-1-
ฟาติมาสาร สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016 ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -----------------------------------------------------------------------------------
วัดแม่พระฟาติมา 4080 ถ. อโศก – ดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. 10400 โทร. 02- 245 - 1039, 02- 642 - 9906, 02-642 - 9907, โทรสาร 02 - 246 - 6174 E-mail : fatimachurch13@gmail.com www.fatima.or.th สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016
-2-
จากใจพ่อ เทศกาลมหาพรตเป็นช่วงเวลาของการร้องถามถึง “ความเงียบสงบ” ในจิตวิญญาณของเราคริสตชน เป็นความเงียบสงบที่จะส่งผลให้จิตวิญญาณ “นิ่งสงบ” สามารถเข้าถึงข้อธรรมล้้าลึกปัสกาได้อย่างชัดแจ้ง ไม่มีสิ่ งใดมา พรางตาหรือฉุดรั้งให้เกิดความไขว้เขวในข้อธรรมล้้าลึกปัสกานี้ได้ เสียงร้อง ถามถึงความเงียบสงบและความนิ่งสงบดังกล่าวท้าให้ต้องถามถึง “การเป็น นายเหนือชีวิต” ของตน ซึ่งจะท้าให้สามารถปลดล็อ กชีวิตให้หลุดเข้าสู่ความ เงียบสงบและนิ่งสงบได้จริงๆ ในชีวิตของเรา เมื่อพูดถึง “การเป็นนายเหนือชีวิต” ให้เป็นรูปธรรม พ่ออยากใช้ค้าว่า “นายเหนืออารมณ์” “นายเหนือความคิด” และ “นายเหนือการตัดสินใจ” ชีวิต ของพี่ น้ อ งจะเป็ น “คน” หรือ ไม่ เ ป็ น “คน” จะเป็ น “มนุ ษ ย์ ” หรื อ ไม่ เ ป็ น “มนุษย์” อยู่ที่ว่าพี่น้องเป็น “นาย” หรือเป็น “ทาส” ของคุณลักษณะทั้งสาม ประการนี้ ในประการแรก พี่น้องสามารถจัดการให้อารมณ์ของตน “ดี” “สงบ” “นิ่ง” ไม่แปรผันเปลี่ยนแปลงไปตามเงื่อนไขของบุคคลและสิ่งสร้างทั้งหลายที่ เข้ามากระทบเกี่ยวข้องกับชีวิตของตนเองได้หรือไม่ มากน้อยขนาดไหน และ พี่น้องสามารถจัดการให้อารมณ์ของตน “ดี” “สงบ” “นิ่ง” ไม่แปรผัน เปลี่ยนแปลงไปตามสภาพของตัวพี่น้องเองได้ด้วยหรือไม่ ในประการที่สอง สั่งตนเองให้ “คิด” และ “หยุดคิด” ได้หรือไม่มาก น้อยขนาดไหนไม่ว่าจะเป็นความคิดเกี่ยวกับตนเองหรือไปต่อยอดความคิด ของผู้คนทั้งหลาย สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016
-3-
ในประการสุดท้าย พี่น้องจะท้าอะไรหรือไม่ท้าอะไรตัดสินใจได้ด้วย ตนเอง หรือต้อง “ยืมจมูกของผู้อื่น” มาตัดสินใจด้วยเสมอ และที่ส้าคัญกล้าพอ หรือไม่ ที่จะยอมรับผลของการตัดสินใจของตนเองที่ท้าไปเมื่อพลาดพลั้ง โดยเฉพาะกับการกล้าตัดสินท้าสิ่งที่ดีและถูกต้องตามพระประสงค์ของพระเจ้า แม้ว่าอาจจะส่งผลให้ชีวิตต้องเผชิญกับความยากล้าบากสักเพียงใดก็ตาม 40 วันในเทศกาลมหาพรตเป็นช่วงเวลาของการฝึกฝนตนเองให้มีจิต วิญญาณแข็งแกร่งสามารถเป็นนายเหนือตนเองได้ เรื่องทางร่างกายจะ แข็งแกร่งได้จ้าเป็นต้องออกแรงออกก้าลังด้วยตนเองไม่สามารถให้คนอื่นมา ท้าแทนให้ได้ เรื่องของจิตวิญญาณก็เช่นเดียวกัน พี่น้องต้องท้าเองด้วยตนเอง ท้าเท่าไรก็รับผลไปเท่านั้น เพื่อท้าการฝึกฝนตนเองดังกล่าวพ่อเชิญชวนให้ พี่น้องปฏิบัติตามค้าแนะน้าของพระศาสนจักรตลอดเทศกาลมหาพรตดังนี้ 1. หากประสงค์ให้วิญญาณของเราเข้มแข็งต้องหมั่น “พลีกรรม” “ฝืน ใจ” ตนเอง วันใดตัวตนของเราลดความส้าคัญลงจนถึงขั้นหมดไป จิตวิญญาณก็เข้มแข็งขึ้นเมื่อนั้น และหากจะมุ่งหวังให้จิตวิญญาณ ของเราเข้มแข็งแบบยั่งยืน เราพึงต้องน้าผลของการพลีกรรมฝืนใจ ตนเองที่ได้นั้นไป “ให้” กับผู้อื่น มิใช่มุ่งหวังน้าผลที่ปฏิบัติได้มา เป็นของตนเอง เช่นพี่น้องฝืนใจไม่กินดื่มใช้จ่ายในสิ่งที่ตนชอบเป็น จ้านวนเงินเท่าใด ก็น้าเงินจ้านวนนั้นไปช่วยเหลือผู้อื่นเป็นต้น 2. หากประสงค์ให้วิญญาณของเราเข้มแข็งต้องหมั่น “ภาวนา” และ “รับศีลศักดิ์สิทธิ์ประการต่างๆ” และปฏิบัติ “กิจศรัทธาต่างๆ” อย่าง สม่้ า เสมอ เพราะความมุ่ ง มั่ น ที่ จ ะลดความส้ า คั ญ ของตั ว ตนลง สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016
-4-
ดังกล่าวในข้อแรกให้บรรลุ จ้าเป็นต้องมีพระหรรษทานของพระเจ้า ช่วยเหลือเสมอ พี่น้องที่เคารพ “ธรรมล้้าลึกปัสกา” คือการยอมให้ชีวิต “ร่วมในความ ตาย” พร้อมกับพระเยซูเจ้า โดยมีความเชื่อมั่นว่าเราจะ “กลับฟื้นคืนชีพ” พร้อม กับพระองค์ สิ่งนี้ไม่สามรถท้าได้และได้ผลแบบฉับพลัน ไม่สามารถเข้าใจได้ ครบถ้วนถ่องแท้แบบทันทีทันใด จ้าเป็นต้องใช้เวลาฝึกฝนชีวิตให้เป็นนาย เหนือชีวิต ฝึกตนให้เงียบและนิ่งสงบ แบบค่อยเป็นค่อยไป แบบที่ต้องท้าด้วย ตนเอง ฉลองปัสกาปีที่ผ่านๆ มาไม่ทราบว่าพี่น้องประเมินตัวว่าชีวิตของพี่น้อง เป็นคริสตชนดีขึ้นมีคุณค่ามากขึ้นเพียงใด แต่ปีนี้พ่อมั่นใจว่าค้าแนะน้าที่พอ่ แนะน้าพร้อมกับพระศาสนจักรจะท้าให้พี่น้องพึงพอใจในชีวิตคริสตชนของ พี่น้องมากขึ้นได้อย่างแน่นอน ก็อยู่ที่ใครจะลงมือปฏิบัติด้วยตนเองเท่าใดก็ หวังผลได้เท่านั้นนั่นแหละ คุณพ่อเปโตร วิทยา แก้วแหวน ------------------------------------------------------------
อาทิตย์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต ลก 4:1-13 1 พระเยซูเจ้าทรงได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม ทรงพระด้าเนินจากแม่น้าจอร์แดน พระจิตเจ้า ทรงน้าพระองค์ไปยังถิ่นทุรกันดาร 2ทรงถูกปีศาจผจญเป็นเวลาสี่สิบวัน ตลอดเวลานั้นพระองค์มิได้ เสวยสิ่งใดเลย ในที่สุด ทรงหิว 3ปีศาจจึงทูลพระองค์ว่า “ถ้าท่านเป็นบุตรพระเจ้า จงสั่งให้หนิ ก้อนนี้ กลายเป็นขนมปังเถิด” 4พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่ามนุษย์มิได้ด้ารงชีวิตด้วย อาหารเท่านั้น” 5ปีศาจจึงน้าพระองค์ไปยังที่สูงแห่งหนึ่ง แสดงให้พระองค์ทอดพระเนตรอาณาจักร ข่าวดี
สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016
-5ต่าง ๆ ของโลกทั้งหมดในคราวเดียว 6และทูลพระองค์ว่า “ข้าพเจ้าจะให้อ้านาจและความรุ่งเรืองของ อาณาจักรเหล่านี้ทั้งหมดแก่ท่าน เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะให้ผใู้ ดก็ได้ตามความ ปรารถนา 7ดังนั้น ถ้าท่านกราบนมัสการข้าพเจ้า ทุกสิ่งจะเป็นของท่าน” 8พระเยซูเจ้าตรัสตอบ ปีศาจว่า “มีเขียนไว้ในพระคัมภีรว์ ่า „จงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน และรับใช้ พระองค์แต่ผู้เดียวเท่านั้น‟” 9ปีศาจน้าพระองค์ไปยังกรุงเยรูซาเล็ม วางพระองค์ลงที่ยอดพระวิหาร แล้วทูลว่า “ถ้าท่านเป็นบุตรของพระเจ้า จงกระโจนลงไปเบื้องล่างเถิด 10เพราะมีเขียนไว้ในพระ คัมภีร์ว่า „พระเจ้าจะทรงสั่งทูตสวรรค์ให้พทิ ักษ์รักษาท่าน‟ และยังมีเขียนอีกว่า 11„ทูตสวรรค์จะ คอยพยุงท่านไว้มิให้เท้ากระทบหิน‟” 12แต่พระเยซูเจ้าตรัสตอบปีศาจว่า มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า “อย่าทดลององค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านเลย” 13เมื่อปีศาจทดลองพระองค์ทุกวิถีทางแล้ว จึง แยกจากพระองค์ไป รอจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม *****************************
