-1-
ฟาติมาสาร วัดแม่พระฟาติมา ดินแดง สัปดาห์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน 2016 4080 ถ. อโศก – ดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. 10400 โทร. 02- 245 - 1039, 02- 642 - 9906, 02-642 - 9907, โทรสาร 02 - 246 - 6174 E-mail : fatimachurch13@gmail.com, www.fatima.or.th
-2-
จากใจพ่อ พิธีไหว้ครูเป็นวัฒนธรรมไทยที่มีเนื้อหาสาระในพิธีการที่น่าชื่นชม ทาให้ “นักเรียน” และ “คุณครู” ได้แสดง “ตน” ให้แก่กันและกันตามฐานะที่ ทัง้ สองฝ่ายมีอยู่ในชีวิตของตนเอง ฝ่ายหนึ่งที่เรียกตนว่า “ครู” เปิดตัวว่าตน พร้อมที่จะเป็น “สะพาน” เชื่อมองค์ความรู้ทั้งหลายให้ “นักเรียน” ได้ก้าวเข้า ไปสัมผัสเรียนรู้และเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ แม้จะมีคาเปรียบเปรยว่า ครูเป็นเหมือน “เรือจ้าง” พอนักเรียนได้ดิบได้ดีแล้วก็ก้าวข้ามไป ทิ้งคุณครูให้ กลับไปเป็นสะพานให้นักเรียนรุ่นต่อๆ ไปซ้าแล้วซ้าอีก ส่วนฝ่ายที่เรียกตนว่า นักเรียนก็แสดงตนว่าตนเองประสงค์ที่จะ “นอบน้อม” น้อมรับวิถีทางที่คุณครู จัดตรียมไว้ให้ตนแม้ว่าจะต้องเผชิญความลาบากขนาดไหนก็ยินดีฝากชีวิตของ ตนไว้บนมือทั้งสองของคุณครูที่จะนาพาไป มองเผินๆ เหมือนกับว่าพิธีไหว้ครูเป็นพิธีเปิดตัวแสดงตนเป็นครูเป็น นักเรียนต่อกันเมื่อเริ่มเปิดปีการศึกษา แต่พ่อสังเกตเห็น“น้าตาคลอเบ้าตา” ของ บรรดาคุณครูหลายท่านในพิธีไหว้ครูที่โรงเรียนเมื่อวันพฤหัสฯที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา พ่อเข้าใจว่าพิธไี หว้ครูมีอะไรที่มากกว่าการ “เปิดตัว” เพื่อเริ่มต้นปี การศึกษาใหม่เท่านั้น แต่มีเรื่องของ “ความผูกพัน” “ความสัมพันธ์” ระหว่าง ครูและนักเรียนที่สั่งสมไว้ในแต่ละปีที่ผ่านมา พอแตะความสัมพันธ์ที่สั่งสมมา นานด้วยพิธีการไหว้ครู “ต่อมน้าตา” ก็แสดงปฏิกิริยาถึงความสัมพันธ์ในจิตใจ ให้เอ่อล้นออกมา บางคนเก่งหน่อยก็สะกดกันเก็บไว้ให้ติดอยู่ในลาคอไว้ได้ แต่อย่าถามคาถามให้พูดเป็นอันขาดเพราะหากคาพูดหลุดจากลาคอเมื่อใด
-3-
“ต่อมน้าตา” ก็จะเริ่มทางานเมื่อนั้น พ่อได้เขียนความเป็นจริงเช่นนี้ไว้ในเฟส บุกของพ่อว่า “ผู้คนต่างมุ่งหวังที่จะได้รับ ความรู้ ความเก่ง และปริญญาจาก การมาโรงเรียน” แต่สิ่งที่พวกเขาได้รับสูงกว่าที่พวกเขาคาดหวัง เขาได้รบั “ความผูกพัน” กับคุณครูของตนซึ่งมีคุณค่ามากยิ่งกว่า พ่อเล่าประสบการณ์ในพิธีไหว้ครูให้พี่น้องฟังเพราะในประการแรก พ่ออยากให้พี่น้องทุกคนที่มีคุณครูอบรมสั่งสอนพี่น้องมาตั้งแต่เด็กๆ จะได้ สานึกในพระคุณของคุณครูของพี่น้องที่เคยร่วมประสบการณ์การเรียนรู้กับ ท่านมาเป็นเวลาช้านาน ในประการที่สองซึ่งสาคัญยิ่งกว่า พ่ออยากให้พี่น้อง สานึกในพระคุณของพระเยซูเจ้าที่ทรงเป็นครูที่ทรงให้ทั้ง “หลักคาสอน” “ทางเดิน” เพื่อใช้ก้าวเดินไปพบพระบิดาเจ้าสวรรค์ และที่สาคัญพระองค์ทรง “มอบชีวิต” ของพระองค์ไถ่บาปของเรา ทาให้เราสามารถกลับฟื้นมีชีวิตใหม่ ก้าวเดินไปถึงบ้านของพระบิดาในสวรรค์ได้ครั้งแล้วครั้งเล่าตลอดช่วงชีวิตที่ ผ่านมา พี่น้องมาวัด มาสวดภาวนาต่อพระองค์ด้วยความปรารถนาให้พระองค์ ช่วยเหลือในเรื่องต่างๆ แต่สิ่งที่พี่น้องได้รับกลับมาสู่ชีวิตนั้นมีคุณค่ามากยิ่ง กว่า กลับกลายเป็นว่าพี่น้องได้รับ “ความสัมพันธ์” ที่ “ผูกพัน” พี่น้องกับ พระองค์ไว้ จนพี่น้องเปลี่ยนสถานะจากศิษย์ของพระองค์มาเป็น “เพื่อน” กับ พระองค์ได้ในที่สุด พ่ออยากให้พี่น้องภูมิใจในความสัมพันธ์นี้และดูแลรักษา ไว้อย่าให้เสียหายไปด้วยเหตุใดๆ ก็ตาม คุณพ่อเปโตร วิทยา แก้วแหวน
-4-
ข้อคิด – วันอาทิตย์ โดย คุณพ่อสุระพงษ์ ไม้มงคล
เมือ่ เราหันมามองชีวิตของพระเยซู ก็น่าทึ่งจริงๆ เป็นบุรุษที่หนักแน่น โดนดูถูก โดนใส่ความ โดนปองร้ายหรืออะไรก็ตาม พระองค์ทนได้ นิ่งเงียบ อธิบายเท่าที่ จาเป็นสุดยอดจริงๆ นี่แหละตัวอย่างให้เราเลียนแบบ ทาไมคนเราต้องใส่ความกัน นี่คือพยศชั่วของคนที่มีจิตใจตกต่า ขาดศรัทธาใน พระเจ้า ผีปีศาจจึงครอบนาชีวิต จึงทาให้เวลาพูด พูดอะไรจึงมีแต่สิ่งเลวร้ายทั้งนั้น ปีศาจนั้นเป็นเจ้าแห่งการโกหก คนที่ใส่ความ คือคนโกหกที่ใช้นิสัยผีปีศาจมาเป็นนิสัย ของเรา เราเกลียดใครก็ไม่จาเป็นต้องไปใส่ร้ายป้ายสีคนๆ นั้น พระเป็นเจ้าสอนให้เรา สวดภาวนาสอนให้เรารู้จักให้อภัย เราลูกพระเป็นเจ้าทาได้ไหม! ถ้าทาได้สุดยอดเหมือน พระเยซูเจ้าจริงๆ ทาร้าย ทาลายกันแล้วได้อะไร? อย่างมากก็ได้ความสะใจ แต่ผลคือความ แตกแยกทาไมคนเราถึงไม่ยอมกัน เพราะความจองหองนั่นเอง พี่น้อง คนสุภาพ น่ารัก จริงๆ อยู่ที่ไหน ก็สร้างสันติสุขที่นั่น ใครอยู่ใกล้ก็มีความสุข สบายใจ เพราะรู้ว่าคนๆ นี้จิตใจดี งดงาม พระเป็นเจ้าสร้างเรามาให้อยู่รวมกัน ก็เพื่อเราแสดงฤทธิ์กุศลแห่งความดี ปรากฎออกมา อาณาจักรของพระเจ้า คือสถานที่ที่ลูกๆ ของพระเป็นเจ้าอยู่รวมกันอย่าง สันติมีฤทธิ์กุศลแห่งความดี พี่น้องทั้งหลายทั้งปวงที่เขียนมานี้ ก็เตือนสติผู้อ่านและ ลูกๆ คนว่าเรามาช่วยกันทาให้สังคมเราน่าอยู่ อะไรที่ยกโทษกันได้ก็ทา อะไรที่เลวร้าย ก็หยุดการกระทาเพื่อเราจะได้มีความสุข
