-1-
ฟาติมาสาร สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015 ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- -----------------------------------------------------------------------------------
วัดแม่พระฟาติมา 4080 ถ. อโศก – ดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. 10400 โทร. 02- 245 - 1039, 02- 642 - 9906, 02-642 - 9907, โทรสาร 02 - 246 - 6174 E-mail : fatimachurch13@gmail.com www.fatima.or.th สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015
-2-
จากใจพ่อ นับตั้งแต่อาทิตย์น้ ีเป็ นต้นไป ทางวัดได้จดั เตรี ยมชุดเอกสาร “กิจกรรม ภาวนาค่าและอ่านพระคัมภี ร์ในครอบครั วลูกวัดแม่ พระฟาติมา” ไว้บริ เวณ หน้าวัด เพื่อเป็ นเครื่ องมือจัดกิจกรรมสวดภาวนาค่าและอ่านพระคัมภีร์ใน ทุกๆ ครอบครัวในเขตวัดแม่พระฟาติมา กิจกรรมนีถ้ ือเป็ นกิจกรรม “พืน้ ฐาน” ในการ “ฟื้ นฟู” ชี วิตความเชื่ อของลูกวัดแม่ พระฟาติมาเป็ น “ก้ าวแรก” ที่จะ ก้าวเข้ าสู่ การรณรงค์ ใน“เก้าเดือน”ก้าวเข้ าสู่ ปีที่ “หกสิ บ”ของวัดแม่ พระฟาติมา ...วันนี้ ลูกวัดแม่พระฟาติมา ... สวดภาวนาค่า พร้อมกันในครอบครัวแล้วหรื อ ยัง... พระคัมภีร์ที่มีอยูท่ ี่บา้ นถูกนามาอ่านพร้อมๆ กันในครอบครัวแล้วหรื อยัง เอกสารที่ทางวัดจัดทาขึ้นเริ่ มต้นด้วย “กิจกรรมการพิจารณามโนธรรม” เป็ นสิ่ งที่เราผูเ้ รี ยกตนเองว่าคริ สตังควรปฏิบตั ิเช่นนี้ทุกๆ คืนเป็ นประจา แต่ใน กิจกรรมนี้เราทาพร้อมกันเป็ นครอบครัว ถือเป็ นการพัฒนาการพิจารณามโน ธรรมแบบเพิ่ ม คุ ณ ภาพให้ ม ากยิ่ ง ขึ้ น เพราะนอกจากจะพิ จ ารณาถึ ง ความสั มพันธ์ ระหว่ างพระเจ้ ากับชีวติ ของเราส่ วนตัวแล้ ว เรายังพิจารณาถึง ความสั มพันธ์ ระหว่ างพระเจ้ ากับสมาชิกในครอบครัวของเราอีกด้ วย ซึ่งต่ อๆ ไปจะพัฒนาขยายเป็ นการพิจารณาถึงความสั มพันธ์ ระหว่ างพระเจ้ ากับ ชุ มชน ที่เราร่ วมชี วิตอยู่ กับประเทศที่เราอาศั ยอยู่ และกับเพื่อนร่ วมโลกของเรา อีกด้ วย เวลาที่เราสวดบทข้าพเจ้าสารภาพต่อพระเจ้า... เราจะทาการสารภาพ บาปขอพระเมตตาจากพระเจ้าให้ท้ งั กับตนเองและผูค้ นทั้งหลายรอบข้างไป พร้อมๆ กัน สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015
-3-
ในลาดับขั้นตอนของการสวดภาวนา ได้นาบทภาวนาที่พระศาสนจักร ใช้สวดเป็ นหมู่คณะแบบเป็ นทางการบทต่างๆ รวมถึงบทขอความคุม้ ครองต่อ สมาชิกในครอบครัวทั้งในบ้านและในละแวกบ้านของพี่นอ้ งด้วย ลักษณะการ สวดภาวนานี้ แนะนาให้ใช้วิธีการภาวนาแบบ “ราพึงภาวนา” และ “เพ่งพินิจ ภาวนา” เข้ามาปฏิบตั ิสลับกันไปมา กล่าวคือ เราจัดให้ คาและความหมายแต่ ละค าที่เ ปล่ ง เสี ย งสวดภาวนาออกมานั้ น น าตนเองให้ คิด ถึ ง ความผู ก พัน ระหว่ างตัวเรากับพระเจ้ าตามความหมายในคาแต่ ละคาทีเ่ ปล่งเสี ยงสวดภาวนา ออกมานั้น และเมื่อเกิดความปี ติสุขอิม่ เอิบใจผุดขึน้ มาครั้งใด ก็วางชี วิตให้ หยุดนิ่งอยู่กับพระในจังหวะของถ้ อยคานั้นๆ ในชีวิตทันที เป็ นการก้าวเข้าสู่ ประสบการณ์มองดูพระเจ้าแบบหน้าต่อหน้าเหมือน “มารี ย”์ จ้องมองอยู่ต่อ หน้าพระเยซูเจ้าในพระวรสาร เนื้ อหาในเอกสารที่สาคัญอีกประการหนึ่ งคือ กิจกรรมการอ่านพระ วรสาร ได้อ อกแบบด าเนิ น กิ จ กรรมให้ ส ามารถกระท าได้โ ดยไม่ ต ้อ งมี พระสงฆ์ร่วมกิจกรรมด้วย เพียงแต่มีสมาชิกสักคนหนึ่งที่อ่านหนังสื อได้ ทา หน้าที่ “ผูน้ ากิ จกรรม” อ่านเชิ ญชวนให้ทุกๆ คนปฏิบตั ิตามด้วยเนื้ อความ หรื อถ้อยคา ที่เรี ยบเรี ยงไว้อย่างเหมาะสมแล้ว สิ่ งที่ควรมีอยูใ่ นมือเพื่อร่ วม กิจกรรมประกอบด้วย เอกสาร 1. “กิจกรรมภาวนาค่าและอ่านพระคัมภีร์ใน ครอบครัวลูกวัดฟาติมา” เอกสาร 2. สารวัด ซึ่ งจะอัปเดท หัวข้อพระวรสารที่ จะใช้อ่านตลอดสัปดาห์ และเปลี่ยนให้ใหม่ตลอดในสารวัดสัปดาห์ต่อๆ ไป 3. หนังสื อพระวรสารที่ทางวัดเคยมอบให้ ซึ่ งหากต้องการเพิ่มอีกให้ติดต่อ ลงชื่อขอเพิ่มได้จากสานักงานวัด สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015
-4-
พี่น้องที่รับเอกสารฉบับนี้ ควรเริ่ มรวมตัวกันสวดค่าพร้อมกันในบ้าน ของตนได้ทนั ที จะเป็ นแบบวันเว้นวัน แบบทุกๆ วัน หรื อแบบอาทิตย์ละวัน ฯลฯ เพราะพอต้นเดื อนตุลาคมทางวัดจะจัดทาเอกสารชุ ดใหม่ให้พี่น้องใช้ ภาวนาค่าในช่วงเดือนตุลาคมอีกฉบับหนึ่ง ลักษณะโครงสร้างการสวดภาวนา ค่าทั้งสองฉบับจะคล้ายๆ กัน เพียงแต่เปลี่ยนจากการอ่านพระคัมภีร์ในฉบับ แรก มาเป็ นการสวดสายประคาแทนในฉบับที่สองเท่านั้น พร้อมกับเริ่ มสวด ภาวนาค่าแล้ว อาทิตย์ถดั ไปพ่อจะขอให้พี่นอ้ งที่ประสงค์ให้พ่อไปร่ วมสวด ภาวนาค่ากับพี่นอ้ งที่บา้ นและเสกบ้าน ได้แจ้งความประสงค์กบั เจ้าหน้าที่ที่จะ รับบริ การจดบันทึกไว้ให้ หลังจากพ่อผ่าตาเสร็ จช่วงต้นเดือนกันยายน คาดว่า อาทิ ต ย์ท้า ยๆ ของเดื อ นกัน ยายนพ่ อ ก็จ ะสามารถไปร่ ว มสวดภาวนาและ เสกบ้านของพี่นอ้ งตามที่แจ้งความประสงค์ไว้ได้ หวังว่าในช่ วงเวลา 5 ปี ที่ วัด แม่ พ ระฟาติ ม า พ่ อ จะสามารถร่ ว มกิ จ กรรมภาวนาค่ า กับพี่ น้อ งที่ บ้า น ได้มากเท่าที่สามารถตามที่ต้ งั ใจไว้ คุณพ่อ เปโตร วิทยา แก้วแหวน
สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015
-5-
วันอาทิ ตย์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา ข่ าวดี มก 7:1-8,14-15,21-23 1
