TAP Magazine July 2016 Vol.1

Page 1

JULY 2016 VOL.1 NO.1

首刊



泰国国立法政大学——比里-帕侬荣国际学院 pridi banomyong international college thammasat university

泰国研究专业(本科)招生简章 申请资格(任一): 托福成绩:PBT 500/CBT 173/IBT 61 雅思:6.0(未达到6.0者, 可参加法政大学组织的英语培训, 培训通过后可入学。) 学习时间: 第一学期:8-12月 第二学期:1-5月 暑期:6-7月 学费: 泰国学生6.3万泰铢 外国学生7万泰铢

联系方式

电话:+66 2613 3701-3 传真:+66 2623 5167 邮箱:pbic@tu.ac.th www.pbic.tu.ac.th

1


Authority in Charge Thai-Biz Panorama Co.,Ltd. Co-Publishing TCITV Supported by China-ASEAN Expo Secretarial ASEAN-China Centre Editorial Chairman of Advisors เทพรักษ์ เหลืองสุวรรณ Advisors ประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ ดลฤดี เข้มคุม้ ศุภจิตร วัฒนา ประสงค์ เลิศรัตนวิสทุ ธิ์ Director/Co-Publisher Gao Hang Publisher Editor ธีรเทพ เหลืองสุวรรณ Editor-in-Chief เรวดี พงศ์ไชยยง Deputy Editor-in-Chief Xiao Jingfeng Director of International Affairs Chen Xiaodan Photo Editors ธนกฤต ก๋าค�า ปวลี อรรฆยกุล Art Editors สุทธิชยั อัศวธงชัย ถนอมศักดิ์ ศักดิไ์ พฑูรย์ Editors วรรณศิริ หลิมเจริญสิริ ปจรีย์ ขาวแท้ Editorial Coordinators/ Accounting and Finance นฤมล ผูภ้ กั ดี 2

EDITOR’S NOTE

นิตยสาร TAP (THAI-ASEAN PANORAMA) ฉบับปฐมฤกษ์ เปิดตัวพร้อมกับวันสถาปนา ความสัมพันธ์ไทย-จีน ครบรอบ 41 ปี ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2559 ถือเป็นโอกาสอันดีของ การเปิดตัวนิตยสาร ในฐานะสือ่ กลางฉบับใหม่ ทีจ่ ะเชือ่ มโยงข้อมูลข่าวสารระหว่างนักธุรกิจไทย ขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่สนใจลงทุนในจีนและอาเซียน รวมถึงนักธุรกิจจีน ที่สนใจท�าการค้าการลงทุนกับไทย นิตยสารฉบับนีอ้ ยูภ่ ายใต้การด�าเนินงานของบริษทั Thai-Biz Panorama ซึง่ ก่อเกิดขึน้ จากความร่วมมือของบริษทั ทีซไี อทีวี จ�ากัด และนิตยสาร China-ASEAN Panorama นิตยสาร ข่าวที่จัดจ�าหน่ายในอาเซียนและประเทศในเขตเส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21 รายเดียวของประเทศจีน และยังเป็นนิตยสารของส�านักเลขาธิการงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียน เอ็กซ์โป (CAEXPO) และเมื่อปี 2558 มีความร่วมมือกับภาคธุรกิจในประเทศมาเลเซียจัดท�า นิตยสาร Malaysia-ASEAN Business วางจ�าหน่ายในประเทศมาเลเซียด้วย เนื้อหาสาระของนิตยสาร TAP จะน�าเสนอข้อมูลข่าวสารที่หลากหลาย น่าสนใจและ เป็นประโยชน์ โดยมุง่ เน้นการสร้าง “มุมมอง & โอกาส” ให้กบั ภาคธุรกิจทัง้ ไทย จีนและอาเซียน ผ่านรูปแบบของบทความจากผูเ้ ชีย่ วชาญด้านต่างๆ และบทสัมภาษณ์บคุ คลทีน่ า่ สนใจทัง้ จาก หน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยครอบคลุมสาระด้านเศรษฐกิจ การค้าการลงทุน สังคม ศิลปวัฒนธรรม ท่องเที่ยวและการศึกษา ตลอดจนข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาเขตการค้าเสรี จีน-อาเซียน และข้อมูลเกี่ยวกับการจัดงานแสดงสินค้าจีน-อาเซียนเอ็กซ์โป (CAEXPO) ทั้งนี้ นิตยสาร TAP จะเป็นนิตยสาร 2 ภาษา (ไทย-จีน) ที่เป็นสื่อทางการของงาน แสดงสินค้าจีน-อาเซียนเอ็กซ์โป (CAEXPO) ฉบับเดียวในประเทศไทย เป้าหมายของการท�าธุรกิจคือความส�าเร็จของกิจการ เป้าหมายของนิตยสาร TAP คือ การน�าพาภาคธุรกิจก้าวเดินไปสูจ่ ดุ มุง่ หมาย และหมายมัน่ ว่า TAP จะเป็นอีกช่องทางทีภ่ าคธุรกิจ ไทยเลือกเป็นพันธมิตรในการก้าวเดินไปพร้อมกันนับจากนี้ เรวดี พงศ์ไชยยง บรรณาธิการ นิตยสาร TAP (THAI-ASEAN PANORAMA) นิตยสารรายเดือน : TAP (THAI-ASEAN PANORAMA) บริษทั ไทย บิซ พาโนราม่า จ�ากัด เลขที่ 1168/76 อาคารลุมพินที าวเวอร์ ชัน้ 26 ถนนพระราม 4 แขวงทุง่ มหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท์ 02-679-7034 โทรสาร 02-679-7036 พิมพ์/แยกสี : บริษทั มติชน จ�ากัด (มหาชน)


Authority in Charge Thai-Biz Panorama Co.,Ltd. Co-Publishing TCITV Supported by China-ASEAN Expo Secretarial ASEAN-China Centre Editorial Chairman of Advisors เทพรักษ์ เหลืองสุวรรณ Advisors ประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ ดลฤดี เข้มคุม้ ศุภจิตร วัฒนา ประสงค์ เลิศรัตนวิสทุ ธิ์ Director/Co-Publisher Gao Hang Publisher Editor ธีรเทพ เหลืองสุวรรณ Editor-in-Chief เรวดี พงศ์ไชยยง Deputy Editor-in-Chief Xiao Jingfeng Director of International Affairs Chen Xiaodan Photo Editors ธนกฤต ก๋าค�า ปวลี อรรฆยกุล Art Editors สุทธิชยั อัศวธงชัย ถนอมศักดิ์ ศักดิไ์ พฑูรย์ Editors วรรณศิริ หลิมเจริญสิริ ปจรีย์ ขาวแท้ Editorial Coordinators/ Accounting and Finance นฤมล ผูภ้ กั ดี

总编寄语 《东盟博览》杂志创刊号于2016年7月1日发行,恰逢中泰 建交四十一周年,对于杂志创刊来说是有重要意义。《东盟博 览》杂志作为一本新的刊物,将为泰国中小型企业搭建桥梁平 台,打开中国乃至东盟其他国家的大门,同时还帮助中国企业 商家落地泰国。 《东盟博览》杂志是中国-东盟博览杂志社与泰华卫视 (TCITV)合作创办,是中国唯一面向东盟和21世纪海上丝绸 之路沿线国家的新闻期刊,也是中国—东盟博览会在泰国的官 方媒体。同时在2015年,中国—东盟博览会也与马来西亚机构 合作创立商业类期刊《中国东盟商界》。 《东盟博览》杂志将为读者提供多元化、焦点及有价值的 资讯,通过官方及民间机构等各领域的专家访谈以及分析,为 泰国、中国乃至东盟其他国家的读者带来 “新视野与机遇” 。东盟博览杂志内容覆盖经济、贸易、投资、社会、艺术、文 化、旅游、教育等方面,其中还包括中国与东盟自由贸易区发 展,中国-东盟博览会资讯等。 《东盟博览》杂志为中泰双语期刊,也是中国-东盟博览 会在泰国唯一的官方媒体。 企业以追求成功为目的,东盟博览杂志以帮助企业为己 任,我们坚信东盟博览杂志将是泰国企业朝目标前进道路上忠 诚的伙伴。

丁珮珮 总编辑 东盟博览杂志

นิตยสารรายเดือน : TAP (THAI-ASEAN PANORAMA) บริษทั ไทย บิซ พาโนราม่า จ�ากัด เลขที่ 1168/76 อาคารลุมพินที าวเวอร์ ชัน้ 26 ถนนพระราม 4 แขวงทุง่ มหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 โทรศัพท์ 02-679-7034 โทรสาร 02-679-7036 พิมพ์/แยกสี : บริษทั มติชน จ�ากัด (มหาชน) 3


จดหมายแสดงความยินดี

เรียน นิตยสาร CHINA-ASEAN PANORAMA ทราบข่าวนิตยสาร CHINA-ASEAN PANORAMA ได้จัดตั้งส�านักงานที่ประเทศไทย และจัดท�านิตยสาร THAI-ASEAN PANORAMA ฉบับปฐมฤกษ์ในประเทศไทยด้วย เป็นเรือ่ งที่ น่ายินดีและประสบความส�าเร็จอีกครั้งหลังจากจัดตั้งสาขาที่ประเทศมาเลเซีย และออก นิตยสาร CHINA-ASEAN ข้าพเจ้าในนามตัวแทนของส�านักเลขาธิการ China-ASEAN Expo ขอแสดงความยินดี งาน China-ASEAN Expo เป็นงานทีร่ ว่ มจัดขึน้ โดยประเทศจีน ประเทศอาเซียน 10 ประเทศและส�านักเลขาธิการอาเซียน ได้ประสบความส�าเร็จ 12 ครัง้ เป็นแพลตฟอร์มทีส่ า� คัญ เพือ่ ส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การค้า และด้านอืน่ ๆ ระหว่างประเทศจีนกับอาเซียน งาน China-ASEAN Expo ทีป่ ระสบความส�าเร็จในวันนีข้ าดความสนับสนุนและความสนใจจาก สือ่ มวลชนไม่ได้ ในฐานะทีเ่ ป็นหน่วยงานดูแลนิตยสาร CHINA-ASEAN PANORAMA ส�านักเลขาธิการ China-ASEAN Expo ดีใจทีไ่ ด้เห็นนิตยสาร CHINA-ASEAN PANORAMA เติบโตอย่างต่อเนือ่ ง ช่วยผลักดันการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม การค้า การลงทุน สังคม และด้านอื่นๆ ได้รับ ความส�าเร็จทีโ่ ดดเด่น นิตยสาร CHINA-ASEAN PANORAMA จัดตัง้ ส�านักงานทีป่ ระเทศไทยและจัดท�านิตยสาร THAI-ASEAN PANORAMA ฉบับปฐมฤกษ์ แสดงให้เห็นว่านิตยสาร CHINA-ASEAN PANORAMA ได้ ผ ลในการก้ า วสู ่ ส ากล มี บ ทบาทที่ ม ากขึ้ น จะช่ ว ยประชาสั ม พั น ธ์ ง าน China-ASEAN Expo ในประเทศไทย ส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคี ส�านักเลขาธิการ China-ASEAN Expo จะยังคงสนับสนุนนิตยสาร CHINA-ASEAN PANORAMA เพือ่ เพัฒนาต่อไปและเข้าสูป่ ระเทศอาเซียนอืน่ ๆ หวังเป็นอย่างยิง่ ว่าส�านักงาน ประเทศไทยของนิตยสาร CHINA-ASEAN PANORAMA และนิตยสาร THAI-ASEAN PANORAMA จะมีอนาคตทีส่ ดใส เจริญรุง่ เรือง นายหวัง เหลย เลขาธิการส�านักเลขาธิการ China-ASEAN Expo วันที่ 6 มิถนุ ายน 2559

4


贺 信

《中国—东盟博览》杂志社: 欣闻《中国—东盟博览》杂志泰国分社成立暨泰国 《东盟博览》杂志创刊,这是《中国—东盟博览》杂志 在马来西亚分社暨马来西亚《中国东盟商界》杂志创立 之后的又一次的成功!我谨代表中国—东盟博览会秘书 处表示热烈祝贺! 由中国和东盟10国政府及东盟秘书处共同主办的中 国—东盟博览会,已经成功举办了12届,成为了中国— 东盟友好交流、经贸促进和多领域合作的重要平台。东 博会取得的重大成就,离不开新闻媒体的鼎力支持与关 注。 作为《中国—东盟博览》杂志的主办单位,中国—东 盟博览会秘书处很高兴的看到《中国—东盟博览》杂志 的不断发展壮大,为中国—东盟友好交流、经贸、人文 等多领域的交流合作做出的积极努力,取得了领人瞩目 的成绩。 《中国—东盟博览》杂志泰国分社的成立和泰国《 东盟博览》杂志的创刊,标志着《中国—东盟博览》杂 志开拓国际合作的空间又取得了阶段性的成果,对中 国—东盟博览会在泰国的宣传覆盖,更好的促进双边合 作,将发挥更大的作用。 中国—东盟博览会秘书处将一如既往的支持《中 国—东盟博览》杂志在东盟国家的发展壮大,衷心祝愿 《中国—东盟博览》杂志泰国分社暨泰国《东盟博览》 鹏程万里,蒸蒸日上。 中国—东盟博览会秘书处 秘书长 王雷 2016年6月6日

5


CONTENTS TAP

10

14

宁赋魁

醍乐堃·倪勇

10 • ทูตจีนเดินหน้าเชื่อมสัมพันธ์ไทย ร่วมสร้างสรรค์อนาคตอันดีงาม

หนิง ฟู่ ขุย

18

宁赋魁

14 • ธีรกุล นิยม

ปลูกต้นไม้แห่งการศึกษา สานสัมพันธ์ธุรกิจออนไลน์ 醍乐堃·倪勇

18 • อานันท์ ปันยารชุน มองสัมพันธ์ไทย-จีนลึกซึ้ง..มั่นคง 阿南·班雅拉春

24 • สะพานเชื่อมสัมพันธภาพไทย-จีน ‘วรรณไว พัธโนทัย’ สายใยที่ตัดกันไม่ขาด

阿南·班雅拉春

24

34

常怀

34 • กร ทัพพะรังสี สานสัมพันธ์ภาคประชาชน ตอกย�้า ‘จีน-ไทย..พี่น้องกัน’ 功•塔帕朗西

6

醍乐堃·倪勇

功•塔帕朗西


VOLUME 1 • JULY 2016

50

68

阿披拉迪 • 丹哒拉蓬

葛甘•瓦塔纳瓦朗军

42

58

42 •สมภพ มานะรังสรรค์ ‘โอกาส’ของผู้ประกอบการไทย เมื่อจีนพลิกนโยบายสู้‘วิกฤต’ 颂颇•玛纳郎善

50 • อภิรดี ตันตราภรณ์ แนะหาพันธมิตรกรุยทางลงทุนจีน 阿披拉迪•丹哒拉蓬

58 • สารสิน วีระผล

ถอดบทเรียนค้าขายกับพญามังกร อย่าหยุดเรียนรู้..เจาะลึกให้ถึงแก่น 吴汉泉

68 • กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร 颂颇•玛纳郎善

吴汉泉

ดื่มด�่าความสุขในเมืองไทย เสน่ห์มัดใจนักท่องเที่ยวจีน

葛甘•瓦塔纳瓦朗军 7


8


9


หนิง ฟู่ ขุย

ทูตจีนเดินหน้าเชื่อมสัมพันธ์ไทย ร่วมสร้างสรรค์อนาคตอันดีงาม 携手共创美好未来 ——中国驻泰国大使宁赋魁畅谈中泰合作

ตรียมพร้อมในวันนี้ เพื่อสิ่งที่ดีในภายภาค หน้า พ.ศ.2559 เป็นปีแห่งการเฉลิมฉลอง ครบรอบ 41 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ ทางการทู ต ระหว่ า งไทย-จี น ส� า หรั บ ประเทศไทยและประเทศจีนแล้ว ถือว่ามี ความส�าคัญเป็นพิเศษ หลั ง จากที่เ ผชิญกับแบบทดสอบมา เป็นระยะเวลากว่า 41 ปี ท�าให้ความสัมพันธ์ ไทย-จีนมีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น และก้าว เข้าสู่ระยะการพัฒนาในขั้นใหม่ที่ครอบคลุม

10

รอบด้าน นุม่ ลึก และรวดเร็วยิง่ ขึน้ หนิง ฟู ขุย เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจ�าประเทศไทย ได้ชแี้ จงประเด็นดังกล่าว ไว้อย่างละเอียด ดังต่อไปนี้ 1.ความไว้วางใจทางการเมืองมีความ ลึกซึง้ ยิง่ ขึน้ ความสัมพันธ์ทมี่ มี ายาวนานได้รบั การพั ฒ นาไปอี ก ขั้ น ประเทศจี น ยื ด ถื อ นโยบายไม่แทรกแซงนโยบายกิจการภายใน ของประเทศอื่น ไม่ว่าประเทศไทยจะเกิด การเปลีย่ นแปลงอย่างไร นโยบายของจีนทีจ่ ะ พัฒนาความสัมพันธ์ฉันมิตรกับประเทศไทย นั้นไม่เคยหวั่นไหว ซึ่งนโยบายดังกล่าว ได้รับ การชืน่ ชมจากแวดวงต่างๆ ของสังคมไทยเป็น อย่างมาก ทางเราพยายามคบค้าสมาคมกับ มิตรใหม่ แต่ก็ไม่เคยลืมมิตรเก่า ด้านความ สัมพันธ์กับราชส�านัก รัฐบาล และแวดวง ต่างๆ ของสังคมไทย ก็ได้รับการเสริมสร้าง และพัฒนา 2.การค้าระหว่างสองประเทศ พัฒนา ไปอย่ า งมี เ สถี ย รภาพ ความร่ ว มมื อ ที่ เ อื้ อ ประโยชน์แก่กนั ก็มคี วามแน่นแฟ้นมากยิง่ ขึน้ ประเทศจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของไทย ส่วนประเทศไทยเป็นคูค่ า้ ล�าดับที่ 4 ในบรรดา ประเทศสมาชิกอาเซียนของจีน พ.ศ.2518

ช่วงเริ่มต้นของการสถาปนาความสัมพันธ์ ไทย-จีน มูลค่าการค้าระดับทวิภาคีระหว่าง จีนกับไทยนั้นมีแค่ 25,000,000 ดอลลาร์ ต่อมาในปี พ.ศ.2557 สูงถึง 7.26 หมื่นล้าน ดอลลาร์ เพิ่มขึ้นเกือบ 2,800 เท่า การลงทุน แบบ Two-Way Investment ระหว่ า ง ไทย-จีนเริ่มต้นจากศูนย์ ปัจจุบันมีมูลค่ารวม สูงถึง 6,000 ล้านหยวน พ.ศ.2558 ขณะที่ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกอ่อนแรงลง แต่การค้าไทย-จีน กลับมีการขยายตัวเพิม่ ขึน้ เล็กน้อย ถือเป็นความส�าเร็จที่น่าพอใจ 3.การไปมาหาสูก่ นั ในภาคเอกชนคึกคัก ยิ่งขึ้น ท�าให้สัมพันธไมตรีระหว่างประชาชน สองประเทศแน่ น แฟ้ น ยิ่ ง ขึ้ น นั กท่ อ งเที่ ย ว ชาวจีนทีเ่ ดินทางมาท่องเทีย่ วในประเทศไทย ในปี พ.ศ.2558 เมือ่ เปรียบเทียบกับ พ.ศ.2557 ในช่วงเวลาเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1 เท่า ส�าหรับ ประเทศไทยนั ก ท่ อ งเที่ ย วจี น ยั ง คงครอง อันดับหนึ่งในด้านการแลกเปลี่ยนบุคลากร ปั จ จุ บั น มี นั ก ศึ ก ษาแลกเปลี่ ย นชาวไทย จ�านวน 20,000 คน ศึกษาอยู่ในประเทศจีน ถือว่ามีจ�านวนมากที่สุดในบรรดาประเทศ สมาชิกอาเซียน ส่วนประเทศจีนได้กลายเป็น ประเทศที่ มี นั ก ศึ ก ษาเดิ น ทางมาเรี ย น ในประเทศไทยมากที่สุดเช่นกัน นักศึกษา


แลกเปลี่ยนชาวจีนที่ศึกษาในไทยมีจ�านวน มากกว่า 20,000 คน ความร่วมมือด้านการลงทุน ท�าให้มี โอกาสที่กว้างไกล จากความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ-การ ค้าระหว่างไทย-จีน อย่างต่อเนือ่ ง ท�าให้ธรุ กิจ จีนทีเ่ ข้ามาลงทุนในประเทศไทยมีจา� นวนเพิม่ มากขึ้นเรื่อยๆ หนิง ฟู่ ขุย เอกอัครราชทูตจีน ได้ให้คา� แนะน�าเรือ่ งการขยายธุรกิจในไทยให้ แก่ธุรกิจจีนไม่น้อย โดยกล่าวว่า เมื่อเปรียบ เทียบกับความไว้วางใจทางการเมืองระหว่าง สองประเทศ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ-การ ค้าไทย-จีน ยังมีศกั ยภาพการพัฒนาทีส่ งู ด้าน เศรษฐกิจระหว่างไทย-จีนสองประเทศ ต่างมี ข้อได้เปรียบที่เสริมกันได้ ควรมีความร่วมมือ ในด้านการสร้างสาธารณูปโภคพืน้ ฐาน ความ เชือ่ มโยงกัน การลงทุน และการค้ามากยิง่ ขึน้ การลงทุนควรเป็นจุดเติบโตใหม่สา� หรับความ ร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีน-ไทย ปัจจุบนั ประเทศจีนได้เปลี่ยนนโยบายจากการดึงดูด การลงทุ น จากต่ า งประเทศเป็ น หลั ก มา เป็นการให้ความส�าคัญต่อการลงทุนในต่าง ประเทศเช่นกัน ปัจจุบันนี้มีบริษัทจีนสมัคร เป็ น สมาชิ ก ของสมาคมการค้ า วิ ส าหกิ จ จีน-ไทยจ�านวน 160 บริษัท และครอบคลุม ทุกสาขา ส�าหรับด้านการลงทุน หนิง ฟู่ ขุย เอกอัครราชทูตจีน คิดว่าในอนาคตข้างหน้า ทั้งสองฝ่ายควรกระชับความร่วมมือทางด้าน การลงทุน ดังต่อไปนี้ ประการแรก ควรร่ ว มมื อ พั ฒ นา อุ ต สาหกรรมการผลิ ต เครื่ อ งจั ก ร ที่ ไ ทยมี ความต้องการและจีนมีข้อได้เปรียบ อาทิ เครื่องจักรที่ใช้ในการก่อสร้าง รถบัสรุ่นใหม่ เป็นต้น พร้อมกับการพัฒนาของความร่วมมือ ในการสร้าง รถไฟระหว่างจีน-ไทย ทั้งสอง ฝ่ายสามารถขยายความร่วมมือใน การผลิต เครื่องอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับรถไฟไปด้วย ประการทีส่ อง พัฒนาธุรกิจเป็นมิตรต่อ สิ่งแวดล้อม อาทิ โครงการผลิตไฟฟ้าจาก

พลังงานแสงอาทิตย์ โครงการผลิตไฟฟ้าจาก ขยะ โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน�า้ ขนาด เล็ก เป็นต้น ประการที่สาม พัฒนาความร่วมมือ ด้านการแปรรูปพืชผลทางการเกษตร ปัจจุบนั มีบริษัทยางพาราขนาดใหญ่ของจีน จ�านวน 8 บริษัท ตั้งโรงงานหรือมีแผนที่จะมาลงทุน ในประเทศไทย คาดว่าเมื่อถึงปี พ.ศ.2560 บริ ษั ท ยางพาราที่ จี น มาลงทุ น ในไทยจะ สามารถแปรรูปหรือบริโภคยางพารา 1 ล้านตัน ต่อปี ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 4 ส�าหรับปริมาณการ ผลิตยางพาราของไทยในรอบปี บริษทั เหล่านี้ ไม่ใช่บริษัทขนาดเล็กของจีน หากแต่เป็น บริษัทใหญ่ที่มีชื่อเสียงในจีนหรือทั่วโลก ประการที่ สี่ พั ฒ นาความร่ ว มมื อ เทคโนโลยีขั้นสูง ทั้งสองฝ่ายควรขยายและ พัฒนาความร่วมมือทางด้านดาวเทียมสือ่ สาร และรีโมตเซนซิ่ง ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ 4G การแพทย์และเภสัชกรรม เป็นต้น ฝ่ายจีน ยิ น ดี ที่ จ ะอาศั ย ข้ อ ได้ เ ปรี ย บของตนช่ ว ย ประเทศไทยพัฒนาเทคโนโลยีให้มรี ะดับทีส่ งู ขึน้ ประการที่ห้า เพิ่มความร่วมมือด้าน การเงิน ส่งเสริมให้บริษทั ของทัง้ สองประเทศ ใช้เงินตราของประเทศทั้งสอง ในการช�าระ และลงทุนซึ่งกันและกัน เพื่อหลีกเลี่ยงความ เสีย่ งทีม่ าจากอัตราแลกเปลีย่ น และลดต้นทุน ความร่วมมือด้านรถไฟ มีแนวโน้มที่สดใส ปั จ จุ บั น “การร่ ว มสร้ า งแนวเขต เศรษฐกิจบนเส้นทางสายไหมและเส้นทาง สายไหมทางทะเล” ในศตวรรษที่ 21 ที่ ประเทศจีนริเริ่มส่งเสริม ได้รับการสนับสนุน และเข้ า ร่ ว มจากประเทศต่ า งๆ ที่ อ ยู ่ ใ น ขอบเขตบริ เวณโดยรอบเส้ น ทางดั ง กล่ า ว ภูมิภาคอาเซียน เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทาง สายไหมทางทะเล ในศตวรรษที่ 21 ประเทศไทยเชือ่ มต่อกับอาเซียนทัง้ ทางทะเล และทางบก เป็ น จุ ด เชื่ อ มส� า หรั บ ตลาด อาเซียน ที่มีประชากรจ�านวน 600 ล้านคน มี ข ้ อ ได้ เ ปรี ย บทางภู มิ ศ าสตร์ และมี

ความพร้อมในด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน หนิง ฟู่ ขุย เอกอัครราชทูตจีน แนะน�าว่า ปัจจุบันประเทศก�าลังเร่งรัดพัฒนาการสร้าง สาธารณูปโภคพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นเครือข่าย รถไฟฟ้าและทางหลวง การสร้างและขยาย ท่าเรือ การเพิม่ เทีย่ วบินใหม่ เพือ่ ยกฐานะเป็น ศูนย์กลางความเชื่อมโยงของภูมิภาค การที่ไทย-จีนร่วมมือกันสร้างรถไฟ ได้รบั ความสนใจจากผูค้ นแวดวงการต่างๆ ใน สังคม เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ฝ่ายจีนเคยเจรจา เรื่องโครงการความร่วมมือด้านรถไฟกับนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทยตามล�าดับ ปลายปี พ.ศ.2557 หลี่ เค่อ เฉียง นายก รัฐมนตรีจีน กับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจว่า ด้วยความร่วมมือรถไฟจีน-ไทย และความร่วม มือด้านการค้าผลผลิตทางการเกษตร และเริม่ ความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างสองประเทศ ปัจจุบนั ถึงแม้รถไฟไทย-จีนจะประสบ กั บ ปั ญ หา แต่ ก็ ยั ง ผลั ก ดั น การสร้ า งรถไฟ ไทย-จีนต่อไป ซึง่ จะเป็นประโยชน์ตอ่ ประชาชน สองประเทศ และความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้า โดยเฉพาะการเดินทางของประชาชน ชาวไทย และการน�าสินค้าเกษตรเข้าสูต่ ลาดจีน “ประเทศจีนเริ่มก่อสร้างระบบรถไฟ ความเร็วสูงช้ากว่าประเทศอื่นๆ แต่ในระยะ เวลาอันสัน้ ทางเราท�าให้เทคโนโลยีดา้ นรถไฟ สมบูรณ์แบบโดยผ่านการน�าเข้า เรียนรู้ และ ประยุ ก ต์ ประเทศจี น มี พื้ น ที่ ก ว้ า งขวาง เงื่อนไขด้านภูมิศาสตร์และภูมิอากาศมีความ ซับซ้อนมาก แต่ประเทศจีนสามารถเอาชนะ ปัญหาต่างๆ ได้ และสร้างเครือข่ายรถไฟ ความเร็วสูงทีม่ ขี นาดใหญ่ทสี่ ดุ และมีความเร็ว สูงที่สุดในโลก “ปั จ จุ บั น รถไฟมี ร ะยะทางมากกว่ า 1 แสนกิโลเมตร รถไฟทีส่ ร้างเสร็จและด�าเนิน การแล้ว มีระยะทาง 16,000 กิโลเมตร คิด เป็นระยะทางรถไฟ 60% ของโลก ภายใต้ 11


เงื่อนไขด้านภูมิศาสตร์และภูมิอากาศต่างๆ การติดตัง้ รถไฟของประเทศจีนมีการประยุกต์ ใช้แบบน่าเชื่อถือ นี่คือสิ่งที่ทั่วโลกไม่สามารถ ท�าได้ “รถไฟของประเทศจีนบางแห่งสร้าง อยู่บนที่ราบสูง ที่อยู่สูงจากระดับน�้าทะเล 3,000-4,000 เมตร บางแห่งสร้างอยู่บริเวณ ที่มีสภาพอากาศหนาวเย็น และก็มีบางแห่ง สร้างบนภูเขาทีส่ งู ลิว่ หลังจากผ่านการพิสจู น์ มาหลายปี แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีรถไฟ ของจี น เติ บ โตอย่ า งเต็ ม ที่ แ ล้ ว และมี ก าร รับรองด้านความปลอดภัย “สิ่งที่ส�าคัญกว่านั้นก็คือ ทางเราจะ

เผยแพร่การก่อสร้าง เทคโนโลยี การด�าเนิน การ การบริหารจัดการ และประสบการณ์ ด้ า นรถไฟจี น ให้ กั บ ฝ่ า ยไทย และยิ น ดี ถ่ายทอดประสบการณ์ด้านเทคโนโลยี การ ปฏิบัติ การจัดการ และการด�าเนินการให้กับ ประเทศไทย พยายามอบรมบุ ค ลากร ชาวไทยด้ า นรถไฟอี ก ทั้ ง พยายามใช้ ผู ้ รั บ เหมาและทรั พ ยากรบุ ค คลชาวไทย ที่มีศักยภาพและได้มาตรฐาน” เอกอัครราชทูตจีนเผยว่า ความร่วมมือ ด้านรถไฟไทย-จีน เป็น 1 ในโครงการส�าคัญ ของการสร้างนโยบาย one belt one road ที่สองประเทศร่วมกันผลักดัน การเสริมสร้าง

ความร่วมมือด้านการสร้างโครงข่ายสาธารณูปโภค พืน้ ฐานระหว่างไทย-จีน เป็นการแสดงให้เห็น ถึงวิสัยทัศน์ด้านเส้นทางสายไหมทางทะเล ในศตวรรษที่ 21 และมิตรภาพระหว่างสอง ประเทศ ไม่เพียงท�าให้ประเทศไทยกลายเป็น ศู น ย์ ก ลางด้ า นการคมนาคมในภู มิ ภ าคที่ ส�าคัญ แต่ยังแสดงบทบาทด้านการส่งเสริม ความเชื่อมโยงในภูมิภาค และทางรถไฟสาย ทรานส์เอเชีย (Trans-Asian Railway) ส�าหรับการครบรอบ 41 ปีของการ พั ฒ นาความสั ม พั น ธ์ ท างการทู ต จี น -ไทย หนิง ฟู่ ขุย เอกอัครราชทูตจีน มีความมั่นใจ ต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ไทย-จีนเป็นอย่าง ยิ่ง เพราะสองประเทศมีเป้าหมายการพัฒนา ที่เหมือนกันหรือใกล้เคียงกัน ความไว้ใจทาง ยุทธศาสตร์ทแี่ น่นแฟ้น และผลประโยชน์รว่ ม ที่กว้างขวาง ในอนาคตข้างหน้าทั้งสองฝ่าย ควรเพิ่มพูนการเชื่อมสัมพันธ์กันในทุกระดับ และทุกด้านให้มากยิ่งขึ้น ขยายข้อได้เปรียบ ซึง่ กันและกัน และแสวงหาจุดเติบโตใหม่ของ การพัฒนาแปรความสัมพันธ์ทางการเมืองทีด่ ี ให้เป็นผลส�าเร็จที่เป็นรูปธรรม

