-1-
ฟาติมาสาร สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016 ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วัดแม่พระฟาติมา 4080 ถ. อโศก – ดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. 10400 โทร. 02- 245 - 1039, 02- 642 - 9906, 02-642 - 9907, โทรสาร 02 - 246 - 6174 E-mail : fatimachurch13@gmail.com www.fatima.or.th สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016
-2-
จากใจพ่อ พ่อขับรถกลับจากร่วมเข้าเงียบฟื้นฟูจิตใจกับคณะพระสงฆ์เมื่อเย็นวัน พฤหัสฯ ที่ผ่านมา สังเกตเห็นว่ามีการตั้งศพอยู่ในวัดน้อย ทราบว่าเป็น ศพ ของคุณยาย อันนา ประนอม แมนผดุง อายุ 91 ปี เป็นคุณยายที่พ่อ ศรี ปราชญ์ เพิ่ ง โปรดศี ล เจิ ม คนไข้ ใ ห้ เ มื่ อ วั น อาทิ ต ย์ ที่ ผ่ า นมา ช่ ว งพิ ธี บู ช า ขอบพระคุ ณตอนค่่า พระคุ ณ เจ้ า ปัญญา กฤษเจริญ พระสั งฆราชจากสั ง ฆ มณฑลราชบุ รี มายื น รอพ่ อ ยู่ ใ นห้ อ งแต่ ง ตั ว หลั ง วั ด ขอร่ ว มพิ ธี บู ช า ขอบพระคุณและสวดภาวนาอุทิศให้กับคุณยายด้วย พ่อนึกในใจว่ า วัดของเรา มี บุ ญ จริ ง ๆ เมื่ อ กลางเดื อ นกุ ม ภาพั น ธ์ พระคุ ณ เจ้ า วี ร ะ อาภรณ์ รั ต น์ พระสังฆราชจากสังฆมณฑลเชียงใหม่ เพิ่งมาถวายมิสซาบูชาขอบพระคุณพิธี ปลงศพให้กับ คุณหมอมัทธิว วรพล ชัยวัฒนไชย ที่วัดของเรา เดือนมีนาคม พระคุณเจ้า ปัญญา กฤษเจริญ ก็มาถวายมิสซาบูชาขอบพระคุณอีก พอถึงเดือน เมษายน คุณพ่ออุปสังฆราช วุฒิเลิศ แห่ล้อม จะมาคั่นกลางถวายมิสซาบูชา ขอบพระคุณเตรียมฉลองวัดเดือนพฤษภาคม พระคาร์ดินัล สององค์ก็จะมา เป็นประธานในพิธีบูชาขอบพระคุณฉลองที่วัดของเราอีกอย่างต่อเนื่อง การที่ พระคาร์ดินัล พระสังฆราช มาร่วมพิธีมิสซาขอบพระคุณพระ อย่างต่อเนื่องในช่วงเวลา 4 เดือนถือเป็นเรื่องพิเศษที่น่ายินดีก็จริงอยู่ แต่การที่ พี่น้องมาร่วมพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณอย่างต่อเนื่องเกือบทุกอาทิตย์ถือได้ว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีมากยิ่งกว่า และพ่อก็สังเกตว่าพี่น้องจ่านวนมากที่วัดของเรา มาวัดกันอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ด้วยจริงๆ เห็นได้แทบทุกวัน หลายท่านแทบจะทุก อาทิตย์ ใน 1 เดือน จริงอยู่ที่ผู้มาวัดร่วมพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณที่วัดจะได้ สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016
-3-
ภาวนาและมีความสัมพันธ์กับพระเจ้าในชีวิตของตนเองแบบ “เฉพาะส่วนตัว” ซึ่งถือได้ว่าดีมาก แต่เมื่อพี่น้องแต่ละท่านมา “ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกัน” ในวัดจน “เต็มล้น” พี่น้องจะได้สัมผัสกับมิติใหม่ของบุญกุศลที่ตนเองจะได้รับ มิใช่เป็น แบบ “แก้วเดี่ยวๆ” ชนแก้วรับพรจากพระเจ้าเท่านั้น แต่จะเป็นแบบ “แท้งน้่า ใหญ่ๆ” ชนเข้ากับชีวิตพระเจ้ารอรับพระพรขนาดใหญ่จากพระเจ้าที่จะเทหลัง เข้าสู่ชีวิต พลังแห่งมวลพระพรขนาดใหญ่นี้ให้ความรู้สึกอิ่มเอิบแบบที่เพียงมี ชีวิตส่วนตัวกับพระเจ้าแบบ “เฉพาะส่วนตัว” ไม่สามารถเข้าถึงและรับรู้ได้ ใน ท่านองเดียวกัน การมาวัดแบบไม่สม่่าเสมอ มาแบบ “มาๆ ขาดๆ” ก็ไม่สามารถ สัมผัสถึ งความเข้มข้น ในพลัง แห่งพระพรของพระเจ้ากับชี วิตของตนแบบ “สะสมกระทบยอด” จากเริ่มแรกมาจนถึงปัจจุบันได้ เหมือนกับว่าเริ่มนับพลัง แห่งพระพรของพระในระดับ 1-5 แล้วก็ต้องมาเริ่มนับในระดับ 1-5 ใหม่ เข้า ไม่ถึงประสบการณ์แบบ นับรวม 1- 9 จนถึงแบบนับรวม 1-10 ได้ นี่คือสิ่งที่ พ่อเรียกว่าเป็นบุญของวัดของเราที่มีคนมาวัดกันมากจนล้นวัดและมีบุญมากยิ่ง กว่ามีพระคาร์ดินัลและพระสังฆราชมาที่วัดของเราอย่างต่อเนื่องเสียอีก ในช่วงสองเดือนสุดท้ายก่อนฉลอง 60 ปีวัดแม่พระฟาติมา พ่อเชิญ ชวนให้พี่น้องรื้อฟื้นเรื่องของความสม่่าเสมอในการมาวัดร่วมพิธีมิสซาบูชา ขอบพระคุณของพี่น้องเป็นพิเศษ การที่วั ดของเรามีช่วงเวลายาวนานถึง 60 ปี อย่างต่อเนื่อง ควรเป็นตัวอย่างให้ลูกวัดแต่ละคนมีความสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง กับพระเจ้าที่วัดแห่งนี้ให้ยาวนานเข้มข้นด้วยเช่นกัน คุณพ่อเปโตร วิทยา แก้วแหวน สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016
-4อาทิตย์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต ยน 8:1-11 1 พระเยซูเจ้าเสด็จไปยังภูเขามะกอกเทศ 2เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พระองค์เสด็จไปในพระวิหารอีก ประชาชนเข้ามาห้อมล้อมพระองค์ พระองค์ประทับนัง่ แล้วทรงเริม่ สั่งสอน 3บรรดาธรรมาจารย์และ ชาวฟาริสีน่าหญิงคนหนึง่ เข้ามา หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี เขาให้นางยืนตรงกลาง 4แล้วทูล ถามพระองค์ว่า “อาจารย์ หญิงคนนี้ถูกจับขณะล่วงประเวณี 5ในธรรมบัญญัติ โมเสสสั่งเราให้ทุ่มหิน หญิงประเภทนี้จนตาย ส่วนท่านจะว่าอย่างไร” 6เขาถามพระองค์เช่นนี้ เพื่อทดลองพระองค์ หวังจะ หาเหตุปรักปร่าพระองค์ แต่พระเยซูเจ้าทรงก้มลง เอานิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน 7เมื่อคนเหล่านัน้ ยังทูลถามย้่าอยู่อีก พระองค์ทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็น คนแรกเถิด” 8แล้วทรงก้มลงขีดเขียนบนพื้นดินต่อไป 9เมื่อคนเหล่านั้นได้ฟังดังนี้ ก็ค่อย ๆ ทยอย ออกไปทีละคน เริ่มจากคนอาวุโส จนเหลือแต่พระเยซูเจ้าตามล่าพังกับหญิงคนนัน้ ซึ่งยังคงยืนอยู่ที่ เดิม 10พระเยซูเจ้าทรงเงยพระพักตร์ขึ้น ตรัสกับนางว่า “นางเอ๋ย พวกนั้นไปไหนหมด ไม่มีใคร ลงโทษท่านเลยหรือ” 11หญิงคนนั้นทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตัง้ แต่นี้ไป อย่าท่าบาปอีก” ข่าวดี
