SCG Delight Magazine Sep-Oct 2011 by ar.scc.si

10/05 SEPTEMBER - OCTOBER 2011 www.scg.co.th SCG Delight Magazine ปีที่ 10 ฉบับที่ 5 กันยายน - ตุลาคม 2554

ย้อนอดีตไปเยี่ยมชม... กรุเครื่องทองวัดราชบูรณะ

Exotic Thai

หุ่นละครเล็ก ตัวเล็ก...แต่ ใจใหญ่ Go Around

e Thctor e ll o C

ติดตามสิทธิประโยชน์จากบัตรสมาชิก SCG Debenture Club ได้ ในเล่มกิจกรรม

ปรับปรุงหองน้ำ ปรับปรุงหองน้ำ

(เฉพาะเดือนกันยายน-ตุลาคมเทานั้น)

ตั้งแต 1 กันยายน - 31ตุลาคม 2554

Editor’s Note

รชตพร ปัทมะศิริ บรรณาธิการบริหาร

* SCG Delight พิมพ์บนกระดาษอาร์ตการ์ด 210 แกรม (ปก) และกระดาษอาร์ตด้าน 105 แกรม จาก SCG Paper

กิจกรรมยามว่าง นอกจากการอ่านหนังสือ ออกกำ�ลังกาย ทำ�งานฝีมือ และท่องเที่ยวแล้ว ยั ง มี กิ จ กรรมที่ ใ ครหลายคนนิ ย มกั น นั่ น คื อ “การสะสม” การสะสมสิ่ ง ของหรื อ วั ต ถุ มี ค่ า เป็ น งานอดิ เ รกทรงคุ ณ ค่ า ไม่ ใ ช่ เ ฉพาะมู ล ค่ า ของการสะสม แต่ ยั ง มี คุ ณ ค่ า ทางจิ ต ใจด้ ว ย เพราะนั ก สะสมได้ ใ ช้ เ วลาว่ า งอยู่ กั บ สิ่ ง ที่ ต นรั ก และของสะสมเหล่ า นั้ น จะนำ � นั ก สะสมไป สั ม ผั ส กั บ ประวั ติ ศ าสตร์ ค วามเป็ น มา เกร็ ด ความรู้ อั น หลากหลาย และสร้ า งสั ง คมใบเล็ ก ของเหล่านักสะสมไว้พูดคุยในเรื่องที่สนใจเหมือนกันอีกด้วย SCG Delight ฉบับนี้ ขอนำ�เสนอ “The World of Collector” ซึ่งจะพาท่านไปพบกับ เรื่องราวและสัมผัสมนต์เสน่ห์และคุณค่าของการสะสม ที่ยกระดับงานอดิเรกธรรมดาให้ทรงคุณค่า ที่มาพร้อมกับมูลค่าที่เพิ่มมากขึ้นไปตามกาลเวลาในคอลัมน์ Cover Story เปิดประตูสู่โลกใบเล็ก ของเหล่านักสะสม สัมผัสถึงแง่มุมของคำ�ว่า “สะสม” อย่างที่ท่านอาจจะไม่เคยทราบมาก่อน และ “การสะสม” ยังผลิตนักสะสมให้เกิดขึ้นมากมายจากรุ่นสู่รุ่น เริ่มจากรุ่นปู่ส่งต่อให้รุ่นพ่อ จากรุ่นพ่อ ส่งต่อมายังรุ่นลูก และจากรุ่นลูกที่อาจจะกำ�ลังส่งไม้ต่อไปยังรุ่นหลานรุ่นเหลนต่อไป จากนั้นตาม ไปเรียนอดีตเพื่อรู้อนาคต ซึมซับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจีนผ่านมุมมองเซียนเครื่องกระเบื้อง จีนกับคอลัมน์ Focus และทิ้งท้ายกับการศึกษาประวัติศาสตร์ไทยไปพร้อมๆ กับการเที่ยวชมกรุ เครื่องทองโบราณ ณ วัดราชบูรณะ “การสะสม”เป็นกิจกรรมมากคุณค่าทีช่ ว่ ยสร้างมูลค่าให้ชวี ติ เราได้มงี านอดิเรกทีม่ ปี ระโยชน์ อีกทั้งยังเป็นมรดกความรู้ที่ข้ามพ้นไปมากกว่าคำ�ว่าวัตถุอีกด้วย หวังว่า SCG Delight จะช่วย จุดประกายให้กับท่านไม่มากก็น้อยนะคะ

เจ้าของ แผนกบริหารความสัมพันธ์หนุ้ กู ้ สำ�นักงานการเงิน บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำ�กัด (มหาชน) บรรณาธิการผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา ผดุงเดช อินทรลักษณ์ บรรณาธิการบริหาร รชตพร ปัทมะศิริ คณะบรรณาธิการ วิสัชนา ฉายประเสริฐ, สุกานดา สุนทิรารัตน์, สุทธินุช กาญจนะวณิชย์, อลิสา ด่านกลาง, พิมพกา ศรีฉัตราภิมุข, ภัณฑิรา ลาภาโรจน์กิจ, ภาวิณี ตะวันนาโชติ

กองบรรณาธิการ บรรณาธิการอำ�นวยการ ภัทราวรรณ พูลทวีเกียรติ ์ บรรณาธิการเล่ม ณัฐวีณ ์ วุฒยิ าภิราม

กองบรรณาธิการ สุภาณี เกศดายุรตั น์, กองทรัพย์ ชาตินาเสียว, ทัศนัย ขำ�ชื่น, สุทธิน ี ใจสมิทธ์ ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ ศิริธร พรศิวะกิจ ศิลปกรรม จตุพล เกสรสุคนธ์ อิมเมจไดเร็คเตอร์ สุภทั รา ศรีทองคำ� หัวหน้าช่างภาพ ชัยชนะ จารุวรรณากร ช่างภาพ สุรพล พวงศรี, จเร รัตนนันทเดช, ศักยะ บุญเสมอ, ถนอมพงศ์ ชัยชนะ รีทัช เอกฤทธิ์ โป๊ะคำ�, นรินทร์ มหัตธน ซับเอดิเตอร์และพิสจู น์อกั ษร จริญญา เมฆธรรม, ณัฐนันท์ ส่งแสงรัตน์ ธุรกิจสัมพันธ์ ณัชชา พัฒนะนุกิจ แทรฟฟิก เยาวลักษณ์ ทองพูนแก้ว โปรดักชั่น มานพันธ์ บุญประเสริฐ จัดทำ�โดย แผนกบริหารความสัมพันธ์หุ้นกู้ สำ�นักงานการเงิน บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำ�กัด (มหาชน) 1 ถนนปูนซิเมนต์ไทย บางซื่อ กรุงเทพฯ 10800 โทร. 0-2586-2112 โทรสาร 0-2586-4977 ออกแบบและพิมพ์โดย บริษทั อมรินทร์พริน้ ติง้ แอนด์พบั ลิชชิง่ จำ�กัด (มหาชน) โทร. 0-2422-9000 ต่อ 1200, 1213 ขอขอบคุณภาพประกอบคอลัมน์ จาก www.amarinphotobank.com หมายเหตุ : บทความ ทัศนะ และสถานที่ที่พิมพ์ในวารสาร SCG Delight เป็นความคิดเห็นและคำ�แนะนำ�ของผู้ประพันธ์ มิได้เกี่ยวข้องกับ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำ�กัด (มหาชน) แต่อย่างใด

CONTENTS

Vol. 10 No. 05 September - October 2011

01 Editor’s Note 06 SCG Spotlight

36 Better Pix

The Corner of Mind

40 Did You Know?

10 SCG Insight

บริษัทสยามมอร์ตาร์ จำ�กัด คิดค้นและพัฒนา เพื่อชีวิตที่ดีกว่า

42 Exotic Thai

ย้อนอดีตไปเยี่ยมชม... กรุเครื่องทองวัดราชบูรณะ

16 Member’s Stage สุเทพ วิริยะอุตสาหกุล ทุกก้าวย่างอย่างมั่นคง

20 Money Tips

นับถอยหลัง...การคุ้มครองเงินฝากเต็มจำ�นวน

24 Cover Story

The World of Collector โลกใบเล็กของนักสะสม

46 Around the World

เรียนอดีต รู้อนาคต

27 Focus

34 Techno for Life

ต้องมนต์เสน่ห์ที่ใต้สุดของออสเตรเลีย... บนดินแดน “Tasmania”

52 Cool Gear

รักษาสีรถอย่างไร...ให้ใหม่สดใสอยู่เสมอ

54 Hot Events

Modern

83 Chef at Home 86 Wine Curve 13 ไวน์ดีที่น่าสะสม

88 Dining Out 92 Getting Charm รูปหน้าสวย...ด้วยต่างหูคู่โปรด

56 Smart Life

ชวน ชูจันทร์ เป้าหมายคือชุมชน ริมคลองเข้มแข็ง

60 Think Green

ตลาดสีเขียว โดนใจนักช็อป

94 Go Around

“หุ่นละครเล็ก คลองบางหลวง คณะคำ�นาย” ตัวเล็ก แต่ใจใหญ่

62 Garden in Style

จัดสวนป่า น่ารื่นรมย์

66 Home Sweet Home

Loft Style แต่งบ้านเรียบง่าย ให้ดูดี...มีสไตล์

72 Feel Fit

ออกกำ�ลัง เพิ่มพลังสมองด้วย “นิวโรบิกส์ เอกเซอร์ไซส์”

75 Talk to Doctor

ปวดชาตามนิ้วมือ ข้อมือ อย่าเพิกเฉย! คุณอาจเป็น “โรคพังผืดทับเส้นประสาทที่ข้อมือ” โดยไม่รู้ตัว

79 The Journey ปูนาคา ซ็อง...แซ่ซ้องภูฏานอภิเษก

98 Entertainment 100 Book Shelf 103 Thai Zone

สุดยอด “วรรณคดีสโมสร”

104 Think White

ของใคร ใครก็รัก

สิ่งสำ�คัญไม่อาจเห็นด้วยตา

106 Mind & Spirit 108 Horoscope   110 Merit Room “ช่วยกันสอน”

การให้รูปแบบง่ายๆ ที่ไม่ต้องพึ่งเงิน

111 Happy Time 112 Delight Quiz

SCG Spotlight

กิจกรรมเวิร์คชอป “เล่นหมากล้อม ต้านอัลไซเมอร์”

ผ่านไปแล้วกับกิจกรรมเวิรค์ ชอป “เล่นหมากล้อม ต้าน อัลไซเมอร์” เมื่อวันพุธที่ 6 กรกฎาคม 2554 ที่ผ่านมา ในครั้งนี้ SCG Debenture Club ได้ รั บ เกี ย รติ จ ากวิ ท ยากรพิ เ ศษ อ.สุรพล อินทรเทศ ผูจ้ ดั การทัว่ ไป บมจ.ซีพี ออลล์ กรรมการและ นายทะเบียน สมาคมหมากล้อมแห่งประเทศไทย ในการบรรยาย กฎกติกาการเล่น เทคนิคต่างๆ รวมถึงให้ทุกท่านได้ทดลองเล่น หมากล้อมบนกระดานจริงๆ เรียกได้ว่าสมาชิกทุกท่านเต็มอิ่ม ทั้งความรู้เทคนิคและความสนุกสนานกันถ้วนหน้า

SCG Spotlight

สัมมนา “การแพทย์แผนไทย กับพลังสมุนไพรเพื่อการพึ่งพาตนเอง”

ชมวัด สัมผัสวัง 1 “วัดและวังในรัชกาลต่างๆ” และชมวัด สัมผัสวัง 2 “วัดและวังในราชสกุล”

เมื่อวันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม 2554 SCG Debenture Club ได้จดั สัมมนา “การแพทย์แผนไทย กับพลังสมุนไพรเพือ่ การ พึง่ พาตนเอง” ณ ส�ำนักงานใหญ่บางซือ่ โดยเภสัชกรช�ำนาญการ ของโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ที่มาให้ความรู้เกี่ยวกับ การเลือกใช้สมุนไพรเพื่อการบ�ำบัดโรคและบ�ำรุงสุขภาพ รวมถึง ข้อควรระวังในการใช้สมุนไพรอย่างปลอดภัย ผู้ถือหุ้นกู้ยังได้ ชมการสาธิตวิธีท�ำพร้อมกับลองชิมโยเกิร์ตสมุนไพรขมิ้นชัน เพือ่ สุขภาพ ทีส่ ามารถกลับไปท�ำเองทีบ่ า้ นได้งา่ ยๆ อีกทัง้ ยังมีบธู จ�ำหน่ายสินค้าจากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรมาให้เลือก ซื้อในงานอีกด้วย

ทริปวันเดียวในกรุงเทพฯ ที่ผู้ถือหุ้นกู้ให้ความสนใจ เข้าร่วมมากมาย เริ่มต้นที่ชมวัด สัมผัสวัง 1 (8 กรกฎาคม 2554) น�ำผู้ถือหุ้นกู้ชมความงดงามของวัดและวังในรัชกาลต่างๆ ทั้ง วั ง พญาไท พระที่ นั่ ง พิ ม านจั ก รี นมั ส การพระพุ ท ธชิ น สี ห ์ ที่ วัดบวรนิเวศวิหาร และเพิม่ ความประทับใจให้ผถู้ อื หุน้ กู้ ด้วยการ เข้าชมพิพธิ ภัณฑ์สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ณ วังสระปทุม ที่แสดงประวัติราชวงศ์จักรีและความพอเพียงอย่างแท้จริง ชมวัด สัมผัสวัง 2 (22 กรกฎาคม 2554) เป็นทริปชม วัดวังในราชสกุลต่างๆ แม้ฝนจะโปรยปรายบ้าง ทว่ากลับท�ำให้ อากาศเย็นสดชืน่ สบายตลอดวัน เริม่ ทีว่ งั วรดิศ วังในราชสกุลดิศกุล ทีพ่ เิ ศษสุดคือ คณะผูถ้ อื หุน้ กูไ้ ด้รบั เกียรติจาก ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล มาให้การต้อนรับด้วยตนเอง พร้อมบรรยายประวัติของวังและ ราชสกุล รวมทั้งจัดเลี้ยงของว่างให้เป็นกรณีพิเศษ จากนั้น ช่วงบ่ายชมความงามของวังลดาวัลย์และวังบางขุนพรหม อีกทัง้ ชมภาพวาดในโบสถ์ ข องวั ด ราชประดิ ษ ฐ์ ส ถิ ต มหาสี ม าราม ซึง่ คณะได้รว่ มท�ำบุญถวายปัจจัยเพือ่ บูรณะปฏิสงั ขรณ์วดั ร่วมกัน

จีน - ทิเบต...ดินแดนพระพุทธศาสนา บนหลังคาโลก วันที่ 15 - 21 มิถุนายน 2554 SCG Debenture Club พาท่ อ งเที่ ย วหลั ง คาโลก เริ่ ม ต้ น การเดิ น ทางที่ ป ระเทศจี น ณ เมืองเฉิงตู ชมศาลเจ้าสามก๊ก เที่ยวเมืองง้อไบ๊ นั่งกระเช้า สู ่ ย อดเขาจิ น ติ่ ง กราบนมั ส การพระโพธิ สั ต ว์ ส มั น ตภั ท ร ณ วัดหัวจ้างบนยอดเขาง้อไบ๊ ชมวัดเป่ากว๋อ และแวะชมความ น่ารักของหมีแพนด้าที่ศูนย์วิจัยเพาะพันธุ์หมีแพนด้า จากนั้น พาสมาชิกท่องเที่ยวในทิเบต เยือนและสัมผัสความยิ่งใหญ่ ของพระราชวังโปตาลา พระราชวังส�ำคัญที่ตั้งอยู่สูงที่สุดในโลก ชมพระต�ำหนักนอปูลนิ คา พระต�ำหนักฤดูรอ้ นขององค์ดาไลลามะ ชมและสั ก การะพระพุ ท ธรู ป ศั ก ดิ์ สิ ท ธิ์ ณ พุ ท ธวิ ห ารต้ า เจา พระอารามเสี่ยวเจา พระอารามเซรา พร้อมนั่งรถไฟสายทิเบต รถไฟสายประวัตศิ าสตร์ทใี่ ห้สมาชิกได้สมั ผัสทิวทัศน์อนั สวยงาม บนจุดที่เรียกได้ว่าสูงที่สุดในโลก นับเป็นประสบการณ์อันล�้ำค่า ที่ผู้เดินทางทุกท่านจะเก็บไว้ในความทรงจ�ำครั้งหนึ่งในชีวิต

บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จ�ำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย

SCG Spotlight

ค�ำอธิบายและการวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ผลการด�ำเนินงานไตรมาสที ่ 2 และช่วงครึง่ ปีแรกของปี 2554 ภาพรวมธุรกิจ

ข้อมูลผลตอบแทนจากตราสารหนี้และอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ตารางแสดงผลตอบแทนหุ้นกู ้ (ข้อมูล ณ วันที ่ 21 กรกฎาคม 2554)* หุ้นกู้ อายุคงเหลือ ราคาที่ตกลงครั้งล่าสุด (ปี) (บาท/หน่วย) SCC11NA 0.28 1,015.62 ครั้งที ่ 2/2550 SCC124A 0.70 1,006.79 ครั้งที ่ 1/2551 SCC12NA 1.28 1,015.16 ครั้งที ่ 2/2551 SCC134A 1.70 1,025.73 ครั้งที ่ 1/2552 SCC13OA 2.20 1,017.53 ครั้งที ่ 2/2552 SCC144A 2.70 1,005.55 ครั้งที ่ 1/2553 SCC14OA 3.20 1,011.39 ครั้งที ่ 2/2553 SCC154A 3.70 1,007.04 ครั้งที ่ 1/2554

วันที่ตกลง อัตรา แลกเปลี่ยนหุ้นกู้ ผลตอบแทนถึง ครั้งล่าสุด วันครบก�ำหนดไถ่ถอน 3.25% 11 เมษายน 2554

ส่วนต่างจาก ราคาหน้าตั๋ว (บาท/หน่วย) 15.62

22 กรกฎาคม 2554

3.60%

6.79

21 กรกฎาคม 2554

4.00%

15.16

22 กรกฎาคม 2554

3.75%

25.73

22 มิถุนายน 2554

3.30%

17.53

18 กรกฎาคม 2554

3.70%

5.55

22 มิถุนายน 2554

3.45%

11.39

19 กรกฎาคม 2554

3.85%

7.04

* ท่านสามารถตรวจสอบราคาหุ้นกู้ประจ�ำวันได้ท ี่ www.scg.co.th ตารางแสดงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจ�ำ (ข้อมูล ณ วันที ่ 21 กรกฎาคม 2554) ระยะเวลา ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย 1 ปี 2.50% 2.50% 2.40% 2 ปี 3.00% 3.00% 2.90% 3.25% 3.35% 3.15% 3 ปี ตารางอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาล (ข้อมูล ณ วันที ่ 21 กรกฎาคม 2554) ระยะเวลา อัตราผลตอบแทน 3.28% 3 เดือน 3.50% 6 เดือน 3.67% 1 ปี 3.76% 2 ปี 3.82% 3 ปี 3.87% 4 ปี

ธนาคารไทยพาณิชย์ 2.50% 3.00% 3.25%

ในไตรมาสที่ 2 ปี 2554 เอสซีจีมีก�ำไรส�ำหรับงวดเท่ากับ 7,496 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อ เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจากผลการด�ำเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจซีเมนต์และจากเงินปันผลรับ จากบริษัทอื่นเพิ่มขึ้น โดยเอสซีจีมี EBITDA เท่ากับ 14,161 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับ ช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากเงินปันผลรับจากบริษัทร่วมของธุรกิจเคมีภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น และมีรายได้ จากการขายเท่ากับ 93,876 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจาก ราคาของผลิตภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้นและจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจเคมีภัณฑ์ เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เอสซีจีมีก�ำไรส�ำหรับงวดลดลงร้อยละ 19 เนื่องจากเป็นช่วงขาลง ของธุรกิจเคมีภัณฑ์ มีผลขาดทุนจากสินค้าคงเหลือ ตลอดจนเป็นช่วงที่ปริมาณขายลดลงตามฤดูกาล ของธุรกิจส่วนใหญ่ในเอสซีจี ในขณะที่มี EBITDA เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 จากไตรมาสก่อน เนื่องจากเงินปันผล รับจากบริษัทร่วมของธุรกิจเคมีภัณฑ์เพิ่มสูงขึ้น รายได้จากการขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 ใกล้เคียงกับ ไตรมาสก่อน ผลการด�ำเนินงานครึ่งปีแรกของปี 2554 เอสซีจีมีก�ำไรส�ำหรับงวด 16,703 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 18 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากผลการด�ำเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจซีเมนต์และจากส่วนแบ่ง ก�ำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมของธุรกิจเคมีภัณฑ์เพิ่มขึ้น โดยเอสซีจี มี EBITDA เท่ากับ 27,680 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้จากการขายเท่ากับ 186,354 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัว สูงขึ้นและจากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจเคมีภัณฑ์ ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2554 เอสซีจีมีส่วนแบ่งก�ำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมเท่ากับ 4,713 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทร่วมของธุรกิจเคมีภัณฑ์ มีก�ำไรสูงขึ้น ในขณะที่ไตรมาสที่ 2 ปี 2554 เอสซีจีมีส่วนแบ่งก�ำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมเท่ากับ 1,672 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และลดลงร้อยละ 45 จาก ไตรมาสก่อน ทั้งนี้ มีสาเหตุมาจากบริษัทร่วมในธุรกิจเคมีภัณฑ์มีส่วนต่างราคาสินค้าเคมีภัณฑ์และ วัตถุดิบลดลง และมีบริษัทร่วมของธุรกิจเคมีภัณฑ์แห่งหนึ่งเริ่มเดินเครื่องจักรซึ่งยังไม่สามารถผลิตได้ ตามก�ำลังการผลิตปกติ เอสซีจีมีรายได้เงินปันผลรับในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2554 เท่ากับ 5,188 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 110 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเอสซีจีมีเงินปันผลรับจากบริษัทร่วม (เอสซีจีถือหุ้น ร้อยละ 20 - 50) เท่ากับ 3,801 ล้านบาท และบริษัทอื่น (เอสซีจีถือหุ้นต�่ำกว่าร้อยละ 20) เท่ากับ 1,387 ล้านบาท เอสซีจีมีเงินสดและเงินสดภายใต้การบริหาร ณ สิ้นไตรมาสที่ 2 ปี 2554 เท่ากับ 58,229 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 15,051 ล้านบาท จากเงินปันผลจ่ายและภาษีเงินได้นติ บิ คุ คลประมาณ 19,700 ล้านบาท เอสซีจีมีเงินทุนหมุนเวียนเท่ากับ 57,731 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 3,971 ล้านบาท จากสินค้าคงเหลือที่เพิ่มขึ้น คณะกรรมการบริษัทอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการด�ำเนินงานครึ่งปีแรกของ ปี 2554 ในอัตรา 5.50 บาทต่อหุ้น เป็นเงินทั้งสิ้น 6,600 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 40 ของก�ำไร ส�ำหรับงวด โดยก�ำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 25 สิงหาคม 2554 ก�ำหนดวันก�ำหนดรายชื่อ ผู้มีสิทธิรับเงินปันผล (Record date) วันที่ 10 สิงหาคม 2554 และปิดสมุดทะเบียนรวบรวมรายชื่อ เพื่อสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 11 สิงหาคม 2554

SCG Spotlight

“ไตรมาสที่ 2 ปี 2554 เอสซีจีมีก�ำไรส�ำหรับงวด เท่ากับ 7,496 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน ของปีก่อน และในครึ่งปีแรก ของปี 2554 มีก�ำไร ส�ำหรับงวดเท่ากับ 16,703 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 18 เมื่อเทียบกับ ช่วงเดียวกันของปีก่อน ”

“ส่วนแบ่งก�ำไรจาก เงินลงทุนในบริษัทร่วม ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2554 เท่ากับ 4,713 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกัน ของปีก่อน”

“เอสซีจีมีเงินสดและเงินสด ภายใต้การบริหาร เท่ากับ 58,229 ล้านบาท” “จ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 5.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นร้อยละ 40 ของก�ำไรส�ำหรับงวด”

SCG Insight

เรื่อง : พิมพิดา กาญจนเวทางค์ ภาพ : จเร รัตนนันทเดช

บริษัทสยามมอร์ตาร์ จ�ำกัด คิดค้นและพัฒนา เพื่อชีวิตที่ดีกว่า

การปรั บ เปลี่ ย นพฤติ ก รรมของผู ้ บ ริ โ ภค ไม่เคยเป็นเรือ่ งง่าย แต่หากสินค้านัน้ เป็นสินค้าทีใ่ ห้ความ รวดเร็ว สะดวกสบาย และสามารถมัน่ ใจได้ถงึ คุณภาพ ทีแ่ น่นอน ก็เชือ่ ได้วา่ ตลาดพร้อมจะอ้าแขนเปิดรับอย่าง เต็มที่ พิสจู น์ได้จากการประสบความส�ำเร็จในการริเริม่ ผลิตปูนส�ำเร็จรูปของบริษัทสยามมอร์ตาร์ จ�ำกัด บริษัทย่อยภายใต้ธุรกิจซีเมนต์ บริษัทเอสซีจี ซิเมนต์ จ�ำกัด

คุณเรวัต สุริยาภณานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทสยามมอร์ตาร์ จ�ำกัด

เรื่องราวความน่าสนใจของปูนส�ำเร็จรูปที่เราก�ำลัง จะได้รู้กันในวันนี้ เราได้รับเกียรติจากคุณเรวัต สุริยาภณานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทสยามมอร์ตาร์ จ�ำกัด ที่จะมาเล่า ถึ ง ความเป็ น มาและกลยุ ท ธ์ ใ นการก้ า วสู ่ ค วามส� ำ เร็ จ ของ ปูนส�ำเร็จรูปตราเสือมอร์ตาร์ บริ ษั ท สยามมอร์ ต าร์ จ� ำ กั ด เป็ น บริ ษั ท ผู ้ ผ ลิ ต ปู น ส�ำเร็จรูปที่ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2538 โดยมีโรงงานแรกตั้งอยู่ที่ อ�ำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ด้วยก�ำลังการผลิตที่ 450,000 ตัน ต่อปี และมีการขยายก�ำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบัน มีก�ำลังการผลิตรวมประมาณ 2,250,000 ตันต่อปี ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงที่บริษัทมีการขยายตัว และสินค้าปูนส�ำเร็จรูปเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในตลาด

“ในช่วงนัน้ เราขยายตลาดโดยเน้นงานโครงการ ซึง่ เริม่ กลับเข้ามาตามสภาพเศรษฐกิจทีเ่ ริม่ ฟืน้ ตัว ตอนนัน้ ธุรกิจยังใหม่ มาก คนไม่ค่อยรู้จัก เราจึงส่งทีมผู้แทนขายเข้าไปตามไซต์งาน แล้วก็เริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ของช่างปูน” คุณเรวัต เริ่ ม ต้ น เล่ า ถึ ง เรื่ อ งราวเมื่ อ ครั้ ง ที่ เ ขาได้ เ ข้ า มาร่ ว มงานกั บ บริษัทสยามมอร์ตาร์ จ�ำกัด ด้ ว ยคุ ณ สมบั ติ ที่ โ ดดเด่ น ของปู น ส� ำ เร็ จ รู ป ตราเสื อ มอร์ตาร์นี้เอง ที่เป็นปัจจัยหลักในการท�ำให้ตลาดวัสดุก่อสร้าง ยอมรับได้ไม่ยาก “สินค้าปูนส�ำเร็จรูปเป็นสินค้าที่เข้าไปทดแทนสินค้า ซีเมนต์แบบเดิม คือสินค้าปูนซีเมนต์แบบเดิมต้องน�ำไปผสม ทรายและหินที่หน้างานจึงจะใช้ได้ แต่ส�ำหรับปูนส�ำเร็จรูปนี้ เราผลิตส�ำเร็จรูปไปเลย ไปถึงหน้างานก็แค่ผสมน�้ำ แล้วใช้งาน ได้เลย เน้นเรื่องความสะดวก เรื่องคุณภาพสินค้า ลองคิดดูครับ ว่า สมมติช่างซื้อซีเมนต์ปูนไปถุงหนึ่ง ช่างจะผสมหินผสมทราย อย่างไร ก็คงต้องขึ้นอยู่กับความใส่ใจของช่าง ดังนั้นปัญหาใน การใช้งานไม่ว่าจะเป็นปูนฉาบ ปูนก่อ คือ ผลที่ออกมาจะไม่ แน่นอน ขึ้นอยู่กับฝีมือและความละเอียดของช่าง นี่คือสาเหตุ ที่เราสนใจท�ำปูนส�ำเร็จรูป ก็เพื่อตัดปัญหาในเรื่องการผสมและ คุณภาพที่ไม่สม�่ำเสมอออกไป”

SCG Insight เมื่อตลาดมีการฟื้นตัวบวกกับสินค้าได้รับการยอมรับ จึงท�ำให้บริษัทสยามมอร์ตาร์ จ�ำกัด ต้องขยายก�ำลังการผลิต “เรามีการขยายก�ำลังการผลิตเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2548 และต่อจากนั้นเราก็ขยายก�ำลังการผลิตทุกปี จากเดิมที่ เคยผลิตราว 4 แสนตัน ปัจจุบันก็ขึ้นมาอยู่ที่ราว 2 ล้าน 2 แสน ตัน และเราก็มีแผนที่จะขยายก�ำลังการผลิตอีก 4 แสน 5 หมื่น ตัน ซึ่งปีหน้าน่าจะเสร็จ รวมแล้วก็จะอยู่ที่ประมาณ 2 ล้าน 7 แสนตันต่อปี ส่วนยอดขายโดยเฉลี่ยตั้งแต่เศรษฐกิจเริ่มฟื้น ก็เพิม่ ขึน้ ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ และบางปีขนึ้ ไปถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ต่อปี” คุณเรวัตเผยข้อมูลพร้อมรอยยิ้มภาคภูมิใจ แน่นอนว่าลูกค้าหลักของบริษัทสยามมอร์ตาร์ จ�ำกัด คือ ลูกค้าโครงการที่มีราวร้อยละ 70 - 80 จากจ�ำนวนลูกค้า ทั้งหมด “ดูเหมือนว่าเราจะเติบโตมากับลูกค้าโครงการเป็น ส่วนใหญ่ เดิมทีเรามีโรงงานทีแ่ ก่งคอยแห่งเดียว จากนัน้ เราก็ลงไป ทางใต้คือที่ทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งเน้นเฉพาะตลาด ทางภาคใต้ แล้วก็ที่เขาวง จังหวัดสระบุรี ปัจจุบันนี้เรามีโรงงาน 3 แห่ง” แม้วันนี้ บริษัทสยามมอร์ตาร์ จ� ำกัด จะได้รับการ ยอมรั บ เป็ น อย่ า งดี ใ นตลาด หากแต่ ป ระสบการณ์ ใ นอดี ต ที่ ผ ่ า นมาก็ ส อนให้คิด ถึงการวางแผนให้รอบคอบมากยิ่ ง ขึ้ น คุณเรวัตอธิบายว่า

ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวได้ที่ Website: www.tigermortar.com Facebook: www.facebook.com/tigermortarfanpage

SCG Insight “เรามาวิเคราะห์ว่า ถ้าเรามุ่งเน้นงานที่เป็นโครงการ อย่างเดียว ความเสี่ยงก็จะสูง เพราะหากสภาวะเศรษฐกิจไม่ดี งานโครงการก็จะไม่มีด้วย เราก็เลยเริ่มเปิดตลาดใหม่ไปที่งาน ชาวบ้าน คือการต่อเติมบ้าน ซ่อมแซมบ้าน ซึ่งเป็นงานที่ขนาด เล็กลง แต่ฐานเยอะมาก” ไม่เพียงแต่การขยายตลาด บริษทั สยามมอร์ตาร์ จ�ำกัด ก็ยังคิดพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่เกิดระหว่างการท�ำงานด้วย เสมอ “ที่ผ่านมาเราพบปัญหาในเรื่องของการขาดแคลน ช่างปูน ซึ่งก็จะหาคนไทยได้น้อยแล้วนะครับ เป็นช่างชาวพม่า เขมร เสียส่วนใหญ่ แล้วช่างปูนบ้านเราก็ไม่ได้เป็นช่างอาชีพ คือ เป็นอาชีพชัว่ คราว ส่วนใหญ่จะมีอาชีพหลักเป็นเกษตรกร ถึงเวลา ท�ำนาก็จะกลับไปท�ำนา พอเสร็จก็กลับมาเป็นช่างปูน ดังนัน้ ไซต์ งานของเราก็จะพบปัญหาเรื่องนี้ค่อนข้างมาก เราก็เลยพัฒนา เรื่องการบริการขึ้นมา โดยการพัฒนาเรื่องของเครื่องมือ เรียกว่า ระบบเทคโนโลยีไซโลและเครื่องพ่น (Silo & Spraying system) ซึ่งจะช่วยให้ท�ำงานได้เร็วขึ้นกว่าเดิม 3 - 4 เท่า ใช้ช่างปูน น้ อ ยลง ตอนนี้ ต ลาดเรื่ อ งงานบริ ก ารของเราเติ บ โตเร็ ว มาก เราเริ่มมาได้ประมาณ 3 ปี ตอนนั้นเรามีระบบอยู่ 1 - 2 ชุด แต่มา วันนี้เรามีประมาณ 180 - 190 ชุด และก็ไปประกวด innovative ของ SCG ได้รางวัลชนะเลิศในเรื่องของการบริการด้วย”

“

เพราะซีเมนต์ก็มีความสวยงามในแบบของตัวเอง จนเกิดเป็น Color Render คือปูนทีส่ ามารถน�ำมาท�ำงาน ตกแต่งได้ มีสีสัน มีลวดลายเฉพาะ โดยจะเน้นลูกค้าที่ เป็นสถาปนิก งานรีสอร์ท งานที่ต้องการสไตล์เฉพาะ ของตัวเอง

”

“นอกจากนี้ เรายั ง แก้ ป ั ญ หาในเรื่ อ งของช่ า งที่ ขาดแคลนโดยการจัดตั้งศูนย์เทคโนโลยีการฉาบปูนขึ้นที่อ�ำเภอ แก่งคอย จังหวัดสระบุรี เพื่อพัฒนาช่างปูนของเราให้มีอาชีพ ช่างปูนจริงๆ เราพยายามยกระดับความรูใ้ ห้แก่ชา่ งปูนว่า วิธกี าร ท�ำงานทีถ่ กู ต้องเป็นอย่างไร ต้องมีทกั ษะอะไรบ้าง และมีอปุ กรณ์ อะไรบ้างที่จะช่วยให้ท�ำงานได้ดีขึ้น เราเปิดศูนย์เทคโนโลยี การฉาบปูนนี้มาประมาณ 3 ปี แต่ละปีมีคนมาสมัครประมาณ 2,000 - 3,000 คน คนงานจากเดิมที่มีอยู่ที่หลักร้อย ก็เพิ่มเป็น ราว 3,000 คน” คุณเรวัตอธิบายเพิ่มเติม ด้วยเป้าหมายที่ต้องการจะตอบรับความต้องการของ ตลาดให้ได้มากที่สุด บริษัทสยามมอร์ตาร์ จ�ำกัด จึงไม่หยุดที่จะ คิดค้นสินค้าใหม่ๆ เพื่อน�ำออกสู่ตลาด “พอเราไปท�ำวิจัยเรื่องความต้องการของผู้บริโภคมา มากๆ ก็มีไอเดียใหม่ๆ ขึ้นมา เราเห็นว่างานปูนเป็นสินค้าอาภัพ คือไม่มใี ครรูว้ า่ มันสวยงามอย่างไร เพราะพอท�ำเสร็จก็จะมีอะไร มาปิดทับผิวด้านหน้าเสมอ ไม่ว่าจะเป็นงานโครงสร้างหรือผนัง จะต้องถูกทาสี ถูกปิดด้วยวอลล์เปเปอร์ หรือไม่ก็กระเบื้อง เรา จึงคิดที่จะท�ำให้สินค้าสามารถโชว์ได้ เพราะซีเมนต์ก็มีความ สวยงามในแบบของตัวเอง จนเกิดเป็น Color Render คือปูนที่ สามารถน�ำมาท�ำงานตกแต่งได้ มีสสี นั มีลวดลายเฉพาะ โดยจะ เน้นลูกค้าทีเ่ ป็นสถาปนิก งานรีสอร์ท งานทีต่ อ้ งการสไตล์เฉพาะ

ของตัวเอง ปูนฉาบแต่งผิวสีนถี้ กู พัฒนาขึน้ มาได้ราว 1 - 2 ปีแล้ว และตลาดก็ตอบรับดี ท�ำให้เราได้เห็นว่าปูนมีการเปลี่ยนแปลง และพัฒนามากกว่าที่ผ่านมา” นอกจากการพัฒนาสินค้าให้แปลกใหม่น่าสนใจแล้ว บริษัทสยามมอร์ตาร์ จ�ำกัด ยังเลือกเฟ้นช่างฝีมือที่อยู่ในวงการ ตกแต่งให้มาร่วมพัฒนาลวดลายให้เพิ่มมากขึ้นด้วย “ศูนย์เทคโนโลยีการฉาบปูนที่เราก่อตั้งจะเป็นศูนย์ที่ ช่วยพัฒนาทักษะของช่างให้ทำ� งานเหล่านีไ้ ด้ดว้ ย จริงๆ แล้วงาน ประเภทนี้จะถูกจัดอยู่ในหมวด DIY ก็ได้ ผู้ใช้สามารถท�ำเองได้ เพราะเป็นเรื่องของจินตนาการ รู้แค่เทคนิคการผสมเท่านั้นเอง” คุณเรวัตกล่าวเพิ่มเติม จากที่กล่าวมาข้างต้น จึงไม่น่าแปลกใจหากแนวโน้ม การด�ำเนินธุรกิจของบริษัทสยามมอร์ตาร์ จ�ำกัด จะเติบโตอย่าง ต่อเนื่อง “อั ต ราการเติ บ โตจากนี้ ไ ม่ น ่ า จะต�่ ำ กว่ า 25 - 30 เปอร์เซ็นต์ ในเมืองใหญ่ๆ อย่างในนครหลวงเราสามารถเข้าไป ทดแทนการใช้ ปู น ซี เ มนต์ แ บบดั้ ง เดิ ม ในงานก่ อ หรื อ ฉาบได้ ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ ภายใน 4 - 5 ปี และในอนาคตเราคิดว่า เปอร์เซ็นต์นา่ จะขึน้ ไปสูงถึง 40 - 50 เปอร์เซ็นต์ ” คุณเรวัตอธิบาย “และอีกพื้นที่ที่น่าสนใจคือ พื้นที่ที่เป็นเกาะหรือภูเขา พืน้ ทีป่ ระเภทนีจ้ ะมีตน้ ทุนในการก่อสร้างสูงมากหากใช้วสั ดุแบบ

SCG Insight

เดิม เพราะจะต้องขนหินและทรายขึน้ ไปบนภูเขา หรือ บ้างก็ต้องข้ามเกาะ อย่างเช่น บ้านตามเชิงเขาหรือ รีสอร์ทบนเกาะภูเก็ต เกาะสมุย ที่นั่นจะใช้สินค้าปูน ส�ำเร็จรูปของเราเยอะมาก เพราะสินค้าเราตอบโจทย์ ที่เขาต้องการได้ดี “นอกจากนี้ เรายังมีแผนทีจ่ ะขยายการผลิต ไปทั่วทุกภาค ไม่นานก็จะไปที่ภาคเหนือและภาค อีสาน เพราะเราเห็นว่าสินค้าปูนส�ำเร็จรูปมีโอกาสที่ จะไปทดแทนสินค้าเดิมได้มาก เนื่องจากคุณสมบัติ ที่ตอบโจทย์ในเรื่องของความสะดวก ความรวดเร็ว และคุณภาพที่แน่นอน” คุณเรวัตกล่าวปิดท้าย เมื่อได้ฟังเรื่องราวข้างต้นทั้งหมด

แล้ว เราจึงแน่ใจว่า ความคิดสร้างสรรค์ อันชาญฉลาดที่มาพร้อมกับการหมั่นคิดค้น พัฒนาสินค้าและบริการอยู่เสมอของบริษัท สยามมอร์ตาร์ จ�ำกัด นี้เอง ที่เป็นที่มาของ การก้าวไปสู่ความส�ำเร็จได้อย่างงดงาม

Member’s Stage

เรื่อง : พิมพิดา กาญจนเวทางค์ ภาพ : สุภัทรา ศรีทองค�ำ

สุเทพ วิริยะอุตสาหกุล ทุกก้าวย่างอย่างมั่นคง

ด้วยคุณสมบัตทิ โี่ ดดเด่น 3 ประการ คือ มีความคิด ริเริ่มสร้างสรรค์ กล้าที่จะลงมือท�ำ และรู้จักเลือกใช้ จังหวะที่เหมาะสม จึงท�ำให้คุณสุเทพ วิริยะอุตสาหกุล ประธานกรรมการ บริษัทนวกิจพืชไร่ จ�ำกัด ประสบ ความส�ำเร็จในการด�ำเนินธุรกิจค้าเมล็ดกาแฟมานาน กว่า 15 ปี และเมื่อถึงวันที่เขาจะวางมือจากธุรกิจ หันมาให้เวลากับตัวเอง พักผ่อนมากขึ้น เขาจึงยึด แนวคิดเดิมในการย่างก้าวต่อไปเช่นเดียวกัน

และไม่ ไ ด้ จ� ำ กั ด เพี ย งแค่ ธุ ร กิ จ ค้ า เมล็ ด กาแฟของ ตั ว เอง หากแต่ คุ ณ สุ เ ทพยั ง ใช้ คุ ณ สมบั ติ โ ดดเด่ น ที่ เ ขามี นี้ ท�ำประโยชน์ให้แก่สมาคมต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นนายก กิตติมศักดิ์ถาวร สมาคมตั้งตระกูลแห่งประเทศไทย นายก กิตติมศักดิ์ สมาคมซุ่นอี้แห่งประเทศไทย อุปนายก สมาคม ส่งเสริมการลงทุนและการค้าไทย - จีน กรรมการ ชมรมนักธุรกิจ ไทย - จีน กรรมการ สมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย กรรมการ บริหาร สมาคมเตีย้ เอีย้ แห่งประเทศไทย และทีป่ รึกษากิตติมศักดิ์ สมาคมวิเทศพาณิชย์ไทย - จีน

จุดเริ่มต้น

“ผมเรี ย นจบปริ ญ ญาตรี จ ากเมื อ งซั ว เถา มณฑล กวางตุ้ง ประเทศจีน เรียนจบแล้วก็กลับมาที่ประเทศไทยเพราะ ครอบครัวผมอยูท่ นี่ ี่ ก็มาช่วยคุณพ่อท�ำธุรกิจ เวลานัน้ คุณพ่อของ ผมค้าขายเมล็ดกาแฟ สมัยก่อนเมล็ดกาแฟต้องสั่งน�ำเข้าจาก ต่างประเทศ เช่น ประเทศอินโดนีเซีย ยังไม่มปี ลูกในประเทศไทย

พอน�ำเข้ามาแล้วก็สง่ ไปให้คนคัว่ ซึง่ เมือ่ ก่อนคนคัว่ กาแฟ พอคัว่ แล้วเขาก็ใส่ปี๊บไปขายตามคลอง เราส่งแต่วัตถุดิบให้เขา ส่วน ธุรกิจแรกที่ผมท�ำเองคือ ค้าขายข้าวสาร” แต่ไม่วา่ จะเป็นเพราะเขาหลงใหลกลิน่ หอมของกาแฟ คัว่ มือ หรือเพราะเห็นถึงช่องทางธุรกิจทีน่ า่ สนใจ เมือ่ ประเทศไทย มีการปลูกกาแฟ คุณสุเทพจึงเลิกกิจการค้าขายข้าวสาร กลับมา ให้ ค วามสนใจในเรื่ อ งการค้ า เมล็ ด กาแฟอี ก ครั้ ง คุ ณ สุ เ ทพ เล่าว่า “พอประเทศไทยเริ่มมีการปลูกกาแฟ ผมก็รับซื้อเมล็ด กาแฟจากภาคใต้ ไม่ ว ่ า จะเป็ น จั ง หวั ด สุ ร าษฎร์ ธ านี กระบี่ นครศรี ธ รรมราช ชุ ม พร ระนอง ตอนนั้ น ขายข้ า วสารมาได้ 3 - 4 ปี ก็ตัดสินใจเลิกท�ำ หันมาค้าเมล็ดกาแฟเต็มตัว”

ถูกจังหวะ

การกลั บ เข้ า สู ่ ว งการค้ า เมล็ ด กาแฟอี ก ครั้ ง ของ คุณสุเทพนี้ ถือเป็นช่วงจังหวะที่เขาตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด เนื่องจากบริษัทนวกิจพืชไร่ จ�ำกัด มีความคล่องตัวในเรื่องของ การบริหารจัดการมากกว่าบริษัทอื่นๆ ที่มีในขณะนั้น กลายเป็น จุ ดแข็ ง ที่ ช่ ว ยเสริ มให้ ธุ ร กิ จเติ บโตอย่ า งต่ อเนื่ อง “สมัยก่อ น ปีหนึง่ ๆ ผมส่งเมล็ดกาแฟสูงสุด 25,000 ตัน ซึง่ ถ้าจะพูดให้เข้าใจ ก็ราวๆ 20 กว่าล้านกิโลกรัม โดยลูกค้าหลักของผมคือเนสท์เล่ โรงงานผลิตกาแฟที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ที่นี่เคยซื้อเมล็ดกาแฟ จากผมเจ้าเดียว” คุณสุเทพกล่าว

คุณสุเทพ วิริยะอุตสาหกุล ประธานกรรมการ บริษัทนวกิจพืชไร่ จ�ำกัด

Member’s Stage

“

ไม่ใช่แค่เรื่องราคา บางทีรถบรรทุกเมล็ดกาแฟมาจากภาคใต้ต้องให้ต�ำรวจคุมมา เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะถูกโจรจี้ไปทั้งคันรถ โยนคนขับเข้าป่าไปเยอะแยะ รถพ่วง คันหนึ่ง 2 ล้านกว่าบาท ถ้าหายไปก็หายไปเลยนะ ตามหาไม่เจอ จับก็ล�ำบาก

