-1-
ฟาติมาสาร สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลปัสกา วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2016 ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -----------------------------------------------------------------------------------
วัดแม่พระฟาติมา 4080 ถ. อโศก – ดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. 10400 โทร. 02- 245 - 1039, 02- 642 - 9906, 02-642 - 9907, โทรสาร 02 - 246 - 6174 E-mail : fatimachurch13@gmail.com www.fatima.or.th อาทิตย์ที่ 4 เทศกาลปัสกา, วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2016
-2-
จากใจพ่อ พ่อใช้เวลาค่อนข้างยาวสักหน่อยทบทวนชมภาพวี.ดี.โอ.และภาพถ่าย ที่มีผบู ้ นั ทึกไว้เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้วหลังมิสซาเวลา 9:00 น. เป็ นภาพเกี่ยวกับ กิจกรรม “รดน้ าดาหัวผูส้ ู งอายุ” หรื อที่เรี ยกว่า “รดน้ าผูส้ ู งอายุเพื่อขอพร” มี ภาพของพ่ออยูด่ ว้ ยทั้งในฐานะผูร้ ดน้ าขอพรผูใ้ หญ่ และในฐานะผูส้ ู งอายุที่มี ผูค้ นมารดน้ าขอพร นี่คือวัฒนธรรมอันดีงามที่น่ารักน่าประทับใจทั้งกับ “ผูใ้ ห้” และ “ผูร้ ับ” ทั้งกับผูท้ ี่ “รดน้ า” และผูท้ ี่ “รับการรดน้ า” นี่เป็ นช่วงเวลาอัน เหมาะสมที่พ่อจะได้พูดคุยกับพี่นอ้ งถึง “คุณค่าของผูส้ ู งอายุ” ทั้งในกิจกรรม อันดีงามที่ผา่ นมา และในเทศกาลสงกรานต์ที่กาลังดาเนินอยูต่ ลอดอาทิตย์น้ ี พ่อค่อยๆ อ่านเอกสารจดหมายที่ท่านนักบุญจอห์นปอลที่ 2 พระ สันตะปาปาที่พี่นอ้ งรู ้จกั เป็ นอย่างดี พระองค์ท่านอ้างอิงถึงบทเพลงสดุดีบทที่ 71ข้อ 17-18 ในข้อเขียนของท่าน เป็ นข้อความที่เกี่ยวข้องกับผูส้ ู งอายุโดยตรงที่ พ่ออยากให้พี่นอ้ งอ่านและพิจารณาไตร่ ตรองในใจของพี่นอ้ งอย่างจริ งจัง บท เพลงสดุดีดงั กล่าวพูดว่า “ข้าแต่พระเจ้าพระองค์ทรงสั่งสอนข้าพเจ้ามาตั้งแต่ วัยเยาว์ และข้าพเจ้ายังคงประกาศกิจการมหัศจรรย์น่าพิศวงของพระองค์จนถึง บัดนี้ บัดนี้เมื่อข้าพเจ้าชราลง และผมก็เป็ นสี ดอกเลา ข้าแต่พระเจ้า ขอพระองค์ อย่าทรงละทิ้งข้าพเจ้า จนกว่าจะได้ประกาศถึงพระอานุภาพแก่ชนรุ่ นหลัง” พร้อมกับบทเพลงสดุดีน้ ี พระองค์ตรัสว่า “จงเรี ยนรู ้ถึงความเจริ ญเติบโตของ ชีวติ ผูส้ ู งอายุ เข้าให้ถึงพระปรี ชาญาณและความกล้าหาญในชีวติ ของท่าน” เพราะประสบการณ์ในแต่ละช่วงๆ ของชีวติ เป็ นบทเรี ยนอันยากลาบากที่ คนเรากาลังใช้ศิลปะของตนนาพาชีวติ ให้ขา้ มพ้นความยากลาบากในแต่ๆ ละ อาทิตย์ที่ 4 เทศกาลปัสกา, วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2016
-3-
ช่วงของอายุช่วงนั้นๆ ประสบการณ์ท้ งั หมดนี้ถูกเขียนบันทึกไว้แล้วบนชีวติ ของผูส้ ู งอายุแต่ละท่าน จนสะท้อนออกมาในบทเพลงสดุดีที่พระสันตะปาปา ทรงอ้างถึง และจะปล่อยให้ประสบการณ์อนั ทรงคุณค่าดังกล่าวนี้ตายไปพร้อม กับชีวติ ของตนอย่างสู ญเปล่าโดยไม่ถูกถ่ายทอดสู่ ผคู ้ นรุ่ นต่อๆ ไป อย่างนี้จะ ให้ผสู ้ ู งอายุนอนตายตาหลับได้อย่างไร พ่อขอเชิญชวนพี่นอ้ งให้ราพึงไตร่ ตรองถึงบทเพลงสดุดีที่ท่านนักบุญ จอห์นปอล พระสันตะปาทรงอ้างอิงถึงอีกครั้ง “ข้าแต่พระเจ้าพระองค์ทรงสัง่ สอนข้าพเจ้ามาตั้งแต่วยั เยาว์ และข้าพเจ้ายังคงประกาศกิจการมหัศจรรย์น่า พิศวงของพระองค์จนถึงบัดนี้ บัดนี้เมื่อข้าพเจ้าชราลง และผมก็เป็ นสี ดอกเลา ข้าแต่พระเจ้า ขอพระองค์อย่าทรงละทิ้งข้าพเจ้า จนกว่าจะได้ประกาศถึงพระ อานุภาพแก่ชนรุ่ นหลัง” ราพึงไตร่ ตรองจบแล้ว โปรดน้อมรับเอาประสบการณ์ ที่เต็มเปี่ ยมไปด้วยพระปรี ชาญาณของพระเจ้าพร้อมทั้งความแข็งแกร่ งในชีวติ ของท่าน นามาเป็ นแรงบันดาลใจให้ดาเนินชีวติ ก้าวต่อไปสื บต่อจากชีวติ ของ ท่าน ให้ท่านสามารถนอนตายตาหลับเมื่อเห็นพวกเราคนรุ่ นหลังมีอนาคตสื บ สานงานที่ท่านได้เริ่ มสร้างไว้ และโปรดภาวนาให้กบั ผูส้ ู งอายุทุกๆท่านด้วย ช่วยทาให้คาภาวนาที่พวกท่านเคยร้องขอพระเจ้าว่า “ได้โปรดอย่าทรงทอดทิ้ง ข้าพเจ้า” ได้ถูกนามาภาวนาต่อในชีวติ ของเรา โดยภาวนาว่าขอได้โปรด “อย่า ทรงทอดทิ้งพวกท่าน” ด้วยเทอญอาแมน คุณพ่อเปโตร วิทยา แก้วแหวน
อาทิตย์ที่ 4 เทศกาลปัสกา, วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2016
-4วันอาทิตย์ ที่ 4 เทศกาลปัสกา ยน 10:27-30 27 แกะของเราย่อมฟังเสี ยงของเรา เรารู ้จกั มัน และมันก็ตามเรา 28เราให้ชีวติ นิรันดรกับแกะ เหล่านั้น และมันจะไม่พินาศเลยตลอดนิรันดร ไม่มีใครแย่งชิงแกะเหล่านั้นไปจากมือเราได้ 29 พระบิดาของเรา ผูป้ ระทานแกะเหล่านี้ให้เรา ทรงยิง่ ใหญ่กว่าทุกคน และไม่มีใครแย่งชิงไปจากพระ หัตถ์ของพระบิดาได้ 30เรากับพระบิดาเป็ นหนึ่งเดียวกัน ข่ าวดี
**************************
ข้ อคิดจากพระวรสาร โดยคุณพ่อชัยยะ
กิจสวัสดิ์
