชอบอ่านหนังสือมาตั้งแต่เด็ก อ่านทุกแนวนะ เริ่มจากการ์ตูน พอโตขึ้นมา หน่อยก็เป็นประเภทเรื่องสั้นต่างๆ ผมว่าหนังสือ เป็นอะไรที่อยู่กับเรามานาน ขึ้นชื่อว่าหนังสือ มันให้ความสุขกับคนที่ได้อ่านทุกคนแหละ เมื่อ ได้มาทำ�งานด้านหนังสือ จึงทำ�ให้รู้สึกว่าใกล้ ตัวมาก แล้วก็เป็นแนวที่ถนัด สามารถใส่อะไร เข้าไปในหนังสือได้มากมายเลย เพื่อจะให้ลูกค้า อ่านแล้วมีความสุข” แม้ปัจจัยสู่ความสำ�เร็จอีกข้อ คือ การ ทำ�ในสิ่งที่ตัวเองรัก แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่ ต้องก้มหน้าก้มตาทำ�งานที่ไม่ปรารถนา ส่วนนี้ เกียรติศักดิ์บอกว่า กว่าเขาจะได้มานั่งบริหาร สำ�นักพิมพ์แจ่มใส ได้ผ่านงานมาหลายตำ�แหน่ง เช่นกัน อาทิ Business Development ปูนซีเมนต์ นครหลวง, Customer Service Quality Specialist บริษัท AIS, Customer Service Manager บริษัท AIA และ AVP Marketing Group บริษัท DTAC เป็นต้น แน่นอน! ย่อมมีทั้งชอบและไม่ชอบ ในบาง ภาระงาน “กว่าจะถึงจุดนี้ผมก็ผ่านการทำ�งานมา หลายแบบนะ บางช่วงก็ได้ทำ�งานในสิ่งที่ตัวเอง รัก บางช่วงเวลาก็ โอ้โห! เหนื่อยจังเลย เพราะ ไม่ถนัด แต่ว่าสิ่งที่ผมสอนน้องตลอดเวลาคือ เมื่อถูกมอบหมายงานบางอย่างที่ตัวเองไม่ถนัด และไม่ใช่งานที่ได้เรียนมา แม้ไม่ชอบ แต่พอทำ� มันเสร็จแล้ว สิ่งที่ได้คือ ประสบการณ์ และ ประสบการณ์ตรงนี้ วันหนึ่งอาจจะได้นำ�มาใช้ โดยไม่รู้ตัว “ด้วยความที่ผมทำ�งานมาหลายแบบ ทำ�ให้เมื่อเจอกับใครก็สามารถนำ�ประสบการณ์ที่ ผ่านมาคุยกับเขารู้เรื่อง พอมาคุยกับอีกทีมหนึ่ง อ้าว! งานนี้เราก็เคยมีประสบการณ์มานี่ จึงคุย
กันรู้เรื่อง ทำ�ให้สามารถหล่อหลอมประสบการณ์ ทั้งหมดมาใช้ในการบริหารจัดการได้ “ถ้าเป็นคนที่ได้ทำ�งานในสิ่งที่ตนเองรัก ก็ ถือเป็นโชคดี แต่ชว่ งเวลาหนึง่ อาจจะต้องทำ�งาน ที่ไม่ได้ใฝ่ฝัน แต่มันก็เป็นหน้าที่ที่เราต้องทำ� แล้วก็เชื่อว่าโอกาสและจังหวะของชีวิต จะทำ�ให้ เราได้มาเจองานที่เรารัก และมีความสุขกับมัน ฉะนั้นช่วงเวลาที่ได้ทำ�งานซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองรัก ก็อาจต้องใช้ความอดทนเพิ่มขึ้นกว่าปกติหน่อย แต่ก็ต้องรู้หน้าที่ มีความรับผิดชอบ อดทน ผม เชื่อว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนไปในทางที่ดี อาจจะมี โอกาสให้เราไปสู่จุดที่หวังได้” ช่วงท้ายของการพูดคุย เกียรติศักดิ์ได้ฝาก ถึงคนที่กำ�ลังมุ่งมั่นคว้าฝันว่า “คนส่วนใหญ่เวลาถูกถามว่า อยากเป็น อะไร ชอบอะไร ผมว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ตอบไม่ได้
เช่น ถามว่าชอบทำ�งานอะไร บางทีตอบไม่ได้นะ ฉะนั้นถ้าใครรู้ว่าฝันของตัวเองคืออะไร ก็พยายามทำ�ให้ได้ตามความตั้งใจ เพราะเมื่อรู้ แล้วว่าฝันคืออะไร จะทำ�ให้ฝันแข็งแรง เวลาผม ทำ�งานกับน้องๆ จะถามว่า คอนเซ็ปต์แข็งแรง หรือยัง โอเค! ถ้าแข็งแรงแล้ว ก็จะเริ่มรู้ละว่า ต้องทำ�อย่างไรต่อ ในทางเดียวกัน ถ้ามี ความฝันที่แข็งแรง ก็ต้องมีความพยายาม อดทน มีความรัก และสนุกที่จะทำ�มัน “ส่วนอุปสรรค คือ บททดสอบของ ความตั้งใจ มันจะขจัดคนออกไปทีละ คนสองคน ใครที่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ก็จะไปถึงฝันได้ ผมอยากให้มุ่งมั่นที่จะ เดินทางไปถึงความฝันมากกว่า แล้วเป้าหมาย นี่ ถ้าทำ�เหตุดี ผมเชื่อว่าผลก็จะดีเอง ขอให้มีกำ�ลังใจครับ” happy+ | 43
feature นิโลบล กิจไกรลาศ มีตัวตน มีความสำ�เร็จ
บางครั้งความฝัน ก็พิสูจน์เจ้าของด้วย ระยะเวลา ดังเช่นเรื่องราวของนักวาดภาพ ประกอบสาวฝีมือระดับอินเตอร์ นิโลบล กิจไกรลาศ ที่ความฝันพาเธอไปประสบความ สำ�เร็จไกลถึงอีกซีกโลก – ประเทศสเปน นิโลบลมาพบว่าตัวเองชอบงานด้านกราฟิก ดีไซน์ เมื่ออยู่ชั้นปีที่ 4 ภาควิชาประยุกต์ศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งเป็นวิชาที่มีสอนใน ปีสุดท้าย ดังนั้นเมื่อจบการศึกษา เธอจึงเข้า ทำ�งานด้านกราฟิกดีไซน์กับบริษัทโฆษณาแห่ง หนึ่ง และตลอด 3 ปีที่ทำ�งานโดยหาวันหยุด ไม่ได้ ก็เกิดคำ�ถามขึ้นมาว่า “วันหนึ่งก็ถึงจุดที่ว่า เอ๊ะ! ทำ�ไมเราต้องมา ทำ�งานวันเสาร์-อาทิตย์ด้วยหว่า แล้วมีอยู่เสาร์ หนึ่งที่ไม่ต้องไปทำ�งาน เราได้อยู่บ้าน ก็คิดขึ้น มาว่า วันเสาร์นี่คนอื่นเขาทำ�อะไรกันนะ รู้สึกว่า ชีวิตมันไม่ใช่อย่างนี้ เราไม่มีชีวิตของตัวเองเลย 44 | happy+
พอดีมีเพื่อนเรียนอยู่ที่ซานฟรานซิสโก ก็เลย ตัดสินใจจะไปเรียนภาษาที่นั่นสัก 6 เดือน” เพียงวาบความคิดนั้น นิโลบลก็พับเสื้อผ้า เก็บข้าวของลงกระเป๋า เดินทางไปประเทศ สหรัฐอเมริกาทันที ด้วยเงินเก็บส่วนตัว 5,000 เหรียญ “ด้วยความที่เราไม่เคยไปต่างประเทศ จึง ใช้เงินไม่เป็น แทนที่จะอยู่ได้ 6 เดือน ปรากฏว่า 2 เดือนเงินก็หมดแล้ว ทำ�ไงดี อะ! พอดีมีเพื่อน ที่ญาติเขาทำ�ร้านอาหารไทย ก็เลยไปสมัคร ทำ�งาน ตอนนั้นภาษาอังกฤษก็ยังใช้ไม่ค่อยได้ รับโทรศัพท์ก็ยังไม่ได้ แล้วต้องทำ�คนเดียว เวลา โทรศัพท์มาปุ๊บ! นิโลบลก็จะทำ�เป็นถือเหยือก นํ้าออกไปเสิร์ฟ จนเจ้านายต้องวิ่งออกมารับให้ ทุกครั้ง แล้ววันหนึ่งโทรศัพท์ดัง เสิร์ฟจนนํ้าหมด ไม่รู้จะเสิร์ฟโต๊ะไหน มันก็ยังดังอยู่ เจ้านายก็ไม่ รับให้ สุดท้ายต้องรับเอง เขาพูดอะไรไม่รู้ เราก็
08
yes yes คือเขาสั่งอาหาร แต่มาถึงไม่มีให้ ดีที่ ไม่ได้เยอะ ก็เลยสั่งครัวทำ�ให้ทัน” การเดินทางข้ามทวีปในครั้งนี้ ฟังคล้าย เพื่อค้นหาตัวเอง แต่นิโลบลเจอตั้งแต่อยู่เมือง ไทยแล้วว่า ตัวตนของเธอคือ กราฟิกดีไซเนอร์ ฉะนั้นเมื่องานในต่างเมืองลงตัว เธอจึงใช้เวลา ว่างยามเย็น ไปลงเรียนกราฟิกดีไซน์เพิ่ม ทีละ วิชาสองวิชา แล้วแต่เวลาจะเอื้อ กระทั่งได้ร่วม งานกับบริษัทกราฟิกดีไซน์ที่นั่น ถึง 13 ปี ช่วงระยะเวลา 13 ปีที่ทำ�งานใน สหรัฐอเมริกา มรสุมพัดกระหนํ่าหญิงสาวจาก เมืองไทยคนนี้เป็นระยะ ทั้งปัญหาจากเพื่อนร่วม งานที่คอยกีดกัน และปัญหาเศรษฐกิจที่ทำ�ให้ บริษัทต้องเชิญพนักงานออกทั้งหมด ยกเว้น นิโลบล “ช่วงนั้นปี 2004-2005 เศรษฐกิจอเมริกา ฟองสบู่เริ่มแตก บริษัทจึงเริ่มต้นด้วยการตัดเงิน
เดือน สุดท้ายต้องไล่ออกหมด ปรากฏว่า มีเรา คนเดียวที่เจ้านายไม่ไล่ออก หลังจากนั้นหลายปี เจ้านายก็มาบอกว่า รู้ไหม ทำ�ไมเขาไม่ไล่เรา ออก ก็ตอบไปว่า อ๋อ! เพราะค่าจ้างฉันถูกสุด เลยเก็บไว้ก่อน แต่เขาบอกว่า ไม่ใช่! เป็นเพราะ ว่าตอนเกิดวิกฤติที่ต้องลดเงินเดือน ทุกคนใน ออฟฟิศไปบ่นว่า ลดเงินเดือนฉันไม่ได้นะ ฉัน มีภาระผ่อนบ้าน มีรถ มีลูก แต่มีเราคนเดียวที่ เข้าไปบอกว่า ลดเงินเดือนฉันอีกก็ได้นะ เพราะ ค่าเช่าบ้านฉันถูก แล้วไม่มีภาระ รถไม่มี เดินมา ทำ�งาน วินาทีนั้นจึงเป็นความประทับใจ” ช่วงวิกฤตินี้เอง ที่ทำ�ให้นิโลบลได้ทำ�งาน เกี่ยวกับภาพประกอบหนังสือเป็นครั้งแรก “จังหวะนั้นพอไม่มีงานเข้ามา เขาก็หา ทางออกโดยการเขียนหนังสือเด็ก โดยเริ่มจาก เพลงที่เขาร้องให้ลูกฟัง แล้วให้เราวาดภาพ ประกอบ ทำ�อย่างนี้อยู่ประมาณ 1 ปี ตอนหลัง ออฟฟิศดีขึ้นก็มีการจ้างคนเพิ่ม” ด้วยความที่เลือดศิลปินร้อนรุ่มอยู่ในกาย และแล้วนิโลบลก็รู้สึกว่าตัวเองถึงจุดอิ่มตัวกับ การเป็นพนักงานออฟฟิศ เธอจึงตัดสินใจ ลาออก ไปอยู่ประเทศสเปนกับแฟนหนุ่ม “พอไปสเปนปุ๊บ! จากเศรษฐกิจบูมๆ กลายเป็นร่วง คือ ปีสองปีแรกยังไม่อะไร พอเข้า ปีที่สามก็เริ่มแย่ เราไม่มีงานก็เครียด ขนาดแฟน เป็นคนสเปนยังหางานยากเลย ตอนนั้นกำ�ลัง คิดหาวิธีบางอย่าง แล้วบังเอิญทางครอบครัว แฟนเป็นคนในวงการอาร์ต ดีไซน์ เขาก็เลยไป เชิญกราฟิกดีไซเนอร์มีชื่อคนหนึ่งมาที่บ้าน โดยหลอกว่าชวนมากินข้าว จะทำ�อาหารไทย เลี้ยง แต่จริงๆ แล้วจะให้เขาวิจารณ์งานเรา หลังจากเลี้ยงอาหารไทยเรียบร้อยแล้ว ก็เลย ให้เขาดู เขาบอกว่า งานคุณดี แต่ปัญหาก็คือ ไม่มีใครรู้จัก” ประโยคนั้นทำ�ให้นิโลบลหวนกลับไปคิดถึง เมื่อครั้งที่เรียนกราฟิกดีไซน์ในสหรัฐอเมริกา ณ ตอนนั้นเธอได้งานทำ�เพราะเข้าโรงเรียน มีเพื่อน และได้รู้จักครู ฉะนั้นเธอจึงเข้าเรียน หลักสูตร Creative Illustration ในสเปน ซึ่งสอน เกี่ยวกับภาพประกอบอย่างจริงจัง ชนิดที่ว่า นำ�บรรณาธิการจากสำ�นักพิมพ์ใหญ่ๆ มามอบ หมายงานให้นักเรียนไปวาด แล้วมาตัดสิน งาน ใครชนะก็จะได้ตีพิมพ์ “ส่วนใหญ่งานของเราก็จะได้ตีพิมพ์”
นิโลบลบอก หลังจบหลักสูตรเธอได้ส่งผลงานไป ประกวดงาน Bologna Children’s Book Fair ครัง้ ที่ 48 ซึ่งเป็นเวทีประกวดหนังสือเด็ก ที่สำ�นักพิมพ์ ทั่วโลกจับตามอง และงานของเธอก็ได้รับ คัดเลือกไปแสดงที่นั่น เป็น 1 ใน 70 ผลงานจาก ทั่วโลก แล้วชื่อ นิโลบล ก็เป็นที่รู้จัก ทำ�ให้เธอ มีผลงานกับสำ�นักพิมพ์ต่างๆ ในสเปนมากมาย รวมทั้งในประเทศไทย สำ�นักพิมพ์ชั้นแนวหน้า หลายแห่งก็ให้เธอวาดภาพประกอบให้ ทางด้านปัจจัยสู่ความสำ�เร็จ นิโลบลบอก
ว่า “เราว่าเป็นความรับผิดชอบนะ บางทีงาน เล็กๆ หรืองานอะไรก็รู้สึกว่าต้องทำ�ให้ดีที่สุด เพราะเท่ากับว่ามีชื่อเราติดอยู่...แล้วงานไม่ว่าจะ ทำ�ตอนเรียน หรือตอนไหนจะทำ�ให้ดีที่สุดเสมอ เพราะถึงไม่ได้ใช้วันนั้น แต่วันข้างหน้าอาจจะได้ ใช้ มันไม่เสียเปล่า คือ ถ้าทำ�ดีไปแล้วงานชิ้นนั้น ก็สามารถเป็นพอร์ต (Portfolio) ได้เลย” ความสำ�เร็จของนิโลบล จึงเป็นอีกหนึ่ง กำ�ลังใจให้กับทุกท่านที่กำ�ลังหาทางพิชิตฝันของ ตัวเอง หากไม่ย่อท้อ ความพยายามก็จะเปิด ประตูแห่งความสำ�เร็จให้เราอย่างแน่นอน happy+ | 45
feature ยอดดอย บุพศิริ
ความสำ�เร็จของฝัน เริ่มต้นจากสนุกกับมัน
อาจารย์ภาควิชาวรรณคดีไทย ใน มหาวิทยาลัย คือความฝันแรกเริ่มของ ยอดดอย บุพศิริ ครูสอนไวโอลินอิสระ ที่มีเด็กๆ ทั้ง ไทยและญี่ปุ่นจองคิวเพื่อเรียนด้วยยาวเหยียด ชนิดที่สอนไม่มีเว้นวัน และแม้เคยพักเพื่อทำ� วิทยานิพนธ์หลายเดือน เหล่าศิษย์ตัวน้อยก็ ไม่เคยเปลี่ยนอาจารย์ ยังตั้งตารออย่างใจจดจ่อ “ผมตั้งเป้าว่าจะเป็นอาจารย์สอนวรรณคดี ไทยมาตั้งแต่ต้น แต่ระหว่างนั้นก็ได้เรียนดนตรี ด้วย เพราะตอนเด็กๆ ที่บ้านให้เรียน พอเข้า มหาวิทยาลัยก็ยังเรียนอยู่ ช่วงนี้เองมีเพื่อนที่ สอนดนตรีได้ชวนมาสอนให้กับน้องๆ ตอนนั้น ว่างก็เลยตอบตกลง เพราะอยูใ่ นช่วงรอเรียน ปริญญาโท จากนั้นมาก็กลายเป็นสิ่งที่สนุกมาก “เพราะเวลาสอนเด็กๆ ด้วยความที่เป็นเด็ก มักจะมีอะไรกระจุกกระจิกตลอดเวลา ทำ�ให้เรา รู้สึกสนุกไปด้วย การมาเรียนดนตรีเหมือนเขาได้ เล่น ได้ผ่อนคลาย ครูก็พลอยได้เล่น เหมือน 46 | happy+
ตัวเองเป็นเด็กไปด้วยเลย แล้วเด็กเขาจะมีความ น่ารักในตัว ทีนี้เวลามาเรียนดนตรี พอได้เห็น ช่วงเวลาที่เขาตั้งใจทำ� เราจะเกิดความรู้สึกว่า จะต้องหาอะไรมาทำ�ให้เขาอยากเรียนให้ได้ กรณีนี้ถ้าสื่อสารกับผู้ใหญ่จะง่ายกว่า แต่กับ เด็กเวลาให้ทำ�อะไรนิดๆ หน่อยๆ ต้องหาวิธีการ เข้าช่วย ยิ่งตอนสอนกลุ่ม โห! เล่นกันมันส์มาก แต่ถึงอย่างนั้น ก็ต้องทำ�ให้เขาได้ความรู้ด้วย นะครับ ไม่ใช่มาเล่นอย่างเดียว ซึ่งผมจะใช้วิธี ตกลงกับเด็กก่อน เรียนก็เรียนนะ เรียนเสร็จ แล้วเดี๋ยวปล่อยให้เล่น คือ เขาจะมีสมาธิ อยู่แค่ช่วงหนึ่ง จะเป็นรูปแบบว่า เรียนแป๊บหนึ่ง เล่นแป๊บหนึ่ง กลับไปกลับมา เพราะถ้าเรียน อย่างเดียว เขาก็อยู่ไม่ได้” ปัจจัยที่ทำ�ให้ว่าที่อาจารย์วรรณคดีไทย หันเหทิศทางมาสอนไวโอลินให้กับเด็กๆ ทำ�เอา ผู้สัมภาษณ์ยิ้มกริ่มตาม และเมื่อยอดดอย เล่าอีกหนึ่งตัวอย่างให้ฟัง ผู้สัมภาษณ์ก็ถึงกับ
09
หัวเราะออกมาอย่างเอ็นดูในทันที เรื่องมีอยู่ว่า... วันหนึ่งน้องผู้หญิงตัวน้อยๆ ได้เดินตรงรี่เข้ามา หาผู้สอนด้วยใบหน้าจริงจัง แล้วเอ่ยว่า “ครูคะ แต่งงานกับหนูนะ” แน่นอน เป็นใครก็ ย่อมตกใจเมื่อถูกจู่โจมเช่นนี้ แต่แล้วก็ต้องขำ�ให้ กับความไร้เดียงสา เมื่อเจ้าตัวเอ่ยต่อไปว่า “หนูอยากตัดเค้ก” แม้ความฝันจะเปลี่ยนไป แต่ยอดดอยเชื่อ ว่า หากมีความทุ่มเทก็สามารถทำ�ให้สำ�เร็จได้ “อย่างเรียนวรรณคดี ผมก็จะเรียน เรียน เรียน อยากรู้อะไรก็ต้องหาให้เจอ เช่นเดียวกัน พอมาสอนดนตรี พอเห็นว่าเรารู้น้อยไปนะ ก็ ต้องไปเรียนเพิ่ม มันจึงสนุกขึ้นมาเรื่อยๆ ทุกวันนี้ ที่สอน ไม่ได้คิดว่ามาทำ�งานนะครับ มาเล่นกับ เด็ก “ตอนแรกๆ ที่มาสอนไวโอลิน ยังรู้สึกไม่ มั่นใจกับวิธีการสอนของตัวเองเหมือนกัน ก็เลย ไปเข้าคอร์สการสอนเด็ก อ่านหนังสือเกี่ยวกับ
จิตวิทยาเด็ก แล้วตอนนั้นร้องเพลงยังไม่ค่อย ตรงโน้ตเท่าไหร่ ก็ต้องไปลงร้องเพลงให้เป็นเรื่อง เป็นราว เพื่อจะได้มาสอนนักเรียน คือ เราจะ ต้องมีให้มากกว่า เพื่อจะได้สอนได้ ฉะนั้นจึง ต้องเติมตลอดเวลา” ด้วยเหตุผลนี้ ทำ�ให้ตลอด 15 ปีในการเป็น ครูสอนไวโอลินของยอดดอย มีเด็กมาฝากตัว เป็นศิษย์อย่างต่อเนื่อง ไม่มีลด บางรายเรียน ตั้งแต่ชั้นประถม ปัจจุบันอยู่มหาวิทยาลัย ก็ยัง คงเรียนด้วยไม่ไปไหน ซํ้ายังเป็นครูสอนไวโอลิน อีกด้วย “เพราะผมเต็มที่ และใส่ใจรายละเอียด การสอนครับ แล้วยังหาความรู้มาเพิ่มให้ตัวเอง ตลอดเวลา” ยอดดอยอธิบายเหตุผลที่มีลูกศิษย์ หนาแน่นตลอดมา แม้ใน 1 สัปดาห์ ยอดดอยสอน 7 วัน ไม่มี เว้น แต่เขาก็ยังบอกว่า “มีเวลาทำ�อะไรอีกมาก” “สำ�หรับผม เวลาปีหนึ่งเดินเร็วมากเลย
ครับ เพราะมีอะไรให้ทำ�ตลอด แล้วการสอน เด็กเยอะนี่ทำ�ให้เรารู้สึกตื่นตัว ต้องไปออกกำ�ลัง เรียนเพิ่ม ทุกอย่างจึงส่งผลให้ดีไปหมด แม้ สอนทุกวัน แต่งานก็ไม่ต้องเริ่มทั้งวัน จึงมีเวลา ช่วงเช้าไปทำ�อะไรต่อมิอะไรได้ เช่น อยากเรียน ภาษาญี่ปุ่น ผมก็ไปเรียน อยากออกกำ�ลัง ผมก็ ไปออกกำ�ลังกายได้” แนวทางสู่ความสำ�เร็จเป็นอย่างนี้นี่เอง เพราะหากเป็นผูส้ มั ภาษณ์ ต่อให้งานเริม่ 20.00 น. ตลอดทั้งวันก่อนหน้านั้น ก็จะตีเป็นไม่ว่างล่วง หน้าแล้ว... อย่างนี้ต้องรีบเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ ระหว่างที่ยอดดอยมีความสุข และประสบ ความสำ�เร็จกับหน้าที่การงาน เชื่อว่าอาจมีใคร บางคนที่ยังคงหน้านิ่วคิ้วขมวดให้กับงานตรง หน้า แม้จะเปลี่ยนมาแล้วหลายตำ�แหน่งก็ตาม ประเด็นนี้ครูไวโอลินขวัญใจเด็กๆ เล่าว่า “เด็กบางคนพ่อแม่บังคับให้มาเรียน มาก็ สีไวโอลินไปอย่างนั้น ก็เลยถามว่า โตขึ้นอยาก
เป็นอะไร ถ้าเป็นหมอแล้วไม่ชอบละ จะทำ� อย่างไร? เขาก็ทำ�หน้างงๆ จึงถามต่อว่า ถ้าเป็น หมอแล้วไม่ชอบ จะรักษาให้คนตายไหม? รักษา ให้เขาเจ็บเพิ่มขึ้นหรือเปล่า? ไม่ใช่! ใช่ไหม... เราต้องทำ�หน้าที่ของเราให้ดีที่สุดใช่ไหม? ตอนนี้ ก็เหมือนกัน เรามีหน้าที่เรียน จะชอบไม่ชอบไม่รู้ แต่ว่าเวลาเรียนก็ควรเรียน บอกแค่นี้ เขาก็เข้าใจ ตั้งใจเรียนขึ้นมาเลย” หลังจากยกตัวอย่างนักเรียนแล้ว ยอดดอย ก็ฝากแนวคิดว่า “ถ้าทำ�งานไปโดยที่ตัวเองทนทุกข์ทรมาน ไม่มีความสุข ก็ไม่รู้ว่าจะทนทำ�ไปทำ�ไม ไหนๆ ถ้าเราจะต้องทำ�แล้ว หาความสุขจากมันง่าย กว่าเยอะ เพราะอย่างไรก็ต้องทำ� สมมุติว่า ต้อง จำ�ใจทำ�ทุกวัน มันหดหู่มากเลยนะ เราลอง เปลี่ยนใหม่ไหมว่า ไหนๆ ก็ต้องทำ�แล้ว หาอะไร ที่สนุกกับมันดีกว่า มีทางที่จะทำ�ให้สนุกอีก เยอะแยะเลยครับ” happy+ | 47
feature หญิงลี ศรีจุมพล ฝันเป็นดาว เท้าติดดิน
“ท่านกำ�ลังเข้าสู่บริการรับฝากหัวใจ ลง ทะเบียนฝากไว้ตัวเอากลับไปใจให้เก็บรักษา” ในยุคนี้ น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักท่อนสร้อย ยอดฮิตของเพลง “ขอใจแลกเบอร์โทร” ของ ซูเปอร์สตาร์ลูกทุ่งสาวคนใหม่ของวงการ หญิงลี ศรีจุมพล แต่กว่าที่หญิงลี หรือ ธิดารัตน์ ศรีจุมพล จะได้มายืนอยู่ในจุดสูงสุดของความ ฝันเช่นวันนี้ เธอต้องฟันฝ่าอุปสรรคมามากมาย เพราะเธอเติบโตขึ้นมาในครอบครัวหาเช้ากินคํ่า ในอำ�เภอนาโพธิ์ จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งตลอดเวลา เธอได้เห็นภาพความลำ�บากของพ่อ แม่ ที่ต้อง 48 | happy+
10
สารคาม ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ที่ปั้นนักร้องดังๆ มา มากมาย จนกระทั่งหญิงได้มีผลงานเพลงอัลบั้ม แรก แต่ก็ไม่ประสบความสำ�เร็จ ตอนนั้นก็รู้สึก ท้อเหมือนกัน แต่หญิงเลือกที่จะทำ�ตามความ ฝันต่อ เลยตัดสินใจออกเดินสายเป็นนักร้อง หมอลำ�ซิ่งอิสระ ใช้ชื่อวงว่า ‘หญิงลี ศรีจุมพล’ ซึ่งได้รับการตอบรับจากชาวอีสานดีมาก จำ�ได้ ว่าผ่านไปเกือบ 8 ปีได้นะคะ หญิงถึงได้รับการ ติดต่อจากอาจารย์สวัสดิ์อีกครั้งเพื่อชวนให้มา ร่วมงานกับค่ายแกรมมี่โกลด์ และได้ออกผลงาน เพลงอัลบั้ม ‘ขาขาวสาวลำ�ซิ่ง’ จนประสบความ สำ�เร็จ มีชื่อเสียงอย่างทุกวันนี้” หลายคนอาจรู้สึกว่าชีวิตของหญิงลีไม่ได้ ลำ�บากแต่อย่างใด แต่เรื่องราวที่เธอจะเล่าต่อ ไปนี้ ทำ�ให้รู้ว่าหนทางสู่ดวงดาวของหญิงลีไม่ได้ โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่คิด “ช่วงที่หญิงลีอายุ 25 ปี เป็นช่วงที่เจอ มรสุมชีวิตถาโถมเข้ามามากที่สุด ตอนนั้นก็ยัง เดินสายร้องเพลงเป็นหมอลำ�อิสระควบคู่กับการ ทำ�งานเป็นสาวโรงงาน แต่ก็มีความคิดว่าอยาก ทำ�ธุรกิจเสริมด้วย เลยตัดสินใจลงทุนทำ�ธุรกิจ หลายอย่าง แต่ไม่ว่าจะทำ�อะไรมันกลับเจ๊ง ไม่เป็นท่า เงินเก็บที่มีก็หดหาย ตอนนั้นเพื่อนฝูง ที่คบกันอยู่ก็หนีหน้า โทร.ไปไม่รับสาย ญาติ พี่น้องที่เขาไม่หวังดีกับเราก็คอยด่าว่าซํ้าเติม แถมหญิงยังอกหักอีก โอ้โห! ตอนนั้นเครียดมาก แต่ก็พยายามสู้ด้วยการรับงานหมอลำ�ซิ่งเสริม ใครจ้างไปแสดงที่ไหนก็ไปหมด แต่ก็ไม่วายถูก ช่วยกันทำ�งานหนักเพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูทุกคนใน โกง ไม่จ่ายเงินค่าแสดงบ้าง หญิงก็ต้องใช้เงิน เก็บของตัวเองมาจ่ายค่าจ้างให้ลูกน้อง เรียก ครอบครัว ทำ�ให้เธอคิดเสมอว่าวันหนึ่งเธอจะ ก้าวขึ้นมาเป็นนักร้องหมอลำ�ซิ่ง หาเงินมาเลี้ยงดู ได้ว่าตอนนั้นเจอเรื่องราวแย่ๆ จนชินชา ตอนที่ มีชื่อเสียงแล้วหญิงก็ยังอดคิดกังวลไม่ได้ว่าช่วง พ่อ แม่ พี่น้อง ให้อยู่อย่างสุขสบายให้ได้ “หญิงเริ่มเข้าสู่วงการนักร้องเพลงหมอลำ� เวลาเลวร้ายแบบตอนนั้นมันจะกลับมาอีกไหม แต่ตอนนี้หญิงคิดได้แล้วนะว่า อะไรมันจะเกิดก็ ซิ่งตอนเรียนอยู่ ม.ปลายค่ะ ไปเป็นนักร้องวง อิเล็กโทนของโรงเรียนนาโพธิ์พิทยาคม จากนั้น ต้องเกิด มาสิ มาเลย หญิงเชื่อว่าหญิงสู้ได้ จะ พอเรียนจบ ม.6 ก็ได้รับโอกาสให้ได้ฝึกฝนเรียนรู้ ว่าไปหญิงนึกขอบคุณเหตุการณ์ร้ายๆ ทุกเรื่อง การร้องเพลงหมอลำ�ซิ่งกับแม่ครูวราภรณ์ สมสุข ที่เกิดขึ้นในชีวิตนะ เพราะมันให้บทเรียนทุกรูป หมอลำ�ซิ่งชื่อดังของจังหวัดอุบลราชธานี ต่อมา แบบกับหญิง ทำ�ให้หญิงยืนได้ด้วยตัวเองอย่าง แข็งแกร่งอย่างทุกวันนี้” แม่ครูแนะนำ�หญิงให้รู้จักกับอาจารย์สวัสดิ์
เมื่อถามถึงความสำ�เร็จในวันนี้ ว่าหญิงลี ทำ�มันได้อย่างไร คำ�ตอบของเธอก็ทำ�ให้เรายิ้ม ตาม “ที่หญิงมีชื่อเสียง ได้ออกเทปตามที่ฝัน ไว้ มันไม่ได้เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ หญิงเชื่อ ว่ามันเกิดขึ้นด้วยพลังความฝัน ความตั้งใจว่า เราอยากเป็นนักร้องหมอลำ�ซิ่ง มันส่งให้หญิงมี แรงฮึดสู้กับทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น การมีวินัยใน การดูแลสุขภาพกายและใจตัวเอง เพื่อให้ทุก ครั้งที่หญิงขึ้นร้องเพลง เราจะพร้อมสร้างความ ประทับใจให้กับคนดูมากที่สุด หญิงจะบอก ตัวเองตลอดว่าทุกครัง้ ทีข่ น้ึ เวที ไม่วา่ ก่อนหน้านัน้ หญิงจะเจอเรื่องเครียดมาอย่างไร เมื่อขึ้นเวที แล้วเราต้องสร้างความสุขให้กับคนดูให้มากที่สุด ห้ามพาความทุกข์ขึ้นเวทีให้คนดูเห็นอย่างเด็ด ขาด เราต้องให้คนดูสัมผัสกับความ ‘ลั้ลลา’ ใน สไตล์หญิงลีได้ตลอด คนดูต้องรู้สึกว่าคุ้มค่าที่ เขาเสียเวลามาดูเราร้องเพลง “อย่างมีหลายครั้งที่หญิงเป็นหวัด เสียง แหบ แต่ก็ต้องขึ้นไปร้องเพลง หญิงก็จะขึ้นไป ร้องเพลงพร้อมบอกคนดูเลยว่า วันนี้หญิงต้อง ขอโทษที่เสียงแหบ อาจทำ�ให้แฟนเพลงไม่พอใจ เอาอย่างนี้นะคะ พอหญิงร้องเพลงจบ ใคร อยากมาถ่ายรูปกับหญิงหลังเวที เชิญเลยค่ะ ซึ่ง พอลงจากเวทีหญิงก็ทำ�อย่างนั้นจริงๆ แฟนเพลง ทุกคนก็พอใจ หญิงก็มีความสุขไปด้วย และอีก สิ่งหนึ่งที่หญิงลืมไม่ได้ที่จะขอบคุณ คือ กำ�ลังใจ จากทุกคนในครอบครัวที่เป็นเหมือนลมใต้ปีก ช่วยพยุงให้หญิงมีแรงบินไปถึงความฝันได้ใน ที่สุด” และในวันนี้ หญิงลียังได้ก้าวต่อไปสู่ บทบาทการเป็น “นักแสดง” ในภาพยนตร์เรื่อง “รวมพลคนลูกทุ่งเงินล้าน” ด้วย “ในหนังเรื่องนี้หญิงลีได้รับบทบาทเป็น นักร้องลูกทุ่ง ซึ่งก็เป็นบทบาทที่เป็นตัวตนของ หญิงลีเลย แต่สิ่งที่ท้าทายและยากมาก คือ การ แสดงอารมณ์ตามเรื่องราวในเรื่อง โดยเฉพาะ ช่วงที่เราต้องสื่อถึงอารมณ์เศร้า ต้องร้องไห้ แต่ พี่ๆ ทีมงาน ผู้กำ�กับก็ให้กำ�ลังใจจนเราสามารถ ทำ�ผ่านไปได้ และการที่ได้แสดงหนังเรื่องนี้ทำ�ให้ หญิงลีได้มีโอกาสพบกับนักร้องลูกทุ่งหลาย ท่านที่หญิงลีชื่นชอบ เช่น พี่ฮาย อาภาภรณ์ นครสวรรค์ พี่เอกชัย ศรีวิชัย จากที่เคยเห็นพี่เขา อยู่แต่ในทีวี แต่นี่ได้มาเห็นตัวจริง ได้กอด ได้จับ
