ลอว์นิวส์
แจกฟรี
ฉบับที่ 16 16-31 สิงหาคม 2557
TIME LINE
WORLD NEWS
legal talk
issn 2350-9848
ย้อนร�ำลึกความเป็นมาวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ (หน้า 7) ท�ำไมซาอุ ฯ ห้ามแต่งงานกับเจ้าสาวทัง้ 4 ชาติ (หน้า 4) รู้จัก ประเทศเพื่อนบ้านให้มากขึน้ กับประเทศเมียนมาร์ (หน้า 12) แม่ค้าแผงลอยในยุ ค “คืนทางเท้าให้ประชาชน” ต้องปรับตัว แบบไหน (หน้า 8) ร่วมอาลัยโรบิน วิลเลี่ยมส์กับบทบาทที่เราประทับใจ (หน้า 11) อย่างไรเรียกอุ ้มบุ ญ อย่างไหนเรียกอุ ้ม บาป ถกประเด็นข้อกฎหมาย (หน้า 5) เทย์เลอร์ สวิฟต์กับการใช้ อินสตาแกรมสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ (หน้า 9)
2 EDITOR's LETTER
ตั้งแต่เกิดการรัฐประหารมาเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ ผ่านมานัน้ คณะคสช. ได้เดินทางปฏิรปู ประเทศชาติในทุก รูปแบบตลอดมา และในวันที่ 8 สิงหาคม 2557 ได้มีการ นัดสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทั้ง 197 คน โดยมีวาระการประชุมเพือ่ สรรหาประธานและรองประธาน สนช. ซึ่งสุดท้ายต�ำแหน่งว่าที่ประธาน สนช. คงเป็นใคร ไปไม่ได้นอกจาก นายพรเพชร วิชิตชลชัย และคาดว่าจะ ได้มีการเลือกตั้งต�ำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของ ประเทศไทยในช่วงระหว่างวันที่ 21-22 สิงหาคม ที่จะถึง นี้ ซึ่งก็อีกเช่นกัน กระแสของบุคคลที่จะมาเป็นนายก รัฐมนตรีในครั้งนี้ ก็คงจะไม่พ้น พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์ โอชา หัวหน้าคณะ คสช.นั่นเอง ไม่ว่าประเทศไทยเราจะ ได้ใครมาเป็นนายกรัฐมนตรี เราก็เพียงหวังให้บคุ คลทีเ่ ข้า มาด�ำรงต�ำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ ตั้งใจท�ำหน้าที่บริหาร ประเทศไทยเราอย่างจริงจัง และน�ำประเทศกลับสู่ภาวะ ปกติสุขโดยเร็วนะคะ ขอให้ก�ำลังใจช่วยทุกท่านค่ะ ข่าวด้านสังคมในตอนนี้ หลังจากที่มีข่าวฆ่า ข่มขืนเด็กกันออกมาเป็นระยะๆ ข่าวดังในช่วงนี้ที่เกี่ยวกับ เด็กคงไม่พ้นเรื่อง “อุ้มบุญ” ซึ่งกรณีการอุ้มบุญนั้น ความ จริ ง แล้ วไม่ ใช่ เรื่ อ งผิ ด กฎหมายแต่ ประการใด หากว่ า เป็นการอุม้ บุญเพือ่ ช่วยแก้ปญ ั หาให้แก่บคุ คลทีอ่ ยูใ่ นภาวะ มีบุตรยาก ท�ำการผสมเทียม โดยให้ญาติของตนเป็นคน อุ ้ ม บุ ญ แทนและไม่ ไ ด้ มี ก ารจ่ า ยเงิ น ค่ า จ้ า งกั น แต่ ใ น ปัจจุบนั นี้ กลับมีการท�ำการอุม้ บุญกันเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ข้ามชาติกนั ทีเดียว มีหญิงชาวไทยมากมายทีร่ บั จ้างชาวต่าง ชาติอุ้มบุญให้ และเมื่อคลอดเด็กแล้วชาวต่างชาติก็น�ำตัว เด็กกลับประเทศของตนไป ถ้าหากเป็นกรณีบุคคลที่มี ครอบครัวที่สมบูรณ์แต่มีบุตรยากและในประเทศของเขา เองนั้นกฎหมายไม่เปิดช่องให้กระท�ำได้ ถ้าเป็นกรณีของ
การเอาน�้ำเชื้อฝ่ายชายผสมกับไข่ของหญิงคู่สมรสของตน แต่มาจ้างให้หญิงไทยตั้งครรภ์ให้นั้น กรณีนี้ก็พอจะน่า เห็นใจและอนุโลมกันได้บา้ ง แต่มหี ลายกรณีในปัจจุบนั นี้ ท�ำกันเป็นธุรกิจทีเ่ รียกได้วา่ ถึงขัน้ “ค้ามนุษย์” เช่นในกรณี ชองชาวญี่ปุ่นที่มาจ้างหญิงไทยอุ้มบุญให้เป็นจ�ำนวน 10 คน ซึง่ คาดว่าคงไม่ใช่กรณีทอี่ ยากจะมีบตุ รเอง แต่นา่ จะเข้า ข่ายน�ำตัวเด็กไปกระท�ำการบางประการซึง่ ทางรัฐบาลไทย คงต้องเสาะหาข้อเท็จจริงกันต่อไป หรือในกรณีทชี่ ายเพศ เดียวกันมาว่าจ้างหญิงไทยให้ตั้งครรภ์ให้และน�ำเด็กกลับ ไปเลี้ยงดูเองที่ประเทศของตน ซึ่งเด็กคนนั้นจะกลายเป็น เด็กที่ไม่มีแม่ ซึ่งหากเกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นเรื่อยๆ การที่เด็ก เกิดมาโดยไม่มแี ม่นนั้ น่าจะเป็นปัญหาของสังคมต่อไปใน อนาคตเป็นอย่างมาก คงต้องเข้มงวดกวดกันและบังคับใช้ กฎหมายกันอย่างจริงจังในเรื่องนี้กันแล้วล่ะค่ะ ช่วงนี้ใครโทรศัพท์ไปขับรถไปต้องระวังให้มาก แล้วนะคะ ตอนนี้ โทรจริง จับจริง ซึ่งจริงๆ ก็เป็นความ ปลอดภัยของผู้ขับขี่และคนบนท้องถนนเองนะคะ หากเรา ขับรถอยู่ เราก็ควรใช้สมาธิอยูก่ บั การขับขีบ่ นท้องถนน การ ใช้โทรศัพท์มอื ถือ โดยเฉพาะการต้องใช้มอื เดียวขับและอีก มือหนึง่ ถือโทรศัพท์ หรือการพิมพ์ขอ้ ความลงบนโทรศัพท์ เป็นการท�ำให้สายตาเราละจากถนนในขณะขับขี่ซึ่งเป็น อันตรายอย่างยิ่งนะคะ ดังนั้น เราก็ควรจะหลีกเลี่ยงการ กระท�ำดังกล่าว แต่ก็เข้าใจว่าในโลกธุรกิจปัจจุบัน การที่ เราต้องติดต่อสือ่ สารกันได้ตลอดเวลาก็มคี วามจ�ำเป็นอย่าง ยิง่ เช่นกัน ดังนัน้ เพือ่ ความปลอดภัยและเพือ่ ความสามารถ ในการติดต่อสื่อสารได้ทันท่วงที เราสามารถใช้โทรศัพท์ ในขณะรถจอดนิ่ง หรือติดไฟแดงได้นะคะ ซึ่งในเรื่องนี้ ท่านอดีตผู้พิพากษาได้ออกมาให้ข้อมูลเช่นกันว่าสามารถ จะท�ำได้นะคะ
ส�ำหรับข่าวต่างประเทศที่เรียกได้ว่าอาจมีผล กระทบกับเราได้นั้น คงไม่พ้นเรื่องการกลับมาระบาดของ เชือ้ ไวรัสอีโบล่าหรือโรคไข้เลือดออกอีโบล่า ซึง่ ระบาดอย่าง หนักอยู่ในประเทศยูกันดา ทวีปแอฟริกา ซึ่งทุกประเทศ ในตอนนี้ต่างเฝ้าระวังและตรวจเข้มกับบุคคลที่เดินทางมา จากทวีปแอฟริกา เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อข้ามประเทศ อยู ่ ใ นช่ ว งหน้ า ฝนกั น แล้ ว เราทุ ก คนก็ ค วรระวั ง รั ก ษา สุขภาพกันให้ดีอย่าให้เจ็บไข้ได้ป่วยนะคะ หมั่นออกก�ำลัง กายสม�ำ่ เสมอ รับประทานอาหารทีม่ ปี ระโยชน์ ดืม่ น�ำ้ และ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพ ร่างกายที่แข็งแรงค่ะ
แอน พี. วรรณประทีป บรรณาธิการ
เรื่องและภาพโดย ปองกานต์ law ขุนภาษี
cartoon
“เอ” ทนายความสาวคนสวย
หืม..... ใครโทรมา
ตรู๊ดๆ
สวัสดีค่า
ได้อยู่ แล้ว เพื่อน
2. ที่ดินมีกรรมสิทธิ์ (ที่ดนิ มีโฉนด โฉนดตราจอง) ผู้ครอบครองที่ดิน มาโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของมาเกินกว่า 10 ปี ย่อมได้ กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์ เป็นสิทธิที่เกิดขึ้นทันทีโดยผลของ กฎหมาย แต่ถ้ายังไม่ได้จดทะเบียน จะมีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียน มิได้และจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ บุคคลภายนอกผู้ได้สิทธิ มาโดยเสียค่าตอบแทน และจดทะเบียนโดยสุจริตแล้วไม่ได้จ้ะ
เอ เราบีนะ เราต้องทา รายงานข้อมูลเกี่ยวกับ ที่ดินในประเทศไทยส่ง อาจารย์ แต่เรายังไม่รู้ เลยว่าที่ดนิ ในประเทศ ไทยมีกี่ประเภท T^T เอ ช่วยเราหน่อยได้มั้ย?
ที่ดินในประเทศไทยแบ่งได้เป็น 3 ประเภทนะ 1. ที่ดินสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ไม่ว่าผู้ใดจะยึดถือ ครอบครองนานเพียงใดก็ไม่อาจได้กรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครอง จะขอออกโฉนดที่ดินก็ไม่ได้ เอกชนด้วยกันก็มีสิทธิดี กว่าในระหว่างที่ตนยึด ถืออยู่เท่านั้น หากมี การนาที่ดินให้บคุ คล อื่นเช่า ก็ไม่อาจฟ้องขับไล่ได้
3. ที่ดินที่มีสิทธิครอบครอง (น.ส.3, น.ส.3.ก, ส.ค.1 หรือที่ดินที่ไม่มี เอกสารอันใดเลย) เรียกว่า ที่ดนิ มือเปล่า เมื่อเจ้าของไม่ได้ฟ้องคดี เพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครอง ภายใน 1 ปี ย่อมหมดสิทธิ ฟ้องคดีเรียกคืน ทีด ่ ิน ประเภทนี้ การที่จะขอ ออกโฉนดได้จะต้อง เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามที่กฎหมายกาหนดจ้า
ขอบคุณมากเลยน้า คิดถูก จริงๆที่โทรหาเอ
อิอิ
ยินดีจ้า
3 THE LETTER เรียน กองบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ลอว์นิวส์ เนื่องจากหนังสือพิมพ์ลอว์นิวส์ ฉบับลงวันที่ 1-15 กรกฎาคม 2557 ได้ลงภาพการ เชิญธงชาติฝรั่งเศสขึ้นสู่เสา และเชิญธงช้างของสยามลงจากเสาพร้อมกัน โดยบรรยายภาพว่า เหตุการณ์ฝรั่งเศสยึดเมืองจันทบุรี เมื่อ 3 ตุลาคม 2436 นั้น ข้าพเจ้าขอเรียนว่า ได้เห็นภาพนี้ มาหลายครั้งแล้วในหนังสือหลายฉบับของจังหวัดตราด โดยบรรยายภาพว่า เป็นเหตุการณ์พิธี มอบเมืองตราดและเกาะกงให้ฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2447 ซึ่งเป็นคนละเหตุการณ์กัน แต่เป้นเหตุเกีย่ วเนือ่ งกัน เท่าทีท่ ราบปี 2436 (ร.ศ.112) ฝรัง่ เศสจอมพาลได้นำ� เรือรบมาปิดอ่าว ไทย แล้วรุกล�ำ้ เข้ามาถึงปากน�ำ้ เจ้าพระยา ทหารสยามจึงยิงปืนจากป้อมพระจุลฯ ใส่ ได้รบั ความ เสียหาย แต่เรือฝรัง่ เศสก็สามารถแล่นไปจอดทีห่ น้าสถานทูตฝรัง่ เศสได้ แล้วมาเรียกค่าเสียหาย จากสยามทั้งที่เขาเป็นฝ่ายบุกรุก ค่าเสียหายก็เอาเงินถุงแดงของเราไปจนหมด เอาแผ่นดินริม แม่นำ�้ โขงไปอีกมากมาย แล้วยังยึดเมืองจันท์ไว้เป็น 10 ปี พอปล่อยเมืองจันท์ ก็มายึดเมืองตราด และเกาะกง (ปัจจันต์คีรีเขตต์) ไว้อีก 2 ปีกว่า กว่าองค์เหนือหัวของเราจะทรงเจรจาเอาตราด กลับมาได้ด้วยด้วยความยากล�ำบาก ก็ต้องเสีย พระตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณ ให้เขาไป อีก แต่ฝรัง่ เศสก็ไม่ได้คนื เกาะกงมาให้ คืนมาแต่ตราดพร้อมเกาะน้อยใหญ่ในทะเลตัง้ แต่แหลม ลิงลงไปถึงเกาะกูดเท่านั้น (การยึดเมืองตราดไม่ได้ยึดเต็มจังหวัดอย่างเท่าที่ปัจจุบันนี้ แต่ยึด บนบกมาแค่บา้ นละมีบในต�ำบลท่าโสม และในทะเลตัง้ แต่แหลมลิงในต�ำบลแหลมงอบลงไปถึง เกาะกูดเท่านั้น) เข้าใจว่าบนบกสูงขึ้นไปคงจะมีแต่ป่าเขาล�ำเนาไม้เท่านั้น ฝรั่งเศสจึงไม่ได้ยึด ด้วย แหลมลิงอยู่ในจังหวัดตราด (คงจะมีลิงอยู่มาก คนเดินเรือจึงเรียกว่าแหลมลิง) ส่วนแหลม สิงห์ที่มีตึกแดง คุกขี้ไก่ เป็นอ�ำเภอหนึ่งอยู่ในจังหวัดจันทบุรี ถูกฝรั่งเศสยึดและปล่อยพร้อม จันทบุรี คนนอกพื้นที่มักเข้าใจว่าแหลมลิงเป็นแหลมสิงห์เสมอ เพราะคนรุ่นใหม่ไม่ใคร่มีใคร รู้จักแหลมลิงแล้ว ปัจจุบันเรียกเป็นชื่ออื่นอยู่แถวๆ ฐานส่งก�ำลังบ�ำรุงทหารเรือตราด ต้องไปดู แผนที่เก่าๆ จึงจะพบ จึงใคร่ขอความกรุณาท่านบรรณาธิการ ช่วยสืบค้นว่าภาพการเชิญธงดัง กล่าวเป็นเหตุการณ์ครั้งใดกันแน่ เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้อ่านและอนุชนรุ่นหลังต่อไปด้วย จัก เป็นพระคุณยิ่ง การที่ ลอว์นิวส์ ได้น�ำเรื่องราวในประวัติศาสตร์ชาติไทย มาลงเผยแพร่นั้น ข้าพเจ้า เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพื่อจะได้เป็นความรู้ส�ำหรับคนที่อยู่ห่างไกลไม่มีโอกาสจะไปสืบค้นที่ไหน อนุชนคนรุ่นหลังจะได้มีโอกาสรู้จักรากเหง้าของตนเองเพิ่มขึ้นด้วย ขอขอบพระคุณผู้ที่ค้นคว้า มาน�ำเสนอทุกท่านมา ณ โอกาสนี้ด้วย ขอแสดงความนับถือ ประยูร เสมสุข
ลอว์นิวส์