ชาวยิวทูลถามพระเยซู เจ้าว่า “ท่ านจะปล่ อยให้ ใจของพวกเราสงสัยอยู่นาน เท่ าใด ถ้ าท่ านเป็ นพระคริ สตเจ้ า ก็จงบอกพวกเราให้ ชัดเจนเถิด” (ยน 10:24) พระองค์ตรัสตอบว่า “เราบอกท่านทั้งหลายแล้ วแต่ ท่านไม่ เชื่อ กิจการที่เราทาใน นามของพระบิดาของเราก็เป็ นพยานให้ เรา แต่ ท่านไม่ เชื่ อ เพราะท่านไม่ ใช่ แกะของเรา” (ยน 10:25-26) อันที่จริ ง พระเยซู เจ้าได้บอกหญิงชาวสะมาเรี ยแล้วว่าทรงเป็ น “พระเมสสิ ยาห์ ” (ยน 4:26) และบอกคนตาบอดแต่กาเนิดว่าทรงเป็ น “พระบุตรของพระเจ้ า” (ยน 9:37) และก่อนหน้าพระองค์ ประกาศกอิสยาห์ได้ทานายถึงยุคสมัยของพระเมสสิ ยาห์ ไว้วา่ “นัยน์ ตาของคนตาบอดจะแลเห็น หู ของคนหูหนวกจะได้ ยิน คนง่ อยจะกระโดดได้ อย่ างกวาง และคนใบ้ จะร้ องตะโกนด้ วยความยินดี” (อสย 35:5-6) สิ่ งที่อิสยาห์กล่าวทานายไว้ พระองค์ทรงกระทาแล้วทั้งหมด ! ยิง่ ไปกว่านั้น โมเสสยังได้ทานายไว้ก่อนหน้าอิสยาห์เสี ยอีกว่า พระเจ้าจะทรง แต่งตั้ง “ประกาศก” ผูย้ งิ่ ใหญ่เหมือนท่าน ที่ทุกคนจะต้องเชื่อฟัง (ฉธบ 18:15) ทั้งๆ ที่ชาวยิวได้เห็นและได้ฟังแล้วว่าพระองค์ทรงสอนอย่างผูท้ รงอานาจทั้งใน น้ าเสี ยงและในเนื้อหา ต่างจากประกาศกก่อนหน้านี้ อย่างสิ้ นเชิง อาทิตย์ที่ 4 เทศกาลปัสกา, วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2016
-5-
แต่พวกเขาก็ยงั ไม่เชื่อว่าพระองค์เป็ นประกาศกของพระเจ้า และไม่ยอมรับว่า พระองค์คือพระเมสสิ ยาห์หรื อพระคริ สตเจ้า ผูท้ รงเป็ นพระบุตรของพระเจ้า ! ทั้งนี้เพราะ พวกเขาไม่ ใช่ แกะของพระองค์ ! (ยน 10:26) ตรงกันข้าม หากเป็ นแกะของพระองค์ มันย่ อมฟั งเสียงของพระองค์ ติดตาม พระองค์ และพระองค์ ทรงรู้ จักมันทุกตัวด้ วย (เทียบ ยน 10:27) ในปาเลสไตน์ ชาวยิวเลี้ยงแกะไว้เพื่อตัดขนมากกว่าเป็ นอาหาร แกะแต่ละตัวจึง มีอายุยนื นานและอยูก่ บั คนเลี้ยงจนต่างฝ่ ายต่างรู ้จกั และจากันได้หมด คนเลี้ยงนิยมตั้งชื่อ แกะตามลักษณะของมันเช่น ไอ้ขาลาย นังหู ดา เป็ นต้น ปกติคนเลี้ยงจะเดินนาหน้าฝูง แกะเพื่อดูให้แน่ใจว่าหนทางข้างหน้าปลอดภัย และคอยส่ งเสี ยงร้องเป็ นครั้งคราวเพื่อให้ แกะรู ้ตาแหน่ง แกะจะฟังเสี ยงและติดตามคนเลี้ยงเสมอ หากได้ยนิ เสี ยงที่ไม่คุน้ เคย พวก มันจะหยุดอยูก่ บั ที่ และจะหันหลังวิง่ หนีทนั ทีหากเสี ยงที่ไม่คุน้ เคยดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง สาหรับ “แกะของพระเยซูเจ้ า” ซึ่ งฟังเสี ยงและติดตามพระองค์ นัน่ คือเชื่อและ ยอมรับว่าพระองค์คือ “พระคริ สตเจ้ าผู้ทรงเป็ นพระบุตรของพระเจ้ า” พระองค์ทรง สัญญาจะประทาน 3 สิ่ งคือ 1. ชีวติ นิรันดร ดังที่ทรงตรัสว่า “เราให้ ชีวิตนิรันดรกับแกะเหล่ านั้น” (ยน 10:28) หากเราเชื่อ ยอมรับพระองค์เป็ นพระคริ สตเจ้า และกลายเป็ นสมาชิกในฝูงแกะ ของพระองค์ เราจะรับรู ้ได้ทนั ทีวา่ สิ่ งต่างๆ ในโลกนี้ดอ้ ยค่าเพียงใดเมื่อเทียบกับความ รุ่ งโรจน์และความยิง่ ใหญ่ของชีวติ นิ รันดร เพราะชีวิตนิรันดรก็คือ “ชีวิตแบบเดียวกับพระเจ้ า” นั่นเอง ! 2. ชี วติ ทีไ่ ม่ สิ้นสุ ด เพราะแกะของพระองค์ “จะไม่ พินาศเลยตลอดนิรันดร” (ยน 10:28) ผูท้ ี่ฟังเสี ยงของพระองค์จึงมัน่ ใจได้วา่ “ความตาย” ไม่ใช่การจบสิ้ น แต่เป็ นการ เริ่ มต้นของ “ชีวิต” ใหม่อนั รุ่ งโรจน์ซ่ ึ งไม่มีผใู ้ ดสามารถทาลายให้พินาศไปได้ อาทิตย์ที่ 4 เทศกาลปัสกา, วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2016
-6-
3. ชีวติ ทีม่ ั่นคง ชนิดที่ “ไม่ มใี ครแย่ งชิ งแกะเหล่ านั้นไปจากมือเราได้ ” (ยน 10:28) เมื่อพระองค์ทรงปกป้ องแกะของพระองค์มิให้ผใู ้ ดแย่งชิงไปได้เช่นนี้ ชีวิตของ เราจึงมีความมัน่ คงสู งสุ ด ! แต่ท้ งั นี้มิได้หมายความว่าชีวิตของเราจะรอดพ้นจากความเศร้าโศกเสี ยใจ หรื อ จากความทุกข์ยากและความตาย แต่หมายความว่าในห้วงเวลาอันแสนมืดมิดและ เจ็บปวด เรามัน่ ใจได้เต็มร้อยว่า “พระหัตถ์ อันอบอุ่นและทรงฤทธิ์ ของพระองค์ ทรงโอบ อุ้มเราอยู่เสมอ” คาถามคือ ทาไมพระเยซูเจ้ าจึ งทรงมัน่ ใจและกล้ าสัญญาจะประทานสิ่ งที่ยิ่งใหญ่ ปานนี ้ ? พระองค์ ทรงวางใจในฤทธิ์ อานาจของพระองค์ เองมากเกินไปหรื อไม่ ? เกี่ยวกับประเด็นนี้ พระองค์ทรงตอบคาถามไว้อย่างชัดเจนว่า “พระบิดาของเรา ผู้ประทานแกะเหล่ านีใ้ ห้ เรา ทรงยิ่งใหญ่ กว่ าทุกคน และไม่ มใี ครแย่ งชิ งไปจากพระหัตถ์ ของพระบิดาได้ ” (ยน 10:29) แปลว่า เบือ้ งหลังความวางใจอย่ างเต็มเปี่ ยมของพระองค์ คือ “พระบิดา” ! เป็ นพระบิดาเองที่ทรงมอบแกะให้ แก่ พระองค์ ! เป็ นพระบิดาเองที่ทรงยื่นพระหัตถ์ ออกมาปกป้องแกะของพระองค์ ! พระบิดาทรงเปี่ ยมด้ วยฤทธิ์อานาจและทรงยิง่ ใหญ่ ทสี่ ุ ด ! เพราะฉะนั้น พระองค์ ไม่ ได้ วางใจในฤทธิ์ อานาจของพระองค์ เอง แต่ ทรงวางใจ ในพระบิดาล้ วน ๆ !!! นี่คือพระเยซูเจ้ า !!! พระองค์ แสนสุภาพถ่ อมตนและวางใจในพระบิดาอย่ างสุด ๆ แล้วเรายังคิดจะเป็ นศิษย์ลา้ งครู ด้วยการวางใจและพึ่งพาความสามารถตาม ประสามนุษย์ของตนเองล้วน ๆ ต่อไปอีกหรื อ ?
