ฟาติมาสาร - สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา (31-08-2014)

Page 1

-1-

ฟาติมาสาร สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014 ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

วัดแม่พระฟาติมา 4080 ถ. อโศก – ดินแดง แขวงดินแดง เขตดินแดง กทม. 10400 โทร. 02 - 245 - 1039, 02 - 642 - 9907, 02 - 247 - 5222, โทรสาร 02 - 246 - 6174 E-mail : fatimachurch13@gmail.com www.fatima.or.th สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014


-2-

วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014 สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา พระวรสาร มธ 16:21-27 พระเยซูเจ้าทรงเริ่มแจ้งแก่บรรดาศิษย์ว่า พระองค์จะต้องเสด็จไปกรุง เยรูซาเล็ม เพื่อรับการทรมานอย่างมากจากบรรดาผู้อาวุโส หัวหน้าสมณะและธรรมาจารย์ จะถูกประหารชีวิต แต่จะทรงกลับคืนพระชนมชีพในวันที่สาม เมื่อสาวกเปโตรได้ยิน ท่านนาพระเยซูแยกออกไป และทัดทานว่าเหตุการณ์นี้จะไม่เกิดกับพระองค์อย่างแน่นอน แต่พระองค์ทรงหันมาตรัสแก่เปโตรว่า เจ้าซาตาน ถอยไปข้างหลัง เจ้าเป็นเครื่องกีดขวาง เรา เจ้าไม่คิดอย่างพระเจ้า แต่คิดอย่างมนุษย์ พระเยซูสอนว่าการคิดอย่างพระเจ้าคือ เลิกคิดถึงตนเอง แบกไม้กางเขนของตนและติดตามพระองค์ ใครคิดเพียงว่าชีวิตของตน รอดพ้นในโลกนี้ ก็จะสูญเสียชีวิตนิรันดร แต่ถ้าใครยอมสูญเสียชีวิตของตนในโลกนี้ ก็จะ พบชีวิตนิรันดร พระเยซูยอมสละชีวิตของพระองค์ในโลกนี้ พระองค์จะเสด็จกลับมาใน พระสิริรุ่งโรจน์ของพระบิดาพร้อมกับบรรดาทูตสวรรค์ และเมื่อนั้นพระองค์จะประทาน รางวัลแก่ทุกคนตามความประพฤติของเขา.... บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโล อัครสาวกถึงชาวโรม รม.12:1-2 เขียนว่า ข้าพเจ้าอ้อนวอนท่านทั้งหลาย ให้ถวายร่างกายของท่านเป็นเครื่องบูชาที่มีชีวิต เป็นที่พอ พระทัยพระเจ้า นี่เป็นคารวกิจด้วยจิตใจของท่าน อย่าคล้อยตามความประพฤติของโลกนี้ จงเปลี่ยนแปลงตนเองโดยการฟื้นฟูความคิดขึ้นใหม่ เพื่อจะได้วินิจฉัยว่าสิ่งใดเป็นพระ ประสงค์ของพระเจ้า สิ่งใดดี สิ่งใดเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า การเลิกนึกถึงตนเอง การแบก ไม้กางเขนของตนติดตามพระองค์คืออะไร.... มองสภาพเป็นจริงของมนุษย์ที่มีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ ทุกคนต่างมีความคิด มีอิสระ ในการดาเนินชีวิต บางคนก็นิยมไปทางกระแสของโลกตามยุคสมัยที่ตนเอง เกิดมาและมี ชีวิตต่อไปอีกจนกว่าจะสิ้นชีวิตไปจากโลกนี้ ในแวดวงของพี่น้องชาวคาทอลิก ครอบครัว ใดที่ยังสอนและอบรมลูกอย่างดี เป็นต้นในการเริ่มชีวิตครอบครัวที่ดี มีตัวอย่างที่ดีของบิดา มารดาในการดาเนินชีวิตคริสตชน ครอบครัวใดที่อบรมดูแลลูกให้เดินตามทางพระวรสาร ที่พระเยซูเสด็จมาสั่งสอน การต่อสู้กับตนเองไม่ให้ลุ่มหลงไปทางกระแสนิยมทางโลก ก็คือ สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014


-3-

การสละตนเอง แบกไม้กางเขนของตน และติดตามพระองค์ไป การทีจ่ ะรู้ว่า สิ่งใดดี สิ่งใด ถูกต้องและการสามารถวินิจฉัยว่าสิ่งใดเป็นพระประสงค์ของพระ ต้องมาจากการรับรู้ทาง จิต การภาวนา และการอ่านพระวรสาร ดาเนินชีวิตร่วมกัน มาสวดภาวนาร่วมกัน อ่าน พระคัมภีร์ร่วมกัน เป็นวิถีคริสตชนที่รักกัน แบกกางเขนร่วมกัน การที่จะดาเนินชีวิต ร่วมกันได้ ต้องมีการสละน้าใจตนเองเสียสละตนเอง คล้ายๆ การยอมสละชีวิตส่วนตัว โลกส่วนตัว การทาแบบนี้เป็นการแบกไม้กางเขนของตนเอง พร้อมกับผู้อื่น ชีวิตแบบนี้ พระเยซูสอนว่า ถ้าสามารถดาเนินชีวิตแบบนี้ได้ เมื่อพระองค์เสด็จกลับมา จะประทาน รางวัลแก่ทุกคนตามความประพฤติของเขา... คุณพ่อ สุรชัย กิจสวัสดิ์

สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014


-4-

พระวรสารประจาสัปดาห์ (มธ 16:21-27) ตั้งแต่นั้นมา พระเยซูเจ้าทรงเริ่มแจ้งแก่บรรดาศิษย์ว่าพระองค์จะต้องเสด็จ ไปกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อรับการทรมานอย่างมากจากบรรดาผู้อาวุโส หัวหน้าสมณะและ ธรรมาจารย์ จะถูกประหารชีวิต แต่จะทรงกลับคืนพระชนมชีพในวันที่สาม 22เปโตรนา พระองค์แยกออกไป ทูลทัดทานว่า “ขอเถิด พระเจ้าข้า เหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นกับ พระองค์อย่างแน่นอน” 23แต่พระองค์ทรงหันมาตรัสแก่เปโตรว่า “เจ้าซาตาน ถอยไป ข้างหลัง เจ้าเป็นเครื่องกีดขวางเรา เจ้าไม่คิดอย่างพระเจ้า แต่คิดอย่างมนุษย์” 24 พระเยซูเจ้าตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า “ถ้าผู้ใดอยากตามเรา ก็จงเลิกคิดถึงตนเอง จงแบกไม้กางเขนของตนและติดตามเรา 25ผู้ใดใคร่รักษาชีวิตของตนให้รอดพ้น ก็จะสูญ เสียชีวิตนิรันดร แต่ถ้าผู้ใดเสียชีวิตของตนเพราะเรา ก็จะพบชีวิตนิรันดร 26มนุษย์จะได้ ประโยชน์ใดในการที่ได้โลกทั้งโลกเป็นกาไร แต่ต้องเสียชีวิต มนุษย์จะต้องให้สิ่งใดเพื่อ แลกกับชีวิตที่สูญเสียไปให้กลับคืนมา 27บุตรแห่งมนุษย์จะเสด็จกลับมาในพระสิริรุ่งโรจน์ ของพระบิดาพร้อมกับบรรดาทูตสวรรค์ เมื่อนั้นพระองค์จะประทานรางวัลแก่ทุกคนตาม ความประพฤติของเขา 21

***************************

ข้อคิดจากบทพระวรสาร(โดย คพ.ชัยยะ กิจสวัสดิ์) 1. เจ้าซาตาน ถอยไปข้างหลัง แม้เปโตรจะประกาศที่เมืองซีซารียาแห่งฟิลิปว่า “พระเยซูเจ้าคือพระคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต” (มธ 16:16) แต่ “พระคริสตเจ้า” ตามความคิดของ เปโตรนั้นแตกต่างจากพระเยซูเจ้าอย่างสิ้นเชิง “พระคริสตเจ้า” (จากภาษากรีก) หรือ “พระเมสสิยาห์” (จากภาษาฮีบรู) ตาม ความคิดของเปโตร คือกษัตริย์นักรบที่พระเจ้าทรงส่งมานากองทัพของชาวยิวขับไล่ สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014