一政策也受到了泰国社会各界 的高度赞扬。我们积极地结交 新朋友,同时也不忘老朋友, 同泰国王室、政府、议会和社 会各界的友好关系都得到了进 一步巩固和加强。 二是两国贸易平稳发展, 互惠合作更加扎实。中国是泰 国最大的贸易伙伴,泰国是中 国在东盟国家中的第四大贸易 伙伴。1975年两国建交之初, 双边贸易额仅为2500万美 元,2014 年达726亿美元,增 长近2800倍。中泰双向投资从 无到有,现在总额达 60 亿美 元。2015年在全球经济复苏乏

力的情况下,中泰贸易逆势小 幅增长,这是可喜的成就。 三是人文交往更加热络, 进一步增加了两国人民之间的 友好感情。2015年来泰国旅游 的中国大陆游客与2014年同期 相比几乎增长一倍,中国游客 数量继续高居来泰旅游外国游 客数量的榜首。在人员交流方 面,目前有2万多名泰国留学生 在中国学习,人数在东盟国家 中是最多的,而中国则是泰国 最大的留学生生源国,在泰学 习的中国留学生也超过2万人。 投资合作 空间广阔 随着中泰经贸合作不断深

足当下 展望未来 2016年是中泰建交41周 年纪念年, 这对中国与泰国 来说,意义非凡。 经过41年风雨考验,中 泰关系更加成熟,进入了更 加全面、深入、快速发展的 新阶段。中国驻泰国大使宁 赋魁先生对这个新阶段做了 细致的表述: 一是政治互信更加深厚, 传统友好关系得到进一步加 强。中国奉行不干涉别国内政 的政策,不管泰国国内发生什 么变化,中国发展对泰友好的 政策从来没有发生过动摇。这

12


化,来泰投资的中国企业越来 越多。宁赋魁大使也给中资企 业在泰开展业务提供了不少建 议。他表示同两国良好的政治 互信相比,中泰经贸合作还有 进一步提升的空间。中泰两国 经济互补性很强,在基础设施 建设、互联互通、投资、贸易 等方面都应有更大作为。投资 应成为两国经济合作新的增长 点,中国正在以吸引外资为主 走向以吸引外资和对外投资并 重。目前仅加入驻泰中资企业 商会的中资企业就已达160 家,涉及到各行各业。 关于投资领域,宁赋魁大 使认为两国可以在以下几个方 面加强投资合作: 第一,发展泰国有需求、 中国较 成熟的装备制造业, 如建筑工程机械,新型巴士 等。 第二,发展环保类企业, 如太阳能发电、垃圾发电、小 型水电项目等。 第三,开展农产品深加工 合作。目前已有8家大型中资 橡胶企业在泰国设厂或计划在 泰投资。预计到2017年,中国 在泰国投资的橡胶企业年加工 或者消费橡胶总量可达100万 吨,占泰国橡胶年产量1/4。 这些企业不是中国一般的小型 企业,而是在中国甚至全世界 都知名的大企业。 第四,推进高科技合作。 双方可拓展和深化在遥感、通 讯卫星和应用、4G网络移动通 信、医药等领域的合作。 第五,加强金融合作,鼓 励两国企业更多使用本币进行 双边贸易结算和投资,减少汇 率风险,节省交易成本。

铁路合作 前景可期 当下,中国倡导的共建丝 绸之路经济带与21世纪“海上 丝绸之路”,得到了沿线各国 的支持与参与。东盟地区是21 世纪“海上丝绸之路”必经之 地,泰国连接“海上东盟” 和“陆上东盟”,是有着6亿 多人口东盟大市场的天然交汇 点,区域优势得天独厚,基础 设施完善,在推动21世纪“海 上丝绸之路”建设方面潜力巨 大。宁赋魁大使介绍说,目前 泰国正在大力发展基础设施建 设,完善国内铁路、公路网, 新建扩建港口,增开航班,不 断提升自身作为本地区互联互 通枢纽的地位。 中泰合作建设铁路受到两 国社会各界人士的高度关注。 过去几年,中方先后同泰国阿 披实政府、英拉政府商谈过铁 路合作项目。2014年底,李克 强总理和巴育总理在泰国共同 见证签署《中泰铁路合作谅解 备忘录》和《中泰农产品贸易 合作谅解备忘录》,开启了两 国铁路合作进程。 毋容置疑,现在中泰铁路 遇到一些问题。但是,无论如 何,继续推进中泰铁路的建 设,有利于中泰两国人民,有 利于两国的经贸合作,尤其有 利于泰国人民的出行和更多农 产品进入中国市场。 关于中国帮助泰国修建铁 路的优势,宁赋魁大使说: “中国高铁起步较晚,但在不 长的时间里,我们通过引进、 吸收和创新,完善了中国的高 铁技术。中国地域辽阔,地理 条件和气候条件十分复杂。但 中国克服了各种难题,用最短

的时间建成了世界上最庞大的 铁路网,目前铁路总里程已超 过10万公里,已建成并运营的 高铁里程达到1.6万公里,占 全球高铁里程的60%。中国铁 路装备在各种地理和气候条件 下,都有成熟可靠的实践应 用,这是世界任何其他国家无 法做到的。中国铁路有的建在 海拔3、4千米的高原,有的建 在冰冻地带,有的建在崇山峻 岭。经过多年检验,证明中国 铁路技术是成熟的,安全是有 保障的。更重要的是,中国铁 路建设、技术、运营管理和经 验对泰国是完全开放的,我们 会把所掌握的技术和实践管理 运营经验传授给泰方,积极培 养泰国自己的铁路人才,积极 考虑使用泰国当地有实力、合 格的分包商和人力资源。” 宁赋魁大使进一步表示, 中泰铁路合作也是两国推进 “一带一路”建设的重要项目 之一。中泰两国加强基础设施 互联互通建设合作是两国友好 和建设21世纪“海上丝绸之 路”前瞻性的表现,不仅将使 泰国成为更加重要的地区交通 枢纽,还将为促进地区互联互 通和泛亚铁路网建设发挥更好 的综合示范效应。 回首过去41年来中泰关 系的长足发展,宁赋魁大使 对中泰关系的发展充满信 心。他认为中泰有着相同或 类似的发展目标、深厚的战 略互信和广泛的共同利益, 未来双方应进一步加强在各 层面、各领域的沟通,扩大 优势,努力发掘新的增长 点,把两国良好的政治关系 转化为更多的务实成果。

13


14


ธีรกุล นิยม

ปลูกต้นไม้แห่งการศึกษา สานสัมพันธ์ธุรกิจออนไลน์ 种电商合作之花,栽教育合作之树 ——访泰国驻华大使醍乐堃·倪勇

ปั

จจุ บั น สื่ อ ออนไลน์ ร ะหว่ า งจี น และ อาเซี ย น นั บ วั น จะทวี คู ณ ความ แน่ น แฟ้ น ยิ่ ง ขึ้ น เห็ น ได้ จ ากความร่ ว มมื อ ระหว่างประเทศทีม่ คี วามหลากหลายมากขึน้ ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา ธุรกิจออนไลน์ หรืออี-คอมเมิร์ซ เป็นต้น กลายเป็นแนวทาง ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและวัฒนธรรมใน รูปแบบใหม่ ซึง่ ประเทศไทยถือเป็น “เพือ่ นซี”้ ในแวดวง “โซเซียล” ของจีน ปัจจุบนั นักธุรกิจ บางรายได้เริ่มบุกตลาดธุรกิจออนไลน์ในจีน แล้ว ส่วนด้านการศึกษาก็มปี ระเด็นร่วมมือใน รูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น ด ้ ว ย เ ห ตุ นี้ ที ม บ ร ร ณ า ธิ ก า ร ได้ รั บ โอกาสเข้ า สั ม ภาษณ์ ธี ร กุ ล นิ ย ม เอกอั ค รราชทู ต ไทยประจ� า สาธารณรั ฐ ประชาชนจีน เรื่องความร่วมมือไทยจีนด้าน ธุรกิจออนไลน์และการศึกษา ธุรกิจออนไลน์ โอกาสความร่วมมือ ไทย-จีน นั บ วั น ธุ ร กิ จ ออนไลน์ ใ นจี น จะยิ่ ง มี อิทธิพลต่อพฤติกรรมการบริโภคของคนจีน มากขึ้น จนเป็นที่มาของศัพท์ภาษาจีนที่ว่า “เทศกาล 11.11” “นักช้อปมือฉมัง” เป็นต้น หลายปีมานี้พฤติกรรมการบริโภคของคนจีน

เปลี่ยนแปลงไปมาก ด้วยความที่จีนมีการ พั ฒ นาเป็ น ชุ ม ชนเมื อ งมากขึ้ น มี ค วาม ก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะระบบ การสื่ อ สาร ที่ ท� า ให้ ค นจี น สามารถเข้ า ถึ ง อิ น เตอร์ เ น็ ต ได้ ส ะดวกขึ้ น ในจี น มี ผู ้ ใช้ อินเตอร์เน็ตกว่า 600 ล้านคน ในจ�านวนนี้ กว่า 360 ล้านคนเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ ปี 2015 มียอดการซือ้ ขายออนไลน์กว่า 3.88 แสนล้านดอลลลาห์สหรัฐ เพิม่ ขึน้ จากปี ก่อน 37% คิดเป็น 40% ของยอดการซือ้ ขาย ออนไลน์ในตลาดโลก ธีรกุลอธิบายว่า ความเจริญด้านธุรกิจ ออนไลน์ของจีนถือเป็นโอกาสธุรกิจที่ส�าคัญ ส�าหรับนักธุรกิจไทย ทางสถานทูตไทยก�าลัง เตรียมการประชาสัมพันธ์ขอ้ มูลเกีย่ วกับความ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคของจีน การพัฒนาและแนวโน้มธุรกิจออนไลน์ของจีน ให้แก่นักธุรกิจไทย หวังว่าจะเป็นประโยชน์ ต่อการรับมือความเปลี่ยนแปลง และปรับ เปลีย่ นวิธกี ารท�าธุรกิจแบบดัง้ เดิมของไทยให้ เข้ากับสภาพแวดล้อมของตลาดจีน และใช้ โอกาสนี้สร้างประโยชน์ต่อการลงทุนให้มาก ที่สุด จากมุ ม มองของนั ก ธุ ร กิ จ ใจความ

ส�าคัญของความร่วมมือคือค�าว่า “เรา” ความ ร่วมมือด้านธุรกิจออนไลน์ไทยจีน หมายถึง การที่บริษัทไทยเข้ามาติดต่อร้านค้าออนไลน์ ในจีนโดยตรง หรือผูด้ า� เนินธุรกิจออนไลน์จนี ไปบุกตลาดไทย ร่วมกันเสริมสร้างความร่วม มือทีแ่ ข็งแกร่ง เพือ่ ยกระดับธุรกิจออนไลน์ให้ สูงยิ่งๆ ขึ้นไป สถานทูตไทยในจีนจะเป็น ตัวกลางประสานงาน จับคู่นักธุรกิจไทยกับ Taobao Jingdong เป็นต้น ทีเ่ ป็นผูใ้ ห้บริการ หลักธุรกิจออนไลน์ในจีน เพือ่ สนับสนุนให้นกั ธุรกิจไทยมีโอกาสร่วมมือกับผู้ให้บริการราย ใหญ่เหล่านี้โดยตรง “เพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจเอสเอ็มอีไทย ได้มีโอกาสสร้างความร่วมมือกับฝ่ายจีนมาก ขึ้น ในปีนี้ ทางสถานทูตไทยก�าลังเตรียมการ ไปจั ด สั ม มนาเกี่ ย วกั บ การด� า เนิ น ธุ ร กิ จ ออนไลน์ ใ นพื้ น ที่ ต ่ า งๆ ของประเทศไทย เตรี ย มจั ด การฝึ ก อบรม เจรจา และเชิ ญ ผู้เชี่ยวชาญด้านการด�าเนินธุรกิจออนไลน์ ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตัวแทนนักธุรกิจที่ ประสบความส�าเร็จเป็นต้น มาร่วมให้ข้อมูล เพื่ อ ปู ท างให้ นั กธุ รกิ จ ไทยได้ มี ค วามรู ้ แ ละ ความเข้าใจเบื้องต้น สามารถด�าเนินธุรกิจใน จีนได้ราบรื่นยิ่งขึ้น”

15


ด้านการบริการ ธุรกิจออนไลน์มคี วาม เกี่ ย วข้ องกั บ การซื้อขายออนไลน์ การท� า ธุรกรรมการเงินออนไลน์ การจ่ายออนไลน์ เป็ น ต้ น ซึ่ ง ระบบดั ง กล่ า วเป็ น เพี ย ง แพลตฟอร์ ม การซื้ อ ขายออนไลน์ หาก ประสงค์จะร่วมมือกันท�าธุรกิจจริงจัง ประเด็น ทีส่ า� คัญทีส่ ดุ คือ วิธกี ารเข้าถึงระบบการช�าระ เงินในระหว่างไทย-จีน เอกอัครราชทูตไทยให้ความเห็นว่า ความร่วมมือธุรกิจออนไลน์ไทยจีนจะส�าเร็จ หรือไม่ ขึ้นอยู่กับการแก้ไขปัญหาระบบการ ช�าระเงินที่มีความแตกต่างระหว่างของไทย และจีน เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทางสถานทู ต ไทยก� า ลั ง ด� า เนิ น การ เจรจากับธนาคารไทยหลายแห่ง สนับสนุนให้ สร้างความร่วมมือกับหน่วยงานและธุรกิจที่ เกี่ยวข้องของจีน เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาวิธี การช�าระเงินที่มีอยู่ในปัจจุบัน ให้การช�าระ เงินระหว่างประเทศมีความสะดวกรวดเร็ว มากยิ่งขึ้น ปัจจุบัน มีธนาคารกสิกรไทยที่ได้ ด�าเนินการน�าร่องไปเรียบร้อยแล้ว นอกจากปัญหาการช�าระเงินแล้ว อีก ประเด็นหนึ่งที่ควรให้ความส�าคัญคือ ความ

ปลอดภัยของการช�าระเงิน ปัญหาหนึ่งของ การซือ้ ของออนไลน์คอื การฉ้อโกงหรือหลอก ลวง ซึง่ ทางสถานทูตไทยจะสนับสนุนให้มกี าร ร่วมมือธุรกิจออนไลน์ระหว่างไทยจีนแล้ว ยัง ต้องการันตีความปลอดภัยด้วย ต้องคอย ตรวจสอบดูแลเรือ่ งสินค้าปลอมหรือสินค้าไม่ ได้มาตรฐาน เสริมสร้างระบบธุรกิจออนไลน์ ที่ซื้อขายได้อย่างปลอดภัย คุณภาพวางใจได้ เสริ ม สั ม พั น ธ์ ก ารศึ ก ษา ปลู ก ต้ น ไม้ แ ห่ ง มิตรภาพ “เศรษฐกิจสร้างเวที วัฒนธรรมเป็นตัว ขับร้อง” ธีรกุล นิยม นอกจากจะเชี่ยวชาญ ด้านเศรษฐกิจจีนและเสริมสร้างความร่วมมือ ระหว่างไทยจีนแล้ว ยังให้ความส�าคัญกับ ความร่วมมือด้านการศึกษาด้วย ปี 2016 ถือเป็นปีแห่งความร่วมมือด้าน การศึกษาระหว่างจีนและอาเซียน ซึง่ ถือเป็น หัวใจส�าคัญของความสัมพันธ์ไทยจีน โดยไทย เสนอให้มกี จิ กรรมสมานสัมพันธ์ระหว่างเยาวชน ไทยและจีน ให้เยาวชนได้ศกึ ษาและเรียนรูก้ นั และกัน เสริมสร้างประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ มีความเข้าใจกันมากยิง่ ขีน้ จนพัฒนาเป็นมิตรที่ ดีตอ่ กัน ความร่วมมือทีต่ งั้ อยูบ่ นพืน้ ฐานนีเ้ ป็น

ความสัมพันธ์มคี ณ ุ ค่าและยัง่ ยืน เอกอัครราชทูตไทยยังได้เสนอแนะ 3 ประเด็นหลัก ดังนี้ ประเด็นแรก ควรจะมีเครือข่ายความ ร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยไทยและจีน ใน จีนมีมหาวิทยาลัยกวางสี มหาวิทยาลัยหัว เฉี ย วเซี่ ย เหมิ น ในไทยก็ มี ม หาวิ ท ยาลั ย ธรรมศาสตร์ มหาวิ ท ยาลั ย เชี ย งใหม่ ที่ มี ศั ก ยภาพและสนใจที่ จ ะร่ ว มมื อ อยากให้ มหาวิทยาลัยไทยจีนได้เจรจากัน ร่วมกันจัด ตัง้ โปรแกรมแลกเปลีย่ นระหว่างมหาวิทยาลัย เช่น “โปรแกรม 2+2” ร่วมกันเสริมสร้าง เยาวชนที่มีคุณภาพ ประเด็นที่สอง ควรจะเพิ่มโอกาสการ แลกเปลีย่ นบุคลากรไทยจีน เพือ่ เปิดโลกทัศน์ การศึ ก ษาวิ จั ย ให้ ม ากขึ้ น โดยปั จ จุ บั น มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเซี่ยเหมินอยู่ระหว่าง การเจรจากับมหาวิทยาลัยไทย เพือ่ เสริมสร้าง ความร่วมมือที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และประเด็นสุดท้าย ไทยจีนควรจะ เพิ่มความร่วมมือด้านการศึกษาวิจัย มีการ แลกเปลี่ยนนักวิจัย เป็นต้น เพื่อยกระดับผล งานศึกษาวิจัยให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น

等也成为了网购中的新兴词 汇。“近几年,中国人的购物 习惯发生很大改变,中国的城 市化与高科技化,特别是通讯 业的发展,使得中国国民更容 易接触网络。中国网民高达6 亿人,其中3.6亿选择网上购 物。这个发展,使得2015的电 子贸易额达到3880亿美元,较 2014年增长了37%,占全球电 子贸易总额的40%。”醍乐 堃·倪勇大使对中国电子商务 的发展了如指掌。 醍乐堃·倪勇大使表示, 中国电子商务的发展,是中泰 电子商务合作的一个重要商

机。泰国驻华大使馆目前正打 算将中国人购物方式的转变、 中国电子商务发展的趋势告知 泰国的企业家,希望泰国企业 家转变传统的销售方式,紧抓 中国电子商务发展的商机。 合作,在于互通你我。从 商家的角度来说,中泰电子商 务的合作,包括泰国企业走进 来与中国电商取得联系,也包 括中国电商企业走进泰国,与 泰国企业加强交流,提升泰国 电商水平。“泰国驻华大使馆 将扮演红娘的角色,为泰国企 业家牵线搭桥,使他们跟中国 的淘宝、京东等网购平台合

中国—东盟“朋友圈” 越发稳固的当下,圈内 国与国之间的合作也日趋紧 密,合作领域不断拓展,电子 商务、教育合作正在逐渐成为 各国经贸、人文合作的新路 径。泰国作为中国的“圈内好 友”,已有部分商家通过电商 途径进驻中国市场,双方教育 合作也日趋多元化。在此背景 下,本刊记者就中泰两国的电 商、教育合作采访了泰国驻华 大使醍乐堃·倪勇。 电子商务,中泰合作商机 随着中国网购的热潮愈演 愈烈,“双11”、“剁手党”

16


作,促进泰国企业家与中国电 子商务平台的发展。”醍乐 堃·倪勇大使说;为促进泰国 中小企业家与中国方面建立沟 通合作关系,据醍乐堃·倪勇 大使介绍,泰国驻华使馆计划 在2016年去泰国各地举办电子 商务说明会,开展中国电子商 务的沟通培训班,邀请中国的 电子商务专家、法律专家、企 业代表等去泰国参加,促进泰 国企业家在中国更好地经营销 售,与中国企业家合作。 从服务的角度来说,电子 商务涉及网上购物、网上交 易、电子支付等商务活动,是 一个虚拟的交易平台。具体到 中泰之间的电子商务合作,最 主要的还是要打通中泰之间的

支付渠道。对此,醍乐堃·倪 勇大使也认为,电子商务成功 与否最关键的是支付方式是否 存在问题。为促进中泰电子商 务支付渠道的畅通,醍乐堃· 倪勇大使表示,泰国驻华使馆 将促进泰国的几家银行与中国 的主管部门、相关行业、支付 平台沟通,推动他们的合作, 便利跨境支付,而且目前泰国 的开泰银行已落实此事。 虚拟的支付环境,除打通 支付渠道之外,面临的另一个 最主要的问题莫过于支付的安 全性,与网购同时存在的是网 上诈骗。醍乐堃·倪勇大使表 示,泰国驻华大使馆在努力促 进中泰电子商务合作的基础 上,也将努力确保中泰双方的

电子商务环境的安全性,营造 更加安全的支付环境,打击假 冒伪劣,保证电子商务的安全 和商品的质量。 加强教育合作,栽种友谊 之树 “经济搭台,文化唱 戏。”醍乐堃·倪勇大使在密 切了解中国最新经济发展趋 势,力促中泰经贸合作的情况 之下,还格外注重中泰两国之 间文化方面的交流与合作。 2016年为中国—东盟教育 交流年。关于中国—东盟之间 的教育合作,醍乐堃·倪勇大 使表达了殷切的希望并提出了 积极的建议。“教育交流、合 作是泰中关系的重要组成部 分。泰国提倡通过教育加强两 国青年之间相互了解、体验生 活,开展更深层次的沟通交 流,借此成为好友,在此基础 上发展出更加有意义的合 作。”大使说,并对进一步推 动泰中教育交流合作提出自己 三方面的建议。 一是希望发展建成中泰大 学合作网络。中国的广西大 学、厦门华侨大学和泰国法 政、清迈大学都有意愿和潜力 建立合作关系。还希望双方大 学 建 立 合 作 , 互 相 建 立“2+2”联合培养大学机 制,联合培养更多人才。 二是希望增加中泰大学间 人员交换机会,拓宽两国学术 界视野。大使表示,厦门华侨 大学聘请他担任客座教授,双 方将进一步探讨如何加强厦门 华侨大学和泰国大学的合作。 三是希望中泰大学加强学 术合作,探讨合作项目,通过 互派人员开展共同研究,通过 相互交流、共同研究,推动学 术水平共同提高。

17


“ความสัมพันธ์ไทย-จีน ที่ครบ 41 ปี แ ล้ ว หลั ง จากนี้ ก็ ค วรปล่ อ ย ให้เป็นไปตามธรรมชาติ โดยเฉพาะ ความสัมพันธ์ดา้ นประชาชนทีย ่ น ื ยาว นานและมัน ่ คงอยูแ่ ล้ว”

18


อานันท์ ปันยารชุน มองสัมพันธ์ไทย-จีนลึกซึ้ง..มั่นคง

阿南·班雅拉春--前总理 中泰关系密切及稳固

ความสั ม พั น ธ์ ไทย-จี น ให้ เ ป็ น โดย ธรรมชาติ” เป็นค�าแนะน�าจากอดีตนายกรัฐมนตรี 2 สมัยของไทย “อานันท์ ปันยารชุน” ผ่าน ประสบการณ์การท�างานสมัยด�ารงต�าแหน่ง เป็ น ปลั ด กระทรวงการต่ า งประเทศ และ เอกอัครราชทูตไทยประจ� าสหประชาชาติ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี และแคนาดา และได้ รับรางวัลแมกไซไซ สาขาบริการรัฐกิจ ประจ�า ปี 2540 กั บ 41 ปี ที่ มี ก ารสถาปนาความ สัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับจีน ซึ่ง ตลอดระยะเวลาที่ ผ ่ า นมาการเจริ ญ ไมตรี แน่นแฟ้น มีความใกล้ชิดมาก โดยเฉพาะหมู่ ประชาชน ซึ่งถือเป็นความสัมพันธ์ที่ยืนยาว และมั่นคง อานันท์อธิบายว่า ไทยมีความสัมพันธ์ กับจีนในวงกว้าง ไม่วา่ จะเป็นเชิงประวัตศิ าสตร์ เชือ้ ชาติ หรือการค้า การลงทุน ส่วนประชาชน ก็มีความใกล้ชิด เพราะการไปมาหาสู่ใช้เวลา ไม่นาน “ก่อนจะมีการลงนามในแถลงการณ์ ร่วมสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ไทยจีน อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2518 โดยนายกรัฐมนตรีจีน โจว เอิน ไหล

และนายกรั ฐ มนตรี ไ ทย ม.ร.ว.คึ ก ฤทธิ์ ปราโมช เป็นประเทศล�าดับ 101 ต่อจาก ฟิลิปปินส์ ซึ่ง ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ได้แถลงนโยบาย ต่อรัฐสภาว่าจะปรับความสัมพันธ์นโยบาย การต่างประเทศ โดยค�านึงถึงภูมิรัฐศาสตร์ ที่ เ ปลี่ ย นแปลงไปของโลก พร้ อ มเร่ ง ปรั บ ความสั ม พั น ธ์ กั บ ประเทศเพื่ อ นบ้ า น โดย เฉพาะจีน” อานั น ท์ ยั ง เล่ า ว่ า พล.อ.ชาติ ช าย ชุณหะวัณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่าง ประเทศ ขณะนั้น ระบุถึงแนวทางสร้างความ สัมพันธ์ระหว่างประเทศต้องเยือนจีนก่อน หากประสบความส�าเร็จ จะท�าให้การเยือน เวียดนามและลาวง่ายขึ้น ทั้งนี้ หลังจากปรับความสัมพันธ์แล้ว ถือเป็นความโชคดีที่รัฐบาลไทยทั้งหลายได้ สานต่ อ นโยบายกั บ จี น มาอย่ า งต่ อ เนื่ อ ง นั บ ตั้ ง แต่ ม.ร.ว.เกษมสโมสร เกษมศรี เอกอั ค รราชทู ต ไทยประจ� า กรุ ง ปั ก กิ่ ง คนแรก ก็ ส านต่ อ ภารกิ จ ได้ ดี มี ก ารแลก เปลี่ ย นคณะผู ้ แ ทนต่ า งๆ ทางการค้ า วัฒนธรรม การพบปะ ผู้น�าสองประเทศเริ่ม ไปมาหาสู่กัน อานั น ท์ ม องว่ า ปั จ จุ บั น จี น มี ก าร เปลีย่ นแปลงด้านภูมริ ฐั ศาสตร์เข้มข้นมากขึน้

จนกลายเป็นประเทศมหาอ�านาจอย่างแท้จริง แม้ ค วามจริ ง ในแง่ จี ดี พี ท างเศรษฐกิ จ ไม่ สามารถยกระดับเป็นมหาอ�านาจที่แท้จริงได้ เมื่อเปรียบเทียบกับสหรัฐ แต่ ด ้ ว ยประชากรที่ มี จ� า นวนมาก ประกอบกับพื้นที่ประเทศกว้างใหญ่ จึงเป็น เหตุผลให้จีนกลายเป็นมหาอ�านาจของโลก โดยปริยาย อย่างไรก็ตาม เมื่อจีนได้แสดงความ เป็ นมิ ต รที่ ดี กับ ประเทศต่ างๆ ในอาเซี ย น เพราะมีความใกล้ชิดด้านเขตแดน เป็นความ ใกล้ ชิ ด ที่ เ กิ ด ขึ้ น โดยธรรมชาติ รวมทั้ ง ประเทศไทย “จี น เป็ น มหาอ� า นาจในเอเชี ย การ เติ บ โตทางเศรษฐกิ จ ของจี น มี ค วามหมาย ลึ ก ซึ้ ง กั บ ไทย ทุ ก วั น นี้ มี ก ารเกิ ด ขึ้ น ของ สมาชิกประเทศอาเซียนในผืนแผ่นดินใหญ่ เพราะเมือ่ บวกมณฑลทางใต้ของจีนก็มขี นาด เป็นประเทศหนึ่งได้” อดีตนายกฯย�้าว่า ความสัมพันธ์ไทยจีน ที่ครบ 41 ปีแล้ว หลังจากนี้ก็ควรปล่อย ให้เป็นไปตามธรรมชาติ โดยเฉพาะความ สั ม พั น ธ์ ด ้ า นประชาชนที่ ยื น ยาวนานและ มั่นคงอยู่แล้ว ขณะที่ด้านการค้าการลงทุนก็ เติบโตตามภาวะเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

19


前总理阿南表示,中泰建交41年 了,未来应该让两国关系自然发 展,特别是民间关系,本身就已 经往来悠久及稳固。

让中泰关系顺其自然” 泰国两届前总理阿南· 班雅拉春说,他曾经担任泰国 外交部次长,泰国驻联合国代 表,泰国驻美国、德国加拿大 大使,还曾在1997年获得拉 蒙·麦格塞塞奖公共服务奖。 今年是中泰建交41周年, 从历史上看,两国有着悠久往 来关系,特别是民间关系更是 源远流长及稳固。 阿南前总理介绍,泰国和 中国之间关系广泛,不论是历 史,还是血缘或者贸易及投 资,民间方面更加亲密,因为 两个国家相距不远。 “中国总理周恩来以及泰 国总理克立·巴莫亲王在1975 年7月1日签署建交联合公报, 在此之前,泰国全球排名101 位,排在菲律宾之后,当时克 立总理宣布改善外交政策,要 考虑全球地区局势改变,特别 是改善邻国关系尤其是中国之 间的关系。 阿南说,那个时候的外 交部长是差猜·春哈旺,他 提议应该先和中国建立关 系,如果能取得成功,那么 和越南和老挝建立关系会更 加容易。

20

在中泰建交之后,幸运的 是后继政府都保持与中国之间 的良好关系,尤其是泰国第一 位驻华大使格森沙摩颂•格森 西亲王的出色工作,推动两国 贸易、文化代表团相互交流, 以及两国领导人互访。 阿南认为,目前中国重 视地缘政治,并且从经济增 长角度看,中国迈入超级大 国行列,仅次于美国。不过 中国人口众多,地大物博, 这使得中国成为全球隐形的 超级大国。 不论如何,中国在外交上 对待东盟国家展示出友好的姿 态,毕竟国与国之间地理位置 相近,也就自然产生亲密感, 也包括泰国在内。 中国是亚洲地区的超级大 国,中国经济增长对泰国有深 远的影响,虽然现在东盟在亚 洲地区成立,但和中国南部的 几个省份相比,这些省份总面 积就等同于一个国家。 前总理阿南表示,中泰建 交41年了,未来应该让两国关 系自然发展,特别是民间关 系,本身就已经往来悠久以及 稳固,贸易投资也跟随经济发 展逐步增长。


21


22


23


24


สะพานเชื่อมสัมพันธภาพไทย-จีน

‘วรรณไว พัธโนทัย’ สายใยที่ตัดกันไม่ขาด 连接友谊的桥梁 常怀与周恩来 剪不断的牵挂

ณะที่ ห น้ า ประวั ติ ศ าสตร์ บั น ทึ ก ไว้ ว ่ า ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับ จีนเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2518 หรือเมื่อ 41 ปีที่แล้ว โดย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช นายกรัฐมนตรี ในขณะนัน้ ได้ลงนาม สร้างสัมพันธ์ทางการทูตกับนายกรัฐมนตรี โจว เอิน ไหล ของจีน และไทยเพิ่งผ่านพ้นการเฉลิมฉลอง 40 ปี ของความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน เมื่อปีที่ผ่านมา แต่หากจะย้อนถึงความผูกพันของสอง ประเทศแล้ว มีการติดต่อกันมาอย่างยาวนาน นับแต่โบราณกาล สามารถย้อนไปได้ถึงสมัย ราชวงศ์ฮั่นตะวันตกของจีนเลยทีเดียว มีบนั ทึกประวัตศิ าสตร์เกีย่ วกับชนชาติ ไทยที่ เ ด่ น ชั ด ก็ คื อ ความสั ม พั น ธ์ ร ะหว่ า ง อาณาจักรสุโขทัยกับจีน ทีม่ กี ารติดต่อค้าขาย ระหว่างกัน และความสัมพันธ์ทางสายเลือด ระหว่างไทยกับจีน น่าจะเริม่ มีขนึ้ ในช่วงนีด้ ว้ ย จากการอพยพของชาวจีนในช่วงสงครามสมัย