อาทิตย์ที่ 4 เทศกาลปัสกา, วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2016
-7-
ที่สุด พระเยซู เจ้าทรงเปิ ดเผยความจริ งอันยิง่ ใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับพระองค์เอง นัน่ คือ “พระองค์ กบั พระบิดาทรงเป็ นหนึ่งเดียวกัน” (เทียบ ยน 10:30) นักปรัชญาและนักเทวศาสตร์ ได้คิดค้นคาเฉพาะคือ hypostasis ขึ้นมาเพื่ออธิ บาย ว่าทั้งสองพระองค์ทรงมี “แก่ นสาร” หรื อ “สาระสาคัญ” เดียวกัน ฟังดูรื่นหู แต่ก็ยงั เป็ นธรรมล้ าลึกที่เข้าใจได้ยาก หรื ออาจไม่มีทางเข้าใจได้เลย ! จึงอยากให้เราหันกลับมาอ่านพระวรสาร เพื่อค้นหาความหมายที่ง่ายและชัดเจน ว่าพระองค์ทรงหมายถึงสิ่ งใดเมื่อตรัสว่า “เรากับพระบิดาทรงเป็ นหนึ่งเดียวกัน” หลังอาหารค่าครั้งสุ ดท้าย พระเยซู เจ้าทรงอธิ ษฐานภาวนาเพื่อบรรดาศิษย์ของ พระองค์วา่ “ข้ าแต่ พระบิดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ โปรดเฝ้ ารั กษาบรรดาผู้ที่ทรงมอบให้ ข้าพเจ้ าไว้ ในพระนามของพระองค์ เพื่อเขาจะได้ เป็ นหนึ่งเดียวกันเหมือนกับพระองค์ และข้ าพเจ้ า” (ยน 17:11) และอีกตอนหนึ่ง พระองค์กล่าวว่า “พระสิ ริร่ ุ งโรจน์ ที่พระองค์ ประทานให้ ข้ าพเจ้ านั้น ข้ าพเจ้ าได้ ให้ กับเขา เพื่อให้ เขาเป็ นหนึ่งเดียวกันเช่ นเดียวกับที่พระองค์ และ ข้ าพเจ้ าเป็ นหนึ่งเดียวกัน” (ยน 17:22) แปลว่า พระองค์ ทรงมองความเป็ นหนึ่งเดียวกันระหว่ างบรรดาศิษย์ ว่า“เหมือน” กับความเป็ นหนึ่งเดียวกันระหว่ างพระองค์ กับพระบิดา ! แต่เนื่ องจากความเป็ นหนึ่งเดียวกันระหว่างบรรดาศิษย์มีเคล็ดลับอยูท่ ี่คาสั่ง “ให้ ท่ านรั กกัน เรารั กท่ านทั้งหลายอย่ างไร ท่ านก็จงรั กกันอย่ างนั้นเถิด” (ยน 13:34) “ความรัก” จึงเป็ นบ่อเกิดของความเป็ น “หนึ่งเดียว” ! บรรดาศิษย์เป็ นหนึ่งเดียวกันเพราะ “รั กกัน” ฉันใด พระเยซูเจ้าและพระบิดา ทรงเป็ นหนึ่งเดียวกันก็เพราะทรง “รั กกัน” ฉันนั้น ! นี่คือคาอธิ บายว่า “เรากับพระบิดาทรงเป็ นหนึ่งเดียวกัน” หมายความว่าอะไร ! ประเด็นถัดไปคือ แล้วเราจะพิสูจน์ “ความรัก” ของเราได้อย่างไร ? อาทิตย์ที่ 4 เทศกาลปัสกา, วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2016
-8-
พระเยซู เจ้าตรัสว่า “ถ้ าท่ านปฏิ บัติตามบทบัญญัติของเรา ท่ านก็จะดารงอยู่ใน ความรั กของเรา เหมือนกับที่เราปฏิ บัติตามบทบัญญัติของพระบิดาของเรา และดารงอยู่ ในความรั กของพระองค์ ” (ยน 15:10) และอีกครั้งหนึ่งว่า “ถ้ าท่ านทั้งหลายรั กเรา ท่ านจะ ปฏิ บัติตามบทบัญญัติของเรา” (ยน 14:15) เห็นได้ชดั เจนว่า บทพิสูจน์ความรักที่พระองค์ทรงเรี ยกร้องจากเราคือการปฏิบตั ิ ตามบทบัญญัติของพระองค์ หรื อกล่าวอีกนัยหนึ่งคือทรงปรารถนาให้เรา “นบนอบเชื่ อฟัง” พระองค์ ! ทั้งหมดนี้นามาสู่ บทสรุ ปที่วา่ ... เมื่อพระเยซู เจ้าตรัสว่า “เรากับพระบิดาเป็ นหนึ่งเดียวกัน” พระองค์กาลังบอก เราว่า “พระองค์ ทรงรั กพระบิดาจนถึงที่สุด และทรงพิสูจน์ ความรั กของพระองค์ ด้วยการ นบนอบเชื่ อฟั งพระบิดาจนกระทั่งยอมตาย แม้ เป็ นความตายบนไม้ กางเขน” สาหรับพระองค์ ความเป็ นหนึ่งเดียวกันจึงหมายถึง ความรัก และการนบนอบ เชื่อฟัง ! เมื่อ “เราเป็ นหนึ่งเดียวกับพระเยซูเจ้ า” โดยเฉพาะเมื่อรับศีลมหาสนิท เรากล้า ทูลพระองค์หรื อไม่วา่ ... ลูกรั กพระองค์ สุดชี วิต ลูกพร้ อมนบนอบเชื่ อฟังพระองค์ ลูกพร้ อมดาเนินชี วิตตามพระประสงค์ ของพระองค์ ลูกพร้ อมตายต่ อตนเองเพือ่ ดาเนินชี วิตเหมือนพระองค์ ?
