happy+ Vol.41 April 2016

คุณหญิงพวงรอย ดิศกุล ณ อยุธยา

041

เมษายน 2559

“มูลนิธิแมฟาหลวงฯ” เขาถึง เขาใจ และพัฒนา

เบื้องหลัง ความสำเร็จ สมศักดิ์ บุญคำ

Local Alike การทองเที่ยวรูปแบบใหม ที่ยั่งยืน

อรรคพันธ นะมาตร

เพียงชายคนหนึ่ง

let’s smile

Letter

พรมนํ้า ปะแป้ง วันสงกรานต์ พวกเราผ่านปีใหม่ตามแบบสากล เดินทางเข้าสูเ่ ดือนที่ 4 ของปฏิทนิ ซึง่ เป็น ปีใหม่แบบไทยกันแล้ว วันหยุดยาวช่วงสงกรานต์ ชาวต่างจังหวัดอย่างเราได้เดินทาง กลับบ้านไปพบปะครอบครัว เพราะบางครัง้ ความห่างไกลก็ท�ำ ให้ความสัมพันธ์ ในครอบครัวห่างกัน ถือโอกาสใช้วนั หยุดยาวนีส้ านความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิง่ ขึน้ กลับไปกอดคนทีเ่ รารักและรักเรากันดีกว่าค่ะ ขอให้ทกุ คนเดินทางโดยสวัสดิภาพ สำ�หรับชาวกรุงเทพฯ ทีไ่ ม่ตอ้ งเดินทางกลับบ้านอย่างคนอืน่ เขา ไม่ตอ้ งเสียใจ ไปค่ะ วันหยุดช่วงสงกรานต์ลองหยิบนิตยสาร happy+ มาอ่านเพือ่ เพิม่ พูนความ สุขกาย สุขใจกันได้ ฉบับเดือนเมษยนนี้ มีเรือ่ งราวน่าสนใจของกลุม่ คนเบือ้ งหลัง (ทีเ่ รานำ�มาไว้เบือ้ งหน้า) พร้อมความภาคภูมใิ จในการทำ�งานของพวกเขามาให้ อ่านอย่างเพลิดเพลิน แล้วเราจะรู้ว่าคนกลุ่มนี้ล้วนเป็นแรงผลักดันสำ�คัญให้คน เบือ้ งหน้าประสบความสำ�เร็จค่ะ ด้วยความปรารถนาดี ทีมงานนิตยสาร happy+

เรียน กองบรรณาธิการ happy+ ดิฉนั เป็นแฟน happy+ ตัง้ แต่เล่มโป๊บ จากนัน้ ก็ตามอ่านเรือ่ ยมา ชอบ เนือ้ หาทีอ่ ดั แน่นไปด้วยความรูม้ ากมาย ภาพประกอบและอาร์ตเวิรก์ สวย ๆ อ่านง่ายสบายตา ทีส่ �ำ คัญมีกจิ กรรมให้ลนุ้ ของรางวัลอีกมากมาย สุดท้ายขอให้ ทีมงานมีความสุขมาก ๆ และมีสมาชิกเพิม่ ขึน้ เรือ่ ย ๆ นะคะ พรกมล สุรยิ ะธรรม สวัสดีคะ่ คุณพรกมล ขอบคุณทีเ่ ขียนจดหมายมาหา ให้พวกเราชาว happy+ ได้เป็นกำ�ลังใจ ระหว่างการทำ�งานนะคะ เพราะพวกเราพยายามเลือกเฟ้นเนือ้ หาทีด่ ที ส่ี ดุ มา นำ�เสนอให้ผอู้ า่ นทีน่ า่ รักเสมอ สำ�หรับคุณพรกมลถ้าเห็นว่าดาราคนไหนหรือมี เรือ่ งอะไรทีน่ า่ สนใจ จะแนะนำ�กองบรรณาธิการเข้ามาก็ได้นะคะ ทางเรายินดี รับฟังความคิดเห็นเสมอค่ะ • ส่งความคิดเห็น คำ�ติ ชม หรือข้อเสนอแนะทีม่ ตี อ่ happy+ ได้ท่ี กอง บรรณาธิการนิตยสาร happy+ บริษทั ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด เลขที่ 10/196197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชัน้ 27 ถนนสุขมุ วิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขต วัฒนา กรุงเทพฯ 10110 หรือทางอีเมล happyplusmag@gmail.com happy+ มีของขวัญมอบให้แทนคำ�ขอบคุณ

• สำ�หรับคุณพรกมล จะได้ครีมพอกหน้า สมุนไพร จากเขาค้อทะเลภู ติดต่อขอรับ ของรางวัลได้ทค่ี ณ ุ เบล โทร. 0-2168-7480 ต่อ 1021

เจ้าของ : บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชั้น 27 ถนนสุขุมวิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 0-2168-7480 โทรสาร 0-2168-7481 Line ID : happyplusmagazine คณะที่ปรึกษา : วิสุทธิ วิทยฐานกรณ์, ศักดิ์ชัย พฤฒิภัค บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา : วราภรณ์ ชูพระคุณ Social Editor : ทูน หิรัญทรัพย์ กองบรรณาธิการ : ภัทรามน ผุดเพชรแก้ว, ภัทราภรณ์ เตชะธรรมวงศ์, พิชญา สิทธิบุตร์, กรรณิกา ฝากาบล นักเขียน : ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร, ดร.วีรณัฐ โรจนประภา, ณัฐพบธรรม, ศศิน เฉลิมลาภ, ป้าจาย-แม่มดดอกไม้, อาจารย์คฑา ชินบัญชร, ผมอยู่ข้างหลังคุณ, นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา, ศศินี ปัญญารัตน์ , อรพิมพ์ รักษาผล, เจ้าชายผัก, ญาดารัตน์ พิสูจน์อักษร : ณรงค์ พึ่งบุญพา บรรณาธิการศิลปกรรม : กัมปนาท ศิลาวรรณ ช่างภาพ : สุภชัย รอดประจง, กุลวัฒน์ นะมิ ฝ่ายโฆษณาและการตลาด : 0-2168-7480 ต่อ 1010 แยกสี : 71 Interscan Co., Ltd. โทรศัพท์ 0-2631-7171 พิมพ์ที่ : บริษัท ไซเบอร์พริ้นท์ จำ�กัด 0-2641-9135-8 จัดจำ�หน่าย : บริษัท เวิร์ล ออฟ ดิสทริบิวชั่น • ผู้ อ่ า นท่ า นใดต้ อ งการเขี ย นจดหมายมาพู ด คุ ย กั บ เรา ต้ อ งการติ ชม หรื อ เสนอแนะ เชิ ญ ส่ ง ความคิ ด เห็ น ของท่ า นเข้ า มาได้ ที่ happyplusmag@gmail.com หรือเข้าไปติดตามความเคลื่อนไหว update ข่าวสารใหม่ ๆ ได้ที่ : facebook.com/happyplusmag หรือ Line ID : happyplusmagazine

นิตยสาร รางวัลตาราอวอร์ด ‘ปลุกหัวใจสังคมด้วยหัวใจโพธิสัตว์’ ประจำ�ปี 2556

contents

ปีที่ 4 | ฉบับที่ 41 | เมษายน 2559

กายสุข 14 healthy planet / ทานโฟเลตก่อนตั้งครรภ์ ป้องกันความพิการในลูกรัก 62 take care / มารู้จักโรคมะเร็งช่องปากกันเถอะ 65 q & a 66 ยืดเส้น ยืดสาย / ขยับร่างกาย ลดอาการ บ้านหมุน 68 happy herb / สมุนไพรรักษาโรคกระเพาะ อาหาร 72 beauty by nature / มาผลักวิตามินเข้าผิว แบบสบาย ๆ กันเถอะ 90 กินอาหารเป็นยา / เต้าหู้ไทยใหญ่ ผัดไทยน้อย 96 beauty recommended / Nlinn เกลือหิมาลายัน ชั้นดีจากธรรมชาติ ใจสุข

20 happy people / อรรคพันธ์ นะมาตร์ เพียงชาย

คนหนึ่ง

30 happy heart / คุณหญิงพวงร้อย ดิศกุล

ณ อยุธยา “มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ” เข้าถึง เข้าใจ และพัฒนา 38 feature / คนเบื้องหลัง 48 ตัวอักษร ซ่อนพลัง / ปิ่นโต 4 ชั้น 50 คนคิดดี / สมศักดิ์ บุญคำ� Local Alike การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่ยั่งยืน 54 family in love / ฟูจิซัง 56 นัดพบกับธรรมะ / ชินดี ชินร้าย 58 wired world / ใช้ชีวิตแบบมี ‘คนดู’ 60 ระหว่างทาง / ไปสะพานข้ามกาลเวลา 70 Well Being / ณ ชานชาลา 74 สิ่งนี้ที่เรารัก / บิทเติ้ล สุขุมพันธ์ ฐิติธนพันธ์ แรงบันดาลใจ จากการอ่าน 76 travelogue / ฮ่องกง จิ๋วแต่แจ๋ว 80 การเดินทางของนกสีฟ้า / “ร้อยเอ็ด” เมืองเล็ก ๆ แต่น่าฮัก

83 one happy day / ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช

พิพิธภัณฑ์ชุมชนจีน วัดไตรมิตรวิทยาราม

86 green corner / สงบกาย สบายใจ ที่อาศรม 92 ชวนชิม อิ่มสุข

• Amantee • Giant Yakiniku 94 ชวนดูหนัง / The Time Traveler’s Wife รักอมตะของชายนักท่องเวลา 95 ชวนอ่านสานสุข 98 horoscopes สังคมสุข

10 happy planet / สูงวัย ไฟแรง 100 กิจกรรมนำ�สุข 102 happiness is all around

contributors

ป้าจาย-แม่มดดอกไม้ กินอาหารเป็นยา horoscope p.90 p.98 ผู้เขียนและวาดภาพประกอบหนังสือ ครัวดอกไม้ นักพยากรณ์ชื่อดัง เจ้าของรางวัล “สร้างสรรค์สังคม ที ่ได้รับการตีพิมพ์ถึง 3 ครั้ง และยังเป็นเจ้าของ ไทยดีเด่น” ประจำ�ปี 2541 ปัจจุบนั เป็นทัง้ คอลัมนิสต์ เครื่องหมายทะเบียนการค้า ครัวดอกไม้ ปัจจุบัน พิธีกร และวิทยากรพิเศษ รวมถึงทำ�งานการกุศล มีความสุขกับการเขียนหนังสือ และออกตลาดนัด มากมาย ได้แก่ เป็นประธานกองทุน M.A.C. Aids Fund (ประเทศไทย) ประธานหาทุนมูลนิธิร่วมนํ้าใจ สีเขียวซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำ�ได้ทุกวันโดยไม่รู้สึกเบื่อ ต้านภัยเอดส์ ผู้ช่วยผู้จัดการโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษาฯ จ.ลำ�พูน เป็นต้น อาจารย์คฑา ชินบัญชร

ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร happy herb p.68

เจ้าแม่สมุนไพรผูไ้ ด้รบั พระราชทานรางวัลบุคคลดีเด่น ของชาติ สาขาเผยแพร่เกียรติภูมิของไทย (ด้าน การแพทย์แผนไทย) เจ้าของรางวัลบุคคลดีเด่นแห่ง ชาติ สาขาผลงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ดีเด่น และ เป็น 1 ใน 21 ผู้หญิงเก่งที่ได้รับรางวัล Women Who Make a Difference จากนิตยสาร Thailand Tatler ปัจจุบันดำ�รงตำ�แหน่งหัวหน้ากลุ่มงาน เภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

ณัฐพบธรรม นัดพบกับธรรมะ p.56

เป็นนักเขียน Best Seller ที่เน้นเขียนธรรมะที่อ้างอิง จากพระไตรปิฎกโดยมีผลงานเป็นที่รู้จักก็คือ ถ้ารู้... (กู)...ทำ�ไปนานแล้ว, นี่หรือเมืองพุทธ ปัจจุบันมี ความสุขอยู่กับการเป็นคนธรรมดา ที่ทำ�ตามคำ� สั่งสอนของพระพุทธเจ้าในทุก ๆ วัน

ผมอยู่ข้างหลังคุณ (นพ.พีรพล ภัทรนุธาพร) wired world p.58

แพทยศาสตรบัณฑิตจากโรงพยาบาลรามาธิบดี แพทย์เฉพาะทางวุฒบิ ตั รสาขาจิตเวชศาสตร์ และ วุฒิบัตรจิตเวชเด็กและวัยรุ่น หลังเรียนจบได้ปฏิบัติ ภารกิจตามที่ศึกษามาในโรงพยาบาล ขณะเดียวกัน ยังเป็นคอลัมนิสต์ประจำ�นิตยสาร มีงานเขียนอยู่ ประจำ�ที่ facebook.com/ibehindyou และมีผลงาน พ็อกเก็ตบุ๊กมาแล้วทั้งหมดสิบเล่ม

เบส อรพิมพ์ รักษาผล ตัวอักษรซ่อนพลัง p.48

เบส อรพิมพ์ รักษาผล ผู้หญิงที่รักการแสดงออก ชอบร้อง ชอบเต้น ชอบพูด ชอบการขีดเขียนมา ตั้งแต่เด็ก บวกกับการทำ�งานด้านการเป็นนักพูดที่ ต้องอยูก่ บั การค้นคว้าขีดเขียนด้วยตนเอง จนพบว่า หลงรักการเขียนและอยากให้ตัวอักษรเป็นอีกหนึ่ง ช่องทางในการสร้างกำ�ลังใจแก่ผู้อ่านได้ต่อไป..

ศศิน เฉลิมลาภ ระหว่างทาง p.60

ได้มีโอกาสเดินทางผ่านไปในเส้นทางธรรมชาติ พบปะผู้คน และสถานที่ที่สะดุดให้คิดถึงเรื่องดี ๆ ที่เกิดขึ้นในห้วงการพบเจอ และชวนให้จดจำ�นำ� มาเล่าให้ฟัง เป็นเส้นทางแห่งการทำ�งานอนุรักษ์ ธรรมชาติ ทีม่ คี วามสุข แทรกอยูใ่ นภารกิจทีห่ นักหนา แต่เลือกแล้วว่าจะต้องทำ� และเดินทางต่อไป

นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา take care p.62

คุณหมอบล็อกเกอร์ผู้เขียนบทความทางการแพทย์ ลงใน Mthai.com และ mor-maew.exteen.com เจ้าของรางวัล “เบสท์ออฟเดอะเบสท์” และรางวัล “บล็อกยอดเยี่ยม สาขาสุขภาพ” จากการประกวด สุดยอดบล็อก ในงานประกวดไทยแลนด์บล็อก อวอร์ด ติดตามบทความของคุณหมอได้ในคอลัมน์ Take Care

ดร.วีรณัฐ โรจนประภา family in love p.54

“วิศวกรสังคม” ผู้มุ่งมั่นนำ�หลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงมาใช้ขับเคลื่อนงานในทั้ง 3 มิติคือ การ ศึกษา สังคม และเศรษฐกิจ ด้วยเครื่องมือ 3 ชนิด คือ มูลนิธิบ้านอารีย์ สมาคมบ้านปันรัก และบจก. คิดใหม่ เพื่อส่งต่อความรู้ในทั้ง 3 ระดับคือ ขั้นสอน ให้รู้ ทำ�ให้ดู และอยู่ให้เห็น

ญาดารัตน์ well being p.70

“เด็กวิทย์ชอบศิลป์” ลูกชาวสวนที่มีความศรัทธา ต่ออาชีพของบรรพบุรุษ เป็นพยาบาลที่มีความ ภาคภูมิใจในวิชาชีพ และเห็นคุณค่าของการ ทำ�งานศิลปะในเชิงการบำ�บัดเยียวยาจิตใจผู้คน เป็นผู้ที่หลงใหลในการเดินทางและการบันทึก เป็นชีวิตจิตใจ ปัจจุบันเป็นอาจารย์พยาบาลใน มหาวิทยาลัยที่มีความเชี่ยวชาญด้านผู้สูงอายุ และ ทำ�งานอาสาสมัครด้านศิลปะบำ�บัดให้กับสังคม ใน บทบาท Therapeutic Art Specialists

เจ้าชายผัก ปลูกความสุข ในบ้านคุณกับเจ้าชายผัก p.88 ฉายาของคุณ “ปริ๊นซ์’ นคร ลิมปคุปตถาวร เจ้าของ ‘ศูนย์เรียนรู้เกษตรในเมือง สาขาเจ้าชายผัก’ ย่าน ลาดพร้าว 71 ผู้มีใจรักในการปลูกผัก และยัง ถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้ที่สนใจ เพราะอยากเห็น คนเมืองปลูกผักปลอดสารพิษไว้กินเอง ด้วยความ เชื่อว่า การปลูกผักทำ�ให้สุขกายที่ได้อาหารดี สุขใจที่ได้ปลูก และสุขที่ได้ร่วมแบ่งปัน

ศศินี ปัญญารัตน์

beauty by nature p.72

ผันตัวเองจากการทำ�งานในบริษัทโฆษณาต่างชาติ ชื่อดัง มาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโยคะและธรรมชาติ บำ�บัด จบหลักสูตรจากสถาบันโยคะวิชาการ และ Kaivalyadhamma Yoga Institute, India ทุ่มเทเวลา ดูแลตัวเองทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ จิตวิญญาณ และทำ�งานเพื่อสังคม ปัจจุบันเปิดสอน โยคะส่วนตัวแนวธรรมชาติบำ�บัด

Srann กับเคล็ดลับแห่งการประทินผิวหน้าร้อน

ช่วงหน้าร้อนนีเ้ ชือ่ ว่าสาว ๆ หลายคนคงจะพบกับปัญหาผิวต่างกันไปใช่มย้ั คะ บางคนมีปญ ั หาผิวมันเยิม้ บางคนมีผดผืน่ เนือ่ งจากอากาศร้อน บางคนแพ้แดดจนผิวแสบแดง พอหลบมาอยูใ่ นห้องแอร์นาน ๆ ผิวก็แห้งเป็นขุยอีก

• นํา้ มันอาร์แกน (Argan Oil)

อย่างสูงสุด แนะนำ�ว่าให้เลือกน้ํามันอาร์แกน บริสทุ ธิ์ 100% ทีไ่ ม่ผสมนา้ํ หอมและสารเติมแต่ง ใด ๆ เลย ยิง่ ถ้าผ่านการรับรองคุณภาพ Ecocert ด้วย ยิง่ ดี จะได้มน่ั ใจว่าเป็นนา้ํ มันอาร์แกนออร์แกนิก ทีผ่ า่ นการสกัดเย็นด้วยวิธธี รรมชาติ เป็นนา้ํ มัน อาร์แกนคุณภาพดี ที่มีคุณประโยชน์ครบถ้วน ภาชนะบรรจุกค็ วรจะเป็นขวดสีเข้ม ซึง่ ช่วยรักษา คุณภาพของนํา้ มันอาร์แกนได้ดคี ะ่ ไอเทมเสริมที่อยากจะแนะนำ�อีกอย่างคือ น้าํ กุหลาบบริสุทธิ์ หรือ Rosewater ซึ่งสกัด มาจากดอกกุหลาบออร์แกนิก ทีป่ ลูกใน ‘Rose Valley’ บนเทือกเขาไฮแอตลาสของโมร็อกโก นํา้ กุหลาบมีคณ ุ สมบัตชิ ว่ ยเติมความชุม่ ชืน้ ให้แก่ ผิวหน้าระหว่างวัน โดยใช้ฉดี พ่นบนใบหน้าหลังจาก ออกแดด กลิน่ หอมอ่อน ๆ จากดอกกุหลาบแท้ ๆ จะช่วยคืนความสดชื่น ช่วยให้จิตใจปลอดโปร่ง ขึน้ ได้คะ่

• นํา้ กุหลาบบริสทุ ธิ์ หรือ Rosewater

วันนีเ้ รามีตวั ช่วยทีอ่ ยากจะแนะนำ�ให้สาว ๆ เมืองร้อนอย่างเรา ๆ พกไว้ดแู ลผิวกันค่ะ เป็น ไอเทมบำ � รุ ง ผิ ว สารพั ด ประโยชน์ ที่ ข้ า มน้ํ า ข้ามทะเลมาไกลจากประเทศโมร็อกโก ดินแดนทีม่ ี ภูมอิ ากาศแตกต่างสุดขัว้ จากทะเลทรายไปจนถึง ภูเขานา้ํ แข็ง โดยไอเทมสารพัดประโยชน์ทว่ี า่ คือ Argan Oil (นา้ํ มันอาร์แกน) สุดยอดนา้ํ มันบำ�รุงผิว ทีม่ แี หล่งผลิตทีเ่ ดียวในโลกอยูท่ โ่ี มร็อกโก ใครกำ�ลังอ้าปากจะเถียงว่า ทานํา้ มันบำ�รุงผิว ตอนหน้ า ร้ อ นหน้ า ก็ ย่ิ ง มั น ยิ่ ง เยิ้ ม เหนี ย ว เหนอะหนะละสิ ขอบอกว่านํ้ามันอาร์แกนจะ เปลี่ยนความคิดของคุณไปเลย เพราะน้ํามัน อาร์แกนมีคณ ุ สมบัตเิ ป็น Non-Comedogenic คือ

ไม่อดุ ตันรูขมุ ขน ไม่ท�ำ ให้เกิดสิว ซึมซาบลงสูผ่ วิ ได้ อย่างรวดเร็ว ทำ�ให้ผวิ แข็งแรงมีสขุ ภาพดี ช่วยให้ ความชุม่ ชืน้ แก่ผวิ ปกป้องผิวจากความแห้งกร้าน และริ้วรอย แถมยังมีคุณสมบัติในการปกป้อง และซ่อมแซมผิวจากอันตรายของแสงแดดได้อกี ด้วย โดยวิธีการใช้คือ หยดนํ้ามันอาร์แกนเพียง สองสามหยด นวดเบา ๆ ให้ทว่ั ใบหน้าและลำ�คอ หลังจากล้างหน้า ปล่อยให้นา้ํ มันอาร์แกนซึมลงไป ในผิว ก่อนทีจ่ ะทาครีมบำ�รุงผิวและครีมกันแดด ก่อนนอนก็นวดแบบเดียวกันอีกที เท่านีผ้ วิ หน้า ของเราก็จะแข็งแรง ต่อสูก้ บั แสงแดดและอากาศ ร้อนอบอ้าวของเดือนเมษาได้สบาย ๆ แล้วค่ะ และเพื่อให้ได้ประโยชน์จากน้ํามันอาร์แกน

พบกับสบูแ่ ละเครือ่ งประทินผิวจากธรรมชาติ นํา้ มันอาร์แกนบริสทุ ธิ์ 100% และ นํา้ กุหลาบบำ�รุงผิว ส่งตรงมาจากโมร็อกโกได้ท่ี www.srann.co หรือติดตามข่าวสาร และโปรโมชัน่ ต่าง ๆ ทางเพจ www.facebook.com/srannsoap หรือไม่หากใครทีว่ างแผนจะไปเทีย่ วเชียงใหม่หน้าร้อนนี้ ลองเข้าไปเลือกหาสบู่ และเครือ่ งประทินผิวธรรมชาติทเ่ี หมาะกับผิวคุณได้ท่ี ร้าน srann ถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 17 โทร. 09-1415-4020, 08-9429-6487 ค่ะ

happy planet เรื่อง : Patty Pom

สูงวัย ไฟแรง เคยมีความฝันหรือจินตนาการภาพของตัวเราเอง ในอนาคตกันบ้า งหรื อเปล่ าคะ ว่ าตั ว ฉั น ในอี ก 20 หรือ 30 ปีข้างหน้า เราจะทำ�อะไรอยู่ มีชีวิต แบบไหน และฝันอยากทำ�อะไรกันบ้าง ถึงแม้ว่า จะไม่มใี ครรูอ้ นาคต แต่กค็ งแอบคิด แอบฝันไปบ้าง ใช่ ห รื อ เปล่ า คะ ที่ ถ ามกั น แบบนี้ ก็ เ พราะว่ า ใน เดือนเมษายนนี้ นอกจากจะเป็นวันหยุดยาวในช่วง เทศกาลสงกรานต์ เป็นวันครอบครัวแล้ว ในวันที่ 13 เมษายนของทุกปี ก็ยงั เป็นวันผูส้ งู อายุอกี ด้วย ทำ�ให้ ฉันนึกถึงคุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย ที่ส่วนใหญ่ เราจะเห็นท่านพักผ่อนอยู่กับบ้าน ปลูกต้นไม้ ทำ� กับข้าว เลี้ยงหลาน อะไรทำ�นองนี้ แต่พอมองไปรอบ ๆ ตัว ก็ยังมีคนสูงวัยอีก มากมายที่ยังทำ�งาน ยังสนุกกับชีวิต ยังใช้ชีวิต เหมือนสมัยหนุ่ม ๆ สาว ๆ ยังสร้างสรรค์งานดี ๆ กันอยู่ เพราะคุณตา คุณยายเหล่านี้ ยังมีไฟและ หัวใจวัยรุ่นอยู่ตลอดเวลา ศักยภาพ ทักษะการ ทำ�งานและความสามารถก็ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด จึงหยิบยกเอาเรื่องนี้มาเล่าให้ฟังกันค่ะ เพื่อให้ คุณผู้อ่านยังคงมีไฟ มีก�ำ ลังใจในการใช้ชีวิตต่อไป สูงวัย แต่ใจยังเฟี้ยวได้นะคะ 10 | happy+

บาร์บาร่า นิกเกอร์บ็อกเกอร์-เบสไคนด์ (Barbara Knickkerbocker-Beskind) อายุ 91 ปี

ที่ยังคงสนุกกับการทำ�งาน แถมเป็นงานที่หนุ่มสาวหลายคนใฝ่ฝันอยากจะทำ�อีกด้วย นั่นคือ การ เป็นดีไซเนอร์ของบริษทั ออกแบบชือ่ IDEO ในซิลคิ อนวัลเล่ย์ คุณยายบาร์บาร่าในวัย 89 ปี ส่งจดหมาย สมัครงานไปยังบริษัท IDEO โดยพิมพ์จดหมายสมัครงานใส่ในกระดาษและส่งไปทางไปรษณีย์ หวัง เรียกความสนใจ เพราะบริษทั ต่าง ๆ ในซิลคิ อนวัลเล่ย์ คงไม่คอ่ ยได้รบั จดหมายสมัครงานทางไปรษณีย์ เท่าใดนัก อีกประการ เพราะเธอไม่สามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้ เนื่องจากมีปัญหาทางสายตา เพียงแค่สัปดาห์เดียว บาร์บาร่าก็ได้รับคำ�ตอบรับจากบริษัท IDEO ที่กำ�ลังทำ�โปรเจ็กต์ดีไซน์ เกีย่ วกับผูส้ งู อายุ จึงถือเป็นโอกาสดีทบี่ าร์บาร่าจะมาร่วมงานด้วย นอกจากความมุง่ มัน่ ในการทำ�งานแล้ว เหตุ ผ ลที่ ทำ � ให้ บ าร์ บ าร่ า ได้ ง านนั้ น เป็ น เพราะประสบการณ์ แ ละทั ก ษะของเธอ ในแต่ ล ะวั น บาร์บาร่าจะโดยสารรถไฟไปทำ�งาน ถึงออฟฟิศประมาณ 10.00 น. และนั่งประจำ�ที่รอพบปะพูดคุย กับพนักงานที่ต้องการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น บาร์บาร่าเชื่อว่า ผู้สูงอายุ คือ ทรัพยากรที่ยังไม่ได้ นำ�มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ทักษะของพวกเขาจึงควรค่าแก่การถูกค้นพบ

สตีเวน สปีลเบิร์ก (Steven Allan Spielberg) อายุ 69 ปี

เจ้าของฉายาพ่อมดฮอลลีวูด ที่คงไม่มีคอหนังฝรั่งคนไหนไม่รู้จัก เพราะเขาทำ�หนังคุณภาพและ ถูกใจคนมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น Jaws, E.T. The Extra-Terrestrial, Indiana Jones และ Jurassic Park ได้รับรางวัลทางภาพยนตร์มานับไม่ถ้วน ทั้งรางวัลออสการ์, อคาเดมี อวอร์ด, รางวัลเออร์วิง จี. ธัลเบิร์ก อวอร์ด จากสถาบันศิลปะและวิทยาการภาพยนตร์, รางวัลเซซิล บี. เดอมิลล์ จากสมาคม ผู้สื่อข่าวต่างประเทศฮอลลีวูด, รางวัลเคนเนดี้ เซ็นเตอร์ ออเนอร์ส และรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่ง สปีลเบิร์กนั้นไม่เคยเรียนวิชาภาพยนตร์มาจากมหาวิทยาเลย แต่พออายุ 16 ปี ได้ไปทำ�งานกับบริษัท สร้างหนังในท้องถิ่น ที่เมืองฟินิกซ์ รัฐแอริโซนาและก็ได้ทำ�หนังวิทยาศาสตร์ (ไซไฟ) ความยาว 2 ชัว่ โมง เรือ่ ง Firelight จากนัน้ ได้ท�ำ หนังอีกหลายเรือ่ งและไปเสนอกับฝ่ายโทรทัศน์ของ บริษทั ยูนเิ วอร์แซล ปัจจุบันนี้ สปีลเบิร์กได้ร่วมมือกับเจฟฟรีย์ คัทเซนเบิร์กและเดวิด เจฟเฟน ในการก่อตั้งดรีมเวิร์คส์ สตูดโิ อส์ขนึ้ สตูดโิ อแห่งนีป้ ระสบความสำ�เร็จทัง้ ในเชิงคำ�วิจารณ์และรายได้ ด้วยผลงานภาพยนตร์ทไี่ ด้รบั รางวัลภาพยนตร์ยอดเยีย่ มสามเรือ่ งติดต่อกัน ได้แก่ American Beauty, Gladiator และ A Beautiful Mind นอกเหนือจากงานภาพยนตร์แล้ว สปีลเบิร์กยังอุทิศเวลาและทรัพยากรของเขาให้กับองค์กร การกุศลมากมาย เขาก่อตั้งมูลนิธิไรชัส เพอร์ซันส์ ฟาวน์เดชัน นอกจากนี้ เขายังก่อตั้งมูลนิธิเซอร์ ไวเวอร์ส ออฟ เดอะ โชอาห์ วิชวล ฮิสทอรี ฟาวน์เดชัน ซึ่งกลายเป็นยูเอสซี โชอาห์ ฟาวน์เดชัน

อินสติติวท์ ฟอร์ วิชวล ฮิสทอรี แอนด์ เอ็ดดูเคชัน สถาบันแห่งนีไ้ ด้บนั ทึกบทสัมภาษณ์กว่า 52,000 ครัง้ ของผู้ ร อดชี วิ ต และพยานคนอื่ น ๆ ของ เหตุ ก ารณ์ ฆ่ า ล้ า งเผ่ า พั น ธุ์ ช าวยิ ว และการ ฆ่าล้างเผ่าพันธุค์ รัง้ อืน่ ๆ และทำ�ให้เรือ่ งเล่าเหล่านี้ กลายเป็ น สิ่ ง ที่ ใ ห้ ค วามรู้ แ ละเป็ น เรื่ อ งราว สอนใจด้วย และสปีลเบิรก์ ยังดำ�รงตำ�แหน่งประธาน กรรมการกิตติมศักดิ์มูลนิธิสตาร์ไลท์ ชิลเดรน ทุกวันนี้สปีลเบิร์กก็ยังคงไม่หยุดทำ�งานและยัง คงสร้างสรรค์ผลงานดี ๆ ออกมาเอาใจแฟนหนัง อยู่ตลอดเวลา

ไอริส แอพเฟล (Iris Apfel) อายุ 93 ปี

ใครว่าคนแก่จะเปรี้ยวเฟี้ยวฟ้าวไม่ได้ การ แต่งตัว สไตล์และแฟชั่นนั้นอยู่ที่ใจ หาใช่อายุไม่ ดังเช่นที่คุณย่าไอริสได้บอกกับเรา หลายคนอาจ เคยเห็นเธอผ่านสื่อต่าง ๆ มาแล้ว โดยตั้งแต่ต้น ปี 2011 ไอริสถือเป็นไอดอลที่สร้างแรงบันดาลใจ ให้กบั หญิงสาวทัว่ โลก ด้วยความเป็นแฟชัน่ นิสต้า ตัวจริง จนเครื่องสำ�อาง MAC คว้าตัวไปเป็น พรีเซนเตอร์ลปิ สติก ด้วยการแต่งตัวทีแ่ น่นแต่ลงตัว เครื่องประดับสุดจี๊ด พร้อมทั้งบุคลิกที่โดดเด่น สุด ๆ สิ่งที่ไอริสได้บอกกับสาว ๆ ทุกคนก็คือ แฟชั่ น คื อ สิ่ ง ที่ คุ ณ ใช้ เงิ น ซื้ อ ได้ แต่ ส ไตล์ คื อ สิ่ ง ที่ อ ยู่ ในตั ว คุ ณ ถ้ า คุ ณ ไม่ รู้ จั ก ตั ว เอง คุ ณก็ จะไม่มีวันมีสไตล์ได้ เคล็ดลับอยู่ตรงที่คุณต้อง เรี ย นรู้ ว่ า ตั ว เองเป็ น ใคร ซึ่ ง ต้ อ งใช้ เวลา ไม่ มี ฮาวทู สำ � หรั บ การค้ น พบสไตล์ ห รอก มั น คื อ การแสดงออกซึ่งตัวตนและทัศนคติ 12 | happy+

และคุณย่ายังบอกอีกว่า ฉันได้รับแรงบันดาลใจจากทุกสิ่งรอบตัว จากการมีชีวิต การหายใจ การ พบปะและพูดคุยกับผูค้ น จากการทำ�สิง่ ต่าง ๆ จากเรือ่ งทีพ่ บเจอ ฉันคิดว่าถ้าคนเราเปิดตัวเองให้มากขึน้ เราคงจะมีแฟชัน่ ทีด่ กี ว่าทีเ่ ป็นอยูน่ ี้ ฉันไม่วพิ ากษ์วจิ ารณ์การแต่งตัวของใครหรอก ถ้าเขาแต่งตัวแบบไหน แล้วรู้สึกมีความสุข เขาก็ควรจะแต่งอย่างนั้น เพราะถึงที่สุดแล้ว การมีชีวิตที่มีความสุขย่อมสำ�คัญ กว่าการแต่งตัวดี วันนี้ชีวิตของคุณย่าสุดเปรี้ยว ได้ถูกนำ�มาเล่าผ่านภาพยนตร์สารคดี ‘Iris : เปรี้ยว ทีใ่ จ วัยไม่เกีย่ ว’ ทีพ่ าเราเดินทางไปในความคิดและชีวติ สุดเปรีย้ วของ ไอริส แอพเฟล ดีไซเนอร์ไอค่อน และเจ้าแม่แห่งการมิกซ์แอนด์แมตช์คนนี้

แอ็กเนส กอนจา โบยาจู (Agnes Gonxha Bojaxhiu)

หรื อที่ เรารู้ จั กกั นในนาม “แม่ ชี เทเรซา” ภาพจำ�ของฉั นในทุ กครั้ งที่ พูด ถึ งแม่ ชีเทเรซา คือ ภาพที่ท่านทำ�งานเพื่อคนยากไร้ในประเทศอินเดียแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แม้ว่าท่านจะอายุมากแล้ว แต่ก็ยังคงมีเมตตาต่อเด็กและผู้หญิง จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ฉันตั้งใจทำ�งาน เพราะขนาดท่าน ยังสามารถทำ�งานและทำ�เพื่อคนอื่นได้ขนาดนั้น แล้วเราที่ยังมีพลัง มีแรงจะมามัวท้อแท้หรือขี้เกียจ อยู่ได้อย่างไร แม่ชเี ทเรซา เป็นนักพรตหญิงในศาสนาคริสต์นกิ ายโรมันคาทอลิก ท่านมีชอื่ เสียงเป็นทีร่ จู้ กั กันดีใน ฐานะผู้ช่วยเหลือและผู้ต่อสู้เพื่อคนยากไร้ทั้งในประเทศที่ยากจนและรํ่ารวย จนเมื่อปี พ.ศ. 2522 (ค.ศ.

1979) ท่านได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ท่านทำ�งานในสลัมของประเทศอินเดีย แต่จริง ๆ แล้ว ท่านมีเชื้อสายอัลเบเนีย จนได้มารู้จักกับประเทศอินเดีย และได้รู้ว่าอินเดียในขณะนั้น มีระบบ สาธารณูปโภคที่ยังล้าหลัง มีคนยากไร้มากมายที่ต้องทนทรมาน และเริ่มสงสัยว่า จะมีวิธีใดบ้างที่ เธอจะช่วยเหลือผู้ทุกข์ยากในอินเดียได้ ซึ่งช่วงเวลานี้เองที่แอ็กเนสเริ่มมีความคิดที่จะบวชเป็นแม่ชี หลังจากนัน้ จึงเดินทางไปยังประเทศอินเดีย และเริม่ เผยแผ่ค�ำ สอนในเมืองดาร์จลี งิ รัฐสิกขิม ทางเหนือ ของประเทศอินเดีย แม่ชเี ทเรซาได้รบั อนุญาตให้ไปทำ�งานในสลัมได้ แต่ตอ้ งให้มคี วามรูเ้ พียงพอเสียก่อน เธอจึงเดินทางไปศึกษาวิชาพยายาลที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในเมืองปัตนา รัฐพิหาร เมื่อศึกษาจบ แม่ชเี ทเรซาก็ได้กอ่ ตัง้ โรงเรียนกลางแจ้งในสลัม มีเด็ก ๆ ให้ความสนใจมาเรียน และแม่ชเี ทเรซาก็อทุ ศิ ตัว ทำ�งานเพื่อคนอื่น ตราบจนชั่วชีวิตของท่าน เป็นอย่างไรกันบ้างคะ อ่านแล้วเกิดกำ�ลังใจกันขึ้นมาบ้างหรือเปล่า การที่เราอายุมากขึ้น ไม่ใช่สิ่ง ทีต่ ดั สินว่า เราไร้ความสามารถหรือทำ�อะไรไม่ได้เหมือนในสมัยหนุม่ สาว กลับกลายเป็นว่าเป็นการเพิม่ ความรู้ เพิม่ ประสบการณ์และยังสามารถใช้ความรูค้ วามสามารถนัน้ เป็นประโยชน์และเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับคนรุ่นหลังได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

healthy planet เรื่อง : TepiN

ทานโฟเลตก่อนตั้งครรภ์ ป้องกันความพิการในลูกรัก คุณแม่ทเ่ี ริม่ ตัง้ ครรภ์ ล้วนอยากให้ลกู น้อยของตัวเองเกิดมามีรา่ งกายทีส่ มบูรณ์แข็งแรงครบ 32 ประการ แต่กม็ ไี ม่นอ้ ยทีท่ ารกเกิดภาวะผิดปกติตง้ั แต่ก�ำ เนิด หรือ “ความพิการแต่ก�ำ เนิด” ซึง่ เป็นภาวะทีเ่ ริม่ พบได้บอ่ ย และน่าเป็นห่วงอย่างยิง่ ข้อมูลจากทัว่ โลกพบอัตราเด็กพิการแต่ก�ำ เนิดทุกประเภทรวมกันประมาณ 3 ใน 100 คน ในประเทศไทยก็มสี ถิตเิ ด็กเกิดใหม่เฉลีย่ ปีละ 700,000 คน และมีเด็กพิการแต่ก�ำ เนิดมากกว่า 20,000 คนต่อปี สิง่ ทีน่ า่ กังวลไปกว่านัน้ ก็คอื ตัวเลขของเด็กกลุม่ นีม้ จี �ำ นวนเพิม่ ขึน้ เรือ่ ย ๆ

ความพิ ก ารแต่ กำ � เนิ ด มี ด้ ว ยกั น หลายรู ป แบบ ไม่ ว่ า จะเป็ น อาการ ดาวน์ซนิ โดรม โรคปากแหว่งเพดานโหว่ แขนขาพิการแต่ก�ำ เนิด ภาวะไม่มกี ะโหลก ศีรษะและไร้สมองใหญ่ อาการเหล่านี้มักทำ�ให้ทารกเสียชีวิตตั้งแต่ในครรภ์ มารดาหรือหลังคลอดไม่นาน รวมถึงภาวะเนื้อสมองโผล่ยื่นออกมาจาก ช่องกะโหลก และภาวะกระดูกสันหลังโหว่ เป็นต้น ซึง่ สาเหตุของความพิการ ดังกล่าวเกิดจากหลายสาเหตุประกอบกัน เช่น สาเหตุจากพันธุกรรม โรค ประจำ�ตัวของมารดา โดยเฉพาะโรคเบาหวาน สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ สารเคมี อาหาร หรือทานยาบางชนิดระหว่างตั้งครรภ์ รวมถึงภาวะขาดสารอาหารที่ จำ�เป็นขณะตั้งครรภ์ โดยเฉพาะโฟเลตหรือกรดโฟลิก โฟเลตหรื อ กรดโฟลิ ก ชื่ อ ทางเคมี คื อ กรดเทอโรอิ ล โมโนกลู ต ามิ ค (Pteroylmonoglutamicacid : PGA) เป็นวิตามินบี 9 มีทงั้ ในรูปแบบยาเม็ด และ 14 | happy+

พบได้ในไข่แดง ตับ ผักใบเขียวเข้ม แคร์รอต แคนตาลูป ฟักทอง อะโวคาโด ถั่ว เป็นต้น สามารถละลายนํ้าได้ดี มีผลึกสีเหลือง โฟเลตช่วยบำ�รุงสมอง บำ�รุงเลือด รวมถึงการทำ�งานของร่างกายในระดับดีเอ็นเอ เป็นส่วนสำ�คัญ ในการสร้างและซ่อมแซมส่วนทีส่ กึ หรอในร่างกาย ทานได้ทงั้ ผูช้ ายและผูห้ ญิง รวมทั้งผู้สูงอายุที่ทานแล้วจะช่วยป้องกันโรคหัวใจและสมองเสื่อม โฟเลตสามารถป้องกันความพิการเหล่านี้ได้ถึงร้อยละ 25-50 หากได้รับ โฟเลตในปริมาณ 400 ไมโครกรัม (0.4 มิลลิกรัม) ต่อวัน องค์การอนามัยโลก ได้กำ�หนดแนวทางเพื่อป้องกันความพิการในเด็กตั้งแต่กำ�เนิด สำ�หรับทุก ประเทศไม่วา่ จะเป็นประเทศพัฒนาแล้ว หรือกำ�ลังพัฒนา รวมถึงประเทศไทย ว่าผูห้ ญิงควรรับประทานโฟเลตก่อนมีเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 6 สัปดาห์ และ หลังจากตัง้ ครรภ์กค็ วรรับประทานต่อเนือ่ งไปอีกอย่างน้อย 3 เดือน จะทำ�ให้

เต้าหูท้ อดราดซอสมะขาม เรือ่ ง : Jasmin

เต้าหูท้ อด อาหารทีด่ คู อ่ น ไปทางจีน กับซอสมะขาม ที่ดูไทยจ๋า เมื่อตัวแทนทั้ง 2 ชาติมาเจอกัน อะไรจะ เกิดขึน้ เราก็จะได้อาหารทีม่ ี รสชาติกลมกล่อม อร่อย อย่ า งลงตั ว นั่ น เองค่ ะ ลงตัวทัง้ รสชาติและคุณค่า ทางโภชนาการเลยทีเดียว ผูท้ ท่ี านมังสวิรตั หิ รือทาน เจก็ ส ามารถประยุ ก ต์ ทำ� ทานได้งา่ ย ๆ

ทุกท่านคงจะเคยชินกับนํา้ จิม้ เต้าหูท้ อดทีเ่ ป็นนํา้ จิม้ ถัว่ หรือนํา้ จิม้ งาขาว วันนีจ้ งึ อยากชวนทุกท่านมาลองทานนํา้ ซอส ทีแ่ ตกต่างดูบา้ งค่ะ เต้าหูท้ น่ี ำ�มาทอดนัน้ ให้เลือกเต้าหูท้ เ่ี นือ้ แน่นสักหน่อย จะได้ไม่แตกเวลาทอด และซอสมะขามนัน้ เพียงแค่เคีย่ วนํา้ ปลา นํา้ ตาลปีบ๊ และนํา้ มะขามเข้าด้วยกัน ปรุงรสเปรีย้ วหวานตามใจชอบ ก็จะได้อาหารแนวฟิวชัน่ ทีด่ ตี อ่ สุขภาพกายและสุขภาพใจเลยค่ะ

คุณค่าทางอาหาร

• เต้าหู้ถ่วั เหลือง เป็นอาหารสุด วิ เ ศษ สำ�หรั บ ผู้ ท่ี รั ก ษาสุ ข ภาพ เพราะโปรตีนที่ได้จากถั่วเหลืองนั้น มีกรดอะมิโนที่จำ�เป็นต่อร่างกาย ถึง 8 ชนิด และยังเป็นโปรตีนทีใ่ ห้ ไฟเบอร์หรือกากใยอาหาร ทีช่ ว่ ยใน ระบบย่อย แถมยังมีเลซิตนิ ซึง่ มีผล ในการลดไขมันอีกด้วย

• มะขาม วิตามินซีจากมะขามช่วย บำ�รุ ง ผิ ว พรรณให้ เ ปล่ ง ปลั่ง สดใส ช่ ว ยในการชะลอวั ย และการเกิ ด ริ้วรอยแห่งวัย และแคลเซียมจาก มะขามจะช่วยบำ�รุงกระดูกและฟัน ให้แข็งแรง ในมะขามยังมีธาตุเหล็ก ซึง่ มีสว่ นช่วยในการสร้างเม็ดเลือด

• หอมแดง อุดมไปด้วยวิตามินและ คุณค่าทางอาหารครบถ้วน แถมยัง ช่วยเพิม่ อุณหภูมขิ องร่างกาย บำ�รุง สมอง ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำ�งานได้ ดี ทีส่ ำ�คัญมีฤทธิเ์ ป็นสารต้านอนุมลู อิสระ ช่วยรักษาระดับนํา้ ตาลในเลือด ให้คงที่ ไม่ขน้ึ ลงวูบวาบ

• ผักชี ถูกใช้เป็นยาและเครือ่ งเทศ มาหลายพันปีแล้ว สรรพคุณทางยา ที่มีคือ ช่วยขับเหงื่อ ขับลม แก้ ท้องอืด ช่วยให้เจริญอาหาร ขับ เสมหะ แก้ปวดหัว แก้ไอ แก้หวัด และลดไข้ อุดมไปด้วยสารอาหาร อย่างแคลเซียม โพแทสเซียม และ เส้นใยอาหาร

healthy planet

ลดโอกาสเสี่ยงของความพิการแต่กำ�เนิดไปได้กว่าครึ่ง ตั้งแต่ความพิการแต่ 400 ไมโครกรัมต่อวัน แนะนำ�การรับประทานยาเม็ดโฟเลตทุกวัน (Folate กำ�เนิดของสมอง ไขสันหลัง หัวใจ แขน ขา ระบบทางเดินปัสสาวะและระบบ Supplementation) ในหญิงวัยเจริญพันธุ์อายุ 15-49 ปี ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ ทางเดินอาหาร ตลอดจนลดโอกาสเกิดภาวะปากแหว่งอีกด้วย และระหว่างตัง้ ครรภ์ หรือกระทัง่ ผสมโฟเลตในอาหาร (Folate-Fortified Foods) เช่น ในประเทศสหรัฐอเมริกาและอีกหลายประเทศ US Food and Drug การลดลงของอัตราความเสี่ยงความพิการแต่กำ �เนิดเมื่อได้รับ Administration บังคับให้ผลิตภัณฑ์ธัญพืช (Cereal Grain Products) ซึ่งเป็น โฟเลต 400 ไมโครกรัมต่อวัน อาหารหลัก ต้องเสริมโฟเลตมาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งได้ผลเป็นอย่างดี • ลดความพิการของสมองและไขสันหลัง ร้อยละ 70 ในการลดอัตราการเกิดความพิการลง และไม่เกิดผลแทรกซ้อนแต่อย่างใด • ลดโรคหัวใจพิการแต่กำ�เนิด ร้อยละ 25-50 เนื่องจากโฟเลตเป็นวิตามินที่ละลายนํ้าไม่เกิดการสะสมในตับ • ลดความผิดปกติของแขนขา ร้อยละ 50 คุณแม่ที่กำ�ลังตั้งครรภ์ หรือตั้งใจจะมีบุตร ควรหันมาให้ความสำ�คัญ • ลดความพิการของระบบทางเดินปัสสาวะ และโรคไม่มีรูทวารหนัก กั บ การรั บ ประทานโฟเลต ไม่ ว่ า จะเป็ นการใส่ ใจเรื่ อ งโภชนาการ การ 1 ใน 3 รับประทานอาหารที่มีโฟเลตสูง รวมทั้งการรับประทานโฟเลตแบบเม็ด เพื่อ • ลดการเกิดปากแหว่งลง 1 ใน 3 ให้ได้ปริมาณโฟเลตที่เหมาะสม ป้องการความพิการแต่กำ�เนิดไม่ให้เกิดขึ้น นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลกยังได้เสนอแนวทางปฏิบัติในการลด กับลูกรักของเราค่ะ ความพิการแต่กำ�เนิด โดยปรับปรุงลักษณะการรับประทานอาหาร (Folateที่มา : สำ�นักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย Rich Foods) ให้รับประทานอาหารที่มีโฟเลตมากขึ้น จนได้โฟเลตอย่างน้อย 16 | happy+

นํ้ามันมะกอกลดความเสี่ยงเบาหวาน

นํ้า

มันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ ได้จากการสกัดนํ้ามันจากผลมะกอกโดยไม่ใช้

ความร้อน ไม่ใช้สารเคมี ลักษณะเป็นนาํ้ มันใส สีเขียวเรือ่ ๆ มีรสชาติและกลิน่ ของมะกอกเข้มข้น รสชาติและกลิน่ เฉพาะตัวของมะกอกนี้ เกิดจากสารไฮดรอกซีไทโรซอล (Hydroxytyrosol) ซึง่ เป็นสารกลุม่ ฟีโนลิก ทีช่ ว่ ยในการต้านอนุมลู อิสระ

วารสาร The Journal of Clinical Endocrinology and Metabolism แสดงให้เห็นว่า อาหารเมดิเตอร์เรเนียนซึ่งใช้น้าํ มันมะกอกเป็น ไขมันหลัก สามารถช่วยให้ผปู้ ว่ ยโรคเบาหวานอายุ ระหว่าง 55-80 ปี มีระดับนํา้ ตาลในเลือดลดลง

นอกจากนี้ สมาคมเบาหวานแห่ ง สหรัฐอเมริกายังแนะนำ�ให้ผปู้ ว่ ยเบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes) ทานนํา้ มันมะกอกให้มากขึน้ เพราะนํ้ามันมะกอกช่วยให้ระบบการเผาผลาญ อาหาร (Metabolic Function) ภายในร่างกาย ทำ�งานอย่างมีประสิทธิภาพ นํา้ มันมะกอกจึงเป็น ทางเลือกทีด่ ที ส่ี ดุ ในการป้องกันและควบคุมระดับ นํา้ ตาลในเลือดของผูป้ ว่ ยโรคเบาหวาน ที่มา : http://prayod.com/นํ้ามันมะกอก-olive-oil/

