คู่มือนักศึกษาโพธิศาสตร์ by ดร.ศานติ โบดินันท์

BODHISASTRA UNIVERSITY, FL. USA

มหาวิทยาลัยโพธิศาสตร์ รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา : A Co – Learning Space for Cultivating Spirituality (Not – for – Profit Corporation)

สถาบันการศึกษาทางด้านศาสนา ที่ไม่แสวงกาไร และเป็นสถาบันอิสระ ที่ได้รับการรับรองจากรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา และไม่ได้ขอการรับรองสถานะจากประเทศไทย

คณะกรรมการมหาวิทยาลัย ประธานที่ปรึกษามหาวิทยาลัย

(Board of Advisory) DR Pedro Guimarases MD., Ph.D.

คณะกรรมการสภามหาวิทยาลัย และคณะผู้ยื่นจดทะเบียนจัดตั้งมหาวิทยาลัย President : Prof. Dr. PhraWidesprmmakun (พระวิเทศพรหมคุณ วัดพรหมคุณาราม USA) Vice President : Dr. Phra Piya Jundadal (ดร.พระมหาปิยะ จันดาดาล USA) CEO & Rector : Prof. Dr. Sak Prasandee (ดร.ศักดิ์ ประสานดี) Board : Dr. Phra Ampol Polman (พระครูสุธีธรรมธร อาพล สุธีโร USA) Board : Mr. Joe Ritthaworn (คุณโจ ฤทธิถาวร, USA)

พิมพ์ครั้งที่ 3 เดือน สิงหาคม 2561

BODHISASTRA UNIVERSITY, Florida, USA

มหาวิทยาลัยโพธิศาสตร์ ฟลอริดา สหรัฐอเมริกา BODHISASTRA UNIVERSITY

เป็นองค์กรทางด้านการศึกษา ที่จดทะเบียนที่รัฐฟลอริดา มีสโลแกนว่า A Co-Learning Space for Cultivating Spirituality คือการสร้างพื้นที่ร่วมกันเพื่อการบ่มเพาะทางจิตวิญญาณ ตามรหัสทะเบียนจัดตั้งองค์กร Corp. Number : N17000007038 JULY 07, 2017 ที่อยูข่ องมหาวิทยาลัย 100 SE 2nd Street,Suite 2000 -#035 City:MIAMI State FLORIDA ZIP 33131 Telephone Number:+1(786)607-0711 Fax Number:+1(786)6070711 Email: bodhisastra@gmail.com Website:www.bodhiasatra.university BODHISASTRA UNIVERSITY จัดตั้งเป็นการศึกษาทางเลือก เป็นสถาบันอิสระ ไม่แสวงกาไร ประเภท ทางศาสนา (Religious Independent Institute of Higher Education) เปิดสอนระดับอุดมศึกษาทั้งใน

ระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก จัดการศึกษาในระบบทางไกล โดยเป็นสมาชิกของสมาคมการศึกษา ทางไกลแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Distance Learning Association)

ความหมายของ BODHISASTRA UNIVERSITY โพธิ (Bodhi) หมายถึง การตื่นรู้ การหยั่งรู้ การรู้อย่างแจ่มแจ้ง การรู้อย่างรอบด้าน การบรรลุถึงศักยภาพแห่ง ตนเอง ศาสตร์ (sastra or science) หมายถึง ความรู้เกี่ยวกับข้อเท็จจริงและกฎที่จัดไว้อย่างเป็นระบบ สาขาวิชาหรือ สาขาความรู้ต่าง ๆ กระบวนการที่เป็นกิจกรรมของมนุษย์ที่ทาให้ได้ความรู้ที่สามารถทดสอบได้) โพธิศาสตร์ มีความหมายถึง ความรู้ที่รอบด้านที่จะทาให้บังเกิดการตื่นรู้ การหยั่งรู้ หรือการเข้าความรู้ที่จริงแท้ แห่ง ชีวิต กระบวนการ วิ ธีการที่จะทาให้มนุษย์สามารถเกิดการหยั่ง รู้ ให้มนุ ษย์ไ ด้ เข้าใจและสามารถที่จะบรรลุถึ ง ศักยภาพของตนเอง มหาวิทยาลัยโพธิศาสตร์ มุ่งที่จะเป็นสถาบันการศึกษาที่เน้นแก่นคาสอนหลักของทุกศาสนา เพื่อให้เข้าถึงรอบรู้ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการดารงชีวิตที่มีความสุข มุ่งที่จะสร้างการตื่นรู้ ที่จะพัฒนาตนเองสู่ความดี ความงาม และความ รุ่งเรือง บนพื้นฐานของค่าแห่งความเป็นมนุษย์บนพื้นโลก มหาวิทยาลัยโพธิศาสตร์ มุ่งที่จะการสร้างความร่วมมือที่หลากหลายต่อบุคคล กลุ่ม องค์กร และเครือข่ายทุก พื้นที่ ทุกประเทศ เพื่อการบ่มเพาะทางจิตวิญญาณ ให้สามารถต้านทานสิ่ง เลวร้ายได้ สามารถรองรับสิ่ง ที่ดี งาม และ สามารถที่จะนาความดีงาม ไปเผยแพร่ ขยายผลต่อบุคคล ต่อชุมชนสังคมรอบด้าน

สัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย

เป็นรูปต้นโพธิ์ แสดงถึงโครงสร้างชีวิต มีจิตวิญญาณภายในที่สามารถเรียนรู้พัฒนาและเติบโต รูป อุณาโลม แสดงถึง ความรุ่งเรือง ความงอกงาม รูปตาราที่โคนต้นโพธิ์ แสดงถึงรากฐานทางปัญญา และสรรพศาสตร์ต่าง ๆ ที่จะเอื้อให้เกิดการเรียนรู้ ความเชื่อพื้นฐานของมหาวิทยาลัย สภาพชีวิตของประชาชนในประเทศที่กาลังพัฒนา ได้รับผลกระทบจากการวางแผนพัฒนาไปทั่วโลก ก็คือ ได้ สร้างความมั่งคั่งและสร้างคุณภาพชีวิตให้กั บบุคคลบางกลุ่ม เพียงประมาณร้อยละ 20 ของประชากรของประเทศ ช่องว่างที่ลิบลับระหว่างทรัพย์สินของคนที่ร่ารวยและยากจน ยิ่งถ่างกว้างขึ้น การทาลายวัตถุดิบ ทรัพยากร สิ่งแวดล้อม ของโลก อบายมุข สิ่งเสพติด อาชญากรรม อุบัติเหตุ หนี้สินของภาคประชาชน โรคภัยไข้เจ็บชนิดใหม่ ๆ ตลอดจนถึง ความแตกแยกของครอบครัว ได้ขยายตัวไปอย่างกว้างขวางในสังคมที่รัฐพยายามให้เกิดการพัฒนา ปรากฏการณ์ที่สาคัญมากอีกประการหนึ่งที่เป็นผลพวงจากการพัฒนาก็คือ การที่สังคมได้ถอยห่างจากหลัก ทางศาสนาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ การขาดความเข้มแข็ง การไม่มั่นคงในสภาวะทางจิตใจ ได้ผลักมนุษย์ให้ไปหนทางแห่ง อบาย และการไม่เพียงพอต่อการบริโภค ได้ส่งผลต่อปัญหาพฤติกรรมของมนุษย์ และส่งผลต่อปัญหาสังคมอย่างอื่นๆ ที่ ตามมาอย่างมากมาย เครื่องมือที่สาคัญที่สุดประการหนึ่งที่ทาให้การพัฒนาสังคมและประเทศชาติไม่ไ ด้เสริมสร้างให้เกิดคุณภาพ ชีวิตที่ดีแก่มวลมนุษยชาติ นั่นก็คือการศึกษา การวางระบบทางการศึกษาสมัยใหม่ ภายใต้การมุ่งสร้างความเจริญเติบโต ทางวัตถุ แนวคิดและแนวทางการจัดการศึกษาให้กับประชาชนถูกทาให้เชื่อว่าผู้สาเร็จการศึกษาในแต่ละระดับต้องได้ ไปรับใช้รัฐ และได้ไปรับใช้ระบบเศรษฐกิจ ที่ล้วนไปรับใช้กลุ่มทุนขนาดใหญ่ในแต่ละชาติทั้งสิ้น จึงจะถือว่ามีเกียรติและ มีศักดิ์ศรีในสังคม จากสถานการณ์และปัญหาการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ และผลกระทบดังกล่าว โครงการจึง มีความ เชื่ออย่างแน่นแฟ้นว่า 1) การพัฒนาสังคมและประเทศชาติ เพื่อให้เกิดความเจริญ รุ่งเรืองที่แท้นั้น ควรอยู่จะบนฐานแห่ง การ พัฒนาส่วนบุคคล ที่มีความดี ความงาม อันเป็นรากฐานคาสอนหลักของแต่ละศาสนาเป็นแก่นหลัก