มือ หญิงดีใจมาก” ก่อนจากไปปฏิบัติภารกิจมอบความสุขให้ แฟนเพลงทุกคน หญิงลีฝากข้อคิดดีๆ ของการ มุ่งมั่นทำ�ตามฝันไว้ว่า “การที่ใครสักคนจะก้าวมาเป็นนักร้อง มัน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย มันต้องผ่านอุปสรรคมากมาย แค่เพียงคำ�พูดของคนหนึ่งคนที่มาบั่นทอนกำ�ลัง ใจเรา มันก็ทำ�ให้เรารู้สึกแย่ได้แล้ว หญิงอยาก ให้เปลี่ยนเรื่องแย่เหล่านี้เป็นแรงฮึดและใช้ความ อดทนผ่านมันไปให้ได้ ในอีกด้าน ถ้าเราอยาก เป็นนักร้องที่ดัง เราก็ต้องมีวิธีในการ present
ตัวเองอย่างมีเอกลักษณ์ ต้องหาตัวเองให้เจอ แล้วมุ่งหน้าเดินตามฝันให้ถึงที่สุด ทำ�ให้ดีที่สุด และถึงตอนนี้หญิงลีก็ยังไม่หยุดฝัน ฝันต่อไป ของหญิงลี คือการเป็นครูเพลง สอนเยาวชนที่ เขามีความฝันอยากเป็นนักร้องอย่างหญิง ให้ เขาได้ก้าวขึ้นไปถึงฝัน เหมือนที่หญิงลีสามารถ ทำ�ได้ในวันนี้” เรื่องราวของซูเปอร์สตาร์ลูกทุ่งสาวคนใหม่ ของวงการ บอกให้เราได้รู้ว่า ความฝันที่จะเป็น ดาวนั้นเป็นไปได้ แม้ว่าเท้าของเรานั้นยังคง ติดดินอยู่ก็ตาม happy+ | 49
คนคิดดี
สุขของครูผู้ให้ สุขของ “ครูพายุ สอนว่ายนํ้า” เรือ่ ง : ประอรพิชญ์ คัจฉวัฒนา ภาพ : ต่อสิต กลีบบัว ในช่วงเวลาปลายฝนต้นหนาวของขวบปีน้ี การพาตัวเองมาสัมผัสกับไอหนาวเล็กๆ ทีห่ อ่ หุม้ ร่างกายในยามเช้าตรู่ และสายฝนบางเบาในระหว่างวัน ณ จังหวัดทีไ่ ด้ชอ่ื ว่า “งามลํา้ ค่า นครพิงค์” อย่างเชียงใหม่นน้ั นับเป็นความรืน่ รมย์ทน่ี า่ พึงใจไม่นอ้ ย และการมาเชียงใหม่ในครัง้ นี้ ยังถูกเติมเต็มด้วยเรือ่ งราวประทับใจจากการทำ�ดีของคนเล็กๆ แต่หวั ใจยิง่ ใหญ่คนหนึง่ ในแดนดินถิน่ นีด้ ว้ ย ซึง่ เด็กๆ ต่าง รูจ้ กั และเรียกเขาว่า “ครูพายุ” ขณะทีช่ อ่ื จริงของเขาคือ “ณัฐศักดิ์ ท้าวอุดม”
“สอนว่ายนํา้ เด็กออทิสติก” ปฐมบท ของการทำ�ดี
ครูพายุเริม่ ต้นบทสนทนาด้วยการย้อน เวลากลับไปบอกเล่าเรือ่ งราวในวัยเยาว์ของ เด็กชายคนหนึง่ ทีม่ คี วามแตกต่างจากเด็กทัว่ ไป ซึง่ อาการผิดปกตินเ้ี กิดจากโรคทีท่ างการแพทย์ เรียกว่า “โรคสมาธิสน้ั ” หรือ Attention Deficit Hyperactivity Disorder (ADHD) “สมัยทีผ่ มเป็นเด็ก พ่อ แม่เล่าให้ฟงั ว่า ผม เป็นเด็กซนมาก ไม่อยูน่ ง่ิ ชอบเดินชนข้าวของ ตกกระจุยกระจาย ชอบกัดปลายปากกา และ ขีล้ มื มาก อีกทัง้ ยังเป็นคนเรียนหนังสือไม่เก่ง ได้ เกรด 1 กว่าๆ ตลอด ผมจำ�ได้วา่ แม่มกั บ่นเป็น ภาษาคำ�เมืองให้ผมได้ยนิ อยูบ่ อ่ ยๆ ว่า ‘เป๋นเด็ก หัวปึก เฮียนหนังสือบ่ฮเู้ รือ่ ง เฮียนอะหยังก่อ บ่จา๋ํ อ่านหนังสือสามบรรทัดก่อโล่นไปเหียละ’ (เป็นเด็กหัวไม่ดี เรียนหนังสือไม่รเู้ รือ่ ง เรียนอะไร มาก็ไม่จ�ำ อ่านหนังสือได้ 3 บรรทัดก็วง่ิ หนีไป แล้ว) ซึง่ ตอนนัน้ พ่อ แม่ของผมก็ไม่ทราบหรอก ครับว่าผมเป็นเด็กสมาธิสน้ั ท่านก็สง่ ผมไปเรียน โรงเรียนของเด็กปกติ แถมสุขภาพของผมก็ไม่ดี มีโรคประจำ�ตัวเป็นโรคลมชักกับไมเกรนด้วย พ่อ เลยคิดว่าควรสนับสนุนให้ผมออกกำ�ลังกาย จะ ได้แข็งแรง ท่านเลยส่งผมไปเรียนว่ายนํา้ ผมจึง ได้เรียนว่ายนํา้ มาตัง้ แต่อายุ 8 ขวบ ปรากฏว่า เพราะการว่ายนํา้ นีเ้ องทีช่ ว่ ยให้ผมมีสมาธิดขี น้ึ และทำ�ให้โรคลมชัก ไมเกรน หายไปได้ในทีส่ ดุ แถมพอว่ายนํา้ คล่อง ผมก็มโี อกาสได้เป็นตัวแทน
ไม่ใช่คนทีม่ คี วามบกพร่องทางสติปญ ั ญาไปเสีย ทุกเรือ่ งนะ บางเรือ่ งเขาเก่งกว่าคนปกติมาก ผม รูส้ กึ เลยว่าเขามีความเป็นอัจฉริยะซ่อนอยู่ แค่เรา ต้องค้นหาและสนับสนุนเขาให้ถกู ทาง อย่างน้อง ทีผ่ มสอนว่ายนํา้ ให้น่ี เขามีความจำ�เป็นเลิศมาก เขาสามารถจำ�เลขทีท่ างหลวงในประเทศไทย ทุกสายทีเ่ ขาเดินทางไปได้อย่างแม่นยำ� จำ� ยีห่ อ้ รถยนต์ทเ่ี ขาชอบได้หลายสิบยีห่ อ้ จำ�ยีห่ อ้ โทรศัพท์มอื ถือได้เกือบหมด และการสอนเด็ก ไปแข่งขันกีฬาเยาวชนเรือ่ ยมา ออทิสติกเป็นครัง้ แรกนีเ่ อง ทีเ่ ปิดโอกาสให้ผมได้ “จนผมอายุได้ 19 ปี ตอนนัน้ กำ�ลัง พัฒนาใจตัวเองให้เย็นลง ได้เข้าใจพัฒนาการ ศึกษาอยูช่ น้ั ปีท่ี 2 คณะการสือ่ สารมวลชน ความนึกคิดของเด็ก ทุกอย่างเกิดขึน้ ได้เพราะผม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก็เริม่ คิดทีจ่ ะเป็นครูสอน ได้มาสอนเด็กเหล่านีน้ เ่ี อง” ว่ายนํา้ เพือ่ หารายได้เสริมระหว่างเรียน โดยเริม่ หลังจากทีไ่ ด้สอนว่ายนํา้ ให้กบั เด็กพิเศษ ครู สอนให้เด็กปกติกอ่ นครับ สอนได้ 1 ปี ก็มี พายุกเ็ ริม่ ศึกษาหาความรูเ้ กีย่ วกับการใช้กจิ กรรม ผูป้ กครองท่านหนึง่ ติดต่อมาให้ไปสอนลูกของเขา บำ�บัดเด็กพิเศษ โดยเฉพาะการว่ายนํา้ อย่าง ซึง่ เป็นเด็กออทิสติก เวลานัน้ ผมก็ไม่ทราบว่าเด็ก จริงจัง ทัง้ จากหนังสือและการออกไปพูดคุยกับ ออทิสติกคืออะไร ผมรูแ้ ต่วา่ ตัง้ แต่ครัง้ แรกทีไ่ ด้ นักกิจกรรมบำ�บัด ทำ�ให้ทราบว่า กีฬาว่ายนํา้ มี สอนว่ายนํา้ ให้เด็กคนนี้ ผมไม่ประทับใจเขาเอา ส่วนอย่างยิง่ ในการพัฒนาทักษะของเด็กออทิสติก ซะเลย เพราะเขาพูดไม่รเู้ รือ่ ง อยูไ่ ม่สขุ วิง่ ซนไป ในหลากหลายด้าน โดยเฉพาะเด็กทีม่ ปี ญ ั หา ทัว่ สระ และช่วงนัน้ ผมยังเป็นคนใจร้อน เวลา เรือ่ งการทรงตัว เพราะนํา้ จะช่วยพยุงและโอบอุม้ สอนว่ายนํา้ ก็มกั จะออกคำ�สัง่ เสียงดัง ผมเลยไม่ ร่างกายเขาไว้ได้ทง้ั หมด ทำ�ให้เขามีพฒ ั นาการ พอใจตัวเองมาก แต่ผา่ นไปแค่ 2 วันผมก็เห็น เรือ่ งการทรงตัวดีขน้ึ และยังช่วยฟืน้ ฟูอาการ พัฒนาการทีม่ หัศจรรย์ของน้อง คือเขาสามารถ “สมาธิสน้ั ” อย่างได้ผล เพราะการว่ายนํา้ หายใจในนํา้ ลึกได้ และเพียงแค่ 2 สัปดาห์ เขา เป็นการฝึกฝนให้เขามีสมาธิจดจ่อกับกิจกรรมที่ สามารถว่ายนํา้ ท่าฟรีสไตล์ได้ และในช่วงเวลา ทำ�ตรงหน้าได้ดี และด้วยความรูส้ กึ ดีๆ ทีค่ รูพายุ ไม่ถงึ 2 เดือนเขาก็วา่ ยนํา้ ได้หมดทุกท่า มันทำ�ให้ ได้รบั จากการสอนเด็กพิเศษนีเ้ อง ทีจ่ ดุ ประกาย ผมเปลีย่ นมุมมองกับเด็กออทิสติกใหม่วา่ เขา ให้เขาต่อยอดการทำ�ดีเป็นการให้ทไ่ี ม่มที ส่ี น้ิ สุด happy+ | 51
สุขใจทีส่ ดุ ได้สอนเด็กพิการว่ายนํา้
ไม่นานนักหลังจากครูพายุประสบความ สำ�เร็จกับการสอนเด็กออทิสติกให้วา่ ยนํา้ ได้ เขา ก็เกิดความคิดขึน้ มาว่า “แล้วมีเด็กกลุม่ ไหนอีก บ้าง ทีเ่ สีย่ งต่อการจมนํา้ มากทีส่ ดุ ” ซึง่ นำ�มาสู่ การทำ�ดีขน้ั ต่อไป “หลังจากสอนเด็กออทิสติกได้สกั พัก คำ�ถามหนึง่ ก็ผดุ ขึน้ มาในหัวว่า แล้วเด็กกลุม่ ไหน ทีเ่ สีย่ งกับการจมนํา้ มากทีส่ ดุ คิดไปคิดมาก็ได้ คำ�ตอบว่าก็เด็กทีพ่ ดู ไม่ได้ไง ผมก็เลยเดินหน้าทำ� โครงการสอนว่ายนํา้ เพือ่ เด็กหูหนวก แต่กอ่ นอืน่ ผมต้องไปเรียนภาษามือเพือ่ เอาไว้สอ่ื สารก่อน ซึง่ ตอนนัน้ ผมไม่รวู้ า่ จะไปเรียนภาษามือได้จาก ทีไ่ หน ตอนแรกผมเลยอาศัยอ่านหนังสือเอา แต่ ก็พบว่ามันยากมาก เพราะเราไม่เห็นท่าทางการ โต้ตอบ ก็เลยพยายามขวนขวายหาคนทีจ่ ะมา สอนภาษามือ แล้วผมก็ได้เจอกับน้องๆ กลุม่ หนึง่ ซึง่ เป็นคนหูหนวก เขามาขายเสือ้ เพนต์มอื อยูท่ ่ี ถนนคนเดินวัวลายทุกๆ วันเสาร์ ผมเลยเข้าไป ทำ�ความรูจ้ กั และขอให้นอ้ งๆ สอนภาษามือให้ โดยแลกเปลีย่ นกับการทีผ่ มช่วยเขาขายเสือ้ ซึง่ น้องเขาก็ยนิ ดีสอนให้ ผมเรียนภาษามืออยู่ 6 เดือนจนมัน่ ใจว่าสือ่ สารกับเด็กหูหนวกได้ ก็เลย ลองเสนอโครงการสอนว่ายนํา้ เพือ่ คนหูหนวกไป 52 | happy+
ในทีส่ ดุ ผมก็ได้มโี อกาสไปสอนว่ายนํา้ ให้กบั เด็ก หูหนวก โดยใช้เงินทุนทีผ่ มเรีย่ ไรจากผูป้ กครอง เด็กออทิสติก และเด็กปกติทผ่ี มสอนว่ายนํา้ ให้ ในชัน้ เรียนแรกนีผ้ มสนุกมากกับการใช้ภาษามือ สอนเด็กให้ท�ำ ท่าทางต่างๆ อย่างคำ�บางคำ�ที่ ในภาษามือไม่มี เช่น เป่านํา้ ดำ�นํา้ ผมก็คดิ ค้น ท่าทางขึน้ มาและทำ�ความเข้าใจกับเด็กเอง ซึง่ ทัง้ ผมและเด็กๆ ก็สนุกไปกับการเรียน แต่กม็ กี ดดัน บ้างครับ เพราะเราต้องสอนเด็กให้คนุ้ เคยกับนํา้ และว่ายนํา้ ได้ภายในเวลาทีจ่ �ำ กัด แต่ทส่ี ดุ แล้ว โครงการแรกก็ผา่ นไปได้ดว้ ยดี และนำ�มาซึง่ โครงการต่อๆ มา พร้อมกับได้ขยายผลไปสอน ว่ายนํา้ ให้เด็กตาบอดด้วย โดยทีผ่ า่ นมาผมจะ วางแผนทำ�โครงการแบบนีก้ ระจายไปในแต่ละ จังหวัดทัว่ ประเทศครับ” ด้วยหลากหลายโครงการสอนว่ายนํา้ เพือ่ เด็กพิการและเด็กด้อยโอกาสในพืน้ ทีต่ า่ งๆ ทีค่ รู พายุท�ำ มาทัง้ หมดนีเ้ อง ทำ�ให้อดสงสัยไม่ได้วา่ แล้วเขาไปหาแหล่งเงินทุนจากทีไ่ หนมาก่อร่าง สร้างโครงการเหล่านีใ้ ห้บรรลุผลได้ ต่อคำ�ถาม นี้ ครูพายุยม้ิ ตอบกลับมาด้วยความภูมใิ จ พร้อม เล่าให้ฟงั ว่า “ผมขอเปรียบวิธกี ารดำ�เนินโครงการของ ผมกับการเดินทางท่องเทีย่ ว เพราะโดยส่วนตัว ผมเป็นคนชอบเดินทางท่องเทีย่ วอยูแ่ ล้ว ซึง่ ผม เชือ่ ว่านักเดินทางทัว่ โลกมักมีแนวคิดเดียวกันคือ ความสุขไม่ได้อยูท่ จ่ี ดุ หมายปลายทางทีเ่ ราจะไป ถึง แต่เป็นสิง่ ทีเ่ ราเก็บเกีย่ วได้ระหว่างทาง จาก การได้เจอผูค้ น วิถชี วี ติ ทีแ่ ปลกใหม่ หลากหลาย แม้วา่ บางครัง้ เรือ่ งทีเ่ ราเจออาจไม่ได้สวยงาม อย่างทีค่ าดคิดก็ตาม แต่นน่ั ก็คอื รสชาติของ การเดินทาง ซึง่ มันไม่ตา่ งกันเลยครับกับวิธกี าร ทำ�โครงการของผม ทีจ่ ดุ หมายปลายทาง คือ ความสำ�เร็จของโครงการก็จริง แต่ความสุขและ ความสนุกของการทำ�โครงการมันอยูร่ ะหว่าง ทางทีน่ �ำ ไปสูผ่ ลสำ�เร็จนีเ่ อง มันมาจากการที่ ผมได้ลยุ ได้ท�ำ ด้วยตัวผมเอง ไม่วา่ จะเป็นการ หาเงินทุนในการทำ�โครงการ ทีห่ ลักๆ มาจาก ธุรกิจสอนว่ายนํา้ ทีผ่ มเปิดขึน้ มา ใช้ชอ่ื ว่า “ครู พายุ swim” และผมก็ปน้ั ครูรนุ่ ใหม่ขน้ึ มาทัง้ หมด เกือบ 30 คน เพือ่ ให้มาร่วมกันทำ�งาน และร่วม สานต่อเครือข่ายการทำ�ดีทผ่ี มริเริม่ นีใ้ ห้กระจาย วงกว้างได้มากขึน้ ซึง่ ครูกลุม่ นีเ้ องทีจ่ ะกระจาย ไปสอนว่ายนํา้ ตามสระทีผ่ มได้ตดิ ต่อประสาน
งานไว้ 8-10 สระ ในพืน้ ทีร่ อบๆ เมืองเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียง พอได้เงินมา ผมก็จะแบ่ง เงินส่วนหนึง่ ไว้เพือ่ เป็นค่าใช้จา่ ยในโครงการ โดย ไม่จ�ำ เป็นต้องไปขอเงินทุนจากหน่วยงานไหนเลย เว้นแต่จะมีหน่วยงานหรือผูม้ จี ติ ศรัทธาติดต่อขอ มาบริจาคช่วยเหลือโครงการเอง หรือในยามที่ ผมต้องเจอกับปัญหา อุปสรรคทีร่ มุ เร้ามาทุกด้าน อย่างทีผ่ มได้เล่าไป ผมก็มองมันว่าเป็นอีกรสชาติ หนึง่ ระหว่างทางเดินไปสูค่ วามสำ�เร็จทีผ่ มต้อง ก้าวผ่านมันไปให้ได้กเ็ ท่านัน้ ” ไม่เพียงแต่ “ความสุขใจ” ทีค่ รูพายุได้จาก การทำ�โครงการสอนว่ายนํา้ เด็กพิการทุกครัง้ แต่เขายังได้เห็นแง่มมุ บางอย่างทีค่ นในสังคมอาจ มองข้ามไปด้วย “ผมอยากให้สงั คมมองคนพิการว่า เขา ไม่ใช่ภาระของใคร เขาควรมีทย่ี นื อย่างภาคภูมิ เหมือนคนปกติทว่ั ไปในสังคม เพราะจากทีผ่ ม ได้ไปสอนพวกเขา ทำ�ให้รวู้ า่ พวกเขามีความ สามารถทำ�ทุกอย่างได้เหมือนกับคนปกติ น้อย ครัง้ มากนะครับทีจ่ ะเห็นผมช่วยเหลือคนพิการ อย่างการสอนเด็กตาบอดว่ายนํา้ พวกเขาก็ พยายามลงสระเองด้วยการจับราวบันไดลงนํา้ ผมเชือ่ ว่าคนพิการทุกคนพยายามทีจ่ ะพึง่ ตัวเอง ให้ได้มากทีส่ ดุ เท่าทีพ่ วกเขาจะทำ�ได้อยูแ่ ล้ว สิง่ ที่ ผมทำ� จึงไม่ใช่การช่วยเหลือคนพิการ แต่เป็นการ ให้โอกาสเขาได้ท�ำ ในสิง่ ทีเ่ ขามีความสามารถจะ ทำ�ได้ ทุกวันนี้ คนส่วนใหญ่มกั ให้ความช่วยเหลือ คนพิการด้วยความสงสาร ซึง่ ผมไม่ได้จะบอก ว่ามันไม่ดี เพียงแต่พวกเราไม่ควรช่วยเหลือเขา ทุกเรือ่ ง ทางทีด่ ี เรามาร่วมสร้างโอกาสในการ พัฒนาความสามารถคนพิการจะดีกว่า”
ไม่หยุดสร้างฝัน ด้วยใจมุง่ มัน่ และ ศรัทธา
รอยยิม้ เสียงหัวเราะ และเสียงเจือ้ ยแจ้ว บ่งบอกถึงความสุขของเด็กๆ เมือ่ พวกเขาได้ เรียนว่ายนํา้ เหล่านีล้ ว้ นเป็นสิง่ ทีค่ รูพายุใช้เป็น กำ�ลังใจสำ�คัญในการสร้างสรรค์โครงการดีๆ เพือ่ มอบโอกาสให้เด็กพิการและเด็กด้อยโอกาส แม้ จะต้องพบกับอุปสรรคมากมาย ก็ไม่ได้บน่ั ทอน ความตัง้ ใจของครูคนนีแ้ ม้แต่นอ้ ย “ในช่วงแรก ผมต้องต่อสูก้ บั คำ�วิพากษ์ วิจารณ์จากผูค้ นรอบด้าน ไม่วา่ จะเป็น ทำ� โครงการเพือ่ หาผลประโยชน์จากคนพิการบ้างละ หรือในกลุม่ เพือ่ นทีแ่ นะนำ�ว่า ให้เลิกเถอะ เพราะ มันไม่ได้อะไร ผมควรหันมาทำ�งาน เก็บเงิน
สร้างเนือ้ สร้างตัวมากกว่า ตอนนัน้ ผมเกิดความ สับสนและกดดันมากเหมือนกัน แต่เมือ่ ผมได้เห็น รอยยิม้ เสียงหัวเราะจากเด็กๆ ทีผ่ มไปสอนให้ เขาว่ายนํา้ หรือครัง้ หนึง่ ทีม่ เี ด็กวิง่ มาหาผมแล้ว ทำ�ภาษามือ โดยเอามือทาบทีอ่ ก เพือ่ บอกว่า ครู ครับ ผมอยากเป็นนักว่ายนํา้ ทีมชาติ เหล่านีม้ นั ทำ�ให้ผมคิดได้วา่ ผมจะหยุดทำ�โครงการนีไ้ ม่ได้ ถ้าผมหยุด แน่นอนว่าตัวผมสบายกายสบายใจ ไม่ล�ำ บาก แต่จะมีเด็กๆ อีกหลายสิบ หลายร้อย คน หมดโอกาสทีจ่ ะว่ายนํา้ เป็น ผมถือว่านัน่ เป็นการเห็นแก่ตวั มาก ถึงแม้ผมจะไม่สามารถไป สอนเด็กเหล่านีใ้ ห้วา่ ยนํา้ ได้ทง้ั ประเทศ แต่ผมชืน่ ใจ แล้ว ทีอ่ ย่างน้อยผมได้เป็นเหมือนแรงบันดาลใจ ให้พวกเขาลุกขึน้ มาเดินตามฝันของตนเอง “นอกจากนัน้ ในอนาคต ผมมีความฝันอยู่ อย่างหนึง่ ทีอ่ ยากจะทำ�ให้มนั เป็นจริงขึน้ มาให้ได้ ซึง่ เริม่ มาจากในช่วง 1-2 ปีทผ่ี า่ นมา ผมและทีม งานได้เก็บข้อมูลจากการทีเ่ ราทำ�โครงการสอน ว่ายนํา้ เพือ่ เด็กพิการและเด็กด้อยโอกาสใน หลายพืน้ ที่ พบว่า เด็กทีย่ ากจน หรือเด็กทีอ่ ยูใ่ น ทีท่ รุ กันดาร ถึงเราตัง้ ใจจะทำ�โครงการสอนว่ายนํา้ ลงไปในพืน้ ทีน่ น้ั แต่กต็ ดิ อยูท่ ว่ี า่ เขาไม่มสี ระว่ายนํา้ เมือ่ ทราบปัญหานี้ ผมก็กลับมาคิดว่า ในเมือ่ ไม่มี สระว่ายนํา้ ในบ้านเขา เราก็ขนสระว่ายนํา้ เคลือ่ นทีไ่ ปสิ เพราะจากทีผ่ มทราบมา มันมี สระว่ายนํา้ ขนาดใหญ่เท่าสระว่ายนํา้ ทัว่ ไป ที่ สามารถพับเก็บได้ ผมจึงลองร่างโครงการขึน้ มา ชือ่ ว่า โครงการสระว่ายนํา้ เดินได้ ซึง่ ตอนนีอ้ ยู่ ในช่วงเก็บข้อมูลว่าถ้ามันชำ�รุด เราจะซ่อมมันได้ อย่างไร ยุง่ ยากไหม และในการใช้งานสระแต่ละ ครัง้ ต้องใช้รถนํา้ กีค่ นั มาลง ถ้าโครงการนีส้ ามารถ ทำ�ขึน้ ได้อย่างทีผ่ มคาดหวังไว้ จะมีเด็กด้อย โอกาส อย่างเด็กชาวเขาบนดอยห่างไกล ว่ายนํา้ เป็นอีกอย่างน้อยก็หลายสิบคนเลยนะครับ” เรือ่ งราวของครูพายุ ทำ�ให้รซู้ ง้ึ ถึงความ สุขทีเ่ กิดจากการให้โดยไม่หวังสิง่ ตอบแทน ที่ ในวันนีไ้ ด้สง่ ต่อเป็นความสุขไม่รจู้ บให้กบั เด็ก พิเศษ เด็กด้อยโอกาส หลายคนทัว่ ประเทศแล้ว และหากใครทีต่ อ้ งการอัพเดตเรือ่ งราวของครู พายุ หรืออยากร่วมเป็นส่วนหนึง่ ในการทำ�ดีดว้ ย การบริจาคเงินหรืออุปกรณ์ทใ่ี ช้ในการว่ายนํา้ สามารถติดตามข่าวคราวการทำ�ดีของครูพายุ ได้ท่ี https://www.facebook.com/krupayu happy+ | 53
ภาพประกอบ : จัง เสนารักษ์
กินของหมดอายุบ่อยๆ จะเป็น อะไรไหม
กังวลใจเรื่องอาการท้องผูก
เคยมีอาการท้องผูกมากจนต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน โดยหันมา กินผักมากขึ้นและดื่มนํ้าประมาณวันละ 8 แก้ว จนตอนนี้ท้องไม่ผูก แล้ว แต่เข้าห้องนํ้าทุก 3 วัน (ปกติเป็นคนกินน้อย) อุจจาระไม่แข็ง และไม่อึดอัด ถือว่าปกติไหมคะ ท้องผูก เป็นอาการที่คนบ่นถึงมากที่สุดอาการหนึ่งครับ หลายครั้งเรา อาจจะไม่ได้มีอาการท้องผูกจริงๆ แต่เข้าใจผิดคิดว่าท้องผูก เพราะมีการ ศึกษาที่สำ�รวจอาการท้องผูกจากผู้คนทั่วไปพบว่า 60% ของผู้เข้าร่วมการ ศึกษาที่บอกว่าตนมีอาการท้องผูกนั้น ถ่ายอุจจาระทุกวัน ดังนั้นจึงมีการ ตั้งข้อวินิจฉัยอาการท้องผูกไว้ดังนี้ครับ 1. ต้องมีอาการดังต่อไปนี้ 2 อย่างขึ้นไป • มีความยากลำ�บากในการถ่าย อย่างน้อย 25% • ลักษณะของอุจจาระเป็นก้อนแข็ง อย่างน้อย 25% • รู้สึกถ่ายอุจจาระไม่หมด อย่างน้อย 25% ของการถ่ายทั้งหมด • ต้องมีการล้วงอุจจาระออก อย่างน้อย 25% ของการถ่าย ทั้งหมด • ถ่ายอุจจาระน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ 2. แทบจะไม่เคยถ่ายเป็นอุจจาระเหลวหากไม่ได้ใช้ยาระบาย 3. อาการไม่เข้ากับอาการของกลุ่มโรคลำ�ไส้แปรปรวน การวินิจฉัยอาจจะลำ�บากสักหน่อย เพราะต้องสังเกตลักษณะ อุจจาระ ต้องนับจำ�นวนครั้ง แต่หลักการวินิจฉัยง่ายๆ คือ หากอุจจาระมี ความแข็ง ขนาดก้อนเล็กผิดปกติ มีความยากลำ�บากในการถ่าย และถ่าย น้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ถือว่ามีอาการท้องผูกเกิดขึ้นแล้ว จากอาการที่เล่ามา ถึงแม้ว่าจะถ่ายไม่แข็ง ถ่ายไม่ลำ�บาก แต่ก็ ถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ นับว่าเข้าเกณฑ์มีอาการท้องผูกอยู่ครับ อย่างไรก็ตาม ถือว่าเป็นอาการที่ไม่น่ากังวล แต่ยังคงต้องสังเกตลักษณะ การถ่ายต่อไปเป็นระยะ หากพบว่าอุจจาระแข็งขึ้น ถ่ายเป็นก้อนขนาดเล็ก มีเลือดปนมาในอุจจาระ ก็ให้รีบไปพบแพทย์ ส่วนการรับประทานผักผลไม้ และดื่มนํ้าให้เพียงพอนั้นเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพ ควรปฏิบัติต่อไปจนเป็น นิสัย
กินของหมดอายุบ่อยๆ จะส่งผลต่อการเจ็บป่วยไหมคะ นอกจาก ร่างกายไม่ได้รับคุณค่าอาหารตามที่ควรน่ะค่ะ การรับประทานอาหารที่หมดอายุบ่อยคงไม่ดีแน่ครับ แต่จะส่งผลต่อ การเจ็บป่วยหรือเปล่า แล้วจะได้รับคุณค่าทางอาหารหรือไม่ คงต้องมา พิจารณากันครับ ผลกระทบต่อสุขภาพเมื่อบริโภคอาหารที่หมดอายุแล้ว อาจจะพบ ได้ตั้งแต่ “ไม่เกิดผลกระทบต่อร่างกาย” ไปจนกระทั่ง “ส่งผลกระทบต่อ ร่างกายอย่างรุนแรง” โดยทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของอาหารที่รับประทาน เข้าไป ลองยกตัวอย่างดูง่ายๆ เช่น หากเรารับประทานแยมผลไม้ที่เพิ่ง เลยวันที่ระบุบนฉลากไปเมื่อวานนี้ หรือนำ�เนยแข็งที่เลยวันที่ระบุไว้เมื่อ สองวันก่อนมาปรุงอาหาร สองกรณีนี้แทบจะไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ หรือการเจ็บป่วยแต่อย่างใด แต่หากนำ�เนื้อปลาแช่เย็นที่หมดอายุเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนมาปรุงอาหาร หรือนำ�นมโคที่หมดอายุ 1 สัปดาห์ก่อนมาผสม กับธัญพืช ก็อาจจะทำ�ให้เกิดอาการท้องร่วง อาเจียน ปวดท้องเนื่องจาก อาหารเป็นพิษจนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเลยก็เป็นได้ ดังนั้น ก่อนซื้ออาหารหรือนำ�อาหารมาปรุงก็ต้องตรวจสอบวันหมดอายุเสียก่อน การระบุวันหมดอายุบนฉลากผลิตภัณฑ์มีรูปแบบที่แตกต่างกัน ไป ในประเทศไทยที่พบบ่อยมีอยู่สองแบบคือ “ควรบริโภคก่อน” และ “หมดอายุ” โดยทั่วไปหากฉลากมีการระบุว่า “ควรบริโภคก่อนวันที่” หมายความว่า อาหารจะมีรสชาติดี ยังคงคุณค่าทางอาหารครบถ้วนตาม ที่ระบุไว้บนฉลากอาหารจนถึงวันนั้น หลังจากวันนั้นไปรสชาติ คุณภาพ และคุณค่าทางอาหารจะลดลง แต่ไม่มีปัญหาในเชิงความปลอดภัย จึงยัง สามารถบริโภคได้โดยไม่มีอันตราย แต่อาจไม่ได้รับประโยชน์ตามที่ระบุไว้ บนฉลากอาหาร และจะกำ�หนดวันล่วงหน้าไว้ระยะหนึ่งก่อนที่อาหารนั้น จะหมดอายุหรือเน่าเสีย ส่วน “หมดอายุ” หมายถึง วันที่อาหารนั้นหมดอายุ หลังจากวันนั้น แล้วอาหารจะเน่าเสียหรือบูด ห้ามรับประทาน ควรนำ�ไปทิ้ง อาหารที่หมดอายุแล้วจะส่งผลกระทบต่อร่างกาย เช่น เกิดอาการ อาหารเป็นพิษ ทำ�ให้ปวดท้อง อาเจียน มีไข้ มึนศีรษะ ถ่ายเหลว อาการ อาจรุนแรงจนเกิดภาวะขาดนํ้า และถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาลเลยก็ได้ ดังนั้นการตรวจสอบ ฉลากระบุวัน “หมดอายุ” หรือ “ควรบริโภคก่อน” เพื่อ ให้แน่ใจว่าอาหารที่เราจะ รับประทานนั้นไม่เน่าเสีย ไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย น่าจะเป็นทางทีด่ ที ส่ี ดุ ครับ
นพ.ฉัตรชัย อิ่มอารมณ์ แพทย์ประจำ�หน่วยตรวจสวัสดิการสุขภาพ โรงพยาบาลรามาธิบดี 54 | happy+
ภาพประกอบ : ThichaIIWS |
บอกลาความขี้ลืมในตัวคุณ
ผมเชือ่ ว่าหลายๆ คนมีความรูส้ กึ ว่าตนเองเป็นคนขีล้ มื บางครัง้ มีงานสำ�คัญหรือมีสง่ิ ทีจ่ ะต้องไปทำ�แล้วปรากฏว่าเกิดลืมขึน้ มาเสียดือ้ ๆ และมีอยูบ่ อ่ ยๆ ทีอ่ อกจากบ้านแล้วไม่มน่ั ใจว่าล็อกประตูหรือปิดไฟแล้วหรือยัง จนบางครัง้ ต้องมานัง่ คิดว่าเรามีปญ ั หาเรือ่ งสมองและความจำ�หรือเปล่า ข่าวดีกค็ อื อาการขีล้ มื นีเ้ ป็นเรือ่ งธรรมชาติทเ่ี กิดขึน้ กับคนส่วนใหญ่โดยไม่ใช่อาการของโรคสมองเสือ่ มหรืออัลไซเมอร์ และเรามีวธิ ปี รับปรุงสมองของเรา ให้มคี วามจำ�ทีแ่ ม่นยำ�ขึน้ ได้โดยไม่ตอ้ งอาศัยอุปกรณ์หรือยาราคาแพงเลย happy+ | 55
ออกกำ�ลังกายเป็นประจำ� เวลาหมอบอกให้ออกกำ�ลังกาย หลายคน จะบอกว่า “เอาอีกแล้ว เอะอะก็ออกกำ�ลังกาย” แต่ความจริงก็คอื ในบรรดาวิธกี ารทีจ่ ะทำ�ให้ ออกซิเจนไปเลีย้ งสมองได้ดที ส่ี ดุ และคุม้ ค่าทีส่ ดุ ก็คอื การออกกำ�ลังกายนีแ่ หละครับ เพราะขณะออกกำ�ลังกาย เลือดจะสูบฉีด มากกว่าตอนทีเ่ ราอยูน่ ง่ิ ๆ ทำ�ให้เลือดไปเลีย้ ง สมองมากขึน้ นอกจากนี้ จากการศึกษาในผูส้ งู อายุ พบว่า ผูส้ งู อายุทอ่ี อกกำ�ลังกายเป็นประจำ� จะมีสมองใน ส่วนของ Hippocampus ทีใ่ หญ่กว่าคนทีไ่ ม่ได้ออก กำ�ลังกาย ซึง่ เจ้าสมองส่วน Hippocampus นีเ้ ป็น ส่วนทีส่ ร้างวงจรความจำ�ให้กบั ตัวเรา ดังนัน้ จึงควรออกกำ�ลังกายเป็นประจำ� สัปดาห์ละ 3-4 วันครับ
