-1-
ฟาติมาสาร สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016 ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -----------------------------------------------------------------------------------
วัดแม่พระฟาติมา 4080 ถ. อโศก – ดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. 10400 โทร. 02- 245 - 1039, 02- 642 - 9906, 02-642 - 9907, โทรสาร 02 - 246 - 6174 E-mail : fatimachurch13@gmail.com www.fatima.or.th สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016
-2-
จากใจพ่อ พ่อเคยทําหน้าที่ฝึกอบรมเกี่ยวกับวิถีชุมชนวัด โดยใช้เอกสาร อาซีปา ชุดต่างๆ ประกอบการฝึกอบรม มีเอกสารชุดหนึ่ง(D1) มุ่งหวัง ให้ผู้รับการ อบรมเรียนรู้ถึง “หัวใจของงานอภิบาล” เริ่มต้นด้วยการนําเสนอภาพชีวิตของ “ครอบครัวชาวสวน” ทุกคนในครอบครัวปลูกต้นไม้ไว้ในสวน ตั้งใจทําให้ ต้นไม้ในสวนของพวกเขาออกลูกดกเต็มต้น คนหนึ่งทําการล้อมรั้วเพื่อปกป้อง อันตรายต่างๆ ที่จะมากระทบต่อต้นไม้ที่ปลูกไว้ อีกคนหนึ่งพยายามพรวนดิน อีกคนหนึ่งพยายามรดน้ํา เพียงแต่ว่าสิ่งที่พวกเขาพยายามกระทําดังกล่าวนั้น ไม่มีใครกระทําตรงจุดที่ต้นไม้ต้นนั้นตั้งอยู่เลย สิ่งที่ พวกเขา “คาดหวัง” กับ “วิธีปฏิบัติ” นั้นไม่สอดคล้องไปในทิศทางที่จะหวังให้เกิดผลตามที่คิดหวังไว้ ได้ สิ่งที่ชาวสวนกระทําตามภาพที่นําเสนอในเอกสารชุดฝึกอบรมข้างต้น เกิดขึ้นด้วยในชีวิตของเราคริสตชน เพราะเราแต่ละคนล้วน “คาดหวัง” ที่จะ ได้รับผลดีจาก “ต้นชีวิตคริสตชน” อยากให้ชีวิต “มีความสุข ” อยากให้ชีวิต “แข็งแกร่ง” อยากให้ชีวิต “ร่ํารวย” ฯลฯ และที่สุดอยาก “ไปสวรรค์” ภายใต้ “ชื่อคริสตชน” ที่มีพระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้นํา พร้อมทั้งทุ่มเทออกแรงทําสิ่ง นั้น สิ่งนี้อย่างแข็งขัน แต่อาจเป็นเพราะ “เข้าใจผิด” อย่างไรไม่ทราบ สิ่งที่ออกแรง ทําไปนั้น “ไม่ตรงจุด” “ไม่สอดคล้อง” ไปในทิศทางที่จะหวังให้เกิดผลตามที่ คิดหวังไว้ได้ ประเด็นที่ทําให้ทุกกิจการพลาดเป้าหมายไปทั้งหมดก็คือ กระทํา ไปแบบไม่ยอม “แบกกางเขนของตน” รวมทั้งกระทําไปแบบไม่ยอม “ติดตาม พระเยซูเจ้า ” พร้อมๆ กับการออกแรงกระทําสิ่งต่างๆ ในชีวิตของตนนั้น ๆ สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016
-3-
ทั้ ง นี้ เ พราะเงื่ อ นไขที่ จ ะทํ า ให้ ต น “มี ชี วิ ต ”ได้ นั้ น จํ า เป็ น ต้ อ งผ่ า น “ความ ยากลําบาก” ในชีวิตของตนเสียก่อน และยินดีให้ชีวิตของตนเป็นไปตามพระ ประสงค์ของพระบิดาเจ้า นี่คือวิถีทางที่พระเยซูเจ้าทรงสอนและปฏิบัติตนไว้ ให้เป็นแนวทางในการดําเนินชีวิตของเราคริสตชนลูกศิษย์ของพระองค์ อาจมีบางคนกล่าวถึงความทุกข์ยากลําบากในชีวิตว่าเป็น “ยาขม” เป็น “ปีศาจร้าย” ที่น่าหวาดกลัวและต้องวิ่งหนี แต่เราคริสตชนมองเห็นว่า นี่คือ “ยาสํ า หรั บรั ก ษาชี วิ ต ” ที่ ต้ อ งยิน ดี ใช้ ผ สมลงในวิ ถี ปฏิ บัติ ข องตนทุ ก ๆ วั น ยิ่งผสมลงในชีวิตของเรามากเท่าไร นานเท่าไร เราก็ยิ่งมั่นใจได้ว่าชีวิตของเรา กําลังก้าวเข้าใกล้สิ่งดีๆ ที่มุ่งหวังไว้มากยิ่งขึ้นเท่านั้น เทศกาลมหาพรตนี้พ่อ เชิญชวนให้พี่น้องยินดีน้อมรับความยากลําบากในชีวิตของพี่น้ องเสมอ ทําให้ ชีวิตคุ้นเคย ทําให้มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของพี่น้องยิ่งวันยิ่งมากขึ้น จนสามารถรับรู้ถึงคุณความดีของความทุกข์ยากลําบากในชีวิตของพี่น้องได้ และแนะนําผู้คนให้มีสายตาใหม่มองเห็นสิ่งดีนี้ในชีวิตของพวกเขาด้วยตามที่ พระเยซูเจ้าทรงสอนไว้ คุณพ่อเปโตร วิทยา แก้วแหวน
สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016
-4-
อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต ลก 13:1-9 1 ในเวลานั้น คนบางคนเข้ามาทูลพระเยซูเจ้าถึงเรื่องชาวกาลิลซี ึ่งถูกปีลาตสั่งประหารชีวิตใน ขณะที่เขากาลังถวายเครื่องบูชา พระองค์จึงตรัสตอบเขาว่า 2‘ท่านคิดว่าชาวกาลิลเี หล่านี้เป็นคนบาป มากกว่าชาวกาลิลีทุกคนหรือ จึงต้องถูกฆ่าเช่นนี้ 3มิได้ เราบอกท่านทั้งหลายว่าถ้าท่านไม่กลับใจ เปลี่ยนชีวิต ทุกท่านจะพินาศไปเช่นกัน 4แล้วคนสิบแปดคนที่ถูกหอสิโลอัมพังทับเสียชีวิตเล่า ท่านคิด ว่าคนเหล่านั้นมีความผิดมากกว่าคนอื่นทุกคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มหรือ 5มิได้ เราบอกท่าน ทั้งหลายว่าถ้าท่านไม่กลับใจเปลี่ยนชีวิต ทุกท่านจะพินาศไปเช่นเดียวกัน’ 6 พระเยซูเจ้าตรัสเป็นอุปมาเรื่องนี้ว่า ‘ชายผู้หนึ่งปลูกต้นมะเดื่อเทศต้นหนึ่งในสวนองุ่นของตน เขามามองหาผลที่ต้นนั้น แต่ไม่พบ 7จึงพูดแก่คนสวนว่า “ดูซิ สามปีแล้วที่ฉันมองหาผลจากมะเดื่อเทศ ต้นนี้แต่ไม่พบ จงโค่นมันเสียเถิด เสียที่เปล่าๆ” 8แต่คนสวนตอบว่า “นายครับ ปล่อยมันไว้ปีนี้อีกสักปี หนึ่งเถิด ผมจะพรวนดินรอบต้น ใส่ปุ๋ย 9ดูซิว่าปีหน้ามันจะออกผลหรือไม่ ถ้าไม่ออกผล ท่านจะโค่นทิ้ง เสียก็ได้”’ ข่าวดี
*************************
ข้อคิดจากพระวรสาร โดย คุณพ่อชัยยะ กิจสวัสดิ์
เราไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรงและน่าเศร้าสลดที่พระวรสารวันนี้กล่าวถึง แต่พอคาดเดาได้ดังนี้ เหตุการณ์แรกเกี่ยวข้องกับ “ชาวกาลิลีซึ่งถูกปีลาตสั่งประหารชีวิตในขณะที่เขา กาลังถวายเครื่องบูชา” (ลก 13:1) เท่าทีเ่ รามีข้อมูลคือ สมัยที่ปีลาตปกครองแคว้นยูเดียระหว่างปี ค.ศ. 26-36 เกิด ขาดแคลนน้าอย่างหนักในกรุงเยรูซาเล็ม
ปีลาตจึงตัดสินใจสร้างระบบส่งน้าโดยใช้งบ
ประมาณจากเงินในคลังของพระวิหาร ต้องยอมรับว่าโครงการของปีลาตดี แต่ชาวยิวยอมรับไม่ได้ที่จะนาเงินจากคลังของ พระวิหารซึ่งเป็นของพระเจ้าออกมาใช้จ่าย พวกเขาจึงรวมตัวกันจับอาวุธขึ้นต่อต้าน สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016
-5-
ปีลาตสั่งให้ทหารปลอมตัวโดยสวมเสื้อคลุมทับชุดทหาร พร้อมกับซ่อนตะบองไว้ ใต้เสื้อคลุมแทนการใช้ดาบ แล้วให้ทหารปะปนไปกับฝูงชน เมื่อได้รับสัญญาณ ทหารพยายามสลายฝูงชน แต่เพราะทารุนแรงเกินกว่าคาสั่ง จึงมีประชาชนจานวนหนึ่งต้องสังเวยชีวิตให้กับการต่อต้านครั้งนี้ คาดว่าในบรรดาผู้เสียชีวิตคงมีชาวกาลิลีรวมอยู่ด้วย เพราะพวกเขาขึ้นชื่อในเรื่อง รักชาติ และพร้อมจะเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองทุกรูปแบบอยู่แล้ว คาดกันอีกว่านี่คือชนวนเหตุที่ทาให้ปีลาตกับกษัตริย์เฮโรด อันติพาสซึ่งปกครอง แคว้นกาลิลีต้องกลายเป็นศัตรูกัน