เรียน คุณประยูร เสมสุข ผมขอน้อมรับค�ำแนะน�ำส�ำหรับความผิดพลาดในครั้งนี้ ทั้งนี้ เมื่อ ผมตรวจสอบจากจดหมายเหตุความทรงจ�ำสมัยฝรัง่ เศสยึดจันทบุรี ตัง้ แต่ พ.ศ. 2436 ถึง พ.ศ. 2447 ของหลวงสาครคชเขต (ประทวน สาคริกานนท์) แล้ว พบว่าเป็นภาพพิธีส่งมอบเมืองตราดให้ฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2447 ดังทีค่ ณ ุ ประยูรได้กรุณาทักท้วงไว้ โดยภาพดังกล่าวมาจากหนังสือพิมพ์ Le Petit Journal วันที่ 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1905 (พ.ศ. 2447) ส�ำหรับเกร็ดความรู้ที่คุณประยูรได้เล่ามาในจดหมายนั้น ผมได้น�ำ มาลงไว้ใน “ลอว์นวิ ส์” ฉบับนี้ เพือ่ เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยให้ผอู้ า่ นได้รบั ทราบ ถึงเรื่องราวในประวัติศาสตร์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่ สนใจในเรือ่ งราวกรณีวกิ ฤตการณ์ ร.ศ.112 และเหตุการณ์ทเี่ กิดขึน้ ต่อเนือ่ งจาก เหตุการณ์ดังกล่าว ผมขอขอบพระคุณอีกครั้งส�ำหรับค�ำติชมทั้งหลายที่คุณประยูรได้ แนะน�ำมาเป็นก�ำลังใจให้ทีมงานทุกคน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณประยูรจะ ได้กรุณาติดตามผลงานของ “ลอว์นิวส์” ต่อไป ขอแสดงความนับถือ วีรจิตต วัฒนบ�ำรุง
LAWNEWS
จัดท�ำโดยสภาทนายความในพระบรมราชู ปถัมภ์
ที่ปรึกษา นายเดชอุ ดม ไกรฤทธิ์ นายพู ลศักดิ์ บุ ญชู ผศ. ว่าที่ร้อยตรี ดร. สุรพล สินธุ นาวา นายชวน คงเพชร ดร. สุธรรม วลัยเสถียร นายสุมิตร มาศรังสรรค์, นายนิวัติ แก้วล้วน, ดร. เกียรติศกั ดิ์ วรวิทย์รัตนกุล บรรณาธิการ นางแอน พลอยส่องแสง กองบรรณาธิการ นายสุวิทย์ เชยอุ บล นายสุนทร พยัคฆ์ นายวิเชียร ชุ บไธสง นางสาวอรอนงค์ เทศะบ�ำรุ ง นายธีรศักดิ์ วิชชุ ตานนท์ นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ นายสุชาติ ชมกุล นายชลิต ขวัญแก้ว ร้อยตรีสุรศักดิ์ รอนใหม่ นายพิเชฐ คูหาทอง นายอาสา เม่นแย้ม นายผาติ หอกิิตติกุล นายวิทยา แก้วไทรหงวน นายวันรัฐ นาคสุวรรณ นายโอฬาร กุลวิจิตร นายวีรวัฒน์ จิตต์ปรุ ง นายยศกร ศรีอมร นางสุภัทธนีย์ พวงส�ำลี นางสาวฐิติพร อรุ โณทัยวิวัฒน์ นายพรชัย ภารการ นายสุวชัช ใจอิม่ นางสาวปองกานต์ ขุ นภาษี ศิลปกรรม นายฉัตรชัย ทองศักดิ์ นายสุวชัช ใจอิม่ นางสาวปองกานต์ ขุ นภาษี ส�ำนักงาน เลขที่ 7/89 อาคาร 10 ถนนราชด�ำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุ งเทพฯ 10200 โทรศัพท์ 0-2280-1567 แฟกซ์ 0-2282-9908 E-mail : lawnewslct@gmail.com Website : Lawnewslct.blogspot.com
คุณประยูรได้รับหนังสือ Lady Gigi จาก สำ�นักพิมพ์ Banlue Books ครับ ส่งความคิดเห็น คำ�ติ-ชม ที่มีต่อ นสพ. ลอว์นิวส์ ได้ที่ สภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เลขที่ 7/89 อาคาร 10 ถนนราชดำ�เนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 หรือทาง lawnewslct@gmail.com
4 WORLD NEWS
รัฐมิสซู รีเดินหน้า ประหารชีวิตนักโทษ
ไมโครซอฟท์ฟ้องซัมซุ ง เรียกค่าตอบแทนสิทธิบัตร
สะพัด! ซาอุ ฯ สัง่ แบน ห้ามแต่งหญิง 4 ชาติ
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม นายไมเคิล เวิร์ธทิงตัน นักโทษในรัฐ มิสซูรีถูกลงโทษประหารชีวิตด้วยการฉีดยาพิษ ในข้อหา ข่มขืนและฆ่านางสาวเมลินดา กริฟฟิน เพือ่ นบ้านวัย 24 ปี ของเขาในเมืองเซนต์หลุยส์เมื่อปี 2538 นับเป็นการฉีดยา พิ ษ ประหารครั้ ง แรกในสหรั ฐ ตั้ ง แต่ ก ารประหารในรั ฐ แอริโซนาแล้วเกิดความผิดพลาดเมื่อเดือนที่แล้ว ส�ำนักทัณฑสถานรัฐมิสซูรีแถลงว่า การประหาร ชีวติ นายไมเคิล เวิรธ์ ทิงตันได้เริม่ ต้นขึน้ ในเวลา 00.01 ของ วันพุธที่ 6 สิงหาคม และได้รับการประกาศว่าเสียชีวิตใน อีก 10 นาทีต่อมา เขาเป็นนักโทษรัฐมิสซูรีรายที่ 7 ที่ถูก ประหารชีวิตในปีนี้ การประหารชีวิตนายเวิร์ธทิงตันนี้ นับเป็นการ ประหารชีวิตด้วยการฉีดยาพิษเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เกิด กรณีที่มีการฉีดยาพิษแก่นายโจเซฟ วู้ด นักโทษประหาร ชีวิตในรัฐเอริโซน่า เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่าน แล้วเกิด ความผิดพลาด เป็นเหตุให้นายวู้ดได้รับความทุกข์ทรมาน ก่อนเสียชีวิตเป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง ทั้งๆ ที่นักโทษ ประหารควรจะเสียชีวิตภายใน 10 นาทีนับตั้งแต่เมื่อได้รับ ยาพิษเข้าสู่ร่างกาย โดยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาศาลสูงสุดของสหรัฐ และผู้ว่าการรัฐมิสซูรีปฏิเสธที่จะคัดค้านการประหาร นายเวิ ร ์ ธ ทิ ง ตั น วั ย 43 ปี ยื น ยั น ในการให้ สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กบั ส�ำนักข่าวเอพีวา่ เขายอมรับชะตา กรรมของเขา การประหารชีวิตนายเวิรธ์ทิงตัน ท�ำให้รัฐมิสซูรี มีการประหารนักโทษไปแล้ว 76 ราย นับตั้งแต่ปี 2519 ซึ่ง มากเป็นอันดับ 5 ของสหรัฐอเมริกา รองจากรัฐเท็กซัส (511 ราย) รัฐโอกลาโฮม่า (111 ราย) รัฐเวอร์จิเนีย (110 ราย) และรัฐฟลอริดา (88 ราย) ภาพ : www.time.com
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม บริษัทไมโครซอฟท์ออกแถลงการณ์ ระบุเรื่องการยื่นค�ำฟ้องร้องผ่านศาลรัฐบาลกลางสหรัฐ ในนครนิวยอร์ก ขอให้มีการด�ำเนินคดีทางกฎหมายกับ บริษทั ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ของเกาหลีใต้ กรณีปฏิเสธช�ำระ ค่าตอบแทนการใช้สิทธิรายปี จากการใช้ร่วมใช้สิทธิบัตร หลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ซึ่ง ไมโครซอฟท์เป็นผู้ถือครอง หลังเริ่มใช้ข้อตกลงมา 2 ปี เนื้อหาในถ้อยแถลงระบุด้วยว่า นอกจากซัมซุง แล้ว ยังมีบริษัทอีกกว่า 25 แห่ง ที่มีข้อตกลงเรื่องค่า ตอบแทนการใช้สิทธิรายปีร่วมกับไมโครซอฟท์ ในจ�ำนวน นี้รวมทั้งเอเซอร์ และแซดทีอี คิดเป็นเกือบ 80% ของ สมาร์ทโฟนรองรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ทั้งหมดที่ วางจ�ำหน่ายในสหรัฐ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญประเมินการเรียก เก็บค่าตอบแทนการใช้สิทธิรายปีสร้างรายได้ให้กับไมโคร ซอฟท์ปีละเกือบ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 66,000 ล้านบาท ) ตามรายงานของนิตยสารวอลสตรีทเปิดเผยว่า ไมโครซอฟท์ได้ถอื สิทธิบตั รร่วมกับซัมซุงตัง้ แต่ปี 2554 ด้วย ข้อตกลงที่ว่าด้วยการใช้ระบบปฏิบัติการ Android ซึ่งทาง ซัมซุงจะจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์ให้กับไมโครซอฟท์เมื่อผลิต โทรศัพท์มือถือที่ใช้ Android แต่ซัมซุงได้ตัดสินใจหยุด ปฏิบัติการท�ำตามสัญญาเมื่อเดือนกันยายน 2556 โดยน�ำ เรื่องการซื้อขายธุรกิจโทรศัพท์มือถือของโนเกียมาเป็นข้อ กล่าวอ้าง พร้อมให้เหตุผลเสริมว่าไมโครซอฟท์ไม่ปฏิบัติ ตามข้อตกลงที่ระบุไว้ในสัญญา ทางด้านนายเดวิด โฮวาร์ด รองที่ปรึกษาทั่วไป ของไมโครซอฟท์ได้เขียนข้อมูลในบล็อกส่วนตัวว่า หลังจาก ทีไ่ มโครซอฟท์ได้กา้ วขึน้ มาเป็นหนึง่ ในผูน้ ำ� ในตลาดสมาร์ท โฟน ส่งผลให้ซมั ซุงตัดสินใจเมือ่ ปลายปีทแี่ ล้วเพือ่ หยุดการ ปฏิบัติตามข้อตกลงกับไมโครซอฟท์ ขณะเดียวกันโฆษกหญิงของซัมซุงกล่าวหลังได้รบั ข้ อ มู ล เรื่ อ งการฟ้ อ งร้ อ งครั้ ง นี้ ว ่ า จะเริ่ ม ตรวจสอบราย ละเอียดในการฟ้องร้องในครั้งนี้เพื่อก�ำหนดมาตรการที่ เหมาะสมต่อเรื่องดังกล่าว
เมื่ อ วั น ที่ 5 สิ ง หาคม หนั ง สื อ พิ ม พ์ ห ลายฉบั บ ใน ซาอุดอี าระเบียตีพมิ พ์ขา่ วรัฐบาลออกกฎใหม่ ห้ามผูช้ ายชาว ซาอุดีอาระเบีย แต่งงานกับผู้หญิงจาก 4 ประเทศ ได้แก่ บังกลาเทศ ปากีสถาน พม่า และชาด ถือเป็นส่วนหนึ่งของ การเพิ่ ม ความเข้ ม งวดในข้ อ ห้ า มสมรสกั บ ชาวต่ า งชาติ ซึ่งปัจจุบันมีบุคคลถือสัญชาติ 4 ประเทศนี้อาศัยอยู่ใน ซาอุดีอาระเบียเกินกว่า 500,000 คน ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผล ของการออกกฎห้ามของทางการ นอกจากนี้ ยังมีการออกกฎหมายใหม่ให้จ�ำกัด การสมรสกับหญิงชาวโมร็อกโก ภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวด คือฝ่ายชายต้องไม่มีประวัติอาชญากรรมมาก่อน และต้อง ไม่เป็นโรคติดต่อร้ายแรง ส่วนฝ่ายหญิงชาวโมร็อกโกก็ต้อง ได้รับการตรวจก่อนว่าไม่ใช่ผู้ติดยาเสพติด และเหตุผลที่จะ ท�ำให้สมรสกันได้ก็คือ ภรรยาคนก่อนหน้านี้มีอาการเจ็บ ป่ ว ยอย่ า งรุ น แรง พิ ก าร หรื อ เป็ น หมั น โดยชายชาว ซาอุดีอาระเบียจะต้องได้รับความยินยอมจากภรรยาคน ก่อนด้วย จึงจะสามารถสมรสกับหญิงชาวโมร็อกโกได้ ทัง้ นี้ จะต้ อ งยื่ น ค� ำ ร้ อ งขอก่ อ นการสมรสต่ อ รั ฐ บาลเพื่ อ ให้ พิ จ ารณาว่ า จะอนุ มั ติ ใ ห้ ช ายนั้ น แต่ ง งานกั บ หญิ ง ชาว โมร็อกโกหรือไม่ นอกจากนั้น ทางการซาอุฯ ยังเพิ่มข้อจ�ำกัดใน การสมรสของชายชาวซาอุฯ กับหญิงต่างชาติ ซึ่งต้องยื่นขอ อนุญาตจากเจ้าหน้าที่ทางการก่อน และต้องมีอายุมากกว่า 25 ปีขึ้นไป หากเป็นผู้ชายที่เพิ่งหย่าร้าง ต้องรออย่างน้อย 6 เดือน จึงจะสามารถยืน่ ขออนุมตั กิ ารแต่งงานจากทางการ ได้ หรือหากชายใดแต่งงานแล้ว ต้องการหญิงต่างชาติเป็น ภรรยาคนที่ 2 จะต้องยืน่ แสดงหลักฐานพิสจู น์ตอ่ เจ้าหน้าที่ ว่า ภรรยาคนแรกป่วยเป็นมะเร็ง พิการ หรือไม่สามารถมี บุตรได้ ซาอุดอี าระเบียอนุญาตให้ผชู้ ายสามารถมีภรรยา ได้ 4 คน ตามหลักของศาสนา ปัจจุบันชาวต่างชาติใน ซาอุดีอาระเบียมีประมาณ 30 % ของประชากรทั้งประเทศ กว่า 27 ล้านคน
ภาพ www.arip.co.th
ภาพ www.shariahfinancewatch.org
5
Photo : www.nationalturk.com
อุ้มบุญ? อุ้มบาป? ชั่งใจอยู่นานว่าจะใช้ค�ำว่า “อุ้ม บุญ” ตามที่เขาเรียกการรับตั้งครรภ์แทน หญิงอื่นดีไหม? เพราะดูเหมือนว่าสิ่งที่เกิด ขึน้ นัน้ ไม่ทำ� ให้ได้บญ ุ ขึน้ มาเลย แต่เพือ่ ความ สะดวกและง่ายต่อการท�ำความเข้าใจของผู้ อ่ า น ก็ เ ห็ น จะต้ อ งจ� ำ ใจใช้ ค� ำ นี้ ไ ปก่ อ น จนกว่าราชบัณฑิตจะบัญญัตศิ ัพท์ค�ำใหม่ขึ้น มาใช้แทน เมื่อช่วงปลายเดือน ก.ค. ถึงต้น เดือน ส.ค. ที่ผ่านมา มีข่าวที่โด่งดังในไทย และกลายเป็นข่าวใหญ่ระดับโลกไปเสียแล้ว กับกรณีการอุ้มบุญของหญิงไทยรายหนึ่งที่ ตั้งครรภ์แทนคู่สามีภรรยาชาวออสเตรเลีย ซึ่งต่อมาปรากฏว่าหญิงไทยรายนั้นได้ให้ ก�ำเนิดทารกแฝดชายหญิง แต่คู่สามีภรรยา ชาวออสเตรเลียรับเฉพาะทารกหญิงไปเลีย้ ง ดูทอี่ อสเตรเลีย โดยทิง้ ทารกชายซึง่ มีอาการ พิการทางสติปัญญา (ดาวน์ซินโดรม) ไว้กับ หญิงไทยที่รับอุ้มบุญ ทันทีที่ข่าวแพร่สะพัดออกมา ก็ สร้างกระแสความไม่พอใจไปทั่วทั้งประเทศ ร้อนถึงนายกรัฐมนตรีของออสเตรเลียต้อง ออกมาแถลงประณามกรณีดังกล่าว และดู เหมือนว่า ณ ขณะนี้ ก็ยงั คงมีขอ้ เท็จจริงออก มาเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ จนยากที่จะทราบได้ว่า เรื่องใดคือเรื่องจริง และเรื่องใดคือเรื่องเท็จ คงต้ อ งรอให้ เชอร์ ล็ อ ก โฮล์ ม ออกมา คลี่คลายแล้วกระมัง แต่แล้ว ก็มีอีกประเด็นโผล่ขึ้นมา ว่า ชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง วัย 24 ปี ตัดสินใจ อุม้ บุญเด็กทารกนับสิบคน ซึง่ ก�ำลังเป็นทีถ่ ก เถียงกันว่า ชายคนนี้ต้องการเอาตัวเด็กๆ จ�ำนวนมากมายขนาดนั้นไปเพื่ออะไร บาง กระแสก็ว่าจะเอาไปเป็นทายาทเพื่อจะจ่าย ภาษี ม รดกน้ อ ยลง บ้ า งก็ ว ่ า จะเอาไปค้ า อวัยวะมนุษย์ บ้างก็ว่าเป็นคนรักเด็ก แต่ แท้ จ ริ ง แล้ ว เขาก็ แ ค่ อ าจจะอยากมี ที ม ฟุตบอลเป็นของตัวเองโดนไม่ต้องบินไปซื้อ หุ้นล่ะสิ นอกจากปัญหาทางด้านศีลธรรม ทีย่ งั มีการถกเถียงกันไม่จบไม่สนิ้ แต่ในด้าน ของกฎหมายก็ ยั ง มี ป ระเด็ น ที่ จ ะต้ อ ง พิจารณาตามมาอีกมากมาย พอจะสรุปไล่ เรียงได้ดังนี้ 1. กฎหมายครอบครัว ที่แต่ไหน แต่ไรมาเราก็กำ� หนดไว้วา่ “เด็กเกิดจากหญิง ใด ก็ยอ่ มเป็นบุตรของหญิงนัน้ ” ซึง่ เป็นเรือ่ ง ทีเ่ ข้าใจกันโดยทัว่ ไป แต่พอถึงปี 2551 ก็เกิด การแก้ไขเล็กน้อยว่า “เว้นแต่จะบัญญัติไว้ เป็นอย่างอืน่ ” เพือ่ เปิดช่องให้แม่ทมี่ าจ้างแม่ อุม้ บุญได้เป็นแม่ทชี่ อบด้วยกฎหมายของเด็ก นั้น แต่อย่างไรก็ดี ตอนนี้ร่างกฎหมายอุ้ม บุญก็ยังคงเป็นเพียงร่างที่ คสช. เตรียมเข็น เข้า สนช. ให้พิจารณากัน เร็วๆ นี้เราก็จะได้ เห็นแล้วว่า สนช. จะเป็นแม่อุ้มบุญที่ถือ ตรายางโอ.เค.เซย์เยส หรือจะเป็นคนท�ำแท้ง
