8lawnews

Page 1

ลอว์นิวส์ หนังสือพิมพ์

ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 วันพุธที่ 16 - วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

รวมข่าว เล่ากฎหมาย ให้สาระประชาชน ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 วันพุธที่ 16 - วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

แจกฟรี

รวบยกทีม น้องชายตัวการ ข้อกฎหมายชี้ ชวดมรดก

ในฉบับ

เมือ่ 64 ปีทแี่ ล้ว คนไทยทัง้ ประเทศได้มโี อกาส ชืน่ ชมพระบารมีพระมหากษัตริยแ์ ละพระราชินี เนื่องในวันราชาภิเษกสมรส เป็นความยินดี ของแผ่ น ดิ น ที่ เ พิ่ ง ผ่ า นพ้ น ความเศร้ า โศก “ราชาภิเษกสมรส” ในคราวนั้น จึงเปรียบ เสมือนหยาดฝนที่ล้างหยดนำ�้ตาของคนไทย “ไทม์ ไลน์” ฉบับนี้ จะนำ�ท่านผู้อ่านไปพบกับ ตำ � นานความรั ก แห่ ง แผ่ น ดิ น ของผู้ เ ป็ น มิ่งขวัญของชาวไทย อ่านต่อหน้า 11

จั บ แ ล้ ว ! มื อ สั ง ห า ร โ ห ด ครอบครั ว “หอมชง” สลด ที่ แ ท้ น้ อ ง ช า ย เ ป็ น ตั ว ก า ร วางแผนฆ่ า พ่ อ -แม่ - พี่ ปม อิจฉาพี่-หวังมรดกร้อยล้าน ตี เนี ย นยื ม เงิ น พี่ ม าจ้ า งมื อ ปื น ด้านเลขาธิการสภาทนายความ ชี้ น้องชายถูกกำ�จัดไม่ให้รับ มรดก จากกรณีสังหารโหดยก ครัวตระกูล “หอมชง” รวม 3 ศพ ประกอบด้วย ร.ต.ท.ธรรมนัฐ หอม ชง พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน พ.อ.วิชัย หอมชง และ นางวนิดา หอมชง บิดาและมารดา ร.ต.ท. ธรรมนัฐ เหตุเกิดภายในบ้านพัก ย่านบางแค เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ ผ่านมา จนกลายเป็นข่าวสะเทือน ขวัญ เนือ่ งจาก นายกิตตินนั ท์ หรือ เต้ย หอมชง อายุ 22 ปี น้องชาย ของ ร.ต.ท.ธรรมนัฐ ได้ให้การรับ สารภาพในภายหลั ง ว่ า เป็ น ผู้ วางแผนสังหารพ่อ แม่ และพี่ชาย ของตนเอง โดยหวังฮุบมรดกมูลค่า มหาศาล วันที่ 6 เมษายน เวลา 10.30 น. พล.ต.ท.คำ�รณวิทย์ ธูป กระจ่าง ผบช.น. ได้แถลงข่าวการ

thairath.com

ไทม์ ไลน์

issn 2350-9848

ลอว์นิวส์

ตำ�รวจควบคุมตัวนายสุระพงษ์ ชูพันธ์ หรือจ่าแอ๊ด เข้าให้การ

จับกุมตัว นายกิตตินันท์ หรือ เต้ย หอมชง นายศักรินทร์ หรือ กอล์ฟ พันธกุล อายุ 22 ปี นาย ฉลาด หรืออาจารย์ป๊อด เที่ยง ธรรม อายุ 53 ปี และนายสุระ พงษ์ หรือจ่าแอ๊ด ชูพนั ธ์ อ่ายุ 47 ปี ผู้ต้องหาในคดี โดยก่อนที่จะ มีการนำ�ตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไป แถลงข่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำ�รวจ สน.หลักสอง ได้ควบคุมตัว นาย ฉลาด และนายสุระพงษ์ มือปืน ที่ ก่ อ เหตุ ยิ ง ครอบครั ว ของ

ร.ต.ท.ธรรมนั ฐ ไปทำ � แผน ประกอบคำ�รับสารภาพที่บ้าน หลังเกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ฝ่าย สืบสวนสมมุตติ วั เป็น นายสิรชิ ยั หรือป้อม เพิ่มพูนศักดิ์ ผู้ต้องหา ที่ยังหลบหนีอยู่ โดยก่อนลงมือ นั้น นายสิริชัยได้ไขกุญแจเข้า บ้านซึง่ ได้กญ ุ แจมาจากนายกิตติ นั น ท์ ที่ ไ ปก็ อ ปปี้ กุ ญ แจมาให้ ก่อนหน้านี้ โดยมีนายสุระพงษ์ ตามประกบด้านหลัง ส่วนนาย ฉลาดรออยู่ในรถแท็กซี่คันที่ใช้

หลบหนี เมื่ อ นายสิ ริ ชั ย เปิ ด ประตู เ ข้ า ไป ก็ พ บ ร.ต.ท. ธรรมนัฐ นอนอยู่ในห้องนอน จึงใช้ปืนขนาด 9 มม.จี้บังคับให้ นอนคว่�ำ หน้า แล้วกดหมอนวาง ที่ ศี ร ษะแล้ ว จ่ อ ยิ ง จนเสี ย ชี วิ ต จากนัน้ นางวนิดาผูเ้ ป็นแม่ได้ยนิ เสียงจึงลงมาจากชั้น 2 นายสุระ พงษ์ จึ ง ชกนางวนิ ด าจนล้ ม ลง จากนั้นนายสิริชัยได้ใช้หมอน วางบนศีรษะ และยิงจนเสียชีวิต อ่านต่อหน้า 4

ศาลสั่ง ขสมก. คุมรถเมล์ควันดำ� สาย 8 เจอฟ้องเพิกถอนสัมปทาน ศาลปกครองสู ง สุ ด สั่ ง ให้ ขสมก. ต้องดำ�เนินการตรวจ สภาพรถเมล์ทุกคัน รวมถึง รถร่ ว มบริ ก าร และต้ อ ง รายงานให้ศาลทราบทุก 3 เดือน ด้านรถเมล์สาย 8 งาน เข้ า ! เจอนายกสมาคมต่ อ ต้านสภาวะโลกร้อนยื่นฟ้อง ข อ ใ ห้ ศ า ล สั่ ง เ พิ ก ถ อ น สัมปทานการให้บริการ เมื่อวันที่ 3 เมษายน ศาลปกครองสู ง สุ ด โดยนาย สุ เ มธ รอยกุ ล เจริ ญ ตุ ล าการ เจ้าของสำ�นวนและคณะ มีคำ� พิพากษาให้กรมควบคุมมลพิษ กำ � หนดแผนปฏิ บั ติ ก ารกำ � กั บ ดูแล ไม่ให้องค์การขนส่งมวลชน

กรุงเทพ (ขสมก.) ปล่อยรถยนต์ โดยสารและรถร่วมบริการของ เอกชนออกวิ่งโดยปล่อยควันดำ� เกิ น มาตรฐาน และให้ ก รม ควบคุมมลพิษรายงานผลการ ปฏิบัติให้ศาลปกครองทราบทุก 3 เดือนเป็นเวลา 1 ปีนับแต่วัน ที่ศาลมีคำ�พิพากษา รวมทั้งให้ กรมควบคุมมลพิษประกาศให้ รถยนต์โดยสารของ ขสมก. และ รถร่วมบริการของเอกชนต้องถูก ควบคุ ม การปล่ อ ยอากาศเสี ย ตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษา คุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 มาตรา 68 ตามที่มูลนิธิป้องกัน ควันพิษและพิทักษ์สิ่งแวดล้อม กับพวกรวม 4 รายได้ยื่นฟ้อง

ขสมก. และกรมควบคุมมลพิษ ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมกัน ละเลยในการดำ�เนินการควบคุม มลพิษทางอากาศทีเ่ กิดจากการ ปล่ อ ยมลพิ ษ จากท่ อ ไอเสี ย รถยนต์ โ ดยสารไม่ ใ ห้ เ กิ น มาตรฐานตามที่คณะกรรมการ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติกำ�หนด ส่ง ผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของ สาธารณชนจนเกิ ด โรคระบบ ทางเดินหายใจเป็นจำ�นวนมาก ตามข้ อ มู ล ของสำ � นั ก งานสถิ ติ แห่งชาติเมือ่ วันที่ 14 ก.พ. 2545 และจากการเปิดเผยของอธิบดี กรมควบคุมมลพิษในขณะนั้น ก่อนหน้านี้ ศาลปกครองกลาง เคยมีคำ�พิพากษาว่า ขสมก.

ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมาย กำ�หนดให้ตอ้ งปฏิบตั โิ ดยปล่อย ให้มีรถโดยสารประจำ�ทางของ ขสมก. หรือรถร่วมเอกชนทีอ่ อก วิ่ ง โดยปล่ อ ยมลพิ ษ จากท่ อ ไอ เสียเกินมาตรฐานและกำ�หนด ให้ ขสมก. ปฏิบัติหน้าที่ตาม กฎหมายที่จะไม่ให้รถโดยสาร ประจำ�ทางของ ขสมก. และรถ ร่วมบริการก่อให้เกิดมลพิษจาก ท่อไอเสียเกินมาตรฐานอีกและ ให้รายงานผลตรวจวัดไอเสียของ รถประจำ�ทาง ขสมก. และรถ ร่วมบริการต่อศาลทุก 3 เดือน เป็นเวลา 1 ปีนบั แต่วนั ทีค่ ดีถงึ ที่ สุ ด ส่ ว นกรมควบคุ ม มลพิ ษ ให้ ยกฟ้องต่อมาผูฟ้ อ้ งและผูถ้ กู ฟ้อง

ยื่นอุทธรณ์ ทั้ ง นี้ ศาลปกครอง สูงสุด พิจารณาแล้วเห็นว่า ที่ ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาว่า ขสมก. ละเลยต่อหน้าที่นั้นศาล ปกครองสูงสุด เห็นพ้องด้วยซึ่ง ขสมก. เป็ น หน่ ว ยงานรั ฐ ที่ มี อำ�นาจหน้าที่ควบคุมดูแลการ ขนส่งกลับเพิกเฉยไม่ด�ำ เนินการ ให้ เ อกชนผู้ รั บ จ้ า งตามสั ญ ญา จ้ า งประกอบการขนส่ ง บุ ค คล ดำ � เนิ น การให้ เ ป็ น ไปตาม มาตรฐานควบคุ ม มลพิ ษ ทาง อากาศตามกฎหมายว่าด้วยการ ส่งเสริมคุณภาพสิง่ แวดล้อมแห่ง ชาติ ตลอดจนไม่ควบคุมและ กำ � จั ด ภาวะมลพิ ษ ที่ มี ผ ลต่ อ

สุขภาพอนามัยสวัสดิภาพ แ ล ะ คุ ณ ภ า พ ชี วิ ต ข อ ง ประชาชนตามบทบั ญ ญั ติ รัฐธรรมนูญ ดังนั้น ขสมก. ผู้ถูกฟ้องที่ ต้ อ งจั ด ให้ ร ถโดยสารของ ขสมก. และรถร่วมบริการ ของเอกชนทุ ก คั น อยู่ ใ น สภาพที่ส ามารถใช้การได้ ซึ่งสภาพของรถต้องมั่นคง แข็ ง แรงและไม่ ก่ อ ให้ เ กิ ด มลพิษ อุทธรณ์ของ ขสมก. ฟังไม่ขึ้น ส่วนกรมควบคุม มลพิ ษ ศาลเห็ น ว่ า เมื่ อ รถ โดยสารของ ขสมก. ถือได้ ว่ า เป็ น แหล่ ง ที่ ม าของ อ่านต่อหน้า 3


2

ลอว์นิวส

ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 วันพุธที่ 16 - วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

บทบรรณาธิการ

จากผู้อ่าน ได้รับหนังสือพิมพ์จาก หอสมุดแห่งชาติครับ ชอบการนำ� เสนอข่าวและบทความต่างๆ ที่ให้ ความรู้รอบตัวได้เป็นอย่างดี เป็น ประโยชน์แก่ผู้อ่านครับ -วรรักษ์

แอน พี. วรรณประทีป บรรณาธิการ

คุณวรรักษ์ได้รับหนังสือ 500 ล้านปีของความรัก

ส่งความคิดเห็น คำ�ติ-ชม ที่มีต่อ นสพ. ลอว์นิวส์ ได้ที่ สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เลขที่ 7/89 อาคาร 10 ถนนราชดำ�เนินกลาง แขวง บวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 หรือทาง

ระเบิดร้านขายของเก่า

เกิดเหตุระเบิดร้านขายของเก่า เลขที่ 9/1 ภายในซอยลาดปลาเค้า 72 แยก 14 เบื้องต้นพบผู้ เสียชีวิต 5 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บ 12 ราย เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือทั้งนี้ จากแรงระเบิดส่งผล ให้จุดที่เกิดระเบิดเป็นหลุมกว้างกว่า 5 เมตร ส่วนร้านรับซื้อของเก่า ถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้ง หลัง และบ้านเรือนใกล้เคียงกว่า 10 หลัง รวมถึงรถยนต์ที่จอดภายในซอย เสียหาย มีรายงาน เบือ้ งต้นว่า ร้านดังกล่าวได้รบั ซือ้ ระเบิดเก่าแล้วนำ�มาตัดเหล็กเพือ่ มาขาย แต่ระหว่างนัน้ ได้เกิด ระเบิดขึ้นทันที ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว

foxnews.com

ap.org

ภาพ : นัทธมน จันดี

สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านค่ะ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ หลังจากได้ไปพักผ่อน ท่องเที่ยว กลับบ้านไปเยี่ยมบุพการี พ่อแม่พี่น้อง ในวัน หยุดเทศกาลสงกรานต์ยาวถึง 5 วันติดต่อกัน คงจะชาร์ตแบตเตอรีใ่ ห้กบั ตัวเองและพร้อมทีจ่ ะกลับมา ทำ�งานกันแล้วนะคะ ในช่วงนี้ เหตุการณ์บา้ นเมืองดูยงั ไม่สงบและยังมีเหตุการณ์ระเบิดเกิดขึน้ อย่างต่อเนือ่ ง ไม่ ว่าจะเป็นระเบิดทีถ่ กู ค้นพบโดยบังเอิญและเกิดระเบิดขึน้ แถวลาดปลาเค้า และในทีอ่ นื่ ๆ หรือเป็นเหตุ การณ์คาร์บอมบ์เกิดระเบิดกลางเมืองยะลา ทำ�ให้บา้ นเรือนในบริเวณใกล้เคียงต้องเสียหายกันไปกว่า สิบหลังคาเรือน รวมถึงการประกาศรวมตัวชุมนุมกันทั้งฝ่าย กปปส. เมื่อวันที่ 29 มีนาคม ที่ผ่านมา และการรวมตัวของกลุม่ คนเสือ้ แดงทีถ่ นนอักษะเมือ่ วันที่ 5 เมษายน ซึง่ ต่างฝ่ายต่างก็แจ้งว่ามีผมู้ าร่วม ชุมนุมในฝ่ายตนกันล้นหลาม อันนี้ก็ไม่ทราบว่าข้อมูลฝ่ายใดจริงฝ่ายใดเท็จ และยังคงประกาศว่าจะ ยังมีการเรียกรวมตัวกันอีกในวันข้างหน้าต่อๆ ไป ถ้าหากยังคงเป็นเช่นนี้ ต่างฝ่ายต่างก็มุ่งประสงค์จะ เอาชนะกัน เหตุการณ์เช่นนี้ก็คงจะยื้อยุดกันไปอีกนานเลยนะคะ แต่ที่แน่ๆ ในขณะนี้ เศรษฐกิจไทย ตกต่ำ�ลงเรื่อยๆ จนถึงขั้นวิกฤติกันแล้ว จะทำ�อะไรกัน ก็ขอให้เห็นแก่ประเทศชาติกันด้วยนะคะ ถึง อย่างไร ประชาชนทุกคนก็ยังคงต้องทำ�มาหากินกันตามปกติ และการที่เศรษฐกิจของเราเริ่มตกต่ำ�ลง เรือ่ ยๆ คงจะต้องใช้เวลากันอีกนานกว่าจะฟืน้ กลับมาได้ใหม่อกี ครัง้ หนึง่ ยิง่ เรากำ�ลังจะก้าวเข้าสูส่ มาคม เศรษฐกิจอาเซียนในปีหน้านี้กันแล้ว ประเทศไทยก็ต้องรีบเตรียมตัวเพื่อรับมือกับคู่แข่งจากภายนอก อีกมากมายอีก 9 ประเทศด้วยกัน เพราะฉะนั้น หากเรายังตีกันเองอยู่ ไม่สามัคคีกัน ประเทศไทยเรา คงจะต้องยิ่งเจอกับอุปสรรคมากขึ้นไปอีกนะคะ อย่างไรก็ดี จากสภาวะการณ์ปัจจุบัน ยังไม่มีใครทราบว่าทิศทางของประเทศไทยเราจะไป ทางไหน เรื่องที่ยังเป็นข้อโต้แย้งของทั้งฝ่าย กปปส. กับฝ่ายเสื้อแดง จะจบลงอย่างไร อาจจะต้องรอดู จากกรณีเรื่องของคุณถวิล เปลี่ยนศรี ก็เป็นได้ เมื่อศาลปกครองสูงสุดได้มีคำ�สั่งให้นายกรัฐมนตรีคืน ตำ�แหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เนื่องจากคำ�สั่งย้ายนั้นไม่ชอบด้วยจริยธรรมให้ แก่นายถวิล เปลี่ยนศรี ดังนั้น นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหาและคณะได้ยื่นเรื่องขอให้ศาล รัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว. กลาโหม โดยล่าสุดศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์รับคำ�ร้องไว้พิจารณาโดยกำ�หนดให้นายกรัฐมนตรี ส่งคำ�ชีแ้ จงแก้ขอ้ กล่าวหาภายใน 15 วันและเรียกพยานมาสอบโดยเร่งด่วน ท้ายทีส่ ดุ แล้วเรือ่ งราวอาจ จะยุตกิ นั โดยเราต้องรอฟังคำ�สัง่ ของศาลรัฐธรรมนูญกันต่อไป ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีค�ำ สัง่ ว่าอย่างไร และนายกรัฐมนตรีจะต้องถูกให้พน้ จากตำ�แหน่งหรือไม่ รวมถึงอาจจะต้องพ้นตำ�แหน่งทัง้ คณะรัฐมนตรี ด้วยหรือไม่ ฟังเรื่องเครียดทางการเมืองกันมาก็มากแล้ว แต่ในวงการบันเทิงนั้นมีข่าวดีสำ�หรับดารา หลายคูด่ ว้ ยกันทีเดียว คูส่ มรสแห่งต้นปีนที้ ดี่ จู ะฮือฮากันมากคงไม่พน้ ข่าวพิธวี วิ าห์สมรสของหมอโอ๊ค กับโอปอล์ คู่รักต่างสีผิว ที่ดูจะรักกันจนใคร ๆ ต้องแอบอิจฉา ทั้งข่าวประกาศการจะเข้าพิธีสมรสของ พระเอกหนุ่มหล่อ อั้ม กับนัท มีเรีย และยังมีข่าวของ โบว์ สาวิตรี AF 5 จะเข้าพิธีสมรสกับหนุ่มใน เครื่องแบบปลายปีนี้ด้วย

เจ้าชายน้อย

เจ้าชายจอร์จ แห่งเคมบริดจ์ ทีม่ พี ระชันษาเพียง 8 เดือน ทรงปฏิบตั พิ ระกรณียกิจครัง้ แรก โดย ทรงร่วมพบปะกับครอบครัวมือใหม่ชาวนิวซีแลนด์ ที่พาลูกๆ มาเข้าเฝ้า เจ้าชายวิลเลียม และ ดั ช เชส แคทเธอรี น พร้ อ มด้ ว ยเจ้ า ชายจอร์ จ ซึ่ ง ทรงอยู่ ร ะหว่ า งเสด็ จ เยื อ นนิ ว ซี แ ลนด์ พระราชทานโอกาสให้ครอบครัวชาวนิวซีแลนด์ 10 ครอบครัวเข้าเฝ้าที่ทำ�เนียบรัฐบาลของ นิวซีแลนด์ ในกรุงเวลลิงตัน เมื่อวาน ทำ�ให้เจ้าชายจอร์จ ซึ่งประสูติเมื่อ 22 ก.ค.ปีที่แล้ว ทรง มีโอกาสทักทาย และเล่นกับทารกวัยใกล้เคียงกันจากแต่ละครอบครัวที่เพิ่งมีลูกคนแรก

ชิลล์ ไปไหมพี่?

ภาพชายหนุ่ ม สองคนนั่ ง ดู ที วี ก ลางแยก อโศกจากเฟซบุ๊ก นสพ. ไทยรัฐ ถูกแชร์ไป ทั่วโลกออนไลน์ หลายเสียงคาดว่าน่าจะ เป็นไวรัล (ไวรัล มาร์เก็ตติ้ง หากแปลอย่าง ตรงตัว คือ กลยุทธ์การตลาดแบบไวรัส โดย การสร้างกระแสให้เกิดผลกระทบกับผู้คน เกิ ด การพู ด ถึ ง และบอกต่ อ ทำ � ให้ แ พร่ กระจายอย่างรวดเร็ว มีผลทั้งดีและไม่ดี) อย่างล่าสุดที่เพิ่งเห็นกัน คือ ผู้พันแซนด์เด อร์นั่งมอไซค์ในกรุงเทพฯ ของเคเอฟซี และ ที่จบแบบเละไปตามๆ กันคือ ขนมเวเฟอร์ เหนียวๆ เคี้ยวติดฟันยี่ห้อหนึ่ง


ลอว์นิวส์ ต่อจากหน้า 1 : ศาลสั่ง ขสมก. มลพิษอย่างหนึ่งตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมและ รักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 แล้ว เมื่อข้อเท็จจริงยังรับฟังได้ว่าเมื่อ เกิดกรณีรอ้ งเรียนเกีย่ วกับรถโดยสาร ขสมก. ปล่อยมลพิษจากท่อไอเสียเกินมาตรฐาน กรมควบคุมมลพิษได้มีหนังสือประสานไป ยัง ขสมก. และหน่วยงานที่มีอำ�นาจหน้าที่ ตามกฎหมายต่างๆ ให้ควบคุมรถโดยสารที่ สร้างความเดือดร้อนรำ�คาญและส่งผลกระ ทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน ดังนั้น ในส่วนของ คพ. ผู้ถูกฟ้องที่ 2 จึงมีอำ�นาจ หน้าที่การกำ�กับดูแลประสานงานติดตาม ประเมินผลเกีย่ วกับการฟืน้ ฟูคมุ้ ครองรักษา คุณภาพสิ่งแวดล้อม ศาลปกครองสูงสุดจึงพิพากษาแก้ เป็นว่าให้กรมควบคุมมลพิษ กำ�หนดแผน ปฏิบตั กิ ารกำ�กับดูแลติดตามควบคุมเพือ่ ไม่ ให้ ขสมก. ปล่อยรถยนต์โดยสารและรถร่วม บริการของเอกชนออกวิ่งโดยปล่อยควันดำ� เกินมาตรฐาน และรายงานผลการปฏิบัติ การตามแผนดังกล่าวต่อศาลทุก 3 เดือน เป็นเวลา 1 ปี นับแต่วันที่ศาลมีคำ�พิพากษา และให้กรมควบคุมมลพิษพิจารณาดำ�เนิน การตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อประกาศกำ�หนดให้รถยนต์โดยสารของ ขสมก. และรถร่วมบริการของเอกชน ต้อง ถูกควบคุมการปล่อยอากาศเสียตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 มาตรา 68 นอกเหนือจากทีแ่ ก้ให้เป็น ไปตามคำ�พิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น วั น เดี ย วกั น นี้ นายศรี สุ ว รรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน กับพวกรวม 23 คน ซึ่งเป็นประชาชนพัก อาศัยในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ที่ใช้ บริการขนส่งมวลชน ได้ยื่นฟ้อง ผู้อำ�นวย การ ขสมก., คณะกรรมการบริหารกิจการ ขสมก., อธิ บ ดี ก รมการขนส่ ง ทางบก

ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 วันพุธที่ 16 - วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

กระทรวงคมนาคม, คณะกรรมการควบคุม การขนส่งทางบกกลาง และ รมว.คมนาคม เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-5 เรื่อง ละเลยต่อหน้าที่ที่ กฎหมายกำ�หนดให้ต้องปฏิบัติ หรือปฏิบัติ หน้าทีล่ า่ ช้าเกินสมควร ปล่อยให้รถโดยสาร ของ ขสมก. และรถร่วมบริการ ก่อความเสีย่ ง ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชน ผูส้ ญ ั จรบนท้องถนน จากเหตุ ทีร่ ถร่วมบริการเอกชน สาย 8 ทีว่ งิ่ ให้บริการ เส้นทาง แฮปปี้แลนด์ – สะพานพุทธ ที่ได้ รับสัมปทานจาก ขสมก. ได้ฝ่าฝืนเงื่อนไข การประกอบกิ จ การ หรื อ สั ม ปทานโดย ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ทีน่ �ำ ไปสูก่ าร เกิดอุบัติเหตุหลายครั้ง นอกจากนี้บริษัท เอกชน 3 ราย ที่ได้รับสัมปทานการเดินรถ เมล์ร้อน สาย 8 ก็ยังฝ่าฝืนเงื่อนไขการให้ สัมปทานหลายครัง้ กรณีทพี่ นักงานรถร่วม มีพฤติการณ์ด่าและไล่ผู้โดยสารลงจากรถ การขับรถด้วยความเร็ว จึงขอให้ศาลมีค�ำ พิพากษา ให้ผถู้ กู ฟ้องเพิกถอนใบอนุญาต หรือใบประกอบ การ หรือสัมปทานการเดินรถของรถร่วม บริการเอกชน สาย 8 ทั้งหมด และให้ผู้ถูก ฟ้องทัง้ หมดกำ�หนดมาตรการติดตาม ตรวจ สอบ ลงโทษ และเพิกถอนใบอนุญาต หรือ สั ม ปทานรถ ขสมก. และรถร่ ว มบริ ก าร ทั้งหมด ทุกประเภทที่มีพฤติการณ์ฝ่าฝืน กฎหมาย และการสัมปทาน และให้ติดตาม ตรวจสอบมาตรการด้ า นความปลอดภั ย มลพิษ-ควันดำ�ทุก 3 เดือน ตลอดอายุการ ได้รับใบประกอบการสัมปทาน รวมทั้งให้ผู้ ถูกฟ้องทัง้ หมดกำ�หนดมาตรการเพิกถอนใบ อนุญาตผู้ขับขี่รถโดยสารและพนักงานเก็บ ค่าโดยสารที่ฝ่าฝืนกฎหมายที่เด็ดขาด กับผู้ ที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุสร้างความเสียหายต่อ ผู้สัญจรบนถนน และห้ามขับขี่รถสาธารณะ ตลอดชี วิ ต รวมทั้ ง ห้ า มนำ � รถที่ ป ระสบ อุบัติเหตุ มาวิ่งโดยเด็ดขาดด้วย ทั้งนี้ศาล ปกครองกลางได้รับคำ�ฟ้องไว้เพื่อพิจารณา ต่อไปว่า มีอ�ำ นาจพิจารณาพิพากษาหรือไม่ ต่อไป

