ฟาติมาสาร - สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา (07-09-2014)

Page 1

-1-

ฟาติมาสาร สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2014 ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วัดแม่พระฟาติมา 4080 ถ. อโศก – ดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. 10400 โทร. 02 - 245 - 1039, 02 - 642 - 9907, 02 - 247 - 5222, โทรสาร 02 - 246 - 6174 E-mail : fatimachurch13@gmail.com www.fatima.or.th สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2014


-2-

วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2014 สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา บทอ่านจาก พระวรสาร มธ.18:15-20 พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาอัครสาวกว่า ถ้าพี่น้องของท่านทาผิด จงไปตักเตือนเขาตามลาพัง ถ้าเขาเชื่อฟัง ท่านจะได้พี่น้องกลับคืนมา ถ้าเขาไม่เชื่อฟัง จง พาอีกคนหนึ่งหรือสองคนไปด้วย ถ้าเขาไม่ยอมฟังพยาน จงแจ้งให้หมู่คณะทราบ ถ้าเขา ไม่ยอมฟังหมู่คณะอีก จงปฎิบัติต่อเขาเหมือนเขาเป็นคนต่างศาสนาหรือคนเก็บภาษีเถิด บทอ่านที่หนึ่งจากหนังสือประกาศกเอเสเคียล อสค 33:7-9 พระเจ้าตรัสว่า เรา แต่งตั้งท่านให้เป็นคนยามสาหรับพงศ์พันธุ์อิสราเอล ท่านได้ยินถ้อยคาจากปากของเรา เมื่อใด ท่านก็จงตักเตือนเขาแทนเราเถิด ถ้าเราบอกคนชั่วร้ายว่า คนชั่วร้ายเอ๋ย ท่านต้อง ตายแน่ๆ แต่ท่านไม่พูดตักเตือนคนชั่วร้ายให้ละทิ้งความประพฤติของเขา คนชั่วร้ายนั้นจะ ตายเพราะความผิดของตน พระเจ้าจะเอาความผิดจากท่าน เพราะความตายของเขา แต่ ถ้าท่านได้ตักเตือนคนชั่วร้ายให้ละทิ้งความประพฤติของตน แล้วเขาไม่ยอมกลับใจ ท่านก็ จะรอดชีวิต เราเป็นหนี้ความรักหมายความว่า ใครก็ตามที่หวังดีกับเรา เตือนสอนให้เรา เป็นคนดี ให้เราละทิ้งบาป หรือให้เราเลือกเดินทางในวิถีชีวิตที่ดี นั่นคือท่านผู้นั้นให้ความ รัก แก่เรา เราเป็นหนี้ความรักนั้น บรรพบุรุษ บิดามารดา ที่เอาใจใส่อบรมลูกหลานให้เดินตามทางของบิดามารดาที่ ดี ตักเตือนบุตรหลานให้มีวิถีชีวิตที่ดี ดาเนินชีวิตตามความเชื่อคาทอลิก นั่นคือท่าน ทั้งหลายได้ทาหน้าที่ของตนอย่างดี พระเจ้าจะไม่เอาโทษท่าน เพราะท่านทาหน้าที่ดั่ง ประกาศกในครอบครัวแล้ว อย่าท้อแท้ในการตักเตือนบุตรหลานที่ไม่ชอบมาทากิจศรัทธา จงให้กาลังใจลูก พูดคุยกับลูก รักลูกของท่านด้วยการตีสอน แล้วลูกของท่านก็จะฟังท่าน ถ้าเขาไม่ฟัง ไม่ใช่ความผิดของท่านแล้ว พระเจ้าจะไม่ลงโทษท่าน เหมือนเรื่องเล่าจาก หนังสือประกาศกเอเสเคียลในวันนี้ มีสิ่งต่างๆ มากมายที่มนุษย์สมัยใหม่เดินตามวิถีชีวิต แบบนั้น มากกว่าเดินตามสิ่งที่พระศาสนาจักรสอน การประจญที่ผู้ทางานอภิบาลต้อง เผชิญ เช่น การตอบรับข้อท้าทายของจิตตารมณ์ธรรมฑูต....การปฏิเสธความเกียจคร้านที่ สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2014


-3-

เห็นแก่ตัว.......การปฏิเสธการมองโลกในแง่ร้ายที่ไร้ผล..... การตอบรับความสัมพันธ์ใหม่ที่ เกิดจากพระเยซูคริสตเจ้า.....การปฏิเสธจิตตารมณ์ทางโลก.......เรื่องการนาพระวรสารไป ใช้ดาเนินชีวิตประจาวัน ก็คือการที่คริสตชนมีโอกาสพูดคุย สนทนา แบ่งปันประสบการณ์ ชีวิตของตน ทั้งในด้านความเชื่อ และด้านที่ผิดพลาดไป เพราะไม่มีคนใดดีทุกอย่าง ทุกคน มีความบกพร่องกันไม่มากก็น้อย เมื่อได้รับการตักเตือนควรน้อมรับด้วยใจสุภาพ ขอบคุณ ผู้ที่เตือนเรา บอกเรา เพราะผู้นั้นคือ ประกาศกท่ามกลางพี่น้อง ที่เราเป็นหนี้ความรักของผู้ ที่รักเราด้วยคาตักเตือนของท่าน.........เราลองมาสารวจดูหน่อยซิว่า มีลูกหลานของเราไหม ที่ไม่สนใจดาเนินชีวิตแบบคนดี เสียสละ ทาดีเพื่อส่วนรวม ช่วยกันสร้างสังคมวัดให้มี บรรยากาศแห่งการอยากมาพบปะกัน พูดคุยกัน เป็นหนึ่งเดียว ลูกหลาน เยาวชน ประพฤติดี นาความเจริญใจมาสู่วัดของเรา ประเมินแล้วถ้ายังไม่ผ่าน ก็จงพยายามกระทา ต่อไปนะครับ อย่าท้อแท้ หมดหวัง....พระเจ้าคือองค์ความหวัง คุณพ่อ สุรชัย กิจสวัสดิ์

สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2014


-4-

พระวรสารประจาสัปดาห์ (มธ 18:15-20) “ถ้าพี่น้องของท่านทาผิดจงไปตักเตือนเขาตามลาพัง ถ้าเขาเชื่อฟัง ท่านจะได้พี่ น้องกลับคืนมา 16ถ้าเขาไม่เชื่อฟัง จงพาอีกคนหนึ่งหรือสองคนไปด้วย คาพูดของพยาน สองคนหรือสามคนจะได้จัดเรื่องราวให้เรียบร้อย 17ถ้าเขาไม่ยอมฟังพยาน จงแจ้งให้หมู่ คณะทราบ ถ้าเขาไม่ยอมฟังหมู่คณะอีก จงปฏิบัติต่อเขาเหมือนเขาเป็นคนต่างศาสนา หรือคนเก็บภาษีเถิด 18 “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ทุกสิ่งที่ท่านจะผูกในโลก จะผูกไว้ในสวรรค์ และทุกสิ่งที่ท่านจะแก้ในโลก ก็จะแก้ในสวรรค์ด้วย” 19 “เราบอกความจริงแก่ท่านอีกว่า ถ้าท่านสองคนในโลกนี้พร้อมใจกันอ้อนวอนขอ สิ่งหนึ่งสิ่งใด พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์จะประทานให้ 20เพราะว่า ที่ใดมีสองหรือ สามคนชุมนุมกันในนามของเรา เราอยู่ที่นั่นท่ามกลางพวกเขา” 15

***************************

ข้อคิดจากบทพระวรสาร(โดย คพ.ชัยยะ กิจสวัสดิ์) 1. การคืนดีกัน จากเนื้อหาและน้าเสียงของมัทธิวบทที่ 18 ข้อ 15-18 ทาให้เชื่อกันว่าไม่น่าจะเป็น คาสอนของพระเยซูเจ้าเอง เหตุผลประการแรกคือ เป็นไปไม่ได้ที่พระองค์จะสอนศิษย์ว่า “ถ้าเขาไม่ยอมฟัง พยาน จงแจ้งให้หมู่คณะทราบ”(มธ 18:17)เพราะคากรีกที่มัทธิวใช้คือ ekklesia (เอคเคล ซีอา) นั้นไม่ได้หมายถึง “หมู่คณะ” แต่หมายถึง “พระศาสนจักร” ซึ่งขณะที่พระองค์ยัง ทรงพระชนมชีพอยู่ยังไม่เกิดขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนว่า “พระศาสนจักร” ที่พูดถึง น่าจะผ่านการพัฒนามาระยะหนึ่งแล้ว จนเป็นองค์กรที่มีระบบ ระเบียบ และอานาจหน้าที่ ชัดเจนว่าจะ “ผูก” หรือจะ “แก้” สิ่งใดได้บ้าง (มธ 18:18) สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2014