-5-

ชาวโรมันออกจากแผ่นดินปาเลสไตน์ และนาพาชนชาติยิวให้กลับมามีอานาจรุ่งเรืองเหนือ ชนชาติอื่น เพราะฉะนั้นเมื่อพระเยซูเจ้าตรัสว่าพระเมสสิยาห์ “จะต้องเสด็จไปกรุงเยรูซาเล็ม เพื่อรับการทรมานอย่างมากจากบรรดาผู้อาวุโส หัวหน้าสมณะ และธรรมาจารย์และจะถูก ประหารชีวิต” (มธ 16:21)เปโตรจึงยอมรับไม่ได้ และไวเท่าความคิด ท่านพาพระองค์ออก ไปพร้อมกับทูลคัดค้านว่า “เหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้นกับพระองค์อย่างแน่นอน”(มธ 16:22) แล้วคาตาหนิอันหนักหน่วงชนิดที่ใครได้ฟังแล้วเป็นต้องหายใจไม่ทั่วท้องก็ตามมา ทันที “เจ้าซาตาน ถอยไปข้างหลัง” (มธ 16:23) แต่อย่าเพิ่งคิดว่าพระองค์ตรัสด้วยน้าเสียงเกรี้ยวกราดหรือแววตาแดงก่าด้วย ความโกรธ ตรงกันข้าม พระองค์ทรงตาหนิเปโตรด้วยความปวดร้าว โศกเศร้า และ ตระหนกจนตัวสั่น เพราะการประจญที่เคยหลอกหลอนพระองค์ในถิ่นทุรกันดารก่อนเริ่มต้นภารกิจ นั้น ได้หวนกลับมาหาพระองค์อีกครั้งหนึ่ง ปีศาจรู้จุดอ่อนของทุกคนดีว่า ไม่มีใครอยากตายอย่างเจ็บปวดทรมานบนไม้ กางเขน มันจึงพยายามล่อลวงพระองค์ให้เลือกวิธีที่สบายกว่าในกอบกู้มนุษยชาติ (ดู มธ 4:1-11) - “จงใช้ฤทธิ์อานาจที่มีเปลี่ยนก้อนหินเป็นขนมปังแจกผู้คนสิ แล้วพวกเขาจะติด ตามพระองค์” - “จงแสดงอภินิหารด้วยการกระโดดจากที่สูงสิ หากประชาชนรู้สึกพิศวง พวกเขา ก็จะเชื่อฟังพระองค์เองแหละ” - “จงยอมก้มหัวให้เราบ้างสิ อย่าเคร่งครัดนัก หัดเอาหูไปนาเอาตาไปไร่บ้าง คน เขาจะได้ติดตามพระองค์ง่ายหน่อย” แม้ก่อนถูกจับในสวนเกทเสมนีเพียงไม่กี่นาที มันก็ยังไม่เลิกล่อลวงพระองค์ “ขอให้ถ้วยนี้พ้นข้าพเจ้าไปเถิด” (มธ 26:39) แต่ครั้งนี้ปีศาจมันโหดร้ายสุด ๆ ! มันใช้เปโตรผู้เป็นศิษย์รักศิษย์เอกของพระองค์เองให้ล่อลวงพระองค์ !! สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014


-6-

ปีศาจตรงกับภาษาฮีบรู “ซาตาน” ซึ่งแปลว่า “ปรปักษ์” มันจึงพยายามทุกวิถี ทางที่จะทาให้มนุษย์หันเหจากหนทางของพระเจ้าและกลายเป็นปรปักษ์กับพระองค์ เปโตรถูกปีศาจทาให้เป็น“ซาตาน”ผู้เป็นปรปักษ์กับพระองค์ จนพระองค์ต้องตรัส ว่า “เจ้าเป็นเครื่องกีดขวางเรา เจ้าไม่คิดอย่างพระเจ้า แต่คิดอย่างมนุษย์” (มธ 16:23) และนี่คือสาเหตุที่ทาให้พระองค์ตื่นตระหนกและปวดร้าวหัวใจมากที่สุด เพราะ ซาตานที่มาล่อลวงพระองค์คือผู้ซึ่งรักพระองค์มากที่สุด แต่ “ความรักแท้” ย่อมส่งเสริม “คนรัก” ให้อยู่ในหนทางของพระเจ้า ไม่ใช่ พยายามลากพระองค์ออกไปจากพระเจ้าดังที่เปโตรได้กระทา ! ความรักแท้ย่อมไม่หน่วงเหนี่ยวอัศวินให้อยู่กับบ้าน แต่ย่อมปล่อยเขาออกไปผจญ ภัยเพื่อชัยชนะและเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ ความรักที่ปกป้องคนรักจากการเป็นทหารหาญของพระคริสตเจ้า หรือจากการ ดาเนินชีวิตตามหนทางของพระองค์จึงไม่ใช่ “รักแท้” อย่างไรก็ตาม แม้จะถูกดุว่าเป็นซาตาน แต่คาสั่งที่พระองค์ทรงใช้ “ขับไล่” เปโตร ก็ยังแฝงไปด้วยคาเชิญชวนและการให้โอกาสกลับมาติดตามพระองค์ ก่อนหน้านี้พระองค์ทรงขับไล่ปีศาจที่ล่อลวงพระองค์ในถิ่นทุรกันดารว่า “เจ้า ซาตาน จงไปให้พ้น”(มธ 4:10)ซึ่งตรงกับภาษากรีก“Hupage Satana”(ฮูพาเก ซาตานา) แต่กับเปโตร พระองค์ตรัสสั่งว่า “เจ้าซาตาน ถอยไปข้างหลัง” (มธ 16:23) ภาษา กรีกคือ “Hupage opiso mou, Satana” (ฮูพาเก โอพีโซ มู, ซาตานา) แม้จะใช้คาสั่ง “ฮูพาเก” เหมือนกัน แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือ “โอพีโซ มู” ซึ่งแปลว่า “ข้างหลังฉัน” หมายความว่า พระองค์ทรงขับไล่ปีศาจให้ “ไปแล้วไปลับ” แต่กับเปโตรไม่ใช่ไป แล้วไปลับ เพียงแค่ให้ “ถอยไปอยู่ข้างหลัง” หรืออีกนัยหนึ่งคือ “จงกลับมาติดตามเรา !” นี่คือสิ่งที่ทาให้เปโตรแตกต่างจากปีศาจอย่างสิ้นเชิง เพราะปีศาจมันหยิ่งจองหอง เกินกว่าจะยอมติดตามพระองค์ ส่วนเปโตร แม้จะผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ท่านก็หัน กลับมาติดตามพระองค์ทุกครั้ง แล้วเราจะเลือกหนทางแบบเปโตรหรือปีศาจ ? สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014


-7-

2. เงื่อนไขในการติดตามพระคริสตเจ้า คาสอนหลักที่พระเยซูเจ้าตรัสถึงบ่อยที่สุดคือ “เงื่อนไขในการติดตามพระองค์” (มธ 10:37-39; มก 8:34-37; ลก 9:23-27; 14:25-27; 17:33; ยน 12:25) ซึ่งมี 3 ประการ ด้วยกัน 1. เลิกคิดถึงตนเอง หรือ “ปฏิเสธตนเอง” (self-denial) ซึ่งเราคุ้นเคยกันดี แต่ ส่วนใหญ่มักปฏิเสธตนเองแบบมีข้อจากัด เช่น อดเนื้อ(เฉพาะ)วันศุกร์ หรือทาพลีกรรม ชดเชยบาป(เฉพาะ)เทศกาลมหาพรต เป็นต้น แต่นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวเดียวของการเลิกคิดถึงตนเองตามความหมายของพระเยซู เจ้า เพราะสาหรับพระองค์ การเลิกคิดถึงตนเองหมายถึงการพูด “ไม่” กับตัวเอง และ “ใช่”กับพระเจ้าทุกลมหายใจตลอดชีวิต ไม่ใช่เลิกคิดถึงตนเองเฉพาะเวลาใดเวลาหนึ่ง ทุกวันและทุกขณะจิต เราต้องพยายามลดความเป็น “ตัวกู-ของกู” ลง แล้ว อัญเชิญพระเจ้ามาเป็นหลักในการดาเนินชีวิต ดังแบบอย่างของนักบุญเปาโลที่กล่าวไว้ว่า “ข้าพเจ้าถูกตรึงกางเขนกับพระคริสตเจ้าแล้ว ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ มิใช่ตัวข้าพเจ้าอีกต่อไป แต่พระคริสตเจ้าทรงดารงชีวิตอยู่ในตัวข้าพเจ้า ชีวิตที่ข้าพเจ้ากาลังดาเนินอยู่ในร่างกาย ขณะนี้ ข้าพเจ้าดาเนินชีวิตในความเชื่อถึงพระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงรักข้าพเจ้าและทรง มอบพระองค์เพื่อข้าพเจ้า” (กท 2:20) 2. แบกไม้กางเขนของตน นั่นคือยอมรับภาระทุกอย่างอันเกิดจากการรับใช้ด้วย ความเสียสละ เช่น ยอมละทิ้งความทะเยอทะยานส่วนตัวเพื่อรับใช้พระเยซูเจ้า ยอมสละ เวลาว่างและความบันเทิงส่วนตัวเพื่อเยี่ยมเยียนผู้สูงอายุ เด็กกาพร้า ผู้พิการ ผู้ขัดสนและ ด้อยโอกาส ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นการรับใช้พระเจ้าที่ดีที่สุด นอกจากภาระอันเกิดจากการรับใช้พระเจ้าแล้ว กางเขนยังหมายรวมถึงภาระอัน เกิดจากหน้าที่การงานประจาวัน มรสุมชีวิต ตลอดจนการประจญล่อลวงอีกมากมายซึ่ง ล้วนแล้วแต่เป็นโอกาสให้เรา “ชนะ เข้มแข็ง มั่นคง เป็นคนดี และประสบความสาเร็จ” เพิ่มมากขึ้น 3. ติดตามพระเยซูคริสตเจ้า คือยอมรับพระองค์เป็นผู้นาของเรา และพร้อม นบนอบเชื่อฟังพระองค์ สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014


