-1-
ฟาติมาสาร วัดแม่พระฟาติมา ดินแดง 4080 ถ. อโศก – ดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. 10400 โทร. 02- 245 - 1039, 02- 642 - 9906, 02-642 - 9907, โทรสาร 02 - 246 - 6174 E-mail : fatimachurch13@gmail.com, www.fatima.or.th
อาทิตย์ที่ 15 เทศกาลธรรมดา วันอาทิตย์ที่ 10 กรกฎาคม 2016
-2-
จากใจพ่อ มีใครบ้างที่ไม่ต้องการ “มีชีวิต ” แต่มีใครคนไหนไหมที่สามารถ หลีกพ้น “ข้อจากัด” สารพัดตลอดเส้นทางการดาเนินชีวิตในขณะที่ยังมีลม หายใจอยู่ และในที่สุดจะมีใครหนีพ้น “เส้นตาย” ที่ขีดไว้ให้ชีวิตอยู่ได้ถึง วันนั้นที่พระเจ้าจะทรงเรียกชีวิตของเราแต่ละคนกลับไปหาพระองค์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา พ่อเดินสวนทางกับสตรีวัยกลางคนท่านหนึ่ง บนสะพานข้ามถนนหน้าโรงเรียนแม่พระฟาติมา เธอกาลังยืนพักเหนื่อยอยู่ เธอบอกกับพ่อว่า “คนแก่ไม่มีอะไรดีเลย” พ่อเข้าใจว่าเธอกาลังจะบอกกับ พ่อ ว่ า พอแก่ ตั ว ชีวิ ต ก็ เ สื่ อ มถอย เรี่ ย วแรงก็ ล ดลง ขึ้น สะพานสู ง หน่ อ ย ก็หมดเรี่ยวแรง ความจริงพ่อก็เดินขึ้นสะพานลอยเดียวกันกับเธอ พ่อก็ เหนื่อยล้าไม่น้อยกว่ากัน อีกทั้งมองดูภายนอก พ่อว่าอายุของพ่อก็ไม่น่าจะ น้อยกว่าเธอด้วยซ้า พ่อรู้สึกได้ถึงกาลังความแข็งแรงที่ย่อมลดน้อยถอยลง ตามวั ย ของผู้ ค น เพี ย งแต่ พ่ อ เข้ า ใจว่ า “คนแก่ มี อ ะไรดี ๆ ” อยู่ ม าก และ จาเป็น ต้ อ งมี ชีวิ ตอยู่ เ พื่อ ถ่ ายทอด “ความดี ในชี วิต ที่พบได้ เ ฉพาะคนแก่ ” ให้กับทั้งกับผู้ที่มีอายุมากด้วยกันและกับคนรุ่นหลังที่กาลังมีอายุเพิ่มมากขึ้น ซึ่งกาลังเดินตามหลังตนเองอยู่ในปัจจุบัน ทุกวันนี้พ่อรับรู้ได้ถึงข้อจากัดของชีวิตซึ่งส่งผลถึงการดาเนินชีวิต ได้อย่างปรกติสุขและต้องเผชิญกับความทุกข์ยาก มีทั้งน้อยและใหญ่ ทั้งที่ อยู่ในระดับพื้นผิวๆไปจนถึงระดับลึกๆ ในบางครั้งรู้สึกได้ว่า “ความตาย” อยู่ในวิสัยที่แตะต้องได้ต่อหน้าใกล้ๆ ในขณะนั้นเอง รวมทั้งบางครั้งท้าทาย
-3-
ถึง “ความเชื่อ” ที่มีต่อพระเจ้า ท้าทายต่อพระธรรมคาสอนของพระองค์ที่ เรียนรู้และที่เคยนามาอธิบายสอนให้กับผู้อื่นปฏิบัติ อย่างไรก็ตามยิ่งวัน พ่อยิ่งเข้าใจมากขึ้นว่า ข้อจากัดทั้งหลายทั้งปวงเหล่านั้นล้วนช่วย “ส่งเสริม พัฒนาชีวิตความเชื่อของพ่อให้แข็งแกร่งยิ่งวันยิ่งมากขึ้น ” พ่อเข้าถึงและ เข้าใจลึกมากยิ่งขึ้นในพระธรรมคาสอนของพระในทุกๆ จังหวะที่ต้องเผชิญ กับ “ข้อจากัด” ในชีวิตที่พ่อกล่าวถึง เช่นพ่อเข้าใจชัดเจนมากขึ้นว่าเมื่ออยู่ ต่อหน้าวิกฤติที่ถึงขั้นที่อาจแตะต้องถึงความตายได้ “คาภาวนา” ที่ใช้งานได้ อย่างได้ผลในขณะนั้น มิใช่เรื่องของ “ถ้อยคา” หรือ “จานวน” ของถ้อยคาที่ ใช้ในการภาวนา แต่ต้องอยู่ที่ “รับรู้ว่ามีพระอยู่ในชีวิต” และก้าวเดินร่วมกัน ไปกั บ จั ง หวะชี วิ ต ที่ เ ลวร้ า ยอยู่ ใ นขณะนั้ น เหมื อ นกั บปล่ อ ยให้ พระ “อยู่ เฉยๆ” กับชีวิต ไม่ต้องรู้อะไรอีก ไม่ต้องถามอะไรอีกกับพระองค์ ไม่ต้อง ร้องขอ ไม่ต้องให้พระองค์ตอบอะไรกับชีวิตอีก ให้ชีวิตอยู่ไปแบบนั้น เจ็บ แบบนั้น หมดแรงไปแบบนั้น หรือสั่นไหวแทบจะขาดใจแบบนั้น เพียงแต่ รู้ตัวเพียงช่วงสั้นๆ เพียงเสี้ยววินาทีว่ามีพระองค์อยู่ แล้วก็ปล่อยให้สภาพ ของวิกฤตนั้นๆ ไหลผ่านชีวิตของตนต่อไป จนกว่าจะข้ามช่วงเวลาแห่ง ความมืดของชีวิตนั้นไปได้ ค่อยกลับมามีชีวิตภาวนาสัมพันธ์กับพระแบบ ปรกติกันใหม่กันอีกครั้ง ประสบการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นได้กับผู้ที่มีชีวิตยืนยาว เพื่อถ่ายทอดด้วยชีวิตอย่างยาวนานให้กับผู้คนรอบข้างได้อย่างยั่งยืน พี่ น้ อ งที่ เ คารพ เมื่ อ ต้ อ งเผชิ ญ ชี วิ ต กั บ ความจ ากั ด ด้ า นต่ า งๆ โดยเฉพาะในเรื่องที่รุนแรง อาจทาให้พี่น้องท้อใจในการดาเนินชีวิตจน บางครั้งหลงเข้าใจไปว่าการมีชีวิตอยู่นั้น “ไม่มีคุณค่า” จนไม่อยากมีชีวิตอยู่
-4-
อีกต่อไป แท้ที่จริงแล้ว จังหวะชีวิตช่วงนั้นมีคุณค่าสุดๆ ทั้งกับตนเองและ กับลูกหลานและผู้คนรอบข้าง เพราะการมีชีวิตอยู่เป็น “พระพรอันยิ่งใหญ่” เป็นโอกาสให้ความเชื่ อต่อพระเจ้า “พัฒนาขึ้น ” “เข้มแข็งมั่นคงมากขึ้น ” “มีคุณภาพมากขึ้น” มากกว่าในขณะที่ “ชีวิตดูดีดูง่าย” ตลอดเวลาอันยาวนาน ที่ ผ่ า นมา เป็ น ค าอธิ บ ายที่ ไ ม่ ต้ อ งพู ด มากก็ ส ามารถเข้ า ใจและน าไปเป็ น บรรทัดฐานสาหรับดาเนินชีวิตให้ก้าวหน้าต่อยอดต่อไปได้จริงๆ สิ่งนี้มีแต่ เฉพาะผู้ผ่านชีวิตอันยาวนานเท่านั้นที่จะเข้าถึงและใช้อธิบายกับลูกหลาน และผู้คนทั้งหลายสาหรับนาไปใช้จนบังเกิดผลดีกับชีวิตของตน พี่น้องที่มี อายุยืนยาวทุกๆ คน ควรภาคภูมิใจ แม้ใครจะวิจารณ์ชีวิตของเราอย่างไรก็ ไม่สามารถลบล้างคุณค่าอันยิ่งใหญ่ที่พระประทานให้กับ ชีวิตของพี่น้องผู้มี อายุยืนยาวได้ คุณพ่อเปโตร วิทยา แก้วแหวน