ชาวฟาริ สีและธรรมาจารย์บางคนจากกรุ งเยรู ซาเล็มมาเฝ้ าพระองค์พร้อมกัน 2 เขาสังเกตว่าศิษย์บางคนของพระองค์กินอาหารด้วยมือที่ไม่สะอาด คือไม่ได้ลา้ งมือก่อน 3 เพราะชาวฟาริ สีและชาวยิวโดยทัว่ ไปย่อมถือขนบธรรมเนียมของบรรพบุรุษ เขาไม่กิน อาหารโดยมิได้ลา้ งมือตามพิธีก่อน 4เมื่อกลับจากตลาด เขาจะไม่กินอาหารเว้นแต่จะได้ ทาพิธีชาระตัวก่อน เขายังถือขนบธรรมเนียมอื่นๆ อีกมาก เช่น การล้างถ้วย จาน ชาม และภาชนะทองเหลือง 5ชาวฟาริ สีและธรรมาจารย์จึงทูลถามพระองค์วา่ “ทาไมศิษย์ของ ท่านไม่ปฏิบตั ิตามขนบธรรมเนียมของบรรพบุรุษ และทาไมเขาจึงกินอาหารด้วยมือที่ไม่ สะอาดเล่า” 6พระองค์ตรัสตอบว่า “ประกาศกอิสยาห์ได้พดู อย่างถูกต้องถึงท่าน คนหน้า ซื่ อใจคด ดังที่เขียนไว้ในพระคัมภีร์วา่ ประชาชนเหล่านี้ให้เกียรติเราแต่ปาก แต่ใจของเขาอยูห่ ่างไกลจากเรา 7 เขานมัสการเราอย่างไร้ความหมาย เขาสัง่ สอนบัญญัติของมนุษย์เหมือนกับเป็ นสัจธรรม 8 “ท่านทั้งหลายละเลยบทบัญญัติของพระเจ้ากลับไปถือขนบธรรมเนียมของ มนุษย์” 14 พระองค์ทรงเรี ยกประชาชนเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง ตรัสว่า “ทุกคนจงฟังและเข้าใจ 15 เถิด ไม่มีสิ่งใดเลยจากภายนอกของมนุษย์ทาให้เขามีมลทินได้ แต่สิ่งที่ออกมาจาก ภายในของมนุษย์น้ นั แหละทาให้เขามีมลทิน 21 จากภายในคือจากใจมนุษย์น้ นั เป็ นที่มาของความคิดชัว่ ร้าย การประพฤติผดิ ทางเพศ การลักขโมย การฆ่าคน 22การมีชู้ ความโลภ การทาร้าย การฉ้อโกง การสาส่ อน ความอิจฉา การใส่ ร้าย ความหยิง่ ยโส ความโง่เขลา 23สิ่ งชัว่ ร้ายทั้งหมดนี้ ออกมาจาก ภายใน และทาให้มนุษย์มีมลทิน” สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015
-6-
ข้อคิ ดจากพระวรสาร โดยคุณพ่อชัยยะ กิจสวัสดิ ์ พระวรสารวันนี้บ่งบอกเงื่อนปมของ “ความขัดแย้ง” ระหว่างพระเยซูเจ้ากับ บรรดาฟาริ สีและธรรมาจารย์ซ่ ึ งเป็ นผูน้ าที่เคร่ งศาสนาได้อย่างชัดเจน พวกเขาถามพระองค์วา่ “ทาไมศิษย์ ของท่ านไม่ ปฏิ บัติตามขนบธรรมเนียมของ บรรพบุรุษ” (มก 7:5) ในเมื่อประเด็นของพวกเขาคือ “การไม่ ปฏิ บัติตามขนบธรรมเนียมของบรรพ บุรุษ” เราจึงควรศึกษาว่า “ขนบธรรมเนียมของบรรพบุรุษ” คืออะไร และอะไรคือ แรงจูงใจที่ทาให้พวกเขาปฏิบตั ิตาม “ขนบธรรมเนียมของบรรพบุรุษ” อย่างเคร่ งครัด แรกเริ่ มเดิมทีเมื่อพูดถึง “ธรรมบัญญัติ” ชาวยิวหมายถึง 2 สิ่ งคือ บัญญัติสิบ ประการ และหนังสื อห้าเล่มแรกของพระธรรมเก่าซึ่ งเรี ยกกันว่า “ปั ญจบรรพ” จริ งอยูท่ ี่ในหนังสื อปั ญจบรรพมีกาหนดกฎเกณฑ์และคาแนะนาที่ลงใน รายละเอียดแบบหยุมหยิมอยูจ่ านวนหนึ่ง แต่ในส่ วนที่เกี่ยวข้องกับศีลธรรมจะเป็ นเพียง “หลักการ” กว้าง ๆ ที่แต่ละคนต้องตีความและประยุกต์ใช้กบั ชีวติ ของตนเอง เป็ นเวลานานที่ชาวยิวพอใจดาเนินชีวิตตามหลักศีลธรรมกว้างๆ แบบนี้ จน กระทัง่ ประมาณศตวรรษที่ 5 - 4 ก่อนพระเยซูเจ้า ได้มีผเู ้ ชี่ยวชาญกฎหมายกลุ่มหนึ่งซึ่ ง เรี ยกตัวเองว่า “ธรรมาจารย์ ” เห็นว่าหลักการกว้างๆ เหล่านี้จาเป็ นต้องได้รับการนิยาม ความหมายให้ชดั เจนและต้องขยายความให้ครอบคลุมทุกแง่ทุกมุมของชีวติ ผลลัพธ์ที่ได้คือระเบียบข้อบังคับนับพันนับหมื่นข้อที่สืบทอดต่อๆ กันมาด้วย ปากเปล่า (Oral Law) กลายเป็ นสิ่ งที่พระวรสารวันนี้ เรี ยกว่า “ขนบธรรมเนียมของบรรพ บุรุษ” ซึ่ งต่อมาราวศตวรรษที่สามจึงได้รับการบันทึกเป็ นลายลักษณ์อกั ษรในหนังสื อที่ เรี ยกว่า Mishnah
สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015
-7-
“ขนบธรรมเนียมของบรรพบุรุษ” ที่พวกเขายกมาเป็ นประเด็นโต้เถียงกับ พระองค์ในวันนี้คือ “การล้ างมือ” ชาวยิวต้องล้างมือก่อนและระหว่างกินอาหารโดยมีวตั ถุประสงค์หลักมิใช่เพื่อ ความสะอาดหรื อสุ ขอนามัยที่ดี แต่เพราะ “ขนบธรรมเนียมของบรรพบุรุษ” กาหนดให้ พวกเขาต้องล้างมือ “ตามพิธี” ซึ่ งกาหนดไว้อย่างละเอียดยิบและเคร่ งครัด น้ าสาหรับทา “พิธีล้างมือ” ต้องสะอาดตามกฎ บรรจุในไหหิ นขนาดใหญ่ที่ เตรี ยมไว้เป็ นพิเศษ มีฝาปิ ดมิดชิด ปราศจากสิ่ งอื่นเจือปน และสงวนไว้สาหรับพิธีลา้ งมือ เท่านั้น จะใช้เพื่อการอื่นมิได้ พิธีลา้ งมือเริ่ มด้วยการยกมือให้นิ้วชูข้ ึนด้านบน แล้วใช้น้ าปริ มาณเท่ากับความจุ ของไข่ไก่หนึ่งฟองครึ่ งรดจากปลายนิ้วให้ไหลลงมาจนถึงข้อมือเป็ นอย่างน้อย ขณะที่ มือทั้งสองยังเปี ยกอยู่ ให้ทาความสะอาดมือแต่ละข้างโดยใช้กาปั้ นของมือข้างหนึ่งถูกบั ฝ่ ามือของอีกข้างหนึ่งไปมาสลับกันเพื่อให้สิ่งสกปรกจาพวกทราย กรวด และปูนขาว หลุดออกไป ต่อจากนั้นให้ยกมือโดยนิ้วชี้ลงด้านล่าง แล้วใช้น้ าเท่าเดิมรดจากข้อมือให้ ไหลลงปลายนิ้ว เป็ นอันเสร็ จพิธีและถือว่ามือสะอาดแล้วตามที่ศาสนากาหนด ในสายตาของชาวยิว ผูท้ ี่ละเลยไม่ทาพิธีลา้ งมือก่อนกินอาหารถือว่าเป็ นคนไม่ สะอาดต่อหน้าพระเจ้า จะถูกปี ศาจโจมตี จะประสบกับความยากจนและพินาศในที่สุด ตามประวัติศาสตร์ มีรับบีคนหนึ่งถูกฝังนอกเมืองเพียงเพราะไม่ได้ทาพิธีลา้ งมือก่อนกิน อาหารเพียงครั้งเดียว และยังมีรับบีอีกคนหนึ่งเกือบอดน้ าตายในคุกของโรมันเพราะใช้ น้ าสาหรับดื่มมาทาพิธีลา้ งมือ เขายอมอดน้ าตายดีกว่าละเมิดกฎเรื่ องการล้างมือ ! กฎเกณฑ์และจารี ตพิธีเหล่านี้ คือ “ศาสนา” ของบรรดาฟาริ สีและธรรมาจารย์ พวกเขาถือว่า “นี่คือการรั บใช้ พระเจ้ า”
สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015
-8-
นอกจากนี้ใน มก 7:14 ยังพูดถึง “ขนบธรรมเนียมอื่นๆ อี กมาก” ซึ่งเราสามารถ หาตัวอย่างอ่านได้จากหนังสื อเลวีนิติบทที่ 11-15 และหนังสื อกันดารวิถีบทที่ 19 ซึ่ งว่า ด้วย “ข้ อกาหนดเกี่ยวกับการมีมลทินและไม่ มีมลทิน” เช่น สัตว์ที่เคี้ยวเอื้องแต่ไม่มีสองกีบแยกกัน เช่น อูฐและกระต่ายป่ า หรื อสัตว์ที่มี สองกีบแยกกันแต่ไม่เคี้ยวเอื้อง เช่น หมู ล้วนมีมลทิน เพราะฉะนั้นห้ามกินและห้าม สัมผัสซากของมันเด็ดขาด (ลนต 11:4-8) สตรี หลังคลอดบุตร คนโรคเรื้ อน ผูท้ ี่สัมผัสศพ คนต่างศาสนา บุคคลเหล่านี้ ถือว่ามีมลทิน และเมื่อพวกเขาสัมผัสสิ่ งใด สิ่ งนั้นย่อมมีมลทินไปด้วย ชาวยิวที่เคร่ งครัด “เมื่อกลับจากตลาด เขาจะไม่ กินอาหารเว้ นแต่ จะได้ ทาพิธี ชาระตัวก่ อน” (มก 7:4) ก็เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่ งมีมลทินทั้งหลายที่อาจติดตัวมาจากตลาดได้ ถูกกาจัดให้หมดสิ้ นไปแล้ว มก 7:14 ยังกล่าวถึง “การล้ างถ้ วย จาน ชาม และภาชนะทองเหลือง” เพราะ ภาชนะเหล่านี้มีมลทินได้ง่ายมากหากสัมผัสกับคนหรื ออาหารที่มีมลทิน จึงจาเป็ นต้อง ล้างให้ถูกต้อง “ตามพิธี” อย่างเคร่ งครัด ในหนังสื อ Mishnah ยังระบุกฎเกณฑ์หยุมหยิมเกี่ยวกับภาชนะต่างๆ ไว้อีก มากมายจนน่าปวดหัว ตัวอย่างเช่น ภาชนะดินเผาซึ่ งกลวงจะมีมลทินหากถูกคนหรื อ อาหารซึ่งมีมลทินสัมผัสภายใน แต่จะไม่มีมลทินหากถูกสัมผัสที่ภายนอก ภาชนะที่มี มลทินต้องทุบให้แตกเป็ นเสี่ ยงๆ แต่ละเสี่ ยงจะมีขนาดใหญ่จนบรรจุน้ ามันมากพอ สาหรับเจิมนิ้วเท้าหนึ่งนิ้วไม่ได้ จานอาหารที่มีขอบอาจมีมลทินได้หากสัมผัสกับสิ่ งที่มีมลทิน ส่ วนจานอาหารที่ ไม่มีขอบไม่มีทางมีมลทินได้เลยไม่วา่ จะสัมผัสกับอะไรก็ตาม ภาชนะที่ทาด้วยหนังสัตว์ กระดูก หรื อแก้ว หากมีลกั ษณะแบนถือว่าไม่มีทางมี มลทิน แต่ถา้ มีลกั ษณะกลวงย่อมมีมลทินได้จากการสัมผัสสิ่ งมีมลทินทั้งจากภายในและ ภายนอก สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015
-9-
ไม้ที่ติดกับภาชนะโลหะอาจมีมลทินได้ แต่โลหะที่ติดกับภาชนะไม้ไม่มีทางมี มลทิน ฯลฯ อีกมาก... จารี ตพิธี กฎเกณฑ์ และระเบียบมากมายเหลือคณานับเหล่านี้คือ “แก่นแท้ของ ศาสนา” สาหรับบรรดาธรรมาจารย์และฟารี สี ผูใ้ ดละเมิดถือว่าทาบาป ผูใ้ ดปฏิบตั ิตาม ถือว่าเป็ น “คนดี ” และเป็ นผูท้ ี่พระเจ้าทรงพอพระทัย นี่คือจุดแตกหักระหว่ างพระเยซูเจ้ ากับพวกฟาริ สีและธรรมาจารย์ เพราะ สาหรับพระองค์ “แก่ นแท้ ของศาสนาคือการรั กพระเจ้ า และรั กเพือ่ นมนุษย์ ” ด้วยมุมมองที่แตกต่างกันเช่นนี้ พระองค์จึงตอบคาถามของพวกเขาโดยอ้าง คาพูดของประกาศกอิสยาห์ที่กล่าวตาหนิประชาชนในสมัยนั้นซึ่ งนับถือพระเจ้าแต่ปาก ส่ วนหัวใจนั้นอยูห่ ่างไกลจากพระองค์ยงิ่ นัก (อสย 29:13) พูดง่ายๆ ก็คือพระองค์ทรงตาหนิพวกเขาว่า “ปากกับใจไม่ ตรงกัน” หรื อ “คน หน้ าซื่ อใจคด” (มก 7:6) คนหน้ าซื่อใจคด มาจากภาษากรี ก hupokrites (ฮูพอครี เตส) เดิมหมายถึง “ผู้ตอบ” แล้วพัฒนาเป็ น “ผู้ตอบเป็ นชุด เป็ นบทสนทนา” ซึ่ งได้แก่ “นักแสดง” และ ท้ายที่สุดหมายถึง "ผู้ที่ใช้ ชีวิตเหมือนนักแสดงโดยไม่ มีความจริ งใจหลงเหลืออยู่เลย” ผูใ้ ดก็ตามที่เห็นศาสนาเป็ นเรื่ องของการถือตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อกาหนด และจารี ตพิธีต่างๆ ที่สุดแล้วก็จะลงเอยแบบเดียวกันคือเป็ น “คนหน้ าซื่ อใจคด” เหตุผลคือ เขาเชื่อว่าตนเองเป็ น “คนดี” เพราะได้ ปฏิ บัติตามกฎระเบียบต่ าง ๆ อย่ างครบถ้ วนเคร่ งครั ดแล้ ว จึงไม่ สนใจว่ าความคิดและจิ ตใจของตนจะเป็ นอย่ างไร ! ตัวอย่างเช่น คนคนหนึ่งอาจจะเกลียดชังเพื่อนบ้านแบบเข้ากระดูกดา มีจิตใจ อิจฉาริ ษยาและเย่อหยิง่ จองหองอวดดี แต่ตราบใดที่เขาถือกฎเกณฑ์เรื่ องการล้างมือและ ระมัดระวังตนไม่ให้มีมลทิน ตราบนั้นเขายังเป็ น “คนดี” และได้ชื่อว่ารับใช้พระเจ้าแล้ว สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015
-10-
จริ งอยูเ่ ขาอาจรับใช้พระองค์ภายนอกแบบนักแสดง แต่ภายในจิตใจนั้นเขา ไม่ได้เชื่อฟังพระองค์เลย นี่คือ “คนหน้ าซื่ อใจคด” ! ปกติมุสลิมผูเ้ คร่ งครัดจะสวดภาวนาตามกาหนดเวลา พวกเขามักพกเสื่ อติดตัว ไปด้วยเสมอเพื่อใช้ปูพ้นื และคุกเข่าสวดภาวนาเมื่อถึงเวลากาหนด มีเรื่ องเล่าว่ามุสลิม คนหนึ่งกาลังถือมีดวิง่ ไล่ฆ่าชายคนหนึ่ง บังเอิญเสี ยงเตือนให้สวดภาวนาดังแว่วมา เขา หยุดวิง่ ทันที กางเสื่ อ คุกเข่า และสวดภาวนาอย่างเร่ งรี บ จากนั้นก็ออกวิง่ ตามฆ่าชายคน นั้นต่อไปอย่างไม่ลดละ จะเห็นว่าการสวดภาวนาของเขาเป็ นเพียงพิธีกรรมสลับฉากช่วงพักครึ่ งจากการ ไล่ล่าฆ่าคนเท่านั้น นี่คืออันตรายใหญ่ หลวงที่สุดของการนับถือศาสนาเพียงภายนอก หรื อการถือว่ า ความดีคือการปฏิ บัติตามกฎหมายของพระศาสนจักรทุกมาตราและทุกตัวอักษร ! เพราะการไปวัดวันอาทิตย์ การอ่านพระคัมภีร์ การให้ทาน รวมถึงการสวด ภาวนาหาได้เป็ นเครื่ องชี้ขาดว่าผูห้ นึ่งผูใ้ ดเป็ น “คนดี ” หรื อไม่ แต่ ท่าทีของหัวใจทีเ่ ขามี ต่ อพระเจ้ าและต่ อเพือ่ นมนุษย์ ต่างหากที่ทาให้ เขาเป็ นคนดีหรื อไม่ ดี ?! จะมีประโยชน์อะไรหากไปวัดหรื อสวดภาวนาโดยไม่รักพระเจ้าและเพื่อน มนุษย์ ? อีกประการหนึ่ง พระเยซูเจ้าทรงตาหนิพวกฟาริ สีและธรรมาจารย์วา่ “ละเลย บทบัญญัติของพระเจ้ า และกลับไปถือขนบธรรมเนียมของมนุษย์ ” (มก 7:8) นัน่ คือแทนที่จะฟังพระเจ้า พวกเขากลับสนใจฟังคาโต้แย้ง ข้อถกเถียง และ เหตุผลตามประสามนุษย์เพื่อตีความและคิดค้นระเบียบกฎเกณฑ์ใหม่ๆ ขึ้นมา แต่ ศาสนาที่แท้ จริ งอยู่ทกี่ ารเชื่ อฟังพระเจ้ า หาใช่ เป็ นผลผลิตจากสติปัญญาของ มนุษย์ แต่ ประการใดไม่ !!!
สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015
-11-
ลาพังเท่าที่กล่าวมานี้ คาสอนของพระเยซูเจ้าก็ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่าง ใหญ่หลวงจนพวกฟาริ สีและธรรมาจารย์ยอมรับไม่ได้แล้ว แต่เท่านี้ยงั ไม่พอ พระองค์ยงั ทาให้พวกเขาตกตะลึงเพิ่มขึ้นไปอีกเมื่อตรัสว่า “ไม่ มีสิ่งใดเลยจากภายนอกของมนุษย์ ทาให้ เขามีมลทินได้ แต่ สิ่งทีอ่ อกมาจากภายใน ของมนุษย์ นั้นแหละทาให้ เขามีมลทิน” (มก 7:15) แล้วจะมีชาวยิวคนใดยอมรับคาสอนใหม่น้ ีได้ เพราะในสมัยของมัคคาบีเคยมี คนยอมตายแต่ไม่ยอมกินของมีมลทินมาแล้ว ! เรื่ องมีอยูว่ า่ กษัตริ ยซ์ ี เรี ยพระองค์หนึ่งนามว่า อันทิโอคัส เอปี ฟาเนส (Antiochus Epiphanes) ต้องการทาลายศาสนายิวแบบขุดรากถอนโคน จึงบังคับชาวยิวให้กินหมูซ่ ึ ง เป็ นสัตว์มีมลทิน ชาวยิวหลายร้อยคนยอมถูกประหารชีวิต แต่ไม่ยอมละเมิดบัญญัติทาง ศาสนาของตน (1 มคบ 1:62-63) ด้วยคาพูดเพียงประโยคเดียวคือ “ไม่ มีสิ่งใดเลยจากภายนอกของมนุษย์ ทาให้ เขา มีมลทินได้ ”พระองค์ทรงลบล้างกฎเกณฑ์ที่ชาวยิวยึดถือโดยเอาชีวิตเป็ นเดิมพันมาแล้ว ! แม้อคั รสาวกเองก็ไม่เข้าใจ (มก 7:17) จนพระองค์ตอ้ งอธิ บายเชิงตาหนิพวกเขาว่า “ท่ านก็ไม่ มีปัญญาด้ วยหรื อ ท่ านไม่ เข้ าใจหรื อว่ าสิ่ งต่ างๆ จากภายนอกที่เข้ าไปในมนุษย์ นั้นทาให้ เขามีมลทิ นไม่ ได้ เพราะ มันไม่ ได้ เข้ าไปในใจ แต่ ลงไปในท้ อง แล้ วออกไปจากร่ างกาย” (มก 7:18-19) นัน่ คือ “อาหารทุกชนิดไม่ เป็ นมลทิน” (มก 7:19) เพราะเมื่อกินเข้าไปแล้ว ร่ างกายจะย่อยและขับถ่ายออกไปในที่สุด ประเด็นของพระองค์คือ ไม่มีอาหารหรื อสิ่ งใดในโลกนี้ที่ “บริ สุทธิ์ ” หรื อ “มี มลทิน” โดยการบัญญัติของศาสนา พูดง่ายๆ ก็คือ ศาสนาจะมากาหนดว่า หมู เห็ด เป็ ด ไก่ ปลาไหล ปลาร้า โต๊ะ เตียง จาน ชาม ปื นผา หน้าไม้ รวมถึงไม้จิ้มฟันยันเรื อรบ “บริ สุทธิ์ ” หรื อ “มีมลทิน” ไม่ได้ สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015