-8-

เมื่อนบนอบเชื่อฟังพระองค์ก็เท่ากับเรากาลังคิดเหมือนพระองค์ และปรารถนา เหมือนพระองค์ ซึ่งแน่นอนว่าจะนาเราไปสู่การดาเนินชีวิตเหมือนพระองค์ด้วย แล้วยังจะมีสิ่งใดยิ่งใหญ่ไปกว่าการดาเนินชีวิตและมี “ชีวิตเหมือนพระเจ้า” อีก เล่า ?!? 3. เคล็ดลับชีวิต นอกจากเงื่อนไขทั้ง 3 ประการแล้ว พระองค์ยังทรงสอนเคล็ดลับในการ “มีชีวิต” แก่เราอีกด้วย สาหรับพระองค์ “คนเป็น” (existing) และ “คนมีชีวิต” (living) นั้นต่างกัน ทุกคนที่หายใจได้และหัวใจยังเต้นอยู่ก็ถือว่าเป็น “คนเป็น” แล้ว แต่ใช่ว่า “คน เป็น” ทุกคนจะได้ชื่อว่า “มีชีวิต” เพราะคนที่ “มีชีวิต” จาเป็นต้องมีคุณค่ามากกว่า หายใจได้ เช่น ต้องมีจิตใจที่สงบ ร่าเริงเบิกบาน และเป็นสุขอยู่ทุกขณะจิต เคล็ดลับของพระองค์ในการทาให้ “คนเป็น” มีชีวิตคือ “การสละชีวิต” ! พระองค์ตรัสว่า “ผู้ใดใคร่รักษาชีวิตของตนให้รอดพ้น ก็จะสูญเสียชีวิตนิรันดร แต่ ถ้าผู้ใดเสียชีวิตของตนเพราะเรา ก็จะพบชีวิตนิรันดร” (มธ 16:25) มัทธิวเขียนพระวรสารราว ค.ศ. 80 - 90 ซึ่งเริ่มมีการเบียดเบียนศาสนาแล้ว ท่าน จึงนาพระวาจาของพระเยซูเจ้ามาบันทึกไว้เพื่อเตือนใจคริสตชนว่า “หากท่านละทิ้งความ เชื่อ จริงอยู่ท่านอาจรักษาชีวิตไว้ได้ แต่ท่านมีชีวิตต่อไปก็เพื่อรอวันตายและเป็นความตาย ชั่วนิรันดร ตรงกันข้าม หากท่านรักษาความเชื่อไว้ ท่านอาจตาย แต่ท่านตายเพื่อจะมีชีวิต นิรันดร” ทุกวันนี้ แม้โอกาสตายเพื่อยืนยันความเชื่อจะเหลือน้อยเต็มที แต่เราสามารถ “ตายต่อตัวเอง” ได้ทุกวัน หากเรามัวแต่แสวงหาความสะดวกสบาย เจริญชีวิตตามใจตัวเอง และตัดสินใจ ตามมาตรฐานชาวโลก เรากาลังปล่อยตัวให้หย่อนยาน เห็นแก่ตัว และยึดติดอยู่กับสิ่งของ ของโลก ซึ่งเป็นชีวิตที่สวนทางกับพระเจ้าและทาให้ความเป็น “ฉายาของพระเจ้า” ในตัว เราลดน้อยถอยลงอันส่งผลให้ “ความเป็นคน” ของเราด้อยค่าลงจนกลายเป็นคนไร้ค่าไป ในที่สุด สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014


-9-

ในทางกลับกัน เราพบเห็นนักบุญและวีรบุรุษมากมายที่ยอมสูญเสียทุกสิ่งแม้แต่ ชีวิตของตนเองเพื่อพระเยซูเจ้า ต่างได้รับการจารึกชื่อไว้อย่างยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ หากไม่มีผู้ใดดาเนินชีวิตตาม “เคล็ดลับ” ของพระเยซูเจ้า ต่างคนต่างเห็นแก่ ความปลอดภัยของตนเอง ไม่ยอมเสี่ยง ไม่ยอมเสียสละ เราคงไม่มียารักษาโรคใหม่ ๆ ไม่ มีสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ซึ่งคงทาให้ชีวิตของเรายากลาบากมากกว่านี้หรืออาจจบสิ้นไปแล้วก็ เป็นได้ หรือหากผู้เป็นแม่กลัวเจ็บ กลัวถูกลูกรบกวน เลยไม่ยอมคลอดบุตร แล้วเราจะ เกิดมาได้อย่างไรกัน ? เพราะฉะนั้น ผู้ที่พร้อมเดิมพันชีวิตของตนเพื่อพระเจ้าเท่านั้นแหละที่จะพบ ชีวิต และเป็นชีวิตที่มีคุณค่ามากด้วย ! อย่าลืมว่า ทุกครั้งที่เราตัดสินใจกระทาสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เรากาลังทาให้สิ่งนั้น กลายเป็นนิสัยและบุคลิกลักษณะเฉพาะของเราตลอดไป เราจะทาสิ่งนั้นบ่อย ๆ และทา ได้อย่างคล่องแคล่วจนลืมคิดถึงสิ่งอื่นและไม่สามารถทาสิ่งอื่นได้อีก ตัวอย่างเช่น หากเรา เป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่เคยฟังหรือคิดถึงผู้อื่น เราไม่มีทางคาดหวังได้เลยว่าจะกลับกลายเป็น คนเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และรู้จักรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นในบั้นปลายชีวิตของเรา หรือหากเราดาเนินชีวิตยึดติดอยู่กับโลก มุ่งแสวงหาตาแหน่ง ชื่อเสียง เกียรติยศ และทรัพย์ศฤงคาร จนมีอานาจวาสนาและบารมีล้นเหลือ ผู้คนนับหน้าถือตา มีคนล้อม หน้าล้อมหลัง แล้วเรากล้าคาดหวังว่าจะ“ละโลก”หันมาหาพระเจ้าก่อนตายได้ละหรือ ?!? พระเยซูเจ้าจึงทรงเสริม “เคล็ดลับ” ของพระองค์ด้วยการเตือนสติเราทุกคนว่า “มนุษย์จะได้ประโยชน์ใดในการที่ได้โลกทั้งโลกเป็นกาไร แต่ต้องเสียชีวิต มนุษย์จะต้องให้ สิ่งใดเพื่อแลกกับชีวิตที่สูญเสียไปให้กลับคืนมา” (มธ 16:26) คาว่า “แลก” ตรงกับภาษากรีก antallagma (อันตัลลักมา) ซึ่งมีตัวอย่างการใช้ ในพระธรรมเก่า เช่น “ไม่มี antallagma สาหรับเพื่อนตาย” (บสร 6:15) และ “ไม่มี antallagma สาหรับวิญญาณที่สัตย์ซื่อ” (บสร 26:14) ความหมายในพระธรรมเก่าคือ ไม่มีสิ่งใดมีค่าเพียงพอที่จะ “แลก” กับเพื่อนตาย หรือวิญญาณที่สัตย์ซื่อได้ สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014


-10-

เมื่อพระเยซูเจ้าทรงนาคา “antallagma” มาใช้ ย่อมหมายความว่า โลกไม่มีค่า เพียงพอที่จะแลกกับพระองค์ ! เมื่อพูดถึง“โลก” พระองค์ทรงหมายถึงวัตถุสิ่งของซึ่งถือว่าอยู่ตรงข้ามกับพระเจ้า และเพราะมันอยู่ตรงข้ามกับพระเจ้า เราจึงควรคานึงอยู่เสมอว่า 1. เมื่อวาระสุดท้ายมาถึง เราไม่อาจนาสิ่งใดในโลกติดตัวไปได้เลยนอกจากตัวของ เราเอง หากเราลดตัวลงไปยึดติดกับสิ่งที่นาติดตัวไปไม่ได้มันจะน่าเศร้าและขมขื่นสัก เพียงใด ? 2. ในวันที่เราต้องเผชิญกับมรสุมชีวิต จะมีวัตถุใดในโลกที่ช่วยเยียวยาหัวใจซึ่ง แตกสลายหรือดวงวิญญาณที่เปล่าเปลี่ยวของเราได้ ? 3. ยิ่งถ้าเราได้สิ่งของนั้นมาอย่างไม่ถูกต้องแล้วถูกมโนธรรมติเตียน เราจะทนฟัง เสียงติเตียนเหมือนตกนรกทั้งเป็นได้หรือ ? พร้อมกับ “เคล็ดลับ” พระองค์ทรงประทานคาเตือนไว้ด้วยว่า “บุตรแห่งมนุษย์ จะเสด็จกลับมาในพระสิริรุ่งโรจน์ของพระบิดาพร้อมกับบรรดาทูตสวรรค์ เมื่อนั้นพระองค์ จะประทานรางวัลแก่ทุกคนตามความประพฤติของเขา” (มธ 16:27) อย่าลืมว่า ทุก ๆ วินาที ชีวิตของเรากาลังเคลื่อนที่ไปสู่ “ความตาย” และ “การ พิพากษา” ไม่มีใครสามารถรอดพ้นจากสองสิ่งนี้ไปได้สักคนเดียว ! และเกณฑ์ในการพิพากษาตัดสินของพระเยซูเจ้าคือ “ผู้ใดใคร่รักษาชีวิตของตน ให้รอดพ้น ก็จะสูญเสียชีวิตนิรันดร แต่ถ้าผู้ใดเสียชีวิตของตนเพราะเรา ก็จะพบชีวิต นิรันดร” !!

สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014


-11-

Pope Report สัมภาษณ์พระสันตะปาปาบนเครื่องบิน (ตอนที่ 1) ระหว่างเที่ยวบินกลับจากเกาหลีมุ่งหน้าสู่กรุงโรม อิตาลี สมเด็จพระสันตะ ปาปา ฟรังซิส ทรงรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับบรรดานักข่าวด้วยการประทานการ สัมภาษณ์ แบบเป็นกันเองนานกว่าหนึ่งชั่วโมงครึ่ง เรียกว่าเป็นหนึ่งในการสัมภาษณ์ พระสันตะปาปา ที่นานสุดในประวัติศาสตร์ก็ว่าได้ ประเด็นสาคัญๆ มีเพียบอยากรู้ว่า มีเรื่องอะไรบ้าง ไปติดตามแบบละเอียดๆ กันเลย ... “เราไม่สามารถวางตัวเป็นกลางเกี่ยวกับความเจ็บปวดของคน” นักข่าว: “ระหว่างการเยือนเกาหลี พระองค์ทรงยื่นมือเข้าไปสัมผัสครอบครัวผู้ ประสบเหตุเรือเซวอลและทรงปลอบโยนพวกเขา ผมมี 2 คาถามที่อยากถาม พระองค์ รู้สึกอย่างไรเมื่อได้พบกับพวกเขา และทรงกังวลไหมว่าการที่พระองค์พบกับพวกเขาจะ ถูกตีความผิดๆ ไปในทางการเมือง” พระสันตะปาปา: “เมื่อคุณพบตัวเองอยู่ต่อหน้าความทุกข์ของเพื่อนมนุษย์ คุณ ต้องทาอะไรสักอย่างที่หัวใจคุณเรียกร้องที่จะทา แต่ต่อมา คนบางกลุ่มอาจพูดว่า ก็เขาทา เพราะมีจุดประสงค์ทางการเมืองหรืออะไรก็ว่ากันไป พวกเขาสามารถพูดได้หมดแหละ แต่ เมื่อคุณคิดถึงชายหญิง พ่อแม่ที่ต้องสูญเสียลูกๆ ของตัวเอง พี่หรือน้องที่ต้องสูญเสียพี่น้อง ของตน บาดแผลร้ายแรงนี้เป็นมหันตภัยต่อหัวใจของพ่อก็ว่าได้ พ่อเป็นพระสงฆ์ พ่อรู้สึก ว่าพ่อต้องเข้าไปใกล้ชิดกับพวกเขา พ่อรู้สึกแบบนี้ นี่คือสิ่งแรกที่พ่อคิด พ่อรู้ว่าการปลอบ โยนที่พ่อทา คาพูดที่พ่อพูด ไม่ใช่ยารักษาโรค พ่อไม่สามารถให้ชีวิตใหม่กับคนที่ตายได้ แต่ ความใกล้ชิดในช่วงเวลาแบบนี้ จะทาให้เราเข้มแข็งและร่วมเป็นหนึ่งเดียวกัน” “พ่อจาได้ดีตอนที่พ่อยังเป็นพระอัครสังฆราชแห่งบัวโนสไอเรส (อาร์เจนตินา) พ่อ เจอเหตุการณ์ร้ายๆ แบบนี้ 2 ครั้ง ครั้งแรกคือไฟไหม้ไนต์คลับที่กาลังมีคอนเสิร์ต ทาให้คน ตาย 194 คน เหตุการณ์นี้เกิดในค.ศ.1993 และเหตุการณ์ที่สองเกิดกับรถไฟ พ่อคิดว่ามี คนตายจากเหตุการณ์นี้ 120 คน ในช่วงเวลาเหล่านั้น พ่อรู้สึกเหมือนกันคือพ่อต้องเข้าไป สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014


-12-

ใกล้ชิดกับพวกเขา ความเจ็บปวดตามประสามนุษย์นั้นแรงมาก และถ้าเราอยู่ใกล้ๆ พวก เขาในช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้า พวกเราจะช่วยเขาได้มากเลยแหละ” “พ่ออยากพูดอะไรต่อไปอีกนิด พ่อติด ‘เข็มกลัดริบบิ้น’ ซึ่งครอบครัวเหยื่อเรือ เซวอลได้ให้ และพ่อก็ติดมันทันที พ่อติดมันเพื่อแสดงออกถึงความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับ พวกเขา แต่หลังจากนั้นตอนกลางวัน มีบางคนเดินมาหาพ่อแล้วบอกว่า ‘มันจะดีกว่านี้ นะครับ ถ้าพระองค์ถอดมันออก พระองค์ควรวางตัวเป็นกลางนะครับ’ แต่ฟังก่อน เรา ไม่สามารถวางตัวเป็นกลางเกี่ยวกับความเจ็บปวดของคน พ่อติดเข็มกลัดแบบนี้ เพื่อ แสดงออกว่าพ่อรู้สึกอย่างไร” “การหยุดผู้บุกรุกที่ไม่ชอบธรรมเป็นสิทธิที่พึงมี” นักข่าว: “พระองค์ทรงทราบแล้วว่า ไม่นานมานี้ กองทัพสหรัฐฯ ได้เปิดฉาก โจมตีกลุ่มก่อการร้ายในอิรัก เพื่อยับยั้งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และปกป้องคนกลุ่มน้อยซึ่ง รวมไปถึงบรรดาคาทอลิกที่อยู่ภายใต้การนาทางของพระองค์ คาถามของผมคือ พระองค์เห็นด้วยกับการโจมตีของอเมริกาหรือไม่” พระสันตะปาปา: “ขอบคุณสาหรับคาถามที่ชัดเจนแบบนี้ ในกรณีเหล่านี้ซึ่งมี การบุกรุกอย่างไม่เป็นธรรม พ่อสามารถพูดได้อย่างเดียวว่า มันเป็นความชอบธรรม ทางกฏหมายที่จะหยุดผู้บุกรุกที่ไม่ยุติธรรมแบบนี้ พ่อเน้นเลยกิริยานี้เลยนะ หยุด! พ่อ ไม่ได้พูดว่าการทิ้งระเบิดหรือทาสงครามนะ แต่พ่อพูดว่าหยุดด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง อาศัย วิธีใดก็ได้ที่จะสามารถหยุดการรุกราน การหยุดยั้งเช่นนี้ต้องถูกนามาพิจารณา เพื่อจะ หยุดผู้บุกรุกที่ไม่ชอบธรรม มันจึงถือเป็นสิ่งที่ชอบธรรมตามกฏหมาย” “แต่เราต้องมีเครื่องเตือนใจด้วยนะ กี่ครั้งแล้วภายใต้ข้อแก้ตัวว่าจะต้องหยุดยั้งผู้ รุกรานที่ไม่ชอบธรรม จึงต้องใช้อานาจแทรกแซงในการจัดการควบคุมผู้คน และก่อให้เกิด สงครามจริงๆ ที่เข้าครอบครองดินแดนนั้น” “หลังจากสงครามโลก ครั้งที่ 2 องค์การสหประชาชาติได้มีแนวคิดว่าประเทศใด ประเทศหนึ่งไม่สามารถชี้ขาดได้ว่าจะหยุดยั้งผู้บุกรุกที่ไม่ชอบธรรมด้วยวิธีการใดๆ มันจึง สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014