-5-
ข้อคิด – วันอาทิตย์ โดย คุณพ่อสุระพงษ์ ไม้มงคล
ทาดีได้ดี แม้แต่จะช้าหน่อยแต่ก็แน่นอน นี่คือความจริงที่ปรากฎที่เรา เห็นตัวอย่างมากมายที่เกิดขึ้น บางตัวอย่างเกิดขึ้นเห็นทันตา บางอย่างค่อยๆ เกิดขึ้น และจบลงเป็นตัวอย่างให้พวกเราเห็น เราทาความดี เราจะรู้สึกเหนื่อย ต้องอดทนไม่สนุก แต่ผลก็คือ ความสุข และสันติสุขในชีวิต เราทาความชั่ว เราจะรู้สกึ ชอบ สนุกและตื่นเต้น ผลก็คือความทุกข์ ทรมาน ความล้มเหลวและมีตราบาปในชีวิต ชีวิตในแต่ละวัน คือประวัติที่เราเขียนและจารึกขึ้น ใครประวัติดีก็ สร้างความภาคภูมิใจ ใครประวัติด่างพร้อยก็เป็นบาดแผลในชีวิตที่ใครๆ จะ กล่าวถึงไม่มีวันเลือน เราคริสตังได้รับการสอนตั้งแต่โบราณแล้วว่า สวรรค์เราต้องเอาให้ได้ นรกเราต้องหนีให้พ้น คาสอนนี้ต้องตั้งในมโนธรรมตลอดเวลาแล้ว เราจะมี แรงอยากทาความดี อยากจะทาสิ่งดีๆ แม้ความดีที่ทา ทาให้เราลาบากขึ้น เหนื่อยขึ้น และบางทีคนไม่รู้ แล้วเราจะทาเพื่อใคร? เพื่อพระดีที่สุด ชุมชนวัดของเรา คนดีตายไปเยอะ แต่คนก็ยังยกย่อง คนชั่วก็ตาย ไปมาก คนก็ยังสาปแช่ง แล้วเราอยากจะเลือกอะไรในชีวิตของเรา เลือกพระ หรือเลือกปีศาจ เลือกคากล่าวยกย่องสรรเสริญ หรือเราจะเลือกคนดูถูก เหยียดหยามตราหน้าเรา ทั้งหมดก็ขึ้นกับการกระทาหรือการปฏิบัติตนของเรา
-6-
ข้อคิดจากพระวรสาร โดย คุณพ่อชัยยะ กิจสวัสดิ์ เส้นทางจากกรุงเยรูซาเล็มซึ่งอยู่เหนือระดับน้าทะเล 700 เมตร สู่เมืองเยรีโคซึ่งอยู่ ต่ากว่าระดับน้าทะเล 400 เมตร ได้ชื่อว่าเป็นเส้นทางอันตรายที่สุดเส้นทางหนึ่งใน ปาเลสไตน์ เหตุว่าระยะทางเพียง 32 กิโลเมตร แต่ถนนกลับลาดชันต่างระดับกันมากถึง 1,100 เมตร นอกจากถนนจะลาดชันแล้ว หนทางยังคับแคบ เต็มไปด้วยก้อนหินขรุขระ และมี ทางเลี้ยวหักมุมมากมาย เหมาะแก่การซุ่มจู่โจมของพวกโจรเป็นอย่างยิ่ง ในศตวรรษที่ 5 นักบุญเยโรมถึงกับเรียกเส้นทางสายนี้ว่า “ถนนแดง” หรือ “ถนน เลือด” แม้ล่วงเลยมาจนถึงศตวรรษที่ 19 ผู้เดินทางยังต้องจ่ายเงินให้ชาวอาหรับพื้นเมือง เพื่อแลกกับความปลอดภัยในการใช้เส้นทางสายนี้ อีกทั้งก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง ยังมีพวกโจร (Abu Jildah) คอยหยุดรถและ ปล้นคนเดินทางโดยไม่หวั่นเกรงตารวจ เพราะกว่าตารวจจะมาถึงพวกเขาก็หนีขึ้นภูเขาไป เรียบร้อยแล้ว นี่คือความเหนือชั้นของพระเยซูเจ้าที่สามารถนาเหตุการณ์ซงึ่ เกิดขึ้นเป็นประจาบน เส้นทางระหว่างกรุงเยรูซาเล็มกับเมืองเยริโค มาประยุกต์เป็นคาสอนและหลักการอัน ลึกซึ้ง !!! ในอุปมาเรื่อง “ชาวสะมาเรียผู้ใจดี” มีตัวละครสาคัญ 4 คนด้วยกัน กล่าวคือ 1. ชายที่ถูกโจรปล้น เขามีนิสัยมุทะลุ บ้าระห่า และขาดความยั้งคิดอย่างไม่น่าให้ อภัยที่อาจหาญเดินทางพร้อมสินค้าและของมีค่าผ่านเส้นทางนี้ตามลาพัง เพราะปกติชาว ยิวจะคอยจนกว่าจะมีพ่อค้าหรือคนรู้จักจานวนมากพอ จึงออกเดินทางพร้อมกันเป็นกอง คาราวาน งานนี้เขาจึงต้องรับผิดชอบเต็มๆ ต่อชะตากรรมของตนเองที่ถูกโจรปล้นและทา ร้ายจนอาการปางตาย จะเที่ยวโยนความผิดให้โจรหรือโทษเคราะห์กรรมอื่นใดไม่ได้
-7-
2. สมณะ เขารีบเดินหลบไปอีกฟากหนึ่งโดยไม่แตะต้องชายที่ถูกโจรปล้นเลย อาจเป็นไปได้ว่าเขากาลังคิดถึงธรรมบัญญัติที่ว่า “ผู้ที่แตะต้องศพของผู้ใดก็ตามต้องเป็น มลทินอยู่เจ็ดวัน” (กดว 19:11) หากชายผู้นั้นเสียชีวิตแล้ว หรือเสียชีวิตขณะให้ความ ช่วยเหลือ การสัมผัสตัวเขาย่อมทาให้ตนเองมีมลทิน และหมดสิทธิ์ประกอบพิธีกรรมหรือ ถวายเครื่องบูชาใดๆ ในพระวิหารไปอีกเจ็ดวัน เขาไม่ยอมเสี่ยงเสียสิทธิ์นี้ เพราะพระวิหารและพิธีกรรมมีความหมายและเอื้อ ประโยชน์ต่อเขามากกว่าความเจ็บปวดของเพื่อนมนุษย์ ! สาหรับเขา พิธีกรรมอยู่เหนือความรัก !! 3. ชาวเลวี ดูเหมือนจะเข้าใกล้ชายเคราะห์ร้ายมากกว่าสมณะ แต่ก็เดินผ่านไปด้วย เกรงว่าชายผู้นั้นอาจเป็น “นกต่อ” แกล้งบาดเจ็บล่อให้เหยื่อหลงหยุด เพื่อให้พรรคพวกที่ แอบซุ่มอยู่เข้าจู่โจมทาร้ายและปล้นทรัพย์ ซึ่งเป็นวิธีการที่นิยมกันมากในหมู่โจรสมัยนั้น สาหรับชาวเลวีผู้นี้ คติพจน์ประจาตัวของเขาคือ “Safety First” หรือ “ปลอดภัยไว้ ก่อน” เขาไม่พร้อมที่จะเสี่ยงหรือ “เปลืองตัว” เพื่อช่วยเหลือผู้ใดทั้งสิ้น ! 4. ชาวสะมาเรีย มักถูกชาวยิวตราหน้าว่าเป็น “คนเลว” เพราะเชื่อผิด สอนผิด และ ปฏิบัติผิดแผกจากบัญญัติของโมเสส แม้พระเยซูเจ้าเองยังถูกพวกยิวกล่าวหาว่า “เป็นชาว สะมาเรียและถูกปีศาจสิง” (ยน 8:48) ชาวสะมาเรียผู้นี้จึงอาจเป็นเพียงชาวยิวคนหนึ่งที่ถูกตราหน้าว่าเป็น “คนเลว” ไม่ใช่ชาวสะมาเรียโดยกาเนิด หาไม่แล้วเขาคงไม่สามารถติดต่อค้าขายกับชาวยิวและแวะ พักแรมที่โรงแรมแห่งนี้เป็นประจา จนกระทั่งรู้จักกันดีกับเจ้าของ แม้จะถูกชาวยิวโดยเฉพาะพวกฟาริสีดูหมิ่นเหยียดหยามว่าเป็นคนเลวและไร้ค่า เพียงใดก็ตาม แต่เขายังมี “สิ่งดี” ที่อาจทาให้ผู้มีหน้ามีตาในสังคมหลายคนต้องอับอาย 4.1 เขาซื่อสัตย์ เจ้าของโรงแรมจึงเชื่อใจและให้เครดิตเขาสูงมาก 4.2 เขาพร้อมช่วยเหลือผู้อื่น ความรักของพระเจ้าดารงอยู่ในหัวใจของเขา แม้ บางครั้งเขาอาจเชื่อหรือปฏิบัติผิดไปบ้างก็ตาม