ความไม่แน่นอนของตลาด

จากนั้น บริษัทนวกิจพืชไร่ จ�ำกัด ก็นับเป็นผู้ค้าเมล็ด กาแฟรายใหญ่ของประเทศเรื่อยมา จนเมื่อราคาของยางพารา และน�้ำมันปาล์มเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ชาวสวน จึงเลือกที่จะลดปริมาณการปลูกกาแฟลง “สมัยก่อนยางพารา ขายกิโลกรัมละ 20 - 30 บาท เมล็ดกาแฟขายกิโลกรัมละ 60 - 70 บาท ชาวสวนคิดแล้วปลูกกาแฟคุ้มกว่า ก็มาปลูกกาแฟกัน” คุณสุเทพอธิบายถึงปัจจัยที่ท�ำให้ปริมาณเมล็ดกาแฟภายใน ประเทศมี จ� ำ นวนลดลง พร้อ มกับยกตัวอย่างเป็นตั ว เลขให้ เห็นถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน “ดังนั้นจากภาคใต้ที่เคยมี ผลผลิตมากถึง 70,000 - 80,000 ตันต่อปี มาปีที่แล้วชาวสวน เขาปลูกกันน้อยลง ผลผลิตทัว่ ทัง้ ประเทศเหลือแค่ 30,000 กว่าตัน เท่านั้น” ปริมาณผลผลิตที่ลดน้อยลงอย่างมากนี้จึงไม่เพียงพอ ต่อความต้องการของตลาด “ปีหนึง่ ๆ เนสท์เล่ใช้มากกว่า 50,000 60,000 ตัน เขาช่อง 10,000 กว่าตัน แล้วยังมีบริษัทอื่นๆ อีก ก็ไม่พอใช้ พอไม่พอใช้ ก็ต้องน�ำเข้า แต่พอน�ำเข้ารัฐบาลก็มี นโยบายว่า ถ้าทุกคนน�ำเข้า ชาวสวนกาแฟภายในประเทศก็จะ เดือดร้อน เลยมีการก�ำหนดว่า จะน�ำเข้าได้ต้องเป็นหลังเดือน พฤษภาคมของทุกปี เพื่อให้ชาวสวนภายในประเทศได้มีโอกาส ขายเมล็ดกาแฟให้หมดก่อน แล้วถึงจะน�ำเข้าได้”

“เราไม่ได้รับเมล็ดกาแฟจากทางภาคเหนือครับ” คุณ สุเทพตอบเมือ่ ถูกถามถึงการรับซือ้ เมล็ดกาแฟจากทางภาคเหนือ ของประเทศ “พันธุเ์ มล็ดกาแฟจากภาคใต้เป็นพันธุโ์ รบัสต้า ส่วน ทางภาคเหนือเป็นพันธุ์อาราบิก้า ซึ่งพันธุ์อาราบิก้านี้แพงกว่า พันธุ์โรบัสต้าเท่าตัว แต่เขามีน้อย ปีหนึ่งๆ มีอย่างมาก 1,000 กว่าตันเท่านั้นเอง” ดังนั้น แม้บริษัทนวกิจพืชไร่ จ�ำกัด จะเป็นผู้ค้าเมล็ด กาแฟรายใหญ่ในตลาดมาโดยตลอด แต่จากการที่ปริมาณ ของผลผลิตลดลงนี้เอง คุณสุเทพผู้มีประสบการณ์ในธุรกิจมา ยาวนานจึงคาดการณ์ถึงแนวโน้มของตลาดค้าเมล็ดกาแฟใน อนาคตได้ไม่ยาก “อย่างที่ผมพูดไปแล้ว ปัจจุบันชาวสวนเห็นว่า ปลูกยางพาราคุ้มกว่า น�้ ำมันปาล์มคุ้มกว่า ก็หันไปปลูกกัน ในขณะที่เมล็ดกาแฟจะออกมาราวๆ ปลายเดือนธันวาคมถึง ปลายเดือนกุมภาพันธ์ เรามีเวลาท�ำงานกัน 3 เดือนเท่านั้นเอง ในระยะเวลา 1 ปี” เขายังอธิบายถึงความไม่แน่นอนของราคาผลผลิตใน ตลาดว่า “ราคาของเมล็ดกาแฟขึ้นลงตามราคาในต่างประเทศ คืนหนึ่งๆ สามารถก�ำไร 10 บาทต่อกิโลกรัม หรือจะขาดทุน 10 บาทต่อกิโลกรัมก็ได้ เที่ยงคืนเราไปนอนยิ้มสบายใจเพราะ ราคาขึ้น แต่พอตื่นขึ้นมาราคาอาจจะลงแล้วก็ได้”

ไม่เพียงแต่เรื่องของปริมาณผลผลิตและราคาที่ยาก ต่อการควบคุม แม้แต่เรื่องของขั้นตอนการขนส่งเมล็ดกาแฟ ก็ไม่ใช่เรือ่ งง่ายเช่นเดียวกัน “ไม่ใช่แค่เรือ่ งราคา บางทีรถบรรทุก เมล็ดกาแฟมาจากภาคใต้ตอ้ งให้ตำ� รวจคุมมา เพราะไม่อย่างนัน้ อาจจะถูกโจรจีไ้ ปทัง้ คันรถ โยนคนขับเข้าป่าไปเยอะแยะ รถพ่วง คันหนึง่ 2 ล้านกว่าบาท ถ้าหายไปก็หายไปเลยนะ ตามหาไม่เจอ จับก็ล�ำบาก” คุณสุเทพแบ่งปันเรื่องราวประสบการณ์ในวงการ ธุรกิจค้าเมล็ดกาแฟที่ใครหลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน

”

กระสอบ ผมก็มาขอเขาเช่าต่อก็ได้แค่ 3 เดือน เพราะผมให้เขา เช่าเป็นปี” ส่วนเรื่องของการบริหารการเงิน คุณสุเทพ

ยังคงมีวิสัยทัศน์ในการวางแผน “ผมเริ่มต้นคิดแบบ คนมี อ ายุ ว ่ า ถ้ า จะให้ มั่ น คงที่ สุ ด ก็ ค งต้ อ งเป็ น การ ฝากธนาคารหรือไม่ก็ซื้อที่ดิน ที่ผ่านมาผมเป็นลูกค้า หุ้นกู้ของปูนซิเมนต์ไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 ซึ่ง ตอนนีก้ เ็ ป็นเวลา 10 กว่าปีแล้ว ผมฝากให้เขาช่วยดูแล เอาเงินไปลงทุนให้ แล้วผมก็ได้ผลก�ำไร ผมว่าผูบ้ ริหาร ปูนซิเมนต์ไทยเก่ง มีวิธีการท�ำงานโปร่งใส ผมเชื่อถือ แผนส�ำหรับก้าวต่อไป ดังนั้น เมื่อก้าวเข้าสู่วัย 73 ปี คุณสุเทพจึงมีความคิด ปูนซิเมนต์ไทยว่าอนาคตดี เพราะมีความมัน่ คง พูดง่ายๆ อยากพักเรื่องธุรกิจและให้เวลากับตัวเองได้พักผ่อนบ้าง “มาถึง ว่าฝากแล้วนอนหลับ ไม่ใช่ฝากแล้วกลางคืนมานอน ตอนนี้แล้ว ผมก็มองว่าอายุมากขึ้นทุกปี ท�ำงานใช้สมองเยอะ ฝันร้าย ผมไม่เอา” คุณสุเทพกล่าวสรุปอย่างอารมณ์ดี

เกินไปแล้วไม่คมุ้ เดีย๋ วเราจะได้แต่หาแต่ไม่มโี อกาสได้ใช้ ดังนัน้ เวลาที่ เ หลื อ ผมก็ อ ยากให้ สุ ข ภาพแข็ ง แรง มี พ รรคพวกไป ออกก�ำลัง ไปตีกอล์ฟ มีมากก็กนิ มาก มีนอ้ ยก็กนิ น้อย จะกินมาก ได้สักเท่าไร อิ่มแล้วก็ต้องอิ่ม “ผมคิดว่าอยากจะหาคนมาเช่าโกดัง เนื้อที่ทั้งหมด ผมมี 12 ไร่ ส่วนโกดังประมาณ 5 ไร่ ผมก็อยากให้เขาเช่า คือถ้าเรา จะยังค้าเมล็ดกาแฟต่อก็ทำ� ได้ เพราะพืน้ ทีเ่ ยอะเก็บได้เป็นแสนๆ

Money Tips

เรื่อง : ทีมวิจัยสายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย

นับถอยหลัง...

การคุ้มครองเงินฝากเต็มจ�ำนวน วันที่ 11 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ นับเป็นช่วงเวลา การเปลี่ยนผ่านที่ส�ำคัญของระบบการเงินของไทย เพราะเหลือเวลาอีกไม่ถงึ 1 เดือนทีก่ ารคุม้ ครองเงินฝาก แบบเต็ ม จ� ำ นวนของธนาคารพาณิ ช ย์ จ ะสิ้ น สุ ด ลง โดยสถาบันคุ้มครองเงินฝากจะเริ่มทยอยปรับลดการ คุ้มครองเงินฝากเหลือวงเงินคุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาทต่อบัญชีตอ่ สถาบันการเงิน และลดวงเงิน คุ้มครองสูงสุดเหลือ 1 ล้านบาทต่อบัญชีต่อสถาบัน การเงินในวันที่ 11 สิงหาคม 2555 หรือในอีก 1 ปี ข้ า งหน้ า แน่ น อนว่ า ภายหลั ง จาก พ.ร.บ.สถาบั น คุ ้ ม ครองเงิ น ฝากมี ผ ลบั ง คั บ ใช้ ย ่ อ มส่ ง ผลกระทบ อย่างมีนัยส�ำคัญต่อทั้งผู้ฝากเงิน รวมไปถึงสถาบัน การเงิ น ในแง่ ข องการปรั บ ตั ว เพื่ อ รั บ มื อ กั บ ความ เปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นดังกล่าว

ตารางที่ 1 : วงเงินคุ้มครองเงินฝาก ปีที่ 1 2 3 4 5

ท�ำความเข้าใจ พ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก

ในช่วงที่ผ่านมา การฝากเงินไว้กับธนาคารพาณิชย์ นับเป็นทางเลือกในล�ำดับต้นๆ ส�ำหรับผู้มีเงินออม เนื่องจาก ความสะดวกและมีความมั่นใจว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ฝาก ไว้กับธนาคารจะได้รับคืนกลับมาเต็มจ�ำนวน สิ่งที่เกิดขึ้นจึง ไม่ได้สะท้อนถึงประสิทธิภาพที่แท้จริง เพราะผู้ฝากจะไม่ได้ มีการวิเคราะห์ถึงความเสี่ยงขององค์กร ขณะที่สถาบันการเงิน ขาดการพัฒนาประสิทธิภาพในการด�ำเนินการ ซึ่งในท้ายที่สุด ย่อมสร้างภาระทางการเงินแก่ภาครัฐ และเป็นเหตุผลให้ใน ช่วงที่ผ่านมาทางการจึงมีความพยายามอย่างต่อเนื่องในการ ผลักดันกฎหมายเพื่อลดการคุ้มครองเงินฝากแบบเต็มจ�ำนวน ไปสูก่ ารคุม้ ครองเงินฝากภายใต้วงเงินทีก่ ำ� หนด เพือ่ ให้ผฝู้ ากเงิน มีการปรับตัว และยังเป็นแนวทางที่จะกระตุ้นให้สถาบันการเงิน มีการพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันมากยิง่ ขึน้ โดยมีรายละเอียด การให้ความคุ้มครองดังต่อไปนี้

ระยะเวลา 11 ส.ค. 51 - 10 ส.ค. 52 11 ส.ค. 52 - 10 ส.ค. 53 11 ส.ค. 53 - 10 ส.ค. 54 11 ส.ค. 54 - 10 ส.ค. 55 11 ส.ค. 55 - เป็นต้นไป

จ�ำนวนเงินที่คุ้มครอง เต็มจ�ำนวน เต็มจ�ำนวน เต็มจ�ำนวน ไม่เกิน 50 ล้านบาท ไม่เกิน 1 ล้านบาท ที่มา: สถาบันคุ้มครองเงินฝาก (www.dpa.or.th)

Money Tips

ธนาคารพาณิชย์...แข่งขันเพื่อรักษาฐานลูกค้า

ในระยะต่อไป การด�ำเนินธุรกิจของธนาคารพาณิชย์ จะมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก โดยเฉพาะภาพการแข่งขัน ที่จะมีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งการแข่งขันกันในระบบธนาคาร พาณิชย์และการแข่งขันกับธุรกิจการเงินอืน่ ๆ เนือ่ งจากทางเลือก ของผู้มีเงินออมจะมีความหลากหลายมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการ ลงทุนในตลาดตราสารหนี้ เช่น พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้บริษัท เอกชน หรือการลงทุนในตลาดตราสารทุน เช่น การลงทุนหุน้ ใน ตลาดหลักทรัพย์ ตราสารอนุพนั ธ์ตา่ งๆ นอกจากนีย้ งั มีการลงทุน ในสินทรัพย์โภคภัณฑ์ อาทิ น�้ำมัน ทองค�ำ และโลหะเงิน รวมถึง ธุ ร กิ จ กองทุ น รวมและกองทุ น ส่ ว นบุ ค คลที่ ก� ำ ลั ง ได้ รั บ ความ สนใจจากกลุ่มลูกค้ามากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ เกิดขึ้นในทางหนึ่งจะส่งผลในเชิงบวกต่อธนาคารพาณิชย์ในแง่ ของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และสร้างโอกาสทางธุรกิจแก่ธนาคาร พาณิชย์ในการประกอบธุรกิจในรูปแบบ Universal Banking ได้ มากขึ้น

ผู้ฝากเงิน...เตรียมตัวบริหารเงินออม

แน่นอนว่า การเปลีย่ นแปลงทีเ่ กิดขึน้ ย่อมส่งผลกระทบ อย่างมีนัยส�ำคัญต่อผู้ฝากเงิน โดยเฉพาะประชาชนที่มีเงินออม มากกว่า 50 ล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อศึกษาฐานข้อมูลบัญชีเงินฝาก ในระบบธนาคารพาณิ ช ย์ ไ ทยที่ มี ก ารจั ด จ� ำ แนกตามวงเงิ น ที่รับฝาก (ตารางที่ 2) พบว่า ในแง่ของจ�ำนวนบัญชีเงินฝาก การลดความคุ้มครองเงินฝากลงเหลือ 50 ล้านบาทต่อบัญชี ต่อธนาคารในเดือนสิงหาคม 2554 นี้ จะส่งผลกระทบต่อผู้มี เงินออมในขอบเขตที่จ�ำกัด เนื่องจากบัญชีเงินฝากที่ไม่ได้รับ การคุ้มครองมีอยู่เพียง 19,272 บัญชี หรือคิดเป็นสัดส่วนเพียง ร้อยละ 0.11 ของจ�ำนวนบัญชีเงินฝากทั้งระบบ แต่ผลกระทบ จะเพิม่ ขึน้ หากมองในมิตขิ องวงเงินทีไ่ ด้รบั การคุม้ ครอง เนือ่ งจาก บัญชีเงินฝากที่ไม่ได้รับการคุ้มครองจะมีวงเงินรวมสูงถึง 3.59 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนราวร้อยละ 23.72 ของเงินฝาก ในระบบธนาคารพาณิชย์

รูปที่ 1 : จ�ำนวนบัญชีกองทุนในอุตสาหกรรมจัดการลงทุน % 8.0

จ�ำนวนบัญชีกองทุนต่อจ�ำนวนบัญชีเงินฝาก

7.0

จ�ำนวนบัญชีกองทุนต่อจ�ำนวนประชากร

6.0 5.0 4.0 3.0 2.0

2553

2552

2551

2550

2549

2548

2547

2546

2545

2544

2543

2542

0.0

2541

1.0 2540

ที่มา: สมาคมบริษัทจัดการลงทุน (www.aimc.or.th)

ตารางที่ 2 : เงินฝากของธนาคารพาณิชย์แยกตามวงเงินรับฝาก ณ เดือนมีนาคม 2554 เงินฝาก < 1 ล้านบาท 1 ล้านบาท < เงินฝาก < 50 ล้านบาท จ�ำนวนบัญชี 155,737,680 1,926,890 สัดส่วน (%) (98.77) (1.22) วงเงิน (ล้านบาท) 4,472,090 7,087,664 สัดส่วน (%) (29.51) (46.77)

เงินฝาก > 50 ล้านบาท 19,272 (0.11) 3,594,257 (23.72) ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย

อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่า ผู้ที่มีบัญชีเงินฝากใน วงเงินมากกว่า 50 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนใหญ่น่าจะเป็นบุคคล ที่มีการบริหารจัดการทางการเงินหรือมีการวางแผนทางการเงิน ที่ดีในระดับหนึ่ง รวมทั้งเป็นกลุ่มลูกค้าที่ได้รับการดูแลอย่าง ใกล้ชดิ จากสถาบันการเงินทีไ่ ว้วางใจ จึงเชือ่ ว่าการปรับลดวงเงิน คุม้ ครองเงินฝากน่าจะไม่สง่ ผลกระทบต่อผูอ้ อมในกลุม่ นีม้ ากนัก จึงคาดว่าการบังคับใช้กฎหมายจะไม่สร้างความตื่นตระหนก หรือก่อให้เกิดปัญหาการโยกย้ายเงินฝากในระดับทีส่ ร้างปัญหา ให้แก่ระบบสถาบันการเงิน

จากปัจจัยแวดล้อมทางธุรกิจทีเ่ ปลีย่ นแปลงไป ท�ำให้ทุกภาคส่วนในระบบการเงินของไทยต้องมีการ ปรับตัวเพือ่ ให้สามารถรับมือกับสิง่ ทีจ่ ะเกิดขึน้ ในอนาคต ซึ่งทางด้านผู้มีเงินออม มาตรการดังกล่าวไม่เพียง กระตุน้ ให้ผอู้ อมมีความใส่ใจและแสวงหาความรูเ้ กีย่ วกับ ผลิตภัณฑ์ทางการเงินมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาส ทีจ่ ะได้รบั ผลตอบแทนทีส่ งู ขึน้ หากมีการจัดสรรเงินทุน ได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในภาวะที่อัตราดอกเบี้ย ในระบบการเงินในปัจจุบันก� ำลังอยู่ในทิศทางขาขึ้น ย่อมเป็นจังหวะของผู้มีเงินออมในการจัดสรรเงินทุน ของตนไปสู่แหล่งลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจ ได้มากยิ่งขึ้น

Cover Story

เรื่อง : จักรวาล

แบบนี้ไม่นับว่าเป็นการสะสม แต่ถ้าถูกจัดเก็บเป็นหมวดหมู่ โดยไม่ว่าจะใช้เกณฑ์ในด้านใด นั่นจึงจะเรียกว่าเป็นการสะสม (Collecting)

The World of Collector

โลกใบเล็กของนักสะสม

หนึง่ ในกิจกรรมทีค่ นเรานิยมท�ำกันในเวลาว่าง มีมากมายหลากหลาย อาทิ การเล่นกีฬา ดูภาพยนตร์ เล่นดนตรี ฟังเพลง ดูโทรทัศน์ ปลูกต้นไม้ ท่องเที่ยว ฯลฯ แต่ยังมีกิจกรรมในยามว่างอยู่อีกประเภทหนึ่ง ที่หลายๆ คนนิยมท�ำ ถึงขัน้ เป็นงานอดิเรก กิจกรรมที่ ผสานเอาการพักผ่อนบวกกับความชอบส่วนตัวเข้าไป ด้วยกัน นั่นคือ “การสะสม”

คอลเล็คชั่นของตนให้สมบูรณ์ การเก็บสะสมถือว่าช่วยให้วัตถุ เกิดความโดดเด่น และเป็นการลดทอนการเป็นสินค้าธรรมดา ทั่วไป เพราะเมื่อวัตถุถูกเรียกใหม่ว่าของสะสมแล้ว การเป็น สินค้าที่ซื้อมาขายไปแบบเดิมของมันจะยุติลงทันที ไม่สามารถ แลกเปลี่ยนกับสิ่งที่มีมูลค่าเท่ากันทางเศรษฐกิจได้อีกต่อไป เพราะมูลค่าของมันได้ไปผูกติดกับคอลเล็คชัน่ ทัง้ หมดทีน่ กั สะสม สร้างขึ้น เชื่อว่ามนุษย์ทุกๆ คนในโลกนี้จะต้องมี “ของสะสม” ถ้าการสะสมเป็นการบริโภค ก็คงเป็นการบริโภคที่ อย่างน้อยทีส่ ดุ หนึง่ อย่างในชีวติ โลกใบเล็กของนักสะสมคนหนึง่ พิเศษกว่าการบริโภคในแบบอื่นๆ เพราะค�ำว่าบริโภคหมายถึง อาจเป็นอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของเล็กๆ อย่างพวกแสตมป์ การใช้ให้หมดไป แต่ในทางกลับกัน การสะสมจัดเป็นการเก็บ เหรียญ พระเครื่อง ไฟแช็ก นาฬิกา หนังสือโบราณ แผ่นเสียง (Keeping) และการรักษา (Preserving) ไล่เรียงไปจนถึงของสะสมใหญ่ๆ อย่างมอเตอร์ไซค์ รถยนต์ นิยามโดยสรุปของการสะสมจึงมาจาก “การได้มาและ ที่ดิน ฯลฯ การครอบครองวัตถุที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ผ่านการ คัดสรรและความหลงใหล เสริมให้วัตถุมีประโยชน์มากกว่าการ นิยามการสะสม ใช้สอยเดิม เพิ่มวัตถุนั้นให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชุดวัตถุ เพื่อ มีหลายคนเคยกล่าวว่า “การสะสมคือการบริโภคแบบ สร้างขึ้นเป็นคอลเล็คชั่น” ของอย่างหนึ่งจะถือว่าเป็นของสะสม หนึง่ ” เพราะนักสะสมมีความสุขทีไ่ ด้แสวงหาสิง่ ของเพือ่ เติมเต็ม หรือไม่นั้นดูได้จาก ถ้าของเหล่านี้ถูกหยิบใช้งานแบบธรรมดาๆ

มักถูกมองว่าสะสมเพียงแค่ “งานฝีมือกระจุกกระจิก” และพวก ของสวยงาม ในขณะที่ของสะสมของผู้ชายจะเป็นพวกเครื่องใช้ อาวุธ หรือของที่มีกลไกต่างๆ

มนุษย์เริ่มสนใจ “การสะสม” เมื่อนานมาแล้ว

สะสมไปท�ำไม สะสมแล้วได้อะไร มีหลักฐานว่าการสะสมเกิดขึ้นก่อนยุคประวัติศาสตร์ ค�ำถามที่ว่า “ท�ำไมคนเราจึงเลือกสะสมสิ่งของบาง

เสียอีก โดยพบการสะสมก้อนกรวดเมื่อ 8,000 ปีที่แล้วในถ�้ำ ประเทศฝรัง่ เศส นอกจากนีย้ งั พบของสะสมอืน่ ๆ อีก เช่น ฟอสซิล ควอร์ตซ์ หอยทะเล เป็นต้น การสะสมเกิ ด ขึ้ น แพร่ ห ลายอย่ า งต่ อ เนื่ อ งในช่ ว ง ศตวรรษที่ 4 หลังจากอาณาจักรกรีกถูกรวมเป็นปึกแผ่นโดย พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช มีการน�ำเข้าสินค้าฟุ่มเฟือยจาก ฝัง่ ตะวันออกโดยเฉพาะจากเปอร์เซีย อาทิ พรม ผ้าปัก เครือ่ งแขวน ผนัง เครื่องปั้นดินเผา ภาพเขียน และอื่นๆ จากนัน้ เมือ่ อาณาจักรโรมันขึน้ มายิง่ ใหญ่ ความสนใจ ในการสะสมก็ เ ริ่ ม แพร่ ห ลายเข้ า มาสู ่ ก ลุ ่ ม เศรษฐี ช าวโรมั น ในช่วงนั้นผู้คนสามารถหาของสะสมได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น ของเก่า อัญมณี รูปปั้น หนังสือ เหรียญ เครื่องทองเหลือง พรม เครื่องประดับ เครื่องเงิน เฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ แต่ส�ำหรับยุคการสะสมที่เฟื่องฟูของคนธรรมดาทั่วไป เริ่มระหว่างศตวรรษที่ 16 - 17 ซึ่งเกิดขึ้นมากในแถบยุโรป จีน และญี่ปุ่น โดยประเทศดังกล่าวจะมีการเติบโตของการสะสม สัมพันธ์กับการเติบโตทางการค้า ส� ำ หรั บ ประเทศจี น และญี่ ปุ่ น มี ค วามนิ ย มในวั ต ถุ สะสมต่างจากฝั่งยุโรป นักสะสมจีนและญี่ปุ่นจะชอบชุดน�้ำชา หินฝนหมึก ม้วนภาพวาด ไม้หายาก ผ้า และเครื่องทองเหลือง โบราณ โดยความนิยมในการสะสมที่มากขึ้นยังคงกระจุกตัวอยู่ เพียงแค่กลุ่มชนชั้นสูง ส่วนในแถบยุโรปและอเมริกา การเติบโต ของการสะสมมีแนวโน้มที่เป็นผลมาจากการพัฒนาวัฒนธรรม ของการบริโภค บางคนเริ่มต้นสะสมของตั้งแต่วัยเด็ก พอเข้าสู่วัยรุ่น การสะสมจะเริม่ ลดน้อยลง และกิจกรรมการสะสมจะเกิดอีกครัง้ ในช่วงวัยกลางคน โดยเฉพาะในหมู่ผู้ชาย ซึ่งอาจสะท้อนถึง อ�ำนาจทางเศรษฐกิจที่มากกว่าผู้หญิง แต่ความแตกต่างในเพศ มักไม่ค่อยมีอิทธิพลมากนักต่อการสะสม แต่นักสะสมหญิง

อย่าง” นั่นอาจเป็นเพราะของบางอย่างมีสิ่งเฉพาะที่ไปเชื่อมโยง กับตัวของนักสะสม เช่น ชื่อเล่น อาชีพ หรือประสบการณ์ที่ เคยผ่านมา แต่ในบางครั้งการสะสมเริ่มจากการได้ “ของขวัญ” ที่ถูกใจ เมื่อเกิดความพอใจก็เริ่มอยากเก็บสะสมสิ่งเหล่านั้น มากขึ้น จึงเป็นจุดเริ่มของคอลเล็คชั่น ซึ่งประโยชน์ที่ได้จากการ สะสมคือ “ความรู้สึกถึงการมีอ�ำนาจและการเป็นผู้เชี่ยวชาญใน สิ่งของสะสมนั้นๆ” ก่อให้เกิดโลกส่วนตัวใบเล็ก สร้างความรู้สึก ถึงชัยชนะในการเก็บรวบรวมวัตถุทหี่ ายาก และยังเพิม่ ความรูส้ กึ ตื่นเต้นเมื่อได้พบวัตถุที่ต้องการในราคาที่สามารถต่อรองได้

Cover Story

ความรูแ้ ละความเชี่ยวชาญของนักสะสมยังเป็นแหล่ง ที่มาของสถานะภายในกลุ่มเพื่อนนักสะสมด้วยกัน เพราะการ รวบรวมจัดประเภทสิ่งของเป็นสิ่งที่สร้างความสนุกในตัวของ มันเอง ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจ ช่วยสร้างความเพลิดเพลิน ทางสังคม และให้ความรู้สึกของพวกพ้องเกิดขึ้นด้วย บางคน ถึงขนาดถูกยกให้ความส�ำคัญต่อวงการในด้านของสิ่งสะสม ประเภทนั้นๆ อย่างเช่น นักสะสมพระเครื่องบางคนก็ได้รับการ ยกย่องจากคนในวงการเดียวกันให้เป็น “เซียนพระ” เลยก็มี คอลเล็คชั่นอาจสะท้อนความโหยหาอดีต ความสนุก และอิสระในวัยเด็ก นักสะสมบางคนพยายามตามหาความ ส�ำราญที่สูญหายไปในวัยเด็ก เนื่องจากนักสะสมวัยผู้ใหญ่ มักอยูใ่ นช่วงเวลาทีล่ กู หลานแยกตัวออกไป พวกเขาจึงมีชอ่ งว่าง ทีจ่ ะเติมเต็มความเป็นครอบครัวทีเ่ คยมีกอ่ นหน้านี้ อีกทัง้ ยังมีเงิน เหลือมากพอที่จะอุทิศให้กับคอลเล็คชั่น และบางครั้งสมาชิกใน ครอบครัวก็เข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมการสะสมด้วย ถือว่า เป็นการใช้เวลาร่วมกันได้ดีอีกวิธีหนึ่ง และยังช่วยสร้างทายาท เพื่อส่งต่อคอลเล็คชั่นเหล่านั้นอีกด้วย เพราะนักสะสมบางคน ไม่ได้มองการสะสมเป็นแค่เพียงงานอดิเรกเท่านัน้ แต่หากยังมอง ว่าคอลเล็คชั่นเหล่านั้นคือการลงทุนในรูปแบบหนึ่ง เป็นเหมือน “บ้านส�ำคัญหลังการเกษียณ” หรือเป็นมรดกส่งต่อให้ลูกหลาน ต่อไป

สิ่งของทุกอย่างสามารถเปลี่ยนสภาพจาก ของธรรมดาไปเป็นของสะสมได้ ขึ้นอยู่กับคนคนนั้น ได้ให้ความรูส้ กึ นึกคิดกับวัตถุเหล่านัน้ ในแง่มมุ ไหน และ เมื่อใดก็ตามที่เราได้เปลี่ยนแง่มุมการมอง เพิ่มการ ถนอมรักษา และยังเฝ้าติดตามหาของสิง่ นัน้ มาเติมเต็ม คอลเล็คชัน่ ของเราให้ครบแล้ว เมือ่ นัน้ เราก็มคี วามสุข กับการสร้างโลกใบเล็กภายในพื้นที่ส่วนตัวของจิตใจ ได้อย่างเต็มสมบูรณ์เช่นกัน

ของสะสมแปลกๆ ที่คุณอาจไม่เคยรู้ นอกจากของสะสมทั่วๆ ไปที่ได้กล่าวมาแล้ว ยังมีคนอยู่อีก จ�ำนวนหนึ่งที่สะสมของแปลกๆ ที่คนทั่วไปอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่า จะมีคนสะสมของจ�ำพวกนี้อยู่ด้วย นี่คือตัวอย่างส่วนหนึ่ง • งวงช้างที่ตายแล้ว (ไทย) • ถุงอาเจียน (อเมริกา) • ส�ำลีจากสะดือเด็กแรกเกิด (ทั่วโลก) • ขนมปังปิ้ง (Toast Art) (นิวซีแลนด์) • กระดูกไก่ที่เหลือจากจานอาหาร (โมร็อกโก) • ตัวอย่างมนุษย์ประหลาดดอง (Pickled Punks) (ทั่วโลก) • ขนของผู้มีชื่อเสียง (Celebrity Hair) (อังกฤษ/อเมริกา/ญี่ปุ่น) • หัวหมูป่า (อินโดนีเซีย) • ผิวหนังของมนุษย์ที่มีรอยสัก (ญี่ปุ่น) • ภาพเอกซเรย์แปลกๆ (ทั่วโลก)

Focus

เรื่อง : พิมพิดา กาญจนเวทางค์ ภาพ : ศักยะ บุญเสมอ

เรียนอดีต

รู้อนาคต

คุณไพบูลย์ กนกวัฒนาวรรณ รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ป จ�ำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทสยามพารากอน รีเทล จ�ำกัด

Focus

แรกเริ่มเดิมที คุณไพบูลย์ กนกวัฒนาวรรณ มีความสนใจของแอนทีคเพียงเพื่อน�ำไปตกแต่งบ้าน จากวันนัน้ นับเป็นเวลานานกว่า 10 ปีแล้ว ที่เขายังคง หลงใหลในความสวยงามและประวั ติ ศ าสตร์ ที่ อ ยู ่ เบื้องหลังของแอนทีคเหล่านี้ จนได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งใน นักสะสมของแอนทีคระดับเอลิสต์ของประเทศไทย

และในโอกาสที่ ไ ด้ พู ด คุ ย กั น นี้ เ อง คุ ณ ไพบู ล ย์ กนกวัฒนาวรรณ รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จ�ำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพารากอน รีเทล จ�ำกัด ได้อธิบายให้เราเข้าใจถึงเหตุผล ที่ ท� ำ ให้ เ ขาสนใจสะสมของแอนที ค ว่ า นอกจากความสวย ดูสบายตาเมื่อได้เห็น ของแอนทีคยังมีที่มาที่ไปที่ท�ำให้ได้เรียนรู้ ถึ ง เรื่ อ งราวประวั ติศ าสตร์อีก มากมาย ผู้ที่ส นใจจึง สามารถ ท�ำความเข้าใจในสิง่ ต่างๆ รอบตัวได้ลกึ ซึง้ อีกทัง้ ยังสามารถน�ำมา เป็นบทเรียนปรับใช้ได้ในชีวิตจริงด้วย

มุมของการท�ำงาน

คุณไพบูลย์ท�ำงานให้กับบริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ป จ�ำกัด มาเป็นระยะเวลานานถึง 24 ปีแล้ว ตั้งแต่ห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์มเี พียงแค่ 2 สาขา กับพนักงาน 700 คน โดยมียอดขาย ราว 500 ล้านบาท จนมาทุกวันนี้ พนักงานมีมากกว่า 10,000 คน และยอดขายก็เพิ่มขึ้นถึง 50,000 ล้านบาท “ปัจจุบัน ผมดูแลงานในบริษัทเกือบทั้งหมด ยกเว้น บัญชีการเงิน” คุณไพบูลย์กล่าวถึงงานส่วนที่เขารับผิดชอบและ อธิบายว่า “แต่งานก็ไม่ยุ่งเท่าไร เพราะผมมีทีมงานเยอะ คือเรา สร้างทีมขึ้นมานานแล้ว ส่วนใหญ่ก็อยู่ด้วยกันมา 10 - 20 ปี ก็ท�ำงานกันทุกวัน คุยกันทุกวัน จนผู้ใต้บังคับบัญชาของผม เข้าใจคอนเซ็ปต์การท�ำงานอย่างชัดเจนในแบบที่ผมอยากจะ ให้เขาเข้าใจทุกคน ดังนั้นงานก็เลยไม่ค่อยมีปัญหา ไม่ยุ่งเท่าไร เพราะคุยกันค�ำเดียวเขาก็รู้เรื่อง แล้วก็จะไปสั่งงานต่อ” แม้วา่ จะจัดการระบบการท�ำงานจนเข้าทีด่ แี ล้ว แต่ดว้ ย งานที่มีจ�ำนวนมากมาย แน่นอนว่าคุณไพบูลย์มีเวลาพักผ่อน ไม่มากนัก ดังนัน้ เมือ่ ไรทีม่ เี วลา เขาก็มกั จะท�ำกิจกรรมเพือ่ ความ ผ่อนคลาย

Focus

“ผมชอบปลู กต้ น ไม้ เลี้ ยงปลา เลี้ ยงนก ตอนหลัง พอมีฐานะก็เริ่มเล่นแอนทีคบ้าง พระเครื่องบ้าง ซึ่งผมก็ชอบ พอๆ กันหมด แล้วแต่จังหวะ อย่างพระเครื่องผมก็ไม่ได้ดิ้นรน ตะเกียกตะกายไปหา ผมมีคนที่เป็นเซียนพระที่เขาหาของให้ เวลาที่ เ ขามี ข อง เขาจะมาน� ำ เสนอ แล้ ว ผมก็ จ ะดู ว ่ า ถู ก ใจ หรือเปล่า”

02 03

จากชามตราไก่ถึงเตาหลวง

บ่อยครัง้ ทีเ่ ราพบว่า จุดเริม่ ต้นเล็กๆ ทีถ่ กู ใจมักขยายตัว เติบใหญ่ในภายหลัง เช่นเดียวกับการเริม่ ต้นสนใจในของเก่าของ คุณไพบูลย์ “ตอนแรกๆ ทีเ่ ริม่ เก็บสะสม แน่นอนว่าไม่วา่ อะไรก็ตาม ที่ คุ ณ เพิ่ ง เริ่ ม คุ ณ ก็ จ ะยั ง ไม่ รู ้ เ รื่ อ งมากนั ก จากที่ ส ะสมชาม ก๋วยเตี๋ยวตราไก่ 300 บาท ซื้อตั้งไว้เก๋ๆ ที่บ้าน พอได้เข้าไปรู้จัก ของแอนทีค ตอนหลังก็กลายเป็นชามใบละ 5 แสน โอ่งคู่ละ 3 ล้าน ก็เริ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ แต่เราไม่ใช่คนรวย เราก็ต้องซื้อ ของที่มีคุณสมบัติ 3 ข้อ คือ 1. ต้องแท้ 2. สวย 3. นิยม หลักการ ง่ายๆ มีแค่สามอย่างนี้ ราคาของก็จะมีแต่ขึ้น เวลาที่เอาไปขาย คุณจะเป็นคนบอกราคา แต่ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง คนซื้อ ก็จะเป็นคนบอกราคา” คุณไพบูลย์แนะน�ำ เมื่อเราถามถึงงานแอนทีคที่เขาสนใจ คุณไพบูลย์ก็ได้ อธิบายว่า “แอนทีคก็มีหลายกลุ่มนะ อย่างผมชอบเล่นเครื่อง กระเบื้องจีน เฟอร์นิเจอร์ไม้จีน ต้องอธิบายก่อนเลยว่า เครื่อง กระเบือ้ งแท้มาจากประเทศจีน แต่ทเี่ ขาเล่นกันก็จะมีหลายกลุม่ คือจะมีทงั้ export ware จากจีน ของทีเ่ ล่นกันในจีน ของที่ export เข้ามาเมืองไทย และของที่สั่งจากประเทศไทย “นอกจากนี้จะมีระดับการให้ความส�ำคัญของเครื่อง กระเบื้อง เช่น ชาวบ้านใช้ ขุนนางใช้ และที่แพงสุดคือ เตาหลวง เป็น royal ware เจ้าเป็นคนใช้ ผมขอยกตัวอย่างในประเทศไทย คือในอดีตเขาจะมีการเลือกช่างระดับอาจารย์มาท�ำเตาหลวง แล้วจะมีการท�ำเครื่องหมายไว้ ราคาก็จะแพงมาก อย่างเช่น เครื่องถ้วยชุดน�้ำชาจักรี เป็นเครื่องถ้วยน�้ำชาของรัชกาลที่ 5 ที่สั่งจากประเทศฝรั่งเศสเข้ามาเพื่อแจกให้แก่ขุนนางทั้งหลาย ที่ก้นถ้วยจะมีการท�ำเครื่องหมาย จปร แต่ก่อนเล่นกันตั้งแต่

04 01 แจกันยุคเคี่ยนหลง ช่วงปี ค.ศ. 1736 - 1795 02 - 03 ตัวอย่างเครื่องเคลือบยุคเคี่ยนหลง 04 Sotheby’s บริษัทจัดการประมูลงานศิลปะ สาขาลอนดอน

ชุดหนึง่ 200,000 - 300,000 บาท แต่วนั นีถ้ า้ มีครบ 7 สี จะมีราคา ถึง 15 ล้านบาท และคนที่มีจะยอมขายหรือเปล่าก็ไม่รู้” “งานที่ผมสนใจคือเตาหลวงของจีน” คุณไพบูลย์เฉลย ในที่สุด “เพราะหายาก ถ้าอยากได้เป็นเรื่องเป็นราว ต้องไป ประมูลที่ซอเทอบีส์ (Sotheby’s) การจะสนใจงานพวกนี้เราต้อง ศึกษาถึงราชวงศ์ก่อน เพราะในแต่ละราชวงศ์ก็จะมีกษัตริย์ อีกหลายพระองค์ อย่างงานกระเบื้องในราชวงศ์เช็งที่นิยมมาก คือ ยุคของกษัตริย์เคี่ยนหลงกับกษัตริย์คังฮี โดยในยุคคังฮีเป็น ยุคที่กษัตริย์ให้ความสนใจในงานกระเบื้อง คือ ไม่ว่ายุคไหน ถ้ากษัตริย์สนใจงานกระเบื้อง ช่างที่มีฝีมือก็จะถูกกวาดต้อนมา อยูใ่ นวัง และพัฒนางานทีม่ ลี กั ษณะทีก่ ษัตริยพ์ ระองค์นนั้ ชืน่ ชอบ อย่างยุคคังฮี สีเหลืองจะเป็นเหลืองมะนาว ส่วนยุคเคี่ยนหลง ลักษณะของงานที่โดดเด่น เช่น แจกันมีหู และเนื้อกระเบื้องใน ยุคเคีย่ นหลงนีจ้ ะท�ำได้ดที สี่ ดุ เพราะงานจะละเอียด เป็นราชวงศ์ ที่ครองราชย์นานและสงบสุข “งานพวกนีถ้ า้ เป็นเตาหลวงจริง ชามใบหนึง่ มีราคาเป็น ล้านบาท หรือถ้าแจกันใบใหญ่และเป็นเตาหลวงจะราคา 50 - 60

ล้านบาทขึ้นไป และถ้าเป็นงานชิ้นที่เรียกว่าเป็นมาสเตอร์พีซ ราคาเป็นพันล้านทีเดียว”

สุขจากการสะสม

เครือ่ งกระเบือ้ งชิน้ ทีค่ ณ ุ ไพบูลย์เป็นเจ้าของ และชืน่ ชอบ ที่ สุ ด คื อ ชามเคี่ ย นหลง 2 ใบ ที่ เ จ้ า ของเดิ ม ประมู ล มาจาก ซอเทอบีส์ “ผมซื้อต่อเขามาใบละ 250,000 บาท เป็นชามเตา หลวง ซึง่ จะหาของแท้สกั ใบยากมาก แล้วครามเคีย่ นหลงก็ถอื ว่า เป็นครามที่ดีที่สุดของประวัติศาสตร์ จึงหมายความว่าชามคู่นี้มี เนื้อกระเบื้องดีที่สุด ครามดีที่สุด แล้วก็เป็นงานเตาหลวงที่ฝีมือ สุดยอด ลองคิดดูว่าชามนี้มีอายุ 300 ปีแล้ว แต่ยังสวยเนี้ยบ อยู่เลย ยกขึ้นดูเมื่อไรก็สวย มหัศจรรย์จริงๆ” และในขณะที่คุณ ไพบูลย์ก�ำลังอธิบายนี้เอง เราสัมผัสได้ถึงความสุขที่เจือปนอยู่ ในน�้ำเสียงของเขา “ที่ผมหลงใหลในของแอนทีคก็เพราะความสวย ไม่ว่า ใครได้เห็นของสวยๆ งามๆ ก็สบายตาสบายใจ ส่วนเรื่องความ

Focus

“

นอกจากนั้นแล้ว ถ้าคุณมีของ 1 ชิ้น ราคา 1 แสนบาท แต่ถ้ามีคู่กัน 2 ชิ้น ราคาจะขึ้นเป็น 4 แสนบาทเลย เพราะ คนจีนถือว่าโชคต้องมาคู่ แล้วคุณก็จะไม่รู้ด้วยว่าคู่ของมัน อยู่ที่ไหน อาจจะเจอโดยบังเอิญก็ได้

”

ท้าทายในการตามหาของชิ้นที่ต้องการก็มีส่วนท�ำให้ชอบนะ แต่เราไม่มีทางตามล่าได้ เพราะเราไม่รู้หรอกว่าของจะอยู่ที่ไหน ในโลก ถ้าได้มาก็ถือว่าเป็นโชค “ของแอนที ค ผมว่ า ต้ อ งเป็ น คนที่ มี ว าสนาถึ ง จะได้ ครอบครอง ไม่มีวาสนาไม่มีทาง ถ้าชาวบ้านก็ค่อยๆ สะสมกัน ทีละชิ้น จับมาเข้าคู่กัน แต่ถ้ามีวาสนาก็จะได้สิ่งที่ดูดี คุณลอง สังเกตดูว่าบ้านของเศรษฐีในต่างประเทศจะต้องมี chinaware หรือดีไซเนอร์ระดับโลก คาร์ล ลาเกอร์เฟลด์ (Karl Lagerfeld), ราล์ฟ ลอเรน (Ralph Lauren), อีฟ แซงค์ โลรองต์ (Yves Saint Laurent) คนเหล่านี้เป็นคนที่มีรสนิยมก็จะมีของแอนทีคไว้ ที่บ้าน “นอกจากนัน้ แล้ว ถ้าคุณมีของ 1 ชิน้ ราคา 1 แสนบาท แต่ถ้ามีคู่กัน 2 ชิ้น ราคาจะขึ้นเป็น 4 แสนบาทเลย เพราะคนจีน ถือว่าโชคต้องมาคู่ แล้วคุณก็จะไม่รู้ด้วยว่าคู่ของมันอยู่ที่ไหน อาจจะเจอโดยบังเอิญก็ได้ ผมมีของที่บังเอิญมาเจอคู่ที่บ้านเรา หลายคู่ด้วยนะ เป็นความตื่นเต้นอย่างหนึ่ง”

“ถ้าเป็นคนที่มีเงินมากๆ ผมแนะน�ำให้ไปที่ซอเทอบีส์ เลย ไม่ว่าจะเป็นที่ฮ่องกงหรือลอนดอน เขาจะมีตารางว่าปีหนึ่ง จะมีอะไร แต่เทคนิคในการประมูลต้องมีวธิ ี เพราะไม่ใช่วา่ ทุกชิน้ จะแท้นะครับ เราก็ต้องมีวิธีสังเกตว่าคนไหนเป็นเซียน แล้วคอย ดู คอยประมูลตามเขาไป อย่างเมื่อก่อนมีพระองค์หนึ่งเป็น กระเบือ้ งถูกน�ำมาประมูล ราคาเริม่ ต้นที่ 30,000 บาท แต่มคี นชอบ หลายคน ผมตั้งเป้าไว้ว่าจะสู้ถึง 300,000 บาท ปรากฏว่าเขายก ไล่กันไปจนถึงล้านบาท เพราะเขาว่าเป็นของยุคเคี่ยนหลง แต่ เรามองไม่ทะลุก็คิดว่าสู้ 300,000 ก็ใจถึงแล้ว ก็ไม่ได้มาครับ” ส่ ว นในประเทศไทย คุ ณ ไพบู ล ย์ ก็ แ นะน� ำ ให้ ไ ปที่ ศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ “ทุกๆ เสาร์ต้นเดือน ที่นี่จะมีการประมูลเล็ก แต่ถ้าเป็น เดือนสิงหาคมกับธันวาคมจะมีการประมูลใหญ่ มักจะมีของดีๆ เข้ามา ก็จะสนุก ดังนั้นถ้าคุณเบื่อของสะสมชิ้นไหน คุณก็เอา เข้าไปประมูลได้”

ค�ำแนะน�ำจากผู้มีประสบการณ์

ดังที่ได้เกริ่นไว้ในตอนต้นถึงข้อดีของการสะสมของ แอนทีคคือ นอกจากจะดูสวยงามแล้ว ที่มาของของแต่ละชิ้น ก็มักให้แง่มุมทางความคิดไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม

คุณไพบูลย์มีค�ำแนะน�ำส�ำหรับคนที่สนใจสะสมของ แอนทีคว่า

ผลของการสะสม

“ถ้ า คุ ณ เล่ น ของเก่ า จะท� ำ ให้ คุ ณ รู ้ จั ก ประวัติศาสตร์มากขึ้น อย่างเช่น ในอดีตประเทศไทย ต้องส่งเครือ่ งราชบรรณาการ เช่น เครือ่ งเทศ ไปประเทศ จีน และทางจีนก็จะส่งเครือ่ งกระเบือ้ งมา ซึง่ ในขณะนัน้ ถือว่าเป็นสิ่งที่มีค่ามาก ไม่มีที่ไหนในโลกท�ำได้ ยุโรป เพิ่งท�ำได้ไม่ถึงร้อยปี แต่จีนท�ำได้มา 600 ปีแล้ว” คุณไพบูลย์กล่าว “คนสมัยใหม่มักจะกระโดดไปยังบทสรุป โดยไม่รู้เหตุผลหรือที่มา ถ้าเราเรียนรู้เรื่องแอนทีค เรา ก็จะเรียนรูอ้ ะไรในโลกนีอ้ กี เยอะ ว่าในโลกนีม้ ที มี่ าทีไ่ ป อย่างไร อย่างประเทศไทยเราเองก็เรียนรู้วัฒนธรรม หลายอย่างจากต่างชาติ การท�ำสัญลักษณ์ไว้ทกี่ น้ ถ้วย ชามก็มาจากเมืองจีน และนับเป็นการเลียนที่ถูกต้อง ไม่ใช่เป็นเรื่องน่าอาย เราต้องเรียนรู้จากประเทศที่มี วัฒนธรรมแล้ว เป็นเรื่องธรรมดา ผมเชื่อว่า C&D (Copy & Development) ไม่ใช่เรื่องน่าอาย เหมือน เรามีทางด่วนให้ขึ้น จะมัวรถติดอยู่ท�ำไม” คุณไพบูลย์ กล่าวทิ้งท้าย

Techno for Life

เรื่อง : ชวิศ เชษฐชัยยันต์

เทคโนโลยีในทุกวันนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการใช้ชีวิตของมนุษย์ให้สะดวกสบายขึ้น Techno for Life ฉบับนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 4 เทคโนโลยีที่จะมาช่วยอ�ำนวยความสะดวกให้แก่เรา แถมยังช่วยโลกได้ อีกต่างหาก Transparent Toaster เครื่องปิ้งขนมปังกระจกใส

Hidden Wall Safe ปลั๊กไฟตู้นิรภัย “Hidden Wall Safe” จัดเป็นนวัตกรรมพรางตาโจร ขโมยทีแ่ ยบยลอย่างแท้จริง ด้วยรูปลักษณ์ของปลัก๊ ไฟทีม่ าพร้อม ตูเ้ ซฟนิรภัยทีแ่ สนแนบเนียนตัวนี้ จะท�ำให้ทา่ นทัง้ หลายสบายใจ ขึน้ เพราะมันจะช่วยปกป้องทรัพย์สนิ มีคา่ ของท่านจากผูป้ ระสงค์ ร้าย แล้วใครจะไปรู้ล่ะว่ามันคือตู้เซฟ ไม่ใช่แค่ปลั๊กไฟธรรมดา จากสถิตแิ ล้ว โจรขโมยส่วนใหญ่จะใช้เวลาไม่เกิน 6 นาที ภายในบ้านของเหยือ่ และจะใช้เวลาทีม่ ใี นการตรวจสอบสถานที่ ที่ ชั ด เจนที่ สุ ด ส� ำ หรั บ สิ่ ง ของมี ค ่ า เท่ า นั้ น ซึ่ ง แน่ น อนว่ า โจร ร้อยทั้งร้อยคงไม่มองมาที่ปลั๊กไฟติดผนังธรรมดาๆ แบบนี้อย่าง แน่นอน ท�ำให้ “ปลั๊กไฟตู้นิรภัย” นี้ช่วยให้ท่ านสามารถซ่อน สิง่ ของมีคา่ ได้อย่างไร้ความกังวลใจ มาพร้อมกับการติดตัง้ ทีแ่ สน ง่ายดาย ด้วยราคาคุม้ กันภัยเพียงแค่ 7.47 เหรียญสหรัฐ หรือราว 240 บาทเท่านัน้ ดูรายละเอียดเพิม่ เติมได้ที่ www.amazon.com

ขนมปังไหม้! หลายๆ คนคงเคยอารมณ์เสียกับการ ขูดรอยไหม้ออกจากขนมปังปิง้ หรือไม่กต็ อ้ งโยนขนมปังแผ่นนัน้ ทิ้งขยะไปเลย เพราะโดยปกติเวลาเราปิ้งขนมปัง เราจะไม่ สามารถเห็นได้ เลยว่ า ขนมปังของเราเกรียมมากน้อยขนาด ไหนแล้ว แต่ ใ นวั น นี้ ป ั ญ หาเหล่ า นั้ น จะหมดไปด้ ว ยเครื่ อ ง Transparent Toaster เครื่องปิ้งขนมปังแบบกระจกใสที่ผนวก การท�ำงานเข้ากับเทคโนโลยีแก้วใสท�ำความร้อน (Transparent Heating Glass) สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับการปิ้งด้วย ความโปร่งใสที่จะท�ำให้เราสามารถมองเห็นขนมปังในขณะที่ ก�ำลังปิง้ ได้ และสามารถน�ำขนมปังออกมาได้ทนั ที เมือ่ สีขนมปัง อยู่ในระดับที่คุณต้องการ ช่วยให้คุณได้ขนมปังที่กรอบอร่อย โดยที่เราไม่ต้องเห็นเหล็กเส้นสีแดงๆ ที่ไม่น่าดู แถมยังร้อน อีกด้วย สนนราคาเครื่องปิ้งไฮเทคนี้อยู่ที่ 59 เหรียญสหรัฐ หรือ ราว 1,800 บาท ดูรายละเอียดเพิม่ เติมได้ที่ www.kancept.com

Bio Fresh Air Purifier เครื่องฟอกอากาศไบโอ อากาศที่สะอาดบริสุทธิ์คือสิ่งที่คนในสังคมเมืองต่าง โหยหา แต่จะให้ช่วยด้วยการปลูกต้นไม้ให้เต็มพื้นที่ก็คงจะเป็น ไปได้ยาก เราขอแนะน�ำนวัตกรรมที่ช่วยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ ได้แม้ในพื้นที่เล็กๆ ด้วย “เครื่องฟอกอากาศไบโอ” จากการทดลองของ Le Laboratoire Paris พบว่า ด้วยประสิทธิภาพของเครื่องฟอกอากาศไบโอชนิดนี้ สามารถ ช่วยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ได้เร็วกว่าเครื่องฟอกอากาศทั่วไปถึง 10 เท่า โดยเฉพาะกับสารพิษที่ระเหยจากสีทาบ้านและฝุ่นที่ติด อยู่ตามพรมปูพื้น ด้วยการท�ำงานที่มีกลไกที่ไม่ซับซ้อน เพียงแค่ คุณไปหาซื้อต้นไม้ประเภทต้นเลือดมังกร เศรษฐีเรือนใน เดหลี หรือว่านหางจระเข้ มาปลูกไว้ในเครื่องฟอกอากาศขนาดจิ๋วนี้ จากนั้นก็ปล่อยให้ธรรมชาติดูดซับสารพิษ เพื่อฟอกอากาศเสีย ให้บริสุทธิ์ ช่วยเสริมสร้างนิสัยรักการปลูก แถมยังฟอกปอดให้ สะอาดขึ้นอีกนานเท่านาน ด้วยราคาค่าอากาศบริสุทธิ์อยู่ที่ 200 เหรียญสหรัฐ หรือราว 6,000 บาท ซึง่ หากจะเปรียบเทียบกับค่ารักษาพยาบาล ส�ำหรับโรคภัยต่างๆ ที่จะตามมาพร้อมอากาศที่เป็นพิษแล้ว ก็นบั ว่าคุม้ ค่ากับการลงทุน ผูส้ นใจสามารถคลิกไปดูรายละเอียด ได้ที่ www.coolest-gadgets.com

Vac from the Sea เครื่องดูดฝุ่นท�ำจากขยะใต้ทะเล ชวนคุณออกก�ำลังกายด้วยการท�ำความสะอาดบ้าน ด้วย “เครื่องดูดฝุ่นที่ท�ำจากขยะใต้ทะเล” นอกจากจะท�ำให้ บ้านสะอาดแล้ว ยังสร้างความตระหนักถึงมลภาวะของขยะใน มหาสมุทร ให้เรารักษาสิ่งแวดล้อมไปด้วย ผลงานนี้เป็นของอีเลคโทรลักซ์ ที่เผยโฉมเครื่องดูดฝุ่น 5 รุ่นใหม่ที่มีเอกลักษณ์และดีไซน์เฉพาะตัว โดยใช้วัสดุหลัก จากขยะใต้ ท ้ อ งทะเลที่ ร วบรวมจากมหาสมุ ท รทั่ ว โลกกั บ “โครงการ Vac from the Sea” ของอีเลคโทรลักซ์ ที่มุ่งหวังจะ กระตุ้นให้ทุกคนตระหนักถึงปัญหาขยะพลาสติกในมหาสมุทร และจุดประกายผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมให้เห็นความ ส�ำคัญของการรีไซเคิลมากขึ้น โดยเครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้ใช้พลาสติก รีไซเคิลที่เหลือใช้กว่า 70 เปอร์เซ็นต์มาผลิต โดยในระดับต่อไป ตั้งเป้าไว้ว่าจะใช้พลาสติกรีไซเคิลทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ ในการผลิต อีเลคโทรลักซ์วางแผนที่จะน�ำเครื่องดูดฝุ่นดังกล่าว มาออกประมูล เพื่อน�ำรายได้ไปสนับสนุนงานวิจัย แต่ยังไม่มี แผนการที่จะผลิตออกมาขาย เนื่องจากกระบวนการแยกขยะ และการขนส่งขยะจากมหาสมุทรต่างๆ ยังคงเป็นอุปสรรคต่อ การผลิต สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของโครงการได้ที่ www.electrolux.com/vacfromthesea นับว่าเป็นนวัตกรรม หน้าใหม่ที่น่าจะช่วยให้โลกเราสะอาดขึ้นได้อีกยาวนาน

Better Pix

เรื่อง : พิจักษณ์ ทนันชัยบุตร ภาพ : พิจักษณ์ ทนันชัยบุตร, อุรชา จักรคชาพล อาจารย์ประจ�ำสาขาวิชาการถ่ายภาพ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

คราวนี้ถ้าเราอยากจะลองถ่ายภาพมุมต่างๆ เป็นการ ถ่ายภาพมุมสวยๆ ง่ายๆ ของบ้าน สถานที่ต่างๆ อาคารต่างๆ หรือเวลาไปเที่ยวแล้วเจอมุมตามร้านต่างๆ ที่สวยแล้วอยาก เก็บบันทึกไว้ สิ่งแรกที่ต้องมีก่อนเลย หากอยากจะถ่ายภาพ ภายในคือ เลนส์มมุ กว้าง เป็นเลนส์ทสี่ ามารถบันทึกภาพได้กว้าง กว่าทีต่ าเราเห็น โดยมากจะมีขนาดตัง้ แต่ 35 มม.ลงมา โดยมาก ตัวคูณจะต้องคูณกับขนาดของเซนเซอร์รับภาพที่เล็กลงมาอีก 1.5 หรือ 1.6 เท่าของกล้องดิจิทัลทั่วไป ก็จะกลายเป็น 20 มม. ลงมา เวลาที่ใช้เลนส์มุมกว้าง สิ่งแรกที่ต้องค�ำนึงถึงคือ ความ กว้างที่อาจท�ำให้การจัดองค์ประกอบในภาพยาก เพราะถ้าใช้ เลนส์ช่วงที่กว้างมาก จะท�ำให้ภาพขาดจุดสนใจ ทุกอย่างจะดู เล็กไปหมด ในภาพ 01 ตอนแรกผมใช้เลนส์ช่วงกว้างที่สุดคือ 17 มม. แต่ภาพออกมาดูกว้างและทุกอย่างก็ดูเล็กไปเลย ผมจึง ซูมเข้ามาให้แคบอีกนิด เพื่อตัดส่วนที่รกออก และตัดเอาส่วน ที่เป็นเส้นตั้งในภาพออก เพราะเมื่อใช้เลนส์ที่กว้างมากๆ มักจะ

เกิดความผิดเพีย้ นของภาพ เส้นตรงมักจะเอียงได้งา่ ยเพราะเลนส์ จึงต้องซูมเข้าให้ภาพแคบขึ้น อีกประการหนึ่งคือเรื่องแสง ถ้าถ่ายภาพตามแสงก็ ไม่มีปัญหาอะไรแบบในภาพ 04 เราก็เพียงวัดแสงภายในห้อง เท่านัน้ แต่ถา้ เมือ่ ใดทีต่ อ้ งถ่ายภาพทีม่ พี นื้ ทีร่ ว่ มกับข้างนอก หรือ ติดหน้าต่างเข้ามาด้วยแล้ว การชดเชยแสงจะกลายเป็นเรื่อง จ�ำเป็นทันที ในภาพ 02 ถ้าถ่ายตามทีว่ ดั แสงได้ภาพจะมืด ข้างนอก จะพอดี พวกมืออาชีพจะเติมแสงด้วยการจัดไฟเข้าไปดังภาพ 03 หากเรายังไม่ถึงขั้นมืออาชีพก็ใช้การวัดแสงในส่วนที่สว่างที่สุด ของภาพภายในห้องแล้วลองบันทึกดู ถ่ายเพื่อให้สว่าง (Over) จากทีก่ ล้องวัดได้สกั ครึง่ สต๊อปครับ เราจะได้ภาพทีม่ รี ายละเอียด ภายในโดยที่ยังเห็นทิวทัศน์ข้างนอกอยู่ และบ่อยครั้งที่เราอาจ ต้องถ่ายภาพในสภาพแสงที่ไม่ใช่แสงธรรมชาติ เช่น แสงใน อาคารที่เป็นแสงจากหลอดไฟประดิษฐ์ต่างๆ ภาพแบบนี้ถ้าเรา ตั้งค่า white balance ไม่ดี สีในภาพจะเพี้ยนไปเลย ยกตัวอย่าง หากต้องถ่ายภาพแสงส้มในอาคาร กล้องมักจะปรับค่าที่พอดี สมดุลสีขาวให้เราโดยอัตโนมัติ ท�ำให้บ่อยครั้งจะกลายเป็นแสง ส้มอุน่ ๆ อย่างภาพแรกและบรรยากาศในภาพยามค�ำ่ คืนหายไป 01 Lens 17-55, F 11, ½ sce iso 100 02 บันทึกตามที่วัดได้ Lens 17-55, F 11, 60 iso 100 03 ชดเชยแสง -1/2 stop F 11, 125 iso 100 04 Lens 17-55, F 11, 60 iso 100 04

02 03 01

The Corner Of Mind

บ่อยครัง้ ทีเ่ ราไปตามทีต่ า่ งๆ ก็มกั จะมองหามุม สวยๆ เก็บเป็นที่ระลึกกันตามประสาคนชอบถ่ายภาพ มุมสวยๆ มีอยู่ทุกที่ ขึ้นอยู่กับเราว่าจะมองเห็นหรือไม่ แม้แต่มุมเล็กๆ ข้างโต๊ะท�ำงาน ถ้าจัดวางดีๆ แล้ว เราก็ จะได้มุมสวยๆ ไว้กดชัตเตอร์เล่นได้เหมือนกันนะครับ

Better Pix

Better Pix 07

Compact Camera Tips

กล้องคอมแพ็คท์มักจะเสียเปรียบในเรื่องของเลนส์ มุมกว้าง ที่มักจะไม่ค่อยกว้างเมื่อเทียบกับพวกกล้องใหญ่ๆ ประกอบกับเซนเซอร์ของภาพที่มีขนาดเล็ก การจะท�ำให้ภาพ ด้านหลังเบลอจะค่อนข้างยาก เมือ่ เวลาจะถ่ายภาพเจาะสิง่ ของ เล็กๆ น้อยๆ สิ่งที่ต้องระวังอีกประการก็คือ การที่กล้องมีขนาด เล็กอาจจะจับแล้วไม่ค่อยมั่นคงเท่าไร เวลาบันทึกภาพก็ต้อง ระวังเรื่องเส้นตรงต่างๆ ในภาพให้ดี อย่างไรก็ตาม กล้องขนาดเล็กพวกนี้มักจะมีโปรแกรม ฉลาดๆ มาเป็นตัวช่วยให้เรา แต่ในบางครั้ง สิ่งเหล่านั้นก็ไม่ได้ ท�ำตามที่เราต้องการสักทีเดียว บ่อยครั้งที่ auto white balance ปรับโทนสีอุ่นๆ ในภาพจนกลายเป็นสีจืดชืด หรือบางครั้งกล้อง เลือกที่จะเปิดแฟลชให้เลย สิ่งที่ส�ำคัญของการถ่ายภาพคือ ภาพที่ออกมาควร เหมือนกับที่เราเห็นอยู่ การที่มีแฟลชยิงออกไปจะท�ำให้สีสัน บรรยากาศในภาพหายไปจนหมด ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องท�ำคือ

05 06

ปิดแฟลชครับ พยายามถือกล้องให้นิ่งๆ ถ้าไม่ได้ใช้ขาตั้ง แต่ ถ้าต้องใช้เวลามากๆ เช่น หนึ่งวินาที ภาพจะคมชัดได้ยาก ถ้า กล้องที่ใช้มีระบบกันสั่นก็ควรเปิดใช้ครับ แต่ก็อย่างที่กล่าว ไปแล้วว่า สิง่ ส�ำคัญของการบันทึกภาพในลักษณะนีค้ อื มุมมอง เราควรมองหาจุดสนใจก่อน เช่น การมองหาวัตถุที่น่าสนใจ รูปร่างรูปทรงของวัตถุ รวมถึงจังหวะในภาพ อย่างในภาพนี้ มีขนาดของเก้าอี้และสีที่ขัดแย้งกัน จังหวะของสีแดงในภาพที่มีทั้งจุดเล็กจุดใหญ่สลับกันไปมา เป็นจังหวะที่บันทึกภาพได้ง่ายๆ ไม่ต้องอาศัยเทคนิคหรือมุม แปลกๆ แถมมันยังให้ภาพที่แสนประทับใจที่เราเป็นผู้สร้างขึ้น อันเป็นมุมมองของเราเองครับ

• Canon G 11, F 4/20 05 Lens 90 mm, F 2.8 06 Lens 90 mm, F 2.8/4 07 Lens 24 mm, F 3.5/30

ดังนั้นจึงควรตั้ง white balance ในโหมด daylight เพราะกล้องจะเห็นแสงเป็นแสงกลางวันคือแสงขาว พอตก กลางคืนจะเห็นเป็นสีส้มๆ ตามที่ตาเราเห็นแบบในภาพแรก ท� ำ ให้ เ ราสามารถถ่ า ยทอดบรรยากาศอย่ า งที่ ต ้ อ งการได้ นอกจากนัน้ แสงในตอนค�ำ่ คืนมักจะมีนอ้ ยมาก การใช้ขาตัง้ กล้อง จึงมีความจ�ำเป็นเพือ่ ท�ำให้กล้องนิง่ หรือหากแสงมีมากพอ ขาตัง้ กล้องจะอ�ำนวยความสะดวกเวลาเราใช้ความไวแสงสูงๆ ท�ำให้ คล่องตัวในการถ่ายมากขึน้ แต่อาจต้องแลกมากับนอยส์ (Noise) ที่จะตามมารบกวนภาพให้ไม่คมชัดมากนัก

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ส�ำคัญอย่างหนึ่งของการถ่ายภาพ ก็คือมุมมอง การเลือกมุมก็ขึ้นอยู่กับว่าอะไรคือสิ่งที่เราสนใจ ในมุมนั้น เริ่มจากสิ่งละอันพันละน้อยที่สะกิดสายตาเรา อย่าง พวกของสะสมเล็กๆ เราอาจจะไปถ่ายเจาะเอาบางส่วนมาก็ได้ หรื อ จะถ่ า ยบรรยากาศรวมๆ ที่ ม องผ่ า น

หน้าต่างให้เห็นภายใน แล้วค่อยเจาะรายละเอียดบนโต๊ะ ก็ได้ครับ เป็นการจัดชุดของภาพ ยิง่ ท�ำให้การเล่าเรือ่ ง ความประทับใจของเราชัดเจนขึ้นครับ

Did You Know?

เรื่อง : ชวิศ เชษฐชัยยันต์

กินหวานมากท�ำให้ผิวเหี่ยวจริงหรือ

กินหวานมากท�ำให้ผิวเหี่ยวจริง เพราะเมื่อร่างกายมีน�้ำตาล อยู่ในกระแสเลือดมากเกินไป เจ้าน�้ำตาลนั้นจะไปเกาะติดกับเส้นใย โปรตีนที่อยู่ระหว่างเซลล์ผิว ท�ำให้ผิวเกิดความตึงเครียดขึ้น และน�ำไปสู่ อาการแก่ก่อนวัย ผิวหยาบกร้าน และเหี่ยวย่นในที่สุด ส�ำหรับบางคน การกินน�้ำตาลมากๆ ยังท�ำให้เกิดสิวหรือฝีขึ้นได้ เพราะเชื้ออี.คอไล ซึง่ เป็นแบคทีเรียจ�ำพวกหนึง่ ทีท่ ำ� ปฏิกริ ยิ ากับน�ำ้ ตาลทีผ่ า่ นเข้ามาในล�ำไส้ ท�ำให้เกิดสารพิษต่างๆ ขึ้น เมื่อสารพิษเหล่านี้ผ่านเข้าสู่กระแสเลือด ก็จะท�ำให้เกิดอาการทางผิวหนังขึน้ มาได้ นอกจากนีอ้ าจท�ำให้เกิดปัญหา ทางสุขภาพ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรค ความดันโลหิตสูง ดังนั้น ผู้ที่ชอบกินหวานควรลดการบริโภคให้น้อยลง แล้วหันมากินน�้ำตาลธรรมชาติที่มีอยู่ในผลไม้ต่างๆ มากขึ้น

เชื่อหรือไม่ “วิญญาณ” ก็มีน�้ำหนัก

สมมติฐานนีไ้ ด้รบั การหาค�ำตอบทางวิทยาศาสตร์แล้ว โดย นักวิทยาศาสตร์รว่ มกับสถาบันการแพทย์แห่งหนึง่ ได้ทำ� การทดลอง โดยควบคุมปัจจัยต่างๆ เช่น การชั่งน�้ำหนักจะท�ำทันทีหลังเสียชีวิต งดการให้อาหารเหลวก่อนการเสียชีวิต และชั่งน�้ำหนักทุกอย่าง รวมกัน ไม่ว่าจะเป็นของเสียใดๆ ที่ถ่ายออกมาจากร่างกาย หรือสิ่ง คัดหลัง่ อืน่ ๆ ของผูป้ ว่ ยทีอ่ ยูบ่ นเตียง โดยได้ทำ� การทดลองชัง่ น�ำ้ หนัก ผู้ป่วยที่ใกล้เสียชีวิต เปรียบเทียบกับตอนที่เสียชีวิตลงแล้ว ปรากฏ ว่าหลังจากเสียชีวิตในทันที (ค่ากราฟคลื่นไฟฟ้าหัวใจกลายเป็นเส้น ตรง) น�้ำหนักตัวได้หายไป 21 กรัม ตรงนี้น่าจะน�ำไปเป็นหลักฐาน ยืนยันได้วา่ นอกจากวิญญาณมีพลังงานตามทีเ่ คยได้รบั การทดลอง และยืนยันกันมาแล้ว ดวงวิญญาณของเรายังมีน�้ำหนักอีกด้วย

รู้หรือไม่...เมืองไทยเคยมีหิมะตก

ท�ำไมกระเพาะอาหารจึงไม่ย่อยตัวเอง

หลายๆ คนฟังแล้วคงประหลาดใจว่า เมืองไทยเนีย่ นะ มี หิ ม ะตกกั บ เขาด้ ว ย “หิ ม ะตกที่ เ ชี ย งราย” เป็ น ภาพถ่ า ย ในฤดูหนาวที่จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2498 เวลา 18.00 น.เศษ ในวันนั้นหลังจากฝนตกสักพัก ก็มีลูกเห็บ ขนาดเล็ก และเกล็ดน�ำ้ แข็งสีขาวบางๆ คล้ายปุยหิมะตกลงมา อย่างมากมาย พื้นแผ่นดินขาวโพลนไปด้วยหิมะเป็นเวลากว่า 14 ชั่วโมง และหลังจากนั้นอีก 38 ชั่วโมงต่อมา เจ้ากลุ่มหิมะ ดังกล่าวจึงค่อยละลายหมดไป ถึงชัว่ โมงนีห้ ลายๆ คนคงอยาก ให้เมืองไทยกลับไปยุค 2498 อีกสักครั้ง เพราะอากาศใน ทุกวันนี้มันร้อนเหลือรับประทานแล้วจริงๆ

เชื่อหรือไม่ “อาการเมารถ” เกิดจากความเข้าใจผิดของร่างกาย เราเอง

อาการเมารถเป็นอาการที่ร่างกายเข้าใจผิดว่า การที่เห็นภาพหมุน ไปมา สายตาไม่สมั พันธ์กบั การเคลือ่ นไหวของร่างกายนัน้ เป็นเพราะร่างกาย ถูกพิษ ร่างกายจึงสัง่ โดยอัตโนมัตใิ ห้เราคายอาหารทีเ่ ป็นพิษออกมา จึงท�ำให้ เกิดอาการวิงเวียนก่อนเพือ่ ให้รสู้ กึ อยากอาเจียนออกมา อาการเมารถมักเกิด กับคนนั่งมากกว่าคนขับ เพราะว่าคนขับจะรู้ตัวเองอยู่ตลอดว่าร่างกายจะ เคลือ่ นไปทางไหน สายตาจึงสัมพันธ์ไปกับการเคลือ่ นไหว ท�ำให้ไม่เกิดอาการ เมารถเท่าคนนั่ง โดยเฉพาะคนนั่งหลังจะเห็นภาพด้านข้างของรถวิ่งผ่านตา อย่างรวดเร็วตลอดเวลา เหมือนหมุนเหวี่ยงตัวเองแล้วมองไปด้วย หรือเวลา เลีย้ วจะไม่รวู้ า่ ซ้ายหรือขวาเพราะไม่ได้ขบั ท�ำให้เกิดอาการเมาง่ายกว่าคนขับ

กระเพาะอาหารเป็นอวัยวะมหัศจรรย์ สามารถย่อย อาหารทุกชนิดทีเ่ รารับประทานเข้าไปได้หมด แต่ทำ� ไมกระเพาะ ถึงไม่ย่อยตัวเอง นั่นเป็นเพราะถึงแม้ว่าน�้ำย่อยเมื่อขับออกมา จะท�ำลายเซลล์บริเวณกระเพาะบ้าง แต่กระเพาะก็สามารถสร้าง เซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทนได้เรื่อยๆ ในเวลาเพียง 3 วัน กระเพาะ อาหารสามารถสร้างเซลล์ได้ถึง 500,000 เซลล์ แต่หากเรา ปล่อยให้กระเพาะอาหารมีน�้ำย่อยมากเกินไป ก็อาจท�ำให้เป็น โรคกระเพาะอาหารอักเสบได้ ดังนั้นจึงไม่ควรดื่มน�้ำส้มคั้น หรือทานยาแอสไพรินขณะที่ท้องว่าง และควรกินอาหารให้ตรง เวลา อย่าปล่อยให้ทอ้ งว่างนานๆ เพือ่ รักษาสุขภาพของกระเพาะ เราเอง

เคยสังเกตหรือไม่...เด็กทารกร้องไห้ไม่มีน�้ำตา

รูห้ รือไม่วา่ ตอนทีเ่ ราเป็นทารกกันอยูน่ นั้ เราร้องไห้ไม่มนี ำ�้ ตาเลย แม้จะร้องเสียงดังแค่ไหนก็ได้แค่สง่ เสียงหรือแผดเสียงเท่านัน้ เอง ทีเ่ ป็นเช่นนี้ เพราะดวงตาของเด็กทารกจะมีเพียงความชุ่มชื้นที่เคลือบดวงตาเอาไว้ เพียงเพื่อไม่ให้ดวงตาเป็นอันตราย แต่ยังไม่อาจผลิตความชุ่มชื้นขึ้นมา มากพอที่จะหลั่งออกมาเป็นน�้ำตาได้ กระบวนการนี้ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 - 6 สัปดาห์กว่าที่ดวงตาของทารกจะสร้างความชุ่มชื้นขึ้นมาได้มากพอ และต่อมน�ำ้ ตาจะพัฒนาขึน้ หลังจากนัน้ อีก 4 - 5 เดือน ถึงตอนนัน้ เด็กทารก ตัวน้อยจะร้องไห้แบบหลั่งเป็นน�้ำตาได้

Exotic Thai

เรื่องและภาพ : วินิจ รังผึ้ง

องค์การยูเนสโกแล้วอย่างอุทยานประวัตศิ าสตร์สโุ ขทัย ศรีสัชนาลัย ก�ำแพงเพชร แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง 03 อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ป่าห้วย ขาแข้ง-ทุง่ ใหญ่นเรศวร และผืนป่าเขาใหญ่-ดงพญาเย็น 01 พระปรางค์วัดราชบูรณะ แหล่งมรดกโลกของไทยทั้งห้าแหล่งนี้จะมีผลเช่นใด 02 พระพุทธรูปทองค�ำศิลปะอยุธยา 03 เศียรพระพุทธรูปส�ำริดศิลปะแบบอยุธยา บางความเห็นก็ยนื ยันว่าไม่มผี ลกระทบต่อแหล่งมรดก โลกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว แต่บางความเห็นก็ กล่าวว่าคงเป็นเรือ่ งยากทีจ่ ะไม่มผี ลกระทบ ก็คงต้อง ที่สุด นั่นก็คือ “อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา” ซึ่งอยู่ รอดูความชัดเจนกันต่อไป ห่างจากกรุงเทพฯ เพียงแค่ 76 กิโลเมตรเท่านั้นเอง

ย้อนอดีตไปเยี่ยมชม...

กรุเครื่องทองวัดราชบูรณะ ข่าวการถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกภาคี มรดกโลกของประเทศไทย นับเป็นข่าวที่ก�ำลังอยู่ใน ความสนใจของผู้คนเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นเรื่องที่ เกิดขึ้นค่อนข้างกะทันหัน แน่นอนว่าการลาออกก็จะ

เกิดผลกระทบต่อแหล่งมรดกไทยอีกหลายแห่งทีก่ ำ� ลัง จะน�ำเสนอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เพราะต้องหยุด ชะงักไม่อาจด�ำเนินการต่อได้ ส่วนแหล่งมรดกโลก ของไทยที่ ไ ด้ รั บ การขึ้ น ทะเบี ย นเป็ น มรดกโลกจาก

แต่จะกระทบหรือไม่นั้น สิ่งที่คนไทยทุกคนคงต้องท�ำ ก็คอื ร่วมมือร่วมใจกันดูแลรักษามรดกอันล�ำ้ ค่าของชาติเอาไว้ให้ งดงามทรงคุณค่าตลอดไป โดยไม่ตอ้ งรอคอยให้ใครมาประกาศ ยกย่อง ประกาศขึ้นทะเบียน หรือประกาศปลดออกจากการขึ้น ทะเบียน เพราะแม้จะได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนมรดกโลก มรดกจักรวาลใดๆ ก็ตาม แต่หากคนในชาติผู้เป็นเจ้าของมรดก ล�้ำค่าเหล่านั้นกลับมองไม่เห็นคุณค่า ปล่อยปละละเลยไม่ดูแล รักษา หรือมุ่งแต่จะใช้เพื่อแสวงหาผลประโยชน์จนแหล่งมรดก ล�้ำค่าเหล่านั้นเสื่อมโทรมลง ก็คงเป็นเรื่องไร้ค่าน่าเสียดาย และ หากจะถามว่าเรามีโอกาสเดินทางไปเที่ยวชมหรือเยี่ยมเยือน แหล่งมรดกโลกของไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนกันทั้งห้าแห่ง บ้างแล้วหรือยัง ผมเชือ่ ว่าหลายท่านอาจจะยังไม่มโี อกาสแวะไป เยี่ยมเยือ น ไม่มีโ อกาสแวะไปชื่น ชม ฉบับนี้ผ มจึง อยากพา ท่านผูอ้ า่ นเดินทางไปเทีย่ วชมแหล่งมรดกโลกทีอ่ ยูใ่ กล้กรุงเทพฯ

หลายท่านอาจจะบอกว่าเคยไปเที่ยวชมวัดวาอาราม ไปดูพระปรางค์ ไปดูเจดีย์ ไปไหว้พระ ไปกินกุ้งแม่น�้ำ ไปกิน ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยามาแล้ว แต่ผมอยากจะแนะน�ำให้ท่านแวะ ไปเที่ยวชมสิ่งที่สะท้อนถึงความร�่ำรวยและความรุ่งเรืองของ อาณาจักรกรุงศรีอยุธยา ราชธานีของไทยที่มีความเจริญรุ่งเรือง ยาวนานถึง 417 ปี โดยอยากจะชวนท่านเดินทางย้อนอดีตไปชม โบราณวัตถุอนั ล�ำ้ ค่าใน “พิพธิ ภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา” จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งที่นี่มีทั้งพระพุทธรูปศิลปะอยุธยา ทีแ่ กะสลักด้วยไม้ พระพุทธรูปหล่อด้วยส�ำริด พระพุทธรูปทองค�ำ เครื่องราชูปโภคทองค�ำ และโบราณศิลปวัตถุอื่นๆ อันงดงาม ล�้ำค่าที่ท�ำขึ้นจากทองค�ำ ซึ่งสะท้อนถึงความเจริญรุ่งเรืองอย่าง สูงยิ่งของราชธานีกรุงศรีอยุธยา ที่ได้จัดแสดงไว้บนชั้นสอง ของพิพิธภัณฑ์ ซึ่งหากใครได้ไปชมแล้วก็จะรู้สึกภาคภูมิใจใน ความเป็นไทย แต่ในอารมณ์แห่งความภาคภูมิใจในมรดกไทย

Exotic Thai

Exotic Thai 04

04 - 07 เครื่องทองที่ขุดได้จากกรุวัดราชบูรณะที่ แสดงถึงความมั่งคั่งของกรุงศรีอยุธยา ซึ่งมีตั้งแต่ เครือ่ งราชูปโภคในรูปแบบต่างๆ เครือ่ งประดับ เครือ่ ง ทรงของพระมหากษัตริย์ เครือ่ งบูชาเกีย่ วกับพระพุทธศาสนาและสถาปัตยกรรมจ�ำลอง

อันล�้ำค่าที่ได้ชื่นชมก็ท�ำให้เกิดความรู้สึกสุดแสนเสียดาย ที่เรา ไม่อาจรักษาความรุ่งเรืองของราชธานีศรีอยุธยาเอาไว้ได้ ด้วย คนไทยในชาติของเราเกิดความขัดแย้งแก่งแย่งชิงดี ขาดความ สามัคคีกลมเกลียวกัน มีการชักน�้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้าน ท�ำให้ ข้าศึกเข้ามาตีราชธานีแตกได้โดยง่าย แล้วเผาท�ำลายบ้านเมือง ปล้นเอาทรัพย์สมบัติมากมายกลับไป เหลือไว้เพียงซากปรัก หักพังให้คนไทยรุ่นหลังได้ส�ำนึกรู้สึกเตือนตน ด้วยพระปรีชาสามารถของบูรพกษัตริยไ์ ทยและบรรพชน ที่ได้ก่อตั้งราชธานีกรุงศรีอยุธยาขึ้นบนท�ำเลที่ตั้งอันยอดเยี่ยม บนเกาะเมืองอยุธยาทีบ่ รรจบและโอบล้อมด้วยแม่นำ�้ สองสายใหญ่ คือ แม่น�้ำเจ้าพระยาและแม่น�้ำป่าสัก อันเป็นปราการธรรมชาติ ทีส่ ำ� คัญ ยากต่อการรุกรานของข้าศึกศัตรู แม่น�้ำทัง้ สองสายยังน�ำ ความอุดมสมบูรณ์มาสูผ่ นื แผ่นดิน และยังเป็นเส้นทางคมนาคม เชือ่ มต่อกับหัวเมืองต่างๆ รวมทัง้ การท�ำมาค้าขายกับต่างประเทศ นอกจากนั้ น ผื น แผ่ น ดิ น ไทยยั ง เป็ น จุ ด เชื่ อ มต่ อ ระหว่ า งสอง มหาสมุทร คือ มหาสมุทรแปซิฟกิ และมหาสมุทรอินเดีย จึงท�ำให้ กรุ ง ศรี อ ยุ ธ ยาได้ ชื่อ ว่าเป็นเมือ งศูนย์ก ลางการเดินทางและ การท�ำมาค้าขายระหว่างโลกตะวันตกกับโลกตะวันออก มีการ ส่งสินค้าส�ำคัญอย่างเครื่องปั้นดินเผาเตาแม่น�้ ำน้อยไปขาย ถึงประเทศจีน มีการส่งราชทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับนานา ประเทศโดยส่งไปไกลถึงดินแดนยุโรปเลยทีเดียว

กรุงศรีอยุธยาเจริญรุ่งเรืองจนได้รับการยกย่องปรากฏ เป็นเอกสารหลักฐานในบันทึกของชาวยุโรปที่เดินทางมาท�ำมา ค้าขายและเจริญสัมพันธไมตรีมากมายหลายชิ้นด้วยกัน แม้ บ้านเมืองจะเจริญรุ่งเรืองเป็นปึกแผ่นมานานแสนนาน แต่ที่สุด กรุงศรีอยุธยาก็ตอ้ งมาล่มสลายลงเพราะความแตกแยกขาดความ สามัคคีของคนในชาติ จากการแก่งแย่งอ�ำนาจ แบ่งฝักแบ่งฝ่าย แบ่ ง ค่ า ยแบ่ ง สี มี ก ารทรยศต่ อ ประเทศชาติ ต ่ อ ผื น แผ่ น ดิ น มี คนที่ ชักศึ กเข้ าบ้ านจนข้ าศึ กศั ตรู สามารถจะยกทั พเข้า ยึด พระนครได้ ใ นที่ สุ ด แล้ ว ปล้ น สะดมเก็ บ กวาดเอาทรั พ ย์ สิ น เงินทองทรัพย์สมบัติของชาติ เผาพระพุทธรูปเพื่อขนเอาทองค�ำ กลับไปหลายเล่มเกวียน ทั้งยังเผาบ้านเผาเมืองจนเหลือแต่ เศษซากอิฐปูน เป็นการปิดฉากกรุงศรีอยุธยาราชธานีอันมั่งคั่ง อย่างน่าเศร้าสลดยิ่ง หลั ก ฐานอั น สะท้ อ นถึ ง ความเจริ ญ รุ ่ ง เรื อ งของ กรุงศรีอยุธยาที่ยังคงปรากฏให้เห็นในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา แม้จะเป็นเพียงสมบัติของชาติเพียงน้อยนิด เมือ่ เทียบกับความมัง่ คัง่ รุง่ เรืองของกรุงศรีอยุธยา แต่โบราณวัตถุ และศิลปวัตถุอันล�้ำค่าที่งดงามอ่อนช้อยเหล่านี้ได้สะท้อนให้ เห็นความรุ่งเรืองทางศิลปะอย่างสูงสุด ความเจริญรุ่งเรืองของ พระพุทธศาสนาทีป่ รากฏหลักฐานพระบรมสารีรกิ ธาตุทอี่ ญ ั เชิญ มาจากศรีลังกา พระพุทธรูปส�ำริด พระพุทธรูปทองค�ำศิลปะ อยุธยาที่มีอยู่มากมาย และที่แสดงให้เห็นถึงความมั่งคั่งร�่ำรวย

ของกรุงศรีอยุธยาอย่างยิ่งก็คือ เครื่องราชูปโภค เครื่องประดับ ทีท่ ำ� จากทองค�ำอันงดงามอร่ามตา และมีมากมายหลายรายการ ให้ชื่นชมกันอย่างตื่นตาตื่นใจ ซึ่งเป็นเครื่องทองและศิลปวัตถุ ที่ขุดค้นพบในกรุพระปรางค์วัดราชบูรณะ ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนน้อยนิดของสมบัติชาติที่ทาง ราชการได้ติดตามยึดคืนมาจากการโจรกรรมของพวกโจรที่ ลั ก ลอบเข้ า ไปขุ ด กรุ ส มบั ติ ข องชาติ ใ ต้ อ งค์ พ ระปรางค์ วั ด ราชบูรณะในปี พ.ศ. 2499 ว่ากันว่าคนร้ายจ�ำนวนมากใช้เวลา ขุ ด และขนสมบั ติ อั น มี เ ครื่ อ งทองและเพชรนิ ล จิ น ดาจ� ำ นวน มากมายมหาศาลโดยใช้เวลาขนกันถึง 3 วันเลยทีเดียว ซึ่ง เครื่องทองและศิลปวัตถุอันงดงามล�้ำค่าของชาติจ�ำนวนไม่น้อย ได้ถูกย่อยหลอมละลายแปรรูปขายเป็นทองแท่งต่อกันไปเป็น ทอดๆ เป็นเสมือนการเผาท�ำลายชาติบ้านเมืองเป็นครั้งที่สอง ซึ่งภายหลังบรรดาโจรร้ายและผู้มีส่วนร่วมในการท�ำลายสมบัติ 08 งานแกะสลักไม้อันงดงามอ่อนช้อยของช่างสมัยกรุงศรีอยุธยา 08

ของชาติกไ็ ด้ถกู ติดตามจับกุมด�ำเนินคดีเป็นจ�ำนวนมากและก็มี อันเป็นไปต่างๆ นานาอีกหลายราย บางรายก็กลายเป็นบ้า เช่นโจรรายหนึ่งหลังจากขโมยขุดกรุและแบ่งสมบัติกันไปแล้ว ก็เกิดอาการสติฟั่นเฟือน เอามงกุฎทองค�ำมาสวม และเอา พระขรรค์ชัยศรีที่ท�ำจากทองค�ำมาร�ำกวัดแกว่งอยู่กลางตลาด หัวรอ ต�ำรวจจึงเข้าไปจับกุมได้โดยไม่ต้องไปติดตามสืบสวน สอบสวนให้ยุ่งยาก เจ้าหน้าทีต่ ำ� รวจสามารถตามจับกุม และติดตามยึดเอา สมบัตขิ องชาติกลับคืนมาได้บางส่วน และทางกรมศิลปากรก็ได้ ท�ำการขุดค้นกรุบางส่วนที่เหลืออยู่ขึ้นมาเก็บรักษาไว้ รวมเป็น ศิลปวัตถุล�้ำค่าประมาณ 20,000 รายการ ซึ่งได้น�ำมาจัดแสดง ไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า นั่นเป็นเพียง ร้อยละ 20 ของกรุเครื่องทองและสมบัติทั้งหมดที่ถูกคนร้าย น�ำไปขายให้ร้านทองตั้งเตาหลอมกันเป็นล�่ำเป็นสัน และศิลปะ งดงามล�ำ้ ค่าส่วนหนึง่ ก็ถกู ขายเป็นทอดๆ ออกไปยังต่างประเทศ ก็มี รวมแล้วน่าจะมีถึงประมาณ 100,000 รายการเลยทีเดียว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายยิ่ง เพราะหากสมบัติอันงดงามล�้ำค่า ของชาติทั้งหมดนี้ยังคงอยู่ครบและน�ำมาจัดแสดงให้โลกได้ ประจักษ์ ก็จะเป็นการประกาศความยิ่งใหญ่ในอารยธรรมของ ชนชาติไทยเราได้เป็นอย่างดี เรื่ อ งราวแห่ ง ความรุ ่ ง เรื อ งและความล่ ม

สลายของราชธานีกรุงศรีอยุธยาอาจเป็นอดีตที่ผ่าน ไปยาวนานแล้ว แต่ก็เหมาะเป็นอย่างยิ่งที่จะได้รับการ หยิบยกขึ้นมากล่าวขาน น�ำมาศึกษาเพื่อเป็นบทเรียน และเป็นเครื่องเตือนใจคนไทยในทุกวันนี้ เพราะวันใด ที่เราชาวไทยเกิดความแตกแยกสามัคคี ชุมชน สังคม และชาติบ้านเมืองก็จะเกิดความอ่อนแอเสื่อมถอย และ หากความขัดแย้งแตกแยกยังคงร้าวลึกต่อไป วันหนึง่ ชาติบา้ นเมืองคงไม่อาจหลีกเลีย่ งการล่มสลายลงไปได้ เราจะยอมให้ชาติบ้านเมืองของเราล่มสลายลงไปใน ยุคสมัยของพวกเรากระนั้นหรือ...