-13-

เป็นเรื่องที่ควรจะมาหารือกัน ส่วนผู้รุกรานที่ไม่ชอบธรรมล่ะ(ควรถูกหารือด้วยไหม)? มันก็ น่าจะเป็นแบบนั้นนะ” “ส่วนคาถามที่สอง (คนกลุ่มน้อยซึ่งหมายถึงบรรดาคาทอลิก) ขอบคุณที่ถามเรื่อง นี้ เพราะคาว่าคนกลุ่มน้อยสาหรับพ่อ มันหมายถึงกลุ่มคริสตชน กลุ่มชาวคริสต์ผู้ยากไร้น่า สงสาร มันเป็นความจริง พวกเขาทนทุกข์ทรมาน มรณสักขี! นี่คือเหล่ามรณสักขี แต่ยังมี ชายหญิงอีกมากที่เป็นคนกลุ่มน้อยเมื่อพิจารณาจากศาสนา คนกลุ่มนี้ไม่ใช่คริสตชน ทั้งหมด แต่พวกเขามีความเท่าเทียมกันต่อหน้าพระเจ้า” “การที่จะหยุดยั้งผู้บุกรุกที่ไม่ชอบธรรมจึงถือเป็นสิทธิที่มนุษย์พึงมี แต่มันก็เป็น สิทธิอีกเช่นกันที่ผู้บุกรุกจะต้องหยุดการกระทานี้ เพื่อที่เขาจะไม่ลงมือทาความชั่ว” จะไปอิรักไหม: “พ่อเต็มใจจะไปที่นั่น” นักข่าว: “กลับมาที่อิรักอีกครั้ง เหมือนกับที่ พระคาร์ดินัล (แฟร์นานโด) ฟิโลนี่ และคุณพ่อบรูโน่ กาโดเร อธิการเจ้าคณะโดมินิกันว่าไว้ พระองค์พร้อมที่จะสนับสนุน การใช้กองทัพเข้าแทรกแซงในอิรัก เพื่อจะได้หยุดนักรบญิฮาด (จีฮัด) หรือไม่? และอีก คาถามหนึ่ง พระองค์คิดไหมว่า จะไปเยือนอิรักสักวันหนึ่ง บางที ไปเยือนเคอร์ดิสถาน เพื่อให้กาลังใจผู้ลี้ภัยชาวคริสต์ซึ่งกาลังรอคอยพระองค์อยู่ และเพื่อภาวนาพร้อมกับ พวกเขาในดินแดนที่พวกเขาอาศัยมานานกว่า 2,000 ปี” พระสันตะปาปา: “ไม่นานมานี้ พ่อได้คุยกับ เมซุต บาร์ซานี่ ผู้ว่าการของเคอร์ดิ สถาน เขามีความคิดชัดเจนมากๆ เกี่ยวกับสถานการณ์และวิธีแก้ปัญหา แต่นั่นเป็นเรื่อง ก่อนการบุกรุกอย่างไม่ชอบธรรม พ่อจะตอบคาถามแรกของคุณก่อน พ่อแค่ยอมรับ เงื่อนไขในความจริงที่ว่า เมื่อมีผู้รุกรานอย่างไม่ชอบธรรม เขาจะต้องถูกสกัดกั้น” “คาถามที่สอง พ่อเต็มใจ(จะไปอิรัก) แต่พ่อคิดว่า พ่อพูดเช่นนี้ก็ต่อเมื่อเราได้ยิน เกี่ยวกับการเข่นฆ่าคนกลุ่มน้อยในเชิงศาสนา ตอนนี้ ปัญหาในเคอร์ดิสถานคือพวกเขาไม่ สามารถรองรับคนจานวนมากได้ มันเป็นปัญหาที่เข้าใจได้ แล้วทีนี้ เราจะทาอย่างไรดี? เรา พิจารณาหลายอย่างเลยนะ สิ่งแรกเลย ทุกแถลงการณ์ที่คุณพ่อลอมบาร์ดี้แถลงนั้น ก็ออก ในนามของพ่อ หลังจากนั้น แถลงการณ์ได้ถูกส่งไปยังสมณทูตทุกคนเพื่อจะได้สื่อสารต่อไป สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014


-14-

ยังคณะรัฐบาลอีกต่อ จากนั้น พวกเราจึงเขียนจดหมายไปยังเลขาธิการองค์การ สหประชาชาติ เราทาหลายอย่าง และในตอนท้าย เราได้ตัดสินใจส่งทูตส่วนพระองค์นั่นคือ พระคาร์ดินัล ฟิโลนี่และอย่างที่พ่อพูดไป ถ้ามันจาเป็นในตอนนี้ที่เรากาลังกลับจาก เกาหลี เราก็จะไปที่นั่น(อิรัก)มันเป็นหนึ่งในหลายความเป็นไปได้ นี่คือคาตอบของพ่อ พ่อเต็มใจที่จะไปที่นั่น ในตอนนี้มันอาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุดที่ควรทา แต่พ่อก็พร้อมจะทา นะ” ประเทศจีน: “ชัวร์! ให้ไปจีนพรุ่งนี้ ยังได้เลย” นักข่าว: “คาถามของผมเกี่ยวกับเมืองจีน พระองค์คือพระสันตะปาปาองค์แรก ที่ได้นั่งเครื่องบินผ่านน่านฟ้าจีน ตอนนี้ เราก็กาลังบินอยู่เหนือเมืองจีน โทรเลขที่ พระองค์ส่ง(ถึงประธานาธิบดีจีน) ไม่มีเสียงตอบรับในเชิงลบเลย พระองค์คิดว่านี่คือ ก้าวย่างที่จะนาไปสู่การเสวนาหรือไม่ และพระองค์ปรารถนาจะไปเมืองจีนบ้างไหม” พระสันตะปาปา: “ตอนขามาที่เรากาลังจะบินเข้าน่านฟ้าเมืองจีน พ่ออยู่ในห้อง ขับเครื่องบินกับนักบิน หนึ่งในนักบินโชว์จอเรดาร์ให้พ่อดู และพูดว่า ‘เรากาลังจะเข้าสู่ น่านฟ้าเมืองจีนในอีก 10 นาทีนะครับ เราต้องขออนุญาต(เพื่อเข้าน่านฟ้าแล้ว)’ ทุกครั้ง เราต้องทาแบบนี้ มันเป็นเรื่องปกติ ทุกคนต้องขออนุญาตจากแต่ละประเทศ และพ่อก็ได้ ยินว่าพวกเขาขออนุญาตอย่างไร รวมถึงได้ยินว่าทางการจีนตอบกลับมาอย่างไร พ่อได้เห็น เรื่องนี้กับตา จากนั้น นักบินได้บอกพ่อว่า เขาส่งโทรเลขให้แล้ว แต่พ่อไม่รู้ว่าพวกเขาส่ง อย่างไร” “พ่อออกมาจากห้องขับเครื่องบินและเดินกลับที่นั่ง จากนั้น พ่อสวดภาวนาหลาย บทเพื่อชาวจีนที่ยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่ ชาวจีนเป็นชาติที่ปราดเปรื่อง พ่อคิดถึงนักปราชญ์ ชาวจีนหลายคน พ่อคิดถึงประวัติศาสตร์ทางวิทยาการและภูมิปัญญาและพวกเราเยสุอิตก็ มี ประวัติศาสตร์ที่นั่นด้วย นั่นคือคุณพ่อมัตเตโอ ริคชี่ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่อยู่ในความคิดของ พ่อ” “ถามว่า พ่ออยากจะไปเมืองจีนบ้างไหม? ชัวร์! (ไป)พรุ่งนี้(ยังได้)เลย! พวก เราเคารพชาวจีน พระศาสนจักรขอแค่เสรีภาพเพื่อพันธกิจและงานของเรา มันไม่มี สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014


-15-

อย่างอื่นเลย เราไม่ควรลืมจดหมายเปิดผนึกที่สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 เคยส่งถึงชาวจีน จดหมายฉบับนี้คือความจริงที่เกี่ยวข้องกับทุกวันนี้ มันคือเรื่องจริง มันดีนะที่จะกลับไปอ่านมันอีกครั้ง สันตะสานักเปิดการเจรจาเสมอ เพราะมันคือการ เคารพต่อชาวจีนทุกคน” ทริปต่างประเทศต่อจาก อัลเบเนีย, ศรีลังกา, ฟิลิปปินส์ นักข่าว: “ประเทศต่อไปที่พระองค์จะเยือนคืออัลเบเนีย และบางทีอาจเป็นอิรัก หลังจากเสด็จเยือนฟิลิปปินส์และศรีลังกา พระองค์จะไปเยือนไหนต่อในปี 2015 พวก เราสามารถพูดได้ไหมว่า(สถานที่ต่อไป)คืออาวีลา (สเปน) มันจะเป็นความหวังอัน ยิ่งใหญ่มากถ้าพระองค์มาที่นี่ พวกเขาจะมีความหวังไหม” พระสันตะปาปา: “ประธานาธิบดีหญิงของเกาหลีพูดภาษาสแปนิชกับพ่อแบบชัด มากๆ ว่า ‘ความหวังคือสิ่งสุดท้ายที่คนๆ หนึ่งจะสูญเสีย’ ท่านประธานาธิบดีพูดกับพ่อ ด้วยการเอ่ยถึงความหวังในการรวมกันอีกครั้งของเกาหลี ทุกคนต้องมีความหวังเสมอ แต่ ตอนนี้ ยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ (ในการเยือนประเทศอื่นๆ) ขอพ่ออธิบายตามนี้ละกันนะ” “ปีนี้ การเยือนอัลเบเนียถูกจัดไว้แล้ว บางคนเริ่มพูดกันว่า พระสันตะปาปากาลัง เริ่มทุกอย่างด้วยสิ่งที่เป็นชายขอบของสังคม แต่พ่อจะไปอัลเบเนียด้วยแรงบันดาลใจ 2 อย่าง หนึ่ง เพราะพวกเขาสามารถจัดตั้งรัฐบาล ลองคิดถึงคาบสมุทรบอลข่านดูซิ พวกเขา สามารถที่จะจัดตั้งรัฐบาลแห่งความเป็นหนึ่งเดียวกันด้วยชาวมุสลิม, ออโธด็อกซ์ และ คาทอลิก โดยอาศัยสภาศาสนสัมพันธ์ที่ช่วยได้อย่างมากและมีความสมดุลมากๆ ด้วย นี่คือ เรื่องดีและกลมเกลียวกันมาก การมาเยือนของพระสันตะปาปาคือความต้องการที่จะบอก ทุกคนในโลกว่า มันเป็นไปได้เสมอที่จะทางานร่วมกัน พ่อรู้สึกถึงสิ่งนี้ประหนึ่งได้รับความ ช่วยเหลือจากท่านผู้มีเกียรติทั้งหลาย” “ส่วนอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าเราคิดถึงประวัติศาสตร์ของอัลเบเนียในมุมของศาสนา นี่ คือประเทศเดียวในโลกของคอมมิวนิสต์ที่มีรัฐธรรมนูญของคนไม่เชื่อในศาสนา ถ้าคุณ ไปร่วมมิสซามันก็หมายความว่าคุณกาลังขัดรัฐธรรมนูญ หนึ่งในรัฐมนตรีของอัลเบเนีย บอกพ่อว่า ช่วงนั้น มีโบสถ์ถึง 1,820 แห่งที่ถูกทาลาย ทั้งโบสถ์ออโธด็อกซ์และ สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014


