ฟาติมาสาร 03-03-2013

Page 1

-1gmai

ฟาติมาสาร

อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2013 ************************************************************************************************************************************************************************

วัดแม่พระฟาติมา 4080 ถ. อโศก – ดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. 10400 โทร. 02 - 245 - 1039, 02 - 642 - 9907, 02 - 247 - 5222, โทรสาร 02 - 246 - 6174 WWW.FACEBOOK.COM / FATIMADINDAENG

E-mail : noocaterina@yahoo.co.uk

www.fatima.or.th อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2013


-2-

บทความเจ้าอาวาส อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต พระวรสารวันนี้ ลูกา 13:1-9 เป็นเรื่องเล่าเกี่ยวกับ ชาวกาลิลีที่ถูกปีลาตสั่งประหารชีวิตในขณะที่กาลังถวายเครื่องบูชา และเรื่องเกี่ยวกับ คนสิบแปดคนที่ถูกหอสิโลอัมพังทับเสียชีวิต พระองค์ให้ข้อคิดว่า พวกเขาเหล่านั้น มิได้เป็นคนบาป หรือมีความผิดมากกว่าชาวกาลิลีอื่นๆ หรือชาวกรุงเยรูซาเล็มอื่นๆ และพระองค์ตรัสต่อไปว่า ถ้าพวกท่านไม่กลับใจเปลี่ยนชีวิต ทุกท่านก็จะพินาศไป เช่นเดียวกัน พระเยซูเจ้าตรัสเป็นอุปมาอีกเรื่องหนึ่งว่า ชายผู้หนึ่งปลูกต้นมะเดื่อเทศ ต้นหนึ่งในสวนองุ่นของตน แต่เมื่อมองหาผลที่ต้นไม้นั้น ก็ไม่พบ เจ้าของจึงพูดกับ คนสวนว่า สามปีแล้วฉันมองหาผลจากต้นมะเดื่อเทศต้นนี้ แต่ไม่พบ ให้โค่นมันทิ้ง เสียที่เปล่าๆ แต่คนสวนตอบว่า ปล่อยมันไว้อีกสักปี พรวนดิน ใส่ปุ๋ย ถ้าปีหน้าไม่ ออกผล ก็โค่นทิ้งเสียก็ได้ นี่คือเรื่องทั้งหมดที่พระวรสารวันนี้พูดถึง ถ้าพี่น้องได้ฟัง ได้ทบทวน พอจา เนื้อความได้ ก็ลองหาความหมายของบทสอนนี้ ซึ่งก็ไม่ยากที่จะหาความหมาย เมื่อได้ ความหมายแล้ว ก็หาวิธีสอนใจของเราเองว่าพระวาจานี้สอนอะไรเราเพื่อการดาเนิน ชีวิต พ่อจะลองใช้วิธีกระตุ้นเบาๆ คือเมื่ออ่านพระวาจาจบแล้ว ให้เวลาสักนิด แล้วถาม พี่น้องเป็นรายบุคคลด้วยการส่งไมค์ให้ตอบ เพื่อกระตุ้นความจา ความเข้าใจ การ นาไปใช้ ทาบ่อยๆ พี่น้องก็จะจาได้ และไม่กลัวการถูกถาม แต่อยากให้ถามซะด้วย ส่วนเรื่องการตีความหมาย และอุปมาต่างๆ สอนอะไร เดี๋ยวพี่น้องก็เข้าใจเองครับ ขอแสดงความเสียใจกับสุขภาพของบราเดอร์ ชัยณรงค์ บราเดอร์มาช่วยงาน อภิบาลและสอนคาสอนผู้เตรียมตัวเป็นคริสตชนเกือบครบรอบปีแล้ว บรรดาผู้เตรียม ตัวเป็นคริสตชนใหม่นี้จะล้างบาปคืนปัสกา คือวันเสาร์ที่ 30 มีนาคมนี้ อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2013


-3-

เหตุเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ หลังจากสอนคาสอนเสร็จ บราเดอร์ ไปช่วยเล่นบาสเกตบอลในงานฉลองวัดบางเชือกหนัง (วัดธรรมาสน์นักบุญเปโตร) ในช่วงพักครึ่งเวลา เกิดอาการวูบล้มหัวฟาดพื้นไม่รู้สึกตัว ต้องรีบนาส่งโรงพยาบาล เซนต์หลุยส์ บราเดอร์มีปัญหาเรื่องเส้นเลือดหัวใจ ผลจากการล้มทาให้มีเลือดออกใน สมองก้อนใหญ่ประมาณ 3 เซนติเมตร หมอจึงตัดสินใจผ่าสมองเพื่อระบายเลือดทิ้ง เมื่อผ่าสมองแล้ว ปลอดภัย ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้วแต่หน้าและตายังบวมเขียวช้า สามารถพูดได้ ความจา ปรกติ ไม่มีอัมพฤกษ์ คงรักษาตัวอีกนานพอสมควร ให้พวกเราช่วยสวดและเป็น กาลังใจให้บราเดอร์หายเร็วๆ นะครับ เจ็บครั้งนี้จาอีกนาน เพื่อนร่วมสอนคาสอน ครูจันทร์เพ็ญ ครูติ้ง และนักเรียนคาสอนไปเยี่ยมด่วนครับ คุณพ่อสุรชัย กิจสวัสดิ์

อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2013


-4-

พระวรสารประจาสัปดาห์ (ลก 13:1-9)

ในเวลานั้น คนบางคนเข้ามาทูลพระเยซูเจ้าถึงเรื่องชาวกาลิลีซึ่งถูก ปีลาตสั่งประหารชีวิตในขณะที่เขากาลังถวายเครื่องบูชา พระองค์จึงตรัส ตอบเขาว่า “ท่านคิดว่าชาวกาลิลีเหล่านี้เป็นคนบาปมากกว่าชาวกาลิลีทุกคน หรือ จึงต้องถูกฆ่าเช่นนี้ มิได้ เราบอกท่านทั้งหลายว่าถ้าท่านไม่กลับใจ เปลี่ยนชีวิต ทุกท่านจะพินาศไปเช่นกัน แล้วคนสิบแปดคนที่ถูกหอสิโลอัม พังทับเสียชีวิตเล่า ท่านคิดว่าคนเหล่านั้นมีความผิดมากกว่าคนอื่นทุกคนที่ อาศัยอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มหรือ มิได้ เราบอกท่านทั้งหลายว่าถ้าท่านไม่กลับใจ เปลี่ยนชีวิต ทุกท่านจะพินาศไปเช่นเดียวกัน” พระเยซูเจ้าตรัสเป็นอุปมาเรื่องนี้ว่า “ชายผู้หนึ่งปลูกต้นมะเดื่อเทศต้น หนึ่งในสวนองุ่นของตน เขามามองหาผลที่ต้นนั้น แต่ไม่พบ จึงพูดแก่คน สวนว่า “ดูซิ สามปีแล้วที่ฉันมองหาผลจากมะเดื่อเทศต้นนี้แต่ไม่พบ จงโค่น มันเสียเถิด เสียที่เปล่าๆ” แต่คนสวนตอบว่า “นายครับ ปล่อยมันไว้ปีนี้อีก สักปีหนึ่งเถิด ผมจะพรวนดินรอบต้น ใส่ปุ๋ย ดูซิว่าปีหน้ามันจะออกผล หรือไม่ ถ้าไม่ออกผล ท่านจะโค่นทิ้งเสียก็ได้”

อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2013


-5-

มาเปลี่ยนชีวิต อยู่กับพระคริสต์ เทศกาลมหาพรต เป็นห้วงเวลาที่คริสตชนควรพิจารณาถึงชีวิตที่ผ่านมาว่าได้ สนิทกับพระหรรษทานของพระเจ้าอยู่หรือเปล่า มนุษย์มักคิดว่าสามารถดารงชีวิตอยู่ โดยการอาศัยความรู้ ความสามารถของตนเอง ที่ได้รับการศึกษามาตั้งแต่เด็กๆ จากพ่อ แม่ และครูอาจารย์ทั้งหลาย แล้วทาไมละที่มนุษย์ไม่สามารถตอบคาถามหรือแก้ปัญหา จิตวิญญาณของตัวเองได้ มนุษย์ยังมีความกลัว ความสงสัย ความหยิ่งจองหองอยู่ ตลอดเวลา แต่ก็อยากได้รับอัศจรรย์เหมือนยาวิเศษที่จะแก้ไขปัญหาชีวิต และความทุกข์ ยากในด้านต่างๆ รวมทั้งความเจ็บป่วย เจ็บกาย เจ็บใจ และอยากได้ความสุขที่เหมือน เป็นโอสถบารุงกายและใจได้อย่างวิเศษ โดยเฉพาะหลายๆ คนคิดว่าพระเจ้าเงินตรานั้น แหละเป็นของวิเศษที่สุด หากพวกเราถามผู้ที่มีอาวุโสดูว่ามนุษย์มีเงินมีทองแล้วจะมีความสุขปราศจาก ความทุกข์จริงหรือเปล่า คาตอบก็คือคงไม่จริงเสมอไปแน่นอน หากจิตใจหรือจิต วิญญาณของเรายังไม่พบพระ หรือยอมรับในน้าพระทัยของพระเจ้าแล้ว ไม่มีคาตอบใด จะตอบคาถามของมนุษย์ได้เลย นอกจากการเชื่อฟังหรือการฟังเสียงของพระเจ้านั่นเอง การยอมรับพระประสงค์ของพระเจ้าผ่านทางคาสั่งสอนของพระเยซูเจ้าเท่านั้น พระเยซู เจ้าจะตรัสสอนลูกๆ ของพระองค์เสมอทุกคน และทุกครั้งที่พี่น้องเปิดพระคัมภีร์อ่าน พระวาจาทรงชีวิตของพระองค์ แล้วนามาตรึกตรอง พิจารณาดู แล้วนาไปปฏิบัติในชีวิต อยากถามพี่น้องที่ได้ปฏิบัติตามพระวาจาแล้วเคยมีเพศภัยเกิดขึ้นกับชีวิตไหม มีแต่จะ ทาให้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีใช่ไหมครับ พระวรสารของนักบุญลูกาในวันนี้ ได้บอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับชาวยิวในยุค ของพระเยซูเจ้าที่ยังมีความเชื่อผิดๆ อยู่ โดยเฉพาะพวกเขายังเชื่อว่าผู้ที่ทาบาปจะได้รับ การลงโทษให้เจ็บป่วย ประสบอุบัติเหตุ ฯลฯ โดยสิ่งร้ายต่างๆ ทุกชนิดจะเกิดขึ้นกับคน บาปเท่านั้น ส่วนคนที่เหลือไม่เจ็บ ไม่ไข้ หรือคนรวยพวกนี้เป็นคนดี ซึ่งพระเยซูเจ้าได้ ตรัสสอนพวกชาวยิวหัวโบราณเหล่านั้นว่า “ท่านคิดว่าคนเหล่านั้นมีความผิด มากกว่า อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2013


-6-

คนอื่นทุกคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มหรือ มิได้ เราบอกท่านทั้งหลายว่าถ้าท่านไม่ กลับใจเปลี่ยนชีวิต ทุกท่านจะพินาศไปเช่นเดียวกัน” (ลก13:4-5) พระเยซูเจ้าได้เตือนใจมนุษย์ทุกคนว่าอย่าคิดว่าตนเองเป็นคนดีไม่มีบาป แต่จง พิจารณาเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนเองให้ประพฤติอยู่ในธรรมบัญญัติเสมอๆ เพื่อทุกคน จะได้พบแสงสว่างที่จะทาให้ใจเปิดกว้าง มองเห็นพระอาณาจักรสวรรค์ หากเชื่อฟัง และนาไปปฏิบัติตามก็จะเกิดผลดีแก่ชีวิต ที่ทุกคนอยากหาคาตอบที่ถูกต้องถูกใจ พระ เจ้าทรงรักมนุษย์เสมอและรักที่สุดด้วย พระองค์จะยินดีถ้าคริสตชนมีการเปลี่ยนแปลง ชีวิตโดยเลือกที่จะมาอยู่กับพระคริสต์ หากพวกเรายังดื้อรั้นทาบาปซึ่งเปรียบเสมือนต้น มะเดื่อที่ไม่ยอมออกลูก ไร้ผล ก็สมควรที่จะถูกฟันโค่นลง เทศกาลมหาพรตเป็นเวลาที่เหมาะสมที่พวกเราจะมาหาพระ มากลับใจ เปลี่ยนแปลงชีวิตเราให้อยู่ในร่องรอยของกางเขนพระเยซูเจ้า หากเราร่วมพิธีเดินรูป 14 ภาคและพิจารณาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพระเยซูเจ้า พระมหาทรมานและการ สิ้นพระชนม์ของพระองค์เพียงพอหรือยังที่ชาวฟาติมาทุกคนจะกลับใจและได้คาตอบ สุดท้ายของเรา ยังไม่สายเกินไปนะครับ อย่าเป็นต้นมะเดื่อที่รอการถูกโค่นเลย คุณหาญชัย 23/2/2013

อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2013


-7-

ฝากไว้ให้ไตร่ตรอง การปลูกมะกรูดโดยเพาะจากเมล็ดที่แคะออกมาจากผลนั้นต้องติดตามวันแล้ว วันเล่าต้องคอยมองดูหน่อที่จะงอกขึ้นมาและจะมีผลที่น่าผิดหวังซ้าซาก เมื่อผิดหวังอยู่ หลายวัน เราก็เป็นเหมือนกับเรื่องราวในคาอุปมาชายผู้หนึ่งปลูกต้นมะเดื่อเทศต้นหนึ่ง ในสวนองุ่นเมื่อพระเจ้าทรงปล่อยให้เราหว่านเมล็ดแต่สุดท้ายแล้วเมล็ดนั้น (หรือ แผ่นดินของพระเจ้า) เติบโตไม่ได้จนพระเจ้าก็จะมาตัดสินผลงานเราเองโดยการทา หน้าที่เรียบร้อยแล้วไม่มีผลใดๆ แม้ว่าล้มเหลวก็ตาม สาระนี้มีความหมายต่อชีวิต ประจาวันของเราอย่างไรบ้าง เราควรจะพยายามเลียนแบบเพื่อทาให้แผ่นดินของพระเจ้ามาปรากฏอีก เรา กลับล้มเหลว คนสวนยังให้โอกาส ไม่โค่นลงเสียทีเดียว เราแต่ละคนก็เช่นเดียวกัน พระเป็นเจ้าทรงให้โอกาสเรากลับใจ และเปลี่ยนแปลงชีวิตมากกว่าเห็นเราพินาศไป เมื่อใดที่ฝุ่นละอองแห่งพฤติกรรมต่างๆ ของมนุษย์ตกตะกอนลงแล้ว เราจึงจะค้นพบ ตนเอง เหมือนกับชาวไร่ที่หว่านเมล็ดพืชไปทั่ว จงมองดูที่พื้นดินอีกครั้ง มองหายอดที่ งอกขึ้นมา การเจริญเติบโตของแผ่นดินของพระเจ้าเป็นความลึกลับยากที่จะสัมผัสได้และ เป็นอะไรที่บอกล่วงหน้าไม่ได้เช่นเดียวกับการเจริญเติบโตของเมล็ดพืช บางทีพระเยซู อาจจะกาลังขอให้เราหว่านเมล็ด และเฝ้ามองดูสัญญาณแห่งแผ่นดินที่กาลังจะมาถึง ก็ได้ พระองค์สามารถทาได้เพื่อนาแผ่นดินของพระเจ้าเข้ามาใกล้และปล่อยให้พระองค์ กระทาในส่วนที่เหลือ ความทุกข์ยากต่างๆ ในชีวิตจึงเป็นกางเขนที่พระองค์ทรงให้แต่ละคนแบกและ ติดตามพระองค์ไป เพื่อชดเชยบาปของตนเองและผู้อื่น แต่สิ่งที่สาคัญมากที่สุดคือ ทุกคน ไม่ว่าจะยากดีมีจน ทุกข์สุขสบายเพียงไร จาเป็นต้องกลับใจและเปลี่ยนแปลง ชีวิต มิฉะนั้นชีวิตจะพังพินาศไป ดังนั้นผู้ที่คิดว่าตนยืนหยัดมั่นคงอยู่ พึงระวังอย่าให้ล้ม โดย สมาชิกทางบ้าน อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2013


-8-

POPEREPORT.COM

จากใจ ... แด่พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ตั้งแต่สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประกาศสละตาแหน่ง ตัวผมเองยังไม่ได้เขียนบทความถึงพระองค์อย่างเป็นทางการ เพราะมัวแต่ รายงานข่าวเกี่ยวกับพระองค์ที่มีมากจนมองข้ามไม่ได้ วันนี้ ผมขอใช้โอกาสนี้ เขียนความรู้สึกจากใจถึงพระองค์บ้างก็แล้วกัน .... วันอังคารที่ 19 เมษายน 2005 เป็นวันแรกที่ผมได้รู้จักและเริ่มติดตามพระ สันตะปาปาเบเนดิกต์อย่างเป็นทางการ จากวันนั้นถึงวันนี้ เวลาเกือบ 8 ปีที่ผมได้ซึม ซับแนวคิดหลายๆอย่างจากพระองค์ ความรู้สึกแปรเปลี่ยนไปหลายอย่าง จาก ความรู้สึก “ไม่มั่นใจ” เปลี่ยนมาเป็นความรู้สึก “พระจิตทางานและเลือกพระ สันตะปาปาได้ถูกคน” จากความมั่นใจเปลี่ยนมาเป็น “การประกาศตัวสนับสนุน แบบจริงจัง” และวินาทีสุดท้าย พระองค์ยังมอบค้าสอนล้​้าค่าเรื่อง “การไม่ยึดติดกับ ตาแหน่ง” ให้น้าไปใช้ต่อด้วย ผู้อ่านหลายคนคงทราบดีว่า สถานที่แรกที่ผมเริ่มท้าข่าวพระสันตะปาปาก็คือ หน้ากระดาษฟาติมาสารแห่งนี้ (เริ่มปี 2002 ในยุคสมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2) จากนั้น ปี 2006 ผมเริ่มพัฒนาการรายงานข่าวไม่ให้จ้ากัดอยู่แค่หน้าฟาติมาสาร เพราะถ้าจมอยู่แค่ฟาติมาสาร ก็จะมีแค่คาทอลิกวัดแม่พระฟาติมาเท่านั้นที่จะอัพเดท ข่าวได้ทันสมัยกว่าคนอื่น ปี 2006 ผมตัดสินใจเดินเข้าสู่การรายงานข่าวแบบออนไลน์ โดยมีอุดมการณ์ในตอนนั้นว่า “ต้องการให้คาทอลิกไทยและคนทั่วไปได้เข้าใจเรื่อง ของพระสันตะปาปาอย่างถูกต้อง” ซึ่งผู้เป็นแรงบันดาลใจให้ผมท้าข่าวใน อินเตอร์เน็ทก็คือสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 นั่นเอง แต่ทว่า การที่พระสันตะปาปาเป็นแรงบันดาลใจครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจาก “ข่าวดีๆ” ในช่วงนั้น แต่มันเกิดจากการที่สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทรงถูกรุมกระหน่าแบบเละเทะจากสื่อมวลชนหลายสานัก ที่ทะลึ่งบิดเบือนพระ ดารัสของพระองค์ที่ตรัสถึงศาสนาอิสลาม (หากยังจ้ากันได้ มันคือเหตุการณ์ที่ อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2013


