ปีที่ 11 ฉบับที่ 1 เดือนตุลาคม -พฤศจิกายน 2558

สุวรรณภิงคาร รณ ภิงคา

ร

จ

วร

สุ

ว

าย ด ห ม ข่ า

จดหมายข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ปีที่ 11 ฉบับที่ 1 ตุลาคม-พฤศจิกายน 2558

ที่ปรึกษา

คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ รองคณบดีฝ่ายบริหาร รองคณบดีฝ่ายวิชาการและกิจการต่างประเทศ รองคณบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ รองคณบดีฝ่ายแผนและประกันคุณภาพ รองคณบดีฝ่ายกิจการนิสิต

บรรณาธิการ ดร.อรอุษา

สุวรรณประเทศ

กองบรรณาธิการ ดร.อัจฉรา ดร.ภาคภูมิ ดร.จุฑามาศ อาจารย์สุวรรณี อาจารย์ดวงพร

ศิลปกรรม ณัฐวุฒิ

เลขานุการ สุรีย์พร

อึ้งตระกูล สุขเจริญ บุญชู ทองรอด ทองน้อย

นลินรัตนกุล ชุมแสง

งานประชาสัมพันธ์ :

คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000 โทรศัพท์ 0-5596-2035 แฟกซ์ 0-5596-2000 http://www.human.nu.ac.th

บทบรรณาธิการ “สุวรรณภิงคาร” เป็นจดหมายข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ ของคณะ มนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ที่มีอายุยาวนานกว่าทศวรรษ แม้มีการ เปลี่ยนแปลงผู้บริหารในหลายวาระ แต่ “สุวรรณภิงคาร” ก็ยังมีความสำคัญ ในฐานะสื ่ อ กลางทางความคิ ด ระหว่ า งคณะมนุ ษ ยศาสตร์ ก ั บ สาธารณชน กองบรรณาธิการแต่ละชุดที่ผ่านมาก็ได้พัฒนา “สุวรรณภิงคาร” ให้เติบโต และ ทันสมัยขึ้นเป็นลำดับ โอกาสนี้ เมื่อมีการปรับเปลี่ยนผู้บริหารชุดใหม่ ดิฉัน ได้รับมอบหมายให้กลับมาทำหน้าที่บรรณาธิการของ “สุวรรณภิงคาร” อีกครั้ง ขอขอบพระคุณคณะผู้บริหารที่ไว้วางใจมอบหมายให้ทำงานสำคัญชิ้นนี้ รวมทั้ง ขอขอบคุณกองบรรณาธิการทุกคนที่ตอบรับมาช่วยกันทำงานให้แก่คณะอันเป็น ที่รักของพวกเรา เนื่องจาก “สุวรรณภิงคาร” มีความเป็นมาอันยาวนานดังกล่าว กองบรรณาธิการจึงได้ประชุมร่วมกับผู้บริหาร และมีมติให้นับ “สุวรรณภิงคาร” ฉบับนี้เป็นฉบับที่ 1 ของ ปีที่ 11 ต่อเนื่องจากเดิมที่เคยทำมา โดยนับปีตามปี งบประมาณ และกำหนดให้มีคอลัมน์หลักเป็นคอลัมน์ประจำ ได้แก่ แวดวงมนุษยศาสตร์ เป็นการสัมภาษณ์ หรือสรุปแนวคิดของ นักวิชาการ ประเด็นสำคัญที่กำลังเป็นที่สนใจในวงวิชาการด้านมนุษยศาสตร์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อันจะช่วยขยายโลกทัศน์ของท่านให้กว้างขวาง ออกไป คลังปัญญา เป็นการรวบรวมเกร็ดความรูท้ างวิชาการด้านมนุษยศาสตร์ ที่เกี่ยวข้องกับภาษา วรรณคดี นาฏศิลป์ ดนตรี และคติชน เพื่อเป็นข้อมูล ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงวิชาการ เก็บมาฝาก เป็นการเล่าเรื่องมุมมองจากประสบการณ์ ทั้งทางด้าน วิชาการ และ/หรือการเข้าร่วมกิจกรรมที่น่าสนใจ นำมาแบ่งปัน เพื่อแลกเปลี่ยน เรียนรู้ซึ่งกันและกัน Hall of Fame เป็นการเชิดชูเกียรติคุณบุคลากร ทั้งอาจารย์ เจ้าหน้าที่ และนิสิต รวมถึงศิษย์เก่า ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ที่มีผลงานเด่น ได้รับ การยกย่องหรือได้รับรางวัล นำชื่อเสียงมาสู่คณะมนุษยศาสตร์ ข่าวกิจกรรม เป็นการรวบรวมข่าวดังและกิจกรรมเด่นในรอบเดือน ของคณาจารย์ นิสิต และบุคลากรของคณะมนุษยศาสตร์ ที่จะช่วยให้ทุกท่าน มองเห็นภาพของคณะมนุษยศาสตร์ในแง่มุมต่างๆ ทั้งในด้านการเรียนการสอน กิจกรรมนิสิต ตลอดจนการวิจัย การบริการวิชาการ และการทำนุบำรุง ศิลปวัฒนธรรม รวมทั้งการสร้างเครือข่ายกับหน่วยงานภายนอก ทั้งภายใน ประเทศ และต่างประเทศ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า “สุวรรณภิงคาร” ภายใต้กองบรรณาธิการชุดนี้ จะสามารถสืบสานเอกลักษณ์ของความเป็น “สุวรรณภิงคาร” ที่มีมายาวนาน แต่เดิม และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพิ่มเติม เพื่อฉายภาพของคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ให้ทุกท่านได้มองเห็นอย่างชัดเจนโดยรอบด้านมากยิ่งขึ้น ดร.อรอุษา สุวรรณประเทศ บรรณาธิการ