-16-

คาทอลิก ส่วนโบสถ์อื่นๆ ถูกเปลี่ยนเป็นโรงภาพยนตร์, โรงละคร และลานลีลาศ พ่อจึง รู้สึกว่าพ่อต้องไปอัลเบเนีย มันเป็นทริปสั้นๆ แค่วันเดียวเท่านั้น “ปีหน้า พ่ออยากจะไปฟิลาเดลเฟีย (อเมริกา) เพื่อร่วมงานชุมนุมครอบครัว พ่อยังได้รับคาเชิญจากประธานของรัฐสภาอเมริกัน (คองเกรส) เช่นเดียวกัน ยังได้รับคา เชิญจากเลขาธิการองค์การสหประชาชาติที่เชิญพ่อไปที่นิวยอร์กด้วย ดังนั้น มันน่าจะมี 3 เมืองด้วยกัน (ในอเมริกา)” “จากนั้น ก็เป็นเม็กซิโก ชาวเม็กซิกันต้องการให้พ่อไปที่สักการะสถานแม่พระ แห่งกัวดาลูเป้ ดังนั้น เราอาจใช้โอกาสนี้ไปด้วย(ไประหว่างเยือนอเมริกา) แต่ทั้งนี้ ทุกอย่าง ยังไม่แน่นอน” “สุดท้าย สเปน ราชวงศ์สเปนทูลเชิญพ่อด้วย สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่ง สเปนก็เชิญพ่อเช่นกัน และก็มีคาเชิญอีกมากมายที่เชิญให้ไปเยือนสเปน ดังนั้น มันก็มี ความเป็นไปได้ แต่ก็ยังไม่แน่นอนอีกนั่นแหละ ฉะนั้น พ่อจึงพูดว่า มันอาจจะเป็นไปได้ที่จะ ไปเยือนอาวีลาในช่วงเช้า และกลับตอนเย็นๆ ถ้ามันเป็นไปได้นะ แต่ทุกอย่างยังไม่ถูก กาหนด ทุกคนยังสามารถมีความหวังต่อไป” “ถ้าเป็นพ่อ พ่อก็สละตาแหน่งพระสันตะปาปาเหมือนกัน” นักข่าว: “ความสัมพันธ์ระหว่างพระองค์กับพระสันตะปาปากิตติคุณ เบเน ดิกต์ ที่ 16 เป็นอย่างไรบ้าง พระองค์แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับท่านเบเนดิกต์บ้างไหม มีโครงการร่วมกันหลังจากสมณสาส์นแสงแห่งความเชื่อบ้างไหม” พระสันตะปาปา: “เราเจอกัน ก่อนที่พ่อจะออกมา (เพื่อไปเกาหลี) พ่อไปพบ พระองค์ 2 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ พระสันตะปาปากิตติคุณทรงเขียนเรื่องน่าสนใจมาหาพ่อ และทรงถามความคิดเห็นจากพ่อด้วย พวกเรามีความสัมพันธ์กันตามปกติ “พ่อกลับมาคิดถึงเรื่องนี้ ซึ่งอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับแนวคิดเทวศาสตร์นะ พ่อไม่ใช่ นักเทวศาสตร์ แต่พ่อคิดว่า พระสันตะปาปากิตติคุณไม่ใช่เรื่องยกเว้นและไม่ใช่เรื่อง ต้องห้าม แต่หลังจากหลายร้อยปีมานี้ พระสันตะปาปา เบเนดิกต์ คือพระสันตะปาปากิตติ คุณองค์แรก ขอให้เราคิดถึงสิ่งที่พระองค์เคยตรัสด้วยนะ นั่นคือ ‘พ่อชราภาพมากขึ้น พ่อ สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014


-17-

ไม่มีพละกาลัง’ มันจึงเป็นอิริยาบทสุดงดงามของความสูงส่งทางจิตใจ ทั้งยังสุภาพถ่อมตน และเปี่ยมด้วยความกล้าหาญมาก” “แต่ถ้าเราคิดกันดูว่า 70 ปีที่แล้ว พระสังฆราชกิตติคุณยังเป็นข้อยกเว้นด้วยเลย ตอนนั้นยังไม่มีพระสังฆราชกิตติคุณ แต่ทุกวันนี้พระสังฆราชกิตติคุณคือบุคคลสาคัญแล้ว” “พ่อคิดว่า พระสันตะปาปากิตติคุณก็เป็นบุคคลสาคัญแล้วเช่นกัน เพราะชีวิต คนยืนยาวขึ้นและด้วยอายุขนาดนี้ ความสามารถร่างกายไม่สามารถบริหารจัดการได้ดี นัก เพราะร่างกายอ่อนล้า บางที สุขภาพอาจจะดี แต่ความสามารถทางร่างกายที่จะ แบกรับปัญหาต่างๆ ของการบริหารจัดการพระศาสนจักร อาจจะไม่ดีก็ได้ พ่อจึงคิดว่า พระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ทรงทาเรื่องนี้แบบพระสันตะปาปากิตติคุณ อย่างที่พ่อพูดไป ก่อนหน้านี้ นักเทวศาสตร์บางคนอาจจะพูดว่า เรื่องนี้ไม่ถูกต้องนัก(เรื่องพระสันตะปาปา กิตติคุณ) แต่พ่อคิดแบบนี้นะ อนาคตจะบอกเราว่า เรื่องนี้ถูกหรือไม่ เราต้องรอดูกัน “แต่คุณอาจจะพูดกับพ่อว่า ‘ถ้าพระองค์อยู่ในช่วงเวลาตอนนั้น แล้วรู้สึกว่า พระองค์ไปต่อไม่ไหวแล้ว’ พ่อก็จะทาแบบเดียวกัน! พ่อจะทาเหมือนพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ (สละตาแหน่ง) พ่อจะสวดภาวนา แต่พ่อก็จะทาแบบนั้นเหมือนกัน พระ สันตะปาปา เบเนดิกต์ ทรงเปิดประตูออก นี่คือสถาบันสาคัญ ไม่ใช่เรื่องยกเว้นอีก ต่อไป” “มิตรภาพระหว่างพ่อกับท่านเบเนดิกต์ ถือเป็นแบบพี่น้องอย่างแท้จริง แต่พ่อยัง ย้าเหมือนเดิมว่า การที่พระองค์อยู่กับเรา มันเหมือนกับเรามี ‘คุณปู่’ อยู่ที่บ้านเพราะ คาสั่งสอนของพระองค์ พระสันตะปาปา เบเนดิกต์คือบุรุษแห่งปรีชาญาณและโดดเด่นมาก มันเยี่ยมมากที่ได้ยินคาสอนของพระองค์ พระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ทรงสนับสนุนพ่อ อย่างเต็มที่ด้วย นี่แหละมิตรภาพที่พ่อมีกับพระองค์” ... สัปดาห์หน้า มาติดตามบทสัมภาษณ์ตอนที่ 2 กันต่อครับ รายละเอียดทุก อย่างน่าติดตามมากๆ จนผมไม่สามารถตัดทอนเนื้อหาออกไปได้แม้แต่บรรทัดเดียว AVE MARIA สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014


-18-

ตีนกับตา ( โดย ดร.วรรณีย์ ลิขิตธรรม) ตีนกับตา จะนั่งลุก มาวันหนึ่ง ว่าตีนมีคุณ ตีนช่วยพา ตาจึงได้ เพราะฉะนั้น ว่าตีนนี้ ตาได้ฟัง จึงร้องบอก ว่าที่ตีน ดูมรรคา เพราะฉะนั้น ตีนไม่ควร สรุปว่า ทัว่ ธานินทร์ ตีนได้ฟัง เร่งกระโดด เพราะอวดดี ดวงชีวา ตาเห็นตีน ก็พิโรธ ตีนพาตา ตกแล้วเหวย

อยู่กันมา ยืนเดิน ตีนทะลึ่ง แก่ตา ตาไป ชมนาง ดวงตา เป็นสิ่ง ตีนคุยโม้ ออกไป เดินเหินได้ เศษแก้วหนาม ตาจึง จะมา ตามีค่า ตีนไปได้ ให้คั่งแค้น ออกไป คุยเบ่ง จะดับไป ทาเก่ง แกล้งระงับ ถลาล้ม ตายห่า

แสนผาสุก เพลินนักหนา เอ่ยปรัชญา เสียจริงจริง ที่ต่างต่าง และสรรพสิ่ง จงประวิง ควรบูชา ก็หมัน่ ไส้ ด้วยโทษา ก็เพราะตา ไม่ตาตีน สาคัญกว่า คิดดูหมิ่น สูงกว่าตีน ก็เพราะตา แสนจะโกรธ ไกล้หน้าผา เก่งกว่าตา ไม่รู้เลย เร่งกระโดด หลับตาเฉย ทั้งก้มเงย ทั้งตาตีน

สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014


-19-

ที่ท่านเพิ่งอ่านจบไปนั้นเป็นบทประพันธ์ของพระวัดชลประทานฯ ซึ่งคงจะให้ ความบันเทิงและให้ข้อคิดเป็นบทสอนใจเรา เช่นตากับตีนต่างก็อวดดี ทวงบุญคุณกัน โดย ต่างก็สาคัญผิดคิดว่า “ฉันนะสาคัญกว่าคุณ” ก็เลยเกิดวิวาทะกันขึ้น เขาลืมนึกไปว่าเขา ต้องพึ่งกันและกันดุจดัง “น้าพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า” ที่สุดก็ประสบหายนะด้วยกันทั้งคู่ เพราะ ความแตกสามัคคีกัน มนุษย์เราถ้าอวดดี ยกตนข่มท่าน หยิ่งผยอง หลงสาคัญตนผิด ก็จะประสบหายนะ เช่นเดียวกับตีนและตา แต่จะเลวร้ายกว่านั้นอีก เพราะไม่ใช่หายนะฝ่ายร่างกายเท่านั้น แต่ เป็นหายนะฝ่ายจิตวิญญาณเลยที่เดียว จะมีชะตากรรมเช่นเดียวกับลูซีแฟร์ที่อยากเป็น ใหญ่เสมอพระเจ้า และเอวาซึ่งเชื่อว่าเมื่อกินผลไม้ต้องห้ามแล้ว ตนจะตาสว่าง จะเป็น เหมือนพระเจ้า ทาให้อาดัมพลอยติดร่างแหไปด้วย ปีศาจเจ้าเล่ห์ถูกตัดขาดจาก ความสัมพันธ์ของพระ ย่อมมีความทุกข์ทรมานแสนสาหัส แต่มันไม่ยอมถูกทรมานเพียง ลาพัง มันจึงหาวิธีล่อลวงให้มนุษย์เป็นพวกของมัน โดยให้เราหลงใหลกับ ความร่ารวย ชื่อเสียงเกียรติยศ ใส่ใจกับของของโลก จนลืมพระ และที่สุดก็ทิ้งพระหมดความเชื่อ แล้ว ความรักของพระเจ้า ในหัวใจมนุษย์ก็เหือดแห้งไป คงเหลือแต่ความเห็นแก่ตัว ความโลภ โกรธและหลงไม่สิ้นสุด สงความเกิดขึ้นจากความเกลียดชัง ถ้ามนุษย์รักกัน เขาจะฆ่ากันได้ ลงคอหรือ พี่น้องรู้หรือไม่ว่า แม่พระได้ทรงประจักษ์มาที่ KIBEHO ประเทศรวันดา ทวีป อัฟริกา ปี ค.ศ. 1982 พระนางทรงเตือนผู้รับการประจักษ์ว่า สงครามกลางเมืองจะเกิด ถ้า ประชาชนไม่เติมเต็มหัวใจของเขาด้วยความรักของพระเยซูเจ้า สิบสองปี ต่อมา คือ ค.ศ. 1994 ก็ได้เกิดสงครามฆ่าล้างเผาพันธุ์ขึ้น ทาให้ประชากรล้มตายไปเป็นล้าน สังคมในโลก มนุษย์มีปัญหาและความขัดแย้งกันมากมาย เพราะขาดความรักของพระเจ้า ขอให้เราร่วม จิตร่วมใจกันภาวนาและสอนเยาวชนลูกหลานของเราให้รู้เท่าทันเล่ห์กลของปีศาจ เพราะ ขณะนี้อานาจมืดของมัน แทรกซึมทุกสิ่งทุกอย่าง อยู่ทั้งในบ้านและในผู้คน เราจึงต้อง หมั่นภาวนา อ่านพระวาจา เติมเต็มหัวใจเรา ด้วยความรักของพระเจ้า เพื่อว่า “บุตร แห่งมนุษย์ จะเสด็จกลับมาในพระสิริรุ่งโรจน์ของพระบิดาพร้อมกับบรรดาทูตสวรรค์ เมื่อ นั้นพระองค์จะประทานรางวัลแก่ทุกคนตามความประพฤติของเขา” สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014


-20-

อา.31 สค.14

07.00 น. คพ.ศรีปราชญ์

09:00 น. คพ.สุชาติ 17.30 น. คพ.สุรชัย

จ. 1 กย.14 06.15 น. คพ.สุรชัย

19.00 น. คพ.สุชาติ

รายการมิสซาประจาสัปดาห์ อาทิตย์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา โมทนาคุณพระเป็นเจ้าและแม่พระ ขอพร สุขภาพ คุณกาญจนา สงวนสุข ขอพร หน้าที่การงานลูกทั้ง 5 ขอพร สุขภาพ คุณพ่อ อเล็กซิส สุรชัย ขอพร ครอบครัวพิริยะพันธุ์ ขอพร พลมารีย์ไทยและพลมารีย์สนับสนุน ขอพร ครอบครัว คุณกาญจนา สงวนสุข ขอพร อันนา มุยชุน และครอบครัว อุทิศ เปโตร ประจวบ เจริญทรัพย์ อุทิศ ลูซีอา อังเจลา วัลลา ทวีสิน อุทิศ Maria อุทิศ เปาโล ใช้ - กลารา สินี อุทิศ แคธทารีน มาลินี กมลพร อุทิศ แคธทารีน เพ็ญพรรณ รัตนะวันธุ์ อุทิศ คุณสมศักดิ์ สงวนสุข อุทิศ วินเซนต์ กิตติ - เทเรซา อรวรรณ อุทิศ วิญญาณในไฟชาระทุกดวง อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง ขอพร สาหรับพี่น้องสัตบุรุษทุกท่าน ทุกครอบครัว โมทนาคุณพระเป็นเจ้าและแม่พระ ขอพร ครอบครัวคุณน้าทิพย์ สุวิมลชัยกุล ขอพร เปโตร ณัชพัฒน์ สีหพล ขอพร ครอบครัว เซซีลีอา รัตนา มรกต อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ พ่อฟู – แม่ทวี กิจบารุงรัตน์ อุทิศ แบร์นาแด๊ต ชญานิษฐ์ สีหพล อุทิศ ยวงบัปติสตา ก้าน - มารีอา วิไลลักษณ์ อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยวง ณัฐวุฒิ ว่องไว อุทิศ มารีอา สร้อย, เปโตร ใช้ ณรงค์รักษ์ อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อาทิตย์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา โมทนาคุณพระเป็นเจ้าและแม่พระ ขอพร วันเกิด มารีอา พัชนี แมนผดุง ขอพร แคทรีน ไอยศรา ขอพร ความสงบสุขสาหรับประเทศไทย อุทิศ เฮเลนา กาญจนา อุทิศ มารีอา เซียมเอ็ง, อากาทา ฮ้อ อุทิศ ฟรังซิสเซเวียร์ ชูชัย ไกรศักดิศ์ ิริ อุทิศ มารีอา ดวงพร, ยอแซฟ สุ่น อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง โมทนาคุณพระเป็นเจ้า ขอพร พระสงฆ์ นักบวช ผู้แพร่ธรรมทุกท่าน ขอพร ผู้ที่ในอันตรายฝ่ายวิญาณ ขอพร แพททริเซีย จารุภรณ์, อักแนส ณัฐพัชร์ อุทิศ ยวง บอสโก ดนัย อุทิศ ยวง สวน เกาะสุวรรณ์ อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ เซซีลีอา แน่งน้อย, ยวงบัปติสตา หวล อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ คุณจเร คงมณี อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014