ร่างกฎหมายฉบับนี้ 2. กฎหมายสัญญา เนื่องจากการ จ้างให้ตั้งท้องแทน เป็นการจ้างที่หวังผล ส�ำเร็จของการตั้งครรภ์ (คือ ตัวเด็กทารก) โดยไม่ค�ำนึงถึงระยะเวลา จึงเป็นการท�ำ สั ญ ญาจ้ า งท� ำ ของ ซึ่ ง ความสมบู ร ณ์ ข อง
ประกาศแพทยสภาฉบับที่ 21/2545 เรื่อง มาตรฐานการให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยี ช่วยการเจริญพันธุ์ (ฉบับที่ 2) โดยก�ำหนด เงื่อนไขไว้ว่า การอุ้มบุญนั้นจะต้องไม่มีการ จ่ายค่าตอบแทนแก่หญิงที่ตั้งครรภ์แทนใน ลั ก ษณะที่ อ าจท� ำ ให้ เข้ า ใจได้ ว ่ า เป็ น การ
สั ญ ญาจ้ า งผลิ ต เด็ ก นี้ จ ะต้ อ งอยู ่ ภ ายใต้ กฎหมายเรือ่ งสัญญา โดยเฉพาะอย่างยิง่ ใน เรื่อง “วัตถุประสงค์” ว่าเป็นการขัดต่อศีล ธรรมอั น ดี ข องประชาชนหรือ ไม่? ถ้า ขัด สัญญาจ้างตั้งท้องแทนก็เป็นโมฆะ ปัญหาที่ ตามมาคื อ แล้ ว จะจั ด การกั บ เด็ ก ในท้ อ ง อย่างไร ปล่อยให้แม่อุ้มบุญตั้งท้องต่อไป หรือจะต้อง “ก�ำจัดตัวอ่อน” หรือเมื่อสินค้า นัน้ ได้เกิดมามีชวี ติ แล้ว ใครควรจะมีสทิ ธิ อีก ทั้ ง “ของ” ที่ ท� ำ ตามสั ญ ญา หากไม่ ไ ด้ คุณภาพหรือมาตรฐานตรงตามที่ก�ำหนด เจ้าของสเปิร์มและไข่มีสิทธิบอกปัดไม่รับ “ของ” นั้นได้หรือไม่ 3. กฎหมายป้ อ งกั น และปราบ ปรามการค้ามนุษย์ เนื่องจากการธุรกิจผลิต เด็กนี้ จะต้องมีการจ่ายเงินเป็นค่าตอบแทน ซึ่ ง มี ลั ก ษณะเป็ น การแสวงหาประโยชน์ ตอบแทนจากเด็กทีก่ ำ� ลังจะเกิดขึน้ มานัน้ แม้ กฎหมายจะให้นิยามค�ำว่า “เด็ก” หมายถึง บุคคลที่อายุไม่เกิน 18 ปี และระหว่างที่เด็ก อยู ่ ใ นท้ อ ง จะยั ง ไม่ มี ส ภาพบุ ค คล แต่ วัตถุประสงค์สุดท้ายของการอุ้มบุญก็คือเด็ก ทีค่ ลอดแล้วอยูร่ อดเป็นทารก ทีส่ ภาพบุคคล แล้วต่างหาก ก็เป็นประเด็นทีน่ า่ พิจารณาว่า จะมีความผิดตามกฎหมายนีห้ รือไม่ และควร จะแก้ ไขกฎหมายให้ นิ ย ามค� ำ ว่ า “เด็ ก ” หมายความรวมถึง “ตัวอ่อนที่อยู่ในครรภ์ มารดา” ด้วยหรือไม่ นอกจากนี้ ทางแพทยสภาได้ออก
รับจ้างตั้งครรภ์ และหญิงที่ตั้งครรภ์แทน จะ ต้องเป็นญาติโดยสายเลือดของคู่สมรส ฝ่าย ใดฝ่ายหนึ่ง ซึ่งจากข้อเท็จจริงที่ได้จากข่าวนี้ มีการจ่ายค่าตอบแทนให้แก่หญิงสาวคนไทย ที่รับอุ้มบุญนี้อย่างชัดเจน และหญิงไทยคน นี้ก็มิใช่ญาติโกโหติกาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งของคู่ สามีภรรยาชาวออสเตรเลีย การอุ้มบุญใน คราวนี้ ฝ่ า ฝื น ประกาศแพทยสภาอย่ า ง ชัดเจน ซึ่งแพทย์ที่เป็นผู้ด�ำเนินการขั้นตอน อุ้มบุญก็จะมีความผิด อาจถึงขั้นเพิกถอนใบ ประกอบวิชาชีพแพทย์ แต่แพทย์บางรายก็ ไม่แคร์ ที่ร้ายไปกว่านั้น มีโรงพยาบาล เอกชนบางแห่งเปิดรับธุรกิจอุ้มบุญอย่าง ชัดเจน แต่เลือกใช้ถ้อยค�ำที่เป็นการแฝง โฆษณาไว้ไม่ให้โจ่งแจ้งจนเกินงาม ทั้งบน ป้ายที่ติดไว้ แผ่นพับ หรือหน้าเว็บไซต์ เพื่อ สร้างเกราะป้องกันตนเองว่า โรงพยาบาลไม่ ได้เป็นผู้เชิญชวนให้อุ้มบุญ แต่ผู้อ่านเกิด ความสนใจจึ ง เข้ า มาสอบถามและให้ โรง พยาบาลด� ำ เนิ น การให้ หรื อ ไม่ ก็ อ ้ า งว่ า เป็นการให้ความรู้เท่านั้น ไม่ได้โฆษณาสัก หน่อย เนียนไหมล่ะ? อันที่จริง ประเด็นเรื่องธุรกิจอุ้ม บุญในประเทศไทยนี้ เป็นที่รับรู้กันว่าหาก ชาวต่างชาติต้องการจะหาใครสักคนมา อุ้ม บุญให้ หญิงไทยก็จะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ หากจะเรียกให้ทันสมัย ก็อาจจะบอกได้ว่า ไทยเป็น “ฮับ” (Hub) ของธุรกิจอุ้มบุญตาม
LAWGIC
นโยบายของอดีตรัฐบาลทีผ่ า่ นมาหลายๆ ชุด ที่พยายามผลักดันให้ไทยเป็นฮับของการ แพทย์ในอาเซียน ซึ่งแม้การรับจ้างอุ้ม บุญจะเป็นธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ขัดต่อความ สงบเรี ย บร้ อ ยและศี ล ธรรมอั น ดี ข อง ประชาชน แต่กส็ ามารถพบเห็นได้ไม่ยาก แค่ ค้นหาค�ำว่า “อุ้มบุญ” ในกูเกิ้ล ก็จะเจอ ประกาศรับสมัครหญิงอุ้มบุญ ก�ำหนดอายุ สุขภาพ กรุป๊ เลือด สีผวิ การศึกษา ภูมลิ ำ� เนา และรายละเอียดอื่นๆ ยิบย่อยยิ่งกว่าการท�ำ ประกันชีวิต และมีการประกาศให้ค่าจ้าง หลักแสน เพือ่ ล่อตาล่อใจให้มาตัง้ ครรภ์แทน โดยจะมีเงินเดือนให้และจ่ายเงินพิเศษเป็น ระยะๆ ตั้งแต่ฝังตัวอ่อน ครบ 3 เดือน 6 เดือน จนกระทั่งคลอด ในมุมของคุณแม่อุ้มบุญ (คนที่ตั้ง ท้อง) ก็อาจจะมองว่างานนีเ้ ป็นงานทีไ่ ม่ยาก แค่เข้าบ้านนักล่าฝันไป 3 เดือน เพื่อคอย ระวังไม่ให้ไข่ที่ได้รับการผสมแล้ว ได้รับ การกระทบกระเทือนจากกิจกรรมในชีวิต ประจ�ำวัน ที่อาจท�ำให้แท้งและอดได้เงินค่า จ้าง หลังจากนั้น ก็ยังด�ำเนินชีวิตได้ตาม ประสาคนท้องทั่วๆ ไป แต่ต้องคอยระวัง “เงินแสน” ที่อยู่ในท้องไว้ให้ดี ซึ่งเมื่อถึงวัน คลอด ก็เป็นอันยุติหน้าที่ พักฟื้นร่างกาย 6 เดือน แล้วก็ไปหาเอเย่นต์เพื่ออุ้มบุญต่อไป ส่วนคูส่ ามีภรรยา (เจ้าของสเปิรม์ และไข่) ก็มีหน้าที่แค่จ่ายเงินให้ครบตาม ก�ำหนด แล้วก็มาถามไถ่สารทุกข์สุขดิบของ คุณแม่อุ้มบุญบ้างเป็นครั้งคราว ซึ่งก็อาจจะ มีทิปเงินให้เล็กน้อย เพื่อบ�ำรุงลูกตัวเองใน ท้องคนอื่นให้แข็งแรง แล้วก็รอเวลาให้ครบ 9 เดื อ นเพื่ อ รั บ สิ น ค้ า ที่ ผ ลิ ต ออกมาเสร็ จ เรียบร้อย โดยไม่ต้องเปลืองแรง แต่อาจจะ เปลืองเงินไปบ้าง แน่นอนครับว่าความผูกพันด้วย ตั ว เงิ น ย่ อ มไม่ ส นิ ท แน่ น แฟ้ น เท่ า ความ ผูกพันทางสายเลือด การจ้างให้คนอื่นตั้ง ครรภ์ให้ ก็ไม่ต่างจากการจ้างผลิตสินค้าขึ้น มาสักชิ้นหนึ่ง แล้วมันสมควรหรือไม่ ที่เรา จะลดทอนคุ ณ ค่ า และศั ก ดิ์ ศ รี ค วามเป็ น มนุษย์ ให้เหลือเพียงแค่สินค้าชิ้นหนึ่งที่ใคร ใคร่ ผ ลิ ต ผลิ ต ใครใคร่ ซื้ อ ซื้ อ ก็ ส ามารถ กระท�ำได้ เพียงแค่มีเงินมากพอที่จะจ้างให้ ตั้งท้องแทน ผู้เขียนไม่ได้ต่อต้านการตั้งครรภ์ แทนญาติ ทีไ่ ด้กระท�ำโดยชอบด้วยกฎหมาย เพราะเราเข้าใจในความแตกต่างทางร่างกาย ที่ ส ามี ภ รรยาบางคู ่ มี ค วามบกพร่ อ งบาง ประการทีไ่ ม่อาจให้กำ� เนิดบุตรได้ แต่ผเู้ ขียน ไม่ เ ห็ น ด้ ว ยอย่ า งยิ่ ง ที่ จ ะปล่ อ ยให้ มี ก าร ด� ำ เนิ น ธุ ร กิ จ ผลิ ต มนุ ษ ย์ เ ช่ น นี้ ต ่ อ ไป เพราะจะท�ำให้ผู้ผลิตมองว่าชีวิตมนุษย์เป็น เพียงสินค้าเท่านั้น ซึ่งทัศนคติเช่นนี้ จะก่อ ให้ เ กิ ด ปั ญ หาอื่ น ๆ ตามมาอี ก มากมาย /-Abc นิรานาม
6 WOMEN's RIGHT
misscovery
กฎหมายครอบครัว กับสิทธิและหน้าที่ของหญิงไทย : ทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา ตอน “สินสมรส” ตอนที่ 3
คราวที่แล้วได้กล่าวไปถึงหลัก ของการจัดการสินสมรสแล้วว่าสามีภริยา ต้องจัดการร่วมกัน แต่มีข้อยกเว้นให้ฝ่าย ใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้จัดการสินสมรสแต่ฝ่าย เดียวโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมก็ได้ แต่ มิ ไ ด้ ห มายความว่ า จะเป็ น การตั ด อ�ำนาจจัดการสินสมรสเด็ดขาดทีเดียว อีก ฝ่ า ยยั ง คงมี อ� ำ นาจจั ด การบ้ า นเรื อ นที่ อาศัยร่วมกันหรือจัดหาสิ่งจ�ำเป็นส�ำหรับ ครอบครัว ซึ่งค่าใช้จ่ายจากการจัดการนี้ จะผูกพันสินสมรสและสินส่วนตัวของคู่ สมรส (ป.พ.พ. มาตรา 1482) ตามทีก่ ล่าวแล้วว่า การก�ำหนด ให้ฝ่ายใดจัดการสินสมรส มิได้เป็นการ ตัดอ�ำนาจอีกฝ่ายเด็ดขาด หากฝ่ายที่มี อ�ำนาจจัดการสินสมรสจะกระท�ำ หรือ ก�ำลังกระท�ำการใดในการจัดการสินสมรส ถ้าอีกฝ่ายเห็นว่าจะเกิดความเสียหาย ก็ สามารถร้องขอให้ศาลสั่งห้ามกระท�ำการ นัน้ ได้ (ป.พ.พ. มาตรา 1483) ถ้าเป็นกรณี จัดการไปเรียบร้อยแล้ว และการจัดการ สินสมรสนั้นเสียหายถึงขนาด ก็มีมาตรา 1484 อนุ 1 ให้สทิ ธิอกี ฝ่ายขอให้ตนจัดการ แทนหรือขอให้แยกสินสมรสได้ อย่ า งไรเรี ย กว่ า เสี ย หายถึ ง ขนาด ขอให้ดูตัวอย่างจากค�ำพิพากษา ฎี ก าที่ 3392/2548 “จ� ำ เลยเป็ น ฝ่ า ย จัดการสินสมรส แต่จ�ำเลยมอบอ�ำนาจให้ สหกรณ์ออมทรัพย์รับเงินค่าตอบแทน พิเศษ เงินชดเชย เงินโบนัสและเงินได้อื่น ที่ จ� ำ เลยมี สิ ท ธิ ไ ด้ รั บ จากการไฟฟ้ า นครหลวง รวมทัง้ เงินค่าหุน้ ของจ�ำเลยใน สหกรณ์ออมทรัพย์ช�ำระหนี้จ�ำนองโดย โจทก์มิได้รู้เห็นหรือให้สัตยาบันในหนี้ จ�ำนองส่วนนี้ และสหกรณ์ออมทรัพย์ได้ รับเงินค่าหุ้นของจ�ำเลย 186,000 บาท และรั บ เงิ น จากการไฟฟ้ า นครหลวง 300,000 บาท รวมเป็นเงิน 486,000 บาท น�ำมาช�ำระหนี้จ�ำนองของจ�ำเลยบางส่วน แล้ว จ�ำเลยยังได้รบั เงิน 564,825 บาท ไป จากการไฟฟ้านครหลวงอีกด้วย ซึ่งเงิน
จ� ำ นวนหลั ง นี้ จ� ำ เลยได้ น� ำ ไปใช้ เ พื่ อ ประโยชน์ของจ�ำเลยฝ่ายเดียว โดยโจทก์ และบุตรมิได้รับการช่วยเหลือเลี้ยงดูจาก จ� ำ เลย คงเหลื อ เงิ น สิ น สมรสอยู ่ เ พี ย ง 1,221,340 บาท ถือได้ว่าเป็นการจัดการ สิ น สมรสเป็ น ที่ เ สี ย หายถึ ง ขนาด และ ท�ำความเสียหายให้แก่สินสมรส รวมทั้ง ไม่น�ำเงินสินสมรสนั้นมาอุปการะเลี้ยงดู โจทก์ด้วย โจทก์จึงมีเหตุสมควรร้องขอให้ แยกสินสมรสได้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1484 (1) (2) (5)” ซึ่งค�ำพิพากษาฉบับนี้ ได้กล่าวถึง มาตรา 1484 อนุ 5 ในเรื่อง พฤติการณ์ที่ท�ำความหายนะแก่สินสมรส ด้วย เหตุฟ้องขอแยกสินสมรส หรือ ขอให้ ต นเป็ น ผู ้ จั ด การสิ น สมรส ตาม มาตรา 1484 ยังมีอีก 3 ข้อ คือ หากฝ่าย ผู้มีอ�ำนาจจัดการสินสมรส ไม่อุปการะ เลีย้ งดูอกี ฝ่าย หรือมีหนีส้ นิ ล้นพ้นตัว หรือ ท�ำหนี้เกินกึ่งหนึ่งของสินสมรส หรือขัด ขวางการจัดการสินสมรสของอีกฝ่ายโดย ไม่มีเหตุอันควร ดังนี้ เป็นเหตุให้อีกฝ่าย สามารถฟ้องขอแยกสินสมรสหรือขอให้ ตนเป็นผู้จัดการสินสมรสเสียเองได้ ทั้งนี้ แม้จะไม่มีเหตุที่กล่าวมา แล้วข้างต้น คู่สมรสฝ่ายที่ไม่มีอ�ำนาจ จัดการสินสมรสก็สามารถร้องขอต่อศาล เพื่อให้ตนเป็นผู้จัดการสินสมรสเฉพาะ อย่ า ง หรื อ เข้ า ร่ ว มจั ด การสินสมรสได้ (ป.พ.พ. มาตรา 1485) แต่พึงเข้าใจไว้ว่า หากมิได้มสี ญ ั ญาก่อนสมรส หรือข้อตกลง ใดๆ ไว้แล้ว การจัดการสินสมรสนั้นสามี ภริยาต้องจัดการร่วมกัน ขอทิ้งท้ายไว้นิดหนึ่งว่า “สามี หรือภริยาไม่มอี ำ� นาจท�ำพินยั กรรมยกสิน สมรสเกินกว่าส่วนของตนให้แก่บุคคลใด ได้” ซึ่งเป็นไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 1481 /-แอน พี. วรรณประทีป และ ยศกร ศรี อมร ภาพประกอบจาก www.affairyevents.com/