-9-

เรเกนส์บวร์ก ประเทศเยอรมนี อันน้าไปสู่การประท้วงใหญ่โตทั่วโลก เพียงเพราะ นักข่าวน้าพระด้ารัสพระสันตะปาปาไปถ่ายทอดไม่ครบ พวกเขาจงใจบิดเบือนให้ขาย ข่าวได้นั่นเอง) ตอนนั้น ผมจ้าได้ว่า ผู้น้าประเทศต่างๆ สื่อมวลชนทุกส้านัก รวมถึงชาวมุสลิม หลายประเทศ ออกมาต้าหนิพระสันตะปาปาอย่างรุนแรง โชคดีที่ผมได้อ่านพระด้ารัส นั้นแบบเต็มๆ ไม่ได้ถูกตัดตอนแบบที่นักข่าวน้าไปเสนอ ผมจึงเข้าใจเนื้อหาของสาร ดังกล่าวครบถ้วน ถ้าฟังทั้งหมด เราจะรู้ว่าพระสันตะปาปาไม่ได้ต้าหนิศาสนาอิสลาม แต่พระองค์ก้าลังเล่าถึงบทสนทนาระหว่างคนสองคนในยุคกลาง (คนหนึ่งคริสต์ คน หนึ่งมุสลิม) แต่นักข่าวไปตัดตอนแค่นักปราชญ์คริสต์พูด แต่ไม่รายงานถึงตอน นักปราชญ์มุสลิมตอบกลับ เท่านั้นแหละ เป็นเรื่องเลย พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ กลายเป็นจ้าเลยสังคมทันที วินาทีที่ผมเห็นข่าวประท้วงลามไปทั่วโลก ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ตัวเอง ทาไมถึงมีพลังขับเคลื่อนบางอย่างในตัวปะทุออกมาว่า เราต้องทาอะไรสักอย่าง เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจเรื่องจริงอย่างถูกต้อง ตอนนั้นผมคิดว่าอินเตอร์เน็ทนี่แหละ คือการนาเสนอความจริงได้เร็วสุดและเข้าถึงคนหมู่มากได้ง่าย ผมจึงตัดสินใจ เริ่มทาข่าวบนอินเตอร์เน็ทตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยมีพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ เป็นแรงกระตุ้นให้เกิดความเคลื่อนไหวนี้ และตั้งแต่เหตุการณ์นี้ ก็ต่อยอดมาถึง ปัจจุบันนั่นเอง บางทีการติดตามพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ก็นับเป็นเรื่องเหลือเชื่อ จากตอน แรกที่ผมบอกว่า ไม่ค่อยมั่นใจว่าพระองค์จะสานงานต่อจากพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 ได้ดีไหม พอเกิดเหตุการณ์นี้ ผมรู้สึกว่าต้องเข้ามาปกป้องพระสันตะปาปา และให้ความเข้าใจถูกต้องกับทุกฝ่าย หลังจากเหตุการณ์นี้ ผมก็ได้ไปงานเยาวชนโลก 2008 ที่ออสเตรเลีย ได้ขึ้นไปพูดต่อหน้าพระสันตะปาปา พระองค์ทรงยิ้มพร้อมลุกขึ้น ปรบมือให้ ความรู้สึกถึงเหตุการณ์ในปีดังกล่าว ผมมั่นใจว่าการเลือกท้าข่าวพระ สันตะปาปาแบบรายวันบนอินเตอร์เน็ท น่าจะเป็น “กระแสเรียกแห่งการรับใช้” อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2013


-10-

ที่พระส่งมาให้ และอาจเป็นกระแสเรียกพิเศษที่ต้องใช้ความอดทนสูง เนื่องจากงานนี้ เป็นกางเขนที่หนักมาก ผมต้องท้าข่าวทุกคืน (ท้าหลังจากกลับจากท้างาน) งานนี้ไม่มี เงินทองไหลเข้ามา แต่มีบ้างที่ต้องจ่ายเงินตัวเองออกไป แถมยังท้าให้ผมต้องนอนดึก หลังเที่ยงคืนทุกวัน แต่สิ่งที่ผมได้กลับมาคือ“ความสนุกในการทางานนี้” ท้ามา 10 ปี ทั้งที่เหนื่อยกายมากๆ แต่สมองและความคิดของผมกลับสนุกทุกวินาทีที่ได้ท้าหน้าที่ ดังกล่าวอย่างไม่เคยเปลี่ยน ... มีมาเซอร์ท่านหนึ่งเคยพูดกับผมว่า “การทาข่าวพระ สันตะปาปาเช่นนี้ พระไม่ตอบแทนด้วยการจ่ายเงินทางโลกให้ผมหรอก แต่พระ จะจ่ายเป็นเงิน ‘ตะแลนท์’ หรือ TALENT (พระพร) ในภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นสิ่งที่ พระเยซูเคยกล่าวถึงในพระคัมภีร์” ผมฟังแล้วก็ยิ้ม แต่พยายามไม่คิดต่อ เพราะมัน จะกลายเป็นเข้าข้างตัวเองเกินไป พอปี 2009-2010 ผมได้พบพระสันตะปาปาอีกหลายครั้ง เพราะตอนนั้นไป เรียนที่ยุโรป ช่วงดังกล่าวผมเคยมีความคิดอยากไปท้างานในวาติกัน ท้างานเป็น สื่อมวลชนในนั้น แต่พอได้ไปสัมผัสวาติกันแบบเจาะลึก ความรู้สึกผมเปลี่ยนไปสิ้นเชิง ผมไม่ชอบบรรยากาศในวาติกันเท่าไหร่ ดูไม่เป็นมิตรและการชิงดีชิงเด่นเพื่อต้าแหน่ง มีสูงมาก ผมจ้าได้ว่า พระสันตะปาปาก็ออกมาเทศน์ปรามๆ คนในวาติกันว่า อย่าหลง ต้าแหน่ง อย่าบ้าอ้านาจ เพราะของพวกนี้เป็นเรื่องหลอกลวง ของจริงมันอยู่ที่ใจ ต่างหาก พระเจ้าและความดีเป็นสิ่งไม่ตาย ดังนั้น การทางานศาสนาแล้วทะเลาะกัน แก่งแย่งตาแหน่งกัน จึงเป็นเรื่องที่น่าขยะแขยงมาก พอมาถึงวันที่พระสันตะปาปาประกาศสละต้าแหน่ง เหตุการณ์ปี 2009-2010 กลับมาอยู่ในสมองผมอีกครั้ง มันสะท้อนให้เห็นว่า พระสันตะปาปาก็ไม่ยึดติดกับ ตาแหน่งจริงๆ พระองค์พร้อมถอยให้คนที่เก่งกว่า พร้อมกว่า และมีความสามารถ มากกว่าเข้ามาทางานแทน ถ้ารู้ตัวว่าด้อยความสามารถ ก็จงถอยออกมา อย่าเป็น ตัวถ่วงองค์กร ถ้ารักองค์กรจริง ต้องพร้อมสละเกียรติยศ และอย่าไปบ้าตาแหน่ง ยึดติดกับเก้าอี้เด็ดขาด การสละต้าแหน่งของพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ผมได้ลองร้าพึงกับตัวเองแล้ว พบว่า สมัยก่อน ผมเคยมีอุดมการณ์ว่า “TO BE A CATHOLIC REPORTER อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2013


