let’s smile
เดินหน้าสู่ปีที่ 5 เผลอแป๊บเดียวนิตยสาร happy+ ก็เดินหน้าเข้าสูป่ ใี หม่ ปี 2560 ซึง่ ถือเป็น ปีท่ี 5 ทีพ่ วกเราทีมงานนิตยสาร happy+ และคุณผูอ้ า่ นได้เดินทางร่วมกันมาอย่าง ยาวนานมากเลยนะคะ รูส้ กึ เป็นเกียรติทไ่ี ด้เป็นส่วนหนึง่ ในการเติมเต็มความสุข ผ่านตัวอักษรและเรือ่ งราวต่าง ๆ ทีส่ ร้างแรงบันดาลใจให้ทกุ ท่านมาก ๆ เลยค่ะ สำ�หรับเดือนมกราคม ปีระกา ทีน่ อกจากจะเป็นเดือนพิเศษเพราะทุกคนเพิง่ ผ่านพ้นช่วงพักผ่อนกันมาอย่างเต็มอิม่ แล้ว ฉบับนีเ้ รายังเพิม่ ความพิเศษให้มากขึน้ ไปอีก ด้วยการพาทุกท่านไปพบกับน้อง ๆ เด็กไทยทีม่ คี วามสามารถอันหลากหลาย มาร่วมเป็นกำ�ลังใจให้นอ้ ง ๆ เหล่านีก้ นั ดีกว่าค่ะ ด้วยความปรารถนาดี ทีมงานนิตยสาร happy+
Letter สวัสดีครับ กองบรรณาธิการนิตยสาร happy+ ได้ตดิ ตามอ่านนิตยสาร happy+ รูส้ กึ คิดถึงนักเขียนเก่า ๆ มากครับ หายหน้าหายตากันไปบ้างบางคน ใกล้จะปีใหม่แล้ว อยากทราบว่าทางกอง บรรณาธิการเตรียมของรางวัลอะไรไว้ให้ผรู้ ว่ มสนุกกันบ้างเอ่ย คงต้องลุน้ กัน ต่อไปนะครับ ท้ายนีข้ ออวยพรให้นติ ยสาร happy+ นิตยสารดี ๆ อ่านแล้วมี ความสุขแบบนีเ้ จริญก้าวหน้าตลอดไปนะครับ อัศวิน พุทธทองนาค สวัสดีคะ่ คุณอัศวิน ทางกองบรรณาธิการรูส้ กึ ขอบคุณมากนะคะทีเ่ ขียนจดหมายเข้ามาหากัน และรูส้ กึ ขอบคุณแทนนักเขียนเก่า ๆ บางท่านทีค่ ณ ุ อัศวินยังคงแสดงความ คิดถึงอยูค่ ะ่ และสำ�หรับเล่มเดือนมกราคมนี้ เราได้ประกาศรางวัลผูร้ ว่ มสนุก กันแล้ว รอติดตามกันได้เลยค่ะ • ส่งความคิดเห็น คำ�ติ ชม หรือข้อเสนอ แนะที่มีต่อ happy+ ได้ท่ี กองบรรณาธิการ นิตยสาร happy+ บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด เลขที่ 10/196-197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชัน้ 27 ถนนสุขมุ วิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 หรือทางอีเมล happyplusmag@gmail.com happy+ มีของขวัญ มอบให้แทนคำ�ขอบคุณ • สำ�หรับคุณอัศวิน จะได้รบั สบูร่ �ำ ข้าวออร์แกนิก จาก T.R.B.O ติดต่อขอรับ ของรางวัลได้ทค่ี ณ ุ เบล โทร. 0-2168-7480 ต่อ 1021
เจ้าของ : บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชั้น 27 ถนนสุขุมวิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 0-2168-7480 โทรสาร 0-2168-7481 คณะที่ปรึกษา : วิสุทธิ วิทยฐานกรณ์, ศักดิ์ชัย พฤฒิภัค บรรณาธิการผู้พิมพ์ผู้โฆษณา : วราภรณ์ ชูพระคุณ Social Editor : ทูน หิรัญทรัพย์ กองบรรณาธิ ก าร : ภั ท รามน ผุ ด เพชรแก้ ว , ภั ท ราภรณ์ เตชะธรรมวงศ์ , พิ ช ญา สิ ท ธิ บุ ต ร์ , ณั ฐ ธิ ช า อามิ น เซ็ น นั ก ศึ ก ษาฝึ ก งาน : วราภรณ์ วั ช รานนท์ นักเขียน : ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิตพิ ร, ดร.วีรณัฐ โรจนประภา, ณัฐพบธรรม, ศศิน เฉลิมลาภ, ป้าจาย-แม่มดดอกไม้, อาจารย์คฑา ชินบัญชร, ผมอยูข่ า้ งหลังคุณ, นพ.พิรตั น์ โลกาพัฒนา, ศศินี ปัญญารัตน์, อรพิมพ์ รักษาผล, เจ้าชายผัก, ญาดารัตน์ พิสจู น์อกั ษร : ณรงค์ พึง่ บุญพา บรรณาธิการศิลปกรรม : กัมปนาท ศิลาวรรณ ช่างภาพ : สุภชัย รอดประจง, วิกรม วิสทุ ธิปราณีิ ฝ่ายโฆษณาและการตลาด : 0-2168-7480 ต่อ 1010 แยกสี : 71 Interscan Co., Ltd. โทรศัพท์ 0-2631-7171 พิมพ์ที่ : บริษัท ไซเบอร์พริ้นท์ จำ�กัด 0-2641-9135-8 จัดจำ�หน่าย : บริษัท เวิร์ล ออฟ ดิสทริบิวชั่น • ผู้ อ่ า นท่ า นใดต้ อ งการเขี ย นจดหมายมาพู ด คุ ย กั บ เรา ต้ อ งการติ ชม หรื อ เสนอแนะ เชิ ญ ส่ ง ความคิ ด เห็ น ของท่ า นเข้ า มาได้ ที่ happyplusmag@gmail.com หรือเข้าไปติดตามความเคลื่อนไหว update ข่าวสารใหม่ ๆ ได้ที่ : facebook.com/happyplusmag หรือ Line ID : happyplusmagazine เว็บไซต์ : www.happyplusmagazine.com
นิตยสาร รางวัลตาราอวอร์ด ‘ปลุกหัวใจสังคมด้วยหัวใจโพธิสัตว์’ ประจำ�ปี 2556
contents
ปีที่ 5 ฉบับที่ 50 มกราคม 2560
กายสุข 14 healthy planet / โรคกระจกตาโก่ง พบมากขึ้น ในคนไทย 62 take care / หมอกควันและปัญหาสุขภาพ 65 q & a 66 ยืดเส้น ยืดสาย / ยืดเส้นยืดสายลดอาการ ปวดเมื่อย 68 happy herb / สู้หนาว สู้วัย...ด้วยสมุนไพร บำ�รุงผิว 72 beauty by nature / สุดยอดสูตรความงามง่าย ๆ ต้อนรับปีใหม่ 92 กินอาหารเป็นยา / ข้าวจี่ดอกไม้-ไข่พระอาทิตย์ ใจสุข 20 happy people / ชีวิตลงตัวด้วยความสุข แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ 30 happy heart / รักษาสมดุลชีวิต ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม
38 feature / พลังใหม่ เพื่อวันใหม่ 48 ตัวอักษร ซ่อนพลัง / สิ่งที่เปลี่ยนไปแล้วกับ
เศษแก้วที่ชายทะเล
54 family in love / คบเด็กสร้างชาติ 56 นัดพบกับธรรมะ / ภูมิใจในสิ่งที่เป็น VS เป็นคน
ที่ดีกว่าเดิม
58 wired world / เตรียมสู้กับปัญญาประดิษฐ์
(ตอน 2)
60 ระหว่างทาง / ชีวิตใหม่ของพงษ์ 70 Well Being / งานวันเด็ก 74 สิ่งนี้ที่เรารัก / ของสะสมด้วยใจรัก
หฤดี วรพงศ์พิสุทธิ์ 76 travelogue / เวียงจันทน์ ฉันและเธอ 80 การเดินทางของนกสีฟ้า / ผจญภัยแก่งหินเพลิง 84 one happy day / นิทรรศการภาพถ่าย “น้อมรำ�ลึกในหลวง ร.๙”
88 green corner / สวนป่ารักนํ้า เฉลิมพระเกียรติฯ 94 ชวนชิม อิ่มสุข
• เขาค้อเฮอร์เบอรี ออแกนิกฟาร์ม แอนด์ รีสอร์ท • Milk on the Rock 96 ชวนดูหนัง / A Monster Calls มหัศจรรย์เรียกอสูร 97 ชวนอ่านสานสุข 98 horoscopes สังคมสุข
10 happy planet / ความแตกต่างที่ลงตัว 50 คนคิดดี / การเรียนรู้ สู่การเติบโต Black Box 100 กิจกรรมนำ�สุข
contributors
ป้าจาย-แม่มดดอกไม้ กินอาหารเป็นยา horoscope p.92 p.98 ผู้เขียนและวาดภาพประกอบหนังสือ ครัวดอกไม้ นักพยากรณ์ชื่อดัง เจ้าของรางวัล “สร้างสรรค์สังคม ที ่ได้รับการตีพิมพ์ถึง 3 ครั้ง และยังเป็นเจ้าของ ไทยดีเด่น” ประจำ�ปี 2541 ปัจจุบนั เป็นทัง้ คอลัมนิสต์ เครื่องหมายทะเบียนการค้า ครัวดอกไม้ ปัจจุบัน พิธีกร และวิทยากรพิเศษ รวมถึงทำ�งานการกุศล มีความสุขกับการเขียนหนังสือ และออกตลาดนัด มากมาย ได้แก่ เป็นประธานกองทุน M.A.C. Aids Fund (ประเทศไทย) ประธานหาทุนมูลนิธิร่วมนํ้าใจ สีเขียวซึ่งเป็นกิจกรรมที่ทำ�ได้ทุกวันโดยไม่รู้สึกเบื่อ ต้านภัยเอดส์ ผู้ช่วยผู้จัดการโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ 48 พรรษาฯ จ.ลำ�พูน เป็นต้น อาจารย์คฑา ชินบัญชร
ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร happy herb p.68
เจ้าแม่สมุนไพรผูไ้ ด้รบั พระราชทานรางวัลบุคคลดีเด่น ของชาติ สาขาเผยแพร่เกียรติภูมิของไทย (ด้าน การแพทย์แผนไทย) เจ้าของรางวัลบุคคลดีเด่นแห่ง ชาติ สาขาผลงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ดีเด่น และ เป็น 1 ใน 21 ผู้หญิงเก่งที่ได้รับรางวัล Women Who Make a Difference จากนิตยสาร Thailand Tatler ปัจจุบันดำ�รงตำ�แหน่งหัวหน้ากลุ่มงาน เภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
ณัฐพบธรรม นัดพบกับธรรมะ p.56
เป็นนักเขียน Best Seller ที่เน้นเขียนธรรมะที่อ้างอิง จากพระไตรปิฎกโดยมีผลงานเป็นที่รู้จักก็คือ ถ้ารู้... (กู)...ทำ�ไปนานแล้ว, นี่หรือเมืองพุทธ ปัจจุบันมี ความสุขอยู่กับการเป็นคนธรรมดา ที่ทำ�ตามคำ� สั่งสอนของพระพุทธเจ้าในทุก ๆ วัน
ผมอยู่ข้างหลังคุณ (นพ.พีรพล ภัทรนุธาพร) wired world p.58
แพทยศาสตรบัณฑิตจากโรงพยาบาลรามาธิบดี แพทย์เฉพาะทางวุฒบิ ตั รสาขาจิตเวชศาสตร์ และ วุฒิบัตรจิตเวชเด็กและวัยรุ่น หลังเรียนจบได้ปฏิบัติ ภารกิจตามที่ศึกษามาในโรงพยาบาล ขณะเดียวกัน ยังเป็นคอลัมนิสต์ประจำ�นิตยสาร มีงานเขียนอยู่ ประจำ�ที่ facebook.com/ibehindyou และมีผลงาน พ็อกเก็ตบุ๊กมาแล้วทั้งหมดสิบเล่ม
เบส อรพิมพ์ รักษาผล ตัวอักษรซ่อนพลัง p.48
เบส อรพิมพ์ รักษาผล ผู้หญิงที่รักการแสดงออก ชอบร้อง ชอบเต้น ชอบพูด ชอบการขีดเขียนมา ตั้งแต่เด็ก บวกกับการทำ�งานด้านการเป็นนักพูดที่ ต้องอยูก่ บั การค้นคว้าขีดเขียนด้วยตนเอง จนพบว่า หลงรักการเขียนและอยากให้ตัวอักษรเป็นอีกหนึ่ง ช่องทางในการสร้างกำ�ลังใจแก่ผู้อ่านได้ต่อไป..
ศศิน เฉลิมลาภ ระหว่างทาง p.60
ได้มีโอกาสเดินทางผ่านไปในเส้นทางธรรมชาติ พบปะผู้คน และสถานที่ที่สะดุดให้คิดถึงเรื่องดี ๆ ที่เกิดขึ้นในห้วงการพบเจอ และชวนให้จดจำ�นำ� มาเล่าให้ฟัง เป็นเส้นทางแห่งการทำ�งานอนุรักษ์ ธรรมชาติ ทีม่ คี วามสุข แทรกอยูใ่ นภารกิจทีห่ นักหนา แต่เลือกแล้วว่าจะต้องทำ� และเดินทางต่อไป
นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา take care p.62
คุณหมอบล็อกเกอร์ผู้เขียนบทความทางการแพทย์ ลงใน Mthai.com และ mor-maew.exteen.com เจ้าของรางวัล “เบสท์ออฟเดอะเบสท์” และรางวัล “บล็อกยอดเยี่ยม สาขาสุขภาพ” จากการประกวด สุดยอดบล็อก ในงานประกวดไทยแลนด์บล็อก อวอร์ด ติดตามบทความของคุณหมอได้ในคอลัมน์ Take Care
ดร.วีรณัฐ โรจนประภา family in love p.54
“วิศวกรสังคม” ผู้มุ่งมั่นนำ�หลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงมาใช้ขับเคลื่อนงานในทั้ง 3 มิติคือ การ ศึกษา สังคม และเศรษฐกิจ ด้วยเครื่องมือ 3 ชนิด คือ มูลนิธิบ้านอารีย์ สมาคมบ้านปันรัก และบจก. คิดใหม่ เพื่อส่งต่อความรู้ในทั้ง 3 ระดับคือ ขั้นสอน ให้รู้ ทำ�ให้ดู และอยู่ให้เห็น
ญาดารัตน์ well being p.70
“เด็กวิทย์ชอบศิลป์” ลูกชาวสวนที่มีความศรัทธา ต่ออาชีพของบรรพบุรุษ เป็นพยาบาลที่มีความ ภาคภูมิใจในวิชาชีพ และเห็นคุณค่าของการ ทำ�งานศิลปะในเชิงการบำ�บัดเยียวยาจิตใจผู้คน เป็นผู้ที่หลงใหลในการเดินทางและการบันทึก เป็นชีวิตจิตใจ ปัจจุบันเป็นอาจารย์พยาบาลใน มหาวิทยาลัยที่มีความเชี่ยวชาญด้านผู้สูงอายุ และ ทำ�งานอาสาสมัครด้านศิลปะบำ�บัดให้กับสังคม ใน บทบาท Therapeutic Art Specialists
เจ้าชายผัก ปลูกความสุข ในบ้านคุณกับเจ้าชายผัก p.90 ฉายาของคุณ “ปริ๊นซ์’ นคร ลิมปคุปตถาวร เจ้าของ ‘ศูนย์เรียนรู้เกษตรในเมือง สาขาเจ้าชายผัก’ ย่าน ลาดพร้าว 71 ผู้มีใจรักในการปลูกผัก และยัง ถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้ที่สนใจ เพราะอยากเห็น คนเมืองปลูกผักปลอดสารพิษไว้กินเอง ด้วยความ เชื่อว่า การปลูกผักทำ�ให้สุขกายที่ได้อาหารดี สุขใจที่ได้ปลูก และสุขที่ได้ร่วมแบ่งปัน
ศศินี ปัญญารัตน์
beauty by nature p.72
ผันตัวเองจากการทำ�งานในบริษัทโฆษณาต่างชาติ ชื่อดัง มาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโยคะและธรรมชาติ บำ�บัด จบหลักสูตรจากสถาบันโยคะวิชาการ และ Kaivalyadhamma Yoga Institute, India ทุ่มเทเวลา ดูแลตัวเองทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ จิตวิญญาณ และทำ�งานเพื่อสังคม ปัจจุบันเปิดสอน โยคะส่วนตัวแนวธรรมชาติบำ�บัด
happy planet เรื่อง : Patty Pom
ความแตกต่างที่ลงตัว บนโลกกลม ๆ ของเราใบนี้ มีประชากรกว่า 7,300 ล้านคน ทีก่ ระจัดกระจายตัง้ รกรากถิน่ ฐาน กันอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลก มีหลากเชื้อชาติ หลายสีผมและสีผิว หน้าตารูปร่างก็ต่างกันไป ไหนจะเรื่ อ งความเชื่ อ การใช้ ชี วิ ต ประเพณี และวัฒนธรรม ภาษา แต่ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น ก็ทำ�ให้โลกใบนี้หลากหลาย มีสีสันและมีเรื่องราว ให้เราเรียนรู้ไม่จบสิ้น แต่บางครัง้ ความต่างก็ท�ำ ให้เกิดเรือ่ งราวร้าย ๆ อย่างสงคราม การแย่งชิงพืน้ ทีแ่ ละทรัพยากร หรือ เลวร้ายอย่างการฆ่าล้างเผ่าพันธุอ์ ย่างทีเ่ คยเกิดขึน้ มาแล้ ว ในอดี ต ซึ่ ง สาเหตุ ห นึ่ ง ก็ ม าจากความ ไม่เข้าใจซึง่ กันและกัน ว่ามนุษย์นนั้ มีความแตกต่าง หลากหลาย วันนี้จะพาทุกท่านไปเรียนรู้และรู้จัก ความเชื่อ วิถีชีวิตและการกระทำ�ที่แตกต่างและ หลากหลายของเพื่อนร่วมโลกของเรากันค่ะ ไม่มี ใครผิด ไม่มีใครถูก เราแค่ต่างกัน
10 | happy+
• แอฟริกาใต้ ชนเผ่า Surma และ Mursi มีค่านิยมทางด้านความงามที่อาจจะดูแปลกไป สักนิดในสายตาคนทั่วไป นั่นคือ หญิงสาวที่สวย ที่สุดจะต้องปากห้อย ปากใหญ่ ถึงจะงามสุด ๆ จึ ง เป็ นที่ ม าของวั ฒ นธรรมการเจาะและขยาย ริมฝีปากด้วยสิง่ ของทีม่ ลี กั ษณะคล้ายจาน ความเชือ่ นี้ มีมาตั้งแต่ 8,700 ปีก่อนคริสตกาล และตอนนี้ก็ ยังมีให้เห็นกันอยู่ หญิงสาวเมื่อถึงวัยที่สามารถ ออกเรือนได้ (อายุ 13-16 ปี) จะต้องเจาะผ่า ริมฝีปากล่างโดยญาติผหู้ ญิง ตํา่ จากขอบปากเข้ามา 1-2 เซนติเมตร แล้วใช้หมุดไม้สอดเข้าไปในแผล เพื่อป้องกันแผลติดกัน ซึ่งก่อนหน้านั้นก็จะต้อง ถอนฟัน 2 ซี่หน้าออกไปด้วย แล้วหลังจากที่ แผลหายแล้ว ก็จะใช้วสั ดุทมี่ ขี นาดใหญ่ขนึ้ ยัดเข้า มาแทนที่ โดยมากจะเป็นแผ่นดินเหนียว และเจ้า แผ่นดินเหนียวนีจ้ ะถูกเพิม่ ขนาดให้ใหญ่ขนึ้ เรือ่ ย ๆ จนกระทั่งปากฉีกไปจนถึงเหงือก และจานนี้จะ บ่งบอกถึงสถานะทางสังคมของบุคคลผูน้ น้ั ด้วย • แคเมอรูน การรัดเต้านมหรือการหยุดยั้ง การเจริ ญ เติ บ โตของเต้ า นม เพื่ อ ที่ จ ะทำ�ให้ ดู ไม่เหมือนผู้หญิงและทำ�ให้ผู้หญิงไม่เป็นที่สนใจ ของผู้ชาย เพราะเชื่อว่าหน้าอกเปรียบเสมือน สั ญ ลั ก ษณ์ ท างเพศของผู้ ห ญิ ง อั นจะเป็ นตั ว กระตุ้ นความต้ อ งการทางเพศของผู้ ช าย จน เป็นเหตุให้เกิดการท้องก่อนแต่งและเรียนไม่จบ นอกจากนี้ยังเชื่อว่าพิธีดังกล่าวจะช่วยปกป้อง เด็ ก สาวจากการถู ก ข่ ม ขื น และภั ย คุ ก คามทาง เพศด้วย ซึ่งวิธีการทำ�นี่ค่อนข้างน่ากลัว พวกเขา
จะใช้ไม้พายร้อน ๆ และก้อนหินก้อนใหญ่ ๆ ไป เผาให้ร้อน และนำ�มานาบที่หน้าอกเพื่อละลาย ไขมั นที่ ห น้ า อกและทำ�ให้ มั น แบน ขณะที่ บ าง ครอบครัวทีม่ ฐี านะดี ก็จะเลือกใช้ผา้ ซึง่ มีลกั ษณะ คล้ายเข็มขัดรัดที่หน้าอกให้แบนลงไป พิธีนี้มี จุดประสงค์เพือ่ ป้องกันไม่ให้หน้าอกของหญิงสาว อายุตั้งแต่ 11-15 ปี ใหญ่โตขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าการ ทำ�แบบนี้ทำ�ให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมาย ทั้ง มะเร็งเต้านม ซีสต์ และปัญหาในการให้นมเด็ก ทารก และกว่า 58 เปอร์เซ็นต์ของผู้ทำ�พิธีการนี้ก็ คือ แม่ของบรรดาเด็กสาวเหล่านัน้ และยังเป็นการ ทำ�ให้เด็กสาวเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค อันเป็นที่มา ของปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง เช่น โรคมะเร็ง ฝี อาการคัน นํ้านมไหล ติดเชื้อ และเต้านมพิการ ซึ่งเด็กสาวส่วนใหญ่ที่ผ่านการทำ�พิธีนี้มักจะเกิด ก้อนซีสต์ เต้านมติดเชื้อ ไข้ขึ้นสูง เนื้อเยื่อถูก ทำ�ลาย หรือแม้กระทัง่ เต้านมข้างหนึง่ หรือทัง้ สอง ข้างหายไปอย่างถาวร • จีน Foot Binding หรือเท้าดอกบัว เป็น ค่านิยมด้านความงามของหญิงชาวจีนในช่วง ศตวรรษที่ 10 โดยการใส่รองเท้าเพื่อที่จะบีบให้ เท้ามีลักษณะเรียวเล็ก เด็กผู้หญิงอายุประมาณ 3-6 ขวบ จะถูกมัดเท้าด้วยผ้าไหมหรือผ้าฝ้าย อย่างแน่นหนา พร้อมกับใส่รองเท้าขนาดเล็ก เพื่อหยุดยั้งไม่ให้เท้าเจริญเติบโตตามปกติ จน ทำ�ให้ ข นาดเท้ า หยุ ด เจริ ญ เติ บ โต สิ่ ง ที่ ได้ ก็ คื อ ทำ�ให้เท้าเติบโตผิดรูปและมีขนาดเพียง 10-15 เซนติเมตรเท่านั้น และหญิงสาวที่มีเท้าเล็กมาก
จะได้ รั บ การยกย่ อ งว่ า เป็ น ‘เท้ า ดอกบั ว ทอง’ พิธีกรรมนี้สืบทอดมากว่า 1,000 ปี จนถูกแบนใน ช่วงศตวรรษที่ 20 พวกเขามีความเชื่อว่าคนที่ไม่ ใช้งานเท้านัน้ จะเป็นคนทีม่ งั่ คัง่ และไม่ตอ้ งทำ�งาน อะไรเลย หรือมีความเชือ่ ทีว่ า่ ผูห้ ญิงทีม่ เี ท้าเล็กจะ มีผู้ชายที่ดี ๆ รํ่ารวยมาสู่ขอ บางกระแสก็บอกว่า การรัดเท้าเป็นแผนที่ผู้ชายสมัยนั้นคิดขึ้นอย่าง แยบยล เนื่องจากสมัยนั้นจักรพรรดิเกรงว่าเหล่า นางสนมกำ�นัลที่มีเท้าปกติดี จะหลบหนีออกไป นอกวังได้อย่างสะดวก จึงคิดแผนนี้ขึ้นมา และ ก็ได้ผลจริง ๆ ด้วย แต่เป็นโชคร้ายของผู้หญิงที่ แนวคิดนีถ้ กู สืบทอดมาเรือ่ ย ๆ ส่งผลให้เกิดปัญหา ด้านสุขภาพ จนทำ�ให้ไม่สามารถใช้งานเท้าของ ตัวเองได้หรือบางรายถึงกับเดินไม่ได้เลยก็มี 12 | happy+
• ไทย การยืดคอยาวของชนเผ่ากะเหรี่ยง สมาชิกของชนเผ่ากะเหรี่ยงที่เป็นเพศหญิงจะเริ่ม ใส่หว่ งเหล็กไว้ทคี่ อตัง้ แต่อายุ 5-9 ขวบ โดยหมอผี ประจำ�เผ่าเป็นผู้ใส่ให้ แต่เดิมนั้นผู้ที่จะใส่ห่วง ทองเหลืองจะต้องเป็นหญิงที่เกิดวันพุธที่ตรงกับ วันเพ็ญเท่านั้น และจะต้องเป็นหญิงปาดองที่แท้ จริง ไม่มีเชื้อเผ่าอื่น ๆ ผสม ถ้าไม่ยอมใส่ห่วงจะ ถูกขับออกจากเผ่าทันที แต่ต่อมานิยมใส่กันหมด ไม่วา่ จะเกิดวันใด ครัง้ แรกจะเริม่ ต้นทีห่ ว่ งเหล็ก 4 วง จากนั้นก็ค่อย ๆ เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ จนจบที่ 25 วง ผูท้ ใ่ี ส่หว่ งจะต้องมีฝมี อื ในการดัดทองเหลือง มิฉะนัน้ จะทำ�ให้ผู้สวมห่วงนี้เจ็บ ก่อนใส่ก็ต้องเอาทอง เหลืองไปอังไฟและชุบนํ้ามะนาวให้อ่อน แล้ว นำ�มาขดรอบคอเป็นวง ๆ ห่วงแต่ละห่วงจะติด กันเหมือนลวดสปริง มองดูเหมือนว่าคอของพวก เธอยาวขึ้น แต่จากการเอกซเรย์ดู พบว่าคอของ พวกเธอนัน้ ไม่ได้ยาวขึน้ แต่อย่างใด แต่เป็นไหล่ของ พวกเธอต่างหากทีถ่ กู ดันและทรุดลงไป ซึง่ การทำ� แบบนี้เป็นการแสดงออกถึงความงดงาม (ห่วงยิ่ง มากก็ยงิ่ สวย) เพือ่ แสดงฐานะและตำ�แหน่งของตน อี ก เหตุ ผ ลหนึ่ ง ก็ คื อ เพื่ อ ไม่ ให้ มี ก ารแต่ ง งาน ข้ามเผ่าพันธุ์ นอกจากนีก้ ม็ นี ยิ ายปรัมปราทีก่ ล่าวถึง เหตุผลของการใส่ห่วงที่คออีก 2 เรื่อง เรื่องแรก กล่ า วว่ า ในอดี ต ภู ต ผี แ ละวิ ญ ญาณเกิ ด ความ ไม่พอใจพวกปาดอง จึงส่งเสือมากัดกินโดยเฉพาะ
ผู้หญิง บรรพบุรุษปาดองเกรงว่าผู้หญิงจะตาย ไปจนสูญพันธุ์หมด จึงแก้ปัญหาโดยให้ผู้หญิงใส่ เกราะทองเหลืองไว้เพือ่ ป้องกันเสือกัด อีกเรือ่ งหนึง่ เล่ า ว่ า เดิ ม ที พ วกปาดองมี แ ม่ เป็ น มั ง กรและ หงส์ จึงต้องใส่ห่วงที่คอ เพื่อจะได้มีคอที่ระหง ส่ายไปส่ายมาอย่างสง่างามสมเป็นทายาทของ มังกรและหงส์ • ทิ เบต พิ ธีศ พแห่ ง เวหา (Sky Burial) ชาวพุทธในทิเบตนั้นมีการประกอบพิธีกรรมอัน ศักดิ์สิทธิ์แปลก ๆ อย่างพิธีการฝังศพบนท้องฟ้า นัน่ คือ หากมีคนตายก็จะนำ�ศพไปทีว่ ดั ผูป้ ระกอบ พิ ธีซึ่ ง ส่ ว นมากจะเป็ น พระหรื อ ชนชั้ น สู ง ก็ จ ะ ทำ�การจัดการศพให้เร็วที่สุดด้วยการลับมีดกับ หินและตัดศพออกเป็นชิ้น ๆ พร้อมกับเดินวน รอบศพ พร้อมท่องมนต์ เลาะเนือ้ ออกจากกระดูก และให้ฝงู อีแร้งทีต่ นเลีย้ งเอาไว้กนิ ซากทีเ่ หลือเอา ไปเผา ส่วนกระดูกจะถูกทุบให้แตกเป็นชิน้ ๆ ด้วย ค้อนหรือสันขวาน และผสมแป้ง Tsampa ตาม ความเชื่อของชาวพุทธซึ่งเชื่อเรื่องวัฏจักรการเกิด ใหม่ จิตวิญญาณไปอีกที่หนึ่ง ดังนั้นจึงไม่จำ�เป็น ต้องเก็บรักษาร่างกายไว้ อีกทั้งนกแร้งเปรียบ เสมื อ นผู้ ร่ า ยรำ � บนท้ อ งฟ้ า มี ฐ านะเที ย บเท่ า เทพบุตรและเทพธิดา ซึ่งเทพทั้งหลายเหล่านี้จะ นำ�วิญญาณผู้ตายไปสู่สรวงสวรรค์ • วานู อ าตู ในมหาสมุ ท รแปซิ ฟิ ก มี พิธีกรรมแปลกประหลาดที่เรียกว่า N’gol จัดโดย ชนเผ่าในเกาะ Pentecost เป็นพิธีกรรมที่จัดขึ้น ทุกปีในฤดูใบไม้ผลิ มีลักษณะคล้ายการกระโดด บันจี้จัมพ์ เป็นพิธีกรรมที่จัดในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ก่อนทีม่ นั ฝรัง่ ต้นแรกจะถูกเพาะปลูก เพือ่ เป็นการ ทำ � นายว่ า ในฤดู ก าลนี้ ผ ลผลิ ต จะเป็ น อย่ า งไร โดยชาวบ้ า นจะร้ อ งเพลงและเต้ น รำ � ด้ ว ยกั น และจะมี อ าสาสมั ค รผู้ ช ายที่ ต้ อ งการแสดงว่ า พวกตนเป็นหนุ่มแล้ว เพื่อโชว์สาว ๆ พวกเขา จะผูกเถาวัลย์รอบข้อเท้า และกระโดดบันจี้จัมพ์ ลงมาจากหอคอยไม้ที่สูงกว่า 25 เมตร ที่สร้าง ขึ้นมาสำ�หรับพิธีกรรมนี้โดยเฉพาะ ซึ่งเห็นได้ว่า อาสาสมัครไม่สนใจสภาพร่างกายของตนแม้แต่นอ้ ย ว่ า จะกระดู ก หั ก หรื อ ได้ รั บ บาดเจ็ บ จากการ กระโดดเลยแม้แต่นอ้ ย และยิง่ โดดสูงมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งแสดงความเป็นลูกผู้ชายมากขึ้นเท่านั้น หลายความเชื่ อ และวั ฒ นธรรมอาจจะดู น่ากลัวสำ�หรับเรา แต่ก็เป็นเรื่องปกติของแต่ละ วัฒนธรรม แต่ละพื้นที่ เพียงแค่เราเปิดใจด้วย ความเข้าใจ เชือ่ ว่าจะทำ�ให้เราเข้าใจและเคารพกัน และกันมากขึน้ เรือ่ งร้าย ๆ ทัง้ หลาย ทีเ่ คยเกิดขึน้ ในอดีตจะได้ไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป
healthy planet เรื่อง : TepiN
โรคกระจกตาโก่ง พบมากขึ้นในคนไทย ตามปกติกระจกตาของมนุษย์จะมี 5 ชัน้ มี ลักษณะโค้งพอดี ทำ�หน้าทีร่ บั แสงจากระยะไกลผ่าน เข้าไปทีเ่ ลนส์แก้วตา แล้วหักเหมาทีจ่ อรับภาพ หรือจอ ประสาทตา เพือ่ ทำ�ให้มองเห็นภาพได้ดี ภายในลูกตา จะมีความดันลูกตาอยู่ ซึง่ หากกระจกตาบางหรือเส้นใย คอลลาเจนอ่อนแอ ความดันในลูกตาก็จะดันให้ กระจกตาโก่งขึน้ จนมีลกั ษณะบิดเบีย้ ว ก่อให้เกิดการ โก่งของกระจกตา การหักเหของแสงก็จะมีมากเกินไป กระทบกับการมองเห็น ทำ�ให้สายตาสัน้ และสายตาเอียงแบบผิดธรรมชาติ หากเป็นมากและไม่ได้รบั การ รักษาจะทำ�ให้กระจกตาแตก นา้ํ ในลูกตาซึมเข้าไป ทำ�ให้เกิดเป็นฝ้าขาว ขุน่ อักเสบบวม เกิดแผลเป็น มี ปัญหาเรือ่ งการมองเห็น หากปล่อยทิง้ ไว้อาจจะทำ�ให้ กระจกตาพิการ และสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรได้ 14 | happy+
รศ. พญ.งามจิตต์ เกษตรสุวรณ หัวหน้าศูนย์เลเซอร์สายตาจุฬาฯ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า ผู้ที่เป็นโรคกระจกตาโก่งเริ่มพบมากขึ้นในประเทศไทย และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สามารถ แบ่งผู้ที่เป็นโรคดังกล่าวออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มอายุ 10-20 ปี กลุ่มนี้เมื่อเป็นโรคจะแสดงอาการที่ รุนแรง มีอาการสายตาสัน้ และมักจะต้องเปลีย่ นแว่นตาบ่อยกว่าปกติ เนือ่ งจากค่าสายตาจะเปลีย่ นเร็ว จากกระจกตาโก่งผิดรูป 2. กลุ่มอายุ 20-30 ปี ในช่วงอายุนี้โรคจะไม่แสดงออกชัดเจนนัก แต่จะพบ เมื่อผู้ป่วยต้องการทำ�เลสิกแก้ไขปัญหาสายตาสั้น ซึ่งก่อนจะทำ�เลสิก จักษุแพทย์จะตรวจและพบว่ามี กระจกตาโก่ง โดยผู้ที่กระจกตาโก่งจะไม่สามารถทำ�เลสิกได้ เพราะการทำ�เลสิกจะทำ�ให้กระจกตา บางลง และ 3. กลุ่มที่ไม่แสดงอาการ รู้ตัวเมื่อตรวจสอบด้วยเครื่องตรวจวัดทางจักษุแพทย์ โรคกระจกตาโก่งนั้นเกิดจากเส้นใยคอลลาเจนอ่อนแอ แต่ก็ยังไม่สามารถหาสาเหตุที่ทำ�ให้ เส้นใยคอลลาเจนอ่อนแอได้ ส่วนหนึง่ คาดว่ามีความสัมพันธ์กบั การขยีต้ าแบบรุนแรง โดยเฉพาะในผูท้ ี่ เป็นโรคภูมิแพ้ และขยี้ตาด้วยการใช้ข้อนิ้ว สันนิษฐานว่าการกด ขยี้ดวงตาอย่างแรง อาจจะทำ�ให้เกิด การกระตุ้นเส้นใยคอลลาเจน จนเกิดการโก่งของกระจกตาได้ วิธีการสังเกตว่าเป็นโรคนี้หรือไม่คือ มีการเปลี่ยนแปลงปัญหาสายตาเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ต้องเปลี่ยนแว่นบ่อย ๆ เพราะค่าสายตาสั้นเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปกติค่าสายตาจะสั้นเพิ่มขึ้น 50 หรือ -0.5 ต่อปี แต่หากค่าสายตาเปลี่ยนแปลง สั้นเพิ่มขึ้น 100 หรือ -1.0 ต่อปีถือว่าเปลี่ยนแปลง เร็ว อาจต้องนึกถึงโรคกระจกตาโก่งร่วมด้วย ส่วนผูท้ สี่ ายตายาวนัน้ จะไม่เกีย่ วข้องกับโรคกระจกตาโก่ง แต่อาการดังกล่าวไม่สามารถสังเกตได้ง่ายด้วยตาเปล่า ยกเว้นบางกรณีมีการกดทับจนทำ�ให้ขอบ ตาล่างผิดรูปอย่างชัดเจน หรือหากใครไม่แน่ใจว่าตนเองอาจเป็นโรคหรือไม่ สามารถเข้าไปขอรับ การตรวจกับศูนย์เลเซอร์สายตาจุฬาฯ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ หรือโรงพยาบาลเอกชนบางแห่งที่มี เครื่องมือตรวจ เนื่องจากโรคนี้ยังเป็นโรคใหม่ อุปกรณ์การแพทย์ยังไม่ครอบคลุมทุกโรงพยาบาล
ส้มตำ�เต้าหู้ทอด เรือ่ ง : Nasry
คุณค่าทางอาหาร เต้าหูถ้ ว่ั เหลือง ช่วยลดปริมาณ คอเลสเตอรอลในเลือด พร้อม ป้องกันเกล็ดเลือดแข็งตัว ทำ�ให้ ลดความเสี่ ย งในการเป็ น โรค หัวใจ
ปฏิเสธไม่ได้ว่า “ส้มตำ�” เป็นอาหารยอดนิยมของคนไทย เพราะ ไม่เพียงแต่รสชาติที่จัดจ้านถึงใจเท่านั้น ส้มตำ�ยังถือเป็นอาหาร เพื่อสุขภาพเมนูหนึ่ง ที่มีไขมันและให้พลังงานตํ่า แต่มีใยอาหาร และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง อีกทั้งส้มตำ�ยังสามารถนำ�มา ประยุกต์ออกมาได้อกี หลายชนิด จนแตกแขนงกลายเป็นสูตรใหม่ ๆ มากมาย อย่าง “ส้มตำ�เต้าหู้ทอด” ที่นอกจากจะได้คุณค่าจาก ผักนานาชนิดแล้ว ยังมีโปรตีนจากเต้าหู้อีกด้วยค่ะ
มะละกอ เป็นยาระบายอ่อน ๆ ช่วยในการขับปัสสาวะ อีก ทัง้ ยังสามารถนำ�ผลมะละกอ ไปทำ�เป็นเครื่องดื่มสมุนไพร “ชามะละกอ” ที่มีสรรพคุณ ช่ ว ย ใ น ก า ร ล้ า ง ลำ � ไ ส้ จากคราบไขมันที่เกาะติดอยู่ จะทำ�ให้ระบบดูดซึม สารอาหารทำ�งานได้เต็มที่ มะเขื อ เทศ มี ส ารแอนติ ออกซิแดนต์ คือ ไลโคปีน ที่ มี คุ ณ สมบั ติ ล ดการเกิ ด มะเร็งลำ�ไส้และมะเร็งต่อม ลู ก หมากได้ ช่ ว ยบำ � รุ ง ผิ ว ลดริ้วรอย ผิวพรรณไม่แห้ง กร้าน ระบบการหมุนเวียน เลือดดีขึ้น และยังสามารถ ต้านมะเร็งได้ด้วย
เริ่มต้นการทำ�ส้มตำ�เต้าหู้ทอดด้วยการเตรียมมะละกอมาปอกเปลือกออก สับมะละกอ เป็นเส้นเล็ก ๆ แล้วหั่นเต้าหู้ลงทอดในนํ้ามัน เมื่อเตรียมทุกอย่างครบแล้ว โขลกเครื่อง ส้มตำ� พริก กระเทียม มะเขือเทศ ถั่วลิสงคั่ว กุ้งแห้ง ถั่วฝักยาว นํ้ามะนาว และ นํ้าตาลปี๊บเข้าด้วยกัน ตามด้วยมะละกอที่ซอยไว้ใส่ลงไป เติมมะนาวและนํ้าปลา คลุก เคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน ตักใส่จาน นำ�เต้าหู้ทอดหั่นพอดีคำ�วางบนส้มตำ� จะกินกับ ข้าวเหนียวหรือข้าวสวยร้อน ๆ ก็อร่อยไม่แพ้กัน
พ ริ ก ช่ ว ย ล ด ป ริ ม า ณ คอเลสเตอรอลใน ร่างกาย ทำ�ให้ปริมาณของ ไตรกลี เ ซอไรด์ ใ นกระแส เลือดลดลง และช่วยบรรเทา อาการเจ็บปวดต่าง ๆ เช่น อาการปวดฟัน เจ็บคอ การอักเสบของผิวหนัง อาการ ปวดศีรษะ ปวดเส้นเอ็น โรคเกาต์ ข้อต่ออักเสบ ได้ดี อีกด้วย
การรักษาอาการสายตาสั้นและกระจกตาโก่งในปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 5 วิธี คือ 1. เมื่อมีปัญหาสายตาสั้น สายตาเอียง แก้ไขด้วยการสวมแว่นสายตา 2. การใส่คอนแทคเลนส์เฉพาะ 3. การฉายแสงอัลตราไวโอเลตเอ (Crosslinking) ผสมกับวิตามินบีในทางการแพทย์ เพือ่ เชือ่ มเส้นใย คอลลาเจนให้มากขึ้น แข็งแรงมากขึ้น สามารถต้านแรงดันลูกตาไม่ให้กระจกตาโก่งตามแรงดันได้ 4. การใส่วงแหวนขึงตรึงกระจกตาให้เข้าที่ แต่วธิ กี ารนีเ้ ป็นการรักษาชัว่ คราว ไม่ได้หยุดยัง้ ความโก่ง เหมือนกับการฉายแสง โดยแพทย์จะใช้ดุลยพินิจในการเลือกวิธีการรักษาตามลักษณะอาการ ของผู้เป็นโรค 5. การเปลีย่ นกระจกตา โดยรอกระจกตาจากผูบ้ ริจาค วิธนี จี้ ะทำ�เมือ่ คุณภาพการมองเห็นเสียไปแล้ว ปัจจุบันผู้ที่มีความประสงค์ขอเปลี่ยนกระจกตาจะต้องรอการบริจาคเฉลี่ย 3 ปี การรักษาวิธีที่ 3 และ 4 ถือเป็นทางเลือก ซึ่งผลการรักษายังไม่สามารถรับรองได้ว่าหายขาด ต้อง มีการตรวจ ติดตามอาการอยู่เรื่อย ๆ และการป้องกันยังไม่ปรากฏแน่ชัด แต่แนวทางที่ช่วยป้องกันได้ คือ ไม่ควรขยี้ตาแบบรุนแรง และใช้ข้อนิ้วในการขยี้ตา เมื่อมีอาการระคายเคืองควรใช้นํ้ายาหยอดตา และควรเข้ารับการตรวจวัดสายตา และพบจักษุแพทย์เป็นประจำ� ขอบคุณข้อมูลจาก : ศูนย์เลเซอร์สายตาจุฬาฯ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 16 | happy+
นํ้ามันมะกอก ป้องกันโรคแผลในกระเพาะอาหาร
นํ้ามันมะกอกจัดเป็นนํ้ามันที่มีคุณประโยชน์ หลากหลาย และได้รับความนิยมมาตั้งแต่อดีตจน ปัจจุบัน มะกอกที่ใช้ประโยชน์จากนํ้ามันเรียกว่า มะกอกโอลีฟ (Olive) สามารถปลูกได้ดีในพื้นที่ แถบเมดิเตอร์เรเนียน ซึง่ เป็นพืน้ ดินทีม่ อี ากาศร้อน ตามชายฝัง่ ทะเล (แถบประเทศกรีซ อิตาลี รวมถึง แอฟริกาเหนือ) รวมไปถึงประเทศปาเลสไตน์และ อิหร่านด้วย สำ�หรับผูท้ เ่ี ป็นโรคกระเพาะหรือทีเ่ รียกเต็ม ๆ ว่า โรคแผลในกระเพาะอาหาร โรคนีย้ งั หมายถึงโรค แผลที่ลำ�ไส้เล็ก โรคกระเพาะอาหารอักเสบ และ โรคลำ�ไส้เล็กอักเสบอีกด้วย นํา้ มันมะกอกจะมีผลใน การช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารอักเสบ (Gastric Ulcer) และอาการอั ก เสบที่ก ระเพาะและลำ�ไส้ ตอนต้น (Stomach Ulcer) เนือ่ งจากนํา้ มันมะกอก มีกรดโอเลอิกอยู่ในปริมาณสูง จึงมีความทนทาน ต่ อ กรดในกระเพาะอาหาร ช่ว ยไม่ให้เกิดความ เสียหายต่อแผลในกระเพาะอาหารเพิม่ เติม ทีม่ า : http://www.stou.ac.th/study/sumrit/2-58(500)/page52-58(500).html
จัดจำ�หน่ายโดย บริษัท นํ้ามันพืชไทย จำ�กัด (มหาชน)
happy people
ชีวิตลงตัวด้วยความสุข
แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์ เรื่อง : ณัฐธิชา อามินเซ็น ภาพ : สุภชัย รอดประจง แต่งหน้า : ทิวา ยอดยิ่ง ทำ�ผม : ธานัท ทองผักแว่น สถานที่ : ร้านเสวยซีฟู้ด โครงการ A-Square สุขุมวิท 26 0-2020-7462
ถือเป็นอีกหนึ่งนักแสดงคุณภาพแถวหน้าของวงการบันเทิงไทย เลยก็ว่าได้ สำ�หรับนางเอกสาว แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ เพราะเธอ สามารถถ่ายทอดบทบาทการแสดงผ่านสีหน้า แววตา นํ้าเสียงและทุก ท่วงท่า ที่ล้วนบ่งชี้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครได้อย่างชัดเจน จึง ไม่แปลกทีผ่ ลงานของเธอจะเข้าไปอยูใ่ นใจของใครหลาย ๆ คน นิตยสาร happy+ เลยไม่พลาดจะชวนแพนเค้กมาอัพเดทชีวิตและพูดคุยถึงการ โลดแล่นอยูใ่ นวงการบันเทิงยาวนานกว่า 12 ปี พร้อมเปิดใจทุกมุมมอง ความรักสุดเอ็กซ์คลูซีฟ 20 | happy+
happy+ | 21
happy people
22 | happy+
เปิดตัวเองสู่โลกกว้าง
ย้อนกลับไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว จากเด็กสาว ที่เป็นนักกีฬาของโรงเรียนสู่เวทีประกวดนางแบบ ระดับประเทศ “ไทยซูเปอร์โมเดล 2004” และยัง ได้ตำ�แหน่ง “สุดยอดนางแบบโลก” จากเวที Model of the World 2004 ที่ประเทศจีน จึงเป็น จุ ด เปลี่ย นที่ทำ� ให้ เ ธอกลายเป็ น ซู เ ปอร์ โ มเดล แถวหน้าของเมืองไทย และก้าวเข้าสูว่ งการบันเทิง อย่างเต็มตัว “ที่ แ พนเลื อ กประกวดไทยซู เปอร์ โมเดล เพราะแพนไม่อยากตอบคำ�ถาม เวทีนแ้ี ค่เดินอย่างเดียว ไม่ต้องพูดอะไร ซึ่งตอนเด็ก ๆ แพนเป็นเด็กที่ ไม่กล้าแสดงออก เช่น ถ้าอาจารย์ขออาสาสมัคร ทำ�กิจกรรมแพนเลือกที่จะไม่ทำ� แพนจะไม่กล้า สบตาอาจารย์เลย แต่ถ้าเกิดบังคับให้ทำ�หรือว่า จำ�เป็นจะต้องทำ� แพนก็จะโอเค แพนทำ�ให้ก็ได้ คุณแม่บอกว่า แพนเป็นเด็กทีซ่ นมากอยูไ่ ม่นงิ่ เลย เรียกว่าไฮเปอร์มาก แต่พอโตขึน้ มาช่วงมัธยม คุณแม่ ก็พยายามหากิจกรรมอะไรให้แพนทำ� ไม่ว่าจะ เป็นว่ายนํ้า เทนนิส ร้องเพลง เต้นแจ๊ซ แพนจำ�ได้ว่า ตอนนั้นไม่อยากเรียนเลย เพราะแพนเป็นเด็ก เรียบ ๆ และดื้อเงียบ (หัวเราะ) แพนไม่ได้เป็นเด็ก ผาดโผนหรือมีวีรกรรมอะไรที่เฟี้ยวฟ้าวมาก ก็ดู เหมือนเรียบร้อย แต่เชื่อไหมว่า ทุกวันนี้ทุกอย่าง ทีแ่ ม่บงั คับให้เรียนในตอนนัน้ ได้น�ำ กลับเอามาใช้ หมดเลย ไม่วา่ จะเป็นร้องเพลง เต้นหรือกีฬาต่าง ๆ แพนก็ ไม่ นึ ก หรอกว่ า วั นนี้ ที่ ต้ อ งมาทำ � อาชี พ นี้ แพนจะต้องเอาทุกอย่างที่เรามีแบบงู ๆ ปลา ๆ กลับมาใช้ทั้งหมด”
เริ่มต้นชีวิตบนเส้นทางสายใหม่
จากวันนั้นถึงวันนี้เธอโลดแล่นอยู่ในวงการ บันเทิงมานานถึง 12 ปี ซึ่งไม่ได้ใช้เวลาเพียง ชัว่ ข้ามคืน หรือไม่ใช่เพราะโชคชะตาเพียงอย่างเดียว