จัดจำ�หน่ายโดย บริษัท นํ้ามันพืชไทย จำ�กัด (มหาชน)

happy people

เพียงชายคนหนึ่ง อรรคพันธ์ นะมาตร์ เรื่อง : ภัทราภรณ์ เตชะธรรมวงศ์ ภาพ : กมลชล วิเศษเสาวภาคย์ แต่งหน้า - ทำ�ผม : Atom Makeup สถานที่ : ร้าน Eatdustry เลขที่ 555/55 ซอยทองหล่อ ซอย 19 สุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110 โทร. 09-0627-0888 นิตยสาร happy+ เดือนเมษายน ขอดับความร้อนแรงของแสงแดด และอากาศอันอบอ้าว ด้วยบทสนทนาของนักแสดงหนุม่ หล่อสุดเข้ม ที่ เป็นขวัญใจคอละครบ้านเราทุกรุ่น ทุกเพศ ทุกวัย นอกจากรูปลักษณ์ ภายนอกอันอบอุ่น หุ่นลํ่าดูดีแล้ว ฝีมือการแสดงของเขาคนนี้ ก็น่า สนใจและน่าติดตามไม่แพ้กัน เรียกได้ว่า เป็นนักแสดงแถวหน้าที่มี พัฒนาการการแสดงอย่างก้าวกระโดดสำ�หรับ อ๋อม อรรคพันธ์ นะมาตร์ อากาศร้อน ๆ ยามบ่ายอย่างนี้ พวกเราทีมงานพร้อมหนุ่มอ๋อม ขอแวะเข้ า ไปในคาเฟ่ น่ า นั่ ง ที่ ต กแต่ ง สไตล์ โ รงงาน ให้ บ รรยากาศ สบาย ๆ เหมาะแก่การพูดคุยอย่างเป็นกันเอง

20 | happy+

happy+ | 21

happy people

22 | happy+

เด็กซนที่ชื่อว่า อ๋อม

เชี่ยวชาญมากยังมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นได้เสมอ เปรียบเทียบกับสัตว์ที่มีสี่เท้า เคลื่อนไหวได้อย่าง มั่นคงยังพลั้งเผลอได้ แล้วมนุษย์เราซึ่งมีเพียง สองขา จะก้าวเดินอย่างมัน่ คงไม่ซวนเซได้อย่างไร ความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ใช่เรื่อง แปลกประหลาดอะไร แต่ เ ราควรเรี ย นรู้ ข้ อ ผิดพลาด ปรับปรุงและแก้ไข เพือ่ ประวัตศิ าสตร์จะ ไม่ซํ้ารอย “อย่างที่ผมเล่าแล้วว่าเป็นคนติดเพื่อนมาก ตอนที่ เข้ า เรี ย นคณะบริ ห ารธุ ร กิ จ ก็ เพราะกลุ่ ม เพือ่ นของเราส่วนมากเรียนทีค่ ณะนี้ เราก็เลยเรียน ตามเพือ่ น พอได้เรียนจริง ๆ แล้วพบว่าตัวเองไม่ชอบ เรี ย นไม่ รู้ เรื่ อ ง รู้ สึ ก ว่ า ทำ � ไมมั น ยากจั ง จึ ง ไม่ ค่อยเข้าเรียน ติดเกม ติดเพือ่ น ตอนนัน้ เราบริหาร จัดการเวลาไม่เป็น จึงถูกรีไทร์ ตอนแรกไม่ได้คิด ว่าตัวเองจะมาถึงขัน้ นีไ้ ด้ แต่พอเหตุการณ์เกิดขึน้ แล้วผมเห็นว่าคุณพ่อคุณแม่เสียใจ ตัวเองก็รสู้ กึ ว่า เสียเวลา พอได้มองย้อนกลับไปก็คดิ ได้วา่ ไม่ควรทำ� แบบนั้นอีก ตอนนั้นเรามองทุกอย่างเป็นเรื่องง่าย ไปหมด จึงทำ�ให้ถกู รีไทร์ มันเป็นประสบการณ์ชวี ติ ที่สอนให้เราได้คิดและระวังการกระทำ�หลาย ๆ อย่างของตัวเองที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ถือเป็น บทเรียนสำ�คัญในชีวิตก็ว่าได้ เพราะนี่คือความ สูญเสียที่ใหญ่หลวงในชีวิตผม ถึงแม้เรื่องเรียน อาจจะไม่ ใช่ เรื่ อ งใหญ่ แต่ เป็ น เรื่ อ งที่ เ กี่ ย วกั บ พ่อแม่และครอบครัว ผมทำ�ให้ท่านผิดหวังเสียใจ มันจึงเป็นเรือ่ งใหญ่มากสำ�หรับตัวเอง ยิง่ พวกท่าน ไม่ ส บายใจ ยิ่ ง ทำ � ให้ เรารู้ สึ ก ไม่ ดี ต ามไปด้ ว ย เรียนรู้ แก้ไข ปรับปรุง สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง ถือเป็น จนเกิดเป็นแรงผลักดันสำ�คัญที่ทำ�ให้เรามุมานะ สุภาษิตอมตะ ที่ใช้ได้ในทุกสถานการณ์จากอดีต ตั้งใจเรียนจนจบ “ผมกลั บ ไปเรี ย นอี ก ครั้ ง ที่ ม หาวิ ท ยาลั ย มาจนถึงปัจจุบัน มีความหมายว่า คนที่มีความ ชีวติ วัยเด็กเป็นช่วงเวลาทีห่ ลายคนเมือ่ เติบโต เป็นผู้ใหญ่แล้ว ยังคงหวนคิดกลับไปยังวันวาน อยู่บ่อยครั้ง เพราะวัยเด็กเป็นช่วงเวลาแห่งการ เรียนรู้ เป็นอิสระ และเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด บางคนอาจเป็นเด็กเงียบ ๆ เรียบร้อย ในขณะที่ บางคนเป็นเด็กซุกซนจนได้แผลบ่อยครัง้ แต่ไม่วา่ เราจะเป็นเด็กแบบไหน ทุกครั้งที่นึกย้อนกลับไป ทำ�ให้เรามีรอยยิ้มได้เสมอ อ๋อม อรรคพันธ์ ก็ รู้สึกแบบเดียวกัน “ตอนเด็ก ๆ จำ�ได้ว่าตัวเองเป็นเด็กซน ๆ คน หนึง่ ชอบแกล้งเพือ่ น แกล้งน้องสาวตามนิสยั ของ เด็กประถมทั่วไป ไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือเรียน เพราะรู้สึกว่าไม่สนุก เพราะฉะนั้น เวลาส่วนใหญ่ จะหมดไปกับการเล่นซนเสียมากกว่า พอโตขึน้ มา หน่อย ผมค่อนข้างเป็นเด็กติดเพื่อน เวลาที่อยู่กับ เพือ่ น ๆ หรือคนทีเ่ ราสนิทด้วยจะเป็นตัวของตัวเอง มาก ช่างพูด พูดเยอะ ขี้เล่น เฮฮา แต่ถ้าอยู่กับ คนที่ไม่ได้สนิทมากหรืออยู่กับผู้ใหญ่ก็จะเป็นอีก แบบหนึ่ง ค่อนข้างไปทางเงียบ ๆ หน่อยครับ “ผมมารู้ตัวเองว่าติดเพื่อนมากก็ช่วงที่อยู่ มหาวิทยาลัย เพราะเราได้ออกมาอยู่ที่หอพักเอง ได้มีชีวิตอิสระ ได้ใช้ชีวิตของตัวเองอย่างเต็มที่ เวลาทีอ่ ยูก่ บั เพือ่ น ๆ เลยถึงไหนถึงกัน ถ้าเพือ่ นไม่กลับ เราก็ไม่กลับ พูดให้เห็นภาพมากขึ้น ก็คือ ไปก่อน กลับทีหลัง จะอยู่จนจบงานทุกครั้ง”

กรุงเทพ คณะนิเทศศาสตร์ (เอกโฆษณา) เปลี่ยน ความคิดตัวเองใหม่ทั้งหมด ไม่อยู่หอพักกลับมา อยู่ ที่ บ้ า นแทน แม้ ว่ า บ้ า นกั บ มหาวิ ท ยาลั ย จะ อยู่ห่างกันมาก การอยู่หอสำ�หรับเด็กปี 1 เป็นสิ่ง ที่อันตรายมาก ถ้าคนไม่เจ๋งจริงผมว่าไม่มีทางจบ แน่นอน เพราะเรามีประสบการณ์มาแล้ว พยายาม ตั้งใจเรียนมากขึ้น ประกอบกับการเรียนที่คณะ นิเทศศาสตร์ ทำ�ให้ผมได้ลองทำ�อะไรหลาย ๆ อย่าง เราชอบสิ่งที่เรียน รู้สึกว่าสนุก จึงเป็นอีก แรงเสริมที่กระตุ้นให้เรารับผิดชอบมากขึ้น วัน ที่เรียนจบปริญญารู้สึกว่าเราทำ�ได้ ผมว่าการ เรียนจบไม่ใช่เรื่องยากและก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ เป็นเรื่องที่ทุกคนทำ�ได้ ถ้าตั้งใจทำ� เมื่อเกิดความ ผิดพลาด เรียนรู้ แก้ไข และปรับปรุง จะทำ�ให้เรา เติบโตขึ้นครับ”

เส้นทางเพื่อก้าวเดิน

หลากหลายบทบาทที่หนุ่มอ๋อม อรรคพันธ์ ได้รับจากละครหลายเรื่อง เป็นทั้งท่านเจ้าคุณ “หลวงอัครเทพวรากร” จากเรื่องทวิภพ เจ้าของ ไร่กล้วยสุดหล่อ “ลายไทย” จากเรื่อง มนตร์รัก ข้าวต้มมัด หรือ “วายุ” มาเฟียแสนดี จากเรื่อง พระจันทร์ลายพยัคฆ์ และอีกมากมาย เรียกได้วา่ อ๋อม อรรคพันธ์ โลดแล่นอยู่ในเส้นทางบันเทิง อย่างเต็มตัว “ผมเริม่ ต้นงานในวงการบันเทิงจากการถ่ายแบบ โฆษณา ถ่ า ยเอ็ ม วี ม าก่ อ น และหลั ง จากนั้ น จึงได้รับงานละคร โดยบทบาทแรกที่ผมได้รับเป็น ตัวร้าย จากเรื่อง รักซ่อนแค้น ซึ่งตอนนั้นเป็น นักแสดงรับเชิญ เป็นบทเล็ก ๆ ออกมาประมาณ 2-3 ฉาก จากนัน้ จึงได้รบั บทนักแสดงอย่างเต็มตัว happy+ | 23

happy people

24 | happy+

เมื่อเกิดความผิดพลาด เรียนรู้ แก้ไข และปรับปรุง จะทำ�ให้เราเติบโตขึ้น ครัง้ แรกจากเรือ่ ง เจ้าหญิงลำ�ซิง่ ซึง่ ยังคงรับบทเป็น ตัวร้ายเหมือนเดิม ผมว่าการรับบทเป็นตัวร้ายยาก ที่สุด เพราะในละครเมื่อเราเป็นตัวร้าย จะต้อง พยายามร้ายออกมาให้คนดูเห็น ต้องพยายาม แสดงออกทางสี ห น้ า และอารมณ์ ให้ ม ากที่ สุ ด หลังจากนั้น ผมก็มีงานละครเข้ามาเรื่อย ๆ ซึ่งมี ทั้งบทพระเอก พระรอง ตัวร้าย อย่างเช่น ละคร รีเมค เรื่อง ทวิภพ ผมรับบทหลวงอัครเทพวรากร ตอนนัน้ ก็เป็นละครทีม่ คี นจับตามองและมีกระแส ตอบรับที่ดีครับ “สำ�หรับผลงานเรื่องที่ผ่านมา รักเร่ รับบท เป็ น รามิ ล เลขาประจำ � สถานทู ต ไทยใน กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งละครเรื่องนี้ ยกกองไปถ่ายทำ�ทีป่ ระเทศออสเตรียค่อนข้างเยอะ เนื้อเรื่อง 70 เปอร์เซ็นต์เกิดขึ้นที่เมืองนอก แต่เรา มีเวลาถ่ายทำ�ประมาณ 15 วันเท่านั้น จึงถ่ายทำ� ฉากกลางแจ้ง ฉากที่เห็นวิวทิวทัศน์กรุงเวียนนา ไว้ และกลับมาถ่ายฉากด้านในที่ประเทศไทย ซึ่งทีมงานตัดต่อได้ดีจนแทบไม่รู้ว่าฉากนี้ถ่ายที่ ประเทศไทย และด้วยสภาพอากาศเมืองไทยซึ่ง เป็นปัญหากับเสือ้ ผ้าทีใ่ ส่เข้าฉาก ต้องใส่เสือ้ 3-4 ชัน้ ท่ามกลางอากาศที่ร้อนมาก ผมใช้ทิชชูหมดไป หลายกล่องเลย (หัวเราะ) แต่ถอื ว่าเป็นการถ่ายทำ� ที่ท้าทายและสนุกมากครับ “ส่วนเรื่อง อตีตา รับบทเป็นเมืองใจ นักรบ บางระจัน เรื่องนี้จะมีความยากในด้านคำ�พูดที่ ใช้สื่อสารกันในเรื่อง เพราะเป็นเรื่องราวย้อนยุค กลับไปยังสมัยก่อน สถานที่ ข้าวของเครื่องใช้

ประกอบฉากทุกอย่างจะต้องเหมือนกับเราอยู่ใน อดีตจริง ๆ ซึ่งทีมงานทำ�งานได้ดีมาก เก่งมาก ๆ เวลาถ่ า ยทำ � ก็ ย กกองไปในป่ า สร้ า งฉากให้ เหมือนค่ายบางระจันขึ้นมา ผมต้องเรียนคิวบู๊ เพิม่ เติม เพราะตัวละครทีเ่ ล่นจะเก่งในเรือ่ งฟันดาบ สู้รบ จะเห็นได้ว่าเป็นละครคนละแนวกับเรื่อง รักเร่เลย ผู้ชมที่ได้ดูละครเรื่องนี้แล้วจะเกิดความ รักชาติเพิ่มขึ้น เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการสู้รบ เพื่อปกป้องแผ่นดิน ชาติต้องมาก่อน ส่วนเรื่อง ความรักเป็นเรื่องรองลงมา “ทุกวันนีผ้ มยังจำ�ความรูส้ กึ แรกทีเ่ ล่นละครได้ รู้ สึ ก ว่ า เล่ น ละครยากมาก เพราะตามความ เข้าใจส่วนตัว คิดว่าการแสดงละครคือท่องบทมา แล้วก็พูด พอถึงเวลาถ่ายทำ�จริง ผมว่าผมจำ�บท มาอย่ า งดี แ ล้ ว แต่ พ อมาอยู่ ห น้ า กล้ อ งกลั บ จำ�อะไรไม่ได้เลย จึงได้รู้ว่าการแสดงไม่ใช่เพียง แค่ท่องจำ�บทแล้วนำ�มาพูดอย่างที่เราคิด ถ้าทำ� แบบนั้นจริงคงจะตลกน่าดู แต่ตอนนั้นผู้กำ�กับก็ ช่วยเหลือเราอย่างเต็มที่ จึงทำ�ให้ละครเรื่องแรก ผ่านไปได้ดว้ ยดี เราเล่นได้ดขี นึ้ ตามประสบการณ์ ที่ผ่านมา “โดยส่วนตัวผมชอบแสดงละคร การแสดง ละครเป็นศาสตร์ที่น่าสนใจ เพราะเป็นศาสตร์ ที่เราจะได้ทำ�อะไรที่คนปกติไม่ได้ทำ� เป็นอาชีพ อะไรก็ได้ตามแต่บทที่ได้รับ ได้ไปในสถานที่ที่คน ไม่ค่อยได้ไป แล้วผมเป็นคนไม่ชอบอยู่กับที่ ซึ่ง การถ่ายละครทำ�ให้เราได้เปลี่ยนสถานที่ไปอยู่ใน ที่ต่าง ๆ ตลอดเวลา ไม่น่าเบื่อดี happy+ | 25

happy people

26 | happy+

เวลาที่อยู่กับตัวเองเราจะมีโอกาสได้หยุดนิ่ง และหันกลับมาคิดทบทวน เริ่มมองปัญหาที่เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ ต้องคิดอย่างรอบคอบ ก่อนจะตัดสินใจทำ�อะไรลงไป “ทุกวันนี้ทุกอย่างดำ�เนินไปอย่างอัตโนมัติ มันเป็นไปเอง การทำ�งานในวงการบันเทิงทำ�ให้เรา ได้เจอคนมากมายหลากหลาย ต้องพูดคุยเยอะ ขึ้น กล้าพูดมากขึ้น เมื่อก่อนบอกตามตรงว่าผม ไม่ค่อยอยากให้สัมภาษณ์เลย รู้สึกขาดความ มั่นใจจึงไม่ค่อยพูดกับใคร ไม่ค่อยมองหน้าใคร ออกรายการก็นั่งเงียบ ๆ ผมมองว่ามันเป็นเรื่อง ปกติที่ทุกคนต้องปรับตัวเข้าหาสภาพแวดล้อมที่ เราอยู่ แรก ๆ อาจจะยังไม่เคยชิน แต่เมื่อลองทำ� บ่อย ๆ ก็จะดีขึ้นครับ”

โด่งดังไกล ณ แดนมังกร

ทุกวันนี้กระแสเกาหลีในประเทศไทยมาแรง อย่างฉุดไม่อยู่ ไม่ว่าดารา นักร้อง รายการ ละคร ภาพยนตร์ ไม่ว่าจะจัดงานอะไร ถ้าเกี่ยวข้องกับ เกาหลีมักจะได้รับความสนใจจากแฟน ๆ เป็น จำ�นวนมาก ทัง้ คอนเสิรต์ แฟนมีต ฯลฯ ดาราไทย หลายท่านก็ไปโด่งดังในต่างประเทศเช่นเดียวกัน และหนึ่งในนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก อ๋อม อรรคพันธ์ “กลุ่มแฟนคลับ คือ กลุ่มคนที่ไม่เคยรู้จักกัน มาก่อนแต่เกิดความรู้สึกรัก ชอบ ผูกพัน คอย ให้กำ�ลังใจกันและกัน คอยตามเวลาไปทำ�งาน สำ�หรั บ ผมเรื่ อ งเหล่ า นี้ เป็ น สิ่ ง ที่ ม หั ศ จรรย์ ม าก เวลาที่แฟน ๆ เขามาตามเรา เขาก็เหนื่อยเพราะ ต้องไปให้ถึงก่อนและกลับทีหลัง พวกเขาเป็น กำ�ลังใจที่ดีในการทำ�งานของผม ซึ่งเราเห็นแล้ว ก็มีความสุข เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่มาก ผมทำ�งาน

ในวงการบั น เทิ ง และมี แ ฟนคลั บ ในไทยไม่ ใ ช่ เรื่องแปลก แต่ปัจจุบันมีแฟนคลับในประเทศจีน ด้วย เมืองไทยผมมีแฟนคลับผมก็ดีใจแล้ว แต่ ที่ประเทศจีน เราต่างคน ต่างภาษา ต่างสถานที่ แต่ก็ยังมีกลุ่มคนที่รักเรา ชอบเราได้ นี่ถือเป็น เรื่องมหัศจรรย์ยิ่งกว่า พวกเขายังติดตามผลงาน ของผม ถึงขนาดใช้เสียงพากย์เป็นภาษาจีนหรือมี ซับไตเติล้ ขึน้ ให้อา่ นเลยด้วยซํา้ เป็นเรือ่ งทีด่ มี าก ๆ ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าชีวิตผู้ชายธรรมดา ๆ คนหนึ่งจะมีคนติดตามมากขนาดนี้ “ตอนเริ่ ม แรกก็ ค ล้ า ยกั บ ที่ บ้ า นเราชอบ เกาหลี พวกเขาน่าจะเริม่ ติดตามผมจากโซเชียลมีเดีย ต่าง ๆ ก่อนแล้วเริ่มกระจายวงกว้างไปเรื่อย ๆ จนมีแฟนคลับชาวจีนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี ผม จะไปเยี่ยมแฟนคลับที่จีนประมาณปีละครั้ง ครั้ง ล่าสุดที่ไปมา คือครั้งที่ 3 แล้ว ครั้งแรกที่ไปเจอ แฟนคลับทีจ่ นี จะเป็นกลุม่ เล็ก ๆ มีประมาณ 30 คน พอปีต่อ ๆ มาก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ บางครั้งมี แฟนคลับจากจีนมาหาเราที่เมืองไทยด้วย เวลา ที่ไปเยี่ยมเยียนกลุ่มแฟนคลับผมจะพยายามพูด ภาษาจีน เขาก็จะพยายามพูดภาษาไทย ซึง่ ตรงนี้ ผมว่าเป็นอะไรที่น่ารักมากครับ ส่วนใหญ่เวลา ไปหาพวกเขาก็จะไปกินข้าว ถ่ายรูป แลกของ ที่ระลึก พูดคุยกัน ปีแรกที่ไป ผมได้ของที่ระลึก กลับมาเยอะมาก ขนกลับมาแทบไม่หมด ตอน ไปถึ ง สนามบิ นที่ จี นก็ มี แฟนคลั บ มารอรั บ ถื อ ป้ายไฟเต็มไปหมด เหมือนเวลาที่ดาราเกาหลีมา ประเทศไทยแล้วมีนอ้ ง ๆ แฟนคลับไปรอรับอย่างนัน้

เลย ซึ่งพอผมเดินออกจากประตูสนามบินมา รู้สึกเซอร์ไพรส์มากที่เขาให้การต้อนรับเราเป็น อย่างดี นอกจากนี้ ยังดูแลจัดการทุกอย่างให้ ทั้ง เรื่องที่พัก รถยนต์สำ�หรับเดินทาง พวกเขาแสดง ให้ผมเห็นและรู้สึกได้ว่า พวกเขารักและชื่นชอบ ในผลงานและตัวเราจริง ๆ”

ตกตะกอนความคิด

มุมมองในการทำ�งานของแต่ละคนแตกต่าง กันออกไป บางคนรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้ อย่ า งรวดเร็ ว ทำ�ให้ ปั ญ หาที่ เ กิ ด ขึ้ น อยู่ กั บ เรา ไม่นาน ในขณะทีบ่ างคนรับมือกับปัญหาไม่คอ่ ยดี จึงส่งผลกระทบต่อเนื่องมา ทำ�ให้บางครั้งปัญหา เล็กอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ตามมา ซึ่ง อ๋อม อรรคพันธ์ มีวิธีการจัดการและมุมมองเกี่ยวกับ ปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นว่า “เวลาทำ�งานหรือการใช้ชีวิตประจำ�วันโดย ทัว่ ไป หากมีเรือ่ งอะไรแย่ ๆ เกิดขึน้ หรือเกิดความ รู้สึกไม่สบายใจ ผมจะกลับมาอยู่กับตัวเองมาก ขึ้น อย่างที่เคยบอกไปว่าเป็นคนติดเพื่อนมาก แต่ ถ้ามีปัญหาอะไรก็ตาม ผมจะไม่ค่อยอยู่กับเพื่อน หรือคนอื่น เพราะผมชอบตัดสินใจด้วยตัวผมเอง มากกว่าจึงไม่ค่อยชอบปรึกษาใคร เวลาที่อยู่กับ ตัวเองเราจะมีโอกาสได้หยุดนิง่ และหันกลับมาคิด ทบทวน ผมจะใช้เวลาคิดเยอะ เริ่มมองปัญหาที่ เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ ต้องคิดอย่างรอบคอบ ก่อนจะตัดสินใจทำ�อะไรลงไป ถ้าปัญหาทีเ่ จอเป็น ปัญหาใหญ่ อาจจะต้องใช้เวลาคิดนานหน่อย happy+ | 27

happy people

28 | happy+

ค่ อ ย ๆ แก้ ไ ปที ล ะเปลาะ แต่ สุ ด ท้ า ยแล้ ว ผมจะอยูก่ บั ตัวเองจนกระทัง่ เจอทางออก ผมคิดว่า สิ่งที่เราตัดสินใจลงไปคือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ถ้านำ� ไปปรึกษาใครแล้วเขาคิดตรงกันข้าม จะเกิดการ ชัง่ นํา้ หนักความคิดขึน้ เราจะเริม่ ไม่มน่ั ใจในความคิด ของตัวเราเอง ผลที่ออกมาจะดีหรือไม่ดี แต่ผม ได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง เป็นทางที่ผมเลือกแล้ว นั่นคือทางออกที่ดีที่สุดครับ”

เริ่มต้นดูแลตัวเอง

ทุกคนที่ติดตามผลงานละครของหนุ่มอ๋อม อรรคพันธ์ จะสังเกตเห็นได้เลยว่า หนุ่มคนนี้ ให้ความสนใจเรื่องการดูแลตัวเองอย่างมาก ข้อ สังเกตง่าย ๆ ข้อหนึ่งคือ อ๋อมจะหุ่นดีอยู่ตลอด เวลาไม่ว่าจะมีงานออกหน้ากล้องหรือไม่ก็ตาม เคล็ดลับแต่ไม่ลบั ทีเ่ ป็นแรงบันดาลใจของหนุม่ อ๋อม คือ อยากมีรูปร่างเหมือนหุ่นแสดงเสื้อผ้า “เวลาเดินตามห้างสรรพสินค้า เราจะเห็นหุน่ ทีส่ วมใส่เพือ่ โชว์เสือ้ ผ้าของร้านต่าง ๆ ผมมองดูแล้ว รู้สึกว่า หุ่นพวกนี้ใส่เสื้อแล้วสวย เราอยากดูดี ใส่เสื้อผ้าอะไรก็สวยก็หล่อแบบนั้นบ้าง ผมจึง เกิดแรงบันดาลใจในการดูแลตัวเองให้มีรูปร่าง แบบหุ่นโชว์พวกนั้น ซึ่งผมเป็นคนชอบเล่นกีฬา ชอบให้ ร่ า งกายเหงื่ อ ออกเป็ น ประจำ � สมั ย ที่เรียนมหาวิทยาลัยผมจะเข้าฟิตเนสเป็นประจำ� แต่ช่วงหลัง ๆ มานี้ไม่ค่อยได้เข้ายิมเท่าไหร่ แต่ จะเล่นกีฬาที่ผมชอบแทน คือ เวคบอร์ด ผมจะ เปลี่ยนกีฬาที่เล่นไปเรื่อย ๆ บางครั้งก็ไปตีแบด ต่อยมวยก็ชอบเหมือนกัน มีคนถามว่าเล่นกีฬา และออกกำ�ลังกายเยอะแบบนี้ทำ�ไมไม่ยกเวท

ในยิมบ้าง เพราะผมกลัวยกเวทแล้วรูปร่างเราจะ ใหญ่เกินไปครับ “การออกกำ�ลังกายเป็นประจำ�นอกจากจะ ช่วยในเรื่องสุขภาพร่างกายซึ่งเป็นประโยชน์แก่ ตัวเองแล้ว การออกกำ�ลังกายยังช่วยในด้านการ ทำ�งานของผมอีกด้วย เพราะทำ�ให้เราแข็งแรง ไม่เหนือ่ ยง่ายพร้อมทำ�งานตลอดเวลา ตืน่ เช้ามาก็ สดชืน่ แจ่มใส อย่างเช่น ละครเรือ่ ง อตีตาทีบ่ อกไป ก่อนหน้านี้แล้วว่า จะต้องมีฝึกซ้อมคิวบู๊ ร่างกาย เราแข็งแรงอยู่แล้ว จึงทำ�ให้ทักษะคิวบู๊พัฒนาขึ้น เล่ น ได้ ม ากขึ้ น เวลาว่ า งจากการทำ � งาน ผม จะรวมตัวกับเพื่อน ๆ หรือครอบครัวไปเที่ยวต่าง จังหวัด ผมเป็นคนชอบกีฬาลุย ๆ อยูแ่ ล้ว สถานที่ ท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมแอดเวนเจอร์ด้วย ก็สนุกดี ครับ ส่วนมากจะไปทะเลหรือไปเดินป่า ซึ่งแล้ว แต่โอกาสและความเหมาะสมครับ”

ความสุขจากครอบครัว

ครอบครัวเป็นสถานที่ที่เหมือนกับบ้าน การ ได้อยู่กับครอบครัวก็เหมือนกับการได้พักผ่อนอยู่ ที่บ้านอย่างสบายใจโดยไม่ต้องมีเรื่องให้ต้องคิด กังวล ครอบครัวของอ๋อม อรรคพันธ์ มีคุณพ่อ คุณแม่ และน้องสาวสุดทีร่ กั อายุไล่เลีย่ กันอีกหนึง่ คน ความสุขเล็ก ๆ จึงเกิดขึน้ ได้จากการอยูพ่ ร้อมหน้า พร้อมตากัน “ผมสนิ ท กั บ ครอบครั ว มากเพราะเราอยู่ บ้านเดียวกันเจอกันตลอดเวลา แม้ว่าเข้าวงการ บันเทิงแล้วจะไม่ค่อยได้พบกันบ่อยเท่าเมื่อก่อน ก็ตาม แต่ความสัมพันธ์ของเราก็ยงั คงเหมือนเดิม ครับ ที่บ้านผมมีคุณพ่อรับราชการ มีคนบอกว่า

ครอบครัวราชการมักจะมีความคาดหวังกับลูก ๆ แต่ครอบครัวผมจะค่อนข้างให้อสิ ระ ไม่ได้คาดหวัง ว่าเราจะต้องเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ อยู่ที่ว่า เราอยากเป็นอะไร อยากทำ�อะไรมากกว่า “ผมตั้งแต่เล็กจนโต จะเห็นคุณพ่อที่ทำ�งาน รับราชการเป็นต้นแบบทีด่ เี สมอ ทำ�ให้ผมต้องการ ดำ�เนินรอยตาม บางความคิดหรือการกระทำ� ที่ คุ ณ พ่ อ สอนนำ � มาใช้ กั บ ตั ว เราในปั จ จุ บั น ได้ เช่น สมัยก่อนคุณพ่อทำ�งานเกี่ยวกับข่าวที่กรม ประชาสัมพันธ์ คุณพ่อต้องตืน่ มาเข้าเวรเช้าตอนตี 4 ซึ่งเข้างานเป็นกะ บางครั้งเราลุกมาเข้าห้องนํ้า ตอนเช้า ก็เห็นท่านแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว สิง่ ที่ เราเห็นคือ คุณพ่อมีความรับผิดชอบ มีระเบียบ วินัย ตรงต่อเวลา ในการทำ�งานทุกวันนี้ก็นำ�สิ่งที่ เราซึมซับมาปฏิบัติตาม “ครอบครัวของผมทุกคนสนิทกันมาก เมื่อ ก่อนผมจะสนิทกับน้องสาวมาก เพราะเราอายุหา่ งกัน แค่ 2 ปี เรียนมัธยมกับมหาวิทยาลัยเดียวกัน สนิทกันจนเหมือนเพื่อนคนหนึ่งมากกว่า ซึ่งเราก็ ช่วยดูแลกันและกันหลาย ๆ อย่าง ตอนนีน้ อ้ งสาว ไปเรียนต่อต่างประเทศ ผมก็ท�ำ งาน ช่วงนีเ้ ลยห่าง ๆ ไม่ค่อยได้เจอหน้าเท่าไหร่ คนเคยเห็นหน้ากัน ทุกวัน ตอนนี้ไม่เจอหน้ากันหลาย ๆ เดือน อาจ รู้สึกแปลกไปบ้าง แต่ผมคิดว่านี่เป็นช่วงเวลาของ ผู้ใหญ่ ที่ทุกคนจะต้องมีความรับผิดชอบ เราก็ รับผิดชอบการทำ�งาน น้องสาวก็รับผิดชอบเรื่อง เรียน ซึง่ มันจะต้องเป็นแบบนัน้ ความสุขของผม คือ ความสุขของครอบครัว ความสุขของคุณพ่อคุณแม่ พวกท่านคือทีห่ นึง่ ในใจ ไม่วา่ ท่านจะมีความสุขด้วย เรื่องอะไรตาม ผมก็มีความสุขไปด้วยครับ” happy+ | 29

happy heart

30 | happy+

คุณหญิงพวงร้อย ดิศกุล ณ อยุธยา “มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ” เข้าถึง เข้าใจ และพัฒนา เรื่อง : กรรณิกา ฝากาบล ภาพ : สุภชัย รอดประจง

เมื่อได้รับโอกาสถวายงานสมเด็จย่า ตามเสด็จฯ ไปในทุกถิ่นที่ “คุณหญิงพวงร้อย ดิศกุล ณ อยุธยา” ปัจจุบันดำ�รงตำ�แหน่ง รองเลขาธิการ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ บอกกับเราว่า แต่เดิมนั้นไม่เคยคิดทำ�สิ่งใดที่ไกลออกไปจากตัวเอง แต่เมื่อทำ�งานเป็นข้าหลวงแล้ว ได้เดินทางไปในถิ่นทุรกันดารหรือถิ่นที่ห่างไกลความเจริญ ความคิดและมุมมองชีวิตจึงเริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน “มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์” เป็นมูลนิธิซึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2515 เป็นองค์กร ไม่แสวงหากำ�ไร เดิมชื่อ “มูลนิธิส่งเสริมผลผลิต ชาวเขาไทย ในพระราชูปถัมภ์” มีจดุ เริม่ ต้นจากการที่ สมเด็จย่าเสด็จฯ เยี่ยมราษฎร แล้วทอดพระเนตร เห็นว่างานฝีมือของชาวเขานั้น น่าจะสร้างรายได้ เพิ่มให้กับชาวเขาได้ จึงเริ่มต้นซื้อผลิตภัณฑ์จาก ชาวเขา แล้วมาเปิดร้านที่วังสระปทุม นำ�งานปัก มาประกอบแฟชั่ น โชว์ จนกระทั่ ง สิ น ค้ า จาก ชาวเขาติดตลาด มูลนิธิฯ จึงหันมาทำ�เรื่องของ การศึกษาเพิ่มขึ้น โดยนำ�เด็กชาวเขาจากพื้นที่ ห่างไกลอายุตั้งแต่ 5 ขวบขึ้นไป มาเข้าโรงเรียน ในตัวเมืองเชียงราย ส่งเรียนหนังสือจนถึงเรียน มหาวิทยาลัย โดยทำ�เป็นรุ่น ๆ ในเวลาต่อมา เมื่อเปลี่ยนแปลงเป็นมูลนิธิ แม่ฟ้าหลวงฯ พันธกิจจึงมุ่งเน้นในการดำ�เนิน การเรื่องการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในถิ่น ทุรกันดาร ทัง้ ทางเศรษฐกิจ สังคม ควบคูไ่ ปกับการ ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ดำ�เนินโครงการพัฒนาต่าง ๆ ทัง้ ในและต่างประเทศ อาทิ โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้ นที่ ท รงงาน) อั น เนื่ อ งมาจากพระราชดำ � ริ จังหวัดเชียงราย เป็นต้น “แม่ ฟ้ า หลวง” เป็ น พระสมั ญ ญานามที่ ชาวไทยภูเขาทางภาคเหนือของประเทศไทย ถวาย

แด่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือที่ รู้จักกันในนาม “สมเด็จย่า” เนื่องจากพระองค์ เสด็จฯ เยี่ยมราษฎรชาวไทยภูเขา ที่มีชีวิตความ เป็นอยู่ลำ�บากในถิ่นทุรกันดาร และพระราชทาน ความช่วยเหลือด้านการสาธารณสุข เสื้อผ้าและ อาหาร โดยเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง ซึ่งเปรียบ เสมือนสมเด็จย่าเสด็จฯ ลงมาจากฟากฟ้า เพื่อ ปัดเป่าทุกข์ และช่วยให้พวกเขามีชีวิตที่ดีขึ้น ส่วนคำ�ว่า “ตุง” ในภาษาถิน่ ล้านนา หมายถึง ธง ซึ่งเป็นสั ญลั กษณ์ แทนสะพานขึ้ นสู่ส วรรค์ มักผลิตจากกระดาษสา กระดาษเงิน กระดาษ ทอง และผ้ า ทอหลากสี สั น ดอยตุ ง เดิ ม ชื่ อ ดอยดินแดง เป็นชื่อของยอดเขาหนึ่งบนเทือกเขา นางนอน ในเขตพื้นที่อำ�เภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัด เชียงราย ห่างจากตัวเมืองเชียงรายประมาณ 48 กิโลเมตร เดิมนั้นมีสภาพเป็นเทือกเขาหัวโล้นอยู่ ในบริเวณพื้นที่ “สามเหลี่ยมทองคำ�” เนื่องจาก มีปัญหาการตัดไม้ทำ�ลายป่า เพื่อทำ�การเกษตร และปลูกฝิ่น นอกจากนี้ ยังมีปัญหาการขาด สาธารณูปโภคพื้นฐาน และปัญหาสังคมอื่น ๆ เช่น ปัญหายาเสพติด การค้ามนุษย์ และโรค HIV / AIDS โครงการพัฒนาดอยตุงฯ จึงมุง่ แก้ไขปัญหา สังคมและสิง่ แวดล้อม โดยแก้ไขความยากจนและ ให้โอกาสชาวบ้านในการพัฒนาตนเองแบบยัง่ ยืน “มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ จะช่วยเหลือด้านการ

พัฒนาเป็นหลัก ช่วยเหลือชาวเขา หรือคนใน พื้นที่ห่างไกลความเจริญ โดยเฉพาะภาคเหนือ อย่างเรื่องการศึกษา เรื่องสุขภาพ เรื่องการเพิ่ม ผลผลิต กระทั่งสมเด็จย่าพระชนมายุ 87 พรรษา โครงการพัฒนาดอยตุงฯ จึงเกิดขึ้น สืบเนื่องจาก กระแสรับสัง่ ทีว่ า่ เมือ่ พระชนม์ 90 ท่านจะประทับ อยู่เมืองไทยไม่เสด็จฯ กลับสวิตเซอร์แลนด์แล้ว ก่อนหน้านี้ จะประทับอยู่เมืองไทย 16 เดือน เสด็จฯ ออกเยี่ยมประชาชนทั่วประเทศไทย แล้ว จึงเสด็จฯ กลับไปพำ�นักที่สวิตเซอร์แลนด์ 8 เดือน สมเด็จย่าทรงเริม่ การพัฒนาพืน้ ทีด่ อยตุงด้วยการ ปลูกป่า ในพื้นที่เขตชายแดนไทยพม่าที่เขาปลูก ฝิ่น ค้ามนุษย์ พร้อมกับพัฒนาคุณภาพชีวิตของ คนในพื้นที่ด้วย” คุณหญิงพวงร้อยบอกว่า เมือ่ ได้เป็นข้าหลวง ติดตามสมเด็จย่าไปในพื้นที่ต่าง ๆ ทำ�ให้ได้เห็น ชีวิตผู้คนที่หลากหลาย ได้เห็นมุมมองของการ ทำ�งานอย่างจริงจัง ทำ�ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ทางความคิดจากเดิมโดยสิ้นเชิง “เมื่อก่อนที่ยังไม่ได้มาทำ�งานเป็นข้าหลวง ดิฉนั เป็นอาจารย์สอนทีจ่ ฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย โลกของดิฉันก็จะมีอยู่แค่นั้น บ้าน กรุงเทพฯ ต่าง จังหวัดก็แค่พทั ยา หัวหิน เชียงใหม่ ในชีวติ ออกไป อยู่ไม่กี่ที่ ไม่เคยรู้ว่าประเทศไทยเป็นอย่างไร มี ความคิดแค่วา่ เราเรียนแล้วจะไปยังไงต่อ จะเรียน happy+ | 31

happy heart

32 | happy+

เรื่องอุปสรรคในการทำ�งาน สำ�หรับดิฉันถือว่าไม่มี อยู่ที่ว่าเส้นทางที่เราไปมันยากหรือง่ายแค่ไหนมากกว่า ดอกเตอร์ใช่ไหม มันอยู่แค่นี้ พอมาถวายงาน เป็นข้าหลวงท่าน ติดตามสมเด็จย่าไปในพืน้ ทีท่ ไี่ ม่ เคยไป ทีท่ ไี่ ม่เคยเห็น ทีท่ หี่ า่ งไกลความเจริญ ท่าน เสด็จทุกภาคของประเทศไทย ซึ่งดิฉันได้เรียนรู้ อะไรจากสมเด็จย่ามากมาย ทัง้ ได้ยนิ ได้ฟงั ได้เห็น ได้ ล งมื อ ปฏิ บัติ จนเกิ ดการซึม ซับแบบไม่ รู้ตัว ท่านทรงใส่ใจกับทุกเรื่อง แม้แต่กระดาษเล็ก ๆ ตกอยูบ่ นพืน้ ท่านก็ทรงก้มลงเก็บไปทิง้ ถังขยะเอง เวลาล้างจานท่านจะรับสัง่ ว่าอย่าเปิดก๊อกนํา้ ทิง้ ไว้ ให้แบ่งนํา้ ล้างจานออกเป็น 3 อ่าง เวลาทานอาหาร ให้ตักแต่พอทาน เพราะยังมีคนอีกจำ�นวนมาก ที่ยังไม่มีกิน และเมื่อเรามีแล้ว ต้องแบ่งปันคนอื่น ด้วย ทำ�ให้ความคิดเดิม ๆ ของดิฉนั เปลีย่ นไปเลย จากที่คิดอยู่กับตัวเอง ก็เปลี่ยนเป็นคิดเพื่อคนอื่น เรื่องความไม่สุรุ่ยสุร่ายก็เหมือนกัน ท่านทรงสอน หมด ดิฉันก็นั่งนึกว่าขนาดแม่พระเจ้าแผ่นดิน ท่านยังวางพระองค์แบบนี้เลย การมองโลกของ ดิฉันจึงเปลี่ยนเป็นอีกทางคือ เริ่มคิดว่าอะไรที่เรา ทำ�ได้บ้าง ตัวเราทำ�ประโยชน์อะไรได้บ้าง ตัวเรา สามารถช่วยอะไรใครได้บ้าง “ดิฉนั ทำ�งานในโครงการดอยตุงฯ ก็ราว 28 ปี แล้ ว ตอนนี้ เป็ น รองเลขาธิ ก ารและกรรมการ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ และอยู่ในตำ�แหน่ง CEO ดู ด้านนโยบาย ดูแลพื้นที่ คนทำ�งานในโครงการฯ และตัวดิฉัน เรียกว่าเราเติบโตมาด้วยกัน รู้จักกัน เป็นครอบครัวเดียวกัน ดิฉนั จะเดินทางไป ๆ กลับ ๆ กรุงเทพฯ ดอยตุง เดือนละ 2 ครั้ง ซึ่งถือว่าเป็น

ช่วงเวลาที่มีความสุขมาก เพราะบนดอยตุงจะ ธรรมชาติดี อากาศดี มีความเงียบ เวลาอยู่ที่นั่น จะรู้สึกสบายและมีความสุข” เมื่อการทำ�งานเต็มไปด้วยความสุข ปัญหา ต่าง ๆ จึงกลายเป็นเรื่องเล็กน้อย ที่สามารถ ข้ า มผ่ า นไปได้ คุ ณ หญิ ง พวงร้ อ ยบอกว่ า สิ่ ง หนึ่งที่เรียนรู้จากงานคือ เมื่อเจอปัญหาให้ทำ� ตัวเองเหมือนมด เพราะต่อให้ระยะทางที่เดินไปมี อุปสรรคมากแค่ไหน มดก็จะพยายามเดินทางไป ถึงขนมที่วางไว้ข้างหน้าเสมอ “เรื่องอุปสรรคในการทำ�งาน สำ�หรับดิฉัน ถือว่าไม่มี อยู่ที่ว่าเส้นทางที่เราไปมันยากหรือ ง่ายแค่ไหนมากกว่า จำ�ได้ครั้งหนึ่งดิฉันเดินทาง ไปสัมมนาที่ญี่ปุ่น มีคำ�พูดหนึ่งที่ดิฉันเก็บมาใช้ ตลอดคือ เวลาทำ�งานให้เราทำ�ตัวเป็นมด สมมุตวิ า่ ข้างหน้าเป็นขนม แต่ระหว่างทางมีหินขวาง มี นํ้าขวางอยู่ ถามว่า...มดไปถึงไหม เราก็จะพบว่า มดก็ไปถึงทุกที จะช้าหรือเร็ว จะโดยทางตรง ทางอ้อม แต่มันก็ไปถึงขนม ดิฉันเองก็พยายาม ทำ�ตัวเป็นมด การทำ�งานจะช้าจะเร็วก็ต้องมุ่งมั่น ไปให้ถึงจุดนั้น บางครั้งอาจจะต้องใช้เวลา และ ความอดทนมาก แต่เมื่อต้องทำ� เราก็ต้องมอง ไปข้างหน้า คำ�ว่าอุปสรรคสำ�หรับดิฉันจึงไม่ใช่ เรื่องที่แก้ไขไม่ได้ อยู่ที่ว่าเส้นทางนั้นเราจะไปง่าย หรือยาก หรือไปได้ช้าหรือไปได้เร็วมากกว่า “อย่างเช่น การเริม่ ต้นงานปลูกป่า ตอนนัน้ ชาวเขา ปลู ก ฝิ่ น แต่ เราต้ อ งการเปลี่ ย นให้ เขาปลู ก ป่ า

ซึ่งก็ไม่ใช่สิ่งที่เปลี่ยนยาก เพราะคนที่ปลูกฝิ่นเขา ต้องมานั่งระวัง ต้องวิ่งหนีตำ�รวจ แต่พอปลูกป่า ไม่ต้องวิ่งหนีแล้วยังมีรายได้ดีขึ้น มันเป็นทาง เลือกที่เขาชอบอยู่แล้ว ก็เลยเปลี่ยนได้ไม่ยาก ตอนนี้มลู นิธแิ ม่ฟา้ หลวงฯ มีการปรับเปลี่ยนคณะ กรรมการที่ดูแลงาน จะเป็นรุ่นผลัดใบ เป็นคน รุ่ น ใหม่ เ ข้ า มาดู แ ล แต่ รุ่ น เก่ า ก็ ยั ง อยู่ ยั ง ช่ ว ย รุน่ ใหม่อยู่ ดิฉนั ตอนนีอ้ ายุ 69 ปีแล้ว ก็ยงั ไม่ได้คดิ จะเกษียณงาน ยังทำ�งานต่อไปเท่าที่ทำ�ได้อยู่ ทำ� ไปเรื่อย ๆ วันหนึ่งถ้าไม่เป็น CEO แล้ว ก็ต้องหา อะไรทำ� ถามว่าตอนนี้ดิฉันกลัวอะไร ก็กลัวว่าจะ ไม่มีอะไรทำ� ไม่อยากอยู่นิ่ง ๆ “ถือว่ามีความสุขกับการทำ�งาน อาจจะมี เหนือ่ ย ท้อใจ โมโห หงุดหงิด แต่โดยทัว่ ไปมีความ สุขใจ ยิ่งเวลาอยู่บนดอยตุงจะมีความสุขเป็น พิเศษ จะไม่นงั่ อยูแ่ ต่ในห้อง ชอบเดินไปทัว่ ตืน่ มา ก็ไปคุยกับคนสวน ไปคุยกับคนรดนํ้าต้นไม้ แค่นี้ ก็สบายใจแล้ว การได้เห็นว่าเขาเป็นยังไง ชีวิต เขาดีขึ้น มันรู้สึกดี หรือเวลาลงไปเดินตลาดที่อยู่ ด้านล่างดอยตุง ไปซือ้ ของ ไปคุยกับแม่คา้ ขายผัก แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว เราจะรู้จักกันหมด บางที มีทักกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง... เดี๋ยวนี้อ้วนขึ้นนะ (หัวเราะ) เราก็ตอบไปสบายดี แล้วเขาเป็นไงบ้าง เป็นการพูดคุยที่มีความสุขใจ สบายใจ แล้วก็จะ อุดหนุนผัก หิ้วกลับบ้านเต็มเลย (หัวเราะ) ใน กรุงเทพฯ ไม่มีตลาดที่ไหน ที่คนซื้อคนขายจะ รู้จักกันหมดแบบนี้ โครงการดอยตุงตอนนี้มีพื้นที่ happy+ | 33

happy heart

34 | happy+

มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ทำ�งานทั้งในประเทศ ไทยและขยายไปยัง ต่างประเทศด้วย เช่น เมียนมา อัฟกานิสถาน อาเจะห์ และอินโดนีเซีย การทำ�งานจะเป็นการ นำ�หลักการการพัฒนา ที่ดอยตุง ไปปรับใช้ กับบริบทประเทศนั้น ๆ

ทั้งหมด 150 ตารางกิโลเมตร เป็นป่า 5 หมื่นไร่ มีทั้งป่าต้นนํ้า ป่าเศรษฐกิจที่เราปลูกกาแฟ ปลูก แมคคาเดเมีย และป่าใช้สอย เป็นพื้นที่ซึ่งเขียว ตลอดทั้งปี เพราะนํ้าใต้ดินมีเยอะมาก ใครที่มา เห็นแล้วรับรองชอบทุกคน” มูลนิธแิ ม่ฟา้ หลวงฯ ไม่ใช่เพียงพัฒนาพืน้ ทีใ่ น ประเทศไทยเท่านัน้ หากแต่ยงั มีการขยายส่วนงาน ทีเ่ ป็นประโยชน์อนื่ ๆ ไปยังต่างประเทศอีกด้วย จน ปัจจุบันกลายเป็นที่ยอมรับในเวทีระดับโลกแล้ว “มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ทำ�งานทั้งในประเทศ ไทยและขยายไปยังต่างประเทศด้วย เช่น เมียนมา อัฟกานิสถาน อาเจะห์ และอินโดนีเซีย การ ทำ�งานจะเป็นการนำ�หลักการการพัฒนาทีด่ อยตุง ไปปรับใช้กับบริบทประเทศนั้น ๆ ซึ่งได้รับการ ตอบรับเป็นอย่างดี แล้วก็มตี า่ งชาติมาดูงานเยอะ ด้วย การปรับต้องดูวัฒนธรรม ศาสนา สังคม สภาพความเป็นอยู่ของเขาด้วย ที่ผ่านมามูลนิธิ แม่ ฟ้ า หลวงฯ ยั ง เป็ น ตั ว แทนประเทศไทย ไปร่ ว มประชุ ม ที่ CND (Commission on Narcotic Drugs) กรุงเวียนนา ในเดือนเมษายน ไปร่วมประชุม UN (United Nations) ที่นิวยอร์ก ปั จ จุ บั น ประเทศที่ ช่ ว ยประเทศที่ ด้ อ ยพั ฒ นา จะให้ ค วามสนใจกั บ เรื่ อ งนี้ ม าก เพราะสิ่ ง ที่ มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ทำ�เป็นของจริงซึ่งจับต้อง มองเห็นได้ “ทำ�งานมานานความประทับใจก็มมี าก ดิฉนั

