SCG Delight Magazine Nov-Dec 2011 by ar.scc.si

10/06 NOVEMBER - DECEMBER 2011 www.scg.co.th SCG Delight Magazine ปีที่ 10 ฉบับที่ 6 พฤศจิกายน - ธันวาคม 2554

ร่มเงาแห่งแรงบันดาลใจ

Cover Story

เรียงร้อยเพลงพระราชนิพนธ์ ไพเราะไม่มีวันเลือน

Go Around

พระราชไมตรีข้ามขอบฟ้า จากเจ้าพระยาสู่อิรวดี

The Journey

ติดตามสิทธิประโยชน์จากบัตรสมาชิก SCG Debenture Club ได้ ในเล่มกิจกรรม

ปรับปรุงหองน้ำ ปรับปรุงหองน้ำ

(เฉพาะเดือนกันยายน-ตุลาคมเทานั้น)

ตั้งแต 1 กันยายน - 31ตุลาคม 2554

Editor’s Note

รชตพร ปัทมะศิริ บรรณาธิการบริหาร

* SCG Delight พิมพ์บนกระดาษอาร์ตการ์ด 210 แกรม (ปก) และกระดาษอาร์ตด้าน 105 แกรม จาก SCG Paper

หลายครัง้ ทีพ่ น่ี อ้ งชาวไทยต้องประสบกับปัญหาน้อยใหญ่ทเ่ี ข้ามาทดสอบความอดทน ทดสอบ ความสมานสามัคคี อาจเจออุปสรรคระหว่างทางทีเ่ ข้ามาแผ้วพานบ้าง แต่เมือ่ ใดก็ตามทีท่ กุ คนได้ยนิ คำ�นี้ “เย็นศิระเพราะพระบริบาล” หนึง่ คำ�ดีๆ ทีไ่ ม่วา่ จะสัมผัสได้จากการอ่านหรือการสดับฟัง ก็จะรูส้ กึ ได้ถงึ ความเย็นใจ รูส้ กึ ปลอดภัยทุกครัง้ และเกิดพลังก้าวพ้นวิกฤติไปด้วยกัน ภายใต้รม่ เงาพระบารมีแห่ง พ่อหลวงของปวงชนชาวไทย SCG Delight ฉบับนี้ จัดทำ�ขึ้นในวาระพิเศษกว่าที่เคย เพราะวันที่ 5 ธันวาคม 2554 นี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา ทุกเส้นสายตัวอักษร ท่านผูอ้ า่ นจะได้ รับรูเ้ รือ่ งราวของ “พ่อหลวง” มากกว่าครัง้ ไหน เริม่ ต้นทีค่ อลัมน์ Focus ศาสตราจารย์คลินกิ นายแพทย์ ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ หัวหน้าคณะแพทย์ผถู้ วายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั มาถ่ายทอดความ ประทับใจในพระมหากรุณาธิคณ ุ ทีอ่ าจยังไม่มใี ครเคยรู้ จากนัน้ ย้อนอดีตกลับไปในปี พ.ศ. 2503 กับ คอลัมน์ The Journey เรือ่ งเล่าพระราชไมตรีครัง้ เสด็จฯ เยือนประเทศพม่าทีท่ รงฝากความทรงจำ�ดีๆ ไว้ในพระราชกรณียกิจอันงดงาม ด้วยความร่มเย็นใจภายใต้รม่ โพธิร์ ม่ ไทรบนผืนดินอันอุดมสมบูรณ์แห่งนี้ จะช่วยผลักดันให้ หัวใจไทยทุกดวงเข้มแข็ง ไม่หวัน่ หวาดต่อสิง่ ใด และยังแปรเปลีย่ นความรูส้ กึ นัน้ ให้เป็น “แรงบันดาลใจ” ขุมกำ�ลังสำ�คัญทีจ่ ะต่อยอดให้หวั ใจทุกดวงมีพลังในการสร้างสรรค์สง่ิ ดีตอ่ ไป และทัง้ หมดจะกลายเป็น ลูกโซ่แห่งการทำ�ความดี ลูกโซ่แห่งการแบ่งปัน ลูกโซ่ของการให้ ส่งต่อออกไปเรือ่ ยๆ ไม่มที ส่ี น้ิ สุด เพราะเราต่างมี “โซ่หวั ใจ” เส้นเดียวกัน โซ่ทค่ี ล้องหัวใจเราทุกคนยึดไว้ดว้ ยกัน ขออำ�นาจบารมี แห่งสิง่ ศักดิส์ ทิ ธิท์ ง้ั หลาย จงโปรดดลบันดาลให้ผถู้ อื หุน้ กูท้ กุ ท่านประสบแต่ความสุขในปลายปีมงคลนีค้ ะ่

เจ้าของ แผนกบริหารความสัมพันธ์หนุ้ กู ้ สำ�นักงานการเงิน บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำ�กัด (มหาชน) บรรณาธิการผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา ผดุงเดช อินทรลักษณ์ บรรณาธิการบริหาร รชตพร ปัทมะศิริ คณะบรรณาธิการ วิสัชนา ฉายประเสริฐ, สุกานดา สุนทิรารัตน์, สุทธินุช กาญจนะวณิชย์, อลิสา ด่านกลาง, พิมพกา ศรีฉัตราภิมุข, ภัณฑิรา ลาภาโรจน์กิจ, ภาวิณี ตะวันนาโชติ

กองบรรณาธิการ บรรณาธิการอำ�นวยการ ภัทราวรรณ พูลทวีเกียรติ ์ บรรณาธิการเล่ม ณัฐวีณ ์ โชติกลุ สิทธิ์

กองบรรณาธิการ สุภาณี เกศดายุรตั น์, กองทรัพย์ ชาตินาเสียว, ทัศนัย ขำ�ชื่น, สุทธิน ี ใจสมิทธ์ ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ ศิริธร พรศิวะกิจ ศิลปกรรม จตุพล เกสรสุคนธ์ อิมเมจไดเร็คเตอร์ สุภทั รา ศรีทองคำ� หัวหน้าช่างภาพ ชัยชนะ จารุวรรณากร ช่างภาพ สุรพล พวงศรี, จเร รัตนนันทเดช, ศักยะ บุญเสมอ, ถนอมพงศ์ ชัยชนะ รีทัช เอกฤทธิ์ โป๊ะคำ�, นรินทร์ มหัตธน ซับเอดิเตอร์และพิสจู น์อกั ษร จริญญา เมฆธรรม, ณัฐนันท์ ส่งแสงรัตน์ ธุรกิจสัมพันธ์ ณัชชา พัฒนะนุกิจ แทรฟฟิก เยาวลักษณ์ ทองพูนแก้ว โปรดักชั่น มานพันธ์ บุญประเสริฐ จัดทำ�โดย แผนกบริหารความสัมพันธ์หุ้นกู้ สำ�นักงานการเงิน บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำ�กัด (มหาชน) 1 ถนนปูนซิเมนต์ไทย บางซื่อ กรุงเทพฯ 10800 โทร. 0-2586-2112 โทรสาร 0-2586-4977 ออกแบบและพิมพ์โดย บริษทั อมรินทร์พริน้ ติง้ แอนด์พบั ลิชชิง่ จำ�กัด (มหาชน) โทร. 0-2422-9000 ต่อ 1200, 1213 ขอขอบคุณภาพประกอบคอลัมน์ จาก www.amarinphotobank.com หมายเหตุ : บทความ ทัศนะ และสถานที่ที่พิมพ์ในวารสาร SCG Delight เป็นความคิดเห็นและคำ�แนะนำ�ของผู้ประพันธ์ มิได้เกี่ยวข้องกับ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำ�กัด (มหาชน) แต่อย่างใด

CONTENTS

Vol. 10 No. 06 November - December 2011

01 Editor’s Note 06 SCG Spotlight

27 Focus

10 SCG Insight

การบริหารกลาง บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำ�กัด (มหาชน) รับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม

อาจารย์หมอนักกีฬา ผู้ให้ยิ่งชีวิต

34 Techno for Life 36 Better Pix

การถ่ายภาพโดยเล่นกับรูปทรง ที่ซ�้ำกันเป็นจังหวะ (Pattern)

40 Did You Know? 42 Exotic Thai

อ่างเก็บน�้ำกะทูน ทิวเขา พื้นฟ้า และผืนน�้ำ แห่งสวิตเซอร์แลนด์แดนใต้

16 Member’s Stage

พลอากาศเอก กำ�ธน สินธวานนท์ ทำ�ดีด้วยใจบริสุทธิ์

20 Money Tips

Operation Twist จะช่วยอเมริกาได้จริงหรือ

ร่มเงาแห่งแรงบันดาลใจ

24 Cover Story

46 Around the World

ย้อนรอยประวัติศาสตร์อเมริกันที่ “บอสตัน” ตามรอยพ่อหลวงที่ “เคมบริดจ์”

52 Cool Gear

ยานยนต์เพื่อผู้น�ำ

54 Hot Events

Modern

56 Smart Life

วิวัฒน์ ศัลยกำ�ธร จากปรัชญา สู่ท้องนา กับวิถีกสิกรรมธรรมชาติ

ตามรอยพ่อ...นักประดิษฐ์รักษ์สิ่งแวดล้อม

60 Think Green

83 Chef at Home 86 Wine Curve

“ชาโต เดอ เลย” ไวน์ไทย ทรัพย์สินทางปัญญาของไทย

C ที่ 5 อีกหนึ่งคุณค่าแห่งเพชร

ไพเราะไม่มีวันเลือน

88 Dining Out 92 Getting Charm Diamond Grading ‘5Cs’

94 Go Around เรียงร้อยเพลงพระราชนิพนธ์

98 Entertainment 100 Book Shelf 103 Thai Zone

62 Garden in Style

Set Up สวนครัว ผักริมรั้วกินได้

66 Home Sweet Home

บ้านสไตล์รีสอร์ท ความผ่อนคลายจากธรรมชาติที่สร้างได้

ท้าทายเกลียวคลื่นกับ “กีฬาเรือใบ”

พระบรมราโชวาทและพระราชดำ�รัส เหนือกาลเวลา

104 Think White

โลกใบนี้ใหม่เสมอ

72 Feel Fit

75 Talk to Doctor

เอ็มดีเอส (MDS) โรคร้ายที่มากับความเงียบ

79 The Journey

พระราชไมตรีข้ามขอบฟ้า จากเจ้าพระยาสู่อิรวดี

106 Mind & Spirit

ชุดประดาน�้ำและผีเสื้อ...หนังสือแห่งแรงบันดาลใจ

108 Horoscope   110 Merit Room 5 ธันวา ทำ�ดีถวาย “พ่อ” 111 Happy Time 112 Delight Quiz

SCG Spotlight

ลัดเลาะอีสานเหนือ เยือนบึงกาฬ จังหวัดที่ 77 ของไทย

เส้นทางโรแมนติกยุโรปตะวันออก เช็ก - สโลวะเกีย - ฮังการี ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีกับทริปสุดโรแมนติก ท่องยุโรปตะวันออก เช็ก - สโลวะเกีย - ฮังการี (12 - 20 กันยายน 2554) เริ่มต้นจากโบสถ์ Stift Melk ที่ออสเตรีย แวะพักที่เมืองคลุมลอฟ เมืองมรดกโลก ชมเมืองเก่าที่สวยงาม เข้าสู่ เมืองมาเรียนสกี้ เมืองตากอากาศเล็กๆ ในหุบเขา ชิมต้นต�ำรับเบียร์บดั ไวเซอร์ เดินเล่น ชมเมืองน�้ำแร่ คาร์โลวี วารี่ ซื้อของฝากพื้นเมือง ไม่ว่าจะเป็นแก้วน�้ำแร่ เครื่องประดับ คริสตัล จากนั้นเดินทางสู่เมืองปราก แวะชมโบสถ์เซนต์ไวทัสและปราสาทปราก พร้อมดื่มด�่ำบรรยากาศสุดโรแมนติกถึง 2 คืน เข้าสู่เมืองบราติสลาวา ชมปราสาท บนเนินเขาคาร์ปาเทียน และข้ามเขตสู่นครบูดาเปสต์ ชมความงามของแม่น�้ำดานูบ ยามค�่ำคืนที่แสนจะโรแมนติก ทริปนี้ผู้ร่วมทางก็เป็นกันเอง และยังได้ทั้งวิวและ บรรยากาศโรแมนติกสมใจ

กิจกรรมเวิรค์ ชอป “Family Stone” วาดภาพ สีอะคริลิกบนก้อนหินส�ำหรับครอบครัว กลั บ มาอี ก ครั้ ง กั บ กิ จ กรรมเวิ ร ์ ค ชอปงานศิ ล ปะกั บ วิทยากรพิเศษ ดร.อภิชาติ พลประเสริฐ อาจารย์ประจ�ำสาขาวิชา ศิลปศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดขึ้นใน บรรยากาศสบายๆ ในบ่ายวันที่ 24 กันยายน 2554 กิจกรรมนี้ ท่านสมาชิก SCG Debenture Club ได้เรียนรู้เทคนิคสร้างสรรค์ ศิลปะด้วยสีอะคริลกิ บนชิน้ งานหิน ซึง่ นอกจากจะได้เพลิดเพลิน กับการสร้างสรรค์งานศิลปะชิ้นใหม่ด้วยตนเองแล้ว กิจกรรมนี้ ยังมีชนิ้ งานสวยๆ ติดไม้ตดิ มือกลับไปแบบเป็นครอบครัวด้วยค่ะ

ผ่ า นไปแล้ ว กั บ ทริ ป ม่ ว นๆ ของหมู่ เ ฮาชาว SCG Debenture Club ลัดเลาะอีสานเหนือ เยือนบึงกาฬ จังหวัด ที่ 77 ของไทย เมื่อวันที่ 26 - 28 สิงหาคม 2554 วันแรก แวะกราบนมั ส การอั ฐิ ห ลวงตามหาบั ว ญาณสั ม ปั น โน ณ วัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี แวะชมกล้วยไม้ทศี่ นู ย์เพาะพันธุ์ กล้วยไม้อุดรซันไฌน์ จากนั้นชมหอนางอุษาและเพิงหินรูปทรง แปลกตาที่อุทยานแห่งชาติภูพระบาท บ่ายๆ สักการะหลวงพ่อ พระใสที่วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย ช็อปปิ้งของฝากพื้นเมืองที่ ตลาดท่าเสด็จ รุ่งขึ้นสัมผัสแสงแดดยามเช้าที่วัดอาฮงศิลาวาส บริเวณแก่งอาฮงจุดที่ลึกที่สุดของแม่น�้ำโขง แล้วเดินทางต่อไป ภูทอก ทีต่ งั้ ของวัดเจติยาคีรวี หิ าร โดยพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ใช้เวลาสร้างบันไดไม้ขึ้นภูทอก 7 ชั้น เป็นเวลา 5 ปีเต็ม เพื่อใช้ ปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนทั่วไป วันสุดท้าย ของการเดินทาง เยี่ยมชมค�ำชะโนด ที่ซึ่งมีประวัติเรื่องราวของ เปรตค�ำชะโนด และชมมรดกโลกบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี กอ่ น เดินทางกลับกรุงเทพฯ แวะชิมและซื้อของอร่อยพื้นเมือง ทริปนี้ ทุกท่านได้เก็บเกี่ยวความสุขกลับบ้านเต็มกระเป๋ากันเลยทีเดียว

การแสดงศิลปะเพลงไทยพื้นบ้านภาคกลาง “เพลงอีแซว...ชีวิต ขวัญจิต ศรีประจันต์” ได้ รั บ ความสนุ ก สนานกั น อย่ า งมากมาย กั บ การ แสดงศิลปะเพลงไทยพื้นบ้านภาคกลาง “เพลงอีแซว...ชีวิต ขวัญจิต ศรีประจันต์” เมือ่ วันเสาร์ที่ 24 กันยายน 2554 ทีผ่ า่ นมา ซึ่ ง SCG Debenture Club จั ด ขึ้ น เพื่ อ ร่ ว มเป็ น อี ก หนึ่ ง พลังในการอนุรักษ์ศิลปะเพลงพื้นบ้านของไทยให้คงอยู่สืบไป งานนีไ้ ด้รบั เกียรติจากวิทยากรมากความสามารถทางด้านศิลปะ เรื่ อ งราวในอดี ต ของไทยและเป็ น เจ้ า ของบ้ า นพิ พิ ธ ภั ณ ฑ์ คุณเอนก นาวิกมูล มาพูดคุยเรื่องราวของเพลงไทยพื้นบ้าน ร่วมกับศิลปินแห่งชาติเพลงพื้นบ้านชื่อดังแห่งเมืองสุพรรณบุรี คุณแม่ขวัญจิต ศรีประจันต์ ก่อนจบงานด้วยการแสดงเพลง อี แ ซวของคณะขวั ญ จิ ต ศรี ป ระจั น ต์ ต ลอดงาน ซึ่ ง ยั ง ความ ประทับใจคละเคล้ากับเสียงหัวเราะและรอยยิม้ ของท่านสมาชิก ที่มาร่วมงานกันอย่างหนาตาเช่นเคย

SCG Spotlight

เจาะลึกธรรมชาตินอร์เวย์ ตืน่ ตากับความงดงามของฟยอร์ด ผ่านไปอีกหนึ่งความประทับใจในความ สวยงามของธรรมชาติประเทศนอร์เวย์ กับทริป เจาะลึกธรรมชาติ ชมความงามของฟยอร์ด (4 - 13 และ 11 - 20 สิงหาคม 2554) ตลอดทริปทุกท่าน ได้ตนื่ ตาตืน่ ใจกับความงามของฟยอร์ด และดื่มด�่ำ กับอากาศอันแสนบริสทุ ธิส์ ดชืน่ ได้ชนื่ ชมธารน�ำ้ แข็ง Briksdalsbreen อย่างใกล้ชดิ นัง่ สุดยอดรถไฟสาย โรแมนติก Flamsbana และชมฟยอร์ดที่สวยที่สุด ในนอร์เวย์ที่ไกแรงเกอร์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียน เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากยูเนสโก ชมความ น่ารักของเมืองเบอร์เกน ออเลอซุนด์ และทรอนไฮมส์ เดินทางลัดเลาะผ่านถนนสายที่สวยที่สุด Atlantic Road ตบท้ายชมพิพิธภัณฑ์เรือไว้กิ้งโบราณ โบสถ์ นิดารอส และช็อปปิ้งของฝากที่กรุงออสโลอย่าง เต็มอิ่มก่อนเดินทางกลับ

ข้อมูลผลตอบแทนจากตราสารหนี้และอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ตารางแสดงผลตอบแทนหุ้นกู ้ (ข้อมูล ณ วันที ่ 26 กันยายน 2554)* หุ้นกู้ อายุคงเหลือ ราคาที่ตกลงครั้งล่าสุด (ปี) (บาท/หน่วย) SCC11NA 0.10 1,015.62 ครั้งที ่ 2/2550 SCC124A 0.51 1,003.22 ครั้งที่ 1/2551 SCC12NA 1.10 1,023.62 ครั้งที่ 2/2551 SCC134A 1.51 1,022.03 ครั้งที่ 1/2552 SCC13OA 2.01 1,010.07 ครั้งที่ 2/2552 SCC144A 2.51 1,008.69 ครั้งที่ 1/2553 SCC14OA 3.01 1,006.33 ครั้งที ่ 2/2553 SCC154A 3.51 1,004.47 ครั้งที่ 1/2554

วันที่ตกลง อัตรา แลกเปลี่ยนหุ้นกู้ ผลตอบแทนถึง ครั้งล่าสุด วันครบก�ำหนดไถ่ถอน 3.25% 11 เมษายน 2554

ส่วนต่างจาก ราคาหน้าตั๋ว (บาท/หน่วย) 15.62

26 กันยายน 2554

3.50%

3.22

16 กันยายน 2554

3.80%

23.62

26 กันยายน 2554

3.60%

22.03

26 กันยายน 2554

3.60%

10.07

22 กันยายน 2554

3.45%

8.69

17 สิงหาคม 2554

3.80%

6.33

27 กันยายน 2554

3.85%

4.47

* ท่านสามารถตรวจสอบราคาหุ้นกู้ประจ�ำวันได้ท ี่ www.scg.co.th

กระดาษไอเดียร่วมสร้างมหานครหนังสือ

ตารางแสดงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจ�ำ (ข้อมูล ณ วันที ่ 26 กันยายน 2554) ระยะเวลา ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย 1 ปี 2.75% 2.75% 2.70% 2 ปี 3.125% 3.15% 3.10% 3.375% 3.35% 3.25% 3 ปี

คุณดนัยเดช เกตุสวุ รรณ (ที่ 2 จากซ้าย) ผูจ้ ดั การธุรกิจโฮมแอนด์ออฟฟิศ โซลูชนั่ เอสซีจี เปเปอร์ ผูผ้ ลิตและจ�ำหน่ายกระดาษไอเดีย ร่วมสัมผัสความยิง่ ใหญ่ ของ Be Trend Read Town มหานครหนังสือ ซึ่งกระดาษไอเดียได้ร่วมสนับสนุน การเนรมิตเมืองแห่งการอ่านแห่งนีข้ นึ้ เพือ่ รณรงค์ให้คนรุน่ ใหม่หนั มาอ่านหนังสือ และจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ในสังคมไทย พร้อมถ่ายภาพที่ระลึกกับ คุณวิภา อัมพุช (ซ้ายสุด) ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส Corporate Image คุณสายสวาท เลิศเจริญเสริมสุข (ที่ 3 จากซ้าย) ผู้จัดการทั่วไปบริหารสินค้า Be Trend และ คุณดวงตา พงษ์วไิ ลย์ (ขวาสุด) ผูจ้ ดั การทัว่ ไป การตลาดและโฆษณา สามผูบ้ ริหาร หญิงเก่งแห่งบริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ป จ�ำกัด ณ เดอะมอลล์ บางกะปิ เมื่อเร็วๆ นี้

ตารางอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาล (ข้อมูล ณ วันที ่ 23 กันยายน 2554) ระยะเวลา อัตราผลตอบแทน 3.49% 3 เดือน 3.54% 6 เดือน 3.56% 1 ปี 3.64% 2 ปี 3.62% 3 ปี 3.60% 4 ปี

ธนาคารไทยพาณิชย์ 2.75% 3.15% 3.30%

SCG Insight

เรื่อง : พิมพิดา กาญจนเวทางค์ ภาพ : จเร รัตนนันทเดช

การบริหารกลาง บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จ�ำกัด (มหาชน)

รับผิดชอบต่อสังคมและสิง่ แวดล้อม ในบทความนี้ คุณอารีย์ ชวลิตชีวินกุล ผู้ช่วย ผู้จัดการใหญ่ การบริหารกลาง บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จ�ำกัด (มหาชน) จะมาเล่าถึงวิสัยทัศน์และแนวทาง ของบริษัทในการเดินทางไปสู่การเป็นองค์กรแห่ง นวัตกรรมที่น่าร่วมงานด้วย และการเป็นแบบอย่าง ด�ำเนินงานในเรื่องบรรษัทภิบาลและการพัฒนาอย่าง ยัง่ ยืน โดยไม่ลมื ทีจ่ ะให้ความสนใจในเรือ่ งของการดูแล รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

ก่อนอื่นเราคงต้องท�ำความเข้าใจกับบทบาทของการ บริหารกลางกันก่อน เนื่องจากเป็นส่วนที่มีหน้าที่รับผิดชอบงาน ในหลายแขนง คุณอารีย์ให้ค�ำอธิบายว่า “ส่วนที่ผมดูแลอยู่นั้น เรื่องแรกคือเรื่องการบริหารบุคคลและการพัฒนาองค์กร เรื่องที่ สองคือการพัฒนาเทคโนโลยี เรือ่ งทีส่ ามคือการพัฒนาระบบการ จัดการแบบมีส่วนร่วมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน เรื่องสุดท้าย คือการดูแลหน่วยงานด้าน support function ซึ่งผมว่ามีความ ส�ำคัญมาก มีอยูห่ ลายหน่วยงานด้วยกัน เช่น หน่วยงานทางด้าน กฎหมาย หน่วยงานทางด้านไอที หน่วยงานทางด้านจัดหา กลาง ส�ำนักงานเลขา ฝ่ายบริการกลาง สื่อสารองค์กร มูลนิธิ เอสซีจี รวมทั้งหมดประมาณ 11 - 12 ฟังก์ชั่นงาน”

คุณอารีย์ ชวลิตชีวินกุล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ การบริหารกลาง บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จ�ำกัด (มหาชน)

วิสัยทัศน์และแนวทางการด�ำเนินงาน

ในขณะทีต่ อ้ งดูแลงานหลากหลายรูปแบบ แต่สว่ นการ บริหารกลางนี้ก็ยังคงด�ำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์และแนวทาง

ของบริษทั “เราตัง้ ใจว่าภายในปี ค.ศ. 2015 เอสซีจจี ะเป็นองค์กร ที่ได้รับการยอมรับในฐานะที่เป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมที่น่าร่วม งานด้วย และเป็นแบบอย่างการด�ำเนินงานในเรือ่ งบรรษัทภิบาล และการพัฒนาอย่างยัง่ ยืน นีเ่ ป็นแนวทางส�ำหรับทัง้ องค์กรทีเ่ รา จะเห็นภาพร่วมกัน” ส� ำ หรั บ วิ ธี ก ารเพื่ อ ที่ จ ะได้ ผ ลลั พ ธ์ ต ามแนวทางที่ ต้องการนั้นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย รวมทั้งส่วนการ บริหารกลางนี้ก็มีบทบาทที่ส�ำคัญ “การบริหารกลางจะมุ่งเน้น ในเรือ่ งของการดูแลรับผิดชอบต่อสังคม โดยหลักๆ จะพูดถึงเรือ่ ง ของการรักษาสิ่งแวดล้อมหรือ Green เพราะจากการที่แนวโน้ม ของคนที่ให้ความสนใจในเรื่องของสิ่งแวดล้อมมีเพิ่มมากขึ้น ในปัจจุบัน และเราเองก็สนใจในเรื่องของการเจริญเติบโตอย่าง ยั่งยืน จึงต้องการจะท�ำองค์กรให้เป็น Green” คุณอารีย์กล่าว

สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

คุณอารียเ์ ล่าว่า การก้าวไปเป็นองค์กรทีใ่ ห้ความส�ำคัญ ในเรื่องของสิ่งแวดล้อมและสังคมนั้น เริ่มต้นจากการผลิตสินค้า ทีเ่ ป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อม “ปัจจุบนั เอสซีจเี รามีการโปรโมท SCG eco value เป็นการบอกว่าเรามีมาตรฐานทางด้านการพัฒนา ผลิตภัณฑ์สอดรับกับมาตรฐานสิ่งแวดล้อมสากล เราเทียบกับ มาตรฐาน ISO14021 ในช่วง 2 - 3 ปีที่ผ่านมา เอสซีจีออกสินค้า ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเยอะมาก แล้วใช้สัญลักษณ์ของ SCG eco value ตอนนีเ้ รามียอดขาย สินค้า eco value ที่ 52,000 ล้านบาท

SCG Insight จากยอดขายรวมประมาณ 300,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น ประมาณ 17 เปอร์เซ็นต์ของยอดขายรวม ซึ่งเราก็ตั้งเป้าว่า ในปี ค.ศ. 2015 เราจะมียอดขายสินค้า eco value ในสัดส่วน 1/3 ซึ่งก็คือ 33 เปอร์เซ็นต์ ในอีก 4 - 5 ปี ข้างหน้า” เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น เราจึงขอยกตัวอย่าง สินค้า SCG eco value เช่น กระดาษ idea green ที่ผลิต จากเยื่ออีโคไฟเบอร์ คือการน�ำ waste recycle มาผลิต โดยจะ ใช้ส่วนที่เป็นรีไซเคิลอย่างน้อย 30 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นกระดาษที่ ผูใ้ ช้เอาไปใช้กจ็ ะถือว่ามีสว่ นร่วมในการรักษาสิง่ แวดล้อม green carton หรือกล่องกระดาษกรีน เป็นกล่องทีใ่ ช้เยือ่ กระดาษน้อยลง แต่ความแข็งแรงยังคงเดิม กระเบื้องเซรามิก eco touch เป็น กระเบื้องเซรามิกปูพื้นซึ่งถูกผลิตขึ้นจากวัสดุรีไซเคิลมากกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ และที่หลายคนคงจะคุ้นเคยกันดีคือสุขภัณฑ์ ก๊อกน�ำ้ แบบประหยัดน�ำ้ ของคอตโต้ และนอกจากนีย้ งั มีปนู ตราเสือ กับปูนตราช้างที่มีการน�ำเชื้อเพลิงชีวมวลมาแทนการใช้ถ่านหิน

“

SCG Insight กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

นอกจากเรื่องของผลิตภัณฑ์ที่กล่าวมาข้างต้น ก็ยังมี เรื่องของกระบวนการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือ ที่เรียกว่า green process ที่เอสซีจีให้ความสนใจ “เราลงทุน มากกว่า 15,000 ล้านบาท ใน 5 ปีทผี่ า่ นมา เราจะท�ำกระบวนการ ผลิตของเราให้เป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อม เช่น ข้อแรก เราติดตัง้ ระบบ waste heat power generation ซึง่ ก็คอื การน�ำความร้อนทีส่ ญ ู เสีย ที่เคยปล่อยทิ้งไปกลับมาปั่นไฟ เราลงทุนและน�ำมาใช้ที่เอสซีจี ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึงปีละ 300,000 ตัน หรือถ้าคิดเป็นต้นไม้ก็ต้องปลูกต้นไม้ 24 ล้านต้น สามารถช่วย ได้เยอะมากๆ “ข้อสอง เรามีนโยบายเรื่อง zero waste to landfill ด้วย คือปัจจุบนั กระบวนการผลิตเรามีของเสียออกมา ซึง่ โรงงาน ทั่ ว ไปก็ จ ะน� ำ ไปฝั ง กลบบ้ า ง ซึ่ ง จะเป็ น ภาระต่ อ สั ง คมและ สิ่งแวดล้อม นโยบายของเราตั้งเป้าว่าปีหน้าจะไม่มีการปล่อย

เราเปิดตัวสินค้า SCG eco value ออกมา เพือ่ ให้ผใู้ ช้ได้ตระหนักว่า ถ้าใช้สนิ ค้านี้ จะช่วยประหยัดพลังงาน ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ นีเ่ ป็นหน้าทีข่ องทุกๆ หน่วยงาน เป็นภารกิจทีต่ อ้ งท�ำต่ออีกเยอะมาก แต่ผมว่าไม่ยากเกินความสามารถของคนเอสซีจี

ซึ่งถือว่าเป็นกระบวนการผลิตสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างสุดท้ายคือ ระบบหลังคาเย็น ซึง่ จะสามารถสะท้อนความ ร้อน ระบายความร้อนได้ดี จึงช่วยในเรือ่ งของการลดการใช้ไฟฟ้า ประหยัดแอร์ได้ด้วย “เราเปิดตัวสินค้า SCG eco value ออกมา เพื่อให้ ผู ้ ใ ช้ ไ ด้ ต ระหนั ก ว่ า ถ้ า ใช้ สิ น ค้ า นี้ จ ะช่ ว ยประหยั ด พลั ง งาน ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ นีเ่ ป็นหน้าทีข่ องทุกๆ หน่วยงาน เป็นภารกิจที่ต้องท�ำต่ออีกเยอะมาก แต่ผมว่าไม่ยากเกินความ สามารถของคนเอสซีจีนะ” คุณอารีย์กล่าวเสริมพร้อมรอยยิ้ม ภูมิใจบนใบหน้า

”

ของเสียซึง่ เป็นอันตรายออกไปฝังกลบอีก เราคิดว่าภายในปีหน้า เราน่าจะท�ำได้ และข้อสามคือ refuse derived fuel คือน�ำขยะที่ ชาวบ้านทิง้ กันมาคัดแยก ส่วนทีค่ ดิ ว่าเป็นประโยชน์ทางด้านอืน่ ก็เอาไปใช้ เช่น ท�ำปุ๋ย อีกส่วนหนึ่งเราสามารถน�ำมาอัดแล้วท�ำ เป็นเชื้อเพลิงทดแทนได้ ซึ่งเราจะมีการลงทุนท�ำ ส่งเข้าโรงงาน ปูนซีเมนต์ เพื่อเอาไปเผาเป็นเชื้อเพลิง ตรงจุดนี้เราคิดว่าจะ สามารถทดแทนพลังงานได้ถงึ 10 เปอร์เซ็นต์ ผมคิดว่านีน่ า่ จะเป็น ประโยชน์มากๆ ลงทุนประมาณ 2,000 กว่าล้านบาท”

การเลือกซื้อวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

เรื่องของ green procurement ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ เอสซีจใี ห้ความส�ำคัญ โดยคุณอารียอ์ ธิบายว่า “เราจะเลือกซือ้ วัสดุ ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจริงๆ โดยมีวิธีการคือ เราจะไปพัฒนา

ร่วมกับ supplier ของเราให้เขาปรับปรุงกระบวนการผลิตของเขา ซึ่งผมคิดว่าเป็นตัวเลขที่น่าสนใจ คือในปี ค.ศ. 2006 เราซื้อ สินค้าต่างๆ พวกนี้ 26 ล้านบาท ปรากฏว่าปีที่แล้ว มูลค่าการซื้อ green procurement เพิ่มขึ้นเป็น 1,300 กว่าล้านบาท แล้วเรา ก็ตั้งเป้าไว้ว่าปี ค.ศ. 2015 จะเป็น 4,400 ล้านบาท เราก�ำลัง จะบอกว่า นอกจากเราจะท�ำสินค้าที่เป็น green แล้ว เรายังซื้อ สินค้าที่เป็น green ด้วย”

การดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม

เรื่องสุดท้ายคือ green community ซึ่งเกี่ยวกับการ ดูแลชุมชนรอบโรงงานและสังคม คุณอารีย์ชี้แจงว่า “โครงการ แรกที่เราท�ำคือ โครงการรักษ์น�้ำ สร้างฝาย ตอนนี้เรามีนโยบาย สร้ า งฝายให้ แ ก่ ชุ ม ชนโดยเฉพาะ เราท� ำ ที่ จั ง หวั ด ล� ำ ปาง ประสบความส�ำเร็จมาก ต่อไปก็จะท�ำที่จังหวัดระยอง จังหวัด สระบุ รี และจั ง หวั ด กาญจนบุ รี โดยที่ ผ ่ า นมาเราท� ำ ได้ ถึ ง 26,000 ฝายแล้ว แล้วก็ตงั้ เป้าว่าปี ค.ศ. 2015 จะสร้างได้ 50,000 ฝาย ซึ่งการสร้างฝายจะช่วยให้ป่ากลับคืนมา ดินชุ่มชื้น ป้องกัน ไฟป่า และที่ส�ำคัญคือ สร้างอาชีพให้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้น ด้วย จะมีพืชผักของป่าเพิ่มมากขึ้น สามารถเอาไปขายต่อได้ ถือเป็นการช่วยสังคมอีกส่วนหนึ่ง” คุ ณ อารี ย ์ ไ ด้ พู ด ถึ ง ที่ ม าของโครงการรั ก ษ์ น�้ ำ สร้ า ง ฝายนีว้ า่ “เป็นการสนองพระราชด�ำริของในหลวงในเรือ่ งการดูแล แหล่งน�้ำ เราว่านี่คือสิ่งที่ในหลวงพระราชทานเป็นแนวทางไว้ เราจึ ง ถื อ ว่ า นี่ จ ะเป็ น กิ จ กรรมหลั ก ของเอสซี จี ที่ ต ้ อ งผลั ก ดั น และเราไม่ได้มองว่าเราท�ำเฉพาะในองค์กรนะครับ เรายินดี ต้ อ นรั บ ทุ ก ภาคส่ ว นเลย ไม่ ว ่ า จะเป็ น โรงเรี ย น หน่ ว ยงาน ราชการ หรื อ ใครที่ ต ้ อ งการจะมาท� ำ ฝาย เราจะยิ น ดี ม าก ถื อ ว่ า เป็ น ผลงานของทุ ก ๆ คน เพี ย งแต่ ว ่ า เราน� ำ ร่ อ งก่ อ น เท่านั้นเอง”

โครงการอื่นๆ ที่น่าสนใจ

นอกจากแนวทางที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด เอสซีจี ยั ง มี มู ล นิ ธิ เ อสซี จี และคณะกรรมการกิ จ การสั ง คมเพื่ อ การ พั ฒ นาอย่ า งยั่ ง ยื น อี ก ด้ ว ย “ปั จ จุ บั น มู ล นิ ธิ เ อสซี จี แ ละคณะ กรรมการจะมีการดูแลช่วยเหลือสังคมมากมายหลายรูปแบบ เช่น การสนับสนุนมูลนิธิต่างๆ เช่น มูลนิธิอนุเคราะห์คนพิการ สร้ า งอาคารและสร้ า งระบบสาธารณู ป โภคให้ แ ก่ ค นพิ ก าร

ซึ่งเราท�ำร่วมกันกับหน่วยงานต่างๆ และยังมีการสนับสนุน โครงการอาคารภู มิ สิ ริ มั ง คลานุ ส รณ์ อาคารที่ เ ฉลิ ม ฉลอง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 80 พรรษารวมทั้งยังมีการสร้างสถาบันการแพทย์สยามินทราธิราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล” คุณอารียก์ ล่าว

SCG Insight

ไม่เพียงเท่านั้น เอสซีจียังได้ให้การช่วยเหลือสนับสนุน ในอีกหลายองค์กร ไม่ว่าจะเป็นหมวดของสิ่งแวดล้อมที่ท�ำวิจัย เพื่อพัฒนาฟื้นฟูดินเค็มของอีสานให้สามารถปลูกข้าวได้ หรือ หมวดกีฬา เช่น การจัดตั้งเอสซีจี แบดมินตัน อะคาเดมี เพื่อ ส่งเสริมให้เยาวชนหันมาเล่นกีฬาและสามารถสร้างชื่อเสียง ให้ประเทศต่อไป “จริงๆ เอสซีจกี เ็ หมือนปิดทองหลังพระ แต่เราก็มคี วาม สุขนะ เราไม่เคยได้พดู อะไรมากมายออกสูส่ าธารณะ เพราะถือว่า เรามีโอกาสช่วยเหลือสังคมเราก็จะท�ำ แล้วเราก็ทำ� อย่างต่อเนือ่ ง” คุณอารีย์กล่าว

ก่ อ นจะจบการสั ม ภาษณ์ ที่ เ ต็ ม เปี ่ ย มไปด้ ว ยแรง บันดาลใจนี้ คุณอารีย์ยังทิ้งท้ายว่า “สิง่ ทีจ่ ะท�ำให้โครงการต่างๆ ประสบความส�ำเร็จได้คอื ‘คน’ ทีน่ บั เป็นหัวใจส�ำคัญทีส่ ดุ ขององค์กร เราจึงให้ความส�ำคัญ กับการพัฒนาคนมากๆ เราจะมีนโยบายในการพัฒนาคนในทุกๆ ระดับ เพราะเราอยากท�ำงานแบบเป็นพี่เป็นน้อง เปิดใจคุยกัน สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกัน เรามุ่งหวังพัฒนาให้คนของ เราเป็นคนเก่งและคนดี นี่คือ mission ของเรา”

Member’s Stage

เรื่อง : พิมพิดา กาญจนเวทางค์ ภาพ : จเร รัตนนันทเดช

พลอากาศเอก ก�ำธน สินธวานนท์ ท�ำดีด้วยใจบริสุทธิ์

ตั้งแต่ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นองคมนตรีในปี พ.ศ. 2530 พลอากาศเอก ก�ำธน สินธวานนท์ ได้ ท�ำงานอยู่เบื้องหลังโครงการดีๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อ สังคมไทยมาโดยตลอด จึงนับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ เราได้มีโอกาสเรียนรู้มุมมองในเรื่องของแนวคิดและ ประสบการณ์ต่างๆ จากท่านในวันนี้

พลอากาศเอก ก�ำธน สินธวานนท์ องคมนตรี

ส่วนมากก็จะมีคนจ้างไปท�ำงานอื่นๆ ก็ได้กราบบังคมทูลว่า ผมคงอยู่เฉยๆ ท�ำงานการกุศลเท่าที่มีพันธะอยู่ พระองค์ท่าน ก็เลยรับสั่งว่า ดีแล้วจะให้มาช่วยงาน คือพระองค์จะดูก่อนว่า เราไม่มงี านต้องไปท�ำทีไ่ หน จากนัน้ ไม่กวี่ นั พระองค์กโ็ ปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นองคมนตรี” จากนั้น ท่านองคมนตรีก�ำธนก็ตั้งใจท�ำงานที่ได้รับ ท่านองคมนตรีก�ำธนมีส่วนช่วยดูแลโครงการหลวง มอบหมายอย่างเต็มที่ และโครงการอั น เนื่ อ งมาจากพระราชด� ำ ริ ม ากมาย เช่ น “ผมว่านับเป็นเกียรติที่เราได้ท�ำนะ เวลาจะท�ำอะไร มูลนิธิอานันทมหิดล มูลนิธิชัยพัฒนา โครงการสารานุกรมไทย ก็ เ ลยตั้ ง ใจท� ำ ให้ ดี ที่ สุ ด ผมมี ค วามปลาบปลื้ ม ใจที่ ไ ด้ ท� ำ ทุ ก ส� ำ หรั บ เยาวชน โดยพระราชประสงค์ ใ นพระบาทสมเด็ จ โครงการ แต่โครงการจะดีหรือไม่ดีอยู่ที่คณะท�ำงาน ดังนั้นหาก พระเจ้าอยู่หัว มูลนิธิโครงการหลวง มูลนิธิพระดาบส โครงการ เราท�ำเต็มที่แล้ว ถ้าเขาท�ำดีก็ยิ่งดีกันไปใหญ่ แต่เราอย่ามัวไป ทุนเล่าเรียนหลวงส�ำหรับพระสงฆ์ไทย และมูลนิธิสวนหลวง ร.9 นั่งว่าคนอื่นเขา ให้มองดูตัวเราว่าท�ำดีที่สุดหรือเปล่า ถ้าเราท�ำ ดีที่สุดแล้ว มันจะไม่ดีเพราะคนอื่นก็ช่วยไม่ได้ นานาจิตตัง” จุดเริ่มต้น ท่านอธิบายและกล่าวเสริมว่า ในวันที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2530 นาวาอากาศตรี “มันไม่มโี ครงการไหนทีย่ ากหรือง่าย เพราะถ้าเราตัง้ ใจ ก�ำธน สินธวานนท์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ท�ำ ก็จะแก้ปัญหาที่ยากให้กลายเป็นง่ายได้ โครงการที่มีปัญหา ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นองคมนตรี เยอะก็มีบ้างเหมือนกัน บางครั้งก็เหนื่อย เพราะเราอาจแก้ นับเป็นจุดเปลี่ยนแปลงครั้งส�ำคัญในชีวิต ไม่ตรงจุดบ้างในบางครั้ง เราก็รับเสียว่าวันนี้เราฉลาดแค่นี้ “เนื่ อ งจากผมได้ มี โ อกาสสนองพระเดชพระคุ ณ แก้ไม่ได้ ก็ถือว่าเป็นบทเรียนของเรา จะให้งานลุล่วงไปได้ พระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว ตั้ ง แต่ ค รั้ ง ที่ ยั ง อยู ่ ก ารไฟฟ้ า ก็คงต้องใช้เวลา ท่านทัง้ หลายคงคิดเหมือนกันว่า ท�ำงานเหนือ่ ย ฝ่า ยผลิ ต ได้ รั บ ใช้ พ ระองค์ ท ่ า นมานาน พอตอนจะเกษี ย ณ ไม่ว่า ถ้าสบายใจเป็นใช้ได้” ก็ ก ราบบั ง คมทู ล พระองค์ ท ่ า นไปทรงเปิ ด เขื่ อ นรั ช ชประภา ซึ่ ง ผมรั บ ผิ ด ชอบอยู ่ พระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว ทรงมี โครงการทุนเล่าเรียนหลวงส�ำหรับพระสงฆ์ไทย แต่ละโครงการทีท่ า่ นองคมนตรีกำ� ธนมีสว่ นรับผิดชอบ พระเมตตา เสด็จพระราชด�ำเนินไปทรงเปิดเขื่อนรัชชประภา ในวั น สุ ด ท้ า ยที่ ผ มเป็ น ผู ้ ว ่ า การอยู ่ ในพิ ธี เ ปิ ด พระองค์ ท รง ล้วนเป็นประโยชน์และมีความน่าสนใจแตกต่างกันไป เช่น มูลนิธิ ถามว่ า จบภารกิ จ แล้ ว จะไปท� ำ อะไร เพราะคนการไฟฟ้ า อานันทมหิดล ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณา

