สุวรรณภิงคาร ปีที่ 1 ฉบับที่ 2

(โคลงสี่สุภาพ)

บารมีพระเลิศล้ำ ทรงสฤษดิ์ทศธรรม์ เป็นสง่าแห่งแคว้นยรรเฉกฉัตรชาติชื่นแล้

(วสันตดิลกฉันท์)

กรรพุมถวายกร ณ บาท เดชานุภาพนฤบดินทร์ น้อมเกล้านิกรพสกราษฏร์ ขอทรงเกษมพระหฤทัย

(กาพย์ฉบัง 16)

เอกองค์บวรกษัตริย์ ดุจร่มฉัตรแห่งปวงชน สมพระนามองค์ภูมิพล คือพลังแห่งปฐพี ทรงงานนานฉนำทวี กิจจะที่ทรงพัฒนา

(กลอนสุภาพ)

ศรีศรีศุภวารกาลเฉลิม ทีฆายุโก โหตุ องค์ราชา

จำนรรจ์ ทั่วแท้ ยงยิ่ง เช่นฟ้าปกดิน อธิราชสยามมินทร์ สิประจักษ์ขจรไกล วโรกาสนิรัติศัย สถิตย์นานนิรันดร เพ็ญผ่องประภัสร์ เมทินีดล นานากรณีย์

วิสุทธิเจิมจารสกลมงคลมหา ชนมายุยืนยงทรงพระเจริญ

บทประพันธ์โดย เจิมใจ แย้มผกา ศิษย์เก่าภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์

สุ

วรรณภิงคาร

ย ะ ม นุษ ศ า ส

ร ศว

มห

าวิท

ต ร์

คณ

จดหมายข่ า วเพื ่ อ การประชาสั ม พั น ธ์ คณะมนุ ษ ยศาสตร์ มหาวิ ท ยาลั ย นเรศวร

ยาลัยนเร

ปีที่ 1 ฉบับที่ 2 ธันวาคม 2557 - มกราคม 2558

ISSN : 1906-9014 (สงวนลิขสิทธิ์)

บทบรรณาธิการ

ที่ปรึกษา

คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ รองคณบดีฝ่ายบริหาร รองคณบดีฝ่ายวิชาการ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ รองคณบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และกิจการพิเศษ รองคณบดีฝ่ายกิจการนิสิต รองคณบดีฝ่ายประกันคุณภาพการศึกษา

บรรณาธิการ

อ. ว่าที่ร้อยตรีโสภณ ลาวรรณ์

กองบรรณาธิการ

รศ. นท. ดร.วัฒนชัย หมั่นยิ่ง รศ. ดร.พัชรินทร์ อนันตศิริวัฒน์ ผศ.จุไรรัตน์ โสภา ดร.อรทัย ชินอัครพงศ์ ดร.ซอทอง บรรจงสวัสดิ์ ดร.จิตติมา นาคีเภท ดร.จุฑามาศ บุญชู อ.ดวงพร ทองน้อย

ศิลปกรรม ณัฐวุฒิ

เลขานุการ สุรีย์พร

นลินรัตนกุล

จดหมายข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ “สุวรรณภิงคาร” ปีที่ 1 ฉบับที่ 2 นี้ ในนามกองบรรณาธิการ และคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัย นเรศวร ขอน้อมเกล้าฯ ถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 87 พรรษา 5 ธันวาคม 2557 ด้วยร้อยกรองถวายพระพรในปกหน้า (ผลงานของ เจิมใจ แย้มผกา ศิษย์เก่าภาควิชาภาษาไทย) เนื้อหาในเล่ม ประกอบด้วยบทสัมภาษณ์ศิษย์เก่า (พี่ก้อย) สาขาวิชาภาษาอังกฤษ รหัส 35 เรื่องการเขียนหนังสือที่ได้รับรางวัลต่างๆ อาทิ รองเท้ากลางสายฝน วันฟ้ามัว โดมิโนแสงดาว เป็นต้น ซึ่งบท สัมภาษณ์นี้จะเป็นประโยชน์และเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านก้าวสู่ความ สำเร็จในสายงานหรือสายการศึกษาต่อ ในคอลัมน์นานาสาระ เป็นเรื่อง เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศเกาหลี Bukchon Hanok Village และ ในหน้าเปิดบ้านมนุษยศาสตร์ เป็นเรื่องรางวัลแห่งความภูมิใจของอาจารย์ คณะมนุษยศาสตร์ ส่วนสุดท้ายของจดหมายข่าว คือกิจกรรมในเดือน ธันวาคม 2557 และมกราคม 2558 ในโอกาสขึ้นปีพุทธศักราชใหม่ 2558 นี้ กองบรรณาธิการ ขออัญเชิญสิ่งศักดิ์สิทธิ์อันมีพระพุทธชินราช และพระบารมีแห่งองค์สมเด็จ พระนเรศวรมหาราช ได้โปรดประทานพรอันเป็นมงคล แด่ทุกท่านเทอญฯ