ประทับใจทุกวัน แต่ทปี่ ระทับใจทีส่ ดุ คือ ประทับใจ ความสามารถของคน เมื่อไม่นานมานี้ มูลนิธิ แม่ฟ้าหลวงฯ จับมือกับเมืองคาซามะ ประเทศ ญี่ปุ่น เพราะเมืองนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองเซรามิก ดิฉันก็อยากให้งานปั้นของเรามีเอกลักษณ์มาก ขึ้น ตอนที่ไปดูงานเมืองนี้ ก็มีการพูดคุยตลอดว่า อยากแลกเปลีย่ นความรู้ เทคนิคการทำ� อยากให้ ครูญี่ปุ่นที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านนี้มาสอน งานให้คนของเรา จนเกิดความร่วมมือและเมือง คาซามะ ประเทศญี่ปุ่น ส่งศิลปิน 2 คนมาสอน งานให้คนของเราที่เชียงราย เป็นเวลา 3 สัปดาห์ ตั ว ดิ ฉั น เองไม่ ได้ ค าดหวั ง เลย เพราะมี ค วาม แตกต่ า งกั นทั้ ง ภาษาแล้ ว ก็ วั ต ถุ ดิ บ อย่ า งดิ น สำ�หรับใช้ปั้น แต่เชื่อไหม 3 สัปดาห์ที่ว่า กลาย เป็นว่าเด็กของเราเปลี่ยนไป เราเห็นแววตาที่เป็น ประกายของเขา ความอยากรู้อยากเห็น คิดดูว่า พอทำ�ชิ้ นงานเสร็ จ แล้ ว พวกเขาไปยื น รออยู่ ตรงหน้าเตาเผา เพื่อจะดูผลงานของตัวเอง ครู ญี่ปุ่นไม่ใช่เพียงสอนเรื่องการปั้น เทคนิคการปั้น แต่ ยั ง สอนเรื่ อ งการดึ ง คนมาเป็ นกลุ่ ม เดี ย วกั น คิดด้วยกัน ทำ�ด้วยกัน เหมือนสร้างความเป็น หนึ่งเดียว เด็กของเราพอมีคนมาชี้ช่องให้ถูกทาง จินตนาการเขาพุ่งออกมาทันที มันเป็นสิ่งที่ดิฉัน ปลืม้ มาก ประทับใจมาก เพราะตรงกับทีส่ มเด็จย่า รับสั่งไว้ด้วย ท่านบอกว่าการให้โอกาสคนเป็น เรื่องที่สำ�คัญ happy+ | 35

happy heart

36 | happy+

“อี ก เรื่ อ งหนึ่ ง ที่ ป ระทั บ ใจคื อ เราพั ฒ นา การศึกษาแบบ Child-Centered เมือ่ เดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เราส่งผู้อำ�นวยการโรงเรียน 3 แห่ง จาก 8 แห่ง ที่อยู่ในพื้นที่โครงการฯ ไปดูการสอนแบบ Open-End Approach ที่ ป ระเทศญี่ ปุ่ น กั บ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และครู 50 คนทางภาคอีสาน พอกลั บ มาจากดู ง าน ผู้ อำ � นวยการโรงเรี ย นมี ไอเดียเกิดขึ้นมากมาย แล้วเขาตกลงกันเองด้วย ว่าจะทำ� Open-End Approach Teaching Method ระหว่าง 2 โรงเรียน มันเป็นความประทับใจใน เรื่องของคน เราให้เขานิดเดียว เขาไปต่อยอดได้ เยอะมาก นีค่ อื การทำ�งานของมูลนิธแิ ม่ฟา้ หลวงฯ เราทำ�หน้าทีป่ ลดล็อกให้เขาบ้าง บางทีกท็ �ำ หน้าที่ ขันนอตให้เขา ตัวไหนหลวมเราก็ขนั ให้แน่นเท่านัน้ เอง” ด้วยความเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ของ มูลนิธแิ ม่ฟา้ หลวงฯ ทำ�ให้ทกุ วันนี้ ทุกพืน้ ทีด่ �ำ เนิน งาน เปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน ซึ่งความสำ�เร็จ ทีเ่ กิดขึน้ สร้างความสุขใจให้กบั ทัง้ คนทำ�งาน และ คนในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี “ในการทำ�งานของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ผล สำ�เร็จที่เกิดขึ้นได้ ไม่ใช่เพียงเพราะเจ้าหน้าที่ ทำ�งานฝ่ายเดียว แต่ชาวบ้านที่เราไปลงพื้นที่ต้อง ร่วมมือกับเราด้วย เวลาเราไปลงพื้นที่ไปอยู่ ไป กิน ไปนอนกับชาวบ้าน เพราะเราอยากได้ขอ้ มูลที่ ถูกต้อง นี่คือจุดเด่นของเรา คุณชาย (ม.ร.ว. ดิศนัดดา ดิศกุล) บอกเสมอว่า การทำ�งานให้ดตู น้ แบบ จากพระเจ้าอยู่หัว เคยเห็นไหมภาพที่พระองค์

ท่านประทับบนพืน้ ดิน ดูแผนที่ คุยกับชาวบ้าน คิด ดูวา่ ขนาดเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน เวลาทำ�งานพระองค์ทา่ น ยังเสด็จฯ ลงพืน้ ทีส่ อบถามข้อเท็จจริงด้วยพระองค์เอง พวกเรายึ ด หลั ก ตรงนี้ ข องพระองค์ ท่ า น คื อ เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา การออกไปทำ�งาน สำ�รวจไม่ใช่ทำ�แค่ข้อมูล แต่เราต้องสำ�รวจหัวใจ ชาวบ้านด้วย อย่างเช่น จะมีการสร้างเขื่อนบน ภูเขา แต่ตรงนั้นมีชาวบ้านอาศัยอยู่ เราเอาพื้นที่ ทำ � กิ น มาทำ � เขื่ อ น แล้ ว จะให้ เ ขาไปอยู่ ที่ ไหน กระทบวิถีชีวิตของเขาไหม เราต้องมาคิดและ จัดการกับตรงนี้ด้วย “ทุกวันนี้ส่วนตัวดิฉันเองก็มีความสุขกับการ ใช้ชีวิต ตื่นนอนประมาณ 06.00-07.00 น. มาถึงที่ ทำ�งาน 09.00 น. กลับบ้านก็ประมาณ 17.0018.00 น. และจะชอบทานอาหารดี อาหารแบบ คนโบราณ ทานผัก นํ้าพริก ผลไม้ ร่างกายก็เลย ไม่ค่อยป่วย เวลาส่วนตัวดิฉันก็จะอยู่บ้านเงียบ ๆ เพราะเราทำ�งานมาทั้งวัน ถึงบ้านก็จะคุยกับหมา ก่อนอันดับแรก มีหมาไทย 3 ตัว สักพักก็ไปคุยกับ หลาน ทานข้าว แยกย้าย อาจจะดูทีวี เที่ยงคืน ก็จะนอน จะเป็นประมาณนี้มาตลอด ก็ถือว่ามี ความสุข ไม่ทุกข์ ความสุขในที่นี้ คือ สุขไม่ใช่ ว่ามีตลอด ก็จะสลับกันไป แต่มีความสบายใจ ไม่ตะเกียกตะกาย ไม่กระเสือกกระสนอะไรแล้ว เมื่อก่อนอาจจะมีห่วงลูก ห่วงหลาน แต่ตอนนี้ไม่ แล้ว มีเวลาว่างก็ไปคุยกับเพื่อน ก็มีความสุขแล้ว มีความฝันว่าอยากไปเทีย่ วในทีท่ ย่ี งั ไม่เคยมีใครเห็น

ดิ ฉั น ไม่ ช อบไปเมื อ งใหญ่ อ ย่ า งปารี ส ไม่ ช อบ ไปเมืองทีค่ นไปเทีย่ วเยอะ ๆ ครัง้ หนึง่ เคยอยากไป เที่ยวเมืองเมืองหนึ่งในประเทศอัฟกานิสถาน เคย อ่านหนังสือเขาบอกว่าเป็นสถานที่ต้องเที่ยวก่อน ตาย ชื่อ Band-e-Amir ก็หาทางไปจนได้ ไปมา แล้วครั้งหนึ่งสวยมาก ก็อยากไปอีกสักครั้ง แล้ว ชอบเที่ยวอินเดีย ดูวัดฮินดู ดูงานศิลปะ กลับมา จะรู้สึกเต็มตื้น และทึ่งในความเก่ง ความมุมานะ สร้างศิลปะของมนุษย์ ดิฉนั ชอบเทีย่ วเมืองแปลก ๆ อยากไปทดลองอยู่สัก 7 วัน คิดว่าน่าจะสนุกดี “และในส่ ว นของงานที่ ทำ � อยู่ ที่ มู ล นิ ธิ แม่ฟา้ หลวงฯ ก็จะยังทำ�ต่อไปอีกสักระยะ ยังสนุก และชอบที่จะทำ�งาน วางแผนจะพัฒนาต่อยอด ไปเรื่อย ๆ ปัจจุบันเรามีการสร้างไอเดียใหม่ ๆ ต่อยอดเป็นสินค้าหรือผลิตภัณฑ์มากมาย แต่ สิ่งที่อยากเห็นมากที่สุดคือ อยากเห็นคนรุ่นใหม่ ที่มารับช่วงต่อทำ�งาน ที่มีความรู้สึกอยากเป็น เจ้าของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงฯ กับดอยตุง เพราะ อะไรที่เรารู้สึกว่าเราเป็นเจ้าของ เราจะมีความสุข ที่ได้ทำ�และทำ�ให้ดีขึ้น แต่ถ้าไม่รู้สึกไม่รัก ก็ไม่ อยากทำ� ต่อให้เราหยิบยื่นอะไรให้เขาก็ยากที่เขา จะรับนั่นเอง” หากท่ า นใดต้ อ งการเลื อ กชมสิ น ค้ า หรื อ ผลิตภัณฑ์ของดอยตุง สามารถเลือกซื้อได้ที่ร้าน ดอยตุงไลฟ์สไตล์สาขาต่าง ๆ รวมทัง้ สาขาสำ�นักงาน มูลนิธแิ ม่ฟา้ หลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ติด MRT ลุมพินี ถนนพระราม 4 กรุงเทพฯ happy+ | 37

feature

38 | happy+

เบื้องหลังความสำ�เร็จ เรื่อง : It’s a bell, กรรณิกา ฝากาบล ภาพ : กุลวัฒน์ นะมิ

มีคำ�กล่าวที่ว่า กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว ซึ่ ง หมายความถึ ง การทำ � งานใดก็ ต ามให้ ป ระสบความ สำ�เร็จ ล้วนต้องใช้เวลา กรุงโรมซึ่งเป็นศูนย์กลางของศิลปะ วัฒนธรรม ยังต้องใช้เวลายาวนานกว่าจะเดินทางสู่ความ ยิ่งใหญ่อย่างที่เราได้รับรู้กันมา คนเบื้องหลังเป็นคนอีกกลุ่มหนึ่งที่คอยสนับสนุน คอย เสริม คอยผลักดันให้คนที่อยู่เบื้องหน้าได้เฉิดฉาย โดดเด่น เปล่งประกายความสำ�เร็จออกมา โดยที่พวกเราอาจไม่รู้ว่า พวกเขาเหล่านี้เป็นใคร นิตยสาร happy+ ฉบับเมษายน ขอเปิดเผยโฉมหน้า บุคคลเบื้องหลังทั้ง 4 ท่าน ให้ท่านผู้อ่านได้รับรู้ถึงความ สำ�เร็จของพวกเขาเหล่านี้ไปพร้อม ๆ กันค่ะ happy+ | 39

feature

พัลลภ สามสี

หนังสือหนึ่งเล่ม และประติมากรรมหนึ่งชิ้น “คนไทยไม่อ่านหนังสือ” หรือ “คนไทยอ่านหนังสือน้อย” เมื่อเทียบกับหลายประเทศ ดูเหมือนจะเป็นคำ�พูดที่เราได้ยินได้ฟังกันมาไม่มาก ก็น้อย แต่ถึงอย่างนั้น วงการหนังสือของบ้านเราก็ยังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าหนังสือแต่ละเล่มที่ถูกผลิตขึ้น นอกจาก นักเขียนผู้ร้อยเรียงเรื่องราวเป็นตัวหนังสือแล้ว ยังมีคนเบื้องหลังกลุ่มหนึ่งที่เป็นอีกแรงสำ�คัญ ช่วยคัดเลือกพร้อมผลักดันหนังสือดี ๆ เหล่านี้ ออกสู่สายตานักอ่าน คุณต้น - พัลลภ สามสี บรรณาธิการสำ�นักพิมพ์ มติชน ผู้คลุกคลีอยู่ในวงการหนังสือมากว่า 10 ปี เล่ า ถึ ง การทำ � งานบรรณาธิ ก ารอย่ า งคร่ า ว ๆ ให้เราฟังว่า “คนเป็น บ.ก. หรือกอง บ.ก. โดยปกติจะ ทำ�งานเบื้องหลังอยู่แล้ว ถ้าเป็นสมัยก่อนชื่อของ 40 | happy+

บ.ก. จะอยูบ่ นปกหนังสือด้วย ถ้าผูอ้ า่ นเห็นว่าคนนี้ เป็น บ.ก. เมื่อไหร่จะซื้อทันที แต่สมัยนี้คนรู้จัก บ.ก. น้อยลง เพราะการทำ�งานเราไม่ใช่พระเอก เพียงคนเดียว เราทำ�งานกันเป็นทีม โดยเริ่มจาก การตามหาต้นฉบับ พูดคุยทำ�ความเข้าใจกับ นักเขียน คุยกับตัวหนังสือของเขา ตรวจแก้ตน้ ฉบับ

เพื่อดูว่ามีอะไรตกหล่น หรือควรเพิ่มเติมลงไป ก่อนจะจัดพิมพ์และวางขาย “ซึ่งการพิจารณาต้นฉบับหนึ่งเรื่อง เราใช้ หลายทีมเข้ามานั่งรวมกัน เช่น ที่ปรึกษา ฝ่าย การตลาด บ.ก. เล่มและทีมงานมาพรีเซนต์และ ถกเถียงกันถึงข้อดีขอ้ เสียของแต่ละเล่ม การทำ�งาน

แบบนี้บางครั้งความเป็นตัวตนของเราจะน้อยลง แต่ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่คนมาเป็น บ.ก. จะต้อง เข้ า ใจ หากคุ ณ อยากมี ชื่ อ เสี ย งควรเลื อ กเป็ น นักเขียน เพราะ บ.ก. คือคนทีอ่ ยูเ่ บือ้ งหลัง ชือ่ ของ เราไม่ได้อยูท่ หี่ น้าปก แต่อยูท่ หี่ น้าเครดิตด้านใน ซึง่ บ.ก. ทุกคนก็ภมู ใิ จมากเมือ่ เห็นชือ่ ของตัวเองอยูใ่ น หนังสือเล่มนั้น หรือรู้สึกดีใจที่เห็นหนังสือเล่มที่ ตัวเองเป็นคนทำ� วางอยูบ่ นชัน้ ในร้านหนังสือและ ขายดี ผมไม่รู้ว่าหมอทำ�คลอดเด็กเขารู้สึกแบบนี้ หรือเปล่านะ แต่ผมกลับรู้สึกแบบนั้น” เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาในและวัน แล้วรู้สึกว่า อยากไปทำ�งาน ได้ทำ�ในสิ่งที่รัก ถือเป็นความ โชคดีอย่างหนึ่งของชีวิต เพราะคนเราใช้เวลา ส่วนใหญ่ไปกับการทำ�งาน เมื่อสิ่งที่รักผนวกรวม กับงานที่ทำ�ได้อย่างลงตัว ความสุขเล็ก ๆ จึงเป็น แรงผลักดันให้เราก้าวต่อไปได้ “ผมเป็นคนไม่ค่อยมีปรัชญาในชีวิตเท่าไหร่

เมื่อเราค้นพบว่าเราชอบอะไร ชอบทำ�หนังสือ พ็อกเก็ตบุ๊กจึงกลับมาหามันอีกครั้ง เมื่อก่อน รู้สึกอยากจะเป็นนักเขียนเหมือนกัน แต่พอได้ ทำ � งานบรรณาธิ ก ารแล้ ว สนุ ก ดี ได้ รู้ จั ก เพื่ อ น นักเขียนหลากหลาย บ.ก. หลายท่านชอบพูดว่า บรรณาธิการฆ่านักเขียน เพราะเมื่อมาทำ �งาน บรรณาธิการแล้ว เราจะถูกฆ่าความเป็นนักเขียน ไป เพราะต้องตรวจแก้งานของคนอื่น จับผิดเพื่อ ความถูกต้องของหนังสือ จนเมื่อต้องเขียนงาน ของตัวเองจะเขียนไม่ออกในบางครั้ง “การทำ�หนังสือเล่มหนึ่งจึงเหมือนกับการ สร้างอนุสาวรียห์ รือประติมากรรมสักชิ้น ซึ่งจะคง อยูต่ อ่ ไปอีกยาวนาน เช่น เข้าไปอยูใ่ นห้องสมุดทุกที่ เราจึงต้องผลิตหนังสืออย่างพิถีพิถัน คัดเลือก เนื้อหาที่ดี ไม่พิมพ์งานอย่างสุกเอาเผากิน งานที่ ลอกเลียนแบบผูอ้ นื่ หรือสรุปจากอินเทอร์เน็ตแล้ว นำ�มาทำ�เป็นหนังสือ ผมจะไม่ทำ�หนังสือแบบนั้น

อย่างเด็ดขาด “ปัจจุบันนี้ เรามีนักอ่านคุณภาพเดินมาหา เราเรือ่ ย ๆ คนรุน่ ใหม่เริม่ สนใจงานทีม่ คี วามเข้มข้น มากขึ้ น ผมมี น้ อ งคนหนึ่ ง อยู่ ที่ บ้ า น เราลอง โยนวรรณกรรมหนัก ๆ ไปให้เขาดู เขาก็ไม่อา่ นหรอก เพราะไม่ชอบอ่านอะไรที่หนัก ๆ แต่แล้ววันดี คืนดีเขากลับหยิบหนังสือเล่มนั้นมาอ่าน คนเรา เมือ่ กินผัดไทยอิม่ แล้ว ก็อยากลองกินต้มยำ�ดูบา้ ง แล้ววันหนึ่งเขาจะกลับไปกินผัดไทยตามเดิมก็ได้ ไม่เห็นจะเป็นไรเลย” งานบรรณาธิการจึงเป็นงานเบื้องหลังที่คอย สร้างสรรค์ผลงานผ่านตัวหนังสือ ออกมาเป็น เพือ่ นคูค่ ดิ เป็นมิตรสหายของผูอ้ า่ น ซึง่ หากเปรียบ หนังสือของสำ�นักพิมพ์มติชนเป็นเพื่อนของเรา คนหนึ่ง คงเป็นคนที่มีความรู้ แต่ไม่เก๊ก ซีเรียสได้ แต่ไม่ถึงกับเนิร์ด คุยเล่นได้แบบไม่ถือตัว แล้ว เพื่อนของคุณผู้อ่านแต่ละคนเป็นอย่างไรคะ happy+ | 41

feature

ผศ.ดร.นพ.ประวีร์ สิริเธียรทรรศน์

กินดี อยู่ดี มีวินัย เบื้องหลังเส้นชัยแห่งความสำ�เร็จ นาทีนี้คงไม่มีใครปฏิเสธในความสำ�เร็จของสโมสรฟุตบอลอาชีพชั้นนำ� อย่างทีม “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” หรือปราสาทสายฟ้าได้ เพราะความเก่ง ความพร้อมเกือบทุกด้าน หล่อหลอมให้ทมี ปราสาทสายฟ้าทีมนีผ้ งาดขึน้ เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพชัน้ นำ�ของเอเชียได้อย่างไม่ตอ้ งสงสัย และสิง่ หนึง่ ที่ พู ด ถึ ง กั น อย่ า งกว้ า งขวางนั่ น คื อ การนำ � วิ ท ยาศาสตร์ ก ารกี ฬ าและเวชศาสตร์ ก ารกี ฬ า มาปรั บ ใช้ กั บ นั ก กี ฬ าอย่ า งจริ ง จั ง นั่ น เอง “ผศ.ดร.นพ.ประวีร์ สิรเิ ธียรทรรศน์” ผูเ้ ชีย่ วชาญด้านเวชศาสตร์การกีฬาและเวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลกรุงเทพ และแพทย์ประจำ�ทีมฟุตบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บอกกับเราว่า กุญแจสำ�คัญที่อยู่เบื้องหลังความสำ�เร็จของทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แท้จริงแล้วคือ การทำ�เรื่องเบสิกให้มีคุณภาพ “เรื่องเบสิกเป็นการเริ่มต้นที่ดีสู่เป้าหมาย อาหารดีและรสชาติดี นอนดี วินัยดี เป็นความ สำ�คัญของการเป็นนักกีฬา อย่างผมเป็นแพทย์ ประจำ�ทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งมีการนำ� วิทยาศาสตร์การกีฬาและเวชศาสตร์การกีฬา เข้ามาใช้อย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม ส่งผลให้ทมี ประสบความสำ�เร็จอย่างทีเ่ ห็น โดยในช่วงแรกของ การทำ�งานผมจะเดินทางไปกลับกรุงเทพฯ บุรรี มั ย์ แต่ทกุ วันนีไ้ ม่ตอ้ งไปก็ได้ เพราะเราเซตทุกอย่างเข้า ระบบแล้ว อาจจะใช้เทคโนโลยีสื่อสารเข้ามาช่วย ด้วย ก่อนอื่นสิ่งที่ผมอยากบอกคือ รู้สึกดีใจมาก 42 | happy+

ที่เห็นวงการกีฬาบ้านเราคึกคัก ทั้งคนทั่วไปยัง ทราบมากขึ้นว่า การใช้เวชศาสตร์การกีฬามีผล กับนักกีฬาจริง ๆ และเป็นที่มาของเบื้องหลัง ความสำ�เร็จแบบจับต้องได้ด้วย” ผศ.ดร.นพ.ประวีร์เล่าเพิ่มเติมอีกว่า ก่อนจะ เข้าสู่วงการเบื้องหลังความสำ�เร็จของวงการกีฬา นั้ น ส่ ว นตั ว ชื่ นชอบกี ฬ ามาตั้ ง แต่ เด็ ก ใฝ่ ฝั น อยากเป็นนักกีฬา แต่ดว้ ยสภาพร่างกาย ณ ขณะนัน้ ไม่ เ อื้ อ อำ � นวย จึ ง ไม่ ส ามารถเป็ น นั ก กี ฬ าได้ แต่ด้วยความฝันจึงมุ่งมั่นว่าอย่างไรก็ต้องเข้าสู่ วงการกีฬาให้ได้

“ส่วนตัวผมเป็นคนที่ชื่นชอบการเล่นกีฬา อยากเป็นนักกีฬา แต่ด้วยร่างกายเราไม่ได้ เป็น เด็กเรียนเก่ง เนิรด์ ๆ นัง่ อ่านหนังสือทัง้ วัน จำ�ได้วา่ อายุ 20 ปี จะมี อ าการปวดไหล่ ป วดหลั ง เหมื อ นคนอายุ 40 ปี เป็ น จุ ด เปลี่ ย นให้ เริ่ ม อ อ ก กำ � ลั ง ก า ย แ ล ะ ตั ด สิ น ใ จ ว่ า จ ะ ไป เรี ย นต่ อ เฉพาะด้ า นกี ฬ าและด้ า นการเทรน นักกีฬา ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา พอเรียนจบ ก็เป็นอาจารย์ที่นั่น 1 ปี และค่อยกลับมาทำ�งาน ที่ เมื อ งไทย กระทั่ ง ได้ ใ ช้ ค วามรู้ ที่ รํ่ า เรี ย นมา ด้านเวชศาสต์การกีฬา ตลอดจนได้ประยุกต์ใช้

ความรู้ต่าง ๆ ที่เรียนมากับทีมฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดจริง ๆ โดยการทำ�งานผมจะเป็นคนเซต ในเรื่องของอาหาร การนอน ดูแลความเจ็บป่วย รวมถึงดูว่านักกีฬาคนไหนมีจุดอ่อนยังไง แล้วจะ หาทางแก้ยังไง “การทำ�ให้ร่างกายนักกีฬาสมบูรณ์แข็งแรง พร้อมลงแข่ง คือเบื้องหลังความสำ�เร็จที่แท้จริง แล้วความสมบูรณ์ของร่างกายมาจากไหน ก็มา จากเรื่องเล็ก ๆ ที่นำ�ไปสู่เรื่องใหญ่ ๆ เริ่มต้นที่ อาหารการกิน นี่คือเบสิกครับ นักกีฬาต้องกินถูก สุขลักษณะ นอนให้เป็นเวลา คำ�ว่าถูกสุขลักษณะ ขณะเดียวกันต้องอร่อยด้วย ไม่ใช่ว่าอาหารดี มีประโยชน์แต่ไม่มีรสชาติเลย นักกีฬาเขาก็จะ ไม่มีความสุขในการกิน เราก็ต้องดัดแปลงเมนู ให้ถูกหลักและอร่อยด้วย อาหารของนักกีฬาจะ เป็นจำ�พวกเมนูไขมันตํ่าและให้พลังงานสูง เช่น แซลมอนนึ่ง ปลานึ่งกับผัก ข้าวผัด ก๋วยเตี๋ยว สปาเกตตี ผัก ผลไม้ เป็นต้น “ส่วนเรื่องของการนอนเน้นว่า ต้องนอนให้ เพียงพอ นักกีฬาต้องรู้ว่าก่อนลงแข่งต้องนอนให้ เต็มที่ เพราะสภาพร่างกายจะได้สมบูรณ์พร้อม ขณะเดียวกันถ้าพรุง่ นีจ้ ะแข่งอยูแ่ ล้ว แต่คนื นีย้ งั ไป เที่ยวอีก แน่นอนว่าสภาพร่างกายแย่แน่ ๆ อย่าง

ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผมกล้าพูดได้ว่าเราให้ความ ใส่ใจดูแลนักกีฬาอย่างดี เวลาอยู่แคมป์เรามีทีม แพทย์ ทีมพยาบาล 24 ชั่วโมง เมื่อนักกีฬาเจ็บ ป่วย เราสามารถรักษาได้เร็วที่สุด แล้วเวลาที่ทีม ของเราไปแข่งขันต่างประเทศ เรือ่ งอาหาร สภาพ อากาศ มีผลกับนักกีฬา ผมก็จะเตรียมทางแก้ไว้ ตลอด อย่างถ้ากินแล้วท้องเสียจะทำ�ยังไง หรือ นอนไม่หลับก็จะให้อาหารเสริม รวมถึงเรื่องอื่น ๆ เราต้องคิดและหาทางแก้เตรียมไว้ เพราะเวลาไป เล่นที่ต่างประเทศ เราใช้เงินในการเดินทางมูลค่า มหาศาลนะครับ นีย่ งั ไม่รวมศักดิศ์ รีหรืออืน่ ๆ อีก ดังนัน้ เรือ่ งเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่น�ำ ไปสูเ่ รือ่ งใหญ่ ๆ จึง ต้องใส่ใจเป็นพิเศษอย่างแท้จริง อีกอย่างการดูแล นักกีฬาดี ก็เท่ากับว่าสามารถยืดอายุการเล่นของ เขาไปได้อีกนานด้วย” พรสวรรค์ มี ไม่ เท่ า กั น แต่ เราสามารถใช้ พรแสวงไขว่คว้าสิ่งที่อยากเป็นได้เท่าเทียมกัน “สำ � หรั บ ผมเบื้ อ งหลั ง ความสำ � เร็ จ ของ นักกีฬา อย่างหนึ่งคือพรแสวง บางคนอาจจะ มี พ รสวรรค์ ก็ เป็ น เรื่ องที่ ดี แต่ ผ มเชื่ อ ว่ าคนที่ มี พรแสวง ขยันฝึกซ้อม มีวินัย ความเก่งจะมาเอง ไม่ใช่วา่ ไม่มพี รสวรรค์แล้วยังขีเ้ กียจซ้อมอีก แบบนี้ ก็ไปไม่ถึงไหน ยกตัวอย่าง ‘โน้ต จักรพันธ์’ เขามี

วินยั ในการดูแลตัวเองดี ทัง้ ทีเ่ คยผ่าเข่ามาก่อน แต่ การกิน นอน มีวนิ ยั ฝึกซ้อม ปัจจุบนั เขาคือตัวหลัก ของทีม ‘สุเชาว์ นุชนุ่ม’ อายุ 30 ปีแล้ว แต่ยังเล่น ท็อปฟอร์ม เพราะเขามีวินัยของการเป็นนักกีฬา ที่ดี อีกคนที่ผมชื่นชอบมาก คือ ‘ทอม เบรดี้’ ควอเตอร์ แบ็ ก ที่ ดี ที่ สุ ด ตลอดกาลของอเมริ กั น ฟุตบอล ก่อนหน้านีเ้ ขาเคยถูกปฏิเสธมามากมาย เพราะเขาบอกว่าคุณเตีย้ ไป กำ�ลังแขนน้อยไป แต่ ปัจจุบนั เขาคือประวัตศิ าสตร์ นัน่ เพราะเขาขยันฝึก ซ้อมมากกว่าคนอื่นหลายเท่านั่นเอง ซ้อมในที่นี้ คือ ซ้อมแบบพอดีไม่มีบาดเจ็บนะครับ “สำ�หรับพ่อแม่ทอี่ ยากให้ลกู เป็นนักกีฬา เริม่ วางแผนทีโ่ ภชนาการก่อน โปรตีน วิตามิน เกลือแร่ แป้ง ต้องครบ แล้วดูว่าลูกชอบกีฬาอะไร จากนั้น พอเขาเปิดรับสมัครเข้าแคมป์เก็บตัวก็พาลูกไป สมัคร ถือเป็นการเดินทางสูเ่ ป้าหมายด้วย ทุกวันนี้ ผมว่าวงการกีฬาบ้านเราก้าวหน้ามาก ๆ เพราะ สามารถสร้างทัง้ อาชีพ สร้างรายได้ สร้างชือ่ เสียง และสร้างแรงบันดาลใจให้ใครต่อใครมากมาย” บางครั้งเบื้องหลังความสำ�เร็จที่เราอาจจะ ม อ ง ว่ า เ ล็ ก น้ อ ย แต่ แท้ จ ริ ง อ า จ จ ะ เป็ น กุ ญ แจสำ � คั ญ ที่ จ ะนำ � เราไปสู่ ค วามสำ � เร็ จ ที่ ยิ่งใหญ่นั่นเอง happy+ | 43

feature

ปรีดิยุช รัตนงาม

พัฒนาบุคลิกภาพ พัฒนาศิลปิน เมื่อครั้งยังเด็ก เราทุกคนล้วนมีความฝัน และเมื่อเติบโตขึ้นความฝันนั้นอาจเปลี่ยนแปลงไปหรือยังคงเดิม แต่เชื่อว่าหลายคนพยายามเดิน ตามความฝันนั้น เพื่อสักวันฝันจะกลายเป็นจริง และหนึ่งในความฝันอันมากมาย เช่น ศิลปิน ดารา นักแสดง นักร้อง หรือเรียกง่าย ๆ ว่า หนทางสู่การป็นดาว ยังคงเปิดโอกาสให้กับคนที่สนใจอยู่เสมอ คุณก้อง - ปรีดิยุช รัตนงาม ผู้จัดการฝ่ายคัดเลือกและบริหารงานศิลปิน บริษัท อาร์เอส จำ�กัด (มหาชน) เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำ�เร็จของศิลปินหลายคน “ฝ่ า ยคั ด เลื อ กศิ ล ปิ น เป็ น ฝ่ า ยที่ อ ยู่ ห ลั ง บ้ า น คอยคั ด เลื อ กศิ ล ปิ น เข้ า มาและส่ ง ต่ อ ให้ กับฝ่ายพัฒนาศิลปิน ซึ่งถ้าหากเด็กมีแวว แต่ ยังไม่สามารถร้องเพลงหรือเต้นได้เราจะต้องนำ� มาฝึกหัดก่อน ซึ่งปัจจุบันนี้เราเปิดเป็น Artist Training Center แยกย่อยออกเป็น 3 สาขา คือ Artist Training Program โปรแกรมเทรนศิลปิน ซึ่งนอกจากเรื่องการร้องเพลง เต้นแล้ว เราจะ 44 | happy+

วิ เคราะห์ เด็ ก แต่ ล ะคน ว่ า เหมาะสมกั บ การ ร้ อ งเพลงแนวไหน และเรี ย นแบบนั้ น เลย นำ � กระบวนการสร้างศิลปินคนหนึง่ มาสอนให้กบั เด็ก ที่สนใจและสมัครเข้ามาเรียน ซึ่งรับในแต่ละรุ่น ประมาณ 10 คน ต่อมาคือ RS Star Search เป็ น โปรแกรมสำ � หรั บ การคั ด หาผู้ ที่ ส นใจเป็ น นักแสดง เพราะตอนนีม้ ที วี ดี จิ ทิ ลั เกิดขึน้ หลายช่อง มีละครหลายเรื่อง ช่องต่าง ๆ ต้องการนักแสดง

เป็นจำ�นวนมาก เราจึงเปิดคอร์สการเรียนการสอน เพือ่ เป็นนักแสดงขึน้ มารองรับ และสุดท้ายคือ RS VJ สอนเรื่องของการพูดและการอ่านเพื่อเข้าสู่ การเป็นวีเจและพิธีกร ซึ่งทั้งหมดนี้จะมีการสอบ วัดระดับในทุก ๆ เดือน และเมื่อจบคอร์สเราจะมี การประเมินใหญ่ ซึ่งเชิญผู้เกี่ยวข้อง เช่น ทีมงาน เพลง โปรดิวเซอร์ ผู้จัดละคร ฯลฯ เข้ามาประเมิน ผล ซึ่งถือเป็นการซื้อโอกาสให้กับตนเอง ได้เรียน

ได้รู้ ได้ปฏิบัติจริง และได้รับโอกาสในการเข้าใกล้ ความฝันของตนเองมากขึ้น” การทำ�งานเบื้องหลังของคุณก้อง - ปรีดิยุช ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา ช่วยให้คุณก้องมองเห็น มุมมองที่น่าสนใจต่อวงการบันเทิงในบ้านเรา “การทำ�งานอยู่ตรงนี้เป็นเวลานานให้ความ จริงกับเราหลาย ๆ อย่าง พี่จะสอนเด็กทุกคนว่า มีที่ยืนสำ�หรับคนเก่งเสมอ บางคนชอบคิดว่า ทำ�ไมเราถึงไม่ได้ออกอัลบั้มสักที ทำ�ไมเราถึงยัง อยู่ที่เดิม แบบนี้คงต้องย้อนถามกลับไปที่ตัวเอง ก่อนว่า เราเก่งหรือยัง พร้อมหรือยัง ถ้าคิดว่าเรา เก่งหรือเราพร้อมแล้ว ยืนตรงนี้ไม่ได้ ไปยืนที่อื่นก็ ยังได้ มีหลายคนทีไ่ ปได้ดเี ติบโตในทีอ่ นื่ ณ วันนัน้ คุณยังไม่ประสบความสำ�เร็จ แต่ถ้าคุณเก่งและ พร้อม มันมีที่ยืนให้กับคุณเสมอ พี่ดีใจกับเด็ก ๆ เสมอไม่ว่าเขาจะไปอยู่ที่ไหนก็ตาม” และด้วยประสบการณ์ที่มีมากขึ้นของคุณ ก้อง - ปรีดิยุช ปัจจุบันคุณก้องยังเป็นอาจารย์

ประจำ�คอร์สการพัฒนาบุคลิกภาพ ซึ่งสอนใน เรื่องการพูด การตอบคำ�ถาม การดูแลตนเองใน ฐานะนักร้อง นักแสดงอีกด้วย “จากเมื่อก่อนเราเป็นคนคอยให้คำ�แนะนำ� เด็ก ๆ เมื่อเห็นว่าเขายังตอบคำ�ถามสัมภาษณ์ ได้ไม่ดี พูดคุยในงานคอนเสิร์ตไม่สนุก แนะนำ� ไปตามเรื่องตามราวจนกลายมาเป็นคอร์สการ พัฒนาบุคลิกภาพขึ้น นอกจากนี้ พี่เป็นผู้จัดการ ฝ่ายคัดเลือก ซึ่งถือเป็นด่านแรกที่ได้เห็นศิลปิน มาตั้งแต่ต้น เห็นมาตั้งแต่เด็ก จึงไม่มีใครเข้าใจ ธรรมชาติของศิลปินแต่ละคนได้เท่ากับฝ่ายเรา และในขณะเดี ย วกั น ศิ ล ปิ นก็ จ ะรู้ สึ ก อบอุ่ น ใจ ทุกครั้งเมื่อได้กลับมา เพราะทุกคนเริ่มต้นมาจาก จุดนี้ เราจึงเป็นเหมือนศูนย์ร้องทุกข์ของเหล่า ศิลปินที่เข้ามาระบายสิ่งที่ตนเองไม่สบายใจอีก ด้วย” คุณก้องเล่าถึงความประทับใจเล็ก ๆ ของ การอยู่เบื้องหลังของความสำ�เร็จให้เราฟังว่า

“เมื่อไม่นานมานี้มีน้องคนหนึ่งที่เราสอนมา กับมือ ได้เป็นนางเอกซึง่ ต้องมาฟิตติง้ ละคร วันนัน้ ความจริงงานเสร็จตั้งแต่ทุ่มกว่าแล้ว เราในฐานะ คนเบือ้ งหลัง ก็คดิ ว่าเขาจะมาหาเราไหม พีก่ เ็ ลยนัง่ รอเขา ลุ้ น ว่ า จะมาหาไหม ปรากฏว่ า พอเขา ฟิตติ้งเสร็จ เขามาหาเราจริง ๆ ทุกครั้งที่เจอ เหตุการณ์แบบนี้เราจะชื่นใจทุกครั้ง แม้ความ เซนซิทีฟจะลดลง เพราะเราคุ้นเคยมากขึ้น แต่เรา รู้สึกดีทุกครั้ง ภูมิใจแทนตัวเขา เห็นเขาประสบ ความสำ�เร็จก็แฮปปีแ้ ล้ว เหมือนเราเป็นแม่ของเขา คนหนึ่งก็ว่าได้” การส่ ง บุ ค คลคนหนึ่ ง ไปให้ ถึ ง ฝั น ถื อ เป็ น งานที่ต้องใช้แรงกายและแรงใจอย่างมาก ความ สัมพันธ์เล็ก ๆ จึงเริ่มก่อตัวขึ้นจนกระทั่งความ สัมพันธ์นั้นมั่นคงแข็งแรงผ่านการเดินทางของวัน และเวลา จึงไม่แปลกเลยที่เราจะเห็นคนเหล่านี้ เมื่อประสบความสำ�เร็จแล้ว หันกลับมาหาคนอยู่ เบื้องหลัง คนอีกหนึ่งคนที่ร่วมสานฝันมาด้วยกัน happy+ | 45

feature

นรเทพ มาแสง

อดีตขับเคลื่อนอนาคต หากเอ่ยชื่อมือเบสที่มีชื่อเสียง จนได้รับฉายาว่า มือเบสร้อยวง คงเป็นใครอื่นไปไม่ได้ นอกจาก คุณนอ - นรเทพ มาแสง ปัจจุบันเป็นมือเบส และหัวหน้าวงเครสเชนโด และเป็นที่รู้จักในวงกว้างในฐานะอดีตมือเบสวงพอส และเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พอสได้กลับมารวมตัว กันอีกครั้ง โดยปล่อยเพลง “รักอยู่รอบกาย” ออกมาในโอกาสพิเศษครบรอบ 20 ปี ซึ่งเพลงนี้ได้รับการเรียบเรียงใหม่ แต่ยังคงเอกลักษณ์ ของวงพอสไว้เป็นอย่างดี “ตำ�แหน่งมือเบสทำ�งานเหมือนกับหัวหน้าวง เวลาที่เบสหยุด หรือเปลี่ยน จะมีผลกับดนตรี ทั้งหมด แม้ดเี ทลในการเล่นโชว์จะน้อยกว่าเครื่อง ดนตรีอื่น ๆ ทั้งหมด แต่ก็ถือเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง ของเบสด้วยเช่นกัน ผมทำ�งานทั้งเบื้องหน้าและ เบื้องหลัง ซึ่งถ้าถามว่าชอบอย่างไหนมากกว่า กัน คงต้องตอบว่าแล้วแต่ช่วงอายุ ตอนที่อายุยัง น้อย เราอาจจะชอบงานสเตจเพราะได้โชว์ฝีมือ 46 | happy+

บางช่วงชีวิตที่รู้สึกเบื่อ กลับชอบงานในสตูดิโอ มากกว่า งานสเตจให้ความชุ่มชื่นกว่า ไม่ว่าจะ ไปแสดงสดที่ไหนก็สนุกทุกที แต่งานสตูดิโอ สนุก ตรงทีเ่ ราค่อย ๆ ตัดแต่ง ดัดแปลงเพลงแต่ละเพลง เป็นความสนุกที่แตกต่างกัน “เรื่องของดนตรีไม่มีถูกหรือผิด แต่เมื่อทำ� เพลงเพื่อขายจะมีถูกหรือผิดขึ้นมาทันที มันอยู่ที่ เป้าหมายในการทำ�ดนตรีมากกว่าว่าเราทำ�ดนตรี

เพื่ออะไร ผมทำ�งานหลายอย่าง ทั้งเป็นมือเบส วงเครสเชนโด เป็นสมาชิกวงพอส เป็นโปรดิวเซอร์ งานเพลง หรือว่าง ๆ ก็ทำ�อัลบั้มเพลงของตัวเอง แก้เหงา เพราะฉะนั้นก่อนจะทำ�เพลงผมต้องคิด ก่อนว่ามันอยู่ในช่องทางไหน อย่างเช่น ทำ�เพลง เพือ่ วงเครสเชนโด เก้ง - เขมวัฒน์ เป็นนักร้องใหม่ ประจำ�วงที่ยังต้องการฐานแฟนคลับอยู่ เพราะ ฉะนั้นต้องคิดต่อไปว่าเครสเชนโดต้องทำ�เพลง

แบบไหน ต้องการอะไร ต้องโชว์ผลงานว่าเป็น วงทีเ่ ก่งหรือเปล่า แต่ทกุ วันนีไ้ ม่จ�ำ เป็นต้องโชว์กไ็ ด้ เพราะทุกคนรู้ เพลงหนึง่ เพลงจึงอยูท่ กี่ ารมองต่าง มุมเท่านั้นเอง ผมไม่ใช่คนที่แต่งเพลงเป็นอาชีพ เพราะฉะนั้นจะผลิตเพลงที่แต่งเนื้อเองค่อนข้าง น้อย ส่วนมากจะผลิตดนตรีเสียมากกว่า เพราะ ผมเป็นคนดนตรี” นอกจากงานทางด้านดนตรีแล้ว คุณนอ นรเทพ ปั จ จุ บั น ยั ง เป็ น อาจารย์ ส อนอยู่ ที่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒอีกด้วย “ผมจะสอนนั ก เรี ย นคล้ า ยกั บ ครู ฝ่ า ย แนะแนวมากกว่ า สอนในสิ่ ง ที่ ข าด สำ � หรั บ นั ก ศึ ก ษาดนตรี บ้ า นเรา คำ � ถามแรกที่ ผ มมั ก จะถามนักเรียนก่อนเริ่มสอนคือ มาเรียนดนตรี จบไปอยากเป็นอะไร แต่เด็กส่วนใหญ่มักจะตอบ ไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่การเรียนดนตรีแทบจะเป็นวิชาชีพ อยู่แล้ว เด็ก ๆ แทบจะไม่รู้เลยว่าเรียนดนตรีแล้ว จะไปประกอบอาชีพอะไรได้บ้าง เช่น อยากเป็น

แบ็กอัพ ต้องเรียนแบบไหน แบ็กอัพจำ�เป็นต้อง รู้ทฤษฎีดนตรี จำ�เป็นต้องเล่นได้หลายแนวและ มีทักษะค่อนข้างสูง เพราะไม่สามารถกำ�หนดได้ เอง แล้วแต่ศิลปินที่จ้างไปเล่น เขาจะเล่นแบบ ไหน อยากเป็นศิลปินต้องเรียนอย่างไร การตลาด ในวงการดนตรีบา้ นเราเป็นอย่างไร ฯลฯ ซึง่ ผมนำ� ประสบการณ์จากการทำ�งานของตัวเองมาสอน พวกเขามากกว่า เราต้องเตรียมตัวตั้งแต่เรียน มหาวิทยาลัย เลือกว่าตัวเองอยากจะเป็นแบบ ไหน เพราะหากไม่เตรียมตัวให้ดี เมือ่ เรียนจบแล้ว สังคมจะเลือกให้คุณเองว่าต้องทำ�อะไร” หลายคนมี แนวคิ ด เพื่ อ ความสำ � เร็ จ โดย เลือกมองไปเบือ้ งหน้า โดยไม่หนั กลับมามองอดีต เพราะบางครัง้ การจมอยูก่ บั อดีตกลับเป็นตัวฉุดรัง้ ความสำ�เร็จในอนาคต แต่คุณนอ - นรเทพ กลับ มองว่า อดีตเป็นสิ่งหล่อเลี้ยงให้ชีวิตของเขาก้าว ไปข้างหน้าได้ “ทุกวันนี้มีคนเตือนว่าให้พยายามลืมอดีต

อย่าไปหลงระเริงกับอดีตมากนัก ซึง่ ผมไม่เห็นด้วย ชี วิ ต ของผมอยู่ ไ ด้ เพราะผมชอบอดี ต ผมหั น กลับไปมองอดีตอยู่เรื่อย ๆ พร้อมชื่นชมในสิ่งที่ ตัวเองเคยทำ�ไว้ เพราะผมรู้สึกว่า สิ่งที่เราทำ�ไว้ใน อดีตมันไม่ธรรมดา การทีต่ วั เราเองได้เป็นส่วนหนึง่ ในวงพอส ได้เล่นเบสอยู่หลังโจ้ เคยเล่นเบสให้ กับวงในตำ�นานอย่างทีโบน เป็นคนคอยผลักดัน วงเครสเชนโด นั่นคือสิ่งที่ผมภาคภูมิใจมาโดย ตลอด หรือได้สอนเด็กนักเรียน ทีใ่ นวันหนึง่ เขาเดิน กลับมาบอกเราว่า ถ้าวันนั้นผมไม่ได้อาจารย์นะ ผมคงไม่ได้มาตรงนี้ แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้ว” ผลงานเพลงต่าง ๆ ได้พิสูจน์ให้เราเห็นถึง ฝีมือของคุณนอ - นรเทพ จากรางวัลการันตี มากมาย หรือความนิยมจากผู้ฟังจำ�นวนมาก เพราะคุ ณนอให้ ค วามสำ � คั ญ กั บ คุ ณ ภาพของ ผลงานเพลงมาเป็ น อั น ดั บ หนึ่ ง ใส่ ใ จในราย ละเอียดทุกขั้นตอน เพื่อยกระดับวงการดนตรี ในบ้านเรา happy+ | 47

ตัวอักษร...ซ่อนพลัง เรื่อง : อรพิมพ์ รักษาผล

ปิ่นโต 4 ชั้น

ถ้าลองแบ่งชีวิตเป็นปิ่นโต 4 ชั้น เราอาจมองเห็นชีวิตนั้นแสนสั้น ถ้อยคำ� หลายพัฒนาการของเรา เป็นดังยาวิเศษทีท่ �ำ ให้เขาอยากมีชวี ติ อยูต่ อ่ สลับซับซ้อนน้อยลง ไม่ได้ยาวไกลอย่างที่คิด และมีอะไรที่ต้องทำ�ในชีวิต เพื่อรอดูเราก้าวสู่ปิ่นโตชั้นต่อไป...