ข้อคิดจากพระวรสาร โดย คุณพ่อชัยยะ กิจสวัสดิ์
เราได้เห็นลูกาน้าเสนอพัฒนาการชีวิตของพระเยซูเจ้าเป็นขั้นเป็นตอนเรื่อยมา โดยตลอด เริ่มตั้งแต่ “การประสูต”ิ ที่เมืองเบธเลเฮม การ “ดาเนินชีวิต” เยี่ยงสามัญชนที่ เมืองนาซาเร็ธในแคว้นกาลิลี และเมื่อพระชนมายุได้ 12 พรรษา ชีวิตของพระองค์ก็ พัฒนาไปอีกขั้นหนึ่งด้วยทรงค้นพบ “ความสัมพันธ์พิเศษ” ระหว่างพระองค์เองกับ พระเจ้า เมื่อทรงตรัสกับโยเซฟและพระนางมารีย์ว่า “พ่อกับแม่ตามหาลูกทาไม พ่อแม่ ไม่รู้หรือว่า ลูกต้องอยู่ในบ้านของพระบิดาของลูก” (ลก 2:49) ครั้นยอห์น ผู้ท้าพิธีล้างปรากฏตัว ชาวยิวซึ่งคิดว่าอย่างไรเสียพวกเขาก็ต้อง ได้รับความรอดอยู่แล้วเพราะต่างก็เป็นลูกหลานของอับราฮัมและเป็นประชากรที่พระ เจ้าทรงเลือกสรร กลับยอมฟังค้าเทศน์สอนของยอห์นและรับพิธีล้างเพื่อแสดงการกลับ ใจ จนเกิดขบวนการแสวงหาพระเจ้าอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ส้าหรับพระเยซูเจ้า นี่ คือเครื่องหมายชัดเจนว่าชีวิตของพระองค์ได้ก้าวมาสู่ขั้นตอนที่ส้าคัญอีกขั้นหนึ่งแล้ว นั่นคือ... สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016
-6-
“เวลา” แห่งการเริ่มต้นภารกิจได้มาถึงแล้ว ! ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากทรงรับพิธีล้างที่แม่น้าจอร์แดน ยังมีเสียงจากสวรรค์กล่าว ว่า “ผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเรา เป็นที่โปรดปรานของเรา” (มธ 3:17) ซึ่งผู้ฟังสมัยนั้น เข้าใจได้ทันทีว่า “บุตรสุดที่รัก” หมายถึง “พระเมสสิยาห์” และ “เป็นที่โปรดปราน” นั้นหมายถึง “ผู้รับใช้ที่ทนทุกข์” (เทียบ สดด 2:7; อสย 42:1 และบทที่ 53) เท่ากับว่าเสียงนี้ช่วยยืนยันว่า “เวลา” แห่งภารกิจมาถึงแล้วจริง และวันนี้ ชีวิตของพระองค์ก็ได้ก้าวมาสู่อีกขั้นตอนหนึ่ง นั่นคือการเลือก “วิธีการ” ที่จะท้าให้ภารกิจของพระองค์ส้าเร็จลุล่วงไป พระองค์ต้องตัดสินพระทัยเลือกระหว่างวิธีการของปีศาจกับวิธีการของ พระองค์เอง !!! ก่อนศึกษาวิธีการต่าง ๆ ที่ปีศาจน้ามา “ผจญ” (peirazein - เปยราเซน) พระเยซู เจ้า มีข้อสังเกตที่ควรทราบดังนี้ 1. ค้า peirazeinในภาษากรีกมีความหมายว่า “ทดลอง, ทดสอบ” มากกว่าจะ แปลว่า “ผจญ, ประจญ, หรือ ล่อลวง” ซึ่งส่อไปในทางชักชวนผู้อื่นให้กระท้าผิด เหตุผลคือ ถ้าเราแปลค้า peirazein ในหนังสือปฐมกาลบทที่ 22 ข้อ 1 เป็น “ผจญ” เราก็จะได้ความว่า “พระเจ้าทรงผจญอับราฮัมให้ถวายอิสอัคบุตรชายเป็นเครื่อง เผาบูชา” ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่พระเจ้าจะล่อลวงอับราฮัมให้กระท้าผิด เมื่อเป็นเช่นนี้ เราจึงควรเปลี่ยนความคิดจากสิ่งที่เราเคยเรียกว่า “การผจญ” แล้ว มักลงเอยด้วยความพ่ายแพ้หรือ “บาป” เสียใหม่ หากเราจะส่งมนุษย์ขึ้นไปโคจรในอวกาศ เราจ้าเป็นต้องทดสอบจนแน่ใจว่า บุคคลนั้นมีความพร้อมและเหมาะสมส้าหรับภารกิจอันยิ่งใหญ่นี้มิใช่หรือ ? กับเราก็เช่นเดียวกัน พระเจ้า “ประทานการทดสอบ” แก่ผู้ที่พระองค์ทรง เลือกสรร เพื่อช่วยให้เราเข้มแข็งมากขึ้น มีโอกาสชนะมากขึ้น และเป็นคนดีเหมาะสมกับ งานที่พระองค์จะทรงมอบหมายให้มากขึ้น สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016
-7-
การทดสอบจึงไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวหรือน่าอับอายที่จะต้องปกปิดกันอีกต่อไป แต่ เป็นสิ่งที่เราจะต้องเอาชนะหรือผ่านการทดสอบให้จงได้ !!! 2. พระเยซูเจ้าเสด็จไปในถิ่นทุรกันดารซึ่งตั้งอยู่ระหว่างกรุงเยรูซาเล็มกับทะเล ตาย มีเนื้อที่ประมาณ24 x 56=1,344 ตารางกิโลเมตร เป็นดินแดนที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่เลย หมายความว่าพระองค์ต้องการ “อยู่ตามลาพัง” เพื่อฟังพระสุรเสียงของพระ บิดาเจ้าก่อนเริ่มภารกิจอันยิ่งใหญ่ น่าเสียดายที่หลายครั้งหลายหนเราด้าเนินชีวิตหรือประกอบธุรกิจผิดพลาดไป เพียงเพราะเราไม่ “อยู่ตามลาพัง” และยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ผู้เชี่ยวชาญใดๆ ใน โลกนี้ก็ไม่อาจท้าแทนเราได้ มีแต่เราเท่านั้นที่ต้องท้าด้วยตนเอง เช่น การพัฒนา ความสัมพันธ์กับพระเจ้าและกับเพื่อนพี่น้อง เป็นต้น เราจึงต้องรู้จัก “หยุด” จากความวุ่นวาย และ “คิด” ตามล้าพังบ้าง ขออย่าให้เราผิดพลาดไปเพียงเพราะไม่ให้โอกาสอยู่ตามลาพังกับพระเจ้า ! 3. พระวรสาร 3 ฉบับเน้นเหมือนกันว่าการทดลองของพระเยซูเจ้าเกิดขึ้นทันที หลังรับพิธีล้างจากยอห์น โดยเฉพาะมาระโกระบุไว้ชัดเจนว่า “ทันใดนั้น พระจิตเจ้า ทรงดลให้พระองค์เสด็จเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร” (มก 1:12) เป็นความจริงว่าเมื่อชีวิตของเราขึ้นสู่จุดสูงสุดหรือผ่านเหตุการณ์ส้าคัญที่สุด แล้ว จะเกิดปฏิกิริยาตอบโต้ และส่วนใหญ่มักเป็นภัยมากกว่าเป็นคุณ เหมือนดอกไม้ไฟ ที่ขึ้นสู่จุดสูงสุดและสว่างไสวที่สุดแล้ว ก็จะดับมืดและร่วงตกลงมา พระเยซูเจ้าก็เช่นกัน พระองค์พึ่งจะได้รับเกียรติสูงสุดหลังรับพิธีล้างจากยอห์น โดยพระจิตเจ้าที่เสด็จมาในรูปของนกพิราบทรงรับรองว่าพระองค์ “เป็นบุตรสุดที่รัก” ของพระบิดา และทันทีเป็นพระจิตเจ้าอีกเช่นกันที่ทรงน้าพระองค์สู่ถิ่นทุรกันดารและ การทดลอง (ลก 4:1) เราจึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เมื่อเราประสบความสาเร็จ หรือขึ้นสู่จุดสูงสุด ในชีวิต !! สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016
-8-