ชุมแสง

งานประชาสัมพันธ์ :

คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000 โทรศัพท์ 0-5596-2035 http://www.human.nu.ac.th

วิสัยทัศน์ :

คณะมนุษยศาสตร์พร้อมอยู่ร่วมในประชาคมอาเซียนและประชาคมโลก ด้วยการสร้างความ สมบูรณ์และความหลากหลายขององค์ความรู้ทางวิชาการด้านมนุษยศาสตร์ พันธกิจ : 1. ผลิตบัณฑิตให้ถึงพร้อมด้วยคุณธรรม จริยธรรม และทักษะทางปัญญาด้านมนุษยศาสตร์ 2. สร้างองค์ความรู้ด้านมนุษยศาสตร์บนพื้นฐานของพหุวัฒนธรรมและสหวิชาการ 3. บริการวิชาการเพื่อพัฒนาสังคม 4. อนุรักษ์ ฟื้นฟู สร้างสรรค์และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ 5. แสวงหาพันธมิตรและเครือข่ายทางวิชาการด้านมนุษยศาสตร์ในภูมภิ าคท้องถิน่ ภาคเหนือตอนล่าง ภายใน ประเทศ ภูมิภาคอาเซียน และนานาประเทศ ประเด็นยุทธศาสตร์ : 1. พัฒนาคณะมนุษยศาสตร์ในด้านการวิจัยให้มีคุณภาพมาตรฐาน โดยเน้นการวิจัยทั้งในระดับท้องถิ่น ภาคเหนือตอนล่าง ระดับประเทศ ระดับอาเซียน และระดับนานาชาติ

อ. ว่าที่ร้อยตรีโสภณ ลาวรรณ์ บรรณาธิการ

2. พัฒนาคณะมนุษยศาสตร์ในด้านการผลิตบัณฑิตที่ถึงพร้อมด้วยคุณภาพและศักยภาพตาม มาตรฐานสากล เพื่อพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และประชาคมโลก 3. พัฒนาคณะมนุษยศาสตร์ให้มีระบบในการสนับสนุนเกื้อกูลและเป็นผู้นำในการบริการชุมชน ทั้งในและต่างประเทศ 4. พัฒนาคณะมนุษยศาสตร์ให้มีระบบในการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม เพื่อให้ประชากรในพื้นที่ มีความสุขอย่างยั่งยืนในวิถีการดำรงชีพ และเพื่อเผยแพร่แลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมระหว่างชาติ โดยเฉพาะชาติสมาชิกอาเซียน 5. พัฒนาคณะมนุษยศาสตร์ให้มีระบบสานสัมพันธ์อันดีกับศิษย์เก่า เพื่อร่วมกันสร้างชื่อเสียง อำนวยประโยชน์แก่ชุมชนส่งเสริมแนะแนวทางวิชาการและอาชีพแก่นิสิตปัจจุบัน 6. พัฒนาคณะมนุษยศาสตร์ให้มีระบบการบริหาร และการจัดการที่เอื้ออำนวยต่อสวัสดิการแก่ บุคลากรและนิสิตของคณะมนุษยศาสตร์ โดยยึดหลักปัญญาธรรม คารวธรรม และสามัคคีธรรม 7. พัฒนาคณะมนุษยศาสตร์ให้มีคุณภาพ และได้มาตรฐานตามเกณฑ์การประกันคุณภาพ การศึกษา และได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐานการศึกษา

ศิษย์เก่า...¹Ñ¡à¢Õ¹

แนะนำหนังสือของผู้เขียนที่ได้รับรางวัล มีอะไรบ้างคะ หนังสือที่ได้รับรางวัลมีดังนี้ค่ะ 1. รองเท้ า กลางสายฝน เป็ น รวมเรื ่ อ งสั ้ น แนวสร้ า งแรง บันดาลใจ ทั้งหมด 25 เรื่อง ซึ่งได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับหนึ่ง จากเวทีนานมีบุ๊คส์อะวอร์ด ปี 2554 2. วันฟ้ามัว เรื่องสั้นรองชนะเลิศอันดับ 2 (ตีพิมพ์ร่วมกับ นักเขียนท่านอื่นที่ได้รับรางวัล) ตะวันส่องอะวอร์ดครั้งที่ 7 3. โดมิโนแสงดาว นวนิยายสำหรับผู้ใหญ่ รางวัลชมเชย แว่นแก้ว ประจำปี 2556 มีโอกาสได้เข้าร่วมโครงการนี้ได้อย่างไร ช่วงที่เริ่มต้นเขียนหนังสือจริงๆ จังๆ นั้นจำได้ว่าอยู่ใน ราวกลางปี 2553 (ถึงวันนี้ก็เป็นเวลาสี่ปีเต็มแล้ว) หลังจาก ใช้เวลาในการเขียน และส่งต้นฉบับออกไปให้สำนักพิมพ์ต่างๆ พิจารณาแล้วพบว่าใช้เวลานานกว่าที่คิดไว้มาก และเป็นการ รอคอยแบบไม่มีกรอบของเวลา จึงทำให้รู้สึกท้อใจบ้าง ก็เลยมอง หาเวทีประกวด โดยดูจากกูเกิ้ลนี่แหละค่ะ เวทีแรกที่ส่งประกวด คือนานมีบุ๊คส์อะวอร์ด รองเท้ากลางสายฝน จึงเป็นผลงาน

เล่มแรก หลังจากนั้นก็พยายามหาข้อมูลการประกวดมาเรื่อยๆ โดมิโนแสงดาว เป็นนวนิยายเรื่องล่าสุดที่กำลังวางแผงอยู่ ในตอนนี้ค่ะ คิดว่าจุดเด่นใดของผลงานที่ทำให้คณะกรรมการพิจารณา ให้ได้รับรางวัล คื อ จริ ง ๆ รู ้ ส ึ ก กระดากนิ ด หน่ อ ยถ้ า จะให้ พ ู ด ถึ ง งานเขียนตัวเองในเชิงบวก แต่เท่าที่ฟังมาจากผู้อ่านหลายๆ ท่าน และให้ ว ิ เ คราะห์ ใ นแง่ ท ี ่ เ ป็ น รู ป ธรรมหน่ อ ยเห็ น จะเป็ น เรื ่ อ ง สำนวนภาษา ที ่ ย ั ง เน้ น ความสละสลวยและคงคุ ณ ค่ า ทาง วรรณศิลป์อยู่ ขณะเดียวกันเรื่องที่เราเขียนแต่ละเรื่องนั้นก็แฝง แง่คิด ให้คุณค่ากับผู้อ่านด้วย ที่สำคัญคือมีอรรถรส อ่านสนุก อย่างนวนิยายเรื่องล่าสุด โดมิโนแสงดาว นั้นก็เป็นนวนิยาย ที่สะท้อนปมการเมือง อำนาจ และความรักของมนุษย์ ซึ่งเรื่องนี้ ใช้เวลาอยู่หลายเดือน กว่าจะรวบรวมข้อมูลและลงมือเขียน จนกระทั่งสามารถปิดต้นฉบับลงได้ ยอมรับว่าภูมิใจที่เห็น ผลงานตัวเองออกมาเป็นรูปเล่ม และดีใจที่คณะกรรมการเห็น คุณค่าของงานเขียนชิ้นนี้ ขณะเดียวกันก็ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่า การได้เห็นผู้คนอ่านหนังสือของเรา เพราะนั่นหมายความว่า สาร ที่เราต้องการจะสื่อนั้นส่งถึงมือผู้รับเรียบร้อยแล้ว ส่วนเขา จะได้อะไรกลับไปบ้างจากการอ่านหนังสือของเรานั้น เป็นส่วน ที่เขาต้องคิดและวิเคราะห์เอง ในความรู้สึกส่วนตัวนะคะ คิดว่า หนังสือแต่ละเล่มจะไม่มีค่าอะไรเลยถ้าถูกวางอยู่บนชั้นโดยไม่มี ใครหยิบมาอ่าน