ใช้รปู ถ่ายช่วยเตือนความจำ� การใช้รปู เพือ่ เตือนความจำ�ถูกนำ�ไปใช้ใน การเรียนหนังสือมานานมากแล้ว ทัง้ ในรูปแบบ ของแผนภูมหิ รือภาพประกอบ ในยุคนีซ้ ง่ึ เรา สามารถถ่ายรูปได้งา่ ยขึน้ โดยใช้โทรศัพท์มอื ถือ เราก็สามารถถ่ายรูปเหตุการณ์หรืองานทีต่ อ้ งการ จำ�สัก 1-2 ใบเอาไว้ รูปถ่ายจะเป็นตัวกระตุน้ ความทรงจำ�ว่าเราเคยอยูใ่ นสถานทีน่ น้ั ในเวลา นัน้ และสามารถดึงความทรงจำ�เกีย่ วกับเรือ่ งราว ต่างๆ ในเวลานัน้ ได้งา่ ยขึน้ 56 | happy+
ใช้กาแฟและชา ในบางสถานการณ์ เช่น ผูท้ จ่ี �ำ เป็นต้องอดนอน หรือทำ�งานเป็นกะ ช่วงจังหวะทีต่ น่ื นอนใหม่ๆ สมองจะต้องปรับตัวกับการตืน่ และจะเกิดอาการ งัวเงีย การดืม่ กาแฟหรือชาช่วงทีต่ น่ื นอนใหม่ๆ จะ ช่วยลดอาการงัวเงียหลงลืมได้เล็กน้อย (ทัง้ นีไ้ ม่ได้ หมายความว่าให้ใช้วธิ นี แ้ี ทนการนอน เพราะถึง อย่างไรก็ตาม การนอนน้อยจะทำ�ให้ความจำ�โดย รวมแย่ลง จึงควรใช้เฉพาะทีจ่ �ำ เป็นเท่านัน้ )
อย่าให้ความจำ�เจเข้าครอบงำ� ถ้าให้คณ ุ นึกถึงเหตุการณ์สมัยเรียนหนังสือ ตอนเด็กๆ คุณคงจำ�ได้ไม่ดเี ท่ากับตอนไป ทัศนศึกษา ไปเทีย่ วกับเพือ่ น หรืองานปีใหม่ เพราะการทีเ่ ราทำ�อะไรบางอย่างซํา้ ซากจำ�เจ ก็จะทำ�ให้เราไม่คอ่ ยเห็นความสำ�คัญทีจ่ ะระลึกถึง เหตุการณ์นน้ั ๆ คุณอาจจะเปลีย่ นสบู่ ยาสีฟนั แชมพูทใ่ี ช้ เปลีย่ นเส้นทางกลับบ้าน หรือเปลีย่ นเมนูอาหาร ทีก่ นิ ประจำ� ในช่วงเวลาต่างๆ ของชีวติ เพือ่ สร้าง ความแตกต่างไม่จ�ำ เจ ทำ�ให้เราสามารถนึก เหตุการณ์ในอดีตได้มากขึน้
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับทีไ่ ม่เพียงพอ ไม่วา่ จะเป็นจำ�นวนชัว่ โมงการนอนน้อยเกินไป หรือการนอนทีไ่ ม่มี คุณภาพ (เช่น การนอนกรน หรือนอนหลับไม่สนิท) จะทำ�ให้สารสือ่ ประสาทในสมองทำ�งานได้ไม่ ปกติ สมองต้องเสียความพยายามไปกับการทำ�ให้ตน่ื ผลทีต่ ามมาหลักๆ สองประการก็คอื หนึง่ การ นึกคิดเหตุการณ์หรือข้อมูลเดิมทำ�ได้ชา้ ลง นึกอะไรไม่คอ่ ยออก และสอง การสร้างวงจรความจำ�ใหม่ ไม่สมบูรณ์ ทำ�ให้เรียนรูส้ ง่ิ ใหม่ๆ ได้ไม่ดี ปัญหานีพ้ บได้บอ่ ย เพราะว่าหลายๆ คนเข้าใจผิดว่าตนเองนอน 4-5 ชัว่ โมงก็พอ เพราะสามารถ ทำ�งานหรือตืน่ ไปเรียนได้ แต่จริงๆ แล้วการนอนทีเ่ พียงพอมักจะกินเวลา 7-8 ชัว่ โมง เมือ่ ตืน่ แล้วจะต้อง ไม่งวั เงียหรืออยากนอนต่อเลยต่างหาก
อย่าเป็นหวัดบ่อย ความจำ�และประสบการณ์ทเ่ี ราจดจำ�ได้ มักจะถูกผนึกรวมไปกับประสาทสัมผัสต่างๆ โดยเฉพาะ กลิน่ ...กลิน่ ทีจ่ มูกของเราแยกแยะได้มหี ลายพันหลายหมืน่ กลิน่ ซึง่ การได้กลิน่ จะช่วยให้เราสามารถ นึกถึงเหตุการณ์ในอดีตทีเ่ กีย่ วเนือ่ งกับกลิน่ นัน้ ๆ ได้ การเป็นหวัดหรือภูมแิ พ้บอ่ ยๆ จะทำ�ให้จมูกของเรา รับกลิน่ ได้ลดลง ทำ�ให้การจดจำ�เหตุการณ์ในช่วงนัน้ ๆ ลดลงตามไปด้วย
จดดีกว่าอ่าน อ่านออกเสียงดีกว่าอ่านในใจ ปัญหาทีห่ ลายๆ คนประสบเวลาอ่านหนังสือ เตรียมสอบคืออ่านแล้วจำ�ไม่ได้ นัน่ เป็นเพราะว่า การอ่านมีผลต่อสมองน้อยกว่าการเขียน หากคุณต้องการจดจำ�เนือ้ หาของบทเรียน หรือต้องการจำ�เนือ้ หาใดๆ เพือ่ ไปสอบ ไปใช้แบบ เป๊ะๆ ตรงทุกตัวอักษร วิธหี นึง่ ทีช่ ว่ ยได้คอื การ เขียนเป็นตัวหนังสือด้วยมือของคุณเอง เนือ่ งจาก การเขียนเป็นตัวหนังสือแปลว่าเรารับข้อความเข้า มาในสมอง สร้างเป็นวงจรความจำ� จากนัน้ สัง่ การไปทีร่ ะบบสัง่ งานของมือให้เขียนตัวอักษร เป็นคำ� ตาจะมองไปทีค่ �ำ ว่าเขียนถูกหรือไม่ ก่อนเราจะเขียนตัวหนังสือตัวถัดไป จนเมือ่ ครบ ประโยคจะมีการทวนซํา้ ทัง้ ประโยค ว่าทีเ่ ขียน นัน้ ถูกต้องตรงกับข้อมูลทีเ่ ราอ่านมา จะเห็นได้วา่ การอ่าน เนือ้ หาจะเข้ามาในสมองเรารอบเดียว แต่การเขียนจะเกิดการทบทวนข้อมูลหลายครัง้ จึง ทำ�ให้เราจดจำ�ได้ดขี น้ึ ในกรณีทข่ี เ้ี กียจเขียนหรือไม่มเี วลามาก อาจ จะใช้การอ่านออกเสียงเพราะว่าการอ่านออกเสียง ก็ตอ้ งใช้ระบบประสาทสัง่ การในการพูดเช่นเดียว กับการใช้มอื เขียนเช่นกัน
สติ
กรณีทช่ี อบลืมปิดเตาแก๊ส จำ�ไม่ได้วา่ ล็อก ประตูแล้วหรือยัง หรือจำ�ไม่ได้วา่ วางกุญแจไว้ตรง ไหน ส่วนหนึง่ เกิดจากการขาดสติ ... สตินก้ี ไ็ ม่ตา่ ง อะไรกับเวลาไปเจริญสติวปิ สั สนากรรมฐานที่ ให้เดินหนอ ย่างหนอ หายใจเข้าพุท หายใจออก โธ โดยปกติเวลาสมองของเราสัง่ การอะไรบาง อย่าง มักจะสัง่ เป็นชุดคำ�สัง่ เช่น เราจะออกจาก บ้านไปทำ�งาน ความเคยชินจะทำ�ให้เราเดินไปที่ ประตู เปิดออก กดลูกบิดล็อก แล้วดึงประตูปดิ เดินออกจากห้อง ทุกอย่างเป็นไปโดยอัตโนมัติ โดยทีเ่ ราไม่มคี วามทรงจำ�ว่าตกลงเราล็อกประตู แล้วหรือยัง ทางแก้คอื หากเรารูว้ า่ เรามีปญ ั หา แบบไหน ให้สร้างนิสยั การมีสติเมือ่ ทำ�สิง่ นัน้ เช่น ถ้าลืมล็อกประตูบอ่ ย ให้สร้างนิสยั จ้องลูกบิดและ บรรจงกดล็อกทุกครัง้ ลืมกุญแจว่าวางตรงไหน ให้สร้างนิสยั เมือ่ วางกุญแจก็ให้พลิกกุญแจกลับ ด้าน ซึง่ ช่วงเวลาทีเ่ ราตัง้ ใจทำ�สิง่ นี้ วงจรความจำ� จะทำ�งาน ทำ�ให้เรานึกออกง่ายขึน้
ทบทวนเนือ้ หาเป็นระยะๆ หลายคนประสบปัญหาอ่านหนังสือ เตรียมสอบแล้วจำ�ไม่ได้ หรือจำ�ไม่ได้ดว้ ยซํา้ ว่าเคยเรียนวิชานีม้ าก่อน เพราะโดยปกติเรา จะลืมข้อมูลทีผ่ า่ นเข้ามาในสมองไปในเวลาอัน รวดเร็ว หลังจากเรียนหนังสือไป วันรุง่ ขึน้ สิง่ ทีเ่ รียนมักจะหายไปประมาณ 50% และใน 1 สัปดาห์อาจจะเหลือเพียงแค่ 20% (ซึง่ บางครัง้ เป็น 20% ทีไ่ ม่ส�ำ คัญอีกต่างหาก) การเรียนทีด่ คี วรมีการทบทวนเนือ้ หาเป็น ระยะๆ ควรหาเวลาสัน้ ๆ ก่อนนอน ระลึกถึง หัวข้อสำ�คัญของสิง่ ทีเ่ รียนไปในวันนัน้ เมือ่ ครบ หนึง่ สัปดาห์ ให้ท�ำ โน้ตย่อสัน้ ๆ ของสิง่ ทีเ่ รียนใน สัปดาห์นน้ั ลงไป และอ่านอีกครัง้ ช่วง 1-2 เดือน หรือก่อนสอบ จะช่วยทำ�ให้จ�ำ ได้ดกี ว่ามาตะลุย อ่านหนักๆ รอบเดียวก่อนสอบไม่กส่ี ปั ดาห์
อย่าเครียด ความเครียดมักทำ�ให้สมองของเราต้องไป พะวงคิดเรือ่ งอืน่ ๆ เป็นการดึงความสามารถของ สมองไปทำ�ให้กระบวนการนึกคิดต่างๆ ยากกว่า ปกติ จึงควรทำ�ใจให้สบาย พยายามอย่าคิดมาก เพือ่ จะได้ไม่เกิดภาวะนึกอะไรไม่ออกครับ ทัง้ หมดนีก้ ค็ อื การแก้ไขความขีล้ มื ทีเ่ อาไป ใช้ได้งา่ ยๆ ทำ�ได้ดว้ ยตนเองโดยไม่ตอ้ งเสียเงิน ครับ happy+ | 57
ยืดเส้นยืดสาย
เรื่อง : อาจารย์พิทักษ์ ศุภบัณฑิตย์กุล | ภาพประกอบ: kampanatz.com
คลายเครียด ทั้งกายและใจ สร้างสุขเพื่อวันนี้และอนาคต
ฉบับนีเ้ รามาคุยกันแบบสบายๆ ทำ�ความเข้าใจกับหลายเรือ่ งทีม่ คี นจำ�นวนไม่นอ้ ยเข้าใจผิดและกลายเป็นสาเหตุของอาการเจ็บป่วยทีส่ ร้างความไม่สบาย ทัง้ กายและใจกันครับ พูดง่ายๆ ก็คอื ทุกวันนีเ้ รามีการสะสมความเครียดกันแบบไม่รตู้ วั หลายคนพูดอย่างสบายใจว่า “ไม่เป็นไร” “สบายมาก” หรือ “ไม่ตอ้ ง ห่วง” แต่ลกึ ๆ แล้วรูส้ กึ ตรงกันข้ามกับทีบ่ อกเพือ่ นหรือคนทีห่ ว่ งใยเรา เพือ่ ให้พวกเขารูส้ กึ ดีแต่ตวั เองรูส้ กึ แย่ลงเรือ่ ยๆ ผมไม่ได้ก�ำ ลังพูดประชดหรือว่าใครซึง่ เป็นอย่างทีก่ ล่าวมา แต่ก�ำ ลังชักชวนให้ทา่ นทีเ่ ข้าข่ายว่าจะเป็น “นักสะสมความเครียด” ได้หนั มายืดเส้นยืดสาย บวกกับผ่อนคลายความรูส้ กึ เครียดๆ กันครับ หลายคนนอนกัดฟัน หลายคนมีอาการละเมอ และหลายคนนอนคิว้ ขมวดอยูต่ ลอดเวลา ถึงเวลาแล้วครับทีเ่ รา จะมาผ่อนคลาย บริหารจิตใจและกายไปพร้อมๆ กัน
1
ขยับแขนขา คลายความล้า
เรามาผ่อนคลายร่างกายและจิตใจในช่วงพักกลางวันหรือช่วง ทีเ่ รารูส้ กึ ล้า ง่วง หรือเครียดมากๆ กันนะครับ ง่ายๆ เลยให้หงายข้อ มือทัง้ สองข้างขึน้ แล้วยืน่ ไปใต้กอ๊ กนํา้ เปิดนํา้ เบาๆ ให้ไหลผ่านข้อมือ เราสัก 1-2 นาที ความเย็นของนํา้ ทีไ่ หลผ่านเส้นเลือดตรงข้อมือจะ ช่วยคลายอาการเครียดได้ดรี ะดับหนึง่ จากนัน้ ให้เอานิว้ มือประสาน กันทัง้ สิบนิว้ แล้วบิดหมุนให้ฝา่ มือทัง้ สองข้างดันออกไปข้างหน้า ทำ�ท่านีแ้ ล้วช่วงแขนจะตึง นับในใจสัก 12 วินาที แล้วเปลีย่ นเป็นดัน ขึน้ เหนือศีรษะ ค้างไว้ 12 วินาที การทำ�ท่านีค้ ล้ายกับการบิดขีเ้ กียจ ทีเ่ ราท่านเรียกกัน แต่การทำ�อย่างถูกต้องจะช่วยให้เส้นเอ็นและกล้าม เนือ้ ส่วนแขน หัวไหล่ ผ่อนคลายและจะรูส้ กึ สบายตัวช่วงบน แล้วช่วงล่างล่ะ บางท่านยืน เดิน เมือ่ ยแล้วก็ลองหาทีเ่ หมาะๆ อย่างขัน้ บันไดหนีไฟ โต๊ะทำ�งานทีเ่ ป็นส่วนตัวหน่อย ลองเอาขา (ถอดรองเท้าก่อนนะครับ) พาดบนโต๊ะหรือขัน้ บันไดตามสะดวก เลือดทีไ่ หลลงตลอดจะเปลีย่ นแนวทางการไหลเวียนชัว่ คราว ยกค้าง ไว้สกั 12 วินาที แล้วเปลีย่ นข้าง ทำ�สลับกันสองหรือสามรอบแล้วแต่ สะดวกครับ จะช่วยให้กล้ามเนือ้ และเส้นเอ็นได้มกี ารยืดเหยียดเบาๆ
58 | happy+
2
3
ท่านทีท่ �ำ งานกันแบบสนุกสนานไปเช้ากลับบ้านคํา่ และท่านทีต่ อ้ งทำ�งานแล้วตามด้วยโอที แบบยินดีบา้ ง โดนบังคับบ้าง หลายท่านทำ�งานด้วยความขยันแล้วแต่จดุ มุง่ หมายของแต่ละคน ความเหนือ่ ยล้ามันเกิดขึน้ ได้กบั ทุกคนทีท่ �ำ งานหนัก แล้วยังรวมถึงปัญหาต่างๆ มากมายในที่ ทำ�งาน ในช่วงวันบางคนใช้การไปหาอาหารอร่อยๆ มีประโยชน์รบั ประทานกันเป็นการให้รางวัล กับชีวติ บางท่านใช้เวลาคุยโทรศัพท์กบั คนทีร่ กั และเป็นห่วง และมีหลายท่านทีห่ นั มานอนกลางวัน เพือ่ พักผ่อน เพือ่ ลดการใช้เงินในช่วงพักกลางวัน และเพือ่ ให้เวลาตัวเองบ้าง จะได้มเี วลาทบทวน สิง่ ทีเ่ ราทำ�มาในช่วงวันหรือเมือ่ วานว่า “เราทำ�ดีแค่ไหน” เราปล่อยให้อารมณ์น�ำ พาเราทำ�เรือ่ งแย่ๆ หรือไม่ เราให้อภัยคนทีส่ ร้างความรำ�คาญ หรือสร้างความทุกข์ให้เราหรือไม่ ใช้เวลาสัก 10-15 นาที ลองนึกทบทวนอย่างทีบ่ อกแล้วเอามือสองข้างปิดหน้าตัวเองไว้แน่นๆ จากนัน้ ให้ยม้ิ อย่างเต็มที่ ยิม้ ให้รอยยิม้ ติดฝ่ามือทัง้ สองข้าง ทำ�สัก 5-10 ครัง้ ก็ได้ครับ ถ้าตอนนีท้ า่ นลองทำ�ตามดูจะรูส้ กึ ว่า เราได้บริหารหน้าเราแล้ว และทีส่ �ำ คัญลองถามตัวเองว่าความรูส้ กึ ทีเ่ กิดขึน้ บนฝ่ามือเราทัง้ สองข้าง ระหว่างรอยยิม้ ทีไ่ ม่มใี ครเห็น กับเวลาทีเ่ ราร้องไห้อย่างเปิดเผยต่างกันตรงไหน? ถ้าถามตัวเองแล้วรูส้ กึ อย่างไรก็อย่างนัน้ ครับ มันเป็นอารมณ์สว่ นตัว แต่ทอ่ี ยากบอกคือ เมือ่ ไรทีค่ ณ ุ มีความสุข มีรอยยิม้ คุณก็จะได้รบั ความสุขแล้ว ผูท้ ไ่ี ด้เห็นรอยยิม้ ของคุณเขาก็รบั ความสุขไปด้วย การยิม้ ให้กนั การลดอารมณ์โกรธ เป็นการบริหารใบหน้า พร้อมกับการปล่อย อารมณ์เสียๆ ให้หลุดหายไป อารมณ์เสียหงุดหงิดมันไม่สง่ ผลดีกบั ใครเลยแม้กระทัง่ ตัวเอง คนทำ�งานด้วยก็ล�ำ บากใจ ลองระงับอารมณ์ไม่ให้ฉนุ เฉียวง่ายแล้วยิม้ แย้มแจ่มใสเข้าไว้ ค่อยๆ ปรับ ค่อยๆ เปลีย่ น แล้วจะรูส้ กึ ว่าบางทีอะไรทีเ่ ราเคยมองว่าเป็นเรือ่ งยากหรือเลวร้ายมันแก้ไข ได้และไม่เลวร้ายอย่างทีค่ ดิ
ผมเคยให้ค�ำ แนะนำ�นักกีฬาทีเ่ ล่นกีฬาได้ดมี ากแต่ มักจะป่วยอยูบ่ อ่ ยๆ สอบถามเขาด้วยฐานะของโค้ชและ คนทีเ่ ขาให้ความเคารพ ได้ความว่าเขามีความกังวล เกีย่ วกับฟอร์มการเล่น แต่เมือ่ เจาะลึกลงไปพบว่าอาการ ป่วยของเขามีสาเหตุมาจากการกินอาหารผิดเวลา นอน ไม่หลับเนือ่ งจากคิดเรือ่ งต่างๆ ทีไ่ ร้ขอ้ สรุป เช่น อนาคต จะเป็นอย่างไร จะสร้างครอบครัวอย่างไร พ่อกับแม่จะ ดูแลเขาอย่างไรในอนาคต สรุปว่าหลายๆ เรือ่ งเป็นเรือ่ ง ทีย่ งั ไม่ถงึ เวลา เป็นความเครียดทีส่ ะสมรอไว้กอ่ น สร้าง ความเสียหายให้กบั ชีวติ ปัจจุบนั ของเขา ผมจึงแนะนำ� ให้เขาใช้ชวี ติ อย่างมีระเบียบ มีการวางแผนชีวติ และที่ สำ�คัญเขาต้องรูต้ วั เองว่ากำ�ลังทำ�อะไร แล้วมีอะไรบ้าง ทีเ่ ป็นส่วนประกอบทีส่ �ำ คัญกับการใช้ชวี ติ ในช่วงนัน้ ๆ หลังจากทีไ่ ด้รบั คำ�แนะนำ�จากผมเขาก็เข้าใจและปลด ปล่อยความเครียดอันไร้ประโยชน์ออกไป ทุกวันนีอ้ าการ ป่วยของเขาหายแล้ว เขากลับมามีสขุ ภาพกายทีด่ ี เป็น นักกีฬาทีไ่ ร้ความกังวล เตรียมตัวเป็นนักกีฬาอาชีพ และ สร้างฐานชีวติ เพือ่ อนาคตได้แล้วครับ
ฝึกอารมณ์ไม่ตอ้ งดีมากแต่ดไี ว้กอ่ น
ปล่อยวางไม่สบั สนพาใจและกายแข็งแรง
happy+ | 59
well being เรื่อง : ญาดารัตน์ | ภาพประกอบ : ขมิ้น
ร่วมด้วยช่วยฝัน... คนเราทุกคนมีสิทธิที่จะฝัน ไม่ว่าจะอยู่ ในสถานะใด แต่ที่สำ�คัญที่สุด เราได้ต่อสู้กับ อุปสรรคเพื่อความฝันของเรามากน้อยแค่ไหน และคงไม่ดีแน่หากเราจะมัวเห็นแก่ตัวมุ่งมั่นทำ� แต่ความฝันของตัวเองโดยไม่ได้สนใจคนอื่นๆ เพราะการได้เกื้อกูลช่วยทำ�ให้ฝันของคนอื่นเป็น จริงขึ้นมา มันเป็นสิ่งที่วิเศษมากทีเดียว หาก ใครยังพอจำ�ได้ เมื่อหลายสิบปีก่อนมีรายการ ยอดฮิต ชื่อรายการ “ฝันที่เป็นจริง” เราจะเห็น รถเข็นที่มีทุกอย่างเพียบพร้อมในการประกอบ อาชีพ เป็นรางวัลสำ�หรับผู้ร่วมรายการ ตอนนั้น ฉันยังเด็กมากๆ แต่ยังจำ�ความรู้สึกซาบซึ้งใจ จนนํ้าตาไหลกับรายการนี้บ่อยๆ และพอได้ใช้ ชีวติ ในวัยทำ�งาน ฉันก็มเี หตุการณ์ทแ่ี สนประทับใจ มาเล่าสู่กันฟังค่ะ... 60 60 | happy+
ผึ้ง เด็กสาวอายุยี่สิบปีเศษ เรียนจบ ปริญญาตรี วาดฝันว่าจะมีงานทำ� มีอนาคต ที่สดใส แต่ต้องมาเจ็บป่วยด้วยโรคแพ้ภูมิตนเอง (SLE) ซึง่ เป็นโรคเรือ้ รัง ทีต่ อ้ งเข้าออกโรงพยาบาล เป็นว่าเล่น อีกทัง้ ผลข้างเคียงของยาทีร่ บั ประทาน บวกกับอาการของโรค ทำ�ให้เด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง ต้องมีอาการตัวบวม หน้ากลม และเป็นผื่นขึ้น ทั่วหน้า ทุกครั้งที่ฉันเจอเธอ ฉันเห็นแต่แววตา ที่หม่นหมอง เศร้าสร้อย จนบุคลิกพูดน้อย ยิ้มยาก กลายเป็นโลโก้ประจำ�ตัวของเธอ ฉัน ทราบดีว่าเธอคงผลักไสความทุกข์ไปให้คนอื่น ไม่ได้ ฉันหวังเพียงแค่อยากให้เธอได้แสดงออก ได้ระบายความทุกข์ออกมาบ้าง ไม่ปกปิดไว้ จนเป็นตะกอนในจิตใจ อุปมาว่ามันคงคล้ายกับ เวลาที่เราเป็นฝีอักเสบ มันก็ค่อยๆ ฟักตัว บวม แดง จนเป็นนํ้าหนอง อาการจะดีขึ้นก็ต่อเมื่อ เราบ่งเอาหนองออกมา ฝีก็จะค่อยๆ แห้งลง กลับเป็นผิวหนังที่ยังทิ้งร่องรอยไว้บ้าง
ในช่วงแรกๆ ผึ้งกับฉันสานสัมพันธ์กันด้วย รอยยิ้ม เธอพยายามหลบเลี่ยงที่จะพูดคุย แต่ ฉันอาศัยความจริงใจเป็นที่ตั้ง และตัวช่วยที่ ทำ�ให้เราเป็นมิตรที่ดีต่อกันคือ “ศิลปะ” ฉัน อาศัยความรู้ที่พอมีอยู่บ้างในเรื่องศิลปะบำ�บัด มาเป็นเครื่องมือในการสื่อสารระหว่างเรา แทบ ไม่น่าเชื่อ ฉันกลายเป็นพี่สาว เป็นที่ปรึกษา และ ตอนนี้ศิลปะกลายเป็นเพื่อนสนิทของผึ้งไปแล้ว ครอบครัวของเธอโดยเฉพาะคุณแม่มีความสุข มากที่เห็นรอยยิ้มของลูกสาวกลับมาสดใสอีก ครั้ง แม้ว่าโรคจะทำ�ให้สุขภาพร่างกายของผึ้ง ทรุดโทรมลงเรื่อยๆ แต่ฉันรับรู้ได้ว่าจิตใจเธอ เข้มแข็งขึ้น สัมพันธภาพระหว่างเรางอกงามขึ้น ตามลำ�ดับ บางครั้งเรานั่งทำ�งานศิลปะด้วยกัน ด้วยความเงียบ แต่มันเป็นความสงบที่แสน จะอบอุ่น ผึ้งเข้าออกโรงพยาบาลอยู่เกือบปี มี ตะกร้าอุปกรณ์ศิลปะเป็นของตัวเองมาด้วยทุก ครั้ง ฉันรู้ว่าผึ้งมีความสุขที่มีศิลปะเป็นเพื่อน สนิท ผลงานของเธอมีเยอะแยะมากมาย จนวัน หนึ่งฉันถามผึ้งว่า “ผึ้งยังอยากเป็นศิลปินอยู่ไหม พี่จะช่วยจัดแสดงผลงานให้” ผึ้งยิ้มด้วยแววตา ที่วาววับ พร้อมกับกล่าวว่า “ทำ�ได้จริงๆ หรือพี่ มันสุดยอดเลยนะ มันคือความฝันของหนู แต่ไม่ คิดว่ามันจะเป็นจริงได้” สถานที่จัดแสดงงานของผึ้ง คือบอร์ดใหญ่
หน้าหน่วยงาน มีแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ ผู้ป่วยและญาติ มาชมกันมากมาย ขณะที่ฉัน กดชัตเตอร์ถ่ายภาพให้กับศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ นางพญาผึ้งคนนี้ยืนคู่กับผลงานศิลปะของ ตนเอง ณ เวลานั้น ฉันเองก็มีความสุขไม่ต่าง ไปจากผึง้ ผึง้ เข้ามากอดฉัน และบอกว่า “ขอบคุณ มากนะพี่ หนูรักพี่โคตรๆ เลยอ่ะ” ผลงานของ
ผึ้งแสดงอยู่ประมาณสองเดือน มีผู้คนมาชื่นชม ไม่ขาดสาย ผึ้งเองก็ยังคงเข้าออกโรงพยาบาล อย่างต่อเนื่อง จนร่างกายของผึ้งต่อสู้กับโรคร้าย ไม่ไหว วันที่ผึ้งมีอาการหนักมาก เริ่มไม่รู้สึกตัว บางครั้งก็พูดเพ้อ ฉันเข้าไปเยี่ยมผึ้ง ผึ้งจำ�ฉันได้ เราจับมือกันแน่น เธอขอให้ฉันเช็ดตัวให้ แม่เข้า มาบอกเธอที่ข้างหูว่า “แม่เพิ่งเช็ดให้หนูไงลูก” ฉันออกไปทำ�งาน เมื่อกลับมาอีกครั้งพบว่าผึ้ง กำ�ลังจะจากพวกเราไป เมื่อเส้นกราฟหัวใจของ น้องเป็นเส้นตรง ฉันเข้าไปช่วยคุณแม่เช็ดตัวให้ น้อง พร้อมบอกกับผึ้งว่า “พี่ได้ทำ�ตามที่นอ้ ง ต้องการแล้วนะ” แม่สวมชุดนอนลายโดราเอมอน ให้ผึ้งตามที่เธอเคยบอกไว้ น้องดูเหมือนคน นอนหลับสนิท อยู่ท่ามกลางคนที่รักน้อง ทุกคน ภาวนาขอให้น้องไปสู่สุคติด้วยความสุข สงบ... หลับให้สบายนะศิลปินคนเก่งของพี่ ผึ้งยังอยู่ในความทรงจำ�ของฉันเสมอ... เป็นพลังใจให้ฉันยังยืนหยัดทำ�งานศิลปะบำ�บัด ให้กบั สังคม มุง่ มัน่ ในการค้นหาความฝัน ของตัวเอง และฉันก็หวังว่าเรื่องราวของผึ้ง คงช่วยจุดประกายความฝันให้กับหลายๆ คน อย่าท้อที่จะสานฝันให้กับตนเอง เมื่อมีโอกาส ก็ช่วยเติมเต็มความฝันให้กับผู้อื่นบ้าง เพราะการเกื้อกูลระหว่างกันและกัน จะเป็น พลังให้เรายืนหยัดอยู่ในสังคมได้อย่างมี ความสุข happy+ | 61
ธรรมชาติบำ�บัด
เรื่อง : ชัญญา เศรษฐบุตร (พี่อู่) นักธรรมชาติบำ�บัด ภาพประกอบ : PASTELLER
ความสุขสร้าง…ฝัน ยามใดที่เราคิดเท่ากับเราเริ่มใช้สมองแล้ว ความคิดนั้นส่วนใหญ่ก็มาจากเรื่องความ ชอบ ไม่ชอบ โกรธ เกลียด เครียด แค้น ชิงชัง รัก โลภ หลง แต่เราต้องตระหนักรู้เท่าทันกับ อารมณ์ของเรา ตามรู้ตามให้ทันอารมณ์ว่าให้ คุณและให้โทษต่อตัวเราอย่างไร ก็อย่างที่เคยได้ยินกันมาว่า จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว นั้น หมายถึงจิตใจสามารถ ควบคุมร่างกายได้ ถ้าจิตคิดแต่เรื่องลบ ก็จะ เหมือนการหมั่นสะกดจิตตัวเองด้านลบไว้บ่อยๆ สารพิษก็จะหลั่งออกมาปกคลุมร่างกายของ เรา ไม่นานเราก็จะหดหู่ ซึมเศร้า หน้าบึ้งตึง หมองคลํ้า พานปวดหัว ตัวร้อนไม่สบายกันได้ เลยทีเดียว แต่ถ้าเราฝึกคิดแต่สิ่งดีๆ สิ่งที่ทำ�ให้ มีความสุข ร่างกายของเราก็จะหลั่งสารแห่ง ความสุขมาโอบอุม้ เซลล์ของร่างกายให้ดวี นั ดีคนื แล้วทำ�อย่างไรถึงจะได้รับสารนี้ล่ะ...แล้ว ความสุขคืออะไรกันนะ... 62 | happy+
ท่านรู้หรือไม่ว่าธรรมชาติของร่างกายเรานี้เก่งขนาดไหน...ธรรมชาติได้มอบอาวุธอันทรงพลังมา ไว้ให้เราใช้ต่อสู้กับความคิดด้านลบ อาวุธนั้นเรียกว่า “ฮอร์โมนเอ็นโดรฟิน” (endorphin) ซึ่งเป็นสาร คล้ายมอร์ฟีนที่เกิดขึ้นภายในเซลล์ การทำ�งานของมันคล้ายฝิ่น โดยจะไปทำ�ให้เกิดการหลั่งของสาร โดปามีน (dopamine) ซึ่งมีผลต่ออารมณ์ ทำ�ให้ตื่นตัวกระฉับกระเฉง กระชุ่มกระชวย มีสมาธิมากขึ้น ไวต่อสิ่งกระตุ้นรอบๆ ตัวมากขึ้น มีผลต่อการควบคุมการสร้างฮอร์โมนเพศ สามารถส่งเสริมการ ทำ�งานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้อีกด้วย เอ็นโดรฟินถูกสร้างขึ้นเมื่อเรามีความสุขใจ ปีติสุข เช่น การสวดมนต์ การนั่งสมาธิ การช่วย เหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผล หรือมีใครมาบังคับ การออกกำ�ลังกาย การฟังดนตรี ทำ�งานศิลปะ ได้ สัมผัสถ่ายทอดความรักซึ่งกันและกัน ดังนั้นกิจกรรมใดที่ทำ�ให้เรารู้สึกมีความสุข ย่อมมีส่วน ส่งเสริมความแข็งแรงให้กับร่างกายได้ จึงเป็นอาวุธสำ�คัญที่ธรรมชาติให้เราใช้ทลายกำ�แพงแห่ง ความเครียด ความทุกข์ และความคิดด้านลบ เมื่อความสุขทำ�ให้สารเอ็นโดรฟินหลั่งออกมาเพื่อ ให้เซลล์ที่ดีของร่างกายได้ทำ�งาน เร่งจัดการต่อสิ่งแปลกปลอมที่เกิดขึ้นในเซลล์ เช่น เวลาเราโกรธ เครียด กล้ามเนื้อจะเกร็งตัว หายใจติดขัด เม็ดเลือดขาวหรือยาใดก็ไม่สามารถเข้าไปแก้ปัญหาใน เซลล์นั้นๆ ได้ แต่เมื่อเอ็นโดรฟินหลั่งก็จะเข้าไปทำ�ให้เซลล์ผ่อนคลาย หรือนำ�พาให้เม็ดเลือดขาวไป แก้ปัญหาที่เซลล์นั้น แถมยังช่วยกระตุ้นให้ร่างกายทำ�ลายเซลล์ที่มีปัญหาและเซลล์มะเร็งได้ดีเยี่ยม ช่วยให้เส้นเลือดมีความยืดหยุ่น ไม่อุดตัน ทำ�ให้การไหลเวียนของเลือดปกติ ช่วยป้องกันโรคหัวใจ เส้นเลือดอุดตันได้ ฯลฯ ฉะนั้นเมื่อสารเอ็นโดรฟินดีเยี่ยมเช่นนี้และถึงจะมีเงินก็ไม่สามารถซื้อได้ เรา จึงต้องหมั่นฝึกฝน หาแต่ความสุขสดชื่น มองโลกในแง่ดี รู้จักการให้อภัย จะทำ�ให้อาวุธของเราใช้ได้
ผลดีเสมอ และอยูก่ บั เรานานแสนนาน...ไม่มี ใครทำ�ให้เราทุกข์ได้ ไม่มใี ครทำ�ให้เราสุขได้ เราต้องสร้างเมล็ดพันธุ์แห่งความสุขขึ้นมาด้วย ตัวของเราเองให้มากๆ และหว่านออกไปให้ทว่ั ๆ... จิตนั้นจะปฏิบัติเช่นศัตรูสำ�หรับคนที่ไม่รู้จัก ควบคุมมัน ร่างกายก็จะไม่แข็งแรง สติปัญญา ก็จะไม่เฉียบแหลม ดังนั้นเมื่อเรารู้แบบนี้แล้ว ไม่ว่าเราจะคิดฝันอย่างไร อยากแข็งแรง อยาก มีแต่ความสุข เราก็ต้องมุ่งมั่นหมั่นฝึกฝน ตัดความคิดด้านลบออกจากจิตให้ด่วนจี๋ ฝันไว้อย่างไร ไม่ช้าก็จะสมหวังได้อย่างแน่นอน หากมัวแต่คิดลบ คิดเครียด คอยทำ�ร้ายร่างกาย ตัวเองอยู่อย่างนั้น ก็ต้องหันกลับไปขอโทษ ตัวเองแล้วละว่า ...ร่างกายจ๋าฉันขอโทษ ร่างกายจ๋า ยกโทษให้ฉันด้วย และร่างกายจ๋า ขอบคุณนะ ที่อยู่กับคนห่วยๆ แบบฉัน สุดท้าย ก็ต้องบอกว่า ร่างกายจ๋า ฉันรัก...เธอ แถมจ้า...เมื่อมีความรัก สร้างฝันที่เป็นจริง