แวดวงมนุษยศาสตร์

“

Humanities’ Bright Future : The dean’s vision and development plan

“

สัมภาษณ์คณบดีคณะมนุษยศาสตร์คนใหม่ :

วิสัยทัศน์และนโยบายการบริหาร และพัฒนาคณะมนุษยศาสตร์

สุรีย์พร ชุมแสง Translated by Mr.Arthur John Pollock

Associate Professor Dr. Wattana Patkate was appointed to be the dean of Humanities faculty on 27 July 2015 by Naresuan university. The editor team would like to congratulate our new dean and interview his vision about the faculty’s future and the development plan.

1. Do you have any administrational policies for the overall development of the Faculty of Humanities?

The most important policy regards the development of quality in all areas. Starting with the issue of graduate students, the factors relating to producing quality graduate students are multiple. Firstly, the standard of curriculum, at the very minimum must meet the standards set by the Office of the Higher Education Commission, making sure that they are up to date and respond to the needs of society and the country. We need to regularly review updates, as waiting 6 years to adjust curriculums and implement them may be too long for some fields of study or the needs of society, which change so quickly. I will try to encourage lecturers to have regularly revised and up to date curriculum content.

Another important factor that directly affects the quality of students is that of lecturers. If we don’t have quality lecturers, it stands to reason that we cannot produce quality graduate students. So, the development of lecturers’ potential is essential. At present in this faculty, we have approximately 36% of lecturers qualified to PhD level

จดหมายข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ : ตุลาคม - พฤศจิกายน 2558

สุวรรณภิงคาร

ตามที ่ ส ภามหาวิ ท ยาลั ย นเรศวรมี ม ติ แ ต่ ง ตั ้ ง ให้ รองศาสตราจารย์ ดร.วัฒนา พัดเกตุ ดำรงตำแหน่ง คณบดี คณะมนุษยศาสตร์ ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม 2558 นั้น กองบรรณาธิ ก ารสุ ว รรณภิ ง คารจึ ง ขอแสดงความยิ น ดี ก ั บ คณบดีคนใหม่ของคณะมนุษยศาสตร์ มา ณ ที่นี้ และถือโอกาส สั ม ภาษณ์ ท ่ า นคณบดี ถ ึ ง นโยบายในการบริ ห ารและพั ฒ นา คณะมนุษยศาสตร์ ซึ่งเป็นประเด็นที่ชาวคณะมนุษยศาสตร์ ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องคงอยากจะทราบด้วยเช่นกัน 1. ท่านมีนโยบายในการบริหารงานเพื่อพัฒนา คณะมนุษยศาสตร์ในภาพรวมอย่างไรบ้าง นโยบายสำคัญที่สุดคือเรื่องของการพัฒนาคุณภาพ ของพันธกิจทุกด้าน โดยเริ่มตั้งแต่เรื่องของการผลิตบัณฑิต ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพมีหลายปัจจัย เริ่มตั้งแต่หลักสูตรที่มีมาตรฐาน อย่างน้อยต้องเป็นไปตาม เกณฑ์ ม าตรฐานของสำนั ก งานคณะกรรมการอุ ด มศึ ก ษา การดูแลหลักสูตรให้มีความทันสมัย ตอบสนองความต้องการ ของสังคมและของประเทศ เราจำเป็นต้องมีการทบทวน ปรับปรุง หลักสูตรอย่างสม่ำเสมอ แต่บางครั้งการรอปรับหลักสูตรและใช้ หลักสูตรใหม่ทุก 6 ปี อาจจะนานเกินไปเพราะศาสตร์บางสาขา หรือความต้องการของสังคมมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ดังนั้น ในระหว่างที่ใช้หลักสูตร ผมจะพยายามกระตุ้นให้อาจารย์ผู้สอน มีการปรับปรุงเนื้อหารายวิชาให้ทันสมัยอย่างสม่ำเสมอ ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่มีผลโดยตรงต่อคุณภาพ นิสิตก็คืออาจารย์ เราคงไม่สามารถผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพได้ ถ้าอาจารย์ไม่มีคุณภาพ ดังนั้น การพัฒนาศักยภาพของอาจารย์ ก็เป็นเรือ่ งจำเป็น ในปัจจุบนั เรามีอาจารย์คณ ุ วุฒริ ะดับปริญญาเอก ทั้งคณะอยู่ประมาณร้อยละ 36