-5-
ข้อคิดจากพระวรสาร โดย คุณพ่อชัยยะ กิจสวัสดิ์
1. ท่านล่ะว่าเราเป็นใคร ลูกาเล่าว่า “เวลาที่พระเยซูเจ้าจะต้องทรงจากโลกนี้ไปใกล้เข้ามาแล้ว พระองค์ ทรงตั้งพระทัยแน่วแน่จะเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็ม” (ลก 9:51) ทั้งๆ ที่ทรงทราบดีว่าสิ่งที่รอ พระองค์อยู่เบื้องหน้าที่กรุงเยรูซาเล็มคือ กางเขนและความตาย ! นีจ่ ึงเป็นช่วงเวลาวิกฤติที่สุดอีกครั้งหนึ่งในชีวิตของพระองค์ และในยามนี้ สิ่งที่ ดีที่สุดสาหรับพระองค์ก็คือการ “อธิษฐานภาวนา” ตามลาพัง (ลก 9:18) ! พระองค์ไม่เคยเผชิญหน้ากับวิกฤติการณ์ตามลาพังโดยปราศจากคาปรึกษาและ ความช่วยเหลือจากพระบิดาเจ้า ! วิกฤติกาลครั้งนี้มิได้เกิดจากความกลัวไม้กางเขน แต่เกิดจากความวิตกว่าจะมี คนรู้จักและเข้าใจพระองค์ก่อนจะทรงลาจากโลกนี้ไปหรือไม่ ?!? หากไม่มีผู้ใดค้นพบว่าพระองค์เป็นผู้ใด ก็เท่ากับว่าสิ่งที่พระองค์ได้ทุ่มเททามา ทั้งชีวิตต้องล้มเหลวลงอย่างไม่เป็นท่า ! แต่ตรงกันข้าม หากมีผู้หนึ่งผู้ใดค้นพบความจริงว่าพระองค์เป็นใคร ก็เท่ากับว่า พระองค์ประสบความสาเร็จในการจุดประกายไฟไว้ในหัวใจของมนุษย์ ซึ่งจะไม่มีวัน มอดดับแม้วันเวลาจะล่วงเลยไปนานแสนนานก็ตามที เพราะฉะนั้น พระองค์ต้องรู้สึกใจชื้นขึ้นอย่างแน่นอนเมื่อได้ยินเปโตรตอบว่า “พระองค์คือพระคริสต์ของพระเจ้า” (ลก 9:20) !!! เพียงแต่ว่า เปโตรและบรรดาอัครสาวกยังต้องค้นให้พบอีกว่า “พระคริสต์” ที่ แท้จริงมีความหมายอย่างไร ? เพราะเดิมทีพระคริสต์สาหรับพวกเขาก็คือ กษัตริย์ที่พระเจ้าทรงส่งมาเพื่อนา ชนชาติยิวพิชิตโลกด้วยกาลังทหาร และทาให้ชาติยิวเจริญรุ่งเรืองเฉกเช่นเดียวกับใน สมัยของกษัตริย์ดาวิด
-6-
ซึ่งผิดกันลิบลับกับ “พระคริสต์” ที่พระองค์ตรัสว่า “จะต้องรับทรมานเป็นอัน มาก จะถูกบรรดาผู้อาวุโส มหาสมณะ และธรรมาจารย์ปฏิเสธไม่ยอมรับ และจะถูก ประหารชีวิต แต่จะกลับคืนชีพในวันที่สาม” (ลก 9:22) เมื่อความเข้าใจเกี่ยวกับพระคริสต์ยังแตกต่างกันคนละขั้วเช่นนี้ พระองค์จึงต้อง กาชับบรรดาอัครสาวกมิให้พูดเรื่องนี้แก่ผู้ใด (ลก 9:21) เพราะหาไม่แล้วประชาชนคงลุก ฮือขึ้นมาแต่งตั้งพระองค์เป็นกษัตริย์ และพระองค์คงต้องถูกตรึงกางเขนเพราะข้อหา กบฏ หาใช่เพราะปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดาแต่ประการใดไม่ ทุกวันนี้ ปัญหาของบรรดาอัครสาวกก็ยังคงเป็นปัญหาของเราอยู่ ! พวกเราบางคน “สร้าง” พระเยซูเจ้าขึ้นมาเองตามที่เราอยากให้เป็น พระเยซู ของเราอาจดูเคร่งครัดเรื่องกฎเกณฑ์ในพิธีกรรม การอดเนื้อวันศุกร์ การทาแท้ง ความผิดทางเพศ แต่กลับหย่อนยานเรื่องความรักและการรับใช้เพื่อนมนุษย์ จนหลายครั้ง เราวิพากษ์วิจารณ์หรือตัดสินผู้อื่น ราวกับว่าไม่เคยรู้จักหรือรักพระเยซูเจ้า “ตัวจริง” มาก่อนเลย เราแต่ละคนจึงมีหน้าที่ ไม่เพียงค้นให้พบว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้ใดเท่านั้น แต่ ยังต้องค้นให้พบด้วยว่าพระองค์ทรงมีความหมายต่อชีวิตของเราอย่างไร !?!?! โดยต้องตระหนักอยู่เสมอว่า 1. เป็น “ตัวเราเอง” ที่ต้องค้นหาพระองค์ให้พบ หลังจากบรรดาอัครสาวกทูลพระเยซูเจ้าว่า ประชาชนบ้างว่าพระองค์เป็นยอห์น ผู้ทาพิธีล้าง บ้างว่าเป็นเอลียาห์ บ้างว่าเป็นประกาศกในอดีตคนหนึ่งซึ่งกลับคืนชีพ (ลก 9:19) พระองค์ทรงยิงคาถามสาคัญทันที “ท่านล่ะว่าเราเป็นใคร” (ลก 9:20) ? แปลว่า ไม่เพียงพอเลยที่จะรู้ว่า “ผู้อื่น” พูดหรือเขียนถึงพระองค์ว่าอย่างไร ? เราอาจจดจาได้หมดว่าพระคัมภีร์กล่าวถึงพระองค์ไว้อย่างไร เราอาจอ่าน หนังสือเทววิทยาทุกเล่มที่เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับพระองค์ หรือเราอาจท่องจาสิ่งที่ พระสงฆ์และครูคาสอนพูดถึงพระองค์ได้ทั้งหมด โดยที่ “ตัวเราเอง” ไม่เคยสัมผัส หรือไม่เคยดาเนินชีวิตตามจิตตารมณ์ของพระองค์เลยก็ได้ !