ราชวงศ์หยวนและในช่วงต้นราชวงศ์หมิง นับจากนั้นมา ไทยกับจีนต่างก็มีการ ติดต่อค้าขายกันมาโดยตลอด และมีชาวจีน จ�านวนมากเข้ามาตัง้ รกรากในไทย โดยเฉพาะ ในช่วงสงครามโลกและสงครามกลางเมือง ของจีนในทศวรรษที่ 1930-1950 ที่ชาวจีน จากมณฑลทางใต้ต่างหลบหนีภัยสงคราม และความอดอยากเข้ามาสร้างชีวิตใหม่ใน ประเทศไทยจ�านวนมาก จึ ง อาจกล่ า วได้ ว ่ า ความสั ม พั น ธ์ ที่ ใกล้ชิดดุจพี่น้องระหว่างไทยกับจีนได้มีมา อย่างยาวนาน เหมือนค�ากล่าวที่ว่า “ไทยจีน ใช่อื่นไกล พี่น้องกัน” นัน่ อาจจะเป็นทีม่ าของความสัมพันธ์ลบั ทางการทูตระหว่าง 2 ชาติผา่ น 2 พีน่ อ้ งตระกูล พัธโนทัย “วรรณไวและสิรินทร์” ที่ถูกส่งตัว ไปในฐานะบุตรบุญธรรมของ โจว เอิน ไหล ด้วยวัยเพียง 12 และ 8 ปี วันนี้ วรรณไว พัธโนทัย เปิดบ้านย่าน เมืองเอกต้อนรับทีมบรรณาธิการ TAP เพื่อ

25


บอกเล่าถึงเรื่องราวในอดีต บทเรียนส�าคัญที่ ได้เรียนรู้จากการใช้ชีวิตในจีนในฐานะบุตร บุญธรรมของโจว เอิน ไหล พร้อมกับภารกิจ ส�าคัญที่ได้รับมอบหมายคือ ต้องการให้เรา 2 พีน่ อ้ งเป็นสะพานเชือ่ มความสัมพันธ์ไทย-จีน วรรณไวในวัย 74 ปี บอกว่า เราก็เพียง แค่ส่วนหนึ่ง แต่สามารถท�าสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้ แม้เวลาจะผ่านมาแล้วกว่า 60 ปี แต่ความ ทรงจ�ายังเด่นชัด ในวันที่เดินทางไปถึงมีการ ต้อนรับใหญ่โต จัดให้อยู่ในบ้านขุนนางเก่า ซึ่งเดิมตั้งใจจะให้เป็นสถานทูตไทย แต่ก็ให้ สองคนพี่น้องอยู่ด้วยกัน มีคนไทยที่โน่นมา เป็นอาจารย์สอนทีบ่ า้ น แต่ไม่นานก็ถกู จับเข้า โรงเรียน ได้ไปเรียนรู้จากประสบการณ์จริง เลย เปรียบก็เหมือนเมาคลี (ลูกหมาป่า) ที่ให้ ไปเรียนรู้เอง “ตอนเข้ า ไปโรงเรี ย นก็ ไ ม่ มี ใ ครรู ้ เพราะมันเป็นความลับ เปิดเผยไม่ได้ว่าเป็น ลูกบุญธรรมท่านโจว เวลาไปโรงเรียนก็ไป

26

แบบธรรมดา คนจีนเขารู้แค่ว่าเป็นคนต่าง ประเทศหรือเป็นนักเรียนแลกเปลีย่ น เขาเพิง่ มารู ้ ต อนหลั ง ตอนที่ ค วามสั ม พั น ธ์ เ ริ่ ม ดีขึ้นแล้ว” หากจะถามว่าการได้ไปใช้ชีวิตในจีน คอมมิ ว นิ ส ต์ ใ นยุ ค แรกได้ เรี ย นรู ้ อ ะไรบ้ า ง วรรณไวบอกว่าจีนสมัยนั้นยังเป็นสังคมนิยม ปั จ จั ย ทางการผลิ ต ทั้ ง หมดที่ เ ป็ น ทุ น นิ ย ม รัฐเป็นผู้จัดการหมด ทั้งร้านอาหาร ที่ดิน ไร่นา เขาท�าสังคมให้เป็นเสมือนกับครอบครัว ในบ้าน สมัยก่อนถือว่าความเจริญทางวัตถุกบั ความเจริญทางจิตใจต้องไปคู่กัน จะมีอะไร น�าหน้าไปก่อนไม่ได้ “สมั ย ก่ อ นจี น เหมื อ นเป็ น โลกพระ ศรีอาริย์ ไม่มีชนชั้น เสมอภาค เท่าเทียมกัน สังคมแบบนี้ ไม่เห็นที่ไหนในโลกนี้ เวลาคน ต่างประเทศไปจีน เขาจะเสียสละให้ แล้วคน จีนมีเหตุผล และเขาก็สอนมาตลอด เรื่อง ความรักชาติ การเสียสละ จิตใจดี สะอาด

เหมือนผ้าขาว มันเห็นได้จากความรู้สึก “สมัยก่อน จีนเขาไม่ได้คดิ ถึงความเป็น ใหญ่ ไม่อยากครอบครองประเทศอื่นเลย ใครอยากใหญ่ ใหญ่ไปเลย ขอแค่ประชาชน อยู่ดีมีสุขแค่นั้นพอ เราจึงจะไม่เห็นจีน ส่ง ทหารไปประจ�าการอยู่ที่ไหนๆ “สมัยก่อนจะไม่มีเศรษฐีจีน เหมือนที่ เราเห็นว่าทุนจีนออกไปลงทุนทั่วโลกอย่าง ทุกวันนี้” นอกจากการเรี ย นรู ้ ก ารใช้ ชี วิ ต ใน ต่างแดนแล้ว การมีโอกาสได้เป็นบุตรบุญธรรม ของอดีตนายกรัฐมนตรี โจว เอิน ไหล ยังสอน ให้เขาได้เรียนรู้ภาระหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ของผู้น�า โดยเฉพาะผู้น�าอย่าง โจว เอิน ไหล ที่ปลูกฝัง ว่าการเป็นผูน้ า� มีบทบาททีส่ า� คัญมาก ผูน้ า� จะ ต้องเป็นผู้เสียสละอย่างแท้จริง ภาพที่ชัดเจน ที่ สุ ด คื อ ในวั น ที่ ท ่ า นโจวเสี ย ชี วิ ต ลง สิ่ ง ที่ ปรากฏต่อสาธารณชนคือท่านโจวไม่มเี งินฝาก ในธนาคารเลย และไม่ใช่เพียง โจว เอิน ไหล


เท่านั้น แต่ไล่มาตั้งแต่ท่านเหมา เจ๋อ ตุง ประธานพรรคคอมมิวนิสต์แห่งสาธารณรับ ประชาชนจีนเอง ก็แสดงให้ประชาชนเห็นว่า เขาเสียสละเพื่อประชาชน ซึ่งความศรัทธา ของประชาชนนั้นส� าคัญมากต่อผู้น�า โดย เฉพาะผู้น�าจีนที่เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด “ผมได้เรียนรู้ว่าความเป็นผู้น�า ต้อง รู้จักเสียสละ น่าเคารพนับถือ ซึ่งจีนสมัยนั้น เขาชอบพูดมากกว่าเขียนเป็นตัวหนังสือ ไม่ ต้องมีสัญญาอะไร เพราะเขาบอกว่า พูดแล้ว ไม่กลับค�า นั่นหมายถึงค�าพูดของผู้น�าส�าคัญ ที่สุด “ท่านโจวเป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือ เมื่อ คุณพ่อผม (สังข์ พัธโนทัย) พูดกับท่านโจวว่า จะส่งลูกไป แม้จะไม่ได้ไปอย่างเป็นทางการ แต่ทางจีนซาบซึ้งมาก เพราะตอนนั้นคุณพ่อ ก็ไม่มีต�าแหน่งทางราชการอะไร แต่คนเขารู้ ว่าเป็นที่ปรึกษาของจอมพล ป.พิบูลสงคราม

(อดีตนายกรัฐมนตรี) ท่านโจวก็รู้ข้อมูลดี” ท่านโจวถือเป็นนักการทูต ท่านบอก กั บ ทู ต ทั้ ง หลายว่ า อย่ า มองความสั ม พั น ธ์ ทางการส�าคัญกว่าความสัมพันธ์ส่วนตัว ให้ มองความสัมพันธ์สว่ นตัวก่อน เพราะจะก่อให้ เกิดความสัมพันธ์ของรัฐได้ ปั จ จุ บั น เราจะเห็ น ว่ า สั ม พั น ธภาพ ระหว่างเรากับจีนอยู่ในขั้นดีมากๆ แต่ความ สัมพันธ์ของสองประเทศ แม้จะยาวนาน ก็ใช่ ว่าจะราบรืน่ ตลอด วรรณไวยังเล่าอีกว่า ความ สัมพันธ์ของไทย-จีนแยกเป็น 2 ระยะคือ ความสัมพันธ์ของไทย-จีน กับความสัมพันธ์ ไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ถ้าพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับ ไทยก็ มี ม านั บ พั น ๆ ปี แต่ กั บ สาธารณรั ฐ ประชาชนจีน เรามีกันมาแค่ 51 ปีเท่านั้น ระยะที่ 1 คือตั้งแต่ปี 1949 คือ ตั้งแต่ ก่อตัง้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ทีค่ อมมิวนิสต์

ขึ้นมาเป็นใหญ่จนถึง 1965 ระหว่างนั้น เรา เป็นศัตรูกนั ไม่ได้เป็นมิตรกัน แต่จากปี 1965 เป็นต้นมา ความสัมพันธ์เป็นมิตรกันและ แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นทุกวัน เรื่องความสัมพันธ์ ระหว่างไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีนต้อง แยกให้ถูก และต้องเข้าใจ แต่คนยุคหลังๆ นี้ ลืมหมดแล้ว และด้วยความสัมพันธ์ทยี่ าวนานเช่นนี้ เราได้ประโยชน์แน่นอน และก็ไม่มใี ครเสียผล ประโยชน์เช่นกัน คนจีนจะไม่มวี นั ลืมคนไทย เพราะจีนกับไทยนั้น เป็นเหมือนพี่น้องกัน เหมือนเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ในยุคที่โลกหมุนเวียน เปลีย่ นไป จีนไม่สามารถต้านทานกระแสโลกา ภิวตั น์ทตี่ อ้ งเปิดรับการลงทุนจากต่างประเทศ ท�าให้จนี ต้องปรับนโยบาย หันมาเปิดประเทศ อ้ า แขนรั บ การลงทุ น ที่ ท ะลั ก เข้ า มาอย่ า ง ต่ อ เนื่ อ ง และส่ ง ผลให้ เ ศรษฐกิ จ จี น ขยาย ตัวอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา และ กลายเป็ น ประเทศที่ มี เ ศรษฐกิ จ ใหญ่ เ ป็ น อันดับ 2 ของโลก “ตอนนี้เขาไม่ได้ปิดประเทศแล้ว แต่ เปิดให้หลายประเทศเข้าไปลงทุนในประเทศ จะไปใช้นโยบายเก่าๆ ก็ไม่ได้เหมือนเดิม ส่วน อนาคตจะเป็นอย่างไรต้องติดตามต่อไป บอก ได้เลยว่าคนจนจะมากขึน้ เหมือนกับทุนนิยม ในทุ ก ประเทศ แล้ ว ก็ จ ะเกิ ด การสู ้ ร บกั น เหมือนเดิม แต่สุดท้ายคนจนจะมาสู้คนรวย ได้อย่างไร แล้วจะกลายเป็นวัฏจักรแบบนี้ ตลอดไป” แต่ดว้ ยกระแสโลกทีเ่ ปลีย่ นแปลง และ ไม่วา่ ประเทศไหนก็ฝนื ไม่ได้ จีนก็เช่นเดียวกัน ทุกอย่างต้องหมุนไปตามกัน ขึน้ อยูก่ บั วิธกี าร บริหารจัดการของรัฐบาล จะมีวิธีการจัดการ ทั้งด้านจิตใจและศีลธรรมอย่างไรให้สมดุลใน ยุคทุนนิยมเช่นนี้ ถึงแม้เขาจะใช้ชวี ติ บัน้ ปลายอยูท่ เี่ มือง ไทยแล้ว แต่ความผูกพันทางจิตใจก็ไม่ได้ทา� ให้

27


เขาห่างไกลจากจีน ซึ่งวรรณไวยอมรับว่า ปัจจุบันเขาอาจไม่ใช่กูรูผู้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับ จีนอย่างลึกซึ้งทุกด้าน แต่เขาเป็นคนหนึ่งที่ ติดตามข่าวสารความเคลือ่ นไหวของจีนอย่าง ใกล้ชิด ซึ่งขณะนี้ก็ยังห่วงอยู่ว่าจีนจะไปทาง ไหน เพราะในยุคสมัยนี้ การจะพัฒนาทัง้ วัตถุ และจิตใจให้เติบโตไปพร้อมกันคงเป็นเรื่อง ยาก โดยเฉพาะในจีน..ประเทศที่มีประชาชน นับพันล้านคน เขาย�้าว่า ในความเป็นจริงแล้วทุกคน ยอมรับว่าไม่มีอะไรดีโดยสมบูรณ์ และไม่มี อะไรไม่ดีโดยสมบูรณ์ เมื่อมีส่วนดีก็ต้องมี ส่วนเสีย อยู่ที่ว่าด้านไหนจะมากกว่ากัน แต่ จีนสมัยก่อนดีกว่าสมัยนี้มาก เพราะเมื่อก่อน พู ด ได้ เ ลยว่ า จี น เป็ น ประเทศที่ ถื อ ว่ า เป็ น ประเทศที่เสียสละให้ประเทศอื่น แต่เดี๋ยวนี้ ประเทศอื่ น ต้ อ งเสี ย สละให้ ป ระเทศจี น มันกลับกันไปหมด ส� า หรั บ ความเป็ น ห่ ว งต่ อ ภาวะ เศรษฐกิ จ ของจี น ที่ อ ยู ่ ใ นช่ ว งชะลอตั ว นั้ น วรรณไวออกตัวว่าไม่ใช่นกั เศรษฐศาสตร์หรือ ผู ้ เชี่ ย วชาญด้ า นเศรษฐกิ จ แต่ เชื่ อ ว่ า แม้ เศรษฐกิจจีนจะชะลอตัวลงบ้าง แต่จีนจะไม่ ลดความเป็นจีนแน่นอน จีนไม่มวี นั ตาย ไม่วา่ จะล้มหรือไม่ล้มก็ตาม “แม้วา่ จีนจะไปใช้ระบบการเมืองค่อน ไปทางทุ น นิ ย ม แต่ ลึ ก ๆ แล้ ว ความเป็ น สังคมนิยมของจีนก็ยังมีอยู่ เขายังสามารถ ควบคุมได้ และเขามีกฎเหล็กคือถือวินัยเป็น ที่หนึ่ง แม้ว่าสมัยนี้จะอ่อนลงมาก แต่ก็ยัง ถือว่าอยู่ในระดับสูง เมื่อเทียบกับหลายๆ ประเทศ” นอกจากนีผ้ ลกระทบจากการชะลอตัว ของเศรษฐกิจจีน ก็ไม่นา่ มีปญ ั หาต่อเศรษฐกิจ ไทย ไทย-จีนมันตัดกันไม่ขาด แม้เป็นมิตรกัน ไม่ได้ก็อย่าเป็นศัตรูกัน ในช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ครั้งนี้ วรรณไวเล่าด้วยน�้าเสียงทีเ่ ต็มเปีย่ มด้วยความ

28

“ถ้าทัง้ สองคนจะนึกถึงบุญคุณของคนจีน หรืออยากจะตอบแทนบุญคุณของประเทศจีน ก็ ข ออย่ า งเดี ย วคื อ เป็ น สะพานเชื่ อ มความ สัมพันธ์มต ิ รภาพไทยจีนก็พอแล้ว”

ภาคภูมใิ จว่า ชีวติ ในแดนไกลของเขาและน้อง สาวในช่วงนั้น เต็มไปด้วยความอบอุ่นและ เติมความเอิบอิ่มกับสิ่งที่ท่านโจว เอิน ไหล บอกกับเขาทั้งสองคนว่า “เธอสองคนมาอยูเ่ มืองจีน ก็ตอ้ งศึกษา สิ่งดีๆ ของจีนกลับไป เพราะประเทศจีนมีทั้ง

ส่วนดีและไม่ดี อย่าไปเลียนแบบจีนทั้งหมด” และสิ่ ง สุ ด ท้ า ยที่ ท ่ า นโจวสั่ ง ไว้ ก็ คื อ “ถ้ า ทั้ ง สองคนจะนึ ก ถึ ง บุ ญ คุ ณ ของคนจี น หรืออยากจะตอบแทนบุญคุณของประเทศจีน ก็ขออย่างเดียวคือ เป็นสะพานเชื่อมความ สัมพันธ์มิตรภาพไทย-จีนก็พอแล้ว”


1

975年7月1日,中国周恩来 总理与泰国克立·巴莫总 理签署建交联合公报,宣布泰 王国与中华人民共和国正式建 立外交关系。 虽然去年刚刚举办中泰建 交40周年庆祝活动,但是如果 追溯历史发现,中泰两国关系 在历史上可以说是源远流长,

根据泰文古书资料记载,中泰 关系可以追溯到西汉时期,当 时 泰国素可泰王朝就与中国 有贸易往来,并且两个民族通 婚,而且在元末明初战乱期 间,不少中国民众到泰国避 难。 从那以后,中泰两国保持 贸易往来,不少中国民众在泰 国建立家庭,特别是19301950年世界大战爆发以及中国 内战期间,中国南部地区民众 为躲避战争,来泰国过起新生 活。所以说中泰两国人们亲密 关系源远流长,真正是体现了 一句老话“中泰一家亲”。 说起中泰建交不得不提泰 国“帕塔诺泰”家族两兄妹 “常怀”和“常媛”,他们在 建交前就被送到中国,肩负与 中国建立联系的秘密任务,在 周恩来照顾下长大成人,泰国 也将他们视为是周恩来的义子 义女,当时兄妹俩分别仅12岁

和8岁。 常怀先生(泰文名:万 维·帕塔诺泰)在曼谷家中接 受东盟杂志采访,回忆那一段 难以磨灭的经历,他年幼就背 负不可公开的艰巨任务来到中 国,泰国政府希望通过他们建 立与中国联系的桥梁,并且有 幸成为周恩来义子。 常怀先生今年已经74岁, 他谦虚的说自己作为历史进程 的一份子,很高兴能为中泰建 交做贡献,即使时间已经过去 60多年,但依然记忆如新,还 记得第一天抵达中国的情景, 中方为他们兄妹举行隆重的欢 迎仪式,并且安排住进北京一 座四合院,这座四合院原本计 划作为泰国驻中国大使馆。当 时两兄妹住在一起,中方安排 泰国老师给他们上课,后来还 将他们安排到北京第一中学读 书,不过当时年纪小,有点抵 触情绪。

29


“去学校读书,没有人知 道我们来中国的目的,也不知 道我们是周恩来的义子,因为 是不可公开的秘密,只能对外 说我们是交换生,后来中泰建 交之后,人们才知道我们到中 国去的目的。” 谈及当时在中国生活的感 受,常怀先生说,因为中国当 时是一个共产主义社会,生产 资料都是集体所有,由政府进 行分配,包括食物、土地、田 地,社会犹如一个大家庭,以 前要讲究物质和精神平衡,不 能偏向一边。 “以前中国就好像是神话 故事中的人间净土,没有阶 级,人人平等,这样的社会在 其他国家是没有的。外国人到 中国,中国人牺牲自己的时间 来照顾你,做事情有理由。学

30

校里教导爱国、奉献、爱心, 可以感觉出当时的人就犹如一 张白纸。” 以前中国没有想称霸,不 想控制其他国家,谁想做全球 大哥就由他去,只要民众人们 生活幸福就行,所以我们可以 看到中国没有派出军队在其他 国家驻扎。 以前中国没有富翁,但是 今天大家看到很多中国富翁在 国外投资。 在中国生活的经历,以及 作为周恩来义子的特殊身份, 常怀从周恩来总理身上看到鞠 躬尽瘁、死而后已的精神,特 别是作为国家领导人为党、为 国日夜操劳。 特别是周恩来去世的时 候,一生没有一分钱存款,不 光是周恩来总理,毛泽东主席

也是为党和国家的发展付出许 多心血,正是这种精神赢得民 众的心,中国领导人是世界的 榜样。 “我从中国领导人身上学 习到很多东西,特别是乐于奉 献精神,令人敬佩。在中国那 个时代,周总理说话比写字 多,不需要写什么合约,因为 他说话算数,一言既出驷马难 追。 常怀先生说周恩来是一位 值得敬佩的领导人,父亲乃 讪·帕塔诺泰当时和周恩来说 要将他送去中国,中国政府很 感动,因为那个时候父亲的职 务是总理銮披汶顾问,聪明的 周恩来总理清楚知道,父亲的 话传递泰国政府建交的诚意。 周恩来是一位伟大的外交 家,他曾经和多国大使说,不


周恩来最后还嘱咐 “如果你们 还惦记中国人的恩情,想要报 恩,只求你们做好中泰友谊的桥 梁。”

要认为正式官方的关系比私人 关系重要,要先建立私人关系 才能建立政府官方关系。 现在我们看到中泰关系密 切,但是从两国历史上看,也 不是一直来没有波折。常怀 说,泰中关系其实分为两个阶 段,是中泰民间关系,二是中 华人民共和国和泰国的官方关 系。 算起来中泰交往关系有上 千年,但实际上和中华人民共 和国关系只有51年。 其中第一阶段从1949年 起,中华人民共和国成立,共 产党成为执政党,但是在1965 年前中泰是敌对关系。1965年 以后关系才友好,并且延续至 今。泰国和中国的关系要分清 楚,弄明白,不过现在的年轻 人已经不了解了。 中泰有着悠久的历史关 系,两国一定可以从中获益,

没有谁会吃亏,中国人民不会 忘记泰国人民,因为中泰一家 人,血浓于水。 不论如何,中国建国后无 法违背全球化趋势,国外的投 资进入中国,中国政府因此改 变政策,实施改革开放迎接国 外的投资者,推动中国经济快 速发展,变成世界第二大经济 体。 中国早已不再闭关锁国, 而是敞开大门迎接投资。至于 未来政策会如何调整,大家可 以密切关注。但是一个国家如 果穷人增加,贫富差距就会产 生阶级矛盾,就会变成一个恶 性循环。 但是全球局势变动,不论 哪个国家也不能违反规律,中 国也一样,重点取决于政府的 管理方式,如何使得精神和道 德两者平衡。 即使常怀先生已经回到泰

国生活,但是他的心还牵挂中 国,常怀先生说,现在不能说 是中国通了,没有了解中国任 何方面,但是仍关注中国的一 举一动,目前也在担心中国要 怎么发展,因为这个时代,物 质发展以及精神发展很难平 衡,特别是在中国这么大的人 口国家。 常怀先生诚恳说,人无完 人,没有谁是一无是处,事物 有好有坏,就看是哪一方比例 大。以前可以说中国是一个奉 献的国家,牺牲自己给其他国 家做贡献,但是现在恐怕其他 国家要反过来给中国经济做奉 献。 对于中国经济放缓的问 题,常怀先生说自己不是经济 专家,但是相信即使中国经济 放缓,中国不会放弃国家原 则,不会在世界舞台上倒下或 退出。 “中国在建设具有中国特 色的社会主义,国家管理有铁 的法律,官员讲究纪律第一, 这个时代党的组织纪律还是很 高。” 此外,中国经济放缓应该 对泰国没有影响,泰国中国关 系剪不断,即使做不了朋友, 也不会成为敌人。 在采访最后,常怀先生深 情及自豪表示,在中国那段生 活经历温馨而幸福,还记得周 恩来总理说过一句话“你们两 个人在中国,好好学习,以了 解中国和它的文明,将中国的 好的方面带回去,这样,你们 俩将来可干大事。” 周恩来最后还嘱咐 “如 果你们还惦记中国人的恩情, 想要报恩,只求你们做好中泰 友谊的桥梁。”

31


32


33


กร ทัพพะรังสี สานสัมพันธ์ภาคประชาชน ตอกย�้า ‘จีน-ไทย..พี่น้องกัน’

功•塔帕朗西--泰中友协会长 中泰一家亲 民间外交的基石

34


35


นื่ อ งในโอกาสที่ นิ ต ยสาร TAP ฉบั บ ปฐมฤกษ์ ได้กา� หนดวางจ�าหน่ายในวันที่ 1 กรกฎาคม 2559 ซึ่งตรงกับวันครบรอบการ สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่าง สาธารณรัฐประชาชนจีนกับราชอาณาจักร ไทยอย่ า งเป็ น ทางการ ที่ มี ขึ้ น เมื่ อ วั น ที่ 1 กรกฎาคม 2518 นับรวม 41 ปี ทางนิตยสาร TAP ได้รับเกียรติจากนายกสมาคมมิตรภาพ ไทย-จีน “กร ทัพพะรังสี” ซึ่งเป็นหนึ่งในทีม รัฐบาลไทยในขณะนั้น และอยู่ในเหตุการณ์ การลงนามครัง้ ประวัตศิ าสตร์ ให้สมั ภาษณ์ถงึ เรื่องราวความสัมพันธ์ไทย-จีนอันยาวนาน “จี น -ไทย ใช่ อื่ น ไกล พี่ น ้ อ งกั น ” ค�าขวัญของสมาคมมิตรภาพไทย-จีน ที่ก่อตั้ง ขึ้ น เพื่ อ สานต่ อ ความสั ม พั น ธ์ ร ะหว่ า งภาค ประชาชนต่อประชาชน กรเท้าความเมื่อครั้ง การเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลไทย กับรัฐบาลจีนเมื่อ 41 ปีก่อนว่า

36

“ตอนนั้นผมเป็นเลขานุการรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการต่างประเทศ คือ พล.อ.ชาติ ชาย ชุณหะวัณ ซึ่งร่วมกันท�างานเพื่ิอเตรียม การให้ ท ่ า นนายกรั ฐ มนตรี ข ณะนั้ น คื อ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นผู้ลงนามที่กรุง ปักกิ่ง ผมยืนยันว่าได้ท�าหน้าที่ในทุกวิถีทาง

ทั้งในฐานะนายกสมาคมมิตรภาพไทย-จีน และเมือ่ สมัยทีเ่ ป็นรัฐมนตรี เพือ่ ท�าให้ทงั้ ภาค รัฐบาลและภาคประชาชนทั้งสองประเทศมี ความใกล้ชดิ แน่นแฟ้นกันยิง่ ขึน้ มาโดยตลอด” กล่าวส�าหรับ สมาคมมิตรภาพไทยจี น ได้ ก ่ อ ตั้ ง ขึ้ น หลั ง จากรั ฐ บาลไทยและ


“ใน 10 ประเทศอาเซียน ไทยถือเป็นประเทศ ทีไ่ ม่เคยมีปญ ั หาใดๆ กับจีน ซึง่ เกิดจากความ รู้สึกภายในของคนทั้งสองประเทศ บนพื้น ฐานทีร่ ส ู้ ก ึ เหมือนกันจริงๆ ว่า เราเป็นพีน ่ อ้ ง กัน มีความสัมพันธ์ทลี่ ก ึ ซึง้ ต่อกัน”

รั ฐ บาลจี น ได้ ล งนามในข้ อ ตกลงเปิ ด สั ม พั น ธภาพอย่ า งเป็ น ทางการ ระหว่ า ง รัฐบาลต่อรัฐบาลเมือ่ ปี 2518 ซึง่ เป็นด�าริของ อดีตนายกรัฐมนตรีของจีน “โจว เอิน ไหล” ระหว่างสนทนากับ พล.อ.ชาติชาย อดีตรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงการต่างประเทศในขณะนั้น ว่า “เมื่อรัฐบาลต่อรัฐบาล” ได้เปิดช่องทาง ส�าหรับการติดต่อกันแล้ว จีนขอเสนอที่จะ เปิดอีกช่องทางหนึ่งเพื่อการติดต่อประสาน งานระหว่ า ง “ประชาชนต่ อ ประชาชน” โดยมีการจัดตั้ง “สมาคมมิตรภาพจีน-ไทย” ขึ้นที่กรุงปักกิ่ง และมีการจัดตั้ง “สมาคม มิตรภาพไทย-จีน” ขึ้นที่กรุงเทพฯ ทั้งนี้ สมาคมมิตรภาพไทย-จีนถือเป็น องค์กรที่ไม่ใช่รัฐบาลแห่งแรกในประเทศไทย

ที่ ไ ด้ รั บ การรั บ รองอย่ า งเป็ น ทางการจาก รั ฐ บาลจี น และรั ฐ บาลไทย และมี ส มาคม มิตรภาพ จีน-ไทย ทีก่ รุงปักกิง่ เป็นคูพ่ นั ธมิตร กันมาตั้งแต่แรกเริ่ม หลังจากนั้นก็มีองค์กร เอกชนทีเ่ กีย่ วข้องกับทัง้ สองประเทศก่อตัง้ ขึน้ อีกมากมายทัง้ ในประเทศไทยและประเทศจีน ทัง้ สองสมาคมข้างต้นมีกจิ กรรมติดต่อ ซึ่งกันและกันมาโดยตลอด และมีบทบาท ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่าง ประชาชนต่อประชาชนของทั้งสองประเทศ ทัง้ ด้านสังคมวัฒนธรรม เศรษฐกิจ การศึกษา และด้านกีฬาอย่างต่อเนื่อง อันส่งผลให้เกิด ความเข้าใจ ใกล้ชิดและร่วมกันพัฒนาให้ สังคมของทั้งสองประเทศมีกิจกรรมร่วมกัน ฉันพีน่ อ้ งและเครือญาติอย่างแท้จริงตลอดมา

กรเล่าว่า ตนถือเป็นผู้ใหญ่คนแรกของ ไทยทีเ่ ดินทางตามล�าน�า้ โขงจากเมืองสิบสองปัน นา มณฑลยูนนาน ถึง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย และเป็ น ผู ้ ใ หญ่ ค นแรกที่ ขั บ รถน� า ขบวน คาราวานกว่า 10 คันจากประเทศไทยไปถึง เมืองซัวเถา มณฑลกวางตุง้ ในโอกาสแห่งการ ฉลองมิตรภาพไทย-จีน ครบรอบ 35 ปี หาก นับรวมตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ตนมีโอกาส เดินทางไปประเทศจีนรวม 127 ครั้ง และ ก�าลังจะเดินทางไปในเดือนกรกฎาคมปีนี้อีก 2 ครั้ง รวมเป็น 129 ครั้ง “ในระยะ 41 ปีทผี่ า่ นมา ความสัมพันธ์ ไทย-จีน ทัง้ ด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรม การศึกษา และกีฬา ถูกใช้ผา่ นช่องทางนีม้ าโดยตลอด และ เมือ่ สองปีทผี่ า่ นมา โครงการ 10+1 มีการจัดงาน ที่ท่าเรือของกวางสี ประเทศจีน และภาค ประชาชนมีตวั แทนจาก 10 ประเทศอาเซียน ไปร่วมแสดงวัฒนธรรมของแต่ละประเทศ ผมก็นา� คณะจากไทยไปร่วมแสดงด้วย” ไม่ เ ฉพาะแต่ กิ จ กรรมด้ า นศิ ล ป วัฒนธรรม แต่กรยังมีโอกาสน�าคณะนายก เทศมนตรี 8 จังหวัดของไทย ไปร่วมงาน นิทรรศการแสดงสินค้าจีน-อาเซียน (ChinaASEAN Panorama)ที่ เ มื อ งหนานหนิ ง ประเทศจีน เมื่อปี 2558 เป็นการต่อยอด ความสัมพันธ์ประชาชนต่อประชาชนทีพ่ ฒ ั นา ไปอีกระดับหนึ่ง และส่วนตัวได้มีโอกาสไป ร่วมงานทีห่ นานหนิงหลายครัง้ โดยทุกปีจะไป เยี่ยมบูธของคนไทย สิ่งที่สังเกตได้คือ ผลไม้ ไทยจะได้รบั ความนิยมเป็นอันดับต้นๆ ซึง่ เป็น เรื่องที่น่ายินดี ส�าหรับบทบาทของสมาคมมิตรภาพ ไทย-จี น ที่ เ ป็ น รู ป ธรรมและจะมุ ่ ง ให้ ค วาม ส�าคัญอย่างต่อเนื่องต่อไปคือ ด้านการศึกษา โดยมีการแลกเปลีย่ นนักเรียนนักศึกษา ตลอด จนอาจารย์ของทั้งสองประเทศทุกปี โดยมุ่ง เน้นการเสริมสร้างความรู้พื้นฐานที่แน่นแฟ้น ตั้งแต่ระดับเยาวชน ที่จะก้าวไปสู่การเป็น ข้าราชการหรือนักธุรกิจต่อไป

