ฟาติมาสาร - สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา (21-09-2014)

Page 1

-1-

ฟาติมาสาร สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา

วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2014 ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ------------------------------------------------------------------------------------------------

วัดแม่พระฟาติมา 4080 ถ. อโศก – ดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. 10400 โทร. 02 - 245 - 1039, 02 - 642 - 9907, 02 - 247 - 5222, โทรสาร 02 - 246 - 6174 E-mail : fatimachurch13@gmail.com www.fatima.or.th สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2014


-2-

วันอาทิตย์ ที่ 21 กันยนยน 2557 สั ปดาห์ ที่ 25 เทศกาลธรรมดา บทอ่านแรกใน หนังสื อพันธสัญญาเดิมประกาศกอิสยาห์กล่าวว่า “จงแสวงหาพระเจ้า ตราบเท่าที่จะทรง ให้พบได้ จงเรี ยกหาพระเจ้าขณะที่พระองค์ยงั ทรงอยูใ่ กล้” ทุกวันอาทิตย์เรามาหา พระเจ้า มาพบพระองค์และเพื่อนพี่นอ้ งที่วดั ของเรา เรามาที่วดั เพื่อแสวงหาและราพึงถึง วิถีทางของพระเจ้า ท่านประกาศกบอกให้เรากลับใจมาหาพระองค์ เพราะว่าประชากร ของพระเจ้า ไม่วา่ ยุคใด สมัยใด ความคิดของเขามักหันเหไปจากพระเจ้า ห่างไกลไปจาก พระประสงค์ของพระเจ้า โดยคิดว่าวิถีทางที่เขาดาเนินอยูน่ ้ นั ถูกต้องแล้ว เสี ยงของ ประกาศกจึงเตือนประชากรของพระเจ้า ท่านประกาศกเตือนใจประชากรของพระเจ้าว่า “จงแสวงหาพระเจ้า ตราบเท่าที่พระองค์ทรงให้พบได้ ให้คนอธรรมละทิ้งความ ประพฤติของตน ให้คนผิดสละความผิดของตน กลับใจมาหาพระเจ้า” บ่อยครั้งที่ ประชากรของพระเจ้ากระทาผิด นอกรี ตนอกรอย เหตุเพราะเขาเอาความคิดของตนเป็ น ใหญ่ ตัวเราเองก็เคยเป็ นแบบนี้ บางครั้งเราอาจพบคนอื่นๆ หรื อบางครั้งเป็ นตัวเราเองที่ มีความคิด หรื อการตัดสิ นใจอะไรบางอย่างโดยคิดว่าความคิดของเราดีที่สุด เมื่อมีบาง คนเสนอความคิดที่แตกต่าง หรื อตักเตือนความคิดของเรา เราก็ยากที่จะยอมรับ พระเจ้าจึงย้าเตือนว่าหนทางของพระเจ้านั้นสู งส่ ง เป็ นหลักในการดาเนิ นชีวติ อย่างแท้จริ ง พระองค์ตรัสว่า เพราะฟ้ าสู งกว่าแผ่นดินฉันใด วิถีทางของเราก็สูงกว่าทาง ของเจ้า และความคิดของเราก็สูงกว่าความคิดของเจ้าฉันนั้น ฉะนั้นทุกวิถีทางของมนุ ษย์ ย่อมเป็ นรองหรื อย่อมต้องสอดคล้องกับวิถีทางของพระเจ้า ในพระวรสารวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงเล่านิทานเปรี ยบเทียบเกี่ยวกับพ่อบ้านที่ ว่าจ้างคนมาทาสวนองุ่น คนงานมาทางานหลายกลุ่มต่างเวลากัน กลุ่มหนึ่งมาตอนเช้า ตกลงราคาค่าจ้างกันหนึ่งเหรี ยญ อีกกลุ่มมาตอนสาย อีกกลุ่มมาตอนเที่ยงวัน และกลุ่ม สุ ดท้ายที่พอ่ บ้านไปพบเห็นอยูเ่ ปล่าๆ ตอนห้าโมงเย็นจ้างให้มาทางานในสวน เรื่ องเล่าว่า สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2014


-3-

เมื่อถึงเวลาที่เลิกงานทุกคนได้ค่าจ้างคนละหนึ่งเหรี ยญ ตามความคิดมนุษย์คนที่มาตั้งแต่ เช้า และตอนสายทางานมากกว่าคนที่มาห้าโมงเย็น แต่ในนิทานเปรี ยบเทียบเรื่ องนี้พอ่ บ้านกล่าวว่า “เพื่อนเอ๋ ย เราไม่ได้โกงท่านเลย ท่านมิได้ตกลงกับเราคนละเหรี ยญหรื อ เอาค่าจ้างของท่านไปเถิด เราอยากจะให้คนที่มา สุ ดท้ายนี้เท่ากับให้ท่าน เราไม่มีสิทธิ์ ใช้เงินของเราตามที่เราพอใจหรื อ ท่านอิจฉาเพราะ เราใจดีหรื อ ทาไมพวกมาทีหลังได้หนึ่งเหรี ยญเท่ากับพวกแรก เหตุผลคือ พวกเขาไม่มี ใครมาจ้าง เขาพยายามหางานทาแล้ว พ่อบ้านตกลงให้ค่าจ้างตามสมควร ดังนั้น เราเห็นความจริ งว่าสิ่ งที่มนุษย์คิดนั้นไม่เหมือนความคิดของพระเจ้า พ่อบ้าน ในนิทานเปรี ยบเทียบเปรี ยบเหมือนพระบิดาเจ้าในสวรรค์ พระองค์ทรงให้วถิ ีแห่งความ ยุติธรรมอย่างแน่นอน แต่ที่มากกว่านั้นวิถีทางของพระองค์น้ นั เป็ นวิถีทางแห่งความรัก และเมตตา พระองค์ทรงประทานให้แก่ทุกคนตามความจาเป็ นและเหมาะกับชีวติ ของแต่ ละคน เราคริ สตชนจึงต้องขยายหัวใจของเราให้กว้างขึ้น ดังพระทัยของพระเจ้า เราต้อง ให้พระคริ สตเจ้าและหนทางของพระองค์กลายเป็ นชีวติ ของเรา นักบุญเปาโลกล่าวว่า “พี่นอ้ งขอเพียงแต่ให้ท่านดาเนินชีวติ ให้สมกับข่าวดีของพระคริ สตเจ้าเถิด” คุณพ่ อสุ รชั ย กิจสวัสดิ์

สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2014


-4-

พระวรสารประจาสัปดาห์ (มธ 20:1-16ก) อาณาจักรสวรรค์เปรียบเหมือนพ่อบ้านผู้หนึ่งซึ่งออกไปตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อจ้าง คนงานมาทางานในสวนองุ่น 2ครั้นได้ตกลงค่าจ้างวันละหนึ่งเหรียญกับคนงานแล้ว ก็ส่งไป 3 ทางานในสวนองุ่น ประมาณสามโมงเช้า พ่อบ้านออกมาก็เห็นคนอื่น ๆ ยืนอยู่ที่ลาน สาธารณะโดยไม่ทางาน 4จึงพูดกับคนเหล่านี้ว่า ‘จงไปทางานในสวนองุ่นของฉันเถิด ฉัน จะให้ค่าจ้างตามสมควร’ 5คนเหล่านี้ก็ไป พ่อบ้านออกไปอีกประมาณเที่ยงวันและบ่าย สามโมง กระทาเช่นเดียวกัน 6ประมาณห้าโมงเย็น พ่อบ้านออกไปอีก พบคนอื่น ๆ ยืนอยู่ จึงถามเขาว่า ‘ทาไมท่านยืนอยู่ที่นี่ทั้งวันโดยไม่ทาอะไร’ 7เขาตอบว่า ‘เพราะไม่มีใครมา จ้าง’ พ่อบ้านจึงพูดว่า ‘จงไปทางานในสวนองุ่นของฉันเถิด’ 8ครั้นถึงเวลาค่า เจ้าของสวน บอกผู้จัดการว่า ‘ไปเรียกคนงานมา จ่ายค่าจ้างให้เขาโดยเริ่มตั้งแต่คนสุดท้ายจนถึงคน แรก’ 9เมื่อพวกที่เริ่มงานเวลาห้าโมงเย็นมาถึง เขาได้รับคนละหนึ่งเหรียญ 10เมื่อคนงาน พวกแรกมาถึง เขาคิดว่าตนจะได้รับมากกว่านั้น แต่ก็ได้รับคนละหนึ่งเหรียญเช่นกัน 11 ขณะรับค่าจ้างเขาก็บ่นถึงเจ้าของสวนว่า 12‘พวกที่มาสุดท้ายนี้ทางานเพียงชั่วโมงเดียว ท่านก็ให้ค่าจ้างแก่เขาเท่ากับเรา ซึ่งต้องตรากตราอยู่กลางแดดตลอดวัน’ 13เจ้าของสวน จึงพูดกับคนหนึ่งในพวกนี้ว่า ‘เพื่อนเอ๋ย ฉันไม่ได้โกงท่านเลย ท่านไม่ได้ตกลงกับฉันคนละ หนึ่งเหรียญหรือ 14จงเอาค่าจ้างของท่านไปเถิด ฉันอยากจะให้คนที่มาสุดท้ายนี้เท่ากับให้ ท่าน 15ฉันไม่มีสิทธิ์ใช้เงินของฉันตามที่ฉันพอใจหรือ ท่านอิจฉาริษยาเพราะฉันใจดีหรือ’ 16 ดังนี้แหละ คนกลุ่มสุดท้ายจะกลับกลายเป็นคนกลุ่มแรก และคนกลุ่มแรกจะกลับ กลายเป็นคนกลุ่มสุดท้าย 1

***************************

สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2014


-5-

ข้ อคิดจากบทพระวรสาร (โดย คพ. ชัยยะ กิจสวัสดิ์) ยกเว้นวิธีการจ่ายค่าจ้างแล้ว รายละเอียดในอุปมาเรื่องนี้ล้วนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง และพบเห็นได้ในชีวิตประจาวันของชาวยิว ประมาณปลายเดือนกันยายนผลองุ่นจะสุกพร้อมให้เก็บเกี่ยวซึ่งต้องกระทาแข่ง กับเวลา หาไม่แล้วจะถูกฝนเดือนตุลาทาลายจนไม่มีอะไรเหลือให้เก็บ ตลอดช่วงเวลาหน้า สิ่วหน้าขวานเช่นนี้ เจ้าของสวนต้องการคนงานทุกคนแม้ทาได้เพียงชั่วโมงเดียวก็เอา ค่าจ้างหนึ่งเหรียญในสมัยนั้น เพียงพอแค่ประทังชีวิตสมาชิกครอบครัวขนาดเล็ก วันเดียวเท่านั้น ไม่มีเหลือสาหรับเก็บไว้ใช้ยามเจ็บป่วยหรือตกงานเลย ลูกจ้างรายวันจึงมี สถานภาพทางเศรษฐกิจย่าแย่กว่าทาสเสียอีก เพราะทาสยังมีสังกัด โชคชะตาของพวกเขา ขึ้นอยู่กับโชคชะตาของครอบครัวที่เขาอาศัยอยู่ ซึ่งในยามปกติแล้วคงยากที่จะอดตาย แตกต่างจากบรรดาลูกจ้างรายวันซึ่งโชคชะตาอิงอยู่กับโอกาสได้งานทา วันใดไม่มีคนจ้าง งานวันนั้นย่อมเป็นหายนะของพวกเขาโดยแท้ เพราะนั่นหมายถึงลูกเมียที่บ้านจะไม่มีอะไร กิน ชีวิตของพวกเขาจึงแขวนอยู่บนเส้นด้ายที่แบ่งระหว่างการมีชีวิตอยู่รอดกับการอดตาย จริง ๆ คนงานที่รอจนถึงห้าโมงเย็นคือเครื่องพิสูจน์ว่าพวกเขาต้องการงานทาเพื่อความ อยู่รอดของชีวิตมากสักเพียงใด ! อุปมาเรื่องนี้บรรจุคาสอนอันเป็นหัวใจของศาสนาคริสต์ ขอเริ่มจากคาสอนที่มี เป้าหมายเฉพาะกลุ่มในสมัยพระเยซูเจ้า ไล่เรียงไปสู่คาสอนที่เป็นสากลสาหรับเราทุกคน 1. พระเยซูเจ้าทรงเตือนบรรดาอัครสาวก พระองค์ทรงปรารถนาจะสอนพวก เขาว่า “พวกท่านได้รับสิทธิพิเศษเป็นสมาชิกของพระศาสนจักรก่อนผู้อื่นก็จริง แต่พวก ท่านจะอ้างสิทธิพิเศษเหนือสมาชิกที่มาภายหลังไม่ได้ เพราะไม่ว่าใครจะเข้ามาหาพระเจ้า เมื่อใด ล้วนมีคุณค่าเท่าเทียมกันในสายพระเนตรของพระองค์” สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2014