แต่เพราะเธอมีความสามารถ มีวินัยและวางตัวดี อีกทั้งเธอยังมี “คุณแม่หน่อย-นวลนง จามิกรณ” คุณแม่ผอู้ ยูเ่ บือ้ งหลังความสำ�เร็จทุกอย่างของเธอ และไม่วา่ จะมีเรือ่ งราวทีด่ หี รือร้ายผ่านเข้ามามาก น้อยแค่ไหน ทั้งสองแม่ลูกก็ยังคงยืนหยัดต่อสู้ไป ด้วยกันไม่เคยห่าง “ตั้งแต่วันแรกที่เราเริ่มเข้ามาทำ�งานตรงนี้ แม่ก็ตัดสินใจที่จะลาออกจากงานมาเหมือนกัน เพื่ อ ที่ จ ะมาดู แ ลแพนในช่ ว งวั ย รุ่ น ซึ่ ง เป็ นการ เปลี่ ยนแปลงครั้ งสำ�คั ญ ฉะนั้ นเมื่ อแพนเลื อก เส้นทางนีแ้ ล้ว แพนก็ตอ้ งทำ�และรับผิดชอบอย่างเต็มที่ ตัวแม่เองก็รับผิดชอบในมุมที่มาดูแลเราอย่าง เต็มที่เหมือนกัน เหมือนเราสองคนแม่ลูกก็ต้อง ทำ�งานด้วยกันตลอดเวลา หรือเรียกว่าแม่ไม่เคย ทิง้ แพนเลยดีกว่า ไม่วา่ จะไปทีไ่ หนก็แล้วแต่ จะใน ประเทศหรือต่างประเทศ จะไปทำ�งาน ถ่ายละคร แม่จะไปด้วยทุกที่ เมื่อก่อนขับรถกัน 2-3 ชั่วโมง เราก็ไปกันเอง 2 คน จนมันผ่านทุกช่วงที่เรียกว่า ลำ�บากมาแล้ว ผ่านช่วงทีเ่ ราไม่รวู้ า่ เราทำ�กันมาได้ ยังไง ทุกวันนี้ถ้าให้กลับไปทำ�แบบนั้นอีกก็ไม่รู้จะ ทำ�ได้หรือเปล่า ต้องเป็นแม่คนเดียวที่ทำ�ทั้งหมด เป็นคนเดียวที่แพนมั่นใจและไว้ใจค่ะ “การอยู่ในวงการบันเทิงของแพนเรียกว่า ครบรสเลยดีกว่าค่ะ ถึงจะไม่ได้หวือหวาหรืออะไร มากมายในทุก ๆ ช่วงเวลา แต่ว่าก็มีอะไรให้ได้ เรียนรู้ ได้เจอะเจอตลอดเวลาตั้งแต่เริ่มทำ�งาน ต้องผ่านความรู้สึกที่เราไม่ชอบ ไม่อยากทำ� ไม่ มั่นใจหรือว่าเจอเสียงติเสียงชมต่าง ๆ ที่เรารู้สึก ว่า เรารับมันแทบไม่ไหวในช่วงเวลาที่เราเริ่มต้น ทำ�งาน หรือแม้กระทัง่ การลองทำ�อะไรใหม่ ๆ เช่น การเล่นละครหรือการเดินแบบ การถ่ายโฆษณา หรืออะไรอื่น ๆ ซึ่งแพนไม่เคยทำ�มาก่อน การ เริ่มต้นมันยากเสมอ แต่ยังดีที่แพนมีแม่อยู่ข้าง ๆ เพราะแม่จะรู้ว่าลูกตัวเองเป็นอย่างไร แม่จะคอย
เชียร์อัพ คือถ้าเรามีกำ�ลังใจอย่างนี้ เราจะทำ� ทุกอย่างได้ แม่จะคอยพูดเสมอว่า ลูกทำ�ได้ ค่อย ๆ ทำ�ก็แล้วกัน ทำ�ให้เต็มที่ที่สุด แค่ไหนก็แค่นั้น คือ จะไม่มีการกดดันเราจนเกินไป ซึ่งก็เป็นอย่างนี้ มาโดยตลอดค่ะ “งานที่ ผ่ า นมาท้ า ทายสำ � หรั บ แพนมาก คนเขาชอบลองให้แพนทำ�อะไรที่ไม่มีอะไรง่าย เลยสักอย่างเดียว (หัวเราะ) คือมีอะไรยาก ๆ มา ให้ลองทำ�ตลอด อะไรที่เขาคิดว่าแพนทำ�ได้แล้ว ก็อยากจะให้แพนลองทำ�อีก ลองเปลี่ยนแบบ ใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบสวย ๆ แบบตลก แพน ก็มีโอกาสได้ลองอะไรหลาย ๆ อย่าง แพนว่ามัน ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีในการทำ�งานเหมือนกัน”
ความสุขที่ออกแบบเอง
การเป็นนักแสดงที่ถูกจับตามองทั้งเรื่องงาน และชี วิ ต ส่ ว นตั ว ทำ � ให้ ที่ ผ่ า นมาแพนเค้ ก มั ก มีกระแสข่าวต่าง ๆ ทั้งดีและไม่ดีมากมาย แต่ เพราะเธอทำ�ความเข้าใจและยอมรับกับสิ่งที่ทำ� อยู่ เพียงเท่านี้ก็ทำ�ให้ชีวิตในแต่ละวันของเธอมี ความสุขได้แล้ว “แพนเชื่อว่า คนเราทุกคนมีความสุขได้ถ้า เราเป็นคนคิดบวก คิดดี ทำ�ดี พูดดี นึกถึงคนอื่น ในทางที่ดี แบบเบสิกง่าย ๆ ความสุขเกิดขึ้นจาก ตัวของเราเอง และเมื่อเรามีมุมมองที่ดีแล้ว เรื่อง อะไรที่มันร้าย ๆ หรือเรื่องอะไรที่มันยาก มันก็ จะกลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นทันที และยังทำ�ให้เรา มีความสุขกับทุก ๆ เรือ่ งทีเ่ กิดขึน้ อีกด้วย อย่างการ ทำ�งานในวงการบันเทิงตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ แพนเข้าใจมันมากขึ้น คือถ้าเข้าใจว่าควรจะอยู่ และควรจะทำ�อะไรทุกอย่างจะง่ายขึ้น เช่น การ เข้าใจคน ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่มากในการทำ�งาน ถ้าเรารูว้ า่ คนนีเ้ ขาเป็นคนแบบนี้ เราก็แค่มวี ธิ ที จี่ ะ อยู่กับเขาให้ได้ แค่นั้นเอง เรื่องอะไรที่มันยาก ๆ happy+ | 23
happy people
คนเราทุกคนมีความสุขได้ถ้าเราเป็นคนคิดบวก คิดดี ทำ�ดี พูดดี นึกถึงคนอื่นในทางที่ดี ความสุขเกิดขึ้นจากตัวของเราเอง และเมื่อ เรามีมุมมองที่ดีแล้ว เรื่องอะไรที่มันร้าย ๆ หรือ เรือ่ งอะไรทีม่ นั ยาก มันก็จะกลายเป็นเรือ่ งง่ายขึน้ ทันที ถ้าเรามองให้มันง่าย มันก็จะทำ�ให้เรารู้สึกว่าเรา อยู่ได้อย่างมีความสุข เมื่อก่อนจะรู้สึกว่าการถูก นักข่าวสัมภาษณ์เหมือนขึ้นเขียงเตรียมโดนเชือด ตลอดเวลา แต่ถ้าเรามีวิธีการตอบ มีวิธีการเลี่ยง หรือเรามีวิธีการทำ�ความเข้าใจกับงานตรงนี้ มัน ก็ทำ�ให้เป็นเรื่องสนุกได้ เหมือนเราได้เล่นเกมลับ สมองอยู่ตลอดเวลา “เมื่อก่อนแพนคิดว่า ข่าวที่ไม่จริงทำ�ไมเรา ต้องออกมาตอบคำ�ถามด้วย พูดไปเหมือนแบบ ไม่มอี ะไรจะพูด แต่ทกุ วันนีแ้ พนคิดว่า ถ้าเราเข้าใจ ธรรมชาติของข่าว เราก็จะต้องมีวธิ กี ารตอบหรือมี วิธีการรับมือกับมัน จริง ๆ แล้วถ้านิ่งไว้ แล้วมีสติ หน่อย แพนว่ามันก็จะช่วยเราได้เยอะ และเราก็จะ รูอ้ ยูแ่ ล้วว่าข่าวมันก็มจี ริงบ้าง เท็จบ้างผสมปะปน กันไป บางทีนกั ข่าวก็คดิ กันสด ๆ ตรงนัน้ เพือ่ ทีจ่ ะ ถามเรา ฉะนัน้ แพนโอเค อยากถามก็ได้ เดีย๋ วแพน จะตอบไป เรียกว่าเป็นการช่วยเหลือซึง่ กันและกัน อย่างนั้นดีกว่า แต่ก็ต้องอยู่ในขอบเขตที่พอดี ซึ่ง ตอนนี้พี่ ๆ นักข่าวน่ารักกับแพนมากค่ะ “อย่างทุกวันนี้เวลาแพนทำ�งานก็พยายาม เชี ย ร์ อั พ ตั ว เองอยู่ ต ลอดเวลา ถึ ง จะบ่ น ว่ า ไม่ อยากทำ� ขี้เกียจ แต่พอถึงเวลาที่ทำ�งานจริง ๆ เราก็รู้สึกว่าเราพยายามที่จะมีความสุขกับมันให้ ได้ ไม่ว่าจะการเอนเตอร์เทนหรือการมีความสุข จากข้างในที่เราอยากทำ�จริง ๆ อะไรอย่างนี้ ก็ พยายามจะเชียร์อัพตัวเองเสมอในทุก ๆ งาน แต่องค์ประกอบรวมก็เป็นสิ่งที่สำ�คัญมาก ซึ่ง คุ ณ แม่ เ องก็ จ ะพยายามเซตอั พ ทุ ก อย่ า ง เช่ น สภาพแวดล้อมของเราหรือการเดินทาง การทำ�งานอะไร แม่กจ็ ะเตรียมดูแลให้หมด ตัง้ แต่ขนึ้ รถมา กินข้าว มีอะไรมาหลอกล่อเราตลอดเวลา เดี๋ยวแม่ซื้อนี่ มาให้ใหม่นะ เดี๋ยวแพนจะไปทำ�อะไรบ้าง ใส่ชุดนี้ 24 | happy+
ดีไหม เราก็จะมีทีมงานหรือคนที่ทำ�งานด้วยกัน ที่เรารักและคุ้นเคยกันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นมัน ทำ�ให้เหมือนสร้างบรรยากาศในการทำ�งานให้ รู้สึกแฮปปี้มากขึ้น พอจะไปเจออะไรก็กลายเป็น เรื่องสนุก และกลายเป็นเรื่องง่าย ข้อผิดพลาดที่ อาจจะเกิดขึ้นก็จะกลายเป็นสิ่งที่เรารับได้และไม่ เครียดกับมัน”
แฟนคลับจากต่างแดน
และต้องยอมรับว่าเธอมีแฟนคลับมากมายที่ สนับสนุน ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แฟนคลับที่ต่างประเทศก็มีเยอะไม่แพ้กัน “คงเป็นเพราะว่าละครบ้านเราไปฉายที่ต่าง ประเทศ เขาก็เลยรู้จักนักแสดงไทยกันมากขึ้น ก็ จะมีแฟน ๆ ที่ประเทศจีน ไต้หวัน ที่เขาก็ติดตาม ละครของแพน แฟนคลับที่เยอะที่สุดน่าจะเป็น เรื่องทวิภพ คงเพราะด้วยเราแสดงในบทบาทที่ เห็นความเป็นไทยจริง ๆ แล้วแฟน ๆ เขาชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นผ้าไทย วัฒนธรรมไทย เขาก็จะจำ�เรา แบบในคาแร็กเตอร์นั้น แล้วแพนก็มีโอกาสได้ เจอะเจอแฟน ๆ ชาวจีนแทบทุกปีค่ะ บางปีเขาก็จะมา เซอร์ไพรส์แพนที่ไทยบ้าง หรือบางปีแพนก็ไปหา เขาที่จีนบ้าง ก็พยายามจะมีอะไรที่แลกเปลี่ยน กันหรือมีกิจกรรมด้วยกันตลอดค่ะ”
ใจรักในธุรกิจ
เป็ นที่ รู้ กั นดี ว่ า แพนเค้ ก นั้ น เป็ นนั ก แสดงที่ ความสามารถรอบตัว นอกเหนือจากงานในวงการ บั น เทิ ง แล้ ว เธอยั ง สนใจในการทำ � ธุ ร กิ จ ที่ หลากหลายไม่เหมือนใครอีกด้วย “การเริม่ ทำ�ธุรกิจของแพนเรียกว่าเป็นโอกาส ทีเ่ ราได้ท�ำ คือไม่ใช่วา่ เราวิง่ เข้าไปขวนขวายอยากจะทำ�
happy+ | 25
happy people
26 | happy+
อย่ า งเดี ย ว แต่ บ างที มั น เข้ า มาโดยอยู่ ที่ เ รา ว่าจะเลือกรับไหม เราจะลองไหม ได้หรือไม่ได้ ไป ไกลแค่ไหนก็คอ่ ยว่ากัน ทุกอย่างทีท่ �ำ แพนรูส้ กึ ว่า แพนทำ�เต็มที่ ไม่ใช่แค่ฉาบฉวยหรือว่าทำ�ผ่าน ๆ ไป การทำ�ธุรกิจแพนเริ่มต้นจาก Teddy House ก่อน เพราะแพนชอบตุ๊กตาหมีและสะสมอยู่แล้ว ซึ่งปกติแพนซื้อร้านนี้อยู่แล้ว ก็เพิ่งมารู้ว่าเขาเป็น แบรนด์ไทยทีท่ �ำ ส่งออกหลาย ๆ ประเทศ เลยรูส้ กึ ประทับใจ แม่กบั แพนคิดว่าหน้าตาเหมือนหมีมาก เหมือนกัน (หัวเราะ) ก็เลยสนใจ และได้มีโอกาส ได้คุยกับเจ้าของแบรนด์ พอเราสนใจจึงเริ่มทำ� คอลเลคชันกันตั้งแต่แรก และต่อเนื่องมาจนถึง ทุกวันนี้ ค่อย ๆ ขยับขยาย มีอะไรเพิม่ เติมมากขึน้ ตอนนี้ ก็ เ ปลี่ ย นจากที่ เ คยอยู่ ที่ ส ยามสแควร์ ซอย 11 มาอยู่ที่ทองหล่อซอย 5 และกำ�ลังจะทำ� ใหม่ให้เป็นโลกของตุ๊กตาหมี มีเป็นคาเฟ่ มีร้าน อาหาร มีของขายและมีเชฟ แพนพยายามจะรวม ให้หมดอยู่ตรงนั้น “อีกร้านคือ ร้านเบบี้โรส บาย แพนเค้ก (BabyRose by Pancake) อันนีพ้ อเรามีเสือ้ ผ้าตุก๊ ตาหมี แล้ว เราก็ตอ่ ยอดมาเป็นเสือ้ ผ้าคน แพนจึงเริม่ ต้น ทำ�ในออนไลน์ก่อน เหมือนลองดูตลาดก่อนว่า เราจะอะไร ทำ�ได้แค่ไหน ซึ่งมันก็มีทั้งขาดทุน และปัญหาอะไรเยอะมาก บางทีต้องทิ้งไปเลย เป็นล็อต ๆ ธุรกิจอันนี้แพนคือเริ่มจากความชอบ ส่วนตัวค่ะ บางทีเราก็จะเริ่มจากสไตล์เรา เช่น สีพาสเทล สีสดใส แต่สไตล์ของคนที่จะซื้อจริง ๆ
มันหลากหลายมาก ทำ�ให้แพนก็ต้องคิดหาอะไรที่ แปลกจากตัวแพนออกไปบ้าง นอกจากเสือ้ ผ้าก็ยงั ยังมีพวกกระเป๋า รองเท้า แพนก็ตอ้ งคิดอะไรใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา เรียกว่าเราเข้าใจกับแฟชั่นมากขึ้น แล้วก็พยายามหมุนตามให้ทัน ตอนนี้ก็มีหน้า ร้านอยู่ 2 ที่ คือ ที่สยามสแควร์ซอย 3 แล้วก็ที่ เดอะไนน์พระราม 9 ค่ะ “ หลังจากนัน้ แพนก็ท�ำ ยาสตรี ตราโหรทศพร โอสถ เป็นธุรกิจของครอบครัวค่ะ มีคุณพ่อร่วม ด้วย เรื่องนี้เป็นอะไรที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลย แต่พอ แพนมาลองทำ� ทำ�ให้แพนได้ลองทาน แล้วรูส้ กึ ว่า มันช่วยเรื่องปัญหาภายในของผู้หญิงได้จริง ๆ ซึ่งผู้หญิงมีปัญหาภายในเยอะมากจนแพนตกใจ เราก็อยากรู้ว่าเยอะขนาดไหน ก็เลยมาขายเอง แล้วก็ไปส่งเองด้วย ทุกวันนี้หลาย ๆ คนย้อน กลับมาดูแลสุขภาพด้วยวิธีสมุนไพรกันมากขึ้น และเป็นรูปแบบเม็ด ซึง่ เราปรับเปลีย่ นรูปโฉมใหม่ อยากบอกว่าโอเคมาก ทานง่ายและพกพาสะดวก สำ�หรับคนทีด่ แู ลตัวเองคงไม่ใช่เรือ่ งยากจนเกินไป ก็เลยรู้สึกว่าเรามีมุมมองอีกหนึ่งมุมมองสำ�หรับ เรื่องนี้เพิ่มเติมมากขึ้น “ต่อด้วยร้านขนมสมหมาย อันนีท้ �ำ เพราะว่า เป็ นของครอบครั ว จริ ง ๆ แล้ ว ก็ ใช้ ชื่ อ เป็ นชื่ อ ของคุณยาย แต่ท่านไม่อยู่แล้วนะคะ เรารู้สึก ว่าเราคิดถึง เลยอยากทำ�ร้านขนมที่เป็นสไตล์ที่ คุณยายชอบ แล้วก็มขี นมทีน่ อ้ งสาวแพนทำ�เองด้วย ก็เลยลองมาเปิดได้ระยะหนึ่ง ทำ�ให้มีธุรกิจร้าน happy+ | 27
happy people
28 | happy+
ความรักเปรียบเสมือนผ้าห่มผืนใหญ่ ๆ ที่เรารู้สึกว่าเราอุ่นใจ เรามีความสุข แล้วมันก็คือ สิ่งที่เราขาดไม่ได้ แต่ก็ต้องอยู่ในจุดที่พอดี คือ ใกล้มาก ห่มมากไปมันก็ร้อน ถ้าไกลมากมันก็หนาว เพราะฉะนั้นเราก็เอาแบบพอดี ๆ แต่ก็ต้องมีอยู่ ตลอดค่ะ ก๋วยเตี๋ยวเป็ดต่อมา อันนี้คือมาแบบบังเอิญมาก เพราะว่ า น้ อ งชายคุ ณ แม่ ทำ � ร้ า นอยู่ ห ลายที่ ใน ภาคเหนือ เขาเลยบอกอยากให้คุณแม่มาทำ�ร้าน ที่กรุงเทพฯ เป็นสาขาแรก เราก็เลยมาลองเปิดดู ทำ�ให้ร้านขนมสมหมายกับร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดจะ อยู่ด้วยกันค่ะ”
เปิดโลกแห่งการให้
นอกจากนีเ้ ธอยังให้ความสำ�คัญกับงานด้าน สาธารณกุศลทุกรูปแบบ จนได้รบั รางวัลและฉายา “ซุปตาร์ใจบุญ” “นางเอกการกุศล” และ “ศิลปิน จิ ต อาสาต้ น แบบ” จากหลายองค์ ก รจากทั้ ง ภาครัฐและเอกชน “เมื่อก่อนครอบครัวแพนจะทำ�กันอยู่แล้วค่ะ เราก็ มี วิ่ ง ผลั ด การกุ ศ ล เตะฟุ ต บอลการกุ ศ ล คอนเสิร์ตการกุศล ทำ�แล้วเราก็มอบให้ที่ต่าง ๆ อันนีท้ �ำ กันเองในครอบครัว แล้วแพนก็มที �ำ เรือ่ ย ๆ ร่วมกับหลายโครงการ จะมีคนนึกถึงเราอยูเ่ รือ่ ย ๆ จนอาจจะเป็นภาพที่คุ้นตากันมากขึ้นว่าเราได้ ทำ�กันอยู่ตลอด คือถ้าว่างเราก็จะไปทำ� มันเป็น โครงการที่ดี แล้วไม่ใช่ว่ารอก่อนแล้วค่อยไปทำ� ก็ได้ บางทีมันผ่านแล้วผ่านเลย หรือไม่ใช่แบบว่า เดี๋ยวว่างแล้วค่อยมาทำ� บางทีเรื่องราวแบบนี้ รอไม่ได้คะ่ เพราะฉะนัน้ ถ้าเราทำ�ได้ เราบอกต่อได้ มันก็เป็นเรื่องที่ดีค่ะ”
รักลงตัวด้วยความเข้าใจ
แพนเค้ ก ไม่ ไ ด้ มี ค วามสุ ข กั บ การทำ � งาน และการเป็นผู้ให้เท่านั้น “ความรัก” ของเธอกับ “พ.ต.ท.ศักดิ์สุนทร เปรมานนท์” หรือสารวัตรหมี ก็มีความสุขเช่นกัน เพราะการมีความรักที่ดีมี ส่วนทำ�ให้การทำ�งานทุกอย่างของเธอราบรืน่ ไปได้ ด้วยดี
“ความรั ก ตอนนี้ ก็ มี ค วามสุ ข ดี ค่ ะ ต้ อ ง ทำ�ความเข้าใจกันอยู่ตลอด ใช้การเรียนรู้เสมอใน ทุก ๆ เรื่อง แพนว่าความรักเปรียบเสมือนผ้าห่ม ผืนใหญ่ ๆ ที่เรารู้สึกว่าเราอุ่นใจ เรามีความสุข แล้วมันก็คือสิ่งที่เราขาดไม่ได้ แต่ก็ต้องอยู่ในจุด ทีพ่ อดี คือใกล้มาก ห่มมากไปมันก็รอ้ น ถ้าไกลมาก มันก็หนาว เพราะฉะนั้นเราก็เอาแบบพอดี ๆ แต่ก็ต้องมีอยู่ตลอดค่ะ” ตลอดการพูดคุยกับแพนเค้กเราต้องยอมรับว่า เธอคือนางเอกทั้งในจอและนอกจอตัวจริง เพราะ ไม่ว่าจะเป็นความคิดและสิ่งที่ทำ�เพื่อสังคม ล้วน ทำ�ให้แพนเค้กในวันนีเ้ ป็นทีร่ กั ของทุกคน ซึง่ แฟน ๆ สามารถติดตามผลงานของเธอ ในละครเรื่อง “นางฟ้าไร้ปกี ” ทางทรูโฟร์ยู ช่อง 24 และรายการ “บันเทิงพลาซ่า ซุปตาร์พาทัวร์” กับการมารับ หน้าที่พิธีกรครั้งแรกของเธอ “ละครเรื่อง ‘นางฟ้าไร้ปีก’ คุณแม่ของแพน เป็นผู้จัดครั้งแรกค่ะ เป็นละครดราม่าโรแมนติก เรือ่ งราวของ แอร์โฮสเตสทีเ่ ป็นลูกผูถ้ อื หุน้ รายใหญ่ ของสายการบิน ใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อ แต่ต้องกลายเป็น นางฟ้ า ไร้ ปี ก เมื่ อ บริ ษั ท เจอวิ ก ฤตเศรษฐกิ จ และได้ เจอกั บ พระเอกที่ ต้ อ งกั ด กั นทุ ก ครั้ ง เมื่ อ เจอหน้า “และรายการที่แพนเป็นพิธีกรครั้งแรกคือ “บันเทิงพลาซ่า ซุปตาร์พาทัวร์” รายการนี้จะไป ตามบ้านบุคคลต่าง ๆ ที่เรารู้จักกัน ผ่านทางแพน พี่เอกกี้ และพี่โบ ก็น่าจะได้มุมมองอะไรที่แปลก ใหม่มากขึ้น หลังจากนี้ก็มีงานทั้งซีรีส์ ภาพยนตร์ ซึ่งน่าจะได้เห็นกันต่อเนื่องในช่วงปีนี้เป็นต้นไป สุ ด ท้ า ยนี้ Happy New Year ชาว happy+ แพนขอให้ทุกคนมีความสุขมาก ๆ คิดสิ่งใดก็ ขอให้สมความปรารถนานะคะ” happy+ | 29
happy heart
30 | happy+
ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม รักษาสมดุลชีวิต เรื่อง : ภัทราภรณ์ เตชะธรรมวงศ์ ภาพ : สุภชัย รอดประจง หากพูดถึงสปอตโฆษณาทีท่ วนกระแสสังคม เพือ่ ช่วยให้คนไทยมีสขุ ภาพทีด่ ขี นึ้ ซึง่ ส่งผลกระทบและเป็นทีร่ จู้ กั ในวงกว้าง แน่นอนว่าคงไม่มใี คร ไม่รู้จักสปอตโฆษณาจน เครียด กินเหล้า และให้เหล้าเท่ากับแช่ง ฯลฯ ที่ช่วยลดจำ�นวนการดื่มแอลกอฮอล์และลดการสูบบุหรี่ให้น้อยลง ซึ่ง ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ที่ปรึกษากรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่เบื้องหลังคอยขับเคลื่อนงาน สร้างเสริมสุขภาพให้แก่คนไทย เพราะการป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไข การเสริมสร้างย่อมดีกว่าการซ่อมแซมเสมอ
โตด้วยหนังสือ
มีคำ�พูดหนึ่งที่กล่าวว่า การอ่าน คือกุญแจ สำ�คัญสู่ความสำ�เร็จ คำ�พูดนี้คงไม่ห่างไกลจาก ความจริงมากนัก เพราะหลายครั้งที่เราจะเห็น บุ ค คลที่ ป ระสบความสำ � เร็ จ ในอาชี พ การงาน สร้างสรรค์สิ่งดีงามให้แก่สังคม เมื่อย้อนเวลา กลับไปยังวัยเด็ก พวกเขาเหล่านี้ต่างบอกเป็น เสียงเดียวกันว่า เพราะเขาหรือเธอเป็นบุคคล ประเภทหนอนหนังสือ อ่านทุกอย่างตั้งแต่เรื่องที่ เข้าใจง่ายไปจนถึงปรัชญาที่ต้องใช้ความรู้ความ เข้าใจประกอบกัน ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ก็เป็นอีกคนหนึง่ ทีห่ ลงรักการอ่านมาตัง้ แต่วยั เยาว์ “ตอนเด็กผมเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน ไม่เกเร เพราะว่าคุณพ่อคุณแม่ค่อนข้างเอาใจใส่ แต่ถึง แม้ว่าจะเป็นเด็กเรียนดี ประพฤติดี แต่ก็ไม่ถึงกับ เนิรด์ เรียกว่า สบาย ๆ มากกว่า เพราะผมมีความ สนใจในเรื่องอื่น ๆ นอกเหนือจากการเรียน สนใจ ทุกอย่าง ทุกเรื่อง ทั้งกีฬา ศิลปะ ดนตรี ฯลฯ โดย เฉพาะการอ่านหนังสือ เมือ่ ก่อนใกล้ ๆ กับโรงเรียน เทพศิรนิ ทร์จะมีรา้ นเช่าหนังสือทีใ่ หญ่ทส่ี ดุ อยูร่ า้ นหนึง่ ในตลาดใหญ่ ซึ่ ง ตอนนี้ ไม่ มี แ ล้ ว วั น ๆ ผมก็ จะสิงสถิตอยู่ในร้านเช่าหนังสือนั่นแหละ อ่านจน หมดทัง้ ร้าน จนกระทัง่ หนังสือใหม่มา เจ้าของร้าน ต้องเก็บไว้ให้ผมอ่านก่อนคนแรก การอ่านของผม
เรี ย กว่ า เป็ น การอ่ า นแบบหิ ว กระหาย อ่ า น ทุกอย่างทีค่ ว้าได้ แม้แต่ถงุ กล้วยแขกก็ยงั อ่าน ผม ก็โตขึ้นมาแบบนี้นี่แหละครับ “หนังสือที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของผม มีอยู่ 3 เล่มใน 3 ช่วงอายุด้วยกัน เล่มแรกคือเรื่อง ซำ�เหมาพเนจร เป็นการ์ตูนที่อ่านเข้าใจง่าย แบ่ง ออกเป็นบล็อก ๆ มีลายเส้นสวยงามและเนื้อหา ที่กินใจ ซำ�เหมาพเนจรเป็นเรื่องราวของเด็กชาย ผมสามเส้นที่กำ�พร้าไร้พ่อแม่ ยากจน ต้องพเนจร เร่ร่อนไปพบกับความอยุติธรรมต่าง ๆ ในสังคม ถูกรังแกถูกแกล้งอย่างไรในสังคม เป็นการ์ตูน สะท้อนภาพของสังคมออกมา ซึ่งได้รับรางวัล มากมาย พอโตขึ้นผมได้มารู้ประวัติของคนเขียน ก็ยิ่งประทับใจหนังสือเรื่องนี้มากขึ้นไปอีก เพราะ จางเล่อผิง ผู้เขียนการ์ตูนรู้สึกผิดที่ปล่อยให้เด็ก ผูห้ ญิงสองคนนอนหนาวตายอยูน่ อกบ้านโดยทีเ่ ขา ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ เขาจึงอุทิศตนเอง เพื่อต่อสู้กับความยากจนและความไม่เป็นธรรม ในสังคม โดยเลือกการวาดการ์ตนู ซำ�เหมาออกมา หนังสือเล่มนีน้ �ำ เสนออีกด้านหนึง่ ของสังคมให้ผม ได้เรียนรู้ ซึ่งทำ�ให้เราเริ่มมีสำ�นึกต่อสังคมมากขึ้น “เรื่ อ งต่ อ มา คื อ เหยื่ อ อธรรม (Les Miserables) ของ Victor Hugo เป็นเรื่องราวของ นายฌอง วัลฌอง ที่เกิดมาทั้งชีวิตพบแต่ความ
อยุ ติ ธ รรม ถู ก แกล้ ง ถู ก รั ง แกเพราะเป็ น ว่ า คน ไร้ชาติตํ่าศักดิ์ แล้ววันหนึ่งเขาได้ขโมยของจาก บาทหลวงผูม้ พี ระคุณ ซึง่ ถือเป็นการทำ�ผิดร้ายแรง แต่แทนทีจ่ ะถูกจับเข้าคุก บาทหลวงกลับช่วยเหลือ ไม่ ซํ้ า เติ ม ไม่ ป รั ก ปรำ � หนั ง สื อ เล่ ม นี้ ส อนผม ให้รู้ว่า คนดี ๆ ในโลกนี้มีจริง ๆ นะ ความดีถึงจะ มีน้อยแต่ก็ยังมีอยู่จริง “เรือ่ งทีส่ าม คือ ภควัทคีตา เป็นส่วนหนึง่ ของ มหากาพย์อินเดีย มหาภารตะ ภควัทคีตาก็เป็น เรื่องของหน้าที่ พูดถึงเรื่องให้คนเรารู้จักมีความ สำ�นึกต่อหน้าที่ มีความรับผิดชอบในหน้าที่และ ปฏิบัติหน้าที่อย่างจริงจัง เคร่งครัด ซึ่งช่วยผมได้ มาก เพราะในตอนนัน้ ทีไ่ ด้ด�ำ รงตำ�แหน่งทางการเมือง มีเรื่องว้าวุ่นเข้ามามาก ไม่รู้ว่าอะไรมันเป็นเส้น แบ่งความถูก ความผิด ความพอดี พอเหมาะ”
เป็นหมอก็สร้างบ้านได้
ช่วงวัยเด็ก ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม เคย ประสบอุบัติเหตุเฉียดความตายมาแล้ว เพราะ น้ อ งที่ ยั ง เด็ ก อยู่ เผลอเอามื อ ปั ด กานํ้ า ร้ อ นที่ กำ�ลังเดือดร่วงลงมาราดเต็มใบหน้า ในช่วงเวลา สงครามที่ จ ะเดิ นทางไปหาหยู ก ยามารั ก ษาก็ ลำ�บาก ทำ�ให้การรักษาไม่ได้ผล ชาวบ้านแถวนั้น ต่ า งบอกเป็ น เสี ย งเดี ย วกั น ว่ า ลู ก ชายบ้ า นนั้ น happy+ | 31
happy heart
32 | happy+
กำ�ลังรอวันตาย แต่แล้ววันหนึ่งหมอยาพื้นบ้าน ได้ยนิ ข่าวก็เดินทางมารักษาโดยใช้หมากมาตีรวม กับนํา้ มันใบชา และแล้วอาการบวมแดงอักเสบก็ดี ขึ้นเป็นลำ�ดับ จนสุดท้าย ศ.นพ.อุดมศิลป์ หายดี ราวปาฏิหาริย์ นั่นคือจุดเริ่มต้นของเส้นทางการ เป็นแพทย์ “หลังจากทีห่ น้าของผมหายดี ผ่านเหตุการณ์ ช่วงนั้นมา ผมก็คิดมาตลอดว่า ขนาดพ่อแม่ของ เราเป็นครูมีความรู้ ฐานะทางบ้านก็อยู่ในระดับ ชนชั้นกลางพอมีพอกิน ตอนนั้นเรายังเกือบตาย เลย แล้วลูกของคนยากคนจนเขาจะเหลืออะไรถ้า ต้องพบกับเหตุการณ์แบบนี้ ก็เลยเริม่ ตัง้ เป้าหมาย จะเป็นคุณหมอที่ทำ�เพื่อสังคม ตามอุดมการณ์ ของซำ�เหมาที่เราเคยอ่าน (หัวเราะ) แต่อย่าง ที่ผมเคยบอกไปว่า ตัวเองเป็นคนที่มีความสนใจ หลากหลาย สนใจศิลปะทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็น อักษรศิลป์หรือศิลปศาสตร์ วรรณกรรม จิตรกรรม ประติมากรรม สถาปัตยกรรม ดนตรี ฯลฯ ตอนที่ กำ�ลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยก็เลยลังเลว่าจะ เรียนแพทย์หรือสถาปัตย์ดี คุณย่าเห็นผมเครียด ๆ ก็เลยถามแบบซื่อ ๆ ว่าสถาปนิกทำ�อะไรบ้าง แล้วสถาปนิกตรวจคนไข้ได้หรือเปล่า แล้วถ้าเป็น หมอออกแบบบ้านได้ไหม พอเรานึกตามก็เลยได้ คำ�ตอบ นีค่ อื ตรรกะของคนสมัยก่อนทีต่ รงไปตรงมา ชัดเจน ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ทุกวันนี้ผมก็ยังอ่าน วารสารสถาปนิกอยู่ ลงมือสร้างบ้านสร้างร้านค้า ให้เพื่อน ๆ มาแล้วหลายหลัง เพราะชีวิตแพทย์ เป็นชีวิตต้องอยู่กับการเกิดแก่เจ็บตาย อยู่กับ ความทุกข์ อยู่กับนํ้าตาคนโดยเฉพาะจิตแพทย์
เราจึงต้องรักษาสมดุลของชีวิตเอาไว้ให้ดี ให้มีทั้ง ด้านสังคม ศิลปวัฒนธรรมเข้ามาบ้าง ไม่ปล่อยให้ ชีวิตจืดชืดไร้รสชาติ จมอยู่แต่กับเรื่องของโรคภัย ไข้เจ็บอย่างเดียวเท่านั้น”
วิ่ง...สู่วิถีชีวิตใหม่
ประมาณ 30 กว่าปีที่แล้ว เรื่องของการดูแล สุขภาพร่างกายยังไม่ใช่เรือ่ งทีอ่ ยูใ่ นกระแสทีท่ กุ คน ให้ความสนใจสักเท่าไหร่ ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม คือผู้ริเริ่มคนแรกและเป็นประธานในการจัดงาน กรุ ง เทพฯ มาราธอน ที่ ป ลุ ก กระแสให้ ทุ ก คน หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพ ขอแค่เพียงมีจิตใจและ ร่ า งกายที่ พ ร้ อ มก็ ส ามารถเข้ า ร่ ว มการวิ่ ง เพื่ อ ออกกำ�ลังกายได้แล้ว ศ.นพ.อุดมศิลป์ ถือเป็นหนึง่ ในแรงบันดาลใจของนักวิ่งรุ่นต่อมาอีกหลายคน “ช่วงอายุ 30 กว่า ๆ ใกล้ 40 ตอนนั้นผม ทำ�งานค่อนข้างหนัก ตรวจคนไข้ที่โรงพยาบาล ออกมาสอนงานวิจยั ทำ�งานบริหาร ตกเย็นมาเปิด คลินิก หลังจากนั้นก็ไปเป็นที่ปรึกษาตรวจคนไข้ พิเศษตามโรงพยาบาลเอกชนอีก สิ่งแรกที่สังเกต ได้คือ โรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata) ยัง ไม่เฉลียวใจก็คิดว่าตัวเองเครียด ทำ�ให้กล้ามเนื้อ หดตัว เลือดไปเลี้ยงเส้นผมน้อย ทำ�ให้ผมร่วง ต่อ มาไปประชุม World University Service สมาคม บริการนักศึกษาโลก ที่ประเทศไนจีเรีย ผู้เข้าร่วม ประชุมเกิดอาการท้องเสีย ท้องร่วง เนื่องจาก อาหารไม่สะอาด ผมเป็นหมอคนเดียวในนั้นจึง วิ่งวุ่นเข้าออกหอพักรักษาทุกคน ตกเย็นไปทาน เบียร์กับพรรคพวก ตื่นขึ้นมาเข้าห้องนํ้ากลางดึก
เพราะชีวิตแพทย์เป็นชีวิต ต้องอยูก่ บั การเกิดแก่เจ็บตาย อยู่กับความทุกข์ เราจึงต้อง รักษาสมดุลของชีวิตเอาไว้ ให้ดี แล้วเจ็บหน้าอกมากจนหมดสติไป รู้สึกตัวอีกที ถามตัวเองว่าเกิดอะไรขึน้ ใจหนึง่ ก็รวู้ า่ อาการแบบนี้ เหมือนอาการโรคหัวใจกำ�เริบ หัวใจขาดเลือด เฉียบพลัน แต่อกี ใจหนึง่ ก็ไม่อยากจะรับความจริง หาเหตุ ผ ลมาสนั บ สนุ น ว่ า เป็ น เพราะกิ น เบี ย ร์ เข้าไป ไม่คอ่ ยได้กนิ ข้าวกินปลา ทำ�งานหนักทำ�ให้ นํ้าตาลในเลือดตก ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก และ อีกครัง้ ทีไ่ ปหมดสติในห้องนํา้ บ้านเพือ่ น ทำ�ให้ผม ไปตรวจดูกพ็ บว่า เส้นเลือดในหัวใจตีบ คุณหมอก็ ให้ยามา แต่เราเป็นหมอก็รวู้ า่ นีค่ อื ยารักษาอาการ ไม่ใช่ยารักษาโรค ไม่ใช่การรักษาที่ต้นเหตุ เรา หัวใจกำ�เริบมาสองครั้งแล้ว การกำ�เริบครั้งที่สาม มีเปอร์เซ็นต์รอดน้อยมาก และเราเพิ่งจะอายุ 40 กว่า ๆ เอง ชีวิตเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น จะให้หยุดงาน เพื่อนั่งรอวันตายก็ไม่ใช่ผม happy+ | 33
happy heart
34 | happy+
“จนวันหนึ่งไปอ่านหนังสือ Asia Runner มี วิศวกรคนหนึง่ เป็นเส้นเลือดตีบ คุณหมอก็สง่ั พักงาน และให้ รั บ ประทานยา ครบปี ม าตรวจอี ก ครั้ ง พบว่าหัวใจตีบมากกว่าเดิม จนเขาได้ไปพบกับ นักกีฬาสควอชทีช่ วนให้เขาเริม่ วิง่ เพราะอยูแ่ บบนี้ ก็รอวันตาย จากที่เริ่มเดินจนกระทั่งเข้าร่วมลง แข่งขันรายการ First African Marathon ได้ พอกลับ ไปตรวจอีกครัง้ พบว่าหัวใจของเขาเกิดสายใยของ หลอดเลือดฝอย (Cholesterol Artery) กระจายทั่ว หัวใจ เหมือนกับแม่นํ้าสายหลักถูกปิดกั้น นํ้าจึง ไหลไปยังคลองเล็กคลองน้อย ทำ�ให้เขาแข็งแรง กว่ า เดิ ม ด้ ว ย หนั ง สื อ วิ จั ย เล่ ม หนึ่ ง บอกว่ า ใครก็ตามที่สามารถวิ่งได้หนึ่งมาราธอนจะปลอด จากโรคหัวใจกำ�เริบได้ อย่างน้อยที่สุด 5-10 ปี ไม่ใช่เพราะวิง่ มาราธอนแล้วจะปลอดจากโรค แต่ เพราะการซ้อมทำ�ให้แข็งแรงขึน้ ผมอ่านแล้วก็คดิ ว่า นี่คือทางออกของเรา จึงเริ่มออกกำ�ลังกายจาก การเดิน จนกระทั่งวิ่งได้โดยไม่หยุดพัก “ในปี พ.ศ. 2530 ผมก็จัดการวิ่งชื่อว่า “วิ่ง ลอยฟ้าเฉลิมพระเกียรติฯ” โดยปิดสะพานแขวน พระราม 9 เพือ่ เฉลิมพระเกียรติพระเจ้าอยูห่ วั ครบรอบ 60 พรรษา และเฉลิ ม ฉลองที่ ก รุ ง เทพฯ ครบ 250 ปี และเป็ นการระดมทุ น เพื่ อ จั ด สร้ า งตึ ก สยามินทร์อนุสรณ์ 100 ปี โรงพยาบาลศิรริ าชด้วย งานวิง่ ครั้งนั้นมีผู้สนใจเข้าร่วมวิ่งจำ�นวนหลายแสนคน “และก่อนหน้าที่จะจัดงานนี้ 1 ปี ผมเห็นว่า คนไทยยังไม่คุ้นเรื่องวิ่ง แค่ 5 กิโลเมตรยังวิ่งไม่ ได้เลย ก็เลยอยากจะโปรโมทการวิ่ง อันดับแรก คือ ให้นักศึกษาแพทย์ศิริราชที่ดูตี๋ ๆ เนิร์ด ๆ ไม่ มี หุ่ น เป็ นนั ก กี ฬ า ไม่ น่ า จะวิ่ ง ได้ เป็ นชาย 12 คน หญิง 2 คน มาเริ่มวิ่งจากโรงพยาบาล
แมคคอร์มิค เชียงใหม่ มายังโรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพฯ อันดับต่อมาคือ เปิดมาราธอนคลินิกที่ สวนจตุจกั ร ให้ผทู้ สี่ นใจเดินทางมาหาผมเพือ่ เทรน การวิ่ง โดยรับประกันว่าทุกคนจะวิ่งมาราธอน ได้อย่างแน่นอน ซึ่งตอนนั้นได้รับเสียงตอบรับดี มาก หลังจากที่จัดโครงการนั้นสำ�เร็จ ปีต่อมา ผมก็เป็นประธานจัดกรุงเทพฯ มาราธอน เหมือน อย่างทีม่ หานครทัง้ หลายในโลกต่างจัดเป็นของตัวเอง เช่ น ลอนดอนมาราธอน นิ ว ยอร์ ก มาราธอน บอสตันมาราธอน ฯลฯ”
การสร้างย่อมดีกว่า ซ่อมเสมอ เราพยายาม ให้ความรู้กับคนเพื่อสร้างให้ คนมีสุขภาพที่ดีกว่าเดิม
อาสา...ทำ�ด้วยใจ
ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม อายุ 77 ปีแล้ว แต่ยังคงมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง อาจารย์แอบ กระซิบบอกว่า “ผมยังหล่อกว่าคนรุ่นเดียวกัน เยอะ (หัวเราะ)” ซึ่งเคล็ดลับหนึ่งที่ทำ�ให้ ศ.นพ. อุ ด มศิ ล ป์ ไม่ ห ยุ ด อยู่ กั บ ที่ ทุ ก วั นนี้ ยั ง ออกไป ทำ�งาน นั่นก็คือ ความสุขที่ได้อยู่กับสิ่งที่รักเสมอ “ผมมีความสุขที่สุดในชีวิต คือ 15 ปีที่ได้มา ทำ�งานร่วมกับ สสส. ที่ผ่านมาผมก็ทำ�งานแบบนี้ มาโดยตลอด เดินสายพร้อมสไลด์เพื่อพูดให้คน ลด ละ เลิกสูบบุหรี่ ไม่ดมื่ เหล้า แนะนำ�ให้คนหันมา ออกกำ�ลังกาย ไปตัง้ ชมรมวิง่ ทัว่ ประเทศ แล้วก็ไป สอนวิปสั สนากรรมฐานทัว่ ประเทศ ซึง่ นีค่ อื ความสุข ของเรา เพียงแต่ผมไม่เคยรู้สิ่งที่ตัวเองทำ� คือ การสร้างเสริมสุขภาพ (Health Promotion) จน กระทั่งได้มาทำ�งานร่วมกับ สสส. ผมถึงได้เข้าใจ และการสร้างเสริมสุขภาพเป็นการป้องกันก่อน การรักษา เพราะฉะนั้นการสร้างย่อมดีกว่าซ่อม เสมอ เราพยายามให้ความรู้กับคนเพื่อสร้างให้ คนมีสุขภาพที่ดีกว่าเดิม
“นอกจากนี้ ผมยั ง ได้ ทำ�ในสิ่ ง ที่ รั ก มาก อีกอย่างหนึง่ คือ โซเชียลมาร์เก็ตติง ประสบการณ์ ทั้งหมดที่สั่งสมมาทั้งชีวิต สิ่งที่ผมสนใจต่าง ๆ เช่น วิทยาศาสตร์ ศิลปะ หนังสือ วรรณกรรม การเมือง ฯลฯ เหมือนกับสะสมไว้เพื่อมาทำ�งาน ในส่วนนี้ มาร์เก็ตติงในที่นี้ไม่ใช่การตลาดหรือ การขายสินค้า แต่เป็นการตลาดเพื่อให้ข้อมูลที่ ทำ�ให้คนมีสุขภาพดีขึ้น ซึ่งส่วนมากมักจะทวน กระแสสังคมด้วย ที่จะเห็นได้ชัดเจน พูดไปใคร ๆ ก็รู้จัก เช่น สปอตโฆษณาจน เครียด กินเหล้า ให้เหล้าเท่ากับแช่ง เพราะฉะนั้นเมื่อทำ�แล้วได้ผล ทำ�ให้สถิติคนดื่มเหล้าน้อยลง คนสูบบุหรี่น้อยลง อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการดื่มน้อยลง จึงทำ�ให้ ผมสนุกกับการทำ�งาน นีเ่ ป็นงานอาสา แต่เรามีความสุข มากที่ได้ลงมือทำ� ใครไม่ให้ผมทำ�นี่โกรธตายเลย (หัวเราะ)” happy+ | 35
happy heart
36 | happy+
บทเพลงแห่งความสุข
นอกจากงานหลั ก ในการเป็ น ที่ ป รึ ก ษา กรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แล้ว ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม ยังมี งานอดิเรกที่รักและทำ�ให้มีความสุขอีกอย่างหนึ่ง นั่ น คื อ การเป็ น ดี เจประจำ � FM 96.5 คลื่ น ความคิด สถานีวิทยุภูมิภาค อสมท. รายการ ดนตรีและชีวิต Music & Life ที่นำ�เสนอบทเพลง คลาสสิกขับกล่อมผู้ฟังในคํ่าคืนวันอาทิตย์ เวลา 21.00-23.00 น. “ผมเป็นคนที่ชอบฟังดนตรีทุกชนิด ตั้งแต่ ลูกกรุงยันลูกทุง่ คลาสสิกยันเรกเก้ ผมสะสมแผ่น ซีดี, แอลพี และเทปคาสเซ็ตไว้เป็นจำ�นวนมาก พูดตามตรงเราเก็บไว้ก็ได้ฟังจริง ๆ ไม่ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ แต่พอได้มีโอกาสมาจัดรายการก็เลย เลือกนำ�เพลง Popular Classic ที่ไม่ใช่คลาสสิกฟัง ยาก แต่เป็นคลาสสิกทีฟ่ งั แล้วไพเราะ แต่โดยส่วนตัว แล้วผมเป็นมนุษย์ประเภท Perfectionist ผมไม่ สามารถไปถึงแล้วเปิดเพลงเหมือนอย่างคนอืน่ ได้ เลยต้องทำ�สคริปต์ทุกครั้งมาตลอด 12 ปี ไม่มี ครั้ ง ไหนเลยที่ ไม่ มี ส คริ ป ต์ เพราะผมจะเพิ่ ม เพลย์ลิสต์วงที่เล่น ศิลปินที่เล่น และเกร็ดของ เพลงแต่ละเพลง เกร็ดของโปสเตอร์แต่ละวงลง ไปด้วย เพราะเมื่อคนฟังได้รับเกร็ดต่าง ๆ เหล่านี้ จะทำ�ให้ฟังเพลงเพราะยิ่งขึ้น “แล้วสิ่งที่สนุกมาก ๆ เลยก็คือ เรื่องราวหลัง ไมค์ เพราะรายการผมมีคนโทรเข้ามาเยอะมาก เช่น ช่วงปลายปี ผมจะเปิดเพลงเวดดิ้ง เป็นเพลง คลาสสิกที่เป็นเพลงเวดดิ้ง ก็จะมีหนุ่มสาวคู่รักที่ กำ�ลังจะแต่งงานกันมารอหน้าห้องส่ง พอผมจัด
รายการเสร็จก็จะมาขอเพลงที่ผมได้เปิด เพื่อนำ� ไปใช้ในงานหมัน้ งานแต่งของพวกเขา หรือมีคนฟัง โทรเข้ า มาว่ า มี คุ ณ พ่ อ เป็ น หมอและป่ ว ยอยู่ ใน ห้องไอซียู รักษาอย่างไรก็ไม่หาย เคยรู้ว่าคุณพ่อ ชอบฟังเพลงแนวคลาสสิก เลยอยากให้ผมแนะนำ� เพลงเพือ่ ไปเปิดให้คณ ุ พ่อฟัง ผมก็แนะนำ�ร้านทีจ่ ะ ไปหาซื้อเพลงเหล่านี้ได้ บางเพลงที่หายาก ผมก็ อัดใส่แผ่นไปให้เขา เจ้าของร้านขายเพลงเขาก็ เป็นแฟนรายการของผมอยู่แล้ว พอเห็นน้องเขา ไปซื้อเพลงที่ร้านก็ยกให้ฟรี ๆ ไม่คิดเงิน ประมาณ ปีกว่า ๆ ที่เขาหายไป วันหนึ่งผมก็ได้รับกระเช้า อันใหญ่มากพร้อมข้อความขอบคุณจากน้องคนนี้ บอกว่ า คุ ณ พ่ อ หายดี แ ล้ ว คุ ณ พ่ อ ฟั ง เพลงที่ ผมแนะนำ�ไปให้ทุกวัน นี่เป็นเหตุการณ์คร่าว ๆ ที่ทำ�ให้ผมรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ เพราะว่าเราได้เจอ คนคอเดียวกัน เป็นความสุขของดีเจที่แก่ที่สุดใน ประเทศไทย (หัวเราะ)”
สมดุลของความเศร้า