Member’s Stage โปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ก่อตั้งขึ้น เพื่ อ สนั บ สนุ น นั ก เรี ย นไทยผู ้ มี ค วามสามารถทางวิ ช าการ และมีคุณธรรม ให้ได้มีโอกาสไปศึกษาในต่างประเทศ เพื่อน�ำ ความรู้กลับมาท�ำคุณประโยชน์พัฒนาบ้านเมืองให้ก้าวหน้า ต่อไป หรือมูลนิธิชัยพัฒนา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชด�ำริให้จัดตั้งขึ้น เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือ ประชาชนในการด�ำเนินงานพัฒนาต่างๆ ในกรณีที่มีข้อจ�ำกัด ในเรื่องของเงื่อนไขที่ไม่สามารถด�ำเนินการได้ทันที ท�ำให้การ แก้ ไ ขปั ญ หาไม่ ส อดคล้อ ง หรือ ทันกับสถานการณ์ที่ จ�ำ เป็ น เร่งด่วน “ผมจะลองยกตัวอย่างสักโครงการหนึง่ ” ท่านองคมนตรี กล่าวขึ้น “อย่ า งโครงการทุนเล่าเรียนหลวงส� ำหรับ พระสงฆ์ ไทยที่ พ ระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว พระราชทานทุ น โดย มีจุดประสงค์คือ เพื่อด�ำรงพระพุทธศาสนา เราจะให้ทุนพระ ที่ศึกษาภาษามคธเก่งและรู้ว่าหลักธรรมของพระพุทธเจ้าคือ อะไร เราให้ทุนมหาวิทยาลัยสงฆ์ 2 แห่ง คือ มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย โดยให้มาเป็นปีที่ห้าแล้ว เราเชื่อว่าพระมีหน้าที่สอน คน เราก็ไปสร้างพระนักเทศน์ขึ้น เดี๋ยวนี้ทางมหาวิทยาลัยของ จุฬาฯ รับให้มกี ารสอนการเป็นนักเทศน์แล้ว มีหน่วยกิตตามระบบ ของมหาวิทยาลัย ผมคิดว่าพระไม่ใช่จะเทศน์แต่วันพระ โกนจุก บวชนาค เผาผี หรือเวลาฆราวาสนิมนต์ให้ไปท� ำบุญที่บ้าน พระสวดก็ฟังไม่รู้เรื่อง พบจบกรวดน�้ำเสร็จแล้วกินเหล้ากัน เลย อยากให้ ฆ ราวาสนิ ม นต์ ใ ห้ พ ระเทศน์ 3 นาที 5 นาที 10 นาที เพราะบางทีเราชาวพุทธก็ไม่สนใจเท่าไร เลยอยากให้ ทัง้ พระทัง้ ฆราวาสมีการเทศน์กนั มากขึน้ และพระก็ตอ้ งเทศน์ให้ ถูกเรื่อง ถูกประเด็น ต้องรู้จักดูคนฟัง ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็น การกล่อมให้คนนอนหลับ “อีกข้อคือ เราคงเคยเห็นตามวัดต่างๆ คนนุง่ ขาวห่มขาว กันเยอะเลย แต่เท่าทีศ่ กึ ษาวัดไม่มกี ารดูแลเรือ่ งนีใ้ ห้ได้มาตรฐาน คนเหล่านี้ไปวัดก็เพราะมีความศรัทธาเชื่อถือ บางรายก็มีทุกข์ จึงไปพึ่งพิงวัด แต่กลับไม่ค่อยได้รับการแก้ปัญหามากนัก ซึ่งก็ แล้วแต่ว่าวัดไหน บางที่เห็นพอว่างก็ไปจับกลุ่มนินทา แม่ผัว ลูกสะใภ้ ผัวมีเมียน้อยกันไป แก้ปัญหากันไม่จบ แต่ถ้าเราเอา เข้าหลักสูตรดีๆ คนที่ไปก็จะได้ประโยชน์ เพราะคนมีทุกข์ยังมี เยอะอยู่”

Member’s Stage ธรรมะในใจ

คงไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะเปลี่ยนแปลงความคิดและ พฤติ ก รรมของคนในสั ง คม ดั ง นั้ น แล้ ว หากมี ตั ว อย่ า งที่ ดี และได้ รั บ ความร่ ว มมื อ จากบุ ค คลชั้ น ผู ้ ใ หญ่ ที่ เ ล็ ง เห็ น ถึ ง ความส�ำคัญในเรื่องศีลธรรมความดี สังคมก็อาจเปลี่ยนแปลง ไปในทางที่ดีขึ้นได้ “จะพู ด ไปคนที่ ติ ด คุ ก ก็ เ พราะท� ำ ผิ ด ศี ล 5 ทั้ ง นั้ น แต่ ที่ ท� ำ ผิ ด แต่ ไ ม่ ติ ด ตารางก็ เ ยอะ เพราะเราจะจั บ แค่ ค นที่ ท� ำ ผิ ดกฎหมาย คนท� ำ ผิ ดศี ลธรรมไม่ ถูกต� ำ รวจจั บ เรียกว่า ธรรมาธิปไตยของสังคมในเรื่องนี้ยังมีน้อย เรายังไม่สามารถ ลงโทษคนทีป่ ระพฤติไม่ดไี ด้ เราบอกกันว่าอย่าไปไหว้คนทีโ่ กงกิน ก็เห็นจ�ำเป็นต้องไหว้กันเพราะเขาเป็นใหญ่เป็นโต “เพราะอย่ า งนั้ น ก็ เ ลยคิ ด ว่ า ในโอกาสที่ พ ระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา อยากเอาธรรมะมากรอกใส่กลุ่มคนให้เป็นระบบ ที่คิดอยู่คือ ระดับมหาวิทยาลัย เพราะพอมาไล่ดูระบบการศึกษาตั้งแต่ต้น การศึกษาเรือ่ งศาสนายังมีนอ้ ย ถูกตัดเรือ่ งศีลธรรมออก สมัยก่อน มีหนังสือสอนให้รู้จักส่วนรวม เก็บของได้ต้องไปโรงพัก เดี๋ยวนี้ ไม่มี พอชั้นมัธยมยิ่งมีสอนน้อย พอเข้ามหาวิทยาลัยยิ่งไม่มีพูด ถึงเลย อยากจะเอาธรรมะไปกรอกให้คนมหาวิทยาลัยที่จะเรียน ตรี โท เอก เพราะถ้าไม่มีธรรมะในใจ ไม่มีคติสอนใจที่ดี เราก็จะ ได้คนที่อันตรายออกมา” ท่านองคมนตรีอธิบาย ในเมื่ อ โลกทุ ก วั น นี้ นั บ วั น ยิ่ ง จะเดิ น ทางไปสู ่ ค วาม เป็นวัตถุนิยม ความดีงามที่ประเมินค่าเป็นตัวเลขได้ยากจึงถูก มองข้ามมากขึ้นเรื่อยๆ การกระตุ้นเตือนให้เห็นถึงความส�ำคัญ ของศีลธรรมจึงเป็นสิ่งที่จ�ำเป็น “พระสงฆ์ที่มหาเถรสมาคมท่านรับปากจะให้ความ ร่วมมือ เราก็จัดตารางสอน เชิญอธิการบดีจากมหาวิทยาลัย ทั่วประเทศ 100 กว่าแห่ง พวกทหารท่านคงเกรงใจก็มากัน เราก็ ตอบว่าผมไม่ได้ต้องการให้ลูกศิษย์ท่านมาบวชนะ แต่การเป็น ทหารมีอาวุธ มีหน่วยก�ำลังในมือ ถ้าคุณไม่มีศีลธรรม ก็จะ กลายเป็นกองโจร ควรต้องเข้ามารับจิตใจที่ดีกลับไป ท่านถึง จะเป็นทหารที่เป็นทหารของบ้านเมือง เป็นทหารของประชาชน เขาก็ยินดีให้ลูกศิษย์มาฟัง” ท่านอธิบาย “มันเป็นโครงการทางความคิด ไม่ใช่รูปธรรมเหมือน การสร้างตึก สร้างสะพาน เพราะสิ่งที่เราจะท�ำประกอบด้วย ผู้ให้คือพระ ผู้รับคือมหาวิทยาลัย ถ้าท�ำได้หน่วยงานต่างๆ

“

เคยมีคนเข้าเฝ้าฯ แล้วถาม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ว่า ปิดทองหลังพระไปตัง้ เยอะแล้ว ไม่เห็นได้ดี ขอปิดหน้าพระบ้างได้ไหม พระองค์ไม่ทรงตอบ หากทรงพระสรวล และตรัสในภายหลังว่า ปิดเข้าไปเถอะหลังพระ ปิดเข้าไปมากๆ เดีย๋ วมันก็ทะลักออกมา หน้าพระเอง

”

ในทางทีถ่ กู เช่น เราดีกบั เพือ่ นเพือ่ จะให้เพือ่ นรัก เราก็คงพอใจแล้ว แต่ถา้ หวังว่าจะหลอกเพือ่ นเพือ่ จะโกง ก็ผดิ ศีลข้อมุสา “ดังนัน้ ถ้าถามผมว่า ทุกวันนีท้ ำ� งานรับใช้พระองค์ทา่ น หวังอะไร ผมก็ไม่ได้คดิ ถึงตรงนีเ้ ท่าไร ใจคิดว่าถึงเวลาก็ได้เอง เดีย๋ ว ทองก็ทะลักมาหน้าพระ เพราะพอพระองค์ทรงแต่งตัง้ แล้ว ผมก็ ตั้งหน้าตั้งตาท�ำงานโดยไม่คิดอะไรเลย สิ่งที่ได้คือความอิ่มใจ เราได้ท�ำดี ไม่มีใครรู้แต่เรารู้ ความสุขเกิดขึ้นตรงนี้ เหรียญตรา พระองค์ก็พระราชทานจนครบไม่รู้จะเอาอะไรอีก อยู่ตั้งแต่ ความคาดหวัง นาวาอากาศตรีจนเป็นพลอากาศเอก แล้วจะเอาอะไรอีก ไม่เคย แม้ว่าผลของการท�ำความดีจะไม่สามารถจับต้องได้ คิดว่าท�ำวันนีแ้ ล้วจะเอาพรุง่ นี้ ต้องอดทน อย่ามีกเิ ลส” แต่ ค วามสุ ข ในใจที่ เ ราได้ รู ้ สึ กนั้ น ก็ ไ ม่ ส ามารถซื้ อ มาได้ ด ้ ว ย ก่ อ นจบบทสนทนา ท่ า นองคมนตรี ก� ำ ธนได้ ใ ห้ ทรัพย์สินเงินทองเช่นกัน ท่านองคมนตรีเล่าว่า ค�ำแนะน�ำปิดท้ายในเรือ่ งของการลงทุนในหุน้ กูเ้ อสซีจวี า่ “การซือ้ “เคยมีคนเข้าเฝ้าฯ แล้วถามพระบาทสมเด็จพระเจ้า หุน้ กูก้ น็ บั เป็นการลงทุน แล้วก็มรี ะยะเวลาทีส่ นั้ กว่ารัฐบาลคือ 4 ปี อยูห่ วั ว่า ปิดทองหลังพระไปตัง้ เยอะแล้ว ไม่เห็นได้ดี ขอปิดหน้า ส่วนผลประโยชน์กด็ พี อสมควรคือ อัตราดอกเบีย้ สูงกว่าในตลาด พระบ้างได้ไหม พระองค์ไม่ทรงตอบ หากทรงพระสรวลและ คนจึงนิยม อีกทั้งดอกเบี้ยของหุ้นกู้ไม่เปลี่ยนแน่นอนใน 4 ปี ตรัสในภายหลังว่า ปิดเข้าไปเถอะหลังพระ ปิดเข้าไปมากๆ พอถึง 4 ปี เราก็ได้เงินต้นคืนด้วย เรามัน่ ใจว่าเอสซีจมี โี ครงการทีด่ ี เดี๋ยวมันก็ทะลักออกมาหน้าพระเอง ฉะนั้นการท�ำดี ถ้ายังหวัง และมีคนทีม่ คี วามคิด ไม่ทำ� อะไรให้ขาดทุน แม้จะมีวกิ ฤติการณ์ ในทางที่ไม่ถูกต้องก็ไม่ดี การท�ำดีที่หวังเอาสองขั้น หวังเอา ทางเศรษฐกิจ ก็สามารถจัดแจงตัวเองด้วยการท�ำงานและด้วย เหรี ย ญตรา ไม่ ใ ช่ ก ารท� ำ ดี ที่ บ ริ สุ ท ธิ์ แต่ ค นเราก็ อ ดไม่ ไ ด้ นิสยั คน เพราะถ้าคนนิสยั ไม่ดี ไม่มวี นิ ยั ก็คงแก้ได้ยาก” ที่จะหวังผลตอบแทน เราตักบาตร ก็ยังขอให้รวยให้สวยกว่านี้ ตักบาตรหวังกุศล เรายังหวังผลตอบแทน ทั้งๆ ที่รู้ว่าความหวัง เป็นบ่อเกิดแห่งความผิดหวัง แต่ทุกคนก็ยังหวัง แต่ถ้าหวัง

ก็จะดีขนึ้ ตัวอย่างคือ มีบริษทั หนึง่ เขาสนใจโครงการนี้ เขาคิดไกล จึงให้เวลาท�ำงานของเขาครึ่งชั่วโมง ใครสนใจมาฟังก็ได้ เขาก็ ไปจัด ตอนเทีย่ ง ก่อนเทีย่ ง หรือหลังเทีย่ ง เอาพระมาพูด อบรม ให้คนมีจิตใจดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เป็นคนดี ซื่อตรงต่อหน้าที่ ผลที่ ได้ต้องชมเชยนะ เพราะเขาได้คนงานที่ดี มีวัฒนธรรม ซื่อตรง สร้างงานได้ดี แล้วก็ให้เป็นเครดิตกับคนทีผ่ า่ นการอบรมนี้ เพราะ ถือว่าได้คนทีม่ คี ณ ุ ภาพ ดังนัน้ งานทีไ่ ด้กจ็ ะมีประสิทธิภาพทีด่ ขี นึ้ ”

Money Tips

เรื่อง : money money

Operation Twist

จะช่วยอเมริกาได้จริงหรือ คงจะมี เ หตุ ก ารณ์ ไ ม่ กี่ เ หตุ ก ารณ์ ที่ จ ะถู ก จั บ ตามองจากผู ้ ค นทั่ ว โลก ถ้ า ไม่ ใ ช่ เ พราะชื่ อ ของ สหรัฐอเมริกา ที่ก�ำลังมีตัวเลขการว่างงานที่สูงกว่า ร้อยละ 9 ยิ่งไปกว่านั้นตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวม ภายในประเทศ (GDP) ก็แทบจะไม่มกี ารเคลือ่ นไหวใดๆ มาระยะใหญ่แล้ว

ต่อมามีการประกาศใช้อีกครั้งในช่วงปี 2009 แต่ใน ครัง้ นีไ้ ด้ถกู หยิบมาใช้ในเป้าหมายทีต่ า่ งจากเดิม เพราะในรอบนี้ ถูกน�ำมาพยุงให้ปจั จัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจและปัจจัยแวดล้อม ทางการเงินที่ก�ำลังตึงตัวอยู่ คลายตัวลง และเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ได้มีการประกาศ ใช้มาตรการดังกล่าวอีกครั้ง เมื่อคณะกรรมการก�ำหนดนโยบาย มาตรการล่ า สุ ด ของประเทศมหาอ� ำ นาจที่ บ รรจง ทางการเงินได้มีมติให้เฟดเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวที่มีอายุการ งัด ขึ้น มาต่อ กรกับวิกฤติเ ศรษฐกิจ ที่ก�ำลัง เผชิญ อยู่นี้มีชื่อ ว่า ไถ่ถอน 6 - 30 ปี เป็นจ�ำนวนกว่า 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และ “Operation Twist” อันมาจากนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ น�ำเอาพันธบัตรระยะสั้นที่ถืออยู่ออกมาขายในมูลค่าที่เท่ากัน (เฟด) โดยเจ้าเครื่องมือตัวนี้ถูกวางให้เป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเป้าหมายของเฟดคือต้องการรักษาอัตราดอกเบีย้ ระยะสัน้ ในการสร้างให้เกิดการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลท�ำให้สภาพ ให้คงที่ และเปลีย่ นการลงทุนเข้าไปในตราสารหนีข้ องรัฐทีม่ รี ะยะ เศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้น เวลาไถ่ถอนระดับปานกลางและระยะยาว จ�ำพวกพันธบัตรที่ มีก�ำหนดไถ่ถอนไม่เกิน 3 ปี เพื่อจะได้ช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย Operation Twist คืออะไร ของภาคธุรกิจและประชาชนให้ตัวเลขในระบบเศรษฐกิจมีการ เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจตัวนี้เหมือนเอาเรื่องเก่ามา เคลื่อนไหวและหมุนเวียนมากกว่าที่เป็นอยู่ เพื่อสร้างความ เล่ากันใหม่ หากแต่ต่างกรรมต่างวาระกัน เพราะหากย้อนกลับ คล่องตัวให้สภาวะทางการเงินของผู้บริโภคมีมากขึ้น รวมถึง ไปในช่วงยุค 60 ระหว่างปี 1961-1965 (ช่วงปี พ.ศ. 2504 - 2508) ประโยชน์ในการปรับโครงสร้างหนี้ที่มาจากต้นทุนในการกู้ยืม มาตรการ Operation Twist (หรือในชื่อเดิมคือ Operation ในระยะยาวลดต�่ำลง Nudge) ก็ได้ถูกน�ำมาใช้ เพื่อตึงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต�่ำ หลีกเลีย่ งการทุม่ เม็ดเงินเข้าระบบ โดยมีเป้าประสงค์ในการจัดการ Operation Twist กับ QE ใครจะดีกว่ากัน ก่อนจะกล่าวเชิงเปรียบเทียบระหว่าง Operation Twist ปริมาณเงินในระบบให้เกิดเสถียรภาพ ส่งผลให้โลกได้รู้จักกับ กับ QE จะขออธิบายนิยามของ QE ให้เข้าใจกันเสียก่อน ค�ำค�ำนี้ในช่วงปีนั้น

Money Tips

QE ย่อมาจาก Quantitative Easing คือนโยบาย ผ่อนคลายเชิงปริมาณ ซึง่ หมายถึงการทีธ่ นาคารกลางได้เข้าท�ำการ อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เช่น การซื้อตราสาร ทางการเงินของเอกชน (พวกตราสารการเงินของธนาคารเอกชน หรือตราสารการเงินของบริษทั เอกชน) ผลทีต่ ามมาก็คอื ท�ำให้เกิด การลงทุนมากขึน้ เนือ่ งจากมีสภาพคล่องในระบบมากขึน้ แต่นนั่ ก็แปลความได้อีกแง่ว่า หาก QE ถูกน�ำมาใช้ สถานการณ์ ณ ตอนนั้นน่าจะก�ำลังขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง ต้องการได้รับ การแก้ไขโดยเร่งด่วน และที่ผ่านมาสหรัฐอเมริกาได้ใช้นโยบาย QE นี้ไปแล้วถึงสองครั้งคือ QE1 และ QE2 ค�ำถามที่ว่า แล้วท�ำไมประเทศสหรัฐอเมริกาจึงเป็น ประเทศทีไ่ ด้สทิ ธิพเิ ศษกว่าชาติใดในโลก สามารถพิมพ์เงินเข้าไป อัดฉีดระบบเศรษฐกิจได้โดยง่ายดาย นั่นเป็นเพราะดอลลาร์คือ เงินสกุลหลักของโลก (World reserved currency) เงินทุกสกุล จะเทียบว่าแข็งค่าหรืออ่อนค่า จะต้องน�ำไปเทียบกับดอลลาร์เพือ่ ให้ได้สิ่งที่เรียกว่า “อัตราแลกเปลี่ยน” ใช้เป็นตัวบอกความแข็ง 01

หรื อ อ่ อ น เพิ่ ม ค่ า หรื อ ลดค่ า ของเงิ น ทุ ก สกุ ล ในโลก จึ ง เป็ น เหตุ ผ ลส� ำ คั ญ ที่ ท� ำ ให้ อ เมริ ก าได้ สิ ท ธิ์ เ หนื อ ประเทศอื่ น ๆ การท�ำ QE นอกจากจะเป็นการเพิ่มเม็ดเงินเข้าสู่ระบบโดยตรง แล้ว ยังก่อให้เกิดภาวะเงินเฟ้อทีเ่ พิม่ ขึน้ และยังท�ำให้เงินในระบบ ด้อยค่าลงด้วย นั่นคือผลทางตรงของ QE แต่เมื่อมองต่อไปใน ทางอ้อมแล้ว สภาพคล่องที่ทะลักเข้าสู่ระบบย่อมท�ำให้ดอกเบี้ย ลดต�่ำลงตามไปด้วย ย้ อ นกลั บ มาที่ ก ารเปรี ย บเที ย บประสิ ท ธิ ภ าพของ Operation Twist กับ QE ก็มีอีกเสียงที่ออกมาคัดค้านกับการ ตัดสินใจในมาตรการดังกล่าวของเฟดในครั้งนี้ เพราะพวกเขา มองว่าจะยิ่งดันให้ตัวเลขเงินเฟ้อทะยานพุ่งสูงขึ้นไปอีก ซึ่งได้ เลยเพดานที่เฟดตั้งไว้ที่ร้อยละ 2 ไปนานแล้ว และยังมีแนวโน้ม จะขยับขึ้นไปเรื่อยๆ อีก อันเป็นผลมาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และพลังงานที่ขยับพุ่งขึ้นทั่วโลก และยังเป็นช่วงเวลาเดียวกัน กั บ ที่ เ ฟดใช้ ม าตรการผ่ อ นคลายเชิ ง ปริ ม าณหรื อ QE ด้ ว ย วิ ธี ก ารทุ ่ ม เงิ น ซื้ อ พั น ธบั ต รรั ฐ บาลสหรั ฐ เป็ น จ� ำ นวนสู ง ถึ ง 6 แสนล้านเหรียญสหรัฐ จากมาตรการดังกล่าวท�ำให้เกิดกระแสการวิพากษ์ วิ จ ารณ์ เ ปรี ย บเที ย บกั น อย่ า งหลากหลาย ระหว่ า งการใช้ Operation Twist เมื่อครั้งที่แล้วหรือเมื่อ 50 ปีก่อน กับมาตรการ QE2 ว่ามีความคล้ายคลึงกันในลักษณะใดบ้าง ซึ่งผลก็สะท้อน ออกมาให้เห็นว่ามีความคล้ายคลึงกันในหลายประการ ได้แก่ หนึ่งคือเรื่องของจ�ำนวนของเม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่ระบบ ซึ่งวัด ได้จากมูลค่าที่เปรียบเทียบกับขนาดของเศรษฐกิจตามแต่ละ 01 Ben Bernanke ประธานธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกา 02 กราฟที่แสดงให้เห็นผลของนโยบาย QE1 และ QE2 02

ช่วงเวลา สองคือกลไกวิธีการในการเข้าซื้อตราสารหนี้ระยะยาว เพื่อดึงอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้ลดต�่ำลง จากการวิเคราะห์ กรณีศึกษา ท�ำให้ทราบว่าประสิทธิภาพของ Operation Twist ในอดีตได้สะท้อนออกมาเป็นการประเมินผลของมาตรการ QE2 ในปัจจุบันได้ และยังสามารถเชื่อมโยงมายัง Operation Twist ที่เพิ่งมีการประกาศไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้ด้วย ด้วยการตัดสินใจของเฟดที่ประกาศใช้ Operation Twist แทน QE3 ในครั้งนี้ ส่งผลให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อเงิน สกุลดอลลาร์สหรัฐกันด้วยเหตุผลที่ว่า ดอลลาร์เป็นสกุลเงินที่ ปลอดภัยที่สุดในยามที่เศรษฐกิจยังไม่แข็งแรงนัก ทั้งนี้ทั้งนั้น มาตรการกระตุน้ เศรษฐกิจด้วยการทุ่มเข้าซื้อพันธบัตร นอกจาก จะท�ำให้ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น ท�ำให้อัตรา ดอกเบี้ยปรับตัวลดลง แต่อีกด้านก็ท�ำให้สกุลเงินของประเทศ นั้นๆ อ่อนแอตามไปด้วย

ดี ด ตั ว ขึ้ น แรงอย่ า งมี นั ย ส� ำ คั ญ ซึ่ ง ขึ้ น มาอยู ่ ร ะดั บ เดี ย วกั บ ช่วงทีเ่ กิด Subprime Crisis ในปี 2008 นัน่ อาจสะท้อนให้เห็นว่า ตลาดก็ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่า ธนาคารกลางสหรัฐ น่าจะออกนโยบายบางอย่างเพื่อช่วยกดดอกเบี้ยระยะยาวไว้ ซึง่ ถ้ามองในทางกลับกัน ถ้าธนาคารกลางสหรัฐไม่ได้ออกมาตรการ ดังกล่าวมา หรือออกมาตรการทีต่ ลาดไม่ได้คาดการณ์ไว้ เม็ดเงิน ก็นา่ จะไหลออกจากตราสารหนีร้ ะยะยาวกลับเข้าหาตราสารหนี้ ระยะสั้ น อี ก ครั้ ง ซึ่ ง ไม่ น ่ า จะเป็ น ผลดี ต ่ อ ทั้ ง ตลาดทุ น และ การเยียวยาด้านเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาอย่างแน่นอน เราคงต้องจับตามองกันในระลอกต่อไปว่า

ถ้าไม่มี Operation Twist

ถ้ า มองภาพของตลาดพั น ธบั ต รของสหรั ฐ อเมริ ก า ในช่วงกลางเดือนสิงหาคมถึงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าตลาดราคาพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐอเมริกา

มาตรการ Operation Twist นี้จะเข้ามาพยุงวิกฤติ เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาให้กลับมาสร้างความ เชื่อมั่นแก่สายตาของคนทั้งโลกได้หรือไม่ หรือจะเป็น เพียงแค่ฉากละครฉากหนึ่งของธนาคารกลางสหรัฐ เท่านั้น

Cover Story

เรื่อง : คำ�นาย

อย่าให้คำ� พูดหรือความเห็นของใครมาบัน่ ทอนหัวใจเรา

เมื่อใดก็ตามที่ได้ยินค�ำพูดที่ท�ำให้หัวใจเราห่อเหี่ยว ฟังแล้วหมดก�ำลังใจ อย่าเก็บมาคิดให้รกสมอง แต่ให้เปลีย่ นมันมา เป็นแรงกระตุน้ ให้เรา เพือ่ น�ำมาปรับปรุง แก้ไข และก้าวสูช่ ยั ชนะ

ควรเคารพผูอ้ นื่ เหมือนทีต่ อ้ งการให้ผอู้ นื่ เคารพตัวเอง

ความเคารพเป็นสิ่งที่ส�ำคัญ เราควรมีความจริงใจ ไม่ดูถูกไม่แบ่งแยกชนชั้น รักษาน�้ำใจซึ่งกันและกัน ให้ความ ส�ำคัญต่อทุกชีวิต ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเกิดมาด้วยสถานะไหน ในสังคม

คิดและมองให้หลุดจากกรอบเดิม

ร่มเงาแห่งแรงบันดาลใจ แรงบันดาลใจ ความรู้สึกเล็กๆ ดีๆ ที่หาก มี โ อกาสจั บ กลุ ่ ม ก้ อ นกั น ให้ ใ หญ่ ม ากพอเมื่ อ ไรแล้ ว ก็จะมีอานุภาพ มีพลังที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนบางสิ่ง บางอย่างให้เกิดขึ้นได้ มนุษย์เราได้แรงบันดาลใจที่ว่านี้ มาจากแหล่งทีแ่ ตกต่างกันออกไป บางคนได้แรงบันดาลใจ มาจากสิง่ ของเล็กๆ น้อยๆ รอบตัว อย่างหนังสือดีๆ สักเล่ม ภาพยนตร์ดีๆ สักเรื่อง บางคนอาจได้แรง บันดาลใจมาจากคนในครอบครัว ในขณะที่ยังมีอีก หลายคนอาจได้รับแรงบันดาลใจมาจากบุคคลอื่นที่ เขายกให้เป็นบุคคลต้นแบบที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ พวกเขา

อาจมีบอ่ ยครัง้ ทีเ่ ราจะต้องเผชิญกับปัญหาต่างๆ นานา ทั้งเรื่องการงาน เรื่องครอบครัว หรือเรื่องชีวิตส่วนตัวที่เข้ามา บั่นทอนก�ำลังใจ อาจเป็นผลให้แรงบันดาลใจในการท�ำสิ่งต่างๆ ลดน้อยถอยลงไปด้วย หลายคนท้อถอย เซื่องซึม พานส่งผล กระทบต่อเรื่องอื่นๆ ไปหมด แต่ถ้าเรามี “แรงบันดาลใจ” เป็น เครื่องช่วยเหนี่ยวน�ำก�ำลังใจ ดึงพลังทั้งหมดกลับคืนมา เชื่อว่า แม้จะเจอภัยพิบัติในจิตใจขนาดไหนก็คงไม่มีอะไรจะมาท�ำร้าย คุณได้ วิธีสร้างแรงบันดาลใจ กระตุ้นพลังให้หัวใจมีมากมาย

หลายวิธี แล้วแต่วา่ คนคนนัน้ จะได้ “ต้นแบบของแรงบันดาลใจ” เป็นสิ่งใด วิธีการเรียนรู้การสร้างแรงบันดาลใจอาจเริ่มต้นจาก สิ่งเหล่านี้

หาต้นแบบแห่งแรงบันดาลใจ

คุณอาจมองหาสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือใครสักคนมาเป็น ต้นแบบในใจ ไว้ศึกษาแนวคิดในการใช้ชีวิต แนวทางในการ ท�ำงานของคนคนนั้น แล้วลองน�ำมาปรับใช้กับเรา และเมื่อใด ก็ตามทีร่ สู้ กึ เหนือ่ ยล้า ก�ำลังใจถดถอย แค่เพียงนึกถึงคนต้นแบบ ในใจเรา เชื่อว่าจะสามารถดึงพลังของเรากลับมาให้มีแรงฮึดสู้ ต่อสิ่งต่างๆ ต่อไปได้อีกครั้ง

ค้นหาตนเอง

คุณจ�ำเป็นจะต้องย้อนกลับไปถามตัวเองว่า คุณรู้จัก ตัวเองดีแค่ไหน ศักยภาพคุณมีขนาดไหน และได้ดึงมันออกมา ใช้อย่างเต็มที่แล้วหรือยัง คุณจ�ำเป็นจะต้องดึงจุดเด่น ลบจุด ด้อย มองเห็นแต่ความเป็นไปได้ ไม่มัวแต่หมกมุ่นกับปัญหา หรืออุปสรรค และเดินไล่ลา่ ความฝัน ความส�ำเร็จอย่างเต็มก�ำลัง

มากกว่ า ค�ำว่ า แรงบั น ดาลใจ ความมุ ่ ง มั่ น และ จิ น ตนาการแล้ ว หากเราต้ อ งการท�ำบางสิ่ ง บางอย่ า งให้ ดี เราควรจะมองและท�ำอะไรให้หลุดกรอบไปจากสิ่งเดิมๆ บ้าง เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

“บุคคลต้นแบบ แรงบันดาลใจ และการให้” สามสิ่ง ที่อย่างไรก็แยกจากกันไม่ขาด เพราะมันมักจะไปด้วยกันเสมอ เห็นได้จากตัวอย่างมากมายที่เกิดขึ้นบนโลก อาทิ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ต้นแบบแรงบันดาลใจที่สุดของที่สุด อัจฉริยะผู้มอบ มรดกทางวิทยาศาสตร์ เพือ่ การต่อยอดสิง่ ประดิษฐ์ให้เกิดขึน้ บน โลกใบนี้ สตีฟ จ็อบส์ บุคคลต้นแบบผูล้ ว่ งลับ แหล่งแรงบันดาลใจ ของเหล่ า ผู ้ รั ก ในเทคโนโลยี ทั้ ง หลายที่ ไ ด้ ฝ ากเทคโนโลยี ดี ๆ ไว้สร้างความสะดวกสบายให้คนยุคใหม่ต่อไป วอร์เรน บัฟเฟต ชายผูเ้ ป็นแรงบันดาลใจของเหล่านักลงทุนแทบจะทุกคนในโลก ใบนี้ ตัวตนของเขา ปรัชญาในการลงทุนของเขา ไม่มีนักลงทุน คนไหนที่จะไม่รู้จัก นอกจากนี้ พ่ อ หลวงของเราก็ ท รงเป็ น

บุคคลต้นแบบแห่งแรงบันดาลใจของเหล่าพสกนิกร ชาวไทยทุกหมูเ่ หล่า ด้วยแนวคิดทีพ่ ระองค์พระราชทาน ไว้ ได้มีคนน�ำไปปฏิบัติใช้และได้ผลจริง อย่างทฤษฎี เศรษฐกิ จ พอเพี ย ง ที่ ค นไทยน้ อ มน� ำ มาปรั บ ใช้ นั้ น อยากจะรับ ต้องให้เขาก่อน สามารถสร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างพออยู่ พอกิน รูปแบบของ “การให้” มีมากมายหลายอย่าง ถ้าเราอยาก พอดี และพอเพียงได้จริง

ได้สงิ่ ดีๆ ตอบแทนกลับมา เราก็ควรรูจ้ กั ให้คนอืน่ ก่อน ความรูส้ กึ ของหัวใจเวลาที่เราหยิบยื่นสิ่งดีๆ ให้คนอื่น จะท�ำหน้าที่ในตัว มันเองโดยสมบูรณ์ สร้างความรู้สึกดีให้หัวใจเราพองโตไปกับ สิ่ ง นั้ น ๆ และยั ง ท�ำให้ เ รารู ้ จั ก คุ ณ ค่ า ของการรั บ อย่ า งลึ ก ซึ้ ง เพราะเราได้ให้คนอื่นอย่างจริงใจ ดังจะเห็นได้จากสถานการณ์ ในปัจจุบนั เมือ่ ญีป่ นุ่ เกิดภัยธรรมชาติขนึ้ คนทัง้ โลกไม่มใี ครเลือก จะแบ่งเชื้อชาติ แต่ทุกคนเห็นพ้องต้องกันในสิ่งเดียว คือความ ต้องการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ทุกชาติระดมก�ำลังเข้า ช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นก�ำลังคนหรือก�ำลังเงิน ไม่ตอ้ งมองไปไหนไกล ณ ขณะนีบ้ า้ นเราก็ก�ำลังประสบ ภาวะนำ�้ ท่วม เดือดร้อนกันทัว่ ทัง้ ประเทศ ภาพทีเ่ ห็นตามมาก็คอื อะไรที่คิดว่าช่วยกันได้ คนไทยก็ช่วยกันอย่างเต็มก�ำลังความ สามารถ ให้เท่าทีก่ �ำลังตัวเองจะมี ช่วยด้วยเงินบ้าง ช่วยด้วยแรง บ้าง ช่วยสวดมนต์ภาวนาส่งเป็นก�ำลังใจไปบ้าง แต่ทั้งหมดนั้น ล้วนมาจากใจและความรู้สึกที่อยากจะให้ อยากจะช่วยเหลือ เพื่อนร่วมชาติด้วยใจอย่างแท้จริง

Cover Story

9 ค�ำสอนจากพ่อหลวง ต้นแบบแรงบันดาลใจ

1. พากเพียร “การสร้างสรรค์ตัวเอง การสร้างบ้านเมืองก็ตาม มิใช่ ว่าสร้างในวันเดียว ต้องใช้เวลา ต้องใช้ความเพียร ต้องใช้ความ อดทนเสียสละ แต่ส�ำคัญที่สุดคือการไม่ย่อท้อ ไม่ย่อท้อในสิ่งที่ ดีงาม สิ่งที่ดีงามนั้นท�ำแล้วมันน่าเบื่อ บางทีเหมือนว่าไม่ได้ผล ไม่ดัง ดูคร�่ำครึ การท�ำดีต้องมีความอดทน แต่รับรองว่าเวลา ข้างหน้าจะเห็นผลแน่นอน อย่างน้อยก็ได้ความอดทนในตนเอง” 2. ความพอดี “ในการสร้างตัวสร้างฐานะนั้นจะต้องถือหลักค่อยเป็น ค่อยไป ด้วยความรอบคอบระมัดระวังและความพอเหมาะพอดี ไม่ท�ำเกินฐานะและก�ำลัง หรือท�ำด้วยความเร่งรีบ เมื่อมีพื้นฐาน แน่นหนารองรับพร้อมแล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญ ก้าวหน้าในระดับสูงขึ้น ตามต่อกันไปเป็นล�ำดับ ผลที่เกิดขึ้น จึงจะแน่นอน มีหลักเกณฑ์ เป็นประโยชน์แท้และยั่งยืน” 3. ความรู้ตน “เด็กๆ ท�ำอะไรต้องหัดให้รตู้ วั การรูต้ วั อยูเ่ สมอจะท�ำให้ เป็นคนมีระเบียบ และคนที่มีระเบียบดีแล้วจะสามารถเล่าเรียน และท�ำการงานต่างๆ ได้โดยถูกต้องรวดเร็ว จะเป็นคนที่สร้าง ความส�ำเร็จและความเจริญให้แก่ตนเองและส่วนรวมในอนาคต ได้อย่างแน่นอน” 4. คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ “คนเราจะเอาแต่ได้ไม่ได้ คนเราจะต้องรับและต้องให้ หมายความว่าต่อไปและเดี๋ยวนี้ด้วย เมื่อรับสิ่งของใดมา ก็จะ ต้องพยายามให้ ในการให้นั้นให้ได้โดยพยายามที่จะสร้างความ สามัคคีให้หมูค่ ณะและชาติประชาชนทัง้ หลายมีความไว้ใจซึง่ กัน และกันได้ ช่วยที่ไหนได้ก็ช่วยด้วยจิตใจที่เผยแผ่โดยแท้”

Focus

เรื่อง : ชนาภา สุวงศ์ ภาพ : สุภัทรา ศรีทองคำ�, กฤตธี ผ่องเสรี, นฤทธิ์ ศรมณี

5. อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ “ในวงสังคมนัน้ เล่า ท่านจะต้องรักษามารยาทอันดีงาม ส�ำหรับสุภาพชน รูจ้ กั สัมมาคารวะ ไม่แข็งกระด้าง มีความอ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ พร้อมจะเสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อส่วนรวม” 6. พูดจริง ท�ำจริง “ผู้หนักแน่นในสัจจะ พูดอย่างไร ท�ำอย่างนั้น จึงจะ ได้รบั ความส�ำเร็จ พร้อมทัง้ ความศรัทธาเชือ่ ถือ และความยกย่อง สรรเสริ ญ จากคนทุ ก ฝ่ า ย การพู ด แล้ ว ท�ำ คื อ พู ด จริ ง ท�ำจริ ง จึงเป็นปัจจัยส�ำคัญในการส่งเสริมเกียรติคณ ุ ของบุคคลให้เด่นชัด และสร้างเสริมความดี ความเจริญ ให้เกิดขึ้นทั้งแก่บุคคลและ ส่วนรวม” 7. หนังสือเป็นออมสิน “หนังสือเป็นการสะสมความรู้และทุกสิ่งทุกอย่างที่ มนุษย์ได้สร้างมาท�ำมาคิดมาแต่โบราณกาลจนทุกวันนี้ หนังสือ จึงเป็นสิ่งที่ส�ำคัญ เป็นคล้ายๆ ธนาคารความรู้และเป็นออมสิน เป็นสิ่งที่จะท�ำให้มนุษย์ก้าวหน้าได้โดยแท้” 8. ความซื่อสัตย์ “ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง เด็กๆ จึงต้องฝึกอบรมให้เกิดมีขึ้นในตนเอง เพื่อจักได้เติบโตขึ้น เป็นคนดีมีประโยชน์ และมีชีวิตที่สะอาด ที่เจริญมั่นคง” 9. การเอาชนะใจตน “ในการด�ำเนินชีวิตของเรา เราต้องข่มใจไม่กระท�ำสิ่ง ใดๆ ทีเ่ รารูส้ กึ ด้วยใจจริงว่าชัว่ ว่าเสือ่ ม เราต้องฝืนต้องต้านความ คิดและความประพฤติทกุ อย่างทีร่ สู้ กึ ว่าขัดกับธรรมะ เราต้องกล้า และบากบั่นที่จะกระท�ำสิ่งที่เราทราบว่าเป็นความดี เป็นความ ถูกต้อง และเป็นธรรม ถ้าเราร่วมกันท�ำเช่นนีใ้ ห้ได้จริงๆ ให้ผลของ ความดีบงั เกิดมากขึน้ ๆ ก็จะช่วยคำ�้ จุนส่วนรวมไว้มใิ ห้เสือ่ มลงไป และจะช่วยให้ฟื้นคืนดีขึ้นได้เป็นล�ำดับ”

ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์ธีรวัฒน์ กุลทนันทน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล หัวหน้าคณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

Focus

Focus ค�ำสอนที่ยึดถือ

อาจารย์หมอนักกีฬา ผู้ให้ยิ่งชีวิต

หากย้อนเวลากลับไปเมื่อประมาณ 2 ปีกว่า ข่าวใหญ่หน้าหนึง่ ทีท่ ำ� ให้พวกเราชาวไทยรูส้ กึ เป็นกังวล อย่างมากนั่นคือ ข่าวพระอาการประชวรของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือในหลวงอันเป็นที่รักของ ปวงชนชาวไทย จนต้องทรงเข้ารับการรักษาทีโ่ รงพยาบาล ศิริราช จวบจนวันนี้พระอาการของพระองค์ดีขึ้น เป็ น อย่ า งมาก ด้ ว ยความดู แ ลอย่ า งใกล้ ชิ ด ของ คณะแพทย์ ที่ น� ำ โดยหั ว เรื อ ใหญ่ ผู ้ ถ วายการรั ก ษา ยิ่ ง ชี พ ศาสตราจารย์ ค ลิ นิ ก นายแพทย์ ธี ร วั ฒ น์ กุลทนันทน์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล หัวหน้าคณะแพทย์ผถู้ วายการรักษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

หน้าที่นักเรียนใหม่

อาจารย์หมอเล่าให้ฟังด้วยความซาบซึ้งถึงตอนที่เข้า ถวายตัวรับต�ำแหน่งคณบดีคนใหม่ “ตอนรับต�ำแหน่งคณบดี ผมก็เข้าไปถวายตัวว่าเป็น คณบดีคนใหม่กบั พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั พระองค์มรี บั สัง่ สั้นๆ ว่า “ให้เป็นนักเรียนใหม่ ตั้งใจท�ำงาน” ซึ่งมีความหมาย มาก นั่นหมายถึงว่าเราต้องพัฒนาอยู่เสมอ และตั้งใจท�ำงาน ซึ่ง ผมก็นอ้ มน�ำพระราชด�ำรินมี้ าเป็นแนวทางในการท�ำงาน ผมรูส้ กึ ประทับใจมากมายเหลือเกินตลอดเวลาที่เข้าเฝ้าฯ แค่พระองค์ ท่านมีรบั สัง่ กับผม ผมก็ปลืม้ ไม่รจู้ ะปลืม้ ยังไงแล้ว ได้กม้ ลงกราบ พระบาท เป็นพระมหากรุณาธิคุณมาก

“หน้าทีข่ องผมในฐานะทีเ่ ป็นหัวหน้าคณะแพทย์ถวาย การรักษา ก็จะต้องจัดคณะแพทย์ที่เชี่ยวชาญมาดูแลรักษา พระองค์ และต้ อ งท� ำ ให้ พ ระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว ทรง พระเกษมส�ำราญมากทีส่ ดุ เท่าทีจ่ ะท�ำได้ในทุกๆ เรือ่ ง ไม่วา่ จะเรือ่ ง เสด็จฯ ลงมา ต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ระวังเรื่องพระสุขภาพ ของพระองค์ท่ านให้ปลอดภัยที่สุด เป็นหน้ าที่ส�ำคัญที่ผมก็ ถวายงานยิ่งชีวิต โดยเราจะประชุมกันทุกวันเวลา 8 โมงเช้า นอกจากนี้ ผมก็ต้องถวายรายงานความเป็นไปในศิริราชด้วย “อย่างเทศกาลตรุษจีน ผมก็ขอให้มกี ารแสดงเชิดสิงโต มาถวายให้ทอดพระเนตร ทุกครั้งเวลาขออะไรกับใครไป เขาก็ มักจะเต็มใจอยากจะมาถวายหน้าพระที่นั่งให้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะ คอนเสิร์ต เทิดไท้องค์อัครศิลปิน หรือดนตรีจากต่างประเทศ ซึ่ง ครัง้ นัน้ พระองค์ทรงรับสัง่ กับผมเมือ่ กราบพระบาทว่า ‘ขอบใจนะ ที่จัดให้ เพลงเพราะดี’ ท่านทรงพระเมตตามากเหลือเกิน “นอกจากหน้าที่ดูแลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ส�ำคัญยิ่งแล้ว ภารกิจของผมที่ศิริราชก็จะมี 4 ภารกิจหลัก คือ หนึง่ เรือ่ งการเรียนการสอนบัณฑิตแพทย์ สองคือการวิจยั ท�ำองค์ ความรู้ใหม่ สามคืองานการบริการที่โรงพยาบาลศิริราช และ สุดท้ายคือท�ำนุบ�ำรุงศิลปวัฒนธรรม คุณธรรม จริยธรรม ซึ่งเรา เน้นมาก เพราะปัจจุบันแพทย์ถูกตรวจสอบมาก ผมเลยตั้งรอง คณบดีฝา่ ยคุณธรรมจริยธรรมต่างหาก และมีหน่วยงานคุณธรรม และจริยธรรมด้วย โดยเปลี่ยนบัณฑิตจากเก่ง ดี มีความสุข พัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นดี เก่ง มีความสุข”