อีกมาก... ชั้นที่ 2 ชั้นตัวกู ปิ่นโตชีวิตในช่วงที่เป็นของเรามากที่สุด ในวันที่มือเรากล้า ขาเราแข็ง เรามีกนั คนละ 1 ชีวติ ...เหมือนปิน่ โต 1 เถาทีอ่ าจมี 4 ชัน้ แห่งช่วงเวลา... เราจะทะยานสุดแรงเพือ่ ไปหาความฝัน เราจะทำ�ทุกอย่างทีเ่ ราอยากทำ� ใฝ่หา อิสรภาพและเสรีภาพในการหายใจ จนทำ�ให้เราห่างไกลจากคนทีเ่ คยชิดใกล้ ชั้นที่ 1 ชั้นเกิดใหม่ ปนิ่ โตชัน้ ล่างสุดคือ จุดเริม่ ต้นของชีวติ คือ การเกิดใหม่ ช่วงชีวติ ช่วงแรกนี้ และดูแล... ช่วงชีวิตนี้ เราจะหันหน้าให้คนนอกบ้านเรามากขึ้น และหันหลังให้คน คือ ช่วงทีต่ อ้ งพึง่ พาอาศัย ต้องมีคนดูแล นัน่ คือ พ่อแม่ ญาติพนี่ อ้ ง ช่วงชีวติ นี้ เป็นช่วงที่เราไม่ค่อยรู้สึกอะไร แต่ทว่าคนที่ได้ดูแลเรานั้นสุขมาก สุขจนยาก ในบ้านเรามากยิง่ กว่า เราจะได้ยนิ เสียงใจตัวเองชัดเจน จนเสียงของคนทีใ่ ห้ หัวใจเรามาค่อย ๆ เงียบลง เราจะมีข้ออ้างเพื่อยืนยันความเป็นเรา จนกลบ ที่จะบรรยาย ที่ได้ดูแลชีวิตใหม่นี้ด้วยความรักและความผูกพัน... จงึ ไม่แปลกทีเ่ ราจะจดจำ�อะไร ๆ ในปิน่ โตชัน้ แรกนีไ้ ม่คอ่ ยได้ หากแต่ใคร ทุกความสำ�คัญ ทุกความจำ�เป็นของคนอื่น...ยกเว้นคนที่เราเลือกจะสนใจ บางคนที่ได้ดูแลเราในช่วงชีวิตนี้ กลับจดจำ�อะไรได้มากมายแม่นยำ� หลาย ปิ่นโตชีวิตชั้นนี้...จึงได้ชื่อว่า ปิ่นโตตัวกู 48 | happy+

ชั้นที่ 3 ชั้นกู้หัวใจ เมือ่ ชีวติ ได้เดินผ่านช่วงทีเ่ ราให้เวลากับตัวเราเองมากทีส่ ดุ เราจะเจอสุข ทุกข์ ผิดหวัง สมหวังด้วยตัวเราเองโดยตรง สุขตรง ๆ ทุกข์ตรง ๆ เราได้เรียนรู้ บทเรียนราคาแพงที่สุด คือ บทเรียนแห่งหัวใจคน ที่ไม่มีสอนในสถาบัน การศึกษาใด ๆ เมื่อได้พบ เราจะยิ่งเข้าใจ... เราจะหวนคิดถึงปิ่นโตชีวิตชั้นที่เราเคยเดินผ่านมา คิดถึงใครบางคนที่ อาจยังอยูห่ รือจากไป และยิง่ ถ้าเราได้เริม่ ต้นใหม่กบั คำ�ว่าครอบครัว เราอาจ ยิ่งเข้าใจลึกซึ้งถึงคุณค่าแห่งกาลเวลาและคุณค่าของความรัก...ที่ไม่อาจทำ� อะไรได้ เพราะติดแค่คำ�คำ�เดียวนัน่ คือ คำ�ว่าอดีต...ช่วงชีวติ ชั้นนี้ ทำ�ได้เพียง กอบกู้หัวใจ แต่ไม่อาจกอบกู้ใครหรืออะไรที่ผ่านเลยไปได้อีกแล้ว

ทักทายกับความร่วงโรย เปรียบการมีชวี ติ มากขึน้ เหมือนการขึน้ ไปอยูใ่ นทีส่ งู มากขึ้น ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว ยิ่งผ่านเรื่องราวที่หนาวร้อน ยิ่งย่อหย่อนซึ่งกำ�ลัง เหมือนปิน่ โตชัน้ บนสุด ทีต่ อ้ งถูกนำ�ออกจากเถาเป็นชัน้ แรก...กลับคืนสูส่ ามัญ ธรรมดา เมื่อเป็นเช่นนี้ การลาจากจึงไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่เป็นเรื่องน่าเตรียมตัว เตรียมเข้าใจชีวิตให้มากขึ้น สร้างความดีให้มากขึ้น เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ให้มากขึ้น แบ่งปันให้มากขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมคืนกลับสู่ความธรรมดาใน วันที่เวลาหมดลง การลาจากเป็นเรื่องธรรมดา...แต่การลาจากของคนที่มีค่า คือ เรื่อง ธรรมดาที่น่าจดจำ�

ใช่ว่าคนทุกคนจะมีชีวิตครบ 1 เถา 4 ชั้นทุกคนหรอก บางคนก็รีบใช้ ชั้นที่ 4 ชั้นเตรียมกลับไปที่เดิม ชีวิต บางคนก็หลงทาง แต่หากเรามีสิทธิ์หิ้วปิ่นโตชีวิตเราครบ 1 เถา สรรพชีวิตมีวงจรที่เป็นไป แม้เราไม่อยากเป็น ไม่อยากไป แต่สุดท้าย เราจะเลือกเข้าใจ...หรือปล่อยไปเลยตามเลย... นี่คือสิ่งที่ปิ่นโตต้องตอบ ก็ต้องจำ�นน ปิ่นโตชั้นสุดท้ายของคนเราคือ ช่วงรับอรุณแห่งบั้นปลาย ช่วง ตัวเอง... happy+ | 49

คนคิดดี

50 | happy+

สมศักดิ์ บุญคำ� Local Alike การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่ยั่งยืน เรื่อง : ภัทรามน ผุดเพชรแก้ว ภาพ : กุลวัฒน์ นะมิ การเดินทางท่องเที่ยวเป็นการเปิดโลกให้กว้างขึ้น ให้เราได้เรียนรู้และสัมผัสกับชีวิตที่แตกต่างไปในหลายรูปแบบ เช่นที่ คุณไผ สมศักดิ์ บุญคำ� ได้พบเห็นมาตลอดชีวติ การเดินทาง และมองว่าชีวติ ของตนเองนัน้ โชคดีทยี่ งั มีโอกาสได้เดินทาง แต่มคี นอีกมากมายนัก ทีย่ งั ต้องใช้ชวี ติ อย่าง เร่งรีบและไม่มีโอกาส เป็นแรงบันดาลใจในการท่องเที่ยวในรูปแบบที่ต่างไปจากการท่องเที่ยวในแบบที่เราเคยรู้จัก จึงเป็นที่มาของกลุ่ม Local Alike ทีม่ ุ่งส่งเสริมการท่องเทีย่ วในรูปแบบใหม่ ที่เราจะได้สัมผัสถึงวิถชี ีวติ และความงามที่แท้จริงของธรรมชาติและนํ้าจิตนํ้าใจของเพือ่ นมนุษย์ ทั้งยังสร้างรายได้และโอกาสให้ชาวบ้าน เป้าหมายเพื่อให้เกิดการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนอีกด้วย

การเดินทางสร้างแรงบันดาลใจ

“กลุ่ม Local Alike เป็นกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise) คอนเซ็ปต์ก็คือ อยู่ตรงกลาง ระหว่ า ง NGO และบริ ษั ท ที่ แ สวงหาผลกำ � ไร กิจการเพื่อสังคมก็ต้องเลี้ยงตัวเองได้ ทำ�กำ�ไรได้ ด้วย แต่ก�ำ ไรก็ไม่ใช่เป้าหมายสูงสุดของบริษทั สิง่ ที่ Local Alike สร้างขึ้นก็เพื่อที่จะทำ�งานกับชุมชน ที่เขาทำ�เรื่องท่องเที่ยวอยู่แล้ว เมื่อหลายปีก่อน ผมได้ลงไปศึกษาเรือ่ งการท่องเทีย่ วของประเทศไทย มันสร้างรายได้เยอะมาก แต่รายได้จริง ๆ กลับ ไปไม่ถึงชาวบ้าน อาจจะด้วยความสามารถหรือ การจัดการของชุมชนยังไม่ได้แข็งแรงพอ หรือ จะด้วยการถูกเอารัดเอาเปรียบจากตัวกลางหรือ บริษทั ทัวร์ในท้องถิน่ หรือทุนใหญ่ ๆ ผมรูส้ กึ ว่ารายได้ จากการท่ อ งเที่ ย วในประเทศ ถ้ า ตกถึ ง ชุ ม ชน ซึ่งเป็นเจ้าของทรัพยากร ซึ่งมีประมาณ 80% ของประเทศไทย น่าจะทำ�อะไรหลาย ๆ อย่างได้ บางทีเรามองด้านเศรษฐกิจอย่างเดียว แต่ด้าน สังคม ด้านวัฒนธรรม ด้านสิ่งแวดล้อมมันไม่ได้ ไปด้วยกัน เราก็พยายามจะทำ�ตรงนั้น เลยเกิด เป็น Local Alike ขึ้นมา “ผมอยากทำ�งานที่ตอบโจทย์คนที่มีพื้นฐาน แบบเดียวกับเรามากกว่า ตอนนั้นก็ยังไม่รู้หรอก ว่าจะทำ�อะไร แต่ก็ศึกษาว่าธุรกิจมันมีกี่ประเภท NGO ก็ไม่น่าจะใช่ เพราะเลี้ยงตัวเองไม่ได้ ต้อง รอเงินบริจาค บริษัทก็ไม่อยากทำ� แล้วผมก็ไป เจอโมเดลของธนาคารกรามีนแบงก์ ของมูฮมั หมัด ยูนูส ซึ่งตอนนั้นเขาได้รับรางวัลโนเบล สาขา สันติภาพ ในปี 2549 จากการทำ�ธุรกิจตัวนี้ ซึ่ง เป็นธนาคารเพื่อคนจนที่บังกลาเทศ เขามองเห็น

ว่าคนจนไม่มีช่องทางเข้าถึงแบงก์หรือกู้เงินไม่ได้ เขาจึงตัง้ ธนาคารขึน้ มา โดยใช้หลักการความเชือ่ ใจ ของคน ปล่อยเงินกู้แล้วมันก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ผม เลยอยากทำ�แบบนี้ แต่ตอนนั้นก็ยังไม่รู้ว่าจะทำ� อะไร จะทำ�ท่องเที่ยวยังไง เลยตัดสินใจไปเรียน ก่อน เรียนการบริหารธุรกิจแบบยั่งยืน เก็บเงิน จากการทำ�งานเพื่อไปเรียน MBA แต่ก็ไม่อยาก เรียน MBA สายปกติ เลยไปเรียนสาขาเปิดใหม่ เป็นเรื่อง Social Enterprise ที่อเมริกา พอเรียน จบกลับมา โชคดีที่จังหวะเหมาะเจาะ มูลนิธิ แม่ฟา้ หลวงเปิดรับสมัครนักศึกษาฝึกงาน ผมก็เห็น ว่ามูลนิธิแม่ฟ้าหลวงเป็นโมเดลกิจการเพื่อสังคม ที่ดังของประเทศ อยากลองมาทำ�งานกับเขาดู เลยมาฝึกงานที่มูลนิธิ” จากจุดเริ่มต้นตรงนั้น จึงเป็นการเปิดโอกาส และเป็นประสบการณ์ทดี่ ที คี่ ณ ุ ไผได้รบั และ Local Alike จึงถือกำ�เนิดขึ้น “เมื่อฝึกงานจบก็โชคดีที่มี 2 โครงการให้ทำ� คือ ทำ�สื่อสารองค์กรให้ดอยตุงกับโครงการช่วย ชาวบ้านพัฒนาธุรกิจโฮมเสตย์ ผมเลยเลือกทำ� โปรเจ็กต์ที่สอง ได้ทำ�งานกับ 2 หมู่บ้าน คลุกคลี กับชาวบ้านอยูป่ ระมาณ 2 เดือน และ 2 หมูบ่ า้ นนี้ เป็ นกรณี ห มู่ บ้ า นใหม่ เ ลย คื อ ไม่ รู้ ว่ า ต้ อ งทำ � ท่องเทีย่ วอย่างไร อยากทำ�โฮมสเตย์ แต่ไม่รจู้ ะทำ� อย่างไร ผมเลยใช้หลักการที่ไปเรียนมาเข้าช่วย ว่าต้องมีแผนแบบนั้นแบบนี้ แล้วก็ได้นำ�เสนอ แผนให้กบั ผูบ้ ริหารของดอยตุง แล้วเขาก็ชอบ เลย ทาบทามให้ผมทำ�งานต่อ ผมจึงตัดสินใจทำ� แล้วก็ บอกว่าอยากทำ�เรื่องท่องเที่ยวไปด้วย ซึ่งเจ้านาย ก็ยอม ผมก็เลยทำ� Local Alike ควบคู่ไปด้วย เริ่ม

จากที่ดอยตุง จาก 2 หมู่บ้าน จากนั้นขยายเป็น 4 หมู่บ้าน เป็น 8 จนในปัจจุบันนี้มี 29 หมู่บ้าน “Local Alike ใน 2 ปีแรก ก็ทำ�งานกับ 4 หมู่บ้านก่อน ผมทำ�ควบคู่กับงานที่ดอยตุงเลย เลือกหมูบ่ า้ นทีเ่ ชียงราย ไปดอยตุงทีหนึง่ ก็จะได้ไป ทำ�งานกับชาวบ้านด้วย ทำ�ตรงนั้นอยู่ประมาณ 2 ปี ก็ยงั ไม่อยากจะรีบขาย อยากจะศึกษาประเด็น ก่อน พอศึกษาไปแล้วเห็นว่า การท่องเที่ยวของ ไทยมันแย่มาก รายได้เข้ามาหลายพันล้านล้าน บาท แต่ถึงชาวบ้านจริง ๆ แค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ คน ที่ได้ผลประโยชน์ ก็คือ กลุ่มโรงแรม กลุ่มคนที่อยู่ ในอุตสาหกรรมหลัก มีเทคโนโลยีสมัยใหม่ก็มา สนับสนุนคนกลุม่ เดิม ๆ ไม่ได้ไปสนับสนุนชาวบ้าน หรือคนทีท่ �ำ เรือ่ งท่องเทีย่ ว เจาะลึกไปอีก หมูบ่ า้ น ที่เขาทำ�เรื่องท่องเที่ยวอยู่แล้ว คือ มีนักท่องเที่ยว เข้าไปอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ใช่การท่องเที่ยวแบบที่ผม อยากเห็น คือมีบริษัททัวร์ มีไกด์พาไป ให้เวลา 15 นาทีแล้วก็ออกมา ชาวบ้านจะมีรายได้ก็ต่อ เมือ่ มาเร่ขายของหรือถ่ายรูปกับนักท่องเทีย่ ว ไกด์ ก็อธิบายไป ซึ่งไกด์ก็ไม่ใช่คนในหมู่บ้าน ผมรู้สึก ว่าไม่อยากเห็นการท่องเที่ยวแบบนี้ เพราะมัน ไม่ใช่การท่องเทีย่ วแบบยัง่ ยืนเท่าไหร่ อีกอย่างคือ ชาวบ้านมีความตั้งใจมาก แต่สุดท้ายก็มาตายที่ ช่องทางการตลาดที่ไม่เอื้ออำ�นวย 2 หมู่บ้านแรก ที่ผมทำ� ผมก็เคยพยายามขายให้กับบริษัททัวร์ ดัง ๆ หลายบริษัท เขาก็บอกว่าเขาไม่เอา ทำ�ไม ต้องไปทัวร์หมู่บ้าน เหตุผลมากมาย ผมก็เลยเลิก ผมทำ�เองก็ได้ “เลยเกิดเป็น Local Alike เพื่อที่จะทำ�ตั้งแต่ ต้นนํ้ายันปลายนํ้า ต้นนํ้าก็คือ ผมเชื่อว่าไม่ว่า happy+ | 51

คนคิดดี

อะไรก็ตาม การที่มันจะยั่งยืนได้ก็ต้องมีคนที่เป็น เจ้าของร่วมมือกับเราด้วย เลยศึกษาเรื่องการ พัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชน ว่าต้องทำ�อย่างไร บ้าง ก็ไปเรียนรู้กับ NGO กับองค์กรต่าง ๆ ที่ เราทำ�งานด้วยกัน แล้วเก็บมาเป็นองค์ความรู้ที่ Local Alike ได้มา จนปัจจุบันนี้ พอชาวบ้านเขา พร้อมแล้ว เราก็มีกลไกเข้าสู่ตลาด จริง ๆ แล้ว มีหมู่บ้านที่ทำ�เรื่องท่องเที่ยวเป็นร้อยหมู่บ้านใน ประเทศไทย แต่สิ่งที่เขาขาด คือ ช่องทางในการ ขาย ผมเลยรู้สึกว่า ต่อให้ดี ต่อให้พัฒนาไปขนาด ไหนก็ตาม ถ้าไม่ได้ขายก็ใช้งานไม่ได้อยู่ดี แล้ว สุดท้ายชาวบ้านก็หมดกำ�ลังใจ เพราะบริษัททัวร์ ก็ไม่ยอมขาย ผมเลยเชื่อมการขายด้วยการเป็น บริษทั ทัวร์ เพือ่ ทีจ่ ะทำ�งานร่วมกับชาวบ้านในการ จัดทัวร์ อันนีค้ อื โมเดลธุรกิจทีเ่ ราทำ�อยู่ เราพัฒนา ขึ้นก่อน แล้วก็แปรรูปเป็นบริษัททัวร์ จัดทริปร่วม กับชาวบ้าน ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นองค์กร เช่น SCG ตลาดหลักทรัพย์ ปตท. พอชุมชนเขาเรียนรู้ การจัดการท่องเที่ยวกับเราแล้ว ชุมชนไหนพร้อม ปีกกล้าขาแข็ง เป็นซูเปอร์สตาร์แล้ว เราก็เอาขึ้น Marketplace ลงในเว็บไซต์ www.localalike.com ซึง่ กลุ่มเป้าหมายของเว็บไซต์นี้คือ ลูกค้ารายบุคคล และเชื่อมต่อลูกค้าทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่ สนใจจะไป และเราก็เชื่อมต่อกับชาวบ้าน ให้ ชาวบ้านเขาจัดการเองได้เลย”

ประสานงาน ประสานใจ

การทำ�งานร่วมกับชาวบ้านและต้องประสาน ความร่วมมือหลายฝ่ายเข้าด้วยกันคงไม่ใช่งานที่ ง่ายนัก แต่กเ็ ป็นภารกิจทีท่ า้ ทายให้มงุ่ ไปข้างหน้า อย่างมีเป้าหมาย “เป็นขั้นตอนที่สำ�คัญนะครับ สำ�หรับการ ที่ จ ะได้ ใจชาวบ้ า น ผมอาจจะโชคดี ห น่ อ ยที่ มี พื้นฐานการทำ�งานจากโครงการหลวงที่ผมทำ�มา ปีกว่า การทำ�งานกับชาวบ้านผมค่อนข้างทำ�ได้ดี เพราะผมมีพนื้ ฐานมาจากทีค่ รอบครัวไม่ได้ราํ่ รวย อะไร ผมจึงรู้ว่าคนจน คนที่ไม่มีรายได้อะไร เขา ไม่ใช่คนขี้เกียจอะไร แต่ว่าเขาไม่มีโอกาส ไม่มี ความรูม้ ากกว่า เราจึงไปช่วยเสริมในสิง่ ทีเ่ ขาขาด แต่ทักษะบางอย่างชาวบ้านเขามีความรู้มากกว่า เราก็ไปเรียนรู้จากเขา เหมือนแลกเปลี่ยนกัน แต่ ทักษะสำ�คัญที่ Local Alike ให้ความสำ�คัญ คือ ทีมงานทุกคนต้องทำ�งานกับชาวบ้านเป็น ไม่ใช่ ไปสั่งชาวบ้าน ต้องเป็นเหมือนลูกหลานเขาให้ได้ อันนี้คือใจความสำ�คัญ ไปทำ�งานกับชาวบ้าน 52 | happy+

ไม่ใช่ไปครั้งแรกแล้วเขาจะเอาด้วยเลย เราต้อง ไปหลายครั้งมาก จนเขาชวนเรากินข้าวเย็นนั่น แหละ ถึงจะถือว่าเราผ่านด่านใจเขาได้แล้ว หลัง จากนัน้ เราก็จะทำ�งานกับเขาง่ายขึน้ ชุมชนใหม่ ๆ ที่ไม่รู้เรื่องการท่องเที่ยวเลยก็ต้องใช้เวลาเป็นปี อย่างหมู่บ้านแรกที่ผมทำ�งาน หมู่บ้านสวนป่า จนปัจจุบันนี้ 4 ปีแล้ว เพิ่งออกตลาดมาได้แค่ ปีกว่า ๆ แต่ดว้ ยทักษะทีเ่ ราเพิม่ ขึน้ ปัจจุบนั นีส้ ลัม คลองเตย ทีเ่ ราไปทำ�งานกับเขาก็ใช้เวลาประมาณ 11 เดือน ในการทำ�ให้เขาพร้อมทีจ่ ะรับนักท่องเทีย่ ว ตอนนี้คลองเตยก็พร้อมที่จะออกตลาดแล้ว “และมีอยู่ 3-4 หลักการ ในการคัดเลือก หมู่บ้าน แรกเริ่มเลยคือ ชาวบ้านต้องเข้มแข็ง เข้าไปเราจะรู้เลยว่า หมู่บ้านนี้มีความเข้มแข็ง มากน้อยแค่ไหน ทำ�งานร่วมกันได้จริงหรือเปล่า ผู้ใหญ่บ้านมีวิสัยทัศน์อย่างไร แกนนำ�เยาวชนมี วิสัยทัศน์อย่างไร เช่น ถ้าเราโทรไปแล้วไม่มีใคร รับสาย หรือเกี่ยงกัน ให้โทรหาคนโน้นคนนี้ ผม จะรูว้ า่ เลยว่าความเข้มแข็งมันไม่เกิดคือ สร้างยาก สองคื อ ความน่ า สนใจของวิ ถี ชี วิ ต ของเขา ตรงไหนล่ะที่น่าสนใจ เป็นหมู่บ้านประมงหรือ หมู่บ้านปลูกชา ปลูกกาแฟหรือเปล่า หรือสภาพ แวดล้อมและภูมิทัศน์สวยอยู่แล้ว อันที่สามคือ ต้องมีโอกาสหรือความเป็นไปได้ทางธุรกิจ เวลา ที่ผมทำ�งานกับชาวบ้านที่ยังไม่เคยรู้เรื่องการทำ� ธุรกิจท่องเที่ยว ถ้าเขาเข้าใจ เขาขายได้ ขายเป็น

อันนัน้ ยิง่ น่าสนใจ แต่สงิ่ ทีส่ �ำ คัญคือข้อทีส่ คี่ อื ชาว บ้านต้องมองว่าการท่องเทีย่ วไม่ใช่เครือ่ งมือสร้าง รายได้ทางเศรษฐกิจ ซึง่ ประเทศไทยเราปลูกฝังมา พอสมควร เช่น ททท.ก็ขายไป โดยไม่รวู้ า่ รายได้ไป ตกถึงใครบ้าง ผมไม่อยากให้ชาวบ้านมองแบบนัน้ ผมอยากให้เขามองว่าการท่องเทีย่ วเป็นเครือ่ งมือ ในการพั ฒนาชุ ม ชน เพราะฉะนั้ นเราจะเลือ ก ทำ�งานกับหมูบ่ า้ นทีม่ คี วามน่าสนใจ แต่กม็ ปี ญ ั หา อยู่ข้างในด้วย เช่น ปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อม ปัญหาทางด้านสังคม ที่เราคิดว่าการท่องเที่ยว มันจะช่วยแก้ได้ เพราะเรามีโมเดลที่พอเกิดเป็น รายได้แล้ว ชาวบ้านต้องเจียดเงินของตัวเองบาง ส่วนมาลงในกองทุนบวกกับรายได้ของ Local Alike เอง แล้วใช้กองทุนนั้นในการแก้ปัญหาในชุมชน”

ปัญหาทุกปัญหามีทางแก้ โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งถ้าเราร่วมมือกันอย่างจริงจัง

“ปัญหามันมีมาเรื่อย ๆ มันเป็นเหมือนเส้น ทางการทำ�ธุรกิจ แรก ๆ ผมทำ�คนเดียว ไม่มีใคร ทำ�ด้วย ปัญหาคือ จะหาทีมมาได้อย่างไร ต้องใช้ เวลา ต้องพิสูจน์ให้คนเห็นว่ามันมีผลกระทบทาง สังคมทีด่ ขี นึ้ คุยกับนักลงทุนเขาก็ไม่เข้าใจ ไม่เคยรู้ เลยว่าทำ�ไมทำ�งานแบบนี้ ทำ�ไมต้องพัฒนาสินค้า ขายเอง ปกติบริษัททัวร์อื่น บริษัททัวร์ใหญ่ ๆ ก็ลงทุนแค่ไกด์ ไม่ได้ลงทุนที่ทรัพยากร แต่ผม รู้สึกว่ามันเป็นต้นทุนของประเทศ ทำ�ไมเราถึง

เดิม นั่นเป็นเรื่องที่เราจะให้ความสำ�คัญในปีนี้ และปีถัด ๆ ไป”

การทำ�ธุรกิจเพื่อสังคมนั้นไม่เหมือนเส้นทาง การทำ�ธุรกิจปกติ ไม่ได้ง่าย คนที่จะทำ�จริง ๆ ต้องมี Passion พอสมควร ต้องเข้าใจปัญหาจริง ๆ จะไม่ให้ความสำ�คัญล่ะ ค่าใช้จ่ายในการทำ�งาน ของเราจึงสูงกว่าบริษัททัวร์ปกติ เพราะเราเชื่อว่า มันต้องพัฒนาตั้งแต่รากฐานจริง ๆ ถึงจะแข็งแรง เรารู้ว่ามันสร้างรายได้ด้วย และไม่ใช่รายได้ที่ ฉาบฉวย ถ้าเราเข้าหมู่บ้านไปได้ใจเขาแล้ว ไป พัฒนาเขาแล้ว ยังไงเขาก็จะอยู่กับเราต่อในระยะ ยาว ก็มี AIS ที่ให้เราชนะ ที่สิงคโปร์ก็ชนะมา 2 รายการ ตอนนี้เราก็กำ�ลังเป็นตัวแทนประเทศ ไปแข่งขันในระดับโลก มันก็ตอบโจทย์ว่า เรามี พื้นฐานการพัฒนาที่แข็งแรง เรามีช่องทางการ ขายให้ชาวบ้านจริง เรามีชอ่ งทางทีจ่ ะให้ชาวบ้าน จัดการตัวเองได้จริง ตอนนี้นักลงทุนที่เคยปฏิเสธ เราก็กลับมาหา นั่นคือปัญหาช่วงแรก ๆ “ช่วงกลาง ๆ ที่เราต้องขยายหมู่บ้าน แต่ ทักษะทีมงานยังไม่แข็งพอ บางหมู่บ้านให้น้อง ลงทำ�งาน ชาวบ้านก็ไม่ให้การยอมรับ ผมก็เข้าไป

สอนน้องใหม่ว่า การเข้าไปคุยแบบนี้ ไม่ใช่สักแต่ ว่าจะคุย ไปถามแล้วจด ๆ ไม่ได้ ชาวบ้านไม่ให้ คำ�ตอบแน่นอน เราต้องคุยกันเหมือนในวงเหล้า อะไรแบบนัน้ ช่วงนัน้ ก็เป็นการสร้างวัฒนธรรมการ ทำ�งาน ก็ยากพอสมควร ปัจจุบนั มีทมี งานทัง้ หมด 12 คน ทุกคนก็มาด้วยพื้นฐานของความเข้าใจใน การทำ�งานกับชาวบ้าน เป็นทักษะที่สำ�คัญเลย มันกลายเป็นข้อจำ�กัดอย่างหนึง่ ทีท่ �ำ ให้บริษทั อืน่ ๆ เข้ามาทำ�งานกับชุมชนยากขึ้น เพราะเขาไม่ได้ เข้าใจชุมชนจริง ๆ ปัจจุบันนี้ก็คงเป็นเรื่องของ จะวางมาตรฐานประสบการณ์อย่างไร เราจะ ขยายให้ใหญ่ขึ้น ปีนี้เราตั้งเป้าที่ 60 ชุมชน เรา มีความสามารถที่จะขยายได้ ขยายอย่างไร เช่น หมู่บ้านนี้เขาเคยมีเส้นทาง 3 วัน 2 คืน แบบนี้ แล้วนักท่องเที่ยวประทับใจ ถ้านักท่องเที่ยวมาก ขึน้ เราจะมัน่ ใจว่ามาตรฐานการบริการจะเหมือน

เมื่อการทำ�งานบรรลุเป้าหมายและมีความ ก้าวหน้า แน่นอนว่านำ �มาซึ่งความภูมิใจและ ความสุข สุขที่ได้ทำ� สุขที่ได้เห็นรอยยิ้มและชีวิต ที่ดีขึ้นของชาวบ้าน “เป้าหมายสูงสุด คือ การบอกว่าการท่องเทีย่ ว แบบยั่ ง ยื น นั้ น ทำ � อย่ า งไร ไม่ ใ ช่ ม าบอกว่ า ขาย Ecotourism การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ แต่ คุณไม่ได้ให้ประโยชน์อะไรกับชาวบ้านเลย ไปแค่ รักษาป่าอย่างเดียว แต่ชาวบ้านไม่ได้รู้ด้วยซํ้าว่า รักษาป่าอย่างไร ประเด็นมันอยู่ที่ให้คนในชุมชน มีส่วนร่วมมากน้อยแค่ไหน และผมอยากดึงการ ท่องเทีย่ วแบบยัง่ ยืนในประเทศให้มนั สูงขึน้ อย่าง พัทยา เชียงใหม่ ภูเก็ต การท่องเที่ยวกระแสหลัก มันไปหมดแล้ว แต่การท่องเทีย่ วแบบยัง่ ยืนนัน้ อยู่ ตรงไหน ก็ตอ้ งเป็นความร่วมมือจากภาครัฐ NGO และบริษัทอย่างเราทำ� เพื่อให้มีคนรู้จัก อยาก ทำ�ให้เขารูว้ า่ มาประเทศไทย ไม่ได้แค่มาขีช่ า้ งนะ ยังมีองค์กรที่ดูแลช้างดีมาก แต่คนอาจไม่เคยรู้ “การทำ � ธุ ร กิ จ เพื่ อ สั ง คมนั้ น ไม่ เ หมื อ น เส้นทางการทำ�ธุรกิจปกติ ไม่ได้งา่ ย คนทีจ่ ะทำ�จริง ๆ ต้องมี Passion พอสมควร ต้องเข้าใจปัญหาจริง ๆ หลาย ๆ คนทีเ่ ราเป็นทีป่ รึกษาให้เขาอยากทำ�โน่น ทำ�นี่ แต่เขาไม่ได้เข้าใจปัญหา ไม่ได้ตอบโจทย์กบั สิ่งที่เราต้องการจะแก้ปัญหา ผมอยากให้เข้าใจ ปัญหา แล้วค่อยมาทำ� ไม่ใช่แค่เข้าใจ แต่ต้องมี แนวทางที่จะแก้ปัญหานั้นด้วย ถ้าแก้ปัญหาแล้ว ต้องพึ่งเงินจากคนอื่นก็ไม่ได้ ถ้าแก้ปัญหาแล้วมี รายได้จากมันได้ด้วยก็จะดี ต้องคิดเป็นธุรกิจพอ สมควร ถ้าเป็นมุมมองของการท่องเที่ยวก็รู้สึกว่า การจะตัดสินใจไปเทีย่ วทีไ่ หนให้ได้มากกว่าการไป ถ่ายรูป ลองไปคุยกับคนดู จะสนุกมากขึ้น สมมุติ ว่าไปเชียงใหม่ ไปเที่ยววัด ลองไปคุยกับชุมชน ข้างวัดดูบ้าง เขาทำ�อะไรเพื่อวัดเยอะมาก แต่เรา ไม่เคยคุยกับเขา “ความสุขในการทำ�งานทุกวันนี้ของผมและ ทีมงานคือ การที่เราได้รับการยอมรับจากคนใน ชุมชน เขาเข้าใจว่าเราอยากทำ�อะไร และความสุข อีกอย่างของน้อง ๆ ในทีม ไม่ใช่ตัวธุรกิจ ไม่ใช่ตัว เงินเดือน แต่เป็นการที่เขามีพ่อแม่คนที่ 2 คนที่ 3 ในหมู่บ้านต่าง ๆ เขาจะไปที่ไหนก็ได้ มีที่พัก ตากอากาศในหลายหมู่บ้านให้เลือกไปได้” มันจะดีแค่ไหนนะถ้าเราได้ทอ่ งเทีย่ ว ได้ความรู้ ได้ความสุข ได้ชว่ ยเหลือคนอืน่ รูแ้ ล้วใช่ไหมคะว่า การเดินทางครั้งต่อไป เราควรทำ�อย่างไร happy+ | 53

family in love เรื่อง : ดร.วีรณัฐ โรจนประภา

ฟูจิซัง การท่องเที่ยวในต่างแดนนั้น ถือเป็นของขวัญลํ้าค่าของชีวิต หลายคน เหนือ่ ยยากทำ�งานหามรุง่ หามคํา่ ก็เพือ่ เก็บเงินไปเทีย่ วยังดินแดนในฝันของตน บางคนอาจอยากไปสัมผัสความศิวิไลซ์ในมหานครอย่างนิวยอร์ก พร้อม ขึ้นไปชมวิวที่คบเพลิงในมือเทพีเสรีภาพ บางคนอาจอยากไปผจญภัยใน ดินแดนซาฟารีอย่างแอฟริกา บางคนอาจอยากต้องมนตร์ขลังของอารยธรรม อียิปต์โบราณ อยากไปขี่อูฐชมพีระมิด แต่จุดหมายยอดนิยมอันดับหนึ่งในใจคนไทย ที่หลายคนฝันใฝ่ว่า ต้องหาโอกาสไปเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิต ก็คือ “ญี่ปุ่น” ฮีโร่ตวั การ์ตนู อย่างอุลตร้าแมน ไอ้มดแดง หรือโดเรมอน เป็นความทรงจำ� ในวัยเยาว์ที่คอยสะกิดให้อยากไปเห็นของจริงสักครั้ง ถนนสายแฟชั่นที่ ได้ยินชื่อมาแสนนานอย่างชินจูกุ ก็ชวนให้เกิดความอยากไปช้อปไปชิล ความทันสมัยทางเทคโนโลยีระดับแถวหน้าของโลก ก็เร้าให้อยากไปสัมผัส หรือแม้แต่ความอยากกินราเม็งต้นตำ�รับ ก็ล้วนเป็นเหตุผลของความฝัน จะไปเยือนญี่ปุ่น แต่ไฮไลต์สำ�คัญที่สุดย่อมหนีไม่พ้นความอยากได้ไปเห็น ภูเขาไฟ “ฟูจิ” อันเป็นมนตร์ขลังที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่หาที่ไหนไม่ได้ จนอาจกล่าวได้ว่าฟูจินี้ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำ�เร็จการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ก็คงไม่ผิด ซึ่งสำ�หรับผมแล้วภูเขาไฟฟูจิมิใช่เป็นเพียงผู้ที่อยู่เบื้องหลังความ 54 | happy+

สำ�เร็จแค่เรื่องการท่องเที่ยว แต่ยังเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความเจริญก้าวหน้า อย่างยิ่งยวด เป็นรากเหง้าแห่งความสำ�เร็จของชนชาติอาทิตย์อุทัยนี้ทีเดียว “แล้วรากเหง้าแห่งความสำ�เร็จนั้นคืออะไร?” คำ�ตอบก็คอื ความ “กตัญญู” ความรูค้ ณ ุ ผูม้ คี ณ ุ ของคนญีป่ นุ่ นีเ่ องครับ ที่ทำ�ให้เขาสร้างชาติได้อย่างมั่นคงและก้าวไกลเช่นทุกวันนี้ คนญี่ปุ่นไม่ได้มองและรู้สึกต่อฟูจิว่าเป็นเพียงทรัพยากรธรรมชาติที่ เอาไว้ใช้หากินสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว เหมือนอย่างบางชุมชนที่โชคดี มีแหล่งท่องเที่ยวที่แสนจะดึงดูด แต่กลับละโมบโลภมากมุ่งแต่ตักตวงจน ธรรมชาตินนั้ เสือ่ มโทรมไปพร้อม ๆ กับความนิยมทีส่ ลายตาม แต่คนญีป่ นุ่ นัน้ ให้ความเคารพ และรับรู้ถึงบุญคุณของภูเขาลูกนี้ จนพร้อมใจกันเรียกด้วย ความยกย่องว่า “ฟูจิซัง” ดูแลประหนึ่งญาติพี่น้องหรือผู้มีคุณ จนฟูจินี้ได้ กลายเป็นจุดศูนย์รวมใจ หรือเป็นศูนย์รวมแห่ง “ความกตัญญู” ของคนญีป่ นุ่ เรามั ก คุ้ นชิ นกั บ ความกตั ญ ญู ต่ อ คน เช่ น การกตั ญ ญู ต่ อ พ่ อ แม่ ครูอาจารย์ แต่ในความเป็นจริง ใจของมนุษย์ผู้ประเสริฐนั้น ยังควรขยาย ครอบคลุมความกตัญญูนไี้ ปให้กว้างกว่ากตัญญูตอ่ มนุษย์ดว้ ยกันเอง มนุษย์ ที่มีใจสูงควรกตัญญูไปให้ถึงต่อสรรพสัตว์ ที่ทุกชีวิตได้ร่วมกันสร้างระบบ นิเวศให้มนุษย์มีชีวิตอยู่ได้อย่างสมดุล รวมถึง มนุษย์ควรมีความกตัญญู

แม้แต่กับสิ่งของที่ไม่มีชีวิต เช่น ดิน นํ้า อากาศ ทีเ่ ป็นส่วนประกอบสำ�คัญในการดำ�รงอยูข่ องชีวติ มนุษย์เช่นกัน และเพราะคนญี่ป่นุ เขามีความกตัญญูกว้าง จนถึ ง ระดั บ รู้ คุ ณ กั บ สิ่ ง ไม่ มี ชี วิ ต ได้ นี่ ล ะครั บ ที่ทำ�ให้เขาเจริญรุ่งเรืองดั่งที่เห็น เป็นจริงตามที่ นักปราชญ์ และบัณฑิตมักสอนเสมอว่า ผู้ที่มี ความกตัญญูจะไม่มีวันล่มจม ผู้ที่แสดงกตัญญู กตเวทิตาต่อผูม้ คี ณ ุ จะเจริญรุง่ เรือง ฉะนัน้ หากเรา อยากเป็นผูป้ ระสบความสำ�เร็จดังคนญีป่ นุ่ อยาก ให้สังคมเราได้รับความยกย่องแบบเขา เราก็ควร เชื่อและทำ�ตนให้เป็นผู้กตัญญูอย่างเขาเช่นกัน ที่ สำ�คั ญ ความกตั ญ ญู นี้ ไม่ ไ ด้ ส่ ง ผลเพี ย ง ความสำ�เร็จในชีวิตเท่านั้น ความกตัญญูนี้ยังมี อานิสงส์อีกมากมายหลายประการ เช่น ความกตัญญู ทำ�ให้สามารถรักษาคุณความดี ที่มีอยู่ และสร้างคุณความดีใหม่ ๆ ได้เพิ่มขึ้น ดั่ง ทีท่ ราบกันว่า ธรรมดาของจิตนัน้ มักจะชอบไหลไป สูท่ ตี่ าํ่ ดังนัน้ การแสดงความกตัญญูบอ่ ย ๆ ทำ�ให้

เราได้ใกล้ชิดกับคุณธรรมด้านดีอยู่เนือง ๆ จิตจึง ไม่ไหลตามกิเลสตกไปสู่ความชั่วร้าย ทั้งยังง่ายที่ จะพัฒนาจิตเรานี้ให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก ความกตัญญู ทำ�ให้มีความอดทน อดกลั้น การแสดงความกตัญญูเท่ากับการฝึกฝืนกิเลสของ เราไปในตัว ในบางครั้งอาจอยากพัก อยากเที่ยว แต่ด้วยหน้าที่อันสมควรก็ต้องอดทน ไม่กระทำ� ตามใจอยากของตัว ซึง่ ความอดทนอดกลัน้ ต่อสิง่ ยัว่ ยุเช่นนี้ ก็เท่ากับการฝึก “สติ” อันเป็นคุณธรรม ขั้ น สู ง ของมนุ ษ ย์ ไปในตั ว ด้ ว ย เพราะสติ เป็ น เสมือนธรรมพืน้ ฐาน ทีภ่ าษาพระเรียกว่าเป็นธรรม ที่มีอุปการะมาก คือ มีประโยชน์มาก ประโยชน์ ยิ่ง จนถึงประโยชน์ใหญ่ คือ การส่งให้ผู้ปฏิบัติ ไปจนถึงปลายทางคือ มรรคผลนิพพานกันทีเดียว ความกตัญญู ทำ�ให้มีความละอาย มีความ เกรงกลัวต่อบาป ผู้ที่มีใจอ่อนโยนบนพื้นฐาน ของการสำ�นึกบุญคุณคน สัตว์ และสิ่งของเช่นนี้ ก็ยอ่ มไม่อาจทำ�บาปกรรมอย่างอืน่ ได้ ทำ�ให้ไม่มเี วร มีภัยตามติดตัวไป

ความกตัญญู ทำ�ให้จิตใจผ่องใส เบิกบาน เพราะเมื่อได้แสดงกตัญญู ได้ทำ�หน้าที่ที่ถูกต้อง จิ ต ใจย่ อ มมี ค วามสุ ข ย่ อ มเกิ ด ความอิ่ ม ใจใน ปัจจุบันและอนาคต ความกตัญญู ทำ�ให้เป็นทีส่ รรเสริญของผูอ้ นื่ ใครเห็นหรือทราบถึงการกระทำ�อันดีของเราเช่นนี้ ก็ย่อมจะมีแต่กล่าวยกย่องเชิดชูไปถึงวงศ์ตระกูล ทำ�ให้มีผู้ที่อยากจะช่วยเหลือได้โดยง่าย ความกตัญญู ทำ�ให้มีเพื่อนมาก ใคร ๆ ก็ อยากมีเพื่อนที่เป็นคนดีคอยช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เพื่อนก็มีความสนิทใจที่ได้คบคนกตัญญู อานิสงส์ของความกตัญญูมีมากปานนี้ จึง ไม่ควรประมาทต่อคุณธรรมพืน้ ฐาน ทีเ่ ป็นเสมือน บุคคลผู้อยู่เบื้องหลังความสำ�เร็จที่แท้จริงข้อนี้ เริ่มจากลองมองรอบ ๆ ตัวดู ณ ขณะนี้ สำ�รวจ ว่าเราลืมที่จะกตัญญูต่อสิ่งใดไปบ้างไหม ถ้ามีก็ ปรับเปลี่ยนเสีย ทดแทนคุณของสรรพสิ่งแล้วธรรมชาติจะ มอบความสำ�เร็จมาให้เราดั่งหวังครับ happy+ | 55

นัดพบกับธรรมะ เรื่อง : ณัฐพบธรรม

เพื่อนผู้หญิงของคนรู้จักของผมคนหนึ่ง เธอ ไปอยูต่ า่ งประเทศมาหลายปี ตอนต้นปีเธอกลับมา จากสวีเดนพร้อมกับสามีเพื่อมาเที่ยว เราจึงมี โอกาสได้นัดเจอและพูดคุยกัน นอกจากรูปแบบการใช้ชีวิตในต่างประเทศ ที่ผมรู้สึกสนใจ ก็มีอีกสิ่งหนึ่งที่สะกิดใจของผม พร้อม ๆ กันไปด้วย สิ่งนั้นก็คือ การแต่งกาย ของทั้งคู่ ในวั นที่ เราพบกั น เป็ น หนึ่ ง ในวั นที่ ห นาว ที่สุดของปี แต่ภาพที่ผมเห็นก็คือ ฝ่ายชายใส่ เสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้น ส่วนฝ่ายหญิงก็นุ่ง กระโปรงสั้น ซึ่งสิ่งที่สะกิดใจไม่ใช่เรื่องของความ สุภาพของเสื้อผ้า แต่เป็นความสั้นของเสื้อผ้าที่ ทั้งคู่ใส่ต่างหาก ในขณะที่ผมและคนไทยส่วนใหญ่ต่างก็ต้อง หยิ บ เสื้ อ กั น หนาวมาใส่ เพื่ อ ให้ ร่ า งกายอบอุ่ น 56 | happy+

ชินดี ชินร้าย

แต่ทง้ั คูก่ ลับใส่เสือ้ ผ้าในรูปแบบดังกล่าวเพราะรูส้ กึ ร้ อ น เหตุ ที่ เป็ น แบบนั้ น ก็ เนื่ อ งจากฤดู ห นาว ในสวีเดนนัน้ อุณหภูมติ ดิ ลบราว ๆ 10 องศา ส่วน ในฤดูรอ้ นอุณหภูมกิ จ็ ะพอ ๆ กับฤดูหนาวในเมือง ไทย ด้วยเหตุดังกล่าว ทั้งคู่จึงรู้สึกร้อนในขณะที่ คนไทยรู้สึกหนาว หากมองเฉพาะชาวสวีเดน เราก็อาจจะรูส้ กึ ว่า เขาชินกับอากาศหนาวมาก ๆ ก็คงไม่ใช่เรื่อง แปลกที่เขาจะรู้สึกร้อนและไม่มีอะไรให้สะกิดใจ แต่ ถ้ า เราพิ จ ารณาที่ ผู้ ห ญิ ง ไทย แล้ ว ลองนึ ก ตามดู ว่ า เธอเกิ ด และโตที่ ป ระเทศไทย มี พันธุกรรมและความเคยชินแบบไทย ๆ ที่ “เคย” รู้ สึ ก ว่ า อากาศในฤดู ห นาวของไทยนั้ น หนาว (เหมือนคนไทยทุกคน) แต่พอเธอไปใช้ชีวิตอยู่ที่ สวีเดนมาพักใหญ่ ๆ ร่างกายและจิตใจก็มีการ ปรับตัว จนเคยชินกับความหนาวที่หนาวมากขึ้น

และทำ�ให้ร่างกายและจิตใจได้เปลี่ยนเป็นรู้สึก ร้อน ในระดับอุณหภูมิที่ “เคย” รู้สึกว่าหนาว (ระดับอุณหภูมิที่เคยรู้สึกว่าหนาว ได้เปลี่ยนเป็น รู้สึกร้อน) เช่นเดียวกันกับสามีของเธอที่ชินกับความ หนาวที่อุณหภูมิติดลบ เชื่อได้เลยว่าหากเขาย้าย มาอยูเ่ มืองไทยนานพอ ผลก็จะเป็นในทางตรงกัน ข้าม เขาจะเริม่ ชินกับความหนาวแบบไทย ๆ และ ไม่รู้สึกว่าร้อนในฤดูหนาวอีกต่อไป สิ่ งนี้ แ สดงให้ เห็ นว่ า หากเราอยู่ในสภาพ แวดล้อมใดนานพอ ความรู้สึกและความเคยชิน ของเราก็สามารถเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างสิ้นเชิง ในเรือ่ งเดียวกันร่างกายและจิตใจของเราสามารถ ตอบสนองได้แตกต่างอย่างสุดขัว้ (จากรูส้ กึ หนาว เป็นร้อน หรือร้อนเป็นหนาว) เรือ่ งดังกล่าวทำ�ให้ผมมานัง่ ขบคิดถึงเรือ่ งอืน่

เช่น เรื่องของความรู้สึกต่อเรื่องผิดชอบชั่วดีของ คนเรา ก็น่าจะเป็นไปในแนวทางเดียวกัน คือ มัน สามารถเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิงได้เช่นกัน เช่น ถ้าปกติเราเป็นคนที่ชอบโกหก และไม่ รู้สึกผิดที่จะโกหก แต่ถ้าเราไปอยู่ในที่ที่คนรอบ ข้างต่างก็ไม่โกหก และรูส้ กึ ว่าคนโกหกเป็นคนไม่ดี แน่นอนว่าช่วงแรกเราอาจจะยังรู้สึกแบบเดิม แต่ ถ้าเราอยูใ่ นสภาพแวดล้อมแบบนัน้ นานพอ เราจะ ค่อย ๆ เริ่มรู้สึกอึดอัดใจที่จะโกหกมากขึ้นเรื่อย ๆ และวันหนึ่งเราก็จะรู้สึกผิดที่จะโกหก (ร่างกาย และจิตใจตอบสนองในเรื่องเดียวกันเปลี่ยนไป) แล้วเราก็จะกลายเป็นคนที่ชินกับการไม่โกหก ในทางตรงกันข้าม ถ้าปกติเราเป็นคนทีไ่ ม่ชอบ โกหก และจะรูส้ กึ ไม่สบายใจทีจ่ ะโกหก แต่วนั หนึง่ เราต้องไปอยู่ในที่ที่คนรอบข้างต่างก็โกหกกันจน เป็นเรื่องปกติ ช่วงแรกเราอาจจะยังรู้สึกอึดอัด ถ้าต้องโกหก แต่ถ้าเราอยู่ในสภาพแบบนั้นนาน พอ เราจะค่อย ๆ รู้สึกสบายใจที่จะโกหกมากขึ้น

เรื่อย ๆ และวันหนึ่งเราก็จะรู้สึกสบายที่จะโกหก (ร่างกายและจิตใจตอบสนองต่อเรื่องเดียวกัน เปลี่ยนไป) เราก็กลายเป็นคนที่โกหกได้หน้าตา เฉย (ชินกับการโกหก) ตั ว อย่ า งดั ง กล่ า วสะท้ อ นให้ เห็ นถึ ง ความ ไม่เทีย่ งของสิง่ ทีเ่ ราเป็น ทัง้ ความไม่เทีย่ งในด้านดี และความไม่เทีย่ งในด้านไม่ดี ทีเ่ ราทุกคนมีโอกาส จะเปลีย่ น “ความเคยชิน” ในด้านหนึง่ ไปสูค่ วาม เคยชินในด้านตรงกันข้ามได้เสมอ (ตราบใดที่เรา ยังไม่บรรลุธรรม) เรื่องนี้จึงช่วยสะกิดใจเราทุกคนทั้งสองด้าน ในด้านหนึง่ ถ้าตอนนีเ้ ราเป็นคนทีก่ �ำ ลังชินกับการ ทำ�สิ่งดี เราก็ไม่ควรหลงระเริงในความดีของตน แล้วคิดว่าเราจะเป็นคนดีตลอดไป เพราะเรายังมี โอกาสหลงผิดได้ หากเราถูกแวดล้อมไปด้วยคนที่ ชินกับการทำ�ไม่ดี หรือเราถูกกิเลสตัณหาในด้าน ไม่ดีแวดล้อมจิตใจของเรานานพอ เราจึงไม่ควร ประมาท และต้องพยายามรักษาความเคยชินใน

การทำ�ดีให้ยาวนานที่สุด ในอีกด้านหนึ่ง ถ้าตอนนี้เราเป็นคนที่กำ�ลัง ชินกับการทำ�สิง่ ไม่ดี เราก็ไม่ควรฟันธงลงไปว่าเรา เป็นคนเลว เพราะถ้าเราพยายามย้ายตัวเองให้ไป อยูท่ า่ มกลางคนทีช่ อบทำ�ดี หรือเราพยายามทำ�ให้ จิตใจของเราถูกแวดล้อมไปด้วยธรรมะดี ๆ จาก พระพุทธเจ้า เราก็ยังสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเอง ให้กลายเป็นคนที่ชินกับการทำ�สิ่งดี ๆ ได้ บทสรุปของสิ่งที่ผมได้จากเรื่องนี้ก็คือ สิ่ง แวดล้อมสามารถส่งผลต่อร่างกาย และความรูส้ กึ ของเราได้ และสามารถส่งผลให้เราเป็นคนที่ชิน กับเรื่องดี ๆ หรือเรื่องไม่ดีก็ได้ เราทุกคนจึงต้อง พยายามเลือกคนที่คบ เลือกสิ่งที่อ่าน (ธรรมะ ของพระพุทธเจ้า) เพือ่ ให้รา่ งกายและจิตใจของเรา “ชิน” กับเรื่องดี ๆ และการเป็นคนดีให้ยาวนาน ที่สุดเท่าที่จะทำ�ได้

ถามคำ�ถาม พูดคุย หรือติดตาม ณัฐพบธรรม ได้ที่ www.Nutpobtum.com, www.facebook.com/Pobtumbook, Pobtumbook@yahoo.com happy+ | 57

wired world เรื่อง : ผมอยู่ข้างหลังคุณ

ใช้ชีวิตแบบมี ‘คนดู’ บทความนีเ้ ขียนขึน้ ขณะทีช่ าวโซเชียลมีเดีย (รวม ผมด้วย) กำ�ลังสนุกกับการกดปุม่ Like แบบใหม่ของ facebook ซึง่ ผูใ้ ช้สามารถเลือกแสดงปฏิกริ ยิ าทาง อารมณ์เพิม่ ขึน้ ได้อกี 5 แบบ คือ Love, Haha, Wow, Sad และ Angry ทางทีมงานเฟซบุก๊ ให้สมั ภาษณ์วา่ เหตุทเ่ี พิม่ ปฏิกริ ยิ าเหล่านี้ เพราะต้องการให้ผใู้ ช้งานมีตวั เลือก แทนอารมณ์ทต่ี รงใจมากขึน้ เพราะแต่เดิมนัน้ บาง สเตตัสทีเ่ ป็นเรือ่ งเศร้า (เช่น หมาตาย, ลูกไม่สบาย, แม่ยายป่วย ฯลฯ) เราไม่ได้อยากกดปุม่ Like ทีม่ คี วาม หมายว่าชอบ ดังนัน้ เราก็อาจจะปล่อยผ่านโดยไม่มี ส่วนร่วมกับสเตตัสนัน้ ซึง่ ผมคิดว่าเป็นความฉลาดของเฟซบุก๊ ตัง้ แต่แรก เริม่ แล้วครับ ทีม่ แี ต่ปมุ่ Like โดยไม่เปิดโอกาสให้ผใู้ ช้ แสดงความรูส้ กึ ด้านลบแบบปุม่ Dislike ของ Youtube โดยมาร์ค ซักเกอเบิรก์ เองก็เคยให้สมั ภาษณ์วา่ การมี ปุม่ แบบ Dislike ไม่ได้ชว่ ยให้คนเข้ามาแชร์ชว่ งเวลา สำ�คัญในชีวติ นัน่ ทำ�ให้เห็นว่าเป้าหมายสำ�คัญของเขา 58 | happy+