จวบจนเมื่อปีลาตทราบว่าพระเยซูเจ้าเป็นชาวกาลิลี
“จึงส่งพระองค์ไปให้กษัตริย์เฮโรด ซึ่งในขณะนั้นประทับอยู่ที่กรุงเยรูซาเล็ม” (ลก 23:7) และหลังจากได้สบประมาทเยาะเย้ยพระองค์จนเป็นที่พอใจแล้ว
เฮโรดก็ส่งพระองค์
กลับมาหาปีลาต จากนั้นทั้งคู่ “ก็กลับเป็นเพื่อนกัน” (ลก 23:12) เหตุการณ์ที่สองคือ “ชาวยิวสิบแปดคนถูกหอสิโลอัมพังทับเสียชีวิต” (ลก 13:4) ซึ่งกรณีนี้คลุมเครือมากกว่าเหตุการณ์แรกเสียอีก แต่จากคาถามของพระเยซูเจ้าที่ว่า “ท่านคิดว่าคนเหล่านั้นมีความผิดมากกว่าคน อื่นทุกคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มหรือ” (ลก 13:4) ทาให้เราพอมีร่องรอยให้คาดเดาได้ บ้าง เพราะคาว่า “ความผิด” ตรงกับภาษากรีก ópheilétēs (โอเฟยเลเตส) ซึ่งแปลว่า “ลูกหนี้” เป็นคาเดียวกันกับที่ใช้ในบท “ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย” ซึ่งก่อนหน้า นี้เราเคยสวดว่า “โปรดยกหนี้ของเรา เหมือนเรายกหนี้แก่เขา” ! จึงเป็นไปได้ว่า ชาวยิวทั้ง สิบแปดคนที่ถูกหอสิโลอัมพังทับเสียชีวิต คงเป็นส่วนหนึง่ ของคนงานก่อสร้างระบบส่งน้า ของปีลาต ซึ่งต่างก็รับเงินจากคลังของพระวิหารเป็นค่าจ้าง สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016
-6-
คาดว่าอุบัติเหตุที่ทาให้คนงานเสียชีวิตถึงสิบแปดคนนี้
คงก่อให้เกิดเสียงเล่าลือในหมู่
ประชาชนทานองว่า หอสิโลอัมพังทับพวกเขาตายเพราะพวกเขาเป็น “ลูกหนี้” ของพระ เจ้า เหตุว่าพวกเขาดันไปรับเงินค่าจ้างที่ชาวยิวถือว่า “ขโมย” มาจากพระองค์ และเพราะเป็นเพียงเสียงเล่าลือ เราจึงไม่มีข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์รองรับ แต่ไม่ว่าข้อเท็จจริงของทั้งสองเหตุการณ์จะเป็นเช่นใดก็ตาม สิ่งที่ชาวยิวเชื่อและ สอนเรื่อยมาก็คือ “ความทุกข์ยากและความตายเป็นผลของบาป” ?!? ดังที่โยบถูกเอลีฟัสเพื่อนสนิทตั้งคาถามว่า “ผู้บริสุทธิ์เคยพินาศหรือ ?” (โยบ 4:7) ความหมายของเอลีฟัสคือ “คนดีตอ้ งได้ดี เพราะฉะนั้นการที่โยบตกทุกข์ได้ยาก ย่อมแปลว่าโยบได้ทาบาปผิดต่อพระเจ้า” เท่ากับว่าคาสอนของชาวยิวคือ
“ความทุกข์ยากและความตายเป็นผลของบาป
หรือไม่ก็เกี่ยวเนื่องกับบาปชนิดแยกออกจากกันไม่ได้” นับเป็นคาสอนที่โหดร้ายและทารุณจิตใจเป็นอย่างยิ่ง ! เพราะหากเป็นจริงตามคาสอนนี้ ย่อมเข้าใจเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากว่า “เศรษฐี ทุกคนเป็นคนดี และคนจนที่ตกทุกข์ได้ยากทุกคนเป็นคนชั่ว”…. หรือพูดง่ายๆ ก็คือ “คนจนทาบาปมากกว่าคนรวย” !!! แน่นอนว่า พระเยซูเจ้าไม่มีทางยอมรับคาสอนเช่นนี้ได้ พระองค์จึงย้อนถามว่า “ท่านคิดว่าคนที่ถูกปีลาตประหารหรือถูกหอสิโลอัมพังทับเสียชีวิต
เป็นคนบาปมากกว่า
คนอื่นหรือ ?” (ลก 13:2,4) แต่ในเวลาเดียวกัน ทั้งๆ ที่ทรงเล็งเห็นว่าบาปไม่จาเป็นต้องเกี่ยวข้องกับการถูกฆ่า หรือถูกหอล้มทับตาย พระองค์ยังตรัสย้าถึงสองครั้งสองคราว่า “ถ้าท่านไม่กลับใจเปลี่ยน ชีวิต ทุกท่านจะพินาศไปเช่นกัน” (ลก 13:3,5) พระองค์ปรารถนาจะสอนอะไรแก่เราหรือ ?... สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016
-7-
เราอาจแยกคาสอนของพระองค์ออกเป็น 2 กรณี ดังนี้ 1. กรณีบาปของแต่ละคน พระองค์ถือว่า “ไม่จาเป็น” ที่บาปจะต้องเกี่ยวข้อง กับความทุกข์ยาก ความยากจน หรือแม้แต่ความตาย หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ความทุกข์ยาก ความยากจน รวมถึงความตาย ไม่จาเป็น ต้องเป็นผลพวงมาจากบาปของเราแต่ละคน
ตรงกันข้ามพระองค์ทรงสอนว่า
“ผูม้ ีใจ
ยากจน หรือถูกเบียดเบียนข่มเหงเพราะความชอบธรรม ย่อมเป็นสุข เพราะอาณาจักร สวรรค์เป็นของเขา” (มธ 5:3,10; ลก 6:20,22) ที่สาคัญ พระองค์ทรงกาหนดเงื่อนไขในการติดตามพระองค์ไว้ว่า “ถ้าผู้ใดอยาก ติดตามเรา ก็ให้เขาเลิกนึกถึงตนเอง ให้แบกไม้กางเขนของตน และติดตามเรา” (มก 8:34) ทั้งหมดนี้บ่งบอกถึงทัศนะของพระเยซูเจ้าว่า ความยากจนก็ดี การถูกเบียด เบียนข่มเหงก็ดี หรือความทุกข์ยากต่างๆ ก็ดี ไม่จาเป็นต้องเป็นผลของบาปเสมอไป แต่อาจเป็นกางเขนที่พระเจ้าทรงโปรดประทานแก่เรา “แต่ละคน” ก็ได้ ! 2. กรณีบาปของชาติ พระองค์ถือว่าบาปหรือนโยบายที่ผิดพลาดของชาติย่อม “เกี่ยวข้อง” และ “ก่อให้เกิด” ความทุกข์ยาก ความหายนะ หรือแม้แต่ความตายแก่ ประชาชนทุกคนอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงตรัสว่า “ถ้าท่านไม่กลับใจเปลี่ยนชีวิต ทุกท่านจะพินาศไป เช่นกัน” (ลก 13:3,5) นี่เป็นคาเตือนสาหรับชาวยิว “ทั้งชาติ” ! ถ้าชาวยิวไม่เลิกคิดวางแผนก่อการกบฏ สักวันหนึ่งโรมคงส่งกองทัพมาบดขยี้กรุง เยรูซาเล็มและชาวยิวจนพินาศไม่มีอะไรเหลือ
สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016
-8-
หรือถ้าชาวยิวไม่กลับใจเปลี่ยนวิถีดาเนินชีวิต
เลิกทะเยอทะยานแสวงหา
อาณาจักรทางโลก แล้วหันกลับมาแสวงหาพระอาณาจักรของพระเจ้า สักวันหนึ่งพวกเขา ก็จะพบกับความพินาศ และตามประวัติศาสตร์ หลังจากถูกกองทัพโรมันล้อมอยู่หลายปีจนผู้คนอดอยาก ล้มตายเป็นจานวนมาก บางคนถึงกับยอมกินเนื้อมนุษย์ด้วยกันเองเป็นอาหารประทังชีวิต กรุงเยรูซาเล็มก็ถูกทาลายจนพินาศย่อยยับในปี ค.ศ. 70 ส่วนชาวยิวที่รอดชีวิตก็ตกอยู่ในฐานะสิ้นชาติ ต้องกระจัดกระจายไปอาศัยอยู่ตาม ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก จวบจนหลังสงครามโลกครั้งที่สองนี่เอง ที่พวกเขาสามารถรวมตัว กันสร้างประเทศอิสราเอลขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่งในปี ค.ศ. 1948 ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นสมดังคาของพระเยซูเจ้าที่ตรัสไว้ว่า
“เมื่อท่านทั้งหลายเห็น
กองทัพต่างๆ ล้อมกรุงเยรูซาเล็ม ก็จงรู้ไว้เถิดว่าความพินาศของนครนั้นใกล้เข้ามาแล้ว เวลานั้นผู้ที่อยู่ในแคว้นยูเดียจงหนีไปยังภูเขา ชนบทก็จงอย่าเข้ามาในกรุง
ผู้ที่อยู่ในกรุงจงรีบออกไปเสีย
เพราะวันเหล่านั้นจะเป็นวันพิพากษาลงโทษ