เหตุการณ์ทผี่ า่ นมาเมือ่ วันที่ 13 ตุลาคม 2559 เมื่ อ พระบาทสมเด็ จ พระปรมิ นทรมหาภู มิ พ ลอดุลยเดชเสด็จสรรคต ยังความเสียใจแก่ชาวไทย ทำ�ให้ทัว่ ทัง้ ประเทศถูกปกคลุมไปด้วยบรรยากาศ ของความเศร้าเสียใจ ศ.นพ.อุดมศิลป์ ศรีแสงนาม จึงอยากฝากถึงชาวไทยทุกคนว่า “ผมว่านี่คือการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุด ที่คนไทยเคยพบ และการสูญเสียนี้มีผลกระทบ รุนแรงมาก กระทบกับแทบทุกชีวติ ความเศร้าโศก เสี ย ใจในขณะนี้ แม้ แ ค่ ไ ด้ ฟั ง เพลงที่ เ กี่ ย วกั บ พระองค์ท่านนํ้าตาก็พานจะไหลแล้ว เพราะพ่อ
จากไป ผมก็ไม่นึกว่าเรื่องนี้จะเป็นจริงและไม่ อยากให้เป็นจริง เพราะพระเจ้าอยูห่ วั ก็เสด็จฯ เข้า ออกโรงพยาบาลบ่อย และทุกครั้งพระองค์ท่าน ก็ดีขึ้น แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับที่แล้วมา เพราะ ฉะนั้ น ผลกระทบนี้ จึ ง ทำ � ให้ ค นโศกเศร้ า กั นทั้ ง แผ่นดิน ความเศร้าที่เกิดขึ้นนี้ห้ามกันไม่ได้หรอก ครับ แต่หากคนไทยยังคงเศร้าอยูอ่ ย่างนีไ้ ปเรือ่ ย ๆ ความเศร้าจะค่อย ๆ สะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ ใน ทางจิ ต วิ ท ยาพอความเศร้ า สะสมเยอะเข้ า จะ กลายเป็นความเซื่องซึม ความเบื่อหน่าย ท้อแท้ หมดอาลัยตายอยากในชีวิต ไม่อยากไปไหน ไม่ อยากเจอใคร ไม่อยากทำ�อะไรทั้งนั้น หมดความ กระตือรือร้น จนกลายเป็นความหงุดหงิด ความ ก้าวร้าว และในที่สุดก็เป็นความโกรธ เพราะ ฉะนั้นที่ผมรู้สึกเป็นห่วงมากก็คือ ถ้าพวกเรายัง คงเศร้าอย่างนี้อยู่ภูมิต้านทานในตัวก็จะตํ่าตาม ไปด้วย ทำ�ให้ไม่สบายได้ง่าย ยิ่งช่วงนี้ปลายฝน ต้นหนาว ภูมิต้านทานตํ่าก็จะยิ่งไม่สบาย เมื่อไม่ สบายเนื้อไม่สบายตัวก็จะนำ�ไปสู่ความหงุดหงิด และอารมณ์โกรธเช่นเดียวกัน “นีค่ อื สิง่ ทีผ่ มอยากจะฝากไว้วา่ ให้เปลีย่ นความ โศกเศร้าเสียใจนั้นเป็นพลังของการทำ�ความดี เริม่ ต้นจากตัวเราเอง ไม่ตอ้ งทำ�ดีใหญ่โต ทำ�ดีเล็ก ๆ น้อย ๆ จากตัวเราเองเสียก่อน รูว้ า่ เรายังมีขอ้ บกพร่อง ตรงไหน ปรับปรุงตัวเองให้ดีข้นึ เหล้าที่เคยดื่มก็ ลดลง บุหรีท่ เี่ คยสูบก็เลิก การพนันทีเ่ คยเล่นก็หยุด เสีย สิ่งแวดล้อมเก็บกวาดให้มันสวยงาม รักษา ต้นนํ้าลำ�ธารกันสักหน่อย และรักใคร่กลมเกลียว สมัครสมานสามัคคีกนั รูร้ กั รูอ้ ภัย จะทำ�ให้พวกเรา ก้าวเดินไปยังทางข้างหน้าได้ดียิ่งขึ้นครับ” happy+ | 37
feature
พลังใหม่ เพื่อวันใหม่ เรื่อง : It’s a bell / Nasry / Patty Pom ภาพ : วิกรม วิสุทธิปราณี
หลาย ๆ ครั้งที่เราปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเด็กไทยมีความรู้ความสามารถและความเก่งเฉพาะตัว เห็นได้จากข่าวคราวจาก หลายแขนงที่ปรากฏให้ได้เห็นบ่อยครั้งว่าเด็กไทยสร้างชื่อเสียงไกลระดับโลกไม่แพ้ชาติใด สำ�หรับเดือนมกราคม ต้อนรับปีใหม่แบบนี้ นิตยสาร happy+ จะไปพูดคุยกับเด็กไทย เด็กรุ่นใหม่ที่มีพลังอันล้นเหลือ ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ บันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ ไปติดตามกันดีกว่าค่ะว่าเด็กเก่งของเราในเล่มนี้มีใครกันบ้าง 38 | happy+
“นาฏยบูรพา”
สืบสานหุ่นละครเล็กสู่เวทีระดับโลก สังคมไทยเป็นสังคมทีม่ ศี ลิ ปวัฒนธรรมเป็นของตนเอง ซึง่ เป็นมรดกของบรรพบุรษุ จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของไทย ทีม่ คี ณ ุ ค่าควรยึดถือเป็น แนวทางปฏิบัติสืบทอดกันมาช้านาน และเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความเป็นไทยได้อย่างชัดเจน ในปัจจุบันเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่คนไทยโดยเฉพาะเด็ก รุ่นใหม่หันมาให้ความสนใจและร่วมกันสืบสานอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยกันมากขึ้น เช่นเดียวกับ คณะเยาวชนหุ่นละครเล็ก “นาฏยบูรพา” ที่ไป สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย คว้ารางวัลชนะเลิศ ในการประกวดหุ่นโลกในงาน World Puppet Carnival 2016 ที่ประเทศโปแลนด์ สร้าง ความภาคภูมิใจให้แก่น้อง ๆ ทีมนักแสดง รวมถึง ครูเด่น หาเลิศ ผู้ฝึกสอนเป็นอย่างมาก ที่สามารถนำ�ศิลปวัฒนธรรมไทยไปเผยแพร่สู่สายตา ชาวโลก และนำ�รางวัลชนะเลิศในครั้งนี้กลับมาฝากชาวไทยทั้งประเทศที่ให้การสนับสนุนพวกเขาเป็นอย่างดี “นาฏยบูรพา” มีคณะครูผฝู้ กึ สอนและผลักดัน อย่าง ครูเด่น หาเลิศ และคณะผู้ปกครองของ เยาวชนเป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งชมรม ซึ่งทางชมรมนี้ได้ จัดให้มกี ารเรียนการสอนโดยมีวตั ถุประสงค์รว่ มกัน ที่จะปลูกฝังและสืบทอดศิลปวัฒนธรรมไทยไปสู่ เยาวชน รวมทั้งได้แสวงหารูปแบบและวิธีการ ที่ จ ะส่ ง เสริ ม ศิ ล ปวั ฒ นธรรมไทยให้ ค งอยู่ เป็ น เอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาติต่อไป
“หุ่นละครเล็กมีมาตั้งนานแล้ว แต่หายไป ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ผมมานั่งคิดว่าจะทำ� ไงดี เพราะกลัวหุ่นละครเล็กจะหายไป และคิด ได้ว่าถ้าให้อยู่ในรูปแบบการศึกษาอาจจะทำ�ให้ อยู่ได้นานมากขึ้น ผมจึงเริ่มสอนฟรีอยู่ที่โรงเรียน สวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี เริม่ แรกก็มเี ด็กผูช้ าย 3 คน ผู้หญิง 3 คนซึ่งมันพอดี เพราะหุ่นตัวหนึ่งต้อง เชิด 3 คน โชคดีที่เด็กสวนกุหลาบเขาชอบ และ
เขาจำ�ผมได้ในทีวีหรือป้ายโฆษณาต่าง ๆ เด็ก เลยมาขอเรียนกัน ตอนเริ่มเรียนยังไม่มีหุ่น ต้อง อาศัยจินตนาการ เปิดวิดีโอหรือใช้ของอย่างอื่น ในการเรียนการสอน พอเรียนไปสักพัก สมเด็จพระเทพรั ต นราชสุ ด าฯ สยามบรมราชกุ ม ารี เสด็ จ ฯ มาทำ�ให้ได้มีโอกาสถวายการแสดงหุ่นละครเล็ก แด่สมเด็จพระเทพฯ ตอนนั้นจำ�ได้ว่าสมเด็จพระเทพฯ ทรงพระดำ � เนิ น มาหยุ ด อยู่ ที่ พ วกเรา พอท่ า น happy+ | 39
feature
ทอดพระเนตรท่านได้ตรัสว่า ให้อนุรักษ์ตรงนี้ไว้ พอได้ยินเท่านั้นกำ�ลังใจมาเต็มมาก “ด้วยความที่เราสอนฟรีทำ�ให้เงินหมด ผม จึงกลับบ้านไปขายก๋วยเตี๋ยว และทิ้งเด็ก ๆ ให้ เรียนหนังสือไปก่อน พอขายไปได้ 6 เดือน เริ่มมี เงินผมก็กลับมาสอนหุ่นอีกครั้ง พอกลับมาครั้งนี้ เริม่ เปลีย่ นความคิดว่า เราต้องให้คนยอมรับให้ได้ จึ ง ส่ ง ไปประกวดหุ่ น โลกครั้ ง แรก แต่ ไ ม่ ไ ด้ รับการคัดเลือก ตอนนั้นพอไปขอเงินเขา ก็มีคน ว่า บ้าหรือเปล่า ทำ�ไปได้ไง จะไปหุน่ โลกมีปญ ั ญา เหรอ หรือบางคนพูดว่า คุณทำ�แบบนี้ไม่ต่างกับ เอาเด็กมาตัดมืดตัดแขนแล้วเอามาขอทานหรอก พอคำ�นีอ้ อกมาเลยกลับ และตัง้ ปฏิญาณว่าสักวัน เราจะต้องทำ�ให้ได้ “จนเมื่อสองปีที่แล้ว ไปช่วยเพื่อนทำ�โขนที่ สาธิตเกษตรศาสตร์ ชลบุรี เจอผู้ปกครองที่เคย เห็นเราในทีวี เขาบอกว่า อยากให้ลูกเรียนหุ่น ละครเล็กด้วย ผมเลยบอกไปว่าเรียนไม่ได้หรอก ผมไม่มีหุ่น เขาถามกลับมาว่า ครูเด่นหุ่นราคา เท่าไหร่ผมบอกไปว่าหลายหมื่นบาท เขาก็ช่วย ลงขั นกั น จนได้ หุ่ นที่ ภ าคตะวั น ออกชลบุ รี ก็ เลยชื่อนาฏยบูรพา เพราะสองตัวแรกเกิดที่นั่น ครับ พอเริม่ มีหนุ่ ทำ�ให้เด็ก ๆ มัน่ ใจและมีเด็กมาเรียน เพิม่ มากขึน้ จนวนกลับมาประกวดหุน่ โลกอีกครัง้ และคิดว่าเราจะต้องไปให้ได้ แต่กค็ ดิ ว่าหุน่ สองตัว ไม่พอแน่นอน ตัดสินใจกู้เงิน ทำ�หุ่นตัวต่าง ๆ 40 | happy+
เพิ่มขึ้นอีกหลายตัว เรียกได้ว่าหมดไปเกือบล้าน ผู้ปกครองก็ใจดีให้ยืมเงินกัน” หลังจากนัน้ ในปี 2559 ทางชมรมนาฏยบูรพา ได้ ผ่ า นการคั ด เลื อ กการประกวดหุ่ น โลกเข้ า รอบ 50 ทีมสุดท้าย จากคณะหุ่นที่ส่งผลงาน เข้าประกวดจากทั่วโลกทั้งหมด 900 ทีม ในงาน “World Puppet Carnival 2016” ทีป่ ระเทศโปแลนด์ โดยทางชมรมนาฏยบูรพาได้จดั ส่งตัวแทนเยาวชน ไทยกว่า 30 คน ไปร่วมเผยแพร่และเข้าแข่งขัน ประกวดหุ่นโลก “ตอนนั้ นดี ใจกั น มาก ทั้ ง เด็ ก ๆ และครู กระโดดกอดกันใหญ่ แต่หลังจากวันนั้น มานั่ง คิดกันอีกว่า เราจะไปยังไงกัน (หัวเราะ) เพราะ ท้ายใบเชิญบอกว่า ไม่มีงบประมาณให้ ตอนนั้น ก็ไม่รู้จะทำ�ไง ซึ่งการเดินทางไปแข่งขันที่ประเทศ โปแลนด์จะต้องใช้คณะเชิดหุ่นทั้งหมดประมาณ 30 คน และใช้เงินทุนไม่ตํา่ กว่า 2 ล้านบาท แต่ผม กับเด็ก ๆ ก็ไม่ท้อ พยายามหาเงินและรวบรวมให้ ทันก่อนไปประกวด โดยเด็ก ๆ บางคนช่วยหาเงิน ด้ ว ยการขายนํ้ า ที่ ต ลาดนั ด บุ ญ อนั น ต์ ย่ า น สรงประภา ดอนเมือง หาเงินได้มาแล้วหมืน่ กว่าบาท ในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ “จนวันหนึง่ มีพนี่ กั ข่าวเขามาเจอ เขาบอกว่า ทำ�ไมมันดูไม่ดีเลย จะไปเป็นตัวแทนประเทศไทย แต่ไม่มเี งินไป เขาก็เลยลงหนังสือพิมพ์ให้ จากนัน้ ก็มที วี หี ลายช่อง ๆ ติดต่อเข้ามา จนมีหนังสือพิมพ์
ฉบับหนึ่งมาถามว่า ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง เราก็ บอกไปตามตรงว่า ตอนนี้ก็ยังไม่มีเงินเหมือนเดิม จากนัน้ ก็มผี ใู้ หญ่เรียกผมและเริม่ มีคนไทยร่วมกัน บริจาค ทำ�ให้คณะเราได้ไปขึ้นโชว์การแสดงที่ โรงละครอลาคินครับ เราได้โชว์การแสดงในชือ่ ชุด “The First Human in The World” หรือชุด “หนึ่ง ในโลกา” ทีไ่ ด้เขียนบทขึน้ มาใหม่ โดยเป็นเรือ่ งราว เกี่ยวกับลิงกับยักษ์ตัวแรกของโลก ตามหาอาวุธ ทัง้ 4 อย่าง ทีจ่ ะสามารถทำ�ให้เป็นมนุษย์ได้อย่าง สมบูรณ์ อาวุธทั้ง 4 ได้แก่ ความกตัญญูรู้คุณ ความเสียสละ ความมีระเบียบวินัย และความ อดทน อดกลั้น “ผมจำ � ได้ ว่ า ตอนเด็ ก หลั ง ข่ า วจะได้ ยิ น พระราชดำ�รัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ว่าบ้านเมืองเรามีทั้งคนดี และคนไม่ดี การที่จะให้ทุกคนเป็นคนดีทั้งหมด คงเป็นไปไม่ได้ การที่จะให้บ้านเมืองนั้นสงบสุข ต้ อ งให้ ค นดี ป กครองคนไม่ ดี ผมก็ เ ลยคิ ด ว่ า ถ้าเราทำ�แล้วเอาไว้โชว์และสอนเด็ก ๆ เรือ่ งค่าของ ความเป็นมนุษย์และความเป็นคนดีมันก็ดีครับ” การแสดงที่ น่ า ประทั บ ใจและความตั้ ง ใจ ทุ่มเทของน้อง ๆ คณะนาฏยบูรพา จึงทำ�ให้ ประเทศไทยสามารถคว้ า รางวั ล ใหญ่ ที่ สุ ด คื อ Grand Prix ชนะเลิศหุ่นโลกประจำ�ปี 2016 และ รางวัล Young Puppeteer มาครองได้สำ�เร็จ โดย น้องไอซ์ นางสาวณิชกานต์ สกุลเกียรติด�ำ รง ได้
บอกกับเราว่า การเดินทางไปแข่งในครัง้ นีไ้ ด้สร้าง ประสบการณ์ใหม่ ๆ และเต็มไปด้วยความรู้สึก มากมายที่ไม่สามารถบอกออกมาเป็นคำ�พูดได้ “เราตั้งความหวังกันไว้ตั้งแต่ก่อนไปแล้วว่า เราต้องได้รางวัลแน่นอน ซึ่งครูเด่นจะบอกกับ พวกเราว่า ถ้าไม่ได้อะไรติดมือกลับมา จะขอเลิก สอนและยุบคณะนีท้ นั ที ทำ�ให้เราต้องพยายามกัน มากขึ้ น กว่ า เดิ ม ที ม ที่ ไปประกวดที่ โ ปแลนด์ เขาเป็ น มื อ อาชี พ หมดทุ ก คน ไม่ ว่ า จะเป็ นจี น อเมริกา ทีมของเขาจะเป็นคนที่โตแล้วกันทุกคน พอประกาศรางวัลการแสดงเด็กยอดเยีย่ ม แค่นนั้ เราก็ดีใจมากแล้วค่ะ คนอื่นเขาได้ผู้กำ�กับยอด เยี่ยม ได้นักแสดงยอดเยี่ยม อันนั้นเขามืออาชีพ กันจริง ๆ มีแต่ทีมเราที่ไม่ได้เป็นมืออาชีพ เราเป็น แค่เด็กตัวเล็ก ๆ เท่านั้น “ก่อนไปครูเด่นสอนเสมอค่ะว่า ให้เอาความ ตัง้ ใจและมุง่ มัน่ ไปจากไทย 120 อย่าเอาไปแค่ 100 เดียว เพราะพอไปอยู่นั่นคุณอาจโดนตัดคะแนน ก็ได้ ครูเด่นจะฝึกในเรือ่ งความมีระเบียบ การนอน การกิน และฝึกความอดทนให้รา่ งกายแข็งแรงค่ะ หนูคิดว่า ที่เราชนะได้คงเพราะเราฝึกฝนกันหนัก มากค่ะ และเรามีความสามัคคี เพราะหุน่ เชิดตัวหนึง่ ต้องใช้คนเชิดสามคน ซึ่งต้องพร้อมเพรียงกัน หนู ดีใจทีเ่ ราได้เอาวัฒนธรรมของเราไปเผยแพร่ให้แก่ ต่างประเทศ อีกทั้งเรายังได้มิตรภาพที่เราได้อยู่ ด้วยกันด้วย มิตรภาพระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง เรา
ดูแลกันเป็นอย่างดี “ตอนแรก ๆ หนูมีท้อบ้างค่ะ เพราะบางที เราซ้อมกันหนักและเหนื่อยมาก แต่เพราะด้วย หุน่ ละครเล็กมีเสน่หท์ ีต่ อ้ งใช้ความสมัคคีกนั และ เป็นอะไรที่ยากมาก เรียกว่าเป็นความท้าทาย กับความสามารถของหนูมากค่ะ หนูจึงรู้สึกสนุก ทุกครัง้ ทีไ่ ด้ท�ำ หนูภมู ใิ จทีม่ โี อกาสได้เผยแพร่และ รักษาหุ่นละครเล็กเอาไว้ ถึงจะไม่มาก แต่อย่าง น้อยหนูยังได้รักษาเอาไว้” ส่วนน้องไตเติ้ล เด็กชายธนกฤต บุญมาลี เด็กน้อยวัย 8 ขวบ เล่าว่า เขารู้สึกภูมิใจและ ดีใจที่ความพยายามครั้งนี้ประสบความสำ�เร็จ เพราะก่อนเดินทางไปแข่งขันพวกเขาทุกคนตั้งใจ ฝึกกันหนักมาก “ก่อนหน้าผมสนใจเรื่องโขนครับ ตอนแรก ผมเรียนอยู่สาธิตสวนสุนันทา และได้เข้ากิจกรรม ชมรมเรียนโขน จะเรียนอาทิตย์ละ 1 ชั่วโมง ผม ชอบมากครับ หลังจากนั้นผมก็ย้ายโรงเรียนมา พญาไท แต่ที่นี่ไม่มีเรียนโขน คุณยายก็เลยพามา เรียนทีศ่ นู ย์วฒ ั นธรรม ทำ�ให้เจอกับครูเด่น ครูเด่น จึงชวนมาเชิดหุ่นละครเล็ก ทำ�ให้ผมชอบมาก เป้ า หมายผมคื อ อยากเล่ น เป็ นตั ว ที่ ใหญ่ ขึ้ น ไป เรื่อย ๆ ครับ ผมเห็นรุ่นพี่หลายคนที่ครูพาไปโชว์ ในงานต่าง ๆ ผมก็อยากทำ�บ้างและจะพยายาม ทำ�ให้ได้ ซึ่งผมอยากเชิดเก่งเหมือนพี่ ๆ ทุกคน ผมมี ค วามสุ ข มากครั บ ที่ ไ ด้ เ ล่ น หุ่ น ละครเล็ ก
แถมยังได้ออกกำ�ลังกายไปในตัวด้วย ในอนาคต ถ้าโตขึ้นผมก็คงจะเล่นหุ่นละครเล็กเหมือนเดิม ผมอาจไปประกอบอาชีพอะไรบางอย่าง แต่หุ่น ละครเล็กของผมก็จะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผม แน่นอนครับ” ทางด้านน้องเพชร เด็กชายธนกร ชืน่ ประดิษฐ์ ได้พูดถึงเสน่ห์ของหุ่นว่า หุ่นนั้นมีเสน่ห์ในตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของตัวหุ่น ลาย การปักดิ้น ลักษณะของหัวหุ่น รวมถึงวิธีการเชิดที่จะเจาะ เพิ่มความงดงามมากขึ้นไปอีก “การเชิดทีต่ อ้ งทำ�สามคนทำ�โดยความพร้อม เพรียง ลักษณะของตัวหุน่ วิธกี ารเชิด และการเล่น แบบธรรมชาติ มันแฝงด้วยความสนุกอยูด่ ว้ ยครับ ผมว่ามันขึ้นอยู่ที่คนเชิด ถ้าเขาคิดอะไร เขาก็จะ สื่อหุ่นออกมาเป็นแบบนั้น” ครูเด่นพูดเสริมว่า “น่าแปลกตรงที่ว่า เด็ก ๆ ถ้าไม่ได้อยู่บนเวที เขาก็จะเป็นเด็กปกติธรรมดา ทั่วไป ที่เล่นด้วยกัน แต่ถ้าขึ้นเวที เขาจะเป็นอีก แบบ แต่ละคนเขามีจุดเด่นของเขา ซึ่งผมสุขที่ ได้เห็นเขาเล่นอยู่บนเวที พอเขาขึ้นเวทีได้ผมก็ เดินหนีแล้ว ผมอยู่กับหุ่นละครเล็กมา 20 ปี ผม ก็หาคนสืบทอดต่อไป ผมไม่รวู้ า่ วันนีเ้ รายังอยู่ พรุง่ นี้ เราอาจจะไม่อยู่ เราไม่อาจรูไ้ ด้ แค่วนิ าทีเดียวมันก็ กลายเป็นอดีตไปแล้ว เราก็พยายามทำ�ให้ดีที่สุด หาคนสืบทอดให้ดที ส่ี ดุ สักวันหนึง่ เราก็ตอ้ งหมดแรง ของพวกนี้เป็นของที่ปู่ ย่า ตา ยายเราทำ�มาดี มากแล้ว ไม่งั้นคงไม่ได้อยู่นานถึงตอนนี้ เราก็ ต้องทำ�ยังไงก็ได้ให้ของดีแบบนี้อยู่คู่ประเทศไทย ต่อไป ที่ไทยไม่ได้เป็นเมืองขึ้นของใครเพราะเรา มีวัฒนธรรมเป็นของตัวเอง ผมอยากให้ของดี ๆ แบบนี้ อ ยู่ คู่ ค นไทยต่ อ ไป เพื่ อ ให้ ลู ก หลานใน อนาคตได้เห็นกัน ผมยินดีที่จะสอนเด็ก ๆ ต่อไป จนกว่าจะหมดแรง” ครูเด่นและน้อง ๆ คณะนาฏยบูรพาฝากถึง เด็ ก รุ่ น ใหม่ ให้ ช่ ว ยกั น อนุ รั ก ษ์ ศิ ล ปวั ฒ นธรรม เพราะเป็นสิ่งมีค่าที่ควรธำ�รงไว้ให้เป็นมรดกต่อไป และเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่ต้องส่งเสริม และธำ�รงไว้ “สื่อต่างประเทศเข้ามามีบทบาทกับเด็ก ๆ ในประเทศเราเยอะมาก ผมก็อยากให้เขาหัน กลับมาดูในบ้านของเราเอง ไม่ต้องไปหาที่ไหน หรอก ของดีมันอยู่กับตัวเรานี่แหละ ไม่ต้องวิ่งไป ไหน ร่มไม้มันอยู่ที่นี่ ศิลปวัฒนธรรมมันเป็นร่มไม้ ต้นใหญ่ มีกิ่ง ก้าน เต็มไปหมด ไม่ต้องวิ่งไปหา ร่มอืน่ ทีเ่ รายืนอยูม่ นั ร่มอยูแ่ ล้ว มันเป็นของดีอยูแ่ ล้ว ผมอยากให้ส่งเสริม ดูแลรักษากัน เพราะว่าเป็น สมบัตขิ องปูย่ า่ ตายายทีเ่ ขาสร้างกันไว้ดแี ล้วครับ” happy+ | 41
feature
พลวัตร วรรณวิทยาภา
บรรเลงเพลง บรรยายตัวตน หากเปรียบการเล่นกีตาร์คลาสสิกคือพื้นฐานอันหนักแน่นทางดนตรี การเล่นกีตาร์แบบ Fingerstyle ก็คือสีสันอันสดใส เป็นเทรนด์ใหม่ที่ กำ�ลังได้รบั ความนิยมในวันนี้ การเล่นกีตาร์แบบ Fingerstyle เป็นการเล่นทีไ่ ม่มรี ปู แบบแน่นอน และสามารถเล่นได้กบั เพลงทุกประเภททัง้ แจ๊ซ, บลูส์, โฟล์ก ฯลฯ ขึ้นอยู่กับผู้ประพันธ์เพลง ซึ่ง น้องมาร์ค พลวัตร วรรณวิทยาภา ก็เป็นเด็กรุ่นใหม่อีกหนึ่งคนที่หลงใหลในกีตาร์ประเภทนี้ และยังได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันมหกรรมกีตาร์ระดับโลก “เทิดไท้ คีตราชัน” International Guitar Festival & Competition for the King 2016 ณ จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน ปีที่ผ่านมาอีกด้วย “ปกติการเล่นกีตาร์โปร่งจะเล่นคอร์ด แต่การ เล่นกีตาร์แบบ Fingerstyle จะมีลูกเล่นมากกว่า เช่น เล่นได้ทั้งเบส, คอร์ด, เมโลดี้, เพอร์คัสชัน (การเคาะ) ฯลฯ และสามารถนำ�มาเล่นกับเพลงได้ หลากหลายแนวมากกว่า ซึ่งผมรู้สึกว่าเวลาที่เรา ฟังเพลงทีเ่ ล่นจากกีตาร์ประเภทนี้ จะค่อนข้างครบ ถ้วน เหมือนกับเราเล่นเครื่องดนตรีหลายอย่าง ได้ภายในตัวคนเดียว และมีเครื่องดนตรีเพียง 42 | happy+
ชิ้นเดียวก็สามารถเล่นและสนุกร่วมกันได้ “แต่ ก่ อ นที่ ผ มจะมาเริ่ ม เล่ น กี ต าร์ แ บบ Fingerstyle ตอนเด็ก ๆ ผมก็เรียนกีตาร์คลาสสิก มาก่อน ซึ่งการที่เรามีพื้นฐานจากกีตาร์คลาสสิก มันช่วยเสริมการเล่นกีตาร์แบบนี้มากเลยครับ เพราะการวางนิ้ว โครงสร้างมือ และพื้นฐาน ต่ า ง ๆ ที่ ไ ด้ ม าจากการเรี ย นกี ต าร์ ส ามารถ นำ�มาใช้ได้ เมื่อเรามีพื้นฐานที่ดีมาก่อน ก็ทำ�ให้
พัฒนาการเล่นกีตาร์ฟิงเกอร์สไตล์ได้ดีขึ้น เล่นได้ ลื่นไหลมากขึ้นครับ” ก่ อ นการแสดงหรื อ การแข่ ง ขั น แต่ ล ะครั้ ง น้องมาร์ค พลวัตร บอกกับเราว่า ตื่นเต้นทุกครั้ง ไม่มีครั้งไหนเลยที่ไม่ตื่นเต้น “ผมคิดว่าการซ้อมเป็นเรื่องสำ�คัญของการ เล่นดนตรีครับ เพราะการซ้อมก็เพื่อให้เวลาเรา เล่นจริงจะเล่นได้คล่อง และผิดพลาดน้อยที่สุด
บางครั้งเวลาเล่นจริงก็ยังมีจุดที่ผิดพลาดอยู่ครับ แต่ผมพยายามไม่กดดันตัวเองมาก เพราะถ้าเรา ซ้อมมาค่อนข้างดี เราจะมีกำ�ลังใจในระดับหนึ่ง ก่อนแข่งขันหรือก่อนการแสดง ช่วยให้ไม่ตื่นเต้น หรือตื่นเวทีมากจนเกินไป “พรสววรรค์ผมเชื่อว่าทุกคนมีอยู่ในตัวเอง อยู่แล้ว แต่ว่าจะมากหรือน้อยก็แตกต่างกันไป แต่พรแสวงมันอยู่ที่ตัวเราเองมากกว่า มาจาก การที่เราลงมือฝึกซ้อม กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ผมก็ ผ่านการซ้อมที่หนักหน่วงมาเหมือนกัน ไม่มีใคร มาเห็นช่วงที่เราซ้อม ไม่ได้มีใครเห็นเบื้องหลังที่ ผ่านมา คนส่วนใหญ่จะเห็นช่วงที่เราแข่งขันหรือ แสดงเลยมากกว่า ซึ่งผมเชื่อว่าทุกคนกว่าจะเก่งได้ ก็ต้องผ่านการซ้อมมาก่อน” สำ�หรับน้องมาร์ค พลวัตร การแข่งขันใน รายการต่าง ๆ ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายและเป็นแรง ขับเคลื่อนหนึ่งที่ท�ำ ให้น้องมาร์คไม่หยุดนิ่ง พร้อม ที่จะก้าวสู่ความสำ�เร็จเบื้องหน้าเสมอ
กว่าจะมาถึงจุดนีไ้ ด้ผมก็ผา่ นการซ้อมทีห่ นักหน่วงมา เหมือนกัน ไม่ได้มใี ครเห็นเบือ้ งหลังทีผ่ า่ นมา คนส่วนใหญ่ จะเห็นช่วงทีเ่ ราแข่งขันหรือแสดงเลยมากกว่า ซึง่ ผมเชือ่ ว่า ทุกคนกว่าจะเก่งได้กต็ อ้ งผ่านการซ้อมมาก่อน “ ก่ อ น ห น้ า นี้ ผ ม เ รี ย น อ ยู่ โ ร ง เ รี ย น กรุ ง เทพคริ ส เตี ย นวิ ท ยาลั ย พอย้ า ยมาเรี ย น ที่ เ ตรี ย มอุ ด มดนตรี วิ ท ยาลั ย ดุ ริ ย างคศิ ล ป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ช่วง ม.ปลาย ผมรู้สึกว่า เราได้อยู่ในบรรยากาศของการเล่นดนตรีอย่าง แท้จริง ได้ซ้อมดนตรีมากขึ้น สภาพแวดล้อม ค่อนข้างลงตัวและโอเคมาก ๆ เพื่อน ๆ เป็น
นักดนตรีหมดเลย พอเห็นแล้วก็จะเกิดแรงฮึดให้ ซ้อม เพราะอยากเล่นดนตรีให้ดีขึ้น อยู่ในที่ที่ทุกคน ชอบเหมือนกัน ทำ�ให้คุยกันรู้เรื่อง “ส่วนรายการแข่งขันต่าง ๆ ส่วนใหญ่ผม จะตัดสินใจด้วยตัวเอง เลือกว่าตัวเองอยากลง แข่ ง ขั น ในรายการไหน เพราะรู้ สึ ก ว่ า เป็ นการ ท้าทายตัวเองดีครับ อยากลองฝีมือตัวเอง และ happy+ | 43
feature
ผมรู้สึกภูมิใจมากครับ ที่ได้ท�ำ ในสิ่งที่รักและ ได้รับประสบการณ์ดี ๆ มากมายจากการแข่งขัน การแข่งขันต่าง ๆ ทำ�ให้เราได้เจอนักกีตาร์ฝีมือดี อีกหลายคน ได้เรียนรู้จากเพื่อน ๆ ที่เล่นกีตาร์ ด้วยกัน บางครั้งได้ฝึกเทคนิคใหม่ ๆ อยากเล่นได้ แบบเขาบ้าง ทำ�ให้เกิดแรงบันดาลใจในการเล่น กีตาร์ของตัวเองต่อไป” น้องมาร์คเป็นนักกีตาร์แบบ Fingerstyle ที่ อายุยังน้อย แต่ความสามารถกลับไม่น้อยตาม เลย ซึ่งน้องมาร์คเล่าย้อนไปถึงเรื่องราวความ ชอบและหลงใหลในเมโลดี้อันไพเราะจากกีตาร์ โปร่งให้ฟังว่า 44 | happy+
“ตอนแรกทีเ่ รียนกีตาร์กย็ งั ไม่ได้รสู้ กึ ชอบเท่าไหร่ เหมื อ นเราหากิ จ กรรมอะไรทำ � ช่ ว งปิ ด เทอม มากกว่า แต่ในช่วง 2-3 ปีทผี่ า่ นมา ผมรูส้ กึ ว่าตัวเอง อยู่กับกีตาร์ได้นาน รู้สึกว่าเรียนมาแล้วเราไม่ได้ ทิ้งไปง่าย ๆ เริ่มชอบและหลงใหลการเล่นกีตาร์ แบบ Fingerstyle มากขึน้ แต่ถงึ แม้วา่ ผมจะรูต้ วั ว่า ตัวเองชอบอะไร ก็ยังมีช่วงที่เบื่อ ๆ อยู่เหมือนกัน แต่ ไม่ รู้ ว่ า ผ่ า นช่ ว งเวลานั้ น มาได้ อ ย่ า งไร แต่ น่าจะเกิดจากการที่ผมนั่งดูยูทูบแล้วไปพบกับ นักกีตาร์ของเกาหลีคนหนึง่ ชือ่ ว่า Sungha Jung เขา เล่นกีตาร์แบบ Fingerstyle เหมือนกัน ผมชอบ มาก ถือเป็นต้นแบบที่ทำ�ให้ผมหันมาเล่นกีตาร์ แบบ Fingerstyle ทุกวันนี้เลยก็ว่าได้ ผมฝึกซ้อม เพลงของเขามาค่อนข้างเยอะ จนกระทั่งวันหนึ่ง ก็ได้มโี อกาสเป็นคนเล่นเปิดคอนเสิรต์ ให้เขาตอนที่ เขามาเล่นคอนเสิร์ตในประเทศไทย ถือเป็นความ ฝันที่เป็นจริงมาก ๆ ตอนนั้นถึงแม้จะได้คุยกับเขา แค่แป๊บเดียว แต่เขาชมว่าผมเล่นดีนะ เล่นเก่ง มาก ผมยังปลืม้ มาจนถึงทุกวันนีอ้ ยูเ่ ลย (หัวเราะ)” และในฐานะที่น้องมาร์ค พลวัตร เป็นเด็ก ไทยคนหนึ่งที่มีความสามารถทางด้านดนตรี เข้า
แข่งขันในรายการต่าง ๆ จนสร้างชื่อเสียงให้แก่ ประเทศไทย น้องมาร์คบอกเล่าถึงความรู้สึกที่ได้ ทำ�ในสิ่งที่รักว่า “ผมรู้ สึ ก ภู มิ ใจมากครั บ ที่ ได้ ทำ � ในสิ่ ง ที่ รั ก และได้รับประสบการณ์ดี ๆ มากมายจากการ แข่งขัน แถมยังได้พื่อน ๆ ที่มีแนวทางเดียวกัน เป็นกำ�ลังใจหนึ่งที่ทำ�ให้เรามีแรงซ้อม มีแรงเล่น กีตาร์ตรงนี้ต่อไป และในอนาคตผมอยากเป็น นักกีตาร์ Fingerstyle ในระดับโลก และนำ�ชือ่ เสียงมา ให้ประเทศไทย ปัจจุบันการแข่งขันกีตาร์ประเภท Fingerstyle ยังมีค่อนข้างน้อย คนในประเทศไทย ก็ยังไม่ค่อยรู้จักเท่าไหร่ ผมมองว่าตัวเองก็เป็น เหมือนรุ่นบุกเบิกอยู่เหมือนกันนะ (หัวเราะ) ถ้า หากเราสร้างชือ่ เสียงจากตรงจุดนีไ้ ด้ ก็นา่ จะทำ�ให้ บ้านเรารู้จักการเล่นกีตาร์ประเภทนี้มากขึ้นครับ “และสำ�หรับใครที่รู้สึกว่าตัวเองชอบดนตรี แล้ว ผมคิดว่าเราต้องให้เวลากับมันค่อนข้างมาก อยู่ กั บ มั นนาน ๆ แล้ ว จะเข้ า ใจ และค้ น พบ เองว่าเราชอบอะไรในดนตรี สำ�หรับกีตาร์แบบ Fingerstyle เป็นแนวดนตรีที่ฟังง่าย สบาย ๆ ไม่ ซีเรียส อยากให้ทุกคนลองฟังกันดูครับ”
เทวินทร์ หาญปราบ
อีกหนึ่งความภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ ธงชาติไทยได้ผงาดในเวทีโอลิมปิกอีกครั้ง สร้างความปลาบปลื้มและภาคภูมิใจให้คนไทยทั้งประเทศ พร้อมทั้งเด็กชายที่อายุเพียง 18 ปี เป็นที่รู้จักในเวลาชั่วข้ามคืน คนนั้นคือ เทม เทวินทร์ หาญปราบ ผู้คว้าเหรียญเงินเหรียญแรกของกีฬาเทควันโด ในโอลิมปิก 2016 รีโอเดจา เนโร มาฝากชาวไทย แต่กว่าที่เทมจะก้าวสู่ความสำ�เร็จเหมือนในวันนี้ ก็ต้องมุ่งมั่นและทุ่มเทฝึกซ้อมมาไม่น้อย และนี่คือเส้นทางสู่ความสำ�เร็จ ของหนุ่มคนนี้ “ตอนแรกพ่อกับแม่พาผมไปออกกำ�ลังกาย แล้วเจอสถานที่ฝึกเทควันโดเปิดใหม่ ในตอนนั้น กีฬาเทควันโดเพิง่ เริม่ เข้ามาใหม่ ๆ พ่อแม่อยากให้ ผมหากีฬาเล่นก็เลยไปลองสมัคร ผมเริม่ เล่นครัง้ แรก ตอนอายุ 7 ขวบ ตอนนั้นก็แค่ไปวิ่งเล่น ซ้อม สนุก ๆ ไปวัน ๆ พ่อกับแม่อยากให้ผมออกกำ�ลังกาย ไม่ อ ยากให้ เ อาแต่ เ ล่ น เกม พออายุ ป ระมาณ 8-9 ขวบก็เริ่มลงแข่ง เริ่มจริงจังมากขึ้น เป็นรุ่น มือใหม่ เพราะในกีฬาเทควันโดเขาจะมีการแบ่งรุน่ การแข่งขันเป็นแบบคลาสมือใหม่กบั มือเก่า อย่าง
ผมเพิ่งลงแข่งครั้งแรกก็จะเป็นรุ่นมือใหม่ และก็ แบ่งเป็นช่วงอายุและนํา้ หนัก และในกีฬาเทควันโด ก็มีการแบ่งระดับเหมือนกับกีฬายูโด คือ เริ่มแรก จะเป็นสายขาว สายเหลือง สายเขียว สายฟ้า สายนํ้าตาล แล้วก็สายดำ� “พอตอนอายุ 11-12 ปี ก็มีโอกาสได้แข่ง แมตช์ ที่ ใหญ่ ขึ้ น เริ่ ม ตอนอายุ 10 ปี ก็ ได้ แข่ ง ชิงแชมป์ประเทศไทย แล้วก็เริม่ ไปกีฬาเยาวชน กีฬา แห่งชาติ ตอนแรกทีเ่ ริม่ ไปแข่งก็แข่งสนุก ๆ แต่พอ จริงจังขึ้น ได้เห็นรุ่นพี่ เห็นเขาเป็นทีมชาติ ได้ไป
แข่งต่างประเทศ ผมก็เริ่มอยากไปแข่งบ้าง อยาก เป็นอย่างเขาบ้าง อยากออกทีวี อยากได้เหรียญ สร้างชือ่ ให้ประเทศ เพราะดูพเี่ ขาเท่ดี ตอนทีผ่ มติด ทีมชาติก็ดีใจมากครับ เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ไป คัดตัวแล้วก็ตดิ เลย ยิง่ ได้ไปแข่งต่างประเทศพ่อแม่ ก็ดีใจ ผมเริ่มติดทีมชาติครั้งแรกตอนอายุ 15 ปี” เมื่อความฝันในการติดทีมชาติได้สำ�เร็จไป ขั้นหนึ่งแล้ว สิ่งที่ต้องทำ�ต่อไปคือ การตั้งใจฝึก ซ้ อ มด้ ว ยความมุ่ ง มั่ น และมี ร ะเบี ย บวิ นั ย เพื่ อ ร่างกายและจิตใจทีแ่ ข็งแกร่ง เตรียมพร้อมสำ�หรับ happy+ | 45
feature
ผมอยากให้ทกุ คนดูแล สุขภาพของตัวเอง มีระเบียบวินยั มีความรับ ผิดชอบ นักกีฬาทีด่ ตี อ้ งมี 2 อย่างนี้ ทีจ่ ะสามารถ ก้าวขึน้ มาและพัฒนา ตัวเองได้ 46 | happy+
การแข่งขันและรับมือกับคู่ต่อสู้ให้ได้มากที่สุด “ผมต้องดูแลตัวเองเรื่องของการกินกับการ นอนครับ ส่วนเรื่องการวางแผนการฝึกซ้อมเป็น หน้าที่ของโค้ช โค้ชจะสอนเรา ส่วนผมก็มีหน้า ที่ตั้งใจฝึกซ้อม ต้องมีระเบียบวินัย ซ้อมเช้าเย็น 6 วันต่อสัปดาห์ แต่ถ้าเป็นช่วงใกล้แข่ง เช่น ตอน เตรียมตัวก่อนไปโอลิมปิก ก็จะซ้อม 3 เวลา เก็บ ตัวค่อนข้างนาน ซ้อมเช้า เย็น คํ่า แล้วก็ไปเก็บ ตัวที่ประเทศเกาหลี แล้วก็ไปอังกฤษ จากนั้นก็ไป แข่งที่บราซิลเลย “เวลาซ้ อ มผมจะเน้ น ไปที่ เรื่ อ งกล้ า มเนื้ อ เพราะผมไม่ ค่ อ ยแข็ ง แรง โค้ ช ก็ จ ะเน้ น เรื่ อ งนี้ เป็นพิเศษ แล้วก็ฝึกท่าเตะหัว เพราะทำ�คะแนน ได้ 3 คะแนน แล้วพอได้ไปโอลิมปิกจริง ๆ ก็ ตืน่ เต้นมากครับ เพราะเป็นแมตช์ทเี่ ป็นความใฝ่ฝนั สูงสุดของนักกีฬาทุกคน เป็นแมตช์ที่ใหญ่ที่สุด แ ล้ ว ผ ม ก็ เพิ่ ง ขึ้ น ม า ใน รุ่ น ป ร ะ ช า ช นด้ ว ย
ได้ ไปแข่ ง แมตช์ นี้ เป็ น แมตช์ แ รก เลยตื่ น เต้ น เป็นพิเศษ แต่ผมก็ไม่ได้กดดันอะไรเพราะผมไป เป็นรองที่สุด เป็นอันดับท้าย ๆ ของการแข่งขัน แต่ก็พยายามทำ�ให้เต็มที่ เพราะมีความฝันว่า อยากได้เหรียญเหมือนกัน แต่พอได้เห็นคู่สาย แล้ว เลยรู้สึกว่าทำ�ให้เต็มที่ดีกว่า คู่แข่งที่น่ากลัว ก็ มี เ กาหลี กั บ อิ ห ร่ า นครั บ และผมเป็ น อั นดั บ สุ ด ท้ า ยก็ ต้ อ งเจอคู่ แ ข่ ง ที่ แ ข็ ง ที่ สุ ด คื อ เกาหลี ก่อน โค้ชก็คอยให้กำ�ลังใจว่าเราทำ�ได้ แล้วเราก็ ซ้อมมาหนักมากครับ” แล้วในที่สุดความฝันของเทมก็เป็นจริง เมื่อ เทมสามารถคว้ า เหรี ย ญเงิ น เทควั น โดรุ่ น 58 กิโลกรัมชาย มาครองได้สำ�เร็จ ทำ�ให้คนไทยทุกคน ปลาบปลื้มและดีใจไปกับความสำ�เร็จของเทม ด้ ว ย และทำ�ให้ ธ งชาติ ไทยได้ ป ลิ ว ไสวบนเวที โอลิมปิกอีกครั้งหนึ่ง “พอได้เหรียญแล้วชีวิตผมเปลี่ยนไปในทาง
ที่ดีขึ้นครับ มีคนรู้จัก ได้ไปในหลาย ๆ ที่ ได้เงิน รางวัลมาพัฒนายิมที่ผมเปิด ได้ให้เงินพ่อกับแม่ ด้วย ตัวผมก็เปิดยิมเองด้วยครับ อยูท่ รี่ งั สิต คลอง 7 มีพี่ชายกับผมสลับกันสอน ผมจะสอนในช่วง วันเสาร์-อาทิตย์ เพราะผมกำ�ลังศึกษาอยู่ชั้นปี ที่ 1 คณะรัฐศาสตร์ สาขาความสัมพันธ์ระหว่าง ประเทศ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ค่อนข้าง หนักนิดหน่อย เพราะต้องแบ่งเวลาเรียน เวลา ซ้อม แล้วก็ต้องมีระเบียบวินัยสูง ต้องมีความ รับผิดชอบ ซ้อมเสร็จก็ตอ้ งรีบไปเรียน เรียนเสร็จก็ รีบกลับมาซ้อมต่อ บางครั้งก็ต้องมีหนังสือจาก สมาคมเทควันโดไปแจ้งกับทางมหาวิทยาลัยเวลา ที่ต้องไปแข่งที่ต่างประเทศ” เส้นทางการเป็นนักกีฬาของเทมเรียกได้ว่า ประสบความสำ�เร็จดังใจหมายได้อย่างรวดเร็ว และยังมีโอกาสในการก้าวไปได้อีกไกล และตัว ของเทมเองก็ยังมีความฝันที่จะก้าวไปเรื่อย ๆ บน
เส้นทางของนักกีฬา “ผมยังอยากไต่ลำ�ดับไปเรื่อย ๆ เพราะผม ยังไม่เคยไปซีเกมส์ เอเชียนเกมส์ ก่อนทีจ่ ะก้าวไป โอลิมปิกอีกครัง้ อยากเก็บประสบการณ์ไปเรือ่ ย ๆ ต่อไปผมจะไปซีเกมส์ที่มาเลเซีย แต่ก็ต้องรอการ คัดตัวอีกครั้งก่อน “ถ้าในวันนี้ผมไม่ได้เป็นนักกีฬา ผมก็คงจะ เน้นไปที่เรื่องการเรียน ต้องเรียนพิเศษ เครียด อยู่แต่กับเรื่องการเรียน แต่ก่อนก็มีความฝันว่า อยากเป็นตำ�รวจ แต่พอได้มาเป็นนักเทควันโด ก็ มีโอกาสเป็นทหารได้ในอนาคต แต่ตอนนีก้ ย็ งั ไม่รู้ ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ก็จะพยายามทำ�ตรงนี้ให้ดี ที่สุดก่อนครับ” เมื่อเทมประสบความสำ�เร็จ จึงเป็นตัวอย่าง และเป็นแรงบันดาลใจให้นักกีฬาและเยาวชนอีก หลาย ๆ คน ที่ต้องการจะเป็นนักกีฬาและก้าวสู่ วงการเทควันโดเหมือนอย่างเทม และวันนี้เทมก็
มีคำ�แนะนำ�ดี ๆ มาฝากให้ผู้ที่อยากเป็นนักกีฬา ที่ประสบความสำ�เร็จเหมือนอย่างเทม “ผมอยากให้ทกุ คนดูแลสุขภาพของตัวเอง มี ระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ นักกีฬาที่ดีต้อง มี 2 อย่างนี้ ที่จะสามารถก้าวขึ้นมาและพัฒนา ตัวเองได้ “ทุกวันนี้ผมมีความสุขที่ได้เล่นกีฬา ได้เจอ เพื่อน ๆ และได้ทำ�ให้พ่อกับแม่ภูมิใจ” ความสำ�เร็จที่ได้มา ไม่ใช่เพราะโชคชะตา หรือโชคช่วย แต่มาด้วยความสามารถ ความทุม่ เท ความมีระเบียบวินยั และความมุง่ มัน่ ตัง้ ใจในการ ฝึกซ้อม นั่นจึงเป็นที่มาของการเป็นนักกีฬาที่ดี ซึ่งทำ�ให้เทม เทวินทร์ หาญปราบ ประสบความ สำ�เร็จในเส้นทางที่เขาเลือกเดินตั้งแต่อายุยังน้อย และยังมีโอกาสที่ดีในการก้าวเดินไปบนเส้นทาง สายนี้อีกยาวไกล happy+ | 47
ตัวอักษร...ซ่อนพลัง เรื่อง : อรพิมพ์ รักษาผล
สิ่งที่เปลี่ยนไปแล้วกับเศษแก้วที่ชายทะเล ในท้องทะเลทีแ่ สนสวยงาม เมือ่ ได้ชนื่ ชมทุกองค์ประกอบทีค่ นุ้ เคยแล้ว... สวยงามที่ซับซ้อนซ่อนอยู่อีกหลายมิติ อย่าละเลยที่จะชื่นชมสิ่งมหัศจรรย์เล็ก ๆ ที่ปลายเท้า ...แสงระยิบระยับนั้นน่าสนใจมากขึ้น ตรงที่มิได้มีระดับเดียว มีความ เข้มข้น แตกต่างอย่างสวยงามราวกับใครบรรจงสร้าง ยิ่งเดินไปใกล้ ยิ่งเห็น หนึง่ ครัง้ ทีก่ ม้ ลง...คุณอาจเห็นทรายนุม่ ๆ รองรับประสาทสัมผัสทีช่ ดั เจน ความต่าง ...เห็นเศษหอยน้อย ๆ ที่นอนเรียงราย ณ สุสานทรายขาว ...ลองก้มมองอย่างตัง้ ใจ จึงพบว่าในทรายนุม่ ๆ นัน้ ...มีบางอย่างซ่อนอยู.่ .. ...เห็นหินน้อยใหญ่วางสลับราวกับศิลปะจัดสร้าง “เศษแก้ว” ...เห็นเศษขยะที่เกะกะตา ที่สอนเราว่าโลกนี้ไม่มีอะไรสมบูรณ์ได้ดังใจ ...เศษแก้วสีนํ้าตาลขุ่นที่พอเดาออกว่ามาจากอะไร... เราไปทั้งหมด ทำ�ไมถึงสวยงามเมื่อต้องแสงตะวัน...ทั้ง ๆ ที่ นั่นเป็นแค่เศษขยะ? ลองมองอีกมุมเล็ก ๆ มุมที่อาจเปลี่ยนอะไรใหญ่ ๆ ในหัวใจเรา... ทำ�ไมสิ่งที่ดูเหมือนเป็นส่วนเกิน...กลับกลายเป็นส่วนหนึ่งของที่ตรงนี้ อย่างลงตัว? ...ครั้งหนึ่ง ณ ท้องทะเล แสงแดดกำ�ลังสวยงาม เพราะดวงตะวันกำ�ลัง ทำ�ไมสิ่งที่คนมองข้าม...กลายเป็นสิ่งที่น่าเพ่งมองที่สุดในวินาทีนี้? ทำ�หน้าทีอ่ ย่างขันแข็ง มองไปบนหาดทราย ได้พบความประหลาดใจในแสง วิบวับระยิบระยับจับตา พลันคิดว่าทรายที่นี่งดงามเหลือเกิน ยิ่งเดินสัมผัส ...เรามักมีกระบวนการรับรู้แบบอัตโนมัติ ตัดสินอะไร ๆ อย่างที่ใจเรา ความสวยงามด้วยหัวใจที่เบิกบาน ยิ่งได้พบว่าในความสวยงาม...มีความ อยากให้เป็น ดังเช่น เราเห็นเศษแก้วเป็นขยะ เป็นส่วนเกิน เป็นสิ่งที่ใคร ๆ 48 | happy+