คุณแม่บานฉ�ำ่ ดิฉันแต่งงาน และมีลูกเร็วที่สุดในรุ่น เรียกได้ว่าเป็น ดิไอดอลของบรรดาเพื่อน สาว และนับว่าโชคดีมบี ญ ุ หนุนน�ำ ตอนแต่งงาน และตัง้ ท้องลูกคนแรกนีไ่ ล่ตามหลังเจ้านาย คนใกล้ชิดไปติดๆ แบบได้เห็นได้รับทราบทุกขั้นตอนตั้งแต่เตรียมงาน จัดงาน ฮันนีมูน ตั้ง ท้อง ให้นม ฉีดวัคซีน ฯลฯ เรียกได้ว่าวีไอพีติดขอบเวทีกันเลย เรื่องที่ต้องก้มกราบงามๆ ขอบพระคุณนางเป็นพิเศษ คือเรื่องให้นมบุตร นางสวย นางขยัน นางจอมวางแผน เนี้ยบ เป๊ะทุกกระเบียด และยังสามารถท�ำให้เรารูส้ กึ ว่างานให้นมบุตรนีไ่ ม่ยากเลย การแบกกระเป๋า ปั๊มนม จัดของจัดเวลาในแต่ละวัน นางท�ำให้ดูโดยไม่ต้องสอน นางยื่นหนังสือของคุณหมอ คนดัง และแค่ย�้ำว่านมแม่ดีที่สุด ทุกวันนี้ลูกชายคนโตดิฉันยังได้รับแบ่งนมแม่จากน้องอยู่ เลย ถ้าไม่มีนาง นมสต๊อกคงไม่เต็มตู้แบบวันนี้ และพอตัวเองท้องไม่นาน แก็งค์คุณนายของกลุ่มสามีก็ท้องตามๆกันมาอีกหลาย คน รู้สึกอบอุ่นอบอวลไปด้วยคุณแม่มือใหม่ แบบเราฝ่าฟันไปด้วยกัน you jump, I jump นะโรส เราแบ่งปันประสบการณ์ ถามกันตลอดเวลา ทั้งโภชนาการ พัฒนาการ เคล็ดลับ เทคนิค 108 ค�ำถาม และถามกันได้ 24 ชม. จะตื่นตี 3 มาปั๊มนม ตี 5 ให้นม หรืองอนพี่ เลีย้ ง น้อยใจสามี ก็ระบายบ่นก่นด่าให้กำ� ลังใจกันได้หมด ด้วยความทีเ่ ลีย้ งลูกเอง เราก็นอยด์ ไปได้ทุกอย่างแหละ แต่คุณแม่กัลยาณมิตรเหล่านี้ช่วยชีวิตไว้แทบทุกวิกฤตการณ์ หากเจ้ๆ แกไม่รคู้ ำ� ตอบ พวกนางก็จะไปพลิกแผ่นดินกูเกิล้ หรือสาวยาวไปตามเน็ตเวิรค์ กิง้ หาค�ำตอบ มาให้จงได้ เข้าใจห้องชานเรือนพันทิป เพจนมแม่ กลุม่ แม่บา้ นหัตถกรรม ยันไปจนถึงสมาคม แม่บ้านทหารบก คือ ผู้หญิงเรานี่มันจ�ำเป็นจริงๆค่ะ เรื่องอื่นๆ เรายังตั้งกลุ่มกันเป็น กิจจะลักษณะ ยิ่งเรื่องมีลูกนี่เราต้องการค�ำแนะน�ำแบบอินไซด์ มันเหลื่อมล�้ำกันทุกสัดส่วน ตัง้ แต่เรือ่ งสุขภาพ ความสัมพันธ์ ยันไปจนถึงเศรษฐกิจครอบครัว ฉะนัน้ ถ้าคิดจะมีลกู แนะน�ำ ให้มีพร้อมเพื่อน นัดกันท�ำ นัดกันท้อง หรือเริ่มสร้างเครือข่ายอาณาจักรอันดีงามนี้ไว้แต่ เนิ่นๆ เพราะเราจะวนเวียนอยู่ด้วยกันไปจนลูกโต ลูกรับปริญญา ลูกแต่งงานไปมีลูกอีกที มันเป็นมิตรภาพทีเ่ ลยผ่านช่วงวัยรุน่ วัยทีแ่ ข่งกันสวย แข่งกันเก่ง แข่งกันหาสามี(ในอนาคต) แต่มันเป็นวัยของคุณแม่บานฉ�่ำ เราสะพรั่งในแบบของเรา สวยแบบมีลูกกระเตงกันคนสอง คน เม้าท์กันไปอุ้มลูกไปป้อนข้าวลูกไป มันงดงาม อบอุ่น อธิบายไม่ได้จริงๆ รักเธอทุกนาง คุณนายบานฉ�่ำของฉัน /- Bewtyfulmom
7 TIMELINE
วัน
วิทยาศาสตร์ แห่งชาติ
สังคมไทยในอดีตเป็นสังคมที่ผูกพันอยู ่กับไสยศาสตร์มานับร้อยปี จนกระทัง่ ถึง ปั จจุ บันที่มีให้พบเห็นบ้างในบางส่วนของสังคม จุ ดเปลี่ยนที่ส�ำคัญที่ท�ำให้สังคมไทยเปิ ด รับวิทยาศาสตร์มากขึน้ เกิดจากการน�ำวิทยาศาสตร์เข้ามาสู่สังคมไทยด้วยพระปรีชา สามารถของพระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่งที่เป็นที่ประจักษ์ แก่ชาติตะวันตกในพระนาม “คิงมงกุฎ” โดยมีเหตุการณ์สำ� คัญคือการพยากรณ์การเกิดสุรยิ ุ ปราคาทีห่ ว้ากอ ทีแ่ สดง ให้เห็นถึงความสนพระราชหฤทัยในด้านดาราศาสตร์ ดังจะได้เล่าถึงเหตุการณ์ต่อไปนี้
จากบนลงล่าง 1. พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้า อยู ่หัวและคณะผู ้ร่วมสังเกตการณ์ ณ ค่ายหลวงที่ต�ำบลหว้ากอ (ซ้ าย) 2. ภาพขณะเกิ ด ปรากฏการณ์ สุรยิ ุ ปราคาเต็มดวงทีห่ ว้ากอ บันทึก โดยนายจิตร (ภายหลังได้รบั เลือ่ นขึน้ เป็ นหลวงอั ค นี น ฤมิ ต ร) (ขวา) 3. หอชัช วาลเวี ย งชัย ในปั จ จุ บั น 4. เส้นทางสุริยุปราคาเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2411 5 . อุ ท ย า น วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ พระจอมเกล้า ณ หว้ากอ จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์
ม ห ก ร ร ม วิ ท ย า ศ า ส ต ร ์ แ ล ะ เทคโนโลยีแห่งชาติ ทีจ่ ดั ขึน้ ในเดือน สิ ง หาคมของทุ ก ปี ปี นี้ ไ ปจั ด ที่ เชี ย งใหม่ ตั้ ง แต่ วั น ที่ 12-28 สิงหาคม 2557 ที่ ศูนย์ประชุมและ แสดงสิ น ค้ า นานาชาติ จั ง หวั ด เชียงใหม่
13 ส.ค. 2402 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้า อยู่หัว ทอดพระเนตรจันทรุปราคา ซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่ เสด็จพระราชด�ำเนินไปชมวัดที่เมืองนครศรีธรรมราช 2403 พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างหอดูดาวไว้ บนพระราชวังพระนครคีรี (เขาวัง) จังหวัดเพชรบุรี พระราชทานนามว่ า “หอชั ช วาลเวี ย งชั ย ” หรื อ “กระโจมแก้ว” 2409 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรง ค�ำนวณและพยากรณ์ไว้ว่า ปีมะโรง พ.ศ. 2411 วัน อังคาร ขึ้น 1 ค�่ำ เดือน 10 จะเกิดปรากฏการณ์ สุรยิ ปุ ราคามืดหมดดวง โดยคราสจะเริม่ จับ ณ เวลา 10 นาฬิกา 4 นาที และคราสจะจับเต็มดวงเมื่อเวลา 11 นาฬิกา 36 นาที 20 วินาที โดยคราสเต็มดวงเป็นเวลา 6 นาที 45 วินาที ซึ่งพระองค์พยากรณ์ว่าจะเห็นได้ชัด ที่ต�ำบลหว้ากอ เมืองประจวบคิรีขันธ์ 7 ส.ค. 2411 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้า อยูห่ วั เสด็จพระราชด�ำเนินโดยเรือพระทีน่ งั่ อรรคราชวร เดช ออกจากท่ า นิ เ วศวรดิ ษ ฐ น� ำ ขบวนเสด็ จ พระราชด�ำเนินโดยทางชลมารคไปยังต�ำบลหว้ากอ เมืองประจวบคีรีขันธ์ รวมทั้งสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ โดยทรงเชิญแขกต่างประเทศ ได้แก่ เซอร์ แฮรี ออด เจ้าเมืองสิงคโปร์ มิสเตอร์อาลาบาส เดอร์ เอกอัครราชทูตอังกฤษประจ�ำประเทศไทย หมอ บรัดเลย์ มิชชันนารีชาวอเมริกัน คณะนักดาราศาสตร์ ชาวฝรั่งเศส คณะผู้โดยเสด็จฯ ฝ่ายไทยจ�ำนวนมาก 8 ส.ค. 2411 เสด็จพระราชด�ำเนินถึงค่ายหลวง ที่ต�ำบลหว้ากอ ซึ่งเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ เป็นแม่กอง สร้างไว้ล่วงหน้าแล้ว 18 ส.ค. 2411 เวลา 11 นาฬิกา 36 นาที 20 วินาที เกิ ด สุ ริ ยุ ป ราคาเต็ ม ดวง ซึ่ ง เกิ ด ขึ้ น เร็ ว กว่ า ที่ นั ก วิทยาศาสตร์ชาวตะวันตกค�ำนวณไว้ 2 วินาที กินระยะ
เวลานาน 6 นาที 45 วินาที ตรงตามได้ทรงท�ำนายไว้ ทุกประการ เหตุการณ์สุริยุปราคาในครั้งนี้จึงได้ชื่อว่า “อุปราคาของกษัตริยส์ ยาม” (King of Siam’s eclipse) 19 ส.ค. 2411 เสด็จพระราชด�ำเนินกลับ 21 ส.ค. 2411 เสด็จพระราชด�ำเนินถึงพระบรม มหาราชวั ง และมี พ ระบรมราชโองการให้ ท� ำ จดหมายเหตุเหตุการณ์นี้ไว้ด้วย 14 เม.ย. 2525 คณะรัฐมนตรีมมี ติเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็น “พระบิดา แห่งวิทยาศาสตร์ไทย” และมีมติให้วันที่ 18 สิงหาคม เป็นวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ 18 ส.ค. 2527 มี ก า ร จั ด ง า น “ สั ป ด า ห ์ วิทยาศาสตร์” ขึ้นเป็นครั้งแรก ระหว่างวันที่ 18-24 สิงหาคม โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการ พลังงาน เป็นผู้รับผิดชอบในการจัดงาน 3 ก.ย. 2528 คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้กระทรวง วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงาน ด�ำเนินการ จัดงาน “สัปดาห์วทิ ยาศาสตร์แห่งชาติ” เป็นประจ�ำทุก ปี ระหว่างวันที่ 18-24 สิงหาคม 2532 คณะรัฐมนตรีมมี ติให้จดั ตัง้ โครงการอุทยาน วิทยาศาสตร์ ในบริเวณที่ตั้งของค่ายหลวงที่พระบาท สมเด็ จ พระจอมเกล้ า เจ้ า อยู ่ หั ว เคยเสด็ จ มาทอด พระเนตรสุ ริ ยุ ป ราคา ซึ่ ง ต่ อ มา พระบาทสมเด็ จ พระเจ้าอยู่ พราชทานนามโครงการนี้ว่า “อุทยาน วิ ท ยาศาสตร์ พ ระจอมเกล้ า ณ หว้ า กอ จั ง หวั ด ประจวบคีรีขันธ์” 2547 องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ประกาศยกย่องให้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นบุคคล ส�ำคัญของโลก เพื่อเฉลิมฉลองวันคล้ายวันพระราช สมภพครบ 200 ปี /-วีรจิตต วัฒนบ�ำรุ ง
8 anatomy of
แม่ค้าแผงลอย
เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่อยู ่คู่สังคมไทยมาช้ านาน และ สามารถพบเห็นได้ทุกที่ โดยเฉพาะอย่างยิง่ บน ทางเท้าที่เปรียบเสมือนท�ำเลทอง ที่ต่างก็รีบ แย่งจับจองพืน้ ที่กันอุ ตลุด ไม่ว่าทางเท้าจะ กว้างหรือแคบแค่ไหนก็ไม่สนใจ แม้ว่าจะเป็น การเบียดเบียนพืน้ ที่สัญจรของคนเดินบน ทางเท้าที่แคบอยู ่แล้ว กลับเจอคนใจแคบ ยิง่ กว่า เบียดบังพืน้ ที่สัญจรไป จนต้อง หู ลงมาเดินบนพืน้ ถนน ให้รถยนต์และรถ ไวต่อเสียงเรียก มอเตอร์ไซค์เฉี่ยวก้นกันเล่นๆ เป็นการ ของลูกค้าเสมอ ยกเว้นเสียงต่อราคา กระตุ้นให้ตื่นตัวอยู ่เสมอ จะได้ไม่ง่วง นอนขณะเดินทางไปท�ำงาน
ส่วนแม่ค้าแผงลอยที่เช่าพื้นที่หน้าอาคาร ต่างๆ ที่อยู่ริมถนน บางรายก็จะแอบรุกล�้ำทางเดิน บ้างเล็กน้อย นัยว่าเช่าพื้นที่ได้มากขึ้นในราคาเดิม แต่ก็ หน้า อาจจะลืมไปว่า พื้นที่ที่เพิ่มขึ้นมานั้น ก็แลกมาด้วยความ หนาเป็นบางคน เสี่ยงของคนเดิน เพราะทนต่อเสียงด่า ของคนเดิ นทางเท้าได้ บนทางเท้า ไม่ต่างจาก ร้านที่ตั้งแผง บนทางเท้าเลย พฤติกรรมของแม่ค้าบางราย ถึงขนาดปักหลักชุมนุมขายของ ยืดเยื้อด้วยการท�ำสัญลักษณ์หรือวางแผงขายจองที่ไว้ทั้งวันทั้ง คืน เรียกได้ว่ากีดขวางทางเท้า 24 ชั่วโมง แบบไม่แยแสใคร ราวกับเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่เป็นมรดกตกทอดมาหลายชั่วอายุคน ไม่ว่าจะเอาเทศกิจ ต�ำรวจ ค�ำสั่งศาล หรือข้าวสารเสกมาไล่ยัง ไงก็ไม่ไป แต่พอเห็น “ผู้การแต้ม” เดินมาเท่านั้นแหละ เผ่น กันป่าราบ เก็บแผงกันแทบจะไม่ทัน นอกจากนี้ พื้นที่แผงขายของบางแผงยังถือว่าเป็น เขตแดนศักดิ์สิทธ์ อนุญาตเฉพาะผู้ที่จะซื้อเข้ามาได้เท่านั้น ใครเข้ามาแล้วไม่ซื้อ จะมีมาตรการตั้งแต่เบาไปหาหนักตั้งแต่ จิกกัดด้วยสายตา พูดจาเสียดสี เริ่มมีน�้ำโหนิดๆ ก่อนจะแผลง ฤทธิ์ลงไม้ลงมือ ดังนั้น เราขอแนะน�ำว่า ให้บรรดาแม่ค้าทุก ท่านติดป้ายไว้ที่แผงเลยว่า “ไม่ซื้อ ห้ามถาม ห้ามแวะ ห้ามคุย ห้ามต่อ และห้ามเถียง!” เพื่อเป็นการเตือนผุ้ที่จะมาซื้อของล่วง หน้า แม่ค้าบางคนยังท�ำเหมือนว่าร้านค้าของตัวเองเป็น รายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง ที่ชีวิตของผู้เข้าแข่งขันถ้าไม่ ประสบพบปัญหาชนิดที่เป็นดราม่า ก็ไม่มีโอกาสเข้ารอบ ก็เลย เอาชีวิตรันทดของตัวเองมาเป็นจุดขาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผัวทิ้ง เมียหนีตามชู้ ลูกติดยา พ่อตาพิการ ฯลฯ เพื่อเรียกร้องความ สนใจจากลูกค้าให้เลือกซื้อสิ่งของ ซึ่งแม้จะเรียกเรตติ้งยอดขาย ได้ในระยะแรกๆ แต่เมื่อคนที่จะช่วยหมดก�ำลัง จุดขายนั้นก็ เป็นอันใช้ไม่ได้อีกต่อไป แต่คงไม่ต้องถึงขั้นเอาคนมาโชว์เพ้นต์ สีด้วยหน้าอกเพื่อเรียกลูกค้านะครับ เดี๋ยวจะโด่งดังในโลก ออนไลน์แบบไม่รู้ตัว เรื่องชีวิตรันทดอีกเรื่องหนึ่งที่มักจะน�ำมาเป็นจุดขาย ก็คือ “ความยากจน” แต่วันไหนเราลองไปรอแม่ค้าบางราย เก็บแผงสิครับ จะเห็นแม่ค้าขับรถเก๋งสี่ล้อ ยี่ห้อหรู มาจอดขน ของกลับบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แม่ค้าแผงลอยแถวๆ ย่าน ใจกลางเมืองนั่นแหละ มีหลายแผงเลย
สมอง
ค�ำนวณตัวเลขได้ ไว ทัง้ ราคาสินค้า เงิน ทอน ค่าแชร์ และค่า หวย!