-11-

FOREVER” (จะเป็นนักข่าวคาทอลิกตลอดไป) รวมถึงอยากเป็นสื่อมวลชนในวาติกนั แต่ทุกอย่างมันเป็นเรื่องจอมปลอมสิ้นดี มันเป็นภาพลวงตาที่หลอกเราถึงความหรูหรา โก้เก๋ พอปี 2009 ที่ผมได้ไปสัมผัสวาติกันแบบเจาะลึก ความคิดผมเปลี่ยนไป ผมไม่ กล้าตั้งปณิธานว่าจะเป็นนักข่าวคาทอลิกตลอดไป แต่ขอลดระดับลงมาแค่ “การเป็น นักข่าวคาทอลิกคือการที่พระเจ้ามอบหน้าที่นี้ให้ ถ้าพระเห็นว่า หมดหน้าที่แล้ว ก็อย่าดันทุรังฝืนทาต่อไป จงทาตัวให้เหมือนนักบุญจอห์น บัปติสต์ ที่มาถางทาง ให้เรียบ ถ้าหมดหน้าที่ (พระเรียกกระแสเรียกนักข่าวคืน) ก็จงยุติบทบาทซะ สาคัญสุด การทางานให้พระ ต้องทาให้เงียบที่สุด อย่าอวดตัวและโชว์ออฟ เพราะพระเยซูไม่เคยสอนให้ทาดีแล้วต้องอวดตัวเหมือนพวกฟาริสี แต่เวลาทาดี จงเงียบๆ แบบหญิงม่ายที่นั่งแถวสุดท้ายในพระวิหาร” พอพระสันตะปาปาประกาศสละต้าแหน่ง ผมคิดว่า สิ่งที่ผมคิดสามารถ เชื่อมโยงกับสิ่งที่พระสันตะปาปาท้าได้ ผมไม่รู้ว่าการเป็นนักข่าวคาทอลิกจะด้าเนินไป ถึงวันไหน แต่ผมจะท้าหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด จนกว่าถึงวันหนึ่งที่ผมคิดว่า ตัวเองน่าจะ หมดความสามารถ ผมก็พร้อมจะปลีกตัวออกไป เพราะผมมั่นใจว่า พระเจ้ามีกระแส เรียกให้ทุกคนได้มีหน้าที่และมีงานต้องท้าในสวนองุ่นของพระองค์ ถ้าวันนั้นมาถึง ผม อาจไม่ต้องมาท้าข่าวแบบนี้ แต่อาจมีหน้าที่บางอย่างในการช่วยพระศาสนจักรก็ได้ สุดท้ายนี้ ขอบคุณสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 สาหรับคาสอน และแนวคิดต่างๆ ที่ทาให้ผมได้ซึมซับเกือบ 8 ปีที่ผ่านมา อีกสิ่งที่ผมได้รับจาก พระองค์คือ “จงกล้าพูดและรายงานความจริง” เพราะความจริงจะทาให้เราเป็น อิสระ การเป็นนักข่าวคาทอลิกต้องยึดมั่นความจริงและมโนธรรมหลายประการ ความจริงอาจทาให้หลายคนเจ็บปวด แต่ระยะยาว มันจะเป็นชัยชนะที่ชาระล้างทุก อย่างให้มีแต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้น AVE MARIA

อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2013


-12-

วาติกันแถลงโป๊ปเบเนดิกต์จะดารงตาแหน่ง “สมเด็จพระสันตะปาปา กิตติคุณ” วาติกัน แถลงยืนยัน สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 จะดารง ตาแหน่ง “สมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณ” (POPE EMERITUS) หลังจากสละ ตาแหน่งอย่างเป็นทางการ พร้อมกันนี้ จะทรงสวมอาภรณ์สีขาวตามเดิม แต่ทรง ปฏิเสธจะสวมรองเท้าสีแดงของพระสันตะปาปา ส่วนแหวนชาวประมงจะถูก ทาลายทิ้ง และพระองค์จะสวมแหวนสมัยเป็นพระคาร์ดินัลแทน นอกจากนี้ ทรง ปฏิเสธจะรับการอารักขาจาก “ทหารสวิส” เพราะต้องการเน้นว่า ทหารสวิสไม่ได้มี หน้าที่ปกป้องพระสันตะปาปากิตติคุณ แต่มีหน้าที่ปกป้อง “พระสันตะปาปา ผู้เป็นประมุขสูงสุดของพระศาสนจักร” เท่านั้น คุณพ่อเฟเดริโก้ ลอมบาร์ดี้ ผู้อ้านวยการสื่อมวลชนวาติกัน แถลงข่าวยืนยัน อย่างเป็นทางการว่า “สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 จะยังใช้พระนามว่า เบเนดิกต์ ที่ 16 พระองค์จะดารงตาแหน่งพระสันตะปาปากิตติคุณ และจะยังคง สวมอาภรณ์สีขาวโดยไม่มีมอซเซ็ตต้า (MOZETTA - ผ้าคลุมไหล่และแขน) พระ สันตะปาปาเบเนดิกต์ยังปฏิเสธที่จะสวมรองเท้าสีแดง ซึ่งเป็นเครื่องหมายของ พระสันตะปาปา โดยพระองค์ทรงเลือกสวมรองเท้าหนังสีน้าตาล ซึ่งได้รับการ ถวายจากการเสด็จเยือนเม็กซิโกเมื่อปีที่แล้ว” “ในส่วนของแหวนชาวประมงที่พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ทรงสวมอยู่นั้น ก็จะถูกทาลายลงหลังจากสิ้นสมณสมัย เช่นเดียวกับตราประทับประจาพระองค์ พระสันตะปาปาเบเนดิกต์จะสวมแหวนสมัยเป็นพระคาร์ดินัลแทน” คุณพ่อลอม บาร์ดี้ กล่าวกับสื่อมวลชน ในส่วนของการทหารสวิสซึ่งมีหน้าที่อารักขาพระสันตะปาปา ก็ได้รับการ ยืนยันว่า หลังจากสิ้นสุดสมณสมัยของสมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 พระองค์ประสงค์จะไม่รับการอารักขาจากทหารสวิสอีกต่อไป เพราะต้องการให้ทหาร สวิสมีหน้าที่ปกป้องพระสันตะปาปาองค์ใหม่ ผู้เป็นประมุขสูงสุดของพระศาสนจักร เท่านั้น อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2013