เรื่องเด่น

แนะนำตัวกับผู้อ่านหน่อยค่ะ สวัสดีค่ะ ชื่อ วรรณวนัช เตชะศิลป์เจริญ ค่ะ นามปากกาที่ใช้ในงานเขียนคือ แพรพลอย เป็นศิษย์เก่า มหาวิทยาลัยนเรศวร คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขา วิชาภาษาอังกฤษ รหัส 35 ค่ะ ถึงแม้ว่าความใฝ่ฝันในวัยเยาว์ คืออยากเป็นนักเขียน แต่หลังเรียนจบกลับไปใช้ชีวิตในโลก ความจริง ด้วยการทำงานในสายงานตามสาขาที่ร่ำเรียนมา ไม่ว่าจะเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน พนักงานฝ่ายบุคคล นักแปลอิสระก็เคยทำ แต่งานที่ทำต่อเนื่องยาวนานที่สุด เห็นจะ เป็นเลขานุการ และผู้ช่วยส่วนตัวของผู้บริหารชาวต่างชาติ เมื่อเวลาผ่านไปได้ถามตัวเองว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่นั้นใช่ตัวตนที่ แท้จริงของเราหรือเปล่า นี่ใช่งานที่อยากทำไปจนตลอดชีวิต ที่เหลืออยู่หรืออย่างไร ใช้เวลาอยู่หลายปีกว่าจะให้คำตอบ ตัวเองได้ ในที่สุดจึงตัดสินใจโบกมืออำลางานประจำ แต่ตอนนั้น ก็ยังไม่รู้หรอกนะคะว่าจะเริ่มเขียนหนังสือยังไง ก็เลยเริ่มชิมลาง จากงานแปลเรื่องสั้นส่งไปตามนิตยสารก่อน พอเรื่องของเรา ได้ลง ก็รู้สึกมีกำลังใจ หลังจากนั้นก็เริ่มลงมือเขียนอย่างจริงจัง ซึ่งถือเป็นการเขียนแบบก้าวกระโดด คือไปเริ่มจากการเขียน เรื่องยาวแบบนวนิยายเลย แทนที่จะเขียนเรื่องสั้นก่อน ดังนั้นจึง ไม่ต้องแปลกใจว่าต้นฉบับนิยายเรื่องนั้นยังอยู่ในลิ้นชักอยู่เลยค่ะ

ผู ้ ท ี ่ เ ป็ น ต้ น แบบในเรื ่ อ งของการประสบความสำเร็ จ ด้ า น งานเขียน / มีวิธีในการสร้างบรรยากาศในการเขียนหนังสือ อย่างไรคะ จริงๆ มีนักเขียนที่ชื่นชอบอยู่หลายคนนะคะ อย่างสมัย เด็กๆ ชอบงานเขียนของคุณโสภาค สุวรรณ มาก ช่วงพัก กลางวัน มักไปขลุกอยู่ในห้องสมุด ชอบนวนิยายเรื่อง ปุลากง มาก อ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่มีเบื่อเลยค่ะ พอเข้ามหาวิทยาลัยได้มี โอกาสอ่านงานของนักเขียนหญิงชาวอเมริกัน Marjorie Kinnan Rawlings ซึ่งเธอผู้นี้คือแรงบันดาลใจให้อยากเป็นนักเขียน เต็มตัวตั้งแต่นั้นค่ะ นอกจากนี้ยังมีอีกหลายท่าน อย่างคุณ ประชาคม ลุนาชัย นี่งานของเขาก็ถูกจริตเรา สำนวนภาษา สละสลวย เส้นทางที่ยากลำบากต่ออาชีพนักเขียนของเขา ถือเป็นแรงผลักดันเราอย่างหนึ่ง ส่วนการสร้างบรรยากาศ ในการเขียนหนังสือนั้นมีอยู่อย่างเดียวเลยค่ะคือ ต้องเงียบ และ จดหมายข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ : ธันวาคม 2557 - มกราคม 2558

3

เรื่องเด่น มักจะเขียนได้ลื่นไหลถ้าอยู่คนเดียว เพราะงานเขียนเป็นงานที่ ใช้สมาธิค่อนข้างสูง แต่ขณะเดียวกันก็ต้องมีสติด้วย บางครั้งก็ เผลอไปเล่นเฟซบุ๊กบ้าง แนะนำแนวทางการเป็นนักเขียนอาชีพเพื่อให้ประสบความ สำเร็จแก่รุ่นน้องอย่างไรบ้าง มีคำแนะนำที่ฟังดูอาจจะห้วนอยู่สักหน่อยนะคะ แต่มัน ก็คือความจริงตอนลงมือเขียนค่ะ เราจะไม่มีทางรู้เลยว่าเรา สามารถทำงานเขียนได้หากเราไม่ลงมือเขียน เขียนไปเถอะค่ะ แล้ววันหนึ่งจะทำได้ และทำได้ดีเอง จำไว้ว่า Practice makes perfect! อยากฝากอะไรเกี่ยวกับผลงานชิ้นนี้ไหม ฝากผลงานเรื่องล่าสุด โดมิโนแสงดาว 4