3

สุวรรณภิงคาร

และมีอาจารย์ที่ดำรงตำแหน่งทางวิชาการเพียงร้อยละ 25 ซึ่ง ถือว่ายังต่ำกว่าเกณฑ์สำหรับสถาบันอุดมศึกษาในกลุ่ม ง (กลุ่ม สถาบันที่เน้นการวิจัยขั้นสูงและผลิตบัณฑิตระดับบัณฑิตศึกษา โดยเฉพาะระดั บ ปริ ญ ญาเอก) ซึ ่ ง ควรจะมี อ าจารย์ ร ะดั บ ปริญญาเอก และอาจารย์ที่ดำรงตำแหน่งทางวิชาการร้อยละ 80 ดังนั้น เราก็คงจะต้องพยายามอีกมาก และคงต้องใช้เวลา อีกสักระยะหนึ่ง ในด้านอาจารย์ปริญญาเอกนั้น ปัจจุบัน อาจารย์ที่ลาศึกษาต่อระดับปริญญาเอกมีอยู่ประมาณ 25 คน ซึ่งเมื่อจบการศึกษา แล้วก็คงจะทำให้เรามีสัดส่วนอาจารย์ ปริญญาเอกมากขึ้น และเมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วก็คงจะต้อง กระตุ้นให้ทำวิจัยที่มีคุณภาพเพื่อที่จะมีผลงานตีพิมพ์และนำไป ขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการได้ ดังนั้น การพัฒนาการวิจัย จึ ง เป็ น พั น ธกิ จ สำคั ญ อี ก ประการหนึ ่ ง ที ่ ค ณะจำเป็ น จะต้ อ ง ส่งเสริมสนับสนุนเพราะจะมีผลไปถึงการผลิตบัณฑิตในระดับ ปริญญาโทและปริญญาเอก หากอาจารย์ไม่มีประสบการณ์การ วิจัยก็คงจะไม่มีประสบการณ์ตรงเพื่อที่จะนำไปแนะนำลูกศิษย์ ในการทำวิทยานิพนธ์ให้มีคุณภาพได้ นอกจากเรื่องของหลักสูตรและอาจารย์แล้ว การพัฒนา ศักยภาพของนิสติ ในด้านอืน่ ๆ ก็จะช่วยส่งเสริมให้นสิ ติ มีคณ ุ ภาพ การพัฒนาศักยภาพนิสิตนี้ก็จะครอบคลุมทั้งด้านวิชาการ และ ด้านการพัฒนาบุคลิกภาพ และการเป็นพลเมืองที่ดี ในการ พัฒนาด้านวิชาการนั้น ผมมีนโยบายที่จะให้ทุกหลักสูตร สาขาวิชา จัดโครงการเสริมสร้างศักยภาพด้านวิชาการของนิสิต ด้วยการเชิญวิทยากรทั้งในภาควิชาการและวิชาชีพมาบรรยาย ให้ความรู้เสริมแก่นิสิต รวมทั้งการนำนิสิตออกไปศึกษาดูงาน นอกสถานทีเ่ พือ่ เป็นการเปิดโลกทัศน์และสร้างเสริมประสบการณ์ ความรู้ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ส่วนการพัฒนาด้านบุคลิกภาพ และ การเป็นพลเมืองที่ดี เพื่อพัฒนาคุณลักษณะบัณฑิตที่พึงประสงค์ ตามกรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษา (มคอ.) ก็จะ ดำเนินการโดยใช้กิจกรรมนิสิต ซึ่งเป็นกิจกรรมนอกชั้นเรียน ส่งเสริมให้นิสิตได้เข้าร่วมกิจกรรมนอกหลักสูตรเพื่อฝึกการ ทำงานร่วมกับผู้อื่น ได้รู้จักแก้ปัญหา ให้มีจิตสาธารณะ เป็นต้น ผมคิ ด ว่ า กิ จ กรรมทั ้ ง 2 ด้ า นนี ้ จ ะช่ ว ยให้ บ ั ณ ฑิ ต ของคณะ มนุษยศาสตร์เป็นคนเก่งและคนดีเป็นที่ต้องการ และไว้เนื้อ เชื่อใจของสังคม

4

จดหมายข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ : ตุลาคม - พฤศจิกายน 2558

and only 25% lecturers who are tenured, which is considered to be still below the threshold for higher education institutions in group Ngor (institutions focusing on advanced research and producing graduate students, especially at doctoral level) who should have 80% doctoral and tenured lecturers in respective fields of study. So, we really must try harder and probably should take some time on the matter of PhD level lecturers. Currently, there are approximately 25 lecturers on study leave pursuing PhDs, so when they complete their studies, we should have a higher ratio of lecturers educated to the required level. The aforementioned would then be urged to commence quality research which can be used for the acquisition of academic positions. Also, the development of research is another important factor that the faculty needs to promote and support, as it will affect the production of master’s and doctoral graduates, whereby if lecturers do not have research experience, then they probably don’t have relative experience to give recommendations related to the writing of quality theses or dissertations by students.

Apart from matters related to curriculum and lecturers, the development of students’ ability in other areas will help to encourage and increase their potential. The development of students’ capability will include both academic and personal development, and guide them towards being good citizens. In their academic development, I have a policy to have all departments organize projects to strengthen the academic potential, by inviting both academic and professional experts to give talks to benefit students and develop existing know ledge. In addition, students will be able to go on study trips off campus, offering new and varied educational opportunities and experiences.

จดหมายข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ : ตุลาคม - พฤศจิกายน 2558

สุวรรณภิงคาร

ในการพัฒนาทุกๆ ด้านก็ต้องมีระบบสนับสนุนที่ดี บุคลากรสายสนับสนุนจึงต้องมีบทบาทตรงนี้ ต้องทำงาน อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อส่งเสริมให้การทำงานด้านวิชาการ ดำเนินไปได้ด้วยดี ดังนั้น ก็จำเป็นจะต้องวางระบบบริหาร จัดการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถส่งเสริมสนับสนุน การทำงานด้านวิชาการได้อย่างจริงจัง

Regarding personal development and being good citizens, and developing graduate attributes that are desirable according to the standards of the Thai Qualifications Framework for Higher Education (TQF), we will proceed by utilizing student activities. These extracurricular activities will encourage students to get involved in pursuits to practice teamwork and problem solving, and encourage mindfulness of others and so forth. I think that both types of activities will help graduates from our faculty to be smart and decent people; be needed and trustworthy.