-8-
ทุกวันนี้ ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะพบเห็นผู้ที่สังคมยกย่องว่าเป็นคนดีมัวสลวนอยู่กับ ตารา หรือชอบอ้างข้อความเชื่อและบทบัญญัติมากกว่าการให้ความช่วยเหลือผู้อื่น ส่วนผู้ที่ ถูกตราหน้าว่าเป็นคนเลวกลับรักและมีน้าใจเผื่อแผ่ต่อเพื่อนมนุษย์มากกว่าเสียอีก ! ดังนั้น เพื่อไม่ให้หลงทางไปจากพระเยซูเจ้า เราจึงต้องตระหนักอยู่เสมอว่าในบั้น ปลายชีวิต พระเจ้าทรงตัดสิน มิใช่จากสิ่งที่เรารู้หรือเชื่อ แต่จากสิ่งที่เราได้กระทาตลอดชีวิต ของเรา ! เมื่อนักกฎหมายผู้มีเจตนาร้ายทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “พระอาจารย์ ข้าพเจ้าจะต้อง ทาสิ่งใดเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร”พระองค์ทรงถามกลับว่า “ในธรรมบัญญัติมีเขียนไว้อย่างไร ท่านอ่านว่าอย่างไร” (ลก 10:26-27) สิ่งที่ชาวยิวผู้เคร่งครัดต้องอ่านทุกวันคือธรรมบัญญัติที่คัดมาจากพระคัมภีร์สี่ตอน ได้แก่ 1. อพยพ บทที่ 13 ข้อ 1–10 ว่าด้วยการเฉลิมฉลองเทศกาลขนมปังไร้เชื้อ เพื่อระลึก ถึงสิ่งที่พระยาห์เวห์ทรงกระทาเพื่อนาชาวยิวออกจากอียิปต์ 2. อพยพ บทที่ 13 ข้อ 11–16 ว่าด้วยการถวายบุตรคนแรกและสัตว์ตัวแรกแด่พระ ยาห์เวห์ เพราะพระหัตถ์อันทรงฤทธิ์ของพระองค์ได้ประหารบุตรชายคนแรกของชาว อียิปต์ เพื่อทาให้ฟาโรห์ยอมปลดปล่อยชาวยิวจากการเป็นทาส 3. เฉลยธรรมบัญญัติ บทที่ 6 ข้อ 4–9 กล่าวถึงพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้า จึงต้อง รักพระองค์สุดจิตใจ สุดวิญญาณ และสุดกาลังของเรา 4. เฉลยธรรมบัญญัติ บทที่ 11 ข้อ 13–20 กล่าวถึงความอุดมสมบูรณ์ที่ชาวยิวจะ ได้รับหากรักและรับใช้พระยาห์เวห์โดยไม่หันไปนับถือพระเท็จเทียม รวมถึงคาสั่งให้ ชาวยิวพร่าสอนเรื่องเหล่านี้แก่บรรดาบุตรหลานตลอดไป ข้อความเหล่านี้ได้รับการจารึกลงบนม้วนกระดาษ ใส่ไว้ในกล่องหนังเล็กๆ สอง ใบ ใบหนึ่งห้อยไว้ที่ข้อมือ อีกใบหนึ่งคาดไว้ที่หน้าผาก ตามที่โมเสสสั่ง (ฉธบ 11:18) คาตอบของนักกฎหมายที่ว่า “ท่านจะต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านสุด จิตใจ สุดวิญญาณ สุดกาลัง และสุดสติปัญญาของท่าน” คือส่วนหนึ่งของข้อความใน กล่องหนัง ซึ่งถือว่าสุดยอดแล้ว (ฉธบ 6:4 และ 11:13)
-9-
แต่เพื่อความแน่นอนสูงสุด เขาจึงเสริมข้อความจากหนังสือเลวีนิติเข้าไปอีกตอน หนึ่งว่า “ท่านจะต้องรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง” (ลนต 19:18) พร้อมกันนั้น เขาได้ทูลถามพระองค์เพื่อความถูกต้องว่า “แล้วใครเล่าเป็นเพื่อน มนุษย์ของข้าพเจ้า” (ลก 10:30) อันที่จริง คาถามนี้เป็นปัญหาของชาวยิวจริงๆ เพราะพวกเขาถือว่า “เพื่อนมนุษย์” ได้แก่ชาวยิวด้วยกันเองเท่านั้น รับบีบางคนถึงกับห้ามช่วยเหลือหญิงต่างชาติใกล้คลอด เพราะนั่นเท่ากับช่วยเพิ่มคนต่างศาสนาให้แก่โลกอีกคนหนึ่ง แต่สาหรับพระเยซูเจ้า “เพื่อนมนุษย์” ของเราคือ 1. ทุกคนที่ต้องการความช่วยเหลือ แม้ตัวเขาเองจะเป็นผู้ก่อให้เกิดปัญหานั้นขึ้นมา ดังเช่นชายที่ถูกโจรปล้นก็ตาม 2. ทุกคนที่ตกทุกข์ได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นชาวยิว ชาวสะมาเรีย หรือชนชาติและ ศาสนาใดก็ตาม ความช่วยเหลือของเราต้องแผ่กว้างดุจดังความรักของพระเจ้า อนึ่ง ความช่วยเหลือของเราต้อง “เป็นรูปธรรม” ไม่ใช่แค่แสดงความเห็นอกเห็น ใจเท่านั้น เหมือนชาวสะมาเรียที่ไม่เพียงรู้สึกสงสาร แต่ยังเดินเข้าไปหาคนที่เป็นศัตรูโดย ไม่หวั่นเกรงอันตรายใดๆ เพื่อเทน้ามันและเหล้าองุ่นลงบนบาดแผลแล้วพันผ้าให้ พร้อม กับนาเขาขึ้นหลังสัตว์ของตนพาไปถึงโรงแรมและช่วยดูแลเขา เท่านั้นยังไม่พอ วันรุ่งขึ้น เขายังมอบเงินสองเหรียญแก่เจ้าของโรงแรมกล่าวว่า “ช่วยดูแลเขาด้วย เงินที่ท่านจะจ่าย เกินไปนั้น ฉันจะคืนให้เมื่อกลับมา” (ลก 10:35) เมื่อได้ฟังอุปมาของพระเยซูเจ้า นักกฎหมายผู้นั้นตระหนักได้ทันทีว่า “เพื่อน มนุษย์” ของคนที่ถูกโจรปล้นคือ “คนที่แสดงความเมตตา” ดุจเดียวกับชาวสะมาเรียผู้ใจดี คนนี้ ด้วยพระสุรเสียงที่หนักแน่นแต่แฝงด้วยความเมตตา พระองค์ตรัสว่า “ท่านจงไป และทาเช่นเดียวกันเถิด” (ลก 10:37) “ท่านจงไปและทาเช่นเดียวกันเถิด” ! “ท่านจงไปและทาเช่นเดียวกันเถิด” !!