-5-

ประการที่สอง เป็นไปได้อย่างไรที่พระองค์จะสอนว่า “ถ้าเขาไม่ยอมฟังหมู่คณะ อีก จงปฏิบัติต่อเขาเหมือนเขาเป็นคนต่างศาสนาหรือคนเก็บภาษีเถิด” (มธ 18:17) ซึ่งบ่ง บอกว่าพวกเขา“หมดหวังที่จะรอด” ทั้งๆ ที่ตลอดชีวิตของพระองค์ทรงตามหาและคลุกคลี อยู่กับคนเหล่านี้จนพวกฟารีสีกล่าวหาพระองค์ว่าเป็นเพื่อนกับคนเก็บภาษีและคนบาป (มธ 11:19; ลก 7:34) และนอกจากจะไม่ทรงเห็นว่าคนเก็บภาษีและคนบาปสิ้นหวังแล้ว พระองค์ยังตรัสว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า คนเก็บภาษีและหญิงโสเภณีจะ เข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้าก่อนท่าน” (มธ 21:31) ประการสุดท้าย จากน้าเสียงของพระวรสารตอนนี้ ดูเหมือนจะมีข้อจากัดในการ ให้อภัย กล่าวคือ หลังจากได้พยายามดาเนินการตามขั้นตอนต่าง ๆ แล้ว ที่สุดจะมาถึง ขั้นตอนหนึ่งที่มีบางคนถูกตัดขาดจากพระศาสนจักรและถูกทอดทิ้งให้สิ้นหวัง ซึ่งไม่มีทาง เป็นไปได้เลยที่พระเยซูเจ้าจะทรงสอนเช่นนี้ ทั้งหมดนี้นามาสู่ข้อสรุปที่ว่า พระวรสารตอนนี้มิได้บันทึกคาพูดโดยตรงของพระ เยซูเจ้า แต่เป็นการประยุกต์คาสอนของพระองค์โดยพระศาสนจักร เพื่อให้สมาชิกถือเป็น หลักปฏิบัติ อาจกล่าวได้ว่าสิ่งที่พระองค์ตรัสสอนไว้โดยตรงคือ “ถ้าใครทาผิดต่อท่าน จง พยายามทาทุกวิถีทางให้เขาสานึกผิด เพื่อความสัมพันธ์ระหว่างเขากับท่านจะดีดังเดิม” หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ “เราจะยอมให้มีความแตกแยกระหว่างคริสตชนไม่ได้เด็ดขาด” ! แต่ถ้าเกิดความแตกแยกขึ้น พระศาสนจักรให้หลักปฏิบัติไว้ดังนี้ 1.เมื่อรู้สึกว่ามีคนทาผิดต่อเรา สิ่งแรกสุดที่เราต้องกระทาคือ “พบเขาตัวต่อตัว” และ “พูดออกมา” ไม่ใช่เก็บเงียบไว้ในใจซึ่งมีแต่จะส่งผลร้ายต่อชีวิตและจิตใจของเราเอง บางคนถึงกับเสียผู้เสียคนเพราะจมอยู่กับความเจ็บปวดรวดร้าวจนไม่อาจคิดถึงสิ่งอื่นหรือ บุคคลอื่นได้อีก เราจึงต้องนาความรู้สึกนั้นออกมาภายนอกด้วยการพูด ซึ่งเมื่อพูดออกไปแล้ว หลายครั้งเราจะพบว่าปัญหานั้นมันช่างเล็กน้อยและไร้สาระจริง ๆ สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2014


-6-

สาเหตุที่ต้อง “พบเขาตัวต่อตัว” ไม่ใช่เขียนจดหมาย โทรศัพท์ หรือพูดผ่านคน อื่น เป็นเพราะหากใช้ตัวกลาง ผู้ฟังจะไม่สามารถรับรู้อารมณ์ ความรู้สึก หรือสีหน้าท่าทาง ของผู้พูด อันอาจนาไปสู่ความเข้าใจผิดและทาให้สถานการณ์เลวร้ายลงได้ 2.หากการพบกันตัวต่อตัวยังไม่ประสบความสาเร็จอีก ให้นาผู้รู้หรือผู้ใหญ่ไปด้วย เพราะปกติคนที่ทาผิดต่อเรามักไม่ชอบหน้าเราและไม่อยากฟังเราเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การ นาผู้รู้หรือผู้ใหญ่ที่ทุกฝ่ายเกรงใจไปด้วยย่อมช่วยให้บรรยากาศการสนทนาดีขึ้น และเป็น ไปได้ว่าแต่ละฝ่ายจะมองเห็นตัวตนของตนเองเหมือนที่ผู้รู้หรือผู้ใหญ่มองเห็น คาพูดที่ว่า “ถ้าเขาไม่เชื่อฟัง จงพาอีกคนหนึ่งหรือสองคนไปด้วย” (มธ 18:16) คง ได้รับอิทธิพลจากคาสอนในพระธรรมเก่าที่ว่า “พยานปากเดียวไม่เพียงพอเพื่อตัดสิน ลงโทษผู้กระทาผิดทางอาญาหรือกระทาความผิดอื่น ๆ จะต้องมีพยานสองหรือสามปาก เพื่อพิสูจน์ข้อกล่าวหาไม่ว่าในความผิดใด ๆ” (ฉธบ 19:15) ต่างกันเพียงแต่ว่าเป้าหมายใน การนาผู้อื่นไปด้วยก็เพื่อช่วยให้คืนดีกัน ไม่ใช่เพื่อปรักปราคนผิด 3.หากปัญหายังไม่ยุติ ให้นาเรื่องเสนอหมู่คณะคริสตชน ซึ่งได้แก่พระศาสนจักร เพราะหากนาเรื่องสู่ศาลเราอาจยุติปัญหาทางแพ่งหรือทางอาญาได้ก็จริง แต่ความสัมพันธ์ นอกจากจะไม่ดีขึ้นแล้ว ยังมีแต่จะทาให้ปัญหายืดเยื้อยาวนานไม่มีที่สิ้นสุด ตรงกันข้ามกับศาล บรรยากาศในหมู่คณะคริสตชนซึ่งมีการสวดภาวนาและมี “ความรักแบบคริสตชน” ย่อมเอื้อต่อการแก้ปัญหาได้ดีกว่าตัวบทกฎหมายและระเบียบ ขั้นตอนของศาลมากมายนัก 4.หากยังไม่สาเร็จอีก ขั้นตอนสุดท้ายคือ “จงปฏิบัติต่อเขาเหมือนเขาเป็นคนต่าง ศาสนาหรือคนเก็บภาษีเถิด” (มธ 18:17) ขั้นตอนนี้อธิบายยาก แต่เราต้องเข้าใจไว้ก่อนว่า ในเมื่อพระเยซูเจ้ายังไม่ทรงละ ทิ้ง “แกะ” ที่พลัดหลงแม้แต่ตัวเดียว มีหรือที่พระองค์จะทรงยินยอมให้ “คน” หนึ่ง “คน” ใดถูกทอดทิ้งด้วยความสิ้นหวัง ?! จึงดูเหมือนพระองค์กาลังสอนว่า “เมื่อท่านได้ให้โอกาสแก่คนบาปและพยายาม ทุกวิถีทางแล้ว หากเขายังดึงดันอยู่ในบาป พวกท่านอาจถือว่าเขาเป็นคนเก็บภาษีผู้ทรยศ สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2014


-7-

ต่อประเทศชาติ หรือเป็นคนต่างศาสนาที่ไม่มีพระเจ้าก็ได้ แต่เราไม่เห็นว่าคนเก็บภาษี หรือคนต่างศาสนาจะสิ้นหวังตรงไหน พวกเขาก็มีหัวใจเหมือนกัน ดูอย่างมัทธิว และศักเคียสสิ พวกเขากลายเป็นเพื่อนรักของเรา เพราะฉะนั้นพวกท่านต้องพยายามชนะ ใจพวกเขาให้ได้เหมือนที่เราได้ทามาแล้ว” ขั้นตอนนี้จึงมิใช่คาสั่งให้เราทอดทิ้งคนบาป แต่เป็นการท้าทายเราให้ชนะใจคน บาปด้วยความรักตามแบบอย่างของพระองค์ ความรักที่สามารถแทรกซึมเข้าไปในหัวใจไม่ว่าจะแข็งกระด้างปานใดก็ตาม ! เหตุผลของพระองค์ก็คือ “ทุกสิ่งที่ท่านจะผูกในโลก จะผูกไว้ในสวรรค์ และทุกสิ่ง ที่ท่านจะแก้ในโลก ก็จะแก้ในสวรรค์ด้วย” (มธ 18:18) ซึ่งบ่งบอกว่า “ความสัมพันธ์ ระหว่างเพื่อนพี่น้องที่ถูกผูกหรือถูกแก้ในโลกนี้ล้วนมีความสาคัญอย่างยิ่งยวดเพราะต่างก็ ส่งผลถึงชีวิตนิรันดรในสวรรค์ด้วย” เพราะฉะนั้นเรา “ต้อง” เยียวยาแก้ไขความแตกแยกให้ได้ ! 2. คาภาวนาที่บังเกิดผล พระเยซูเจ้าตรัสว่า “ถ้าท่านสองคนในโลกนี้พร้อมใจกันอ้อนวอนขอสิ่งหนึ่งสิ่งใด พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์จะประทานให้” (มธ 18:19) ก่อนอื่นใดหมด เราจาเป็นต้องศึกษาพระวาจานี้ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ หาก ตีความง่ายๆ ตามตัวอักษร เราคงต้องผิดหวังกับการรอคอยสิ่งที่ไม่มีวันจะเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น กี่ครั้งกี่หนแล้วที่เรารวมตัวกันทั้งวัดหรือแม้แต่ทั้งสังฆมณฑลเพื่อวอนขอ สันติภาพ แต่สันติภาพในโลกและทางภาคใต้ของไทยก็ยังไม่เกิดสักที สิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงปรารถนาจะสอนเราเมื่อสวดภาวนาและวอนขอก็คือ 1.คาภาวนาต้องไม่เห็นแก่ตัว คาว่า “สองคนในโลกนี้พร้อมใจกัน” หมายความ ว่าเราต้องไม่คิดถึงแต่ตัวเองและวอนขอเฉพาะสิ่งที่ตัวเองต้องการ แต่ต้องวอนขอในฐานะ สมาชิกคนหนึ่งของสังคมซึ่งต้องคิดคานึงถึงความต้องการของสมาชิกคนอื่นด้วย สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2014