ใคร่มองข้าม แต่เมื่อได้เห็นบางสิ่งที่เปลี่ยนไป...ใจเราเองต่างหาก ที่พร้อม การเปลี่ยนแปลงที่เราเองก็ทำ�ได้ และเหนือการเปลี่ยนแปลงใด ๆ คือ การ จะเปลี่ยนแปลงบ้างหรือไม่... เปลี่ยนแปลงที่หัวใจเราเอง.. ...เราอาจเคยไม่ดนี กั แต่หากเราเปิดโอกาสให้การเติบโต เปิดใจให้กาลเวลา ในอดีต...เราไม่รหู้ รอกว่า เศษแก้วนีม้ ที ม่ี าอย่างไร จากขวดนํา้ เมาชนิดไหน ปรับตัวให้พร้อมกับการพัฒนาตนเอง...เหมือนเศษแก้วที่เปิดใจให้นํ้าทะเล ใครเป็นคนทิง้ ขว้าง... และเม็ดทรายลับคมจนกลายเป็น “เศษแก้วมิติใหม่” ที่ไม่ไร้ค่า แต่บัดนี้...เศษแก้วไม่ใช่เศษขยะไร้ค่า ไม่ใช่ส่วนเกิน และไม่ใช่สิ่งที่ถูก เราเอง...ก็ไม่ไร้คา่ ได้เช่นกัน...เพียงเราเข้าใจ ว่าทุกอย่างเปลีย่ นแปลงได้ มองข้ามอีกต่อไป อะไร ๆ ก็เปลี่ยนได้... สิ่งตรงหน้ามากมายยังเปลี่ยนไป แล้วเหตุใดเราจึงไม่ยอมเปลี่ยนแปลง เมื่อก้มลงหยิบเศษแก้วนั้น...ยิ่งแปลกใจ เศษแก้วที่เคยแหลมคม ได้ เศษแก้วน้อยใหญ่ มาจากที่ใดไม่มีใครรู้ เพียงแต่ดูเป็นส่วนเกินของ ถูกนํ้าทะเลและเม็ดทรายลูบคมจนกลายเป็นรูปทรงสวยงาม ...และไม่อาจ ท้องทะเลและหาดทราย บ้างอาจถูกเก็บไปทิ้ง บ้างอาจถูกทอดทิ้งไว้อย่าง ทำ�ร้ายใครได้อีก... เมินเฉย ที่ถูกเก็บไปถึงเราเรียกว่า “ขยะ” ที่ยังอยู่...ก็เรียก “ขยะ” หากแต่ ...แม้แต่เศษแก้ว ยังเรียนรู้เรื่องการเปลี่ยนแปลง การเปลี่ยนแปลงที่ อาจเป็น “ขยะแห่งการเรียนรู้” ทำ�ให้เกิดสิ่งใหม่ที่อาจจะดีหรือร้าย แต่แน่นอนว่า...เกิดสิ่งใหม่ที่แตกต่างไป ทกุ อย่างในชีวติ เรา...มาจากทีใ่ ดไม่อาจล่วงรู้ หลายสิง่ เป็นส่วนเกินของ จากเดิม ชีวติ หลายอย่างเลวร้าย บางอย่างเราทิง้ ไปได้ บางอย่างยังคงอยู่ ลองคิดต่อ ...อาจพบว่า “ความเลวร้ายมีวันเปลี่ยนแปลง...ชีวิตก็มีวันเปลี่ยนไป... คนเราก็เช่นกัน ควรมีแรงใจในการเปลี่ยนแปลง อย่าดูถูกตัวเองว่า หัวใจก็มีวันเติบโต” ไร้ค่า อย่าคิดเพียงว่าเราเป็นส่วนเกินของความสำ�เร็จ และอย่ามองข้าม happy+ | 49
คนคิดดี
50 | happy+
Black Box การเรียนรู้ สู่การเติบโต เรื่อง : ภัทรามน ผุดเพชรแก้ว ภาพ : วิกรม วิสุทธิปราณี จากกิจกรรมในวัยเรียนที่ทำ�แล้วรู้สึกสนุกและได้ประโยชน์ กลายมาเป็นสิ่งที่สนใจ กลายมาเป็นความฝัน และกลายมาเป็นอาชีพการงานที่ อยากสานต่อ วันเวลาทีผ่ า่ นไปทำ�ให้เราโตขึน้ ทำ�ให้ความฝันของเราชัดเจนขึน้ และเป็นโอกาสให้เราได้ท�ำ เรือ่ งดี ๆ ให้แก่คนอืน่ และสังคมมากขึน้ จากเด็กกิจกรรมในวันวาน จนวันนีก้ ลายมาเป็นกลุม่ Black Box กลุม่ คนรุน่ ใหม่ทสี่ นใจในการศึกษา การเรียนรู้ และอยากให้การศึกษาเรียนรูน้ นั้ สนุกขึ้น มีความน่าสนใจ และเข้าถึงเยาวชนมากกว่าเดิม ถึงวันที่ได้มารวมกันทำ�งานอย่างจริงจัง วั นนี้ เรามี โอกาสได้ พู ด คุ ย กั บ สมาชิ ก ของ Black Box ทัง้ 3 คน ศุภวิชช์ สงวนคัมธรณ์ (โหนก) วรัตม์ เชิดเกียรติตระกูล (โน้ต) และรสนา อารีฟ (ราซีน่า) ที่จะมาแนะนำ�ให้เรารู้จักว่า Black Box เป็นใคร พวกเขาสนใจและกำ�ลังทำ�อะไรกันอยู่ โหนก : ปัจจุบันเรียกได้ว่าเราเป็นบริษัท และงานส่วนที่เราทำ�คือ ออกแบบโปรแกรมการ เรียนรู้ พูดโดยละเอียดก็คือ คนที่จะมาทำ�งาน กับเราหรือคนทีม่ าจ้างเรา เขาก็จะมีโจทย์อยูใ่ นใจ อยูแ่ ล้ว เช่น อยากให้เด็กเรียนรูเ้ รือ่ งยาเสพติด และ เขาอาจจะมีกลุ่มเป้าหมายอยู่ในมือแล้ว มีกลุ่ม เด็กที่อยากทำ�กิจกรรมด้วยอยู่แล้ว แต่ทำ�ไม่เป็น ไม่รู้ว่าจะต้องทำ�อย่างไรให้เด็กเข้าใจในเรื่องนี้ หรือเขาอาจจะมีเนื้อหาที่ต้องการ มีเป้าหมาย บางอย่าง แล้วเขาก็จะโยนโจทย์ทั้งหมดนั้นมาให้ เราก็มีหน้าที่ออกแบบให้กลายมาเป็นกิจกรรม เป็นเกม เป็นวิธีการเรียนรู้แบบต่าง ๆ เพื่อให้คน ที่รับข้อมูลเขาย่อยและเข้าใจได้ง่ายขึ้น ซีนา่ : เราเริม่ จากไซส์โรงเรียน ทีเ่ ราเคยทำ�ให้ UN Woman จะเป็นเรื่องเนื้อหาด้านความรุนแรง ต่อผูห้ ญิงและเด็ก เขาจะมีเนือ้ หาก้อนหนึง่ ทีอ่ ยาก ให้เด็กนักเรียนมัธยมได้รับรู้ข้อมูลเรื่องนี้ เพื่อที่จะ เป็นคนทีเ่ อาไปเผยแพร่ตอ่ ให้เพือ่ นเด็กผูห้ ญิงและ คนอื่น ๆ เข้าใจ ทั้งไม่ดูถูกผู้หญิง ไม่เหยียดเพศ เราก็รับข้อมูลนั้นมา แล้วออกแบบมาเป็นค่าย เป็นการ Workshop ให้เด็กเข้าร่วม เมื่อเด็กเรียนรู้ เนื้อหาเหล่านี้เข้าใจมากพอที่จะไปคิดต่อว่า เขา จะไปรณรงค์อย่างไรต่อได้ เขาก็จะเอาไปทำ�ต่อ ที่โรงเรียน แล้วก็มีครูมาช่วยคิด มาเป็นที่ปรึกษา มาช่วยสนับสนุนขณะทำ�งาน หรือมีการชวนเด็ก ทำ�โครงการต่อหลังจากนั้น
แต่ความฝันที่ทีม Black Box มีร่วมกัน พลังใจ และแววตาทีม่ งุ่ มัน่ ยังคงอยูเ่ หมือนเดิม แต่วา่ ค้นพบ แนวทางที่ชัดเจนขึ้น โหนก : Black Box เกิดขึน้ จากตอนทีพ่ วกเรา กว่า 10 คน ทีต่ อนนัน้ ยังเรียนมัธยมกันอยู่ ประมาณ ม.6 แล้วพวกเราเป็นคณะกรรมการนักเรียนของ โรงเรียนต่าง ๆ ทีอ่ ยูใ่ นบริเวณเดียวกัน ได้แก่ สวน กุหลาบ สตรีวิทยา สตรีมหาพฤฒาราม สามเสน วิทยาลัย แล้วทุกปีก็จะมีภารกิจที่ต้องทำ �ค่าย ร่วมกันตามประเพณี เป็นค่ายผู้นำ�ให้เด็ก เรา ต้องร่วมมือกันในหมู่เพื่อน ๆ เทรนให้เด็ก ๆ กลุ่ม น้อง ๆ ของเรา ในสมัยนั้นเวลาทำ�ค่ายกิจกรรม ก็จะมีรูปแบบอยู่แล้ว มี Walk Rally พิธีเทียน สะพานดาวอะไรประมาณนี้ แต่มีเพื่อนคนหนึ่ง ของเรารู้จักกับรุ่นพี่ที่เป็นเทรนเนอร์อิสระ เพื่อน คนนั้นเลยพาพวกเราไปปรึกษาพี่เขา เราก็ไป ด้วยความรู้สึกที่ว่า พี่เขาน่าจะมีกิจกรรมหรือมี อะไรดี ๆ ให้ แต่เมื่อไปแล้ว พี่เขาก็ไม่ได้มีไอเดีย อะไรให้ แต่เขามีกระบวนการให้ ในช่วงนั้นเรายัง ไม่รู้จักกระดาษปรู๊ฟ พวกสีเทียนหรือวิธีการคิด อะไรพวกนี้ พอไปถึงพี่เขาก็โยนกระดาษปรู๊ฟมา ให้แล้วบอกว่า ‘ผมไม่ได้มีไอเดียอะไรนะ แต่วิธี การออกแบบก็นา่ จะประมาณนี้ เรามาคุยกันเรือ่ งนี้ ก่อน แล้วค่อยไปต่อ’ พวกผมเลยรูส้ กึ ว่า เฮ้ย! ทำ� แบบนีไ้ ด้ดว้ ยเหรอ ไม่ใช่เรือ่ งทีย่ ากเกินไป แล้วพอ ทำ�แล้วสนุกด้วย พอค่ายจบไป พวกเรายังรูส้ กึ สนุก กันอยู่ พอเข้ามหาวิทยาลัยปี 1 (สิงหาคม 2545) ก็เลยชวนกันมารวมกลุ่ม ตอนนั้นยังไม่ได้คิดถึง ระยะยาวอะไรเลย ตอนที่เราเรียนปริญญาตรี กิ จ กรรมในคณะก็ จ ะเป็ น แบบหนึ่ ง ร้ อ งรำ � ทำ � เพลง เราก็สนุกนะ แต่นี่ก็เป็นกิจกรรมอีกรูปแบบ หนึง่ น่าสนุกไปอีกแบบก็เลยทำ�ต่อไป และรูส้ กึ ว่า ความฝันโตตามวัย มีประโยชน์สำ�หรับเด็กกิจกรรม ซึ่งเราเคยเป็น จากวันทีเ่ ริม่ รูจ้ กั กัน เริม่ รวมตัวกันทำ�กิจกรรม เคยทำ�มาก่อน จนถึงวันนี้ แม้จะผ่านเวลามามากกว่า 10 ปี ซีนา่ : ย้อนไปตอนช่วงแรก ๆ ทีเ่ รารับทุนจาก
สสส. (สำ�นักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม สุขภาพ) พอหมดช่วงนั้น เราก็เริ่มมานั่งคุยกัน ถึงความจริงจัง แล้วรู้สึกว่ามันดีนะ ได้ทำ�งาน ด้วยกัน เป็นเพื่อนกันคุยกันได้เต็มที่ ก็กึ่ง ๆ ว่า เราได้เป็นเจ้านายตัวเองด้วย เราไม่อยากเป็นแค่ กลุ่มที่รับทุนแล้วก็ทำ�งาน เราอยากเป็นบริษัทที่ รับจ้างทำ�เทรนนิ่ง ที่ได้ประโยชน์ดี ๆ จริง ๆ ก่อน ที่จะเรียนจบ เราก็เริ่มคุยเรื่องแนวทางกันมาบ้าง และเรามีจังหวะที่ดี มีโอกาส มีผู้ใหญ่ส่งงานมา ให้ได้ลองทำ� เลยเหมือนเราได้ฝึกฝนตัวเองอยู่ ตลอดเวลา ก็ค่อย ๆ ขยับขึ้นมาเรื่อย ๆ จากงาน ช่วย ได้ค่าตอบแทนนิดหน่อย จนมีงานจ้างจริง ๆ จากนั้นก็เติบโตขึ้นมาเรื่อย ๆ จนมาเป็นบริษัท อย่างทุกวันนี้
การเรียนรู้ควบคู่ความสนุก
เมื่ อ ความฝั น เริ่ ม ก่ อ เป็ น รู ป เป็ น ร่ า งขึ้ น มา แล้ว สิ่งที่ Black Box ทำ�คือ มองต่อไปข้างหน้าว่า สิ่งที่พวกเขาทำ�นั้นเป็นประโยชน์อย่างไร และ จะส่งเสริมให้เรื่องการเรียนรู้เป็นเรื่องที่สนุกและ น่าสนใจได้อย่างไร โหนก : ส่วนตัวผมเองสิ่งที่ Black Box ทำ� เรียกว่า Workshop เราพยายามรู้จริงกับมัน พยายามใช้มันให้เป็นประโยชน์มากที่สุด การ Workshop คือ เอาคนจำ�นวนหนึ่งมาอยู่รวมกัน ในที่ปิดในเวลาจำ�กัด เหมือนการดูหนัง ในเวลา 2 ชั่วโมงนั้น ผู้กำ�กับเขาจะกล่อมเกลาอะไรเรา ก็ สือ่ สารลงไปในหนัง การ Workshop ก็คล้าย ๆ กัน แต่ในประเทศไทยยังไม่คอ่ ยได้ใช้เครือ่ งมือทีช่ อื่ ว่า Workshop อย่างเต็มประสิทธิภาพ อย่างตัวผมเอง ผมค่อนข้างสนใจในเรื่องการศึกษาของประเทศนี้ ถ้ากระทรวงศึกษาธิการทำ�ค่าย ส่วนใหญ่กจ็ ะเป็น ค่ายบรรยาย หรือไม่ก็ร้องรำ�ทำ�เพลงไป แต่ผมว่า น่าจะมีค่ายหลาย ๆ แบบ แล้วเครื่องมือตัวนี้ไป ได้เยอะมาก สิ่งที่เราทำ�คือ พยายามสื่อให้สังคม happy+ | 51
คนคิดดี
52 | happy+
เห็นว่าเครื่องมือนี้ ใช้เปลี่ยนคนได้จริงไม่มากก็ น้อย และผมก็คาดหวังว่าภาครัฐซึง่ เป็นผูด้ แู ลการ ศึกษาของประเทศนี้ จะเหลียวมามองเครื่องมือนี้ อย่างสิง่ ทีเ่ รียกว่าค่ายผูน้ �ำ หรืออะไรก็ตาม ทีเ่ รียกว่า กิจกรรมนอกหลักสูตร น่าจะปรับปรุงได้อกี น่าจะ ทำ�ให้ใช้งานได้จริงมากขึ้น ตอนนี้ก็มีแค่บางคนที่ มองเห็น บางครั้งก็ทำ�ไปตามประเพณี ความหวัง ของผม คือ ผมอยากให้คนทีส่ นใจในเรือ่ งการเรียนรู้ ไม่จำ�เป็นต้องเป็นภาครัฐก็ได้ เห็นว่าเครื่องมือนี้ ใช้การได้ มาช่วยกันพัฒนาให้การ Workshop ใช้ได้หลาย ๆ รูปแบบ ซึ่งน่าจะเป็นเครื่องมือ อีกอย่างที่ได้ผลในการพัฒนาเด็ก โน้ต : เหมือนอย่างที่โหนกบอก เรื่องที่เรา สนใจคือ เรื่องการศึกษา เราอยากเห็นคนพัฒนา มากขึ้น คนคิดและลงมือทำ�ได้ดีขึ้น รวมไปถึงคน มีความเชื่อที่ถูกต้องมากขึ้น ไปพัฒนาศักยภาพ ของคนมากขึ้น เหมือนเรามองการ Workshop เป็นห้องเรียนห้องหนึง่ เวลาทีเ่ ราใช้มนั อย่างเต็มที่ หรือเราออกแบบมาเป็นอย่างดี ก็สามารถนำ�ไป ประยุกต์ใช้ ซึ่งตอนนี้ก็ค่อย ๆ พัฒนาขึ้น แต่ก็ยัง ไปไม่ได้ไกล ถ้าเปรียบเทียบกับทางเอกชนที่เขา ทำ�กับพนักงาน ก็จะมีวิธีการเรียนรู้แบบต่าง ๆ ของคนได้เร็วกว่า และจากทีเ่ ราทำ�งานมาหลายปี เราก็ ไ ด้ บ ทเรี ย นว่ า เครื่ อ งมื อ ที่ เ ราเรี ย กว่ า Workshop ที่ไปโยงกับวิธีการเรียนรู้ในห้องเรียน ก็มีใช้ได้บ้าง ล้มเหลวบ้าง เราเลยพยายามมอง เครื่องมือในการเรียนรู้อื่น ๆ ด้วย เพราะรู้สึกว่า Workshop อย่างเดียวนั้นไม่พอ เราเลยมองไป ถึงว่า ก่อนการ Workshop ควรจะมีอะไร หรือหลัง Workshop แล้วควรจะมีอะไร มีวิธีอื่น ๆ ไหม ที่ ไม่ใช่การ Workshop เพียงอย่างเดียว เรามองกว้าง มากขึ้น ว่าน่าจะมีวิธีอื่นในการพัฒนาคน เราจะ ไปเล่นในมุมไหนได้บ้าง เช่น เรื่องการ Couching, หรือ Workshop ครั้งเดียวไม่พอ ต้องทำ�เป็นซีรีส์ ไม่ใช่แค่การเอาคนมารวมกัน ต้องมีเครือ่ งมืออืน่ ๆ มาประกอบ นีจ่ ะเป็นเรือ่ งหนึง่ ทีเ่ ราจะขยับให้เกิดขึน้ ในอนาคต ซีนา่ : อยากให้วธิ กี ารเรียนรูง้ า่ ยขึน้ ย่อยง่ายขึน้ สำ � หรั บ คนที่ อ ยากจะเรี ย นรู้ ในอี ก มุ ม หนึ่ ง ก็ มี เป้าหมายระยะสั้นที่เราทำ�กันมาสักพักแล้ว แต่ก็ ยังไม่ได้ดี ๆ สักทีคือ เราตอบตัวเองว่า การทำ� Workshop นั้นจบไม่ได้ในครั้งเดียว ต้องทำ�อย่าง ต่อเนือ่ ง แต่คนทีเ่ ขาชวนเราไปทำ� เขาก็ไม่สามารถ ทำ�ยาว ๆ กับเราได้จริง อย่างมากทีส่ ดุ คือ 1 ปีแล้ว ก็จบ จากที่เราทำ�งานมาตลอด จริง ๆ มีแค่ 1-2 องค์กรเท่านั้นที่มองเห็นความสำ�คัญเรื่องนี้ และ
คิดไปกับเราจริง ๆ ว่า การจะพัฒนาคน การจะ พัฒนาทีมของเขาต้องทำ�ระยะยาว เพราะคนเรา ไม่ได้เข้า Workshop 3 วันแล้วก็เปลี่ยนนิสัย หรือ เก่งขึน้ มาเลย ต้องทำ�เป็นขัน้ ๆ เป็นระยะ ๆ อยาก ให้สิ่งนี้เกิดขึ้นเยอะ ๆ ก่อน แล้วจะเห็นผลจริงว่า คนเราสามารถพัฒนาได้
ความสุขเล็ก ๆ ของคนทำ�งาน
เวลาทำ�งานอาจมีบ้างที่ประสบปัญหา ไม่ เป็นไปดังใจ แต่เมื่ิองานสำ�เร็จ มีประโยชน์ เห็น รอยยิม้ และความสุขของผูอ้ นื่ สิง่ นัน้ ย่อมนำ�มาซึง่ ความสุขของคนทำ�งานเสมอ สิง่ ที่ Black Box ทำ�นัน้ ก็เป็นงานที่ก่อให้เกิดความสุขและรอยยิ้มไม่น้อย มาฟังความสุขของพวกเขากันดีกว่า โหนก : ของผมจะเป็นเรื่องที่เวลาคนที่มา ร่วมงานกับเราพี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ ถ้าได้เจอกัน อีก แล้วเขามาเล่าให้ฟังว่าเขาเอาสิ่งที่เราทำ�กัน ใน Workshop หรือสิ่งที่เราบอกไปใช้งานจริงแล้ว ได้ผลหรือไม่ ผมจะรู้สึกดีใจ รู้สึกว่ามันหล่อเลี้ยง เราพอสมควร ยิง่ ถ้าเขาบอกว่าสิง่ ทีเ่ ราทำ�แล้วเขา เอาไปใช้แล้วช่วยได้ เขาเปลีย่ นไปหรือดีขน้ึ พอได้ยนิ แบบนี้ แ ล้ ว เราก็ อ ยากที่ จ ะทำ � ต่ อ เด็ ก ที่ เ ป็ น รุน่ น้องของเรา ตอนนีเ้ ขาก็เติบโตไปเป็นอาจารย์ เขา ก็ไปสัมมนากันในหมู่อาจารย์ แล้วก็มีกิจกรรม แบ่งกลุ่มระดมความเห็นกัน แล้วในหมู่อาจารย์ที่ ลุกขึน้ มาจัดการกลุม่ โยนคำ�ถาม นำ�คุย หรือเขียน กระดาน ก็ลกุ ขึน้ มามองหน้ากัน พวกเขาก็เป็นคนที่ เคยร่วมงานกับเรามาก่อน ก็เป็นช่วงเวลาทีต่ ลกดี ซีนา่ : ก็เหมือนกันนะ เวลาทีเ่ ราเห็นใครทีเ่ อา ไปใช้ต่อ แต่ที่ดีใจมาก ๆ คือ มันเป็นประโยชน์ และเกิดผลจริง ๆ กับคนทั่วไป เช่น ถ้าเราทำ� กระบวนการ ทำ�ค่ายแล้วเราสามารถเปลีย่ นความ คิดเด็กได้ เช่น ที่เราไปทำ�ค่ายที่น่านกับมูลนิธิ แม่ฟ้าหลวง ทำ�ให้เราเห็นว่าหลังจากที่จบค่ายไป เห็นความต่อเนื่องจากกระบวนการที่เราร่วมกัน ออกแบบกับหลาย ๆ ทีมมันเกิดผลคือ เด็กสนใจ เรื่องป่าจริง ๆ แล้วลงมือทำ�จริง แล้วมันเกิดผล ก็รู้สึกดี โหนก : สิง่ ทีเ่ ป็นคุณค่าอีกอย่างคือ เพือ่ นร่วม งาน พูดง่าย ๆ คือ คนทีจ่ า้ งเรา หัวหน้าองค์กรหรือ เจ้าของโปรเจ็กต์ ถ้าเคมีตรงกัน ทำ�งานด้วยความ เข้าใจกัน เขาก็จะค่อย ๆ ซึมซับวิธกี ารทำ�งานหรือ วิธีการเรียนรู้ไปจากเรา เช่น ออกแบบการเรียนรู้ อย่างไร ประเมินอย่างไร วิธีการส่งเสริมให้เด็ก เรียนรู้ในโลกจริงอย่างไร ผมจะชื่นใจเวลาเจอคน ที่ทำ�งานร่วมกันแล้วเขาเรียนรู้จากเรา ต่อไปเวลา
ที่เขาไปทำ�งานพัฒนาคน เขาก็จะได้เครื่องมือ บางอย่างที่เราคิดว่ามันใช่ ในขณะเดียวกันเรา ก็จะได้ด้วย เช่น สิ่งที่เขาได้ไปทำ�มาแล้วพบเจอ ข้อผิดพลาด เราก็จะได้เรียนรู้และได้ประโยชน์ใน การพัฒนางานของเราไปด้วย อันนีก้ เ็ ป็นความชืน่ ใจ อย่างหนึ่ง ที่เราสามารถช่วยปรับเปลี่ยนวิธีการ ทำ � งานในเรื่ อ งการเรี ย นรู้ ข องคนที่ เป็ น เพื่ อ น ร่วมงานของเราได้ด้วย ซีนา่ : แต่สว่ นใหญ่เขาอาจจะรำ�คาญพวกเรา มากกว่า เพราะพวกเราถามเยอะ เขาอาจจะ เคยจ้างบริษัทมาทำ�งาน Workshop หรือทำ�เรื่อง Team Building ก็ให้โจทย์มานิดหน่อยแล้วก็เจอกัน วันงานเลย แต่เราก็จะถามเยอะ เพราะถ้าเรายิง่ ได้ รายละเอียดเยอะ มันก็จะยิง่ ออกแบบเครือ่ งมือได้ ถูกทางมากยิง่ ขึน้ เพราะบางทีกต็ อ้ งดูวา่ เหมาะกับ ผู้ที่จะเข้าร่วมกิจกรรมหรือเปล่า เราต้องแสดง ให้เขาเห็นว่าเขาได้ประโยชน์อะไรกับงานของเขา มากกว่า ไม่ใช่แค่ตรงตามโจทย์แล้วก็จบไป หรือ คนที่เราคุยด้วย คนที่เราตั้งคำ�ถาม เขาสามารถ หาคำ�ตอบเองได้ แค่เราทำ�ให้คนที่อยู่รอบข้างเรา ชัดเจนขึ้นในทางที่เขาอยากจะไป เขาเจอตัวเอง มากขึ้ น หรื อ เขาตอบคำ � ถามตั ว เองได้ ว่ า จะไป อย่างไรต่อ อยากทำ�อะไร แค่นั้นก็ดีแล้ว โน้ต : ก็เหมือนกัน เวลาเห็นคนทีเ่ ราทำ�งานด้วย เขาเปลี่ ย นแปลง ไม่ ว่ า จะเป็ นกลุ่ ม เป้ า หมาย หรือคนที่ทำ�งานด้วยกัน หรือทีมของเราเอง ที่ ทำ�งานไปเรื่อย ๆ ก็จะมีการเปลี่ยนแปลง เราก็ จะมีความสุขเสมอ โหนก : เราเริ่มสัมผัสได้ว่าเราเป็นส่วนหนึ่ง ทีส่ ามารถช่วยสังคมนีไ้ ด้ ถึงเราไม่ได้ท�ำ งานอาสา แต่เราก็ทำ�ธุรกิจด้วยความคิดที่ว่า มันมีปัญหา บางอย่างด้านการศึกษา แล้วเรารู้สึกว่าโมเดล ขอทุนหรือโมเดลราชการมันไม่ตอบโจทย์ เราเลย มาทำ�โมเดลธุรกิจ ตอนแรก ๆ ทีท่ �ำ เราก็ไม่รหู้ รอกว่า ช่วยสังคมได้หรือเปล่า ช่วยแก้ปัญหาเรื่องการ ศึกษาได้จริงหรือเปล่า แต่ปัจจุบันนี้เราเจอเพื่อน หลาย ๆ วงการ ที่เขาเคยเห็นงานเรา เคยรู้จักเรา ก็เข้ามาคุย แล้วก็เคลือ่ นไปด้วยกันในแบบทีเ่ ราทำ�เอง ไม่ได้ เครื่องมือของเราก็ไปโผล่ในเรื่องอื่น ๆ ใน ขณะที่เครื่องมือของเขาเราก็เอามาใช้เหมือนกัน ก็เกิดเป็นวงของคนที่สนใจจะขับเคลื่อนสังคมไป ด้วยกัน แต่ก็มีเรื่องที่สนใจแตกต่างกันไป เราเลย รู้สึกว่าเรื่องที่เราทำ�มันสัมผัสกับปัญหาจริง ๆ ก็มี ความหมายมากยิ่งขึ้น แล้วคุณละคะ วันนี้คุณได้เริ่มลงมือทำ�อะไร บ้างแล้วหรือยัง happy+ | 53
family in love เรื่อง : ดร.วีรณัฐ โรจนประภา
คบเด็กสร้างชาติ “If you are not a part of the solution, You are a part of the problem” เอาแต่ใจและต้องอยูอ่ ย่างโดดเดีย่ วในทีส่ ดุ Eldridge Cleaver การแก้ไขปัญหานี้จึงต้องกระทำ�กลับด้านกันคือ ต้องเสนอตัวเข้าไปมี ส่วนร่วมในการช่วยแก้ปญ ั หาต่าง ๆ ในสังคม เพือ่ ทำ�ให้เกิดความตระหนักรู้ “ถ้าคุณไม่เป็นส่วนหนึง่ ของการแก้ปญ ั หา คุณก็เป็นส่วนหนึง่ ของปัญหา” ในคุณค่าแห่งตน ทีเ่ มือ่ ความตระหนักรูน้ ม้ี มี ากขึน้ จะส่งผลให้เกิดเป็นความ วลีเตือนใจนีเ้ หมาะอย่างยิง่ ในสังคมปัจจุบนั ทีค่ นจำ�นวนไม่นอ้ ยมักละเลยทีจ่ ะ มัน่ คงในจิตใจ และความมัน่ คงนีจ้ ะส่งกระแสออกไปสูค่ นรอบข้าง จนเขาสัมผัส อุทศิ ตน สละกำ�ลังมาช่วยแก้ปญ ั หาทีเ่ กิดขึน้ ด้วยข้ออ้างยอดนิยมคือ “อยาก ได้ถงึ ความปลอดภัยและอบอุน่ จนอยากเข้ามาชิดใกล้ ช่วย แต่ไม่รจู้ ะช่วยอย่างไร” หรือ “ฉันคนตัวเล็ก ๆ ไม่มกี �ำ ลังจะไปแก้ปญ ั หา และนี่เองจึงเป็นความจำ�เป็นอย่างยิ่งยวดของการไปทำ� “จิตอาสา” ใหญ่ขนาดนัน้ ได้หรอก” ข้ออ้างทำ�นองนีล้ กึ ๆ แล้ว มาจากการป้องกันตัวเอง ช่วยเหลือสังคม ยิง่ ทำ�มากเท่าไหร่ นานเท่าไหร่ ยิง่ ได้ผลมากเท่านัน้ เหมือน จากความรูส้ กึ ผิดจากการไม่ได้ชว่ ยทำ�อะไร ดัง่ การเติบใหญ่ของต้นไม้ ความเชือ่ ทีผ่ ดิ เช่นนีน้ บั ว่าเป็นอันตรายอย่างยิง่ ครับ เป็นอันตรายทัง้ ต่อ ...เริม่ ช้า เวลาโตน้อย ต้นยังเล็กรากตืน้ ก็ลม้ ง่าย สังคมโดยรวมทีจ่ ะมีแต่สมาชิกทีเ่ อาแต่ดดู าย และอันตรายทัง้ ต่อตัวบุคคลผูท้ ่ี ...เริม่ เร็ว เวลาโตนาน ต้นก็ใหญ่รากลึก ยากจะล้ม คิดเช่นนัน้ เอง เพราะการคิดแบบนีเ้ ท่ากับการดูถกู ตัวเองอย่างไม่รตู้ วั และทุก ผูเ้ ป็นพ่อเป็นแม่ทอ่ี ยากเห็นลูกมีความมัน่ คงในชีวติ ภายภาคหน้า อยาก ครัง้ ทีค่ ดิ คือ การกดตัวเองให้ตา่ํ ลง ๆ ตํา่ จนในทีส่ ดุ ตัวเองจะทนตัวเองไม่ได้ มอบแก่นและหลักยึดให้แก่ชวี ติ ในอนาคตของพวกเขา จึงควรอย่างยิง่ ทีจ่ ะต้อง ต้องดิน้ รนไปหาความยอมรับนับถือจากสิง่ ภายนอกอืน่ ซึง่ ก็มกั หนีไม่พน้ การ ปลูกฝังและส่งเสริมให้เขาได้เริม่ สัมผัสงานอาสานีแ้ ต่เยาว์วยั ครับ ไปแสดงอำ�นาจกับคนใกล้ตวั ลูกหลานหรือบริวาร ซึง่ หลังจากนัน้ ก็แน่นอนว่า คอลัมน์ family in love ใน happy+ ฉบับรับวันเด็กแห่งชาติน้ี จึงขอแนะนำ� จะทำ�ให้กลายเป็นคนทีไ่ ม่มใี ครอยากเข้าใกล้ เป็นคนขาดความอบอุน่ ทีม่ ากยิง่ ๆ ให้ในวันเด็กปีน้ี ควรทีจ่ ะพาเด็ก ๆ ไปสถานสงเคราะห์ สถานการกุศลต่าง ๆ ขึน้ ไป จนกลายเป็นความหว้าเหว่และหดหู่ สุดท้ายกลายเป็นคนแก่ขบ้ี น่ จูจ้ ้ี ด้วยครับ 54 | happy+
เช้าพาลูกไปเป็นจิตอาสา ให้เขาได้ชว่ ยเหลือสงเคราะห์คนอืน่ ตามแต่ความ สนใจเสียก่อน สาย ๆ หรือบ่าย ๆ ค่อยพาไปพิพธิ ภัณฑ์ หรือสถานทีจ่ ดั งาน วันเด็กต่าง ๆ ทีหลังครับ ส่วนการหาองค์กรการกุศลทีจ่ ะพาเขาไปนัน้ แนะนำ� ว่าควรเป็นองค์กรทีม่ กี จิ กรรมให้เขาได้ลงแรง ลงมือช่วยเหลือด้วยตัวเขาเอง ให้ เขาได้เห็นแววตาซาบซึง้ ใจ ให้เขาได้ฟงั เสียงกล่าวขอบคุณ เช่นนีจ้ งึ จะเป็นผล โดยตรงต่อความตระหนักรูค้ ณ ุ ค่าในตัวเขา เป็นการลงเมล็ดพันธุแ์ ห่งจิตอาสา ในใจเขาได้จริง ไม่ใช่แบบสักแต่พาไปบริจาค หยอดตูท้ �ำ บุญกันไป ทีไ่ ม่แน่วา่ จะสร้างความภูมใิ จนีข้ น้ึ มาให้เขาได้ และถ้าจะให้ได้ผลดีย่ิงขึ้น หลังจากได้ลองพาเขาไปสถานสงเคราะห์ ประเภทต่าง ๆ แล้วก็ให้ลองสังเกตดูวา่ เขาสนใจในเรือ่ งไหนเป็นพิเศษ เขามี ความสุขใจกับการช่วยแบบไหนทีเ่ ห็นได้ชดั ก็ให้หมัน่ เติมเชือ้ ด้วยการพาเขา ไปช่วยงานองค์กรด้านนัน้ ๆ ให้บอ่ ยขึน้ ทำ�เช่นนีไ้ ปเรือ่ ย ๆ ก็มน่ั ใจได้วา่ เส้น ทางต่อจากนีข้ องเขาจะเดินไปสูก่ ารเป็นคนดี คนเก่งตามทีเ่ ราหวังไว้แล้ว และที่ สำ�คัญเหนือสิง่ อืน่ ใด การหมัน่ สละแรงกายภายนอกนี้ จะเป็นปัจจัยช่วยทำ�ให้ เขาสามารถสละของภายใน ทีจ่ ะทำ�ให้ชวี ติ เขามีคณ ุ ค่าสูงสุดได้อกี ด้วย นัน่ ก็คอื การสละความสุขของตน การสละความคิด ความเชือ่ แห่งตน ไปจนถึงการสละ ความเห็นผิดว่ามีตวั ตนอันเป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ทง้ั ปวงด้วยครับ ติดตามบทความและข้อคิดการใช้ชีวิตได้ที่ Fanpage : Kid-Mai by Dr.Veeranut Line @ : @dr.veeranut happy+ | 55
นัดพบกับธรรมะ เรื่อง : ณัฐพบธรรม
ภูมิใจในสิ่งที่เป็น VS เป็นคนที่ดีกว่าเดิม เมื่อวันก่อนผมมีโอกาสได้ดูภาพยนตร์เรื่อง Robots ที่เป็นเรื่องราวของสังคมหุ่นยนต์ที่มีชีวิต และจิตใจ ประเด็นที่ทำ�ให้ผมสะกิดใจก็คือ ใน ภาพยนตร์ ไ ด้ พ ยายามนำ � เสนอในแง่ มุ ม ที่ ว่ า ตอนแรกเหล่ า หุ่ น ยนต์ ก็ จ ะถู ก สอนให้ ภู มิ ใจใน สิ่ ง ที่ เป็ น ไม่ ว่ า หุ่ นตั ว ไหนจะมี ส ภาพเก่ า หรื อ ดูแย่แค่ไหน ก็ควรจะพอใจและมีความสุข หลังจากนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เกิดขึ้น คือ เกิดแนวคิดเรื่องการเปลี่ยนไปหา สิ่งที่ใหม่กว่า ดีกว่า เหล่าหุ่นยนต์จึงเปลี่ยนแขน ขาและอะไหล่ ให้กลายเป็นของใหม่ทดี่ ดู ี ดูหรูกว่า เดิม ให้คณ ุ ค่ากับเปลือกนอกใหม่ทดี่ ดู ี และรูส้ กึ ว่า ของเก่ า เป็ นของล้ า สมั ย เป็ น สิ่ ง ไม่ ดี แ ละควร กำ�จัดทิ้งไป แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังคงมีกลุ่มที่ พยายามรักษาของเดิมและภูมใิ จกับสิง่ เดิมทีต่ นมี (ฝ่ายพระเอก) การที่ภาพยนตร์เรื่องนี้พยายามนำ�เสนอใน แง่มุมดังกล่าว ก็ทำ�ให้ผมนึกถึงในโลกแห่งความ เป็นจริง ที่มักจะมีความขัดแย้งเกิดขึ้นเสมอ ๆ ว่า เราควรจะพยายามรักษาของเก่าเอาไว้ให้มาก 56 | happy+
ที่สุด เช่น ศิลปะ วัฒนธรรมต่าง ๆ หรือเราควรจะ หมุนตามการเปลีย่ นแปลงของยุคสมัยด้วยการรับ สิ่งใหม่ ๆ เข้ามาในชีวิต ในขณะเดียวกัน มันก็สามารถสะท้อนให้ นึกถึงเรือ่ งทีใ่ กล้ตวั เรามากขึน้ ในมุมทีว่ า่ เราทุกคน ต่างก็มนี สิ ยั ความสามารถ เงินทอง ระดับศีลธรรม และคุณสมบัติในด้านต่าง ๆ อย่างที่เรามี เราเป็น อยู่ คำ�ถามก็คอื เราควรจะภูมใิ จในสิง่ ทีต่ นเองเป็น มีความสุขกับสิง่ ทีต่ วั เองมี (พอใจในสิง่ ทีม่ ี ทีเ่ ป็น) หรือเราควรจะพยายามแสวงหาสิ่งใหม่พยายาม พั ฒ นาตั ว เองอยู่ เ สมอ (ไม่ พ อใจในสิ่ ง ที่ เป็ น หาสิ่งที่ดีกว่าอยู่เสมอ) คำ�ถามในแนวนี้คงไม่สามารถหาคำ�ตอบที่ ตายตัวได้ และเชื่อได้ว่าหากถามคน 100 คน ที่ มีความสามารถ คุณสมบัติ ทรัพย์สมบัติพอ ๆ กัน แต่ละคนก็คงคิดไม่เหมือนกัน เพราะคำ�ตอบ ทีใ่ ห้จะเกิดจากความคิดและความเชือ่ ทีแ่ ต่ละคน ยึดถือเอาไว้ คนทีม่ หี น้าทีก่ ารงานและฐานะพอ ๆ กัน คนหนึง่ จึงอาจจะพอใจกับสิง่ ทีเ่ ป็น ส่วนอีกคน อาจจะไม่ หรือคนที่มีคุณสมบัติมีความสามารถ
มากกว่า อาจจะมีความพึงพอใจน้อยกว่าก็ได้ เช่น คนที่สามารถพูดได้ 3 ภาษา อาจจะอยากพูดได้ 5 ภาษาในขณะที่คนที่พูดได้ภาษาเดียวอาจจะ ภูมใิ จกับสิง่ ทีเ่ ป็น คนทีม่ รี ะดับเงินเดือน 100,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่คนส่วนใหญ่ต่างยอมรับว่า สูงมาก แต่บางคนก็ยงั ไม่พงึ พอใจ ในขณะทีบ่ างคน ขอให้ ชี วิ ต นี้ มี ร ายได้ ถึ ง 30,000 บาท ก็ พึ ง พอใจแล้ว บางคนตั้งเป้าว่าจะรักษาศีลให้ได้สัก 1 ข้อ ในขณะที่บางคนที่รักษาศีล 5 ได้ซึ่งก็เป็น ระดับที่คนยอมรับว่าเป็นคนดีระดับหนึ่ง ก็อยาก จะทำ�ให้ดีขึ้นยิ่งกว่าเดิม เป็นต้น เราคงพูดได้ว่า การจะตัดสินว่าคนนั้นคนนี้ ควรรั ก ษาสิ่ ง ที่ ต นมี ตนเป็ น อยู่ และภู มิ ใจใน สิ่งที่ตนมี หรือคนคนนั้นควรจะพยายามพัฒนา ตนเองให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไปกว่าที่เป็น เป็นเรื่องที่เรา ไม่สามารถหาหลักการหรือคำ�ตอบที่ตายตัวได้ เพราะความพึงพอใจเป็นเรื่องของความคิดและ ความเชื่อของแต่ละคน ในขณะเดียวกัน การ พยายามตัดสินคนอืน่ จะทำ�ให้เรามีความทุกข์มากขึน้ จากการพยายามคิ ด แทนคนอื่ น และพยายาม
ทำ�ให้คนอืน่ คิดเหมือนเรา เรือ่ งแบบนีเ้ ราจึงไม่ควรทำ� เพราะจะทำ�ให้มีความทุกข์ นั่นคือความเป็นจริงสำ�หรับกรณีที่คนหนึ่ง ตัดสินอีกคนหนึ่ง ที่คงจะมีความยุ่งยากซับซ้อน อย่างที่ได้กล่าวไป แต่สำ�หรับกรณีที่ตัวเราเอง ต้องการจะหาคำ�ตอบ ว่าเราควรจะภูมิใจในสิ่งที่ ตนเองเป็ น อยู่ มี อ ยู่ หรื อ เราควรจะพยายาม พั ฒ นาสิ่ ง ต่ า ง ๆ ให้ ดี ยิ่ ง ขึ้ น ไปกว่ า ที่ เป็ น อยู่ ผมคิ ด ว่ า เราสามารถนำ � หลั ก การบางอย่ า งที่ “พระพุทธเจ้า” ทรงสอนมาช่วยได้ดีระดับหนึ่ง สิ่งนั้นก็คือ หลักการมองทุกอย่าง “ตามความ เป็ นจริ ง ” (ซึ่ ง เป็ น หลั ก พื้ นฐานของการเจริ ญ สติปัฏฐาน 4 ที่พยายามมองความเป็นจริงที่เกิด ขึ้นกับกายและใจของเรา) ก ารมองทุ ก อย่ า ง “ตามความเป็ นจริ ง ” หมายถึง การมองแต่ละเรื่องแต่ละด้านของชีวิต เรา “ตามความเป็นจริง” ว่าเราทำ�ได้ดีแค่ไหน (อย่าเข้าข้างตัวเอง อย่าเชื่อตามคนอื่น) เราควร พึงพอใจกับสิ่งที่มี สิ่งที่เป็นหรือยัง เช่น ถ้าเรา
ใช้จ่ายแต่สิ่งจำ�เป็นแต่เงินก็ยังไม่พอใช้ (ซึ่งเราจะ เป็นทุกข์) เราก็ควรพยายามหารายได้ให้มากขึ้น แต่ถ้าเรามีเงินเหลือเก็บมากพอจะใช้ไปตลอด ชีวิต เราก็ควรพึงพอใจกับสิ่งที่เป็น (เพราะถ้า อยากได้มากขึ้น เราจะเป็นทุกข์) หากเราอยู่แต่ ในประเทศไทยและนาน ๆ ไปเที่ยวต่างประเทศ ครั้งหนึ่ง การพูดได้เพียงภาษาเดียวก็เพียงพอต่อ การใช้ชีวิตแล้ว (การอยากเรียนรู้เพิ่มอาจสร้าง ทุกข์ที่ไม่จำ�เป็น) แต่ถ้าเราทำ�ธุรกิจหรือทำ�งานที่ จะต้องติดต่อกับคนหลายชาติหลายภาษา การ พยายามพัฒนาตนเองให้พดู ได้ 5 ภาษาก็อาจเป็น สิ่งที่เป็นประโยชน์ (เพราะการพูดบางภาษาไม่ได้ อาจสร้างความทุกข์ในการทำ�งาน) ถ้าวันนี้เรา สุขภาพไม่ค่อยดี (เป็นทุกข์) เราก็ควรจะพยายาม ออกกำ�ลังกายและกินอาหารทีม่ ปี ระโยชน์ ถ้าวันนี้ เราสุขภาพแข็งแรงและกินอาหารที่ดีอยู่แล้วก็ ไม่จำ�เป็นต้องดิ้นรนให้มากกว่าที่เป็น (เพราะจะ ทุกข์จากการดิ้นรนมากขึ้น) ถา้ จะให้สรุป การนำ�เอาหลักการมองทุกอย่าง
“ตามความเป็นจริง” มาใช้กค็ อื การเลือกทางเดิน ชีวติ ในลักษณะทีไ่ ม่วงิ่ หาความทุกข์และพยายาม หนีออกจากความทุกข์ กล่าวคือ หากสิ่งที่เรามี สิง่ ทีเ่ ราเป็นทำ�ให้เราเป็นทุกข์ เราก็ควรพัฒนาตัวเอง เพื่อให้พ้นจากความทุกข์นั้น ในทางตรงกันข้าม หากตอนนี้ เ ราไม่ ไ ด้ เ ป็ น ทุ ก ข์ อ ะไรมากมาย แต่สิ่งที่เรากำ�ลังพยายามทำ�เพื่อพัฒนาตัวเอง กลับนำ�พาทุกข์มาให้เราเพิม่ ขึน้ เราก็ควรพึงพอใจ กับสิ่งที่เป็นอยู่ อย่างไรก็ตาม ในฐานะชาวพุทธทีเ่ ข้าใจเรือ่ ง การเวียนว่ายตายเกิด จะมีสิ่งหนึ่งที่เรา (คนส่วน ใหญ่) ไม่ควรพึงพอใจกับสิ่งที่เป็นอยู่และควร พยายามพัฒนาตัวเองให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป สิ่งนั้นก็ คือ การพยายามตัดกิเลสตัณหาต่าง ๆ ให้หมดสิน้ เพราะตราบใดทีย่ งั เหลือกิเลสตัณหาอยู่ ก็แปลว่า งานในฐานะชาวพุทธยังไม่เสร็จสิ้น สู้ ๆ ครั บ เพื่ อ นร่ ว มเวี ย นว่ า ยตายเกิ ด ทุกท่าน
ถามคำ�ถาม พูดคุย หรือติดตาม ณัฐพบธรรม ได้ที่ www.Nutpobtum.com, www.facebook.com/Pobtumbook, Pobtumbook@yahoo.com happy+ | 57
wired world เรื่อง : ผมอยู่ข้างหลังคุณ
เตรียมสู้กับปัญญาประดิษฐ์ (ตอน 2) ทักษะสำ�คัญของคนยุคดิจิทัล
เล่มที่แล้วผมเขียนถึงข่าวสำ�คัญของปีนี้ที่มี การทำ�นายว่าหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ (A.I.) จะมาแย่งงานของมนุษย์ในอนาคตโดยมีตวั อย่าง ที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น พร้อมอัตราเสี่ยงของแต่ละ อาชีพที่มีโอกาสตกงาน เพราะสู้หุ่นยนต์กับ A.I. ไม่ได้ และมันไม่ใช่แค่อาชีพทีม่ รี ปู แบบงานตายตัว นะครับ เล่มนี้ผมจะขอยกตัวอย่างบางอาชีพที่ เราอาจคิดไม่ถึงว่าหุ่นยนต์จะมาเป็นคู่แข่งสำ�คัญ เช่น อาชีพแพทย์ เนือ่ งด้วยโลกยุคใหม่มขี อ้ มูลมหาศาลเกิดขึน้ รวดเร็ว อาชีพแพทย์นอกจากรักษาคนไข้ ก็จ�ำ เป็น ต้องอ่านวารสารทางการแพทย์หรือเรียนรู้ผลวิจัย ใหม่ ๆ เพื่อมาปรับใช้ให้ทันสมัย มีรายงานจาก สถาบันมะเร็ง Sloan-Kettering ประเมินว่า หมอ ต้องใช้เวลาอย่างตํา่ 160 ชัว่ โมงต่อสัปดาห์ในการ อัพเดตงานวิจัยหรือการศึกษาใหม่ ๆ ที่ถูกตีพิมพ์ แล้ววิเคราะห์ความน่าเชื่อถือ ที่จะนำ�การศึกษา เหล่านั้นไปประยุกต์ใช้ แต่ถ้าเป็น A.I. จะใช้เวลา เพียงพริบตาในการอัพเดตข้อมูลเหล่านั้น คูแ่ ข่งของหมอในการตรวจวินจิ ฉัยคนไข้เป็น 58 | happy+
A.I. ชื่อ Watson จาก IBM มาพร้อมความสามารถที่เรียกว่า Cognitive Computing คือ สามารถสังเกต, คาดการณ์และปรับตัวได้ มันถูกนำ�ไปทดลองใช้ในทางการแพทย์ โดยให้ทดลองวินจิ ฉัยโรคมะเร็งปอด จากข้อมูลคนไข้ที่ส่งมาให้วิเคราะห์ผ่านระบบประมวลผล แล้วพบว่า Watson สามารถวินิจฉัยโรค มะเร็งในคนไข้ได้ถูกต้องถึง 90% เรียกได้วา่ อาชีพทีท่ �ำ งานเกีย่ วกับข้อมูล (ซึง่ ก็แทบทุกอาชีพ) สามารถทีจ่ ะถูก A.I. มาท้าชิงตำ�แหน่งงาน ในอนาคต เมือ่ รูแ้ บบนีแ้ ล้วก็อย่าเพิง่ กระต่ายตืน่ ตูมหางานใหม่นะครับ (เพราะบทความส่วนใหญ่ยงั เป็น แค่การทำ�นาย) เพียงแต่เราสามารถเตรียมพร้อมตัวเองกับคนรุ่นใหม่ได้ ด้วยการฝึกฝนทักษะติดตัวที่ ไม่ว่าจะทำ�งานสาขาใด จะได้พร้อมสู้กับคู่แข่งระดับหุ่นยนต์ “ทักษะใดที่คนทำ�งานควรมีติดตัวในอนาคต?” ผมขอตอบโดยอ้างอิงรายงานประจำ�ปีลา่ สุดขององค์กรเศรษฐกิจโลกหรือ World Economic Forum ที่สำ�รวจจากบริษัทชั้นนำ�ได้คำ�ตอบออกมาเป็น 10 ทักษะสำ�คัญสำ�หรับคนทำ�งานที่จำ�เป็นต้องมีในปี 2020 พบว่าทักษะสำ�คัญอันดับ 1 ไม่ได้เปลี่ยนไปจากการสำ�รวจในปี 2015 คือ ทักษะในการแก้ปัญหา ที่ซับซ้อน (Complex Problem Solving) แต่อีก 2 อันดับถัดมาเปลี่ยนแปลงไปครับ นั่นคือ ทักษะการ คิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) และทักษะความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) ไต่ขึ้นมาเป็นอันดับสอง และสาม ซึ่งอเล็กซ์ เกรย์ ผู้เขียนบทความให้แก่ World Economic Forum อธิบายเพิ่มเติมว่า ทักษะ ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) เป็นทักษะที่ควรให้ความสำ�คัญมากเพราะแม้ปัจจุบันหุ่นยนต์จะถูก พัฒนาไปมากขนาดไหน แต่อย่างน้อยในขณะนีม้ นั ยังเอาชนะด้านความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ไม่ได้ (ซึ่งอนาคตนั้นก็ไม่แน่) โดยใน 10 อันดับที่ว่ามา มีทักษะใหม่ที่เพิ่งติดอันดับเป็นครั้งแรกคือ ความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) และความยืดหยุ่นทางปัญญา (Cognitive Flexibility) ซึ่งผมคิดว่าทักษะ