-13-

“หลังจากเวลา 20.00 น. ของวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2013 ทหารสวิสที่ประจา อยู่ ณ พระราชวังคาสเตล กันดอลโฟ ก็จะยุติการปฏิบัติหน้าที่อารักขาพระ สันตะปาปาเบเนดิกต์ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ตาแหน่งพระสันตะปาปาว่างลง พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ไม่ต้องการให้ทหารสวิสมาอารักขาและดูแลพระองค์ กระนั้น วาติกันจะจัดเจ้าหน้าที่ตารวจของวาติกัน มาดูแลความปลอดภัยให้ พระองค์แทน” คุณพ่อลอมบาร์ดี้ กล่าวย้​้า AVE MARIA

*****************************************

ข้อคิดเพื่อชีวิต “คนที่ไม่เคยเข้าโรงเรียนเลยอาจขโมยตู้รถไฟไปขบวนหนึ่ง แต่หากว่าเขาได้รับการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย เขาอาจขโมยรางรถไฟได้ทั้งหมดเลย!” -Theodore Roosevelt –

น่าเศร้าและน่ากลัวที่ในปัจจุบันนี้ การฉ้อราษฎร์บังหลวงนั้น กาลังลุกลามไป ในทุกหย่อมหญ้า ทุกวงการ และในทุกเพศทุกวัย ทั้งในสังคมไทยและสังคมโลก! การกระทาที่อสัตย์ไม่ซื่อเป็นที่ยอมรับกันมากขึ้น แม้แต่ผลการสารวจโพลเด็ก วัยรุ่นไทยก็แสดงให้เห็นอาการไม่ปกติในความคิดของคนไทยมากขึ้น เมื่อทั้งเด็ก เยาวชน และผู้ใหญ่ต่างกล่าวว่า การ “คอร์รัปชั่น” เป็นเรื่องที่ยอมรับได้ หากว่ามีการ แบ่งผลประโยชน์ต่อตัวพวกเขาหรือประเทศชาติ (ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม) การทุจริต ผิดกฎหมายหรือผิดทานองคลองธรรม กลายเป็นที่ยอมรับ ทาให้เกิด การผ่อนปรน ผ่อนผัน หรือหย่อนยานในการปฏิบัติจัดการตามกฎระเบียบ ผลที่สุด คน ที่กลายเป็นเหยื่อของกฎหมายคือ คนดีที่ซื่อตรง ที่พยายามอยู่ภายใต้ครรลองของ กฎเกณฑ์กฎหมาย! ส่วนคนไม่ดีนั้นมักสามารถรอดพ้นจากโทษทางกฎหมาย เพราะมี อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2013


-14-

เส้นสาย มีอิทธิพล(ข่มขู่) หรือมีเงินติดสินบน โน้มน้าวให้ผู้มีอานาจชะลอการจัดการ หรือช่วยให้หลุดพ้นจากความผิด โดยมีการ “หาแพะ” มารับ “บาป” ไปแทน! การทุจริตเริ่มแนบเนียน ไร้รอยตะเข็บ มีการกินบ้านกินเมือง เกิดการ คอร์รัปชั่นเชิงนโยบาย กินรวบตั้งแต่ต้นน้า กลางน้า และปลายน้า! มูลค่าของการคอร์รัปชั่นเริ่มสูงขึ้นอย่างน่าใจหาย จนธุรกิจไม่อาจเดินไปได้ ตามครรลองที่ควรเป็น ผู้ประกอบการต่างอยู่ในสภาวะน้าท่วมปาก จะไม่จ่ายก็ไม่ได้ เพราะอาจถูกกลั่นแกล้ง แต่ถ้าต้องจ่ายจะทาให้ต้นทุนสูงขึ้น กาไรหดหาย ดังนั้น วิธีแก้ไขปัญหาที่มักใช้กันก็คือ ลดคุณภาพของงานลง! ผลที่ตามมาก็คือ ผู้ที่รับเคราะห์กรรมไปก็คือ ประชาชน นั่นเอง! แต่บางครั้งกรรมก็สนองผู้ที่โกงกินเหมือนกัน เพราะผลที่เกิดจากการ คอร์รัปชั่นของพวกเขาได้นาเอาเคราะห์ร้ายมาสู่ลูกหลานของพวกเขาเองในเวลาต่อมา! แต่ที่น่าเศร้าก็คือ การคอร์รัปชั่นรับสินบนแพร่กระจายออกไปเหมือนเชื้อโรค ร้ายที่แทรกซึมเข้าไปในทุกวงการ ทั้งวงการการเมือง การศึกษา กระบวนการ ยุติธรรม หรือแม้แต่การศาสนา และสิ่งนี้กาลังนาประเทศชาติไปสู่การพิพากษาของ พระเจ้า ดังนั้น วันนี้พี่น้องที่รัก ถึงเวลาแล้วหรือยังที่พวกเราจะลุกขึ้นมารักษาชาติหรือ แผ่นดินของเรา ด้วยการสนับสนุนคนดีให้เป็นผู้ปกครองดูแล ทั้งในระดับประเทศและ ในระดับท้องถิ่นของเรา (รวมทั้งในองค์กรหรือในคริสตจักรของเราเอง) ขอให้สมัครสมานสามัคคีด้วยความกล้าหาญและด้วยความรักเมตตาต่อคนในชาติ ของเรา พวกเราจงรักษาแผ่นดินของเราให้คงอยู่สืบไป ก่อนที่จะไม่มีแผ่นดินเหลือให้ พวกเรารักษาอีกต่อไป! และหากว่าคุณเองเป็นส่วนหนึ่งของการคอร์รัปชั่นที่กาลังเกิดขึ้น ก็คงถึงเวลา แล้วที่คุณจะยุติการมีส่วนร่วมใด ๆ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จะดีไหม? โดย ผู้เป็นสุข อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2013


-15-

รายการมิสซาประจาสัปดาห์ อา. 3 มี.ค. 13

07.00 น. คุณพ่อสุชาติ

อาทิตย์ 3 เทศกาลมหาพรต ขอพร ขอพร ขอพร อุทิศ

หน้าที่การงานลูกทั้งห้า ครอบครัว สุปฏิญญา นายประกิต วงศ์ราช เปาโล ขวัญจิตร ลุลิตานนท์