-21อ. 2 กย. 14 06.15 น. คพ.สุรชัย

19.00 น. คพ.สุชาติ

พ. 3 กย.14 06.15 น. คพ.สุรชัย

19.00 น. คพ.สุชาติ

พฤ. 4 กย.14 06.15 น. คพ.สุรชัย

19.00 น. คพ.สุชาติ

อาทิตย์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา โมทนาคุณพระเป็นเจ้าและแม่พระฟาติมา ขอพร ครอบครัว เจนศักดิ์ ศรีสกุล ขอพร แคทรีน ไอยศรา ขอพร ผู้ที่ตกในความยากลาบาก อุทิศ เฮเลนา กาญจนา อุทิศ บาทีเมอาส นุกรณ์ อุทิศ เปโตร - อันนา เดื่อง อุทิศ คุณชนินทร์, คุณสุกรี หวังถาวรยานนท์ โมทนาคุณพระเป็นเจ้าและแม่พระมารีอา ขอพร ครอบครัว ปัณฑวังกูร , ลิ้มประยูร ขอพร ความรักในทุกครอบครัว ขอพร ครอบครัว เลาหไทยมงคล อุทิศ ยวง สวน เกาะสุวรรณ์ อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ มารีอา เซียมเอ็ง, อากาทา ฮ้อ อุทิศ ฟรังซิสเซเวียร์ ชูชัย ไกรศักดิศ์ ิริ อุทิศ มารีอา ดวงพร, ยอแซฟ สุ่น อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ ผู้ล่วงลับทั้งหลาย ระลึกถึงน.เกรโกรี พระสันตะปาปาและนักปราชญ์แห่งพระศาสนจักร โมทนาคุณพระเป็นเจ้าและแม่พระ ขอพร แคทรีน ไอยศรา อุทิศ มาการิตา วิลัย, เปโตร หวา พิชัย อุทิศ คุณสร้อย คาปัง อุทิศ ยอห์น บัปติสต์ สถิตย์ มิตรสม อุทิศ นพ.สมาน – พญ.ภักดี ตระกูลทิม อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง โมทนาคุณแม่พระฟาติมา ขอพร ครอบครัว สาราญ – สุรีรตั น์ คาภีระ ขอพร คุณโชษิตา เกียรติชยั วัฒน์ ขอพร สุขภาพ มารีอา รัชนี บุญพันธ์ อุทิศ ฟรังซิสเซเวียร์ ชูชัย ไกรศักดิศ์ ิริ อุทิศ คุณแม่มารีอา วันดี สุขวี ัด อุทิศ อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ มารีอา เซียมเอ็ง, อากาทา ฮ้อ อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ มารีอา ดวงพร, ยอแซฟ สุ่น อุทิศ ยวง สวน เกาะสุวรรณ์ อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อาทิตย์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา โมทนาคุณพระเป็นเจ้าและแม่พระฟาติมา ขอพร ครอบครัว วงศ์ถาวรมั่น ขอพร แคทรีน ไอยศรา ขอพร ยาโกเบ เสรี, อักแนส จันทร์ตรี พรกุลวิไล อุทิศ ฟรังซิสเซเวียร์ ชูชัย ไกรศักดิศ์ ิริ อุทิศ มารีอา เซียมเอ็ง, อากาทา ฮ้อ อุทิศ คาทารีนา เฮืองเล , เปาโล บิน โง อุทิศ มารีอา ดวงพร, ยอแซฟ สุ่น อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณทีต่ ้องการพระเมตตา โมทนาคุณพระเป็นเจ้าและแม่พระ ขอพร การงาน โรซา เพ็ชรา ระดมวิวัฒน์ ขอพร ไอรีน ธนภัทร ลักษณาชัฏ ขอพร เทเรซา หทัยกาญจน์ พิชยั อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ ยวงบัปติสตา จิ้งซุง - เทเรซา ง้อ อุทิส ยอแซฟ จินเหงีย่ น - มารีอา สมถวิล อุทิศ ยวง สวน เกาะสุวรรณ์ อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014


-22ศ. 5 กย. 14 06.15 น. คพ.สุรชัย

19.00 น. คพ.สุชาติ

ส.6 กย. 14 06.15 น. คพ.สุรชัย

19.00 น. คพ.สุชาติ

อาทิตย์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา(ศุกร์ต้นเดือน) โมทนาคุณพระเป็นเจ้าและแม่พระฟาติมา ขอพร แคทรีน ไอยศรา ขอพร มารีอา ดวงใจ, มารีอา อารยา ขอพร ครอบครัว โรจน์อมรกุล อุทิศ ฟรังซิสเซเวียร์ ชูชัย ไกรศักดิศ์ ิริ อุทิศ โนเอล เดชา อุทิศ มารีอา ดวงพร, ยอแซฟ สุ่น อุทิศ มารีอา เซียมเอ็ง, อากาทา ฮ้อ อุทิศ ยวง สวน เกาะสุวรรณ์ อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ โมทนาคุณพระสาหรับความช่วยเหลือต่างๆ ขอพร ยอแซฟ สุรเสียง - แคทธิรีน จินดารัตน์ ขอพร หน้าที่การงาน คุณ ชยกิจ ชัยกิจ ขอพร ครอบครัว “ประสิทธิ์” “ชัยกิจ” ขอพร อันนา ขจิตพรรณ, โจ, พีช ขอพร ยอแซฟ พอล- ยอแซฟ พิสิษฐ์ พรกุลวิไล อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ โธมัส สมชาย – ยอแซฟ อุดมชัย อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ บรรพบุรุษ ตระกูล “ประสิทธิ์” “ชัยกิจ” อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศวิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง/ต้องการความช่วยเหลือ อาทิตย์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา โมทนาคุณพระเจ้า, แม่พระนิจจานุเคราะห์ ขอพร แคทรีน ไอยศรา, เทเรซา จิราภรณ์ ขอพร กิจการใหม่ บ้านฉ่าบุญ นวดแผนไทย ขอพร ครอบครัว มารีอา ภาริษา อภิทาวงษ์ อุทิศ เฮเลนา กาญจณา อุทิศ มารีอา หมั่น โง อุทิศ ยวง สวน เกาะสุวรรณ์ อุทิศ เทเรซา จวง อุดมสิทธิพัฒนา อุทิศ ฟรังซิส ทวน อุทิศ เปโตร ซ้งฮี้ แซ่อึ้ง - อักแนส กิมสี แซ่แต้ อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง โมทนาคุณพระเป็นเจ้าและแม่พระ ขอพร วินเซนต์ สุรินทร์ และครอบครัว ขอพร เทเรซา ปิยกานต์ ,หลุยส์ ธนพงศ์ ขอพร มารีอา สุทธินยี ์, เทเรซา วินิตา อุทิศ ยวง ยรรยง วูวงศ์ อุทิศ ยอแซฟ อ๊อน - มารีอา เง็กเอ็ง แซ่ฉวั่ อุทิศ อันนา สมพิศ แสงเนตร อุทิศ ทอมัส ธวัช, เทเรซา จู ศรีสวัสดิ์ อุทิศ ยวง พัง , โรซา ทองคา อุทิศ ยอแซฟ โอวกวง, อันนา ซิ่วจู อุทิศ ยอแซฟ ถนอม สุหฤทดารง อุทิศ เยโนเวฟา มณี แฉ่งชวนชื่น อุทิศ มารีอา บุญเพชร แซ่ตัน อุทิศ อันนา ตังไล้ แซ่เจา, อักแนส อ่อยอี่ แซ่ลี่ อุทิศ วิญญาณในไฟชาระ อุทิศ วิญญาณที่ไม่มีใครคิดถึง

สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014


-23-

1. สมาคมผู้ปกครองและครูโรงเรียนแม่พระฟาติมา ขอเชิญพี่น้อง ร่วม เดินการกุศล เทิดพระเกียรติฯครั้งที่ 4 ณ สวนรถไฟ วันเสาร์ที่ 6 กันยายน 2557 เวลา 8.00-9.00 น บัตรใบละ 100 บาท 2. วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน เวลา 10.35 น. คณะพลมารีย์ไทย ขอเชิญสมาชิกประจาการ สมาชิกสนับสนุน และผู้สนใจ ร่วมฉลองแม่พระบังเกิด ณ วัดน้อย 3. เรื่องการเยี่ยมศูนย์มาร์ติน วัดแม่พระมหาการุณย์ วันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2557 รถออกจากวัด เวลา 10.30 น. 4. ขอรับบริจาค เสื้อผ้าเด็กและวัยรุ่น ซักสะอาด ที่ค่อนข้างใหม่หรือใหม่ ของเล่นเด็ก ขนม ข้าวสาร อาหารแห้งและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียหรือไม่ใช้แล้ว เพื่อบริจาคให้ศูนย์มาร์ติน

**ประกาศการแต่ งงาน** ประกาศครั้งที่ 1 คู่ที่1 ฝ่ ายชาย : ดอมินิค สิ ทธิศักดิ์ อภิชาติธนพัฒน์ บุตร : มาร์ โก แสงชัย อภิชาติธนพัฒน์ + มารี อา สุ พร อภิชาติธนพัฒน์ ฝ่ ายหญิง : นางสาวกุลธิดา ไกรสรเจริ ญ บุตรี : นายประเจตร ไกรสรเจริ ญ + นางพวงคราม ไกรสรเจริ ญ ทั้งสองจะเข้าพิธีสมรส วันอังคารที่ 16 กันยายน 2014 เวลา 11:00 น. คู่ที่ 2

ฝ่ ายชาย : นายวรวุฒิ ธรรมวิริยะวงศ์ บุตร : นายวิชาญ ธรรมวิริยะวงศ์+นางมณี รัตน์ ธรรมวิริยะวงศ์ ฝ่ ายหญิง : เทเรซา มารีรักษ์ แซ่ ลี้ บุตรี : ยวง บัปติสตา สุ ธี แซ่ ล้ ี + มารี อา มาการี ตา อรุ ณี เสนางค์นารถ ทั้งสองจะเข้าพิธีสมรส วันเสาร์ ที่ 20 กันยายน 2014 เวลา 09:00 น. ** ผู้ใดทราบข้ อขัดขวาง มีหน้ าที่ต้องแจ้ งให้ พระสงฆ์ ทราบ ** สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014


-24-

“มนุษย์จะได้ประโยชน์ใด ในการที่ได้โลกทัง้ โลกเป็นกาไร แต่ต้องเสียชีวิต” (มธ 16:26) สัปดาห์ที่ 22 เทศกาลธรรมดา , วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม 2014


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.