ทั้งสองข้อนี้น่าสนใจครับ เพราะเดิมทีเราคิดว่าหุ่นยนต์หรือ A.I. อาจจะฉลาดในด้านคิดประมวลผล แต่ไม่สามารถอ่านใจหรือตอบสนองอารมณ์ของมนุษย์ได้ดเี ท่าเราด้วยกันเอง แต่ปรากฏว่าปัจจุบนั ไม่ได้ เป็นเช่นนั้นแล้ว เมื่อ A.I. รุ่นใหม่ ๆ สามารถเรียนรู้อารมณ์มนุษย์และตอบสนองต่ออารมณ์มนุษย์ ได้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น Kirobo Mini ปีหน้าโตโยต้ากำ�ลังจะวางขายหุ่นยนต์ Kirobo Mini ซึ่งมีการประมาณราคาขายไว้ที่ 400 เหรียญ ซึง่ เป็นราคาทีไ่ ม่ได้ไกลเกินเอือ้ มเลยนะครับ โตโยต้าเคยผลิตหุน่ ยนต์ชอื่ Kirobo มาก่อนแล้วเมือ่ ปี 2013 เพียงแต่ตอนนั้นเป็นโครงการที่ส่งไปนอกโลกพร้อมนักบินอวกาศชาวญี่ปุ่น แต่เจ้า Kirobo Mini ที่จะ ออกจำ�หน่ายปีหน้า ย่อขนาดลงจนมีความสูงประมาณ 10 เซนติเมตร และมีเป้าหมายให้คนทั่วไปมี ไว้เป็นเพื่อนประจำ�ตัว Kirobo Mini ไม่ได้อยู่นิ่ง ๆ เหมือนตุ๊กตาลูกเทพและไม่ใช่ทำ�ได้แค่กะพริบตา แต่เจ้า Kirobo Mini มีกล้องในตัว รวมถึงระบบประมวลผลที่ทำ�ให้มันสามารถจดจำ�คุณได้ในฐานะ เจ้าของ มันสามารถจับอารมณ์ของคุณได้ ว่าคุณกำ�ลังโกรธ เศร้า เหงา ฯลฯ แล้วก็จะตอบสนองต่อ อารมณ์ของคุณอย่างรู้ใจ และด้วยความที่ผู้ผลิตคือ โตโยต้า ผู้ผลิตรถรายใหญ่ของโลกก็จัดการนำ� Kirobo Mini ผนวก รวมเข้าไปกับรถของโตโยต้าในการเป็นผู้ช่วยขณะขับรถ โดยมันจะช่วยเหลือด้านข้อมูล เช่น คอยบอก ตำ�แหน่ง, เส้นทาง, อัพเดตการจราจรแบบเรียลไทม์ ฯลฯ และช่วยทำ�ให้การขับรถของเราเต็มไปด้วย ความสำ�ราญใจ เพราะมันจะเลือกเพลงที่เหมาะกับอารมณ์ของเราขณะนั้น เรียกได้ว่า Kirobo Mini เป็นทั้งเพื่อนคู่คิด มิตรคู่ขับ และทีมงานก็ยังหวังว่าถ้าหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่นคลุกคลีกับมันบ่อย ๆ ก็จะ เกิดความรู้สึกดีกับการเลี้ยงหุ่นยนต์เหมือนเลี้ยงเด็ก และจะเป็นปัจจัยส่งเสริมให้คนญี่ปุ่นอยากมีลูก มากขึ้น ที่ผมบรรยายสรรพคุณของ Kirobo มาเสียยืดยาวไม่ใช่เพราะได้ค่าสปอนเซอร์จากโตโยต้า นะครับ แต่ผมคิดว่านีเ่ ป็นก้าวย่างทีน่ า่ สนใจของหุน่ ยนต์หรือ A.I. ทีไ่ ม่ใช่แย่งงานแค่ในความหมายของ งานที่ใช้ทำ�มาหากิน แต่มันกำ�ลังถูกพัฒนาให้แย่งงานในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน คือมาเป็นเพื่อน
เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว และถ้าลองมองเรื่องใกล้ตัวมากขึ้นไปอีก เช่น เรื่องเซ็กซ์ ก็จะพบว่าหุ่นยนต์ที่ถูกสร้างมา เป็นคู่นอนหรือ Sex Robots ก็เป็นอีกเทรนด์ที่ถูก พูดถึงมากในปีนคี้ รับ เพราะการสร้าง Sex Robots ในปั จ จุ บั น พั ฒ นาไปได้ ในระดั บ มี เซ็ น เซอร์ จั บ ความเคลือ่ นไหวของคูน่ อน สามารถปรับอุณหภูมิ ในอวัยวะต่าง ๆ ของตัวเองและสามารถตอบ สนองอารมณ์คู่นอนได้ จน ดร.เฮเลน ดริสคอล นักจิตวิทยาประจำ�มหาวิทยาลัยซันเดอร์แลนด์ ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเซ็กซ์กับชีวิตคู่บอกเลย ว่าด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาแบบก้าวกระโดดเช่นนี้ อาจทำ�ให้ยน่ ระยะเวลาเหลือเพียงอีกประมาณ 50 ปี เท่านั้นที่มนุษย์จะมีหนุ่ ยนต์เป็นคูน่ อนแล้วกลายเป็น เรื่องปกติ (Norm) ในสังคม ดังนั้น นอกจาก ทักษะในการทำ�งานที่ World Economic Forum รายงานไว้ ผมคิดว่าทักษะชีวิตของการอยู่ร่วม กับผู้อื่น เช่น การเห็นอกเห็นใจ, ความเอื้อเฟื้อ, การมีเมตตา, การใส่ใจ ฯลฯ ก็เป็นทักษะสำ�คัญ ทีเ่ ราไม่ควรละเลย และฝึกให้มตี ดิ ตัวไว้รบั มือกับ A.I. ทีก่ �ำ ลังคืบคลานเข้ามาแทนทีม่ นุษย์ในทุกมิติ
ถามคำ�ถาม พูดคุย หรือติดตาม ผมอยู่ข้างหลังคุณ ได้ที่ www.facebook.com/ibehindyou, i_behind_you@yahoo.com happy+ | 59
ระหว่างทาง เรื่อง : ศศิน เฉลิมลาภ
ชีวิตใหม่ของพงษ์ หนุ่มใหญ่ร่างท้วมแต่งตัวเรียบร้อย ในชุด เสื้อโปโล ชายเสื้อใส่ในกางเกงขายาวสีสุภาพกับ รองเท้าผ้าใบสีดำ� วิ่งกุลีกุจอมาทักผม เมื่อเห็น ผมมาจอดรถข้างศูนย์บริการนักท่องเทีย่ วอุทยาน แห่งชาติขนาดใหญ่ ทีม่ ชี อื่ เสียงเรือ่ งการท่องเทีย่ ว “อาจารย์ครับ หัวหน้าให้ผมมารอรับอาจารย์ พวกเราประชุ ม กั น อยู่ ที่ อ าคารทางโน้ น ครั บ หัวหน้าติดประชุมอยูอ่ กี เรือ่ งหนึง่ เดีย๋ วจะตามไป” นั่นคือบทสนทนาของเราในครั้งแรกที่พบกัน เมื่อสถานภาพของเขากับผมเปลี่ยนไปเมื่อเวลา ไม่นานมานี้ หนุ่มใหญ่คนนี้ “เคย” เป็นลูกน้องในองค์กร ทีผ่ มบริหารงานอยูเ่ ป็นเวลายาวนาน และแทบถือ ได้ว่าเขาคือลูกน้องคนสนิท และคนแรก ๆ ที่ผม ได้มาร่วมงานด้วยในฐานะผู้จัดการโครงการใหญ่ ที่มีเขามาทำ�งานเป็นเจ้าหน้าที่ภาคสนามก่อนที่ ผมจะเปลี่ยนงานมารับหน้าที่เมื่อสิบสี่ปีที่แล้ว ผมถอยรถออก และมุ่งหน้าไปยังทิศทาง ที่ “พงษ์” บอก เพื่อไปสมทบกับผู้ที่ล่วงหน้ามา ประชุมก่อน ในอาคารอีกแห่งที่ห่างออกไปพอ สมควร ระหว่างนัน้ ความทรงจำ�ต่าง ๆ ก็ผดุ พราย ขึ้นตลอดเวลาที่ร่วมประชุม ซึ่งไม่มีเนื้อหาอะไรที่ ผมต้องร่วมแชร์ความคิดความเห็นมากนัก ทำ�ให้ ผมปล่อยให้ความทรงจำ�เรือ่ งพงษ์ไหลล่องออกมา 60 | happy+
เมื่ อ สิ บ กว่ า ปี ที่ แ ล้ ว พงษ์ เ ป็ น คนหนุ่ ม อัธยาศัยใจคอดี ชะตาชีวิตพลิกผันให้การเรียนที่ วิทยาลัยเกษตรแห่งหนึ่งในจังหวัดใหญ่ชายแดน ตะวันตกในระดับเพียง ปวช. ก็ไม่จบ แต่ดหู นุม่ คนนี้ มีความรู้เรื่องเกษตร เรื่องปลูกผักเป็นอย่างดี ไม่ แปลกหรอก เพราะเขาโตมาในครอบครัวเกษตรกร ผมจำ�ไม่ได้วา่ เขาไปมีเรือ่ งราวอะไรหรือครอบครัว ไม่ส่งสตางค์ทำ�ให้เรียนไม่จบ แต่จำ�ได้ดีว่าช่วง ชีวิตหนึ่งเขาถึงขนาดเข้าไปข้องเกี่ยวกับเรื่องราว ผิดกฎหมายอยู่นานพอสมควร จับพลัดจับผลู ไปทำ�งานที่เหมืองแร่ในป่า ทำ�หน้าที่ขับรถส่งแร่ จากจั ง หวั ด ชายแดนตะวั นตกในภาคกลางไป ส่งถึงภูเก็ต และที่กลางป่าแห่งนี้ ทำ�ให้ความคิด เขาเปลี่ยน เนื่องจากเหมืองแร่กลางป่านี้ใกล้ชิด กับวัดป่าแห่งหนึ่งสายปฏิบัติกรรมฐานเข้มข้น มี พระฝรัง่ นานาชาติมาบวชเรียนธรรมะระดับลึกซึง้ เจ้าของกิจการเหมืองแร่ที่ค่อนข้างธรรมะธัมโม รับเป็นโยมคอยดูแลความเป็นอยู่ส่วนหนึ่งให้วัด ด้วย ก็ส่งเจ้าพงษ์เด็กหนุ่มตัวแสบจากในเมืองให้ ไปทำ�งานปรนนิบัติพระสงฆ์ที่วัดป่านี้อยู่บ่อย ๆ จนได้เรียนรู้ความคิดอะไรดี ๆ มามาก และทำ�ให้ พืน้ ฐานนิสยั ดีของเขาได้มแี บบแผนปฏิบตั แิ ละสิง่ ยึด ระหว่างนั้นพื้นที่ป่ารอบเหมืองที่บังเอิญเป็นป่า อุดมสมบูรณ์ ก็เป็นที่ศึกษาวิจัยของสถาบันการ
ศึกษาทางนิเวศวิทยาหลายแห่ง มีนกั วิจยั วนเวียน ไปบ่อย ๆ หนุ่มพงษ์ก็ได้ถูกอาศัยไหว้วานให้ช่วย นำ�ทางไปในป่า ช่วยถือของอะไรให้นักวิชาการ หลายคน ความเป็นคนช่างซักช่างถามก็คงทำ�ให้ เขาได้ความรู้ในด้านนี้ติดตัวมาพอสมควร ผมจำ � ไม่ ได้ ว่ า เจ้ า ของเหมื อ งแร่ ค นนั้ นคิ ด อย่างไร จึงส่งเสริมให้เด็กหนุ่มจอมพเนจรคนนี้ ไปอบรมเรื่องเกษตรธรรมชาติสายอาจารย์ยักษ์ (วิวฒ ั น์ ศัลยกำ�ธร) และคงเป็นเพราะเคมีการเรียนรู้ ตรงกัน ทำ�ให้ไม่นานพงษ์กลายเป็นคนที่มีความ สามารถในการปลูกผักอินทรีย์ ทำ�สวนผสมผสาน ต่อมามีโครงการพัฒนาศูนย์เรียนรู้จากทุนต่าง ประเทศหลังช่วงเศรษฐกิจตกตํา่ เมือ่ ปี 40 ทีอ่ �ำ เภอ ชายแดนอีกอำ�เภอหนึง่ เจ้าของกิจการเหมืองแร่ที่ มีเครือข่ายกิจกรรมอยู่ในเมืองด้วย ก็ส่งเด็กหนุ่ม คนนี้ไปบุกเบิกงานให้ศนู ย์กสิกรรมธรรมชาติที่ตั้ง ขึ้นใหม่ บนพื้นที่ภูเขาสูงกลางป่าใหญ่ที่ถูกผู้คน ที่อพยพจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มาบุกเบิก เปิ ด ป่ า ทำ � เป็ นที่ ทำ � กิ น ได้ ไม่ น าน ด้ ว ยหวั ง ว่ า จะเป็ น ศู น ย์ ค วามรู้ ให้ ช าวบ้ า นลดการใช้ ส าร เคมี เปลี่ยนวิถีมาเป็นเกษตรอินทรีย์ สมัยนั้นมี งบประมาณอบรมชาวบ้านและส่งเสริมอาชีพ มากมาย เจ้าพงษ์กลายเป็นอาจารย์พงษ์คอย เป็นวิทยากรเรื่องปลูกผัก มีชาวบ้านมาช่วยปลูก
กระท่อมเล็ก ๆ ทำ�ด้วยไม้ไผ่ให้อยู่ เข้าใจว่าตอน แรก ๆ มีผู้ร่วมงานกับพงษ์อยู่อีกคนสองคน แต่ คงทนสภาพความเหงา ความไกล ทุรกันดารขาดนํา้ ประปา ไฟฟ้าแบบนีไ้ ม่ได้จงึ ออกไปก่อน เหลือคน หนุ่มจอมพเนจรที่อยู่เป็นอาจารย์ขี่มอเตอร์ไซค์ ไปทั่วหมู่บ้าน ตระเวนพูดคุยให้ชาวบ้านสนใจทำ� เกษตรพอเพียง แม้ส่วนใหญ่จะไม่สำ�เร็จแต่ก็ไม่มี ใครรังเกียจอะไรอาจารย์พงษ์ เวลามีอบรมก็มา ร่วมกันคึกคัก ตกเย็นอาจารย์พงษ์สามารถไปหา ข้าวหาปลา แม้แต่เหล้าขาวที่มีคนเรียนชวนกิน อยูท่ กุ วัน ก่อนจะกลับมาจุดเทียนนอนอยูค่ นเดียว ในศูนย์ที่แยกห่างจากหมู่บ้านมา ทุนพวกนี้มีมาอยู่ระยะเวลาหนึ่งก็หมดเวลา หมดโครงการ อาคารหลังใหญ่ที่สร้างขึ้นและ ที่ ดิ น ศู น ย์ ก็ ดู เหมื อ นไร้ อ นาคตพอกั บ ชี วิ ต ของ อาจารย์พงษ์จอมพเนจร พอดีที่องค์กรของผมได้ โครงการทำ�งานกับชุมชนในผืนป่าตะวันตก และ ก็มีคนแนะนำ�เจ้าหนุ่มคนนี้มาให้รู้จัก แน่นอนว่า คุณสมบัตทิ งั้ ปวงพร้อมทัง้ ศูนย์ทยี่ งั หาคนสานต่อ ไม่ได้ ย่อมเป็นความลงตัวของโครงการเรา ที่มี เป้าหมายทำ�งานกับชุมชนแห่งนีอ้ ยูพ่ อดี และเจ้าพงษ์ คื อ เจ้ า หน้ า ที่ ค นแรกขององค์ ก รที่ ผ มกำ � ลั ง จะ ลาออกจากอาจารย์มหาวิทยาลัยมาบริหาร เขารับ สมัครรอเป็นลูกน้องคนแรกของผมไว้แล้ว ตอนนัน้ พงษ์พบรักกับครูสาวสวยที่สอนการศึกษานอก โรงเรียนในตัวอำ�เภอ ทีไ่ ม่ใกล้ไม่ไกลศูนย์กสิกรรม
ธรรมชาติกลางป่านั้นแล้ว เขาแต่งงานกับครูสาว คนนั้น และอาศัยพักที่บ้านพักครูเวลากลับลงมา จากบนภูเขาที่ทำ�งานของเขานาน ๆ ครั้ง ผมกับเขาเข้ากันได้อย่างรวดเร็ว เราเติมเต็ม ให้กันและกันเรื่องที่เขารู้เชี่ยวชาญ เป็นเรื่องที่ผม ต้องการจะเสริมความรู้อยู่ทั้งสิ้น ส่วนเทคนิคทาง วิชาการ การจัดการอย่างเป็นระบบแบบง่าย ๆ ของผม ก็มาเติมปีกให้จอมพเนจรขี่มอเตอร์ไซค์ วิบากคันเก่าเข้าไปตะลุยงานในชุมชนกลางป่า อีกหลายแห่ง เข้าไปฝังตัวเก็บข้อมูล เป็นเพื่อน ปรับทุกข์ผูกมิตร นำ�ปัญหาต่าง ๆ มาบอกเล่า ภาพหนุ่มร่างใหญ่ใจดี ใส่เสื้อทีมฟุตบอลสีสด ที่เขาชอบ กับกางเกงขาสั้นสามส่วน เคียนผ้า ขาวม้า ใส่รองเท้าแตะ พร้อมทั้งกระบอกแผนที่ และกระเป๋าเป้เสื้อผ้าพเนจรไปพูดคุยเป็นที่คุ้นตา ของผู้คน โครงการของเรามีเป้าหมายอยู่ที่การจัดการ ความขั ด แย้ ง ระหว่ า งฝ่ า ยรั ฐ ที่ เป็ น เจ้ า หน้ า ที่ อนุรักษ์ป่า กับชาวบ้านที่มีภาพลักษณ์เป็นคน บุกรุกทำ�ลายให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข และ มีข้อตกลงกติกาที่จะไม่ขยายออกไปรุกป่าเพิ่ม แต่ เจ้ า หน้ า ที่ ป่ า ไม้ ก็ ต้ อ งไม่ ไปจั บ กุ ม เขา งาน แบบนี้ฝ่ายรัฐทำ�เองก็ไม่ได้เพราะเป็นคู่ขัดแย้ง เสียเอง เลยมีโครงการนำ�ร่องให้องค์กรของเรา ที่เป็นคนนอก เข้าไปทำ�หน้าที่เป็นคนกลางใน การอำ � นวยความสะดวกให้ เ กิ ด กระบวนการ
พูดคุย หน้าที่ของพงษ์หลังจากเข้าไปฝังตัวเก็บ ข้อมูลต่าง ๆ ในหมู่บ้านก็มานำ�เสนอให้ผมฟัง แม้กระทั่งชวนผมไปเปิดเวทีรับฟังพูดคุย เมื่อได้ โจทย์ปัญหาก็นำ�มาออกแบบ และนำ�ไปปรึกษา กับฝ่ายรัฐที่เป็นเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพื่อหาทางออก ร่วมกัน เมื่อดูแล้วพอเป็นไปได้เราก็จัดเวทีพูดคุย ทำ�ความเข้าใจและสร้างกติกา แนวเขต รวมถึง ปรับทัศนคติด้วยกิจกรรมต่าง ๆ หากติดขัดด้วย ข้อกฎหมายนโยบายก็เป็นหน้าที่ของผม ที่จะ มาคิดและประสานงานกับฝ่ายบริหารส่วนกลาง กันต่อไป ผมกับพงษ์ทำ�งานแบบนี้กันอยู่หลายปี ตระเวนลุยงานเดินทางกลางป่าหมู่บ้านโน้นนี้ และคงเป็นเพราะไม่มีเวลาให้ครอบครัว ในที่สุด ภรรยาของพงษ์พร้อมกับลูกชายคนเดียวก็ขอหย่า และแยกกลับไปอยู่กับพ่อแม่ของเธอ ส่วนพงษ์แม้จะมีปญ ั หาอยูบ่ า้ ง แต่กย็ งั ตัง้ ใจ ทำ�งานต่อไป ไม่นานก็พบรักใหม่เป็นคนต่างชาติ จากพรมแดนด้านเหนือที่มาทำ�งานในตัวจังหวัด ความรักงอกงามทำ�ท่าจะไปได้สวย พงษ์และ คนรักใหม่น�ำ เงินเก็บมาปลูกบ้านเล็ก ๆ ในทีด่ นิ ติด ศู น ย์ ก สิ ก รรม เที ย วไปเที ย วมาระหว่ า งป่ า กั บ เมืองใหญ่อยูส่ องสามปี ในทีส่ ดุ ก็กล่อมสาวต่างแดน ให้มาใช้ชีวิตคู่ในบ้านหลังเล็ก ช่วยดูแลแปลงผัก และบ้านช่องระหว่างทีง่ านของเขายังคงต้องวิง่ ไป ประสานงานกับชุมชน กับป่าไม้วนุ่ วายเหมือนเดิม ผมจะเล่าเรือ่ งของเขาต่อในฉบับหน้านะครับ happy+ | 61
take care เรื่อง : นพ.พิรัตน์ โลกาพัฒนา
หมอกควันและปัญหาสุขภาพ
ในทุก ๆ ปีเราจะได้ยนิ ข่าวของหมอกควันไฟทีป่ กคลุมในหลาย ๆ พืน้ ทีข่ องประเทศไทย ซึง่ ทุก ๆ ครัง้ ก็จะมีขา่ วเตือนให้ระมัดระวังปัญหา สุขภาพที่จะตามมาได้ หมอกควันเหล่านี้มีอันตรายอย่างไร และเราจะป้องกันมันได้อย่างไร
หมอกควันคืออะไร
หมอกควันเป็นมลพิษทางอากาศชนิดหนึ่ง ซึ่งประกอบไปด้วยส่วนของอนุภาคขนาดเล็กที่แขวนลอยในอากาศ ทำ�ให้เกิดเป็นลักษณะฝ้าบดบัง ทัศนวิสยั โดยในปัจจุบนั สาเหตุของหมอกควันมาได้จากทัง้ ไฟป่า ไฟทีเ่ กิดจากการเผาพืน้ ทีท่ างการเกษตร ควันจากโรงงานอุตสาหกรรม ยานพาหนะ จาก การหุงต้มประกอบอาหาร ซึ่งสารที่มีพิษในหมอกควันในแต่ละพื้นที่ก็จะแตกต่างกันไปตามแต่สาเหตุนั้น ๆ โดยแบ่งได้เป็น ก๊าซ เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ คาร์บอนมอนอกไซด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ สารประกอบเคมีอินทรีย์ สารไฮโดรคาร์บอน และฝุ่นอนุภาค ซึ่งฝุ่นอนุภาคที่มีความสำ�คัญในเรื่องนี้เราจะแบ่ง เป็นฝุ่น PM 10 ที่มีขนาด 10 ไมครอนลงมา และฝุ่น PM 2.5 ที่มีขนาดเล็กตั้งแต่ 2.5 ไมครอนลงมาและมีความสามารถในการลงไปสู่หลอดลมและถุงลม ชั้นลึกของปอดมาก 62 | happy+
ผลกระทบของหมอกควันที่มีต่อสุขภาพ
ผลกระทบระยะสั้น มักเป็นผลกระทบต่อสุขภาพทีเ่ กิดขึน้ ในช่วงระยะเดียวกันกับทีร่ า่ งกาย สัมผัสกับหมอกควัน โดยเป็นได้ทั้งผลจากการสัมผัสกับส่วนที่เป็นก๊าซหรือ อนุภาค 1. ตา : เมื่อก๊าซและอนุภาคของหมอกควันตกลงกระทบที่เยื่อบุตาที่มี ความชื้น ก็จะเกิดการละลายลงไปในนํ้าตา ทำ�ให้เกิดการระคายเคืองตาได้ ทำ�ให้เกิดอาการตาแดง เยื่อบุตาอักเสบได้ 2. จมูกและลำ�คอ : เกิดการระคายเคืองที่บริเวณเนื้อเยื่อของโพรงจมูก เรื่อยไปจนถึงช่องปากและลำ�คอได้ ในกรณีที่อนุภาคมีขนาดใหญ่ ก็จะเกิด การกรองติดอยูท่ บี่ ริเวณขนจมูกและโพรงจมูก ทำ�ให้เปือ้ นดำ�หรือระคายเคือง ได้เช่นกัน 3. ปอด : อนุภาคที่มีขนาดเล็กและไม่ถูกกรองที่โพรงจมูก ก็จะเข้าไป ในปอดได้และไปก่อการระคายเคืองในส่วนต่าง ๆ ของปอด โดยอนุภาค ที่มีขนาดเล็กมาก เช่น อนุภาค PM 2.5 ก็จะลงไปจนถึงถุงลม ทำ�ให้เกิด การอักเสบที่ถุงลม ส่วนอนุภาคที่ใหญ่กว่าก็จะตกอยู่ตามหลอดลมที่สูงขึ้น ทำ�ให้เกิดการอักเสบของหลอดลม เกิดหลอดลมบวมตีบ หายใจไม่สะดวก เกิดเสมหะมากขึน้ ซึง่ อาการของปอดจะรุนแรงขึน้ หากผูป้ ว่ ยมีโรคของปอด อยู่เดิม เช่น โรคหอบหืดหรือถุงลมโป่งพอง
4. หัวใจ : ผู้ที่สัมผัสหมอกควันจะได้รับสารเคมีหลายชนิดเข้าสู่ ร่างกายผ่านทางถุงลม และสามารถทำ�ให้เกิดการหดตัวของเส้นเลือดใน ร่างกาย รวมไปถึงเส้นเลือดหัวใจ ทำ�ให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ได้มากกว่าปกติ 5. อาการปวดหัว : เกิดได้ทั้งผลของหมอกควัน ความเครียดจาก การเผชิญหมอกควัน รวมไปถึงการใช้หน้ากากป้องกันหมอกควัน เพราะ ว่าการใช้หน้ากากป้องกันหมอกควัน จะเพิ่มการใช้กำ�ลังของกล้ามเนื้อใน การหายใจเพิ่มมากขึ้น 6. ระบบทางเดินอาหาร : เมื่อหมอกควันไปสัมผัสกับแหล่งนํ้าที่ใช้ ในการบริโภค อนุภาคที่ตกลงไปสามารถละลายลงไปในนํ้าได้ ซึ่งสารเคมี ที่ ล ะลายลงไปในนํ้ า หรื อ กลิ่ น รสที่ เปลี่ ย นไป สามารถทำ�ให้ เ กิ ด อาการ ปวดท้องคลื่นไส้อาเจียนได้
ผลกระทบระยะยาว
สำ�หรับคนที่อยู่ในพื้นที่ที่มีหมอกควันปกคลุมเป็นเวลานาน สารเคมี จากก๊าซหรือจากฝุ่นที่มีขนาดเล็ก ที่เข้าไปถึงถุงลมของปอด จากนั้นก็จะ ถูกดูดซึมเข้ากระแสเลือดและก่อให้เกิดความผิดปกติของร่างกายในระยะยาว ได้โดยไม่รู้ตัว 1. ความเสี่ยงของมะเร็ง : อนุภาคเล็ก ๆ โดยเฉพาะฝุ่นที่เกิดจาก happy+ | 63
เรามีวิธีวัดความรุนแรงหรืออันตรายของ ปอดได้มาก (แต่ไม่สามารถป้องกันก๊าซพิษทีม่ า หมอกควันอย่างไร พร้ อมกั บหมอกควั นได้ ) โดยการใช้หน้ากากนี้
กา รเ ผา ไหม้นั้ น ห ลา ย ตัวมีส า รในก ลุ่ ม ไฮโดรคาร์บอนซึ่งบางตัวเป็นสารก่อมะเร็ง ซึ่ง ร่างกายสามารถรับเข้าไปในกระแสเลือดได้จาก การหายใจ ทัง้ นีจ้ ากการศึกษาพบว่า ในผูท้ อี่ าศัย ในพืน้ ทีท่ มี่ หี มอกควัน จะตรวจพบสารเคมีเหล่านัน้ ในปัสสาวะได้ 2. เบาหวาน : รายงานทางระบาดวิทยาบาง ฉบับพบว่า ในพืน้ ทีท่ มี่ หี มอกควันมาก จะพบการ เป็นเบาหวานเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าอาจจะเป็นผล จากการที่สารเคมีบางชนิด ไปรบกวนการทำ�งาน ของฮอร์โมนอินซูลิน 3. เส้นเลือดในร่างกายผิดปกติ : เชื่อว่า หมอกควันมีสารเคมีที่เข้าไปทำ�ให้เกิดการอักเสบ เพิ่มขึ้นในร่างกาย ทำ�ให้เกิดเส้นเลือดอักเสบหรือ เกิดการบาดเจ็บได้มากขึ้น จึงทำ�ให้เกิดภาวะ หลอดเลือดแข็งตัวผิดปกติ จนนำ�ไปสู่โรคอื่น ๆ ได้หลายโรค เช่น หลอดเลือดในสมองตีบหรือ หลอดเลือดหัวใจตีบ 4. ผลกระทบต่อหญิงตั้งครรภ์ : มีรายงาน ความผิดปกติของทารกในครรภ์มารดาได้หลาย รูปแบบ ทั้งนํ้าหนักตัวน้อย การเจริญของสมอง ทารกผิดปกติ หรือไขสันหลังไม่ปิดในทารก 5. ปอด : เพิ่มความเสี่ยงเกิดการอักเสบ เรื้อรังของปอด เกิดเป็นแผลเป็นในปอดได้ และ ทำ�ให้เกิดอาการหลอดลมตีบเรือ้ รังหรือหอบหืดได้ 64 | happy+
เมื่ อ มี ห มอกควั น เกิ ด ขึ้ น จะต้ อ งมี ค่ า มาตรฐานที่นำ�มาใช้ เพื่อการดำ�เนินการต่าง ๆ ไม่ว่าจะการเตือนแก่ประชาชนหรือใช้เป็นค่าใน การศึกษา โดยจะมีการนำ�ค่าต่าง ๆ มาเป็นตัวแปร ในการคำ�นวณเป็นสิ่งที่เรียกว่า ‘ดัชนีคุณภาพ อากาศ’ ซึง่ ในแต่ละประเทศจะมีชอื่ เรียกทีแ่ ตกต่าง กันไป โดยขึ้นกับตัวแปรที่นำ�มาใช้ (ซึ่งการใช้ ตัวแปรที่แตกต่างกันมักขึ้นกับความพร้อมของ เครื่องมือในการตรวจสภาพมลพิษทางอากาศที่ แตกต่างกันในแต่ละประเทศ) สำ � หรั บ ประเทศไทยใช้ ค่ า ดั ช นี คุ ณ ภาพ อากาศ Air Quality Index (AQI) ซึ่งจะแบ่งออก เป็นระดับ 5 ระดับ ได้แก่ 1. น้อยกว่า 50 คุณภาพอากาศดี ไม่มีผล กระทบทางสุขภาพ 2. 51-100 คุณภาพอากาศปานกลาง ผู้ที่มี โรคประจำ�ตัวทางปอดและหัวใจอาจจะมีอาการ ผิดปกติได้เล็กน้อย 3. 101-200 มีผลกระทบต่อสุขภาพ เริ่มเกิด การระคายเคืองตามเยื่อบุต่าง ๆ ผู้ป่วยที่มีโรค ประจำ�ตัวทางปอดและหัวใจควรหลีกเลี่ยงการ ทำ�กิจกรรมนอกอาคารนาน ๆ หรือการออกกำ�ลัง นอกอาคาร 4. 201-300 มีผลกระทบต่อสุขภาพมาก เป็ น ระดั บ ที่ ค นทุ ก คนได้ รั บ ผลกระทบชั ด เจน โดยบุ ค คลทั่ ว ไปควรหลี ก เลี่ ย งการออกกำ � ลั ง นอกอาคาร สำ�หรับผูม้ โี รคประจำ�ตัวหรือผูส้ งู อายุ ควรอยูใ่ นตัวอาคารและจำ�กัดการออกแรงออกกำ�ลัง 5. มากกว่ า 300 อั นตราย ทุ ก คนควร หลีกเลี่ยงการทำ�กิจกรรมนอกตัวอาคาร ผู้ป่วย และผูส้ งู อายุควรอยูใ่ นบ้านและจำ�กัดการออกแรง ออกกำ�ลัง ทั้งนี้ เราสามารถดูค่าดัชนีคุณภาพอากาศ ของประเทศไทยในพืน้ ทีต่ า่ ง ๆ ในแต่ละวันได้จาก เว็บไซต์ของกรมควบคุมมลพิษ
วิธีดูแลสุขภาพในช่วงที่มีหมอกควันไฟ
1. ใส่หน้ากากป้องกันฝุ่น : โดยหน้ากากที่ สามารถใช้ป้องกันหมอกควันได้ คือ หน้ากาก N 95 โดยเป็นหน้ากากที่มีเส้นใยที่มีลักษณะ เส้นใยละเอียด สามารถกรองฝุน่ อนุภาคทีม่ ขี นาด มากกว่า 0.3 ไมครอนได้มากกว่า 95% การใช้ หน้ากากนีจ้ ะช่วยลดปริมาณฝุน่ อนุภาคทีจ่ ะเข้าสู่
จะต้ อ งสวมใส่ ให้ ถู ก วิ ธีจึ ง จะสามารถป้ อ งกั น ฝุ่นได้ ข้อเสียของหน้ากากชนิดนี้คือ ต้องใช้แรง ในการหายใจมากกว่าการหายใจปกติ ทำ�ให้เมื่อ ใช้เป็นเวลานาน ๆ ก็จะเกิดความรู้สึกเหนื่อยได้ เกิดอาการปวดหัวเมื่อใช้เป็นเวลานาน ๆ รวมทั้ง ขนาดหน้ากากทีใ่ ช้ในปัจจุบนั เป็นแบบของผูใ้ หญ่ ไม่สามารถใช้ในเด็กได้ 2. ดื่มนํ้าบ่อย ๆ : เนื่องจากหมอกควันจะ ก่อการระคายเคืองตามช่องปากและลำ�คอได้ การ ดื่มนํ้าบ่อย ๆ จะช่วยชะฝุ่นและสารระคายเคืองที่ ติดอยู่ให้หลุดออกไป 3. ติ ดตามข้ อมูล ดั ช นี คุ ณภาพอากาศใน แต่ละวัน : ในช่วงทีม่ หี มอกควันติดต่อกันเป็นเวลา หลายวัน ควรติดตามข่าวสารหรือค่าดัชนีคณ ุ ภาพ อากาศ ในสถานีตรวจวัดในบริเวณที่เราอยู่อาศัย เพื่อที่จะได้วางแผนเตรียมตัวและอุปกรณ์รับมือ กับมลพิษนั้น 4. ปิ ด ประตู ห น้ า ต่ า งและใช้ เครื่ อ งปรั บ อากาศ : ในช่วงที่หมอกควันมาก ควรปิดประตู หน้าต่างเพื่อป้องกันฝุ่นควันที่จะเข้ามาในบ้าน ทั้งนี้ควรระมัดระวังการถ่ายเทอากาศที่ลดลง ให้ ใช้เครื่องปรับอากาศถ้าหากมี เพื่อลดอุณหภูมิที่ จะเพิ่มสูงขึ้นจากการปิดบ้าน 5. ใช้เครือ่ งกรองอากาศ : เครือ่ งกรองอากาศ หลายชนิดมีความสามารถในการกรองฝุ่นขนาด เล็กได้ ให้ใช้เครื่องกรองอากาศนี้ ร่วมกับการปิด ประตูหน้าต่าง และให้ท�ำ ความสะอาดตัวกรองให้ บ่อยกว่าช่วงเวลาปกติ 6. หลีกเลี่ยงการออกนอกบ้านหรือการทำ� กิจกรรมกลางแจ้ง : ทัง้ นีข้ นึ้ อยูก่ บั ค่าดัชนีคณ ุ ภาพ อากาศในแต่ ล ะวั น หรื อ ขึ้ นกั บ ความรู้ สึ ก ของ ตัวเราเองด้วย 7. ผู้ป่วย ผู้มีโรคประจำ�ตัว หญิงตั้งครรภ์ เด็ก และผู้สูงอายุ : ควรหลีกเลี่ยงการออกนอก ตัวอาคารในช่วงที่มีหมอกควันหรือใช้หน้ากาก ป้องกันในกรณีที่จำ�เป็น 8. ผูม้ โี รคประจำ�ตัวโดยเฉพาะทีเ่ กีย่ วกับปอด และหัวใจ : ควรรับประทานยาต่อเนือ่ งและพกยา ลดอาการกำ�เริบติดตัวเสมอ หมอกควั น เป็ น ปั ญ หาที่ มั ก จะเกิ ด ใน ประเทศไทยเป็นประจำ�ทุกปี ดังนั้นเราจึงควร เรียนรู้และพร้อมรับมือครับ
เรื่อง : นพ.ฉัตรชัย อิ่มอารมณ์ ภาพประกอบ : จัง เสนารักษ์ q&a
โรคพาร์กินสัน
Q A
โรคพาร์กินสันสามารถรักษาให้หายขาดได้ไหมคะ และถ้า ญาติผู้ใหญ่ป่วยเราควรดูแลอย่างไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ โรคพาร์กินสันเป็นโรคเรื้อรังครับ ดังนั้นคำ�ตอบสั้น ๆ คำ�ตอบแรกคือ เป็นโรคที่รักษาไม่หายขาด และโรคพาร์กินสันนี้ก็เป็นโรคที่ความสามารถ ในการควบคุมกล้ามเนื้อจะค่อย ๆ ถดถอยลงไปตามเวลา ยิ่งเวลาผ่านไป อาการจะยิ่งเป็นมากขึ้นครับ จากเว็บไซต์ของศูนย์รกั ษาโรคพาร์กนิ สันและกลุม่ โรคความเคลือ่ นไหว ผิดปกติ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กล่าวว่า “ความชุกของโรคพาร์กนิ สันใน ประเทศไทยยังไม่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม มีข้อมูล เบื้องต้นว่า มีประชากรทั่วโลกมากกว่า 4 ล้านคนเป็นโรคพาร์กินสัน” ซึ่ง ปัจจุบันทางศูนย์แห่งนี้ก็กำ�ลังพยายามรวบรวมข้อมูลเพื่อทำ�การศึกษา ผู้ป่วยโรคพาร์กินสันในประเทศไทยกันอยู่ด้วย สาเหตุของโรคพาร์กินสันนั้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่สิ่งที่พบใน สมองคือ มีความผิดปกติของสมองในส่วนทีเ่ รียกว่า เบซาล แกงเกลีย ทำ�ให้ สารสือ่ ประสาทชือ่ “โดปามีน” มีปริมาณลดลง และส่งผลต่อการเคลือ่ นไหว ทำ�ให้ผู้ป่วยมีอาการความผิดปกติทางการเคลื่อนไหว ที่สามารถแบ่งได้ 4 กลุ่มใหญ่ ๆ ดังต่อไปนี้ครับ • อาการสัน่ เป็นอาการเด่นทีพ่ บบ่อยสุด คือ มักจะเริม่ เห็นทีม่ อื โดยจะ
เป็นข้างใดข้างหนึง่ ก่อน และเกิดขณะทีอ่ ยูเ่ ฉย ๆ อาการสัน่ จะลดลงเมื่อใช้มือนั้นทำ�งาน • อาการแข็ ง เกร็ ง มั ก จะเกิ ด ที่ แขนหรื อ ขาข้ า ง เดียวกันกับทีม่ อี าการสัน่ ทำ�ให้เกิดความลำ�บากต่อผูป้ ว่ ย มากที่สุด ทำ�ให้เคลื่อนไหวได้ช้าลง นอกจากนี้ตัวหนังสือ ที่ผู้ป่วยเขียนจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง โดยตัวหนังสือจะ เล็กลงและชิดติดกัน • อาการเคลื่อนไหวช้าและเคลื่อนไหวน้อย ต้องใช้ ระยะเวลานานในการเริ่มเคลื่อนไหวร่างกาย • อาการทรงตัวไม่สมํ่าเสมอ การเดินของผู้ป่วยมัก จะเดินซอยเท้าถี่และเล็ก ในลักษณะโน้มตัวไปข้างหน้า และเดินไม่แกว่งแขน นอกจากอาการทางกล้ามเนื้อแล้ว ผู้ป่วยอาจจะยัง มีความผิดปกติของการสัมผัสทางกลิ่น มีภาวะซึมเศร้า หรือมีอาการผิดปกติในทางเดินอาหารด้วยเช่นกันครับ ซึ่งอาการต่าง ๆ เหล่านี้สามารถอธิบายได้ด้วยความ ผิดปกติในสมองดังที่กล่าวไว้ข้างต้นนั่นเอง ส่วนการดูแลผูป้ ว่ ยทีเ่ ป็นโรคพาร์กนิ สันนัน้ ก็ตอ้ งการ การดูแลทีใ่ กล้ชดิ พอสมควรครับ เนือ่ งจากอาการทีเ่ กิดขึน้ มักส่งผลต่อชีวติ ประจำ�วันของผูป้ ว่ ย ตัง้ แต่การพูด การเดิน การรั บ ประทานอาหาร ซึ่ ง ก็ แตกต่ า งไปในแต่ ล ะคน รวมถึงความรุนแรงของอาการเช่นกัน คำ�แนะนำ�สำ�หรับผู้ดูแลคงจะไม่พ้นเรื่องของการ เข้าใจตัวโรคและอาการของผู้ป่วย เพื่อวางแผนให้การ ดูแลที่บ้านทำ�ได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้การดูแลที่ สำ�คัญอีกอย่างก็คือ การพบแพทย์และรับประทานยา อย่างสมํ่าเสมอ และหากสงสัยว่าญาติผู้ใหญ่ในบ้าน ป่วยเป็นพาร์กินสันแล้ว ก็แนะนำ�ให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อ รับการวินิจฉัยและการรักษา เพื่อไม่ให้อาการรุนแรงไป กว่าเดิมครับ
นพ.ฉัตรชัย อิม่ อารมณ์ แ พ ท ย์ ป ร ะ จำ � ห น่ ว ย ตรวจสวัสดิการสุขภาพ โรงพยาบาลรามาธิบดี happy+ | 65
ยืดเส้น ยืดสาย เรื่อง : TepiN ภาพประกอบ : giftdoii
ยืดเส้นยืดสายลดอาการปวดเมื่อย
หนึง่ ในปัญหาสุขภาพของคนทำ�งานทีต่ อ้ งนัง่ ท่าเดิม ๆ ตลอดทัง้ วัน คือ อาการปวดเมือ่ ยตามตัว โดยเฉพาะอาการปวดหลัง มีคนไทยปวดหลัง จากการนั่งนาน ๆ เป็นจำ�นวนมาก เพราะบางครั้งเราต้องใช้เวลานั่งอยู่ที่โต๊ะคอมพิวเตอร์ หรือโต๊ะทำ�งานเป็นเวลานาน ๆ ทำ�ให้กล้ามเนื้อในบาง ตำ�แหน่งทำ�งานหนักมากเกินไป เกิดความล้าหรือเกิดอาการหดเกร็งเฉพาะที่ นอกจากนีย้ งั มีอาการปวดเมือ่ ยในบริเวณกล้ามเนือ้ ส่วนอืน่ ทัง้ เอวและสะโพกร่วมด้วย ซึง่ เป็นผลมาจากการอยูใ่ นท่าใดท่าหนึง่ ทีไ่ ม่เหมาะสม เป็นเวลานาน ๆ เช่น นัง่ ก้มหลังมากเกินไป อาจจะเพราะเป็นความเคยชิน หรือหลังโก่งจากกระดูกสันหลังทรุด กล้ามเนือ้ หลังบางส่วนมีการหดเกร็ง มากกว่าปกติ การยกของหนักโดยใช้ท่าที่ไม่ถูกต้อง ก็ท�ำ ให้เกิดการเจ็บปวดที่กล้ามเนื้อได้เช่นกัน ดังนั้น การผ่อนคลายกล้ามเนื้ออย่างถูกวิธี จะช่วยขจัดปัญหาทั้งหลายออกไปได้ค่ะ 66 | happy+
1. ยืดเอ็นร้อยหวาย
2. กดเข่าแนบลำ�ตัว
นอนราบกับพื้น ชันเข่าทั้งสองข้าง จากนั้น นอนราบลงกับพื้น ใช้มือสองข้างรั้งเหนือ ยกขาข้างขวาขึ้น แล้วเหยียดให้ตรงที่สุดเท่าที่ หัวเข่าข้างขวา และกดเข้าให้แนบกับลำ�ตัว ทำ�ค้างไว้ จะทำ�ได้ โดยใช้มือสองข้างรั้งใต้ข้อพับเพื่อดึงขา 20 วินาที แล้วสลับไปทำ�ข้างซ้าย เข้าหาตัว ดึงขาค้างไว้ 30 วินาที แล้วสลับไป ทำ�ข้างซ้าย
นอนราบลงกับพื้น วาดมือข้างขวาไปทาง ด้านข้างทำ�มุมฉากกับลำ�ตัว แล้วบิดลำ�ตัวไป ทางด้านซ้าย ทำ�ค้างไว้ 20 วินาที สลับไปทำ�อีก ข้าง ท่านี้จะรู้สึกได้ชัดเจนว่าผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หลังได้มาก
4. นอนไขว่ห้าง
5. ยืดกล้ามเนื้อหน้าขา
6. ยืดกล้ามเนื้อสะโพก
3. บิดตัวเป็นเกลียว
ท่านีท้ �ำ เหมือนนัง่ ไขว่หา้ ง แต่เป็นท่านอน ชันเข่า นอนตะแคงขวา ใช้แขนหนุนศีรษะ แล้วใช้ ท่านี้เริ่มต้นด้วยการคุกเข่า ก่อนจะตั้งเข่า ข้างซ้ายขึ้น แล้ววางขาข้างขวาบนหน้าขาข้าง มือซ้ายจับท่อนขาแล้วดึงรั้งไปด้านหลัง ทำ�ค้าง ข้างหนึง่ ขึน้ ใช้มอื ทัง้ สองข้างประสานทีห่ วั เข่าข้าง ซ้าย ใช้มือทั้งสองข้างดึงเข่าข้างซ้ายเข้าหาลำ�ตัว ไว้ 30 วินาที แล้วสลับข้าง ดังกล่าว โน้มตัวไปข้างหน้า ทำ�ค้างไว้ 30 วินาที ค้างไว้ 20 วินาที แล้วทำ�สลับข้าง แล้วสลับข้าง ทำ�อย่างนีท้ กุ วันไม่เกิน 3-7 วัน อาการปวดเมือ่ ยกล้ามเนือ้ จะดีขึน้ และถ้าทำ�ได้เป็นประจำ�ทุกวัน รวมทัง้ ขยับร่างกายบ่อย ๆ ในระหว่างทำ�งาน อาการ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อก็จะไม่กลับมารบกวนอีกอย่างแน่นอนค่ะ happy+ | 67
HAPPY HERB เรื่อง : ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร
สู้หนาว สู้วัย...ด้วยสมุนไพรบำ�รุงผิว อายุทเี่ พิม่ ขึน้ ส่งผลให้นาํ้ ทีห่ ล่อเลีย้ งตามชัน้ ผิวหนังเริม่ ลดลง ผิวหนังก็จะแห้งมากขึน้ ตรงกับทฤษฎีธาตุของการแพทย์แผนไทย ทีเ่ มือ่ เข้าสู่ ปัจฉิมวัยจะมีวาตะเป็นเจ้าเรือน ซึ่งมีความแห้งและเย็น จึงสะท้อนออกทางผิวหนัง นํ้าลาย นํ้าตา และนํ้าหล่อลื่นต่าง ๆ ความชุ่มชื่นน้อยลง หากไม่ดแู ลให้สมดุลก็จะก่อเกิดปัญหาความเสือ่ มของผิวพรรณ ทำ�ให้ดแู ก่กว่าวัย เกิดผืน่ แพ้งา่ ย เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ� และเป็นช่องทางทีท่ �ำ ให้ เชือ้ โรคเข้าสูร่ า่ งกายได้โดยง่าย เพราะในผิวทีแ่ ห้งนัน้ เชือ้ โรคจะเข้าสูช่ นั้ ในของผิวหนังได้งา่ ย เกิดการระคายเคือง เกิดการแพ้ได้งา่ ย อาการของ โรคผิวหนัง ภูมิแพ้ และโรคเรื้อนกวางกำ�เริบ เป็นต้น และนอกจากปัจจัยเรื่องของวัยตามที่กล่าวมาแล้วนั้น ปัจจัยภายนอกอย่าง “อากาศ” ก็มีผลเช่นกัน โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวนั้น ความชืน้ สัมพัทธ์ในอากาศจะตาํ่ ลง ทำ�ให้นาํ้ ระเหยจากผิว ทำ�ให้ผวิ แห้ง และอาจก่อให้เกิดโรคผิวหนังตามมา ดังนัน้ เพือ่ ป้องกันผิวในหน้าหนาว ทางโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จึงได้แนะนำ�สมุนไพรที่ช่วยในการดูแลและบำ�รุงผิวไว้ ดังนี้
68 | happy+
ผักเบี้ยใหญ่ เป็นสมุนไพรมีฤทธิ์เย็น ช่วย ลดการอักเสบ ช่วยบำ�รุงผิว ทำ�ให้ใบหน้าผุดผ่อง เต่งตึงเพิ่มความชุ่มชื่น ลดริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น โดยใช้กลไกเดียวกันกับการโบท็อกซ์ ช่วยรักษา โรคผิวหนัง ฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย มีคุณสมบัติใน การป้องกันแสง ป้องกันการทำ�ลายของรังสี UVB รวมทั้งช่วยแก้อาการแพ้ แตงกวา มีฤทธิ์เย็น อุดมไปด้วยสารสำ�คัญ หลายชนิดที่มีผลต่อการสร้างเสริมสุขภาพผิวที่ดี และเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์ที่ให้ความ ชุ่มชื่นตามธรรมชาติ และยังมีกรดอะมิโนซีสทีน และเมไธโอนีน ที่ช่วยทำ�ให้เกิดความยืดหยุ่น แก่ผวิ มีสารฟีนอลทีท่ �ำ หน้าทีต่ อ่ ต้านอนุมลู อิสระ นอกจากนี้ ยังช่วยคงความชุ่มชื่นให้แก่ผิวหนัง ลดการอักเสบ ลดการแพ้ ลดการเกิดฝ้า กระ จุดด่างดำ� ช่วยลดรอยเหี่ยวย่น ลดสิว ช่วยบำ�รุง ทำ�ให้ผิวหน้าอ่อนเยาว์ ไม่ทำ�ให้หน้ามัน และ ทำ�ให้ผิวขาวใส ว่านหางจระเข้ สมุนไพรช่วยรักษาสิว ยับยัง้ การติดเชื้อ ช่วยลดความมันบนใบหน้า เพราะใน ใบว่านหางจระเข้มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ ช่วยขจัด รอยแผลเป็น ทำ�ให้แผลเป็นจางลง ป้องกันการ เกิดรอยแผลเป็น วุ้นจากใบใช้ทาเพื่อปกป้องผิว จากแสงแดด และช่วยรักษาอาการผิวหนังไหม้ จากแสงแดด ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่น เพิ่มการสร้าง คอลลาเจน ลดการอักเสบ ลดฝ้า กระ และจุดด่างดำ� ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากอายุมาก หรือถูกแสงแดด หรือ เกิดจากความไวของผิวหนังแต่ละบุคคล ช่วย ทำ�ให้ผิวหนังมีนํ้ามีนวล