-7-
ด้วยเหตุนี้ คริสตชนที่แท้จริงจึงต้องค้นให้พบ “ด้วยตนเอง” ว่าพระเยซูเจ้าทรง เป็นผู้ใด ทรงมีความรู้สึกนึกคิดและทรงมีความหมายต่อชีวิตของเราอย่างไร ? หากเราไม่สามารถรู้จักพระองค์ด้วยตัวของเราเอง ก็เท่ากับว่าเรากาลังลดระดับ ศาสนาของเราให้เป็นเพียงเทพนิยายที่บรรพบุรุษของเราเล่าสืบต่อกันมา แล้วเราก็จะเล่า ให้ลูกหลานของเราฟังสืบต่อกันไป ! 2. เมื่อค้นพบพระองค์แล้ว ต้อง “นบนอบ” พระเยซูเจ้าตรัสว่า “บุตรแห่งมนุษย์จะต้องรับทรมานเป็นอันมาก” (ลก 9:22) ก่อนหน้านี้ พระองค์เคยตรัสคาว่า “ต้อง” หลายครั้ง เช่น “พ่อกับแม่ตามหาลูก ทาไม พ่อแม่ไม่รู้หรือว่า ลูกต้องอยู่ในบ้านของพระบิดาของลูก” (ลก 2:49) “เราต้องประกาศข่าวดีเรื่องพระอาณาจักรของพระเจ้าให้แก่เมืองอื่นด้วย เพราะ เราถูกส่งมาก็เพื่อการนี้” (ลก 4:32) “วันนี้ พรุ่งนี้ และมะรืนนี้ เราจะต้องเดินทางต่อไป เพราะประกาศกจะตายนอก กรุงเยรูซาเล็มไม่ได้” (ลก 13:33) “บุตรแห่งมนุษย์จาเป็นต้องรับการทรมานอย่างมาก” (ลก 17:25) “บุตรแห่งมนุษย์จาต้องถูกมอบในเงื้อมมือของคนบาป จะต้องถูกตรึงกางเขน และจะกลับคืนพระชนมชีพในวันที่สาม” (ลก 24:7) ทั้งหมดนี้บ่งชี้ว่า พระเยซูเจ้าทรงมี “เป้าหมาย” ที่จะ “ต้อง” กระทาให้สาเร็จ ซึ่ง เป้าหมายนั้นก็คือ “พระประสงค์ของพระบิดาเจ้า” หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือพระองค์ทรงนบนอบพระบิดาเจ้าและทรงน้อมรับ “พระ ประสงค์ของพระบิดา” มาเป็น “พระประสงค์ของพระองค์” เอง ! เมื่อปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดาก็เท่ากับว่า พระองค์กาลังคิดเหมือน พระบิดา และกาลังปรารถนาเหมือนพระบิดา! นี่คือเหตุผลหนึ่งที่ทาให้พระองค์กล้าตรัสว่า “ผู้ที่เห็นเรา ก็เห็นพระบิดาด้วย” (ยน 14:9)
-8-
ด้วยเหตุนี้ นอกจากต้องค้นหาคาตอบให้ได้ว่าพระองค์คือใครแล้ว เรายัง “ต้อง” ดาเนินชีวิตให้เหมือนพระองค์ โดยน้อมรับพระประสงค์ของพระบิดาเจ้ามาเป็นความคิด ความปรารถนาและชีวิตของเราเอง !!! 2. ถ้าผู้ใดอยากติดตามเรา สาหรับผู้ที่รู้จักพระเยซูเจ้าอย่างแท้จริงและประสงค์จะติดตามพระองค์ พระองค์ ทรงวางเงื่อนไขไว้ว่า “ถ้าผู้ใดอยากติดตามเราก็จงเลิกนึกถึงตนเอง จงแบกไม้กางเขน ของตนทุกวันและติดตามเรา” (ลก 9:23) 1. เลิกนึกถึงตนเอง ก็คือ ปฏิเสธตนเอง ! เมื่อครั้งปฏิเสธพระเยซูเจ้า เปโตรพูดกับหญิงรับใช้ของมหาสมณะว่า “ข้าพเจ้า ไม่รู้จักเขา” (ลก 22:57) เพราะฉะนั้นการปฏิเสธตนเองจึงหมายถึงการพูดว่า “ข้าพเจ้าไม่ รู้จักตนเอง” ปกติเรามักดาเนินชีวิตราวกับว่า “ตนเอง” สาคัญที่สุดในโลก จึงต้องทะนุถนอม และปรนเปรออย่างสุดเหวี่ยง แต่หากเราคิดจะเป็นศิษย์ติดตามพระองค์ เราต้องเลิกนึกถึง ตนเอง แล้วดาเนินชีวิตราวกับว่าไม่มีตัวเราดารงอยู่ในโลกนี้ เพื่อจะเลิกนึกถึงตนเอง ท่านพุทธทาสภิกขุสอนให้เราละทิ้ง “ตัวกู-ของกู” ส่วนพระเยซูเจ้าทรงสอนว่า “ท่านต้องรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง” (มธ 22:39) แปลว่าสาหรับพระเยซูเจ้าแล้ว หนทางที่ดีที่สุดในการเลิกนึกถึงตนเองก็คือ ให้ เรานึกถึง “เพื่อนมนุษย์” มากกว่าหรืออย่างน้อยก็เท่ากับนึกถึง “ตัวกู-ของกู” ! 2. แบกไม้กางเขนของตน เมื่อพระเยซูเจ้าทรงมีพระชนมายุ 11 พรรษา ยูดาสชาวกาลิลีได้ก่อการจลาจลบุก ปล้นคลังอาวุธของโรมที่เมืองเซพโฟริส (Sepphoris) ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองนาซาเร็ธบ้าน เกิดเมืองนอนของพระองค์เพียง 6 กิโลเมตรเศษๆ กองทัพโรมันตอบโต้ทันควันด้วยการ เผาเมืองเซพโฟริสจนราบเป็นหน้ากลอง ชาวเมืองถูกขายเป็นทาส ผู้ก่อการจลาจลสอง พันคนถูกตรึงกางเขนเรียงรายสองข้างทาง เพื่อปรามมิให้ผู้อื่นเอาเยี่ยงอย่างอีก
-9-