สมใจแล้ว ยิ่งช่วงนี้ปลายฝนต้นหนาว เป็นฤดู ที่เรียกว่าช่วงงานแต่ง ก็เลยอยากให้รางวัลคน อารมณ์ดีที่มีฝันและรักตัวเองกันสักหน่อยด้วย... สูดกลิ่นกะเพรา กระตุ้นอารมณ์...รัก เคล็ดลับนี้แพร่หลายเป็นที่รู้กันในประเทศ อินเดีย ดินแดนแห่งกามสูตรอันลือลั่น คนใน ประเทศอินเดียเชื่อว่าถ้าโรยใบกะเพราแห้ง (โดยเฉพาะใบกะเพราแดง ซึ่งจะมีกลิ่นฉุนกว่า ใบกะเพราเขียว) ลงบนถ่านติดไฟแดงรุมๆ หาก หนุ่มสาวคนไหนได้สูดกลิ่นจะช่วยเร้าอารมณ์ พิศวาสขึ้นมาได้ฉับพลัน เพราะฉะนั้นในพิธี แต่งงานของชาวอินเดีย จึงนิยมโรยใบกะเพรา แห้งลงบนก้อนไฟ เพื่อให้กลิ่นหอมหวนของ กะเพรากำ�จายไปทั่วบริเวณงานให้เจ้าบ่าว เจ้าสาว และแขกทั้งหลายมีอารมณ์แห่งรักที่ ชวนฝันกันเลยทีเดียว เอ้า...ขอให้ฝันเป็นจริงกัน นะคะ บุญรักษาจ้า... happy+ | 63
beauty by nature เรื่อง : ศศินี ปัญญารัตน์ | ภาพประกอบ : boysandgirls www.facebook.com/boysandgirls.art
สวยสัง่ ได้ ใน 1 สัปดาห์
ก่อนอืน่ ดิฉนั ต้องขอกราบขอบพระคุณ บรรดาฮันนะซังทัง้ หลาย ทีน่ อกจากจะมีรปู กาย ทีง่ ามงดแล้ว ยังมีจติ ใจทีง่ ดงามอีกด้วย พวกเธอ มาร่วมแบ่งปันสารพัดสูตรลดนํา้ หนักแบบสัง่ ได้ ใน 1 สัปดาห์ หลังจากทีท่ ราบว่าดิฉนั จะเขียนลง happy+ ฉบับนี้ ทีส่ ำ�คัญสุดๆ ลดยังไงไม่โยโย่ จุดนีแ้ หละค่ะทีน่ า่ สนใจ หัวใจหลักคือ มุง่ มัน่ ตัง้ ใจ และมีวนิ ยั เฮ้อ... ยากเสียนีก่ ระไร เพราะสาวๆ ทัง้ หลายอยากสวย หุน่ ดีแบบเข้าคอร์สครัง้ เดียว แล้วสวยถาวรตลอด กาล บางคนเห็นดารานางแบบคลอดลูกยังไม่ทนั ถึงเดือน หุน่ กลับมาฟิตแอนด์เฟิรม์ อย่างกับเสกได้ โอย...อยากเป็นแบบนัน้ บ้าง ทำ�ยังไงนะ ทำ�ยังไงดี ทำ�ไมฉันถึงไม่เป็นแบบนัน้ บ้าง ทำ�อย่างไรฝันของ ฉันจึงจะเป็นจริงเสียที!!! จ่ายสตางค์ไปตัง้ เยอะ เข้าคอร์สแหนมป้าย่นก็แล้ว แถมเข้ายิมฝึกกับ เทรนเนอร์รปู หล่อ เพือ่ เป็นกำ�ลังใจในการสลาย ไขมัน แต่กย็ งั โยโย่อกี จริงๆ แล้วคอร์สทัง้ หลายช่วยให้รปู ร่างของ เราดีขน้ึ ได้จริงค่ะ เพียงแต่วา่ คุณก็ตอ้ งใส่ใจ มี วินยั กับตัวเองให้ยงั คงมีรปู ร่างทีม่ สี ว่ นโค้งส่วนเว้า ได้รปู เช่นเดิม ดารานางแบบหุน่ งามทุกท่านเขา ก็ตอ้ งดูแลตัวเองเป็นประจำ�สมํา่ เสมอ ถึงได้สวย เพรียวงามเช่นนัน้ แล้วคุณล่ะคะ รักตัวเองมาก พอทีจ่ ะปรับเปลีย่ นพฤติกรรมให้เป็นคนมีวนิ ยั ใส่ใจตัวเองได้หรือไม่ สวยสัง่ ได้ใน 1 สัปดาห์ จะ ทำ�ให้ฝนั ของคุณเป็นจริงได้ หากคุณมีความมุง่ มัน่ ตัง้ ใจและมีวนิ ยั เอาละค่ะ เรามาดูกนั ว่าต้องทำ� ยังไงกันบ้าง
64 | happy+
3
1
เพิม่ ปริมาณนํา้ ทีเ่ ราดืม่ นํา้ ถือได้วา่ เป็นปัจจัยทีส่ ำ�คัญมากใน การลดนํา้ หนัก การดืม่ นํา้ เป็นการชะล้างของเสีย ในร่างกายให้ออกมาทางเหงือ่ และปัสสาวะ เรา อาจเคยได้ยนิ บางคนบอกว่าให้ดม่ื นํา้ วันละ 4-5 ลิตรต่อวัน ซึง่ จริงๆ แล้วไม่ได้เป็นปริมาณตายตัว วิธงี า่ ยๆ ในการคำ�นวณปริมาณนํา้ ทีเ่ หมาะสมกับ ความต้องการของแต่ละคนใน 1 วันคือ ให้นำ� นํา้ หนักตัวของตัวเองมาหารด้วย 20 เช่น ดิฉนั หนัก 46 กิโลกรัม หารด้วย 20 นัน่ หมายความว่า ดิฉนั ควรดืม่ นํา้ 2.3 ลิตรต่อวันเป็นอย่างน้อย ซึง่ เป็นขัน้ ตอนทีจ่ ำ�เป็นในการเริม่ ลดนํา้ หนักนะคะ
2
ดืม่ ชาเขียวแทนกาแฟหรือชา การดืม่ ชาเขียวร้อน 1 ถ้วย ตอน ท้องว่างก่อนรับประทานอาหารเช้าทุกวัน ช่วย ทำ�ความสะอาดร่างกายและยังลดอาการท้องผูก อีกด้วยค่ะ ชาเขียวมีปริมาณแคลอรีตา่ํ การ เริม่ ดืม่ ชาเขียวตอนเช้าแทนกาแฟ หรือชาจะช่วย ลดนํา้ หนักได้อย่างดียง่ิ
นํา้ อุน่ นํา้ มะนาวและนํา้ ผึง้ ผสมนํา้ มะนาว 1 ช้อนโต๊ะ นํา้ ผึง้ ครึง่ ช้อนโต๊ะ กับนํา้ อุน่ 1 แก้ว ดืม่ ตอนเช้าทุกวันตอน ท้องว่าง ก็เป็นอีกวิธงี า่ ยๆ ในการลดนํา้ หนักค่ะ
4
ลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตหรือแป้ง ข้าว ประกอบด้วยปริมาณแคลอรีและ คาร์โบไฮเดรตทีส่ งู มาก การลดปริมาณข้าว หมายถึงการลดคาร์โบไฮเดรต นัน่ ก็หมายถึง การลดนํา้ หนักด้วยค่ะ
5
เพิม่ ปริมาณโปรตีน โปรตีนเป็นตัวสร้างกล้ามเนือ้ ซึง่ สามารถลดไขมันในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไขมันทีห่ ายไปก็จะกลายเป็นกล้ามเนือ้ การ รับประทานอาหารทีม่ โี ปรตีนแทนอาหารทีม่ ี คาร์โบไฮเดรต ก็จะช่วยในการลดนํา้ หนัก
เพิม่ ปริมาณไฟเบอร์ หรือเส้นใย รับประทานผลไม้ทม่ี นี า้ํ เยอะๆ อาหาร 14 และแคลอรีตา่ํ เช่น แตงโม มะละกอ เส้นใยอาหารชนิดละลายนํา้ (Soluble Fibers) เป็ น ต้ น บประทานอาหารทีม่ แี คลอรีตา่ํ ช่วยในการลดนํา้ หนักได้ดมี าก การรับประทาน 10 รัเราควรรั บประทานอาหารแคลอรีตา่ํ อาหารทีป่ ระกอบไปด้วยเส้นใยอาหารชนิดละลาย เพิม่ อาหารต้มสุกและหลีกเลีย่ งอาหารทีม่ รี สหวาน นํา้ จะช่วยลดนํา้ หนัก โดยจะลดคอเลสเตอรอล ไขมันมากและของผัดทอดทัง้ หลาย ไม่ดใี นร่างกาย เส้นใยอาหารชนิดทีล่ ะลายใน นํา้ สามารถพบในถัว่ บางชนิด ผลไม้ และธัญพืช เช่น ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์คะ่ หลีกเลีย่ งเครือ่ งดืม่ ซ่าๆ เช่น โค้ก 15 เป๊ปซี่ โซดา เป็นต้น
6
11
หลีกเลีย่ งปัญหาท้องผูก อาการท้องผูกจะชะลอกระบวนการ ลดนํา้ หนัก ทัง้ ยังทำ�ให้มขี องเสียคัง่ ค้างอยูใ่ น ร่างกายอีกด้วย
7
8
หลีกเลีย่ งอาหารขยะ (Junk Food) คุณต้องการจะลดนํา้ หนักใช่ไหมคะ ดังนัน้ คุณต้องลดอาหารขยะทัง้ หลาย ไม่วา่ จะ เป็นพิซซ่า เบอร์เกอร์ ไส้กรอก และอืน่ ๆ อีกมากมาย ซึง่ ประกอบไปด้วยไขมันเป็นส่วนมาก คุณค่าทาง อาหารเป็นส่วนน้อย เป็นสาเหตุให้นา้ํ หนักเพิม่ ค่ะ
ทานผักต้มแทนอาหารทานเล่น (Snack) ผักต้ม อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการและ มีแคลอรีตา่ํ มาก คุณสามารถรับประทานในช่วง ระหว่างมือ้ เช่น ก่อนอาหารกลางวัน หรือก่อน อาหารเย็น แทนการรับประทานอาหารทานเล่น อืน่ ๆ
12
ไม่รบั ประทานอาหารเกิน 3 มือ้ ต่อวัน มือ้ กลางวันเป็นมือ้ หนักของคุณได้ ส่วนมือ้ เช้าและมือ้ เย็นควรเป็นอาหารเบาๆ
13
9
โปรตีนถัว่ เหลือง (Soy Protein) โปรตีนชนิดนีม้ าจากพืชซึง่ มีไขมันตํา่ การเพิม่ ปริมาณการรับประทานโปรตีนชนิดนีท้ ่ี เหมาะสมจะช่วยให้ลดนํา้ หนักได้สบายๆ เลยค่ะ
อาหารทีเ่ หมาะสม + การออกกำ�ลัง กาย = รูปร่างฟิตแอนด์เฟิรม์ การออกกำ�ลังกายมีความสำ�คัญมากใน การลดนํา้ หนัก เราไม่จำ�เป็นต้องเข้าฟิตเนส แต่สามารถทำ�เองง่ายๆ ทีบ่ า้ น เช่น ซิตอัพ เดิน หรือวิง่ ประมาณ 10-15 นาที ทำ�เป็นประจำ� ทุกวัน แค่นห้ี นุ่ ดีๆ ก็ไม่หนีไปไหน
16
หลีกเลีย่ งสัตว์เนือ้ แดงทัง้ หลาย
17
ไม่เป็นโรคเลือ่ น
เมือ่ คุณตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะลด นํา้ หนัก ให้เริม่ ทำ�เป็นประจำ�ทุกวันโดยไม่ยอ่ ท้อ ไม่ให้ความเคยชินเดิมๆ มามีอทิ ธิพลเหนือจิตใจ ให้คณ ุ กลับไปใช้ชวี ติ แบบเดิมๆ เพียงเท่านี้ นํา้ หนักของคุณก็จะลดลงเองโดยธรรมชาติ หุน่ กระชับ ไม่หย่อนคล้อย แถมหน้ายังสวยใส จากการใส่ใจสุขภาพอย่างสมํา่ เสมอ จะสุขใจเพียงใดหนอ เมือ่ ฝันกลายมาเป็น จริงให้เราสวยเป๊ะขนาดนี้ ใช่ไหมคะ ลัน้ ลา ลัน้ หล่า ลัน้ ลา ฉบับนี้ ฮันนะซังสวย สัง่ ได้ ลาก่อนนะคะ ฉบับหน้า มีหลายท่านขอมา สวยด้วยดนตรี จัดให้...ได้เลยค่ะ สวัสดีคะ่ happy+ | 65
beauty recommended เรื่อง : Miss Beauty
3 ขั้นตอนสำ�คัญเพื่อดูแลผิวให้สดใส ผิวพรรณทีไ่ ม่สดใสแลดูหมองคลํา้ เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาของรูขมุ ขนอุดตัน อันเกิดจากการสะสมของสิง่ สกปรกใต้ชน้ั ผิว ทัง้ ฝุน่ ละออง มลภาวะต่างๆ เครือ่ งสำ�อาง เมกอัพทัง้ หลาย ยิง่ เมือ่ ผิวต้องเผชิญกับแสงแดด ปัจจัยรอบตัว รวมทัง้ การดูแลสุขภาพทีไ่ ม่เพียงพอ ปัญหาผิวอืน่ ๆ ก็ยง่ิ ตาม มา รวมทัง้ พรากความมัน่ ใจไปจากคุณด้วย การปรนนิบตั ผิ วิ ให้สดใส เริม่ ต้นด้วยการเลือกผลิตภัณฑ์ทแ่ี ก้ปญ ั หาผิวได้ตรงจุดและเหมาะสมกับผิวจริงๆ ซึง่ ไม่วา่ จะขัน้ ตอนไหนก็ลว้ นส่งผลทีด่ ตี อ่ ผิว ได้ทง้ั สิน้ แต่เราขอเน้นที่ 3 ขัน้ ตอนสำ�คัญ นัน่ คือ การทำ�ความสะอาดผิวหน้า การบำ�รุงในยามคํา่ คืนเพือ่ การฟืน้ ฟูรกั ษาผิว ไปจนถึงการสครับขัดผิวกายเพือ่ ขจัดเซลล์ผวิ ทีต่ ายแล้ว ขอแนะนำ�ผูช้ ว่ ยใน 3 ขัน้ ตอนสำ�คัญจากแบรนด์ “Newsky” (นิวสกาย) เริม่ จากการทำ�ความสะอาดผิวหน้า ด้วย Newsky Facial Cleansing Cream ซึง่ เป็นเนือ้ ครีมอ่อนนุม่ ไม่มฟี อง สามารถชะล้างสิง่ สกปรกทีอ่ ดุ ตัน รูขมุ ขนได้อย่างหมดจดและยังไม่ทำ�ให้ผวิ แห้งกร้าน จะใช้ ชะล้างทำ�ความสะอาดผิว หรือหยดบนสำ�ลีเพือ่ เช็ดล้าง เครือ่ งสำ�อางก็ได้ เหมาะกับทุกสภาพผิว รวมทัง้ สาวๆ วัยรุน่ ทีฮ่ อร์โมนเริม่ เปลีย่ นแปลง ช่วยให้ผวิ หน้าแลดู กระจ่างใสสะอาดสดชืน่ Newsky Revitalizing Night Cream (with Marine Collagen) เซรัม ่ ทีช่ ว่ ยเสริมสร้างเซลล์ผวิ
กำ�เนิดใหม่ให้แข็งแรง ร่องรอยลึกแลดูตน้ื ขึน้ ด้วยการเติม เต็มคอลลาเจนจากปลาทะเลนํา้ ลึก เพือ่ ดึงยกกระชับผิว เมือ่ ใช้เป็นประจำ�ต่อเนือ่ งก่อนเข้านอน สำ�หรับผิวกายแค่ชะล้างด้วยสบูด่ จู ะไม่เพียงพอ แต่ ควรสครับผิวอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครัง้ เพือ่ ผลัดเซลล์ ผิวและสิง่ สกปรกทีต่ กค้างให้หมดจด ผิวจึงพร้อมเปิด รับการบำ�รุงได้อย่างลํา้ ลึก Newsky Mineral Salt Scrub เป็นเกลือสครับในนํา้ แร่ อุดมด้วยสารสกัดจาก ดอกคาโมมายด์ ทีม่ คี ณ ุ สมบัตใิ นการลดอาการอักเสบ ของผิว และช่วยให้รสู้ กึ ผ่อนคลาย สบายผิว พร้อมลดการ อุดตันของรูขมุ ขน ปรับสภาพผิวให้แลดูสมํา่ เสมอเรียบ เนียน โดยไม่ตอ้ งใช้สบูเ่ หลวหรือผลิตภัณฑ์ทำ�ความ สะอาดอืน่ ๆ ร่วมด้วย เมือ่ คุณสัมผัสได้ถงึ ผิวพรรณทีผ่ ดุ ผ่องสดใส ไม่วา่ จะ ทำ�อะไรก็ดแู จ่มใสและมีความสุขกับทุกย่างก้าวของชีวติ เพราะคุณรูจ้ กั ดูแลตัวเอง รักตัวเอง และใส่ใจกับการ คัดสรรสิง่ ดีๆ ให้ตวั เอง จนคนรอบข้างรูส้ กึ ดีไปกับคุณด้วย เช่นกัน
66 | happy+
สนใจสอบถามรายละเอียด ผลิตภัณฑ์ Newsky ได้ท่ี โรงเรียนนวดแผนโบราณ วัดพระเชตุพน ท่าเตียน ห้างสรรพสินค้าแฟชัน่ ไอส์แลนด์ ชัน้ 2 ห้อง kis 001 (ทางขึน้ บันไดเลือ่ น ทางเข้าหลัก) โรงเรียนเชตวัน สาขา แจ้งวัฒนะ (หน้าหมูบ่ า้ น สายลม ตรงข้ามตึกจัสมิน) และสาขาศาลายา เดอะมอลล์ สาขาสนามบินดอนเมือง หรือ โทร. 0-2933-0040-1 เฟซบุก๊ : Newskyproduct อีเมล : Newskyproduct@ yahoo.com
เรื่อง : นพ.พัฒน ธัญญกิตติกุล ภาพ : กุลวัฒน์ นะมิ
A few good stuff
“สามวันอันพิเศษสำ�หรับฉัน” วันเวลาค่อยๆ ล่วงเลยไปโดยไม่หยุดรอใครทั้งนั้นไม่ว่าคุณจะเป็นใคร และการผ่านไปของเวลาก็เป็นไปด้วยความเร็วคงที่แม้คุณจะรู้สึกว่าผ่านไป เร็วหรือช้าก็ตาม อย่างเช่นเวลาเรียนหนังสือ ชั่วโมงที่เราสนุกกับการเรียนจะรู้สึกว่าผ่านไปเร็วจัง ขณะที่การรอหนึ่งนาทีที่ติดไฟแดงกลับรู้สึกว่านานมาก หนึ่งปีที่ผ่านไปอาจดูเร็วสำ�หรับบางคน นี่ก็ใกล้สิ้นปีที่จะมีโอกาสฉลองปีใหม่กันอีกแล้ว ที่จริงเวลาก็ผ่านไปด้วยความเร็วเท่าเดิม แต่ละวันมี 24 ชั่วโมง เท่าเดิม หรือหนึ่งปีมี 12 เดือนเท่าเดิม แต่ความรู้สึกของเราเปลี่ยนแปลงแตกต่างกันไปตามกิจกรรมและทัศนคติของเราในขณะนั้น วันสามวันต่อไปนี้ที่ทุกคนมีเหมือนๆ กันอาจมีความสุขแตกต่างกัน ขึ้นกับมุมมองและทัศนคติของเรา วันที่ทำ�งานหนักสำ�หรับบางคนถือว่าเป็นวัน ที่เลวร้าย แต่กลับเป็นวันที่ดีสำ�หรับคนที่มีเป้าหมายและความมุ่งมั่นอยากทำ�ความฝันให้เป็นจริง และเป็นตัวบ่งบอกว่าคุณเป็นคนคิดบวกหรือไม่อีกด้วย
วันนี้
ไม่ว่าวันนี้ของคุณจะเป็นเช่นไร คุณ สามารถที่จะเลือกคิดเกี่ยวกับวันนี้ของคุณได้ ว่ามีสิ่งดีๆ อะไรเกิดขึ้นบ้าง แทนที่จะคิดว่ามีสิ่ง ไม่ดีอะไรบ้าง หรือคิดว่าเรามีอะไรดีๆ บ้าง แทนที่จะมองว่าขาดอะไรอยู่บ้าง ถ้าเราทำ�วันนี้ ให้ดีที่สุดแล้วเราก็ไม่จำ�เป็นต้องเสียใจไม่ว่าผล จะออกมาอย่างไร ความมั่นใจในการทำ�วันนี้ ให้ดีที่สุดทำ�ให้เรารู้สึกเต็มอิ่มในจิตใจ และมี ความสุขที่ไม่ขึ้นกับสถานการณ์หรือผลที่จะเกิด ขึ้น อย่างเช่น ถ้าคุณเป็นแม่บ้านก็ดูแลบ้านให้ เรียบร้อยอย่างสุดความสามารถ เป็นครูสอน ลูกศิษย์เต็มที่และเป็นแบบอย่างที่ดี ถ้าคุณทำ� วันนี้อย่างเต็มที่แล้ว คุณไม่เพียงทำ�ตัวคุณเอง ให้มีความสุขเท่านั้น คุณยังทำ�ให้คนรอบข้าง มีความสุขด้วย
วันวาน วันวานของคุณอาจเป็นวันที่เป็นเหมือนฝัน ร้าย ไม่อยากจดจำ� หลายคนถามว่าแล้วจะเป็น วันพิเศษได้อย่างไร สำ�หรับผม ประสบการณ์อัน เลวร้ายอาจเป็นสิ่งที่จะเสริมสร้างขัดเกลาชีวิต ของเราให้ดีขึ้น เข้มแข็งขึ้น เหมือนคนที่ประสบ ความสำ�เร็จหลายๆ คนในวันนี้ต่างก็เคยมี วันวานที่ทุกข์ยากมาก่อน เพียงแต่เขามีมุมมอง ต่อความล้มเหลวในแง่บวก ล้มแล้วก็ลุกขึ้น อีกแล้วบอกกับตัวเองว่า จะไม่ล้มเหมือนเดิมอีก วงจรของความสำ�เร็จต่างก็ต้องใช้ความพิเศษ ของวันวานทั้งนั้น เห็นหรือยังครับว่าวันวาน มีประโยชน์จริงๆ
วันพรุ่ง วันพรุ่งสำ�หรับผมเปรียบเสมือนความหวัง หรือโอกาสที่จะทำ�ให้ดีขึ้น ดีกว่าวันนี้ เป็นความ ทะเยอทะยานที่จะทำ�ให้ประสบความสำ�เร็จ ทำ� ฝันให้เป็นจริง คนที่มีความหวังเช่นนี้เวลาทำ� อะไร คนรอบข้างมักจะสัมผัสได้ เพราะมันจะ สื่อออกมาทางแววตา คำ�พูดและการกระทำ� เหมือนคนที่เดินอย่างมีเป้าหมายชัดเจนจะมี ความมุ่งมั่นที่เราสังเกตได้ ซึ่งต่างจากคนที่เดิน ไปเรื่อยๆ เป้าหมายไม่ชัดเจน มักจะแวะข้างทาง บ่อยตามสิ่งยั่วยวนรอบข้าง วันพรุ่งสำ�หรับผม จึงเป็นวันพิเศษด้วยประการเช่นนี้ เห็นหรือยังครับว่าคุณก็สามารถมีวันอัน พิเศษทั้งสามวันเช่นเดียวกับผม เพียงแค่ปรับ ทัศนคติ และมุมมองเพียงเล็กน้อย สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เรามักมองข้ามก็เปลี่ยนชีวิตเราให้มี ความสุขมากขึ้นได้เช่นกัน
67 happy+ | 67
เรื่อง : วีรณัฐ โรจนประภา | ภาพประกอบ : PWINTDANCE
ฝันมีราก
68 | happy+
เที่ยวรอบโลกเป็นหนึ่งในความฝันของคน จำ�นวนมาก หลายคนใช้เป็นรางวัลที่ตั้งใจมอบ ให้กับตนเองยามทำ�งานบรรลุเป้าหมาย ซึ่งการเที่ยวของแต่ละคนก็จะต่างสไตล์ กันไป บางคนชอบเที่ยวแบบชิล ชิล ไปนอน เอกเขนกรับลมชมวิว บางคนชอบเที่ยวแบบ แรมโบ้ตะลุยเก็บทุกสถานที่ไฮไลต์ ส่วนผมออก จะเอนเอียงมาทางแรมโบ้นิดๆ ด้วยคิดว่าไป ทั้งทีก็ขอเก็บเกี่ยวให้ได้มากที่สุด แต่มีข้อแม้ว่า ต้องสบายที่สุดด้วยเช่นกัน ดังนั้นผมจึงมักจะ ออกแบบโปรแกรมท่องเที่ยวเอง เพราะนอกจาก จะสนุกกับการได้วางแผนการเดินทาง การพัก การช้อปแล้ว อีกสาเหตุคอื ผมมีนสิ ยั เทีย่ วไม่คอ่ ย เหมือนคนอื่น โดยที่แรกที่วางไว้มักจะเป็น “พิพิธภัณฑ์” ประจำ�เมือง เหมือนกับต้องไปทำ�ความรู้จักสถานที่นั้น ให้ชัดและลึกก่อน แล้วค่อยไปเที่ยวจุดอื่น ไม่เช่นนั้นมันเหมือนเที่ยวแบบเบลอๆ ใครเขาว่า ที่ไหนเป็นไฮไลต์เราก็แห่ตามกันไป หลายที่ไป แล้วก็งงว่ามัน ไฮ มัน ไลต์ ตรงไหน แต่ไม่ไปก็ ไม่ได้เพราะเขาว่าหากไม่ไปเท่ากับไปไม่ถึง ต่างกับการไปโดยรู้ประวัติ ที่จะทำ�ให้เรามี ความรู้สึกร่วม ทั้งที่หลายแห่งสภาพจริงแทบ ไม่เหลืออะไรน่าสนใจให้ชมแล้ว แต่ด้วยรู้ตำ�นาน เลยทำ�ให้แค่ซากปูน กองดิน กลายเป็นของที่ ควรค่าต่อการเสียเวลาและหยาดเหงื่อในการ เดินทางมาชม นี่ละครับ ผมถึงชอบไปพิพิธภัณฑ์ แต่น่า เสียดายที่ต้องเขียนโดยไม่เกรงใจว่าพิพิธภัณฑ์ เกือบจะทุกที่ในบ้านเราแทบจะเป็นสถานที่ทิ้ง ร้าง ไม่มีการดูแลเท่าที่ควร สื่อการนำ�เสนอหาก มีการใช้ไฟฟ้าก็มักจะเสีย เปิดไม่ติด ไฟไม่ขึ้น ได้แต่เดินไปอ่านป้ายที่ติดข้างตู้กระจกโชว์ของ ที่ก็เหมือนจะไม่ได้มีการจัดแต่งเท่าใดนัก ขณะที่ในต่างประเทศเขาจะให้ความ ใส่ใจกับพิพิธภัณฑ์มากๆ หลายเมืองมีหลาย พิพิธภัณฑ์เฉพาะเรื่องแยกกันไป และที่สำ�คัญ คนในเมืองเขาล้วนให้ความสนใจ ทุกวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ พ่อแม่จะพาลูกไปต่อคิวรอเข้าชม พิพิธภัณฑ์ที่ก็มักจะมีพัฒนาการปรับปรุงการ
ทำ�นองคลองธรรม ฝันเช่นนั้นก็ไม่ควรค่าแก่ การเหนื่อยสร้าง แต่หากสาวแล้วเห็นว่าฝันนั้น มาจากความดีงามที่จะนำ�ไปสู่ความงดงาม ฝันนั้นก็คุ้มที่จะลงมือ และเมื่อพิจารณาแล้วว่าคุ้ม ตัดสินใจที่จะ เหนื่อยสร้าง การสร้างตึกต้องเริ่มด้วยการสำ�รวจ ชั้นดินระยะต่างๆ ให้ดี ต้องเลือกประเภทของ เสาให้เหมาะ ไม่เช่นนั้นตึกก็พังทลาย ฝันของเรา ก็เช่นกัน ต้องสำ�รวจให้ถ้วนถี่ ลึกซึ้ง รอบด้านถึง บริบทแวดล้อมต่างๆ ไม่ใช่เอาแต่จินตนาการฝัน เฟื่อง ไม่เช่นนั้นฝันของเราก็จะสลาย อย่างฝันทางธุรกิจก็ต้องเจาะให้ลึกถึงสิ่งที่ ผลักดันให้ลูกค้าซื้อสินค้า ฝันทางความรักก็ต้องเจาะให้ลึกถึงความ ชอบของคนที่เราหมายปอง หรือฝันอยากให้ครอบครัวมีความสุขก็ต้อง เจาะให้ลึกถึงที่มาของความสุขที่แท้จริง
นำ�เสนอใหม่ๆ เป็นระยะ ไม่ใช่เสาร์-อาทิตย์ เอาแต่เข้าห้างวนเวียนในวงจรเดิมๆ ทำ�ให้เด็ก ขาดโอกาสที่จะได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ หากเราอยากเห็นวิถีครอบครัวไทยเป็น เช่นนั้นบ้าง ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายก็ต้องช่วยกันครับ ทั้งเจ้าของพิพิธภัณฑ์ ทั้งสื่อช่วยกันโปรโมต ที่ สำ�คัญคือคุณๆ ผู้เป็นพ่อแม่ผู้ปกครองนี่แหละ ครับ ที่ต้องช่วยกันชักชวนลูกหลานเราให้ไป พิพิธภัณฑ์บ้าง แต่ก่อนจะให้รางวัลชีวิตด้วยการไปเที่ยว ตามฝัน เราก็ต้องทำ�ฝันของเราให้เป็นจริงเสีย ก่อน ซึ่งฝันจะเป็นจริงได้ก็ต้องสร้างครับ ไม่มีฝัน ใดจะเป็นจริงด้วยการหลับตาเนรมิตเอา (แม้ใจ เราอยากจะให้มีก็ตาม) และที่ต้องเตรียมใจ ไว้เลยก็คือ การสร้างนั้นแสนจะเหนื่อยเสียด้วย ดังนั้นก่อนจะเหนื่อยเราควรมาพิจารณา ให้ถ้วนถี่เสียก่อนว่า ฝันนั้นมีค่าควรแก่ หยาดเหงื่อไหม ด้วยการสาวลงไปให้ถึงที่มาของความฝัน ถ้ามาจากความอยาก ละโมบโลภมากอันผิด
เมือ่ ตอกเสาเสร็จอย่างถูกต้องแล้ว คราวนี้ การสร้างส่วนที่เหลือก็ไม่ช้า และไม่ลำ�บาก ค่อยๆ ทำ�อย่างใจเย็นไปทีละชั้นๆ อย่างไรก็ สำ�เร็จแน่เพราะมีรากฐานที่แข็งแกร่งรองรับอยู่ ไม่ได้เลื่อนลอยอย่างที่เรียกว่าการสร้างวิมานใน อากาศ เปรียบอีกแบบก็เหมือนการปลูกต้นไม้ เริ่ม ด้วยการปรับสภาพดินให้ดี เลือกเมล็ดพันธุ์ที่ดี ที่เหมาะกับดินและสภาพภูมิอากาศ พอหว่าน ลงไปแล้วคราวนี้ก็เหลือแต่คอยรดนํ้า พรวนดิน ป้องกันโรค สักพักไม้นั้นก็เติบใหญ่ การปรับดินก็คือการปรับใจเราให้ดี อยู่ใน ทำ�นองคลองธรรม การหาเมล็ดพันธุท์ ด่ี กี ค็ อื การมีเป้าหมายทีด่ ี มีคุณค่าเป็นประโยชน์ ความเหมาะแก่ภูมิอากาศก็คือการเหมาะ กับบริบทแวดล้อม ที่เหลือก็คอยดูแลกันไป วันหนึ่งย่อม เติบใหญ่งอกงามอย่างมั่นคงเพราะ ฝันของเรามีรากครับ! happy+ | 69
ทรัพย์ในธรรม
เรื่อง : ปัทมา กลิ่นทอง | ภาพประกอบ : anmom
อธิษฐานธรรม
แม้ยากจะกำ�หนดนิยามแห่งความฝัน แต่ ทุกคนล้วนมีสทิ ธิจะคิดฝัน นักเรียนมักถูกถามใน วัยเด็กว่า “โตขึน้ หนูอยากเป็นอะไร” เด็กๆ มัก จะตอบว่า อยากเป็นหมอ อยากเป็นทหาร เป็น ครู ก็วา่ กันไป สารพัดความฝันในวัยเรียน จวบจน วัยทำ�งาน น้อยคนทีจ่ ะได้ท�ำ งานตามทีฝ่ นั หลาย คนจึงทำ�งานไปพลางหาตัวตนไปพลาง กว่าจะ รูต้ วั ว่าชอบอะไรกันแน่กล็ ว่ งเข้าวัยเกษียณซะแล้ว ก่อนความชราจะมาเยือนโดยมิได้เชือ้ เชิญ คนหนุม่ สาวควรตามหาความฝันของตน และทำ� ทุกอย่างเพือ่ ให้ความฝันนัน้ เป็นจริงขึน้ มา ไม่แน่ นะ เส้นแบ่งเขตระหว่างความฝันกับความจริง อาจจะบางแค่หนวดจิง้ หรีด... จงทำ�งานหนักเพือ่ ความฝันของคุณ ทางพุทธศาสนา แบ่งความฝันออกเป็น 4 แบบ คือ บุพนิมติ เป็นการฝันถึงเรือ่ งประสบการณ์ เก่าทีย่ งั ฝังใจ (ถูกครูให้คาบไม้บรรทัดหน้าชัน้ ... หุห)ุ จิตอาวรณ์ จิตกระหวัดถึงอะไรบางอย่าง วนเวียนจนฝัน (จนเสียบหล่นๆ แบบผูช้ ายในฝัน ของ พุม่ พวง ดวงจันทร์ อิอ)ิ เทพสังหรณ์ เทพแจ้งผ่านการฝัน มักเกิด ตอนเช้ามืด (ฉีร่ ดทีน่ อนไม่เกีย่ วนะ...ฮิว้ ) ธาตุพกิ าร อาหารไม่ยอ่ ยเลยฝันวุน่ วาย (ยิง่ กว่าฮอร์โมนส์ วัยว้าวุน่ ...ชะอุย้ ) ฝันทางธรรมเรารูแ้ ล้ว ฝันทางโลกล่ะ อยูไ่ ม่ ไกล แต่ไปไม่ถงึ สักที หญิงลัล้ ลาทีอ่ ยากเจอเนือ้ คู่ (ดราม่าอีกแล้ว) คงอยากฝันเห็นงูมารัดกายา... ชิมๆิ ...ยามอธิษฐาน เรามักขอให้ลกู ช้าง (ตัวเรา) ได้โน่น นี่ นัน่ สารพัน ทำ�บุญร้อยเดียวขอพรเป็น แสนโดยไม่ลงมือทำ� ต่อให้รอ้ งเพลง หลวงพ่อ ขา...ช่วยหนูที พระประธานในโบสถ์กค็ งช่วยอะไร