ด้วยนะคะ

จดหมายข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ : ธันวาคม 2557 - มกราคม 2558

ตอนนี้กำลังวางแผงอยู่ค่ะ เป็นนวนิยายที่ผู้เขียนทำการค้นคว้า หาข้อมูล และทุ่มเทเต็มกำลังความสามารถในขณะนั้น ว่ากันว่า เป็นนวนิยายที่ให้ภาพความขัดแย้ง การแย่งชิงอำนาจบน แผ่นดินเดียวกัน แฝงไว้ด้วยเงาดำในจิตใจของแต่ละฝ่าย จนนำ ไปสู่ความเศร้า ความตาย และการจากพราก นำเสนอประเด็น ความขัดแย้งได้อย่างน่าสนใจ ภาษาสละสลวยชวนติดตาม รายละเอียดตัวละครทำให้รู้สึกสมจริง และคอยเอาใจช่วยให้ สถานการณ์และเรื่องราวจบลงด้วยดี เป็นการผจญภัยของ สองหนุ่มสาวนักเขียนไทยในประเทศซีนินทาวน์ เมื่อต้องเผชิญ กับดักทางการเมืองอันซับซ้อนซ่อนเงื่อน ความกล้าหาญและ จิตใจที่มุ่งมั่นจะนำเขาและเธอรอดจากวังวนแห่งความขัดแย้ง ได้หรือไม่ นวนิยายน้ำดีสะท้อนปมการเมือง อำนาจ และ ความรักที่คุณไม่ควรพลาด!

ดร.จุฑามาศ บุญชู

ในฉบับนี้เราจะมาพูดถึงภาษาท่าทางหรืออวัจนภาษา ของประเทศเกาหลี ภาษาท่าทางยอดฮิตที่สุดของเกาหลีที่หลาย คนนำเอามาบอกรักไอดอลเกาหลีก็คือ ท่าบอกรัก “ซารางแฮโย” ของเกาหลี นอกจากภาษาท่าทางยอดฮิต “ซารางแฮโย” ยังมีภาษาท่าทางอีกมากมาย ที่คนเกาหลีนิยมใช้ เรามาเริ่มกันที่ภาษาท่าทางบอกรัก ของคนขี้อาย เป็นท่าทางที่ฮิตในหมู่วัยรุ่น ปัจจุบัน คือ การนำนิ้วมือทั้ง 2 ข้างทำเป็น รูปหัวใจบริเวณหน้าอกข้างซ้าย ซึ่งเป็นข้าง เดียวกับหัวใจ ภาษาท่าทางบ่งบอกอารมณ์โกรธ โมโห คือ การนำนิ้วชี้ ทั้ง 2 ข้าง ขึ้นมาแนบบริเวณข้างศีรษะ ลักษณะเหมือนมีเขางอก ออกมา ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่อาจเกิดความเข้าใจผิดกันได้ว่า

ลัษณะท่าทางแบบนี้เป็นการถูกต่อว่าว่าโง่ สาเหตุคงมาจาก ลักษณะที่ดูเหมือนการ มีเขา ซึ่งคนไทยใช้ควายเป็นสัตว์ที่แสดงถึง ความโง่เขลา

เรียนรู้ภาษา/นานาสาระ

ภาษาท่าทางแดนกิมจิ

ภาษาท่าทางสุดท้าย เป็นท่าที่ ควรจะจดจำเป็นพิเศษ เพื่อให้การผูกมิตร กั บ คนเกาหลี ไ ม่ ใ ช่ เ รื ่ อ งยากอี ก ต่ อ ไป เป็ น อวั จ นภาษาที ่ แ สดงถึ ง การเชื ้ อ เชิ ญ เพื่อนหรือคนสนิทไปร่วมกันดื่มเหล้า เบียร์ เหล้าขาวโซจู คือ การทำมือให้มีลักษณะเหมือนถือจอกเหล้า หรือ แก้วใบเล็กๆ ใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งเป็นนิ้วที่แสดงการจับจอกเหล้า และอีก 3 นิ้วที่เหลือให้กำหลวมๆ ไว้ จากนั้นทำท่าเหมือนกำลัง ยกจอกเหล้านั้นเข้าปาก จากภาษาท่าทางต่างๆ ของคนเกาหลีที่ได้กล่าวมานั้น ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะทำให้เข้าใจและนำไปสื่อสารกับคน เกาหลีได้เข้าใจกันยิ่งขึ้น หรือแม้แต่การนำไปใช้กับสิ่งใกล้ตัว ในชีวิตประจำวันที่นับวันกระแสเกาหลี จะส่งอิทธิพลต่อคนไทย มากยิ่งขึ้น