เขียนไว้ในพระคัมภีร์จะเป็นความจริงทุกประการ
ผู้ที่อยู่ใน ข้อความที่
น่าสงสารหญิงมีครรภ์และหญิงแม่ลูก
อ่อน ในวันนั้นทุกขเวทนาใหญ่หลวงจะครอบคลุมทั่วแผ่นดินและพระพิโรธจะลงมาเหนือ ชนชาตินี้
บางคนจะตายด้วยคมดาบ บางคนจะถูกจับเป็นเชลยไปอยู่ในประเทศต่างๆ
กรุงเยรูซาเล็มจะถูกคนต่างศาสนาเหยียบย่าจนกว่าจะครบเวลาที่พระเจ้าทรงกาหนดไว้” (ลก 21:20-24) จากพระดารัสของพระเยซูเจ้าและจากเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ ทาให้เราเห็น ได้ชัดเจนว่า ความทุกข์ยากและความพินาศถึงขั้นสิ้นชาติของชาวยิวเกิดจากบาปของชน ชาติยิวเอง ที่มุ่งมั่นจะก่อการกบฏเพื่อปลดแอกจากกรุงโรม โดยหวังจะสร้างอาณาจักรทาง โลกให้ยิ่งใหญ่เหมือนในสมัยของกษัตริย์ดาวิด สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016
-9-
หากพวกเขายอมกลับใจและเปลี่ยนวิถีชีวิตตามคาเตือนของพระเยซูเจ้า พวกเขา คงไม่ต้องประสบกับความทุกข์ยากและความหายนะปานนี้ บางคนอาจถามว่า ไม่มีชาวยิวสักคนเลยหรือที่เชื่อฟังพระเยซูเจ้า ยอมกลับใจและ เปลี่ยนวิถีชีวิตมาแสวงหาพระอาณาจักรของพระเจ้า ? คาตอบคือ “มีแน่นอน” แต่เพราะไม่มีมนุษย์ผู้ใดดารงชีวิตอยู่ได้ตามลาพัง จาเป็นต้องอยู่รวมกันเป็นเผ่า เป็นชาติ เป็นประเทศ เมื่อประเทศชาติทาบาปหรือดาเนินนโยบายผิดพลาด ผลแห่งความ ผิดพลาดนั้นย่อมตกถึงประชาชนแต่ละคนอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง ประเทศไทยก็ตกอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์เดียวกันนี้…. หากคนไทยยังยึดติดอยู่กับลัทธิวัตถุนิยมและประชานิยมอย่างทุกวันนี้ ไม่ว่าเรา จะเห็นด้วยหรือจะต่อต้านลัทธิเหล่านี้มากเพียงใดก็ตาม
สักวันหนึ่งประเทศชาติจะต้อง
ประสบกับความหายนะ และความทุกข์ยากระดับรากหญ้าก็จะมาเยือนเราทุกคน เว้นแต่ เราแต่ละคนซึ่งต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย จะเริ่มกลับใจและ เปลี่ยนวิถีชีวิต ก่อนจะไม่มีชีวิตเหลือให้เปลี่ยน ! จากทั้งสองกรณี เราอาจสรุปหลักการของพระเยซูเจ้าได้ว่า “ความทุกข์ยากไม่ได้ เป็นผลของบาปเสมอไป แต่ชนชาติใดเป็นปฏิปักษ์กับพระเจ้า ย่อมอยู่ในหนทางแห่ง ความหายนะอย่างแน่นอน” !! คาอุปมาเรื่องต้นมะเดื่อเทศไร้ผลแสดงให้เห็น “พระพร” มากมายที่พระเจ้าทรง โปรดประทานแก่เรา และในเวลาเดียวกันก็แฝงไว้ด้วย “คาเตือน” หนักหน่วงด้วยเช่นกัน 1. มะเดื่อเทศต้นนี้ได้รับ “โอกาส” มากเป็นพิเศษ เพราะปกติต้นมะเดื่อเทศ ทัว่ ไปมักเติบโตในเนื้อดินปนหินตื้นๆ ซึ่งขาดความอุดมสมบูรณ์ น้อยครั้งนักที่เราจะพบต้น มะเดื่อเทศปลูกไว้ในสวนองุ่นซึ่งมีเนื้อดินดีกว่าและอุดมสมบูรณ์กว่าที่อื่น สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016
-10-
แต่ทว่ามะเดื่อเทศต้นนี้กลับให้ผลไม่เป็นที่น่าพอใจเลย ! เช่นเดียวกับมะเดื่อเทศต้นนี้
พระเจ้าทรงประทานโอกาสแก่เรามากกว่าผู้อื่น
พระองค์ทรงโปรดให้เราเป็นบุตรของพระองค์ ทรงเรียกเรามาเป็นคริสตชน ทรงประทาน พระพรและความช่วยเหลือนานัปการแก่เรา ไม่มียุคสมัยใดอีกแล้วที่พระองค์จะประทาน โอกาสให้แก่เรามากมายเช่นนี้ ปัญหาคือเราได้ใช้โอกาสต่างๆ เหล่านี้อย่างมีความรับผิดชอบเต็มที่จนบังเกิดผล อุดมสมบูรณ์แล้วหรือ ?? หรือเราจะปล่อยให้ลงเอยเหมือนมะเดื่อเทศในสวนองุ่นต้นนี้ ! 2. หากไม่เกิดประโยชน์จะถูกกาจัดทิ้งไป ดังที่เจ้าของสวนคิดจะโค่นต้นมะเดื่อ เทศที่ไม่ออกผลเพราะทาให้เสียเนื้อที่สวนไปเปล่าๆ ฟังดูเหมือนเจ้าของสวนจะเอาแต่ผลประโยชน์เป็นที่ตั้ง แต่อันที่จริง กระบวนวิวัฒนาการของโลกก็ดาเนินไปในลักษณะนี้ เฉพาะสิ่งที่มี ประโยชน์เท่านั้นที่คงอยู่ สิ่งใดไม่มีประโยชน์ก็จะถูกกาจัดหรือค่อยๆ สูญหายไป ที่แขน และขาของเรายังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะมันยังมีประโยชน์แก่เรานั่นเอง เราแต่ละคนจึงต้องเฝ้าถามตัวเองอยู่เสมอว่า “เรามีประโยชน์อะไรต่อโลก ต่อ ประเทศไทย ต่อสังคมรอบข้าง หรือต่อครอบครัวของเรา ?” 3. ไม่มีสิ่งใดที่ “รับ” เพียงอย่างเดียวแล้วจะอยู่รอด เหมือนต้นมะเดื่อเทศที่ ได้รับน้าเลี้ยงและอาหารอย่างดีจากสวนองุ่น แต่ก็ไม่มีหลักประกันว่าจะอยู่รอด เว้นแต่มันจะ “ให้” ผลเป็นทีน่ ่าพอใจ ! จากหลักการนี้ เราอาจแบ่งมนุษย์ออกเป็นสองประเภทด้วยกันคือ พวกที่รับ มากกว่าให้ และพวกที่ให้มากกว่ารับ เมื่อเกิดมาเรา “ได้รับ” สิ่งต่างๆ มากมาย เช่น การศึกษา การรักษาพยาบาล เสรีภาพ เทคโนโลยีซึ่งช่วยให้เราดาเนินชีวิตอย่างสะดวกสบาย หรือแม้แต่ความเชื่อเยี่ยง สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016
-11-
คริสตชน ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นผลพวงมาจากความอุตสาหะ ความเหนื่อยยาก ความ เสียสละ และหลายครั้งถึงกับต้องเอาชีวิตเข้าแลกของบรรดาบรรพบุรุษของเรา เราจึงเป็นหนี้ชีวิตของพวกท่านที่ได้ทุ่มเทและ “ให้” ความเสียสละหรือแม้แต่ชีวิต ของตน เพื่อความอยู่รอดและความเจริญก้าวหน้าของมวลมนุษยชาติ แล้วเราจะยอมปล่อยให้อนาคตของมนุษยชาติต้องมืดมนลง
หรือต้องสิ้นสุดลง
เพียงเพราะเราเป็นพวกที่ “รับ” มากกว่า “ให้” กระนั้นหรือ ??? 4. ยังมีโอกาส ปกติมะเดื่อเทศใช้เวลาปลูกสามปีก็โตเต็มที่และพร้อมให้ผล แต่ ถ้าสามปีแล้วยังไม่เกิดผล ก็มีแนวโน้มว่ามันจะไม่เกิดผลอีกเลย กระนั้นก็ตาม เจ้าของสวนยังให้โอกาสต้นมะเดื่อเทศอีกครั้งหนึ่ง ! นี่คือหนึ่งใน “ข่าวดี” ที่พระเยซูเจ้าทรงประทานโอกาสแก่เราครั้งแล้วครั้งเล่า ดังที่เปโตรและเปาโลได้ประสบ และต่างก็ยืนยันเรื่องนี้ได้ดีที่สุด ทุกวันนี้พระองค์ยังประทานโอกาสแก่เราทุกคนที่ล้มลง และพร้อมที่จะลุกขึ้นมา ใหม่ ! 5. โอกาสสุดท้ายจะมาถึงหากเรายังคง “ปฏิเสธ” พระองค์ซ้าซากด้วยการปล่อย ให้เสียงเรียกและโอกาสต่างๆ ที่พระองค์ประทานแก่เราผ่านเลยไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะจะมีสักวันหนึ่งที่จิตใจของเราเย็นชาและแข็งกระด้าง
จนกระทั่งตัดขาด
ตัวเองจากพระองค์ เป็นตัวเราเองที่เลือกปิดประตูตายจากพระองค์ ไม่ใช่พระองค์ที่ปิดกั้นโอกาสของ เรา ! ขอพระเจ้าโปรดอย่าให้เราปฏิเสธพระองค์โอกาสมหาพรตนี้เลย !
สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016
-12-
Pope Report ตามโป๊ปไปพบพระอัยกา และต่อด้วยเม็กซิโก (ตอน 2) มาถึงภาคจบของพระสันตะปาปาเยือนเม็กซิโกกันแล้ว ตอนนี้ จะนาทุก ท่านไปตามทุกพันธกิจของระยะเวลาที่เหลือ ก่อนที่สัปดาห์หน้า เราจะมาปิดท้าย ด้วยไฮไลท์สาคัญเหมือนเดิม นั่นคือ บทสัมภาษณ์พระสันตะปาปาบนเครื่องบิน ซึ่ง มีหลายคาตอบที่กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก ... เวลาเจอความจริงที่โหดร้าย สงฆ์และนักบวชอย่ายอมแพ้ต่อความยากลาบาก วันอังคารที่ 16 ก.พ. พระสันตะปาปาทรงถวายมิสซาให้กับบรรดาพระสงฆ์ และนักบวชชาวเม็กซิกัน ภายในสนามเวนุสเตียโน่ การ์รันซ่า เมืองโมเรเลีย รัฐมิโชอา กัน ประเทศเม็กซิโก มิสซานี้ พระสันตะปาปาทรงเทศน์สอนพวกเขาว่า “วิบัติแก่พวกเราพระสงฆ์ และนักบวช ถ้าเราไม่เป็นประจักษ์พยานถึงสิ่งที่เราเห็นและได้ยินเกี่ยวกับพระเจ้า พวก เราไม่ได้เป็นและไม่ได้ต้องการเป็นผู้ปกครองความศักดิ์สิทธิ์ พวกเราไม่ได้เป็นและไม่ ต้องการเป็นลูกจ้างของพระเจ้า แต่พวกเราได้รับเชิญมาให้ร่วมแบ่งปันชีวิตของ พระองค์ “พ่ออยากสอนพวกท่านว่า การสวดภาวนาคือกระบวนการเรียนรู้ของชีวิต นักบวช เราสวดภาวนาอย่างสม่่าเสมอในทุกวัน การภาวนาจะท่าให้เราไม่แพ้การ ประจญ “เวลาเราเผชิญหน้ากับความจริง ปีศาจจะชนะเราด้วยอาวุธสุดโปรดของ มัน นั่นคือ การทาให้เรายอมจานนยอมแพ้ต่อสิ่งต่างๆ การยอมจานนไม่ได้ทาให้ เราเกิดความกลัวเท่านั้น แต่มันยังทาให้เราอยู่ในความปลอดภัยแบบจอมปลอม การยอมแพ้ไม่ได้สกัดกั้นเราจากการประกาศพระวรสารเท่านั้น แต่ยังยับยั้งเราจาก การสรรเสริญพระเจ้าอีกด้วย” อย่าหลงคิดว่าเงินซื้อได้ทุกอย่าง บ่ายวันเดียวกัน พระสันตะปาปาทรงพบปะเยาวชนกว่า 50,000 คน ภายใน สนามโฮเซ่ มาเรีย โมเรลอส เย ปาวอน งานนี้ พระองค์สอนพวกเขาว่า สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016
-13-
“ภัยคุกคามต่อความหวังของเยาวชนคือการยอมให้ตัวเองหลงไปเชื่อว่า สิ่งมีค่าที่สุดคือการมีเงิน มีเสื้อผ้าสวยๆ การยึดตามแบรนด์หรู ยึดตามแฟชั่น ล่าสุด หรือสนุกไปกับการเป็นคนมีชื่อเสียงเป็นคนสาคัญ แต่ส่วนลึกในใจแล้ว พวก เขากลับไม่เชื่อมั่นในตัวเองและไม่มีค่าให้ใครมารักพวกเขา “ภัยคุกคามที่ใหญ่หลวงอีกอันคือการคิดว่า เงินซื้อได้ทุกอย่าง รวมทั้งซื้อ ความรัก บางคนคิดแค่ว่า แค่มีเงินซื้อรถหรูๆ ชีวิตก็มีความสุขแล้ว “ดังนั้น พ่อหวังว่า พวกลูกจะไม่ตกเป็นเหยื่อของภัยคุกคามเหล่านี้ เพราะนี่ คือเรื่องภายนอกที่ไม่ยั่งยืน แต่สิ่งส่าคัญสุดส่าหรับเราคือเราต้องมีพระเจ้าในจิตใจ เรา ต้องยึดพระเยซูไว้เป็นหลักในการด่าเนินชีวิต ถ้าลูกท่าเช่นนี้ได้ ชีวิตลูกจะพบกับความ สงบในจิตใจและความชื่นชมยินดี” ไม่มีสถานที่ใดที่พระเมตตาของพระเจ้าไปไม่ถึง วันพุธที่ 17 ก.พ. วันสุดท้ายของพันธกิจการเยือนเม็กซิโก พระสันตะปาปาได้ เสด็จไปเยี่ยมและให้โอวาทผู้ต้องขังกว่า 3,000 คนในทัณฑสถานเชนโตร เด เรอาดัป ตาชิออง โซชิอัล เอาตาลาล เมืองชิวดาด ฮัวเรซ ซึ่งมีพรมแดนติดกับสหรัฐอเมริกาและ ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศเม็กซิโก โอกาสนี้ พระสันตะปาปาตรัสกับบรรดาผู้ต้องขังว่า “ไม่มีสถานที่ใดหรอกที่ พระเมตตาของพระเจ้าจะไปไม่ถึง การฉลองปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมคือการรื้อ ฟื้นการจาริกเดินทางว่า เราต้องมีส่วนร่วมในปีศักดิ์สิทธิ์ เพื่อจะได้ท่าลายวงจรของ ความรุนแรงและอาชญากรรมให้หมดไปจากตัวเรา “ความเมตตาของพระเจ้าคือการเตือนใจเราว่า การให้โอกาสคนทาผิด กลับสู่สังคม มันไม่ได้เริ่มต้นจากกาแพงในเรือนจาแห่งนี้ แต่มันเริ่มต้นที่ท้องถนน ด้านนอกซึ่งเราให้โอกาสผู้ทาผิดได้มีที่ยืนอยู่ตรงนั้นต่างหาก ความเมตตาของพระ เจ้ายังหมายถึง การเรียนรู้ว่า การเป็นนักโทษนั้นจะกลายเป็นอดีต และเราต้อง เชื่อมั่นว่า เราสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ เราไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขอดีต แต่พ่อ อยากบอกว่า พ่ออยากฉลองปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมกับพวกท่าน เพราะนี่คือ โอกาสให้ท่านได้เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้ตัวเองและก้าวเดินไปข้างหน้า สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016
-14-
“ใครก็ตามที่เคยทนทุกข์ระทมจากความเจ็บปวดอันแสนสาหัสในชีวิตและ สามารถกลับตัวกลับใจได้ พวกเราสามารถพูดได้เลยว่า เขาคนนั้นมีประสบการณ์ จากนรกมาแล้ว และเขาสามารถที่จะเป็นประกาศกในสังคมได้ เพื่อจะสอนเราว่า อย่าได้ทาผิดพลาดแบบที่เขาคนนั้นเคยทามาอีก” พ่อแม่ควรได้กลับบ้านไปเล่นกับลูก หลังเลิกงาน ไม่ใช่นั่งทางานจนดึกดื่น บ่ายวันเดียวกัน พระสันตะปาปาทรงพบปะและให้โอวาทแก่บรรดานักธุรกิจ ชาวเม็กซิกันกว่า 3,000 คน ภายในวิทยาลัยบาชิเยเรส โอกาสนี้ พระสันตะปาปาตรัส ให้ข้อคิดกับพวกเขาว่า ... “พ่ออยากให้ทุกคนมีความฝันว่า เม็กซิโกจะเป็นประเทศที่หลังจากเลิกงาน แล้ว คุณพ่อและคุณแม่ทุกคนสามารถมีเวลาเล่นกับลูก ไม่ใช่พ่อแม่ต้องทางาน หนักราวกับเครื่องจักรจนไม่มีเวลาให้ลูกของตัวเอง ถ้าฝันนี้เป็นความจริง ผู้ชนะตัว จริงคือประเทศเม็กซิโก “ในฐานะเจ้าของธุรกิจและพนักงานบริษัท พวกท่านอยากทิ้งมรดกความทรง จ่าอะไรไว้ให้ลูกหลานล่ะ พวกท่านอยากให้ลูกหลานจดจ่าไหมว่า เม็กซิโกเป็นประเทศ ที่บริษัทต่างๆ จ่ายเงินเดือนต่่าเกินความจริง เป็นประเทศที่นายจ้างแสวงหาแต่ ผลประโยชน์ส่วนตัว หรือเป็นประเทศที่มีการขู่กรรโชกในที่ท่างานอย่างนั้นหรือ หรือว่า เราอาจมอบความทรงจ่าให้พวกเขาว่า เม็กซิโกเป็นประเทศที่เหมาะสมแก่การท่างาน อย่างแท้จริง “อย่างไรก็ตาม สิ่งเลวร้ายสุดที่เราจะทิ้งให้ลูกหลานคือระบบเศรษฐกิจ การเมือง และการงาน เต็มไปด้วยการคดโกง การทารุณกรรม และขาดความ เสมอภาค สิ่งหนึ่งที่พ่ออยากเตือนสติพวกท่านคือ กาไรและเงินต้องไม่ถูกให้ ความสาคัญมากกว่าตัวคน อย่าใช้งานลูกจ้างราวกับแรงงานทาส เหนือสิ่งอื่นใด กาไรและเงินต้องถูกนามาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการสร้างคุณความดี เราต้องอย่า นากาไรและเงินมาเป็นตัวกาหนดชีวิตคน” เราไม่สามารถนิ่งเฉยกับวิกฤติการณ์ผู้อพยพลี้ภัย ช่วงเย็น พระสันตะปาปาทรงไปภาวนา ณ พรมแดนระหว่างเม็กซิโกและ สหรัฐอเมริกา ซึ่งบริเวณนี้มีรั้วลวดหนามขวางกั้นอยู่เต็มไปหมด จากนั้น ทรงถวาย สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016