4.การทดลองของพระเยซูเจ้าเป็นการดิ้นรนต่อสู้ภายในจิตใจของพระองค์เอง ไม่ใช่เหตุการณ์จริง เหตุผลคือในโลกนี้ไม่มี “ที่สูง” ที่สามารถมองเห็นอาณาจักรต่าง ๆ ของโลกทั้งหมดได้ในคราวเดียว (ลก 4:5) แสดงว่า “ปีศาจโจมตีจากภายในจิตใจของเราเอง” มันสามารถเจาะแนวป้องกัน ของเราเข้ามาได้ และที่ร้ายกาจสุดๆ ก็คือมันมี “ความคิดและความปรารถนา” ของตัวเรา เองเป็นพันธมิตรและเป็นอาวุธของมัน อาจกล่าวได้ว่า “ศัตรู” ที่น่ากลัวที่สุดก็คือ “ตัวตนของเรา” นั่นเอง !!! 5.อย่าคิดว่าพระเยซูเจ้าถูกทดลองครั้งนี้แล้วจบเลย ลูกาเล่าว่า “เมื่อปีศาจทดลอง พระองค์ทุกวิถีทางแล้ว จึงแยกจากพระองค์ไป รอจนกว่าจะถึงเวลาที่เหมาะสม” (ลก 4:13) เมื่อพระองค์ตรัสท้านายถึงพระทรมานที่เมืองซีซารียาแห่งฟิลิป เป็นเปโตรผู้ เป็นศิษย์รักของพระองค์นั่นเองที่คัดค้านวิถีทางของไม้กางเขน และชักชวนพระองค์ให้ เลือกหนทางที่สบายและมีเกียรติมากกว่า จนพระองค์ต้องดุว่า “เจ้าซาตาน ถอยไปข้าง หลัง” (มธ 16:21-23) เมื่อใกล้วาระสุดท้าย พระองค์กล่าวกับบรรดาศิษย์ว่า “ท่านทั้งหลายเป็นผู้ที่ยืน หยัดอยู่กับเราในการทดลองที่เราได้รับ” (ลก 22:28) และที่หนักสุดคือบนภูเขามะกอก ในสวนเกทเสมนี เมื่อพระองค์ทรงอธิษฐาน ภาวนาว่า “พระบิดาเจ้าข้า ถ้าพระองค์มีพระประสงค์ โปรดทรงนาถ้วยนี้ไปจากข้าพเจ้า เถิด” (ลก 22:39-46) แสดงว่าพระองค์ทรงถูกทดลองตลอดชีวิต !!! เมื่อเป็นเช่นนี้เราจึงต้อง “เฝ้าระวังตลอดชีวิต” ไม่ใช่หลงผิดตั้งหน้าตั้งตา บ้าเพ็ญตบะหรือท้าการใดๆ เพื่อให้บรรลุถึงขั้นที่เรียกว่าจิตว่าง “ปลอดจากการทดลอง” เพราะพระเยซูเจ้าเองก็ไม่เคยและไม่พยายามด้วยที่จะบรรลุถึงขั้นนี้
สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016
-9-
6. ปีศาจรู้ว่าพระเยซูเจ้าทรงมีฤทธิ์อ้านาจพิเศษ และที่ส้าคัญพระองค์เองก็ทรง ทราบเช่นเดียวกันว่าทรงมีอ้านาจพิเศษ การทดลองทั้งหมดจึงเกี่ยวข้องกับอ้านาจหรือ พรสวรรค์ของพระองค์นั่นเอง ผิดกับเรามนุษย์ที่ไม่มีอ้านาจและพรสวรรค์เช่นเดียวกับพระองค์ เราจึงไม่ถูก ทดลองให้กระโดดจากที่สูง หรือเปลี่ยนก้อนหินให้เป็นขนมปังดังที่พระองค์ทรง ประสบ อย่างไรก็ตามเราต้อง “ระมัดระวังการใช้พรสวรรค์ที่มี” จงอย่าใช้พรสวรรค์ หรือความสามารถพิเศษในทางที่ผิด เช่นใช้ความงามหลอกลวงหาผลประโยชน์จากผู้อื่น หรือใช้วาทศิลป์พูดจาจนเปลี่ยนขาวให้เป็นด้าหรือด้าให้เป็นขาว เป็นต้น 7. เนื่องจากไม่มีผู้คนอาศัยในถิ่นทุรกันดาร คนที่เล่าเรื่องนี้จึงเป็นผู้ใดไปไม่ได้ นอกจากพระเยซูเจ้าเอง ด้วยเหตุนี้ การทดลองของพระองค์จึงเป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์เพราะเกี่ยวข้องกับชีวิต ภายในที่พระองค์เองทรงเปิดเผยให้เราได้รับรู้ ดังนั้นเราต้องอ่านด้วยความเคารพสูงสุด และเนื่องจากพระองค์เคยผ่านการทดลองมาก่อน “พระองค์จึงสามารถช่วย เรา” ให้เอาชนะการทดลองต่าง ๆ ได้ ขอย้าว่ามี “พระองค์แต่เพียงผู้เดียว” ที่สามารถช่วยเหลือเราให้ผ่านการทดลอง ได้ !!! “วิธีการ” ต่าง ๆ ที่ปีศาจน้ามาทดลองพระเยซูเจ้ามีดังนี้ 1. ใช้วัตถุล่อ ปีศาจทูลพระเยซูเจ้าว่า “ถ้าท่านเป็นบุตรพระเจ้า จงสั่งให้หินก้อน นี้กลายเป็นขนมปังเถิด” (ลก 4:3) เนื่องจากถิ่นทุรกันดารอยู่ไม่ไกลจากทะเลตายซึ่งเค็มจัด จึงมีก้อนหินปูนเล็ก ๆ คล้ายขนมปังเกลื่อนอยู่บนผืนทราย ปีศาจรีบฉวยโอกาสนี้ทูลเสนอ “วิธีการ” ที่ไม่ต้อง ทนทุกข์ทรมานใดๆ เลย “ถ้าพระองค์ต้องการให้ประชาชนติดตามพระองค์ ก็จงใช้ อานาจที่พระองค์มี เปลี่ยนก้อนหินเหล่านี้ให้เป็นขนมปัง แล้วแจกประชาชนเถิด” สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016
-10-
แต่พระองค์ “ไม่เลือก” วิธีการ “ประชานิยม” ดังที่ปีศาจเสนอมาด้วยเหตุผล ส้าคัญ 2 ประการคือ 1.1 เป็นการติดสินบนมนุษย์ให้ติดตามพระองค์ ซึ่งไม่ใช่หนทางของพระองค์ที่ เสด็จมาสอนมนุษย์ให้ด้าเนินชีวิตด้วยการ “ให้” ไม่ใช่ด้วยการ “รับ” 1.2 พระองค์ต้องการสอนให้เราแก้ปัญหาที่ “ต้นเหตุ” แต่การแจกขนมปังแก่ผู้ หิวโหยเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น ในกรณีของ “ความหิว” เราสามารถวิเคราะห์สาเหตุเบื้องต้นได้ว่าอาจเป็น เพราะเขาไม่รู้จักวิธีท้ามาหากิน หรือเขาอาจไม่เอาใจใส่ท้ามาหากิน หรืออาจเป็นเพราะ เขาไม่ยอมเปลี่ยนวิถีด้าเนินชีวิต ฯลฯ แต่ถึงที่สุดแล้ว เราไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า “ความเห็นแก่ตัว” ของบางคนที่ ครอบครองสมบัติและทรัพยากรมากเกินไปโดยไม่ช่วยเหลือผู้อื่นซึ่งมีน้อยเกินไป ก็เป็น สาเหตุที่ส้าคัญประการหนึ่งด้วย ต้นตอของปัญหาจึงอยู่ที่จิตใจและวิญญาณของมนุษย์ ถ้าจิตใจของมนุษย์ดี มีความรัก รู้จักแบ่งปันกัน ความหิวโหยอดอยากย่อมหมดไปจาก โลกนี้ พระองค์จึงตรัสแก่ปีศาจว่า “มนุษย์มิได้ดารงชีวิตด้วยอาหารเท่านั้น แต่ดารง ชีวิตด้วยพระวาจาทุกคาที่ออกจากพระโอษฐ์ของพระเจ้า” (ฉธบ 8:3) ส้าหรับพระเยซูเจ้าแล้ว วัตถุและสิ่งของไม่อาจท้าให้มนุษย์มี “ชีวิต” และ “ความสุข” อันแท้จริงได้เลย ! จริงอยู่พระศาสนจักรจ้าเป็นต้องส่งเสริมและผลักดันทุกวิถีทางเพื่อให้มนุษย์มี สภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แต่สิ่งส้าคัญเหนืออื่นใดคือ การพัฒนา “ชีวิตวิญญาณ” ของ มนุษย์ เหตุว่าเมื่อเขามี “ชีวิตใหม่” แล้ว สภาพความเป็นอยู่ใหม่ๆ ที่ดีขึ้นก็จะติดตาม มาด้วย
สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016
-11-
2. ประนีประนอมกับโลก เหนือที่สูงซึ่งสามารถมองเห็นอาณาจักรต่างๆ ทั่วโลก ปีศาจทูลพระเยซูเจ้าว่า “ประชาชนในอาณาจักรต่างๆ ที่เห็นล้วนตกอยู่ในกามือของข้าพเจ้า เรามาตกลง ประนีประนอมกันดีกว่า ถ้าพระองค์ยอมลดมาตรฐานลงมาสักหน่อย อย่าให้สูงมากนัก เมื่อเห็นความผิดบกพร่องก็ทาเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่เสียบ้าง ข้าพเจ้าก็จะมอบ ประชาชนเหล่านี้ให้ติดตามพระองค์” ในเมื่อภารกิจของพระองค์คือการกอบกู้ “มนุษย์ทั้งโลก” แค่ยอมกราบปีศาจ หรือยอมประนีประนอมกับมันหน่อยเดียว พระองค์ก็จะได้ “มนุษย์ทั้งโลก” มาเป็น กรรมสิทธิ์โดยไม่ต้องทนทรมานและถูกตรึงตายบนไม้กางเขนเลย แต่พระองค์ตรัสตอบปีศาจว่า “จงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของ ท่าน และรับใช้พระองค์แต่ผู้เดียวเท่านั้น” (ฉธบ 6:13) ค้าว่า “ผู้เดียวเท่านั้น” แปลว่า “ไม่มีผู้อื่น” อีก ค้านี้ถือว่าเด็ดขาดยิ่งนักเพราะ หมายความว่า พระเจ้าก็ต้องเป็นพระเจ้า ถูกก็คือถูก และผิดก็คือผิด เท่ากับว่าหลักการของพระองค์คือ “ต้องไม่มีการประนีประนอมกับโลก” ด้วยเหตุนี้เราจะลดมาตรฐานศีลธรรมของเราไปหาโลกไม่ได้ แต่เราต้อง พยายามยกระดับมาตรฐานของโลกมาสู่มาตรฐานของพระองค์ ทุกวันนี้ เรามีแนวโน้มที่จะมองสิ่งต่างๆ เป็น “สีเทา” ไปหมด อะไรๆ ก็หยวน หรือยอมรับได้ไปหมด นับจากนี้ไป เราต้องดาเนินชีวิตให้ขาวบริสุทธิ์เจิดจ้า แล้วลบสีดาหรือแม้แต่สี เทาในชีวิตของเราออกไปให้หมด !!! 3. ใช้อารมณ์ความรู้สึก หากได้ยินว่าใครมีอภินิหาร ใครใบ้หวยแม่น ใครไล่ผีได้… หรือที่ไหนมี สิ่งของแปลกประหลาดซึ่งอันที่จริงควรเรียกว่าผิดปกติมากกว่า เช่น หมูสองหัว ต้นไม้
สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016
-12-
ประหลาด… หรือนักบุญองค์ใดช่วยให้มีบุตร ช่วยให้พบสิ่งของที่หายไป... หรือมี ปรากฏการณ์พิเศษ เช่นแม่พระร้องไห้ พระอาทิตย์ทรงกลด ฯลฯ... พวกเราคงแห่แหนไปดูกันแน่นขนัด เพราะเมื่อได้เห็นอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ไม่ว่า จะเป็นแนวบู๊หรือแนวบุ๋นก็ตาม ส่วนใหญ่จะ “รู้สึก” ตื่นเต้น ชวนศรัทธา น่าเกรงขาม และมีจ้านวนไม่น้อยที่มักเชื่อหัวชนฝา เพราะฉะนั้น หากพระองค์จะแสดงอภินิหารด้วยการกระโดดจากยอดพระวิหาร ลงมาโดยไม่เป็นอันตราย แน่นอนว่าประชาชนต้องตื่นเต้นสุดๆ กับฤทธิ์อ้านาจของ พระองค์ และพร้อมที่จะเชื่อและติดตาม “ผู้วิเศษ” ดังเช่นพระองค์ เท่าที่ผ่านมา พวกที่อ้างตัวเป็นพระคริสต์นิยมชมชอบวิธีการนี้มาก เช่น เธวดัส ได้โอ้อวดกับประชาชนว่าแค่เอ่ยปากค้าเดียว เขาก็สามารถแยกน้้าในแม่น้าจอร์แดน ออกเป็นสองฝั่งได้ ชาวอียิปต์ที่ก่อการกบฏ (กจ 21:38) ก็หลอกผู้ร่วมก่อการว่าเขาสามารถสั่งให้ ก้าแพงกรุงเยรูซาเล็มพังลงได้ หรือซีโมน มากุสก็หลอกประชาชนว่าตัวเองเหาะได้ แล้ว ก็พลาดตกลงมาตายในที่สุด แต่พระเยซูเจ้า “ไม่เลือก” วิธีนี้เด็ดขาด เพราะว่า 3.1 ไม่มีอนาคต เพราะถ้าวันนี้พระองค์กระโดดได้สูง 100 เมตร แล้วพรุ่งนี้ กระโดดได้เท่าเดิม ประชาชนก็ “หมดอารมณ์” ที่จะตื่นเต้นอีกแล้ว แล้วศาสนาเที่ยงแท้จะอิงอยู่กับอารมณ์ความรู้สึกชั่วครู่ชั่วยาม หรือชั่วครั้ง ชั่วคราวของมนุษย์ได้อย่างไรกัน ? 3.2 เป็นการไม่วางใจพระเจ้า เพราะการกระโดดจากที่สูงเป็นการจงใจปล่อย ตัวเองให้ตกอยู่ในอันตรายเพื่อ “ทดลอง” ว่าพระเจ้าจะมีอ้านาจจริงหรือเปล่า หรือ พระองค์จะทรงรักและช่วยเหลือเราจริงหรือไม่ ? ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงต้องตรัสว่า “อย่าทดลององค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของ ท่านเลย” (ลก 4:12) สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016
-13-
ดังนั้นคนที่ต้องการเห็นอัศจรรย์หรือสิ่งแปลกประหลาดก่อนจึงจะยอมเชื่อ จึง ไม่ใช่คนที่มีความเชื่ออย่างแท้จริง แต่เป็นเพียงคนขี้สงสัยที่ต้องการทดลองพระเจ้าเพื่อ หาข้อพิสูจน์เท่านั้น อย่าลืมว่าอานาจในการช่วยเหลือของพระเจ้าไม่ได้มีไว้เพื่อให้เราทดลองหรือ พิสูจน์ แต่มีไว้เพื่อให้เรา “วางใจ” ในพระองค์ !!! สาหรับพระเยซูเจ้าแล้ว หนทางเดียวที่จะนาเรากลับไปหาพระบิดาเจ้าได้คือ “หนทางของไม้กางเขน” หนทางอื่นๆ ไม่ต้องพูดถึง !!!... ----------------------------------------------------------------------------------------------
ข้อคิดเพื่อชีวิต พระวาจาของพระเจ้าเป็นของขวัญล้้าค่าต่อพวกเรา เป็นคู่มือแนวทางดาเนิน ชีวิตให้เราปฏิบัติตามเพื่อเกิดความสุขความเจริญทั้งด้านร่างกายและจิตวิญญาณ เป็นสื่อ จากเบื้องบนให้เราได้รู้จักกับพระเจ้า เปรียบดุจพระแสงฝ่ายวิญญาณหรือดาบ 2 คม ที่ใช้รับมือกับการโจมตีของศัตรู หากไม่มีดาบเป็นอาวุธหรือมีแต่ไม่ใช้ป้องกันตัว เราก็ไม่อาจรอดชีวิตจากการโจมตีของ ศัตรู(อย่างมาร)ได้(เอเฟซัส 6:17) และหากไม่มีมีดหมออันคมกริบส้าหรับการผ่าตัด เราก็ไม่ มีทางได้รับการผ่าและตัดเอาก้อนเนื้อหรือเชื้อโรคร้ายออกจากตัวของเราได้ (ฮีบรู4:12-13) เปรียบดังบทเพลงหนุนจิตชูใจจากสวรรค์เพื่อเราและคนรอบตัว หากเรามีบท เพลงอันไพเราะเพราะพริ้งอยู่กับตัวแต่เราเองกลับไม่ฟังหรือไม่ขับร้อง บทเพลงเหล่านั้น ก็จะไม่มีความหมายอะไรต่อเราหรือคนคนอื่นๆ เลยช่างน่าเสียดายยิ่ง! (สดุดี 119:54) เปรียบเหมือนตะเกียง ประทีป หรือโคมไฟ หากเราไม่จุดหรือไม่เปิด บรรดาสิ่ง ที่ให้ความสว่างเหล่านั้นก็ไร้ประโยชน์ (สดุดี119:105-106) เปรียบดังค้อนและไฟ ที่สามารถทุบท้าลายหรือเผาสิ่งที่ขวางกั้นหรือสิ่งที่ไร้ค่า ไร้ประโยชน์ สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016
-14-
เปรียบประดุจเมล็ดพันธุ์แห่งชีวิตใหม่(อันเป็นนิรันดร์) แต่หากเราไม่น้าลงมา ปลูกในดินแห่งจิตใจของเรา ต่อให้มีเมล็ดนั้นเก็บไว้มานานนับพันปีก็ไม่เกิดผลิตผลแต่ อย่างใด เปรียบดุจกระจกเงา แต่หากเราไม่เคยหยิบขึ้นมาส่องดูหน้า หรือไม่เคยไปยืนดู ตัวเองที่หน้ากระจกใหญ่ ต่อให้กระจกใบนั้นจะชัดใสมากสักปานใดก็ไร้ความหมาย (ยากอบ 1:23-25)
เปรียบดังอาหารที่จาเป็นต่อชีวิต เป็นทั้งอาหารอ่อน และอาหารแข็ง เหมาะกับ คนในแต่ละช่วงวัย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรเป็นผู้ใหญ่ที่ทานแต่ อาหารส้าหรับเด็กโดยไม่รู้จักโต (ฮีบรู 5:12-14) พระวาจาของพระเจ้า เป็นดุจยาดีที่เยียวยารักษาชีวิตของเราได้ แต่เราต้อง รับมา และกินลงไป หรือรับการฉีดเข้าเส้นโลหิตของเรา หากเรามียาดีอยู่ในมือหรืออยู่ ตรงหน้า แต่ไม่กินหรือดื่ม ต่อให้เป็นยาวิเศษจากสวรรค์ก็ไร้ประโยชน์ หลายคนมา โบสถ์นานนับสิบปี หลายคนมีพระคัมภีร์มากนับสิบเล่ม แต่กลับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ในชีวิตของพวกเขาเพราะว่า ไม่ยอมให้พระเจ้าเข้าไปในความคิดและจิตใจ แค่รับมาไว้ เฉยๆ ประดับสมองหรือความรู้เท่านั้น “เราต้องยินยอมให้พระวจนะของพระเจ้า เผชิญหน้ากับเรา รบกวนความมั่นคง ของเรา กัดเซาะความพึงพอใจของเรา และล้มล้างรูปแบบความคิดและพฤติกรรมของ เรา!” –John R.W. Stott– ผู้เป็นสุข
สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016
-15-