การ์ตูน เรื่องและภาพโดย ปองกานต์ ขุนภาษ๊

3

แถลงการณ์ของสภาทนายความ เรื่อง การสอบสวนความผิดซึ่งมีโทษตามกฎหมายไทยที่ได้กระทำ�นอกราชอาณาจักร จากกรณีที่นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความของพันตำ�รวจโททักษิณ ชินวัตร ได้ ปราศรัยผ่าน skype มายังทีช่ มุ นุมของกลุม่ ผูส้ นับสนุนระบอบทักษิณ เมือ่ วันที่ 6 เมษายน 2557 ซึ่งมีคำ�ปราศรัยดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ของราชอาณาจักรไทย รวมถึงการกล่าวร้ายต่อ ระบบศาลยุตธิ รรมและหน่วยงานองค์กรอิสระซึง่ มีหน้าทีต่ ามกฎหมายในการตรวจสอบการกระ ทำ�ความผิดตามกฎหมายอาญาหรือการกระทำ�ทุจริตของนักการเมืองทีเ่ ป็นไปตามมาตรฐานของ กฎหมายสากล คำ�กล่าวอ้างของนายโรเบิรต์ อัมสเตอร์ดมั จึงเป็นเรือ่ งเท็จ เป็นการกระทำ�ความ ผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และมาตราอื่นอย่างชัดแจ้ง สภาทนายความเห็นว่าความผิดดังกล่าวของนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ซึ่งมีโทษตาม กฎหมายไทยได้กระทำ�ลงนอกราชอาณาจักรผ่านระบบโทรคมนาคมสือ่ สารเข้ามาในประเทศไทย จึงต้องมีการสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธพี จิ ารณาความอาญา ทัง้ นีก้ ารดำ�เนินการดังกล่าว เป็นหน้าทีข่ องสำ�นักงานตำ�รวจแห่งชาติ สำ�นักงานอัยการสูงสุด และกระทรวงมหาดไทย ซึง่ ต้อง ดำ�เนินการตามกฎกระทรวงมหาดไทยที่ออกตามความในมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติใช้ใช้ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา พ.ศ. 2477 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไข เพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 29) พ.ศ. 2551 มาตรา 3 วรรคท้าย คือ “ให้พนักงานอัยการหรือพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบในการสอบสวนความผิดซึ่งมีโทษ ตามกฎหมายไทยที่ได้กระทำ�ลงนอกราชอาณาจักรไทยตามที่ได้รับมอบหมายจากอัยการสูงสุด ทำ�ความเห็นส่งพร้อมสำ�นวนไปยังอัยการสูงสุดหรือผูร้ กั ษาการแทน ซึง่ เมือ่ พนักงานอัยการหรือ พนักงานสอบสวนผูร้ บั ผิดชอบซึง่ ได้รบั มอบหมายจากอัยการสูงสุด เห็นว่าการสอบสวนเสร็จแล้ว ต้องทำ�ความเห็นส่งพร้อมสำ�นวนไปยังอัยการสูงสุดหรือผู้รักษาการแทน ในกรณีมีความเห็นว่า ควรสั่งฟ้องก็ต้องส่งสำ�นวนพร้อมตัวผู้ต้องหาไปยังอัยการสูงสุดหรือผู้รักษาการแทน ในกรณีที่ พนักงานอัยการมีคำ�สั่งฟ้อง แต่ยังไม่ได้ตัวผู้ต้องหามา” จึงแถลงการณ์มาเพื่อทราบโดยทั่วกัน สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ 8 เมษายน พ.ศ. 2557


4

ลอว์นิวส

ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 วันพุธที่ 16 - วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

ต่อจากหน้า 1 : รวบยกทีม น้องชายตัวการ ของบ้าน และก็ทำ�การในลักษณะเดียวกันกับ พ.อ.วิชัย หอมชง ก่อนจะพากันหลบหนีขึ้น แท็กซี่ไป ต่อมาในเวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่ ตำ�รวจ สน.หลักสอง ได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ไปฝากขังทีศ่ าลอาญาธนบุรี โดยนายกิตติ นันท์มีสีหน้านิ่งเฉย ลักษณะเหมือนไม่เสียใจ กับเรือ่ งทีก่ ระทำ�ลงไป ขณะที่ พล.ต.อ.จรัมพร สุ ร ะมณี ที่ ป รึ ก ษา (สบ 10) พร้ อ มด้ ว ย พล.ต.ต.ชยุต รัตนอุบล ผบก.น.9 พ.ต.อ.ภา ดล ประภานนท์ รอง ผบก.น.9 และเจ้าหน้าที่ กองพิสูจน์หลักฐาน ได้เดินทางมาตรวจสอบ บ้านหลังทีเ่ กิดเหตุ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ซึง่ ทาง พล.ต.อ.จรัมพร เปิดเผยว่า จากการเข้า ตรวจสอบ 2 ครัง้ นัน้ มีหลักฐานบางอย่างทีย่ งั หาไม่เจอ จากการให้การของผู้ต้องหา โดย หลักฐานพบเพียงหัวกระสุนขนาด 9 มม. จำ�นวน 2 หัว พร้อมปลอกกระสุนชนิดเดียวกัน อีกจำ�นวน 4 ปลอก ซึ่งจากการตรวจสอบถูก ยิงมาจากปืนกระบอกเดียว โดยเป็นการยิง แบบใช้หมอนกดและยิง ต้องลงมือมากกว่า 1 คน ซึ่งสอดคล้องกับคำ�ให้การของผู้ต้องหา พร้อมกันนี้ยังพบรอยรองเท้าที่ย่ำ�อยู่ภายใน บ้าน เมื่อเทียบเคียงแล้วก็พบว่าเป็นของผู้ ต้องหา พร้อมกันนีย้ งั พบทรัพย์สนิ มีคา่ จำ�นวน หนึ่ง ทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญญาติของผู้เสียชีวิต เข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย “สำ�หรับคดีนี้มีการวางแผนมา ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2556 โดย มี ก ารจ่ า ยค่ า มั ด จำ � กั บ มื อ ปื น ไว้ จำ � นวน หนึ่ง ซึ่งทางมือปืนก็ได้มาดูลาดเลาอยู่ เป็นประจำ� ก่อนที่จะลงมือ พร้อมกันนี้ นายกิตตินนั ท์ ยังได้ท�ำ การสร้างหลักฐาน ลวงเจ้าหน้าที่ โดยการไปปรากฏตัวตาม สถานที่ ต่ า งๆ เพื่ อ ให้ ก ล้ อ งวงจรปิ ด สามารถจั บ ภาพไว้ ไ ด้ พร้ อ มทั้ ง ใช้ ตั ว บุ ค คลยื น ยั น ความบริ สุ ท ธิ์ ต บตาเจ้ า หน้าที่ สุดท้ายก็หนีไม่พ้นการจับกุมของ เจ้าหน้าที่ตำ�รวจฝ่ายสืบสวน” พล.ต.อ. จรัมพร กล่าว ยืมเงินพี่จ้างมือปืน รายงานข่าวแจ้งเพิม่ เติมอีกว่า ก่อน เกิดเหตุ นายกิตตินันท์ ได้โทรศัพท์ไปหา ร.ต.ท.ธรรมนัฐพี่ชาย ว่าต้องการเงินจำ�นวน 60,000 บาท เพือ่ จะเอาไปลงทุนกับเพือ่ นเปิด ฟิตเนส ด้วยความที่ ร.ต.ท. ธรรมนัฐ เป็นคน ที่รักน้องชายมาก จึงไปยืมเงินเพื่อนที่เป็น นรต. รุ่นเดียวกัน ซึ่งเป็นตำ�รวจอยู่ สน. แห่ง หนึ่ง ใน บก.น. 9 เมื่อได้เงินมา ทาง ร.ต.ท. ธรรมนัฐ ได้โอนเงินจำ�นวนดังกล่าวไปให้กับ นายกิตตินันท์ ก่อนที่นายกิตตินันท์ จะใช้เงิน จำ�นวนดังกล่าวจ้างมือปืนมาสังหารครอบครัว ตัวเอง มือปืนยอมเข้ามอบตัว เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 เม.ย. ที่ กองบั ญ ชาการตำ � รวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำ � รณวิ ท ย์ ธู ป กระจ่ า ง ผบช.น. พล.ต.ต.ฐิตริ าช หนองหารพิทกั ษ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น.

พล.ต.ต.ชยุต รัตนอุ บล ผบก.น.9 พร้ อ ม พนักงานสอบสวน สน.หลักสอง ร่วมกันแถลง ข่าวจับกุมนายสิริชัย หรือป้อม เพิ่มพูลศักดิ์ อายุ 42 ปี มื อ ปื น โหดก่ อ เหตุ ที่ สั ง หาร ครอบครัว “หอมชง” ตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครือ่ งกระสุนปืนโดยไม่ ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน หรื อ ทางสาธารณะโดยไม่ มี เ หตุ อั น สมควร พร้อมของกลางอาวุธปืน ขนาด 9 มม. ยี่ห้อซี แซด หมายเลขปืน A863972 พร้อมแม็กกา ซีน 1 อัน โดยยึดปืนได้ที่บ้านเลขที่ 1/241 ซอยรามคำ�แห่ง 190/2 แขวงและเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ พร้อมทั้งตรวจยึดรถเก๋ง ฮอนด้า แจ๊ส ทะเบียน ษน 7196 กรุงเทพมหานคร ซึ่ง รถคันดังกล่าวนายสิริชัย พร้อมกับพวกขับไป ดูลาดเลาที่บ้านผู้ตายก่อนลงมือ พล.ต.ท.คำ�รณวิทย์ กล่าวว่า คดีนี้ เป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญและคนร้าย กระทำ�อย่างอุกอาจโหดเหีย้ ม ถือว่าเป็นมือปืน รับจ้างรายสำ�คัญ ชุดสืบสวนจึงเร่งรัดติดตาม จับกุมจนคดีสามารถปิดคดีได้รวดเร็ว เพียงแค่ 2 วันได้ของกลางครบถ้วนพร้อมทัง้ ผูต้ อ้ งหาที่ ร่วมก่อเหตุทั้งหมด แต่จะต้องมีการขยายผล ต่อไป ทั้งนี้เมื่อคืนที่ผ่านมา นายป้อมติดต่อ ทนายความให้พาเข้ามอบตัวที่ สน.สุทธิสาร แต่จะมอบตัวหรือไม่ตนไม่สนใจ เพราะหนีไม่ รอดอยู่แล้ว ถ้าไม่ชิงมอบตัวก็จับตัวได้อยู่แล้ว สำ�หรับนายป้อมมีประวัติเคยต้องโทษคดีฆ่า คนตาย ท้องที่ สน.ดินแดง ถูกตัดสินจำ�คุก 12 ปี ต่อมาต้องโทษคดียาเสพติด และคดีชิง ทรัพย์ ออกจากคุกเพิ่งออกมาเมื่อปี 2555 กระทั่งมาเป็นมือปืนรับจ้าง สารภาพ-เผยนาทีสังหาร จากการสอบสวนนายสิริชัย หรือ ป้อม ให้การรับสารภาพว่า ปกติแล้วมีอาชีพ ขั บ รถจั ก รยานยนต์ รั บ จ้ า ง และเป็ น อาสา สมัครตำ�รวจบ้านของ สน.บางเขน ตนเป็นคน ลงมือยิงครอบครัวหอมชงทั้ง 3 ศพโดยได้รับ การว่าจ้างจากนายศักรินทร์ หรือกอล์ฟ พันธ กุล อายุ 22 ปี ซึ่งตนไม่รู้จักกับนายกิตตินันท์ หรือเต้ย หอมชง ลูกชายคนเล็กของผู้ตาย แต่ นายกิตตินันท์จะมากับนายศักรินทร์ด้วยทุก ครัง้ และตอนทีร่ บั งานไม่รวู้ า่ ผูต้ ายเป็นพ่อแม่ และพี่ชายของนายกิตตินันท์ โดยนายศักริ นทร์ตดิ ต่อผ่านนายฉลาดหรือป๊อด เทีย่ งธรรม อายุ 53 ปี ให้รับงานดังกล่าว จากนั้นตกลง กันว่าจะให้ตนเป็นคนยิงและไปก่อเหตุเพียง คนเดี ย วโดยรั บ ปากว่ า จะให้ ค่ า จ้ า งในการ ลงมือสังหารจำ�นวน 1 ล้านบาท แต่ตนปฏิเสธ ไปว่าไม่ทำ� นายสิริชัย กล่าวอีกว่า ต่อมาได้ ตกลงกันใหม่โดยใช้ทีมงาน 3 คน ก่อนลงมือ ได้ขอเบิกเงินล่วงหน้าจำ�นวน 3 หมืน่ บาท แต่ นายศักรินทร์ขอผลัดไปก่อนและบอกว่าหลัง จากเสร็จงานแล้วจะให้คา่ จ้างจึงตัดสินใจไม่รบั งาน ต่อมานายศักรินทร์โทรศัพท์มาคุยด้วย ตัวเองอีกครั้ง พร้อมกับขอร้องให้ช่วยรับงาน หากลงมือสำ�เร็จจะให้รถยนต์ 1 คัน พระเลีย่ ม ทอง สร้อยคอทองคำ� และเงินสดอีก 1 ก้อน ซึง่ ตัง้ แต่ลงมือสังหารจนถึงขณะนีท้ ถี่ กู จับกุมก็ ยังไม่ได้รบั ค่าจ้างแต่อย่างใด หลังจากทีต่ กลง รับงานก็วางแผนกันประมาณ 1 อาทิตย์ก่อน

ทีจ่ ะลงมือ โดยนายฉลาดขอร้องให้ชว่ ยนายศัก เจตนากระทำ�หรือพยายามกระทำ�ให้เจ้าของ มรดกหรือผู้มีสิทธิได้รับมรดกก่อนตนถึงแก่ รินทร์ เพราะถูกโกงที่ดินและทรัพย์สิน ความตายโดยมิชอบด้วยกฎหมาย จึงทำ�ให้ บุตรชายคนเล็กถูกกำ�จัดสิทธิมใิ ห้รบั มรดก ซึง่ มอบตัวเพราะเสียใจ สาเหตุที่มามอบตัวเพราะรู้สึกเสียใจที่รู้ทีหลัง ทางญาติสามารถยื่นเรื่องคัดค้านต่อศาลแพ่ง ว่าผู้ตายทั้งหมดเป็นครอบครัวของนายกิตติ ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่ ง และ นั น ท์ อี ก ทั้ ง นายกิ ต ติ นั น ท์ ไ ม่ พู ด อะไรเลย ปล่อยให้นายศักรินทร์เป็นคนพูดแล้วผลออก พาณิชย์ มาตรา1629 ได้จัดลำ�ดับทายาทกอง มาเป็นแบบนี้ วันเกิดเหตุนงั่ รถแท็กซีไ่ ปกัน 3 มรดกไว้ 6 ลำ�ดับ ประกอบด้วย 1.ผูส้ บื สันดาน คนและไปนัดเจอกับนายศักรินทร์ทสี่ วนหย่อม 2.บิ ด ามารดา 3.พี่ น้ อ งร่ ว มบิ ด ามารดา ใกล้กบั ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์บางแค แต่ เดี ย วกั น 4.พี่ น้ อ งร่ ว มบิ ด าหรื อ มารดา นายกิตตินันท์ไม่ได้มาด้วย จากนั้นได้ไปที่ เดียวกัน (คนละพ่อคนละแม่) 5.ปู่ยาตายาย บ้านหลังเกิดเหตุ เข้าประตูด้านหน้า โดยนา และ 6.ลุงป้าน้าอา ซึง่ ใครก็ตามทีย่ งั มีชวี ติ อยู่ ยศักรินทร์เป็นคนเอากุญแจมาให้ พร้อมกับ หรือมีสิทธิ์รับมรดกแทนทายาทสืบสกุลได้ ตามลำ�ดับ และคนทีอ่ ยูใ่ นลำ�ดับทีใ่ กล้ทสี่ ดุ กับ บอกข้อมูลภายในบ้านหมดทุกอย่าง “เมื่ อ ไปถึ ง พบว่ า ประตู ไ ม่ ไ ด้ เจ้าของมรดกเท่านั้นที่มีสิทธิได้รับ ส่วนคนที่ ล็อค หมาในบ้านก็เห่าเสียงดัง จึงรีบเดิน อยู่ในลำ�ดับถัดลงไปไม่มีสิทธิรับมรดกเลย เข้าไปทีช่ นั้ ล่าง พบลูกชายเป็นคนแรกผม ทั้งนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่ง มาตรา 1603 จึงบอกให้นอนคว่�ำ หน้าก่อนจะเอาหมอน ระบุว่า กองมรดกย่อมตกทอดแก่ทายาทโดย วางทับและใช้ปืนยิงจากนั้นก็ไปยิงนาง สิทธิตามกฎหมายหรือโดยพินัยกรรม ซึ่ง วนิดา หอมชง ซึ่งนายสุระพงษ์ หรือจ่า หมายความว่านอกจากมรดกจะตกแก่ทายาท แอ๊ด ชูพันธ์ อ่ายุ 47 ปีได้ทำ�ร้ายร่างกาย แล้ว หากเจ้าของมรดกทำ�พินยั กรรมเอาไว้และ จนล้มลงไปนอนกับพืน้ และยืนคุมเชิงอยู่ ยกมดรกให้ บุ ค คลใดก็ ต าม ไม่ ว่ า จะเป็ น ผมจึงใช้หมอนปิดหน้าและจ่อยิงก่อนจะ ทายาทตามลำ�ดับหรือไม่ก็ตาม บุคคลนั้นก็ ไปที่ห้องของ พ.อ.วิชัย หอมชง ผู้ตาย ย่อมมีสิทธิได้รับทรัพย์มรดกตามพินัยกรรม พยายามจะร้องขอความช่วยเหลือ จ่า ไป “จากประสบการณ์ถ้าคนตายที่ แอ๊ดจึงเตะจนล้มไป ผมรีบเอาหมอนปิด หน้าและจ่อยิงเป็นศพสุดท้าย หลังจาก มีเงินมาก มักมีปัญหาเรื่องแบ่งทรัพย์ ก่ อ เหตุ ห ลบหนี ไ ปกบดานอยู่ ใ นซอย มรดก หรือบางคดีพอเจ้าของมรดกตาย อิ น ทามระ สำ � หรั บ อาวุ ธ ปื น ซื้ อ มาจาก ญาติก็โผล่มาเพื่อหวังเอามรดก จึงต้อง เพื่อนได้ 1 เดือน ก่อนที่จะก่อเหตุหลัง พิสจู น์ความเป็นทายาทตามลำ�ดับว่าจริง ลงมือเสร็จก็เอาปืนไปฝากไว้กับเพื่อน” หรือไม่ แต่บางคดีทายาทก็ไม่อยากยุ่ง เกี่ยวกับมรดกเนื่องจากไม่อยากขึ้นศาล มือปืนรายนี้ ระบุถึงวินาทีสังหารเหยื่อ เมือ่ ผูส้ อื่ ข่าวถามว่า น้าชายของนาย ก็สามารถทำ�ได้ แต่หากเป็นกรณีที่ไม่มี กิตตินันท์ออกมาระบุว่าได้คุยกับหลานชาย ทายาทเลยจริงๆ ตามประมวลกฎหมาย แล้ว โดยหลานชายปฏิเสธบอกว่าไม่ได้ทำ� แพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1753 ระบุว่า พล.ต.ท.คำ�รณวิทย์ กล่าวว่า บอกตรงๆ ตน เมื่อบุค คลใดถึงแก่ค วามตายโดยไม่มี ไม่ทราบรายละเอียด รวมทั้งยังไม่ได้คุยกับ ทายาทหรือผู้รับพินัยกรรม มรดกของ ญาติเลย แต่คดีมีการสืบสวนสอบสวนว่าไป บุคคลนั้นตกทอดให้เป็นของแผ่นดิน” อย่างไรก็ตามเรือ่ งดังกล่าวเป็นเรือ่ ง ตามพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุและจากการ สอบปากคำ�นายกิตตินันท์ และนายศักรินทร์ ของทางฝ่ายญาติทจี่ ะต้องพิสจู น์วา่ ผูต้ ายได้ท�ำ แล้วพบพิรุธบางอย่าง เมื่อถามว่า ปมสังหาร พินยั กรรมเอาไว้หรือไม่ และทายาทลำ�ดับใด มาจากสาเหตุอะไร พล.ต.ท.คำ�รณวิทย์ กล่าว ที่จะได้รับมรดกดังกล่าว โดยจะต้องยื่นเรื่อง ว่า คงเป็นเรื่องมรดก เข้าใจว่าถ้าทั้ง 3 คนเสีย ต่ อ ศาลแพ่ ง เพื่ อ ให้ ศ าลมี คำ � สั่ ง ต่ อ ไป ชีวิต มรดกจะต้องอยู่กับนายกิตตินันท์ เพียง เลขาธิการสภาทนายความ กล่าว คนเดียวเพราะที่ดินราคาประเมินไร่ละ 30 กว่าล้านบาท ชี้ข้อกฎหมาย ชวดมรดก ต่อมา วันที่ 8 เมษายน นายนิวัติ แก้วล้วน เลขาธิการสภาทนายความ ให้ความ เห็นในเชิงข้อกฎหมาย ถึงกรณีดังกล่าวว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่ ง และพาณิ ช ย์ มาตรา 1599, 1600 ระบุว่า เมื่อบิดามารดา ซึ่ ง เป็ น เจ้ า มรดกตาย มรดกของบุ ค คลนั้ น ตกทอดแก่ทายาท ก็คือ ร.ต.ท. ธรรมนัฐ พี่ ชาย กับ นายกิตตินันท์ น้องชาย แต่คดีนี้พี่ ชายเสียชีวิตแล้ว จึงเหลือน้องชายที่เป็นบุตร คือผู้รับมรดกอันดับแรก แต่คดีนี้ปัญหาคือ บุตรชายคนเล็กเป็นคนจ้างวานฆ่าบิดามารดา และพี่ชายเสียเอง ซึ่งตามประมวลกฎหมาย แพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1606 (1) ระบุว่า บุคคลที่ถูกกำ�จัดสิทธิมิให้รับมรดกฐานเป็นผู้ ไม่สมควรคือ ผูท้ ตี่ อ้ งคำ�พิพากษาถึงทีส่ ดุ ว่าได้

อากาศร้อนระอุเดือนเมษา ยังเย็นกว่าการเมืองชวนปวดหัว แต่ละฝ่ายป้ายสีกันจนเต็มตัว แบ่งเป็นขั้วแยกข้างอ้างเสียงใคร? กีฬาสีสองฝั่งยังดุเดือด หากนองเลือดคงจะยากเกินรับไหว ทุกชีวิตที่ปลิดปลงล้มจากไป ล้วนคนไทยญาติพี่น้องของพวกเรา จรกา


ลอว์นิวส์

ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 วันพุธที่ 16 - วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

ขบข่าวเอามากั ด ABC นิรนาม

independent.co.uk

5 ลอว์นิวส์

รวมข่าว เล่ากฎหมาย ให้สาระประชาชน

เจ้าของ

สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์

ที่ปรึกษา

นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายพูลศักดิ์ บุญชู ผศ. ว่าที่ร้อยตรี ดร. สุรพล สินธุนาวา นายชวน คงเพชร ดร. สุธรรม วลัยเสถียร นายสุมิตร มาศรังสรรค์ นายนิวัติ แก้วล้วน ดร. เกียรติศักดิ์ วรวิทย์รัตนกุล

บรรณาธิการ, ผู้พิมพ์, ผู้โฆษณา นางแอน พลอยส่องแสง

กองบรรณาธิการ

นายสุวิทย์ เชยอุบล นายสุนทร พยัคฆ์ นายวิเชียร ชุบไธสง นางสาวอรอนงค์ เทศะบำ�รุง นายธีรศักดิ์ วิชชุตานนท์ นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ นายสุชาติ ชมกุล นายชลิต ขวัญแก้ว ร้อยตรีสุรศักดิ์ รอนใหม่ นายพิเชฐ คูหาทอง นายอาสา เม่นแย้ม นายผาติ หอกิ​ิตติกุล นายวิทยา แก้วไทรหงวน นายวันรัฐ นาคสุวรรณ นายโอฬาร กุลวิจิตร นายวีรวัฒน์ จิตต์ปรุง

ศิลปกรรม

นายฉัตรชัย ทองศักดิ์

หนังสือพิมพ์ลอว์นิวส์

จัดทำ�โดยสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เลขที่ 7/89 อาคาร 10 ถนนราชดำ�เนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทรศัพท์ 0-2280-1567 แฟกซ์ 0-2282-9908 E-mail : lawnewslct@gmail.com