-15-
มิสซาที่ลานกว้างของเมืองชิวดาด ฮัวเรซ ประเทศเม็กซิโก ท่ามกลางสัตบุรุษที่มาร่วม กว่า 250,000 คน โดยนี่คือพันธกิจสุดท้ายของการเยือนเม็กซิโก บทอ่านวันนี้เป็นเหตุการณ์ที่ประกาศกโจนาห์ไปประกาศให้ชาวเมืองนีนะเวห์ กลับใจ ซึ่งทุกคนก็ท่าตามจริงๆ พระเจ้าจึงพอพระทัยและไม่ลงโทษพวกเขา พระ สันตะปาปาทรงแบ่งปันบทอ่านนี้ว่า “การร่่าไห้คร่่าครวญเหนือความไม่ยุติธรรม การโกง และการกดขี่ข่มเหง ถือ เป็นสิ่งดี นี่คือน้่าตาที่น่าไปสู่การเปลี่ยนแปลงหัวใจของเราให้อ่อนลง ไม่แข็งกระด้าง น้่าตาที่ท่าให้เรามองไปที่บาปที่เราต้องจมปลักอยู่กับมัน นี่คือน้่าตาที่สามารถท่าให้เรา กลับใจ บทอ่านในวันนี้ยังคงดังก้องมาจนถึงพวกเราทุกวันนี้ เสียงเรียกให้กลับใจ ท่ามกลางความโหดร้ายต่างๆ ในปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรม พ่อจึงวอนขอพระเจ้า โปรดประทานพระหรรษทานให้พวกเราทุกคนกลับใจ ขอพระเจ้าประทานของขวัญแห่ง การกลับใจให้เราด้วย “ในเมืองชิวดาด ฮัวเรซ ซึ่งเป็นชายแดนเม็กซิโกและอเมริกา มีผู้อพยพ มากมายต่างแสวงหาจะข้ามผ่านมันไปให้ได้ ทุกย่างก้าวกว่าจะผ่านไปได้ หลายคนต้อง พบกับความไม่ยุติธรรมอย่างแสนสาหัส การตกเป็นทาส การถูกจ่าคุก ถูกกลั่นแกล้ง และมีอีกหลายคนตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ “สถานการณ์แบบนี้เราไม่สามารถเพิกเฉยได้ เราจะมาท่าเป็นมองไม่เห็นไม่ได้ เราไม่สามารถปฏิเสธวิกฤติเช่นนี้ได้ เพราะโศกนาฏกรรมเหล่านี้ได้กลายเป็นปรากฏการณ์ไปทั่วโลกแล้ว ความไม่ยุติธรรมเหล่านี้ได้ขโมยชีวิตของผู้อพยพจ่านวนมาก ชีวิต ที่มีความสุขได้อยู่กับครอบครัว ชีวิตที่ได้อยู่ในประเทศบ้านเกิดของตน แต่พวกเขาต้อง มาพบกับความรุนแรงและยาเสพติดจนท่าให้ต้องลี้ภัยไปแสวงหาความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น “ดังนั้น ขอให้เราวอนขอพระหรรษทานจากพระเจ้าเพื่อการกลับใจของทุกคน ขอพระหรรษทานที่จะเปิดใจเราเหมือนเปิดใจชาวนีนะเวห์ให้ได้ยินเสียงเรียกของ พระองค์ มันจะต้องไม่มีการตายจากกันและการแสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเองคน เดียวอีกต่อไป นี่คือเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง นี่คือเวลาแห่งการแสวงหาพระเมตตา ของพระเจ้าที่มีต่อเราทุกคน” สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016
-16-
...บทเทศน์ในมิสซานี้ ได้ทาให้ “โดนัลด์ ทรัมพ์” ผู้สมัครชิงตาแหน่ง ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ออกมากล่าวหาพระสันตะปาปา ฟรังซิส ว่าเป็น “นักการเมืองและเล่นการเมืองเป็น” จากนั้น ทรัมพ์ ยังบอกว่า ถ้าเป็นตนเอง จะ สร้างกาแพงสูงใหญ่สกัดกั้นผู้ลี้ภัยที่ชายแดนอเมริกา-เม็กซิโก สัปดาห์หน้าเราจะมาติดตามบทสัมภาษณ์บนเครื่องบินขากลับจากเม็กซิโก ไปยังอิตาลี ซึ่งพระสันตะปาปาทรงตอบโต้ ทรัมพ์ กลับไปด้วย นอกจากนี้ ยังมีอีก หลายประเด็นน่าสนใจ ยังไงก็รอติดตามสัปดาห์หน้านะครับ AVE MARIA
***************************************************************
ข้อคิดเพื่อชีวิต ไม่มีการออกกําลังประเภทใดที่ดีต่อหัวใจ ได้เท่ากับการโน้มตัวลงและยกผู้อื่น ขึ้นมา!” -John Haynes Holmes- (1897-1964) คนรุ่นใหม่นี้ก็จะพยายามหาเวลาไปออกกําลังกายในรูปแบบต่าง เพื่อที่พลังงาน ในร่างกายเผาผลาญ และได้รูปทรงที่น่าพึงตาพึงใจ คนในปัจจุบันจึงยินดีจ่ายเงินเพื่อได้ ออกกําลังกาย สําหรับบางคน การกระทําเช่นนั้นเป็นการลงทุนเพื่อได้ทรวดทรงองค์เอวที่ ดึงดูดผู้ที่มองเห็น และอาจนําไปสู่รายได้ทางใดทางหนึ่ง เมื่อมีแมวมองมาทาบทาม สําหรับบางคนหรือกลุ่มคนก็อาจมองดูว่า นี่เป็นช่องทางที่น่าจะเป็นธุรกิจที่มี อนาคต จึงลงทุนเปิดกิจการเสริมการออกกําลังกายซึ่งมีอยู่นานาชนิด และหนึ่งในนั้นก็ คือ ออกกําลังทางความคิดก็เป็นสิ่งที่สําคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่มีวัยที่สูงขึ้น การมี อะไรให้ทําโดยใช้ความคิดสติปัญญาอยู่เสมอจะช่วยทําให้ผู้สูงวัยไม่เข้าสู่โหมดความจํา เสื่อม (เร็วกว่าที่ควรเป็น) และยังสามารถใช้ความรู้และสติปัญญาที่มีสร้างคุณค่าให้แก่ ชุมชนและสังคมได้อย่างมาก สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016
-17-
และสิ่งที่สมควรกระทําเป็นที่สุดก็คือการออกกําลังทางด้านจิตและวิญญาณ เพื่อ ฝึกฝนให้ใจมีวินัยที่จะรักและแผ่เมตตาต่อสรรพสิ่งบนโลกนี้ ทั้งต่อคนและสัตว์ รวมทั้ง สิ่งแวดล้อม(หรือธรรมชาติ)ที่พระเจ้าทรงประทานมาซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เป็นเด็ดขาด ดังนั้น วันนี้ แทนที่เราจะเพียงยกแต่ตุ้มน้ําหนักเพื่อให้เกิดกล้ามเนื้อที่แขน แข็งแกร่ง ขอให้เรามายก บรรดาผู้ที่ขัดสนยากจนหิวโหย ผู้ที่เป็นทุกข์เจ็บปวด และผู้ที่ ขมขื่นสิ้นหวังขึ้น เพื่อให้กล้ามเนื้อฝ่ายจิตวิญญาณของเราจะแข็งแกร่งกว่าเดิม ขอให้เราลองมาเริ่มต้นช่วยยกคนบางคนที่อยู่ใกล้ตัวของเราก่อน โดยเฉพาะ อย่างยิ่งคนที่อยู่ในครอบครัวแห่งความเชื่อ (ในสังคมของเรา) นั่นคือ ขอให้เรายกคน ที่ผิดพลาดและหมดกําลังใจที่จะก้าวต่อได้ ให้เขากลับมามีกําลังและมีโอกาสในการ เริ่มต้นชีวิตใหม่ (กาลาเทีย 6:1) ให้เราช่วยยกคนที่แบกภาระหนักจนหมดสิ้นเรี่ยวแรงได้มีโอกาสผ่อนหนักและ เบาแรงจนสามารถไปต่อได้ (กาลาเทีย 6:2) ให้เราช่วยยกจิตวิญญาณของคนที่อ่อนแอ รู้น้อยหรือสับสนให้สูงขึ้นและ เข้มแข็งขึ้นกว่าเดิมด้วยพระวจนะของพระเจ้า (กาลาเทีย 6:6) ขอให้เราไม่เมื่อยล้าในการทําดีเช่นนี้ต่อทุกคนที่ต้องการ เพราะว่าวันหนึ่ง เรา อาจจะได้เก็บเกี่ยวผล(ดี) ในเวลาอันสมควร (กาลาเทีย 6:9-10) (ผู้เป็นสุข)
สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016
-18-