2) มนุษย์ทุกคนควรจะได้รับโอกาสที่จะเรียนรู้ เพื่อการแสวงหาทางเลือก และการสร้างทางเลือก ใหม่ๆ ให้กับตนเอง โดยการมีองค์กรที่เชื่อมั่นในการศึกษาทางเลือกสนับสนุน ส่งเสริมอย่างเป็นระบบ 3) การศึกษาควรจะเปิดกว้างสาหรับให้มนุษย์ทุกคนได้เข้าถึง ผ่านช่องทางการสื่อสารทางไกลในทุกรูปแบบ รวมไปจนถึงการมีค่าใช้จ่ายในการศึกษาที่น้อยที่สุดสาหรับคนที่ขาดแคลน 4) หลั ก ทางศาสนาที่ แท้ ควรจะได้ ก ลั บเข้ า ส่ ง เสริ ม สนั บสนุ น ให้ มนุ ษ ย์ ไ ด้ มีโ อกาสเข้ า ถึ ง ค าสอน และ ตระหนักถึงคุณค่าที่มีอยู่ รวมถึงการอยู่ร่วมกันของแต่ละศาสนิก ภายใต้ความเคารพนับถือซึ่งกันและกัน 5) การศึกษาเพื่อสร้างผู้ประกอบการเพื่อสังคม ที่เชื่อมั่นว่าความมั่งคั่งของมนุษย์นั้น ควรจะอยู่ร่วมกันได้ กับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมไปจนถึงการเอื้ออานวย และการเอื้ออาทรต่อผู้คนที่ด้อยโอกาสมากกว่า บุคคลอื่นในสังคม วิสัยทัศน์ มหาวิทยาลัยโพธิศาสตร์ มุ่งเชื่อมโยงพื้นที่แห่งการเรียนรู้ทุกหนทุกแห่ง ร่วมกับเครือข่ายการศึกษา เพื่อการบ่ม เพาะจิตวิญญาณของมนุษย์ สู่ความเจริญรุ่งเรืองของชุมชนและสังคม บนฐานแห่งความดี ความงาม ตามหลักแห่งศา สนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น พันธกิจ เป็นสถาบันการศึกษาที่มีเป้าหมายที่เปิดดาเนินการเรียนการสอนทั้งในระดับประกาศนียบัตร ระดับปริญญา และระดับบัณฑิตศึกษา การค้นคว้าวิจัย การฝึกอบรมและการบริการทางวิชาการ เพื่อเชื่อมโยงการศึกษาอย่างต่อเนื่อง และเป็นระบบ โดยมีนวัตกรรมหลักสูตรที่ผสมผสานทั้งด้านการบริหาร การศึกษา เศรษฐกิจ สัง คม การเมือง การ ปกครอง วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม เพื่อพัฒนาผู้เรียนและเพื่อตอบสนองความต้องการในการพัฒนา ตนเอง การพัฒนาชุมชนและสังคม ให้พ้นจากความทุกข์ และการอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติและเป็นสุข ตลอดถึงการเอื้อ ต่อสภาวะแวดล้อมและธรรมชาติของโลก วัตถุประสงค์ มหาวิทยาลัย มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาคนและสังคมที่มุ่งสู่ความเจริญรุ่งเรือง บนฐานแห่งความดี ความงาม ตามหลักแห่งศาสนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น ในรูปแบบของการจัดการศึกษา การฝึกอบรม การค้นคว้าวิจัยทั้งในหลักสูตรระยะสั้น ระดับ ปริญญา และระดับบัณฑิตศึกษา 2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบและแนวทางเลือกใหม่ๆ ในการพัฒนาคนและสังคม ที่เหมาะสมสอดคล้องกับ บริบทของสังคมสมัยใหม่ เพื่อให้เป็นมนุษย์ที่มีวุฒิภาวะ มีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้องทั้งของตนเอง และส่วนรวม มีความรู้สึกตระหนักในปัญหาของสังคม และรับผิดชอบร่วมกัน 3) เพื่อพัฒนาความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยสนับสนุนงานศึกษาค้นคว้าและงานวิจัย รวมทั้งการส่งเสริมให้ มีการแลกเปลี่ยนความรู้ ทัศนะ และความเห็นในหมู่นักวิชาการ และผู้สนใจใฝ่รู้โดยทั่วไป 4) เพื่อให้บริการทางด้านวิชาการแก่ชุมชนโดยเน้นที่จะใช้ความรู้และเทคโนโลยี ที่มีอยู่ในแวดวงการศึกษา ให้ สามารถรับใช้และเป็นประโยชน์ต่อชุมชน สร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่ประเทศชาติได้โดยแท้จริง

5) เพื่อปลูกฝังให้นักศึกษามีการพัฒนาทางด้านคุณธรรมและจริยธรรมพร้อมทั้งเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ แนวความคิดและค่านิยมที่ส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในประชาคมโลก 6) เพื่อสร้างเครือข่ายการเรียนรู้ และสังคมแห่งการเรียนรู้ของชุมชนโลกที่หลากหลาย เพื่อการแก้ไ ขปัญหา และการพัฒนาสังคมร่วมกัน ภายใต้การเคารพในวัฒนธรรมที่แตกต่างกันของแต่ละท้องถิ่น กลุ่มเป้าหมายหลัก กลุ่มอาสาสมัครที่ทางานในชุมชน ผู้นากลุ่ม องค์กร และเครือข่ายที่มีกิจกรรมด้านการพัฒนาชุมชนและสังคม หรือที่เรียกว่าเป็นองค์กรชุมชน เช่น กลุ่มกองทุนหมู่บ้าน กลุ่มออมทรัพย์ กลุ่มสวัสดิการชุมชน กลุ่มสตรี กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้นาชุมชนที่เป็นทางการ เช่น กานัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่ ตลอดทั้งผู้นาที่ได้รับการเลือกตั้ง เช่น สมาชิก อบต. สมาชิกสภาเทศบาล เป็นต้น ผู้ประกอบการเพื่อสังคม ที่มีจิตสานึกในการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม ผู้นากลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่ม OTOP กลุ่มธุรกิจชุมชน ที่มีจุดมุ่งหมาย กลุ่มนักธุรกิจที่สนใจในการประกอบการเพื่อสังคม กลุ่มนักพัฒนาเอกชนที่ทางานในชุมชน (NGOs) กลุ่มเยาวชนที่สนใจการศึกษาทางเลือก ที่แตกต่างจากการศึกษากระแสหลัก ที่สามารถเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ ดี ที่ไม่ขึ้นกับการศึกษากระแสหลักในระบบรัฐ กลุ่มพระสงฆ์ และนักบวชในศาสนาหลัก ๆ เช่น คริสต์ศาสนา ศาสนามุสลิม ที่ต้องพัฒนาการศึกษาให้ประชาชน ที่มุ่งไปสู่การเข้าถึงหลักธรรมทางศาสนา และการมีคุณภาพชีวิตของครอบครัวและชุมชน ภาคีความร่วมมือสร้างพื้นที่การเรียนรู้ มหาวิทยาลัยมุ่งเชื่อมโยงเครือข่ายพื้นที่การเรียนรู้ ทั้งในประเทศสหรรัฐอเมริกา ประเทศไทยและประเทศใน อาเซียน ทั้งที่เป็นสถาบันการศึกษาทางเลือก มหาวิชชาลัย ศูนย์การเรียนรู้ต่าง ๆ และการสถาบันการศึกษาในชื่อต่าง ๆ ความร่วมมือเหล่านี้ เป็นความร่วมมือในการจัดการศึกษาเพื่อการพัฒนาการเป็นผู้ประกอบการเพื่อสังคม และ การกระตุ้นการเรียนรู้ด้านภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น ด้านสมุนไพร ด้านศิลปวัฒนธรรม ด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม และด้านการส่งเสริมความร่วมมือกันของชุมชนตามหลักแห่งศาสนธรรม นอกจากนี้ เครือข่ายพันธมิตรเหล่านี้ ยังได้ร่วมกันระดมทุนมาจัดตั้งมหาวิทยาลัย การสนับสนุนโดยการมาร่วม เป็นอาสาสมัครในการจัดการศึกษา เพื่อสนับสนุนการสร้างการเรียนรู้กับประชาชน เพื่อให้เกิดการการเรียนรู้ และ ปัญญาในการนาพาไปสู่ทางออกใหม่ๆ ของประเทศ มหาวิทยาลัยมีแนวคิดที่จะร่วมมือกับประชาชนในประเทศต่างๆ ที่ประสงค์จะจัดการศึกษาร่วมกันในรูปแบบ ของ Co - Learning Space For Cultivating Spirituality เพื่อการยกระดับการเรียนรู้ รวมถึงการค้า การลงทุน ร่วมกัน อย่ างกว้ างขวาง ในรูป แบบที่ ไม่ แสวงก าไรสู ง สุ ด แต่ ล ะพื้ นที่ส ามารถที่ จะจัด ตั้ง เป็น วิท ยาลัย เพื่อ การจั ด การศึกษาที่อิสระ โดยการใช้ปริญญาบัตรร่วมกันได้ เครือข่ายพันธมิตร ยังสามารถนาเสนอหลักสูตรใหม่ ๆ ในทุกระดับเพื่อยกระดับการเรียนรู้ร่วมกันด้วย เพื่อให้ เกิดประโยชน์ต่อผู้เรียนอย่างกว้างขวาง โดยไม่ติดพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง

หลักสูตรทางการศึกษา หลักสูตรของมหาวิทยาลัยโพธิศาสตร์ มุ่งที่จะสร้างให้เกิดความดี ความงาม และความเจริญรุ่งเรือง ตามแนว แห่งศาสนธรรมของทุกศาสนา และตามหลักของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ รัชกาลที่ ๙ ในขณะเดียวกัน ผู้เข้ามาศึกษา ต้องสามารถที่จะเป็นผู้ประกอบการ ที่เน้นการประกอบการเพื่อสังคม เพื่อให้สามารถ เลี้ยงชีวิตตนเองและครอบครัว เมื่อบุคคลเข้าถึงความดีงาม มีความสามารถในการพึ่งพาตนเองด้วยสัมมาชีพ จากนั้นจึงจะสร้างชุมชนให้เป็น ชุมชนน่าอยู่ ความสุขของคนต้องอยู่ในสังคมที่เป็นสุขร่วมกัน การจัดการศึกษาเช่นนี้ จะแตกต่างจากสถาบันการศึกษาอุดมศึกษากระแสหลักทั่วไป ที่เน้นการให้คนเข้าเรียน เพื่อไปเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือการเป็นลูกจ้างภาคเอกชน และในที่สุดก็จะตกงาน เลือกงาน และขาดการพัฒนา อุปนิสัยที่เหมาะสมในการประกอบอาชีพ ทั้งยกแปลกแยกจากบรรพบุรุษและสังคมดั้งเดิมของตนเอง ด้วยการอพยพเข้า มาอยู่อาศัยในตัวเมืองขนาดใหญ่ เพื่อการเป็นเพียงมนุษย์รับจ้าง การจัดการศึกษาดังกล่าวนี้ มหาวิทยาลัยไม่ได้มุ่งที่การแสวงหากาไรสูงสุดในการดาเนินงาน แต่ต้องประสงค์ให้ มีรายได้เพื่อให้สามารถดาเนินการได้ สาหรับหลักสูตรระดับปริญญาที่มหาวิทยาลัยจะเปิดการเรียนการสอนในปีแรกของการจัดการศึกษา (2017) ได้แก่หลักสูตร ดังนี้  หลักสูตร การประกอบการเพื่อสังคม  หลักสูตร การเปลี่ยนแปลงสังคม  หลักสูตร ศาสนศาสตร์  หลักสูตร เศรษฐกิจพอเพียง  หลักสูตร การพัฒนาสังคมตามหลักศาสนา  หลักสูตร สติปัฏฐาน และการเจริญสติ  หลักสูตร การปฏิบัติธรรมตามแนวทางของแต่ละศาสนา  หลักสูตร การบริหารองค์กรและสถาบันทางศาสนา  หลักสูตร ภูมิปัญญาท้องถิ่น การแพทย์พื้นบ้าน  หลักสูตร การประยุกต์ศาสตร์สมัยใหม่ตามแนวศาสนศาสตร์ ทุกหลักสูตร หากมิใช่เป็นหลักสูตรทางด้านปฏิบัติธรรมตามแนวของศาสนา จะต้องประกอบด้วยวิชากลุ่มวิชา พื้นฐานทางด้านการปฏิบัติธรรมตามแนวทางของแต่ละศาสนา กลุ่มวิชาด้านศาสนาเปรียบเทียบ กลุ่มและกลุ่มวิชา ปฏิบัติการจริงด้านการเป็นอาสาสมัครทางสังคม ทุกหลักสูตร เปิดดทั้งในระดับวุฒิบัตร อนุปริญญา ปริญญาตรี ประกาศนียบัตรชั้นสูง ปริญญาโท ปริญญา เอก และหลังปริญญาเอก

รูปแบบของการจัดการศึกษา มหาวิ ทยาลั ยโพธิ ศาสตร์ จดทะเบี ยนและมี สานัก งานที่ รัฐ ฟลอริ ดา ประเทศสหรั ฐอเมริก า มหาวิ ทยาลั ย ตระหนั ก ว่า มิไ ด้ เป็ น สถาบัน การศึ กษาของประเทศไทย และมิ ไ ด้จ ดทะเบีย นเพื่ อ การดาเนิน การในประเทศไทย การศึกษาในประเทศไทย จึงมีสถานะเป็นเพียง “ศูนย์บริการทางไกล” เท่านั้น การจัดการศึกษาของมหาวิทยาลัย เป็นการจัดการศึกษาผ่านระบบออนไลน์ในทุกรูปแบบ เช่น การเรียนรู้ผ่าน Social Media ผ่านสถานีโทรทัศน์ มภช.ทีวี YouTube Mail สถานีวิทยุชุมชน ตลอดจนการจัดให้นักศึกษามีการ พบกลุ่ม การสัม มนา การศึ กษาดู งาน การลงพื้ นที่ ศึก ษาปั ญ หาและพื้น ที่ต้ นแบบ การปฏิ บัติ การจริง หรือ การให้ นักศึกษาแต่ละคนมี Project Based หรือโครงงานการศึกษา และการสรุปรวบรวมองค์ความรู้เป็นเอกสาร มาตรฐานหลักของการจัดการศึกษา การสาเร็จการศึกษา เนื่องจากมหาวิทยาลัย ได้จัดการเรียนการสอนภายใต้เครือข่ายความร่วมมือ มิใช่การสร้างอานาจที่ส่วนกลาง และเปิดโอกาสให้ทุกเครือข่ายสามารถพัฒนาหลักสูตรของตนเอง และบริหารการเรียนการสอนได้อย่างอิสระ แต่จะ หลักการและมาตรฐานสาคัญร่วมกัน ดังนี้ 1) แต่ละเครือข่ายที่ประสงค์จะเปิดหลักสูตร ให้นาเสนอหลักสูตรต่อคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย โดย มีรายละเอียดเกี่ยวกับหลักสูตร เช่น ชื่อหลักสูตร ชื่อปริญญา วัตถุประสงค์ ระดับ การศึกษา จานวนรายวิชา และ หน่วยกิต รายชื่อผู้สอน การวัดและประเมินผล คุณภาพของนักศึกษา 2) หลักสูตรในทุกระดับจะประกอบด้วยการเรียนรู้ใน 3 แบบ คือ เรียนรู้จักตนและการพัฒนาตน รู้จักชุมชน ของตนเอง เรียนรู้หลักการทางศาสนา เรียนตามรายวิชาเอก และเรียนรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติงานตามโครงงาน โดยจะมี น้าหนักการเรียนมากน้อยกันไปตามแต่ละระดับการศึกษา 3) ระบบการศึกษา ในระดับปริญญาตรี ใช้เวลาเรียนตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป โดยให้สามารถเทียบโอนความรู้จาก ประสบการณ์หรือความรู้ตามอัธยาศัยของนักศึกษา ในระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ให้ใช้เวลาในการเข้าศึกษา ไม่น้อยกว่า 1 ปี โดยการเรียนจะเป็นการค้นคว้าวิจัย เป็นด้านหลัก 4) การเรียนรู้ในทุกระดับ จะต้องเป็นการเรียนรู้เชิงปฏิบัติ และการเรียนรู้ในรูปของ Project Based เท่านั้น 5) มาตรฐานการสาเร็จการศึกษาในระดับอนุปริญ ญาบัตร ระดับปริญ ญาตรี และระดับประกาศนียบัตร บัณฑิต จะประกอบด้วย การเจริญงอกงามภายในตนเองตามหลักแห่งศาสนธรรมและมงคลแห่งชีวิต การมีจิตอาสา รับใช้ ความสาเร็จในการประกอบสัมมาชีพ และการประยุกต์ เผยแพร่ ขยายผลความสาเร็จในสัมมาชีพสู่สังคม และ การร่วมขับเคลื่อนพัฒนาสังคม 6) นักศึกษาที่สาเร็จการศึกษาจะมีเอกสารที่เป็นข้อเขียนตามผลงานที่ศึกษา 7) มาตรฐานสาหรับปริญญาโท และปริญญาเอก คือผลงานวิจัยที่มีความลุ่มลึกตามระดับของปริญญา ระยะเวลาการศึกษาในระบบทวิภาค หลักสูตรปริญญาตรี 1) หลักสูตร 4 ปี สามารถเทียบโอนจากการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยได้ และเป็นหลักสูตรศึกษาค้นคว้า และการถอดองค์ความรู้จากประสบการณ์ สามารถสาเร็จการศึกษาภายใน 1 ปี และ การนาเสนอข้อมูลโดยการใช้คาไม่น้อยกว่า 2,000 คา

หลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา 1) หลักสูตรปริญญาโท เป็นโปรแกรมค้นคว้าวิจัย ให้ใช้เวลาศึกษาไม่เกิน 2 ปีการศึกษา สามารถเทียบโอนจาก การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และสาเร็จการศึกษาได้ภายใน 1 ปี และการ นาเสนอข้อมูลโดยการใช้คาไม่น้อยกว่า 4,000 คา 2) หลักสูตรปริญญาเอก เป็นโปรแกรมค้นคว้าวิจัย การพัฒนารูปแบบ หรือการสร้างองค์ความรู้ใหม่ สามารถ เทียบโอนจากการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ สาเร็จการศึกษาได้ภายใน 1 ปี และการนาเสนอข้อมูลโดยการ ใช้คาไม่น้อยกว่า 6,000 คา รูปแบบการศึกษา การวัดผล การประเมินผล การสาเร็จการศึกษา รูปแบบการศึกษา มหาวิทยาลัยโพธิศาสตร์ จัดบริการการศึกษาทางไกล และเป็นการจัดการศึกษาให้ผู้ศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเอง ภายใต้การให้คาปรึกษาของคณาจารย์ของสถาบัน เพื่อให้รูปแบบและการเรียนรู้ มีความหลากหลาย ตามบริบทของ สังคมปัจจุบัน และตามบริบทของท้องถิ่นนั้น ๆ คือ 1) การศึกษาด้วยตนเอง ชั้นเรียนที่มีเนื้อหาบรรยายจะได้รับการจัดส่งเป็นเนื้อหาที่เรียนด้วยตนเองพร้อมกับ บทแนะนา นักเรียนสามารถศึกษาวิชาที่มีลักษณะนี้ได้ด้วยตัวเองผ่านวัสดุหลายประเภทเช่น หนังสือเรียนที่พิมพ์พิมพ์ ดาวน์โหลดและบันทึกการบรรยาย วิชาพื้นฐานส่วนใหญ่มีการศึกษาด้วยตนเอง นักเรียนต้องศึกษาเอกสารที่ได้รับ มอบหมายให้สมบูรณ์และท้าทายการสอบ ในขณะมีคาถามพวกเขาสามารถฝากข้อความไว้ให้ผู้ดูแลระบบชั้นเรียนและ เว็บบอร์ดเพื่อกลับไปหาพวกเขา 2) การโต้ตอบ ชั้นเรียนที่ต้องการปฏิสัมพันธ์แบบทันทีเช่นการสัมมนาจะอยู่ในรูปแบบของการประชุมจริงใน ห้องกายภาพหรือในรูปแบบเสมือนที่ผู้ดูแลและผู้เข้าร่วมสามารถแบ่งปันข้อมูลได้ทันที ห้องเรียนเสมือนที่เลือก เช่น www.มภช.tv YOUTUBE 3) การสาธิตและการปฏิบัติ การเรียนนี้ใช้กับชั้นเรียนที่กาหนดให้นักเรียนต้องเข้าชั้นเรียนด้วยตัวเองเนื่องจาก การมีอยู่เป็นสิ่งสาคัญเช่นห้องปฏิบัติการ สถานที่ตั้งของการปฏิบัติจะจัดเตรียมไว้ให้นักเรียนเพื่อการเข้าถึงที่สะดวก ที่สุดในประเทศของตนเอง (ถ้าเป็นไปได้) 4) โครงการหรืองานวิจัย นักศึกษาระบุโครงงาน และการฝึกปฏิบัติตามโครงงาน จาเป็นต้องปรึกษาที่ปรึกษา ของพวกเขาผ่านห้องสนทนา VDO เพื่อบรรลุผลงาน การติดตามผลงานของอาจารย์ที่ปรึกษามีความจาเป็น 5) นักศึกษาแต่ละท้องถิ่น แต่ละประเทศ สามารถที่จัดพบปะในกลุ่มการศึกษาของตนเอง รวมทั้งการนัด หมายอาจารย์ผู้สอน อาจารย์ที่ปรึกษา ผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ ปราชญ์ มาให้ความรู้และการให้คาแนะนาอื่น ๆ 6) การศึกษาดูงานพื้นที่ต้นแบบ เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์และองค์ความรู้ของนักศึกษา ปริญญากิตติมศักดิ์ การมอบปริญญากิตติมศักดิ์ ทั้งในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก สามารถกระทาได้ ภายใต้ การพิจารณาของคณะกรรมการสภามหาวิทยาลัย ในกรณีที่บุคคลผู้นั้น มีคุณงามความดี และความรู้ความสามารถ เทียบเท่ากับผู้ที่ทรงคุณวุฒิที่ศึกษาในระดับนั้น ๆ ซึ่งต้องนาเสนอเอกสารประวัติชีวิตและผลงาน ตลอดถึงองค์ความรู้ สาคัญที่บุคคลผู้นั้นได้ตกลงนามาเป็นเอกสารเพื่อให้คณะกรรมการมหาวิทยาลัยพิจารณา