Bukchon Hanok Village ดร.จุฑามาศ บุญชู

เมื่อนึกถึงเกาหลี หลายคนคงจะนึกถึง K-POP ดารา นักร้อง ซีรีส์เกาหลี และเดินทางไปเกาะติดและตามรอยซีรีส์ ต่างๆ ถึงเกาหลี สถานที่ยอดฮิตที่คนไทยไม่พลาดเลยก็คือ พระราชวังเคียงบกกุง เกาะนามิ เกาะเชจู เมียงดง สวนสนุก เอเวอแลนด์ นัมแดมุน แต่ยังมีอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่คนไทย ยังไม่ค่อยรู้จักกันมาก นั่นก็คือ หมู่บ้านวัฒนธรรมพุกโช่น (Bukchon Hanok Village) คำว่า พุกโช่น (Bukchon) มีความหมายว่า หมู่บ้านทางตอนเหนือ ตามตำแหน่งที่ตั้งของ หมู่บ้านที่อยู่ทางทิศเหนือของคลองชองเกชอน และพระราชวัง เคียงบกกุง เป็นที่ตั้งหมู่บ้านแบบดั้งเดิมของเกาหลี (Hanok House) กว่า 100 หลัง ที่มีประวัติอันยาวนาน เป็นสถานที่ที่ยัง มีสภาพแวดล้อม คงบรรยากาศของเมืองเก่าไว้เพื่อเป็นการ บอกเล่าประวัติศาสตร์ และเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ตั้งแต่สมัย ราชวงศ์โชซอนที่มีอายุกว่า 600 ปี บ้านโบราณทุกหลัง ในหมู่บ้านนี้ มีผู้คนอาศัยอยู่จริงไม่ได้จัดแสดงขึ้นมา ถ้าได้ลอง ไปเที่ยวชม บรรยากาศโดยรอบจะเหมือนกับเราได้เข้าไปอยู่ใน ยุคโบราณของเกาหลี อีกทั้งยังสามารถเดินช็อปปิ้งสินค้า hand made หรือเครื่องปั้นดินเผา เซรามิก ศิลาดล จากศิลปินชื่อดัง

หรือนั่งดื่มชาตามแบบฉบับชาวเกาหลี สำหรับนักท่องเที่ยวที่ ชื่นชอบการถ่ายรูป ก็สามารถเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปหมู่บ้าน โบราณ วิวมุมสูงของกรุงโซล และเพื่อให้เข้ากับ บรรยากาศหมู่บ้านโบราณ ท่านสามารถ เช่าชุดฮันบกใส่ถ่ายรูปได้อีกด้วย เป็น การเรียนรู้ และดื่มด่ำกับวัฒนธรรม เกาหลี แ บบดั ้ ง เดิ ม ได้ เ ป็ น อย่างดี

จดหมายข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ : ธันวาคม 2557 - มกราคม 2558