ปาก
มีไว้เปล่งเสียงดัง 18 หลอด โดยเฉพาะ เวลาด่าคน
ขา
อวัยวะส�ำหรับ การวัดยอดขาย วันที่ ขายดีจะไม่ได้นงั่ วันที่ ได้นงั่ จะขายไม่ดี
นอกจากนี้ เรื่องอายุของแม่ค้าก็เป็นเรื่อง ส�ำคัญที่สามารถสร้างรายได้ด้วยความน่าสงสาร แต่ หารู้ไม่ว่าแม่ค้าแผงลอยนั้น ยิ่งอายุมากเท่าไหร่ ยิ่ง เขี้ยวลากดินมากขึ้นเท่านั้น อย่าหวังว่าจะได้ส่วนลด หรือของแถมใดๆ ทั้งสิ้น บางครั้งยังอาจจะต้องซื้อของ ในราคาที่แพงขึ้นแบบไม่รู้ตัวด้วย แนะน�ำให้ซื้อของ จากแม่ค้าที่มีอายุไล่เลี่ยกันที่สามารถคุยเล่นได้ ด้วยดีกว่า ยังพอจะมีลุ้นได้ส่วนลดบ้าง โดยไม่ต้อง รอโปรโมชั่น 10 แถม 1 และก็เป็นเรื่องที่น่าแปลกประหลาดอยู่ว่า ร้านค้าแผงลอยเถื่อนที่ตั้งขายของบนทางเท้าโดย ไม่ต้องจ่ายค่าเช่า กลับขายของในราคาที่สูสีหรือ แพงกว่าร้านค้าเช่าพื้นที่ ทั้งๆ ที่ตนเองไม่ต้องเสีย ค่าเช่าสักบาท อาศัยแค่อวัยวะบางอย่างที่หนากว่า คนอื่นเท่านั้น ซึ่งก็มักจะอ้างว่าต้องจ่ายค่า คุ้มครองให้แก่เจ้าของพื้นที่ ก็ในเมื่อค่าคุ้มครองนั้น แม่ค้าจ่ายไปเพื่อคุ้มครองตนเองให้ท�ำผิดกฎหมายต่อ ไปได้ แล้วท�ำไมต้อง มาเก็บกับ ลูกค้าด้วย ล่ะ ในเมื่อ ลูกค้าไม่ได้
ต้องการความคุม้ ครองอะไรจากเจ้าถิน่ แถวนัน้ ซึง่ ก็แน่นอน ว่าหากแม่คา้ ไม่ทำ� ผิดกฎหมาย ก็ไม่ตอ้ งกังวลว่าจะถูกจับกุม เมือ่ ไหร่ จะถูกยกแผงไปตอนไหน จะมีใครมาถล่มร้านหรือ ไม่ ดังนั้น การที่แม่ค้าเปิดแผงขายต่อไปก็ย่อมเป็นการ สมัครใจรับเอาความเสีย่ งเหล่านัน้ แต่กลายเป็นว่าคนทีต่ อ้ ง รับผิดชอบค่าใช้จา่ ยเหล่านัน้ กลับเป็นลูกค้า มันสมควรแล้ว หรือ? พูดถึงเทศกิจแล้ว ชาวบ้านที่ไม่ใช่พ่อค้าแม่ค้า แผงลอยอย่างเราๆ ก็คาดหวังว่าจะเป็นผูท้ เี่ ข้ามาจัดระเบียบ ในสังคมได้ แต่กลายเป็นว่าเทศกิจบางคนและพ่อค้าแม่คา้ แผงลอยกลับพูดจากันด้วย “ภาษาเฉพาะ” ที่มีแต่พวกเขา ทีเ่ ข้าใจตรงกัน จะมากจะน้อยก็ขนึ้ อยูก่ บั แต่ละแผงแต่ละคน ท�ำให้เมื่อเทศกิจคนนั้นลงพื้นที่ ก็จะไม่พบสิ่งผิดปกติอะไร เลย ยกเว้นแผงที่ไม่ได้คุยด้วยภาษาเดียวกับเขานั่นแหละ ถึงจะโดนอุ้มแผงยกรถเข็นขึ้นรถเทศกิจไป ไม่ว่าแม่ค้าจะ โอดครวญยังไงก็ตาม แม้ คสช. จะได้ทยอยไล่จดั ระเบียบไล่รอื้ แผงลอย กันไปหลายจุดแล้ว แต่ก็กลายเป็นการจัดระเบียบแบบลิง หลอกเจ้า เห็นได้ชัดจากพื้นที่ถนนราชด�ำเนิน บริเวณหน้า ร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ ที่บรรดาพ่อค้าแม่ค้าบางรายก็ยัง เข็นรถหรือหาบของมาขายเหมือนเดิม แต่เมื่อเห็นรถหรือ ได้ยินเสียงประกาศจากรถเทศกิจ ก็จะเข็นรถเข้าซอยแถว นั้นไป พอลับหลังรถเทศกิจแล้วก็จะเข็นออกมาขายกันอีก เหมือนเดิม ฝากบิ๊กตู่และผู้การแต้มช่วยจัดการให้ด้วยครับ /-ศิรบาท ภาพประกอบ : Potae_xo
9 bingewatch
Taylor Swift กับการใช้ Instagram เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตของแฟนคลับตัวน้อยๆ ในยุคการสือ่ สารไร้พรมแดน คงไม่แปลกนัก ถ้าจะเปรียบเปรยว่าช่องทาง Social ต่างๆ เช่น Instagram และ Twitter เปรียบได้ เหมื อ นกั บ จดหมาย และแน่ น อนว่ า ผู ้ ใช้ หลายคนก็ใช้สื่อต่างๆ เหล่านี้เอาไว้ติดต่อ สื่อสารกับศิลปินคนโปรด โดยบางครั้งหาก โชคดี คนดังก็อาจจะตอบ, retweet หรือ favourite ข้อความของคุณ หรือกด Like รูปภาพของคุณ แต่แน่นอนว่าด้วยความเป็น คนดัง ก็ย่อมมี Followers เป็นจ�ำนวน มหาศาล และแน่นอนว่าข้อความที่ได้รับก็ มากมาย โอกาสทีไ่ ด้รบั การตอบกลับจึงอาจ น้อยนิด ซึง่ เมือ่ Taylor Swift เริม่ ตอบกลับ แฟนใน Instagram จึงเป็นเรื่องราวที่ค่อน ข้างน่าตืน่ เต้นและประทับใจ โดย Taylor เริม่ คอมเมนต์ Instagram แฟนๆมาเป็นเวลา กว่า 3 เดือนแล้ว และแน่นอนว่าข้อความที่ เธอตอบบ่งบอกว่าเธออ่านแต่ละโพสจริงๆ ดังเช่น โพสของ Hannah @sherbetswift “ถึง Taylor มีผู้ชายคนหนึ่ง เขา คนนั้นเป็นคนที่สุภาพ อ่อนหวาน มีเสน่ห์
และท�ำให้ฉันหัวเราะเสมอๆ เขาคนนั้นจะ กล่าวขอโทษ หากกินอะไรต่อหน้าฉัน และ พบว่าฉันไม่ได้กินอาหารเช้า เขาคนนั้นอยู่ บ้านตรงข้าม เขาคนนัน้ เล่นกีตาร์เหมือนกับ ฉัน และเป็นเพื่อนสนิทคนแรกของฉัน และ ผู้ชายคนนี้เคยเรียกฉันว่าเป็นแฟน เพราะ ฉันคือเพื่อนผู้หญิงของเขา และผู้ชายคนนี้ก็ เป็นคนที่ฉันตกหลุมรักมาตลอดแต่เขาไม่มี วันที่จะรักฉันตอบ เพราะว่าเขามีแฟนซึ่งเขา รักอย่างเต็มเปี่ยม และเธอคนนั้นก็สวย หุ่น ดี และดีกับฉันมาก ฉันควรจะท�ำอย่างไรดี ได้โปรดให้ค�ำแนะน�ำกับฉันด้วย” Taylor ก็ได้คอมเม้นท์โพสของ Hannah “Hannah หนูมีดวงตาที่งดงาม มาก เหมือนดวงตาของเด็กน้อยไร้เดียงสา ส�ำหรับเรือ่ งผูช้ ายคนนัน้ ฉันคิดว่าเราทุกคน มักจะคิดว่ารักทีเ่ ป็นรักแท้คอื รักทีจ่ ะคงอยูไ่ ป ชั่วตราบกัลปาวสาน แต่เมื่อเราตกอยู่ใน สถานการณ์บาดเจ็บจากความรัก สิ่งแรกที่ คนอืน่ มักจะถามคือ พวกคุณคบกันนานเท่า ไหร่ ราวกับว่าบาดแผลดังกล่าวขึ้นอยู่กับ
ระยะเวลาที่เราสองคนรู้จัก ฉันไม่คิดว่าค�ำ กล่าวแบบนั้นมันจริงนะ ฉันคิดว่าความรัก แบบไม่มีเงื่อนไขเป็นสิ่งที่คงทนมากกว่าอื่น ใด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในกรณีนี้ อย่าลืมว่า หนูได้มอบความรักแบบไม่มีเงื่อนไขให้กับ เขา และแน่ น อนว่ า มั น เป็ น ความรั ก ที่ สวยงามและบริสุทธิ์ และความรักแบบไม่มี เงื่อนไขก็ไม่ได้หมายความว่าหนูอยากจะ ครอบครองเป็นเจ้าของ และฉันก็หวังว่าหนู จะได้พบคนทีร่ กั หนูในแบบทีห่ นูรกั เช่นกัน” นอกจากการปรึกษาปัญหาความ รักแล้ว ในบางครั้งเด็กๆบางคนก็ปรึกษา เรือ่ งการเข้าสังคม เนือ่ งจากพวกเธอถูกกลัน่ แกล้ง ดังเช่น Zoe @TaylorSwift_Zoe “ถึง Taylor วันนี้ฉันพบเรื่องแย่ๆ ที่โรงเรียน ฉันถูกกลั่นแกล้ง ถูกหัวเราะเยาะ ถูกถากถางว่าฉันโง่งี่เง่า ฉันไม่รู้ว่าจะทนกับ เรื่ อ งแบบนี้ ไ ด้ อี ก นานเท่ า ไหร่ แต่ ต ้ อ ง ขอบคุณเพลงของคุณทีช่ ว่ ยท�ำให้ฉนั ยืนหยัด ต่อสู้กับเรื่องพวกนี้ไปได้ ขอบคุณที่คุณแต่ง เพลงดีๆซึ่งช่วยบรรเทาเยียวยาบาดแผลใน จิตใจที่บอบช�้ำของฉัน ขอบคุณจริงๆ”
โดย Taylor ได้ตอบ Zoe ว่า “สาวน้อย ฉันเคยอยู่จุดเดียวกับ เธอ ในบางครัง้ คนเราก็ทำ� ร้ายผูอ้ นื่ เพียงเพือ่ จะท�ำให้ตวั เองรูส้ กึ ดี เธอเป็นคนอ่อนไหว ซึง่ นัน่ เป็นเรือ่ งดี แต่บางครัง้ เราต้องเรียนรูท้ จี่ ะ ปล่อยผ่าน ไม่คดิ ท�ำเป็นไม่ได้ยนิ ค�ำพูดแย่ๆ ที่มีเจตนาจะท�ำให้เราเจ็บปวด และเมื่อเวลา ผ่านไปเธอก็จะควบคุมความรู้สึกของเธอได้ ฉันรู้ว่ามันยาก และฉันก็ไม่สามารถท�ำให้ เด็ ก พวกนั้ น เลิ ก แกล้ ง เธอได้ แต่ เราจะ พยายามไปด้วยกัน ฉันรู้ว่าเธอท�ำได้” และหากสงสัยว่า Taylor Swift เป็นคนใช้ account instagram เองหรือไม่ ทาง The Washington Post ได้ติดต่อไป ทางโฆษกของ Taylor และพบว่า Taylor เป็น คนควบคุมและใช้งาน Social Media ต่างๆ ด้วยตัวเอง และจากเรื่องราวน่ารักๆนี้จึงไม่ น่าแปลกใจที่ Taylor Swift เป็นศิลปินทีเ่ ป็น ที่รักของแฟนคลับ และไม่หยุดยั้งที่จะครอง ใจมหาชนเพิม่ มากขึน้ ร้อยเท่าทวีคณ ู /-Bo
Taylor Swift & 5 Songs About Her Exes นอกจากจะโด่งดังจากบทเพลงและความน่ารักเป็นกันเองกับบรรดาแฟนคลับแล้ว อีกสิง่ หนึ่งที่ Taylor Swift มักถูกจับตามอง คือ ชีวิต รัก เช่ นเดียวกับศิลปิ นทัว่ ไปที่นำ� เรือ่ งราวในชีวติ ของตัวเองกลัน่ กรองออกมาเป็นบทเพลง เธอได้นำ� ประสบการณ์ความรักในแต่ละครัง้ ออก มาถ่ายทอด มาดูกันว่า 5 เพลงที่โด่งดังของเธอได้แรงบันดาลใจจากความรักครัง้ ไหนบ้าง
1. Joe Jonas Joe Jonas บอกเลิกกับ Taylor Swift ผ่านทางโทรศัพท์ โดยใช้ เวลาในการบอกเลิก 27 วินาที และรักครัง้ นีไ้ ด้กลัน่ กรองออกมา เป็ น เพลง Last Kiss และ Forever and Always
2. Taylor Lautner เพลง Back to December เป็น เพลงที่แต่งขึ้นเพื่อขอโทษชาย หนุ่มผิวแทน ยิ้มหวาน ที่เธอท�ำ ตัวแย่ๆไม่ดีใส่ แน่นอนว่าหนุ่ม คนนั้นคือ Taylor Lautner
3. John Mayer แทบจะไม่ต้องเดาว่าเพลง Dear John Taylor Swift แต่งถึงใคร ในเมื่อชื่อเพลงใส่ชื่อมาซะขนาด นี้ ขาดแต่เพียงนามสกุล โดยเนือ้ เพลงกล่าวว่า John ไม่คดิ ว่าเธอ เด็กเกินไปหน่อยทีจ่ ะเล่นเกมกับ เขาเหรอ
4. Conor Kennedy ในรายการของ Ryan Seacrest Taylor ได้ให้สัมภาษณ์ว่าเพลง Begin Again เป็นเพลงที่เธอ แต่งขึ้นเพื่อหมายถึงการเริ่มต้น ใหม่หลังจากความสัมพันธ์กับ Conor Kennedy
5. Jake Gyllenhal Taylor Swift ได้ให้สมั ภาษณ์กบั NPR ว่าเพลง The Last Time เป็นเพลงเกี่ยวกับผู้ชายคนหนึ่ง ที่เขาไม่แน่นอน และท�ำให้เธอ ไม่มั่นใจ เพราะเขานึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป สอดคล้องกับความ สัมพันธ์ของเธอกับ Jake ที่ฝ่าย ชายต้องบินไปบินมาในระหว่าง เดตกับเธอเนื่องจากติดถ่ายท�ำ ภาพยนตร์ โดยมี ร ายงานว่ า Jake เช่าเครื่องบินส่วนตัวเพื่อ มาหา Taylor เลยทีเดียว
FAVOURITE five
legal talk