เสื้อครุย

เป็นชุดกามะหยี่สีดา แถบหน้าด้านจะเป็นสี ปลวกแขนสีฟ้า บอกวิทยะฐานะขีดเดียว เป็นระดับปริญญาตรี สองขีด ระดับปริญญาโท, สามขีด ระดับปริญญาเอก ทีมบริหาร จะเป็นสี่ขีด ศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัย จะเป็นห้าขีด ชุดผ้าคล้องคอ (ฮูด)เป็นแถบสีผ้าขลิบทอง ด้านหลังจะเป็นแถบเขียว การเรียกเก็บค่าเล่าเรียน ค่าบารุงการศึกษา และค่าธรรมเนียมต่างๆ การเรียกเก็บค่าเล่าเรียน ค่าบารุงการศึกษา และค่าธรรมเนียมต่างๆ จากนักศึกษา เป็นการบริจาคสนับสนุน กิจการของมหาวิทยาลัย ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ การจัดตั้งมหาวิทยาลัยโพธิศาสตร์ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงกาไรและเป็นการจัดการศึกษาทางไกลไปยังกลุ่มผุ้สนใจ เข้ารับการศึกษาไปทั่วโลก คาดว่าจะสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) ปัจเจกบุคคลและสังคมจะได้รับการพัฒนาสู่ความเจริญ รุ่ง เรือง บนฐานแห่ง ความดี ความงาม ตามหลัก แห่งศาสนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น 2) ได้ เกิ ดการศึ กษาเรียนรู้ ในรูป แบบแห่ ง การศึ กษาทางไกลในระดับ อุดมศึก ษา รวมถึ ง การฝึกอบรม การ ค้นคว้าวิจัยทั้งในหลักสูตรระยะสั้น หลักสูตรก่อนปริญญาตรี หลักสูตรปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก และหลัง ปริญญาเอก 3) มีรูปแบบรูปแบบและแนวทางเลือกใหม่ๆ ในการพัฒนาคนและสัง คม ที่เหมาะสมสอดคล้องกับบริบทของ สัง คมสมัยใหม่ เพื่อให้เป็นมนุษย์ที่มีวุฒิภาวะ มีประสบการณ์ในการแก้ไ ขปัญ หาได้อย่างถูกต้องทั้ง ของตนเองและ ส่วนรวม มีความรู้สึกตระหนักในปัญหาของสังคม และรับผิดชอบร่วมกัน 4) ความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น ได้รับการศึกษาค้นคว้าและงานวิจัย รวมทั้งการส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยน ความรู้ ทัศนะ และความเห็นในหมู่นักวิชาการ และผู้สนใจใฝ่รู้โดยทั่วไป 5) ชุมชนและสัง คมได้รับการบริการ โดยเน้ นที่จะใช้ ความรู้แ ละเทคโนโลยี ที่มี อยู่ในแวดวงการศึ กษา ให้ สามารถรับใช้และเป็นประโยชน์ต่อชุมชน สร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่ประเทศชาติได้โดยแท้จริง 6) ผู้เรียนจะงอกงามด้านคุณธรรมและจริยธรรมพร้อมทั้งเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่แนวความคิดและค่านิยมที่ ส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในประชาคมโลก

7) มีเครือข่ายการเรียนรู้ และสังคมแห่งการเรียนรู้ของชุมชนโลกที่หลากหลาย เพื่อการแก้ไขปัญหาและการ พัฒนาสังคมร่วมกัน ภายใต้การเคารพในวัฒนธรรมที่แตกต่างกันของแต่ละท้องถิ่น Academic Fees Academic Fees by Donation in USD$ Higher Diploma Associate Degree Bachelor Degree Master Degree Doctorate Degree Honorary Doctorate Degree Professorship Honorary Professorship

USD$ 2,000 USD$ 2,500 USD$ 5,000 USD$ 6,000 USD$ 7,000 USD$ 8,000 USD$ 9,000 USD$ 9,500

Student Records USD$ 85 (This is your student records to proof of your study and graduation) Acceptance Letter USD$ 85 (This is the university acceptance letter or admission letter) Graduation Letter USD$ 85 (This is the university graduation letter) Reference Letter by First Professor USD$ 85 Reference Letter by a Second Professor USD$ 85 Reference Letter by a Third Professor Letter of Appreciation USD$ 85 (This letter will be written by our professors or senior administrators to appreciate your contribution to the school) Lawyer Certification USD$ 350 Lawyer Notarization USD$ 500 (Please note that Apostille, Embassy Legalization, Thesis for Bachelor, Master and Doctorate Degrees cannot order online. If you need these items, please email us and we will let you know the detail of payment) Graduation Cap USD$ 150 Different Size Available Graduation Hood USD$ 150 Graduation Gown (Graduation Robe) USD$ 500

12 Credit System and Grading Most classes at BOU require three credits. A class with one credit expects students to devote approximately 15 hours of their time to the study. They can start from provided materials and make their own additional research to complete assignment(s). The aims of study at different degree level control the assessment of accomplishment: • Bachelor degree – a student must demonstrate their understanding of existing knowledge or findings and express their own opinion towards them. • Master degree – a student must use the existing knowledge or findings as a base to test their opinion or assumption if it is acceptable. • Doctorate degree – a student must contribute new knowledge or finding to the world. Assessment system at BOU is double-checked method. While examination can be done through online device with invigilation, BOU reserves the right to ask students already passing the exam to attend oral examination in order to double-check their work.

Grading System at BOU is as follows: Grade Best/Next Point Definition: A 10% 4.0 outstanding performance with only minor errors B+ 25% 3.5 above the average standard but with some errors B 30% 3.0 generally sound work with a number of notable errors C+ 25% 2.5 fair but with significant shortcomings C 10% 2.0 performance meets the minimum criteria FX F Fail – some more work required before the credit can be awarded F F Fail – considerable further work is required Transfer of Credits BOU accepts sufficient proof of knowledge students have belonged on any subject as a part of any program. Following forms are practiced for transferring: 1. Satisfactory assessment results from attending classes at other institutes. 2. Passing of challenging examination on a subject or group of subjects arranged by BOU 3. Training certificates on any subject arranged by organizations recognized by BOU Admission Applicants to BOU are required to submit adequate evidences to prove their personal and educational identity. Valid identification document with applicant photo issued by the government of their residence is a must before entering any program. Minimum qualification(s) for applied degrees are required as follows:

13 •Bachelor – a graduate from high school or equivalent with proficiency in language used in the program •Master – a graduate from Bachelor degree with proficiency in language used in the program •Doctorate – a graduate from Master degree or Bachelor degree with distinction and having proficiency in language used in the program •Non-degree – no requirement How to Donate For donation or joining us, please contact: bodhisastra@gmail.com

Contact Us BODHISASTRA UNIVERSITY A Co-Learning Space for Cultivating Spirituality Religious Independent Institute of Higher Education Corp. Number : N17000007038 JULY 07, 2017 Bodhisastra University 100 SE 2nd Street,Suite 2000 -#035 City:MIAMI State FLORIDA ZIP 33131 Telephone Number:+1(786)607-0711 Fax Number:+1(786)607-0711 Email: bodhisastra@gmail.com Website:www.bodhiasatra.university Mail Address: Prof. Dr. Sak Prasandee 4283 Express Lane Suite 109-504 Sarasota, FL 34238 USA For more details or to register your interest, please contact: Bodhisastra@gmail.com

Certified Copy

I certify the attached is a true and correct copy of the Articles of Incorporation of BODHISASTRA UNIVERSITY INC., a Florida corporation, filed electronically on July 07, 2017 effective July 20, 2017, as shown by the records of this office. I further certify that this is an electronically transmitted certificate authorized by section 15.16, Florida Statutes, and authenticated by the code noted below. The document number of this corporation is N17000007038.