Pope Report พบกันครั้งแรกในรอบเกือบ 1,000 ปี ตอนแรก ผมวางแผนว่าจะกลับมาทาข่าวพระสันตะปาปาปลายเดือน มีนาคม แต่โชคดีที่ปรับตัวได้เร็วเข้ากับการเลี้ยงลูกชายที่เกิดมาเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม (โชคดีอีกอย่างคือเกิดวันเดียวกับพระสันตะปาปา ฟรังซิส) ผมจึงขอถือ โอกาสนี้กลับมารายงานข่าวพระสันตะปาปาให้ทุกท่านติดตามอีกครั้ง หลักจาก หยุดพักไป 7 สัปดาห์ ช่วงที่หายไป ข่าวสาคัญในพระศาสนจักรมีเยอะมากๆ ว่า แล้วเราไปติดตามกันเลยครับ การพบกันครั้งแรกในรอบ 1,000 ปี หลังจากตัดขาดจากกัน ขอเริ่มต้นด้วยข่าวสาคัญสุดข่าวหนึ่งในประวัติศาสตร์ของศาสนาคริสต์ เมื่อ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา วาติกันแถลงข่าวด่วนว่า สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส จะพบกับ พระอัยกา คีริล ผู้นาพระศาสนจักรออโธด็อกซ์แห่งรัสเซีย (ออโธด็อกซ์ รัสเซียเป็นออโธด็อกซ์ที่ใหญ่สุดในโลก) ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2016 การพบกัน นี้จะจัดที่คิวบา ก่อนที่พระสันตะปาปาเสด็จเยือนประเทศเม็กซิโก (ระหว่างที่ทุกท่าน อ่านบทความนี้อยู่ การพบกันนี้เกิดขึ้นแล้ว และตอนนี้ พระสันตะปาปาก็กาลังเยือน เม็กซิโกถึงวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2016) สาเหตุที่บอกว่าเป็น “ประวัติศาสตร์” เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ “ผู้นาพระ ศาสนจักรคาทอลิก” ได้พบ “ผู้นาพระศาสนจักรออโธด็อกซ์แห่งรัสเซีย” นับตั้งแต่ พระศาสนจักรตะวันตก (คาทอลิก) และพระศาสนจักรตะวันออก (ออโธด็อกซ์) ประกาศตัดขาดกันตั้งแต่ ค.ศ.1054 (สมเด็จพระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่ 2 เคย พยายามขอพบพระอัยกา อเล็กเซย์ ที่ 2 ผู้นาออโธด็อกซ์รัสเซียในยุคนั้น แต่ไม่สาเร็จ) การพบกันครั้งแรกในรอบเกือบพันปีหลังจากแตกหักกัน ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้น ของ “คริสตศาสนสัมพันธ์” อย่างแท้จริง สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016
-16-
ล้างเท้าวันพฤหัสฯ ศักดิ์สิทธิ์ ไม่จากัดแค่ผู้ชายเท่านั้น สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงส่งจดหมายถึง พระคาร์ดินัล โรเบิร์ต ซาร่าห์ สมณมนตรีแห่งสมณกระทรวงพิธีกรรมและศีลศักดิ์สิทธิ์ ใจความสาคัญคือ “ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปคนที่ได้รับเลือกเพื่อการล้างเท้าในมิสซาวันพฤหัสฯศักดิ์สิทธิ์ จะเลือกทุกคนที่เป็นประชากรของพระเจ้า ไม่ได้จากัดแค่สุภาพบุรุษหรือเด็กผู้ชาย อีกต่อไป” พระสันตะปาปาทรงกล่าวเพิ่มเติมว่า พระองค์ได้ไตร่ตรองเรื่องนี้มาอย่างดี แล้ว โดยทรงตั้งใจว่า การเปลี่ยนแปลงนี้จะแสดงออกทั้งครบถึงความหมายของการ ล้างเท้าที่พระเยซูทรงกระทา ทั้งนี้ สมณกระทรวงพิธีกรรมและศีลศักดิ์สิทธิ์ได้ออกคาชี้แจงเพิ่มเติมว่า บุคคลที่ถูกเลือกให้มาร่วมพิธีล้างเท้าในวันพฤหัสฯศักดิ์สิทธิ์ ต้องมีความหลากหลาย และเป็นหนึ่งเดียวกันในพระเจ้า พวกเขาอาจจะประกอบไปด้วย ชาย, หญิง, เยาวชน, ผู้สูงอายุ, ผู้ป่วย, พระสงฆ์ หรือนักบวช ก็ได้ทั้งนั้น พระสันตะปาปาส่ง “ธรรมทูตเมตตาธรรม” ไปทั่วโลก และมี “ไทย” ด้วย วันพุธรับเถ้าที่ผ่านมา (10 ก.พ. 2016) สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรง ถวายมิสซาวันพุธรับเถ้าพร้อมส่ง “ธรรมทูตแห่งเมตตาธรรม” (MISSIONARIES OF MERCY) ไปทั่วโลก และแน่นอนว่า มีประเทศไทยด้วย ความสาคัญและสิทธิพิเศษของสงฆ์ธรรมทูตแห่งเมตตาธรรม ก็คือ พระ สันตะปาปาทรงมอบอานาจให้พวกเขาสามารถโปรดบาปสงวน 4 ประการได้ ซึ่ง ตามปกติ บาปเหล่านี้ พระสันตะปาปาเท่านั้นที่จะยกบาปได้ บาปทั้ง 4 ประกอบไป ด้วย 1) ทุราจารศีลมหาสนิท ในที่นี้หมายถึงการลบหลู่ดูหมิ่นศีลมหาสนิทอย่าง ร้ายแรง สะเทือนใจต่อความเชื่อคาทอลิก เช่นการนาแผ่นศีลมาเหยียบ 2) การที่พระสงฆ์ทาอุลามกต่อบุรุษหรือสตรี (ทั้งสองสมัครใจร่วมกัน) แล้วบุรษุ หรือสตรีคนนั้นมารับศีลอภัยบาปกับพระสงฆ์ที่กระทาการนี้ พระสงฆ์จะอภัยโทษบาปนีไ้ ม่ได้ จะมีแค่พระสันตะปาปาผู้เดียวเท่านั้น สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016
-17-
ที่ยกโทษบาปได้ ... ขยายความเพิ่มเติม บาปนี้หมายถึงการที่พระสงฆ์ไม่ สามารถอภัยโทษบาปให้ผู้ที่ร่วมทาผิดพระบัญญัติประการที่ 6 ด้วยกัน (บาปอุลามก) เพราะตนเองทาผิดด้วยกันกับเขา ส่วนพระสงฆ์ที่ร่วมทา บาปและไปอภัยโทษบาปให้คู่กรณี (ทั้งๆ ที่รู้ว่ายกบาปให้ไม่ได้) ถือว่า พระสงฆ์คนนั้นทาผิดอย่างหนัก กรณีเช่นนี้ มีพระสันตะปาปาเท่านั้นที่ “ยกโทษบาป” ให้พระสงฆ์คนนี้ได้ (ยกเว้น เพื่อความรอดของวิญญาณ คือ ผู้ร่วมทาผิดคนนั้น กาลังจะสิ้นใจ และไม่มีพระสงฆ์คนใดมาโปรดศีล อภัยบาป กรณีนี้เป็นกรณียกเว้นและพระสงฆ์คนนั้นสามารถโปรดศีลอภัย บาปได้) 3) พระสงฆ์ผู้ฟังแก้บาปละเมิดความลับของศีลศักดิ์สิทธิ์ ด้วยการ เปิดเผยบาปของผู้มาแก้บาปให้กับคนอื่น 4) การทาร้ายร่างกายพระสันตะปาปา อย่างไรก็ตาม “บาปการทาแท้ง” ไม่ได้อยู่ใน 4 ข้อนี้ เพราะพระสันตะปาปา เคยประกาศไปแล้วว่า โอกาสปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม พระสงฆ์คาทอลิกทุกคนมี อานาจในการอภัยบาปนี้ ถ้าสังฆราชไม่ภาวนาและประกาศพระวรสาร คนทนทุกข์คือประชากรของพระเจ้า มิสซาเช้าวันศุกร์ที่ 22 มกราคม 2016 พระวรสารวันนี้ พระเยซูทรงเรียกอัคร สาวก 12 คน พร้อมสั่งให้พวกเขาออกไปเทศนาสั่งสอน พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า “งานสาคัญสุดของพระสังฆราชไม่ใช่ การเตรียมแผนงานอภิบาล ไม่! ไม่ใช่อย่างนั้นเลย! แต่มันคือการสวดภาวนา ต่างหาก นี่คืองานแรกที่พระสังฆราชต้องทา ส่วนงานที่สาคัญรองลงมาคือการเป็น ประจักษ์พยานซึ่งก็คือการเทศน์สอน เทศน์ถึงความรอดพ้นจากบาปที่พระเจ้านามา มอบให้เรา งานสองอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันสาคัญมาก นี่คืองานสองอย่างที่เป็นเสา หลักของพระศาสนจักร สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016
-18-
“ถ้าพระสังฆราชไม่สวดภาวนา หรือสวดน้อยมาก หรือลืมที่จะสวด ถ้า พระสังฆราชไม่ประกาศพระวรสารและมัวแต่ไปสนใจเรื่องอื่นๆ พระศาสนจักรจะ อ่อนแอ และคนที่ต้องทนทุกข์ทรมานคือประชากรของพระเจ้า “สาหรับสัตบุรุษ พระศาสนจักรที่ไม่มีพระสังฆราช มันดูไม่เวิร์คเลยนะ ดังนั้น เราต้องช่วยกันสวดให้พระสังฆราชของเรา เพราะเราทุกคนเป็นคนบาป เรามีความ อ่อนแออยู่ในตัว” พระสงฆ์ที่ดี ต้องทาอย่างไร วันที่ 25 มกราคม 2016 พระสันตะปาปาทรงต้อนรับบรรดาผู้เข้ารับการ อบรมเตรียมเป็นสงฆ์จากแคว้นลอมบาร์เดีย (พวกอัครสังฆมณฑลมิลาน) ที่มาเข้าเฝ้า ในวาติกัน โอกาสนี้ พระสันตะปาปาตรัสสอนพวกเขาว่า “ขอให้ทุกคนดูตัวอย่างจาก นักบุญคาร์โล บอร์โรเมโอ (ชาร์ลส์ บอร์โรเมโอ พระคาร์ดินัลซึ่งเป็นพระอัครสังฆราช แห่งมิลาน) ท่านแสดงให้เราเห็นว่า การเตรียมตัวเป็นพระสงฆ์ที่ดี ไม่ได้เรียกร้องแค่ การทางานหลายอย่าง แต่ยังเรียกร้องเราให้หัวใจของเรามีการกลับใจอย่างแท้จริง “พึงระวังการประจญล่อลวงที่ทาให้เรายึดติดกับสิ่งที่ทาอยู่เป็นปกติวิสัย พระสงฆ์บางคนคิดว่าการใช้ชีวิตแบบที่เป็นอยู่นี้ก็เพียงพอแล้ว พระสงฆ์ประเภทนี้ จะสร้างความสนใจให้ตัวเอง ตัดสินและประเมินงานอภิบาลของตนจากความ สาเร็จ เขาจะเริ่มแสวงหาแต่สิ่งที่ตัวเองชอบ ผลที่ตามมาคือเขาจะกลายเป็น พระสงฆ์ที่เฉยชาและไม่สนใจความต้องการของสัตบุรุษ ถ้าพระสงฆ์กลายเป็นคน แบบนี้ เขาจะเป็นพระสงฆ์แบบพื้นๆ (MEDIOCRE PRIEST) หรืออาจะเลวร้าย กว่านั้นก็ได้ “การจะเป็นพระสงฆ์ที่ดี สิ่งสาคัญคือเราต้องปฏิสัมพันธ์และใกล้ชิดกับ พระสังฆราชของตน ลักษณะนิสัยของพระสงฆ์สังฆมณฑลคือการแสดงออกถึงความ เป็นตัวตนของสังฆมณฑลนั้นๆ พระสงฆ์ที่ไม่รักษาความใกล้ชิดกับพระสังฆราชของตน เขาคนนั้นจะค่อยๆ ถอยห่างออกไป เพราะเขาไม่มีส่วนร่วมในการพูดคุยกับบิดา ของสังฆมณฑลตนเอง” สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016