-6-

น่าเสียดายที่ทุกวันนี้ ยังมีสัตบุรุษบางคนซึ่งเป็นลูกวัดเก่าแก่และเคยมีบทบาท สาคัญจนหลงคิดว่าวัดนี้เป็นของตนและตนมีสิทธิพิเศษเหนือผู้อื่น พวกเขายอมรับ พระสงฆ์ที่มาใหม่หรือลูกวัดสายพันธุ์ใหม่ที่คิดต่างไปจากตนไม่ได้ ขอให้สัตบุรุษกลุ่มนี้ ระลึกอยู่เสมอว่า ตามความคิดของพระเยซูเจ้า “อาวุโสหรือการเป็นคนกลุ่มแรกไม่ได้ หมายถึงการมีเกียรติหรือมีสิทธิพิเศษเหนือผู้อื่นเสมอไป” 2. พระเยซูเจ้าทรงเตือนชาวยิว พวกเขาทะนงตนว่าเป็นชนชาติที่พระเจ้าทรง เลือกสรร จึงรังเกียจและดูหมิ่นคนต่างศาสนา บางคนถึงกับแช่งให้คนต่างศาสนาถูก ทาลายไปก็มี โชคร้ายที่ทัศนคติเช่นนี้ได้สืบทอดต่อมาในพระศาสนจักรของเรา แม้แต่คนต่าง ศาสนาที่กลับใจเป็นคริสตชนแล้วก็ยังไม่วายถูกดูแคลนว่าเป็นเสมือน “คริสตังค์ชั้นสอง ?” อย่าลืมว่าตามแผนการแห่งความรอดของพระเจ้า ไม่มีชนชาติใดอยู่เหนือชนชาติ อื่น และไม่มีคริสตชนคนใดมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นแม้เขาจะล้างบาปก่อนก็ตาม เราไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า คริสตังค์ใหม่หลายคนดาเนินชีวิตตามหนทางของพระ เยซูเจ้ามากกว่าคริสตังค์นอนเสียอีก ! 3. พระเจ้าทรงเป็นองค์ความบรรเทา ไม่ว่าเราจะล้างบาป กลับใจ หรือศรัทธา ต่อพระเจ้าอย่างลึกซึ้งตั้งแต่วัยเด็ก หรือเมื่อเข้าสู่วัยกลางคน หรือแม้ในยามบั้นปลายของ ชีวิตก็ตาม พระเยซูเจ้าทรงรักเราเท่ากันเสมอ ! บางคนอาจเสียชีวิตยามแก่เฒ่าพร้อมกับทิ้งคุณงามความดีและผลงานอันมีค่าไว้ มากมาย ในขณะที่บางคนอาจเสียชีวิตตั้งแต่เยาว์วัยโดยยังไม่มีคุณงามความดีหรือผลงาน เป็นชิ้นเป็นอันเลย กระนั้นก็ตาม พระเจ้าทรงต้อนรับผู้ที่รักพระองค์เท่าเสมอกันหมด นี่คือความหวังและความบรรเทาใจสาหรับเรา “คนบาป” โดยแท้ ! 4. พระเจ้าทรงเมตตา ไม่มีอะไรจะเลวร้ายเท่าลูกจ้างรายวันไม่มีงานทา พวก เขาต้องเฝ้ารออยู่ที่ลานของหมู่บ้านจนเกือบค่ามืดเพราะไม่มีใครจ้างงานพวกเขา แต่พระ เจ้าผู้ทรงเปี่ยมด้วยความเมตตาไม่อาจทนเห็นพวกเขาว่างงานได้ สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2014


-7-

ยิ่งไปกว่านั้น หากยึดเอาความยุติธรรมอย่างเคร่งครัดเป็นที่ตั้ง ผู้ที่ทางานน้อย ชั่วโมงกว่าควรได้รับค่าจ้างน้อยกว่า แต่พระเจ้าทรงล่วงรู้ดีว่าลาพังค่าแรงงานหนึ่งวันก็ แทบไม่พอยาไส้สมาชิกในครอบครัวอยู่แล้ว หากคนงานรับค่าจ้างน้อยไปกว่านี้ พวกเขา ต้องอดอยากและหิวโหยเป็นแน่ พระองค์จึงทรงเมตตาก้าวไปไกลกว่าข้อเรียกร้องของ ความยุติธรรมและทรงประทานค่าจ้างมากกว่าที่พวกเขาสมควรจะได้รับ ทั้งหมดนี้นามาสู่หลักการอันยิ่งใหญ่ที่ว่า “มนุษย์ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะทางานและ ได้รับค่าจ้างเพื่อยังชีพจากผลงานของเขา” 5. พระเจ้าทรงพระทัยดี ในอุปมา ไม่มีการระบุว่าคนงานแต่ละคนทางาน เหมือนกันหรือเท่ากัน แต่ที่แน่นอนคือพวกเขาได้รับค่าตอบแทนเดียวกัน นี่เป็นเครื่องยืนยันว่า ไม่ว่าเราจะรับใช้พระเจ้าในฐานะพระสงฆ์ นักบวช หรือ ฆราวาส และไม่ว่าเราจะมีผลงานมากน้อยเพียงใด พระองค์ทรงตอบแทนทุกคนด้วยน้า พระทัยดีและกว้างขวางของพระองค์เอง สิ่งที่พระเจ้าประทานแก่เราจึงมิใช่ “ค่าจ้าง” แต่เป็น “ของประทาน” ไม่ใช่ “รางวัล” แต่เป็น “พระหรรษทาน” 6. พระเจ้าทรงสนพระทัย “เจตนารมณ์” ในการทางานเหนือสิ่งอื่นใด เรา สามารถแบ่งคนงานในอุปมาออกเป็นสองกลุ่มด้วยกัน กลุ่มแรกมีการทาข้อตกลงกันชัดเจน “ครั้นได้ตกลงค่าจ้างวันละหนึ่งเหรียญกับ คนงานแล้ว ก็ส่งไปทางานในสวนองุ่น” และ “จงไปทางานในสวนองุ่นของฉันเถิด ฉันจะ ให้ค่าจ้างตามสมควร” (มธ 20:2,4-5) ความสนใจของคนงานกลุ่มแรกคือ ทาอย่างไรจึงจะได้ค่าตอบแทนสูงสุด ส่วนกลุ่มที่สองไม่มีข้อตกลงใดนอกจากคาเชิญชวนของนายจ้างที่ว่า “จงไป ทางานในสวนองุ่นของฉันเถิด” (มธ 20:7) สิ่งที่คนงานกลุ่มที่สองต้องการคือโอกาสทางาน ส่วนค่าตอบแทนนั้นขึ้นอยู่กับ ความเมตตาของนายจ้าง สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2014


-8-

นี่คือจิตตารมณ์ที่เราคริสตชนพึงเอาอย่าง เพราะหากเราให้ความสนใจกับ ค่าตอบแทนหรือรางวัลเป็นอันดับแรก โลกจะหยิบยื่นรางวัลและค่าตอบแทนมากมาย ให้แก่เรา แต่เราจะอยู่อันดับสุดท้ายในโลกหน้า ตรงกันข้าม หากเราไม่สนใจรางวัลหรือค่าตอบแทน แต่ทางานเพราะสุขใจและดี ใจที่ได้รับใช้ผู้อื่น โลกอาจเห็นเราต่าต้อยและอยู่อันดับท้ายๆ แต่เราจะกลับเป็นที่ต้นใน สวรรค์ เรื่อง “รางวัล” นี้ดูเหมือนจะตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับคาสอนเรื่อง “การภาวนา” ที่ว่า “จงขอเถิด แล้วท่านจะได้รับ จงแสวงหาเถิด แล้วท่านจะพบ จงเคาะประตูเถิด แล้ว เขาจะเปิดประตูรับท่าน” (มธ 7:7) เพราะ.... “ผู้ใดแสวงหารางวัล จะไม่ได้รับ ผู้ใดไม่คิดถึงรางวัล จะได้รางวัล” !

สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2014


-9-

แม่พระระทมทุกข์ (โดย ดร.วรรณีย์ ลิขิตธรรม)

15 กันยายน เป็นวันที่พระศาสนจักรเชิญชวนให้เราระลึกถึงแม่พระระทมทุกข์ ซึง่ แต่เดิมเรียกว่า แม่พระมหาทุกข์ เมื่อนักบุญยอแซฟและพระแม่มารียถ์ วายพระกุมาร เจ้าในพระวิหาร ผู้เฒ่าซีเมโอนผู้เปี่ยมไปด้วยพระจิต มีความชื่นชมอย่างมากที่ได้เห็นพระ ผู้ไถ่ที่ท่านรอคอย ท่านได้รับพระกุมารมาอุ้มไว้ กล่าวถวายพระพรสรรเสริญพระเจ้า แล้ว ท่านได้อวยพรบิดามารดาของพระกุมารและกล่าวแก่พระมารดาว่า“พระเจ้าทรงกาหนดให้ กุมารนี้เป็นเหตุให้คนจานวนมากในอิสราเอลต้องล้มลงหรือลุกขึ้น และเป็นเครื่องหมาย แห่งการต่อต้าน เพื่อความในใจของคนจานวนมากจะถูกเปิดเผย ส่วนท่าน ดาบ จะแทง ทะลุจิตใจของท่าน” (ลก 2 :34-35) ดาบในที่นี้คือความทุกข์ หลังจากที่ได้ทรงยอมรับเป็นมารดาของพระเยซูเจ้าแล้ว ภาระที่หนักอึ้งก็ตกอยู่กับพระแม่ เพราะทรงชิดสนิทกับพระบุตรมากกว่ามนุษย์ใดๆ ใน โลก พระบุตรทรงประทับในครรภ์ของแม่ แม่พระจึงเป็น “ตู้ศีล” แห่งแรกของโลก ให้เรา พิจารณาดูชีวิตของพระอาจารย์ของเราหน่อยซิว่า น่าอภิรมย์เพียงใด เริ่มจากรางหญ้าใน ถ้าเลี้ยงสัตว์ดาเนินเรื่อยไป จนไปจบที่กางเขนบนเขากัลวาริโอ ทรงต้องเผชิญกับ อะไรบ้าง ? อุปสรรคและความทุกข์สารพัด การต่อต้าน อิจฉาริษยา ดูหมิ่นดูแคลน พูดจา ถากถาง เยาะเย้ย ลองดี ลองภูมิ ปองร้ายและทรยศ ที่สุดเอากันถึงตาย ขณะถูกตอก ตรึงอยู่บนกางเขน ยังไม่วายถูกผู้นาเยาะเย้ย “เขาช่วยคนอื่นให้รอดพ้นได้ ก็ให้เขาช่วย ตนเองซิ” (ลก 23 : 35) ผู้ร้ายอีกคนหนึ่งที่ถูกตรึงบนกางเขนเช่นเดียวกันยังพูดดูหมิ่น พระองค์ว่า “แกเป็นพระคริสต์ไม่ใช่หรือ จงช่วยตนเองและช่วยเราให้รอดพ้นด้วยซิ” (ลก 23:39) ที่น่าเศร้าไปกว่านั้น คือทรงเจ็บปวดแสนสาหัสในส่วนลึกของจิตวิญญาณที่ทรง รู้สึกว่าพระบิดาทรงทอดทิ้งพระองค์ ในฐานะที่เป็นแม่ ลูกทุกข์แม่ก็ทุกข์ยิ่งกว่า ลูกต้อง ตายไปต่อหน้าต่อตา โอ ! ให้แม่ตายเสียดีกว่า พี่น้องที่เป็นแม่ย่อมเข้าใจดี ดาบที่ทิ่มแทงดวงใจแม่ คือทุกข์ 7 ประการของพระแม่มีดังนี้ สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2014


-10-

1. คาทานายของผู้เฒ่าซีเมโอน (ลก 2 : 34-35) 2. การหลบหนีไปประเทศอียิปต์ ( มธ 2 : 13-14) 3. การตามหาพระเยซูเจ้า (ลก 2 : 43-45) 4. ทรงพบพระเยซูเจ้าขณะแบกกางเขน (ลก 23 : 27) 5. การตรึงพระเยซูเจ้าบนกางเขน (ยน 19 : 25-27) 6. รับพระศพพระเยซูเจ้าลงจากกางเขน (มก 15 : 43-46) 7. ฝังพระศพในพระคูหา (ยน 19 : 41-42) พี่น้องสามารถร่วมจิตใจราพึงความทุกข์ของแม่ โดยการอ่านพระคัมภีร์ทีละตอน เริ่มจากข้อที่1 เมื่อจบการอ่านและราพึงแล้ว ก็สวดบทข้าแต่พระบิดา วันทามารีอา (7บท) และพระสิริรุ่งโรจน์ แล้วจึงราพึงข้อที่ 2 ต่อไป ทาเช่นเดียวกันจนครบ 7 ข้อ อย่าลืมว่าแม่ พระทรงรักเรามากและเรามักคิดอยู่เสมอว่าจะตอบแทนความรักของแม่อย่างไรดี การ ราพึงถึงความทุกข์ของแม่เป็นวิธีหนึ่งที่จะทาให้แม่พอพระทัย ถ้าเราเป็นลูกแม่จริงเราต้อง ร่วมทุกข์กับแม่ เมื่อแม่พระทรงประจักษ์ที่เมืองลูร์ดส์ ประเทศฝรั่งเศส ปี ค.ศ. 1858 ได้ ทรงตรัสกับนักบุญเบอร์นาแด๊ตว่า “แม่ไม่สัญญาจะให้เธอมีความหรรษาและการปลอบ ประโลมใจในชีวิตนี้แต่ลูกจะพบกับการทดลองและความทุกข์ทรมาน” พี่น้องค่ะในปัจจุบัน คนจานวนมากยังต้องทนทุกข์ทรมานจากภัยสงคราม ภัยธรรมชาติ จากความหิวโหย การตกงาน การพลัดพราก การสูญเสีย ความอยุติธรรมต่างๆ การถูกเบียดเบียน การถูก ทอดทิ้งและโรคระบาด(อีโบล่า)ฯลฯ ถ้าเรารักแม่เราต้องร่วมมือกับแม่ในการยุติความทุกข์ เหล่านี้เร็วที่สุดและมากที่สุดเท่าที่จะทาได้ ที่เชิงกางเขน พระเยซูเจ้าทรงมอบพระแม่ให้เป็นแม่ของยอห์นอัครสาวก (ผู้แทน ของมนุษยชาติ) และมอบยอห์นให้เป็นลูกของแม่พระ ตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ มนุษยชาติ จึงมีบุญได้พระแม่เป็นมารดา และพระแม่ได้ทรงอ้าแขนรับเราทุกคนในอ้อมกอดของพระ นาง มนุษย์จึงไม่ท้อแท้ ไม่หมดหวัง เมื่อมีความทุกข์เพราะเราไม่ได้ทุกข์เพียงลาพัง เรามี แม่ทุกข์กับเราและเป็นกาลังใจให้เราตลอดเวลา “โอ้พระแม่มารีย์ ขอโปรดจารึกในจิตใจ ของพวกลูก ซึ่งรอยแผลอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์” สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2014