คือ อยากให้ผใู้ ช้มสี ว่ นร่วม (คอมเมนต์, กด Like, กดแชร์) ไม่ใช่แค่เข้ามาอ่านอย่างเดียว ทางทีมงานของมาร์คคงรูว้ า่ การมีปมุ่ Dislike สามารถกระทบความมัน่ ใจของผูใ้ ช้งาน และอาจส่งผล ให้ผใู้ ช้งานไม่มสี ว่ นร่วม (ได้แต่แอบอ่านอย่างเดียว) เช่น สมมุตวิ า่ คุณโพสต์รปู เซลฟีโ่ ชว์ทรงผมใหม่ทเ่ี พิง่ ตัด มา แล้วเจอเพือ่ นกด Dislike คุณอาจหงุดหงิดหรือเสียความมัน่ ใจ จนไม่อยากโพสต์รปู ตัวเองอีกพักใหญ่ แต่ เมือ่ ไม่มปี มุ่ Dislike หากมีเพือ่ นทีไ่ ม่ชอบทรงผมของคุณ เขาก็แค่ดผู า่ น ๆ ไม่แสดงความเห็นอะไร ดังนัน้ คุณจึง เห็นแต่ยอด Like แล้วก็รสู้ กึ ดีทม่ี แี ต่คนชอบ ทัง้ ทีจ่ ริงคนกด Like บางคนอาจไม่ได้ชอบทรงผมของคุณ ด้วยซํา้ แค่กดเสมือนว่าได้เห็นแล้ว ซึง่ ก็ไม่ตา่ งจากชีวติ จริงนะครับ ลองนึกภาพเวลาอยูใ่ นห้องเรียนของคุณครูจอมโหด ทีห่ ากเราตอบคำ�ถามผิด แล้วครูดา่ ชนิดทำ�ให้อาย ก็จะทำ�ให้บางคนไม่กล้าทีจ่ ะแสดงความเห็น แต่ถา้ เจอครูใจดี เวลาตอบผิดก็ ไม่ตอ่ ว่า แต่ตอบถูกแล้วชมหรือให้ก�ำ ลังใจ เราก็อาจจะมีสว่ นร่วมในชัน้ เรียนของครูคนนัน้ มากขึน้ ทีผ่ า่ นมาเฟซบุก๊ จึงเป็นพืน้ ทีท่ เ่ี ข้ามาใช้บริการแล้วสามารถเกิด ‘ความรูส้ กึ ดี’ มากกว่าความรูส้ กึ ในทางลบ ซึง่ ความรูส้ กึ นีส้ �ำ คัญมากครับในแง่การมีสว่ นร่วม เพราะตามทฤษฎีทเ่ี กีย่ วกับพฤติกรรมมนุษย์ ความรูส้ กึ ดีจาก การทำ�อะไรก็ตามเป็นแรงผลักดันทางบวก (Positive Reinforcement) ทีท่ �ำ ให้คณ ุ อยากทำ�สิง่ นัน้ ซํา้ ๆ หรือในแง่ ของชีววิทยา กิจกรรมทีท่ �ำ ให้รสู้ กึ ดีกส็ มั พันธ์กบั การหลัง่ สารสือ่ ประสาทชือ่ โดพามีน แล้วโดพามีนก็คอื สารสำ�คัญ ใน Reward Pathway ในสมองทีจ่ ะกระตุน้ ให้เราอยากทำ�ให้ตวั เองรูส้ กึ ดีซา้ํ ๆ เหมือนกับเสพติด เมือ่ ทีมงานเฟซบุก๊ ปรับปรุงปุม่ Like เพือ่ ดึงให้เรามีสว่ นร่วมในการเล่น facebook มากขึน้ ผมจึงขอถือ โอกาสแนะนำ�ให้เพือ่ นผูอ้ า่ นรูจ้ กั Audience Effect ครับ

ในปี 1898 นักจิตวิทยาสังคมชือ่ Norman Triplett อยากรูว้ า่ การมี ‘คนดู’ ขณะเราปฏิบตั ภิ ารกิจ (Task) จะส่งผล ต่อภารกิจนัน้ แตกต่างจากการไม่มคี นดูหรือไม่ โดยเขาศึกษาเปรียบเทียบการปัน่ จักรยานแบบปัน่ คนเดียวกับ ปัน่ โดยรูว้ า่ มีคนร่วมปัน่ ด้วย พบว่าเมือ่ ผูเ้ ข้าร่วมทดลองรูต้ วั ว่ามีคนร่วมปัน่ ด้วยจะปัน่ เร็วขึน้ งานทดลองชิน้ นีเ้ ป็น จุดเริม่ ต้นสำ�คัญของการศึกษาถัด ๆ มาว่า ‘คนดู’ มีผลต่อการทำ�งานของคนเราต่างไปจากเดิม (ซึง่ อาจทำ�ให้งานนัน้ ดีขน้ึ หรือแย่ลงก็ได้) เพราะเรารูส้ กึ ว่ามีคนประเมินหรือแข่งขันกับเราอยู่ ซึง่ ตรงกับศัพท์ทเ่ี รียกว่า Audience Effect ลองหยิบเอา Audience Effect มาเทียบกับการใช้ชวี ติ ของเราสิครับ ในอดีตก่อนทีเ่ ราจะรูจ้ กั เฟซบุก๊ , ทวิตเตอร์ หรืออินสตาแกรม เราปฏิบตั ภิ ารกิจต่าง ๆ ในแต่ละวัน เช่น เลีย้ งลูก, กินข้าวกับแฟน, ออกไปทำ�งาน ฯลฯ โดย มีแต่ตวั เรากับคนทีร่ ว่ มภารกิจนัน้ เช่น เวลาเลีย้ งลูกก็สนใจเฉพาะลูกกับคนในครอบครัว, ไปกินข้าวกับแฟน ก็มแี ต่เรากับแฟน ฯลฯ มันคือการใช้ชวี ติ ทีย่ งั ‘ไม่มคี นดู’ และยังไม่มี Audience Effect จนกระทัง่ เรานำ�ชีวติ ของเรามาลงโซเชียลมีเดีย เช่น โพสต์สเตตัสเล่าเรือ่ งลูก, โพสต์เซลฟีค่ กู่ บั แฟนตอน ไปดูหนัง ฯลฯ แล้วมี Friend คอยกด Like หรือมาแสดงความเห็น เมือ่ นัน้ การเลีย้ งลูกก็ไม่ได้มแี ค่ครอบครัว ทีร่ บั รู,้ การออกไปดูหนังกับแฟนก็ไม่ใช่แค่เรือ่ งของเรากับแฟนเท่านัน้ แต่การใช้ชวี ติ ของเรามี ‘คนดู’ แล้วครับ ดังนัน้ ยิง่ เรามี Friend หรือ Follower มากเท่าไหร่ หรือยิง่ เปิด Public มากเท่าไหร่ ก็ยง่ิ ทำ�ให้ชวี ติ ของเราเหมือน ละครโรงใหญ่ทม่ี ี ‘คนดู’ มากขึน้ และหากเราเริม่ ใส่ใจกับการตอบสนองจากในโซเชียลมีเดีย (การกด Like, แสดง ความเห็น ฯลฯ) จะกระทบต่อการดำ�เนินชีวติ มันก็คอื ผลจาก Audience Effect ผลของ ‘คนดู’ จะทำ�ให้เราไม่ได้ใช้ชวี ติ ไปตามธรรมชาติ แต่ใช้ชวี ติ แปรผันตาม Friend ในเฟซบุก๊ เช่น ระหว่างเลีย้ งลูกแทนทีจ่ ะสนใจเฉพาะลูกหรือคูช่ วี ติ หากมี Audience Effect ก็อาจเริม่ คิดว่าเดีย๋ วจะให้ลกู โพสท่า อย่างไรเพือ่ อัพลงเฟซบุก๊ พยายามเค้นข้อคิดสอนใจจากการเลีย้ งลูกประจำ�วันเพือ่ มาตัง้ เป็นสเตตัส ฯลฯ แล้วเมือ่ ได้รบั เสียงตอบรับดี เราก็จะเลีย้ งลูกตามแนวทางนัน้ หรือขยันชวนลูกโพสท่าถ่ายรูปบ่อย ๆ เริม่ ใส่ใจที่ จะเลีย้ งลูกไปตามความเห็นหรือยอด Like

Audience Effect ยังทำ�ให้บางคนพยายาม รักษาภาพลักษณ์หรือไลฟ์สไตล์ทถ่ี กู ใจ ‘คนดู’ จน กระทบต่อชีวติ จริง เช่น เมือ่ โพสต์เรือ่ งของตัวเอง กับแฟนลงเฟซบุก๊ บ่อย ๆ แล้วได้รบั เสียงชืน่ ชมเกิด ภาพลักษณ์ของการเป็น ‘คูร่ กั ตัวอย่าง’ ก็อาจเริม่ ยึดติด จนลืมไปว่าการใช้ชวี ติ คูไ่ ม่จ�ำ เป็นต้องไปเป็นตัวอย่าง ให้ใคร ไม่มชี วี ติ คูไ่ หนทีม่ แี ต่รปู หวานหรือเรือ่ งดี ๆ ทุกวัน ซึง่ มันนำ�มาสูค่ วามกดดันทีไ่ ม่จ�ำ เป็น และเริม่ สูญเสียพลังงานของจิตใจ (Mental Energy) ซึง่ มีจ�ำ กัด ในแต่ละวันเพือ่ ไปรับมือกับเสียงตอบรับเกีย่ วกับชีวติ คู่ ในโลกออนไลน์ แทนทีจ่ ะได้ใช้พลังงานนัน้ ทุม่ เทให้กบั คนรักของตัวเองในชีวติ จริง เมือ่ รูแ้ บบนีแ้ ล้ว ก็อย่าลืมสังเกตนะครับว่าการ ใช้ชวี ติ สลับไปมาในสองโลก (โลกจริง / โลกออนไลน์) เริม่ ได้รบั ผลกระทบจาก Audience Effect แล้วหรือยัง ถ้าเริม่ มีแล้วก็แก้ไม่ยากครับ เพียงลดความสำ�คัญของ ‘คนดู’ แล้วหันมาให้ความสำ�คัญกับคนทีร่ ว่ มภารกิจ ในชีวติ จริงมากขึน้ และพึงระลึกว่าการใช้ชวี ติ ไม่ใช่ การเล่นละครบนเวที เราไม่จ�ำ เป็นต้องแสดงออกให้ดี เพียงเพือ่ ให้คนดู (Friend, Follower ฯลฯ) พอใจ

ถามคำ�ถาม พูดคุย หรือติดตาม ผมอยู่ข้างหลังคุณ ได้ที่ www.facebook.com/ibehindyou, i_behind_you@yahoo.com happy+ | 59

ระหว่างทาง เรื่อง : ศศิน เฉลิมลาภ

ไปสะพานข้ามกาลเวลา ผมจำ�ไม่ได้วา่ นานแค่ไหนแล้ว ทีไ่ ม่ได้เดินทาง ร่วมกับคนที่รํ่าเรียนทางธรณีวิทยามาเหมือน ๆ กั น เพราะงานประจำ � ในทางอนุ รั ก ษ์ ที่ ผ มทำ � อยู่ในปัจจุบัน ดูจะห่างจากงานสำ�รวจดิน หิน แร่ เพื่ อ ทำ � เหมื อ งแร่ ต ามวิ ช าชี พ หลั ก ของวิ ช า ธรณีวิทยามาพอสมควร แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่า การออกไปสำ�รวจความสำ�คัญของระบบนิเวศ และปัญหาสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ นับเป็นความรู้ ใหม่ที่ไม่ได้รํ่าเรียนมา ในช่วงเวลาที่ผ่านมาของ ชีวิตก็ได้ใช้พื้นฐานการเดินทางสำ�รวจข้อมูลทาง วิ ท ยาศาสตร์ ก ายภาพ ภู มิ ศ าสตร์ และธรณี สัณฐานวิทยา มาประยุกต์ใช้อยู่ตลอด แต่เส้นทางชีวิตก็ไม่ค่อยได้บรรจบพบเจอ นักธรณีวิทยาด้วยกันมากนัก เฉียดกันไปในทาง ขัดแย้งเสียมากกว่าด้วยซํ้า ไม่เหมือนภารกิจ การเดินทางไปจังหวัดสตูลเมื่อเดือนที่แล้ว ตาม คำ�ชวนของผู้บริหารกรมทรัพยากรธรณี ที่ชวนไป ร่วมงานอุทยานธรณีวิทยา เ ขาคงเห็ น ผมเป็ น นั ก เรี ย นธรณี วิ ท ยา ประหลาด ๆ ที่หลงไปทำ�งานอนุรักษ์ธรรมชาติ และพอมีงานด้านอนุรักษ์แหล่งธรณีวิทยา ที่ทาง เมืองนอกเขาทำ�มานานอย่าง Geopark แปล เป็นไทย ๆ ว่าอุทยานธรณี ก็เลยลองชวนผม 60 | happy+

ไปให้ ค วามคิ ด เห็ น ในการพั ฒ นางานแบบนี้ ให้เป็นที่ท่องเที่ยว และแหล่งศึกษาเรียนรู้แบบ ใหม่ของบ้านเรา ผมเข้าใจเอาเองมานานว่า Geopark คงเป็น ปรากฏการณ์สวย ๆ ทางธรณีวิทยาประเภท ฟอสซิล ชั้นหินประหลาด ถํ้าสวย ภูเขาไฟ อะไร ทำ�นองนี้ แต่พอมาแลกเปลีย่ นกลับพบว่าทีค่ ดิ นัน้ ใช่แค่ส่วนหนึ่ง แต่โดยนิยามตามสากลแล้ว เขา ดู เป็ น ภู มิ ป ระเทศใหญ่ ๆ ไปเลย และมี จุ ด ที่ น่าสนใจทางธรณีวิทยาหลายจุด ให้ไปเยี่ยมชม ผสมผสานกับคุณค่าด้านอื่น ๆ ทั้งนิเวศวิทยา ศิลปะ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เมือ่ ลงเครือ่ งทีส่ นามบินตรัง นักธรณีวทิ ยาหนุม่ ของกรมทรั พ ยากรธรณี ค นหนึ่ ง ชื่ อ คุ ณ รั ฐ ก็มารับผมข้ามจังหวัดไปสตูลทีไ่ ม่มสี นามบิน แจ้ง ว่ า ผู้บ ริ ห ารของกรมกำ � ลั ง ประชุ ม กั น เรื่อ งนี้อ ยู่ อยากให้ผมไปร่วมคุย แล้วตอนบ่ายจะพาไปดู พืน้ ทีส่ กั จุดสองจุด ก่อนจะมาร่วมพิธเี ปิดงานสตูล ฟอสซิลเฟสติวลั ในตอนเย็น ผ มพยายามทำ � การบ้ า นกั บ คุ ณ รั ฐ ผู้ เป็ น นั ก วิ ช าการผู้ รั บ ผิ ด ชอบงานด้ า นนี้ ข อง กรมทรัพยากรธรณี ว่าเป็นไงมาไงถึงขัน้ ไหนแล้ว ก็ ทราบคร่าว ๆ ว่า กรมทรัพยากรธรณีเอง มีแผน

ผลักดันให้ยูเนสโก ขึ้นทะเบียน Geopark หรือ อุทยานธรณีของประเทศไทยในเบื้องต้นสองแห่ง คือ เส้นทางหน้าผาหินทรายทีอ่ บุ ลราชธานี และ พื้นที่รอยต่อเทือกเขาหินปูนต่อเนื่องกับหินทราย ยุคเก่าแก่ทส่ี ดุ ทีส่ ตูล แต่ทอ่ี บุ ลฯ ยังไม่มเี จ้าภาพ ในท้องถิน่ พัฒนางาน ไม่เหมือนทีส่ ตูล ทีผ่ บู้ ริหาร ท้ อ งถิ่ น ระดั บ ตำ � บลคนหนึ่ ง เป็ นนายก อบต. ชื่อเล่นว่านายกโอเร่ เกิดชอบอกชอบใจเรื่องนี้ มาก ทั้ง ๆ ที่แกก็ไม่เคยมีความรู้พ้ืนฐานอะไร กลับพยายามหาความรู้ ไปดูงานต่างประเทศ และไปสมัครเข้าคอร์สอบรมการจัดการอุทยาน ธรณี ถึ ง ต่ า งประเทศมาหลายหน ร่ ว มมื อ กั บ นักวิชาการท้องถิ่นซึ่งหลงรักฟอสซิล ร่วมกันตั้ง เป็นโครงการอุทยานธรณีวิทยา ทำ�ห้องเรียนรู้ ทำ�พิพธิ ภัณฑ์กนั สวยงาม จนสามารถจัดเป็นงาน เฟสติวัลขึ้นมาได้สามปีแล้ว มีคนในจังหวัดสนใจ มาเที่ยวชมกันล้นหลาม จนทำ�ท่าจะขยายไปเป็น งานระดับประเทศ และกรมทรัพยากรธรณีก็เอา นิทรรศการชุดใหญ่มาร่วมงานด้วย มีหนุ่ ไดโนเสาร์ ยักษ์เคลื่อนไหวได้มาโชว์ ถูกใจกลุ่มเป้าหมายที่ เป็นนักเรียนในพื้นที่เป็นอย่างยิ่ง ผมเงอะ ๆ งะ ๆ เข้าประชุมกับรุ่นพี่รุ่นน้อง นักธรณีวิทยามืออาชีพที่ส่วนใหญ่เขาจะรู้จักผม

แต่ผมไม่รู้จักใครเท่าไหร่ คุ้น ๆ อยู่บ้างว่าเคย พบกันเมือ่ สมัยผมยังเป็นนิสติ ปริญญาโททางด้านนี้ เมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้วโน่น แถมเพิ่งมารู้ว่างาน ฟอสซิลนี้ เป็นงานระดับจังหวัดทีเ่ ดีย๋ วผูว้ า่ ราชการ จะมาเปิดงานใหญ่เต็มสนาม พิเศษคือ วันนี้ จะมีการเปิดอาคารพิพิธภัณฑ์ช้างดึกดำ�บรรพ์ ซึ่งผมไม่เคยรู้ข่าวว่าเป็นช้างอะไร ช่วงประชุมก็ รีบเสิร์ชข้อมูลจากกูเกิล แอบค้นดูจนรู้ว่า เมื่อ สองปีที่แล้ว มีการค้นพบกระดูกกรามช้างในยุค นํ้าแข็ง อายุเป็นหมื่นปี ที่ถํ้าแห่งหนึ่งในตำ�บล ทุ่งหว้า เป็นถํ้าที่มีลำ�ธารลอดผ่านไปออกทะเล นักวิชาการมาตรวจสอบพบว่า เป็นกระดูกช้างโบราณ คล้ายแมมมอธ งายาวเฟื้อย เลยมีการตั้งชื่อถํ้า ที่แต่เดิมชื่อถํ้าวังกล้วย เป็น “ถํ้าเลสเตโกดอน” ตามชื่อวิทยาศาสตร์ของพันธุ์ช้างไปโน่น ปรากฏ ว่ า กลายเป็ นจุ ด สนใจ ขนาดไม่ มี ก ระดู ก ให้ ดู เพราะเก็บออกมาแล้ว มีแค่เรื่องราวและรูปปั้น แต่ก็ยังดึงดูดให้คนไปเที่ยวได้ สามารถพัฒนา เป็นเส้นทางพายเรือลอดถํ้าได้อีก มีรูปปั้นช้าง และนิทรรศการทางธรณีวทิ ยาอยูห่ น้าถํา้ แค่นก้ี ท็ �ำ ให้ ถํ้าเล็ก ๆ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของ จังหวัดได้อย่างน่าสนใจ การประชุมในวันนั้น ที่ประชุมขอให้ผมช่วย เล่าประสบการณ์การอนุรักษ์ และการเสนอพื้นที่ อนุรักษ์ทางทะเลอันดามันของกรมอุทยานแห่ง ชาติฯ เป็นมรดกโลกให้ฟัง เพราะทราบมาว่าผม เป็นหนึง่ ในคณะทำ�งานเรือ่ งนีอ้ ยู่ ก็ได้แลกเปลีย่ น ข้อมูลที่มีประโยชน์กันมากมาย ผมเองก็ได้เปิด มุมมองในเรื่องการจัดการพื้นที่ ปัญหาในการ นำ�เสนอคุณค่าต่อมุมมองสากล ขณะเดียวกันก็ได้ เรียนรูว้ า่ อุทยานธรณีคอื อะไร และบ้านเราเดินหน้า ไปถึงไหนแล้วในหลายประเด็น บรรยากาศในการ คุยเรื่องที่เราต่างมีความรู้มาเจอกันแบบนี้ ทำ�ให้ ผมสนุกและกระตือรือร้นทีจ่ ะไปดูพนื้ ทีส่ ามอำ�เภอ ของสตูล ได้แก่ ทุ่งหว้า มะมัง และละงู (ที่ผม คุน้ เคยเนือ่ งจากเป็นพืน้ ทีก่ รณีปญ ั หาความขัดแย้ง เรื่องการสร้างท่าเรืออุตสาหกรรมปากบารา) บ่ายวันนั้น พวกเรานักธรณีวิทยา ตั้งแต่ ระดับรองอธิบดี และผู้อำ�นวยการสำ�นักอนุรักษ์ ทางธรณีวิทยา ตลอดจนนักวิชาการเกือบสิบคน ไปชมการพัฒนาถํ้าของโครงการอุทยานธรณีที่ ทำ�โดยท้องถิ่น เราไต่บันไดเหล็กสูงชันกันช้า ๆ เนื่องจากกว่าครึ่งเป็นนักธรณีรุ่นราวคราวเดียว กับผมหรือรุน่ พี่ ซึง่ ปกติเลยวัยทีจ่ ะออกสำ�รวจกัน แบบนีแ้ ล้ว ดีทที่ างท้องถิน่ ได้พฒ ั นาบันไดเหล็กมี ราวจับมั่นคงให้ขึ้นไปได้ไม่อันตรายนัก นั ก ธรณี วิ ท ยาเมื่ อ อยู่ กั บ หิ น ก็ มี เ รื่ อ ง แลกเปลีย่ นพูดคุยกันไม่รเู้ บือ่ ตัง้ แต่การเทียบอายุ

ชั้นหิน ซากดึกดำ�บรรพ์ที่ค้นพบอันจะเป็นตัวบ่งชี้ อายุหิน ปรากฏการณ์ธรรมชาติแปลก ๆ ทาง ธรณีวทิ ยา จำ�พวกหินงอกหินย้อยรูปร่างสวยงาม และการจัดการความรู้ และจัดสร้างเส้นทางศึกษา ธรรมชาติที่ต้องปรับแก้เพิ่มเติม ผมดีใจอย่างยิ่ง ที่ความรู้ที่ไม่ค่อยได้ใช้ยังพอจดจำ�มาคุย มาฟัง รุ่นพี่รุ่นน้องมืออาชีพเขาคุยกันพอรู้เรื่อง และ แอบภูมิใจลึก ๆ ว่า มุมมองด้านการจัดการแหล่ง อนุรักษ์ที่เราไปเรียนรู้มาจากอีกสนามหนึ่งคือ งานป่าไม้ ก็สามารถนำ�มาปรับใช้ แลกเปลี่ยนให้ เกิดประโยชน์ได้ ง านธรณี วิ ท ยาแบบนี้ เ ป็ น งานที่ ทำ � ให้ ผมมี ค วามสุ ข เพราะไม่ ต้ อ งไปคิ ด มากเรื่ อ ง ผลประโยชน์ของการระเบิดหิน เพือ่ ขุดแร่ ทำ�ลาน ภูเขา ระมัดระวังผลกระทบด้านต่าง ๆ ต่อชุมชน ทีเ่ ป็นงานทัว่ ไปทางธรณีทสี่ ว่ นใหญ่จะต้องพบเจอ พธิ เี ปิดงานตอนเย็นยิง่ ใหญ่อลังการ ไม่นา่ เชือ่ ว่านายก อบต. เล็ก ๆ ที่จังหวัดชายแดนใต้จะ สามารถพัฒนาเรื่องที่ไม่น่าสนใจอย่างหิน หรือ ซากหอยโบราณให้กลายเป็นงานทีค่ นทัง้ จังหวัดรู้ และสามารถมาร่วมงานได้ ผมมีโอกาสปรึกษางาน กับนายก และคิดแผนการทำ�งานร่วมกันมากมาย ในอนาคต วั น รุ่ ง ขึ้ นคณะนั ก ธรณี ยั ง คงท่ อ งโลกธรณี ด้วยกันต่ออีกทั้งวัน เราตระเวนไปดูพื้นที่รอย

ไม่ ต่ อ เนื่ อ งของชั้ น หิ น ที่ เ ป็ น รอยเลื่ อ นให้ หินตะกอนทรายยุค 600 ล้านปี เก่าแก่สดุ ไปเชือ่ ม กับหินปูนในอีกยุคหนึ่ง ที่มีการสื่อความหมาย ไว้อย่างดี มีสะพานเลียบทะเลให้เดินชมและตั้ง ชื่อว่า “สะพานข้ามกาลเวลา” ไปเยี่ยมชมถํ้า ภูผาเพชร ที่ยังสวยงามสมบูรณ์ มีการจัดการที่ น่าสนใจ ไปดูนํ้าตกผาหินปูนสวย ๆ และแหล่ง ฟอสซิลที่ยังรอการศึกษาวิจัย จนมาจบที่หน้า ถํา้ เลสเตโกดอน ทีม่ รี ปู ปัน้ ช้างตัวใหญ่อยูห่ ลายตัว ตลอดวันที่ได้ร่วมทางกับคนที่มีพื้นฐาน ความรู้ แ บบเดี ย วกั น มาแลกเปลี่ ย นความรู้ ประสบการณ์ และมองไปข้างหน้าเพื่อหาทาง อนุรักษ์เรื่องดี ๆ ไว้ให้ลูกหลานได้เรียนรู้ ทำ�ให้ ผมกลับไปสู่การเป็นนักเรียนธรณีวิทยาอีกครั้ง เหมือนได้ข้ามสะพานไปสู่อดีตที่มีความสุขจริง ๆ วันนี้โครงการอุทยานธรณีวิทยาที่สตูลยัง ไม่ สำ � เร็ จ ตามการขึ้ นทะเบี ย นต่ อ ยู เนสโก แต่ ความร่วมมือทางวิชาการ ความกระตือรือร้นที่ จะพัฒนางานด้านนีข้ องท้องถิน่ ตลอดจนการรับรู้ ของคนสตูลได้ไปไกลแล้ว แค่คดิ ว่าจะได้มาร่วมงานดี ๆ แบบนีอ้ กี ยาว ๆ สำ�หรับผมก็มคี วามสุขแล้วครับ โดยเฉพาะอย่างยิง่ หากคนในพื้ นที่ รู้ คุ ณค่ า ของพื้ นที่ จะช่ ว ยกั น พัฒนาการอนุรักษ์และการท่องเที่ยว จนไม่ต้อง สร้างท่าเรือและนิคมอุตสาหกรรมก็ได้ happy+ | 61

take care เรื่อง : นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา

มารู้จักโรคมะเร็งช่องปากกันเถอะ ปากเป็นช่องทางสำ�คัญที่นำ�อาหารเข้าสู่ร่างกาย และเหมือนกับอวัยวะอื่น ๆ ของร่างกายที่สามารถเกิดโรคมะเร็งได้ ซึ่งเกิดได้กับ หลายส่วนของปาก ตั้งแต่ริมฝีปาก เหงือก เพดานปาก ลิ้น ทอนซิล หรือแม้แต่ต่อมนํ้าลาย และแม้ว่าจะเกิดจากหลายส่วนของช่องปาก แต่ ส่วนใหญ่แล้ว มักจะมีลักษณะของเซลล์มะเร็งที่คล้ายคลึงกันและมีปัจจัยเสี่ยงคล้าย ๆ กัน ดังนั้น จึงทำ�ให้มักจะเรียกรวมกันในชื่อของมะเร็ง ช่องปาก

อาการของมะเร็งช่องปาก

อาการทีเ่ กิดกับตำ�แหน่งทีม่ มี ะเร็งขึน้ มา สามารถเกิดได้หลาย ลักษณะ ได้แก่ แผลในปาก : เป็นแผลที่หายช้าหรือไม่ยอมหาย ทั้งที่เวลา ผ่านไปหลายสัปดาห์ โดยแผลอาจจะเป็นแผลลึกลงไปหรือแม้แต่ เป็นรอยแดง ๆ ก็ได้ ฝ้า : เป็นฝ้าสีขาว อาจจะมาเป็นแผ่นหรือเป็นเส้น ๆ ก้อน : ตุ่มหรือก้อนเนื้อที่นูนขึ้น โดยไม่หายไปเอง เจ็บคอหรือเจ็บในปาก ทั้งในเวลาปกติหรือเวลากลืนอาหาร (บางครั้งอาการเจ็บกับตำ�แหน่งที่เราคิดว่ามีแผลเป็นคนละที่กัน) เจ็บเวลาเคี้ยวอาหารหรือฟันโยก : ซึ่งเกิดจากมะเร็งไปทำ�ลาย เนื้อเยื่อที่รองรับฟัน ก้อนที่ลำ�คอ : จากการดันของเนื้อมะเร็ง หรือการกระจายของ มะเร็งไปที่ต่อมนํ้าเหลืองบริเวณลำ�คอ เลือดออก : เกิดจากรอยแผลที่เกิดที่เนื้อมะเร็ง ทำ�ให้มีเลือด ไหลออกมา มักจะออกซํ้า เป็น ๆ หาย ๆ 62 | happy+

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งช่องปาก

ส่วนใหญ่มะเร็งในช่องปาก เกิดจากการที่เซลล์ในช่องปากถูกกระตุ้นจาก อะไรบางอย่างทำ�ให้เกิดความผิดปกติของสารพันธุกรรมภายในเซลล์ จนนำ�มาซึ่ง การแบ่งตัวที่ผิดปกติ โดยปัจจัยเสี่ยงที่พบได้ในมะเร็งกลุ่มนี้ คือ 1. การดืม่ แอลกอฮอล์ : พบว่าการดืม่ เครือ่ งดืม่ แอลกอฮอล์มาก ๆ จะมีความเสีย่ งต่อ มะเร็งช่องปากมากขึ้น 2. การใช้ใบยาสูบ : พบว่าการใช้ใบยาสูบ ไม่ว่าจะเป็นกรณีใด ๆ อย่างเช่น สูบบุหรี่ สูบซิการ์ สูบยาผ่านนํ้า การเคี้ยวใบยาสูบ การนัตถุ์ยาสูบ ต่างก็เพิ่ม ความเสี่ ยงของการเกิ ดมะเร็ งในช่ องปากทุ กชนิ ด (ยกเว้ นมะเร็ งต่อ มนํ้าลายที่ พบว่าอาจจะไม่เกี่ยวข้องกัน) 3. การติดเชือ้ ไวรัส : พบว่าเชือ้ ไวรัสหลายชนิดในกลุม่ Herpes Virus สามารถเพิม่ โอกาสการเป็นมะเร็งช่องปากได้ โดยในปัจจุบันเชื้อไวรัสที่เป็นที่สนใจในเรื่องมะเร็ง ช่องปากคือ เชื้อไวรัส HPV ซึ่งเป็นเชื้อชนิดเดียวกันกับที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก 4. การมีรอยโรคที่อาจจะเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งช่องปาก : ลักษณะความ ผิดปกติบางชนิดของช่องปาก ไม่ได้เป็นมะเร็ง แต่อาจจะเพิ่มความเสี่ยงของการ กลายไปเป็นมะเร็งได้ในอนาคต เช่น Leukoplakia หรือ Erythroplakia

อ่านอาการแล้วคล้าย อย่าเพิ่งตกใจ ไปตรวจก่อน

เมื่อหลายคนดูเฉพาะอาการของมะเร็งช่องปาก อาจจะตกใจเพราะว่าอาการ หลายอย่างดูเหมือนเป็นอาการที่พบเจอได้บ่อย ๆ และพบว่าบ่อยครั้งที่ผู้ป่วยไป อ่านหรือไปค้นหาข้อมูลเอง แล้วเกิดความกังวลไปก่อนว่าตนเองจะเป็นมะเร็ง ทั้งที่ จริง ๆ ไม่ใช่ อย่างเช่น กรณีแผลที่เป็นเรื้อรังเกินกว่า 2 สัปดาห์ร่วมกับมีตุ่มก้อนขึ้น ทีค่ อ บางครัง้ ผูป้ ว่ ยมาเพราะกลัวเป็นมะเร็ง แต่เมือ่ ตรวจไปแล้วก็พบว่าแผลนัน้ เป็น อยู่นานเนื่องจากผู้ป่วยมีฟันบิ่น แล้วเสียดสีบ่อยจนเกิดแผลในปากเป็น ๆ หาย ๆ และตุ่มที่เกิดขึ้นก็คือ ต่อมนํ้าเหลืองอักเสบที่เกิดจากแผลนี้ หรือทีเ่ จอได้บอ่ ย ๆ คือ ในผูส้ งู อายุทมี่ าตรวจเพราะว่าในช่องปากเกิดปุม่ ก้อนนูน ขึ้นมาเรื่อย ๆ แล้วเกิดความกังวลว่าจะเป็นมะเร็ง ซึ่งพอตรวจไปแล้วปรากฏว่า เป็นตุ่มกระดูกนูนที่เพดานปาก (Torus Palatinus) หรือปุ่มกระดูกขากรรไกรล่าง (Torus Mandibularis) ซึ่งในบางคนพบว่า จู่ ๆ ก็โตขึ้นเองเมื่อเริ่มอายุมากขึ้น อาจทำ�ให้ตกอกตกใจเล่นได้ ดังนั้น หากมีอาการที่คล้าย ๆ ก็อย่าเพิ่งตกใจครับ ไปตรวจก่อน เพราะจริง ๆ อาจจะไม่มีอะไรเลยก็ได้

แล้ ว หมอจะวิ นิ จ ฉั ย ได้ อ ย่ า งไรว่ า เป็ น มะเร็ ง ช่องปาก

การวินจิ ฉัยจะเริม่ ตัง้ แต่การซักประวัติ ตรวจร่างกาย ดูบริเวณ ที่มีความผิดปกติ ดูลักษณะก้อนหรือแผล ตรวจดูต่อมนํ้าเหลืองที่ อยู่รอบ ๆ บางครั้งหากจุดที่ผิดปกติดูแล้วมีนอกเหนือจากบริเวณ ช่องปาก ก็อาจจะมีการตรวจส่องเข้าไปที่โพรงจมูกหรือลำ�คอ ร่วมด้วย มีการตัดชิ้นเนื้อที่สงสัยไปตรวจ เพื่อย้อมดูลักษณะเซลล์ว่า ผิดปกติหรือไม่อย่างไร มีการตรวจทางรังสี เช่น เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือตรวจด้วย เครื่องตรวจแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อดูลักษณะและตำ�แหน่งของก้อน นอกจากนี้ ยังอาจจะมีการตรวจอืน่ ๆ ขึน้ กับว่าแพทย์มคี วาม สงสัยโรคอื่น ๆ ร่วมด้วยหรือไม่ และในกรณีที่พบว่าเป็นมะเร็งแน่ แล้ว หรือแพทย์สงสัยว่าอาจจะมีการกระจายของมะเร็งไปทีอ่ วัยวะ อื่น ๆ ก็อาจจะมีการตรวจจำ�เพาะไปที่อวัยวะนั้น ๆ เพิ่มเติม happy+ | 63

การรักษาดูแลคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย

การดูแลรักษา

อาหารการกิน : ผู้ป่วยมะเร็งช่องปากจะมีความผิดปกติในช่องปาก ที่ทำ�ให้เกิดปัญหาในการ รับประทานอาหาร ตัง้ แต่ความเจ็บปวดอันเกิดจากแผล การสบฟันทีเ่ ปลีย่ นไปจากตัวก้อน ก้อนหรือแผลทำ�ให้ ขยับลิน้ ได้ไม่ปกติ จนกลืนอาหารลำ�บาก การกัดลิน้ หรือไปกัดโดนส่วนต่าง ๆ ของปากเกิดแผลเพิม่ เติม นอกจากนี้ การรักษาด้วยการฉายรังสีและยาเคมีบ�ำ บัดบางชนิด ก็ท�ำ ให้เกิดแผลในบริเวณช่องปากได้ ดังนั้นอาหารสำ�หรับผู้ป่วยมะเร็งช่องปาก ควรเป็นอาหารที่รับประทานได้โดยไม่เกิดการสำ�ลักและ ไม่เจ็บแผล นอกจากนี้ ก็ควรมีสัดส่วนของโปรตีนและพลังงานที่มากเพียงพอที่จะใช้ในการฟื้นฟูผู้ป่วย หากไม่มนั่ ใจว่าจะจัดอาหารแบบใดดี อาจจะปรึกษานักโภชนากร นักกำ�หนดอาหาร หรือแพทย์ผรู้ กั ษา สุขภาพฟัน : เป็นส่วนสำ�คัญในช่วงของการรักษา บางครั้งจะต้องมีการส่งตรวจฟันและทำ�การ รักษาฟัน ทัง้ ก่อนและหลังการรักษามะเร็ง โดยเฉพาะในกรณีทตี่ อ้ งใช้ยาเคมีบ�ำ บัดหรือฉายรังสีบริเวณ ช่องปาก เนือ่ งจากหลังการรักษามะเร็งไปแล้ว ปากมักจะแห้งกว่าปกติ และทำ�ให้เสีย่ งต่อการเกิดฟันผุ ง่ายขึ้น ควรพบทันตแพทย์เป็นระยะ การหายใจ : ในบางรายที่เนื้อเยื่อมะเร็งไปขัดขวางการหายใจ อาจจะต้องมีการพิจารณาใส่ท่อ หรือเครื่องมือเพื่อเปิดทางเดินหายใจในช่วงระหว่างรับการรักษา กลิ่น : ช่องปากเป็นส่วนที่มีเชื้อแบคทีเรียหลายชนิด ซึ่งเมื่อติดเชื้อลงไปที่เนื้อเยื่อมะเร็ง สามารถ ก่อกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ทั้งต่อผู้ป่วยและคนรอบข้าง ซึ่งบรรเทาลงได้ทั้งด้วยการใช้นํ้ายาฆ่าเชื้อ ในช่องปาก การใช้กลิ่นสมุนไพรอบ หรือสารเคมีดับกลิ่น ในห้องที่ผู้ป่วยอาศัยอยู่

การรั ก ษามะเร็ ง ช่ อ งปากจะขึ้ น อยู่ กั บ ตำ�แหน่ง ลักษณะ และระยะของมะเร็ง โดยอาจ จะแบ่งเป็นการรักษามะเร็ง และการดูแลรักษา คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยระหว่างการรักษา การรักษามะเร็งมีวิธีการคือ 1. ผ่าตัด : เป็นการผ่าตัดเอาเนื้อมะเร็งนั้น ออกไป ในบางครั้งอาจจะมีการตัดเนื้อเยื่อรอบ ๆ และต่อมนํ้าเหลืองรอบ ๆ ไปด้วย 2. ยาเคมีบำ�บัด : เป็นการให้ยาที่มีฤทธิ์ต่อ เนื้อเยื่อมะเร็ง เพื่อทำ�ลายหรือยับยั้งการลุกลาม การป้องกันมะเร็งช่องปาก ของเซลล์มะเร็ง 1. ไม่ดื่มเหล้า 3. การฉายรัง สี : เป็นการใช้รั ง สี ในการ 2. ไม่ใช้ยาสูบ ไม่ว่าในรูปแบบการสูบควัน การเคี้ยว หรือการนัตถุ์ยา ทำ�ลายเซลล์มะเร็ง 3. พบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากเป็นระยะ หากมีแผลหรือก้อนที่ผิดปกติ จะได้รู้ได้ การรักษาจะใช้กวี่ ธิ กี ข็ นึ้ อยูก่ บั ระยะหรือการ เร็วขึ้น ลุกลามของตัวโรค 64 | happy+

เรื่อง : นพ.ฉัตรชัย อิ่มอารมณ์ ภาพประกอบ : จัง เสนารักษ์ q&a

โรคเริม

Q A

โรคเริมคืออะไรคะ อาการเป็นอย่างไร และต้องรักษาแบบไหนคะ? โรคเริม เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากไวรัสที่มีชื่อว่า Herpes Simplex Virus ซึ่งมีสองชนิด โดยโรคเริมที่เกิดบริเวณริมฝีปาก มักจะเป็น Herpes Simplex Virus ชนิดที่ 1 นอกจากริมฝีปากแล้วยังพบว่าโรคเริมเกิดขึ้นที่บริเวณ อวัยวะเพศได้ ซึง่ Herpes Simplex Virus ชนิดที่ 2 จะเป็นสาเหตุให้เกิดโรคเริม บริเวณนี้ ระยะฟักตัวของโรคจะอยู่ที่ 3-7 วัน หลังจากรับเชื้อ ซึ่งเราสามารถรับ เชื้อไวรัสตัวนี้จากการสัมผัสโดยตรงกับสารคัดหลั่งของผู้ที่เป็นโรค เช่น นํา้ ลาย หรือสัมผัสกับแผลทีผ่ วิ หนังของผูท้ เี่ ป็นโรค หรือใช้ของส่วนตัวร่วมกับ ผู้ที่เป็นโรค เช่น ใช้ช้อนส้อมหรือแปรงสีฟันร่วมกัน นอกจากนี้ การมี เพศสัมพันธ์ก็ทำ�ให้ติดเชื้อโรคได้ โดยผู้ที่เป็นโรคอาจจะมีหรือไม่มีอาการ ของโรคเริมก็ได้ เมือ่ สัมผัสกับเชือ้ โรค ตัวเชือ้ โรคก็จะเข้าสูร่ า่ งกายผ่านทาง ผิวหนัง ทำ�ให้เป็นโรคเริมขึ้น สำ�หรับอาการของโรคเริม มักจะเป็นตุ่มนํ้า ตุ่มเดี่ยว ๆ หรือเป็นกลุ่ม ของตุม่ นํา้ ทีผ่ วิ หนัง มักจะเป็นทีร่ อบริมฝีปาก อวัยวะเพศ หรือรอบทวารหนัก และเมื่อตุ่มนํ้าแตกออก ก็จะมีอาการแสบเป็นอย่างมาก แผลที่แตกจะ ค่อย ๆ แห้ง ตกสะเก็ดและหายในระยะเวลาประมาณ 2-6 สัปดาห์ อาจ มีอาการไข้ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ หรือต่อมนํ้าเหลืองโตร่วมด้วยได้ โรคเริมสามารถเป็นซํ้าได้ โดยอาการจะน้อยกว่าในครั้งแรก ตุ่มนํ้าจะ มีขนาดเล็กกว่าและจำ�นวนตุ่มนํ้าน้อยกว่าการเป็นครั้งแรก โดยเกิดจาก เชือ้ ไวรัสทีฝ่ งั ตัวอยูใ่ นปมประสาท หลังจากการป่วยครัง้ แรกออกมา ทำ�ให้เกิด โรคบริเวณปลายประสาท ผูป้ ว่ ยอาจมีอาการนำ� เช่น คัน แสบร้อนบริเวณที่ จะเป็น ต่อมาจะมีกลุม่ ของตุม่ นํา้ เกิดขึน้ ใกล้เคียงกับตำ�แหน่งเดิม การเป็นซํา้ มั ก ไม่ มี อ าการอื่ น ๆ เช่ น ไข้ การเกิ ด ซํ้ า ของโรคเริ ม มั ก จะมี ปั จ จั ย กระตุน้ ให้เกิดโรคครับ ซึง่ การป้องกันไม่ให้เกิดโรคซํา้ ก็ตอ้ งหลีกเลีย่ งปัจจัย ต่าง ๆ เหล่านั้น นั่นคือ - ความเครียด - การโดนแสงแดดมากเกินไป - รอยถลอก ขีดข่วนหรือกระทบกระเทือนบริเวณรอยโรคเดิม - การเจ็บป่วยจากโรคอื่น ๆ

- การได้รับยากดภูมิคุ้มกัน เช่น สเตียรอยด์ - การผ่าตัดที่กระทบกระเทือนต่อเส้นประสาท - พักผ่อนไม่เพียงพอ การรักษาโรคเริมนัน้ มีทงั้ การใช้ยาต้านไวรัสร่วมกับ การรักษาประคับประคองอาการ ซึ่งหากได้รับยาเร็ว (ภายใน 48 ชัว่ โมง) ก็จะสามารถลดระยะเวลาการเป็นโรค ลดการแพร่เชือ้ และลดระยะเวลาเจ็บปวดได้ แต่เนือ่ งจาก ยามีผลข้างเคียงต่อไต รวมถึงต้องมีการปรับขนาดยาใน ผู้ป่วยที่มีการทำ�งานของไตบกพร่อง ผู้ป่วยควรมาพบ แพทย์เมื่อเริ่มมีอาการเพื่อพิจารณาเรื่องยาต้านไวรัส แต่ อย่างไรก็ตาม ยาต้านไวรัสไม่สามารถกำ�จัดเชื้อไวรัสที่ ฝังตัวอยูใ่ นปมประสาทได้ การดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรง ก็ ทำ�ให้ ห ายจากโรคได้ เร็ ว ขึ้ น นั่ นคื อ การนอนหลั บ พักผ่อนให้เพียงพอ การดืม่ นํา้ มาก ๆ ลดการแกะเกาบริเวณ ตุ่มแผล หมั่นตัดเล็บให้สั้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อซํ้า จนกลายเป็นหนอง โรคเริมเป็นโรคที่พบได้เนือง ๆ การรักษาความ สะอาด ล้างมือบ่อย ๆ และรักษาสุขภาพให้แข็งแรง อยูเ่ สมอ จะทำ�ให้โอกาสป่วยจากโรคเริมนัน้ ลดลงครับ

นพ.ฉัตรชัย อิม่ อารมณ์ แ พ ท ย์ ป ร ะ จำ � ห น่ ว ย ตรวจสวัสดิการสุขภาพ โรงพยาบาลรามาธิบดี happy+ | 65

ยืดเส้น ยืดสาย เรื่อง : TepiN ภาพประกอบ : giftdoii

ขยับร่างกาย ลดอาการบ้านหมุน

โรคบ้านหมุน เป็นโรคทีท่ ำ�ให้เกิดอาการเวียนศีรษะ และเสียการทรงตัว โดยเฉพาะเวลาเคลือ่ นไหวศีรษะหรือใช้สายตาเป็นเวลานาน ๆ พบได้ ในคนทุกวัยโดยเฉพาะผู้สูงอายุ ทำ�ให้มีอาการเวียนศีรษะ รู้สึกว่ามีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ แต่แท้จริงแล้วไม่มีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้น โดยคน ที่เป็นอาจรู้สึกว่าสิ่งแวดล้อมรอบตัวหมุน หรือรู้สึกว่าตัวเองหมุนไป ทั้ง ๆ ที่อยู่เฉย ๆ ความรู้สึกดังกล่าว เกิดจากความผิดพลาดในการรับข้อมูล หรือการเสียสมดุลของระบบประสาทการทรงตัวของร่างกาย ซึง่ ประกอบด้วยตา ประสาทสัมผัสบริเวณข้อต่อ อวัยวะควบคุมการทรงตัวในหูชนั้ ใน ระบบประสาทส่วนกลางที่ฐานสมอง และตัวสมองเอง โดยทั้งหมดนี้จะทำ�งานเกี่ยวเนื่องกัน เนื่องจากอวัยวะการทรงตัวกับอวัยวะการได้ยิน อยู่ใกล้ชิดสัมพันธ์กันจากหูไปสู่สมอง โรคของระบบทรงตัวที่ท�ำ ให้บ้านหมุนจึงมักสัมพันธ์กับการเสียการได้ยิน หูอื้อ และมีเสียงรบกวนในหูได้ รวมถึงเมื่อเกิดอาการเวียนศีรษะ บ้านหมุน ก็มักจะมีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของลูกตา (ตากระตุก หรือ Nystagmus) การเซ การล้ม อาการ คลื่นไส้ อาเจียน เหงื่อแตกร่วมด้วย แม้โรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายขาด แต่สามารถรักษาอาการเวียนศีรษะให้หายเป็นปกติได้ ด้วยการฝึกกายบริหารเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพ การทรงตัว วิธีนี้เหมาะกับผู้มีอาการติดต่อกันนานเกิน 1-2 เดือน หรือเวียนศีรษะขณะเคลื่อนไหว โดยเลือกสถานที่ฝึกกายบริหารที่มีบริเวณ และปลอดภัย ไม่ควรมีของเกะกะ ซึ่งอาจจะทำ�ให้สะดุดล้มได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อเริ่มฝึกใหม่ ๆ ควรมีคนอื่นคอยช่วยเหลืออยู่ใกล้ ๆ ด้วย 66 | happy+

ท่าที่ 3

ยื น หรื อ นั่ ง ให้ ห่ า งฝาผนั ง ที่ มี รู ป ภ า พ ประมาณ 2 ฟุต มองรูปภาพโดยกวาดสายตาไป ท่าที่ 2 ยืนหรือนั่งในท่าสบาย หันศีรษะจากซ้ายไป ยืนหรือนั่งในท่าสบาย ก้มศีรษะไปข้างหน้า ทั่วรูปภาพช้า ๆ จากนั้นหันศีรษะไปทางซ้ายและ ขวา สลับขวาไปซ้ายช้า ๆ แล้วค่อยเร็วขึ้น ทำ� แล้วค่อย ๆ เงยขึน้ จนคอตัง้ ตรง จากนัน้ แหงนหน้า ขวา โดยตายังมองรูปภาพอยูต่ ลอดเวลา ทำ� 5-10 5-10 ครั้ง ไปด้านหลัง เริ่มต้นทำ�ช้า ๆ แล้วค่อย ๆ เร็วขึ้น ครั้ง จากนั้นก้มและเงยศีรษะสลับกัน โดยยังมอง ภาพอยูต่ ลอดเวลา ทำ� 5-10 ครัง้ ตามลำ�ดับ ทำ� 5-10 ครั้ง

ท่าที่ 1

ท่าที่ 5

ท่าที่ 4

ยื นตั ว ต ร ง เท้ า ชิ ด กอดอก หันศีรษะจากซ้าย ไปขวาสลับไปมา ค่อย ๆ ทำ�ช้า ๆ แล้ ว เร็ ว ขึ้ น ตาม ลำ�ดับ 5-10 ครั้ง

ยื นตรง แยก เท้าห่างกันเล็กน้อย ก้าวเท้าขวามาข้าง หน้าเปิดส้นเท้าซ้าย ถ่ า ยนํ้ า หนั ก ไว้ ที่ เท้าขวาค้างไว้ 20 วินาที ทำ�ซํ้าอีกข้าง สลับไปมา 5-10 ครัง้

ท่าที่ 6

ยื น ตรง เดิ น ไป ข้างหน้าตามปกติ โดย ทุก 3 ก้าวให้หันหน้า ไปทางขวาแล้ ว หั น กลับมาหน้าตรง ทำ�ซํา้ หั น ไปทางซ้ า ย เป็ น ระยะทาง 5-10 เมตร