Authentication Code: 170707111420-100301019001#1

Given under my hand and the Great Seal of the State of Florida at Tallahassee, the Capital, this the Seventh day of July, 2017

ที่ปรึกษาฝ่ายวางแผนยุทธศาสตร์ ศ.พลเอก ณ พล คชแก้ว The Executive Committee Chief of Executive Officer & Rector : Prof. Dr.Sak Prasandee (ศ.ดร.ศักดิ์ ประสานดี) รองอธิการบดี . 1. รศ.ดร.พรรษา พฤฒยางกูร รองอธิการบดี ฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ 2. รศ.ดร.พรเทพ จันทรนิภ รองอธิการบดี ฝ่ายวิชาการ 3. ดร.เอกภพ เหล่าลาภะ รองอธิการบดี ฝ่ายวางแผน 4. ดร.เกียรติ อึงรัตนากร รองอธิการบดี ฝ่ายประชาสัมพันธ์ 5. ผศ.ดร.กนกศักดิ์ ลิขิตไพรวัลย์ รองอธิการบดี ฝ่ายพัฒนาธุรกิจเพื่อสังคม 6. ศ.ดร.ทองหล่อ เที่ยงธรรม รองอธิการบดี ฝ่ายกิจการพิเศษ 7. รศ.ดร.ปรีดี โชติช่วง รองอธิการบดี ฝ่ายบริการวิชาการ 8. ศ.ดร.สุธรรม เลิศพงษ์ประสิทธิ์ รองอธิการบดี ฝ่ายพัฒนาคุณภาพ 9. ดร.พระมหากฤชวัฒน์ บุญเศษ รองอธิการบดี ฝ่ายการพัฒนา 10. ศ.ดร.ประภาส ฤกษ์พิบูลย์ รองอธิการบดี ฝ่ายธรรมาภิบาล 11. รศ.ดร.พ.ต.อ.วิรุตม์ สิริสวัสดิบุตร รองอธิการบดี ฝ่ายกฎหมาย 12. รศ.ดร.สยันต์ พรมดี รองอธิกากรบดี ฝ่ายการพัฒนาแพทย์พื้นบ้านสากล 13. ผศ.ดร.ณัฐวุฒิ วัชรกุลดิลก รองอธิการบดี ฝ่ายพุทธศาสตร์ 14. พระอาจารย์สังคม ธนปัญญา รองอธิการบดี ฝ่ายกิจกรรมศาสตร์พระราชา ผู้ช่วยอธิการบดี 1. ผศ.ดร.พระครูพิศาลธรรมจารี 2. ดร.จุรี ธรรมตระการ 3. อ.จันฑมาศ วงษ์เสรี 4 ดร.สาธุ อนุโมทนา 5. ดร.รตต.ปัญญวัฒน์ กระทุ่มเขตต์ 6. รศ.ดร.ขจิตร ชัยนิคม 7. ดร.ประยงค์ หนูบุญคง 8. ดร.มณเฑียร สอดเนื่อง 9. ดร.สารวย ผัดผล 10. ดร.ชานาญ พึ่งถิ่น 11. ดร.ยุทธ บุญเกษ 12. อ.ชุมพล ศรีสมบัติ 13. ดร.สุเนตรา ภาคเจริญ 14. ดร.สมเกียรติ ภู่ธรรมศิริ 15. ดร.สาโรจน์ ดาราสมาน 16. นางสาวสุพรรณี นพสิทธิพร

ผู้ช่วยอธิการบดี ประจาเมืองลอสแองเจลิส CA. USA ผู้ช่วยอธิการบดี ประจาสานักงานประธาน รัฐอริโซนา ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายบริหาร ผู้ช่วยอธิการบดี ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ผู้ช่วยอธิการบดี ประจาจังหวัดจันทบุรี ผู้ช่วยอธิการบดี ประจาจังหวัดอุดรธานี ผู้ช่วยอธิการบดี ประจาจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ช่วยอธิการบดี ประจาจังหวัดนครปฐม ผู้ช่วยอธิการบดี ประจาจังหวัดน่าน ผู้ช่วยอธิการบดี ประจาจังหวัดพังงา ผู้ช่วยอธิการบดี ประจาจังหวัดเลย ผู้ช่วยอธิการบดี ประจาเครือข่ายมุสลิมภาคเหนือ ผู้ช่วยอธิการบดี ประจาจังหวัดนนทบุรี ผู้ช่วยอธิการบดี ประจาจังหวัดสระแก้ว ผู้ช่วยอธิการบดี ประจาสื่อมวลชนสัมพันธ์ ผู้ช่วยอธิการบดี ฝ่ายสานักงานประธานมหาวิทยาลัย

BODHISASTRA UNIVERSITY, Florida, USA : A Co – Learning Space for Cultivating Spirituality (Not – for – Profit Corporation)

Religious Independent Education Institute

คู่มือการเขียนสารนิพนธ์ ปริญญาตรี Bodhisastra University, FL. USA.

(ตัวอย่างหน้าปก) (บรรทัดแรกห่างจากขอบกระดาษบน 2.5 นิ้ว)

(ชื่อเรื่อง)............ภาษาอังกฤษ........................................................................................ (ชื่อเรื่อง)............ภาษาไทย........................................................................................ (22 pt หนา)

ห่างจากขอบขวา 1.5 นิ ้ว ห่างจากขอบขวา 1.5 นิ ้ว

(ชี่อผูเ้ สนอ).....ภาษาอังกฤษ..................................................................... ห่างจากขอบขวา 1 นิ ้ว (ชี่อผูเ้ สนอ).....ภาษาไทย..................................................................... ห่างจากขอบขวา 1 นิ ้ว (22 pt หนา)

พืน้ เขียว ตัวทอง

This Thesis is Partial Fulfillment of the ………… Degree of …………...(…………………..) Bodhisastra University, FL. USA. Academic Year ……. (18 pt บาง)

ห่างจากขอบล่าง 1.5 นิ้ว 1

(ตัวอย่างปกในสารนิพนธ์) (บรรทัดแรกห่างจากขอบกระดาษบน 2.5 นิ้ว) (ตัวอย่างหน้าปกสารนิพนธ์) (บรรทัดแรกห่างจากขอบกระดาษบน 2.5 นิ้ว)

ห่างจากขอบขวา 1.5 นิ ้ว ห่างจากขอบขวา 1.5 นิ ้ว

This Thesis is Partial Fulfillment of the ………… Degree of …………...(…………………..) Bodhisastra University, FL. USA. Academic Year ……. (18 pt บาง)

ห่างจากขอบล่าง 1.5 นิ้ว ตัวอย่างขอบสันปก

(ชื่อเรื่ อง) ................................................ (ชื่อ นามสกุล) .......................... (พ.ศ).........

โลโก้ ให้ หา่ งจากขอบบน 1 นิ ้ว

ข้ อความให้ หา่ งจากขอบล่าง 1 นิ ้ว

ขนาดของตัวอักษรให้แปรไปตามความกว้างของสันปก อย่างน้อยให้ใช้ ตัว 18 pt หนา 3

(ตัวอย่างหน้ าอนุมตั ิ ) หัวข้อสารนิพนธ์ ชื่อและนามสกุล วิชาเอก หลักสูตร อาจารย์ทป่ี รึกษา

…………………………………………………….. ……………………………………………………… Bachelor of Philosophy การประกอบการสังคม .............................................................................

สารนิพนธ์น้ี ได้รบั ความเห็นชอบให้เป็ นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตร ………………… เมือ่ วันที่ ......... เดือน ................. พ.ศ. ............... (วันทีเ่ ข้าสอบและผ่าน) คณะกรรมการสอบสารนิพนธ์ ....................................................................... (...................................................) ....................................................................... (...................................................) ....................................................................... (...................................................) ....................................................................... (...................................................) ....................................................................... (...................................................)

ประธานกรรมการ กรรมการ กรรมการ กรรมการ กรรมการ

(ตัวอย่างหน้ ากิ ตติ กรรมประกาศ) กิ ตติ กรรมประกาศ (20 pt หนา) (ตัวพืน้ ขนาด 16 บาง ตลอดทัง้ เล่ม) การทาสารนิพนธ์ฉบับนี้ สาเร็จลุล่วงได้ดว้ ยความกรุณาอย่างจาก ...................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ขอขอบคุณ ..................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................... (ชื่อ นามสกุล) ............................. (วันทีส่ อบ) .......................