-8-

คาภาวนาที่เห็นแก่ตัวย่อมส่งผลร้ายต่อสังคมส่วนใหญ่ จึงยากที่พระบิดาจะ ประทานให้ ตรงกันข้าม หากทุกคนหรืออย่างน้อยส่วนใหญ่ของสังคมเห็นพ้องต้องกันวอน ขอโดยไม่มีความปรารถนาที่เห็นแก่ตัวเจือปนอยู่ คาภาวนานั้นย่อมบังเกิดผลอย่างแน่นอน 2.พระเจ้าทรงสดับฟังคาภาวนาที่ไม่เห็นแก่ตัวเสมอ แต่ต้องระลึกอยู่เสมอว่า “พระองค์ไม่ได้ประทานให้ตามความต้องการของเรา แต่ตามที่พระองค์ผู้ทรงเปี่ยมด้วย ปรีชาญาณและความรักทรงเห็นว่าดีที่สุด” เหตุผลของพระองค์คือเรามักวอนขอ “การหนี” เช่น ขอให้รอดพ้นจากความ ยากลาบาก ความเสียใจ ความผิดหวัง และภยันตรายต่าง ๆ แต่จะมีบิดาคนใดที่ยอมให้ ลูกรักของตนต้องหนีหัวซุกหัวซุนอย่างผู้แพ้ตลอดชีวิต พระเจ้าก็ไม่ทรงประสงค์ให้เราหนี แต่ต้องการให้เราสู้และเอา “ชนะ” ปัญหาและ ความทุกข์ยากลาบากต่าง ๆ ให้ได้ พระองค์จะประทานความช่วยเหลือให้เราเข้าใจในสิ่งที่ ไม่อาจเข้าใจได้ ให้เราอดทนในสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะทนได้ และให้เรากล้าเผชิญหน้ากับ ปัญหาที่เราเองไม่เคยคิดแม้แต่จะเข้าใกล้ ตัวอย่างชัดเจนที่สุดคือพระเยซูเจ้าขณะอยู่ในสวนเกทเสมนี พระองค์ทรงวอน ขอให้รอดพ้นจากกางเขนอันน่าสะพรึงกลัวว่า “พระบิดาเจ้าข้า ถ้าเป็นไปได้ ขอให้ถ้วยนี้ พ้นข้าพเจ้าไปเถิด” (มธ 26:39) แต่สิ่งที่พระบิดาทรงโปรดประทานแก่พระองค์ก็คือพลังที่ จะเผชิญหน้า ที่จะอดทน และที่จะเอาชนะความน่าสะพรึงกลัวนั้นให้ได้ บทสรุปคือ พระเจ้าทรงสดับฟังคาภาวนาที่ไม่เห็นแก่ตัวเสมอ แต่คาตอบนั้น เป็นของพระองค์และไม่จาเป็นต้องเหมือนเรา ! อนึ่ง พระเยซูเจ้าทรงเสริมว่า “ที่ใดมีสองหรือสามคนชุมนุมกันในนามของเรา เรา อยู่ที่นั่นท่ามกลางพวกเขา” (มธ 18:20) เราอาจเข้าใจพระวาจานี้ได้ 2 ระดับด้วยกัน 1.ระดับวัด วัดประกอบด้วยกลุ่มกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งเล็กและใหญ่ พระองค์ทรง ประทับอยู่กับกลุ่มเล็ก ๆ เพียงสองสามคนเท่ากับที่ทรงประทับอยู่ท่ามกลางสัตบุรุษเต็มวัด สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2014


-9-

เพราะฉะนั้น เมื่อเราประชุมกลุ่ม เช่น กลุ่มวิถีชุมชนวัด กลุ่มแบ่งปันพระคัมภีร์ กลุ่มพลมารี กลุ่มเยาวชน ฯลฯ พระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่ท่ามกลางเราเท่า ๆ กับขณะ สัตบุรุษร่วมพิธีบูชามิสซาเต็มวัด พระองค์ไม่ทรงสนพระทัยตัวเลขหรือจานวน ขอเพียงที่ใดมีหัวใจเต็มเปี่ยมด้วย ความเชื่อร่วมกัน พระองค์ทรงประทับอยู่ท่ามกลางพวกเขาเสมอ 2.ระดับครอบครัว มีผู้อธิบายว่า “สองสามคน” นั้นได้แก่ บิดา มารดา และบุตร ซึ่งรวมกันเป็นครอบครัว หมายความว่า พระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่ท่ามกลางครอบครัวทุกครอบครัว แม้จะ ทรงเป็นแขกที่มองไม่เห็นก็ตาม หลายคนเลือกทาดีเฉพาะโอกาสสาคัญจริง ๆ แต่สาหรับพระเยซูเจ้า ทุก โอกาสที่มีสองสามคนร่วมกันในพระนามของพระองค์ ล้วนสาคัญเสมอ ! *******************

สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2014


-10-

Pope Report สัมภาษณ์พระสันตะปาปาบนเครื่องบิน (ตอนที่ 2) ตอนที่แล้ว ผมนาบทสัมภาษณ์พระสันตะปาปาบนเครื่องบินจากเกาหลีไป อิตาลี มาให้ติดตามกัน แต่ว่ามันยังไม่จบ เพราะเนื้อหาเยอะมาก วันนี้ เรามาต่อตอนที่ 2 ซึ่งเป็นตอนจบกันเลย ... จะไปญี่ปุ่นหรือเปล่า นักข่าว: “พระองค์ได้พบกับคนที่ต้องทนทุกข์ทรมาน พระองค์คิดอย่างไรเมื่อ ทรงทักทายเหล่าผู้อาวุโส(สตรีเกาหลีที่ถูกทหารญี่ปุ่นนาไปเป็นทาสกดขี่ทางเพศ) เมื่อ ตอนมิสซาเช้าวันนี้ นอกจากคนที่ทุกข์ทรมานในเกาหลี ยังมีคริสตชนแบบนี้ในญี่ปุ่น ด้วย ปีหน้า จะครบ 150 ปีเหตุการณ์การทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิม่าและนางาซากิ จะมีความเป็นไปได้ไหม ที่พวกเราจะได้สวดภาวนาเพื่อผู้เสียชีวิตพร้อมกับพระองค์ที่ นางาซากิ” พระสันตะปาปา: “มันคงเป็นสิ่งงดงามที่สุด(ถ้าได้ไปญี่ปุ่น) พ่อได้รับเชิญจาก รัฐบาลและสภาพระสังฆราชคาทอลิกญี่ปุ่นแล้วล่ะ” “ในเรื่องผู้ที่ยังต้องทนทุกข์ทรมาน คุณต้องย้อนกลับไปยังคาถามแรกๆ เลยล่ะ ชาวเกาหลีเป็นคนที่ไม่สูญเสียศักดิ์ศรีของตัวเอง นี่คือคนที่ถูกรุกรานและถูกกดขี่ข่มเหง พวกเขาทุกข์ทรมานและตอนนี้ก็ถูกแบ่งแยกออกจากกัน เมื่อวานนี้ ตอนที่พ่อไปพบ เยาวชนที่เฮมิ พ่อได้ไปที่พิพิธภัณฑ์มรณสักขี มันเลวร้ายมากสาหรับคนที่ถูกทรมาน มัน ไม่ใช่แค่ถูกตรึงบนกางเขนเท่านั้น นี่คือความทุกข์ทางประวัติศาสตร์ ผู้คนมีขีดจากัดที่ จะต้องถูกทรมาน และนี่คือส่วนหนึ่งของศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเขา” “วันนี้เช่นกัน บรรดาสตรีสูงอายุที่นั่งอยู่ต่อหน้าพ่อระหว่างมิสซา พวกเธอทาให้ พ่อคิดถึงการรุกรานที่เด็กผู้หญิงต้องถูกนาตัวไปยังค่ายทหารเพื่อกดขี่ทางเพศ แต่พวกเธอ ก็ไม่ได้สูญเสียศักดิ์ศรีของตัวเองไป ในวันนี้ พวกเธอมาร่วมมิสซาและให้เราเห็นใบหน้าที่ ชราภาพ นี่คือสิ่งสุดท้ายที่เหลืออยู่ นี่แหละคือคนที่เข้มแข็งในศักดิ์ศรีของตัวเอง” สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2014