“พระองค์ท่านทรงเป็นห่วงเป็นใยประชาชนในทุกๆ ในการเข้ารักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั อาจารย์ เรื่อง ทั้งเรื่องน�้ำท่วม หรือเหตุการณ์บ้านเมือง ท่านยังทรงงาน หมอได้น้อมน�ำรับสั่งต่างๆ จากพระองค์มาปฏิบัติตาม เพื่อ อยู่ทุกวัน เรื่องพวกนี้ทรงอยู่ในพระเนตรตลอด หรืออย่างเรื่อง ประโยชน์แก่วงการแพทย์ การจราจรบริเวณศิรริ าช เพราะแต่ละวันมีคนเข้าออกหลายหมืน่ “มีอยู่ช่วงหนึ่งน�ำคณะแพทย์เข้าถวายการรักษา ด้วย คน แล้วถ้าสถาบันการแพทย์สยามินทราธิราชทีเ่ ป็นตึกใหม่เสร็จ มีเหตุการณ์บ้านเมืองที่ท�ำให้แพทย์ถูกตรวจสอบมากเหลือเกิน คนเข้าออกคงจะมีเกือบๆ แสน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านก็มีรับสั่งว่า ‘จงอ่อนน้อมถ่อมตน ทุกคนมีดี อย่าดูถูกใคร’ ทรงอยากให้การจราจรตรงนีด้ ขี นึ้ ทุกฝ่ายก็พร้อมใจท�ำตามโครงการ สามประโยคสัน้ ๆ ผมก็เอามาพินจิ พิจารณา มันมีความหมายมาก พระราชด�ำริโดยรอบศิริราช ทั้งทางเข้าทางออก ขยายสะพาน ท่านต้องการให้แพทย์ออ่ นน้อมถ่อมตน ให้เกียรติคนอืน่ ทัง้ ผูป้ ว่ ย อรุณอมรินทร์ โครงการต่อเนื่องจากถนนลอยฟ้าจากศาลายา และญาติ ความสัมพันธ์จึงจะดี ไมตรีจิตก็จะเกิด การอภัย มาศิริราชได้สะดวกขึ้น ท�ำให้ประชาชนฝั่งธนบุรีทั้งหมดดีขึ้น เกื้อกูลกันก็จะเป็นสิ่งที่ดี การฟ้องร้องก็จะเกิดขึ้นน้อย เพราะ ท่านทรงย�้ำอย่าให้ประชาชนเดือดร้อน บางครั้งท่านเสด็จฯ ความสัมพันธ์ถือเป็นสิ่งที่ส�ำคัญอย่างยิ่ง ผมก็น�ำมาเผยแพร่ ขึ้นดาดฟ้าทอดพระเนตรโดยรอบว่าเป็นอย่างไรด้วย นอกจากนี้ เท่าที่มีโอกาสจะท�ำได้ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อวงการแพทย์ พระองค์ยังทรงมาแก้ไขน�้ำท่วมให้ศิริราช มาแนะน�ำเรื่องบ�ำบัด “นอกจากนี้ พ ระองค์ ยั ง ทรงเป็ น แบบอย่ า งที่ ดี ม าก น�้ำเสียให้ด้วย ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างมาก เรื่องความอดทน ท่านทรงพระประชวรหนัก แต่ท่านทรงมีก�ำลัง “พระองค์ ยั ง พระราชทานปลู ก ต้ น ศรี ต รั ง ให้ ศิ ริ ร าช พระทัยดีเหลือเกิน อยากให้คนไข้ที่เจ็บป่วยหมดก�ำลังใจ ขอให้ ด้ ว ย ทรงมี รั บ สั่ ง ว่ า ‘ศิ ริ ร าชมี ต ้ น ศรี ต รั ง หรื อ ยั ง ’ แล้ ว ก็ ท รง นึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั อยากให้คนไข้มกี ำ� ลังใจต่อสู้ พระกรุณาโปรดเกล้าฯ มาปลูกให้ ท่านทรงเตรียมต้นเล็กๆ ทีไ่ ด้มา แล้วทุกอย่างจะผ่านไปได้ด้วยดี” จากจังหวัดตรัง แล้วทรงปลูกให้สองต้นเลย ผมว่ามีความหมาย นะ ต้นใหญ่ไม่มีรากแก้ว ต้นเล็กมีรากแก้ว เปรียบเทียบได้กับ พระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ความเจริญเติบโต ความแน่นหนา ความมั่นคง พระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวงที่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวทรงมีต่อโรงพยาบาลศิริราชและพสกนิกรของ พระองค์นั้นมีมากมาย อาจารย์หมอเล่าให้ฟังว่า

“

ท่านมีรบั สัง่ ว่า ‘จงอ่อนน้อมถ่อมตน ทุกคนมีดี อย่าดูถกู ใคร’ สามประโยคสัน้ ๆ ท่านต้องการให้แพทย์ออ่ นน้อมถ่อมตน ให้เกียรติคนอืน่ ทัง้ ผูป้ ว่ ยและญาติ ความสัมพันธ์จงึ จะดี ไมตรีจติ ก็จะเกิด

”

Focus

“สิ่งที่เป็นพระมหากรุณาธิคุณอีกอย่างหนึ่งคือ เวลาที่ ท่านเสด็จฯ ลงมา ท่านจะทรงโบกพระหัตถ์ให้พสกนิกร และสาย พระเนตรที่ทอดพระเนตรไปยังประชาชนทรงพระเมตตามาก เหลือเกิน ผมตืน้ ตันไปด้วยเวลาเห็นประชาชนร้องไห้ แสดงความ ปีติยินดีที่ได้เฝ้าฯ รับเสด็จ ท�ำให้เรารู้สึกดีไปด้วยในความจงรัก ภักดีของพสกนิกร เป็นมงคลส�ำหรับศิริราชเหลือเกิน”

เน้นด้านทีช่ อบคือโรคกระดูกบาดเจ็บจากกีฬา ดูแลนักกีฬาตัง้ แต่ เอเชี่ยนเกมส์ โอลิมปิก กีฬามหาวิทยาลัยโลก ที่เป็นเกียรติมาก คื อ ได้ รั บ เลื อ กเป็ น แพทย์ ตั ว แทนจากประเทศไทยของกี ฬ า มหาวิทยาลัยโลกที่มีเพียง 17 คน “สมัยก่อนผมได้ฉายาว่า หมอฮิตาชิ เพราะโฆษณา ฮิตาชิ สโลแกนคือเปิดปุป๊ ติดปัป๊ พวกนักกีฬามักจะเรียกผม เพราะ นอกจากจะรักษาได้รวดเร็วแล้ว ผมยังท�ำให้เขาไปแข่งต่อได้ คุณหมอฮิตาชิ เขาเลยบอกว่าให้อาจารย์หมอมาจับปุ๊บก็หายปั๊ป อย่างไปแข่ง ก่อนหน้าทีอ่ าจารย์หมอจะเข้ามาเป็นคณบดีทโี่ รงพยาบาล กระโดดไกล พอโดดปั๊ปเท้าแพลง ผมลงไปดู รีบประคบเย็น ศิริราช ถือว่าเส้นทางการเป็นหมอฉายแววมาตั้งแต่เด็ก ใส่สเปรย์เย็นให้ แล้วใส่ก�ำลังใจเข้าไปด้วย นี่หมอใส่ให้แล้วนะ “พ่ อ ท� ำ นายไว้ ตั้ ง แต่ เ ด็ ก แล้ ว ว่ า โตมาจะเป็ น หมอ เด้งกว่าเดิมเยอะ ปรากฏว่านักกีฬาลงแข่งต่อได้เหรียญทองเลย ลักษณะผมคงคล้ายหมอ คอยช่วยเหลือคนอื่นเขาไปหมด พอ หรือแม้แต่อมรเทพ แววแสง นักยิมนาสติกไปแข่งที่สิงค์โปร์ โตมาก็อยากเป็นหมอจริงๆ จึงสอบเข้าแพทย์ ก็ได้อันดับหนึ่ง ตั ว เก็ ง เหรี ย ญ พอถึ ง เวลาแข่ ง แล้ ว อยู ่ ๆ ก็ เ กิ ด สั่ น ไปหมด แพทย์ศิริราช ระหว่างเรียนผมเป็นคนชอบเล่นกีฬามาตั้งแต่ ประคองตัวไม่อยู่ เลยชวดเหรียญทอง โค้ชวิ่งมาหาผม บอกให้ เด็ก เป็นนักกีฬามหาวิทยาลัย ท�ำกิจกรรมบ�ำเพ็ญประโยชน์ ผมช่วยหน่อย ผมก็เข้าไปคุย อมรเทพบอกว่าท้องเสียถ่ายไป ด้วย พอเรียนจบที่ศิริราชมีเปิดต�ำแหน่งที่เหมาะสม ผมเลย 4 หน ผมดูแล้วอาการไม่เป็นอะไรมาก จึงสั่งให้คนเอาสไปร์ท เลือกเรียนหมอกระดูก เพราะชอบเป็นหมอทางกีฬา จนจบเป็น มา 4 แก้ว บอกให้เขากินแล้วจะซ่าทั่วรูขุมขน พอกินเสร็จ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านกระดูก เลยได้บรรจุเป็นอาจารย์ที่ศิริราช ผมก็บอกว่าแรงกลับมาแล้ว ผมทดแทนให้แล้วนะ ลงไปเล่น จากนัน้ ได้ไปเรียนต่อทีเ่ ยอรมนี กลับมาท�ำงานเป็นอาจารย์เต็มตัว ต่ อ ได้ แล้ ว พอเขาไปเล่ น ก็ ไ ด้ เ หรี ย ญทองมา ตอนหลั ง

Focus

เวลาอมรเทพเจอผมก็ยังแซวผมอยู่เลยว่า อาจารย์ จะหลอกอะไรผมอีกครับ (หัวเราะ) สิ่งที่ผมจะพูดก็คือ การเป็นหมอต้องมีวิธีการด้านจิตวิทยาด้วย แต่ความ ส�ำเร็จทั้งหมดที่เกิดขึ้นล้วนมาจากโค้ชนะ ผมก็แค่ช่วย เป็นแรงเสริมเท่านั้น “ส�ำหรับปรัชญาการท�ำงานทีผ่ มถูกปลูกฝังมา จากพ่อและแม่คือความซื่อสัตย์สุจริต กตัญญูกตเวที ขยั น ขั น แข็ ง และความยุ ติ ธ รรม อย่ า เลื อ กปฏิ บั ติ ท�ำให้เราหาค�ำตอบได้ในทุกเรื่อง ผมยึดถือหลักนี้มา ตลอดจนเกษียณครบวาระในปีนี้ และคิดว่าจะท�ำงาน อื่นๆ เพื่อประโยชน์ของชาติบ้านเมืองต่อไป “เป็นพระมหากรุณาธิคุณเหลือเกินที่ชีวิตนี้ ได้เข้าเฝ้าฯ และถวายการรักษาแด่พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักของปวงชน ชาวไทย” อาจารย์หมอจบบทสนทนาด้วยรอยยิ้มและ ค�ำพูดที่อนุมานได้จากความรู้สึกว่าภาคภูมิใจเพียงใด

Techno for Life

เรื่อง : ชวิศ เชษฐชัยยันต์

Self Stirring Mug ถ้วยกาแฟจอมคน

Ambient Orb ลูกบอลสื่อสารไร้สาย

Wine Tasting Robot หุ่นยนต์ชิมไวน์

หากใครไม่รู้จักก็คงอนุมานกันไปว่า เจ้าลูกบอลทรงกลมลูกนี้เป็นโคมไฟ ที่ ส ามารถเปลี่ ย นสี ไ ด้ ธ รรมดาๆ แต่ ส� ำ หรั บ นั ก ธุ ร กิ จ ที่ ช อบติ ด ตามข่ า วสารความ เคลื่อนไหวแล้ว ลูกบอลสีลูกนี้กลับให้คุณอนันต์ได้มากกว่าการส่องสีให้ดูสนุกแค่นั้น เพราะเจ้าลูกบอลทรงกลมหน้าตาเรียบง่ายนี้ เป็นถึงระบบสื่อสารไร้สายที่จะ อาสามาเป็นผูช้ ว่ ยคุณในการเชือ่ มต่อแหล่งข้อมูลออนไลน์ผา่ นดาวเทียม เพือ่ สร้างความ สะดวกสบายในการเข้าถึงข้อมูลที่คุณต้องการโดยไม่ต้องเข้าผ่านเว็บไซต์มากมาย ให้ยงุ่ ยาก ไม่วา่ จะเป็นข้อมูลข่าวสารความเคลือ่ นไหวต่างๆ ข้อมูลตลาดหุน้ ข้อมูลสภาพ อากาศ แม้แต่การเข้าถึงเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทก็ยังท�ำได้ โดยเทคโนโลยีในลูกบอลลูกนี้ ได้ถกู ฝังโปรแกรมทีท่ ำ� ให้ลกู บอลเปลีย่ นสีตามข้อมูลทีเ่ ปลีย่ นไปได้ ถ้าลูกบอลส่องแสง เป็นสีเขียว นั่นหมายถึงสถานการณ์ตลาดหุ้น ความเคลื่อนไหวของบริษัทยังราบรื่น เรียบร้อยดี ไม่มอี ะไรทีต่ อ้ งกังวลต้องวิตก แต่หากลูกบอลเปลีย่ นจากสีเขียวเป็นสีแดง นั่นอาจหมายถึงสถานการณ์ที่เราเซตไว้ข้างต้นมีความผิดปกติเกิดขึ้น เรียกได้ว่ารับรู้ทุกความเคลื่อนไหวผ่านการดูสีลูกบอลเท่านั้น ประหยัดเวลาที่ ต้องมานั่งเสียเวลาอ่านอีเมลยาวเหยียดเป็นไหนๆ กับสนนราคาเบากายเบาใจแค่ 150 เหรียญสหรัฐ เข้าไปดูหน้าตาของเจ้าลูกบอลนีก้ อ่ นสัง่ ซือ้ ได้ที่ www.ambientdevices.com

แล้วใครเลยจะเชื่อ...ว่านอกจากมนุษย์เราแล้ว หุ่นยนต์ก็ชิมไวน์ เป็น อ่านแล้วอย่าเพิ่งรีบตกใจไป เพราะเจ้าหุ่นยนต์หน้าตาน่ารักที่มีความ สูง 2 ฟุต ผลงานความร่วมมือระหว่างบริษัท NEC System Technologies และ Mie University จากประเทศญีป่ นุ่ เป็นประจักษ์พยานต่อประโยคข้างต้น ได้อย่างดียิ่ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยมีการประดิษฐ์หุ่นยนต์ชิมอาหารที่ สามารถแยกแยะประเภทของอาหาร และบอกถึงส่วนผสมของเมนูนั้นๆ ด้วย วิธีการเดียวกันนี้มาแล้ว กรรมวิธีการชิมไวน์ของเจ้าหุ่นยนต์ตัวเก่งนี้ ไม่ได้ใช้วิธีการจิบ อย่างที่เราๆ ท�ำกัน การลิ้มรสที่ว่าจะใช้แสงอินฟราเรดที่ส่งผ่านจากอุปกรณ์ ตรวจจับบริเวณแขนของหุ่นยนต์ไปที่ไวน์นั้นๆ จากนั้นก็ท�ำการประมวลผลว่า ของเหลวทีก่ ำ� ลังถูกมันฉายแสงอยูน่ นั้ เป็นไวน์ชนิดใด และยังมีขา่ วแว่วออกมา อีกว่า ในอนาคตหุน่ ยนต์ชนิดนีอ้ าจถูกพัฒนาต่อเพือ่ ใช้ควบคุมคุณภาพของไวน์ ในแต่ละขวด รวมถึงพัฒนาให้พูดได้ เพื่อไว้สอบถามความต้องการเพื่อเสิร์ฟ ไวน์ให้เหมาะสมกับลูกค้าอีกด้วย เท่านี้คุณก็สามารถพกเจ้าไวน์โรบอทตัวนี้ไปไหนมาไหนเพื่อไว้เป็น บริกรคู่ใจ รับรองว่ามันจะเป็นไกด์น�ำทางคุณไปหาความสุขในรสชาติไวน์ อีกได้เป็นร้อยเป็นพันเลยทีเดียว ด้านราคาจ�ำหน่ายของเจ้าหุน่ ยนต์แสนรูต้ วั นี้ ยังไม่ได้ขอ้ สรุปทีแ่ น่ชดั แต่ทางบริษทั คาดการณ์ตวั เลขไว้ไม่เกิน 100,000 เยน เพือ่ ไม่ให้เกินก�ำลังของผูบ้ ริโภคจนเกินไป ส่วนแผนการวางจ�ำหน่ายทีแ่ น่นอน ว่าจะเป็นที่ไหนและเมื่อไรนั้น คงต้องรอติดตามกันต่อไป

แล้วช้อนคนกาแฟจะหมดความหมาย...เมื่อคุณมีถ้วย กาแฟผู้ช่วยใบนี้ ที่จะท�ำให้คุณจิบเครื่องดื่มร้อนๆ ได้แบบ ไม่ต้องมานั่งคนให้เมื่อยมือ ด้วยการใช้งานง่ายๆ เพียงแค่ตัก กาแฟหนึ่ง ครีมหนึ่ง น�้ำตาลหนึ่ง เติมน�้ำร้อน หรือจะเป็นส่วน ผสมเครือ่ งดืม่ อะไรก็ได้ทคี่ ณ ุ ชอบ จากนัน้ ก็แค่กดปุม่ ทีอ่ ยูบ่ น หูถ้วยและสละเสี้ยววินาทีให้ถ้วยกาแฟใบนี้ปรุงรสส่วนผสม ทัง้ หมดแทนคุณ สิง่ ทีค่ ณ ุ ต้องท�ำก็แค่รอจิบเครือ่ งดืม่ ถ้วยโปรด เท่านั้น ถ้ ว ยกาแฟใบนี้ มี ใ บพั ด ที่ ท� ำ หน้ า ที่ ค นชวนผสม อยู่ที่ก้นถ้วย ให้คุณกดเพื่อคนส่วนผสมให้กลมกล่อมได้ตลอด เวลาเท่าที่คุณต้องการ เครื่องดื่มถ้วยโปรดของคุณจะเข้มข้นไม่มีการตก ตะกอนที่ก้นถ้วยให้ต้องเสียดาย เรื่องการท�ำความสะอาดก็แสนง่าย แค่เพียง เทสบู่หรือน�้ำยาล้างแก้ว พร้อมเติมน�้ำสะอาดตามลงไป จากนั้นก็กดปุ่มให้ ใบพัดท�ำความสะอาดตัวมันเอง คุณไม่จ�ำเป็นต้องล้างเองให้เสียเวลา หาซื้ อ ความสะดวกสบายกั บ รสชาติ เ ครื่ อ งดื่ ม ที่ ก ลมกล่ อ มได้ ง่ า ยๆ ด้ ว ยราคาเพี ย ง 17.99 เหรี ย ญสหรั ฐ เข้ า ไปดู ร ายละเอี ย ดได้ ที่ http://stirringmug.com

LED Faucet Lights หัวก๊อกเปลี่ยนสีน�้ำ เพิม่ สีสนั ให้อปุ กรณ์ใช้งานในบ้านให้ดนู า่ สนุกขึน้ อีกนิดด้วยหัวก๊อกอัศจรรย์ อันนี้ ที่จะมาเพิ่มลูกเล่นและเปลี่ยนบรรยากาศการใช้น�้ำในบ้านของคุณ อุปกรณ์อัศจรรย์ที่ว่านี้คือ “หัวก๊อกน�้ำ” ที่ช่วยเปลี่ยนสีสันน�้ำใช้ให้กลาย เป็นสีไฟส่องสว่าง ใช้ได้สะดวกสบายยามค�่ำคืน และความสามารถของมันไม่ได้ หยุดอยูแ่ ค่การเปลีย่ นสีนำ�้ ของคุณให้ดนู า่ ตืน่ เต้นขึน้ เท่านัน้ เพราะทีป่ ลายหัวก๊อกน�ำ้ ดังกล่าวยังมีตัวจับอุณหภูมิน�้ำให้คุณสามารถรู้ได้ด้วยว่าน�้ำนั้นร้อนหรือเย็น โดย มันจะส่องสีฟ้าหากน�้ำนั้นเย็น แต่ถ้าน�้ำค่อยๆ เพิ่มดีกรีความร้อนขึ้นไปถึง 89 องศาเซลเซียสเมื่อไร สีไฟที่ส่องจะเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที หมดกังวลปัญหาโดนน�้ำที่ร้อนเกินไปลวก แถมยังเพิ่มสีสันความสนุก ให้กบั การใช้งานเครือ่ งใช้ในบ้านได้งา่ ยๆ ด้วยหัวก๊อกมหัศจรรย์นี้ ด้วยราคาน่าเอือ้ ม 19.99 เหรียญสหรัฐ สัง่ ซือ้ ผ่านเว็บไซต์ได้ที่ www.thinkgeek.com/homeoffice/8122/

Better Pix

เรื่องและภาพ : พิจักษณ์ ทนันชัยบุตร อาจารย์ประจำ�สาขาวิชาการถ่ายภาพ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

การถ่ายภาพโดยเล่นกับรูปทรงที่ ซ�้ำกันเป็นจังหวะ (Pattern)

เมื่ อ เราพยายามมองหาเรื่ อ งราวหรื อ มุ ม มองต่ า งๆ ที่ น ่ า สนใจ สิ่ ง ใกล้ ตั ว ที่ มี ใ ห้ สั ง เกตได้ ง ่ า ยๆ คื อ จั ง หวะการ ซ�้ำกันของสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นของที่มนุษย์สร้างขึ้น หรือจะ เป็นของที่อยู่ในธรรมชาติก็ตาม จังหวะการซ�้ำกันหรือที่เรียกว่า Pattern นั้น หมายถึงรูปร่างรูปทรงที่เหมือนกัน ซ�้ำต่อเนื่องกัน เป็นจังหวะ ตัวอย่างง่ายๆ เช่น ในภาพ คือโคมสีแดงทีซ่ ำ�้ กัน (ภาพ 01) กับบานหน้าต่างด้านหลังที่เหมือนกัน และมีขนาดที่เท่ากัน ภาพแบบนี้ในเมืองมักจะพบได้ทั่วไปตามอาคารสถาปัตยกรรม ต่างๆ เวลาถ่ายภาพต้องพยายามจัดองค์ประกอบให้ดีนะครับ ถ้าต้องการให้ภาพมีการซ�้ำที่เป็นระเบียบ จะต้องจัดมุมมองให้ ทุกอย่างสมดุลเท่ากัน ผมเก็บบันทึกภาพจังหวะที่ซ�้ำกันของกระเบื้องและสี ที่ถูกจัดวางอย่างมีระเบียบ (ภาพ 02) การบันทึกภาพต้องท�ำ อย่างระมัดระวัง ต้องให้ทุกอย่างอยู่เส้นตรงแนวระนาบให้มาก ที่สุด เวลาบันทึกภาพจะต้องพยายามยืนอยู่ในต�ำแหน่งที่ขนาน กับแนวขอบด้านหลังให้มากที่สุด เพื่อพยายามรักษาเส้นตรงใน ภาพให้ได้ อย่างไรก็ตาม เวลาออกไปบันทึกภาพ การหามุม ที่จะไปยืนเก็บภาพแบบนี้ก็อาจจะยากพอสมควรครับ เพราะ มักจะมีสิ่งของต่างๆ วางอยู่ ดังนั้นบางทีการถ่ายภาพกว้างๆ เผื่อไว้สักนิดแล้วน�ำมาตัดต่อด้วยโปรแกรมในคอมพิวเตอร์ อาจจ�ำเป็นต้องท�ำเพื่อให้ภาพดูสวยขึ้นครับ

นอกจากการถ่ายภาพให้ทุกอย่างซ�้ำเท่ากันอย่างเป็น ระเบียบแล้ว เราอาจจะมองหาสิง่ ทีซ่ ำ�้ กันไม่เป็นระเบียบแต่มกี าร จัดวางพอดิบพอดีก็ได้ด้วยเช่นกันครับ เช่น พวกกระเบื้องที่วาง กองเรียงกัน (ภาพ 03) แม้จะไม่เป็นระเบียบ แต่ดว้ ยความทีม่ นั มี ลักษณะทีเ่ หมือนกัน ท�ำให้ภาพนัน้ เกิดจังหวะทีซ่ ำ�้ กัน อีกรูปแบบ หนึ่งที่มักจะพบเจอในการบันทึกภาพลักษณะนี้ก็คือ การบันทึก ภาพในธรรมชาติ ซึ่ ง หาได้ ย ากมากที่ จ ะมี อ ะไรวางลงตั ว ที่ เป็ น จั ง หวะพอดิ บ พอดี เ หมื อ นกั บ ที่ ม นุ ษ ย์ ส ร้ า งขึ้ น แต่ เ รา ก็ ส ามารถมองหาจั ง หวะที่ ซ�้ ำ กั น จากธรรมชาติ ไ ด้ ค รั บ เช่ น จังหวะที่ซ�้ำกันของเส้นใบไม้ (ภาพ 04) ที่ผมจับจังหวะของ เส้นในใบกล้วยทีซ่ ำ�้ กันเป็นจังหวะ แม้จะไม่เท่ากันพอดี แต่กเ็ ป็น จังหวะที่ลงตัวตามการสร้างสรรค์จากธรรมชาติครับ 01 Lens 17-55/F4, 1/60 ISO 100 02 Lens 17 mm/F5.6, 1/60 ISO 100 03 Lens 17 mm/F8, 1/30 ISO 100 04 Lens 17 mm/F8, 1/30 ISO 100

02 03 04

ในทรรศนะของผมแล้ว การถ่ายภาพช่วยให้ เรามองโลกอย่างละเอียดมากขึ้น สังเกตสิ่งละอัน พันละน้อยรอบๆ ตัวมากขึน้ ถือเป็นการพักผ่อนง่ายๆ เพราะนอกจากจะได้มองเห็นสิ่งที่สวยงามแล้ว ยังได้ บันทึกภาพเพือ่ เก็บความทรงจ�ำนัน้ ไว้กน็ า่ จะดีไม่ใช่นอ้ ย นะครับ

Better Pix

Compact Camera Tips

06 05

ท่านนักถ่ายภาพคงจะเห็นกันแล้วนะครับว่า การมอง หาสิง่ ทีซ่ ำ�้ กันหรือ Pattern รอบๆ ตัวนัน้ ไม่ยากเลย แต่วา่ บางครัง้ ภาพทีม่ แี ต่จงั หวะอย่างเดียวอาจจะดูนงิ่ ๆ ขาดเรือ่ งราวไป ดังนัน้ เราก็ต้องพยายามหามุมมองเพิ่มให้กับภาพของเรานะครับ อย่างภาพพระมหาเจดียส์ รี่ ชั กาลในวัดพระเชตุพนฯ หรือ วัดโพธิ์ (ภาพ 05) ที่ประดับตกแต่งกระเบื้องอย่างเป็นระเบียบ เรียบร้อยสวยงาม ถ้าจะถ่ายภาพแต่จงั หวะทีซ่ ำ�้ กันของลวดลาย เพียงอย่างเดียว ก็อาจไม่สื่อถึงตัวเจดีย์ที่สูงสง่า ผมเลยเลือก วางกล้องในมุมที่ต�่ำลงในระดับฐานของเจดีย์ เพื่อให้เห็นองค์ เจดีย์ทั้งหมด โดยมองหามุมที่ลวดลายซ�้ำกันอย่างชัดเจนเป็น ระยะหน้า ให้ภาพเล่าถึงการประดับประดาที่สวยงามของเจดีย์ ทีไ่ ล่ล�ำดับสูงขึน้ ไป เป็นการสร้างเรือ่ งราวให้กบั ภาพครับ หรือเรา จะใช้น�้ำหนักของแสงเงา เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับภาพก็ได้ ภาพนี้ (ภาพ 06) ก็ ถ ่ า ยที่ วั ด โพธิ์ เ ช่ น กั น ครั บ มุ ม แบบในภาพนี้มีอยู่เยอะครับ แต่พอถ่ายภาพออกมาดูก็พบว่า มันดูนิ่งๆ เป็นแค่เส้นสีสดๆ เท่านั้นครับ ผมเลยต้องเดินหามุม ใหม่ โดยคิดไว้แล้วว่าจะใช้แสงและเงาของอาคารหรือร่มไม้ เป็นตัวช่วยท�ำให้ภาพไม่ว่างโล่งจนเกินไป ตอนถ่ายผมเดินวนๆ

05 Lens 17mm /F8, 1/250 ISO 100 06 Lens 17mm /F4, 1/125 ISO 400

ในวัดแล้วกลับมาทีม่ มุ เดิม จนแสงแดดเริม่ คล้อยลงออกจากเมฆ เกิดเงาของร่มไม้และเงาตัวอาคารตกลงไปที่ก�ำแพง ท�ำให้ภาพ เกิดมิตไิ ม่ดแู บนๆ ประกอบกับจังหวะของเมฆทีอ่ ยูต่ รงกลางพอดี ท�ำให้เกิดภาพที่น่าสนใจ ดูมีเรื่องราวมากขึ้นครับ อย่างที่กล่าวไปในตอนแรกครับ การบันทึก

ภาพท�ำให้เราเห็นสิง่ ต่างๆ ละเอียดขึน้ การสร้างมุมมอง จากการถ่ายภาพก็จะช่วยเรามองในมุมทีต่ า่ งทีบ่ างครัง้ มองเผินๆ อาจจะดูคุ้นชิน แต่พอมองผ่านการจัดวาง องค์ประกอบในกล้อง ก็ทำ� ให้เราได้รบั ความเพลิดเพลิน ได้แบบไม่รู้ตัวครับ

08 07 Leica C-LUX 2 Lens 28 mm F 2.8, 1/500 ISO 100 08 Leica C-LUX 2 Lens 50 mm F 4, 1/80 ISO 100

จะว่าไปแล้วการมองหามุมในลักษณะนี้ จะใช้กล้อง อะไรถ่ายออกมาก็ไม่ต่างกันมากนัก เพราะเป็นเรื่องของมุมมอง กล้องดิจิทัล DSLR อาจจะได้เปรียบในเรื่องไฟล์ภาพที่ดีและ ใหญ่กว่า รวมไปถึงเลนส์ที่มุมกว้างกว่า (เพราะเปลี่ยนเลนส์ได้) แต่กล้องเล็กๆ ก็มขี อ้ ดีเช่นกัน เพราะเราสามารถค่อยๆ เดินหามุม ถ่ายไปได้เรื่อยๆ สบายๆ ไม่ต้องแบกอะไรหนัก เหมือนใช้กล้อง ตัวใหญ่ๆ แต่ด้วยความที่กล้องมีขนาดเล็ก การจับถือต้องระวัง ให้ดเี หมือนกันครับ เพราะจะท�ำให้ภาพเอียงได้เวลาเรากดชัตเตอร์ ภาพนี้ (ภาพ 07) ผมใช้จังหวะการซ�้ำกันของเสาของ ตัวอุโบสถ หน้าต่าง และช่อฟ้า ทีด่ แู ล้วทุกอย่างช่างซ�ำ้ และเท่ากัน อย่ า งพอดี ผมถ่ า ยอยู ่ ห ลายภาพแต่ ไ ม่ ไ ด้ ดั่ ง ใจเพราะเวลา กดชัตเตอร์ภาพจะเอียงทุกครั้งครับ เป็นเพราะกล้องมีขนาด เล็ก เวลากดน�้ำหนักของการกดจะกดไปที่กล้องด้วย ท�ำให้ภาพ ที่ได้มักจะเอียงครับ ในภาพทั่วๆ ไปอาจจะสังเกตยากสักนิด แต่ ภาพที่ถ่ายจากกล้องลักษณะนี้จะเห็นได้ชัด ผมต้องใช้สองมือ จับกล้องที่เล็กกว่าฝ่ามือตัวเอง แล้วกลั้นหายใจกดให้เบาที่สุด ครับ ใช้โหมดถ่ายภาพแบบแลนด์สเคป (Landscape) เลยครับ

และต้องเลือกรูรับแสงที่ท�ำให้ภาพมีความชัดลึกสูงสุดเท่าที่ สภาพแสงจะท�ำได้ ซึ่ ง ภาพก็ อ อกมาตรงสมใจ นอกจากนี้ เรายังสามารถเล่นกับมุมมองทีซ่ ำ�้ กันอย่างไม่เป็นระเบียบได้โดย อาศัย Pattern ต่างๆ ที่ซ�้ำกันไปมา ภาพนี้ (ภาพ 08) ใช้การซ�้ำของหลังคาและช่อฟ้ามา ประกอบกันสร้างจังหวะทีต่ ดั กันไปมาของรูปร่างรูปทรงครับ ภาพ ก็ถ่ายง่ายๆ ไม่ต้องระวังเรื่องตรงเอียงมากนัก ใช้โหมดการถ่าย ภาพทั่วไปก็ได้ แต่ผมคิดว่าถ้าถ่ายลักษณะนี้ควรใช้โหมดแลนด์ สเคปอย่างที่กล่าวไปจะดีกว่าครับ เพราะจะท�ำให้ภาพคมชัด ทัง้ ภาพ และอีกประการหนึง่ หากกล้องมีโหมดป้องกันการสัน่ ไหว ก็ควรเปิดใช้เลยนะครับ เพราะเมื่อกล้องเลือกรูรับแสงที่แคบๆ ในโหมดแลนด์สเคปแล้ว ความไวชัตเตอร์จะต�่ำ โหมดป้องกัน การสั่นไหวจะช่วยให้เราได้ภาพที่คมชัดมากยิ่งขึ้นครับ การมองหามุมซำ�้ ๆ กัน หรือเป็นแบบ Pattern เป็นเรือ่ ง สนุกนะครับ บางครั้งมันก็เป็นจังหวะซ�้ำๆ ชัดเจนให้เราบันทึก หรือบางทีเราก็เอามุมเหล่านั้นมารวมเข้าด้วยกัน สร้างมุมที่ แปลกตา ท�ำให้การออกไปถ่ายภาพแต่ละครั้งของเราสนุกและ มีชีวิตชีวาขึ้นเยอะครับ

Did You Know?

เรื่อง : ชวิศ เชษฐชัยยันต์

ในอดีต “ทางม้าลาย” ไม่ได้เป็นสีขาว - สีด�ำ

“ปฎิทิน” มีที่มาจากการเดินทวงหนี้

แถบทางม้าลายสัญลักษณ์ทางข้ามนัน้ มีแหล่งก�ำเนิดและ มีการเริ่มใช้ครั้งแรกที่ประเทศอังกฤษในปี 1934 เริ่มจากการมีเสา โคมไฟสัญญาณบีลิสชาที่ใช้บอกสัญญาณให้ยานพาหนะบนถนน หยุดวิ่งเพื่อให้คนทั้งสองข้างทางได้เดินข้าม ต่อมาในปี 1949 ได้มี การเพิม่ สัญลักษณ์ทเี่ ป็นแถบสีบนพืน้ ถนนเพิม่ เข้ามา เพือ่ ให้ผใู้ ช้รถ ใช้ถนนสังเกตเห็นได้ชัดมากยิ่งขึ้น ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีทางม้าลายเคย เป็นสีน�้ำเงินและสีเหลืองมาก่อน จากนั้นก็ได้มีการทดลองเปลี่ยนสี เพือ่ ความเหมาะสมมาโดยตลอด จากสีนำ�้ เงิน - สีเหลือง เปลีย่ นเป็น สีขาว - สีแดง จนมาลงตัวทีส่ ขี าว - สีดำ� ดังปัจจุบนั เมือ่ ปี 1951 พร้อม กับได้รับการขนานนามว่า “ทางม้าลาย” เพราะมีสีเหมือนลายของ ม้าลายนั่นเอง

Calendar มี ที่ ม าจากภาษาละติ น ที่ ไ ด้ รั บ อิ ท ธิ พ ลมาจาก ชาวกรีกโบราณอีกทีว่า Kalend แปลว่า I Cry ซึ่งที่มาของการใช้ ค� ำ นี้ ม าจากในสมั ย โบราณจะมี ค นที่ ค อยเดิ น ร้ อ งบอกชาวบ้ า น เพื่ อ แจ้ ง เตื อ นเหตุ ก ารณ์ ที่ ก� ำ ลั ง จะเกิ ด ขึ้ น ล่ ว งหน้ า รวมไปถึ ง การ ประกาศวั น ขึ้ น เดื อ นใหม่ เพื่ อ เตื อ นบรรดาลู ก หนี้ ทั้ ง หลายว่ า ครบก� ำ หนดวั น ที่ ต ้ อ งจ่ า ยหนี้ ที่ ติ ด กั น ไว้ คื น กลั บ แก่ เ จ้ า หนี้ แ ล้ ว แต่ เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป ระบบสังคมมีความสลับซับซ้อนมากยิ่งขึ้น จึง ได้มีการเริ่มบันทึกวัน - เวลาขึ้นเป็นลายลักษณ์อักษร และได้คิดค้น ปฏิ ทิ น เพื่ อ บอกวั น เวลาขึ้ น มาใช้ แ ทน ในปฏิ ทิ น ยุ ค ปั จ จุ บั น ยั ง มี รายละเอียดของสภาพภูมิอากาศ เวลาน�้ำขึ้น - น�้ำลง การหมุนเวียน เปลีย่ นผลัดการเดินทางของดวงจันทร์และดวงอาทิตย์เพิม่ เข้ามาอีกด้วย เรียกได้ว่าครบสมบูรณ์ขึ้นกว่าแต่ก่อนมากมาย

เหรียญสลึงช่วยให้ดอกไม้เหี่ยวเฉาช้าลงได้ ไม่อยากให้ความสดชื่นจากดอกไม้โปรดของคุณเหี่ยวเฉา โรยราไปอย่างรวดเร็ว เพียงแค่คุณหย่อนเหรียญสลึงลงไปในแจกัน ส่วนผสมที่เป็นทองแดงที่อยู่ในเหรียญจะไปช่วยยับยั้งการเจริญ เติบโตของเชื้อแบคทีเรียในดอกไม้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ท�ำให้ดอกไม้ เหี่ ย วเฉาเร็ ว เพี ย งแค่ นี้ คุ ณ ก็ เ พิ่ ม เวลาให้ ด อกไม้ โ ปรดอยู ่ ส ร้ า ง ความรื่นรมย์แก่คุณได้นานขึ้นอีก

“สิว” ช่วยบอกความผิดปกติของร่างกายได้ เมื่อไม่นานมานี้ สถาบัน Leonard Drake ได้ค้นพบวิธีการวิเคราะห์ผิว ผสานกับศาสตร์การอ่านใบหน้าแบบจีน ท�ำให้บง่ ชีไ้ ด้วา่ สิวทีข่ นึ้ ตามทีต่ า่ งๆ สามารถ บอกความผิดปกติทเี่ กิดขึน้ กับร่างกายได้ อาทิ สิวทีห่ น้าผากด้านซ้าย - ขวาอาจก�ำลัง ฟ้องว่าร่างกายก�ำลังมีปญ ั หาเรือ่ งการย่อยอาหาร กระเพาะปัสสาวะ สิวทีห่ ว่างคิว้ อาจ มีปัญหาที่ตับ สิวที่ใบหูทั้งสองข้างอาจมีปัญหาที่ไต สิวที่รอบดวงตาทั้งสองข้างอาจ ฟ้องปัญหาที่ไต สิวที่จมูกเหนือริมฝีปากอาจมีปัญหาที่หัวใจและระบบสืบพันธุ์ สิว สีแดงเข้มที่จมูกอาจบ่งบอกถึงโรคความดันโลหิตสูง หรือหากมีสิวที่ใต้ริมฝีปากด้าน ซ้าย - ขวาอาจมีปัญหาที่รังไข่ ไม่มีความสมดุลทางฮอร์โมน ทั้งนี้ทั้งนั้นการวิเคราะห์ ดังกล่าวเป็นเพียงแค่การพยากรณ์ตามศาสตร์แบบจีน หนทางที่ดีที่สุดหากไม่แน่ใจ ว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายเราหรือไม่ ควรเข้าไปปรึกษาแพทย์ถึงจะมั่นใจได้ มากที่สุด

เคยสังเกตหรือไม่...เราไม่สามารถหายใจและกลืนอาหาร ไปพร้อมกันได้ ไม่มีใครปฏิเสธว่า มนุษย์เราหากตั้งใจที่จะท�ำอะไรอย่างจริงจังแล้ว จะสามารถท�ำสิ่งต่างๆ ได้ แต่ประโยคดังกล่าวอาจไม่ได้หมายรวมถึงทุก กระบวนการของร่างกาย เพราะสิ่งที่ร่างกายของคนเราไม่สามารถท�ำได้อย่าง แน่นอนนั่นคือ การหายใจและการกลืนอาหารไปพร้อมๆ กัน เนื่องจากเมื่อ ร่างกายก�ำลังกลืนสิ่งใดๆ ก็ตาม กระบวนการกลืนจะไปรบกวนกระบวนการ หายใจ ด้วยการปิดกั้นอากาศไม่ให้ผ่านเข้าไปขณะที่อาหารก�ำลังเคลื่อนจาก ปากไปยังคอหอย และผ่านลงไปที่กระเพาะอาหาร แนะน�ำว่าอ่านไว้ให้รู้ แต่ไม่ควรทดลองท�ำ เพราะอาจเกิดอันตรายต่อร่างกายได้

เชื่อหรือไม่กาวตราช้างใช้รักษาส้นเท้าแตกได้ อาการส้นเท้าแตกจะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป เพราะหากเราใช้ กาวตราช้างลูบทาปิดหนังบริเวณส้นเท้าทีแ่ ตก สิง่ สกปรกก็จะไม่สามารถ เข้าไปในรอยแตกได้ ท�ำให้ผิวหนังไม่ถูกรบกวน มีเวลาในการซ่อมแซม ตนเองอย่างเต็มที่ ด้วยการผลัดเซลล์ผิวเก่าออก และสร้างเซลล์ใหม่ขึ้น มาฟืน้ ฟู หลังจากนัน้ กาวตราช้างก็จะหลุดลอกออกไปเอง แต่ทางทีด่ คี วร ทาด้วยครีมบ�ำรุงผิวทัว่ ๆ ไป น่าจะเป็นตัวเลือกทีด่ กี ว่า เพราะหากคุณเกิด แพ้ขึ้นมา นอกจากจะไม่สามารถรักษาส้นเท้าแตกได้แล้ว อาจได้ผดผื่น แดงจากอาการแพ้เป็นของแถมมาอีกด้วย

Exotic Thai

เรื่อง : จักรวาล

อ่างเก็บน�้ำกะทูน

ทิวเขา พื้นฟ้า และผืนน�้ำ แห่งสวิตเซอร์แลนด์แดนใต้ แล้วใครเลยจะรู้ว่า ณ มุมหนึ่งของบ้านกะทูน ต�ำบลกะทูน อ�ำเภอพิปูน จังหวัดนครศรีธรรมราช ของบ้านเรา จะมีอ่างเก็บน�้ำที่มีบรรยากาศสวยสงบ จรรโลงใจ สร้างความสุนทรีย์ในอารมณ์ให้ผู้ผ่านพบ ประหนึ่งได้มาสัมผัสบรรยากาศของสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยระยะทางแค่เพียงภาคใต้บ้านเรา

แต่ก่อ นทุกอย่างทั้งบรรยากาศ ผู ้คน สิ่งแวดล้ อม จะสวยสงบอย่างในทุกวันนี้ ย้อนกลับไปเมื่อกลางดึกคืนหนึ่งใน ปี พ.ศ. 2531 ด้วยเพราะฟ้าพิโรธโกรธจัดหรือสาเหตุใดไม่มีใคร หยั่ ง ได้ ฝนฟ้า ได้ค ะนองมาอย่า งมื ด ฟ้ า มั ว ดิ น ไปทั่ ว ทั้ ง แนว ขุนเขา ยาวนานจนสายน�ำ้ ได้กอ่ รวมตัวกันเป็นมรสุมสายธาร เข้า โบกพัดท่วมทวีทั้งหมู่บ้านกะทูน พัดเอาท่อนไม้ ท่อนซุงเข้าถล่ม บ้านเรือนด้วยอารมณ์ธารป่าอันบ้าคลั่ง ทุกอย่างพังราบคาบ เป็นหน้ากลองด้วยระยะเวลาไม่นาน ไม่ใช่แค่สิ่งปลูกสร้างที่ พังทลาย ผู้คนอีกหลายร้อยครอบครัวต้องสูญสลาย สังเวยชีวิต ให้กับโศกนาฏกรรมในครั้งนั้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

ดั่งแสงสว่าง ประทานดับทุกข์จากฟากฟ้า

แต่ ด ้ ว ยพระมหากรุ ณ าธิ คุ ณ อย่ า งล้ น พ้ น จาก โศกนาฏกรรมดังกล่าวท�ำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรง เล็งเห็นถึงความทุกข์ยากของอาณาประชาราษฎร์ ทีต่ อ้ งประสบ กับภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ในรอบนั้น จึงมีพระราชด�ำริให้บรรเทา

Exotic Thai

ทุกข์ภัยและเร่งฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย โดยทรงมอบ หมายให้เจ้าหน้าที่กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าท�ำการวิเคราะห์พิจารณาปรับปรุงและฟื้นฟูพื้นที่ ทั้งบริเวณ บ้านกะทูนเหนือ - บ้านกะทูนใต้ รวมถึงพื้นที่เพาะปลูกอีกหลาย พันไร่ทั้งสองฝั่งคลองกะทูน เนื่องจากเหตุการณ์ในรอบนั้น ได้น�ำพากรวดหินดินทราย กิ่งไม้ ต้นไม้ ท่อนซุง ซากปรักหักพัง เข้าทับถมรวมกัน สร้างความเสียหายในบริเวณกว้าง เมื่ อ ทรงเล็ ง เห็ น แล้ ว ว่ า ยากที่ จ ะฟื ้ น ฟู ใ ห้ ดี ดั ง เดิ ม แม้กระทัง่ การสร้างถิน่ ฐานของชาวบ้านทีไ่ ม่อาจปลอดภัยอย่าง ในอดีตได้อีกต่อไป จึงมีพระราชด�ำริให้สร้างเป็นอ่างเก็บน�้ำ ขนาดใหญ่ขนึ้ เป็นทีม่ าของ “อ่างเก็บน�ำ้ กะทูน” โครงการอันเนือ่ ง มาจากพระราชด�ำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บนพื้นที่ หมื่นกว่าไร่เหนือหมู่บ้านกะทูนที่ถูกกระแสธารมัจจุราชกลืนกิน หายไปในอดีต เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาน�้ำท่วมพื้นที่ทั้งสองฝั่ง ของแม่น�้ำตาปีตอนล่างของจังหวัดนครศรีธรรมราช ลดปัญหา ขาดแคลนน�้ ำ ในยามแล้ ง มาเยื อ น เพื่ อ ประโยชน์ ใ นด้ า น การเกษตรบนผื น ดิ น ชลประทานนั บ หมื่ น ไร่ ใช้ เ ป็ น แหล่ ง เพาะพันธุป์ ลาน�ำ้ จืด และยังเป็นสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วตากอากาศให้ ผู้คนยุคปัจจุบันได้ลัดเลาะธรรมชาติ และเรียนรู้ประวัติศาสตร์ จากอดีตที่ผ่านมา