แน่นอนว่า พระเยซูเจ้าทรงเห็นหรืออย่างน้อยก็ได้รู้ซึ้งถึง “ความร้ายกาจ” ของ กางเขนตั้งแต่วัยเด็กแล้ว ! การแบกไม้กางเขนของตนจึงหมายถึงการพร้อมที่จะเผชิญหน้าและต่อสู้กับ ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ไม่ว่าจะ “ร้ายกาจ” เพียงใดก็ตาม ผู้ที่ดาเนินชีวิตแบบ “สุขนิยม” ด้วยการหลบหลีกปัญหาไปวันๆ หนักไม่เอา เบาไม่สู้ พวกเขาจะติดตามพระเยซูเจ้าได้อย่างไรกันในเมื่อพระองค์เองยังทรงเลือก หนทางของไม้กางเขน !?! ผู้ที่แบกไม้กางเขนของตนทุกวันจึงเป็นผู้ที่ติดตามพระองค์อย่างซื่อสัตย์ และ แน่นอนว่า พระองค์จะไม่มีวันทอดทิ้งบรรดาผู้ที่ติดตามพระองค์ (มธ 28:20) แต่จะทรง ประทานพลังและพระหรรษทานช่วยเหลืออย่างเกินพอ เพื่อให้พวกเขาเอาชนะปัญหา และอุปสรรคไม่ว่าจะร้ายกาจหรือหนักหน่วงเพียงใดก็ตาม ! ที่สาคัญ ยิ่งได้รับชัยชนะ เราจะยิ่งกล้าแกร่งและพร้อมสาหรับปัญหาที่ยิ่งใหญ่ กว่า จนว่าสักวันหนึ่ง จะไม่มีปัญหาหรืออุปสรรคใดที่เราจะต้องเกรงกลัวอีกต่อไป นี่คือ สันติสุขและความมั่นคงแท้จริงที่พระองค์ทรงนามามอบแก่เราทุกคน !!! 3. ดาเนินชีวิตตามมาตรฐานใหม่ พระองค์ตรัสว่า “ผู้ใดใคร่รักษาชีวิต ผู้นั้นจะต้องสูญเสียชีวิต แต่ถ้าผู้ใดเสียชีวิต เพราะเรา ผู้นั้นจะรักษาชีวิตได้” (ลก 9:24) ฟังเผินๆ ดูเหมือนพระองค์จะ “พูดผิด” แต่พระดารัสนี้เป็นความจริงแท้และไม่ อาจเข้าใจเป็นอื่นได้เลยนอกจากทรงเรียกร้องให้เราเปลี่ยนแปลง “มาตรฐานของโลก” เสียใหม่ !! เพราะฉะนั้น ผู้ที่เป็นสมาชิกกลุ่มต่างๆ ที่มีอยู่ในวัดและเคยถามว่า “ฉันจะได้ อะไรจากกลุ่ม ?” จาต้องเปลี่ยนคาถามเสียใหม่เป็น “ฉันจะให้อะไรแก่กลุ่มได้บ้าง ?” เมื่อขับรถผ่านคนประสบอุบัติเหตุถูกรถชน เราเคยถามกันว่า “ฉันจะทาอย่างไร ดีจึงจะปลอดภัย ?” บัดนี้เราต้องถามใหม่ว่า “ฉันจะทาอะไรดีจงึ จะถูกต้อง ?”
-10-
หรือบางคนเคยถามว่า “มาฟังมิสซาหลังเทศน์ถือว่าขาดวัดหรือไม่ ?” เห็นที จะต้องถามตัวเองใหม่ว่า “นับจากนี้ไป ฉันต้องมาถึงวัดก่อนเริ่มมิสซากี่นาที กี่ชั่วโมงจึง จะมีเวลาช่วยกันแจกหนังสือ จัดวัด ซ้อมขับร้อง รวมถึงเตรียมจิตใจของฉันเองเพื่อจะได้ ร่วมพิธีบูชามิสซาอันสุดแสนประเสริฐ ?” ขอให้เราระลึกถึงพระดารัสของพระองค์อยู่เสมอว่า การใช้ชีวิตเพื่อตนเอง รังแต่จะทาให้ผู้อื่นลืมเลือนชีวิตของเรา... แต่การใช้ชีวิตเพื่อผู้อื่น ผลแห่งความดีของเราจะตกสู่ลูกหลานและคงอยู่ชั่วนิจ นิรันดร !!! ****************************************************************
ข้อคิดเพื่อชีวิต หลายคนมักคิดว่า หากเก็บสะสมไว้ โดยไม่ใช้ออกไป จะทาให้เราจะมีมากขึ้น บางทีคิดว่าหากเราไม่จ่ายไม่ให้สิ่งที่เรามีแก่ใครเลยเราก็จะมีมากขึ้น แต่นั่นไม่ใช่ความจริง! เพราะทุกอย่างที่เราสะสมไว้จะไม่สร้างคุณค่าใดแก่ผู้ใด และจะเสื่อมค่าลง หรืออาจถูกลักขโมย ถูกปล้น ถูกไฟเผาไหม้ หรือถูกน้าท่วมซัด หายไปฯลฯ มีแต่การให้ออกไปเท่านั้นที่จะทาให้ของเหล่านั้นไม่หายไปไหน เพราะว่า มันได้กระจายไปอยู่ในคนมากมายรอบตัวของเรา และสิ่งเหล่านั้นจะพร้อมย้อนกลับมา หาเราในวันใดวันหนึ่งที่เราจาเป็น เราต้องตระหนักว่า ของที่เรารวบรวมสะสมไว้ อาจไม่ใช่ของเราอีก แต่ของที่เรา ให้ออกไปแล้วเท่านั้น จึงจะเป็นของเราตลอดไป เพื่อความมั่นใจและปลอดภัย และไม่ต้องสูญเสียทุกสิ่งที่เราสะสมมาทั้งชีวิตขอให้ เราเพิ่มพูนสิ่งที่เรามี ด้วยการแบ่งปันหรือให้ออกไปให้มากที่สุดแก่ผู้ที่จาเป็นจริงๆ “มีแต่ “การให้” เท่านั้นที่สามารถทาให้คุณ ได้รับ “มากกว่า” ที่คุณมีอยู่แล้ว!” -Jim Rohn-
(ผู้เป็นสุข)
-11-
นักโทษประหารกลับใจ เวลา 02.15 น. เช้าวันที่ 2 พฤศจิกายน 1984 เวลมา บาร์ฟิลด์ ถูกประหารชีวิต กลางคุกกลางของเมืองราเลย์ ในรัฐเซาท์คาโรไลนา เวลมาถูกตัดสินลงโทษเพราะได้ฆ่า คน 4 คน เธอเป็นสตรีคนแรกที่ถูกประหารชีวิตในสหรัฐอเมริกาภายในระยะเวลา 22 ปี แต่เวลมา บาร์ฟิลด์ ที่ถูกประหารในเช้าวันนั้น แตกต่างโดยสิ้นเชิงจากเวลมา บาร์ฟิลด์ ผู้ก้าวเข้าไปในคุกเมื่อ ค.