****************************
ข้อคิคจากพระวรสาร โดย คุณพ่อชัยยะ กิจสวัสดิ์
เมื่อมีการละเมิดกฎหมาย ชาวยิวมักนาคดีความไปให้รับบีตัดสิน พวกธรรมา จารย์และฟาริสีจึงนาหญิงมีชู้ที่ถูกจับได้คาหนังคาเขาไปให้พระเยซูเจ้าตัดสิน เพราะ พระองค์ทรงเป็นรับบีผู้ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง มีชู้ ฆาตกรรม และนับถือพระเท็จเทียม ถือเป็นสามอาชญากรรมร้ายแรงที่มีโทษ ถึงตายตามกฎหมายยิว โมเสสบัญญัติไว้ว่า “ผู้ใดเป็นชู้กับภรรยาของเพื่อนบ้าน ชู้ทั้งสองจะต้องถูก ประหารชีวิต” (ลนต 20:10) พร้อมกับระบุวิธีประหารชีวิตไว้ด้วยว่า หากภรรยาถูกสามีจับ ได้ว่าไม่ใช่หญิงพรหมจารี “ผู้อาวุโสจะต้องพาหญิงนั้นมาที่หน้าประตูบ้านบิดาของนาง แล้วชาวเมืองจะต้องเอาหินทุ่มนางจนตาย” (ฉธบ 22:21) สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016
-5-
แม้ว่าหนังสือ Mishnah ซึ่งรวบรวมกฎหมายยิวเป็นลายลักษณ์อักษรราวปี ค.ศ. 200 จะกาหนดวิธีประหารชีวิตไว้ต่างกันคือ “รัดคอ” แต่ทุกฉบับพูดตรงกันคือ การผิด ประเวณีมีโทษถึงตาย ! จากมุมมองด้านกฎหมาย พวกธรรมาจารย์และฟาริสีจึงมีเหตุผลที่จะนาหญิงซึ่ง ถูกจับได้ขณะล่วงประเวณีมาให้พระเยซูเจ้าตัดสินลงโทษทุ่มหินให้ตาย เพียงแต่ว่าเจตนาของพวกเขาไม่ใช่เพื่อทาให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ แต่ “เพื่อทดลอง พระองค์ และหวังจะหาเหตุปรักปราพระองค์” (ยน 8:6) หากพระองค์ตัดสินให้ทุ่มหินนางจนตาย แน่นอนว่าชื่อเสียงเรื่อง “ความรักและ ความเมตตา” ที่พระองค์ทรงสั่งสมมานานจักต้องสูญหายไปสิ้น และต่อจากนี้ไป คงไม่มี คนบาปคนใดจะกล้าเข้ามาหาพระองค์อีก อีกประการหนึ่ง กฎหมายโรมันกาหนดให้การลงโทษถึงตายเป็นอานาจหน้าที่ของ โรมเท่านั้น ชาวยิวไม่มีสิทธิลงโทษผู้ใดถึงตาย หากพระองค์ตัดสินลงโทษนางถึงตายย่อม เป็นการก้าวล่วงอานาจของโรม และนั่นเท่ากับตั้งตนเป็นปรปักษ์กับโรม ในทางตรงกันข้าม หากพระองค์ยกโทษให้นาง ก็เท่ากับพระองค์กาลังเสี้ยมสอน ประชาชนให้ละเมิดกฎหมายของโมเสส อีกทั้งอาจถูกกล่าวหาได้ว่าทรงยินยอมหรือ แม้กระทั่งสนับสนุนให้มีการผิดประเวณีด้วยซ้า นี่คือกับดักอันร้ายกาจของพวกธรรมาจารย์และฟาริสี !! ด้วยทรงรู้เท่าทันเจตนาร้ายของพวกเขา พระองค์จึงนิ่งเงียบและ “ทรงก้มลง เอา นิ้วพระหัตถ์ขีดเขียนที่พื้นดิน” (ยน 8:6) เมื่อพวกเขาคะยั้นคะยอไม่หยุด พระองค์จึงตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหิน ทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” (ยน 8:7) อันที่จริง คากรีก anamartētos (อานามาร์เตตอส) ที่ยอห์นใช้นั้น มิได้ หมายความเพียง “ไม่มีบาป” เท่านั้น แต่ยังหมายถึง “บริสุทธิ์ผุดผ่อง” หรือ “ไม่มี ความคิดที่จะทาบาป” อีกด้วย สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016
-6-
ราวกับพระองค์ต้องการจะบอกพวกเขาว่า “อยากทุ่มหินนางก็เชิญเถอะ หากว่า พวกท่านไม่เคยคิดทาบาปมาก่อน !” หลังจากนิ่งอึ้งกันไปพักหนึ่ง บรรดาโจทก์ทั้งหลายก็เริ่มทยอยออกไปจนเหลือ เพียงพระองค์กับหญิงผู้นั้นตามลาพัง แล้วนั้น “ความเมตตา” อันยิ่งใหญ่ของพระองค์ก็ฉายแสงเหนือนาง พระองค์ตรัสถามว่า “ไม่มีใครลงโทษท่านเลยหรือ” นางทูลตอบว่า “ไม่มีใครเลย พระเจ้าข้า” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทา บาปอีก” (ยน 8:11) เหตุการณ์ครั้งนี้ทาให้เราได้เรียนรู้วิธีคิด และทัศนคติของพวกธรรมาจารย์และ ฟาริสีได้เป็นอย่างดี 1. ความคิดเรื่องอานาจ พวกธรรมาจารย์และฟาริสีมีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ประชาชนจึงนิยมนา คดีความมาให้พวกเขาตัดสิน ที่สุด “อานาจ” ในการตัดสินคดีความเลยกลายเป็นหน้าที่ อย่างหนึ่งของพวกเขา แต่พวกเขาใช้อานาจที่มีอยู่ด้วยการอ้างสิทธิอยู่เหนือผู้อื่น เพื่อคอยตรวจสอบและ จับผิดพฤติกรรมที่เบี่ยงเบนจากกฎหมาย เมื่อพบเห็นผู้กระทาความผิด พวกเขาจะรี่เข้าใส่ พร้อมกับการลงโทษที่โหดร้ายรุนแรงและไม่มีการให้อภัย ต่างกันอย่างสิ้นเชิงกับการใช้อานาจของพระเยซูเจ้า !!! สาหรับพระองค์ การใช้อานาจต้องมีพื้นฐานอยู่บน “ความเมตตาสงสาร” และมี วัตถุประสงค์เพียงเพื่อ “เยียวยา” ความเสียหาย และ “รักษา” คนผิดให้กลับมาเป็นคนดี อีกครั้งหนึ่งเท่านั้น เพราะฉะนั้น ภารกิจหลักของบรรดาผู้มีอานาจจึงต้องไม่ใช่การดุด่าหรือลงโทษ จนกระทั่งคนผิดพากันท้อแท้สิ้นหวัง หายหน้าไปจากสังคม หรือไม่ก็ดาดิ่งลงสู่ความชั่วร้าย หนักข้อยิ่งขึ้นไปอีก สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016
-7-
ตรงกันข้าม พวกเขาต้องพยายามศึกษาสภาพแวดล้อมและมูลเหตุที่ชักนาให้ทา ผิดให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อนที่จะตัดสินผู้หนึ่งผู้ใด และที่สาคัญต้องพยายามนาคนผิด กลับมาเป็นคนดี ดุจดังหมอที่เพียรพยายามรักษาคนไข้ให้หายจากโรค ให้จงได้ 2. ทัศนคติต่อมนุษย์ พวกธรรมาจารย์และฟาริสีไม่ได้เห็นหญิงมีชู้เป็น “คน” เลย พวกเขาเห็นนาง เป็นเพียงสิ่งของหรืออุปกรณ์อย่างหนึ่งสาหรับใช้จับผิดพระเยซูเจ้า นางเป็นเพียง “เครื่องมือ” เพื่อช่วยให้พวกเขาบรรลุวัตถุประสงค์ หรือเป็นเพียง “เบี้ย” ตัวหนึ่งในเกมไล่ล่าและกาจัดพระเยซูเจ้า แต่ในพระคัมภีร์ เราพบพระเจ้าตรัสถึง “ชื่อ” บ่อยมาก เช่นทรงตรัสกับโมเสสว่า “เรารู้จักชื่อของเจ้า” (อพย 33:17) และทรงตรัสกับกษัตริย์ไซรัสว่า “เราคือพระเจ้าแห่ง อิสราเอลซึ่งเรียกเจ้าตามชื่อของเจ้า” (อสย 45:3) สาหรับชาวยิว “ชื่อ” หมายถึง “คน” หรือ “บุคคล” ทั้งครบ การรู้จักชื่อจึง หมายถึงการรู้จักและการยอมรับความเป็นบุคคลผู้มีศักดิ์ศรี ในเมื่อพระเจ้ายังทรงรู้และเรียกชื่อมนุษย์ก็เท่ากับว่าพระองค์ทรงยอมรับและ มองเห็นมนุษย์เป็น “บุคคล” ที่มีศักดิ์ศรี ไม่ใช่เป็นเพียงเครื่องมือของผู้หนึ่งผู้ใด เพราะฉะนั้น เราจะปฏิบัติต่อผู้หนึ่งผู้ใดราวกับว่าเขาเป็น “เครื่องมือ” หรือ “สิ่งของ” ชนิดหนึ่งไม่ได้ แต่ต้องปฏิบัติต่อเขาในฐานะที่เป็น “บุคคล” ผู้มีความคิดและ จิตใจรวมถึงมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกับเราทุกประการ ! นอกจากนั้น เหตุการณ์ครั้งนี้ยังเผยแสดงแนวทางปฏิบัติของพระเยซูเจ้าที่ทรงมี ต่อคนบาปให้เราได้รับรู้ทั่วกันอีกด้วย 1. ผู้ที่ปราศจากความผิดเท่านั้นจึงจะมีสิทธิตัดสินผู้อื่น พระองค์ตรัสว่า “ท่านผู้ใดไม่มีบาป จงเอาหินทุ่มนางเป็นคนแรกเถิด” (ยน 8:7) ก่อนหน้านี้ พระองค์ก็เคยตรัสว่า “อย่าตัดสินเขา และท่านจะไม่ถูกพระเจ้า ตัดสิน” (มธ 7:1) อีกทั้งทรงเปรียบผู้ที่ชอบตัดสินผู้อื่นว่าเหมือนกับคนที่ชอบเขี่ยเศษฟาง จากดวงตาของผู้อื่น ในขณะที่มีท่อนซุงค้างอยู่ในดวงตาของตนเอง (มธ 7:3-5) สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016
-8-
น่าเสียดายที่ชีวิตของเรากลับสวนทางกับหลักการของพระองค์อยู่เป็นประจา เรา ชอบตั้งมาตรฐานให้ผู้อื่นปฏิบัติ โดยที่ตัวเราเองไม่เคยปฏิบัติหรือไม่เคยแม้แต่จะคิดปฏิบัติ ตามมาตรฐานนั้นด้วยซ้าไป แล้วก็เป็นคนจาพวกนี้อีกนั่นแหละที่ชอบโวยวาย ชอบตัดสิน และชอบประณาม ผู้อื่น ทั้งๆ ที่ความผิดของตนเองนั้นโทนโท่กว่าอีก !!!! เพราะฉะนั้น เราจึงสรุปได้ว่า นอกจากพระเจ้าแล้ว ไม่มีมนุษย์หน้าไหนดีพอที่จะ ตัดสินผู้อื่นได้เลย 2. ความรู้สึกแรกที่พึงมีต่อคนผิดคือ “เมตตาสงสาร” “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด…” ช่างเป็นพระดารัสที่เปี่ยมด้วยความเมตตา สงสาร และทาให้ผู้ฟังอบอุ่นมากเป็นล้นพ้น ! หากเราเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้าจริง ความรู้สึกนึกคิดเมื่อพบเห็นคนผิดต้องไม่ใช่ “ฉันจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคนเช่นนั้น” แต่ต้องเป็น “ฉันจะช่วยอะไรเขาได้บ้าง? ทาอย่างไรดีจึง จะแก้ไขความเสียหายที่เกิดขึ้นได้?” เหมือนหมอที่ดี เมื่อพบผู้ป่วยเป็นโรคติดต่อร้ายแรงและน่าขยะแขยง ก็ไม่ รังเกียจ แต่ยังคงมุ่งมั่นที่จะช่วยรักษาผู้ป่วยให้หายให้จงได้ เราต้อง “สงสาร” ผู้อื่นแบบเดียวกับที่เราต้องการให้ผู้อื่น “สงสาร” เมื่อต้องตก อยู่ในสภาพเดียวกัน ! 3. คนบาปต้องเปลี่ยนแปลงชีวิต เมื่อได้ฟังเรื่องราวของหญิงมีชู้นางนี้แล้ว หลายคนอาจสรุปเป็นบทเรียนหรือเกิด ความประทับใจแบบผิดๆ ว่า พระเยซูเจ้าทรงให้อภัยง่ายราวกับว่าบาปไม่มีความหมาย อะไรสาหรับพระองค์ อันที่จริงพระองค์ไม่ได้ตรัสว่า “อย่าห่วง ทุกอย่างจะเรียบร้อย” แต่ทรงตรัสว่า “เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทาบาปอีก” (ยน 8:11) ความหมายคือ พระองค์ไม่ตัดสินลงโทษขณะนี้ก็จริง แต่จะทรงตัดสินแน่... สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016
-9-
พระองค์ทรงเลื่อนการตัดสินออกไป เพื่อให้โอกาสนางเปลี่ยนแปลงชีวิต…จากที่ เคยทาบาป เป็นไม่ทาบาปอีกต่อไป... หากยังไม่เปลี่ยนแปลงชีวิตอีก ครั้งหน้าเป็นต้องโดนตัดสินแน่นอน !!! และจากเรื่องของหญิงนางนี้ เราอาจสรุปทัศนคติของพระเยซูเจ้าที่ทรงมีต่อคนบาปได้ดังนี้ 1. พระองค์ประทานโอกาสแก่คนบาปเสมอ ดังจะเห็นได้จากพระดารัสที่ตรัสกับ นางราวกับว่า “เรารู้ว่าชีวิตของเจ้าได้ผ่านความชั่วร้ายมามากมาย แต่ตราบใดที่ลมหายใจ ยังไม่สิ้น เราให้โอกาสเจ้าแก้ไขตัวเองเสมอ” นี่คืออีกหนึ่ง “ข่าวดี” ! เพราะพระองค์ไม่เพียงสนพระทัยอดีตที่ผ่านมาของเราเท่านั้น แต่ทรงสนพระทัย อนาคตที่เราสามารถจะเป็นได้อีกด้วย พระองค์ไม่ได้บอกว่าความผิดพลาดในอดีตไม่สาคัญ แต่ทรงให้ความสาคัญมาก กว่ากับอนาคตที่ดีกว่าและสดใสกว่าของเรา !!! 2. พระองค์ทรงเมตตาสงสารคนบาป ในขณะที่พวกธรรมาจารย์และฟาริสีจ้อง จะทุ่มหินนางให้ตาย แต่พระองค์กลับคิดหาทางช่วยเหลือและให้อภัยแก่นาง ความเมตตา สงสารเช่นนี้เกิดขึ้นได้เพราะ “ความรัก” อันเต็มเปี่ยมที่ทรงมีต่อเรามนุษย์ทุกคน ! 3. พระองค์ทรงท้าทายคนบาปให้กลับใจ พระองค์ไม่ได้ตรัสกับนางว่า “อย่า กังวล จงดาเนินชีวิตเหมือนเดิมต่อไปเถิด” แต่ทรงตรัสว่า “สิ่งที่ท่านทานั้นผิด จงต่อสู้ดิ้น รนเพื่อเอาชนะความผิดนั้นให้จงได้” นี่ย่อมไม่ใช่การให้อภัยแบบง่ายๆ แต่เป็นการ “ให้ อภัย” ที่มาพร้อมกับการ “ท้าทาย” ให้มุ่งหน้าสู่ความดีสูงสุด ! 4. พระองค์ทรงเชื่อมั่นในคนบาป หาไม่แล้วคงเป็นเรื่องตลกที่พระองค์ตรัสกับ หญิงซึ่งตกในบาปหนักเช่นนี้ว่า “ตั้งแต่นี้ไป อย่าทาบาปอีก” พระองค์กล้าตรัสเช่นนี้เพราะ ทรงมองมนุษย์ในแง่ดี ทรงเชื่อมั่นว่ามนุษย์ทุกคนมีศักยภาพที่จะเป็น “นักบุญ” ได้อาศัย ความช่วยเหลือจากพระองค์ สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016
-10-
พระองค์ไม่ทรงปรารถนาทาให้มนุษย์ท้อแท้สิ้นหวังด้วยความสานึกว่าตนเองเป็นคนบาปที่ น่าสมเพช แต่ทรงปรารถนากระตุ้นให้มนุษย์ทุกคนเกิดแรงบันดาลใจและค้นพบว่าตนเอง ก็สามารถเป็นนักบุญผู้ยิ่งใหญ่ได้ 5. พระองค์ทรงเตือนคนบาปให้เลือกวิถีชีวิต วันนั้น พระองค์ทรงตักเตือนนาง ให้ตัดสินใจเลือกระหว่างการกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม และการบรรลุชีวิตใหม่ตามแบบอย่าง ของพระองค์ วันนี้ พระองค์ทรงตักเตือนเราทุกคนให้ตัดสินใจเลือกระหว่างหนทางของโลกนี้ และหนทางของชีวิตนิรันดรที่พระองค์ทรงนามาประทานแก่เราทุกคน ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ คาตักเตือนและคาท้าทายนี้ยังไม่สิ้น....!!! **********************************************************