ทิวเขาเปลี่ยนสี สวยงามสอดสลับรับฤดูกาล

อ่างเก็บน�ำ้ กะทูนแห่งนีส้ ร้างแล้วเสร็จเมือ่ ปี พ.ศ. 2540

Exotic Thai นั่นเท่ากับว่าอ่างเก็บน�้ำแห่งนี้มีอายุอานามเพียงสิบสี่ปีเท่านั้น บรรยากาศโดยรอบมี ทั้ ง ทิ ว ทั ศ น์ ข องทะเลสาบที่ ส งบเงี ย บ สวยงาม ประดับประดาวิวรอบด้านด้วยขุนเขาน้อยใหญ่มากมาย ภายใต้ผืนน�้ำที่เต็มไปด้วยความทรงจ�ำผืนนี้ รอการ เยี่ยมเยือนจากนักเดินทางที่แวะเข้ามาผ่านพบด้วยทิวเขา พื้น ฟ้า และผืนน�้ำ ใส่สีแสงบรรยากาศที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น สวิตเซอร์แลนด์แดนใต้ รายล้อมไปด้วยภูเขาเปลี่ยนสี อันเกิด จากการเปลี่ยนสีตามฤดูกาลของสียางพารา อย่ า งเช่ น หากแวะเวี ย นไปในช่ ว งเดื อ นมี น าคม เมษายน ก็จะได้ทอดสายตามองวิวเคล้าสลับกับภูเขาสีแดง หาก มีโอกาสไปเจอกันกลางปีในช่วงเดือนพฤษภาคม อันเป็นช่วงที่ ยางพาราผลิแย้มใบอ่อน ก็จะได้ส�ำราญตาไปกับสีเขียวอ่อนๆ ของภูเขาที่ให้ความรู้สึกเย็นตาร่มใจ หรือหากไปเยี่ยมเยือนใน ช่วงเดือนกันยายน - ตุลาคมเป็นต้นไป ทิวเขารอบๆ อ่างจะถูก ผสมสีใหม่จากฝีมอื ธรรมชาติรงั สรรค์ ให้กลายเป็นสีเหลืองอร่าม ส่งความสุขให้ดูงามตาไปอีกแบบหนึ่ง

อดีตความทรงจ�ำ ที่รอเล่าขานผู้เยี่ยมเยือน

ตกปลา สลั บ ให้ นั ก ท่ อ งเที่ ย วได้ เ พลิ ด เพลิ น ไปกั บ สิ่ ง ละอั น นอกจากการได้แวะลิ้มรสบรรยากาศสวยสงบไปด้วย พันละน้อยรอบๆ ตัว หรือหากอยากเปลี่ยนบรรยากาศพักผ่อน สีสนั ของทิวเขารอบอ่างแห่งนีแ้ ล้ว ทีน่ นี่ กั เดินทางยังจะได้สมั ผัส บริเวณรอบๆ ริมอ่างเก็บน�้ำยังมีร้านอาหารเรียงรายให้เลือกชิม เรียนรู้วิถีชุมชน ภูมิปัญญาชาวบ้าน เคียงคู่ไปกับการอนุรักษ์ มากมาย และมีรีสอร์ทสวยๆ ให้นอนพักผ่อนเปลี่ยนอารมณ์ สิง่ แวดล้อม ด้วยกิจกรรมท่องเทีย่ วหลากหลายเส้นทางดีๆ ทีล่ ว้ น การเดินทางได้อีกด้วย หนึ่งในโครงการหลวงที่กลายเป็นอีกหนึ่งใน แล้วแต่น่าสัมผัสและเข้าถึงได้ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมพักแรมกับธรรมชาติ นักเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยวอันควรค่าแก่การเยี่ยมเยือนของ จะได้ เ ดิ น ป่ า ตั้ ง แคมป์ เ ชิ ง อนุ รั ก ษ์ นอนพิ ง พั ก แนบอิ ง กลิ่ น นักเดินทาง ผ่อนคลายกับบรรยากาศสวิตเซอร์แลนด์ ธรรมชาติให้ทั่วปอด นอกจากนี้ชุมชนยังต้อนรับอย่างอบอุ่น แดนใต้ของเมืองไทย เคล้าไปกับรสชาติประวัติศาสตร์ ด้วยสาระดีๆ ที่จะพาคุณย้อนชมพื้นที่ประวัติศาสตร์ของชุมชน และยังได้มีโอกาสสัมผัสเข้าใกล้พระมหากรุณาแห่ง ที่ ใ นอดี ต ครั้ ง หนึ่ ง เคยเป็ น ค่ า ยคอมมิ ว นิ ส ต์ ม าก่ อ น รวมถึ ง พ่ อ หลวงได้ ที่ นี่ สวรรค์ แ ห่ ง การพั ก ผ่ อ นอยู ่ ใ กล้ ย้อนรอยเหตุการณ์ประวัตศิ าสตร์ในคืนเหตุนำ�้ ท่วมใหญ่ เรียงร้อย ไม่เกินเอื้อม ที่มาของอ่างเก็บน�้ำให้ฟังกันอย่างใกล้ชิดโดยค�ำบอกเล่าจาก ไกด์คนพื้นที่ เดินทางง่ายๆ เพียง 15 กิโลเมตรเท่านั้นจากอ�ำเภอพิปูน หลังจากฟังประวัติความเป็นมาแล้ว นักท่องเที่ยว (โดยใช้เส้นทางพิปูน - ห้วยปริก) จะได้ลงกิจกรรมภาคสนามที่ทั้งจรรโลงใจและผ่อนคลาย อย่าง ขากลับแวะซื้อของฝากเล็กๆ กลับบ้าน เป็นผลิตภัณฑ์เซรามิก การล่องเรือเที่ยวชมภูมิทัศน์โดยรอบของอ่างเก็บน�้ำ แวะฝาก ลายสวยๆ แปลกตา และเป็นลายหายาก จากโครงการเซรามิก ท้องกับอาหารอร่อยๆ ปลาสดๆ จากปลาทีเ่ ลีย้ งเองทางตอนเหนือ สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ของอ่างเก็บน�้ำ รวมถึงกิจกรรมฝึกให้อาหารปลาและกิจกรรม

Around the World

เรื่อง : จักรวาล

ย้อนรอยประวัติศาสตร์อเมริกันที่ “บอสตัน” ตามรอยพ่อหลวงที่ “เคมบริดจ์” • รูปปัน้ จอร์จ วอชิงตัน วีรบุรษุ แห่ง อเมริกันชน

สัมผัสมนต์ขลังของเมืองใหญ่ เมื อ งส� ำ คั ญ อั น เก่ า แก่ ที่ เ ต็ ม ไปด้ ว ย ประวัติศาสตร์ของชนชาวอเมริกัน อัน มีวัฒนธรรมที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่ง ในสหรัฐอเมริกาที่ “บอสตัน” โดดเด่น ไปด้วยสถานทีท่ นี่ า่ สนใจมากมาย ไม่วา่ จะ เป็นสถาบันการศึกษา สถาบันเทคโนโลยี รวมถึงเส้นทางบอกเล่าประวัติศาสตร์ ส� ำ หรั บ นั ก ท่ อ งเที่ ย วผู ้ ม าเยี่ ย มเยื อ น จากนั้นไปต่อกันที่ “เคมบริดจ์” เมือง เล็กๆ ทีต่ งั้ อยูค่ นละฝัง่ แม่นำ�้ กับบอสตัน เดินชมเรื่องเล่าจากประวัติศาสตร์ไทย อันน่าภาคภูมิใจ เยี่ยมเยือนรอยทาง ประวัติศาสตร์ของ “พ่อ” หนึ่งเดียวใน ดวงใจของคนไทย

• บรรยากาศยามค�่ำคืนของท่าเรือเมืองบอสตัน

Around the World

Duck Tours ตามรอยประวัติศาสตร์อเมริกัน

Old State House ประวัติศาสตร์อเมริกา ใจกลาง ขึ้นชื่อว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้อง ก่อนออกเดินทาง บอสตัน

นักท่องเทีย่ วไม่ควรพลาด “Duck Tours” หรือรถทัวร์เป็ด ซึง่ เป็น รถที่สร้างขึ้นในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ในปัจจุบันถูก น�ำมาดัดแปลงให้เป็นรถน�ำเที่ยว เป็นรถที่วิ่งบนถนนก็ได้ แล่น ในน�ำ้ ก็ดไี ม่แพ้กนั โดยรถทัวร์เป็ดทีว่ า่ นีน้ อกจากจะพานัง่ รถเทีย่ ว ลัดเลาะไปรอบๆ ตัวเมืองแล้ว ยังจะพาท่านแวะชิมเป็ดเนื้อนุ่ม ย่านไชน่าทาวน์เพื่อเติมก�ำลังก่อนออกเที่ยวต่ออีกด้วย นั่งรถเที่ยวจนหน�ำใจแล้ว ถัดห่างจากนี้ไปอีกไม่ไกล แนะน�ำให้หยุดแวะ “Faneuil Hall” ซึ่งที่แห่งนี้ ในอดีตเป็น ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าต่างๆ สร้างขึ้นโดยพ่อค้าชาว นิวยอร์กที่ชื่อว่า Peter Faneuil โดยบนชั้นที่สองของอาคาร ดังกล่าวยังใช้เป็นศาลาประชาคมอีกด้วย หากนักท่องเที่ยว ไม่แน่ใจว่าเป็นอาคารไหน จะมีจุดสังเกตให้ง่ายๆ คือ บนยอด อาคารจะมีตัวตั๊กแตนตั้งอยู่ สื่อความหมายถึงความรุ่งเรือง ของเมืองบอสตัน และอีกนัยหนึ่งยังเป็นสัญลักษณ์ทางการเงิน ของคนอังกฤษทีเ่ ข้ามาตัง้ รกรากทีบ่ อสตันอีกด้วย และใกล้ๆ กันนัน้ มี “Quincy Market” ตลาดนั ด กลางเมื อ งที่ มี ข องขาย หลากหลายให้นกั ท่องเทีย่ วแวะได้อกี จุดหนึง่ ถ้าหากนักท่องเทีย่ ว ไปเยือนในช่วงหน้าร้อน ก็จะมีการแสดง การละเล่นให้ได้ชม กันอีกด้วย 01 Duck Tours ที่จะพาคุณลัดเลาะชมรอบตัวเมือง 02 Quincy Market ตลาดนัดกลางเมืองที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด 01

ที่ใจกลางเมืองบอสตัน ยังมีประวัติศาสตร์ของชนชาติ อเมริกาหลงเหลือให้นกั ท่องเทีย่ วได้ศกึ ษาในรูปแบบของอาคาร อิฐเก่าแก่สวยงามที่มีชื่อว่า “Old State House” ซึ่งเป็น อาคารรัฐสภาเก่าอายุกว่า 300 ปีล่วงมาแล้ว อาคารแห่งนี้ ในสมัยก่อนเป็นที่ท�ำงานของรัฐบาลอังกฤษ ในเวลาต่อมาถูก ใช้ในฐานะสภาแห่งรัฐแมสซาชูเซตส์ โดยก่อนที่อเมริกาจะได้ อิสรภาพคืนมาจากอังกฤษนั้น สภาแห่งนี้ได้ถูกขนานนามว่า กระด้างกระเดือ่ งต่ออังกฤษมากทีส่ ดุ เพราะมีประวัตศิ าสตร์การ ชุมนุมเพื่อเรียกร้อง มีทั้งเลือดเนื้อของผู้เสียสละหลั่งไหลเกิดขึ้น ที่นี่อย่างมากมาย ต้นเรื่องมาจากเมื่อ 240 ปีที่แล้ว ประชาชน ไม่พอใจการเรียกเก็บภาษีแบบใหม่จากอังกฤษ จึงรวมตัวกันเพือ่ ประท้วงขับไล่ทหารอังกฤษ ทหารจึงใช้ก�ำลังเข้าปราบปราม แต่ทนั ใดนัน้ ก็มเี สียงกระดิง่ ดังขึน้ ทหารเข้าใจผิดคิดว่าเป็นค�ำสัง่ ให้ ยิ ง ฝู ง ชน ท� ำ ให้ เ กิ ด ความสู ญ เสี ย ขึ้ น เหตุ ก ารณ์ นี้ จึ ง เป็ น ชนวนส�ำคัญในการปลุกเร้าความรักชาติ และตามมาด้วยการ ต่อสู้เพื่อทวงเอกราชคืนจากอังกฤษของคนอเมริกาในที่สุด ใน ปัจจุบนั Old State House ได้กลายเป็นพิพธิ ภัณฑ์เพือ่ ย�ำ้ เตือนใจ คนรุน่ หลังให้ระลึกถึงประวัตศิ าสตร์สบื ไป ในบริเวณนัน้ ยังมี The Old South Meeting House เป็นโบสถ์ที่สร้างขึ้นตามแบบฉบับ ของสถาปัตยกรรมเก่าแก่โบราณ อายุอานามในวันนี้รวมแล้ว มากกว่า 280 ปี และใกล้ๆ กันนั้นยังมีรูปปั้นของ Benjamin

Franklin ผู้ที่เป็นทั้งนักเขียน นักประดิษฐ์ นักวิทยาศาสตร์ ทหาร นักการเมือง และรัฐบุรษุ คนส�ำคัญในประวัตศิ าสตร์ชาติอเมริกา อีกด้วย

เยื อ นเมื อ งประวั ติ ศ าสตร์ ช าวไทย เยื อ นเมื อ ง มหาวิทยาลัยชั้นน�ำของโลก

หนึง่ ในเมืองส�ำคัญอีกเมืองทีน่ า่ สนใจ หากมาเยือนถิน่ เคมบริดจ์แล้ว ไม่ได้แวะเยี่ยมเยือน ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกตาม สถานที่ต่างๆ ก็อย่าริไปบอกใครว่าคุณไปเที่ยวเคมบริดจ์มา เริ่มต้นกันที่ “Harvard University” มหาวิทยาลัย ที่มีอายุร่วม 300 กว่าปี ที่ได้ชื่อว่ามีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดของ สหรัฐอเมริกา ฮาร์วาร์ดมีชื่อเสียงมากในเรื่องคุณภาพทั้งด้าน วิชาการ คณาจารย์ และนักศึกษา ฮาร์วาร์ดได้ผลิตเจ้าของรางวัล โนเบลและรางวัลพูลิตเซอร์ขึ้นอย่างมากมาย โดยกลุ่มผู้ก่อตั้ง ฮาร์วาร์ดคือคณะนักบวชเพียวริทนั ทีอ่ พยพมาจากอังกฤษ จัดตัง้ ขึน้ เพือ่ สร้างนักบวชให้เผยแพร่ศาสนาตามแนวทางของลัทธิ แต่ เดิมใช้ชื่อว่า The New College และได้เปลี่ยนมาเป็น Harvard College เพื่อเป็นเกียรติแก่จอห์น ฮาร์วาร์ด หนึ่งในนักบวช เพียวริทนั ผูท้ ไี่ ด้ท�ำพินยั กรรมบริจาคหนังสือและเงินจ�ำนวนหนึง่ แก่ทางวิทยาลัย หากกล่ า วในเรื่ อ งความสั ม พั น ธ์ ร ะหว่ า งไทยกั บ ฮาร์วาร์ดนัน้ ในหน้าบันทึกประวัตศิ าสตร์ทผี่ า่ นมาก็มเี รือ่ งเล่าอยู่

04 03 Old State House อาคารรัฐสภาเก่าแก่ของบอสตัน 04 Harvard มหาวิทยาลัยชั้นน�ำของโลก

ไม่น้อย นับตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ไทยได้ว่าจ้างให้ศาสตราจารย์ เจมส์ ไอเวอร์สัน เวสเตนการ์ด มาเป็นที่ปรึกษาราชการทั่วไป ในสมัยรัชกาลที่ 6 ศาสตราจารย์ ดร.ฟรานซิส บี. แซร์ ก็เข้ามา เป็นที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศ ท�ำหน้าที่เจรจาแก้ไขสนธิสัญญาสิทธิสภาพนอกอาณาเขต และในเวลาต่อมา สมเด็จ พระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ก็ทรงมาเป็น นักศึกษาแพทย์อยูท่ โี่ รงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ดอีกด้วย โดยสมเด็จ พระบรมราชชนก ทรงใช้ Harvard Medical School ที่พระองค์ เคยเข้าศึกษาเป็นต้นแบบในการวางแผนพัฒนาปรับปรุงโรงเรียน แพทย์ศิริราช เพื่อยกระดับให้เป็นมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ ซึ่งก็คือมหาวิทยาลัยมหิดลในปัจจุบัน

ตามรอย “พ่อ”

ขึ้นชื่อว่าเป็นคนไทย หากมาเยือนเมืองนี้แล้วไม่ได้ ไปเยี่ ย มชมสถานที่ ที่ ค รั้ ง หนึ่ ง “พ่ อ หลวง” ของเราทรง พระราชสมภพและเคยทรงใช้ชีวิตช่วงหนึ่งที่นี่ ก็คงเรียกได้ว่า เป็นคนไทยได้ไม่เต็มปาก เส้นทางตามรอยพ่อหลวงจะสมบูรณ์ ไม่ได้ เพียงแค่ขา้ มแม่นำ�้ ชาร์ลส์มาอีกฟากหนึง่ ของเมือง ก็จะถึง “เคมบริดจ์” เมืองเล็กๆ ที่มีประวัติศาสตร์ของคนไทยอยู่ที่นี่ ให้นักท่องเที่ยวได้ตามรอยกัน

Around the World

05 05 โรงพยาบาล Mount Auburn สถานที่ทรงพระราชสมภพของพ่อหลวง 06 จัตุรัสภูมิพล ศูนย์รวมจิตใจชนชาวไทยต่างแดน

เริ่ ม ต้ น ณ สถานที่ ท รงพระราชสมภพ “Mount Auburn Hospital” ที่นั่นนักท่องเที่ยวชาวไทยจะได้พบกับ พระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่พระราชทานให้ที่นี่ เมือ่ ครัง้ เสด็จฯ เมือ่ วันที่ 7 กรกฎาคม 2502 จากนัน้ หากขึน้ ต่อไป ที่ชั้นห้าของโรงพยาบาลก็จะได้พบกับพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมกับข้อความที่ทางโรงพยาบาลประกาศไว้ว่า “Mount Auburn Hospital wishes to commemorate the birth of the only King to be born within the continental United States. His Majesty King Bhumibol Adulyadej, King of Thailand, was born December 5th, 1927 with Dr. W. Stewart Whitemore in attendance.” นอกจากนี้ หน้าห้องพระประสูติของพระองค์ ยังมี แผ่นป้ายจารึกที่ท�ำโดยองค์กรที่ชื่อว่า “KTBF (The King of Thailand Birthplace Foundation)” อันเป็นกลุ่มของคนไทย ใจภักดีที่ร่วมกันตามรอยสถานที่ต่างๆ ที่พระองค์ทรงผ่านพบ และเคยประทับ ณ เมืองแห่งนี้ ด้วยความส�ำนึกและยินดีใน เลือดเนื้อชาติเชื้อไทย

ทีม่ ตี อ่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั คือ “King Bhumibol Adulyadej of Thailand Square” หรือที่คนไทยเรียกกันง่ายๆ ว่า “จั ตุ รั ส ภู มิ พ ล” อั น เกิ ด จากความร่ ว มมื อ ของกลุ ่ ม KTBF และเทศบาลเมื อ งเคมบริ ด จ์ ที่ จั ด สร้ า งขึ้ น เนื่ อ งในโอกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 72 พรรษา โดยกลางจัตุรัสจะมีแท่นหินแกรนิต ซึ่งด้านบน จะเป็ น ทองสั ม ฤทธิ์ ที่ จ ารึ ก ประวั ติ พ ระบรมราชสมภพและ พระปรมาภิไธยไว้ ส่วนด้านหลังจะมีขอ้ ความจารึกและบรรยาย สถานที่ต่างๆ และมากกว่านั้น องค์กร KTBF ยังรวบรวมเงินทุน เพื่อใช้ปรับปรุงจัตุรัสให้กว้างขวาง สวยงามสมพระเกียรติต่อไป อีกด้วย ในปัจจุบันที่แห่งนี้ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทย ทุกหมูเ่ หล่า และในทุกๆ วันก็จะเห็นคนไทยมาถ่ายรูปเป็นทีร่ ะลึก กับจัตรุ สั นีอ้ ย่างไม่ขาดสาย เป็นหนึง่ ในประจักษ์พยานว่าสถานที่ แห่งนี้มีความส�ำคัญกับคนไทยมากมายขนาดไหน เที่ยวชมสถานที่เก่าแก่ทรงคุณค่า เยือนถิ่น

ประวัติศาสตร์ของชาวอเมริกัน และร่วมตามรอย พ่อหลวง เพือ่ เติมเต็มทริปท่องเทีย่ วนีใ้ ห้สมบูรณ์ตาม แบบฉบับคนไทยหัวใจไตรรงค์ ได้ทเี่ มืองประวัตศิ าสตร์ สานต่อความภักดีที่ “จัตุรัสภูมิพล” อย่างบอสตันและเคมบริดจ์ ประเทศสหรัฐอเมริกา อี ก หนึ่ ง สถานที่ สั ญ ลั ก ษณ์ ที่ ม าจากความส� ำ นึ ก ใน แล้วคุณจะรูว้ า่ ทริปนีใ้ ห้คณ ุ ได้มากกว่าแค่ความประทับใจ พระมหากรุณาธิคณ ุ และความจงรักภักดีของคนไทยในต่างแดน

authentically different Feel the elegance of simply sophisticated contemporary Thai dèecor. A favourite place for business dining and garden wedding. The menu displays a well blend of traditional and contemporary Thai cuisine, and a wide array of beverages aunting the best combinations of herbs to soothe your palate.

www.patarathailand.com Lunch : Mon - Sun 11.30 - 14.30 hrs. 375 Soi Thonglor 19, Sukhumvit 55 Dinner : Mon - Sun 18.00 - 23.00 hrs. Klongtonnua, Vadhana, Bangkok 10110

Tel : 0-2185-2960-1 Fax : 0-2185-2962

BANGKOK • LONDON • GENEVA • SINGAPORE • BEIJING • VIENNA

Cool Gear

เรื่อง : diamond

ยานยนต์เพื่อผู้น�ำ สมัยนี้รถยนต์ไม่ได้เป็นแค่ยานพาหนะเพียง อย่างเดียวอีกต่อไป เพราะในปัจจุบันยานยนต์รูปแบบ ใหม่ๆ ได้พัฒนาทั้งขุมก�ำลัง ความสามารถ เพิ่มขีด จ�ำกัดของฟังก์ชนั การใช้งานไม่ให้หยุดอยูแ่ ค่ขบั เคลือ่ น พาคุณไปไหนต่อไหนเท่านั้น ยิ่งถ้ารถยนต์คันดังกล่าว เป็นรถยนต์ของคนระดับผู้น�ำด้วยแล้ว แน่นอนว่า ฟั ง ก์ ชั น การใช้ ง านต้ อ งมี ค วามจ� ำ เป็ น มากกว่ า แค่ รถยนต์นงั่ ธรรมดาๆ ทัว่ ไปอย่างแน่นอน Cool Gear ฉบับนีจ้ ะพาไปท�ำความรูจ้ กั กับยานยนต์จากสองสัญชาติ แห่ ง โลกยานยนต์ ที่ ใ ห้ คุ ณ ค่ า ได้ ม ากกว่ า เป็ น เพี ย ง ยานพาหนะธรรมดาทั่วไป

Rolls - Royce

ยานยนต์ทมี่ ฐี านะเป็นรถเกรดพรีเมียมของค่ายรถยนต์ สัญชาติองั กฤษทีม่ ชี อื่ เดียวกันกับตัวรถ ก่อตัง้ โดย เฟรดริก เฮนรี่ รอยซ์ และชาร์ลส์ โรลส์ จัดเป็นรถยนต์ขนาดใหญ่ โดยปัจจุบัน BMW เป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้าของโรลสรอยซ์ แต่ในที่นี้

จะขอกล่าวถึงเฉพาะรุ่น Phantom ที่ถูกพัฒนามาเพื่อทดแทน รุ่นเดิมก่อนหน้านี้คือ Rolls - Royce Silver Ghost และมีการใช้ ชื่อรุ่นใหม่เป็นเลขก�ำกับท้าย ปัจจุบันมีถึง 7 รุ่นด้วยกัน โดย Phantom ส่วนใหญ่จะถูกครอบครองโดยพวกราชวงศ์ เชือ้ พระวงศ์ ผู้น�ำประเทศ และเหล่าคนดัง ส�ำหรับในประเทศไทยเองก็เช่นเดียวกัน Phantom VI เคยถูกน�ำมาใช้เป็นรถยนต์พระทีน่ งั่ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ิ์ พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยาม มกุฎราชกุมาร โดย Phantom VI เป็นรุ่นที่ 6 ใช้เครื่องยนต์ 8 สูบ 6,230 ซีซี (แต่ภายหลังได้เพิ่มก� ำลังเป็น 6,750 ซีซี) เกี ยร์ อัตโนมั ติ 4 สปี ด และได้ รั บการออกแบบให้ ดีขึ้น กว่า รุ่นเดิมๆ ในอดีต

Maybach

รถยนต์สัญชาติเยอรมันคันนี้จัดอยู่ในประเภทรถยนต์ ขนาดใหญ่ มีต้นก�ำเนิดจาก วิลเฮล์ม และคาร์ล มายบัค สอง พ่อลูกที่รังสรรค์ปั้นแต่งแบรนด์ Maybach ขึ้นมากับมือ แต่ใน

ปัจจุบันเครื่องหมายการค้าเป็นของเดมเลอร์ไครสเลอร์ และ ต่อมาในปี 2503 เดมเลอร์ - เบนซ์ ได้เข้าถือหุน้ ใหญ่ของบริษทั และ ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Maybach Mercedes - Benz Motorenbau GmbH ภายหลังการเงียบไปพักใหญ่ Maybach ได้กลับมา อีกครั้งภายใต้การดูแลของเมอร์เซเดสเบนซ์ จัดเป็นรถหรูที่ จะผลิตตามค�ำสั่งซื้อเท่านั้น ราคาใกล้เคียงกับโรลสรอยซ์ มี ให้เลือกสองรุ่นคือ Maybach 62 ซึ่งเป็นรุ่นท็อป ขนาดใหญ่ สะดวกสบาย โดยตัวรถมีความยาวถึง 6.20 เมตร โครงสร้างรถ มีตัวถังที่แข็งแกร่ง เพิ่มความปลอดภัยสูงสุดให้แก่ห้องโดยสาร ด้วยวัสดุชนิดพิเศษท�ำจากเหล็กกล้าผสม (Steel Alloys) ท�ำให้ Maybach เป็นรถขนาดใหญ่ทมี่ นี ำ�้ หนักเบามาก ขุมพลังประกอบ ด้วยเครือ่ งยนต์ 12 สูบ เทอร์โบคูข่ นาด 5.5 ลิตร ขับพลังงาน 405 กิโลวัตต์/550 แรงม้า มีแรงบิดสูงสุดถึง 900 นิวตันเมตร ส่งให้ สามารถเร่งความเร็วจาก 0 - 100 ได้ภายในเวลา 5.4 วินาที เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ขับเคลื่อนได้อย่างเหนือชั้น ภายในห้อง สัมภาระท้ายรถสามารถใส่กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ได้ถึง 5 ใบ เก้าอี้ผู้โดยสารโหมดอัจฉริยะ สามารถปรับเบาะได้สบาย เทียบเท่าที่นั่งเฟิร์สคลาสบนเครื่องบิน เพียงแค่แตะปุ่มเบาๆ เก้าอี้ก็จะเลื่อนปรับระดับให้คุณอย่างช้าๆ ไปยังต�ำแหน่งที่คุณ ต้องการ ทั้งยังสามารถเก็บบันทึกไว้ในหน่วยความจ�ำได้อีกด้วย มีระบบควบคุมอุณหภูมิ ถุงลมนิรภัยที่ปรับระดับการพองตัวได้ ตามความรุนแรงของสภาวะที่ประสบ และในทุกต�ำแหน่งของ ผู้โดยสารจะมีระบบยึดรั้งของลูกรอกสายเข็มขัด ชุดจ�ำกัดแรง รัดเข็มขัด มีถุงลมด้านข้างที่อยู่ตรงพนักพิงหลัง เพิ่มความมั่นใจ ในการป้องกันภยันตราย และทีส่ ำ� คัญยังมีเกราะกันกระสุนทีถ่ กู

ติดตั้งจากโรงงาน อันเป็นระดับการป้องกันขั้นสูงสุด มีเพียง ไม่กี่สิ่งในโลกที่จะท�ำลายได้ นอกจากนี้ Maybach 62 ยังสามารถดัดแปลงให้ กลายเป็นห้องท�ำงานเคลือ่ นทีไ่ ด้อกี ด้วย โดยวิศวกรจาก Sindelfingen ได้ออกแบบโต๊ะพับที่ผลิตจากอะลูมินัม ขอบโต๊ะตกแต่ง ด้วยไม้คุณภาพสูง เพื่อความสะดวกในการท�ำงานนอกสถานที่ และยังมีช่องเก็บของที่คอนโซลหลังในแต่ละด้านที่สามารถดึง ออกมาด้วยห่วงหนัง ส่วนไฮไลท์ของ Maybach 62 คือหลังคา แบบพาราโนมิกที่สามารถปรับความโปร่งแสงด้วยระบบไฟฟ้า โดยระบบความสว่างที่จะส่องเข้ามานี้จะอาศัยการควบคุมผลึก เหลวให้เรียงตัว และที่ส�ำคัญระบบการควบคุมแสงนี้มีติดตั้ง เฉพาะใน Maybach เท่านั้น จัดเป็นยานยนต์รุ่นแรกที่มีระบบนี้ ส่วนอีกรุ่นคือ Maybach 57 ที่มีความยาวไม่ต่าง จากตัวท็อปมาก คือ 5.73 เมตร มีลักษณะเป็นรถสปอร์ต ใช้ เครื่องยนต์ 6 ลิตร V12 เทอร์โบคู่ ผลิตแรงม้าสูงสุดได้ถึง 604 แรงม้า และทอร์กได้สูงถึง 737 ปอนด์/ฟุต ส� ำ หรั บ ประเทศไทย หลายๆ คนคงเคยได้ ย ลโฉม Maybach 62 ไปบ้างแล้วจากพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติ อย่างยิ่งใหญ่ระหว่างวันที่ 8 - 13 มิถุนายน 2549 ที่ผ่านมา เนื่องจาก Maybach 62 ได้กลายเป็นราชพาหนะคันล่าสุดที่เข้า มาประจ�ำการแทน Rolls - Royce Phantom VI ที่รับใช้ ในฐานะรถยนต์พระที่นั่งมานานถึง 30 ปี ไม่ ต ้ อ งอธิ บ ายก็ ค งพอเห็ น ภาพกั น แล้ ว ว่ า

ไม่นา่ มีพระมหากษัตริยพ์ ระองค์ใดในโลก ทีจ่ ะทรงใช้รถ คันหนึ่งได้อย่างยาวนานไปกว่าพ่อหลวงของเรา

Hot Events

CALENDAR

วันที่ 3 - 6 พฤศจิกายน 2554 งานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 23 ต้อนรับหน้าหนาวปีนี้ให้คึกคักกับงาน “ไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 23” มหกรรม ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของไทย ภายในงานมีผู้ประกอบการชั้นน�ำกว่า 800 ราย มาร่วมน�ำ เสนอสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวคุณภาพในราคาสุดพิเศษ พร้อมรับข้อเสนอดีๆ รวมทั้งมีกิจกรรมการแสดงบนเวทีให้ร่วมสนุกตลอดงาน ในวันที่ 3 - 6 พฤศจิกายน 2554 เวลา 10.00 - 21.00 น. ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 3 - 4 สอบถามรายละเอียดได้ที่ บริษัท พี.เค. เอ็กซิบิชั่น แมนเนจเม้นท์ จ�ำกัด Call Center โทร. 0-2683-3065 หรือ www.pkexhibition.com วันที่ 8 - 10 พฤศจิกายน 2554

สีสันแห่งสายน�้ำ มหกรรมลอยกระทง กรุงเทพมหานคร

เชิ ญ ร่ ว มงานศิ ล ปวั ฒ นธรรมแห่ ง สายน�้ ำ ชม ขบวนเรื อ ประดั บ ไฟฟ้ า การ ประดับไฟฟ้าส่องสว่างทั้ง 2 ฝั่ง ของแม่ น�้ ำ เจ้ า พระยา สั ม ผั ส บรรยากาศพิเศษสุดของประเพณีล อยกระทง ในแบบฉบับกรุงรัตนโกสินทร์ ชมการแสดงทางวัฒนธรรม และกิจกรรมสาธิต การท�ำกระทงสาย กระทงดอกไม้สด ตั้งแต่วันที่ 8 - 10 พฤศจิกายน 2554 ณ สวนนาคราภิรมย์ บริเวณแม่น�้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สะพานกรุงเทพ ถึงสะพาน กรุงธน กรุงเทพมหานคร สอบถามรายละเอียดเพิม่ เติมได้ที่ กองสร้างสรรค์กจิ กรรม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โทร. 0-2250-5500 วันที่ 18 - 27 พฤศจิกายน 2554

ละครเวทีอิงประวัติศาสตร์เรื่อง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

เพือ่ เป็นการเผยแพร่พระเกียรติคณ ุ ของสมเด็จ พระนเรศวรมหาราช จึงเป็นที่มาของการกลับมาอีกครั้ง ของละครเวทีอิงประวัติศาสตร์เรื่อง สมเด็จพระนเรศวร มหาราช ถ่ายทอดเรื่องราวความรัก ศรัทธา แผ่นดิน ในรู ป แบบละครเวที ที่ ผ สมผสานศาสตร์ แ ห่ ง ศิ ล ปะ การแสดงทางด้ า นนาฏศิ ล ป์ แ ละดนตรี ไ ทยครบทุ ก อรรถรส น�ำแสดงโดยศรราม เทพพิทักษ์, พรชิตา ณ สงขลา, เศรษฐา ศิระฉายา, สั น ติ สุ ข พรหมศิ ริ และนั ก แสดงชั้ น น� ำ อี ก มากมาย เต็ ม อิ่ ม กั บ อรรถรสของ ละครอิ ง ประวั ติ ศ าสตร์ ที่ ยั ง ตราตรึ ง อยู ่ ใ นความทรงจ� ำ ของชาวไทยได้ ที่ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 18 - 27 พฤศจิกายน 2554 โทร. 0-2262-3456

วันที่ 10 - 25 พฤศจิกายน 2554

งาน BOI FAIR 2011

งานบีโอไอแฟร์ 2011 ครัง้ นีม้ ากับธีม ทีช่ อื่ ว่า “โลกสดใส ไทยยัง่ ยืน” (Going Green for the Future) ซึง่ สอดคล้องไปกับทิศทางการ พัฒนาประเทศไทยทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยยึ ด วิ ถี ป รั ช ญาเศรษฐกิ จ พอเพี ย ง ทั้ ง นี้ เพือ่ ฉลองเนือ่ งในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 7 รอบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในงานมี ก ารแสดงเทคโนโลยี นวั ต กรรม ใหม่ๆ อันจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของ ภาคอุตสาหกรรมไทย และยังมีเวทีให้เหล่า ผู ้ ป ระกอบการได้ ม าเสวนาเจรจาธุ ร กิ จ กั น อีกด้วย ในวันที่ 10 - 25 พฤศจิกายน 2554 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี สอบถามได้ที่ศูนย์ ประสานงานบีโอไอแฟร์ 2011 โทร. 0-25538300, 0-2553-8111 ต่อ 8235, 8254, 8270 และ www.boifair2011.com

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2554

CALENDAR

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2554 - 28 กุมภาพันธ์ 2555

คอนเสิร์ต “คิดถึง...ครูแจ๋ว สง่า อารัมภีร”

สง่า อารัมภีร บรมครูเพลงผู้มีพรสวรรค์ใน การสร้างสรรค์ผลงานเพลง ผู้มากความสามารถทั้ง ประพันธ์เนือ้ ร้อง ท�ำนองเพลง แยกและเรียบเรียงเสียง ประสาน ควบคุมวงดนตรี สรรหานักร้อง ตลอดจนถึง การบันทึกเสียงร้อยเรียงมาเป็นบทเพลงที่เต็มไปด้วย ความไพเราะ ด้วยระยะเวลาอันยาวนานบนเส้นทาง บันเทิงของชีวติ ครูแจ๋วได้รวบรวมผลงานอันทรงคุณค่า ไว้ ม ากมาย จนได้ รั บ การประกาศเกี ย รติ คุ ณ ให้ เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงไทย สากล) ในปี 2531 ขอเชิญร่วมดื่มด�่ำไปกับผลงานของ บรมครูเพลงคุณภาพในคอนเสิร์ต “คิดถึง...ครูแจ๋ว สง่า อารัมภีร” ในวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน 2554 ณ ศาลาเฉลิมกรุง สอบถาม โทร. 0-2262-3456 ทุกวันเสาร์ของเดือนธันวาคม 2554

Romantic Arts Festival @ Suanphung “ค�่ำคืนเดือนหนาว ในบรรยากาศโรแมนติก

ใต้แสงเทียน เสียงดนตรี ขุนเขา และทุง่ หญ้าเลีย้ งแกะ” ขอเชิ ญ ร่ ว มสั ม ผั ส งานประเพณี สุ ด แสนโรแมนติ ก ใต้แสงเทียนของชาวสวนผึง้ มาร่วมสร้างแรงบันดาลใจ จากงานศิลปะดีๆ หลากหลายรูปแบบ บนกลิ่นอาย ของค�่ำคืนแห่งความสุขที่ห้อมล้อมไปด้วยแสงเทียน ในวันเสาร์ที่ 3, 10, 17, 24, 31 ของเดือนธันวาคม 2554 ตั้งแต่เวลา 17.00 - 24.00 น. ณ ซีนเนอรี่ วินเทจ ฟาร์ม อ�ำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ส�ำรองที่นั่งชมดาว ได้ที่ โทร. 08-4880-4884

เทศกาลโคมไฟ สีสันเมืองใต้

เชิญพบกับบรรดาเหล่าโคมไฟมากมายที่จะมาสร้างสีสันกัน อย่างคึกคักใน “เทศกาลโคมไฟ สีสันเมืองใต้” อาทิ 9 มหัศจรรย์โคมไฟ แห่งความสุข โคมไฟน�้ำแข็ง จากเมืองฮาร์บิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน สัมผัสกับมิตใิ หม่ของความคิดสร้างสรรค์กบั โคมไฟ มงคลชีวติ มงคลแห่ง ท้องถิ่น จาก 4 ภาคของประเทศไทย และเที่ยวชมโคมไฟจากนานาชาติ อีกมากมาย ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2554 - 28 กุมภาพันธ์ 2555 ณ บริเวณสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ อ�ำเภอหาดใหญ่ จังหวัด สงขลา สอบถามที่เทศบาลนครหาดใหญ่ โทร. 0-7420-0000 วันนี้ - 15 พฤศจิกายน 2554

ประกวดภาพถ่าย “ความสุขของแผ่นดิน”

เนื่ อ งในโอกาสที่ พ ระบาทสมเด็ จ พระเจ้ า อยู ่ หั ว ทรงเจริ ญ พระชนมพรรษา 84 พรรษา ส�ำนักงาน กปร. ร่วมกับหน่วยงานราชการ ต่างๆ ได้จัดโครงการ “84 พรรษา ประโยชน์สุขสู่ปวงประชา” เพื่อน้อม ระลึกในพระมหากรุณาธิคณ ุ ทีท่ รงมีตอ่ ปวงชนชาวไทย ผ่านการประกวด ภาพถ่าย “ความสุขของแผ่นดิน” เพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการ ถ่ายทอดพระราชด�ำริผ่านภาพถ่ายสื่อความหมาย และใช้เป็นสื่อกลาง ในการถ่ายทอดพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ โดยภาพถ่ายที่ผ่าน เกณฑ์จะถูกน�ำขึน้ โชว์ในเว็บไซต์ของส�ำนักงาน กปร. (www.rdpb.go.th) ให้ประชาชนทัว่ ไปได้ชนื่ ชมและลงคะแนนโหวต เปิดรับสมัครเข้าประกวด ตั้งแต่วันนี้ - 15 พฤศจิกายน 2554 สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-26903387, 08-1816-7590

Smart Life

เรื่อง : ค�ำนาย ภาพ : จเร รัตนนันทเดช

วิวัฒน์ ศัลยก�ำธร

จากปรัชญา สู่ท้องนา กับวิถีกสิกรรมธรรมชาติ “เราเป็นคนไทยก็เป็นไทยของเรานี่แหละ ไม่ ต้องไปแห่เป็นตามอย่างใครเขา เราควรเป็นคนไทยที่ อยูใ่ นสังคมไทยทีท่ รงคุณค่า” ค�ำสอนสัง่ ของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ยังคงดังก้องกังวานไม่สิ้นไป จากความทรงจ�ำของลูกผู้ชายตัวจริงที่ชื่อว่า วิวัฒน์ ศัลยก�ำธร ข้าราชการผู้รับใช้ใกล้ชิดที่ตามเสด็จถวาย งานนานกว่า 16 ปีดว้ ยความศรัทธาและใจภักดีตอ่ พ่อ ของแผ่นดิน

ช่วยบันทึก ผมก็ได้ถวายงานพระองค์ในส่วนนี้ นัน่ ถือเป็นภารกิจ ที่หนึ่งคือการรวบรวมและประมวลพระราชด�ำริ หน้าที่ที่สองซึ่ง เป็นหน้าที่ของเราโดยตรงเลย นั่นคืองานการวางแผนชาติ เรา ต้องเอาพระราชด�ำริของพระองค์ท่านมาสนองให้เป็นแผนงาน ตามวัตถุประสงค์การท�ำงานของหน่วยงานนี้ “พระองค์จะทรงทวงถามงานบ่อยมากๆ เพราะจะ ทรงเป็นห่วงว่าจะแก้ปัญหากันไม่ทัน อย่างกรณีน�้ำท่วมจังหวัด ชุมพร ตอนนั้นมีพายุเข้ามาแล้ว ท่านตรัสไว้ว่าไม่เกินหนึ่งเดือน อาจารย์วิวัฒน์เล่าให้ฟังว่า ครั้งหนึ่งพระองค์ท่านเคย แน่นอน ถ้าไม่มีการขุดบึงหรือท�ำระบบแก้มลิงเพื่อระบายน�้ำ ตรัสว่า เมืองไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ มีแหล่งข้าวปลาอาหารที่ น�้ำก็จะท่วมชุมพรอย่างหนัก เพราะมันเคยท่วมอย่างหนักและ สมบูรณ์ ใครเห็นก็อยากได้ อีกทั้งบ้านเมืองเราถูกแนวคิดจาก เสียหายเป็นพันๆ หมืน่ ๆ ล้านมาแล้ว พระองค์จะทรงตามติดตลอด ตะวันตก แนวคิดเสรีนิยม สังคมนิยม ลัทธิคอมมิวนิสต์ที่เข้ามา ทรงเป็นห่วงปัญหาความเดือดร้อนประชาชนมากๆ” อาจารย์ รุกรานวิธคี ดิ และวิถชี วี ติ คนในบ้านเราอีกมากมาย พระองค์ทา่ น วิวัฒน์เล่าด้วยรอยยิ้มที่อุปมานได้ว่าภาคภูมิใจแค่ไหนที่ได้เกิด เห็นดังนั้นจึงเสด็จพระราชด�ำเนินไปทั่วประเทศเพื่อไปเห็นชีวิต เป็นคนไทย ของประชาชนทัว่ ประเทศว่าเป็นอย่างไร และเพือ่ ไปตรัสเตือนสติ ดังประโยคข้างต้นด้วยตัวพระองค์เอง จนถึงปี พ.ศ. 2523 - 2524 ตกผลึกแนวคิด “พึ่งพาตัวเอง” “แต่จนแล้วจนเล่า วิธีคิดและวิธีการท�ำงานก็ยังพาไป รัฐบาลในสมัยนัน้ ได้เล็งเห็นความส�ำคัญในพระราชด�ำริดงั กล่าว จึงได้มีการจัดตั้ง “ส�ำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสาน ไม่ถึงการพึ่งพาตัวเองได้ ผมเห็นข้อด้อยนี้มาตลอด จึงพยายาม งานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ (กปร.)” ขึ้นเพื่อ ทีจ่ ะคิดโครงสร้างการท�ำงานทีพ่ งึ่ พาตัวเองได้จริง เพราะหากคุณ ถวายงานรับใช้โดยที่อาจารย์วิวัฒน์ก็ถูกคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน หันไปมองชาวบ้าน พวกเขาไม่มีแม้แต่เงินเดือน พวกเขาเริ่มต้น จากศูนย์ เริ่มจากหาเงินมาซื้อที่ดิน แล้วลงพืชปลูก จากนั้นขาย ทีมนั้น จึงได้มีเงินหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว หนึ่งฟันเฟืองของหน่วย กปร. “แล้วถ้าเรายังเป็นแบบนี้เสียเอง เลี้ยงไม่รู้จักโต อะไร “ผมก็เป็นหนึ่งในทีมนั้นที่คอยถวายงานพระองค์ท่าน ก็เอาจากรัฐหมดแบบนี้จะไปเป็นตัวอย่างที่ถูกต้องให้ชาวบ้าน เวลาพระองค์เสด็จฯ ไปพระราชทานแนวพระราชด�ำริ ไม่มีใคร ได้อย่างไร เราเห็นดังนั้นจึงเริ่มตกผลึก สั่งสมแนวคิดการท�ำงาน

คุณวิวัฒน์ ศัลยก�ำธร ประธานมูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ และประธานสถาบันเศรษฐกิจพอเพียง