37


เพราะอนาคตของประชาชนอยู่ที่การ ศึ ก ษา ซึ่ ง จะน� า ไปสู ่ ค วามเข้ า ใจระหว่ า ง ประชาชนต่ อ ประชาชน ที่ เ ป็ น รากฐานที่ ส�าคัญที่สุดที่จะน�าไปสู่สันติภาพที่ยาวนาน “ใน 10 ประเทศอาเซียน ไทยถือเป็น ประเทศที่ไม่เคยมีปัญหาใดๆ กับจีน ซึ่งเกิด จากความรู้สึกภายในของคนทั้งสองประเทศ บนพื้นฐานที่รู้สึกเหมือนกันจริงๆ ว่า เราเป็น พี่น้องกัน มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน”

สอดคล้องกับปีนี้ ทีจ่ นี กับอาเซียนสร้าง ความสัมพันธ์คู่เจรจาครบ 25 ปี และเป็นปี แลกเปลี่ยนการศึกษาระหว่างสองฝ่าย ถือ เป็นปีสา� คัญทีร่ บั ช่วงต่อจากอดีต และเปิดทาง สู่อนาคต ซึ่งประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มี บทบาทส� า คั ญ ในการเชื่ อ มความสั ม พั น ธ์ ระหว่างจีนกับอาเซียน โดยกรมีมุมมองต่อ เรื่ อ ง นี้ ว ่ า ใ น ข ณ ะ ที่ เ ศ ร ษ ฐ กิ จ ข อ ง สหรัฐอเมริกาชะลอตัว เรื่องส�าคัญที่สุด คือ “3.2 อย่ า ทะเลาะกั น ” ที่ ม าจากจ�า นวน ประชากรของจี น กว่ า 1.4 พั น ล้ า นคน ประชากรอิ น เดี ย 1.2 พั น ล้ า นคน และ ประชากรในอาเซียนอีก 0.6 พันล้านคน (หรือ 600 ล้ า นคน) แล้ ว ประเทศไทยจะเป็ น ศูนย์กลางเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ของ 3.2 ไม่ ให้ทะเลาะกัน

กรยั ง เปรี ย บเที ย บว่ า ใน 3.2 นี้ ประเทศจีนคือพี่ชายคนโต ต้องท�าตัวเป็นพี่ บางครั้งน้องๆ ท�าตัวไม่เหมาะสม อย่าไป ทะเลาะกับน้องๆ ต้องสอนและให้ค�าแนะน�า แต่ถ้ามีปัญหามาก ก็ให้ประเทศไทยเป็นผู้ เชื่อมต่อ ที่จะน�ามาสู่สันติภาพอันมั่นคงใน ภูมิภาคนี้ เพราะประเทศไทยมีความสัมพันธ์ ที่ดีกับทุกประเทศในอาเซียน “โดยเฉพาะในระยะ 1 ปีข้างหน้า ต้องด�าเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ขณะที่ สหรัฐอเมริกาก�าลังเข้าสู่ช่วงเวลาการหาผู้นา� คนใหม่ และต้องวางนโยบายรัฐบาลใหม่ เรา ต้องมารวมตัวกันขับเคลื่อน 3.2 ให้เป็นปึก แผ่น นัน่ คือวิธคี ดิ ของภาคประชาชนทีจ่ ะช่วย ให้รัฐบาลบริหารงานได้สะดวกขึ้น” นายก สมาคมมิตรภาพไทย-จีนฝากทิ้งท้ายไว้ • ขอบคุณภาพจากสมาคมมิตรภาพไทย-จีน

38


国-东盟博览会泰国官方 媒体《东盟博览》杂志 创刊号七月一日正式发行,正 值中泰建交四十一周年,东盟 博览杂志特别专访泰国前副总 理、泰中友好协会会长功•塔 帕朗西阁下,其在1975年作为 当时泰国政府建交使团成员之 一,参与见证历史关键时刻, 并为大家重温当年建交逸闻。 泰中友好协会是41年前为 促进两国民间交流,在两国政 府授意下建立的民间协会,“ 中泰一家亲”这句俗语就是协 会的宗旨。 功会长介绍:“当时我是 泰国外交部长差猜•春哈旺的 秘书,为泰国总理克立•巴莫 在北京签署外交公报做前期工 作。在我担任副总理期间,也 致力于促进官方和民间的密切 交流。” 泰国和中国1975年签署建 交公报后,周恩来总理和差猜 部长提议,两国政府已经建立 桥梁,提议再开辟民间渠道。 在此提议下,中国在北京设立 中泰友好协会,泰国在曼谷设

立泰中友好协会。这样泰中友 好协会作为泰国第一个非政府 机构从事两国民间外交,同时 也是得到泰中两国政府认可 的。后来,中泰两国民间还成 立其他的民间交流协会。 两国建交之后,通过两国 友协之间的交流推动民间合 作,其中包括社会、文化、经 济、教育及体育等多方面交 流。让两国人民相互了解,关 系更加亲密,并且推动两国社 会发展,进一步拉近两国人民 的距离。 功会长说,他是泰国第一 个政府官员,在湄公河上从云 南省西双版纳乘船到清莱府清 盛县,也是第一位政府官员, 在建交35周年之际,带领泰国 车队10多辆车从泰国驾车到广 东省汕头。自从建交后,至今 已经去过中国127次,并且还 计划在今年七月再去2次,那 就是129次。 “41年来从泰中两国关系 看,两国从经济、文化、教 育、体育等方面开展交流,如 东盟博览会旅游展,东盟十个

国家带去各自的文化表演,当 时我也带领泰国表演团前 往。” 功会长说,2015年带领泰 国代表团赴南宁,参加中国东 盟博览会,每次都去参观泰国 馆,发现泰国水果受到中国民 众的欢迎,对此感到很高兴。 泰中友好协会重要的工作 是注重两国教育方面交流,现在 每年都与中国大学交换留学生及 教师,因为青少年是国家未来的 栋梁,让年轻人相互了解,才能 促使长久的友谊和平。东盟十国 中泰国是唯一没有和中国有冲突 的国家,不论是政府和民间,因 为我们两国人民有着深厚的感 情,是亲人。 今年中国和东盟对话关系 25周年,也是教育交流年,对 于两国来说重要的一年,特别 中国与东盟国家关系上,泰国 有着至关重要作用。 最后,功会长提出一 个“32亿人口”观点,意思是 中国人口14亿人口,印度12亿 人口,东盟10国6亿人口,总 计32亿人口,现在美国经济衰 退,因此这32亿人口国家不应 吵架,泰国是东盟地理位置中 心,可以作为地区调解人。 功会长说,32亿人口中, 中国是“大哥”应该以身作 则,有时候“弟弟”做的不 对,不要和他吵架,应该去教 导他。如果问题比较严重,泰 国与其他东盟国家关系较好, 可作为中间人,调解地区和 平。这个观点值得重视,因为 美国进入大选阶段,新总统上 任后可能会出台新的政策,我 们应该团结这32亿人口。虽然 这只是民间想法,但是也可以 帮助到政府管理国际关系,值 得大家探讨。

39


‘ททท.’ จับมือ ‘ไป่ ตู้’ พัฒนาข้ อมูลเทีย่ วไทย หวังดึงนักท่ องเทีย่ วจีนคุณภาพ มื่ อ เร็ ว ๆ นี้ ที่ อ าคาร ททท.นายยุ ท ธศัก ดิ์ สุ ภ สร ผู ้ว่ า การ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ มร. หู โหย่ง ผูจ้ ดั การ ทัว่ ไปฝ่ ายธุรกิจระหว่างประเทศ บริ ษทั ไป่ ตู ้ (Baidu) ส�านักงานใหญ่ ณ กรุ งปั กกิ่ง ร่ วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่ วมมือ ด้านการท่ องเที่ ยวระหว่าง ททท. กับ บริ ษทั ไป่ ตู ้ หวังดันยอด นักท่องเที่ยวกลุม่ คุณภาพจากสาธารณรัฐประชาชนจีน และมีรายได้ การท่องเที่ยวจากตลาดนี้ ในปี 2559 ไม่ต่า� กว่า 509,135 ล้านบาท เพิม่ ขึ้นจากปี ที่ผา่ นมาร้อยละ 35.4 โดย ททท. และไป่ ตูจ้ ะเผยแพร่ ข้อมูลสิ นค้าและบริ การทางการท่องเที่ยวเชื่อมโยงเป็ นเส้นทางให้ นักท่องเที่ยววางแผนการเดินทางได้ง่าย มร. หู โหย่ง เปิ ดเผยว่า นอกจากนี้ ยงั มี Baidu Map ที่จะ

40

ช่วยให้นกั ท่องเที่ยวจีนสามารถเข้าถึงข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยว การเดินทาง ร้านอาหารและสิ นค้าบริ การในประเทศไทยได้ง่ายขึ้น โดยปั จจุบนั มีผูใ้ ช้งานมากกว่า 500 ล้านรายทัว่ โลก และจะเป็ น อีกช่องทางที่ผปู ้ ระกอบการไทยจะเข้าถึงลูกค้าที่ใช้ภาษาจีนได้อย่าง ง่ายดายเช่นกัน มร. พอล เฉิ น ผูจ้ ดั การทัว่ ไป ไป่ ตู ้ ประเทศไทย กล่าวว่า จะมีการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของไทยจ�านวน 17,000 POI (Point of Interest) ด้วยภาษาจี นและเผยแพร่ บนแอพพลิ เคชัน่ Baidu Map พร้ อมแสดง GPS ที่ อยู่ภาษาจี นและภาษาไทยของ สถานที่น้ นั ๆ เพื่อช่วยให้นกั ท่องเที่ยวชาวจีนสามารถสื่ อสารกับ คนท้องถิน่ ได้งา่ ย รวมทั้งการประชาสัมพันธ์โครงการของ ททท.ด้วย


41


“ไทยยังตื่นตัวกับ ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ของจีนไม่มาก เพราะ เรายังไม่รวู้ า่ จีนก�าลัง ท�าอะไรอยู่”

42


สมภพ มานะรังสรรค์ ‘โอกาส’ของผู้ประกอบการไทย เมื่อจีนพลิกนโยบายสู้‘วิกฤต’

颂颇•玛纳郎善--正大管理学院校长 中国调整经济政策迎战危机 对于泰国企业来说是“机遇”

43


นั

บวันจีนและเศรษฐกิจจีนจะมีบทบาท และความส�าคัญต่อโลกมากขึ้นเรื่อยๆ การก้าวเดินในแต่ละเรือ่ งของจีน ไม่วา่ จะเป็น การผลักดันค่าเงินหยวน จนสามารถเข้าไป อยู่ในตะกร้าเงินส�ารองของกองทุนการเงิน ระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จากเดิมที่จะมี เพียงสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เงินยูโร เงิน ปอนด์สเตอร์ลิง และเงินเยนเท่านั้น ถื อ เป็ น ชั ย ชนะของจี น ในการก้ า วสู ่ ความเป็นมหาอ�านาจทางเศรษฐกิจของโลก ประเทศหนึ่ง โดยเฉพาะการจั ด ตั้ ง ธนาคารเพื่ อ การลงทุ น โครงสร้ า งพื้ น ฐานแห่ ง เอเชี ย (Asia Infrastructure Investment Bank) หรื อ AIIB ซึ่ ง ก่ อ ตั้ ง อย่ า งเป็ น ทางการที่กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2558 ท่ า มกลางกระแสที่ว่า AIIB อาจขึ้น มาเป็ น คู ่ แข่ ง กั บ ยั ก ษ์ ใ หญ่ ใ นการปล่ อ ยกู ้ โลก อย่ า งธนาคารเพื่ อ การพั ฒ นาเอเชี ย หรือเอดีบีที่มีญี่ปุ่นเป็นหัวหอกส� าคัญ และ ธนาคารโลกที่ มีส หรัฐอเมริก าเป็นแกนน�า แต่การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนมา ตัง้ แต่ปี 2557 ท�าให้เกิดความวิตกกังวลว่า จีน จะเผชิญกับภาวะฮาร์ดแลนดิ้ง จนเป็นแรง กดดันต่อเศรษฐกิจโลก รวมถึงเศรษฐกิจไทย เพราะจีนถือเป็นตลาดส่งออกหลักของไทย แต่ จ ากตั ว เลขที่ อ อกมาในปี 2558 เศรษฐกิจจีนยังขยายตัว 6.9% และคาดว่าจะ ชะลอลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 6.3% ในปี 2559 สะท้อนว่าเศรษฐกิจจีนเริม่ มีเสถียรภาพ และเป็นผลจากแนวทางการด�าเนินนโยบาย ของทางการจีนเอง ในมุ ม มองของผู ้ เ ชี่ ย วชาญด้ า น เศรษฐกิ จ จี น อย่ า ง รศ.ดร.สมภพ มานะ รั ง สรรค์ อธิ ก ารบดี สถาบั น การจั ด การ ปัญญาภิวัฒน์ กลับมองว่า ในวิกฤตยังมี โอกาส เพียงแต่เราต้องเปลี่ยนมุมมองว่ามี ผลอย่างไรต่อไทย ทั้งด้านบวกและลบ เราจะ หวังเพียงว่าการส่งออกจะดีขนึ้ เมือ่ เศรษฐกิจ

44

จีนฟื้นตัวเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ซึ่งการชะลอ ตัวของเศรษฐกิจจีนมีปัจจัยหลักมาจากการ ปรับนโยบายเศรษฐกิจใหม่ หรือที่เรียกว่า เปลี่ยนมุขการพัฒนาประเทศ จากเดิ ม ที่ จี น เป็ น โรงงานโลก เป็ น ศูนย์กลางห่วงโซ่อุปทานโลก เป็นศูนย์กลาง การลงทุนจากทัง้ ญีป่ นุ่ เกาหลี และไต้หวัน แต่ เมื่อโลกอิ่มตัวเรื่องการค้า จีนไม่ต้องการเป็น โรงงานโลกมากเหมือนเดิม มีแต่จะย้ายฐาน การลงทุนออกนอกประเทศระลอกใหญ่ตาม เส้นทางสายไหมที่ได้วางไว้ และเป็นนโยบาย ใหญ่ของจีนในขณะนี้

จีนเปลี่ยนไปเน้นภาคบริการมากขึ้น เน้ น การโตของเมื อ งมากขึ้ น ซึ่ ง จะท� า ให้ ภาคการบริโ ภคในประเทศของจี นเพิ่ม ขึ้น เพราะจี น ไม่ ต ้ อ งการไปยื ม จมู ก คนอื่ น หายใจอีกต่อไป ดังนัน้ เราต้องเข้าใจว่าจีนก�าลังเปลีย่ น ฐานการผลิต คือ 5 ปีข้างหน้า จะเน้นภาค บริการให้เติบโตได้อีกมาก ซึ่งสัดส่วนภาค บริ ก ารของจี น จะใกล้ เ คี ย งกั บ ไทย คื อ ประมาณ 50.5% ของจีดีพี หากในอีก 5 ปี ภาคบริการโตขึ้นมาเป็น 60% ได้ ก็จะช่วย เศรษฐกิจโตอย่างยั่งยืนได้


“เราจะต้องปรับตัว จะไม่ใช่การรับจ้าง ผลิ ต (OEM) เหมื อ นที่ ท� า มาโดยตลอด แต่ต้องเป็นการลงทุนที่สมาร์ทขึ้น”

นั่นหมายความว่า ความจ�าเป็นที่จะ ต้องพึ่งภาคการผลิตเพื่อส่งออกก็ลดลง และ จะขยายฐานการผลิตออกไปสู่การลงทุนใน ต่างประเทศมากขึ้น ดังนัน้ เราต้องรูว้ า่ โครงสร้างการน�าเข้า ส่งออกจากจีนต้องแปรเปลีย่ นไป สินค้าทีเ่ ขา ซื้อเราเพื่อไปผลิตต่อ เขาจะไม่ซื้อเรามาก เหมือนเดิม เช่น ยางพารา มันส�าปะหลัง ท�าให้ ส่งผลลบกับไทย สะท้อนจากภาคการผลิต ของเราทีป่ รับตัวไม่ทนั โดยจะเห็นจากตัวเลข ของส� า นั ก งานคณะกรรมการพั ฒ นาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ว่า ปีนี้

ภาคการผลิตของไทย อาจจะติดลบเป็นปีที่ 4 ดังนั้น 5 ปี ของการปฏิรูปเศรษฐกิจจีนจึงมี ผลลบต่อภาคอุตสาหกรรมบางกลุม่ ทีไ่ ปอิงกับ ภาคการผลิตในจีนเพื่อส่งออก ส่วนด้านที่เป็นบวกกับไทยคือจ�านวน นั ก ท่ อ งเที่ ย วจี น 8 ล้ า นคนที่ ม าเที่ ย ว ประเทศไทยในปีที่แล้ว ปีนี้จะเพิ่มเป็น 10 ล้านคน ที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอย ซื้อสินค้าไทย กลับไป แต่เราจะรูจ้ กั ต่อยอดมากน้อยแค่ไหน ซึ่งสินค้าที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว จีน ได้แก่ นมอัดเม็ด น�้าผึ้งหลอด หมอน ยางพารา ขนมอบกรอบจากผลไม้ตา่ งๆ ทีเ่ รา จะสามารถส่งออกได้ อย่างน้อยก็ตามคน 8 ล้านคนนี้กลับบ้านก่อน โดยใช้อี-คอมเมิร์ซ เข้ามาเป็นตัวเสริม เพราะคนจีนชอบที่จะซื้อ ตามเว็บไซต์อยู่แล้ว “แค่ขายหมอนยางพาราให้จีนคนละ 1 ใบ เราก็สามารถส่งออกได้ถึง 1,200 ล้าน ใบแล้ว” นอกจากนั้นเราควรศึกษาพฤติกรรม การบริโภคของคนจีน และการบริหารเวลา ว่างของกลุ่มคนหรือกลุ่มอาชีพต่างๆ เราจะ ต้องสร้างฐานข้อมูลเชิงลึกของจีนจริงๆ ไม่ใช่ แค่รู้กว้างๆ โดยเฉพาะกลุ่มคนจีนที่เป็นกลุ่ม ลูกคนเดียว ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีก�าลังซื้อ มาก และไม่ค่อยยึดติดสินค้าจีน อย่างพวก เฟอร์นิเจอร์ ของประดับตกแต่งบ้าน ขอแค่ มีดีไซน์สวยๆ เท่านั้น รศ.ดร.สมภพยังมองว่า ไทยยังตืน่ ตัวกับ การเปลี่ ย นแปลงของจี น ไม่ ม าก รวมถึ ง

แผนการย้ายฐานการผลิตออกไปตามเส้นทาง สายไหมทางทะเล หรือเส้นทางสายไหมใหม่ จะผ่าน 66 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียง ใต้ เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง แอฟริกาตะวัน ออก และไปสิ้นสุดที่ยุโรป ที่จะก่อให้เกิดการ ลงทุนในอาเซียนจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการ ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพราะประเทศตาม แนวเส้นทางสายไหมใหม่ส่วนใหญ่ยังเป็น ประเทศยากจน ดังนั้น เราจะต้องปรับตัว จะไม่ใช่การ รับจ้างผลิต (OEM) เหมือนที่ท�ามาโดยตลอด แต่ต้องเป็นการลงทุนที่สมาร์ทขึ้น มีการใช้ นวัตกรรม ผลิตก็ตอ้ งผลิตของดี ของทีแ่ พงขึน้ มี R&P เพิ่มมากขึ้น จากความสัมพันธ์ที่ยาวนานระหว่าง ไทย-จีน รศ.ดร.สมภพย�้าว่าจีนยังมองไทยใน ด้านบวกมาก ทัง้ จากปัจจัยทางประวัตศิ าสตร์ ทีเ่ ราติดต่อกันยาวนาน เชือ้ ชาติและประเพณี วั ฒ นธรรม การค้ า การลงทุ น ปั จ จั ย ทาง ภู มิ ศ าสตร์ ที่ มี ช ายแดนติ ด กั น และความ สั ม พั น ธ์ ข องบุ ค คลในอดี ต ที่ ไ ปมาหาสู ่ กั น ยาวนาน ทัง้ จากความสัมพันธ์ทยี่ าวนาน และ มูลค่าการค้าขายระหว่างไทยกับจีน ที่มาก ที่สุดเมื่อเทียบกับการค้าทุกประเทศทั่วโลก โดยมีมูลค่ารวมเกือบ 7-8 หมื่นล้านดอลลาร์ เกือบ 20% ของอาเซียน จึ ง น ่ า จ ะ เ ป ็ น โ อ ก า ส ส� า ห รั บ ผู ้ ประกอบการไทยเพียงแต่ต้องตีโจทย์ให้ได้ ว่ า จี น ก� า ลั ง จะไปทางไหน และเราจะใช้ โอกาสนี้ได้อย่างไร

45


于中国宏观政策的改 变,泰国并对此没有太 大的反应,因为我们还不明白 中国想要干什么。 随着中国经济的发展,以 及在世界上的影响力提升,中 国一举一动都是极受国际社会 关注,特别是推动人民币纳入 国际货币基金组织(IMF)的 特别提款权货币篮子,成为除 英镑、欧元、日元和美元之外 的第五种全球储备货币。 对于中国这个全球第二大 经济体来说,这是人民币国际 化的里程碑时刻。 此外,亚洲基础设施投资 银行(英语:Asian Infrastructure Investment Bank, 缩写为AIIB)在 2015 年 12 月 25 日在北京宣告成立,舆 论一致认为亚投行将成为当前 国际融资机构的强劲对手,如 美国主导的世界银行(WBG) 、和美日共同主导的亚洲开发 银行(ADB)。 不过2014年以来中国经济 增长势头放缓,提升了市场对 中国经济“硬着陆”的担忧,

46

可能给全球乃至泰国经济带来 巨大的冲击,毕竟中国是泰国 主要出口目的国。 但是从 2015 年统计数据 看,中国经济增长仍达6.9%, 虽然国际货币基金组织预测中 国2016年经济增长仍持续放 缓,但还能取得6.3%的增长, 反映出中国结构转型经济改革 取得成效。

泰国正大管理学院校长 颂颇•玛纳郎善(Sompop Manarungsan)博士,也是研 究中国经济领域的专家,他指 出危机中仍存在机遇,只是我 们需要改变看法,需要从正面 和负面角度分析对泰国有何影 响。要是泰国寄望于中国经济 好转带动本国出口增长,这个 想法是不切实的,因为中国经


济增长势头放缓,重要原因是 中国政府调整经济政策,以及 改变国家发展方向。 以前中国作为世界工厂, 是全球供应链中心,吸引日 本、台湾和韩国众多企业前往 投资,但是现在全球贸易饱 和,中国再也不需要成为世界 工厂,根据目前中国大的政策 方向,根据“一带一路”政策 指引,鼓励中国企业走出国门 到海外投资。 现在中国侧重发展服务行 业,重视城市经济发展,刺激 国内消费增长,再也不需要借 助别人的鼻子来呼吸。 因此,我们可预知未来5 年中国将逐步转移生产基地, 提高服务行业比重。预计中国 服务行业在GDP中占的比例将 和泰国持平,达到到GDP的 50.5%。此外,假设5年之后, 中国的服务业比重能增长到 60%,可确保中国经济呈持续 发展势头。

那意味着中国经济增长依 靠出口制造业的比重将降低, 将会有更多的中国企业转移生 产基地到国外。 至此我们得到一个结论, 中国进出口产品结构会发生变 化,为加工出口商品而进口的 原料在未来会减少,如橡胶和 木薯,这么一来会对泰国造成 影响,担心泰国这些原料生产 企业来不及调整。从泰国国家 社会经济发展委员会的数据显 示,今年泰国制造业恐怕持续 第4年负增长,特别是中国实 施新的五年经济改革计划,将 对泰国部分产业造成冲击,特 别是依赖出口中国的产业。 正面影响是,中国游客赴 泰旅游增多,2015年800万人 次来泰国,今年预计增长达 1000万人次。这么多的中国游 客到泰国旅游消费,我们要如 何利用?比如我们了解到中国 游客喜欢的泰国产品有奶片、 皇家蜂蜜、橡胶枕头,水果干

等,而且中国消费者喜欢网上 购物,因此我们可以利用电子 商务这个平台对中国出口这些 产品。 如果中国人一人买一个乳 胶枕头,我们就能卖掉12亿个。 除此之外,我们必须了解 中国人消费行为,中国消费者 如何打发时间。我们要针对中 国消费群体建立大数据,而不 是肤浅的统计。现在中国游客 很多是独生子女,这些年轻人 购买力强,没有强烈的品牌归 属感,比如选购家具装饰品 时,只要产品设计出众就行。 Sompop Manarungsan博士 认为,泰国对中国的经济政策 改革并没有太大反应,包括中 国将生产基地转移到国外。根 据海上丝绸之路途径66个国 家,从东南亚、 南亚、中东、 东非乃至欧洲,中国企业将给 东盟地区带来投资,特别是基 础建设方面的投资,因为沿途 国家大部分还是发展中国家。 因此,泰国也需要调整产 业结构,不能只是做代工,投 资方面需要更具灵活性,注重 采用新技术,确保生产质量, 生产价值含量高的产品。 对于中泰两国源远流长的 关系,Sompop Manarungsan博 士最后说,中国看待泰国是正 面的,因此从历史上看,两国 一直有交往,不论是血缘、民 俗、贸易投资、地理位置,还 是历史人物间的关系。 中泰之间贸易总额来看, 中国是泰国最大的贸易伙伴, 贸易总额达700-800亿美元, 将近占东盟国家的20%。 因此中国转型对泰国企业 来说是个机遇,分析中国发展 方向,再来考虑要如何利用这 个机遇,才能要选对路。

47


48


49


50


อภิรดี ตันตราภรณ์ แนะหาพันธมิตรกรุยทางลงทุนจีน

阿披拉迪•丹哒拉蓬--商业部长 建议寻找中国商业伙伴

ากความสัมพันธ์ไทย–จีน ทีผ่ กู พันกันมา ยาวนานในทุกระดับ และทุกมิติ สืบ เนื่องมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะ ความสัมพันธ์ทางการทูตที่ก้าวเข้าสู่ปีที่ 41 ส่งผลให้สองประเทศเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ อย่างแท้จริง แม้ในช่วงที่ผ่านมาจะได้รับผล กระทบจากสภาพเศรษฐกิจโลกตกต�่าไปบ้าง แต่การค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับจีน มี แนวโน้มจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง หลังจากจีนได้เริม่ นโยบายเปิดประเทศ และปฏิ รู ป เศรษฐกิ จ ภายใต้ ก ารน� า ของ เติ้ง เสี่ยว ผิง เมื่อปี 1978 ปัจจุบนั เศรษฐกิจจีนมีความส�าคัญต่อ เศรษฐกิจโลกเพิม่ ขึน้ มาก ทัง้ ด้านการค้า การ ลงทุน และการท่องเที่ยว หลังจากจีนได้เข้า มาเป็นสมาชิกองค์การการค้าโลก (WTO : World Trade Organization) จีนได้กลาย เป็นศูนย์กลางของเครือข่ายการผลิตส�าคัญ ของภูมิภาคเอเชีย (Regional Production Network) โดยแนวโน้มรูปแบบการค้าและการ ลงทุนเริ่มจากการผลิตสินค้าขั้นต้นและกลาง สูอ่ ตุ สาหกรรมแห่งอนาคต เน้นอุตสาหกรรม ภาคการผลิตและบริการทีส่ ร้างมูลค่าเพิม่ ด้วย

เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนานวัตกรรม เป็นมิตรต่อสิง่ แวดล้อมทีส่ อดคล้องกับทิศทาง ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ของจีน (2559-2563 ) และแผน พัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 (2555-2559) ตลอดจนนโยบายรัฐบาล ไทยที่ จ ะพั ฒ นาประเทศภายใต้ แ นวคิ ด Thailand 4.0 & Digital Economy ในมุมมองของ อภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เห็นว่า ศักยภาพด้านการค้า การลงทุน และการท่อง เที่ยวระหว่างกันยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยปัจจุบัน จีนเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย และเป็นตลาดส่งออกอันดับ 2 และ เป็นแหล่งน�าเข้าอันดับ 1 ของไทย ในขณะที่ ไทยเป็นคู่ค้าอันดับที่ 39 ของจีน การค้าโดยรวมในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2554-2558) มีมูลค่าเฉลี่ย 6.3 หมื่นล้าน เหรียญสหรัฐ โดยในปีที่ผ่านมา การค้ารวมมี มูลค่า 6.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจาก ปี 2557 ร้อยละ 1.93 ส�าหรับการค้ารวม ใน ช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ มีมูลค่า 2 หมื่นล้าน เหรี ย ญสหรั ฐ ลดลงจากช่ ว งเดี ย วกั น ของ ปีก่อนหน้านี้ร้อยละ 1.74

ส�าหรับการส่งออกในระยะ 5 ปีที่ผ่าน มา (2554-2558) การส่งออกมีมูลค่าเฉลี่ย 2.54 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยในปีที่ผ่าน มา การส่งออกมีมูลค่า 2.4 หมื่นล้านเหรียญ สหรัฐ ลดลงจากปี 2557 ร้อยละ 5.35 ส�าหรับ การส่งออก 4 เดือนแรกปีนี้ (ม.ค.–เม.ย.) มี มูลค่า 6,985.43 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงจาก ช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 6.26 โดยมี สิ น ค้ า ส่ ง ออกส�า คั ญ ได้ แ ก่ เม็ ด พลาสติ ก ผลิตภัณฑ์มันส�าปะหลัง ยางพารา เคมีภัณฑ์ เครือ่ งคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ แผงวงจรไฟฟ้า น�้ามัน ส�าเร็จรูป ข้าว ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องจักรกล เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง วงจรพิมพ์ เครือ่ งยนต์ สันดาปภายในแบบลูกสูบ โดยการส่งออก สินค้าเกษตรคิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 24 ส่วนการน�าเข้าในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา (2554-2558) มีมูลค่าเฉลี่ย 3.7 หมื่นล้าน เหรียญสหรัฐ โดยในปีที่ผ่านมา การน�าเข้ามี มูลค่า 4.1 หมืน่ ล้านเหรียญสหรัฐ เพิม่ ขึน้ จาก ปี 2557 ร้อยละ 6.67 ส�าหรับการน�าเข้าช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ มีมูลค่า 1.3 หมื่นล้านเหรียญ