Pope Report ครบ 3 ปีแห่งสมณสมัยของพระสันตะปาปาฟรังซิส วันที่ 13 มีนาคม ค.ศ. 2013 หรือวันนี้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว คณะพระคาร์ดินัล ได้ลงคะแนนเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่ ปรากฏว่า พระคาร์ดินัล ฆอร์เค่ แบร์โกโญ่ แห่งอัครสังฆมณฑลบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ได้รับคะแนน สูงสุดเป็นอันดับ 1 ระหว่างนั้น พระคาร์ดินัล เคลาดิโอ อุมเมส ซึ่งนั่งติดกับพระ คาร์ดินัลแบร์โกโญ่ ได้กระซิบบอกว่า “อย่าลืมคนยากจน” คาพูดนี้เป็นแรงบันดาล ใจให้พระคาร์ดินัลแบร์โกโญ่คิดถึง “นักบุญฟรังซิส อัสซีซี” นั่นจึงเป็นที่มาของการ เลือกนามพระสันตะปาปาว่า “ฟรังซิส” พระสันตะปาปาที่โลกกาลังสดุดีและชื่นชม แบบสุดๆ ในทุกวันนี้ ... คาทอลิกที่พูดอย่างเดียว แต่ไม่ทา ไม่ต่างอะไรกับการหลอกลวง มิสซาเช้าวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พระวรสารประจามิสซานี้ พระเยซูสอนว่า “ถ้า ธรรมาจารย์และฟาริสี สอนสิ่งใด จงปฏิบัติตามคาสอนของเขา แต่อย่าปฏิบัติตาม พฤติกรรมของเขา เพราะเขาพูด แต่ไม่ปฏิบัติ” สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016
-11-
พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันว่า “พระเจ้าสอนเราถึงการกระทา ลองดูซิ บ่อยครั้งแค่ไหนที่เราพบคนจานวนมากในพระศาสนจักร รวมทั้งตัวเราเอง ที่เอา แต่พูดว่า ‘พวกเราเป็นคาทอลิกที่ศรัทธา’ แล้วเป็นอย่างไรล่ะ มีพ่อแม่ผู้ปกครอง จานวนมากที่บอกว่าตัวเองเป็นคาทอลิก แต่ไม่เคยมีเวลาพูดคุยกับลูก ไม่มีเวลา เล่นกับลูก และไม่มีเวลาฟังลูกพูด บางที เด็กอาจมีคนเลี้ยงที่สถานเลี้ยงเด็ก ส่วน พ่อแม่ก็ยุ่งมากและไม่มีเวลาไปเยี่ยมลูก พวกเขาปล่อยลูกทิ้งไว้อย่างนั้น แต่เมื่อถึง เวลา พ่อแม่พูดว่า ‘ฉันเป็นคาทอลิก ฉันเป็นสมาชิกของหน่วยงานคาทอลิกนั้น’ การที่เขาทาแบบนี้ นี่คือศาสนาของการพูด เขาพูดตามวิถีของโลก การพูดแล้วไม่ ทาอะไรเลยคือการหลอกลวง” เราเป็นคริสตชนแต่ชื่อหรือเปล่า มิสซาเช้าวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พระวรสารวันนี้เป็นเหตุการณ์ที่เศรษฐีซึ่งแต่ง กายอย่างดี กินอยู่หรูหรา แต่ไม่เคยเหลียวแล “ลาซารัส” คนยากไร้ที่อยู่หน้าประตู บ้านของตนเลย สุดท้ายเมื่อตายไป พระเจ้าไม่จดจาชื่อของเศรษฐีว่าชื่ออะไร แต่ พระองค์ทรงจาชื่อของลาซารัสได้ พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันว่า “พระวรสารตอนนี้ถามตัวเราว่า ‘เราเป็น คริสตชนแต่ชื่อหรือเปล่า ถ้าเป็นเช่นนี้ เรากาลังเดินอยู่บนหนทางของการโกหก’ หรือว่า ‘เราเป็นคริสตชนที่อยู่บนหนทางของชีวิต กล่าวคือ ลงมือทางานช่วยเหลือ คนยากไร้’ “ชายร่ารวยคนนี้ รู้จักพระบัญญัติของพระเจ้า แน่นอน เขาไปศาลาธรรมในวัน สับบาโต เขาเป็นศาสนิกชน แต่เขาปิดตัวเอง ขังตัวเองอยู่ในโลกของตน โลกของงาน เลี้ยงรื่นเริง เสื้อผ้าหรูๆ ความโอหัง และเพื่อนฝูง เขาไร้ความสามารถในการมองไปยัง ผู้อื่น ไร้ความสามารถในการตระหนักถึงความยากลาบากของเพื่อนมนุษย์ ตัวอย่าง ชัดเจน เขาไม่เคยคิดถึงความต้องการของคนรอบข้าง เขามัวคิดถึงแต่ตัวเอง คิดถึงแต่ ความมั่งคั่งของตน คิดถึงชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของตนเท่านั้น ชายร่ารวยคนนี้ดูเป็น เหมือนพวกคนมีศาสนา แต่เขาไม่รู้จักคนชายขอบ ทั้งที่มันชัดเจนมากว่า คนชายขอบ นั้นอยู่ที่หน้าประตูบ้านของเขา แต่เขากลับมองไม่เห็น สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016
-12-
“ความร่ารวยแบบนี้ก็คืออานาจ ถ้าเรายึดติดกับสิ่งเหล่านี้ เราจะเป็นพระสงฆ์ที่ เป็นโรคมะเร็ง เป็นพระสังฆราชที่เป็นมะเร็ง ถามตัวเองซิว่า บ่อยครั้งแค่ไหนที่เราเป็น แบบนี้ ถ้าเราเป็นแบบนี้ เราจะสูญเสียชื่อในสวรรค์ ผิดกับคนยากจนที่พระเจ้ายังจาชื่อ ของเขาได้ว่าชื่อลาซารัส” พระเจ้าให้อภัยและไม่จาความผิด ต่างจากมนุษย์ที่ปากพูดอภัย แต่ไม่ลืมสิ่งที่เขาทา มิสซาเช้าวันอังคารที่ 1 มีนาคม พระวรสารวันนี้ เป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูทรง สอนว่า “เราต้องยกโทษเจ็ดคูณเจ็ดสิบครั้ง” (มธ 18:22) พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า “เมื่อพระเจ้าทรงให้อภัยโทษ การอภัยนี้ช่าง ยิ่งใหญ่และดูราวกับว่าพระเจ้าทรงไม่จดจาความผิดของเรา มันตรงกันข้ามกับสิ่งที่ มนุษย์ทาก็ว่าได้ เราไปดูประวัติศาสตร์ก็ได้ ตั้งแต่ยุคโบราณ ยุคกลาง ยุคใหม่ และยุค ปัจจุบัน เราไม่เคยลืมเลือน ทาไม? ก็เพราะเราไม่มีหัวใจที่เปี่ยมด้วยความเมตตา “เวลาเราสวดบทข้าแต่พระบิดา เรายังภาวนาว่า ‘โปรดประทานอภัยแก่ ข้าพเจ้า เหมือนข้าพเจ้าให้อภัยแก่ผู้อื่น’ ถ้าเราไม่สามารถจะให้อภัยคนอื่น แล้ว พระเจ้าจะให้อภัยเราอย่างไรล่ะ พระเจ้าต้องการจะให้อภัยเรา แต่พระองค์ทาไม่ได้ เพราะเราไม่เปิดใจรับการอภัย เมื่อเป็นเช่นนี้ ความเมตตาก็เข้ามาไม่ได้ “หลายคนถามว่า ‘พระสันตะปาปา ผมอภัยได้ แต่ผมไม่ลืมความเลวที่เขา ทากับผม’ โอเค! จงวอนขอพระเจ้าโปรดช่วยให้ท่านลืมสิ่งเหล่านั้น บางครั้ง พวกเรา บางคนพูดว่า ‘ผมให้อภัยนะ แต่ก็ต่อเมื่อเขาจะมาชดใช้สิ่งที่ได้ทาลงไป’ สิ่งนี้ไม่ ควรเกิดขึ้น เพราะนี่ไม่ใช่การให้อภัยแบบพระเจ้า “ดังนั้น ขอให้เทศกาลมหาพรตเป็นช่วงเวลาเตรียมจิตใจของเราเพื่อจะ ได้รับการยกโทษจากพระเจ้า และก็ขอให้เรายกโทษให้คนอื่นด้วย จงยกโทษจาก ใจจริง บางครั้ง เราเจอหน้ากันบนถนน เราอาจไม่ทักทายกัน แต่ในใจเราไม่มีอะไร ติดค้างกัน ถ้าทาได้เช่นนี้ เราก็เข้าใกล้พระเมตตาของพระเจ้าแล้ว” ใครนาเงินที่ได้จากการเอาเปรียบมาบริจาค จงนากลับไป แล้วเผามันทิ้งซะ การเข้าเฝ้าทั่วไปประจาวันพุธที่ 2 มีนาคม พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า “พระเจ้าไม่ได้พอพระทัยเครื่องบูชาเปื้อนเลือดวัวเลือดแกะ เฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าหาก เครื่องบูชานั้นถูกถวายด้วยมือที่เปื้อนมลทินจากเลือดของพี่น้องตนเอง สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016