(ตัวอย่างสารบัญ) สารบัญ (20 pt หนา) หน้า บทที่ 1 ชีวิตและการเรียนรู้ .................................................................................................. 9 บทที่ 2 คุณค่าของชีวิต.......................................................................................................... 12 บทที่ 3 ชุมชนศึกษา................................................................................................................ 15 บทที่ 4 การดาเนิ นการงานตามโครงการประกอบการสังคม................................................. 19 บทที่ 5 สรุป และข้อเสนอแนะ.................................................................................................. 21

บทที่ 1 ชีวิตและการเรียนรู้ 1.1 ชีวิตและคุณค่าต่อสังคม (แนวการเขียน) สรุปคุณค่าของชีวติ ของท่านไม่เกิน 1 หน้ากระดาษ เนื่อหาประกอบด้วย การต่อสู้ ความมุ่งมันฟั ่ นฝ่ า ของท่าน ความใฝ่ ฝัน ปณิธาน คติพจน์ / แนวคิดหลักประจาใจ ความพยายามในการประกอบอาชีพ การเลีย้ งดู ครอบครัว การดูแลชุมชนและสังคม ความสาเร็จของการทางานเพื่อสังคม ยกตัวอย่างหรือเน้นทีง่ านทีโ่ ดดเด่นเป็ น รูปธรรมทีส่ ุด 1 งาน/กิจกรรม ควรจะจบบรรทัดสุดท้ายด้วยข้อคิดสาคัญ หรือการขนานนามทีไ่ ด้รบั การเรียกขาน หรือความมุง่ มันฟั ่ นฝ่ าไปในอนาคต 1.2 ประวัติชีวิตตัง้ แต่เกิ ดจนถึงปัจจุบนั (แนวการเขียน) เขียนถึงชีวติ ตัง้ แต่เกิดมาว่าเกิดทีไ่ หน ครอบครัวเป็ นอย่างไร ฐานะของครอบครัวแรกเกิดเป็ นอย่ างไร สภาพแวดล้อมรอบๆ ตัวเป็ นอย่างไร ประกอบอาชีพอย่างไร เติบโตมาอย่างไร ได้รบั การเลีย้ งดูอย่างไร ชีวติ ในวัยเด็กเป็ นอย่างไร ได้รบั การศึกษาเรียนรู้ เลีย้ งดูอย่างไร สภาพแวดล้อมในวัยเยาว์ ชีวติ ในวัยรุน่ เป็ นอย่างไร ได้รบั การศึกษาเรียนรูอ้ ย่างไร ได้ออกไปใช้ชวี วิ ยั รุน่ อย่างไร ชีวติ ในวัยกลางคน (หรือวัยมีครอบครัว) เป็ นอย่างไร ได้รบั การเรียนรูอ้ ย่างไร ประสบการณ์ทเ่ี กิดขึน้ เหตุการณ์สาคัญๆ ชีวติ ในปั จจุบนั เป็ นอย่างไร การดูแล การดาเนินชีวติ และสภาพของครอบครัว การเปลีย่ นแปลงในชีวติ ของท่านครัง้ สาคัญ เกิดขึน้ เมือ่ ไร เป็ นอย่างไร ส่งผลต่อชีวติ ของท่านอย่างไร 1.3 การศึกษาและการเรียนรู้ (แนวการเขียน) ได้รบั การศึกษาอบรมอย่างไร ทัง้ ในระบบการศึกษาปกติของรัฐ จบชัน้ ไหน ทีไ่ หน เมือ่ ไร การอบรมทีส่ าคัญทีป่ ระทับใจ เรือ่ งอะไร ทีไ่ หน เมือ่ ไร (เท่าทีพ่ อจาได้) และข้อคิดสาคัญทีไ่ ด้จากการ อบรมดังกล่าวนัน้ การส่งผลต่อความคิดและการดาเนินชีวติ ของท่าน มีหรือไม่ อย่างไร การศึกษาดูงานทีส่ าคัญทีป่ ระทับใจ เรือ่ งอะไร ทีไ่ หน เมื่อไร (เท่าทีพ่ อจาได้) และข้อ คิดสาคัญทีไ่ ด้ จากการอบรมดังกล่าวนัน้ การส่งผลต่อความคิดและการดาเนินชีวติ ของท่าน มีหรือไม่ อย่างไร การเรียนรูจ้ ากชีวติ หรือมหาวิชชาลัยชีวติ ของท่าน นอกระบบการศึกษา หรือเรียนรูด้ ว้ ยตัวเอง ท่าน เรียนรูอ้ ะไรบ้าง เป็ นอย่างไร หรือบุคคลต้นแบบหรือบุคคลทีเ่ ป็ นแรงบันดาลใจ ให้เกิดความใฝ่ ฝันมุ่งมันในการ ่ ทางาน 7

1.4 ผลงานและคุณค่าต่อสังคม (แนวการเขียน) 1.4.1 ด้านการพัฒนาคุณภาพชี วิต คือการดูแลเอาใจใส่ชวี ติ ร่างกายของท่าน ท่านมีแนวปฏิบตั อิ ย่างไร ท่านดูแลครอบครัวหรือคนรอบ ข้างให้เอาใจใส่รา่ งกายและชีวติ ของตนเองอย่างไร รวมถึงการปฏิบตั ธิ รรม การดารงคุณธรรมจริยธรรมในการใช้ ชีวติ ท่านทาอย่างไร มีวธิ กี ารอย่างไร การทาบุญสุนทานอย่างไรบ้าง ทีท่ าให้ท่านชีวติ ของท่านเป็ นมงคล หลักคิด ในการใช้ชวี ติ ระบุผลงานสาคัญ หรือรางวัลทีไ่ ด้รบั 1.4.2 ด้านการพัฒนาอาชีพ ท่านประกอบอาชีพอะไรบ้าง เฉพาะทีส่ าคัญโดดเด่น เป็ นผูร้ เิ ริม่ ให้เกิดกิจกรรม หรืออาชีพใน ปั จจุบนั ของท่าน ท่านมีความสามารถในการประกอบอาชีพมาได้อย่างไร เรียนมาจากไหน บอกเล่าขัน้ ตอนของ การประกอบอาชีพนัน้ ๆ ของท่านทีส่ าคัญ เช่นถ้าท่านบอกว่าประกอบอาชีพปรุงตัวยาสมุนไพร ก็ให้อธิบายถึง วิธกี ารปรุงตัวยาสมุนไพร ถ้าท่านบอกว่าค้าขายข้าวแกง ให้บอกขัน้ ตอนของการทาข้าวแกง ปั ญหาอุปสรรคทีพ่ บ และแนวทางการแก้ไขปั ญหาทีเ่ กิดขึน้ ท่านสามารถผ่านอุปสรรคนัน้ มาได้ อย่างไร ข้อคิดสาคัญของการประกอบอาชีพดังกล่าว ระบุผลงานสาคัญ หรือรางวัลทีไ่ ด้รบั 1.4.3 ด้านการพัฒนาชุมชนและสังคม ท่านได้มบี ทบาทอย่างไรในการทางานพัฒนาชุมชนและสังคม หรือบทบาทในการเป็ นผูน้ าชุมชน หรือบทบาทในการเป็ นจิตอาสา ให้ระบุเป็ นข้อ ๆ เป็ นเรือ่ ง ๆ เป็ นแต่ละหน้าที่ แต่ละเรือ่ งนัน้ ท่านทามาเมื่อไร ทาอย่างไร ทาแบบไหน ตาแหน่งอะไร ให้บอกถึงกิจกรรมหรือหน้าที่ และความรับผิดชอบในงานนัน้ ๆ ระบุปัญหาอุปสรรค และการแก้ไขปั ญหา ระบุถงึ ระบุผลงานสาคัญ หรือรางวัล ทีไ่ ด้รบั เช่น หากท่านบอกว่าเป็ นประธานกลุ่มออมทรัพย์ ก็ตอ้ งบอกเล่าถึงกลุ่มออมทรัพย์ทท่ี ่านเป็ นประธาน ว่ามีกจิ กรรมอะไร มีประโยชน์ต่อชุมชนอย่างไร สรุปข้อคิดสาคัญเกีย่ วกับผลงานของท่านเอง คุณต่าของท่านทีม่ ตี ่อชุมชนและสังคม จินตนาการ ความใฝ่ ฝัน และความมุง่ มันของท่ ่ านในอนาคต มุมมองของเราต่อการมีชวี ติ และสังคม ความเป็ นคนมีจติ อาสา

บทที่ 2 คุณค่าของชีวิต นาเสนอเกีย่ วกับ การทางานให้สงั คม การมีจติ อาสา การทาบุญ การปฏิบตั ธิ รรม การได้รบั รางวัลต่างๆ การติดเชิงบวก การเจริญสติ ท่านได้มบี ทบาทอย่างไรในการทางานพัฒนาชุมชนและสังคม หรือบทบาทในการเป็ นผูน้ าชุมชน หรือบทบาทในการเป็ นจิตอาสา ให้ระบุเป็ นข้อ ๆ เป็ นเรือ่ ง ๆ เป็ นแต่ละหน้าที่ แต่ละเรือ่ งนัน้ ท่านทามาเมื่อไร ทาอย่างไร ทาแบบไหน ตาแหน่งอะไร ให้บอกถึงกิจกรรมหรือหน้าที่ และความรับผิดชอบในงานนัน้ ๆ ระบุปัญหาอุปสรรค และการแก้ไขปั ญหา ระบุถงึ ระบุผลงานสาคัญ หรือรางวัล ทีไ่ ด้รบั เช่น หากท่านบอกว่าเป็ นประธานกลุ่มออมทรัพย์ ก็ตอ้ งบอกเล่าถึงกลุ่มออมทรัพย์ทท่ี ่านเป็ นประธาน ว่ามีกจิ กรรมอะไร มีประโยชน์ต่อชุมชนอย่างไร สรุปข้อคิดสาคัญเกีย่ วกับผลงานของท่านเอง คุณต่าของท่านทีม่ ตี ่อชุมชนและสังคม จินตนาการ ความใฝ่ ฝัน และความมุง่ มันของท่ ่ านในอนาคต มุมมองของเราต่อการมีชวี ติ และสังคม ความเป็ นคนมีจติ อาสา