70 | happy+
อธิษฐานธรรม คือธรรม ที่ควรตั้งไว้ในใจ เพื่อให้ สามารถยึดเอาผลสำ�เร็จ สูงสุดอันเป็นที่หมายไว้ได้ เพื่อจะปลูกฝังอัธยาศัย ดีงาม และทำ�ให้จิตว่าง สงบ โดยไม่เกิดความ สำ�คัญผิด และไม่เกิด สิ่งมัวหมองทับถมตน
ไม่ได้ ดังนัน้ นอกจากตัง้ จิตอธิษฐานแล้ว แน่นอน ต้องลงมือทำ�ให้ฝนั นัน้ เป็นจริงให้จงได้ โดยยึดเอา หลักธรรมคำ�สอนของพระพุทธเจ้ามาเป็นเครือ่ ง ยึดเหนีย่ ว หรือตัง้ เป็นโจทย์ไว้ในใจ (ห้ามคิด นอกใจน้า) แล้วปฏิบตั ใิ ห้ได้ ธรรมดังกล่าวอาจไม่ คุน้ หูคนไกลวัดเท่าไรนัก นัน่ คือ “อธิษฐานธรรม” อธิษฐานธรรม คือธรรมทีค่ วรตัง้ ไว้ในใจ เพือ่ ให้สามารถยึดเอาผลสำ�เร็จสูงสุดอันเป็น ทีห่ มายไว้ได้ เพือ่ จะปลูกฝังอัธยาศัยดีงาม และ ทำ�ให้จติ ว่าง สงบ โดยไม่เกิดความสำ�คัญผิด และไม่เกิดสิง่ มัวหมองทับถมตน มีดว้ ยกัน 4 ประการ คือ 1. ปัญญา รอบรูศ้ ลิ ปวิทยา ทัง้ คดีโลก คดี ธรรม ตลอดจนหยัง่ รูส้ ภาวธรรม หยัง่ รูเ้ หตุผล พิจารณาให้เข้าใจในสภาวะของสิง่ ทัง้ หลายจน เข้าถึงความจริง ปัญญานับเป็นส่วนสำ�คัญในการ เสริมบุคลิกภาพ และอุปนิสยั ใจคอ คนมีปญ ั ญาควรจะทำ�งานทีไ่ ด้ทง้ั เงินและ ความสุข จงฟังเสียงเพรียกจากหัวใจตนเองให้ ชัดเจน...แม้มคี วามฝันอันริบหรีด่ จุ แสงหิง่ ห้อย ที่ ยามตะวันขึน้ ก็พลันอับแสง แต่เมือ่ ความมืดมิดมา ครอบคลุม แสงหิง่ ห้อยก็อาจเจิดจรัสในรัตติกาล... ชีวติ เราก็เช่นกัน ยังมีหวังอยูเ่ สมอ ตราบเท่าทีย่ งั มีปญ ั ญา 2. สัจจะ ประพฤติธรรมด้วยความซือ่ สัตย์
ปฏิบตั หิ น้าทีด่ ว้ ยนํา้ ใสใจจริง เป็นตัวอย่างผูน้ ำ� ความดี ชีวกี า้ วหน้า ชือ่ เสียงโด่งดัง จงดำ�รงมัน่ ในความจริงทีร่ ชู้ ดั ด้วยปัญญา เริม่ จากจริงใจต่อ สัจจะทีใ่ ห้ไว้กบั ตนเอง สัญญาว่าจะทำ�ตามความ ฝันก็ตอ้ งทำ�ให้ได้ คิดดี ทำ�ดี ผลดียอ่ มตามมา... หว่านพืชเช่นใด ย่อมได้ผลเช่นนัน้ ...จงขุดความ ฝันจากโลกดิจทิ ลั มาสูโ่ ลกแห่งความเป็นจริง ฝัน ให้ไกล ไปให้ถงึ จบให้แรงส์ เพราะถ้าแพ้ จะไม่มี ใครจำ�คุณได้ แม้แต่ตวั คุณเอง (บรือ๋ ส์...น่ากลัวอะ) 3. จาคะ สลัดอารมณ์ขดั แย้งทีท่ ำ�ให้ทอ้ แท้ และขจัดสิง่ เย้ายวนให้สน้ิ ซาก ทัง้ อามิสสินจ้าง ไปจนกระทัง่ ถึงสละกิเลส ทำ�ให้เป็นคนมีสมรรถนะ ในการประกอบภารกิจทีร่ บั ผิดชอบให้บรรลุเป้าหมาย เราควรใคร่ครวญว่าชีวติ นีไ้ ด้ทำ�ตามฝันบ้าง
หรือยัง ดึงศักยภาพทีม่ อี ยูอ่ อกมาใช้หมดหรือยัง ขจัดความกลัวออกจากใจแล้วหรือยัง เช่น ไม่กล้า เปลีย่ นงาน เพราะกลัวรายได้ลดลง ขณะทำ�งาน ปัจจุบนั อย่างซังกะตาย ไร้ชวี ติ ชีวา อย่าลืมว่า ความจริงแล้วคนเราทำ�สิง่ ต่างๆ ได้มากกว่าทีค่ ดิ ... แม้นมิอาจเลือกเกิด แต่เราอาจเลือกออกแบบชีวติ เราเองได้ เงินอาจไม่ใช่คำ�ตอบสุดท้าย อย่ารอให้พน้ จุดทีจ่ ะย้อนกลับไปตัง้ ต้นใหม่ได้อกี 4. อุปสมะ ใจว่าง สงัดจากกิเลสทัง้ ปวง คือปลอดโปร่งใจและสงบสุข มีกำ�ลังใจเข้มแข็ง เด็ดเดีย่ ว เอาชนะอุปสรรคต่างๆ ได้อย่างไม่ยอ่ ท้อ อย่ามัวแต่กม้ หน้างุดอยูก่ บั จอมือถือจน เงิบ กระเถิบอารมณ์ กระแทกกระทัน้ กันทัง้ วัน
คืน เหมือนฝันกลางฤดูฝนไปวันๆ เราควรตามล่า หาความฝันแบบจริงจัง แบบมีเป้าหมายชัดเจน ในชีวติ ไม่ใช่มวั แต่เมาธ์มอยในไลน์ ราวกับเป็น จุดสิน้ สุดของซีรสี ช์ วี ติ แทนทีจ่ ะมัวกดบันทึกภาพ เด็ดลงจอ ควรบันทึกความฝัน รวมทัง้ กำ�หนด Deadline ไม่ให้ฝนั เลือ่ นลอย ลอยกระทงปีน้ี นอกจากตัง้ จิตอธิษฐาน ขอขมาต่อแม่พระคงคาแล้ว ก็ควรถือโอกาส “อธิษฐานธรรม” รีบใช้ธรรมะปลุกใจให้ฮกึ เหิม เพราะทุกโอกาสของกาลเวลา คือโอกาสก้าวหน้า ของชีวติ อย่ารอรี ดังคำ�พระท่านว่า กาโล ฆสติ ภูตานิ สหตฺเตเนว อตฺตนา... เวลากลืนกินสรรพสัตว์ พร้อมกันกับกลืนกิน ตัวมันเอง happy+ | 71
สุขีในญี่ปุ่น
เรือ่ งและภาพ : มารินา โคบายาชิ
Café カフェ@กินซ่า เมื่อสุภาพสตรีคิดจะนัดหมายบรรดาเพื่อนๆ มานั่งสังสรรค์คุยเล่นกันแบบมาราธอนเกิร์ลทอล์ก หรือหยุดพักขาจากการช้อปปิ้งหลายชั่วโมงจนหมด แรง สถานที่ที่เหมาะสมและเป็นหนึ่งในตัวเลือกในใจของผู้หญิงหลายคนคงเป็น “Cafée” เพราะด้วยบรรยากาศที่สบายตาน่ารักน่านั่ง รายการเครื่องดื่มที่ มีมากมายให้เลือกดื่มจนชุ่มคอพร้อมกับอาหารว่างเบาๆ ไม่ว่าจะเป็นคาวหรือหวานที่มีให้เลือกอย่างหลากหลายในปริมาณพอดีอิ่มท้อง หรือเมนูอาหาร กลางวันที่ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารประเภทแซนด์วิช พาสต้าพร้อมผักสลัดเพื่อสุขภาพ และที่สำ�คัญคือ ไม่ต้องถูกกดดันด้วยสายตาจากพนักงานที่มอง มาอย่างมีนัยว่า กินเสร็จแล้วเมื่อไหร่จะไป ไม่ว่าสาวเอเชียชาติใดก็คงจะมีความชอบคล้ายคลึงกันทุกชาติ ทำ�ให้ร้าน Cafée เป็นที่นิยมและเต็มไปด้วย ประชากรหญิง สำ�หรับวัฒนธรรม Cafée ของญี่ปุ่นนั้นถือกำ�เนิดในย่านกินซ่าซึ่งเป็นย่านเก่าแก่แต่นำ�สมัย ในกรุงโตเกียวร้าน Cafée ยุคต้นๆ เช่น ร้าน Cafe Paulista ก่อตั้งขึ้นในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1911 และเปิดให้บริการยาวนานกว่า 100 ปีจนถึงปัจจุบัน นอกจากนักเขียนชื่อดังของญี่ปุ่นในสมัยนั้นจะเป็นลูกค้า ขาประจำ�ของร้านนี้แล้ว นักร้องดังระดับโลกอย่าง จอห์น เลนนอน และโยโกะ โอโนะ ภรรยา ก็ยังติดใจในรสชาติของกาแฟที่ร้านนี้อีกด้วย ปัจจุบันย่าน กินซ่ายังคงเป็นย่านที่มีร้าน Cafée มากมายหลายร้อยร้าน มีทั้งร้านของคนญี่ปุ่นเองและร้านดังจากต่างประเทศ อย่างประเทศฝรั่งเศสที่เป็นต้นแบบของ วัฒนธรรม Cafée ของญี่ปุ่น 72 | happy+
แนะนำ�ร้าน Café ย่านกินซ่า
ร้าน HENRI CHARPENTIER เห็นชื่อแล้วอาจคิดว่าเป็นร้านสัญชาติฝรั่งเศส แต่จริงๆ แล้วร้านนี้ ก่อตั้งโดยคนญี่ปุ่นเมื่อ ค.ศ. 1969 ชื่อร้านตั้งตามชื่อของผู้ที่คิดค้น Crêepe Suzette (เครปนิ่มราดซอสส้ม) ในศตวรรษที่ 19 ผู้ก่อตั้งมีความประทับใจ ในของหวานชนิดนี้และต้องการให้ชาวญี่ปุ่นได้ลิ้มรสแห่งความสุขเช่นเดียว กับเขา จึงก่อตั้งร้าน Cafeé ที่สามารถรับประทานของหวานได้ด้วย ขึ้นที่เมืองอาชิยะ ซึ่งอยู่ใกล้กับเมืองโกเบ วัตถุดิบที่ทางร้านนำ�มาใช้ในการ ทำ�เค้กนั้นได้รับการคัดสรรมาอย่างดีจากทั่วโลก เช่น นํ้าผึ้งจากฝรั่งเศส และเนยจากฮอกไกโด ในหนึ่งปีทางร้านจะคิดค้นเค้กสูตรใหม่ๆ กว่า 100 ชนิดให้ลูกค้าได้ลิ้มลอง ร้านสาขากินซ่าจะอยู่บริเวณสี่แยกบล็อก 1 สิ่ง ก่อสร้างเป็นสไตล์ออตโตมันแลดูสวยคลาสสิก ภายในร้านมีชั้นหนังสือที่มี หนังสือ เช่น ตำ�ราอาหารฝรั่งเศสและตำ�ราขนมหวานที่ลูกค้าสามารถ หยิบมาอ่านได้ happy+ | 73
ร้าน LADUREE ร้านนี้ก็เป็นอีกหนึ่งร้านเก่าแก่ชื่อดังจากประเทศฝรั่งเศส ก่อตั้งใน ค.ศ. 1862 หรือราว 150 ปีมาแล้ว ขนมขึ้นชื่อของร้านนี้ก็คงจะไม่พ้น macaron parisien หรือ มาการองสไตล์ปารีส ที่ร้านนี้เป็นต้นตำ�รับ สาขาที่กินซ่าอยู่บริเวณชั้น 2 ภายใน ห้างสรรพสินค้า Mitsukoshi (มิสึโกชิ) ที่ตั้งอยู่ตรงสี่แยกบล็อก 4 ของถนนกินซ่า นอกจากมาการองแล้ว ทางร้านยังมีขนมหวานหน้าตาน่ารับประทานอีกหลายชนิด พร้อมกับเมนูชาและกาแฟที่มีให้เลือกอีกมากมาย แต่หากใครไม่อยากดื่มนํ้าชา กาแฟ ทางร้านก็มีแชมเปญให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกด้วย เมนูเซตแชมเปญกับ มาการอง หากใครได้ลิ้มลองก็คงได้นั่งคุยกันไปอีกยาว 74 | happy+
ภาพ : flickr.com/jiro73615, filckr.com/ishouldcoco, greencilantro.blogspot.com
ร้าน Qu’il fait bon ชื่อร้านภาษาฝรั่งเศสสัญชาติญี่ปุ่นอีกหนึ่งร้าน หากใครชอบทาร์ตผลไม้ต้อง ไม่พลาดร้านนี้ แม้ราคาต่อชิ้นอาจจะสูงสักหน่อย แต่ถ้าได้รับประทานต้องเป็นอัน ติดใจและอยากกลับมาซื้อรับประทานอีกครั้ง ทาร์ตผลไม้ของร้านนี้บางชนิดเป็น ผลไม้ตามฤดูกาลจึงสามารถหารับประทานได้เฉพาะช่วงฤดูกาลนั้นๆ หากพลาดก็ คงต้องรอกันเป็นปี ผลไม้บางชนิดก็หารับประทานกันได้ยาก เช่น white strawberry หรือสตรอว์เบอร์รีสีขาว สาขาร้านที่กินซ่านอกจากบริเวณชั้น 1 ที่สามารถเลือกซื้อ ทาร์ตผลไม้กลับไปรับประทานที่บ้านได้แล้ว บริเวณชั้นใต้ดินยังมีโซน Cafée ให้นั่ง รับประทานอีกด้วย แต่ต้องอดทนรอต่อคิวกันนานเลยทีเดียว happy+ | 75
ร้าน Cha Ginza ร้าน Cafée ชาเขียวญี่ปุ่น ตึกผอมๆ สไตล์โมเดิร์นแห่งนี้มีชาเขียวญี่ปุ่นให้เลือก ชิมเลือกซื้อหลายชนิด บริเวณชั้น 1 ของร้านเป็นบริเวณขายใบชาเขียว สามารถซื้อ กลับบ้านได้ โดยจะมีพนักงานคอยแนะนำ�ให้ความรู้และให้ลองชิมรสชาติชาเพื่อ เลือกซื้อหาชาที่ถูกใจ ชั้นบนของร้านเป็นบริเวณ Cafée สามารถดื่มชาเขียวพร้อม กับรับประทานขนมญี่ปุ่น บางครั้งก็มีการจัดแสดงสินค้า เช่น อุปกรณ์ชงขาเขียวให้ ช้อปปิ้งกันเป็นครั้งคราว หากใครอยากลองชิมชาเขียวก็สามารถลองชิมชาเขียว เอสเพรสโซ่ของทางร้านทีร่ าคาย่อมเยา เพียงแก้วละ 100 เยนได้ทบ่ี ริเวณชัน้ 1 ของร้าน จะได้ลิ้มรสชาเขียวญี่ปุ่นที่มีความหอมหวนและหลงเหลือความหวานไว้ที่ปลายลิ้น 76 | happy+
ปัจจุบันร้าน Cafée ของญี่ปุ่นนั้นมีความหลากหลายและ เน้นความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้น เช่น ร้าน Cafée แมว สำ�หรับผู้รักแมวที่สามารถพาน้องแมวมาที่ร้าน ทางร้านได้จัด ห้องนั่งเล่นสำ�หรับน้องแมวให้ได้เพลิดเพลินกันโดยเฉพาะ ร้าน Cafée เครื่องเขียนที่ภายในร้านมีการจำ�หน่ายเครื่องเขียนแปลกๆ และน่าสนใจ และมีมุม Cafée สำ�หรับคนรักเครื่องเขียนให้ได้ ดื่มดํ่าบรรยากาศท่ามกลางเครื่องเขียนที่ตนรัก เป็นต้น ในเมือง ไทย วัฒนธรรม Cafée ได้แพร่หลายขึ้นมากเช่นกัน เห็นได้จาก จำ�นวนร้าน Cafée ที่ตกแต่งได้สวยงามน่ารักไม่แพ้ที่ญี่ปุ่นและมี จำ�นวนเพิ่มขึ้นอย่างมากมายเมื่อเทียบกับในอดีต
เรื่องและภาพ : ศนิศรา
Tra elogue
ปานามา
กรุงปานามาซิตี เมืองหลวงของประเทศปานามา
คุณรูไ้ หมว่า ประเทศใดในโลกทีส่ ามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขน้ึ จากมหาสมุทรแปซิฟกิ ในยามเช้า และตกทีม่ หาสมุทรแอตแลนติกในยามเย็นได้ภายในวันเดียวกัน แล้วมีประเทศใดในโลกทีร่ ายได้หลัก มาจากการเก็บค่าผ่าน “คลอง” ทีน่ น่ั คือปานามาค่ะ ปานามาเป็นประเทศเล็กๆ อยูท่ างใต้สดุ ของอเมริกากลาง โดยเชือ่ มแผ่นดินด้านตะวันตกคือ ประเทศคอสตาริกา และด้านตะวันออกคือโคลอมเบียไว้ดว้ ยกัน นอกจากนีย้ งั มีคลองปานามาซึง่ อยู่ บริเวณคอคอดปานามา เป็นคลองขุดเพือ่ เชือ่ มมหาสมุทรแอตแลนติกกับมหาสมุทรแปซิฟกิ ทำ�ให้การ เดินทางระหว่างสองมหาสมุทรนีส้ ะดวก รวดเร็วยิง่ ขึน้ โดยมีความยาวประมาณ 80 กิโลเมตร ปานามามีเศรษฐกิจทีเ่ ติบโตรวดเร็วมากทีส่ ดุ แห่งหนึง่ ในกลุม่ ประเทศละตินอเมริกา แม้กระนัน้ ก็ยงั มีความแตกต่างระหว่างคนรวยกับคนจนอย่างเด่นชัด ประชากรปานามามีทง้ั ชนเผ่าดัง้ เดิมทีห่ ลากหลาย และผูส้ บื เชือ้ สายมาจากชาวสเปนซึง่ เข้ามา บุกเบิกลูท่ างทำ�มาหากินเมือ่ หลายร้อยปีมาแล้ว ทัง้ ยังมีชาวยุโรป อเมริกนั อินเดีย จีน รวมกันแล้วราว สามล้านคน ท่ามกลางความหลากหลายของเผ่าพันธุ์ คนทีจ่ นทีส่ ดุ คือชนเผ่าดัง้ เดิม ในขณะทีค่ นรวยนัน้ เป็นคน ชนชาติอน่ื ทีก่ ลายมาเป็นผูก้ มุ อำ�นาจทางเศรษฐกิจจากธุรกิจหลักๆ ของปานามา
เมืองทีใ่ หญ่ทส่ี ดุ และเป็นเมืองหลวงของ ประเทศคือ ปานามาซิตี ซึง่ อยูต่ ดิ ชายฝัง่ มหาสมุทรแปซิฟกิ ในขณะทีเ่ มืองซึง่ ใหญ่รอง ลงมาคือเมืองโคลอน อยูช่ ายฝัง่ มหาสมุทร แอตแลนติก happy+ | 77
1
แม้ทางการของปานามาจะประกาศกึกก้อง ว่าประเทศปานามามีอะไรๆ ทีน่ า่ สนใจมากกว่า แค่คลองปานามา และเชิญให้ผคู้ นมาลองเยีย่ ม เยือนดู แต่นกั ท่องเทีย่ วส่วนใหญ่ทไ่ี ปเยือน ปานามาก็มกั มุง่ ไปดูคลองปานามากันก่อนเป็น อันดับแรก แล้วค่อยหาแหล่งท่องเทีย่ วอืน่ ๆ และ กิจกรรมอืน่ ๆ เพือ่ ความสนุกสนานเพลิดเพลิน ทำ�กันต่อภายหลัง อันทีจ่ ริงปานามามีสง่ิ น่าสนใจมากมาย อย่างทีท่ างการปานามาพยายามจะโฆษณาออก สือ่ ไม่วา่ จะเป็นกีฬาและกิจกรรมทางนํา้ ต่างๆ การชมเมืองเก่า เดินป่า ปีนเขา ขีม่ า้ เทีย่ วชม ธรรมชาติ ช้อปปิง้ ซือ้ ของแบรนด์เนมต่างๆ หรือ แม้แต่การเข้าบ่อนกาสิโนทีม่ อี ยูเ่ กลือ่ นกลาดเพือ่ ล่อนักเสีย่ งโชค แต่ในทีส่ ดุ สิง่ แตกต่างซึง่ ไม่เหมือน ทีอ่ น่ื ใดก็คอื คลองปานามาอยูด่ นี น่ั แหละ
2
คลองปานามาไม่เพียงเป็น “จุดขาย” ทีน่ กั ท่องเทีย่ วเดินทางข้ามนํา้ ข้ามทะเล ลัดฟ้ามาดู แต่คลองปานามายังทำ�รายได้มหาศาลให้ประเทศ ปานามาอีกด้วย เรือทีจ่ ะผ่านคลองปานามาต้อง จ่ายค่าผ่านคลอง ซึง่ จะต่างกันไปตามขนาดของ เรือ เช่น เรือยอชต์จะต้องจ่ายประมาณ 1,0002,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเทีย่ ว เรือสินค้าขนาดย่อม ต้องจ่าย 150,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเทีย่ ว แต่คา่ ผ่านคลองนีย้ งั นับว่าถูกกว่าการแล่นเรืออ้อมไป สุดทวีปอเมริกาใต้ และช่วยประหยัดเวลาในการ เดินทางไปได้ถงึ 2 สัปดาห์ ซึง่ หากไม่ผา่ นคลอง ปานามาอาจจะต้องเสียค่าใช้จา่ ยต่อเทีย่ วถึงกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ! ขนาดคนจะว่ายนํา้ ผ่าน คลองปานามายังต้องจ่ายค่าผ่านเลยนะคะ เขา คิดค่าผ่าน 36 เซ็นต์ตอ่ คนต่อครัง้ ค่ะ รายได้ของปานามานอกจากจะมาจากค่า
ผ่านคลองแล้ว ยังมาจากการเป็นประเทศทีร่ บั จดทะเบียนเรือด้วย ซึง่ กิจการนีท้ �ำ ให้ประเทศ ปานามาเป็นประเทศทีม่ เี รือมาจดทะเบียนมาก ทีส่ ดุ ในโลก เหตุผลทีน่ กั เดินเรือและบริษทั เจ้าของเรือสินค้าจากทีต่ า่ งๆ ทัว่ โลกนำ�เรือมาจด ทะเบียนทีน่ เ่ี พราะปานามามีกฎระเบียบข้อบังคับ ที่ “ยืดหยุน่ ” ได้ตามใจลูกค้า นอกจากนีย้ งั คิด ราคาไม่แพง หนำ�ซํา้ ยังเป็นราคาเดียวใช้ได้กบั เรือ ทุกชนิด ทุกขนาดอีกต่างหาก งานฝีมอื อันเลืองชือ่ ของปานามาซึง่ กลาย เป็นสินค้าขายดีและไม่ควรพลาดทีจ่ ะซือ้ กลับมา เป็นของทีร่ ะลึกคือ หมวกปานามา ทีก่ ลายเป็น สัญลักษณ์ของประเทศหลังจากทีป่ ระธานาธิบดี ธีโอดอร์ รูสเวลส์ แห่งสหรัฐอเมริกานำ�มาสวม ขณะเยือนปานามาในปี ค.ศ. 1904 ทัง้ ทีจ่ ริงๆ แล้ว “หมวกปานามา” ใบทีท่ า่ นประธานาธิบดี
1-2 คลองปานามา 3 กรุงปานามาซิตี เมืองหลวงของประเทศปานามา 4 บริเวณเมืองเก่าของปานามาซึง่ ยังมีรอ่ งรอยของอิทธิพลทางสถาปัตยกรรมของยุโรป บ้านเรือนต่างๆ 5 อาทิตย์ก�ำ ลังจะลับฟ้าทีป่ านามา
3
78 | happy+
(สเปน) ในอาคาร
4
5
happy+ | 79
6
สวมอยูน่ น้ั ทำ�ในประเทศเอกวาดอร์ อย่างไรก็ตาม ปานามาสามารถผลิตหมวก ได้เองโดยการสานขึน้ มาจากใบของต้นไม้ทอ้ งถิน่ ทีเ่ รียกว่า “ต้นปาล์มโตกิลญา” หมวกปานามา นัน้ ถือกันว่า ถ้ายิง่ สานละเอียดมากก็จะยิง่ แพง หมวกทีแ่ พงและคุณภาพดีจะมีการสานลายที่ เล็กละเอียดยิบมากจนเนือ้ หมวกแน่นแต่เบาและ นิม่ ยืดหยุน่ ได้ดี สามารถม้วนหมวกทัง้ ใบสอด เข้าไปในแหวนได้เลย หมวกปานามาทีม่ คี ณ ุ ภาพ ดีและแพงมากทีส่ ดุ นัน้ ต้องเป็นหมวกทีม่ าจาก เมืองมอนเตคริสตี ซึง่ ทุกวันนีม้ คี นถักทอหมวก ฝีมอื เลิศเหลืออยูไ่ ม่กค่ี นแล้ว การเดินทางไปปานามานัน้ จากกรุงเทพฯ ต้องไปต่อเทีย่ วบินทีย่ โุ รป เช่น ทีก่ รุงอัมสเตอร์ดมั หรือกรุงเวียนนา ก่อนเดินทางต่อไปยังปานามา อีกเส้นทางหนึง่ คือ จากกรุงเทพฯ บินไปต่อเทีย่ วบิน ทีญ ่ ป่ี นุ่ และสหรัฐอเมริกา (ต้องต่อเครือ่ งอย่าง น้อยสองต่อ) ก่อนทีจ่ ะไปถึงปานามาซิตไี ด้ คนไทยทีถ่ อื หนังสือเดินทางไทย สามารถ รับวีซา่ เมือ่ ไปถึงสนามบินทีป่ านามาได้โดยเสีย ค่าวีซา่ 5 ดอลลาร์สหรัฐ และอยูใ่ นปานามา ได้ 90 วัน ถ้าคุณอยากลองหาประสบการณ์การ ท่องเทีย่ วแบบใหม่ๆ ขอแนะนำ�ให้ลองไป ชมพระอาทิตย์ขน้ึ ทีม่ หาสมุทรแปซิฟกิ และ พระอาทิตย์ตกทีม่ หาสมุทรแอตแลนติกในวัน เดียวกันทีป่ ระเทศปานามา แล้วอย่าลืมแวะไป ดูคลองปานามา หรือจะลองว่ายนํา้ ในคลอง ปานามาด้วยก็ได้ จ่ายแค่ 36 เซ็นต์เท่านัน้ เอง อ้อ...สวมหมวกปานามากลับมาอวดคนที่ เมืองไทยด้วยนะ 80 | happy+
7
8
9 6 ตึกทีท ่ �ำ การคลองปานามา 7 ช่างทำ�หมวกในเมืองมอนเตคริสตีก�ำ ลังถักสานหมวกปานามา 8 หมวกปานามา ต่างฝีมอื ต่างสี ต่างราคา 9 หมวกปานามา 10 ประธานาธิบดี ธีโอดอร์ รูสเวลส์ ของสหรัฐอเมริกาสวมหมวกปานามา
ขณะไปเยือนปานามาเมือ่ ปี ค.ศ. 1904
10
Land of Love... ความรักและมิตรภาพ บนเกาะสีชัง
การเดินทางของ นกสีฟ้า
เรือ่ งและภาพ : รัฐธนนท์ ธนาสินสิทธานนท์
บางครัง้ ระยะทางก็เป็นตัวกำ�หนดในการ เลือกจุดหมายปลายทางสำ�หรับการท่องเทีย่ ว เพราะเราต่างก็มเี วลาหยุดพักผ่อนค่อนข้างจำ�กัด ทำ�ให้เกิดถ้อยคำ�ในทำ�นองทีว่ า่ “ไปเทีย่ วใกล้ๆ ก็พอ เพราะมีเวลาน้อย” แต่ความไกลหรือใกล้กไ็ ม่ได้เป็นตัวชีว้ ดั ความสุขหรือความประทับใจ แบบว่ายิง่ ไกลก็ยง่ิ ดี อะไรอย่างนี้ เพราะบางทีสถานทีใ่ กล้ๆ ก็สร้าง ความประทับใจให้กบั เราได้เป็นอย่างดี อย่างเช่น สถานทีท่ ม่ี ชี อ่ื ว่า...เกาะสีชงั เกาะสีชงั ตัง้ อยูใ่ นจังหวัดชลบุรี เป็นเกาะ เล็กๆ มีฐานะเป็นอำ�เภอ และมีขนาดเล็กทีส่ ดุ ของ ประเทศไทย โดยมีพน้ื ทีเ่ พียง 7.9 ตารางกิโลเมตร อยูห่ า่ งจากกรุงเทพมหานครแค่ 100 กิโลเมตร และห่างจากฝัง่ ศรีราชาแค่ 12 กิโลเมตร นัง่ เรือ โดยสารข้ามไปยังเกาะสีชงั ใช้เวลาเพียง 45 นาที เกาะสีชงั แห่งนีถ้ อื เป็นพืน้ ทีส่ �ำ คัญทาง ประวัตศิ าสตร์เพราะเป็นสถานทีป่ ระทับของ พระเจ้าแผ่นดินถึง 3 พระองค์ คือ รัชกาลที่ 4 รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 โดยมีพระจุฑาธุช ราชฐาน ซึง่ เป็นพระราชวังบนเกาะแห่งเดียวใน ประเทศไทย สร้างขึน้ ในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นที่ ประทับแปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จ ปารี ฮัท...กระท่อมริมผา มีนา้ํ กับฟ้าเป็นเพือ่ น พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั และพระราชวงศ์ ผมเข้าพักที่ ปารี ฮัท รีสอร์ต ซึง่ ตัง้ อยูท่ างทิศตะวันตกของเกาะสีชงั เห็นแล้วก็รสู้ กึ คุน้ ๆ จนมา ทราบว่าทีน่ เ่ี คยเป็นฉากในละครดังช่อง 3 เรือ่ ง เกมร้ายเกมรัก (ณเดชน์ - ญาญ่า) และภาพยนตร์ เรือ่ งปืนใหญ่จอมสลัด โดยชือ่ ของรีสอร์ตก็มาจากชือ่ ตัวเอกในภาพยนตร์ ทีช่ อ่ื ว่า “ปารี” ซึง่ มาจาก ภาษามลายู แปลว่า “กระเบน” และถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าหลังคาของกระท่อมก็ได้แรงบันดาลใจมา จากปลากระเบนด้วย ปารี ฮัท รีสอร์ต เป็นทีพ่ กั สไตล์ธรรมชาตินยิ ม ทีถ่ กู ออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติอย่าง สวยงาม จากบริเวณห้องพักทีส่ ร้างจากไม้ไผ่เราสามารถมองเห็นทะเลกว้าง ฟังเสียงคลืน่ กระทบผา ชมพระอาทิตย์ลบั ขอบฟ้า โดยกระท่อมทีพ่ กั นีม้ ที ง้ั ส่วนทีม่ โี ทรทัศน์ เครือ่ งปรับอากาศ เครือ่ งทำ�นํา้ ร้อน และส่วนทีไ่ ม่มเี ครือ่ งใช้ไฟฟ้า่ เหล่านัน้ เนือ่ งจากมีลมธรรมชาติและอากาศเย็นสบายตลอดปี ทีส่ �ำ คัญ ไม่มยี งุ ด้วยนะครับ ทีน่ ม่ี กี จิ กรรมให้ท�ำ มากมาย อาทิ กระโดดผา ดำ�นํา้ หรือว่ายนํา้ เป็นต้น แต่กจิ กรรมทีท่ างรีสอร์ต แนะนำ�และเน้นก็คอื การพักผ่อนด้วยการนอน หลังจากได้นอนพักทีน่ แ่ี ล้ว รูส้ กึ ได้เลยว่า เราไม่ได้นอน หลับสบายๆ อย่างนีม้ านานแล้ว นอกจากการนอนพักแล้วก็ยงั มีการกิน ซึง่ อาหารของทีน่ อ่ี ร่อย ทีส่ �ำ คัญ คือ สด สะอาด ปลอดภัย ผักทีน่ �ำ มาปรุงก็ปลูกเอง และไม่ใส่ผงชูรส (ราคาทีพ่ กั จะรวมค่าอาหารทะเล 3 มือ้ และบาร์บคี วิ ซีฟดู้ ) สำ�หรับคนทีร่ กั สัตว์ หากต้องการนำ�สัตว์เลีย้ งมาด้วยก็ได้ เพราะเขามีพน้ื ทีไ่ ว้รบั รองสัตว์เลีย้ งด้วย happy+ | 81
ชายหาดอัษฎางค์
สีชงั ...เกาะเล็กๆ แต่มากมายเสน่ห์
ช่วงเวลาทีผ่ มอยูบ่ นเกาะสีชงั นัน้ มีสายฝน พรำ�อยูเ่ ป็นระยะ อาจจะทำ�ให้ทอ้ งฟ้าดูเป็นสีเทา บ้าง แต่กช็ ว่ ยให้บรรยากาศชุม่ ชืน่ ด้วยเช่นกัน และทีส่ �ำ คัญความงดงามของธรรมชาติยงั คงมีให้ เราได้เห็นและสัมผัสมากมาย สีชงั เป็นเกาะทีม่ ชี ายหาดเพียงแห่งเดียว คือ หาดถํา้ พัง (อ่าวอัษฎางค์) ซึง่ มีลกั ษณะเป็น อ่าวโค้ง หาดทรายขาว นํา้ ใส ชวนให้ลงไปเล่น นํา้ มาก และต้องขอชมชาวเกาะสีชงั ทีด่ แู ลรักษา ชายหาดให้สวยสะอาด ทำ�ให้ผมู้ าเยือนอย่างผม และนักท่องเทีย่ วคนอืน่ ๆ ได้สมั ผัสทะเลอย่างมี ความสุข
82 | happy+