5

รางวัลแห่งความภาคภูมิใจ เปิดบ้านมนุษยศาสตร์

รองศาสตราจารย์ ดร.พัชรินทร์ อนันตศิริวัฒน์*

กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม มอบเกียรติบัตรให้ รองศาสตราจารย์ ดร.พัชรินทร์ อนันต์ศิริวัฒน์ เป็นปูชนียบุคคล ด้านภาษาไทยของจังหวัดพิษณุโลก เนื่องในงานวันภาษาไทยแห่งชาติ พุทธศักราช 2557 ดิฉันรู้สึกว่ารางวัลนี้มีคุณค่าด้านกำลังใจ ที่ทำให้ดิฉันมีพลัง ในการถ่ายทอดความรู้มากยิ่งขึ้น ก็นับว่าโชคดีที่มหาวิทยาลัยนเรศวร ยินยอมให้ดิฉันได้ต่ออายุราชการ ก็เท่ากับเปิดโอกาสให้ดิฉันมีโอกาส ส่งผ่านความรู้ไปให้ลูกศิษย์ได้อีกหลายรุ่น ก็ตั้งใจว่าจะทำงานด้าน การสอน และวิจัยต่อไปเท่าที่โอกาสจะอำนวยให้อย่างเต็มความสามารถ ชีวิตของคนที่ประกอบอาชีพครู ไม่ร่ำรวยทรัพย์สินเงินทอง หากร่ำรวยความรู้ที่จะถ่ายทอดให้แก่ศิษย์ ซึ่งอาจต่างจากทรัพย์สิน ที่ยิ่ง ใช้ก็ยิ่งหมด แต่ทว่าความรู้ยิ่งใช้ยิ่งให้ยิ่งเพิ่มพูนมากขึ้น นักปราชญ์ ชาวจีนจึงกล่าวยกย่องครูว่า “ครูเป็นผู้มีสติปัญญาดั่งต้นธาร ประพฤติตน เป็นแบบอย่างอันดีงามแก่คนทั้งปวง” * อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

มนุษยศาสตร์สร้างสรรค์…. อ.คณิตา หอมทรัพย์*

“การเขียนเรียงความเรื่อง ด้วยพระบารมี คนพิการ ร่วมใจ ก้าวไกลสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งจัดโดยสภาสังคม สงเคราะห์แห่งประเทศไทยของดิฉัน มีจุดเริ่มต้นมาจากหัวใจ รักการเขียนและต้องการเผยแพร่พระบารมีของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ให้เป็นที่ประจักษ์ สมัยที่ยังศึกษาระดับปริญญาโท ดิ ฉ ั น มั ก สร้ า งสรรค์ ง านเขี ย นทั ้ ง เรี ย งความและบทความเข้ า ประกวดเป็นประจำ เนื่องจากชื่นชอบการเขียนและต้องการ ฝึกฝนทักษะการใช้ภาษาไทย ในช่วงที่เขียนงานตลอด 3 ปี ได้มีโอกาสส่งเรียงความเข้าประกวดเนื่องในวันคนพิการมาก่อน แต่ครั้งนั้นได้รับรางวัลที่ 3 จึงมีแรงบันดาลใจ อยากจะ สร้างสรรค์ผลงานให้ดียิ่งขึ้น หัวข้อการจัดประกวดเรียงความ งานวันคนพิการ ปี 2557 ยังเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน คือ การเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ใน ปี 2558 ที่จะถึงนี้ ตลอดจนการนำเสนอพระราชกรณี ย กิ จ ของพระบาทสมเด็ จ พระเจ้าอยู่หัว เกี่ยวกับคนพิการที่พระองค์ทรงวางรากฐานให้ * อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร 6

จดหมายข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ : ธันวาคม 2557 - มกราคม 2558

สังคมไทย มาเป็นอย่างดี ซึ ่ ง รั ฐ บาลได้ น ้ อ มนำไป เป็นแนวทางส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพ ความเป็นอยู่ของคน พิการ เพื่อสร้างให้ประเทศไทยมีความพร้อมที่จะก้าวสู่ประชาคม อาเซียนอย่างแท้จริง จึงเป็นหัวข้อที่น่าสนใจและทำให้คนอ่าน ได้รับประโยชน์อย่างยิ่ง”