Around the World

เรื่อง : จักรวาล

01 01 Coles Bay หาดสวรรค์บนดินแดนแทสเมเนีย

ต้องมนต์เสน่ห์ที่ใต้สุดของ ออสเตรเลีย...บนดินแดน

“Tasmania”

มีหลายต่อหลายเสียงจากนักท่องเที่ยวหลาย ต่ อ หลายคน ที่ เ คยได้ ไ ปเยี่ ย มเยื อ น “แทสเมเนี ย ” (Tasmania) บอกเล่าไว้ว่า เกาะเล็กๆ ทางตอนใต้ ของออสเตรเลียนี้ มีบรรยากาศของสวิตเซอร์แลนด์ และนิวซีแลนด์ผสมผสานกันอยูอ่ ย่างลงตัว แทสเมเนีย เป็นรัฐเดียวของออสเตรเลียที่เป็นเกาะ อยู่ห่างจาก แผ่นดินใหญ่ไปทางใต้ 240 กิโลเมตร ถูกกั้นด้วย ช่องแคบบาสส์ ชือ่ เล่นของแทสเมเนียคือ เกาะแอ๊ปเปิล้ เนือ่ งจากมีการปลูกแอ๊ปเปิล้ มากมาย อีกทัง้ รูปร่างเกาะ

ก็ยังเหมือนผลแอ๊ปเปิ้ลอีกด้วย แต่ก็มีนักท่องเที่ยว หัวใจโรแมนติกอีกหลายคนทีล่ งความเห็นว่าเกาะแห่งนี้ เป็นเกาะรูปหัวใจ ก่อนจะมาเป็น “แทสเมเนีย”

ชื่อของ “เกาะแทสเมเนีย” นั้นมาจากนักเดินเรือชาว ฮอลันดาที่ชื่อ กัปตันอาเบล แทสมาน (Abel Tasman) ซึ่งได้ ค้นพบเกาะแห่งนี้ในปี ค.ศ. 1642 (พ.ศ. 2185) และให้ชื่อว่า “เกาะแวน ดีเมน” (Van Diemen’s Land) ตามชื่อข้าหลวงใหญ่

Around the World

Anthony van Diemen แห่ง Dutch East Indies และอ้างสิทธิ์ เกาะแห่งนี้เป็นของฮอลแลนด์ ด้วยความที่พื้นที่แถบนี้เป็นที่ว่างเปล่า แห้งแล้ง ชาว ฮอลันดามาอาศัยอยูบ่ นเกาะแห่งนีไ้ ด้ไม่นานก็ตอ้ งละทิง้ ดินแดน แห่งนี้ไป จนเมื่อปี ค.ศ.1802 ชาวอังกฤษได้เดินทางมาถึง Van Diemen’s Land ที่กลายเป็นเกาะร้าง จึงดูว่าเหมาะส�ำหรับท�ำ เป็นสถานกักกันนักโทษ ในที่สุด อังกฤษก็ได้ยึดเอา Van Diemen’s Land มาเป็นเมืองขึ้น และถูกใช้เป็นสถานที่ขังนักโทษ ทีถ่ กู เนรเทศจากเกาะอังกฤษอยูเ่ ป็นเวลานาน จนถึงปี ค.ศ.1853 จึงได้มีการประกาศให้ยุติการเนรเทศ และต่อมาก็ได้เปลี่ยนชื่อ Van Diemen’s Land มาเป็น “เกาะแทสเมเนีย” (Tasmania) เพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ค้นพบคนแรกจนถึงปัจจุบัน

Hobart เมืองหลวงกลิ่นอายอาณานิคม

เมืองหลวงของแทสเมเนียที่ได้รับการยกย่องว่าสวย และเงียบสงบที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โฮบาร์ตตั้งอยู่ระหว่างภูเขา เวลลิงตันกับทะเล มีทิวทัศน์สวยงาม บรรยากาศเรียบง่าย สบายๆ และมีสถานที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น แบตเตอรี่ พ้อยท์ (Battery Point) ซึง่ เป็นหัวใจทางประวัตศิ าสตร์ของเมืองนี้ เพราะ เป็นบริเวณที่ชาวอังกฤษย้ายมาตั้งถิ่นฐานเป็นที่แรกๆ บริเวณนี้ มีอาคารแบบยุคอาณานิคมอยู่หลายหลัง ซึ่งในปัจจุบันอาคาร

ส่วนใหญ่ได้ถูกดัดแปลงเป็นภัตตาคารและโรงแรม นอกจากนี้ ภายในตัวเมืองโฮบาร์ตยังมีซาลาแมนกาเพลส (Salamanca Place) ชุมชนเล็กที่เรียงรายไปด้วยตึกและอาคารโบราณในยุค อาณานิคมอังกฤษ ที่นี่มีตลาดนัดวันเสาร์ที่คึกคักไปด้วยผู้คน มากมาย จัดว่าเป็นย่านสินค้าประเภทงานฝีมอื และงานออกแบบ ศิลปะแห่งใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย ยังมีเมืองเก่าอีกแห่งหนึ่งที่ชื่อ ริชมอนด์ (Richmond) ซึ่งเต็มไปด้วยบ้านเรือนแบบโบราณเรียงรายท่ามกลางภูมิทัศน์ อั น สวยงาม ที่ นี่ ไ ด้ รั บ การอนุ รั ก ษ์ ไ ว้ ใ ห้ เ ป็ น แหล่ ง ท่ อ งเที่ ย ว อีกแห่งหนึ่งโดยมีแม่น�้ำโคล (Coal River) ไหลผ่าน และระหว่าง สองฝั่งแม่น�้ำจะมีสะพานทอดข้ามไปสู่โบสถ์คาทอลิกโบราณ ซึ่งสะพานแห่งนี้สร้างขึ้นจากหินทรายนานนับร้อยปีมาแล้ว นักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมาทุกคนมักจะมาถ่ายรูปที่สะพานนี้ เพราะถือเป็นสะพานหินทรายแห่งแรกของเกาะแทสเมเนีย

เข้ามาคุมขังที่พอร์ตอาร์เธอร์นี้ เหล่านักโทษก็ได้ออกไปมีชีวิต ครอบครัวใหม่บนแผ่นดินทีเ่ รียกได้วา่ ดีทสี่ ดุ ในโลก และสืบทอด ลูกหลานให้เป็นประชากรที่มีคุณภาพ กระจายไปตั้งถิ่นฐานอยู่ ทั่วเกาะแทสเมเนีย นอกจากนี้ ในเมืองยังมีทวิ ทัศน์ระหว่างสองข้างทางเป็น พื้นที่เกษตรกรรมและปศุสัตว์ ไล่ไปจนจรดชายฝั่งอีเกิลฮอว์ก (Eaglehawk Neck) ตรงจุดนี้มีหน้าผาสูงชันริมทะเลที่น่าสนใจ อย่างแทสมันโบลว์โฮล (Tasman Blowhole) หน้าผาชัน้ หินทราย ที่ถูกแรงคลื่นจากทะเลซัดจนทะลุเป็นโพรงใต้น�้ำ พอคลื่นจาก ทะเลซัดเข้าหาโพรงจะเกิดมวลน�้ำพวยพุ่งขึ้นสูงราวกับน�้ำพุ อีกจุดหนึง่ ทีค่ วรแวะคือ แทสมันอาร์ก (Tasman Arch) ผาหน้าตัด อีกแห่งหนึ่งที่ถูกกระบวนการทางธรรมชาติแต่งเติมจนเกิดเป็น รูปลักษณ์สวยงามแปลกตา

Port Arthur ปราการคุมขังโบราณ

นั ก ท่ อ งเที่ ย วสามารถเที่ ย วชมความเขี ย วขจี ข อง ธรรมชาติได้ที่อุทยานแห่งชาติเครเดิลเมาน์เทน-เลคเซนต์แคลร์ (Cradle Mountain-Lake St. Clair National Park) ซึ่งเป็น ส่วนหนึ่งของ Tasmanian Wilderness World Heritage Area ทีน่ เี่ พิง่ ได้รบั การประกาศให้เป็นจุดทีม่ โี อโซนบริสทุ ธิท์ สี่ ดุ ในโลก อีกบริเวณหนึ่งคือ West Coast หนึ่งในเขตมรดกโลก ทีม่ ชี อื่ ว่า The Western Tasmanian Wilderness National Parks World Heritage Area ที่ว่ากันว่าหากมองลงมาจากอวกาศ สัมผัสความร่มรื่นในเขตมรดกโลกที่ Liffey Falls ตรงจุดนี้จะเป็นพื้นที่บริเวณสีเขียวใหญ่ รูปร่างสวยงามมาก 04 05 Tasmanian Devil โลโก้ของเกาะแทสเมเนีย เพราะเป็ น ป่า ที่ ส มบู ร ณ์ ม ากแห่ ง หนึ่ ง ของทวี ป ออสเตรเลี ย กินเนื้อ นิสัยดุร้าย ความสามารถพิเศษของมันคือการกิน มัน จัดเป็นสวรรค์ของนักนิยมธรรมชาติที่ควรค่าแก่การรักษาไว้ สามารถกินได้ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ของน�้ำหนักตัวโดยใช้เวลาเพียง Tasmanian Devil สัตว์สัญลักษณ์แห่งแทสเมเนีย ครึง่ ชัว่ โมงเท่านัน้ สัตว์ชนิดนีเ้ ป็นสัตว์พนื้ เมืองทีจ่ ะพบเฉพาะทีน่ ี่ แทสเมเนียเป็นแหล่งที่พบสัตว์ที่มีถุงหน้าท้องมาก เท่านั้น ท�ำให้ปัจจุบันเหลือเจ้าสัตว์ชนิดนี้น้อยลงแล้ว ชนิดที่สุดแหล่งหนึ่งในออสเตรเลีย นอกจากตัวที่เราคุ้นเคยกัน อย่างจิงโจ้แล้ว ที่นี่ยังมีตัววัลลาบี วอมแบต พอสซัม และแพด Aurora ดาราแห่งพื้นฟ้า ออโรร่า (Aurora) คือ แสงเหนือ (Aurora Borealis) เมลอนที่กินพืช ส่วนพวกกินเนื้อก็มี “แทสมาเนียนเดวิล” ซึ่งเป็น สัตว์ที่มีถิ่นก�ำเนิดเฉพาะบนเกาะแทสเมเนียเท่านั้น มันจึงกลาย และแสงใต้ (Aurora Australis) เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ เป็นผลมาจากสนามแม่เหล็กโลก และอนุภาคประจุไฟฟ้าจาก เป็นสัตว์สัญลักษณ์ของเกาะแห่งนี้ไปโดยปริยาย เจ้าแทสมาเนียนเดวิลนี้จะมีให้เห็นบนเกาะแมคควารี ดวงอาทิตย์ เกิดเป็นแถบแสงสีหลากหลายอันงดงามบนท้องฟ้า (Macquarie Island) เกาะเล็กของทวีปแอนตาร์กติกทีอ่ ยูใ่ นการ มักเกิดบริเวณขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ สีของแสงเหนือและ ปกครองของแทสเมเนีย โดยพวกมันจะมีสีด�ำ-น�้ำตาล เป็นสัตว์ แสงใต้มีหลากสีคล้ายสีรุ้ง แต่ที่จะปรากฏให้เห็นบ่อยๆ มักเป็น

ปราการคุมขังนักโทษในอดีตแห่งคาบสมุทรแทสมัน ที่นี่เคยเป็นที่คุมขังนักโทษที่ถูกส่งมาจากแผ่นดินใหญ่ ภายใน เป็นซากอาคารหินทรายโบราณที่ถูกดัดแปลงจากโรงโม่แป้ง มาแบ่งซอยออกเป็นห้องเพื่อคุมขังนักโทษเป็นชั้นๆ โดยจัด นักโทษคดีรา้ ยแรงไว้ชนั้ ล่างสุด ภายหลังประกาศยกเลิกน�ำนักโทษ 03

02 ดื่มด�่ำวิวสวยริมฝั่งแม่น�้ำ ณ เมือง Hobart 03 Port Arthur อนุสรณ์แห่งปราการคุมขัง 02

เดินสูดโอโซนบริสุทธิ์ในเขตมรดกโลก

Around the World

06 เดินชมความเขียวขจีที่อุทยานแห่งชาติ Cradle Mountain-Lake St. Clair 07 เคลิบเคลิ้มไปกับ Aurora แสงสวยยามค�่ำคืน

สีแดงและสีเขียว โดยแสงที่พุ่งขึ้นจากขอบฟ้านี้มักปรากฏใน เวลากลางคืน เป็นลักษณะวงรีขนาดใหญ่ ถ้าแสงนีอ้ ยูท่ างทิศใต้ จะเรียกว่า Aurora Australis ส่วนทิศเหนือเรียกว่า Aurora Borealis และเกาะแทสมาเนียแห่งนี้นับเป็นที่ที่มักมีผู้พบเห็น แสงใต้อยู่เสมอ นักท่องเที่ยวสามารถดื่มด�่ำกับบรรยากาศยาม ค�่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงสว่างไสวสวยงามอันชวนหลงใหล เพิ่ม บรรยากาศการท่องเที่ยวให้โรแมนติกมากยิ่งขึ้น ด้วยความโดดเด่นทางภูมทิ ศั น์ทงี่ ดงามแปลกตา

มากมาย ความสวยงามของสถานที่ ท ่ อ งเที่ ย วที่ หลากหลาย รวมถึงพรรณพืชและสัตว์พื้นเมืองที่มี ความโดดเด่นเป็นพิเศษเหนือที่อื่นใดในโลก นอกจาก จะท�ำให้เกาะแทสเมเนียแห่งนี้ได้รับการประกาศจาก องค์การยูเนสโก (UNESCO) ให้เป็นพืน้ ทีม่ รดกโลกแล้ว ดินแดนอันเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งนี้ยังดึงดูดผู้คน จากทั่วทุกมุมโลกให้มาเยี่ยมชมและท่องเที่ยวอย่างไม่ เคยขาดสาย

สถานที่แนะน�ำ

• ส�ำหรับใครที่อยากเห็นวิวพาโนรามาทั้งเมืองโฮบาร์ต ที่นี่ มีภูเขาที่มีชื่อเสียงที่ชื่อว่า Mt. Wellington เป็นจุดชมวิวที่สูงจาก ระดับน�้ำทะเล 1,200 เมตร อยู่ห่างจากตัวเมืองเพียง 22 กิโลเมตร ที่ นี่ ขึ้ น ชื่ อเรื่ องจุ ด ชมวิ วที่ ส วยที่ สุ ด สามารถมองเห็ น วิ วทิ วทัศน์ ด้านล่างของเมืองทั้งหมด • เกาะ Bruny ทีอ่ ยูข่ องนกเพนกวินทีค่ ล้ายนางฟ้าและสัตว์นานา ชนิด รวมถึงอุทยานแห่งชาติ Hartz Mountains National Park • หน้าผา Tasman Peninsula ทีต่ งั้ ของท่าเรืออาร์เธอร์ทสี่ วยงาม และมีความส�ำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งหนึ่งของแทสเมเนีย • Tamar Valley ย่านผลิตไวน์ชนั้ เยีย่ ม เพลิดเพลินไปกับเส้นทาง สายไวน์ที่มีโรงบ่มไวน์มากกว่า 16 แห่ง นอกจากนี้ยังมีอุทยานแห่ง ชาติ Narantapu ทางด้านตะวันตกของ Tamar ที่หากข้ามสะพาน Batman ไปอีกฝั่งของแม่น�้ำจะเจอวิวที่สวยมาก มีประภาคารและ สถานีนักบิน Low Head Pilot Station แวะชมนกเพนกวินจ�ำนวน มากที่นี่ได้ในช่วงเย็นถึงค�่ำ นอกจากนี้ยังมีฟาร์มสตรอว์เบอร์รี่ Hillwood, Mt. Direction Semaphore และสวนผลไม้ Dilston อีกด้วย

554 2 ม ค า ล ุ ต 1 (หมดเขต 3ว่าบัตรจะหมด) หรือจนก

Cool Gear

เรื่อง : diamond

วิธีด้วย ไม่ใช่ประเภทว่าล้างส่งๆ หรือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ เด็กปั๊มไป เพราะตัวถังรถยนต์ได้รับการเคลือบสีไว้เป็นอย่าง ดี ถ้าท�ำความสะอาดผิดวิธีจะท�ำให้สีที่เคลือบไว้เสียหาย อาจ เกิดการด่าง การลอกร้าวของสีได้ อีกประเด็นคือ อย่าล้างรถ กลางแสงแดดร้อนจัด หรือถ้ามีเหตุจ�ำเป็นจะต้องจอดรถทิ้งไว้ กลางแดด หรือเพิง่ กลับจากการเดินทาง ความร้อนทีฝ่ ากระโปรง ยังมีอยู่ ก็ควรปล่อยทิง้ ไว้สกั พัก รอจนผิวรถเย็นก่อน แล้วจึงค่อย จัดการล้างท�ำความสะอาด

คราบน�้ำมัน - คราบยาง...อีกตัวการท�ำลายสีรถ

รักษาสีรถอย่างไร...ให้ใหม่สดใสอยู่เสมอ 2 3 4 1

การที่ จ ะท� ำ ให้ สี ร ถดู ส วยงามอยู ่ เ สมอนั้ น ฝุ่นควันจากโรงงานอุตสาหกรรม ยิ่งถ้ามีสารประกอบ เจ้าของรถควรจะหมัน่ ท�ำความสะอาด และควรจะรูว้ ธิ ี ประเภทซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ก็เป็นตัวท�ำลายสีรถได้ดี การท�ำความสะอาดที่ถูกต้องด้วย ไม่เช่นนั้นอาจกลาย อีกตัวหนึ่ง เป็นว่า คุณก�ำลังท�ำลายสีรถยนต์คันงามอย่างไม่รู้ตัว เขตชายฝั่งทะเล หรือเขตที่มีความชื้นและไอเกลืออยู่ใน โดยสิ่งที่มีผลต่อสีรถอันแสนสวยของคุณนั้น เกิดขึ้น บรรยากาศมาก ได้จากสาเหตุหลายประการ วันนี้ Cool Gear จะมา เขตทีอ่ ยูใ่ นแถบร้อนทีม่ แี สงอาทิตย์แรงมากๆ จะมีผลท�ำให้ แนะน�ำปัจจัยต่างๆ ทีม่ ผี ลต่อสีรถทีค่ ณ ุ ควรจะหลีกเลีย่ ง รถสีอ่อนมีความร้อน 80 องศา และรถสีทึบสามารถเกิด หรือป้องกันไว้ก่อน ความร้อนสูงถึง 120 องศา และถ้าจอดทิ้งไว้กลางแดดนานๆ

ฝุ่นและสิ่งสกปรกบนท้องถนน เช่น เขม่าควัน มูลนก แมลง ยางไม้ และสารเคมีตา่ งๆ ซึง่ สามารถท�ำลายสีรถได้ ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานๆ กรวดทรายบนท้องถนนก็เช่นกัน อาจท�ำให้ สีของรถถลอกได้

อาจท�ำให้สีเริ่มแตกได้ โดยเฉพาะส่วนหลังคาและฝากระโปรง

ล้างรถผิดวิธี สีก็ถลอกได้

ผู้ที่ชอบล้างรถบ่อยๆ เพื่อให้สีรถดูสดใสตลอดเวลา โดยไม่เปิดโอกาสให้ตัวการทั้งหลายเกาะแกะอยู่ตามสีรถนาน จนเกินไปนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่การล้างรถควรจะต้องล้างอย่างถูก

การล้างรถควรล้างสัปดาห์ละครั้ง หรือเมื่อสีรถเริ่ม สกปรก หากมีน�้ำมันเบนซิน น�้ำมันเครื่อง หรือน�้ำมันเบรกเปื้อน สีรถให้รีบล้างออกทันที แม้ว่าสีรถนั้นจะเป็นยี่ห้อพิเศษที่ทน น�้ำมันเบรกก็ตาม หรือหากมีคราบหรือก้อนยางแอสฟัลต์ที่เป็น ส่วนผสมของวัสดุท�ำถนนติดตามตัวถัง ควรรีบก�ำจัดออกไปโดย ด่วนที่สุด ห้ามใช้วิธีขูด แคะให้หลุดไป เพราะสีจะเป็นรอย ควร ใช้นำ�้ มันก๊าดหรือน�ำ้ ยาขจัดโดยเฉพาะจะดีทสี่ ดุ เวลาล้างรถห้าม ใช้ผงซักฟอกผสมกับสบู่ต่างๆ หรือแม้กระทั่งน�้ำที่ใช้ล้างก็ห้าม ใช้น�้ำร้อนหรือน�้ำอุ่นโดยเด็ดขาด เพราะสิ่งเหล่านี้มีคุณสมบัติ ที่เป็นด่าง จะส่งผลท�ำให้สีของรถยนต์เป็นรอยด่างไม่เท่ากัน จนหมดความเงางามได้ ส�ำหรับในช่วงฤดูฝน ควรท�ำความสะอาดรถให้บ่อย อย่าไปคิดว่าเดี๋ยวฝนตกรถก็เปรอะอีก เนื่องจากหากปล่อยให้ โคลนเกาะตามตัวถังพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ จะท�ำให้ล้างยากยิ่งขึ้น และเป็นอันตรายกับสีรถอีกด้วย เพราะฝุ่นหรือโคลนเหล่านี้ จะดูดความชื้นได้ง่าย ท�ำให้ผิวของสีเสื่อม ขาดความเป็นมันเงา สีซีดจาง เกิดรอยแตกร้าวได้ง่าย และหากล้างรถแล้ว แต่ยังพบ รอยสกปรกตกค้างอยูบ่ นพืน้ ผิวสี ให้เช็ดออกด้วยน�ำ้ ยาท�ำความ สะอาดทันที นอกจากการล้างรถจะท�ำให้รถดูสะอาดตาน่ามองแล้ว หากใช้ครีมหรือน�้ำยาขัดสีเคลือบตัวถังไว้ด้วยก็จะดีมาก เพราะ จะช่วยให้รถดูเงางาม และยังปกป้องสีให้ทนทานได้อีกด้วย แต่ ข้อควรระวังคือ กระบวนการดังกล่าวควรจะท�ำในร่ม ไม่ควรท�ำ ขณะทีร่ ถตากแดดอยู่ เพราะสีมโี อกาสทีจ่ ะท�ำปฏิกริ ยิ ากับน�ำ้ ยา ขัดสีรถได้ และควรขัดเคลือบสีอย่างน้อยเดือนละครั้ง ไม่ควรท�ำ บ่อยจนเกินไป เพราะหากขัดเคลือบบ่อยๆ น�้ำยาอาจจะท�ำลาย แทนที่จะถนอมสีรถ

เลือกสีพ่นรถยนต์แบบไหนดี

เมื่อรถยนต์คันโปรดถึงวาระต้องเข้าท�ำสีใหม่ เรามีวิธี เลือกสีพ่นรถยนต์ 3 แบบ ได้แก่ สี 1K จะประกอบด้วยส่วนของตัวสีเพียงอย่างเดียว เวลาใช้งานอาจน�ำมาผสมกับตัวท�ำละลาย เช่น ทินเนอร์ เพื่อให้ สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น สี OEM คือสีที่ใช้ในโรงงานประกอบรถยนต์ที่มีเพียง องค์ประกอบเดียว สีชนิดนี้จะแห้งตัวโดยการอบที่อุณหภูมิสูง ประมาณ 120 - 160 องศาเซลเซียส หลังจากสีแห้งตัวแล้วจะได้ สีที่มีคุณภาพดีมาก ความแข็งแรงของชั้นฟิล์มสีสูง ทนทานต่อ ตัวท�ำละลายและสารเคมีต่างๆ ได้ดีมาก มีการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม ให้ความเงางาม รวมทั้งสามารถทนทานต่อแสงแดดได้ดี ไม่ซีด จางง่าย มีความคงทนสูง สี 2K จะประกอบด้ ว ยส่ ว นของตั ว สี แ ละตั ว เร่ ง ปฏิกิริยา โดยก่อนใช้งานต้องน�ำทั้งสององค์ประกอบมาผสมกัน เพื่อให้เกิดการท�ำปฏิกิริยาทางเคมี ซึ่งจะท�ำให้สีเกิดการแห้งตัว หลังจากแห้งตัวแล้ว จะมีคุณสมบัติที่ดีเทียบเคียงได้กับสี OEM ส�ำหรับการพ่นซ่อมสีรถยนต์ในอู่หรือศูนย์ซ่อมสีทั่วไป จะมีการเลือกใช้สีแค่ 2 แบบ คือ สี 1K หรือสี 2K เท่านั้น และ ศูนย์ซ่อมสีชั้นน�ำส่วนใหญ่ในปัจจุบันจะหันมาใช้สีระบบ 2K กัน ทั้งหมด เนื่องจากมีคุณภาพโดยรวมที่ดีกว่าสี 1K มาก เพราะสี 2K จะมีความทนทาน เงางามสูง ไม่ซีดจางง่าย และยังท�ำให้ รถยนต์ทซี่ อ่ มสีมรี ะยะเวลาคงสภาพเดิมได้ไม่ตำ�่ กว่า 5 ปีอกี ด้วย ควรเลือกอู่ที่ใช้ผลิตภัณฑ์สี 2K ที่มีคุณภาพ

และมาตรฐานสูง เพราะนั่นแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจ ในการท�ำงานของอู่นั้นๆ อีกทั้งยังช่วยเสริมความ มั่นใจได้ว่า รถที่ท่านรักจะได้รับการปกป้องจากสีที่ คุณภาพดีเลิศ ให้มีสีสันที่สวยสด เทียบเท่ากับรถยนต์ ชั้นยอด และแน่นอนว่าคุ้มค่ากับเงินทุกบาททุกสตางค์ ที่ท่านจ่ายออกไปอย่างแน่นอน

Hot Events

CALENDAR

CALENDAR วันที่ 23 กันยายน - 2 ตุลาคม 2554

วันที่ 7 - 11 กันยายน 2554

วันที่ 1 - 31 ตุลาคม 2554

งานแข่งขันโปโลช้าง ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 10

หนึ่ ง ในงานท่ อ งเที่ ย วเชิ ง เกษตรดี ๆ กั บ งานแข่ ง ขั น โปโลช้ า งชิ ง ถ้ ว ย พระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 10 ซึ่งนอกจากความสนุกสนาน ที่ผู้เข้าร่วมแข่งขันและผู้ชมจะได้รับแล้ว ยังเป็นการช่วยสร้างความตระหนักถึง ความส�ำคัญในการอนุรักษ์ช้างไทยให้เกิดขึ้น ทั้งในระดับประชาชน ระดับประเทศ และระดั บ นานาชาติ ไ ด้ อี ก ด้ ว ย งานจะมี ขึ้ น ในวั น ที่ 7 - 11 กั น ยายน 2554 จังหวัดประจวบคีรขี นั ธ์ สอบถามเพิม่ เติมได้ที่ ททท.ส�ำนักงานจังหวัดประจวบคีรขี นั ธ์ โทร. 0-3251-3885, 0-3251-3871 วันที่ 8 - 11 กันยายน 2554

THAILAND INTERNATIONAL MARCHING BAND COMPETITION 2011

กรมพลศึ ก ษา กระทรวงการท่ อ งเที่ ย วและกี ฬ า ร่ ว มกั บ ไทยมาร์ ชิ่ ง แบนด์ เชิ ญ ชวนทุ ก ท่ า นเข้ า ร่ ว มงาน “การประกวดวงโยธวาทิตระดับนานาชาติ พ.ศ. 2554 (TIMBC 2011)” ภายใต้ ค วามรั บ รองของสมาคมวงโยธวาทิ ต โลก (WAMSB) และสมาคมวงโยธวาทิตเอเชีย - แปซิฟิก (APBA) การประกวดครั้งนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 - 11 กันยายน 2554 ณ สนามศุภชลาศัย กรุงเทพมหานคร

วันที่ 21 - 23 กันยายน 2554

งานสุดปลายทางทีห่ าดใหญ่

เทศบาลนครหาดใหญ่ ขอเชิ ญ ชวนทุ ก ท่ า นลงใต้ เ พื่ อ เที่ ย วงาน “สุ ด ปลายทางที่ หาดใหญ่ ” เพื่ อ กระตุ ้ น และ ส่งเสริมการท่องเที่ยวหาดใหญ่ ที่มาแพ็กคู่ไปกับ “งานเทศกาล อาหารสะอาด รสชาติอร่อย” โดยในงานจะเป็นการส่งเสริมการ ท่องเทีย่ วของหาดใหญ่ มีทงั้ กิจกรรมดนตรี การแสดงบนเวที การ จ�ำหน่ายสินค้าหัตถกรรม อาหารพื้นบ้านให้นักชิมได้ลิ้มลองกัน อย่างหลากหลาย งานจะมีในวันที่ 21 - 23 กันยายน 2554 ณ บึงศรีภูวนารถ จังหวัดสงขลา สอบถาม โทร. 0-2694-1222 ต่อ 1235 และ 0-7420-0014

เทศกาลดูเหยี่ยวอพยพหนึ่งเดียวในประเทศไทย

เทศกาลกินหอย ดูนก ตกหมึก

อีกหนึ่งงานกิจกรรมรักธรรมชาติและรักในรสชาติ กับ “เทศกาลกินหอย ดูนก ตกหมึก” ทีป่ ระกอบไปด้วยการพาทัวร์ ดูนกนานาชนิด กิจกรรมลงเรือตกหมึกในตอนกลางคืน และการ แสดงศิลปวัฒนธรรมบนเวทีทุกค�่ำคืน นอกจากนี้ยังมีการออก ร้านจ�ำหน่ายอาหารทะเลจากร้านอาหารและโรงแรมชื่อดังกว่า 50 ร้าน ให้นักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองรสชาติเคล้าความสนุกใน กิจกรรมดีๆ งานจะมีในวันที่ 23 กันยายน - 2 ตุลาคม 2554 ณ จุ ด ชมวิ ว ชายหาดชะอ� ำ จั ง หวั ด เพชรบุ รี สอบถามได้ ที่ เทศบาลเมืองชะอ�ำ โทร. 0-3247-1822 หรือ ททท.ส�ำนักงาน จังหวัดเพชรบุรี โทร. 0-3247-1005-6

วันที่ 1 - 31 ตุลาคม 2554

วันที่ 30 กันยายน - 2 ตุลาคม 2554

Flying Superkids

เชิญชมกายกรรมจากกลุ่ม “Flying Superkids” กลุ่ม นักกายกรรมวัย 7 - 20 ปี จากประเทศเดนมาร์ก ที่เตรียมโบยบิน เข้าสู่หัวใจของทุกคน ด้วยทักษะการเล่นกายกรรมที่แม่นย�ำ อี ก ทั้ ง ยั ง เตรี ย มเรี ย กรอยยิ้ ม และเสี ย งหั ว เราะของผู ้ ช มด้ ว ย การร้อง การเต้นที่แฝงอารมณ์ขัน ทั้งหมดนี้จะมาพร้อมกับ เครื่องแต่งกายที่ละลานตา และการออกแบบท่าเต้นที่สร้าง ความตื่นตาตื่นใจตลอดการแสดง การแสดงจะมีขึ้นในวันที่ 30 กันยายน - 2 ตุลาคม 2554 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วฒ ั นธรรม แห่งประเทศไทย ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.flyingsuperkids.com

กิจกรรมล่องเรือไหว้พระ 9+1 วัด

ขอเชิ ญ นั ก ท่ อ งเที่ ย วร่ ว มงานตลาดริ ม น�้ ำ วั ด ใหญ่ สว่างอารมณ์ ไหว้พระ 9+1วัด ในวันเสาร์และวันอาทิตย์ ตลอด เดือนตุลาคม 2554 ณ ตลาดริมน�้ำ วัดใหญ่สว่างอารมณ์ จัง หวัด นนทบุรี ท่า นจะได้ล ่อ งเรือ รอบเกาะเกร็ด สักการะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้ยังสามารถเดิน เที่ยวชมและเลือกซื้อสินค้าการเกษตร สินค้าจากกลุ่มแม่บ้าน สินค้าวิสาหกิจชุมชน รวมถึงสินค้าโอท็อป ติดไม้ตดิ มือกลับบ้าน ได้อีกด้วย สอบถาม โทร. 0-2591-6700 ต่อ 341

เชิญชวนนักท่องเที่ยวหัวใจรักษ์ธรรมชาติเข้างาน “เทศกาลดูเหยี่ยวอพยพหนึ่งเดียวในประเทศไทย” ในงานจะมี กิ จ กรรมการนั บ เหยี่ ย วอพยพย้ า ยถิ่ น นิท รรศการนกเหยี่ยว และการบรรยายให้ ค วามรู ้ กิ จ กรรม ดูนกเบื้องต้น ส�ำหรับผู้ที่ก�ำลังศึกษาและมองหาวิธีการดูนก อย่างถูกต้อง เทศกาลจะจัดระหว่างวันที่ 1 - 31 ตุลาคม 2554 จังหวัดชุมพร สอบถามข้อมูลได้ที่ ททท.ส�ำนักงานจังหวัด ชุมพร โทร. 0-7750-1831-2, 0-7750-2775-6 เทศบาลต�ำบล ท่ายาง โทร. 0-7755-3497 องค์การบริหารส่วนต�ำบลบางสน โทร. 0-7759-1003 วันที่ 14 กันยายน - 6 ตุลาคม 2554

นิทรรศการ “หน้ากากเอเชีย (Masks of Asia)”

เพื่ อ เฉลิ ม ฉลอง ครบ 500 ปี ความสัมพันธ์ ทางการทูตโปรตุเกส - ไทย จึงเป็นทีม่ าของงานนิทรรศการ “หน้ากากเอเชีย” ที่น�ำเสนอ ชิน้ งานในชุดสะสมทีช่ อื่ ว่า “Kwok On” ซึง่ เป็นชุดสะสมชาติพนั ธุ์ ของมูลนิธิโอเรียนท์ กรุงลิสบอน ประกอบไปด้วยชิ้นงานกว่า 10,000 ชิ้น ของหน้ากากเอเชียจาก 8 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น จีน ไทย เกาหลี อินโดนีเซีย ศรีลังกา ทิเบต และอินเดีย ให้เห็นถึง ความหลากหลายและความงดงามอั น น่ า ทึ่ ง ของหน้ า กาก เหล่ า นี้ อั น แสดงให้ เ ห็ น ถึ ง ความรู ้ ด ้ า นเทวต� ำ นาน ศิ ล ปะ ประวั ติ ศ าสตร์ และวั ฒ นธรรมทางชาติ พั น ธุ ์ มาจั ด แสดง พร้ อ มข้ อ มู ล ครบครั น งานจะมี ขึ้ น ในวั น ที่ 14 กั น ยายน 6 ตุลาคม 2554 ณ ห้องสตูดิโอ ชั้น 4 หอศิลปวัฒนธรรม แห่งกรุงเทพมหานคร สอบถาม โทร. 0-2214-6630-8

Smart Life

เรื่อง : กองทรัพย์ ชาตินาเสียว ภาพ : สุรพล พวงศรี

ชวน ชูจันทร์

เป้าหมายคือชุมชนริมคลองเข้มแข็ง เมื่อเอ่ยถึง “ตลาดน�้ำคลองลัดมะยม” แหล่ง ท่องเที่ยวในเขตตลิ่งชันที่เงียบสงบ ผู้ที่เคยไปเยือน ตลาดแห่งนีจ้ ะคุน้ ชินกับภาพชีวติ ริมคลองทีม่ เี ด็กหนุม่ กุลกี จุ อพายเรือแจวพานักท่องเทีย่ วสัมผัสความชุม่ เย็น และลุ่มลึกของสายน�้ำ คุณป้าคุณยายหอบผลหมาก รากไม้จากสวนออกมาขาย เสียงทักทายเจื้อยแจ้ว อย่างเป็นกันเองระหว่างแม่ค้ากับแขกผู้มาเยี่ยมเยือน ได้ยนิ เป็นประจ�ำทุกเช้าวันเสาร์-อาทิตย์ทตี่ ลาดเริม่ เปิด

อย่างไรเสีย หากไม่มีชายที่ชื่อ “ชวน ชูจันทร์” หรือที่ นักท่องเที่ยวเรียกว่า “ลุงชวน” ผู้บุกเบิกตลาดน�้ำคลองลัดมะยม คลองชานกรุงแห่งนี้คงหนีไม่พ้นสภาพคลองน�้ำเน่าไม่ต่างจาก คลองอีกหลายสายทีพ่ บเห็นได้ทวั่ ไป ภาพวิถชี วี ติ ทีก่ ลับมาคึกคัก น�้ำเย็นใสหรือปลาตัวใหญ่ว่ายในน�้ำอาจไม่ได้ปรากฏสู่สายตา ผู้เยี่ยมเยือนเช่นปัจจุบัน

จากเบ้าหลอมวิถีริมคลอง

ย้ อ นภาพกลั บ ไปหลายสิ บ ปี ก ่ อ น วิ ถี ข องคนริ ม น�้ ำ รุ่นปู่ย่ายุคสมัยตายายใช้การสัญจรทางเรือ ตักน�้ำในคลองมา ใช้อุปโภคบริโภค ลุงชวนถือก�ำเนิดและเติบโตในถิ่นตลิ่งชัน ท่ามกลางบรรยากาศชาวสวนริมคลองดั้งเดิม หลังจากจบชั้น ประถมศึกษาก็ออกมาท�ำไร่ท�ำนาเสีย 5 ปี ก่อนจะกลับไป เรียนต่อ และสอบเทียบเข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษา เมื่อเรียน จบก็ใช้ชีวิตตามขั้นตอน คือ เข้าท�ำงานกับองค์กรรัฐวิสาหกิจ

คุณลุงชวน ชูจันทร์ ผู้บุกเบิกตลาดน�้ำคลองลัดมะยม

Smart Life

“

ถึงแม้บางครั้งคนที่มองมายังเราจะรู้สึกไม่ชอบใจ แต่ อย่างน้อยเราอาจจะท�ำให้เขารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ดีและอะไรคือ สิ่งไม่ดี เกิดการไตร่ตรองด้วยตนเองได้ว่า พฤติกรรม แบบใดที่ควรหรือไม่ควรท�ำ ถ้าคนเราส�ำนึกถึงผู้คนและ สิ่งรอบข้างมากขึ้น การเบียดเบียนกันและการโกงกันก็จะ น้อยลง

”

ผ่านงานนิติกร ก่อนจะผันตัวสู่วงการการเมืองในช่วงเวลาสั้นๆ และหันหลังให้อย่างถาวร โดยเลือกที่จะกลับมาเป็นชาวสวน มีเป้าหมายเพือ่ พลิกฟืน้ ชุมชนริมคลองให้กลับมาเข้มแข็งอีกครัง้ ตัวแปรส�ำคัญของการเปลีย่ นแปลงมาจากสิง่ ทีเ่ รียกว่า “ความเจริญทางวัตถุ” เพียงตัวเดียว การตัดผ่านของถนนท�ำให้มี หมูบ่ า้ นจัดสรรเกิดใหม่ น�ำมาซึง่ ความแออัดของผูค้ น และความ ตืน้ เขินของจิตส�ำนึกรับผิดชอบของคนริมคลอง ไม่มใี ครให้ความ ส�ำคัญกับแหล่งน�้ำเช่นแต่เดิม ทุกคนเริ่มทิ้งขยะลงในแหล่งน�้ำ มากขึ้น จากน�้ำที่เคยใส แปรสภาพเริ่มขุ่นหมอง ไม่มีปลา กุ้ง หอย มีแต่ขยะที่ลอยตามน�้ำมา

คืนชีวิตผืนน�้ำ สู่การฟื้นชีวิตคน

อาจด้วยหลักการทางรัฐศาสตร์ที่ร�่ำเรียนมา ท�ำให้ ลุงชวนเข้าใจโครงสร้างการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ผสม ผสานกับความเด็ดเดี่ยวในตัวเอง จึงมีกลวิธีปลูกฝังให้ชาวบ้าน ในชุมชนหันมาสนใจรักษาน�ำ้ โดยคิดและก่อตัง้ “ตลาดน�ำ้ คลอง ลัดมะยม” ขึ้นในปี 2547 ด้วยทุนส่วนตัวและใช้ที่ดินผืนเล็กๆ ริม คลอง สร้างเป็น “สวนเจียมตน” เริม่ ต้นท�ำกิจกรรมกับชุมชนอย่าง จริงจัง เพื่ออนุรักษ์วิถีชีวิตชาวสวนริมคลอง ในช่วงแรกทีเ่ ปิดตลาด ลุงชวนพายเรือเก็บขยะในคลอง เพียงล�ำพัง โดยหวังว่าจะสามารถรักษาลมหายใจให้แก่ลำ� คลอง

ที่รัก ภาวนาว่าจากส�ำนึกเล็กๆ นี้จะก่อตัวขึ้นและสร้างส�ำนึก ที่ยิ่งใหญ่ให้แก่ชาวบ้านในชุมชนได้ ท�ำเช่นนี้นานกว่า 3 ปี จึงได้รับความร่วมมือจากชาวชุมชน แม้ต้องใช้เวลานาน แต่ที่สุดแล้วความเพียรพยายาม คืนความใสสะอาดให้แม่น�้ำของลุงชวนก็สัมฤทธิผล เพราะ นอกจากความร่วมมือที่ได้รับจากชาวบ้านแล้ว ชุมชนคลอง ลั ด มะยมยั ง เป็ น 1 ใน 18 ชุ ม ชนทั่ ว ประเทศที่ ไ ด้ รั บ รางวั ล การบริหารจัดการน�้ำชุมชนตามแนวพระราชด�ำริ จากสถาบัน สารสนเทศทรัพยากรน�้ำและการเกษตร กระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี และได้ รั บ รางวั ล ชุ ม ชนท่ อ งเที่ ย วดี เ ด่ น จาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เมื่อปี 2550 ด้วย เสียง ตอบรับเหล่านี้จึงเป็นแรงผลักดันให้ชุมชนรักษาน�้ำให้อยู่ใน สภาพที่ดีขึ้นเรื่อยๆ “ผมเริ่มต้นจากตนเอง การพายเรือเก็บขยะของเรา ท�ำให้คนอืน่ เกิดความเกรงใจ ไม่กล้าทิง้ แต่กย็ งั ไม่กล้าเข้ามาช่วย แต่เมือ่ เริม่ มีอาสาสมัครเข้ามา มีนกั เรียนมาช่วยเก็บขยะในคลอง มากขึ้น ชาวบ้านเห็นว่าคนนอกสนใจเรามากขึ้น คนในจึงเริ่มให้ ความร่วมมือ วันนี้ทุกคนยินดีที่จะมาเก็บขยะตอนเย็น เพราะ เป็นภารกิจหนึ่งที่เราท�ำเป็นประจ�ำ และจากรางวัลที่ได้รับท�ำให้ ตอนนี้เรามีงบประมาณซื้อเรือเก็บขยะเพิ่มอีก 3 ล�ำ และเตรียม ติดตั้งบ่อดักไขมันในบ้านเรือนด้วย”

ตลาดน�้ำคลองลัดมะยม พื้นที่เครือข่ายความดี

กว่า 7 ปีนับจากวันก่อตั้ง ตลาดน�้ำคลองลัดมะยม ไม่ได้เป็นเพียงแหล่งแลกเปลี่ยนซื้อขายผลิตผลของชาวสวน เท่านั้น แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเครือข่ายชุมชนเข้มแข็งที่ ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นจากส่วนผสมที่เรียกว่านักท่องเที่ยวและเจ้าของ พื้นที่ ซึ่งตระหนักรู้ถึงความส�ำคัญของสิ่งแวดล้อม การด�ำรงอยู่ ของวิถีชีวิตริมคลอง การมองเห็นคุณค่าและคุณงามความดีใน ตนเอง “ตลาดน�้ำคลองลัด มะยมเป็น ตลาดครอบครัว และ ด�ำรงตามวิถพี ทุ ธ คือ ตลาดนัดแห่งบุญและความดี เพราะฉะนัน้ ในพื้นที่ 500 ร้านค้าจึงปราศจากบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นอกจากนี้ ทุกวันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนจะมีพระคุณเจ้ามาสนทนา ธรรมในสวน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมาร่วมฟังธรรมได้ ทั้งหมด เพื่อเป้าหมายการพัฒนาพื้นที่ควบคู่กับคุณภาพของคน ให้มี ความสมบูรณ์พร้อมทั้งอาหารกายและอาหารใจ “นอกจากโซนตลาดที่เราจะอิ่มท้องได้แล้ว ในพื้นที่ โดยรอบยังสามารถหาความรูต้ า่ งๆ ได้ เช่น มีพพิ ธิ ภัณฑ์เรือจ�ำลอง โรงเรียนวิถีถิ่น ซึ่งเป็นพื้นที่ให้เยาวชนเข้ามาเรียนรู้และท�ำความ รู้จักกับท้องถิ่น เช่น เรียนท�ำขนม ศึกษาการต่อเรือ หรือท�ำว่าว จุฬา เป็นต้น โดยเร็วๆ นี้เราจะเปิดโครงการตลาดเก่าชาวนา ซึ่ง เป็นกิจกรรมเกี่ยวกับข้าวทุกรูปแบบ เพื่อขยายเครือข่ายไปยัง ชุมชนข้างเคียง พร้อมกับพัฒนาโฮมสเตย์ของชาวสวนผลไม้ ให้เป็นการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน”

ยืนหยัดทัดทานกระแสการเปลี่ยนแปลง

วันนี้ประจักษ์ชัดแล้วว่า จุดประสงค์ของการก่อตั้ง ตลาดน�้ำไม่ได้อยู่ที่เม็ดเงินที่ได้กลับมายังเจ้าของตลาด แต่ภาพ ความกระฉับกระเฉงและการรวมตัวกันอย่างเข้มแข็ง โดยผ่าน กระบวนการคิดของคนในชุมชนต่างหาก คือผลก�ำไรมหาศาล ที่มาตรวัดใดก็ไม่สามารถเทียบได้ ลุงชวนทิง้ ท้ายว่า “ถ้าเราท�ำงานทุกอย่างให้เป็นไปตาม กระบวนการ ผมเชือ่ ว่าสิง่ นัน้ จะสร้างปรากฏการณ์และเกิดความ ยั่งยืนในที่สุด ถึงแม้บางครั้งคนที่มองมายังเราจะรู้สึกไม่ชอบใจ แต่อย่างน้อยเราอาจจะท�ำให้เขารู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ดีและอะไรคือ สิง่ ไม่ดี เกิดการไตร่ตรองด้วยตนเองได้วา่ พฤติกรรมแบบใดทีค่ วร หรือไม่ควรท�ำ ถ้าคนเราส�ำนึกถึงผู้คนและสิ่งรอบข้างมากขึ้น การเบียดเบียนกันและการโกงกันก็จะน้อยลง” ปรัชญาการด�ำเนินชีวิตและการท�ำงานของ

ลุงชวน ท�ำให้รวู้ า่ การใช้ชวี ติ ให้มคี ณ ุ ค่านัน้ ท�ำได้อย่างไร บ้าง จิตส�ำนึกและความดีงามภายในจิตใจของตนเอง เป็นเรื่องที่ต้องศึกษา และการได้มาซึ่งความร่วมมือ และความรักจากคนรอบข้าง แลกมาได้งา่ ยๆ ด้วยค�ำว่า “เสียสละ”

Think Green

เรื่อง : ชนาภา สุวงศ์

ตลาดสีเขียว โดนใจนักช็อป

หากเป็ น ไปได้ ผู้ บ ริ โ ภคส่ ว นใหญ่ ใ นทุ ก วั น นี้ เลือกทีจ่ ะซือ้ สินค้าทีเ่ ป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อมมาใช้ ไม่วา่ จะเป็นสินค้าทีช่ ว่ ยลดพลังงาน สินค้ารีไซเคิล หรือสินค้า ที่มีกระบวนการผลิตที่ไม่ทำ�ลายธรรมชาติ เนื่องจาก พวกเขาเล็งเห็นถึงความสำ�คัญและผลกระทบอันรุนแรง ที่จะตามมาหากไม่เร่งดูแลสิ่งแวดล้อมกันตั้งแต่วันนี้ พื้นที่สีเขียวสำ�หรับจัดจำ�หน่ายสินค้ารักษ์โลกจึงเป็น ตลาดชั้ น ดี ที่ มี แ นวโน้ม เจริญเติบ โตเพิ่ม สูงขึ้ น เพื่ อ ตอบรับกับความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน

ตลาดสินค้าสีเขียวถือเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) ที่มีแนวโน้มเติบโตสูง กำ�ลังได้รับความนิยมเป็นอย่าง มาก เห็นได้จากแนวโน้มการซื้อสินค้ารักษ์สิ่งแวดล้อมมีมูลค่า สูงถึง 4 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2010 หากพิจารณาเฉพาะยอด ขายสินค้าออร์แกนิกในสหรัฐอเมริกา ภายในเวลา 10 ปี เพิ่ม สูงขึ้นจาก 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 1990 เป็น 26.7 พัน ล้านดอลลาร์ในปี 2010 โดยเติบโตเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 7.7 จาก เมื่อปี 2009 ซึ่งสินค้าประเภทผักและผลไม้ออร์แกนิกเป็นสินค้า ที่ มี ย อดขายสู ง สุ ด โดยเพิ่ ม ขึ้ น ถึ ง ร้ อ ยละ 11.8 (ข้ อ มู ล จาก Organic Trade Association’s 2011 Organic Industry Survey)

โดยยอดขายสินค้าออร์แกนิกทั่วโลกเพิ่มขึ้นจาก 50.9 พันล้าน ดอลลาร์ในปี 2008 เป็น 54.9 พันล้านดอลลาร์ในปี 2009 โดย ประเทศที่เป็นแหล่งตลาดสีเขียวรายใหญ่ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี ฝรัง่ เศส และประเทศทีม่ กี ารบริโภคสินค้าออร์แกนิกมาก ที่สุดคือ เดนมาร์ก สวิตเซอร์แลนด์ และออสเตรีย ซึ่งถือว่าเป็น ตัวเลขทีเ่ ติบโตอย่างต่อเนือ่ ง และยังมีโอกาสขยายตัวได้อกี มาก โดยเฉพาะในประเทศไทยที่เพิ่งตื่นตัวในเรื่องของการอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อมเมื่อช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา (ข้อมูลจาก The World of Organic Agriculture: Statistics & Emerging Trends 2011)