Concerning overall development, we must have a good system of support in all areas for this development. The role of supporting staff must be to work effectively for the promotion of progressively better academic work. Therefore, it is necessary to make the management system increasingly more effective in order to be able to seriously promote work in academia.

5

สุวรรณภิงคาร 6

2. ท่านคิดว่านโยบายการบริหารของท่านจะส่งผล ให้คณะฯ พัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมในด้านใดบ้าง สิ ่ ง ที ่ ผ มอยากให้ เ กิ ด เป็ น รู ป ธรรมก็ ค งมี ห ลายด้ า น ตามพั น ธกิ จ ของมหาวิ ท ยาลั ย และของคณะมนุ ษ ยศาสตร์ แต่การพัฒนาที่อยากเห็นเป็นอันดับแรกๆ ก็คือ เรื่องของการ วิจยั ผมอยากเห็นคณะมนุษยศาสตร์พฒ ั นาผลงานวิจยั ให้มากขึน้ ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ ในด้านปริมาณ ในปีการศึกษา 2557 เรามีงานวิจัยและงานวิชาการที่ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ ในวารสารทางวิชาการอยู่เพียงประมาณ 20 เรื่อง และที่ นำเสนอในการประชุมต่างๆ อีกประมาณ 5 เรื่อง ซึ่งถ้าเทียบ กับจำนวนอาจารย์ทั้งหมด 148 คนในปัจจุบัน ก็ถือว่ายังเป็น สัดส่วนที่ค่อนข้างน้อย ส่วนเรื่องเงินสนับสนุนการวิจัย ก็ยังมี อาจารย์ส่งข้อเสนอวิจัยเพื่อขอทุนสนับสนุนการวิจัยจากแหล่ง ต่างๆ ทั้งภายนอกและภายในค่อนข้างน้อย คือเฉลี่ยเพียง ประมาณ 25,000 บาท/คน ซึ่งยังห่างไกลจากเป้าหมายอีกมาก นอกจากนี้ ในเรื่องของคุณภาพงานวิจัย ผมอยากเห็นบทความ ของอาจารย์ได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารทางวิชาการที่ เป็นที่ยอมรับ อย่างน้อยก็ต้องอยู่ในฐานข้อมูล TCI ระดับ 1 หรือ 2 (Tier 1 or 2) เพราะว่าผลงานวิชาการที่มีคุณภาพ จะทำให้ อาจารย์สามารถนำไปใช้ประกอบการขอกำหนดตำแหน่งทาง วิชาการได้งา่ ยขึน้ ซึง่ เรือ่ งตำแหน่งทางวิชาการของอาจารย์ ก็เป็น อี ก เรื ่ อ งหนึ ่ ง ที ่ ผ มอยากจะให้ ม ี ก ารพั ฒ นาให้ ม ากขึ ้ น โดยเร็ ว นอกจากนี ้ ประสบการณ์ ก ารทำวิ จ ั ย และตำแหน่ ง ทาง วิชาการ ของอาจารย์กย็ งั มีความสำคัญต่อการเปิดและการบริหาร หลักสูตรในระดับบัณฑิตศึกษาด้วย เนือ่ งจากมหาวิทยาลัยได้จัด ให้คณะมนุษยศาสตร์อยู่ในกลุ่มที่เน้นการสอนและวิจัยทุกระดับ ตัง้ แต่ปริญญาตรีถงึ ปริญญาเอก อาจารย์จงึ ต้องเร่งพัฒนางานวิจยั เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์และพัฒนาตนเองทางวิชาการ และเพื่อ นำไปดูแลนิสิตระดับบัณฑิตศึกษาด้วย งานวิจัยจึงเป็นสิ่งที่ต้อง พัฒนาอย่างเร่งด่วนและผมอยากเห็นเป็นรูปธรรมมากที่สุด อย่างไรก็ดี การทำวิจัยนั้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล ผู้วิจัย ต้องทำเอง หน้าที่ของคณะก็คงทำได้เพียงช่วยเหลือ สนับสนุน ให้กำลังใจ จัดสิ่งแวดล้อมและสิ่งอำนวยความสะดวก ให้เอื้อต่อ การทำวิจัยของอาจารย์ และให้คุณแก่อาจารย์ที่มีผลงานวิจัย ผมก็เลยอยากจะถือโอกาสขอความร่วมมือจากอาจารย์ทุกท่าน ช่วยกันพัฒนางานวิจัยของคณะมนุษยศาสตร์เพื่อสร้างให้คณะ มีความแข็งแกร่งทางวิชาการ และถ้าหากอาจารย์คิดว่าผู้บริหาร ควรทำอะไรเพื่อให้อาจารย์สามารถสร้างสรรค์งานวิจัยได้มาก ขึ้น ผมก็ยินดีรับความคิดเห็นเหล่านั้น อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นพันธกิจสำคัญพอๆ กับการวิจัย ก็คือ การเรียนการสอน เป้าหมายสุดท้ายของการดำเนินงานของ คณะฯ ก็คือการผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพออกไปรับใช้สังคม ผมอยากเห็นตัวเลขการได้งานทำของบัณฑิตคณะมนุษยศาสตร์ ในอัตราที่สูงขึ้น และบัณฑิตของคณะจะต้องมีความรู้และทักษะ