-11-

“แต่เมื่อย้อนกลับไปยังคาถามเรื่องมรณสักขี การทุกข์ทรมานของสตรีเหล่านี้เป็น ผลจากสงคราม! วันนี้ พวกเราอยู่ในโลกแห่งสงครามในทุกหนทุกแห่ง บางคนพูดกับพ่อว่า ‘พระสันตะปาปา พระองค์รู้ไหมว่าเรากาลังอยู่ในสงครามโลก ครั้งที่ 3 แบบทีละเล็กที ละน้อย’ นี่คือโลกแห่งสงครามซึ่งความโหดร้ายทารุณถูกทาให้เกิดขึ้น” “พ่ออยากจะเน้นย้าคาพูด 2 คา คาแรกคือ โหดร้าย ทุกวันนี้เด็กๆ ยังถูกกระทา แบบไม่เว้นเลย! ครั้งหนึ่งมีคนพูดเกี่ยวกับการทาสงครามโดยใช้อาวุธและยุทธวิธีทางการ ทหาร ทุกวันนี้ก็เป็นแบบนั้น พ่อไม่ได้พูดว่าการทาสงครามโดยใช้อาวุธและยุทธวิธีทางการ ทหารเป็นสิ่งดี แต่ตอนนี้ ระเบิดถูกยิงออกไปและมันเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์มากมาย มันฆ่าทุกคน พอได้แล้ว! เราต้องต้องหยุดยั้งและคิดสักนิดเกี่ยวกับระดับของความโหดร้ายที่เรากาลัง เผชิญ” “อีกคาพูดที่พ่ออยากพูดถึงคือการทารุณกรรม ทุกวันนี้ การทารุณกรรมคือหนึ่ง ในวิธีการที่เรียกได้ว่าแทบจะเป็นเรื่องปกติไปแล้วในกระบวนการหาข่าวกรองหรือกระบวน การยุติธรรม การทารุณกรรมคือบาปผิดต่อมนุษย์ มันคืออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ พ่อบอกกับชาวคาทอลิกว่า การทารุณคนๆ หนึ่งถือเป็นบาป มันเป็นบาปหนัก แต่ยิ่งไป กว่านั้นมันคือบาปผิดต่อมนุษยชาติ” “โหดร้ายและทารุณกรรม! พ่ออยากให้พวกท่านสื่อมวลชนทาการไตร่ตรองสอง คานี้ว่า ท่านมองสิ่งเหล่านี้อย่างไรบ้างในยุคปัจจุบัน และพวกท่านมองความโหดร้ายของ มนุษยชาติ รวมถึงท่านคิดกับการทารุณกรรมอย่างไร พ่อคิดว่า มันเป็นการดีนะที่เราจะ ไตร่ตรองถึงเรื่องพวกนี้” พักร้อนบ้างไหม: “พ่อก็พักบ้างเหมือนกัน” นักข่าว: “พระองค์ทรงมีความบ้างานเต็มเปี่ยม ทรงอุทิศตนอย่างเต็มที่กับงาน มีเวลาพักผ่อนน้อยมาก พูดง่ายๆ คือไม่มีวันหยุดพักเลย ทริปเยือนเกาหลีเป็นทริปที่ โหดและหนักกับร่างกายมากๆ เมื่อเดือนที่แล้ว พวกเราพบว่า พระองค์ต้องยกเลิกงาน หลายอย่างในวินาทีสุดท้าย (เพราะทรงประชวร) สิ่งเหล่านี้ได้ทาให้พระองค์กังวลกับ ชีวิตบ้างไหม” สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2014


-12-

พระสันตะปาปา: “ใช่ บางคนพูดกับพ่อเหมือนกัน แต่พ่อก็ใช้วันพักนะ พักที่บ้าน ไง(หอพักซางตา มาร์ธา) พ่อก็พักผ่อนตามปกติแหละ พ่อนั่งอ่านหนังสือ มันน่าสนใจมาก ชื่อหนังสือคือ ‘จงสุขใจที่คุณเป็นโรคประสาท’ พ่อก็มีอาการทางประสาทเหมือนกัน แต่ เราควรจะดูแลมันอย่างดี พ่อดูแลสุขภาพด้วยการดื่มมาเต้ทุกวัน (ชาสมุนไพรของ อาร์เจนตินา)” “ครั้งสุดท้ายที่พ่อใช้วันพักร้อน เกิดขึ้นที่นอกกรุงบัวโนสไอเรส (อาร์เจนตินา) ตอนนั้นพ่อใช้กับกลุ่มเพื่อนเยสุอิตช่วงปี 1975 แต่พ่อก็หาวันพักผ่อนเสมอ มันคือเรื่อง จริงที่พ่อเปลี่ยนจังหวะชีวิต พ่อนอนเยอะขึ้น พ่ออ่านสิ่งต่างๆ ที่ชอบ พ่อฟังเพลง นี่คือ วิธีการพักของพ่อ ในเดือนกรกฏาคมและสิงหาคมที่ผ่านมา พ่อก็พักผ่อนนะ” “ส่วนอีกคาถาม มันก็จริงอีกเช่นกันที่พ่อต้องยกเลิกงานต่างๆ วันนั้นพ่อต้องไป โรงพยาบาลเจเมลลี่ (เพื่อเยี่ยมผู้ป่วย) ก่อนจะถึงที่นั่นประมาณ 10 นาที พ่อไม่สามารถไป ได้จริงๆ มันก็จริงอีกแหละ มันคือวันทั้งเจ็ดที่มีความต้องการและข้อเรียกร้องสูงมากๆ ตอนนี้ พ่อก็ต้องรู้จักคิดให้รอบคอบบ้างแล้ว” “พ่อไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนดัง” นักข่าว: “ที่นครริโอ เดอ จาเนโร ฝูงชนตะโกนสรรเสริญพระองค์ว่า ‘ฟราน เชสโก้ ฟรานเชสโก้’ แต่พระองค์ตอบกลับไปว่า ‘อย่ายกย่องพ่อแบบนั้น! ขอให้ สรรเสริญพระคริสตเจ้าดีกว่า’พระองค์ทรงมีวิธีการรับมือกับความนิยมอย่างใหญ่หลวง ในตัวพระองค์เองอย่างไร พระองค์ทรงดาเนินชีวิตกับความนิยมนี้อย่างไร” พระสันตะปาปา: “พ่อไม่รู้จะตอบคาถามนี้อย่างไรดี พ่อดาเนินชีวิตด้วยการ ขอบคุณพระเจ้าที่ประชาชนมีความสุข ด้วยความสัตย์จริง พ่อคิดแบบนี้ พ่ออยากให้ ประชากรของพระเจ้าพบแต่สิ่งดีๆ พ่อใช้ชีวิตกับความนิยมนี้ประหนึ่งความเอื้อเฟื้อกัน บนหนทางของความเป็นมนุษย์ แต่ภายในใจแล้ว พ่อพยายามคิดถึงบาปของตัวเอง คิดถึงความผิดพลาดของตัวเอง พ่อไม่ได้คิดเลยว่าพ่อเป็นคนสาคัญ เพราะพ่อรู้ดีว่า นี่ อาจเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต อีกสัก 2-3 ปีข้างหน้า พ่ออาจจะกลับไปอยู่ที่บ้าน ของพระบิดาก็ได้ พ่อดาเนินชีวิตในฐานะที่พระเจ้าทรงประทับอยู่ในผู้คนที่เรียกใช้ สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2014


-13-

พระสังฆราชและเรียกใช้ผู้อภิบาลของสัตบุรุษ พ่อดาเนินชีวิตแบบเป็นตัวของตัวเองน้อยลง กว่าแต่ก่อน(ตอนที่ยังไม่ได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปา) แรกๆ พ่อมีความกลัวอยู่เล็กๆ แต่พ่อก็ทามันได้” “พ่ออยากไปเดินนอกวาติกัน แต่ทาไม่ได้” นักข่าว: “พระสันตะปาปามาจากดินแดนอันไกลโพ้น(อาร์เจนตินา) และมา อาศัยอยู่ที่วาติกัน นอกเหนือจากหอพักซางตา มาร์ธา พระองค์ดาเนินชีวิตในวาติกัน อย่างไร เพราะคนทั่วไปมักจะถามพวกเรานักข่าวว่า ‘พระสันตะปาปาทาอะไรบ้าง, พระองค์ไปไหนบ้าง, พระองค์ออกไปเดินข้างนอกบ้างไหม’ พวกเขาได้เห็นพระองค์เดิน ไปที่โรงอาหารและทาให้พวกเราประหลาดใจมากๆ ดังนั้น พระองค์ใช้ชีวิตแบบไหน บ้างในซางตา มาร์ธา นอกเหนือไปจากการทางาน” พระสันตะปาปา: “พ่อพยายามทาตัวให้ว่างเข้าไว้ มันมีงานและการนัดประชุม แบบเป็นทางการ แต่นี่คือชีวิตสาหรับพ่อ ชีวิตที่เรียบง่ายที่สุดที่พ่อสามารถทาได้ จริงๆ แล้ว พ่ออยากออกไปเดินข้างนอกนะ แต่มันทาไม่ได้ เพราะถ้าคุณเดินออกไป คนจะกรู กันเข้ามาทันที นี่คือความจริง! ภายในซางตา มาร์ธา พ่อก็ใช้ชีวิตปกติเพื่อทางาน พักผ่อน และพูดคุยกับคนอื่นๆ” อยากขึ้นลงลิฟท์คนเดียว แต่เขาไม่ให้พระสันตะปาปาทาแบบนั้น นักข่าว: “พระองค์รู้สึกเป็นเหมือนนักโทษ(ที่ถูกจองจาอยู่ในรั้ววาติกัน) บ้าง ไหม” พระสันตะปาปา: “แรกๆ ก็รู้สึกนะ แต่ตอนนี้กาแพงที่ขวางกั้นได้พังทลายลงแล้ว ตัวอย่างเช่น มันเคยมีการพูดว่า ‘พระสันตะปาปาทาสิ่งนั้นไม่ได้ ทาสิ่งนี้ไม่ได้นะ’ พ่อจะ ยกตัวอย่างหนึ่งที่จะทาให้คุณหัวเราะเลย! เมื่อพ่ออยากจะขึ้นลงลิฟท์ จะมีคนเข้ามา ด้วยทันที เพราะพระสันตะปาปาไม่สามารถเข้าลิฟท์คนเดียวได้! พ่อบอกเขาว่า ‘คุณ ไปทางานของคุณเถอะ และพ่อจะขึ้นลิฟท์ด้วยตัวพ่อเอง ทาตัวตามปกติเถอะ’” สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2014