ศ. 1978 ระหว่างถูกจาคุกนาน 6 ปี เวลมาได้ผ่านกระบวนการ กลับใจอย่างน่าพิศวง เวลมาบอกเล่าเรื่องราวเบื้องหลังการกลับใจของเธอ ในหนังสือของเธอชื่อ Woman in Death Row (นักโทษสตรีที่รอการประหาร) เรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นในคืนวันหนึ่ง ขณะที่เธอกาลังร้องไห้อยู่ในห้องขัง เธอสะอื้นและสงสัยว่า พระเยซูเจ้าจะทรงให้อภัย เธอ และกลับมารักเธออีกครั้งหนึ่งหรือไม่หลังจากอาชญากรรมที่เธอได้ก่อขึ้น จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์บางอย่าง ซึ่งเธอรู้สึกว่าแทบบรรยายไม่ได้ เธอทาได้เพียง บอกว่าดูเหมือนพระเยซูเจ้าทรงปรากฏพระองค์ต่อเธอ และตรัสว่า “ถูกแล้ว... เราตายบน กางเขนเพื่อชดเชยบาปของลูกด้วยเช่นกัน ลูกจะไม่ยอมให้เรามาหา และมอบชีวิตใหม่ ให้แก่ลูกหรือ” เธอบอกว่า “ที่นั้น และเวลานั้นเองดิฉันสารภาพบาปกับพระองค์ และดิฉัน ขอให้พระองค์ให้อภัยดิฉัน... พระองค์เสด็จเข้ามาในชีวิตของดิฉันในคืนนั้น” หลักฐานยืนยันความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชีวิตของเธอนี้ ปรากฏในหนังสือพระ คัมภีร์ของเธอ เธอบันทึกอะไรบางอย่างในแทบทุกหน้าของพระคัมภีร์ ครั้งหนึ่ง เธอ บอกเพื่อนคนหนึ่งว่า “ดิฉันได้รับพละกาลังจากพระคัมภีร์เล่มนี้ ... ถ้าปราศจากพระวาจา ของพระองค์ ดิฉันไม่มีทางลุกขึ้นมาในตอนเช้าได้ ... อย่าว่าแต่จะทนมีชีวิตอยู่ตลอด วันเลย” จุดสูงสุดในกระบวนการกลับใจของเวลมา เกิดขึ้นในเดือนตุลาคม 1984 เมื่อเธอ ได้ตัดสินใจครั้งสาคัญหลายข้อ เธอบันทึกเรื่องการตัดสินใจเหล่านี้ในหน้าแรกของพระ
-12-
คัมภีร์ของเธอ เธอตัดสินใจจะจัดการกับบาปของเธอ เธอบอกว่า “คืนนี้ ...ดิฉันจะเริ่ม บอกบาปของฉันต่อหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้า ...และวางใจว่าพระองค์จะทรงช่วยดิฉันให้ รอดพ้น” เธอตัดสินใจว่าจะยกทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอมีคืนให้พระเจ้า โดยบอกว่า “พระเจ้า ข้าโปรดทรงรับลูกๆ ของดิฉัน พวกเขาไม่ใช่ของดิฉันเหมือนกัน เขาเป็นของพระองค์ และดิฉันขอมอบพวกเขาไว้ให้พระองค์ดูแล” การตัดสินใจของเวลมา ที่จะจัดการกับบาปของเธอ และคืนทุกสิ่งทุกอย่าง ให้แก่พระเจ้า ทาให้เราพอจะเข้าใจว่าเธอเข้าสู่สภาพชีวิตจิตในระดับใดขณะที่อยู่ในคุก เรื่องของ เวลมา บาร์ฟิลด์แสดงให้เห็นสองขั้วของสภาวะมนุษย์ ขั้วหนึ่งคือความไม่ นบนอบของอาดัม ซึ่งทาให้มนุษยชาติต้องได้รับโทษ และความตายฝ่ายจิต ขั้วที่สองคือ ความนบนอบของพระเยซูเจ้า ซึ่งไถ่กู้และคืนชีวิตจิตให้แก่มนุษยชาติ ชีวิตของ เวลมา บาร์ฟิลด์ แสดงให้เห็นว่าเราสามารถตกต่าได้ลึกเพียงไร ถ้าเรา ยอมแพ้การประจญเหมือนกับที่อาดัมเคยยอมแพ้ ในขณะเดียวกันก็แสดงให้เห็นว่าเรา สามารถขึ้นได้สูงเพียงไร ถ้าเราปฏิเสธการประจญเหมือนกับที่พระเยซูเจ้าทรงเคย ปฏิเสธ (จากนิตยสารแม่พระยุคใหม่ ฉบับที่ 195 ปีที่ 34 เดือนพฤษภาคม - มิถุนายน 2014 หน้า 28)
-13-
สมโภชนักบุญยอห์น แบปติสต์ บังเกิด โดย ดร. วรรณีย์ ลิขิตธรรม
24 มิถุนายน เป็นวันเกิดของนักบุญยอห์น แบปติสต์ ที่น่าสังเกตคือพระศาสน จักรคาทอลิกฉลองวันเกิดอย่างเป็นทางการให้กับ 3 บุคคลเท่านั้นคือ พระเยซูคริสตเจ้า พระแม่มารีย์ และนักบุญยอห์นแบปติสต์ ยอห์นมีความหมายในภาษีฮีบรูว่า “พระ เมตตากรุณาขององค์พระผู้เป็นเจ้า” ส่วนแบปติสต์แปลว่าผู้ทาพิธีล้าง การบังเกิดมาของยอห์นเป็นการประกาศให้ทราบว่าสมัยของพระแมสซีอาห์ กาลังจะมาถึงแล้ว ยอห์นเป็นใครและบทบาทของท่านคืออะไร คาตอบอยู่ในพระวรสาร ของนักบุญมาระโก บทที่ 1 ดังนี้ “คนคนหนึ่งร้องตะโกนในถิ่นทุรกันดารว่า จงเตรียม ทางขององค์พระผู้เป็นเจ้า จงทาทางเดินของพระองค์ให้ตรงเถิด เพื่อให้ข้อความนี้เป็น จริง ยอห์นจึงทาพิธีล้างในถิ่นทุรกันดาร เทศน์สอนเรื่องพิธีล้างซึ่งแสดงการกลับใจเพื่อ จะได้รับการอภัยบาป ประชาชนจากทั่วแคว้นยูเดีย และชาวกรุงเยรูซาแลมทั้งหลายไป พบเขา รับพิธีล้างจากเขาในแม่น้าจอร์แดนโดยสารภาพบาปของตน ยอห์นแต่งกายด้วย ผ้าขนอูฐ ใช้หนังสัตว์คาดสะเอว กินตั๊กแตนและน้าผึ้งป่า และประกาศว่ามีอีกผู้หนึ่ง กาลังมาภายหลังข้าพเจ้า ทรงอานาจยิ่งกว่าข้าพเจ้า ข้าพเจ้าไม่สมควรแม้แต่จะก้มลง แก้สายรัดรองเท้าของเขา ข้าพเจ้าใช้น้าทาพิธีล้างให้ท่านทั้งหลาย แต่เขาจะทาพิธีล้างให้ ท่านเดชะพระจิตเจ้า” ภาพที่พระคริสตเจ้าทรงรับพิธีล้างจากยอห์น เป็นภาพสะท้อน ให้เห็นถึงความสุภาพถ่อมตน เป็นการแสดงความทุกข์ถึงบาป พระองค์ทรงมาเข้าแถว พร้อมกับคนบาปอื่นๆ แล้วจุ่มพระองค์ลงในน้าแห่งการกลับใจ เป็นการบอกเราว่า พระองค์ทรงเป็นลูกหลานของอาดัมและเอวาเหมือนพวกเราทุกคน จึงทรงอยู่ใต้กฎที่ จะต้องกลับใจ กลับไปหาพระเจ้าทุกวัน การยอมรับสภาพบาปอย่างงดงามนี้เป็นที่พอ พระทัยพระเจ้า ยอห์นเป็นผู้ทาพลีกรรมใช้โทษบาปมาก เราจะเห็นได้จากอาหารที่ท่าน รับประทานและเครื่องนุ่งห่มของท่าน ในถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกลผู้คน เป็นที่สงบเงียบ