จดหมายข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ : ตุลาคม - พฤศจิกายน 2558

2. How will your policies encourage faculty development?

There are many things I would like to establish according to the missions of the Faculty of Humanities and Naresuan University, however, the first priority is research. I would like to see more academic achievements, both quantity and quality, from our staff. In 2014, we had only twenty research publications and five conference presentations. As we have one hundred and forty eight members of staff in the faculty, the resulting ratio is unsatisfactory. Moreover, research funding received from internal and external sources is considered to be low, whereby the average is only twenty five thousand baht per person, which is well below our expected target. With regard to the aspect of quality, I would like to see staff’s research published in reliable journals which are listed in the TCI database, either Tier 1 or 2, because it can then be used to apply for academic titles, which I would like our lecturers to attain in the near future. Besides, expertise in research and academic titles are important for our post graduate curriculum. The university categorizes the faculty of Humanities into the research oriented group of faculties, at both undergraduate and postgraduate level. Therefore, our staff are urged to develop their research skills to be able to supervise our postgraduate students.

However, the conducting of research is quite a personal undertaking. The faculty will help facilitate, support and reward all staff and researchers whose research is published. Therefore, I would like to ask all lecturers to help by developing their research to improve the academic performance statistics of the faculty. If anyone has any suggestions or ideas of things that the faculty can do to help, I would like to hear them.

Another aspect which is as important as research is pedagogy. The faculty’s ultimate mission is producing high quality graduates to serve society. I would like to see a higher number of Humanities graduates gaining employment. Our graduate students must have both academic and life skills, such as intelligence, morals and social responsibility. I would like to see that the employers are satisfied with our gradu-

ates’ characteristics. To get the best results, we need cooperation from everyone. Lecturers must have expertise in their respective fields and the teaching methods that motivate students to continually study.

Advisors also play a significant role in the nurturing of students, as sometimes students may have problems related to their studies, with life or personal problems, and they need to be able to consult with their advisors to help find ways to solve any problems. In addition, the faculty should also organize numerous extracurricular activities to enable students to develop their potentials in many different ways.

Finally, I would like to see good team work, with everyone working together, to develop a strong organizational structure within our faculty. I believe that a good working environment can create a harmonious atmosphere, however, the cooperation of everyone is required. All academic and supporting staff are essential in the process of restoring and developing the reputation of the Faulty of Humanities, both within and outside the university. It is my aspiration to see all of the aforementioned three aspects attained within four years.

สุวรรณภิงคาร

รวมทั้งคุณลักษณะที่จำเป็นอื่นๆ เช่น ทักษะทางปัญญา การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา เรื่องของคุณธรรมจริยธรรม และความสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม ดังนั้น ผมอยากเห็นว่าผู้ใช้ บัณฑิตของคณะมนุษยศาสตร์มีความพึงพอใจในคุณลักษณะ บัณฑิตทุกด้านเหล่านี้อยู่ในระดับสูง การสร้างบัณฑิตที่ดี และ เก่ง ก็ต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่าย อาจารย์ผู้สอน ก็ต้องมีความรู้ที่ลึกซึ้งในศาสตร์ของตนเอง มีทักษะการถ่ายทอด หรือทักษะการกระตุ้นให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้อย่างต่อเนื่อง มีความรับผิดชอบต่อนิสิต ส่วนอาจารย์ที่ปรึกษา ก็เป็นอีกกลุ่ม หนึง่ ทีม่ สี ว่ นสำคัญในการดูแลนิสติ เพราะบางครัง้ นิสติ ก็มปี ญ ั หา เรื่องการเรียนบ้าง เรื่องการใช้ชีวิตหรือเรื่องส่วนตัวบ้าง การมี อาจารย์ ท ี ่ ป รึ ก ษาที ่ ด ู แ ลจะช่ ว ยให้ น ิ ส ิ ต สามารถแก้ ป ั ญ หา ทำให้นิสิตมีความอุ่นใจและสามารถศึกษาเล่าเรียน ได้อย่าง ประสบความสำเร็ จ ในส่ว นของการพัฒ นาบุคลิก และ คุณลักษณะอื่นๆ ของนิสิตนี้ คณะฯ ก็คงจะใช้การจัดกิจกรรม เสริมหลักสูตรเพื่อเปิดโอกาสให้นิสิตได้พัฒนาศักยภาพของ ตนเอง ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์ในการฝึกการทำงานร่วมกับผู้อื่น ความอดทน การแก้ปัญหา เป็นต้น สุดท้ายก็คงเป็นเรื่องของบรรยากาศการทำงานภายใน คณะที่ผมอยากเห็นบรรยากาศการทำงานที่ร่วมมือร่วมใจกัน มีความสามัคคี ทำงานอย่างเต็มที่ และคณะเป็นองค์กรที่เข้มแข็ง ผมเชื่อว่าการบริหารงานด้วยหลักธรรมาภิบาลอย่างจริงจังน่าจะ ช่วยสร้างบรรยากาศเหล่านีใ้ ห้เกิดขึน้ ภายในคณะได้ แต่ทง้ั หลาย ทั้งปวง การทำงานต่างๆ นั้นคงไม่สามารถสำเร็จได้ด้วยฝีมือ ของใครคนใดคนหนึ่ง หรือเพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง อาจารย์ และ บุ ค ลากรทุ ก คนล้ ว นแล้ ว แต่ ม ี ส ่ ว นในการสร้ า งความเข้ ม แข็ ง ให้กับคณะ และทำให้คณะมนุษยศาสตร์ได้รับการยอมรับนับถือ ในทุกๆ ด้านจากทั้งประชาคมในมหาวิทยาลัย และจากชุมชน และองค์กรภายนอกมหาวิทยาลัย ความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่าย จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง และผมหวังว่าทั้งหมดเหล่านี้จะเป็น รูปธรรมได้ในเวลา 4 ปีนี้