-13-
“พ่ออยากย้าตรงนี้ว่า แม้กระทั่งทุกวันนี้ ยังมีพวกผู้อุปถัมภ์บางคนมาบริจาค เงินให้พระศาสนจักร แต่เงินที่บริจาคนั้นเป็นผลงานที่มาจากเลือดของผู้คนที่เราไปเอา เปรียบเขา ใช้แรงงานเขาเยี่ยงทาสและให้ค่าจ้างต่ากว่ามาตรฐาน พ่อจะบอกคน เหล่านั้นกลับไปว่า โปรดเอาเช็คเงินสดของท่านกลับไป แล้วเผามันทิ้งซะ! พระศาสนจักรไม่ต้องการเงินสกปรกที่มาจากการปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างไม่เป็นธรรม” ถ้าหัวใจเราแข็งกระด้างและปิดตาย เราจะไม่เข้าใจพระเมตตาของพระเจ้า มิสซาเช้าวันที่ 3 มีนาคม บทอ่านประจามิสซานี้จากหนังสือประกาศกเยเรมีห์ พระเจ้าตรัสกับประชาชนว่า “จงฟังเสียงของเรา แล้วเราเป็นพระเจ้าของท่าน และท่าน จะเป็นประชากรของเรา จงเดินตามทางที่เราสั่งไว้ แล้วท่านจะได้อยู่อย่างเป็นสุข” อย่างไรก็ตาม ชาวอิสราเอลไม่เชื่อฟังพระเจ้า กลับดื้อด้านและประพฤติผิดยิ่งขึ้นไปอีก ส่วนพระวรสารประจาวันนี้ เป็นเหตุการณ์ที่พระเยซูขับไล่ปีศาจออกจากตัวคนใบ้ แต่ พวกธรรมาจารย์กล่าวว่า พระองค์ทาได้ด้วยอานาจของเจ้าแห่งปีศาจ และเรียกร้องให้ พระองค์แสดงเครื่องหมายจากสวรรค์อีกครั้ง พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนว่า “บทอ่านวันนี้ ประชากรของพระเจ้าที่ไม่เชื่อ ฟังพระเจ้านั้น รวมถึงตัวพวกเราด้วย มันเป็นความไม่ซื่อสัตย์ของเราเองที่ทาให้ใจแข็ง กระด้างยิ่งขึ้น มันคือการปิดหัวใจของเรา เมื่อใดที่ใจแข็งกระด้าง เราจะไม่มีทางเข้า ใจความเมตตาของพระเจ้าได้เลย ความเมตตาของพระเจ้าจะเข้าใจได้ก็ต่อเมื่อเรา เปิดใจเท่านั้น “ส่วนพระวรสารวันนี้ เห็นได้ชัดว่า พวกธรรมาจารย์มีความรู้เรื่องเทวศาสตร์ อย่างดี แต่หัวใจของเขาปิดสนิท กระนั้น ประชาชนต่างหากที่พิศวงกับสิ่งที่พระเยซู ทา พวกเขามีความเชื่อ เพราะพวกเขาเปิดใจ คนเหล่านี้ไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบ เป็นคนบาป แต่ที่แน่ๆ คือพวกเขาเปิดใจ ตรงกันข้ามกับพวกนักเทวศาสตร์ พวกเขา มีทัศนคติปิดตาย พวกเขาแสวงหาแต่การอธิบายสิ่งที่เกิด แต่ไม่เข้าใจสิ่งที่พระเยซูสอน พวกเขามัวแต่ถามหาเครื่องหมายจากสวรรค์ “ทั้งหมดนี้คือเรื่องราวของหัวใจที่ปิดตายหัวใจที่ไม่ยอมให้พระเมตตาของพระ เจ้าเข้าไปข้างใน หัวใจที่หลงลืมวาจาของการให้อภัย ถ้าเรายอมรับว่าเราเป็นคนบาป หัวใจของเราก็จะเปิดรับพระเมตตาของพระเจ้าและเราจะกลับมาเป็นผู้มีความเชื่ออีก สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016
-14-
“ดังนั้น ขอให้เราวอนขอพระเจ้าสาหรับพระหรรษทานแห่งความซื่อสัตย์ ก้าวแรกที่จะนาไปสู่ความซื่อสัตย์คือการยอมรับว่าเราเป็นคนบาป ถ้าเราไม่ยอมรับ ว่าเราเป็นคนบาป เราก็เริ่มต้นไม่สวยแล้ว เราต้องวอนขอพระหรรษทานเพื่อให้ หัวใจของเราไม่แข็งกระด้าง และต้องวอนขอพระหรรษทานของการให้อภัยด้วย” สงฆ์ต้องตรวจสอบความประพฤติที่ไม่นาพาสัตบุรุษไปใกล้ชิดพระเยซู เย็นวันศุกร์ที่ 4 มีนาคม พระสันตะปาปาทรงเป็นประธานในพิธีโปรดศีลอภัย บาปและเฝ้าศีลมหาสนิท 24 ชั่วโมง ภายในมหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พระวรสาร ประจาพิธีนี้เป็นเหตุการณ์ที่ “บาร์ทิเมอัส” ชายขอทานตาบอดส่งเสียงร้องหาพระเยซูที่ กาลังเสด็จผ่านไปให้มาช่วยรักษาเขา ที่สุดแล้ว ความเชื่อของเขาที่มีต่อพระเจ้าได้ทาให้ เขากลับมามองเห็นอีกครั้ง พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า “ยุคนี้ พวกเราพระสงฆ์ผู้อภิบาลถูก เรียกมาเพื่อฟังเสียงร่าไห้ของทุกคนที่ปรารถนาจะพบกับพระเจ้า พวกเราต้อง กลับมาตรวจสอบความประพฤติของเราที่ไม่ได้ช่วยนาผู้คนไปใกล้ชิดกับพระเยซู อาทิ ตารางและแผนงานต่างๆ ที่ไม่ได้ตอบสนองความต้องการแท้จริงของคนที่มา รับศีลอภัยบาป, กฎเกณฑ์ตามประสามนุษย์, ความไม่ยืดหยุ่นของเราที่อาจทาให้ ผู้คนห่างไกลจากความอ่อนโยนของพระเจ้า อย่างไรก็ตาม เราต้องไม่ทาให้พระวร สารลดคุณค่าลง ขณะเดียวกัน เราต้องไม่ทาให้ผู้ปรารถนาจะคืนดีกับพระบิดาต้อง พบกับความผิดหวัง เพราะพระบิดายังคงเฝ้ารอลูกชายและลูกสาวของพระองค์ กลับมาบ้านอีกครั้ง “พวกเราทุกคนได้รับการเลือกสรรให้เป็นผู้อภิบาล เราได้รับกระแสเรียกให้มา ปลุกความปรารถนาให้เกิดการกลับใจอีกครั้ง เราต้องเป็นเครื่องมือเพื่ออานวยความ สะดวกของการพบหน้ากัน (พระเจ้ากับมนุษย์) เพื่อที่ชายและหญิงทุกคนที่มารับศีล อภัยบาปจะได้พบกับพระบิดา” หลังพิธีนี้จบลง พระสันตะปาปาทรงไปคุกเข่ารับศีลอภัยบาป และจากนั้น ก็ออกมาโปรดศีลอภัยบาปให้สัตบุรุษด้วย AVE MARIA สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016
-15-
ข้อคิดเพือ ่ ชีวต ิ หากคุณเป็นคนถ่อมใจจริงๆ คุณจะถ่อมตนได้ไม่ยาก คุณจะตระหนักได้ว่า ยังมีอีกมากมายที่คุณไม่รู้ และต้องเรียนรู้ คุณจะเป็นคนที่พร้อมรับการสอนหรือคาตักเตือนว่ากล่าว ไม่ว่าคุณจะเก่งหรือรู้ มาแล้วมากมายสักเพียงใด คุณจะได้สัมผัสกับพลังที่ซ่อนอยู่ที่ช่วยคุณให้ทาหลายสิ่งที่คนทั่วไปทาไม่ได้ นั่นคือ คุณจะสามารถระงับหรือลดความเสี่ยงในการทะเลาะ ทุ่มเถียงกันได้ด้วยความ ถ่อมใจ คุณจะสามารถจัดการกับการถูกปฏิบัติอย่างอยุติธรรมได้อย่างสงบเยือกเย็น โดย ไม่รู้สึกขมขื่นใจ เมื่อคุณถ่อมใจ คุณจะสามารถรับมือกับการดูถูกเหยียดหยามหรือการวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนานา ได้ โดยไม่ต้องพยายามปกป้องตัวเองหรือพยายามพิสูจน์ว่า ตัวคุณนั้น “ใหญ่”,“เก่ง” หรือ “ถูก” แต่ประการใด เมื่อคุณถ่อมใจ คุณจะสามารถทางานต่ารับใช้ผู้อื่นได้อย่างไม่ลังเล เมื่อคุณถ่อมใจ คุณจะสามารถยกโทษและขอโทษคู่กรณีของคุณได้ เมื่อคุณถ่อมใจ คุณจะสามารถพูดคุยสนทนากับผู้อื่นได้ด้วยคาพูดและท่าทีที่ถูกต้องเหมาะสม เมือ่ คุณถ่อมใจ คุณจะสามารถดาเนินชีวิตด้วยความมีน้าใจอย่างองค์พระเยซูคริสต์ได้ เมื่อคุณ ถ่อมใจ ดังนั้น ยิ่งคุณถ่อมใจมากเท่าไร พระเจ้าก็จะทรงยกคุณสูงมากขึ้นเท่านั้น ดุจเดียว กับที่พระเยซูเจ้า ทรงถ่อมพระทัยมากเท่าใด พระเจ้าพระบิดาก็ยิ่งทรงยกพระองค์ขึ้นสูง มากขึ้นเท่านั้น วันนี้ ขอให้คุณก้าวสูงขึ้นไปในชีวิต ด้วยการเรียนรู้จักถ่อมตัวถ่อมใจของคุณให้ ต่าลง จนเพื่อนบ้านของคุณได้เห็นในตัวของคุณชัดเจนขึ้น! สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016