Smart Life ตามแนวพระราชด�ำริไว้ในใจเรื่อยมาตลอดเวลาที่ถวายงาน รับใช้พระองค์ท่าน ตอนนั้นนึกในใจเดี๋ยวจะออกไปพิสูจน์ให้ดู ว่าการพึ่งพาตัวเองมันท�ำได้จริง เราเองโตมาจากท้องไร่ท้องนา เรารู้วิธีการพึ่งพาตนเอง เห็นพ่อแม่ท�ำมาตลอดชีวิต ไม่เคยต้อง ขอเงินจากรัฐบาลให้ไปช่วย อย่างหน้าแล้งชาวบ้านก็ขุดคลอง ชลประทานกันเอง ท�ำฝายกันเอง ดึงน�้ำเข้านานั้นนานี้ จัดระบบ การชลประทานกันเองเสร็จสรรพ และที่ส�ำคัญไม่เคยท�ำความ เสียหายให้ธรรมชาติเลย “หากเรายั ง ท� ำ งานกั น แบบเดิ ม ก็ ไ ม่ ไ ด้ ส อดคล้ อ ง กับแนวคิดพระราชด�ำริ เพราะจะยิ่งสอนให้ชาวบ้านแบมือขอ ไม่รจู้ กั จบสิน้ พึง่ ตัวเองกันไม่รอดสักที ปล่อยไปแบบนีว้ นั ข้างหน้า มันจะล่มสลาย เราจะเจอกับภัยพิบัติที่หนักหน่วงในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติ โรคระบาดในพืชและสัตว์ จากนั้นคนเราจะอดอยากยากจน เกิดภาวะข้าวยากหมากแพง และสุดท้ายปัญหาที่ตามมาคือปัญหาโจรขโมย เหล่านี้คือสิ่ง ที่พระองค์ท่านทรงคาดการณ์ไว้และตรัสเตือนไว้แล้ว” อาจารย์ วิวัฒน์ถอดใจความที่จ�ำได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ถวายงานพระองค์ ท่านให้ฟัง

สู่แรงบันดาลใจ “กสิกรรมธรรมชาติ”

“ต้องพูดว่าทุกอย่างที่ท�ำให้ผมกลายเป็นคนในแบบ ทุกวันนี้ มาจากการหล่อหลอมของค�ำสอน จากปรัชญาทีพ่ ระองค์ ท่านพระราชทาน จากการติดตามถวายงานพระองค์กว่า 16 ปี ผมเห็นจุดอ่อนขององค์กรแบบเดิมๆ ที่พัฒนาไปได้ไม่ไกล ก็นึก ในใจว่าถ้าเป็นเรา เมื่อเราไม่ได้รับราชการแล้ว เราจะสามารถ หาเลี้ยงตัวเองและครอบครัวโดยยึดหลักปรัชญาที่ท่านสอน

Smart Life ได้หรือไม่ สามารถท�ำได้จริงไหม” อาจารย์วิวัฒน์เกริ่นเมื่อ ถูกถามถึงที่มาของกสิกรรมธรรมชาติ เมื่ออุดมการณ์ถูกน�ำทางด้วยปัญญา ผสานเข้ากับ แนวคิดเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียงและการพึ่งพาตนเอง” ของ พระองค์ท่าน ทุกอย่างรวมตัวกันขึ้นกลายเป็นแรงบันดาลใจที่ อยากจะขับเคลือ่ นอุดมการณ์ไปสูเ่ ป้าหมาย คิดได้ดงั นัน้ อาจารย์ วิวัฒน์จึงรวบรวมสมัครพรรคพวกที่มีแนวคิดไปในทางเดียวกัน เดินสายรณรงค์ ให้ความรู้ เผยแพร่แนวคิดดังกล่าวให้ชาวบ้าน เข้าใจว่ามันสามารถน�ำไปปฏิบตั ไิ ด้จริง เพียงเพราะอยากพิสจู น์ ให้ทุกคนได้เห็นว่า “เราพึ่งพาตัวเองได้และอยู่อย่างพอเพียง ได้จริง” ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดเรื่องการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน การเลิกใช้สารเคมี หยุดพึ่งเทคโนโลยี หันกลับมาใช้ภูมิปัญญา ชาวบ้านที่บรรพบุรุษของเราถ่ายทอดสืบมา “มูลนิธิกสิกรรม ธรรมชาติ” จึงถือก�ำเนิดขึ้น แต่ ก ่ อ นจะออกไปสอนไปแนะน� ำ ใครได้ ทุ ก อย่ า ง ต้องมาจากการเริ่มต้นทดลองท�ำด้วยตัวเอง

“พระองค์เคยตรัสว่าปลูกป่าสามอย่าง แต่ได้ถงึ สีอ่ ย่าง เราฟังแล้วก็ลองท�ำเลยอยากพิสูจน์ด้วยตัวเอง ผมเคยทดลอง ปลูกข้าวบนดินดาน ดินมันดานเราก็ตอ้ งเรียนรูว้ ธิ กี ารปรับดิน เอา หญ้าแฝกมาล้อมรอบ เพราะเราเองเคยมีประสบการณ์ทำ� งานใน ทีเ่ สือ่ มโทรมมาแล้วอย่างเขาชะงุม้ จังหวัดราชบุรี เราก็แก้ปญ ั หา ตามวิธีทางธรรมชาติ ค่อยๆ ปรับกันไป ผลคือมันก็ดีขึ้นอย่าง ฉับพลัน ข้อส�ำคัญคือเราต้องรู้วิธีการของธรรมชาติที่ชัดเจน ไม่ท�ำอะไรที่ขัดแย้งกับธรรมชาติ และต้องท�ำแบบเรียบง่าย ถูกตามหลักวิชาการ “ช่วงที่ทดลองปลูกข้าวบนดินดานมีแต่คนหาว่าเรา บ้า มีแต่เสียงคัดค้าน ใครจะท�ำได้ ข้าวที่ไหนมันจะขึ้น ไม่มีทาง แน่นอน เพือ่ นของผมบางคนห่วงผมมากถึงขนาดมานอนเฝ้าผม กลัวว่าผมจะเพี้ยนไปแล้ว ผมก็ไม่สนใจมุ่งมั่นท�ำ สุดท้ายก็ท�ำ

“

แนวคิดของกสิกรรมธรรมชาติคอื หากคุณมาอบรมกับเราแล้วน�ำไปปฏิบตั จิ นชีวติ คุณดีขึ้นแล้ว คุณไม่ต้องมาตอบแทนอะไรผม คุณแค่ท�ำแบบที่ผมท�ำคือ ตั้งศูนย์อบรม ลักษณะนีข้ นึ้ และสอนคน รวมทัง้ ส่งผ่านแนวคิดนีใ้ ห้กระจายออกไปเรือ่ ยๆ ให้โอกาสแก่ คนที่อยากศึกษาเข้ามาอบรม สร้างชุมชนพึ่งพาตัวเองที่แข็งแกร่งต่อไป

จนส�ำเร็จหักปากกาเซียนเป็นแถวๆ ผมเชือ่ ว่ามันท�ำได้เพราะผม เห็นตัวอย่างจากพระองค์ท่านที่เคยทรงท�ำไว้ พระองค์ท่านทรง ปลูกต้นไม้บนดินลูกรังที่เขาชะงุ้ม และยังปลูกพืชบนดินเปรี้ยว ทีพ่ ลุทางภาคใต้อกี หลายทีเ่ ลย ผมเห็นมากับตาว่ามันท�ำได้จริง” พอพิ สู จ น์ ด ้ ว ยตนเองจนส� ำ เร็ จ แล้ ว อาจารย์ วิ วั ฒ น์ ก็ ใ ช้ วิ ธี เก็บภาพ ท�ำสไลด์ จากนั้นก็ตั้งมูลนิธิขึ้นมาเป็นเรื่องเป็นราว เพื่อเผยแพร่ให้ความรู้แก่คนอื่นๆ ว่ามันท�ำได้จริง จากการประยุกต์ศาสตร์ทพี่ ระองค์ทา่ นทรงสอน น�ำมา ปรับใช้กับการท�ำงานที่มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติมาโดยตลอด จนปัจจุบันกว่า 10 ปีแล้ว ผลงานวิชาการที่ทางมูลนิธิเผยแพร่ ส�ำเร็จมีให้เห็นเป็นรูปธรรมมากมาย รวมถึงขนาดเครือข่ายที่มี จ�ำนวนมากขึ้น ซึ่งแต่ละครัวเรือนที่มีชีวิตดีขึ้นจะต้องขยาย เครือข่ายเผยแพร่ความรู้ช่วยผู้อื่นต่อๆ ไป

”

“แนวคิดของกสิกรรมธรรมชาติคอื หากคุณมาอบรมกับ เราแล้วน�ำไปปฏิบตั จิ นชีวติ คุณดีขนึ้ แล้ว คุณไม่ตอ้ งมาตอบแทน อะไรผม คุณแค่ท�ำแบบที่ผมท�ำคือ ตั้งศูนย์อบรมลักษณะนี้ขึ้น และสอนคน รวมทั้งส่งผ่านแนวคิดนี้ให้กระจายออกไปเรื่อยๆ ให้โอกาสแก่คนที่อยากศึกษาเข้ามาอบรม สร้างชุมชนพึ่งพา ตัวเองที่แข็งแกร่งต่อไป “ไม่ อ ยากให้ ค� ำ ตรั ส หรื อ พระราชด� ำ ริ ข อง

พระองค์ ท ่ า นหายไปเฉยๆ อยากให้ ทุ ก คนช่ ว ยกั น สืบสานเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ในแบบที่พึ่งพาล�ำแข้ง ตัวเราเองอย่างแท้จริง” อาจารย์วิวัฒน์กล่าวย�้ำใน อุดมการณ์ทิ้งท้ายเอาไว้ ด้วยรอยยิ้มที่อุดมไปด้วย ความสุขของการเป็นผู้ให้

Think Green

เรื่อง : ชนาภา สุวงศ์

กังหันน�้ำชัยพัฒนาช่วยประชาชน

ตามรอยพ่อ...

นักประดิษฐ์รักษ์สิ่งแวดล้อม

ปัญหาเรือ่ งสิง่ แวดล้อมกลายเป็นประเด็นร้อน ทัว่ โลกเมือ่ ไม่กปี่ ที ผี่ า่ นมา แต่หารูไ้ ม่วา่ พ่อหลวงของเรา ทรงตระหนักถึงความส�ำคัญของการอนุรกั ษ์สงิ่ แวดล้อม มาเนิ่นนานหลายปี ด้วยพระอัจฉริยภาพทางด้านการ ประดิษฐ์สงิ่ ต่างๆ ทีช่ ว่ ยแก้ปญ ั หาได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนได้รับการถวายพระราชสมัญญาว่าเป็น “พระบิดา แห่งการประดิษฐ์ไทย”

นับตั้งแต่นั้นมา ในหลวงทรงประดิษฐ์คิดค้นสิ่งต่างๆ อีกมากมายอย่างต่อเนื่อง และได้รับการจดทะเบียนสิทธิบัตร และอนุสิทธิบัตร อาทิ เครื่องกลเติมอากาศแบบอัดอากาศ และดู ด น�้ ำ เป็ น เครื่ อ งบ� ำ บั ด น�้ ำ เสี ย ที่ มี ข นาดเล็ ก สามารถ ใช้งานในแหล่งน�้ ำที่ไม่สามารถติดตั้งกังหันน�้ ำชัยพัฒนาได้ โดยจะดึงน�้ำเสียที่อยู่ก้นบ่อเข้าผสมกับอากาศและเกิดคลื่นน�้ำ ท�ำให้นำ�้ มีคณ ุ ภาพดีขนึ้ การท�ำฝนหลวง เป็นการสร้างฝนเทียม เพือ่ บรรเทาความแห้งแล้งและภาวะขาดแคลนน�ำ้ ในการท�ำการ สิ่งประดิษฐ์อันทรงค่า เกษตรของประชาชน โดยเป็นกรรมวิธีการเหนี่ยวน�ำน�้ำจาก ด้วยพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ฟ้า ที่ใช้เครื่องบินบรรจุสารเคมีขึ้นไปโปรยในท้องฟ้า โดยดูจาก ทั้งยังมีความสนพระราชหฤทัยเรื่องเทคโนโลยีการประดิษฐ์ ความชื้นของเมฆและสภาพทิศทางลมประกอบกัน และการใช้ เครื่ อ งจั ก รกล เพื่ อ ช่ ว ยเหลื อ ประชาชนในด้ า นเกษตรกรรม น�ำ้ มันปาล์มแบบกลัน่ บริสทุ ธิเ์ ป็นน�ำ้ มันเชือ้ เพลิงส�ำหรับรถยนต์ โดยเฉพาะเรื่องของสิ่งแวดล้อม จึงท�ำให้เกิดหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ ดีเซล ซึ่งเป็นการใช้แหล่งพลังงานทดแทน โดยพระองค์ทรงให้ อันทรงคุณค่า นั่นก็คือ กังหันน�้ำชัยพัฒนา โดยได้จดสิทธิบัตร ทดลองใช้นำ�้ มันปาล์ม เพราะเป็นพืชที่ให้ปริมาณน�้ำมันต่อพืน้ ที่ เป็นสิ่งประดิษฐ์ชิ้นแรกที่จดทะเบียนในประเทศไทย นับเป็น ปลูกสูงกว่าพืชชนิดอืน่ ๆ และมีตน้ ทุนการผลิตต�ำ่ ทีส่ ดุ ซึง่ จากการ สิ่งประดิษฐ์เครื่องกลเติมอากาศเครื่องที่ 9 ของโลกที่ได้รับ ทดลองพบว่า น�้ำมันปาล์มกลั่นบริสุทธิ์มีความเหมาะสมที่จะน�ำ สิ ท ธิ บั ต ร และเป็ น ครั้ ง แรกที่ ไ ด้ มี ก ารรั บ จดทะเบี ย นและ มาใช้งานมากที่สุด เพราะเป็นน�้ำมันสะอาด และมีความไวไฟ ออกสิทธิบัตรให้แก่พระบรมราชวงศ์อีกด้วย จึงนับได้ว่าเป็น ต�่ำ ท�ำให้สะดวกในการเก็บ ทั้งยังเป็นสารชีวภาพทีส่ ามารถย่อย สิทธิบัตรในพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์พระองค์แรก สลายได้ง่าย และไอเสียที่ปล่อยออกมามีคุณภาพดีกว่าน�้ำมัน ในประวัติศาสตร์ชาติไทยและเป็นครั้งแรกของโลก ดีเซล รวมทั้งยังสามารถผลิตขึ้นภายในประเทศได้

เนื่องจากปัญหาน�้ำเน่าเสียเป็นปัญหาส�ำคัญที่เกิดขึ้น ในสังคมไทยมายาวนานและส่งผลกระทบรุนแรงในหลายๆ ด้าน ในหลวงท่านทรงเป็นห่วงประชาชน จึงมีพระราชด�ำริเกีย่ วกับการ บ�ำบัดน�้ำเสียหลากหลายวิธี เริ่มจากใช้น�้ำดีไล่น�้ำเสีย และใช้วิธี กรองน�้ำด้วยผักตบชวา จนกระทั่งได้ทรงประดิษฐ์กังหันน�้ำ ชัยพัฒนาขึน้ ซึง่ เป็นเครือ่ งกลเติมออกซิเจนหรืออากาศลงไปในน�้ำ ช่วยบ�ำบัดน�ำ้ เสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทัง้ ยังเสียค่าใช้จา่ ยน้อย และอยูบ่ นพืน้ ฐานของภูมปิ ญ ั ญาของคนไทย แบบ ไทยท�ำไทยใช้ ทีใ่ ช้เทคโนโลยีแบบง่ายๆ และใช้วสั ดุภายในประเทศ โดยทรงได้ แนวทางจาก “หลุก” ซึง่ เป็นระหัดวิดน�ำ้ เข้านาอันเป็นภูมปิ ญ ั ญา ชาวบ้านเป็นจุดเริ่มต้น เหมาะส�ำหรับใช้ในแหล่งน�้ำสาธารณะ และแหล่งน�้ำธรรมชาติ ถือว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ท�ำได้ไม่ยากแต่มีประโยชน์ มหาศาล ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ช่วยท�ำให้น�้ำใสสะอาดมากขึ้น ทั้งยังช่วยลดกลิ่นเหม็น และเพิ่มปริมาณออกซิเจนในน�้ำ ซึ่งสิ่ง ประดิษฐ์นี้ได้รับรางวัลยกย่องจากหลายสถาบันชั้นน�ำของโลก อาทิ เหรียญรางวัล Prix OMPI หรือรางวัลสิ่งประดิษฐ์ดีเด่น ระดับโลกพร้อมประกาศนียบัตรและรางวัลจ�ำนวน 2,000 เหรียญ สหรั ฐ เหรี ย ญรางวั ล Gold Medal with Mention หรื อ รางวัลสรรเสริญพระอัจฉริยภาพแห่งการใช้เทคโนโลยีอย่าง มีประสิทธิภาพ และประกาศนียบัตรเกียรตินิยมจากบรัสเซลส์ ยูเรก้า เป็นต้น

การประดิษฐ์ จึงท�ำให้เกิดโครงการในพระราชด�ำริเพื่อช่วยเหลือ ประชาชนมากมาย อาทิ โครงการแก้มลิง ที่ช่วยแก้ปัญหา น�้ำท่วมด้วยการขุดลอกคลองชายฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก ของแม่นำ�้ เจ้าพระยาให้เป็นคลองพักน�ำ้ ขนาดใหญ่หรือ “แก้มลิง” ตามแนวคิ ด ที่ ว ่ า ลิ ง สามารถอมกล้ ว ยไว้ ใ นกระพุ ้ ง แก้ ม ได้ คราวละมากๆ แล้วระบายน�้ำออกสู่ทะเลโดยใช้หลักทฤษฎีแรง โน้มถ่วงของโลก หรือน�้ำขึ้นน�้ำลงตามธรรมชาติ โครงการประตู ระบายน�ำ้ คลองลัดโพธิ์ จังหวัดสมุทรปราการ ในหลวงทรงเล็งเห็น ถึงศักยภาพของคลองนี้ จึงมีพระราชด�ำริให้ปรับปรุงขุดลอกคลอง เพือ่ ช่วยให้แม่นำ�้ เจ้าพระยาไหลลัดลงทะเลได้สะดวกและรวดเร็ว ยิง่ ขึน้ ซึง่ จะช่วยแก้ไขปัญหาน�้ำท่วมกรุงเทพฯ และปริมณฑลได้ดี ทัง้ ยังเป็นคลองทีส่ ามารถผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน�ำ้ ได้ จึงช่วยลด ปัญหาภาวะโลกร้อนได้อกี ทางหนึง่ ด้วย นอกจากนีย้ งั มีโครงการ ปลูกหญ้าแฝก ทีพ่ ระองค์ทรงมุง่ มัน่ และส่งเสริมให้ปลูกหญ้าแฝก ในประเทศไทย เพื่อช่วยลดการชะล้างพังทลายของดิน และ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้ดีขี้น เนื่องจากหญ้าแฝกเป็นพืชที่ สามารถน�ำมาใช้ประโยชน์ได้ง่าย มีรากที่ยาวและแผ่กระจาย ลงไปในดินตรงๆ ทั้งยังง่ายต่อการดูแลรักษาด้วย จากสิ่งง่ายๆ รอบตัว ก็สามารถที่จะพัฒนา

ให้กลายเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่มีประโยชน์ต่อประเทศชาติได้ ดั่งพ่อหลวงที่ทรงสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ จากสิ่งที่อยู่ รอบตัว เพื่อให้ประชาชนสามารถด�ำเนินการได้จริง และใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ นับว่าเป็นแนวความคิด บรรเทาน�้ำท่วมด้วยโครงการพระราชด�ำริ อันทรงค่า ที่ให้เราชาวไทยได้เจริญรอยตามเบื้อง อีกหนึ่งปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมที่ส�ำคัญ นั่นคือปัญหา พระยุคลบาทสืบต่อไป อุทกภัยที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ด้วยพระอัจฉริยภาพทางด้าน

Garden in Style

เรื่อง : กองทรัพย์ ชาตินาเสียว ภาพ : เมธา, ปารัณ, จิระศักดิ์ ทองหยวก

Set Up สวนครัว ผักริมรั้วกินได้

01 02

หากเอ่ยถึงสวนครัวในบ้าน ภาพทีค่ นุ้ ตาอาจเป็น เพียงสวนในทีว่ า่ งเล็กๆ มุมใดมุมหนึง่ ของบ้าน หรือภาพ สวนกว้างในต่างจังหวัด แต่ในปัจจุบันกระแสผักปลอด สารพิษมีมากขึน้ ท�ำให้คนเมืองหันมาใส่ใจกับการปลูกพืช ผักในบ้านมากขึน้ วันนีร้ ปู แบบการจัดสวนครัวจึงเปลีย่ น ไป เพียงปรับเปลี่ยนสวนในบ้านให้เป็นมุมสวนครัว หรือ ตกแต่งสวนด้วยพืชผัก ก็จะได้สวนที่สวยงามแปลกตา อีกทั้งยังได้แหล่งอาหารที่ปลอดภัย ประหยัดค่าใช้จ่าย และเป็นสถานทีใ่ ห้คนในครอบครัวได้ทำ� กิจกรรมร่วมกัน แบบใกล้ชดิ ธรรมชาติ เด็กๆ ได้เรียนรูเ้ รือ่ งสมุนไพร และ ผู้ใหญ่ได้มือเปื้อนดินอีกครั้ง ลงมือ ลงสวน

• จัดสรรพื้นที่เป็นลานนั่งเล่น บ่อน�้ำ และแปลงผักสวนครัวเล็กๆ

01 ขึ้นฉ่าย 02 วางรูปปั้นเป็ดให้เป็นจุดดึงดูดสายตา สร้างชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น

หลังจากเลือกพืน้ ทีส่ ำ� หรับสวนครัวแล้ว ให้จดั สรรขนาดให้ เหมาะสมตามความต้องการ ส�ำหรับบ้านทีม่ เี นือ้ ทีน่ อ้ ยอาจจัดวาง เป็นสวนกระถางหรือสวนแขวน สลับกับผักในแปลงดิน ซึง่ ขัน้ ตอน ส�ำคัญของการจัดสวนคือการเตรียมดินและลงปลูก เพราะหาก ท�ำได้ไม่ดีจะท�ำให้สวนครัวไม่เจริญงอกงาม การยกแปลงดินและ ผึง่ แดดทิง้ ไว้ประมาณ 1 - 2 สัปดาห์ จะช่วยฆ่าเชือ้ โรคและไข่แมลง ในดิน ก่อนจะผสมดินกับปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักเพื่อปรับสภาพดิน แม้พืชผักสวนครัวจะเป็นพืชที่ทนกับสภาพอากาศเมื่อ เปรียบเทียบกับไม้ประดับทั่วไป แต่ขั้นตอนการปลูกก็ยังต้องให้ ความส�ำคัญเช่นเดียวกัน โดยก่อนย้ายต้นกล้าปลูกลงดินควรงดให้ น�้ำต้นกล้าก่อน 5 - 7 วัน หรือรดน�้ำเพียงเล็กน้อย เพื่อให้ต้นกล้า

Garden in Style

Garden In Style

ปรับตัวให้ทนต่อความแห้งแล้ง ก่อนจะน�ำไปปลูกในดินทีเ่ ตรียมไว้ หากปลูกในแปลงยก ต้องขุดหลุมลึกประมาณ 15 - 20 เซนติเมตร แล้วน�ำต้นกล้าวางในหลุมโดยระวังไม่ให้ตุ้มดินแตก กลบดิน ให้มิด อาจใช้ฟางข้าวหรือเศษใบไม้แห้งคลุมโคนต้นเพื่อรักษา ความชุ่มชื้น

เลือกพืช สรรพันธุ์

วิธกี ารเลือกพืชสวนครัวก็เหมือนกับการเลือกใช้พรรณไม้ ประดับทั่วๆ ไป โดยให้ดูที่ผิวสัมผัสของใบและขนาดทรงพุ่ม แต่การจัดสวนครัวในรูปแบบสวนประดับนั้น ไม่เหมือนกับการ ปลูกผักทั่วไปที่ปลูกเป็นแถวหรือเป็นแนวยาวตามขนาดของ แปลง แต่ต้องจัดวางหรือปลูกต้นไม้แบบผสมผสานกัน โดย ปลูกสลับกลุ่มสลับแปลง ซึ่งข้อดีของการปลูกแบบนี้ นอกจาก จะสร้างความสวยงามแล้ว ยังช่วยลดการเข้าท�ำลายของโรค และแมลงได้อีกด้วย ถ้าอยากให้สวนสวยนาน ควรเลือกปลูกพืชที่สามารถ ทยอยเก็บรับประทานได้ เช่น กะเพรา โหระพา หรือตะไคร้ ที่แม้ จะเก็บพืชผลไปรับประทานแล้ว ก็ไม่ท�ำให้เกิดที่ว่างในแปลง หรือทรงพุ่มขาดหายไป ภาพรวมของสวนจึงไม่เปลี่ยน เพราะ การเด็ดพืชผักไปรับประทานเป็นเหมือนการตัดแต่งและดูแลไป

ในตัว อย่างไรก็ตามควรเลือกเด็ดอย่างสม�่ำเสมอทั่วทั้งแปลง ส่วนประเภทที่ตัดแล้ว ใบหาย เช่น คะน้า ผักบุ้ง อาจใช้วิธีปลูก แซม หรือใช้เป็นกระถาง ถ้ามีที่ว่างก็ให้ท�ำเป็นแปลงไปเลย

ปลูกอะไร เมื่อไรดี

การตัดสินใจปลูกพืชผักสวนครัวต้องเลือกตามฤดูกาล เพราะผักแต่ละชนิดมีอายุแตกต่างกัน เมื่อเป็นเช่นนี้การปลูก หมุนเวียนในฤดูกาลต่างๆ ก็จะท�ำได้ง่าย 06

ษายน กุมภาพันธ์ - เมุ้งจีน ผักกาดหัว ถั่วฝักยาว ผักชี หอม ผักบ ผักกาดเขียวปลี ผักกวางตุ้ง แตงกวา มะระ ผักกาดขาว รกฎาคม พฤษภาคม - กย บวบเหลี่ยม ข้าวโพดหวาน ผักคะน้า กุยช่า หอมแดง าคม สิงหาคม - ตุล กุยช่าย ผักกาดขาว ม โข ผักชีลาว ผัก ก มะเขือเปราะ มะเขือยาว ผักกาดหอม พริ ปลูกได้ทั้งปี ะเพรา โหระพา แมงลัก ขิง ข่า ตะไคร้ ก

ลูกเล่นสวนครัว

หลายคนคิ ด ว่ า การตกแต่ ง สวนครั ว จะมีขอ้ จ�ำกัดเรือ่ งการจัดวางหรือมุมมองทีแ่ ตกต่าง จากสวนทั่วไป เพราะมีต้นไม้ให้เลือกใช้น้อย และ สีสันก็อาจไม่ฉูดฉาดเช่นไม้ประดับที่คุ้นเคย ทว่า หลักการจัดสวนครัวก็เหมือนสวนสวยงามทั่วไป โดยสามารถใช้องค์ประกอบอื่นๆ มาช่วยแต่งสวน เพิ่มความน่าสนใจได้ เช่น เฟอร์นิเจอร์ไม้เก่า จะให้ บรรยากาศสวนสไตล์องั กฤษ หรือองค์ประกอบอืน่ ๆ ทีจ่ ะช่วยให้สวนมีชวี ติ ชีวาขึน้ เลือกวางทางเดินหรือ พื้นแข็งในสวนด้วยรูปแบบต่างๆ สร้างซุ้มไม้เลื้อย หรือท�ำรั้วที่ใช้ก�ำหนดขอบเขตของสวน ข้อดีของการจัดสวนครัวในรูปแบบ

สวนประดับคือ ไม่ต้องกังวลกับปัญหา แมลงรบกวนพืชผักและดอกไม้ การปลูก พืชในแบบแซมหรือเป็นกระถางจะท�ำให้มี แมลงน้อยกว่าสวนผักที่ปลูกเป็นแปลงๆ เพราะเราปลูกผสมผสานหลายอย่าง จะท�ำให้ แมลงสับสน อย่างไรก็ตาม ถ้าหลีกเลี่ยง แมลงไม่ได้จริงๆ ก็ไม่ควรใช้สารเคมี เพียง เท่านี้เราก็จะมีสวนสวยในบ้าน พร้อมกับ ผักที่สดสะอาดตามฤดูกาลไว้รับประทาน ได้ตลอดทั้งปี

07 03 โหระพา 04 ผักแว่น 05 เตยหอม 06 สะระแหน่ 07 สวนครัวสไตล์สวนแขวน

Tips • สวนครัวต้องการแสงแดดในการเจริญเติบโต ดังนั้นพื้นที่ที่ปลูกผักควรได้รับ แสงแดดเต็มวันหรืออย่างน้อยครึ่งวัน • ปุ๋ยคอกเป็นปุ๋ยที่จ�ำเป็นส�ำหรับสวนครัว เพราะช่วยปรับคุณภาพของดินให้โปร่ง ระบายน�้ำดี ที่ส�ำคัญยังช่วยรักษาความชื้นให้เหมาะแก่การเจริญเติบโตของ ผักด้วย • ผักขนาดเล็กที่มีระบบรากตื้น เช่น สะระแหน่ สามารถปลูกประดับเป็นไม้ กระถางแขวน เพื่อเพิ่มมิติในแนวตั้งให้แก่สวนได้ • เราสามารถปลูกผักหลายชนิดร่วมกันในกระถางแล้วน�ำไปตั้งในสวน เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้แก่สวนมากยิ่งขึ้น

Home Sweet Home

เรื่อง : ทัศนัย ข�ำชื่น ภาพ : สุภัทรา ศรีทองค�ำ, สองพันก้าว, สิทธิศักด์

บ้านสไตล์รีสอร์ท

ความผ่อนคลายจากธรรมชาติที่สร้างได้ ความสุขของห้วงเวลาที่ได้เอนกายพักผ่อน ในรีสอร์ทสวยท่ามกลางอากาศบริสทุ ธิข์ องธรรมชาติ ล้วนเป็นภาพประทับใจในความทรงจ�ำของใครหลายคน ซึง่ คงจะดีไม่นอ้ ย หากบ้านทีเ่ ราอาศัยอยูใ่ นเมืองหลวง จะถูกเติมกลิ่นอายของรีสอร์ทธรรมชาติในแบบฉบับ เดียวกับภาพแห่งความสุขทีจ่ นิ ตนาการถึง เพือ่ ให้ชวี ติ ในแต่ละวันที่เดินทางกลับถึงบ้านเต็มไปด้วยความสุข อันแสนผ่อนคลาย

องค์ประกอบของบ้านสไตล์รีสอร์ท

การแต่งบ้านสไตล์รสี อร์ทมีหลายปัจจัยประกอบกัน ซึง่ เมือ่ เอ่ยค�ำว่า “สไตล์รสี อร์ท” แน่นอนว่าผูอ้ ยูอ่ าศัยและแขกผูม้ า เยีย่ มเยียน ต้องรูส้ กึ สบายกับความร่มรืน่ ของสวนหย่อมทีเ่ ต็มไป ด้วยพรรณไม้ การตกแต่งภายในแบบโปร่งสบาย ไม่มากและ ไม่น้อยเกินไป ซึ่งหลักเบื้องต้นที่ควรค�ำนึงถึงในการแต่งบ้าน สไตล์นี้คือ

มีพื้นที่สีเขียว

สวนหย่อมนับเป็นหัวใจส�ำคัญของบ้านสไตล์รีสอร์ท ที่ขาดไม่ได้ ไม่ว่าพื้นที่ของบ้านจะมีขนาดใหญ่หรือเล็ก การปู หญ้าหน้าบ้าน ปลูกต้นไม้ พร้อมติดตั้งน�้ำตกจ�ำลองหรือบ่อปลา ขนาดย่อม ก็จะช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้บ้านมีความร่มเย็นไม่ต่างจาก รีสอร์ท ซึง่ ต้นไม้ทนี่ ำ� มาปลูกนัน้ ควรมีหลากหลายชนิด และควร มีไม้ยนื ต้นขนาดใหญ่เพิม่ ความร่มรืน่ ขณะเดียวกันเจ้าของบ้าน

ควรตัดแต่งกิ่งก้านใบให้เรียบร้อยอยู่เสมอ ส�ำหรับผู้ที่หลงใหล ในกลิน่ หอม ลองปลูกพรรณไม้ไทยประดับสวน อาทิ จันทน์กะพ้อ บุนนาค กระทิง และจ�ำปี นอกจากนีว้ สั ดุธรรมชาติสำ� หรับตกแต่ง เล็กๆ น้อยๆ ก็ช่วยเพิ่มสีสัน อาทิ หินธรรมชาติ หินผิวเรียบก้อน ใหญ่ ขอนไม้ หรือจะลองก่ออิฐบล็อกในระดับสูงพอประมาณ เพื่อวางกระถางปลูกดอกไม้สวยสดใส ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดีย ที่น่าสนใจ

Home Sweet Home

Home Sweet Home ทีเ่ ข้ากัน เพิม่ กลิน่ หอมผ่อนคลายด้วยชุดเทียนอโรมา ส่วนฝาผนัง ห้องน�้ำ ลองน�ำภาพสวยๆ มาประดับ ก็จะช่วยเพิ่มบรรยากาศ ให้มีสีสันได้ในทันตา

เติมเสน่ห์ด้วยงานไม้และของตกแต่ง

เพิ่มความอ่อนโยนให้บ้าน โดยการใช้ไม้ตกแต่ง ไม่ว่า จะเป็นการปูพื้น ฝาผนัง หรือฝ้าหลังคา ซึ่งไม้ที่น�ำมาใช้ควรเป็น ไม้เนือ้ แข็ง เหนียวแน่น ไม่แตกหรือเปราะง่าย ลักษณะภายนอก ไม่มีร่องรอยเสียหาย ในส่วนของประตูและหน้าต่างต้องใช้ไม้ที่ หดตัวแล้ว เนือ้ ไม้แห้งดีจนอยูต่ วั เมือ่ น�ำมาประกอบเป็นชิน้ งาน จะไม่มอี าการหดหรือบิดงอ เพราะจะท�ำให้ประตูหรือหน้าต่างผิด รูปทรง ที่ส�ำคัญคือ สีของไม้ต้องสม�่ำเสมอ มีเนื้อละเอียด ขัดมัน และขึ้นเงาได้ดี ซึ่งปัจจุบันเจ้าของบ้านมีทางเลือกที่สะดวก มากขึ้นคือ การเลือกใช้ไม้ส�ำเร็จรูปแทนไม้จริง

เปิดมุมมองด้วยประตูบานใหญ่

การได้ เ ชยชมสวนหย่ อ มอั น ร่ ม รื่ น จากภายในบ้ า น นับเป็นความสุขทางอารมณ์อย่างหนึ่ง ดังนั้นประตูบ้านสไตล์ รีสอร์ทจึงควรมีขนาดใหญ่พอประมาณ และควรเป็นกระจกที่ สามารถมองเห็นวิวด้านนอกได้อย่างสะดวกตา ซึ่งข้อดีอย่าง หนึ่งคือ ช่วยให้แสงสว่างส่องเข้ามาในบ้านได้อย่างเพียงพอ โดยเฉพาะห้องนอนซึ่งควรติดตั้งประตูกระจกชนิดบานเลื่อน ริมระเบียง พร้อมจัดโต๊ะ - เก้าอี้เล็กๆ เข้าชุด ส�ำหรับนั่งจิบกาแฟ พร้อมหนังสือเล่มโปรด สร้างความรื่นรมย์ให้ช่วงเวลายามเช้า

ห้องน�้ำสไตล์ธรรมชาติ

คงจะดีไม่น้อย หากกลิ่นอายของความเป็นรีสอร์ท จะแทรกซึมอยู่ทุกบริเวณของบ้าน หนึ่งในบริเวณนั้นคือ ห้องน�้ำ ซึง่ การตกแต่งห้องน�ำ้ สไตล์ธรรมชาติ เบือ้ งต้นคือลองน�ำกระถาง ต้นไม้มาจัดวางในมุมต่างๆ ส�ำหรับห้องน�ำ้ ทีม่ ขี นาดไม่ใหญ่มาก ลองปูพื้นด้วยหินผิวเรียบสีขาว และวางแผ่นไม้ส�ำเร็จรูปเป็น ทางเดิน นอกจากนีข้ องกระจุกกระจิกในห้องน�ำ้ อาทิ ชัน้ วางของ ที่ใส่สบู่ ก็ควรเลือกวัสดุเลียนแบบธรรมชาติเพื่อองค์ประกอบ

ส�ำหรับเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่ง ควรเลือกสรรวัสดุ เลียนแบบธรรมชาติ เช่น ตู้ไม้สีธรรมชาติ แจกันกระป๋องสังกะสี โซฟาไม้สัก ตะกร้าหวาย หรืองานลวดดัด โดยเฉพาะงานไม้ เก่าที่น�ำมาทาสีใหม่ก็ดูเข้ากันดี ของตกแต่งกระจุกกระจิกจาก ธรรมชาติก็เป็นรายละเอียดเล็กน้อยที่ไม่ควรละเลย อาทิ ต้นไม้ จิ๋ว เปลือกหอย แจกันไม้ ฯลฯ จัดวางในมุมต่างๆ ของบ้าน เพียงเท่านี้บ้านหลังโปรดก็จะมีเสน่ห์และน่าอยู่ขึ้น

เลือกโทนสีสว่าง

สีเป็นองค์ประกอบทีส่ ำ� คัญของการแต่งบ้าน สีทเี่ หมาะ กับบ้านสไตล์รสี อร์ทคือสีโทนสว่าง อาทิ สีขาว สีเหลืองอ่อน สีฟา้ อ่อน เป็นต้น เพราะให้ความรู้สึกที่โปร่งและสบายตา นอกจากนี้ สีธรรมชาติของไม้ที่น�ำมาสร้างก็เป็นอีกหนึ่งสไตล์ที่น่าสนใจ ไม่แพ้กัน ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ทั้งนี้ไม่ควรเลือกใช้ สีที่มืดทึบหรือเข้มจัดจนเกินไป การแต่ ง บ้ า นสไตล์ รี ส อร์ ท ไม่ ใ ช่ เ รื่ อ งยาก

เพียงเติมความเป็นธรรมชาติเล็กๆ น้อยๆ ลงไปใน รายละเอียดการตกแต่ง เพียงเท่านี้บ้านในเมืองใหญ่ ก็จะมีกลิ่นอายของรีสอร์ทอันน่าพักพิง

บ้านเย็นสบายด้วยวิธีง่ายๆ

ในบ้าน • ติดตั้งมู่ลี่ปรับแสงบริเวณช่องหน้าต่างที่อยู่ทางทิศตะวันตก - ตะวันออก • ช่องแสงที่หลังคาควรมีขนาดเล็กที่สุด เพื่อป้องกันความร้อน • เปิดช่องหน้าต่างสองด้านของห้องเพื่อระบายอากาศ • ติดตั้งฉนวนกันความร้อนที่ผนังและหลังคา ช่วยเก็บความเย็น ภายในห้องไว้ได้นาน • เครื่องปรับอากาศต้องมีขนาดเหมาะสมกับห้อง และต้องหมั่น ท�ำความสะอาด นอกบ้าน • ปลูกต้นไม้ที่ให้ร่มเงา เช่น มะม่วง จ�ำปี ฯลฯ • ชายคาบ้านทางทิศใต้ควรยาว 1.20 - 1.50 เมตรหรือมากกว่า เพื่อช่วยลดความร้อนในห้อง • เลือกใช้ผนังบ้านจากวัสดุที่มีความหนามาก เพื่อหน่วง ความร้อนให้ผ่านห้องช้าลง • ใช้กระเบื้องหลังคาสีอ่อน และทาสีบ้านด้วยสีอ่อนสว่าง จะช่วยสะท้อนความร้อนได้ดี

Feel Fit

เรื่อง : สุทธินี ใจสมิทธ์

ท้าทายเกลียวคลื่นกับ

“กีฬาเรือใบ”

หากเอ่ยถึงกีฬาเรือใบ กิจกรรมกลางแจ้ง ที่อาศัยความคล่องตัวท่ามกลางสายน�้ำ นับเป็นการ ออกก�ำลังกายทางน�้ำอีกประเภทหนึ่งที่เต็มไปด้วย ความท้าทาย เพราะต้องใช้ทั้งสติ สมาธิ และปัญญา บวกกับการตัดสินใจที่แม่นย�ำ เพื่อน�ำพาเรือใบไปสู่ จุดหมายที่ต้องการ ไม่เพียงเท่านั้น กีฬาเรือใบยังท�ำให้ เราได้สัมผัสสายลม แสงแดด ฟังเสียงคลื่นกระทบ ชวนให้สุขภาพจิตดี ปลอดโปร่ง และยังเป็นการพัก สายตาไปในตัว

เตรียมพร้อมก่อนแล่นเรือใบ

การแล่นเรือใบให้ไปในทิศทางที่ก�ำหนดนั้น ก่อนอื่น ผูแ้ ล่นต้องสวมใส่เสือ้ ผ้าทีม่ คี วามคล่องตัวและปลอดภัย ไม่เป็น ผ้าอุ้มน�้ำ รวมทั้งใส่ถุงมือทุกครั้งเพื่อป้องกันน�้ำทะเลกัด และ ทาครีมกันแดดเพื่อป้องกันผิวไหม้ เมื่อขึ้นไปบนเรือใบต้องนั่ง ขาชิดติดกัน หลังตรง อยู่บนกราบเรือฝั่งตรงข้ามกับใบเรือ ทุกครัง้ จากนัน้ เริม่ แล่นเรือใบโดยฝึกสังเกต ใช้ไหวพริบ ดูหวั คลืน่ ดูกระแสลมให้เป็นว่ามาทางไหน เพราะถ้าหันเรือผิดทางเรือ จะคว�ำ่ ได้ เนือ่ งจากกีฬาเรือใบเป็นกีฬาทีใ่ ช้กำ� ลังค่อนข้างมาก จึง ควรบริหารกล้ามเนื้อแขน ข้อมือ หัวไหล่อยู่เสมอ และสิ่งส�ำคัญ ที่สุดคือ ผู้แล่นเรือใบต้องสามารถว่ายน�้ำขั้นพื้นฐานได้ เพื่อวัด ความแข็งแรงและการช่วยเหลือตัวเอง

เรือใบจัดเป็นกีฬากลางแจ้งประเภทหนึง่ ทีม่ ตี น้ ก�ำเนิด จากประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยสันนิษฐานว่าเข้าสู่ประเทศไทย เมื่อครั้งที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งที่ 16 เป็นครั้งแรก ทีป่ ระเทศออสเตรเลีย ซึง่ เรือใบทีน่ ยิ มมี 2 แบบ คือ ประเภทเดีย่ ว และประเภทคู่ โดยประเภทเดี่ยวตัวเรือจะมีใบเรือใบเดียว ผู้เล่น เรือใบแล่นได้กี่แบบ พื้นฐานการแล่นเรือใบนั้น ต้องท�ำความเข้าใจกับ คนเดียว ส่วนประเภทคู่จะมีใบเรือ 2 ใบ เล่นตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป และยังมีการแยกเรือใบเป็นหลายประเภท เช่น เลเซอร์ (Laser) ค�ำศัพท์เฉพาะ เพื่อให้เรียกชื่อได้อย่างถูกต้องและรู้วิธีการแล่น ออปติมิสต์ (Optimist) ไฟร์บอล (Fire Ball) ซูเปอร์มด (Super เรือใบขั้นพื้นฐานซึ่งมี 3 แบบ ด้วยกันคือ • แล่นขวางลม (Reaching) เป็นการแล่นเรือที่ท�ำความเร็วได้ Mod) ดีที่สุด โดยตัวเรือต้องท�ำมุม 90 องศากับทิศทางลม และเปิดใบ รู้จักเรือใบ ท�ำมุม 45 องศากับตัวเรือเพื่อแล่นไปข้างหน้า เรือใบประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก คือ ใบเรือ (Sail) เป็น • แล่นตามลม (Running) เป็นการเปิดใบเรือออกเพื่อให้ลมเข้า ส่วนที่ส�ำคัญที่สุด มีหน้าที่หลักในการรับลมเพื่อน�ำพาเรือให้ ทางท้ายเรือ การแล่นแบบนีค้ อ่ นข้างยากเพราะเรืออาจโคลงเคลง เคลื่อนไปข้างหน้าได้ ตัวเรือ (Body) เป็นส่วนโครงสร้างของเรือ จึงต้องบังคับเรือให้ดี และรู้จักการกลับเรือเพื่อให้ถึงที่หมาย คอยรับน�้ำหนักของผู้เล่นและเชื่อมโยงอุปกรณ์ต่างๆ ภายในเรือ • แล่นเฉียดลม หรือแล่นสวนลม (Beating) ต้องแล่นในลักษณะ ให้มีความสมดุล นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบย่อยต่างๆ อาทิ แล่นสลับฟันปลา โดยตัวเรือจะเอียงท�ำมุม 45 องศากับลม เสากระโดงเรือ เพลา รอก เสาค�้ำ เชือกดึงใบเรือ พังงา หางเสือ จากนั้นเปิดใบประมาณ 35 องศา เป็นต้น

Feel Fit

Talk to Doctor

เรื่อง : โรงพยาบาลพญาไท 2

เอ็มดีเอส (MDS)

โรคร้ายที่มากับความเงียบ เหนื่อยง่าย อ่อนเพลียบ่อย ปวดศีรษะ ผิวหนังซีด ใจสั่น เลือดออกมาก ฟกช�้ำ เจ็บป่วยเรื้อรัง หากเกิดอาการเช่นนี้ “อย่าได้นิ่งนอนใจ” เพราะหากท่านมีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป และอาการดังกล่าวก�ำลังเกิดขึ้นกับท่านแล้ว นั่นเป็นสัญญาณอันตรายว่า โรคเอ็มดีเอสก�ำลังเข้ามาเยือน