-10-
Pope Report ช่วงวันที่ 24-26 มิถุนายนที่ผ่านมา พระสันตะปาปาเสด็จเยือนประเทศ อาร์เมเนีย การไปครั้งนี้ไม่ได้เน้นหนักเพื่อเยี่ยมชาวคาทอลิก แต่ไปเพื่อเน้นงาน คริสตศาสนสัมพันธ์มากกว่า เนื่องจากอาร์เมเนียเป็นประเทศที่มีคาทอลิกน้อยมาก คนส่วนใหญ่เป็นนิกายออโธด็อกซ์อาร์เมเนียนกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ พูดถึงออโธด็อกซ์อาร์เมเนียน หรือ ARMENIAN APOSTOLIC CHURCH พวกเขาเรียกตัวเองว่าเป็นการ “สืบต่อจากอัครสาวกแอนดรูว์และยูดาห์” ตาม ประวัติศาสตร์บอกว่า ท่านนักบุญทั้งสองไปแพร่ธรรมในดินแดนอาร์เมเนียด้วย อีก ความรู้หนึ่งที่หลายคนไม่เคยทราบ ก็คือ อาร์เมเนียเป็นประเทศแรกในโลก ที่ ประกาศให้ “ศาสนาคริสต์” เป็นศาสนาประจาชาติ โดยประกาศตั้งแต่ ค.ศ. 301 หรือ 1,715 ปีที่แล้วเลยทีเดียว เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เสียเวลา เราไปดูพระดารัสและข้อคิดดีๆ จากการที่พระ สันตะปาปาเยือนอาร์เมเนียกันเลย ผู้นาทางการเมืองต้องจริงจังกับการหยุดยั้งการเบียดเบียนศาสนาที่ถึงขั้นฆ่ากันตาย วันที่ 24 มิถุนายน พระสันตะปาปาเสด็จยังทาเนียบประธานาธิบดีของ อาร์เมเนีย เพื่อพบปะคณะรัฐบาลและผู้บริหารประเทศ โอกาสนี้ พระองค์ตรัสกับพวก เขาว่า ‚อาร์เมเนียเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่ นี่คือประเทศแรกที่ประกาศ ให้คริสต์ศาสนาเป็นศาสนาประจาชาติ นอกจากนี้ เป็นทีเ่ ชื่อกันว่า พื้นที่บางส่วนของ ประเทศเป็นอาณาเขตของสวนเอเมนในพระคัมภีร์ด้วย ‚อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องน่าเศร้าที่ข้าพเจ้าต้องขอกล่าวถึงเหตุการณ์ใน ศตวรรษที่แล้วซึ่งเกิดการสังหารหมู่ หรือที่เราเรียกกันว่า ‘เม็ตซ์ เยเกิร์น’ (แปลว่า ความชั่วร้ายแบบสุดๆ)เมื่อชาวอาร์เมเนียนกว่า1.5 ล้านคนต้องถูกกองทัพอ็อตโตมาน ฆ่าตาย นี่คือโศกนาฏกรรมที่เกิดจากการบิดเบือนอย่างสุดขั้วและยังใช้ศาสนามาเป็น ข้ออ้าง นี่คือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ก็ว่าได้ ‚ส่วนยุคนี้ บางทีอาจเลวร้ายกว่ายุคแรกเริ่มของบรรดามรณสักขี ยุคนี้มีการ แบ่งแยกและเบียดเบียนการประกาศความเชื่อในศาสนาอย่างเลวร้าย นี่จึงเป็นสิ่ง
-11-
สาคัญที่ผู้นาทางการเมืองต้องทางานอย่างจริงจังเพื่อยุติความทุกข์ระทมและความ ขัดแย้ง และต้องช่วยปกป้องเหยื่อที่ถูกทาร้าย ขณะเดียวกัน ขอให้ช่วยส่งเสริมความ ยุติธรรมและการพัฒนาที่ยั่งยืนด้วย ทั้งนี้ พระดารัสเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอาร์เมเนียน เคยทาให้รัฐบาล ตุรกีโกรธพระสันตะปาปาแบบสุดๆ มาแล้ว เมื่อปีที่แล้ว พระสันตะปาปา ฟรังซิส ตรัสถึงเรื่องนี้ในมิสซาราลึกถึงมรณสักขีชาวอาร์เมเนียน ผลที่ตามมาคือรัฐบาล ตุรกีเรียกทูตประจาสันตะสานักกลับประเทศทันที เพื่อเป็นการประท้วงพระ สันตะปาปา ส่วนปีนี้ รัฐบาลตุรกีก็ทาเรื่องประท้วงอีกเช่นกัน แต่ว่าข่าวสหราช อาณาจักรออกจากสหภาพยุโรปและข่าวระเบิดสนามบินอตาเติร์ก ประเทศตุรกี กลบข่าวพระสันตะปาปาแบบสนิท ทาให้เรื่องนี้ไม่ค่อยเป็นที่สนใจเท่าไหร่นัก (สัปดาห์หน้า เราจะมาติดตามบทสัมภาษณ์พระสันตะปาปาบนเครื่องบิน นักข่าวถาม ถึงกรณีนี้ เราจะได้ดูกันว่า พระสันตะปาปาจะตอบประเด็นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างไร) เราทุกคนต้องสร้างสะพานเข้าหากัน อย่าสร้างกาแพงกั้นขวางกัน วันที่ 25 มิถุนายน พระสันตะปาปาทรงถวายมิสซา ณ จัตุรัสวาร์ทานันส์ เมือง ยุมรี่ โดยนี่เป็นมิสซาแรกและมิสซาเดียวของพระสันตะปาปาในการเสด็จเยือน อาร์เมเนีย (สัตบุรุษที่มาร่วมส่วนมาก ไม่ใช่คาทอลิก แต่เป็นออโธด็อกซ์อาร์เมเนียน) มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า ‚พ่ออยากแบ่งปันเสาหลัก 3 ต้นใน ชีวิตคริสตชนอาร์เมเนียน ซึ่งเสาทั้งสามนี้ตั้งมั่นด้วยความมั่นคง เสาต้นแรกคือความ ทรงจา นี่คือการย้าเตือนเราถึงสิ่งที่พระเจ้าทรงทาในตัวเราและทาเพื่อเรา พระองค์ทรง เลือกเรา รักเรา เรียกเรา และให้อภัยเรา ความทรงจาของชาวอาร์เมเนียนจาเป็นต้อง ได้รับการปกปักรักษาตลอดไป แม้ต้องเผชิญกับสถานการณ์เลวร้าย พระเจ้าทรงจดจา ความศรัทธาที่เรามีต่อพระวรสารอย่างแน่นอน คนที่เป็นประจักษ์พยานแม้ต้องแลก ด้วยเลือด ความรักของพระเจ้าจะตอบแทนเราอย่างแน่นอน ‚เสาต้นสองคือความเชื่อ สิ่งนี้สร้างอยู่บนชีวิตคริสตชน อย่างไรก็ตาม มันมีภัย อันตรายที่จะมาดับแสงแห่งความเชื่ออยู่เสมอ นั่นคือ การประจญล่อลวงที่ลดทอน ความเชื่อที่ได้รับมาจากบรรพบุรุษ มันคือการล่อลวงเราให้เก็บความเชื่อนี้ไว้ใน พิพิธภัณฑ์ ไม่มีการถ่ายทอดให้คนรุ่นต่อไป