แชทแล้วจับ ปัดฝุน่ กฎหมายมาบังคับใช้กนั อย่างจริงจัง จนท�ำให้หลายคนต้อง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่เคยชินเสียใหม่ กับการใช้โทรศัพท์มือถือในขณะ หยุดรถติดสัญญาณไฟแดง ซึ่งต�ำรวจก็รอบคอบด้วยการถ่ายภาพไว้เป็น หลักฐานก่อนจะเดินไปเปรียบเทียบปรับถึงรถ ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 (9) บัญญัติไว้ว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดขับขี่ขับรถในขณะใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ เว้นแต่ การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่โดยใช้อุปกรณ์เสริมสําหรับการสนทนาโดยผู้ขับขี่ ไม่ต้องถือหรือจับโทรศัพท์เคลื่อนที่นั้น” สังเกตได้ว่า ตัวบทใช้ค�ำว่า “ขับขี่ ขั บ รถ” ย่ อ มแสดงให้ เ ห็ น ว่ า มาตรานี้ ใช้ บั ง คั บ ทั้ ง ผู ้ ขั บ ขี่ ร ถยนต์ รถ จักรยานยนต์ รถจักรยาน หรือยานพาหนะทางบกใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ (โทรศัพท์มือถือ) มีความหมาย ครอบคลุมไปตั้งแต่การคุยโทรศัพท์ กดปุ่มเลขหมาย ฟังเพลง ดูรูป เล่น เกม เล่นเฟซบุ๊ก ค้นหาข้อมูล ส่งข้อความ รวมถึงการกระท�ำทั้งหลายที่ เกี่ยวข้องกับการใช้งานตามปกติของโทรศัพท์มือถือ ถือว่าเป็นการ “ใช้” โทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งสิ้น สังเกตว่า พระราชบัญญัติฉบับนี้ แม้จะประกาศใช้บังคับในปี 2522 ซึ่งในขณะนั้น ยังไม่มีการผลิตโทรศัพท์มือถือออกมา แต่เนื่องจาก พระราชบัญญัติฉบับนี้ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมเมื่อปี 2551 ซึ่งในขณะนั้นมี การรณรงค์เรียกร้องให้มกี ารขับขีร่ ถยนต์อย่างปลอดภัยเพือ่ ลดสถิตจิ ำ� นวน อุบตั เิ หตุบนท้องถนน และเพือ่ ความปลอดภัยแก่ชวี ติ ร่างกาย และทรัพย์สนิ ของผู้อื่นที่อาจได้รับผลกระทบจากการเกิดอุบัติเหตุนั้น จึงได้มีการแก้ไข เพิ่มเติมพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว โดยเพิ่มเข้าเป็น (9) ของมาตรา 43 แต่อย่างไรก็ดี ตอนท้ายของมาตรา 43 (9) ก็ยังอนุญาตให้ผู้ขับ รถได้ใช้อปุ กรณ์เสริมส�ำหรับการสนทนา ไม่วา่ จะมีสายหรือไร้สาย แค่ทำ� ให้ การสนทนาทางโทรศัพท์สามารถด�ำเนินไปโดยที่ผู้ขับขี่ไม่ต้องถือหรือจับ โทรศัพท์มือถือ ก็เป็นอันใช้ได้แล้ว ซึ่งเมื่อพิจารณาจากตัวบทแล้ว เห็น ว่าการเปิดเสียงล�ำโพงสปีกเกอร์เพือ่ สนทนาโดยไม่ตอ้ งถือหรือจับโทรศัพท์ มือถือนั้น สามารถกระท�ำได้ แม้จะถือว่าเป็นการใช้โทรศัพท์มือถือ แต่ได้ ใช้ อุ ป กรณ์ เ สริ ม ส� ำ หรั บ การสนทนา คื อ ล� ำ โพงสปี ค เกอร์ ดั ง นั้ น การใช้สปีกเกอร์จึงเข้าข้อยกเว้น นอกจากนี้ หากผูข้ บั ขีไ่ ด้จอดรถและดับเครือ่ งยนต์แล้ว ก็จะถือว่า การใช้โทรศัพท์ในรถไม่เป็นการกระท�ำความผิดในมาตรานี้ แต่อย่างไรก็ดี การจอดรถต้องเป็นการจอดในพื้นที่ที่อนุญาตให้จอดรถด้วย มิฉะนั้น อาจ เป็นการกระท�ำความผิดฐานอื่นๆ ตามมาแทน ส�ำหรับผู้ที่ฝ่าฝืนมาตรา 43 (9) นี้ จะมีบทลงโทษตามมาตรา 157 คือ มีโทษปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท
แชมป์ -ทีปกร วุ ฒิพิทยามงคลที่เรา รู้จัก นอกจากจะเป็นเว็บมาสเตอร์ นัก เขียน นักวาดประกอบ (หนังสือเล่ม ล่าสุดของเขา “คิดแคต” ที่ว่าด้วย ประสบการณ์ เ ลี้ย งแมวสนุ ก ๆ จาก ส�ำนักพิมพ์ แซลมอนบุ ๊คส์) ทัง้ ยังท�ำ หน้ า ที่ พิ ธี ก ร อี ก อย่ า งที่เ ป็ น คื อ เจ้ า โปรเจค หากใครติดตามเขาในเฟซบุ ๊ก จะได้ เ ห็ น เพจเล็ ก เพจน้ อ ยของเขา อย่างรอบหน้าจริงกว่านีอ้ ีก พู ดอะไร ไม่ได้ให้หมีเขีย่ เมือ่ ต้นปี มโี ปรเจคส่วนตัว อย่ า ง caniread100booksayear ทดสอบว่าจะอ่านหนังสือให้ครบร้อย เล่มได้ไหมในปี 2014 อ่านเสร็จจะมีรีวิว เล็กน้อยในบล็อกให้อ่าน อาจยังไม่ถึง ร้อยเล่ม แต่ระหว่างทางนี่คือ 5 เล่ม โปรดเป็นพิเศษของเขา 1. Uncharted เป็นหนังสือที่ท�ำให้เรา มองการอ่านหนังสือด้วยวิธใี หม่ๆ เป็นเรื่องของการประยุกต์การคิด แบบสถิติ เข้ากับการอ่านได้อย่าง น่าสนใจ และท�ำให้เราเห็นว่า เนือ้ หาเดิมๆ หากเราใช้เครื่องมือที่ แตกต่างกันในการวิเคราะห์ ก็ สามารถสกัดผลึกความรู้ออกมา ได้แตกต่างกัน
หนั ง สื อ เล่ ม นี้ ท� ำ ปรั ช ญาให้ ก ลาย เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ อ่ า น จ บ แ ล้ ว อาจมองโลก ด้ ว ย ส า ย ต า ที่ เปลี่ยนแปลงไป
2. ประวัติปรัชญาฉบับกะทัดรัด พูดถึงปรัชญาหลายคน อาจเบือนหน้าหนี เพราะดูยาก และไกลตัว แถมดูเหมือนจะเอามา ใช้ในชีวิตจริงได้ไม่เท่าไหร่ แต่ หนังสือเล่มนี้ท�ำปรัชญาให้กลาย เป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ อ่านจบแล้ว อ า จ ม อ ง โ ล ก ด ้ ว ย ส า ย ต า ที่ เปลี่ยนแปลงไป 3. มาทิลดา จริ ง ๆ ชอบหนั ง สื อ ที่ โรอัลด์ ดาห์ล เขียนแทบทุกเล่ม โดยเฉพาะงานเขี ย นที่ นั บ เป็ น วรรณกรรมเยาวชน เพราะเขียน ด้วยภาษาง่ายๆ แต่สนุกและลึกซึง้ แต่เลือกเล่มนี้ขึ้นมา เพราะเป็น เล่ ม แรกที่ ท� ำ ให้ เรารู ้ จั ก โรอั ล ด์ ดาห์ล จนต้องไปตามหาอ่านเล่ม ที่เหลือทั้งหมด
4. The Art of Thinking Clearly หนังสือรวมวิธคี ดิ แบบ ‘ตรรกะวิบัติ’ หรือใกล้เคียง ไว้ 99 แบบ พร้อมเรื่องเล่าที่ท�ำให้ เ ห็ น ภ า พ ว ่ า ท� ำ ไ ม วิ ธี คิ ด แบบนั้นๆ จึงผิดพลาด
5. What Money Can’t Buy เงินไม่ใช่ พระเจ้า หนังสือที่ท�ำให้เรากลับ มาตั้ ง ค� ำ ถามกั บ ตั ว เองว่ า จริ ง ๆ แล้ว ‘เงิน’ ที่เราอาจมองว่าเป็นค�ำ ตอบของหลายๆ อย่าง มันควรถูก ใช้ ใ นอาณาเขตบริ เวณไหนบ้ า ง สนุกและชวนคิด
#guardiansthailand #thailovesjamesgunn
เรียกได้ว่าเป็นภาพยนตร์ม้ามืดในซัมเมอร์นีเ้ ลยก็คงไม่ผิด Guardian of The Galaxy ได้สร้างปรากฎ -การณ์ใหม่ๆ ไว้มากมาย นอกจากจะขยายจักรวาลภาพยนตร์ของมาร์เวลให้กว้างขึน้ มากแล้ว หนังยังได้ รับค�ำวิจารณ์ไปในทางบวก กลายเป็นขวัญใจกลุ่มใหม่กับแฟนๆ หนังยังเดินหน้าท�ำเงินไม่หยุ ด ล่าสุดรายได้ ในประเทศไทยไปถึง 130 ล้านแล้ว! เมือ่ กลางเดือนสิงหาคม James Gunn ผู ก้ ำ� กับได้มที ริปส่วนตัวมาทีป่ ระเทศไทย ทาง วอลท์ดสิ นีย์ สตูดิโอประเทศไทย จึงได้จัดรอบพิเศษของ Guardian of The Galaxy ให้แฟนหนังได้ Meet & Greet กับ James Gunn ด้วย โดยแฟนๆ ก็ได้ถามค�ำถามเกี่ยวกับหนัง ข่าวลือเกี่ยวกับหนังเรื่องต่อๆ ไป ของมาร์เวล ซึ่งผู ้ก�ำกับคนเก่งก็ได้ตอบทุกค�ำถามที่คาใจ อีกทัง้ ยังได้ถ่ายภาพรวมกับแฟนหนังอย่างเป็น กันเองสุดๆได้ใจแฟนๆ ชาวไทยกันไปเต็มๆ
Photo : www.thumbsup.in.th
10
11 RIP
Photo : www.time.com / www.thehollywoodreporter.com
Robin Williams 1951 - 2014
ถื อ เป็ น การสู ญ เสี ย ครั ้ง ยิ่ ง ใหญ่ ส� ำ หรั บ ว ง ก า ร บั น เ ทิ ง เ มื่ อ มี ร า ย ง า น ว่ า Robin Williams ได้จบชีวิตลงในวัย 63 ปี Robin Williams เป็นนักแสดงชาว อเมริกันระดับต�ำนาน เขาผ่านการแสดงมาแล้ว หลายบทบาท ไม่ว่าจะเป็นนักบิน แพทย์ พี่เลี้ยง ศาสตราจารย์ ประธานาธิบดี ยักษ์จนิ นีใ่ นตะเกียง วิเศษ รวมถึงปีเตอร์แพน ซึง่ ผูค้ นส่วนใหญ่มกั รูจ้ กั เขาในฐานะนักแสดงตลก จึงเป็นเรื่องที่สะเทือน ใจเมื่อมีรายงานว่าเขาตัดสินใจลาโลก หลังจาก ต่อสู้กับอาการซึมเศร้ามาเป็นเวลานาน การตัดสินใจดังกล่าวของเขาน�ำมาซึ่ง ความเจ็บปวดอันยากจะคณานับของเหล่าบุคคลที่ เขาทอดทิง้ เบือ้ งหลัง เช่น Zelda Williams ลูกสาว คนเดียวของเขาซึ่งบรรยายความเจ็บปวดผ่าน แถลงการณ์ของเธอ “พ่อเป็นพ่อที่แสนวิเศษ เป็นพ่อที่ยอด เยี่ยม อบอุ่น อ่อนโยน ใจดี แม้กระทั่งในช่วงเวลา ที่มืดมนที่สุดของชีวิต พ่อก็ยังคงรักษาคุณสมบัติ ดีๆเหล่านั้นไว้” “โลกของฉันไม่มวี นั ทีจ่ ะเหมือนเดิมอีก ต่อไป เมื่อปราศจากพ่อ โลกใบนี้ช่างมืดมน ไร้ สีสัน ไร้เสียงหัวเราะ ซึ่งฉันไม่อาจเข้าใจได้เลยว่า ในขณะที่พ่อมอบความรักให้ผู้คนรอบข้างอย่าง เต็มเปี่ยม แต่ท�ำไมพ่อถึงไม่สามารถรับรู้ได้ถึง ความรักที่เรามีให้ และมีความหวังที่จะด�ำรงชีวิต อยู่” สิ่งหนึ่งที่พิสูจน์ได้ว่า Robin Williams เป็นที่รักของเพื่อนร่วมวงการทุกเพศทุกวัยคงหนี ไม่พ้นค�ำไว้อาลัย จาก Lindsay Lohan ไปจนถึง ผูบ้ ริหาร Disney ได้พสิ จู น์วา่ นอกจากจะเป็นทีร่ กั จากความสามารถ เขายังเป็นทีร่ กั ด้วยความทีเ่ ป็น คนจิตใจงดงาม แม้ว่าเขาจะจากโลกนี้ไปแต่ผล งานที่เสริมสร้างก�ำลังใจและสร้างเสียงหัวเราะจะ ยังคงอยู่ในจิตใจของเราไปอีกนาน
1
2
3
4
5
6 1. ‘Flubber’ (1997) 2. ‘Bicentennial Man’ (1999) 3. ‘Dead Poets Society’ (1989) 4. ‘Aladdin’ (1992) 5. ‘Night at the Museum’ (2006) 6. ‘Mrs. Doubtfire’ (1993) 7. ‘Hook’ (1991) 8. ‘One Hour Photo’ (2002)
7
8
12
entering the aecs
เมียนมาร์
การธนาคารและการแลกเปลี่ยนเงินตรา ต่างประเทศ ภายใต้กฎหมายธนาคารกลางของ เมียนมาร์ ปี 1990 และกฎหมายสถาบันการเงิน ของเมียนมาร์ ปี 1991 กฎหมายการออมเงิน ฉบับใหม่ ปี 1992 และกฎหมายประกันภัยของ เมียนมาร์ ปี 1993 โดยธนาคารกลางของเมียน มาร์นั้นเป็นองค์กรที่บริหารจัดการและควบคุม ธ น า ค า ร ต ่ า ง ๆ ทั้ ง ข อ ง รั ฐ แ ล ะ เ อ ก ช น อุตสาหกรรมทางการเงินของประเทศนั้นยังคง ไม่ได้รับการพัฒนา และการธนาคารของเมียน มาร์ จ ะถู ก ควบคุ ม ดู แ ลโดยธนาคารรั ฐ ทั้ ง สี่ ธนาคาร ธนาคารเอกชนสามารถให้บริการได้ อย่างจ�ำกัดและมีการควบคุมอย่างเคร่งครัดโดย ธนาคารกลางเท่านัน้ นอกจากนีย้ งั มีสำ� นักงาน ตัวแทนของธนาคารต่างประเทศและอื่นๆอีก จ� ำ นวนมากที่ ค าดว่ า จะมี ก ารเปิ ด ท� ำ การใน อนาคต คณะกรรมการบริหารการแลกเปลี่ยน
เงินตราต่างประเทศของธนาคารกลางจะเป็นผู้ ก�ำกับดูแลในเรื่องของการแลกเปลี่ยนเงินตรา ต่างประเทศทุกเรื่อง และเป็นการควบคุมอย่าง เคร่งครัด ปัจจุบนั เมียนมาร์กำ� ลังปฏิรปู นโยบาย การแลกเปลี่ยนเงินตราในต่างประเทศ การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา โดยทั่ ว ไปแล้ ว เมี ย นมาร์ มี ก าร คุ้มครองเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาอยู่น้อย มาก แต่อย่างไรก็ดีมีการคาดการณ์ว่าจะมีการ เปลีย่ นแปลงในช่วงภาวะทีเ่ ศรษฐกิจใหม่จะมีขนึ้ ในช่วงเวลานี้ เมียนมาร์ยังไม่มีการคุ้มครอง ระบบสิทธิบตั รและยังคงไม่มกี ารเปิดรับลิขสิทธิ์ จากต่างประเทศ การจดทะเบียนเครื่องหมาย การค้าในเมียนมาร์นั้นสามารถกระท�ำได้และ ต้องมีการยืน่ ขอจดทะเบียนใหม่ทกุ ๆ สามปี เมีย นมาร์นั้นได้ลงนามในสนธิสัญญาขั้นพื้นฐาน ขององค์ ก ารทรั พ ย์ สิ น ทางปั ญ ญาโลก เป็ น สมาชิกองค์การการค้าโลกอและได้ร่วมลงนาม ในข้อตกลงทริปส์ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1994 แรงงาน กรมแรงงาน คณะกรรมการประกัน สังคม คณะกรรมการกลางการจัดการขนส่ง สินค้าทางบก กรมโรงงานและกฎหมายแรงงาน ทั่วไป และคณะกรรมการกลางข้อพิพาทการค้า ระหว่างประเทศภายใต้กระทรวงแรงงานมีหน้า ที่รับผิดชอบในเรื่องแรงงานระหว่างตัวนายจ้าง และลูกจ้าง เมือ่ เร็วๆ นีเ้ มียนมาร์ได้มกี ารอนุมตั ิ กฎหมายใหม่ว่าด้วยองค์การแรงงาน กฎหมาย ใหม่ฉบับนี้ปกป้องสิทธิของลูกจ้าง ให้สิทธิใน สหภาพแรงงาน และสร้างข้อก�ำหนดและขั้น ตอนในการประท้วงโดยการหยุดงานได้ ใน สถานประกอบการเอกสาร เงิ น เดื อ นนั้ น สามารถมีการเจรจาตกลงได้โดยตรงระหว่าง นายจ้างและลูกจ้าง ขัน้ ตอนการรับสมัครงานยัง คงตรงไปตรงมาและสามารถท�ำได้โดยตรงทั้ง ในระดับท้องถิน่ หรือผ่านหน่วยงานการจ้างงาน และการโฆษณารับสมัครงาน สถานประกอบ การเอกชนที่มีพนักงานมากกว่า 5 คนจะต้อง เสียเงินเข้ากองทุนประกันสังคม 2 เปอร์เซ็นต์ จากค่าจ้างของพวกเขา พร้อมกับสิทธิการรักษา พยาบาลโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พนักงานมีสิทธิที่ จะได้รับเงินช่วยเหลือเมื่อเจ็บป่วยหรือคลอด บุตร เงินช่วยเหลือการจัดงานศพ และเงินช่วย เหลือกรณีทุพพลภาพทั้งชั่วคราวและถาวร ประเภทขององค์กรธุรกิจ 1) เจ้ า ของคนเดี ย ว - ธุ ร กิ จ ประเภทเป็นเจ้าของคนเดียวนั้น จะมีการดูแล และด�ำเนินการธุรกิจโดยบุคคลคนเดียวภายใต้ ชื่อของเขา ไม่จ�ำเป็นต้องจดทะเบียน และความ รับผิดของเจ้าของนั้นมีอยู่อย่างไม่จ�ำกัด 2) ห้างหุ้นส่วน - สิทธิและหน้าที่