ในหลวงกับเรือใบ

กีฬาเรือใบนับเป็นกีฬาทีพ่ ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั โปรดมาตั้ ง แต่ ค รั้ ง ยั ง ทรงพระเยาว์ ทรงเป็ น นั ก กี ฬ าเรื อ ใบ ของประเทศไทย โดยทรงเข้ า ร่ ว มและชนะเลิ ศ การแข่ ง ขั น เรือใบประเภทบุคคลเดี่ยวในการแข่งขันกีฬาแหลมทองครั้งที่ 4 ยิง่ ไปกว่านัน้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ยังทรงต่อเรือใบด้วย พระองค์เอง เรือใบล�ำแรกมีชื่อว่า “ราชปะแตน” ส่วนล�ำที่เป็น ที่รู้จักมากที่สุดคือ “เรือใบแบบซูเปอร์มด” ซึ่งเป็นที่กล่าวขาน มาจนถึงทุกวันนี้ นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงก่อตั้งสโมสรเรือใบส่วน พระองค์ นั่นคือ “สโมสรเรือใบจิตรลดา” และรับสโมสรเรือใบ อีกมากมายเข้ามาไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ ทั้งสโมสรเรือใบ กรมอู่ทหารเรือ สโมสรเรือใบฐานทัพเรือสัตหีบ สโมสรเรือใบ นาวิกโยธิน สโมสรเรือใบกองเรือยุทธการ เป็นต้น จากพระราชอัจฉริยภาพทางการกีฬาที่เป็นที่ประจักษ์ ต่อชาวโลก ส่งผลให้พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรก ของโลกที่ทรงได้รับเหรียญทองดุษฎีกิตติมศักดิ์ “อิสริยาภรณ์ โอลิ ม ปิ ก สู ง สุ ด (ทอง)” จากคณะกรรมการโอลิ ม ปิ ก สากล เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2530

กีฬาเรือใบเป็นการออกก�ำลังกายอย่างหนึ่ง ที่ ต ้ อ งผ่ า นการเรี ย นรู ้ แ ละฝึ ก ฝนจากครู ฝ ึ ก และ ผู้ เ ชี่ยวชาญ โดยต้ องผ่ านการทดสอบว่ ายน�้ ำ ตาม เกณฑ์มาตรฐานที่ก�ำหนด และฝึกการใช้กล้ามเนื้อจาก ประสบการณ์จริงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความ ช�ำนาญและสนุกเพลิดเพลิน

อยากแล่นเรือใบ ฝึกได้ที่ไหน

• สมาคมแข่งเรือใบแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ อาคาร 5 กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม ถนนอรุณอมรินทร์ บางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ โทร. 0-2472-0852, 0-2475-5455 • สมาคมสโมสรเรือใบราชวรุณในพระบรมราชูปถัมภ์ 286 หมู่ที่ 12 ถนนพระต�ำหนัก พัทยาใต้ ชลบุรี โทร. 0-3825-0116, 0-3830-6290 • วิจิตราธานี เซลลิ่งคลับ ริมถนนบางนา - ตราด สมุทรปราการ โทร. 08-1755-0446

Talk to Doctor MDS คืออะไร

โรคเอ็มดีเอส (MDS) หรือชื่อเต็มว่า “ไมอีโลดิส พลาสติกซินโดรม (Myelodysplastic Syndrome)” เป็น ภาวะความผิดปกติของการสร้างเม็ดเลือดในไขกระดูก อันเป็น แหล่งผลิตเม็ดเลือดที่ส�ำคัญของร่างกาย ส่งผลให้ไขกระดูก ไม่สามารถท�ำหน้าทีส่ ร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และ เกล็ดเลือดได้เพียงพอ จนท�ำให้เกิดภาวะโลหิตจาง ติดเชื้อง่าย มีจ�้ำเลือดผิดปกติ เพือ่ สร้างความเข้าใจให้เห็นภาพได้ชดั เจนยิง่ ขึน้ ข้อแรก เราต้องเข้าใจถึงหน้าที่ของไขกระดูก ว่ามีลักษณะคล้ายฟองน�้ำ สีแดง อยู่บริเวณแกนกลางของกระดูก เซลล์เม็ดเลือดส่วนใหญ่ ของร่างกายมีต้นก�ำเนิดมาจากไขกระดูก โดยเริ่มต้นที่เซลล์ ต้นก�ำเนิด (Stem Cell) อันเป็นเซลล์ตั้งต้นของเซลล์เม็ดเลือด โดยเซลล์ต้นก�ำเนิดนี้จะแบ่งตัวออกเป็นเซลล์เม็ดเลือดหลัก อีก 3 ชนิด คือ เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว และเกล็ดเลือด อาการของโรคเอ็ ม ดี เ อสประมาณเกื อ บครึ่ ง หนึ่ ง ของผู้ป่วยจะไม่แสดงอาการ เมื่อได้รับการวินิจฉัยในครั้งแรก อาจเพียงแค่พบว่ามีความผิดปกติ ผู้ป่วยจะมีอาการอ่อนแรง อ่อนเพลียง่าย ปวดศีรษะ ใจสั่น ผิวหนังซีด เป็นจ�้ำเลือดได้ง่าย เลือดออกมาก มีอาการเจ็บป่วยแบบเรื้อรัง ซึ่งอาการทั้งหมด ที่ว่านี้จะมาจากการที่ร่างกายมีจ�ำนวนเม็ดเลือดที่ลดน้อยลง 01

Talk to Doctor ไม่ ว่ า จะเป็ น เม็ ดเลื อดแดง เม็ ดเลื อดขาว หรื อมี เกล็ ด เลือ ด ต�ำ่ กว่าปกติ และในผูป้ ว่ ยทีเ่ ม็ดเลือดแดงต�ำ่ อาจมีอาการโลหิตจาง เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ส่วนเม็ดเลือดขาวต�่ำจะท�ำให้ผู้ป่วย ติ ด เชื้ อ ได้ ง ่ า ย และภาวะเกล็ ด เลื อ ดต�่ ำ จะท� ำ ให้ เ กิ ด ปั ญ หา เลือดออกง่ายและหยุดยาก ในอดีตนัน้ ทางการแพทย์เรียกโรคนีว้ า่ Pre-leukemia เนื่ อ งจากมี ก ารศึ ก ษาพบว่ า ผู ้ ป ่ ว ยเอ็ ม ดี เ อสสามารถพั ฒ นา อาการไปเป็ น มะเร็ ง เม็ ด เลื อ ดขาว (Acute Leukemia) ได้ ถึ ง ร้ อ ยละ 30 โรคเอ็ ม ดี เ อสสามารถพบได้ ใ นคนทุ ก เพศ และทุ ก เชื้ อ ชาติ แต่ มั ก พบบ่ อ ยในเพศชายและคนผิ ว ขาว (Caucasians) และยังพบได้บ่อยในคนที่อายุมากกว่า 60 ปี อีกด้วย

เกิดจากอะไร ท�ำไมถึงเป็น

ด้านสาเหตุของการเกิดโรคในผูป้ ว่ ยนัน้ ส่วนใหญ่ยงั ไม่ ทราบที่มาที่แน่ชัด อย่างไรก็ตาม จะมีสาเหตุ 2 ประการที่มั่นใจ ได้วา่ ท�ำให้เป็นโรคเอ็มดีเอสได้คอื การได้รบั รังสีและยาเคมีบำ� บัด ในการรักษามะเร็ง โดยเอ็มดีเอสทีเ่ ป็นผลจากการรักษามะเร็งนัน้ พบได้ประมาณร้อยละ 10 - 20 ของผู้ป่วย นอกจากนั้นอาจเป็น ผลจากสภาพแวดล้อมที่มีสารพิษ สารเคมี และรังสี 01 ขัน้ ตอนการตรวจไขกระดูก หลังจากพบความผิดปกติของเซลล์เม็ดเลือด 02 การตรวจจ�ำนวนเม็ดเลือดเบื้องต้น (CBC) 02

ในปัจจุบัน กลุ่มเอ็มดีเอสสามารถแบ่งออกได้เป็น 8 ชนิ ด ตามระบบการจั ด โดยองค์ ก ารอนามั ย โลกที่ ใ ช้ เ ป็ น มาตรฐานทั่วโลก ซึ่งการแบ่งชนิดของเอ็มดีเอสออกเป็นกลุ่ม ย่อยแตกต่างกันนัน้ เพือ่ ประโยชน์ในการชีว้ ดั และพยากรณ์ความ เสี่ยงของโรคที่อาจพัฒนากลายไปเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ชนิดเฉียบพลันได้ ในแต่ ล ะปี จ ะมี ผู ้ ป ่ ว ยรายใหม่ ที่ ไ ด้ รั บ การวิ นิ จ ฉั ย ว่าเป็นโรคเอ็มดีเอสประมาณ 87,000 รายจากทั่วโลก ส�ำหรับ ในประเทศสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยรายใหม่ที่ได้รับการวินิจฉัย ว่าเป็นโรคเอ็มดีเอสประมาณ 10,000 - 20,000 รายต่อปี ส่วน ในประเทศไทยนั้ น ยั ง ไม่ มี ก ารรวบรวมสถิ ติ ข องผู ้ ป ่ ว ยโรคนี้ อย่างเป็นทางการ แต่หากแบ่งหมวดของโรคก็จะพบผู้ปว่ ย โรคชนิดนี้ประมาณร้อยละ 10 ของผู้ป่วยโรคทางโลหิตวิทยา ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากอาการผิดปกติของเซลล์ไขกระดูก และ ความผิดปกติทางพันธุกรรม ผู้ป่วยบางคนที่ดูแลรักษาตัวเองเป็นอย่างดีสามารถ มีชีวิต อยู่ได้น านถึง 15 ปี แต่ใ นขณะเดียวกัน บางรายอาจ มีอาการทีแ่ ตกต่างออกไปคือ มีอาการรุนแรง ออกอาการรวดเร็ว และสามารถยื้อชีวิตได้อีกเพียง 6 เดือนนับจากวันที่ได้รับการ วินิจฉัยโรค

ส่วนผู้ป่วยที่อยู่ในระยะลุกลาม จ�ำเป็นจะต้อง เข้ารับการรักษาที่จริงจังและเป็นระบบมากขึ้น ผู้ป่วย บางรายอาจต้องใช้ยาเคมีบ�ำบัดหรือการปลูกถ่าย ไขกระดูกร่วมด้วย อย่างไรก็ดี โรคเอ็มดีเอสไม่ใช่โรค ติดต่อร้ายแรง หากคนใกล้ตัวหรือคนในครอบครัว เป็นผู้ป่วยโรคเอ็มดีเอส ข้อส�ำคัญในการดูแลผู้ป่วย เป็นเอ็มดีเอส ต้องรักษาอย่างไร โรคนี้คือ “ก�ำลังใจ” การให้ก�ำลังใจผู้ป่วยถือเป็นการ ในการวินิจฉัยเอ็มดีเอสนั้น จะใช้วิธีการตรวจคัดกรอง ช่วยป้องกัน รวมถึงรักษาปัญหาทางด้านร่างกาย ผู้ป่วยคือ การตรวจจ�ำนวนเม็ดเลือดเบื้องต้น (CBC) หากตรวจ จิตใจ และอารมณ์ อันเกิดจากภาวะของโรคนี้ได้

เลือดแล้วพบความผิดปกติของเซลล์เม็ดเลือดและจ�ำนวนเม็ด เลือดที่ผิดปกติ ผู้ป่วยจ�ำเป็นต้องเข้ารับการตรวจไขกระดูกเป็น ขั้นตอนต่อไป ส่วนแนวทางการรักษาโรคเอ็มดีเอสในระยะแรก จะใช้ การรักษาด้วยวิธีการให้เลือด โดยการให้เลือดจะช่วยให้ผู้ป่วย คงสภาพเซลล์เม็ดเลือดแดงทีแ่ ข็งแรง แต่การให้เลือดแต่ละครัง้ จะมีผลต่อสภาวะเหล็กในร่างกาย ท�ำให้มกี ารสะสมของธาตุเหล็ก ในตับ หัวใจ และอวัยวะอื่นๆ ซึ่งหากปล่อยไว้อวัยวะดังกล่าว ก็จะถูกท�ำลายได้ จึงจ�ำเป็นต้องใช้ยาขับเหล็กควบคูไ่ ปกับการให้ เลือด เพื่อก�ำจัดเหล็กที่มีปริมาณมากเกินไปออกจากร่างกาย ส�ำหรับผูป้ ว่ ยกลุม่ เสีย่ งทีโ่ รคอาจจะพัฒนาไปเป็นมะเร็งเม็ดเลือด ขาวอาจจ�ำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยาเคมีบ�ำบัด รวมทั้ง การปลูกถ่ายไขกระดูก

Talk to Doctor

The Journey

เรื่องและภาพ : ธีรภาพ โลหิตกุล นักเขียนและช่างภาพสารคดีอิสระ

ผมมีอาการแปลกๆ ครับ เดี๋ยวนี้เวลาปัสสาวะจะมีฟองออกมา ค่อนข้างมาก จากแต่กอ่ นทีม่ อี ยูบ่ า้ งแต่กไ็ ม่เยอะเท่าช่วงนี้ และฟอง พวกนัน้ ก็ไม่คอ่ ยหายไปง่ายๆ ด้วย ผมสังเกตมาสักระยะแล้ว ไม่ทราบว่า เกิดจากระบบอะไรในร่างกายของผมผิดปกติไปหรือเปล่าครับ

สวั ส ดี ค่ ะ ท่ า นผู้ อ่ า นทุ ก ท่ า น ดิ ฉั น แพทย์ ห ญิ ง อยุ ท ธิ นี สิ ง หโกวิ น ท์ อายุรแพทย์โรคเบาหวานและเมแทบอลิซึม โรงพยาบาลพญาไท 2 โดยทั่วไปแล้วอาการปัสสาวะเป็นฟองมักเกิดจากการที่มีโปรตีนรั่วออกมา กับปัสสาวะ ซึง่ ปกติแล้วโปรตีนเป็นสิง่ ทีด่ จี ะไม่รวั่ ออก โปรตีนทีร่ วั่ ออกมากับปัสสาวะ บ่งชี้ว่าเส้นเลือดที่ไตเริ่มเสื่อม อาจเป็นผลจากโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง หรือภาวะไตเสื่อมการท�ำงานลง แนะน�ำให้ขั้นต้นท�ำการตรวจปัสสาวะเพื่อยืนยันว่ามีโปรตีนรั่วออกมาจริง หรือไม่ และท�ำการตรวจเลือดดูภาวะเบาหวาน การท�ำงานของไต และระดับไขมัน ในเลือดค่ะ

ส�ำหรับผูอ้ า่ นทุกท่านทีม่ ขี อ้ สงสัยเกีย่ วกับปัญหาสุขภาพทีต่ อ้ งการปรึกษาคุณหมอผูเ้ ชีย่ วชาญ สามารถ เขียนมาถามได้ท ี่ ณัฐวีณ ์ โชติกลุ สิทธิ ์ แผนก APS บริษทั อมรินทร์พริน้ ติง้ แอนด์พบั ลิชชิง่ จ�ำกัด (มหาชน) หรืออีเมลที่ natthawee@amarin.co.th ซึ่งคอลัมน์นี้จะเป็นสื่อกลางและเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ให้ ความรูแ้ ละค�ำแนะน�ำเกีย่ วกับการดูแลสุขภาพของคุณ รับรองว่าทุกข้อสงสัยเกีย่ วกับปัญหาสุขภาพจะได้รบั ค�ำตอบแน่นอนค่ะ

พระราชไมตรีข้ามขอบฟ้า จากเจ้าพระยาสู่อิรวดี

“จดหมายเหตุ เ สด็ จ พระราชด� ำ เนิ น เยื อ น จะได้เห็นองค์พระประมุขและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จ สหภาพพม่า 2 - 5 มีนาคม 2503” พระราชด�ำเนินโดยมิได้ทรงฉลองพระบาทและถุงพระบาท

หนังสือเล่มนี้ท�ำให้ผมอึ้งตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นหน้าปก นี่ อ าจเป็ น พระบรมฉายาลั ก ษณ์ เ พี ย งภาพเดี ย วที่ พ สกนิ ก ร

เมื่อพลิกไปที่หน้า 49 ก็จะพบค�ำอธิบายภาพดังกล่าว พระนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

The Journey

03 02

ว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินนี าถ เสด็จฯ ถึงพระเจดียช์ เวดากอง เมื่อเวลา 8.45 น. ตามธรรมเนียมของชาวพม่า เมื่อเข้าไปยัง ปูชนียสถานอันเป็นที่เคารพสักการะ จะต้องถอดฉลองพระบาท ถุงพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนาง เจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้ทรงปฏิบัติตามประเพณีอันเก่าแก่ นี้ด้วย…” สะท้อนให้เห็นพระจริยาวัตรอันงดงามของพระมหากษัตริยผ์ ยู้ งิ่ ใหญ่ ทว่าทรงเคารพวัฒนธรรมประเพณีของเพือ่ นบ้าน ซึ่งหากคิดภายใต้กรอบประวัติศาสตร์ชาตินิยม พม่าก็ถือเป็น ศั ต รู ห มายเลขหนึ่ ง ของสยามประเทศในอดี ต อั น ยาวนาน แต่นอกจากจะทรงตระหนักถึงธรรมเนียมปฏิบัติเมื่อเข้าวัดของ ชาวพม่าแล้ว ยังทรงถวายเงินบ�ำรุงพระมหาเจดียจ์ ำ� นวน 2,503 จัต เท่าอายุพระพุทธศาสนาในขณะนั้น อีกทั้งยังมีพระราชด�ำรัส ตอบประธานาธิบดีแห่งสหภาพพม่า ในงานเลีย้ งพระกระยาหาร ค�่ำ ตอนหนึ่งว่า... “...ประเทศทัง้ สองได้เรียนรูแ้ ล้วว่า จะต้องลืมข้อพิพาท ทีเ่ คยมีมาในอดีต และส่งเสริมไมตรีจติ มิตรภาพทีม่ อี ยูใ่ นปัจจุบนั เพื่อให้เกิดคุณประโยชน์ยิ่งๆ ขึ้นด้วยกันทั้งสองฝ่ายในอนาคต ขอให้ประเทศทัง้ สองนี้ แสดงให้ปรากฏแก่ตาโลกว่าเป็นเพือ่ นบ้าน ที่ประเสริฐ...ตั้งอยู่ด้วยกันได้โดยสันติเป็นนิจ และประกอบกิจ อันเป็นประโยชน์ซึ่งกันและกันเป็นนิรันดร...” ทัง้ นีป้ ระวัตศิ าสตร์ความสัมพันธ์ไทย - พม่า บันทึกไว้วา่ มีพระมหากษัตริย์แห่งสยามประเทศ ในสมัยรัตนโกสินทร์ เสด็จ พระราชด�ำเนินไปนมัสการพระมหาเจดีย์ชเวดากอง 2 พระองค์

01 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ภูมพิ ลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ไปทรงสักการะพระเจดีย์ชเวดากอง วันที่ 3 มีนาคม 2503 02 ทรงลงพระปรมาภิไธยในสมุดเยี่ยม และทรงถวายเงินบ�ำรุง พระมหาเจดีย์จ�ำนวน 2,503 จัต เท่าอายุพระพุทธศาสนาในขณะนั้น 03 ทรงถวายต้นไม้เงินทองและเทียนแพเป็นพุทธบูชาแด่พระเจดีย์ ชเวดากอง

คือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 พระบาทสมเด็ จ พระจุ ล จอมเกล้ า เจ้ า อยู ่ หั ว เสด็ จ ประพาสพม่าในระหว่างทางเสด็จประพาสอินเดีย โดยทรงขึน้ ฝัง่ ที่เมืองท่ามะละแหม่ง แล้วเสด็จฯ ทางเรือไปนมัสการพระมหา เจดีย์ชเวดากอง ณ กรุงย่างกุ้ง เมื่อวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2414 ในฐานะพระราชอาคันตุกะของรัฐบาลอินเดีย ซึง่ เวลานัน้ ตกเป็น อาณานิคมของอังกฤษแล้ว เช่นเดียวกับดินแดนพม่าตอนใต้ ตั้งแต่กรุงย่างกุ้งลงไป ก็ตกอยู่ในความครอบครองของอังกฤษ ก่อนที่อังกฤษจะยึดกรุงมัณฑะเลย์ ราชธานีสุดท้ายของระบอบ กษัตริย์พม่าได้เบ็ดเสร็จในปี พ.ศ. 2428 ครัน้ ในปี พ.ศ. 2478 สมเด็จพระบรมวงศ์เธอ กรมพระยา ด�ำรงราชานุภาพ เสด็จไปบูชาพระมหาเจดีย์ชเวดากอง ในวันที่ 22 มกราคม ก็ทรงบันทึกไว้ในพระนิพนธ์ “เที่ยวเมืองพม่า” หน้า 29 ว่า เมื่อเสด็จไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของชาวพม่า ก็ทรงมิได้ “ใส่เกือกถุงตีน” เช่นกัน ในการเสด็จฯ เยือนพม่าอย่างเป็นทางการ ระหว่าง วันที่ 2 - 5 มีนาคม 2503 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ยังได้เสด็จฯ ไปในการพระราชกุศล ณ สังคายนามณฑล ภายในมหาปาสาณคูหา โดยพระราชทาน

เลี้ยงภัตตาหารเพลแก่พระสงฆ์ 1,000 รูป ทรงถวายต้นไม้เงิน ทองและเทียนแพเป็นพุทธบูชา และทรงปลูกต้นศรีมหาโพธิ์ 2 ต้นที่ทรงน�ำไปจากประเทศไทย ณ ลานหน้ามหาปาสาณคูหา เป็นอนุสรณ์แห่งมิตรภาพไทยกับพม่า มหาปาสาณคูหาเป็นห้องประชุมขนาดใหญ่บรรจุคน ได้กว่า 10,000 คน สร้างขึน้ เพือ่ ใช้ในการสังคายนาพระไตรปิฎก ครัง้ ที่ 6 โดยสร้างให้มลี กั ษณะคล้ายถ�ำ้ เป็นการจ�ำลอง “สัตตบรรณ คู ห า” ในอิ น เดี ย สถานที่ ท� ำ ปฐมสั ง คายนาพระไตรปิ ฎ ก ใกล้ กั บ มหาปาสาณคู ห า ยั ง มี “เจดี ย ์ ค าบาเอ” ซึ่ ง แปลว่ า เจดีย์สันติภาพโลก สร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2493 - 2495 โดย อู นุ นายกรัฐมนตรีคนแรกของพม่า เพื่ออุทิศถวายเป็นพุทธบูชา น้อมน�ำให้เกิดสันติสขุ แก่มวลมนุษย์สมกับชือ่ ของเจดียท์ รงกลม ความสูง 34 เมตร ภายในบรรจุพระอัฐิธาตุของพระอัครสาวก คือ พระโมคคัลลา และพระสารีบุตร และยังเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธรูปเงินหนัก 500 กิโลกรัม ที่มีพุทธลักษณะงดงาม ปัจจุบนั มหาปาสาณคูหายังเป็นสนามสอบของคณะสงฆ์ พม่า ทีเ่ ลือ่ งลือกันว่าภิกษุสงฆ์ทเี่ ข้าสอบจะต้องท่องพระไตรปิฎก ให้ได้ 24,100 พระธรรมขันธ์ โดยไม่ผิดพลาดตกหล่น จึงจะสอบ ผ่าน ส่วนต้นศรีมหาโพธิ์ 2 ต้นที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถทรงปลูกไว้เมื่อปี พ.ศ. 2503 ยังยืนต้นงามสง่า 1 ต้น แต่อีกต้นหนึ่งได้รับผลกระทบจากมหา วาตภัย “นาร์กสี ” ในปี พ.ศ. 2551 จนหักโค่นลง เหลือแต่หน่ออ่อน ที่พร้อมจะเติบโตขึ้นเป็นไม้ใหญ่ให้ร่มเงาอีกในอนาคต

ใน “จดหมายเหตุเสด็จพระราชด�ำเนินเยือนสหภาพ พม่า 2 - 5 มีนาคม 2503” หน้า 31 ยังปรากฏภาพท�ำเนียบ ประธานาธิบดีสหภาพพม่า อันงามสง่าด้วยศิลปะ “วิกตอเรียน” ที่เน้นความหรูหราโอ่อ่าอลังการ โดยสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2435 (สมัยสมเด็จพระจักรพรรดินีวิกตอเรีย) เดิมเคยเป็นส�ำนัก ข้าหลวงใหญ่ของอังกฤษที่ปกครองพม่า ก่อนจะเป็นท�ำเนียบ ประธานาธิบดี และทางการพม่าจัดถวายด้านหนึ่งเป็นที่ประทับ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการเสด็จพระราชด�ำเนิน เยือนสหภาพพม่าเมื่อปี พ.ศ. 2503 ดังกล่าว ทว่าน่าเสียดายที่ 04 ต้นศรีมหาโพธิ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปลูกไว้ เมื่อปี พ.ศ. 2503 ยังยืนต้นงามสง่า 05 เจดีย์คาบาเอ หรือเจดีย์สันติภาพโลก 06 พระพุทธรูปเงินหนัก 500 กิโลกรัม ประดิษฐานในเจดีย์คาบาเอ

04 05

The Journey

Chef at Home

ขนมจีบปลากะพง ส่วนผสม (ส�ำหรับ 4 - 5 ที่)

08 09

07 07 ท�ำเนียบประธานาธิบดีสหภาพพม่า อันงามสง่าด้วยศิลปะ “วิกตอเรียน” 08 เจดีย์ชเวดากองยามราตรี 09 มหาปาสาณคูหา สังคายนามณฑล ในปัจจุบัน

ปัจจุบนั อาคารอันทรงคุณค่านีถ้ กู รัฐบาลทหารพม่าในเวลาต่อมา รื้อทิ้งไปเสียแล้ว ตราบจนวันนี้ การเสด็จพระราชด�ำเนินเยือนสหภาพ พม่าในปี พ.ศ. 2503 ยังนับเป็นการเยือนครั้งประวัติศาสตร์ ครัง้ เดียวในรัชกาลปัจจุบนั และกล่าวได้วา่ เป็นการแสดงมิตรไมตรี ต่อประเทศเพื่อนบ้านเป็นครั้งแรก นับแต่สหภาพพม่าได้รับ เอกราชจากอังกฤษ โดยที่ก่อนหน้านั้น ท่านอู นุ นายกรัฐมนตรี คนแรกของพม่า ได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยเพื่อกระชับ สัมพันธไมตรีในปี พ.ศ. 2498 นับว่าการเสด็จฯ เยือนในครัง้ นัน้ เป็นการแสดงพระราชไมตรีขา้ มขอบฟ้าของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั เพือ่ ก้าวข้าม ความขัดแย้งที่มีมาในอดีต สู่มิติใหม่แห่งสัมพันธไมตรีระหว่าง ไทยกับพม่า ดังปรากฏในพระราชด�ำรัสอ�ำลาประธานาธิบดีแห่ง สหภาพพม่า ในวันที่ 5 มีนาคม 2503 ตอนหนึ่งว่า

แผ่นเกี๊ยว เนื้อปลากะพงสับหยาบ หน่อไม้ต้มสุกหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก รากผักชี กระเทียม พริกไทยเม็ด พริกไทยป่น น�้ำมันงา น�้ำตาลทราย เกลือป่น แป้งมัน น�้ำมันพืชเล็กน้อย ใบผักชีส�ำหรับแต่งหน้า ซอสเปรี้ยวส�ำหรับเสิร์ฟคู่กัน

20 - 30 250 ½ 2 3 ½-1 ½ 1½ 1 1 1

Tip การพรมน�ำ้ ให้ทวั่ ขนมจีบก่อนนึง่ จะช่วยให้แป้งนิม่ “...ข้าพเจ้ารู้สึกปลื้มใจอย่างยิ่ง เมื่อได้เห็น ประชาชนชาวพม่าแสดงไมตรีจิตต์ต่อเราทุกหนแห่ง ข้าพเจ้าถือว่าการแสดงน�้ำใจดีเช่นนั้น ย่อมเป็นนิมิต หมายว่าชาวพม่าและชาวไทยต่างมีความเห็นใจซึ่งกัน และกัน...ไม่เป็นอมิตรคิดร้ายต่อกัน ไม่โลภหลงอยากได้ สิง่ ใดโดยไม่ชอบธรรม แต่จะต่อสูเ้ พือ่ เสรีภาพซึง่ ต่างก็ รักและหวงแหน”

อร่อย ไม่แข็งกระด้าง

แผ่น กรัม ถ้วย ราก กลีบใหญ่ ช้อนชา ช้อนชา ช้อนโต๊ะ ช้อนโต๊ะ ช้อนชา ช้อนโต๊ะ

วิธีท�ำ

1. โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยเม็ดรวมกันให้ละเอียด น�ำไปผสมกับเนือ้ ปลา หน่อไม้ น�ำ้ ตาลทราย เกลือ พริกไทย ป่น แป้ ง มั น และน�้ ำ มั น งาในอ่ า งผสมที่ ร องด้ ว ยน�้ ำ แข็ ง ใช้ หั ว ตี รู ป ตะกร้ อ ตี จ นส่ ว นผสมเข้ า กั น ดี เหนี ย วและนุ ่ ม จากนั้นน�ำไปแช่เย็น (ช่องธรรมดา) ประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง 2. แผ่แผ่นเกี๊ยวบนฝ่ามือ ตักส่วนผสมปลาในข้อแรกใส่ลง ตรงกลาง ใช้องุ้ มือห่อแผ่นเกีย๊ วและบีบเบาๆ ให้แน่น ปาดหน้า ให้เรียบ ท�ำซ�้ำเช่นเดิมจนไส้หมด 3. ทาน�้ำมันพืชให้ทั่วลังถึง วางขนมจีบลงไป พรมน�้ำให้ทั่ว เพื่ อ ให้ แ ป้ ง ชุ ่ ม น�้ ำ เล็ ก น้ อ ย จากนั้ น น� ำ ไปนึ่ ง ในน�้ ำ เดื อ ด ประมาณ 5 - 7 นาที หรือจนกระทัง่ สุก ยกลงจากเตา พรมน�ำ้ มัน บางๆ ลงบนขนมจีบเพือ่ ไม่ให้แป้งติดกัน ตกแต่งด้วยใบผักชี ให้สวยงาม 4. จัดใส่จานเสิร์ฟ รับประทานขณะร้อนๆ คู่กับซอสเปรี้ยว

Chef at Home

บัวลอยขิงงาด�ำ

ผักโขมหม้อดิน ส่วนผสม (ส�ำหรับ 2 ที่)

ผักโขม เต้าหู้แข็งสีขาว แป้งสาลีส�ำหรับชุบเต้าหู้ น�้ำซุปผัก น�้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว น�้ำตาลทรายไม่ฟอกสี เกลือ แป้งข้าวโพดละลายน�้ำ น�้ำมันถั่วเหลืองส�ำหรับทอดเต้าหู้

300 1 ¼ ½ 1 2 1 ¼ 2

สูตรแปลงโฉม

กรัม แผ่น ถ้วย ถ้วย ช้อนโต๊ะ ช้อนชา ช้อนชา ช้อนชา ช้อนโต๊ะ

วิธีท�ำ

1. เด็ดผักโขมเฉพาะใบ ล้างให้สะอาด ลวกในน�ำ้ เดือด แช่นำ�้ เย็น พักไว้แล้วสงขึ้น บีบน�้ำให้แห้ง 2. หั่นเต้าหู้เป็นชิ้นสามเหลี่ยม ชุบแป้งบางๆ แล้วทอดในน�้ำมัน ถั่วเหลืองจนสุก ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน�้ำมัน 3. ตั้งน�้ำซุปผักให้เดือด ใส่ผักโขมลงไป ปรุงรสด้วยน�้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว น�้ำตาลทราย และเกลือ 4. เติมแป้งข้าวโพดที่ละลายน�้ำแล้วลงไป คนให้น�้ำซุปข้นขึ้น แล้วตักใส่หม้อดิน วางเต้าหู้ที่ทอดไว้ลงไป จากนั้นปิดฝา แล้วยกขึน้ ตัง้ ไฟอ่อนประมาณ 5 นาที ยกลงแล้วเสิรฟ์ ได้ทนั ที

ส่วนผสม (ส�ำหรับ 6 - 8 ที่) งาด�ำ ขิงแก่หั่นหยาบ น�้ำเปล่า น�้ำตาลทรายแดง น�้ำตาลทรายขาว เกลือป่น หัวกะทิ แป้งข้าวเหนียว แป้งข้าวเจ้า น�้ำร้อนจัด

วิธีท�ำ

Tips • แช่ผกั โขมทีล่ วกแล้วในน�ำ้ เย็นจัดสักพัก ช่วยให้ใบผักมีสเี ขียว สดน่ารับประทานยิง่ ขึน้ • เตรียมแป้งข้าวโพดละลายน�ำ้ โดยตวงแป้งข้าวโพด ½ ช้อนโต๊ะ ผสมกับน�ำ้ 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันก่อนใช้

¾ 1 ½ 3 3 ½ ¹/ ³ 1 ½ ½

ถ้วย ถ้วย ถ้วย ช้อนโต๊ะ ช้อนโต๊ะ ช้อนชา ถ้วย ถ้วย ถ้วย ถ้วย (+ 2 ช้อนโต๊ะ)

1. คัว่ งาด�ำด้วยไฟอ่อนจนสุก พักไว้ให้เย็นสนิท แล้วน�ำไปป่นให้ ละเอียด (ใช้ครกหรือเครื่องปั่นก็ได้) พักไว้ จากนั้นน�ำขิง หัน่ หยาบไปปัน่ รวมกับน�้ำจนเนือ้ ละเอียด กรองแยกเนือ้ และ น�้ำไว้ 2. น�ำเนือ้ ขิงทีก่ รองน�ำ้ ออกแล้วผัดรวมกับน�ำ้ ตาลทรายแดงและ น�้ำตาลทรายขาว เกลือป่น และหัวกะทิ ใช้ไฟปานกลางนาน ประมาณ 5 นาที จนเริ่มแห้งและเหนียวขึ้น จึงเติมงาด�ำ ที่ป่นแล้วลงผสมให้เข้ากัน เมื่อแห้งดีแล้วตักขึ้นพักไว้ 3. ผสมแป้งข้าวเหนียวและข้าวเจ้าให้เข้ากัน ค่อยๆ เติมน�้ำร้อน และใช้ชอ้ นคลุกให้เข้ากัน จากนัน้ ใช้มอื นวดแป้งจนเนือ้ เนียน ไม่ติดมือ 4. ตักไส้ขงิ งาด�ำประมาณ 2 ช้อนชา ปัน้ ให้เป็นก้อนกลม และปัน้ แป้งให้ใหญ่กว่าไส้เล็กน้อย ใช้มือกดให้แผ่เป็นแผ่นบาง พยายามให้ บ ริ เ วณขอบบางกว่ า ตรงกลาง น� ำ ไส้ ม าวาง ตรงกลาง ห่อรวบแผ่นแป้งปิดให้มิด น�ำไปต้มในน�้ำเดือด จนกระทัง่ สุกลอยขึน้ มา ก่อนเสิรฟ์ ให้โรยงาด�ำ รับประทานกับ ซอสขิงอบเชยร้อนๆ

ส่วนผสมซอสขิงอบเชย น�้ำขิงที่กรองไว้ กะทิ น�้ำตาลทรายแดง แท่งอบเชย แป้งข้าวโพดละลายน�้ำ

วิธีท�ำซอสขิงอบเชย

¼ ½ 3 1 1

ถ้วย ถ้วย ช้อนโต๊ะ แท่ง ช้อนโต๊ะ

ใส่น�้ำขิง กะทิ น�้ำตาลทรายแดง แท่งอบเชยหักเป็น ท่อนลงในกระทะ คนจนน�้ำตาลละลายหมด เคี่ยวต่อประมาณ 2 - 3 นาทีให้เดือด เติมแป้งข้าวโพด คนเร็วๆ จนซอสข้นเหนียวขึน้

Wine Curve

เรื่อง : De La Nine Wine writer

“ชาโต เดอ เลย”

ไวน์ไทย ทรัพย์สินทางปัญญาของไทย นอกจากการท�ำไร่มัน ส�ำปะหลัง ปลู กอ้ อ ย ข้าวโพด และปลูกข้าวแล้ว พื้นที่ของภาคตะวันออก เฉียงเหนือของไทยยังสามารถปลูกพืชเมืองหนาว ได้ด้วย ที่ส�ำคัญ พืชเมืองหนาวที่ว่าคือแหล่งที่มาของ เครื่องดื่มไฮโซที่ก�ำลังบูมแบบสุดๆ ในเมืองไทยตอนนี้ และจะมีใครทีร่ บู้ า้ งว่า “ทีร่ าบสูงภูเรือ” คือแผ่นดินทอง ของไทยที่ส่องประกายไกลถึงต่างแดน

สายตาที่ยาวไกลคือวิสัยทัศน์ของผู้น�ำอย่างแท้จริง นายแพทย์ชยั ยุทธ กรรณสูต คือผูพ้ ลิกผืนแผ่นดินทองทีน่ ำ� มาซึง่ ความมัง่ คัง่ ในภายหลัง ไม่มใี ครปฏิเสธได้วา่ ท่านคือผูน้ ำ� แห่งไวน์ ของเมืองไทยอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นต้นต�ำรับการน�ำเข้าไวน์ ชั้นดีจากต่างประเทศ หรือผู้ริเริ่มส่งออกไวน์ไทยไปต่างประเทศ ในเวลาต่อมา

ก่อนที่จะมีไวน์ให้ดื่มในวันนี้ ที่ราบสูงภูเรือได้ผ่าน การส�ำรวจมาอย่างละเอียด ดังที่ประกาศของกรมทรัพย์สินทาง ปัญญาเคยกล่าวว่า “ในปี 2534 นายแพทย์ชัยยุทธ กรรณสูต ได้ศึกษา และเล็งเห็นว่า พืน้ ทีบ่ ริเวณนัน้ เป็นทีร่ าบสูงรูปโต๊ะ และมีอากาศ ทีเ่ หมาะสมแก่การปลูกองุน่ จึงได้ทดลองน�ำองุน่ มาปลูกหลายพันธุ์ และได้ปรึกษา มจ.ภีศเดช รัชนี เมือ่ ความทราบถึงพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช จึงได้ทรงพระมหากรุณาธิคุณ ให้ผลงานวิจัยเกี่ยวกับการเพาะปลูกองุ่นในประเทศไทย ซึ่งได้ ทดลองในภาคเหนือตอนบนเป็นเวลากว่าสิบปี และทรงแนะน�ำ ให้ปลูกองุน่ พันธุ์ Chenin Blanc และ Shiraz ซึง่ เหมาะกับสภาพ ภูมศิ าสตร์ พร้อมทัง้ พระราชทานกล้าพันธุม์ าให้พนื้ ทีน่ ไี้ ด้ลงปลูก องุ่นและผลิตไวน์ตั้งแต่นั้นมา ด้วยวิธีการเพื่อให้ได้คุณภาพดี ที่สุด ตามหลักปฏิบัติสืบต่อกันมาตามสากลนิยม”

สวนองุ่นภูเรือวโนทยาน หรือชาโต เดอ เลย เป็นไร่ ปลูกองุน่ พืน้ ทีก่ ว่า1,000 ไร่ อยูใ่ นบริเวณทีเ่ รียกว่าทีร่ าบสูงภูเรือ (Plateau de Phurua) ผลิตไวน์ออกจ�ำหน่ายอย่างเป็นทางการ ครั้งแรกในปี 2538 โดยมีบริษัท ซี.พี.เค.แพลนเตชั่น จ�ำกัด (C.P.K. Plantation Co., Ltd. ) คอยดูแลด้านการตลาด ชาโต เดอ เลย คือไวน์ไทยเจ้าแรกที่ส่งออกไปขายยัง ต่างประเทศ เช่น ยุโรป ญี่ปุ่น และที่อื่นๆ อีกหลายแห่ง รัฐบาล ฝรั่งเศสให้การรับรองการผลิตไวน์ชาโต เดอ เลย ในมาตรฐาน ของเอโอซี ท�ำให้ชาโต เดอ เลย ได้เข้าไปเป็นสมาชิกของ องค์การการค้าโลก ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย และคุ้มครองเรื่องผลประโยชน์ หรือจีไอ (GI) ที่มา จากค�ำว่า Geographical Indications คือ มาตรการคุม้ ครอง หรือเป็นสิทธิประเภทหนึง่ ในทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับการค้า ก�ำหนดขึ้นมาเพื่อปกป้องคุ้มครองชื่อเสียง และคุ ณ ภาพของสิ น ค้ า (โดยเฉพาะ สินค้าเกษตร ได้แก่ ไวน์และสุรา) ไม่ให้ ถูกแอบอ้างชื่อ ลอกเลียนแบบ อัน จะท�ำให้ผู้บริโภคหลงเข้าใจผิดใน แหล่ ง ที่ ม า และส่ ง ผลกระทบต่ อ สิ น ค้ า ตั ว จริ ง ซึ่ ง บริ ษั ท ได้ ขึ้ น ทะเบี ย น สิง่ บ่งชีท้ างภูมศิ าสตร์กบั กรมทรัพย์สนิ ทาง ปัญญาของไทยเป็น แพลโท เดอ ภูเรือ ขณะที่ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ได้มอบใบทะเบียน คุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ให้ไวน์ชาโต เดอ เลย เมื่อปี 2549 พร้อมสินค้าไทยอย่างอื่น 9 ชนิด ไวน์ชาโต เดอ เลย มีหลากหลายรุ่น ถ้าเป็นรุ่นปี 2003 ฉลากจะยังเป็นรุ่นเดิม หากตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นไป ฉลาก จะเป็นรุ่นใหม่ ที่ส�ำคัญบางรุ่นยังได้รับรางวัลด้วย เช่น White Extra Dry Special 2005 ได้รับรางวัลชนะเลิศ ในการแข่งขัน The International Wine & Spirit Competition 2006 ที่กรุง ลอนดอน Shiraz Reserve 2003 ได้รับรางวัลชนะเลิศจากงาน The International Food & Hospitality 2004

• อุณหภูมิหน้าหนาวเย็นจัด บางครั้งอุณหภูมิต�่ำถึง 0 - 3 องศา เซลเซียส ท�ำให้ได้ไวน์มีรสจัด ดื่มแล้วจะสดชื่นมาก • อากาศร้อนในตอนกลางวันท�ำให้องุ่นสุกเต็มที่ องุ่นให้น�้ำตาล เยอะ • สภาพดินแบบดอลลาร์ฮิลล์ ในลักษณะเนินต�่ำๆ ต่อเนื่องกัน เป็นดินทราย ดินแดงปนทราย น�้ำไม่ท่วมขัง ถือเป็นภูมิประเทศ ที่เหมาะส�ำหรับปลูกองุ่นอย่างมาก ส่งผลให้เกิดความสมดุล ในเรื่องรสชาติไวน์ • ไวน์ขาวให้กลิ่นหอมของฟางข้าว ส่วนไวน์แดงมีกลิ่นหอมของ พริกไทยด�ำและช็อกโกแลต • ออกดอกเดือนพฤศจิกายน และเก็บเกี่ยวเดือน กุมภาพันธ์ - มีนาคม

สายพันธุ์องุ่น

เป็นพันธุอ์ งุน่ จากฝรัง่ เศส แบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ พั น ธุ ์ อ งุ ่ น ขาวใช้ Chenin Blanc น� ำ มาผลิ ต ไวน์ Extra Dry, Dessert Wine และ Sparkling Wine ส่วน พั น ธุ ์ อ งุ ่ น แดงใช้ Shiraz น� ำ มา ผลิตไวน์ Shiraz Reserve และ Rose องุ่นสองพันธุ์นี้ มีชอื่ เสียงมากทีป่ ระเทศฝรัง่ เศส แต่ตา่ งทีต่ า่ งเวลารสชาติของไวน์ อาจจะเปลี่ยนไปบ้าง ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้นต้องไปสัมผัสด้วย ตัวเองครับ ชาโต เดอ เลย คือหนึง่ ความภาคภูมใิ จของไทย

จากมันสมองของคนไทยที่เป็นทรัพย์สินทางปัญญา ของไทยทีผ่ มอยากให้แฟนไวน์ทกุ ท่านแวะไปเยีย่ มเยือน ไปนอนค้างคืนตากอากาศ ไปดูเดือนแรม ไปใช้แสงดาว ที่พร่างพรายแทนแสงเทียน ไปอยู่ชิดใกล้ธรรมชาติ ตากลมที่พัดผ่านผิวองุ่น พร้อมๆ กับดื่มด�่ำไวน์แดง นุม่ นวลเหนือหุบผาน่าประทับใจ ปล่อยใจพักผ่อนรอรับ อรุณ ชมตะวันเยี่ยมฟ้าเหนือผาสาด เพิ่มชีวิตชีวาให้ วันใหม่ดว้ ยโรเซน์สดจากไร่ของชาโต เดอ เลย เพียงเท่านี้ จุดเด่นของไวน์จากชาโต เดอ เลย ก็เติมเต็มไออุน่ รอรับหน้าหนาวนี้ อวยพรให้เทีย่ วสนุก • ไร่องุ่นอยู่สูงจากระดับน�้ำทะเลประมาณ 600 - 800 เมตร ซึ่ง ให้สุขใจไปกับไวน์ไทยของเรานะครับ คล้ายกับเมืองมาร์เซย์ ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส

Dining out

เรื่อง : Dekyingwaiwai ภาพ : สุภัทรา ศรีทองค�ำ

เรื่อง : ทัศนัย ข�ำชื่น ภาพ: สุรพล พวงศรี

ลิ้มอาหารรสเลิศ ละเมียดไวน์รสเยี่ยมที่

VIE Wine & Grill

ส�ำหรับเซตเมนูทถี่ อื ได้วา่ เป็นซิกเนเจอร์ และได้รบั การ การันตีความอร่อยจากลูกค้า ได้แก่ ซูกินีซุป (Zucchini Soup) ซุปข้นทีม่ กี ลิน่ หอมอ่อนๆ จากซูกนิ สี ดเจือใบโหระพา เพิม่ รสเค็ม และมันจากพาร์มีซานชีสคุณภาพเยี่ยม เหมาะจะเป็นเมนูเรียก น�้ำย่อยได้ดี ตามด้วยซู-วิดปลาหิมะ (Sous-Vide Snowfish) ท่ า มกลางตึ ก ระฟ้ า ใจกลางเมื อ ง โรงแรม ปลาหิมะเสิร์ฟพร้อมมันบด ความพิเศษของจานนี้อยู่ที่กรรมวิธี วี โฮเต็ล กรุงเทพฯ (VIE Hotel) นับเป็นโรงแรม การปรุงปลาหิมะภายใต้การก�ำหนดความดันและอุณหภูมิใน ที่โดดเด่นด้วยความสูง ชวนสะดุดตาในความสง่างาม การปรุงอาหารให้ไม่เกิน 100 องศาเซลเซียส เพื่อคงคุณค่า และดี ไ ซน์ อั น เป็ น เอกลั ก ษณ์ แ ปลกตากว่ า ตึ ก อื่ น ๆ ทางโภชนาการไว้ครบถ้วน รวมถึงมันบดเนื้อเนียน เครื่องเคียง ในละแวกเดียวกัน ที่มีรสชาติกลมกล่อมหอมมันครบรส ปิดท้ายด้วยพัฟทุเรียน ความสวยงามด้านนอกไม่เพียงดึงดูดใจให้หลายๆ คน (Durian Puff) และทุเรียนชีสเค้ก (Durian Cheesecake) ก้าวเข้ามาค้นหาค�ำตอบ แต่บรรยากาศภายในต่างก็มีเสน่ห์ สองเมนูเบเกอรี่รสละมุนลิ้นกรุ่นกลิ่นหอมอ่อนๆ ของทุเรียน ไม่แพ้กนั ยิง่ ไปกว่านัน้ VIE Wine & Grill ห้องอาหารทีบ่ ริการอาหาร ต่างจากขนมทุเรียนกลิ่นฉุนที่คุ้นเคย ท�ำให้โรงแรมแห่งนี้ขึ้นชื่อ นานาชาติรสเลิศ ยังเชื้อเชิญให้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และมีเอกลักษณ์ในด้านการรังสรรค์เมนูแบบไม่ซ�้ำใคร ลองเปลีย่ นมือ้ อาหารธรรมดาทีเ่ คย ให้เป็นมือ้ เข้ามาลิม้ รสความอร่อยของหลากเมนู ซึง่ ผ่านการคัดสรรวัตถุดบิ อย่างดี ก่อนปรุงอย่างพิถีพิถันในสูตรเฉพาะของที่นี่ รวมถึง พิเศษด้วยเมนูอาหารรสเลิศ ไวน์รสเยี่ยม ท่ามกลาง แบรนด์ไวน์รสเยี่ยมชั้นยอดจากแหล่งผลิตไวน์ทั่วโลก ซึ่งทาง บรรยากาศสุ ด หรู ก ลางตึ ก ระฟ้ า ใจกลางเมื อ งที่ โรงแรมน�ำเข้าและเก็บไว้ในไวน์เซลลาร์อย่างดี ช่วยคงคุณภาพ ห้องอาหาร VIE Wine & Grill โรงแรมวี โฮเต็ล กรุงเทพฯ และรสชาติไว้ได้อย่างครบถ้วน ภายในห้องอาหารถูกตกแต่งด้วยคอนเซ็ปต์สไตล์ VIE Wine & Grill คอนเทมโพรารีผสมไทยโมเดิรน์ ไม่วา่ จะเป็นหมอนอิง โซฟา รวมถึง ห้ชั้นอทีงอาหาร ่ 11 โรงแรมวี โฮเต็ล กรุงเทพฯ เฟอร์นเิ จอร์ และการจัดไฟในโทนสีสม้ จัดจ้าน เน้นความเป็นไทย 117/ 39 - 40 ถนนพญาไท กรุงเทพฯ 10400 ด้วยการเลือกใช้ผ้าไหมเกรดคุณภาพจากจิม ทอมป์สัน แบรนด์ โทรศัพท์ 0-2309-3939 โทรสาร 0-2309-3838 ที่โดดเด่นด้านการผลิตผ้าไหมที่แสดงความเป็นเอกลักษณ์ของ เว็บไซต์ www.mgallery.com สมาชิกบัตร SCG Debenture Club ความเป็นไทย ติดตามสิทธิประโยชน์ได้จากเล่มกิจกรรมและสิทธิประโยชน์

Brown Eyes & Soy Cafe' อร่อย สบาย สไตล์ญี่ปุ่น

หากเอ่ยชื่อเมนูอาหารญี่ปุ่น เราอาจนึกถึง ภาพของปลาดิบ ซูชิ ซาชิมิ และราเม็ง แต่ส�ำหรับร้าน Brown Eyes & Soy Cafe' (บราวน์ อายส์ แอนด์ ซอย คาเฟ่) มีเมนูที่พิเศษกว่า ด้วยการผสมผสาน อาหารอิตาเลียนเข้ากับอาหารสไตล์ญี่ปุ่นอย่างลงตัว พร้อมด้วยเมนูออร์แกนิกฟู้ดที่คัดเลือกวัตถุดิบชั้นดี มาปรุงอย่างสร้างสรรค์ ถูกใจผูท้ ชี่ นื่ ชอบอาหารสุขภาพ รสชาติอร่อย

รสชาติแบบไทยๆ นัน่ คือ ลาบวุน้ เส้นผัดเต้าหู้ (Tofu Bruschetta with Peril) จัดจ้านด้วยส่วนผสมที่คลุกเคล้ากันอย่างลงตัวของ วุ้นเส้น ผัก และเต้าหู้ชิ้นเล็กแลดูคล้ายหมูเนื้อนุ่ม ปิดท้ายด้วย เมนูของหวาน อาทิ ไอศกรีมน�้ำเต้าหู้สไตล์ญี่ปุ่น เสิร์ฟพร้อม ขนมและธัญพืช เนื้อไอศกรีมนุ่มละมุน หวานน้อยแต่อร่อยมาก ชิมรสชาติโดยไม่ต้องหวั่นปริมาณแคลอรีแต่อย่างใด อาหารรสชาติดแี ละบรรยากาศน่ารักของร้าน

Brown Eyes & Soy Cafe' ยังคงสร้างรอยยิ้ม Brown Eyes & Soy Café ตั้งอยู่บริเวณชั้นล่างของ แก่ลูกค้าที่แวะเวียนมาเสมอ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ร้าน โรงแรมยูโร แกรนด์ ซอยสุขุมวิท 31 บรรยากาศภายในร้าน อาหารแห่งนีจ้ ะสร้างความประทับใจให้แก่ใครหลายคน โปร่งสบายด้วยโทนสีเหลืองอ่อนตัดกับสีขาวแลดูอบอุ่น ของ หาโอกาสแวะเวียนมาลิ้มรสชาติบ่อยเท่าที่ค้องการ กระจุกกระจิกสไตล์ญี่ปุ่นวางประดับในมุมต่างๆ อย่างน่ามอง เลือกที่นั่งริมหน้าต่างหรือมุมเล็กๆ บริเวณเทอเรซด้านนอกที่ติด กับสวนขนาดย่อมแสนผ่อนคลาย จากนัน้ หยิบเมนูอาหารมาเปิด เลือกความอร่อยกัน เริม่ ทีส่ ปาเกตตีซกู นิ ี เส้นเรียวเล็กเหนียวนุม่ สี สั น สดใสด้ ว ยแตงกวาและพริ ก สามสี น ่ า ชิ ม ต่ อ ด้ ว ยเมนู แนะน�ำของร้านที่ไม่ควรพลาด Omelette Brown Rice with Mushroom Tomato Sauce ข้าวกล้องห่อไข่ราดซอสมะเขือเทศ สูตรพิเศษ ใช้ไข่ออร์แกนิกผสมนมถั่วเหลืองรสชาติดี น�ำมา ห่ อ ข้ า วกล้ อ งที่ ผ ่ า นการหุ ง อย่ า งพิ ถี พิ ถั น ทานเคี ย งกั บ ซอส มะเขือเทศสูตรอร่อย นอกจากนี้ยังมีเมนูส�ำหรับผู้ที่ชอบอาหาร

ร้าน Brown Eyes & Soy Cafe' โรงแรมยูโร แกรนด์ ชั้น 1 ซอยสุขุมวิท 31 (ซอยสวัสดี) เขตวัฒนา กรุงเทพฯ 10110 โทรศัพท์ 0-2260-8728 เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00 - 15.00 น. และ 17.00 - 21.00 น. ราคาอาหารต่อท่านโดยประมาณ 200 - 400 บาท สมาชิกบัตร SCG Debenture Club ติดตามสิทธิประโยชน์ได้จากเล่มกิจกรรมและสิทธิประโยชน์

Dining out

เรื่อง : กองทรัพย์ ภาพ : สุรพล พวงศรี

Dining out

Grape Story

@ The Circle Ratchapruk นั บ เป็ น ร้ า นแรกในไทยที่ คั ด องุ ่ น สดจากไร่ มาท� ำ เป็ น เบเกอรี่ โ ฮมเมดและผลิ ต ภั ณ ฑ์ แ ปรรู ป จากองุ่น เปิดขายเอาใจคนรักสุขภาพที่ชื่นชอบองุ่น เป็ น พิ เ ศษ ถ้ า อยากชิ ม ต้ อ งแวะมาที่ เ ดอะเซอร์ เ คิ ล ราชพฤกษ์ จะพบร้านเบเกอรี่สีม่วง ตกแต่งสวยเก๋ สไตล์วนิ เทจ ตัง้ โดดเด่นแทรกตัวอยูใ่ นบรรดาร้านรวง รายรอบ หันมองป้ายชือ่ Grape Story ไม่ผดิ แน่นอน

คัว่ กลิง้ +ผักสด

อาหารปักษ์ใต้ สไตล์โฮมเมด

พริกขีห้ นูสวนสดและใบมะกรูดซอย จานต่อมาคือ สะตอผัดกะปิ ที่ลูกค้าต่างโหวตให้เป็นดาวเด่นของร้าน ไม่ว่าจะเป็นกุ้งหรือ ย้อนไปเมื่อ 3 ปีก่อน มีร้านอาหารปักษ์ใต้ หมูกรอบผัดกับสะตอต่างก็มีรสชาติเข้มข้นลงตัว หรือจะเป็น น้องใหม่เกิดขึ้นในซอยสุขุมวิท 40 ซึ่งเจ้าของตั้งใจ แกงเหลืองปลากะพงชิ้นโตพร้อมยอดมะพร้าวอ่อน ควันฉุย ว่าจะเปิดเป็นงานอดิเรกให้คุณแม่ แต่ด้วยจุดเด่นของ กลิ่นหอมของเครื่องแกงมาแต่ไกล ส่วนรสชาติก็เปรี้ยวได้ใจ ความเป็นร้านขนาดเล็ก และรสมือทีเ่ ป็นเลิศของแม่ครัว เข้ากับข้าวสวยร้อนๆ ดีนักแล คนใต้แท้ๆ ผู้คนจึงติดใจแวะเวียนมาไม่ขาด แต่เมื่อ ส�ำหรับคนชอบทานผัก แนะน�ำข้าวย�ำปักษ์ใต้ ทีเด็ด ท�ำเลเดิมแปรสภาพไป “ร้านคั่วกลิ้ง+ผักสด” จึงย้าย อยู่ที่น�้ำบูดูที่น�ำเอาน�้ำบูดูเค็มเคี่ยวใส่น�้ำตาลปี๊บ ข่า ตะไคร้ทุบ มาอยู่ใจกลางซอยทองหล่อแทน โดยคงบรรยากาศ หอม กระเทียม ฉีกใบมะกรูดใส่ ปรุงรส ชิมให้มรี สเค็ม หวาน หรือ ความเป็นบ้านไว้ครบถ้วน ข้าวของดัง้ เดิมสมัยคุณพ่อ จะสั่งเมนูใบเหลียงผัดไข่ กุ้งมะขาม ปลาทอดขมิ้น หรือไข่พะโล้ ถูกจัดวางอย่างลงตัวในพืน้ ทีจ่ ำ� นวน 11 โต๊ะ อบอวล ขาหมูเอาไว้ตัดรสเผ็ดได้ดี ไปด้วยความรักและอบอุ่น หากมองหาอาหารพื้นบ้านปักษ์ใต้ “คั่วกลิ้ง เสน่ห์ของ “คั่วกลิ้ง+ผักสด” อีกอย่างหนึง่ คือความเป็น +ผักสด” เป็นอีกหนึง่ ร้านทีต่ อบโจทย์ความอร่อย และ โฮมเมด ผักสดในจานเดินทางมาจากเกษตรกรชาวชุมพร บ้างก็ ให้บรรยากาศอบอุน่ เสมือนหนึง่ ว่าได้กนิ รสมือคุณแม่ เป็นฝีมือการจ่ายตลาดของคนในบ้าน เครื่องแกงหอมและเผ็ด โดยมีคุณพ่อนั่งมองมาอย่างเอ็นดู ต�ำมือ แสดงถึงความตั้งใจท�ำในทุกขั้นตอน จึงไม่น่าแปลกใจ ว่าอาหารใต้รสดั้งเดิมแบบนี้จะเป็นที่ชื่นชอบทั้งชาวไทยและ คั่วกลิ้ง+ผักสด นักท่องเที่ยวต่างชาติที่นิยมรสเผ็ด ซอยทองหล่อ 5 ถนนสุขุมวิท 55 โทรศัพท์ 0-2185-3977 ขึ้นชื่อว่า “คั่วกลิ้ง+ผักสด” แล้ว พระเอกของร้าน เปิดทุกวัน รอบสาย 11.00 - 14.00 น. รอบเย็น 18.00 - 22.00 น. หนีไม่พน้ เมนูควั่ กลิง้ มีหมูสบั เนือ้ ชิน้ และกระดูกหมูออ่ นให้เลือก ราคาอาหารโดยประมาณจานละ 120 - 200 บาท ทุกจานจะเสิร์ฟพร้อมผักสด ส่วนทีเด็ดของรสชาติอยู่ที่สูตร สมาชิกบัตร SCG Debenture Club ติดตามสิทธิประโยชน์ได้จากเล่มกิจกรรมและสิทธิประโยชน์ พริกแกงที่ตกทอดมาตั้งแต่รุ่นคุณยายคั่วกับเนื้อจนแห้ง โรย

ขึ้ น ชื่ อ ว่ า เป็ น ร้ า นองุ ่ น แล้ ว ทั้ ง ขนมนมเนยและ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ จึงล้วนท�ำมาจากองุ่น ทุกอย่างดูลงตัวไม่เว้น แม้แต่การตกแต่งร้านด้วยโทนสีม่วง โปร่งโล่ง ประดับด้วยใบไม้ ดอกไม้ให้ความรู้สึกราวกับนั่งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ในไร่องุ่น และเมื่อมาถึงแล้วห้ามพลาดเกรปชีสพาย (Grape Cheese Pie) รสชาติหวานมันของชีสและครีมสด ตัดด้วยรสเปรีย้ ว ของแยมและผลองุน่ สด เพียงค�ำแรกก็รสู้ กึ ได้ถงึ ความหนานุม่ ลง มาถึงชั้นแครกเกอร์ด้านล่าง แต่ถ้าใครชอบเค้กเนื้อนิ่ม แนะน�ำ ให้ลองชิมเกรปชีสเค้ก (Grape Cheese Cake) จะไม่ผิดหวัง กับความนุ่มลิ้นของเนื้อชีสที่สอดไส้แยมองุ่นไว้ตรงกลาง ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มเย็นๆ เปรี้ยวซ่า เกรปพั้นช์โซดา (Grape Punch Soda) ที่น�ำน�้ำองุ่นมาท�ำเป็นบล็อกน�้ำแข็ง พอ ละลายก็จะยังคงได้รสชาติเปรีย้ วอมหวานขององุน่ ผสมกับความ ซ่าของโซดา เรียกความสดชื่นคืนมาได้ดีทีเดียว ถ้ามีโอกาสแวะมาและมีเวลามากพอ อย่าลืม

ติดกล้องถ่ายรูปมาด้วย เพราะมีมุมสวยๆ ทั้งภายใน และภายนอกร้านให้กดชัตเตอร์กลับไปอวดกันอย่าง สนุ ก มื อ และยิ่ ง ได้ เ ดิ น ไปเที่ ย วชมร้ า นรวงรอบๆ เดอะเซอร์เคิล อาจเพลินจนลืมไปว่าพระอาทิตย์ลับฟ้า ไปนานแล้ว Grape Story เดอะเซอร์เคิล (The Circle) ถนนราชพฤกษ์ ตลิ่งชัน โทรศัพท์ 0-2863-8666, 08-0584-6336 E-mail: info.grapestory@gmail.com เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 21.00 น. ราคาขนมและเครื่องดื่มโดยประมาณ 100 - 200 บาท สมาชิกบัตร SCG Debenture Club ติดตามสิทธิประโยชน์ได้จากเล่มกิจกรรมและสิทธิประโยชน์

เรื่อง : พัดชา ภาพ : สุรพล พวงศรี

Getting Charm

เรื่อง : ห้างเพชรหลีเสง (L.S. Jewelry Group)

Diamond Grading ‘5Cs’ C ที่ 5 อีกหนึ่งคุณค่าแห่งเพชร

การที่เราจะตัดสินใจเป็นเจ้าของ เพชรเม็ ด งามสั ก เม็ ด ที่ มี คุ ณ ภาพและได้ มาตรฐานสูงสุด หลักการในการประเมิน คุ ณ ภาพของเพชรแต่ ล ะเม็ ด นอกจาก 4 Cs อย่าง Color - สี Carat - น�้ำหนัก Clarity - ความบริสุทธิ์ และ Cut - การ เจียระไนแล้ว ยังมี Light Performance ที่นับเป็นอีกหนึ่งคุณค่าแห่งความงาม

การวัดค่าการสะท้อนแสงกลับของเพชร (Light Performance) คือปริมาณแสงที่สะท้อน กลับออกมาจากเพชร เพชรที่เจียระไนได้สัดส่วนที่ สมบูรณ์แบบเท่านัน้ จึงจะสะท้อนแสงกลับออกมา ได้อย่างสมบูรณ์ การเจียระไนเพชรจึงเป็นปัจจัย หลักที่ส�ำคัญที่สุด ที่จะท�ำให้เพชรเจิดจ้าเปล่ง ประกายความงดงามออกสูส่ ายตาผูพ้ บเห็น รวมทัง้ ยังเป็นการเพิ่มคุณค่าและมูลค่าของเพชรแต่ละ เม็ด เพชร Heart & Arrow (Ideal cut) หรือ เรียกสั้นๆ ว่าเพชร H & A นั้น เป็นเพชรที่ได้รับการ ยอมรับว่าเป็นเพชรทรงกลม (Round Brilliant) ทีม่ ี เหลี่ยมการเจียระไนที่ประณีต สวยสมบูรณ์แบบ มากที่สุด ทุกขั้นตอนการเจียระไนต้องอาศัยความ แม่นย�ำ ทั้งในด้านสัดส่วน (Proportion) ความ สมมาตร (Symmetry) และการขัดเงา (Polish) ซึ่ง 01 02 ความสมดุลทั้งหมดนี้ ท�ำให้เพชร Heart & Arrow 01 หัวใจ 8 ดวงเมื่อมองจากด้านล่าง เปล่งประกายสะท้อนความงดงามได้อย่างเต็มที่ 02 ลูกศร 8 ดอกเมื่อมองจากด้านบน เหนือกว่าเพชรทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด

แม้สงั เกตด้วยตาเปล่าก็จะเห็นว่าเพชร Heart & Arrow มีประกายความงดงามมากที่สุด เมื่อใช้กล้องพิเศษ Heart & Arrow Loupe ส�ำหรับส่องดูเพชร Heart & Arrow โดยเฉพาะ สิ่งที่ได้เห็นคือ รูปแบบการเจียระไนแบบพิเศษ ซึ่งเมื่อมองผ่าน กล้องจากด้านบน (Face up) จะเห็น pattern รูปลูกศร จ�ำนวน 8 ดอก ซึง่ มีขนาดและสัดส่วนเท่ากันอย่างชัดเจน และเมือ่ มองผ่านกล้อง จากด้านล่าง (Bottom up) ก็จะเห็น pattern รูปหัวใจ 8 ดวง ที่สมบูรณ์เช่นกัน การเจียระไนแบบพิเศษนี้เอง ที่ท�ำให้เพชร Heart & Arrow มีปริมาณแสงทีส่ ะท้อนกลับออกมาสมบูรณ์แบบ 03

03 Fish Eye (Shallow Cut) เหลี่ยมเพชรเจียระไนไม่ได้สัดส่วน เนื่องจาก แสงจะส่องทะลุผ่านจากด้านหน้าเพชรลงไป ท�ำให้ประกายของเพชร ลดลง 04 Heart & Arrow (Ideal Cut) เหลี่ยมเพชรเจียระไนได้สัดส่วน เกิดการ สะท้อนแสงที่สมบูรณ์ ท�ำให้ประกายเพชรสวยงามไร้ที่ติ 05 Nail Head (Deep Cut) เหลี่ยมเพชรเจียระไนไม่ได้สัดส่วน เมื่อแสงส่องผ่านจะมีการดูดซับแสง ท�ำให้ประกายของเพชรลดลง

ในปัจจุบนั AGS (American Gem Society) ซึง่ เป็นแล็บ อัญมณีที่มีคุณภาพสูงที่สุดในโลก ได้มีการระบุค่าการสะท้อน แสงกลับของเพชร (Light Performance) ไว้ในใบรับรองคุณภาพ AGS’s Diamond Grading Certificate เรียบร้อยแล้ว และใน อนาคตอีกหนึ่งสถาบันอัญมณีที่ได้รับการยอมรับอย่าง GIA (Gemological Institute of America) ก็จะระบุค่าการสะท้อน แสงกลับของเพชรไว้ในใบรับรองคุณภาพ GIA’s Diamond Grading Certificate Report ด้วยเช่นกัน ครั้ ง ต่ อไปเมื่ อจะเลื อ กซื้ อ เพชรน�้ ำ งามที่ สุ ด

แต่ในการเจียระไนเพชรเพื่อให้ได้เพชรที่มีสัดส่วน งดงามสมบูรณ์แบบ “Heart & Arrow” เช่นนี้จะต้องตัดเนื้อเพชร ดิบ (Rough Diamonds) ออกไปมากกว่าการเจียระไนเพชร แบบอืน่ ๆ ตัวอย่างเช่น ก้อนเพชรดิบน�ำ้ หนัก 5 กะรัต หากต้องการ ส�ำหรับทุกโอกาสส�ำคัญ อย่าลืมใส่ใจกับเหลี่ยมการ ่ งสีและต�ำหนิของ รักษาน�้ำหนัก และน�ำมาเจียระไนเป็น “เหลี่ยมอินเดีย” แล้ว เจียระไนว่าเป็นแบบใด ก่อนจะถามเรือ เมือ่ เจียระไนเสร็จ เพชร (Polished Diamond) ทีไ่ ด้ อาจมีนำ�้ หนัก เพชรเป็นล�ำดับต่อไป สูงถึง 4 กะรัต หรือถ้าเจียระไนเป็นแบบอื่นๆ อย่าง “เหลี่ยม เบลเยีย่ ม” อาจมีนำ�้ หนัก 3 กะรัต “เหลีย่ มรัชเชีย่ น” อาจมีนำ�้ หนัก Lee Seng Jewelry 2 กะรัต และจะเหลือแค่เพียง 1 กะรัต หากเจียระไนเป็นแบบ โทรศัพท์ 0-2629-1444 (10 คู่สาย ) “Heart & Arrow” นัน่ จึงเป็นเหตุผลว่าท�ำไมเพชรทีเ่ จียระไนแบบ www.lsjewelrygroup.com “Heart & Arrow” H Color จึงมีราคาสูงกว่าเพชรที่เจียระไน สมาชิกบัตร SCG Debenture Club ติดตามสิทธิประโยชน์ได้จากเล่มกิจกรรมและสิทธิประโยชน์ แบบอื่นอย่างเพชร “เหลี่ยมอินเดีย” D Color เป็นเท่าตัว

Go Around

เรื่อง : ชนาภา สุวงศ์

เพลงพระราชนิพนธ์อันล�้ำค่า

เรียงร้อยเพลงพระราชนิพนธ์ ไพเราะไม่มีวันเลือน

ดนตรีเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่อยู่คู่กับมนุษย์ มาช้านาน เป็นทั้งเครื่องจรรโลงใจ ให้ความบันเทิง รวมทั้งผ่อนคลายความเครียดได้เป็นอย่างดี ดัง ค�ำกลอนที่ว่า “ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็น คนชอบกลนัก” ในบทหนึ่งของพระราชนิพนธ์แปล ในรัชกาลที่ 6 เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่แยกออกจากชีวิต

ประจ�ำวันของเราไม่ได้ ประเทศไทยเราจึงมีบทเพลง ที่หลากหลายตามยุคสมัย หากแต่ยังคงมีบทเพลง อันทรงคุณค่าของชาวไทยที่ไม่ว่าผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย ก็ยังคงความไพเราะได้อย่างไม่มีวันลบเลือน นั่นคือ “บทเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั ”

“จุดเทียนบวงสรวงปวงเทพเจ้า สวดมนต์คำ�่ เช้าถึงคราว ระทมทน โอ้ชีวิตหนอล้วนรอความตายทุกคน หลีกไปไม่พ้น ทุกข์ทนอาทรร้อนใจ” เนื้อร้องของเพลง “แสงเทียน” ที่ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้น เมือ่ ทรงเจริญพระชนมพรรษาเพียง 18 พรรษา ยังคงก้องกังวานใจ ทุกคนไม่เสือ่ มคลาย จนถึงปัจจุบนั มีเพลงพระราชนิพนธ์รวมทัง้ สิน้ 48 เพลงแล้ว ทุกเพลงล้วนมีความไพเราะทั้งเนื้อหาและท�ำนอง และล้วนมีที่มาจากความเมตตาของพระองค์ที่พระราชทานให้ เนื่องในโอกาสต่างๆ อาทิ เพลงยามเย็น พระราชทานแก่สมาคม ปราบวัณโรค เพลงใกล้รุ่ง บรรเลงเป็นปฐมฤกษ์ในงานของ สมาคมเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทย เพลงความฝันอันสูงสุด เราสู้ หรือแผ่นดินของเรา พระราชทานเพื่อเป็นขวัญและก�ำลังใจ ยามที่บ้านเมืองไม่สงบสุข เพื่อให้เกิดความสามัคคีในสังคม

อัครศิลปินของชาวไทย

ในหลวงของเราทรงมี พ ระปรี ช าสามารถทางด้ า น ดนตรีจนเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการทรงดนตรี การพระราชนิพนธ์เพลง หรือการเรียบเรียงเสียงประสาน โดย สามารถทรงเครื่องดนตรีได้ทั้งประเภทเครื่องลมและประเภท ทองเหลือง แต่รู้หรือไม่ว่าพระองค์โปรดแคลริเนต แซกโซโฟน และทรั ม เป็ ต มากที่ สุ ด เครื่ อ งดนตรี ที่ ท รงหั ด เล่ น ชิ้ น แรก

คือ หีบเพลง (แอคคอร์เดี้ยน) โดยทรงเริ่มเรียนดนตรีเมื่อมี พระชนมายุ 13 พรรษา นอกจากนั้นยังทรงเรียนเป่าแซกโซโฟน เรียนวิชาการดนตรี การเขียนโน้ตและสเกลต่างๆ ในแนวดนตรี คลาสสิก ต่อมาจึงเริม่ ฝึกดนตรีแจ๊ส และทรงดนตรีสากล พระองค์ โปรดดนตรีประเภท Dixieland Jazz มาก ทรงศึกษาประวัติ นักดนตรีทมี่ ชี อื่ เสียง และทรงเปรียบเทียบฝีมอื การเล่นดนตรีจาก แผ่นเสียง สไตล์ที่โปรด เช่น สไตล์การเป่าโซปราโน แซกโซโฟน ของซิดนีย์ บิเชท์ (Sidney Bechet) ออโต แซกโซโฟน ของ จอห์นนี่ ฮอดเจส (Johnny Hodges) ยิ่งไปกว่านั้น พระปรีชาสามารถในการทรงดนตรีของ พระองค์ยังเป็นที่ประจักษ์ในสายตาของชาวต่างประเทศ เห็น ได้จากการที่ท่านสามารถเข้าร่วมบรรเลงดนตรีกับวงดนตรีของ ประเทศต่างๆ ได้โดยไม่ต้องทรงเตรียมพระองค์มาก่อน ท�ำให้ ได้รับการยกย่องจากนานาประเทศว่าเป็นนักดนตรีแจ๊สผู้มี อัจฉริยภาพสูงส่ง รวมทั้งมหาวิทยาลัยการดนตรีและศิลปะการ แสดงแห่งกรุงเวียนนา ได้ถวายพระเกียรติให้ด� ำรงต�ำแหน่ง สมาชิกกิตติมศักดิ์ หมายเลขที่ 23 ในฐานะที่ทรงเป็นผู้สร้าง ความสัมพันธ์อันดีระหว่างดนตรีตะวันออกกับดนตรีตะวันตก นับว่าเป็นพระมหากษัตริย์จากทวีปเอเชียที่มีบทบาทส�ำคัญใน ศูนย์กลางการดนตรีแห่งทวีปยุโรปพระองค์แรกทีไ่ ด้รบั การถวาย พระเกียรติให้ด�ำรงต�ำแหน่งสมาชิกกิตติมศักดิ์นี้

Go Around

วง อ.ส.วันศุกร์ เพื่อประชาชน

หลายคนคงคุ้นหูหรือชื่นชอบบทเพลงจาก “วง อ.ส. วันศุกร์” ด้วยพระปรีชาสามารถทางด้านดนตรีของในหลวง จึงท�ำให้เกิดวงนี้ขึ้นเมื่อ 50 กว่าปีที่แล้ว จากแรกเริ่มที่ได้รวม พระประยูรญาติและคนสนิททีล่ ว้ นเป็นนักดนตรีสมัครเล่นมาเล่น ดนตรีในชื่อ “วงลายคราม” เป็นวงดนตรีส่วนพระองค์วงแรก เล่นดนตรีในแนว Dixieland Jazz ซึง่ มีความสนุกสนานเบิกบาน เปิดโอกาสให้ผเู้ ล่นแสดงความสามารถเฉพาะตัว จนกระทัง่ กรม ประชาสัมพันธ์ได้น้อมเกล้าฯ ถวายเครื่องส่งวิทยุให้พระองค์ จึงทรงตัง้ ชือ่ ว่า “สถานีวทิ ยุ อ.ส.” ตามชือ่ สถานทีท่ ที่ า่ นประทับ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน เพื่อใช้เป็นสื่อกลางให้ความบันเทิง และสาระประโยชน์ต่างๆ แก่ประชาชน ต่อมามีการปรับปรุง เปลี่ ย นแปลงสมาชิ ก ในวงลายคราม พระองค์ ท ่ า นจึ ง ได้ พระราชทานชือ่ วงใหม่วา่ “วงดนตรี อ.ส.วันศุกร์” ออกอากาศ ทางสถานีวิทยุ อ.ส.ทุกวันศุกร์ โดยพระองค์ทรงจัดรายการเพลง และทรงเลือกแผ่นเสียงเอง ทั้งยังให้ผู้ฟังโทรศัพท์มาขอเพลง จากวงได้ด้วย ถือเป็นการเปิดโอกาสให้พสกนิกรได้ติดต่อกับ พระองค์ง่ายขึ้น วง อ.ส.วันศุกร์ มีส่วนส�ำคัญต่อชีวิตของประชาชน หลายด้าน ทัง้ ในด้านการสร้างความบันเทิง และการเป็นสือ่ กลาง ช่วยเหลือประชาชน อย่างการช่วยผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์

มหาวาตภัยทีแ่ หลมตะลุมพุก จนเกิดมูลนิธริ าชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขึ้น และใน บางโอกาสได้โปรดเกล้าฯ ทรงดนตรีให้เด็กผู้พิการ และบรรเลง ในการหารายได้บ�ำรุงการกุศลอีกด้วย นอกเหนือจากวงดนตรี อ.ส.วันศุกร์ที่รู้จักกันส่วนใหญ่ แล้ ว พระองค์ ยั ง ทรงพระเมตตาตั้ ง แตรวงที่ ชื่ อ “วงสหาย พั ฒ นา” ขึ้ น โดยได้ ร วบรวมสมาชิ ก นั ก พั ฒ นาอาสาสมั ค ร ของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ หน่วยงานต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่เคยเล่นดนตรีมาก่อน พระองค์ก็ ทรงฝึกสอนด้วยพระองค์เอง จนสามารถบรรเลงในโอกาสพิเศษ ต่างๆ ได้ จะเห็นได้ว่า พระปรีชาสามารถทางด้านการ

ดนตรีของพระองค์ท่านนั้นช่างสูงส่ง ท�ำให้บทเพลง พระราชนิพนธ์เหล่านี้ล้วนมีคุณค่าอย่างหาที่สุดไม่ได้ ลองหามาฟังสักครั้ง แล้วจะเข้าใจถึงความไพเราะ ที่ไม่อาจลบเลือนไปได้ตามกาลเวลาจริงๆ

Entertainment

เรื่อง : ทัศนัย ข�ำชื่น

Movies

Musics ภาพยนตร์ใหม่

อัลบั้มเพลงไทย

แนวหนัง : ดราม่า ก�ำหนดฉาย : 22 ธันวาคม 2554 ก�ำกับโดย : ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล น�ำแสดงโดย : เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์, ศิรพันธ์ วัฒนจินดา, พุทธชาติ พงศ์สุชาติ, วิชญ์วิสิฐ หิรัญวงษ์กุล, จารุณี บุญเสก ค่ายหนัง : สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ผลงานของคุณมะเดีย่ ว - ชูเกียรติ ศักดิว์ รี ะกุล ผูก้ ำ� กับทีป่ ระสบความส�ำเร็จ มาแล้วกับภาพยนตร์เรื่อง “รักแห่งสยาม” ซึ่งในภาพยนตร์เรื่อง “HOME ความรัก ความสุข ความทรงจ�ำ” นี้ ถ่ายทอดเรือ่ งราวของตัวละครผ่านความรูส้ กึ ต่างๆ ทีเ่ กิดขึน้ ในสถานที่ซึ่งเรียกว่าบ้าน แทรกข้อคิดเรื่องของความรักและความรู้สึกที่คนเรา มักหลงลืมอย่างไม่รู้ตัวในขณะใช้ชีวิต บางฉากบางตอนของภาพยนตร์ได้หยิบยก มาจากเหตุการณ์ในชีวิตจริงของผู้ก�ำกับที่ผ่านประสบการณ์มากว่า 30 ปี เล่าผ่าน 3 เรื่องราวสั้นๆ เพื่อเติมเต็มความหมายของการมีชีวิตอยู่อย่างมีความสุข

แนวเพลง : Jazz ค่าย : GMM Grammy ท่วงท�ำนองและความหมายอันลึกซึ้งของบทเพลงในอดีต อาจยังตราตรึง ในความทรงจ�ำของใครหลายคนไม่เคยเปลี่ยน อัลบั้ม Jazz Lover Vol.2 จึงรวบรวม เพลงไพเราะอันโด่งดังเมื่อหลายปีที่ผ่านมา น�ำมาคัฟเวอร์และร้องใหม่ในสไตล์แจ๊ส โดยการรวมตัวของศิลปินที่มาร่วมสร้างความไพเราะมากมาย อาทิ แอน - ธิติมา, อ๊อฟ - ปองศักดิ์, โรส - ศิรินทิพย์, ลูกปัด - ชลนรรจ์, โอง - ณัชชา และศิลปินคุณภาพ อีกคับคั่ง เพื่อให้อรรถรสของการฟังเพลงอบอวลไปด้วยความสุนทรีย์ในจังหวะแสน สบาย

HOME ความรัก ความสุข ความทรงจ�ำ

Jazzy Lover Vol.2 รวมศิลปิน

อัลบั้มเพลงสากล

Hugh Laurie : Let Them Talk

ภาพยนตร์เก่า

ด้วยเกล้า

แนวหนัง : ดราม่า วันที่เข้าฉาย : 9 กันยายน 2549 ก�ำกับโดย : บัณฑิต ฤทธิ์ถกล น�ำแสดงโดย : จรัล มโนเพ็ชร, จินตหรา สุขพัฒน์, สันติสุข พรหมศิริ ค่ายหนัง : ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น ภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกและเรื่องเดียวที่ได้รับพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเพลงพระราชนิพนธ์จ�ำนวน 9 เพลงส�ำหรับใช้ประกอบ สร้างจาก เหตุการณ์จริงของเสาค�ำ (จรัล มโนเพ็ชร) ชาวนาจากภาคเหนือที่เก็บเมล็ดข้าว พระราชทาน 1 ก�ำเล็กๆ จากพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญที่ท้องสนาม หลวง ด้วยความรักและศรัทธา เขาจึงหว่านเมล็ดข้าวเหล่านั้นลงในผืนดินอัน แห้งแล้ง ท่ามกลางความดูแคลนของคนในครอบครัว ธรรมชาติที่ไม่เป็นใจ และ นายทุนหน้าเนื้อใจเสือ ทุกสิ่งดูคล้ายสิ้นหวัง แต่เมื่อ “ฝนหลวง” ซึ่งเปรียบเหมือน น�้ำพระราชหฤทัยของในหลวงได้โปรยปรายลงมา ทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป

แนวเพลง : Blues ค่าย : Warner Bros. ผู้คนส่วนใหญ่รู้จัก Hugh Laurie หนุ่มใหญ่วัย 50 ปีในบทบาทของ นั ก แสดงมากฝี มื อ ที่ รั บ รางวั ล ลู ก โลกทองค� ำ สาขานั ก แสดงน� ำ ชายยอดเยี่ ย ม จากละครชุดเรือ่ ง “House” แต่ในเวลานี้ Hugh Laurie ได้กา้ วเดินสูเ่ ส้นทางสายดนตรี ที่เขาตกหลุมรักและคลุกคลีกับมันมาตั้งแต่วัยเด็ก กับอัลบั้มเดี่ยวครั้งแรกในชีวิต Let Them Talk ซึง่ ในอัลบัม้ ชุดนี้ Hugh Laurie ได้เลือกเพลงทีเ่ ขาชืน่ ชอบมาคัฟเวอร์ ใหม่ตามแบบฉบับของตัวเอง ซิงเกิล้ เปิดตัวคือเพลงต้นฉบับของ Virginia Liston ชือ่ ว่า “You Don’t Know My Mind” โทนโดยรวมของอัลบัม้ นีเ้ ต็มไปด้วยกลิน่ อายของดนตรี Blues การร้อยเรียงของเสียงเปียโน กีตาร์ และแซกโซโฟนสอดรับกันอย่างไพเราะ เรียกได้ว่าถูกใจผู้ที่ชื่นชอบดนตรีสไตล์นี้อย่างแน่นอน

Book Shelf

100

Book Shelf

เรื่อง: ทัศนัย ข�ำชื่น

เสริมสร้างก�ำลังใจให้ตัวเองด้วย

“สองแขนที่กอดโลก” โดย วินทร์ เลียววาริณ

ในยามที่ชีวิตยังมีลมหายใจ แน่นอนว่าไม่มี ใครหลีกหนีความทุกข์ได้พ้น คนส่วนมากเข้าใจถึง สัจธรรมข้อนี้ แต่เมื่อพบเจอสถานการณ์จริง การ ก้ า วผ่ า นความรู ้ สึ ก เครี ย ดและท้ อ แท้ ก็ ไ ม่ ใ ช่ เ รื่ อ งที่ ง่ายนัก หลายคนฟันฝ่าอย่างไม่ย่อท้อจนคลี่คลาย ปัญหาได้ส�ำเร็จ ในขณะที่หลายคนยอมแพ้ศิโรราบ

เรื่องการใช้ชีวิตอย่างสร้างสรรค์ การใช้ความคิดสร้างสรรค์ แก้ปัญหา พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนเรื่องความคิดเชิงบวกที่มีต่อ สิ่งต่างๆ “ข้อเขียนที่ผมประทับใจในหนังสือเล่มนี้คือ บทความ เรื่อง ‘ยานเวลากับเครื่องมือพยากรณ์อากาศ’ เป็นเรื่องราวที่ผม เขียนถึงแม่ของผมและแม่ของทุกๆ คน หัวใจส�ำคัญของเรื่องคือ เพราะความทุกข์มักท�ำให้คนเราลืมไปชั่วขณะว่า ทุก เรามักเห็นคุณค่าของคนที่เรารักช้ากว่าสิ่งอื่น และกว่าจะคิดได้ ปัญหามีทางแก้ไข ในวินาทีทเี่ ราคิดว่าชีวติ ช่างน่าเศร้า ยังมีหลาย ก็เป็นเวลาทีส่ ายเกินไป ซึง่ โลกใบนีไ้ ม่มยี านเวลาให้เราย้อนอดีต คนบนโลกทีแ่ บกความทุกข์อนั น่าเศร้ายิง่ กว่า แต่ในทางกลับกัน เราทุกคนจึงควรดูแลพ่อแม่ให้ดีที่สุดตราบที่ท่านยังมีลมหายใจ หากเราหมั่นสร้างพลังใจในการสู้กับปัญหา มองเห็นคุณค่าของ “ผมอยากให้หนังสือเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งในการสร้าง ตัวเองอยู่เสมอ เรี่ยวแรงในการก้าวข้ามอุปสรรคในชีวิตก็จะ ก�ำลังใจแก่ผู้อ่าน รู้จักเห็นคุณค่าของตัวเองและใช้ชีวิตอย่าง เพิ่มขึ้นอีกทบทวี มีความงาม และขอสนับสนุนให้ทุกคนอ่านหนังสือ พร้อมทั้งน�ำ เช่นเดียวกับ วินทร์ เลียววาริณ นักเขียนผู้ถ่ายทอด สาระที่ได้มาปรับใช้ในการพัฒนาชีวิตของตนเองในทุกๆ ด้าน เรื่ อ งราวในการใช้ ชี วิ ต ด้ ว ยพลั ง สร้ า งสรรค์ ผ ่ า นงานเขี ย น เพราะหนังสือคือส่วนส�ำคัญของการเสริมสร้างปัญญา ยิ่งหาก สองแขนที่กอดโลก หนึ่งในหนังสือเสริมก�ำลังใจชุดที่ 5 โดย เราใช้ ป ั ญ ญาเพื่ อ ประโยชน์ ข องตนเองและสั ง คมด้ ว ยแล้ ว คุณวินทร์ได้เล่าถึงหนังสือเล่มนี้ว่า “ผมเขียนหนังสือเล่มนี้เพื่อ ก็นับว่าสิ่งนี้คืออ�ำนาจของการอ่านอย่างแท้จริง” ท้ายที่สุดแล้ว ปัญหาและความทุกข์ย่อมมีจุด เป็นการเตือนใจตัวเองและผูอ้ า่ นให้มกี ำ� ลังใจ มองเห็นคุณค่าของ ิ ใครเศร้าได้ตลอดกาล เพียงมอง การใช้ชวี ติ ในยามท้อแท้ และอยากให้ฉกุ คิดถึงการสูช้ วี ติ เพราะ สิน้ สุด เพราะไม่มชี วี ต คนที่ทุกข์ยากกว่าเราเขาก็สามารถต่อสู้กับปัญหาจนผ่านพ้น โลกในแง่ดี หมัน่ ให้กำ� ลังใจตัวเอง แล้วสิง่ ดีๆ ก็จะเกิดขึน้ ไปได้ เป็นหนังสือที่อ่านได้ทุกเพศทุกวัย บทความทั้งหมดเน้น กับชีวิตและคนรอบข้างอย่างแน่นอน

นิพพานระหว่างวัน

ชีวิต 4 แผ่นดิน

แท้จริงแล้ว มนุษย์ทุกคนสามารถเข้าถึงค�ำว่านิพพาน ได้ทกุ วินาทีของการมีชวี ติ อยู่ นีค่ อื ใจความส�ำคัญประการหนึง่ ใน หนังสือ “นิพพานระหว่างวัน” ผลงานทรงคุณค่าจากปลายปากกา ของท่าน ว.วชิรเมธี ซึ่งได้น�ำเสนอแง่คิด หลักธรรมค�ำสอน และ ทัศนคติแก่ชาวพุทธในเรื่องนิพพาน ซึ่งหลายคนอาจมองว่าไกล ตัว ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง หรือแม้แต่บางคนอาจมีความเชื่อ ว่า นิพพานไม่เคยมีอยู่จริงและเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดขึ้นกับใคร ตอบทุกข้อสงสัยคาใจด้วยค�ำอธิบายทีเ่ ข้าใจง่าย เพือ่ ให้ชาวพุทธ ประจักษ์วา่ ทุกคนสามารถเข้าถึงค�ำว่านิพพานได้จริงตัง้ แต่ชาตินี้ วินาทีนี้ เพือ่ เป้าหมายสูงสุดของศาสนาพุทธ นัน่ คือ การเจริญสติ รู้ตื่นอยู่กับปัจจุบัน เพื่อชีวิตประจ�ำวันที่มีความสุข

อั ต ชี ว ประวั ติ ข องสตรี 4 แผ่ น ดิ น คุ ณ หญิ ง เพลิ น เทพหัสดิน ณ อยุธยา หรือมาดามเพลิน ด้วยวันวัยที่ผ่านร้อน ผ่านหนาวมากว่า 94 ปี นับตั้งแต่ปลายสมัยรัชกาลที่ 6 จนถึง ปัจจุบัน หนังสือเล่มนี้จึงเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ที่คุณหญิงสัมผัสมาด้วยตนเอง อาทิ การสวรรคตของพระบาท สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ 6 และการประสูตขิ อง สมเด็ จ พระเจ้ า ภคิ นี เ ธอ เจ้ า ฟ้ า เพชรรั ต นราชสุ ด า สิ ริ โ สภา พัณณวดี เป็นต้น นอกจากนี้ คุณหญิงยังถ่ายทอดสภาพสังคมและ วิถีชีวิตของคนไทยในอดีตถึงปัจจุบัน ทั้งยังสอดแทรกเรื่องราว จิปาถะของการใช้ชวี ติ ในแต่ละยุคสมัย พิเศษท้ายเล่มกับอาหาร จานเด็ด 15 เมนู พร้อมเคล็ดลับความอร่อยในแบบฉบับคุณหญิง เรียกได้ว่าเป็นหนังสืออัตชีวประวัติที่มีคุณค่าในหลายแง่มุม