-19-
หากคาทอลิกทาตัวไม่ดีกับคริสตชนต่างนิกาย ขอให้พวกท่านยกโทษให้เราด้วย เย็นวันที่ 25 มกราคม 2016 พระสันตะปาปาทรงเป็นประธานการสวดทาวัตร เย็นโอกาสระลึกถึงนักบุญเปาโลกลับใจ และยังเป็นพิธีปิดสัปดาห์ภาวนาเพื่อเอกภาพ คริสตชน พิธีนี้จัดในมหาวิหารนักบุญเปาโล นอกกาแพงกรุงโรม งานนี้มีผู้แทนของ พระศาสนจักรออโธด็อกซ์และแองกลิกัน มาร่วมพิธีด้วย พิธีนี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์ให้ข้อคิดว่า “ในฐานะของพระสังฆราชแห่งกรุง โรมและผู้อภิบาลของพระศาสนจักรคาทอลิก ข้าพเจ้าวอนขอความเมตตาและการยก โทษจากพี่น้องคริสตชนต่างนิกายต่อพฤติกรรมของชาวคาทอลิกซึ่งไม่ได้ แสดงออกถึงค่านิยมแห่งพระวรสาร ในเวลาเดียวกัน ข้าพเจ้าขอเชิญชวนพี่นอ้ ง คาทอลิกทุกคน โปรดยกโทษให้กับพี่น้องคริสตชนต่างนิกาย ซึ่งเคยเบียดเบียนเราไม่ ว่าจะเป็นในตอนนี้หรืออดีตที่ผ่านมา พวกเราไม่สามารถลบล้างอดีต แต่เราก็ไม่ควรให้ ความผิดพลาดในอดีตมาทาลายความสัมพันธ์ของเรา” พระสันตะปาปาต้อนรับบุคคลสาคัญของโลก เดือนมกราคมที่ผ่านมา พระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงต้อนรับบุคคลสาคัญของ โลก 3 คน คนแรกคือ “เอริก ชมิดต์” ประธานคณะกรรมการบริษัทแอลฟาเบต อิงก์ (ALPHABET INC) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ “กูเกิ้ล” คนที่สองคือ “ทิม คุ้ก” ซีอีโอของ “แอปเปิ้ล” และยังเป็นผู้สานงานต่อจาก “สตีฟ จ็อบส์” และคนที่สามคือ “ลีโอนาร์ โด้ ดิคาปรีโอ” นักแสดงชื่อดังอดีตพระเอกเรื่องไทแทนิค คนที่ผมประทับใจสุดคือ “ทิม คุ้ก” เพราะผมรายงานข่าวของเขาบนทวิต เตอร์ POPE REPORT จากนั้นไม่นาน ทิม คุ้ก ตัวจริงเสียงจริง ได้มากดไลค์ข่าวที่ ผมรายงานด้วยตัวเอง เรียกว่า เป็นไลค์ประวัติศาสตร์ที่ผมได้รับจริงๆ AVE MARIA
สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016
-20-
วันผู้ป่วยโลก โดย ดร. วรรณีย์ ลิขิตธรรม
11 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันระลึกถึงแม่พระประจักษ์ที่เมืองลูร์ด ฝรั่งเศส ( 11 ก.พ. - 18 ก.ค. 1858) และเป็นวันผู้ป่วยโลก ที่ลูร์ดมีอัศจรรย์เกิดขึ้นมากโดยเฉพาะ ผู้ป่วยที่เป็นโรคซึ่งหมอบอกว่ารักษาไม่หายก็สามารถหายได้ และคนบาปซึ่งเจ็บป่วย ฝ่ายจิตวิญญาณ(ร้ายแรงกว่าฝ่ายกาย) ก็กลับใจ กลับมาเป็นลูกที่ดีของพระ แม่พระทรง รักลูกของพระนางมากจึงทรงช่วยเราในทุกเรื่องทุกอย่างแม้กระทั่งเรื่องความเจ็บป่วย ที่ ลาวาง ภาคกลางของเวียดนามแม่พระทรงประจักษ์มากว่า 200 ปีแล้ว ทรงสอนให้ ชาวบ้านน้าใบไม้ชนิดหนึ่งไปต้มแล้วดื่มเป็นยา พวกเขาก็ท้าตามแล้วก็หายจากโรคกัน เป็นจ้านวนมาก พี่น้องคะ ในยามเจ็บป่วยเราร้องขอความช่วยเหลือจากพระแม่ได้ บางคนคิดว่าความเจ็บป่วยเป็นเรื่องเลวร้ายที่น้าความทุกข์ทรมานมาให้เรา มีแต่ เสียเงิน มีแต่เจ็บตัว มีแต่ความเครียดเพราะท้างานไม่ได้ หาเงินไม่ได้ แผนการณ์สวย หรูทั้งหมดต้องชะงักงันไป บางครั้งผู้ป่วยช่วยตัวเองไม่ได้ต้องพึ่งคนอื่น เลยกลายเป็น ภาระแก่เขา คนที่เป็นโรคร้ายเช่นมะเร็งมักจะถามว่า “ทาไมต้องเป็นฉัน” “พระเจ้าไม่ ทรงรักฉันหรือ ฉันอุตส่าห์เป็นศิษย์ที่ดีของพระองค์ ไม่เคยขาดวัดวันอาทิตย์ ถือตาม พระบัญญัติ ท้าแต่กิจการที่ดีด้วยความเสียสละเพื่อพระองค์ แล้วท้าไมฉันถึงโชคร้าย ขนาดนี้” พี่น้องคะ พระคริสตเจ้าทรงโชคร้ายใช่ไหมคะ ในจ้านวนคนกี่ล้านคน ทาไม ต้องเป็นพระองค์ ท้าไมต้องถูกเขาฆ่าตายอย่างอัปยศ พระบิดาไม่ทรงรักพระองค์หรือ สิ่งที่พระเจ้าทรงอนุญาตให้เกิดขึ้นกับเรามักมีอะไรดีแฝงอยู่ เราจงพิจารณาดูว่า ความ เจ็บป่วยสอนอะไรเราบ้าง เมื่อป่วยเราท้างานตามปกติไม่ได้ ต้องนอนติดเตียง แล้วก็ ครุน่ คิดว่าจะหายไหมเนี่ย หรือว่าอาการป่วยจะเลวร้ายกว่าเดิมและเราก้าลังจะตาย ตอนนี้แหละที่เราหันไปพึ่งพระองค์ โดยสวดขอให้พระองค์ทรงรักษาเราและให้เราตาย ดี “สิ้นใจอย่างราบรื่นในศีลในพรของพระองค์” สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016
-21-
ความเจ็บป่วยเป็นวิธีหนึ่งที่พระเจ้าทรงดึงเราให้มาใกล้ชิดพระองค์ “เป็นความ จริงที่ว่า ขณะที่ถูกเฆี่ยนตีสั่งสอน ไม่มีความน่ายินดี มีแต่ความทุกข์ แต่ให้ผลเป็น สันติและเป็นความชอบธรรมแก่ผู้ที่ยอมรับการเฆี่ยนตีสั่งสอน เป็นการฝึกฝนตนเอง” (ฮบ 12:11)ความเจ็บป่วยสอนให้เราพึ่งพระเจ้าซึ่งเป็นผู้เดียวที่ช่วยเราได้ในยามนี้ พระองค์ ผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนความเจ็บป่วยให้เป็นสุขภาพที่ดีได้ ความเจ็บป่วยสอนเรา ให้ไว้วางใจในพระองค์ ผู้ทรงจัดสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเราในวันนี้และวันพรุ่งนี้ เราจึงไม่ ต้องกังวล แต่มอบทุกอย่างด้วยความเต็มใจให้พระองค์ทรงดูแล “ข้าแต่พระบิดาเจ้า ขอให้พระประสงค์ของพระองค์ จงสาเร็จในแผ่นดินเหมือนในสวรรค์” ความเจ็บป่วย ยังสอนให้เราเป็นคนสุภาพถ่อมตน อยู่ใต้พระหัตถ์ของพระเจ้า โดยส้านึกว่า “ข้าพเจ้า เป็นคนบาปจึงต้องผ่านประสบการณ์นี้” แม้จะเศร้าเสียใจเพราะเจ็บปวดและมีความ ยากล้าบากหลายประการ แต่เราเรียนรู้ที่จะรับเอาไว้โดยไม่คัดค้านหรือขัดขืน ทั้งหมดก็ จะกลับกลายเป็นบุญและรางวัลที่เราจะได้รับจากองค์พระเจ้าคือ มงกุฎอันรุ่งเรือง ความ เจ็บป่วยสอนให้เราเข้าใจผู้อื่น เป็นการเอาใจเขามาใส่ใจเรา เวลาที่เราป่วยเรามักจะ หงุดหงิด ไม่พอใจในสภาพที่เป็นอยู่ เราขาดก้าลังใจ เมื่อเราช่วยเหลือดูแลคนป่วยเรา ก็จะเข้าใจเขาดีขึ้น เข้าใจถึงความไม่สบายตัวไม่สบายใจของเขา เราจะอดทนและให้ ก้าลังใจเขา เราควรท้าอะไรเมื่อรู้ว่ามีคนเจ็บป่วย นักบุญยากอบสอนว่า “ท่านใดเจ็บป่วย จงเชิญบรรดาผู้อาวุโสของพระศาสนจักรให้มาอธิษฐานภาวนาเพื่อผู้ป่วย เจิมน้ามัน ผู้นั้นในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า คาอธิษฐานภาวนาด้วยความเชื่อจะช่วยผู้ป่วย ให้รอดชีวิต องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงโปรดให้ผู้ป่วยลุกขึ้น และถ้าเขาเคยทาบาป เขาก็ จะได้รับการอภัย...จงอธิษฐานให้กันเพื่อจะหายจากโรค” (ยก 5:14-16) สุดท้ายนักบุญเปาโล สอนว่า “ความทุกข์ยากล้าบากเล็กน้อยของเราในปัจจุบันนี้ก้าลังเตรียมเราให้ได้รับสิริ รุ่งโรจน์นิรันดรอันยิ่งใหญ่หาที่เปรียบมิได้ เราจึงไม่มุ่งมั่นในสิ่งที่แลเห็นได้ แต่มุ่งมั่น ในสิ่งที่แลเห็นไม่ได้ ซึ่งคงอยู่นิรันดร (2 คร 4:17-18) สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016