ตลาดออนไลน์ยักษ์ ใหญ่

หลายคนคงรู้จักตลาดขายสินค้าสีเขียวที่เป็นสถานที่ นั ด พบแลกเปลี่ ย นสิ น ค้ า ระหว่ า งผู้ ผ ลิ ต กั บ ผู้ บ ริ โ ภคโดยตรง แต่ความจริงแล้ว ในยุคปัจจุบนั ด้วยความทันสมัยของเทคโนโลยี ทำ�ให้ตลาดสีเขียวไม่จำ�กัดอยู่เพียงเท่านั้น แต่ยังขยายมาถึง พื้นที่ตลาดในโลกออนไลน์ อย่างในเว็บไซต์ www.ebay.com ซึ่งถือเป็นเว็บไซต์ซื้อขายสินค้ายักษ์ใหญ่ของโลก โดยได้สร้าง ตลาดกลางสำ � หรั บ ซื้ อ ขายสิ น ค้ า ที่ เ ป็ น มิ ต รกั บ มนุ ษ ย์ แ ละ สิ่งแวดล้อมขึ้นมาโดยเฉพาะที่ www.worldofgood.ebay.com

ซึ่งตลาดกลางแห่งนี้มีการขายสินค้าตั้งแต่เครื่องประดับ เสื้อผ้า เด็กและผู้ใหญ่ เฟอร์นิเจอร์ รองเท้า ไปจนถึงสินค้าที่ผลิตจาก ธรรมชาติ สินค้าที่ช่วยประหยัดพลังงาน และสินค้ารีไซเคิล หลากหลายชนิด ซึ่งล้วนได้รับการการันตีจากองค์กรส่งเสริม การอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้ง TransFair USA, Co-op America และ Aid to Artisans ว่าไม่เป็นพิษเป็นภัย ต่อสิ่งแวดล้อมแน่นอน โดยสินค้าเหล่านี้ได้มีการจัดหมวดหมู่ ไว้อย่างชัดเจน สามารถค้นหาได้ง่าย อาจเสิร์ชหาจากคำ�ที่ เกี่ยวข้องกับสินค้าสีเขียว อย่าง green products, recycle, reuse เป็นต้น ซึ่งผู้ที่สนใจก็สามารถเข้ามาเปิดร้านจำ�หน่าย สิ น ค้ า ได้ เ ช่ น กั น เรี ย กได้ ว่ า เป็ น แหล่ ง รวมสิ น ค้ า สี เ ขี ย ว ระดั บ โลกแหล่ ง ใหญ่ แ ห่ ง หนึ่ ง ที่ มี ก ารซื้ อ ขายกั น อย่ า ง ต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสมาชิกที่ซื้อขายสินค้ามากกว่า 86 ล้านคน ทัว่ โลก ถือเป็นการอำ�นวยความสะดวกในการจัดจำ�หน่ายสินค้า สีเขียวให้ถึงมือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง

แหล่งรวมตลาดสีเขียว

สำ�หรับในประเทศไทย ตลาดทีส่ นับสนุนหรือเป็นแหล่ง จำ�หน่ายสินค้าสีเขียวรายใหญ่แห่งหนึ่งคือ “เครือข่ายตลาด สีเขียว” (www.thaigreenmarket.com) ซึ่งเป็นเครือข่ายที่เป็น สื่อกลางในการเชื่อมโยงและขยายความสัมพันธ์ระหว่างผู้ผลิต กับผู้บริโภคในรูปแบบการตลาดสีเขียว โดยได้รวบรวมข้อมูล ร้านค้า แหล่งตลาดนัด รวมถึงผลิตภัณฑ์บริการสีเขียวจาก ผู้ประกอบการและชุมชน เพื่อสร้างเครือข่ายของผู้ประกอบการ ร้านกรีนที่จำ�หน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์และสินค้าที่ผลิตด้วย วิธีทางธรรมชาติ ปลอดสารพิษ พร้อมทั้งยังสร้างสรรค์กิจกรรม ดีๆ เกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยกระตุ้นจิตสำ�นึก

และให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริโภคที่สร้างสมดุลกับ ธรรมชาติ ก่อให้เกิดการรวมกลุ่มผู้บริโภคสีเขียวที่สนใจในเรื่อง อาหารปลอดสารพิษและการบริโภคที่ยั่งยืนผ่านทางเครือข่ายนี้ ตลาดสุขใจถือเป็นหนึ่งในตลาดนัดสีเขียวที่รวบรวม บรรดาเกษตรกรชีวภาพและผู้ผลิตสินค้า OTOP ให้มาร่วม ออกบูธจำ�หน่ายสินค้าเกษตรอินทรีย์นานาชนิดให้แก่ผู้บริโภค โดยตรง ตั้งอยู่บริเวณสวนสามพราน จังหวัดนครปฐม เปิดทุก วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ สินค้าที่จำ�หน่ายที่นี่มี หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าประเภทข้าวอินทรีย์ เห็ดอินทรีย์ ผักผลไม้ปลอดสาร เป็นต้น เพื่อให้เป็นตลาดทางเลือกสำ�หรับ คนรักสุขภาพและรักษ์สิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ ผู้ที่สนใจได้มาศึกษาเกี่ยวกับเกษตรอินทรีย์หรือการเพาะปลูก แบบผสมผสานตามแนวทฤษฎี เ กษตรพอเพี ย งแบบไม่ เ สี ย ค่าใช้จ่ายอีกด้วย ถือว่าเป็นตลาดสีเขียวที่เข้าถึงผู้บริโภคได้เป็น อย่างดี ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ สามารถมาท่องเทีย่ วแนวธรรมชาติ ได้ในที่เดียว การทีต่ ลาดขายสินค้าสีเขียวมีการขยายตัวและ

เข้ามามีบทบาทในชีวติ ของผูค้ นมากขึน้ เท่าไร ก็นา่ จะเป็น สัญญาณที่ดีว่า ประชากรบนโลกใบนี้มีความใส่ ใจและ ตระหนักถึงการรักษาสิง่ แวดล้อมมากขึน้ เท่านัน้ สินค้า ทีก่ อ่ ให้เกิดผลเสียต่อโลกก็จะค่อยๆ หมดไป กลายเป็น สินค้าสีเขียวที่เข้ามาโดนใจนักช็อปในยุคสมัยนี้แทน

Garden in Style

เรื่อง : สุภาณี เกศดายุรัตน์ ภาพ : ณัฐวุฒิ เพ็งค�ำภู, อุ้ม เชาวปรีชา, ธนาวุฒิ โชติประดิษฐ์

เป็นต้น อย่างไรก็ตาม สิง่ ทีต่ อ้ งค�ำนึงถึงเป็นหลักคือ วัสดุทนี่ ำ� มา ใช้ต้องเน้นความเป็นธรรมชาติ เพื่อไม่ให้ขัดกับองค์ประกอบ โดยรวม

จ�ำลองธรรมชาติสู่สายน�้ำล�ำธาร

การท�ำน�้ำตก ล�ำธาร เลียนแบบธรรมชาติ ไม่เพียงจะ ช่วยเสริมบรรยากาศของป่า แต่ยงั เพิม่ ความชุม่ ชืน้ ให้แก่พรรณไม้ ต่างๆ อีกด้วย อย่างไรก็ตาม รูปแบบของน�ำ้ ตก ล�ำธารจ�ำเป็นต้อง ค�ำนวณสัดส่วนพื้นที่สวนทั้งหมด เพื่อความสมดุลและคงความ เป็นธรรมชาติไว้ให้มากที่สุด

สร้างร่มเงาแสนสบาย

สิ่ ง ส� ำ คั ญ ในการจั ด สวนป่ า คื อ การเลื อ กพรรณไม้ ที่เ หมาะสมกับพื้น ที่ส วน และความเหมาะสมของพรรณไม้ ต่อสภาพอากาศท้องถิ่นนั้นๆ แนะน�ำว่าหากเลือกพรรณไม้ที่ เหมาะกับสภาพอากาศท้องถิ่นนั้นๆ จะง่ายต่อการดูแลรักษา อีกทั้งการจัดกลุ่มพรรณไม้ดอกปลูกสับหว่างกับไม้ใบ ร่มเงา ของไม้ใบจะไม่ทึบครึ้มจนเกินไป ทั้งยังได้ความสวยงามจาก ไม้ดอกแซมระหว่างกัน สร้างความสมดุลให้แก่สวนป่าไม่น้อย

จัดสวนป่า น่ารื่นรมย์ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะจัดสวนให้สวยงามตาม ความต้องการของเจ้าของ พร้อมๆ กับสร้างความ รืน่ รมย์แก่ผพู้ บเห็น แต่กไ็ ม่ได้ยากเสมอไปหากรูว้ ธิ ี ยิง่ ถ้าหากใครเป็นมือสมัครเล่น ลองเริ่มจากการจัดสวน ขนาดเล็กเพื่อเป็นการฝึกปรือก่อนที่จะเป็นนักจัดสวน ผู้ช�ำนาญ

แต่หากใครมีพื้นฐานอยู่บ้าง ลองเริ่มจัดจากสวนป่า ซึ่ ง เป็ น สวนที่ มี ค วามใกล้ เ คี ย งกั บ ธรรมชาติ ไม่ จ� ำ เป็ น ต้ อ ง อาศัยพื้นที่กว้างมาก รายละเอียดรูปแบบการจัดไม่ซับซ้อน เหมาะส�ำหรับผู้ที่รักธรรมชาติ และรักการจัดสวนดีทีเดียว การจัดสวนป่านั้น ถือเป็นสวนที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ทีอ่ ดุ มสมบูรณ์จากร่มเงาต้นไม้ใหญ่ โดยมีองค์ประกอบทีเ่ ป็นไป ตามลักษณะของธรรมชาติ อาทิ น�้ำตก ล�ำธาร สระน�้ำ บ่อปลา

ประเภทต้นไม้พึงใส่ใจ

ไม้ยืนต้นและไม้พุ่มที่เป็นไม้ใบเหมาะสมกับการปลูก สวนป่าทีส่ ดุ เนือ่ งจากไม้ใบยืนต้นขนาดใหญ่จะให้รม่ เงาได้มาก และมีลักษณะคล้ายคลึงกับป่า ในขณะเดียวกันสามารถปลูก ไม้พุ่มแซม เพื่อเพิ่มรายละเอียดในสวนป่าให้มีมิติมากขึ้น ทั้งยัง หลีกหนีความจ�ำเจจากไม้ใบยืนต้นขนาดใหญ่

มุมพักผ่อนสบายในสวนป่า

อีกหนึ่งส่วนที่ขาดไม่ได้คือ การแบ่งพื้นที่เป็นมุมเล็กๆ ไว้ส�ำหรับนั่งเล่นพักผ่อน ซึมซับกลิ่นอายธรรมชาติจากสวนป่า สิง่ ส�ำคัญคือการเลือกสีเฟอร์นเิ จอร์ให้เป็นแนวเอิรธ์ โทนเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นชุดโต๊ะในสวน ม้านั่ง หากเลือกได้ควรผลิตจากไม้ หรื อ ศาลาพั ก ผ่ อ นที่ มุ ง หลั ง คาด้ ว ยวั ส ดุ ที่ ไ ด้ จ ากธรรมชาติ สีไม่ฉูดฉาด และกลมกลืนกับสวนป่าได้เป็นอย่างดี

Garden in Style

Garden in Style เคล็ดไม่ลับกับการเลือกประเภทต้นไม้

ถ้ามีพื้นที่สวนไม่มาก การปลูกไม้ยืนต้นเพียง 1-2 ต้น ก็อาจจะเต็มพื้นที่ แนะน�ำให้ใช้ไม้ยืนต้นขนาดเล็กหรือขนาด กลาง เช่น ปีบ โมก ประทัดจีน เพื่อให้โปร่งพอที่แสงจะลอดผ่าน ลงมาถึงพื้นดินได้บ้าง อาทิ

ใบประดับ มีสีสันสวยงาม เติบโตได้ดีในสภาพที่มีความชื้นสูง แสงร�ำไร และพื้นที่มีลมพัดผ่านไม่แรงนัก • เดหลี (กวักมงคล) เป็นไม้กอขนาดเล็ก ล�ำต้นสั้น ใบเป็น รูปหอก ออกดอกเป็นช่อคล้ายหน้าวัว แต่มีขนาดเล็กกว่า จาน รองดอกสีขาว เป็นไม้ชอบน�้ำ ปลูกได้ตามชายน�้ำ • นมต�ำเลีย (โฮย่า) เป็นไม้เถาเลื้อย ล�ำต้นและใบมียางสีขาว ออกดอกเป็นช่อสีขาว ดอกเกาะกันเป็นกลุ่มแน่นมีกลิ่นหอม ออกดอกระหว่างเดือนธันวาคมถึงมกราคม

• ปีป เป็นไม้ยืนต้น ทรงพุ่ม ออกดอกเป็นช่อตามปลายยอด ดอกสีขาว มีกลิ่นหอม ออกดอกราวเดือนกันยายนถึงธันวาคม มีถิ่นก�ำเนิดตามป่าดงดิบทั่วไป • โมก เป็นไม้พุ่มยืนต้นขนาดกลาง มีหลายชนิด เช่น โมกลา โมกด่าง โมกซ้อน ออกดอกเป็นช่อขนาดเล็ก สีขาว กลิ่นหอม ดอกบานตอนเย็น ปลูกได้ในแดดร�ำไรถึงแดดจัด และเป็นไม้ ที่ชอบน�้ำ ปลูกชายน�้ำหรือแช่กระถางในจานรองหล่อน�้ำก็ได้ มักนิยมตัดแต่งเป็นทรงพุ่ม แต่หากปล่อยทรงอิสระ ต้นจะสูง ได้ถึง 250 เซนติเมตร • ประทัดจีน (ประทัดใหญ่) เป็นไม้พุ่มยืนต้นขนาดเล็ก ดอกมี ลักษณะเป็นหลอดสีแดงสด ออกเป็นช่อตามปลายกิ่งยอดละ 2 - 4 ช่อ ออกดอกตลอดปี เป็นไม้ที่ชอบที่ร่มร�ำไรและมีความชื้น พอสมควร

• กระแตไต่ไม้ เป็นไม้ในตระกูลเฟินอิงอาศัย ใบเป็นใบเดี่ยว เว้าถึงกึ่งกลางเส้นใบ ใบหยักเป็นแฉก • กล้วยไม้ มีหลายสกุล ทีน่ ยิ มน�ำมาปลูกเกาะต้นไม้คอื กล้วยไม้ สกุลออนซิเดียม (Oncidium) กล้วยไม้สกุลหวาย (Dendrobium) และกล้วยไม้สกุลแมลงปอ (Arachnis) • ชายผ้าสีดาใบตัง้ เป็นไม้ตระกูลเฟินอิงอาศัย ใบกาบมีรอยหยัก เล็ ก น้ อ ย ใบปรกติ ตั้ ง ขึ้ น ปลายแยกเป็ น แฉกคล้ า ยผั ก กาด อับสปอร์เกิดในกระเปาะรูปกลมรี เมื่อมีการสร้างสปอร์ ใบจะ เป็นแผ่นกลม

การเลือกไม้พุ่มขนาดเล็ก

ประเภทไม้ขนาดเล็กคลุมดิน

พันธุ์ไม้พุ่มที่เหมาะกับการปลูกสวนป่า ส่วนใหญ่จะมี ความงดงามที่รูปทรงของใบ ให้ความรู้สึกเย็นสบายจากสีเขียว อ่อน เขียวแก่ เช่น • เขียวหมื่นปี เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก มีอยู่หลายพันธุ์ด้วยกัน ใบสีเขียว ผิวใบเป็นมัน มีลายใบสวยงาม เป็นพันธุ์ไม้ชอบแสง ร�ำไรและความชื้นสูง • เล็ บ ครุ ฑ ฝอย เป็ น ไม้ พุ ่ ม ขนาดเล็ ก ล� ำ ต้ น แบ่ ง เป็ น ข้ อ ๆ ใบแน่นเป็นทรงพุ่มทึบ เติบโตได้ดีในแสงร�ำไร

ไม้ที่ให้ดอกในที่ร่มร�ำไร

• หน้าวัวดอก ที่มักพบเห็นกันบ่อยก็คือใบรูปหัวใจ ปลายใบ แหลม ส่วนทีใ่ ห้ความสวยงามคือ จานรองดอกหรือบางทีกเ็ รียกว่า 01 ประทัดจีน 02 เขียวหมื่นปี 03 เดหลี 04 กล้วยไม้

ประเภทเกาะต้นไม้

• หนวดปลาดุก มี 2 ชนิด คือ พันธุ์แคระ สูงราว 5 - 8 เซนติเมตร กอเล็กกะทัดรัด รูปร่างสวยงาม พุ่มใบหนา ส่วนพันธุ์ธรรมดา สูงราว 10 - 15 เซนติเมตร ชอบแสงร�ำไร แต่ก็ปรับตัวทนแดดได้ โดยต้องหมั่นรดน�้ำอย่าให้ดินแห้ง ปลูกได้ทั้งในแสงแดดร�ำไร ถึงแสงแดดจัด ปลูกแทรกตามก้อนหินหรือทางเดินดูสวยงาม เป็นธรรมชาติ • กลุ่มว่านเศรษฐีเรือนนอก เศรษฐีเรือนใน เศรษฐีเรือนนอก พื้นใบจะเป็นสีเขียว ขอบใบมีสีขาว เศรษฐีเรือนใน พื้นใบเป็น สีเขียว มีแถวสีขาวตรงกลางใบ ออกดอกเป็นช่อ ดอกสีขาว ชอบแสงแดดร�ำไร • ลิ้ น มั ง กร (ลิ้ น นาคราช) เป็ น ไม้ ก อขนาดเล็ ก มี ล� ำ ต้ น อยูใ่ ต้ดนิ ชูสว่ นของใบขึน้ เป็นกออยูเ่ หนือดิน ใบรูปหอกเรียวยาว หนาและแข็ง สวนป่ า นอกจากจะท� ำ ให้ บ ้ า นดู เ ขี ย วชอุ ่ ม

ไปด้วยพรรณไม้นานาชนิดแล้ว ยังสร้าง “พืน้ ทีส่ เี ขียว” ให้ คุ ณ และครอบครั ว ได้ อิ ง กายพั ก ผ่ อ นท่ า มกลาง ธรรมชาติ ไม่แพ้บรรยากาศของรีสอร์ทไหนๆ

Home Sweet Home เรื่อง : ทัศนัย ข�ำชื่น ภาพ : สุภัทรา, วิรุฬห์

Loft Style

แต่งบ้านเรียบง่ายให้ดูดี...มีสไตล์

Home Sweet Home การตกแต่ ง บ้ า นสไตล์ ล อฟท์ รั บ อิ ท ธิ พ ล มาจากแนวทางการตกแต่งบ้านในช่วงปลายยุค 1990 ซึ่งในสมัยนั้นผู้คนมีความนิยมในการดัดแปลงโกดัง และอาคารอุ ต สาหกรรมของโรงงานที่ เ ลิ ก กิ จ การ มาใช้เป็นที่พักอาศัยจ�ำนวนมาก แม้ปัจจุบันจะไม่มีคนใช้ อาคารอุตสาหกรรมโรงงานเป็นที่พักอาศัยแล้ว แต่ สไตล์ลอฟท์ก็ยังปรากฏให้เห็นในงานตกแต่งภายใน ของบ้านและคอนโดมิเนียม ด้วยสไตล์แบบโมเดิร์น ที่เข้ากันอย่างลงตัวกับเฟอร์นิเจอร์ และความเป็น ธรรมชาติของโครงสร้างที่เปิดเผยวัสดุโดยไม่มีการ เติมแต่ง

เอกลักษณ์เด่นของบ้านสไตล์ลอฟท์

รูปแบบการตกแต่งบ้านสไตล์ลอฟท์เน้นบรรยากาศ แบบโมเดิร์นที่ให้กลิ่นอายของอาคารอุตสาหกรรมโรงงาน วัสดุ และขั้นตอนในการก่อสร้างจะมีรายละเอียดน้อย แต่จะเน้นใน เรื่ององค์ประกอบอื่นๆ เช่น เฟอร์นิเจอร์ ของตกแต่ง และการ จัดวาง เพื่อบรรยากาศของบ้านที่มีชีวิตชีวาอย่างลงตัว โดย เอกลักษณ์เด่นของบ้านสไตล์นี้คือ โชว์พนื้ ผิวและโครงสร้าง เสาบ้าน คานเหล็ก และผนัง ก่ออิฐโชว์แนว สิ่งเหล่านี้ให้อารมณ์การตกแต่งแบบดิบๆ ที่ไม่ ต้องเพิม่ เติมสิ่งใดมากมาย นอกจากนี้ การโชว์โครงสร้างหลังคา และระบบท่อต่างๆ ที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบ ทั้งท่อน�้ำ ท่อไฟ ท่อแอร์บนผนัง รวมทัง้ ฝ้าเพดาน ก็ให้กลิน่ อายแบบโมเดิรน์ ได้ ด้วย การใช้สีที่กลมกลืนกับผนัง ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการก่อสร้าง เพราะไม่ต้องบุฝ้าหรือฉาบปูน ส�ำหรับคนที่ไม่ชอบให้บ้าน เปลือยโครงสร้างมากเกินไป อาจเลือกโชว์พื้นผิวของบ้านในมุม เล็กๆ ก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจ เผยรายละเอียดงานวางระบบ สายไฟ สายโทรศัพท์ และสายของระบบต่างๆ ภายในบ้าน ไม่จ�ำเป็นต้องหลบซ่อน อยู่ในฝ้าเพดาน หรือพลาสติกหุ้มบริเวณเสา การน�ำออกมาโชว์ ให้เห็นอย่างชัดเจนบนผนังจะช่วยให้ดีไซน์ของบ้านดูลงตัวกับ การโชว์โครงสร้าง แต่การเดินสายต้องท�ำอย่างเป็นระเบียบ ไม่ ห้อยรุงรัง ที่ส�ำคัญควรวางแผนตั้งแต่เริ่มการก่อสร้างเพื่อความ แน่นอนของการใช้งาน บันไดโลหะ ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศให้เข้ากับสไตล์ การตกแต่ ง แบบลอฟท์ ด้ ว ยบั น ไดโลหะที่ มี ทั้ ง แบบวนและ

Home Sweet Home

โต๊ะตัวนี้ควรให้อารมณ์ที่กลมกลืนกับตัวบ้าน เช่น เหล็กหรือไม้ ลายใหญ่ อาจจัดให้เป็นมุมกิจกรรมหรือมุมรับประทานอาหาร ภายในบ้าน ก็ดูลงตัวทุกองศา หากวั น นี้ บ ้ า นของคุ ณ ก� ำ ลั ง อยู ่ ใ นขั้ น ตอน แบบตรง ช่วยให้พนื้ ทีใ่ นบ้านดูนา่ อยู่ ไม่อดึ อัด หากมีการวางผัง ที่ดี อาจได้พื้นที่ใต้บันไดเพิ่มเป็นมุมอ่านหนังสือเล็กๆ ช่วยให้ บ้านมีพื้นที่ใช้สอยได้มากขึ้นอีก

ลงตัวด้วยองค์ประกอบ

การติดตัง้ หน้าต่างบานใหญ่จะช่วยให้การเปิดรับแสงจากภายนอก โปร่ง โล่ง สบาย เฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่และของ มีความสมดุล ลองเพิ่มความสวยงามด้วยการติดมู่ลี่ในด้านทิศ ตกแต่ง ควรจัดวางชิดผนังให้เป็นระเบียบ ไม่ควรจัดวางแบบ ตะวันตก เพื่อช่วยกรองแสงแดดในยามบ่าย และหากในบริเวณ ระเกะระกะ พื้นที่ห้องรับแขก ห้องท�ำงาน หรือห้องรับประทาน บ้านมีมุมมืดสลัว ลองเลือกใช้โคมไฟแบบแขวน หรือตั้งพื้นเพิ่ม อาหาร ควรจัดวางเฟอร์นเิ จอร์ให้อยูใ่ นแต่ละมุมอย่างลงตัว และ แสงสว่าง ก็จะท�ำให้มุมนั้นดูสบายขึ้น และยังช่วยท�ำให้บ้าน ไม่จำ� เป็นต้องมีจำ� นวนมากเกินไป ในส่วนฝ้าเพดานก็ควรติดตัง้ มีกลิ่นอายโรแมนติก ไม่แข็งกระด้าง ให้อยูใ่ นระดับสูง เพือ่ ให้พนื้ ทีช่ นั้ ล่างของบ้านเปิดโล่งถึงชัน้ ลอย เลือกโทนสีอย่างมีสไตล์ โทนสีของการแต่งบ้านสไตล์ (Double Space) เพิ่มความสว่าง และให้อากาศถ่ายเทได้อย่าง ลอฟท์ ประกอบด้วยสีขาว สีเทา และสีด�ำ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ สะดวก อาจลองเพิ่มสีสันด้วยการติดพัดลมเพดานในสไตล์ เฉพาะของการตกแต่งสไตล์ลอฟท์ เหมาะอย่างยิ่งส�ำหรับ ที่เข้ากัน คนชอบโทนสีหม่น ส�ำหรับคนชอบโทนสีสว่าง แนะน�ำให้เลือก รับแสงสว่างอย่างสมดุล บ้านสไตล์ลอฟท์จะน่าอยู่ ใช้สขี าวทาในส่วนผนัง ตัดกับสีของปูนซีเมนต์ ก็จะได้บรรยากาศ มากขึ้น หากแสงสว่างจากภายนอกที่เข้ามามีปริมาณก�ำลังดี ที่โมเดิร์นและเข้ากันกับเฟอร์นิเจอร์ในแต่ละแบบที่เลือกสรรมา

เลือกเฟอร์นิเจอร์ให้เหมาะกับดีไซน์

เบาไว้ก่อน การเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้บ้านสไตล์ลอฟท์ ควรพิจารณาเฟอร์นิเจอร์ที่มีน�้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก สามารถยกไปวางตามมุมต่างๆ ของบ้านได้ไม่ล�ำบากนัก ดีไซน์นักสะสม เฟอร์นิเจอร์ที่เลือกควรมีลักษณะเรียบ ง่าย ไม่หวือหวา หรือมีสีสันฉูดฉาดเกินไป วัสดุของเฟอร์นิเจอร์ ควรเลือกเป็นไม้ เหล็ก อะลูมิเนียม หรือสเตนเลส เพื่อให้เข้ากับ ลักษณะการโชว์พื้นผิวของตัวบ้าน โดยเฉพาะการเลือกชั้นวาง ของติดผนังที่ต้องมีความเข้ากันของโทนสี เพื่อการจัดวางของ สะสมหรือของแต่งบ้านให้สวยงาม โดดเด่น โต๊ะยาว เฟอร์นิเจอร์อเนกประสงค์ที่บ้านสไตล์ลอฟท์ ขาดไม่ได้คอื โต๊ะยาวขนาดใหญ่ จัดวางเข้าชุดกับเก้าอี้ วัสดุของ

ก่อสร้าง อาจยังปูฝ้าเพดานไม่เสร็จ ฉาบปูนบริเวณ ผนังยังไม่ครบ เดินสายต่างๆ ยังไม่ทั่วถึง ไอเดีย การตกแต่งเหล่านี้น่าจะเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่ท�ำให้คุณ ได้บา้ นหลังใหม่ที่มดี ไี ซน์ล�้ำสมัย มีความเป็นเอกลักษณ์ เฉพาะตัว แถมยังช่วยประหยัดเวลา และใช้ค่าตกแต่ง น้อยลงอย่างไม่น่าเชื่อ

Tips เลือกวัสดุให้เหมาะกับบ้านสไตล์ลอฟท์ หลังคา: เหล็ก ซีเมนต์ใยหิน ผนัง: ก่ออิฐโชว์แนว ก่ออิฐฉาบปูน ทาสี ประตูหน้าต่าง: อะลูมิเนียม บานเกล็ดกระจก เหล็กบานม้วน พื้น: กระเบื้องยางสังเคราะห์ อีพ็อกซี คอนกรีตขัดมัน ไม้ สี: สีธรรมชาติของวัสดุและสีโทนอ่อน แต่อาจเน้นผนังบางส่วน ด้วยสีสด

Feel Fit

เรื่อง : สุทธินี ใจสมิทธ์

ออกก�ำลัง เพิ่มพลังสมองด้วย

“นิวโรบิกส์ เอกเซอร์ไซส์”

สมองเป็ น ส่ ว นส� ำ คั ญของร่ า งกายที่ มี หน้ า ที่ ควบคุมและสั่งการให้ร่างกายท�ำงานเป็นปกติ นอกจาก การออกก�ำลังโดยใช้การเคลื่อนไหวของร่างกายเพื่อ ให้สุขภาพแข็งแรงแล้ว การออกก�ำลังสมองก็มีความ ส�ำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะช่วยให้เซลล์สมองไม่เสื่อมไป ตามวัย

นิวโรบิกส์ เอกเซอร์ไซส์ (Neurobics Exercise) นับเป็น อีกหนึ่งทางเลือกใหม่ของการออกก�ำลังสมอง โดยการฝึกสมอง ส่วนต่างๆ ให้ทำ� งานเชือ่ มโยงกันเพือ่ ให้เซลล์สมองแข็งแรง เปรียบ ได้กับการออกก�ำลังกายแบบเคลื่อนไหวโดยทั่วไปที่ใช้กล้ามเนื้อ หลายส่วนท�ำงานร่วมกันเพื่อให้ร่างกายมีพลัง

แนวคิดของนิวโรบิกส์

แนวคิ ด นิ ว โรบิ ก ส์ ถู ก ออกแบบและค้ น คว้ า โดย ศาสตราจารย์ชาวอเมริกัน ลอเรนซ์ ซี แคทซ์ ผู้เชี่ยวชาญด้าน ประสาทวิทยา ทีเ่ ห็นความส�ำคัญของการบริหารสมองเพือ่ ให้ความ จ�ำดี ไม่หลงลืมแม้อายุมากขึ้น จึงได้น�ำหลักการออกก�ำลังแบบ แอโรบิกมาประยุกต์ โดยเน้นการใช้ประสาทสัมผัสไปกระตุ้น กล้ามเนื้อสมองทุกส่วนให้ตื่นตัวอยู่เสมอ

นิวโรบิกส์เน้นส่วนไหน

วิ ธี อ อกก� ำ ลั ง สมองแบบนิ ว โรบิ ก ส์ เอกเซอร์ ไ ซส์ (Neurobics Exercise) เน้นการได้ยิน การมองเห็น การได้กลิ่น การลิ้มรส การสัมผัส และยังรวมถึงอารมณ์ ให้มีการท�ำงาน สัมพันธ์กันต่อเนื่อง โดยใช้กิจกรรมในชีวิตประจ�ำวันเป็นตัวช่วย สิ่งส�ำคัญคือ ต้องไม่ซ�้ำซากจ�ำเจ จึงจะส่งผลให้สมองหลั่งสาร นิวโรโทรฟินส์ อาหารสมองจานส�ำคัญที่ท�ำให้เซลล์สมองเติบโต และแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

หลักการออกก�ำลังแบบนิวโรบิกส์

• เปลี่ยนชีวิตประจ�ำวันให้ต่างไปจากเดิม การท�ำ กิจกรรมแบบเดิมซ�้ำไปซ�้ำมา เมื่อนานเข้าจะท�ำให้สมองไม่ต้อง คิด (Subconscious) เซลล์สมองจะฝ่อลงเรื่อยๆ ควรใช้หลัก นิวโรบิกส์เข้ามาปรับทีละนิด เช่น เปลี่ยนเส้นทางไปท� ำงาน ใช้มือข้างที่ไม่ถนัดแปรงฟัน ฟังเพลงที่ไม่เคยฟัง เปลี่ยนอาหาร มื้อเช้า ลองออกก�ำลังกายด้วยกีฬาใหม่ๆ ที่ต่างออกไป • กระตุ้นประสาทสัมผัสให้มากที่สุด ดึงความสามารถ ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส และอารมณ์ออกมาใช้ และจะดี ยิ่งขึ้นถ้าใช้ประสาทสัมผัสมากกว่า 1 อย่างในเวลาเดียวกัน งดใช้ประสาทสัมผัสที่เคยชิน ตัวอย่างของการกระตุ้นประสาท เช่น หลับตาขณะอาบน�้ำ ดมกลิ่นหอมของดอกไม้ขณะดูทีวี เล่นเกมฝึกสมองอย่างหมากรุก จิ๊กซอว์ เป็นต้น • มองหาประสบการณ์ แ ปลกใหม่ อ ยู ่ เ สมอ การ กระตุ้นสมองที่ดีที่สุดคือ การท�ำสิ่งที่ไม่เคยท�ำมาก่อน ฝึกแก้ ปัญหาเฉพาะหน้าอยู่เสมอ เช่น ท่องเที่ยวในที่ที่ไม่เคยไป อาทิ แคมปิง้ ปีนเขา เดินป่า ปัน่ จักรยานเสือภูเขา รวมถึงหางานอดิเรก ที่ไม่เคยท�ำ พบปะสังสรรค์กับคนหลากหลายกลุ่ม

นิวโรบิกส์ดีกับสมองอย่างไร

หากมีการออกก�ำลังสมองอยู่เสมอ จะช่วยให้สมอง ขยายกิ่งก้านสาขาเพิ่มขึ้นได้ตลอดชีวิต ส่งผลให้การท�ำงาน ของสมองดีขึ้น เซลล์สมองแข็งแรงและเจริญเติบโต ที่ส�ำคัญ เซลล์ประสาทจะเพิ่มขึ้นเพื่อทดแทนส่วนที่สูญเสียไป ท�ำให้ ห่างไกลจากโรคอัลไซเมอร์ โรคสมองฝ่อ มีความจ�ำดีเยี่ยม แม้อายุจะเพิ่มขึ้น เพราะสมองเป็นอวัยวะส�ำคัญในการรับรู้และสั่งการ ไปยังอวัยวะต่างๆ ให้ท�ำงานเป็นปกติ การออกก�ำลังสมองเป็น ประจ�ำและสม�ำ่ เสมอย่อมช่วยให้สมองแข็งแรงและเจริญเติบโต โดยสามารถประยุกต์วธิ กี ารให้เหมาะสมกับตนเอง สิง่ ส�ำคัญคือ ต้องปลอดภัยและไม่เป็นอันตราย

ท่าฟิตเสริม เติมก�ำลังสมอง

นอกจากหลั ก การออกก� ำ ลั ง สมองด้ ว ยการปรั บ พฤติกรรมแล้ว ยังมีทา่ ออกก�ำลังสมองทีส่ ามารถลองท�ำได้งา่ ยๆ ด้วยตัวเองที่บ้าน ดังต่อไปนี้

โยกเยก นั่ ง บนพื้ น โดยหาเบาะหรื อ พรมขนาดเล็ ก มาปู ร องไว้ จากนั้นวางมือทั้งสองข้างไว้ด้านหลัง งอเข่าทั้งสองข้างขึ้นชิด บริเวณหน้าอก จากนั้นเอนตัวไปข้างหลังช้าๆ ค่อยๆ ทิ้งน�้ำหนัก ที่มือและสะโพก โยกตัวไปด้านหน้า ด้านซ้าย และด้านขวา โดย โยกไปโยกมาประมาณ 20 - 30 วินาที ท�ำสลับกันอย่างต่อเนื่อง

กระตุ้นแขนและไหล่ นั่งหลังตรงบนเก้าอี้ ยกแขนทั้งสองข้างให้สุดแขน จากนั้น งอแขนซ้ายให้อยู่บริเวณหลังศีรษะ ให้มือซ้ายจับที่ต้นแขน ขวาที่ยังเหยียดตรงอยู่ หายใจเข้าออกทางปากช้าๆ พร้อมกับ ดันแขนขวาไปทางขวา ให้แขนซ้ายดึงรั้งไว้ นับ 1 - 8 หายใจ เข้าและผ่อนแรงดึง หายใจออกพร้อมกับนวดต้นแขนเบาๆ ให้ทั่ว ท�ำแบบเดิมแต่เปลี่ยนเป็นแขนอีกข้าง ท�ำสลับไปมา จนครบ 3 รอบ

Feel Fit

Tips • โปรตีนจากเนือ้ สัตว์จำ� เป็นต่อการท�ำงานของเซลล์สมอง โดยเฉพาะ โอเมก้า 3 ที่พบมากในปลาทะเลจะช่วยให้เซลล์ประสาทท�ำงานปกติ และลดการเกิดพังผืดในสมอง • หอมหัวใหญ่ พริก ขิง มีสารส�ำคัญช่วยเพิ่มเซลล์สมอง ท�ำให้ มีความจ�ำเป็นเลิศ

นวดใบหูเสริมความคิด หาวสร้างพลัง นั่งในท่าสบายโดยใช้มือจับส่วนบนสุดของใบหูทั้งสองข้าง อ้าปากกว้าง ใช้ปลายนิ้วกดนวดเบาๆ ตั้งแต่โหนกแก้ม หายใจเข้าพร้อมนวดใบหูทั้งสองข้าง นวดไล่ลงมาจนถึงติ่งหู ไล่ลงมาถึงขากรรไกรล่าง ประมาณ 3 - 5 รอบ หายใจออกให้นวดใบหูไล่ขึ้นไปจนถึงส่วนบนสุด ค่อยๆ ท�ำจน ครบ 3 - 5 ครั้ง

ไขว้สลับฝึกสมดุล นั่งหลังตรงบนเก้าอี้ เอาข้อเท้าซ้ายไขว้สลับกับข้อเท้าขวา มือทัง้ สองข้างวางบนตัก หายใจเข้าพร้อมกับปิดปากโดยปลายลิน้ แตะเพดานปาก หายใจออกคลายลิ้น ท�ำซ�้ำสลับกัน จากนั้น ลุกขึ้นยืนตัวตรง ให้ขาซ้ายไขว้กับขาขวา ข้อมือขวาไขว้ทับ ข้อมือซ้ายให้มือประสานกัน ยกมือให้อยู่ระดับอก หายใจโดย ใช้วิธีการเดิม ท�ำซ�้ำอีกข้างสลับกัน ท่านี้จะเลือกท�ำวิธีนั่งหรือ ยืนเพียงท่าเดียวก็ได้

Talk to Doctor

เรื่อง : นายแพทย์ทวีพงษ์ จันทรเสโน ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ โรคทางมือ โรงพยาบาลเวชธานี

ปวดชาตามนิ้วมือ ข้อมือ อย่าเพิกเฉย! คุณอาจเป็น “โรคพังผืด ทับเส้นประสาทที่ข้อมือ” โดยไม่รู้ตัว

หลายๆ คนอาจเคยมีอาการชาตามมือ ปวดตาม ข้อมือ ที่อยู่ๆ ก็เป็นเองโดยไม่ทราบสาเหตุ อาการที่ว่า อาจฟังดูไม่รุนแรงอะไรมาก บางครั้งเลยเข้าใจไปเองว่า อาการดังกล่าวอาจเกิดจากวัยที่ล่วงเลย หรือที่เรียก กันง่ายๆ ว่า “โรคคนแก่” เพราะอาการที่ว่าบางครั้ง เมื่อใช้วิธีสะบัดมือสักทีสองที มันก็มักจะหายไปเอง

แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาการดังกล่าวอาจเป็นอาการ เตือนเบือ้ งต้นของโรคชนิดหนึง่ โรคทีอ่ าจฟังดูไม่คอ่ ยคุน้ หูนกั หากแต่ วันหนึ่งถ้าท่านปล่อยอาการให้ลุกลามไปมากแล้ว ท่านอาจต้อง จ่ายค่าเสียหายในความไม่พึงระวังในจ�ำนวนที่มากกว่าที่คาดคิด ด้วย “โรคพังผืดทับเส้นประสาทที่ข้อมือ”

โรคนี้เกิดจากอะไร

โรคนี้เกิดจากการที่เส้นประสาทบริเวณข้อมือถูกกดทับ (Carpal Tunnel Syndrome) อันเนือ่ งมาจากเกิดความดันสูงภายใน อุโมงค์บริเวณข้อมือที่เส้นประสาทนี้ลอดผ่าน อาจแบ่งอาการออก เป็น 2 ประเภท คือ แบบเฉียบพลันและเรื้อรัง ซึ่งร้อยละ 90 ของ ผู้ป่วยโรคนี้มักจะเป็นในลักษณะเรื้อรังเสียเป็นส่วนใหญ่ ส่วนใน กรณีของผู้ป่วยเฉียบพลัน อาจเกิดจากคนไข้ได้รับอุบัติเหตุมา หรือถูกกระแทกโดยตรงอย่างรุนแรง ท�ำให้เกิดการบาดเจ็บของ เส้นประสาท มีผลท�ำให้มือชาได้

Talk to Doctor

แต่โดยหลักๆ แล้วโรคนี้มักจะเกิดในลักษณะเรื้อรัง มากกว่า มักพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย อัตราส่วน 3:1 หรือ 4:1 ซึ่งกลุ่มนี้ก็แบ่งตามอายุได้เป็นอีก 2 กลุ่ม คือ • กลุ่มวัยท�ำงาน มักจะเกิดจากพฤติกรรมการท�ำงาน ที่ต้องใช้มือนานๆ เช่น พิมพ์อะไรนานๆ หรือเกร็งอะไรนานๆ ก็จะเกิดอาการชาได้ เพราะมีการใช้งานของมือที่มากเกินขนาด • กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งมักจะมีโรค ประจ�ำตัวอยูแ่ ล้ว และยังพบอีกว่าโรคนีจ้ ะเป็นมากในกลุม่ ผูป้ ว่ ย ที่เป็นโรคเบาหวาน เพราะผู้ป่วยโรคเบาหวานจะมีอาการของ อวัยวะในร่างกายที่อ่อนแอลง เส้นประสาทก็เช่นกัน คือมีความ อ่อนแออยู่แล้ว ก็จะยิ่งเป็นได้ง่ายขึ้น

ปกติเส้นประสาทจะอยู่ที่หลังคาของช่องอุโมงค์ภายในข้อมือ จะด้วยสาเหตุอะไรก็ตามท�ำให้เส้นประสาทดังกล่าวถูกเบียด ดันไปจนชิดหลังคาของช่องอุโมงค์ในข้อมือ และเมือ่ เส้นประสาท ถู ก เบี ย ดถู ก กดก็ จ ะเกิ ด การสู ญ เสี ย หน้ า ที่ ค วามสามารถไป ซึ่ ง หน้ า ที่ ข องเส้ น ประสาทคื อ การรั บ รู ้ เ รื่ อ งความรู ้ สึ ก และ การเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ ท�ำให้ผู้ป่วยอาจแสดงอาการปวด หรือชา ขึน้ อยูก่ บั ปริมาณความปวดของผูป้ ว่ ยแต่ละรายไป ซึง่ จะ แบ่งได้เป็น 3 กรณี คือ • ระยะเริ่มต้น ผู้ป่วยในระยะแรกนี้มักมีอาการชาใน ตอนกลางคืน ต้องตื่นขึ้นมาสะบัดข้อมือกลางดึกให้อาการหาย จึงนอนต่อได้ หรือมีอาการชาในช่วงเช้าหลังจากตื่นนอน แต่พอ หยิบจับท�ำอะไรไปสักพัก อาการก็จะดีขนึ้ หรืออาจมีอาการปวด อาการเป็นอย่างไร บ้างในผู้ป่วยบางคน ส่วนใหญ่โรคนี้จะมีอาการปวดและชาตามมือหรือ • ระยะที่สอง ผู้ป่วยระยะนี้จะมีอาการชาตลอดเวลา ข้อมือ ซึง่ เกิดจากเส้นประสาทถูกกดทับทีข่ อ้ มือหรือฝ่ามือ มักจะ ทัง้ เวลากลางวันกลางคืน โดยเฉพาะถ้ายังต้องใช้มอื ในการหยิบ มีอาการชาทีน่ วิ้ หัวแม่มอื นิว้ ชี้ นิว้ กลาง และครึง่ หนึง่ ของนิว้ นาง จับหรือท�ำงานอะไรมากๆ อาการก็จะยิ่งชามากขึ้น • ระยะสุดท้าย ผู้ป่วยระยะสุดท้ายนี้จะมีอาการทั้ง ปวด ชา ลามไปถึงรู้สึกว่ากล้ามเนื้อที่ฝ่ามืออ่อนแรง ผู้ป่วยจะ หยิบจับ ท�ำกิจกรรมอะไรได้ไม่ถนัดมือ หรืออาจท�ำของหลุดมือ เพราะกล้ามเนื้ออ่อนแรง

ดูแลตัวเองในเบื้องต้นอย่างไร

ต้องสังเกตเพือ่ แยกอาการ ถ้าเราดูแลตัวเองอย่างดีแล้ว แต่อาการปวดหรืออาการชาก็ยังอยู่ ไม่หายไป นั่นถือว่าเป็น การส่งสัญญาณแบบหนึ่งของโรคชนิดนี้ ควรไปปรึกษาแพทย์ เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยอาการ ผู้ป่วยบางรายที่มีอาการอ่อนแรงมาเลย ส่วนใหญ่ ถ้าถามย้อนกลับไปก็จะพบว่า ผูป้ ว่ ยมีอาการปวดและชามานาน แล้ว แต่ไม่ได้สนใจหรือไม่ทราบว่าตนเป็นโรค จึงปล่อยปละ ละเลย ไม่มาเข้ารับการรักษาที่ถูกต้อง บางรายเข้าใจไปว่าเป็นอาการของคนแก่ จึงไม่ได้ ให้ความส�ำคัญ จนปล่อยให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง จนถึงขั้นเล็ก ลีบไปเลยก็มี ลูกหลานเห็นผิดปกติจึงพามาพบแพทย์ ซึ่งแบบนี้ จัดว่าเป็นระยะสุดท้ายแล้ว แม้จะถึงมือหมอแล้ว แต่กอ็ าจไม่ฟน้ื คืนได้เต็มร้อย แค่ชว่ ยชะลออาการไม่ให้มนั หนักมากไปกว่าเดิม หรื อ ในผู ้ ปว่ ยบางรายเมื่ อ เกิ ด อาการปวดและชา ดังกล่าว ก็เกิดความเข้าใจผิด แก้ปัญหาด้วยการไปบีบ ไปนวด

ขั้นตอนการผ่าตัดแบบ Semi - Open

ไปคลึงมัน ซึ่งไม่ได้เป็นผลดี แต่ยิ่งเป็นการไปเพิ่มการกดทับให้ มากเข้าไปอีก เพราะอาการของโรคนีเ้ กิดจากเส้นประสาท ไม่ได้ เกิดจากการเกร็งของกล้ามเนื้อซึ่งเป็นคนละประเภทกัน ฉะนั้น การนวดจึงไม่ใช่การรักษาที่ถูกต้องนัก

การรักษาท�ำอย่างไรได้บ้าง

ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ไปกระตุ้น ไปกดทับเส้น ประสาทจากตัวเองก่อน เช่น ไม่นอนทับแขน ทับข้อมือในตอน กลางคืน เลิกก�ำมือหรือเกร็งมือในกิจกรรมใดแน่นๆ เป็นเวลา นานๆ ควรหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้เกิดพฤติกรรมก่อโรคที่สะสม ถ้าหยุดพฤติกรรมแล้วยังมีอาการอยู่ ควรไปพบแพทย์ แพทย์จะรักษาด้วยวิธใี ห้ทานยา เช่น ยาลดการอักเสบ ยาคลาย กล้ามเนื้อ ยาลดอาการบวม หรือยาบ�ำรุงปลายประสาทต่างๆ หากมี อ าการปวดมากลามไปถึ ง แขน อาจใช้ ก าร ฉีดยาเข้าช่วย ฉีดเพื่อลดการอักเสบ ซึ่งส่วนใหญ่หลังจากฉีดไป ไม่เกิน 1 สัปดาห์ อาการปวดมักจะหายไปเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่อาการชาจะค่อยๆ ลดลงภายใน 1 - 3 เดือน หากผ่านไป 3 เดือนแล้ว และฉีดยาซ�้ำไป 2 ครั้งแล้ว แต่อาการชายังคงมีอยู่ไม่หายไป นั่นแสดงว่าผู้ป่วยมีอาการ ค่อนข้างมาก โอกาสหายขาดจะน้อยลง อาจต้องใช้การรักษา ด้วยวิธีผ่าตัด ซึ่งวิธีการผ่าตัดมี 3 รูปแบบ ได้แก่

ผ่าตัดแบบ Standard Open Release เป็นการ ผ่าตัดแบบมาตรฐานทั่วไปที่ใช้กันมานาน ข้อเสียของวิธีนี้คือ แผลอาจจะใหญ่ 3 - 4 เซนติเมตรกลางฝ่ามือ ผ่าตัดแบบใช้กล้อง จะมีแผลเล็ก แต่มีแผลสองที่คือ ที่ข้อมือกับที่กลางฝ่ามือ อย่างละ 1.5 เซนติเมตร มีค่าใช้จ่ายที่ สูงขึ้น ผ่าตัดแบบ Semi - Open เป็นการผ่าโดยไม่ต้อง ใช้กล้อง แผลจะเหลือที่เดียวขนาด 1 เซนติเมตร และการฟื้นตัว จะเร็วกว่าสองแบบแรก และเนื่องจากแผลมีขนาดเล็ก จึงลด ปัญหาเจ็บแปลบที่แผลเวลาผู้ป่วยยันตัวขึ้นได้ ควรหมั่นเอาใจใส่ร่างกายของคุณให้ดี ด้วย

การระวังสังเกตอาการแปลกๆ หรืออาการผิดปกติ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับคุณมาก่อน แม้ว่ามันจะเป็นเพียง อาการเล็กๆ น้อยๆ ก็ไม่ควรเพิกเฉยและด่วนสรุป ด้วยตัวเอง เพราะผลลัพธ์ที่ตามมาอาจใหญ่กว่าที่ คุณคิด

Talk to Doctor

สวัสดีครับ ผม สุจิตต์ พัฒนอังคณานันต์ ผมมีอาการไอและเป็นหวัดอยู่บ่อยๆ มีเสมหะในคอ เวลาพูดเสียงจะออกแหบๆ บางครั้งผมรู้สึกว่าผมหายใจได้ไม่ค่อยดี คล้ายๆ จะหายใจไม่อิ่มไม่ทั่วท้อง ต้องหายใจ ทางปากช่วย กลางคืนเวลานอนก็มักจะกรน แก้ไม่หาย เปลี่ยนหมอนก็แล้ว ท�ำให้ช่วง กลางวันผมจะรู้สึกไม่สดชื่น เพราะหลับไม่สนิทดี แก้อาการแบบนี้อย่างไรครับ แล้วผม เป็นโรคอะไรหรือเปล่า

สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน ดิฉัน แพทย์หญิงวริศรา พิพัฒน์โชติธรรม อายุรแพทย์โรคปอด โรงพยาบาลเจ้าพระยา อาการลักษณะนี้อาจเป็นอาการภูมิแพ้ (แพ้อากาศ) คนไข้บางรายเวลาที่อากาศเปลี่ยน จะเกิดอาการคัดจมูกอย่างรุนแรง แบบหายใจไม่ได้ด้วยจมูก บางครั้งก็หายใจได้ข้างเดียว หรือต้อง หายใจทางปากช่วย เวลานอนก็ไม่สบายตัว เพราะมีเสมหะลงคอ ท�ำให้หายใจทางปากไม่ได้อกี ต้องใช้วธิ ี นัง่ หลับเอาก็มี คนไข้ควรจะออกก�ำลังกายบ่อยๆ ซึง่ จะช่วยได้ เพราะร่างกายเราจะสร้างภูมคิ มุ้ กันเพิม่ ขึน้ อาจใช้การล้างจมูกด้วยน�้ำเกลือช่วย เพื่อล้างเสมหะและท�ำความสะอาดโพรงจมูก และเนื่องจากรายละเอียดที่ท่านผู้อ่านสอบถามมาเบื้องต้นนั้นมีหลายอาการ แต่โดยรวมแล้ว อาการหลักจะเป็นปัญหาที่ทางเดินหายใจส่วนบน ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อ หรือภูมิแพ้ทางเดินหายใจ ก็เป็นได้ ในเบือ้ งต้นให้รบั ประทานยาแก้หวัด - ลดน�ำ้ มูก เพือ่ ลองบรรเทาอาการดูกอ่ น แต่หากอาการไม่ดขี นึ้ ควรมาตรวจเพิ่มเติมที่โรงพยาบาล เพราะถ้าไม่รักษาให้หายขาด อาจมีอาการเรื้อรังตามมาได้

ส�ำหรับผูอ้ า่ นทุกท่านทีม่ ขี อ้ สงสัยเกีย่ วกับปัญหาสุขภาพทีต่ อ้ งการปรึกษาคุณหมอผูเ้ ชีย่ วชาญ สามารถ เขียนมาถามได้ท ี่ ณัฐวีณ์ วุฒยิ าภิราม แผนก APS บริษทั อมรินทร์พริน้ ติง้ แอนด์พบั ลิชชิง่ จ�ำกัด (มหาชน) หรืออีเมลที่ natthawee@amarin.co.th ซึ่งคอลัมน์นี้จะเป็นสื่อกลางและเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ให้ ความรูแ้ ละค�ำแนะน�ำเกีย่ วกับการดูแลสุขภาพของคุณ รับรองว่าทุกข้อสงสัยเกีย่ วกับปัญหาสุขภาพจะได้รบั ค�ำตอบแน่นอนค่ะ

The Journey

เรื่องและภาพ : ธีรภาพ โลหิตกุล นักเขียนและช่างภาพสารคดีอิสระ

ปูนาคา ซ็อง ซ็องแห่งจิตวิญญาณของชาวภูฏาน

ปูนาคา ซ็อง...