พิมพ์ที่ 96 หมู่ 3 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 10210

5

ครอบครัว = ความเข้าใจ “ขบข่าวเอามากัด” ฉบับนี้ อาจ จะไม่ได้ขบกัดให้ขำ�ขันเหมือนฉบับก่อนๆ เพราะข่าวสองข่าวทีเ่ กิดขึน้ ชวนให้สะเทือน ใจเป็ น อย่ า งยิ่ ง นั่ น คื อ ข่ า วพี่ ช ายลงมื อ สังหารพ่อ-แม่-น้องชาย ที่กลายเป็นข่าว โด่งดังเมื่อเดือนที่แล้ว และข่าวน้องชาย วางแผนฆ่าพ่อ-แม่-พี่ชาย ที่เพิ่งเกิดขึ้น เมือ่ ช่วงต้นเดือนทีผ่ า่ นมา จนทำ�ให้ตอ้ งหัน กลับมามองว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับสังคม ไทยในปัจจุบัน? ลำ�พังแค่การฆ่าใครสักคนก็เป็น ข่าวใหญ่ที่สะเทือนขวัญไปทั่วประเทศแล้ว แต่ เ หตุ ก ารณ์ ทั้ ง สองครั้ ง นี้ เกิ ด ขึ้ น จาก บุ ค คลภายในครอบครั ว และเป็ น การ สังหาร “พ่อแม่บังเกิดเกล้า” ทั้งนั้น ยิ่ง ทำ�ให้สงสัยถึงความสัมพันธ์ของบุคคลใน ครอบครัวสมัยนี้ว่า มันเป็นอย่างไร? ในอดีต สังคมไทยนิยมอยู่ร่วม กันเป็นครอบครัวใหญ่ อยู่ร่วมกันอย่าง น้อย 3 รุ่น คือ รุ่นปู่ย่าตายาย รุ่นพ่อแม่ และก็รุ่นลูก บางครอบครัวอาจจะอยู่ร่วม กันมากกว่า 10 คนก็มี และการอยู่ร่วมกัน เป็นครอบครัวใหญ่แบบนี้ ก็ยอ่ มทำ�ให้เกิด ความผู ก พั น และความอบอุ่ น ภายใน ครอบครัว เพราะจะมีคนในครอบครัวช่วย ดูแลกันตลอด ถ้าพ่อแม่ติดธุระต้องไปข้าง นอก ก็อาจจะฝากลุงป้าน้าอา หรือปู่ย่าตา ยาย ให้ช่วยดูแลหลานในบ้านไปพลาง ก่อน เมื่อมีผู้ใหญ่ดูแลเด็ก โดยที่เด็กนั้นก็ คือลูกหลานของตน ความเอาใจใส่ในการ ดูแลสายเลือดของตนก็ย่อมมีมากกว่าการ ที่ ใ ห้ ค นอื่ น มาคอยดู แ ล (ตามสำ � นวน “เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ�”) เด็กก็จะไม่รู้สึกว่า ตนเองขาดความรักความอบอุน่ และเติบโต ขึน้ มาพร้อมกับความผูกพันของคนในบ้าน ที่ แ ม้ จ ะอยู่ กั น เยอะ จนกลายเป็ น เรื่ อ ง “มากคนก็มากความ” มีทะเลาะเบาะแว้ง กันบ้าง แต่สุดท้ายก็อยู่ร่วมกันได้ ไม่ว่าจะ เต็มใจหรือจำ�ใจก็ตาม แต่ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การ อาศัยอยู่ร่วมกันเป็นจำ�นวนมากทำ�ให้ค่า ใช้จ่ายภายในครัวเรือนเพิ่มมากขึ้นตาม สภาวะค่าครองชีพที่พุ่งขึ้นจนเกินกว่าจะ กระชากลงมา ทำ�ให้หลายครอบครัวตัดสิน

ใจแยกออกมาอยูเ่ ป็นครอบครัวเล็กๆ มีแค่ พ่อแม่ลูก ทำ�ให้ความผูกพันต่อผู้ใหญ่ลด ลง เพราะบ่อยครัง้ หากพ่อแม่มธี รุ ะจำ�เป็น ก็อาจจะฝากลูกไว้กับเพื่อนบ้าน เพื่อนของ ลูก หรือคนอื่นๆ ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น เป็นเพียงชัว่ ครัง้ ชัว่ คราว ความผูกพันจึงไม่ เกิ ด ขึ้ น ความสั ม พั น ธ์ กั บ พ่ อ แม่ จึ ง อาจ สะดุดหรือขาดตอนไป ทำ�ให้เมื่อสะสมไป นานๆ อาจเกิดการ “ต่อไม่ติด” คือ ไม่ เข้าใจกันได้ง่าย เพราะต่างคนต่างก็ไม่รู้ใจ กันและกัน และเมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้น ก็ อาจจะนำ�ไปสู่การใช้ความรุนแรงดังที่เกิด ขึ้นนี้ก็ได้ อี ก ปั จ จั ย หนึ่ ง ที่ ทั้ ง สองข่ า ว พยายามนำ�เสนอก็คือ การที่พ่อแม่รักลูก ไม่เท่ากัน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ สิ่ง เหล่านี้มันเป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นภายใน จิตใจ ยากที่จะสังเกตได้โดยเฉพาะถ้าเกิด การ “ต่อไม่ตดิ ” เสียแล้ว ก็คงอาจจะไม่ทนั ได้สงั เกตว่าลูกมีสงิ่ ผิดปกติอะไรเกิดขึน้ บ้าง และเมื่ออาการ “ต่อไม่ติด” เกิดขึ้นบ่อยๆ เข้า เด็กก็หันไปต่อติดหรือติดต่อกับบุคคล อื่นแทน เช่น เพื่อน โทรทัศน์ โทรศัพท์มือ ถือ คอมพิวเตอร์ หรือสิง่ อืน่ สิง่ ใดทีเ่ ด็กรูส้ กึ ว่าคนเหล่านั้นหรือสิ่งเหล่านั้นมาช่วยต่อ ช่วยติดสิง่ ทีข่ าดหายไปสำ�หรับเขาได้ จนใน ที่สุด จากการต่อไม่ติด จึงกลายเป็นการ “ตัดสาย” ขาดผึงไป และเมื่อเกิดปัญหาหรือความขัด แย้งขึ้น ความไม่เข้าใจกันก็จะยิ่งส่งผลให้ ความขัดแย้งนัน้ รุนแรงมากขึน้ จนในทีส่ ดุ ก็อาจจะหน้ามืดตามัว ทำ�ในสิ่งที่ไม่มีใคร คาดคิดว่าจะทำ�ได้ ดังเช่นข่าวทีไ่ ด้น�ำ เสนอ มาแล้ว ดังนัน้ เราควรหาวิธกี ารทีจ่ ะมาช่วย กัน “ต่อให้ติด” เพื่อคนในครอบครัวจะได้ “ติดต่อ” กันอีกครั้ง - เริ่มต้นที่คุณพ่อคุณแม่ และ บรรดาผูป้ กครองทุกท่าน ควรจะหันมาสน ใจลูกๆ บ้าง อย่าอ้างเรือ่ งงานหรือเรือ่ งเงิน จนมากเกินไป เพราะเงินอาจจะซื้อของให้ ลูกได้ แต่ไม่อาจใช้ซอื้ ความรักความผูกพัน ในครอบครัวได้ - วันหยุด ลองหากิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ทำ�ร่วมกันสักหนึ่งอย่าง เช่น ออก

ไปทานอาหารนอกบ้านสักมื้ออาจจะเป็น ร้ า นอาหารริ ม ทางธรรมดาๆ ก็ ไ ด้ ไม่ จำ�เป็นต้องไปทานในร้านหรูๆ ตามห้าง สรรพสินค้า เพราะราคาอาหารที่แพงกว่า ก็ไม่ได้เป็นเครือ่ งรับประกันว่าจะทำ�ให้เกิด ความผูกพันมากกว่า (และอาจจะเป็นข้อ อ้างในการปฏิเสธไม่ไปทานข้าวด้วยกัน เพียงเพราะว่ามัน “แพง!”) หรืออาจจะทำ� กับข้าวทานร่วมกันก็ได้ ถ้ามั่นใจในฝีมือ ของตนเอง - งานก็คืองาน บ้านก็คือบ้าน อย่าเอาเรื่องงานมาลงที่บ้าน และอย่าเอา เรื่องบ้านไปลงที่ทำ�งาน เพราะลูกๆ ของ คุณไม่ได้รู้เห็นอะไรในที่ทำ�งานนั้นด้วย โปรดอย่าเอาความปัญหาหรือรุนแรงจาก ที่ทำ�งานมาลงที่เด็ก - หาโอกาสไปทำ�กิจกรรมทาง ศาสนาหรือทำ�บุญร่วมกันอย่างน้อยปีละ สองครั้ง เพื่อจะได้เป็นแบบอย่างและสอน ให้ ลู ก รู้ จั ก สงบจิ ต สงบใจ ไม่ ใช้ อ ารมณ์ เหนือเหตุผล และสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ร่วมกัน รวมถึงเป็นการเปิดโลกให้ได้เห็น ถึงคนอื่นที่อาจจะแตกต่างไปจากลูก จะได้ เกิดความเห็นอกเห็นใจ - อย่าเลีย้ งลูกด้วยเงิน เพราะถ้า ลูกเห็นว่าเงินสำ�คัญกว่าพ่อแม่เมือ่ ไหร่ เขา ก็อาจจะเกิดความคิดว่า ไม่มีพ่อแม่ก็ไม่ เป็นไร และอาจนำ�ไปสูส่ งิ่ ทีพ่ อ่ แม่ทกุ คนไม่ พึงปรารถนาหรือไม่คาดฝัน - พาลูกไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่บ้าง จะได้ เ กิ ด ความรั ก ความผู ก พั น ภายใน ครอบครัว และเป็นตัวอย่างที่ดีว่า พ่อแม่ ไม่ทอดทิง้ ปูย่ า่ ตายายฉันใด เมือ่ ลูกเติบโต ขึ้นก็ไม่ควรทอดทิ้งพ่อแม่ฉันนั้น วิธีการสร้างความผูกพันยังมีอีก หลายวิธคี รับ ทัง้ นี้ ขึน้ อยูก่ บั ว่า คุณจะเลือก ใช้วีไหน เพราะแต่ละครอบครัวก็จะมีพื้น ฐานที่แตกต่างกันไป แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธี การไหนก็คงไม่มปี ระโยชน์ถา้ พ่อแม่ไม่เริม่ ลงมือทำ�ให้ลูกเห็นเป็นตัวอย่าง ทำ�เถอะ ครั บ จะได้ ไ ม่ เ ป็ น ภาระแก่ สั ง คมและ ประเทศชาติ


6

ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 วันพุธที่ 16 - วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

ยกฟ้อง “สมคิด” เหตุหลักฐานอ่อน

ญาติขอ ้ งใจปมเปลีย ่ นผูพ ้ พ ิ ากษา

matichon.com

ศาลชั้ น ต้ น ยกฟ้ อ ง พล.ต.ท. สมคิ ด บุ ญ ถนอม และพวกในคดี อุ้ ม ฆ่ า นาย โมฮัมหมัด อัลรูไวลี่ ญาติขอ้ งใจใจเปลีย่ น ตัวผู้พิพากษาก่อนตัดสิน ด้านโฆษกศาล ยุตธิ รรมแจง มีกฎหมายรองรับให้เปลีย่ น ตัวได้ เมือ่ เวลา 10.00 น. วันที่ 31 มีนาคม ที่ ห้ อ งพิ จ ารณา 907 ศาลอาญา ถนน รัช ดาภิ เ ษก ศาลได้ อ อกนั่ ง บั ลลั ง ก์อ่านคำ� พิ พ า ก ษ า ค ดี อุ้ ม ฆ่ า นั ก ธุ ร กิ จ ช า ว ซาอุดีอาระเบีย หมายเลขดำ� อ.119/2553 ที่ พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ยื่น ฟ้อง พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม อดีตจเรตำ�รวจ และอดีต ผบช.ภ.5 กับผู้ใต้บังคับบัญชาอีก 4 คน ประกอบด้วย พ.ต.อ.สรรักษ์ หรือสมชาย จู ส นิ ท ผกก.สภ.สบเมย จ.แม่ ฮ่ อ งสอน พ.ต.อ.ประภาส ปิยะมงคล ผกก.สภ.น้ำ�ขุ่น จ.อุบลราชธานี พ.ต.ท.สุรเดช อุดมดี และ จ.ส.ต.ประสงค์ ทอรัง้ ตำ�รวจนอกราชการ เป็น จำ�เลยที่ 1-5 ตามลำ�ดับ ในความผิดฐาน ร่วม กันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และเพื่อปกปิดการกระทำ�ความผิดอื่นของตน และเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นความผิดทางอาญาที่ ตนได้กระทำ�ไว้ ร่วมกันหน่วงเหนีย่ วกักขังผูอ้ นื่ เป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตาย โดยอัยการ โจทก์นำ�คดีมายื่นฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2553 ระบุความผิดสรุปว่า เมื่อ ประมาณปี 2530 เกิดความขัดแย้งขึ้นอย่าง รุ น แรงระหว่ า งรั ฐ บาลซาอุ ดี อ าระเบี ย ที่ ประชาชนส่ ว นใหญ่ นั บ ถื อ ศาสนาอิ ส ลาม นิ ก ายสุ ห นี่ กั บ รั ฐ บาลประเทศอิ ห ร่ า น ที่ ประชาชนส่ ว นใหญ่ นั บ ถื อ ศาสนาอิ ส ลาม นิกายชีอะห์ เนือ่ งจากความขัดแย้งทางศาสนา รวมทั้งสาเหตุที่รัฐบาลซาอุดีอาระเบียปราบ ปรามสลายการชุมนุมของกลุ่มประท้วงกลุ่ม

มุ ส ลิ ม นิ ก ายชี อ ะห์ ที่ ม าแสวงบุ ญ ที่ เ มื อ ง เมกกะ ประเทศซาอุฯ ทำ�ให้กลุ่มผู้ประท้วงที่ ส่วนใหญ่เป็นชาวอิหร่านเสียชีวิตจำ�นวนมาก จากเหตุ ก ารณ์ ดั ง กล่ า วทำ � ให้ เ กิ ด เหตุ ล อบ ทำ � ร้ า ยเจ้ า หน้ า ที่ นั ก การทู ต ของรั ฐ บาล ซาอุดีอาระเบียในประเทศต่างๆ กระทั่งเมื่อ วันที่ 4 มกราคม 2532 เกิดเหตุคนร้ายลอบ ฆ่านักการทูตของสถานเอกอัครราชทูตซาอุดี อาระเบียฯ ประจำ�ประเทศไทยเสียชีวิต 1 คน เหตุเกิดที่แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ ซึ่ง สถานเอกอั ค รราชทู ต ซาอุ ดี อ าระเบี ย แจ้ ง ขอร้ อ งต่ อ รั ฐ บาลไทยให้ ดู แ ลรั ก ษาความ ป ล อ ด ภั ย แ ก่ ส ถ า น เ อ ก อั ค ร ร า ช ทู ต ซาอุดีอาระเบียรวมทั้งเจ้าหน้าที่นักการทูต อย่างเต็มที่ และแจ้งเตือนถึงกรมตำ�รวจใน ขณะนัน้ และกระทรวงการต่างประเทศของไทย ในเรื่องดังกล่าวหลายครั้ง แต่ต่อมาวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2533 เกิดเหตุคนร้ายลอบฆ่า นักการทูตซาอุดีอาระเบียอีก 2ครั้ง เสียชีวิต รวม 3 ราย เหตุเกิดที่แขวงทุ่งมหาเมฆ เขต ยานนาวา กรุงเทพฯ รัฐบาลไทยขณะนั้นสั่ง การให้ พล.ต.อ.แสวง ธีระสวัสดิ์ อธิบดีกรม ตำ�รวจ (ในขณะนัน้ )ติดตามและนำ�ตัวผูก้ ระทำ� ความผิดมาลงโทษให้ได้ กระทั่ ง ระหว่ า งวั น ที่ 12-15 กุมภาพันธ์ 2533 ต่อเนื่องกันจำ�เลยทั้งห้า ซึ่ง เป็นเจ้าพนักงานตำ�รวจกองกำ�กับการสืบสวน สอบสวนตำ�รวจนครบาลพระนครใต้ กอง บัญชาการตำ�รวจนครบาล โดยจำ�เลยที่ 1 มี ยศเป็น พ.ต.ท. ตำ�แหน่ง รอง ผกก. จำ�เลยที่ 2 และ 3 มียศ ร.ต.อ. ตำ�แหน่ง รอง สว. จำ�เลย ที่ 4 ยศ ร.ต.ท. ตำ�แหน่ง รอง สว. และจำ�เลย ที่ 5 ยศ จ.ส.ต. ตำ�แหน่ง ผบ.หมู่ ซึง่ พวกจำ�เลย ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ติดตาม สื บ สวนจั บ กุ ม คนร้ า ยที่ ฆ่ า นั ก การทู ต

ซาอุดีอาระเบียโดยจำ�เลยกับพวกบังอาจร่วม กันลักพาตัว นายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี่ นักธุรกิจ ชาวซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นพระญาติกษัตริย์ ซาอุดีอาระเบีย จัดส่งแรงงานไทยไปทำ�งานที่ ซาอุดีอาระเบีย เนื่องจากจำ�เลยหมดเข้าใจว่า นายอัลรูไวลี่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของ นักการทูตซาอุดีอาระเบีย เพราะมีความขัด แย้งกันเรื่องจัดส่งแรงงานไทย โดยจำ�เลย บังคับนำ�ตัวนายอัลรูไวลี่ ไปหน่วงเหนีย่ วหรือ กักขังไว้ที่โรงแรมฉิมพลี แขวงคลองตัน เขต พระโขนง กรุงเทพฯ บังคับข่มขืนใจใช้กำ�ลัง ประทุษร้าย ชกต่อย และทำ�ร้ายร่างกายโดย วิธีการต่างๆมีวัตถุประสงค์เพื่อซักถามข้อเท็จ จริง เพื่อให้นายอัลรูไวลี่ ยอมรับว่ามีส่วน เกี่ยวข้องกับการฆ่านักการทูตซาอุดีอาระเบีย ทั้งนี้จำ�เลยมีเจตนาฆ่านายอัลรูไวลี่ จนถึงแก่ ความตายโดยไตร่ตรองไว้กอ่ นและเพือ่ ปกปิด ความผิดของตนในความผิดที่จำ�เลยร่วมกัน ลักพาตัวนายอัลรูไวลี่มาหน่วงเหนี่ยวกักขัง และทำ�ร้ายร่างกายเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นใน ความผิ ด อื่ น ที่ ต นได้ ก ระทำ � ไว้ ดั ง กล่ า วมา คำ�ฟ้องระบุดว้ ยว่าจำ�เลยทัง้ ห้ายังได้รว่ มกันใช้ กำ�ลังประทุษร้าย ชกต่อยทำ�ร้ายร่างกายนา ยอัลรูไวลี่ โดยวิธีการต่างๆ และร่วมกันใช้ อาวุธปืนยิงจนถึงแก่ความตาย สมดังเจตนา โดยไตร่ตรองไว้กอ่ น และร่วมกันซ่อนเร้น ย้าย หรือทำ�ลายศพ โดยนำ�ศพของนายอัลรูไวลี่ ไป เผาทำ � ลายภายในไร่ ท้ อ งที่ ต.สุ ร ศั ก ดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อปิดบังการตายหรือ ปิ ด บั ง สาเหตุ ข องการตาย เหตุ เ กิ ด ที่ แขวง ทุ่งมหาเมฆ เขตยานนาวา แขวงบางกะปิ เขต บางกะปิ แขวงคลองตัน เขตพระโขนง และที่ ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เกีย่ วพันกัน ต่อ มาเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2552 จำ�เลยทั้ง ห้าได้พบกับพนักงานสอบสวนกรมสอบสวน

ลอว์นิวส คดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กระทรวงยุติธรรม โดย แจ้งข้อกล่าวหาและทำ�การสอบสวนแล้ว ซึ่ง พนั ก งานสอบสวนได้ ยึ ด แหวนของ นาย โมฮัมหมัด อัลรูไวลี่ ที่สวมใส่อยู่ขณะเกิดเหตุ จำ�นวน 1 วง ของกลางโจทก์จึงขอให้ศาล พิพากษาลงโทษจำ�เลยทั้งห้า ตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 288,289, 309, 310, 83, พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมาย อาญาฉบับที่ 6 พ.ศ. 2526 มาตรา 4 และขอ ให้ศาลมีคำ�สั่งคืนแหวนของกลางคืน ให้แก่ ทายาทของนายโมฮั ม หมั ด อั ล รู ไวลี่ ด้ ว ย จำ�เลยทั้งห้าแถลงให้การปฏิเสธต่อสู้คดีโดย ตลอด ศาลพิเคราะห์คำ�เบิกความ และพยาน หลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำ�สืบหักล้างกันแล้ว เห็ น ว่ า ฝ่ า ยโจทก์ ไ ม่ ไ ด้ นำ � พ.ต.ท.สุ วิ ชั ย แก้วผลึก พยานโจทก์ปากสำ�คัญเข้าเบิกความ ต่อศาล มีเพียงบันทึกคำ�ให้การของ พ.ต.ท.สุ วิชัย เท่านั้นทั้งยังมีข้อพิรุธน่าสงสัยเกี่ยวกับ แหวนทองคำ�ของผู้ตาย ที่ พ.ต.ท.สุวิชัย อ้าง ว่า พบอยูก่ น้ ถังน้�ำ มันได้รบั ความเสียหายบาง ส่วน และ มีการนำ�ไปซ่อมแซม แล้วนำ�ไปทำ� พิธีทางศาสนาอิสลาม แต่ พ.ต.ท.สุวิชัยก็ไม่ นำ�แหวนทองคำ�ของผู้ตายเสนอต่อผู้บังคับ บั ญ ช า ใ ห้ ท ร า บ ก ลั บ นำ � ไ ป เ ส น อ ต่ อ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ อดีตผูบ้ ญ ั ชาการประจำ� กรม ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องแต่อย่างใด จึงต้องรับ ฟังด้วยความระมัดระวัง พยานหลักฐานโจทก์ ยั ง มี ข้ อ พิ รุ ธ น่ า สงสั ย หลายประการ จึ ง ยก ประโยชน์แห่งความสงสัยให้พิพากษายกฟ้อง นายอาตีก ฆอนิม อัลลูไวรี น้องชาย ของนายโมฮัมหมัด บอกกับผู้สื่อข่าวเพียง สั้นๆ ว่า "รู้สึกผิดหวังกับคำ�พิพากษา แต่ ก็คงทำ�อะไรไม่ได้" ในวันนีม้ คี ณะอุปทูตซาอุดอี าระเบีย พร้อมด้วยบรรดาญาติๆ ของนายโมฮัมหมัด เดินทางมาร่วมรับฟังการพิจารณาคดีกว่า 10 คน รวมทั้งผู้สื่อข่าวทั้งไทยและต่างประเทศที่ เข้าร่วมรับฟังจนเต็มแน่นห้องพิจารณาคดี โดยญาติๆ ของนายโมฮัมหมัดและคณะอุปทูต ซาอุดอี าระเบียได้เข้าไปนัง่ รอในห้องพิจารณา คดีก่อน ขณะที่ พล.ต.ท.สมคิด จำ�เลยพร้อม พวกได้เข้าตามไปทีหลัง ซึ่งเมื่อทั้งสองฝ่าย เผชิญหน้ากันก็ไม่ได้มีการพูดคุยกันแต่อย่าง ใด แจงปมเปลี่ยนตัวผู้พิพากษา ต่อมา เวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุม ชั้น 10 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายธงชัย เสนามนตรี อธิบดีผพู้ พิ ากษาศาลอาญา แถลง กรณี อุ ป ทู ต ซาอุ ดี อ าระเบี ย ระบุ ว่ า มี ก าร เปลี่ยนตัวองค์คณะผู้พิพากษาในคดีอุ้มฆ่า นายโมฮั ม หมั ด อั ล รู ไ วลี่ นั ก ธุ ร กิ จ ชาว ซาอุดีอาระเบีย ว่า สำ�หรับคดีดังกล่าวมีการ ยื่นฟ้องศาลตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม2553 ซึ่ง ระหว่างการพิจารณาได้มกี ารเปลีย่ นองค์คณะ มาแล้ว 2 ชุด เนือ่ งจากเป็นการแต่งตัง้ โยกย้าย ตามวาระประจำ�ปีตามปกติ โดยองค์คณะชุดที่ 3 คือ นายสมศักดิ์ ผลส่ง เป็นเจ้าของสำ�นวน คดี โดยได้เริ่มนั่งพิจารณาคดีนี้มาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2554 จนถึงสืบพยานจำ�เลยเสร็จ สิน้ ในวันที่ 27 ธันวาคม 2556 ต่อมาทางคณะ กรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ได้ พิจารณากรณี นายสมศักดิ์ ขณะดำ�รงตำ�แหน่ง


ลอว์นิวส์

กสทช. สั่งฟันช่อง 3 ห้าแสน เหตุออนแอร์ “สิทธัตถะ เอมเมอรัล”

ก ส ท ช . สั่ ง ป รั บ บ ริ ษั ท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำ�กัด เป็นจำ�นวนเงิน 5 แสน บาท เหตุปล่อยให้ออนแอร์ เทป “สิทธัตถะ เอมเมอรัล” ผิดมาตรา 37 เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2557 พ.อ.ดร.นที ศุกลรัตน์ รอง ประธานกรรมการกิ จ การ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิ จ การโทรคมนาคมแห่ ง ชาติ (กสทช.) ในฐานะประธาน กรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เเถ ลงผลข้อเรียกร้องกรณีการออก อากาศรายการไทยเเลนด์ก๊อต ทาเลนท์ ซีซนั่ 3 ปี 2556 ในช่วง

เเสดงความสามารถของผู้ เข้ า เเข่งขันทีใ่ ช้ชอื่ “สิทธัตถะ เอมเม อรัล” เห็นว่าการออกอากาศดัง กล่าวมีเนื้อหาก่อให้เกิดความ เ สื่ อ ม ท ร า ม ท า ง จิ ต ใจ ข อ ง ประชาชนอย่างร้ายแรง ผิดต่อ มาตรา 37 วรรคแรกแห่งพระ ราชบัญญัติการประกอบกิจการ ก ร ะ จ า ย เ สี ย ง แ ล ะ กิ จ ก า ร โทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ลงโทษ ปรั บ ทางปกครองแก่ บ ริ ษั ท บางกอก เอ็ น เตอร์ เ ทนเม้ น ต์ จำ�กัด เป็นเงิน 500,000 บาท ทั้ ง นี้ เมื่ อ วั น ที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา รายการไทย เเลนด์ก๊อตทาเลนท์ ซีซั่น 3 ได้ ออกอากาศเทปผู้เข้าเเข่งขันคน