ข่าวกิจกรรม

วันที่ 4 ธันวาคม 2557 รองศาสตราจารย์ ดร.กาญจนา วิชญาปกรณ์ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธี เปิดกรวยกระทงดอกไม้ ถวายคำนับต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ ห ั ว เนื ่ อ งในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 87 พรรษา 5 ธันวาคม 2557 อีกทั้งเพื่อเป็นการแสดงออกถึง ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ณ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร วันที่ 4 ธันวาคม 2557 ภาควิชาภาษาตะวันออก คณะมนุษยศาสตร์ จัดโครงการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “ความรู้ พื้นฐานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการโรงแรม สำหรับ นิสิตที่เรียนภาษาต่างประเทศ” โดยได้รับเกียรติจาก อ.ดาวรุ่ง ฟักทอง อดีตอาจารย์ประจำสาขาวิชาการท่องเที่ยว คณะบริหาร ธุรกิจ เศรษฐศาสตร์และการสื่อสาร มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็น วิทยากรมาบรรยาย การบรรยายครั้งนี้ทางภาควิชาเน้นให้นิสิต ชั้นปี 4 มาเข้าฟังเพื่อปูพื้นฐานความรู้ ก่อนที่จะออกไปฝึกงาน และ นิสิตในภาควิชาที่สนใจจะฝึกงานเกี่ยวกับ การท่องเที่ยวและ การโรงแรม ณ ห้องประชุม HU 1307 คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร วันที่ 15 – 17 ธันวาคม 2557 รองศาสตราจารย์ ดร.กาญจนา วิชญาปกรณ์ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ ให้เกียรติเป็น ประธานในพิ ธ ี เ ปิ ด โครงการสัมมนาเชิงปฏิบ ัติการค่ายนั ก วิ จั ย ประจำปี 2557 จัดโดยงานวิจัยและบริการวิชาการ เพื่อเป็นการ นำร่องให้แก่บุคลากร ให้ได้รับความรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านงานวิจัย และเสริมสร้างประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนางาน วิจยั ตลอดจนนำไปเผยแพร่สกู่ ารปฏิบตั ทิ เ่ี ป็นประโยชน์แก่การศึกษา และสังคมต่อไป โดยได้รับเกียรติจาก ศ. ดร.บุษบา กนกศิลปธรรม อาจารย์ ป ระจำภาควิ ช าภาษาอั ง กฤษ คณะอั ก ษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร รศ.ดร.เฉลิมศักดิ์ พิกุลศรี คณบดีคณะ ศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ รศ.ดร.อัญชลี วงศ์วัฒนา อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิ ท ยาลั ย นเรศวร ให้ เ กี ย รติ เ ป็ น วิ ท ยากรบรรยาย ณ ทรัพย์ไพรวัลย์ แกรนด์โฮเต็ล แอนด์รีสอร์ท จ.พิษณุโลก วันที่ 18 ธันวาคม 2557 รองศาสตราจารย์ ดร.กาญจนา วิชญาปกรณ์ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ พร้อมคณะผู้บริหาร คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เข้าร่วมพิธีเปิดงานประชุม สัมมนาวิชาการนานาชาติของเครือข่ายความร่วมมือวิชาการ-วิจัย สายมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ครั้งที่ 8 หัวข้อ “มนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์ : พหุวิทยาการข้ามพรมแดน” ณ อาคารจุฬาภรณ์ พิศาลศิลป์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน กรุงเทพฯ จดหมายข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ : ธันวาคม 2557 - มกราคม 2558

7

ย ะ ม นุษ ศ า ส

ร ศว

มห

าวิท

ต ร์

คณ

วันที่ 9 ธันวาคม 2557 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนเรศวร ประจำปีการศึกษา 2556 โดยมี ผู้สำเร็จการศึกษา จำนวน 5,082 คน ณ ห้องพระราชทานปริญญาบัตร อาคารอเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก คณะมนุษยศาสตร์ จึงขอแสดงความยินดีกับบัณฑิต มหาบัณฑิตและดุษฎีบัณฑิตทุกท่านมา ณ ที่นี้

ยาลัยนเร

สุวรรณภิงคาร จดหมายข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

ชำระค่ า ฝากส่ ง เป็ น รายเดื อ น ใบอนุ ญ าตเลขที ่ 85/2521 พิ ษ ณุ โ ลก

ท่ า นที ่ ส นใจจดหมายข่ า วนี ้ กรุ ณ าส่ ง ชื ่ อ ที ่ อ ยู ่ ข องท่ า นมายั ง งานประชาสั ม พั น ธ์ คณะมนุ ษ ยศาสตร์ มหาวิ ท ยาลั ย นเรศวร อ.เมื อ ง จ.พิ ษ ณุ โ ลก 65000 โทรศั พ ท์ 0-5596-2035 โทรสาร 0-5596-2000 ไม่ เ สี ย ค่ า ใช้ จ ่ า ยใดๆ ทั ้ ง สิ ้ น

สุวรรณภิงคาร

หรื อ “กลศ” หมายถึ ง หม้ อ ดิ น สำหรั บ ใส่ น ้ ำ ดิ น และน้ ำ เป็ น แม่ บ ทของสิ ่ ง ทั ้ ง ปวง อั น เปรี ย บได้ ก ั บ คณะมนุ ษ ยศาสตร์ ที ่ เ ป็ น รากฐานแห่ ง ศาสตร์ ท ั ้ ง ปวง