จดหมายข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ : ตุลาคม - พฤศจิกายน 2558

7

เก็บมาฝาก

สัตว์อันเป็นสัญลักษณ์ประจำวัน (เกิด) รองศาสตราจารย์ ดร.ประจักษ์ สายแสง1

ระหว่าง พ.ศ. 2522-2528 ผมมีโอกาสเดินทางไปประชุมบ้าง ไปทำวิจัยบ้างในประเทศต่างๆ เพื่อนฝูงในประเทศนั้นๆ ก็พาไปศึกษาตามสถานที่ที่พอจะเข้าไปได้ หลายคนก็จัดหาหนังสือตามที่ผมสนใจ หลังจากไปชมสถานที่แล้ว ผมได้ข้อมูลว่า พม่า ลาว และบาหลีอินโดนีเซีย นับถือสัตว์ประจำวันเกิด ในตอนนั้นผมประหลาดใจ เพราะไทยไม่มีเช่นว่านี้ เรามีแต่พระประจำวันเกิด เช่น คนเกิดวันศุกร์ มีพระปางรำพึง เป็นพระประจำวันเกิด คนเกิดวันเสาร์มีพระนาคปรกเป็นพระประจำวันเกิด ผมไม่อยากให้ข้อเขียนนี้อยู่ในรูปแบบของงานวิชาการ แต่ก็ขอนำเสนอข้อมูลในรูปของตาราง เพื่อความสะดวกในการ เปรียบเทียบ ดังนี้

สัตว์อันเป็นสัญลักษณ์ประจำวัน (เกิด) วัน อาทิตย์

จันทร์

อังคาร

พุธ

ราหู (พุธกลางคืน)

พฤหัสบดี

ศุกร์

เสาร์

อินโดนีเซีย (บาหลี)

ครุฑ

ราชสีห์

เสือ

งู

-

แมว

แพะ

วัวตัวผู้

เมียนมาร์

ครุฑ

เสือ

ราชสีห์

ช้างมีงา

ช้างไม่มีงา

หนูมีหาง

หนูตะเภา (ฉาน – วัว)

นาค

ลาว

ครุฑ

เสือ

ราชสีห์

หมา

ช้าง

หนูมีหาง

แพะ

นาค

ประเทศ

สุวรรณภิงคาร

* เมียนมาร์เพิ่มพระเกตุเป็นนพเคราะห์องค์ที่ 9 ไม่มีวันประจำ ใช้ “สัตว์แห่งความงาม” เป็นสัญลักษณ์สัตว์แห่งความงาม จะมีเขาเหมือนกวาง มีงาและงวงของช้าง แผงคอของสิงโต ลำตัวของนาค และหางของปลา

8

ครุฑ เป็นสัตว์ประจำวันอาทิตย์ สอดคล้องกันทั้ง เมียนมาร์ ลาว และบาหลีอินโดนีเซีย หากเปรียบเทียบ จะพบ ความคล้ายคลึงกันของสัตว์ประจำวันเกิดของเมียนมาร์ และลาว เป็นอันมาก เมียนมาร์ผูกพันกับสัตว์ประจำวันเกิดอย่างแน่นแฟ้น รอบๆ พระเจดีย์ชเวดากองจะมีซุ้มใหญ่แปดซุ้ม เป็นซุ้มของสิ่ง เคารพประจำวั น เกิ ด ในแต่ละซุ้มจะประกอบด้วยเทวดา พระพุทธรูปประทับนั่งและสัตว์ประจำวันเกิด เรียงจากบน ลงล่างตามลำดับ ผู้เคารพนับถือจะไปสรงน้ำสิ่งเคารพในซุ้มนั้น โดยสรงน้ำพระพุทธรูปก่อน ตามด้วยเทวดา และสัตว์ประจำวัน ลาวผูกพันกับสัตว์ประจำวันเกิดในฐานะที่เป็นตัวแปร ในการเลือกคู่ครอง ตามตำราจะบอกไว้แน่ชัดว่าคนเกิดวันใด ควรแต่งงานกับคนเกิดวันใด ไม่ควรแต่งงานกับคนเกิดวันใด 1อาจารย์ประจำภาควิชาคติชนวิทยา ปรัชญา และศาสนา คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จดหมายข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ : ตุลาคม - พฤศจิกายน 2558