-14-
งานหลักของท่านคือ สวดภาวนาเพื่อใกล้ชิดกับพระเจ้า ด้วยการภาวนานี้ท่านจะได้รับ ฟังพระวาจาของพระเจ้าเพื่อจะไปประกาศให้ประชาชนที่พระเจ้าจะนามาหาท่านใน ภายหลัง ฉะนั้นเมื่อท่านเริ่มเทศน์สอนจึงมีศิษย์ติดตามท่าน ในจานวนนี้หลายคนก็ได้ กลายเป็นสาวกขององค์พระคริสตเจ้า ยอห์นเป็นตัวอย่างแก่เราในเรื่องการภาวนา พระ เจ้าทรงพอพระทัยที่จะฟังเราพูดกับพระองค์ แต่เราก็ต้องเรียนรู้ที่จะฟังพระองค์ด้วย เราจึงสามารถทาตามพระประสงค์ของพระองค์ได้ นอกจากสวดภาวนาแล้วยอห์นก็ได้ ศึกษาพระคัมภีร์เช่นเดียวกับชาวยิวทั้งหลาย เรามาดูกันว่าพระเยซูคริสตเจ้าทรงตรัสกับประชาชนเกี่ยวกับยอห์นว่าอย่างไร นักบุญมัทธิวเขียนในพระวรสาร บทที่ 11 ว่าดังนี้ “ท่านทั้งหลายไปดูอะไรในถิ่น ทุรกันดาร ไปดูต้นอ้อไหวไปมาตามสายลมหรือ มิใช่เช่นนั้น แล้วท่านไปดูอะไรเล่า ดูคนสวมเสื้อผ้าสวยงามหรือ คนที่สวมเสื้อผ้าสวยงามอยู่ในพระราชวัง ถ้าเช่นนั้นท่าน ไปดูอะไร ไปดูประกาศกหรือ ถูกแล้ว เราบอกท่าน และเหนือกว่าประกาศกเสียอีก ผู้นี้เองที่พระคัมภีร์กล่าวถึงว่า เราส่งทูตของเรานาหน้าท่าน เพื่อเตรียมทางไว้สาหรับ ท่าน เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่าในหมู่ผู้ที่เกิดจากหญิงไม่มีใครยิ่งใหญ่กว่า ยอห์นผู้ทาพิธีล้าง ถึงกระนั้น ผู้ต่าต้อยที่สุดในอาณาจักรสวรรค์ก็ยังยิ่งใหญ่กว่ายอห์น ตั้งแต่สมัยของยอห์นผู้ทาพิธีล้างจนถึงวันนี้ อาณาจักรสวรรค์ต้องการความอดทนและ ความพยายาม... ถ้าท่านทั้งหลายยอมเชื่อ ยอห์นนี่เองคือประกาศกซึ่งจะต้องมา” จะเห็น ได้ว่าองค์พระเยซูเจ้าทรงยกย่องและให้ความสาคัญแก่ยอห์นมาก คือท่านเป็นประกาศก ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาประกาศกทั้งหลายของชนชาติอิสราแอล เพราะท่านสามารถ ชี้ให้เห็นเป้าหมาย (คือพระแมสซีอาห์) ตามคาพยากรณ์ต่างๆ ในพระคัมภีร์เก่า ข่าวสารที่ยอห์นย้าเตือนชาวยิวก็คือ ขอให้พวกเขาได้กลับใจ ณวันนี้ยอห์นก็คง เตือนเราเช่นเดียวกัน พี่น้องคะยอห์นเป็นป้ายบอกทางสู่องค์พระคริสต์เจ้า ขอให้เราได้ดู ท่านเป็นตัวอย่าง และสวดขอให้ท่านช่วยให้เราได้เป็นประกาศกเช่นเดียวกับท่านด้วย
-15-
รายการมิสซาประจาสัปดาห์ อา. 19 มิ.ย. 16
07:00 น. คพ. วิทยา
ขอพรแด่ ขอพรแด่ ขอพรแด่ ขอพรแด่ ขอพรแด่ ขอพรแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่
อาทิตย์ที่ 12 ตามจุดประสงค์ของผู้ขอ เทเรซา เกสร หมดมลทิน พล.อ.ท. วันชัย ฉัตรเจริญพร อันนา สุกญ ั ญา ว่องวิไลกุล มารีอา จิตรพร ยกสวัสดิ์ สมาชิกคณะอัศวินฯ,ครอบครัว ลูซีอา อังเยลา วัลลา ทวีสิน เปโตร ประจวบ เจริญทรัพย์ เปโตร วิชัย ตัง้ ชัยสิน อันนา จาลอง วงษ์เลิศ เปาโล มิ่ง รุจิพงศ์ มารีอา บ่วยเฮี๊ยะ รุจิพงศ์ วิญญาณในไฟชาระ
เทศกาลธรรมดา ขอพรแด่ มัทธิว วิวัฒน์,เปโตร วิชัย อุตสาหจิต ขอพรแด่ มารีอา แพรว่า,เปโตร พัชญกฤต ขอพรแด่ อันนา สุวิมล,คุณดวงฤดี,คุณบันลือ ขอพรแด่ อักแนส ชนม์ธชิ า,เทเรซา พนิต ขอพรแด่ ครอบครัว มารีอา ราพึง สังขรัตน์ ขอพรแด่ มารีอา จริญญา พัวพันธ์ธีระพงษ์ อุทิศแด่ คุณชัยพงศ์ สุทธิคีรี,เจโรมี ออกาลวย อุทิศแด่ คริสตินา บุญเติม บุญลาภ อุทิศแด่ ฟรังซิสเซเวียร์ สมศักดิ์ หมดมลทิน อุทิศแด่ สมาชิก KBS ที่ล่วงลับ อุทิศแด่ ยวงบัปติส กุ่ยเล้ง แซ่ปึง อุทิศแด่ อักแนส แจ้เชียง อุทิศแด่ ปู่ ย่า ตา ยา ครอบครัวตระกูลปิติชยั
ขอพร สาหรับพี่น้องสัตบุรุษทุกท่าน ทุกครอบครัว
09:00 น. คพ. สุระพงษ์
ขอพรแด่ มารีอา ศิริพร ชาญนาสิน, ครอบครัว ขอพรแด่ ยอแซฟวิทยา สุหฤทดารง, ครอบครัว
17:30 น. คพ. สุชาติ
ขอพรแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่
จ. 20 มิ.ย.16
06:15 น.