แซ่ซ้องภูฏานอภิเษก “ปูนาคา ซ็อง” สถานที่จัดงานอภิเษกสมรส ไม่ได้เป็นเพียง ซ็องแห่งจิตวิญญาณของชาวภูฏาน แต่ยงั เป็นซ็องทีส่ วยทีส่ ดุ จนมี ค�ำกล่าวว่า หากยังมิยล “ปูนาคา ซ็อง” เท่ากับยังไปไม่ถึงแดนมังกร สันติที่ใฝ่ฝัน

The Journey

ขณะที่ ค วั น หลงจากพระราชพิ ธี เ สกสมรส อั น งดงามดุ จ เทพนิ ย าย ระหว่ า งเจ้ า ชายวิ ล เลี ย ม รัชทายาทองค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษ กับนางสาว เคท มิดเดิลตัน พระคูห่ มัน้ เมือ่ วันที่ 29 เมษายน 2554 ยังไม่ทันจางจากความทรงจ�ำของผู้คนที่เฝ้าชมการ ถ่ายทอดสดไปทั่วทุกมุมโลก

วันที่ 13 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ โลกจะหันมาจับตามอง ประเทศเล็กๆ แห่งทิวเทือกเขาหิมาลัย อย่าง “ภูฏาน” อีกครัง้ หนึง่ เนื่องในพระราชพิธีอภิเษกสมรส สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก รัชกาลที่ 5 กับพระคู่หมั้นสาวสามัญชน นานมาแล้วที่แนวพระราชด�ำริกษัตริย์ภูฏาน รัชกาล ที่ 4 ว่าด้วยความสุขมวลรวมของประชาชน (GNH) ส�ำคัญกว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (GDP) ท�ำให้โลกมิอาจละเลย ความสนใจต่อประเทศในหุบเขาที่มีพลเมืองไม่ถึง 7 แสนคน อย่างภูฏานได้ พระราชพิธีอภิเษกสมรสของกษัตริย์หนุ่ม ซึ่งเป็น พระราชโอรสในรัชกาลที่ 4 และยังเป็นกษัตริยภ์ ายใต้รฐั ธรรมนูญ ในระบอบประชาธิปไตยพระองค์แรกของภูฏาน จึงเป็นความ สนใจใคร่รู้ของผู้คนอย่างมิอาจปฏิเสธได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชาวไทย ซึ่งปลาบปลื้มในพระจริยาวัตรอันงดงามของกษัตริย์ หนุ่ม ตั้งแต่ครั้งยังด�ำรงพระอิสริยยศเป็นมกุฎราชกุมาร และ เสด็จฯ มาเยือนประเทศไทยหลายครั้ง ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2554 สมเด็จ พระราชาธิ บ ดี ฯ มี พ ระราชด� ำ รั ส พระราชทานต่ อ พระบรมวงศานุวงศ์และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตอนหนึ่งว่า “...ถึงเวลาแล้วทีข่ า้ พเจ้าจะต้องอภิเษกสมรส หลังจาก ที่คิดใคร่ครวญอย่างรอบคอบแล้ว... ส�ำหรับผู้ที่จะมาเป็นราชินี คือ Jetsun Pema แม้ว่าเธอจะอายุยังน้อย แต่มีบุคลิกที่อบอุ่น จิตใจดีงาม เมื่อผนวกกับความรู้ความสามารถที่เธอจะได้รับ ต่อไปในภายภาคหน้าเมื่อมีอายุและประสบการณ์มากขึ้น ย่อม จะท�ำให้เธอเป็นข้ารับใช้ที่ดีของประเทศชาติได้ Jetsun เป็นคน จิตใจดี คอยสนับสนุนข้าพเจ้าตลอดเวลา และเป็นผู้ที่ข้าพเจ้า ไว้วางใจที่สุด “...การแต่งงานครั้งนี้มิได้หมายความว่า ข้าพเจ้าจะ สร้างครอบครัวเป็นของตนเอง เพราะตั้งแต่วันแรกที่ข้าพเจ้า ขึ้นครองราชย์ ชาวภูฏานทั้ง 20 ชนเผ่าก็เป็นเสมือนครอบครัว ของข้าพเจ้า ...การอภิเษกสมรสในครั้งนี้จะท�ำให้ข้าพเจ้ามี พระราชินี ซึง่ จะคอยสนับสนุน ตลอดจนท�ำงานรับใช้ประเทศชาติ

The Journey 01

01 สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เค เซอร์ นัมเกล วังชุก รัชกาลที่ 5 กับ พระคู่หมั้น จิตซิน เปม

และประชาชนร่วมกับข้าพเจ้า ...พระราชพิธีราชาภิเษกสมรส จะจัดตามราชประเพณีโบราณของภูฏาน เพื่อให้ทวยเทพยดา ทั้งปวงร่วมอ�ำนวยพรแก่เรา แต่ข้าพเจ้าขอให้รัฐบาลอย่าจัดพิธี ให้ใหญ่โตนัก เพราะความสุขของพระราชบิดาที่ข้าพเจ้ารัก และค�ำอวยพรจากพสกนิกรชาวภูฏาน ก็ทำ� ให้ขา้ พเจ้ามีความสุข อย่างที่สุดแล้ว” ชื่อพระคู่หมั้น Jetsun Pema ออกเสียงตามส�ำเนียง ชาวภูฏาน ว่า “จิตซิน เปม” โดยชือ่ แรก “จิตซิน” เป็นพระนามของ พระโพธิสตั ว์แห่งสติปญ ั ญาในศาสนาพุทธสายวัชรยาน ส่วนชือ่ ที่ 2 คือ “เปม” มาจาก “เปมา” เป็นภาษาสันสกฤตแปลว่า ปัทมา หรือดอกบัว (ตามธรรมเนียมของชาวภูฏานจะไม่มีนามสกุล) จิตซิน เปม เป็นชาวทิมพู เกิดในครอบครัวชนชั้นกลาง บิดาเป็น นักบิน มารดาเป็นแม่บ้าน จิตซินเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาใน ประเทศอินเดีย และจบด้านสถาปัตยกรรมจากมหาวิทยาลัย รีเจนท์ส คอลเลจ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปัจจุบันอายุ 21 ปี ในขณะที่สมเด็จพระราชาธิบดีฯ มีพระชนมายุ 31 พรรษา

หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษ Bhutan TODAY ฉบับ ล่าสุด ในปี 2551 เมือ่ สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ วันที่ 21 พฤษภาคม 2554 อ้างอิงค�ำให้สัมภาษณ์ของเท็นซิง เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ พระราชพิธีบรมราชาภิเษกก็กระท�ำที่ ยูเดน ชาวเมืองพาโรว่า เธอรูส้ กึ ตืน่ เต้นกับข่าวนี้ และพยายามหา วิหารหลวงแห่งนี้ แม้ว่าภายหลัง “ทิิมพู” จะได้รับการสถาปนา รูปของพระคู่หมั้น ทว่าหนังสือพิมพ์ฉบับที่ตีพิมพ์รูปพระคู่หมั้น เป็นเมืองหลวงอย่างเป็นทางการแล้ว ทว่าปูนาคา ซ็อง ถือเป็น ขายหมดอย่า งรวดเร็ว เธอจึง ต้อ งไปขอจากเพื่อ น และเธอ ซ็องแห่งจิตวิญญาณของประเทศนี้ ปรารถนาว่าสมเด็จพระราชาธิบดีฯ กับพระคู่หมั้น จะมีความสุข ตามต�ำนานของชาวภูฏานเล่าขานว่า “คุรุ รินโปเช” หรือ ชั่วนิรันดร “พระปทุมสมภพ” พระพุทธเจ้าของชาวพุทธสายวัชรยาน มีพทุ ธ ตามโบราณราชประเพณี พระราชพิธีอภิเษกสมรสจะ ท�ำนายว่าจะมีบุรุษนาม “นัมเกล” มาสร้างป้อมปราการ หรือ จัดขึ้นที่วิหารหลวงภายใน “ปูนาคา ซ็อง” ซ็องคือสถาปัตยกรรม “ซ็อง” บริเวณด้านหน้าเขารูปงวงช้าง ซึ่งค�ำท�ำนายเป็นจริง ส�ำคัญของชาวภูฏาน เพราะ “ซ็อง” เป็นทั้งป้อมปราการ วัด วัง เมื่อท่านซับดรุง งาวัง นัมเกล สร้าง “ปูนาคา ซ็อง” เป็นที่ประทับ สนามหลวง และศาลาว่าการเมือง ทุกเมืองในภูฏานจะต้องมี เมือ่ อดีตราว 350 ปี ก่อนทีท่ า่ นจะสร้าง “ตาชิโช ซ็อง” ทีน่ ครหลวง ซ็อง แต่ “ปูนาคา ซ็อง” ถือเป็นซ็องที่ส�ำคัญสุด เนื่องจากพระเจ้า ทิมพู ครัน้ เมือ่ ท่านถึงแก่มรณภาพ สรีระของท่านก็ยงั ประดิษฐาน อุกเยน วังชุก ทรงกระท�ำพิธีปราบดาภิเษกเป็นปฐมบรมกษัตริย์ อยู่ที่นี่ แห่งภูฏาน เมือ่ วันที่ 17 ธันวาคม 2450 จากนัน้ เมือ่ มีการลงนาม “ซับดรุง งาวัง นัมเกล” หรือ “ท่านงาวัง นัมเกล ทีท่ กุ คน ในข้อตกลงสันติภาพกับอังกฤษ และการประชุมรัฐสภาแห่งชาติ ยอมสยบแทบเท้า” เป็นสังฆราชาผู้รวมหุบเขาต่างๆ ที่แตกแยก ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ภูฏานก็เกิดขึ้นที่นี่ รวมทั้งพระราชพิธี และรบรากันให้เป็นหนึง่ เดียว ในนาม “ดรุกยาล” แปลว่าดินแดน อภิเษกสมรสสมเด็จพระราชาธิบดีภูฏานทุกพระองค์เช่นกัน

02 ภายในปูนาคา ซ็อง ส่วนที่เป็นสนามหลวง และศาลาว่าการเมือง ปูนาคา 03 - 04 กษัตริย์ภูฏาน รัชกาลที่ 4 ระดมช่างหลวงบูรณะปูนาคา ซ็อง 02 จนวิจิตรตระการตา 04

The Journey

05 05 ปูนาคา ซ็อง ส่วนที่เป็นเขตสังฆาวาส 06 ข้าราชการสวมชุดประจ�ำชาติไปท�ำงาน ณ ศาลาว่าการเมือง ภายใน ปูนาคา ซ็อง

มังกรสันติ และให้เรียกคนในดินแดนนี้ว่า “ดรุกปา” หรือชาว มังกรสันติ เหตุเพราะท่านซับดรุงฯ เป็นพระลามะแห่งส�ำนัก มังกรในทิเบต เล่ากันว่าขณะท�ำพิธตี งั้ ส�ำนัก ท่านเจ้าส�ำนักได้ยนิ เสียงร้องของมังกร จึงตั้งชื่อส�ำนักมังกร ต่อมาภายหลังเกิดเหตุ แย่งชิงต�ำแหน่งเจ้าส�ำนักกัน ท�ำให้ท่านซับดรุงฯ จ�ำต้องหนี การปองร้ายลงมาในดินแดนตอนใต้ทเิ บต ซึง่ ก็คอื แผ่นดินภูฏาน ปัจจุบัน มีตำ� นานเล่าอีกว่า ข้าศึกติดตามไล่ลา่ ท่านซับดรุงฯ มา ทันกันที่จุดบรรจบระหว่างแม่น�้ำโมกับแม่น�้ำโพ ท่านจึงแสร้งทิ้ง อัฐิธาตุของพระอาจารย์ใหญ่แห่งส�ำนักมังกรที่ท่านน�ำติดตัวมา ด้วย อัฐธิ าตุนถี้ อื เป็นสิง่ ศักดิส์ ทิ ธิท์ ที่ กุ คนปรารถนา บรรดาทหาร ของฝ่ายศัตรูจงึ พากันงมหาในแม่นำ �้ แต่ตอ้ งล้มตายเพราะความ หนาวและถูกทหารของท่านซับดรุงฯ ปลิดชีพไปจ�ำนวนมาก ชัยชนะครัง้ นัน้ ท�ำให้ทา่ นซับดรุงฯ สร้างปูนาคา ซ็อง ณ จุดบรรจบ ล�ำน�ำ้ โมกับโพ ปูนาคาจึงถือเป็นราชธานีแรก และเป็นสัญลักษณ์ แห่งการสร้างชาติของชาวมังกรสันติ

เมืองปูนาคาสูงกว่าระดับน�ำ้ ทะเลปานกลาง 1,300 เมตร จึงมีสภาพอากาศอบอุน่ กว่าทิมพู ซึง่ สูง 2,300 เมตร กษัตริยภ์ ฏู าน และสมเด็จพระสังฆราชจึงเสด็จฯ แปรพระราชฐานมาประทับทีน่ ี่ ในฤดูหนาว ราวเดือนพฤศจิกายน - เมษายน ปูนาคาจึงถือเป็น “เมืองหลวงฤดูหนาว” ในขณะทิมพูเป็น “เมืองหลวงฤดูร้อน” และเป็นเมืองหลวงอย่างเป็นทางการ ซึ่งนอกจากมีพระต�ำหนัก และศาลาว่าการของเมืองแล้ว ยังมีโบสถ์ วิหารประดิษฐานใน “ปูนาคา ซ็อง” ถึง 21 แห่ง มีภกิ ษุสามเณรจ�ำพรรษากว่า 6,000 รูป ถึงแม้ว่าจะเคยเกิดไฟไหม้ถึง 6 ครั้ง น�้ำท่วม

และแผ่นดินไหวอย่างละครั้ง แต่ปูนาคา ซ็องยังคง ความสง่างามตราบจนวันนี้ เพราะก่อนหน้าพระราชพิธี สมโภช 100 ปีราชวงศ์วังชุก พ.ศ. 2551 สมเด็จ พระราชาธิบดี รัชกาลที่ 4 มีพระบรมราชโองการ ให้ระดมช่างหลวงมาบูรณะปูนาคา ซ็อง จึงกล่าวได้ว่า ปูนาคา ซ็องไม่ได้เป็นแต่เพียงซ็องแห่งจิตวิญญาณ ของชาวภู ฏ าน แต่ ยั ง เป็ น ซ็ อ งที่ ส วยที่ สุ ด จนมี ค�ำกล่าวว่า หากยังมิยล “ปูนาคา ซ็อง” เท่ากับยังไป ไม่ถึงแดนมังกรสันติที่ใฝ่ฝัน

หมายเหตุ : พระราชพิ ธี อ ภิ เ ษกสมรสตามโบราณราชประเพณี จะจัดขึ้นที่ปูนาคา ซ็อง ในวันที่ 13 ตุลาคม 2554 ส่วนงาน เลี้ยงรับรองพระราชอาคันตุกะจากนานามิตรประเทศ จะจัดขึ้นที่ ตาชิโช ซ็อง หรือทิมพู ซ็อง นครหลวงทิมพู

Chef at Home

ซุปถั่วแดง ส่วนผสม (ส�ำหรับ 3 - 4 ที่)

ถั่วแดงหลวงต้มสุก หอมหัวใหญ่สับ ก้านขึ้นฉ่ายฝรั่งสับ (เซเลอรี่) ใบกระวาน เนยสดจากเมล็ดทานตะวัน นมสดพร่องมันเนย ครีมเทียมชนิดน�้ำ น�้ำซุปผัก

1½ ¼ 2 3 2 4 4 4

ถ้วย ถ้วย ช้อนโต๊ะ ใบ ช้อนโต๊ะ ช้อนโต๊ะ ช้อนโต๊ะ ถ้วย

เกลือ น�้ำตาลทรายไม่ฟอกสี พริกไทยป่น แป้งข้าวโพด

1 2 ½ 1

ช้อนชา ช้อนชา ช้อนชา ช้อนโต๊ะ

วิธีท�ำ

1. ละลายแป้ ง ข้ า วโพดกั บ นมสดและครี ม เที ย มเข้ า ด้ ว ยกั น พักไว้ 2. ผัดหอมหัวใหญ่ ก้านขึ้นฉ่ายฝรั่ง และใบกระวานกับเนย จนหอม 3. ใส่ถั่วแดงลงในน�้ำซุป เคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนเปื่อยนุ่ม พักให้ เย็น ปั่นจนละเอียด แล้วกรองผ่านกระชอน 4. น�ำส่วนผสมที่กรองได้ตั้งไฟอ่อน เติมส่วนผสมในข้อแรก ลงไป คนพอเข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือ น�้ำตาลทราย และ พริกไทย

Tip ใช้กา้ นขึน้ ฉ่ายไทยแทนก้านขึน้ ฉ่ายฝรัง่ (เซเลอรี)่ ได้ ในปริมาณที่เท่ากัน

Chef at Home

วอฟเฟิล

ทาโก้ปลา ส่วนผสม (ส�ำหรับ 3 - 4 ที่)

แผ่นแป้งทาโก้ 5-6 เนื้อปลาตาเดียวสับละเอียด 200 หอมหัวใหญ่หั่นเต๋าเล็ก 2 พริกหวานสีเหลือง เขียว และแดง หั่นเต๋าเล็กรวมกัน ¼ ออริกาโนอบแห้ง 1 มะเขือเทศเข้มข้น 3 ซอสมะเขือเทศ 3-4 เนยสดชนิดเค็ม 2 เกลือป่นและพริกไทยด�ำบด อย่างละเล็กน้อย ผักกาดแก้วซอยบางปริมาณตามชอบ

แผ่น กรัม ช้อนโต๊ะ ถ้วย ช้อนชา ช้อนโต๊ะ ช้อนโต๊ะ ช้อนโต๊ะ

วิธีท�ำ

1. ละลายเนยในกระทะ (ใช้ไฟปานกลาง) ใส่หอมหัวใหญ่ลงผัด ให้สุก แล้วใส่เนื้อปลาลงผัดจนสุกและแห้งดี ใส่มะเขือเทศ เข้มข้นลงผัดให้เข้ากัน (ถ้าแห้งเติมน�้ำได้เล็กน้อย) ตามด้วย ซอสมะเขือเทศและออริกาโน ผัดให้ทั่ว ปรุงรสด้วยเกลือป่น และพริกไทย ยกลงจากเตา แล้วพักไว้ 2. จัดผักกาดแก้วลงในแผ่นแป้ง ใส่ส่วนผสมไส้ที่ผัดไว้จนเต็ม โรยหน้าด้วยพริกหวานให้สวยงาม รับประทานได้ทันที

Tips • เมื่อท�ำเสร็จแล้วควรรับประทานทันที เพราะถ้าท�ำทิ้งไว้นาน

แผ่นแป้งจะนิ่ม ไม่อร่อย • ทาโก้ (Taco) ท�ำจากแป้งข้าวโพด เป็นอาหารยอดนิยมของ ชาวเม็กซิกัน หาซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป • ออริ ก าโนอบแห้ ง ใส่ เ พื่ อ เพิ่ ม กลิ่ น หอมให้ น ่ า รั บ ประทาน (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)

ส่วนผสม

ลูกพลับสด

แป้งอเนกประสงค์ ผงฟู เกลือป่น เนยสดชนิดเค็มละลาย น�้ำตาลทราย ไข่แดง ไข่ขาว นมสดพร่องมันเนย ลูกพลับสด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ

180 1 ¼ 30 70 2 2 150 2

กรัม ช้อนชา ช้อนชา กรัม กรัม ฟอง ฟอง กรัม ผล

วิธีท�ำ

1. ร่อนแป้ง ผงฟู และเกลือป่นเข้าด้วยกัน ใส่น�้ำตาลทราย ลงในแป้งแล้วเคล้าให้เข้ากัน 2. ใส่ไข่แดง นมสดพร่องมันเนย และเนยละลายลงในอ่างผสม ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากันดี ใส่ส่วนผสมแป้งที่ร่อนแล้วลงไป คนให้เข้ากัน 3. เปิดเครื่อง ใช้หัวตีรูปตะกร้อตีไข่ขาวด้วยความเร็วสูงสุดจน ตัง้ ยอด จากนัน้ ตักใส่ในส่วนผสมไข่แดงข้อสอง ใช้ตะกร้อมือ ตะล่อมเบาๆ จนส่วนผสมเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน 4. ตักส่วนผสมใส่เครื่องท�ำวอฟเฟิล วางเนื้อลูกพลับสดลงไป อบด้วยเครื่องท�ำวอฟเฟิลจนสุกเหลือง จัดใส่จานเสิร์ฟพร้อม กับแยมรสที่ชอบ หรือน�้ำผึ้งสด

Tip ลูกพลับ

เป็นผลไม้เมืองหนาว มีคุณค่าทางอาหารหลากหลาย ช่วยขับ เสมหะ แก้ไอ ลดความดันโลหิต มีวิตามินเอสูง ช่วยบ�ำรุง สุขภาพ แก้อาการท้องเดิน อาการอ่อนเพลีย ช่วยย่อยอาหาร และยังแก้พิษที่เกิดจากการดื่มสุราได้ด้วย

Wine Curve

เรื่อง : De La Nine Wine writer

Wine Curve

ไวน์ดที นี่ า่ สะสม

การสะสมเปรียบเหมือนงานอดิเรกที่สร้าง คุณค่าทางจิตใจ การเก็บไว้จะช่วยเพิ่มมูลค่ามากมาย มหาศาล ยิ่ ง เก่ า ยิ่ ง มี คุ ณ ค่ า ยิ่ ง มี น ้ อ ยก็ ยิ่ ง สู ง ค่ า นอกจากเหรียญกษาปณ์ แสตมป์ และธนบัตรแล้ว “ไวน์” คืองานอีกชิ้นที่ควรค่าแก่การน�ำมาสะสมเป็น อย่างยิง่ แล้วไวน์ตวั ไหนบ้างทีค่ วรเก็บสะสมไว้ ฉบับนี้ ผมมีค�ำตอบมาฝากคอไวน์นักสะสมทุกท่านครับ

โรมานี คอนติ (Romanee Conti)

ไวน์แดง “โรมานี คอนติ” ที่ผลิตขึ้นเมื่อปี 1945 ทุบสถิติ ไวน์แดง “แพงที่สุดในโลก” อ่านแล้วท่านอาจตกใจ เพราะ มันมีมูลค่าเกือบ 4 ล้านบาท สาเหตุที่ไวน์แดง “โรมานี คอนติ” ปี 1945 นี้ ไ ด้ รั บ ความสนใจจากนั ก สะสมจนมี ค ่ า ตั ว แพง เป็นพิเศษนั้น เนื่องจากไวน์ชนิดนี้มีอยู่น้อยและตั้งอยู่ในแถบ “โค้ต เดอ นุยส์” แคว้นเบอร์กันดีของประเทศฝรั่งเศส ได้ชื่อว่า เป็นไวน์ที่ดีและหายากที่สุด และไวน์แดง “โรมานี คอนติ” นี้ ยังผลิตจากผลองุ่นพันธุ์ปิโนต์ นัวร์ 100 เปอร์เซ็นต์

ชาโต เปตรุส (Chateau Petrus)

เวก้า ซิซีเลีย (Vega Sicilia)

ชาโต เปตรุส เป็นไวน์ดีที่สุดและแพงที่สุดในบอร์โดไวน์ จากแคว้นปอมเมรอล แพงเป็นอันดับสองของเหล่าบรรดาไวน์

จากประเทศฝรั่งเศสและของโลก จะเป็นรองก็แต่เพียงโรมานี คอนติเท่านัน้ ชาโต เปตรุสท�ำจากองุน่ พันธุแ์ มร์โล 95 เปอร์เซ็นต์ คาเบอร์ฟรังก์ 5 เปอร์เซ็นต์ อายุเฉลี่ยขององุ่นอยู่ที่ 42 - 45 ปี มีสไตล์ที่เข้มแบบบอร์โด หอมผลไม้ลูกเกด ไม้โอ๊ก และมีกลิ่น วานิลลาที่โดดเด่น

ดอม เปริญอง (Dom Perignon)

ต�ำนานแห่งแชมเปญ ผู้สร้างประวัติศาสตร์ให้แก่แคว้น แชมเปญ ในฐานะที่เป็นผู้ริเริ่มผลิตแชมเปญจนมีชื่อเสียงไป ทัว่ โลกอย่างแท้จริง อย่างทีท่ ราบกันว่าไวน์ชนิดนีม้ ฟี อง จึงเหมาะ ส�ำหรับงานเฉลิมฉลองเป็นอย่างยิ่ง

ชาโต มูตง รอธส์ไชลด์ (Chateau Mouton Rothschild)

ไวน์ทมี่ ฉี ลากเป็นรูปแกะ อันได้แรงบันดาลใจจากฝูงแกะจ�ำนวน มากบริเวณรอบไร่องุ่น ไวน์ตัวนี้ก�ำเนิดในศตวรรษที่ 14 ใช้องุ่น พันธุ์คาแบร์เน่ต์ โซวินญอง 80 เปอร์เซ็นต์ คาแบร์เน่ต์ ฟรอง 10 เปอร์เซ็นต์ แมร์โลต์ 8 เปอร์เซ็นต์ และเปอตี แวร์โดต์ 2 เปอร์เซ็นต์

ชาโต โอต์ บริออง (Chateau Haut Brion)

ไวน์ ร ะดั บ กรองด์ ครู ส ์ อยู ่ ใ นชั้ น ครู ส ์ คลาสเซส์ จาก เขตกราฟส์ ก�ำเนิดในยุคกลางของยุโรป อันเป็นยุคทองของ ไวน์ ฝ รั่ ง เศส เจ้ า ของไวน์ ค นแรกคื อ นายแมซอง นอเบลอ เด โอต์-บรีออง ได้รับรางวัลจากเขตเมด็อกในการประกวด ปี 1855 รสชาติเยี่ยม และเป็นที่ยอมรับจากบรรดาเซียนไวน์ ทัว่ โลก ใช้องุน่ พันธุค์ าแบร์เน่ต์ โซวินญอง 50 เปอร์เซ็นต์ แมร์โลต์ 35 เปอร์เซ็นต์ และพันธุ์คาแบร์เน่ต์ ฟรองอีก 15 เปอร์เซ็นต์

ซาสซิคายา (Sassicaia)

ไวน์ ร ะดั บ พรี เ มี ย มของแคว้ น ทั ส คานี ต� ำ นานของ ซาสซิคายา เริม่ ขึน้ ในปี ค.ศ. 1930 โดยมาร์เคเซ่ จุยเซปเป้ เดลล่า เกราร์เดสก้า อภิมหาเศรษฐีผเู้ ป็นเจ้าของทีด่ นิ ผูผ้ ลิตไวน์ตามแบบ ไวน์แดงจากแคว้นบอร์ โด โดยตัง้ ชือ่ ว่า “ไวน์ซาสซิคายา” ตามชือ่ ไร่ ท�ำจากองุ่นพันธุ์คาแบร์เน่ต์ โซวินญอง และพันธุ์คาแบร์เน่ต์ ฟรอง เก็บบ่มในถังสลาโวเนียนโอ๊ก เป็นไวน์ทมี่ คี วามเข้มข้นมาก

เป็นไวน์ทไี่ ด้ชอื่ ว่าดีทสี่ ดุ ดังทีส่ ดุ ในบรรดาไวน์สเปนทีม่ อี ยู่ นับพันนับหมื่นตัว จากอายุของไวเนอรี่ที่มีมากกว่า 100 ปี ท�ำให้เวก้า ซิซีเลียมีประสบการณ์ในการท�ำไวน์อย่างถ่องแท้ และรู้จริงมากที่สุด

คลาวดี้ เบย์ (Cloudy Bay)

ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตไวน์ที่ดีที่สุดของนิวซีแลนด์ โดย เฉพาะไวน์ขาวจากองุน่ พันธุโ์ ซวินญอง บลอง ทีไ่ ด้ชอื่ ว่าเป็นหนึง่ ในโซวินญอง บลองที่ดีที่สุดในโลกอีกแห่งหนึ่ง รองจากแคว้น ลัวร์ของฝรั่งเศส

ชาโต ดีเคม (Chateau d’Yquem)

ทั่วโลกมีไวน์หวานอยู่มากมาย แต่สุดยอดของสุดยอด ต้องยกให้ตัวนี้ ไวน์หวานจากอ�ำเภอโซแตร์นส์ แคว้นบอร์โด ด้วยปัจจัยเรื่องพื้นที่ที่เป็นหินกรวดในชั้นบน ท�ำให้ระบายน�้ำได้ เป็นอย่างดี ชั้นดินรองเป็นชั้นที่มีแร่ธาตุมาก ซึ่งต้นองุ่นดูดซับได้ อย่างเต็มที่ บริเวณไร่องุ่นจะมีอากาศที่หนาวเย็น มีหมอกหนา ตัง้ แต่เช้าถึงกลางวันแล้วจึงหายไป จากอากาศทีส่ ดชืน่ กลายเป็น อากาศทีอ่ บอ้าวอย่างกะทันหัน ท�ำให้เชือ้ ราทีอ่ ยูท่ พี่ วงองุน่ เติบโต โอปุส วัน (Opus One) ได้อย่างรวดเร็ว ท�ำให้องุ่นที่นี่สุกฉ�่ำมากกว่าที่อื่นๆ องุ่นที่ใช้ ไวน์ดังจากหุบเขานาพา จากฝีมือการปลุกปั้นของ ในการผลิตคือ เซมีญอง 80 เปอร์เซ็นต์ และโซวินญอง บลอง โรเบิร์ต มอนดาวี กับบารอน ฟิลลิป ซึ่งได้ร่วมกันก่อตั้งขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ โตไค อัสซู (Tokaji Aszu) ในปี 1970 เป็นไวน์ที่มีรสชาติเข้มข้นแบบอเมริกันผสมผสาน นี่ก็เป็นไวน์หวานอีกตัวจากฮังการีที่สมบูรณ์แบบ กรรมวิธแี บบฝรัง่ เศส จึงถูกใจคอเอเชียเป็นอย่างมาก องุน่ หลักที่ ขอยกค�ำกล่าวของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ที่กล่าวเอาไว้ว่า “The น�ำมาปรุงมีอยู่ 5 ตัวด้วยกัน คือ คาแบร์เน่ต์ โซวินญอง, คาแบร์เน่ต์ Wine of Kings and the King of Wines” พระองค์ทรงหมายถึง ฟรอง, แมร์โล, มาสเบค และแวร์โด Tokaji Aszu ไวน์หวานจากต�ำบลโตไค ประเทศฮังการีนั่นเอง เพนโฟลด์ (Penfolds) ของสะสมคือตัวแทนความทรงจ�ำที่ดี รีบหา ไวน์ที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในงานเลี้ยง ของดีๆ เก็บไว้นะครับ ไวน์ดีไม่ได้มีให้เลือกทุกปี แต่ถ้า และงานสังสรรค์ต่างๆ องุ่นที่ใช้ผลิตคือ ชิราส, คาแบร์เน่ต์ มีโอกาสได้เจอะเจอกับไวน์เหล่านี้ ซื้อเก็บไว้ก็อาจเป็น โซวินญอง, มาทาโร มีมาลเบคบ้างนิดหน่อย ส่วนองุ่นขาว การลงทุนที่ได้ผลตอบแทนที่ดีในวันข้างหน้า ที่ส�ำคัญ ก็ จ ะมี ช าร์ ด อนเนย์ เ ป็ น หลั ก ตามด้ ว ยริ ส ลิ่ ง และโซวิ น ญอง ยังได้ความสนุกและมีเพื่อนไว้คุยทั่วโลก แถมตอนจบ ยังจะกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าเพิ่มขึ้นหลายเท่าทวีคูณ บลอง ไวน์รุ่นที่ควรสะสมเป็นอย่างยิ่งคือ เกรนจ์ เฮอร์มิทาจ

11 12

เฮนสกี (Henschke)

สุดยอดไวน์ของออสเตรเลียจากฝีมือของสามีผู้เป็น ไวน์เมกเกอร์ ส่วนภรรยาเป็นคนดูแลไร่องุ่น ที่ใครต่อใครยกนิ้ว ให้ในความสุดยอด หากจะน�ำมาจัดแถวกันแล้ว เฮนสกีต้อง จองอันดับไม่เกิน 1 ใน 3 แน่นอน ใครที่ชอบชิราสเข้มๆ แบบ ออสเตรเลีย ต้องตัวนี้เลย

อีกด้วย

Dining Out

เรื่อง : ทัศนัย ข�ำชื่น ภาพ : สุรพล พวงศรี

Dining Out

เรื่อง : พาแลง ภาพ : สุรพล พวงศรี

My home

อาณาจักรของคนรักผัก

ครัวดอกไม้ขาว

อิ่มอร่อยในบรรยากาศผ่อนคลาย

บรรยากาศของร้ า น “ครั ว ดอกไม้ ข าว” เปรียบได้กับสถานที่อันผ่อนคลายริมถนนบ�ำรุงเมือง ชือ่ ร้านครัวดอกไม้ขาวนีไ้ ด้รบั พระมหากรุณาธิคณ ุ จาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานโปรดเกล้าฯ ตั้งให้ และทรงเขียนป้าย ชื่อร้านด้วยลายพระหัตถ์ของพระองค์เอง

เมือ่ ก้าวเข้าสูภ่ ายในร้าน ก็สมั ผัสได้กบั ความโอ่อา่ ของ เพดานยกสูง สไตล์การตกแต่งที่เรียบง่าย ดูทันสมัยด้วยการ ผสมผสานวัสดุที่ลงตัวทุกองศา ทั้งไม้ คอนกรีต อิฐมอญก่อโชว์ แสงสว่างยามบ่ายสาดส่องผ่านกระจก สมดุลกับดอกไม้สีขาว ในแจกันบนโต๊ะอาหารไม้สักเข้าชุด ให้ความรู้สึกอบอุ่นและ ผ่อนคลายสายตาทุกครั้งที่หันไปมอง ทั น ที ที่ อ าหารพร้ อ มเสิ ร ์ ฟ เวลาแห่ ง ความอร่ อ ยก็ เริม่ ต้น จานแรกทีแ่ นะน�ำให้ลมิ้ ลองคือ หอยลายอบเนยกระเทียม เมนูแนะน�ำของร้านที่ใครๆ ก็ชื่นชอบ ด้วยส่วนผสมที่ลงตัวของ เครื่องเทศและหอยลายเนื้อดีสดใหม่ เสิร์ฟคู่ขนมปังกระเทียม กรุบกรอบ อีกเมนูที่ไม่ควรพลาดคือ ต้มย�ำเนื้อตุ๋น สัมผัสกับ เนือ้ นุม่ ละมุนลิน้ พร้อมกลิน่ หอมของสมุนไพรจีน นอกจากนี้ ยังมี เมนูอาหารไทยน่ารับประทาน เช่น น�้ำพริกลงเรือ รสเผ็ดก�ำลังดี

ทานเคียงกับปลาดุกฟูกรอบ หากไม่อิ่มก็ยังมีเมนูไทยอีสาน ส้มต�ำกุง้ แม่นำ�้ ย่าง รสชาติเปรีย้ วหวาน รับประทานกับกุง้ แม่นำ�้ เนือ้ ดีทคี่ ดั สรรมาโดยเฉพาะ ปดิ ท้ายด้วยขนมเบเกอรีท่ รี่ า้ นท�ำเอง ทุกวันเพือ่ ความสดใหม่ ทัง้ เลมอนชีสเค้ก นิวยอร์กชีสเค้ก เนือ้ นุม่ รสหวาน กินอร่อยจนวางช้อนไม่ลง ทานคู่กับชาไทยนมร้อน ฟองนมนุ่มลิ้น ได้รสชาติชาไทยแท้แสนประทับใจ ร้ า นครั ว ดอกไม้ ข าวยั ง มี เ มนู อ าหารอี ก

มากมายที่ น ่ า ลิ้ ม ลอง ด้ ว ยความใส่ ใ จในการเลื อ ก วัตถุดบิ คุณภาพทีส่ ดสะอาด พร้อมบริการอันเป็นมิตร เพื่ อ สุ ข ภาพกายและสุ ข ภาพใจที่ ดี ข องลู ก ค้ า ทุ ก คน ที่มาเยือน ร้านครัวดอกไม้ขาว ฝั่งตรงข้ามเยื้องกับโรงพยาบาลหัวเฉียว ถนนบ�ำรุงเมือง โทร. 0-2225-2749 เปิดวันจันทร์ - เสาร์ เวลา 10.00 - 22.00 น. (ปิดวันอาทิตย์) ราคาอาหารต่อท่านโดยประมาณ 200 - 600 บาท สมาชิกบัตร SCG Debenture Club ติดตามสิทธิประโยชน์ได้จากเล่มกิจกรรมและสิทธิประโยชน์

บนเนือ้ ที่ 2 ไร่ในซอยโกสุมรวมใจย่านดอนเมือง เป็นที่ซ่อนตัวของร้านอาหารน่ารัก บรรยากาศร่มรื่น โดดเด่นด้วยต้นไม้สีเขียวและฟาร์มผักออร์แกนิกที่ ปลูกด้วยระบบน�้ำเลี้ยงปลอดสารพิษ สีเขียวสลับแซม สีแดงของผักสลัดกรีนโอ๊ก เรดโอ๊ก บัตเตอร์เฮด และ ผักคอส ต่างเชิญชวนให้คนรักผักดัน้ ด้นมาลิม้ รสความ กรอบหวานของผักสดๆ จากร้าน My home

ก้าวแรกเมื่อมาถึง My home จะพบกับสวนขนาด กะทัดรัด ก่อนจะถึงเรือนรับรองขนาดเล็ก 3 หลัง สัมผัสได้ถึง ความสบายตามคอนเซ็ปต์ที่เน้นสร้างบรรยากาศให้เหมือน บ้าน ตกแต่งแบบเรียบง่ายแต่มีสไตล์ด้วยโทนสีเหลืองอ่อน ติด กระจกบานใหญ่ให้มองเห็นวิวด้านนอกแบบพานอรามา เมนู อาหารเอาใจลูกค้าคนรักการทานผักเป็นสลัดนานาชนิด อย่างเช่น แฮปปี ้ ส ลั ด เรี ย กความสนใจจากเด็ ก ที่ เ ริ่ ม กิ น ผั ก ด้ ว ยแฮม เบคอน และไส้กรอก หรือจะเป็นสลัดทูน่า สลัดไก่อบ สลัด หมูอบ วางกับผักสลัดอวบๆ กองโตเสิรฟ์ ในจานใบใหญ่ มีนำ�้ สลัด ให้เลือกทั้งแบบใสและข้น รสชาติเปรี้ยวเล็กน้อย แต่เข้ากัน ได้ดีกับผักสด ส�ำหรับผู้ชื่นชอบอาหารรสจัดจ้านสูตรเฉพาะของร้าน พลาดไม่ ไ ด้ กั บ ย� ำ สมุ น ไพรไข่ เ จี ย วกรอบ ที่ ท อดไข่ ด ้ ว ยไฟ ปานกลางจนกรอบ ราดน�ำ้ ย�ำสูตรเฉพาะ ใช้นำ�้ ปลาหวานผสมกับ

หอมแดง น�้ำมะนาว ตะไคร้ และพริกขี้หนู เมื่อกินกับข้าวสวย ร้อนๆ ให้สัมผัสของอาหารง่ายๆ แต่อร่อยล�้ำ นอกจากนี้ยังมีเมนู หอมค�ำ ส่วนผสมจากหอมหัวใหญ่สับละเอียดกับหมูบดปั้น รวมกันเป็นลูกพอค�ำ ต้มจนเกือบสุกก่อนจะน�ำมาทอด อาหาร ทุกจานจะมีสลัดผักเป็นเครื่องเคียงให้ เป็นจุดประสงค์ของร้าน ที่อยากให้ทุกคนที่มาได้กินผักสดๆ ตบท้ายด้วยเบเกอรี่โฮมเมด และสมู ท ตี้ ร สเปรี้ ย วหวาน และหากใครติ ด ใจผั ก ในฟาร์ ม ก็สามารถเลือกซื้อกลับบ้านได้ในราคาพิเศษ เรียกได้ว่าทั้งบรรยากาศและรสชาติ ให้ความ