Fatima Kids February 2016 สวัสดีค่ะเด็กๆ ที่น่ารักทุกๆ คน สบายดีกันหรือเปล่าเอ่ยช่วงที่ผ่านมาอากาศ แปรปรวนทําให้หลายๆ คนไม่สบาย เป็นหวัดเจ็บคอกันยกใหญ่เลยค่ะ รักษาสุขภาพให้ แข็งแรงด้วยนะคะ และช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาที่ประเทศไต้หวันเกิดตึกถล่มทําให้สูญเสีย ผู้คนเป็นจํานวนมาก สวดให้กําลังใจพวกเขาด้วยนะคะ ช่วงสัปดาห์นี้เรายังอยู่ในช่วงเทศกาลมหาพรต เด็กๆ เองก็สามารถมีส่วนร่วมใน เทศกาลนี้ได้ง่ายๆโดย เก็บเงินหยอดกระปุกมหาพรตที่ทางวัดวางไว้ให้ แล้วแบ่งเงินจาก ค่าขนมไว้ให้กับคนที่ลําบากกว่าเราได้ค่ะ และเป็นเด็กดี ไม่ยากเกินไปนะคะ เอ... แล้ว เด็กอยากทราบไหมคะว่า ทําไมเราจะต้องเตรียมตัวอย่างดีในช่วงเทศกาลมหาพรต พร้อมแล้ว... ติดตามอ่านเนื้อหาในฉบับนี้ได้เลยค่ะ
วันพุธรับเถ้า วันพุธรับเถ้า(Ash Wednesday)วันพุธรับเถ้า เป็นวันเริ่มต้นของเทศกาลมหาพรต วันพุธก่อนวันอาทิตย์แรกของเทศกาลมหาพรต พวกเราจะรับเถ้าเป็นการเริ่มต้นเทศกาล ช่วงเทศกาลมหาพรตจะเป็นวันเวลา 40 วัน ก่อนฉลองปัสกา ซึ่งเป็นวันฉลองยิ่งใหญ่ และสําคัญที่สุดในรอบปีของพระศาสนจักร นั่นเป็นเพราะว่า การฉลองปัสกาเป็นการ ฉลองที่พระเยซูเจ้าทรงรับทรมาน สิ้นพระชนม์และทรงกลับคืนพระชนม์ชีพ เพื่อไถ่ บาปให้กับเรามนุษย์และคืนดีกับพระเป็นเจ้า สําหรับเราคริสตชนเทศกาลมหาพรต เป็นช่วงเวลาที่เราต้องเตรียมจิตใจอย่างดีเพื่อ ฉลองการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้า โดยเราคริสตชนมีข้อปฎิบัติดังนี้ 1. การอดอาหาร และอดเนื้อ : ช่วยให้เรารู้จักประมาณตนในการกินและดื่ม 2. การอดออม : ช่วยให้เรารู้จักการแบ่งปันความรักให้กับเพื่อนพี่น้องที่ได้รับความ ยากลําบาก 3. การภาวนา : ช่วยให้เราใกล้ชิดกับพระเยซูเจ้ามากขึ้น 4. การพลีกรรม : ช่วยให้เราละทิ้งนิสัยที่ไม่ดีต่างๆ ในตัวเรา สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016
-19-
หนูฟาติมาสงสัย ในช่วงเทศกาลมหาพรต ผมได้มีโอกาสไปร่วมการเดินรูป 14 ภาค กับคุณพ่อคุณแม่ สงสัยครับว่า ในสถานที่ 6 สตรีใจศรัทธาเข้ามาเช็ดพระพักตร์พระ เยซูคริสต์ สตรีใจศรัทธาคนนี้คือใคร แล้วทําไมผ้าที่สตรีคนนี้ถืออยู่จึงมีรอยพระพักตร์ พระเยซูครับ สตรีใจศรัทธาคนนี้ชื่อ เวโรนีกา ส่วนผ้าที่ถือนั้น เป็นผ้าคลุมหน้าค่ะ ผ้าคลุม หน้า เป็นเครื่องปกปิดใบหน้า ใช้เป็นสัญญาลักษณ์แห่งความสงบเสงี่ยมและความ บริสุทธิ์ ผ้าคลุมหน้าที่มีรอยพระพักตร์ของพระเยซูประทับอยู่ ใช้เป็นสัญลักษณ์ของ นักบุญเวโรนีกา เล่ากันว่า เวโรนีกาใช้ผ้าคลุมหน้าของเธอเช็ดพระเสโท (เหงื่อ) บนพระ พักตร์ของพระเยซูระหว่างที่ทรงแบกไม้กางเขน รอยพระพักตร์ของพระองค์ประทับติด อยู่บนผ้าผืนนั้นอย่างน่าอัศจรรย์ ด้วยเหตุนี้คริสตจักรจึงยกย่องนักบุญเวโรนีกาเป็นองค์ อุปถัมภ์การถ่ายภาพอีกด้วย นิทานดีที่เด็กๆ ควรอ่าน ฉบับนี้อยากแนะนํานิทานอีกเล่มของคนเขียนเดียวกับ งานแรกของมี้จัง นะคะ เพราะเนื้อหาน่ารักมากๆค่ะ ฉบับนี้ขอเสนอเรื่อง น้องหนูอยู่ไหน เรื่องโดย โยริโกะ ษุษุอิ เรื่องมีอยู่ว่า ขณะที่อาซาเอะกําลัง นั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน คุณแม่เดินออกมาบอกอาซาเอะว่า “อาซาเอะจัง แม่จะไปธนาคาร แป๊ปนึง เดี๋ยวจะรีบกลับมานะจ๊ะหนูรออยู่ที่บ้านนะ ฝากดูน้องอายะ ด้วยนะจ๊ะ น้องเพิ่ง หลับไป แม่จะกลับมาก่อนน้องตื่นแน่นอนจ้ะ” ไม่นาน อาซาเอะก็ได้ยินเสียงร้องของ น้องอายะ น้องอายะเดินเท้าเปล่าออกมา อาซาเอะสวมรองเท้าให้น้อง พร้อมกับปลอบ น้องว่า โอ๋...โอ๋...อายะจัง ไม่ต้องร้อง พี่จะเล่นด้วยนะ มานี่มา...” น้องอายะก็หยุดร้อง อาซาเอะจูงมือเล็กๆ และนุ่มๆ ของน้องมาเล่นใกล้ๆ อาซาเอะรู้สึกว่าตัวเองโตขึ้น อาซาเอะล้วงเอาชอล์กออกมาจากกระเป๋าแล้วขีดเป็นทางรถไฟบนถนน “อายะ จัง เล่นปู๊น ปู๊น ฉึกฉัก ฉึกฉักกันนะ” น้องอายะหัวเราะสนุกสนาน “เดี๋ยวก่อน ยังเล่น ไม่ได้นะ รอพี่ขีดเสร็จก่อน” น้องอายะหยุดเล่น อาซะเอะอยากให้น้องเล่นเต็มที่จึงก้ม หน้าขีดเส้นรถไฟเป็นทางยาว แต่ปรากฎว่า เมื่ออาซาเอะเงยหน้าขึ้นมา...ไม่มีน้องอายะ สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016
-20-
อาซาเอะตกใจมาก มองหันไปทางซ้ายทางขวาก็ไม่มี... เอี๊ยด! เสียงเบรกของรถจักรยาน ดังลั่นมาจากถนนใหญ่ อาซาเอะรีบวิ่งไปด้วยความตกใจ โชดดีจักรยานไม่ได้ชนน้อง “แต่ว่า...น้องอายะอยู่ไหนนะ” “อยู่ที่สนามเด็กเล่น แน่เลย” ขณะที่อาซาเอะวิ่งไปทาง สนามเด็กเล่น อาซาเอะเห็นเด็กผู้หญิงเล็กๆ อยู่ไกลๆ แต่พอวิ่งเข้าไปก็กลายเป็นเด็กที่ไม่ รู้จัก อาซาเอะออกวิ่งอีกครั้ง แล้วก็ได้ยินเสียงเด็กเล็กๆ ร้องไห้ ทันใดนั้นอาซาเอะก็เห็น ชายร่างใหญ่เดินจูงมือเด็กเดินมา “เด็กดื้อไม่เชื่อฟังพ่อ ก็ต้องโดนบ้างล่ะ” อาซาเอะรู้สึก โล่งใจ อาซาเอะออกวิ่งอีกครั้ง ยิ่งใกล้สนามเด็กเล่นเข้าไปเท่าไหร่ ใจของอาซาเอะก็ยิ่ง เต้นแรง ในที่สุด อาซาเอะก็มาถึงสนามเด็กเล่น “เจอแล้ววว” อยู่ที่สนามเด็กเล่นนี่เอง น้องอายะกําลังก้มหน้าก้มตาเล่นอยู่ในบ่อทราย “ใช่จริงๆ ด้วย” อาซาเอะไม่พูดอะไร รีบวิ่งไปหาน้อง เมื่อน้องอายะเงยหน้าขึ้นมาเห็นพี่ ก็ส่งยิ้มและโบกมือเปื้อนทรายให้พี่ อาซาเอะ อาซาเอะรีบวิ่งเข้าไปกอดน้องจนเท้าของน้องลอยจากพื้นเลยค่ะ วัฒนธรรม AEC รู้ไหมว่า ทําไมที่มาเลเซียจึงห้ามถาม นามสกุล นั่นเป็น เพราะว่า ชื่อของผู้นับถือศาสนาอิสลามไม่มีนามสกุล คือเขาจะตั้งชื่อตัวหรือชื่อจริงแล้ว ตามด้วยชื่อบิดา โดยมีคําว่า BIN บิน แปลว่า ลูกชาย (ของ) หรือ BINTI บินตี แปลว่า ลูกสาว (ของ) คั่นกลางคําระหว่างชื่อตัวและชื่อบิดา จึงไม่จําเป็นต้องมีนามสกุล ยกเว้น ชาวมาเลเซียเชื้อสายจีนหรือนับถือศาสนาพุทธ หรือคริสต์ ซึ่งจะมีนักบุญที่ตั้งตอนรับ ศีลล้างบาป
Fatima-kids@hotmail.com
สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016
-21-
ภาวนาด้วยหัวใจ
โดย ดร. วรรณีย์ ลิขิตธรรม