-12-
มีแต่ “คน” เท่านั้นแหละที่สามารถ “มีมลทิน” ได้ ! และสิ่ งที่ทาให้คนมีมลทินได้ก็คือ “กิจการ” ซึ่งเป็ น “ผลผลิตจากจิตใจ” ของเขา แต่ละคนนัน่ เอง !!! พระองค์จึงตรัสว่า “สิ่ งที่ออกมาจากภายในของมนุษย์ นั้นแหละทาให้ เขามี มลทิน” พร้อมกับทรงยกตัวอย่างกิจการชัว่ ร้ายที่ออกมาจากภายในและทาให้มนุษย์มี มลทินด้วย กิจการชัว่ ร้ายทั้งหลายจะเกิดขึ้นได้ตอ้ งเริ่ มต้นมาจากความคิดและการตัดสิ นใจ เลือกสิ่ งที่ชวั่ ร้ายเสี ยก่อน พระองค์จึงยกเอา “ความคิดชั่วร้ าย” มาเป็ นสิ่ งแรกที่ทาให้ มนุษย์มีมลทิน มลทินอื่นคือ การประพฤติผิดทางเพศ การมีชู้ และการฆ่าคน ล้วนมีความหมาย ชัดเจนในตัวอยูแ่ ล้ว “การลักขโมย” ภาษากรี กใช้ 2 คาคือ kleptēs (เคลพ-เตส) ซึ่งหมายถึงขโมย หรื อยักยอก ดังเช่นยูดาสซึ่ งยอห์นเล่าว่า “เขาเป็ นขโมย เขาเป็ นผู้ถือถุงเงินและยักยอก เงินในถุงนั้น” (ยน 12:6) อีกคาหนึ่งคือ lēstēs (เลสเตส) อันหมายถึงโจร อย่างเช่นบา รับบัสที่ได้รับการปล่อยตัวแทนพระเยซูเจ้า (ยน 18:40) เพราะฉะนั้นมลทินประการนี้ จึง หมายรวมทั้งการเป็ นโจร ขโมย และยักยอกด้วย “ความโลภ” ตามรากศัพท์ภาษากรี ก pleonexia (เพล-ออ-เนก-ซี -อา) หมายถึง “การมีมากขึน้ ” มีผใู ้ ห้คาจากัดความของความโลภไว้หลายอย่าง เช่ น “ความอยากมีอัน อัปรี ย์”, “จิตใจที่ยึดฉวยในสิ่ งที่ไม่ ควรจะได้ มา” ฯลฯ อนึ่ง ความอยากมีน้ ีมิได้จากัด เฉพาะเงินทองหรื อสิ่ งของเท่านั้น แต่หมายรวมถึงความอยากมีอานาจ และอยากมีราคะ ตัณหาทางเนื้อหนังอย่างไม่รู้จกั เพียงพออีกด้วย “การทาร้ าย” น่าสังเกตว่าต้นฉบับภาษากรี กไม่ได้ใช้คา kakos (คาคอส) ซึ่ง หมายถึงกิจการร้ายซึ่ งส่ งผลร้ายต่อตนเอง แต่ใช้คา ponēros (พอ-เน-รอส) ซึ่งหมายถึง กิจการร้ายที่ก่อให้เกิดผลร้ายแก่ผอู ้ ื่นจริ งๆ คนประเภทนี้ชอบสร้างปั ญหาให้กบั เพื่อน สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015
-13-
บ้าน ชอบหากางเขนให้ผอู ้ ื่นแบก อารมณ์ร้าย และชอบชักนาคนอื่นให้หลงผิด เรี ยกว่า เขาไม่เพียงทาให้ตวั เองชัว่ ร้ายเท่านั้น แต่ยงั ทาให้ผอู ้ ื่นชัว่ ร้ายตามไปด้วย จึงต้องถือว่า เขามีพฤติกรรมเหมือน “ซาตาน” ผูไ้ ด้รับสมญานามเป็ นภาษากรี กว่า Ponēros และ ภาษาอังกฤษว่า “the Evil One” จริ ง ๆ “การฉ้ อโกง” หมายถึงการใช้เล่ห์เหลี่ยมด้วยเจตนาจะหลอกลวงผูอ้ ื่น เหมือน อย่างการใช้กบั ดักหนูเพื่อหลอกจับหนู หรื อการยึดเมืองทรอยโดยใช้ “ม้ าไม้ ” ของชาว กรี ก เป็ นต้น “การสาส่ อน” ตรงกับภาษากรี ก aselgeia (อา-เสล-เกิย-อา) หมายถึงสภาพจิตใจ ที่ขดั ขืนระเบียบวินยั ทั้งมวล เป็ นจิตใจที่ขาดการยับยั้ง กล้าทาทุกสิ่ งที่อาเภอใจและ ตัณหาจะพาไป ลักษณะของคนสาส่ อนคือ ไร้ยางอาย สู ญสิ้ นซึ่ งเกียรติยศและศักดิ์ศรี สามารถ ทาผิดได้โดยไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ และไม่ลงั เลใจเลยที่จะทาในสิ่ งที่ไม่มีผใู ้ ดคาดฝัน ตัวอย่างที่พบเห็นได้ในพระคัมภีร์คือพระนางเยเซเบลซึ่ งกล้าสร้างพระแท่นถวายพระอื่น ในกรุ งเยรู ซาเล็ม อันเป็ นนครศักดิ์สิทธิ์ ขององค์พระผูเ้ ป็ นเจ้า “อิจฉา” ตรงกับ Envy ในภาษาอังกฤษซึ่งมาจากคา Evil (ชั่ว) รวมกับ Eye (ตา) คนอิจฉาจึงหมายถึงคนที่มี “ตาชั่ว” นัน่ คือตาที่มองความสาเร็ จและความสุ ขของผูอ้ ื่น ด้วยเจตนาร้ายราวกับจะกินเลือดกินเนื้ อ “ใส่ ร้าย” ตรงกับภาษากรี ก blasphēmia (บลาส-เฟ-มี-อา) เมื่อใช้กบั มนุษย์ หมายถึงการใส่ ร้าย เมื่อใช้กบั พระเจ้าหมายถึงการดูหมิ่น มลทินประการนี้จึงหมายถึง การดูหมิ่นเหยียดหยามทั้งพระเจ้าและมนุษย์ “ความหยิ่งยโส” ความหมายตามภาษากรี ก huperēphania (ฮู -เพ-เร-ฟา-นี-อา) คือ “แสดงตัวว่ าเหนือกว่ า” เป็ นท่าทีของคนที่ดูหมิ่นเหยียดหยามทุกคนยกเว้นตัวเอง ท่าทีน้ ีอาจอยูภ่ ายในใจโดยไม่แสดงออกก็ได้ เช่นคนที่แลดูสุภาพอ่อนน้อม แต่ภายใน
สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015
-14-
จิตใจนั้นเต็มไปด้วยการเปรี ยบเทียบตัวเองกับคนอื่น และผลของการเปรี ยบเทียบคือ ตัวเองดีกว่าคนอื่นเสมอ ความหยิง่ ยโสนี้ไม่เพียงทาให้เราคิดว่าดีกว่าคนอื่นเท่านั้น แต่ยงั ก้าวล่วงไปถึง ขอบเขตของพระเจ้าอีกด้วย คนหยิง่ ยโสมักตั้งตัวเองเป็ นปรปั กษ์กบั พระเจ้าและละเมิด สิ ทธิ ของพระองค์ ความหยิง่ ยโสจึงเป็ น “สุดยอดแห่ งความชั่วร้ าย” ด้วยเหตุน้ ี “พระเจ้ าทรงต่ อต้ านคนเย่ อหยิ่ง” (ยก 4:6) “ความโง่ เขลา” ในที่น้ ีไม่ได้หมายถึงความด้อยสติปัญญา แต่หมายถึงความโง่ เขลาทางด้านศีลธรรม หรื อพูดง่ายๆ คือแกล้งโง่ แกล้งเซ่อ แกล้งไม่รู้ จะได้ทาชัว่ หรื อ งดเว้นไม่ทาดีได้โดยสะดวกใจ ฟังแล้วหลายคนอาจตกใจกลัวจนตัวสั่น หรื อบางคนอาจท้อแท้สิ้นหวังที่จะ ก้าวหน้าต่อไปในหนทางของพระเจ้า แต่นี่ไม่ใช่คาสั่งเบ็ดเสร็ จเด็ดขาดให้งดเว้นจากความชัว่ ร้ายที่กล่าวมา พระองค์ เพียงเรี ยกร้องให้เรา “สารวจจิตใจและมโนธรรมของเราอย่างจริงจังและตรงไปตรงมาว่ า รั กพระเจ้ าและรั กเพือ่ นมนุษย์ เหนือสิ่ งอื่นใดหรื อไม่ ” เท่านั้น !!!
สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015
-15-
Pope Report พระสันตะปาปาร่วมอาลัยเหตุระเบิดในกรุงเทพฯ สัปดาห์ทีผ่ ่านมา ข่าวคาทอลิกและพระสันตะปาปามีเรือ่ งน่าสนใจเยอะ จริงๆ แต่ไฮไลต์สาคัญสุดคงหนีไม่พน้ ข่าวสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรง โปรดเกล้าให้พระคาร์ดินลั ปิ เอโตร ปาโรลิน เลขาธิการนครรัฐวาติกนั (เทียบเท่า นายกฯวาติกนั )เป็ นผูส้ ่งพระราชสาส์นแสดงความเสียพระทัยมายังพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หวั ต่อเหตุการณ์วางระเบิดในกรุงเทพมหานคร... เพือ่ ไม่เป็ นการ เสียเวลา เราไปติดตามข่าวต่างๆ พร้อมกันเลย พระราชสาส์นแสดงความเสียพระทัยจากพระสันตะปาปา “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั ภูมิพล อดุลยเดช พระมหากษัตริยแ์ ห่งราชอาณาจักรไทย กรุงเทพมหานคร สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเสียพระทัยอย่างสุดซึ้งเมื่อทราบข่าวการมี ผู้ได้ รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เนื่องจากเหตุระเบิด ณ สักการะสถานท้าวพระพรหม เอราวัณ รวมทั้งเหตุข่มขู่คุกคามถึงชีวิตและทาลายทรัพย์สนิ ด้ วยวัตถุระเบิดที่ทา่ เรือ สาทร สมเด็จพระสันตะปาปาขอร่วมพระราชหฤทัยและอยู่เคียงข้ างใต้ ฝ่าละอองธุลี พระบาทและบุคคลที่ได้ รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์อนั รุนแรง ขอเป็ นกาลังใจ ให้ ทุกคนที่ทาหน้ าที่เฝ้ าระวังความปลอดภัยในยามฉุกเฉิน รวมทั้งเจ้ าหน้ าที่ท่เี กี่ยวข้ อง ในการสืบหาผู้ก่ออาชญากรรม เช่นเดียวกับผู้ท่ดี ูแลช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ผู้ท่บี รรเทาใจ ครอบครัวของพวกเขา เฉพาะอย่างยิ่งผู้เสียชีวิต สมเด็จพระสันตะปาปาขอให้ ใต้ ฝ่าละอองธุลีพระบาทมั่นใจว่า พระองค์ทรง สวดภาวนาขอพระเจ้ า เพื่อพระพรแห่งสันติและการบรรเทาใจมาสู่ผืนแผ่นดินแห่ง ราชอาณาจักรไทย (ลงชื่อ) พระคาร์ดินลั ปิ เอโตร ปาโรลิน เลขาธิการนครรัฐวาติกนั ในนามของสมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015
-16-
สภาพระสังฆราชอังกฤษและเวลส์ ร่วมภาวนาเพือ่ ประเทศไทย พระสังฆราช เด๊คแลน แลง ประธานฝ่ ายความสัมพันธ์ต่างประเทศของสภา พระสังฆราชคาทอลิกแห่งอังกฤษและเวลส์ ออกมาเชิญชวนชาวคาทอลิกในอังกฤษ และเวลส์ สวดภาวนาเพื่อประเทศไทย หลังเกิดเหตุการณ์การวางระเบิดกลาง กรุงเทพมหานคร พระสังฆราช แลง เคยมาเยือนประเทศไทยเมื่อ 2 ปี ที่แล้ ว กล่าวว่า “คาทอลิก ในอังกฤษและเวลส์ จะสวดภาวนาเพือ่ ชาวไทยและทุกคนทีไ่ ด้รบั ผลกระทบจาก เหตุโจมตีดงั กล่าว สาหรับตัวพ่อเอง พ่อยังจาความมีน้ าจิ ตน้ าใจของคนไทยที่พ่อ ได้รบั เมือ่ 2 ปี ทีแ่ ล้วทีก่ รุงเทพฯ ได้เป็ นอย่างดี พ่อขอร่วมเป็ นหนึง่ เดียวกับพระ ศาสนจักรคาทอลิกไทยในช่วงเวลายากลาบากนี้ ด้วย” นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย เป็ น “เยสุอิต” หลังเกิดเหตุการณ์วางระเบิดในกรุงเทพฯ หลายคนน่าจะเห็นข่าว “โทนี่ แอ็บบ็อตต์” นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ออกมาให้ กาลังใจประเทศไทย และกล่าวว่า ชาวออสเตรเลียยังควรไปเที่ยวประเทศไทยเหมือนเดิม ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ออสเตรเลีย ยังเสนอความช่วยเหลือด้ านการทหารให้ กบั องค์กรด้ านความปลอดภัย ของประเทศไทย แม้ จะไม่มีชาวออสเตรเลียบาดเจ็บหรือเสียชีวิตก็ตาม อ่านข่าวนี้แล้ ว หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า โทนี่ แอ็บบ็อตต์ เป็ น “คาทอลิกที่ เคร่ง เขาเคยเกือบบวชเป็ นพระสงฆ์คณะเยสุอิตแล้ว (เป็ นเณรทีใ่ กล้จะบวชเต็มที) แต่สุดท้าย ตระหนักถึงกระแสเรียกทีแ่ ท้จริง และออกมาเดินบนเส้นทางที่พระเจ้า มอบหมายให้กบั เขา” คาทอลิกทีห่ ย่าร้างและไปแต่งงานใหม่ ไม่ได้ถูกขับไล่ออกจากพระศาสนจักร การเข้ าเฝ้ าทั่วไปประจาวันพุธที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงเทศน์สอนสัตบุรุษเกี่ยวกับเรื่องสถานการณ์การหย่าร้ างและการสมรสใหม่ หลังจากหย่าร้ าง
สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015
-17-
พระสันตะปาปา ตรัสว่า “พระศาสนจักรทราบถึงเรื่องการหย่าร้ างและการ สมรสใหม่หลังจากหย่าร้ างว่า มันขัดแย้ งกับศีลศักดิ์สทิ ธิ์แห่งคริสตศาสนา อย่างไรก็ ตาม พระศาสนจักรในฐานะที่เป็ นแม่ เราแสวงหาสิ่งดีและความรอดให้ กบั ลูกเสมอๆ “มันสาคัญมากสาหรับพระศาสนจักรที่ต้องต้ อนรับด้ วยความจริงใจต่อ ครอบครัวที่ประสบปัญหานี้ พระศาสนจักรต้ องแสดงให้ เห็นถึงการดูแลด้ านการ อภิบาลต่อสถานการณ์แบบนี้ เฉพาะอย่างยิ่ง ดูแลลูกหลานของพวกเขา “หลายทศวรรษที่ผ่านมา พระศาสนจักรได้ ปรับตัวและรับรู้มากขึ้นเรื่อยๆ ถึง ความจาเป็ นในการต้ อนรับต่อคาทอลิกที่หย่าร้ างและไปสมรสใหม่ “พ่อขอย้ าว่า พวกเขายังเป็ นส่วนหนึง่ ของพระศาสนจักร พวกเขาไม่ได้ถูก ขับไล่ออกจากพระศาสนจักร ย้ านะ! พวกเขาไม่ได้ถูกขับไล่ออกจาพระศาสนจักร พวกเขาไม่สมควรได้รบั การปฏิบตั ิเหมือนคนทีถ่ ูกขับไล่ ตรงกันข้าม พวกเขาต้อง ได้รบั กาลังใจและได้มีส่วนร่วมในชีวิตพระศาสนจักร โดยผ่านทางการสวดภาวนา การฟังพระวาจาของพระเจ้า การให้การอบรมต่อลูกหลานของเขา และการรับใช้ผู ้ ยากไร้ “พ่อขอย้ าพระดารัสของพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ทีเ่ คยตรัสว่า ‘มันไม่มีทางออกทีง่ ่ายเลยสาหรับปัญหาบาดแผลในครอบครัว’ ดังนั้น พระศาสน จักรต้องดาเนินชีวิตตามแบบพระเยซู นายชุมพาบาลทีแ่ สนดีทีต่ อ้ นรับลูกทุกคน ประดุจแม่ทีเ่ ต็มใจจะมอบชีวิตของตนเพือ่ ลูกทุกคน “พ่อขอร้องว่า เราอย่าปิ ดประตูพระศาสนจักรใส่พวกเขาเด็ดขาด เฉพาะ อย่างยิง่ บรรดาพระสงฆ์ ขอให้อภิบาลพวกเขาดูความรักความเมตตาแบบที่ พระเยซู ทรงแสดงให้เห็นเป็ นแบบอย่าง” AVE MARIA
สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015
-18-