-12-
‚เสาต้นที่สามคือความรักที่เปี่ยมด้วยเมตตา พวกเราถูกเรียกมาเพื่อสร้าง ความเป็นหนึ่งเดียวกัน จงสร้างสะพานเข้าหากันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และจง ทางานอย่างหนัก เพื่อเอาชนะความแตกแยกในสังคม‛ เยาวชนต้องทาตัวเป็นผู้นาสันติและการคืนดีกันในสังคม เย็นวันที่ 25 มิถุนายน พระสันตะปาปาเสด็จไปพบกับเยาวชนในงาน คริสตศาสนสัมพันธ์ โอกาสนี้ พระองค์ทรงสอนพวกเขาว่า ‚พ่อขอเรียกร้องบรรดา คริสตชนที่มีความเชื่อ อย่าใส่ใจกับความคิดเห็นที่แข็งกระด้างและความต้องการ ส่วนตัวของคนบางคน แต่จงแสดงออกถึงความสุภาพถ่อมตนและความโอบอ้อม อารีบนหนทางที่นาไปสู่ความเป็นหนึ่งเดียวกันของคริสตชน ‚ในฐานะผู้นากลุ่มคริสตชน เราทุกคนมีหน้าที่ต้องรักษาความเชื่อนี้ให้ดารงอยู่ แต่สิ่งสาคัญกว่านั้น ความเชื่อต้องได้รับการถ่ายทอดออกไปด้วยความรัก และด้วยพลัง ขับเคลื่อนแห่งความเชื่อที่จะหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งสันติเพื่ออนาคต ไม่ใช่ถ่ายทอดความ เชื่อด้วยความโหดร้ายและบีบบังคับคนอื่น ‚นอกจากนี้ พ่ออยากขอร้องเยาวชนทุกคน โปรดเป็นผู้นาสันติให้กับสังคม จงมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการสร้างวัฒนธรรมของการพบหน้ากันและคืนดีกัน ด้วย‛ ... ทั้งหมดก็เป็นบทสรุปแบบสั้นๆ ของพระสันตะปาปาเยือนอาร์เมเนีย การ เยือนครั้งนี้ค่อนข้างรวบรัด เพราะอย่างที่แจ้งไปว่า เป็นการไปร่วมงานคริสตศาสน สัมพันธ์มากกว่า อีกอย่าง คาทอลิกในประเทศนี้มีน้อยมาก พระสันตะปาปาจึงไม่ได้ เยี่ยมและอภิบาลคาทอลิกมากนั้น อย่างไรก็ตาม สัปดาห์หน้าจะเป็นบทสัมภาษณ์พระสันตะปาปาบน เครื่องบิน งานนี้ต้องบอกว่าห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะมีประเด็นสาคัญที่ดังไปทั่ว โลกให้เราติดตามกันอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว AVE MARIA
-13-
เพื่อนแท้แน่จริง โดย ดร. วรรณีย์ ลิขิตธรรม
เดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1985 ฝนตกมากที่เมดจูกอร์เร เวโรนิกา เพิ่งเดินทาง มาถึง เธอพักที่บ้านพักชื่อ ซิลิค กาลังทานอาหารเย็นเสร็จพอดี เธอเหนื่อยมากจากการ เดินทาง ส่วนเทรซี สาวชาวอเมริกันซึ่งเดินทางมาที่นี่ก่อนหน้านี้ เดินเข้ามาทักทายและ นั่งลงคุยกับเวโรนิกาขณะดื่มกาแฟหลังอาหารเย็น มิตรภาพใหม่เริ่มขึ้น ดูเขาทั้งสองคุย ถูกคอกันดีจนดึกดื่น เวโรนิกาเล่าว่า “ต้นตระกูลของฉันอยู่ที่นี่ ฉันเกิดที่ยูโกสลาเวีย 72 ปีที่แล้ว สามีและฉันได้พยายามหนีพวกนาซี ตอนนั้นฉันท้องได้ 9 เดือน เราพยายามเดินด้วย เท้ามุ่งไปทางชายแดนเพื่อจะไม่ให้ใครเห็น เราต้องหลบหนีไปให้ได้ ขณะที่เดินผ่านป่า เธอรู้ไหมอีกเพียงนิดเดียวก็จะถึงเขตชายแดนแล้ว ทันใดนั้นสุนัขหลายตัวเริ่มเห่าเสียงดัง ฉันเดินอยู่ข้างหลังห่างจากสามีมากเพราะเดินเร็วไม่ไหว แล้วฉันก็เห็นเขาล้มลง ทหาร ยิงเขา แล้วสุนัขที่เห่าเสียงดังก็พากันวิ่งโร่ตรงมาหาฉัน ฉันกลัวสุดขีด ปากคอสั่นร้อง เรียกให้แม่พระช่วย ฉันสวดด้วยสิ้นสุดจิตใจ ขอให้แม่พระช่วยปกป้องฉันที และแล้ว สุนัขก็หยุดเห่าและหมอบลงที่เท้าของฉัน พวกมันกลายเป็นลูกแกะเชื่อง ฉันอยู่กับที่ เฉยๆ จนถึงกลางดึกจึงเดินข้ามพรมแดนได้สาเร็จโดยไม่มีใครเห็นเลย วันเดียวกันนั้น ฉันก็คลอดลูกชาย ต่อมาฉันและลูกก็เป็นผู้ลี้ภัยในประเทศออสเตรเลีย” “นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้กลับมายูโกสลาเวีย ฉันรักแม่พระตลอดมา แต่ฉันโกรธ พระที่ให้ฉันมีชีวิตที่ลาบากแสนเข็ญ ดูสิฉันมีไตเหลือเพียง1/4 และฉันต้องล้างไตวัน เว้นวันเพื่อจะอยู่รอด เมื่อได้ข่าวว่าแม่พระทรงประจักษ์ที่นี่ ฉันตัดสินใจเดินทาง กลับมายังบ้านเกิดของฉัน เพื่อจะคืนดีกันพระเจ้า ฉันไม่เคยแก้บาปอีกเลยตั้งแต่สามี ตาย ฉันได้ทูลพระแม่ว่าฉันจะไปหาพระแม่ที่เมดจูกอร์เร จะไปเดินรูป 14 ภาคบน ภูเขาครีเซแวค (Krizevac) เพื่อจะได้รับพระหรรษทานแห่งการสารภาพบาปอย่างดี แต่ ฉันเหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงแล้ว เพราะต้องล้างไต พรุ่งนี้ฉันต้องขึ้นรถบัสเที่ยวบ่าย