ของหุ้นส่วนนั้นจะถูกก�ำหนดโดยกฎหมายห้าง หุ้นส่วนปี ค.ศ. 1932 จ�ำนวนของหุ้นส่วนถูก จ�ำกัดไว้สูงสุดที่ 20 คน กฎหมายไม่บังคับให้ ต้องจดทะเบียน และได้รับการพิจารณาโดยไม่ จ�ำกัด 3) บริษัทจ�ำกัดโดยหุ้น - ส�ำหรับ สถานประกอบการต่างชาติ โดยทัว่ ไปนัน้ จะเป็น สถานประกอบการประเภทบริษัทจ�ำกัด ทั้ง บริ ษั ท เอกชนจ� ำ กั ด หรื อ บริ ษั ท มหาชนจ� ำ กั ด บริษัทจ�ำกัดทั้งหมดต้องมีการจดทะเบียนภาย ใต้กฎหมายบริษัทของเมียนมาร์ (ซีเอ) หรือ กฎหมายสหภาพการลงทุนจากต่างประเทศของ เมียนมาร์ (เอ็มเอฟไอแอล) และหากมีหุ้นหนึ่ง หุ้นใดมีการครอบครองโดยชาวต่างชาติ บริษัท นั้นจะถูกจัดประเภทเป็นบริษัทต่างชาติ บริษัท เอกชนจ�ำกัด ถูกจ�ำกัดให้มีสมาชิกได้เพียง 50 คน และการโอนหุ้นจะถูกจ�ำกัดและไม่มีการซื้อ หุ้นของประชาชน ส�ำหรับบริษัทมหาชนจ�ำกัด นั้นจะต้องมีผู้ถือหุ้นอย่างน้อย 7 คน 4) กิจการร่วมค้า - ผู้ลงทุนต่าง ชาติสามารถจัดตั้งกิจการร่วมค้าได้ ทั้งในส่วน ของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทจ�ำกัด โดยมีหุ้นส่วน เป็นชาวเมียนมาร์รวมอยูด่ ว้ ย โดยกฎหมายใหม่ ว่าด้วยการลงทุนปี ค.ศ. 2012 ในกิจการร่วมค้า นั้น ความต้องการเงินทุนขั้นต�่ำมีการลดลงและ กิจการร่วมค้านั้นสามารถเป็นเจ้าของได้อย่าง สมบูรณ์โดยชาวต่างชาติ สัดส่วนในการถือหุ้น ไม่ว่าแบบใดก็ได้รับการอนุญาต 5) ส�ำนักงานสาขา - บริษัทต่าง ชาตินั้นสามารถจัดตั้งส�ำนักงานสาขาภายใต้ กฎหมายบริ ษั ท ของเมี ย นมาร์ (ซี เ อ) หรื อ กฎหมายสหภาพการลงทุนจากต่างประเทศของ เมียนมาร์ (เอ็มเอฟไอแอล) ภายใต้ซีเอ การตั้ง ส�ำนักงานสาขานั้นไม่จ�ำเป็นต้องได้รับอนุญาต โดยคณะกรรมการการลงทุนเมียนมาร์ สามารถ จัดตั้งได้ไม่ว่าจะเป็นบริษัทที่ผลิตสินค้าหรือ บริการ และจะต้องจดทะเบียนและยื่นขอใบ อนุญาตการค้า ภายใต้เอ็มเอฟไอแอล ส�ำนักงาน สาขาจะต้ อ งได้ รั บ การอนุ ญ าตจากคณะ กรรมการการลงทุนเมียนมาร์ ได้รับใบอนุญาต การค้าและหนังสือรับรองการจดทะเบียน 6) ส�ำนักงานตัวแทน - บริษทั ต่าง ชาติ นั้ น สามารถจั ด ตั้ ง ส� ำ นั ก งานตั ว แทนใน เมียนมาร์ได้ ส�ำนักงานตัวแทนนั้นสามารถ ติ ด ต่ อ ประสานงานกั บ ส� ำ นั ก งานใหญ่ แ ละ ท�ำการวิจัย แต่ไม่สามารถสร้างรายได้หรือ ด�ำเนินธุรกิจเองได้
ภาษี ภายใต้กฎหมายที่หลากหลายของ เมียนมาร์ กรมสรรพากร (ไออาร์ดี) ภายใต้ กระทรวงการคลัง และกรมสรรพากรบริหาร จัดการภาษีการค้า ภาษีเงินได้ ภาษีก�ำไร อา กรสแตมป์และภาษีสลากกินแบ่งรัฐบาล 1) ภาษีการค้า - ภาษีการค้าเป็น ภาษีที่เรียกเก็บจากสินค้าในประเทศและสินค้า ทีน่ ำ� เข้าร่วมทัง้ บริการ สินค้าโภคภัณฑ์ 72 ชนิด ทีส่ ำ� คัญได้รบั การยกเว้นด้วยอัตราการก้าวหน้า จาก 5 เปอร์เซ็นต์เป็น 25 เปอร์เซ็นต์ส�ำหรับ สินค้าอย่างอืน่ สินค้าเฉพาะ 19 ชนิดรวมทัง้ บุหรี่ น�้ำมัน สุรา ไข่มุก หยกและอัญมณีจะมีการเก็บ ภาษีอยู่ที่ระหว่าง 30-200 เปอร์เซนต์ 2) ภาษีมูลค่าเพิ่ม - สินค้าและ บริการทุกอย่างที่เข้าสู่รัฐบาลนั้นจะต้องมีภาระ การเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 10 เปอร์เซ็นต์ นอกจาก นี้ยังมีอัตราภาษี 10 เปอร์เซ็นต์ ส�ำหรับบริการ โรงแรมและร้านอาหารที่ต้องมีการแบ่งร่วมกัน ในหมู่พนักงาน 3) ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในเมียนมาร์ อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ แตกต่างกันได้มีการน�ำมาใช้ส�ำหรับภาษีผู้อยู่ อาศัยและผู้ที่ไม่ใช่ผู้อยู่อาศัย ในกรณีของชาว ต่างชาติที่ท�ำงานให้กับสถานประกอบการภาย ใต้กฎหมายสหภาพการลงทุนจากต่างประเทศ ของเมียนมาร์จะได้รับการพิจารณาเป็นผู้อยู่ อาศัย ส�ำหรับเงินเดือนนั้น อัตราการเก็บภาษี ของผู้อยู่อาศัยได้เพิ่มขึ้นจาก 3 เปอร์เซ็นต์เป็น 30 เปอร์เซ็นต์ ส�ำหรับรายได้ทมี่ ากกว่า 500,001 จ๊าด และส�ำหรับผู้ที่ไม่ใช่ผู้อยู่อาศัยมีการคิด อัตราภาษีแบบคงที่ที่ 35 เปอร์เซ็นต์จากรายได้ ของพวกเขาในเมียนมาร์ ส�ำหรับผู้อยู่อาศัยนั้น ผู้มีรายได้จากการเป็นผู้เชี่ยวชาญ รายได้ทาง ธุรกิจ รายได้จากทรัพย์สิน และรายได้อย่างอื่น ได้ถูกจัดเก็บภาษีในอัตราก้าวหน้าที่ 5-35 เปอร์เซ็นต์ และส�ำหรับผูท้ ไี่ ม่ใช่ผอู้ ยูอ่ าศัย อัตรา ภาษีอยู่ที่ 35 เปอร์เซ็นต์ ผู้อยู่อาศัยจะต้องจ่าย อัตราภาษีกำ� ไรส่วนทุนอยูท่ ี่ 10 เปอร์เซ็นต์ และ 40 เปอร์เซ็นต์ส�ำหรับผู้ที่ไม่ใช่ผู้อยู่อาศัย 4) ภาษีเงินได้นติ บิ คุ คล - บริษทั ทุกบริษัท ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเมียนมาร์หรือ บริษัทต่างชาติจะต้องถูกเก็บภาษีโดยคิดจาก รายได้ทงั้ หมดของบริษทั ในอัตราภาษีแบบคงที่ ที่ 30 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ดี บริษัทอาจได้รับ การยกเว้นภาษีเป็นกรณีพิเศษ
ภาษาเมียนมาร์
เช่ นเดียวกับประเทศไทย ประเทศเมียนมาร์นนั้ ก็มีภาษาพู ดเป็นของตัวเอง โอกาสได้เจอ สมาชิกร่วมประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนมีมากขึน้ อาจมาในรูปแบบของเพือ่ นร่วมงานหรือคูค่ า้ ธุ รกิจ รู้ภาษาบ้านเขาไว้บ้าง เพื่อสร้างความประทับใจในการพบปะกัน เช่ น ค�ำว่า สวัสดี (มิง-กะ-ลา-บา) ขอบคุณ (เจ-ซู -ติน-บา-แด) สบายดีไหม (เน-ก็อง-บา-ตะ-ล้า) ยินดีท่ีได้รู้จัก (ตุ๊ย-ยา-ดา-หวัน-ตาบ่า-แด) พบกันใหม่ (อะ-ติด๊ -ตุ๊ย) ทัง้ นีส้ ามารถหาค�ำศัพท์พร้อมเสียงประกอบการพู ดได้จากแอพ พลิเคชัน่ ที่เกี่ยวข้องกับเออีซีได้ใน APP STORE หรือตามเว็บไซต์ชนั ้ น�ำต่างๆ
Photo : www.myanmartravel.cc
กฎหมายใหม่ ว ่ า ด้ ว ยการลงทุ น จากต่ า ง ประเทศ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2012 ประเทศเมียนมาร์ได้อนุมตั กิ ฎหมายใหม่วา่ ด้วย การลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ เปิ ด กว้ า งมากขึ้ น ส� ำ หรั บ การลงทุ น จากต่ า ง ประเทศ โดยมีจุดประสงค์เพื่อดึงดูดการลงทุน โดยตรงจากต่างประเทศเข้ามาในเมียนมาร์ ภายใต้กฎหมายใหม่ฉบับนี้ เมียนมาร์จะมีการ พัฒนาและขยายรูปแบบของธุรกิจให้มีความ หลากหลายมากยิ่ ง ขึ้ น รวมถึ ง การน� ำ ทรัพยากรธรรมชาติมาใช้เพื่อการส่งออก การ พั ฒ นาทรั พ ยากรมนุ ษ ย์ การเงิ น และการ ธนาคาร โครงสร้างถนน ถนนทางหลวงและ สาธารณูปโภคต่างๆ เทคโนโลยีขั้นสูง การ สื่อสารและการขนส่ง ทั้งทางรถไฟ ทางน�้ำและ ทางอากาศ ภายใต้กฎหมายฉบับใหม่นี้ การลง ทุนใดๆ ในประเทศเมียนมาร์นั้น ชาวต่างชาติ สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจได้เต็ม 100 เปอร์เซนต์ และยังลดความต้องการเงินทุนขั้นต�่ำส�ำหรับ กิจการร่วมค้าและเงินทุนในการเป็นเจ้าของหุน้ ต่างชาติ โดยการอนุญาตให้บริษัทต่างประเทศ สามารถเป็นเจ้าของกิจการร่วมค้าของตัวเองได้ อย่างเต็มที่ นักลงทุนต่างชาติจะได้รบั การยกเว้น ภาษีเป็นเวลา 5 ปี และบริษัทผู้ผลิตอาจมีสิทธิ ทีจ่ ะได้รบั การลดหย่อนภาษีได้มากสูงสุดถึง 50 เปอร์เซ็นต์จากก�ำไรสุทธิทไี่ ด้รบั จากการส่งออก นักลงทุนต่างชาติยังสามารถใช้ประโยชน์จาก การเช่าที่ดินได้ถึง 50 ปีและยังสามารถขยาย เวลาออกไปได้อีก 20 ปี กฎหมายฉบับนี้ยังช่วย เปิดกว้างในภาคส่วนที่มีการจ�ำกัดให้กับนัก ลงทุ น ต่ า งชาติ แ ละมี ก ารระบุ ว ่ า การส่ ง ออก สามารถใช้ส�ำหรับการส่งเสริมการส่งออกและ การทดแทนการน�ำเข้า
13
entering the aecs
MYANMAR The New Foreign Investment Law
On 2 November 2012, Myanmar passed its New Foreign Investment Law, a more business friendly investment law designed to vigorously attract foreign direct investment into the country. Under the new law, Myanmar will develop and expand different business types including natural resource extraction and export, human resource development, banking and finance, infrastructure – roads, highways, and utilities, high technology, communications, and transportation – rail, water and air. Under the new law, any investment in Myanmar can be up to 100% foreign‐owned, and it also dropped the minimum capital requirements for joint ventures and capital on foreign share ownership by allowing overseas firms to fully own joint ventures. Foreign investors will get five‐year tax holidays, and manufacturing companies may be entitled to tax relief of up to 50% on profits made from exports. Foreign investors can also take advantage of 50‐year land leases that can be extended for another 20 years. The law also opens the restricted sectors to foreign investors and states that output can be used for both export promotion and import substitution.