ขอพรแด่ ขอพรแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่ อุทิศแด่
ขอพรแด่ เทเรซา สุญาณี พงษ์ธนานิกร, ครอบครัว ขอพรแด่ เทเรซา สุวิมล วิภัติภูมิประเทศ, ครอบครัว
สุขภาพ ซีซ่าร์ บีกวาส ขอพรแด่ ผู้มีพระคุณต่อวัดและโรงเรียน ยอแซฟ มั้ว, อันนา เง็กเพ็ง อุทิศแด่ มัทธิว อรรถ,ซีมอน ยูดา ประเสริฐ มารีอา ไฝ, มารีอา ราตรี อุทิศแด่ คาทารีนา พัชรินทร์,มารีอา อาจิณ หลุยส์ มารี อาพร ประจันตเขต อุทิศแด่ ดอมินิก สุพจน์ พันธุ์พรหมธาดา ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศแด่ แบร์นาแด๊ต ชญานิษฐ์ สีหพล เทเรซา กาญจนา สงวนสุข อุทิศแด่ มารีอา ดวงพร รัชฎาศิริ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศแด่ โรซา วิไล สิทธิธนังกุล สัปดาห์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา การงาน ออกัสติน ขอพรแด่ เทเรซา จิราภรณ์ แคทรีน ไอยศรา ขอพรแด่ มารีอา อัจฉรา ยอแซฟ มั้ว,อันนา เง็กเพ็ง อุทิศแด่ เฮเลนา กาญจนา มารีอา ไฝ, มารีอา ราตรี อุทิศแด่ ฟรังซิส ทวน หลุยส์ มารี อาพร ประจันตเขต อุทิศแด่ มัทธิว อรรถ,ซีมอน ยูดา ประเสริฐ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศแด่ คาทารีนา พัชรินทร์,มารีอา อาจิณ
-16จ. 20 มิ.ย.16
สัปดาห์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา ขอพรแด่ ครอบครัวปัณฑวังกูร ขอพรแด่ ครอบครัวเลาหไทยมงคล อุทิศแด่ มารีอา บุญนา ทิจะยัง อุทิศแด่ เทเรซา สุทิรัตน์ เตชจงนาชัย,ญาติๆ 19:00 น. อุทิศแด่ เทเรซา กาญจนา สงวนสุข อุทิศแด่ เซซีลีอา แน่งน้อย อาภรณ์รตั น์ อุทิศแด่ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศแด่ ยวงบัปติสตา หวล อาภรณ์รตั น์ อุทิศแด่ เปโตร วิชยั ตั้งชัยสิน อุทิศแด่ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศแด่ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศแด่ โรซา วิไล สิทธิธนังกุล อ. 21 มิ.ย.16 ระลึกถึง น. หลุยส์ คอนซากา นักบวช ขอพรแด่ โนเอล เดชา ขอพรแด่ การงาน ออกัสติน ขอพรแด่ แคทรีน ไอยศรา ขอพรแด่ มารีอา อารยา 06:15 น. อุทิศแด่ ยอแซฟ มั้ว,อันนา เง็กเพ็ง อุทิศแด่ มัทธิว อรรถ,ซีมอน ยูดา ประเสริฐ อุทิศแด่ มารีอา ไฝ, มารีอา ราตรี อุทิศแด่ คาทารีนา พัชรินทร์,มารีอา อาจิณ อุทิศแด่ หลุยส์ มารี อาพร ประจันตเขต อุทิศแด่ เฮเลนา กาญจนา ขอพรแด่ ครอบครัวลิ้มประยูร ขอพรแด่ ครอบครัวธีรพงษ์พิพัฒน์ อุทิศแด่ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศแด่ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง 19:00 น. อุทิศแด่ เปโตร วิชยั ตัง้ ชัยสิน อุทิศแด่ เทเรซา กาญจนา สงวนสุข อุทิศแด่ มารีอา ชูจิตร กฤษณะสมิต อุทิศแด่ คุณธง, คุณสมใจ เลาหไทยมงคล อุทิศแด่ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศแด่ โรซา วิไล สิทธิธนังกุล พ. 22 มิ.ย.16 น. เปาลิน แห่งโนลา พระสังฆราช น. ยอห์น ฟิชเชอร์ และโทมัส โมร์ มรณสักขี ขอพรแด่ โนเอล เดชา ขอพรแด่ มารีอา ดวงใจ ขอพรแด่ แคทรีน ไอยศรา อุทิศแด่ ฟรังซิส ทวน 06:15 น. อุทิศแด่ ยอแซฟ มั้ว,อันนา เง็กเพ็ง อุทิศแด่ มัทธิว อรรถ, ซีมอน ยูดา ประเสริฐ อุทิศแด่ มารีอา ไฝ, มารีอา ราตรี อุทิศแด่ คาทารีนา พัชรินทร์,มารีอา อาจิณ อุทิศแด่ หลุยส์ มารี อาพร ประจันตเขต อุทิศแด่ วิญญาณในไฟชาระ ขอพรแด่ คุณอมรรัตน์ ขอพรแด่ มารีอา วิไล เตชะสกุล อุทิศแด่ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศแด่ เปโตร วิชัย ตั้งชัยสิน 19:00 น. อุทิศแด่ มาการิตา อัคคพร รุจิรานนท์ อุทิศแด่ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศแด่ คุณวิวัฒน์, คุณเพ็ญสุข อุทิศแด่ เทเรซา กาญจนา สงวนสุข อุทิศแด่ โรซา วิไล สิทธิธนังกุล อุทิศแด่ คุณเพ็ญทรัพย์,ลูกพลับ ปัณฑวังกูร พฤ.23 มิ.ย.16 สัปดาห์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา ขอพรแด่ โนเอล เดชา ขอพรแด่ แคทรีน ไอยศรา 06.15 น. อุทิศแด่ ยอแซฟ มั้ว, อันนา เง็กเพ็ง อุทิศแด่ มัทธิว อรรถ,ซีมอน ยูดา ประเสริฐ อุทิศแด่ มารีอา ไฝ, มารีอา ราตรี อุทิศแด่ คาทารีนา พัชรินทร์, มารีอา อาจิณ อุทิศแด่ หลุยส์ มารี อาพร ประจันตเขต อุทิศแด่ วิญญาณในไฟชาระ
-17พฤ.23 มิ.ย.16
สัปดาห์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา ขอพรแด่ ยวง สุธี ตุลยาพิศิษฐ์ ขอพรแด่ ยอแซฟ ประสพ รัชฎาศิริ (วันเกิด) ขอพรแด่ ยวง สุพัฒน์ ตุลยาพิศษิ ฐ์ ขอพรแด่ ผู้มีพระคุณต่อวัดและโรงเรียน 19:00 น. อุทิศแด่ เปโตร วิชัย ตั้งชัยสิน อุทิศแด่ มัทธิว วรพล ชัยวัฒนไชย อุทิศแด่ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศแด่ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศแด่ เปโตร ประวิทย์ ตุลยาพิศิษฐ์ อุทิศแด่ อันนา ลกเซีย้ ง แซ่อึ้ง อุทิศแด่ โรซา วิไล สิทธิธนังกุล อุทิศแด่ วิญญาณในไฟชาระ ศ. 24 มิ.