อาทิตย์ที่ 4 เทศกาลปัสกา, วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2016
-9-
Pope Report ความสามัคคีทีเ่ กิดจากเงิน สุดท้ายจะทาให้เราแตกแยกกัน มิสซาเช้ าวันที่ 5 เมษายน บทอ่านประจามิสซานี้จากหนังสือกิจการอัครสาวก เป็ นเหตุการณ์ท่กี ลุ่มผู้มีความเชื่อดาเนินชีวิตเป็ นหนึ่งเดียวกัน ไม่คิดว่าสิ่งที่ตนมีเป็ น กรรมสิทธิ์ของตน แต่เป็ นของส่วนรวม ไม่มีผ้ ูใดขัดสน เพราะทุกคนแบ่งปันสิ่งต่างๆ แก่กนั พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า “คาพูดเดียวที่สรุปความรู้สกึ และวิถีการ ดาเนินชีวิตของคริสตชนยุคแรกเริ่มก็คือคาว่าความสามัคคี พวกเขาดาเนินชีวิตเป็ น หนึ่งเดียวกันอย่างแท้จริง ทั้งหมดตั้งอยู่บนการแบ่งปันคุณค่าและความเป็ นอยู่ท่ดี ีเพื่อ ผลประโยชน์ของทุกคน อย่างไรก็ตาม ความสามัคคีซ่ึงรวบรวมคริสตชนยุคแรกเริ่มไว้ เป็ นผลมาจากพระคุณของพระจิต มันไม่ใช่ผลงานของมนุษย์หรือเกิดจากรูปแบบของ การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ “พวกเราสามารถต่อรองสันติภาพ แต่ความสามัคคีคือพระหรรษทานภายใน จิตใจซึ่งพระจิตเท่านั้นที่ประทานให้ ได้ กลุ่มคริสตชนยุคแรกเริ่มดาเนินชีวิตร่วมกันด้ วย ความสามัคคี มันมีเครื่องหมายสองสิ่งที่เกี่ยวกับความสามัคคี นั่นคือ มันไม่มีความ ต้ องการครอบครองสิ่งของแต่เพียงผู้เดียว และสองทุกสิ่งมีแต่แบ่งปันกัน “สิง่ นี้ ทาให้เรารูส้ ึกถึงอะไร คาตอบคือพวกเขามีหวั ใจเดียวกัน มีจิต วิญญาณเดียวกัน และไม่มีใครมองว่าตนเองเป็ นเจ้าของสิง่ ของใดๆ แต่ทุกสิง่ ต้อง แบ่งปั นกัน นีแ่ หละคือความสามัคคีทีแ่ ท้จริงจากพระจิ ต ซึ่งแตกต่างสิ้ นเชิงกับ ความสามัคคีทีม่ าจากเงิน เพราะเงินคือศัตรูของความสามัคคี เงินคือบ่อเกิดของ ความเห็นแก่ตวั “พระเจ้าและเงินคือเจ้านายทีไ่ ปด้วยกันไม่ได้ พ่อย้ าเลยนะ เราจะรับใช้พระ เจ้าและเงินไปพร้อมกันไม่ได้เด็ดขาด นอกจากนี้ พ่อขอเตือนว่า อย่าสับสนเด็ดขาด ระหว่างความสามัคคีกบั ความสงบ “กลุ่มคริสตชนสามารถสงบเงียบได้ เรือ่ งพวกนี้ ถือว่าโอเค แต่บางที ความ เงียบไม่ใช่ความสามัคคี ครั้งหนึง่ พ่อเคยได้ยินพระสังฆราชพูดว่า ‘ในสังฆมณฑล อาทิตย์ที่ 4 เทศกาลปัสกา, วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2016
-10-
เราเงียบดี แต่ถา้ คุณไปแตะปัญหาใดเข้าล่ะก็ ไม่ว่าจะเป็ นปัญหานั้นหรือปัญหานี้ สงครามจะปะทุุขึ้นทันที’ นีค่ ือความสามัคคีทีเ่ กิดจากการเจรจา ไม่ใช่ความสามัคคี ทีเ่ กิดจากพระจิ ต มันเป็ นความสามัคคีแบบเสแสร้งชัดๆ “ดังนั้น ขอให้ เรากลับไปอ่านหนังสือกิจการอัครสาวกอีกครั้ง เพื่อจะได้ เข้ าใจ ถึงความสาคัญของความโอบอ้ อมอารีแบบพี่น้องกันและร่วมกันเป็ นประจักษ์พยานผ่าน ทางการดาเนินชีวิตของเรา ความสามัคคีของพระจิตจะทาให้ เราเกิดความโอบอ้ อมอารี และไม่หวังครอบครองสิ่งใดคนเดียว ขณะที่คนอื่นยังต้ องการการแบ่งปันอยู่” ประเทศชาติตอ้ งการวีรบุรุษ พระศาสนจักรต้องการประจักษ์พยานและมรณสักขี มิสซาเช้ าวันที่ 7 เมษายน บทอ่านประจามิสซานี้จากหนังสือกิจการอัครสาวก เป็ นเหตุการณ์ท่เี ปโตรประกาศในสภาซันเฮดรินว่า “เราต้ องเชื่อฟังพระเจ้ า ยิ่งกว่าเชื่อ ฟังมนุษย์” สิ่งนี้ทาให้ ทุกคนในนั้นรู้สกึ โกรธและอยากจะฆ่าบรรดาอัครสาวกมาก พระสันตะปาปาตรัสแบ่งปันว่า “ความกล้าหาญของเปโตรในครั้งนี้ ช่าง แตกต่างอย่างสิ้ นเชิงจาก ‘เปโตร คนขี้ ขลาด’ ซึ่งปฏิเสธพระคริสตเจ้าสามครั้งใน คืนวันพฤหัสฯศักดิ์สิทธิ์ แต่ตอนนี้ เปโตรกลับกลายเป็ นคนเข้ มแข็งในการเป็ น ประจักษ์พยาน นี่แหละคือการเป็ นประจักษ์พยานตามแบบฉบับคริสตชน นี่คือการเป็ น ประจักษ์พยานในการติดตามพระเยซูแม้ จะต้ องสละชีวิตของตนเองก็ตาม “ความสอดคล้ องกันระหว่างการดาเนินชีวิตของเรากับสิ่งที่เราได้ ยินได้ เห็น ถือ เป็ นการเริ่มต้ นของการเป็ นประจักษ์พยานอย่างแท้จริง ถ้ าไม่มีพระจิต เราจะไม่ สามารถเป็ นประจักษ์พยานตามแบบฉบับคริสตชนได้ เลย เพราะการเป็ นประจักษ์ พยานที่แท้ จริงคือความมั่นคงสม่าเสมอในการดาเนินชีวิต เราต้องสมา่ เสมอในสิง่ ที่ พูดและสิง่ ทีท่ า นีถ่ ึงเป็ นความกล้าหาญตามแบบคริสตชน และนีค่ ือการเป็ น ประจักษ์พยานทีแ่ ท้จริง “เมื่อเราสม่าเสมอในสิ่งที่พูดและทา นี่ยังเป็ นการเป็ นประจักษ์พยานแบบมรณ สักขี ทุกวันนี้ มีมรณสักขีมากมายที่ต้องถูกขับไล่ออกจากบ้ านเกิดของตนและถูก เบียดเบียนข่มเหง พวกเขาเหล่านี้มีความกล้ าหาญที่จะประกาศความเชื่อในพระเยซูแม้ จะต้ องตายก็ตาม พวกเขาเหล่านี้คือคริสตชนที่ดาเนินชีวิตอย่างเคร่งครัด เขาประกาศ อาทิตย์ที่ 4 เทศกาลปัสกา, วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2016