-16-
ผู้เป็นสุข
นักบุญยอแซฟ โดย ดร. วรรณีย์ ลิขิตธรรม
ซิสเตอร์เอมมานูแอลคณะบุญลาภ เล่าว่าราวๆ ปลายเดือนตุลาคมปี 1989 เธอ ได้รับหน้าที่ให้ไปทางานที่เมดจูกอร์เรกับสมาชิกของคณะอีก 2-3 คน พวกเขาจะไปเริ่ม งานที่นั่นวันที่ 1 ธันวาคม สิ่งที่จาเป็นมากสาหรับพวกเขาคือรถยนต์ วันที่ 9 พฤศจิกายน ซิสเตอร์เริ่มทานพวารต่อท่านนักบุญยอแซฟ ขอให้ท่านช่วยหารถให้พวกเขาสักคันหนึ่ง เธอเขียนจดหมายระบุสิ่งที่เธออยากได้คือ รถยนต์สภาพดี ตัวถังแข็งแรง สี่ที่นั่งและ สี่ประตู เธอเน้นว่าขอเป็นรถที่แข็งแรงและง่ายต่อการดูแลเพราะเธอไม่มีความรู้เรื่อง เครื่องยนต์ เธอได้บอกท่านนักบุญยอแซฟด้วยว่ารถยนต์ที่อยากได้นั้นมีความสาคัญและ จาเป็นต่องานของพระแม่ที่เมดจูกอร์เร เมื่อเขียนจดหมายน้อยเสร็จเธอก็พับจดหมาย เสียบไว้ใต้รูปปั้นนักบุญยอแซฟ แล้วเธอก็คุยกับท่านด้วยความไว้วางใจว่าท่านจะช่วยแน่ เธอต้องการคาตอบภายใน 9 วัน อย่างน้อยก็เป็นวันที่ 18 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันสุดท้าย ที่เธอทานพวาร ทุกวันเธอได้สวดขอต่อท่านนักบุญยอแซฟอย่างสม่าเสมอ แต่ก็สารภาพ ว่ามีบางเวลาที่เธอเริ่มสงสัย ไม่มั่นใจว่าจะได้ตามที่ขอหรือไม่เพราะมาร จอมสั่นคลอน ความเชื่อ อริของเรามันเป่าหูเธอว่า “แกคิดว่าแกเป็นใคร... รอไปเถอะจะได้รถฟรีๆ... ก่อนวันที่ 18 เรอะ... ช่างเพ้อฝันจริงๆ นังหน้าโง่!!” ซิสเตอร์ได้บอกให้สมาชิกในคณะรู้เรื่องการทานพวารขอรถยนต์จากท่านนักบุญ ยอแซฟ และพวกเขาก็ช่วยกันสวด เธอดึงตัวเองให้กลับมาเชื่อเพราะเธอเคยได้รับความ ช่วยเหลือจากท่านนักบุญยอแซฟนับครั้งไม่ถ้วนมาแล้ว ซิสเตอร์จึงรอคอยด้วยความหวัง และนี่คือวันสุดท้ายของนพวาร วันที่ 18 พฤศจิกายน แต่ก็ยังไม่มีวี่แววจากยอแซฟเลย และแล้วช่วงบ่ายๆ ซิสเตอร์ก็ได้รับจดหมายจากซิสเตอร์มารี-ราฟาแอล ซึ่งจะไปทางานที่ เมดจูกอร์เรด้วยกัน ใจความว่า มีคนให้รถเปอร์โยต์ 305 ในสภาพที่ดี ไว้สาหรับไปใช้ คนที่ให้ชื่อยอแซฟ เขาอยู่ที่ลูร์ดและรักแม่พระมาก เขาได้สัญญาว่าจะให้รถของเขาแด่ สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016
-17-
พระแม่ แต่ไม่รู้ว่าจะทาอย่างไร... จะให้แก่ใคร พอเขารู้ว่าซิสเตอร์มารี-ราฟาแอล จะไป ทางานให้แม่พระที่เมดจูกอร์เรและรู้ว่าต้องการใช้รถ เขาตื่นเต้นดีใจมาก เขารู้ทันทีว่า พระแม่ทรงต้องการใช้รถของเขาที่เมดจูกอร์เรแน่ ในจดหมายซิสเตอร์มารี-ราฟาแอล บอกว่าขณะนี้เขากาลังทาการโอนกรรมสิทธิ์และจดทะเบียนเพื่อจะนารถไปใช้ที่เมดจูกอร์ เร เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วเธอจะขับรถไปพบกับซิสเตอร์เอมมานูแอลที่นอร์มังดี อัศจรรย์คือจดหมายของซิสเตอร์มารี-ราฟาแอล เขียนเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ตรงกับวันที่ซิสเตอร์เอมมานูแอลเริ่มทานพวาร ท่านนักบุญยอแซฟได้ถือตามคามั่นสัญญา ตั้งแต่วันแรกแล้ว แต่ข่าวมาช้าเพราะการไปรษณีย์ สมาชิกทุกคนในคณะดีใจมากกับ อัศจรรย์นี้ ทุกๆ คนร่วมกันโมทนาคุณท่านนักบุญยอแซฟ และรถยนต์คันนี้ก็ได้ช่วยงาน ของพระแม่มารีย์อย่างมากที่เมดจูกอร์เรตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พี่น้องคงได้ยินเรื่องทานองนี้บ่อยๆ ใช่ไหมคะ ถ้าเรารวบรวมกันมาเล่าสู่กันฟัง บ้างเพื่อเป็นการเทิดเกียรติท่านนักบุญยอแซฟและเป็นการขอบพระคุณพระเจ้าก็จะเป็น เรื่องดี ในขณะมีชีวิตอยู่ ท่านนักบุญยอแซฟได้คุ้มครอง ดูแล เลี้ยงดูทั้งพระแม่และพระ เยซูเจ้า ร่วมกับพระแม่มารีย์ท่านมีบทบาทที่สาคัญมากๆ ในแผนการความรอดของ มนุษย์ ท่านใกล้ชิดและรู้จักพระแม่มากกว่านักบุญใดๆ ท่านได้เชื่อฟังพระเจ้าและทา ตามพระประสงค์ของพระองค์มากกว่าทาตามสิ่งที่ตนคิด ในบทสวดเร้าวิงวอนนักบุญ ยอแซฟเราได้เรียนรู้ถึงฤทธิ์กุศลของท่าน คือ ยุติธรรม บริสุทธิ์ รอบคอบ เข้มแข็ง อ่อนน้อม พากเพียร รักความยากจน ท่านจึงได้รับเกียรติยกย่องจากพระศาสนจักรว่า เป็นแบบอย่างของคนงาน เกียรติแห่งชีวิตครอบครัว เป็นพระหน่อรุ่งโรจน์แห่งดาวิด ประทีปแห่งคณะอัยกา ภัสดาแห่งพระชนนี ประมุขแห่งพระวิสุทธิวงศ์ อุปถัมภกแห่ง พระคริสตเจ้า ที่พึ่งของผู้กาลังจะตาย ฯลฯ สมเด็จพระสันตะปาปา ปีโอ ที่ 9 ปี 1870 ได้ทรงเทิดเกียรติท่านให้เป็น องค์อุปถัมภ์พระศาสนจักรสากล เราจึงมั่นใจว่าท่านนักบุญยอแซฟ จะช่วยเหลือดูแลเราดังที่ท่านได้ดูแลสมาชิก แห่งครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ อย่าลืมสวดบท เยซู มารีอา ยอแซฟ ทุกวัน นะคะ สุขสันต์แด่ผู้มีนามชื่อ นักบุญยอแซฟ ทุกๆ ท่านคะ สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016
-18-
19 มีนาคม สมโภชนักบุญยอแซฟ ภัสดาของพระนางมารีย์พรหมจารี รายการมิสซาประจาสัปดาห์ อา. 13 มี.ค. 16 ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ 07:00 น. อุทิศ คพ.ศรีปราชญ์ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ 09:00 น.