ในระยะแรกสำ�หรับการฝึกบริหารร่างกาย ให้เริ่มฝึกเพียง 2-3 ครั้งต่อวัน แล้วต่อไปจึงค่อยฝึกทำ�เพิ่มขึ้นตามลำ�ดับ อาการเวียนศีรษะเสียการทรงตัว จะดีขนึ้ หลัง 1-2 สัปดาห์ทเี่ ริม่ ทำ� นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกเล่นกีฬาทีต่ อ้ งอาศัยการเคลือ่ นไหว เช่น เทนนิส แบดมินตัน ปิงปอง กอล์ฟ เพือ่ ช่วยให้ร่างกาย ปรับระบบการทรงตัวได้ดีขึ้น แต่หากมีอาการอื่นร่วม เช่น แน่นหน้าอก หรืออาเจียน ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุต่อไปนะคะ happy+ | 67

HAPPY HERB เรื่อง : ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร

สมุนไพรรักษาโรคกระเพาะอาหาร

บ่อยครัง้ ทีร่ สู้ กึ ไม่สบายท้อง รับประทานอะไร เข้าไปก็แน่นท้อง เป็น ๆ หาย ๆ คุณทราบหรือไม่วา่ อาการดังกล่าวคือ อาการหนึ่งของโรคกระเพาะ อาหาร ซึ่งหลายคนอาจเข้าใจผิดว่าโรคกระเพาะ อาหาร คือ โรคทีเ่ กิดจากกระเพาะอาหารโดนนํา้ ย่อย กัดจนเป็นแผล แต่ความจริงแล้วมีผปู้ ว่ ย 60-90% เป็น โรคกระเพาะอาหารชนิดไม่มแี ผล โดยอาจพบเพียง การอักเสบเล็กน้อยของกระเพาะอาหารเท่านัน้ แต่ไม่วา่ จะเป็นโรคกระเพาะอาหารแบบมีแผล หรือไม่มแี ผล อาการของโรคก็มคี วามคล้ายคลึงกัน คือ ผูป้ ว่ ยจะรูส้ กึ ปวดจุกแน่นใต้ลน้ิ ปี่ หรือบริเวณเหนือ สะดือ ท้องอืด อาการมักเป็น ๆ หาย ๆ มักเป็นเวลา ท้องว่างหรือเวลาหิว อาการปวดหรือแน่นท้องจะดี ขึน้ หลังทานอาหาร หรือได้รบั ยาลดกรด บางรายจะ ไม่มอี าการปวดท้อง แต่จะมีอาการแน่นท้องหรือรูส้ กึ ไม่สบายในท้อง มีลมมากในท้อง ต้องเรอหรือผายลม 68 | happy+

ถึงจะดีข้นึ หรืออาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน หรือ แสบร้อนยอดอกร่วมด้วย สาเหตุของโรคกระเพาะอาหารพบได้หลากหลาย เช่น การติดเชือ้ แบคทีเรียในกระเพาะอาหาร มีการ หลัง่ กรดในกระเพาะมากเกินไป ซึง่ อาจเกิดขึน้ ได้จาก ความเครียด การทานอาหารรสจัด การดืม่ ชา กาแฟ นํา้ อัดลม หรือเครือ่ งดืม่ ทีม่ สี ว่ นผสมของแอลกอฮอล์ และกาเฟอีน หรือพฤติกรรมบางอย่างก็สามารถส่ง เสริมให้เกิดโรคกระเพาะอาหารได้ เช่น การสูบบุหรี่ ซึ่งทำ�ให้อัตราการเป็นแผลกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้น แผลหายช้า เป็นแผลใหม่ได้ง่าย ทำ�ให้การตอบ สนองต่อการรักษาด้วยยาได้ผลไม่ดี การทานอาหาร ไม่เป็นเวลา หรือการทานยาแก้ปวดกลุม่ NSAIDs เช่น Ibuprofen, Diclofenac, Piroxicam เป็นต้น ก็มผี ลทำ�ให้ มีการระคายเคืองกระเพาะอาหาร สำ�หรับการรักษานัน้ อันดับแรกก็ควรหลีกเลีย่ ง

สาเหตุตา่ ง ๆ ทีก่ ล่าวมาข้างต้น เช่น ลดการทาน อาหารรสจัด ทานอาหารให้เป็นเวลา ไม่ซอ้ื ยาแก้ปวด ทานเองโดยไม่จำ�เป็น ในส่วนของยารักษาแผนปัจจุบนั ก็มหี ลายกลุม่ ยาทีแ่ พทย์อาจสัง่ ใช้รว่ มกัน คือ ยาลด การหลัง่ กรด เป็นกลุม่ ยารักษาหลัก โดยออกฤทธิ์ ไปยับยัง้ เซลล์ทห่ี ลัง่ กรดโดยตรง เช่น Cimetidine, Omeprazole และยาลดกรดชนิดทีอ่ อกฤทธิโ์ ดยการ สะเทิน (Neutralize) กรดทีห่ ลัง่ ออกมา ซึง่ มักมีสว่ น ประกอบของ Aluminium Hydroxide และ Magnesium Hydroxide ตัวอย่างยา เช่น Antacid นอกจากนี้ ยังอาจ มีกลุม่ ยาช่วยย่อยและยาขับลม เสริมประสิทธิภาพใน การรักษาให้ดขี น้ึ ส่วนกรณีตดิ เชือ้ แบคทีเรีย อาจมีการ ใช้ยาฆ่าเชือ้ แบคทีเรียร่วมด้วย การรักษาโรคกระเพาะ อาหารโดยทัว่ ไปจะใช้เวลาในการรับประทานยารักษา ประมาณ 4-6 สัปดาห์ โดยผู้ป่วยต้องทานยาให้ สมํา่ เสมอ ครบตามจำ�นวนและระยะเวลาทีแ่ พทย์สง่ั

และในส่วนของสมุนไพรไทยนั้น ก็มีตำ�รับ ยาสมุนไพรทีใ่ ช้ในการรักษาโรคกระเพาะอาหารอย่าง ได้ผลอยูห่ ลายตำ�รับ เช่น - ผงขมิน้ ผสมนํา้ ผึง้ ชงกับนํา้ อุน่ ดืม่ วันละ 3-4 ครัง้ ติดต่อกันอย่างน้อย 5 วัน จะช่วยรักษาโรคกระเพาะ อาหาร และรักษาโรคลำ�ไส้อกั เสบได้ นอกจากนีข้ มิน้ ชัน ยังช่วยขับลม ลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ และมีผล ต้านเชือ้ H.pylori ทีท่ �ำ ให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร ได้อกี ด้วย ทีส่ �ำ คัญคือ ช่วยต้านการเกิดมะเร็งในทาง เดินอาหารได้ - วุน้ ว่านหางจระเข้สด ขนาดกว้าง 3 นิว้ ยาว 4 เซนติเมตร แบ่งรับประทาน 2 ครัง้ จะช่วยรักษา โรคกระเพาะ ช่วยสมานแผล และลดการอักเสบของ กระเพาะอาหาร

- กล้วยนํา้ ว้าดิบ ฝานเป็นแว่นบาง ๆ ตากแดด อ่อน ๆ จนแห้ง ห้ามใช้ความร้อนสูงกว่านีเ้ ด็ดขาด เพราะสารทีม่ ฤี ทธิร์ กั ษาโรคกระเพาะจะสูญเสียไป จากนัน้ นำ�มาบดเป็นผง รับประทานครัง้ ละ 1 ช้อนชา ก่อนอาหารวันละ 3 เวลา โดยจะผสมกับนํา้ ผึง้ ด้วยก็ได้ - กระเจีย๊ บเขียวฝักอ่อน ตากแดดให้แห้ง แล้ว นำ�มาบดให้ละเอียด แบ่งใช้ครัง้ ละ 1 ช้อนโต๊ะ โดย ละลายกับนํา้ นม หรือนํา้ ผลไม้ รับประทานวันละ 3-4 เวลา หลังอาหาร มีการศึกษาพบว่า มีฤทธิย์ บั ยัง้ เชือ้ H.pylori ได้ - ใบเปล้าน้อย 1 กำ�มือ ต้มกับนํา้ 3 ส่วน ให้เหลือ 1 ส่วน รับประทานครัง้ ละครึง่ แก้วกาแฟ วันละ 2 ครัง้ หลังอาหาร อย่างน้อย 2 เดือน โดยต้องเปลีย่ นใบยา ทุกวัน มีฤทธิส์ มานแผลในกระเพาะอาหารทีด่ มี าก

- ลูกยอ ช่วยในการป้องกันหลอดอาหารอักเสบ จากกรดไหลย้อน ช่วยเร่งการสมานแผลของกระเพาะ อาหารในหนูทดลอง และลดการอักเสบของกระเพาะ อาหารเฉียบพลันจากแอลกอฮอล์ ลดการหลัง่ กรดได้ดี เทียบเท่ากับยารานิทดิ นี และแลนโซพราโซล และ ยังช่วยเพิม่ การบีบตัวของทางเดินอาหารได้ดกี ว่ายา ซิสซาพรายด์ - เพชรสังฆาต มีการศึกษาในหลอดทดลอง พบว่า ออกฤทธิ์ยับยั้งเซลล์หลั่งกรดเหมือนกับยา แผนปัจจุบนั Omeprazole ลดการทำ�ลายเนือ้ เยือ่ ใน กระเพาะอาหาร โดยมีผลลดการเกิดแผลในกระเพาะ อาหารจากแอสไพรินในหนูทดลอง และยังมีผลต้าน เชือ้ H.pylori ทีท่ �ำ ให้เกิดแผลในกระเพาะอาหารได้ อีกด้วย happy+ | 69

well being เรื่อง : ญาดารัตน์

ณ ชานชาลา ตะวันใกล้ลับขอบฟ้า ฉันนั่งรอรถไฟอยู่ที่ ชานชาลา มีพอ่ แม่มาส่งพร้อมกระเป๋าใบใหญ่และ ลังกระดาษที่บรรจุของฝากไปให้ญาติ ที่ฉันจะไป พักอาศัยอยู่ด้วยอย่างแน่นเอี้ยด นี่คือการเดิน ทางโดยลำ�พังเป็นครั้งแรกในชีวิต เพื่อไปใช้ชีวิต ในรัว้ มหาวิทยาลัย ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า จุดหมายปลายทางข้างหน้าฉันต้องฟันฝ่าและ ต่อสูด้ ว้ ยตนเอง ความสำ�เร็จของฉันคือ ความหวัง และความสุขของทุกคนในครอบครัว ดูท่าทางแม่จะเป็นห่วงฉันมาก ๆ ท่านพรํ่า สอนฉันให้ระมัดระวังตัวในทุก ๆ เรื่อง ฉันฟังแม่ พูดตั้งแต่ที่บ้าน บนรถ จนกระทั่งถึงตอนนี้ พ่อ นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ใกล้ ๆ ในขณะที่แม่ก็ยัง อบรมสั่งสอนฉันอยู่ตลอดเวลา ฉันเริ่มทำ�หน้า 70 | happy+

เบื่อ แต่ก็พยายามอดทนเพราะกลัวแม่จะเสียใจ ยอมรับว่าในวันนั้นฉันไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งที่แม่พูด เท่าใดนัก อาจเป็นเพราะตื่นเต้นกับการเดินทาง หรือมองเป็นสิ่งที่เคยชิน เสียงระฆังดังเก๊ง! จากสถานีรถไฟ เป็น สัญญาณบอกว่า ฉันจะต้องเริ่มต้นเป็นผู้ใหญ่ ดู แ ลทรั พ ย์ สิ น ข้ า วของ รวมทั้ ง ตั ว เองอย่ า ง ระมัดระวัง โดยเฉพาะการดูแลตัวเองเป็นสิ่งที่ แม่ยํ้านักยํ้าหนา แม่เอื้อมมือมาจับมือฉันไว้ มือที่มีทั้งรอย เหี่ยวย่น หยาบกร้านจากภาระหน้าที่และการ ตรากตรำ�กับงานหนัก เพื่อทุก ๆ คน ช่างเป็นมือ ที่วิเศษที่สุด มือที่คอยประคอง โอบอุ้มทุกคนใน ครอบครัว สิ่งที่ฉันสัมผัสได้จากมือสองข้างนี้ คือ

ความรัก ความห่วงใย แม่ พ ยายามมอบโอกาสที่ ดี ในชี วิ ต ให้ ฉั น เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการศึกษา แม่มีความเชื่อว่าสิ่งนี้จะเป็นแสงสว่างในชีวิต ฉัน จึงไม่แปลกใจที่เห็นแม่ลงทุนไปติดต่อเรียน กศน. จนจบชั้นมัธยมปลายพร้อมกับน้องชายคนเล็ก แม่บอกว่าเรียนเพื่อให้น้องได้เห็นว่า คนเราไม่มี ใครแก่เกินเรียน อารมณ์เบื่อจากสิ่งที่แม่พรํ่าสอนเมื่อครู่ ไม่ เหลืออยูแ่ ม้แต่นอ้ ย ฉันรูส้ กึ ใจหาย โหวง ๆ ตัวเบา และพยายามบอกกับตัวเองว่า อย่าร้องไห้ จำ�ได้ ว่าตอนเด็ก ๆ ฉันมักมีข้อแก้ตัวกับแม่เวลาร้องไห้ ว่า “หนูไม่ได้รอ้ งไห้ หนูไม่ได้ขแี้ ย แต่นาํ้ ตามักไหล ออกมาเองเหมือนมีคนแกล้ง”

ฉันพยายามเข้มแข็งอย่างสุดความสามารถ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพ่อและแม่ พ่อเข้ามา โอบไหล่ฉันและบอกว่า “ไปได้แล้วลูก เป็นเด็ก ดีและตั้งใจเรียน” สั้น ๆ ง่าย ๆ แต่ได้ใจความ ตามแบบฉบับของพ่อ ฉันกับแม่กอดกันแน่นจนท้อง มาชนกัน ฉันซุกหน้ากับอกอุ่น ๆ ของแม่ แอบ เหลือบมอง เห็นทำ�นบนํ้าตาของแม่กำ�ลังจะพัง ทลาย ส่วนตัวเองตอนนี้คิดว่าคงมีคนแกล้งอีก แล้ว เพราะนํ้าตาของฉันมันไหลมาเองอีกแล้ว จริง ๆ ตัดสินใจรีบก้าวขาขึน้ รถไฟก่อนทีพ่ อ่ กับแม่ จะทั น เห็ น นํ้ า ตา แสดงท่ า ทางคล่ อ งแคล่ ว กระฉั บ กระเฉง จั ด เก็ บ ข้ า วของเข้ า ที่ แ ล้ ว รี บ ยื่นมือออกไป โบกอำ�ลา แม่รีบปาดนํ้าตาและ โบกมือให้ฉันตอบ รถไฟค่อย ๆ เคลือ่ นตัวออกจากสถานี พร้อม ๆ กั บ พระอาทิ ต ย์ ที่ กำ � ลั ง จะลั บ ขอบฟ้ า ฉั น ยื น มองภาพของพ่อกับแม่ที่ชานชาลาจากหน้าต่าง ของรถไฟจนลับตา ยอมรับว่าเศร้า เหงา ว้าเหว่

แต่อีกด้านหนึ่ง กลับรู้สึกว่าในตัวเองมีพลังและมี ความมุ่งมั่นบางอย่างเกิดขึ้น อนาคตข้างหน้าจะ เป็นอย่างไรยังไม่สามารถคาดเดา แต่ฉนั ก็เชือ่ มัน่ ว่า พลั ง ความรั ก ที่ ได้ รั บ จากพ่ อ แม่ แ ละครอบครั ว จะคอยประคองให้ เดิ นไปข้ างหน้ าอย่ างมั่ นคง นั่นคือ ความรู้สึกของฉันเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา เสน่หข์ องชานชาลาอยูท่ ไ่ี หน ฉันเองก็ตอบไม่ได้ แต่หากฉันมีโอกาสทำ�หนังสักเรื่อง ฉันคงเลือก ชานชาลาเป็นโลเกชั่น ใช้ในการถ่ายทอดอารมณ์ ของความรักและความผูกพัน ภาพของคนคน หนึ่งที่ค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกไปกับขบวนรถไฟใน ขณะที่คนอีกคนหนึ่งยังยืนอยู่ที่เดิม หากคิดให้ดี นี่คือ สัจธรรมของชีวิต ทุกสิ่งเข้ามาและก็จากไป การหยุ ด และการเคลื่ อ นไหวมั ก เกิ ด ขึ้ นกั บ ทุ ก สรรพสิ่ง สลับ สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป แต่ คุณค่าระหว่างการเปลีย่ นผ่านกลับเป็นสิง่ ทีล่ าํ้ ค่า เหมาะแก่การเรียนรู้และจดจำ�...

Tip ลูกจะต้องฝึกฝน ให้เป็นคนมัน่ คง ดำ�เนินชีวติ ไปตามความเหมาะสมแก่ตน เหมือนดวงดาวโคจรไปตามวิถแี ห่งตน ไม่ใช่ใบไม้รว่ ง ซึง่ สุดแล้วแต่ลมจะพัดพาไป (อาจารย์วศิน อินทสระ) คุณสมบัตขิ องลูกซึง่ พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้มี 5 ประการ คือ • ท่านเลีย้ งมาแล้วเลีย้ งท่านตอบแทน ไม่เพิกเฉย ไม่ดดู าย ไม่ทอดทิง้ • รับทำ�กิจของท่านที่ชอบธรรม ช่วยเหลือท่านใน กิจการต่าง ๆ • ดำ�รงวงศ์ตระกูล คือ ทำ�ให้ตระกูลยัง่ ยืน มีเกียรติคณ ุ ดีงาม • ประพฤติตนป็นคนสมควรทีจ่ ะได้รบั ทรัพย์มรดก • เมือ่ ท่านล่วงลับไปแล้ว ทำ�บุญอุทศิ ให้ทา่ นตามสมควร (อาจารย์วศิน อินทสระ)

happy+ | 71

beauty by nature เรื่อง : ศศินี ปัญญารัตน์ ภาพประกอบ : boysandgirls www.facebook.com/boysandgirls.art

สวย เริด เชิด หยิ่ง ด้วยธรรมชาติ

ตอน มาผลักวิตามินเข้าผิวแบบสบาย ๆ กันเถอะ

สวัสดีค่ะสาว ๆ ที่งดงามทั้งร่างกายและจิตใจ และคอยติดตามอ่านคอลัมน์นี้กันทุกท่านนะคะ สุขสันต์วนั สงกรานต์ ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ไทยไปพร้อมกันเลย หลาย ๆ ท่านคงวางแผนหยุดพักผ่อนยาวกันเลยในช่วงนี้ ส่วนดิฉนั ก็กลับบ้านทีเ่ ชียงใหม่ เช่นกันค่ะ ได้มีโอกาสพบปะสังสรรค์กับพ่อแม่พี่น้องญาติสนิทมิตรสหายนานทีปีหน ปีนี้โชคดีเหลือเกินได้พบน้องสาวแสนงาม แถมยังเก่งอีกต่างหาก เพราะนางเป็นถึงเจ้าของธุรกิจที่เริ่มต้นด้วยความสามารถของตัวเองล้วน ๆ ไม่มีทุนรอนมาสนับสนุนเลย ดิฉันเลิฟความสามารถของนางอย่างสุดจิตสุดใจ ทีเดียวเชียวค่ะ ทีส่ �ำ คัญคือ ในอดีตนางเป็นถึงพริตตีส้ าวสวยมาแรง แถมยังเป็นพิธกี รให้กบั รถหรูอย่างเมอร์เซเดสเบนซ์ อีกด้วยนะคะ ดังนัน้ เรือ่ งความงาม ไม่ตอ้ งพูดถึง แต่ทถี่ กู ใจดิฉนั มากทีส่ ดุ ก็คอื นางไม่ได้สวยด้วยมีดหมอ เลเซอร์ กรอหน้า หรือคอสเมติกราคาแพงแต่อย่างใด ผิวนางสวยใส เต่งตึง ขาวผ่อง เปล่งประกายอยู่ตลอดทุกครั้งที่พบเจอ น้องสาวคนงามแนะนำ�การดูแลตัวเองด้วยวิธีธรรมชาติ จนดิฉันต้องยกให้เป็นกูรูความงามคนหนึ่งเลยทีเดียว ช่วงนีด้ ฉิ นั สนใจใคร่รเู้ รือ่ งเกีย่ วกับการทรีตเมนต์ผวิ หน้า ทีเ่ รียกว่า การผลักวิตามินเข้าสูผ่ วิ มากเป็นพิเศษค่ะ เลยออกทำ�การวิจยั ตลาดสำ�รวจว่าน้อง ๆ สาว ๆ สวย ๆ ทั้งหลายเขาไปทำ�อะไร ที่ไหน อย่างไรกันมาบ้าง อื้อหือ อ้าหา ข้อมูลชนิดละเอียดยิบจนเม็มโมรี่ในสมองอันน้อยนิดของดิฉันเต็มจนล้น ที่สำ�คัญเขาต้องใช้เทคโนโลยีวิวัฒนาการอันลํ้าหน้า กระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้าอ่อน ๆ เพื่อผลักวิตามินลงสู่ผิวชั้นลึก กระตุ้นคอลลาเจน ลดริ้วรอย กระชับ ใบหน้า และข้อดีอีกมากมายในการสมัครคอร์สนี้ตามสถานที่ที่น้อง ๆ หนู ๆ แนะนำ�กันมา แต่กูรูความงามตามธรรมชาติกระซิบบอกดิฉันว่า ไม่ต้องไปทำ� ก็หน้าใสแบบเดียวกับผลักวิตามินเข้าผิว แล้วก็ง่าย ๆ สบายกระเป๋า แถมยังสุขภาพดีอีกด้วยละค่ะ มาดูกัน ว่าทำ�อย่างไร ก่อนอื่น เราต้องมาทำ�ความรู้จักกับวิตามินสำ�คัญทั้ง 5 ชนิดที่ผลักเข้าสู่ผิว แล้วทำ�ให้ผิวของเราขาวผ่องใสเต่งตึง นั่นก็คือ วิตามินเอ บี ซี อี และ วิตามินเค ค่ะ แล้วเราจะผลักเข้าสู่ผิวอย่างไร มาเริ่มที่ตัวแรก 72 | happy+

1. วิตามินเอ ช่วยให้เนื้อเยื่อแข็งแรง ทำ�ให้ผิวกระชับและปกป้องผิวไม่ให้แห้งกร้าน รับประทานวิตามินเอเป็นประจำ� ช่วยรักษาผิวให้กระชับและชุ่มชื้น แต่ควร บริโภคในปริมาณน้อย ๆ ค่ะ วิตามินเอ พบได้ในไข่ นม นํ้ามันปลา รวมทั้ง ผักต่าง ๆ เช่น บร็อกโคลี ผักโขม มะม่วง มะละกอ แอปริคอตและแคร์รอต รับประทานแคร์รอตสดทุกวัน หรือดื่มนํ้าแคร์รอตคั้นสดพร้อมอาหารเช้า เพื่อบำ�รุงผิวให้งดงาม ปริมาณในการบริโภค 700 ไมโครกรัม หรือแคร์รอตสด ความยาว ประมาณ 6-7 นิ้ว ทุกวัน จะได้รับวิตามินเอและเบต้าแคโรทีน ข้อจำ�กัดคือ รับประทานไม่เกิน 3,000 ไมโครกรัมต่อวันค่ะ

3. วิตามินซี มีประโยชน์ตอ่ ผิว และยังจำ�เป็นต่อสุขภาพตา และเหงื อ กด้ ว ยค่ ะ วิ ต ามิ นนี้ เตรี ย มพร้ อ มให้ ร่างกายต่อสูก้ บั การติดเชือ้ เป็นแอนติออกซิแดนต์ ที่เลิศสุด และยังช่วยในการชะลอวัยอีกด้วย ช่วย ในการผลิตคอลลาเจน ทำ�ให้ดูอ่อนเยาว์ เป็น วิตามินที่ละลายในนํ้า บริโภคได้ทุกวันค่ะ วิตามินซี พบได้ในผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะนาว เลมอน องุ่น และมะม่วง ในผัก เช่น บร็อกโคลี กะหลํา่ ถัว่ งอก แตงกวา และมะเขือเทศ อุดมไปด้วยวิตามินซี ปริมาณในการบริโภค 75 มิลลิกรัม ดืม่ นํา้ ส้ม คั้น 1 แก้วทุกวัน จำ�กัดไม่เกิน 2,000 มิลลิกรัม ต่อวันนะคะ

2. วิตามินบี ช่วยปรับสีผวิ แถมยังบำ�รุงเส้นผมด้วยนะคะ วิตามินชนิดนีล้ ะลายในนํา้ และสามารถรับประทานได้ทุกวัน เป็นวิตามินที่ทำ�ให้ผิวสว่าง กระจ่างใส วิตามินบีอาจทำ�ให้ศีรษะมันและเป็นสาเหตุให้เกิดรังแค ดังนั้น ควรสระผม และนวดผมเป็นประจำ�สมํ่าเสมอค่ะ ผักใบเขียวเป็นแหล่งวิตามินบีทดี่ ที สี่ ดุ นอกจากนีพ้ บได้ในจมูกข้าวสาลี (Wheat Germ) ยีสต์ โยเกิร์ต และขนมปังสีนํ้าตาล (Brown Bread) ปริมาณในการบริโภค 1.3 มิลลิกรัมสำ�หรับวิตามินบี 6 และ 2.4 ไมโครกรัมสำ�หรับวิตามินบี 12 จะทำ�ให้ผิวคุณกระจ่างใส ไม่ควรบริโภค วิตามินบี 6 เกิน 100 มิลลิกรัมต่อวัน

4. วิตามินอี เป็นวิตามินที่สำ�คัญที่สุดต่อสุขภาพผิว ทำ� หน้าที่ในการต่อสู้สัญญาณการล่วงเลยแห่งวัย อย่างมีประสิทธิภาพ ต้านอนุมูลอิสระ และยัง ช่วยลดริ้วรอยแห่งวัยด้วยค่ะ วิตามินอีบริโภคได้ วันเว้นวัน มะกอก ถัว่ ลิสง เมล็ดทานตะวัน อุดมไปด้วย วิตามินอี ยังพบได้ในผักใบเขียว และจมูกข้าว สาลีอีกด้วยค่ะ หากจะบริโภควิตามินนี้เพื่อบำ�รุงผิว และ ทำ�ให้ผิวผ่องสว่างใส ควรบริโภคในปริมาณที่ ถูกต้องเหมาะสม คือ 15 มิลลิกรัม บริโภคง่าย ๆ โดยการรับประทานอัลมอนด์ 12 เมล็ดต่อวัน ไม่บริโภคเกินวันละ 1,000 มิลลิกรัมค่ะ

5. วิตามินเค เมื่อเราบริโภควิตามินเคในปริมาณที่ถูกต้อง จะรักษาผิวจากรอยบาดแผล และรอยสิวอย่าง ง่ายดาย ผักใบเขียวเป็นแหล่งวิตามินเคค่ะ ปริมาณในการบริโภค คือ 80-120 ไมโครกรัม สามารถได้รบั จากบร็อกโคลี ต้นหอม และลูกพรุน ไม่มีจำ�กัดปริมาณที่รับประทานนะคะ สำ�หรับ วิตามินชนิดนี้ ดิฉันทราบดีค่ะว่าวิตามินต่าง ๆ ที่ได้แนะนำ� ไปอยู่ในอาหารที่เรารับประทานกันอยู่แล้ว หาก เรารับประทานของที่ดีต่อสุขภาพอย่างเหมาะสม ก็ไม่ต่างอะไรกับการผลักวิตามินเข้าสู่ผิว แล้วยัง คงความงามได้อย่างยืนยาวอีกด้วยค่ะ ฉบับหน้า พบกับสุดยอดอาหารที่รับประทานแล้วผิวเด้ง กันนะคะ ฉบั บ นี้ ต้ อ งขอลาไปแดนซ์ ห น้ า เซ็ นทรั ล กาดสวนแก้วก่อน สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ happy+ | 73

สิ่งนี้ที่เรารัก เรื่อง : Patty Pom ภาพ : กุลวัฒน์ นะมิ

บิทเติ้ล สุขุมพันธ์ ฐิติธนพันธ์ แรงบันดาลใจ จากการอ่าน

หากคุณได้มโี อกาสฟังเพลงห้านาทีบรรลุธรรม ที่บิทเติ้ล นักร้อง นักแต่งเพลงในสังกัดอาร์สยาม ในเครื อ อาร์ เ อส จำ � กั ด (มหาชน) แต่ ง ขึ้ น จากประสบการณ์ตรง คุณจะรูไ้ ด้ถงึ ความแตกต่าง และความพิเศษของเพลงนี้ ที่นำ�เอาหลักธรรม ในพุทธศาสนามาถ่ายทอดในรูปบทเพลง ทีใ่ คร ๆ ก็ สามารถเข้าใจได้ แถมโดนใจวัยรุ่นจนยอดวิวใน youtube ทะลุ 40 ล้านวิวไปเรียบร้อยแล้ว และ ยังคงพุ่งทะยานต่อไปเรื่อย ๆ จนเราต้องไปคุย กับบิทเติ้ลถึงที่มาที่ไปของแรงบันดาลใจในการ แต่งเพลงนี้ขึ้นมา “ผมคิดว่าตัวเองเป็นนักเล่าเรื่อง ชอบที่จะ เล่าเรื่อง แล้วเพลงก็เป็นวิธีหนึ่งในการเล่าเรื่อง 74 | happy+

ที่ตัวผมสนใจ ผมจะชอบอ่านและสะสมหนังสือ หรืออะไรทีเ่ ป็นเรือ่ งเล่าผมก็สะสมไว้ วันทีม่ เี วลาว่าง ผมก็มักจะอยู่บ้าน อ่านหนังสือ ดูหนัง ผมชอบ อ่านหนังสือหลากหลายแนวมากครับ เพราะผม คิดว่าชีวิตที่เกิดมานี้ มันสั้นมาก เกิดมาเดี๋ยวก็ ตาย ต้องอยู่ในร่างอันจำ�กัดของเรา เวลาที่เรา อ่านหนังสือ เราสามารถที่จะพ้นไปจากสภาวะนี้ ไปในที่ที่ไม่มีอยู่ อาจจะเป็นประเทศที่เราไม่เคย ไป ไปนอกโลก หรือไปในโลกที่ไม่เคยมีอยู่จริง มี แค่ในจินตนาการ หรือทำ�ให้เราเข้าใจความเป็น มนุษย์ของคนอื่น ผ่านตัวละครหรือผ่านแนวคิด ของเขาที่อยู่ในหนังสือ “ส่วนหนังสือการ์ตนู ผมก็ชอบมาก ซึง่ มี 2 เรือ่ ง

ที่ชอบมากที่สุด คือ โดราเอมอน กับ One Piece (วั น พี ช ) ที่ ผู ก พั น มาตั้ ง แต่ เด็ ก ๆ คนเขี ย น โดราเอมอนเก่งมากครับ ผมเป็นแฟนหนังสือเขา ก่ อ นหน้ า นี้ เขาจะเขี ย นนิ ย ายไซไฟ (ผมก็ เคย เขียนนิยายแนวไซไฟเหมือนกัน) เขาเขียนแนวไซ ไฟเก่งมาก แต่จากสูงสุดเขากลับสู่สามัญ เขา สามารถเล่าออกมาเป็นเรือ่ งทีเ่ ด็ก ๆ เข้าใจได้งา่ ย โดราเอมอนเป็นการ์ตูนที่มีพลังมาก สามารถ ทำ�ให้เด็กมีจนิ ตนาการ เข้าใจเรือ่ งมิตรภาพ เข้าใจ ว่าความดีสามารถเอาชนะสิ่งไม่ดีได้ โดราเอมอน ปลูกฝังเรื่องนี้เอาไว้ และมีเรื่องย่อย ๆ ในทุก ๆ ตอน เช่น การอนุรักษ์ธรรมชาติ เป็นการ์ตูน ที่เรียบง่าย แต่ลึกซึ้ง”

นอกจากหนั ง สื อ จะให้ แ รงบั น ดาลใจใน การแต่งเพลง ให้มุมมองด้านการใช้ชีวิตและให้ ประสบการณ์ที่แตกต่างกับบิทเติ้ลแล้ว หนังสือ ยังให้ความสุขอีกด้วย “ผมสะสมหนังสือมานาน บางเล่มยังไม่ได้อา่ น เลย แต่แค่เอามาเก็บไว้ก็มีความสุขแล้ว ผมรู้สึก ว่า ความสุขจากการเสพสื่อมันมี 3 อย่าง คือ อันที่ 1 คือ เราอ่าน เราฟัง เราดูแล้วเราบันเทิง นีก่ เ็ ป็นแง่คดิ หนึง่ ในการสร้างงานของผม มากกว่านัน้ อันที่ 2 คือ ให้ความรู้คือ ได้รู้อะไรกว้างขึ้น เปิด กรอบคิ ด ที่ ไ กลขึ้ น อั น สุ ด ท้ า ย ที่ เป็ นที่ สุ ด คื อ เป็นการยกระดับและชำ�ระล้างจิตใจของเรา ทำ�ให้ เราเป็นมนุษย์ที่ดีขึ้น ผมว่าเรื่องเล่าที่ดี ทั้งหนัง และหนังสือ สามารถทำ�ให้เราพัฒนาตัวเองได้ “และข้อดีอีกอย่างหนึ่งของการอ่านหนังสือ คือ ผมสามารถนำ�มาใช้ในการแต่งเพลง เช่น ให้ คลังคำ� ผมก็จะมีคลังคำ�ที่น่าสนใจ ให้เลือกเอา มาใช้ในงานเพลง การอ่านนั้นบางทีเราเข้าใจ

เรื่องหนึ่งในแบบหนึ่ง แต่หนังสือมันมาจากหลาย มุมมอง ในเรื่องเดียวกันนั้น บางทีคนเขียนก็มอง จากคนละมุมกับเรา เราก็จะเข้าใจกรอบคิดที่ แตกต่าง แล้วเราก็จะได้เปิดกรอบความคิดของ เราให้กว้างออกไป แล้วสามารถเอามาใช้ในการ สร้างงานของเราได้” ในฐานะหนอนหนังสือตัวยง และในนามคน ทีร่ กั หนังสือและมองเห็นประโยชน์ของหนังสือทีม่ ี ต่อชีวิตและความคิด บิทเติ้ลจึงอยากฝากข้อคิด ดี ๆ ถึงผู้ที่รักการอ่านเช่นเดียวกับเขา “หนังสือมันเป็นประโยชน์กบั ชีวติ สำ�หรับคน มีความฝันหรือคนทำ�งาน มีคำ�หนึ่งของเอ็ดเวิร์ด นิวตัน เขาบอกว่าการที่เขาทำ�งานได้แบบนี้ ไม่ใช่ ว่าเขาเก่งแต่เพียงลำ�พัง แต่เขายืนอยู่บนไหล่ของ ยักษ์ ยักษ์ก็คือ ความรู้ที่มีมาตั้งแต่ก่อนหน้านั้น เขาถึงสามารถเข้าใจ และทำ�งานอย่างทุกวันนี้ได้ และหนังสือก็คือ ยักษ์ที่ใจดี ที่ให้เราไปขึ้นขี่หลัง เมือ่ ไหร่กไ็ ด้ แล้วเราจะมองโลกได้กว้างขึน้ เห็นโลก

ได้ไกลขึ้น ผมว่ามันคุ้มค่าที่ได้เกิดมาเป็นคน “ผมมีความฝันว่า ผมอยากทำ�งานที่คนฟัง ได้ความสนุก แล้วก็ได้ประโยชน์ด้วย ผมตั้งใจจะ ทำ�งานแบบนี้ต่อไปในอนาคต สร้างเรื่องเล่าที่ดี ผมมองว่ า โลกนี้ มั น เป็ น เรื่ อ งเล่ า ที่ เราทำ � งาน อยู่หรือเงินมันก็เป็นเรื่องเล่า คือมนุษย์เชื่อใน เรื่องเล่าเหล่านี้ และถ้าเรามีเรื่องเล่าที่ดี มันก็ สามารถเปลีย่ นแปลงโลกใบนีใ้ ห้ดขี นึ้ ได้ ตอนนีผ้ ม เตรียมทำ�เพลงถัดไปแล้ว เน้นเล่าเรือ่ งทีแ่ ปลกและ สร้างสรรค์เหมือนเดิม และจะเขียนหนังสือครับ” หลังจากที่ได้รู้จักบิทเติ้ลมากขึ้น ได้รับรู้ถึง ความคิด ได้เห็นผลงานที่เกิดจากการสร้างสรรค์ ที่ดี และได้รับแรงบันดาลใจจากการอ่านหนังสือ ของเขาแล้ว เราก็คงจะติดตามงานดี ๆ ของบิทเติล้ ต่ อ ไป และร่ ว มกั น สร้ า งโลกของหนั ง สื อ และ โลกแห่งการอ่านให้กว้างไกลขึ้น พร้อมหรือยังคะ หยิบหนังสือเล่มใกล้ตัวขึ้นมา พลิกหน้าหนังสือ แล้วก้าวสู่โลกใบใหม่ไปพร้อม ๆ กันเลย happy+ | 75

travelogue เรื่อง : Patty Pom

1

ฮ่องกง จิ๋วแต่แจ๋ว ฉันเป็นคนมักไม่ค่อยเชื่อคำ�พูดของคนอื่นมากนัก ชอบพิสูจน์อะไรด้วยตัวเอง ชอบไม่ชอบ ใช่ไม่ใช่ ก็จะเรียนรู้เอง อย่างเรื่องการเดินทางก็ เช่นเดียวกัน ทีฉ่ นั จะสร้างเส้นทางและค้นหาความชอบของตัวเอง เหมือนอย่างทีฉ่ นั ค้นพบเสน่หข์ องฮ่องกงในแบบของตัวเอง ซึง่ ก็เป็นฮ่องกงเดียวกับที่ หลายคนมักบอกว่า ไม่เห็นมีอะไร มีแต่ที่ช้อปปิ้ง แต่ฉันว่าสถานที่แต่ละแห่งก็จะมีเอกลักษณ์และเสน่ห์เฉพาะตัวสำ�หรับแต่ละคน ตัวฉันนั้นแม้จะมี โอกาสได้เดินทางไปในหลายที่ แต่ว่าที่ใกล้ ๆ ไปไม่ยาก และค่าตั๋วไม่แพงอย่างฮ่องกงนั้น ยังไม่มีโอกาสได้ไปสักที หันซ้ายหันขวาคงได้เวลาแล้วละ ที่จะไปเยือนฮ่องกงดูสักที ฮ่องกงที่ใคร ๆ ชอบว่านักว่าหนาว่าที่นี่ไม่เห็นมีอะไร คราวนี้ละจะได้รู้กันสักทีว่าเป็นอย่างไร 1 76 | happy+

1 ตึกสูงเบียดเสียด เอกลักษณ์ของฮ่องกง 2 ล่องเรือสำ�เภาในอ่าววิกตอเรีย 3 เครือ่ งเล่นหวาดเสียวใน Ocean Park 4 รถไฟเหาะตีลงั กา

2

ฮ่องกงมีชื่อเรียกเต็ม ๆ ว่า เขตบริหารพิเศษ ฮ่องกงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในอดีตนั้น ฮ่องกงเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ แต่ด้วย ภูมปิ ระเทศทีเ่ ป็นเกาะ ทำ�ให้เหมาะจะทำ�เป็นท่าเรือ นํา้ ลึก สำ�หรับจอดเรือขายสินค้า นัน่ จึงเป็นทีม่ าของ ความเจริญอย่างรวดเร็ว เป็นพื้นที่การค้าที่คึกคัก เป็นพืน้ ทีท่ �ำ มาหากิน จนทุกวันนีฮ้ อ่ งกงเป็นเมืองท่า ทีส่ �ำ คัญเมืองหนึง่ ของโลก และเป็นเขตทีม่ ปี ระชากร อาศัยอยู่หนาแน่นที่สุดเขตหนึ่งในโลกทีเดียว ด้วยพืน้ ทีอ่ นั จำ�กัด ทีข่ ดั กับประชากรอันหนาแน่น ฉะนั้นรูปแบบชีวิตและที่อยู่อาศัยในฮ่องกงจึงเป็น ไปในแนวตั้งซะมากกว่า ตึกสูงมากมายเบียดเสียด จนแทบจะติ ด กั น เป็ น เนื้ อ เดี ย ว ช่ า งใกล้ ชิ ด สนิทสนมมาก แต่ระหว่างตึกสูงนั้นก็ยังมีบ้านเก่า มีตลาดโบราณ มีวัดวาอารามแทรกตัวอยู่อย่าง กลมกลืน นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาฮ่องกงด้วย 2 เหตุใหญ่ ๆ คือ มาช้อปปิง้ และมาไหว้พระ ในขณะที่ ฮ่องกงมีความทันสมัย มีความเจริญ มีข้าวของ มากมายละลานตาให้เลือกซื้อในราคาไม่แพงแล้ว ยังเป็นสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ มีความเชื่อ มีฮวงจุ้ยที่ น่าสนใจไม่น้อยอีกด้วย วันนีฉ้ นั ขออุทศิ เวลาทัง้ วันให้กบั Ocean Park เพราะภายในโอเชียน ปาร์ค ช่างกว้างใหญ่ไพศาล กินพื้นที่ภูเขาไปทั้งลูก แถมยังเป็นทั้งพิพิธภัณฑ์ สัตว์นาํ้ สวนสัตว์และสวนสนุก มีกจิ กรรมให้ท�ำ ทัง้ วัน ไม่มีเบื่อ หากมากับเด็ก ๆ รับรองถูกใจแน่นอนค่ะ ขนาดฉันและเพื่อน ๆ โต ๆ กันแล้ว แต่เมื่อได้ เข้ า มาในโอเชี ย น ปาร์ ค แล้ ว ยั ง ขอฝากอายุ ไว้

3 4

ข้างนอกก่อน เพราะในนีม้ คี วามสนุกและตืน่ ตาตืน่ ใจ ไปหมดทุกสิ่ง บรรยากาศเริม่ คึกคักตัง้ แต่เข้าประตูมาเลยค่ะ ครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา ลูกเด็กเล็กแดง วัยรุน่ วัยเฟี้ยวและนักท่องเที่ยวล้นหลาม แต่ก็ไม่แออัด นะคะ เพราะสถานทีอ่ นั ใหญ่โตนัน่ เองทีร่ องรับคนได้ เยอะ ไม่ต้องขี่คอกันดู มีพื้นที่สำ�หรับทุกคน ใน โอเชียน ปาร์ค แบ่งเป็น 2 โซน คือ โซนด้านล่าง ทีเ่ ป็น พิพธิ ภัณฑ์สตั ว์นาํ้ และโซนบนภูเขาทีส่ ว่ นใหญ่เป็น เครื่องเล่นที่หวาดเสียว ที่อยู่บนภูเขาก็ยิ่งสูงและ ยิ่งเสียวไปกันใหญ่ ขอเริ่มที่ด้านล่างก่อนนะคะ โซนแรกเราเข้ า ไปในโลกใต้ ท ะเลก่ อ นค่ ะ แกรนด์ อะควาเรี ย ม เป็ น ไฮไลต์ ข องที่ นี่ เ ลย พิพิธภัณฑ์สัตว์นํ้าที่นี่ตกแต่งได้สวยงาม มีตู้ปลา

ขนาดใหญ่ หลายตู้หลายมุม ชมกันจนเพลิน เดิน ชมได้ตงั้ แต่ดา้ นบนวนลงมาด้านล่าง มีปลาแปลก ๆ สวย ๆ มากมาย ฉันใช้เวลาในนี้ไปนานพอสมควร เพราะชอบโลกใต้นํ้าค่ะ มันสบายตาสบายใจอย่าง บอกไม่ถูก ออกมาจากใต้นํ้าแล้ว ขึ้นมาบนบกกันบ้างค่ะ มีโซนหมีแพนด้าอยู่ใกล้ ๆ กัน ที่นี่มีแพนด้าที่อายุ มากทีส่ ดุ ในโลกอยูด่ ว้ ยค่ะ แต่วา่ ช่วงทีฉ่ นั ไปหา เจ้า แพนด้าเกิดง่วงนอนขึ้นมากะทันหัน หลับสนิท หัน หลังให้ ไม่ขยับตัวเลยค่ะ รออยูต่ งั้ นานก็ไม่มที า่ ทีวา่ จะตื่น ขี้เกียจจริง ๆ น้อยใจเจ้าแพนด้าค่ะ เลยเดิน ไปดูเจ้าแพนด้าแดงแทน ซึง่ ก็ไม่ผดิ หวังเลยค่ะ น่ารัก มาก ๆ ออกมาเดินเล่นโชว์ตัวอย่างคุ้มค่า โพสท่า ให้ถ่ายรูป (อันนี้โอเวอร์ไปเอง) ประทับใจ เพราะ happy+ | 77

5

6

เจ้าแพนด้าแดงน่ารักมาก ๆ ออกจากโซนแพนด้า ก็มาต่อที่โซนปลาทองค่ะ เพราะที่ประเทศจีนเขามี ความเชือ่ ว่า ปลาทองเป็นสัตว์มงคล จึงมีการจัดทำ�ตูป้ ลาอย่างสวยงาม เหมือนเราได้เข้าไปอยูใ่ นบ้านแบบ จีนโบราณ นี่ถือเป็นความรู้ใหม่เลยนะคะว่า ปลาทองจริง ๆ แล้ว มีหลายสายพันธุ์และหลายขนาดมาก เราลาจากปลาทองตัวกลมที่แสนน่ารักมา เพื่อเจอกับโซนสัตว์เลื้อยคลาน โซนนี้ขอไม่บรรยายอะไร มากนะคะ ฉันยอมรับตามตรงว่า ไม่ค่อยได้มองอะไรเลย เดินเร็วมาก ก็ผู้หญิงกับสัตว์เลื้อยคลาน ถูกกัน ซะที่ไหนใช่ไหมคะ แต่ว่าจะไม่เข้าไปดูเลยก็เกรงว่าจะไม่คุ้ม ไหน ๆ ก็มาถึงที่นี่แล้ว ต้องลองดูสักหน่อย เดี๋ยวจะไปคุยกับเพื่อน ๆ ไม่รู้เรื่อง ผ่านจากโซนสวนสัตว์แล้ว ฉันจะขึ้นไปบนภูเขาบริเวณสวนสนุก มีให้เลือก 2 ทางค่ะ จะขึ้นไป โดยกระเช้าหรือรถราง ฉันหมายมัน่ ปัน้ มือมาตัง้ แต่เช้าแล้วว่าจะขอขึน้ กระเช้าไปชมวิวมุมสูงสักหน่อย คงจะ สวยงามน่าดู ปรากฏว่าวันนั้นกระเช้าปิดซ่อม แหม จังหวะช่างพอดีเลยนะคะ ไม่เป็นไรรถรางก็ได้ ดีกว่า ต้องเดินขึ้นภูเขาไป แล้วก็ไม่ผิดหวังค่ะ วิวด้านบนสวยมากจริง ๆ มองเห็นทะเลโดยรอบ แม้แดดจะแรง แต่ก็มีลมเย็น ๆ พัดมาให้เราชื่นใจ และมีแรงเที่ยวกันต่อค่ะ ด้านบนมีโซนที่เป็นสัตว์ขั้วโลก เข้าไปชม นีม่ อี าการสัน่ สะท้านกันบ้างค่ะ มีโชว์แมวนํา้ โชว์แพนกวินให้ชมกัน แพนกวินนีเ่ ป็นขวัญใจของเด็ก ๆ เลยค่ะ แถมรู้งาน มาว่ายนํ้า กระโดดนํ้าและยืนกางปีกโชว์กันใกล้ ๆ สมเป็นดาราหน้ากล้องจริง ๆ แดดร่มลมตกได้เวลาไปเล่นเครื่องเล่นกลางแจ้งกันแล้วค่ะ ซึ่งก็มีให้เลือกตั้งแต่หวาดเสียวน้อย ๆ ไป จนถึงหกคะเมนตีลงั กาม้วนหน้าม้วนหลังเลยค่ะ เลือกได้ตามความพอใจ ถึงเวลาช่วงนีฉ้ นั ขอลองเครือ่ งเล่น เบา ๆ เบาะ ๆ พอค่ะ อันได้แก่ ล่องแก่งและชิงช้าสวรรค์ แหม ก็เครื่องเล่นหวาดเสียว เร็วปรู๊ดปร๊าด นี่ไม่ขอสู้จริง ๆ ค่ะ เป็นลมไป จะลำ�บากเพื่อนฝูงเปล่า ๆ ขนาดชิงช้าสวรรค์ช้า ๆ วิวสวย ๆ ยังแอบตื่นเต้น เลยค่ะ ที่ตื่นเต้นนี่เป็นเพราะว่า ชิงช้าสวรรค์นั้นอยู่บนภูเขา แถมติดทะเล สูงขึ้นไปอีก แต่วิวสวย ๆ ช่วย ลดอาการขาสั่นไปได้เยอะเลยค่ะ แต่เพื่อน ๆ ของฉันสิคะ วิ่งขึ้นเครื่องเล่นกันเป็นที่สนุกสนาน ส่วนฉันก็ ไปยืนกรี๊ดให้กำ�ลังใจอยู่ใกล้ ๆ แค่นี้ก็ตื่นเต้นแล้ว ฉันและเพือ่ น ๆ ใช้เวลาอยูใ่ นโอเชียน ปาร์คคุม้ ค่ามาก อยูจ่ นคนเริม่ บางตา ดวงอาทิตย์ใกล้ตกดิน และ เครือ่ งเล่นปิดทีละอย่าง ตอนเดินออกมาโอเชียน ปาร์คส่งท้ายเราด้วยการแสดงนํา้ พุประกอบเพลงและแสงสี เป็นการปิดท้ายวันนี้ด้วยความประทับใจ ถึงแม้ว่าค่าบัตรผ่านประตูจะมีราคาค่อนข้างแพง แต่ก็คุ้มค่า คุ้มราคากับเงินที่ต้องจ่ายไป อันนี้ฉันแนะนำ�ว่าเป็นสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาดหากคุณได้มาฮ่องกง ตอนคํ่า ฉันก็ขอแวะมาชมแสงสีและความร่าเริงบันเทิงใจของชาวฮ่องกงกันบ้างว่าเขาไปเที่ยวเริงร่า กันที่ไหน เพื่อน ๆ แนะนำ�ว่าต้องที่นี่ค่ะ Lan Kwai Fong หรือที่รู้จักกันในนามถนนนักดื่ม รวมผับบาร์ 78 | happy+