-11-
อย่างชัดเจนว่า ‘ผมทาแบบนี้ไม่ได้ มันผิด! ผมทาเลวแบบนี้ไม่ได้ ผมโกงเขาไม่ได้ ผม ดาเนินชีวิตแบบหน้ าไหว้ หลังหลอกไม่ได้ เพราะผมต้ องเป็ นประจักษ์พยานถึงพระเจ้ า!’ “จากประวัติศาสตร์ในอดีต เราได้ยินกันบ่อยว่า ประเทศชาติตอ้ งการ วีรบุรุษ ใช่ ตอนนี้ ยังเป็ นแบบนั้น แล้วพระศาสนจักรล่ะ เราต้องการอะไร คาตอบคือ เราต้องการประจักษ์พยานและมรณสักขี เราต้องการคนทีด่ าเนินชีวิตอย่างยืนหยัด มันคงและเป็ ่ นประจักษ์พยานไปจนวาระสุดท้ายของชีวิต” เวลาทาบุญให้ทาน อย่าทาเพือ่ หวังคาสรรเสริญเยินยอ วันเสาร์ท่ี 9 เมษายน พระสันตะปาปาทรงออกมาเทศน์สอนสัตบุรุษในการเข้ า เฝ้ าทั่วไป ซึ่งจัดขึ้นเป็ นพิเศษทุกวันเสาร์โอกาสปี ศักดิ์สทิ ธิ์แห่งเมตตาธรรม โดยวันนี้ พระสันตะปาปาทรงสอนเกี่ยวกับความเกี่ยวข้ องของความเมตตาและการทาบุญให้ ทาน พระสันตะปาปาตรัสว่า “การทาบุญให้ ทานมีความสัมพันธ์กบั ความเมตตาเป็ น อย่างมาก ในพระคัมภีร์ พระเจ้ าทรงเรียกร้ องเราให้ ดูแลผู้ยากไร้ ผู้ขัดสน ผู้กาพร้ า และ หญิงม่าย อย่างไรก็ตาม การที่พระเจ้ าเรียกร้ องให้ ทาบุญ พระองค์ทรงสั่งไว้ ชัดเจนว่า ‘เมือ่ ท่านทาบุญให้ทาน จงทาด้วยความใจกว้าง อย่าทาด้วยหัวใจทีข่ ี้ เหนียว เด็ดขาด’ สิ่งนี้หมายความว่า เหนือสิ่งอื่นใดนั้น ความรักความเมตตาเรียกร้ องทัศนคติ ที่เปี่ ยมด้ วยความชื่นชมยินดีในจิตใจ มันคือการมอบความเมตตาให้ คนอื่น ไม่ใช่มอบ ภาระอันหนักอึ้งหรือสร้ างปัญหาให้ คนอื่น “นอกจากนี้ พ่อยังอยากเตือนเราทุกคนว่า การทาบุญไม่ควรทาเพือ่ หวัง คา สรรเสริญและชื่นชมจากคนอื่น นีไ่ ม่ใช่การโชว์ตวั พระเยซู ทรงสอนเราว่า เวลา ทาบุญให้ทาน จงทาเงียบๆ พระเจ้าจะมองเห็นและตระหนักถึงคุณค่าของสิง่ ที่เรา ทา “อีกสิ่งที่พ่ออยากบอกก็คือ การทาบุญให้ ทานเกี่ยวข้ องกับการเสียสละ เพื่อเรา จะได้ ร่วมเป็ นหนึ่งเดียวกับผู้ต้องการความช่วยเหลือ อาทิ การอดบางอย่าง เพื่อนาเงิน ไปช่วยเหลือคนยากไร้ พ่อจึงอยากใช้ โอกาสนี้ ขอร้ องบรรดาผู้ปกครอง สอนลูกให้ มี ความใจกว้ างและรู้จักเสียสละเพื่อช่วยเหลือคนที่ตกทุกข์ได้ ยากด้ วย” AVE MARIA อาทิตย์ที่ 4 เทศกาลปัสกา, วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2016
-12-
มรณสักขีในเมืองผู้ดี โดย ดร. วรรณี ย ์ ลิขิตธรรม
กษัตริ ยเ์ ฮนรี่ ที่ 8 แห่งอังกฤษทรงต้องการให้พระสันตะปาปา ประกาศการ แต่งงานของตนกับคัธริ นแห่ งอาเรกอนเป็ นโมฆะ เพื่อที่ตนจะได้มีอิสระแต่งงานใหม่กบั แอนโบลีน แต่พระสันตะปาปาทรงปฏิเสธ ดังนั้น ปี ค.ศ. 1534 สภาอังกฤษจึงได้ ผ่าน พระราชบัญญัติตัดสั มพันธไมตรีกบั โรม ตั้งแต่น้ นั มวลชนทั้งฆราวาสและนักบวชถูก บังคับให้ยอมรับกษัตริ ยเ์ ฮนรี่ ที่ 8 เป็ นประมุขของคริ สตจักรใหม่ที่เรี ยกว่าแองกลิกนั อารามสงฆ์และซิ สเตอร์ ถูกสั่งให้ปิดหมด นักบวชถูกบังคับให้สึกออกเป็ นฆราวาส ผูท้ ี่ ขัดขืนก็ตอ้ งตาย หรื อหนีตายออกนอกประเทศ ค.ศ. 1556 หนูนอ้ ย มาร์ กาเรต มิดเดิลตัน เกิดที่เมืองยอร์ ค ทางเหนือของ อังกฤษ ในครอบครัวโปรเตสตันท์ พออายุ 15 ปี เธอก็ได้แต่งงานกับพ่อค้าขายหมู ฐานะ ดี ชื่อจอห์ น คลิทเธอโร (John Clitherow) ซึ่ งเป็ นโปรเตสตันท์เช่นกัน แต่เขาก็มีพี่ชาย เป็ นพระสงฆ์คาทอลิก ช่วงเวลานั้นชาวอังกฤษไม่สามารถทากิจศรัทธาแบบคาทอลิก เช่น เข้าร่ วมในพิธีบูชามิสซา หรื อรับศีลอภัยบาป หรื อจะไปบวชเป็ นพระสงฆ์เป็ นซิ สเตอร์ ไม่ได้เลย ถือว่าทาผิดกฎหมาย มิหนาซ้ ากฎหมายยังบังคับให้ทุกคนต้องเข้าร่ วม ในจารี ตพิธีแบบแองกลิกนั ที่โบสถ์ในท้องที่ของตนทุกๆ วันอาทิตย์และวันฉลอง ใครที่ ไม่เข้าร่ วมถือว่าทาผิดกฎหมาย จะต้องถูกปรับหรื อจาคุก หรื อทั้งปรับทั้งจา หลังจากมาร์ กาเรตแต่งงานได้ 3 ปี ขณะนั้นเธออายุ 18 ปี เธอได้กลับใจเป็ นคาทอลิกอย่างลับๆ โดย ได้รับความช่วยเหลือจากภรรยาแพทย์ที่เธอรู ้จกั หญิงผูน้ ้ ีเป็ นคาทอลิกใจศรัทธา เขาเปิ ด คลินิคทาคลอดเพื่อช่วยแม่ให้คลอดลูกอย่างปลอดภัยและถูกหลักการแพทย์ ที่สาคัญกว่า นั้น คือ เด็กทารกแรกเกิดก็จะได้รับศีลล้างบาปเป็ นคาทอลิกด้วย และถ้ามีพระสงฆ์ที่ถูก ทางการตามล่าผ่านมา ภรรยาของแพทย์ก็จะส่ งข่าวทานองว่าให้มาร์ กาเรตมาช่วยทา คลอดที่คลินิคเธอ เพื่อจะไม่เป็ นที่สงสัยของเพื่อนบ้าน ด้วยวิธีน้ ีมาร์ กาเรตจึงได้เรี ยนรู ้ คาสอนกับพระสงฆ์ อาทิตย์ที่ 4 เทศกาลปัสกา, วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2016