นอกจากธรรมชาติทส่ี วยงามแล้ว สิง่ ทีน่ �ำ พา นักท่องเทีย่ วทัง้ ชาวไทยและชาวต่างชาติให้มาที่ เกาะแห่งนี้ ก็คอื ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ซึง่ ตัง้ อยูบ่ น เขาคยาศิระ มีลกั ษณะเป็นอาคารทรงวิหารจีนที่ ปลูกสร้างให้เชือ่ มต่อเป็นหนึง่ เดียวกับตัวถํา้ ส่วน ลักษณะของเจ้าพ่อเขาใหญ่นน้ั เป็นรูปหินทีอ่ ยู่ ในถํา้ และเกิดขึน้ เองจากธรรมชาติเมือ่ หลายหมืน่ ปีมาแล้ว โดยเป็นสิง่ ศักดิส์ ทิ ธิท์ ช่ี าวเกาะสีชงั ให้ ความเคารพนับถือ และเชือ่ กันว่าหากผูใ้ ดมา กราบไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่ตดิ ต่อกัน 3 ปี จะได้ โชคลาภและสมหวังในสิง่ ทีห่ วังไว้ บนยอดเขาเดียวกันนี้ ยังมีมณฑปรอย พระพุทธบาท ทีพ่ ระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยูห่ วั ทรงอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ ให้เราได้เดินขึน้ มากราบไหว้สกั การะเพือ่ ความเป็นสิรมิ งคล และเรายังสามารถมองเห็น ทิวทัศน์ทส่ี วยงามของเกาะสีชงั ได้จากมุมนี้ อีกด้วย
ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่
มิตรภาพ...ภาพแห่งความประทับใจ
หลังจากทีไ่ ด้พกั ผ่อน รวมถึงได้เดินทางไป กราบนมัสการรอยพระพุทธบาทจำ�ลอง กราบ ไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่ สิง่ ศักดิส์ ทิ ธิบ์ นเกาะสีชงั และ ชมชายหาดถํา้ พัง ชายหาดแห่งเดียวบนเกาะสีชงั แล้ว โปรแกรมต่อไปก็คอื การเยีย่ มชม รศ 110 ศูนย์เรียนรู้ และทีพ่ กั สไตล์ Green Small Hotel
ที่ รศ 110 ผมมีโอกาสได้นง่ั คุยกับคุณตา ใจดีทา่ นหนึง่ มาทราบภายหลังว่าท่านชือ่ คุณตา อำ�พัน นอกจากจะได้พดู คุยและรับประทาน อาหารร่วมกันแล้ว คุณตายังมอบความสุขให้กบั พวกเรา ด้วยการเป่าฮาร์โมนิกา เป็นบทเพลงแสน ไพเราะ และก่อนจากกันคุณตายังมอบงานศิลปะ ภาพวาดบนกระเบือ้ งเคลือบ ทีค่ ณ ุ ตาเป็นผูว้ าด ให้ผมและเพือ่ นๆ ไว้เป็นทีร่ ะลึกอีกด้วย พร้อม กับกล่าวอวยพรให้เดินทางกลับดีๆ ด้วยรอยยิม้ ที่ เอ็นดูพวกเราราวกับเป็นลูกหลาน การเดินทางคราวนี้ สร้างความทรงจำ�และ ความประทับใจดีๆ ให้กบั ผมมากมาย สำ�หรับผม แล้ว สีชงั เป็นดินแดนแห่งความรักและมิตรภาพ ที่ มีสง่ิ น่าสนใจซุกซ่อนอยู่ รอคอยให้พวกเราเดินทาง ไปค้นหา และผมเชือ่ ว่าหากใครได้มาพักผ่อนใน ดินแดนแห่งนี้ ก็จะได้รบั ความประทับใจกลับไป เช่นเดียวกันกับผม
ทีพ่ กั • ปารี ฮัท เกาะสีชงั เป็นราคาแพ็กเกจ พร้อม อาหารทะเล 3 มือ้ + บาร์บคี วิ ซีฟดู้ • วันธรรมดา อาทิตย์-ศุกร์ กระท่อมพัดลม 2,500 บ. / 1 ท่าน กระท่อมแอร์ 2,700 บ. / 1 ท่าน • วันเสาร์ และวันหยุดพิเศษ กระท่อมพัดลม 2,900 บ. / 1 ท่าน กระท่อมแอร์ 3,100 บ. / 1 ท่าน • เทศกาลพิเศษและวันหยุด นักขัตฤกษ์ เพิม่ 500 บ. / ท่าน สำ�รองห้องพักหรือสอบถาม ข้อมูลเพิม่ เติมได้ท่ี 08-7903-4300
การเดินทาง • กรุงเทพฯ - เกาะลอย ศรีราชา รถยนต์สว่ นตัว สามารถขับตรงไปทีท่ า่ เรือเกาะลอย และสามารถจอด รถไว้ทล่ี านจอดรถข้างศูนย์ประชาสัมพันธ์เกาะลอยข้างศาลเจ้าแม่ กวนอิมได้ฟรี รถโดยสารประจำ�ทาง ขึน้ รถจากสถานีขนส่งเอกมัยไปศรีราชา ลงรถทีห่ น้าห้างโรบินสันศรีราชาแล้วต่อรถมอเตอร์ไซค์รบั จ้างหรือ สามล้อเครือ่ งมายังท่าเรือเกาะลอย หรือขึน้ รถตูโ้ ดยสารทีอ่ นุสาวรีย์ ชัยสมรภูมิ ข้างศูนย์รถยนต์ SUZUKI • เกาะลอย ศรีราชา - เกาะสีชงั ขึน้ เรือโดยสารจากท่าเรือเกาะลอยศรีราชาไปเกาะสีชงั มีเรือบริการ ทุกวันระหว่างเวลา 07.00-20.00 น. โดยจะออกทุกๆ ต้นชัว่ โมง ใช้ระยะเวลาประมาณ 40 นาที อัตราค่าโดยสารคนละ 50 บาท • เกาะสีชงั - เกาะลอย ศรีราชา ขึน้ เรือโดยสารทีท่ า่ เรือเทศบาลหน้าเกาะ มีเรือโดยสารบริการ ตัง้ แต่ เวลาประมาณ 06.00-18.00 น. เรือออกทุกๆ ต้นชัว่ โมง สอบถามรายละเอียดเรือ่ งเรือข้ามเกาะเพิม่ เติมได้ท่ี เรือสีชงั พาเลซ โทร. 0-3821-6276-82 หรือเรือแสงประทีปบริการ โทร. 0-38313687
happy+ | 83
one happy day เรื่องและภาพ : รัฐธนนท์ ธนาสินสิทธานนท์ facebook.com/lek.ratthanon
ตามรอยความฝัน... ผู้สร้างตำ�นานคาวบอยไทย
“ผมฝันอยากเป็นคาวบอยมาตัง้ แต่เด็กๆ” เป็นถ้อยคำ�และความฝันใน วัยเยาว์ของคุณโชคชัย บูลกุล ผูส้ ร้างตำ�นานคาวบอยไทยแห่งฟาร์มโชคชัย และในวันนีเ้ ราจะไปชมอาณาจักรแห่งความทรงจำ�ของเขา ผ่านของสะสม ในทุกช่วงชีวติ ทีผ่ า่ นมา ซึง่ ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีมาตลอดระยะเวลากว่า 60 ปี ทีพ่ พิ ธิ ภัณฑ์โชคชัย
1
สวนสัตว์เผือก การเข้าชมพิพธิ ภัณฑ์จะมีเจ้าหน้าทีน่ �ำ ชม และคอยเล่าเรือ่ งราวรายละเอียดต่างๆ ให้ผเู้ ข้าชมฟัง โดยเริม่ ต้นที ่ “สวนสัตว์เผือก” ซึง่ คุณโชคชัย เป็นผูท้ ม่ี คี วามชืน่ ชอบในการเลีย้ งสัตว์ จึงได้มกี ารจัดแสดงสวนสัตว์เผือกที่ หาชมได้ยากและหลากหลายชนิดในพิพธิ ภัณฑ์แห่งนีด้ ว้ ย อาทิ จระเข้เผือก, ลิงเผือก, สกัง๊ ค์, แรคคูน, เสือขาว และสิงโตขาว เป็นต้น 84 | happy+
2
เรือนไทยประยุกต์และห้องเบญจรงค์ โซนต่อมาเจ้าหน้าทีพ่ าเราไปชมเรือนไทยประยุกต์และห้องเบญจรงค์ โดยได้น�ำ บ้านทรงไทยมาจัดแสดงให้คนรุน่ หลังได้ศกึ ษาถึงวัฒนธรรมและวิถี ชีวติ ของคนไทยในอดีต พร้อมทัง้ มีการจัดแสดงเครือ่ งเบญจรงค์ ซึง่ เป็นศิลป หัตถกรรมทีม่ รี ปู ลักษณ์และลวดลายงดงามเป็นเอกลักษณ์ของไทย
3
พิพธิ ภัณฑ์โชคชัย จากนัน้ เราก็เข้าชมนิทรรศการต่อทีอ่ าคารหลักของ พิพธิ ภัณฑ์ ซึง่ แบ่งออกเป็น 5 ชัน้ โดยเริม่ ทีช่ น้ั 5 จัด แสดงบรรยากาศจำ�ลองของป่าดงดิบ “ดงพญาไฟ” ในช่วงปี พ.ศ. 2499 ซึง่ มีสถานทีส่ �ำ คัญอย่าง “นํา้ ตก เหวสุวตั ” พร้อมด้วยบรรดาสัตว์ปา่ น้อยใหญ่นานาชนิด ขนาดเท่าของจริง ชัน้ 4 จะเป็นการรวบรวมสิง่ ของทีค่ ณ ุ โชคชัยเก็บ สะสมมากว่า 60 ปี ซึง่ ของทุกชิน้ เป็นตัวแทนความ ทรงจำ�ในเรือ่ งราวต่างๆ ทีผ่ า่ นเข้ามาในชีวติ ของท่าน ได้เป็นอย่างดี ชัน้ 3 จัดแสดงบรรยากาศจำ�ลองการใช้ชวี ติ ของ คุณโชคชัยในยุคบุกเบิกฟาร์มในปี พ.ศ. 2500 และ ภาพถ่ายเรือ่ งราวประวัตชิ วี ติ ส่วนตัว และครอบครัว รวม ถึงการก่อตัง้ ฟาร์มโชคชัยตัง้ แต่อดีตจนถึงปัจจุบนั ชัน้ 2 ในชัน้ นีจ้ ะมีสามห้อง โดยห้องแรกจัดแสดง ของสะสมประเภทเขาสัตว์จริง และเขาสัตว์จ�ำ ลองหลาก หลายชนิด ห้องทีส่ องเป็นอาวุธคูใ่ จของคาวบอย เป็น ปืนชนิดต่างๆ กว่า 400 กระบอก กับกล้องถ่ายภาพและ เลนส์อกี มากมาย และห้องสุดท้ายจัดแสดงคริสตัลลํา้ ค่า
และหาชมได้ยากกว่า 500 ชุด มาถึงชัน้ สุดท้ายของพิพธิ ภัณฑ์ หรือชัน้ ที่ 1 ซึง่ จัดแสดงรถยนต์ทห่ี า ชมได้ยาก และรถยนต์ทค่ี ณ ุ โชคชัย มีความชืน่ ชอบ รวมถึงรถยนต์คนั แรกทีค่ ณ ุ โชคชัยเก็บเงินซือ้ ด้วย ตัวเอง ตลอดระยะเวลากว่าสอง ชัว่ โมงทีเ่ ราเดินชมพิพธิ ภัณฑ์แห่งนี้ ทำ�ให้เราได้เห็นเรือ่ งราวความ ทรงจำ� และเส้นทางแห่งความฝัน ของคุณโชคชัย บูลกุล ตัง้ แต่เริม่ บุกเบิกจนถึงการสร้างความสำ�เร็จ ให้กบั ฟาร์มโชคชัย ซึง่ นอกจากเรา จะได้รจู้ กั ตัวตนคุณโชคชัยมาก ยิง่ ขึน้ แล้ว เรายังได้รบั แรงบันดาลใจ ในการดำ�เนินชีวติ และการมุง่ มัน่ สร้างความฝันให้เป็นความจริง อีกด้วย
Tips
พิพธิ ภัณฑ์โชคชัย ตัง้ อยูท่ ร่ี มิ ถนนวิภาวดี-รังสิต ฝัง่ ขาเข้า (ก่อนถึงศูนย์การค้าเซียร์ รังสิต) เปิดเวลา 09.00-18.00 น. วันอังคาร - วันอาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์ (ปิดรับทัวร์กลุม่ สุดท้ายเวลา 16.00 น.) ค่าเข้าชมพิพธิ ภัณฑ์ ผูใ้ หญ่ชาวไทย 300 บาท เด็กไทย 150 บาท (ส่วนสูงไม่เกิน 150 ซม.) เด็กส่วนสูงไม่เกิน 100 ซม. เข้าชมฟรี สอบถามเพิม่ เติม โทร. 0-2532-2846 ต่อ 1903, 0-2998-9346 happy+ | 85
เรื่อง : imaginism
โคมไฟผักกาดขาว
ขัว้ ผักกาด - ฟิวเจอร์บอร์ด
ช่วงเทศกาลกินเจในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หลายคนคงอิ่มบุญที่ได้ลดละการบริโภค เนื้อสัตว์ลงไปบ้าง และอาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำ�ให้ บางคนเกิดติดใจนิยมกินผักต่อเนื่องแม้จะหมด หน้าเทศกาลไปแล้ว ตอนไปเดินตลาดเห็นผักกาด ขาวอวบดูฉํ่านํ้ากรุบกรอบน่ากิน เป็นผักที่ ดูแล้วสดชืน่ มีชวี ติ ชีวาดี เคยได้ยนิ ว่าชาวจีนนิยม นำ�ผักกาดขาวจำ�ลองมาประดับบ้าน เพราะ คำ�ว่าผักกาดขาวในภาษาจีน คือ “แปะฉ่าย” (แปะ-สีขาว, ฉ่าย-ผัก) ซึ่งพ้องเสียงกับคำ�ว่า “แปะใช้” (แปะ-ร้อย, ใช้-โชคลาภ) ซึ่งหมายถึง โชคดีร้อยอย่างนั่นเอง นอกจากนี้ยังนิยมกิน ผักกาดขาวในเทศกาลเพราะเชื่อว่าจะทำ�ให้ เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น เอาละ...งั้นเรามาลองทำ�ของแต่งบ้านเก๋ๆ อย่าง “โคมไฟผักกาดขาว” ไว้รับไลฟ์สไตล์ของ ผู้นิยมบริโภคผักกันดีกว่า อุปกรณ์ • โคมไฟที่ใช้หลอดประหยัด ไฟหรือหลอด LED (เพื่อไม่ให้เกิด อันตรายเมื่อกระดาษเจอกับความ ร้อน) เลือกชนิดที่มีโป๊ะครอบทรงรี หรือกลมขนาดเล็ก • ใบผักกาด-กระดาษที่ใช้ ทำ�ใบผักกาด ควรมีความบาง โปร่งแสงแต่ไม่โปร่งใส ขยำ�แล้วมี รอยยับไม่คลายตัวง่าย สามารถ ย้อมสีได้โดยกระดาษไม่เปื่อย เช่น กระดาษร่างแบบสีขาวขุ่น กระดาษย่นย้อมสี กระดาษทิชชู่ (แบบแผ่นที่ใช้ทำ�การฝีมือ) • ขั้วผักกาด-แผ่นฟิวเจอร์ บอร์ดสีขาวแบบหนาตัดเป็นแผ่น กลมขนาดไล่ๆ กัน เจาะรูตรงกลาง ทุกแผ่น 86 | happy+
ใบผักกาด - กระดาษซ้อนหลายๆ ชัน้ โคมไฟทรงรี
ขั้นตอน 1. แผ่นฟิวเจอร์บอร์ดติดด้วยกาว ยางซ้อนทับลดหลั่นกันเป็นขั้ว ผักกาด 2. ตัดกระดาษเป็นรูปใบผักกาด ขนาดเล็กใหญ่ไล่ๆ กันไป อาจใช้ กระดาษย้อมสีสำ�เร็จรูป สีเขียวขาว สีเขียวอ่อน-เขียวแก่ หรือย้อม สีเองโดยย้อมส่วนปลายใบบางๆ ให้เป็นธรรมชาติ หากย้อมสีแต่ละ แผ่นหลังตัดจะทำ�ให้ได้สีเข้มอ่อน ไม่เท่ากันในแต่ละกลีบ โดยใบชั้น ในย้อมสีอ่อน ใบชั้นนอกย้อมสีเข้ม กว่า จะทำ�ให้ดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น
ขยำ�ส่วนปลายใบให้ย่น ส่วนโคน ใบขยำ�เล็กน้อยในแนวตั้ง 3. นำ�ใบผักกาดใบเล็กติดกาวยาง ลงบนขั้วชั้นล่างให้รอบ ในชั้นต่อไป ใช้ใบใหญ่ขึ้นโดยติดสลับระหว่าง ใบชั้นใน จนกว่าจะได้ผักกาดอวบๆ ที่สัดส่วนเหมาะสมกับโคมไฟที่มีอยู่ 4. เอาต้นผักกาดกระดาษสวม ทับลงบนโคมไฟ ร้อยสายไฟผ่าน รูตรงกลางทีเ่ ตรียมไว้ เลือกหลอดไฟ ที่ให้สีขาวหรือขาวนวล จะทำ�ให้ ผักกาดดูเขียวสวยกว่าแสงสีขาว เหลือง 5. หากต้องการนำ�โคมผักกาดไป สวมทับโคมเพดาน ให้ตัดฟิวเจอร์ บอร์ดเว้นช่องไว้เล็กน้อยพอให้สวม รอบสายไฟได้ (หลังสวมเข้ากับ สายไฟให้แล้วเสริมใบผักกาดปิด ช่องว่าง) โคมไฟผักกาดขาวนี้จะทำ�เอง คนเดียวหรือชวนสมาชิกในบ้าน ช่วยกันทำ� ช่วยกันขยำ� ช่วยกัน แปะคนละไม้คนละมือก็ยิ่งสนุก แสงไฟนวลๆ จากโคมไฟกระดาษ นอกจากจะทำ�ให้มุมรับประทาน อาหารของเราดูน่ารักอบอุ่นขึ้น แล้ว สีสันขาวแกมเขียวของโคมไฟ ยังช่วยให้รู้สึกสะอาดสดชื่นได้อีก ด้วย
happy+ X Sabai-arom
Sabai-arom เพื่อความสุขอย่างยั่งยืน หากเอ่ยถึง Sabai-arom เราจะนึกถึงผลิตภัณฑ์ทคี่ ดั สรรส่วนผสมจากธรรมชาติซงึ่ ส่งกลิน่ หอมละมุนละไม เพียงแค่ทดลอง ใช้กส็ มั ผัสถึงความสุขได้แล้ว ยิง่ เมือ่ ได้รจู้ กั Sabai-arom มากขึน้ ทำ�ให้ทราบว่าเป้าหมายแท้จริงของแบรนด์คอื การพัฒนาความสุข ที่เรียบง่าย ทว่ายั่งยืน และกลมกลืนไปกับธรรมชาติอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย ตามแนวคิด Sabai-arom Sustainable Happiness ซึ่งคุณศศธรณ์ ณ สงขลา ผู้บริหารของสบายอารมณ์เล่าให้ฟังว่ามีหลักการสำ�คัญคือ 1. ใช้วัตถุดิบจากพืช 100% (ปราศจาก ส่วนผสมจากสัตว์) โดยรับซื้อวัตถุดิบจากเกษตรกรอินทรีย์ที่ดำ�เนินชีวิตในวิถีพอเพียง ในราคาที่เกษตรกรเป็นผู้กำ�หนดเอง 2. ผลิตด้วยความตั้งใจที่จะไม่เบียดเบียนธรรมชาติ สัตว์ และมนุษย์ 3. ใช้วัตถุดิบที่สนับสนุนภูมิปัญญาท้องถิ่น ดังเช่น คอลเลกชัน Happy Rice ที่ได้แรงบันดาลใจจากชุมชนเกษตรที่ตำ�บลทมอ อำ�เภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ โดยทุกขั้นตอนของการผลิตข้าวอินทรีย์ของชาวทมอพึ่งพากลไก ธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ ปราศจากการใช้สารเคมี ทำ�ให้ได้ผลิตผลข้าวที่ปลอดภัยและยั่งยืน นอกจากนี้ข้าวเกษตรอินทรีย์พันธุ์พื้นเมือง เช่น ข้าว ปะกากำ�ปรึน ข้าวปะการำ�ดวน หรือข้าวเนียนกวง ยังทรงคุณค่าต่อกายใจของชาวทมอ ด้วยปลูกกันมาแต่ครั้งบรรพบุรุษ ซึ่งปัจจุบันชาวทมอยังคง ปลูกข้าวเหล่านี้เพื่อไม่ให้สูญพันธุ์ไปท่ามกลางกระแสการปลูกข้าวเพื่อการค้า 4. ให้ความสุขผ่อนคลายแก่ผู้ใช้ ผู้สนใจผลิตภัณฑ์ของสบายอารมณ์ นอกจากจะไปเยี่ยมชมที่ร้านบู๊ทส์แล้ว ในวันนี้สบายอารมณ์ได้มีร้านของตัวเองอยู่ที่สวนจตุจักร โครงการ 3 ซอย 44/1 ที่ให้กลิ่นอายคล้ายอยู่ในตลาดผลไม้ ด้วยการนำ�ไม้เก่า กระบะผลไม้ และกระดานดำ�มาตกแต่ง คละเคล้าด้วยกลิ่นหอมของผลิตภัณฑ์ สบายอารมณ์ ที่ทุกคอลเลกชันมีเรื่องราวแห่งความสุขบรรจุอยู่ และอยากให้คุณๆ ได้รับความสุขใจนั้นกลับไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0-2372-2468 หรือ www.sabai-arom.com
greenshop review เรื่องและภาพ : ต้องการ
Atzumi Raw Café ภูเก็ต นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้กินอาหาร Raw Food แบบเต็มมื้อค่ะ ที่ผ่านมาเคยกินแต่พวกเบเกอรี่เท่านั้น ร้านอาหาร Raw Food ในเมืองไทยหายาก เต็มที แต่วันนี้ฉันมาเจอร้าน Atzumi Raw Cafeé ที่ภูเก็ต อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมที่พักนัก ก็เลยแวะชิมค่ะ
Raw Food หมายถึง การปรุงอาหารจากพืชผักที่ไม่ผ่าน ความร้อน หรือถ้าผ่านก็ไม่เกิน 140 องศาฟาเรนไฮต์ หรือ ประมาณ 43 องศาเซลเซียส ซึ่งจะไม่ทำ�ให้คุณค่าทางอาหาร สูญเสียไป เพราะอาหารที่เรากินกันทุกวันนี้จะสูญเสียคุณค่าทาง อาหารไปกับกระบวนการปรุงเสียเยอะ ทำ�ให้เคมีบางตัวในสาร อาหารเปลี่ยนไปด้วย ดังนั้น Raw Food จึงเป็นการปรุงอาหารที่ สามารถรักษาคุณค่าทางอาหารได้สุดยอดเลยทีเดียว การล้างพิษ แบบธรรมชาติบำ�บัดต่างๆ ก็จะให้กินอาหารที่ไม่ผ่านกระบวนการ อะไรเลย อย่างนํา้ ผักผลไม้หรือผลไม้สดในช่วงล้างพิษ ตัวฉันเองก็ เคยผ่านการกินเพียงผักสดผลไม้สดมานานถึง 9 เดือน พอได้ชิม อาหาร Raw Food จึงรู้สึกคุ้นเคยไม่แปลกลิ้นนัก แต่ถ้าใครไม่อิน เรื่องสุขภาพอาจรู้สึกแปลกๆ กับรสชาติและรสสัมผัสของอาหาร นิดหน่อยค่ะ ต้องเตรียมใจไว้ก่อนนะคะ 88 | happy+
ร้าน Atzumi อยู่ที่ราไวย์ค่ะ ริมถนนเลย หาไม่ยาก ด้านหน้าเป็น Juice Bar มีที่นั่ง 2-3 ที่ ส่วนร้านอาหารจะอยู่บริเวณสวนด้านหลัง ซึ่งเงียบสงบดี พอเข้ามาเขาก็นำ�นํ้าชามาให้ดื่ม ฟรี ฉันกับเพื่อนหยิบเมนูมาอ่านอย่างละเอียด เพราะวัตถุดิบหลายๆ อย่างใช้ไม่ได้กับอาหาร Raw Food เช่น นมและชีส หรือวัตถุดิบที่ต้อง ผ่านความร้อนสูงก่อน อย่างพวกอาหารเส้น ต่างๆ ดังนั้นจึงต้องมีการคิดวัตถุดิบทดแทนใน เมนูเดียวกัน ฉันลองสั่ง Raw Sagna (มาจาก Lasagna) มาชิมดู ซึ่งทางร้านใช้ซุคคินีฝานบาง มากๆ แทนแผ่นพาสต้า ตัวซอสมารินาร่าใช้ มะเขือเทศเป็นหลัก รสชาติดีและหอมกลิ่น สมุนไพร มีส่วนผสมอื่นๆ ที่ผสมผสานกันออก มาอร่อยไม่แพ้ซอสมารินาร่าแบบปกติ ตัวที่ใช้ แทนชีสคือ Fermented Almond Cheese รวมๆ กันออกมาเป็นอาหารที่อร่อยมากค่ะ ยังมีความ คล้ายคลึง Lasagna ตัวจริงอยู่ รสชาติก็เข้มข้น ทีเดียวถึงแม้จะไม่ร้อนแบบ Lasagna จานจริง ก็ตาม นี่เป็นจานที่ฉันรู้สึกติดใจในความอร่อย เลยค่ะ นอกจากนี้ที่สั่งมากินก็มีส้มตำ�ผลไม้ซึ่ง ตัวเมนูเองก็มีลักษณะเป็น Raw Food อยู่แล้ว จึงไม่น่าตื่นเต้นมาก และอีกจานที่อยากแนะนำ� คือ Walnut and Macadamia Fig Pate
Stuffed Mushroom Caps ชื่อยาวหน่อยนะคะ แต่หน้าตาและรสชาติดีมาก และเนื่องจากไม่ ผ่านความร้อนสูง ตัวเห็ดหอมที่เป็นฐานจึงยัง กรอบๆ สดๆ อยู่ ได้รสสัมผัสต่างจากเห็ดหอม ที่เคยกิน นับเป็นความแตกต่างที่ฉันชอบค่ะ แต่ ที่คนส่วนใหญ่อาจจะไม่คุ้นเคยนักก็เป็นพวก จานซุป เพราะเรามักคุ้นกับการกินซุปร้อนๆ แต่ สำ�หรับ Raw Food นี่ยังไงก็ร้อนได้ไม่เกิน 43 องศาเซลเซียส ดังนั้นซุปจึงเป็นซุปเย็นค่ะ ฉันสั่ง Creamy Caramelized French Onion Soup มา ซด รู้สึกเค็มไปนิดแต่ก็อร่อยใกล้เคียงกับ French Onion Soup แท้ๆ ทีเดียว ความที่มันเป็นซุป เย็น บางคนที่ไม่ได้เตรียมใจมาอาจรับรสชาติ ซุปเย็นๆ ไม่ได้ ดังนั้นร้านแบบนี้หากจะพาใคร มาร่วมโต๊ะกับเราก็ขอให้เลือกคนที่สนใจเรื่อง สุขภาพจริงจัง (หรือพวกชอบลองของแปลกก็น่า จะได้) ส่วนตัวฉันนั้นกลับรู้สึกดีมากกับอาหาร Raw food เพราะกินแล้วรับรู้เลยว่าอาหารแบบนี้ ดีต่อร่างกายมากๆ ใกล้เคียงกับการกินผักสด ผลไม้สดเลย ถึงตอนนั้นจะอิ่มมากเพราะกิน เข้าไปเยอะ แต่หลังจากนั้นก็สบายท้อง ยิ่งถ้า กินแต่กำ�ลังดีแล้วยิ่งน่าจะรู้สึกดีกว่านี้ ฉันอยากเชียร์ให้ลองกินอาหาร Raw Food กันดูนะคะ ถ้าอยู่ภูเก็ตหรือมีโอกาสได้มาเที่ยว
ก็ลองแวะมากินสักมื้อ ฉันรับรองได้ว่าที่ Atzumi ทำ�อาหารออกมาได้รสชาติเยี่ยม บรรยากาศก็ สงบสมกับเป็นร้านอาหารเพื่อสุขภาพ หาไม่ยาก ค่ะ ขับรถมาทางราไวย์ ผ่านท่าเรือราไวย์วิ่งมา ตามถนนวิเศษแล้วสังเกตซอย Mangosteen (มี ป้ายใหญ่) ก็จะเห็นร้าน Atzumi อยู่หัวมุมซอย เลย ลองมาชิมอาหารที่เป็นธรรมชาติ อาหาร ที่ยังมีชีวิต ไม่ได้ผ่านการปรุงมากมายให้เสีย คุณค่า และใช้วัตถุดิบอินทรีย์ในท้องถิ่นมากเท่า ที่ทำ�ได้ ลองสักครั้งคุณอาจติดใจเหมือนฉันก็ได้ เพราะตอนนี้ฉันตั้งใจว่าถ้าเจอร้านอาหาร Raw Food อีก ก็จะไม่ลังเลที่จะเข้าไปชิมค่ะ ติดต่อ ; http://www.atsumirawcafe.com โทร. 0-7628-9224 happy+ | 89
กินอาหารเป็นยา เรื่อง : ป้าจาย แม่มดดอกไม้ ภาพ : กุลวัฒน์ นะมิ
นํ้าส้มสายชูหมักอัญชัน
ถ้าใครถามแม่มดดอกไม้ว่า ชอบดอกอะไรมากที่สุด จะตอบยากมากเลยค่ะ แต่หนึ่งในสิบอันดับแรกจะต้องเป็นดอกอัญชัน เธอทั้งสวย ทั้งดี ทั้งมีคุณค่า แถมยังปลูกง่าย ดูแลง่าย ไม่มีโรครบกวน ให้ดอกทุกวันเมื่อถึงอายุ ทำ�ให้เราเก็บเกี่ยวดอกสีนํ้าเงินสดมาใช้ทำ�อาหารได้อีกมากมาย หลายแบบ ทั้งยังแปรรูปนํ้าคั้นอัญชันไปเป็นส่วนประกอบในแชมพู สบู่ นํ้าส้มสายชูหมัก เป็นต้น หนูอัญชันจึงเป็นดอกไม้เล็กๆ แม้ไม่ได้สวยงาม โดดเด่น แต่คุณภาพล้นเหลือ ไม่ปลูกไม่ได้แล้ว แค่หยอดเมล็ดแก่ลงในดิน อีกไม่เกินห้าวันก็งอก ไม่เกินหนึ่งเดือนก็เริ่มมีดอกให้และเป็นไม้เลื้อยอายุหลายปี หมายถึงการมีดอกให้เราได้ หลายครั้งหลายปี โดยเฉพาะในฤดูฝน หนูอัญชันจะร่าเริงเป็นพิเศษ
ดอกไม้สีนํ้าเงินสด เป็นดอกไม้ที่มีสารแอนโธไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งเป็นสารที่มีสีตั้งแต่สีนํ้าเงินเข้มในสภาวะเป็นด่าง (pH > 7) มีสีม่วงเมื่อเป็นกลาง (pH 7) และจะเปลี่ยนเป็นสีแดง ถึงส้มได้ในสภาวะเป็นกรด (pH < 7) เป็นสารสีที่พบได้ทั่วไปใน ดอกไม้ ผลไม้บางชนิด ใบหรือลำ�ต้นของพืชบางชนิดที่มีสีจัด เช่น กะหลํ่าปลีม่วง มันสีม่วง องุ่นแดง ชมพู่ม่าเหมี่ยว ชมพู่แดงอื่นๆ ลูกหว้า ลูกไหน ลูกพรุน ลูกเกด ข้าวแดง ข้าวนิล ข้าวเหนียวดำ� ถั่วแดง ถั่วดำ� มะเขือม่วง หอมแดง หอมใหญ่สีม่วง บลูเบอร์รี ว่านกาบหอย และเผือก เป็นต้น แอนโธไซยานินจะปกป้องผักและผลไม้จากการทำ�ลายของ รังสีอลั ตราไวโอเลต มีฤทธิต์ า้ นอนุมลู อิสระ มีฤทธิต์ า้ นออกซิเดชัน ของไขมันแอลดีแอล (LDL) และยังทำ�ให้เซลล์บุผนังหลอดเลือดมี ความอ่อนนิ่ม การกินดอกอัญชัน ผักและผลไม้สีนํ้าเงินหรือสีม่วง จึงสามารถชะลอการเกิดโรคไขมันอุดตันในหลอดเลือดและโรค หลอดเลือดหัวใจแข็งตัวได้ เมื่อรู้อย่างนี้แล้วเราน่าจะปลูกอัญชันไว้ริมรั้วสักกอ ดอกสดๆ ที่เรากินไม่หมด เราควรเก็บรักษาหรือถนอมอาหารวิเศษไว้ในสาม รูปแบบ 90 | happy+
1. เก็บแบบแห้ง
ผึ่งอบด้วยแสงแดดสักสองวัน วางในภาชนะ ใช้ฝาผ้ามุ้งโปร่งครอบ หรืออื่นๆ ที่คล้ายกัน เมื่อแห้งสนิทดีแล้วเก็บใส่ขวดโหล กล่องปิดสนิท หรือถุงพลาสติก มัดให้แน่น เก็บในอุณหภูมิห้อง เมื่อต้องการใช้ก็แบ่งมาต้มกับนํ้าร้อน จะได้ชา อัญชันหรือนํ้าอัญชันเข้มข้นหากต้องการใช้ปริมาณมาก หรือนำ�ไปทำ�ประโยชน์ อื่นๆ ต่อ 2. เก็บแช่แข็ง ล้างดอกให้นํ้าผ่านเบาๆ นำ�ไปสะเด็ดนํ้าโดยไม่จำ�เป็นต้องแห้งสนิท ใส่ถุง พลาสติก มัดปากถุงให้แน่นเก็บใส่ในช่องแช่แข็ง เมื่อต้องการใช้งานนำ�ถุงอัญชัน ออกมาวางในห้อง รอจนนํ้าแข็งละลาย คลายปากถุง แล้วขยี้ดอกจากนอกถุง จนได้นํ้าคั้นอัญชันเข้มข้นเหมาะกับการนำ�ไปทำ�สีผสมอาหาร หรือนํ้าอัญชันสด สำ�หรับดื่ม 3. หมักเป็นนํ้าหมักหรือนํ้าส้มสายชู วัตถุดิบและอุปกรณ์การหมัก • ดอกอัญชันสดสีนํ้าเงินเข้มชนิดกลีบซ้อน จำ�นวน 30-50 ดอก • นํ้าเชื่อม 70 มิลลิลิตร หรือนํ้าตาลทรายไม่ฟอกสีครึ่งถ้วย • นํ้าดื่ม 700 มิลลิลิตร • ขวดโหลขนาดบรรจุ 800 มิลลิลิตร พร้อมผ้าขาวบางและยางรัดปาก