อาทิตย์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต ตามจุดประสงค์ผู้ขอ ขอพร ครอบครัวพี่น้องว่องวิไลกุล ทั้ง 12 คน ครอบครัว มารีอา รุ่งนภา สาทรกิจ ขอพร ครอบครัวคุณหาญชัย และลูกๆ หลานๆ อักแนส มาลี แซ่เตียว อุทิศ โยเซฟิน รัตนา พันธุมจินดา ยวงบัปิตสตา ลิ่มสุง แซ่หว่อง อุทิศ คุณหมอ พิสิทธิ์ พันธุมจินดา กาโล เทีย๊ เซียง แซ่ล้อ อุทิศ มารีอา มักดาเลนา ซุ่ยฮุ้ง แซ่ล้อ มารีอา เพ็กเซียง แซ่เจี่ย อุทิศ ยอแซฟ วิโรจน์ ว่องวิไลกุล ลูซีอา อังเยลา วัลลา ทวีสิน อุทิศ เบเนดิกโต ลิ่มชุน แซ่หว่อง เปโตร ประจวบ เจริญทรัพย์ อุทิศ เยียกอาเก่ง ลิบจือ แซ่หว่องและภรรยา เปโตร วิชัย ตัง้ ชัยสิน อุทิศ ฟรังซิสเซเวียร์ สมศักดิ์ หมดมลทิน อันนา จาลอง วงษ์เลิศ อุทิศ เทเรซา กาญจนา สงวนสุข เปโตร หลอย, มารีอา ส้มจีน อุทิศ คริสตินา บุญเติม บุญลาภ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ อันนา จาลอง, คุณเชาว์
ขอพร สาหรับพี่น้องสัตบุรุษทุกท่าน ทุกครอบครัว
คพ. สุชาติ
19:00 น. คพ. วิทยา
จ. 14 มี.ค.16
ขอพร มารีอา ศิริพร ชาญนาสิน,ครอบครัว ขอพร เทเรซา สุญาณี พงษ์ธนานิกร,ครอบครัว ขอพร ยอแซฟ วิทยา สุหฤทดารง,ครอบครัว ขอพร เทเรซาสุวมิ ล วิภัตภิ ูมปิ ระเทศ,ครอบครัว โมทนาคุณแม่พระฟาติมา ขอพร แพ๊ททรีเซีย อรพรรณ รุจริ านนท์ ขอพร มารีอา อนันต์ เอนกพงศ์ ขอพร ครอบครัว เซซีลีอา รัตนา มรกต อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ แบร์นาแด๊ต ชญานิษฐ์ สีหพล อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ ฟรังซิสกา สมใจ สงวนสุข อุทิศ อันนา อณิรตั น์ แซ่ตั้ง อุทิศ เทเรซา กาญจนา สงวนสุข อุทิศ อันนา มิ่ง, ยวงบัปติสตา สีหมอก อุทิศ มารีอา ชุนโหง, มารีอา เง็กกิม อุทิศ ร.ท. สุรพันธ์ ณ นคร อุทิศ อากาทา เจริญ, โทมัส ณรงค์ การะเวก อุทิศ นายเจริญ เทียมศิริ อุทิศ มัทธิว วรพล ชัยวัฒนไชย สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลธรรมดา ขอพร แคทรีน ไอยศรา ขอพร เทเรซา จิราภรณ์ อุทิศ เปโตร ประจวบ กิจเจริญ อุทิศ อันนา จาลอง วงษ์เลิศ สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016
-1906.15 น.
อุทิศ อุทิศ อุทิศ
จ. 14 มี.ค.16
19:00 น.
ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ
อ. 15 มี.ค.16
06:15 น.
19:00 น.
ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ
พ. 16 มี.ค.16
06:15 น.
19:00 น.
ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ
มารีอา กิมจิน กิจเจริญ อุทิศ ฟรังซิสเซเวียร์ สมศักดิ์ หมดมลทิน มารีอา ต้าวไถ่ แซ่โฮ่ อุทิศ ยวง วันชัย สัมพันธ์ชัยวสุ เปาโล พิศาล จาง จือ กวง อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลธรรมดา โจเซฟ พิทักษ์พงศ์, เจมส์และจอห์น ขอพร มอนิกา บัวลอย ประทุมปี,ลูก หลาน เทเรซา กาญจนา สงวนสุข อุทิศ อันนา ประนอม แมนผดุง ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ เซซีลีอา แน่งน้อย อาภรณ์รัตน์ ฟรังซิสกา สมใจ สงวนสุข อุทิศ ยวงบัปติสตา หวล อาภรณ์รัตน์ เปโตร วิชัย ตัง้ ชัยสิน อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ มัทธิว วรพล ชัยวัฒนไชย สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต แคทรีน ไอยศรา ขอพร การงาน ออกัสติน การงาน ออกัสติน ขอพร คณะผู้บริหาร,ครู โรงเรียนแม่พระฟาติมา เปโตร ประจวบ กิจเจริญ อุทิศ อันนา จาลอง วงษ์เลิศ มารีอา กิมจิน กิจเจริญ อุทิศ ฟรังซิสเซเวียร์ สมศักดิ์ หมดมลทิน ยวง วันชัย สัมพันธ์ชัยวสุ อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ เปโตร สุทธิ, โจเซฟ พิทักษ์พงศ์ ขอพร ยอห์น แบปติส ดารงภัค รจิตรังสรรค์ อักแนส ลัดดาวรรณ รจิตรังสรรค์ ขอพร หน้าที่การงานของบุตรทั้ง3 ของผู้ขอ เทเรซา กาญจนา สงวนสุข อุทิศ ฟรังซิสกา สมใจ สงวนสุข เปโตร วิชยั ตั้งชัยสิน อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ มารีอา ลาเจียก พันธุมจินดา คุณพ่อยอแซฟ ประมวล พุฒตาลศรี อุทิศ ยวงบัปติสตา สวัสดิ์ พันธุมจินดา วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ มัทธิว วรพล ชัยวัฒนไชย สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต แคทรีน ไอยศรา ขอพร โนเอล เดชา ฟรังซิส ทวน อุทิศ อันนา จาลอง วงษ์เลิศ เปโตร ประจวบ กิจเจริญ อุทิศ ฟรังซิสเซเวียร์ สมศักดิ์ หมดมลทิน มารีอา กิมจิน กิจเจริญ อุทิศ ยวง วันชัย สัมพันธชัยวสุ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง พ.ต.อ. วิทูร โพธิปัสสา ขอพร ครอบครัว เปาโล วิชชา โพธิปัสสา หน้าที่การงานของผู้ขอ ขอพร ลอเรนซ์ มวลเลิศ เทเรซา อานวย โพธิปัสสา อุทิศ อักแนส เอี๋ยวเกียว เปโตร วิชยั ตั้งชัยสิน อุทิศ เทเรซา กาญจนา สงวนสุข สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016
-20อุทิศ อุทิศ อุทิศ
ฟรังซิสกา สมใจ สงวนสุข อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ผู้มีพระคุณต่อวัดและโรงเรียน มัทธิว วรพล ชัยวัฒนไชย อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ พฤ.17มี.ค.16 น. ปาตริก พระสังฆราช ขอพร แคทรีน ไอยศรา ขอพร มารีอา ดวงใจ อุทิศ คุณพรรณี สินสันธิ์เทศ อุทิศ อันนา จาลอง วงษ์เลิศ 06:15 น. อุทิศ เปโตร ประจวบ กิจเจริญ อุทิศ ฟรังซิสเซเวียร์ สมศักดิ์ หมดมลทิน อุทิศ มารีอา กิมจิน กิจเจริญ อุทิศ ฟรังซิส ทวน อุทิศ ยวง วันชัย สัมพันธชัยวสุ อุทิศ ญาติพี่น้องของผู้ขอ อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง โมทนาคุณนักบุญแพ๊ททริค ขอพร ครอบครัวปัณฑวังกูร ขอพร ครอบครัวลิ้มประยูร ขอพร ครอบครัวเลาหไทยมงคล 19:00 น. อุทิศ เปโตร วิชยั ตั้งชัยสิน อุทิศ มัทธิว วรพล ชัยวัฒนไชย อุทิศ เทเรซา กาญจนา สงวนสุข อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ฟรังซิสกา สมใจ สงวนสุข อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง ศ.18 มี.ค. 16 น. ซีริลแห่งกรุงเยรูซาเล็ม พระสังฆราชและนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร ขอพร มารีอา อารยา ขอพร มารีอา ดวงใจ ขอพร แคทรีน ไอยศรา ขอพร การสอบของเด็กๆ 06:15 น. อุทิศ อันนา จาลอง วงษ์เลิศ อุทิศ ฟรังซิสเซเวียร์ สมศักดิ์ หมดมลทิน อุทิศ มารีอา ทัศนัย ยินดีเวช อุทิศ เฮเลนา กาญจนา อุทิศ เปโตร ประจวบ กิจเจริญ อุทิศ ยวง วันชัย สัมพันธ์ชยั วสุ อุทิศ มารีอา กิมจิน กิจเจริญ อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ ขอพร มารีอา ปัณฑา ปัณฑวังกูร ขอพร ครอบครัว ยอแซฟ ประสพ รัชฎาศิริ อุทิศ เปโตร วิชัย ตัง้ ชัยสิน อุทิศ มารีอา ดวงพร รัชฎาศิริ 19:00 น. อุทิศ เทเรซา กาญจนา สงวนสุข อุทิศ ยอแซฟ สุดใจ,มารีอา ไพบูลย์ สุขสุเดช อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ ฟรังซิสกา สมใจ สงวนสุข อุทิศ ญาติพี่น้องที่ล่วงลับของผู้ขอ อุทิศ ยอแซฟ เสาร์ แตะต้อย อุทิศ มัทธิว วรพล ชัยวัฒนไชย ส.19 มี.ค. 16 สมโภช น.โยเซฟ ภัสดาของพระนางมารีย์พรหมจารี(วันคล้ายวันสมณภิเษกสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส) ขอพร โนเอล เดชา ขอพร แคทรีน ไอยศรา อุทิศ เทเรซา สุทิรัตน์ เตชจงนาชัย อุทิศ นางสังเวียน พูลสวัสดิ์ สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016
-2106:15 น.