ขอพร ขอพร ขอพร อุทิศ

พนักงานของวัดและโรงเรียน ครอบครัวกาญจนา สงวนสุข อันนา วันดี สุขบุญลือ,ครอบครัว โมนิค มารี ชวงตัล ลุติตานนท์

อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

ยวงบัปติสตา จิ้งชุง แซ่อึ้ง ยวง ยรรยง วูวงศ์ อันนา ใส นามวงศ์ อากาทา ฮ้อ แซ่ตั้ง เบเนดิกโต ลิ่มชุน แซ่หว่อง

อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

เทเรซา ง้อ แซ่ลิ้ม มารีอา สุปรียา พนายางกูร ญาติพี่น้องตระกูลรุขพันธ์เมธี ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง เยียกอาเก่ง ลิบจือ แซ่หว่อง, ภรรยา

อุทิศ ยอแซฟ วิโรจน์ ว่องวิไลกุล อุทิศ ลูกา ซังฉุ่ย แซ่เตียว

อุทิศ ยวงบัปติสตา ลุ่มสูง แซ่หว่อง อุทิศ ยวงบอสโก ชวน,อันนา ประไพ

อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

09.00 น.

มารีอา กุ้ยเฮียง แซ่โง้ว เปาโล ใช้- กลารา สินี คุณวิรัช วิญญาณในไฟชาระ

ยอแซฟ วีระชัย สุปฏิญญา ปีเตอร์ วินท์ ตรีกมล เทเรซา วันทนีย์, แอนโทนี วีระ มารีอา นฤมล กุสุพลนนท์

ขอพร สาหรับพี่น้องสัตบุรุษทุกท่าน ทุกครอบครัว

คุณพ่อศรีปราชญ์

17.30 น. คุณพ่อสุรชัย

ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

อักเนส ณัฐพัชร พรกุลวิไล เปโตร สวัสดิ์ จิตรบรรจง อันนา ท้อ จีนจารัส หลุยส์ ยอแซฟ สุรินทร์ วิรเทพ อากาทา ฮ้อ แซ่ตั้ง มารีอา เซี่ยมเอ็ง แซ่ลิ้ม มารีอา เล็ก ชาวนาแก้ว วิญญาณในไฟชาระ

ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

แพททริเซีย จารุภรณ์ พรกุลวิไล ฟรังซิส สุชาติ จิตรบรรจง ยอห์น กมล,ยวง เสกสรร รุขพันธ์เมธี แบร์นาแด๊ต ชญานิษฐ์ สีหพล มารีอา ทองทิพย์ เนติวิวัฒน์ ฟรังซิสเซเวียร์ ชูชัย ไกรศักดิ์ศิริ มารีอา สุปรียา พนายางกูร วิญญาณที่ไม่ใครคิดถึง

อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2013


-16จ. 4 มี.ค. 13

06:15 น.

19:00 น.

น. กาสิมีร์ ขอพร ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

แคทรีน ไอยศรา ยอแซฟ พอล พรกุลวิไล ยอแซฟ ชัชชัย นางสุนีย์ เฮเลนา กาญจนา ยอแซฟ อุดมาชัย วิญญาณในไฟชาระ

ขอพร ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

อันนา ขจิตพรรณ และลูกหลาน ยอแซฟ พิสิษฐ์ พรกุลวิไล นางวันดี สุขขีวัด ยวง ยรรยง วูวงศ์ เปโตร ซังฮี้ แซ่อึ้ง อักแนส กิ้มสี แซ่แต้ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง

ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

ครอบครัวผลาผล นายพีระพงษ์ วัชรพล มารีอา ทองทิพย์ เนติวิวัฒน์ อากาทา ฮ้อ แซ่ตั้ง มารีอา เล็ก ชาวนาแก้ว ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง

ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

บรรดาผู้สูงอายุที่เจ็บป่วย ฟรังซิสเซเวียร์ ชูชัย ไกรศักดิ์ศิริ มารีอา ดวงพร รัชฎาศิริ เซซีลีอา แน่งน้อย อาภรณ์รัตน์ ยวงบัปติสตา หวล อาภรณ์รัตน์ เปโตร สุนันท์ ผลาผล

อุทิศ มารีอา เซี่ยมเอ็ง แซ่ลิ้ม

อ. 5 มี.ค. 13

06.15 น.

19:00 น.

อุทิศ เปาโล สมนึก ผลาผล

สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต ขอพร แคทรีน ไอยศรา ขอพร คุณวรนงค์ ศิริกุล อุทิศ นางสุนยี ์

ขอพร ครอบครัวศิริกุล, ศิริเศรษฐกุล ขอพร คุณปอล, คุณอัญมณี เบลลามี อุทิศ ยอแซฟ วิสษิ ฐ์ มีเฟื่องศาสตร์

อุทิศ เฮเลนา กาญจนา อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ

อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง

ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

เซซีลีอา พรทิพย์ สถิตกาญจน์ ยวง วันชัย สัมพันธ์ชัยวสุ มารีอา ดวงพร รัชฎาศิริ มารีอา เซี่ยมเอ็ง แซ่ลิ้ม อากาทา ฮ้อ แซ่ตั้ง มารีอา เล็ก ชาวนาแก้ว

ซาการียา สนิเลาะ,ครอบครัว มารีอา กิมจิน, เปโตร ประจวบ ยวง บอสโก สุธรรม,ยอแซฟ สุวัฒน์ ฟรังซิสเซเวียร์ ชูชัย ไกรศักดิ์ศิริ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง มารีอา ทองทิพย์ เนติวิวัฒน์

อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2013


-17พ. 6 มี.ค. 13

06.15 น.

สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต ขอพร ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

แคทรีน ไอยศรา ยอแซฟ สุรเสียง พรกุลวิไล ดญ. ฟ้านาพร รุขพันธ์เมธี เปาโล วิจิตร ลุลิตานนท์ มารีอา ทิพยวดี ลุลิตานนท์ นางสุนีย์ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อากาทา ฮ้อ แซ่ตั้ง มารีอา เล็ก ชาวนาแก้ว

ขอพร ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

คุณสาราญ, คุณสุรีรัตน์ คาภีระ แคทรีน จินดารัตน์ พรกุลวิไล คุณวิไลพร,คุณทัศพงษ์ รุขพันธ์เมธี ฟรังซิสเซเวียร์ ชูชัย ไกรศักดิ์ศิริ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง มารีอา ดวงพร รัชฎาศิริ มารีอา ทองทิพย์ เนติวิวัฒน์ ยอแซฟ ทรงภพ รุขพันธ์เมธี มารีอา เซี่ยมเอ็ง แซ่ลิ้ม

19:00 น.