ข้ อคิดเพือ่ ชีวติ คนจานวนมากมายได้ละทิ้งทางของพระเจ้า ทั้งๆ ที่เขามี พระคัมภีร์ไว้อ่านและมีการ สอนสัง่ ทางของพระเจ้าให้พวกเขารับฟังอยูเ่ ป็ นประจา อย่างไรก็ตาม เราทุกคนก็ควรมีใจที่ ปรารถนาที่ตอ้ งการรู ้จกั พระเจ้าจริ งๆ เป็ นส่ วนตัว เหมือนอย่างที่โมเสสปรารถนาที่จะรู ้จกั กับ พระเจ้าเป็ นส่ วนตัว “และบัดน้ ี ถ้าข้าพระองค์เป็ นที่โปรดปรานในสายพระเนตรของพระองค์แล้ว ขอ โปรดสาแดงพระมรรคาของพระองค์แก่ขา้ พระองค์ แล้วข้าพระองค์จะรู ้จกั พระองค์ เพื่อข้า พระองค์จะเป็ นที่โปรดปรานในสายพระเนตรของพระองค์ และขอทรงนับชนชาติน้ ีเป็ น ประชากรของพระองค์” (อพย 33:13) พระเจ้าทรงพอพระทัยในความปรารถนาที่ตอ้ งการจะรู ้จกั พระองค์ของโมเสส พระองค์จึงตรัสว่า… “พระยาห์เวห์ตรัสตอบโมเสสว่า “สิ่ งที่เจ้าขอนั้นเราจะทาให้ เพราะว่าเจ้า เป็ นที่โปรดปรานในสายตาของเราแล้ว และเรารู ้จกั ชื่อของเจ้า” (อพย 33:17) พระเยซูคริ สตเจ้าก็ทรงปรารถนาที่จะให้เราได้มีความสัมพันธ์และรู ้จกั กับพระองค์ เป็ นส่ วนตัว เราจึงควรจัดหาเวลาที่จะสนทนากับพระองค์เป็ นประจา แน่นอนว่า พระเจ้าทรง รู ้จกั เราดีอยูแ่ ล้ว คงมีแต่เราเท่านั้นที่ยงั ไม่รู้จกั พระองค์ดีพอ การได้เข้าพักอยูก่ บั พระองค์เป็ น ส่ วนตัว ได้มีความสัมพันธ์สนิ ทกับพระองค์ทางจิตวิญญาณ และได้เข้าใจพระทัยของพระองค์ ผ่านการเปิ ดเผยผ่านพระวจนะของพระองค์ ที่เราเรี ยกว่า “การภาวนา” จึงเป็ นสิ่ งสาคัญและ จาเป็ นที่ละเลยไม่ได้เลยการรู ้จกั กับพระองค์กเ็ ท่ากับการรู ้จกั ทางที่จะเดินไปในอนาคต ตาม พระประสงค์ของพระองค์ ถ้าเรารู ้จกั กับพระองค์จริ ง ๆ พระองค์จะตรัสกับเรา และบอกถึงทาง ที่เราควรจะเดินไปหรื อให้ทราบถึงวิถีความประพฤติที่เราควรปฏิบตั ิ! การรู ้จกั พระวจนะของพระเจ้าเป็ นเรื่ องหนึ่ง การรู ้จกั กับพระเจ้าแห่งพระวจนะก็เป็ น อีกเรื่ องหนึ่ง Leonard Ravenhillขอให้เราตัดสิ นใจที่จะรู ้จกั กับพระเจ้าให้ดีมากขึ้นกว่าเดิมอย่างตั้งใจ และจริ งจัง มากกว่าที่ผา่ นมา โดยการจัดเวลาในการชิดสนิทกับพระองค์ อย่างมีคุณภาพทุกวันเพื่อคุณจะ รู ้จกั กับพระเจ้าของคุณให้ดีข้ ึน … จะดีไหม (ผูเ้ ป็ นสุ ข) สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015
-19-
พบพระเยซูเจ้ าในคัมภีร์โกหร่ าน (ตอน 2)
(โดย ดร. วรรณีย์ ลิขิตธรรม)
ครั้นแล้วมารี โอก็บอกอาจารย์ของเขาว่าพระวาจาไม่ได้เป็ นทั้งผู้สร้ างและสิ่ ง สร้ าง ตามความเชื่อของชาวคริ สต์พระวาจาคือพระบุตรพระเจ้ า อาจารย์จึงถามเขาว่าถ้า มีพระบุตรของพระเจ้ามารี โอต้องแสดงให้เขาเห็นว่าใครเป็ นภรรยาของพระเจ้าเพราะไม่ มีใครมีบุตรโดยไม่มีภรรยา ต่อคาถามนี้มารี โอตอบโดยยกข้อความบางตอนจากโกหร่ าน ซึ่ งบอกว่าพระเจ้าทรงมองเห็นโดยไม่มีตา พระเจ้าทรงพูดได้ท้ งั ๆ ที่ไม่มีลิ้น และทรง ได้ยนิ โดยไม่มีหู ดังนั้นพระเจ้าจึงทรงมีบุตรได้โดยไม่ตอ้ งมีภรรยา มารี โอและอาจารย์ ของเขาโต้เถียงกันมากมายหลายเรื่ อง ที่สุดมารี โอนาพระคัมภีร์โกหร่ านมาวางไว้บนหน้าอกของเขาและทูลพระเจ้าว่า “พระอัลเลาะห์เจ้า โปรดบอกด้วยว่าผมควรทาอะไร เพราะคัมภีร์โกหร่ านของท่านบอก ว่าพระเยซูเจ้าทรงมีพระชนมชีพอยูแ่ ละพระมูฮมั หมัดไม่มีชีวติ แล้ว พระเจ้าข้า ผมควร จะยอมรับใครดี หลังจากการอธิ ษฐานภาวนาอย่างเร่ าร้อนจากใจจริ ง เขาเปิ ดโกหร่ าน อีกครั้งหนึ่ง คราวนี้สายตาของเขาเพ่งไปที่บทที่ 10 ข้อ 94 ซึ่ งเขียนไว้วา่ “ถ้าท่านมีความ สงสัยประการใดเกี่ยวกับคัมภีร์โกหร่ านที่เราได้ประทานแก่ท่าน ให้ไปอ่านพระคัมภีร์ ไบเบิ้ลหรื อถามผูท้ ี่ได้เคยอ่านไบเบิ้ลแล้วเพราะความจริ งได้ถูกเปิ ดเผยเรี ยบร้ อยแล้ว” ดังนั้น มารี โอจึงตัดสิ นใจศึกษาพระคัมภีร์และได้เรี ยนรู ้วา่ ใครคือพระเจ้าเที่ยงแท้ ตั้งแต่ นั้นเป็ นต้นมาเขาก็ได้เข้าเป็ นคริ สตชน เขาบอกว่าไม่ใช่พระสงฆ์หรื อซิสเตอร์ สังฆราช หรื อคาร์ดินลั หรื อสันตะปาปา แต่เป็ นคัมภีร์โกหร่ านอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ทาให้เขากลายเป็ น คริ สตชน เขาเล่าต่อว่าในโกหร่ านพระอัลเลาะห์ทรงถือว่ามนุษย์เป็ นทาสและพระองค์ ทรงเป็ นเจ้ านาย แต่ในไบเบิล้ มีพดู ว่า “ผูใ้ ดที่ยอมรับพระองค์คือผูท้ ี่เชื่อในพระนาม พระองค์ พระองค์ประทานอานาจให้ผนู ้ ้ นั กลายเป็ นบุตรของพระเจ้ า” (ยน 1:12) ทันที ที่เขาอ่านพบข้อความนี้ หัวใจของเขาเรี ยกร้องว่า “ผมต้องการพระเยซู เพราะผมอยาก เป็ นลูกของพระเจ้า” จากนั้นเป็ นต้นมามารี โอเรี ยกพระเจ้าว่า “พ่อ” ก่อนหน้านั้นเขาไม่ เคยรู ้เลยว่าเขาสามารถเรี ยกพระเจ้าว่า “พ่อของผมได้” มารี โออธิบายถึงความดีใจและ สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015
-20-
ความสุ ขเหลือล้นเมื่อเขาสามารถเรี ยกพระผูส้ ร้างฟ้ าจักรวาลว่าเป็ น “พ่อของผม” มันเป็ น ประสบการณ์แห่งความปี ติเหนือคาบรรยายใดใด แต่เราสัมผัสได้ หลังจากเขากลับใจเป็ นคริ สตชนแล้วครอบครัวของเขาเริ่ มตามหาและพบตัวเขา ที่ศูนย์เข้าเงียบที่ Potta บิดาทุบตีเขารุ นแรงมากและลากตัวเขากลับบ้าน เขาเล่าว่า “เมื่อ ถึงบ้านพ่อขังผมไว้ในห้องโดยมัดมือและขา ถอดเสื้ อผ้าของผมออก เอาพริ กไทยใส่ ใน ตา ปากและจมูก และปล่อยผมไว้ที่นนั่ โดยไม่ให้กินอะไรเลย เมื่อผมกระหายน้ าพี่/ น้องชายจะฉี่ ใส่ ปากผม พูดว่านี่เป็ นการลงโทษผมที่เชื่ อพระเยซู” ที่สุดเมื่อถูกขังเป็ น เวลา 28 วันแล้ว พ่อของเขาได้มาหาและเอามือขยุม้ คอของลูกชายเพื่อจะดูวา่ ตายหรื อยัง อีกมือหนึ่งก็ถือมีดพร้อมทั้งตวาดเสี ยงดังว่า ถ้าอยากมีชีวติ อยูเ่ ขาต้องเชื่อพระอัลเลาะห์ ถ้าเขาเชื่อเยซูเขาจะต้องตาย มารี โอเลือกที่จะตายในพระเยซูเพราะเขาเชื่ อมัน่ ว่าถ้าเขา ตายกับพระองค์เขาก็จะกลับเป็ นขึ้นมาเช่นเดียวกับพระองค์ ทันทีที่ตดั สิ นใจ เขารู้สึกได้ ว่ามีลาแสงซึ่ งสว่างจ้าส่ องตรงมาที่หน้าผาก คล้ายกับมีกระแสไฟฟ้ าผ่าน แล้วเขาก็เต็ม ไปด้วยพละกาลัง จึงมีแรงมหาศาลสามารถต้านมือที่เงื้อมีดพร้อมจะฆ่าเขาไว้ได้ เขา ตระโกนเสี ยงดังสุ ดแรงเกิดว่า “เยซู ” ทันใดนั้นบิดาของเขาก็ลม้ ลงกับพื้นและมีบาดแผล ใหญ่ที่หน้าอกเพราะมีดที่เขาถืออยูน่ นั่ เอง มีเลือดออกมากและน้ าลายฟูมปาก พ่อของ เขาร้องด้วยความเจ็บปวด ในขณะที่โกลาหลอยูน่ ้ นั คนในครอบครัวรี บนาพ่อส่ งโรง พยาบาล และเขาก็สามารถหนีออกมาได้ เหตุการณ์น้ ีเผยให้มารี โอรู ้วา่ พระคริ สตเจ้ายังทรงพระชนมชีพอยูแ่ ละทรง ประทับอยูท่ ่ามกลางเรา พระองค์จึงได้ทรงปกป้ องเขาจากอันตรายใหญ่หลวง ครอบครัว ของเขาได้จดั งานศพ (ปลอม) เพื่อสื่ อให้คนทั้งหลายรู ้วา่ มารี โอตายไปแล้วและมีหลุมศพ ที่บา้ นเกิดของเขาด้วย มารี โอบอกแก่เราว่า พระเยซูทรงรับบาปผิดทั้งปวงด้วยการตาย ของพระองค์ ต่อหน้าพระบิดาเจ้าพระองค์จะปกป้ องเราโดยพูดว่า “คนคนนี้บริ สุทธิ์ เพราะข้าพระองค์ได้รับบาปผิดของเขาไปหมดแล้ว ดังนั้นพระบิดาเจ้าโปรดรับเขาเข้า สวรรค์ดว้ ย” สาหรับมารี โอแล้วพระคริ สตเจ้าทรงเป็ นผูช้ ่วยเราให้รอด สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015
-21-
Fatima Kids August 2015 สวัสดีค่ะ ชาวฟาติมาคิดส์ ทุกๆ คนค่ะ สบายดีกนั หรื อเปล่าเอ่ย วันแม่ที่ผา่ นมา เป็ นอย่างไรกันบ้างคะ หลายๆ คนคงได้มอบดอกมะลิแก่คุณแม่ใช่ไหมเอ่ย แต่สิ่งที่ สาคัญที่สุด ขอให้เด็กๆ ทุกคนเป็ นเด็กดี คุณแม่ก็ชื่นใจแล้วค่ะ สวดภาวนาให้คุณแม่ เยอะๆ นะคะ และอย่าลืมสวดวอนขอสันติสุขให้กบั ประเทศไทยของเราด้วยนะคะ สาหรับฟาติมาคิดส์ฉบับนี้ ขอส่ งท้ายเดือนด้วยเรื่ องราวเกี่ยวกับคุณแม่ และใคร ที่ติดตามเรื่ องของโทบิยาห์ ฉบับนี้เป็ นตอนจบแล้วค่ะ ใครพร้อมแล้วตามลุน้ ตอนจบกัน เลยค่ะ