-11-

ข้อคิดเพื่อชีวิต “อดีต คือ ที่ๆ คุณเรียนรู้บทเรียน อนาคต คือ สิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่หากมันจะ เกิดขึ้น มันก็คือ ผลจากการกระทาของเราทั้งในอดีต และในปัจจุบันนี้ที่ๆ คุณนา บทเรียนนั้นไปใช้มันเป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้ว เราจะกลับไปแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงอะไรอีก ย่อมไม่ได้“ “ปัจจุบัน เป็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วได้กลายเป็นบทเรียน สิ่งที่กาลัง เกิดขึ้นเป็นสิทธิ์ที่เรากาหนดเองว่า เราต้องการให้เกิดบทเรียนอะไรเกิดขึ้นเราจึงจะทา อะไรกับมันก็ย่อมทาได้ แต่สิ่งที่เราได้ทาจะกลับกลายเป็นอดีตของวันพรุ่งนี้“ สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คือ การนาเอาบทเรียนที่ได้จากอดีต และปัจจุบัน (ซึ่งจะ กลายเป็นอดีตแล้วเช่นกัน) ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตและการทางานของเรา ดังนั้น อย่าให้เราทาผิดพลาดในวันนี้ เพราะนั่นจะกลายเป็นปัญหาของวันหน้า แต่หากเราได้ทาผิดพลาดไปแล้วก็อย่าถอดใจ ขอให้เรารีบแก้ไขก่อนที่อนาคตจะมาถึง เพราะ…การทาพลาด คือ การกระทาในสิ่งที่ไม่สมควรทา โดยไม่เจตนา การทาผิด คือ การกระทาสิ่งที่ไม่สมควรทา โดยเจตนา หรือตั้งใจ แน่นอนว่า คนเราพอให้อภัยกันได้สาหรับความพลาดพลั้งที่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรกได้ไม่ยาก แต่ก็ไม่ ง่ายนักที่จะให้อภัยการกระทาผิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการทาผิดนั้นอีกซ้าซากขอให้เรา ทุกคนเรียนรู้จักบทเรียนล้าค่าจากอดีตของเรา โดยเฉพาะบทเรียนที่เกิดจากความ ผิดพลาดที่เราทาเอง หรือที่ผู้อื่นกระทาต่อเรา และให้เราดาเนินชีวิตด้วยการประยุกต์ บทเรียนนั้นๆ อย่างเหมาะสมกับสภาวะปัจจุบัน และอนาคตของเรา เพื่อว่าจะเกิดผลดีอัน เป็นพรแก่ตัวของเราเองและของคนมากหลาย โดยเริ่มต้น ณ บัดนี้เลย (ผู้เป็นสุข)

สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2014


-12-

Pope Report การศึกษาพัง! ถ้าครูลงโทษเด็ก พ่อแม่เด็กมาเอาเรื่องทันที ช่วงที่ผ่านมา ผมเห็นข่าวเรื่องครูกับนักเรียนในสังคมไทย ไม่รู้บังเอิญหรือเปล่า พระสันตะปาปาพูดถึงปัญหานี้พอดี และมันก็สอดคล้องกับสิ่งที่เกิดในไทยด้วย ยังไงก็ ลองติดตามกันนะครับ ... คริสตชนแท้จริงจะไม่อวดตัวเป็นคนมีความรู้ แต่จะประกาศว่าเราคือคนบาป มิสซาเช้าวันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน บทอ่านประจามิสซานี้จากจดหมายของ นักบุญเปาโลถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่ 1 ท่านกล่าวว่า “ถ้าท่านใดคิดว่าเป็นคนฉลาดในโลกนี้ ก็จงยอมเป็นคนโง่ เพื่อจะได้เป็นคนฉลาดอย่างแท้จริง เพราะความเฉลียวฉลาดของมนุษย์ ในโลกนี้ เป็นความโง่เขลาเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้า” ส่วนในพระวรสารจากนักบุญ ลูกา นักบุญเปโตรทูลพระเยซูว่า “โปรดไปจากข้าพเจ้าเถิด เพราะข้าพเจ้าเป็นคนบาป” “ดูนักบุญเปาโลเป็นตัวอย่าง ท่านศึกษาหาความรู้จนแตกฉานในยุคนั้น แต่ไม่ เคยป่าวประกาศโอ้อวดภูมิปัญญาของท่านเลย นักบุญเปาโลเลือกทาในสิ่งที่แตกต่าง ออกไป ท่านเลือกหนทางที่ทาให้ตัวเองต้องอับอายด้วยการประกาศว่าท่านเป็นคนบาป เมื่อใดที่เราหลงลืมการได้สัมผัสกับพระคริสตเจ้า เราก็สูญเสียพลังแห่งความเข้มแข็งของ พระคริสตเจ้าไปแล้ว มันทาให้เราพูดเรื่องของพระเจ้าด้วยภาษามนุษย์ ซึ่งมันไร้ค่ามากๆ “ส่วนในพระวรสาร นักบุญเปโตรทูลพระเยซูว่า ‘โปรดไปจากข้าพเจ้าเถิด เพราะ ข้าพเจ้าเป็นคนบาป’ พ่ออยากย้าว่า ถ้าคริสตชนไร้ความสามารถที่จะตระหนักถึงบาป ของตนเอง เขาก็เป็นคริสตชนแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น เขาเป็นคริสตชนที่จืดชืดเฉื่อยชา!” การศึกษายุคนี้แตกสลาย ถ้าครูลงโทษเด็ก พ่อแม่เด็กมาเอาเรื่องทันที วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พระสันตะปาปาทรงเป็นประธานในการประชุมของ “สกอลัส อ็อคกูร์เรนเตส” หน่วยงานของอาร์เจนตินาที่สร้างเครือข่ายการเรียนรู้เพื่อผสาน ความเชื่อทางศาสนาเข้ากับวัฒนธรรมต่างๆ ทั่วโลก สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2014


-13-

โอกาสนี้ พระสันตะปาปาตรัสกับทุกคนว่า “พ่อมีเรื่องอยากแบ่งปันให้ฟัง ตอน พ่อเรียนชั้นประถม ครูได้เรียกคุณแม่ของพ่อไปพบ เพื่อตาหนิเรื่องความประพฤติของ พ่อในชั้นเรียน คุณแม่ของพ่อมาที่โรงเรียนและครูก็ยืนยันหนักแน่นว่าตัวพ่อเองเกเร มาก คุณแม่ได้สั่งให้พ่อ(หมายถึงพระสันตะปาปา)ขอโทษครู ซึ่งพ่อก็ทาตามที่แม่บอก แต่สาหรับทุกวันนี้ ถ้าครูจะลงโทษเด็กล่ะก็ วันต่อมา พ่อแม่ของเด็กจะมาโรงเรียนเพื่อ เอาเรื่องคุณครูทันที ระบบการศึกษามันพังแล้ว! สิ่งที่เกิดขึ้นมันก็เป็นเหมือนสังคมทุก วันนี้ เราต้องซ่อมแซมระบบการศึกษาแล้วล่ะ “เราไม่สามารถปล่อยให้เด็กๆ ติดอยู่กับความเมตตาของวัฒนธรรมทิ้งๆ ขว้างๆ ซึง่ เงินและความรุนแรงมีอานาจเหนือทุกสิ่ง เห็นได้ชัดว่า วัฒนธรรมทิ้งๆ ขว้างๆ ได้นา รากฐานที่ดีออกไปจากสังคม เด็กๆ ต้องอยู่กับวัฒนธรรมทิ้งๆ ขว้างๆ เพราะพวกเขาไม่ได้ รับการศึกษาหรืออาจเป็นได้ว่า พวกเขาไม่เป็นที่ต้องการของพ่อแม่ กล่าวคือ อัตราการ เกิดของประเทศที่พัฒนาแล้วมันต่ามากๆ นี่คือสัญญาณเตือนเลยนะ!เช่นเดียวกัน ผู้สูงอายุ ก็ถูกดูแลแบบทิ้งๆขว้างๆ และพวกเขาก็เข้าสู่ระบบการุญฆาตแบบเงียบๆ นั่นเอง” หลังจากพระสันตะปาปาให้โอวาทเสร็จ ก็เป็นการเชื่อมต่อ “กูเกิ้ล แฮงเอ้าส์” (เหมือนสไกป์) เพื่อทาการคอนเฟอเร๊นซ์คอลล์กับเยาวชนจากตุรกี, เอล ซัลวาดอร์, อิสราเอล, แอฟริกาใต้ และ ออสเตรเลีย โดยพระสันตะปาปาทรงให้เด็กๆ ถาม แล้ว พระองค์จะตอบ หนึ่งในคาถามน่าสนใจคือเยาวชนชาวตุรกี ซึ่งออนไลน์จากนครอิสตันบูล ทูลถาม พระสันตะปาปาว่า“จะเป็นไปได้ไหมครับที่เราจะได้เห็นโลกให้มีความน่าอยู่มากขึ้นกว่านี้” พระสันตะปาปา ตรัสตอบว่า “พ่อไม่มีลูกแก้ววิเศษที่จะมองแล้วบอกว่า โลกจะ ดีขึ้นหรือแย่ลง! พ่อรู้อย่างเดียวว่า โลกจะดีขึ้นได้ด้วยการที่เราช่วยกันทางานอย่าง หนักในการสร้างสันติและความสามัคคี พ่อเชื่อแบบนั้นนะ” อย่าเป็นคริสตชนขี้นินทาและชอบดูถูกเหยียดหยามคนอื่น ช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พระสันตะปาปาทรงนาสวดทูตสวรรค์แจ้งข่าว โดยพระวรสารวันอาทิตย์นี้ พระเยซูทรงสอนเรื่องการตักเตือนแบบพี่น้อง (มธ 18:15-20) สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2014