งดมิสซา (พระสงฆ์เข้าเงียบ)

พฤ. 7 มี.ค. 13

ระลึกถึง น. แปร์เปตูอา และ น. เฟลีซีตัส มรณสักขี

06.15 น.

งดมิสซา (พระสงฆ์เข้าเงียบ)

19:00 น.

ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

แคทรีน ไอยศรา คุณจิตเกษม พูลคุณานุกูร อังเจลา สาราญ หาญอาวุธ นางสุนีย์ ยวง ยรรยง วูวงศ์ มารีอา เซี่ยมเอ็ง แซ่ลิ้ม อากาทา ฮ้อ แซ่ตั้ง ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง มารีอา เล็ก ชาวนาแก้ว

ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

ครอบครัวมารีอา สมจิตร ธาราโยชน์ เซซีลีอา สุธิดา กุลอนรรฆพันธุ์ ยวงบัปติสตา ยวง ธาราโยชน์ มารีอา จ้อย ธาราโยชน์ ฟรังซิสเซเวียร์ ชูชัย ไกรศักดิ์ศิริ มารีอา ดวงพร รัชฎาศิริ มารีอา ทองทิพย์ เนติวิวัฒน์ คุณฝ้าย, วิญญาณญาติพี่น้อง วิญญาณในไฟชาระ

อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2013


-18ศ. 8 มี.ค. 13

06.15 น.

19:00 น.

น. ยอห์น แห่งพระเจ้า นักบวช (วันสตรีสากล) ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

มารีอา ดวงใจ ครอบครัว การะเวก,ลูกหลาน โทมัส ณรงค์ ยวง ยรรยง วูวงศ์ ยวงบัปติสตา ศรีหมอก วิญญาณในไฟชาระ

ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

แคทรีน ไอยศรา ครอบครัวมารีอา อุดม มยุระสาคร ยวงบัปติสตา ปึ๋ง, เวรอนิกา เสนอ พี่น้องตระกูลเสนาจักร มาร์ธา ส้มเกลี้ยง มีเฟื่องศาสตร์ อากาทา เจริญ, อันนา มิ่ง การะเวก

ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

ครอบครัวประหยัดทรัพย์ มารีอา เซี่ยมเอ็ง แซ่ลิ้ม ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อากาทา ฮ้อ แซ่ตั้ง อันนา จาเนียร ประหยัดทรัพย์ วิญญาณในไฟชาระ

ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

ครอบครัวสุนทรศิริ ฟรังซิสเซเวียร์ ชูชัย ไกรศักดิ์ศิริ มารีอา เล็ก ชาวนาแก้ว มารีอา ดวงพร รัชฎาศิริ มารีอา ทองทิพย์ เนติวิวัฒน์ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง

ส. 9 มี.ค. 13

06.15 น.

19:00 น.

น. ฟรังซิสกา ชาวโรม นักบวช ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

เทเรซา จิราภรณ์ ยาโกเบ เสรี พรกุลวิไล แซมซั่น แซ่ฉั่ว มารีอา บุญช่วย โก่งศร ยวง ยรรยง วูวงศ์ วิญญาณในไฟชาระ

ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

แคทรีน ไอยศรา อักเนส จันทร์ตรี พรกุลวิไล เปโตร เอ๋ สัณหภักดี นพ. สมาน ตระกูลทิม พญ. ภักดี ตระกูลทิม วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง

ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

สมาชิกบ้านมารีอุปถัมภ์ เทเรซา วินิตา กุลตังวัฒนา อากาทา ฮ้อ แซ่ตั้ง มารีอา เล็ก ชาวนาแก้ว มารีอา เซี่ยมเอ็ง แซ่ลิ้ม มารีอา ทองทิพย์ เนติวิวัฒน์ มารีอา ยุพา คุ้มคง วิญญาณในไฟชาระ

ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

วินเซนต์ สุรินทร์ กุลตังวัฒนา มารีอา สุทธินีย์, เทเรซา ปิยกานต์ ฟรังซิสเซเวียร์ ชูชัย ไกรศักดิ์ศิริ มารีอา ดวงพร รัชฎาศิริ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง ทอมาส ธวัช, เทเรซา จู ศรีสวัสดิ์ ยอแซฟ อ๊อน, มารีอา เง็กเอ็ง แซ่ฉั่ว วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง

อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2013


-19-

ประชาสัมพันธ์ 1. เข้าเงียบพระสงฆ์กรุงเทพฯ วันพุธที่ 6 มีนาคม -วันพฤหัสบดีที่ 7 มีนาคม งดมิสซาค่าวันพุธที่ 6 และเช้าวันพฤหัส 7 มีนาคม 2. คาสอนภาคฤดูร้อน เริ่มวันจันทร์ที่ 1 เมษายน –วันที่ 30 เมษายน พี่น้องที่จะ ส่งบุตรหลานมาเรียน สามารถแจ้งชื่อได้ที่สานักงานวัด 3. เข้าเงียบผู้สูงอายุ วันเสาร์ที่ 9 มีนาคม รถออกเวลา 7.30 น. จัดที่วัดพระ มารดานิจจานุเคราะห์ คลองจั่น เลิกงานเวลา 16.00 น. 4. เชิญพี่น้องร่วมเทิดเกียรติแม่พระ วันพุธที่ 13 มีนาคม เวลา 15.00 น. สวดถวายตัวแด่แม่พระ สวดพระเมตตา 15.30 น. อ่านพระวาจา แบ่งปันพระวาจา 16.30 น. แบ่งปันประสบการณ์ชีวิต โดย คุณพ่อวีระศักดิ์ สุภาเพิ่ม (C.M.) 17.30 น. รับประทานอาหาร 18.00 น. ตั้งศีลมหาสนิท สวดสายประคาโลก นาโดย คุณพ่อชวลิต กิจเจริญ 19.00 น. พิธีบูชาขอบพระคุณ โดย พระสังฆราชยอแซฟ ลือชัย ธาตุวิสัย

อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2013


-20-

“นายครับ ปล่อยมันไว้ปีนี้อีกสักปีหนึง่ เถิด ผมจะพรวนดินรอบต้น ใส่ปุ๋ย ดูซิว่าปีหน้ามันจะออกผลหรือไม่ ถ้าไม่ออกผล ท่านจะโค่นทิ้งเสียก็ได้” (ลก 13 : 8-9) อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 2013


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.