51


สหรัฐ เพิม่ ขึน้ จากช่วงเดียวกันของปีทผี่ า่ นมา ร้อยละ 0.86 สิ น ค้ า น� า เข้ า ส� า คั ญ จากจี น ได้ แ ก่ เครือ่ งจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เครือ่ งจักร กลและส่วนประกอบ เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เคมีภัณฑ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และ ส่วนประกอบ รถยนต์และส่วนประกอบเหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์โลหะ สิ น แร่ โ ลหะอื่ น ๆ และผลิ ต ภั ณ ฑ์ ท� า จาก พลาสติก ผัก ผลไม้ และของปรุงแต่งทีท่ า� จาก ผัก ผลไม้ ผ้าผืน ในปี 2558 ไทยขาดดุลการค้าแก่จีน 1.73 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2557 คิดเป็นร้อยละ 29.15 โดยช่วง 4 เดือน แรกปีนี้ ไทยเป็นฝ่ายขาดดุลมูลค่า 6,109.49 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกัน ของปีก่อน ร้อยละ 10.44 “แม้การค้าขณะนีล้ ดน้อยลงจากภาวะ เศรษฐกิจโลกที่มีความอ่อนไหว แต่การที่ อาเซียนได้รวมตัวกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียน (AEC) อย่างสมบูรณ์แล้ว น่าจะดึงดูด ให้จีนมาใช้ประโยชน์จากท�าเลที่ไทย เป็น ศูนย์กลางของภูมภิ าคอาเซียนในการเชือ่ มโยง ทัง้ การค้าและการลงทุน ต่อไปยังภูมภิ าคอืน่ ๆ เช่น อินเดีย ตามนโยบาย one belt one road ของจี น ที่ ต ้ อ งการเชื่ อ มโยงจี น กั บ ภู มิ ภ าคอื่ น ผ่ า นการใช้ เ ส้ น ทางสายไหม ครั้งโบราณกาล “โดยไทยเองอยู ่ ร ะหว่ า งการเจรจา กับรัฐบาลจีนในโครงการความร่วมมือสร้าง ทางรถไฟไทย–จีน เพื่อเชื่อมโยงทางรถไฟ ในภู มิ ภ าคนี้ ซึ่ ง ถื อ ว่ า เป็ น เส้ น ทางสาย ประวัตศิ าสตร์ ทีท่ างจีนรือ้ ฟืน้ ขึน้ มา เนือ่ งจาก อนาคตการคมนาคมขนส่ ง ทางบกทั้ ง ทางถนนและรถไฟจะมีความส�าคัญมากใน การเชื่ อ มโยง เส้ น ทางคมนาคมระหว่ า ง ทวีปเอเชีย ตะวันออกกลาง รัสเซีย ไปจนถึง ไซบีเรีย”

52

“การเข้าร่วมงาน China-ASEAN Expo ที่ หนานหนิง ไทยได้เข้าร่วมเป็นประจ�าทุกปี ตัง้ แต่ปแี รกจนถึงปีนี้ รวม 13 ปีแล้ว ซึง่ เป็น งานทีม ่ ส ี ว่ นช่วยท�าให้ผป ู้ ระกอบการไทยหลาย รายสามารถเริ่มต้นเข้าไปท�าธุรกิจในจีนเป็น ครั้งแรก และเป็นประตูกระจายสินค้าไปยัง เมืองอืน ่ ๆ ต่อไป”


ในเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา มีการยก ระดับการประชุมคณะกรรมการร่วมว่าด้วย การค้ า การลงทุ น และความร่ ว มมื อ ทาง เศรษฐกิ จ ระหว่ า งไทย-จี น (JTC) โดยมี รองนายกรัฐมนตรี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เป็นหัวหน้าคณะ โดยทั้งสองฝ่ายได้เห็นชอบ ให้เพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างกัน ให้ เพิ่มเป็นสองเท่าของมูลค่าการค้าปัจจุบัน ภายใน 5 ปี เป็น 1.2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2563 หรือ 2020 ด้านการลงทุน ในปีที่ผ่านมามีการ ลงทุนจากจีน ตามสถิติของบีโอไอ จีนเป็น นักลงทุนอันดับ 4 ของไทยรองจากญี่ปุ่น สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย มีมูลค่าการลงทุน ประมาณ 1.24 หมืน่ ล้านบาท ลดลงจากช่วง เดียวกันของปีที่ผ่านมา ร้อยละ 36.95 ทางจี น เองได้ แ สดงความสนใจการ พัฒนาเศรษฐกิจตามนโยบายคลัสเตอร์และ การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษของไทย ซึง่ ไทย ได้ให้สิทธิประโยชน์การส่งเสริมการลงทุนใน อุ ต สาหกรรมใหม่ ที่ เ น้ น การลงทุ น ด้ า น หุ่นยนต์ การบิน และวิจัยและพัฒนามากขึ้น รวมทั้งมีความพร้อมในเรื่องวัตถุดิบ เช่น ข้าว ยางพารา มันส�าปะหลัง และการผลิตสิ่งทอ เครือ่ งนุ่งห่ม จึงอยากเชิญชวนให้นกั ธุรกิจจีน แต่ละมณฑล เข้ามาดูศกั ยภาพในประเทศไทย เกี่ ย วกั บ เรื่ อ งนี้ รมว.พาณิ ช ย์ ย ก ตัวอย่างว่า เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาก็มี นั ก ธุ ร กิ จ จากมณฑลชานตงเข้ า มาดู ลู ่ ท าง การค้าและการลงทุนในไทย โดยมณฑลนี้มี ประชากรมากถึง 110 ล้านคน และมีบริษัท ชั้นน�าระดับโลก อาทิ Haier ผู้น�าด้านสินค้า อิ เ ล็ ก ทรอนิ ก ส์ และมี บ ริ ษั ท เบี ย ร์ ชิ ง เต่ า ที่ โ ด่ ง ดั ง ได้ มี นั ก ธุ ร กิ จ จากชานตงแสดง ความสนใจในสิ น ค้ า ที่ ใ ช้ ย างพาราและ มันส�าปะหลังของไทยเป็นวัตถุดิบ เพื่อผลิต สินค้าเพื่อการส่งออก

53


“ช่ ว งนี้ เ ป็ น โอกาสที่ ดี ม ากของนั ก ธุ ร กิ จ ของสองฝ่ า ยที่ จ ะไปค้ า ขายลงทุ น ระหว่างกัน ผู้ประกอบการไทยเองมีความ เชี่ยวชาญในการผลิตสินค้าอาหารแปรรูป และพร้อมส่งออกไปจีน เพราะประเทศไทย มีความได้เปรียบในเรื่องความหลากหลาย ของวัตถุดิบ” เมือ่ สอบถามถึงปัญหาอุปสรรคการค้า ระหว่างกัน รมว.พาณิชย์มองว่าปัญหาเป็น เรื่องปกติที่มีอยู่เสมอ แต่จะต้องหาทางแก้ไข เช่น ด้านมาตรฐานสุขอนามัยที่ต้องมีการ ท�าความเข้าใจร่วมกัน และเรื่องการก�าหนด โควต้าการน�าเข้าข้าวของจีน ท�าให้ไทยไม่ สามารถขยายการส่งออกได้ แม้คนจีนจะนิยม บริโภคข้าวหอมมะลิไทยมาก หากทางรัฐบาล จีนยกเลิกการก�าหนดโควต้าน�าเข้าจะท�าให้ คนจีนมีข้าวอร่อยคุณภาพดีบริโภคมากขึ้น นอกจากนี้ อุปสรรคที่ส�าคัญอีกอย่าง คือภาษา ที่คนไทยยังมีจุดอ่อนเรื่องนี้ คงต้อง เรียนรู้ให้มากขึ้น เพื่อเลี่ยงไม่ให้เกิดความ เข้าใจผิดและการติดต่อสื่อสารที่ไม่สะดวก ส�าหรับการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า จีน-อาเซียน (CAEXPO ; China–ASEAN Expo) ที่หนานหนิง ประเทศจีนนั้น ประเทศไทยได้ เข้าร่วมเป็นประจ�าทุกปี ตัง้ แต่ปแี รกจนถึงปีนี้ รวม 13 ปีแล้ว ซึ่งเป็นงานที่มีส่วนช่วยท�าให้ ผู้ประกอบการไทยหลายรายสามารถเริ่มต้น เข้าไปท�าธุรกิจในจีนเป็นครั้งแรก และเป็น ประตูกระจายสินค้าไปยังเมืองอื่นๆ ต่อไป ซึ่ ง ถื อ เป็ น ความส� า เร็ จ ด้ า นความร่ ว มมื อ ระหว่างอาเซียนกับจีนเป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน ยังมีการแนะน�าเมือง ต่างๆ ในอาเซียนให้คนจีนได้รจู้ กั มากขึน้ เพือ่ ส่งเสริมให้มคี วามใกล้ชดิ กันและคูข่ นานกันไป รวมถึงการจัดเวทีการสัมมนาทีม่ ผี ทู้ รงคุณวุฒิ ด้านต่างๆ มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อ เพิ่มโอกาสในการท�าธุรกิจร่วมกัน “ต้ อ งขอชื่ น ชมความคิ ด ริ เริ่ ม ของ

54

ประเทศจีนที่จัดงานนี้ขึ้น และน�าสินค้าของ อาเซียนไปจัดแสดง โดยส่วนตัวได้เข้าไปร่วม งานตั้งแต่การจัดงานครั้งแรก ได้เห็นความ เจริญเติบโตของงานเป็นที่น่าประทับใจมาก จากเดิมที่เป็นเพียงงานแสดงสินค้าอุปโภค บริโภค แต่ระยะหลังจะมีการจัดแสดงสินค้า อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีมากขึน้ ซึง่ ในปีนี้ กระทรวงพาณิชย์จะน�าผูป้ ระกอบการไทยเข้า ร่วมงานกว่า 160 ราย” นอกจากนั้น อภิรดียังเผยว่า ในปีนี้ กระทรวงพาณิชย์มีแผนจะน�าผู้ประกอบการ รายใหญ่และรายย่อยไปจัดงานแสดงสินค้า ในจีน รวมทั้งการขายสินค้าผ่านช่องทาง อี–คอมเมิร์ซมากขึ้น ตามพฤติกรรมผู้บริโภค ที่มีแนวโน้มจะหันมาช้อปปิ้งผ่านช่องทาง ออนไลน์ ม ากขึ้ น รวมทั้ ง การจั ด งาน Top Thai Brand ในจีนที่จะมีการน�าสินค้า แบรนด์ชั้นน� าของไทยออกบูธแสดงสินค้า โดยจะจัดในเมืองหลักและเมืองรองที่ส�าคัญ ในจีน เช่น เมืองชิงเต่า เฉินตู โดยสินค้าไทยที่ได้รับความนิยมมาก ได้แก่ สินค้ากลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม แฟชั่น อั ญ มณี เสื้ อ ผ้ า ของตกแต่ ง บ้ า น และ เฟอร์นิเจอร์ ส�าหรับค�าแนะน�าแก่ผู้ประกอบการ ไทยทีส่ นใจท�าธุรกิจในจีน รมว.พาณิชย์ยา�้ ว่า ผูป้ ระกอบการควร เรียนรูเ้ กีย่ วกับภาวะตลาด กฎระเบียบต่างๆ และศึกษาท�าความเข้าใจ เรื่องวัฒนธรรมของจีนให้ดี “ที่ ส� า คั ญ ต้ อ งรู ้ เ รื่ อ งทรั พ ย์ สิ น ทางปั ญ ญา ต้ อ งเตรี ย มตั ว จดทะเบี ย น เครื่องหมายการค้า ไม่ให้สินค้าถูกละเมิด เพราะจีนเป็นตลาดที่ใหญ่มากมีโอกาสสูง แต่ต้องเตรียมรับมือกับภาวะการแข่งขันที่ สู ง มาก ทั้ ง กั บ คนจี น เองและคนชาติ อื่ น นอกจากนี้การมีพันธมิตรในการท�าธุรกิจก็มี ส่ ว นช่ ว ยได้ ม าก ในการเริ่ ม ต้ น หาลู ่ ท าง ขยายการค้าการลงทุนต่อไป”


55


泰关系交往由来已久, 特别是今年两国建交41 周年,将两国战略伙伴关系提 高一个层次,即使一直来全球 经济放缓影响,但是中国和泰 国之间的贸易和投资还呈增长 趋势。 中国自从1978年国家领导 人邓小平实施改革开放政策至 今,中国经济对全球影响力逐 渐增加,不论是贸易、投资还 是旅游方面,特别在中国加入 世界贸易组织后,中国已经成 为亚洲地区生产基地。 中国国民经济和社会发展 第十二、十三个五年规划就指 出,工业机构发展将从初级和 中级产业,往高科技产业发 展,并且注重提高生产和服务 行业,提高产品价值,而且加 大研发以及环保投资。至于泰 国方面,泰国政府也提出“泰 国4.0&数码经济”思路来推动 国家发展。 从中泰两国贸易总额情况 分析,近5年来,年均贸易总 额630亿美元,2015年为650亿 美金,比2014年降低1.93%; 而今年1-4月两国贸易额达到 200亿美金,同期年比降低 1.74%。 泰国出口至中国的情况, 近5年来,年均出口额254亿美 元,2015年为240亿美金,年 比降低5.35%;今年1-4月出口 额69亿8543万美金,同期年比 降低6.26%。主要出口产品为 塑料粒、木薯、橡胶、化工 品、电脑配件、木材、电路 板、成品油、大米、橡胶产 品、机械、电器以及水果、印 刷电路板、活塞式内燃机等。 其中出口比例中农产品占到 24%。

56

至于泰国进口中国产品情 况,近5年来,年均进口额370 亿美元,2015年进口额410亿 美元,年比增长6.67%;今年 1-4月进口额已达130亿美元, 同期年比提高0.86%。 从中国进口的产品主要为 电气机械及配件、机械及配 件、家电、化工品、电脑及配 件、汽车及配件、钢铁、金属 制品、金属矿石、塑料制品、 蔬菜水果及服装等。 2015年中泰贸易中,泰国 贸易逆差173亿美元,比2014 年增长29.15%,今年前4个月

泰国贸易逆差为61亿949万美 金,同期年比增长10.44%。 虽然现在受全球经济影响 国际贸易减少,但是在东盟正 式成立运作,中国应该重视利 用东盟这个区域机构,利用泰 国作为东盟中心,连接到其他 东盟国家以便开展贸易投资, 如印度。而且根据中国“一带 一路”政策,意在加强中国与 地区的联系,重启古代丝绸之 路。 至于中泰之间的铁路项目 在协商中,希望能打造区域铁 路网,中国重新提出来这条历


对于在广西省南宁市举行的中国 东盟博览会,泰国每年都参加, 今年已经是13年,这个博览会可 以帮助泰国很多企业,很多人是 在东盟博览会上第一次和中国做 生意,是打开中国市场的敲门 砖。

史性运输路线,因为未来陆运 不论是公路还是铁路都尤为重 要,可以连接亚洲地区、中 东、俄罗斯一直到西伯利亚。 去年12月份,中泰贸易、 投资和经济合作联合委员会召 开,两国均派出高级领导人参 加,提高会议等级,泰国副总 理颂奇作为代表团团长参加会 议。双方一致同意提高贸易投 资额,在未来5年内即2020 年,增加到1200亿美元。 根据泰国投资促进委员会 的统计,去年中国是泰国第四 大投资国,仅次于日本、新加 坡和印度,投资总额124亿泰 铢,年比降低36.95%。 商业部部长指出,中国现 在对泰国的经济特区发展以及 集群政策经济感兴趣,因为泰 国对新产业提供优惠政策,鼓 励投资自动化、航空以及科 研,泰国有充足的原料供应, 如大米、橡胶、木薯、纺织, 服装等,因此邀请中国投资者 来考察。 商业部长举例,5月份有 山东考察团来泰国考察,山东

省总人口1.1亿人,还拥有世 界级别企业如海尔,是家电产 业的领军,以及青岛啤酒也是 全球闻名。这次山东企业来考 察,有意来利用泰国橡胶和木 薯进行加工出口。 目前对于两国的投资者来 说是一个机会,泰国企业在食 品加工出口比较擅长,因为泰 国原材料丰富。 在提及两国贸易之间的问 题,部长表示,问题是不可避 免的,但是也需要寻找解决办 法,如安全质检方面、中国进 口配额问题等,使得泰国大米 无法大量出口到中国,即使中 国消费者喜欢食用泰国香米。 中国政府如果取消配额规定, 那么会有更多消费者可以购买 到以及品尝好吃的泰国香米。 此外,另外一个阻碍就是 语言问题,泰国企业没有语言 强项,还需要加强语言学习, 避免在交往过程之中产生理解 错误。 对于在广西省南宁市举行 的中国东盟博览会,泰国每年 都参加,今年已经是13年,这

个博览会可以帮助泰国很多企 业,很多人是在东盟博览会上 第一次和中国做生意,是打开 中国市场的敲门砖,因此是这 个展会是中国和东盟国家之间 一个重要的合作。同时在展会 上,还有东盟国家城市推介 会,促进两国人民联系交流, 包括举行商务论坛,有知名专 家进行专题演讲,交流经验寻 找商业合作机会。 阿披拉迪部长非常赞赏中 国首先提出举行这个活动,让 东盟国家产品有机会到中国展 销,部长自己连续多年参加, 看到东盟博览会越办越好,非 常高兴。从原本只是单纯的日 用品商品展,但是现在已经发 展到工业、科技展览。今年商 业部将带领160多家企业参展。 此外,阿披拉迪部长表 示,今年商业部组织泰国大、 中小企业到中国去参加商品 展,并且加强使用电子商务平 台,因为中国消费者网络购物 行为增加。包括到中国各大城 市举办泰国名牌展,向中国消 费者展示泰国知名产品。 获得中国消费者喜欢的泰 国产品有食品、饮料、时尚、珠 宝、衣服、装饰品及家具等。 至于有意去开发中国市场 的泰国企业,阿披拉迪部长建 议,企业需要了解中国市场需求 和法规,并且认识中国的文化。 “重要的是要了解知识 产权规定,做好商标注册, 防止盗版,因为中国市场很 大,机会很多,但也需要做 好应对竞争准备,因为竞争 者有中国本土企业外还有其 他国家的企业。此外,寻找 一个商业合作伙伴至关重 要。

57


สารสิน วีระผล

ถอดบทเรียนค้าขายกับพญามังกร อย่าหยุดเรียนรู้..เจาะลึกให้ถึงแก่น 吴汉泉--正大副总裁 中国巨龙的生意经 不停学习 深挖精髓

จีนขยับ..โลกสะเทือน” ค�าๆ นี้คงจะไม่เกินความจริง สะท้อนให้ เห็นอิทธิพลของจีนที่มีต่อโลกใบนี้ หลังจาก กองบรรณาธิ ก ารนิ ต ยสาร TAP (THAIASEAN PANORAMA) ได้ฟังมุมมองจากผู้ที่ ถูกยกย่องว่า มองทะลุทะลวงเกีย่ วกับจีนแบบ ถึงแก่นคนหนึ่ง โดย ดร.สารสิน วีระผล รอง กรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร บริษัทเครือ เจริญโภคภัณฑ์ จ�ากัด (มหาชน) หรือรู้จัก กันดีในเครือซีพี เปิดมุมมองต่อโอกาสระหว่าง ไทย-จีน ที่สานสัมพันธ์กันมาอย่างยาวนาน ถึงวันนี้ไม่มีใครไม่รู้จักเครือซีพี ซึ่งถือ เป็นบริษัทต่างชาติบริษัทแรกที่จดทะเบียน การค้ า ในจี น และได้ รั บ หนั ง สื อ อนุ มั ติ ก าร ลงทุนของต่างชาติหมายเลข 001 ในปี 1981 ซึ่งธุรกิจแรกของซีพีในจีนคือ ธุรกิจอาหาร สัตว์ โดยเปิดโรงงานผลิตอาหารสัตว์แห่งแรก ที่มณฑลเซินเจิ้น ในปีเดียวกัน ปัจจุบันมีการ ขยายธุ ร กิ จ ครอบคลุ ม เกื อ บทุ ก กลุ ่ ม อุตสาหกรรม และสร้างแบรนด์ในตลาดโลก ไปไกล จนไม่ตอ้ งพูดถึงตัวเลขรายได้หรือก�าไร มหาศาล ที่ผู้ประกอบธุรกิจทั้งไทยและต่าง ประเทศยึ ด เป็ น แบบอย่ า งในการก้ า วสู ่ ความส�าเร็จ

58

ในโอกาสที่ได้พูดคุยกับ ดร.สารสินใน ครัง้ นีจ้ งึ มุง่ เน้นไปทีก่ ารวิเคราะห์สถานการณ์ ความเปลีย่ นแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจจีนกับ การรั บ มื อ ของเศรษฐกิ จ โลก รวมถึ ง ประเทศไทยเอง ซึง่ ดร.สารสินฟันธงว่าในอีก 5-10 ปีข้างหน้า ยังเต็มไปด้วยโอกาสส�าหรับ การค้าการลงทุนระหว่างไทยและจีนในทุกมิติ ไล่ไปตัง้ แต่ดา้ นการเมือง เศรษฐกิจ การศึกษา และธุรกิจบันเทิง “เฉพาะธุรกิจด้านบันเทิง พญามังกร อย่างจีนมีเป้าหมายชัดเจนที่จะสยายปีกขึ้น เป็นตลาดการ์ตนู ทีใ่ หญ่ทสี่ ดุ ในโลก โดยเข้าไป เรี ย นรู ้ ก่ อ นขยั บ ซื้ อ บริ ษั ท แอนิ เ มชั่ น ที่ ฮอลลีวู้ด โดยต้องการแข่งขันกับฮอลลีวู้ด แต่ ไม่สามารถเจาะทะลวงเข้าไปได้ เพราะยังไม่ เก่งพอทีจ่ ะต่อกรกับบริษทั ใหญ่ในฮอลลีวดู้ ได้ เมื่อผลิตหรือสร้างภาพยนตร์ระดับโลกไม่ได้ เอง จีนก็คดิ จะซือ้ ตัวสตีเวน อัลลัน สปีลเบิรก์ ผูก้ า� กับและผูส้ ร้างภาพยนตร์ชาวอเมริกนั ซึง่ กวาดรางวัลออสการ์มานับครั้งไม่ถ้วน “แต่เมื่อคิดดูแล้วว่าคงซื้อไม่ได้ จีนจึง เปลี่ยนวิธีหันไปซื้อโรงภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุด ในสหรัฐอเมริกา ซึง่ ทางสหรัฐอเมริกาไม่สนใจ ที่จะท�าโรงภาพยนตร์ต่อ เพราะกว่าจะท�า


“เราต้องสนับสนุนและกระตุ้นให้ ค น ไ ท ย ตื่ น ตั ว กั บ ก า ร เ รี ย น รู ้ เพราะแม้ แ ต่ ซี พี เ องยั ง ต้ อ งเรี ย นรู ้ ตลอดเวลา หากจะท�าธุรกิจกับคนจีน ต้องเริ่มตั้งแต่การเรียนภาษาอย่าง จริงจัง ให้สามารถใช้งานได้จริง”

59


ก�าไรได้ ต้องใช้เวลาค่อนข้างนาน การเดิน หมากของจีน จึงเปรียบเสมือนการไปซือ้ ชาม ข้าว คุมโรงภาพยนตร์ไว้ เหมือนเถ้าแก่มสี นิ ค้า มาขาย ต้องมาที่ร้านของฉันเท่านั้น ฮอลลีวู้ด ต้องยอมสยบใต้ปีกพญามังกรในที่สุด” ตอนนีร้ ฐั บาลจีนพยายามส่งเสริมให้ทงั้ ภาครัฐและภาคเอกชนออกไปลงทุนในต่าง ประเทศมากขึ้น สอดคล้องกับนโยบายของ รั ฐ บาล เดิ น หน้ า ให้ จี น เป็ น เศรษฐกิ จ ที่ มี บทบาทส�าคัญที่สุดในโลก ซึ่งจีนรู้ดีว่ายุโรป และอเมริกาในระยะนี้ภาวะเศรษฐกิจก�าลัง เหนื่อยล้า จะไม่เน้นอุตสาหกรรมหนัก โดย เฉพาะสหรั ฐ อเมริ ก าที่ จ ะให้ น�้ า หนั ก กั บ อุตสาหกรรมบริการ (Service Industry) ถึง 85% เอาแบบกินต้นน�้า หากเป็นปลายน�้าจะ ปล่อยให้จีนหรืออินเดีย จีนเติบโตมาได้ 30-40 ปี ก็เพราะ นโยบายย้ายถิ่นการผลิตไปเมืองจีน จนจีน กลายเป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก “ต้ อ งยอมรั บ ว่ า ในด้ า นเทคโนโลยี แม้แต่ในการแข่งขันทางอวกาศ จีนก�าลัง

60

พั ฒ นาจะไปดวงจั น ทร์ แต่ ยั ง ช้ า กว่ า สหรัฐอเมริกา 60 ปี ช้าสุดก็เหมือนกระต่าย แข่งกับเต่า กระต่ายอยู่ของมันแบบนั้น เต่า กลับเดินไปเรื่อยๆ แล้วก็คว้าชัยชนะ ตอนนี้ จีนไม่ใช่เป็นเต่าเหมือนเดิมแล้ว ต่อไปจีนจะ เป็นเต่าติดปีก มันจะฉลาดกว่าคือ มันไปขีบ่ น หลังกระต่าย แล้วท�าให้กระต่ายต้องวิ่งไปสู่ เส้นชัย “เพราะเวลานี้คนจีนหรือนักเรียนจีน อยู ่ ใ นสหรั ฐ อเมริ ก า 3 แสนกว่ า คน จาก จ�านวนนักเรียนนักศึกษากว่า 3 ล้านคน ใน อดีต 20 ปีที่แล้วจีนมีแค่ 1 หมื่นคนเท่านั้น และหลายมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา ต้อง ยอมรับว่าหากพูดถึงด้านการเงินต้องยกให้ นักเรียนจีนที่เก่งค�านวณ” ที่ส�าคัญเมื่อก่อนรัฐบาลสหรัฐอเมริกา สนับสนุนให้ทุน แต่วันนี้พ่อแม่ของนักเรียน จากจีนส่งเงินให้ลกู หลานได้เรียน นักเรียนจีน ในสหรัฐอเมริกา 3 แสนคนเป็นจ�านวนที่มาก พอสมควร แล้วพ่อแม่ยังมาซื้อบ้านดีๆ ที่ สหรัฐอเมริกาให้อีก ไม่ใช่บ้านแบบกระจอก

นอกจากนีน้ กั เรียนจากจีนในจ�านวนนี้ มีอีก 10% ที่เป็นนักเคมี ฟิสิกส์ นิวเคลียร์ เรียนจบปริญญาก็ท�างานกับบริษัทในสหรัฐ และน�า ความรู ้ เ หล่ านั้ น ไปให้ จี น จี น ถึ ง ได้ พัฒนาอาวุธ พัฒนาด้านต่างๆ จนถึงเวลานีท้ กุ แผนกในสหรัฐอเมริกาไม่มีที่ไหนไม่มีคนจีน จากมหาวิทยาลัยชื่อดังจนถึงมหาวิทยาลัย เล็กๆล้วนได้ยินแต่คนพูดภาษาจีน พูดง่ายๆ ว่ามหาวิทยาลัยทุกแห่งที่มีชาวต่างชาติจะมี นักศึกษาจีนมากเป็นอันดับ 1 โลกวั น นี้ ก ลั บ ตาลปั ต ร นั ก ธุ ร กิ จ อสังหาริมทรัพย์ในจีนร�่ารวยทุกราย เพราะมี ประชากรมาก แต่ พื้ น ที่ น ้ อ ย ไม่ เ หมื อ น อสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาทีร่ าคาถูก มี เงินจ�านวนเท่ากันไปซือ้ ทีใ่ นสหรัฐเมริกาได้ 3 เท่า เวลานี้เงินทุนส�ารองเงินตราระหว่างของ จีนมีมหาศาลถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์ แตกต่าง กับสหรัฐอเมริกาที่มีหนี้สาธารณะ 16 ล้าน ล้านดอลลาร์ เงินสกุลยูโรเดี้ยง เงินเยนของ ญี่ปุ่นก็สู้ไม่ได้


อ�านาจและบทบาทของจีนในเวทีโลก จึ ง มี ม ากขึ้ น เงิ น หยวนมี พ ลั ง ต่ อ รอง แม้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวแค่ 6% แต่ขนาดของเศรษฐกิจจีน ใหญ่มากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ จี น เล่ น ทุ ก วิ ถี ท าง เร่ ง ปรั บ ตั ว ให้ เศรษฐกิจภายในประเทศแข็งแรงขึ้น ถึงแม้ เศรษฐกิจจะถดถอย แต่เป็นการถดถอยเพื่อ ปรับตัวมากกว่า ซึ่ง ดร.สารสินได้แย้มโอกาส ทองทางธุรกิจของไทยที่จะไปท�ามาค้าขาย ในประเทศจีนว่า จีนมีประชากรอยู่ในชนบท สูงถึง 800 ล้านคน ก�าลังจะเปิดเมืองใหม่อีก 1,000 เมือง เมืองละ 1 ล้านคน โอกาสของบริ ษั ท ธุ ร กิ จ ไทย แค่ ท� า สุขภัณฑ์หอ้ งน�า้ น�าเข้าไปขายในเมืองจีนอย่าง เดียวก็ไปได้ไกล 10 ปีก็รวยแน่นอน และถ้า จีนพัฒนาห้องน�้าเพียงอย่างเดียวก็จะไปไกล มาก ประเทศอินเดียอยู่ในระนาบเดียวกันที่ 50% ของคนอินเดียไม่มีห้องน�้าใช้เช่นกัน แต่ จีนปฏิรูปได้เร็วกว่า

ฉะนั้นไทยต้องรีบเข้าไปตักตวงทุกมิติ เพราะจีนเป็นตลาดใหญ่ เราก็ตอ้ งดึงตลาดใหญ่ มาแล้วดึงสินค้าของเราเข้าไปเชื่อมโยงกัน เช่น กรณีที่จีนเข้ามาปลูกผลไม้ในไทยอย่าง กล้วยหอม เพราะอากาศในเมืองจีนไม่เอือ้ ต่อ การเพาะปลู ก จึ ง เข้ า มาปลู ก ในเชี ย งใหม่ เชี ย งรายซึ่ ง ท� า ให้ จั ง หวั ด เหล่ า นี้ ดี ขึ้ น มา ตามล�าดับ “จุดนีแ้ ทนทีเ่ ราจะไปบอกว่าจีนเข้ามา ท�าลายสิ่งแวดล้อม เราต้องเข้าไปสอน เข้าไป บอก เพราะจีนยอมรับว่าท�าไปด้วยความไม่รู้ และเข้ามาเรียนรู้ ดังนั้น อย่าต่อต้านจีน อย่า มองด้านลบ เราต้องเข้าใจจีนและอยู่ร่วมกัน ไม่ใช่คนไทยรักชาติหรือชาตินิยม แต่ยังไม่ เข้าใจจีนว่าจะร่วมมือกันอย่างไร “โดยขอให้เปลี่ยนมุมมองว่าเราเอา ตลาดจี น เอาทุ น จี น มา แม้ จ ะเข้ า ใจยาก เพราะจีนเป็นตลาดยักษ์ใหญ่ ซึง่ ในอดีตเรายัง คบกับยักษ์ใหญ่และยังได้ประโยชน์จากยักษ์ ใหญ่ดว้ ย สมัยก่อนเราเป็นประเทศเล็กกว่าจีน เยอะ เรายังเคยเป็นรัฐบรรณาการของจีนตั้ง กี่ร้อยปี ท�าไมเราถึงได้ประโยชน์จากจีนได้” ดร.สารสินย�้าว่า นับต่อจากนี้อีก 5 ปี อิ ท ธิ พ ลจี น ในประเทศไทยจะมี ม ากขึ้ น