เช่น “คุดและนากเอากันอายุจะบ่ยืนยาวแล” ใน พ.ศ. 2558 ผมรวบรวมข้อมูลทำนองเดียวกันนี้ จากเวียดนามและกัมพูชา ได้ข้อมูลมุขปาฐะที่น่าสนใจมาก ผม จะตรวจสอบจากข้อมูลลายลักษณ์อีกครั้งหนึ่ง แล้วจะนำเสนอ ถ้าท่านสนใจ หวังว่าการนำเสนอนี้จะเป็นปัจจัยให้หลายท่านเห็น โจทย์วิจัยหลายโจทย์ หลายท่านอาจคิดไปอีกว่างานวิจัยเช่นนี้ คงเป็นเชิงพาณิชย์ไม่ได้กระมัง ผมขอจบข้อเขียนนี้ด้วยข้อความว่า “เรื่องของความเชื่อ ก็ดี เรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งเหนือธรรมชาติ ก็ดี มีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของคนไทยมาโดยตลอด หากเราเปิดตำราวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่สุดจะพบว่า เขาบรรจุสาขา Spiritual Science ลงในวิทยาศาสตร์ด้วย”

Hall of Fame

ผู้ช่วยศาสตราจารย์จุฑารัตน์ เกตุปาน :

ปูชนียบุคคลด้านภาษาไทย

สัมภาษณ์ และเรียบเรียงโดย ดร.ภาคภูมิ สุขเจริญ1

ด้วยคำนึง ถึงคุณค่า ภาษาศิลป์ “ดอกแก้ว” กล้า ประกาศถิ่น ร่วมยินดี ประพันธ์โดย ดร.ภาคภูมิ สุขเจริญ

บุ ค ลากรทางการศึ ก ษาดี เ ด่ น ประจำจดหมายข่ า วเพื ่ อ การ ประชาสัมพันธ์คณะ “สุวรรณภิงคาร”ฉบับนี้ คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ จุฑารัตน์ เกตุปาน อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ผู้อุทิศตนต่อแวดวงการศึกษาในฐานะ “เรือจ้าง” มากว่า 30 ปี ท่านจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีทางด้านภาษาไทย จาก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และจบการศึกษาในระดับปริญญาโททางด้าน จารึกตะวันออก จากมหาวิทยาลัยศิลปากร ท่านเริ่มต้นชีวิตราชการ ในความเป็น “ครู” ณ ที่นี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2524 กว่า 30 ปีที่ผ่านมา ท่านทุ่มเททั้งกำลังกาย กำลังสติปัญญาเสริมซึ่งกำลังใจให้กับลูกศิษย์ และ เพื่อนร่วมงานตลอดมา จนกระทั่งในปี พ.ศ.2558 นี้เอง นับเป็นความ ภาคภูมิใจอย่างสูงสุดในการรับราชการของท่าน กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ได้ยกย่อง เชิดชู ในความรักและทุ่มเทให้กับ ภาษาไทย ด้วยการยกย่องให้เป็นปูชนียบุคคลด้านภาษาไทย จังหวัด พิษณุโลก เนื่องในงานวันภาษาไทยแห่งชาติ ปี พ.ศ.2558 เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2558 นี้ สร้างความภูมิใจอย่างยิ่งในการเชิดชูเกียรติในครั้งนี้ นับเป็นก้าวแห่งความสำเร็จอีกประการหนึ่งของชีวิต ในฐานะที่ท่านเป็น “ครู” ผู้รักและศรัทธาในภาษาไทย ได้ฝาก ข้อความสัมภาษณ์ตอนหนึง่ ไว้ถงึ ผูใ้ ช้ภาษาไทยในฐานะ “ศิษย์” ด้วยความ ห่วงใยไว้ว่า “ขอให้เด็กๆ รุ่นใหม่ ร่วมกันรักในภาษาไทยของเรา และ ร่วมรักษา ระวังการใช้ให้ถูกต้อง เพื่อให้ภาษาไทยเป็นภาษาของชาติ ตลอดไป” ทางกองบรรณาธิ ก ารจดหมายข่ า วสุ ว รรณภิ ง คาร และ บุคลากรคณะมนุษยศาสตร์ขอร่วมแสดงความยินดี และเชิดชูเกียรติ ผู้ช่วยศาสตราจารย์จุฑารัตน์ เกตุปาน ด้วยความรักและเคารพมา ณ โอกาสนี้ต่อความสำเร็จในฐานะ “ครู” ผู้รักในภาษาไทยอย่างแท้จริง 1อาจารย์ประจำภาควิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

จดหมายข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ : ตุลาคม - พฤศจิกายน 2558

สุวรรณภิงคาร

ปูชะนี- ย สถิต ลิขิตถึง “จุฑารัตน์” ระบัดนาม ยามยลยิน

9

ข่าวกิจกรรม วันที่ 24 สิงหาคม–11 กันยายน 2558 หน่วยประกัน คุณภาพการศึกษา ได้ดำเนินโครงการประเมินคุณภาพภายใน ระดับภาควิชา (หลักสูตร) ประจำปีการศึกษา 2557 เพือ่ รายงาน และประเมินการดำเนินงานของหลักสูตร ทั้งระดับปริญญาตรี โท และเอกที่คณะเปิดสอนในปีการศึกษา 2557 จำนวนทั้งสิ้น 18 หลักสูตร ตามเกณฑ์การประกันคุณภาพการศึกษาภายใน สถานศึกษา ระดับอุดมศึกษา พ.ศ.2557 เพื่อนำผลการประเมิน ไปพัฒนาปรับปรุงการดำเนินงานของหลักสูตรในรอบปีถัดไป โดยคะแนนประเมินทุกองค์ประกอบ 2.70