-14-

พร้อมย้าว่า ความสัมพันธ์ระหว่างคริสตชนกับคริสตชน หรือคริสตชนกับคนต่างศาสนา ต้องเป็นความสัมพันธ์ที่สะท้อนถึงจิตตารมณ์แห่งความรักความเมตตา และเตือนตัวเอง เสมอว่าเราเป็นคนบาป จาเป็นต้องได้รับพระเมตตาจากพระเจ้า พระสันตะปาปาตรัสว่า “บนหนทางแห่งการตักเตือนแบบพี่น้อง สิ่งสาคัญสุด อันดับแรกคือการหลีกเลี่ยงความคึกคะนองของข่าวการนินทาในหมู่คณะ จงหลีกเลี่ยง การพูดจาที่สามารถทาร้ายและฆ่าพี่น้องของเรา พึงระลึกว่า เมื่อเราได้วิจารณ์ด่าทอ แบบไม่ยุติธรรม เมื่อเราสาปแช่งพี่น้องของเราด้วยลิ้น นี่คือการฆ่าชื่อเสียงของคนอื่น ให้ตายไปแล้ว! “การตักเตือนแบบพี่น้องจะช่วยเราให้ปลดปล่อยตัวเราเองจากความโกรธหรือ ความขุ่นเคืองใจซึ่งมีแต่การทาร้ายเพียงอย่างเดียว กล่าวคือ ความขมขื่นของจิตใจได้นา ความโกรธและความขุ่นเคืองในตัวเราไปสู่การดูถูกเหยียดหยามและทาร้ายคนอื่น แต่มัน เลวร้ายกว่านั้นอีก ถ้าหากคาเหล่านี้ออกมาจากปากของคริสตชน มันเลวร้ายมากถ้า การเหยียดหยามและให้ร้ายคนอื่นมาจากคนที่เป็นคริสตชน! เข้าใจใช่ไหม? อย่าพูดจา ดูถูกเหยียดหยามคนอื่นนะ! ถ้าทาแบบนั้น เราก็ไม่ใช่คริสตชน!” พระเยซูไม่เคยเทศน์อยู่บนบัลลังก์ แต่เลือกวิธีอยู่กับสัตบุรุษ มิสซาเช้าวันอังคารที่ 9 กันยายน พระวรสารประจามิสซานี้ เป็นเหตุการณ์ที่พระ เยซูทรงเลือกศิษย์ 12 คน โดยก่อนจะเลือก พระเยซูทรงไปอธิษฐานภาวนาบนภูเขาตลอด ทั้งคืนและหลังจากเลือกศิษย์ 12 คนแล้ว พระเยซูทรงลงมาจากภูเขาเพื่อพบกับประชาชน ที่มาเฝ้าพระองค์ พระสันตะปาปาตรัสแบ่งปันว่า“สิ่งหนึ่งที่เราต้องเตือนใจตัวเองคือเราเป็นคนบาป พระเยซูทรงเลือกคนบาปให้มาเป็นศิษย์ติดตามพระองค์ พวกฟาริสียังกล่าวหาพระเยซู ด้วยเหตุผลนี้เลย ‘ชายคนนี้ไปกินข้าวกับคนบาป เขาคุยกับโสเภณี’ ใช่! พระเยซูทรงเรียก เราทุกคน ในพระวรสาร เราก็ได้ยินแล้วไม่ใช่เหรอในเหตุการณ์งานแต่งงานของเจ้านาย ไม่มีใครมาร่วมงาน นายจึงสั่งให้คนรับใช้ไปตามทุกคนบนท้องถนนให้มาร่วมงาน ไม่ว่าเขา จะเป็นคนดีหรือไม่ดี ให้เรียกมาให้หมด นี่แหละคือสิ่งที่บอกว่า พระเยซูทรงเรียกเราทุกคน สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2014


-15-

อย่าลืมซิ แม้แต่ ยูดาส อิสคาริโอท คนที่ทรยศพระเยซูและเป็นคนบาปหนาที่สุด พระเยซู ยังเป็นคนเลือกให้มาติดตามพระองค์เลย! “จากนั้น พระเยซูเสด็จลงมาจากภูเขาและพบประชาชนที่มาเฝ้ารอ พวกเขามา เพื่อฟังพระองค์ บางคนมาเพื่อให้พระองค์รักษาโรค พระเยซูอยู่ท่ามกลางฝูงชน แต่ พระองค์ไม่ใช่ศาสตราจารย์ ไม่ใช่ธรรมาจารย์ที่อยู่นั่งบนบัลลังก์แล้วเทศน์สอนจากตรง นั้น ไม่! พระองค์ไม่ใช่แบบนั้น แต่พระองค์ทรงเลือกมาอยู่ท่ามกลางฝูงชน พระเยซูให้ ทุกคนได้สัมผัสพระองค์ นี่แหละคือพระเยซูผู้ทรงอยู่ใกล้ชิดฝูงชน การให้คนมาใกล้ชิด แบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่สาหรับพระองค์ พระเยซูทรงย้าเสมอถึงแนวทางการปฏิบัติของ พระองค์ ความใกล้ชิดของพระเจ้าต่อประชากรของพระองค์ ก็คือ ความใกล้ชิดที่ พระเยซูอยู่ใกล้ฝูงชนนั่นเอง” วาติกันประกาศระเบียบใหม่ในการขอใบอวยพรจากพระสันตะปาปา วาติกันออกประกาศอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2015 เป็นต้นไป ใคร ที่ต้องการ “ใบอวยพรจากพระสันตะปาปา” (ใบอวยพรที่พระสันตะปาปาจะมีชื่อของเรา อยู่ในนั้น) จะไม่สามารถหาซื้อจากร้านศาสนภัณฑ์รอบๆ วาติกันอีกต่อไป เพราะสมเด็จ พระสันตะปาปา ฟรังซิส ไม่ต้องการให้นาใบพรไปหากาไรเชิงการค้า โดยวิธีการใหม่ที่พระ สันตะปาปาจะใช้ มี 3 วิธี 1) ติดต่อขอใบพรได้ที่สานักสังคมสงเคราะห์ในสันตะสานัก 2) ติดต่อผ่านสถานเอกอัครสมณทูตวาติกันประจาประเทศของตน 3) ติดต่อขอผ่านออนไลน์ (www.elemosineria.va) ทัง้ นี้ ค่าใช้จ่ายในการขอใบอวยพร พระสันตะปาปาจะบริจาคให้ผู้ยากไร้ โดยผ่าน ทาง พระอัครสังฆราช คอนราด ครายิวสกี้ นักสังคมสงเคราะห์ส่วนพระองค์ อนึ่ง ใบอวยพรจากพระสันตะปาปา ส่วนมากจะเป็นโอกาสการแต่งงาน,ครบรอบ การแต่งงาน หรือการอวยพรครอบครัว AVE MARIA สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2014