แน่ น อน อาจจะเพิ่ ม เป็ น เท่ า ตั ว เฉพาะ จ�านวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาเที่ยว เมืองไทยก็มีแนวโน้มจะเพิ่มเป็น 20 ล้านคน ต่อปี จากนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางทั่วโลก ประมาณ 100-200 ล้านคนต่อปี ส่วนด้าน การลงทุนมีแนวโน้มจะเพิ่มเป็น 3 เท่า เรา ต้องรู้จักใช้ประโยชน์ตรงนี้ “ในอีก 5 ปีข้างหน้า เราคงเห็นคนจีน ในเมืองไทยเพิ่มมากขึ้น และมีโอกาสที่จะ กระทบกระทั่งกันมากขึ้น เราควรเตรียมตัว และท�าตัวให้เป็นมิตร ไม่ใช่มองเป็นศัตรู และ ถ้าเริ่มมองเห็นโอกาส 5 ปีข้างหน้าธุรกิจจีน จะไป ไทยต้องเตรียมรับมือให้พร้อม โดย เฉพาะการก�าหนดยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนเพื่อ รองรั บ การเปลี่ ย นแปลงที่ ก� า ลั ง จะเกิ ด ขึ้ น อย่างทันเหตุการณ์ เช่น ในปัจจุบัน ธุรกิจอีคอมเมิร์ซถือเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในจีน เรา ควรจะส่งคนไปเรียนภาษาและเรียนรูเ้ กีย่ วกับ อี-คอมเมิร์ซเพื่อน�ากลับมาใช้ประโยชน์ให้ได้ มากที่สุด “เราต้องสนับสนุนและกระตุ้นให้คน ไทยตื่นตัวกับการเรียนรู้ เพราะแม้แต่ซีพีเอง ยังต้องเรียนรู้ตลอดเวลา หากจะท�าธุรกิจกับ คนจี น ต้ อ งเริ่ ม ตั้ ง แต่ ก ารเรี ย นภาษาอย่ า ง

61


จริงจัง ให้สามารถใช้งานได้จริง อยากท�าธุรกิจ ก็ตอ้ งเรียนรูร้ อบด้าน ต้องมีความรู้มากพอที่ จะประกอบอาชีพได้โดยไม่ถกู เอารัดเอาเปรียบ” หากประเมินแนวโน้มการค้าการลงทุน ระหว่างไทย-จีนในอนาคตแล้ว ดร.สารสิน ยืนยันว่ายังเต็มไปด้วยโอกาสส�าหรับนักธุรกิจ ไทย ไม่ใช่แต่ธรุ กิจขนาดใหญ่อย่างซีพที ไี่ ปไกล มากแล้ว แต่ยงั เป็นโอกาสส�าหรับธุรกิจขนาด กลางและขนาดเล็ก (เอสเอ็มอี) ที่ต้องเริ่ม เรียนรูจ้ ากคนจีนทีเ่ ข้ามาเมืองไทยนับสิบล้าน คน ต้องแสวงหาข้อมูลทีเ่ ราต้องการ เพือ่ น�าไป ประมวลผลและหาโอกาสทางธุรกิจต่อไป ทั้ ง นี้ อาจท� า แบบสอบถามนั ก ท่ อ ง เที่ยวจีน เช่น มาเมืองไทยชอบซื้ออะไรบ้าง ประทับใจอะไรมากที่สุด ธุรกิจไทยจะไปข้าง หน้าได้ต้องพึ่งข้อมูลเหล่านี้ ศึกษาพฤติกรรม ของผู้ซื้อผู้บริโภค และต้องย้อนกลับมาถาม

62

เรากันเองว่า เรารู้จักจีนแค่ไหน ถ้าเรามอง เห็นโอกาสทีเ่ ราสามารถไปท�าอะไรในเมืองจีน ได้ ถ้าเรามีความพร้อม ก็เกิดขึ้นได้ทันที ไม่ ต้องไปพึ่งส�านักข่าวอะไรที่ไหน ต้องเริ่มจาก ข้อมูลที่หาได้จากแหล่งข้อมูลใกล้ตัวก่อน การท�าอะไรร่วมกัน ท�าไมต้องคิดว่าจีน จะเข้ามาเอาประโยชน์จากเราฝ่ายเดียว ถ้าจะท�า อะไรก็ตอ้ งได้ประโยชน์ทงั้ สองฝ่าย อย่างกรณีที่ เมืองยูนนาน ทีเ่ ปลีย่ นจากการปลูกชาและหัน ไปปลูกกาแฟแทน เราก็ตอ้ งไปศึกษาบ้างว่าเรา มีโอกาสจะไปลงทุนท�าอะไรได้บา้ ง เพราะถือเป็น เมืองทีค่ นไทยไปเยือนมากทีส่ ดุ เมืองหนึง่ หรือ กรณี ที่ ค นจี น เริ่ ม เข้ า มาเพาะปลู ก ผลไม้ ที่ เชียงใหม่หรือเชียงราย ก็ทา� ให้ทงั้ สองจังหวัดบูม ขึน้ มา เพราะคนจีนขายได้ทกุ อย่าง เพียงแต่เรา ไม่ได้เตรียมรับมือ ทัง้ ทีส่ ามารถเชือ่ มโยงกันได้ ทุกอย่างทัง้ การค้าการลงทุนหรือแม้แต่ระบบ

ขนส่งระหว่างสองประเทศ (โลจิสติกส์) ทีอ่ าจเริม่ ต้นทีช่ ายแดนก่อน “ผมคิดว่าธุรกิจเอสเอ็มอีทชี่ ายแดนจะ ท�าให้เชียงใหม่หรือเชียงรายมีความหมาย มากมายกับจีน อิทธิพลจีนจะเข้ามาเร็วมาก ถนนจะมาแล้ว รถไฟมาแล้ว แล้วไทยจะต้าน กระแสได้หรือไม่ การคว้าโอกาสในจีนนั้นจึง ไม่ใช่เรือ่ งไกลตัว แต่เป็นการใช้ประโยชน์จาก ฐานข้อมูลของนักท่องเที่ยวจีน เพื่อน�าไป ประกอบการประมวลผลหาโอกาสทางธุรกิจ และการผนึ ก ก� า ลั ง ของเอสเอ็ ม อี ต ามแนว ชายแดนร่วมกัน” ผูบ้ ริหารซีพฝี ากถึงผูป้ ระกอบการไทยที่ สนใจลงทุนกับจีนว่า ความส�าเร็จในอนาคตไม่ใช่ เรือ่ งยาก แต่สงิ่ ส�าคัญคือต้องเกิดจากการสร้าง โอกาสร่วมกัน และก่อนจะพูดว่าจะขายอะไรไป เมืองจีน ต้องรูจ้ กั เมืองจีนให้ดกี อ่ น


中国动一动,全球大地 震” 这说法不夸张,反映出中 国对世界的影响,东盟博览杂 志荣幸向正大集团执行副总裁 吴汉泉这位“中国通”请教, 以及请他与广大读者分享如何 在中泰经贸往来之间寻找商 机。 今天无人不知无人不晓泰 国正大集团,是中国政府批准 注册的第一家外资公司,在 1981年获得编号001的外商投 资批文,当时正大集团在中国

第一个业务是生产饲料,并且 在深圳建立第一家饲料工厂, 发展到现在正大集团在中国的 业务已经扩大到各个行业,“ 正大”已成为全球知名品牌, 企业增长与利润就更不用说 了,泰国和其他外资均将正大 视为在中国取得成功的榜样。 在与吴汉泉副总裁交流 中,因此注重分析中国经济格 局的改变,包括泰国国内经济 局势。吴汉泉副总裁表示,未 来5-10年内,泰中之间不论是 在贸易、投资方面,还是政

治、经济、教育以及娱乐业方 面均有合作机会。 “提及娱乐业,中国这条 巨龙有明确的目标,那就是占 领全球最大的市场,中国娱乐 业发展特别是电影制作方面还 比不上美国,中国就采取收购 好莱坞动画公司的办法,来与 美国好莱坞竞争,但毕竟专业 性不强,制作出来的作品不能 与好莱坞大公司比,无法制作 出世界级的动画或电影,中国 甚至曾经想拉拢美国著名电影 导演及制片人,拿过众多奥斯 卡大奖的史蒂文·斯皮尔伯 格。” 但中国这个想法也恐怕无 法实现,因此中国改变战略, 收购美国最大的电影院,这个 收购案对于美国政府来说并不 在意,因为美国认为投资电影 院想要赚钱需要很长的时间, 但是中国这一招控制了电影院 这个电影播出平台,以后你要 来卖东西就通过我这个平台, 因此最后好莱坞恐怕也会对中 国让步。 现在中国努力推动国企和 民间企业走出去,去海外投 资,符合中国政府的政策,意 在于提高中国在国际上影响 力。中国知道欧美在这个阶段 经济疲软,不注重发展重工 业,特别是美国,服务业占到 到经济比重85%。美国的政策 就是控制好上游产业,下游产 业交给中国和印度去做。 也正是得益于此,国外将 生产基地放在中国,使得中国 经过30-40年长足发展,变成 世界工厂。 至于中国和欧美国家在科 技方面,乃至在太空领域方面 的竞争,中国的登月技术还落 后美国60年,不过现在中国和

63


美国的情况就如同龟兔赛跑, 兔子在睡觉,而乌龟在慢慢 爬,但结果是乌龟赢得胜利。 现在中国不是那只慢慢爬的乌 龟了,中国是一只插上翅膀的 乌龟,比以前更加聪明,站在 兔子背上朝终点跑。 因为现在每年中国学生赴 美国留学达30多万人,30万人 数不是小数目,20年前中国留 美人数仅1万多人。留美学生 越来越多,美国大学承认中国 学生更善长金融以及计算能力 出众,重要的是以前美国给留 学生奖学金,但是现在中国学 生父母有钱有能力送子女去美 国留学,不少家长还给子女在 美国购买豪宅,而不是普通民 房。 此外,中国留学生中有 10%是原子核物理学专业,毕 业他们在美国公司工作,而将 知识送回到中国,中国则用来 开发武器以及其他方面应用。 现在美国公司每个部门均可看 到中国人的身影。美国接收留 学生的各大学校,留学生中一 定是中国留学生人最多,到处 可以听到中文。 中国房地产开发商很有 钱,因为中国人口多,但是土 地有限,而美国的房地产价格 却便宜,花一样的钱去美国买 房,面积比中国大3倍。现在 中国外汇储备达3万多亿美 金,而美国国债则有16万亿美 金,欧元和日元的影响力也比 不上人民币。 在国际社会,中国的话语 权和影响力与日俱增,人民币 的国际影响力也日益增强,即 使中国GDP增长只有6%,但是 与其他国家相比,中国在经济 规模上占优势。

64

中国采取各种方式提高国 内经济增长,虽然目前经济发 展放缓,只是处在一个调整阶 段,吴汉泉指出,泰国企业开 发中国市场还有机会,因为中 国农村人口有8亿人,现在政 府正在新建1000个城市,每个 城市100万人。 对于泰国企业来说,比如 生产洁厕用品的企业,这些新 城市就是一个潜在的市场,只 要抓住机会企业能占领市

场,10年就能发大财。在洁厕 用品方面,印度也是一个大市 场,50%的人家里没有卫生 间,但是在卫生间改革执行方 面,中国改革速度更加快。 因此,中国市场需求很 大,我们要找对市场然后输送 产品,泰国产品需要早日进入 中国市场。如现在有中国投资 者来泰国租地种植香蕉,因为 中国气候不适合种植,所以有 中国人在清迈、清莱租地种香


我们支持泰国人主动去学习,即使 是正大集团本身也是一直在学习。 如果和中国人做生意,首先要从语 言开始,学会了语言必须用得上, 想要和中国做生意就要全面了解对 方,要有足够的知识才不会吃亏。

蕉,从经济角度讲这样可以推 动这些地方经济和就业。 “种香蕉这个事情遭到当 地一些人反对,但这不是中国 投资者的错,如果说他们的一 些做法破坏环境,我们有责任 要让他们知道,而不是一味去 反对,不要从负面角度去看, 我们要理解他们,才能和平共 处,如果不了解中国怎么来谈 合作。” 有时候双方不理解,我们 应该要转变自身想法,要抓住 中国市场,吸引中国投资。以 前我们国家比中国小很多,几 百年前我们还是中国的属国, 我们要利用好中国这个市场。 吴汉泉强调,今后5年来 自中国的影响会更强,因为现 在中国游客来泰国旅游不断增 加,5年后可能增长至2000万 人次。中国人出境游一年大约 2亿人,带来3倍的投资增长, 所以我们不应放过这个机会。

在未来5年,街上遇到的 中国游客将增加,可能有时候 文化差异会导致一些冲突,对 于泰国来说应该做好准备,友 好对待这些游客,而不是敌 人。如果分析未来5年商业发 展,中国商业布局将延伸至泰 国,所以泰国需拟定明确的战 略应对正在改变的局势。如目 前电子商务在中国拥有最大的 市场,我们应该派人去学习中 文,学习使用电子商务平台, 未来才能发挥作用。 我们支持泰国人主动去学 习,即使是正大集团本身也是 一直在学习。如果和中国人做 生意,首先要从语言开始,学 会了语言必须用得上,想要和 中国做生意就要全面了解对 方,要有足够的知识才不会吃 亏。 在泰中之间投资贸易趋势 方面上,吴汉泉坚持认为,对 于泰国企业还是有很多机会,

特别是中小型企业,不仅仅是 正大这种大型企业。所以要开 始学习了解中国人心理,简单 来说,可以观察到泰国旅游的 中国游客,从他们身上收集信 息,从中找到商机。 比如对中国游客做一些调 查,了解他们到泰国喜欢买什 么,对什么比较感兴趣,泰国 企业想要发展就必须掌握这些 资料,研究消费者行为。问我 们自己是否已经对中国有足够 的认识,如果我们看到机会, 觉得某个产品可以卖到中国, 那我们就要马上去做,不需去 依靠新闻分析,可以自己先从 身边的资讯中需找商机。 假若中国想和我们合作, 为何会认为中国来占便宜,合 作本身就应该双方有利益。比 如现在云南不种茶叶改种咖 啡,我们可以去研究是否有投 资机会,因为云南是距泰国最 距离最近的中国城市,或者中 国人到清迈、清莱投资种植水 果,这可以给地方经济带来投 资和就业,我们其实可以卖很 多东西给中国,只是没有准备 好。在边境地区可以合资贸易 或者物流服务开始。 吴汉泉说:“我认为边境 的中小型企业可以推动地区经 济发展,并且中国影响力将日 益体现,公路有了,铁路来 了,泰国能反对这个趋势吗。 要在中国身上找机会不难,但 是要做好中国游客需求资料 库,才能可以从中寻找商机, 共同利用边境做好中小企业合 作。” 正大集团副总裁最后说, 未来想取得成功不难,重要的 是共同创建机会,先要了解中 国,再考虑卖什么产品。

65


66


处处为客、处处为家

中华客家海鲜酒楼 在你享受美食的同时,也可以让你学习到每一道菜的文化来源, 这就是中华客家海鲜酒楼。 家饮食民俗古风浓厚,饮食民俗中 的养生保健意识尤为鲜明。客家菜用料讲究鲜 嫩,讲究野生、家养、粗种;加工讲究煮、 煲、炖,讲究粗刀大块,不破坏食物营养与纤 维;烹调讲究原汁原味,不使过浓佐料,清淡 可口,利于消化;所有这些,都反映出客家人 在千百年的生活实践中,勤于探索养生之道, 善于总结保健经验,注重利用自然中潜藏的科 学道理。 泰国「中华客家海鲜酒楼」是一家充满客 家文化底蕴的美食坊,深受背井离乡的海外华 人华侨喜爱,除了享受故乡客家美食,还为五 湖四海的朋友提供一个交流平台。 中华客家海鲜酒楼是一家适宜家庭聚会、 朋友聚餐,商务宴请的特色客家餐厅,位于拉 玛2区,内设包厢,服务周到,设施完善。中 华客家海鲜酒楼以中国传统客家菜、海鲜为 主,主推的特色菜有:盐焗鸡,酿豆腐,酿苦 瓜及红焖肉。欢迎在泰华人朋友前往品尝。

营业时间:10.00-02.00 地址:中华客家海鲜酒楼位于曼谷挽坤天路挽坤天海边区,第11巷至13 巷进入100米左边。 67 预定电话: 091-8830123,02-4645622。


กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ดื่มด�่าความสุขในเมืองไทย เสน่ห์มัดใจนักท่องเที่ยวจีน

泰旅游部长葛甘•瓦塔纳瓦朗军 尽情畅游魅力泰国 中国游客乐不思蜀

ะไรเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้นักท่องเที่ยว จีนยกขบวนเข้ามาเที่ยวเมืองไทยคึกคัก อย่างทุกวันนี้ บุคคลที่บอกเล่าได้ดีต้องยกให้ กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเปิดใจ กับนิตยสาร TAP (THAI-ASEAN PANORAMA) ว่ารัฐบาลไทยให้ความส�าคัญต่ออุตสาหกรรม ท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะนักท่อง เที่ยวจากจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่และมีน�้าหนัก มากในการกระตุน้ เศรษฐกิจของประเทศไทย นักท่องเทีย่ วจีนทีเ่ ดินทางมาท่องเทีย่ ว ในไทยครองอันดับ 1 คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 25% หรือประมาณ 7.9 ล้านคน จากยอดนัก ท่องเทีย่ วต่างชาติทเี่ ดินทางมาไทยในปี 2558 รวมประมาณ 29.8 ล้านคน และยังมีแนวโน้ม การเติบโตของนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง เพื่อเป็นการยกระดับให้เป็นแหล่ง ท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ประเทศไทยได้เตรียม เป็นเจ้าภาพจัดงาน การประชุมวันท่องเทีย่ ว โลก (World Tourism Day) ในวันที่ 27 กันยายน 2559 และเป็นเจ้าภาพจัดงาน ประชุ ม ใหญ่ ด ้ า นท่ อ งเที่ ย วของกลุ ่ ม

68

นั ก ลงทุ น ที่ ใ หญ่ ที่ สุ ด ในโลก World Travel and Tourism Council (WTTC) ในเดือนมิถุนายน 2560 กระทรวงการท่องเทีย่ วฯยังคงเดินหน้า ท�าการตลาดและพัฒนาการท่องเทีย่ วทีไ่ ม่ใช่ไป แค่เมืองใดเมืองหนึ่งในประเทศจีนเท่านั้น รัฐบาลไทยต้องขอขอบคุณรัฐบาลจีนเป็นอย่าง มากทีใ่ ห้โอกาสการท่องเทีย่ วแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้เปิดส�านักงานการท่องเที่ยวถึง 5 เมืองด้วยกัน อาทิ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว เฉิงตู และคุนหมิง และทราบมาว่าไทยเป็น ประเทศทีไ่ ด้โควต้าเปิดส�านักงานการท่องเทีย่ ว ในมากทีส่ ดุ ขณะเดียวกันการท่องเทีย่ วของจีน ซึง่ เป็นหน่วยงานคล้าย ททท.ของไทยก็มาเปิด ส�านักงานการท่องเทีย่ วในไทย ทาง ททท.ก็ให้ ความสะดวกด้วยเช่นกัน การท�าการตลาดการท่องเที่ยวได้ท�า อย่างต่อเนือ่ ง ซึง่ มี 5 เมืองหลักทีม่ ชี อื่ เสียงอยู่ แล้วและเริม่ เข้าไปเมืองระดับรองทีใ่ หญ่มากๆ และมีนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง โดยนัก ท่องเที่ยวแต่ละเมืองมีลักษณะที่แตกต่างกัน ไป เช่นนักท่องเที่ยวจากเซี่ยงไฮ้ที่เดินทางมา

เที่ยวไทยแล้ว ส่วนใหญ่จะกลับมาอีก ซึ่งเป็น นั ก ท่ อ งเที่ ย วอิ ส ระที่ ม าเอง (Foreign Individual Tourism (FIT)) เกือบ 80-90% เพราะเป็นเมืองที่พัฒนาในระดับหนึ่งแล้ว ตรงกันข้ามกับเมืองใหม่ๆ ทีต่ อนเริม่ เข้าไปท�า ตลาดนักท่องเที่ยวกว่า 80% เป็นกรุ๊ปทัวร์ ในอนาคตแนวโน้มนักท่องเที่ยวจีนจะ พั ฒ นาจากกรุ ๊ ป ทั ว ร์ ม าเป็ น FIT มากขึ้ น เพราะคนรุ่นพ่อรุ่นแม่จะเที่ยวต่างประเทศ แบบกรุ๊ปทัวร์ เนื่องจากไม่ได้ภาษาและใช้ เทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างสมาร์ทโฟนไม่เป็น ต่ า งจากเด็ ก รุ ่ น ใหม่ ที่ อ าจจะพู ด หรื อ ใช้ ภาษาไม่ได้ แต่สมาร์ทโฟนมีแอพพลิเคชั่น (Application) เข้ามาเป็นตัวช่วย ซึ่งมีค�า อธิบายแปลเป็นภาษาจีน ตรงกับงานวิจยั ของ ไทยว่าในอนาคตนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะ กระโดดเป็น FIT ตั้งแต่เริ่มต้น


69


ขณะที่นักท่องเที่ยวอาเซียนเป็นอีก กลุ่มที่มีแนวโน้มเดินทางมาเที่ยวเมืองไทย เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอันดับ 2 รองจาก จีน คือ มาเลเซีย เมื่อรวมอีก 9 ประเทศใน อาเซียนที่เข้ามาไทยเมื่อปี 2558 มี 7.8 ล้าน คน เป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจของประเทศ เหล่านีท้ ผี่ ลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ( จีดพี )ี เติบโตเร็ว และสัดส่วนนักท่องเที่ยวจากยุโรป ก็เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากอังกฤษในปี 2559 อาจจะเพิ่มขึ้นถึง 10% ส� า หรั บ ปั จ จั ย ส� า คั ญ นั้ น รั ฐ มนตรี ว่าการกระทรวงการท่องเทีย่ วฯระบุวา่ อันดับ แรกเป็ น ภาพแห่ ง ความเชื่ อ มั่ น ภายใน ประเทศไทยที่กลับมาแล้ว จากช่วงแรกเมื่อ รัฐบาลเข้ามาใหม่ๆ จะถูกมองว่ามีเสถียรภาพ หรือไม่และโยงไปถึงความปลอดภัยของนัก ท่องเที่ยว อันดับ 2 เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นครั้งคราว อย่างเหตุระเบิดที่ย่านราช ประสงค์ ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนหลายคนโดน สะเก็ดระเบิด บ้างก็มีอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ แต่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในไทยก็พยายาม

70

แก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ รวดเร็วและทันใจ แม้ จะเป็นปัญหาที่เข้าใจได้ว่าสามารถเกิดขึ้นได้ ทั่วโลก แต่ไทยสามารถดูแลนักท่องเที่ยวได้ แบบใจถึงใจ ดั่งญาติมิตร อันดับ 3 ประเทศไทยได้ออกแคมเปญ “การท่องเทีย่ ววิถไี ทย” ซึง่ เป็นวิถขี องคนไทย โดยดึ ง อั ต ลั ก ษณ์ ข องคนภาคต่ า งๆ ใน ประเทศไทย ทั้ ง คนล้ า นนาแบบเชี ย งใหม่ ภาคใต้ที่ภูเก็ต ภาคอีสาน ภาคตะวันออก กรุงเทพมหานคร ซึ่งตอบโจทย์การท่องเที่ยว และในปี 2559 นักท่องเทีย่ วคงทะลุ 30 ล้านคน แน่นอน ในจ�านวนนี้ 70% เป็นนักท่องเที่ยว ที่มาซ�้า ซ�้าจนจ�าไม่ได้ว่ามากี่รอบแล้ว ตรงนีเ้ ป็นค�าตอบทีเ่ ราได้สอบถาม และ เมื่อท�าการวิจัยต่อว่าท�าไมนักท่องเที่ยวชอบ มาเที่ยวเมืองไทยซ�้า ทุ ก คนจะบอกเป็ น เสี ย งเดี ย วกั น ว่ า ประเทศไทยดีทุกอย่าง อาหารอร่อย ทะเล สวย ภูเขาสวย มีศิลปวัฒนธรรม และที่ลึก ทีส่ ดุ ทีท่ า� ให้นกั ท่องเทีย่ วกลับมาเมืองไทย คือ ชอบคนไทย นี่คือ DNA ที่แท้จริง ซึ่งมีความ

เป็นมิตรชอบบริการผู้อื่น เป็นคาแรคเตอร์ ของคนไทย มีนักท่องเที่ยวจ�านวนมากนิยม กลับมาพักที่โรงแรมเดิม ใช้บริการแท็กซี่คัน เดิม เพราะประทับใจในการบริการ “การท่องเที่ยววิถีไทย” ยังไม่เพียง พอทีจ่ ะดึงดูดนักท่องเทีย่ วจากทัว่ โลก เพราะ ปัจจุบันตลาดการท่องเที่ยวของโลกแข่งขัน กันสูง มีอตั ราการเติบโตประมาณ 4-5% ทุกปี และในอีก 5-10 ปีข้างหน้า แนวโน้มนักท่อง เที่ยวที่มาเมืองไทย ไม่ใช่เพราะราคาถูก หรือ มีอบายมุข ไทยจึงเริม่ วางยุทธศาสตร์ยกระดับ การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพที่ยั่งยืน ซึ่งปัจจุบัน เราก�าลังเปิดตัวแคมเปญท่องเทีย่ วเชิงสุขภาพ และท่องเที่ยวเชิงกีฬา “ตอนนี้คนจีนเหมือนกับคนหลายๆ ชาติ โดยเฉพาะคนรุน่ ใหม่ทมี่ ตี วั ตนของตัวเอง ชอบวิง่ มาราธอน ปัน่ จักรยาน ชกมวยไทย เข้า วัดนั่งสมาธิ สอนท�าอาหารไทย พูดให้เห็น ภาพว่าเมื่อมาท่องเที่ยวที่เมืองไทยแล้วไม่ใช่ ได้แค่ความสนุกกลับไป แต่จะได้สาระติดตัว นักท่องเที่ยวกลับไปด้วย”


หากตั้งค�าถามว่านักท่องเที่ยวจีนเข้า มาเมืองไทยต้องการเที่ยวที่ไหนและท�าอะไร มากที่ สุ ด โดยหลั ก แล้ ว คนจี น ชอบรั บ ประทานผลไม้ ไปวัดพระแก้ว กรุงเทพฯ แล้วไปต่อวัดร่องขุน จ.เชียงราย ขณะเดียวกัน เราต้องใส่อะไรเสริมเข้าไปให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ ของเขา โดยพบว่าจะมีคนจีนบางกลุ่มเข้ามา เพื่อเหตุผลด้านสุขภาพ บ้างก็มาปรึกษาศูนย์ มี บุ ต รยาก เลื อ กเพศ สเต็ ม เซลล์ เพราะ นอกจากการเข้าคิวโรงพยาบาลทีเ่ มืองไทยจะ ไม่ยาวเหยียดเหมือนจีนแล้ว บริการยังต่างกัน มาก พยาบาลยิ้ ม แย้ ม แจ่ ม ใสเหมื อ นการ บริการในโรงแรม ซึ่งไม่ใช่แต่โรงพยาบาลใน กรุงเทพฯเท่านัน้ แต่ยงั รวมถึงโรงพยาบาลใน จังหวัดท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น ภูเก็ต จังหวัดหนึ่ง ทางภาคใต้ ข องไทยที่ มี ชื่ อ เสี ย งด้ า นความ สวยงาม และถูกกล่าวถึงกันแบบปากต่อปาก โดยไม่ต้องโฆษณาอะไรมาก นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ อาทิ 12 เมืองต้องห้ามพลาด เมือ่ นักท่องเทีย่ ว เดินทางไปพั ทยา จ.ชลบุรี ก็แวะไปเยือน จันทบุรี ซึง่ เป็นเมืองแห่งสวนสวรรค์รอ้ ยพันธุ์ ผลไม้ จ.ตราด ซึง่ เป็นเมืองเกาะในฝัน ทัง้ สอง จังหวัดที่อยู่ทางภาคตะวันออกของไทย “นักท่องเที่ยวจีนไปกันเยอะ ไม่ใช่ไป ซื้อผลไม้เท่านั้น แต่ยังซื้อพลอยเม็ดสวยงาม ติดไม้ติดมือกลับไปด้วย และเมื่อเลยไปถึง ตราด ก็เป็นเมืองท่องเที่ยวซีโร่ คาร์บอน ซิตี้ (Zero carbon city) และเป็นเมืองที่เงียบ หันไปที่ภาคใต้ของไทยก็ไม่ใช่ที่ภูเก็ตเท่านั้น ยังมีกระบี่ พังงา ไว้รอท่าให้มาเยือน ขึ้นไป ทางภาคเหนื อ ของไทยก็ ไ ม่ ใ ช่ มี เ ฉพาะ เชียงใหม่ เชียงราย แต่ยังมีล�าปาง เมืองที่ไม่ หมุนตามเวลา เป็นสถานทีท่ อ่ งเทีย่ วทีแ่ จ้งเกิด แล้ ว และก� า ลั ง สร้ า งต่ อ และมี ห น้ า ที่ ส่งไม้ต่อไปพะเยา “ขยับไปที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศไทย ซึ่ ง ก� า ลั ง ดึ ง จุ ด แข็ ง ของ

จังหวัดต่างๆในภาคตะวันออกเฉียงเหนือออก มาดึงดูดนักท่องเทีย่ ว เพือ่ พัฒนาเป็นการท่อง เที่ยวเชิงประชุม การท่องเที่ยวเชิงกีฬา การ ท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม” สิง่ ทีเ่ ราต้องท�าต่อไป คือ จะท�าอย่างไร ให้นักท่องเที่ยวมาประเทศไทยแล้วกลับไป อย่างมีความสุข ซึ่งเป็นเรื่องที่มีการหารือกับ ทางรัฐบาลจีนเช่นกัน โดยทางการจีนย�า้ ว่าไม่ ต้องการให้นักท่องเที่ยวเข้ามาแล้วถูกหลอก และรัฐบาลไทยก็ไม่ตอ้ งการให้เกิดขึน้ เหมือน

กัน เขายังต้องการให้นักท่องเที่ยวจีนได้เดิน ทางท่องเที่ยวและได้เรียนรู้อะไรมากขึ้นกลับ ไปด้วย ท า งเ อ กอั ค รราชทู ต จี น ป ระ จ� า ประเทศไทยทีเ่ พิง่ ได้เจอกัน ก็ตอ้ งการให้มกี าร พัฒนามัคคุเทศก์ ท่านบอกว่าจะปล่อยเลยตาม เลยไม่ได้ อันดับแรกมัคคุเทศก์ทพี่ ดู จีนได้ จะ ต้องมีกติกาก�าหนดให้พูดได้ดีกว่านี้ ท่านยัง ต้องการให้นักท่องเที่ยวจีนฟังประวัติศาสตร์ ไทย แต่มัคคุเทศก์ของไทยเป็นห่วงตรงจุดนี้

71


“เป้าหมายของทั้งสองประเทศในด้าน การท่องเทีย ่ วไม่ใช่แค่เชือ่ มกันด้วยเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นแค่ส่วนเดียว จุดที่ส�าคัญจริงต้องให้ เกิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน...” เพราะนั ก ท่ อ งเที่ ย วจี น บางคนไม่ อ ยากจ� า ประวัตศิ าสตร์ไทย เหมื อ นเราไปท่ อ งเที่ ย วประเทศจี น มัคคุเทศก์ของจีนจะถูกให้เล่าอะไรบางอย่าง ที่ทางการจีนบังคับให้ฟัง เพื่อจะได้เข้าใจ ภาพพจน์ ที่ แ ท้ จ ริ ง ของจี น เหมื อ นน� า ประวัติศาสตร์ฉบับย่อมาบอกกล่าวให้ฟัง มา แล้วต้องรูป้ ระวัตศิ าสตร์จนี บ้าง ความสัมพันธ์ ระหว่างจีนกับไทยด้านการท่องเที่ยวไม่ใช่

72

เพียงแค่มีจ�านวนตัวเลขนักท่องเที่ยว หรือมี รายได้เท่าไหร่แล้วจบ แบบนีไ้ ม่ยงั่ ยืน เขากลับ มองว่ า เมื่ อ เที่ ย วแล้ ว เราจะรั ก กั น มากขึ้ น เข้าใจซึ่งกันและกันมากขึ้น ฉะนั้น อย่าไปห่วงว่านักท่องเที่ยวจีน จะอยากฟั ง หรื อ ไม่ อ ยากฟั ง และต้ อ งให้ มัคคุเทศก์อธิบายอย่างน้อยเป็นประวัตศิ าสตร์ ฉบับย่อที่ถูกต้อง จะเพิ่มความเข้าใจจากการ ท่องเที่ยวที่มีความสัมพันธ์ระดับหนึ่งแล้ว