ประเทศไทยเป็นประเทศมี เ อกราชการสื บ พยานจนถึ ง การมี คำ � พิ พ ากษาเป็ น ไปตาม กฎหมายไทย โทษอาญาในคดีนมี้ บี ทหนักถึง ประหารชีวิต การพิจารณาคดีจะต้องมีพยาน หลักฐานชัดเจนปราศจากข้อสงสัย ผลจากคดี นี้ต้องยอมรับว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นจาก กรณี แรงงานไทยไม่ ส ามารถไปทำ � งานใน ประเทศซาอุดีอาระเบีย มูลค่าความเสียหาย นับแสนล้านบาท แต่ตนเชื่อว่าด้วยเหตุผลที่ ปรากฏตามคำ�พิพากษาอุปทูตซาอุดอี าระเบีย จะเข้ า ใจเหตุ ผ ล ซึ่ ง เรื่ อ งการเปลี่ ย นตั ว ผู้ พิพากษาก็ได้มกี ารบันทึกไว้ในสำ�นวนคดีแล้ว โดยทนายความและโจทก์ร่วมก็สามารถไปดู บันทึกในสำ�นวนได้และไม่ใช่หน้าทีข่ องศาลที่ จะต้องไปชีแ้ จงให้คคู่ วามรับทราบเนือ่ งจากคดี ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล เมือ่ ถามถึงกรณีทญ ี่ าติของนายอัลรู ไวลี่ จ ะแถลงข่ า วที่ โ รงแรมอิ น เตอร์ ค อน ติเนลตัล ซึง่ อาจจะมีถอ้ ยคำ�ทีเ่ ข้าข่ายหมิน่ ศาล นายธงชัย กล่าวว่า ตนคงไม่ห้ามอะไร เพราะ ถือว่าเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำ�ได้ เพราะเขาอาจ จะมีความรู้สึกที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือ อะไรก็ตามแต่ทนายความจะต้องตักเตือน และ อธิบายคำ�พิพากษาให้ฟงั เข้าใจชัดเจนเสียก่อน ส่วน พล.ต.ท.สมคิด พร้อมพวกรวม 5 คน จำ�เลยในคดีนี้ ภายหลังศาลมีคำ�พิพากษา ยกฟ้ อ งแล้ ว ก็ เ ท่ า กั บ มี ผ ลเพิ ก ถอนคำ � สั่ ง เงื่อนไขของศาลที่ห้ามให้สัมภาษณ์ที่ศาลเคย ระบุไว้สิ้นสภาพไปโดยปริยาย แต่ขอให้พึง สังวรว่า การจะให้สมั ภาษณ์อะไรก็ตามอย่าให้ กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือ หมิ่ น เหม่ ที่ จ ะกระทบต่ อ ศาลหรื อ บุ ค คล ภายนอก เมื่อถามกรณีที่ นายสุรพงษ์ โต วิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. ต่างประเทศ ทีร่ ะบุวา่ ผลของคำ�พิพากษาในคดี นี้ น่ า จะเป็ น การฟื้ น ความสั ม พั น ธ์ ร ะหว่ า ง ไทย-ซาอุดีอาระเบียถือว่าเป็นแรงกดดันจาก ฝั่งการเมืองหรือไม่ นายธงชัย กล่าวว่า คดีนี้ ไม่มีความกดดันจากทางการเมืองแต่อย่างใด

naewna.com

ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสระบุรี มีความ ผิ ด ฐานปฏิ บั ติ ห น้ า ที่ มิ ช อบเกี่ ย วกั บ การสั่ ง ปล่อยชั่วคราวโดยไม่ชอบด้วยระเบียบ โดย ทาง ก.ต.ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จ จริงและมีมติว่า การกระทำ�ของนายสมศักดิ์มี มูลความผิดร้ายแรง นายดิเรก อิงคนินันท์ ประธานศาลฎีกา จึงมีค�ำ สัง่ สัง่ พักราชการนาย สมศักดิ์เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2557 ที่ผ่านมา และแจ้งคำ�สั่งมายังศาลอาญา นายสมศักดิ์จึง ไม่สามารถปฏิบตั หิ น้าทีไ่ ด้รวมทัง้ การเขียนคำ� พิพากษาด้วย ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่คดีอัลรูไวลี่คดี เดียว แต่รวมถึงคดีอื่นอีก 3-4 คดี ที่อยู่ ระหว่างการเขียนคำ�พิพากษาด้วย ตนจึงได้ แจ้ ง ให้ น ายสมศั ก ดิ์ ท ราบ และมี คำ � สั่ ง ให้ เปลีย่ นตัวเจ้าของสำ�นวนเป็น นายภชฤทธิ์ นิล สนิท ซึ่งเดิมเป็นองค์คณะในสำ�นวนนี้อยู่ด้วย พร้อมทั้งมีคำ�สั่งให้นายรุ่งศักดิ์ วงศ์กระสันต์ รองอธิบดีผพู้ พิ ากษาศาลอาญา เป็นองค์คณะ และเป็นผู้ลงชื่อตรวจสำ�นวน ซึ่งเรื่องดังกล่าว เป็นการปฏิบัติตามบทบัญญัติทุกประการ นายธงชัย กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ เมือ่ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2556 พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม จำ�เลยที่ 1 และ พ.ต.ท.สุรเดช อุดม ดี จำ�เลยที่ 4 ในคดีนกี้ ไ็ ด้เคยยืน่ คำ�ร้องต่อศาล ขอให้เปลี่ยนตัวผู้พิพากษาเจ้าของสำ�นวนคดี อ้างว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมเพราะนายสม ศักดิ์ใช้ดุลพินิจส่งประเด็นของ พ.ต.ท.สุวิชชัย แก้วผลึก พยานโจทก์ปากสำ�คัญในคดีนไี้ ปสืบ พยานที่ต่างประเทศโดยไม่ชอบ แต่ตนเห็น ว่าการเปลี่ยนตัวผู้พิพากษาในคดีจะต้องเป็น ไปตามเงือ่ นไขทีก่ ฎหมายกำ�หนด หรือกระทบ ต่อกระบวนการยุตธิ รรมถึงจะสามารถเปลีย่ น ตัวได้ กรณีจึงมิอาจกระทำ�ได้จึงมีคำ�สั่งยก คำ � ร้ อ ง แม้ ค วามสั ม พั น ธ์ ร ะหว่ า งไทยกั บ ซาอุดีอาระเบียจะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน แต่ การทำ�คำ�พิพากษาของศาลจะต้องปฏิบัติไป ตามอำ � นาจในกฎหมายวิ ธี พิ จ ารณาความ อาญา และตามรัฐธรรมนูญซึง่ จะต้องพิจารณา จากพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำ�นวน “ยื น ยั น ว่ า การเปลี่ ย นตั ว ผู้ พิพากษามีกฎหมายรองรับ ไม่มีอะไรที่ จะเป็นข้อพิรุธสงสัย หรือทำ�ไปโดยไม่มี เหตุผล หรือทำ�โดยฝ่าฝืนกฎหมายแต่ อย่างใด สาเหตุทเี่ ปลีย่ นตัวก็เนือ่ งจากถูก พักราชการ และเหตุดังกล่าวก็เกิดขึ้น ก่อนทีจ่ ะมาดำ�รงตำ�แหน่งทีศ่ าลอาญา ซึง่ ประธานศาลฎีกาก็เป็นผู้สั่งพักราชการ ด้วยตนเอง จึงไม่มนี ยั น่าสงสัยหรือมีการ ให้ความช่วยเหลือใดๆทั้งสิ้น” อธิบดีผู้ พิพากษาศาลอาญากล่าว เมื่อถามว่าเหตุการณ์ในคดีผ่านมา เป็นระยะเวลากว่า 24 ปีแล้วต้องใช้ประจักษ์ พยานขนาดไหนศาลถึงจะรับฟังได้ นายธงชัย กล่าวว่า คดีนี้แม้จะฟ้องคดีจนเกือบขาดอายุ ความ 20 ปี ศาลต้องฟังพยานหลักฐานที่เกิด ขึ้นยาวนานให้ชัดเจน แต่คดีนี้ไม่มีประจักษ์ พยานหลั ก ฐานชิ้ น ใดเลยที่ จ ะฟั ง ได้ อ ย่ า ง ปราศจากข้อสงสัย โดยเฉพาะเรื่องแหวนซึ่ง ไม่มีใครยืนยัน จึงต้องยกฟ้อง ตนเข้าใจว่า ญาติผตู้ ายต้องเสียใจ แต่การพิจารณาของศาล จะต้องทำ�จากการชั่งน้ำ�หนักพยานหลักฐาน ในสำ�นวน และเมื่อถามว่าคำ�พิพากษาในคดี จะส่ ง ผลกระทบต่ อ ความสั ม พั น ธ์ ร ะหว่ า ง ประเทศหรื อ ไม่ นายธงชั ย กล่ า วว่ า

7

ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 วันพุธที่ 16 - วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

หนึ่งชื่อ “สิทธัตถะ เอมเมอรัล” ขับร้องเพลงเปาบุ้นจิ้น ซึ่งถูก 3 พิธีกรประจำ�รายการ ได้เเก่ พร ชิตา ณ สงขลา, จิรายุ วรรธนะ สิน เเละภิญโญ รูธ้ รรม เเสดงท่า ที เ เละใช้ ว าจาที่ ดู ห มิ่ น เหยี ย ด หยามศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

ไม่ว่าจะใครจะพูดอะไรก็พูดไปไม่ได้กดดันทั้ง นัน้ และหากทางกระทรวงการต่างประเทศจะ ขอสำ � นวนคำ � พิ พ ากษาทางเราก็ พ ร้ อ มที่ จ ะ ดำ�เนินการให้ อุปทูตแถลงผิดหวัง ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่โรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล นายอับดุลอิลาห์ อัล ชุ อั ย บี อุ ป ทู ต ซาอุ ดี อ าระเบี ย ประจำ � ประเทศไทย พร้อมด้วยนายอาตีก และนาย เอนก คำ�ชุ่ม ทนายความ ร่วมกันแถลง โดย นายอับดุลอิลาห์เปิดเผยผ่านล่ามว่า ไม่รู้สึก แปลกใจอะไรในคำ�พิพากษาคดีดังกล่าว และ เมื่อทางฝ่ายผู้เสียหายได้รับทราบว่า มีการ เปลีย่ นตัวผูพ้ พิ ากษาในการพิจารณาคดีนี้ ก็มี ความกังวลว่าผลคำ�ตัดสินจะไม่เป็นไปตามข้อ เท็จจริง และไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายของผู้เสียหาย อุปทูตซาอุดีอาระเบียผู้นี้กล่าวว่า ทางการซาอุดีอาระเบีย รู้สึกผิดหวังต่อคำ� พิพากษาคดีในวันนี้ และทราบว่าที่ผ่านมา จำ�เลยในคดีนี้มีความพยายามขอเปลี่ยนตัวผู้ พิ พ ากษา ดั ง นั้ น จึ ง เรี ย กร้ อ งให้ สื่ อ มวลชน พิจารณาเหตุผลของการเปลี่ยนตัวผู้พิพากษา และเจตนาของฝ่ายจำ�เลยทีต่ อ้ งการให้เปลีย่ น ตัวผู้พิพากษาคดีนี้ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การ เปลี่ยนตัวผู้พิพากษาอย่างเร่งด่วน ย่อมทำ�ให้ เกิดข้อสงสัยกับฝ่ายผู้เสียหาย เนื่องจากการ เปลีย่ นตัวผูพ้ พิ ากษานีท้ �ำ ให้ไม่เกิดผลดีตอ่ ทุก ฝ่ายแต่อย่างใด ส่วนผลการพิพากษาในคดีนี้ จะส่ง ผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยกับ ประเทศซาอุดอี าระเบียหรือไม่นนั้ นายอับดุล อิลาห์กล่าวว่า ที่ผ่านมาความสัมพันธ์ของทั้ง สองประเทศก็ลุ่มๆ ดอนๆ อยู่แล้ว และก็เชื่อ ว่าคงไม่มสี าเหตุอะไร ทีจ่ ะทำ�ให้ความสัมพันธ์ ระหว่างสองประเทศย่ำ�แย่ลงไปมากกว่านี้อีก และผลคำ � ตั ด สิ น ในวั น นี้ สถานทู ต ฯ จะ รายงานกลับไปยังประเทศซาอุดีอาระเบียต่อ ไป ซึ่งจะมีผลต่อสัมพันธ์อย่างไรนั้น เป็นเรื่อง

ภายหลั ง ผู้ เ ข้ า เเข่ ง ขั น เเสดง พฤติกรรมทีไ่ ม่เหมาะสมบนเวที เเต่ภายหลัง คุณเเม่ได้ออกมาย อมรับว่า “เอมเมอรัล” มีความ ผิ ด ปกติ ไม่ ช อบสุ ง สิ ง กั บ ใคร ชอบอยู่คนเดียว

ของอนาคตที่ประเทศซาอุดีอาระเบียจะเป็นผู้ กำ�หนด นายเอนก ทนายความกล่าวว่า จาก คำ�ตัดสินของศาลเมื่อเช้าที่ผ่านมา ทางทีม ทนายจะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดยื่น ต่ อ อั ย การให้ อุ ท ธรณ์ ค ดี ภ ายใน 30 วั น อย่ า งไรก็ ต าม ยั ง เชื่ อ มั่ น ในกระบวนการ ยุติธรรมของไทยอยู่ ด้าน พล.ต.ท.สมคิด ให้สัมภาษณ์ หลังฟังคำ�พิพากษาว่า เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า ตนเป็นผู้บริสุทธิ์ในคดีนี้ แต่คงยังไม่อาจให้ สัมภาษณ์ได้เนือ่ งจากยังติดในคำ�สัง่ ศาล จาก กรณีที่นายธาริตยื่นคำ�ร้องขอให้เพิกถอนการ ประกันตัวตนในคดีนี้ ตนจึงยื่นคำ�ร้องขอให้ ศาลเพิกถอนคำ�สั่งก่อนที่จะให้สัมภาษณ์อีก ครั้ง รอดูคำ�พิพากษาฉบับเต็ม ต่อมา ในวันที่ 2 เมษายน นายนันท ศักดิ์ พูลสุข อธิบดีอัยการสำ�นักงานคดีพิเศษ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการยืน่ อุทธรณ์คดี ฆ่า นายโมฮัมหมัด อัลรูไวลี่ นักธุร กิจชาว ซาอุดีอาระเบียภายหลังศาลพิพากษายกฟ้อง ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการขอคัดคำ�พิพากษา ฉบับเต็ม เพื่อนำ�มาศึกษารายละเอียดของคำ� พิ พ ากษาในการยื่ น อุ ท ธรณ์ หากอั ย การ พิจารณาแล้วเห็นสมควรยืน่ อุทธรณ์กส็ ามารถ ทำ�ได้ทันที โดยไม่ต้องหารือกับโจทก์ร่วม แต่ ขณะนีย้ งั ไม่ได้อา่ นคำ�พิพากษาฉบับเต็ม จึงยัง ไม่สามารถระบุได้ว่าจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่ ส่วนกรณีการเปลี่ยนตัวผู้พิพากษา เจ้าของสำ�นวนนัน้ ทางอัยการไม่ได้ตดิ ใจอะไร ในประเด็นนี้ และในการยืน่ อุทธรณ์กค็ งจะไม่ ได้ ดู ใ นเรื่ อ งประเด็ น การเปลี่ ย นตั ว แต่ จ ะดู เนือ้ หาของคำ�พิพากษาเป็นหลักอย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังมีเวลาเหลืออยู่อีกหลายวัน และหาก ยื่นอุทธรณ์ไม่ทันระยะเวลาตามกฎหมาย 30 วัน ภายหลังจากทีศ่ าลมีค�ำ พิพากษาก็สามารถ ขยายระยะเวลาในการยื่นอุทธรณ์ได้


8

ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 วันพุธที่ 16 - วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

เด้ง ผอ. สตรีวิทย์ 2 เซ่นคลิปเสียงฉาว chinadaily.com.cn

ผอ.สพม.กทม.เขต 2 เซ็นคำ�ลั่งย้ายผู้ อำ�นวยการโรงเรียนสตรีวิทยา 2 มาช่วย ราชการ เครือข่ายศิษย์เก่า ขู่ หากกลับ มาเป็น ผอ. อีกเจอม็อบไล่แน่ เมื่อวันที่ 9 เมษายน เวลา 09.00น. ที่สำ�นักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) กทม. เขต 2 มี ก ารประชุ ม คณะ อนุ ก รรมการข้ า ราชการครู แ ละบุ ค ลากร ทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพืน้ ทีก่ ารศึกษา ซึ่งเดิมคณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงของ สพม.กทม.เขต 2 เตรียมเสนอวาระเกี่ยวกับ กรณีวงโยธวาทิตโรงเรียนสตรีวทิ ยา 2 ทีไ่ ปขอ เงินนายตัน ภาสกรนที เพือ่ เดินทางไปแข่งขัน ณ ประเทศเนเธอร์แลนด์ และคลิปเสียงฉาว เข้าสู่การพิจารณา เพื่อให้ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ ตัดสินใจว่า จะย้ายนายพชรพงศ์ ตรีเทพ ผู้ อำ�นวยการโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ออกจาก ตำ�แหน่งเป็นการชั่วคราวหรือไม่ ทั้งนี้ นายพ ชรพงศ์ ซึง่ เป็นกรรมการใน อ.ก.ค.ศ.เขตพืน้ ที่ ด้วย ไม่ได้เดินทางมาร่วมประชุมในครั้งนี้ จากนั้นเวลา 10.40 น. กลุ่มเครือ ข่ายศิษย์เก่าโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ประมาณ 40 คน เดินทางมารวมตัว เพื่อยื่นหนังสือให้ นายพชรพงศ์ พ้นจากตำ�แหน่งผู้อำ�นวยการ โรงเรียนแก่นายสัจจา ศรีเจริญ ผอ.สพม.กทม. เขต 2 โดยนางสาวกรรณิการ์ พัฒนพีระเดช ตัวแทนศิษยเก่าโรงเรียนสตรีวทิ ยา 2 กล่าวว่า พวกเราต้องการให้เร่งดำ�เนินการสรุปการ สอบสวนข้อเท็จจริงให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว ซึ่งไม่ ว่ า ผลการสอบสวนจะออกมาอย่ า งไรก็ ไ ม่ ต้ อ งการให้ น ายพชรพงศ์ กลั บ มาดำ � รง ตำ � แหน่ ง ผู้ อำ � นวยการโรงเรี ย นอี ก เพราะ พฤติกรรมของนายพชรพงศ์สร้างความเสื่อม เสียให้แก่โรงเรียนที่ก่อตั้งมานานกว่า 40 ปี และก็ไม่เหมาะสมที่จะเป็นพ่อพิมพ์ของเด็ก แล้ว นายสัจจา ให้สมั ภาษณ์ภายหลังรับ

หนังสือ ว่า ตนได้ลงนามคำ�สั่ง สพม.2 เลขที่ 006/2557 ลงวันที่ 9 เมษายน 2557 เรื่องให้ ข้าราชการช่วยราชการใน สพม.กทม. เขต 2 เป็นการชั่วคราว โดยใช้อำ�นาจ ผอ. เขตพื้นที่ อาศั ย มาตรา 70 แห่ ง พ.ร.บ. ระเบี ย บ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ย้ายนายพชรพงศ์ ให้มาช่วยราชการที่ เขตพื้ น ที่ ก ารศึ ก ษา โดยให้ ม ารายงานตั ว ภายในวันที่ 11 เมษายน จากนั้นจะหารือกับ นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ย้ายนายพชร พงศ์มาช่วยราชการทีส่ �ำ นักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ต่อไป เพื่อให้ เกิดความสะดวกในการดำ�เนินการสอบสวน ข้อเท็จจริง "ที่ ผ มตั ด สิ น ใจออกคำ � สั่ ง ด่ ว น ย้าย นายพชรพงศ์ ให้มาช่วยราชการนัน้ เพราะเห็นว่าหากรอผลสอบสวนข้อเท็จ จริงจะไม่ทัน ซึ่งความวุ่นวายและความ ขั ด แย้ ง ภายในโรงเรี ย นมี ม ากขึ้ น จึ ง จำ�เป็นต้องดึงนายพชรพงศ์ ออกมานอก พืน้ ทีก่ อ่ น และเมือ่ วานนีผ้ มได้คยุ กับเด็ก ม.6 ของโรงเรียนสตรีวิทยา 2 จำ�นวน 7 คน ทีม่ าให้ขอ้ มูลการทำ�งานของนายพชร พงศ์ และจากข้อมูลด้านอืน่ ๆ ทีไ่ ด้มา จึง ตั ด สิ น ใจให้ ย้ า ยผู้ อำ � นวยการโรงเรี ย น ออกมาก่อน ทั้งนี้การออกคำ�สั่งดังกล่าว ผมใช้อำ�นาจของผู้อำ�นวยการเขตพื้นที่ฯ แ ล ะ จ ะ ไ ม่ นำ � เรื่ อ ง นี้ เข้ า ห า รื อ ใ น อ.ก.ค.ศ.เขตพื้ น ที่ อ ย่ า งที่ เ คยตั้ ง ใจไว้ เพราะกลัวว่าหากนำ�เเรื่องเข้าที่ประชุม อ.ก.ค.ศ.เขตพืน้ ทีฯ่ แล้วจะเกิดความเห็น ทีห่ ลากหลาย เนือ่ งจากกรรมการบางคน ก็ไม่ได้มารู้เห็นเหตุการณ์เท่ากับผม ซึ่ง หากกรรมการบางส่วนไม่เห็นด้วยก็จะ ทำ�ให้เรือ่ งเกิดความยุง่ ยากมากขึน้ ไปอีก ผมจึงตัดสินใจว่าวันนี้จะไม่นำ�เรื่องของ

โรงเรียนสตรีวิทยา 2 เข้าสู่การพิจารณา ของที่ประชุม แต่รอให้ผลการสืบหาข้อ เ ท็ จ จ ริ ง ไ ด้ ข้ อ ส รุ ป ถึ ง จ ะ นำ � เ ข้ า อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่ฯ อีกครั้ง" นายสัจจา กล่าว ผอ.สพม.กทม.เขต 2 กล่าวต่อไปว่า หลังจากทีย่ า้ ยนายพชรพงศ์ ออกจากโรงเรียน แล้ว ตนจะเข้าไปในโรงเรียนเพือ่ เชิญ 4 องค์กร หลักของโรงเรียน ประกอบด้วย คณะกรรมการ สถานศึ ก ษา สมาคมศิ ษ ย์ เ ก่ า โรงเรี ย น สตรีวทิ ยา 2 สมาคมผูป้ กครองและครูโรงเรียน สตรีวิทยา 2 และเครือข่ายผู้ปกครองโรงเรียน สตรีวิทยา 2 รวมทั้งครูและนักเรียนมารับฟัง ความคิดเห็น เพราะทราบว่าขณะนี้ภายใน โรงเรี ย นเกิ ด ความแตกแยกเป็ น อย่ า งมาก อย่างไรก็ตามหากผลสืบหาข้อเท็จจริงสรุป ออกมาว่า นายพชรพงศ์มมี ลู ความผิดก็จะต้อง เสนอ อ.ก.ค.ศ.เขตพืน้ ทีต่ งั้ กรรมการสอบวินยั ต่อไป แต่หากไม่มีความผิดก็ต้องส่งนายพชร พงศ์กลับไปรับตำ�แหน่งเดิม ส่วนการต่อต้าน จากประชาคมโรงเรียนไม่ยอมให้นายพชรพงศ์ กลั บ มาเป็ น ผู้ อำ � นวยการโรงเรี ย นก็ จ ะมา พิจารณากันอีกครั้ง ด้ า นว่ า ที่ ร.ต.มานพ แก้ ว งาม อุปนายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสตรีวทิ ยา 2 กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นอุปนายกฯ มา 15 ปี และเคยเป็นอดีตประธานสภาเขตพื้นที่ ลาดพร้าว ขอยืนยันว่าไม่เพียงแต่ประชาคม ในโรงเรียน แต่ชุมชนไม่ยอมรับนายพชรพงศ์ แล้ว ดังนั้นถ้ายังให้นายพชรพงศ์กลับไปเป็น ผู้อำ�นวยการโรงเรียนอีก จะมีม็อบผู้ปกครอง ชุมชน มาต่อต้านอย่างแน่นอน ซึ่งตนลงพื้น ที่สัมผัสได้ชัดเจนว่าประชาชนไม่พอใจนายพ ชรพงศ์ และหากนายพชรพงศ์กลับมาเป็นผู้ อำ�นวยการโรงเรียนอีกเมื่อไหร่ก็จะมีปัญหา เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ย้อนเหตุการณ์วงโยฯ ฉาว เหตุการณ์อื้อฉาวในครั้งนี้เกิดจาก การแชร์ ภ าพเด็ ก วงโยธวาทิ ต โรงเรี ย น สตรีวทิ ยา 2 ไปนัง่ ปิดล้อมร้านอาหารของนาย ตัน ภาสกรนที ในช่วงค่�ำ ของวันที่ 23 มีนาคม เพื่อขอ “ยืม” เงินจากนายตัน 3.1 ล้านบาท เพื่ อ นำ � ไปจ่ า ยเป็ น ค่ า เดิ น ทางและค่ า ที่ พั ก สำ�หรับการเดินทางไปแข่งขันวงโยธวาทิตที่ ประเทศเนเธอแลนด์ โดยมีเส้นตายในการ ชำ�ระเงินในเวลา 9.00 น. ของวันที่ 24 มีนาคม ซึ่งในเวลาต่อมา นายตันก็ได้มอบเงินจำ�นวน ดังกล่าวให้แก่เด็กวงโยธวาทิต พร้อมทั้งบอก แก่ครูที่พาเด็กๆ มานั่งล้อมร้านอาหารว่า “อย่าสอนน้องๆ แบบนี้” ภายหลัง ผอ.