อุทิศ เฮเลนา กาญจนา อุทิศ มารีอา ราตรี แสงหาญ อุทิศ อันนา จาลอง วงษ์เลิศ อุทิศ ฟรังซิสเซเวียร์ สมศักดิ์ หมดมลทิน อุทิศ เทเรซา ไพจิตร์ ถีระศิลป์ อุทิศ วิญญาณเด็กๆ, วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง ส.19 มี.ค. 16 สมโภช น.โยเซฟ ภัสดาของพระนางมารีย์พรหมจารี(วันคล้ายวันสมณภิเษกสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส) ขอพร ครอบครัว คุณวราพร สาราญพิศ ขอพร สุขภาพ วินเซนต์ สุรินทร์ กุลตังวัฒนา ขอพร ผู้มีพระคุณต่อวัดและโรงเรียน ขอพร ครอบครัวมารีอา อุดม มยุระสาคร อุทิศ ยวงบัปติสตา ปึ๋ง,เวรอนีกา เสนอ เสนาจักร อุทิศ ฟรังซิสกา สมใจ สงวนสุข อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ พี่น้องตระกูลเสนาจักร อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยอแซฟ อ๊อน, มารีอา เง็กเอ็ง แซ่คู 19:00 น. อุทิศ เปโตร วิชัย ตั้งชัยสิน อุทิศ ทอมาส ธวัช, เทเรซา จู ศรีสวัสดิ์ อุทิศ เทเรซา มยุรี แจ่มเกียรติเลิศ อุทิศ เทเรซา กาญจนา สงวนสุข อุทิศ อักแนส อ่อยอี่ แซ่ลี่ อุทิศ อันนา ตังไล้,เปาโล เปียงชิน แซ่เจา อุทิศ หลุยส์ ชาญ สุวรรณกุล อุทิศ มารีอา บุญเพชร ,เปาโล คณิต แก้วแดง อุทิศ มัทธิว วรพล ชัยวัฒนไชย อุทิศ กลอเรีย มาเรีย ปลื้มจิต พานิชประไพ
สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016
-22-
ประชาสัมพันธ์ 1. พี่น้องท่านใดที่มีความประสงค์สนับสนุนการพิมพ์หนังสืออนุสรณ์ ส่งเงินได้ที่ คุณพ่อเจ้าอาวาสหรือใส่ในถุงทาน (สนับสนุนงานพิมพ์ฯ) 2. ขอเชิญพี่น้องซื้อของที่ระลึกโอกาส 60 ปี วัดแม่พระฟาติมา ได้ที่หน้าวัด (1) นาฬิกา (สั่งจอง) (2) ร่ม คันละ 200 บาท (3) เสื้อ ตัวละ 180 บาท 3. คาสอนภาคฤดูร้อน เพื่อเตรียมรับศีลมหาสนิทและศีลก่าลัง เริ่มวันจันทร์ท่ี 21 มีนาคม ถึงวันศุกร์ที่ 29 เมษายน 2016 รับเด็กที่จบป. 3 ขึ้นไปส่าหรับศีลมหาสนิท และ เด็กที่จบ ป. 5 หรือ ป. 6 ขึ้นไปส่าหรับศีลก่าลัง ติดต่อได้ที่ส่านักงานวัด 4. สื่อมวลชนคาทอลิกฯ จัดฉายภาพยนตร์ “RISEN” มหากาพย์การฟื้นคืนชีพของ พระเยซูฯ วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม 2016 เวลา 13.00-15.30 น. ณ โรงภาพยนต์เมเจอร์ ซีนี เพล็กซ์ เซ็นทรัล พระราม 3 ส่ารองที่นั่งได้ที่สื่อมวลชนฯ โทร 02-681-3900 ต่อ 1801 ประกาศการแต่งงาน ประกาศครั้งที่ 3 ฝ่ายชาย : ดาวิด ดุจหทัย ณ ระนอง บุตร : นายกาธร + นางอรุณี ณ ระนอง ฝ่ายหญิง : มารีอา กมลา สุคโต บุตรี : นายกมล + นางรัชดา สุคโต ทั้งสองจะเข้าพิธีศลี สมรส วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม 2016 เวลา 14:00 น. ** ผู้ใดทราบข้อขัดขวาง มีหน้าที่ต้องแจ้งให้พระสงฆ์ทราบ **
สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016
-23-
ตารางพิธีกรรม สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ 1) วันอาทิตย์ใบลาน : อาทิตย์ 20 มีนาคม 2016 07 : 00 น. : มิสซาปกติ 08 : 15 น. : เดินรูป 14 ภาค 09 : 00 น. : พิธีเสกใบลาน, มิสซา 17 : 00 น. : เดินรูป 14 ภาค 17 : 30 น. : มิสซาปกติ (มีแจกใบลาน) 2) วันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์ : 24 มีนาคม 2016 (ระลึกถึงพระเยซูเจ้าทรงตั้งศีลมหาสนิท) งดมิสซาเช้า 19 : 00 น. : มิสซา พิธีล้างเท้าอัครสาวก (หลังมิสซา มีการเฝ้าศีลมหาสนิทรวม และต่อด้วยองค์กรต่างๆ ถึงเวลา 22:00 น.) 3) วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ : 25 มีนาคม 2016 (พระเยซูเจ้าทรงรับทรมาน และสิ้นพระชนม์ : ถือศีลอดอาหารและอดเนื้อ) 18 : 30 น. : เดินรูป 14 ภาค 19 : 00 น. : พิธีนมัสการกางเขน 4) วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์ : 26 มีนาคม 2016 มิสซาสมโภชปัสกา 19 : 00 น. : พิธีเสกไฟและเทียนปัสกา พิธีเสกน้า พิธีล้างบาปผู้ใหญ่ (หลังมิสซา มอบน้าเสกแก่ทุกบ้าน) 5) วันอาทิตย์สมโภชปัสกา : 27 มีนาคม 2016 (สมโภชพระเยซูเจ้า ทรงกลับคืนพระชนม์ชีพ) 07 : 00 น. : มิสซาสมโภชปัสกา 09 : 00 น. : มิสซาสมโภชปัสกา 17 : 30 น. : มิสซาสมโภชปัสกา สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016
-24-
พระวรสารสาหรับอ่านในครอบครัว ลูกวัดแม่พระฟาติมา ว/ด/ป
พระวรสารประจาวัน
ชนิดพระคัมภีร์ พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
จ. 14 มี.ค. 16
ยอห์น 8:12-20
ยอห์น 8:21-30
312-314
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง)
568-571
ยอห์น 8:31-42
314-315
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง)
571-573
ยอห์น 8:51-59
315-316
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง)
573-575
ยอห์น 10:31-42
317-318
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง)
577-579
ลก 2:41-51ก
326-327
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง)
591-593
ลก 22:14-23:56
2018-2019
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ)
194-195
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง)
331-333
พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์ อา. 20 มี.ค. 16
2107-2108
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ) พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
ส. 19 มี.ค. 16
2103
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ) พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
ศ. 18 มี.ค. 16
2101-2102
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ) พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
พฤ. 17 มี.ค. 16
2100-2101
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ) พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
พ. 16 มี.ค. 16
2099-2100
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ) พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
อ. 15 มี.ค. 16
หน้า
2061-2063
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ)
257-260
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง)
482-490
สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016
-25-
พระเยซูเจ้าตรัสว่า :
“เราก็ไม่ลงโทษท่านด้วย ไปเถิด และตั้งแต่นี้ไป อย่าทาบาปอีก” (ยน 8:11) สัปดาห์ที่ 5 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 13 มีนาคม 2016