บทที่ 3 การศึกษาชุมชน นศ.บางท่านอยูใ่ นชุมชนเมืองขนาดใหญ่ อาจจะไม่สามารถตอบคาถามนี้ได้ชดั เจน จึงขอให้ตอบเท่าทีจ่ ะตอบได้ 3.1 ประวัติศาสตร์และความเป็ นมาของชุมชน ชุมชนของนักศึกษา หรือในพืน้ ทีท่ น่ี กั ศึกษาทาโครงการประกอบการสังคม มีประวัตศิ าสตร์ ความ เป็ นอย่างไร เริม่ ก่อตัง้ เมือ่ ไร มีพฒ ั นาการทีส่ าคัญมาอย่างไร 3.2 ข้อมูลสาคัญของชุมชน ทัง้ ด้านประชากร เศรษฐกิ จ สังคม การเมือง และโครงสร้างพื้นฐาน ข้อมูลสาคัญ ๆ ของชุมชน เช่น จานวนประชากร ครัวเรือน ชาย หญิง คนชรา เด็ก การเจ็บป่ วย อาชีพ การทามาหากิน สภาพของสังคม ความเชื่อ การปกครอง ผูน้ าชุมชน รายชื่อคนทีส่ าคัญเกีย่ วกับการปกครอบง โครงสร้างพืน้ ฐานคืออาคารสิง่ ก่อสร้างสาคัญ สิง่ ทีเ่ ป็ นสาธารณูปโภค และสาธารณูปการ 3.3 วัฒนธรรมและประเพณี สาคัญของชุมชน วัฒนธรรมและประเพณีทส่ี าคัญภายในชุมชน อธิบายความโดยละเอียด ในกรณีทเ่ี ป็ นชุมชนตัง้ ใหม่ เรือ่ งราวของการก่อตัง้ ชุมชน การรวมกลุ่ม การติดต่อสัมพันธ์ระหว่างคน ในชุมชน 3.4 ทุนทางสังคม ทุนทางสังคมทีส่ าคัญ ๆ มีอะไรบ้าง ประเภทที่เป็ นวัตถุ เป็ นองค์กร เป็ นสิง่ ก่อสร้าง เป็ นสิง่ แวดล้อม ทางธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติ องค์ความรูเ้ ฉพาะชุมชน หรือองค์ความรูข้ องบุคคลทีอ่ ยูใ่ นชุมชน เป็ นบุคคล เป็ นความเชื่อ อธิบายแต่ละข้อมาโดยละเอียด ท่านอาจจจะใช้การเขียนแผนทีค่ นดี เพื่อยกย่องหรือการให้คุณค่าของบุคคลในชุมชน สรุปข้อคิดของท่าน

3.5 เครือข่ายองค์กรชุมชนที่มีอยู่ในชุมชน ในชุมชนมีเครือข่าย องค์กรชุมชน กลุ่มสัมพันธ์ NGOs ในพืน้ ที่ อะไรบ้าง แต่ละเครือข่ายไป เชื่อมโยงกันในแต่ละระดับ เช่น ระดับตาบล อาเภอ จังหวัด หรือระดับชาติอย่างไร วิเคราะห์โครงสร้าง ความสัมพันธ์ทงั ้ ในเชิงกว้างและเชิงลึก แต่ละเครือข่ายมีโครงสร้างการทางาน มีการจัดองค์กร มีบทบาทหน้าที่ มีกจิ กรรมอะไรบ้าง แต่ละ กิจกรรมทาอย่างไร มีการทางานเชื่อมโยงกันระหว่างองค์กร เครือ่ ข่ายต่างๆ หรือไม่ อย่างไร ผลของแต่ละ กิจกรรมเป็ นอย่างไร มีประโยชน์อย่างไรต่อชุมชน มีปัญหาอุปสรรคในการทางานอย่างไร 2.7 กองทุนชุมชนและกลุ่ม องค์กรสวัสดิ การในชุมชน ในชุมชนมีกลุ่ม องค์กรทีท่ างานด้านสวัสดิการ และ/หรือมีกองทุนสวัสดิการด้วยหรือไม่ มีโครงสร้าง การทางาน มีการจัดองค์กร มีบทบาทหน้าที่ มีกจิ กรรมอะไรบ้าง แต่ละกิจกรรมทาอย่างไร ผลของแต่ละกิจกรรม เป็ นอย่างไร มีประโยชน์อย่างไรต่อชุมชน มีปัญหาอุปสรรคในการทางานอย่างไร 2.8 แผนที่ชุมชนและคาอธิ บาย ให้เขียนแผนทีช่ ุมชน (แผนทีเ่ ดินดินหรือแผนทีท่ ามือ) ทีร่ ะบุถงึ ผังของชุมชน ถนน ซอย บ้าน คลอง จุดทีส่ าคัญ สถานทีห่ รือบ้านคนทีส่ าคัญหรือคนทีเ่ ป็ นจุดสังเกตของชุมชน บ้านคนชายขอบ บ้านคนเจ็บป่ วยเรือ้ รัง คนชรา หรือบุคคลอื่น ๆ ระบุความสัมพันธ์ ระบุสถานทีม่ เี ป็ นปั ญหา เช่น การบุกรุกทีส่ าธารณะ โดยใช้หมายเลข กากับแล้วอธิบายให้ชดั เจน 2.9 ปัญหาสาคัญของชุมชน ปั ญหาทีส่ าคัญ ๆ ทีม่ อี ยูใ่ นชุมชน วิเคราะห์ภาพรวมและอธิบายสภาพของปั ญหา สาเหตุของปั ญหา รายละเอียดของปั ญหา เช่น ผลกระทบ ความรุนแรง ความเสียหาย และวิธกี ารแก้ไขปั ญห่าทีผ่ ่านมาก ทาอย่างไร ปั ญหาลดลงหรือไม่ มีแผนการรับมือกับปั ญหาในชุมชนหรือไม่ อย่างไร อะไรทีเ่ ป็ นปั ญหาทีส่ าคัญและเร่งด่วนที่ ต้องจัดการ ปั ญหาส่วนใดทีท่ ่านมองว่าจะนาความสามารถของตัวเองเข้าไปช่วยจัดการได้

บทที่ 4 โครงการประกอบการสังคม (หัวข้อ) ............................................................ เขียนตามแนวของ CIPP Model 4.1 สภาพของพืน้ ที่ หรือบริบท หรือสภาพแวดล้อมของโครงงาน 4.2 การเตรียมการในการดาเนินงาน 4.3 การดาเนินโครงการแต่ละขัน้ ตอนหรือแต่ละกิจกรรม ตัง้ แต่ตน้ จนจบหรือจนถึงปั จจุบนั หรืออธิบายกิจกรรม แต่ละกิจกรรมในโครงงาน 4.4 ผลการดาเนินงานเป็ นอย่างไร 4.5 ปั ญหาอุปสรรค และแนวทางแก้ไข

บทที่ 5 สรุป และเสนอแนะ 5.1 สรุปการดาเนิ นการงานตามโครงการประกอบการสังคม บรรยายสรุปถึงโครงการพอให้เข้าใจภาพรวมของการดาเนินโครงการ 5.2 สรุปผลที่ได้รบั จากการดาเนิ นงานตามโครงการประกอบการสังคม ให้นาเสนอตามวัตถุประสงค์ หรือประเด็นปั ญหา หรือขัน้ ตอนกิจกรรม แต่ละข้อว่าได้ผลเป็ นอย่างไร และให้อภิปรายผลการดาเนินการแต่ละข้อด้วย มีเหตุผลสนับสนุ น โต้แย้ง เห็นด้วยไม่เห็นด้วย ผลดี ผลเสียเป็ น ประการใด 5.3 ข้อเสนอแนะ 5.3.1 ข้อเสนอแนะต่อผูท้ จ่ี ะทาโครงการในรูปลักษณะเดียวกันนี้ ระบุเป็ นข้อ ๆ ........................................................................................................................ .................................................................................................................................................................. 5.3.2 ข้อเสนอแนะต่อผูท้ จ่ี ะสนับสนุ นหรือต่อองค์กร หน่ วยงานทีจ่ ะสนับสนุนโครงการ ระบุเป็ นข้อ ๆ ........................................................................................................................ .................................................................................................................................................................. 5.4 แนวคิ ดของนักศึกษาในการขยายผลโครงการเพื่อให้เกิ ดความยังยื ่ น ระบุเป็ นข้อ ๆ ........................................................................................................................ ..................................................................................................................................................................

คู่มือการเขียนวิทยานิพนธ์ ปริญญาโท รูปแบบ SEMINARY Master of Philosophy (Semi. M.P.) Bodhisastra University, FL. USA.

การเขียนแบบ Seminary Master Degree นี้ เป็ นข้อเสนอแนวทางการเขียนวิธที ส่ี อง นักศึกษายังสามารถนาเสนอ Master Degree แบบ 5 บทแบบเดิมได้ หากประสงค์จะเขียนเช่นนัน้ ไม่ตอ้ งเข้าปกแข็ง

(ตัวอย่างหน้าปก) (บรรทัดแรกห่างจากขอบกระดาษบน 2.5 นิ้ว)

ห่างจากขอบขวา 1.5 นิ ้ว ห่างจากขอบขวา 1.5 นิ ้ว

พืน้ เขียว ตัวทอง

This Thesis is Partial Fulfillment of the ………… Degree of …………...(…………………..) Bodhisastra University, FL. USA. Academic Year ……. (18 pt บาง)

หัวข้อวิทยานิพนธ์ ..(ต้องขึน้ ต้นด้วยปั จจัย) ....ปั จจัย........................................................................ ชื่อ นามสกุล ของนักศึกษา ..............................................................................................................