บัวบก สมุนไพรที่ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ ย้อนอายุและวัย ช่วยเยียวยาผิวและบาดแผล ลดการ อักเสบ ทำ�ให้แผลหายเร็วโดยพบว่าบัวบกมีฤทธิใ์ นการหลัง่ สารต้านการอักเสบจากเซลล์ภมู คิ มุ้ กัน และ สามารถยับยั้งการสลายคอลลาเจนของผิวหนัง ขณะเดียวกันก็สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ที่ชั้นใต้ผิวเพิ่มขึ้น ทำ�ให้ผิวหนังดูกระชับเต่งตึง และมีตาข่ายผิวที่แน่นและแข็งแรง นอกจากนี้ ยังมี สรรพคุณในการบำ�รุงผิว ลดริ้วรอย ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของหลอดเลือดส่วนปลาย และช่วยคลายเครียด ผักปลังแดง สมุนไพรฤทธิ์เย็น ลำ�ต้นอวบนํ้า มีแคลเซียมและธาตุเหล็กสูง และยังอุดมไปด้วย วิตามินเอ วิตามินบี และวิตามินซี มีสรรพคุณในการช่วยแก้ลมพิษ ผื่นคัน รักษาโรคผิวหนัง ลดการ อักเสบ และสามารถนำ�ใบมาขยี้กับนํ้า พอกหรือทาหน้าเพื่อช่วยป้องกันและรักษาสิวได้อีกด้วย มะเขือเทศ อุดมไปด้วยไลโคปีน ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง ที่จำ�เป็นในทุกช่วงอายุ และเนื่องจากในมะเขือเทศมีสารต้านอนุมลู อิสระสูง จึงช่วยชะลอความแก่ ลดริ้วรอยแห่งวัย และช่วย บำ�รุงผิวพรรณให้สดใส ชุม่ ชืน่ มีวติ ามิน เกลือแร่ ช่วยให้ผวิ แข็งแรงและทนต่อแสงแดด ป้องกันผิวไหม้แดด ลดการสร้างเม็ดสีผิว โดยสามารถใช้ได้ทั้งการรับประทานและการพอกผิวภายนอก รางจืด สมุนไพรฤทธิ์เย็น ต้านการอักเสบ ช่วยบรรเทาอาการแพ้ ผื่นคัน ลดการเกิดโรคผิวหนัง สารสกัดนํ้าจากใบรางจืดมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระสูงมาก ซึ่งช่วยในการชะลอการเสื่อมของเซลล์ ช่วยป้องกันเซลล์จากสารพิษ ทำ�ให้ผิวพรรณสดใส เต่งตึง และช่วยต้านความแก่ นอกจากนี้ การดูแลผิวไม่ให้แก่ก่อนวัย สามารถทำ�ได้ด้วยวิธีง่าย ๆ คือ 1. การดื่มนํ้าเปล่าให้เพียงพอ ไม่ให้ขาดนํ้า ป้องกันผิวแห้ง 2. ใช้สบู่ที่มีสารบำ�รุงผิว สูตรที่เพิ่มมอยส์เจอไรเซอร์ กลีเซอรีน วิตามิน ช่วยให้ผิวไม่แห้งตึง หลังอาบนํ้า เช่น สบู่อะโรม่าหญ้ารีแพร์ สบู่นมนํ้าผึ้ง สบู่แตงกวา 3. ทาโลชั่นหลังอาบนํ้าเป็นประจำ� เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวแห้ง และกักเก็บเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิว เช่น บอดีโ้ ลชัน่ หญ้ารีแพร์ หรือผูท้ ผี่ วิ แห้งมาก ๆ ผิวลอก มีปญ ั หาผิวหนังผืน่ คัน ผิวหนังอักเสบร่วมด้วย ควรใช้โลชั่นสูตรพิเศษ เช่น เซนซิทีฟบอดี้โลชั่นผักเบี้ยใหญ่ หรืออาจใช้นํ้ามัน เช่น นํ้ามันมะพร้าว ทา บำ�รุงผิวป้องกันการสูญเสียนํ้าทำ�ให้ผิวไม่แห้งคัน 4. ทาครีมที่มีความเข้มข้นสูง กรณีที่ผิวแห้ง หยาบกร้านมาก ๆ อาจเลือกทาเฉพาะจุด หรือ ผู้ที่ผิวแห้งมาก ลอก เช่น การใช้ครีมนํ้ามันรำ�ข้าวเข้มข้น ทาข้อศอก ส้นเท้า ป้องกันไม่ให้เป็นช่องทาง ที่เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย 5. พอกหน้าด้วยสมุนไพรฤทธิ์เย็น เพิ่มความชุ่มชื้น เช่น แตงกวา แตงโม ว่านหางจระเข้ ผักเบี้ยใหญ่ สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง happy+ | 69
well being เรื่อง : ญาดารัตน์
ย้อนกลับไปเมื่อครั้นวัยเยาว์ เดือนมกราคม เป็นเดือนที่เด็ก ๆ ส่วนใหญ่จะมีความสุข เพราะ หลังเทศกาลปีใหม่ทเี่ ราได้เฉลิมฉลองไปไม่นานนัก ผ่านมาแค่เพียง 2 สัปดาห์ เราก็ได้มาสนุกอีกครั้ง กับเทศกาลงานวันเด็ก เป็นการไปร่วมกิจกรรมใน วันหยุดที่แทบจะไม่มีเด็กคนไหนอิดออดเลย เมือ่ เราเป็นผูใ้ หญ่ เรามักตัง้ คำ�ถามว่า...หากรู้ ว่าเมือ่ โตขึน้ แล้วต้องเหนือ่ ยยากขนาดนี้ อยากจะ ขอกลับไปเป็นเด็กที่ไม่ต้องโต แต่ในชีวิตจริงสิ่งที่ คิดดังกล่าว เป็นได้เพียงความฝัน และหากเราได้ ทราบข้อมูลว่า ความสำ�เร็จและความล้มเหลวของ บุคคลนั้น มักมีส่วนสัมพันธ์และเกี่ยวข้องกับช่วง ชีวติ วัยเด็กและสายสัมพันธ์ในครอบครัว หลายคน ก็คงนึกอยากกลับไปแก้ไข แต่ในภาพของความ จริ ง ที่ เ ราต้ อ งยอมรั บ ความสุ ข ที่ จ ะเกิ ด ขึ้ น กับเด็ก ๆ ต้องมีผู้ใหญ่เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังและ 70 | happy+
งานวันเด็ก
ให้การสนับสนุนอยู่เสมอ หาก “เด็กในวันนี้ คือ ผูใ้ หญ่ในวันหน้า และ คือ อนาคตของประเทศ” คนทีต่ อ้ งขับเคลือ่ นและ ผลักดัน ก็คือ “ผู้ใหญ่ในวันนี้” นั่นเอง สำ�หรับฉันแล้ว งานวันเด็กที่ประทับใจที่สุด คือช่วงที่เรียนอยู่ชั้นประถม เพราะบางปีทาง โรงเรียนจัดให้ไปทัศนศึกษา พวกเราเด็ก ๆ ก็ ตื่นเต้นดีใจกันยกใหญ่ ไปออดอ้อนขออนุญาต ผู้ปกครอง เพราะนี่คือการไปผจญภัยต่างถิ่นกับ ก๊วนเพือ่ น ๆ ในชัน้ เรียนครัง้ แรกในชีวติ ของพวกเรา และในบางปีจะมีการจัดกิจกรรมวันเด็กทีโ่ รงเรียน มี ก ารแข่ ง ขั นตอบปั ญ หา วาดภาพระบายสี ประกวดร้องเพลง คัดลายมือ และมีเกมต่าง ๆ ให้เล่น โดยมีของรางวัลมากมายมาล่อตาล่อใจ เชิญชวนให้เข้าร่วมกิจกรรม ฉันมักเข้าร่วมเกือบ ทุกรายการ ยกเว้นอย่างเดียวที่ไม่เคยไปเข้าร่วม
คือ การคัดลายมือ เพราะคิดว่าตนเองคงไม่ผ่าน รอบคัดเลือกอย่างแน่นอน วิชาภาษาไทยกับฉัน ช่างเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด ทั้ง ๆ ที่ ภาษา ไทยเป็นสิ่งสำ�คัญที่เด็กไทยทุกคนควรได้รับการ ปลูกฝัง ดังพระราชดำ�รัสของพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ว่า... “ภาษาเป็นวัฒนธรรมอันสำ�คัญยิง่ ของชาติไทย เป็นเครื่องแสดงความเป็นชาติมั่นคงและสำ�คัญ ยิ่ง ภาษาเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งของชาติ ภาษา ทั้ ง หลายเป็ น เครื่ อ งมื อ ชนิ ด หนึ่ ง ของมนุ ษ ย์ คือ เป็นทางสำ�หรับแสดงความคิดเห็นอย่างหนึ่ง เป็นสิ่งที่สวยงามอย่างหนึ่ง เช่น ในทางวรรณคดี เป็ นต้ น ฉะนั้ นจึ ง จำ � เป็ นต้ อ งรั ก ษาเอาไว้ ให้ ดี ประเทศไทยมีภาษาของเราเอง ซึ่งต้องหวงแหน เราโชคดีที่มีภาษาของเราแต่โบราณ จึงสมควร อย่างยิ่งจะรักษาไว้”
เกร็ดความรู้
แต่ในยุคสมัยปัจจุบันนี้ ภาษาไทยที่ถูกต้อง และสวยงาม ได้ อ อกห่ า งการนำ � มาใช้ ในชี วิ ต ประจำ�วันมากขึ้นทุกที เรามีภาษาพูด ภาษา เขียน ที่คิดกันขึ้นมาใหม่ เผยแพร่และใช้กันอย่าง แพร่หลาย ตามกระแสยุคทองของเทคโนโลยี การสื่อสาร และฉันก็เป็นหนึ่งในคนยุคดังกล่าว... เมื่อได้ฟังกระแสพระราชดำ�รัส จึงได้ตระหนักกับ ตนเองอย่างชัดเจนว่า เราเป็นคนทีใ่ ห้ความสำ�คัญ กับภาษาไทยน้อยลงไปเรื่อย ๆ ตอนเด็ก ๆ ฉันเคยถามแม่วา่ ในเมือ่ เรามีวนั เด็ก แล้ววันทารก วันผู้ใหญ่ วันผู้เฒ่า คือวันไหนบ้าง แม่ บ อกฉั น ว่ า วั น ผู้ เฒ่ า คื อ วั น สงกรานต์ ที่ เรา ไปรดนํ้าขอพรผู้สูงอายุ วันทารกคือวันที่เราเกิด ส่วนวันผู้ใหญ่แม่บอกว่าระบุได้ยาก เพราะความ เป็นผู้ใหญ่ของคนเอาอายุมาเทียบไม่ได้...ตอนที่ แม่อธิบายให้ฟังตอนนั้น ฉันก็งง ๆ แต่เมื่อโตขึ้นก็ เริ่มเห็นด้วยกับแม่ เพราะหากคำ�ว่า “ผู้ใหญ่” ใน ทีน่ หี้ มายถึง การรูค้ วาม แต่ละบุคคลล้วนใช้ระยะ
เวลาในการ “รู้ความ” แตกต่างกัน ทุกวันนี้เด็ก ๆ ต้องแบกภาระอันหนักอึ้ง ทั้ง ความกดดัน ความคาดหวังของพ่อ แม่ ครูอาจารย์ มีการเรียนการสอนที่หนัก แต่ผลลัพธ์ที่ออกมา กลั บ ผกผั น มี ง านวิ จั ย มากมายที่ ไ ด้ ก ล่ า วว่ า ช่วงชีวิตวัยเด็กสิ่งที่สำ�คัญที่สุดคือ การเล่นและ จินตนาการ ทั้งนี้เพราะการเล่นเป็นส่วนสำ�คัญ การเรียนรู้และพัฒนาการทั้งหลายเริ่มจากการ ได้เล่น ส่งผลให้เด็กเติบโตมาอย่างมีวุฒิภาวะ สมบูรณ์ เกิดการสร้างสรรค์จินตนาการและสาน ต่อแรงบันดาลใจเมื่อเขาโตขึ้น และผู้ที่จะเป็นก ระบอกเสียงให้กับเด็ก ๆ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่คือ พวกเราผู้ใหญ่ทุกคนในสังคม มาช่วยกันเสริม ภูมิต้านทานในชีวิตให้แก่หัวใจดวงน้อย ๆ ซึ่ง เป็นอนาคตของชาติ อย่าปล่อยให้พวกเขาหมด ความสุขในวัยทีย่ งั ไม่สมควรเลย ร่วมด้วยช่วยกัน สานฝันให้เด็กไทย สานใจให้สังคม...
วันเด็กแห่งชาติ (ประเทศไทย) ตรงกับวัน เสาร์ที่ 2 เดือนมกราคมของทุกปี วั น สิ ท ธิ เ ด็ ก ส า ก ล ต ร ง กั บ วั น ที่ 20 พฤศจิ ก ายนของทุ ก ปี โดยองค์ ก าร สหประชาชาติ (UN) ได้กำ�หนดให้ประเทศ สมาชิกได้จัดกิจกรรม และรณรงค์ในเรื่องการ ปกป้อง คุม้ ครองสิทธิเด็กอย่างกว้างขวางและ ต่อเนือ่ ง อนุสญ ั ญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ทีก่ �ำ หนดไว้ มี 4 ข้อเป็นอย่างน้อยที่ประเทศทั่วโลกควรนำ� ไปดำ�เนินการให้เป็นรูปธรรม คือ (1) สิทธิทเี่ ด็กทุกคนเกิดมาต้องมีชวี ติ รอด คือ ต้องทำ�ทุกวิถีทางให้เด็กทุกคนที่คลอด ออกมาไม่ตายลงอย่างง่ายดาย ด้วยโรคภัย ไข้เจ็บต่าง ๆ (2) สิ ท ธิ ที่ เ ด็ ก จะได้ รั บ การปกป้ อ ง คุ้ ม ครองไม่ ให้ ถู ก ทารุ ณกรรมหรื อ ถู ก นำ � ไป แสวงหาประโยชน์ โดยมิ ช อบ เช่ น ถู ก ใช้ แรงงาน ไม่ถูกนำ �ไปค้าประเวณี ไม่ถูกนำ � ไปเป็ นทหารเพื่ อ สู้ ร บ หรื อ ถู ก นำ � ไปค้ า ยา เสพติด เป็นต้น (3) สิ ท ธิ ที่ เด็ ก จะได้ รั บ การพั ฒ นาโดย รอบด้ า น ทั้ ง ร่ า งกาย อารมณ์ สั ง คม สติปญ ั ญา แม้กระทัง่ สิทธิทจี่ ะได้เรียนหนังสือ ได้ รั บ การฝึ ก ฝนวิ ช าชี พ แรงงานตามความ เหมาะสม โดยเฉพาะกลุ่ ม เป้ า หมายเด็ ก ที่ด้อยโอกาสและพิการ จะถูกกำ�หนดไว้เป็น กลุ่มสำ�คัญที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ (4) สิทธิที่เด็กจะได้รับการช่วยเหลือเมื่อ ประสบภัยอันตราย หรือเมื่อรู้ว่าเด็กคนไหน ต้องตกอยู่ในสภาวะเหล่านี้ ภาระสำ�คัญก็คือ ต้องเร่งรีบในการช่วยเหลือให้เด็กพ้นออกมา จากสถานการณ์นั้นโดยเร็วที่สุด ในระยะหลังมีประเด็นหนึ่งที่ถกอภิปราย ให้ใส่ใจในการดำ�เนินงานมากขึ้น คือ (5) สิทธิทเี่ ด็กจะมีสว่ นร่วมในการกำ�หนด ชะตาชีวิตของตนเอง และเด็กต้องมีส่วนร่วม ในสังคม ซึง่ เป็นประเด็นทีส่ �ำ คัญมาก และเป็น มิตใิ หม่ของโลกทีแ่ สดงให้เห็นถึงความรู้ ความ สามารถและความต้องการของเด็ก ทีม่ า : www.wikipedia.org
happy+ | 71
beauty by nature เรื่อง : ศศินี ปัญญารัตน์ ภาพประกอบ : boysandgirls www.facebook.com/boysandgirls.art
สวย เริด เชิด หยิ่ง ด้วยธรรมชาติ
ตอน สุดยอดสูตรความงามง่าย ๆ ต้อนรับปีใหม่
สวัสดีปใี หม่คะ่ สาวงามทุกท่าน ขอต้อนรับเข้าสูป่ ี 2560 ดิฉนั ยังคงเรียนโยคะอยูท่ อี่ นิ เดีย ไม่ได้กลับไปฉลองปีใหม่ทเี่ มืองไทย เพราะทีค่ อลเลจไม่ได้หยุด ยังมีคลาสเรียนเหมือนเดิม 6 วันต่อสัปดาห์ ตั้งแต่ 6 โมงเช้าจนถึงสองทุ่มครึ่ง แต่ปีใหม่ทั้งที ดิฉันเลยฉลองให้ตัวเองด้วยการเข้าสปาแบบสาวภารตะ ทีเ่ ขาดูแลตัวเองก่อนวันแต่งงานยังไงยังงัน้ เลยค่ะ แต่ไม่มใี ครแนะนำ� เพราะเพือ่ นอินเดียมาจากต่างเมืองซะเป็นส่วนใหญ่ แถมนาง ๆ ทัง้ หลายก็ยงั เด็กเล็กนัก ดิฉันเลยจัดการเสิร์ชหาข้อมูลจากอากู๋ง่ายสุด เลือกแล้วเลือกอีก เอาแบบมีหลาย ๆ สาขา หน้าตารูปภาพดูดีมีชาติตระกูล ราคาค่อนข้างสูงหน่อย เพื่อความชัวร์เรื่องความสะอาด ตอนแรกก็ว่าจะเข้าสปาไทยค่ะ แต่ไม่ค่อยแน่ใจว่าที่อินเดียเขาฮิตกันหรือเปล่า เลยขอลองแบบสปาเจ้าสาวที่นี่ดู เพราะ ถ้าคุณ ๆ ทั้งหลายเห็นงานแต่งงานแบบอลังการงานสร้างของบ่าวสาวที่นี่แล้ว จะตะลึงหูดับกันไปเลยค่ะ เพราะนอกจากเครื่องประดับทองหยองจะอร่าม แพรวพราวแบบจัดเต็มแล้ว เครื่องเสียงนี่ดังระดับทั้งตำ�บลได้ยินกันหมดทุกบ้าน แถมจัดกันที 5 วัน วันไหนงานแต่งซ้อนกันหลาย ๆ ที่ หูดับกันไปเลยค่ะ ประสบการณ์สปาทีน่ ที่ �ำ เอาดิฉนั ฮาจนนํา้ ตาเล็ดนํา้ ตาไหล เลยเอามาแชร์ตอ้ นรับปีใหม่ หลังจากคัดสรรเว็บไซต์ทสี่ นใจเป็นอย่างดีแล้ว ดิฉนั ก็ด�ำ เนินการ โทรไปยังสปา เพื่อนัดวันเวลาล่วงหน้า สถานที่ของสปาเป็นทำ�เลดีมากสุด ๆ เพราะอยู่ในตึก Convention Hall ที่เขาจัดงานแต่งงานและงานเลี้ยง สังสรรค์กัน ดูดีทีเดียวเลยค่ะ พอไปถึงสปาซึ่งอยู่ชั้น 2 แม้จะพบกันครั้งแรก พนักงานต้อนรับสามารถทราบได้ทันทีว่าเป็นดิฉัน เพราะคงมีแค่ดิฉันซึ่งเป็น ลูกค้าคนเดียวที่เป็นชาวต่างชาติในวันนั้น หรือที่ผ่านมาไม่เคยมีลูกค้าต่างชาติเลยก็เป็นได้ ฮาค่ะ พนักงานต้อนรับไม่แจ้งอะไรให้ดิฉันทราบเลย นอกจาก มีพนักงานมาเรียกไปที่ห้องสปา พูดภาษาอังกฤษปนฮินดีตลอดเวลา แล้วเอากระโปรงแบบใส่แล้วทิ้งมาให้เปลี่ยน ห้องสปาไม่มีห้องนํ้า ดิฉันเลยต้อง เข้าห้องนํ้าพนักงาน ซึ่งมีกลุ่มพนักงานทำ�ความสะอาดนั่งรับประทานอาหารอยู่กับพื้นหน้าห้องนํ้า ทำ�เอาดิฉันแทบจะปัสสาวะไม่ออกเลยทีเดียว ฮาค่ะ แต่ความสะอาดทีน่ โี่ อเคเลยนะคะ จากนัน้ กลับมาห้องสปา มีพนักงานมาดูแล 2 คน แต่หอ้ งสปาทีน่ เี่ ขาไม่มลี อ็ กกันค่ะ ใครจะเปิดเข้าเปิดออกก็ได้ ดิฉนั ไม่ทนั ระวังในตอนแรกตกใจเหมือนกัน ตอนหลังฮามาก ดีว่ามีแค่ผู้หญิง ขอบอกว่าพนักงานที่นี่นวดดีมากมว้ากค่ะ ขนาดดิฉันชอบนวดไทยแผนโบราณแบบ บ้านเรา ยังต้องยกนิ้วให้นาง เสียแต่ว่านางพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ สื่อสารกันด้วยภาษาฮินดีปนท่าทางแบบอินเดีย ยักคิ้วบ้าง คลอนหัวไปมาบ้าง เวลา นางมั่นใจว่าวิธีการนวดของนางเริดมากไม่มีใครทำ�ได้ นางจะทำ�หน้าตาท่าทางภูมิใจแบบอินเดีย ดิฉันก็อธิบายไม่ถูก แต่ทำ�เอาดิฉันขำ�ซะจนท้องแข็งเลย ละค่ะ ได้รับการดูแลที่เรียกได้ว่าโปรเฟสชั่นแนลสำ�หรับสาวแดนภารตะ แต่ถ้าเทียบกับบ้านเราคงเทียบกันยาก เพราะบ้านเราแข่งขันกันสูงมากในธุรกิจ ความสวยความงาม ของเราเลยมีมาตรฐานสูงกว่าเป็นธรรมดา แต่ถือว่าที่นี่ก็ใช้ได้นะคะ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เขาใช้ในสปาสกัดจากผักผลไม้และเป็น ธรรมชาติจริง ๆ ไม่ใช้สารเคมีค่ะ เสริมความงามให้ตัวเองฉลองปีใหม่ไปแล้ว ทีนดี้ ฉิ นั ขอฉลองปีใหม่กบั สาวงามทุกท่านด้วยการมอบของขวัญจากธรรมชาติ เป็นสุดยอดสูตรความงาม ที่รวบรวมมาจากกูรูความงามทั่วโลกทั้งหลายแนะนำ�ให้ลองปฏิบัติตามกันดู มีสูตรอะไรกันบ้างมาติดตามกันค่ะ 72 | happy+
4. แชมพูทำ�ให้ผมสะอาด
สำ�หรับผูท้ กี่ �ำ ลังใช้แชมพูแบบมีสว่ นผสมสาร เคมี ให้นำ� Organic Apple Cider Vinegar 1/4 ถ้วย ผสมกับนํา้ สะอาด 1 ถ้วย นำ�มาสระผมให้ทวั่ แล้ว ตามด้วยครีมนวดผมที่ใช้เป็นประจำ� ช่วยให้ผม ของคุณสะอาดและเส้นผมแข็งแรงมากยิ่งขึ้นค่ะ
5. รักษาข้อศอกและหัวเข่าด้าน
ตัดส้มออกเป็น 2 ส่วน จากนั้นนำ�มาถูที่ ข้อศอกและหัวเข่า จนกระทั่งผิวบริเวณนั้นนุ่ม ชุ่มชื้น แล้วล้างออกด้วยนํ้าสะอาด นอกจากผิว หายด้านแล้วยังมีกลิ่นหอมอีกด้วยนะคะ
6. สครับผิวให้เนียนนุ่ม
นำ�นํ้ามันมะกอก 2 ส่วน มาผสมกับเกลือ ทะเล 1 ส่วน นำ�มาสครับให้ทวั่ ผิวกาย แล้วล้างออก ด้วยนํา้ อุน่ ผิวของคุณจะนุม่ เนียน กระจ่างใสค่ะ
1. กล้วยกับไข่ทำ�ให้ผมเงางาม
เพียงนำ�ไข่ไก่ 1 ฟอง และกล้วยหอมบด ละเอียด 1 ใบ มาผสมให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเนียน เหนียวนุ่ม นำ�มาทาให้ทั่วเส้นผมและหนังศีรษะ ทิ้งไว้ประมาณ 10-30 นาที หลังจากนั้นสระผม แบบทีส่ ระเป็นประจำ� ตามด้วยครีมนวดผมทีเ่ คยใช้ แค่นี้ผมของคุณก็ดูเงางามสุขภาพดีแล้วค่ะ
2. ดูแลเล็บของคุณให้ชุ่มชื้น
ง่ายแสนง่ายค่ะ สาว ๆ ทั้งหลาย นำ�เล็บมือ อันบอบบางแช่ลงในนํ้ามันมะกอก เพียง 5 นาที เท่านั้น คุณก็จะได้ชื่นชมเล็บที่แข็งแรงและชุ่มชื้น
3. มาส์กหน้าด้วยนํ้าผึ้ง
นํา้ ผึง้ บริสทุ ธิจ์ ากธรรมชาติแท้ ๆ มีคณ ุ สมบัติ ในการต้านแบคทีเรีย และเป็นวิธีที่เร็วมาก ๆ ใน การทำ�ให้ผวิ ของคุณนุม่ นวลงดงาม เพียง 1 ช้อนโต๊ะ 1 ครั้งต่อสัปดาห์ เริ่มจากทำ�ให้นํ้าผึ้งอุ่นก่อนด้วย การใช้ปลายนิว้ จุม่ นํา้ ผึง้ แล้วถูปลายนิว้ ทัง้ สองข้าง ด้วยกันเบา ๆ จากนั้นนำ�มาทาทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ ประมาณ 5-10 นาที แล้วล้างออกด้วยนํ้าอุ่น เช็ดหน้าเบา ๆ ให้แห้งด้วย สำ�ลีแบบแผ่น ใบหน้า ที่งดงามของคุณจะยิ่งสว่างกระจ่างใสค่ะ
7. สุดยอดครีมนวดผม
นำ�นํ้ามันมะพร้าวมาอุ่นให้เหลว จากนั้นนำ� มานวดให้ทั่วศีรษะและเส้นผม ประมาณ 5-10 นาที แล้ ว สระผมตามปกติ ผมของคุ ณจะยิ่ ง นุ่มสลวยเงางามมีนํ้าหนัก
8. ครีมโกนขนแบบง่าย ๆ
ทานํ้ า มั น มะพร้ า วบริ เ วณที่ คุ ณ ต้ อ งการ จะโกนขน แทนที่ จ ะใช้ ค รี ม โกนขนที่ ข ายตาม ท้องตลาด ง่าย ๆ แล้วยังสวยงามอีกด้วยค่ะ
9. ขจัดจุดด่างดำ�บนใบหน้า
นำ�มะนาว 1 ผลมาหัน่ ครึง่ จากนัน้ หยดนํา้ ผึง้ ลงบนผิวที่หั่น 4-5 หยด แล้วนำ�มาทาถู ๆ ให้ทั่ว ใบหน้า ประมาณ 1 นาที เน้นบริเวณทีม่ จี ดุ ด่างดำ� จากนั้นทิ้งไว้ 5 นาที แล้วล้างออกด้วยนํ้าเย็น ให้ ทำ�ก่อนนอนเท่านั้นนะคะ
10. แปรงผิวแบบแห้ง (Dry Brushing)
ดียังไง สูตรนี้ง่ายแต่ให้ผลดีเลยค่ะ เพียงนำ� แปรงขนนุ่ม มาแปรงผิวให้ทั่วร่างกาย เป็นการ ดีทอ็ กซ์ผวิ แบบง่าย ๆ ช่วยนวดผิวให้การไหลเวียน ของเลือดและภูมิต้านทานดีขึ้นค่ะ
ถูกใจไหมคะ 10 สุดยอดสูตรความงามแบบธรรมชาติง่าย ๆ แม้ไม่รวดเร็วทันใจเหมือนผลิตภัณฑ์ความงามทั้งหลายที่สกัดจากสารเคมี แต่ให้ผลแบบ ยั่งยืนยาวนาน ยิ่งเราดูแลตัวเองด้วยธรรมชาติ ธรรมชาติก็จะดูแลรักษาเราเช่นกันค่ะ ฉบับหน้า สำ�หรับเทศกาลแห่งความรักกับสาวงามทัง้ หลายทีม่ ใี จรักธรรมชาติ ดิฉนั เตรียมเคล็ดลับความงามจากผลไม้ทชี่ ว่ ยให้หวั ใจเป็นสีชมพู ฉบับนี้ ลาไปก่อนนะคะ สวัสดีปีใหม่เทอญ happy+ | 73
สิ่งนี้ที่เรารัก เรื่อง : Patty Pom ภาพ : TepiN
หฤดี วรพงศ์พิสุทธิ์ ของสะสมด้วยใจรัก
เริม่ ต้นมาจากสิง่ ใกล้ตวั เริม่ ต้นมาจากความ ชอบ จนกลายมาเป็นของสะสมที่รักและผูกพัน และใน happy+ ฉบับนี้ คุณจี๋-หฤดี วรพงศ์พิสุทธิ์ Brand General Manager บริษัท อมอร์แปซิฟิค (ไทยแลนด์) จำ�กัด ผู้ดูแลผลิตภัณฑ์ความงาม นำ�เข้าจากเกาหลี Sulwhasoo ได้น�ำ ของสะสมทีร่ กั มา ให้เราได้ชื่นชม และฟังเรื่องราวน่ารัก ๆ เกี่ยวกับ ที่มาและความผูกพันกับของรักของคุณจี๋ “เริ่มต้นจากจี๋เป็นคนชอบเครื่องครัว เพราะ คุ ณ แม่ ทำ � กั บ ข้ า ว ทำ � ขนมเค้ ก ทำ � ขนมไหว้ พระจันทร์เป็นประจำ� คุณแม่ทำ�ได้ทุกอย่าง ที่ บ้านก็จะมีเครื่องครัวและอุปกรณ์ครัวเยอะมาก 74 | happy+
พอแต่งงานสามีก็นำ�เข้าพวกของใช้ในบ้าน เลย รูส้ กึ ว่าชีวติ เรานัน้ ขลุกอยูก่ บั สิง่ ของเหล่านี้ ทัง้ สามี และคุณแม่กส็ นใจของแบบนีด้ ว้ ย และเวลาทีส่ ามี ไปเดินห้างเขาก็จะชอบเข้าไปหยิบจับเครื่องครัว มาดู และที่บ้านจี๋เพื่อน ๆ ก็ชอบมานั่งทานข้าว มาปาร์ตี้กัน จี๋เลยรู้สึกว่าจานชามที่เราใช้ในชีวิต ประจำ�วันไม่สวยพอที่จะเลี้ยงแขก เลยเริ่มซื้อชุด จานชามที่ดูดีมากขึ้น หลังจากนั้นเวลาที่ไปเดิน ที่ไหนไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทศ พอเจอ พวกจานชาม ชุดนํา้ ชากาแฟเล็ก ๆ จีก๋ จ็ ะซือ้ เก็บไว้ ตอนแรกก็ไม่ตั้งใจว่าจะเป็นของสะสม แต่ซื้อ ด้วยความชอบ เห็นว่าน่ารัก แปลกดี พอซือ้ เยอะ ๆ
ก็ เ ลยกลายเป็ น ของสะสมไป มี ตั้ ง แต่ ข อง แฮนด์เมดข้างทาง ไปจนถึงของแบรนด์เนมก็มบี า้ ง เวลาทำ�งานจี๋มักจะต้องเดินทางหรือไปประชุมที่ ต่างประเทศบ่อย เวลาเจออะไรที่ดูกุ๊กกิ๊กก็จะซื้อ กลับมาเป็นของที่ระลึกด้วย “สไตล์ทจ่ี ช๋ี อบเป็นพิเศษจะเป็นแบบแฮนด์เมด ส่วนมากจะเป็นของญี่ปุ่น สมมุติว่าเป็นชุดของ หวานที่มี 5 ชิ้น แม้ว่าจะลายเดียวกัน แต่ถ้า มาดูกันจริง ๆ แล้ว แต่ละใบเนื้องานจะไม่เหมือน กันเป๊ะ หรือสีอาจจะต่างกันนิดหน่อย เลยชอบ ตรงที่ว่ามันเป็นงานแฮนด์เมดนะ จะดูไม่สมบูรณ์ แบบนิดหน่อย แต่ก็จะสวยของเขาไปอีกแบบ
เป็นความบกพร่องที่สวย แต่ถ้าเป็นของแบรนด์ ก็จะเป็นของฝรั่งเศส Givenchy Ungaro งานของ ทางยุโรปก็จะเนี้ยบ ถ้าเป็นขอบทองขอบก็จะ เรียบเท่ากัน พอควํ่าจานลงก็จะเสมอกัน งาน จะเป๊ะกว่า” เนื่องจากของรักของคุณจี๋เป็นของที่ต้องการ การดูแลและเคลื่อนย้ายด้วยความระมัดระวัง คุณจี๋จึงมีวิธีในการดูแลรักษาเป็นพิเศษ แต่สิ่ง ที่ทำ�นั้นทำ�ด้วยใจ ทำ�ด้วยความรัก และความ ใส่ใจเป็นพิเศษ “เวลาที่ซื้อของกลับมาจากต่างประเทศก็จะ เอาเสือ้ ผ้าของเรานีแ่ หละค่ะห่อมา แล้วในกระเป๋า ก็จะมี Bubble อยู่ด้วย บางทีก็ห่อของพวกนี้ หรือ บางทีไปประชุมแล้วต้องนำ�สินค้าตัวอย่างจาก ต่างประเทศกลับมา เพราะเราทำ�งานเกี่ยวกับ เครื่องสำ�อางมาตลอด จะเป็นสินค้าแบบกระปุก ขวดแก้ว เป็นนํา้ แล้วก็ตอ้ งมีถงุ ซิปล็อกใบใหญ่ ๆ ด้วย แล้วก็ห่อด้วย Bubble แล้วก็เสื้อผ้าห่ออีกที “สำ�หรั บ การดู แ ลทำ�ความสะอาดก็ มี ก าร ดูแลเป็นพิเศษนิดหน่อย ก็พยายามไม่ให้เป็น รอย ถ้าเป็นชุดที่เราเอาออกมาใช้ก็จะใช้ฟองนํ้า แบบที่ไม่เป็นรอย แล้วก็จะมีนํ้ายาที่เป็นนํ้ายา ของเนเธอร์แลนด์ เป็นนํ้ายาที่ดีมาก ไม่ว่าจะเป็น คราบอะไรก็สามารถใช้ได้ สำ�หรับใช้ทำ�ความ สะอาดของพวกนี้ ถ้าวันว่าง ๆ จะรือ้ ตูอ้ อกมา บาง ชิน้ ก็ซอื้ มานานจนลืมไปว่า เราเคยซือ้ เอาไว้ ก็เอา ออกมาระลึก มาเช็ดฝุน่ บ้าง บางกล่องเก็บไว้นาน กระดาษที่รองไว้อาจจะบางเราก็จะเปลี่ยน ที่ บ้ า นก็ จ ะมี พ วกกระดาษที่ เ อาไว้ ห่ อ ของพวกนี้
โดยเฉพาะ แล้วก็หอ่ กระดาษ ห่อพลาสติกกลับไป เก็บไว้เหมือนเดิม บางชุดก็ไม่ได้ตั้งโชว์ คิดว่าจะ เก็บไว้ให้เป็นมรดกของลูกไปด้วย บางชุดรือ้ ออกมา ก็จะเอามาชงชาดื่มกันที่บ้าน” แม้จะเป็นแค่สิ่งของชิ้นเล็ก ๆ แต่ถ้าเป็นของ ที่มีคุณค่าทางจิตใจ ก็อาจสร้างความสุขที่ไม่เล็ก ให้ เราได้ เหมื อนชุ ด นํ้ าชาและเครื่ องถ้ วยชาม กระเบื้องที่คุณจี๋รักและผูกพันมานาน “จะมีชดุ หนึง่ เป็นของ Lanvin ซึง่ เป็นแบรนด์ ของทางฝรัง่ เศส ซึง่ ก็จะมีเสือ้ ผ้า กระเป๋า นํา้ หอม เหตุทชี่ อบแบรนด์นกี้ เ็ ป็นเพราะตอนทีจ่ เี๋ ริม่ ทำ�งาน ในวงการเครื่ อ งสำ�อางใหม่ ๆ ตอนนั้ นจี๋ ดู แ ล ลอรีอลั ซึง่ มีนาํ้ หอมอยูใ่ นนัน้ 6 แบรนด์ ซึง่ Lanvin ก็เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งจี๋เป็นคนเปิดตัวแบรนด์นี้ใน ประเทศไทยเป็นครั้งแรก เลยมีความผูกพันกับ แบรนด์นี้เป็นพิเศษ แล้วก็ไปเจอชุดถ้วยชามของ แบรนด์นี้ เป็นชุดใหญ่ เป็นจานผลไม้ใบใหญ่และ เป็นจานย่อยอีก 5 ใบ อันนี้ก็เป็นชุดที่รักอันหนึ่ง “อีกชุดจะเป็นจานมิกกี้เมาส์ ซึ่งเป็นมิกกี้ เมาส์รุ่นโบราณประมาณ 40-50 ปี หน้าตาจะดู ไม่คอ่ ยเหมือนมิกกีเ้ มาส์สมัยนี้ แล้วก็เป็น Limited Edition ที่ตอนนี้หาไม่ได้แล้ว ประมาณ 10-20 ปีที่ แล้ว ตอนทีท่ ำ�งานกับบริษทั อเมริกนั แล้วมีโอกาส ได้ไปดิสนีย์แลนด์เลยไปเจอใบนี้ ตอนนั้นก็ซื้อ เก็ บ ไว้ โดยที่ ไม่ ได้ คิ ด อะไร ตอนนี้ เ ลยรู้ สึ ก ดี ที่ ตอนนั้ น ได้ ซื้ อ เก็ บ เอาไว้ เพราะตอนนี้ ก็ ห า มิกกี้เมาส์ลุคนี้ไม่ได้อีกแล้ว “แล้วก็มถี ว้ ยคิตตีอ้ กี ชุดหนึง่ ซึง่ ตอนนีค้ ติ ตีก้ ็ จะเป็นสีชมพูดนู า่ รัก แต่ของเรายังเป็นคิตตีท้ มี่ ตี วั
อักษรญี่ปุ่น ที่เป็นอักษรโบราณ ดูเป็นของโบราณ และดูญี่ปุ่นมาก “และชุดถ้วยนํา้ ชาของ Ungaro จะมีอยู่ 3 ใบ เท่ากับจำ�นวนคนในครอบครัว เป็นถ้วยสีขาวที่ มีลายดอกไม้ที่เป็นสีแดง สีส้ม สีเหลือง ดูน่ารัก สดใส ก็จะเป็นชุดที่เอาออกมาชงชาทานกันใน ครอบครัวบ่อย ๆ ทำ�ให้เรารู้สึกว่าชาเขียวที่นั่ง จิบที่บ้านนั้นอร่อยขึ้น เวลาที่อยู่กันพร้อมหน้า พร้อมตา” และสุดท้ายคุณจีไ๋ ด้ฝากถึงคนทีม่ ขี องรักและ ของสะสมว่า “ส่ ว นตั ว มี ค วามรู้ สึ ก ว่ า ของที่ เ รารั ก นั้ น ไม่จำ�เป็นต้องเป็นของราคาแพง เพราะของตัวเราเอง ก็ มี ทั้ ง ของแบรนด์ เ นมและไม่ ใ ช่ แ บรนด์ เ นม เลือกซื้ออันที่มีคุณค่าทางจิตใจกับเรา เลือกอะไร ทีท่ ำ�ให้เรามีความสุขและผ่อนคลายจะดีกว่า จีถ๋ งึ ไม่ได้ไปตามหา ถ้าไปตามหามันจะเครียด แต่ถ้า เราบังเอิญเจอ เหมือนว่าเราไปพบรักกันตรงนั้น เราก็จะมีความสุขกับมันมากกว่า ยิ่งราคาโอเค จะยิ่งดีใหญ่เลย” เหมื อ นอย่ า งที่ ในทุ ก วั นนี้ คุ ณจี๋ มี ค วามสุ ข กับงานที่ทำ� มีความสุขกับของสะสมที่รัก และ มีความสุขกับการใช้เวลาพร้อมหน้าพร้อมตากับ ครอบครัว เห็นไหมคะว่า ความสุขเกิดขึ้นง่าย ๆ รอบ ๆ ตัวของเรานั่นเอง ขอขอบคุณสถานที่ ร้าน MOTIF 4th Floor Central Embassy www.motifartofliving.com happy+ | 75
travelogue เรื่องและภาพ : Bella
1
เวียงจันทน์ ฉันและเธอ 1
สวัสดีคะ่ ท่านผูอ้ า่ น ฉบับทีแ่ ล้วเราพาทุกคนไปเยือน วังเวียง ดินแดนแห่งธรรมชาติทา่ มกลางหุบเขากันมาแล้ว แต่การเดินทางท่องเทีย่ วในประเทศ เพื่อนบ้านของเรายังไม่จบลง ฉบับนี้จึงจะพาท่านผู้อ่านไปต่อกันที่เมืองหลวงของประเทศลาวที่ตั้งอยู่ริมแม่นํ้าโขง ไม่รอช้า ไปเที่ยว ‘เวียงจันทน์’ กันดีกว่าค่ะ หลังจากที่พวกเราตื่นกันตั้งแต่เช้า เมื่อจัดเตรียมสัมภาระเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็เริ่มต้นจากการตีตั๋วรถมินิบัสเพื่อเดินทางจากวังเวียงเข้าสู่เมือง เวียงจันทน์กัน 1
76 | happy+
1 หอคำ�(ทำ�เนียบประธานประเทศ) 2 หอพระแก้ว 3 โรงพิมพ์่เก่าแก่
2
นครหลวงเวียงจันทน์ ในรัชสมัยของพระเจ้า ไชยเชษฐาธิราช ถูกเรียกว่า กรุงศรีสัตนาคนหุต วิสทุ ธิร์ ตั นราชธานีบรุ รี มย์ ตัง้ อยูร่ มิ แม่นาํ้ โขงทางทิศ ตะวันออกเฉียงเหนือตรงข้ามกับอำ�เภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคายของประเทศไทย เมืองหลวงของ ประเทศลาวแม้จะค่อนข้างทันสมัย แต่กย็ งั คงความ เรียบง่ายเอาไว้ เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรม ประวัตศิ าสตร์ และมีสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วให้ได้เลือกแวะ เลื อ กชมหลากหลาย เนื่ อ งจากเวี ย งจั นทน์ เป็ น เมืองที่เดินทางมาท่องเที่ยวค่อนข้างสะดวก ไม่มี ปัญหาทางด้านการสื่อสารเพราะพูดภาษาไทยไป ชาวลาวก็พอจะฟังออก และค่าเงินที่ไม่ต่างกันมาก ทำ�ให้ชาวไทยนิยมมาเวียงจันทน์เป็นจำ�นวนมาก พวกเราออกเดิ นทางจากวั ง เวี ย งประมาณ สิบโมงเช้า มาถึงเวียงจันทน์ประมาณบ่ายสองโมง รถมิ นิ บั ส พาพวกเรามาส่ ง กลางเมื อ งใกล้ กั บ หอวั ฒ นธรรมแห่ ง ชาติ (รถมิ นิ บั ส จากวั ง เวี ย งเวียงจันทน์จะพามาส่งบริเวณนี้ก่อน ส่วนใครที่จะ เดินทางไปยังสถานีขนส่งขัวดิน เวียงจันทน์ จะต้อง จ่2ายค่าเดินทางเพิ่มเติม) เมื่อเปิดดูแผนที่แล้วพบว่า
ตรงหอวั ฒ นธรรมแห่ ง ชาติ ใกล้ กั บ ที่ พั ก มากกว่ า สถานีขนส่งขัวดิน พวกเราจึงตัดสินใจลงตรงนี้เพื่อ หาทีพ่ กั ทีเ่ ราจองไว้เป็นอันดับต่อไป ทีพ่ กั ของพวกเรา อยูใ่ นย่านโฮสเทล โรงแรมทีช่ าวต่างชาตินยิ มมาพัก เพราะเดินทางไปยังสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วสะดวก ไม่ใกล้ ไม่ไกลมาก สามารถเดินเท้าได้ เมื่อพวกเราปลด สัมภาระ นัง่ พักผ่อนรับแอร์เย็น ๆ ในห้องสักพักหนึง่ ก็ถึงเวลาท่องเที่ยวนครหลวงเวียงจันทน์กันแล้วค่ะ หอคำ� (ทำ�เนียบประธานประเทศ) ตั้งอยู่บน ถนนเชษฐาธิราช ใกล้กบั หอพระแก้ว เดิมทีสร้างขึน้ เพื่ อ เป็ น จวนข้ า หลวงฝรั่ ง เศสสำ�หรั บ ปกครอง อาณานิคมลาวที่ยึดมาได้ในปี พ.ศ. 2436 และเคย เป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์ และเจ้า ศรีสว่างวัฒนา เมื่อครั้งทั้งสองพระองค์เสด็จเยือน นครเวียงจันทน์ ปัจจุบนั รัฐบาลลาวใช้สถานทีน่ เี้ ป็น ทีร่ บั รองอาคันตุกะต่างชาติ ซึง่ ท่านประธานประเทศ ไม่ได้พำ�นักทีน่ แี่ ล้ว เมือ่ พวกเรามาถึงหอคำ�ก็ได้หยุด แวะชมความสวยงามของศิลปะการออกแบบทาง ตะวันตกของตึกอยู่ด้านนอก เนื่องจากรัฐบาลลาว ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปด้านใน
3
จากนัน้ พวกเราก็เดินเท้าไปต่อกันที่ วัดสีสะเกด ในอดีตเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช เป็ น วั ด ที่ ส ร้ า งขึ้ น เป็ น แห่ ง แรกในนครหลวง เวี ย งจั นทน์ ซึ่ ง เที ย บเท่ า กั บ วั ด พระเชตุ พ นวิ ม ล มังคลาราม (วัดโพธิ)์ ในบ้านเรา ภายในมีพระพุทธรู3ป ทั้งองค์เล็กองค์ใหญ่รวมแล้วกว่า 100,000 องค์ จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วัดสะตะสะหัสสาราม (วัดแสน) ถือเป็นวัดที่มีพระพุทธรูปมากที่สุดใน เวี ย งจั นทน์ ในอดี ต หลั ง จากมี เหตุ ก ารณ์ ร บรา ระหว่างทัพไทยกับทัพลาว เมื่อเจ้าพระยาจักรีรบ ได้ชัยชนะ ก่อนเดินทางกลับประเทศจึงได้บูรณะ ซ่อมแซมวัดแห่งนี้ เพื่ออุทิศเป็นพุทธบูชาอุทิศส่วน กุศลให้แก่ทหารที่เสียชีวิตของทั้งสองฝ่าย แม้ว่า หลังจากนั้นจะมีการบูรณะซ่อมแซมวัดอีกหลาย ครั้ง แต่ก็ยังคงสถาปัตยกรรมแบบไทยเอาไว้ จึง ไม่แปลกใจเลยเมือ่ พวกเราได้เข้ามาไหว้พระสักการะ ขอพรทีว่ ดั แห่งนีแ้ ล้ว จะให้ความรูส้ กึ ไม่ตา่ งจากการ ไปวัดที่ประเทศไทย ใกล้ ๆ กับวัดสีสะเกด เดินข้ามถนนเชษฐาธิราช ไปนิ ด เดี ย ว ก็ จ ะพบกั บ หอพระแก้ ว ซึ่ ง เป็ น happy+ | 77
4 ประตูชัยในยามเย็น 5 ภาพปูนปั้นรามเกียรติ์ ภายใต้ซุ้มโค้งประตูชัย
4
อาคารไม้แกะสลักสวยงาม ซึ่งได้รับการบูรณะใหม่ ในปี พ.ศ. 2480-2483 โดยเจ้าสุวรรภูมา ในอดีต เป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกต ปัจจุบันได้ ประดิษฐานพระประธานใหม่ พระไตรปิฎกและ ตู้สำ�หรับวางโบราณวัตถุต่าง ๆ แต่ช่วงที่พวกเรา ไปเวียงจันทน์นั้น หอพระแก้วอยู่ระหว่างซ่อมแซม จึงปิดปรับปรุงไม่เปิดให้เข้าชมภายใน แม้จะรู้สึก เสียดายเล็กน้อย แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ยังมีสถานที่ อีกหลายแห่งให้พวกเราไปเที่ยวชมกัน ประตูชัย ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่สำ�คัญของ ชาวลาว เพราะสร้างขึน้ เป็นอนุสรณ์สถานเพือ่ รำ�ลึก ถึงประชาชนชาวลาวผู้เสียชีวิตระหว่างสงคราม ก่อนการปฏิวัติคอมมิวนิสต์ ประตูชัยมีชื่อเล่นว่า รันเวย์แนวตั้ง เนื่องจากก่อนที่จะก่อตั้งประตูชัยขึ้น ประเทศลาวได้ซื้อปูนจากสหรัฐอเมริกาเพื่อนำ�มา สร้างสนามบินใหม่ในนครหลวงเวียงจันทน์ แต่เกิด แพ้สงครามอินโดจีนเสียก่อน จึงนำ�ปูนที่ซื้อมานี้ มาสร้างประตูชัยแทน ด้วยสถาปัตยกรรมที่ได้รับ อิทธิพลจากประเทศฝรั่งเศส เมื่อมาชมประตูชัยที่ ลาวแล้ว จะรู้สึกคล้ายกับประตูชัย ฌ็องเซลิเซ่ ใน ประเทศฝรั่งเศสนั่นเอง ภายใต้ซุ้มโค้งของประตูชัย จะปรากฏภาพเรื่องราวของมหากาพย์รามเกียรติ์ แบบปู น ปั้ น และมี บั น ไดวนขึ้ น ไปแต่ ล ะชั้ น ด้านบนสามารถชมวิวบ้านเมืองแถบนัน้ ในมุมสูงได้ อีกด้วย หลังจากชมวิวด้านบนได้ไม่นาน พวกเราก็ เดินทางกลับทีพ่ กั เพราะสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วส่วนใหญ่ ในเวียงจันทน์จะปิดเวลาประมาณหกโมงเย็น หลัง จากรับประทานอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว ใกล้ที่พัก 78 | happy+
ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่นํ้าโขง ยามคํ่าคืนแถวนี้บรรยากาศ ค่อนข้างคึกคัก มีร้านรวงเปิดบริการมากมาย แถม ยังมีตลาดนัดราคาถูก ให้เหล่านักช้อปได้ซื้อหา ของฝากติดไม้ติดมือกลับมา เดินชมร้านขายของ ไปได้สกั พัก พวกเราก็มานัง่ รับลมริมฝัง่ โขง ทีต่ อนนี้ มองกลับไปยังฝั่งไทยจะเห็นแสงไฟสว่างไสวของ จังหวัดหนองคาย พวกเราจะเดินทางกลับไทยใน วันพรุง่ นีช้ ว่ งบ่าย ๆ ถือว่ายังพอมีเวลาให้ได้เทีย่ วชม เวียงจันทน์อีกมากค่ะ วันรุง่ ขึน้ พวกเรารีบตืน่ กันตัง้ แต่เช้า เพือ่ เดินทาง ไปสักการะ พระธาตุหลวง ปูชนียสถานทีส่ �ำ คัญยิง่ ของชาวเวียงจันทน์ และวันที่พวกเราไปตรงกับ วันสำ�คัญทางพระพุทธศาสนาด้วย จึงถือเป็นฤกษ์ มงคลที่จะขอความเจริญมาสู่พวกเราทุกคน เรา เริ่มต้นการเดินทางของวันนี้ด้วยการเหมารถตุ๊กตุ๊ก ที่ จ อดอยู่ ห น้ า ที่ พั ก ระหว่ า งทางเช้ า วั นนี้ เราจะ เห็นความคึกคักและรถรามากมาย มุ่งตรงไปยัง ทิศเดียวกัน นั่นคือ พระธาตุหลวง ที่ประเทศลาว มี ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำ�ชาติ และวันสำ�คัญ ทางศาสนาทุกคนจะเดินทางไปทำ�บุญที่วัด โดย แต่งตัวสวยงาม ผูห้ ญิงจะนุง่ ผ้าซิน่ ผ้าไทยและพาด สไบเฉียง ส่วนผูช้ ายก็จะแต่งตัวเรียบร้อย พร้อมด้วย อุปกรณ์ประจำ�ตัวของแต่ละคนที่ขาดไม่ได้เลย คือ พานเล็ก ๆ ทีบ่ รรจุกระติบ๊ ข้าวเหนียวและทีก่ รวดนํา้ พระธาตุหลวงมีอีกชื่อหนึ่งคือ พระเจดีย์โลกะ จุฬามณี ที่เป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาว ด้ า นหน้ า มี อ นุ ส าวรี ย์ พ ระเจ้ า ไชยเชษฐาธิ ร าช ประดิษฐานอยู่ พระธาตุหลวงเป็นพระธาตุที่สวย