โทบิยาห์ (ตอนจบ) จากความเดิมตอนที่แล้วหลังจากที่รากุเอลตกลงยกซาราห์ให้แก่โทบิยาห์ ตกค่า รากุเอลเรี ยกคนใช้เตรี ยมขุดหลุมฝังศพแก่โทบิยาห์ เพราะคิดว่าเขาต้องตายแน่ ส่ วน โทบิยาห์ได้นาภรรยาไปที่เตาไฟทิ้งหัวใจและตับปลาลงในกองไฟ ทันใดนั้นปี ศาจก็ หนีหายไปจากบ้านรากุเอล โทบิยาห์และซาราห์จึงคุกเข่าลง ภาวนาขอบคุณพระเจ้า รุ่ งเช้าเมื่อทุกคนเห็นว่าทั้งสองปลอดภัยจึงพากันสรรเสริ ญพระเจ้า รากุเอล ขอร้องโทบิยาห์ให้คา้ งแรมอีก 14 วันเพื่อความสบายใจของบุตรสาว หลังจากที่ทุกข์ใจ มาหลายปี บ่ายวันนั้นโทบิยาห์ได้ขอร้องอาสาริ ยาห์ให้ไปทวงเงินจากกาบะเอลที่เมืองรา เกส และเชิญท่านมางานมงคลสมรสพร้อมทั้งมอบใบฝากเงินให้เอาไปเป็ นหลักฐาน เมื่อครบ 14 วันโทบิยาห์ขออนุญาตรากุเอลกลับบ้านเพราะเป็ นห่วงบิดามารดา รากุเอลจึงแบ่งทรัพย์สมบัติให้โทบิยาห์และซาราห์ ดังนั้น โทบิยาห์ ซาราห์ และอาสาริ ยาห์ จึงมุ่งหน้ากลับเมืองนีนะเวห์ อาสาริ ยาห์บอกให้โทบิยาห์กลับไปพร้อมกับตนก่อน เพื่อให้บิดามารดาเตรี ยมใจต้อนรับภรรยา และให้ซาราห์ตามไปทีหลัง เมื่อโทบิยาห์ เดินทางไปถึงโทบิตก็ลุกโซเซไปกอดลูกชาย โทบิยาห์จึงเป่ าดวงตาบิดาพร้อมกับเอา ยาใส่ ที่ตา ทิง้ ไว้สักครู่ และเอาเยือ่ ในตาออก ทันใดนั้นโทบิตก็กลับมองเห็น โทบิยาห์ เล่าเรื่ องต่างๆ ให้บิดามารดาฟัง และพากันไปรับนางซาราห์ที่ประตูเมือง สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015
-22-
หลังจากนั้นโทบิตก็นึกถึงอาสาริ ยาห์ จึงคิดจะยกทรัพย์สินที่ลูกได้มาจากอาสา ริ ยาห์ให้ครึ่ งหนึ่ง อาสาริ ยาห์จึงแสดงตนโดยกล่าวว่า “ข้าพเจ้าคือราฟาเอล อัครเทวดา หนึ่งในจานวนเจ็ดองค์ ซึ่ งพร้อมเสมอที่จะเฝ้ ารับใช้ต่อพระสิ ริมงคลพระเป็ นเจ้า และ อาสาริ ยาห์ก็อนั ตรธานไป โทบิตและโทบิยาห์จึงร้องสรรเสริ ญพระเป็ นเจ้า หนูฟาติมาสงสั ย พอดีผมได้เปิ ดอ่านประวัติของโมเสสครับ แต่สงสัยนิดนึง ครับว่าท่านมีอายุจนถึงกี่ปี แล้วใครเป็ นผูด้ ูแลชาวอิสราเอลต่อจากท่านครับ โมเสสสิ้ นชีวติ ในแผ่นดินโมอับ แต่ไม่มีผใู ้ ดทราบแน่ชดั ว่าหลุมศพของท่านอยู่ ที่ไหน เมื่อโมเสสสิ้ นชีวติ ท่านมีอายุ 120 ปี ชาวอิสราเอลไว้ทุกข์ให้โมเสสเป็ นเวลา 30 วัน และผูท้ ี่ดูแลชาวอิสราเอลต่อจากท่าน คือ โยชูวา ท่านเป็ นบุตรของนูน เกิดใน ตระกูลเอฟราอิม ท่านอยูเ่ คียงข้างโมเสสตั้งแต่หนุ่มๆ ท่านได้เห็นอัศจรรย์ของพระเจ้า ทรงทางานผ่านโมเสส เป็ นผูม้ ีความเชื่อและซื่ อสัตย์ต่อพระเป็ นเจ้า โมเสสจึงได้ปกมือ เหนือเขา ชาวอิสราเอลจึงเชื่อฟังเขา นิทานพืน้ บ้ านไทยๆ นิทานประจาฉบับนี้ขอเสนอนิทาน เนื้อหาน่ารักๆ กันค่ะ
กระต่ ายน้ อยหนีแม่ กาลครั้งหนึ่งยังมีแม่กระต่ายแสนน่ารักคอยดูแลกระต่ายน้อยไม่ ยอมห่าง จนวันหนึ่งกระต่ายน้อยรู ้สึกเบื่อ จึงบอกกับแม่กระต่ายว่า ลูกจะหนีแม่ไปเที่ยว ไกลคนเดียวได้ไหม แม่จึงบอกว่า ถ้าลูกหนีไป แม่จะรี บตามเจ้าไปทันที *กระต่ายน้อยจึงบอกว่า ลูกจะหนีไปเป็ นปลา ว่ายน้ าอย่างรวดเร็ วไม่ให้แม่จบั ได้ แม่ กระต่ายจึงบอกว่า แม่จะขอตามไปเป็ นชาวประมงจะได้จบั ลูกได้ **กระต่ายน้อยรี บบอกว่า ลูกจะหนีไปเป็ นเมฆ ลอยตามลมอยูบ่ นท้องฟ้ า แม่จะต้องจับ ลูกไม่ถึงแน่ๆ แม่กระต่ายบอกว่า แม่จะแปลงกายเป็ นภูเขาสู งเพื่อเจอกับเมฆกระต่าย น้อย ***กระต่ายน้อยไม่ยอม จึงบอกแม่วา่ ลูกจะหนีไปเป็ นดอกไม้ซ่อนตัวอยูใ่ นสวน แม่ กระต่ายจึงบอกว่า แม่จะแปลงร่ างเป็ นคนสวนดูแลดอกไม้ให้งดงาม สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015
-23-
****กระต่ายน้อยโบกมือไปมาบอกแม่วา่ ลูกจะหนีไปเป็ นนก บินไปให้ไกลๆ แม่จะได้ ไล่กระโดดไม่ทนั แม่กระต่ายบอกว่า ถ้าเช่นนั้นแม่จะกลายร่ างเป็ นต้นไม้ใหญ่ให้ลูก นกน้อยได้มาพักพิง กระต่ายน้อยได้ยนิ เรื่ องราวของแม่ท้ งั หมด จึงเข้าใจความรักของแม่ที่มีต่อ กระต่ายน้อย และบอกกับแม่วา่ ลูกไม่คิดจะหนีแม่กระต่ายไปอีกแล้ว ลูกจะเป็ นเด็กดี ของแม่ตลอดไป วันนีส้ าคัญไฉน วันแม่สากล เนื่องจากเมื่อวันที่ 12 สิ งหาคม เป็ นวันแม่แห่งชาติ
เด็กๆ ทราบไหมคะว่า ประเทศอื่นๆ กาหนดวันแม่ให้เป็ นวันที่เท่าไหร่ ในความเป็ นสากลแล้ว หลายๆ ประเทศกาหนดให้ วันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือน พฤษภาคม เป็ นวันแม่สากล ซึ่ งต้นกาเนิดวันแม่น้ นั มีประวัติความเป็ นมายาวนาน ตั้งแต่ ชาวกรี กที่เฉลิมฉลองวันแม่ The Mother of the Gods ผ่านมาจนในปี ค.ศ. 1960 ชาว อังกฤษจึงเริ่ มใช้ "Mothering Sunday" สื บมาจากว่า พวกกรรมกรนาเค้กชนิดพิเศษที่ เรี ยกกันว่า The mothering cake นากลับไปเยีย่ มมารดาของตน ต่อมาในปี ค.ศ. 1872 จูเลีย วอร์ ด ฮาว (Julia Ward Howe) นักเคลื่อนไหวทาง สังคมชาวบอสตัน สหรัฐอเมริ กา ต้องการเรี ยกร้องสันติสุขสาหรับการพบแม่ในวันแม่ Mother's Day meetings จวบจนมาจนกระทัง่ มีผมู ้ ุ่งมัน่ เรี ยกร้องให้มีวนั แม่อย่างเป็ น ทางการเมื่อ แอนนา มารี จาร์วสิ (Anna Marie Jarvis) คุณครู แห่งรัฐฟิ ลาเดลเฟี ย ได้ เรี ยกร้องให้มีวนั แม่อย่างเป็ นทางการในปี ค.ศ. 1908 หลังจากเธอต้องสู ญเสี ยแม่ผา่ นไป 2 ปี เธอต้องการให้ทุกคนระลึกถึงบุญคุณของแม่ ซึ่ งความพยายามของเธอก็เป็ นผลในปี ค.ศ. 1914 (พ.ศ. 2457) หลังประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน ได้มีคาสั่งให้ถือวันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคมเป็ นวันแม่แห่งชาติ และดอกไม้สาหรับวันแม่ของชาวอเมริ กนั ก็คือ ดอกคาร์ เนชัน่ ซึ่ งจะแบ่งออกเป็ น 2 แบบ คือ ถ้าแม่ยงั มีชีวติ อยูใ่ ห้ประดับตกแต่งบ้าน หรื อประตูดว้ ยดอกคาร์ เนชัน่ สี ชมพู แต่ถา้ แม่ถึงแก่กรรมไปแล้วให้ประดับด้วยดอก คาร์ เนชัน่ สี ขาว ( Fatima-kids@hotmail.com) สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015
-24-
รายการมิสซาประจาสั ปดาห์ อา. 30 ส.ค. 15
07:00 น. คพ. วิทยา 09:00 น.
อาทิตย์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา ขอพร คุณบุญเรียบ ขอพร อันนา มุยชุน และครอบครัว ขอพร คาทารีนา ศศธร สนิทสม ขอพร นายกาทู,นางหน่อแอะวา เกิดจากไพร ขอพร ครอบครัว วีระชื่น ขอพร ผู้มีพระคุณต่อวัดและโรงเรียน อุทิศ ลูซีอา อังเยลา วัลลา ทวีสิน อุทิศ เปาโล ไสว, นางจาเนียร สุขบุญลือ อุทิศ เปโตร ประจวบ เจริญทรัพย์ อุทิศ ฮ้ว ซอย แซ่เอ้ง อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง ขอพร สาหรับพี่น้องสัตบุรุษทุกท่าน ทุกครอบครัว
คพ. ศรีปราชญ์
17:30 น. คพ. สุชาติ
ขอพร ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ
จ. 31 ส.ค.15 06:15 น.