วิธีการหมัก • นำ�ดอกอัญชันแช่แข็งออกมาจากตู้เย็น รอจนนํ้าแข็งละลาย เติมนํ้าเชื่อม ขยี้ด้วยช้อน กระเบื้องจนแหลกเข้ากันดี ใส่ในขวดโหล เติมนํ้าเปล่า คนด้วยตะเกียบไม้ไปทางเดียวกันจนเข้ากัน • ปิดฝาด้วยผ้าขาวบาง หรือผ้าเช็ดหน้าบางๆ รัดด้วยยางให้แน่น • วางไว้ในที่แห้ง ไม่มีแสง ไม่อบร้อน และไม่เย็นจัด เพื่อให้จุลินทรีย์ได้ทำ�งาน • เปิดฝาครอบผ้าขาวบางทุกวัน อย่างน้อยวันละครั้ง คนให้ดอกอัญชันจมในนํ้าหมัก และ ไล่อากาศ • ทำ�อย่างนี้ทุกวันหรือวันเว้นวันจนกว่าดอกอัญชันจะจมลงก้นขวด • ถ้ามีฝ้าสีขาวที่ส่วนบนของขวดหมัก แปลว่าใช้ได้ หากเป็นฝ้าสีดำ�จะต้องเททิ้ง เพราะราดำ� ทำ�ให้นํ้าหมักเสีย • ระยะเวลาในการหมักประมาณ 3 เดือน เมื่อนํ้าหมักกลายเป็นนํ้าส้มสายชูมีรสเปรี้ยวจัด รินใส่ขวดเก็บในตู้เย็นเพื่อนำ�ไปประกอบอาหารต่อ
• ขวดแรก วันแรกหมัก สีนํ้าเงินเข้ม • ขวดที่สอง หมัก 10 วัน สีออกม่วง • ขวดที่สาม หมัก 100 วัน สีค่อนข้างแดง เพราะสภาพกรดสูงมาก happy+ | 91
ระบำ�ทำ�ครัว เรื่องและภาพ : การะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์
ผัดผักขมแดงใส่กะปิ
การทำ�อาหารไม่ใช่เรื่องยากเสมอไป วัตถุดิบธรรมดาๆ กับเครื่องปรุงพื้นฐานไม่กี่ชนิดก็แตกเป็นอาหารได้มากมาย วันไหนมีสิ่งแปลกใหม่หรือของ หายากให้ลิ้มก็เป็นความหรูหราของชีวิต เหมือนการเริงระบำ� ด้วยครก สาก ทัพพี กระทะ หม้อ ตะหลิว ฯลฯ คุณหรือฉัน หมายถึง “เรา” ก็สนุกกับ จังหวะผสมผสานได้ ที่สำ�คัญ การทำ�อาหารกินเองทำ�ให้เลือกได้ว่าจะปรุงรสไหน กินกับใคร ทำ�ให้ใครกิน หรือแม้แต่กินคนเดียวก็อร่อยได้ :)
92 | happy+
ผักขมแดง (Red amaranth) นี้ บางคนก็เรียก “ผักโหมแดง” หรือ “ผักโขมแดง” ค่ะ เป็นผักทีม่ ี คุณค่าทางอาหารเช่นเดียวกับผักขมสีเขียว (Green amaranth) กล่าวว่า จะนับเป็นสมุนไพรก็ยงั ได้ สรรพคุณของผักขมแดงนี้ มีตง้ั แต่ชว่ ยในการ ขับถ่าย เพราะเป็นผักทีม่ กี ากใยสูง จึงมีคำ�แนะนำ� สำ�หรับผูท้ ต่ี อ้ งการรักษาอาการท้องผูก เป็นโรค มะเร็งในลำ�ไส้ คอเลสเตอรอลสูง หรือต้องการลด นํา้ หนัก ให้หนั มาบริโภคผักชนิดนี้ เป็นอีกตัวเลือก หนึง่ ในการดูแลสุขภาพ ในแพทย์แผนจีน ยังมีคำ�แนะนำ�ถึงสรรพคุณ ในการช่วยทำ�ความสะอาดไต การขับนํา้ คาวปลา หลังคลอด และผูท้ เ่ี ป็นโรคโลหิตจาง มีการนำ�ผัก ขมแดงนีต้ ม้ เคีย่ ว กรองเอาแต่นา้ํ ผสมในเครือ่ งดืม่
เครื่องปรุง • ผักขม • กระเทียม • หัวหอม • กะปิ • พริกขี้หนู หรือ พริกชี้ฟ้า • นํ้ามัน
เพือ่ บำ�รุงร่างกาย แต่สำ�หรับผูท้ เ่ี ป็นโรคเกาต์ หรือมีระดับกรด ยูรกิ ในเลือดสูง มีขอ้ ควรระวังค่ะ เพราะผักขมแดงมี สารพิวรีนมาก จะกระตุน้ ให้เกาต์กำ�เริบได้ ทีนก้ี ม็ าถึงวิธกี นิ ผักขมแดงกันบ้าง สำ�หรับทาง บ้านฉันนัน้ กินได้หลายวิธเี ลยค่ะ ตัง้ แต่ลวกกินกับ นํา้ พริก ทำ�แกงจืดใส่ไข่ ผัดนํา้ มัน ได้ทง้ั นํา้ มันงา นํา้ มันถัว่ เหลือง หรือนํา้ มันมะกอก เป็นผักทีม่ รี ส หวาน กินง่าย มีกลิน่ เฉพาะตัวนิดนึง แต่ถา้ คุน้ เคย แล้วจะรูส้ กึ ว่าหอมแปลกดี แต่มเี มนูหนึง่ ค่ะ ทีม่ กั ทำ�เสมอ ปรุงได้ทง้ั ผักขม แดงหรือผักขมเขียว คือการผัดผักขมนีก้ บั กะปิคะ่ ทำ�ง่ายมาก กินได้ทง้ั กับข้าวเหนียว ข้าวสวย เผ็ด นิดๆ เพราะใส่พริกด้วย ลองดูไหมคะ
วิธีทำ� • ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่นา้ํ มันลงไป • โขลกพริก กระเทียม หอมแดง เข้าด้วยกัน และกะปิเล็กน้อย • นำ�ของที่โขลกไว้ผัดกับนํา้ มัน (ใช้ไฟอ่อน) จนได้กลิ่นหอม • เร่งไฟ นำ�ผักขมลงไปผัด จนสุกก็ยกขึ้น
เคล็ดลับ • ผักขมนี้ เวลาโดนความร้อนจนสุก จะยวบลงมากค่ะ เพราะเป็นผักอวบนํา้ หนึ่งชามใหญ่ๆ ผัดออกมาจะเหลือนิดเดียวเอง • การผัดกะปิแบบนี้ ตอกไข่ลงไปทีหลังได้ด้วยค่ะ จะได้รสชาตินวลๆ ขึ้น • ผักสุกง่าย สังเกตที่การยุบตัวลง นิ่มๆ และมีนา้ํ จากผักซึมออกมา ผักขมสีแดงจะให้นา้ํ ผักสีแดงๆ สวยทีเดียวละ • หากทำ�ให้เด็กๆ รับประทาน ไม่ต้องใส่พริกก็ได้นะคะ • ระวังความเค็มของกะปิด้วยค่ะ ใช้แค่นิดเดียวพอหอม ไม่ต้องเติมซีอิ๊วหรือนํา้ ปลาอีก • หากติดรสหวาน เหยาะนํา้ ตาลได้ตามชอบ แต่สำ�หรับฉันแล้ว รสของผักในธรรมชาติให้ความหวานที่ลงตัวแล้วค่ะ happy+ | 93
ชวนชิมอิ่มสุข เรื่อง : หนูอวบ ภาพ : สุภชัย รอดประจง
Moulin
อาหารนิวยอร์กและแนวฟิวชั่นสุดลํ้า
หลังจากใช้ชีวิตเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์อยู่ที่นิวยอร์กนานหลายสิบปี ได้ลิ้มลองอาหารระดับโลก จากประเทศต่างๆ ที่ไปท่องเที่ยวนับไม่ถ้วน เมื่อกลับมาเมืองไทย คุณชมพล เสรีมนตรีกุล หรือคุณตี้ จึงอยากทำ�ร้านอาหารที่ให้รสชาติแท้ๆ เหมือนที่ตนเองเคยทาน จึงตัดสินใจเปิดร้านมูแลง (Moulin) ขึ้น เพื่อสร้างมาตรฐานร้านอาหารทั้งในด้านคุณภาพอาหาร การบริการ และการดีไซน์ในแบบฉบับ นิวยอร์กและแนวฟิวชั่น ซึ่งการตกแต่งร้านก็บ่งบอกความเป็นแฟชั่นนิสต้าทุกอณูเลยค่ะ ตั้งแต่จาน ชาม แก้วนํ้า โต๊ะ เก้าอี้ โซฟา ที่มีกลิ่นอายญี่ปุ่นผสานฝรั่งเศสอย่างกลมกลืน สำ�หรับอาหาร คุณตี้ตั้งใจออกแบบอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้รสชาติและรูปลักษณ์ที่เป็นเลิศ อย่างเมนูแรก To Sir With Love, CAESAR SALAD tossed in Romaine Lettuce w Moulin signature dressing w/ Grilled spicy chicken (400 บาท) ซีซาร์สลัดที่แตกต่างจากที่เราคุ้นเคย ด้วยไก่ย่างและ นํ้าสลัดสูตรเฉพาะของมูแลง เมนูต่อมาสีสวยมาก Beet Root and Potato Cream Soup (180 บาท) ซุปข้นหวานกลมกล่อมด้วยบีตรูตและมันฝรั่ง เมนูถัดไปเป็นปลาดิบ The Last Samurai, HAMACHI CARPACCIO w melon avocado olive salsa & wasabi mayo (320 บาท) ปลาหางเหลืองสไลซ์บางๆ เสิร์ฟกับเมลอน นํ้ามันมะกอก และวาซาบิครีมซอสรสนุ่มนวล เมนูนี้ยังคงเป็นฟิวชั่นญี่ปุ่นค่ะ Tokyo Drift, Spaghetti MENTAIKO Cream sauce w/ Squid (340 บาท) เมนไทโกะคือชื่อไข่ปลาญี่ปุ่นเปรียบได้กับไข่ปลาคาเวียร์ ซึ่งทางร้านนำ�มาดัดแปลงเป็นพาสต้า ครีมซอสรสเข้มข้น โรยด้วยสาหร่าย รสชาติแสนประทับใจ ส่วน Kermit the Frog, Roasted Giant FROG LEGS served w/ mixed fruits and Strawberry Sauce (480 บาท) ขากบนำ�เข้าจากฝรั่งเศสอบ จนสุกกำ�ลังดี ราดสตรอว์เบอร์รีซอสและผลไม้รวม รสชาติเหมือนเนื้อไก่อย่างไรอย่างนั้น Moulin คือประสบการณ์ในการลิ้มรสอาหารอย่างประณีตสไตล์บูติก เมื่อได้มาแล้วจึงรู้ว่า คำ�กล่าวนี้ไม่เกินความจริงสักนิด
พิเศษ ส่94วนลดค่าอาหาร 10% สำ�หรับผู้อ่าน happy+ หมดเขต 30 พฤศจิกายน 2556
ร้านมูแลง ตัง้ อยูท่ ่ี Thonglor 88 Avenue ถนน สุขมุ วิท 55 (ซอยทองหล่อ 5) เขตวัฒนา กทม. 10110 เปิดบริการ วันจันทร์ 17.30-23.00 น. วันอังคาร-พฤหัสบดี 11.30-14.30 น. และ 17.3023.00 น. วันศุกร์-อาทิตย์ 11.30-24.00 น. โทร. 0-2712-9348, 08-4357-7589 เว็บไซต์ www.moulinsquare.com
กินสนุกที่
Feast
ฟีซท์ (Feast) คือชื่อห้องอาหารนานาชาติของโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน กรุงเทพฯ ที่เสิร์ฟอาหารชั้นเลิศจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย จีน อินเดีย ญี่ปุ่น และอาหารตะวันตก ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป นอกจากเมนู วันธรรมดาอันละลานตาแล้ว ทางห้องอาหารยังขอนำ�เสนอ “ซันเดย์ บรั๊นช์” เต็มที่และเต็มอิ่มกับสารพันอาหารปรุงสดใหม่ ทั้งอาหารทะเล เช่น ขาปูอลาสกา หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ หอยเชลล์ยักษ์ มุมอิตาเลียนพาสต้า ครัวอาหารจีน อาทิ ติ่มซำ� หมูหัน เป็ดปักกิ่ง ของหวานมากมาย เช่น แพนเค้ก ไอศกรีมโฮมเมด ช็อกโกแลตฟองดู เป็นต้น ไม่ว่าจะเป็นวันไหน มื้อใด เมื่อมาที่ฟีซท์แล้ว มื้อนั้นคือมื้อเปี่ยมสุขริมแม่นา้ํ เจ้าพระยาแน่นอนค่ะ ห้องอาหารฟีซท์ตง้ั อยูบ่ ริเวณล็อบบีข้ องโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน กรุงเทพฯ เลขที่ 2 ถนนเจริญกรุง 30 แขวงสีพ่ ระยา เขตบางรัก กทม. ให้บริการอาหารเช้า 06.00-10.30 น. อาหารกลางวัน 12.00-14.30 น. อาหารเย็น 18.3022.30 น. ซันเดย์บรัน๊ ช์ 11.30-15.00 น. โทร. 0-2266-0123 happy+ | 95
Kyo Roll En
หวานตามแบบฉบับเกียวโต
ร้านขนมหวานในแบบ เกียวโต ไลฟ์สไตล์คาเฟ่ ที่บรรยากาศเหมือนอยู่ในบ้านไม้ญี่ปุ่น พร้อมเสิร์ฟ ของหวานขึ้นชื่อของเกียวโต นั่นคือ โรลเค้ก ซึ่งโดดเด่นด้วยครีมที่ทำ�ด้วยครีมสดฮอกไกโด โดยเฉพาะ Sumi Roll เค้กผสมถ่านไม้ไผ่ ซึง่ ดีตอ่ สุขภาพ เพราะช่วยดูดซับสารพิษ ซึง่ หาทานได้ทเ่ี กียว โรล เอ็นทีเ่ ดียว นอกจากนี้ โรลเค้ก ของเกียว โรล เอ็นยังเป็นเจ้าแรกที่ใช้เทคนิคพิเศษพิมพ์ลายลงบนโรลเค้กสวยงาม น่ารักมากๆ นอกจากโรลเค้ก แล้ว เกียว โรล เอ็นยังมีไอศกรีมสีดำ�รสวานิลลาผสมถ่านไม้ไผ่ และ Kyoto Matcha หรือชาเขียวจากเมืองอูจิ ซึ่งดีและแพงที่สุดในญี่ปุ่น เป็นเมนูไม่ควรพลาด ถ้าอยากลิ้มลองของหวานในแบบฉบับเกียวโต ขอเชิญที่นี่ได้เลยค่ะ 96 96 | happy+
เมนูแนะนำ� • โรลเค้ก (เล็ก 89/99/105 บาท ใหญ่ 399/429/459/489 บาท) สูตรต้นตำ�รับ จากญีป่ นุ่ สอดไส้ครีมรสชาติตา่ งๆ 8 รส ให้เลือก เช่น Milky Roll โรลเค้กลาย วัว สอดไส้ครีมสดฮอกไกโดผสมเมล็ด วานิลลาแท้จากเกาะมาดากัสการ์ หรือ Passion Roll โรลเค้กเสาวรสลายเสือดาว • Goma (139 บาท) เกล็ดนา้ํ แข็งรส งาดำ� ชัน้ ล่างเป็นเยลลีถ่ ว่ั แดง ชัน้ บนเป็น ซอฟต์ครีมถ่านไม้ไผ่ โมจิคลุกงาดำ� วิปครีม และคุกกีแ้ ผ่นหวานมัน • Mont Blanc Kakigoli (145 บาท) ประยุกต์เค้กยอดนิยมในญีป่ นุ่ เป็น นา้ํ แข็งไส เสิรฟ์ พร้อมไอศกรีมนมสด นา้ํ เชือ่ มหอมหวาน และเมล็ดเกาลัด • Wagashi Anmitsu (149 บาท) ของหวานรวมมิตรสูตรดัง้ เดิมของญีป่ นุ่ พร้อมส่วนผสมคุณภาพเยีย่ ม เช่น นา้ํ เชือ่ มจากนา้ํ ตาลทรายแดงไม่ฟอกสี จากเกาะโอกินาวา วุน้ คันเต็นจาก สาหร่ายทะเล โมจิ 2 สี และส้มมิกนั ร้าน Kyo Roll En ตัง้ อยูท่ ่ี ชัน้ M ศูนย์การค้าเกตเวย์ เอกมัย เปิดทุกวัน 10.00-22.00 น. โทร. 0-2108-2660
APPLE CIDER VINEGAR
ดูหนังกับฟ้า ฟังเพลงกับฝน เรื่อง : ฟ้า & ฝน
Girlfriend, Boyfriend and Folkfriend หนัง : GF*BF Girlfriend, Boyfriend (สัญญารัก 3 หัวใจ) ผู้กำ�กับ : Yang Ya-che เพลง : แพ้ให้เป็น อัลบั้ม : Folkfriend ศิลปิน : บรรณ สุวรรณโณชิน สวัสดีฝน...ในวันทีล่ มหนาวเริม่ มาเยือน ตอนนี้สายลมเย็นของฤดูหนาว เริ่มเดินทางมาถึง บ้านของเราแล้วนะ ช่วงนี้บรรยากาศในตอนเช้าชวน ให้เราต้องลุกออกจากที่นอนมาสัมผัสสายลมและหมอก บางๆ แกล้มอาทิตย์สีส้มดวงโต ซึ่งพี่ฟ้ากับเพื่อนๆ ก็เริ่มที่จะทยอยออกมาปั่นจักรยานเล่นในตอนเช้าๆ กัน อย่างมีความสุขและสนุกสนาน (ฝนเริ่มอิจฉาบ้างแล้ว ใช่ไหม อิอิ) เปลี่ยนมาคุยเรื่องหนังกันดีกว่า วันนี้ที่ร้านกาแฟ CAFÉE LUMIERE พี่เล็กเจ้าของร้านได้ฉายหนังจาก ไต้หวัน เรื่อง GF*BF Girlfriend, Boyfriend (สัญญารัก 3 หัวใจ) โดยหนังเล่าถึงเรื่องมิตรภาพของ 3 เพื่อนรัก หนึ่ง หญิง (เหม่ยเป๋า) สองชาย (จ้งเหลี่ยง และฉินเหยิน) ที่ เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 80 ซึ่งถือเป็นเวลาของความ ผันผวนทางการเมืองครั้งสำ�คัญของประเทศไต้หวัน โดยเพื่อนรักทั้งสามคนเข้ามาเรียนต่อและใช้ชีวิต ตามความฝันของตนเองในเมืองหลวง เหม่ยเป๋าแอบ รักจ้งเหลี่ยง แต่จ้งเหลี่ยงรู้สึกกับเธอแค่เพื่อนเท่านั้น เพราะเขาเองก็มีคนที่แอบชอบอยู่แล้วเช่นกัน ซึ่งก็คือ ฉินเหยิน ส่วนตัวฉินเหยินเองกลับหลงรักเหม่ยเป๋า ความสัมพันธ์อันแสนเปราะบางของเพื่อนรักทั้งสาม และ การต่อสู้ของนักศึกษาเพื่อเรียกร้องสิทธิทางการเมืองต่าง ก็กำ�ลังเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนผ่าน ซึ่งจะว่าไปก็คล้ายๆ กับประวัติศาสตร์การเมืองของไทยเราเหมือนกันนะ ส่วน จะร้าวรานและเจ็บปวด จะสุขและสมหวังหรือไม่นั้น ฝนไปเปิดดูเองจากแผ่นดีวีดีที่พี่ฟ้าส่งมาให้ก็แล้วกัน พี่ฟ้าชอบที่หนังสามารถผสมผสานเรื่องราวความ รักกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ทางการเมืองได้อย่างลงตัว ทำ�ให้เรามองเห็นภาพการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของ ไต้หวัน พร้อมๆ กับการได้ยิ้ม หัวเราะ และเศร้าไปกับ เรื่องราวของเพื่อนรักทั้งสามคนนี้ ลมหนาวเริ่มมาแล้ว รักษาสุขภาพด้วยนะ พีฟ่ า้ 98 | happy+
สวัสดีพฟ่ี า้ ...ในวันทีอ่ อ่ นล้ากายใจ พี่ฟ้ารู้ไหมว่า จดหมายของพี่ฟ้าเดินทางมาถึงในวันที่ฝนอ่อนล้ามาก เรื่องราวต่างๆ กำ�ลังพร้อมใจกันผิดพลาดและไม่สมหวัง แต่ยังดีที่มีเพลงซึ่งช่วยทำ�ให้ฝนรู้สึกดีและมีกำ�ลังใจ ขึ้นมาอีกครั้ง (ช่วงนี้ฝนเปิดเพลงนี้ฟังเกือบทุกวันเลยละ) เป็นเพลงที่อยู่ในอัลบั้ม Folkfriend โฟล์กเฟรนด์ ของศิลปิน บรรณ สุวรรณโณชิน ชื่อเพลง “แพ้ให้เป็น” หากว่าต้องพ่ายแพ้ เรามันแค่คนคนหนึ่ง เป็นมนุษย์ไม่ควรต้องดื้อดึง ไปไม่ถึงเส้นชัยต้องยอม แต่อย่าเพิ่งอ่อนล้า เป็นธรรมดาของคน สุขและทุกข์ทุกคนต้องเดินชน หลีกไม่พ้นความปราชัย ยิ้มรับไว้ความพ่ายแพ้ แปรให้มันเป็นบทเรียน สอนใจ เพื่อเริ่มใหม่ อีกครั้ง แพ้หรือพลั้งยังไม่สาย ไม่ต้องอาย แพ้ให้เป็น สู้ต่อ อย่ามัวท้อ ใครก็เป็น (...ฉันก็เป็น) เก็บเอามาแก้ไข ใครๆ ก็เคยแพ้กัน สิ่งที่ฝันถ้าใจนั้นคงมั่น เส้นชัยนั้นคงไม่ไกล ในอัลบั้ม โฟล์กเฟรนด์ นี้ บรรณ สุวรรณโณชิน ได้เชิญชวนเพื่อนนักกีตาร์อะคูสติก มาร่วมบรรเลงกันอย่างอบอุ่น คือ ชีพชนก ศรียามาตย์, พยัต ภูวิชัย, โอเลต้าร์, วีระพล บินฮาซัน และกฤษณ์ บาลไทยสงค์ ร่วมด้วยนักร้องประสานเสียง 2 สาวเสียงดี โอ๋ ชุติมา และ เพชร พชรพรรณ มาช่วยคอรัส โดยบรรณ สุวรรณโณชิน ทำ�หน้าที่ควบคุมการ ผลิต ทั้งเขียนเนื้อร้อง - ทำ�นอง เรียบเรียงดนตรี มิกซ์และมาสเตอริ่ง ทำ�ให้อัลบั้มชุดนี้มี คุณภาพเสียงที่ดี เพราะมีการบันทึกเสียงดนตรีสดอย่างพิถีพิถัน ส่วนบทเพลงที่อยู่ในอัลบั้มนี้ ก็มีเนื้อหาที่หลากหลาย พูดถึงทั้งเรื่องสังคม, สันติภาพ, การอนุรักษ์ และการให้กำ�ลังใจ อีกเพลงที่ฝนชอบก็คือ เพลงปิดตาเปิดใจ ที่บอกให้เรารู้ว่า บางครั้งมนุษย์ก็ควรปิดตาและลองเปิดใจรับรู้บางสิ่งบ้าง อาจจะทำ�ให้เราได้มองเห็นอะไรที่ สวยงาม ส่วนเพลงเจ้านก บทเพลงแห่งสันติภาพที่ไพเราะและงดงามนั้น เข้ากับบรรยากาศ หนังเรื่อง Girlfriend, Boyfriend เหมือนกันนะ พี่ฟ้าลองเอาอัลบั้มนี้ไปเปิดที่ร้านกาแฟของ พี่เล็กดูสิ ฝนคิดว่าหลายๆ คนน่าจะชอบ พี่ฟ้าก็รักษาสุขภาพด้วยนะ ฝน
The Story of Dream | เรื่องและรูป :
ตื่น | ผู้แต่ง : แอนนา แบล็ค ผู้แปล : ญาณพล มุสิเกตุ สำ�นักพิมพ์ : อมรินทร์ธรรมะ ราคา : 210 บาท หนังสือ “ตื่น” เล่มนี้ ได้ถ่ายทอดเทคนิคและเคล็ดลับ มากกว่า 50 วิธีเพื่อฝึกสติในชีวิตประจำ�วัน จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำ�หรับผู้ที่ต้องการคู่มือฝึกฝนและ พัฒนาจิตของตนเอง เพื่อที่จะสามารถนำ�การเจริญสติเข้ามาอยู่ ในชีวิตประจำ�วันได้ ทั้งยังเน้นให้ฝึกปฏิบัติทีละเล็ก ละน้อย เพื่อ ให้ค่อยๆ เกิดความคุ้นเคยกับวิธีการที่ได้นำ�เสนอไว้ด้วย ตอนนั้นน่ะนะ The
collection of memories 19902000 | เรื่องและ
ภาพ : ลูกไม้ สำ�นักพิมพ์ : ใยไหมYellow Yaimai ราคา : 169 บาท บันทึกชวนนึกถึง ความหลังสมัยยังเด็ก ของนักเขียน นักวาด รุ่นใหม่ “ลูกไม้” ที่ รวบรวมเรื่องราวเกี่ยว กับข้าวของเครื่องใช้ ขนม และของเล่นในวัย เด็กที่หลายๆ คนอ่าน แล้วอาจอมยิ้มตามเมื่อ นึกถึงภาพความสุขใน วันวาน ไม่ว่าจะเกิดปี พ.ศ. ไหน ตอนนัน้ น่ะนะ ของทุกคนจะหวนกลับ มาให้รู้สึกอุ่นใจอีกครั้ง
คุยกับใจแล้วไปต่อ | ผู้แต่ง : ณัฐวีร์ ลิมปนิลชาติ (มาบุชี่) สำ�นักพิมพ์ : ใยไหม ราคา : 179 บาท ในแต่ละวัน เราต้องพบเจอเรื่องราวมากมาย ซึ่งทำ�ให้ เหน็ดเหนื่อยทั้งกายและใจ หนังสือเล่มนี้สะกิดเตือนให้เราได้ ฉุกคิดถึงการมอบพื้นที่ว่างในใจให้ตัวเองได้นอนเล่นคุยกับใจเบาๆ ไต่ถามสารทุกข์สุกดิบ พูดให้น้อย ฟังให้มาก แล้วคุณจะค้นพบ คำ�ตอบที่ทำ�ให้คุณก้าวเดินได้ต่อบนโลกใบนี้
ENZO ผู้แปล : อนุรักษ์ กิจไพบูลทวี สำ�นักพิมพ์ : อะบุ๊ก ราคา : 275 บาท 7 เรื่องเล่าขนาดสั้น ที่มีพล็อตเรื่องเกี่ยวกับ ความฝัน แต่ไม่มีฉากไหนที่สว่างไสวปลุกใจคน ไม่มีตอนจบอันชื่นมื่นแบบฟ้าหลังฝน นำ�เสนอ ด้วยวิธีอุปมาอุปไมยแบบแฟนตาซี ประกอบกับ ลายเส้นที่เข้าถึงจิตใจเราได้อย่างนุ่มนวล แต่ก็ ถ่ายทอดความคิดอ่านอันลึกซึ้ง ทำ�ให้เมื่ออ่าน แล้วต้องเก็บไปบ่มให้ความคมคายคลี่คลาย ออกมาภายหลังในจิตใจของเราอีกต่อหนึ่ง
ชวนอ่านสานสุข
เรื่อง : กองบรรณาธิการ
แหกกฎ SME ตีให้ ดังสู่เวทีโลก | ผู้แต่ง : ดร.สรณ์ จงศรีจันทร์ สำ�นักพิมพ์ : ดีเอ็มจี ราคา : 225 บาท หนังสือซึ่งนำ�เสนอ กลยุทธ์เด็ดและเคล็ดลับ มากมาย ที่สามารถพลิก ชีวิตธุรกิจจากดินสู่ดาวได้ อย่างน่าอัศจรรย์ อัดแน่น ไปด้วยหลักการพลิกแพลง ยุทธศาสตร์ที่แหวกแนว ในการกำ�หนดจุดยืนและ จุดขายของแบรนด์ เพื่อ สามารถต่อสู้กับแบรนด์ ใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ยิ่งไปกว่านั้น หนังสือเล่มนี้ จะช่วยจุดประกายฝันให้ ผู้อ่านสามารถต่อยอด ธุรกิจให้มั่งคั่งยั่งยืนได้ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
งานรุ่ง รักเลิศ | ผู้แต่ง : ริวโฮ โอคาวา ผู้แปล : จฎาภา อนันตนิกร สำ�นักพิมพ์ : Happy Science ราคา : 175 บาท ภาคต่อของหนังสือ “ต้องคิดว่าไม่แพ้” ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักอ่าน ทั่วโลก สำ�หรับภาคนี้ถือเป็นคู่มือเตรียมตัวเป็นคนประสบความสำ�เร็จในชีวิตทุก ด้านโดยใช้พลังความรัก ซึ่งผู้เขียนได้นำ�หัวข้อที่แทบไม่ได้รับความสนใจก่อนหน้านี้ มานำ�เสนอ เช่น เรื่องแก่นแท้ของการทำ�งาน วิธีทำ�งานให้ลุล่วง เงื่อนไขสู่ความ สำ�เร็จที่จำ�เป็นเพื่อให้ได้เลื่อนขั้น แก่นแท้ของความรักและงาน เป็นต้น 99 happy+ | 99
ภาพประกอบ : @paalinn
ส
วัสดีครับ เข้าสู่เดือนพฤศจิกายนแล้วนะครับ เดือนนี้อาจารย์จะมาแนะนำ�แนวทางในการสร้างความฝันให้เป็นจริงครับ ความฝันต้องเป็นความ ฝันที่ดี เป็นความฝันที่ส่งเสริมให้ชีวิตเราดีขึ้น ความฝันที่เราคิดจะต้องเป็นประโยชน์แก่ตัวเองและครอบครัว สิ่งแรกก็คือ เราต้องสร้างพลังใจที่ดี ให้กับตนเอง เมื่อสร้างพลังใจแล้วต้องมองให้เห็นภาพที่จะทำ�ให้ความฝันนั้นสำ�เร็จ ขณะที่เราก้าวเพื่อไปให้ถึงความฝันต้องไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคทั้งปวง เมื่อไปถึงความฝันนั้นแล้วต้องไม่เหลิง ไม่เกิดปีติจนจิตฟุ้งเกินไป ต้องรู้ว่าสิ่งทั้งหมดทั้งปวงที่เกิดขึ้น มันมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย มีเกิดก็ต้องมีดับ ความฝัน อาจจะไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป แต่เราต้องมีความสุขอย่างแท้จริง เพราะฉะนั้นวิธีสร้างความฝันให้เป็นจริงนั้นไม่สำ�คัญเท่ากับการอยู่กับความจริงอย่าง มีความสุขในทุกๆ วัน ขอให้คุณผู้อ่านทุกท่านมีความสุข รุ่งเรือง ราบรื่น รํ่ารวย และร่มเย็น ตลอดการเดินทางไปยังฝันของทุกๆ ท่านครับ สำ�หรับเดือนนี้อาจารย์ก็มีบุญมาฝากเหมือนเช่นเคย อาจารย์มีโอกาสได้ไปร่วมงานเทศกาลกินเจที่วัดเขตร์นาบุญญาราม จังหวัดจันทบุรี ขอ ขอบพระคุณพี่น้องชาวแฮปปี้พลัส ที่เข้ามาทักทายกันในงานเทศกาลกินเจครับ และช่วงนี้ถ้ามีโอกาส ก็อย่าลืมนะครับ เป็นช่วงของการถวายผ้ากฐิน ทำ�บุญ กฐินสามัคคี หรือกฐินต่างๆ ซึ่งมีข้อจำ�กัดที่เวลาก็คือทำ�หลังจากออกพรรษาแล้วไม่เกินหนึ่งเดือน ถือได้ว่าเป็นบุญใหญ่ในพุทธศาสนา สุดท้าย ช่วงนี้เป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวอากาศอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง ขอให้คุณผู้อ่านทุกท่านดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ แล้วก็อย่าลืม ไม่ว่าจะ ฤดูไหน การก้าวเดินไปให้ถึงความฝันนั้น ต้องมีธรรมะอยู่ในหัวใจด้วย จะทำ�ให้ทุกท่านมีความสุขครับ 100 | happy+
เรื่อง : อาจารย์ คฑา ชินบัญชร
พยากรณ์ เดือน พฤศจิกายน
2556
ราศีมังกร (16 ม.ค.-12 ก.พ.) “ไพ่ The Emperor” ถ้ารู้จักเข้าหาผู้ใหญ่ เข้านอกออกในก้าวหน้าสุดๆ การทำ�งานมี ข่าวดี โดดเด่น ผู้บังคับบัญชาถูกใจและมอบ หมายงานสำ�คัญให้ การเงินหมุนเวียนคล่อง แถมยังมีลาภจากความเสน่หาอีกด้วย ความ รักเสน่ห์แรงเหลือเกิน คนที่อยู่ใกล้อดหวั่นไหว ไม่ได้ ที่ยังโสดอยู่ได้สละโสดกันคราวนี้แน่ สะดุดรักกันให้วุ่นวาย สุขภาพอาการปวด ข้อต่อ กระดูกกำ�เริบอีกแล้ว
ราศีกุมภ์ (13 ก.พ.-13 มี.ค.) หน้าบานยิ้มไม่หุบ สิ่งที่คาดหวังหรือ ตั้งใจไว้จู่ๆ ก็ได้อย่างไม่ทันตั้งตัว “ไพ่ The Sun” การทำ�งานคิดเปลี่ยนงานหรือเริ่มต้นงาน ใหม่มีข่าวดี ยิ่งถ้าได้พบปะติดต่อผู้คนด้วยจะ พาโชคมาให้ ได้รับคำ�ชมและการยอมรับ เงิน ทองมีช่องทางทำ�กำ�ไรมากขึ้น ความรักอบอุ่น มาก สำ�หรับคนโสดได้เจอคนถูกใจ แม้อากาศ จะแปรปรวนก็ไม่เหงาแน่นอน สุขภาพหาก กำ�ลังเจ็บป่วยอยู่ อาการจะดีขึ้น