5
ที่สุดในประเทศลาว สร้างโดยช่างโบราณที่ทรง คุณค่าทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรมทาง ล้านช้าง องค์พระธาตุหลวงยามเช้าที่พวกเรามาถึง ต้องแสงแดดปรากฏเป็นสีทองเหลืองอร่าม สวยงาม จับใจมาก ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุเอาไว้ หลังจากกราบไหว้ขอพรที่พระธาตุหลวง ได้รับบุญ อย่างอิ่มอกอิ่มใจเรียบร้อยแล้วพวกเราก็เดินทาง ตรงไปยังสถานีขนส่งขัวดิน เพื่อจองตั๋วรถโดยสาร ข้ามแดนกลับมาฝั่งไทย จังหวัดหนองคาย ตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกประมาณ 2-3 ชั่วโมง ก่อนจะถึงเวลารถออก พวกเราจึงกลับมาจัดกระเป๋า เพื่อเดินทางกลับ ฝากกระเป๋าไว้ที่ล็อบบี้โรงแรม และออกมาเดินเล่นชมบ้านเมืองแถวที่พัก ระหว่าง เดินไปเรื่อย ๆ ไร้จุดหมาย จู่ ๆ สายตาก็พลันเห็น ร้านหนังสือสไตล์ยุโรปตั้งอยู่ ในฐานะที่เป็นหนอน หนังสือ พวกเราไม่รอช้าพุง่ ตรงเข้าไปยัง ร้านหนังสือ Monument Books ภายในร้านจัดวางหนังสือ อย่างเรียบง่าย พร้อมบรรยากาศอันอบอุน่ คอยต้อนรับ ลูกค้าอยู่ ที่ร้านหนังสือแห่งนี้มีหนังสือหลายแบบ ตั้งแต่นิตยสาร หนังสือเรียน นิทาน ท่องเที่ยว ฯลฯ มีทง้ั หนังสือภาษาลาวและภาษาอังกฤษควบคูก่ นั ไป ทำ � ให้ ที่ ร้ า นนี้ มี นั ก ท่ อ งเที่ ย วต่ า งชาติ แ วะเวี ย น เข้ามาไม่ขาดสาย หลังจากชมหนังสือภาษาลาว พร้อมซื้อโปสต์การ์ดและแสตมป์ติดไม้ติดมือกลับ มาแล้ว พวกเราเริ่มมองหาคาเฟ่เล็ก ๆ เพื่อนั่งจิบ กาแฟและเขียนโปสต์การ์ดส่งกลับมาหาเพื่อน ๆ ที่ไทยกันต่อไปค่ะ เดินมาไม่นานก็จะพบกับร้านคาเฟ่นา่ รัก ๆ ทีด่ ู
6 พระธาตุหลวง สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเวียงจันทร์ 7 อุปกรณ์ทำ�บุญ 8 พักเขียนโปสต์การ์ด 9 ร้านหนังสือ Monument Books 10 เศียรพระโบราณในวัดสีสะเกด
8
ทันสมัยชือ่ ว่า Sweet Moo Ice Cream ตกแต่งร้าน สไตล์โมเดิรน์ ติดกระจกทัว่ ทัง้ ร้าน ทำ�ให้บรรยากาศ ภายในร้านสดใสสว่างตา หลังจากรับประทานกาแฟ และขนมหวานเล็กน้อยแล้ว พวกเราก็ใช้รา้ นนีเ้ ป็นฐาน ทีม่ น่ั เพือ่ รอให้ถงึ เวลาใกล้เคียงกับรถโดยสารทีจ่ องไว้จะ ออกเดินทาง ระหว่างรอก็เขียนโปสต์การ์ดกันไปพลาง ๆ และแล้ ว งานเลี้ ย งย่ อ มมี วั น เลิ ก รา ทริ ป ท่องเที่ยววังเวียง-เวียงจันทน์ของพวกเราก็หมดลง เช่นกัน หลังจากเดินทางไปขึ้นรถโดยสารเพื่อข้าม กลับมายังฝั่งไทยเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ไม่พลาด ที่จะไปเยือนร้านต้นตำ�รับ แดงแหนมเนือง ประจำ� จังหวัดหนองคาย ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลเท่าไหร่นัก จากสถานี ข นส่ ง หนองคาย ตอนอยู่ ที่ ก รุ ง เทพฯ แหนมเนืองของที่นี่เราคิดว่าอร่อยแล้ว แต่พอได้
6
7
9
10
มานั่งทานในร้านต้นตำ�รับแบบนี้ยิ่งเพิ่มรสชาติให้ อร่อยยิง่ ขึน้ สมแล้วทีแ่ หนมเนืองของร้านนีส้ ง่ ขายไป ทัว่ ประเทศ เมือ่ รับประทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อย แล้ว พวกเราก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ อย่างปลอดภัย พอได้ลองย้อนกลับไปดูพบว่า เวียงจันทน์เป็น อีกเมืองหนึ่งที่เหมาะสำ�หรับการมาท่องเที่ยวมาก เพราะเป็นเมืองหลวงของประเทศลาวที่ความเจริญ เข้าถึงแล้ว เดินทางไปไหนมาไหนค่อนข้างสะดวก ด้วยรถรับส่งที่มีอยู่ทั่วทุกหัวมุมถนน แต่เมืองหลวง แห่งนี้ก็ยังคงอีกด้านหนึ่งของศิลปวัฒนธรรมเอาไว้ ให้เราได้ศกึ ษาและสัมผัสอย่างใกล้ชดิ ถือเป็นเสน่ห์ ของประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง ที่หากใครพอจะมี เวลาก็อยากให้เดินทางมาท่องเที่ยวกันดู รับรอง เลยว่าทุกคนจะต้องประทับใจค่ะ
• วัดสีสะเกด เปิดให้เข้าชมระหว่าง 08.00-12.00 น. และ 13.00-16.00 น. ค่าเข้าชม 5,000 กีบ (20 บาท) • หอพระแก้ว เปิดให้เข้าชมระหว่าง 08.00-12.00 น. และ 13.00-16.00 น. ค่าเข้าชม 5,000 กีบ (20 บาท) แต่ครัง้ ทีพ่ วกเราไป หอพระแก้วปิดปรับปรุง จึงได้ เข้าไปชมหอพระแก้วภายนอกฟรี • พระธาตุหลวง เปิดให้เข้าชมระหว่าง 08.00-12.00 น. และ 13.00-17.00 น. ค่าเข้าชม 5,000 กีบ (20 บาท) เช่นเดียวกัน • ประตูชยั เปิดให้เข้าชมระหว่าง 08.00-12.00 น. และ 13.00-17.00 น. ค่าเข้าชม 3,000 กีบ (12 บาท) ถ้าต้องการขึน้ ไปชมวิวด้านบน
happy+ | 79
การเดินทางของนกสีฟ้า เรื่อง : TukTik
1
ผจญภัย “แก่งหินเพิง”
ฉบับนีเ้ รายังท่องเทีย่ วกันอยูท่ ปี่ ราจีนบุรี อย่างทีบ่ อกไปค่ะว่าปราจีนบุรเี ป็นเมืองทีม่ ที รัพยากรด้านการท่องเทีย่ วหลากหลายรูปแบบ ฉบับทีแ่ ล้ว เราได้ไปเยีย่ มชมสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วทางประวัตศิ าสตร์ ศิลปะและวัฒนธรรมทีส่ ำ�คัญของจังหวัดกันมาแล้ว ฉบับนีเ้ ราเลยลองมาเปลีย่ นบรรยากาศ กันบ้าง 80 | happy+
ในทริ ป นี้ เรายั ง ได้ เดิ น ทางมายั ง สถานที่ ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของ ปราจีนบุรี ที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวที่รักการ ผจญภัย โดยเฉพาะการล่องแก่ง นั่นก็คือ “แก่ง หินเพิง” สถานที่ล่องแก่งยอดนิยมอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย และยังได้ชื่อว่าเป็นแก่งที่สวยที่สุด ติดอันดับ 6 ของโลก แก่งหินเพิง อยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อำ�เภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี เป็นแก่งหินขนาดใหญ่ ตอนปลายสุ ด ของแม่ นํ้ า สายใหญ่ มี ลั ก ษณะ ทางธรณี วิ ท ยาเป็ นชั้ น หิ นทราย เมื่ อ ถึ ง ฤดู ฝ น กระแสนํ้ า จะไหลหลากอย่ า งรุนแรง จนทำ � ให้ เกิดเกาะแก่งต่าง ๆ เหมาะสำ�หรับผู้ที่ชอบความ ท้าทายกับสายนํ้าอันเชี่ยวกราก โดยเฉพาะใน ช่วงฤดูฝน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม แต่ ล ะปี ท างจั ง หวั ด ปราจี น บุ รี จ ะมี ก ารจั ด งาน “เทศกาลล่องแก่งหินเพิง” ในช่วงฤดูฝน ยิ่งทำ�ให้ ชื่อเสียงการเล่นล่องแก่งที่แก่งหินเพิง เป็นที่รู้จัก ของนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น กิจกรรมทีเ่ ราจะทำ�กันในวันนีก้ ค็ อื การล่องแก่ง ชมธรรมชาติ ก่อนทำ�การล่องแก่ง ผู้ประกอบการ จะอธิ บ ายวิ ธีก ารนั่ ง บนเรื อ ยาง วิ ธีก ารพาย วิธีการเอาตัวรอดในกรณีที่ตกนํ้า เพื่อความสนุก
และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว พร้อมแจก อุปกรณ์เสริมให้ทุกคนติดตัวไป ได้แก่ เสื้อชูชีพ หมวกนิรภัย ไม้พาย และนํา้ ดืม่ เมือ่ ทุกคนพร้อมแล้ว ก็ อ อกเดิ นทางกั น ได้ ค่ ะ เราจะต้ อ งนั่ ง รถของ ผู้ ป ระกอบการไปยั ง ที่ ทำ � การหน่ ว ยพิ ทั ก ษ์ อุทยานฯ จากจุดนี้เราต้องเดินเท้าเข้าไปอีกเป็น ระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดิน ประมาณ 45 นาที ระหว่างทางเราจะได้สัมผัส กั บ ความอุ ด มสมบู ร ณ์ ข องป่ า ไผ่ ในช่ ว งที่ ไป นั้นเป็นหน้าฝน ทำ�ให้ทางเดินซึ่งเป็นดินลูกรัง ค่อนข้างลืน่ ในบางช่วง ต้องใช้ความระมัดระวังใน การเดินมากสักหน่อย ผ่านมาครึ่งทางหลายคน เริม่ มีอาการเหนือ่ ยล้า จากช่วงแรกทีเ่ ร่งฝีเท้าเกาะ กลุม่ ตามกันมา ก็คอ่ ย ๆ ก้าวช้าลง บางคนไม่ไหว ก็หยุดพักข้างทาง เมือ่ มาถึงสิง่ แรกทีเ่ ราจะเห็นคือ ป้ายแก่งหินเพิง ที่ บ อกเล่ า เกี่ ย วกั บ ประวั ติ ค วามเป็ น มาของ แก่งนี้ ระหว่างรอเจ้าหน้าทีส่ บู ลมเรือยาง เราไม่รอช้า ที่จะถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันจนเป็นที่พอใจ แล้ว ก็ถือโอกาสลงไปนั่งแช่นํ้ารอเวลาล่องแก่งปล่อย ให้สายนํ้าเย็น ๆ ไหลผ่านตัวไป ในเรือแต่ละลำ� จะมีเจ้าหน้าทีต่ ดิ ตามไปด้วย 2 คน คอยบังคับหัว และท้ า ย ให้ คำ � แนะนำ � และดู แ ลเราไปตลอด
2
การล่องแก่ง ผู้ล่องแก่งทุกคนควรจะปฏิบัติตาม คำ�แนะนำ�อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย ของตัวเองรวมถึงเพื่อนร่วมทีมด้วย เมื่อทุกอย่าง เรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาผจญภัยท่ามกลางสายนํ้า ที่เชี่ยวกราก เริ่มต้นความตื่นเต้นกันที่แก่งแรก “แก่งหินเพิง” ซึง่ เป็นลำ�นํา้ ขนาดใหญ่ มีลานหินหัก ที่เทตัวลงมาทำ�ให้เกิดเป็นวังนํ้าวนไหลเชี่ยวผ่าน แก่งหินต่าง ๆ ระยะทางกว่า 200 เมตร ล่องมาได้สักพักเราก็มาถึงแก่งที่สอง “แก่ง หนามล้อม” เป็นแก่งที่มีความพิเศษอย่างหนึ่ง นัน่ ก็คอื การเล่นสไลเดอร์ ในการเล่นนัน้ ขึน้ อยูก่ บั happy+ | 81
นํา้ ในแก่งขณะนัน้ ถ้าระดับนํา้ ไม่มากพอเจ้าหน้าที่ จะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวลงไปเล่น เพราะ อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้ โชคดีมากที่ในช่วงที่เรา ไปนั้นปริมาณนํ้าในแก่งมีมาก เราเลยได้ลองเล่น กับเขาบ้าง โดยเจ้าหน้าที่จะปล่อยเราลงจากเรือ เมื่อลงไปในนํ้าแล้วเราจะต้องนอนหงายลอยตัว เอาฝ่าเท้าชี้ไปทางด้านหน้า แล้วปล่อยตัวตาม สบาย ตัวเราจะไหลไปตามกระแสนํ้าของ “แก่ง สไลเดอร์” ที่มีระยะทางประมาณ 50-100 เมตร ในระหว่างการลอยตัวอยูน่ นั้ ต้องพยายามยกเท้า ให้สงู เพือ่ ป้องกันอันตรายจากการลอยไปกระแทก กับสิง่ กีดขวางใต้นาํ้ ส่วนใครว่ายนํา้ ไม่เป็น หรือไม่ 82 | happy+
อยากเล่นก็นงั่ รออยูบ่ นเรือได้ เมือ่ สิน้ สุดเส้นระยะ เจ้าหน้าทีก่ จ็ ะช่วยกันดึงเรากลับขึน้ มาบนเรือยาง อีกครั้ง เพื่อเตรียมตัวล่องผ่านแก่งต่อไป ล่องมาเรื่อย ๆ เราจะพบกับ “แก่งวังบอน” ที่มีลักษณะเป็นแก่งหินสั้น ๆ ยาวประมาณ 30 เมตร กระแสนํ้าจะไหลลาดเอียงลงมาประมาณ 30 องศา ผ่านชั้นหินและเกาะต่าง ๆ จากนั้นนํ้า จะไหลเอื่อย ๆ ลงมายังแก่งลูกเสือ ระดับความ รุนแรงของนํ้าน้อย ถัดไปก็เป็น “แก่งลูกเสือ” มี ลักษณะเป็นแก่งนํ้าเล็ก ๆ มีร่องนํ้าสามารถพาย เรือยางผ่านไปได้ แต่ต้องระมัดระวังอันตรายจาก กิ่งไม้ที่ยื่นออกมา ต่อมาคือ “แก่งวังยาว” เป็น
แก่งทีม่ กี ระแสนํา้ ไม่รนุ แรงนัก ไหลตามกระแสนํา้ มาเรื่อย ๆ และสิ้นสุดที่ “แก่งวังไทร” มีลักษณะ เป็นแก่งหินกว้างประมาณ 50-60 เมตร ยาว ประมาณ 150 เมตร ความกว้างของแก่งพอ ๆ กับ แก่งลูกเสือ มีความลาดชันประมาณ 30 องศา กระแสนํา้ จะไหลผ่านเกาะแก่งต่าง ๆ แล้วม้วนตัว เป็นวงคลื่น ต้องใช้ทักษะความชำ�นาญในการ พายเรือค่อนข้างสูง ใช้ระยะเวลาในการล่องแก่ง ทัง้ หมดประมาณ 45 นาที ทีเ่ ลือกขึน้ ฝัง่ จากแก่งนี้ เนื่องจากมีห้องนํ้าและห้องอาบนํ้าไว้บริการ เมื่อ อาบนํ้าเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ มานั่งรับประทานอาหารว่างเล็ก ๆ น้อย ๆ ดื่ม นํ้าให้พอดับกระหาย ชมวิวทิวทัศน์สวย ๆ รอบ ๆ อีกพักใหญ่ ถือเป็นอันสิน้ สุดกิจกรรมการผจญภัย ในแก่งหินเพิงของวันนี้ แล้วก็ได้เวลาเดินทางกลับที่พักกันแล้ว ซึ่ง ที่พักของเราคืนนี้คือ แคนทารี โฮเทล กบินทร์บุรี ตั้งอยู่ที่สี่แยกสามทหาร ถนนสุวรรณศร อำ�เภอ กบิ น ทร์ บุ รี จั ง หวั ด ปราจี น บุ รี ที่ มี ห้ อ งพั ก ที่ สวยงามกว้างขวาง มีการตกแต่งภายในอย่าง ลงตัว นอกจากนี้ยังมีโทรทัศน์จอแบนและเครื่อง เล่นดีวีดี พร้อมห้องครัวขนาดย่อมที่มีอุปกรณ์ ครบครัน ซึง่ มีทงั้ เตาอบไมโครเวฟและเครือ่ งซักผ้า ที่สำ�คัญอาหารเช้าที่นี่อร่อยมากค่ะ หากมีโอกาส ไปเที่ยวที่จังหวัดปราจีนบุรี อย่าลืมแวะมาพักที่นี่ ดูนะคะ
one happy day เรื่องและภาพ : TepiN
1 84 | happy+
นิทรรศการภาพถ่าย “น้อมรำ�ลึกในหลวง ร.๙” หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 3-27 พฤศจิกายน 2559 สมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร และบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำ�กัด (มหาชน) จัดนิทรรศการภาพถ่าย “น้อมรำ�ลึกในหลวง ร.๙” บริเวณโถงทางเดินชั้น 3-5 ในหอศิลปวัฒนธรรม แห่งกรุงเทพมหานคร เพื่อน้อมรำ�ลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
3
ภายในงานจัดแสดงภาพถ่ายจำ�นวน 89 ภาพ ตลอดโถงทางเดินทั้ง 3 ชั้น โดยฝีมือช่างภาพ จากทั่วประเทศกว่า 89 คน ซึ่งได้พร้อมใจกัน ถ่ายทอดความรู้สึก ความทรงจำ�ที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผ่าน ผลงานภาพถ่ายหลากหลายแนว ภาพที่นำ�มา จัดแสดงเป็นภาพที่บันทึกเหตุการณ์ในช่วงเวลา ต่าง ๆ เช่น ภาพถ่ายที่สะท้อนถึงความจงรัก ภักดี ภาพโครงการพระราชดำ�ริ และภาพถ่ายใน ช่วงเหตุการณ์ประวัตศิ าสตร์ ทีพ่ สกนิกรทัง้ ชาวไทย และชาวต่ า งชาติ ต่ า งพร้ อ มใจกั น ร่ ว มถวาย ความอาลั ย แด่ พ ระบาทสมเด็ จ พระปรมิ นทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บริเวณชั้น 5 ที่เป็นชั้นบนสุดของนิทรรศการ
ดั ง กล่ า ว จั ด แสดงพระบรมฉายาลั ก ษณ์ ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช ทั้ ง การนำ � พระบรมฉายาลั ก ษณ์ ข นาดเล็ ก ๆ มารวมกันจนเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ขนาดใหญ่ หรือพระบรมฉายาลักษณ์ที่เราเห็นกันเป็นประจำ� ในขณะที่ พ ระองค์ ท่ า นเสด็ จ ออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม เมื่อครั้ง พระราชพิ ธีม หามงคลเฉลิ ม พระชนมพรรษา 85 พรรษา 5 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ส่วนในชั้นถัดมาเป็นการจัดแสดงภาพถ่าย เกีย่ วกับโครงการในพระราชดำ�ริของพระองค์ทา่ น ที่ พั ฒ นาพื้ น ถิ่ น ทุ ร กั น ดารที่ มี ค วามแร้ น แค้ น ให้มคี วามอุดมสมบูรณ์ จนทำ�ให้ชมุ ชนนัน้ ๆ อยูไ่ ด้ อย่างยั่งยืน happy+ | 85
และยั ง มี ภ าพถ่ า ยในช่ ว งเวลาตั้ ง แต่ วั นที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เป็นต้นมา เป็นภาพบรรยากาศ ทีป่ ระชาชนชาวไทยถวายความอาลัยแด่พระบาท สมเด็ จ พระปรมิ น ทรมหาภู มิ พ ลอดุ ล ยเดช บริ เวณโรงพยาบาลศิ ริ ร าช ท้ อ งสนามหลวง และพระบรมมหาราชวัง รวมทั้งภาพถ่ายอื่น ๆ ที่แสดงถึงความจงรักภักดีของประชาชนชาวไทย ในนิทรรศการยังมีพระราชดำ�รัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดชเกีย่ วกับ การถ่ายภาพ ความว่า “การถ่ายภาพเป็นงานศิลปะ เป็นของดี มีประโยชน์ ขออย่าได้ถ่ายภาพกันเพื่อความ สนุกสนานหรือความสวยงามเท่านั้น จงใช้ ภาพถ่ายให้เกิดคุณค่าแก่สงั คม ให้เป็นประโยชน์ แก่สว่ นรวม งานศิลปะจะได้ชว่ ยพัฒนาประเทศ ให้เจริญก้าวหน้าได้อกี แรงหนึง่ ” 86 | happy+
สะท้อนให้เห็นว่าการถ่ายภาพไม่ใช่เพียงแค่ ถ่ า ยเพื่ อ ความสวยงามเท่ า นั้ น แต่ ส ามารถ ถ่ายภาพเพื่อใช้พัฒนาในด้านต่าง ๆ ได้ ดังที่เรา ได้เห็นว่า ตลอดระยะเวลาที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ เสด็จฯ เยี่ยมเยียนราษฎรในชนบทห่างไกล และ ถิ่นทุรกันดารต่าง ๆ นอกจากพระองค์ท่านจะทรง มีดินสอและแผนที่ติดพระองค์อยู่ตลอดเวลา เรา ยังเห็นว่าพระองค์ท่านนำ�กล้องถ่ายภาพไปด้วย ทุกครัง้ และทรงถ่ายภาพพืน้ ทีต่ า่ ง ๆ เอาไว้ ภาพถ่าย พื้นที่แห้งแล้งทุรกันดารก็ไม่ได้มีความสวยงาม เท่าใดนัก หากแต่ภาพทุกภาพที่พระองค์ท่าน ทรงถ่าย พระองค์ท่านทรงนำ�กลับมาพัฒนาหา วิ ธีแ ก้ ไขปั ญ หาความทุ ก ข์ ย ากของราษฎรของ พระองค์ทั้งสิ้น ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อ ปวงชนชาวไทยอย่างหาทีส่ ดุ มิได้ และควรน้อมนำ� มาเป็นแบบอย่างในการดำ�เนินชีวิตของเรา
green corner เรื่องและภาพ : TepiN
สวนป่ารักนํ้า เฉลิมพระเกียรติฯ ท่องเที่ยว ศึกษา พักผ่อนหย่อนใจในพื้นที่สีเขียว
หากพูดถึงกรุงเทพมหานคร ภาพของเมืองหลวง เมืองเศรษฐกิจที่เต็มไปด้วยตึกสูงใหญ่มากมาย คงเด่นชัดขึ้นมาในความคิดแบบทันทีทันใด แต่ ท่ามกลางอาคารบ้านเรือนที่แน่นขนัด ก็ยังมีพื้นที่สีเขียวให้เราได้ใช้ประโยชน์อย่างสวนสาธารณะอยู่ด้วย สวนสาธารณะ เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ เป็นพื้นที่ไว้ใช้ทำ�กิจกรรมท่ามกลางธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำ�ลังกาย หรือการ พักผ่อนหย่อนใจ และยังเปรียบเสมือนปอด คอยฟอกอากาศให้แก่เมืองใหญ่อกี ด้วย นอกจากนี้ หากจัดสรรพืน้ ทีเ่ หล่านัน้ ให้ดี ก็จะสร้างประโยชน์มากมาย ให้แก่ผู้คนโดยรอบได้ด้วย เช่นเดียวกับ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ที่ใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งสร้างเป็น โครงการสวนป่ารักนํ้า เฉลิมพระเกียรติฯ โครงการสวนป่ารักนํ้า เฉลิมพระเกียรติฯ จัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ 70 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2559 และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ วันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2559 และเพื่อแสดงความจงรักภักดี เผยแพร่พระมหากรุณาธิคุณที่พระราชทานโครงการพระราชดำ�ริ 88 | happy+
ตลอด 70 ปี อันเป็นประโยชน์สุขต่อปวงชนชาวไทยทั้งสิ้น อาทิ โครงการ พระราชดำ�ริ “ป่ารักนํ้า” ที่เกิดจากการที่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินีนาถ ได้โดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปทุกหนทุกแห่ง ของประเทศ พระองค์พระราชทานความช่วยเหลือแก่ราษฎร โดยเฉพาะ ในท้องถิ่นทุรกันดาร ทอดพระเนตรเห็นถึงพระวิริยอุตสาหะของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงอุทิศพระองค์ในการจัดหาแหล่งนํ้าให้ราษฎร และทอดพระเนตรเห็นการตัดไม้ทำ�ลายป่าที่เป็นแหล่งต้นนํ้า โครงการ ป่ารักนํา้ จึงถูกดำ�ริขนึ้ เพือ่ ฟืน้ ฟูทรัพยากรธรรมชาติโดยอาศัยความร่วมมือ จากราษฎรและมีพระราชประสงค์ให้ราษฎรเห็นความสำ�คัญของการ อนุรักษ์ป่าไม้ที่มีความสำ�คัญต่อการดำ�รงชีวิต พระราชดำ�ริของโครงการป่ารักนํา้ ทีส่ ำ�คัญประการหนึง่ คือ การปลูกป่า ไม่จำ�เป็นต้องมีพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ ทุกแห่งที่เป็นที่ว่างไม่ว่าขนาดใด ก็ ปลูกต้นไม้ได้ทั้งสิ้น จากพระราชดำ�รินเี้ อง สำ�นักงานทรัพย์สนิ ฯ จึงได้จดั สรรพืน้ ทีภ่ ายใน สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ฯ์ิ และได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้ชื่อสวนแห่งนี้ว่า “สวนป่ารักนํ้า” โดยให้มีเอกลักษณ์เป็นป่าต้นนํ้า เพือ่ เน้นยํา้ ให้คนในเมืองกรุงเห็นความสำ�คัญของป่าไม้ทเี่ ป็นแหล่งกำ�เนิด ของนํ้า สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ สามารถเข้าออกได้หลายทาง ทั้ง ทางถนนกำ�แพงเพชร 2 ถนนกำ�แพงเพชร 3 หรือฝั่งตรงข้ามตลาดนัด
สวนจตุจกั ร บริเวณพิพธิ ภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานคร ส่วนทีจ่ ดั เป็น สวนป่ารักนํา้ เฉลิมพระเกียรติฯ ใช้พื้นที่ทั้งหมด 9 ไร่นี้มีความยาว 420 เมตรติดถนน กำ�แพงเพชร 3 กว้าง 50 เมตร และมีเนินดินสูง 10 เมตร ออกแบบให้บนเนินดิน เป็นป่าต้นนํ้าลำ�ธาร ปลูกไม้ยืนต้นห่างกันพอประมาณ แซมด้วยไม้ขนาดเล็ก ล้อมรอบแหล่งนํ้า และมีการจัดสรรพื้นที่ทำ�แปลงเกษตรสาธิต ชนิดพันธุไ์ ม้ทนี่ ำ�มาลงใน สวนป่ารักนํา้ เฉลิมพระเกียรติฯ เน้นพันธุไ์ ม้ไทย ทีม่ คี วามหลากหลาย และเหมาะสมกับพืน้ ทีภ่ าคกลาง อาทิ กันเกรา ชัยพฤกษ์ กระพี้จั่น ประดู่แดง กระทิง จิกนํ้า ตีนเป็ดนํ้า ยางนา พุดศุภโชค ประยงค์ ไทรยอดทอง รวมทัง้ ยังมีไม้ดอกอีกหลายชนิดปลูกเรียงรายกันอยู่ เพือ่ เพิม่ สีสนั และความมีชีวิตชีวาให้แก่สวน เพียงแค่รจู้ กั จัดสรรพืน้ ที่ ไม่ปล่อยพืน้ ทีว่ า่ งให้เปล่าประโยชน์ สวนป่ารักนํา้ เฉลิมพระเกียรติฯ แห่งนีก้ ก็ ลายเป็นสถานทีพ่ กั ผ่อนหย่อนใจจากความร่มรืน่ ของ ต้นไม้นานาพรรณ และยังเป็นแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติ รวมทั้งได้ศึกษาพันธุ์ไม้ที่ ไม่ค่อยพบเห็นโดยทั่วไปอีกด้วย
• สวนป่ารักนํ้า เฉลิมพระเกียรติฯ ตั้งอยู่ภายในบริเวณสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ถนนกำ�แพงเพชร 2 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ • เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 05.00-20.00 น. happy+ | 89
ปลูกความสุขในบ้านคุณ กับเจ้าชายผัก เรื่อง : เจ้าชายผัก
ปลูกผัก คู่กับเลี้ยงปลา ความต่างที่ลงตัว สวัสดีครับ ท่านผูอ้ า่ น happy+ กลับมาพบกับการปลูกความสุขในบ้านทีใ่ คร ๆ ก็ท�ำ ได้ กับเจ้าชายผักกันอีกเช่นเคยครับ ฉบับนีผ้ มมาปิง๊ แว้บ เรื่องราวที่อยากจะเล่าสู่กันฟัง แบ่งปันให้ได้เรียนรู้กันครับ เกี่ยวกับการปลูกผักสวนครัวของเราคู่กับการเลี้ยงปลา จะเป็นอย่างไรนั้น มาติดตามกันเลยนะครับ 90 | happy+
ปลูกผัก เลี้ยงปลา ภูมิปัญญาชาวสวน
การปลูกผักเลีย้ งปลานับเป็นภูมปิ ญ ั ญาชาวสวนทีม่ มี านาน ตัง้ แต่การ ปลูกผักในร่องสวนแบบที่อาก๋งและบรรพบุรุษของผมเคยทำ�มานานแล้ว เช่นเดียวกันกับชาวสวนหลายทีท่ วั่ โลก เป็นรูปแบบเกษตรผสมผสาน ทีอ่ าศัย ความเกื้อกูลกันระหว่างการปลูกพืชและการเลี้ยงปลา ด้วยการหมุนเวียน สารอาหารจากแหล่งอาหารที่ปลากินในนํ้าแล้วขับถ่ายออกมาเป็นปุ๋ยหรือ อาหารดิน ให้ดินเลี้ยงพืชอีกทีหนึ่ง และเศษพืชผักเหล่านี้ก็จะถูกนำ�ไปให้ ปลากิน ร่วมกับแหล่งอาหารในนํ้าอีกครั้งหนึ่ง วงจรที่พึ่งพาอาศัยกันเช่นนี้ ทำ�ให้มีอาหารกินอุดมสมบูรณ์ตลอดปี ทั้งพืชผักและเนื้อสัตว์ ที่เป็นแหล่ง อาหารสำ�คัญของการดำ�รงชีวิตอย่างครบถ้วนมายาวนาน
นํ้าขี้ปลา ปุ๋ยนํ้ามากคุณค่า แทบไม่ต้องพึ่งพาอะไรเลย
สำ�หรับคนปลูกผักแล้ว การรักษาความอุดมสมบูรณ์ของดินนั้นเป็น หัวใจสำ�คัญ นํ้าขี้ปลาในบ่อเลี้ยงปลาของเราจึงเป็นแหล่งธาตุอาหารที่ สำ�คัญ ในวงจรการหมุนเวียนสารอาหารในดิน ซึ่งมีธาตุที่พืชจำ�เป็นต้อง ใช้ เพื่อการเจริญเติบโตอยู่อย่างครบถ้วน ซึ่งเมื่อรดลงดินที่เราปลูกผักแล้ว ก็จะถูกจุลนิ ทรียใ์ นดินทีม่ บี ทบาทในวัฏจักรหมุนเวียนธาตุอาหารชนิดต่าง ๆ
นำ�ไปกินไปใช้ อาทิ วัฏจักรไนโตรเจนที่จะมีแบคทีเรียอย่าง ไนโตรโซโมแนส และไนโตรแบคเตอร์ ที่ช่วยกันเปลี่ยนสารแอมโมเนียในนํ้าขี้ปลาให้เป็นสาร ไนเตรต ทีพ่ ชื นำ�ไปกินไปใช้ได้อกี ทอดหนึง่ นํา้ ขีป้ ลาจึงเป็นปุย๋ นํา้ มากคุณค่า ที่ไม่ต้องเติมแต่งอะไรเลย ดังนั้นยิ่งปลากินดีอยู่ดีเท่าไหร่ พืชผักของเราก็ยิ่ง ได้ปุ๋ยกินดีมากขึ้นเท่านั้น
เริม่ ต้นง่าย ๆ แค่เตรียมดินให้ดี เอานํา้ ขีป้ ลารดบ่อย ๆ เท่านี้ ก็เรียบร้อย
จากประสบการณ์ของผมพบว่า ถ้าเราเตรียมดินดี แค่เอาดินผสม ใบก้ามปูสักสามส่วน กับปุ๋ยหมักหรือมูลไส้เดือนอีก 1 ส่วน สำ�หรับเป็นดิน ผสมที่ใช้ในการปลูกผัก และรดนํ้าขี้ปลาบ่อย ๆ สักสัปดาห์ละครั้งถึงสอง ครัง้ ระหว่างทีผ่ กั กำ�ลังเจริญเติบโต เพียงเท่านีพ้ ชื ผักก็สามารถเจริญงอกงาม ได้เป็นอย่างดี ใครอยากจะผสมนํ้าหมักชีวภาพหรือปุ๋ยนํ้าอื่น ๆ ร่วมด้วยก็ ไม่ผดิ กติกา ผักก็จะยิง่ งามเข้าไปกันใหญ่ รูแ้ บบนีแ้ ล้ว อ่างหรือบ่อเลีย้ งปลา ของสมาชิกในบ้านเรา ก็เป็นมิตรกับการปลูกผักของเราแล้วใช่ไหมครับ จะ ช้าอยู่ไย ไปขยับจอบเปลี่ยนโลกของเรากันเถอะครับ พบกันใหม่ฉบับหน้า สวัสดีครับ ¬^_____^ happy+ | 91
กินอาหารเป็นยา เรื่องและภาพ : ป้าจาย แม่มดดอกไม้
ข้าวจี่ดอกไม้-ไข่พระอาทิตย์
สำ�หรับทุกคนที่เกิดในรัชสมัยของรัชกาลที่ 9 น่าจะเคยรับประทานอาหารจานเด็ดสูตรพระราชทานของพระองค์ท่าน รวมทั้งครัวแม่มดดอกไม้ ที่จะฝากท้องไว้กับจานโปรดนี้อยู่บ่อยครั้ง และนี่เป็นอีกหนึ่งรูปแบบอาหารจานดีจานด่วน ที่มีเมนูไข่พระอาทิตย์เป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจ 92 | happy+
วัตถุดิบก้นครัว
• ข้าวเหนียวกล้องสุกและค้างมื้อ 1 ถ้วย (ใช้ข้าวเหนียวขาวก็ได้) • ไข่ไก่ 2 ฟอง • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ • เกลือป่น และพริกไทยป่น อย่างละ 1/2 ช้อนชา • ใบชะพลู 4-5 ใบ ผักชีลาว 1 ยอด กะเพรา 2-3 ยอด หรือผักอื่น ๆ ที่ชอบ เช่น ชะอม • ดอกเข็ม ดอกอัญชัน ดอกเฟือ่ งฟ้า ดอก พยับหมอก ดอกแววมยุรา • งาม้อน และงาสามสี อย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ • นํ้ามันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ ใบตองสด ตัดเป็นแผ่นกลมรองก้นกระทะ
วิธีทำ�
• ซอยผักเป็นชิ้นเล็ก ๆ เด็ดดอกไม้เป็นกลีบ หรือซอยชิ้นเล็กถ้ากลีบใหญ่ • ผสมข้าวเหนียวกล้องกับผัก ดอกไม้ ไข่ไก่สด ซีอิ๊วขาว เกลือ พริกไทย และงาทั้งสองชนิด • เหลือดอกไม้สดสำ�หรับแต่งหน้าข้าวจี่สักนิดหน่อย • คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันดี • เตรียมกระทะ ใช้ใบตองรอง แล้วค่อยใส่นํ้ามันบนใบตอง • เทส่วนผสมลงบนใบตองที่นํ้ามันร้อนดีแล้ว เกลี่ยให้เป็นวงกลมสวยงาม • ใช้ไฟกลางค่อนข้างอ่อน เพื่อให้ข้าวจี่สุกเกือบถึงด้านบน • โรยดอกไม้สดแต่งหน้า ใช้ทพั พีกดกลีบดอกไม้ให้ตดิ กับเนือ้ ไข่ จะได้ไม่รว่ งเวลากลับด้านทอด • ตัง้ ไฟรอจนกว่าจะเห็นขอบข้าวจีเ่ ป็นสีเหลืองทอง หรือได้กลิน่ ใบตองเริม่ ไหม้ จึงค่อยกลับด้าน • ทอดเพียงครู่เดียว ให้หน้าข้าวจี่สุกสักหน่อย แต่อย่าปล่อยให้นานเกินไป ดอกไม้จะไหม้
เคล็ดลับของเมนูไข่พระอาทิตย์สูตรพระราชทานนี้ ควรใช้ข้าวเย็นและเม็ดข้าวค่อนข้างแห้ง ยิง่ เป็นข้าวทีเ่ ก็บค้างในตูเ้ ย็นจะยิง่ ดี เมือ่ นำ�มาปรับเป็นเมนูขา้ วจีก่ ย็ งั คงใช้ขา้ วเหนียวทีเ่ ก็บค้างเมือ่ กิน ไม่หมด หลายครัง้ ทีเ่ ราจะมีขา้ วเหนียวสุกเหลือจากการกินอาหารอีสานจำ�พวกส้มตำ� ลาบ ควรเก็บ สะสมไว้ในช่องแช่แข็ง จนกว่าจะได้จำ�นวนมากพอ จึงนำ�มารวมกันทำ�เมนูขา้ วจีไ่ ข่พระอาทิตย์ได้สกั จาน โดยการปล่อยให้ข้าวเหนียวแช่แข็งละลายอ่อนตัวเสียก่อน เมื่อผสมไข่และทอดร้อน ๆ แล้ว จะมีรสชาตินมุ่ นวล น่ากินไม่นอ้ ยกว่าข้าวไข่พระอาทิตย์ สำ�หรับสูตรข้าวจีด่ อกไม้ จะมีกลิน่ หอมของ สมุนไพรและดอกไม้ในรูปลักษณ์ทคี่ ล้าย ๆ กับพิซซ่าหน้าสมุนไพร น่าจะถูกใจเยาวชนไม่นอ้ ยอยู่ happy+ | 93
ชวนชิม เรื่อง : Bella / Patty Pom ภาพ : TepiN
เขาค้อเฮอร์เบอรี่ ออแกนิกฟาร์ม แอนด์ รีสอร์ท สำ�หรับใครที่กำ�ลังจะเดินทางไปพักผ่อนที่ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เราขอแนะนำ�ร้านอาหารเพื่อสุขภาพที่ตั้งอยู่ใน บริเวณเขาค้อเฮอร์เบอรี่ ออแกนิกฟาร์ม แอนด์ รีสอร์ทแห่งนี้ เพราะวัตถุดบิ ในทุกเมนูอาหารของทางร้านส่งตรงมาจาก ฟาร์มออร์แกนิกทีเ่ ขาค้อเฮอร์เบอรีป่ ลูกและดูแลเอง ทำ�ให้ได้วตั ถุดบิ ทีป่ ลอดภัยและมีประโยชน์ตอ่ ร่างกาย สลัดงาดำ� เพือ่ สุขภาพ ทีค่ ดั สรรบรรดาผักปลอดสารพิษทีส่ ด สะอาดมาให้ลม้ิ ลอง ทานคูก่ บั นํา้ สลัดรสกลมกล่อม ชุดนํา้ พริกผักรวม นํ้าพริกสูตรพิเศษจากทางร้านทานคู่กับผักต้มหลากหลายชนิด ทั้งแคร์รอต ฟักทอง หญ้าหวาน สะระแหน่ ฯลฯ ส้มตำ�ก้านทูน ใช้กา้ นทูนและแคร์รอตสไลด์มาแทนเส้นมะละกอ ทำ�ให้ได้รสสัมผัสทีแ่ ตกต่างออกไป ยำ�ฟักแม้ว ด้วยนํา้ ยำ� รสเด็ดที่คลุกเคล้าจนเข้ากันเป็นอย่างดีกับยอดฟักแม้ว ทำ�ให้เมนูนี้อร่อยไม่เหมือนใคร 94 | happy+
• เขาค้อเฮอร์เบอรี่ ออแกนิกฟาร์ม แอนด์ รีสอร์ท เลขที่ 137 หมู่ 5 ต.ทุง่ สมอ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ 67270 • เบอร์ตดิ ต่อ : 05-6750-0612, 09-5626-9453
Milk on the Rock
• ร้าน Milk on the Rock ตั้ง อยู่ ที่ ตลาดหั ว มุ ม Market & More เปิดทุกวัน 17.0024.00 น. โทร. 08-1626-3343 www.facebook.com/ MilkontherockBKK/
ความฝันในการเป็นนักร้องและก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงได้ส�ำ เร็จดังฝันแล้ว แต่ไบร์ท วิชเวช เอื้ออำ�พน ยังมีความฝัน อีกหนึ่งอย่างนั่นคือ การมีธุรกิจเป็นของตัวเอง และในวันนี้ความฝันนั้นก็แปรรูปมาเป็นร้าน Milk on the Rock ร้าน อาหารและเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์ชื่อดังจากเชียงใหม่ ได้มาเปิดแล้วที่กรุงเทพฯ และไบร์ทก็ดูแลเองในทุก ๆ ขั้นตอน และภูมิใจนำ�เสนอทุกเมนูให้ทุกคนได้ลิ้มลอง Black Bun บันเบอร์เกอร์ชาร์โคลสอดไส้ไอศกรีมราดด้วยซอสสีสนั สดใสหลากหลายรสชาติ ไม่วา่ จะเป็นเชอร์ร,ี สตรอว์เบอร์ร,ี บลูเบอร์รแี ละคุกกีแ้ อนด์ครีม รสชาติหวานอมเปรี้ยวเข้ากัน Gasoline Bomb เมนูยอดฮิตของทางร้าน นอกจากสีสันจะน่าทานมากแล้ว ยังมีกิจกรรมให้คนทานได้สนุกกับการถ่ายรูป ถ่ายคลิปกันด้วย แถมรสชาติก็หวานหอมชื่นใจ Honey Lemon นํ้าผึ้งมะนาวพร้อมฟองนมนุ่ม ๆ ด้านบน เสิร์ฟมาในแก้วเย็นเจี๊ยบรูปลักษณ์คล้ายเบียร์ แต่ดีต่อสุขภาพ เป็นอีกเมนูที่อร่อยและถ่ายรูปสวย ดื่มสบาย ๆ ชุ่มคอ Lemonade เครื่องดื่มรสผลไม้ผสมมะนาวและโซดา มีให้เลือกถึง 5 สี 5 รส และ อีกเมนูที่ไบร์ทภูมิใจนำ�เสนอ คือ Charcoal Cheese ขนมปังชาร์โคลไส้ชีสอุ่น ๆ ที่ยืดได้สะใจ รสชาตินุ่มนวลกลมกล่อม ยามเย็นบรรยากาศนั่งสบาย ๆ มาพร้อมเพื่อนฝูงและครอบครัว แวะมาดื่มนม พร้อมชมพ่อค้าหน้าใสก็เป็นทางเลือกที่ดีนะคะ แอบกระซิบสาว ๆ ว่า หนุ่มไบร์ทมาดูแลกิจการด้วยตัวเองบ่อย ๆ เลยละค่ะ บางวันอาจได้ฟังเพลงเพราะ ๆ จากหนุ่มไบร์ทด้วย อย่าพลาดนะคะ happy+ | 95
ชวนดูหนัง เรื่อง : It’s a bell
A Monster Calls มหัศจรรย์เรียกอสูร ภาพยนตร์เรือ่ งนีส้ ร้างมาจากนิยายวรรณกรรมเยาวชนในชือ่ เดียวกัน เขียนโดย แพทริค เนสส์ ซึง่ เขาได้รบั แรงบันดาลใจมาจากชิโบห์น ดาวน์ อีกต่อหนึง่ เพราะเธอตัง้ ใจจะเขียนหนังสือเรือ่ งนีใ้ ห้จบ แต่เสียชีวติ ไปก่อนด้วยโรคมะเร็ง ซึง่ หนังสือเล่มนีถ้ กู ยกให้เป็น วรรณกรรมยอดเยีย่ ม ประจำ�ปี 2011 จากเวที British Book Award และได้รบั คำ�ชมอย่างล้นหลามจากหลากหลายสือ่ A Monster Calls กำ�กับโดย ฮวน อันโตนีโอ บาโยนา เป็นเรือ่ งราวของคอเนอร์ โอมัลลี (เลวิส แม็คดูกลั ล์) เด็กชายวัย 12 ปี ทีต่ อ้ งเผชิญกับปัญหาที่ โรงเรียน และมีคณ ุ แม่ (เฟลิซติ ้ี โจนส์) ทีก่ �ำ ลังรับมือกับอาการป่วยด้วยโรคมะเร็ง วันหนึง่ คอเนอร์บงั เอิญพบกับสิง่ ลีล้ บั สุดสะพรึงนัน่ คือ ต้นยิวเก่าแก่ ซึง่ ยืนต้น อยูใ่ กล้บา้ นเขามากว่าพันปี กลับมีชวี ติ ขึน้ มา และอสุรกายตนนีจ้ ะมาเล่านิทานให้คอเนอร์ฟงั เมือ่ ครบทัง้ 3 เรือ่ งแล้ว ก็ถงึ เวลาทีค่ อเนอร์ตอ้ งบอกความจริงที่ ฝังลึกอยูใ่ นก้นบึง้ หัวใจของเขาออกมาเสียที เรือ่ งราวจะเป็นอย่างไรต่อไป อสูรตนนีท้ ค่ี อเนอร์เรียกออกมา จะมาช่วยให้คณ ุ แม่ของเขาหายจากโรคมะเร็งหรือไม่ คงต้องติดตามดูคะ่ แต่แอบกระซิบว่าเป็นภาพยนตร์ทเ่ี ด็กดูได้ ผูใ้ หญ่ดยู ง่ิ ดีเลยละค่ะ 96 | happy+
เรื่อง : วราภรณ์ วัชรานนท์ ภาพ : TepiN ชวนอ่านสานสุข