วันที่ 7 กันยายน 2558 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จันทิมา ซิมป์สัน รองคณบดีฝ่ายวิชาการและกิจการต่างประเทศ พร้อมด้วย ดร.ซอทอง บรรจงสวัสดิ์ รองคณบดีฝ่ายประกันคุณภาพ และ อาจารย์ศรีสุดา พุ่มชม อาจารย์ประจำสาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส ร่วมให้การต้อนรับคณะบุคคล จากสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ประจำประเทศไทย ที่เดินทางมาเยี่ยมชมสาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส คณะมนุษยศาสตร์ เพื่อพบปะหารือด้านการศึกษาต่อ ณ ประเทศ ฝรั่งเศส

สุวรรณภิงคาร

วันที่ 15 กันยายน 2558 ภาควิชาภาษาศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จัดโครงการส่งเสริม ด้านวิชาการ และทักษะชีวิต กิจกรรม "เตรียมความพร้อมสู่ อาเซียน" การบรรยายพิเศษ เรื่อง "Linguistic Theories and their Application to Language" แก่คณาจารย์ และนิสิตระดับ บัณฑิตศึกษา โดยได้รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์ ดร.เสาวรีย์ นากางาวา ผู้มีความรู้ความสามารถพิเศษ ประจำภาควิชา ภาษาตะวันออก คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร เป็นวิทยากรบรรยาย

10

วันที่ 12 กันยายน 2558 งานกิจการนิสิต และศิษย์เก่า สัมพันธ์ และสโมสรนิสิตคณะมนุษยศาสตร์ จัดโครงการ “ปันน้ำใจ สู่ผู้ขาดแคลน” เพื่อบริจาคสิ่งของ จัดกิจกรรมสันทนาการ ร่วมเล่นเกมแจกของรางวัลกับผู้รับการสงเคราะห์ และมอบเงิน บริจาค จำนวน 4,200 บาท แก่สถานสงเคราะห์วังทอง อำเภอ วังทอง จังหวัดพิษณุโลก

จดหมายข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ : ตุลาคม - พฤศจิกายน 2558

คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ขอแสดงความยินดีกับ นิสิตชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาภาษาเกาหลี ที่ได้รับรางวัลจากการเข้าร่วมการแข่งขัน ประกวดสุนทรพจน์ภาษาเกาหลีระดับอุดมศึกษาแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 9 ในหัวข้อ "คนเกาหลีที่ฉันรู้จัก (내가 아는 한국 사람)" ณ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จังหวัดชลบุรี ซึ่งมี นิสิต นักศึกษาเข้าร่วมทั้งหมดจากทั่วประเทศจำนวน 17 คน โดยมีนิสิตจาก คณะมนุษยศาสตร์ได้รับรางวัลดังต่อไปนี้ 1. นส.กาญจนา ปวนใต้ ได้รับรางวัลชนะเลิศอับดับ 1 และ เงินรางวัล 15,000 บาท พร้อมแพคเกจทัวร์เที่ยวเกาหลี 2. นส.ศศิธร เติดสูงเนิน ได้รางวัลรองชนะเลิศลำดับที่ 3 และ เงินรางวัล 3,000 บาท วันที่ 5 ตุลาคม 2558 รองศาสตราจารย์ ดร.วัฒนา พัดเกตุ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์ พร้อมคณะผู้บริหาร และคณาจารย์สาขา วิชาภาษาเกาหลี ร่วมให้การต้อนรับ Mr.Kwang Ho Kim, President of National Institute for International Education สังกัด กระทรวงศึกษาธิการ สาธารณรัฐเกาหลี ที่เดินทางมาร่วมงาน นิทรรศการแนะแนวและศึกษาต่อในสาธารณรัฐเกาหลี ประจำปี 2558 และมาเยี่ยมชมสถานที่จัดสอบวัดระดับภาษาเกาหลี (TOPIK) ณ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

วันที่ 20 ตุลาคม 2558 อาจารย์รัชดาพร สุคโต รองคณบดีฝ่ายกิจการนิสิต นำนิสิตคณะมนุษยศาสตร์ เข้ารับ มอบทุนการศึกษา The Set Foundation ประจำปี 2558 ณ ห้อง Main Conference กองบริการเทคโนโลยีสารสนเทศและการ สื่อสาร มหาวิทยาลัยนเรศวร

สุวรรณภิงคาร

วันที่ 15 ตุลาคม 2558 รองศาสตราจารย์ ดร.วัฒนา พัดเกตุ คณบดี คณะมนุษยศาสตร์ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการพัฒนาอาจารย์ และกระบวนการ จัดการเรียนการสอน การวัดและประเมินผล กิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “สอน อย่างไรให้ตรงใจผู้เรียน” เพื่อให้คณาจารย์ได้รับความรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนการสอน โดย เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ตลอดจนการวัดและประเมินผล โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ชิษณุ พันธุ์เจริญ และคุณบัณฑิต พูนกำเนิด จากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นวิทยากรบรรยาย ณ ห้องประชุม 211 อาคารเอกาทศรถ มหาวิทยาลัยนเรศวร

จดหมายข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ : ตุลาคม - พฤศจิกายน 2558 11

วร

ร ณ ภิงคา

ร

จดหมายข่าวเพื่อการประชาสัมพันธ์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

สุ

สุวรรณภิงคาร

จ

าย ด ห ม ข่ า ว

ชำระค่าฝากส่งเป็นรายเดือน ใบอนุญาตเลขที่ 85/2521 พิษณุโลก