7

5 พิพธิ ภัณฑ์สตั ว์นา้ํ 6 ปลากะตักจำ�นวนมาก 7 อาคารใจกลาง สวนหนานเหลียน

ร้านอาหาร ลานเบียร์ ดนตรีสด มากมายหลาย สิบร้าน เปิดตั้งแต่เที่ยงวัน ไปจนถึงตี 2 ของวันใหม่ เลยค่ะ ยิ่งคํ่ายิ่งครึกครื้น คนเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ทั้ง ชาวฮ่องกงเองและคนต่างชาติ เสียงเพลง เสียง ดนตรีคกึ คักลัน่ ถนน ขนาดฉันไม่ได้ดมื่ เครือ่ งดืม่ ใด ๆ ยังรู้สึกคึกคักสนุกสนานไปด้วย ได้มาเดินชมผู้คน ชิมบรรยากาศก็เพลินแล้วค่ะ ถ้าจะมาที่นี่ไม่ต้อง กลัวหลงค่ะ แค่ออกจากสถานีรถไฟใต้ดิน เสียง เพลงก็มาเชิญชวนเราถึงประตู ผู้คนก็หลั่งไหลไป ทางเดียวกัน เดินตามเขามาได้เลยค่ะ หลังจากเมื่อคืน เราไปร่าเริงกับแสงสีดั่งผีเสื้อ ราตรีกนั มา วันนีฉ้ นั ขอเบรกอารมณ์รา่ เริงมาเป็นเข้า วัดชมสวนกันบ้างนะคะ สำ�นักชีฉหี ลิน (Chi Lin Nunnery) และสวนหนานเหลียน (Nan Lian Garden) ก่อนถึงตัวอาคารของวัด เราต้องเดินผ่าน สวนหนานเหลียนที่ตกแต่งแบบจีนโบราณ ในสมัย ราชวงศ์ถัง ที่ตกแต่งอย่างประณีต การวางต้นไม้ การสร้างบ่อนํา้ โครงสร้างของอาคารหรือแม้กระทัง่ ก้อนหิน มีการจัดวางตามกฎและวิธีมากมาย ซึ่ง ถือว่าถูกหลักการจัดสวนอย่างแน่นอน ในสวนช่าง สงบร่มเย็น เพราะมีตน้ ไม้มากมาย บอนไซทีต่ กแต่ง อย่างสวยงาม สระบัวขนาดใหญ่ หรือนํา้ ตกจำ�ลอง เดินนาน ๆ ก็ลมื ไปเลยค่ะ ว่าเราอยูใ่ นฮ่องกง เมืองที่ ผูค้ นเยอะและยุง่ วุน่ วาย เหมือนเราหลุดมาอีกโลกหนึง่ ด้านในยังมีอาคารที่แสดงนิทรรศการของการ ก่อสร้างแบบสถาปัตยกรรมอาคารไม้ของจีน ทีไ่ ม่ใช้ ตะปูในการก่อสร้างเลยสักตัวเดียว รวมถึงอาคาร

ต่าง ๆ ของสำ�นักชีแห่งนีเ้ ช่นเดียวกัน ภายในสำ�นักชี ฉี ห ลิ น ยั ง เป็ น ที่ เ ก็ บ พระบรมสารี ริ ก ธาตุ แ ละมี สระบัวทีใ่ ห้ความสงบแก่ดวงวิญญาณ และในอาคาร ต่าง ๆ ยังประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เช่น พระศากยมุนีและพระโพธิสัตว์ให้เคารพบูชาด้วย แต่ดา้ นในอาคารส่วนใหญ่หา้ มถ่ายรูป ให้เราเก็บมา แค่ความทรงจำ�พอนะคะ เพราะที่นี่ยังมีคนมานั่ง สมาธิ สวดมนต์อยู่ตลอด อาจจะเป็นการรบกวน คนอื่น ๆ ได้ค่ะ อันนี้ท่องไว้เลยนะคะ ว่าสำ�นักชี ฉีหลินนั้น ปิดวันพุธ มาผิดวันเดี๋ยวจะเสียใจค่ะ ช่วงเย็นอากาศดี ๆ ฉันและชาวคณะก็มาเดินเล่น ชมวิว ชมคนกัน ที่ Avenue of the Star ที่ใคร ๆ มาฮ่องกงก็ต้องแวะมาชมวิวสวย ๆ ที่นี่กันทุกคน หรือไม่กม็ าตามหารอยประทับมือของดาราคนโปรด เหมือนอย่างฉัน ที่เดินตามหารอยประทับมือของ หลิว เต๋อ หัว ส่วนเพื่อนก็ตามหาของกัว ฟู เฉิง ก็ แหมไม่ได้เห็นหน้า เห็นรอยประทับมือก็ยงั ดี แถมยัง แอบถ่ายรูปมาตั้งหลายรูปเลยค่ะ และความสนุก อย่างหนึ่งของฉันวันนี้ คือ การนั่งดูนักท่องเที่ยว มาถ่ายรูปกับรูปปั้นบรูซ ลี นักแสดงที่เป็นตำ�นาน และสร้างชื่อให้วงการภาพยนตร์ฮ่องกงโด่งดังไป ทั่วโลก ด้วยศิลปะการต่อสู้อันเป็นเอกลักษณ์ และ ท่าทางแบบนี้ก็เลยกลายเป็นสัญลักษณ์ของบรูซ ลี ไปเลย ทุกคนจึงพยายามทำ�ท่าทางให้เหมือนรูปปัน้ เหมือนบ้าง ไม่เหมือนบ้าง สร้างความเพลิดเพลิน ก่อนค่ะ เพราะในเวลา 2 ทุ่ม จะมีการโชว์แสงสี กันไป คิวถ่ายรูปกับบรูซ ลี จึงยาวอยู่ตลอดเวลา ประกอบเสียงดนตรีทโี่ ด่งดังไปทัว่ โลก Symphony เดินจนเมื่อยก็กลับมาหาที่นั่ง จับจองพื้นที่ไว้ of Light ซึง่ เป็นการโชว์แสงสีจากตึกสูงในฝัง่ ฮ่องกง หรือถ้าใครมีงบประมาณอยากสัมผัสอย่างใกล้ชดิ ก็ สามารถล่องเรือชมในอ่าววิกตอเรียได้เลยค่ะ เป็น เรือสำ�เภาแบบโบราณได้บรรยากาศย้อนยุคมาก ๆ มีเสียงบรรยายภาษาอังกฤษทุกวันจันทร์-พุธ-ศุกร์ ส่วนวันอังคาร-พฤหัสบดี-เสาร์เป็นภาษาโปรตุเกส และวันอาทิตย์เป็นภาษาจีน ขอบอกเลยค่ะว่า สวย คุม้ ค่าการมาชมจริง ๆ แต่ถา้ วันไหนทีม่ พี ายุ อาจจะ มีการยกเลิกการแสดงได้ค่ะ และอี ก หนึ่ ง ความดี ง ามของฮ่ อ งกง ก็ คื อ อาหารการกิ นค่ะ ที่นี่มีร้านอาหารแทบทุกมุมเมือง 8 ร้านเล็กร้านน้อย มีในทุกซอยค่ะ และอาหารก็มี ให้เลือกให้ลองหลายอย่าง หลากประเภท แค่บริเวณ รอบ ๆ ที่ฉันพักบริเวณจิมซาจุ่ย (Tsim Sha Tsui) ก็มีให้เลือกทานหลายร้าน ไม่ว่าจะเป็นเป็ดย่าง ติ่มซำ� หม้อไฟ นํ้าเต้าหู้ชื่อดัง หรือเซตอาหารเช้า แบบฮ่องกง ที่มีซุปมะกะโรนี ชาร้อนและขนมปัง มาคราวนี้ลืมคำ�ว่าไดเอตไปสักพักนะคะ แล้วมา ลองทานอาหารใหม่ ๆ กันดูบ้าง ทีย่ า่ น ม่งก๊ก (Mong Kok) ก็เป็นอีกทีท่ นี่ า่ มา ช้อปปิง้ ค่ะ เพราะมียา่ นทีเ่ รียกว่า Ladies’ Market บน 9 ถนน Tung Choi Street เป็นสถานที่ช้อปปิ้งอีกแห่ง

8 หม้อไฟอาหารยอดฮิต 9 นํา้ พุประกอบแสงสีใน Ocean Park 10 ดินแดนแห่งอาหารจิม ซา จุย่

10

ที่ได้รับความนิยมและขึ้นชื่อมาก บางทีก็เรียกว่า Ladies’ Street ฟังแค่ชื่อก็พอจะรู้แล้วใช่ไหมคะ ว่ า ถนนนี้ เ ขาขายของสำ � หรั บ ผู้ ห ญิ ง โดยเฉพาะ อันได้แก่ เสื้อผ้า กระเป๋า เครื่องประดับ เครื่อง สำ�อางทั้งหลาย มีร้านค้าให้เลือกซื้อนับร้อยร้าน ได้ ยิ นกิ ต ติ ศั พ ท์ เพี ย งเท่ า นี้ คุ ณ ผู้ ห ญิ ง ทั้ ง หลาย คงแทบกรี๊ด คุณผู้ชายทั้งหลายก็ไม่ต้องน้อยใจ ไปค่ะ เพราะเขาก็มีย่านที่เป็นแหล่งขายเครื่องใช้ ไฟฟ้า กล้องดิจิทัล โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์มากมาย ทีค่ ณ ุ ผูช้ ายน่าจะสนใจ แถม ตรงบริเวณนั้น Sai Yeung Choi Street ก็เป็นแหล่ง วัยรุน่ ของฮ่องกงทีต่ อนคํา่ ๆ จะมีการปิดถนนให้เดิน ดูของกันอย่างจุใจ ส่วนใหญ่กเ็ ป็นสินค้าวัยรุน่ ย่าน ม่งก๊กจะคึกคักทัง้ กลางวันกลางคืนเลยค่ะ รับรองว่า มาแล้วไม่มีเหงา ถึงการเดินทางคราวนี้ฉันจะมีเวลาทำ�ความ รูจ้ กั กับฮ่องไม่นานนัก แต่กบ็ อกกับตัวเองว่า นีแ่ ค่มา สำ�รวจก่อน ไม่ว่ายังไงฉันจะกลับมาหาเธออีกแน่ ๆ ฮ่ อ งกงรอฉั นก่ อ นนะ เพราะฮ่ อ งกงนั้ น มี ข องดี ทีน่ า่ สนใจอีกมากมาย เพียงแค่เราต้องค่อย ๆ ค้นหา ค่อย ๆ ทำ�ความรูจ้ กั กันไป ใช้เวลาละเลียดความสุข ที่ เล่าให้ฟงั มาทัง้ หมดนี้ อย่าเชือ่ คำ�พูดของฉันมากนัก นะคะ ของแบบนีต้ อ้ งไปพิสจู น์กนั เอง เพราะฮ่องกง ของคุณกับของฉันอาจจะไม่เหมือนกันเลยก็ได้ happy+ | 79

การเดินทางของนกสีฟ้า เรื่อง : กรรณิกา ฝากาบล

ร้อยเอ็ด เมืองเล็ก ๆ แต่น่าฮัก

ชีวิตคนเรามักมีเรื่องราวให้อมยิ้มเสมอ ยิ่งเมื่อเราไว้ใจการเดินทางมากเท่าไหร่ หัวใจกับเท้าทั้ง 2 ข้างก็พร้อมออกเดินทางอย่างไม่ลังเล ครัง้ นีก้ เ็ ช่นกัน ก่อนอืน่ ขอพูดตามความรูส้ กึ ของตัวเองทีเ่ กิดและเติบโตทีน่ ี่ บางครัง้ ฉันก็อดน้อยใจไม่ได้วา่ เหตุใดใครต่อใครจึงมักมองว่า “เมือง ร้อยเอ็ด” หรือ “เมืองสาเกตนคร” หรือบางคนเรียกว่าเมือง LA เป็นเมืองทางผ่าน ดังนั้น จึงไม่ค่อยมีใครสนใจมาเที่ยวสักเท่าไหร่ 80 | happy+

เอาละ ถ้าฉันจะบอกว่า หากเปรียบร้อยเอ็ด เป็นญาติสนิทคนหนึ่ง เธอก็คือคนที่ฉันคุ้นเคย และไว้ใจมาตั้งแต่เด็ก อาจจะไม่ใช่ผู้หญิงที่สวย โดดเด่น แต่งหน้า ทาลิปสติกมากมาย แต่เมื่ออยู่ ใกล้กลับพบว่าผูห้ ญิงซือ่ ๆ คนนี้ มีความเป็นมิตร ใจดี น่ารัก เวลาอยู่ใกล้ทีไรก็อุ่นใจทุกที “สิบเอ็ดประตูเมืองงาม เรืองนามพระสูงใหญ่ ผ้าไหมสาเกต บุญผะเหวดประเพณี มหาเจดีย์ ชัยมงคล งามน่ายลบึงพลาญชัย เขตกว้างไกล ทุ่งกุลา โลกลือชาข้าวหอมมะลิ” คือคุณลักษณะ เด่นของเธอ ร้อยเอ็ด เป็นเมืองท่องเทีย่ วขนาดเล็กแต่นา่ รัก ภาษาอีสานเรียกว่า “น่าฮัก” ตั้งอยู่ใจกลาง แดนอี ส าน มี เนื้ อ ที่ ป ระมาณ 8,299 ตาราง กิโลเมตร อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ โดยทางรถยนต์ ประมาณ 512 กิ โ ลเมตร ปั จ จุ บั น สามารถ เดินทางได้ด้วยเครื่องบิน และยังคงเป็นแหล่ง ปลูกข้าวหอมมะลิชั้นดี ที่มีชื่อเสียงโด่งดังจาก อดีตถึงปัจจุบนั รวมถึงยังเป็นแหล่งท่องเทีย่ วทาง ศิลปวัฒนธรรม วัดวาอาราม โบราณสถานเก่าแก่ สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่ ยังไม่ได้สัมผัสนั่นเอง บริเวณที่ตั้งของจังหวัดร้อยเอ็ดในปัจจุบัน เดิมชือ่ ว่า เมืองสาเกตนคร หรืออาณาจักรกุลนุ ทะ นคร มีเจ้าผู้ครองนครนามว่า พระเจ้ากุลุนทะ ซึ่ง มีความเจริญรุ่งเรืองมาก มีเมืองขึ้นถึง 11 เมือง จากหลักฐานโบราณคดีก่อนประวัติศาสตร์ ที่ กระจายอยู่ ทั่ ว ไปในเขตจั ง หวั ด ร้ อ ยเอ็ ด และ แหล่งโบราณคดีบา้ นเมืองบัว สันนิษฐานว่ามีอายุ ประมาณ 1,800-2,500 ปีมาแล้ว วกมาทีก่ ารท่องเทีย่ วกันบ้าง ขอเริม่ ต้นจากทีน่ ่ี

เลยค่ะ “วัดบูรพาภิราม” ว่ากันว่ามาร้อยเอ็ดแล้ว ไม่มาที่นี่ถือว่ามาไม่ถึงร้อยเอ็ด วัดบูรพาภิราม ตั้ ง อยู่ ที่ ถ นนผดุ ง พานิ ช ตำ � บลในเมื อ ง เขต เทศบาลเมือง สิ่งสำ�คัญที่ชาวร้อยเอ็ดรู้ดีนั่นคือ วัดแห่งนี้มีพระพุทธรูปปางประทานพรที่สูงที่สุด ในประเทศไทย คือ “พระพุทธรัตนมงคลมหามุน”ี บางคนเรียก “หลวงพ่อใหญ่” ประทับยืนเด่น เป็นสง่า จนสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนรอบ เมือง โดยความสูงขององค์พระวัดจากพระบาท ถึงยอดเกศสูงถึง 59 เมตร 20 เซนติเมตร และมี ความสูงทั้งหมด 67 เมตร 85 เซนติเมตร ที่ฐาน องค์พระพุทธรูป มีห้องที่ใช้ในศาสนกิจและห้อง พิพิธภัณฑ์จำ�นวนหลายห้อง หลวงพ่อใหญ่เป็น ที่เคารพนับถือของชาวเมืองร้อยเอ็ดเป็นอย่าง มาก ดังนั้น หากมาเยือนร้อยเอ็ดแล้ว ต้องไม่ลืม มาที่นี่นะคะ ไม่ไกลกันมากนัก หากอยากเดินเพลิน ๆ กินลม ชมวิว สัมผัสวิถีชีวิตเรียบง่าย “บึงพลาญชัย” ที่ตั้งอยู่บริเวณกลางเมืองร้อยเอ็ด ก็เป็นอีกหนึ่ง สถานที่ซึ่งควรมาทอดน่องอย่างยิ่ง ด้วยลักษณะ ที่ เป็ น เกาะอยู่ ก ลางบึ ง นํ้ า ขนาดใหญ่ มี เนื้ อ ที่ ประมาณ 2 แสนตารางเมตร จึงเป็นสถานที่ พักผ่อนหย่อนใจได้เป็นอย่างดี ทัง้ ยังมีปลานานา พั นธุ์ และตกแต่ ง สวนด้ ว ยไม้ ด อกขนาดใหญ่ มี พั น ธุ์ ไ ม้ ต่ า ง ๆ รอบบริ เ วณ ที่ สำ � คั ญ ยั ง มี ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ซึ่งเชื่อกันว่า เจ้าพ่อจะช่วย ดลบันดาลสิ่งที่คิดให้สมปรารถนาได้ ถัดจากตัวเมืองออกมา มีสถานที่ท่องเที่ยว ทางธรรมชาติที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นั่นคือ “ผานํ้า ย้อย” (พุทธอุทยานอีสาน) ตัง้ อยูบ่ นภูเขาเขียว ขจี สูงจากระดับพืน้ ดิน 200 เมตร และสูงกว่าระดับ happy+ | 81

นํ้าทะเล 380-500 เมตร บริเวณบ้านโคกกลาง ตำ�บลผานํ้าย้อย อำ�เภอหนองพอก เป็นผาหิน ขนาดใหญ่ ซึ่งมีนํ้าไหลซึมตลอดปี แบ่งพรมแดน ระหว่างอำ�เภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร และ อำ�เภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ มีเนื้อที่ ประมาณ 20,000 ไร่ อุดมสมบูรณ์ไปด้วยไม้ เนื้อแข็งนานาชนิด มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่หลายชนิด เช่น หมูปา่ เก้ง กวาง ไก่ปา่ ทีส่ �ำ คัญยังมีสงิ่ ทีเ่ ป็น Unseen ของชาวร้อยเอ็ดบนภูเขาลูกนีด้ ว้ ย นัน่ คือ วัดผานํ้าทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม “วัดผานํา้ ทิพย์เทพประสิทธิว์ นาราม” เป็นที่ ประดิษฐานพระมหาเจดียช์ ยั มงคล บรรจุพระบรม สารีริกธาตุอันเป็นที่เคารพสักการะ และยังถือ เป็นศาสนสถานสำ�คัญในภูมภิ าคตะวันออกเฉียง เหนือ ภายในนัน้ ความงดงามตระการตาคล้ายอยู่ บนวิมานแดนสวรรค์ สร้างบนเนื้อที่กว่า 2,500 ไร่ โดยมีพระเทพวิสทุ ธิมงคล หรือหลวงปูศ่ รีมหาวีโร ซึ่งเป็นศิษย์ของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เป็น ผู้ดำ�เนินการก่อสร้าง ออกแบบโดยกรมศิลปากร มีการใช้ศิลปกรรมร่วมสมัยระหว่างภาคกลาง กับภาคอีสานผสมผสานกัน พระเจดีย์เป็นสีขาว 82 | happy+

ตกแต่งลวดลายตระการตาด้วยสีทองเหลืองอร่าม รายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กทั้ง 8 ทิศ มีความกว้าง 101 เมตร ความยาว 101 เมตร ความสูง 101 เมตร สร้างในเนื้อที่ 101 ไร่ อันมาจากชื่อของจังหวัด ร้อยเอ็ดนั่นเองค่ะ ภายในพระมหาเจดีย์มีทั้งหมด 6 ชั้น คือ ชั้นที่ 1 เป็นห้องโถงกว้างใหญ่โออ่า ใช้เป็นห้อง อเนกประสงค์ และประชุมบำ�เพ็ญบุญ ชั้นที่ 2 เป็นศาลาประชุมสงฆ์ ผนังติดตั้งรูปพระพุทธ ประวัติ ชัน้ ที่ 3 เป็นชัน้ อุโบสถ และประดิษฐานรูป พระคณาจารย์ปราชญ์อสี านในอดีต เป็นรูปเหมือน สลักหินอ่อน และหุ่นรูปเหมือนพระสุปฏิปันโน 101 องค์ ชั้นที่ 4 เป็นชั้นชมวิว ชมทัศนียภาพ รอบภูเขาเขียว ชั้นที่ 5 เป็นพิพิธภัณฑ์ ชั้นที่ 6 เป็นชั้นสูงสุด บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และ เปิดให้ประชาชนเข้าชมฟรีทุกวัน ระหว่างเวลา 06.00-17.00 น. ไม่ไกลกันมากนัก หากอยาก ผ่อนคลายจากอากาศร้อน ๆ “นํ้าตกถํ้าโสดา” บนพืน้ ทีบ่ า้ นโนนสมบูรณ์ ตำ�บลภูเขาทอง อำ�เภอ หนองพอก ก็น่าสนใจไม่น้อยค่ะ ต่ อ ด้ ว ย “วั ด ป่ า กุ ง ” หรื อ วั ด ประชาคม

วนาราม ตัง้ อยูท่ ี่ ตำ�บลศรีสมเด็จ อำ�เภอศรีสมเด็จ อยู่ห่างจากตัวเมืองเพียง 20 กิโลเมตร เป็นวัด ร้างเก่าแก่มีมาตั้งแต่ปี 2313 โดย “หลวงปู่ศรี มหาวี โ ร” ได้ เ ข้ า มาบู ร ณปฏิ สั ง ขรณ์ ให้ เจริ ญ รุ่งเรือง จุดเด่นสำ�คัญจะอยู่ที่ มหาเจดีย์ทราย บรมพุทโธ ซึ่งทั้งภายนอกและภายในขององค์ เจดีย์ ก่อสร้างด้วยหินทรายธรรมชาติแห่งแรก ของประเทศไทย ทัง้ ยังแกะสลักเรือ่ งราวพระพุทธ ประวัติ และเรื่องพระเวสสันดรชาดก อันเป็นงาน บุญผะเหวดบุญใหญ่ประจำ�จังหวัดร้อยเอ็ด นอกจากนี้ ในเรื่องของไลฟ์สไตล์อื่น ๆ ไม่ ว่าจะเป็นอาหารไทย อาหารอีสาน อาหารฝรั่ง อาหารจีน ร้านกาแฟ คาเฟ่ต่าง ๆ บอกได้เลยว่า มีให้เลือกตามใจชอบค่ะ ความงามทางธรรมชาติ แ ละวั ฒ นธรรม ยังคงกอด “ร้อยเอ็ด” ไว้อย่างเหนียวแน่น รอเพียง วันเวลาเผยโฉมให้นกั เดินทางได้เข้ามาสัมผัสจริง ๆ ซึ่ ง คุ ณ อาจจะพบว่ า เมื อ งนอกสายตาแห่ ง นี้ มี เ สน่ ห์ น่ า ฮั ก น่ า มาทำ � ความรู้ จั ก คุ้ น เคยกว่ า ทีค่ ดิ ค่ะ

เรื่องและภาพ : TepiN one happy day

ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช

พิพิธภัณฑ์ชุมชนจีน วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง เดิมชื่อว่า วัดสามจีน เนื่องจากเชื่อว่าผู้ที่สร้างวัดเป็นชาวจีนกลุ่มแรก ๆ ที่อพยพเข้ามา ตั้งถิ่นฐานในเมืองไทย ในจำ�นวนนั้นมีชาวจีน 3 คนที่สร้างเนื้อสร้างตัวจนรํ่ารวยและมีจิตศรัทธาร่วมใจกันสร้างวัดแห่งนี้ขึ้น จึงเรียกว่า วัดสามจีน จนมีการบูรณปฏิสังขรณ์ในปี พ.ศ. 2482 จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็นวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร หรือที่คนทั่วไปเรียกสั้น ๆ ว่า วัดไตรมิตรฯ นอกจาก ผูค้ นจะนิยมมาสักการะพระพุทธรูปทองคำ�แล้ว ภายในมณฑปเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา บริเวณชัน้ สองยังเป็นทีต่ งั้ ของศูนย์ประวัตศิ าสตร์เยาวราช พิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของชาวจีนโพ้นทะเล ที่หอบเสื่อผืนหมอนใบ เดินทางมาตั้งรกรากอยู่ในประเทศไทย จนกลายมาเป็น ชุมชนชาวจีนย่านสำ�เพ็ง-เยาวราชแบบทุกวันนี้

ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราชแบ่งออกเป็น 6 ห้อง ตามช่วงเวลาและลำ�ดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยแต่ละห้องจะมีการจัดแสดงนิทรรศการขนาดย่อม ในหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบจำ�ลอง รูปถ่าย และวีดิทัศน์ ได้แก่ ห้องที่ 1 เติบใหญ่ใต้ร่มพระบารมี ห้องที่ 2 กำ�เนิดชุมชนชาวจีนแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ห้องที่ 3 เส้นทางสู่ยุคทอง ห้องที่ 4 ตำ�นานชีวิต Hall of Fame ห้องที่ 5 พระบารมีปกเกล้าฯ และห้องที่ 6 ไชน่าทาวน์วันนี้ happy+ | 83

ตั้งถิ่นฐาน

โล้สำ�เภา

เมือ่ เข้ามาในพิพธิ ภัณฑ์ สิง่ แรกทีต่ อ้ งทำ�ก็คอื ถอดรองเท้าใส่ถงุ ผ้าให้เรียบร้อย แล้วเข้าชมวีดทิ ศั น์ เกี่ยวกับชุมชนเยาวราช จากคำ�บอกเล่าของอากงชาวจีนที่ถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ ให้ลูกหลาน ชาวไทยเชื้อสายจีนได้ฟัง ต่อจากนั้นจะเป็นการเข้าชมนิทรรศการเรื่องประวัติศาสตร์ความเป็นมา ตั้งแต่แรกเริ่มของชุมชนชาวจีนในย่านดังกล่าว ในห้องเติบใหญ่ใต้ร่มพระบารมี หลังจากนั้น ที่ห้อง กำ�เนิดชุมชนชาวจีนแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เราจะได้ตื่นตาตื่นใจกับการเข้าไปอยู่ในเรือสำ�เภาจำ�ลอง ที่ จำ�ลองบรรยากาศเวลาที่เรือสำ�เภาเผชิญกับพายุ และจำ�ลองสินค้าในเรือที่ชาวจีนนำ�มาค้าขายกับ ชาวไทย รวมทั้งบอกเล่าเรื่องราวของชาวจีนที่อพยพเข้ามาในช่วงรัชกาลที่ 1-3 เพื่อแสวงหาความเป็น อยูท่ ดี่ กี ว่า เนือ่ งจากในขณะนัน้ ประเทศจีนมีประชากรจำ�นวนมาก และทรัพยากรมีไม่เพียงพอ ชาวจีนที่ เข้ามาในช่วงนัน้ ก็มาทำ�งานรับจ้างต่าง ๆ ตลอดจนเปิดร้านทำ�มาค้าขาย ก่อร่างสร้างตัว และกลายเป็น ประชาชนชาวไทย 84 | happy+

ในห้องเส้นทางสู่ยุคทอง เริ่มต้นที่การเข้าไป สำ�รวจในสำ�นักงานบริษัทค้าข้าว ซึ่งถือว่าเป็น ธุรกิจสำ�คัญทีเ่ ป็นจุดเริม่ ต้นความเจริญรุง่ เรืองของ ย่านเยาวราช ก่อนจะพัฒนาเป็นย่านธุรกิจใหม่ใน ช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 ซึง่ พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้าง ตึกสมัยใหม่สองข้างถนน เปิดโอกาสให้ชาวจีน เช่าที่ทำ�มาหากิน เริ่มต้นทำ�กิจการของตัวเอง มี การจำ�ลองตึกรามบ้านช่องในสมัยนั้น บางคน คุ้นเคยถนนย่านนี้ อาจจะมีเปรียบเทียบสถานที่ เก่ากับสถานที่ใหม่กันอย่างสนุกสนาน ทั้งยังมี การจำ�ลองวิถีชีวิตรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น โรงเรียนสอนภาษาจีน โรงงิ้ว ร้านชำ� และอื่น ๆ อีกมากมายให้เราได้ชม ก่อนจะไปต่อกันที่ ห้อง ตำ�นานชีวิต Hall of Fame รวบรวมเกียรติประวัติ ของบุคคลทีม่ คี วามสามารถ ซึง่ เป็นแบบอย่างทีด่ ี ของคนในชุมชนชาวจีน ห้องพระบารมีปกเกล้าฯ ห้องนี้จัดแสดงเรื่องราวและภาพอันน่าประทับใจ ทัง้ ภาพถ่ายและวีดทิ ศั น์ เรือ่ งพระมหากรุณาธิคณ ุ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ในรัชกาลปัจจุบัน ต่อชุมชนเยาวราช และพระราชกรณี ย กิ จ ที่ เชื่ อ มประสานความ สั ม พั นธ์ ไทย-จี น ให้ แน่ น แฟ้ น ยิ่ ง ขึ้ น และมาถึ ง ห้องสุดท้าย คือ ไชน่าทาวน์วันนี้ นำ�เสนอจุดเด่น อันเป็นเอกลักษณ์ของเยาวราช ณ ปัจจุบัน อาทิ ถนนสายทองคำ�, ตลาดที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ, แหล่งรวมวัฒนธรรมประเพณีจีน และแหล่งรวม อาหารเลิศรส

หลวงพ่อทองคำ�

เมื่ อ เข้ า ชมศู น ย์ ป ระวั ติ ศ าสตร์ เ ยาวราชเป็ นที่ เรี ย บร้ อ ยแล้ ว เราสามารถขึ้ น ไปยั ง มณฑป เฉลิมพระเกียรติฯ ชัน้ สี่ เพือ่ สักการะ พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร หรือหลวงพ่อทองคำ� พระพุทธรูป ทองคำ�บริสุทธิ์ขนาดใหญ่ ที่ชาวไทยเชื้อสายจีนจากทั่วประเทศหาโอกาสมากราบไหว้ขอพรอย่าง สมํ่าเสมอ และยังได้รับการบันทึกในหนังสือกินเนสส์บุ๊กว่าเป็นปูชนียวัตถุที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก การได้มายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร นอกจากจะได้สักการะพระพุทธรูปที่มีความสำ�คัญ เรายังได้เข้าใจถึงความเป็นมาของชุมชนชาวจีน ซึ่งเป็นเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า และถ่ายทอดให้ลูกหลานได้เรียนรู้ศึกษากันต่อไป

• ศู น ย์ ป ระวั ติ ศ าสตร์ เ ยาวราช ตั้ ง อยู่ ที่ วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เลขที่ 661 ถนนเจริ ญ กรุ ง แขวงตลาดน้ อ ย เขต สัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10110 • โทรศัพท์ : 08-9002-2700 • เปิดให้เข้าชมทุกวัน คนไทยเข้าชมฟรี ชาวต่างชาติ 140 บาท happy+ | 85

green corner เรื่อง : แม่มะลิ

สงบกาย สบายใจ ที่อาศรม

2 สิ่งที่เป็นองค์ประกอบพื้นฐาน ซึ่งสร้างความสุขสงบให้กับมนุษย์เรา ได้ไม่ยาก นั่นคือ ธรรมะและธรรมชาติ จะดีแค่ไหน ถ้ามีสถานที่หนึ่งที่นำ� สิ่งดี ๆ ทั้งสองอย่างมารวมกัน และเปิดกว้างให้ผู้มีจิตศรัทธา ได้มาพัก กาย ผ่อนใจ หลบลี้จากความวุ่นวายในชีวิต ปล่อยวางกายใจให้ใกล้ชิด กับธรรมชาติเขียวขจี อากาศเย็นสบาย พร้อมเรียนรู้หลักธรรมคำ�สั่งสอน ตามหลักพระพุทธศาสนา อาศรมพรหมธาดาพุทธาสถาน อำ�เภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ คือ สถานทีส่ �ำ หรับพุทธศาสนิกชนทีป่ รารถนาความสงบ ตามทีก่ ล่าวมาข้างต้น โดยอาศรมแห่งนี้เป็นสำ�นักปฏิบัติธรรมตามสายพระพุทธาศาสนาแบบ โบราณล้านนาไทย ตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2547 บนสันเขาเล็ก ๆ ลูกหนึ่ง ในเขตหมู่ที่ 6 ตำ�บลดอยแก้ว อำ�เภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ โดยชาวล้านนาในแถบนั้นรู้จักกันดีในชื่อ สันป่าเฮ้วอีป้อ 86 | happy+

ย้อนเวลากลับไปก่อนที่อาศรมแห่งนี้จะก่อตั้งขึ้น ชาวบ้านในแถบนั้น เชื่อว่า สันเขาเล็ก ๆ แห่งนี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นดอยโบราณ ดังนั้น ชาวบ้านผู้ใฝ่ในการปฏิบัติธรรมทั้งหลายจึงอนุรักษ์พื้นที่นี้ไว้ ให้ยังคงความ สงบ ไม่ให้มกี ารบุกรุกแผ้วถางทำ�ลายป่าบริเวณนี้ เมือ่ ปี พ.ศ. 2547 กำ�นันปัน๋ พร้อมด้วยชาวบ้านได้ชักชวนกันไปนิมนต์ ท่านครูบาจนฺทวณฺโณ ขณะที่ ท่านครูบายังจำ�วัดอยู่ที่อารามห้วยบง ตำ�บลดอยหล่อ กิ่งอำ�เภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ มาจำ�วัดที่อาศรมพรหมธาดาพุทธาสถานแห่งนี้ ไม่เพียงเท่านัน้ พุทธาสถานแห่งนีย้ งั มีคณ ุ ค่าทางประวัตศิ าสตร์ตามคำ� ที่พ่ออุ๊ย แม่อุ๊ย ในพื้นที่ได้เล่าให้ฟังว่า “สมัยก่อนที่พวกพม่าจะมายึดครองเมืองเชียงใหม่ เขาก็ขนของมีค่า ในวัดพระธาตุเจ้าศรีจอมทองเอามาซ่อนไว้ที่นี่ เพราะว่าใต้ดอยแห่งนี้มี ถํ้าอยู่ แต่เวลานี้ปากถํ้าถูกปิดไปแล้ว ถํ้านี้อยู่ในสวนของลุงจันทร์ ลุงจันทร์

เล่าให้ฟังว่าต้นมะขามบ้านลุงเป็นปากถํ้าทะลุไปถึงอาศรม ในสมัยโบราณ หลังจากทีช่ าวบ้านได้น�ำ ของมีคา่ ต่าง ๆ มาเก็บไว้ในถํา้ ก็ได้น�ำ ช้างมาขนย้าย ก้อนหินขนาดใหญ่ปิดปากถํ้า เพื่อไม่ให้ใครเข้าไปเอาของมีค่าได้ ต่อมาคน ที่มาสำ�รวจพื้นที่นี้ต่างก็บอกว่าบริเวณนี้มีถํ้าอยู่ข้างล่าง และเมื่ออดีตกาล สมัยพระฤๅษีวาสุเทพยังมีชวี ติ อยู่ สหายของท่านชือ่ ว่า ฤๅษีพรหมธาดา ก็ได้ มาบำ�เพ็ญปฏิบัติที่นี่จนสำ�เร็จได้มรรคผล จึงได้น�ำ เอานามของท่านมาตั้งชื่อ สถานที่แห่งนี้ว่า อาศรมพรหมธาดาพุทธาสถาน ในทุกวันนี้” หากใครได้เคยเดินทางไปยังอาศรมพรหมธาดาพุทธาสถาน ต้องเห็นพ้อง ต้องกันเป็นแน่ว่า บรรยากาศที่ได้กล่าวมาข้างต้นไม่เกินจริงเลย ด้วย อาศรมแห่งนีต้ งั้ อยูบ่ นสันเขาเล็ก ๆ ทีม่ ตี น้ ไม้เขียวชอุม่ ล้อมรอบ ทำ�ให้มอี ากาศ ที่เย็นสบายและบริสุทธิ์ตลอดปี เหมาะสมอย่างยิ่งกับการมาปฏิบัติธรรม หลายครั้ ง ที่ ไ ด้ เดิ นทางมายั ง พุ ท ธสถานศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ นี้ จะได้ พ บกั บ คุณสุวรรณ บัณฑิต ผู้มาปฏิบัติธรรมที่นี่เป็นประจำ� เราจึงขอแบ่งปัน ประสบการณ์กับการมาปฏิ บัติธ รรมที่ อาศรมพรหมธาดาพุ ทธาสถาน ที่ทำ�ให้เขาได้พบจุดเปลี่ยนของชีวิต และทางสายกลางในการดำ�เนินชีวิต ทางโลกและทางธรรมอันสมดุลได้อย่างไร

“ผมเจอท่านครูบาเจ้าตรัยเทพ จัณทวัณโณโดยบังเอิญ และชื่นชม ในวั ต รปฏิ บั ติ แ ละแนวทางการทำ � สมาธิ ที่ ท่ า นสอน ทำ � ให้ ผ มตั ด กิ เ ลส และความต้องการทางโลกในหลายเรื่องได้อย่างสิ้นเชิง โดยหลักธรรมที่ พระอาจารย์สอน คือ “สัจธรรมสมาธิ” เป็นการฝึกให้คนมีสติได้โดย ปราศจากความคิด ซึ่งคนที่ใฝ่ศึกษาจะเดินทางไปเรียนกับพระอาจารย์ที่ อาศรม ท่านจะสอนสมาธิ ทุกเสาร์ที่ 2 ของเดือน ครั้งละ 2-3 ชั่วโมง และ ให้กลับมาฝึกปฏิบัติสมาธิต่อที่บ้าน” นอกจากการฝึกสมาธิตามแนวทางนี้ ผู้ปฏิบัติต้องทานมังสวิรัติเป็น เวลา 10 วันต่อเดือน เพราะการรับประทานอาหารมังสวิรัติ เป็นพื้นฐาน ที่จำ�เป็นต่อการทำ�สมาธิ เพราะถ้าเรากินอาหารปกติ ร่างกายเราจะหนัก ไม่สบายตัว อาจส่งผลให้การนั่งสมาธิไม่ปลอดโปร่งได้ อาศรมพรหมธาดาพุทธาสถาน ตั้งอยู่ที่ 140 หมู่ที่ 6 บ้านใหม่แม่เตี๊ยะ ตำ�บล ดอยแก้ว อำ�เภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ ผู้ที่ต้องการสอบถามเส้นทางและ รายละเอียดเพิม่ เติมในการปฏิบตั ธิ รรม ติดต่อได้ทห่ี มายเลขโทรศัพท์ 08-1649-3353 happy+ | 87

ปลูกความสุขในบ้านคุณ กับเจ้าชายผัก เรื่อง : เจ้าชายผัก

ปลูกผักนํ้าน้อย ผักอร่อยช่วยชาติ สวัสดีครับ ท่านผู้อ่าน happy+ ทุกท่าน กลับมาเจอกันอีกครั้งนะครับ ช่วงนี้เป็นช่วงที่บ้านเรากำ�ลังเข้าสู่สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง เพราะ กำ�ลังเกิดปัญหาภัยแล้งในหลายพื้นที่ ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแปรปรวน เกิดความกังวลว่าหน้าร้อนปีนี้จะแล้งยาวนานและ มีนํ้าไม่พอใช้ ฉบับนี้ผมจึงมีเคล็ดลับดี ๆ ในการดูแลผักในช่วงเวลามีนํ้าน้อยมาฝากกันครับ

ให้ร่ม ห่มดิน ลดการรดนํ้า

อากาศร้อน ๆ แบบนีแ้ ถมยังต้องช่วยกันประหยัดนํา้ แต่กย็ งั ปลูกผักได้ดนี ะจ๊ะ เพียงแค่เรารูจ้ กั ให้รม่ ห่มดินของเรา โดยการหาวัสดุธรรมชาติ อย่างใบไม้แห้ง หญ้าแห้ง มาคลุมหน้าดิน ถ้าใช้ใบที่มีกลิ่น ไล่แมลงอย่างตะไคร้ ก็จะช่วยไล่แมลงได้อีกด้วย การคลุมหน้าดิน จะช่วยให้ดินไม่แห้ง นํ้าในดินจะไม่ ระเหยออกไปได้ง่าย หน้าดินก็มีความชุ่มชื้น เมื่อหน้าดินมีความชุ่มชื้น ดินก็นุ่ม ไม่แข็ง ช่วยให้รากพืช และชีวติ ในดินได้ประโยชน์ไปด้วย เพราะเมือ่ นํา้ ในดินมีเพียงพอชีวติ ต่าง ๆ ในดินก็มนี าํ้ กิน นํา้ ใช้ในการ ดำ�รงชีวิต วงจรการปล่อยสารอาหารในดิน จากการกินและย่อยสลายของสัตว์ในดินและจุลินทรีย์ ก็ ดำ�เนินไปได้อย่างเป็นปกติ รากพืชผักก็ได้รับสารอาหารจากวงจรนี้ไปได้ด้วยดี การคลุมหน้าดินยังช่วยลดวัชพืช เพราะเมื่อเมล็ดวัชพืชที่อยู่ในดินหรือที่กำ�ลังงอก โดนบดบัง แสงแดดด้วยวัสดุคลุมดิน ก็จะทำ�ให้วัชพืชไม่งอกหรือโตช้ากว่าพืชที่เราย้ายไปปลูกลงในแปลงอีกด้วย นอกจากนี้ วัสดุคลุมดินเหล่านี้ก็จะเป็นที่อยู่ ที่หลบแดดไอร้อนแรง และเป็นที่หลบซ่อนของแมลงและ แมงมุมที่คอยมาจับกินแมลงศัตรูพืชที่มากินผักของเราอีกด้วย เรียกได้ว่า คลุมดินเพียงอย่างเดียว นอกจากช่วยลดการระเหยของนํ้าแล้ว ยังได้ประโยชน์อีกหลายอย่างเลยทีเดียว 88 | happy+

รดนํ้าน้อย ๆ ผักอร่อยรสชาติดี

นอกจากเราจะช่วยกันลดการระเหยนํา้ ในดินได้แล้ว เรายังสามารถลดการให้นาํ้ กับพืชผักของเรา ได้อกี ด้วย เพราะผักหลายอย่าง โดยเฉพาะผักทีเ่ ราต้องการให้มกี ลิน่ รสทีด่ ี ยังไม่ตอ้ งการนํา้ ทีม่ ากเกินไป อีกด้วย ผักหลายชนิดรดนํ้าวันละครั้งก็เพียงพอ เช่น ต้นหอม กุยช่าย สะระแหน่ มินต์ มะนาว โรสแมรี่ มะเขือเทศ เผือก มัน ข้าวโพด กะเพรา โหระพา ใบแมงลัก การรดนํา้ ไม่มาก ทำ�ให้พชื ผักเหล่านี้ ได้ มี โอกาสเก็ บ สะสมสารอาหารได้ ม ากขึ้ น พื ช หลายชนิ ด มี ก ลไกในการเก็ บ รั ก ษาสารอาหาร ในรูปของนํ้ามันหอมระเหยและสารพฤกษเคมีหลายกลุ่ม ในสภาวะที่ได้รับนํ้าน้อย ซึ่งเป็นที่มา ของกลิ่นและรสชาติที่ดี และยังเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์อีกด้วย ฉบับนี้ หน้ากระดาษผมหมดลงอีกแล้ว อย่าลืมลองเอาเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยไปลองทำ�ดูกนั นะครับ ไว้เจอกันใหม่ ฉบับหน้า สวัสดีครับ happy+ | 89

กินอาหารเป็นยา เรื่องและภาพ : ป้าจาย แม่มดดอกไม้

เต้าหู้ไทยใหญ่ ผัดไทยน้อย

ได้เต้าหูส้ องชนิดจากกาดในอำ�เภอปาย ก้อนหนึง่ สีขาวเนือ้ แน่นแข็ง หรือเราจะเรียกว่า เต้าหูข้ าวแข็ง ส่วนอีกก้อนเป็นเต้าหูถ้ วั่ ลันเตา สีเหลืองอ่อน เนือ้ นุม่ ฝีมอื การผลิตของลูกหลานชาวไทยใหญ่ ทีต่ งั้ รกรากในไทย โดยเฉพาะเต้าหูน้ เี้ ป็นสัญลักษณ์ของเมืองแม่ฮอ่ งสอนเลยทีเดียว เป็นอาหารหลักที่ ใช้ตม้ ยำ�ทำ�แกง และมีขายในทุกตลาด ทัง้ กาดเช้ากาดเย็น กินจริงกินเล่นกันเพลิน แต่วนั นีจ้ ะทดลองทำ�อาหารกินแบบคนไทยในเมนูยอดนิยมตลอดกาล คือ ผัดไทย ใช้เส้นวุ้นเส้นแทนเส้นเล็ก และเน้นเนื้อเต้าหู้ให้มากสักหน่อย 90 | happy+

ส่วนประกอบสำ�หรับหนึ่งจาน เต็มรส วิธีผัด เต็มอิ่ม - เจียวหอมแดง กระเทียม และไชโป๊หวาน 1. เต้าหู้สองชนิด หั่นเป็นแท่งสี่เหลี่ยม กว้าง 1 ซม. ยาว 8-10 ซม. สัก 8-10 ชิ้น 2. วุ้นเส้น แช่นํ้าร้อนจนพองได้ที่ คะเนให้มี ปริมาณพอกับเต้าหู้ 3. ไข่ไก่ 1 ฟอง 4. หัวหอมแดง กระเทียม หัวไชโป๊หวาน อย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ 5. นํ้าผัดไทย หรือนํ้ายำ�สามรส 2 ช้อนแกง 6. ดอกหอม หั่นเป็นท่อนยาวสามนิ้ว แทนต้น กุยช่าย สัก 2 ช้อนแกง 7. แคร์รอตและฟักทองซอยเส้นหยาบ ถัว่ งอก อย่างละ 1 ช้อนแกง 8. มะนาวฝาน 1 ชิ้น พริกทอด 5-7 เม็ด 9. นํ้ามันมะพร้าว 2 ช้อนแกง

พอเริ่มเหลือง ใส่เต้าหู้ลงไป รอให้สุกกรอบสัก หน่อย พักไว้ด้านหนึ่งของกระทะ - ใส่ผกั ทัง้ หมด และวุน้ เส้น เติมนํา้ ปรุงผัดไทย หรือนํ้ายำ�สามรส ผัดพร้อมกับเต้าหู้ - พอเข้ากันดี ผักเริ่มสลด จึงตอกไข่ใส่ กระทะ เติมนํ้ามันเล็กน้อย ผัดไข่ให้เกือบสุก แล้วค่อยรวนส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน เป็น อันเสร็จพิธี ตักใส่จานได้เลย - วางมะนาวฝานสั ก ชิ้ น ถั่ ว ลิ ส งอบสั ก ช้อนแกง ต้นทานตะวันอ่อนสักหยิบมือ โรยพริกป่น พอแสบลิ้นกินคล่อง มื้อนี้ทั้งอิ่มทั้งอร่อยจนวาง ช้อนไม่ลง

หากไม่มีเต้าหู้ไทยใหญ่ จะใช้เต้าหู้ขาวแข็งแทนได้ แต่อาจไม่อร่อยนุ่มนวลเท่า เพราะเต้าหู้ถั่วเหลืองเนื้อขาวแบบนี้ จะมีเนื้อแน่นแต่นุ่มนวล หรือ หากสนใจจะลองทำ�เต้าหูถ้ วั่ ลันเตาเอง ก็มสี ตู รและวิธที ำ�ให้สบื ค้นจากอินเทอร์เน็ตมากมายหลายสูตร การทำ�อาหารไม่ได้มกี ฎเกณฑ์ตายตัวจนกระดิกไม่ได้ เราอยากกินรสไหน หรือแบบไหน ก็ย่อมแล้วแต่ความอยากของเรา สิ่งสำ�คัญคือ ความสดและสะอาด ปราศจากสารปรุงแต่ง จะทำ�ให้อาหารอร่อย โดยเนื้อแท้เป็นรสจากธรรมชาติ สูตรต่าง ๆ เป็นเพียงรูปแบบและแนวทาง ให้เรามีจุดเริ่มต้นในการปรุงอาหาร จนถึงจุดหนึ่งที่เราจะพลิกแพลงได้ ตามแต่วัตถุดิบที่มีอยู่ และปรับปรุงได้ตามสถานการณ์โดยรอบ ทำ�อย่างที่เราชอบ เราจะสุขใจที่ได้กิน happy+ | 91

ชวนชิม เรื่องและภาพ : TepiN

Amantee Amantee ร้านขนมปังสไตล์ฝรั่งเศสสูตรดั้งเดิม ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน เมื่อเข้าไปในร้านเราจะสะดุดตา กับขนมปังที่วางเรียงรายกันมากมายจนเลือกกันไม่หวาดไม่ไหว ซึ่งแต่ละอย่างก็ดูน่าทานทั้งนั้น • ร้าน Amantee สาขา The EmQuartier ที่อยู่ช้นั 4 Helix ขนมปังของทางร้านรสชาติกลมกล่อมและผ่านกระบวนการทำ�อย่างพิถีพิถัน จากวัตถุดิบออแกร์นิกคุณภาพดี Hall, The EmQuartier ถนน Croissant เป็นเมนูหนึ่งที่ขึ้นชื่อของทางร้าน ตัวครัวซองต์มีกลิ่นหอมของเนย เนื้อสัมผัสกรอบนอกนุ่มใน ลักษณะ สุขมุ วิท แขวงคลองตันเหนือ เขต วัฒนา กรุงเทพฯ 10110 ของตัวแป้งมีฟองอากาศกำ�ลังดี นอกจากนี้ยังมีเมนูขนมปังต่าง ๆ ให้เลือกทั้ง Brioche ขนมปังที่ออกรสหวานนิด ๆ และมีกลิ่นเนยชัดเจน Fougasse ขนมปังที่ทำ�หน้าตาออกมาคล้าย ๆ กับขนมเพรทเซลที่เราคุ้นเคย นอกจากนี้ ยังมีการปรับแต่งสูตรให้ถูกปากคนไทยอย่าง ขนมปังกะเพรา อีกด้วย สำ�หรับขนมปังชิ้นใหญ่จะขายเป็นกิโลกรัม แต่สามารถหั่นแบ่งในขนาดที่เราต้องการได้ จะเข้าถึงความอร่อยให้ครบสมบูรณ์ ต้องทานขนมปังคูก่ บั เนยรสเยีย่ ม ทีส่ ง่ ตรงมาจากฝรัง่ เศสอย่าง Bordier Butter ทีน่ กั ชิมทัว่ โลกลงความเห็นว่าอร่อย เป็นทีส่ ดุ มีให้เลือกหลากหลายรสชาติ นอกจากนี้ ยังมีชสี ทีท่ างร้านแอบกระซิบว่าขายดีมาก ก็คอื ชีสรสทรัฟเฟิล ทานกับขนมปังรสชาติกลมกล่อมลงตัว ใครที่ชอบขนมปังสูตรคลาสสิกของฝรั่งเศส และรสชาติอร่อยไม่เหมือนใคร ลองแวะเวียนมาที่ร้าน Amantee ดูนะคะ 92 | happy+