ลอว์นิวส

โรงเรียนได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ทราบ เรื่องมาก่อน หลั ง จากนั้ น ก็ ไ ด้ มี ก ารเผยแพร่ เอกสารที่เกี่ยวข้องจำ�นวนมาก ทั้งหนังสือขอ ความอนุเคราะห์งบประมาณจากกระทรวง ศึกษาธิการ หนังสืออนุมัติให้เดินทางเข้าร่วม การแข่งขันวงโยธวาทิต หนังสือเชิญเข้าร่วม การแข่งขัน ซึ่งเอกสารหลายรายการก็มีพิรุธ ให้สังคมออนไลน์ตั้งคำ�ถามถึงที่มา เหตุผล และความเหมาะสมในการเดินทางไปแข่งขัน ในครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข้อมูลที่เผยแพร่ ว่าการเข้าแข่งขันในครัง้ นี้ มีวงโยธวาทิต Max Percussion Theatre เข้าแข่งขันในประเภท Marching World Class เพียงวงเดียว รวมถึง สมาชิกในวงโยธวาทิตนี้ ส่วนใหญ่ก็เป็นศิษย์ เก่ า ของโรงเรี ย นสตรี วิ ท ยา 2 โดยมี ศิ ษ ย์ ปัจจุบันในวงเพียง 15 คนจากสมาชิกกว่าห้า สิบคน การนั่งเครื่องบินโดยใช้เส้นทางที่มีค่า ใช้จ่ายสูงกว่าการบินตรง และการเปิดรับฝาก ซือ้ ของ (พรีออเดอร์) ก็ยงิ่ สร้างคำ�ถามในสังคม ออนไลน์มากขึ้นเรื่อยๆ ต่อมา เมือ่ วันที่ 1 เมษายน ได้มกี าร เผยแพร่คลิปเสียงในโลกออนไลน์ ชื่อคลิป “วณิพกพเนจร” โดยอ้างว่าเป็นคลิปเสียงชาย 2 คน กำ�ลังสนทนากับ ผอ. และรอง ผอ. โรงเรียนสตรีวทิ ยา 2 ถึงแผนการทีจ่ ะไปขอเงิน จากเอกชน โดยเสียงของชายคนหนึ่งที่ถูก เรียกว่า “ผอ.” ได้กล่าวว่า อยากจะทำ�อะไรก็ ทำ� แต่อย่าบอกว่า ผอ. และรอง ผอ. อยู่เบื้อง หลัง แต่ให้บอกว่าเป็นความคิดของเด็กเอง ซึง่ ภายหลังจากที่คลิปเสียงนี้เผยแพร่ออกไป ก็ เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางใน โลกออนไลน์ จนกระทั่งวงโยธวาทิตวงนี้เดินทาง กลับมาในวันที่ 2 เมษายน ก็ได้มีการให้ สัมภาษณ์ที่โรงเรียน กล่าวขอโทษสังคมถึง เหตุการณ์ทั้งหมดที่ได้กระทำ�ลงไปพร้อมทั้ง ยื น ยั น ว่ า คลิ ป เสี ย งที่ เ ผยแพร่ อ อกมานั้ น เป็ น การสนทนากั น จริ ง หลั ง จากนั้ น ผอ. โรงเรียนได้เปิดเผยว่าเป็นเสียงของตนเองจริง ซึ่งต่อมา รอง ผอ. โรงเรียนก็ได้ยอมรับว่าเป็น ผู้บันทึกคลิปเสียงนี้ไว้ เพื่อเป็นข้อมูลให้กับ ผอ. แต่ไม่ได้เป็นผู้เผยแพร่ จากนั้น ได้มีการแถลงข่าวขอโทษ อย่างเป็นทางการในวันที่ 7 เมษายนทีผ่ า่ นมา พร้อมขอโอกาสจากสังคมได้เข้าใจและให้อภัย กับสิ่งที่เกิดขึ้น จนนำ�ไปสู่การตั้งกรรมการ สอบข้อเท็จจริง และการสั่งย้าย ผอ. โรงเรียน ในที่สุด ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ จึงจะได้ เห็นตอนจบของมหากาพย์วงโยธวาทิตในครัง้ นี้


ลอว์นิวส์

ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 วันพุธที่ 16 - วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

ผู้ดี-จิงโจ้ เฮ! ยอดขอคืนภาษีพุ่งพรวด คาดรายได้ ห ายเก้ า พั น ล้ า น สิทธิเกย์

เบ่งบาน

"การยื่นชำ�ระภาษี เงินได้บคุ คลธรรมดาปีนเี้ พิม่ ขึ้ น อี ก แต่ ก ารขอคื น ปี นี้ มี สัดส่วนมากกว่าที่เก็บเข้ามา เพราะผู้ เ สี ย ภาษี เ สี ย อั ต รา น้ อ ยลง คนที่ มี ร ายได้ ถึ ง เกณฑ์ข้างล่างกับตรงกลาง จะได้คนื เยอะ คือได้คนื ไปตัง้ 50% ตอนนี้ยอดคืนอยู่ที่กว่า 20,000 ล้านบาทแล้ว" ทั้ ง นี้ ข้ อ มู ล การยื่ น แบบ ภ.ง.ด. 90 และ ภ.ง.ด. 91 ปี ภ าษี 2556 ตั้ ง แต่ วั น ที่ 1 มกราคม-29 มีนาคม 2557 มี การยืน่ แบบแล้วทัง้ สิน้ กว่า 8.21 ล้านฉบับ ในจำ�นวนนี้มีการขอ คืนภาษีกว่า 3 ล้านฉบับ มียอด ภาษีที่ชำ�ระพร้อมแบบแค่กว่า 7,900 ล้านบาท เทียบกับปีภาษี 2555 ที่ตัวเลขยื่นแบบ ณ วันที่ 30 มีนาคม 2556 มียื่นทั้งสิ้น กว่า 8.31 ล้านฉบับ ขอคืนภาษี กว่า 2.49 ล้านฉบับ มียอดภาษี ที่ ชำ � ระพร้ อ มแบบกว่ า 1.29 หมื่นล้านบาท

การลดอัตราภาษีเงิน ได้บุคคลธรรมดาทำ�ให้การขอ คืนภาษีเพิ่มสูงขึ้นมาก โดยส่วน หนึง่ เกิดจากการออกกฎหมายมี ผลบังคับใช้ช่วงปลายปี 2556 แล้ ว ทำ � ให้ ช่ ว งก่ อ นหน้ า นั้ น นายจ้างยังคงหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามโครงสร้างภาษีเดิม ส่งผลให้ เมื่ออัตราใหม่มีผลบังคับใช้แล้ว ทางกรมสรรพากรจึงต้องจ่ายคืน ภาษีที่หักไว้มากกว่าปกติ โดย ค า ด ว่ า ผ ล จ า ก ก า ร ป รั บ โครงสร้างภาษีดังกล่าว น่าจะ ทำ�ให้การเก็บรายได้ภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดารอบนี้ต่ำ�กว่าเป้า มากกว่า 9,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ก่อนสิ้นปี 2557 กรมสรรพากรจะต้ อ ง เสนอขยายเวลามาตรการลด ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ที่มี การเพิม่ ขัน้ อัตราเงินได้สทุ ธิจาก 5 ขั้นเป็น 7 ขั้น และลดอัตรา เก็บสูงสุดจาก 37% เหลือ 35% เนือ่ งจากมาตรการเดิมมีอายุแค่ 1 ปีภาษี คือ ปี 2556 เพราะก่อน

หน้านี้จะเสนอแก้ไขประมวลรัษฎากร เป็นการถาวร แต่เนื่องจากมีการยุบ สภาเสียก่อน จึงเสนอชั่วคราวแค่ 1 ปี ซึ่งหากไม่มีการต่ออายุมาตรการนี้ จะ ทำ�ให้ตอ้ งกลับไปจัดเก็บตามโครงสร้าง เดิมที่ 5 ขั้น และภาระภาษีของผู้เสีย ภาษีเงินได้บคุ คลธรรมดาจะกลับไปสูง เหมือนเดิม ก่ อ นหน้ า นี้ เมื่ อ วั น ที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา นายรังสรรค์ ศรีวร ศาสตร์ ปลั ด กระทรวงการคลั ง ได้ ประชุมผู้บริหารระดับสูงและอธิบดีทุก กรม หารือถึงสถานการณ์แนวโน้มการ จั ด เก็ บ รายได้ ภ าษี ช่ ว งครึ่ ง หลั ง ของ ปี ง บประมาณ 2557 (เมษายนกันยายน) ทีอ่ าจจะต่�ำ กว่าเป้าหมายถึง 38,000 ล้านบาท โดยมอบหมายให้ ห น่ ว ย ง า น ที่ เ กี่ ย ว ข้ อ ง ไ ป เ พิ่ ม ประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีให้เต็ม ศักยภาพ หลังจาก 6 เดือนแรก ราย ได้ของ 3 กรมภาษีต่ำ�กว่าเป้าหมายไป กว่า 20,000 ล้านบาท "พร้อมกับจะมีการว่าจ้าง บริษัทที่ปรึกษาอย่างแมคเคนซี่, ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส หรือ บริษัทเคพีเอ็มจี มาช่วยวิเคราะห์ ช่องโหว่การเก็บภาษีของไทยว่ามี ช่องตรงไหนบ้าง และดูว่ามีช่อง โหว่ด้านกฎหมายหรือเปล่า โดย ภายใน 3 เดือนจะสรุปว่าจะจ้าง ใคร" นายรังสรรค์กล่าว

ญี่ปุ่นกระชากค่าครองชีพ รีดแวตเพิ่มขึ้นเป็น 8% ช า ว ญี่ ปุ่ น ค ร ว ญ รั ฐ บ า ล ประกาศขึ้นภาษีผู้บริโภคเป็น 8% และจะปรับเพิ่มเป็น 10% ในปีหน้า ด้านรัฐบาลอ้างช่วย กระตุ้นเศรษฐกิจ-แก้เงินฝืด เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ ผ่านมา ญี่ปุ่นมีการปรับขึ้นภาษี ผู้บริโภค (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) จาก 5% เป็น 8% และจะมีการปรับขึน้ อีกครั้งเป็น 10% ในปี 2558 หาก สภาพเศรษฐกิจอำ�นวย การปรับ ครั้งนี้ ถือเป็นการปรับขึ้นภาษีผู้ บริโภคครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2540 และถื อ เป็ น การเดิ ม พั น ทาง การเมืองทีส่ งู มากสำ�หรับนายกรัฐ มนตรีชนิ โสะ อาเบะ นับตัง้ แต่เข้า รั บ ตำ � แหน่ ง เมื่ อ ปลายปี 2555 โดยมุง่ หวังกระตุน้ เศรษฐกิจขนาด ใหญ่อันดับ 3 ของโลกให้หลุดพ้น จากภาวะเงิ น ฝื ด ขณะที่ นั ก วิ เ คราะห์ วิ ต กว่ า ผู้ บ ริ โ ภคจะลด การใช้จ่ายและอาจส่งผลกระทบ ต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของ ญี่ปุ่นขณะนี้ได้ รัฐบาลให้เหตุผลในการ ขึ้ น ภาษี ว่ า เพื่ อ เพิ่ ม รายได้

bloomberg.com

คนรักร่วมเพศในอังกฤษและออสเตรเลีย ได้เฮกันครั้งใหญ่ เมื่อกฎหมายแต่งงาน สำ�หรับคนรักร่วมเพศ เริ่มมีผลบังคับใช้ ในอั ง กฤษและเวลส์ แ ล้ ว ส่ ว นศาล ออสเตรเลียยอมรับเพศที่สามเป็นเพศที่ ถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา มี รายงานข่าวจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ว่าสำ�นักนายกรัฐมนตรีอังกฤษบนบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิ่ง เชิญธงสีรุ้งขึ้นสู่ยอดเสา เมื่อ นาฬิกาบอกเวลาเที่ยงคืนตรง (ตรงกับเวลา 07.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย) เพื่อเป็น สั ญ ลั ก ษณ์ ข องการเริ่ ม บั ง คั บ ใช้ ก ฎหมาย แต่งงานสำ�หรับคูร่ กั ร่วมเพศอย่างเป็นทางการ โดยมีผลทั้งในอังกฤษและเวลส์ ขณะที่สภา สกอตแลนด์ผ่านร่างกฎหมายเดียวกันนี้เมื่อ เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และคาดว่าจะเริ่มมี ผ ล บั ง คั บ ใช้ ใ น เ ดื อ น ตุ ล า ค ม นี้ ส่ ว น ไอร์แลนด์เหนือเผยยังไม่มีแนวคิดอนุมัติร่าง กฎหมายในเรื่องนี้ นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรี อั ง กฤษ กล่ า วว่ า ช่ ว งเวลาแห่ ง ความ เปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในอังกฤษและเวลส์ เริม่ ต้นขึน้ แล้ว นอกจากกฎมายดังกล่าวจะช่วย ให้ คู่ รั ก เพศเดี ย วกั น เข้ า พิ ธี แ ต่ ง งานและจด ทะเบียนกันได้อย่างถูกต้องแล้ว ยังอาจช่วยใน การตัดสินใจของประชาชนจำ�นวนไม่นอ้ ยเกีย่ ว กั บ รสนิ ย มทางเพศที่ แ ท้ จ ริ ง ของตั ว เองด้ ว ย ขณะที่นายเอ็ด มิลลิแบนด์ ผู้นำ�ฝ่ายค้าน ออก มากล่าวแสดงความยินดีที่กฎหมายเริ่มมีผล บังคับใช้ด้วยเช่นกัน ในขณะเดียวกัน วันที่ 2 เมษายน ศาลสูงของออสเตรเลียได้ยอมรับการมีอยู่ของ เพศทีส่ ามซึง่ ไม่สามารถระบุเฉพาะเจาะจงได้วา่ เป็นเพศชายหรือเพศหญิง โดยตัดสินว่า ไม่ใช่ ทุกคนทีจ่ ะถูกบังคับให้ระบุวา่ เพศชายหรือเพศ หญิงเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ แต่ตอน นี้ บ างคนได้ สิ ท ธิ อั น ชอบด้ ว ยกฎหมายที่ สามารถระบุ ตั ว เองเป็ น เพศที่ ส ามหรื อ เพศ กลาง อยู่ระหว่างเพศชายและเพศหญิง การชีข้ าดของศาลเท่ากับปิดฉากการ ต่อสู้ทางกฏหมายมาอย่างยาวนานของนอร์รี นักรณรงค์เพื่อความเท่าเทียมทางเพศและยัง เป็ น การคว่ำ � คำ � ประกาศของทางการรั ฐ นิวเซาท์เวลส์ที่ระบุว่า เพศคือความเข้าใจโดย ธรรมชาติว่ามีผู้ชายหรือผู้หญิงเท่านั้น ด้านนอร์รี วัย 53ปี ซึ่งใช้ชื่อเดียวว่านอร์ รี บุคคลผู้ผ่าตัดแปลงเพศเป็นผู้หญิงเรียบร้อย แล้ ว บอกว่ า เธอดี ใจอย่ า งมาก ที่ ใช้ เวลามา ยาวนานตัง้ แต่ตน้ จนจบสุดท้ายเธอก็ได้ผลลัพธ์ อันยิ่งใหญ่ ทั้งนี้ นอร์รีกลายเป็นข่าวดังไปทั่ว โลกเมือ่ เดือนกุมภาพันธ์ 2553 เมือ่ เธอยืน่ เรือ่ ง ต่อสำ�นักงานว่าด้วยการเกิดตายและแต่งงาน ในรัฐนิวเซาท์เวลเพื่อให้ยอมรับเพศที่สาม

ผูเ้ สียภาษีแห่ขอคืนภาษีเพิม่ ขึน้ กว่า 20% คืนเงินไปแล้วก ว่า 20,000 ล้านบาท ชี้เหตุ มาจากการปรับลดอัตราภาษี ส่ ง ผลให้ รั ฐ สู ญ รายได้ ก ว่ า 9,000 ล้านบาท เตรียมจ้าง ที่ปรึกษาอุดช่องโหว่ เมื่อวันที่ 2 เมษายน นายสุทธิชัย สังขมณี อธิบดีกรม สรรพากร เปิดเผยว่า ผลจากการ ปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บคุ คล ธรรมดาทีเ่ ริม่ ใช้ในปีภาษี 2556 ที่ลดอัตราภาษีขั้นสูงสุดลงจาก 37% เหลือ 35% และปรับขั้น เงิน ได้จาก 5 ขั้ น เป็ น 7 ขั้ น ทำ�ให้ผู้เสียภาษีมีภาระภาษีลด ลง ส่งผลให้ปนี มี้ กี ารขอคืนภาษี เพิ่มขึ้นถึงกว่า 20% จากตัวเลข การยืน่ แบบ ณ วันที่ 29 มีนาคม ที่ ผ่ า นมา อย่ า งไรก็ ดี กรม สรรพากรต้องรอสรุปตัวเลขการ ยื่นแบบอีกครั้ง เนื่องจากกรม สรรพากรได้ ข ยายเวลาผู้ ที่ ยื่ น แบบทางอินเทอร์เน็ตไปถึงวันที่ 8 เมษายน

9

เนื่ อ งจากประสบปั ญ หาหนี้ สาธารณะพุ่งสูงขึ้นจากมาตรการ ทุ่ ม เงิ น ใช้ จ่ า ยเพื่ อ กระตุ้ น การ ขยายตัวของเศรษฐกิจ และเพื่อ รองรับรายจ่ายที่สูงขึ้นทั้งในส่วน เงินบำ�นาญและค่ารักษาพยาบาล ปัจจุบนั ญีป่ นุ่ มีหนีส้ าธารณะเกือบ 10 ล้านล้านดอลลาร์ หรือเกือบ

250% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวล รวมภายในประเทศ หรือจีดีพี สถาบันวิจยั เอกชน คาด ว่ า การขึ้ น ภาษี ค รั้ ง นี้ จ ะทำ � ให้ รั ฐ บาลมี ร ายได้ เ พิ่ ม ขึ้ น ราว 49,000 ล้านดอลลาร์ สำ�หรับ ปีงบประมาณ 2014 ที่เริ่มขึ้นใน เดือนเมษายน แต่นักวิเคราะห์

เตือนว่า การขึ้นภาษีผู้บริโภคใน ขณะที่ เ งิ น เดื อ นไม่ มี ก ารปรั บ ขึ้ น อาจทำ�ให้ประชาชนรัดเข็มขัด ลด การใช้ จ่ า ยลงได้ และรั ฐ บาลได้ จั ด สรรงบประมาณไว้ เ พื่ อ รั ก ษา ระดั บ การขยายตั ว ทางเศรษฐกิ จ และบรรเทาผลกระทบจากการลด การบริโภคของประชาชนแล้ว


10

ลอว์นิวส

ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 วันพุธที่ 16 - วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

สิแอนทพีธิ. วรรณประที สตรีป และ ยศกร ศรีอมร

chinadaily.com.cn

กฎหมายครอบครัว กับสิทธิและหน้าที่ของหญิงไทย : การสมรส (ตอนที่ 2) ผูเ้ ขียนได้กล่าวไปในคราวทีแ่ ล้ว ถึงเงื่อนไขต่างๆ ของการสมรส ระหว่างชายหญิงตามประมวล กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แต่ ยั ง มี อี ก เงื่ อ นไขหนึ่ ง ที่ มี ปั ญ หา บ่ อ ยครั้ ง นั้ น ก็ คือ ชายหญิ ง จะ ทำ � การสมรสในขณะที่ ต นมี คู่ สมรสอยู่ไม่ได้ (มาตรา 1452) ในปัจจุบันปัญหานี้น่าจะ เกิ ด ขึ้ น น้ อ ยลงแล้ ว เนื่ อ งจากงาน ทะเบียนราษฎร์ของไทย ได้มีการ เชื่อมโยงข้อมูลทางทะเบียนทำ�ให้ สามารถตรวจสอบสถานะการสมรส ผ่านระบบออนไลน์ได้แล้ว แต่หากมี ข้อผิดพลาดทำ�ให้มีการจดทะเบียน สมรสซ้อนขึ้นมา การสมรสครั้งหลัง นัน้ จะเป็นโมฆะ (มาตรา 1495) โดย ผู้ มี ส่ ว นได้ เ สี ย จะกล่ า วอ้ า งหรื อ ร้องขอให้ศาลพิพากษาให้การสมรส เป็นโมฆะได้ (มาตรา 1497) ซึ่งผล ของการสมรสซ้อนนี้ ไม่ก่อให้เกิด ความสัมพันธ์ทางทรัพย์สินระหว่าง สามีภรรยา นั่นหมายถึงไม่ก่อให้ เกิดสิทธิรับมรดกต่อกัน และฝ่ายที่ สมรส “โดยสุจริต” ยังสามารถเรียก ค่าทดแทน รวมถึงค่าเลีย้ งชีพได้ดว้ ย (มาตรา 1498-1499) เช่น หากชาย ที่มีภรรยา (โดยชอบด้วยกฎหมาย) อยู่แล้วและมาทำ�การสมรสซ้อนนั้น หากการนั้นทำ�ให้หญิงต้องลาออก จากงานที่ทำ�อยู่เพื่อมาเป็นแม่ศรี เรือนตามความประสงค์ของชาย เมือ่

หญิงนัน้ ฟ้องคดีตอ่ ศาลเพือ่ เพิกถอน การสมรส หากได้สมรสกับชายนั้น โดยสุจริต ก็สามารถเรียกค่าเลีย้ งชีพ เนื่องจากเป็นการทำ�ให้ยากจนลง เพราะไม่มีรายได้พอจากงานที่เคย ทำ�อยู่ เมื่อเรารู้เช่นนี้แล้ว ก็ควร ทีจ่ ะเช็คประวัตชิ ายหนุม่ ชายแก่ทเี่ ข้า มาคบหากับเราโดยสามารถเข้าไป ตรวจสอบดู ไ ด้ ที่ http://www. khonthai.com ตามเงื่อนไขของผู้ ดูแลเว็บ เมื่อเราทราบเงื่อนไขของ การสมรสแล้ว ขั้นต่อไปคือ “วิธีจด ทะเบียนสมรส” กระทำ�ได้โดยชาย หญิงทีม่ คี ณ ุ สมบัตแิ ละความสามารถ ครบถ้ ว นตามที่ ก ฎหมายกำ � หนด แสดงความยินยอมเป็นสามีภริยา กัน “ต่อหน้า” นายทะเบียนและให้ นายทะเบียนบันทึกความยินยอม นั้นไว้ด้วย (มาตรา 1458) ในกรณี ทำ�การสมรสกันที่ต่างประเทศ ให้ พนักงานฑูตหรือกงสุลไทยเป็นผู้รับ จดทะเบียน (มาตรา 1459) ส่วนใน กรณีที่มีพฤติการณ์พิเศษทำ�ให้จด ทะเบี ย นสมรสไม่ ไ ด้ เช่ น มี ภ าวะ สงคราม ชายหญิ ง จะแสดงความ ยิ น ยอมไว้ ต่ อ หน้ า บุ ค คลที่ บ รรลุ นิตภิ าวะ แล้วนำ�บันทึกทีไ่ ด้จดไว้มา จดทะเบียนสมรสต่อนายทะเบียน ก็ ไ ด้ (มาตรา 1460) เห็ น ได้ ว่ า กฎหมายเขียนไว้ชัดเจนว่า ถ้าฝ่าย

หนึ่งต้องเป็นชาย อีกฝ่ายต้องเป็น หญิ ง จึ ง จะมาแสดงความยิ น ยอม พร้อมใจใช้ชวี ติ คูอ่ ย่างสามีภรรยาได้ คือมีเจตนาครองรักกันตลอดไป มิใช้ เจตนาสมรสกันเพื่อประโยชน์อย่าง ใด จ า ก บ ท บั ญ ญั ติ ข อ ง กฎหมายทำ�ให้เกิดคำ�ถามว่า แล้ว ชายจะแต่งงานกับชาย หรือหญิงจะ แต่งงานกับหญิงด้วยกันได้ไหม ใน เมื่อก็มีเจตนาที่จะครองรักกันอย่าง สามีภรรยาไปชั่วตราบฟ้าดินสลาย คำ�ตอบ ณ ปัจจุบนั คือ ไม่ได้ แต่ขณะ นี้ มี ก ารพิ จ ารณา “ร่ า งพระราช บั ญ ญั ติ ก ารจดทะเบี ย นคู่ ชี วิ ต ” (พรบ. คูช่ วี ติ ) ซึง่ ใน พรบ. คูช่ วี ติ ให้ คำ � นิ ย ามของคำ � ว่ า “คู่ ชี วิ ต ” ว่ า บุคคลสองคนซึ่งเป็นเพศเดียวกัน และได้ จ ดทะเบี ย นตามพระราช บัญญัตินี้ ดังนั้น ถ้า พรบ. คู่ชีวิต ผ่านการพิจารณาและออกมาบังคับ ใช้เป็นกฎหมาย ก็จะเป็นข่าวดีของ ชายรักชาย หรือหญิงรักหญิง ที่จะ สามารถจดทะเบียนเป็นคู่ชีวิตให้มี ความสั ม พั น ธ์ อั น ก่ อ ให้ สิ ท ธิ แ ละ หน้าที่ตามกฎหมายได้ เพราะใน ปัจจุบนั นี้ คงจะปฏิเสธไม่ได้วา่ ความ รักเริ่มไม่ได้แบ่งเพศกันแล้ว ดังเรา จะเห็นได้ทั่วๆ ไป โดยเฉพาะใน กรณีที่คนเพศเดียวกันได้อยู่ใช้ชีวิต ร่วมกันเปรียบเสมือนเป็นคู่ชีวิต แต่ สิทธิและหน้าที่ระหว่างกันยังไม่มี

กฎหมายมารองรับ ดังเช่น ชายกับ ชายอาศัยอยู่กินด้วยกัน ช่วยกันซื้อ คอนโดเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยร่วมกัน สิ ท ธิ ที่ ทั้ ง สองฝ่ า ยมี นั้ น เป็ น เพี ย ง เจ้าของร่วมกัน แต่ไม่ได้มีสิทธิเป็น ทายาทหรือรับมรดกได้อย่างเช่นใน กรณีสามีภรรยาที่สมรสถูกต้องกัน ตามกฎหมาย หรือในกรณีที่อีกฝ่าย หนึ่งเจ็บป่วยต้องผ่าตัด ต้องให้ญาติ พีน่ อ้ งมาเซ็นยินยอมให้ แต่ตวั คูช่ วี ติ เองกลับเซ็นยินยอมให้ไม่ได้ และ หากคนนั้ น ไม่ มี ญ าติ พี่ น้ อ งที่ ไ หน หรืออยู่ต่างจังหวัดไม่สามารถตาม มาเซ็นยินยอมให้ได้ ผูป้ ว่ ยก็จะไม่ได้ รับการรักษาทันท่วงที ผูเ้ ขียนขอยกสาระสำ�คัญ 8 ข้อของร่าง พ.ร.บ.ชีวิตคู่ฉบับภาค ประชาชนมาสรุปไว้ดังนี้คือ 1.การ รับรองการสมรสของบุคคลสองคน โดยต้ อ งไม่ มี ก ารระบุ เ พศไว้ ใ น กฎหมาย รวมถึ ง การยอมรั บ ให้ บุคคลที่มีสัญชาติไทยกับบุคคลที่มี สั ญ ชาติ อื่ น สามารถทำ � การจด ทะเบี ย นได้ 2.การได้ รั บ สิ ท ธิ ทุ ก ประการตามกฎหมายหากมีการจด ทะเบียนสมรสกัน 3.ไม่มีบทบัญญัติ ว่าด้วย เรื่องการหมั้นตามกฎหมาย ครอบครัว 4.การปฏิบัติต่อกันของคู่ สมรสที่ต้องอยู่บนพื้นฐานของหลัก ศั ก ดิ์ ศ รี ค วามเป็ น มนุ ษ ย์ 5.การ จั ด การทรั พ ย์ สิ น ให้ เ ป็ น ไปตาม

บั ญ ญั ติ ไว้ ใ นกฎหมายครอบครั ว 6.การสิน้ การสมรสด้วยการหย่าเป็น ไปตามความสมัครใจของทัง้ สองฝ่าย และเพิ่ ม เติ ม หลั ก การยุ ติ ค วาม สัมพันธ์โดยไม่มีความผิด 7.การรับ บุตรบุญธรรมสามารถกระทำ�ได้โดย เป็นไปตามบทบัญญัติในกฎหมาย ครอบครัว และ 8.ให้ถือว่าคู่สมรสที่ ได้ จ ดทะเบี ย นตามกฎหมายนี้ มี ลั ก ษณะเช่ น เดี ย วกั บ คู่ ส มรสตาม ประมวลแพ่ ง และพาณิ ช ย์ ว่ า ด้ ว ย ครอบครัว หากพรบ.ฉบับนี้ ก็คงจะ ช่วยแก้ปญ ั หาทีเ่ กิดขึน้ ในปัจจุบนั ให้ แก่คู่ชีวิตเพศเดียวกันได้มากทีเดียว แต่อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยเราก็ ยังยึดมัน่ ในหลักธรรมและพระพุทธ ศาสนา ซึ่งก็คงต้องดูกันต่อไปว่า ประเทศไทยเราจะรับได้มากน้อย เพียงใดกับการยอมรับให้มีการใช้ พรบ. ฉบับนี้ อย่างไรก็ดี ความรักเป็น เรือ่ งสวยงาม ไม่วา่ จะเกิดขึน้ กับเพศ ใดก็ตาม ถ้าท่านผู้อ่านเคยได้ยินชื่อ คุณแอล และคุณกุง้ เต้น หญิงสองคน ที่มาแต่งงานกัน คงจะได้เห็นสิ่งที่ มากกว่าการจดทะเบียน ไม่ว่าจะ เป็นการจดทะเบียนสมรส หรือจด ทะเบียนคู่ชีวิต นั้นคือ ความรักที่ทั้ง คู่ มี ใ ห้ กั น ซึ่ ง อาจจะถึ ง ขนาดทำ � ให้ ทะเบียนสมรสไม่มีความหมายกับ คนทั้งคู่ไปแล้วก็ได้