-14-

ทีมโปรด “ซาน ลอเร็นโซ่ คว้าแชมป์ทวีปอเมริกาใต้ นักข่าว: “ขอโทษด้วยครับพระสันตะปาปา แต่ผมจะต้องขอถามคาถามนี้ใน ฐานะที่เป็นคนหนึ่งที่พูดภาษาสแปนิชซึ่งอาร์เจนตินาก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย ‘ซาน ลอ เร็นโซ่’ ทีมฟุตบอลสุดโปรดของพระองค์คว้าแชมป์โกปา ลิเบอร์ตาดอเรส (แชมป์ทวีป อเมริกาใต้) เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมอยากจะทราบว่า พระองค์ฉลองบ้างไหมครับ ผมได้ยินว่า ผู้แทนของทีมจะนาถ้วยแชมป์มาถวาย พระองค์ ในการเข้าเฝ้าทั่วไปที่จะจัดวันพุธนี้ และพระองค์ก็มีโปรแกรมจะต้อนรับพวก เขาด้วย” พระสันตะปาปา: “มันเป็นข่าวดีจริงๆ พ่อทราบข่าวนี้แล้ว มีคนบอกพ่อที่กรุงโซล และพวกเขาก็บอกด้วยว่า ทีมกาลังจะมาเข้าเฝ้าวันพุธนี้ในการเข้าเฝ้าทั่วไป สาหรับพ่อ ซาน ลอเร็นโซ่ คือสถาบัน ครอบครัวของพ่อทุกคนเชียร์ทีมนี้ บิดาของพ่อเคยเล่น บาสเกตบอลที่ซาน ลอเร็นโซ่ ท่านเป็นผู้เล่นในทีมด้วย ในฐานะที่เป็นลูก เราก็ร่วมเชียร์ไป กับพ่อ ส่วนคุณแม่ก็ไปที่สนามด้วยเช่นกัน ทุกวันนี้ ซาน ลอเร็นโซ่ ยุค ค.ศ.1946 คือสุด ยอดทีมและได้แชมป์ด้วย พ่ออยู่กับสิ่งนี้ด้วยความชื่นชมยินดี มันไม่ใช่ปาฏิหารย์เลย ไม่ เลย!” สมณสาส์นเรื่องระบบนิเวศน์: “พ่อต้องการให้ข้อมูลถูกต้องที่สุด” นักข่าว: “มีการพูดกันมานานแล้วเกี่ยวกับสมณสาส์นเรื่องระบบนิเวศน์ พระองค์พอจะบอกเราได้ไหมว่าเมื่อไหร่จะสมณสาส์นนี้จะถูกตีพิมพ์ และประเด็น สาคัญมีอะไรบ้าง” พระสันตะปาปา: “พ่อเคยพูดไปหลายครั้งแล้วเกี่ยวกับสมณสาส์นนี้ พ่อพูดกับ พระคาร์ดินัล (ปีเตอร์) เติร์กสัน และพูดกับอีกหลายๆ คน พ่อถามพระคาร์ดินัลเติร์กสันว่า จะรวบรวมข้อมูลที่มีประมาณ 4 วันก่อนทริปนี้ได้ไหม พระคาร์ดินัลเติร์กสันได้ส่งร่าง เอกสารครั้งแรกให้พ่อแล้ว พ่ออยากบอกว่ามันมีความยาวกว่าสารเตือนใจความชื่นชมยินดี แห่งพระวรสารประมาณ 3 เท่าเห็นจะได้ นี่เป็นแค่ตัวร่างเอกสารครั้งแรกนะ มันไม่ใช่ ประเด็นที่ง่ายนัก เพราะมันเป็นประเด็นเกี่ยวกับระบบนิเวศน์ การสร้างโลก และยัง สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2014


-15-

เกี่ยวกับระบบมนุษยนิเวศวิทยา เราสามารถพูดแบบหัวข้อสู่หัวข้อในเรื่องที่เรามั่นใจใน ความถูกต้อง แต่เมื่อมันมีสมมติฐานทางวิทยาศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง บางสิ่งอาจมี น้าหนักมากพอ แต่บางอย่างก็ไม่” “ในสมณสาสน์แบบนี้ ซึ่งต้องมีความน่าเชื่อถือและถือเป็นอานาจของพระ สันตะปาปา เราสามารถต่อยอดไปถึงสิ่งที่เราแน่ใจแล้วเท่านั้น ถ้าพระสันตะปาปาพูด ว่า ศูนย์กลางของระบบจักรวาลคือโลก ไม่ใช่ดวงอาทิตย์ พระองค์ก็จะผิดทันที เพราะ พระองค์พูดในสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ นี่แหละคือสิ่งที่กาลังเกิดขึ้น เราจึง ต้องมาศึกษากัน ศึกษาแบบละเอียดหัวข้อต่อหัวข้อ และพ่อเชื่อว่ามันจะกลายเป็นเรื่อง ละเอียดขึ้นเรื่อยๆ แต่การที่จะศึกษาเรื่องสาคัญ เราต้องมีความมั่นใจแล้วว่ามันถูกต้อง เชื่อถือได้ เพื่อที่คนทั่วไปสามารถพูดว่า ในหลักฐานอ้างอิงก็มีสมมติฐาน พูดว่ามันมี ข้อมูลมีที่มาที่ไป คนทั่วไปจะได้พูดว่า เนื้อหาในสมณสาส์นมีข้อมูลอ้างอิง เนื้อหา อ้างอิงต้องไม่ใช่หลักความเชื่อ มันต้องเป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้” การแต่งตั้งพระอัครสังฆราช ออสการ์ โรเมโร่ เป็นบุญราศี นักข่าว: “ในฐานะที่ผมเป็นลูกครึ่งอิตาเลี่ยน-อเมริกัน ผมอยากจะชื่นชม พระองค์เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ พระองค์ควรพูดออกไปแบบไม่ต้องกลัวนะครับ และถ้า พระองค์ประสงค์จะฝึกภาษาอังกฤษก่อนจะไปเยือนอเมริกา ซึ่งเป็นบ้านที่สองของผม ผมยินดีจะช่วยพระองค์ เอาล่ะ คาถามของผมคือ พระองค์ทรงพูดถึงมรณสักขี ตอนนี้ กระบวนการพิจารณาพระอัครสังฆราช (ออสการ์) โรเมโร่ ไปถึงขั้นไหนแล้ว และ พระองค์อยากให้ผลลัพธ์ของกระบวนการนี้ออกมาอย่างไร” พระสันตะปาปา: “กระบวนการนี้ถูกขัดขวางโดยสมณกระทรวงหลักความเชื่อ ด้วยเหตุที่ว่าเพื่อจะได้พิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน แต่ตอนนี้ การขัดขวางถูกยกเลิกไป แล้ว และเรื่องก็ไปอยู่ที่สมณกระทรวงเพื่อประกาศการเป็นนักบุญที่กาลังดาเนินการอยู่ ตามวิธีปกติ มันขึ้นกับว่าผู้รวบรวมหลักฐานเพื่อดาเนินการจะจัดการต่ออย่างไร มันสาคัญ มากๆ ที่จะก้าวต่อไปอย่างรวดเร็ว” สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2014