Bodhisastra University, Florida State, United State of America ปี ทจ่ี บการศึกษา .............................................................................................................................. 1. ความเป็ นมาและสาคัญของเรื่อง ให้อธิบายถึงความเป็ นมาของเรือ่ ง ข้อมูลสาคัญของเรือ่ งนี้ เป็ นตัวเลข สถิติ ความสาคัญของเรือ่ ง สาคัญอย่างไร มีผลกระทบอย่างไร ต่อชีวติ สังคม สิง่ แวดล้อม ความสนใจของท่าน ทาไมท่านมาสนใจหัวข้อนี้ ท่านเก็บข้อมูลจากทีใ่ ดบ้าง เพื่อมาอธิบายเรือ่ งราวในข้อ 2 (พึงเข้าใจว่า BOU สนใจจะให้ท่านอธิบายข้อมูล ทีเ่ ป็ นประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถของท่าน เป็ นด้านหลัก 2. ข้อมูล เรื่องราว กรณี ศึกษา ให้อธิบายเรือ่ งราว Story ข้อมูล ข้อเท็จจริง ผลงานของนักศึกษา กิจกรรมทีน่ กั ศึกษา หรือกรณีศกึ ษาที่ นักศึกษาไปศึกษาประกอบ ก่อนทีจ่ ะนาไปสู่ขอ้ สรุปในข้อที่ 3 ควรมีภาพประกอบ มีความยาวประมาณ 20 หน้า เขียนเป็ นแบบการเล่าเรือ่ ง ทีม่ ชี วี ติ ชีวา ไม่ใช่เป็ นข้อๆ หรือเป็ น พ.ศ.ได้รบั การแต่งตัง้ หรือผลงาน ข้อมูลหลัก ทีเ่ ป็ นประสบการณ์ของท่าน - ตามหัวข้อทีท่ ่านเสนอ ท่านเริม่ ทาตัง้ แต่เมือ่ ใด กระบวนการทามีขนั ้ ตอนอย่างไร อธิบายอย่างละเอียด ปั จจุบนั ผลงานเป็ นอย่างไร มีปัญหาอุปสรรคอะไรบ้าง - หรือตามหัวข้อทีท่ ่านเสนอ ท่านมีกจิ กรรมอะไรบ้าง อธิบายแต่ละกิจกรรมอย่างละเอียด หรือปั จจุบนั เป็ น อย่างไร มีปัญหาอุปสรรคอย่างไรบ้าง - และอาจจะมีบทเรียนทีน่ กั ศึกษาไปวิเคราะห์จากกรณีศกึ ษาอื่นๆ มาประกอบประสบการณ์และผลงาน ของนักศึกษาด้วย ให้อธิบายว่า ไปศึกษาจากทีไ่ หน และเรือ่ งราวของเขาเป็ นอย่างไร นาเสนอได้ไม่จากัด แต่ไม่ควรจะมากเกินไป นักศึกษาปริญญาโท ทีต่ ่อยอดจากปริญญาตรี สามารถทีจ่ ะนาโครงงานในปริญญาตรี มานาเสนอในบทที่ 2 อย่างละเอียดได้ รวมทัง้ การไปศึกษากรณีศกึ ษาเพิม่ เติมมาประกอบ นักศึกษาปริญญาโทพึงตระหนักว่า BOU สนใจการวิ เคราะห์ องค์ความรูข้ องนักศึกษา การถอดความรูจ้ าก การทางาน ประสบการณ์ของนักศึกษาเอง และควรต้องเป็ นผลงานทีป่ ระสบความสาเร็จแล้ว ไม่ประสงค์จะ

ให้ไปค้นหาจากค้นอื่น และเป็ นความสนใจเชิงคุณภาพเท่านัน้ ไม่สนับสนุนการศึกษาเชิงประมาณ เว้นแต่ ปริมาณทีส่ นับสนุนการเขียนเชิงคุณภาพ

3. สรุปผลการศึกษา เป็ นการตอบคาถามตามหัวข้อวิจยั หัวข้อวิจยั ตัง้ อย่างไร ให้ตอบตามนัน้ เช่น หัวข้อวิจยั เป็ นปั จจัยความสาเร็จ ก็ให้เขียนเป็ นปั จจัยความสาเร็จ มีกข่ี อ้ อะไรบ้าง ให้ระบุเป็ นข้อ ๆ 5 – 9 ข้อ พร้อมอธิบายและยกตัวอย่างประกอบ จากข้อ 2 ทีเ่ ขียนไว้ ต้องวิเคราะห็ให้ได้ว่า เป็ นปั จจัยแท้หรือปั จจัยเทียม เลือกมาตอบเฉพาะของแท้ ปั จจัยความเร็จ

ความสาเร็จของ ................................

มีขอ้ เสอนแนะอย่างไร จากการวิจยั เรือ่ งนี้

คู่มือการเขียนดุษฎี นิพนธ์ ปริญญาเอก รูปแบบ SEMINARY Doctor of Philosophy (Semi. Ph.D.) Bodhisastra University, FL. USA.

การเขียนแบบ Seminary Ph.D. นี้ เป็ นข้อเสนอแนวทางการเขียนวิธที ส่ี อง นักศึกษายังสามารถนาเสนอ Pure Doctoral Degree แบบ 5 บทแบบเดิมได้ หากประสงค์จะเขียนเช่นนัน้ ไม่ตอ้ งเข้าปกแข็ง

(ตัวอย่างหน้าปก) (บรรทัดแรกห่างจากขอบกระดาษบน 2.5 นิ้ว)

ห่างจากขอบขวา 1.5 นิ ้ว ห่างจากขอบขวา 1.5 นิ ้ว

พืน้ เขียว ตัวทอง

This Thesis is Partial Fulfillment of the ………… Degree of …………...(…………………..) Bodhisastra University, FL. USA. Academic Year ……. (18 pt บาง)

หัวข้อดุษฎีนิพนธ์ ..(ต้องขึน้ ต้นด้วยรูปแบบหรือนวัตกรรม) ......................................................................... ชื่อ นามสกุล ของนักศึกษา ..............................................................................................................

Bodhisastra University, Florida State, United State of America ปี ทจ่ี บการศึกษา .............................................................................................................................. 1. ความเป็ นมาและสาคัญของเรื่อง ให้อธิบายถึงความเป็ นมาของเรือ่ ง ข้อมูลสาคัญของเรือ่ งนี้ เป็ นตัวเลข สถิติ ความสาคัญของเรือ่ ง สาคัญอย่างไร มีผลกระทบอย่างไร ต่อชีวติ สังคม สิง่ แวดล้อม ความสนใจของท่าน ทาไมท่านมาสนใจหัวข้อนี้ ท่านเก็บข้อมูลจากทีใ่ ดบ้าง เพื่อมาอธิบายเรือ่ งราวในข้อ 2 (พึงเข้าใจว่า BOU สนใจจะให้ท่านอธิบายข้อมูล ทีเ่ ป็ นประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถของท่าน เป็ นด้านหลัก 2. ข้อมูล เรื่องราว กรณี ศึกษา ให้อธิบายเรือ่ งราว Story ข้อมูล ข้อเท็จจริง ผลงานของนักศึกษา กิจกรรมทีน่ กั ศึกษา หรือกรณีศกึ ษาที่ นักศึกษาไปศึกษาประกอบ ก่อนทีจ่ ะนาไปสู่ขอ้ สรุปในข้อที่ 3 ควรมีภาพประกอบ มีความยาวประมาณ 20 หน้า เขียนเป็ นแบบการเล่าเรือ่ ง ทีม่ ชี วี ติ ชีวา ไม่ใช่เป็ นข้อๆ หรือเป็ น พ.ศ.ได้รบั การแต่งตัง้ หรือผลงาน ข้อมูลหลัก ทีเ่ ป็ นประสบการณ์ของท่าน - ตามหัวข้อทีท่ ่านเสนอ ท่านเริม่ ทาตัง้ แต่เมือ่ ใด กระบวนการทามีขนั ้ ตอนอย่างไร อธิบายอย่างละเอียด ปั จจุบนั ผลงานเป็ นอย่างไร มีปัญหาอุปสรรคอะไรบ้าง - หรือตามหัวข้อทีท่ ่านเสนอ ท่านมีกจิ กรรมอะไรบ้าง อธิบายแต่ละกิจกรรมอย่างละเอียด หรือปั จจุบนั เป็ น อย่างไร มีปัญหาอุปสรรคอย่างไรบ้าง - และอาจจะมีบทเรียนทีน่ กั ศึกษาไปวิเคราะห์จากกรณีศกึ ษาอื่นๆ มาประกอบประสบการณ์และผลงาน ของนักศึกษาด้วย ให้อธิบายว่า ไปศึกษาจากทีไ่ หน และเรือ่ งราวของเขาเป็ นอย่างไร นาเสนอได้ไม่จากัด แต่ไม่ควรจะมากเกินไป นักศึกษาปริญญาเอก ทีต่ ่อยอดจากปริญญาโท สามารถทีจ่ ะนาโครงงานในปริญญาโท มานาเสนอในบทที่ 2 อย่างละเอียดได้ รวมทัง้ การไปศึกษากรณีศกึ ษาเพิม่ เติมมาประกอบ นักศึกษาปริญญาเอกพึงตระหนักว่า BOU สนใจการสังเคราะห์ องค์ความรูข้ องนักศึกษา การถอดความรู้ จากการทางาน ประสบการณ์ของนักศึกษาเอง และควรต้องเป็ นผลงานทีป่ ระสบความสาเร็จแล้ว ไม่

ประสงค์จะให้ไปค้นหาจากค้นอื่น และเป็ นความสนใจเชิงคุณภาพเท่านัน้ ไม่สนับสนุนการศึกษาเชิงประมาณ เว้นแต่ปริมาณทีส่ นับสนุนการเขียนเชิงคุณภาพ

3. สรุปผลการศึกษา เป็ นการตอบคาถามตามหัวข้อวิจยั หัวข้อวิจยั ตัง้ อย่างไร ให้ตอบตามนัน้ เช่น หัวข้อวิจยั รูปแบบการพัฒนากิจการขยะรีไซเคิล ก็ให้เขียน รูปแบบมีกข่ี อ้ อะไรบ้าง ให้ระบุเป็ นข้อ ๆ 5 – 9 ข้อ พร้อมอธิบายและยกตัวอย่างประกอบ จากข้อ 2 ทีเ่ ขียนไว้ ต้องวิเคราะห็ให้ได้ว่า เป็ นรูปแบบทีแ่ ท้จริงหรือไม่ รูปแบบ

รูปแบบ ................................

อธิบายแต่ละข้อ พร้อมข้อมูล หลักฐาน ข้อเท็จจริง มีขอ้ เสอนแนะอย่างไร จากการวิจยั เรือ่ งนี้