Giant Yakiniku • ร้าน Giant Yakiniku สาขา

จากประสบการณ์ของเชฟชาวไทย ที่ไปทำ�งานที่ครัวญี่ปุ่นมากว่าสิบปี ทำ�ให้มีความเชี่ยวชาญในการคัดเลือกเนื้อ Terminal 21 ทีอ่ ยูช่ นั้ 5 Teminal 21 ซอยสุขมุ วิท 19 ถนนสุขมุ วิท คุณภาพดี กลายเป็นที่มาของร้าน Giant Yakiniku ร้านที่เรียกได้ว่าเป็นบุฟเฟต์ปิ้งย่างร้านแรก ๆ ของไทย จนปัจจุบัน แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 17 สาขา กรุงเทพฯ 10110 ร้าน Giant สาขา The Terminal 21 ตั้งอยู่ที่ชั้น 5 ใกล้กับศูนย์อาหารของทางห้าง บุฟเฟต์ราคา 450 บาท สามารถ เลือกทานได้อย่างจุใจ ทั้งเนื้อวัวที่หลากหลาย โดยเฉพาะเนื้อ โจ คารุบิ ที่น้อยร้านจะใส่เข้ามาในเมนูบุฟเฟต์ ใครเป็น คอเนือ้ ย่างไม่มที างพลาดอย่างแน่นอน หรือจะเป็น หมูโฮมรัน เนือ้ หมูหมักกะทิ ราดนํา้ ซอสสูตรพิเศษ ทีไ่ ด้ทงั้ ความนุม่ และความอร่อยละมุนลิน้ เมนูซฟี ดู้ เด็ด ๆ ก็เรียงรายกันมาไม่นอ้ ยหน้า กุง้ แม่นาํ้ ไซส์บิก๊ ทีเ่ ห็นแล้วอดใจไม่ไหวต้องสัง่ มา รวมทัง้ หอยแมลงภูน่ วิ ซีแลนด์ ตัวโต ๆ ที่ทานกี่ครั้งก็ติดใจ ที่นี่นอกจากจะมีนํ้าจิ้มสูตรเฉพาะรสชาติสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ๆ ยังเอาใจคนไทยด้วยนํ้าจิ้มซีฟู้ดรสชาติจัดจ้าน ทานกับอาหารทะเล เข้ากันสุด ๆ เตาย่างของร้านสาขา Terminal 21 เป็นแบบกระทะย่าง ไม่ใช่ตะแกรงย่างบนเตาถ่าน ทำ�ให้ปลอดภัยหายห่วงเรื่องสารก่อมะเร็งไปได้เลย หากมีนัดสังสรรค์กับเพื่อน ๆ หรืออยากฉลองเนื่องในโอกาสพิเศษ มาที่ร้าน Giant Yakiniku รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ happy+ | 93

ชวนดูหนัง เรื่อง : Bella

The Time Traveler’s Wife รักอมตะของชายนักท่องเวลา

ภาพยนตร์เรือ่ งนีส้ ร้างมาจากนวนิยายชือ่ ดัง The Time Traveler’s Wife ของนักเขียนออเดรย์ นิฟเฟเนกเกอร์ (Audrey Niffenegger) โดยผูก้ �ำ กับชาวเยอรมัน โรเบิรต์ เชวนต์เก้ (Robert Schwentke) เป็นเรือ่ งราวเกีย่ วกับ เฮนรี (อิรคิ บานา) ชายหนุม่ ผูเ้ กิดมาพร้อมกับยีนผิดปกติ ทีท่ �ำ ให้การลำ�ดับเวลาผิดเพีย้ นไป จน เขาต้องท่องเวลาไปยังอดีต ปัจจุบนั หรืออนาคต โดยไม่สามารถควบคุมได้วา่ จะเดินทางไปทีไ่ หน เมือ่ ไหร่ และนานแค่ไหน ระหว่างนัน้ เฮนรีได้พบกับแคลร์ (ราเชล แมคอาดัมส์) ตัง้ แต่อายุ 6 ขวบ ซึง่ เขาพรํา่ บอกเธอเสมอว่า เขาคือสามีของเธอในอนาคต ภาพยนตร์ไม่ได้เลือกนำ�เสนอมุมมองของการเดินทางท่องเวลา ในแง่ของความสามารถพิเศษเหมือนภาพยนตร์เรือ่ งอืน่ ๆ (ออกจะมองว่าเป็นความผิดปกติ ด้วยซํา้ ) กลับเลือกนำ�เสนอถึงความงดงามของความรัก ปัญหาอุปสรรคในชีวติ คู่ และการรอคอยได้เป็นอย่างดี ผ่านเหตุการณ์ตา่ ง ๆ เช่น แคลร์ตอ้ งรอ เฮนรีเสมอเพราะเขาได้ออกเดินทาง แม้แต่ในวันทีท่ ง้ั สองคนจะต้องเข้าพิธวี วิ าห์ดว้ ยกันก็ตาม แต่ไม่วา่ ทัง้ คูจ่ ะเผชิญปัญหามากมายเท่าไหร่ แคลร์กเ็ ลือกทีจ่ ะบอก กับเฮนรีวา่ “I wouldn’t change one second of our life together.” “แม้วา่ จะมีโอกาส ฉันก็จะไม่เปลีย่ นแปลงชีวติ คูท่ อ่ี ยูก่ บั คุณสักวินาทีเดียว” สุดท้ายแล้ว ความรักของแคลร์และเฮนรีจะดำ�เนินอย่างไรต่อไป คงต้องเชิญคุณผูอ้ า่ นทุกท่านไปรับชมด้วยตัวเองแล้วละค่ะ 94 | happy+

เรื่อง : Patty Pom ภาพ : TepiN ชวนอ่านสานสุข

แก่ช้าลงแน่ แค่ปล่อยให้ท้องหิว / เรื่อง : สำ�เร็จไวถ้าใช้สมองเป็น / ดร.วีรพงษ์ ศรัทธาผล / โยคะแห่งสติ / เรือ่ ง : เกศสุดา ชาตยานนท์ นพ.โยะชิโนะริ นะงุโมะ / สำ�นักพิมพ์ : สำ�นักพิมพ์ : Wish Books / ราคา : 195 บาท (ครูเกด) / สำ�นักพิมพ์ : สถาพรบุค๊ ส์ / ราคา : WeLearn / ราคา : 165 บาท สมองของมนุ ษ ย์ นั้ นซั บ ซ้ อ นยิ่ ง นั ก แต่ ก็ 340 บาท

ฟังดูแปลก ๆ ใช่มย้ั คะ ว่าทำ�ไมปล่อยให้ทอ้ งหิว แล้วถึงแก่ชา้ ลงได้ แต่นคี่ อื เคล็ดลับความอ่อนเยาว์ และมีสุขภาพดี ที่ส่งตรงมาจากนายแพทย์ชื่อดัง ชาวญี่ปุ่น ที่ดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดี ต่อยอด ความสำ�เร็จจากหนังสือเรือ่ ง “ยิง่ หิวยิง่ สุขภาพดี” ทุกเรื่องสามารถทำ�ได้และผ่านการพิสูจน์มาแล้ว ว่าได้ผลดีจริง แถมยังมีสูตรอาหารที่นำ�ไปทำ� ตามได้เลย พร้อมภาพประกอบน่ารัก อ่านได้ทั้ง ครอบครัว ได้ความรู้และสุขภาพที่ดีด้วยนะคะ

มีประสิทธิภาพสูงอย่างไม่น่าเชื่อ เพียงแค่เรา ต้องเรียนรู้และใช้สมองให้เป็นเท่านั้นเอง พบกับ คำ�แนะนำ�การใช้สมองให้ถกู วิธี จากโค้ชมือหนึง่ ของ โลก ที่สมองนั้นเปลี่ยนชีวิตของเขาจากยาจก สู่การเป็นเศรษฐีร้อยล้าน ก่อนที่เราจะประสบ ความสำ�เร็จภายนอก เราต้องสร้างสมองแห่ง ความสำ�เร็จจากภายในเสียก่อน แล้วสมองแห่ง ความสำ�เร็จจะนำ�พาคุณก้าวไปสู่ความสำ�เร็จ อย่างแน่นอน

หนังสือเกี่ยวกับโยคะมีมากมาย แต่สิ่งที่ ทำ � ให้ ห นั ง สื อ เล่ ม นี้ โดดเด่ น และแตกต่ า ง คื อ การนำ�โยคะมาประยุกต์เข้ากับการฝึกสติ เป็น แนวทางสูค่ วามสุขแท้ ทีผ่ เู้ ขียนได้ฝกึ ฝน ปฏิบตั จิ น เห็นผลจริง จึงอยากมาเผยแพร่ให้เป็นประโยชน์ ต่อผู้อื่นด้วย เพราะการฝึกโยคะมีอานิสงส์ในการ รักษาโรคและส่งเสริมสุขภาพกาย สุขภาพใจ ขัน้ ตอน การปฏิ บั ติ ที่ ชั ด เจน ทำ � ให้ เราฝึ ก ตามได้ ง่ า ย และมีก�ำ ลังใจในการฝึกมากขึน้ มาเริม่ ดูแลตัวเอง กันนะคะ

Love Journey ทริปนีม้ รี กั / เรือ่ ง : แอนดารีน / Love Without Limits ความรักไร้ขดี จำ�กัด / สำ�นักพิมพ์ : Princess / ราคา : 240 บาท เรื่อง : Nick & Kanae Vujicic แปล : กฎแห่งผิวสวย / เรือ่ ง : พญ.โยะชิคิ โนะบุโกะ การได้เดินทางไปในประเทศสวย ๆ อย่าง พลอยแสง เอกญาติ / สำ � นั ก พิ ม พ์ : แปล : ประพันธ์ รัตนสมบัติ / สำ�นักพิมพ์ : นิวซีแลนด์เป็นดั่งความฝันของนักเดินทาง แต่ NANMEEBOOKS ADULT / ราคา : 185 บาท AMARIN Health / ราคา : 285 บาท ไม่วา่ สาวคนไหน ๆ ก็อยากผิวสวยใช่ไหมคะ ฟิโอน่า ที่จับพลัดจับผลูได้ไปเดินทางในดินแดน ความรักเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลาและกับ

ที่มีทุ่งหญ้ากว้าง เมฆสวย ฟ้าใส นํ้าเป็นสีฟ้า กับชายหนุ่มชาวกีวีร่างยักษ์ บุคลิกดิบเถื่อนแต่ มีตาสีเทาอันอ่อนนุ่ม จะห้ามไม่ให้หัวใจเต้นแรง ได้อย่างไร แถมยังหน้าแดงทุกครั้งที่เขาแตะเนื้อ ต้องตัว แล้วจะเป็นอย่างไรต่อไปนะเนี่ย ระยะ เวลาแค่ 10 วัน ความรักจะเกิดได้หรือเปล่า คง ต้องติดตามแล้วละค่ะ

ทุกคน และนี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างความมหัศจรรย์ ของความรักที่ทุกคนต้องจดจำ� ความรักระหว่าง หนุ่มพิการไร้แขนขา มีเพียงนิ้วเท้าสั้น ๆ 2 นิ้ว กับสาวสวยลูกครึ่งญี่ปุ่น-เม็กซิโก ที่กล้ายืนยันว่า เป็นรักแท้ทสี่ ร้างสรรค์และไม่ท�ำ ร้าย หนังสือเล่มนี้ เล่าถึงเส้นทางของความรักที่ต้องมีการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง เชื่อมั่นในกันและกัน เพื่อเป็นการ สร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนเชื่อมั่นในความรัก

เพราะผิ ว สวยเป็ น พื้ นฐานที่ สำ � คั ญ ของความ งามทัง้ หมด แล้วทีเ่ ราทำ�กันอยูท่ กุ วันนีถ้ กู ต้องหรือเปล่า หนั ง สื อ เล่ ม นี้ มี คำ � ตอบค่ ะ แพทย์ ผู้ เชี่ ย วชาญ ด้านผิวหนังและความงาม จะมาชี้แจงข้อเท็จจริง ทีท่ กุ คนควรรู้ เพือ่ การมีผวิ สวยอย่างแท้จริง ยิง่ ใน ยุคนี้ที่เต็มไปด้วยข้อมูลมากมาย ก่อนที่จะเชื่อ อะไร ลองหาข้อมูลที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือก่อน นะคะ และเรานำ�มาเสนอให้สาว ๆ อย่างครบถ้วน แล้วค่ะ happy+ | 95

beauty recommended เรื่อง : addy101

เกลือหิมาลายันชั้นดีจากธรรมชาติ เกลือหิมาลายันเป็นเกลือที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจากเทือกเขาหิมาลัย เป็นผลึกเกลือสีชมพู ที่เกิดจากการระเหยของนํ้าทะเล มีโครงสร้างผลึกที่สมบูรณ์ของเกลือธรรมชาติ ที่ไม่มีสิ่งอื่นเจือปนและมีแร่ธาตุถึง 84 ชนิด จึงมีคุณค่าต่อร่างกาย ผลิตภัณฑ์ชุดเกลือหิมาลายันจากแบรนด์ Nlinn ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์เกลือหิมาลายันบริสุทธิ์ และเกลือหิมาลายันสำ�หรับแช่ตัวและขัดผิว

เกลือหิมาลายันบริสุทธิ์

(PURE HIMALAYAN SALT) สำ�หรับใช้รับประทาน โดย นำ � ไปประกอบอาหาร หมั ก เนื้ อ ปรุงเครื่องดื่ม มีคุณสมบัติพิเศษ ช่วยควบคุมความดันโลหิตและค่า PH ความเป็นกรด-ด่างในร่างกาย มี ส ารต้ า นอนุ มู ล อิ ส ระธรรมชาติ และช่ ว ยกำ � จั ด สารพิ ษ ออกจาก ร่ า งกาย โดยร่ า งกายสามารถ กำ � จั ด ส่ ว นเกิ น ได้ โ ดยง่ า ย และ ดูดซึมแร่ธาตุและสารอาหารเพื่อ นำ�ไปใช้ได้ดีกว่าเกลือชนิดอื่น ๆ หรื อ แม้ แต่ ก ารนำ � มาใช้ เพื่ อ ดู แ ล สุขภาพ เช่น การสูดละอองเกลือ (สูด ไอนํ้าที่ระเหยจากการละลายเกลือ ในนํ้าร้อน) เพื่อทำ�ความสะอาด ปอด ไซนัส ขจัดเสมหะ และช่วย รักษาหอบหืด ทำ�ให้หายใจสะดวก และอุน่ เกลือใช้แทนลูกประคบ การ แช่ตัวในนํ้าละลายเกลือ เพื่อลด อาการแพ้ ผดผื่นคัน เป็นต้น

• เกลือหิมาลายันสีชมพูส�ำ หรับแช่ตวั และขัดผิว (HIMALAYAN BATH SALT with Rose Petals) ผลิตจากส่วนผสม ธรรมชาติ 100% สัมผัสประสบการณ์การทำ�สปาที่บ้านได้ง่าย ๆ โดยใช้เกลือผสมนํ้าอุ่นเพื่อแช่ตัวและขัดผิว หรือ ผสมนํ้าอุ่นเพื่อแช่เท้า ช่วยในการดีท็อกซ์ผิวอย่างลํ้าลึก ขับสารพิษในผิวจากการใช้สารเคมีมายาวนาน และช่วย ขจัดเซลล์ผิวเก่า กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำ�ให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น บำ�รุงผิวให้สะอาด เนียนนุ่ม แลดูสุขภาพดี พร้อมกลิ่นบำ�บัดหอมอ่อนโยน ช่วยในการบำ�บัดความเครียดจากการทำ�งานหนักตลอดทั้งวัน ผสมกลีบกุหลาบ ออร์แกนิก ซึ่งมีสรรพคุณในการบำ�รุงผิว ทำ�ให้การแช่ตัวในนํ้าอุ่นละลายเกลือผสมกลีบกุหลาบสูตรเฉพาะของ Nlinn ช่วยเปิดประสบการณ์การอาบนํ้าที่ผ่อนคลายอย่างแท้จริง มี 2 กลิ่น ได้แก่ - กลิ่น Lost in Miracle กลิ่นหอมหวานสดชื่นจากดอกไม้ ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียด และเพิ่มความสดชื่น - กลิ่น Spring Awaits กลิ่นสดชื่นจากพืชตระกูล Peppermint ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง ตื่นตัว หายจากอาการ เหนื่อยล้า

ทั้งนี้ ชุดเกลือหิมาลายันได้รับรางวัล DEmark 2015 ด้านการออกแบบบรรจุภัณฑ์อีกด้วย ลูกค้าท่านใดสนใจสั่งซื้อ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ www.facebook.com/nlinnwellness / Instagram : nlinn_wellness / LINE ID : nlinn_wellness โทร. 09-5702-2541 (สำ�หรับโรงแรม / รีสอร์ต / สปา ติดต่อ nlinn_wellness@outlook.com)

horoscopes

สวัสดีคุณผู้อ่านนิตยสาร happy+ ทุกท่านครับ เข้าสู่เดือนเมษายนแล้ว ในเดือนนี้มีวันสำ�คัญ คือ วันสงกรานต์ หรือวันขึ้นปีใหม่ของคนไทยเรา ถัดมาอีก 1 วัน ผมว่ามีความสำ�คัญไม่แพ้กัน คือวันที่ 14 เมษายนของทุกปี ที่รัฐบาลกำ�หนดให้เป็น “วันครอบครัว” เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้ประชาชน ตระหนักถึงคุณค่าของสถาบันครอบครัว เนือ่ งจากวันสงกรานต์เป็นช่วงทีค่ นไทยส่วนใหญ่เดินทางกลับ บ้าน เพื่อพบปะญาติมิตร บุพการี รดนํ้าดำ�หัว ขอพรผู้เฒ่าผู้แก่ เสริมสร้างความเป็นสิริมงคล และ ความอบอุ่น เป็นสุขของครอบครัว คำ�ว่า ‘ครอบครัว’ สำ�หรับผมนัน้ มีความหมายรวมไปถึง ผูท้ อี่ ยูเ่ บือ้ งหลังความสำ�เร็จของผมด้วย ได้แก่ พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ท่านอบรมสัง่ สอนให้เป็นคนดี ดูแลเอาใจใส่ผมด้วยความรักและคอยให้ค�ำ ปรึกษาเวลามีปญ ั หา พร้อมทัง้ ให้ความช่วยเหลือผม ในทุก ๆ เรื่อง คุณสายสม วงศาสุลักษณ์ ประธานมูลนิธิร่วมนํ้าใจต้านภัยเอดส์ เป็นผู้ที่คอยแนะนำ�ให้ผมดูแลตัวเอง ผู้อื่นและสังคม รวมทั้งผู้ด้อย โอกาส มีจิตอาสาต่อสังคมและส่วนรวม ทำ�ให้คนรอบข้างมีความสุข และผมเองก็ได้รับความสุขเช่นกัน สุดท้าย คือ เพื่อนและทีมงาน ที่ให้การสนับสนุน ส่งเสริม และก้าวผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ไปด้วยกัน ผมขอขอบคุณทีมงาน ที่ทำ�ให้ผมมีความสุขในการใช้ชีวิตทุกวันนี้ คุณผู้อ่านทุกท่าน อย่าลืมนึกถึงคนที่ อยู่เบื้องหลังความสำ�เร็จของเราด้วย ไม่ว่าจะเป็น คู่แข่ง ศัตรู หรือมิตร เพราะคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเราย่อมมีความหมาย มีทั้งความสุข และความทุกข์ อย่างน้อยเราก็หาหนทางผ่านไปได้ และทำ�ให้เราเข้มแข็งขึ้น ให้อภัย และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อคนเบื้องหลังของคุณกันนะครับ ติดตามผมได้ในรายการคุยข่าวสิบโมง ททบ. 5 ทุกวันจันทร์ เวลา 10.00 น. รายการวันท้าดวง ทางช่อง 9 ทุกวันอาทิตย์ เวลา 16.00 น. Facebook : คฑา ชินบัญชร และ Instagram : KHATHA_CHINBUNCHORN ขอให้คุณผู้อ่านทุกท่านมีความสุข สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ รุ่งเรือง รํ่ารวย ราบรื่น ร่มเย็น ด้วยนะโมพุทธายะครับ

พยากรณ์ เดือนเมษายน 2559

98 | happy+

เรื่อง : อาจารย์ คฑา ชินบัญชร

ราศีมังกร (16 ม.ค.-12 ก.พ.) “ไพ่ 5 คทา” การงานไม่โดดเด่น ถูกขโมย ผลงาน คูแ่ ข่งเยอะ กำ�ลังเสียเปรียบ พยายามอย่าไป ขัดแย้ง มีปากเสียงกับใครจะจนมุมเอง ช่วงปลาย ทำ�ตัวดี ๆ จะมีการโยกย้ายเรื่องงาน เงินทองมีแต่ จ่ายออก รับเข้ามีน้อย ยิ่งช่วงนี้สิ้นเปลืองไปกับ เรื่องยานพาหนะเยอะ เดินทางบ่อยมักมีเรื่อง หงุดหงิด ความรักถ้าปล่อยตัวเหมือนเดิมคงจะแย่ ต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ จะพบว่า มีเสน่หแ์ อบแฝงอยูไ่ ม่นอ้ ยทีเดียว สุขภาพให้ระวัง อุบัติเหตุจากความใจร้อน

ราศีกุมภ์ (13 ก.พ.-13 มี.ค.) “ไพ่ The Fool” งานไม่เน้น อยากเทีย่ ว อยาก เฮฮาอย่างเดียว ขาดความรับผิดชอบ ช่วงกลาง ตั้งใจทำ�งานไม่เสียหลาย ผู้บังคับบัญชาเริ่มมอง คุณมากขึ้น เงินทองต้น ๆ ใช้จ่ายเก่ง มือเติบ พอ กลาง ๆ ก็ต้องมานั่งตั้งหน้าตั้งตาหาเงินเป็นการ ใหญ่ ให้ใครหยิบยืมไป ไม่ต้องร้อนใจ ได้คืนช้า แต่ชวั ร์ ความรักมักเจอแบบผ่าน ๆ รักจริงหวังฟัน มากกว่า ใครห้ามก็ไม่ค่อยฟัง หัวรั้นหัวดื้อ ส่วน คู่ที่ดูใจกันอยู่ คงได้ลงเอยเร็ว ๆ นี้ สุขภาพระวัง ภูมิแพ้ ความดัน

ราศีมีน (14 มี.ค.-12 เม.ย.) ช่วงนี้คิดอะไรขออะไรจะได้สมใจปรารถนา “ไพ่ The Star” การทำ�งานมีผู้ช่วยทำ�ให้งานเสร็จ เร็วขึ้น มีงานเสริมที่สามารถทำ�คู่กันไปได้ พลอย ทำ�ให้เงินหมุนเวียนคล่องไปด้วย ช่วงนีน้ าํ้ ขึน้ ให้รบี ตัก อะไรมีนดิ หน่อยก็รบี เก็บรีบทำ�ไปก่อน เรือ่ งรัก หายห่วง โลกกลายเป็นสีชมพูกเ็ พราะคุณมีความสุข คนรักเอาอกเอาใจ คนโสดได้พบรักแน่นอน ช่วง นี้จะไปไหนให้ดูแลตัวเองให้ดี เผื่อเจอใครจะได้ ไม่ขาดความมั่นใจ สุขภาพปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ขัดยอก

ราศีเมษ (13 เม.ย.-13 พ.ค.) การงานเอาตั ว รอดได้ ดี พยายามแสดง ฝีมือ ขยันขันแข็งแล้วคุณจะรู้ว่า ทำ�ดีได้ดีมันอยู่ ตรงนี้เอง การเงินเป็นปัจจัยสำ�คัญของคุณ เกิด พะวักพะวนเรื่องเงินทองขึ้นมา เริ่มเก็บเริ่มออม มากขึ้น ช่วงต้น “ไพ่ 3 เหรียญ” มีโชคลอยเข้ามา หา อยากเสี่ยงอยากลุ้นมีโอกาสเหมาะ ความรัก ไม่ ห วื อ หวา แต่ น่ า ค้ น หา มี เหตุ ส ะดุ ด รั ก โดย บังเอิญ ที่มีคนรักแล้วกลาง ๆ ออมคำ�พูดหน่อย พูดจาเชือดเฉือนกันก็มีแต่จะเสียใจทั้งสองฝ่าย สุขภาพปวดฟัน ฟันผุ อาจต้องอุด ต้องถอน

ราศีพฤษภ (14 พ.ค.-13 มิ.ย.) การทำ�งานแคล่วคล่องว่องไว หยิบจับอะไร เป็นสำ�เร็จได้อย่างง่ายดาย ที่เงียบ ๆ หงิม ๆ คง ต้องเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนกล้าแสดงออก “ไพ่ 8 เหรียญ” ตั้งหน้าตั้งตาหาเงินหาทอง ทำ�ให้สภาพ คล่องของการเงินดีเยี่ยม ช่วงนี้มักจะมองอะไรได้ ทะลุปรุโปร่ง มีทางทำ�มาหาเงินได้ตลอด ความรัก หวือหวาสุด ๆ แม้แต่คนโสดช่วงนีก้ เ็ ตรียมใจพบรัก ได้เลย ที่มีคนรักแล้วก็อบอุ่น เป็นกำ�ลังใจให้กัน ขยันขันแข็ง จนน่าแปลกใจ สุขภาพห้ามหักโหม จะมีผิดท่า โดยเฉพาะหลัง

ราศีเมถุน (14 มิ.ย.-14 ก.ค.) ต้องเร่งทำ�ผลงาน ผู้ใหญ่กำ�ลังจับตาดู คุณ ที่กำ�ลังคิดที่จะทำ�กิจการของตนเองก็สามารถ ทำ�ได้ “ไพ่ 1 เหรียญ” มีโชคลาภ หาเงินเก่ง แต่ หาแล้วก็ต้องรีบเก็บออม เอาแบบชนิดที่ฝากไม่ สามารถถอนได้จะดีมาก คุณมีเงินเยอะทีไรเป็น ต้องร้อน หาเรื่องใช้เงินตลอด เกิดอาการงง ๆ รัก ครัง้ นีม้ กั จะไปถูกใจคนทีม่ อี ายุมากกว่าหรือไม่คน ทีม่ อี ายุมากกว่าก็อาจจะมาถูกใจคุณ ช่วงนีผ้ ใู้ หญ่ อุปถัมภ์ส่งเสริม ที่มีคนรักแล้วก็กุ๊กกิ๊ก สุขภาพ หนักไปทางนํ้าหนักเพิ่ม

ราศีกรกฎ (15 ก.ค.-16 ส.ค.) “ไพ่ Temperance” การงานวุ่นวาย แต่ถ้า มีสมาธิและใจเย็นก็สามารถสะสางได้ ช่วงนี้มี ประชุม สัมมนาบ่อย คุณต้องแสดงความสามารถ เต็มที่ เงินทองช่วงต้นมีช่องทางในการตักตวง เข้าหาผูใ้ หญ่ได้รบั การสนับสนุน แต่ชว่ งปลาย ๆ มี เรื่องต้องใช้เงินเยอะ ความรักสดชื่น คนโสดได้ สะดุดรักคนถูกใจ แอบชอบใครอย่านิ่งเฉย ให้ เข้าหาใจกล้าเข้าไว้ เสร็จคุณแน่นอน คุณทีม่ คี แู่ ล้ว ช่วงนี้สดใส ได้ไปเที่ยว พักผ่อนด้วยกัน สุขภาพ แข้งขาอ่อนแรง สะดุดหกล้มง่าย

ราศีสิงห์ (17 ส.ค.-16 ก.ย.) “ไพ่ Justice” มีเรื่องให้ต้องคิดต้องตัดสินใจ การทำ�งานต้องหยิบจับอะไรหลาย ๆ อย่างพร้อม กัน ถึงแม้ว่ามันจะวุ่นวายบ้าง แต่ก็นับว่าสำ�เร็จ เสร็จสิ้นด้วยดี ให้เชื่อมั่นในตัวเอง ไม่มีอะไรเกิน ความสามารถคุณไปได้ เงินทองได้มาเยอะ แต่ก็ จ่ายไปแยะเหมือนกัน ทีแ่ น่ ๆ ไม่ขดั สน ช่วงปลาย มีโชคลาภ ความรักกำ�ลัง In Love โลกเป็นสีชมพู คนรักน่ารักจนออกนอกหน้า คนโสดก็เสน่ห์แรง ไม่เบา มีคนมาตามจีบ สุขภาพปวดตามข้อ โรค เกาต์ โรคกระดูกกำ�เริบ

ราศีกันย์ (17 ก.ย.-16 ต.ค.) มีเรือ่ งปิดบังซ่อนเร้น ทำ�อะไรเปิดเผยมากไป ไม่ค่อยก้าวหน้า ช่วงนี้ราศีจับที่ปาก พูดจาดีก็จะ ไปได้ดี ถ้าพูดจาไม่ดีก็เสียหายได้เหมือนกัน การ ทำ�งานมีผู้ใหญ่สนับสนุน เพื่อนร่วมงานก็เข้ากัน ดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย งานไปเร็ว “ไพ่ 8 เหรียญ” การ เงินไหลรื่น มีลาภจากผู้ใหญ่ แต่คุณเองก็ไม่เบา ได้มาง่ายก็จา่ ยง่ายเหมือนกัน ความรักเกิดอาการ เจ้าชูห้ ลายใจ ช่วงนีใ้ ครมาจีบก็ใจอ่อน แต่กม็ กั ไป เจอคนทีม่ เี จ้าของแล้วเป็นประจำ� สุขภาพปวดหัว บ่อย ๆ ไมเกรน

ราศีตุลย์ (17 ต.ค.-16 พ.ย.) จิตใจดีมีแต่คนช่วยเหลือ เพื่อนที่หายหน้า หายตาไปจะกลับมา คงได้รื้อฟื้นความหลังกัน มันส์ไปเลย “ไพ่ 2 คทา” การทำ�งานได้กระชับ ความสัมพันธ์แนบแน่นกับกิจกรรมต่าง ๆ หรือการ ทำ�งานร่วมกัน ช่วงปลายเงินทองมีไหลออกไปบ้าง กับเรือ่ งของความรัก และการซือ้ ของ หาความสุข ต่าง ๆ ความรักมักมาแบบร้อนแรง รวดเร็ว ใครที่ ชอบแบบนีค้ งจะยิม้ ออก ทีม่ คี นรักแล้วจะมีโอกาส ได้เปลี่ยนบรรยากาศใหม่ ๆ เพิ่มพูนความผูกพัน สุขภาพทอนซิลอักเสบ

ราศีพิจิก (17 พ.ย.-15 ธ.ค.) การทำ�งานอึดอัดบ้างเพราะงานเยอะ แต่ ให้อดทนไว้ ผู้บังคับบัญชาจะชื่นชม เพราะคุณ เป็นคนเก่ง หัวหน้าไว้วางใจจึงมีงานเพิ่ม เงินทอง ช่วงกลางเหมาะสำ�หรับการเสี่ยง การลุ้น เล่นหุ้น สบายใจ “ไพ่ 7 ดาบ” ความรักแปลกชอบกล คบ ยังไงก็ยังเป็นความสัมพันธ์แบบไม่เปิดเผย อาจ หนีตามกันไปได้ คนโสดช่วงนี้คนผ่านมามักจะ มีเจ้าของกันหมด รักนี้ต้องซ่อนเร้น สุขภาพเป็น หวัด ไอ เจ็บคอ ให้ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีก่อนที่ จะไปห่วงคนอื่น

ราศีธนู (16 ธ.ค.-15 ม.ค.) คาดหวังอะไรไว้ส่วนใหญ่จะเหลว การงาน ขัดแย้งกับหัวหน้า ไม่กลายเป็นคนโปรดเหมือน เคย คงต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ ตอนนี้ที่ ช่วยได้คงเป็นกำ�ลังใจที่ดี มองโลกในแง่ดี รับรอง มีทางออกแน่ ๆ “ไพ่ The Moon” เรื่องเสียเงินรุม กันเข้ามา รวมถึงสุขภาพคุณเองก็ไม่ค่อยจะสู้ดี อาจต้องหาหมอ ทานยา ความรักขีน้ อ้ ยอกน้อยใจ ช่วงนีค้ นรักก็เหินห่างทำ�ให้คดิ มาก คนโสดคงต้อง อาศัยพ่อสื่อแม่ชัก หาเองมันช่างยากเย็นเข็ญใจ สุขภาพอ่อนเพลีย ป่วยง่าย happy+ | 99

กิจกรรมนำ�สุข

The Boss รุ่นที่ 83 New Era ผู้นำ�แห่งอนาคต (New Era Leadership)

สถาบันการบริหารและจิตวิทยา MPI ได้จดั กิจกรรมให้สมาชิก The Boss รุน่ 83 New Era เข้าร่วมโครงการสัมมนาผูน้ �ำ แห่งอนาคต : New Era Leadership ณ โรงแรมสามพราน ริเวอร์ไซด์ จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 21-23 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา โดยได้รับเกียรติจาก ดร.วิสุทธิ วิทยฐานกรณ์ ประธานกรรมการ สถาบันฯ และ อาจารย์พิเชษฐ์ เวชสุภาพร ประธานกรรมการวิชาการ ร่วมเปิดงาน การจัดสัมมนาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ให้นักธุรกิจที่เข้าร่วมอบรม ในหลักสูตร The Boss New Era ร่วมทำ�กิจกรรมกับภาคประชาสังคม เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองด้านธุรกิจ และด้านประชาสังคม เพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกัน เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยอย่างสมดุลทุกภาคส่วน ในวันที่ 21 มกราคม 2558 สมาชิกได้เข้าร่วมฟังการบรรยายข้อมูลทีเ่ ป็นสาระสำ�คัญในการออกแบบประเทศไทยในอนาคต เริม่ ด้วย “ความเจริญรุง่ เรือง ของอยุธยาถึงปัจจุบัน” โดยได้รับเกียรติจาก รศ.ดร.สุเนตร ชุตินธรานนท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียศึกษา เป็นผู้ให้ข้อมูลด้านศักยภาพของประเทศไทยตั้งแต่ สมัยอยุธยา ที่การค้าเจริญรุ่งเรือง กระบวนการปฏิรูปที่ทำ�ให้อยุธยาเป็นราชธานียาวนานที่สุด เชื่อมโยงด้วย “ภาวะเศรษฐกิจและการเมือง (ภูมิรัฐศาสตร์) ทั่วโลก” จาก รศ.ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ และ “ความท้าทายที่เกิดขึ้นในระดับโลก ระดับประเทศของสังคมโลกกับเศรษฐกิจไทย” จาก อาจารย์สุรพล โอภาสเสถียร และ “การเป็นพลเมืองที่ดี ผู้มีสิทธิและหน้าที่” ซึ่งได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ธีรยุทธ บุญมี เป็นผู้บรรยาย ในวันที่ 22 มกราคม 2558 ชาวสมาชิก The Boss รุ่น 83 New Era ได้ร่วมกันวิเคราะห์สังคมไทยผ่านกระบวนการ “Future Search Conference” และ “สังเคราะห์สถานการณ์สงั คมโลกและสังคมไทย” ภายใต้สถานการณ์ทเี่ ป็นจริง เพือ่ เตรียมพร้อมสำ�หรับการปรับตัวกับสิง่ ทีเ่ กิดขึน้ ต่อด้วยการจัดกลุม่ ระดมความคิดจากเหล่านักบริหาร นำ�ข้อมูลที่ได้หาแนวทางในการรับมือกับปัญหาบ้านเมือง โดย อาจารย์ชูชัย ฤดีสุขสกุล เป็นวิทยากรกระบวนการ หลังจากนั้นในวันที่ 23 มกราคม 2558 ดร.สุมิท แช่มประสิทธิ์ ดร.วิสุทธิ วิทยฐานกรณ์ และ อาจารย์ชูชัย ฤดีสุขสกุล ได้ร่วมกันนำ�เสวนาในหัวข้อ “Scenario Thailand and Great Reform” และ “ความท้าทายของคนไทย” เพื่อจุดประกายให้ผู้เข้าสัมมนาหันมาใช้ศักยภาพของตนเองที่มีอยู่ เพื่อดูแล ช่วยเหลือบ้านเมือง ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมไทย อันจะร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการพัฒนาประเทศ ในครั้งนี้ชาว The Boss รุ่น 83 New Era ได้มีโอกาสไปสัมผัสกับการทำ�เกษตรอินทรีย์ ณ ต.บางช้าง อ.สามพราน จ.นครปฐม เพื่อเจาะลึกถึงเศรษฐกิจภาคประชาชนอีกด้วย นอกจากนี้ สมาชิก The Boss รุ่น 83 New Era ยังได้ร่วมกันบรรสาน เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ทั้งหมดที่ได้รับจากหลักสูตร The Boss New Era สรุป เป็นความคิดรวบยอด เพือ่ ให้นกั ธุรกิจนำ�ความรูแ้ ละข้อมูลใหม่ ๆ มาสานต่อวิสยั ทัศน์รว่ มกัน รวมพลังสร้างสรรค์ธรุ กิจเพือ่ สังคม พร้อมเป็นผูน้ ำ�แห่งอนาคต ส่งมอบประเทศไทยให้แก่ลูกหลาน ซึ่งเป็นการปิดหลักสูตร The Boss รุ่น 83 New Era อย่างเป็นทางการ สถาบัน MPI ยังมีหลักสูตรต่าง ๆ เพือ่ พัฒนาบุคลากรและองค์กรให้มคี วามเพียบพร้อม ซึง่ สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ www.facebook.com/trainingmpi 100 | happy+

ม.ล.สราลี กิติยากร บริษัท ฮันนี่ แอนด์ เฟรนด์ เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำ�กัด

เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา ณ บริษัท นํา้ มันพืชไทย จำ�กัด (มหาชน) ม.ล.สราลี กิตยิ ากร และดร.วิสุทธิ วิทยฐานะกรณ์ ได้มีโอกาสพบปะ พู ด คุ ย ปรึ ก ษาเรื่ อ งงานต่ า ง ๆ ที่ เ กิ ด ขึ้ น ในปี พ.ศ.2558 พร้อมมอบของขวัญเสื้อยืดที่ระลึก จากบริษทั ฮันนี่ แอนด์ เฟรนด์ เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำ�กั ด ที่ ม.ล.สราลี ออกแบบลวดลายเอง ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นกันเอง

“กอล์ฟการกุศล The Boss 83”

The Boss รุ่น 83 New Era (สถาบันการบริหารและจิตวิทยา - MPI) จัดการ แข่งขันกอล์ฟการกุศล ชิงถ้วยเกียรติยศ พล.อ.กะสิณ ทองโกมล ราชองครักษ์ พิเศษ ตุลาการศาลทหารสูงสุด และลุน้ รับของรางวัล กิจกรรมบันเทิงอีกมากมาย ถือเป็นการต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข ซึ่งจัดโดยคณะกรรมการจัดการแข่งขัน อาทิ ศุภชัย ตั้งวรชัย, ฉัตรชัย ชุมศิริ, วิภาวลี วัจนาภิญโญ, ชาย บูรณจิตร์ภิรมย์ และนักศึกษา The Boss รุน่ 83 New Era เพือ่ หารายได้สนับสนุนกิจกรรมสาธารณกุศลและสาธารณประโยชน์ ส่วนผลการแข่งขันชนะเลิศ ได้แก่ ทีมนักร้องชื่อดัง ไท ธนาวุฒิ คว้าถ้วยรางวัลชนะเลิศไปครองได้สำ�เร็จบนกรีนระดับมาตรฐานสากล โดยมี วุฒิรัฐ มณีอินทร์ Golf Director ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ที่สนามกอล์ฟ บางไทร คันทรีคลับ จ.พระนครศรีอยุธยา

happy+ ส่งความสุขต่อเนื่อง

นิตยสาร happy+ เดินทางไปมอบนิตยสารเป็นอภินันทนาการ แก่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ตามโครงการ “happy+ อ่านสบาย กระจายสุข” เพื่อส่งเสริมการอ่าน และเพิ่มทางเลือกให้ผู้อ่านได้ คัดสรรความสุขในแบบทีต่ อ้ งการผ่านบุคคลต่าง ๆ ทีท่ มี งานได้มโี อกาส ไปสัมภาษณ์มา ด้วยข้อคิด การใช้ชีวิต พร้อมไลฟ์สไตล์เรื่องราวที่เป็น มิตรต่อจิตใจและอารมณ์ โดยมี พ.อ.หญิง รุ้งขจี อุทัยมงคล หัวหน้า สำ�นักงานมูลนิธิฯ รพ.รร. 6 เป็นผู้รับมอบ

happy+ | 101

happiness is all around

Just You Gift “THE SPECIAL GIFT FOR THE SPECIAL ONE”

Just You Gift (จัสยูกิ๊ฟ) จำ�หน่ายของขวัญในทุกวาระโอกาส พร้อมบริการ จัดส่งถึงผู้รับทั่วประเทศ สินค้าเป็นผลไม้นำ�เข้าคุณภาพเยี่ยมจากหลาย ร้านจำ�หน่ายเสือ้ ผ้าคุณภาพดี ในราคาย่อมเยา สินค้านำ�เข้าจากต่างประเทศ ประเทศ รับรองความอร่อยและความสดใหม่ นำ�มาจัดลงกล่องของขวัญ จำ�หน่ายทั้งปลีกและส่ง มีทั้งของเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้หญิง และผู้ชาย มี 2 สาขา ทีอ่ อกแบบอย่างสวยหรู มีสไตล์ ไม่เหมือนใครมีเอกลักษณ์เฉพาะ “Just You เชิญเลือกซื้อได้ตามสะดวก Gift” เท่านั้น แทนความรู้สึกดี ๆ จากผู้ให้ สร้างความประทับใจแก่ผู้รับ *สาขาคริสตัล เลียบทางด่วน เอกมัยรามอิทรา ชัน้ 2 เฟส 1 ตรงข้ามโรงเรียน ดังสโลแกนของเราที่ว่า “THE SPECIAL GIFT FOR THE SPECIAL ONE” ดนตรีสยามกลการ ติดต่อ ขวัญ โทร. / line : 08-4156-4194 สนใจโทร. 09-7202-6565 www.justyougift.com FB / IG / Line : JustYouGift *สาขาคริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์ ชั้น 3 หน้าโรงหนัง SF ติดต่อ อิ๋ว โทร. / line : 08-9828-6059

ร้าน Shopaholic by Muk

ยาสีฟนั สมุนไพรกระชาย สูตรโทเทิลแคร์และนํา้ ยาบ้วนปาก สมุนไพรกระชาย แครบทรี แอนด์ อีฟลิน เปิดตัวเซตบำ�รุงผิวจากธรรมชาติ ผลิตภัณฑ์บ�ำ รุงผิวแบรนด์องั กฤษแครบทรี แอนด์ อีฟลิน (Crabtree & Evelyn) ชวนสาว ๆ เผยผิวเนียนสวย เริงร่าท้าแดดซัมเมอร์ ตอบโจทย์สาว ๆ ทุก สภาพผิว ด้วยเซตบำ�รุงผิวคอลเลกชั่นใหม่ “Botanical Collection” นำ�เสนอ 4 กลิ่นพิเศษที่คัดสรรสารสกัดจากธรรมชาติชั้นดีทั่วโลก ส่งตรงความหอม สดชื่นในรูปแบบผลิตภัณฑ์ครีมบำ�รุงผิวกายและเจลอาบนํ้า สัมผัสความ พิเศษนี้ได้ ทั้ง 6 สาขา ได้แก่ สาขาดิ เอ็มโพเรียม ชั้น 1, สยามพารากอน ชั้น 1, เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 2, เซ็นทรัล พระราม 9 ชั้น 2, เซ็นทรัล ลาดพร้าว ชั้น 2 และเซ็นทรัล East Ville ชั้น 1 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-29110046-7 ต่อ 238 หรือติดตามข่าวสารได้ที่ www.crabtree-evelyn.co.th หรือ ทาง facebook และ Instagram : Crabtreeandevelynthailand

102 | happy+

ครั้งแรกในเมืองไทย จากภูมิปัญญาสู่การดูแลสุขภาพปากและฟัน ผสาน เทคโนโลยีสมัยใหม่ด้วยสารสกัด “กระชาย” ช่วยยับยั้งการเกิดคราบพลัค สาเหตุของฟันผุ กลิ่นปาก และบรรเทาอาการเหงือกอักเสบ “กานพลู” ลดกลิ่นปาก ลมหายใจหอมสดชื่น “ว่านหางจระเข้” ดูแลเยื่อบุช่องปาก “ใบฝรั่ง” ลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียและกลิ่นปาก “เปปเปอร์มินต์” ช่วยให้ลมหายใจหอมสดชื่น เสริมประสิทธิภาพด้วย “โซเดียม ฟลูออไรด์” ช่วยให้เคลือบฟันแข็งแรง ป้องกันฟันผุ และ “ผงขัดฟัน ชนิดไฮเดรต ซิลิกา” เนือ้ ละเอียดไม่ท�ำ ลายเคลือบฟัน ดูแลเหงือกและฟันได้อย่างสมบูรณ์ ยาสีฟนั กระชาย มีฤทธิย์ บั ยัง้ เชือ้ แบคทีเรียก่อโรคในช่องปาก Streptococcus Mutans ได้ดีที่สุด ในยาสีฟันสมุนไพร 14 ชนิด ที่มีขายในท้องตลาด ติดตาม ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.abhaiherb.com หรือฝ่ายส่งเสริมการขาย มูลนิธิ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรฯ 0-3721-3610, 08-6563-1123

game for reader

Q : พระพุทธรูปที่สูงที่สุดใน ประเทศไทยในจังหวัดร้อยเอ็ด ประดิษฐานอยู่ที่วัดใด ทราบแล้วส่งคำ�ตอบมายังนิตยสาร happy+ บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะเทรนดี้ ชัน้ 27 ถ.สุขมุ วิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110 หรือส่งมาที่อีเมล happyplusmag@ gmail.com ภายในวันที่ 30 เมษยายน 2559 ร่ ว มลุ้ น รั บ ผลิ ต ภั ณ ฑ์ ป้องกันแสงแดด Very Jelly Sun จำ � นวน 2 รางวั ล (ประกาศรายชื่ อ ผู้ ไ ด้ รั บ รางวัลใน happy+ ฉบับ เดือนมิถนุ ายน 2559) หมายเหตุ : ภายในไปรษณีย์ โปรดระบุเบอร์ ติดต่อกลับและหากได้รางวัล กรุณาเดินทางมารับ รางวัลด้วยตนเอง

รายชื่อผู้รับรางวัลเล่ม 41

โครงการมอบความสุขให้กบั ชุมชน โดยการสมัครเป็นสมาชิกอุปถัมภ์นติ ยสาร happy+ ให้โรงเรียน โรงพยาบาลในชนบท และชุมชนทีข่ าดแคลน เพื่อส่งเสริมประชาชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุขทั้งกาย ใจ และสังคม นิตยสาร happy+ จึงขอเชิญชวนผู้อ่านร่วมเป็นผู้อุปถัมภ์กิตติมศักดิ์ สมัครเป็นสมาชิกอุปถัมภ์ให้โรงเรียน โรงพยาบาล ในชนบท และชุมชนที่ขาดแคลน โดยท่านสามารถใช้ใบสมัครเดียวกับใบสมัครสมาชิกทั่วไป เพียงระบุชื่อ โรงเรียนที่ต้องการอุปถัมภ์ลงไปในช่องชื่อและที่อยู่ ซึ่งเว้นไว้ นิ ต ยสาร happy+ ขอขอบคุ ณ ทุ ก ท่ า นที่ ร่ ว มแบ่ ง ปั น ความสุ ข และมี ส่ ว นร่ ว มในการดู แ ล สังคมไทย 104 | happy+

นิทรรศรัตนโกสินทร์เปิดให้เข้าชมในปีใด คำ�ตอบ ปี พ.ศ. 2553 รายชือ่ ผูโ้ ชคดี ได้รบั เซตบัวไผ่ขา้ ว จากอภัยภูเบศร จำ�นวน 2 รางวัล 1. คุณสำ�ราญ นาคนา้ํ กาญจนบุรี 2. คุณธนัชพร พรพัฒน์พบิ ลู ปทุมธานี ติดต่อเพือ่ รับของรางวัลได้ที่ คุณเบล บริษทั ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชั้น 27 ถนนสุขุมวิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110 โทร. 0-2168-7480 ต่อ 1021 หากไม่ติดต่อขอรับรางวัล ภายในวันที่ 30 เมษายน 2559 ถือว่าสละสิทธิ์ ** โปรดมารับรางวัลด้วยตนเองค่ะ

Next Issue

Do It Yourself หากคุณเป็นคนชอบประดิษฐ์ ประดอย จับโน่นผสมนี่ สิ่งของ ที่คนอื่นอาจมองว่าไร้ค่า แต่คุณกลับปิ๊งไอเดียสุดเก๋ ผลิต เป็นผลงานสุดสร้างสรรค์ขึ้นมาได้ แค่นี้ก็น่าสนใจแล้วใช่ไหมคะ นิตยสาร happy+ ฉบับเดือน พฤษภาคมจะพาคุณผู้อ่านไปดู ผลงาน DIY สุดเจ๋งจากเขา และเธอผู้มีหัวใจครีเอทกันค่ะ แล้วอย่าลืมพบกัน ที่แผงหนังสือนะคะ เลขที่ใบสมัคร No…………………………………………………รหัสสมาชิก...................................................................................................... (สำ�หรับเจ้าหน้าที่)

ใบสมัครสมาชิก

สมาชิกทั่วไป

สมาชิกอุปถัมภ์

วันที่สมัคร............................................................................................................................................................... สมัครสมาชิก 1 ปี (12 ฉบับ) ราคา 780 บาท เริ่มฉบับที่.....................................................................ถึงฉบับที่............................................................................ ชื่อ................................................................................นามสกุล............................................................................ วัน/เดือน/ปีเกิด..............................................................อายุ.................................................................................. เพศ ชาย หญิง อาชีพ..............................................................รายได้ต่อเดือน....................................... ระดับการศึกษา ตํ่ากว่า ป.ตรี ป.ตรี ป.โท อื่นๆ สถานภาพ โสด สมรส ม่าย/หย่าร้าง ปัจจุบันมีบุตรหรือไม่ ยังไม่มี มีแล้ว จำ�นวน...............................คน สถานที่สำ�หรับจัดส่งนิตยสาร ชื่อ........................................................................................................................................................................... ที่อยู่........................................................................................................................................................................ รหัสไปรษณีย์.......................................................................................................................................................... โทรศัพท์ (บ้าน).................................................................โทรศัพท์ (มือถือ).......................................................... โทรสาร............................................................................อีเมล............................................................................... ชำ�ระค่าสมัครโดย โอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ในนาม บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบางโคล่ : เลขที่บัญชี 095-273056-5 *กรุณาส่งใบสมัครสมาชิก พร้อมเอกสารการชำ�ระเงินมาที่ ฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์ นิตยสาร happy+ บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชั้น 27 ถนนสุขุมวิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110 หรือแฟกซ์มาที่หมายเลข 0-2168-7481 หรือสแกนหลักฐานส่งมาทางอีเมล happyplusmag@gmail.com **บริษัทจะส่งเลขที่สมาชิกและนิตยสารฉบับแรกไปยังท่าน เมื่อได้รับหลักฐานการชำ�ระเงินแล้ว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือแนะนำ� ติ ชม ได้ที่ฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์ นิตยสาร happy+ โทรศัพท์ 0-2168-7480 ต่อ 1021 (แบบฟอร์มนี้สามารถถ่ายเอกสาร หรือคัดลอกลงกระดาษ A4 แล้วส่งมาตามที่อยู่ของบริษัท)

พิเศษ สมัครสมาชิก happy+ เดือนเมษายน รับทันที

mades Cosmetics Curiosite Duo Beauty Box (Body Wash & Body Lotion)

พิเศษยิ่งกว่า

สำ�หรับสมาชิก ที่ต่ออายุใน เดือนเมษายน รับเพิ่ม

de leaf THANAKA Moisturizing & Whitening Cream ครีมบำ�รุงผิวหน้าจากสารสกัดไม้ ทานาคา

happy ending

เราควรมุ่งมั่นทำ�ในสิ่งที่ถูกต้อง แม้ว่าจะไม่มีใครมองเห็นก็ตาม

จิม สโตวอลล์ นักเขียนชาวอเมริกัน เจ้าของผลงาน The Ultimate Gift ที่ได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์