-16-

“สิ่งที่พ่ออยากชี้แจงก็คือ เมื่อมีมรณสักขีที่ตายเพราะความเกลียดชังทางความ เชื่อ (ODIUM FIDEI - คาทอลิกที่ถูกคนต่างศาสนาฆ่าตาย เพราะเกลียดชังความเชื่อ คาทอลิก) ไม่ว่าจะเกิดตอนที่เขากาลังประกาศยืนยันความเชื่อหรือตอนที่เขากาลังทางาน ตามที่พระเยซูสอนเราให้ทากับเพื่อนพี่น้อง มันก็เป็นหน้าที่ของนักเทวศาสตร์ที่กาลังศึกษา อยู่ เพราะนอกจากท่าน(พระอัครสังฆราชโรเมโร่) ยังมีกรณีของคุณพ่อรูติลลิโอ กรานเด และอีกหลายๆท่านด้วยที่ถูกฆ่าตาย แต่ทั้งหมดยังไม่ร้ายแรงเท่าพระอัครสังฆราชโรเมโร่ (ถูกยิงเสียชีวิต ขณะถวายมิสซา) นี่เป็นข้อแตกต่างทางเทวศาสตร์ สาหรับพ่อ พระอัคร สังฆราชโรเมโร่คือคนของพระเจ้า ท่านคือคนของพระเจ้า แต่มันก็ต้องเป็นไปตาม กระบวนการ และพระเจ้าจะประทานเครื่องหมาย(แห่งการอนุมัติแต่งตั้งเป็นบุญราศี)เอง แต่ถ้าเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า พระองค์ก็จะทาแน่นอน! ตอนนี้ ผู้รวบรวมหลักฐาน เพื่อดาเนินการพิจารณาเป็นบุญราศี ต้องก้าวต่อไป เพราะมันไม่มีข้อขัดขวางใดๆ แล้ว" การภาวนาเพื่อสันติภาพล้มเหลวใช่ไหม นักข่าว: “มาพูดถึงเรื่องที่เกิดในกาซ่ากันบ้าง การภาวนาเพื่อสันติภาพซึ่งจัดที่ วาติกันในวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ล้มเหลวใช่ไหม” พระสันตะปาปา: “การภาวนาเพื่อสันติภาพไม่ล้มเหลวอย่างแน่นอน! อันดับ แรก ความคิดริเริ่มในการภาวนาไม่ได้มาจากตัวพ่อ แต่มันมาจากประธานาธิบดีของ อิสราเอลและปาเลสไตน์ พวกเขามาพูดกับพ่อเกี่ยวกับความอึดอัดใจนี้ พวกเขาต้องการ จัดงานภาวนาที่นั่น(แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์)ด้วยซ้า แต่เราไม่สามารถหาสถานที่ที่เหมาะสมได้ เพราะค่าใช้จ่ายทางการเมืองของแต่ละฝั่งสูงมากๆ ถ้าหากพวกเขาต้องข้ามฝั่งไปหากัน สถานเอกอัครสมณทูตวาติกันคือสถานที่เป็นกลาง แต่ถ้าจะจัดที่นั่น ประธานาธิบดี ปาเลสไตน์ก็ต้องข้ามมาที่อิสราเอล และมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ประธานาธิบดีทั้งสองจึง พูดกับพ่อว่า ‘งั้นจัดที่วาติกันก็แล้วกัน พวกเราจะไปที่นั่นเอง’ ทั้งสองคนนี้คือบุรุษแห่ง สันติภาพ พวกเขาคือคนที่เชื่อในพระเจ้า และพวกเขาได้ใช้ชีวิตผ่านเรื่องแย่ๆ มามาก พวก เขามั่นใจว่า หนทางเดียวที่จะแก้สถานการณ์ได้ก็คือการเสวนาพูดจากัน การเจรจาต่อรอง และสันติภาพ” สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2014


-17-

“คุณถามพ่อว่า มันล้มเหลวไหม? ไม่เลย ประตูยังคงเปิดอยู่ พวกเราทั้งสี่คน ได้แก่ ประธานาธิบดีทั้งสอง, พระอัยกาบาร์โธโลมิว ที่ 1 และตัวพ่อเอง พ่อต้องการให้พระ อัยกาบาร์โธโลมิว มาร่วมด้วยในฐานะผู้นาพระศาสนจักรออโธด็อกซ์ มันเป็นเรื่องดีที่ท่าน มาร่วมงานกับเรา ประตูแห่งการภาวนาถูกเปิดออก พวกเราต้องสวดภาวนา สันติภาพ คือของขวัญจากพระเจ้า มันคือของขวัญ แต่เราสมควรได้รับมันจากการทางานของเรา การที่จะบอกกับมนุษยชาติว่า หนทางของการเสวนาคือสิ่งสาคัญ การเจรจาเป็น สิ่งจาเป็น แต่การภาวนาก็เป็นอีกสิ่งสาคัญด้วยเช่นกัน หลังจากนั้น เราได้เห็นว่ามันเกิด อะไรขึ้น แต่มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นพร้อมกันพอดี การพบหน้าเพื่อภาวนาจึงไม่หลอมรวม ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันได้ มันเป็นก้าวย่างสาคัญของทัศนคติมนุษย์ ตอนนี้ ควันจาก ระเบิดและสงครามทาให้พวกเรามองไม่เห็นประตูบานนั้น แต่ประตูยังคงเปิดอยู่ และ พ่อก็เชื่อในพระเจ้า พ่อมองไปที่ประตู และมีหลายคนที่สวดภาวนา หลายคนที่ขอให้ พระเจ้าทรงช่วย พ่อชอบคาถามนี้นะ ขอบคุณมาก!” AVE MARIA

สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2014


-18-

ธุระไม่ใช่ ( โดย ดร.วรรณีย์ ลิขิตธรรม) หนู ไก่ และวัวต่างคุ้นเคยกันดี เพราะอาศัยอยู่ในละแวกเดียวกัน วันหนึ่งหนูเห็น กรงดักหนูวางอยู่ใกล้ยุ้งข้าวก็ตกใจกลัว เพราะรู้ว่าชาวนากาลังจะกาจัดตน จึงวิ่งไปบอก ไก่ๆ มีทีท่าเฉยๆ พูดว่า “ไม่เกี่ยวกับฉัน” หนูรู้สึกผิดหวัง จึงวิ่งไปบอกวัว วัวก็สนใจแต่ กินหญ้า ฟังแล้วก็ทาทองไม่รู้ร้อนพูดว่า“มีกับดักหนูแล้วไง เขาก็เอาไว้เล่นงานแกนั่นแหละ ฉันไม่เกี่ยว” หนูจนปัญญาคิดไม่ออกว่าจะไปปรึกษาปัญหานี้กับใครดี วันรุ่งขึ้นได้ข่าวว่า ภรรยาของชาวนาถูกงูพิษกัด เพราะเธอออกมาที่กรงดักหนูตั้งแต่ยังไม่สว่าง เธอหิ้วกรง ขึ้นมารู้สึกหนักๆ คิดว่าดักหนูได้สาเร็จแล้วก็ดีใจจะหิ้วกรงไปให้สามีดู งูที่เข้าไปกินเหยื่อ ในกรงจึงกัดนิ้วมือของเธอ เธอตกใจร้องด้วยความเจ็บปวด และเมื่อรู้ว่าเป็นงูพิษเธอถึงกับ เป็นลมเลย หมอกลางบ้านใช้สมุนไพรรักษาและกาชับให้เธอกินซุบไก่จะได้มีกาลัง ไก่จึง ถูกจัดการ แต่อาการของเธอก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร เขาจึงฆ่าวัวเอามาทาซุปให้เธอกิน ท่าน ผู้อ่านฟังเรื่องหนูไก่วัวแล้วท่านได้ข้อคิดอะไรบ้าง? เห็นไหมว่าผู้ที่บอกว่า ตนไม่เกี่ยวๆ ที่สุดก็ถูกเกี่ยวเข้าไปอยู่ดี พระวรสารประจาวันอาทิตย์นี้ พระเยซูเจ้าทรงสอนให้เรายอมรับเป็นธุระช่วย ตักเตือนผู้ทาผิด ปัญหาในสังคมเพิ่มพูนมากเพราะไม่มีคนยอมเป็นธุระ โดยต่างก็คิดว่า “ไม่เกี่ยวกับฉัน” หรือ “ธุระไม่ใช่” นี่เป็นกลวิธีของปีศาจ มันจะกล่อมเราด้วยเหตุผลต่างๆ ว่าไม่ต้องไปสนใจใครหรอก ตัวเองเอาตัวให้รอดก่อนเถอะ พ่อแม่มักสอนลูกๆ ว่า “อย่า ไปยุ่งเรื่องชาวบ้าน” เราจะค่อยๆ ชินชากับความทุกข์และความเศร้าโศกของคนอื่น โดย คิดว่ามันเป็นเรื่องของเขาไม่เกี่ยวกับเรา คนที่เป็นทุกข์หรือเดือดร้อนก็ต้องดูแลตัวเอง มัน ไม่ใช่ปัญหาของฉัน สิ่งนี้ทาให้พระเจ้าเจ็บปวดยิ่งนัก พระองค์ทรงตรัสกับ ดร.กลอเรีย โปโล ตอนหนึ่งว่า “การตายฝ่ายจิตของเจ้าเริ่มต้นเมื่อเจ้าไม่รู้สึกสะเทือนใจ เมื่อเห็นผู้อื่น เป็นทุกข์ เมื่อเจ้าเห็นเหตุร้ายเกิดแก่พี่น้องของเจ้า ไม่ว่าในที่ใด หรือเมื่อเจ้าได้ยินข่าวจาก สื่อเกี่ยวกับฆาตกรรม ทารุณกรรมต่างๆ แต่เจ้ากลับทาทองไม่รู้ร้อน พูดว่าโอคนที่น่า สงสาร โดยที่หัวใจของเจ้าไม่รู้สึกเศร้าเสียใจ ไม่รู้สึกอะไรเลย หัวใจของเจ้าเป็นหิน และ นั่นเป็นบาปของความใจแข็ง” การละเลยไม่ช่วยเพื่อนพี่น้องเมื่อมีโอกาสเป็นบาปที่เราต้อง สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2014