จะก่อให้เกิดความสัมพันธ์อีกระดับที่ลึกซึ้ง ยิ่งขึ้น เป้าหมายของทั้งสองประเทศในด้าน การท่องเที่ยวไม่ใช่แค่เชื่อมกันด้วยเศรษฐกิจ ซึง่ เป็นแค่สว่ นเดียว จุดทีส่ า� คัญจริงต้องให้เกิด การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เกิดความสมดุล ระหว่างเศรษฐกิจ ชุมชน กับสิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยวไม่มีการเมือง การท่องเที่ยวคือ การสร้างมิตร สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง แม้ จ ะยั ง มี อุ ป สรรคในบางเรื่ อ งของ นักท่องเที่ยวจีนที่มาไทย แต่ถึงวันนี้แล้วคน ไทยเข้าใจนักท่องเที่ยวจีนมากขึ้น และเป็น เจ้าบ้านที่ดี โดยพยายามอธิบายให้คนที่ดูแล นักท่องเที่ยวจีนให้เข้าใจดุจญาติมิตร เพื่อให้ นักท่องเทีย่ วจีนกลับมาเทีย่ วเมืองไทยอีก


在每天都有大批中国游 客组团到泰国旅游,到 底泰国有什么地方吸引中国游 客赴泰国旅游呢,东盟博览杂 志就此问题采访泰国旅游与体 育部部长葛甘•瓦塔纳瓦朗军 (Kobkarn Wattanavrangkul) 葛甘部长说,泰国注重旅 游行业发展,因为旅游业是推 动泰国经济发展的重要支柱, 而中国游客市场则是支柱中的 支柱。 2015年泰国接待国外游客 总计2980万人次,其中中国游 客790万人次,占总数的25%, 成为泰国旅游最大的客源国, 而且赴泰旅游中国游客人数还 在不断增长。 泰国政府为了给游客提供 更好的服务也在不断努力,今 年9月27日,将承办世界旅游 日活动,向全球展现泰国旅游

潜力与实力;此外,在2017年 还将承办全球旅游业界高层的 世界旅游理事会(WTTC)全球高 峰会议。 针对中国游客市场,泰国 旅游与体育部将继续开发新的 客源地,不是聚焦中国某一个 城市。在此也要感谢中国政府 给予的大力支持,因为泰国旅 游局现在在中国开设了5个办 事处,分别是在北京、上海、 广州、成都以及昆明。而且泰 国是获得中国政府批准开设办 事处最多的国家。与此同时, 中国旅游局也在泰国开设办事 处,为此泰国政府同样给予最 大帮助。 为促使赴泰旅游可持续性 发展,不能局限中国这5个国 际知名的城市,泰国还将逐步 开发中国其他城市客源地,相 信很多城市都拥有很好的客 源。根据研究发现,中国每个

地区的游客行为各不相同,比 如,上海游客来泰国旅游后大 部分会再次回来,这些游客多 以自由行方式出游,占总数的 80-90%。中国其他新兴城市则 相反,80%的游客是跟团出 游。 未来,中国游客出国游方 式也将发生变化,那就是团体 游客减少,散客出游增多,家 庭中的父母一辈年纪大的人喜 欢跟团,因为他们不会外语, 不太擅长使用智能手机作为出 行帮手,但是年轻人则不同, 即使他们不会外语,但是擅长 利用智能手机,现在手机很多 旅游相关的应用,这些应用软 件可以作为他们的出行助手, 比如将泰语翻译为中文。 至于东盟国家游客赴泰国 人数也呈现增长趋势,仅次于 中国,在2015年,其他东盟9 个国家游客赴泰旅游总计781 万人次,与这些国家经济快速 增长有关。至于欧美国家游客 人数也增加,预测英国游客在 2016年赴泰旅游增加10%。 至于影响旅游行业发展的 重要因素,葛甘部长指出,第 一是游客对国家综合形象有信 心,本届政府新上任的时候, 国际社会就怀疑政府是否有能 力整治国家,包括保障游客人 身安全。第二是突发性事件, 比如四面佛爆炸案,一些中国 游客在事故中受伤,但是泰国 各个相关部门竭尽全力,及时 去帮助受害者解决问题,这些 突发性在全球每个国家都可能 会发生,但是泰国政府以真诚 的姿态帮助救助游客,赢得游 客的信任。 第三点,泰国旅游主推 “泰式风俗游”,重点推荐泰 国各个地区的风俗,如北部清

73


两国在旅游合作的目标不光是体 现在经济方面,这只是一部分, 重点是促进旅游持续发展。

迈兰纳风情,南部普吉海景, 以及介绍东北、东部地区不同 民俗,迎合不同游客需求。预 计2016年泰国接待游客人数将 达到3000万人次,其中70%的 游客是回头客,不少人是第二 次,第三次,甚至是多次来泰 旅游。 葛甘部长还谈及国外游客 为何喜欢再次来泰国这个现象。 不少游客说泰国什么都好,不 仅有美食,风景也很漂亮,山 美海美,还有丰富的艺术文 化。其中泰国人民很友善,这 才是最重要的原因。友善以及 服务可以说是泰国人的符号, 已经烙上烙印。不少游客喜欢 住同一家酒店,乘坐同一辆出 租车,就是因为满意他们的服 务质量。 但是仅仅靠风俗游还不足 以吸引全球的游客,目前全球 旅游市场竞争激烈,但是每年 全球旅游行业仍增长4-5%,因 此未来5-10年内,为促使赴泰 旅游人数增长,不能光靠低价 格,泰国因此拟定旅游行业发 展战略,除改善景点之外,目 前推出保健主题旅游,体育主 题旅游等。 “现在中国人特别是年轻 人自主性强,喜欢长跑,马拉 松,骑自行车,练泰拳,寺庙 静坐,学习烹饪泰国菜,可以 看到他们来泰国旅游不仅仅是

74

停留在景点,还可以学习到其 他技能带回去。如果问中国游 客来泰国旅游必须去哪个景 点?应该来做什么?大部分的 中国人喜欢吃水果,拜玉佛 寺,除了曼谷之外,还喜欢去 清莱的白庙。但是我们也需要 要增加新事物来迎合中国游客 的需求,比如,一些中国游客 来泰国的目的是为了看病,或 者到医院咨询做试管婴儿的情 况,也有人想来泰国做干细胞 美容。这么多中国游客来泰国 使用泰国的医疗服务,是因为 泰国医院病人不用排长队挂 号,而且医院服务质量好,护 士微笑式服务让病人感到亲 切,不光是曼谷医院,普吉府 医院也接待很多前来就诊的中 国病人,不少人来做美容手 术,这都是游客口碑相传,医 院不必打广告。 此外,给游客推荐新的旅 游景点,如现在推出“不可错 过的12座城市”主题,游客去 了芭堤雅,还可以顺路去拥 有“水果天堂”美誉的尖竹汶 府,以及“梦中海岛”之称的 哒叻府,这两个府都位于东 部。 “中国游客来不仅仅是买 水果,还买宝石作为礼物回去 送人,哒叻府还是一个零碳城 市,生活安逸宁静。如果去泰 国南部,不仅仅有普吉,还有

甲米、攀牙府等待游客探险。 泰国北部也不仅仅有清迈、清 莱,还可以去南邦府。置身南 邦古城仿佛时间停留,还因其 独特的魅力被游客们所熟知, 之后还可以沿路去帕夭府。至 于泰国的东北部,现在也在挖 掘新景点来吸引游客,计划朝 会展旅游、体育旅游及文化艺 术旅游方向发展。” 未来我们希望游客来到泰 国有种宾至如归的感觉,我们 同样与中国政府在探讨这个事 情,中国政府提议是确保游客 不要被骗,泰国也不希望看到


这样的事情,也希望游客来旅 游除了别样的体验外,还能购 买到泰国优质特产满载而归。 葛甘部长透露刚与中国驻 泰国大使宁赋魁会晤,宁大使 希望泰国能对中文导游进行培 训以提高导游素质,大使说导 游光能说中文还不行,还要对 他们培训导游讲解内容,希望 他们能给游客传递正确的泰国 历史,但是一些导游在讲解的 时候担心游客不喜欢听。 葛甘部长说,比如我们去 中国旅游,中国官方会要求导 游讲解一些官方希望传递的信

息,让游客了解真正的中国情 况,比如简单讲解历史,游客 来了中国也有必要了解下中国 的历史。泰国与中国的旅游关 系不仅仅是体现在游客数量或 者旅游收入多少,这样关系不 长久,应该通过旅游增加人们 之间的相互了解,才能促使友 谊更加巩固。 因此,泰国导游不用担心 中国游客想不想听历史,通过 一些必要的介绍,至少是正确 的简单介绍,通过旅游环节增 加人们理解,进一步促进两国 的关系。

两国在旅游合作的目标 不光是体现在经济方面,这 只是一部分,重点是促进旅 游持续发展,以及经济、人 类社区和环境相互平衡,旅 游不是政治,但旅游可以建 立友谊。 虽然现在中国游客赴泰国 旅游出现一些问题,但是今天 泰国人更多的认识和了解中国 游客,因此泰国作为东道主的 任务是要改进旅游从业人员素 质,应如同亲人般对待游客, 才能让中国游客成为泰国的回 头客。

75


วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์ เตือนไทยปรับเกมให้ทันจีน

机遇在于看问题的角度 陈新华--知名媒体人 提醒泰国紧跟中国

มื่ อ พู ด ถึ ง เรื่ อ งความสั ม พั น ธ์ ไ ทย-จี น แล้ ว นอกจากบุ ค คลส� า คั ญ ๆ ทาง ประวัตศิ าสตร์ทถี่ า่ ยทอดเรือ่ งราวต่างๆ หลาย แง่ มุ ม แล้ ว หลายคนต้ อ งนึ ก ถึ ง บุ ค คลที่ มี เอกลักษณ์เฉพาะตัวและได้รับการยอมรับว่า เป็นหนึง่ ในผูเ้ ชีย่ วชาญด้านประวัตศิ าสตร์และ วัฒนธรรมจีน คือ อ.วิโรจน์ ตั้งวาณิชย์ ซึ่ง นิตยสาร TAP ฉบับปฐมฤกษ์ได้มีโอกาสแลก เปลี่ยนความคิดเห็นกับ อ.วิโรจน์ในแง่มุม ต่ า งๆ ที่ น อกเหนื อ จากเรื่ อ งราวทาง ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจีน โดยมีหลาย มุมมองที่น่าสนใจ อ.วิ โรจน์ เ กริ่ น น� า ว่ า ประเทศไทย และประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็น ประเทศที่มีความผูกพันกันมายาวนาน โดย เชื่ อ มสั ม พั น ธ์ อั น ดี กั น ทั้ ง ด้ า นการค้ า ความร่วมมือ การพัฒนาด้านต่างๆ อย่าง ต่อเนื่องนับตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน อันน�ามา ซึ่ ง ประโยชน์ ต ่ อ การพั ฒ นาเศรษฐกิ จ ความสั ม พั น ธ์ ร ะหว่ า งประเทศ ถึ ง ระดั บ ประชาชน กล่าวส�าหรับสถานการณ์ความร่วมมือ และการค้าขายระหว่างสัมพันธ์ไทย-จีนนั้น อ.วิโรจน์มองว่า ในปีนี้ ภาวะเศรษฐกิจของจีน เริ่มถดถอย คนทั่วโลกเดินทางไปประเทศจีน ลดลงมาก ท�าให้คนจีนรายได้ลด ซึง่ รัฐบาลจีน

76

หันกลับมาก�าหนดนโยบายกระตุน้ การบริโภค ภายในประเทศมากขึ้น ทดแทนการพึ่งพา รายได้จากการส่งออกเหมือนช่วงหลายปีที่ ผ่ า นมา ท� า ให้ ป ระเทศคู ่ ค ้ า หรื อ ประเทศ ที่ท�าการค้าการลงทุนกับจีนทั่วโลก รวมทั้ง ไทย ต้องปรับตัวตามไปด้วย แต่ยงั มีขอ้ สังเกต ว่าประเทศยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกายัง ลงทุนในจีนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนว่ายังมี ช่องทางในการลงทุนในประเทศจีน แต่เป็น ธุรกิจเฉพาะกลุ่มเท่านั้น หากถามถึงอนาคตของไทยในการท�า ธุรกิจการค้ากับจีน อ.วิโรจน์บอกว่าประเทศ จีนมีประชากร 1,400 ล้านคน มีคนรวย 1% หรื อ ประมาณ 14 ล้ า นคน กลุ ่ ม นี้ ยั ง มี พฤติกรรมการบริโภคสินค้าแบรนด์เนมสูง มาก สามารถนั่งเครื่องบินไปซื้อกระเป๋าแบ รนด์เนมคอลเลคชัน่ ใหม่ได้ตลอดเวลา ซึง่ เป็น ภาพทีข่ ดั แย้งกับสภาพเศรษฐกิจช่วงขาลงใน ปัจจุบัน และปัจจุบันกลุ่มคน 14 ล้านคนยัง มี ก� า ลั ง ซื้ อ มากและที่ ส� า คั ญ ยั ง ไม่ พ ้ น จาก สภาพการ “ตื่นซื้อ” หากได้ของที่ถูกใจ นั่น หมายความว่าคนที่ต้องการขายของให้คน กลุ่มนี้ต้องหาสินค้าให้ตรงตามความต้องการ ของคนจีนด้วย “ตอนนี้กลุ่มคนจีนที่มีฐานะดี มีแนว โน้มโยกย้ายออกมาอยู่ประเทศอื่นๆ มากขึ้น

รวมถึ ง ประเทศไทย ที่ เ ราได้ เ ห็ น ความ เคลื่อนไหวเข้ามาจับจองซื้ออสังหาริมทรัพย์ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะคอนโดมิเนียมที่ ไม่ใช่การซื้อเพื่อเก็งก�าไร แต่เป็นการซื้อเพื่อ อยู่อาศัยจริงๆ และวางรากฐานระยะยาว ตลอดจนแนวโน้มการเคลื่อนย้ายเงินทุนจาก จีน เพื่อเข้ามาลงทุนท�าธุรกิจในไทยอย่างต่อ เนื่อง เพื่อรองรับการอพยพเข้ามาของคนจีน ด้วยกัน ทีจ่ ะสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนและท�า รายได้ ใ ห้ ป ระเทศไทยอี ก ทางหนึ่ ง ซึ่ ง คนไทยต้องเตรียมรับมือกับเรื่องนี้ให้ดี” นอกจากนี้ อ.วิโรจน์ยังฝากทิ้งท้ายไว้ ว่า ในแต่ละปี จีนยังมีการจัดงานมหกรรม แสดงสินค้า (เอ็กซ์โป) ที่จะเป็นโอกาสของ ภาคธุรกิจไทยและจีน ในการต่อยอดทางการ อีกส่วนที่น่าสนใจ โดยที่ผ่านมาพ่อค้าไทยจะ เดินทางไป ซื้อสินค้าจากแหล่งผลิตจีนกลับ มาเป็นตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อท�าแพคเกจจิ้ง ใหม่ เป็นสินค้าแบรนด์ใหม่ของไทย โดยไม่ ต้องผลิตเอง ในส่วนนี้ยังเป็นโอกาสอยู่ แต่ ในทางกลับกันเราต้องหาช่องทางและโอกาส ที่จะน�าสินค้าไทยไปขายในประเทศจีนให้ได้ ด้วย โดยเฉพาะท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ ชะลอตัว ซึ่งถือเป็นความท้าทายของภาค ธุรกิจไทย ที่ต้องปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้อง กับสถานการณ์ที่แท้จริง


77


提及中泰之间的友好关 系,除了历史上推动文 化传播的知名人物之外,还不 得不提及一位独具个人魅力的 人,那就是中国文化历史专家 陈新华(VIROJ TANGVARNICH)先生。东盟博览创刊号 有幸专访陈新华先生,并且就 历史文化方面之外的问题进行 探讨交流,其中一些观点不乏 借鉴意义。 陈新华先生说到,泰国 与中国历史交往上源远流 长,从古至今关系密切,特 别在贸易以及其他领域都有 着紧密的交流与合作,推动 两国经济良好发展,同时民 众也从中获益。 在谈及中泰两国贸易合作 方面,陈新华先生认为,今年 中国经济呈现下滑趋势,而且 赴中国的游客量减少,导致中 国旅游收入降低,为此,中国 政府出台新政策,以转向刺激 国内消费为主,以推动国家经

78

济增长,不再像往年注重国 际贸易,影响到中国的贸易 伙伴国,包括泰国在内,需 要根据中国的需求进行适度 调整。但还有一点值得关注 的是,一些发达国家如美 国,还与中国保持着良好的 投资贸易往来,这说明在中 国仍有多个领域值得投资, 但是需要有针对性。 关于未来中泰两国贸易 往来方面,陈新华先生说 到,中国现在拥有近14亿人 口,富裕群体所占比例约为 1%(约1400万人),该群体 十分热衷购买名牌产品,且 时刻关注新款产品的上市, 这与中国经济呈现的下滑趋 势形成反比,而且现在的这 类消费群体仍有较强的消费 能力。那就意味着,如果要 向该群体推销产品,那就需 要根据中国目前的需求进行 针对性投资。 “现在中国人经济条件

好,许多人开始移居国外,包 括在泰国,可以发现有许多中 国人在泰购置房产,特别是公 寓,他们不是仅仅是用于个人 居住,也有是长远打算,分析 发现,来自中国的投资在泰呈 增长趋势,这也是从另一方面 促使泰国经济得以增长,为 此,泰国需要提前做好 准备。” 除此之外,陈新华先生最 后还说到,每一年中国各地都 会举办各种类型的展销博览 会,这是促进中泰贸易的一个 良好机会。过去,泰国商人会 从中国整柜进口商品,然后进 行重新包装,使之变成泰国牌 子的产品,泰国商人不用投资 生产线,这是一种贸易方式。 但相反,我们也需要寻找机会 将泰国本土产品出口至中国, 特 别 是 现 在 经 济 增 长 放缓,这对于泰国而言是一种 挑战,需要根据实际情况来调 整战略。


79


ม้ในช่วงหลายปีทผี่ า่ นมา อัตราการเจริญ เติ บ โตทางเศรษฐกิ จ ของจี น ซึ่ ง มี เศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลกรองจาก สหรัฐอเมริกา จะอยูใ่ นภาวะ “โตต�่าลง” หรือ นิวนอร์มอล (new normal) แต่ไม่ท�าให้ อิทธิพลของจีนทั้งในด้านเศรษฐกิจ การเมือง ต่อสังคมโลกลดลงแต่อย่างใด โดยเฉพาะหลั ง นโยบายการเปิ ด ประเทศและการปฏิรูปเศรษฐกิจของจีน ซึ่ง ท� า ให้ ก ารเติ บ โตของจี น เป็ น ไปแบบก้ า ว กระโดดและมีพลวัตรสูงจนกลายเป็นตัวจักร ส�าคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเอเชีย และของโลก

‘จีนศึกษา’ในยุคนิวนอร์มอล พัฒนาการยกระดับแบบทุกมิติ 新常态下的 “汉语教学” 全方位提升教学质量 กล่าวส�าหรับประเทศไทยซึ่งมีข้อได้ เปรียบเรื่องความคล้ายคลึงทางวัฒนธรรม และมีสายสัมพันธ์ทแี่ น่นแฟ้นมากกว่า 200 ปี ส่งผลให้ความร่วมมือทางการค้า การลงทุน ระหว่าง 2 ประเทศพัฒนาอย่างต่อเนือ่ ง ท�าให้ ความจ�าเป็นที่ไทยต้องมีบุคลากรที่มีความรู้ เกีย่ วกับจีนทวีความส�าคัญตามไปด้วย ซึง่ การ

80

เรียนการสอนภาษาจีน และเรื่องราวที่เกี่ยว กับจีนหรือ “จีนศึกษา” ในประเทศไทยนั้น เกิดขึ้นมาหลายสิบปี แต่เพิ่งมาเติบโตอย่าง ก้าวกระโดดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้เอง การเรียนการสอนภาษาจีนโดยเฉพาะ จีนกลาง แต่เดิมถูกจ�ากัดโดยทางกฎหมายซีง่ ให้มกี ารเรียนการสอนอย่างเป็นทางการไม่ได้

ไม่เกินชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กระทั่งในปี 2535 ในสมัยรัฐบาลนาย อานั น ท์ ปั น ยารชุ น ด�า รงต� า แหน่ ง นายก รัฐมนตรี ได้ยกเลิกการควบคุมการเรียนการ สอนภาษาจีน และยกระดับให้เทียบเท่ากับวิชา ภาษาต่างประเทศอืน่ ๆ และปี 2548 กระทรวง ศึกษาธิการได้ประกาศให้ภาษาจีนเป็นภาษา


ต่างประเทศที่มีความส�าคัญล�าดับที่ 2 รอง จากภาษาอังกฤษ แต่กระนั้นการเรียนการ สอนภาษาจีนก็ยงั ไม่ประสบความส�าเร็จถึงขัน้ ผลิตหรือพัฒนาผู้รู้ภาษาไปใช้งานได้จริง ข้อมูลจากงานวิจัย การเรียนการสอน ภาษาจีนในประเทศไทย โดยศูนย์จีนศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งจัดท�าเมื่อหลายปีก่อน ประมาณว่ามีคน ไทยเรี ย นภาษาจี น ทั้ ง ในและนอกระบบ โรงเรียนมากกว่า 6 แสนคน (ปัจจุบันน่าจะ มากกว่านี้) แต่มีข้อสังเกตจากงานวิจัยว่า ยัง จ�าเป็นต้องมีการพัฒนาคุณภาพการเรียนการ สอนให้สามารถใช้งานได้จริง จนถึ ง ทุ ก วั น นี้ มี ก ารเรี ย นการสอน หลักสูตรจีนศึกษาแพร่หลายไปในการศึกษา ทุ ก ระดั บ รวมถึ ง ในสายอาชี ว ศึ ก ษาและ อุดมศึกษาในคณะอักษรศาสตร์ สังคมศาสตร์ หรื อ มนุ ษ ยศาสตร์ ใ นมหาวิ ท ยาลั ย ของรั ฐ ขณะที่มหาวิทยาลัยเอกชนเน้นการสอนใน

81


คณะเกีย่ วกับธุรกิจ การโรงแรม การท่องเทีย่ ว จนถึงปัจจุบัน แทบทุกมหาวิทยาลัยเปิดสอน ภาษาจีน ไม่เว้นแม้แต่มหาวิทยาลัยราชภัฏ ต่างๆ บางแห่งเปิดเป็นสถาบัน หรือวิทยาลัย เกี่ยวกับการเรียนภาษาจีน พร้อมมีกิจกรรม ความร่วมมือด้านการศึกษากับสถาบันการ ศึกษาหรือองค์กรของรัฐจีน ขณะที่ ม หาวิ ท ยาลั ย เอกชนเปิ ด หลักสูตรในคณะเดียวกันกับมหาวิทยาลัยของ รัฐ แต่เน้นเพิม่ สาขาด้านการบริหารธุรกิจ การ

82

ท่องเทีย่ ว การโรงแรม และหลักสูตรนานาชาติ รวมถึงหลักสูตร “เพือ่ ธุรกิจการท่องเทีย่ วและ การโรงแรม” ภาษาจีนเพือ่ การแสดงและการ เป็นพิธีกร, การผลิตภาพยนตร์และรายการ โทรทัศน์ เป็นต้น ขณะเดียวกันก็ให้ความส�าคัญกับการ สอนภาษาจีนในระดับต้น โดยมหาวิทยาลัย หลายแห่งเปิดอบรมครูสอนภาษาจีน และ บุคลากรที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความรู้ทางภาษา ไวยากรณ์และเพิ่มเทคนิคการสอนภาษาจีน

เพื่อป้อนสู่ระบบการศึกษาในระดับประถม ศึกษาและมัธยมศึกษา เป็นการเสริมฐานการ เรี ย นการสอนขั้ น พื้ น ฐานให้ แข็ ง แกร่ ง อี ก ชั้นหนึ่ง ความร่ ว มมื อ ที่ เ ป็ น รู ป ธรรมในการ จั ด การเรี ย นการสอนภาษาและเผยแพร่ วัฒนธรรมจีนในประเทศไทยคือ ผ่านสถาบัน ขงจือ่ ส�านักงานใหญ่ (Hanban) ซึง่ เป็นหน่วย งานที่อยู่ภายใต้กระทรวงศึกษาธิการจีน ภาย ใต้แผนความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยชั้นน�า


ของจีนกับสถาบันการศึกษาประเทศต่างๆ รวมถึงในประเทศไทย โดยสถาบันขงจือ่ จะส่ง ครู อ าสาสมั ค รที่ มี ค วามรู ้ ด ้ า นภาษาและ วัฒนธรรมจีน ตลอดจนสื่อการสอน อุปกรณ์ และโปรแกรมการสอนไปประจ�ายังประเทศ ต่างๆ ซึง่ เฉพาะในประเทศไทยมีสถาบันขงจือ่ อยู ่ 14 แห่ ง ห้ อ งเรี ย นขงจื่ อ 11 แห่ ง ทั้งนี้รวมถึงให้ ทุ น นั ก ศึ ก ษาไทยมาเรี ย นที่ ประเทศจีนด้วย นอกจากการเรี ย นการสอนส� า หรั บ นักศึกษาไทยแล้วยังมีนกั ศึกษาชาวจีนจ�านวน มากเลือกทีจ่ ะมาศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ในประเทศไทย ตามมหาวิทยาลัยทัง้ ของภาค รัฐและเอกชน อาทิ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัย หั ว เฉี ย วเฉลิ ม พระเกี ย รติ , มหาวิ ท ยาลั ย หอการค้าไทย รวมถึงมหาวิทยาลัยราชภัฏ ต่ า งๆ ในพื้ น ที่ ภ าคเหนื อ ของไทย ทั้ ง ใน เชียงราย เชียงใหม่ ล�าปาง อุตรดิตถ์ พิษณุโลก

เป็นต้น และหลังส�าเร็จการศึกษา บัณฑิตจีน จ�านวนมากก็เลือกท�างานในประเทศไทย ขณะที่บางส่วนได้รับการบรรจุเป็น พนักงานกองวิเทศสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัย ที่ตนเองเรียน บ้างก็ออกไปเป็นล่ามให้กับ บริษทั ไทยและจีนทีท่ า� การค้าขายกับประเทศ จีน จ�านวนไม่น้อยกลับไปเป็นอาจารย์ใน ประเทศจีน หรือไปประกอบธุรกิจน�าเที่ยว โรงแรม มัคคุเทศก์ ฯลฯ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการ ใช้ภาษาและวัฒนธรรมไทย กลายเป็นอีกส่วน ในการขับเคลือ่ นความร่วมมือระหว่างไทยจีน ให้แน่นแฟ้นขึ้น การพั ฒ นาการเรี ย นการสอน “จี น ศึ ก ษา” ในทุ ก มิ ติ ที่ จ ะยกระดั บ คุ ณ ภาพ ทรัพยากรบุคคลของประเทศ มีส่วนส�าคัญที่ จะช่วยให้สงั คมไทยสามารถขับเคลือ่ นตนเอง ไปได้โดยไม่ตกเวทีเศรษฐกิจ สังคมโลก ขณะ เดียวกันยังท�าให้มคี วามเท่าทันกระแสโลกาภิ วัตน์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วอีกด้วย

83


国经济是仅次于美国的 世界第二大经济体,虽 然当前中国经济增长步入新常 态,但中国在国际社会上的经 济、政治影响力并不受影响。 尤其是中国自从改革开放以 来,经济快速发展,成为亚洲 和世界经济的重要的推动力。 泰国文化与中国有很多相 似之处,而且泰中两国有着悠 久的传统友谊,促使两国之间 的贸易与投资合作不断发展, 为此在泰国对汉语人才的需求 量也逐步增加。尽管泰国的汉 语教学早在几十年前就开始, 但在近10年中才取得跨越性的 发展。 泰国汉语教学尤其是普通 话,最初泰国政府规定在小学 可以开设汉语课程,但必须是 在小学四年级才能开设,后来 在1992年,泰国当时的总理阿 南·班雅拉春,解除了限制汉 语教育的规定,并把汉语与外 语提升到等同地位。到2005 年,泰国教育部正式把汉语定 为第二外语,纳入国民教育系 列,但泰国汉语教学水平依然 无法培养出高级汉语人才。 前几年,泰国朱拉隆功大 学亚洲研究所中国研究中心公 布的研究数据显示,全泰国学 习汉语人数多达60万人,但还 需要提高教学质量,以培养出 高素质的汉语人才。 现在,汉语教程已经纳入 各级教育体系中,包括职业学 校,公立大学中的人文学院和 社会学院均开设汉语课程,私 立大学则注重商务汉语、酒店 汉语、旅游汉语课程。据统 计,目前几乎所有大学都设立 汉语课程,其中包括皇家师范 大学,部分还专门设立中文学

84

院,并与中国公立大学和政府 机构开展教育合作。 私立大学与公立大学开设 课程相似,但私立大学更注重 于商业管理、旅游、酒店、国 际课程,包括旅游与酒店企 业,表演及节目主持,以及电 影及电视节目制作等课程。 同时,也较为注重初级汉 语教学,多家高校专门对中文

教师进行培训,提高教师的教 学水平,如中文语法、上课技 巧,为中小学输入中文师资力 量,加强基础中文教学。 泰国开展汉语教学及中国 文化,主要由中国国家汉办提 供帮助,作为中国教育部直属 事业单位,与中国重点大学及 其他海外院校的合作,由中国 国家汉办派出熟悉中国语言文


化知识的汉语教师志愿者,到 世界各地传授中文及中华文 化。其中,已在泰国设有14家 孔子学院,11个孔子课堂。此 外,还给予来华留学的泰国学 生中国政府奖学金。 除了泰国学生学习中文 之外,也有不少中国学生选择 到泰国公立或私立大学留学, 如法政大学、农业大学、华侨

崇圣大学、泰国商会大学,还 有泰国北部地区的皇家师范大 学,如清莱府、清迈府、南邦 府、程逸府及彭世洛府等,不 少中国学生完成学业之后还选 择在泰国就业。 部分中国留学生毕业之后 则返回母校国际事务处工作, 或者在中泰贸易公司当翻译, 也有不少毕业生回国当教师,

或者从事旅行社、酒店、导游 等跟泰国语言文化有关的行 业,这也促进中泰两国的合作 关系更加紧密。 全方位提升汉语教学质 量,不仅能够提高人力资源 的质量,还能推动泰国社会 发展,在全球经济舞台上站 稳,跟上迅速变化的全球化 步伐。

85


ศูนย์วัฒนธรรมจีน ณ กรุงเทพฯ เชื่อมโยงความผูกพันภาคประชาชน

曼谷中国文化中心 搭建民间关系桥梁

ากอดีตจนถึงปัจจุบนั ต้องยอมรับว่าภาพ ความสัมพันธ์ไทย-จีนทีเ่ ด่นชัด นอกเหนือ จากการเติบโตด้านการค้าการลงทุนแล้ว ความ สั ม พั น ธ์ ด ้ า นสั ง คมวั ฒ นธรรมระหว่ า งสอง ประเทศยังเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิด แทบจะ เรียกได้ว่าคนไทยจ�านวนไม่น้อยมีสายเลือด ความเป็นลูกหลานคนจีนอยูใ่ นตัวด้วย สานสัมพันธ์ที่ก่อเกิดเป็นรูปธรรมอีก ด้านหนึ่งคือ การก่อตั้ง “ศูนย์วัฒนธรรมจีน ณ กรุงเทพฯ” เมือ่ วันที่ 21 พฤศจิกายน 2555 ซึ่ ง ถื อ เป็ น ศู น ย์ วั ฒ นธรรมจี น แห่ ง แรกที่

86

สาธารณรั ฐ ประชาชนจี น ได้ ส ร้ า งขึ้ น ใน ภู มิ ภ าคเอเชี ย ตะวั น ออกเฉี ย งใต้ โดยมี วั ต ถุ ป ระสงค์ เ พื่ อ เผยแพร่ วั ฒ นธรรมจี น กระชับการแลกเปลีย่ นและความร่วมมือด้าน วัฒนธรรมระหว่างจีนกับไทย และส่งเสริม ความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างประชาชนและ รัฐบาลทั้งสองประเทศ Lan Suhong ผู้ อ�า นวยการศู นย์ วัฒนธรรมจีน ให้สมั ภาษณ์วา่ ตัง้ แต่ทางศูนย์ วั ฒ นธรรมจี น ได้ ก ่ อ ตั้ ง ขึ้ น ก็ ไ ด้ มี ก ารจั ด กิจกรรมต่างๆ อย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะ

ช่วงเทศกาลส�าคัญๆ เช่น ตรุษจีน และเปิดให้ ประชาชนชาวไทยได้รว่ มกิจกรรมด้วย ตลอด จนการจัดหลักสูตรการเรียนการสอน เช่น กู่ เจิง ภาษาจีน คอร์สเต้นร�า ศิลปะการเขียนตัว อักษรจีน หรือ ชูฝ่า มวยไทเก๊ก นิทรรศการ การแสดงและการชมภาพยนตร์และหลักสูตร การท�าอาหาร เป็นต้น ซึ่งได้รับความสนใจ จากประชาชนจ�านวนมาก “แม้ศนู ย์วฒ ั นธรรมจีนจะเพิง่ มีขนึ้ ไม่กี่ ปีที่ผ่านมา แต่ความส�าเร็จจากความร่วมมือ ในการจัดกิจกรรมแต่ละครัง้ สะท้อนถึงความ


“แม้ศูนย์วัฒนธรรมจีนจะเพิ่งมีขึ้นไม่กี่ปี ที่ผ่านมา แต่ความส� าเร็จจากความร่วมมือ ในการจัดกิจกรรมแต่ละครั้งสะท้อนถึงความ สัมพันธ์ทลี่ ก ึ ซึง้ และน่าภาคภูมใิ จ ทีส ่ องประเทศ มีต่อกันมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน และยังมี การสร้างความสัมพันธ์ไปอย่างต่อเนื่อง...”