-22-
รายการมิสซาประจาสัปดาห์ อา. 14 ก.พ.16
07:00 น. คพ. วิทยา
ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ
อาทิตย์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต สุขภาพ ยากอบ พีรพล อุกฤษฏ์ ขอพร ครอบครัวพี่น้อง ว่องวิไลกุลทัง้ 12 ครอบครัวตระกูลปิตชิ ัย ขอพร คุณหาญชัย,คุณนลินทิพย์, ลูกๆ หลานๆ มารีอา เพ็กเซียง แซ่เจีย อุทิศ เปโตร มานพ,มารีอา อภิรัตน์ กิจนิตย์ชีว์ อักแนส มาลี แซ่เตียว อุทิศ ยวงบัปติสตา ลิ่มสุง แซ่หว่อง โยเซฟิน รัตนา พันธุมจินดา อุทิศ มารีอา มักดาเลนา ซุ่ยฮุ้ง แซ่ล้อ คุณหมอ พิสิทธิ์ พันธุมจินดา อุทิศ ยอแซฟ วิโรจน์ ว่องวิไลกุล ลูซีอา อังเยลา วัลลา ทวีสิน อุทิศ เบเนดิกโต ลิม่ ชุน แซ่หว่อง เปโตร ประจวบ เจริญทรัพย์ อุทิศ เยียกอาเก่ง ลิบจือ แซ่หว่องและภรรยา เปโตร วิชัย ตัง้ ชัยสิน อุทิศ กาโล เทีย๊ เซียง แซ่ล้อ อันนา จําลอง วงษ์เลิศ อุทิศ ฟรังซิสเซเวียร์ สมศักดิ์ หมดมลทิน ยอแซฟ เตีย ติ้งกวง อุทิศ ยวงบัปติสต์ กุ่ยเล้ง แซ่ปึง มารีอา เจ็ง หลีกุง อุทิศ อักแนส แจ้เชียง แซ่ตั้ง ยวง สราช สาทรกิจ อุทิศ ปู่ ย่า ตา ยาย ครอบครัวตระกูลปิตชิ ัย คุณนพดลย์ ศรีสอาด อุทิศ นายสมโภช, นางจินตนา ถินประวัตร วิญญาณในไฟชําระ อุทิศ นางอุไร พลรักษ์ ขอพร สําหรับพี่น้องสัตบุรุษทุกท่าน ทุกครอบครัว
ขอพร ขอพร ขอพร ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ
มารีอา ศิริพร ชาญนําสิน,ครอบครัว ยอแซฟ วิทยา สุหฤทดํารง,ครอบครัว มารีอา นวลศรี มารีอา มวลวดี คุณสนั่น สัญญวี ยวง ชอบ, ฟิโรมีนา โมราห์ แพงยอด ยวง ยรรยง วูวงศ์ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดํารง เทเรซา อัมพร สิทธิราพร มารีอา สละ ศรจิตติ ฟรังซิสโก สมประสงค์ เจนผาสุก เทเรซา สงวน เจนผาสุก ญาติพี่น้องตระกูลเจนผาสุก คุณปีเตอร์, วิญญาณในไฟชําระ
09:00 น. คพ. ศรีปราชญ์
17:30 น. คพ. สุชาติ
ขอพร ขอพร ขอพร ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ
เทเรซา สุญาณี พงษ์ธนานิกร,ครอบครัว เทเรซาสุวมิ ล วิภัตภิ ูมปิ ระเทศ,ครอบครัว คุณสุรรี ัตน์ ขํากันต์และ ลูกๆ ครอบครัวอันนา ดีน่า แก้วพิลา สําหรับผูข้ อ และหน้าที่การงานลูกหลาน แบร์นาแด๊ต ชญานิษฐ์ สีหพล ฟรังซิสกา สมใจ สงวนสุข นายยิ้นพัด, นางฮ่อ แซ่ซั่ว เทเรซา เพชรา ตั้งสกุล มารีอา พรรณี จอมต์สัน เปาลา รําไพ อมรสังข์, กูราตะ โองาว อลิซาเบธ ยับฟัน ซิ้วเงี้ยด, นายยับจิ้นฟู มารีอา วันดี สุขขีวดั , ญาติที่ล่วงลับ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง
สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016
-23จ. 15 ก.พ.16 06.15 น.
19:00 น.
ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ
อ. 16 ก.พ.16
06:15 น.
19:00 น.
ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ
พ.17 ก.พ.16
06:15 น.
19:00 น.
ขอพร ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ
สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต แคทรีน ไอยศรา ขอพร อักแนส ลัดดาวรรณ,โจเซฟ พิทักษ์พงศ์ การงานออกัสติน ขอพร เปโตร สุทธิ, ยอห์นบัปติสต์ ดํารงภัค เฮเลนา กาญจนา อุทิศ อันนา จําลอง วงษ์เลิศ ฟรังซิส ทวน อุทิศ ฟรังซิสเซเวียร์ สมศักดิ์ หมดมลทิน บรรดาทหารทีช่ ายแดนภาคใต้ ขอพร โยเซฟ ปริญา แสงเป่า เทเรซา บุญนะ เอกตระกูล ขอพร สุขภาพ มารีอา รัชนี บุญพันธ์ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ เซซีลีอา แน่งน้อย อาภรณ์รัตน์ คุณวิไล มงคลปิยะธนา อุทิศ เวโรนิกา เสนอ, มารีอา นงค์นุช ฟรังซิสกา สมใจ สงวนสุข อุทิศ ยวงบัปติสตา หวล อาภรณ์รัตน์ เปโตร วิชัย ตัง้ ชัยสิน อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดํารง สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต การงานออกัสติน ขอพร เปโตร สุทธิ, ยอห์นบัปติสต์ ดํารงภัค แคทรีน ไอยศรา ขอพร อักแนส ลัดดาวรรณ,โจเซฟ พิทักษ์พงศ์ เฮเลนา กาญจนา อุทิศ มารีอา มณีรัตน์ เสนะวีณิน ฟรังซิส ทวน อุทิศ ยอแซฟ ฟุ่ง,ยอห์น เหี่ยน,เปโตร ตี๋ วิญญาณในไฟชําระ อุทิศ เปโตร วรรณ, นายเอกพงศ์ อะคะนา สุขภาพ นางฮั้ง ประเสริฐศรี ขอพร ยอแซฟ สุรยี ์ ประเสริฐศรีและครอบครัว คุณสนั่น สัญญวี ขอพร สุขภาพเทเรซา ใบ และลูกๆ หลานๆ เปโตร วิชยั ตั้งชัยสิน อุทิศ อันนา องุ่น,เปาโล จั๊ว ประเสริฐศรี ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ฟรังซิสกา สมใจ สงวนสุข วิญญาณในไฟชําระ อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดํารง นักบุญเจ็ดองค์ผู้ตั้งคณะผู้รับใช้พระแม่มารีย์ การงานออกัสติน ขอพร อักแนส ลัดดาวรรณ,โจเซฟ พิทักษ์พงศ์ โนเอล เดชา ขอพร เปโตร สุทธิ, ยอห์นบัปติสต์ ดํารงภัค แคทรีน ไอยศรา ขอพร ผู้บริหาร,ครู นักเรียน ในเครือสารสาสน์ อันนา จําลอง วงษ์เลิศ อุทิศ ฟรังซิสเซเวียร์ สมศักดิ์ หมดมลทิน คุณพ่อเปโตร ชวลิต วินิตกูล อุทิศ วิญญาณในไฟชําระ ครอบครัวทอนบุตรดี ขอพร มารีอา ถาว หวูทิ และครอบครัว คุณโฮ โฮจิมินต์ อุทิศ มารีอา มักดาเลนา ซุ่ยฮุง้ แซ่ล้อ(ครบ3ปี) เปโตร วิชยั ตั้งชัยสิน อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดํารง ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยอแซฟ ศิริ, เซซีลีอา พิม มานะศรี ฟรังซิสกา สมใจ สงวนสุข อุทิศ เปโตร วิชัย ตั้งชัยสิน (ครบ 100 วัน) สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016
-24พฤ.18ก.พ.16
06:15 น.