-19-

สารภาพ พี่น้องอาจแย้งว่า “แล้วจะให้ฉันทาอย่างไร?” อย่างน้อยก็ควรฟังปัญหาหรือ ความทุกข์ของเขาด้วยความเห็นอกเห็นใจ ปล่อยให้เขาได้ระบายออกมาบ้าง จะช่วยได้ มาก แล้วหาวิธีช่วยเขา ถามผู้รู้หรือปรึกษาคนอื่นที่อาจช่วยได้และถ้าทาอะไรไม่ได้จริงๆ ก็ขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าและจากพระแม่ของเรา บอกเขาว่า “ฉันจะสวดเพื่อเธอ นะ” เราต้องไม่ลืมว่า เราถูกเรียกให้มาอยู่ในโลกนี้เพื่อช่วยสร้างโลกที่ดีกว่า สมบูรณ์ กว่า เราต้องใช้ความสามารถหรือพรสวรรค์(เงินตาแลนท์) ในการร่วมมือกับพระองค์ ขยายพระอาณาจักรแห่งสวรรค์บนโลกใบนี้และเราต้องปกป้องอาณาจักรแห่งรักนี้ด้วยชีวิต ของเรา นี่คือจิตตารมณ์ของศิษย์ผู้ติดตามพระเยซู พีน่ ้องจาเรื่องชาวสะมาเรียผู้ใจดีได้ ไหม พระเยซูเจ้าทรงเล่าว่า ชายผู้หนึ่งเดินทางจากเยรูซาเลมจะไปเมืองเยรีโค ระหว่างทาง ถูกโจรปล้นและทุบตีจนบาดเจ็บปางตาย ปุโรหิตคนหนึ่งเดินผ่านเขาไปเฉยๆ ต่อมาก็มี สมณะจากเผ่าเลวี ก็ทาเช่นเดียวกัน แต่ชาวสะมาเรีย(ซึ่งชาวยิวเหยียดหยาม)คนหนึ่งเดิน ผ่านมา เห็นชายผู้บาดเจ็บก็เกิดความสงสาร ทาการปฐมพยาบาลและพาเขาไปนอนพักที่ โรงแรม โดยมอบเงินจานวนหนึ่งให้เจ้าของโรงแรมพร้อมขอร้องให้ช่วยดูแลชายผู้บาดเจ็บ และเขายินดีจ่ายเงินส่วนเกินตอนเขากลับมา พระเยซูเจ้าทรงตั้งใจจะให้เราดูชาวสะมาเรีย ผู้นี้เป็นแบบอย่างในเรื่องความรักต่อเพื่อนมนุษย์ และทรงกาชับว่า “ท่านจงไปทาเหมือน อย่างนั้นเถิด” คนแบบนี้แหละพระเจ้าจะต้อนรับเข้าสู่พระราชัยสวรรค์ อย่าลืมสวดขอให้ สิ่งที่พระเจ้าตรัสต่อไปนี้เป็นจริงกับเรา “เราจะให้ใจใหม่แก่เจ้าและเราจะบรรจุจิตวิญญาณ ใหม่ไว้ในเจ้า เราจะนาใจหินออกไปเสียจากเนื้อของเจ้า และให้ใจเนื้อแก่เจ้า” (อสค 32:26)

สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2014


-20อา. 7 กย. 14

07.00 น.

คพ.สุรชัย

09:00 น. คพ.ศรีปราชญ์

17.30 น. คพ.สุชาติ

จ. 8 กย.14 06.15 น. คพ.สุชาติ

รายการมิสซาประจาสัปดาห์ อาทิตย์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา โมทนาคุณพระมารดานิจจานุเคราะห์ ขอพร เทวดาอารักขา พี่น้อง12 คน“ว่องวิไลกุล” ขอพร อันนา รุ่งรัตน์ – อันตน ธิติ สุภโกศล ขอพร อันนา ณัฐณิชา สุขบุญลือและครอบครัว ขอพร หน้าที่การงานลูกทั้ง 5 ขอพร คุณวัชรพล สุภโกศล, คุณนเรศ การะเวก ขอพร อันนา พรทิพย์ ไตรอัมพวงศ์ ขอพร อันนา อัฐภิญญาพัชญ์ – คุณกันตภณ ขอพร สุขภาพ อักแนส จินตนา อุกฤษฏ์ ขอพร มารีอา ธนพร–มารีอา ลักษิกา เล็กสุวัฒน์ ขอพร ครอบครัว คุณกาญจนา สงวนสุข ขอพร แคทรีน ไอยศรา ขอพร วันเกิด อันตน ชาญศักดิ์ วงศ์ธนะกุล ขอพร สุขภาพ เทเรซา สมสวาท วงศ์ธนะกุล อุทิศ เปโตร ประจวบ เจริญทรัพย์ อุทิศ ลูซีอา อังเจลา วัลลา ทวีสิน อุทิศ อันนา ลี้ ต้าเอง, ยอแซฟ เตีย เตี่ยวนี้ อุทิศ อากาทา เจริญ – โทมัส ณรงค์ การะเวก อุทิศ คุณประยูร – มารีอา ยุพา คุ้มคง อุทิศ ยอห์น กมล - ยวง เสกสรร รุขพันธ์เมธี อุทิศ มารีอา งามตา อุกฤษฏ์ อุทิศ มารีอา โอภาส เสนะวีณิน อุทิศ คุณสมศักดิ์ สงวนสุข อุทิศ ยวงบัปติสตา ศรีหมอก – อันนา มิ่ง อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง ขอพร สาหรับพี่น้องสัตบุรุษทุกท่าน ทุกครอบครัว โมทนาคุณพระมารดานิจจานุเคราะห์ ขอพร ครอบครัว ซาโลเม อรวรรณ ศรีวรกุล ขอพร Matinus ชูเมียง จิน ขอพร ครอบครัว จิน, ครอบครัว พรกุลวิไล ขอพร มารีอา นิภาพร วันณาและครอบครัว ขอพร สุขภาพ ยวง บอสโก ไพรัตน์ อรรถมานะ ขอพร ครอบครัว ชาญนาสิน ขอพร สุขภาพ มารีอา ศิริพร ชาญนาสิน ขอพร ครอบครัว พงษ์ธนานิกร ขอพร สุขภาพ เทเรซา สุญาณี พงษ์ธนานิกร อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ เทเรซา สุทธิรตั น์, ยอแซฟ ประสงค์ อุทิศ ยวง สวน เกาะสุวรรณ์ อุทิศ มารีอา ซู่งมิ้ , ยอแซฟ สุเมธี อุทิศ แบร์นาแด๊ต ชญานิษฐ์ สีหพล อุทิศ ยวงบัปติสตา ก้าน - มารีอา วิไลลักษณ์ อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ เปาโล ง่วนฮั้ว แซ่เตาะ อุทิศ คุณพรหม ศิรปิ ี อุทิศ ยอแซฟ ใข, มารีอา ขา, ยอแซฟ สุดใจ อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง ฉลองแม่พระบังเกิด โมทนาคุณแม่พระ ขอพร ยอห์น บัปติสตา ศุภชัย-แบร์นาแด๊ต ศิริพร ขอพร แคทรีน ไอยศรา ขอพร ความสงบสุขสาหรับประเทศไทย อุทิศ เปโตร หม่า เวียงชัย อุทิศ เปโตร สง่า, อันนา เฮียน เวียงชัย อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2014


-21จ. 8 กย.14 19.00 น. คพ.สุรชัย

อ. 9 กย. 14 06.15 น. คพ.สุชาติ

19.00 น. คพ.สุรชัย

พ. 10 กย.14 06.15 น. คพ.สุชาติ

ฉลองแม่พระบังเกิด โมทนาคุณพระเมตตาของพระเป็นเจ้า ขอพร พระสงฆ์ นักบวช ผู้แพร่ธรรมทุกท่าน ขอพร สัตบุรุษวัดฟาติมาทุกท่าน ขอพร มารีอา สุรวี, เทเรซา นาตยา มณีรัตน์ ขอพร ครอบครัว DILODILO ขอพร ผู้ที่ไม่สามารถช่วยตนเองได้ อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยวง สวน เกาะสุวรรณ์ อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ เซซีลีอา แน่งน้อย, ยวงบัปติสตา หวล อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง น.เปโตร คลาแวร์ พระสงฆ์ โมทนาคุณพระเป็นเจ้าและแม่พระฟาติมา ขอพร ยาโกเบ เสรี, อักแนส จันทร์ตรี พรกุลวิไล ขอพร แคทรีน ไอยศรา ขอพร สุขภาพ โรซา สุรีย์ อุทิศ เฮเลนา กาญจนา อุทิศ นพ.สมาน – พญ.ภักดี ตระกูลทิม อุทิศ บาทีเมอาส นุกรณ์ อุทิศ มารีอา ชะลูด, ฟีโลมีนา ละออ อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง โมทนาคุณพระเป็นเจ้าและแม่พระมารีอา ขอพร ครอบครัว ปัณฑวังกูร , ลิ้มประยูร ขอพร สันติภาพและการคืนดีกัน ขอพร ครอบครัว เลาหไทยมงคล ขอพร โรซา เพ็ชรา ระดมวิวัฒน์ ขอพร แพททริเซีย จารุภรณ์, อักแนส ณัฐพัชร์ อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยวง สวน เกาะสุวรรณ์ อุทิศ มารีอา ทองคา พุ่มร่มบุตร อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง อาทิตย์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา โมทนาคุณพระเจ้าสาหรับพระพรต่างๆ ขอพร แคทรีน ไอยศรา ขอพร ครอบครัว ประสิทธ์ , ชัยกิจ ขอพร วันเกิด มารีอา ศุภาทิพย์ ทรัพย์สิน ขอพร การงาน เทเรซา ฉัตรชนก ชัยกิจ ขอพร การงาน ฟรังซิสเซเวียร์ ชยกร ชัยกิจ อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ บรรพบุรุษตระกูล “ชัยกิจ” ทุกท่าน อุทิศ อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยวง สวน เกาะสุวรรณ์ อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง

19.00 น.