25 เมษายน 1991 ที่เมดจูกอร์เร พระแม่ทรงตรัสว่า “ลูกๆ ที่รัก วันนี้แม่เชิญ ชวนลูกทั้งหลายให้ภาวนาด้วยหัวใจ ลูกแต่ละคนจงหาเวลาที่จะสวดภาวนาเพื่อลูกจะ พบพระเจ้า แม่ไม่ต้องการให้ลูกพูดเกี่ยวกับการภาวนาแต่ให้ภาวนา จงให้แต่ละวันของ ลูกเต็มไปด้วยการภาวนาแห่งความกตัญํูรู้คุณต่อพระเจ้า ที่ทรงประทานชีวิตและทุก สิ่งที่ลูกมีแก่ลูก แม่ไม่ปรารถนาให้ชีวิตของลูกดําเนินไปด้วยคําพูดแต่ให้ลูกสรรเสริญ พระเจ้าด้วยการกระทํา แม่อยู่กับลูกๆ และแม่ซาบซึ้งในบุญคุณของพระเจ้าทุกขณะจิต ที่แม่ได้อยู่กับลูก แม่ขอบใจลูกที่ได้ตอบรับเสียงเรียกของแม่” พระสงฆ์ชาวฝรั่งเศสท่านหนึ่ง ได้เล่าเหตุการณ์เล็กๆ ที่เกิดขึ้นในกรุงปารีสดังนี้ มีชายคนหนึ่งชื่อปอล ชอบมานั่งขอทานที่โบสถ์นักบุญยากอบ ข้างๆ ตัวเขามีขวดเหล้ า ไวท์อยู่เป็นเพื่อนเสมอ นอกจากยากจนแล้วเขายังป่วยเป็นโรคตับแข็งด้วย ชาวบ้าน ไม่ได้สนใจอะไรเขามากนักเพราะเขาน่าจะอยู่ได้ไม่นาน กระนั้นก็ดี มีสตรีใจดีคนหนึ่ง ชื่อแนนซี่ เธอได้พูดคุยกับปอลบ้าง และเศร้าใจเมื่อรู้ถึงความเหงาเปล่าเปลี่ยวของเขา เธอได้สังเกตว่า มีช่วงหนึ่งในตอนเช้าปอลมักจะเข้าไปในวัด ไปนั่งอยู่ที่ม้านั่งแถวแรก ใกล้พระแท่น สายตาเพ่งมองดูตู้ศีล แต่เขาก็นั่งเฉยๆ ไม่ได้ทําอะไรเลย วันหนึ่งแนนซี่ จึงถามเขาว่า “ปอล ฉันเห็นคุณเข้าไปในวัดหลายครั้งแล้ว คุณทําอะไรขณะที่นั่งอยู่ที่นั่น ฉันเห็นว่าคุณไม่มีสายประคํา ไม่มีหนังสือสวด บางทีคุณก็สัปหงกหลับไป คุณทํา อะไรที่นั่น คุณสวดภาวนาหรือเปล่า” ปอลตอบว่า “ผมจะสวดอะไรเป็น ผมจําบทสวดที่ เรียนรู้ตอนเป็นเด็กไม่ได้สักบทเดียว ผมทําอะไรน่ะรึ ง่ายๆ ครับ ผมไปที่ตู้ศีลที่ซึ่งพระ เยซูเจ้าทรงอยู่ตามลําพังพระองค์เดียวในตู้เล็กๆ นั่น แล้วผมก็พูดกับพระองค์ว่า “พระ เยซู ผมปอลนะครับ ผมมาเยี่ยมท่าน” แล้วผมก็นั่งอยู่ที่นั่นสักพักหนึ่ง เพื่อแสดงว่าผม อยู่ตรงนั้น อยู่ต่อหน้าพระองค์” แนนซี่ฟังแล้วอึ้ง เธอไม่เคยลืมสิ่งที่เขาพูดเลย วันเวลาผ่านไป และแล้ววันหนึ่งปอลก็หายไปจากที่เขาเคยนั่งขอทานอยู่ เขา ไม่สบายหรือเปล่า หรือว่าตายแล้ว... อาจเป็นได้ แนนซี่จึงออกตามหาเขา ที่สุดก็รู้ว่า สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016
-22-
เขาป่วยอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เธอรีบไปเยี่ยมเขา เมื่อเห็นเขาเธอพูดในใจกับ ตัวเองว่า “ปอลเอ๊ย... เธอช่างน่าสงสารจริง สารรูปดูไม่ได้เลย เต็มไปด้วยสายระโยง ระยาง หน้าตาสีดําคล้ําไปหมด ดูสภาพแล้วไม่รอดแน่...” ผลการวินิจฉัยของแพทย์ก็ แทบจะไม่มีหวังเลย แนนซี่รู้สึกใจคอห่อเหี่ยว เป็นห่วงกังวลเขาอยู่ วันรุ่งขึ้นเธอก็กลับไปเยี่ยมปอลอีก ครั้งนี้เธอคาดว่า เธอคงจะได้ยินข่าวร้าย ว่าเขาตายแล้ว แต่ไม่...ไม่ใช่เลย เธอเห็นเขานั่งตัวตรงแบบคนที่มีสุขภาพดีบนเตียงของ เขา แนนซี่ไม่เชื่อสายตาตัวเอง เธอขยี้ตาและมองดูเขาใหม่ ดูเขามีหน้าตาแจ่มใส สดชื่นแข็งแรง ยิ้มอย่างมีความสุข หน้าตาเกลี้ยงเกลาเพราะโกนหนวดออกแล้ว เขาเปลี่ยนไปเป็นคนละคนจากเมื่อวานนี้ เธออุทานขึ้นว่า “ปอล! เหลือเชื่อจริง คุณกลับ ฟื้นคืนชีพได้อย่างไรกันเนี่ย คุณไม่เหมือนเดิมเลย เกิดอะไรขึ้นหรือ” เขาตอบแบบยิ้มๆ ว่า “มันเกิดขึ้นเมื่อเช้านี้เอง ตอนนั้นผมรู้สึกไม่สบายอย่างมาก คิดว่าผมต้องตายแล้ว แต่คุณรู้ไหม ทันใดนั้นเองผมเห็นมีใครบางคนเข้ามา แล้วยืนอยู่ตรงท้ายเตียงของผม เขาหล่อมาก...หล่อชนิดที่คุณจินตนาการไม่ถึง เขายิ้มให้ผมและพูดว่า “ปอล ! เราเองนะ เยซูไง เรามาเยี่ยมเธอ” นี่คือตัวอย่างของการภาวนาด้วยหัวใจ ภาวนาด้วยหัวใจคือ การเข้าเฝ้าพระเจ้าอย่างที่เราเป็นพร้อมกับสิ่งที่เรามี ถ้าไม่ มีอะไรจะถวาย เราก็เข้าเฝ้าพระองค์อย่างไม่มีอะไรเลย ให้ดูตัวอย่างของแม่ม่ายยากจน ในพระวรสาร ที่ได้ทําทานด้วยเงินสองเหรียญที่มีค่าน้อยที่สุด แต่นั่นคือทั้งหมดที่นาง มีและนางได้ถวายแด่พระเจ้า ปอลน่าจะได้ปลอบประโลมใจองค์พระเยซูเจ้ามากกว่าคน อื่นๆ ที่ไม่ได้ใส่ใจเยี่ยมเยียนพระองค์ พี่น้องคะในช่างเทศกาลมหาพรต เราควรตั้งใจสวดภาวนาให้มากกว่าปกติ และการสวดภาวนาที่ดี คือการภาวนาด้วยหัวใจ นอกจากนั้นเราควรจําศีลอดอาหาร ไม่ ทําตามใจตัวเอง เสียสละ ทําบุญ ทําทาน ช่วยเหลือคนรอบข้าง เพื่อเห็นแก่ความรักต่อ พระเจ้า เราจะมีชีวิตใหม่ในพระเจ้าอย่างแน่นอน สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016
-23-
รายการมิสซาประจาสัปดาห์ อา. 28 ก.พ.16 ขอพร ขอพร ขอพร ขอพร ขอพร 07:00 น. อุทิศ คพ.ศรีปราชญ์ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ 09:00 น. คพ. สุชาติ ขอพร ขอพร ขอพร อุทิศ 17:30 น. อุทิศ คพ. วิทยา อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ จ. 29 ก.พ.16 ขอพร ขอพร 06.15 น. อุทิศ อุทิศ อุทิศ
อาทิตย์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต คุณเจิมใจ ถีระศิลป์ ขอพร สุขภาพคุณอานวย ทองเหลือง ตามจุดประสงค์ของผู้ขอ ขอพร ครอบครัวคุณหาญชัย, ลูกๆ หลานๆ นางวันที แก้วพิลา ขอพร น.ส. ธัญยรัศมิ์ ชินรัตน์ ครอบครัวสุปฏิญญา ขอพร สมาชิกคณะอัศวินฯ และครอบครัว ผู้มีพระคุณต่อวัดและโรงเรียน ขอพร ยวงบัปติสตา วณิชย์ อาภาพาส ลูซีอา อังเยลา วัลลา ทวีสิน อุทิศ โรซา มณเฑียร ทองเหลือง เปโตร ประจวบ เจริญทรัพย์ อุทิศ ยอแซฟ กิมเพียว แซ่อึ้ง เปโตร วิชยั ตั้งชัยสิน อุทิศ สมาชิก KBS ที่ล่วงลับ อันนา จาลอง วงษ์เลิศ อุทิศ ฟรังซิสเซเวียร์ สมศักดิ์ หมดมลทิน ยวง บอสโก ชวน,อันนา ประไพ อุทิศ เทเรซา อนิรัตน์ แซ่ตั้ง ยอแซฟ วีระชัย สุปฏิญญา อุทิศ เทเรซา อนิรัตน์ แซ่ตั้ง วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง ขอพร สาหรับพี่น้องสัตบุรุษทุกท่าน ทุกครอบครัว มารีอา ศิริพร ชาญนาสิน,ครอบครัว ขอพร เทเรซา สุญาณี พงษ์ธนานิกร,ครอบครัว ยอแซฟ วิทยา สุหฤทดารง,ครอบครัว ขอพร เทเรซาสุวมิ ล วิภัตภิ ูมปิ ระเทศ,ครอบครัว ขอพร ยวง สุพัฒน์ ตุลยาพิศิษฐ์ ยวง สุธี ตุลยาพิศิษฐ์ อันนา ลกเซียง แซ่อึ้ง อุทิศ เปโตร ประวิทย์ ตุลยาพิศิษฐ์ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ แบร์นาแด๊ต ชญานิษฐ์ สีหพล ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ ฟรังซิสกา สมใจ สงวนสุข คุณวรรณลีรตั น์ สังขรัตน์ อุทิศ มัทธิว วรพล ชัยวัฒนไชย มัทธิว นาค ศรีผ่อง อุทิศ มอนิกา สุนีย์ ศรีผ่อง เทเรซา อุทิศ เทเรซา กาญจนา สงวนสุข วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต เทเรซา ดาลัด ขอพร แคทรีน ไอยศรา ครอบครัว Hall ขอพร ดช. วริทธิพล วุฒชิ ัยภูมิ, ครอบครัว หลุยส์ ศักย์ ชัยสาเร็จ อุทิศ อันนา จาลอง วงษ์เลิศ ผู้มีพระคุณต่อวัดและโรงเรียน อุทิศ ฟรังซิสเซเวียร์ สมศักดิ์ หมดมลทิน วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016
-24จ. 29 ก.พ.16
19:00 น.
ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ
อ. 1 มี.ค. 16
06:15 น.
19:00 น.
ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ
พ. 2 มี.ค. 16
06:15 น.
19:00 น.
ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ
สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต ลูซีอา พัชรา เจนผาสุก ขอพร คุณนุชธิกานต์ พันธ์บานชื่น,ครอบครัว ตามจุดประสงค์ของผู้ขอ ขอพร ครอบครัวมารีอา แอน และน้องๆ เปโตร วิชัย เจนผาสุก อุทิศ เทเรซา กาญจนา สงวนสุข ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ เซซีลีอา แน่งน้อย อาภรณ์รัตน์ ฟรังซิสกา สมใจ สงวนสุข อุทิศ ยวงบัปติสตา หวล อาภรณ์รัตน์ เปโตร วิชยั ตั้งชัยสิน อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง เทเรซา อนิรัตน์ แซ่ตั้ง อุทิศ มัทธิว วรพล ชัยวัฒนไชย สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต ขอพร แคทรีน ไอยศรา การงาน ออกัสติน แพททริเซีย จารุภรณ์ พรกุลวิไล ขอพร อักแนส ณัฐพัชร์ พรกุลวิไล เทเรซา กาญจนา สงวนสุข อุทิศ บรรพบุรุษตระกุลรุขพันธ์เมธี อันนา จาลอง วงษ์เลิศ อุทิศ ฟรังซิสเซเวียร์ สมศักดิ์ หมดมลทิน มารีอา บ๋น อุทิศ เทเรซา ดาว, ยอแซฟ วัน นางอั้ง ประเสริฐศรี ขอพร ยอแซฟ สุรยี ์ ประเสริฐศรี,ครอบครัว ยาโกเบ เสรี พรกุลวิไล ขอพร อักแนส จันทร์ตรี พรกุลวิไล เทเรซา กาญจนา สงวนสุข อุทิศ อันนา องุ่น,เปาโล จั๊ว ประเสริฐศรี เปโตร วิชยั ตั้งชัยสิน อุทิศ เทเรซา อนิรัตน์ แซ่ตั้ง ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ฟรังซิสกา สมใจ สงวนสุข ญาติพี่น้องของผู้ขอ อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ มัทธิว วรพล ชัยวัฒนไชย สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต การงาน ออกัสติน ขอพร เทเรซา จิราภรณ์ แคทรีน ไอยศรา ขอพร ครอบครัวเทเรซา ตุย๋ อันนา จาลอง วงษ์เลิศ อุทิศ ฟรังซิสเซเวียร์ สมศักดิ์ หมดมลทิน เฮเลนา กาญจนา อุทิศ นายเสนิส,นายศานิต ตระกูลทิม วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ นายแพทย์ เสวี คชรัตน์ เปาโล นราพงษ์ ขอพร ครอบครัวเปโตร สมเกียรติ และลูกๆ ยอแซฟ สุรเสียง พรกุลวิไล ขอพร แคทธิรีน จินดารัตน์ พรกุลวิไล ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ เทเรซา กาญจนา สงวนสุข ฟรังซิสกา สมใจ สงวนสุข อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง เปโตร วิชยั ตั้งชัยสิน อุทิศ เทเรซา อนิรัตน์ แซ่ตั้ง เทเรซา ดาว,ญาติพี่น้องที่ล่วงลับ อุทิศ มัทธิว วรพล ชัยวัฒนไชย สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016
-25พฤ.3 มี.ค. 16
06:15 น.
19:00 น.
ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ
ศ. 4 มี.ค. 16
06:15 น.
19:00 น.
ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ
ส. 5 มี.ค. 16
06:15 น.
ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ
สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต โนเอล เดชา ขอพร แคทรีน ไอยศรา อันนา จาลอง วงษ์เลิศ อุทิศ อันนา มิ่ง, ยวงบัปติสตา สีหมอก เฮเลนา กาญจนา อุทิศ โทมัส ณรงค์, อากาทา เจริญ การะเวก พลเรือโท โรช วิภตั ิภมู ิประเทศ อุทิศ ฟรังซิสเซเวียร์ สมศักดิ์ หมดมลทิน ผู้มีพระคุณต่อวัดและโรงเรียน อุทิศ ซิสเตอร์ มารีอา สุนีรัตน์ ฤกษ์สุจริต วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง ยอแซฟ พอล พรกุลวิไล ขอพร ยอแซฟ พิสิษฐ์ พรกุลวิไล ยวงบัปติสตา จิง้ ซุง แซ่อึ้ง อุทิศ เทเรซา ง้อ แซ่ลิ้ม คริสตินา บุญเติม บุญลาภ อุทิศ มัทธิว วรพล ชัยวัฒนไชย เปโตร วิชยั ตั้งชัยสิน อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง เทเรซา กาญจนา สงวนสุข อุทิศ ฟรังซิสกา สมใจ สงวนสุข ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ เทเรซา อนิรัตน์ แซ่ตงั้ วิญญาณผู้มีพระคุณของผู้ขอ อุทิศ ยอแซฟ จินเหงียน, มารีอา สมถวิล น. กาสิมีร์ (วันศุกร์ต้นเดือน) โนเอล เดชา ขอพร มารีอา อารยา แคทรีน ไอยศรา ขอพร ยอแซฟ สุรเสียง พรกุลวิไล อันนา จาลอง วงษ์เลิศ อุทิศ ฟรังซิสเซเวียร์ สมศักดิ์ หมดมลทิน ฟรังซิส ทวน อุทิศ คุณพ่อยอแซฟ ประมวล พุฒตาลศรี วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง ครอบครัวเลาหไทยมงคล ขอพร ครอบครัวปัณฑวังกูร,ลิ้มประยูร ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ฟรังซิสกา สมใจ สงวนสุข เปโตร วิชยั ตั้งชัยสิน อุทิศ ยอแซฟ สุดใจ,มารีอา ไพบูลย์ สุขสุเดช เทเรซา กาญจนา สงวนสุข อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง มัทธิว วรพล ชัยวัฒนไชย อุทิศ ยอแซฟ จินเหงียน, มารีอา สมถวิล วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต มารีอา ดวงใจ ขอพร แคทรีน ไอยศรา ฟรังซิส ทวน อุทิศ แพทย์หญิง ภักดี ตระกูลทิม อันนา จาลอง วงษ์เลิศ อุทิศ นายแพทย์ สมาน ตระกูลทิม ยวงบัปติสตา จิง้ ซุง แซ่อึ้ง อุทิศ ฟรังซิสเซเวียร์ สมศักดิ์ หมดมลทิน อักแนส กิ้มสี แซ่แต้ อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016
-26ส. 5 มี.ค. 16
19:00 น.
สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต ขอพร ยอแซฟ จุนนา จิน ขอพร สุขภาพวินเซนต์ สุรินทร์ กุลตังวัฒนา ขอพร การสอบของเด็กๆ ขอพร ครอบครัวมารีอา อุดม มยุระสาคร อุทิศ ยวงบัปติสตา ปึ๋ง,เวรอนีกา เสนอ เสนาจักร อุทิศ ฟรังซิสกา สมใจ สงวนสุข อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ พี่น้องตระกูลเสนาจักร อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยอแซฟ อ๊อน, มารีอา เง็กเอ็ง แซ่คู อุทิศ เปโตร วิชยั ตัง้ ชัยสิน อุทิศ ทอมาส ธวัช, เทเรซา จู ศรีสวัสดิ์ อุทิศ อันนา สมพิศ แสงเนตร อุทิศ เทเรซา กาญจนา สงวนสุข อุทิศ มัทธิว วรพล ชัยวัฒนไชย อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ
ประชาสัมพันธ์ 1. ขอเชิญพี่น้องซื้อของที่ระลึกโอกาส 60 วัดแม่พระฟาติมา ได้ที่หน้าวัด (1) นาฬิกา (สั่งจอง) (2) ร่ม คันละ 200 บาท (3) เสื้อ ตัวละ 180 บาท 2. พี่น้องที่ร่วมแสวงบุญฟาติมา-ลูร์ด ขอให้จ่ายเงินงวดที่ 3 วันที่ 6 มีนาคม 2016 ประกาศการแต่งงาน ประกาศครั้งที่ 1 ฝ่ายชาย : ดาวิด ดุจหทัย ณ ระนอง บุตร : นายกาธร + นางอรุณี ณ ระนอง ฝ่ายหญิง : มารีอา กมลา สุคโต บุตรี : นายกมล + นางรัชดา สุคโต ทั้งสองจะเข้าพิธีศีลสมรส วันเสาร์ที่ 19 มีนาคม 2016 เวลา 14:00 น. ** ผู้ใดทราบข้อขัดขวาง มีหน้าที่ต้องแจ้งให้พระสงฆ์ทราบ ** ประกาศครั้งที่ 3 ฝ่ายชาย : นายพรศิวะ พานิชปรีชา บุตร : นายมานะ + นางชุติกมล พานิชปรีชา ฝ่ายหญิง : มารีอา ชารัศมิ์ ไทยยืนวงษ์ บุตรี : นายธเนศ กระแสโสม + มารีอา ดารารัตน์ ไทยยืนวงษ์ ทัง้ สองจะเข้าพิธีสมรส วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม 2016 เวลา 13:00 น. ** ผู้ใดทราบข้อขัดขวาง มีหน้าที่ต้องแจ้งให้พระสงฆ์ทราบ ** สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016
-27-
พระวรสารสาหรับอ่านในครอบครัว ลูกวัดแม่พระฟาติมา ว/ด/ป จ. 29 ก.พ. 16
พระวรสารประจาวัน ลูกา 4:24-30
ชนิดพระคัมภีร์ พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
2023
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ)
201
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง) อ. 1 มี.ค. 16
มัทธิว 18:21-35
1954
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ)
98-99
พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
พฤ. 3 มี.ค. 16
มัทธิว 5:17-19
ลูกา 11:14-23
มาร์โก 12:28ข-34
ลูกา 18:9-14
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง)
33
พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
2040
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ)
226 2001
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ)
169 277-279
พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
2053
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ)
246
พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์ ลูกา 15:1-3,11-32
405-406
พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง) อา. 6 มี.ค. 16
1924-1925 54
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง) ส. 5 มี.ค. 16
120-122
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ)
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง) ศ. 4 มี.ค. 16
344-345
พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์ พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง) พ. 2 มี.ค. 16
หน้า
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปีพระคาร์ดนิ ัลฯ)
พระวรสารเล่มเล็ก(สีแดง) สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016
452-453 2048-2049 238-240 434,436-438
-28-
“เราบอกท่านทั้งหลายว่า ถ้าท่านไม่กลับใจเปลี่ยนชีวิต ทุกท่านจะพินาศไปเช่นเดียวกัน” (ลก 13:5) สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลมหาพรต, วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2016