ทำ�ไมต้องรัก / เรือ่ ง : พลิว้ อ่อน / สำ�นักพิมพ์ : อดีตชาติบ�ำ บัด พลิกกรรม เปลีย่ นชีวติ / เรือ่ ง : I CANCEL MY CANCER / เรือ่ ง : เบลล์ ศิรนิ ทิพย์ / ดร.ทายาท ศรีปลั่ง / สำ�นักพิมพ์ : บ้าน สำ�นักพิมพ์ : BUNBOOKS / ราคา : 215 บาท Sugar Beat / ราคา : 390 บาท นวนิยายรักโรแมนติก / คอเมดี้ / พารานอร์มลั พระอาทิตย์ / ราคา : 240 บาท หนั ง สื อ ที่ ถ่ า ยทอดประสบการณ์ ต รงจาก เล่ ม นี้ จ ะชวนให้ คุ ณ หลงใหลไปกั บ เรื่ อ งราว ความรักเหนือจินตนาการ ระหว่าง ‘วาวมณี ภานุมาส’ กับ ‘กฤษ รังษีมา’ ทีจ่ ะต้องแต่งงานกัน เพราะคำ�สัญญาของสองตระกูล แม้การแต่งงาน ครั้งนี้จะเป็นไปด้วยความสมัครใจของทั้งคู่และ ดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น เมือ่ วาวมณีไปล่วงรูค้ วามจริงว่า ‘สามีของเธอเป็น มนุษย์ประหลาด’ เธอจะจัดการกับปัญหา (หัวใจ) ครั้งนี้ได้อย่างไร แนะนำ�ให้หา ‘ทำ�ไมต้องรัก’ มา อ่านกันดูนะคะ สนุกครบรสจริง ๆ ค่ะ
คุณเชื่อเรื่อง ‘อดีตชาติ’ ไหม บุญบาปที่ เราเคยกระทำ�ไว้ในอดีตส่งผลมาถึงปัจจุบันชาติ อย่างไร มาทำ�ความรู้จักกับหลักการ ‘ย้อนรอย อดีตชาติบำ�บัด (Past Life Regression Therapy) หรือ PLRT’ ในหนังสือเล่มนี้ ซึ่งผู้เขียนได้ศึกษา และนำ�มาบูรณาการเข้ากับวิถพี ทุ ธได้เป็นอย่างดี พร้อมกับนำ�เสนอเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับคนเป็น ๆ ในปัจจุบัน ผู้อ่านจะได้เข้าใจเรื่อง ‘กฎแห่งกรรม’ ทีแ่ ฝงอยูใ่ นจิตใต้ส�ำ นึกของคนเราอย่างลึกซึง้ มากขึน้ ทั้งยังได้ข้อคิดและเห็นผลจริงเมื่อนำ�มาปฏิบัติ ตามอีกด้วยค่ะ
ผู้ป่วยมะเร็งต่อมนํ้าเหลืองโดย ‘เบลล์ ศิรินทิพย์’ คุณจะได้พบกับเรื่องราวการต่อสู้เพื่อให้หายจาก โรคร้าย การใช้ชวี ติ ของการเป็นผูป้ ว่ ยมะเร็ง ความ รู้สึกนึกคิดต่าง ๆ ตลอดจนวิธีการรับมือและการ รักษา ฯลฯ ภายในระยะเวลาสองปีครึ่ง จนใน ที่สุดเธอก็สามารถเอาชนะโรคนี้ได้สำ�เร็จ ผู้อ่าน จะได้แรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตของตัวเองหรือ คนรอบข้ าง ที่ อาจกำ� ลั งเผชิญหน้ากับปัญหา เช่นเดียวกับเธออยู่ หากได้อ่านแล้วคุณจะมีสติ และมองโลกในแง่บวกมากขึ้นเลยค่ะ
น ว นิ ย า ย คุ ณ ภ า พ อี ก เ ล่ ม ห นึ่ ง ข อ ง ‘ประภัสสร เสวิกุล’ ที่สะท้อนภาพชีวิตของผู้คน ในมาเก๊าและฮ่องกงในแง่มุมต่าง ๆ ได้อย่าง น่าสนใจ โดยเป็นเรื่องราวการต่อสู้ชิงไหวชิงพริบ ระหว่าง ‘เฉินจง’ และ ‘หยวนไถ่’ เพือ่ แย่งชิงความ เป็นใหญ่ในแวดวงกาสิโนและ ‘กุหลาบงาม’ หญิง สาวผู้ครอบครองหัวใจของทั้งคู่ ในอีกด้านหนึ่ง ทางฝั่งฮ่องกง ‘รอเจอร์ ชาน’ เด็กกำ�พร้าปริศนา ผู้มีพรสวรรค์ในการเล่นการพนันถูกนำ�ตัวมายัง มาเก๊า และเข้ามาเกีย่ วข้องกับเหตุการณ์ในครัง้ นี้ เรื่องราวทั้งหมดจะมีบทสรุปอย่างไร ติดตาม ได้ใน ‘กุหลาบจีน’ เล่มนี้ค่ะ
ใคร ๆ ก็อยากจะมี ‘บ้านในฝัน’ กันสักหลัง ใช่ไหมคะ แต่แทนที่จะเลือกเปลี่ยนบ้านหลังใหม่ ให้ยุ่งยาก เราลองมาปรับปรุงบ้านหลังเก่าให้ กลายเป็นบ้านหลังใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิมกันดีกว่า หนังสือเล่มนี้เหมาะจะเป็นคู่มือให้คุณค่ะ เพราะ ได้รวบรวมตัวอย่างบ้านสวย ๆ หลากหลายสไตล์ ทั้ง 6 หลังที่ผ่านการรีโนเวทจากเจ้าของบ้าน มาแล้ว รับรองว่าสวยจนอยากทำ�ตามเลยละค่ะ คุณผูอ้ า่ นทีส่ นใจอาจจะได้ไอเดียไปแปลงโฉมบ้าน ของคุณบ้างก็ได้นะคะ
อย่าปล่อยให้ใครฆ่าวาฬของคุณ / เรือ่ ง : รวิศ Renovated Home ปรับ / เพือ่ / เปลีย่ น / หาญอุตสาหะ / สำ�นักพิมพ์ : วีเลิรน์ / ราคา : กุหลาบจีน / เรือ่ ง : ประภัสสร เสวิกลุ / สำ�นักพิมพ์ : เรือ่ ง : กองบรรณาธิการนิตยสาร My Home / NANMEEBOOKS / ราคา : 295 บาท 265 บาท สำ�นักพิมพ์ : บ้านและสวน / ราคา : 225 บาท ในโลกของธุรกิจแน่นอนว่า ผูท้ แี่ ข็งแกร่งกว่า ย่ อ มมี โ อกาสประสบความสำ � เร็ จ ทางธุ ร กิ จ มากกว่า หากเปรียบ ‘วาฬ’ เป็นจุดแข็งทาง ธุรกิจแล้วละก็ วาฬของคุณแข็งแกร่งพอหรือยัง หนังสือทีเ่ ขียนขึน้ จากประสบการณ์ตรงของ ‘รวิศ หาญอุ ต สาหะ’ เจ้ า ของธุ ร กิ จ แบรนด์ ผ งหอม ศรีจันทร์ที่ประสบความสำ�เร็จมาแล้ว โดยเขาได้ แบ่งปันแนวคิด 36 วิธีผ่านเรื่องราวดี ๆ ที่จะช่วย กระตุ้นให้ ‘วาฬ’ ในตัวคุณมีพลังขึ้นอีกครั้ง อย่า ปล่อยให้ใครฆ่าวาฬของคุณได้ค่ะ
happy+ | 97
horoscopes
พยากรณ์ เดือนมกราคม 2560
เข้าสู่เดือนแรกของปี 2560 แล้วนะครับ เดือนแห่งความสุขที่พวกเราได้เริ่มต้นปีใหม่ นอกจาก เดือนแรกของปี ที่เป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขแล้ว เสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคมถือเป็น วันที่เด็ก ๆ ต่างตั้งหน้าตั้งตาคอย เพราะถือเป็น “วันเด็กแห่งชาติ” ตรงกับวันเสาร์ที่สองของเดือน มกราคม ซึ่งแต่ละปี เด็ก ๆ จะได้คำ�ขวัญจากนายกรัฐมนตรีของไทย คำ�ขวัญวันเด็กก็จะแตกต่างกัน ก่อนหน้านั้นประเทศไทยมีการจัดงานวันเด็กครั้งแรกวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2498 โดยใช้วันจันทร์แรก ของเดือนตุลาคม เป็นวันเด็กแห่งชาติ ของทุก ๆ ปี ต่อมาในปี พ.ศ. 2506 วันเด็กแห่งชาติได้เปลี่ยนมา เป็นวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคม โดยเริ่มครั้งแรกในปี พ.ศ. 2508 จนถึงปัจจุบัน เด็กเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำ �คัญยิ่งของประเทศชาติ เป็นพลังสำ�คัญใน การพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าและมั่นคง หากเด็กทุกคนได้ตระหนักถึงอนาคตของตนและของประเทศชาติ โดยประพฤติปฏิบัติหน้าที่ของตน รู้ผิดชอบชั่วดี ขยันหมั่นศึกษาหาความรู้ ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ มีความอดทนอดกลั้นต่อสิ่งยั่วยุต่าง ๆ ก็จะมีส่วนช่วยให้ชาติบ้านเมืองเจริญและมี ความผาสุกร่มเย็น ซึ่งแม้จะจัดเพียงปีละครั้ง แต่การที่เด็ก ๆ ได้มีวันหยุดแห่งความสุขของตัวเอง ย่อมทำ�ให้เกิดผลดี และอาจเป็นแนวทางที่ชี้ให้พวกเขา เหล่านั้นเห็นสิ่งดี ๆ และจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคตต่อไปได้ สำ�หรับท่านที่ติดตามหนังสือพยากรณ์ชะตาชีวิตปี 2560 ตอนนี้มีวางจำ�หน่ายที่ 7-Eleven และร้านหนังสือชั้นนำ�แล้วนะครับ และสามารถติดตาม ผมได้ในรายการคุยข่าวสิบโมง ททบ.5 ทุกวันจันทร์ เวลา 10.00 น. ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 13.00 น. รายการแม่บ้านประจัญบาน ไทยรัฐทีวี ช่อง 32 Facebook : คฑา ชินบัญชร และ Instagram : KHATHA_CHINBUNCHORN ครับ 98 | happy+
เรื่อง : อาจารย์ คฑา ชินบัญชร
ราศีมังกร (16 ม.ค.-12 ก.พ.) การทำ�งานช่วงนี้เชื่อคนง่าย ด่วนสรุปเรื่อง ทำ�ให้บางครัง้ ต้องกลับมานัง่ เสียใจ บางอย่างควร ทบทวนให้รอบคอบ ฟังผูอ้ นื่ บ้าง เหนือฟ้ายังมีฟา้ เงินทองใช้เกินงบทีว่ างไว้แล้ว อย่าใช้จา่ ยฟุม่ เฟือย เดี๋ยวจะขัดสนได้ โชคลาภมาจากคนอายุน้อย หรือคนที่มาจากที่ไกล “ไพ่ 5 ถ้วย” ความรักมัก ใช้อารมณ์ใส่กัน มีปากเสียงจุกจิก พยายามออม คำ�พูดบ้าง ทำ�ร้ายทัง้ ใจเขาใจเรา แก้วทีร่ า้ วแล้วจะ ต่อให้ติดเหมือนเดิมยากนะครับ สุขภาพปวดตา ความดันขึ้น
ราศีกุมภ์ (13 ก.พ.-13 มี.ค.) การทำ�งานมีเรื่องต้องครุ่นคิด คนนั้นคนนี้ คอยเอาข่าวมาบอก ทำ�ให้คิดไปไกล ช่วงนี้ต้อง เด็ดขาดถึงจะทำ�ให้งานลุล่วง การเงินช่วงกลางมี โชคลาภ แต่ตอ้ งไม่ใจอ่อนให้ใครหยิบยืมด้วย “ไพ่ Judgement” ความรักกำ�ลังสุกงอมเต็มที่ มีการ เจรจาเรือ่ งแต่งงาน เรือ่ งอนาคต คนโสดได้พบคน ถูกใจ สะดุดรักกันได้ทุกวัน แต่ต้องดูให้ดีว่า เขา มีเจ้าของอยู่ก่อนหรือยัง สุขภาพมีเจ็บป่วยจุกจิก เดีย๋ วผืน่ แพ้ผวิ หนัง เดีย๋ วเจ็บคอ มีปวดศีรษะเล็ก ๆ หาเวลาพักและออกกำ�ลัง
ราศีมีน (14 มี.ค.-12 เม.ย.) การทำ�งานเห็นอะไรก็ขวางหูขวางตาพาล เขาไปทัว่ ต้องออกแรง ต้องเหนือ่ ยถึงจะเห็นผลเร็ว แต่ ห้ า มใจร้ อ น จะทำ � ให้ เรื่ อ งบานปลาย ยิ่ ง ทำ�งานร่วมกันเป็นทีมคุณยิง่ ต้องระวังมากขึน้ “ไพ่ 2 เหรียญ” การเงินช่วงต้นมีคา่ ใช้จา่ ยมาก ขัดแย้ง เรื่องผลประโยชน์ แถมคุณเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เสียด้วย ความรักแง่งอนกันบ่อย หัดยอม ๆ กันบ้าง ชีวิตคู่จะได้สดชื่น คนโสดช่วงกลางได้สะดุดรัก ความสัมพันธ์ก้าวหน้า สุขภาพระวังสะดุดหกล้ม ให้ได้เจ็บตัว ขาอ่อนแรง
ราศีเมษ (13 เม.ย.-13 พ.ค.) การทำ � งานคล่ อ งแคล่ ว มี ค นคอยช่ ว ย ถ้าเอาใจใส่เป็นพิเศษงานจะรุ่งแซงหน้าคนอื่น การเงินได้ลาภจากคนมีอายุ ช่วงกลางได้รบั ข้อมูล ที่ช่วยในการตัดสินใจ เสี่ยงลุ้นมีโอกาสสำ�เร็จสูง “ไพ่ 7 ถ้วย” ความรักมีคนช่วยเชียร์ทำ�ให้สมหวัง เร็วกว่าทีค่ ดิ คนโสดมีคนมาพัวพันเยอะ ต้องดูให้ดี บางทีไปเจอคนที่มีเจ้าของแล้ว สุขภาพมีปัญหา เกี่ยวกับโรคเดิม ๆ อาจเป็นเพราะความละเลย คิดว่าไม่เป็นอะไร อาจทำ�ให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ พยายามตรวจร่างกายสมํ่าเสมอ
ราศีพฤษภ (14 พ.ค.-13 มิ.ย.) การทำ�งานมีงานที่ต้องสะสางค่อนข้างมาก และมีคนคอยเฝ้าดูความประพฤติของคุณ ถ้า ปฏิบตั ติ วั ดีจะได้รบั การสนับสนุน ช่วงกลางมีไอเดีย เด็ด ๆ ส่งผลให้เป็นที่ยอมรับของคนรอบข้าง “ไพ่ เจ้าชายเหรียญ” การเงินรูจ้ กั ใช้มากขึน้ ทำ�ให้ ไม่ขัดสน ความรักอ่อนไหวง่าย เห็นอะไรก็น้อยใจ ชอบแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ มีเรื่องหึงหวง คนโสดสบายหน่อยได้เจอแต่เด็ก ๆ สุขภาพระวัง เรื่องหมอนรองกระดูก ห้ามยกของหนักเกินตัว ปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ
ราศีเมถุน (14 มิ.ย.-14 ก.ค.) การทำ�งานต้องขยันให้มาก ดวงไม่ค่อยดี มีคนคอยกลัน่ แกล้ง ขีโ้ กง ทำ�ให้ผลงานของคุณไม่ โดดเด่น ใจเย็นแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง การเงิน ชักหน้าไม่ถงึ หลัง ใช้จา่ ยไม่คอ่ ยคิด อาจต้องกลุม้ ใจ ภายหลัง “ไพ่ Justice” ความรักเกิดการรักพี่ เสียดายน้อง ปัญหาของคนอื่นแก้ได้ทุกอย่าง แต่ เรื่องตัวเองจนใจทุกที คนโสดเล็งไปเล็งมา ไปเจอ คนมีเจ้าของ สุขภาพอาการท้องร่วง ท้องเสียมา วนเวียน และอีกสิ่งที่ละเลยไม่ได้ เจ็บคอ อันเกิด จากกรดไหลย้อน
ราศีกรกฎ (15 ก.ค.-16 ส.ค.) การทำ�งาน “ไพ่ 1 ดาบ” ต้น ๆ เหนื่อย ต้องลงทุนลงแรงบุกเบิกเริม่ สร้าง หลังจากนัน้ ก็ดขี น้ึ มี ค นเข้ า มาช่ ว ยเหลื อ การเงิ น ไม่ ถึ ง กั บ ชอร์ ต แต่กไ็ ม่เข้าขัน้ ดี อะไรประหยัดได้กป็ ระหยัดไว้กอ่ น เจอคนรู้จัก เพื่อนเก่า คนคุ้ยเคยบ่อย ๆ และได้ หวนกลับมาคบกันอีกครัง้ หนึง่ “ไพ่ 6 ถ้วย” ความรัก กุ๊กกิ๊กกันได้ตลอด เป็นที่น่าอิจฉาของคนรอบข้าง ยิง่ นัก คนโสดมีโอกาสดีให้รบี ไขว่คว้าเอาไว้ คนรัก เก่าจะ Return กลับมา สุขภาพนํ้าหนักเพิ่ม พุง ถามหา ออกกำ�ลังบ้าง
ราศีสิงห์ (17 ส.ค.-16 ก.ย.) การทำ � งานมี ค วามกระตื อ รื อ ร้ น อยาก เอาชนะ ซึ่งเป็นสิ่งดี ทำ�ให้ผู้บังคับบัญชาเริ่มมอง คุณในแง่มุมใหม่ “ไพ่ ราชินีเหรียญ” การเงินมี ความทะเยอทะยานสุด ๆ คิดถึงแต่ความรํ่ารวย ได้ขอ้ มูลเด็ด ๆ ความคิดดี ๆ ให้ได้มแี ผนการในการ ทำ � กำ � ไร เงิ น หมุ น เวี ย นคล่ อ ง ความรั ก สดใส คนโสดลองเปลีย่ นแปลงตัวเองดูจะรูว้ า่ ตัวคุณเอง ก็เสน่ห์แรงไม่เบา
ราศีกันย์ (17 ก.ย.-16 ต.ค.) การทำ�งานด้วยความมีไฟอันเต็มเปีย่ มทำ�ให้ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค งานราบรื่น แต่ช่วงกลาง อาจมีความขัดแย้งกับผู้ใหญ่บ้าง การเงินจับจ่าย ใช้สอยได้อย่างคล่องแคล่ว มีคนนั้นคนนี้คอย เอาใจ ความรักหวานชื่น เป็นคนช่างคิดช่างฝัน คิดหวังอะไรจากคนรักจะได้รับการตอบสนองที่ดี ถ้ า ดู ใจกั น มานานก็ ค งถึ ง เวลาลงเอยกั น เสี ย ที คนโสดก็ ห ายห่ ว งมี ค นนั้ นคนนี้ แ วะเวี ย นมาให้ เลือก “ไพ่ 8 ดาบ” สุขภาพไมเกรน ปวดศีรษะ ชอบเอาเรื่องเล็กมาคิดเป็นเรื่องใหญ่
ราศีตุลย์ (17 ต.ค.-16 พ.ย.) การทำ�งานอย่าเพิ่งใจร้อน งานบางอย่าง อาจจำ�เป็นต้องใช้เวลา ถึงจะเร่งรีบร้อนรนไปก็ ทำ�ให้กลุ้มใจไม่เป็นผลดี ทำ�งานเป็นกลุ่มเป็นทีม จะทำ � ให้ เ สร็ จ เร็ ว เงิ นทองไม่ ค่ อ ยไหลไปไหน หมุนเวียนคล่อง ถ้าพูดจาดียังมีลาภจากผู้ใหญ่ อีกด้วย “ไพ่ The World” ความรักสุกงอมเต็มที่ สรรหาสิ่งดี ๆ มาให้กัน ทำ�ให้ชีวิตประจำ�วัน มี ค วามสุ ข มี กำ � ลั ง ใจในการทำ � ฝั น ให้ เป็ นจริ ง คนโสดได้ เพื่อ นดีค อยแนะนำ�ให้เป็น ฝั่ง เป็น ฝา สุขภาพฟื้นตัวดีขึ้น แต่จะมีปัญหาผิวหนังบ้าง
ราศีพิจิก (17 พ.ย.-15 ธ.ค.) “ไพ่ 10 ดาบ” การงานเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ถูกคนใส่รา้ ย เรือ่ งทีค่ าดหวังมักจะผิดพลาดเพราะ ถูกแกล้ง ความใจร้อนจะเป็นต้นเหตุให้ตัวคุณ เดือดร้อน การเงินมีเรื่องต้องใช้จ่ายจิปาถะ ทั้ง ค่าซ่อมแซม ค่ายา รวมถึงเรื่องเดือดร้อนที่คนอื่น ก่อขึ้น ทำ�ของหายบ้าง เงินทองกลุ้มใจเป็นพิเศษ ความรักเกิดจากความหลงใหล ความใคร่มากกว่า ความรัก เลยไม่ค่อยจะยืนนาน เชื่อใครไม่ค่อยได้ มักจะทำ�ให้เสียนํ้าตา อารมณ์แปรปรวน สุขภาพ มีปัญหาเกี่ยวกับช่องท้อง มดลูก
ราศีธนู (16 ธ.ค.-15 ม.ค.) การทำ�งานคล่องตัว เพือ่ นร่วมงานช่วยเหลือ กันดี ช่วงนี้คุณควรขยันขันแข็งเพราะผู้ใหญ่ก�ำ ลัง จับตาดู เผื่อจะได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำ�แหน่ง การเงิน เริ่มรู้จักใช้จ่าย เก็บออม ประหยัดจนคนรอบข้าง รู้สึกได้ ช่วงกลางพูดจาดีจะนำ�พาโชคลาภมาให้ ความรักเป็นรักที่ไม่เปิดเผย แอบรักเขาบ้าง รัก คนมีเจ้าของบ้าง จะสมหวังลงเอยยากเหลือเกิน ถ้ ามี คนรั กแล้ วมั กจะมี เรื่ อ งทำ�ให้ไขว้เขว “ไพ่ Temperance” สุขภาพระวังอุบัติเหตุเกี่ยวกับนํ้า อย่าเพิ่งเดินทางโดยเรือ happy+ | 99
กิจกรรมนำ�สุข
The Boss Learn on The Road ครั้งที่ 7 สัมมนาสัญจร ณ ดินแดน มาเลเซีย
สถาบันการบริหารและจิตวิทยา MPI ได้นำ�พาคณะ The Boss ออกเดินทางในกิจกรรม The Boss Learn on The Road ครั้งที่ 7 เปิดโอกาสการเรียนรู้ธุรกิจและขยายมุมมองด้านการค้าการลงทุน ณ ประเทศมาเลเซีย เมือ่ วันที่ 21-24 พฤศจิกายน 2559 นำ�โดยคณะผูบ้ ริหาร อาทิ ดร.วิสทุ ธิ วิทยฐานกรณ์ และ อ.พิเชษฐ์ เวชสุภาพร ร่วมด้วยวิทยากรพิเศษ ผศ.ดร.ปิติ ศรีแสงนาม ผู้อ�ำ นวยการศูนย์อาเซียน ศึกษาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์และวัฒนธรรมในภูมิภาค อาเซียน เริ่มด้วยกิจกรรมแรกสมาชิก The Boss เดินทางมาถึงสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุง กัวลาลัมเปอร์ เพื่อเข้าพบคารวะและฟังบรรยายด้านเศรษฐกิจและสังคมจากท่านเอกอัครราชทูต คุณดำ�รง ใคร่ครวญ และท่านอัครราชทูตที่ปรึกษาฝ่าย พาณิชย์ คุณพัดชา วุฒิพันธุ์ ต่อด้วยกิจกรรม Dinner Talk ในช่วงคํ่า ซึ่งได้รับเกียรติจาก คุณจุ้ย เม้ง อึ๊ง ผู้บริหารธนาคารกรุงเทพ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาร่วม การบรรยายให้ข้อมูลเชิงลึกด้านเศรษฐกิจการลงทุนในมาเลเซีย พร้อมกับร่วมพบปะกับนักธุรกิจในมาเลเซีย นอกจากนี้ สมาชิก The Boss ได้เดินทางมาเยี่ยมชมท่าเรือ Port Klang ต่อด้วยเมืองใหม่ Putrajaya เพื่อให้สอดคล้องกับความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิด “Super Multimedia Corridor” และเยี่ยมชมบริษัท Index Living ที่ 101 City Mall ธุรกิจของคนไทยที่มาลงทุนในประเทศมาเลเซีย และสำ�รวจตลาดสินค้าที่ ห้าง Suria KLCC ศูนย์กลางของเมืองกัวลาลัมเปอร์ สมาชิก The Boss ได้เดินทางต่อไปยังรัฐปีนัง เพื่อเข้าพบคารวะและฟังบรรยายจากท่านกงสุลใหญ่ คุณเอกจิต กรัยวิเชียร ณ สถานกงสุลใหญ่ รัฐปีนัง และต่อเนื่องที่ Penang Institute เพื่อเข้ารับฟังการบรรยายสาระความรู้ในหัวข้อเรื่อง Malaysia Economic Outlook 2016-2020 : Opportunities & Challenges เพื่อให้เข้าใจถึงทิศทางเศรษฐกิจมาเลเซียในปัจจุบันไปจนถึงแนวโน้มในอนาคต และในครั้งนี้ คณะ The Boss ได้เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยว เชิงวัฒนธรรมที่ขึ้นชื่อของประเทศมาเลเซีย รวมถึง Cheong Fatt Tze, The Blue Mansion เป็นการเจาะลึกให้เห็นถึงภาคประชาสังคมอันเป็นยุทธศาสตร์ ในการประเมินโอกาสทางธุรกิจ ผู้บริหารและเจ้าของกิจการท่านใดที่สนใจมาเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งกิจกรรมใน The Boss Learn on The Road ปี 2560 หรือเข้าร่วมเป็นสมาชิกใน หลักสูตร The Boss เพื่อเพิ่มวิสัยทัศน์ให้มุมมองของผู้นำ�ยุคใหม่ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 02-168-7243-7, 091-818-2280-90 หรือติดตาม ข่าวสารทางธุรกิจที่ www.trainingmpi.com และเฟซบุ๊ก Training MPI 100 | happy+
FN เข้าเทรดวันแรก เปิดราคาเหนือจอง
นายปรีชา ส่งวัฒนา ประธานกรรมการบริหาร นายเบญจ์เยี่ยม ส่งวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท จำ�กัด (มหาชน) หรือ FN นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยนายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำ�กัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และนายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำ�นวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำ�กัด (มหาชน) ร่วมพิธีเปิด “การซื้อขายหลักทรัพย์วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย” บริษัท เอฟเอ็น แฟคตอรี่ เอ๊าท์เลท จำ�กัด (มหาชน) หรือ FN โดยมีราคาเปิดที่ 5.15 บาท เพิ่มขึ้น 32.73% จากราคา IPO ที่ 3.88 บาท ณ หอประชุมศุกรีย์ แก้วเจริญ อาคาร B ชั้น 3 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เทศกาลดนตรีแจ๊ซนานาชาติปี 2560
กิจกรรมครบรอบ 13 ปี รพ.บางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล และครบรอบ 35 ปี รพ.ในเครือบางปะกอก
รองศาสตราจารย์ นายแพทย์พทิ ยา จันทรกมล ประธานบริษัทโรงพยาบาลในเครือบางปะกอก เป็นประธาน ในพิธีเปิดกิจกรรมครบรอบ 13 ปี โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล และครบรอบ 35 ปี โรงพยาบาลในเครือบางปะกอก โดยมีคณะผูบ้ ริหารโรงพยาบาล แพทย์หญิงเจรียง จั นทรกมล และนายแพทย์ วี ร ะ อิ ง คภาสกร ร่วมแสดงความยินดี ณ ห้องประชุมใหญ่ชั้น 6 โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล
วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดลได้ จัดโครงการ “เทศกาลดนตรีแจ๊ซนานาชาติปี 2560” (Thailand International Jazz Conference 2017-TIJC 2017) ขึน้ เป็นปีที่ 9 โดยมีวตั ถุประสงค์เพือ่ เปิดโอกาส ให้ผู้ที่สนใจในดนตรีแจ๊ซ ได้มีโอกาสรับฟังดนตรีแจ๊ซ ทีม่ คี ณ ุ ภาพ จากศิลปินทีไ่ ด้รบั การยอมรับทัง้ ในระดับ ประเทศและระดับโลก พร้อมทัง้ เปิดโอกาสให้ผสู้ นใจ ได้ศกึ ษาหาความรูด้ า้ นดนตรีแจ๊ซในแง่มมุ ต่าง ๆ สร้าง แรงบันดาลใจให้เยาวชน รวมทั้งเป็นการจุดประกาย ให้ เ กิ ด การขยายผลทั้ ง ในเชิ ง ธุ ร กิ จ และวิ ช าการ ซึ่งจะเป็นการพัฒนาระบบการศึกษาดนตรีแจ๊ซใน ประเทศไทยอย่างยัง่ ยืน โดยโครงการ TIJC นีจ้ ะจัดขึน้ ระหว่างวันที่ 27-29 มกราคม 2560 ณ วิทยาลัย ดุรยิ างคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา นครปฐม
นิตยสาร happy+ กระจายความสุข อย่างต่อเนือ่ ง
นิตยสาร happy+ มอบนิตยสารเป็น อภิ นั นทนาการแก่ ส ภากาชาดไทย ตาม โครงการ “happy+ อ่านสบาย กระจายสุข” เพื่อส่งเสริมการอ่าน และเพิ่มทางเลือกให้ ผู้อ่านได้คัดสรรความสุขในแบบที่ต้องการ ผ่ า นบุ ค คลต่ า ง ๆ ที่ ที ม งานได้ มี โ อกาส สัมภาษณ์มา เพือ่ มอบให้แก่ผทู้ ม่ี าบริจาคโลหิต ตลอดเดือนธันวาคม เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช โดยมี คุณภาวินี แสงภัทรเนตร ผูช้ ว่ ยหัวหน้า ฝ่ายประชาสัมพันธ์และจัดหาผูบ้ ริจาคโลหิต สภากาชาดไทย เป็นผูร้ บั มอบ happy+ | 101
ธรรมนูญครอบครัว
สมาคมเดอะบอสส์ โดย คุณวิสุทธิ วิทยฐานกรณ์ นายกสมาคม The Boss ได้จัดการเสวนาสุดพิเศษ ในหัวข้อ "ส่งผ่านธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่น ด้วยธรรมนูญครอบครัว" โดย ศ.นพ.วันชัย วัฒนศัพท์ และ อ.นวพล วิริยะกุลกิจ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ โรงแรม Oriental Residences ถนนวิทยุ ท่ามกลางบรรยากาศ ที่อบอุ่น สนุกสนาน พร้อมได้รับความรู้และข้อคิดมากมาย ที่เป็นประโยชน์ในการบริหารงานและดำ�เนินธุรกิจสืบไป 102 | happy+
game for reader
โครงการมอบความสุขให้กบั ชุมชน โดยการสมัครเป็นสมาชิกอุปถัมภ์นติ ยสาร happy+ ให้โรงเรียน โรงพยาบาลในชนบท และชุมชนทีข่ าดแคลน เพื่ อ ส่ ง เสริ ม ประชาชนให้ มี คุ ณ ภาพชี วิ ต ที่ ดี มี ค วามสุ ข ทั้งกาย ใจ และสังคม นิตยสาร happy+ จึงขอเชิญชวนผู้อ่าน ร่ ว มเป็ น ผู้ อุ ป ถั ม ภ์ กิ ต ติ ม ศั ก ดิ์ สมั ค รเป็ น สมาชิ ก อุ ป ถั ม ภ์ ให้โรงเรียน โรงพยาบาลในชนบท และชุมชนที่ขาดแคลน โดยท่าน สามารถใช้ใบสมัครเดียวกับใบสมัครสมาชิกทั่วไป เพียงระบุชื่อ โรงเรียนที่ต้องการอุปถัมภ์ลงไปในช่องชื่อและที่อยู่ ซึ่งเว้นไว้ นิ ต ยสาร happy+ ขอขอบคุ ณ ทุ ก ท่ า นที่ ร่ ว มแบ่ ง ปั น ความสุข และมีส่วนร่วมในการดูแลสังคมไทย
ประกาศรายชือ่ เล่มครบรอบ ประกาศรายชือ่ ผูร้ ว่ มสนุกฉลอง นิตยสาร happy+ ครบรอบ 4 ปี 1ี . Gravitas Deep Wrinkle and Firming Facial Treatment และ Gravitas Deep Wrinkle and Lifting Activator จำ�นวน 1 รางวัล • คุณเสาวภา วงศ์ถรี ะพงษ์ ฉะเชิงเทรา 2. Beauty Secret White Massage & Mask Serum ผลิตภัณฑ์บ�ำ รุงผิวหน้าจาก นามิ จำ�นวน 5 รางวัล รางวัลละ 2 ชิน้ • คุณสุภาภรณ์ มีสขุ กรุงเทพฯ • คุณภัทริน บางจันทร์ กรุงเทพฯ • คุณกนกอร ทองอร่าม กรุงเทพฯ • คุณปาจนี ศรีพจนารถ กรุงเทพฯ • คุณสุภาพรรณ ยุบรัมย์ กรุงเทพฯ 3. Coco iFill นา้ํ มันมะพร้าว มหัศจรรย์ จากธรรมชาติ อุด มไปด้ ว ยวิ ต ามิ น อี ทำ�ให้ผิวกระจ่างใส ลดรอยเหี่ยวย่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ� จำ�นวน 5 รางวัล • คุณดวงกมล อภิรตั นวงศ์ กรุงเทพฯ • คุณเมทินี ริว้ ทอง กรุงเทพฯ • คุณนารีรตั น์ สิทธิธญ ั ญาศิลป์ สุพรรณบุรี • คุณปัญชลีย์ ศิรเิ อก ราชบุรี • คุณสุวดี หอมจันทร์เจือ กรุงเทพฯ 4. กระเป๋ า ผ้ า มั ด ย้ อ มครามจาก ธรรมชาติ แบรนด์ Handi Made by Tila จำ�นวน 3 รางวัล • คุณพัชรนันท์ แสนไพร กรุงเทพฯ • คุณรุง่ รัตน์ วีระกุล สงขลา • คุณอัศวิน พุทธทองนาค ชลบุรี 104 | happy+
5. La Roche-Posay Hydraphase Intense Riche ครีมบำ�รุงผิวเข้มข้น เพื่อมอบความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้า ช่ ว ยกั ก เก็ บ น้ํ า ในผิ ว เหมาะ สำ � หรั บ ผิ ว แห้ ง และระคายเคื อ ง ง่าย จำ�นวน 3 รางวัล • คุณธนดล ดำ�หมัด กรุงเทพฯ • คุณนัฐยา สุรยิ ผล จันทบุรี • คุณกัญจน์ณฏั ฐ์ จิวรฤกษ์ กรุงเทพฯ 6. เซ็ตผลิตภัณฑ์จาก essence ประกอบด้วย รองพืน้ สูตรติดทน นาน 16 ชัว่ โมง ลิปสติกเนือ้ ควิล สีแน่นชัดติดทนนาน ยาทาเล็บ และอายชาโดว์เนือ้ ละเอียด เพิม่ มิตใิ ห้กบั ดวงตา จำ�นวน 3 รางวัล • คุณลักษมี อนุวตั เมธี กรุงเทพฯ • คุณลลิพร เพ็งสุข กรุงเทพฯ • คุณวีรยา มัดลัง กรุงเทพฯ 7. ผลิตภัณฑ์ดแู ลผมจาก Revive ประกอบด้วย Energizing Scalp & Hair Shampoo, Energizing Scalp & Hair Conditioner และ Energizing Scalp Serum จำ�นวน 2 รางวัล • คุณพิมรา สีดอกบวบ กรุงเทพฯ • คุณสุรยี ์ บุญทวีโชค กรุงเทพฯ 8. Vichal Organic ผลิตภัณฑ์ ทำ�ความสะอาดผิวหน้า อ่อนโยน ด้ ว ยน้ํ า มั น มะพร้ า วออร์ แ กนิ ก และนํา้ มันรำ�ข้าวกลิน่ ลาเวนเดอร์ จำ�นวน 3 รางวัล • คุณเทวา ชุม่ มิ ปทุมธานี • คุณสมาน อนุภาพ สมุทรปราการ • คุณบุญเกิด สกิมงาม บุรรี มั ย์
9. เซ็ตผลิตภัณฑ์บำ�รุงผิวจาก Crabtree & Evelyn ประกอบ ด้วย Cosmetics Bag ที่มา พร้อมด้วยครีมบำ�รุงมือและเล็บ กลิน่ ลาเวนเดอร์ พร้อมยาทาเล็บ สี Vernis จำ�นวน 3 รางวัล • คุณกนกวรรณ เปีย่ มสุวรรณศิริ กรุงเทพฯ • คุณบัญชา ผาลีพฒ ั น์ กรุงเทพฯ • คุณกุลวัฒน์ นะมิ กรุงเทพฯ 10. บัตรรับประทานอาหารจาก ร้ า นเสวย มู ล ค่ า 500 บาท จำ�นวน 3 รางวัล • คุณจิตรา หงษ์นอ้ ย กรุงเทพฯ • คุณวิภาภรณ์ ลำ�เลียงพล กรุงเทพฯ • คุณธัชพล ลิจตุ ภิ มู ิ แพร่ 11. เซตผักเบี้ยใหญ่ จากอภัย ภูเบศร ประกอบด้วย เซนซิทฟี บอดี้ โลชัน่ , ไวท์เทนนิง่ บอดี้ โลชัน่ , ดีทอกซิไฟอิง้ เคลย์ มาส์ก, ชู ต ติ้ ง โอเวอร์ ไ นท์ มาส์ ก , ไฮเดรติง้ เจล และฟิซคิ อล ซีซี ครีม จำ�นวน 3 รางวัล • คุณจิรประภา น่วมอ่อน กรุงเทพฯ • คุณนวลแข สุทธิไชยากุล ลำ�พูน • คุณศิรริ ตั น์ มูลสอาด กาญจนบุรี ติดต่อขอรับรางวัลได้ที่คุณเบล บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด เลขที่ 10/196197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชั้น 27 ถนน สุขุมวิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขต วัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทร. 0-21687480 ต่อ 1021 หากไม่ตดิ ต่อขอรับรางวัลภายในวันที่ 31 มกราคม 2560 ถือว่าสละสิทธิ์ (โปรด มารับของรางวัลด้วยตนเองค่ะ)
Q : ประตูชัยที่ประเทศลาว คล้ายกับสถานที่ใดในประเทศ ฝรั่งเศส ทราบแล้วส่งคำ�ตอบมายังนิตยสาร happy+ บริษทั ไทย ภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะเทรนดี้ ชัน้ 27 ถ.สุขมุ วิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110 หรือส่งมาที่อีเมล happyplusmag@ gmail.com ภายในวันที่ 31 มกราคม 2560 ร่วมลุน้ รับ Vichal Organic ผลิตภัณฑ์ท�ำ ความสะอาด ผิวหน้า กลิน่ ลาเวนเดอร์ จำ�นวน 3 รางวัล (ประกาศ รายชือ่ ผูไ้ ด้รบั รางวัลใน happy+ ฉบับเดือนมีนาคม 2560) *** หมายเหตุ : ภายในไปรษณีย์ โปรดระบุเบอร์ตดิ ต่อ กลับและหากได้รางวัล กรุณาเดินทางมารับรางวัล ด้วยตนเอง
รายชื่อผู้รับรางวัลเล่ม 48 ยอดอยหลวงเชียงดาวมีทางขึน้ กีเ่ ส้นทาง อะไรบ้าง คำ�ตอบ มี 2 เส้นทาง คือ เด่นหญ้าขัด – อ่างสลุง และ ปางวัว – อ่างสลุง รายชื่อผู้โชคดี ได้รับ บัตรรับประทานอาหาร จากร้าน Farm Factory มูลค่า 500 บาท จำ�นวน 2 รางวัล 1. คุณปัณณภัสร์ ตันติธรรมวัฒน์ กรุงเทพฯ 2. คุณชุตินาถ ทัศนานุพันธ์ กรุงเทพฯ ติดต่อเพือ่ รับของรางวัลได้ที่ คุณเบล บริษทั ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชั้น 27 ถนนสุขุมวิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110 โทร. 0-2168-7480 ต่อ 1021 หากไม่ตดิ ต่อขอรับรางวัล ภายในวันที่ 31 มกราคม 2560 ถือว่าสละสิทธิ์ ** โปรดมารับรางวัลด้วยตนเองค่ะ
Next Issue Start Up คนรุน่ ใหม่หนั มาทำ�ธุรกิจ เป็นของตัวเองกันส่วนใหญ่ ทำ�ให้เราจะเห็นธุรกิจใหม่ ๆ มากหน้าหลายตาเกิดขึน้ เป็นจำ�นวนมาก คนรุน่ ใหม่ ทีห่ นั มาเอาดีทางด้านธุรกิจนีม้ ี เคล็ดลับความสำ�เร็จ และใส่ความเป็นตัวของตัวเอง ลงไปได้อย่างไรบ้าง อย่าลืมติดตามกันได้ แล้วพบกันทีแ่ ผงหนังสือนะคะ เลขที่ใบสมัคร No…………………………………………………รหัสสมาชิก...................................................................................................... (สำ�หรับเจ้าหน้าที่)
ใบสมัครสมาชิก
สมาชิกทั่วไป
สมาชิกอุปถัมภ์
วันที่สมัคร............................................................................................................................................................... สมัครสมาชิก 1 ปี (12 ฉบับ) ราคา 780 บาท เริ่มฉบับที่.....................................................................ถึงฉบับที่............................................................................ ชื่อ................................................................................นามสกุล............................................................................ วัน/เดือน/ปีเกิด..............................................................อายุ.................................................................................. เพศ ชาย หญิง อาชีพ..............................................................รายได้ต่อเดือน....................................... ระดับการศึกษา ตํ่ากว่า ป.ตรี ป.ตรี ป.โท อื่นๆ สถานภาพ โสด สมรส ม่าย/หย่าร้าง ปัจจุบันมีบุตรหรือไม่ ยังไม่มี มีแล้ว จำ�นวน...............................คน สถานที่สำ�หรับจัดส่งนิตยสาร ชื่อ........................................................................................................................................................................... ที่อยู่........................................................................................................................................................................ รหัสไปรษณีย์.......................................................................................................................................................... โทรศัพท์ (บ้าน).................................................................โทรศัพท์ (มือถือ).......................................................... โทรสาร............................................................................อีเมล............................................................................... ชำ�ระค่าสมัครโดย โอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ในนาม บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาบางโคล่ : เลขที่บัญชี 095-273056-5 *กรุณาส่งใบสมัครสมาชิก พร้อมเอกสารการชำ�ระเงินมาที่ ฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์ นิตยสาร happy+ บริษัท ไทยภิรมย์สตาร์ จำ�กัด 10/196-197 อาคารเดอะ เทรนดี้ ชั้น 27 ถนนสุขุมวิท 13 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม. 10110 หรือแฟกซ์มาที่หมายเลข 0-2168-7481 หรือสแกนหลักฐานส่งมาทางอีเมล happyplusmag@gmail.com **บริษัทจะส่งเลขที่สมาชิกและนิตยสารฉบับแรกไปยังท่าน เมื่อได้รับหลักฐานการชำ�ระเงินแล้ว สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือแนะนำ� ติ ชม ได้ที่ฝ่ายสมาชิกสัมพันธ์ นิตยสาร happy+ โทรศัพท์ 0-2168-7480 ต่อ 1021 (แบบฟอร์มนี้สามารถถ่ายเอกสาร หรือคัดลอกลงกระดาษ A4 แล้วส่งมาตามที่อยู่ของบริษัท)
พิเศษ
สมัครสมาชิก happy+ เดือนมกราคม รับทันที
ลิปสติก 6 เฉดสี พร้อมสีผง้ึ ทาปากธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ จากปัญจศรี
พิเศษยิ่งกว่า
สำ�หรับสมาชิกที่ ต่ออายุในเดือน มกราคม รับเพิม่ นา้ํ มันรำ�ข้าว จาก T.R.B.O
happy ending
จงบำ�เพ็ญกรณีกิจของตนแต่ละคน ด้วยซื่อสัตย์สุจริต ขยันหมั่นเพียร อดทนและกล้าหาญ แล้วอุทิศความเสียสละส่วนตัว ความเหน็ดเหนื่อยลำ�บากยากแค้น เป็นพลีบูชาบรรพบุรุษ ผู้ซึ่งได้ก่อสร้างชาติเป็นมรดกตกทอดมาถึงพวกเราชาวไทยจนบัดนี้ พระราชดำ�รัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระราชทานแก่ชาวไทยในโอกาสขึ้นปีใหม่ ปี พ.ศ. ๒๔๙๔