งดมิสซา พระสงฆ์เข้าเงียบ

พฤ.11 กย.14

อาทิตย์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา

06.15 น.

งดมิสซา พระสงฆ์เข้าเงียบ สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2014


-22พฤ.11 กย.14

อาทิตย์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา โมทนาคุณพระเป็นเจ้าและแม่พระ ขอพร ขอพร ครอบครัวมารีอา อุดม มยุระสาคร 19.00 น. ขอพร ครอบครัว DILODILO ขอพร สุขภาพ มารีอา รัชนี บุญพันธ์ อุทิศ ยวงบัปติสตา ปิ๋ง,เวรอนิกา เสนอ เสนาจักร อุทิศ พี่น้องเสนาจักร อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง คพ.สุรชัย อุทิศ ยวงบัปติสตา จิ้งซุง - เทเรซา ง้อ อุทิส ยอแซฟ จินเหงีย่ น - มารีอา สมถวิล อุทิศ วิญญาณที่มีพระคุณต่อผู้ขอทุกท่าน อุทิศ ยวง สวน เกาะสุวรรณ์ อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง ศ. 12 กย. 14 พระนามศักดิ์สิทธ์ของพระนางมารีย์พรหมจารี โมทนาคุณพระเป็นเจ้าและแม่พระฟาติมา ขอพร แคทรีน ไอยศรา , โนเอล เดชา 06.15 น. ขอพร มารีอา ดวงใจ, มารีอา อารยา ขอพร มารีอา สุพัตรา, คุณสรวัศ ชุนเจริญ อุทิศ เฮเลนา กาญจนา อุทิศ ฟรังซิส ทวน คพ.สุชาติ อุทิศ มารีอา นภาพร ครุกานันต์ อุทิศ มารีอา เพชร ชุนเจริญ อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง โมทนาคุณพระพระเป็นเจ้า ขอพร ยอแซฟ สุรเสียง - แคทธิรีน จินดารัตน์ ขอพร ยอแซฟ จุนนา จิน ขอพร ยอแซฟ พอล- ยอแซฟ พิสิษฐ์ พรกุลวิไล 19.00 น. อุทิศ ยอแซฟ ลี้ - มารีอา แม้น แดงเดช อุทิศ ยวง ไพศาล แสงหาญ, แสนสุข ศิริวัฒนา อุทิศ มารีอา สงวนสินธ์ กิจกรพันธ์ อุทิศ คุณบุญชื่น – คุณอรุณ ลิม้ ตระกูล คพ.สุรชัย อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยวง สวน เกาะสุวรรณ์ อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ ยอห์น กมล - ยวง เสกสรร รุขพันธ์เมธี อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง ส.13 กย. 14 ระลึกถึง น.ยอห์น ศริสซอสโตมพระสังฆราชและนักปราชญ์ โมทนาคุณพระเจ้าและแม่พระ ขอพร วันเกิด คุณโชคชัย เจนผาสุก 06.15 น. ขอพร ครอบครัว DILODILO ขอพร แคทรีน ไอยศรา, เทเรซา จิราภรณ์ คพ.สุชาติ อุทิศ ฟรังซิส สุชาติ จิตรบรรจง อุทิศ เปโตร ซ้งฮี้ แซ่อึ้ง - อักแนส กิมสี แซ่แต้ อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง โมทนาคุณพระเป็นเจ้าและแม่พระฟาติมา ขอพร วันเกิด คุณดวงสมร จักรพันธุ์ ณ อยุธยา 19.00 น. ขอพร สุขภาพ มารีอา สุทธินีย์ กุลตังวัฒนา ขอพร สุขภาพ วินเซนต์ สุรินทร์ กุลตังวัฒนา อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยอแซฟ อ๊อน - มารีอา เง็กเอ็ง แซ่ฉวั่ คพ.ทินรัตน์ อุทิศ อันนา สมพิศ แสงเนตร อุทิศ ทอมัส ธวัช, เทเรซา จู ศรีสวัสดิ์ อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ ยวง สวน เกาะสุวรรณ์ อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2014


-23-

1.พระสงฆ์กรุงเทพเข้าเงียบเดือนกันยายน ในวันพุธที่ 10 กย.- วันพฤหัสบดีที่ 11กย. ขอ งดมิสซาค่าวันพุธและเช้าวันพฤหัสบดี 2. เรื่องการเยี่ยมศูนย์มาร์ติน วัดแม่พระมหาการุณย์ วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2557 รถออกจากวัด เวลา 10.30 น. 3..เรื่องรับบริจาค เสื้อผ้าเด็กและวัยรุ่น ซักสะอาด ที่ค่อนข้างใหม่หรือใหม่ ของเล่นเด็ก ขนม ข้าวสาร อาหารแห้งและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียหรือไม่ใช้แล้ว เพื่อช่วยเหลือเด็กศูนย์ มาร์ติน 4. อาทิตย์ต้นเดือน คณะวินเซนเดอปอล ขอรบกวนพี่น้องบริจาคทรัพย์เพื่อช่วยเหลือคน จนเดือนกันยายน มีเจ้าหน้าที่รับบริกาคทีห่ น้าวัด 5. ตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมนี้ ทางมิสซังจะมาเริ่มกั้นพื้นที่สาหรับสร้างอาคารรองรับ ENGLISH PROGRAM บริเวณทีจ่ อดรถจะหายไปครึ่งหนึ่ง ทางวัดยกเลิกการเช่าที่จอดรถ แล้ว ดังนั้นอาจจะไม่สดวกสาหรับพี่น้องสัตบุรษที่นารถมา จึงกราบขออภัย 6. วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน เวลา 10.35 น. คณะพลมารีย์ไทย ขอเชิญสมาชิกประจาการ สมาชิกสนับสนุน และผู้สนใจ ร่วมฉลองแม่พระบังเกิด ณ วัดน้อย 7. ขอเชิญพี่น้องร่วมเทิดเกียรติแห่แม่พระวันเสาร์ที่ 13 กันยายน 2014 15.00น. สวดถวายตัวแด่แม่พระ สวดพระเมตตา 15.30น. อ่านพระวาจา แบ่งปันพระวาจา 16.30น. แบ่งปันประสบการณ์ความเชื่อโดยคุณพ่อไมเกิ้ล ทินรัตน์ คมกฤส 17.30น. รับประทานอาหาร 18.00 น. สวดสายประคาโลก โดย คุณพ่อ ชวลิต กิจเจริญ 19.00 น. มิสซาแห่แม่พระ โดย คุณพ่อไมเกิ้ล ทินรัตน์ คมกฤสเป็นประธาน

สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2014


-24-

**ประกาศการแต่ งงาน** ประกาศครั้งที่ 2 คู่ที่1 ฝ่ ายชาย : ดอมินิค สิ ทธิศักดิ์ อภิชาติธนพัฒน์ บุตร : มาร์ โก แสงชัย อภิชาติธนพัฒน์ + มารี อา สุ พร อภิชาติธนพัฒน์ ฝ่ ายหญิง : นางสาวกุลธิดา ไกรสรเจริ ญ บุตรี : นายประเจตร ไกรสรเจริ ญ + นางพวงคราม ไกรสรเจริ ญ ทั้งสองจะเข้าพิธีสมรส วันอังคารที่ 16 กันยายน 2014 เวลา 11:00 น. คู่ที่ 2

ฝ่ ายชาย : นายวรวุฒิ ธรรมวิริยะวงศ์ บุตร : นายวิชาญ ธรรมวิริยะวงศ์+นางมณี รัตน์ ธรรมวิริยะวงศ์ ฝ่ ายหญิง : เทเรซา มารีรักษ์ แซ่ ลี้ บุตรี : ยวง บัปติสตา สุ ธี แซ่ ล้ ี + มารี อา มาการี ตา อรุ ณี แซ่ ล้ ี ทั้งสองจะเข้าพิธีสมรส วันเสาร์ ที่ 20 กันยายน 2014 เวลา 09:00 น. ** ผู้ใดทราบข้ อขัดขวาง มีหน้ าที่ต้องแจ้ งให้ พระสงฆ์ ทราบ **

สัปดาห์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน 2014


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.