-13-
หลังจากภรรยาแพทย์ถูกจับและติดคุกในปี ค.ศ. 1581 แล้ว มาร์ กาเรตก็ใช้บา้ น ของตนเป็ นศูนย์กลางของชาวคาทอลิกเป็ นแห่งแรกในเมืองยอร์ ค ที่นี่พระสงฆ์มาหลบ ภัยได้และบรรดาคาทอลิกก็จะมาร่ วมในบูชามิสซาอย่างลับๆ และถ้ารู ้วา่ ปลอดภัยเธอจะ เลี้ยงอาหารเช้าทุกคนด้วยความเต็มใจหลังมิสซา บ้านของเธอเป็ นบ้านติดกัน 2 หลัง เธอ จึงจัดห้องชั้นบนให้พระสงฆ์พกั และเป็ นห้องซาคริ สตีไปด้วย เธอทาทางเดินลับจาก บ้านหนึ่งไปยังอีกบ้านหนึ่งโดยไม่มีใครรู ้เลย เพื่อว่าถ้ามีตารวจมาค้นบ้าน พระสงฆ์ สามารถเดินหลบไปยังห้องของอีกบ้านหนึ่งได้ เธอมีลูกชาย 2 คนและลูกสาว 1 คน เธอ ได้จดั ให้ครู คาทอลิกมาสอนลูกๆ และให้เด็กๆ ในละแวกนั้นมาร่ วมเรี ยนได้ เธอรู ้ดีวา่ สิ่ ง ที่เธอกาลังทาอยูท่ ้ งั หมดนั้นล้วนแล้วแต่เป็ นสิ่ งผิดกฎหมาย ถ้าทางการจับได้วา่ เธอให้ที่ พักพิงแก่พระสงฆ์ที่พวกเขากาลังตามล่า เธอต้องรับโทษตายสถานเดียว ครั้งหนึ่งเธอ พูดว่า “ฉันไม่ กลัวทีจ่ ะรับใช้ พระเจ้ า ถ้ ามีพระสงฆ์ของพระเจ้ าทีก่ ล้าเสี่ ยงภัยเดินทาง มาถึงบ้ านฉัน ฉันจะไม่ มีวนั ปฏิเสธท่านเลย” ก่อนหน้านี้จนถึงปี 1585 มาร์ กาเรต ติดคุกไปแล้ว 3 ครั้งและถูกปรับเป็ นเงิน จานวนไม่นอ้ ยเลย โทษฐานไม่เข้าร่ วมในพิธีกรรมทางศาสนาที่โบสถ์ของแองกลิกนั ตามที่กฎหมายกาหนด แทนที่จะกลัว เธอกลับมีความยินดีและศรัทธาร้อนรนมากขึ้น แม้จะอยูท่ ่ามกลางอันตราย มาร์ กาเรตกลับมองหาโอกาสที่จะแบ่งปั นความเชื่ อศรัทธา กับคนอื่นๆ และคอยให้กาลังใจเพื่อนพี่นอ้ งคาทอลิกด้วยกัน เธอเป็ นคนร่ าเริ งและเป็ น มิตรกับทุกคน จึงเป็ นที่ชื่นชอบของทุกคน วิญญาณรักษ์ของเธอเปิ ดเผยภายหลังว่า “พวกเขาไม่ลงั เลใจที่จะเข้าหาเธอเพื่อขอความช่วยเหลือ ขอคาปลอบใจ และขอคา แนะนาในยามที่มีปัญหา เมื่อมาร์ กาเรตเปิ ดบ้านต้อนรับพระสงฆ์ล้ ีภยั เธอได้ปรึ กษาคุณพ่อวิญญาณรักษ์ ถามท่านว่าเธอทาโดยไม่บอกสามีได้ไหม คุณพ่อตอบว่าทาได้ และเพื่อความปลอดภัย ของเขา เขาไม่ควรมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่ องนี้ แต่คุณพ่อก็บอกกับเธอด้วยว่า “ลูกต้ อง เตรียมคอไว้สาหรับเชื อกนะ” (ต่อฉบับหน้า) อาทิตย์ที่ 4 เทศกาลปัสกา, วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2016
-14-
การสวดภาวนา การภาวนาคือ การพูดคุย สนทนา บอกเล่าทุกข์สุขหรื อเรื่ องราวต่างๆ ของเรา แด่พระและรับฟังว่าพระจะบอกอะไรกับเรา เป็ นการสร้างความสัมพันธ์และมีความ สัมพันธ์อนั ดีชิดสนิทระหว่างเรากับเพื่อนมนุษย์และพระเจ้า จุดประสงค์ ของการภาวนา - เพื่อสรรเสริ ญเทิดทูน ถึงความยิง่ ใหญ่ และความรักของพระ - เพื่อขอบพระคุณ ถึงความรักเมตตา และความช่วยเหลือที่พระมอบให้ - เพื่อวิงวอนขอ ในสิ่ งที่เราต้องการจากพระองค์ - เพื่อขอโทษพระ ในสิ่ งที่เราทาผิดพลาดไป รู ปแบบของการภาวนา 1. การภาวนาโดยใช้บทสู ตร (ใช้เสี ยง) ทัว่ ไปเราจะสวดร่ วมเป็ นหมู่คณะ 2. การภาวนาด้วยใจ เราสวดหรื อพูดคุยกับพระจากใจ เราคิดอะไร รู ้สึกอย่างไรเรา ก็บอกกับพระในใจ 3. การราพึงภาวนา เรานัง่ นิ่งๆ เงียบๆ อยูก่ บั พระ รอรับฟังว่าพระจะบอกอะไรกับ เราด้วยความเชื่อ ความวางใจและรักพระ (โดยทัว่ ไป เราจะนาข้อความจากพระคัมภีร์ มาอ่านช่วยในการราพึง) ยิง่ เราภาวนา พูดคุย บอกเล่าทุกข์สุขกับพระ และรับฟัง เชื่อ รวมทั้งปฏิบตั ิตาม พระวาจาของพระเราก็ยงิ่ ใกล้ชิดสนิทกับพระมากขึ้นเท่านั้น และก็ยงิ่ ได้รับพระหรรษทานเพือ่ ช่วยให้เราไม่แพ้การประจญของบาป ไม่ตกในบาป มีชีวติ เหนือธรรมชาติชีวิต พระหรรษทาน เพื่อช่วยให้สามารถเอาตัวรอดไปสวรรค์ได้ รวมทั้งช่วยผูอ้ ื่นให้ไม่ตก ในบาปสู ญเสี ยชีวติ พระหรรษทาน และเอาตัวรอดไปสวรรค์ดว้ ยเช่นกัน http://nsdiocese.or.th/Cathechism อาทิตย์ที่ 4 เทศกาลปัสกา, วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2016
-15-
รายการมิสซาประจาสั ปดาห์ อา. 17 เม.ย.16
07:00 น. คพ. สุชาติ
อาทิตย์ที่ 4 เทศกาลปัสกา ขอพร ตามจุดประสงค์ของผู้ขอ ขอพร ครอบครัวคุณมาลีรัตน์ และลูกทั้งเจ็ด ขอพร สุขภาพ โยแซฟ รัชพล เมฆสินธุ์ ขอพร ครอบครัวคุณหาญชัย และลูก หลาน ขอพร นางสาวอริศรา ทาอินทะ ขอพร มารีอา จริญญา พัวพันธ์ธรี ะพงษ์ อุทิศ อักแนส แจ้เชียง แซ่ตั้ง อุทิศ เปโตร กฤตคม โพธิกุล อุทิศ ยวงบัปติส กุ่ยเล็ง แซ่ปึง อุทิศ เปาโล ไสว, คุณจาเนียร สุขบุญลือ อุทิศ ลูซีอา อังเยลา วัลลา ทวีสิน อุทิศ คริสตินา บุญเติม บุญลาภ อุทิศ เปโตร ประจวบ เจริญทรัพย์ อุทิศ เปโตร มงคล รุ่งสุริยโยธิน อุทิศ เปโตร วิชยั ตัง้ ชัยสิน อุทิศ ยวง บอสโก ชวน, อันนา ประไพ อุทิศ เปาโล ใช้ – กลาราสินี อุทิศ ยอแซฟ วีระชัย สุปฏิญญา อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง
09:00 น.
ขอพร สาหรับพี่น้องสัตบุรุษทุกท่าน ทุกครอบครัว
คพ. วิทยา ขอพร ขอพร ขอพร 17:30 น. อุทิศ คพ.ศรีปราชญ์ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ จ.18 เม.ย.16 ขอพร 06.15 น. อุทิศ อุทิศ อุทิศ ขอพร อุทิศ 19:00 น. อุทิศ อุทิศ อุทิศ
มารีอา ศิริพร ชาญนาสิน,ครอบครัว ยอแซฟ วิทยา สุหฤทดารง,ครอบครัว เทเรซา สุพิชา ยวง ยรรยง วูวงศ์ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง ยอแซฟ อนันต์ อนุรักษ์ธาดากุล คุณพ่อยอแซฟ ประมวล พุฒตาลศรี วิญญาณในไฟชาระ สัปดาห์ที่ 4 แคทรีน ไอยศรา ฟรังซิส ทวน มารีอา แต้หมุยเกียว วิญญาณในไฟชาระ มารีอา ธนพร เล็กสุวัฒน์ ยวง ยรรยง วูวงศ์ เทเรซา กาญจนา สงวนสุข เปโตร วิชัย ตั้งชัยสิน วิญญาณในไฟชาระ
ขอพร เทเรซา สุญาณี พงษ์ธนานิกร,ครอบครัว ขอพร เทเรซาสุวมิ ล วิภัตภิ ูมปิ ระเทศ,ครอบครัว ขอพร ครอบครัวปัณฑวังกูร อุทิศ แบร์นาแด๊ต ชญานิษฐ์ สีหพล อุทิศ ฟรังซิสกา สมใจ สงวนสุข อุทิศ เทเรซา กาญจนา สงวนสุข อุทิศ ยอแซฟ ง่วนจิ่ง พาณิชย์เอกไพบูลย์ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง เทศกาลปัสกา ขอพร เทเรซา จิราภรณ์ อุทิศ มารีอา นงลักษณ์ อภิชัยไพศาล อุทิศ ยวงบัปติสตา โง้จิว ช้วง อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง ขอพร มารีอา ลักษิกา เล็กสุวัฒน์ อุทิศ เซซีลีอา แน่งน้อย อาภรณ์รัตน์ อุทิศ ยวงบัปติสตา หวล อาภรณ์รัตน์ อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ มารีอา ดวงพร รัชฎาศิริ
อาทิตย์ที่ 4 เทศกาลปัสกา, วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2016
-16อ.19 เม.ย.16
06.15 น.
19:00 น.
ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ
พ.20 เม.ย.16
06.15 น.
19:00 น.
ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ
พฤ.21เม.ย.16
06.15 น.
19:00 น.
ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทศ
สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลปัสกา การงาน ออกัสติน ขอพร แคทรีน ไอยศรา เฮเลนา กาญจนา อุทิศ อากาทา เจริญ การะเวก เปาโล ปัญญา จันทร์ทรกลด อุทิศ โทมัส ณรงค์ การะเวก มารีอา จิตรลดา ปรีชาวุฒิ อุทิศ เปาโล ใช้ พุ่มดนตรี วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง ครอบครัว วีระชื่น ขอพร อันตน ธิติ, คุณวัชรพล สุภโกศล เทเรซา กาญจนา สงวนสุข อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ เปโตร วิชัย ตั้งชัยสิน อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อันนา มิ่ง การะเวก อุทิศ ฟรังซิสกา สมใจ สงวนสุข คลารา สินี สนิทสม อุทิศ ยวงบัปติสตา ศรีหมอก วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ นายสี ช่างเกวียน สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลปัสกา การงาน ออกัสติน ขอพร แคทรีน ไอยศรา ยวง ชอบ แพงยอด อุทิศ ฟรังซิสโก สมประสงค์ เจนผาสุก เฮเลนา กาญจนา อุทิศ เทเรซา สงวน เจนผาสุก นายแท้ พวงสันเทียะ อุทิศ นายคาตัน ลายทอง, ลูกชาย, ลูกสาว วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง มารีอา อรพิน การะเวก ขอพร คุณ นเรศ การะเวก ครอบครัวเลาหไทยมงคล ขอพร ครอบครัวลิ้มประยูร ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง เปโตร วิชัย ตั้งชัยสิน อุทิศ เทเรซา กาญจนา สงวนสุข ฟรังซิสกา สมใจ สงวนสุข อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ น. อันเซลม์ พระสังฆราชและนักปราชญ์แห่พระศาสนจักร มารีอา อัจฉรา ขอพร มารีอา ดวงใจ แคทรีน ไอยศรา ขอพร ผู้มีพระคุณต่อวัดและโรงเรียน เคลาดิโอ สุรศักดิ์ วรรณศรีรัตน์ อุทิศ ฟรังซิส ทวน วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง ครอบครัวสุปฏิญญา ขอพร มารีอา ปัณฑา เปโตร วิชยั ตั้งชัยสิน อุทิศ มัทธิว วรพล ชัยวัฒนไชย ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง มารีอา ติว แซ่เอี้ยว อุทิศ เทเรซา กาญจนา สงวนสุข วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง อาทิตย์ที่ 4 เทศกาลปัสกา, วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2016
-17ศ.22 เม.ย.16
06:15 น.