ลอว์นิวส์

ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 วันพุธที่ 16 - วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

11

ไทม์ ไลน์ วีรจิตต วัฒนบำ�รุง เมื่อ 64 ปีที่แล้ว คนไทยทั้งประเทศได้มีโอกาสชื่นชมพระบารมีพระ มหากษัตริย์และพระราชินีเนื่องในวันราชาภิเษกสมรส เป็นความยินดีของ แผ่นดินที่เพิ่งผ่านพ้นความเศร้าโศก “ราชาภิเษกสมรส” ในคราวนั้น จึง เปรียบเสมือนหยาดฝนที่ล้างหยดนำ�้ตาของคนไทย “ไทม์ ไลน์” ฉบับนี้ จะนำ� ท่านผู้อ่านไปพบกับตำ�นานความรักแห่งแผ่นดินของผู้เป็นมิ่งขวัญของชาว

ราชาภิเษกสมรส

2488 5 ธันวาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอา นันทมหิดล เสด็จนิวัติพระนครจากประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ พร้อมด้วยสมเด็จพระบรมราช ชนนี และสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้า ภูมพิ ลอดุลยเดช ภายหลังจากสงครามโลกครัง้ ที่ 2 สิ้นสุดลง

รักษาที่โรงพยาบาลมอร์เซส์ โปรดฯให้หม่อม เจ้าราชวงศ์สริ กิ ติ ิ์ มาเฝ้าฯ ถวายการดูแลอย่าง ใกล้ชิด

2492 สมเด็ จ พระเจ้ า อยู่ หั ว มี รั บ สั่ ง ให้ ห ม่ อ มเจ้ า นักขัตรมงคล กิติยากร ไปเฝ้าที่สวิตเซอร์ แลนด์ (ขณะนัน้ หม่อมเจ้านักขัตรมงคล ดำ�รง 2489 ตำ�แหน่งเป็นเอกอัครราชทูตไทยประจำ�กรุง 9 มิถุนายน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ลอนดอน ประเทศอังกฤษ) โดยหม่อมเจ้า อานันทมหิดล ต้องพระแสงปืนสวรรคต ณ นักขัตรมงคล ประทับอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ 3 พระที่ นั่ ง บรมพิ ม าน พระบรมมหาราชวั ง วัน คือวันที่ 17-19 กรกฎาคม 2492 สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอฯ ภูมิพลอดุลยเดช ขึน้ ครองราชย์เป็นสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ภูมพิ ล 18 กรกฎาคม สมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั เสด็จไปพบ อดุลยเดช หม่ อ มเจ้ า นั ก ขั ต รมงคล ณ โรงแรมที่ พั ก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีรับสั่งถึงเรื่องการ 15 สิ ง หาคม สมเด็ จ พระเจ้ า อยู่ หั ว เสด็ จ หมั้นกับหม่อมเจ้านักขัตรมงคลด้วยพระองค์ พระราชดำ�เนินกลับไปศึกษาต่อ ณ เมืองโล เอง เมื่อพระองค์ทรงเจรจาเสร็จแล้ว สมเด็จ ซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แม้พระองค์จะ พระราชชนนีจึงได้เสด็จตามเข้าไป ทรงโปรดวิ ช าวิ ศ วกรรมศาสตร์ แ ต่ เ พื่ อ ประโยชน์ในการปกครองประเทศจึงได้ทรง 19 กรกฎาคม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหมั้น เปลี่ยนมาศึกษา วิชาการปกครองแทน เช่น กับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ ณ โรงแรมวินเซอร์ วิ ช ากฎหมาย อั ก ษรศาสตร์ รั ฐ ศาสตร์ เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งพิธี รัฐประศาสนศาสตร์ ภูมิศาสตร์ นอกจากนี้ หมัน้ จัดขึน้ เป็นการภายในอย่างเรียบง่าย และ ทรงศึกษา และฝึกฝนการดนตรีด้วยพระองค์ ทรงหมัน้ ด้วยพระธำ�มรงค์ (แหวน) วงเดียวกัน เองด้วย กั บ ที่ ส มเด็ จ พระบรมราชชนกทรงหมั้ น กั บ สมเด็จพระบรมราชชนนี 2491 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพบหม่อมราชวงศ์ 12 สิงหาคม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระ สิริกิติ์ กิติยากร เป็นครั้งแรก ซึ่งในขณะนั้น กรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศข่าวทรงหมัน้ ให้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชประสงค์จะ คนไทยทราบในงานเลี้ยงฉลองการหมั้น ซึ่ง เสด็จพระราชดำ�เนินไปเยี่ยมชมโรงงานต่อ จั ด ขึ้ น เป็ น งานเลี้ ย งเล็ ก ๆ ณ สถาน รถยนต์ในประเทศฝรั่งเศสเพื่อทอดพระเนตร เอกอัครราชทูตไทยในกรุงลอนดอน ประเทศ รถยนต์แทนคันเดิมทีร่ บั ราชการสนองพระเดช อังกฤษ พระคุณมาเป็นเวลานาน และได้ทรงร่วมงาน เลีย้ งในสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปารีส 7 กันยายน จอมพล ป. พิบูลสงคราม นายก ในโอกาสนี้ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร รัฐมนตรี ได้แถลงต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี บุ ต รี ข องหม่ อ มเจ้ า นั ก ขั ต มงคล กิ ติ ย ากร ว่า “...รัฐบาลได้สำ�เนาจดหมายจากราช เอกอัคราชทูตไทยทูตประจำ�กรุงปารีส ได้มา เลขานุการประจำ�พระองค์ในขบวนเสด็จ ร่วมเฝ้ารับเสด็จด้วย (หลวงประเสริฐไมตรี) ซึ่งแจ้งมายังราช เลขานุการประจำ�พระองค์ (หม่อมเจ้า 3 ตุ ล าคม สมเด็ จ พระเจ้ า อยู่ หั ว ประสบ นิ ก ร เทวั ญ ) และสำ � เนาโทรเลขจาก อุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างรุนแรง โดยรถยนต์ หม่ อ มเจ้ า นั ก ขั ต รมงคล กิ ติ ย ากร พระทีน่ งั่ ชนกับรถบรรทุก ทีถ่ นนในเมืองมอน เอกอัครราชทูตไทยประจำ�กรุงลอนดอน เนย์ ใกล้ทะเลสาบเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์ ถึงกระทรวงการต่างประเทศ รายงาน แลนด์ เป็นเหตุให้ทรงบาดเจ็บที่พระพักตร์ เรื่องสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงหมั้นกับ พระเนตรขวา และพระเศียร ทรงเข้ารับการ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร เมื่อวันที่

19 กรกฎาคม พุทธศักราช 2492 ณ โลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ให้ คณะรัฐมนตรีรับทราบ... “ในครั้ ง นั้ น รั ฐ บาลได้ มีดำ � ริ ไว้ ก่อนว่า หากข่าวสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ทรง หมัน้ กับหม่อมราชวงศ์สริ กิ ติ ิ์ กิยากร จริง แล้ว รัฐบาลจะจัดงานฉลองการมงคลให้ ครึกครื้น อันเป็นการถวายความจงรัก ภักดี แต่เมือ่ ทราบถึงพระราชประสงค์ใน การหมั้ น ครั้ ง นี้ ว่ า พระองค์ ท รงได้ ทำ � เป็นการภายใน รัฐบาลจึงไม่อาจขัดพระ ราชประสงค์ ไ ด้ จึ ง ได้ โ ทรเลขถวาย พระพรในนามรัฐบาลและประชาชนชาว ไทย พร้อมกับโทรเลขของประธานสภาผู้ แทนราษฎร และประธานวุฒิสภา...” 2493 24 มีนาคม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จนิวัติ พระนครพร้อมพระคู่หมั้น เพื่อเตรียมการ พระราชทานเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล 29 มี น าคม สมเด็ จ พระเจ้ า อยู่ หั ว เสด็ จ พระราชดำ�เนินพระราชทานเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ณ พระเมรุมา ท้องสนามหลวง 26 เมษายน สมเด็ จ พระเจ้ า อยู่ หั ว ทรง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอม เกล้าฯ แด่หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร เพื่อ เป็นการเตรียมประกอบพระราชพิธรี าชาภิเษก สมรส 28 เมษายน สมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ทรงประกอบ พระราชพีธรี าชาภิเษกสมรสกับหม่อมราชวงศ์ สิริกิติ์ กิติยากร ณ พระตำ�หนักใหญ่ วังสระ ปทุม ในเวลา 9.30 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมพิ ลอดุลยเดช และหม่อมราชวงศ์สริ กิ ติ ิ์ กิติ ยากร ได้เข้าสูพ่ ระราชพิธรี าชาภิเษกสมรส ต่อ พระพั ก ตร์ ส มเด็ จ พระศรี ส วริ น ทรา บรม ราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ซึง่ ได้ด�ำ เนิน ไปตามกฎหมาย โดยสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ทรง ลงพระปรมาภิไธยในสมุดทะเบียนสมรส และ ได้โปรดให้หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ลง

นามในทะเบียน หม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติ ยากร พระบิ ด าทรงลงพระนามให้ ค วาม ยินยอมการสมรสตามกฎหมาย เนื่องจาก หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ราชสักขีลงนาม ปิดอากรแสตมป์ 10 สตางค์ เสียค่าธรรมเนียม 10 บาท เป็นการเสร็จพระราชพิธี สมุดทะเบียนสมรสนั้นจัดทำ�โดย บริษทั คณะช่าง ปกทำ�ด้วยหนังแกะแท้สเี หลือง ดุ น ปกนู น ให้ นุ่ ม มี พ ระครุ ฑ พ่ า ห์ สี แ ดงอยู่ เหนือตัวอักษรเดินทอง สันปกหุ้มด้วยหนังสี น้ำ � ตาล ภายใต้ เ ล่ ม นั้ น มี ก ระดาษที่ เ ป็ น ทะเบียนสมรสอยูแ่ ผ่นเดียว สมุดทะเบียนนีจ้ ดั ทำ�เป็นตัวจริงเล่มหนึ่งและสำ�เนาเล่มหนึ่ง จากนั้ น สมเด็ จ พระเจ้ า อยู่ หั ว เสด็ จ ขึ้ น ไป ประทั บ ยั ง ห้ อ งพระราชพิ ธี บ นพระตำ � หนั ก พร้อมด้วยหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ซึ่ง ณ ที่นั้น สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ได้ เสด็จออกและถวายน้�ำ พระพุทธมนต์เทพมนต์ แด่สมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั เป็นพระองค์แรก แล้ว จึงได้ทรงรดน้ำ�พระพุทธมนต์หม่อมราชวงศ ์สริ กิ ติ ิ์ กิตยิ ากร เช่นเดียวกัน และได้มปี ระกาศ พระบรมราชโองการ สถาปนาพระอัครมเหสี เป็นสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ จากนั้น จึงได้ พระราชทานของที่ระลึกในงานพระราชพิธี ราชาภิเษกสมรสเป็นหีบเงินขนาดเล็ก บนฝา หีบประดับอักษรพระปรมาภิไธย ภ.อ. และ พระนามาภิไธย ส.ก. และพระราชทานเลี้ยง อาหารค่ำ� 29 เมษายน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จ พระราชิ นี สิ ริ กิ ติ์ เสด็ จ ไปพั ก ผ่ อ นพระราช อิริยาบถที่พระราชวังไกลกังวล อำ�เภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยจอมพล ป. พิบูล สงคราม นายกรั ฐ มนตรี ได้ ใ ห้ ก ระทรวง คมนาคมจัดขบวนรถไฟขบวนพิเศษถวาย และ สำ�นักพระราชวังได้รับผิดชอบในการจัดการ การเสด็จประทับพักผ่อนพระราชอิริยาบถที่ หัวหินโดยตลอด ซึง่ ถือว่าเป็นครัง้ แรกทีส่ มเด็จ พระราชิ นี เสด็ จ ประพาสโดยขบวนรถไฟ พระทีน่ งั่ ให้ประชาชนชืน่ ชมพระบารมี ตลอด ระยะทางทีร่ ถไฟผ่าน จนถึงสถานีรถไฟหัวหิน ประชาชนต่างพากันมาเข้าเฝ้าอย่างเนืองแน่น สมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั และสมเด็จพระราชินที รง


12

ลอว์นิวส

ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 วันพุธที่ 16 - วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

ภาพทั้งหมดจาก http://thailand.prd.go.th/

โบกพระหัตถ์ บางคนที่อยู่ใกล้ก็พระราชทาน พระหัตถ์ ก็รบั เอามาทูนหัวด้วยความบูชา นับ เ ป็ น ค รั้ ง แร ก ที่ ทั้ ง ส อ ง พ ร ะ อ ง ค์ เ ส ด็ จ พระราชดำ�เนินออกให้ประชาชนต่างจังหวัดได้ เข้าเฝ้าฯ อย่างใกล้ชิด โดยทั้งสองพระองค์ ประทับอยู่ที่พระราชวังไกลกังวลเป็นเวลา 3 2499 วัน ก่อนจะเสด็จฯ กลับเพือ่ เตรียมการพระราช 22 ตุลาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรง พิธีบรมราชาภิเษก พระผนวชเป็ น เวลา 15 วั น (ถึ ง วั น ที่ 5 พฤศจิกายน) โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระนาง 5 พฤษภาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี เป็นผู้สำ�เร็จราชการ ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ขึ้น แทนพระองค์ ครองราชเป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ณ 5 ธั น วาคม พระบาทสมเด็ จ พระที่นั่งไพศาลทักษิณ พระบรมมหาราชวัง พระเจ้ า อยู่ หั ว โปรดเกล้ า ฯ ให้ เ ฉลิ ม พระ ในโอกาสนี้ ทรงสถาปนาสมเด็จพระราชินีสิ อภิไธยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม ริกติ ิ์ ขึน้ เป็นสมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ิ์ พระบรม ราชินี ขึ้น เป็น “สมเด็ จ พระนางเจ้ า สิ ริ กิ ติ์ ราชินี พระบรมราชินนี าถ” เนือ่ งด้วยสมเด็จพระนาง เจ้าฯ พระบรมราชินที รงดำ�รงตำ�แหน่งผูส้ �ำ เร็จ 7 พฤษภาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ราชการแทนพระองค์ และได้ทรงปฏิบัติพระ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ราชกรณี ย กิ จ แทนพระองค์ ด้ ว ยพระปรี ช า เสด็จออกสีหบัญชรเป็นครั้งแรก ณ พระที่นั่ง สามารถ สนองประราชประสงค์ เ ป็ น ที่ สุทไธสวรรย์ปราสาท เพือ่ ให้พสกนิกรได้เฝ้าฯ เรียบร้อย จึงสมควรให้มกี ารเฉลิมพระอภิไธย ชื่นชมพระบารมี ดังกล่าว นับเป็นสมเด็จพระบรมราชินีนาถ พระองค์ ที่ ส อง ต่ อ จากสมเด็ จ พระนางเจ้ า 5 มิถุนายน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่เสด็จ เสาวภาผ่องศรี บรมราชินีนาถ (ภายหลังคือ พระราชดำ�เนินไปทรงศึกษาต่อทีป่ ระเทศสวิต สมเด็ จ พระศรี พั ช ริ น ทราบรมราชิ นี น าถ เซอร์แลนด์พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง) พระบรมราชินี 2502 2494 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระ 2 ธันวาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและ นางเจ้ า ฯ พระบรมราชิ นี น าถ เสด็ จ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี เสด็จนิวัติ พระราชดำ�เนินไปเยือนประเทศเวียดนาม เพือ่ พระนครเป็นการถาวรโดยเรือพระที่นั่งมีโอ เจริ ญ สั ม พั น ธไมตรี นั บ เป็ น ครั้ ง แรกที่ ทั้ ง เนี ย โดยมี ป ระชาชนเฝ้ า รอรั บ เสด็ จ อย่ า ง สองพระองค์ได้เสด็จพระราชดำ�เนินไปเยือน แน่นขนัดทั้งสองฝั่งแม่น้ำ�เจ้าพระยา ต่างประเทศด้วยกันทั้งสองพระองค์ 2498 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี โดยเสด็จ ตามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อทรง เยีย่ มราษฎร แรกเริม่ ทีต่ �ำ บลห้วยมงคล อำ�เภอ หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

2503 ทั้งสองพระองค์เสด็จพระราชดำ�เนินไปเยือน ต่างประเทศถึง 13 ประเทศและ 1 รัฐ โดยใช้ ระยะเวลาการเสด็จพระราชดำ�เนินทัง้ สิน้ นาน ถึง 7 เดือน

2537 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระ นางเจ้ า ฯ พระบรมราชิ นี น าถ เสด็ จ พ ร ะ ร า ช ดำ � เ นิ น ไ ป เ ยื อ น ส า ธ า ร ณ รั ฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว นับเป็นประเทศ ล่าสุดทีท่ งั้ สองพระองค์ได้เสด็จพระราชดำ�เนิน ไปเยือนด้วยกันทั้งสองพระองค์ 2543 ธนาคารแห่ ง ประเทศไทยได้ จั ด ทำ � ธนบั ต ร ฉบับละ 500,000 บาท เพื่อร่วมฉลองใน โอกาสครบ 50 ปีราชาภิเษกสมรส นับเป็น ธนบัตรที่มีมูลค่าสูงสุดของไทย 2553 บริษัทไปรษณีย์ไทย จำ�กัด จัดทำ�ดวงตรา ไปรษณียากรที่ระลึกครบ 60 ปีราชาภิเษก สมรส ผนึกคริสตัลสวารอฟสกี้ 12 เม็ด และ รอยปรุรอบดวงแสตมป์รูปหัวใจ ซึ่งเป็นครั้ง

แรกที่ มี ก ารประดั บ คริ ส ตั ล บนดวงตรา ไปรษณียากรของไทย นอกจากนี้ ธนาคาร แห่งประเทศไทยก็ได้จัด ทำ�ธนบัตรที่ร ะลึก ฉบับละ 100 บาท ในโอกาสนี้ด้วย

ตลอดระยะเวลาที่ผ่าน ได้พิสูจน์ ให้เห็นแล้ว ว่า ทั้งสองพระองค์ทรงเป็นคู่ครองที่ร่วม ทุกข์ร่วมสุขกันมาโดยตลอด ควรแก่การ ยึดถือเป็นแบบอย่าง และเนื่องในโอกาสวัน ราชาภิเษกสมรส ผูเ้ ขียนขอป็นตัวแทนกล่าว ถวายพระพรชัยมงคลให้ทงั้ สองพระองค์มี พระชนมายุยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญของคน ไทยทุกคนตลอดไป ควรมิควรแล้วแต่จะ โปรด ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ


ลอว์นิวส์

ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 วันพุธที่ 16 - วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

ทีว.่แราชดำห่�งเนินีน ้ cgilearn.wordpress.com

พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า วังสระปทุม

เนื่องในวันบรมราชาภิเษกสมรส วันที่ 28 เมษายน “ที่แห่งนี้” จะนำ�ทุกท่านไปพบกันสถานที่สำ�คัญแห่งความรักในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ รวมทั้งยังเป็นสถานที่ประกอบพิธีอภิเษกสมรสของพระบรมราชชนกและพระบรมราชชนนี ณ ที่แห่งนี้... วังสระปทุม ห้างสรรพสินค้าทันสมัย ความวุ่นวายบนท้อง ถนนและบนรางรถไฟฟ้า รวมถึงเรือด่วนที่ สัญจรไปมาในคลองแสนแสบ ช่างแตกต่างกับ บรรยากาศภายในวังสระปทุมที่ร่มรื่นไปด้วย ต้นไม้นอ้ ยใหญ่ทแี่ ข่งกันแผ่กงิ่ ก้านสาขาให้รม่ เงา และช่วยกันบดบังความวุ่นวายจากโลก ภายนอกจนเงียบสงบได้อย่างไม่น่าเชื่อ เมือ่ เดินเข้ามาสูเ่ ขตของวังสระปทุม จะพบกับเรือนรับรองหลังเล็กๆ เป็นจุดแรก เมือ่ เข้าไปในเรือนแล้ว เจ้าหน้าทีจ่ ะพาผูเ้ ข้าชม วังสระปทุมไปถ่ายรูปเพื่อพิมพ์ลงบนบัตรเข้า ชม และให้นั่งพักรอเวลาเข้าชมในแต่ละรอบ ซึง่ ภายในเรือนรับรองแห่งนีจ้ ะมีรา้ นจำ�หน่าย อาหารว่างในบรรยากาศแบบโบราณ และเป็น เพียงสถานที่เดียวที่เจ้าหน้าที่อนุญาตให้ถ่าย ภาพได้ (ไม่อนุญาตให้ถา่ ยภาพภายในวังสระ ปทุม) เมื่อถึงเวลาเข้าชม เจ้าหน้าที่ได้นำ� พวกเราไปยั ง หอนิ ท รรศการเพื่ อ พระราช ประวัติสมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทัง้ ทางวิดที ศั น์และสิง่ จัดแสดงภายในอาคารแห่งนี้ ซึ่งสมเด็จพระ พันวัสสาอัยยิกาเจ้าเคยประทับอยู่ที่วังสระ ปทุ ม แห่ ง นี้ ตั้ ง แต่ แรกสร้ า งจนสวรรคตเมื่ อ พ.ศ. 2498 ภายในอาคารได้จัดแสดงพระ ประวัติและสิ่งของส่วนพระองค์ที่สำ�คัญหลาย ชิ้น เช่น สมุดภาพเกี่ยวกับประเทศไทยซึ่งปก สมุดเป็นฝีพระหัตถ์ทรงปักด้วยไหมทอง เงิน ลวดลายดอกบัวและใบบัว (ปัจจุบนั สมุดภาพ เ ล่ ม จ ริ ง ไ ด้ เ ก็ บ รั ก ษ า ไว้ ที่ พิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ ประวัติศาสตร์แห่งนครชิคาโก สหรัฐอเมริกา) ภาพปักต่างๆ ซึง่ หนึง่ นัน้ เป้นผ้าปักฝีพระหัตถ์ สมเด็จพระเจ้าพีน่ างเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวฒ ั นา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์สมัยทรงพระ เยาว์ ซึ่งได้ส่งมาถวายสมเด็จพระพันวัสสา นอกจากนีย้ งั ได้จดั แสดงนิทรรศการการบูรณะ ซ่อมแซมพระตำ�หนักใหญ่ จากนั้น เจ้าหน้าที่จะพาไปชมการ จั ด แสดงที่ พ ระตำ � หนั ก ใหญ่ ซึ่ ง เป็ น พระ ตำ � หนั ก ที่ ป ระทั บ ของสมเด็ จ พระพั น วั ส สา อั ย ยิ ก าเจ้ า เล่ า กั น ว่ า สมเด็ จ พระพั น วั ส สา อัยยิกาเจ้าทรงคิดผังพระตำ�หนักด้วยพระองค์ เอง โดยทรงใช้ไม้ขีดไฟบ้าง หางพลูบ้าง ทำ�

เป็นผังแล้วให้นายเปาโล เรมิดี สถาปนิกทีเ่ ข้า มารั บ ราชการในสมั ย รั ช กาลที่ 6 เป็ น ผู้ ออกแบบถวาย พระตำ�หนักใหญ่นี้ ไม่ปรากฏหลัก ฐานว่าเริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อใด แต่พบหลัก ฐานการสัง่ ซือ้ เครือ่ งเรือนในปี 2456 ภายนอก อาคารทาสีเหลืองโดดเด่นท่ามกลางต้นไม้ที่ ขึน้ อยูโ่ ดยรอบ บริเวณใต้หน้าต่างประดับด้วย ลายดอกไม้ ซึ่ ง ใช้ แ ม่ พิ ม พ์ ใ นการหล่ อ รู ป ดอกไม้ก่อนน้ำ�ไปประดับ นอกจากนี้ พระ ตำ�หนักใหญ่ยงั มีชนั้ ใต้ดนิ ใช้ส�ำ หรับเป็นทีเ่ ก็บ ข้าวของเครื่องใช้หลายรายการ เมือ่ เดินมาถึงพระตำ�หนักใหญ่แล้ว ผู้เข้าชมจะได้รับหูฟังบรรยายการนำ�ชมใน แต่ละห้อง ซึง่ ได้จดั แสดงไว้ใกล้เคียงกับสภาพ การใช้งาน ณ ขณะที่สมเด็จพระพันวัสสา อัยยิกาเจ้าประทับอยู่ โดยเริ่มจากห้องพิธี ซึ่ง เป็นห้องทีใ่ ช้ประกอบพระราชพิธอี ภิเษกสมรส ระหว่ า งสมเด็ จ เจ้ า ฟ้ า ฯ กรมขุ น สงขลา นครินทร์ (พระยศในขณะนั้น) กับนางสาว สังวาลย์ ตะละภัฏ (สมเด็จพระศรีนครินทราบ รมราชนนี ในเวลาต่อมา) ซึ่งพระบาทสมเด็จ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยูห่ วั เสด็จพระราชดำ�เนิน มาพระราชทานน้ำ�สังข์ เมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2463 และใช้เป็นสถานที่จดทะเบียน สมรสระหว่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร เมื่อวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2493 ภายหลังได้ใช้ห้องนี้ สำ�หรับการจัดงานเลี้ยง ซึ่งในห้องนี้ มีโต๊ะจัด เลี้ ย งตั ว หนึ่ ง ตั้ ง อยู่ ก ลางห้ อ ง ซึ่ ง โต๊ ะ ตั ว นี้ สามารถขยายขนาดจาก 6 ที่นั่ง เป็น 16 ที่นั่ง ได้ โดยได้จำ�ลองการจัดโต๊ะเสวยขนาด 10 ที่ นั่งแสดงไว้ให้ชม ห้องถัดมาคือ ห้องรับแขก ซึ่งเคย ใช้เป็นที่รับรองบุคคลสำ�คัญในพระราชพิธี บรมราชาภิเษกสมรส ภายในหองมีเครื่อง เรือนนำ�เข้าจากปารีส ประเทศฝรัง่ เศส ซึง่ เป็น ศิ ล ปะในยุ ค พระเจ้ า หลุ ย ส์ ที่ 16 พระ สาทิ ส ลั ก ษณ์ จำ � ลองสมเด็ จ พระพั น วั ส สา อัยยิกาเจ้าประทับท่ามกลางพระโอรสและพระ ธิ ด า ( ภ า พ ต้ น ฉ บั บ เ ก็ บ รั ก ษ า ไ ว้ ที่ พิพธิ ภัณฑสถานแห่งชาติหอศิลป์ ถนนเจ้าฟ้า) และรูปคนลากเรือ ซึ่งนักเรียนโรงเรียนสวน