19:00 น.
ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ
อ. 1 ก.ย. 15 06:15 น. 19:00 น.
ขอพร อุทิศ อุทิศ ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ
พ. 2 ก.ย. 15 06:15 น.
ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ
ยอแซฟ วิทยา สุหฤทดารง,ครอบครัว มารีอา ศิริพร ชาญนาสิน,ครอบครัว มัทธิว อรรคเนค์ มาลาวาลย์ ยวง ยรรยง วูวงศ์ นายฮะปั้ง แซ่เฮ้ง นางต้นโอ แซ่โง้ สัปดาห์ที่ 22 เทเรเซา จิราภรณ์ เฮเลนา กาญจนา นายแป้งเจียว แซ่เฮ้ง วิญญาณในไฟชาระ ยอแซฟ จุนนา จิน ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง ยวง ยรรยง วูวงศ์ วิญญาณในไฟชาระ สัปดาห์ที่ 22 โนเอล เดชา มารีอา หมุยเง็ก นายสุเชษ สุวรรณ ยอแซฟ พอล พรกุลวิไล ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง เปโตร ขจรศักดิ์ พันสะ วิญญาณในไฟชาระ สัปดาห์ที่ 22 โนเอล เดชา บรรดาพระสงฆ์ นักบวชชาย,หญิง เฮเลนา กาญจนา วิญญาณในไฟชาระ
ขอพร เทเรซา สุญาณี พงษ์ธนานิกร,ครอบครัว ขอพร เทเรซา สุวิมล วิภัติภูมปิ ระเทศ,ครอบครัว ขอพร ยอแซฟ สุวิทย์ อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ แบร์นาแด๊ต ชญานิษฐ์ สีหพล อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ เทศกาลธรรมดา ขอพร แคทรีน ไอยศรา อุทิศ ผู้เสียชีวติ จากระเบิดที่แยกราชประสงค์ อุทิศ นางหวางเยีย้ ง แซ่โค้ว อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง ขอพร ยาโกเบ เสรี,อักแนส จันทร์ตรี พรกุลวิไล อุทิศ เซซีลีอา แน่งน้อย อาภรณ์รัตน์ อุทิศ ยวงบัปติสตา หวล อาภรณ์รัตน์ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง เทศกาลธรรมดา ขอพร แคทรีน ไอยศรา อุทิศ โทมัส แซ่ซุน,มารีอา ใช่ง้อ อุทิศ ซิสเตอร์ Jancinta Pan ขอพร ยอแซฟ พิสิษฐ์ พรกุลวิไล อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ สเตฟาโน ธีระเกียรติ สัณหภักดี อุทิศ ศ.ดร. เสริมศักดิ์ วิศาลาภรณ์ ราชบัณฑิต เทศกาลธรรมดา ขอพร แคทรีน ไอยศรา ขอพร อันตน โอภาส ศิริสวัสดิ์(วันเกิด) อุทิศ ยอแซฟ กิมเพียว แซ่อึ้ง อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง
สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015
-25-
19:00 น.
ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ
พฤ. 3 ก.ย.15 06:15 น.
19:00 น.
ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ
ศ. 4 ก.ย. 15 06:15 น.
19:00 น.
ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ
ส. 5 ก.ย. 15 06:15 น.
ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ
ส. 5 ก.ย. 15 19:00 น.
ขอพร ขอพร อุทิศ อุทิศ อุทิศ อุทิศ
ยอแซฟ สุรเสียง พรกุลวิไล ขอพร แคทธิรีน จินดารัตน์ พรกุลวิไล เอี้ยงซอย แซ่เอ้ง อุทิศ จุง่ ซอย แซ่เฮ้ง ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ นายแพทย์ สมาน ตระกูลทิม อุทิศ แพทย์หญิง ภักดี ตระกูลทิม วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง ระลึกถึง น.เกรโกรี พระสันตะปาปา และนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร มารีอา ดวงใจ ขอพร แคทรีน ไอยศรา คุณนารี บุดดารวม ขอพร ครอบครัวปัณฑวังกูร ฟรังซิส ทวน อุทิศ ยวงบัปติสตา ทัน เวียงชัย วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง แพททริเซีย จารุภรณ์ พรกุลวิไล ขอพร อักแนส ณัฐพัชร์ พรกุลวิไล ครอบครัวเลาหไทยมงคล ขอพร ครอบครัวลิ้มประยูร ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง ยวงบัปติสตา จิง้ ซุง แซ่อึ้ง อุทิศ เทเรซา ง้อ แซ่ลิ้ม สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา (วันศุกร์ต้นเดือน) การงาน ออกัสติน ขอพร แคทรีน ไอยศรา เซซีลีอา อลิสา ศิริสวัสดิ์ ขอพร ทิโมธี ธนพนธ์ ศิริสวัสดิ์ ฟรังซิส ทวน อุทิศ นายศานิต ตระกูลทิม วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ นายแพทย์ เสวี คชรัตน์ ครอบครัวพัฒนเศรษฐพงษ์ ขอพร คุณจริดา เลิศวีระศักดิ์และครอบครัว ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยอแซฟ สุดใจ,มารีอา ไพบูลย์ สุขสุเดช เปโตร ซังฮี้ แซ่อึ้ง อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อักแนส กิม้ สี แซ่แต้ อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา การงาน ออกัสติน ขอพร มารีอา อารยา แคทรีน ไอยศรา ขอพร มารีอา จิตรลดา พัฒนเศรษฐพงษ์ ยอแซฟ ธง อุทิศ ยอห์น บัปติสต์ สุภัฑฑ์ วงศ์วิเศษสมใจ มาร์ธา แก้ว สมานจิต อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา มารีอา สุทธินีย์, เทเรซา วินติ า ขอพร สุขภาพ วินเซนต์ สุรินทร์ กุลตังวัฒนา เทเรซา ปิยกานต์, หลุยส์ ธนพงศ์ ขอพร ครอบครัวมารีอา อุดม มยุระสาคร อุทิศ ยวงบัปติสตา ปึ๋ง,เวรอนีกา เสนอ เสนาจักร เทเรซา มยุรี แจ่มเกียรติเลิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ พี่น้องตระกูลเสนาจักร ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ทอมาส ธวัช, เทเรซา จู ศรีสวัสดิ์ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ ยอแซฟ อ๊อน, มารีอา เง็กเอ็ง แซ่คู
สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015
-26-
ประชาสัมพันธ์ 1. เพื่อร่ วมฟื้ นฟูจิตใจเตรี ยมฉลอง 60 ปี วัดแม่พระฟาติมา ขอเชิ ญสัตบุรุษทุก ท่านรับคู่มือกิจกรรมภาวนาค่าและอ่านพระคัมภีร์ในครอบครัวลูกวัดแม่พระฟาติมา และร่ วมกันสวดภาวนาค่าในบ้านของตนเองตามคู่มือที่รับไปนั้น 2. พี่นอ้ งที่มีความประสงค์ จะเชิญพ่อไปร่ วมกิจกรรมภาวนาค่าและอ่านพระ คัมภีร์ในครอบครัวลูกวัดแม่พระฟาติมา
สามารถติดต่อแจ้งความประสงค์ได้กบั
เจ้าหน้าที่เพื่อนัดแนะวัน เวลา ในวันอาทิตย์หน้า ประกาศการแต่ งงาน ประกาศครั้งที่ 2 ฝ่ายชาย : ยวงบัปติสตา ศรัณย์พล เอนทะมิน บุตร : ยอแซฟ วีรเกียรติ เอนทะมิน + เทเรซา อาภัสรา เกษมศักดิ์ ฝ่ายหญิง : นางสาวสุธีมา พึ่งพงษ์ บุตรี : นายกฤษ พึ่งพงษ์ + นางสุดา เครือเหรียญไทย ทั้งสองจะเข้าพิธีสมรส วันเสาร์ที่ 12 กันยายน 2015 เวลา 13:00 น. ** ผู้ใดทราบข้อขัดขวาง มีหน้าที่ต้องแจ้งให้พระสงฆ์ทราบ **
สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015
-27-
พระวรสารสาหรับอ่ านในครอบครัว ลูกวัดแม่ พระฟาติมา ว/ด/ป
พระวรสารประจาวัน
ชนิดพระคัมภีร์ พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
จ. 31 ส.ค. 15
อ. 1 ก.ย. 15
ลูกา 4:16-30
ลูกา 4:31-37
200-201
พระวรสารเล่มเล็ก(สี แดง)
343-345
พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
2023
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปี พระคาร์ดินลั ฯ)
201
พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์ ลูกา 4:38-44
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปี พระคาร์ดินลั ฯ) พระวรสารเล่มเล็ก(สี แดง) พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
พฤ. 3 ก.ย. 15
ลูกา 5:1-11
ส. 5 ก.ย. 15
ลูกา 5:33-39
ลูกา 6:1-5
มาระโก 7:31-37
2023-2024 202 347-348 2024 202-203
พระวรสารเล่มเล็ก(สี แดง)
348-350 2025-2026
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปี พระคาร์ดินลั ฯ)
204-205
พระวรสารเล่มเล็ก(สี แดง)
354-355
พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
2026
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปี พระคาร์ดินลั ฯ)
205
พระวรสารเล่มเล็ก(สี แดง) อ. 6 ก.ย. 15
345-346
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปี พระคาร์ดินลั ฯ) พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
ศ. 4 ก.ย. 15
2022-2023
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปี พระคาร์ดินลั ฯ)
พระวรสารเล่มเล็ก(สี แดง) พ. 2 ก.ย. 15
หน้ า
355-356
พระคัมภีร์ฉบับสมบูรณ์
1992
พระคัมภีร์(ฉลอง 25 ปี พระคาร์ดินลั ฯ)
156
พระวรสารเล่มเล็ก(สี แดง) สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015
242-243
-28-
“ไม่มีสิ่งใดเลยจากภายนอกของมนุษย์ ทาให้เขามีมลทินได้ แต่สิ่งที่ออกมาจากภายในของมนุษย์น้ นั แหละ ทาให้เขามีมลทิน” (มก 7:15)
สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา, วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม 2015