ผู้เขียน : ว.วชิรเมธี ส�ำนักพิมพ์ : อมรินทร์ธรรมะ ราคา : 185 บาท

ผู้เขียน : คุณหญิงเพลิน เทพหัสดิน ณ อยุธยา ส�ำนักพิมพ์ : แพรว ราคา : 249 บาท

101

102

Book Shelf

Thai Zone

เรื่อง : อาจารย์ปิง ดาวองก์

พระบรมราโชวาทและพระราชด�ำรัส เหนือกาลเวลา

ดิฉันเชื่อเหลือเกินว่า เราชาวไทยทุกคนมีสิ่ง หนึ่งที่เทิดทูนอยู่ในหัวใจของเราเหมือนๆ กัน นั่นก็คือ พ่อหลวงของเรา ที่เรารักและเทิดทูนมาตั้งแต่เกิด และเติบใหญ่ขึ้นบนแผ่นดินไทย

คู่มือจัดสวนสวยด้วยตนเอง

เที่ยวตลาด ไม่พลาดของอร่อย

การจัดสวนในบ้านด้วยตนเองไม่ใช่เรือ่ งยาก นอกจาก เป็ น กิ จ กรรมยามว่ า งที่ น ่ า สนุ ก ยั ง ก่ อ ให้ เ กิ ด ความสุ ข และ เพลิดเพลิน หนังสือเล่มนี้จึงเปรียบเหมือนนักจัดสวนที่จะมา แนะน�ำเทคนิคต่างๆ หลายขั้นตอน อาทิ การปลูกต้นไม้ชนิด ต่างๆ ทัง้ ยังเจาะลึกในเรือ่ งเคล็ดลับการดูแลพรรณไม้ให้สวยงาม และเจริญเติบโต วิธกี ารเลือกซือ้ พรรณไม้ ไม้มงคลน่าปลูก และ การจัดวางองค์ประกอบในสวนเพื่อความลงตัว น่ามอง และอีก หลายเทคนิคและเรือ่ งราวทีน่ า่ สนใจ เพือ่ ให้สวนในบ้านของคุณ งดงามได้ด้วยสองมือของตัวเอง

หนังสือไกด์บคุ๊ เล่มกะทัดรัด อัดแน่นไปด้วยข้อมูลและ รูปถ่ายสวยๆ น�ำทางพาเที่ยวตลาดหลายแห่งในกรุงเทพฯ และ จังหวัดใกล้เคียง เช่น พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สมุทรสงคราม น�ำเสนอข้อมูลหลากหลาย ทั้งตลาดเก่า ตลาดบก ตลาดน�้ำ อิ่มอร่อยกับของกินสารพันชนิดและร้านอาหารบรรยากาศดี น่าแวะชิม พร้อมแผนผังแสดงต�ำแหน่งร้านค้าต่างๆ ที่น่าสนใจ ของแต่ละตลาด นอกจากนี้ยังมีแผนที่การเดินทางไปตลาดใน แต่ละจังหวัดอีกด้วย หนังสือเล่มบางนี้จึงเหมาะแก่การพกพา ติ ดกระเป๋ า หรื อเก็ บไว้ ใ นรถ เพื่ อเป็ นไกด์ น� ำ เที่ ยวในวัน ว่าง ที่อากาศดี

ผู้เขียน : รวิชา เดชาชาญ ส�ำนักพิมพ์ : ไทยควอลิตี้บุ๊คส์ (2006) ราคา : 170 บาท

ผู้เขียน : บีวาว แฟมิลี่ ส�ำนักพิมพ์ : บีวาว พีอาร์ คอนซัลแตนท์ ราคา : 99 บาท

และดิฉันก็เชื่ออีกเหมือนกันค่ะว่า พระบรมราโชวาท และพระราชด�ำรัสของพระองค์ถอื เป็นสิง่ ทีท่ รงคุณค่า สามารถน�ำ มาเป็นข้อคิดในการด�ำเนินชีวิตได้เป็นอย่างดี อย่างพระราชด�ำริ เรื่อ งเศรษฐกิจ พอเพียงที่พ ระราชทานแก่ค นไทยมาตั้ง แต่ปี พ.ศ. 2517 พระองค์ทรงสอนให้คนไทยรูจ้ กั “พอเพียง” เพราะความ พอเพียงจะท�ำให้เราไม่มปี ญ ั หาใดๆ และสุดท้ายก็จะมี “ความสุขใจ” แต่กว่าชาวไทยจะพร้อมใจกันปฏิบตั ติ าม ก็ตอ้ งรอจนเกิดวิกฤติปี พ.ศ. 2540 เสียก่อน วิกฤติเศรษฐกิจที่ท�ำให้เราเสียหายกันค่อน ประเทศ วันนี้ดิฉันจึงอยากอัญเชิญพระบรมราโชวาทส่วนหนึ่ง ของพระองค์มาฝากเป็นข้อคิดให้ท่านผู้อ่านทุกท่าน อ่านแล้ว จะรูส้ กึ ไม่ตา่ งกันค่ะว่า เป็นสิง่ ทีท่ รงคุณค่าอยูเ่ หนือกาลเวลาจริงๆ คนดี “...ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะ ท�ำให้คนทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การท�ำให้บ้านเมืองมีความ ปรกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การท�ำให้ทุกคนเป็นคนดี หากแต่อยู่ที่ การส่งเสริมคนดี ให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคน ไม่ ดี ไ ม่ ใ ห้ มี อ� ำ นาจ ไม่ ใ ห้ ก ่ อ ความเดื อ ดร้ อ นวุ ่ น วายได้ . ..” (พระบรมราโชวาทในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 6 ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ จังหวัดชลบุรี วันที่ 11 ธันวาคม 2512)

การท�ำงาน

“...เมื่อมีโอกาสและมีงานให้ท�ำ ก็ควรเต็มใจท�ำ โดย ไม่จ�ำต้องตั้งข้อแม้หรือเงื่อนไขอันใดไว้ให้เป็นเครื่องกีดขวาง ขอให้คิดกันเสียใหม่ว่า คนที่ท�ำงานได้จริงๆ นั้น ไม่ว่าจะจับงาน สิ่ง ใด ย่อ มท�ำ ได้เ สมอ ถ้ายิ่ง มีค วามเอาใจใส่ มีค วามขยัน

มีความสังเกตจดจ�ำดี ก็ยงิ่ จะช่วยให้ประสบผลส�ำเร็จในงานทีท่ ำ� สูงขึ้น...” (พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร แก่ผู้ส�ำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา วันที่ 8 กรกฎาคม 2530)

แก้ปัญหาด้วยปัญญา

“...ปัญหาทุกอย่างไม่วา่ เล็กหรือใหญ่ มีทางแก้ไขได้ ถ้า รูจ้ กั คิดได้ดี ปฏิบตั ไิ ด้ถกู การคิดได้ดนี นั้ มิใช่การคิดได้ดว้ ยลูกคิด หรือด้วยสมองกล เพราะถึงโลกเราในปัจจุบันจะวิวัฒนาการไป มากเพียงใดก็ตาม ก็ยังไม่มีเครื่องมืออันวิเศษชนิดใดสามารถ ขบคิดแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างสมบูรณ์ การขบคิดวินิจฉัย ปัญหา จึงต้องใช้สติปญ ั ญา คือคิดด้วยสติรตู้ วั อยูเ่ สมอ เพือ่ หยุดยัง้ และป้องกันความประมาทพลาดผิดและอคติต่างๆ มิให้เกิดขึ้น ช่วยให้การใช้ปญ ั ญาพิจารณาปัญหาต่างๆ เป็นไปอย่างเทีย่ งตรง ท�ำให้เห็นเหตุเห็นผลที่เกี่ยวเนื่องกันเป็นกระบวนการได้กระจ่าง ชัดทุกขัน้ ตอน...” (พระบรมราโชวาทในพิธพี ระราชทานปริญญาบัตร ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วันที่ 1 สิงหาคม 2539)

ความพอเพียง

“...คนเราถ้าพอในความต้องการ ก็มีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภน้อย ก็เบียดเบียนคนอื่นน้อย ถ้าทุกประเทศ มีความคิด - อันนี้ไม่ใช่เศรษฐกิจ - มีความคิดว่าท�ำอะไรต้อง พอเพียง หมายความว่า พอประมาณ ไม่สดุ โต่ง ไม่โลภอย่างมาก คนเราก็อยู่เป็นสุข พอเพียงนี้อาจจะมีมาก อาจจะมีของหรูหรา ก็ได้ แต่ว่าต้องไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น ต้องให้พอประมาณ ตามอัตภาพ พูดจาก็พอเพียง ท�ำอะไรก็พอเพียง ปฏิบัติตน ก็พอเพียง...” (พระราชด�ำรัสพระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ทีเ่ ข้าเฝ้าฯ ถวายชัยมงคล เนือ่ งในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ 4 ธันวาคม 2541)

ขอจงทรงพระเจริญ

103

104

Think White

โลกใบนี้ ใหม่เสมอ บนชั้นตามห้างและซูเปอร์มาร์เก็ตจะเห็นค�ำว่า “ใหม่” เป็นมนตร์วิเศษที่ใช้กันเกลื่อน โน่นก็รสใหม่ นีก่ ก็ ลิน่ ใหม่ นัน่ ก็รนุ่ ใหม่ ค�ำว่า “ใหม่” กระตุน้ ต่อมอยาก ได้อย่างฉมัง คงจะเป็นเพราะมันบ่งบอกการก้าวไป ข้างหน้าในทิศทางตรงกันข้ามกับความจ�ำเจ ความเบื่อ ท�ำให้คนเราอยากได้สงิ่ ใหม่ๆ ไม่มที สี่ นิ้ สุด มือถือเครือ่ ง ใหม่ รถคันใหม่ ทีเ่ ทีย่ วแห่งใหม่ เสือ้ ตัวใหม่ อืม้ ...พูดถึง เสื้อ ถ้าเอาเสื้อตัวใหม่ทั้งหมดในชีวิตหกสิบกว่าปีของ ข้าพเจ้ามากองรวมกัน คงไม่น้อยหน้ากองขยะ กทม. นึกๆ ก็รู้สึกสยองกับเวลาทั้งหมดที่หายไปกับการ ซื้อ หา ตัด ลองเสื้อตามร้าน และยังที่หายไปกับการ หันไปหันมาอยูห่ น้ากระจกทีบ่ า้ นอีกเล่า มิหน�ำซ�ำ้ ยัง...เอ๊ะ เจ้าเสื้อตัวใหม่ไหงไม่ดูดีเท่าตอนที่ลองในร้าน โจทย์นี้ เฉลยง่าย ก็ทรี่ า้ นน่ะมันยังไม่เป็นของเรานี่ ก็เลยมีความ อยากได้เป็นเครื่องปรุงเพิ่มรส

เรื่อง : คุณหญิงจ�ำนงศรี หาญเจนลักษณ์ ผู้แต่งหนังสือเรื่อง วิชาตัวเบา ภาพประกอบ : taeeeee

ในบทชื่อ What Is…The Moon? สเตฟานีเขียนว่า The moon is like a drop of white paint on a black card. It’s a pearl beneath the Darkened sky. It is a beam of light at the end of a tunnel. It is a circular cloth sailing in the sky. It is an opening sometimes crossed by a black cloud. ดูพระจันทร์เหมือนหยดสีขาวบนการ์ดแผ่นด�ำ มันเป็นไข่มุกใต้ฟ้ามืด เป็นแสงที่ปลายถ�้ำยาว เป็นผ้าชิ้นกลมลอยล่องในท้องฟ้า เป็นช่องที่เปิดสู่สวรรค์ซึ่งบางครั้งก็มีเมฆด�ำพัดผ่าน

ถ้าเรามองอะไรๆ ยังไงก็ยังงั้นแบบย�่ำอยู่ในร่องเดิมๆ ก็เสี่ยงที่จะตกเป็นทาสความเบื่อ ต้องกระหืดกระหอบไล่ตาม ของใหม่ไม่มีจบ เด็ ก วั ย รุ ่ น คนหนึ่ ง บอกว่ า ผมอยู ่ ตึ ก แถวชั้ น บน กลางเมื อ ง มองออกมาไม่ เ ห็ น จะมี อ ะไรที่ ส วยงามพอที่ จ ะ มาใช้ ใ นงานศิ ล ป์ ไ ด้ สั ก อย่ า ง มี แ ต่ ส ายไฟฟ้ า ระโยงระยาง ไปหมด ข้าพเจ้าแนะน�ำให้เขาเอากระดาษสักแผ่นมาม้วนกลมๆ เป็นล�ำกล้อง ใช้มองสายไฟดูซิว่าจะได้มุมกล้องดีๆ บ้างไหม อีกหลายวันต่อมา เขากลับมาบอกด้วยความตื่นเต้นพอใจว่า ได้มุมสวยๆ เยอะเลย จอห์น คีตส์ (John Keats) กวียุคโรแมนติก (ศตวรรษ ที่ 19) ของอังกฤษบอกไว้ว่า ความงามขึ้นอยู่กับตาของคนมอง ข้าพเจ้าว่าความใหม่ก็ขึ้นอยู่กับตาของคนมอง หินสีเทาสักก้อน ถ้าพินจิ พิเคราะห์ให้ดี อาจจะเห็นความงามในพืน้ ผิว ในเงาทีต่ ก บนมุมโค้งของหินที่ดูธรรมดาก้อนนั้น อาจจะเห็นแสงสะท้อน ระยิบของเม็ดทรายในหินก้อนนั้น

โลกเรานี้หมุนสลับวันคืนมานานร่วม 4,600 ล้านปี นับว่าเก่าอักโข แต่กเ็ ป็นโลกทีแ่ สนจะน่าสนใจ เพราะมีอะไรใหม่ๆ ในความเก่ า แก่ ที่ ไ ม่ ค ร�่ ำ ครึ ข องมั น ให้ ไ ด้ ค ้ น พบอยู ่ เ สมอ ถ้ า ไม่ เ ชื่ อ ก็ ล องเปิ ด นิ ต ยสารหรื อ โทรทั ศ น์ ช ่ อ ง National Geographic หรือ Discovery ดูก็ได้ ตัวคนเขียนเองมีความสุขกับดวงจันทร์ทอี่ ยูใ่ นจักรวาล มานานโข ตั้งแต่เด็กจนแก่ข้าพเจ้าจะเอมอิ่มเหลือที่จะพรรณา กับทิวทัศน์อาบจันทร์คืนเดือนหงาย เวลาวางแผนไปเที่ยวไหน ก็จะเปิดปฏิทินดูข้างขึ้นข้างแรม เหตุที่ไม่เคยเบื่อพระจันทร์ ดวงเดิมที่ดูมาทั้งชีวิต คงจะเป็นเพราะตัวเราเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามประสบการณ์ ตามวัย ตามความคิดความรู้สึก เมือ่ ปีทแี่ ล้วได้พบเพือ่ นต่างวัยทีม่ องสะเก็ดโลกอายุนบั พันๆ ล้านปีดวงนี้ให้แลดูใหม่ได้อย่างน่าทึ่ง เธอเป็นเด็กผู้หญิง ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ ตอนนั้นเธออายุได้ 13 ปี เด็กหญิงสเตฟานี ศิลปะอยู่ที่การมองด้วยตาใจ ตาที่อิสระจาก กับเด็กหญิงคิมเบอร์ลี น้องสาววัย 11 ขวบ เพิง่ จะเปิดตัวหนังสือ รวมเล่มบทกวีชอื่ “A River of Words” ซึง่ ต่างคนต่างเขียนในช่วง กรอบความเคยชิน และใจพร้อมที่จะเห็นให้มากกว่า วิกฤติการณ์ความแตกร้าวในครอบครัว เป็นช่วงทีพ่ อ่ แม่กำ� ลังจะ แค่เห็น หย่ากันอย่างขมขื่นรุนแรง

105

106

Mind & Spirit

เรื่อง : ว.วชิรเมธี พระนักเทศน์ ภาพประกอบ : taeeeee

ชุดประดาน�้ำและผีเสื้อ... หนังสือแห่งแรงบันดาลใจ

ค�ำถาม: ผมคิดว่าตัวเองเป็นคนทีม่ คี วามเพียรมากทีส่ ดุ คนหนึ่ง แต่ท�ำไมไม่ว่าผมจะท�ำอะไรก็ตาม มักจะไม่ค่อย ประสบความส�ำเร็จ ทัง้ ๆ ทีผ่ มก็พยายามใช้ความเพียร อย่างถึงทีส่ ดุ แล้ว จนบางวันผมเริม่ คิดว่า หลักธรรม เรื่องความเพียรนั้นจะเป็นหมันเสียแล้วหรือ จึงอยาก ขอกราบเรียนถามว่า มีหลักอย่างไรความเพียรที่เรา ตัง้ หน้าตัง้ ตาท�ำจึงจะส่งผลส�ำเร็จอย่างทีเ่ ราต้องการ ค�ำตอบ:

ถ้ า หากคุ ณ เพี ย รพยายามอย่ า งเต็ ม ที่ แ ล้ ว แต่ ถึ ง กระนั้นความเพียรก็ยังไม่ส่งผลเป็นที่น่าพอใจ ย่อมมีอะไรที่ ผิดปกติแน่นอน เป็นไปได้หรือไม่ว่า คุณเพียรอย่างเดียว แต่ยัง ขาดคุ ณ สมบั ติ ด ้ า นอื่ น ๆ ด้ ว ย คุ ณ ยั ง จ� ำ นิ ท านชาดกเรื่ อ ง พระมหาชนกได้ไหม ในเรื่องพระมหาชนกชาดกนั้น พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวของเราทรงสรุปสาระส�ำคัญไว้ในพระราชนิพนธ์ตอนที่ว่าด้วยพระราชปรารภว่า “ขอจงมีความเพียรที่ บริสุทธิ์ ปัญญาที่เฉียบแหลม ก�ำลังกายที่สมบูรณ์” นี่คือตัวอย่างอันดีว่า เมื่อเราก�ำลังมีความเพียรก็ต้อง ไม่ลมื คุณสมบัตขิ อ้ อืน่ ๆ ด้วย ถ้าเพียรอย่างเดียวก็เหมือนนักมวย ที่มีแต่ “ก�ำลัง” เอะอะอะไรก็เดินหน้าชน เดินหน้าชก โดยไม่รู้จัก ปกป้องตัวเอง นักมวยทีใ่ ช้แต่กำ� ลัง ทว่าขาดความเฉียบแหลมนัน้ แพ้มานักต่อนัก บางคนแพ้แล้วยังมีอาการป่วย เพราะสมอง ได้รับการกระทบกระเทือนตามมาเป็นของแถมอีกด้วย ในอดีตนัน้ โลกเคยมีนกั มวยที่ “แรงดี” และ “ฝีมอื เยีย่ ม” ชื่อ ชูการ์ เรย์ เลียวนาร์ด

เลียวนาร์ดคือตัวอย่างของคนที่มีความเพียรและมี ความเฉียบแหลม ซึ่งแสดงออกผ่านทางฝีมือการชกที่สวยงาม หนักแน่น และทรงประสิทธิภาพอย่างยิ่ง จนผู้ชมให้ฉายาการ ชกมวยในสไตล์ของเขาว่าเป็นการชกด้วยลีลาสวยงามดัง่ “ผีเสือ้ ที่ก�ำลังโบยบิน” เลียวนาร์ดมีความเพียรในการฝึกซ้อมอย่างยิ่ง รวมทั้ง มีปญ ั ญาปฏิภาณทีเ่ ฉียบแหลม เขาจึงผสมผสานระหว่างแรงกับ ปัญญาอย่างลงตัว ความเพียรอย่างเดียวจึงยังไม่พอ ต้องใช้ปัญญาด้วย เสมอไป ในพระไตรปิฎก หลักธรรมเรื่องความเพียรท่านสอน ไว้ใน “อิทธิบาท 4” ขอให้คุณสังเกตให้ดีว่า หลักธรรมที่มาคู่กับ ความเพียรนั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง 1. ฉันทะ ความรัก / ความชอบ / ความหลงใหล / ความ คลั่งไคล้ 2. วิริยะ ความเพียร / ความขยัน 3. จิตตะ ความมุ่งมั่น / ความอุทิศตน / ความจดจ่อ / ความทุ่มเท 4. วิมังสา ความรู้จักคิด / ความช่างสังเกต / ความรู้จัก ไตร่ตรอง /ความรู้จักวิเคราะห์วิจัย ลองถามตัวเองว่า ทุกครั้งที่คุณเพียรท�ำอะไรสักอย่าง หนึง่ คุณได้ใช้คณ ุ สมบัตอิ กี สามข้อทีเ่ หลือประกอบด้วยหรือเปล่า ในค�ำถามคุณเริม่ ต้นอย่างเชือ่ มัน่ ว่า ตัวเองเป็นคนทีม่ คี วามเพียร มากทีส่ ดุ คนหนึง่ ไม่รวู้ า่ เมือ่ อ่านเรือ่ งทีจ่ ะเล่าต่อไปนีแ้ ล้ว คุณยัง คิดเช่นนั้นอยู่หรือเปล่า

“

ด้วยความเพียรอย่างแรงกล้าเกินมนุษย์ธรรมดา ในที่สุดโบบี้ก็เขียนหนังสือมหัศจรรย์เล่มนี้ได้ ส�ำเร็จ หลังจากหนังสือตีพิมพ์และวางขายได้เพียงสามวัน เขาก็จากโลกนี้ไปอย่างสงบ ฝากทิ้งไว้ แต่เพียงหนังสือแสนวิเศษที่ชื่อ ‘ชุดประดาน�้ำและผีเสื้อ’ ที่ยังคงเป็นหนังสือขายดีอยู่จนทุกวันนี้ ช่วงปี 2540 มีหนังสือเล่มหนึง่ ตีพมิ พ์ออกมาในบรรณพิภพที่ประเทศฝรั่งเศส พอถึงปี 2541 ก็มีแปลเป็นภาษาไทย ในชื่อ “ชุดประดาน�้ำและผีเสื้อ” หนังสือเล่มนี้ขายดีทั่วโลก โดย สาเหตุที่ขายดีและได้รับการยกย่องว่าเป็นหนังสือสุดวิเศษของ นักอ่านจากทัว่ โลกรวมทัง้ ผูเ้ ขียนด้วยคนหนึง่ นัน้ ก็เพราะหนังสือ เล่มนี้เขียนโดยวิธีพิเศษ ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ชื่อ ฌ็อง - โดมินิก โบบี้ เดิมมี อาชีพเป็นบรรณาธิการนิตยสาร ELLE ต่อมาเขาป่วยเป็นอัมพาต ทัง้ ตัว เพราะเส้นโลหิตในสมองแตก สมองและความทรงจ�ำของเขา ยังคงใช้การได้ แต่อวัยวะส่วนอืน่ นัน้ ขยับเขยือ้ นไม่ได้เลย ยกเว้น ตาข้างซ้ายทีย่ งั พอใช้เป็นช่องทางสือ่ สารได้บา้ ง และด้วยช่องทาง สื่อสารเพียงช่องทางเดียวที่เหลืออยู่นี้เอง โบบี้ก็ยังสามารถ ใช้มนั สร้างสรรค์วรรณกรรมสุดวิเศษฝากไว้ในวงวรรณกรรมโลก ได้เป็นผลส�ำเร็จ เขาวางโครงเรือ่ งไว้ในหัวอย่างเป็นขัน้ เป็นตอน จากนัน้ จึงเริ่มเขียนหนังสือที่จะเป็นอนุสาวรีย์แห่งชีวิตไว้ในโลก ด้วย การขอให้ผชู้ ว่ ยของเขาขานอักษรทีละตัว หากตัวไหนตรงกับค�ำที่ เขาต้องการจะเขียน เขาจะเลิกเปลือกตาซ้ายทีหนึง่ ท�ำอยูอ่ ย่างนี้ ค่ อ ยๆ ผสมอั ก ษรที ล ะตั ว จนเป็ น ค� ำ จากค� ำ เป็ น ประโยค

”

จากประโยคเป็นย่อหน้า จากแต่ละย่อหน้าถักทอกันเป็นบท จากทีละบทจนกลายเป็นหนังสือหนึ่งเล่ม สมตามเจตนารมณ์ ที่เขาต้องการ ด้วยความเพียรอย่างแรงกล้าเกินมนุษย์ธรรมดา ในทีส่ ดุ โบบี้ก็เขียนหนังสือมหัศจรรย์เล่มนี้ได้ส�ำเร็จ หลังจากหนังสือ ตีพิมพ์และวางขายได้เพียงสามวัน เขาก็จากโลกนี้ไปอย่างสงบ ฝากทิ้งไว้แต่เพียงหนังสือแสนวิเศษที่ชื่อ “ชุดประดาน�้ำและ ผีเสื้อ” ที่ยังคงเป็นหนังสือขายดีอยู่จนทุกวันนี้

หากคุณคิดว่า คุณเป็นคนทีม่ คี วามเพียรไม่เป็น รองใคร หลังจากอ่านเรื่องนี้แล้ว คุณยังกล้ายืนยัน ความคิดเช่นนั้นอยู่อีกหรือเปล่า

107

108

Horoscope

เรื่อง : อาจารย์บอย ไพ่ผ่องมองชีวิต กรรมการวิชาการสมาคมโหรแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ ภาพ : robotoon

ดวงแต่ละราศีประจ�ำ เดือนพฤศจิกายน และ เดือนธันวาคม 2554

ราศีมังกร (15 มกราคม ถึง 12 กุมภาพันธ์)

การงาน ต้องฝ่าฟันด้วยตนเอง แต่ได้รับ ความส� ำ เร็ จ อย่ า งสู ง ได้ รั บ โอกาสดี จ าก ผู้ใหญ่ ได้แสดงความสามารถเต็มที่ และ งานเก่าๆ เดิมๆ จะถูกปัดฝุ่นน�ำกลับมาใช้ใหม่ การเงิน ได้รบั เงินพิเศษ ได้รบั โบนัส แต่ทา่ นจะมีรายจ่ายพิเศษ อาจจะซื้ออสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ หรือเครื่องใช้ที่มีราคาแพง ท่านที่เล่นหุ้นจะได้ก�ำไรมากมาย สุขภาพ หลังจากได้รบั การพักผ่อนอย่างเพียงพอ ท�ำให้สขุ ภาพ แข็งแรงมากในช่วงนี้ ไม่มีสิ่งใดน่าเป็นห่วง

ราศีกุมภ์ (13 กุมภาพันธ์ ถึง 14 มีนาคม)

การงาน หน้ า ที่ ที่ รั บ ผิ ด ชอบแทบแยก ไม่ อ อกระหว่ า งงานราษฎร์ กั บ งานหลวง เกิดสภาวะอึดอัดใจในการท�ำงาน แม้ผหู้ ลัก ผู้ใหญ่จะให้การสนับสนุน การเงิน รายจ่ายเยอะแยะ แต่ไม่ใช่ก้อนใหญ่ เป็นรายจ่าย ปลีกย่อย รวมถึงการต้องใช้จ่ายเงินเพื่อช่วยเหลือผู้คนรอบๆ ตัว สุขภาพ กายแข็งแรง สุขภาพใจเต็มร้อย

ราศีมีน (15 มีนาคม ถึง 12 เมษายน)

การงาน เน้นไปทีส่ ภุ าพสตรี ท่านจะได้รบั ความก้าวหน้า ได้รับการพิจารณาเลื่อนขั้น ส่วนท่านสุภาพบุรุษ ตกอยู่ในสภาวะอึดอัด จากหั ว หน้ า และหงุ ด หงิ ด ใจกั บ บรรดาลู ก น้ อ ง เหตุ ก ารณ์ ทุกอย่างจะคลี่คลายในตอนกลางเดือนธันวาคม การเงิ น ใช้จ่ายไปกับการเดินทาง หรือจากการซื้อรถยนต์ คันใหม่ ท่านทีย่ งั โสดอาจจะต้องใช้จา่ ยไปกับคนรักใหม่ในช่วงนี้ สุขภาพ ร่างกายแข็งแรง มีอาการปวดแข้งปวดขาเล็กน้อย

ราศีเมษ (13 เมษายน ถึง 14 พฤษภาคม)

การงาน ท่านที่มีสิทธิ์ได้พักร้อน แนะน�ำ ให้ใช้สิทธิ์ ท่านที่เบื่องานเก่าอาจจะเริ่มหา งานใหม่ ส่วนท่านที่เป็นเจ้าของกิจการ ระวัง ลูกน้องก�ำลังจะตบเท้าลาออก วิธีแก้ดวงชะตา ขอให้ท่านปล่อย ปลาจ�ำนวน 8 ตัวในวันจันทร์ การเงิ น เฉพาะท่านที่เล่นหุ้นหรือเป็นนายหน้า ช่วงนี้โกย ทรัพย์กันกระหน�่ำ ส่วนท่านที่ก�ำลังคิดจะลงทุนขยายกิจการ แนะน�ำให้รอไปอีก 2 เดือน สุ ข ภาพ แข็งแรงดี ท่านที่ประสงค์จะมีบุตรหรือมีบุตรยาก ในช่ ว งนี้ เ ป็ น ช่ ว งนาที ท อง แนะน� ำ ให้ ไ ปฮั น นี มู น กั น อี ก ครั้ ง ตามรีสอร์ทบรรยากาศดีๆ

ราศีพฤษภ (15 พฤษภาคม ถึง 15 มิถุนายน)

การงาน อาจถูกขโมยสมอง ผลงานอาจถูก ช่วงชิง ระวังถูกแทงลับหลัง บางท่านที่ก�ำลัง จดๆ จ้องๆ หาที่ท�ำงานใหม่ เป็นช่วงจังหวะดี การเงิน มีคนชักชวนลงทุนหรือร่วมหุ้น แต่ขอแนะน�ำว่าอย่า เด็ดขาด ท่านทีช่ อบเสีย่ ง เล่นหุน้ เก็งราคาทองค�ำ ระวังความผันผวน สุขภาพ ระวังส�ำหรับท่านที่ชอบดื่ม จะมีอาการไม่สบายหรือ อาจจะเกิดอุบัติเหตุ

ราศีเมถุน (16 มิถุนายน ถึง 16 กรกฎาคม)

การงาน อาจจะเจ็บใจจากค�ำพูด คูแ่ ข่งชนะ ในทุกกรณี หนทางแก้ไข ขอให้ท่านไปไหว้ ขอพลังบารมีจากองค์ท้าวมหาพรหม การเงิน ระมัดระวังการลงทุน อาจจะใช้จ่ายกับการซ่อมแซม หรือตกแต่งบ้าน ท่านที่เกิดวันพุธและวันจันทร์ ระมัดระวังการ ถูกหลอกลวงทรัพย์สินเงินทอง สุขภาพ มีอาการปวดฟัน หรืออาจจะเจ็บคอ

ราศีกรกฎ (17 กรกฎาคม ถึง 16 สิงหาคม)

การงาน เกิ ด ปาฏิ ห าริ ย ์ เกิ ด พลั ง ความ ส� ำ เร็ จ อั น ยิ่ ง ใหญ่ ท่ า นใดที่ คิ ด จะเริ่ ม ต้ น ท�ำสิง่ ใด ช่วงนีถ้ อื ได้วา่ เป็นช่วงดีมากช่วงหนึง่ การเงิน มีญาติมิตรมาขอหยิบยืมเงินทอง แต่ก็จะเป็นเพียง ช่วงสั้นๆ ท่านที่ชอบเล่นหุ้น ชอบเสี่ยง หากหูตาไม่ไวจะขาดทุน สุขภาพ แข็งแรง ท่านที่ต้องการท�ำศัลยกรรม สามารถท�ำได้ ไม่มีอุปสรรคใดๆ

ราศีสิงห์ (17 สิงหาคม ถึง 16 กันยายน)

การงาน ช่วงเวลาที่รอคอยได้มาถึงแล้ว ท่านสามารถกอบโกยทุกอย่างทีท่ า่ นได้ลงทุน ไปแล้ว ท่านที่ต้องการขายอสังหาริมทรัพย์ ก็จะขายได้และได้ก�ำไรงาม การเงิน มีคนจ้องทีจ่ ะโกงท่าน และอาจจะถูกหลอกใช้งานฟรีๆ สุขภาพ โรคเก่าก�ำเริบ แนะน�ำให้ทา่ นท�ำบุญ ท�ำสังฆทาน อุทศิ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวร หากเจ็บไข้ได้ป่วย ไม่ควรพบแพทย์ ในวันอังคาร เพราะคุณหมออาจจะจ่ายยาผิด

ราศีกันย์ (17 กันยายน ถึง 17 ตุลาคม)

การงาน มีการเปลีย่ นแปลง ผูใ้ หญ่ที่ เคยให้ ก ารสนั บ สนุ น กลั บ เมิ น เฉย ท่านที่ท�ำธุรกิจส่งออกต้องระวังการ หลอกลวง ท่านที่ก�ำลังไว้ใจลูกน้องต้องตรวจสอบ การเงิน ถูกเบี้ยวเงินแชร์หรือลูกหนี้ผิดนัด เจ้าของธุรกิจอาจ ถูกโกง การลงทุนใดๆ ขอให้ชะลอดูท่าที สุ ข ภาพ มี อ าการปวดมึ น ศี ร ษะ ครั่ น เนื้ อ ครั่ น ตั ว รวมถึ ง มีอาการภูมิแพ้

ราศีตุล (18 ตุลาคม ถึง 16 พฤศจิกายน)

การงาน การเจรจาธุรกิจส�ำเร็จ การรอคอย ในเรื่องใดก็แล้วแต่จะได้รับค�ำตอบที่ดี ท่าน ทีท่ ำ� ธุรกิจส่งออกหรือเป็นโรงงานผลิต ควรรีบ เจรจาธุรกิจในช่วงนี้ เพราะท่านจะได้ออร์เดอร์ชนิดต่อเนื่อง การเงิน มีแต่ได้กับได้ ลงทุนท�ำอะไรไป ก่อเกิดผลก�ำไร ท่านที่ ชอบเล่นหุ้นก็จะฟันก�ำไร มีการลงทุนหรือเจรจากับต่างประเทศ รวมถึงมีการเดินทางไกล สุขภาพ มีเพียงอาการปวดหลัง เจ็บเอว แค่คุณนอนราบกับพื้น สัก 5 นาที อาการก็จะหายไปเอง

ราศีพิจิก (17 พฤศจิกายน ถึง 15 ธันวาคม)

การงาน ท่านที่ลงหุ้นท�ำอะไรจะได้รับผล ส� ำ เร็ จ ได้ รั บ การชื่ น ชมจากผู ้ ใ หญ่ มี ก าร ฉลองเปิดสาขา เปิดกิจการ ท่านที่เจรจา ธุรกิจการค้าจะได้รับค�ำตอบที่น่าพึงพอใจ โดยเฉพาะในเรื่อง ผลประโยชน์ การเงิน มีรายรับพิเศษ ได้รับโบนัสหรือส่วนแบ่งก�ำไร ท่านที่ ลงทุนท�ำอะไรไปจะได้รบั ผลตอบแทนชัดเจน ท่านทีเ่ ป็นนายหน้า จะได้รับคอมมิชชั่นก้อนโต สุขภาพ แค่ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย

ราศีธนู (16 ธันวาคม ถึง 14 มกราคม)

การงาน ท่านที่เป็นหัวหน้าจะหนักใจเรื่อง ลูกน้อง การงานไม่กา้ วหน้า ท่านทีร่ อค�ำตอบ จากคู่ค้า ควรเตรียมทางหนีทีไล่ เพราะคู่ค้า ของท่านจะมีข้อแม้หรือข้อต่อรองมาก การเงิน ยังมีตวั ช่วย ยังได้ลาภลอย หรือท่านทีเ่ ล่นหุน้ เก็งก�ำไร ยังได้เงินดีอยู่ สุขภาพ ปวดเมื่อยเนื้อตัว รวมถึงอาจจะมีอาการกล้ามเนื้อ อักเสบ

109

Merit Room

Happy Time

พักสมอง : มาจากญี่ปุ่น รถฮอนดา วิ่งเร็วมาก จากญี่ปุน

ท�ำดีถวาย “พ่อ”

ด้วยเพราะความพิการของใบหน้าและกะโหลกศีรษะ สร้างผลกระทบให้ทั้งร่างกายและจิตใจต่อผู้ป่วย และยังก่อให้ เกิดปัญหาด้านสังคมให้แก่ผู้ป่วย ศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้าและกะโหลกศีรษะ โรงพยาบาล จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เล็งเห็นถึงความส�ำคัญดังกล่าว จึงริเริ่ม โครงการผ่าตัดเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยูห่ วั 84 พรรษา เพือ่ ถวายเป็นพระราชกุศล โดยศูนย์ฯ จะดูแลผูป้ ว่ ยในเรือ่ งศัลยแพทย์ตกแต่ง กุมารแพทย์ ทันตแพทย์ จั ด ฟั น จั ก ษุ แ พทย์ แพทย์ โ สต นั ก สั ง คมสงเคราะห์ ฯลฯ โดยผู้ป่วยของศูนย์ฯ มักจะมีฐานะยากจนและเป็นผู้ยากไร้ เงินบริจาคของท่านสามารถสร้างรอยยิ้มบนใบหน้าและสร้าง ความสุขให้แก่ผู้ป่วยได้ ติดต่อ: ศูนย์สมเด็จพระเทพรัตนฯ แก้ไขความพิการบนใบหน้า และกะโหลกศีรษะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โทร. 0-2256-4330

สร้างธรรมชาติสวย แด่สิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

เพราะตระหนั ก ถึ ง ปั ญ หาขยะและสิ่ ง แวดล้ อ ม สถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม สภา อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จึงจัดท�ำ “โครงการ 84 พรรษา

สร้างชีวิตใหม่ ร่วมใจบริจาคโลหิต

“เพราะชีวิตสามารถแบ่งปันกันได้” แสดงธารน�้ำใจ ด้วยการปันโลหิต เพื่อสร้างและคืนชีวิตใหม่แก่ผู้ป่วย อีกหนึ่ง กิจกรรมดีๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ร่วมกับศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ร่วมเป็น ส่วนหนึ่งในการประชาสัมพันธ์และสนับสนุนสภากาชาดไทย เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยที่ต้องการโลหิตในการรักษา เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรง เจริญพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา ในปี 2554 จึงได้จัด กิจกรรม “โครงการเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา รวมใจให้ โลหิต” ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการแบ่งปัน 1 วัน ใน 1 ปี มีเป้าหมาย ในการจัดหาโลหิตบริจาคให้ได้ถงึ 8.4 ล้านซีซี โดยธนาคารจะรับ บริจาคตลอดปี 2554 ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของธารน�้ำใจ เพื่อคืน ชีวิตใหม่ให้แก่ผู้ป่วย ติดต่อ: ธนาคารไทยพาณิชย์ จ�ำกัด (มหาชน) Call Center โทร. 0-2777-7777

มิเตอรนี้วิ่งเร็วมาก มาจากญี่ปุน

แนวนอน

1. (ส�ำนวน) คนที่ได้ดีแล้วลืมฐานะเดิมของตน 3. แดนที่ก�ำหนดขีดคั่นไว้ 6. ชื่อกัณฑ์ที่ 8 แห่งมหาเวสสันดรชาดก 7. หญิงที่มาแต่งงานกับญาติผู้ชาย 8. ความประพฤติที่ท�ำกันจนเคยชิน 10. อาหารที่ไม่ปรุงด้วยเนื้อสัตว์ 11. ลูกเรือ 12. เปื้อนด้วยสีมัวๆ ด�ำๆ 13. เอาขึ้นให้สูงจากที่เดิมทั้งโดยตรงและโดยปริยาย 15. ผู้มีหน้าที่ในการปกครองนครหลวง 17. สิ่งที่ใช้แก้หรือป้องกันโรค หรือบ�ำรุงร่างกาย 18. การกระท�ำหรืออาการที่แสดงออกทางกล้ามเนื้อ ความคิด และ ความรู้สึก เพื่อตอบสนองสิ่งเร้า

แนวตั้ง

1. ทฤษฎีหรือความเชื่อที่ว่าวัตถุเท่านั้นมีอยู่จริง 2. (ส�ำนวน) ท�ำสิ่งที่ตนควรจะได้รับประโยชน์ แต่กลับไม่ได้ 3. ไอน�้ำที่รวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนลอยอยู่ในอากาศ 4. อวัยวะตั้งแต่ตะโพกถึงข้อเท้า ส�ำหรับยันกายและเดินเป็นต้น 5. พิจารณาดูความเรียบร้อย 7. การระลึกถึงประเทศสยาม 9. สิ่งที่สร้างสรรค์ขึ้นเป็นศิลปะ 10. รู้สึกอยากได้สิ่งที่เสียไปพลาดไปเป็นต้น ให้กลับคืนมา 14. เครื่องช่วยพยุงตัวในน�้ำหรืออากาศ 16. สิ่งหรือปรากฏการณ์ที่เชื่อกันว่าจะบอกเหตุดีหรือเหตุร้าย

4 5

6 7 8

11 12 14

13 15

16 17

เฉลยแนวนอน

สร้างรอยยิ้ม คืนความสุขแด่ผู้พิการ

84 ล้านกิโลกรัม ร่วมใจรีไซเคิลเพื่อพ่อ” เฉลิมพระเกียรติ เนื่ อ งในโอกาสทรงเจริ ญ พระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา สร้ า งจิ ต ส� ำ นึ ก และกระตุ ้ น ให้ ค นไทยเห็ น ถึ ง ประโยชน์ ข อง การรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์ใช้แล้ว สร้างความรู้ในการคัดแยกขยะ รวมถึ ง ตั้ ง เป้ า รวบรวมวั ส ดุ รี ไ ซเคิ ล ให้ ไ ด้ 84 ล้ า นกิ โ ลกรั ม ในระยะเวลา 1 ปีตลอดปี 2554 อันน�ำมาซึ่งประโยชน์นานัปการ แก่ ธ รรมชาติ แ ละประเทศชาติ สามารถร่ ว มเป็ น ส่ ว นหนึ่ ง ของโครงการได้ ด้วยการน�ำขยะที่สามารถน�ำกลับมารีไซเคิลได้ มาบริจาค ติ ด ต่ อ : สถาบั น การจั ด การบรรจุ ภั ณ ฑ์ แ ละรี ไ ซเคิ ล เพื่ อ สิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โทร. 0-2272-1552-3

โอโนว!! ทามมายมันแพงยังงี้

1. วัวลืมตีน 3. เขต 6. กุมาร 7. สะใภ้ 8. นิสัย 10. เจ 11. กะลาสี 12. มอม 13. ยก 15. นครบาล 17. ยา 18. พฤติกรรม

เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษาในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 Merit Room ฉบับนี้ จึงอยากเรียน เชิญท่านผู้อ่านทุกท่านมาร่วม “ท�ำบุญและท�ำความดี เพื่อพ่อ” กับ 3 โครงการดีๆ ที่เผื่อแผ่ไปยัง 3 กลุ่ม คือ ผู้พิการ สิ่งแวดล้อม และผู้ป่วยที่ต้องการโลหิต ที่เหล่าหัวใจไทยพร้อมใจกันท�ำโครงการขึ้นเพื่อถวาย แด่พ่อผู้ยิ่งใหญ่ของแผ่นดิน

วู!! รถโตโยตา มิตซูบิชิ วิ่งเร็วมาก จากญี่ปุน...

เฉลยแนวตั้ง

ธันวา

ภาพประกอบ : PUN

1. วัตถุนิยม 2. ตีงูให้กากิน 3. เมฆ 4. ขา 5. ตรวจ 7. สยามานุสติ 9. ศิลปกรรม 10. เสียดาย 14. ชูชีพ 16. ลาง

110

111

112

Delight Quiz

ค�ำถามร่วมสนุกฉบับเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2554 ค�ำถาม: “เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นแนวพระราชด�ำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานมานานกว่า 30 ปี จากหลักปรัชญานี้ ท่านผู้ถือหุ้นกู้ได้น�ำไปปรับใช้ เพื่อประโยชน์สุขในชีวิตประจ�ำวันของท่านอย่างไรบ้าง * ผู้โชคดีจะได้รับ ผ้าพันคอ-คลุมใหล่ทอมือย้อมสีธรรมชาติ 100% จ�ำนวน 5 รางวัล ซึ่งจะจัดส่งตรงถึงท่านตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ * ประกาศรายชื่อผู้โชคดีใน SCG Delight ฉบับเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2555 * กรุณากรอกชื่อ - ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อสะดวกให้ชัดเจน ส่งค�ำตอบของท่านมายัง แผนกบริหารความสัมพันธ์หุ้นกู้ ส�ำนักงานการเงิน บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จ�ำกัด (มหาชน) เลขที ่ 1 ถนนปูนซิเมนต์ไทย บางซื่อ กรุงเทพฯ 10800 ภายในวันที ่ 15 พฤศจิกายน 2554

10 รายชื่อผู้ได้รับรางวัลค�ำถาม SCG Delight ฉบับเดือนกันยายน - ตุลาคม 2554 จะได้รับนาฬิกาแขวนผนัง SCG ขอบหนังสีขาว จ�ำนวน 10 รางวัล

ค�ำถาม: ท่านได้น�ำบัตรสมาชิก SCG Debenture Club ไปใช้เพื่อรับสิทธิประโยชน์อะไรบ้าง และท่านอยากให้ทาง SCG Debenture Club มีสิทธิประโยชน์อะไรเพิ่มเติมในอนาคต 1. คุณเกรียงศักดิ์ วิสาลวัธน์ 2. คุณมะโน พันธุมวนิช 3. คุณอรรถกร จักรัตโนภาส 4. คุณดุสพิ ร สงวนนาม 5. คุณวันดี สุรเกียรติภญ ิ โญ

6. คุณอรพินท์ รักษ์วทิ ย์ 7. คุณละเอียด สุวรี านนท์ 8. คุณพรพิมล วิสาลวัธน์ 9. คุณสุจติ ตรา พันธุมวนิช 10. คุณนงลักษณ์ กฤตลักษณ์