กุหลาบได้ทูนเกล้าฯ ถวาย สื่อถึงพิธีลงสรง เฉลิมพระนามาภิไธยสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศฯ พระโอรสองค์ใหญ่ใน สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เมือ่ เดินขึน้ มาทีช่ นั้ 2 จะพบกับห้อง เทาเป็นห้องแรก เรียกชื่อตามสีที่ทาในห้องนี้ ซึ่งเป็นห้องบรรทมของสมเด็จพระเจ้าน้องยา เธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมขุนสงขลา นครินทร์ (พระอิสริยยศในขณะนั้น) หลังจาก ทรงลาออกจากกองทัพเรือเยอรมันและเสด็จ นิวัติกลับประเทศเมื่อ พ.ศ. 2457 ส่วนสมเด็จ พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงย้ายไปประทับ ณ ตำ�หนักเขียว ภายในห้องนี้จัดแสดงเครื่อง เรือนซึ่งนำ�เข้าจากประเทศฝรั่งเศส สมเด็จเจ้า ฟ้าฯ กรมขุนสงขลานครินทร์ทรงใช้หอ้ งนีเ้ ป็น ห้ อ งบรรทมอี ก ครั้ ง เมื่ อ เสด็ จ กลั บ จาก สหรัฐอเมริกาเมือ่ พ.ศ. 2466 และใช้เป็นห้อง บรรทมจนสิ้นพระชนม์เมื่อ พ.ศ. 2472 ห้องทรงพระอักษร เป็นห้องทรง งานในสมเด็จพระบรมราชชนก ซึง่ ได้จดั แสดง หนังสือ ตำ�ราวิชาการ ทั้งภาษาไทย ภาษา อั ง กฤษ และภาษาเยอรมั น มี เ ครื่ อ งมื อ ทางการแพทย์ ที่ ท รงใช้ และมุ ม พั ก ผ่ อ น อิริยาบถ ภายหลังใช้เป็นห้องทรงงานของ สมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร พระราชธิดา พระองค์ใหญ่ในสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกา เจ้า ห้องถัดไปคือห้องทรงพระสำ�ราญ เป็นห้องส่วนพระองค์ในสมเด็จพระพันวัสสา อัยยิกาเจ้า มีโต๊ะหกเหลี่ยมซึ่งทรงโปรดการ เล่นไพ่ตองตามสมัยนิยมในยุคนั้น และโปรด การอ่ า นหนั ง สื อ ภาษาอั ง กฤษ เช่ น The Queen, National Geographic ซึง่ สมเด็จพระ พันวัสสาอัยยิกาเจ้าทรงฟังภาษาอังกฤษได้ดี แต่ตรัสไม่คล่องนัก ห้องทรงนมัสการ (ห้องพระ) มี พระพุ ท ธรู ป ปางมารวิ ชั ย เป็ น ประธาน พระบรมรูปรัชกาลที่ 1 (ผู้สถาปนาราชวงศ์ จักรี) รัชกาลที่ 4 (พระราชบิดา) และรัชกาลที่ 5 (พระราชสวามี) ซึ่งสมเด็จพระพันวัสสา อัยยิกาเจ้าจะทรงบูชาผ้าซับพระบาทและเส้น พระเจ้ า (เส้ น ผม) พระบาทสมเด็ จ พระ

จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก่อนบรรทมทุกคืน บริเวณเฉลียงชั้นบนเป็นที่ประทับซึ่งสมเด็จ พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าทรงโปรด โดยเมือ่ ทรง ตืน่ บรรทมแล้วจะเสด็จออกมาประทับทีเ่ ฉลียง ทั้งวัน และเสวยพระกระยาหารที่นี่ นอกจาก นี้ ยังเป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีบรม ราชาภิเษกสมรสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั และสมเด็ จ พระนางเจ้ า สิ ริ กิ ติ์ พระบรม ราชินีนาถ ซึ่งสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงเป็นประธานในพระราชพิธนี ี้ และเป็นพระ ราชกรณียกิจสำ�คัญสุดท้ายก่อนจะสวรรคตใน อีก 5 ปีถัดมา ห้องที่อยู่บริเวณปลายสุดคือห้อง พระบรรทม ภายในห้องนี้จัดแต่งแบบเรียบ ง่าย เครื่องเรือนส่วนใหญ่เป็นสีขาวและสีครีม ตามทีท่ รงโปรด บรรดาภูษาอาภรณ์ทจี่ ดั แสดง ส่วนใหญ่เป็นของเดิมที่สมเด็จพระพันวัสสา อัยยิกาเจ้าทรงเคยใช้ เช่น ฉลองพระองค์ที่ เตรียมไว้ในห้องพระบรรทม ผ้าไหมคลุมพระ บรรจถรณ์ (เตียงนอน) ซึง่ ของเดิมนัน้ ชำ�รุดไป มาก แต่ได้ซ่อมแซมจนสวยงามเหมือนเดิม ห้องนิทรรศการ จัดแสดงเอกสาร และสิง่ ของเครือ่ งใช้สว่ นพระองค์ในสมเด็จพระ พันวัสสาอัยยิกาเจ้า เช่น สำ�เนาโทรเลข พระ ราชหั ต ถเลขาจากสมเด็ จ เจ้ า ฟ้ า ฯ กรมขุ น สงขลานคริ น ทร์ ถึ ง การพบสตรี ที่ คู่ ค วรกั บ พระองค์ รวมถึง “เจ๊กตู”้ ซึง่ เป็นหาบตูข้ ายของ ซึง่ สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าทรงโปรดให้ เข้าไปขายในวังสระปทุมเป็นปกติ เพือ่ ให้พระ ราชนัดดาทั้งสามพระองค์ คือ หม่อมเจ้าหญิง กัลยาณิวัฒนา หม่อมเจ้าอานันทมหิดล และ หม่อมเจ้าภูมพิ ล มหิดล (พระอิสริยยศในขณะ นั้น) ได้เลือกซื้อสิ่งของต่างๆ เช่น ตุ๊กตา รถ จำ�ลอง เรือจำ�ลอง แผ่นเสียง วังสระปทุมจึงเป็นสถานที่สำ�คัญ แห่งหนึง่ ทีเ่ ป็นประจักษ์พยานในความรักของ พระราชวงศ์ถึงสองรุ่น และยังเป็นสถานที่ที่ แสดงให้โลกได้เห็นถึงพระมหากรุณาธิคณ ุ และ พระราชกรณี ย กิ จ ของสมเด็ จ พระพั น วั ส สา อัยยิกาเจ้า ผู้ทรงเป็นบุคคคลสำ�คัญของโลก ใ ห้ ทุ ก ค น ไ ด้ ร่ ว ม กั น รำ � ลึ ก ใ น พ ร ะ มหากรุณาธิคุณในแบบอย่างที่ทรงปฏิบัติมา โดยตลอด

13


14

ลอว์นิวส

ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 วันพุธที่ 16 - วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

บัชมผกานเทิ งหน้าสิบเอ็ด จำ�ปา จำ�ปี

แผงหนังสือ

แต่ งงานแล้ว เมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา ที่โรงแรมพลาซ่าแอทธินี ได้มีงาน

พิธฉี ลองมงคลสมรสของ โอปอล์-ปาณิสรา และ โอ๊ค-สมิทธิ์ ซึ่งภายในงานเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความอบอุ่น .. ขอแสดง ความยินดีกับทั้งคู่ด้วยอีกครั้ง

นิโคล พร้อมออกเพลงใหม่ “ตอนนี้เข้าห้องอัดเรียบร้อยแล้ว พร้อมเสร็จให้ฟังหลังสงกรานต์นี้ แน่นอน แนวเพลงจะฉีกจากเพลงของกีท้ เี่ คยได้ยนิ กันมาเลย เปลีย่ นทัง้ ลุคส์ เปลี่ยนทั้งแนวเพลง แต่ก็เป็นเพลงที่มีความเป็นตัวของกี้มากๆ คะ ก็ไม่มีงานเพลงออกมาหลายปีแล้ว ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก ที่สำ�คัญตอน นี้ได้เข้ามาอยู่ ในบ้านหลังใหม่ กับค่ายสหภาพดนตรี ถึงเป็นสังกัดใหม่แต่ รูส้ กึ อบอุน่ เพราะพีๆ่ ทีส่ หภาพดนตรี ก็ลว้ นแต่เป็นคนคุน้ เคย พีๆ่ หลาย ท่านก็เคยแต่งเพลงให้กี้ ตั้งแต่อัลบั้มแรกๆ การทำ�งานก็สนุก และเป็น กันเอง สำ�หรับซิงเกิ้ลใหม่นะ ได้ เอก แบล็คเฮด เพื่อนสนิทที่คบกันมา สิบกว่าปี มาเป็นโปรดิวเซอร์ ให้ ซึ่งเอกจะรู้จักกี้ดีมากๆ “ตอนที่คุยเรื่องซิงเกิ้ลใหม่ กี้อยากได้เพลงที่มีความหมาย บวกๆ สามารถทำ�ให้คนฟังมีความสุขไปกับเพลง ความหมาย ก็เหมือน กับความรักครัง้ ใหม่ จะเป็นรักแบบหนุม่ สาวก็ได้ ความรักแบบเพือ่ นก็ได้ กี้มองว่าความรักมีหลายรูปแบบ อยากให้ซิงเกิ้ลแรกที่เราได้เริ่มต้นกับ บ้านหลังใหม่ เป็นเหมือนการเริ่มต้นความรักครั้งใหม่ เหมือนกับชีวิตกี้ ที่กำ�ลังจะเริ่มต้นใหม่”

เปิดตัวแบรนด์เสือ้ ผ้า

เอมมี่ มรกต กิตติสาระ นักแสดงสาวคนเก่ง เกี่ยวก้อยเพื่อนซี้ เรศรา-ศรินรา ตัณฑะยา นนท์ สวมบทบาทแฟชั่นนิส เปิดตัวแบรนด์ MAISON MeReRa คอลเลคชั่น SpringSummer 2014 อย่างเป็นทางการ ณ โรงแรมหรรษา ราชดำ�ริ ชั้น 19 เมื่อวันที่ผ่าน มา โดยได้ เ พื่ อ นๆ ในวงการบั น เทิ ง อาทิ พอลล่ า เทเลอร์ , คริ ส หอวั ง , วุ้ น เส้ น วิริฒิพา, แป้ง อรจิรา,ศรีริต้า, โดม ปกรณ์ ลัมป์, เมทัล, แต้ว ณฐพร, แพทริเซีย กู๊ด ฯลฯ มาให้กำ�ลังใจเพียบ

ล้านแล้วจ้า

ภาพบรรยากาศงาน คิดถึงวิทยา คิดถึง 100 ล้าน สานฝัน “โรงเรียนเรือนแพ” ท่ามกลางบรรยากาศงานแบบอบอุน่ ทีบ่ ริษทั หับโห้หิ้น บางกอก โดยมีผู้บริหาร พร้อมด้วยผู้กำ�กับ-นักแสดง มอบเงินจำ�นวน 300,000 บาท ให้กับ สำ�นักงานส่งเสริมสังคม แห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) เพื่อสนับสนุนทุนการ ศึกษา,ทุนอาหารกลางวัน,ทุนซ่อมแซมสถานศึกษาให้กับ ร.ร.บ้าน ก้อจัดสรร สาขาห้องเรียนเรือนแพ อ.ลี้ จ.ลำ�พูน เห็นรอยยิม้ ของ ผู้ที่มาร่วมงานแล้วบอกได้เลยว่าปลื้มใจสุดๆ

ตอนจบในละคร กลายเป็ น คนที่ ไ ม่ มี ใ คร ต้องการ แต่มาอยู่บนแผง เห็น “สายนำ�้ผึ้ง” เต็มไปหมด รอดูผลงานเรื่องต่อไปอย่างใจ จดใจจ่อ ขอแสดงความยินดีกบั นิตยสารผูช้ ายอันดับ หนึ่งอย่างจีเอ็มที่อยู่คู่ชายหนุ่มมาครบปีที่ 28 เราเชือ่ ว่ายังไงคุณก็ยงั คงเป็นทีห่ นึง่ ต่อ ไป ถึงแม้สมรภูมินิตยสารผู้ชายจะดุเดือด เผ็ดมันส์แค่ไหนก็ตาม ไม่ น่ า เชื่ อ ว่ า เวลาจะผ่ า นไปเร็ ว ขนาดนี้ นิตยสาร CHEEZE ก็อยู่ครบสิบปีแล้ว ขอ แสดงความยิ น ดี เ ช่ น กั น CHEEZE เป็ น นิ ต ยสารที่ ทำ � ให้ เ ราเห็ น คำ � ว่ า สตรี ท แวร์ ชัดเจนขึน้ หนังสือเล่มนีย้ งั คงแตกไลน์ เจริญ เติบโตมาเป็น LOOKER นิตยสารสตรีท แฟชั่นของชายหนุ่ม และ SNACK ที่ออกมา ช่วงชิงตลาดฟรีก็อปปี้อย่างมีคุณภาพ


ลอว์นิวส์

ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 วันพุธที่ 16 - วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

คอนเสิร์ต

ภาพยนตร์

TRANCENDENCE

THE RAILWAY MAN

ดอกเตอร์ วิล แคสเตอร์ (จอห์นนี เดปป์) คือ นั ก วิ ท ยาศาตร์ ผู้ เ ป็ น หั ว หน้ า ที ม วิ จั ย ที่ ศึ ก ษา ค้นคว้าเกีย่ วกับปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence พวกเขามีเป้าหมายในการสร้าง เครื่องจักรที่มีความรู้สึกนึกคิดแบบมนุษย์และ ยังรวบรวมเอาความอัจฉริยะ ความรูท้ งั้ หมดที่ เคยมีมาไว้ ในเครื่องนี้เครื่องเดียว การทดลอง ของพวกเขากลายเป็นที่ถกเถียงอย่างมากและ ทำ � ให้ วิล กลายเป็ น บุ ค คลที่มีชื่ อ เสี ย ง แต่ ท ว่ า ความโด่งดังทีเ่ ขาได้รบั ก็เป็นเหมือนดาบสองคม เพราะมันทำ�ให้เขากลายเป็นเป้าหมายหลักของ กลุม่ นักเคลือ่ นไหวหัวรุนแรงทีต่ อ่ ต้านเทคโนโลยี หรือ ‘ริฟท์’ (RIFT) ซึ่งพร้อมที่จะทำ�ทุกวิถีทาง เพื่ อ หยุ ด วิ ล ให้ ไ ด้ ทว่ า การที่ ริ ฟ ท์ ได้ ล งมื อ กระทำ � การเพื่ อ หยุ ด ยั้ ง วิ ล กลั บ นำ � ไปสู่ วิวฒ ั นาการระหว่างมนุษย์กบั คอมพิวเตอร์ทนี่ า่ ทึ่งที่สุดในโลก เรียกว่า “ทรานส์เซนเดนซ์” นั่น คือ การเชื่อมต่อสมองของมนุษย์รวมเป็นหนึ่ง เดียวกับคอมพิวเตอร์ จนเกิดเป็น “คอมพิวเตอร์ สมองคน” ที่อัจฉริยะที่สุดเท่าที่เคยมีมา และมี พลังความคิดรูปแบบใหม่ๆ ได้อย่างไร้ชีดจำ�กัด ซึ่ ง สำ � หรั บ ภรรยาของวิ ล อย่ า ง เอฟวลี น (รี เบคก้ า ฮอล) และเพื่ อ นร่ ว มงาน แม็ ก ซ์ วอเตอร์(พอล เบททานีย์) สิ่งสำ�คัญนั้นไม่ ใช่ คำ�ถามทีว่ า่ พวกเขาจะสามารถร่วมสร้าง ทรานส์ เซนเดนส์ ได้หรือไม่ .. แต่กลับเป็นคำ�ถามว่า พวกเขา”ควร”ทำ�มันหรือเปล่า (เข้าฉาย 17 เมษายน 2557)

ห่างหายจากจอภาพยนตร์กันไปพักใหญ่สำ�หรับ นิโคล คิดแมน ที่ปีนี้เราจะได้เห็นเธอแสดงหนัง ชีวประวัติ ใน Grace of Monaco ตอนนี้ดู เธอจาก The Railway Man ไปก่อน จากเรือ่ ง จริ ง ของการสร้ า งทางรถไฟสายมรณะใน ประเทศไทยที่ ถู ก เล่ า ผ่ า นมุ ม มองนายทหาร อั ง กฤษ นำ � แสดงโดยสองนั ก แสดงเจ้ า ของ รางวัลออสการ์ โคลิน เฟิร์ธ (The King's Speech) และ นิโคล คิดแมน (The Hours) เรือ่ งราวในช่วงระหว่างสงครามโลกครัง้ ทีส่ อง เอริก โลแม็กซ์ (โคลิน เฟิร์ธ) นายทหารยศร้อย ตรี ป ระจำ � เหล่ า สื่ อ สาร แห่ ง กองทั พ สหราช อาณาจักร ก็ถกู กองกำ�ลังญีป่ นุ่ จับตัวและถูกส่ง ไปยังค่ายเชลยในประเทศไทย ซึ่งเขาก็ต้องถูก ทรมานและถูกบังคับให้เป็นแรงงานในการสร้าง รถไฟสายมรณะ หลายปีต่อมา โลแม็กซ์ กลับมา ใช้ชวี ติ ในอังกฤษ แต่บาดแผลทางใจก็ยงั คงตาม หลอกหลอน เขาได้รับกำ�ลังใจและการสนับสนุน จาก แพทริเชีย (นิโคล คิดแมน) ภรรยาของเขา ให้เผชิญหน้ากับอดีตเพือ่ หาบทสรุปให้กบั ตัวเอง โลแม็กซ์ ตัดสินใจเดินทางกลับไปยังสถานทีท่ เี่ ขา เคยถูกคุมขัง แต่ที่นั้นเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับนา กาเซะ (ฮิโรยูกิ ซานาดะ) นายทหารญี่ปุ่นที่เคย เป็นผู้ทรมานเขา โลแม็กซ์ ต้องเจอกับทางเลือก ที่สำ�คัญของชีวิต เมื่อเขาต้องเลือกวิธีที่ดีที่สุด ใ น ก า ร ก้ า ว ข้ า ม อ ดี ต แ ล ะ ค ว า ม เ จ็ บ ป ว ด ของตัวเอง (เข้าฉาย 24 เมษายน 2557)

NEED FOR SPEED

UNDER THE SKIN

นอกจากหนั ง ซู เ ปอร์ ฮี โ ร่ ที่ ลิ ส ต์ ร ายชื่ อ กั น จะ สร้างปีต่อปียาวไปปี 2028 กันแล้ว หนังจาก เกมส์ก็ถูกหยิบมาทำ�บ่อยๆ หนังสร้างจากเกมส์ แข่งรถชือ่ ดัง โดยการนำ�มาทำ�เป็นหนังครัง้ นีเ้ ป็น เรื่องราวของนักแข่งรถชื่อโทบี้ มาร์แชล ที่ถูก ใส่ร้ายในคดีที่เขาไม่ได้ก่อ เมื่อพ้นโทษออกมา เขา ก็มาลงแข่งในการแข่งขันรถข้ามประเทศสุดโหด เพื่อจัดการแก้แค้นคนที่ ใส่ร้ายเขา ผู้ร้ายของ เรื่องที่รับบทโดยโดมินิก คูเปอร์ รู้เข้า ก็ส่งนัก ล่าหัวเงินรางวัลตามประกบเพื่อหาทางกำ�จัดโท บี้ หนังยังมีไมเคิล คีตัน, อิโมเจน พูทส์, เรมอน โรดริเกซ และไรมี่ มาเลก ร่วมแสดง (เข้าฉาย 17 เมษายน 2557)

ปีนี้แทบจะเห็นหน้า(และได้ยินเสียง) ของสาว สการ์เล็ตต์ โจแฮนสันกันทั้งปี ต้นปีมากับเสียง ใน her ต้นเดือนก็ไปช่วยกัปตันอเมริกาต่อสู้กับ เหล่ า ร้ า ยในบทแบล็ ดวี โดว์ รอบนี้เธอมาเป็น เอเลี่ยน!! หนังเรื่องนี้ดัดแปลงจากนิยายชื่อ เดียวกันของ ไมเคิล เฟเบอร์ เรื่องราวของ เอเลี่ยนในร่างมนุษย์ (รับบทโดย สการ์เล็ตต์ โจ แฮนสัน) ที่ ใช้เสน่ห์เพื่อล่อลวงผู้ชายมากินเป็น อาหาร แต่เมื่อต้องอาศัยอยู่บนโลกนานวันเข้า เรื่อยๆ เธอก็ได้ค้นพบถึง “ความรู้สึก” และ “สัมผัส” ของมนุษย์ทสี่ งิ่ มีชวี ติ นอกโลกเช่นเธอ ไม่เคยรู้สึกมาก่อน (เข้าฉาย 24 เมษายน 2557)

15

มายด์” น้ำ�ตาซึม! ซึ้งแฟนเพลงทะลักฮอลล์ ใน “1235 MILD LIVE CONCERT” ผ่านพ้นไปแล้วสำ�หรับคอนเสิร์ตที่เรียกได้ว่า มันส์สุดๆ ไปกับแสงสีเสียง และโชว์แบบจัดเต็ม เรียกเสียงฮาจาก แฟนเพลงกันแบบยกฮอลล์ สำ�หรับคอนเสิรต์ “1235 MILD LIVE CONCERT” คอนเสิรต์ ใหญ่ครัง้ แรกของ วง “มายด์”(MILD) สังกัด “สไปร์ซซี่ ดิสก์”(Spicy Disc) เมื่อคืนวันศุกร์ ที่ 4 เมษายน 2557 ณ ธันเดอร์ โดม เมืองทองธานี ถึงบรรยากาศจะร้อนแค่ไหน แต่ทั้งแฟนเพลง และสื่อมวลชนก็ยังแห่มาร่วมเป็นกำ�ลังใจให้ กับวงมายด์ แบบไม่ขาดสาย และรอบๆ งานก็ยังมีกิจกรรมให้แฟนเพลงได้ร่วมสนุกกันอย่างไม่มีเบื่ออีกด้วย เชือ่ ได้วา่ แฟนเพลงของวงมายด์จะต้องเต็มอิม่ เรียกว่าปิดฉากอย่างสวยงามจริงๆ สำ�หรับคอนเสิรต์ 1235 MILD LIVE CONCERT กับกว่า 40 บทเพลงที่วงมายด์ขนมามอบให้กับแฟนเพลงจนย้อนกลับไปถึง อัลบัม้ แรก และนีถ่ อื เป็นอีกหนึง่ ความทรงจำ�ดีๆ ทีว่ งมายด์ จะมอบให้กบั แฟนเพลงของพวกเขาทีอ่ ยูค่ อยให้กำ�ลัง ใจกันมาตลอด 10 ปี ก่อนขึ้นโชว์ วงมายด์ ได้ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงคอนเสิร์ตใหญ่ครั้งแรกของพวกเขา “สำ�หรับ วงมายด์ พวกเราเรียกคอนเสิร์ตครั้งนี้ว่า “ฝันที่เป็นจริง” เลยก็ว่าได้ครับ เพราะเราทำ�งานเพลงมาถึง 10 ปี และวันนี้... วันที่เราเดินทางมาถึงสามอัลบั้ม วันที่เรามีคอนเสิร์ตใหญ่เป็นของตัวเอง เพราะก่อนหน้านี้เราไปขึ้น โชว์ ในฐานะแขกรับเชิญในคอนเสิร์ตของศิลปินคนอื่นก็มาก วันนี้เป็นวันที่พวกเราเต็มที่กันจริงๆ ครับ กับเพลง กว่า 40 เพลง ที่พวกเราขนมาให้แฟนเพลงได้ฟังกันแบบเต็มอิ่ม รับประกันทั้งแสง สี เสียง ที่เราจัดเต็มเพื่อ แฟนเพลงของเราครับ และโชว์ของพวกเราที่รับรองว่าจะไม่เห็นที่ไหนมาก่อนอย่างแน่นอน ส่วนแขกรับเชิญ ก็ เป็นพี่ๆ น้องๆ ในวงการเพลง ที่เคยร่วมงานกันมาก่อนครับ อย่าง “สควีซ แอนนิมอล ก็เป็นวงรุ่นพี่ ในค่าย และยังมาแจมในอัลบั้ม MASTER PEACE อีกด้วยครับ และเราก็ยังมี “สิงห์เหนือ เสือใต้, Dj Leo” ในพาร์ท ของเพลงเต้นๆ มันส์ๆ ของเราด้วยครับ และสุดท้ายก็เป็นวงดนตรีที่เติบโตมาจากเชียงใหม่เหมือนกันพวกเรา “ETC” สุดท้ายนี้ พวกเราก็ขอขอบคุณแฟนเพลงทุกคนที่อยู่เป็นกำ�ลังใจให้เรามาถึงทุกวันนี้นะครับ”

16 ปีแห่งความร็อค ค่ายจีนี่ เรคคอร์ด เอาใจขาร็อคด้วยการขนศิลปินวงร็อคชั้นนำ�ของประเทศมาเปิดคอนเสิร์ตใหญ่ Genie Fest 16 ปีแห่งความร็อค ในวันที่ 10 พฤษภาคม 2557 ณ ริมทะเลสาบ เมืองทองธานี แฟนเพลงคอร็อคที่กำ�ลังอยากสัมผัสความมันส์อย่างต่อเนื่อง ต้องไม่พลาดคอนเสิร์ตใหญ่ Genie Fest 16 ปีแห่งความร็อค ของค่ายจีนี่ เรคคอร์ด ที่ขนเอาศิลปินวงร็อคชั้นนำ�ของประเทศ มาเอาใจบรรดาสา วกชาวร็อคกันถึงที่ ไม่ว่าจะเป็น Big Ass, Bodyslam, Cocktail, Instinct, KALA, Klear, No More Tear, Paradox, Pang Nakarin, Retrospect, Sweet Mullet และ The Mousses สำ�หรับใครที่อยากไปสัมผัสความมันส์ที่มีเพียงครั้งเดียวในรอบ 16 ปี อย่างคอนเสิร์ต Genie Fest 16 ปี สามารถไปซื้อบัตรที่ GMM LIVE โทร 02-669-8846 หรือที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ โทร. 02-2623456


16

ลอว์นิวส

ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 วันพุธที่ 16 - วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

DEJ-UDOM & ASSOCIATES The Law Office of Dej-Udom & Associates works through a Global International Law Firm Network and renders high-quality legal services amongst its 5,000 members in 66 countries on six continents. We are looking for dynamic, well-organized lawyers to support our clients in two fields:

Immigration & Employment Dept.