19:00 น.
ขอพร ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ
ศ. 19 ก.พ.16
06:15 น.
19:00 น.
ขอพร ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ
ส. 20 ก.พ.16
06:15 น.
ขอพร ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ
สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต การงาน ออกัสติน ขอพร อักแนส ลัดดาวรรณ,โจเซฟ พิทักษ์พงศ์ เทเรซา จิราภรณ์ ขอพร เปโตร สุทธิ, ยอห์นบัปติสต์ ดํารงภัค แคทรีน ไอยศรา ขอพร คุณชูจติ ต์ นําเสน่ห์ อันนา จําลอง วงษ์เลิศ อุทิศ ฟรังซิสเซเวียร์ สมศักดิ์ หมดมลทิน เปโตร ปิยะนัย พิมพา อุทิศ นายฟู, นางทวี กิจบํารุงรัตน์ วิญญาณในไฟชําระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง มัทธิว พงษ์รัตน์ กิจนิตย์ชีว์ ขอพร อันตน พงษ์สุข กิจนิตย์ชีว์ ยอแซฟ ลออ,ลูซีอา รัฐฌา อิ่มชื่น ขอพร เปโตร โชคชัย อากรนิธิ์ อันนา ลกเซี้ยง แซ่อึ้ง อุทิศ เปโตร ประวิทย์ ตุลยาพิศิษฐ์ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดํารง เปโตร วิชยั ตั้งชัยสิน อุทิศ ฟรังซิสกา สมใจ สงวนสุข มารีอา สุวรรณา ใจประสาท อุทิศ นายสุวรรณ์ ใจประสาท สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต เทเรซา จิราภรณ์ ขอพร อักแนส ลัดดาวรรณ,โจเซฟ พิทักษ์พงศ์ โนเอล เดชา ขอพร เปโตร สุทธิ, ยอห์นบัปติสต์ ดํารงภัค แคทรีน ไอยศรา ขอพร มารีอา สุนีย์ คงสมบูรณ์ อันนา จําลอง วงษ์เลิศ อุทิศ ฟรังซิสเซเวียร์ สมศักดิ์ หมดมลทิน เปาโล ธินกร คงสมบูรณ์ อุทิศ เปาโล กฤษนัย คงสมบูรณ์ สุขภาพ พิชิต พงศ์เชีย่ วบุญ ขอพร มารีอา รชยา รัตนภักดี (วันเกิด) ครอบครัววีระชื่น ขอพร เทเรซา ภัทรชิตา การจารี ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ฟรังซิสกา สมใจ สงวนสุข เปโตร วิชัย ตัง้ ชัยสิน อุทิศ ยอแซฟ สุดใจ,มารีอา ไพบูลย์ สุขสุเดช ยอแซฟ จินเหงีย่ น, มารีอา สมถวิล อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดํารง ยอแซฟ ไพโรจน์ ระดมกิจ อุทิศ วิญญาณผู้มีพระคุณ,ที่ไม่มีใครคิดถึง สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต เทเรซา ดาลัด ขอพร โนเอล เดชา มารีอา อารยา ขอพร มารีอา ดวงใจ แคทรีน ไอยศรา ขอพร เทเรซา บุญนะ เอกตระกูล คุณพ่อเปเรย์, คุณพ่อเมลย์ อุทิศ มารีอา สมใจ,เทเรซา จินตนา มานะศรี อันนา จําลอง วงษ์เลิศ อุทิศ ฟรังซิสเซเวียร์ สมศักดิ์ หมดมลทิน เฮเลนา กาญจนา อุทิศ วิญญาณในไฟชําระ สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016
-25ส. 20 ก.พ.16
19:00 น.
ขอพร ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ
สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต อันตน ฐิติพงศ์ ศรีวิเศษ ขอพร ครอบครัว เทเรซา วราพร สําราญพิศ มารีอา สุทธินีย์, เทเรซา วินติ า ขอพร ครอบครัวมารีอา อุดม มยุระสาคร เทเรซา ปิยกานต์,หลุยส์ ธนพงศ์ ขอพร สุขภาพ วินเซนต์ สุรินทร์ กุลตังวัฒนา อุทิศ ยวงบัปติสตา ปึ๋ง,เวรอนีกา เสนอ เสนาจักร ฟรังซิสกา สมใจ สงวนสุข ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดํารง อุทิศ พี่น้องตระกูลเสนาจักร ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยอแซฟ อ๊อน, มารีอา เง็กเอ็ง แซ่คู เปโตร วิชัย ตั้งชัยสิน อุทิศ ทอมาส ธวัช, เทเรซา จู ศรีสวัสดิ์ เทเรซา มยุรี แจ่มเกียรติเลิศ อุทิศ ฟรังซิสโก ชวลิต,มารีอา อัญชลี ชัยวิสุทธิ์ ยอแซฟ อําพร กิจกําจร อุทิศ เปโตร ชาญวิทย์ ชาญรัตนชัย วิญญาณในไฟชําระ อุทิศ Nevil Martin
เชิญชวนพี่น้อง ร่วมมหาทรมานกับพระเยซูเจ้า ตารางเดินรูป 14 ภาค ช่วงเทศกาลมหาพรต ทาสถิติจานวนครั้ง เพื่อถวายแด่องค์พระเยซูเจ้าตลอดเทศกาลมหาพรต วันศุกร์ 18:30 วันอาทิตย์ 08:30 17:00 ศ. 12 ก.พ. 16 อา. 14 ก.พ. 16 ศ. 19 ก.พ. 16 อา. 21 ก.พ. 16 ศ. 26 ก.พ. 16 อา. 28 ก.พ. 16 ศ. 4 มี.ค. 16 อา. 6 มี.ค. 16 ศ. 11 มี.ค. 16 อา. 13 มี.ค. 16 08:15 ศ. 18 มี.ค. 16 อา. 20 มี.ค. 16 ศ. 25 มี.ค. 16 รวม 18 ครั้ง เดินรูปภาษาจีน ทุกวันอาทิตย์ หลังมิสซาสาย
สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016
-26-
ประชาสัมพันธ์ - พี่น้องที่ยังไม่ได้รับเถ้า หลังมิสซามีโปรยเถ้า - ขอเชิญพี่น้องรับกระป๋องมหาพรต เพื่อออมทรัพย์ตามจิตตารมณ์มหาพรต ช่วยผู้ยากไร้ และส่งคืนทางวัดวันสมโภชปัสกา (27 มีนาคม 2016) - เชิญชวนพี่น้องร่วมเดินรูป 14 ภาค ตลอดเทศกาลมหาพรต วันศุกร์เวลา 18:30 น. วันอาทิตย์เวลา 08:30 น. และเวลา 17:00 น. ส่วนภาษาจีนหลังมิสซาสาย - ขอเชิญภาวนาเพื่อผู้ได้รับความทุกข์ยากตลอดเทศกาลมหาพรต และเขียนคา ภาวนาติดไว้ที่ลานบุญภาวนา เพื่อให้พี่น้องท่านอื่นๆ ร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกันภาวนา ให้กับผู้ทุกข์ยากดังกล่าว - ขอเชิญพี่น้องร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ “ครอบครัวฟาติมา” วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016 เวลา 18:30 น. (หลังมิสซาเย็น) บัตรราคาที่นั่งละ 300.- บาท - ขอเชิญสั่งจองนาฬิกาที่ระลึก โอกาสครบ 60 ปี วัดแม่พระฟาติมา - ขอเชิญพี่น้องซื้อร่มที่ระลึกโอกาส 60 ปี วัดแม่พระฟาติมา - ขอเชิญพี่น้องที่มีรูปภาพในอดีตเกี่ยวกับวัดแม่พระฟาติมา ส่งรูปภาพให้กับ ทางวัดเพื่อจัดเตรียมนาเสนอประวัติของวัดในโอกาส 60 ปีวัดแม่พระฟาติมา ส่งได้ที่ สานักงานวัด (กรุณาเขียนชื่อเจ้าของภาพและข้อมูลของภาพพอสังเขป)
ประกาศการแต่งงาน ประกาศครั้งที่ 1 ฝ่ายชาย : นายพรศิวะ พานิชปรีชา บุตร : นายมานะ + นางชุติกมล พานิชปรีชา ฝ่ายหญิง : มารีอา ชารัศมิ์ ไทยยืนวงษ์ บุตรี : นายธเนศ กระแสโสม + มารีอา ดารารัตน์ ไทยยืนวงษ์ ทั้งสองจะเข้าพิธีสมรส วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม 2016 เวลา 13:00 น. ** ผู้ใดทราบข้อขัดขวาง มีหน้าที่ต้องแจ้งให้พระสงฆ์ทราบ ** สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016
-27-
พระวรสารสาหรับอ่านในครอบครัว ว/ด/ป
พระวรสารประจําวัน
ลูกวัดแม่พระฟาติมา
ชนิดพระคัมภีร์ พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
จ. 15 ก.พ. 16
อ. 16 ก.พ. 16
พ. 17 ก.พ. 16
มัทธิว 25:31-46
มัทธิว 6:7-15
ลูกา 11:29-32
121-122
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง)
167-169
พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
1927
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ)
57-58
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง)
40-41
พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
2040
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ)
227
พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
ศ. 19 ก.พ. 16
ส. 20 ก.พ. 16
อา.21 ก.พ. 16
มัทธิว 7:7-12
มัทธิว 5:20-26
มัทธิว 5:43-48
ลูกา 9:28ข-36
1969-1970
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ)
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง) พฤ.18 ก.พ.16
หน้า
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ)
407-408 1929 60
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง)
46-47
พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
1925
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ)
54-55
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง)
34-35
พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
1926
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ)
56
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง)
37-38
พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
2035
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ)
218-219
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง)
388-390
สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016
-28-
“มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า „จงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน และรับใช้พระองค์แต่ผู้เดียวเท่านั้น‟” (ลก 4:8) สัปดาห์ที่ 1 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2016