-14-
สองโมงที่ซาเกรบ (Zagreb เมืองหลวงของโครเอเชีย) การเดินทางของฉันมันช่างทรหด และทุลักทุเลมากเลยนะ เธอรู้ไหมฉันใช้เวลาตั้ง 22 วันจากเมลเบิร์น! เพราะฉันต้องแวะ ฮ่องกงเพื่อล้างไต แล้วก็ต้องล้างอีกที่บอมเบย์ (ตอนนี้คือมุมไบ) และล้างอีกทีที่เมือง เทลาวีฟ (Tel Aviv) พอมาถึงที่นี่ฉันก็เหลือเวลาไม่ถึง 24 ชม. แล้วเธอดูสิ ฝนก็ตกเอา ตกเอา ชนิดไม่ลืมหูลืมตาเลย ฉันจะขึ้นเขาครีเซเวค ได้อย่างไรเนี่ย?” เทรซีตอบทันทีว่า “แต่พรุ่งนี้อากาศจะดีนะ คุณเดินทางมาไกลมากด้วยความ ตั้งใจที่จะได้รับพระหรรษทานเพื่อการสารภาพบาปที่ดี จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า พระแม่ เจ้าจะทรงทาให้ฝนหยุดตก เพื่อคุณจะขึ้นไปบนภูเขาได้” เวโรนิกาถามว่า “เธอคิดอย่าง นั้นเหรอ?” “ฉันมั่นใจ ฉันจะไปกับคุณ ให้ฉันปลุกคุณตอนตีห้าดีไหม หกโมงเช้าเรา จะได้ออกเดินทางกัน คอยดูสิ อากาศจะดีมากเลย” เทรซีมุ่งมั่นที่จะใช้ความเชื่อทาให้ ภูเขาแห้งแทนการเคลื่อนภูเขา แต่ตอนตีห้าเช้านั้นฝนก็ยังตกอยู่ เธอปลุกเวโรนิกาให้ ตื่น เวโรนิกาปฏิเสธที่จะไปปีนเขา เธอพูดว่า “ถ้าฝนหยุดตอนหกโมงฉันจะไปแต่ถ้ายัง ตกอยู่ฉันไม่ไปแน่” เทรซีลุ้นให้ฝนหยุดตก แต่มันกลับตกหนักกว่าเดิมเสียอีก แปด โมงเช้าแล้วเธอพูดกับเวโรนิกาว่า “ไปกันเถอะถ้ารอช้ากว่านี้คุณจะไม่ทันรถเที่ยวบ่าย สองโมง ฝนยังตกอยู่ก็จริง แต่พอเราออกไปแดดก็จะออก คอยดูสิ” เวโรนิกาไม่แน่ใจ แต่เธอก็ลุกจากเตียง ขณะรับประทานอาหารเช้าเขาทั้งสองยังได้ยินเสียงฝนที่กระหน่า ลงมา เทรซีพูดว่า “เอาร่มไว้นี่แหละเพื่อแสดงความเชื่อของเรา” เวโรนิกาแทบไม่เชื่อ ตาตัวเองเลย เมื่อเธอก้าวเท้าออกนอกประตูบ้านเมฆดาครื้มก็จางหายไป ฟ้าสว่างขึ้น ทันที ทั้งสองมุ่งตรงไปที่ภูเขา แต่ยากหน่อยสาหรับเวโรนิกาเพราะอายุ 72 ปีแล้ว ไตก็มี เพียง1/4 แล้วยังเหนื่อยกับการเดินทางที่นานถึง 22 วัน ไหนจะต้องมาปีนเขาอีก โอ๊ย! อะไรจะปานนี้ เทรซีเดินข้างหน้าเพื่อช่วยจูงและฉุดเธอ ขณะที่พวกเขาสวดภาวนา เดินรูปจบสถานที่ 1 กาลังเข้าสู่สถานที่ 2 ทันใดนั้น ทั้งสองเห็นไม้กางเขนส่องแสงสว่างจ้า เทรซีคุกเข่าลงและปล่อยให้จิตวิญญาณของเธอ ท่วมท้นไปด้วยการประทับอยู่ของพระเจ้าเหมือนโมเสสที่เขาโฮเร็บ หัวใจของเธอเต้น แรงคึกคักด้วยความยินดี เหนือคาอธิบายใดใด (ต่อฉบับหน้า)
-15-
รายการมิสซาประจาสัปดาห์ อา. 10 ก.ค. 16
07:00 น. คพ. วิทยา
ขอพรแด่ ขอพรแด่ ขอพรแด่ ขอพรแด่ ขอพรแด่ ขอพรแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่
อาทิตย์ที่ 15 เทเรซา เกสร หมดมลทิน ตามจุดประสงค์ของผู้ขอ ดช. ภานุวชิ ญ์ ศรีบัวพันธ์ ครอบครัวเทศสิงห์ ครอบครัว ดิษพงษ์ รักมนุษย์ สุขภาพนายอานวย ทองเหลือง กาโล เที๊ยเซียง แซ่ล้อ มารีอา เพ็กเซียง แซ่เจี่ย อักแนส มาลี แซ่เตียว โยเซฟิน รัตนา พันธุมจินดา คุณหมอพิสิทธิ์ พันธุมจินดา ลูซีอา อังเยลา วัลลา ทวีสิน เปโตร ประจวบ เจริญทรัพย์ เปโตร วิชัย ตัง้ ชัยสิน อันนา จาลอง วงษ์เลิศ มารีอา ทองสุข ขุนศักดา
เทศกาลธรรมดา ขอพรแด่ พี่น้องครอบครัวว่องวิไลกุล ทั้ง12 คน ขอพรแด่ ครอบครัวคุณหาญชัย, ลูกๆ หลานๆ ขอพรแด่ ครอบครัววีระชื่น ขอพรแด่ ครอบครัวเนาว์นิเวศน์ ขอพรแด่ ครอบครัว เตชินท์ รักมนุษย์ ขอพรแด่ ครอบครัวมารีอา ศุทธินันท์ ดวงจรัส อุทิศแด่ ยวงบัปติสตา ลิ่มสุง แซ่หว่อง อุทิศแด่ มารีอามักดาเลนา ซุ่ยฮุ้ง แซ่ล้อ อุทิศแด่ ยอแซฟ วิโรจน์ ว่องวิไลกุล อุทิศแด่ เบเนดิกโต ลิม่ ชุน แซ่หว่อง อุทิศแด่ เยียกอาเก่ง ลิบจือ แซ่หว่อง,ภรรยา อุทิศแด่ คุณชัยพงศ์ สุทธิคีรี,เจโรมี ออกาลวย อุทิศแด่ คริสตินา บุญเติม บุญลาภ อุทิศแด่ ฟรังซิสเซเวียร์ สมศักดิ์ หมดมลทิน อุทิศแด่ โรซา มณเฑียร ทองเหลือง อุทิศแด่ นางเคน,นายจันทร์ ศรีวงศ์,นางบัวไข
ขอพร สาหรับพี่น้องสัตบุรุษทุกท่าน ทุกครอบครัว
09:00 น. คพ. สุระพงษ์
ขอพรแด่ มารีอา ศิริพร ชาญนาสิน, ครอบครัว ขอพรแด่ ยอแซฟวิทยา สุหฤทดารง, ครอบครัว
17:30 น. คพ. สุชาติ