19:00 น.
ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ
ส.23 เม.ย.16
06:15 น.
19:00 น.
ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ ขอพร ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ
สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลปัสกา (วันคุ้มครองโลก) มารีอา อารยา ขอพร โนเอล เดชา แคทรีน ไอยศรา ขอพร อันนา อัฐภิญญาพัชญ์ วุทธิเสถียร กาทารีนา ศรีสาคร สัณหภักดี อุทิศ นายบุญชื่น, นางอรุณ ลิม้ ตระกูล มารีอา นางเขีย้ ว แซ่เอี้ยว อุทิศ นางชื่นจิต ศิริวัฒนา วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง มารีอา สุพรรณี มาลาวาลย์ ขอพร อันนา รุง่ รัตน์ สุภโกศล ผู้มีพระคุณต่อวัดและโรงเรียน ขอพร การเดินทางคณะแสวงบุญฟาติมา เปโตร วิชยั ตั้งชัยสิน อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ เทเรซา กาญจนา สงวนสุข วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ ยอแซฟ สุดใจ,มารีอา ไพบูลย์ สุขสุเดช น. ยอร์จ มรณสักขี โนเอล เดชา ขอพร แคทรีน ไอยศรา ยอแซฟ ลี้ อุทิศ มารีอา แม้น แดงเดช ยวง ไพศาล แสงหาญ อุทิศ มารีอา สงวนสินธ์ กิจกรพันธ์ ยอแซฟ อิวกา แซ่เอี้ยว อุทิศ อันตน โต แซ่เอี้ยว วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง มารีอา สุทธินีย์ กุลตังวัฒนา ขอพร สุขภาพวินเซนต์ สุรินทร์ กุลตังวัฒนา เทเรซา ปิยกานต์ ขอพร เทเรซา วินิตา กุลตังวัฒนา หลุยส์ ธนพงศ์ กุลตังวัฒนา ขอพร ครอบครัวมารีอา อุดม มยุระสาคร อุทิศ ยวงบัปติสตา ปึ๋ง,เวรอนีกา เสนอ เสนาจักร ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ พี่น้องตระกูลเสนาจักร เปโตร วิชยั ตั้งชัยสิน อุทิศ ยอแซฟ อ๊อน, มารีอา เง็กเอ็ง แซ่คู เปโตร กฤตคม โพธิกุล อุทิศ ทอมาส ธวัช, เทเรซา จู ศรีสวัสดิ์ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ เทเรซา กาญจนา สงวนสุข
อาทิตย์ที่ 4 เทศกาลปัสกา, วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2016
-18-
ประชาสัมพันธ์ 1. ขอเชิญร่ วมฉลองวัดแม่พระฟาติมา
โอกาสครบ 60 ปี วันศุกร์ ที่
13
พฤษภาคม 2016 เวลา 10.00 น. พระคาร์ ดินลั ไมเกิ้ล มีชยั กิจบุญชู เป็ นประธาน และ เวลา 17.00 น. พิธีเสกอาคารใหม่ โรงเรี ยนแม่พระฟาติมา เวลา 19.00 น.
พระคาร์
ดินลั ฟรังซิ สเซเวียร์ เกรี ยงศักดิ์ โกวิทวาณิ ช เป็ นประธาน 2. ขอเชิญพี่นอ้ งร่ วมทาบุญอาหารโอกาสฉลอง 60 ปี วัดแม่พระฟาติมา (13 พฤษภาคม) แจ้งความประสงค์ได้ที่คุณพ่อ และที่สานักงานวัด 02-245-1039 3. แสวงบุญร่ วมกับวัดในเขต 2 ณ อาสนวิหารแม่ พระบังเกิด บางนกแขวก วัน เสาร์ที่ 7 พฤษภาคม 2016 บัตรราคา 500 บาท จ่าย 300.- บาท วัดช่วยจ่าย 200 บาท 4. ลงชื่อรับหนังสื ออนุสรณ์ 60 ปี วัดแม่พระฟาติมา ช่วยกรอกรายละเอียดและ ใส่ กล่องที่จดั เตรี ยมไว้หน้าวัด 5. พี่นอ้ งที่จองนาฬิกาฉลอง 60 ปี วัดแม่พระฟาติมา สามารถมารับได้ พร้อม นาใบสั่งจองมาด้วย พี่นอ้ งที่ไม่ได้สั่งจองก็สามารถหาซื้ อได้ มีเพียงพอสาหรับผูส้ นใจ 6. ตรี วารเตรี ยมจิตใจฉลองวัด วันอาทิตย์มิสซารอบ 09.00 น. ครั้งที่ 1 วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน โดยคุณพ่อปรี ชา ยัง่ ยืน (สงฆ์คณะคาร์แมลไลท์) ครั้ง ที่ 2 วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม โดยคุณพ่อไพบูลย์ อุดมเดช (สงฆ์คณะพระมหาไถ่) ครั้ง ที่ 3 วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม โดย คุณพ่อปรี ชา ธรรมนิ ยม (สงฆ์คณะโอเอ็มไอ) 7. ขอเชิญร่ วมพิธีอาลาคุณพ่อศรี ปราชญ์ ผิวเกลี้ยง และต้อนรับคุณพ่อสุ รพงษ์ ไม้มงคล วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม มิสซารอบ 09.00 น.
อาทิตย์ที่ 4 เทศกาลปัสกา, วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2016
-19-
พระวรสารสาหรับอ่านในครอบครัว ลูกวัดแม่ พระฟาติมา ว/ด/ป
พระวรสารประจาวัน พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
จ. 18 เม.ย. 16
ยอห์น 10:1-10
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ) พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง) พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
อ. 19 เม.ย. 16
ยอห์น 10:22-30
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ) พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง) พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
พ. 20 เม.ย. 16
ยอห์น 12:44-50
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ) พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง) พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
พฤ. 21 เม.ย. 16
ยอห์น 13:16-20
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ) พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง) พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
ศ. 22 เม.ย. 16
ยอห์น 14:1-6
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ) พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง) พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
ส. 23 เม.ย. 16
ยอห์น 14:7-14
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ) พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง) พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
อา. 24 เม.ย. 16
ยอห์น 13:31-33ก, 34-35
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ) พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง)
อาทิตย์ที่ 4 เทศกาลปัสกา, วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2016
-20-
“แกะของเราย่ อมฟังเสียงของเรา เรารู้จกั มัน และมันก็ตามเรา” (ยน 10:27) อาทิตย์ที่ 4 เทศกาลปัสกา, วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน 2016