รู้สึกไม่ต่างจากการทานอาหารที่บ้าน และนี่คือเสน่ห์ที่ ท�ำให้คนรักผักและใส่ใจสุขภาพแวะเวียนไปที่บ้านหลังนี้ อย่างไม่ขาดสาย My home ซอยโกสุมรวมใจ 23 ดอนเมือง โทร. 0-2981-0200 www.myhomeveg.com เปิดวันจันทร์ - เสาร์ เวลา 09.00 - 19.00 น. (ปิดวันอาทิตย์) ราคาอาหารโดยประมาณจานละ 100 - 200 บาท ควรโทร.จองโต๊ะล่วงหน้า สมาชิกบัตร SCG Debenture Club ติดตามสิทธิประโยชน์ได้จากเล่มกิจกรรมและสิทธิประโยชน์

Dining Out

เรื่อง : สุทธินี ใจสมิทธ์ ภาพ : ถนอมพงศ์ ชัยชนะ

Trio

อิ่มอร่อยสบายอารมณ์

เมือ่ กลิน่ อายความเป็นวินเทจถูกถ่ายทอดผ่าน รูปภาพและของสะสมแปลกตา ท่ามกลางอาหารรสชาติ ละมุนลิ้น กระตุ้นความรู้สึกในหัวใจให้เปี่ยมไปด้วย ความสุข สมกับชื่อ Trio ร้านนั่งสบาย กลางซอย นราธิวาส 15 ที่กลายเป็นจุดนัดพบยอดนิยม

เสน่ ห ์ ข องร้ า นอยู ่ ที่ ก ารน� ำ ของเก่ า ซึ่ ง เต็ ม ไปด้ ว ย ความทรงจ�ำ มาจัดวางในทุกมุมของร้านอย่างลงตัว มีเฟอร์นเิ จอร์ โต๊ะ เก้าอี้บุหนัง หมอนอิงลายดอกไม้ บวกกับเสียงเพลงเบาๆ ชวนให้เพลินอารมณ์ ทีน่ แี่ บ่งออกเป็น 3 โซนให้ลกู ค้าเลือกนัง่ ได้ ตามใจชอบ ทัง้ โซนด้านนอก มีตน้ ไม้ให้ความร่มรืน่ เป็นธรรมชาติ โซนด้านใน อบอวลด้วยสไตล์วินเทจแบบสมัยนิยม เน้นนั่งคุย แบบกันเอง และโซนด้านบน คงความเป็นส่วนตัว แต่โรแมนติก ด้วยสายลมกับแสงดาวยามค�่ำคืน อาหารจานพิ เ ศษที่ ช วนให้ ม าลิ้ ม ลองคื อ ย� ำ ทรี โ อ ด้วยน�ำ้ ย�ำสูตรเฉพาะของร้าน ให้รสชาติเปรีย้ วหวาน เผ็ดก�ำลังดี เข้ากันกับส่วนผสมสดใหม่ ทั้งไข่ต้มสุกผ่าซีก กุ้งค�ำโต ปลาหมึก เหนียวนุ่ม หมูสับบดละเอียด หอมหัวใหญ่ พริกสด รสจัดอร่อย ถูกปาก และเมนูเด็ดอีกมากมาย อาทิ ไก่ห่อชีส ทรีโอเย็นตาโฟ น�้ำเดือด ห่อหมกหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ เนื้อกระทะร้อนทรีโอ โดยทุ ก จานตกแต่ ง ด้ ว ยดอกกล้ ว ยไม้ สี ม ่ ว งสวย อั น เป็ น เอกลักษณ์ของร้าน ไม่เพียงเท่านั้น เครื่องดื่มของที่นี่ก็พิเศษ ไม่ แ พ้ กั น โดยเฉพาะทรี โ อค็ อ กเทล เปรี้ ย วนิ ด หวานหน่ อ ย ดื่มแล้วสดชื่นจนยากจะลืม หากต้องเลือกร้านอาหารสักร้าน โดยมีโจทย์

ในใจคือ บรรยากาศสบายตา อาหารรสชาติถูกปาก ดนตรีไพเราะ ทีส่ ำ� คัญเดินทางสะดวก ทีน่ นี่ บั เป็นค�ำตอบ ที่ช่วยให้มื้ออร่อยอิ่มเอมอย่างแน่นอน

Trio ซอยนราธิวาส 15 โทร. 0-2676-1653 เปิดทุกวัน เวลา 17.00 - 24.00 น. ราคาอาหารโดยประมาณจานละ 200 - 600 บาท สมาชิกบัตร SCG Debenture Club ติดตามสิทธิประโยชน์ได้จากเล่มกิจกรรมและสิทธิประโยชน์

Peony House กรุ่นกลิ่นชาใจกลางเมือง

เรื่อง : สุภาณี เกศดายุรัตน์ ภาพ : ศักยะ บุญเสมอ

หากพู ด ถึ ง ความหมายตามพจนานุ ก รม Peony หมายถึงดอกไม้ตระกูลเดียวกับดอกไพโอเนีย หรือที่คุ้นหูกันว่าดอกโบตั๋น แต่หากจะให้นิยามค�ำว่า Peony House ร้านชาบรรยากาศส่วนตัว ที่ตั้ง อยู่ในซอยศาลาแดงพื้นที่ใจกลางเมือง คงหมายถึง “บ้ า นดอกโบตั๋ น ” ที่ เ ต็ ม ไปด้ ว ยเรื่ อ งราวน่ า สนใจ มากมาย คล้ายกลีบดอกไม้จำ� นวนมากเรียงตัวซ้อนกัน ท�ำให้ร้านชาแห่งนี้ได้รับความนิยมและบอกเล่าปาก ต่อปากถึงรสชาติความหอมอร่อยของชาท่ามกลาง บรรยากาศส่วนตัว

Peony House ถือเป็นร้านที่รวมเอาสิ่งที่แต่ละคน หลงใหลมาผสมผสาน อย่างความชอบในการท�ำอาหารของคุณ พิชญา วงศ์กติ ติโชติ ผูเ้ ป็นเจ้าของร้าน ความรักในการจัดดอกไม้ อย่างมีศิลปะของผู้เป็นแม่ ความหลงใหลในเส้นแสงและเงา บนงานศิลปะของคุณยาย และความรื่นรมย์กับกลิ่นชาเมือง เยอรมนีอันหอมหวนของน้องสาว ความชอบของแต่ละคนถูกน�ำมาสานต่อในบ้านหลัง เก่าของคุณยาย เกิดเป็นร้านชาที่มีการตกแต่งแบบร่วมสมัย (Contemporary) เน้นโทนสีขาวและชมพู ภายนอกสะดุดตา ด้วยกระดานด�ำแสนเก๋ ระบุเมนูเมนคอร์สทีม่ กี ารสลับสับเปลีย่ น ไปทุกวัน กระจกใสหน้าร้านสกรีนด้วยชือ่ ร้านขนาดใหญ่เชือ้ เชิญ แขกไม่น้อย ภายในร้านแบ่งออกเป็นสามส่วน ส่วนแรกและส่วน สุดท้ายโดดเด่นด้วยวอลล์เปเปอร์ลายดอกโบตั๋น และภาพวาด ลายเส้นสุดประณีตทีแ่ ขวนเรียงรายบนผนังได้อย่างสวยงาม ส่วน ทีส่ องหรือตรงกลางถูกดัดแปลงให้เป็นสวนหย่อม ส�ำหรับรองรับ ลูกค้าที่ต้องการดื่มชาในบรรยากาศสบายๆ แบบเอ๊าต์ดอร์ และ สิ่งที่เพิ่มสีสันให้แก่ร้านนี้คือ แจกันดอกไม้สดที่ถูกออกแบบให้ ไม่ซ�้ำกันในแต่ละวัน ส่งตรงจากมือคุณแม่ มาประดับให้ทุกโต๊ะ อาหารมีชีวิตชีวา สร้างบรรยากาศสุดโรแมนติกให้แก่ลูกค้า ร้านนี้การันตีคุณภาพชาที่มีมากกว่า 50 เมนู ด้วย การคัดสรรแหล่งน�ำเข้าใบชาที่ดีที่สุดจากประเทศเยอรมนี ซึ่ง มีให้เลือกหลายประเภท ทั้งชาเขียว ชาสมุนไพร ชาผลไม้ และ ชาไร้กาเฟอีน หากพูดถึงเมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ ต้องยกให้

ชาเบลนด์หรือชาทีม่ กี ารแต่งกลิน่ ในเมนูทมี่ ชี อื่ ว่า Perfect World โดยมีสว่ นผสมของใบแบล็กเบอร์รี่ ดอกคาโมมายล์ ใบเปปเปอร์ มิ้นต์ ใบสตรอว์เบอร์รี่ ตะไคร้ ใบเฮเซลนัท ดอกลาเวนเดอร์ ขี้ผึ้ง ดอกดาวเรือง กลีบกุหลาบ ใบชาเมือ่ เบลนด์รวมกับสมุนไพรและ ใบไม้ประเภทต่างๆ จะส่งกลิ่นหอมเย้ายวน สร้างประสบการณ์ ใหม่ในการดื่มชาให้ต่างไปจากเดิม ไม่ว่า Peony จะมีความหมายว่าอย่างไร แต่

Peony House จะเป็นบ้านดอกโบตั๋นกรุ่นกลิ่นชา ใจกลางเมืองหลังแรกและหลังเดียวทีจ่ ะพาคุณหลีกหนี บรรยากาศความวุน่ วายในเมือง เข้าสูโ่ ลกแห่งความสุข ขนาดใหญ่อย่างแน่นอน

Peony House ซอยศาลาแดง 1 ถนนสีลม โทร. 0-2235-5369 เปิดทุกวัน จันทร์ - ศุกร์ เวลา 07.00 - 20.00 น. เสาร์ - อาทิตย์ เวลา 09.00 - 17.00 น. ราคาโดยเฉลี่ย 80 - 200 บาทต่อท่าน สมาชิกบัตร SCG Debenture Club ติดตามสิทธิประโยชน์ได้จากเล่มกิจกรรมและสิทธิประโยชน์

Getting Charm

เรื่อง : สุทธินี ใจสมิทธ์

รูปหน้าสวย...ด้วยต่างหูคู่โปรด หากเอ่ยถึงเครื่องประดับ คุณสมบัติพิเศษที่ ไม่มีวันเสื่อมคลายไปตามกาลเวลานั่นคือ ช่วยสร้าง ความโดดเด่นและเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ให้แก่ผู้สวมใส่ ในทุกโอกาสส�ำคัญ ต่างหูนับเป็นเครื่องประดับที่ได้รับ ความนิยมเป็นอันดับต้นๆ เพราะสะดวกต่อการใช้งาน ช่วยเพิ่มความโดดเด่นบนใบหน้า อีกทั้งยังมีรูปทรง สีสันลวดลาย และวัสดุให้เลือกน�ำไปใช้งานได้หลาก หลาย

เลือกต่างหูให้รับกับรูปหน้า

รูปหน้ากลม มีสัดส่วนใบหน้าที่ความกว้างและความยาว ไม่ต่างกันมาก ดังนั้น ต่างหูที่เหมาะสมคือ ต่างหูแบบติดหู เม็ดเล็กๆ ต่างหูทรงยาว ทรงระย้า ทีย่ าวลงมาถึงช่วงกราม เพือ่ ให้ คอดูยาวขึน้ ต่างหูทรงสีเ่ หลีย่ มก็สามารถใส่ได้ เพราะเส้นแนวตัง้ จะช่วยให้หน้าดูเรียวและลดความกลมได้ดี ควรเลี่ยงต่างหู ทรงกลม ทรงหัวใจ และทรงพัด

• รูปหน้ากลม

รูปหน้าหัวใจ เป็นรูปหน้าที่มีส่วนหน้าผากกว้าง และส่วน แก้มแคบลงมาจนถึงคาง ควรใส่ต่างหูทรงหยดน�้ำ ทรง สี่เหลี่ยม ทรงสามเหลี่ยม ทรงระย้า เพราะจะช่วยให้ขากรรไกร ดูกว้างและสมดุล ข้อดีของรูปหน้าแบบนี้คือ สามารถเลือกใส่ ต่างหูสไตล์อุบะได้สวย แต่ควรเลี่ยงต่างหูที่มีด้านล่างแหลม รูปหน้าสี่เหลี่ยมจัตุรัส สามารถเลือกใส่ต่างหูที่ไม่ใช่รูป เหลี่ยมมุม ขด บิดเกลียวได้ทั้งหมด โดยเฉพาะต่างหูห่วง และต่างหูขอบโค้งมน จะช่วยเสริมส่วนโค้ง ท�ำให้ดูอ่อนโยน รวมทั้งต่างหูทรงหยดน�้ำ ทรงระย้า ทรงลูกตุ้มเรียงกัน จะช่วยให้ ใบหน้ายาวได้รูปยิ่งขึ้น รูปหน้าไข่ ด้วยสัดส่วนของใบหน้ารูปนี้ท�ำให้สามารถเลือก ใส่ต่างหูแบบไหนก็ได้ โดยเฉพาะวันที่รวบผมตึง แนะน�ำให้ ใส่ต่างหูทรงระย้าที่ค่อนข้างยาวและกว้าง จะเสริมให้ดูโดดเด่น แต่หากรูปหน้าไข่แล้วคอไม่ยาวระหง ไหล่ไม่ได้รูป แนะน�ำให้ ใส่ต่างหูแบบเดียวกับรูปหน้าเหลี่ยมหรือกลมจะดีที่สุด นอกจากวิธกี ารเลือกต่างหูให้รบั กับใบหน้าตามทีก่ ล่าว มาข้างต้นแล้ว แนะน�ำให้หาต่างหูดีไซน์เรียบง่ายเพียงไม่กี่คู่ ติดตัวไว้ อาทิ ต่างหูเพชรเม็ดเดี่ยวสีเรียบๆ ต่างหูห่วงทรงรีแบบ ไข่ ต่างหูเส้นยาวที่ท�ำจากลูกปัดเล็กๆ เรียงกัน และต่างหูเงิน ทรงยาว เพราะสามารถหยิบจับมาใส่ได้ทุกโอกาส

4 5 แต่ด้วยความที่ต่างหูมีแบบให้เลือกมากมาย เคยลอง สังเกตไหมว่า ต่างหูแบบไหนที่เหมาะกับเรามากที่สุด ท�ำไม บางครั้งใส่แล้วไม่มั่นใจ ใส่แล้วมีคนทักว่าไม่เข้ากับรูปหน้า หากรูจ้ กั วิธเี ลือกต่างหูทถี่ กู ต้อง ย่อมช่วยเสริมโครงหน้าให้ดสู วย และสมดุล

รูปหน้าสี่เหลี่ยมผืนผ้า ด้วยรูปหน้าที่มีความยาวมากกว่า ความกว้างอย่างเห็นได้ชดั จึงควรเลือกต่างหูแบบติดหูและ มีขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป เพื่อช่วยให้รูปหน้าดูกลมกลืนไปกับ ต่างหู และต้องเลีย่ งต่างหูทรงระย้า ต่างหูทรงยาว เพราะจะท�ำให้ รูปหน้าดูยาวมากเกินไป

• รูปหน้าหัวใจ

• รูปหน้าสี่เหลี่ยมจัตุรัส

• รูปหน้าไข่

ตุ้มหูหรือต่างหูเป็นเครื่องประดับที่อยู่คู่กับ คนไทยมายาวนาน มีหลากหลายแบบให้เลือกใช้ ดังนั้น นอกจากเลือกให้เข้ากับรูปหน้าแล้ว ลักษณะของหู สีผม สีดวงตา การแต่งกาย และโอกาสที่จะสวมใส่ ก็เป็น องค์ประกอบส�ำคัญในการตัดสินใจ ที่ส�ำคัญไม่ควร ใส่ต่างหูตลอดเวลา เพราะอาจท�ำให้เกิดอาการอักเสบ ตามมาได้

เคล็ดลับเลือกต่างหูให้เข้ากับงาน • หากไปงานตอนกลางวัน แนะน�ำให้เลือกต่างหูทมี่ สี สี นั สดใส และมีลวดลายแปลกตา อาจเป็นต่างหูลูกปัดหลากสี ต่างหูรูป ดอกไม้ ใบไม้ หรือรูปสัตว์ต่างๆ เพื่อเพิ่มชีวิตชีวาให้กับใบหน้า • หากไปงานตอนกลางคืน แนะน�ำให้ใช้ต่างหูขนาดไม่ใหญ่ จนเกินไป โดยเลือกทีเ่ ป็นอัญมณีสะท้อนวิบวับเล็กน้อยเมือ่ โดน แสงไฟ จะช่วยให้ดูเปล่งประกายโดดเด่น • หากต้องไปงานส�ำคัญ แล้วรูส้ กึ ว่าใบหน้าหมองคล�ำ้ แนะน�ำ ให้เลือกต่างหูเพชร ต่างหูมกุ ต่างหูคริสตัล ต่างหูสเี งินหรือสีทอง จะช่วยให้ใบหน้าดูสว่างสดใสขึ้นทันที

Go Around

เรื่อง : ชนาภา สุวงศ์ ภาพ : ถนอมพงศ์ ชัยชนะ

แต่จากนั้นก็ได้ครูสาคร ยังเขียวสด หรือ “โจหลุยส์” เข้ามาสืบทอดต่อจนถึงทุกวันนี้ ซึง่ นอกจากท่านจะเป็นผูอ้ นุรกั ษ์ หุ่นละครเล็กแล้ว ยังได้มีการปรับแก้เสื้อผ้าและรูปทรงของหุ่น ให้งดงามมากขึ้น ทั้งยังพัฒนาให้หุ่นเคลื่อนไหวคล้ายกับมนุษย์ มากยิ่งขึ้น ด้วยการเชิดหุ่นที่ต้องใช้คนเชิด 3 คนต่อหุ่น 1 ตัว จึงท�ำให้หุ่นละครเล็กกลับมาเป็นที่ชื่นชอบของทั้งชาวไทยและ ชาวต่างประเทศอีกครัง้ จนกระทัง่ เป็นทีร่ จู้ กั ในชือ่ “หุน่ ละครเล็ก โจหลุยส์” แต่แล้วก็โดนพิษเศรษฐกิจไปเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ท�ำให้โรงละครต้องปิดตัวลง นักแสดงต่างแยกย้ายไปท�ำงาน ของตัวเอง ท�ำให้หุ่นละครเล็กเกือบสูญหายไปอีกครั้ง

รวมกลุ่มคนตัวเล็ก

“ได้รบั แรงบันดาลใจจากครูผสู้ บื สานงานประติมากรรม ชื่ อ ดั ง ของเมื อ งไทย อาจารย์ วั ช ระ ประยู ร ค� ำ ท่ า นเห็ น ว่ า น่าเสียดายถ้าจะเลิกการแสดงไป อาชีพอืน่ มีเยอะแล้ว แต่อาชีพ สื บ สานการเชิ ด หุ ่ น มี น ้ อ ย จุ ด นี้ เ ลยเหมื อ นเป็ น แรงผลั ก ดั น ให้เรากลับมาท�ำอีกครั้ง เพราะความจริงแล้วการแสดงก็เป็น ความถนัดและได้ท�ำในสิ่งที่ตัวเองรักมากกว่างานอื่นๆ เลยเริ่ม

“หุ่นละครเล็ก คลองบางหลวง คณะค�ำนาย”ตัวเล็ก แต่ใจใหญ่ ถ้ า ถามเด็ ก รุ ่ น ใหม่ ส มั ย นี้ คงมี น ้ อ ยคนนั ก ที่จะรู้จักการแสดงหุ่นละครเล็กว่าเป็นอย่างไร ทั้งที่ ในความเป็นจริงแล้ว หุ่นละครเล็กนับเป็นการแสดง อั น ล�้ ำ ค่ า ที่ ถื อ เป็ น สมบั ติ ข องชาติ ม ายาวนานกว่ า 100 ปี ซึ่งปัจจุบันก�ำลังจะค่อยๆ เลือนหายไป หาก ไม่มคี ณะละครเชิดหุน่ กลุม่ นี้ ทีแ่ ม้จะเป็นเพียงกลุม่ เล็กๆ แต่หัวใจของพวกเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและ ความมุ ่ ง มั่ น ที่ จ ะเป็ น ตั ว แทนศิ ล ปิ น ในการสื บ ทอด มหรสพอันงดงามนี้สู่รุ่นลูกรุ่นหลานต่อไป กับกลุ่ม “หุ่นละครเล็ก คลองบางหลวง คณะค�ำนาย”

ย้อนอดีตหุ่นละครเล็ก

หากย้ อ นกลั บ ไปตั้ ง แต่ จุ ด เริ่ ม ต้ น ของหุ ่ น ละครเล็ ก คงต้องถอยหลังยาวไปไกลกว่า 100 ปี ถือก�ำเนิดโดยครูแกร ศัพทวนิช ซึ่งได้ประดิษฐ์หุ่นละครเล็กขึ้น เพราะเห็นหุ่นหลวง แล้วเกิดความประทับใจ จนได้น�ำออกแสดง ทั้งเจ้านายและ ชาวบ้ า นต่ า งชื่ น ชอบในการแสดงนี้ เจ้ า นายต่ า งเรี ย กว่ า “ละครเล็ก” ส่วนชาวบ้านเรียกกันว่า “ละครเล็กครูแกร” จนกระทัง่ หลังสงครามโลกครัง้ ทีส่ องความนิยมจึงเริม่ ลดลง จนสูญหายไป นานกว่า 50 ปี

รวมตัวนักแสดงที่เคยแสดงร่วมกัน แล้วพอดีทางอาจารย์วัชระ ก็รู้จักกับอาจารย์ชุมพล อักพันธานนท์ เจ้าของ “บ้านศิลปิน” ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ให้เราแสดง เพราะที่นี่เป็นแหล่งรวมศิลปะ หลายๆ แขนง แต่ยังไม่มีการแสดงที่ดึงดูดแบบนี้ เราเลยได้ มาอยูต่ รงนี”้ คุณออย หนึง่ ในคณะนักแสดงเล่าให้ฟงั ถึงทีม่ าทีไ่ ป การรวมตัวที่บ้านศิลปินแห่งนี้ เป็นการรวมนักแสดง เชิดหุ่นมากประสบการณ์กว่า 10 ปี ที่มีใจรักในการแสดง และ ต้องการอนุรักษ์ศิลปะอันทรงค่านี้ไว้ ปัจจุบันมีทั้งหมด 15 คน ภายใต้ชื่อ “หุ่นละครเล็ก คลองบางหลวง คณะค�ำนาย” โดย ตั้งชื่อตามแหล่งที่ก�ำเนิด และค�ำว่า “ค�ำนาย” ก็เป็นค�ำไทยๆ ที่ใช้น�ำหน้าชื่อคนสมัยก่อน สื่อถึงความเป็นผู้ชายที่มีความเป็น ผู้น�ำอีกด้วย โดยเปิดการแสดงมาได้หนึ่งปีแล้ว

เอกลักษณ์คณะค�ำนาย

หุ่นละครเล็ก คลองบางหลวง คณะค�ำนาย จะแสดง ด้วยคนเชิด 3 คน ท�ำให้สามารถเคลื่อนไหวได้เหมือนคนถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ขาดเพียงแค่ลมหายใจเท่านัน้ ท�ำให้หนุ่ ดูมชี วี ติ ชีวา มีความอ่อนช้อยงดงาม และสามารถเข้าถึงผู้ชม ท�ำให้ผู้ชม มีความสุขได้ ถือเป็นเสน่ห์ของหุ่นละครเล็กที่ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ เอกลักษณ์ส�ำคัญอีกอย่างก็คือ ผู้เชิดจะ ใส่หน้ากากและถุงแขน เพื่อลดทอนความเป็นมนุษย์ของตัวเอง ลง แล้วโชว์ความสวยงามของหุ่นแทน โดยแฝงแนวคิดก่อนที่

Go Around

จะเริ่มการแสดงจริงๆ กับเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างกาย กับจิต โดยผู้เชิดจะเหมือนดวงจิต หุ่นจะเหมือนร่างกายมนุษย์ โดยจะแสดงออกมาอย่างไรก็ขนึ้ อยูก่ บั จิตใจภายใน ซึง่ ตรงนีเ้ อง ทางผู ้ แ สดงได้ สื่ อ ออกมาให้ ผู ้ ช มเห็ น ถึ ง จิ ต ทั้ ง สองด้ า นว่ า มี ทั้งดีและไม่ดี เป็นจิตขาวและจิตด�ำ โดยจิตขาวจะแสดงท่าทาง ร่าเริง สนุกสนาน จิตด�ำก็จะแสดงท่าทีโกรธเกรี้ยว โมโหร้าย โดยจะให้ผู้ชมเลือกเอาเองว่าจะเป็นจิตแบบไหน ถือเป็นการ สอดแทรกแง่คิดในการด�ำเนินชีวิตให้แก่ผู้ชมไปด้วยในตัว ในวันธรรมดาหุน่ ละครเล็กทีน่ จี่ ะแสดงเรือ่ งรามเกียรติ์ เน้นเรือ่ งท่าร�ำเป็นหลัก แสดงตอนนางลอย ในชุดหนุมานจับนาง เบญกาย และวันเสาร์-อาทิตย์จะเป็นการแสดงคนเชิดโขนปะทะ คนเชิดหุน่ ซึง่ สร้างสรรค์ขนึ้ มาใหม่เฉพาะของทีน่ ี่ โดยผสมผสาน การแสดงโขนและหุ่นละครเล็กเข้าไว้ด้วยกัน โดยจะมีการเชิด ตัวคนแสดงโขนจริงๆ ทีท่ ำ� จิตให้เป็นหุน่ กับการเชิดหุน่ ละครเล็ก มาปะทะกัน ซึ่งนอกจากความบันเทิงที่ได้รับแล้ว ยังแฝงแง่คิด ในการใช้ชวี ติ ให้เห็นด้วยว่า บางครัง้ เราก็เป็นคนเชิด บางครัง้ เรา ก็เป็นคนถูกเชิดในสังคมได้เช่นกัน

สัมผัสบ้านศิลปิน

นอกจากการแสดงหุ ่ น ละครเล็ ก ที่ เ ป็ น จุ ด ดึ ง ดู ด ให้ มาเที่ยวชมแล้ว ยังมีความน่าสนใจอีกหลายอย่างที่ท�ำให้เมื่อ ก้าวเข้ามาสัมผัส จะรู้สึกถึงเสน่ห์ของบ้านศิลปินที่ไม่เหมือน ที่ใด ท่ามกลางบรรยากาศของบ้านไม้ 2 ชั้นริมคลองบางหลวง มีฉากหลังเป็นเจดีย์ไม้ย่อมุมสิบสองเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา ให้ความรู้สึกผ่อนคลายไปกับศิลปะหลากหลายแขนง ทั้งงาน ภาพเขี ย น งานภาพพิ ม พ์ สามารถมาลองท� ำ ได้ ด ้ ว ยตั ว เอง รวมถึงมีการสอนท�ำเปเปอร์มาเช่ พร้อมมุมจิบกาแฟรับลมเย็น

สบาย และได้ชื่นชมวิถีชีวิตของชาวบ้านริมน�้ำที่แท้จริง จึงท�ำให้ เป็นที่ชื่นชอบของคนทุกเพศทุกวัย

สืบสานด้วยใจใหญ่

ด้วยความรักที่จะถ่ายทอดมรดกอันล�้ำค่าของชาติให้ คงอยูส่ บื ไป จึงเป็นวัตถุประสงค์หลักของคณะทีอ่ ยากจะเผยแพร่ ให้การแสดงเข้าถึงชุมชน กลุม่ คนทีไ่ ม่มโี อกาสได้ชม สามารถมา ชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยเน้นให้เป็นเชิงอนุรักษ์มากกว่า ธุรกิจ ช่วยสร้างรายได้ให้แก่รา้ นค้าของชุมชนในละแวกใกล้เคียง อีกทัง้ ยังเป็นแหล่งสืบทอดศิลปะให้แก่กลุม่ เยาวชนรุน่ ใหม่ ได้มา ศึกษาและเรียนรู้สืบต่อไปด้วย “ตอนนีม้ เี ด็กในชุมชนมาเป็นลูกศิษย์แล้วหลายคน อายุ น้อยสุดขวบกว่าๆ เอง เพราะเขาชอบและซึมซับเห็นจนชินตา เขาก็จะมาฝึกซ้อมตามตลอด เราดีใจที่ไม่ต้องไปบังคับเขา เพราะการแสดงแบบนี้ ไ ม่ ใ ช่ เ รื่ องง่ าย หนึ่ งต้ องมี ใ จรักก่อ น ต้องอาศัยทักษะร่างกายทุกส่วนและการฝึกซ้อมอย่างหนัก ถึงจะแสดงได้ดี “พวกเราเป็นศิลปินผู้สืบทอดงานโดยตรงจะอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีคนดู ก็อยากให้มีคนมาสนับสนุน มาดูการแสดงของเรา เยอะๆ แม้จะไม่ได้เป็นผู้สืบทอดโดยตรง แต่มาเป็นผู้สนับสนุน และร่วมอนุรกั ษ์หนุ่ ละครเล็ก ในฐานะทีเ่ ราเป็นลูกหลานคนไทย คนหนึ่งก็ได้” คุณออยกล่าวทิ้งท้าย หากวันว่างๆ เสาร์-อาทิตย์ไม่รจู้ ะไปทีไ่ หน บ้าน

ศิลปินยินดีตอ้ นรับคนทีร่ กั ในงานศิลปะ และมีหวั ใจรักษ์ ความเป็นไทย ได้มาผ่อนคลายและร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ของการช่วยรักษามหรสพดั้งเดิมอันงดงามของไทย ให้คงอยู่สืบไป

Entertainment

เรื่อง : พัดชา พาสธร

Movies

Musics ภาพยนตร์ ใหม่

อัลบั้มเพลงไทย

แนวหนัง : ดราม่า กำ�หนดฉาย : 8 กันยายน 2554 กำ�กับโดย : ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล นำ�แสดงโดย : อนันดา เอเวอริงแฮม, เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์, มาริโอ้ เมาเร่อ, พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง, เพ็ชรทาย วงษ์คำ�เหลา, ดอม เหตระกูล ค่ายหนัง : สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล ภาพยนตร์ย้อนยุคฟอร์มยักษ์ที่สหมงคลฟิล์มทุ่มทุนสร้าง และกำ�กับโดย ฝีมือชัน้ ครูอย่างหม่อมน้อย เพือ่ ฉลองสองวาระยิง่ ใหญ่อนั ได้แก่ ครบรอบ 100 ปี ชาตกาลของพลตรี ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช และครบรอบ 40 ปีของสหมงคลฟิล์ม “อุโมงค์ผาเมือง” เป็นเรือ่ งราวคดีฆาตกรรมพิศวงระหว่างขุนศึกนักรบ โจรป่า และเจ้านางผู้เลอโฉมในอาณาจักรล้านนาเมื่อ 700 ปีที่ผ่านมา โดยดัดแปลงจาก บทละครเวทีเรื่อง “ราโชมอน” วรรณกรรมชิ้นเอกของ พลตรี ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช นักแสดงที่มาร่วมสร้างสีสันในเรื่องจะเปลี่ยนแปลงคาแรกเตอร์อย่างที่ไม่เคยแสดง มาก่อน โดยพลอย - เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ รับบทเป็นแม่หญิงคำ�แก้ว มีขุนศึก เจ้าหล้าฟ้า (อนันดา เอเวอริงแฮม) เป็นสามี มาริโอ้ เมาเร่อ เป็นอานนทภิกขุ และ ดอม เหตระกูล เป็นโจรป่าสิงห์คำ� นับเป็นภาพยนตร์ดีที่คนรักงานคุณภาพตั้งตารอ

แนวเพลง : Pop ค่าย : GMM Grammy ตลอดระยะเวลา 20 ปี บนเส้นทางสายดนตรี ยังไม่มีใครสามารถโค่น บัลลังก์ Queen of Dance ของเธอคนนี้ หลังจากห่างหายไปพักใหญ่ คริสตินา่ อากีลา่ ร์ กลับมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่บนเวทีคอนเสิร์ตที่ขยับทุกจังหวะร้อนพร้อมกันเมื่อวันที่ 4 และ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา แต่ติ๊นากลัวแฟนเพลงไม่หายคิดถึง เลยขอฉลอง 20 ปี ด้วยการรวมเพลงฮิตจากทัง้ 8 อัลบัม้ ลงในอัลบัม้ พิเศษ “20th Year Christina Aguilar” ตั้งแต่ “นินจา” เพลงแรกกับอัลบั้มแรกที่ทำ�ให้แฟนเพลงได้รู้จักติ๊นา หรือ จะเป็น “ประวัติศาสตร์” เพลงที่ทำ�ให้ทุกคนได้เต้นกันสนุกสนาน และเพลงฮิตในทุก อัลบั้ม โดยยังรวมซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุด “สุด...สุด” พร้อมทั้ง Photo book รวมภาพเด็ด ของติ๊นา และอัลบั้มรวมฮิตมิวสิควิดีโอคาราโอเกะด้วย อย่างนี้คงยิ่งกว่าหายคิดถึง กันไปเลย

ภาพยนตร์เก่า

Yundi Li อัลบั้ม “Live in Beijing”

อุโมงค์ผาเมือง

Alexander อเล็กซานเดอร์ มหาราชชาตินักรบ

แนวหนัง : ดราม่า / สงคราม / ผจญภัย วันที่เข้าฉายเมืองไทย : 24 พฤศจิกายน 2547 กำ�กับโดย : โอลิเวอร์ สโตน นำ�แสดงโดย : โคลิน ฟาร์เรลล์, แองเจลินา โจลี, จาเร็ด เลโต, แอนโทนี ฮ็อปกินส์ ค่ายหนัง : WPM Film International จากเรื่องจริงของกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช ผู้นำ�ที่เรืองอำ�นาจและ ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ บุรุษซึ่งพิชิต 90 เปอร์เซ็นต์ของโลก ในขณะนั้นด้วยอายุเพียง 25 ปี กลายมาเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่มีการรวบรวม นักแสดงมากฝีมอื จากนานาชาติ ไม่วา่ จะเป็นโคลิน ฟาร์เรลล์ ดาวรุง่ ทีม่ คี วามสามารถ รอบตัวมากที่สุดคนหนึ่ง มารับบทอเล็กซานเดอร์ แองเจลินา โจลี รับบทโอลิมเปียส มารดาผู้สง่างามและอ่อนไหว และนักแสดงแถวหน้า แอนโทนี ฮ็อปกินส์ แสดง เป็นปโตเลมี นายพลผู้จงรักภักดีที่สุดของอเล็กซานเดอร์ ลำ�ดับเหตุการณ์ชีวิต จากวั ย เยาว์ ที่ เ ปี่ ย มพลั ง ไปสู่ ค วามตายอั น เดี ย วดายเยี่ ย งผู้ ค รองอาณาจั ก รอั น ไพศาล เป็นเรื่องราวความกล้าหาญชาญชัยที่น่าติดตามของบุคคลผู้เป็นดั่งตำ�นาน

คริสติน่า อากีล่าร์ อัลบั้ม “20th Year Christina Aguilar”

อัลบั้มเพลงสากล

แนวเพลง : Classic ค่าย : EMI Classics สร้างชื่อเสียงโด่งดังด้วยการเป็นนักเปียโนที่อายุน้อยที่สุดที่คว้ารางวัล ชนะเลิศเหรียญทองจากเวทีการแข่งขันเปียโนโชแปงนานาชาติ ที่กรุงวอร์ซอ เมื่อปี 2000 Yundi กลายเป็น Prince of Piano คนใหม่ของโลก เขาได้รับเชิญไป ร่วมแสดงคอนเสิร์ตกับวงออร์เคสตร้าชื่อดัง ปรากฏตัวตามหอประชุมชั้นนำ�ทั่วโลก อย่างคาร์เนกี ฮอลล์ และรอย ทอมสัน ฮอลล์ ที่โทรอนโต เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2010 เขาได้ไปแสดงที่ National Centre of Performing Arts กรุงปักกิ่ง ซึ่งได้รับคำ�ชมอย่างล้นหลาม ลีลาการเดี่ยวเปียโนอันแพรวพราวครั้งนี้ได้ถูกบันทึก ครบทุกอรรถรส ทั้งภาพและเสียงลงในอัลบั้ม “Live in Beijing” คอเพลงคลาสสิก ของคีตกวีโชแปงจะต้องถูกใจที่ได้ฟังอย่างเต็มอิ่ม อาทิ Sonata No.2 in B-Flat Minor, Four Mazurkas, Five Nocturnes เป็นต้น

Book Shelf

100

Book Shelf

เรื่อง : สุทธินี ใจสมิทธ์

ปฏิวัติความคิด เพื่อชีวิตด้านบวก เพราะ

“สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ” โดย นายแพทย์เทอดศักดิ์ เดชคง

ด้วยสภาพแวดล้อมในปัจจุบันที่เต็มไปด้วย ปั จ จั ย ทั้ ง สภาวะเศรษฐกิ จ สั ง คม หน้ า ที่ ก ารงาน ครอบครัว โรคภัยไข้เจ็บ ล้วนเป็นสาเหตุให้เกิดความ ตึงเครียดและความวิตกกังวล ส่งผลให้การด�ำเนิน ชีวิตยากขึ้นทุกที การสร้างก�ำลังใจในแต่ละวันจึงเป็น สิ่งจ�ำเป็นในการด�ำรงชีวิต

กฎแห่งธรรมชาติที่เป็นจริงเสมอมาคือ ไม่มีใครได้ ทุกอย่างดังใจหวัง แต่ก็ไม่ได้พลาดหวังเสมอไป เมื่อต้องพบเจอ เรื่องไม่คาดคิดจนยากจะรับได้ หากรู้จักใช้สติ ยอมรับความจริง มองในแง่บวก พร้อมกับก้าวไปข้างหน้าอย่างเข้มแข็ง ย่อมช่วย ให้ชีวิตมีคุณค่าและพบกับความสุข หนังสือเรื่อง สิ่งใดเกิดขึ้น แล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ เป็นคู่มือที่พร้อมจะให้ค�ำแนะน�ำและช่วยให้ ผู้อ่านมองโลกสดใสและน่าอยู่มากกว่าเดิม จากประสบการณ์ของนายแพทย์เทอดศักดิ์ เดชคง จิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการดูแลรักษาผู้ป่วยทางจิตเป็นเวลา นาน ได้ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านปลายปากกาเพื่อเป็นแนวทางใน การใช้ชีวิตให้แก่ผู้ที่ต้องการดูแลและพัฒนาจิตใจให้ห่างไกล ความเครียด “ผมเชือ่ เสมอว่าคนเรามีชว่ งชีวติ ขึน้ และลง คนไข้หลาย คนทีผ่ มดูแลให้คำ� ปรึกษา เมือ่ เจอช่วงลงแล้วผ่านอุปสรรคไปได้ มักมีแง่คิดดีๆ มาเล่าให้ฟัง ซึ่งเรื่องราวของคนเหล่านี้จะให้ แง่คิดที่ผู้อ่านสามารถน�ำไปประยุกต์ให้เหมาะกับตัวเองและ ใช้ได้จริง อย่างเช่น คนไข้ที่ตรวจพบว่าตนเองติดเชื้อเอดส์ ต้องปลูกผักขายเพื่อเลี้ยงลูก แต่ไม่มีคนซื้อ ต้องหางานอื่นท�ำ

ในทีส่ ดุ ก็ประสบความส�ำเร็จกับการท�ำตุก๊ ตาส่งออกต่างประเทศ เขาเคยบอกว่า ถ้าเป็นคนปกติทเี่ กิดแล้วตายตามวัฏจักรของชีวติ คงไม่มีคุณค่าเหมือนทุกวันนี้ “ความยากในการเขียนอยูท่ กี่ ารเอาตัวเองเข้าไปอยูใ่ น เนือ้ เรือ่ งและเข้าใจอย่างถ่องแท้ จนสามารถถ่ายทอดลีลาภาษา ให้ผอู้ า่ นตีความได้งา่ ย โดยส่วนตัวผมชอบเรือ่ ง ‘รูใ้ นสิง่ ทีไ่ ม่ได้ร’ู้ มากที่สุด เพราะบางครั้งคนเรามักคิดว่าเข้าใจอะไรสักอย่าง ดีแล้ว แต่แท้จริงอาจไม่เข้าใจอะไรเลย การรู้จักถ่อมตน เปิดใจ ให้กว้าง รู้จักรับฟังผู้อื่น จะท�ำให้ได้เรียนรู้อะไรมากขึ้น ผมเอง มองคนไข้เป็นอาจารย์อีกคนที่ช่วยให้ผมได้รู้ว่า การกระท�ำ ทุกอย่างมีเหตุผลเสมอ ไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี ต้องดูที่เจตนาเป็น ส�ำคัญ “คนเรามักอ่านหนังสือเมื่อมีวัตถุประสงค์บางอย่าง ดังนั้น ถ้าก�ำลังประสบปัญหาแล้วแก้ไขไม่ได้ การจัดการวิธีคิด และปรับเปลี่ยนมุมมองน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ผมมักจะบอก เสมอว่า เหตุการณ์ในชีวิตไม่มีใครก�ำหนดได้ แต่อย่างน้อย เราเลือกวิธีมองได้ ถึงแม้ว่า ‘สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นดีเสมอ’ ความจริ ง อาจไม่ ดี เ สมอไป แต่ ห ากมองในแง่ ที่ มี ป ระโยชน์ อาจช่วยเปลี่ยนชีวิตในอนาคตได้” อย่ามัวแต่เสียเวลากับอดีต เพราะยังมีปจั จุบนั

และอนาคตรออยูข่ า้ งหน้า ลองเปลีย่ นมุมมองความคิด ด้วยตัวคุณเองตัง้ แต่วนั นี้ แล้วเดินหน้าหาความสงบสุข ที่แท้จริงให้ชีวิต

THE GENIUS OF CHINA ต้นก�ำเนิด 100 สิ่งแรกของโลก ผู้เขียน : โรเบิร์ต เทมเพิล ผู้แปล : ดร.พงศาล มีคุณสมบัติ ส�ำนักพิมพ์ : มติชน ราคา : 499 บาท

เที่ยวตลาดแตก ล่องตลาดน�้ำ ย�่ำตลาดเก่า ช็อปย่อมเยาตลาดบก ผู้เขียน : ศศิ ส�ำนักพิมพ์ : Book Caff ราคา : 175 บาท

หากมีเวลาไม่มากในวันพักผ่อน แต่อยากทานอาหาร ประเทศจีนไม่เพียงเป็นมหาอ�ำนาจใหญ่ของโลกเท่านัน้ อร่อย เลือกซื้อของสวยๆ ไม่เหมือนใคร ท่ามกลางบรรยากาศ ยังเป็นผูน้ ำ� ด้านสิง่ ประดิษฐ์ตา่ งๆ ทีค่ ณ ุ ผูอ้ า่ นอาจมีความเชือ่ มา ทีไ่ ม่เงียบเหงา ตลาดเก่า ตลาดน�ำ้ ตลาดบก เป็นค�ำตอบทีน่ า่ สนใจ ตลอดว่ามีต้นก�ำเนิดมาจากชาวตะวันตก แต่แท้จริงแล้วชาวจีน ที่สุดในตอนนี้ แต่จะไปที่ไหน ไปอย่างไร ถ้ามีผู้ช่วยย่อมดีกว่า เป็ น ผู ้ คิ ด ค้ น ขึ้ น ก่ อ นมานานกว่ า พั น ปี อาทิ สะพานแขวน แน่นอน หนังสือไกด์บุ๊คที่อัดแน่นไปด้วยข้อมูลแบบครบถ้วน ชาวจีนคิดค้นก่อนชาติตะวันตกถึง 1,800 ปี แนวคิดการท�ำจรวด ในชื่อว่า “เที่ยวตลาดแตก ล่องตลาดน�้ำ ย�่ำตลาดเก่า ช็อป ชาวจีนล�้ำหน้ากว่าชาวตะวันตกถึง 500 ปี เงินกระดาษหรือ ย่ อ มเยาตลาดบก” จะพาคุ ณ ผู ้ อ ่ า นไปเที่ ย ว 19 ตลาดเก่ า ธนบัตร ชาวจีนใช้มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 รวมทั้งหางเสือเรือ 22 ตลาดน�้ำ และ 18 ตลาดบกกันแบบจุใจ พร้อมบอกเล่า เข็มทิศ ชาวจีนประดิษฐ์เสร็จก่อนโคลัมบัสออกเดินทางเสีย รายละเอียดอาหาร เส้นทาง เวลาเปิด - ปิด ความน่าสนใจ อีก โดยหนังสือเล่มนี้ โรเบิร์ต เทมเพิล นักวิชาการชาวอังกฤษ ของแต่ละที่ ด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย มีการแบ่งเป็นหัวข้อย่อยๆ ได้คัดเลือก 100 สิ่งแรกของโลกที่จีนเป็นผู้บุกเบิกมาเรียบเรียง เพื่อให้เปิดอ่านได้สะดวก รับรองว่าคุณผู้อ่านได้เลือกกิน เที่ยว จากอีกหลายร้อยเรื่องราวที่ ดร.โจเซฟ นีดแฮม นักชีวเคมีและ ช็อปปิ้ง ชมวิถีชีวิตกันอย่างเต็มอิ่ม นักประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษรวบรวมไว้ เพื่อให้ คนรุ่นหลังได้ทราบถึงความอัจฉริยะของชาวจีน ผู้วางรากฐาน แนวคิดที่ก่อให้เกิดวิทยาการอันทันสมัยมาจนถึงปัจจุบัน

101

102

Book Shelf

ไม่มีพรุ่งนี้ให้เสียดาย

มหัศจรรย์ถั่วชา พาสุขภาพดีไม่มีโรค

ผู้เขียน : นพ.อนุชาติ มาธนะสารวุฒิ และสุธี พนาวร ส�ำนักพิมพ์ : บริษัท ยูบีซีแอล บุ๊คส์ จ�ำกัด ราคา : 200 บาท

ผู้เขียน : B HEALTH TEAM ส�ำนักพิมพ์ : Book Caff ราคา : 115 บาท

เคยตั้งค�ำถามกับตัวเองไหมว่า ถ้าพรุ่งนี้ต้องจากโลก ใบนี้ ไ ปจะเสี ย ดายอะไรบ้ า ง บางครั้ ง หากยั ง ไม่ ถึ ง เวลานั้ น เกื อ บทุ ก คนแทบไม่ ไ ด้ ส นใจค� ำ ถามนี้ แต่ จ ะดี ก ว่ า หรื อ ไม่ ถ้านับจากวินาทีนี้เริ่มหันมามองสิ่งที่ชีวิตต้องการและใส่ใจให้ มากขึ้น เพราะเมื่อวันนั้นมาถึงจะได้ไม่ต้องมีค�ำว่า “เสียดาย” จากประสบการณ์จริงของคุณหมออนุชาติ มาธนะสารวุฒิ ที่มีโอกาสอยู่กับคนไข้ในช่วงสุดท้ายของชีวิต และได้ พบปะพู ด คุ ย กั บ ผู ้ สู ง วั ย ที่ ผ ่ า นร้ อ นผ่ า นหนาวมามากมาย จนเกิดแรงบันดาลใจในการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านปลายปากกา ด้วยภาษาที่เรียบง่ายเป็นกันเองและให้แง่คิดสอนใจ โดยเน้น เรือ่ งทีค่ นเรามักเสียดายเมือ่ ต้องจากกัน อาทิ การละเลยสุขภาพ ใช้ชีวิตขาดสติ มองข้ามการจัดการมรดก บ้างานจนลืมตัวเอง ไม่มีโอกาสขอบคุณคนที่รัก การตระเตรียมงานศพให้ตัวเอง และอี ก มากมาย เพื่ อ เตื อ นสติ ใ ห้ ผู ้ อ ่ า นวางแผนชี วิ ต อย่ า ง รอบคอบ เพราะวันเวลาผ่านไปไม่เคยย้อนกลับ

เพราะความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ การรักษา สุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ โดยเฉพาะการเลือกทานอาหารที่มี ประโยชน์จึงเป็นสิ่งส�ำคัญ เชื่อแน่ว่าตั้งแต่เด็กจนโตทุกคนต้อง เคยทานถัว่ และชามาแล้ว เนือ่ งจากหาทานได้งา่ ยและมีให้เลือก มากมาย แต่เคยทราบหรือไม่ว่า ถั่ว พืชเมล็ดเล็กที่เต็มไปด้วย สารอาหาร และชา เครื่องดื่มยอดนิยมตลอดกาล แท้จริงแล้ว มีประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าที่คิด หนังสือเล่มนี้จะท�ำให้ คุณผูอ้ า่ นแปลกใจในความมหัศจรรย์ของถัว่ หลากชนิด ประโยชน์ ต่างๆ ของถั่ว การน�ำถั่วมาปรุงอาหารจนกลายเป็นเมนูใหม่ จับคู่มากับเรื่องราวของชา ความแตกต่างของชาแต่ละประเภท ดื่มชาแล้วดีต่อสุขภาพจริงหรือไม่ ที่ส�ำคัญทั้งถั่วและชาป้องกัน โรคอะไรได้บา้ ง โดยใช้สำ� นวนชวนอ่าน บวกกับการจัดหน้าอย่าง ลงตัว เมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้จบ คุณผู้อ่านจะพบค�ำตอบที่ท�ำให้ ถั่วกับชากลายเป็นอาหารติดบ้านอย่างแน่นอน

Thai Zone

เรื่อง : อาจารย์ปิง ดาวองก์

สุดยอด “วรรณคดีสโมสร”

สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน

ช่วงทีผ่ า่ นมามีลกู ศิษย์ถามกันมากว่า ท�ำไมงานเสกสมรส ของเจ้าชายวิลเลียมกับเคท มิดเดิลตัน ถึงเรียกว่า “เสกสมรส” ไม่เรียกว่า “อภิเษกสมรส” ค�ำว่า “อภิเษก” ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 ให้ ค วามหมายว่ า แต่ ง ตั้ ง โดยการทํ า พิ ธี ร ดนํ้ า นั่นหมายความว่า การอภิเษกต้องมีการรดน�้ำด้วย ซึ่งพิธีของ ตะวันตกเขาจัดในโบสถ์ ไม่มีการรดน�้ำอย่างของไทย ส่วนงานเสกสมรสคือ งานแต่งงานของเจ้านาย ซึง่ ไม่มี พิธีรดน�้ำ เลยไม่ต้องใช้ว่าอภิเษกสมรสนั่นเองค่ะ อีกเรือ่ งเป็นเรือ่ งทีผ่ อู้ า่ นหลายคนถามมาว่า เอ๊ะ...ไทย เรามีวรรณคดีมาก็เยอะ มีเรื่องไหนได้รับการยกย่องว่าเป็น สุดยอดบ้าง จะได้ไปซื้อมาเก็บสะสมไว้ในตู้หนังสือให้ลูกหลาน รับรู้ถึงอรรถรสของวรรณคดีไทย วันนีเ้ ลยไปหยิบหนังสือที่ “วรรณคดีสโมสร” ยกย่องมา เสนอกันค่ะ (“วรรณคดีสโมสร” นี้จัดตั้งขึ้นมาในสมัยรัชกาลที่ 6 เพื่อส่งเสริมการแต่งหนังสือให้ถูกต้องตามหลักภาษาไทย ได้ สารประโยชน์ โดยคัดเลือกหนังสือดีและแต่งได้ดี เป็นตัวอย่าง ชั้นเลิศในการประพันธ์ประเภทต่างๆ) เรามาดูกนั นะคะว่า มีเล่มไหนทีเ่ ป็นสุดยอดของหนังสือ แต่ละประเภทบ้าง • ประเภทลิลิต ได้แก่ ลิลิตพระลอ • ประเภทฉันท์ ได้แก่ สมุทรโฆษค�ำฉันท์ • ประเภทกาพย์ ได้แก่ มหาชาติกลอนเทศน์ • ประเภทกาพย์เห่เรือ ได้แก่ กาพย์เห่เรือของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร • ประเภทนิราศ ได้แก่ นิราศนรินทร์ • ประเภทความเรียงเรือ่ งนิทาน ได้แก่ สามก๊ก ฉบับเจ้าพระยา พระคลัง (หน) • ประเภทกลอนนิทาน ได้แก่ พระอภัยมณี • ประเภทกลอนสุภาพ ได้แก่ เสภาเรื่อง ขุนช้างขุนแผน • ประเภทบทละครร�ำ ได้แก่ อิเหนา • ประเภทบทละครพูด ได้แก่ หัวใจนักรบ

• ประเภทบทละครพูดค�ำฉันท์ ได้แก่ มัทนะพาธา • ประเภทบทละครร้อง ได้แก่ สาวเครือฟ้า • ประเภทกวีนิพนธ์ ได้แก่ พระนลค�ำหลวง • ประเภทความเรียงอธิบาย ได้แก่ พระราชพิธีสิบสองเดือน ตบท้ายกันด้วยวรรคทองหรือค�ำพูดเด็ดๆ ในสุดยอด วรรณคดีบางเรือ่ งทีค่ นชอบพูดถึงเพราะความไพเราะ หรือเพราะ เนื้อหาที่โดนใจกันมากมากๆ สักนิดนะคะ จากลิลิตพระลอ ที่พูดว่าร้อยกิ๊ก (ชู้) สักกี่คนก็สู้เมีย จริงๆ ไม่ได้ และถึงยังไงรักของเมียก็ไม่อาจมาเทียบกับความรัก ของแม่ที่มีต่อลูกได้ ร้อยชู้ฤๅเท่าเนื้อ เมียตน เมียแล่พันฤๅดล แม่ได้ จากพระอภัยมณี บทนี้คนก็พูดถึงกันมาก เพราะมันก็ จริงอย่างที่สุนทรภู่บอกไว้นะคะ แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล�้ำเหลือก�ำหนด ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน�้ำใจคน จากอิเหนา บทที่พูดถึงคนรักที่เปลี่ยนไป ว่าเหมือน สายน�้ำที่ไหลไปแล้วไม่ย้อนกลับมา แล้วว่าอนิจจาความรัก เพิ่งประจักษ์ดั่งสายน�้ำไหล ตั้งแต่จะเชี่ยวเป็นเกลียวไป ที่ไหนเลยจะไหลคืนมา และจากเรือ่ งมัทนะพาธา ทีพ่ ดู ถึงความรักทีก่ ลายเป็น ความหลง ซึ่งห้ามก็ไม่ได้ ความรักเหมือนโรคา บันดาลให้ตามืดมน ไม่ยินและไม่ยล อุปะสัคคะใดๆ ความรักเหมือนโคถึก ก�ำลังคึกผิขังไว้ ก็โลดจากคอกไป บ่ยอมอยู่ ณ ที่ขัง ฉบับนี้ลากันตรงนี้แล้วกันนะคะ พบกันใหม่

ฉบับหน้า สวัสดีค่ะ

103

104

Think White

เรื่อง : คุณหญิงจ�ำนงศรี หาญเจนลักษณ์ ผู้แต่งหนังสือเรื่อง วิชาตัวเบา ภาพประกอบ : taeeeee

ของใคร ใครก็รัก ของใคร ใครก็รัก รักมากก็เห็นว่าส�ำคัญกับ เรามาก ยิ่งส�ำคัญมากก็ยิ่งหวง ยิ่งหวงก็ยิ่งผูกพัน เป็นเจ้าข้าวเจ้าของโดยรู้ตัวบ้างไม่รู้ตัวบ้าง ยิ่งรู้สึก เป็นเจ้าข้าวเจ้าของก็ยงิ่ คิดว่ามันควรเป็นอย่างทีอ่ ยากให้ มันเป็น แล้วปัญหาก็เกิดเมื่อมันไม่เป็น

คนเราฆ่ากันตายได้กเ็ พราะการหมิน่ ศักดิห์ มิน่ ศรีกนั นีแ่ หละ มีให้ เห็นเป็นข่าวในหนังสือพิมพ์อยู่เสมอ เมืองฝรั่งในสมัยก่อนนั้น ก็มีธรรมเนียมการท้าดวลดาบดวลปืนกันจนตายกันไปข้างหนึ่ง พลีชีวิตเพื่อสิ่งที่จับต้องไม่ได้ ไม่มีตัวไม่มีตน ชื่อศักดิ์ศรีนี่แหละ ถ้าใครเอามีดมาทิ่มแทงแขนขาเรา เราก็เจ็บตัว ตรงนี้ ท่านอาจารย์พุทธทาสผู้ริเริ่มวลีตอกใจ ‘ตัวกู ของกู’ ช่วยไม่ได้ ยังไงก็เจ็บ แต่ถ้าใครมาพูดจาจ้องมองถากถางดูหมิ่น ท่านชี้แจงว่า เจ้า ‘ตัวกู ของกู’ นี้แหละ ที่เป็นต้นเหตุของปัญหา ดูแคลนเรา แม่เรา ลูกเรา เราก็เจ็บที่ใจ ตรงนี้ช่วยได้ ไม่จ�ำเป็น ความขัดแย้ง ความรุนแรง ความเสียใจ ความผิดหวังนานา ต้องเจ็บ บางคนอาจบอกว่า “เจ็บใจเพราะมาหมิ่นศักดิ์ศรีกัน ประการ ข้าพเจ้าเคยอยู่สวนโมกข์ยาวนานต่อเนื่องถึงสามเดือน นี่นา” และเคยฟังท่านอาจารย์เทศน์ครั้งแล้วครั้งเล่า จึงขอบูชาครู ลองใช้เวลาว่างท�ำใจให้นิ่ง แล้วค่อยๆ พลิกมองว่า อาจารย์ด้วยการเอาเรื่อง ‘ตัวกู ของกู’ มามองในที่นี้ เจ้าศักดิศ์ รีทจี่ บั ต้องไม่ได้นมี้ นั คืออะไร มาจากไหน จะเห็นว่ามัน ของ ‘ของกู’ นั้น ถ้าเป็นวัตถุหรือสัตว์เลี้ยง ถึงจะไม่เป็น มาจากความส�ำคัญของตัวกูคนนี้ คนที่รู้สึกว่ากูนี้ส�ำคัญ ศักดิ์ศรี ไปตามทีต่ อ้ งการนัก ก็มกั จะไม่เป็นปัญหาให้ทรุ นทุรายใจ แต่ถา้ ก็เป็นเรือ่ งใหญ่ คนใหญ่คนโตไปไหนใครให้นงั่ ในทีท่ ไี่ ม่สมเกียรติ ‘ของกู’ นั้นเป็นคนล่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นลูก เป็นสามี เป็น ก็รสู้ กึ ขุน่ ในหัวใจ กลับเป็นจุดอ่อนทีถ่ กู กระทบกระเทือนได้งา่ ยๆ ภรรยา หรือแม้กระทั่งพ่อหรือแม่ สายใยด้านอารมณ์ที่ผูกพัน จากเรื่องเล็กๆ ที่คนที่ ‘ตัวกู’ เล็กจะไม่แม้กระทั่งรู้สึก เลือดเนือ้ เชือ้ ไข ท�ำให้ความเป็น ‘ของกู’ มันเหนียวหนึบจนร�ำ่ ๆ จะ มีคนเล่าให้ฟังถึงงานทดลองของนักวิจัยชาวอเมริกัน ลืมว่า จริงๆ แล้วเขามีความเป็นตัว ‘ของเขา’ เองมากกว่าเป็นคน ว่ า ด้ ว ยเรื่ อ งปฏิ สั ม พั น ธ์ ร ะหว่ า งสามี ภ รรยากั บ สิ่ ง บ่ ง ชี้ ถึ ง ‘ของเรา’ เขาอยู่กับความรู้สึกนึกคิดของเขา ความสุขความทุกข์ แนวโน้มที่จะแยกทางกันในอนาคต เขาพบว่า สามีภรรยาที่ ของเขา เขาอยู่กับตัวเขาวันละ 24 ชั่วโมง อยู่กับเราน้อยกว่านั้น ทะเลาะเบาะแว้งนั้น มีแนวโน้มที่จะแยกทางกันน้อยกว่าคู่ที่ แน่นอน ฝ่ายหนึ่งดูหมิ่นดูแคลนอีกฝ่ายหนึ่งอย่างเป็นกิจวัตร ไม่ว่าจะ ความรูส้ กึ เป็นเจ้าของนัน้ ท�ำให้รสู้ กึ หวงและห่วงตามมา ทางสายตา สีหน้า ค�ำพูด หรือภาษากาย สาเหตุไม่พ้นเรื่องของ หวงเพราะกลั ว ว่ า จะมี ค นอื่ น เข้ า มาเป็ น เจ้ า ของร่ ว มกั บ เรา ศักดิศ์ รี ฝ่ายหนึง่ ท�ำให้ตวั เองรูส้ กึ เหนือกว่าด้วยการห�ำ้ หัน่ ศักดิศ์ รี หรือเอาความเป็นเจ้าของของเราไป สรุปว่าหวงเพราะกลัวสูญเสีย ของอีกฝ่าย การกระท�ำเช่นนี้ศาลหย่าของอเมริกาถือว่าเป็น แล้วใครล่ะที่จะสูญเสีย...ก็ ‘ตัวกู’ ประเภทหนึ่งของการท�ำร้ายจิตใจ (mental abuse) เรื่อง ‘ตัวกู ของกู’ นี้เขียนถึงได้ไม่มีจบ สุข จะสูญเสียความรัก ความส�ำคัญ ความสมหวัง และ ทุกข์ของคนเราหมุนวนอยู่กับเจ้าสองเกลอนี้มิใช่หรือ ศักดิ์ศรี ส�ำหรับ ‘ตัวกู’ นัน้ เห็นจะไม่มอี ะไรทีห่ นักและหนาแน่น เรามาพินิจพิศดูให้รู้ทันเล่ห์ลึกของมันเพื่อหัวใจที่ไม่ ไปกว่าสิง่ ทีเ่ รียกว่า ‘ศักดิศ์ รี’ ...ศักดิศ์ รี ‘ของกู’ เจ้า ‘ตัวกู’ กับ ‘ของ อลวนไม่ดีหรือ กู’ นี้เชื่อมกันแนบแน่นอย่างแทบจะหารอยต่อไม่เจอเอาทีเดียว

105

106

Mind & Spirit

เรื่อง : ว.วชิรเมธี พระนักเทศน์

สิ่งส�ำคัญไม่อาจเห็นด้วยตา ค�ำถาม: อยากทราบว่ า เพราะเหตุ ใ ดการสวดมนต์ จึงเป็นกุศลกรรม ในขณะเดียวกันหากเราสวดโดย ไม่เข้าใจความหมาย หรือสวดโดยไม่รู้ว่าบทสวดนั้น ดีอย่างไร แต่ทำ� ไปเพราะคนอืน่ บอกว่าดี จะเป็นอกุศลกรรมเนื่องจากมีโมหะหรือไม่

ในการสังคายนา (รวบรวมเรียบเรียง) พระธรรมวินัยซึ่งได้จัด ระบบเป็นพระไตรปิฎกและส่งต่อมาจนถึงปัจจุบันนี้ด้วย ดั ง นั้ น การสวดมนต์ จึ ง เป็ น มากกว่ า การสวดเพื่ อ เอาบุญ แต่แท้ที่จริงแล้ว การสวดมนต์เป็นการสืบทอดค�ำสอน เป็นวิธีรักษาพระธรรมวินัย เป็นช่องทางในการบรรลุธรรม การสวดมนต์นนั้ ถ้าจะให้ได้อานิสงส์มากยิง่ ขึน้ ควรหา ค�ำตอบ: บทสวดที่มีค�ำแปลก�ำกับด้วย เช่น บทสวดมนต์ฉบับสวนโมกข์ เหตุทกี่ ารสวดมนต์จดั เป็นกุศลกรรม (กรรมดี การท�ำดี) เป็นต้น เพราะจะช่วยให้เกิดการศึกษาธรรมะพร้อมๆ กันไปกับ ก็เพราะเป็นการสวดหลักธรรมค�ำสอนของพระพุทธองค์ ซึ่งล้วน การสวด ท�ำให้ได้ทั้งบุญและได้ทั้งปัญญา แล้วแต่เป็นธรรมะทั้งสิ้น นอกจากนี้ในขณะที่สวดนั้นก็เป็นการ ท�ำความดีทั้งทางกาย (กิริยาที่ก�ำลังสวดมนต์) ทางวาจา (การ ค�ำถาม: โดยปกติ แ ล้ ว ดิ ฉั น จะไปใส่ บ าตรที่ ต ลาดใน สวด) และทางใจ (ต้องมีสมาธิตอ่ บทสวด) ยิง่ ถ้าเป็นการสวดมนต์ แปลที่ท�ำให้ได้ปัญญาด้วยก็ยิ่งเป็นมหากุศล เพราะจะส่งผล วันอาทิตย์ ระหว่างนั้นมักจะเห็นแม่ชีท่านหนึ่งนั่งบน เก้าอี้ รอญาติโยมใส่ของในบาตรท่าน ถ้าดิฉันตื่นเช้า ให้รู้จักน�ำธรรมะมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ�ำวัน การสวดนั้นถึงแม้ไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่นับว่าเป็นอกุศล- ไปตลาดแล้วไม่ทันพระ ดิฉันจะใส่บาตรแม่ชีแทน โดย กรรม เพราะหากเจตนาของการสวดมนต์นั้นเกิดจากเจตนาดี ถ้าไม่ได้ใส่อาหารก็จะใส่เงินลงในบาตรท่าน แต่ต่อมา ดิฉันทราบจากคนที่ขายของแถวนั้นว่า แม่ชีท่านนี้ไม่ใช่ ก็ย่อมเป็นบุญอยู่แล้วในตัว อย่างไรก็ตาม การสวดมนต์นนั้ มีอานิสงส์มาก ไม่เพียง แม่ชีจริง แต่ท่านมีหลานต้องเลี้ยง จึงมานั่งอย่างนี้ แต่เป็นกุศลกรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นช่องทางในการบรรลุธรรม ทุกเช้า ตั้ ง แต่ นั้ น มาดิ ฉั น มี ค วามรู ้ สึ ก ที่ ไ ม่ ดี กั บ แม่ ชี ขั้นสูงด้วย การที่ พ ระธรรมค� ำ สอนของพระพุ ท ธเจ้ า ตกทอด ท่านนี้มาก เพราะท�ำให้เราหมดศรัทธา จึงไม่ใส่บาตร มาถึงเราทุกวันนี้ ก็เพราะการสวดมนต์ทกี่ ระท�ำสืบต่อกันมาอย่าง ท่านอีก เวลาไปตลาดก็มคี วามรูส้ กึ ว่าท่านมองตามเรา ยาวนาน นับแต่สมัยที่พระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ โดยใน ว่าท�ำไมถึงไม่ใส่บาตรท่านเหมือนเคย ค� ำ ถามก็ คื อ ดิ ฉั น ควรจะท� ำ อย่ า งไรถึ ง จะ ยุคแรกการสวดมนต์มุ่งหมายเพื่อรักษาพระธรรมวินัยเอาไว้ ให้ต่อเนื่องยาวนาน ต่อมาคณะสงฆ์ก็ยังใช้การสวดมนต์เป็นวิธี ถูกต้อง หากยังให้เงินแม่ชีท่านนี้ตามปกติ ก็เท่ากับว่า

สนับสนุนท่านต่อไป คงไม่ดีแน่ใช่หรือไม่คะ

“

อุปมาดังหนึง่ เราเอาข้าวเปลือกไปหว่านโปรยลงบนพืน้ ซีเมนต์ โอกาสทีข่ า้ วเปลือกนัน้ จะงอกออกมา เป็นต้นข้าวก็เป็นไปไม่ได้ เช่นเดียวกัน หากเราไปทำ�ทานกับผู้ที่ไม่สมควรจะรับทาน ก็ย่อมเป็นการ ให้ทานที่สูญเปล่าได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น ก่อนที่เราจะทำ�บุญด้วยการให้ทานก็ควรพินิจพิจารณา ให้ถ้วนถี่

”

ค�ำตอบ:

ในพระพุทธศาสนาพระพุทธองค์ได้ตรัสเอาไว้วา่ วิจายะทาณัง พาตพัง แปลว่า ควรวิจัยให้ถ้วนถี่แล้วจึงให้ทาน หรือ พูดอีกอย่างหนึง่ ว่า ควรใช้ปญ ั ญาให้รอบคอบแล้วจึงควรให้ทาน ที่ท่านทรงเน้นย�้ำว่าต้องใช้ปัญญาให้รอบคอบแล้วจึงให้ทาน ก็เพราะว่าถ้าหากให้ทานกับบุคคลทีไ่ ม่ควรทีจ่ ะเป็นผูร้ บั ผลของ ทานนั้นก็จะน้อย อุปมาดังหนึ่งเราเอาข้าวเปลือกไปหว่านโปรย ลงบนพื้นซีเมนต์ โอกาสที่ข้าวเปลือกนั้นจะงอกออกมาเป็น ต้นข้าวก็เป็นไปไม่ได้ เช่นเดียวกัน หากเราไปท�ำทานกับผู้ที่ ไม่สมควรจะรับทาน ก็ย่อมเป็นการให้ทานที่สูญเปล่าได้เช่น เดียวกัน ดังนั้น ก่อนที่เราจะท�ำบุญด้วยการให้ทานก็ควรพินิจ พิจารณาให้ถ้วนถี่ เมือ่ พินจิ พิจารณาถ้วนถีแ่ ล้วให้ ผลทีไ่ ด้รบั ก็จะน�ำมาซึง่ ความสุขใจของผูใ้ ห้และความสุขใจของผูร้ บั ในกรณีของคุณนัน้ ปัญหาเกิดมาจากการทีค่ ณ ุ ไม่พจิ ารณาให้ถว้ นถีแ่ ล้วจึงให้ แต่ไม่ได้ หมายความว่าเป็นความผิดของคุณ การที่คุณมีความเมตตา กรุณา แล้วท�ำบุญตักบาตรกับท่านแม่ชีนั้น ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ ควรอนุโมทนา เพราะเกิดจากเจตนาทีด่ ี และเป็นการบ�ำเพ็ญทาน อันมีความเมตตาเป็นรากฐาน ดังนั้นในส่วนนี้เป็นเรื่องที่ควรอนุโมทนา แต่ส่วนที่เป็น ปัญหาก็คอื ว่า ก่อนทีจ่ ะให้ทาน คุณไม่ได้พจิ ารณาเลือกสรรอย่าง ถ้วนถี่ แล้วพอมารู้ความจริงทีหลังจึงเสื่อมศรัทธา แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่คุณจะมารู้ความจริงตาม ที่มีผู้บอกเล่าให้ฟังนั้น ทุกๆ ครั้งถ้าคุณท�ำบุญด้วยเจตนาอันดี ด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์ทั้งก่อนให้และหลังจากให้ ก็ถือว่าบุญ ในส่วนที่คุณท�ำนั้น คุณได้รับแล้วเรียบร้อย บุญนั้นไม่สูญหาย

ไปไหน แม้ว่าแม่ชีท่านนั้นจะไม่อยู่ในฐานะที่จะเป็นผู้รับที่ดีได้ แต่ในส่วนของคุณ คุณท�ำดีที่สุดแล้ว ไม่มีอะไรต้องเสียใจ ในส่วนของแม่ชนี นั้ ยกไว้เป็นเรือ่ งของท่านเองก็แล้วกัน ทางออกในเรือ่ งนีน้ อกจากทีก่ ล่าวมาแล้ว ขอแนะน�ำว่า แทนทีค่ ณ ุ จะมานั่งสงสัยว่าแม่ชีท่านนี้เป็นนักบวชจริงๆ หรือว่าเป็นเพียง คนแก่คนหนึ่งที่มองหาช่องทางในการท�ำมาหากินโดยอาศัย เครื่องแบบของแม่ชีมาเลี้ยงชีพ หากคุณมัวนั่งสงสัยอยู่อย่างนี้ ปัญหาก็ไม่ได้รับการคลี่คลายแต่อย่างใด ดังนั้น หากเป็นไปได้คุณควรจะรวบรวมความกล้า แล้วเข้าไปนั่งสนทนาปราศรัยกับท่านด้วยเหตุและผล ด้วยจิตที่ เปี่ยมด้วยศรัทธา ให้รู้ความจริงกันไปเลยว่าท่านเป็นแม่ชีจริงๆ หรือเป็นแม่ชีปลอมอย่างที่เขากล่าวอ้าง ถ้าคุณกล้าพอแล้วไป ถามให้ได้ยินความจริงจากปากของท่านว่าท่านเป็นแม่ชีจริง คุณก็ควรจะท�ำบุญกับท่านต่อไป แสดงว่าที่ผ่านมาท่านถูก คนอืน่ กล่าวหา ถูกคนอืน่ ให้รา้ ย ถ้าคุณหลงเชือ่ ตามทีค่ นกล่าวหา คุณก็พลาดโอกาสในการท�ำดีไป แต่ถ้าคุณได้รู้ความจริงจากปากของท่านเองว่าท่าน เป็นเพียงคนแก่คนหนึ่งที่อาศัยช่องทางของแม่ชีมาท�ำมาหากิน แล้วคุณตัดสินใจไม่ท�ำบุญกับท่านอีกต่อไป ก็เป็นการกระท�ำที่ ถูกต้องแล้ว ดังนัน้ ในกรณีอย่างนีค้ ณ ุ ไม่ควรจะใช้ความเชือ่ แต่ควร จะใช้ปัญญา ซึ่งอาตมภาพขอให้หลักสั้นๆ เอาไว้ว่า ไม่ เ ชื่ อ ต้ อ งศึ ก ษา ไม่ มี ป ั ญ ญาต้ อ งเรี ย นรู ้

ปัญหามีไว้แก้ไข ไม่ใช่มไี ว้สงสัยตลอดกาล

107

108

Horoscope

เรื่อง : อาจารย์บอย ไพ่ผ่องมองชีวิต กรรมการวิชาการสมาคมโหรแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ ภาพ : robotoon

ดวงแต่ละราศีประจ�ำ เดือนกันยายน และ เดือนตุลาคม 2554

ราศีมังกร (15 มกราคม ถึง 12 กุมภาพันธ์)

การงาน ช่ ว งสองเดื อ นนี้ อ าจจะติ ด ขั ด สักหน่อย แต่ก็สามารถผ่านพ้นได้ด้วยดี เพราะคุ ณ ยั ง มี ค นคอยช่ ว ยเหลื อ ผู ้ ใ หญ่ ยังให้การสนับสนุน การเงิ น อาจจะต้ อ งใช้ จ ่ า ยมากสั ก หน่ อ ยเพื่ อ สิ่ ง ที่ คุ ณ รั ก ในส่วนอื่นคุณเองยังโชคดีที่ได้รายได้พิเศษจากหวยหรือหุ้น ในช่วงนีก้ ารลงทุนทุกอย่างประสบผลดี มีโอกาสกอบโกยอยูบ่ อ่ ยๆ สุ ข ภาพ ต้องระวังอาการเจ็บคอ แสบคอ ควรดื่มน�้ำบ่อยๆ งดเครื่องดื่มร้อนจัดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ราศีกุมภ์ (13 กุมภาพันธ์ ถึง 14 มีนาคม)

การงาน เป็นช่วงที่คุณต้องรอจังหวะและ โอกาส หากก�ำลังเตรียมเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ แนะน�ำให้รอหลังวันที่ 10 ตุลาคมไปแล้ว จึงจะส�ำเร็จดีมาก การเงิน ดีมาก มีรายรับจากการลงทุนเดิมๆ หากจะลงทุนใน เรื่องของทองค�ำ นับเป็นโอกาสดี และอาจได้รับโชค มีลาภลอย สุขภาพ อาจจะต้องระมัดระวังอุบตั เิ หตุไว้บา้ ง แนะน�ำให้ทำ� บุญ กรวดน�้ำให้เจ้ากรรมนายเวรในวันเสาร์

ราศีมีน (15 มีนาคม ถึง 12 เมษายน)

การงาน อาจจะถูกเพ่งเล็ง เพราะปัญหา เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ของคุณเอง แต่ในรายที่โสด กลับดี มีคนมารักมาชอบ การงานโดยรวม ยังคงที่ และการเริม่ ต้นสิง่ ใหม่ๆ ในเรือ่ งการงานจะเกิดขึน้ ในช่วง ปลายเดือนกันยายน การเงิน การลงทุนทุกชนิดส่งผลดี รวมถึงโชคลาภในทุกทาง เป็นช่วงโชคดีของคุณ สุ ข ภาพ อาจจะมี ก ารอั ก เสบของกล้ า มเนื้ อ เกิ ด จากการ ออกก�ำลังกายหรือเคลื่อนไหวผิดท่า

ราศีเมษ (13 เมษายน ถึง 14 พฤษภาคม)

การงาน รุ่งมาก ขึ้นสู่ที่สูง อาจจะต้องรับ ภารกิจส�ำคัญ และคุณเองสามารถท�ำได้ดี บางท่านอาจจะต้องออกสื่อ ท�ำให้มีชื่อเสียง งานส่งออกให้ผลดีมาก การเงิ น อาจจะต้ อ งลงทุ น ให้ ค นรั ก มากเป็ น พิ เ ศษ เพราะ คนรั ก ของคุ ณ ก� ำ ลั ง จะเริ่ ม กิ จ การใหม่ ตั ว คุ ณ เองยั ง โชคดี มีรายรับพิเศษเพิ่มเติม สุขภาพ มีอาการปวดเกร็งต้นคอ บ่า และไหล่

ราศีพฤษภ (15 พฤษภาคม ถึง 15 มิถุนายน)

การงาน เรื่องที่คุณจดๆ จ้องๆ รออยู่นั้น ถึงเวลาแล้วที่คุณจะท�ำมัน ในส่วนของหุ้น การลงทุน ได้รับผลก�ำไรงาม มีเรื่องเดียวที่ ต้องเตือน ส�ำหรับท่านที่ยังไม่ลงมือ โอกาสอาจหลุดลอย การเงิน ตัวคุณเองใช้จา่ ยปกติ ยกเว้นคนรอบข้างทีจ่ ำ� เป็นต้อง พึ่งพาคุณ อาจจะท�ำให้คุณเครียดบ้าง สุขภาพ มีอาการปวดศีรษะ ปวดสายตา ควรพักผ่อนให้เพียงพอ และพักสายตาจากการท�ำงานเป็นระยะๆ

ราศีเมถุน (16 มิถุนายน ถึง 16 กรกฎาคม)

การงาน รุ่งโรจน์มาก โดยเฉพาะท่านที่อยู่ ในต� ำ แหน่ ง สู ง ๆ จะได้ รั บ การยกย่ อ งจาก สังคม ในส่วนของการค้าการส่งออก มีการ ตกลงกันด้วยดี และท่านทีป่ ระกอบธุรกิจอาหาร ยา และสุขภาพ จะร�่ำรวยถ้วนหน้า การเงิน มีเงินเก็บเป็นกอบเป็นก�ำ โดยเฉพาะท่านที่เล่นหุ้น ต่างประเทศ ได้รับเงินก�ำไรจากทุกทาง สุขภาพ ปวดหลัง ปวดเอว เกิดจากการนั่งนานหรือนั่งผิดท่า ควรปรับพฤติกรรมเพื่อสุขภาพ

ราศีกรกฎ (17 กรกฎาคม ถึง 16 สิงหาคม)

ราศีตุล (18 ตุลาคม ถึง 16 พฤศจิกายน)

ราศีสิงห์ (17 สิงหาคม ถึง 16 กันยายน)

ราศีพิจิก (17 พฤศจิกายน ถึง 15 ธันวาคม)

การงาน ก้ า วหน้ า ดี ม าก อาจจะได้ รั บ การแต่งตั้งในต�ำแหน่งที่ส�ำคัญแต่ไม่ใช่ใน ที่ ท� ำ งาน หากแต่ เ ป็ น ต� ำ แหน่ ง ทางสั ง คม แต่ถึงอย่างไรก็มีผลกับการงานของคุณอยู่ดี ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ และอสังหาริมทรัพย์ มีทั้งโอกาสและรายได้ การเงิน การลงทุนระยะยาวให้ผลดีมาก ลูกหนีท้ ดี่ เู หมือนจะสูญ จะกลับใจน�ำเงินมาจ่ายคืน สุขภาพ หากมีอาการหูอื้อ ให้คุณรู้ได้เลยว่าคุณพักผ่อนน้อย เกินไป

การงาน อาจจะโดนฉกผลงานจากคนใกล้ตวั การประมูลงานต่างๆ ควรปิดเป็นความลับ ให้มากทีส่ ดุ ความลับทางการเงินทีถ่ กู ปกปิด มานานอาจจะถูกเปิดเผย และคุณคงต้องรับผิดชอบอย่างเต็มตัว การเงิน อาจจะฝืดเคืองบ้าง เกิดจากความฟุ่มเฟือยของคุณ และทุกคนรอบข้าง แนะน�ำเพียงเรื่องเดียวคือ ต้องประหยัด ใช้จ่ายเท่าที่จ�ำเป็น สุขภาพ โดยรวมแล้วแข็งแรงดีมาก

ราศีกันย์ (17 กันยายน ถึง 17 ตุลาคม)

การงาน อาจจะต้องหันกลับมาดูงาน เก่าๆ เรื่องเก่าๆ ที่คุณปล่อยไว้นาน อย่าวางใจ เพราะมันก�ำลังจะสร้าง ปัญหาให้คณ ุ ลูกน้องและบริวารจะสร้างปัญหาให้ คุณต้องขบคิด และแก้ปัญหา การเงิน ใช้จ่ายเพื่อการลงทุนในระยะยาว ในส่วนของหุ้นทุน หุ้นกู้ ตราสารต่างๆ และทองค�ำ ให้ผลก�ำไรดี สุขภาพ ปวดเมื่อยเนื้อตัว รวมถึงอาการขี้เกียจ แนะน�ำว่าควร ออกก�ำลังกายบ้าง เปลี่ยนอิริยาบถบ่อยๆ

การงาน ต้องหนักแน่น อย่าตระหนกตาม ผู้อื่น งานของคุณนั้นดีอยู่แล้ว ธุรกิจสวยงาม บันเทิง และบริการ สร้างก�ำไรงาม เจ้าของ โรงงานควรตรวจสอบระบบน�้ำ เพราะมันก�ำลังจะก่อปัญหา ใหญ่ให้คุณ การเงิน ใช้จ่ายเพื่อการตกแต่งบ้าน ตกแต่งตัวเอง การที่บ้าน ดูดีขึ้นก็ดี ตัวคุณเองดูดีขึ้นก็ดี ล้วนส่งผลต่อฮวงจุ้ยและโหงวเฮ้ง ที่จะท�ำให้คุณได้รับโอกาสดีๆ รายได้งามๆ สุขภาพ แข็งแรง กระปรี้กระเปร่าดีมาก

การงาน การติดต่ออาจจะผิดหวัง เนือ่ งจาก การพูดการเจรจาสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน ควร เตรียมค�ำพูดให้พร้อมก่อนเจรจา และไม่ควร เจรจายืดเยื้อ การสั่งงานลูกน้องควรสั่งการโดยตรง อย่าสั่งผ่าน เพราะค�ำพูดจะถูกเปลี่ยนแปลง การเงิน อาจจะต้องใช้จ่ายเพื่อแก้ไขปัญหาเดิมๆ ช่วงนี้ไม่ควร เล่นหุน้ หรืออาจจะเล่นด้วยความระมัดระวังเป็นทีส่ ดุ เพราะการ ตัดสินใจของคุณอาจผิดพลาดได้ สุขภาพ อาจจะปวดท้อง ระวังอาหารเป็นพิษ โดยเฉพาะช่วง สุดสัปดาห์

ราศีธนู (16 ธันวาคม ถึง 14 มกราคม)

การงาน ระวังอาจต้องตกเป็นแพะรับบาป ข้อผิดพลาดของคนอื่นจะถูกใส่ร้ายให้กลาย เป็นคุณ แต่ถงึ กระนัน้ คุณก็สามารถพิสจู น์ได้ งานเอกสารและการเงินควรตรวจทานให้รอบคอบ การเงิน โชคดีที่การเงินยังดี มีสภาพคล่องตัวสูง มีโอกาสรับ โชคลาภจากการเสี่ยงในทุกรูปแบบ สุขภาพ ปวดศีรษะจากความเครียด อาจจะลุกลามลงกระเพาะ อาหาร ท�ำให้ปวดท้อง กรดไหลย้อนได้ ลดความเครียด อย่า กดดันตัวเอง และขอให้เชื่อว่า ทุกอย่างมีทางแก้ไข

109

Merit Room

110

เรื่อง : จักรวาล

“ช่วยกันสอน”

การให้รูปแบบง่ายๆ ที่ไม่ต้องพึ่งเงิน “ความรู้” ไม่ว่าจะมาจากแขนงใดๆ จัดเป็นสิ่ง มีค่า เพราะเมื่อผู้รับได้ความรู้ความช�ำนาญเหล่านั้น ไปแล้ว พวกเขาสามารถน�ำมาต่อยอดในการประกอบ อาชีพ สร้างตน สร้างอนาคตต่อไปในภายภาคหน้าได้

Merit Room ฉบับนีจ้ งึ อยากเชิญชวนท่านผูอ้ า่ นร่วมกัน แบ่งปันความเมตตาด้วยการ “ช่วยกันสอน” การให้รปู แบบง่ายๆ ที่ไม่ต้องอาศัยสิ่งแลกเปลี่ยนที่เรียกว่าเงิน ผ่านโครงการสอนดีๆ แก่เหล่าเด็กด้อยโอกาสที่ยังขาดแคลนในสังคมเรา

ศิลปะวัฒนธรรมสัญจร เพือ่ เด็กด้อยโอกาส” เพือ่ ใช้ศลิ ปะในการ บ่มเพาะให้เห็นคุณค่าทางด้านศิลปะและวัฒนธรรม สร้างสรรค์ สิ่ ง ที่ ดี ง ามให้ แ ก่ ต นเองและสั ง คมต่ อ ไป โดยกิ จ กรรมจะจั ด เดือนละ 1 ครั้ง ตามแหล่งศิลปะและวัฒนธรรมโดยเฉพาะ เช่น ตามวัดวาอารามอันเป็นศูนย์กลางชุมชน เพือ่ ให้เด็กได้ซมึ ซับ อย่างเต็มที่ ร่วมกันถ่ายทอดและปลูกฝังศิลปะไปพร้อมกับ ความดีงามให้เยาวชนได้ทศี่ นู ย์ศลิ ปะวัฒนธรรมสัญจร สอบถาม เพิ่มเติม โทร. 0-2261-6312

ช่วยกันสอน...ความรู้คู่คุณธรรม

ช่วยกันสอน...ว่ายน�้ำ

ส�ำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพ เยาวชน (สสค.) ชวนคุณไปร่วมเป็นส่วนหนึ่งของโมเดลน�ำร่อง ต้นแบบ “โรงเรียนเด็กด้อยโอกาส - ครูสอนดี” การเรียนการสอน ที่ตอบโจทย์ปากท้องและอัตลักษณ์ของคนท้องถิ่น ที่จะมาเปิด โอกาสทางการศึกษาให้แก่กลุม่ เด็กต่างวัฒนธรรมจาก 9 ชนเผ่า ช่วงวัย 4 - 14 ปี ซึง่ เป็นกลุม่ เด็กทีไ่ ม่มสี ถานะทางทะเบียนราษฎร์ หรือเด็กไร้สัญชาติ ต่างวัฒนธรรม ให้ได้เข้ามาเรียนรู้ร่วมกัน ที่ “ศูนย์การเรียนรู้วัดป่าเป้า” จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเปิดโอกาส ทางการศึกษา พร้อมทั้งให้พวกเขาเข้ามารับการกล่อมเกลา ทางจิตวิญญาณ คุณธรรม จริยธรรม เพื่อสร้างคนให้เป็นคนดี มีคณ ุ ภาพ และสามารถต่อยอดโอกาสอืน่ ๆ ในชีวติ ได้ตอ่ ไป สนใจ ติดตามได้ที่ www.thaireform.in.th

ช่วยกันสอน...ศิลปะวัฒนธรรม

จากการที่ศูนย์ศิลปะวัฒนธรรมสัญจรได้มองเห็นเด็ก กลุ่มหนึ่งที่ยังขาดโอกาสทางสังคม ไม่ได้รับทักษะในการเรียนรู้ ขาดโอกาสในชีวิตและการศึกษา ทางศูนย์มีความตระหนักดี ถึงปัญหาเด็กด้อยโอกาสในสังคม จึงได้ริเริ่ม “โครงการสอน

หลายๆ คนคงเคยได้ยินข่าวการจมน�้ำของเด็กหูหนวก ซึ่งเป็นเด็กกลุ่มเสี่ยงที่ไม่สามารถร้องขอความช่วยเหลือได้ เนือ่ งจากมีความพิการทางการได้ยนิ และการพูด จึงเป็นทีม่ าของ “โครงการสอนว่ายน�ำ้ เพือ่ เด็กด้อยโอกาส (เด็กหูหนวก)” โดยความ ร่วมมือของโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่ และณัฐศักดิ์ ท้าวอุดม อดีตนักกีฬาว่ายน�้ำเยาวชนทีมชาติไทย เพื่ อ เป็ น ความหวั ง ส� ำ หรั บ ทุ ก ครอบครั ว ที่ มี ลู ก หู ห นวกและ ช่ ว ยลดอุ บั ติ เ หตุ จ ากการจมน�้ ำ ได้ ปั จ จุ บั น มี เ ด็ ก หู ห นวกที่ ผ่านการอบรมจากโครงการนีเ้ ป็นจ�ำนวนมากแล้ว และก้าวต่อไป ของโครงการนี้คือ จะมีการขยายโครงการไปยังเด็กด้อยโอกาส ที่ไม่มีเงินเรียนว่ายน�้ำ และกลุ่มเด็กที่มีความบกพร่องทางการ มองเห็นในครั้งต่อไป มาร่วมเป็นส่วนสนับสนุนโครงการดีๆ ได้ที่ www.krupayuswim.com ดังค�ำกล่าวที่ว่า “การให้ที่ยิ่งใหญ่คือการให้

โอกาสการศึกษา” นอกจากจะสร้างสิ่งดีๆ คนดีๆ ให้ ยืนคู่สังคมต่อไปแล้ว ยังท�ำให้จิตใจของผู้ให้เบ่งบาน อย่างเป็นสุขอีกด้วย

Happy Time

ภาพประกอบ : PUN

พักสมอง : แล้วใครจะรู้

1 4 7 2 3 6 5

5 2 6 7 1 3 4

6 8 1 3 5 9 2

2 9 5 4 8 7 6

8 6 2 9 4 5 3

5 9 7 4 8 6 2 1

6 4 1 3 5 9 8 7

5 3 1

6 2

4 5

1 8 5

วิ ธี ก ารเล่ น เติ ม ตั ว เลข 1 - 9 ลงในช่ อ งที่ ว ่ า ง โดยมีเงื่อนไขดังนี้ 1. แต่ละบรรทัด (Row) มีเลข 1 - 9 ไม่ซ�้ำกัน 2. แต่ละคอลัมน์แนวตั้ง (Column) มีเลข 1 - 9 ไม่ซ�้ำกัน 3. แต่ละกรอบ 3 x 3 (Box) มีเลข 1 - 9 ไม่ซ�้ำกัน

3 5 4

6 7

เฉลย

Sudoku

111

112

Delight Quiz

คำ�ถามร่วมสนุกฉบับเดือนกันยายน - ตุลาคม 2554 คำ�ถาม: ท่านได้น�ำ บัตรสมาชิก SCG Debenture Club ไปใช้เพือ่ รับสิทธิประโยชน์ อะไรบ้าง และท่านอยากให้ทาง SCG Debenture Club มีสทิ ธิประโยชน์อะไร เพิม่ เติมในอนาคต * ผู้โชคดีจะได้รับ นาฬิกาแขวนผนัง SCG ขอบหนังสีขาว จำ�นวน 10 รางวัล ซึ่งจะจัดส่งตรงถึงท่านตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ * ประกาศรายชื่อผู้โชคดี ใน SCG Delight ฉบับเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2554 * กรุณากรอกชื่อ - ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อสะดวกให้ชัดเจน ส่งคำ�ตอบของท่านมายัง แผนกบริหารความสัมพันธ์หุ้นกู้ สำ�นักงานการเงิน บริษัทปูนซิเมนต์ ไทย จำ�กัด (มหาชน) เลขที ่ 1 ถนนปูนซิเมนต์ ไทย บางซื่อ กรุงเทพฯ 10800 ภายในวันที ่ 15 กันยายน 2554

20 รายชื่อผู้ได้รับรางวัลคำ�ถาม SCG Delight ฉบับเดือนกรกฎาคม - สิงหาคม 2554 จะได้รับหมอนอิงถุงปูนซีเมนต์ตราช้าง/ตราเสือ จำ�นวน 20 รางวัล

คำ�ถาม: เมนูอาหารไทยคาวและหวานอะไรบ้างที่ท่านชื่นชอบ โปรดระบุอย่างละ 2 เมนู พร้อมเหตุผล 1. คุณวันทนา ธราพงษ์พนั ธ์ 2. คุณกรรณิกา จิรวิวฒ ั นา 3. คุณพัชรจิต รุง่ รัตน์นภา 4. คุณนิม่ นวล โอกูมา่ 5. คุณพูนสุข ปุน่ นิน 6. คุณจิตรา สีสวุ รรณ 7. คุณถวิล ผดุงสัตย์ 8. คุณมาลิดา พรพัฒน์กลุ 9. คุณสุพรทิพย์ สวนดอก 10. คุณนิภาภรณ์ สกุลวิรยิ ะธรรม

11. คุณเสาวลักษณ์ โพธิผ์ า่ น 12. คุณนฤมล ชรากร 13. คุณดวงพร ลิตติรานนท์ 14. คุณจิตนา กันต์พทิ ยา 15. คุณทัศนัย เอีย่ มอำ�พันธ์ 16. คุณสมมาตร สุพานิชย์วทิ ย์ 17. คุณพัชนี พิทกั ษ์วชั ระ 18. คุณวิษณุ วงศ์ธารณาวุฒิ 19. คุณยุพา ภัทรธีรกุล 20. คุณประนอม จินตนาวงษ์