-16อา. 21 กย.14

07.00 น. คพ.ศรีปราชญ์

ขอพร ขอพร ขอพร ขอพร ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

09:00 น. คพ. สุชาติ

17.30 น. คพ. สุรชัย

ขอพร ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

จ. 22 กย. 14 06.15 น. คพ. สุชาติ

19.00 น. คพ. สุรชัย

ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

รายการมิสซาประจาสัปดาห์ อาทิตย์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา คุณสุกญ ั ญา ว่องวิไลกุล ขอพร อักแนสชนม์ธชิ า,เทเรซา พนิต ว่องวิไลกุล มารีอา สุกันยา ชาครีย์เวส ขอพร ครอบครัวกิจนิตย์ชีว์,ครอบครัวอุ่นละม้าย อันนา ณัฐณิชา สุขบุญลือ(วันเกิด) ขอพร สุขภาพ อักแนส จินตนา อุกฤษฏ์ คุณปุณยภา ทองประภาส ขอพร สุขภาพ เทเรซา กาญจนา สงวนสุข คุณอรรถพล นิ่มอนงค์(วันเกิด) ขอพร หน้าที่การงาน คุณเตชินต์ รักมนุษย์ เทเรซา ไพจิตร์ ถีระศิลป์ อุทิศ ยวง เสกสรร, ยอห์น กมล รุขพันธ์เมธี ลูซีอา อังเยลา วัลลา ทวีสิน อุทิศ มารีอา สุปรียา พนายางกูร เปโตร ประจวบ เจริญทรัพย์ อุทิศ ยวงบัปติสตา วิชัย วิภาคธารงคุณ มารีอา เซาะเฮียง แซ่ฮ้อ อุทิศ ยอแซฟ กวงหลี แซ่ตั้ง อาคาทา ยินดี เลาหศิริ อุทิศ มารีอา มักดาเลนา เสาวลักษณ์ เปาโล พิสิธฐ์ เลาหศิริ อุทิศ Ngassam Kamdem Franck Afams อันนา พรทิพย์ ไตรอัมพวงศ์ อุทิศ นายสมศักดิ์ สงวนสุข ขอพร สาหรับพี่น้องสัตบุรุษทุกท่าน ทุกครอบครัว ครอบครัวชาญนาสิน ครอบครัวพงษ์ธนานิกร ผู้มีพระคุณต่อโรงเรียนแม่พระ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง ยวง สวน เกาะสุวรรณ์ ยวง ยรรยง วูวงศ์ สมาชิกKBS ที่ล่วงลับ สัปดาห์ที่ 25 แคทรีน ไอยศรา มารีอา สุปรียา พนายางกูร ยวงบัปติสตา เอกพล สกุลศิรพิ จน์ มารีอา กิมห่ง แซ่ตงั้ ,อังเดร ซกเซ็ง ลูซีอา ศศิธร คู่วิรตั น์ (วันเกิด) เซซีลีอา แน่งน้อย อาภรณ์รัตน์ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง ยวง สวน เกาะสุวรรณ์ ยวง ยรรยง วูวงศ์

ขอพร สุขภาพมารีอาศิริพร ชาญนาสิน ขอพร สุขภาพเทเรซา สุญาณี พงษ์ธนานิกร ขอพร สมาชิกคณะอัศวินฯ และครอบครัว อุทิศ ยวงบัปติสตา ก้าน เทียนถวาย อุทิศ มารีอา วิไลลักษณ์ เทียนถวาย อุทิศ แบร์นาแด๊ต ชญานิษฐ์ สีหพล อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ เทศกาลธรรมดา ขอพร ครอบครัวDilodilo อุทิศ มารีอา เล่าเอ็ง แซ่เฮ้ง,ยอแซฟ เซ็งสูง อุทิศ คุณเมธา, คุณพรณรงค์,เซาะเซ็ง แซ่เฮ้ง อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ ขอพร สุขภาพคุณพัฒน์นรี,ฐิติรัตน์ ศุภคติสันติ์ อุทิศ เซซีลีอา อารัณยา คู่วิรัตน์,ญาติผู้ล่วงลับ อุทิศ ยวงบัปติสตา หวล อาภรณ์รัตน์ อุทิศ อันตน จักรพงษ์ ประยงค์รตั น์ อุทิศ พ.ต.อ. สโรจน์, นางนิตถา สีตบุตร

สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2014


-17อ. 23 กย. 14 06.15 น. คพ. สุชาติ

19.00 น. คพ. สุรชัย

ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

พ. 24 กย. 14 06.15 น. คพ. สุชาติ

19.00 น. คพ. สุรชัย

ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ

พฤ.25 กย.14 06.15 น. คพ. สุชาติ

19.00 น. คพ. สุรชัย

ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ

ศ. 26 กย. 14 06.15 น. คพ. สุชาติ

ขอพร อุทิศ อุทิศ

ระลึกถึง น.ปีโอ แห่งปีเอเตรลชีนา พระสงฆ์ แคทรีน ไอยศรา ขอพร ครอบครัว Dilodilo หน้าที่การงานออกัสติน ขอพร ผู้สูงอายุที่เจ็บป่วย เฮเลนา กาญจนา อุทิศ บาทีเมอาส นุกรณ์ มารีอา สุปรียา พนายางกูร อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ ครอบครัวที่มีพระคุณต่อวัด ขอพร พี่น้องชาวไทยที่ถูกเบียดเบียนทางภาคใต้ ยอห์น บัปติสตา ฮกใช้ แซ่ฉวั่ อุทิศ มารีอา สุนีย์ สุริยะนัยชิน ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ คาเบรียล ซุ่นหลี แซ่เฮ้ง ยวง สวน เกาะสุวรรณ์ อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ ยวง บอสโก ไพรัตน์ อรรถมานะ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา แคทรีน ไอยศรา ขอพร เทเรซา จิราภรณ์ ครอบครัวคุณเซ้ง,คุณยุ้ย ขอพร พระสงฆ์, นักบวชชาย-หญิง มารีอา สุปรียา พนายางกูร อุทิศ คุณประจวบ เสนะวีณิน ฟรังซิส ทวน อุทิศ เฮเลนา กาญจนา ครอบครัวนางยุพา คงทองประเสริฐ ขอพร พี่น้องประเทศปากีสถานที่ถูกเบีบดเบียน ยวง สวน เกาะสุวรรณ์ อุทิศ เปาโล มิง่ รุจิพงษ์ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ มารีอา บ่วยเฮีย้ ะ รุจิพงษื ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยวง บอสโก ไพรัตน์ อรรถมานะ สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา แคทรีน ไอยศรา ขอพร หน้าที่การงานออกัสติน นายจิรายุ ตั้งศรีสขุ ขอพร อันนา ขจิตพรรณและลูกหลาน มารีอา สุปรียา พนายางกูร อุทิศ เฮเลนา กาญจนา นายประมินทร์ อุรณลักษณ์ อุทิศ คุณสุมล ศรีประมงค์ มารีอา สุรวี มณีรัตน์ ขอพร ครอบครัว เทเรซา นาตยา มณีรัตน์ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยวง บอสโก ไพรัตน์ อรรถมานะ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ ยวง สวน เกาะสุวรรณ์ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง น. คอสมาและ น. ดาเมียน มรณสักขี มารีอา ดวงใจ ขอพร แคทรีน ไอยศรา มารีอา สุปรียา พนายางกูร อุทิศ เปโตร อานวย กิจประเสริฐ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2014


-18ศ. 26 กย. 14 19.00 น. คพ. สุรชัย

ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ

ส. 27 กย. 14 06.15 น. คพ. สุชาติ

19.00 น. คพ. สุรชัย

ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ

น. คอสมาและ น. ดาเมียน มรณสักขี พี่น้องในประเทศอิรัก ขอพร นางเสาวนีย์ กาแพงแก้วและครอบครัว ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ เปาโล ใช้ (ครบ 28 ปี) ยวง สวน เกาะสุวรรณ์ อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ ยวง บอสโก ไพรัตน์ อรรถมานะ ระลึกถึง น. วินเซนต์ เดอ ปอล พระสงฆ์ มารีอา อารยา ขอพร แคทรีน ไอยศรา มารีอา ลาเจียก พันธุมจินดา อุทิศ ยวง บัปติสตา สวัสดิ์ พันธุมจินดา มารีอา สุปรียา พนายางกูร อุทิศ โทมัส สมชาย, ยอแซฟ อุดมชัย วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง หลุยส์ ธนพงศ์ กุลตังวัฒนา ขอพร วินเซนต์ สุรินทร์, มารีอา สุทธินีย์ กระแสเรียกเยาวชนชาย-หญิง ขอพร ยอแซฟ สุรยี ์ ประเสริฐศรี,ครอบครัว ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยวง บอสโก ไพรัตน์ อรรถมานะ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ ทอมาส ธวัช, เทเรซา จู ศรีสวัสดิ์ ยวง สวน เกาะสุวรรณ์ อุทิศ ยอแซฟ อ๊อน, มารา เง็กเอ็ง แซ่ฉั่ว อันนา องุ่น ประเสริฐศรี อุทิศ เปาโล จั๊ว ประเสริฐศรี

ประชาสัมพันธ์ 1. ตลอดเดือนตุลาคม รณรงค์ การสวดสายประคา สวดสายประคาโลกเขต 2 รวมกันที่วดั นักบุญฟรังซิ สเซเวียร์ สามเสน วันเสาร์ ที่ 4 ตุลาคม เริ่ มตั้งแต่เวลา 8.30 13.00 น. กลุ่มแรกที่สวดคือวัดแม่พระฟาติมาและอีก 3 วัด 2. ค่ ายกระแสเรียกบ้ านเณรยอแซฟ สามพราน วันที่ 4-7 ตุลาคม 2014 เยาวชน ชาย ระดับชั้น ป.5 - ม.3 สัมผัสชีวติ เณร สนใจติดต่อที่ คุณพ่อเจ้าอาวาส และครู คาสอน ทุกท่าน 3. ฝ่ ายงานแพร่ ธรรม ขอเชิ ญคุณพ่อและสัตบุรุษร่ วมฉลองวันแพร่ ธรรมสากล อัครสังฆมณฑลกรุ งเทพฯ วันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2014 ณ วัดแม่พระฟาติมา โดยพระ อัครสังฆราชฟรังซิสเซเวียร์ เกรี ยงศักดิ์ โกวิทวาณิ ช มีพิธีต่างๆ ดังนี้ สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2014


-19-

พิธีมอบกางเขน พระสงฆ์ นักบวช ที่ได้รับการอบรมการประกาศข่าวดี และ มอบวุฒิบตั รอาสาสมัครฆราวาสผูป้ ระกาศข่าวดีประจาวัด มีเสวนาเรื่ อง งานธรรมฑูต “พระศาสนจักรเกิดมาเพื่อออกไป” วิทยากรได้แก่ คุณพ่อวัชศิลป์ กฤษเจริ ญ คุณพ่อวุฒิไกร ชินทร์นลัย คุณพ่อยอดชาย เล็กประเสริ ฐ 4. ขอเชิญพี่น้องร่ วมบริจาค เพื่อช่วยเหลือเด็กศูนย์มาร์ ติน ข้าวสาร อาหาร ขนม ของเล่นเด็ก เสื้ อผ้า และของใช้ต่างๆ ส่ วนเงินสด (ใส่ กล่องหน้าวัดหรื อมอบให้คุณพ่อ) **ประกาศการแต่งงาน**

ประกาศครั้งที่ 1 ฝ่ายชาย : เปโตร วิวัฒน์ รัตนโมรานนท์ บุตร : ยอแซฟ วิษณุ รัตนโมรานนท์+มารีอา จันทิมา วิรยวิทยาวงศ์ ฝ่ายหญิง : นางสาวภณิดา ฤทธิมาศ บุตรี : นายภักดี + นางปรียาภรณ์ ฤทธิมาศ ทัง้ สองจะเข้าพิธีสมรส วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2014 เวลา 14:00 น. ** ผู้ใดทราบข้อขัดขวาง

มีหน้าที่ต้องแจ้งให้พระสงฆ์ทราบ **

ประกาศครั้งที่ 2 ฝ่ายชาย : นายรชตะ สมมิตร บุตร : นายสมหมาย สมมิตร + นางสุหร่าย สมมิตร ฝ่ายหญิง : มารีอา อาไพ มาลาวาลย์ บุตรี : ฟรังซิสโก ปราโมทย์ มาลาวาลย์+นางสาวสุรีรัตน์ เสตะปุระ ทั้งสองจะเข้าพิธีสมรส วันเสาร์ที่ 27 กันยายน 2014 เวลา 10:30 น. ** ผู้ใดทราบข้อขัดขวาง

มีหน้าที่ต้องแจ้งให้พระสงฆ์ทราบ **

สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2014


-20-

คนกลุ่มสุดท้ายจะกลับกลายเป็นคนกลุ่มแรก และคนกลุ่มแรกจะกลับกลายเป็นคนกลุ่มสุดท้าย (มธ 20:16)

สัปดาห์ที่ 25 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน 2014


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.