Intellectual Property Dept.

- Bachelor’s Degree in Law - Strong written and verbal English language abilities - Appropriate qualifications and/or 3-5 years of experience in Immigration & Employment Law - Proven computer proficiency is essential as is being service oriented

- Bachelor’s Degree in Law and Lawyer’s License - Strong written and verbal English language abilities - Appropriate qualifications and/or 3-5 years of experience in Intellectual Property Law - Proven computer proficiency is essential as is being service oriented

Interested candidates should send a resume (CV) and cover letter justifying their qualifications for the above positions to dej-udom@dejudom.com by April 30, 2014.

The 27th LAWASIA Conference in Thailand

The Lawyers Council of Thailand has been granted the honour to host the 27th LAWASIA Conference. The event is slated to be held on the 4-6th of October, 2014, here at Bangkok, Thailand. We cordially invite lawyers who are keen to join and assist our working committee in its duties to welcome and host participants from member nations. Please email an abridged version of your resume to paveena.1234@gmail.com no later than the 30th of April, 2014.


ลอว์นิวส์

ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 วันพุธที่ 16 - วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

17


18

ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 วันพุธที่ 16 - วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

ลอว์นิวส


ลอว์นิวส์

ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 วันพุธที่ 16 - วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

19


20

ลอว์นิวส

ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 วันพุธที่ 16 - วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

LEGAL TERMS & CONCEPTS MADE EASY Ann & Edward Thiravej Ploysongsang

SOLICITOR

BARRISTER

LEGAL EXECUTIVE

We continue our focus on the legal profession in other countries and offering comparison with the profession in Thailand. In this issue we let us consider the 3 main legal profession practitioners in the UK and Commonwealth countries. While most of us already know solicitor and barrister, the third one is legal executive. Solicitor (noun). A legal professional who consults with clients directly offering them legal advice and services, and who can even represent clients before lower courts, but not the High Court of Justice in England and Wales, which is the trial court that hears high value and high importance cases, or the Court of Session in Scotland, which also hears the same sort of cases. Solicitors can be generalists or specialists and may work in private practice or in the legal departments of larger organizations. The Law Society of England and Wales will license and regulate solicitors in those jurisdictions. Barrister (noun). Also called advocates in some jurisdictions. They are legal professionals licensed or admitted to argue cases in all courts including the superior courts. British barristers are admitted to practice by various Inns of Court. Legal Executive (noun). Legal specialists that typically work in one area of the law such as transferring property, probate work, family law and even litigation. For the most part they work like solicitors dealing with clients directly. In England and Wales the Chartered Institute of Legal Executives represents the profession. With additional training, Legal Executives can qualify as Solicitors. The British have a divided profession whereby most legal consultations are handled by solicitors whereas litigation is primarily the domain of barristers. Typically, solicitors will work with clients directly and provide instructions to barristers who will then argue cases before the courts. In other Commonwealth countries, however, such as Canada and much of Australia the legal profession is now fused and licensed law graduates can function as both solicitors and barristers just like in the United States. Of course in the UK it is possible to qualify as both a solicitor and a barrister without surrendering either qualification.

Example 1 : The solicitor instructed the barrister as to his client’s objectives and preferences as well as the overall arguments to be made in the case. The barrister, however, has professional independence as to how he should proceed with the case in court. Example 2 : In the England, Wales and Northern Ireland a prospective solicitor may enter the profession either by taking a law degree or else taking a degree in another field and then completing a Graduate Diploma in Law (GDL), which is a conversion course. This conversion course would occur before the graduate enters his or her Legal Practice Course (LPC). After one year of professional training in the LPC they would work for an additional two years under the supervision of approved legal office and successfully complete a Professional Skills Course (PSC). Afterwards they would be entered onto the roll of solicitors as kept by the Law Society of England and Wales. Example 3 : Most prospective English barristers will have a law degree and will begin their training by joining of the four Inns of Court after which they will take a Bar Vocational Course at an institution validated by the Bar Council. After an additional one year of pupilage (an apprenticeship) in a barrister’s chamber they are then qualified to practice as a barrister. Example 4 : Under the new Qualified Lawyer Transfer Scheme foreign lawyers, even those licensed to practice law in civil law countries like Thailand, can now qualify as British solicitors upon passing a series of 3 tests given in the English language. Savvy Thai lawyers studying for an LLM in the UK may do well to investigate this pathway to becoming a British solicitor thereby becoming more competitive in the profession.

Comparison to Thailand In Thailand, a lawyer may act as a solicitor and a barrister. The big difference in Thailand, however, is that the Lawyers Council of Thailand defines lawyer as someone who represents someone else in a court of law, which is essentially the same scope of work as a British barrister. Offering legal advice outside of court is technically not in the realm of the Lawyers Council of Thailand nor is it the sole prerogative of Thai lawyers. This definition contrasts with the profession in the United States where all legal work whether it is in court or outside can only be handled by licensed attorneys, or in some jurisdictions by trained paralegals. A further peculiarity at least to foreign lawyers new to Thailand is the fact that members of the Thai Bar Association are addressed as barristers-atlaw even though only those licensed by the Lawyers Council of Thailand can actually represent clients in court. Because the majority of Thai barristers-at-law aspire to judicial or prosecutorial office and in fact such qualification is mandatory for such professions, perhaps it might be more fitting to refer to them as judicial or prosecutorial candidates, or simply members of the Thai Bar Association. Many countries including the United States and Thailand do not have a separate legal arm for legal specialists though the licensed scriveners and tax specialists in Japan and the civil law notaries in Latin American countries do come to mind, and we will briefly discuss some of these professions in later editions of this column. The notarial services attorneys of Thailand are of course first and foremost members of the Lawyers Council of Thailand. Please note that the contents and views expressed in this issue are strictly those of the authors, and do not represent the views of the Lawyers Council of Thailand, its leadership or its members.


ลอว์นิวส์

ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 วันพุธที่ 16 - วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

21

CCS concludes Crisis Management Lesson from Toyota and GM: market study “It’s Our Problem the Moment We Hear About It” of airline industry As Posted by Benjamin W. Heineman, Jr., Harvard Law School Program on Corporate Governance

By Daren Shiau, Elisa Chen , Kirstie Nicholson and Kenneth Lim of Allen & Gledhill LLP On 18 March 2014, the Competition Commission of Singapore issued a media announcing that it has concluded a market study on the aviation industry in Singapore. The CCS has also released a “Summary Report on Net Economic Benefit of Joint Ventures: Market Study on the Airline Industry” on its website. The summary report was submitted by the external consultant whom the CCS had engaged in 2012 to conduct the study. The CCS selected two joint ventures involving US-Japanese carriers on trans-Pacific routes as case studies for detailed ex-post assessment in the study. According to the summary report, net economic benefit did materialize from the formation of the JVs but not from the expected source of fare reductions. The main benefit of existing JVs has been an increase in passenger numbers, both at the market level and for the carriers in the JV. In its media release, the CCS’ view was that future assessment of airline JVs should not be too reliant on reported benefits of typical airline JVs based solely on western literature. The CCS would also place a lower emphasis on a net economic benefit argument that relies heavily on fare decreases because the impact on fares has been found to differ in each JV given different strategies adopted. The CCS also cautioned that the two selected case studies are similar and hence should not generalize the findings with regard to other JVs. Reference materials The following materials are available from the CCS website www.ccs.gov. sg: - Media release - Summary Report on Net Economic Benefit of Joint Ventures: Market Study on the Airline Industry

Ben W. Heineman, Jr. is a former GE senior vice president for law and public affairs and a senior fellow at Harvard University’s schools of law and government. This post is based on an article that appeared in the Harvard Business Review online. Delay in confronting crises is deadly. Corporate leaders must have processes for learning of important safety issues. Then they must seize control immediately and lead a systematic response. Crisis management is the ultimate stress test for the CEO and other top leaders of companies. The mantra for all leaders in crisis management must be: “It is our problem the moment we hear about it. We will be judged from that instant forward for everything we do—and don’t do.” These are key lessons for leaders in all types of businesses from the front page stories about Toyota’s and GM’s separate, lengthy delays in responding promptly and fully to reports of deadly accidents possibly linked to product defects. The news focus has been on regulatory investigations and enforcement relating to each company, but the ultimate question is why the company leaders didn’t forcefully address the possible defect issues when deaths started to occur. On the recent regulatory front: - Toyota just agreed to pay $1.2 billion in a deferred prosecution agreement with DOJ and accept a safety monitor for failing to disclose to regulators—and indeed misleading them—about accelerators that became stuck on certain types of floor mats or because of certain elements in the accelerator itself. The problem of uncontrolled speeding and deadly crashes began to appear in 2007, but it took four years, and deceptive statements, before Toyota disclosed earlier understandings about the causes and recalled millions of vehicles. The company has also settled class actions and has individual suits still pending. - GM delayed from 2005, when the issue first appeared, until recently to recall 1.6 million Chevy Cobalts with an ignition defects that, under certain conditions, would turn off the engine suddenly and disable

airbags, leading to a number of crashes and at least 12 deaths. The company is now facing the prospect of multi- front investigations from Congress, the National Highway Safety Administration and the Justice Department about why and how years passed before GM addressed the issue. New GM CEO Mary Barra has personally taken over the internal investigation, oversight of litigation and the response to government entities. She has said in a video to employees: “Something went very wrong in our processes in this instance, and terrible things happened.” Although, in contrast to Toyota, GM is just at the beginning of extended regulatory and possibly enforcement actions, the delay in dealing with the ignition issue is, like Toyota’s accelerator issue, likely to be a major problem for the company in years to come. But, the deeper question is why these delays occurred in the first place. And it is on this question that business leaders should ponder whether they have robust systematic processes in place for personally leading or overseeing these threats to people and to the company. The importance of thinking seriously about this set of issues is driven home by the failure of GM to address the ignition issue, even though the example of Toyota’s delay and lack of candor on the accelerator issue was a huge international story three plus years ago. In a nutshell, CEOs and other top business leaders (with oversight of systems and processes by the board) must have a well-thought out approach to managing this type of health and safety crisis. - Preventive systems and testing should be in place to reduce the issues to an absolute minimum. - As Toyota and GM have belatedly done, the CEO should appoint a head of safety and rapid response teams to receive reports of serious harms to persons or property that may be linked to product issues. - Just as the general company ombuds system reports concerns to the top of the company about serious commercial, legal or ethical issues, the rapid response team should take any issue of potential

consequence to the CEO or other high business leaders. - Most importantly, the CEO or top business leaders should then form appropriate multi-functional teams relating to: design problems and solutions; internal personnel and processes; duties to regulators; management of litigation; a communications strategy with various constituencies; and any other relevant functions. - The CEO or top business leaders must have prompt, periodic, direct reports until there is a good understanding of the interrelated issues. Then they must make decisions on an appropriate response. On these important safety issues, the CEO should also keep the board informed. - Both during formulation of the strategy and after, the CEO or top business leadership must ensure that all communications to all constituencies must be strictly accurate. It is better to say nothing—and develop accurate facts—than to issue deceptive or incomplete statements. - Once decisions are made about strategy, the CEO must oversee implementation to make sure, as appropriate, that it is meticulously carried out, changing systems both with respect to specific issues and more broadly as necessary, dealing humanely with people injured, and communicating fully and transparently with regulators, media, and other constituents. To take these fundamental steps is to pass the stress test. And the striking examples of Toyota and GM are an occasion for companies to review whether processes are in place to ensure that they are taken in the event of such a crisis. Many commentators are speculating about whether the Toyota settlement with the Justice Department will be the template for a future GM resolution. To me, the more critical question for all companies is how expeditiously to handle these crises at the outset in order to avoid the unconscionable delay—and the searching regulatory problems that follow, as the Toyota and GM cases show. It is our problem, the moment we hear about it.


22

ลอว์นิวส

ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 วันพุธที่ 16 - วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

HOW TO PROTECT INVESMENTS IN RUSSIA AND UKRAINE T H R O U G H I N T E R N AT I O N A L ARBITATION Continued from page 24 tractual relationship with the host state and commonly provide protected foreign investors with the right to bring a claim before an independent international arbitral tribunal. Our previous newsletter has an overview of the nature of these protections. Although BITs only apply to “investments” made by foreign investors into the host state, this term is defined very broadly in most BITs to cover “every kind of asset,” including shares, concessions, debt instruments, land and moveable property. Both Russia and Ukraine have entered into BITs with a large number of countries. Russia has BITs that are in force with 51 states (including Canada, France, Germany, Italy, the Netherlands, and the UK), while Ukraine has BITs that are in force with 55 states (including Canada, France, Germany, Italy, the Netherlands, the UK, and the US). The treaties listed in brackets are particularly significant because it is common practice to structure foreign investment into countries such as Russia and Ukraine through these key jurisdictions. By way of example, although the BIT between the US and Russia is not yet in force, US businesses with investments in Russia may nevertheless be protected if they have structured their investments through one of the 51 states that have a BIT with Russia. Investors with investments in the Crimea may be protected by the terms of the BITs between Russia and the investor’s home state following Russia’s purported annexation of the Crimea, though this is likely to be a highly contentious issue. It is uncertain how an international tribunal will treat the annexation. B.Arbitration Under the Energy Charter Treaty Both Russia and Ukraine have signed the Energy Charter Treaty (ECT), which contains protections similar to those found in BITs. In particular, the ECT includes a right to international arbitration in regard to investments in the energy sector. The ECT is in force among 48 states (primarily European and Commonwealth of Independent States members). This includes Ukraine, so the ECT provides an additional layer of protection to those with investments in Ukraine’s energy sector. A claim against Russia under the ECT would be more difficult to arbitrate than a BIT claim. Russia signed the ECT in 1994, but never ratified it, so the Treaty has not for-

mally entered into force for Russia. The ECT provides, however, that its provisions must be applied provisionally pending its formal entry into force as long as the ECT’s provisions are not incompatible with the signatory state’s laws. One tribunal has already rejected Russia’s argument that there was no provisional application because of this limitation. Russia has, in any event, effectively terminated the ECT’s provisional application to it from October 18, 2009; therefore, arguably only those who had invested in the Russian energy sector prior to this date would be in a position to bring a claim. The US is not a party to the ECT. If, however, a US business has structured its investment in Russia or Ukraine through jurisdictions that have ratified the ECT, US investments in Ukraine and (potentially) Russia may be protected. C.International Commercial Arbitration Those with business interests or investments in Russia or Ukraine should also review any contractual arrangements that they have with the government of their host state or any entities owned by that government (State Contracts). Many contracts involving foreign investment in Russia and Ukraine will include clauses providing for international arbitration of disputes arising out of a breach of contract. Businesses whose contracts provide no such right should bear in mind that any applicable BIT may contain an umbrella clause, which may permit claims for breach of contract to be brought to an international arbitral tribunal. In addition, businesses should consider the effect on their liabilities if sanctions prevent them from fulfilling the obligations under their State Contracts. II.Moving Forward The availability of international arbitration, whether based on an investment treaty or a contract, can be an important means to help deter adverse government action, protect interests if such action occurs, and recover compensation if damages are inflicted. Careful advance planning and preparation is often critical to the success of such a legal strategy.

ENTERING CAMBODIA

THE

AECS

:

Continued from page 23 collect information for its parent company. A Representative Office is regarded as a cost center, should derive no income, and is not subject to Cambodian tax laws. Taxation

Under the 2004 Law on Taxation and the 2007 Law on Customs, the General Department of Taxation in the Ministry of Economy and Finance governs all of Cambodia’s tax matters. At this time, Cambodia has no Double Taxation Agreements with other countries. a) Value Added Tax (VAT) - A 10% Value Added Tax is levied on the supply of goods or services by a taxable person and the import of goods into Cambodia. b) Tax on Salary - Residents pay tax on worldwide income at a progressive rate of up to 20%. Nonresidents are taxed at a flat rate of 20% on all their income from Cambodia. c) Corporate Tax on Profits The Corporate Tax on Profit rate is 20%. It’s 30% for oil and natural gas production and the exploitation of natural resources. d) Minimum Tax - The Minimum Tax is a separate and distinct tax from the tax on profit. It’s 1% of the annual turnover inclusive of all taxes except for VAT.

ETS exemption deal rejected by Parliament’s Environment Committee By Van P. Hilderbrand, Jr. of Sullivan & Worcester LLP A deal to exempt intercontinental flights from regulation under the European Union’s Emissions Trading System (EU-ETS) until the end of 2016 failed March 19 in the European Parliament’s Environment Committee. This could be an indication of whether the proposed exemption can win enough support when the measure goes before the full EU Parliament early next month. If the measure fails, tensions may be reignited between the EU and major opponents of the inclusion of non-EU airlines, such as the United States, China, Russia, and India.

THE BOOK REVIEW Edward Ploysongsang & Simon Z. Rajan

101 THINGS I LEARNED IN LAW SCHOOL By Vibeke Norgaard Martin with Matthew Frederick (Grand Central Publishing, 2013)

Law school is known as one of the most intellectually and even emotionally challenging fields that any student can undertake. At least in American laws schools the reading assignments and level of participation expected of students undergoing the Socratic teaching method can be quite intimidating and sadly often humiliating. 101 Things I Learned in Law School helps alleviate these problems by picking important concepts that you learned or should have learned while in law school (at least the classroom portion of it sans the alcoholic drinks and social nights) and briefly discusses their complexities and subtle nuances without the often stressful and prolonged Socratic exchange. Unlike the voluminous case books and treatises read in law schools, this book contains 101 pithy entries and engaging illustrations. While the book is geared towards American law students and graduates, it should nonetheless prove insightful for Thai law students as well if for no other reason to get a different perspective and appreciation of a legal system in another country.


ลอว์นิวส์

ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 วันพุธที่ 16 - วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

23

Entering the AEC

Courtesy by Dej-Udom & Associates

CAMBODIA Cambodia has a civil law system influenced by the UN Transitional Authority, customary law, Communist legal theory, and common law. Because of its past, Cambodia’s current legal system is very young and still growing, and its 1993 constitution provides for the independence of the judiciary from the executive and the legislative branches. While legislation is the primary source of law, other sources include the Constitution, government decrees and regulations adopted under UNTAC, and human rights conventions ratified by Cambodia. The country has a three-tiered judicial system: the Municipal and Provincial Court – courts of first instance, the Appellate Court, and the Supreme Court. The Military Court handles cases related to military offences. The Supreme Court is the country’s highest court, court of final appeal, and constitutional court. It has the power of review on the other branches of government, and it has the final decision on all lower court cases. It usually only settles questions of law on appeal from the Appeal Court, and the Appeal Court hears appeals on questions of fact and law from the lower courts. The Municipal and Provincial Courts have jurisdiction over their respective territories. Domestic custom is an important part of Cambodian legal system as the Khmer tradition of conciliation that starts at the village level before moving to a court of first instance is part of the dispute resolution process. Environment for Foreigners For foreigners in Cambodia, living conditions can be inadequate especially compared to Thailand, the Philippines, or Malaysia. It is a very poor country and lacks reliable medical facilities, doctors, clinics, hospitals and medication, especially in rural areas. Except in the main tourist areas, there is little quality accommodation, few activities and little entertainment for foreigners. All foreigners wishing to live

or work in the Cambodia must comply with the country’s mild immigration and work-permit regulations. The official business language is Khmer, and English is widely spoken.Cambodia is a member state of the Organisation Internationale de la Francophonie, so French is also widely spoken and understood a) Visas All visitors to Cambodia need a visa, but some ASEAN nationalities can enter visa free. Foreigners can apply for a business visa on arrival or at a Cambodian embassy which can then be extended for one month, three months, six months or twelve months and can be a single or multiple entries. b) Work Permits After receiving a business visa, foreigners can apply for a temporary or permanent work permit. A temporary work is only valid for the approved visa’s duration, and a permanent work permit has an initial validity of two years. Investment Environment Driven by an expansion in garment manufacturing, construction, agriculture, and tourism, Cambodia’s economy grew about 10% yearly from 2004 to 2008. After a small contraction in 2009, the GDP grew over 6% in 2010 and 2011. Cambodia’s garment industry employs 5% of its total workforce and makes up 70% of its exports. Rubber exports increased about 50% in 2011, and the tourism sector continues to expand with 2.85 million visitors in 2011 – a 14% increase on 2010. a) Openness to Investment and Incentives Foreign investment in Cambodia is very open and liberal and is governed by the 1994 Law on Investment. All sectors are open to foreign investment and most allow for 100% foreign ownership. There are a few sectors subject to government condi-

tions, local equity participation and prior approval, but overall Cambodia does not discriminate against foreign investors. Cambodia grants incentives for foreign investment which include 99-year land leases for companies and individuals, no restrictions on international currency transfer and remittance, and 100% foreign ownership for most businesses. b) Banking and Foreign Exchange Under the Law on Banking and Financial Institutions, the National Bank on Cambodia is the central bank which supervises and monitors the Kingdom’s banking sector. It is one of Cambodia’s most developed sectors and made up of commercial banks, specialized banks, and microfinance institutions. At this time, there are no restrictions on the repatriation of profit or capital derived from investments made in Cambodia, nor on most transfers of funds abroad. Intellectual Property Protection Cambodia has been part of the World Intellectual Property Organization (WIPO) since 1995, is a signatory to the Paris Convention since 1998, and a World Trade Organization member since 2004. Several entities are responsible for IP Administration based on the type of IP protection needed. Trademarks are under the Department of Intellectual Property Rights (D/IPR) at the Ministry of Commerce. Patents, utility models, industrial designs, and plant varieties are under the Department of Industrial Property (DIP) at the Ministry of Industry, Mines and Energy, and copyright protection is under the Ministry of Culture and Fine Arts. Labor The Labor Code for the Kingdom of Cambodia covers all labor and employment matters in the country. Most Cambodians work in agriculture. By law, minimum wage is only set for the garment, footwear and textile in-

dustries. The minimum age of regular employment is 15, but those over 12 can do “light work” if it’s not hazardous and doesn’t affect school attendance. Types of Business Organizations a) Joint Stock Company (S.A) In a Joint Stock Company, stockholders are unknown to the public and commit only their stake, and the company is only identified by the object of its business and the amount of its business capital. b)Limited Liability Company (S.A.R.L.) With a Limited Liability Company (S.A.R.L.), shareholders are not liable beyond their contributions and not considered merchants. It is a commercial entity and subject to commercial laws and practices. Certain business types are not allowed to form this type of company. c) Sole Proprietorship Limited Company A Sole Proprietorship Limited Company only has one shareholder, but that shareholder must be a natural person and not another company. Management must be performed by the shareholder or by an individual appointed by the shareholder. d) Commercial Partnerships Société En Nom Collectif (SNC) - A CommercialPartnership joins two or more partners to carry on commercial operations under the same trade name. Each of the partners is deemed a merchant and is held liable for the debts of the partnership. e) Representative Office An eligible foreign investor can establish a Representative Office to source local goods and services and Continued on page 22


LAWNEWS

ลอว์นิวส

ปีที่ 1 ฉบับที่ 8 วันพุธที่ 16 - วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

BULLETINS

Wednesday - Wednesday , April 16 - 30 , 2014

How to protect investments in Russia and Ukraine through International Arbitration By Matthew Coleman , Patrick M. Norton, Jeffrey F. Pryce, Lucinda A. Low ,Steven K. Davidson and Helen Aldridge of Steptoe & Johnson LLP

Watch out USPTO, JPO is coming! By Orlando Lopez of Burns & Levinson LLP

bloomberg.com

Russia has threatened to retaliate against Western investors and business interests for sanctions imposed by the US, EU, and others in response to Russia’s annexation of Crimea. Russia’s response may take the form of measures ranging from outright expropriation of an investment to unilateral changes in the regulatory, royalty, pricing or tax regimes. These retaliatory measures could fundamentally undermine the economic basis on which the investment was made. Ukraine may take similar measures against foreign investments in Ukraine, particularly those perceived to be aligned to its previous administration or to Russia. Legal rules have been developed to protect foreign investors in such circumstances. Foreign investors are often able to bring their claims before an independent international arbitral tribunal, and awards rendered by those tribunals are enforceable around the world. Investors in Russia

or Ukraine should start thinking now about tools available to protect their rights (and recover their losses) in case the Russian or Ukrainian governments take adverse action against them. I.Protection of Investments in Russia and Ukraine The most significant sources of legal protections that may be of assistance to those with investments in Russia or Ukraine are bilateral and multilateral investment treaties and contracts. A.Arbitration Under a Bilateral Investment Treaty Bilateral investment treaties (BITs) require that each state that is party to them accord specified rights and protections to the nationals of the other state when those nation-

ลอว์นิวส์

als invest in its territory. “Nationals” includes corporations and individuals. The most common protections include fair and equitable treatment, full security and protection, treatment at least as good as that provided by the host state to its own nationals (national treatment), treatment at least as good as that provided by the host state to nationals of third states (most favored nation treatment), repatriation of investments and returns, no expropriation unless against prompt, adequate and effective compensation, and a promise to observe obligations with regard to investments (known as umbrella clauses). BITs provide these protections to covered investors whether Continued on page 22

The Japanese government has announced an initiative to reduce patent examination time from 2.5 years to about 14 months. When they achieve 14 months examination time, the Japanese Patent Office (JPO) will provide the shortest examination period in the world. This is part of the initiative to make Japan the world leader in intellectual property, an initiative which is being driven by the Prime Minister. The push to achieve the shortest examination time was announced by the Ministry of Economy, Trade

and Industry. The driving force behind the effort to shorten the examination time is to provide applicants the ability to launch businesses and recover investments faster. The Japanese initiative package should be compared to the U.S. initiative to provide more transparency in ownership of patents and to attack the so-called patent trolls. In view of the fact that new jobs are created by new business, and that young, high-tech companies outpace the rest of the private sector in job creation, the Japanese Patent Stimulus Package appears to have a better chance of stimulating the economy.

Inside Legal Terms & Concepts made easy : SOLICITOR, BARRISTER, LEGAL EXECUTIVE Page 20

Entering the AEC : CAMBODIA Page 23

สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เลขที่ 7/89 อาคาร 10 ถนนราชดำ�เนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทรศัพท์ 0-2280-1567

รวมข่าว เล่ากฎหมาย ให้สาระประชาชน

Free!!

ชำ�ระค่าฝากส่งเป็นรายเดือน ใบอนุญาตเลขที่ พ.211/2547 ปณ.ราชดำ�เนิน เหตุขัดข้องที่นำ�จ่ายผู้รับไม่ได้ 1. จ่าหน้าไม่ชัดเจน 2. ไม่มีเลขที่บ้านตามจ่าหน้า 3. ไม่ยอมรับ 4. ไม่มีผู้รับตามจ่าหน้า 5. ไม่มารับภายในกำ�หนด 6. เลิกกิจการ 7. ย้ายไม่ทราบที่อยู่ใหม่ 8. อื่นๆ ลงชื่อ.........................................


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.