ขอพรแด่ ขอพรแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่
สมาชิกพลมารีไทย-จีน ทุกท่าน สุขภาพครอบครัวมาลี นามวงษ์ ยอแซฟ มั้ว, อันนา เง็กเพ็ง มารีอา ไฝ, มารีอา ราตรี หลุยส์ มารี อาพร ประจันตเขต ยวง ยรรยง วูวงศ์ อากาทา เกษร ศรีวรกุล ยวง เสกสรร รุขพันธ์เมธี ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อันนา ประนอม แมนผดุง ผู้บริจาคอวัยวะ
ขอพรแด่ เทเรซา สุญาณี พงษ์ธนานิกร, ครอบครัว
ขอพรแด่ ขอพรแด่ ขอพรแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่
แคทรีน ไอยศรา ครอบครัว ซาโลเม อรวรรณ ศรีวรกุล ลูกหลาน และผู้มีพระคุณของผู้ขอ มัทธิว อรรถ,ซีมอน ยูดา ประเสริฐ คาทารีนา พัชรินทร์, มารีอา อาจิณ ดอมินิก สุพจน์ พันธุ์พรหมธาดา แบร์นาแด๊ต ชญานิษฐ์ สีหพล เปาโล ง่วนฮั้ว แซ่เตาะ ยอห์น กมล รุขพันธ์เมธี Josef Kasimir Jaggi เปโตร มนเทียร นามวงษ์ ญาติพี่น้องสกุลดาวพิเศษ
-16จ. 11 ก.ค.16
06:15 น.
ขอพรแด่ ขอพรแด่ ขอพรแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่
ระลึกถึง น. เบเนดิกต์ เจ้าอธิการ โนเอล เดชา ขอพรแด่ มารีอา อัจฉรา มารีอา อารยา ขอพรแด่ มารีอา ดวงใจ แคทรีน ไอยศรา ขอพรแด่ สุขภาพ มารีอา นฤมล ยอแซฟ มั้ว, อันนา เง็กเพ็ง อุทิศแด่ มัทธิว อรรถ, ซีมอน ยูดา ประเสริฐ มารีอา ไฝ, มารีอา ราตรี อุทิศแด่ คาทารีนา พัชรินทร์, มารีอา อาจิณ หลุยส์ มารี อาพร ประจันตเขต อุทิศแด่ เซซีลีอา แน่งน้อย อาภรณ์รัตน์ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศแด่ ยวงบัปติสตา หวล อาภรณ์รัตน์ เปโตร วิชยั ตั้งชัยสิน อุทิศแด่ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง ฟรังซิส ทวน อุทิศแด่ เฮเลนา กาญจนา
19:00 น.
งดมิสซา (พระสงฆ์สัมมนา)
อ. 12 ก.ค.16
สัปดาห์ที่ 15 เทศกาลธรรมดา
06:15 น.
งดมิสซา (พระสงฆ์สัมมนา)
19:00 น.
งดมิสซา (พระสงฆ์สัมมนา)
พ. 13 ก.ค.16
น. เฮนรี่
06:15 น.
งดมิสซา (พระสงฆ์สัมมนา)
19:00 น.
โมทนาคุณแม่พระฟาติมา ขอพรแด่ แคทรีน ไอยศรา ขอพรแด่ ครอบครัวปัณฑวังกูร ขอพรแด่ ครอบครัวลิ้มประยูร ขอพรแด่ ครอบครัว เทเรซา ประภัสสร อุทิศแด่ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศแด่ ยอแซฟ มั้ว, อันนา เง็กเพ็ง อุทิศแด่ มารีอา ไฝ, มารีอา ราตรี อุทิศแด่ หลุยส์ มารี อาพร ประจันตเขต อุทิศแด่ มารีอา หมาย แซ่ลิ้ม อุทิศแด่ มารีอา สมถวิล ระดมกิจ อุทิศแด่ มารีอา บุญนา ทิจะยัง อุทิศแด่ วิญญาณในไฟชาระ
ขอพรแด่ ขอพรแด่ ขอพรแด่ ขอพรแด่ ขอพรแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่
มารีอา ธนพร มณีเสวตร์ เทเรซา จุฑาทิพย์ วิจติ รธนาพร ครอบครัวเลาหไทยมงคล การสอบของเด็กๆ คุณอุดม สรรพัญญุติ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง มัทธิว อรรถ, ซีมอน ยูดา ประเสริฐ คาทารีนา พัชรินทร์, มารีอา อาจิณ คามิลโล ประวิทย์ วิจิตรธนาพร กุ้ยเอ็ง แซ่อึ้ง, ฟรังซิส งีฮ้ ้อ แซ่โล้ว ยอแซฟ อุดม เกียรติโลกาพัฒนา เปโตร วิชยั ตั้งชัยสิน วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง
-17พฤ.14 ก.ค.16
06.15 น.
ขอพรแด่ ขอพรแด่ ขอพรแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่
น. คามิลโล เด เลลลิส พระสงฆ์ เทเรซา ดาลัด ขอพรแด่ การงาน ออกัสติน แคทรีน ไอยศรา ขอพรแด่ สุขภาพ เทเรซา มลฤดี คุณอินทัช,คุณนพัตธร ชัยศิริโรจน์ ขอพรแด่ เทเรซา สุญาณี พงษ์ธนานิกร ฟรังซิส ทวน อุทิศแด่ ยวง ยรรยง วูวงศ์ ยอแซฟ มั้ว, อันนา เง็กเพ็ง อุทิศแด่ มัทธิว อรรถ,ซีมอน ยูดา ประเสริฐ มารีอา ไฝ, มารีอา ราตรี อุทิศแด่ คาทารีนา พัชรินทร์, มารีอา อาจิณ หลุยส์ มารี อาพร ประจันตเขต อุทิศแด่ มัทธิว วรพล ชัยวัฒนไชย เปโตร วิชยั ตั้งชัยสิน อุทิศแด่ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง มารีอา สมถวิล ระดมกิจ อุทิศแด่ มารีอ แจ้เฮีย แซ่โค้ว (ครบ 7 ปี)
19:00 น.
งดมิสซา (พระสงฆ์สัมมนา)
ศ.15 ก.ค. 16
ระลึกถึง น. บอนาแวนตูรา พระสังฆราชและนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร
06:15 น.
งดมิสซา (พระสงฆ์สัมมนา)
19:00 น.
ขอพรแด่ ขอพรแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่
ส. 16 ก.ค.16
06:15 น.