ย.16 สมโภช น. ยอห์น แบปติสต์ บังเกิด ขอพรแด่ แคทรีน ไอยศรา ขอพรแด่ โนเอล เดชา 06:15 น. อุทิศแด่ ยอแซฟ มั้ว, อันนา เง็กเพ็ง อุทิศแด่ มัทธิว อรรถ,ซีมอน ยูดา ประเสริฐ อุทิศแด่ มารีอา ไฝ, มารีอา ราตรี อุทิศแด่ คาทารีนา พัชรินทร์,มารีอา อาจิณ อุทิศแด่ หลุยส์ มารี อาพร ประจันตเขต อุทิศแด่ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง โมทนาคุณนักบุญทั้งหลาย, อัครเทวดา ขอพรแด่ ปีโอ ประกอบ เสนะวีณนิ อุทิศแด่ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศแด่ ฟรังซิสโก วิรชั ตระกุลสิงขร 19:00 น. อุทิศแด่ เปโตร วิชัย ตั้งชัยสิน อุทิศแด่ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศแด่ มารีอา ไพบูลย์,ยอแซฟ สุดใจ สุขสุเดช อุทิศแด่ โรซา วิไล สิทธิธนังกุล อุทิศแด่ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศแด่ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง ส. 25 มิ.ย.16 สัปดาห์ที่ 12 เทศกาลธรรมดา หรือวันเสาร์ระลึกถึงพระนางพรหมจารียม์ ารีย์ ขอพรแด่ แคทรีน ไอยศรา ขอพรแด่ มารีอา ดวงใจ 06:15 น. อุทิศแด่ ยอแซฟ มั้ว, อันนา เง็กเพ็ง อุทิศแด่ มัทธิว อรรถ,ซีมอน ยูดา ประเสริฐ อุทิศแด่ มารีอา ไฝ, มารีอา ราตรี อุทิศแด่ คาทารีนา พัชรินทร์,มารีอา อาจิณ อุทิศแด่ หลุยส์ มารี อาพร ประจันตเขต อุทิศแด่ วิญญาณในไฟชาระ ขอพรแด่ อันตน ฐิติพงศ์ ศรีวิเศษ ขอพรแด่ ครอบครัวเทเรซา วราพร สาราญพิศ ขอพรแด่ มารีอา สุทธินีย์, เทเรซา วินิตา ขอพรแด่ สุขภาพ วินเซนต์ สุรินทร์ กุลตังวัฒนา ขอพรแด่ เทเรซา ปิยกานต์,หลุยส์ ธนพงศ์ ขอพรแด่ ครอบครัวมารีอา อุดม มยุระสาคร อุทิศแด่ ยวงบัปติสตาปึ๋ง,เวรอนีกา เสนอ เสนาจักร อุทิศแด่ ยวง ยรรยง วูวงศ์ 19:00 น. อุทิศแด่ เปโตร วิชัย ตัง้ ชัยสิน อุทิศแด่ พี่น้องตระกูลเสนาจักร อุทิศแด่ อักแนส อ่อยอี่ แซ่ลี่ อุทิศแด่ ยอแซฟ อ๊อน, มารีอา เง็กเอ็ง แซ่คู อุทิศแด่ อันนา ตังไล้ แซ่เจา อุทิศแด่ ทอมาส ธวัช, เทเรซา จู ศรีสวัสดิ์ อุทิศแด่ มารีอา บุญเพชร แซ่ตัน อุทิศแด่ โรซา วิไล สิทธิธนังกุล อุทิศแด่ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศแด่ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง
-18-
พระวรสารสาหรับอ่านในครอบครัว ลูกวัดแม่พระฟาติมา ว/ด/ป จ. 20 มิ.ย. 16
พระวรสารประจาวัน มัทธิว 7:1-5
ชนิดพระคัมภีร์ พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
1928
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ)
59-60
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง)
45-46
พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์ อ. 21 มิ.ย. 16
พ. 22 มิ.ย. 16
มัทธิว 7:6,12-14
มัทธิว 7:15-20
มัทธิว 7:21-29
60-61
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง)
46-47
พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
1929
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ)
61
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง)
48
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ) พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง) พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
ศ. 24 มิ.ย. 16
ลูกา 1:5-17
มัทธิว 8:5-17
ลูกา 9:51-62
61 48-50 2011-2012 183-184
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง)
312-314 1930-1931
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ)
62-64
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง)
51-53
พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์ อา. 26 มิ.ย. 16
1929
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ) พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
ส. 25 มิ.ย. 16
1928-1929
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ)
พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์ พฤ. 23 มิ.ย. 16
หน้า
2036-2037
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ)
220-221
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง)
393-395
-19-
ประชาสัมพันธ์ ประกาศการแต่งงาน ประกาศครัง้ ที่ 1 คู่ที่ 1 ฝ่ายชาย : นายปภังกร อัศวทิตย์สกุล บุตร : นายทรงชัย + นางเบญจวรรณ อัศวทิตย์สกุล ฝ่ายหญิง : แมรีแอน สราญรัตน์ พานิชสุขไพศาล บุตรี : ยอแซฟ บุญชัย + เทเรซา สุวรรณี พานิชสุขไพศาล ทั้งสองจะเข้าพิธีสมรส วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม 2016 เวลา 10:00 น. ** ผู้ใดทราบข้อขัดขวาง มีหน้าที่ต้องแจ้งให้พระสงฆ์ทราบ ** คู่ที่ 2 ฝ่ายชาย : ยอแซฟ ธัญธวัช ธนกรชัยมงคล บุตร : นายศิริพงษ์ + มารีอา พรรณี ธนกรชัยมงคล ฝ่ายหญิง : นางสาวภัทรวรรณ แรกชานาญ บุตรี : นายพิชิต + นางสมพร แรกชานาญ ทั้งสองจะเข้าพิธีสมรส วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม 2016 เวลา 14:00 น. ** ผู้ใดทราบข้อขัดขวาง มีหน้าที่ต้องแจ้งให้พระสงฆ์ทราบ **
ประกาศครัง้ ที่ 3 ฝ่ายชาย : เปาโล ชาญวิทย์ ตรียานุวัฒน์ บุตร : จัสติน ชัญวัฒน์ ตรียานุวัฒน์ + มารีอา Valentiana Susilo ฝ่ายหญิง : นางสาว อรนิภา กิจล่าลือกุล บุตรี : นายรัชชภูมิ กิจล่าลือกุล + นางมนต์ประภา ทรัพย์เกิด ทั้งสองจะเข้าพิธีสมรส วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม 2016 เวลา 12:00 น. ** ผู้ใดทราบข้อขัดขวาง มีหน้าที่ต้องแจ้งให้พระสงฆ์ทราบ **
-20-
“ถ้าผู้ใดอยากติดตามเราก็จงเลิกนึกถึงตนเอง จงแบกไม้กางเขนของตนทุกวันและติดตามเรา” (ลก 9:23)