สั ม พั น ธ์ ที่ ลึ ก ซึ้ ง และน่ า ภาคภู มิ ใจ ที่ ส อง ประเทศมีต่อกันมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน และยังมีการสร้างความสัมพันธ์ไปอย่างต่อ เนื่ อ ง โดยเฉพาะการสานสั ม พั น ธ์ ท าง วัฒนธรรมทัง้ ทีไ่ ทยมีตอ่ จีน และจีนมีตอ่ ไทย” นอกจากนี้ศูนย์วัฒนธรรมจีนยังมีการ ลงนามข้อตกลงความร่วมมือกับสถาบันทาง สังคม ภาคประชาสังคม มหาวิทยาลัยและ มูลนิธิการกุศลของไทยหลายองค์กร ซึ่งส่ง เสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรและความร่วมมือ ในระยะยาวระหว่างกัน

ศู น ย์ วั ฒ นธรรมจี น ถื อ เป็ น เวที ที่ จ ะ เชื่อมโยงประชาชนจีน-ไทย ที่มีความผูกพัน และสนิทสนมกันดุจพี่น้อง ได้กระชับความ สั ม พั น ธ์ แ ละมี ก ารแลกเปลี่ ย นทางศิ ล ป วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ ตลอดจนด้านภาษา ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น กล่ า วส� า หรั บ ศู น ย์ วั ฒ นธรรมจี น ณ กรุงเทพฯ มีเนื้อที่ทั้งหมด 8,222 ตาราง เมตร พื้นที่ก่อสร้าง 7,900 ตารางเมตร เป็น ศูนย์วัฒนธรรมจีนต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด โดยสถาปัตยกรรมของศูนย์วัฒนธรรมแห่งนี้ ได้สืบทอดรูปแบบจีน มีหลังคาทรงจีน แต่ ชายคารับส่วนลักษณะแบบไทย ซึ่งได้ผสม ผสานวั ฒ นธรรมสถาปั ต ยกรรมของสอง ประเทศไว้อย่างลงตัว

ภายในศูนย์วัฒนธรรมจีนมีสิ่งอ�านวย ความสะดวกครบครัน อาทิ โรงละคร ห้องจัด นิทรรศการ ห้องเรียน ห้องสมุด ห้องอาหาร และ อืน่ ๆ ซึง่ สามารถน�าเสนอบริการให้ประชาชน ทัว่ ไปศึกษาค้นคว้าวัฒนธรรมจีนได้ดว้ ย บทบาทส�าคัญของศูนย์วัฒนธรรมจีน นับจากนี้จะยังคงสานต่อกิจกรรมการเผย แพร่วัฒนธรรมจีน แลกเปลี่ยนและมุ่งมั่น สร้างความร่วมมือด้านวัฒนธรรมระหว่างจีน กับไทย ตลอดจนส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างภาคประชาชนและภาครัฐของทัง้ สอง ประเทศต่อไป นับเป็นอีกหนึง่ ความภาคภูมใิ จของทัง้ สองประเทศที่ จ ะยื น หยั ด มิ ต รภาพอย่ า ง ยั่งยืน • ขอบคุณภาพจากศูนย์วัฒนธรรมจีน www.thaicn.com 87


古至今,中泰两国关系 密切,除了贸易投资之 外,两国的社会及文化也紧密 相连在一起,泰国人不少都有 华裔血统。 2012年11月21日,曼谷中 国文化中心的建设工作顺利完 工揭牌,是中国在东南亚地区 建立的第一个文化中心,中心 旨在宣传、推广中国文化,发 展中泰两国文化交流与合作, 增进两国人民的友谊和国家友 好关系。 中国文化中心主任蓝素红 女士接受采访表示,自从文化 中心建成以来举办了各种类型 的活动,特别是在一些重要的 节日,如春节的开门过大年活 动,此外还有,开办了汉语教 学、毛笔书法教学、太极拳教 学、中国厨艺教学、电影书画 展等面向社会大众的活动,得 到了泰国民众的热情参与。

88

虽然中国文化中心成立没有几 年,但是已经在泰国和当地的机 构合作成功举办多次活动,体现 两国人民深厚的友谊和热情,也 促使两国民众关系更加亲密,两 国文化交流更加频繁。


中国文化中心成立以来, 已经在泰国和当地的机构合作 成功举办多次活动,体现两国 人民深厚的友谊和热情,也促 使两国民众关系更加亲密,两 国文化交流更加频繁。 除此之外,曼谷中国文 化中心还与泰国的民间协 会、大学、基金会等机构签 署合作备忘录,在关系密切 的基础推动长久的合作。也

通过中国文化中心这个平 台,连接渊源深厚、情同手 足的中泰两国人民,在文 化、生活、思想、语言等方 面更加紧密交流。 曼谷中国文化中心占地 8222平方米,建筑面积约7900 平方米,是目前规模最大的海 外中国文化中心。中心建筑承 继了中国经典的梁柱建构精 神,并采纳了泰国殿宇密檐形 态语言,将中泰两国经典建筑 文化内涵融为一体。 曼谷中国文化中心功能空 间完备,设有展厅、剧场、教 室、图书馆、餐厅等,能为当 地民众提供了解和学习中国文 化等多方面的服务。 中国文化中心重要的作用 还是传递中国文化以及促进文 化交流与文化,包括拉近两国 人民之间关系,是两国政府在 友好合作基础上一个成功的示 范。

89


นิคมอุตสาหกรรมไทย-จีน ผลผลิตความร่วมมือที่งดงาม 中泰(崇左)产业园释放合作潜力 投资?到“中国糖都”尝甜头

ริเวณเส้นเขตแดนระหว่างประเทศจีนและ ประเทศเวียดนาม เป็นที่ตั้งของเมือง ชายแดนทีม่ ที า่ เรือมากทีส่ ดุ ของประเทศจีนถือ เป็น“ประตูทางบก” สูอ่ าเซียนและ “ประตูทาง ใต้” ทีส่ ะดวกและรวดเร็วทีส่ ดุ ของจีน อีกทัง้ เป็น เมือง Prefecture-level city ทีม่ อี ายุนอ้ ยทีส่ ดุ ของมณฑลกวางสี ได้รบั ขนานนามว่าเป็น “เมือง แห่งน�า้ ตาล” “เมืองแห่งแมงกานีส” และ “เมือง แห่งการค้าชายแดน” ซึง่ ก็คอื เมืองฉงจัว่ ที่นี่ผู้คนมักกล่าวว่า “เมื่อเปิดประตูก็ จะพบประเทศเวียดนาม” และ “เดินเพียง

90

สองก้าวก็จะเข้าสูอ่ าเซียน” แต่เมืองชายแดน ของจีนที่อยู่ติดกับประเทศเวียดนามดังกล่าว มีความสัมพันธ์ทแี่ น่นแฟ้นกับประเทศไทย ซึง่ จุ ด เริ่ ม ต้ น ของความสั ม พั น ธ์ เ ริ่ ม ตั้ ง แต่ “น�้าตาล” ที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี “น�้าตาล” จุดก�าเนิดความสัมพันธ์ เมื่อ 13 ปีก่อน สิ่งที่มาพร้อมกับการ ก่อตั้งเมืองฉงจั่ว ก็คือเขตอุตสาหกรรมเมือง ฉงจัว่ นับตัง้ แต่นนั้ ได้พลิกโฉมหน้าการพัฒนา อุตสาหกรรมเมืองฉงจัว่ ในรูปแบบใหม่ บริษทั Guangxi Nanning East Asia Sugar Co.,Ltd

ในฐานะที่เป็น 1 ในธุรกิจต่างประเทศที่เข้าสู่ เมืองฉงจัว่ และอยูใ่ นสังกัดของบริษทั น�้าตาล มิตรผลของไทย ได้อาศัยทรัพยากรน�้าตาล อ้อยที่อุดมสมบูรณ์ของเมืองฉงจั่ว หลังจาก ผ่านการพัฒนามาหลายปี ได้กลายเป็น 1 ใน กลุ่มธุรกิจผลิตน�้าตาลที่ใหญ่ที่สุดของจีน มี โรงงานน�้าตาลโรงไฟฟ้าชีวมวลและโรงงาน ผลิตเยื่อกระดาษในเมืองฉงจั่ว จ�านวนกว่า 10 บริษัท การพัฒนาของธุรกิจไม่เพียงเป็นการ ขยายขนาดและอิทธิพล แต่ยังท�าให้ธุรกิจ


ไทย-จี น เกิ ด ความสั ม พั น ธ์ กั น เพราะ “น�า้ ตาล” เป็นการวางรากฐานด้านความร่วม มือระหว่างสองประเทศ จากความสัมพันธ์ ด้านเศรษฐกิจและการค้าของอาเซียน-จีน ที่ นับวันจะยิ่งแน่นแฟ้นขึ้นเรื่อยๆ เมืองฉงจั่วถูกยกระดับในด้านความ ร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าของอาเซียนจี น ข้ อ ได้ เ ปรี ย บในด้ า นเส้ น ทางระหว่ า ง ประเทศ ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ นโยบาย และ ทรั พ ยากรของเมื อ งฉงจั่ ว ท� า ให้ ทั้ ง สอง ประเทศมีความประสงค์ทจี่ ะร่วมมือกันไปอีก

ขั้น ส่วนความร่วมมือในเชิงลึก ยังคงไม่แยก ออกจาก “น�้าตาล” ปี 2555 รัฐบาลเมืองฉงจั่วกับบริษัท น�้าตาลมิตรผลของไทยตัดสินใจใช้โครงการ สร้ า งอุ ต สาหกรรมน�้ า ตาลหมุ น เวี ย นแห่ ง เอเชียบูรพาเมืองฉงจัว่ เป็นโอกาส บนพืน้ ฐาน ของแผนนิคมอุตสาหกรรมเมืองฉงจัว่ ร่วมกัน สร้างนิคมอุตสาหกรรมไทย-จีน (ฉงจั่ว) เพื่อ ร่วมกันสร้างแบบอย่างของนิคมอุตสาหกรรม ไทย-จีน เดือนกันยายน 2557 ระหว่างการ จัดงานเอ็กซ์โปอาเซียน-จีน ครั้งที่ 12 รัฐบาล

เมืองฉงจั่วและบริษัทน�า้ ตาลมิตรผลของไทย ได้ลงนามข้อตกลงกรอบความร่วมมือการ ก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมจีน-ไทย (ฉงจั่ว) เพื่อเป็นหลักประกันการร่วมกันจัดตั้งนิคม อุตสาหกรรมระหว่างไทย-จีน ความร่วมมือไม่ได้มีเพียง “น�้าตาล” อุตสาหกรรมน�้าตาลหมุนเวียนแห่งเอเชียบูร พาเมืองฉงจั่ว ครอบคลุมโครงการการผลิต น�า้ ตาลทรายดิบและน�า้ ตาลทรายขาวบริสทุ ธิ์ ศูนย์วจิ ยั เทคโนโลยีนา�้ ตาลอ้อย และการผลิต และการแปรรูปไซลิทอล เป็นต้น หลังจากที่

91


จั ด ตั้ ง เสร็ จ จะน� า โครงการอุ ต สาหกรรม หมุนเวียนมาตรฐานสูงโครงการแรก ที่รวม การผลิต การเยี่ยมชม และการท่องเที่ยวเข้า ไว้ด้วยกัน มามอบให้แก่เมืองแห่งน�้าตาลของ จีน (เมืองฉงจั่ว) ด้วยเหตุนี้ กล่าวได้วา่ ความร่วมมือด้าน นิคมอุตสาหกรรมไทย-จีน (ฉงจั่ว) เกิดขึ้น เพราะ “น�้าตาล” แต่ขอบเขตความร่วมมือใน อนาคต กลับไม่ได้มีเพียง “น�้าตาล” เท่านั้น หลิว โหย่ว หมิง เลขาธิการพรรค คอมมิวนิสต์ประจ�าเมืองฉงจั่ว กล่าวว่า แผนการของนิคมอุตสาหกรรมไทย-จีน (ฉง จัว่ ) ก�าหนดให้อตุ สาหกรรมน�้าตาลหมุนเวียน และการผลิ ต อาหาร อุ ต สาหกรรมสิ่ ง ทอ อุตสาหกรรมวัสดุอเิ ล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรม โลจิสติกส์ การค้าระหว่างประเทศ ธุรกิจ อี-คอมเมิร์ซข้ามพรมแดน เป็นอุตสาหกรรม หลักและมีบทบาทโน้มน้าวธุรกิจอืน่ นอกจาก บริษัทน�้าตาลมิตรผลของไทยที่เข้ามา

92

ปั จ จุ บั น เมื อ งฉงจั่ ว ก� า ลั ง หารื อ กั บ บริษัท China Aluminum Corp. (Chalco) ในประเด็นการแปรรูปแร่ธาตุหายาก และ ก� า ลั ง หารื อ กั บ บริ ษั ท ธั ญ พื ช น�้ า มั น และ อาหารแห่งชาติ (China National Cereals, Oils and Foodstuffs Corporation) หรือ COFCO ในประเด็นการพัฒนาเศรษฐกิจ หมุนเวียนในอุตสาหกรรมการผลิตน�้าตาล ใน ขั้นต่อไปยังวางแผนจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม แปรรู ป อาหาร และนิ ค มอุ ต สาหกรรม เทคโนโลยีขั้นสูงแบบใหม่ เป็นต้น ตั้งแต่ลงนาม จนถึงการวางแผน หลัง จากความพยายามเป็นเวลา 3 ปี ของนิคม อุตสาหกรรมไทย-จีน (ฉงจัว่ ) ท�าให้การจัดตัง้ นิคมอุตสาหกรรมคืบหน้าไปมาก ปัจจุบัน ถนนภายในนิคมอุตสาหกรรมที่มีระยะทาง 22 กิโลเมตร สร้างแล้วเสร็จและเปิดให้รถ สัญจรได้แล้วและสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น น�้า ไฟ ถนน การจัดส่งก๊าซ และการปล่อย

มลพิษ ก็ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว ส่วนโครงการเขตปฏิบัติการไล่ทวนใน ท่าเรือฉงจั่ว ที่ตั้งอยู่ตอนกลางของแม่นา�้ จั่ว เจียง ก็ได้รับการผลักดันเป็นอย่างดี ผู้รับผิด ชอบฝ่ายวิศวกรรมเล่าว่า แม่น�้าจั่วเจียงเป็น ส่วนหนึ่งของแม่น�้าซีเจียง ซึ่งเป็นแม่น�้าสาขา ของแม่ น�้ า จู เจี ย ง ตั้ ง แต่ ส มั ย โบราณ เป็ น แม่น�้าสายทองค�า ส�าหรับการค้าระหว่างจีน และเวียดนาม “หลังจากที่โครงการเสร็จสมบูรณ์จะ ช่วยลดต้นทุนด้านการขนส่ง ย่นระยะทางการ ขนส่งสินค้าและการจัดหาวัตถุดิบ เป็นการ ผลักดันความร่วมมือด้านนิคมอุตสาหกรรม ไทย-จี น (ฉงจั่ ว ) และความร่ ว มมื อ ทาง เศรษฐกิจในกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า ไปจนถึง ประเทศเวียดนาม” ในขณะที่ นิ ค มอุ ต สาหกรรมก� า ลั ง พั ฒ นาตั ว เอง ก็ มี ธุ ร กิ จ จ� า นวนมากชื่ น ชม ศักยภาพการพัฒนาของนิคมอุตสาหกรรม


“ข้อได้เปรียบด้านที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ ของเมืองฉงจัว่ จะท�าให้ตลาดเอเชียอาคเนย์ มีอนาคตที่กว้างไกล”

ไทย-จีน (ฉงจั่ว) เหอ ซ่าว เหว่ย ประธาน สภาอุตสาหกรรมประจ�าเมืองฉงจั่ว อธิบาย ว่า ปัจจุบนั นิคมอุตสาหกรรมไทย-จีน (ฉงจัว่ ) สามารถดึงดูดธุรกิจทีม่ ชี อื่ เสียงทัง้ ในและต่าง ประเทศเข้ามา เช่น บริษทั น�้าตาลมิตรผลของ ไทย บริษัท Comilog ของฝรั่งเศส บริษัท China Aluminum Corp. (Chalco) บริษัท ธัญพืช น�้ามัน และอาหารแห่งชาติ (China National Cereals, Oils and Foodstuffs Corporation) หรือ COFCO China National Building Materials (CNBM) Angel Yeast Co., Ltd และ CITIC Dameng เป็นต้น Angel Yeast Co., Ltd (ฉงจั่ว) เป็น แหล่งผลิตยีสต์ที่ใหญ่ที่สุดของจีนในปัจจุบัน หลิว เพ่ย ตง ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป เผยว่า ปัจจุบนั ธุรกิจมียอดเงินลงทุนเกิน 1,000 ล้าน หยวน ผลิตภัณฑ์ถกู ส่งต่อไปจ�าหน่าย 80 กว่า ประเทศ “ทางเราเชื่อว่า ข้อได้เปรียบด้านที่ตั้ง ทางภูมิศาสตร์ของเมืองฉงจั่วจะท�าให้ตลาด เอเชียอาคเนย์มีอนาคตที่กว้างไกล “นิ ค มอุ ต สาหกรรมเอื้ อ ประโยชน์ ทั้งสองประเทศ” การพัฒนาแบบบูรณาการทัง้ ทาง ทาง บก ทะเลและทางอากาศ ได้รับนโยบายที่ให้ สิทธิพเิ ศษ เช่น แผนพัฒนาพืน้ ทีภ่ าคตะวันตก ของจีน การพัฒนาเขตเศรษฐกิจอ่าวตังเกี๋ย ของกวางสี การค้าชายแดน และพื้นที่เขต ปฏิวตั เิ ก่า นิคมอุตสาหกรรมทีด่ า� เนินนโยบาย ที่ให้สิทธิพิเศษ สามารถมอบแพลตฟอร์มที่ดี

ให้กบั ธุรกิจไทยทีม่ าลงทุนในประเทศจีน และ สามารถมอบแหล่ ง รวบรวมและกระจาย สินค้าให้กบั สินค้าไทยทีเ่ ข้ามาในตลาดจีน ซึง่ จะเป็นประโยชน์ต่อสินค้าส่งออกของไทย เช่น ผลไม้และสินค้าเกษตร เป็นต้น กล่าวได้ว่าหนึ่งในวัตถุประสงค์สา� คัญ ของการจั ด ตั้ ง นิ ค มอุ ต สาหกรรมไทย-จี น (ฉงจัว่ ) ก็คอื เพือ่ ให้ได้ประโยชน์รว่ มกันทัง้ สอง ฝ่าย ไม่เพียงแต่ขยายช่องทางการพัฒนา อุตสาหกรรมฉงจั่ว นักลงทุนทั้งในและต่าง ประเทศยังต้องได้รบั ก�าไรทีค่ มุ้ ค่า จากผลของ ความร่ ว มมื อ ที่ โ ดดเด่ น ท� า ให้ นิ ค ม อุ ต สาหกรรมไทย-จี น (ฉงจั่ ว ) ได้ รั บ การ สนับสนุนจากทุกภาคส่วนทัง้ ของไทยและจีน รวมถึ ง การสนั บ สนุ น จากรั ฐ บาลทั้ ง สอง ประเทศ ทั้งนี้ โครงการนิคมอุตสาหกรรมไทยจีน (ฉงจั่ว) สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การ พัฒนาของทั้งสองประเทศ และขานรับกับ การสร้างนโยบาย“One Belt and One Road”หรือเส้นทางสายไหมของจีน และ นโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษของ ไทย ได้รับการสนับสนุนและความสนใจจาก บุคคลส�าคัญทางการเมือง และธุรกิจไทย-จีน สองประเทศ และเป็นผลประโยชน์ที่มณฑล กวางสีได้รับจากการร่วมมือกับประเทศไทย นิ ค มอุ ต สาหกรรมไทย-จี น (ฉงจั่ ว ) ก�าลังพยายามหาแนวคิดใหม่ด้านการพัฒนา ความร่วมมือ โดย อู๋ อ้าย หง รองนายก เทศมนตรีเมืองฉงจั่ว กล่าวว่า ควรผลักดัน นิคมอุตสาหกรรมไทย-จีนให้เป็นวาระแห่งชาติ

โดยอ้างอิงรูปแบบจากเขตนิคมอุตสาหกรรม จี น - ม า เ ล เซี ย ใ น เ มื อ ง ชิ น โจ ว แ ล ะ นิ ค มอุ ต สาหกรรมกวนตั น มาเลเซี ย -จี น ในเมืองกวนตัน รัฐปะหัง ซึ่งจะจัดตั้งนิคม อุตสาหกรรมไทย-จีน ในเขตอุตสาหกรรมใหม่ เมืองฉงจั่วที่มีอยู่ ระหว่างวันที่ 23-30 เมษายน 2559 หลาว หนิง จวิน รองนายกเทศมนตรีเมือง ฉงจั่ว ได้น�าคณะศึกษาดูงานเมืองฉงจั่วเดิน ทางมาเยื อ นประเทศไทย การเยื อ น ประเทศไทยและประเทศลาว โดยระหว่างที่ เดินทางมาเยือนประเทศไทย ตัวแทนสองฝ่าย ได้ ล งนามข้ อ ตกลงความร่ ว มมื อ กั บ เขต เศรษฐกิจพิเศษ จ.มุกดาหาร กลายเป็นนิคม อุตสาหกรรมพี่น้อง และร่วมกันผลักดันการ จัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมไทย-จีน อย่างเป็น รูปธรรม ขณะเดี ย วกั น ยั ง กระตุ ้ น ความสนใจ ด้านการอาศัยเมืองฉงจั่ว และบุกเบิกตลาด จีน ให้กับธุรกิจรายใหญ่และสถาบันการเงิน ของไทย บริษัท เหมืองแร่โปแตชอาเซียน จ�ากัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย และผู้รับ ผิดชอบนิคมอุตสาหกรรม จ.ระยอง เป็นต้น จั ด คณะตั ว แทน เดิ น ทางไปศึ ก ษาดู ง านที่ เมืองฉงจั่วด้วย จากความร่ ว มมื อ ร่ ว มสร้ า งนิ ค ม อุตสาหกรรม ไปจนถึงแนวคิดการพัฒนานิคม อุตสาหกรรมสองประเทศตามล�าดับ ได้แสดง ให้เห็นถึงความส�าเร็จในด้านความร่วมมือ ระหว่างธุรกิจไทย-จีน และกลายเป็นแบบ ฉบับในด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจการค้า ระหว่างสองประเทศ ทั้งสองฝ่ายจะมีช่องทางความร่วมมือ ที่ ห ลากหลายมากขึ้ น ใช้ “2 ตลาด 2 ทรัพยากร” ทัง้ ในและต่างประเทศ ก่อตัวเป็น รูปแบบความร่วมมือด้านอุตสาหกรรม “1+1 มากกว่า 2” ท�าให้ความร่วมมือไทย-จีน ยิง่ ได้ รับผลประโยชน์มากขึ้น

93


中国与越南的边境线 上,坐落着中国口岸最 多的边境城市,它是中国通往 东盟的陆路门户和最便捷的 “南大门”;也是中国广西最 年轻的地级市;它在中国国内 有着“糖都”、“锰都”和“ 边贸之都”的美誉,它就是崇 左市。在这里,人们常说“打 开门就是越南,走两步就进东 盟”,不过这个与越南比邻而 居的中国边城,也与泰国有着 千丝万缕的联系,而这联系的 渊源,可以从大家熟悉的 “糖”说起。 缘分因“糖”而起 13年前,伴随着崇左市的 成立,崇左市城市工业区应运 而生,从此也翻开了崇左市工 业发展的崭新一页。作为最早 进入崇左市的外资企业之一, 泰国两仪集团下属企业——广 西南宁东亚糖业集团有限公司 依托崇左市丰富的蔗糖资源, 经过多年的发展,已成长为中 国最大的制糖企业集团之一,

94

在崇左拥有糖厂、生物质发电 厂和纸浆厂等10家公司。 企业的发展不仅扩大了自 身的规模与影响力,也让中泰 两国企业因“糖”结缘,为两 国深入合作奠定了良好的基 础。随着中国—东盟经贸关系 的日益密切,中国崇左在中 国—东盟经贸合作中的地位有 所提升,其国际通道、区位、 政策及资源优势的叠加,让中 泰双方有了进一步合作的意 愿。而深化合作依旧没有离 开“糖”。 2012年,崇左市政府与泰 国两仪集团决定以建设崇左东 亚糖业循环产业项目为契机, 在崇左城市工业园区规划基础 上,共同建设中泰(崇左)产 业园,以共同打造中泰双方合 作园区的典范。2015年9月, 第12届中国—东盟博览会举办 期间,崇左市政府与泰国两仪 集团正式签署了《中泰(崇 左)产业园合作建设框架协 议》,为中泰双方合作共建产

业园区提供了新的保障。 合作不止于“糖” 崇左东亚糖业循环产业项 目包括原糖和精糖生产线、蔗 糖技术研发中心、木糖醇加工 制作等项目,建成后将为中 国“糖都”带来第一个集生 产、参观、旅游于一体的高标 准循环产业项目。因此,可以 说中泰(崇左)产业园的合作 因“糖”而起,但未来的合作 范围却远远不止于“糖”。 据崇左市市委书记刘有明 介绍,中泰(崇左)产业园规 划以循环糖业与食品制造、家 居轻纺产业、材料电子产业、 国际商贸物流业、跨境电子商 务为主导产业,除了已经进驻 的泰国两仪集团外,目前崇左 正在与中铝集团商讨把稀土进 行深加工,与中粮集团商讨发 展糖业循环经济等,下一步还 将规划建设食品加工园区和高 新技术产业园等。 从签约到规划设计,中泰 (崇左)产业园经过3年努


力,园区建设已取得积极的进 展。目前园区内长22公里的工 业大道已建成通车,水、电、 路、供气、排污等基础设施日 趋完备。而位于左江中游河段 的崇左港濑湍作业区工程也推 进顺利。据该工程部负责人介 绍,左江是中国珠江水系西江 的组成部分,自古是中国与越 南贸易的黄金水道,“工程建 成后,将有效降低运输成本, 提升产品输运和原材料供应半 径,进一步推动中泰(崇左)产 业园与中国粤港澳地区乃至越 南的经济合作。” 栽好梧桐树,自有凤凰 来。在园区加强自身建设的同 时,也有越来越多的企业通过 行动为中泰(崇左)产业园的 发展潜力点赞。据崇左市城市 工业管理委会员主任何少伟介 绍,目前中泰(崇左)产业园 已引进泰国两仪、法国康密 劳、中国铝业、中粮集团、中 国建材、安琪酵母、中信大锰 等一批国内外知名企业。 安琪酵母(崇左)有限公司 是目前中国最大的酵母生产基 地。据企业总经理助理刘佩东 介绍,企业目前已完成总投资 超过10亿元人民币,产品远销 世界80多个国家和地区。“我 们看好崇左的区位优势,东南 亚市场前景可期。”刘佩东 说。 “两国双园”让投资更有“甜头” “通江、达海、出边”海

陆空一体化发展,享有中国西 部大开发、广西北部湾经济区 开放开发、边境贸易、革命老 区等优惠政策,这一实行特殊 优惠政策的产业园,既可以为 泰国企业来华投资提供良好平 台,又可以为泰国产品进驻中 国市场提供便利的集散地,有 利于泰国水果、农产品等出口 产品由单一的原料出售向深加 工转型。 可以说,中泰(崇左)产 业园建设的重要目的之一就是 要实现中泰双方的互利共 赢——不仅要拓宽崇左产业发 展的新路子,也要丰满国内外 投资者的钱袋子。随着合作成 效初显,中泰(崇左)产业园 区的发展也得到了中泰各界的 积极支持。 中泰(崇左)产业园项目 符合中泰两国发展战略,响应 了中国“一带一路”建设和泰 国“发展经济特区”战略,得 到了中泰两国政要、企业的大 力支持和广泛关注,也是广西 收获的与泰国开展友好合作的 丰硕果实。据刘有明书记介 绍,2015年4月,广西壮族自 治区彭清华书记访问泰国期 间,在拜会泰国总理巴育时, 提出“希望总理大力支持广西 中泰(崇左)产业园建设”的 建议,同时也得到了泰国总理 巴育的赞同。 站在聚光灯下,中泰( 崇左)产业园也正积极探索 着合作发展的新思路。崇左 市副市长吴爱红表示,希望 打造中泰“两国双园”,建 议将中泰(崇左)产业园建 设上升到国家层面来进一步 推 动 。 中 泰 “两国双园”,即参考中 国—马来西亚钦州产业园区

与马来西亚—中国关丹产业 园区开创的“两国双园”模 式,在现有的崇左工业新区 规划范围内建设中泰(崇 左)产业园,开发模式可以 参照马中关丹产业园区,在 泰国共同建设的泰中产业 园。 随着2016年4月23-30日 崇左市招商考察团的出访, 中泰“两国双园”建设的脚 步也更加掷地有声。据了 解,此次出访老挝、泰国由 崇左市副市长劳宁军为团 长,在访问泰国期间,双方 代表务实推动了中泰(崇 左)产业园区的合作。不仅 中泰(崇左)产业园与莫拉 限(莫达汉)府经济特区共 同签署了合作协议结成姊妹 园区,共同推进中泰“两国 两园”的建设;同时也激发 了泰国大企业、金融机构对 依托崇左、开发中国市场的 极大兴趣。东盟钾盐公司、 北科橡胶公司、开泰银行、 罗勇工业区负责人纷纷表示 将在近期组织考察团到崇左 进行考察。 从项目的合作到园区的共 建,再到“两国双园”的发展 构想,中泰(崇左)产业园的 一步步发展,不仅见证了中泰 企业合作的成功,也将成为中 泰经贸合作中熠熠发光的典 范。 拾阶而上,当“两国双 园”的发展模式成功从中马两 国合作复制到中泰两国合作中 来,中泰双方也将拥有更多元 的合作渠道,用好国内与国 外“两个市场、两种资源”, 形成“1+1>2”的产业合作模 式,从而让中泰合作更有“甜 头”可尝。 • 文/本刊记者 黎敏 95


96




Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.