ขอพรแด่ ขอพรแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่
แคทรีน ไอยศรา ขอพรแด่ โนเอล เดชา มารีอา อันชิยา พรเทวามารีย์ ขอพรแด่ เทเรซา ณัฐณิชา, มาซายูกิ อิซิดะ ยอแซฟ มั้ว, อันนา เง็กเพ็ง อุทิศแด่ มัทธิว อรรถ, ซีมอน ยูดา ประเสริฐ มารีอา ไฝ, มารีอา ราตรี อุทิศแด่ คาทารีนา พัชรินทร์, มารีอา อาจิณ หลุยส์ มารี อาพร ประจันตเขต อุทิศแด่ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศแด่ มารีอา ไพบูลย์,ยอแซฟ สุดใจ สุขสุเดช ยวง ยรรยง วูวงศ์ เปโตร วิชัย ตัง้ ชัยสิน อุทิศแด่ โรซา กิมเฮี๊ยะ, ยวง อัคเรศ มารีอา สมถวิล ระดมกิจ อุทิศแด่ ผู้มีพระคุณต่อวัดและโรงเรียน วิญญาณในไฟชาระ อุทิศแด่ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง พระนางมารีย์พรหมจารีแห่งภูเขาคาร์แมล การงาน ออกัสติน ขอพรแด่ เทเรซา จิราภรณ์ แคทรีน ไอยศรา ขอพรแด่ สุขภาพ มัทธิว พงษ์รตั น์ อันนา แจ่ม สุขสาราญ อุทิศแด่ เฟรีซีตัส วันทา สัณหภักดี ยอแซฟ มั้ว, อันนา เง็กเพ็ง อุทิศแด่ มัทธิว อรรถ, ซีมอน ยูดา ประเสริฐ มารีอา ไฝ, มารีอา ราตรี อุทิศแด่ คาทารีนา พัชรินทร์,มารีอา อาจิณ หลุยส์ มารี อาพร ประจันตเขต อุทิศแด่ บรรพบุรุษตระกูล กิจนิตย์ชีว์ เฮเลนา กาญจนา อุทิศแด่ บรรพบุรุษตระกูล อนุรักษ์ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศแด่ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง
-18ส. 16 ก.ค.16
19:00 น.
ขอพรแด่ ขอพรแด่ ขอพรแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่
พระนางมารีย์พรหมจารีแห่งภูเขาคาร์แมล มารีอา สุทธินีย์, เทเรซา วินิตา ขอพรแด่ สุขภาพ วินเซนต์ สุรินทร์ กุลตังวัฒนา ครอบครัวอุ่นละม้าย ขอพรแด่ เทเรซา ปิยกานต์, หลุยส์ ธนพงศ์ ครอบครัวปานกลาง ขอพรแด่ ครอบครัวกิจนิตย์ชีว์ ยวง ยรรยง วูวงศ์ ขอพรแด่ ครอบครัวมารีอา อุดม มยุระสาคร อุทิศแด่ ยวงบัปติสตาปึ๋ง,เวรอนีกา เสนอ เสนาจักร เปโตร วิชัย ตัง้ ชัยสิน ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศแด่ พี่น้องตระกูลเสนาจักร มารีอา สมถวิล ระดมกิจ อุทิศแด่ ยอแซฟ อ๊อน, มารีอา เง็กเอ็ง แซ่คู วิญญาณในไฟชาระ อุทิศแด่ ทอมาส ธวัช, เทเรซา จู ศรีสวัสดิ์
ขอเชิญร่วมกิจกรรมแสวงบุญ โอกาสปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม “วัดแม่พระฟาติมา” ** วันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม 2559 ณ สักการสถานบุญราศี คุณพ่อนิโคลาส บุญเกิด กฤษบารุง สามพราน นครปฐม ** - 07:00 น. ออกเดินทางจากวัดแม่พระฟาติมา - 09:00 น. กิจกรรมเดินผ่านประตูศักดิ์สิทธิ์ และทาความเข้าใจเรื่อง “ปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม” - 11:00 น. พิธีบูชาขอบพระคุณ และรับพระคุณการุณย์ครบบริบูรณ์ - 12:00 น. รับประทานอาหารร่วมกัน - แวะตลาดน้าดอนหวาย กลับบ้าน หมายเหตุ : - วัดสนับสนุนค่าเดินทาง - ผู้ร่วมกิจกรรมช่วยค่าอาหารและอาหารว่างท่านละ 125 บาท
-19-
พระวรสารสาหรับอ่านในครอบครัว ว/ด/ป จ. 11 ก.ค. 16
พระวรสารประจาวัน มัทธิว 10:34-11:1
ลูกวัดแม่พระฟาติมา ชนิดพระคัมภีร์
พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
1937
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ)
72-73
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง)
62-70
พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์ อ. 12 ก.ค. 16
พ. 13 ก.ค. 16
มัทธิว 11:20-24
มัทธิว 11:25-27
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ)
มัทธิว 11:28-30
พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
1939
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ)
75
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง)
75
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ) พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
ส. 16 ก.ค. 16
อา. 17 ก.ค. 16
มัทธิว 12:1-8
มัทธิว 12:14-21
ลูกา 10:38-42
75 74-75
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง) ศ. 15 ก.ค. 16
1938-1939
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง)
พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์ พฤ. 14 ก.ค. 16
หน้า
1939 76 75-76 1939-1940
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ)
76-77
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง)
76-77
พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
1940
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ)
77-78
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง)
78-79
พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
2039
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ) พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง)
224-225 402
-20-
ประชาสัมพันธ์ 1. สัมมนาพระสงฆ์อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 11- 15 กรกฎาคม 2016 ณ บ้านผู้หว่าน ทางวัดงดมิสซาดังนี้ จันทร์ที่ 11 งดมิสซาค่า อังคารที่ 12 งดมิสซา เช้าและค่า, วันพุธที่ 13 งดมิสซาเช้า, พฤหัสฯ ที่14 งดมิสซาค่า, ศุกร์ที่ 15 งดมิสซาเช้า จันทร์ที่11 ก.ค. 06.15 มีมิสซา
19.00 งด
อังคาร 12 ก.ค.
พุธ 13 ก.ค.
ศุกร์ 15 ก.ค.
06.15 งด
พฤหัสฯ 14 ก.ค. 06.15 มีมิสซา
06.15 งด 19.00 งด
19.00 มีมิสซา
19.00 งด
19.00 มีมิสซา
06.15 งด
2. แสวงบุญ ณ สักการสถาน บุญราศี นิโคลาส บุญเกิด กฤษบารุง เสาร์ที่ 23 กรกฎาคม ผู้ที่จองยังไม่ชาระเงิน กรุณาชาระเงินกับเจ้าหน้าที่หน้าวัด ส่วนผู้ที่สนใจ จองด่วนเพราะเป็นสัปดาห์สุดท้ายแล้ว (วันเดินทาง กรุณาใส่เสื้อสีฟ้า เสื้อแม่พระหรือ เสื้อ 60 ปีวัด) ส่วนแสวงบุญรายการอื่นๆ ยังจองได้เหมือนเดิม 3. คุณพ่อปรีชา ยั่งยืน ขอเชิญพี่น้องร่วมสมโภชแม่พระแห่งภูเขาคาร์แมลฯ และฉลองอารามนักบุญราฟาแอล คาลินนอฟสกี อ. สามพราน จ. นครปฐม วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม 2016 เวลา 10.00 น.