ราศีมีน (14 มี.ค.-12 เม.ย.) ร่าเริงสดใส มีอะไรดีๆ เข้ามา การทำ�งานควร เข้าหาผู้ใหญ่บ้างจะช่วยเพิ่มโอกาสให้กับตัวเอง การเงินหมุนเวียนคล่อง แต่ช่วงปลายอาจต้อง จ่ายเกี่ยวกับยานพาหนะ ค่าซ่อมต่างๆ “ไพ่ 3 ถ้วย” ความรักโชคดีไม่เป็นสองรองใคร ที่กำ�ลัง ด้อมๆ มองๆ หาคู่อยู่ จะได้เจอโดยบังเอิญ ที่มี คนรักอยู่อาจแง่งอนกันบ้าง แต่สุดท้ายก็รักกัน ซาบซ่า สุขภาพนํ้าหนักตัวเพิ่มขึ้น เพราะเจริญ อาหารเหลือเกิน
ราศีเมษ (13 เม.ย.-13 พ.ค.) การทำ�งานยังต้องอาศัยผู้อื่นอยู่ อย่าทำ� อะไรหุนหันพลันแล่นจะเกิดปัญหา ควรใช้ คำ�พูดและวาจาให้เป็นประโยชน์ “ไพ่ 5 ดาบ” การเงินถูกเอาเปรียบแน่นอน ต้องใช้ความเฉลียว ฉลาดมีไหวพริบถึงจะเอาตัวรอดได้ ความรัก อ่อนไหวง่าย เอาแต่ใจ ให้ลดทิฐิความดื้อลงบ้าง ก็จะหวานชื่นไม่แพ้คู่อื่นๆ สุขภาพให้ระวังสะดุด หรือถูกของมีคมบาดให้เจ็บตัว
ราศีพฤษภ (14 พ.ค.-13 มิ.ย.) กลายเป็นคนสำ�คัญ คนเด่นคนดังซะอย่าง นั้น มีคนมาขอคำ�ปรึกษา ขอความช่วยเหลือ ซึ่งตัวคุณเองก็ยังเหนื่อยกับเรื่องของตนเองอยู่ “ไพ่ อัศวินคทา” การงานมีดวงเปลี่ยนงาน เริ่ม ต้นงานใหม่ การเจรจาติดต่อไปได้สวย การเงิน หมุนเวียนคล่อง มีลาภจากการเดินทาง มีโอกาส ได้เงินก้อน ความรักที่จดจ้องกันอยู่จะมีข่าวดี ส่วนคนโสดจะมีคนแนะนำ�ให้รู้จัก สุขภาพมี อาการปวดหัว พักผ่อนมากๆ
ราศีเมถุน (14 มิ.ย.-14 ก.ค.) ค่อนข้างวุ่นๆ กับเรื่องเงินทอง “ไพ่ The Moon” มีเกณฑ์ทำ�ของมีค่าสูญหาย ช่วงปลาย แล้วจึงจะดี มีการเริ่มต้นหรือปรับเปลี่ยนงานที่ ดีในช่วงปลาย แต่ต้องพึ่งพาตนเองเป็นสำ�คัญ งานที่ทำ�กับคนสนิท ญาติมิตรมีความสำ�เร็จ ความรักค่อนข้างมีอิทธิพลในทุกๆ เรื่อง หวั่น ไหวง่าย พานให้ไม่มีอารมณ์ในการทำ�ทุกสิ่ง สุขภาพอ่อนแอ ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ
ราศีกรกฎ (15 ก.ค.-16 ส.ค.) “ไพ่ 8 ดาบ” เป็นช่วงที่ท้อถอย คิดอะไร ก็เจอกับอุปสรรคอยู่ตลอด เดินทางให้ระวัง อุบัติเหตุ การทำ�งานพอมีจังหวะในช่วงปลาย แต่ต้องทำ�ด้วยตนเอง การเงินใช้จ่ายสิ้นเปลือง หวังโชคลาภอีกยาว ความรักก็มีเรื่องเข้าใจผิด กันบ่อย เจอกันทีไรเป็นต้องคิดมาก ช่วงปลาย จึงจะคืนดีกันได้ คนโสดต้องรออีกนาน ชอบใคร ก็ดันมีเจ้าของแล้วทุกคน สุขภาพอ่อนแอ มีดวงเจ็บป่วย เข้าโรงพยาบาล
ราศีสิงห์ (17 ส.ค.-16 ก.ย.) ถ้าคุณเอาใจใส่ และช่วยเหลือตนเองไม่คิด พึ่งพาใคร จะไปได้ไกลมากๆ การงานมีความ สำ�เร็จ หยิบจับอะไรก็เกิดประโยชน์ที่ดี เข้าหา ผู้ใหญ่ได้รับการสนับสนุน หากมีโครงการให้รีบ นำ�เสนอ “ไพ่ Hierophant” การเงินหมุนเวียน คล่อง เป็นช่วงเวลาที่มีรายได้เสริมวิ่งเข้ามา หา ความรักถ้ารักชอบใครหมั่นตื๊อเข้าไว้ รับรอง สำ�เร็จแน่ สุขภาพมีอาการปวดหัว ปวดตัวจาก ความเครียด ต้องผ่อนคลาย
ราศีกันย์ (17 ก.ย.-16 ต.ค.) หงุดหงิดง่าย ต้องระวังอารมณ์ของตนเอง ช่วงกลางจะได้รับข่าวดี การงานมีดวงได้เปลี่ยน งานหรือได้เริ่มต้นงานใหม่ มีช่องทางก้าวหน้า การเงินมีสภาพคล่อง กำ�ลังมีโชคลาภ เหมาะ กับการขยับขยายลงทุน ช่วงกลางจะลองเสี่ยง โชคดูก็ไม่เสียหาย “ไพ่ 3 ดาบ” ความรักมีปาก เสียงกันบ้าง แต่ก็ผูกพันกัน ตัดยังไงก็ไม่ขาด คนโสดได้สะดุดรักโดยไม่ทันตั้งตัว สุขภาพมี ปัญหากับกระเพาะอาหาร ลำ�ไส้
ราศีตุลย์ (17 ต.ค.-16 พ.ย.) ผ่านเรื่องอึดอัดใจมาแล้ว ช่วงนี้สถานการณ์ คลี่คลายมากขึ้น “ไพ่ The World” การงานจะ ได้รับข่าวดี มีผู้ใหญ่ให้การสนับสนุน มีช่องทาง เลือกมากขึ้น เงินทองมีลาภลอย คนที่คุณเคย ช่วยเหลือจะนำ�ผลตอบแทนมาให้ ความรัก อบอุ่นสุดๆ เข้าใจกันและกัน คนรักเอาใจใส่ เป็นพิเศษ เป็นช่วงเวลาที่ดี สุขภาพแข็งแรง สดใส อาการปวดหัวจะทุเลาลง
ราศีพิจิก (17 พ.ย.-15 ธ.ค.) ต้องเพิ่มความกระตือรือร้นให้มากขึ้น เข้าหาผู้ใหญ่นอบน้อมจะได้รับผลดี ความรักจะ มาหวานชื่นช่วงปลาย คู่ที่อยู่ไกลจะได้เจอกันให้ หายคิดถึง การงานโลดแล่น แต่ต้องทำ�ด้วย ตัวเอง แล้วผูใ้ หญ่ถงึ จะเห็นความดี “ไพ่ 7 เหรียญ” การเงินเอาเงินเก็บมาหมุนหรือเป็นช่วงที่ลงทุน เพื่อรอผลตอบแทน สุขภาพมีอาการเกี่ยวกับ กล้ามเนื้อ เคล็ดขัดยอก อย่าทำ�อะไรเกินตัว
ราศีธนู (16 ธ.ค.-15 ม.ค.) สดใสเป็นพิเศษ มักมีอะไรดีๆ เข้ามาหา หัวสมองปลอดโปร่ง การงานถ้าเป็นงานเฉพาะ ด้านจะทำ�ได้ดีมาก ช่วงปลายมีข่าวคราวการโยก ย้ายแต่จะเป็นในทางที่ดีขึ้น การเงินหมุนคล่อง มีลาภเข้ามาเรื่อยๆ “ไพ่ Strength” ความรักเป็น ช่วงที่มีเสน่ห์มากทั้งคนโสดทั้งมีคู่ คนโสดได้เจอ คนถูกใจแน่นอน ส่วนที่มีคนรักได้รับการเอาอก เอาใจเป็นพิเศษ สุขภาพแข็งแรงจนน่าตกใจ
กิจกรรมนำ�สุข
การประชุมสุดยอดเน็กซ์ซัส ประเทศไทย ครั้งที่ 1 คุณรัตนา เตชะพันธ์งาม นายกสมาคมเดอะบอสส์ ร่วมกับ คุณเอด้า จิรไพศาลกุล ผู้ก่อตั้งเครือข่ายผู้มีจิตอาสารุ่นเยาว์ แห่งประเทศไทย จัดงานแถลงข่าว “การประชุมสุดยอดเน็กซ์ซัส ประเทศไทย ครั้งที่ 1” กิจกรรมเพื่อสังคมระดับนานาชาติสู่ ประเทศไทย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เหล่านักธุรกิจรุ่นใหม่ใช้ ศักยภาพความสามารถที่ตนมีในการพัฒนาประเทศต่อไป ณ โรงแรมเดอะเซนต์รีจิส ราชดำ�ริ
IKEA Catalogue 2014
อิเกียจัดงานเปิดตัวแค็ตตาล็อก อิเกีย 2014 นอกจากจะมีสินค้าใหม่ๆ มา ให้เลือกสรรมากมายแล้ว ยังมีคูปองเงินสดมูลค่า 100 บาทแนบมาให้ใช้ช้อปปิ้ง สินค้าในสโตร์อิเกีย บางนา หรืออิ่มอร่อยได้ที่ร้านอาหารอิเกียด้วย ติดตามความ เคลื่อนไหวได้ที่ www.IKEA.co.th/IKEAcatalogue2014.
ดีแทค ไฮบริด ช็อป ดีแทคเปิดตัว “ดีแทค ไฮบริด ช็อป” บนชั้น 4 ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์ ภายใต้แนวคิด “Customer Centricity” การมอง ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการอันหลากหลาย ของลูกค้ายุคปัจจุบัน โดยลูกค้าสามารถมารับบริการทั้งจาก พนักงานในร้าน และผ่าน “Scan Me” บน Decive ต่างๆ ได้อย่าง รวดเร็ว สะดวกสบาย และครบวงจร
แฮปปี้ แฟมิลี่ คอนเทสต์ เมก้า วีแคร์ เปิดตัวกิจกรรม “แฮปปี้ แฟมิลี่ คอนเทสต์” การประกวด ภาพถ่ายพร้อมบอกเล่าเรื่องราว “ความห่วงใยในการดูแลเอาใจใส่สมาชิกใน ครอบครัวให้มีสุขภาพดี” โดยได้ครอบครัวทองเจือ มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ ต่อยอดแนวความคิด เพราะสุขภาพชีวิตที่ดี มาจากครอบครัวที่มีสุขภาพแข็งแรง ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก MEGAWeCare หรือ 0-2769-5444 102 | happy+
12 ปีไวทัลไลฟ์
ไวทัลไลฟ์ฉลองครบรอบ 12 ปี เผยแนวคิดเรื่องสุขภาพแห่ง อนาคตผ่าน “Future Health” นวัตกรรมการรักษารูปแบบใหม่ โดยนำ�เทคโนโลยีมาผสมผสานสู่รูปแบบการดูแลสุขภาพแบบใหม่ แห่งศตวรรษที่ 21 เน้นสร้างภูมิคุ้มกันและความแข็งแรงรวมไปถึง การฟื้นฟูร่างกาย โดยศูนย์ตั้งอยู่ภายในโรงพยาบาลบำ�รุงราษฎร์ สุขุมวิท ซอย 1 (BTS เพลินจิต)
เปิดตัวโรงแรม ฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ ฮิลตัน เวิลด์ไวด์ฉลองครบรอบ 30 ปีการให้บริการที่พัก ในประเทศไทย ประกาศเปิดให้บริการโรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ โรงแรมลำ�ดับที่ 9 ที่เปิดให้บริการในประเทศไทย ภายใต้เครือฮิลตัน เวิลด์ไวด์
ชวาร์สคอฟ เนเชอรัล แอนด์ อีซี่ ชวาร์สคอฟ จัดงานแนะนำ�ผลิตภัณฑ์ปิดผมขาวระดับพรีเมียม “เนเชอรัล แอนด์ อีซี่ (Natural & Easy)” สูตรอ่อนโยน ปิดผมขาวได้ 100% พร้อมสีที่ติดทน นาน มั่นใจไร้ส่วนผสมที่เป็นแอมโมเนีย กลิ่นไม่ฉุน จึงไม่ทำ�ร้ายเส้นผมและระคาย เคืองหนังศีรษะ ณ เซ็นทรัลเวิลด์
ประกาศรายชื่อผู้ได้รับรางวัลจาก Special for Reader นิตยสาร
ธนชาต จับมือ 3 พันธมิตร เปิดตัว Virtual Prepaid Card บัตรช้อปปิ้ง บนโลกออนไลน์ มร. ฌอง-มาร์ค ดาแลร์ ผู้อำ�นวยการ อาวุโส สายงานธุรกิจบัตรเครดิต ธนาคาร ธนชาต จำ�กัด (มหาชน) จับมือ 3 พันธมิตรทาง ธุรกิจ ได้แก่ เอไอเอส มาสเตอร์การ์ด เวิลด์วายด์ และบริษัท ทูซีทูพี (ประเทศไทย) จำ�กัด เปิดให้ บริการบัตร Virtual Prepaid Card สู่ตลาดเมือง ไทยเป็นครั้งแรก เพื่อตอบสนองผู้บริโภคในการ ช้อปปิ้งออนไลน์อย่างไร้ขีดจำ�กัด ให้สะดวก สบาย และปลอดภัยยิ่งขึ้น พิเศษ! สำ�หรับ ลูกค้าที่ใช้บริการและซื้อสินค้าออนไลน์ครั้งแรก ตั้งแต่วันนี้-31 มกราคม 2557 รับเงินคืน 50% สูงสุด 300 บาททันที
อวสาน อาการท้องผูก อึดอัด ติดขัด นึกถึง เสโนคอต คุณเจิดสาย สุขแก้ว ผู้จัดการฝ่ายการ ตลาด แผนกเฮลท์แคร์ บริษัท เรกคิทท์ เบนคีเซอร์ (ประเทศไทย) จำ�กัด ผู้ผลิตและ จัดจำ�หน่ายผลิตภัณฑ์เสโนคอต (Senokot) ยาระบายมะขามแขก เป็นประธานจัดงาน “อวสาน อาการท้องผูก อึดอัด ติดขัด นึกถึง เสโนคอต” ให้ความรู้เรื่องอาการท้องผูก ผ่าน การจัดแสดงลำ�ไส้ยักษ์จำ�ลอง และการเสวนา พิเศษที่กระตุ้นเตือนให้คนไทยเห็นความสำ�คัญ ของการรักษาอาการท้องผูก โดยนายแพทย์ กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำ�นวยการศูนย์เวชศาสตร์ อายุรวัฒน์นานาชาติ ณ ศูนย์การค้าดิจิตอล เกทเวย์ สยามสแควร์ กรุงเทพฯ
happy+11 รางวัลบัตรรับประทานอาหารบนเรือ สำ�ราญเจ้าพระยาครุยส์ รางวัลละ 2 ใบ 1. คุณนัฐยา สุริยผล, จันทบุรี “อยากให้ ‘เจนนิเฟอร์ คิ้ม’ ขึ้นปกนิตยสาร happy+ มากที่สุด” 2. คุณวรลักษม์ ธิตินุพัฒน์, กทม. “อยากให้ มินต์-ชาลิดา และ ท่านแม่ชี ศันสนีย์ –เสถียรธรรมสถาน ขึ้นปก happy+ ค่ะ” 3. คุณวิวัศวัลย์ แจ่มกาญจนโลหะ, กทม. “อยากให้ครอบครัวคุณป๋อ คุณเอ๋ กับคุณ ลูก ขึ้นปก happy+ ค่ะ เพราะเป็นครอบครัว ที่น่ารัก ดูแล้วมีความสุขมาก มีความพอ เพียง ชอบครอบครัวนี้มาก อยากให้ลงปก และสัมภาษณ์เยอะๆ ค่ะ” 4. คุณธาดาพร บุรีรัตน์, กทม. “อยากให้คุณตุ้ย ธีรภัทร์ สัจจกุล ขึ้นปก มากที่สุด” 5. คุณธัชพล ลิจุติภูมิ, แพร่ “อยากเห็นคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา เพราะ เขาเป็นพิธีกรข่าวที่มากความสามารถครับ” ติดต่อรับของรางวัลได้ที่กองบรรณาธิการ นิตยสาร happy+ โทร. 0-2168-7480 ต่อ 1010 happy+ | 103
กิจกรรมร่วมสนุก
Great Gift for 1 Anniversary st
เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปี happy+ เรามีรางวัลมากมายมาให้คุณๆ ร่วมสนุกเพื่อเฉลิมฉลองวาระพิเศษนี้ จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันได้เลย
100%
100%
25%
75%
50%
50%
1.
โอเลย์ รีเจนเนอรีส แอดวานซ์ คลีนซิง่ ซิสเต็ม ช่วยทำ�ความสะอาดผิว อย่างลํา้ ลึกและอ่อนโยน มูลค่า 999 บาท 4 รางวัล 6. ยันเชอ
ไฟสปอตไลต์หนีบ LED จาก IKEA มูลค่า 950 บาท 12. ทีใ่ ส่รองโน้ตบุก ๊ จาก Betrend มูลค่า 1,590 บาท 2 รางวัล
100%
100%
25%
75%
50%
50%
2. อูลกุมป์ พรมขนสัน ้ จาก IKEA มูลค่า 990 บาท
11. ทีร่ องมือ ลัสซีเนีย จาก Betrend 3 รางวัล 7. กิฟต์เซต
จากเดนทิสเต้ 3 รางวัล มูลค่า 1,200 บาท
100%
13. ชุด Lily Daily Indulgences ประกอบด้วย Bath & Shower Gel 250 ml. / Body Lotion 245 ml./ Hand Therapy 100 g. และกระเป๋าลาย Lily จาก Crabtree & Evelyn มูลค่า 2,690 บาท 1 รางวัล
100%
25%
75%
50%
50%
3. นอตทูรเ์ ชิน
ปลอกผ้านวมและ ปลอกหมอน จาก IKEA มูลค่า 990 บาท 8. Eucerin
100%
100%
25%
75%
50%
50%
4. แกรดดิก
ของแต่งผนัง 3 ชิน้ จาก IKEA มูลค่า 790 บาท 100%
25%
5. วีเนการ์
จานไม้ จาก IKEA มูลค่า 598 บาท
104 | happy+
9. Eucerin
AQUAporin Active Refreshing Gel Lotion โลชัน่ เติม ความชุม่ ชืน่ สำ�หรับ ผิวขาดนา้ํ บอบบาง แพ้งา่ ย มูลค่า 490 บาท 4 รางวัล
14. กิฟต์เซต
สกินแคร์ จาก Nature Touch มูลค่า 1,000 บาท 3 รางวัล
10. Schizoderma
100%
75%
White Therapy Spot Corrector ลด เลือนจุดด่างดำ� เฉพาะจุด มูลค่า 1,100 บาท 4 รางวัล
50%
50%
Anti-wrinkle Facial Mask ช่วยให้ ผิวหน้าเนียนนุม่ กระจ่างใสจนคุณ สัมผัสได้ 2 รางวัล รางวัลละ 800 บาท
15. วิตามินและผลิตภัณฑ์เสริม
อาหารเสริมสร้างความแข็งแรงของ กระดูกและข้อ Calcium D Soy + Flexigen + Nat D จากเมก้า วีแคร์ มูลค่า 1,740 บาท 1 รางวัล
21. Shiseido Makeup Radiant Lifting Foundation รองพืน้ เนือ้ บางเบา สูตรใหม่ทม่ี อบผลลัพธ์ผวิ หน้า ดูกระชับเรียบเนียน และเปล่ง ประกายเรืองรอง มูลค่า 1,800 บาท 1 รางวัล
16. วิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
ดูแลสุขภาพผิวพรรณ Nat C Ester +Flexigen + Grape Seed จาก เมก้า วีแคร์ มูลค่า 1,950 บาท 1 รางวัล
25. NARS
17. วิตามิน และผลิตภัณฑ์ เสริมอาหาร ช่วยชะลอ ความชรา Nat C60's + Nat E + Alerten50 จาก เมก้า วีแคร์ มูลค่า 2,130 บาท 1 รางวัล
VELVET MATTE LIP PENCIL: PAIMPOL มูลค่า 970 บาท 1 รางวัล ลิปสติกสีชมพูออ่ น โปร่งใสดุจ ผ้าแพรชีฟอง เนือ้ สัมผัสเนียน ลืน่ ไปบนริมฝีปากอย่างง่ายดาย ให้ผลลัพธ์เนือ้ แมตต์โก้หรู
22. Maquillage True Rouge ลิปสติกเพือ่ เรียว ปากทีม่ อบ “สีสนั ประกายแวววาว และสวยเนิน่ นาน” ไปพร้อมกัน มูลค่า 1,250 บาท 1 รางวัล
23. Cle de Peau Beaute Enriched Lip Luminizer ลิปสติกสูตรเข้มข้น จรัส ประกายแวววาว มอบ ความโดดเด่นให้รมิ ฝีปาก พร้อมคงความชุม่ ชืน่ เสมือนแรกแต่งเติมอย่าง ต่อเนือ่ ง มูลค่า 2,300 บาท 1 รางวัล
18. วิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพือ่ ความพร้อมสำ�หรับการทำ�งาน Nat B 40's + Gilomax + Fish Oil100's จากเมก้า วีแคร์ มูลค่า 1,430 บาท 1 รางวัล
เพือ่ ดูแลรูปร่าง CLA + Higreen + Mega Fiber จากเมก้า วีแคร์ มูลค่า 2,100 บาท 1 รางวัล
20. SHU
UEMURA rouge unlimited supreme matte ลิปสติกสีแมตต์ทม่ี อบ สีสนั สดอิม่ พร้อม ความนุม่ นวลและลืน่ ไหล มูลค่า 990 บาท 1 รางวัล
27. กิฟต์เซตจาก www.sanook. com (หมอน ,แก้วนา้ํ , สมุดโน้ต, เสือ้ ยืด, ร่ม) มูลค่า 1,500 บาท 1 รางวัล
28. กิฟต์เซตจาก WeChat (หมอนวีแช๊ต 2 ใบ, ทีใ่ ส่ โทรศัพท์มอื ถือ, เสือ้ ยืด, สมุดโน้ต) มูลค่า 1,000 บาท 1 รางวัล
19. วิตามินและผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
24. Ettusais
Set มูลค่า 1,350 บาท 1 รางวัล • Shower Cologne ผลิตภัณฑ์เพิม่ เสน่หค์ วามหอม อย่างอ่อนโยนให้กบั เส้นผมและเรือนร่างดุจผิวได้ “อาบโคโลญจ์” ขนาด 90ml. • Ac Gentle Make Off นา้ํ มันทำ�ความสะอาด เครือ่ งสำ�อางทีช่ ว่ ยขจัดเครือ่ งสำ�อางและสิง่ สกปรกทีอ่ ดุ ตัน ตามร่องรูขมุ ขนได้อย่างหมดจด โดยไม่กอ่ ให้เกิดการเสียดสี และลดแนวโน้มการเกิดสิว
• สินค้า Betrend มีวางจำ�หน่ายที่ เดอะมอลล์ ทุกสาขา, ดิ เอ็มโพเรียม และพารากอน ดีพาร์ทเม้นต์สโตร์
26. กิฟต์เซต Dove Bar Soap 5 รางวัล
29.
บัตรกำ�นัลทีพ่ กั พร้อม อาหารเช้า 2 วัน 1 คืน จาก โรงแรมสวิสโฮเต็ล เลอ คองคอร์ด 2 รางวัล
กติกา เพียงตัดคูปอง ติดลงบนไปรษณียบัตร เขียนชือ่ นามสกุล ทีอ่ ยู่ และเบอร์โทรศัพท์ พร้อมระบุของรางวัลชิน้ ทีต่ อ้ งการ ส่งมาที่ นิตยสาร happy+ 10/196-197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชัน้ 27 ถ.สุขมุ วิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110 ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2556 รายชือ่ ผูโ้ ชคดีจะประกาศให้ทราบ ในนิตยสาร happy+ ฉบับที่ 15 เดือนมกราคม 2557 ติดต่อรับของรางวัลได้ท่ี กองบรรณาธิการนิตยสาร happy+ โทร. 0-2168-7480 ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2557 หากพ้นกำ�หนด ถือว่าท่านสละสิทธิ์
* st Great Gift * 1 Anniversary นิตยสาร happy+
subscription
Next Issue
King-Music-Father
+
ฉบับเดือนธันวาคมนี้ ทีมงาน happy+ ภูมิใจเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับพระอัจฉริยภาพทางดนตรี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่นอกจากจะทรงพระปรีชาสามารถในการพระราชนิพนธ์เพลงและทรงดนตรีแล้ว ยังทรงเป็น “ครูใหญ่” สอนดนตรีแก่ แพทย์ ราชองครักษ์ และข้าราชการผู้ปฏิบัติราชการใกล้ชิดพระยุคลบาท ซึ่งส่วนใหญ่เล่นดนตรีไม่เป็นเลย จนเล่นดนตรีเป็น อ่านโน้ตได้ และสามารถบรรเลงในโอกาสพิเศษต่างๆ ได้ ทั้งยังทรงมีพระราชประสงค์ที่จะอนุรักษ์ดนตรีไทยและนาฏยศิลป์ไทยให้คงอยู่คู่ชาติไทยตลอดไป
นอกจากนั้นคอลัมน์ Feature ยังอวลด้วยไออุ่นของสายใยรักและผูกพันระหว่างพ่อ ลูก นักร้อง นักดนตรี 4 ครอบครัว ได้แก่ • อาต้อย-เศรษฐา ศิระฉายา และน้องอีฟ-พุทธธิดา ศิระฉายา • ฟุตบาทแฟมิลี่ ของพี่อี๊ด ฟุตบาท-อิทธิพล วาทะวัฒนะ กับน้องปิ๊ก-สมรรถยา วาทะวัฒนะ และน้องเปรียว-สรีวันท์ วาทะวัฒนะ • 3 พี่น้องวีทรีโอ เป้-ทวีเวท ศรีณรงค์ ป่าน-อุทัยศรี ศรีณรงค์ และปุย-พินทุสร ศรีณรงค์ • และ เฟิร์ส สล็อตแมชชีน-เสฐพงษ์ ดุรงค์จิรกานต์ กับคุณพ่อผู้คอยสนับสนุนสู่เส้นทางสายดนตรี พร้อมเรื่องราวความสุขที่จะทำ�ให้หัวใจของผู้อ่าน happy+ เบิกบาน
เลขที่ใบสมัคร No…………………………………………………รหัสสมาชิก...................................................................................................... (สำ�หรับเจ้าหน้าที่)
พิเศษ
ใบสมัครสมาชิก
วันที่สมัคร............................................................................................................................................................... สมัครสมาชิก 1 ปี (12 ฉบับ) ราคา 780 บาท เริ่มฉบับที่.....................................................................ถึงฉบับที่............................................................................ ชื่อ................................................................................นามสกุล............................................................................ วัน/เดือน/ปีเกิด..............................................................อายุ.................................................................................. เพศ ชาย หญิง อาชีพ..............................................................รายได้ต่อเดือน....................................... ระดับการศึกษา ตํ่ากว่า ป.ตรี ป.ตรี ป.โท อื่นๆ สถานภาพ โสด สมรส ม่าย/หย่าร้าง ปัจจุบันมีบุตรหรือไม่ ยังไม่มี มีแล้ว จำ�นวน...............................คน สถานที่สำ�หรับจัดส่งนิตยสาร ชื่อ........................................................................................................................................................................... ที่อยู่........................................................................................................................................................................ รหัสไปรษณีย์.......................................................................................................................................................... โทรศัพท์ (บ้าน).................................................................โทรศัพท์ (มือถือ).......................................................... โทรสาร............................................................................อีเมล............................................................................... ชำ�ระค่าสมัครโดย โอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ในนาม บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบางโคล่ : เลขที่บัญชี 095-273056-5 *กรุณาส่งใบสมัครสมาชิก พร้อมเอกสารการชำ�ระเงินมาที่ ฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์ นิตยสาร happy+ บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชั้น 27 ซอยสุขุมวิท 13 ถนนสุขุมวิท เขตวัฒนา กทม. 10110 หรือแฟกซ์มาที่หมายเลข 0-2168-7481 หรือสแกนหลักฐานส่งมาทางอีเมล kthip@hotmail.com **บริษัทจะส่งเลขที่สมาชิกและนิตยสารฉบับแรกไปยังท่าน เมื่อได้รับหลักฐานการชำ�ระเงินแล้ว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือแนะนำ� ติ ชม ได้ที่ฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์ นิตยสาร happy+ โทรศัพท์ 0-2168-7480 (แบบฟอร์มนี้สามารถถ่ายเอกสาร หรือคัดลอกลงกระดาษ A4 แล้วส่งมาตามที่อยู่ของบริษัท)
สมัครสมาชิก happy+ เดือนพฤศจิกายน รับทันที Newsky Facial Cleansing Cream
+
Newsky Mineral Salt Scrub
และบัตร รับประทานอาหาร ทีร่ า้ น Chicken T