Banking and Foreign Exchange
Under the 1990 Central Bank of Myanmar Law, the 1990 Financial Institutions of Myanmar Law, the 1992 New Savings Bank Law, and the 1993 Myanmar Insurance Law, the Central Bank of Myanmar administers and regulates all state and private banks. The country’s financial industry is undeveloped, and its banking is dominated by the four state banks. Private banks can only provide a limited range of services and are strictly controlled by the Central Bank. There are also a small number of foreign bank representative offices and more are expected to open in the future. The Central Bank’s Foreign Exchange Manage-
ment Board oversees all foreign exchange matters, and it is strictly controlled. Reforms of their foreign exchange policies are currently underway.
Intellectual Property Protection
In general, Myanmar has very little Intellectual Property protection, but this is expected to change in its new economic climate. At this time, there is no patent protection system in Myanmar, and the country does not recognize foreign copyrights. Trademarks can be registered and then need to be reregistered every three years. Myanmar signed the basic World Intellectual Property Organization treaty 2001 and is a member of the World Trade Organization and signatory to the TRIPS Agreement since 1994.
Labor
The Department of Labor, the Social Security Board, the Central Inland Freight Handling committee, the Factories and General Labor Laws Department, and the Central Trade Disputes Committee under the Ministry of Labor are responsible for all employer and employee labor matters. In response to its past, Myanmar recently approved a new Labor Organization Law. The new law protects employees' rights, allows for labor unions, and establishes procedures for a strike. In private enterprises, salaries are negotiated directly between the employer and employee. Recruitment procedures are also straightforward and can be done directly at the local level or through employment agencies and advertisements. Private enterprises with more than five workers must contribute 2% of their wages to a social security fund. Along with free medical care, workers are entitled to cash sickness and maternity benefits, funeral grants, and temporary and permanent disability benefits.
Types of Business Organizations a) Sole Proprietorship - A
sole proprietorship is owned by an individual and operates under their name. No registration is needed, and the owner’s liability is unlimited. b) Partnership - A partnership’s rights and obligation are governed by the Partnership Act of 1932. The number of partners is limited to twenty, registration is not compulsory, and all are considered unlimited.
c) Company limited by shares - For foreign enterprises, the
most common company type is a limited company - either a private limited liability company or a public limited liability company. All limited companies are required to register under either the Myanmar Companies Act (CA) or the Union of Myanmar Foreign Investment Law (MFIL), and if one share is owned by a foreign member, a company is classified as a foreign company. A private limited liability company is limited to fifty members, and share transfers are restricted, and there’s no public subscription. A public limited liability company must have a minimum of seven shareholders. d) Joint Venture - A foreign investor can set up a joint venture, either as partnership or a limited company, with a Myanmar partner. According to the new Investment Law of 2012, for Joint Ventures, all minimum capital requirements have been dropped and the joint venture can be fully foreign owned. Any stake ratio between the partners is permitted. e) Branch Office - A foreign company can set up a branch office under the Myanmar Companies Act (CA) or the Union of Myanmar Foreign Investment Law (MFIL). Under the CA, a branch office does not need a Myanmar Investment Commission permit, can be a manufacturing or service company, and must register and then apply for a trade permit. Under the MFIL, a branch office must obtain a Myanmar Investment Commission permit, a trade permit and a registration certificate. f) Representative Office - A foreign company can establish a
representative office in Myanmar. It can liaise with the head office and conduct research, but it cannot generate revenue or engage in business.
Taxation
Under various laws, the Internal Revenue Department (IRD) under Ministry of Finance and Revenue administers commercial tax, income tax, profit tax, stamp duties and state lottery tax. a) Commercial Tax - Commercial tax is a turn-over tax levied on domestic and imported goods and services. 72 essential commodities are exempt with a progressive rate from 5% to 25% for everything else. 19 specific goods including cigarettes, fuel oil, liquor, pearls, jade and gems are taxed between 30-200 %.
b) Value Added Tax (VAT)
d) Corporate Income Tax
- All goods and services that go to the Government are liable to a 10% VAT rate. There’s also a 10% VAT rate on all hotel and restaurant services that must be shared among the employees. c) Individual Income Tax - In Myanmar, different Individual Income Tax rates apply for tax residents and non-residents. If a foreigner is working for an enterprise under the Union of Myanmar Foreign Investment Law, they are considered a resident. For salaries, tax residents have a progressive tax rate that runs from 3% to 30% for income over Kyat 500,001, and non-residents pay a flat tax rate 35% on their Myanmar income. For residents, professional income, business income, property income, and all income from other sources is taxed at progressive rates ranging from 5- 35%, and for nonresidents, it’s taxed at 35%. Residents pay 10% capital gains tax and non-residents pay 40%. - All companies, foreign or local, are taxed on their total world income at a flat rate of 30%. Special tax exemptions may be granted.
14 LEGAL TERMS
Mudarabah
Last issue we discussed the Sharia concepts of Gharar and Maysir, which literally mean “uncertainty” and “gambling” respectively. Sharia prohibits both excessive uncertainty and speculation in all business transactions, as well as gambling with the intention of making an easy profit by chance. Many transactions that are commonplace in other cultures such as derivative trading, insurance, futures and options and a host of others involve these very things. This month we continue by discussing the term Mudarabah, which offers one way to get around some of the prohibitions.
Mudarabah (noun). This is a profit-sharing transaction structure in the form of a special partnership. In this arrangement one party typically provides all of the capital while the other party provides all the know-how and labor. The lender partner (rabb-ul-mal) providing the capital is often a bank or other lender. The working partner (mudarib) providing the knowhow and labor is essentially a borrower of capital. The lender partner maintains legal title to any assets purchased with its capital. Profits generated are shared by the partners according to a pre-agreed ratio so there is no interest (riba) paid to the lender partner. In case of loss, all loss will be borne by the lender partner up to the amount of his investment. The working partner’s profit (if any)
will not be given to the lender partner. This arrangement seems to satisfy Sharia because both parties stand to lose if the partnership fails. The lender party stands to lose cash while the working party loses its time and labor. The uncertainty is deemed fairly divided between the partners and hence the arrangement is not regarded as excessively uncertain. There is also no risk of gambling on the part of the lender partner since it also stands to lose if the partnership fails. Example 1 : Mudarabah is an acceptable form of Islamic financing whereby all the capital comes from one of the partners. Example 2 : A lender partner can withdraw from a mudara-
bah arrangement by selling its share to the working partner at an agreed price. That agreed price will include the amount invested by the lender partner along with a profit so long as the business has been profitable. Otherwise, the lender partner will lose up to the amount of its investment. Example 3 : Alternatively, a lender partner may also exit a mudarabah arrangement by finding another to take its place. If the lender partner cannot exit all at once on a one-time basis, he can split his share into smaller units and each one can be sold over a period of time. Gradually, the lender partner can exit the project totally. Example 4 : Mudarabah can be used to finance a single transaction such as the importation of goods, which can then
be sold and the profit split between the partners. Example 5 : One of the benefits of the mudarabah arrangement is that the lender partner has legal title and hence security over all the partnership assets purchased. Mudarabah is just one of a several different commercial transaction structures that are permissible under Sharia. Next issue we will consider another structure, musharakah. Please note that the contents and views expressed in this issue are strictly those of the authors, and do not necessarily represent the views of the Lawyers Council of Thailand, its leadership or its members./-
Courtesy of Ployprathip International Law Office (PILO)
15
RHODE ISLAND ENACTS NEW LEGISLATION
PROHIBITING EMPLOYERS’ ACCESS TO PERSONAL ONLINE CONTENT Rhode Island recently became the fifth state in 2014 and the 17th state nationwide in the United States of America to enact legislation restricting access by employers to applicants’ and employees’ personal online content. The Rhode Island law follows similar laws enacted this year by Wisconsin, Tennessee, Oklahoma, and Louisiana, continuing a nationwide trend that began in spring 2012. Rhode Island’s new law embodies many of the prohibitions seen in similar laws. However, in comparison to similar laws, the new law provides relatively narrow exceptions that allow employers to protect their legitimate business interest. In addition, the new law grants aggrieved individuals the right to file civil suits to recover damages, injunctive relief, and even reasonable attorneys’ fees and costs. Accordingly, Rhode Island employers should pay careful attention to the new law’s specific nuances to ensure compliance. General Prohibitions Like similar state laws, Rhode Island’s new legislation prohibits an employer from requiring, coercing, or requesting that applicants or employees disclose their passwords and (very broadly) any other means for accessing a personal social media account. The new legislation further bars employers from requiring that applicants or employees: (1) permit the employer to observe content of theirs or others after they have accessed an online account (i.e., “shoulder surfing”); (2) add the employer to the employee’s or applicant’s list of contacts associated with a personal internet account (e.g., accept a request, such as a Facebook “friend request,” that would permit access to restricted online content); (3) cause applicants or employees to alter their privacy settings to allow viewing of restricted social media accounts and content; or (4) divulge any content contained in a personal
social media account. The Rhode Island law, consistent with most similar laws, broadly defines “social media account” to encompass generally all “electronic service or account, or electronic content” and provides a non-exhaustive list of examples. That list includes, but is not limited to, “videos, still photographs, blogs, video blogs, podcasts, instant and text messages, email, online services or accounts, or Internet website profiles or locations.” However, the new law explicitly excludes from its purview social media accounts “opened at an employer’s behest, or provided by an employer, or intended to be used primarily on behalf of the employer.” In addition, the new legislation broadly prohibits employers from making threats to or actually discharging, disciplining, or otherwise penalizing employees for their refusal to allow access to restricted online content and failing to hire applicants for their refusal of the same. Notably, the new legislation allows aggrieved individuals to file civil actions against employers to seek declaratory relief, injunctive relief, reasonable attorneys’ fees and costs, and damages which could include both compensatory and punitive damages. Most similar laws provide only for administrative remedies or cap damages in a private lawsuit at a
employers should note that their use of publicly available social media content to impose discipline or make other employment decisions may be limited by other laws, such as the National Labor Relations Act, anti-discrimination laws, and laws prohibiting adverse employment action based on lawful off-duty conduct.
relatively low amount. Exceptions to eral Prohibitions
the
world news
Gen-
Unlike some other state laws, Rhode Island’s new legislation provides only a few exceptions to the prohibitions that allow employers to protect their legitimate business interests. For instance, the legislation explicitly allows the employers to require or even coerce employees or applicants to “divulge any personal social media account information” when such information is “reasonably believed to be relevant to an investigation of allegations of employee misconduct or workplacerelated violation of applicable laws and regulations.” However, information may be accessed pursuant to this exception and used solely “to the extent necessary for purposes of that investigation or a related proceeding.” In addition, financial services companies subject to NASDAQ rules and/or securities regulations may monitor employees’ personal online accounts and screen applicants’ personal online accounts as may be necessary to comply with applicable law and regulations. The new legislation explicitly permits employers to access and use publicly available information about job applicants and current employees. However,
Recommendation for Employers Rhode Island’s new legislation further complicates the incongruent collection of state laws aimed at prohibiting employers’ access to employees’ or applicants’ personal online accounts. As of the date of this article, 17 states – Arkansas, California, Colorado, Illinois, Louisiana, Maryland, Michigan, New Jersey, New Mexico, Nevada, Oklahoma, Oregon, Rhode Island, Tennessee, Utah, Washington, and Wisconsin – have enacted password protections laws. These laws have their own unique features that complicate efforts by employers, particularly ones with multistate operations, to implement uniform protocols to ensure compliance. Given the complicated patchwork of state password protection law currently in place, employers should strongly consider consulting with legal counsel before making requests or requiring access to non-public personal online content. As a general rule of thumb, employers should avoid seeking access to restricted, personal online content except where there is a strong business need for doing so that is recognized in the applicable password protection law, such as the interest in conducting a workplace investigation.
/-By Philip L. Gordon and Joon Hwang of Littler Mendelson
LaWNEWS
AUGUST 16-31, 2014 free!!
CHINA : SOCIAL MEDIA POSTS RECOGNISED BY PRC COURTS
AS EVIDENC E IN EMPLOYMENT CASES Given the growing popularity of social media websites and applications in China, employees are increasingly releasing employmentrelated photographs and posts onto social media networks. Employers are in turn increasingly relying on social media posts made by their employees as evidence against their employees in employmentrelated disputes. Chinese Courts have recently recognized social media posts as admissible evidence in employment disputes. In fact, a 2013 white paper on China employment litigation cited a Shanghai Court as stating that there is a rising trend of the use of social media posts as evidence. Case 1 : Employee posts travel photos on Weibo while taking sick leave The employer dismissed the employee on grounds of unauthorised absence from work alleging that she had lied about her health, taken sick leave and then gone travelling with her family during the period of sick leave. To support its claims, the employer submitted, among other things, notarised copies of the employee’s posts on Weibo (a popular social media service provider in China) during the leave period. The posts showed that the employee was travelling with her family instead of resting or receiving medical treatment during the leave
period. The Court recognized the Weibo post submitted by the employer as admissible evidence and dismissed the employee’s claim for wrongful termination. Case 2 : Employee makes negative comments about employer on Weibo The employer dismissed the employee for a material breach of the employer’s rules and regulations. The employer claimed that the employee had made negative comments regarding the employer’s business on Weibo, which the employer asserted was a material breach of the employer’s rules and regulations. The employer’s rules and regulations clearly stated that employees should not make any negative statements regarding the employer or his business on social networks. To support its claims, the employer submitted screen-shots of the employee’s Weibo comments and other supporting documents in which the employee acknowledged leaving those negative comments on Weibo. The Court recognized the validity of the Weibo evidence submitted by the employer, and dismissed the employee’s claim for wrongful termination. Case 3: Employee acknowledges termination of employment on Weibo
ลอว์นิวส์
Robin Williams 1951 - 2014 The employee sued the employer for wrongful termination. The employer claimed that he terminated the employment relationship in October 2012 as the employee had been absent from work. No termination notice had been delivered to the employee at the time because the employee could not be located. To support its claims, the employer submitted notarised copies of Weibo posts made by the employee in October 2012 in which the employee stated that he was no longer with the employer. Based on the Weibo posts, the Court determined that the employment relationship had been terminated in October 2012, and that the employee acknowledged such termination although no official termination notice had been issued. The Court dismissed the employee’s claim. Practical Tips for EmployersUsing Employees’ Social Media Posts as Evidence Employers may wish to consider reviewing employees’ social media posts when collecting evidence in employment disputes. Employers are, however advised to
สภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เลขที่ 7/89 อาคาร 10 ถนนราชดำ�เนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทรศัพท์ 0-2280-1567 E-mail : lawnewslct@gmail.com Website : www.lawnewslct.blogspot.com
collect and use social media posts against employees with care. The following “dos and don’ts” should be kept in mind: Dos - Collect social media posts that are publicly available or which the employer has been authorized to access - Verify that the relevant social media account belongs to the employee and that the relevant social media posts are in fact made by the employee or on behalf of the employee - Collect other supporting evidence in addition to the social media posts - Notarize the social media posts as notarized evidence is more likely to be accepted by Courts Don’ts - Don’t access employees’ social media accounts in an unauthorized manner in order to collect evidence against the employees - Don’t rely on social media posts as your only evidence. /- Karen Ip,
Jasmine Chen and Helen Beech of Herbert Smith Freehills LLP
ชำ�ระค่าฝากส่งเป็นรายเดือน ใบอนุญาตเลขที่ พ.211/2547 ปณ.ราชดำ�เนิน เหตุขัดข้องที่นำ�จ่ายผู้รับไม่ได้ 1. จ่าหน้าไม่ชัดเจน 2. ไม่มีเลขที่บ้านตามจ่าหน้า 3. ไม่ยอมรับ 4. ไม่มีผู้รับตามจ่าหน้า 5. ไม่มารับภายในกำ�หนด 6. เลิกกิจการ 7. ย้ายไม่ทราบที่อยู่ใหม่ 8. อื่นๆ ลงชื่อ.........................................