นิตยสารเรื่องสั้น ฉบับที่ 4

Page 1

นิตยสารเรื่องสั้น เรื่องสั้น นิอร สุขวัจน จิดานันท เหลืองเพียรสมุท สัมภาษณ ปราปต ชัยรัตน ความเปนบรรณาธิการยุคใหม โช ฟุกุโตมิ อุทิศ เหมะมูล ไอดา อรุณวงศ ดวงฤทัย เอสะนาชาตัง

2559


นิ ต ยสารเรื่ อ งสั้ น

ฉบับที่ 4 : ปะจ�ำเดือน www.porcupinebook.com [Facebook/ส�ำนักพิมพ์ เม่นวรรณกรรม] นิตยสารเรื่องสั้น 9/8 หมู่ 9 บางช้าง สามพราน นครปฐม 73110 โทรศัพท์ 0-3429-5424 โทรสาร 0-3429-5283 E-Mail : porcupinebook@gmail.com บรรณาธิการอ�ำนวยการ : ปรียา พุทธประสาท บรรณาธิการ : นิวัต พุทธประสาท ผู้ช่วยบรรณาธิการ : สิริกัญญา ชุ่มเย็น กองบรรณาธิการ : แสงดารา ยางงาม, กนกพร ทองไทย อุปกรณ์ที่ใช้อ่าน iPad iPhone iPod Touch ที่ลงปฏิบัติการ iOS4 ขึ้นไป สามารถดาวน์โหลด App ได้ที่ App Store ค้นหา Alter Book หรือ MEB Mobile Tablet ทุกยี่ห้อ ที่ลงปฏิบัติการ Android 2.2 หรือสูงขึ้นไป สามารถดาวน์โหลด App ได้ที่ Google Play ค้นหา MEB Mobile ดาวน์โหลดหนังสือลงใน App ได้ที่ htpp://www.mepmarket.com/ htpp://issuu.com/thai_writer_magazine อ่านนิตยสารเรื่องสั้นบนเว็บ


เรียนผู้อ่านและนักเขียนที่นับถือทุกท่าน

นิตยสารที่ท่านอ่านอยู่นี้คือ "นิตยสารเรื่องสั้น" ที่จัดพิมพ์ในรูปแบบ E-Book

1. ท่านจะอ่านหนังสือเล่มนี้ได้อย่างไร 1.1 ถ้าท่านมี iPad หรือ iPhone ไปที่ App Store ค้นหา Alter Book จากนั้นก็ ดาวน์โหลด App Alter Book มาใช้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เมื่อโหลดแล้ว ท�ำการลงทะเบียน นิดหน่อย ท่านก็สามารถเข้าไปในชั้นหนังสือของ Alter Book บนชั้นหนังสือจะโชว์หนังสือ ของเรา จากนั้นดาวน์โหลดมาอ่านได้ทันที 1.2 ถ้าท่านใช้ซัมซุง ไม่ว่าจะเป็นแทบเล็ตหรือโทรศัพท์ในระบบปฏิการแอนดรอยด์ (Android) ให้เข้าไปที่ Google Play จากนั้นค้นหาค�ำว่า MEB: Mobile E-Books เมื่อโหลด App มาแล้วลงทะเบียนอีกนิดหนึ่ง จากนั้นก็เข้าไปในชั้นหนังสือ จะพบหนังสือมากมายถ้า หาไม่เจอให้ค้นค�ำว่า "นิตยสารเรื่องสั้น" หนังสือก็จะปรากฏ 1.3 ทางเว็บไซต์ www.issuu.com ซึ่งผมจะแปะลิงค์เอาไว้ที่เว็บไซต์ www.porcupinebook.com 2. ต้องการส่งเรื​ื่องสั้นและบทความท�ำอย่างไร

2.1 ส่งเรื่องสั้นและบทความได้ที่ porcupinebook@gmail.com 2.2 ส่งเรื่องสั้นและบทความได้ที่ Massage Facebook: นิวัติ พุทธประสาท 2.3 ทางนิตยสารจะปิดรับต้นฉบับทุกวันที่ 20 ของเดือน 2.4 ในส่วนของเรื่องสั้น ท่านสามารถส่งได้เพียงละ 1 เรื่องต่อเดือน

3. นิตยสารเรื่องสั้นจะท�ำนานเท่าไหร่

ผมจะท�ำนิตยสารเรื่องสั้นจ�ำนวน 12 ฉบับ หรือ 1 ปี


นิตยสารเรื่องสั้น เงื่อนไขการพิจารณาต้นฉบับ 1. เป็นเรื่องสั้นที่เขียนขึ้นเองของนักเขียน 2. ไม่เคยตีพิมพ์ที่ใดมาก่อนไม่ว่าจะเป็นหนังสือ นิตยสาร หรือ อินเตอร์เน็ต 3. ส่งเรือ่ งสัน้ ทีด่ ที สี่ ดุ ได้เพียงหนึง่ เรือ่ งต่อเดือน หากไม่ทำ� ตามกฏข้อนีจ้ ะงดพิจารณา ต้นฉบับของผู้นั้นเป็นเวลาสามเดือน 4. ไม่จ�ำกัดเนื้อหา ไม่จ�ำกัดจ�ำนวนหน้า ไม่จ�ำกัดเพศวัย 5. ผู้ส่งเรื่องสั้นโปรดพิจารณาหัวข้อนี้เป็นพิเศษ นิตยสารเรื่องสั้นเป็นนิตยสารใน รูปแบบ E-Book ส�ำหรับแจกฟรี ไม่มีรายได้ ไม่มีโฆษณา (ยกเว้นโฆษณาของ สนพ.เม่น วรรณกรรม :)) ผู้จัดท�ำตั้งใจท�ำโดยไม่หวังผลตอบแทนในด้านการเงิน ดังนั้นเรื่องสั้นที่ลง ในนิตยสารแห่งนี้จึงไม่มีค่าเรื่อง ก่อนส่งเรื่องสั้นมายังที่นี่โปรดพิจารณาเป็นพิเศษเพื่อมิให้ หมองใจในภายหลัง นอกจากเรื่องสั้นแล้วทางนิตยสารยังต้องการต้นฉบับ 1. บทวิจารณ์หนังสือ 2. รีววิ หนังสือออกใหม่ ส�ำนักพิมพ์ใดต้องการประชาสัมพันธ์หนังสือของตนสามารถ ส่งบทรีวิวพร้อมรูปปกมาได้ 3. ทางนิตยสารยังต้องการ ภาพถ่าย รูปประกอบหนังสือ หรือ Graphic Fiction ผู้ ใดต้องการปล่อยความสามรถส่งมาได้ นิตยสารออกทุกต้นเดือน สามารถติดตามผลได้ที่ Facebook นิวัติ พุทธประสาท Page ส�ำนักพิมพ์เม่นวรรณกรรม และเว็บไซต์ www.porcupine.com ท่านสามารถอ่านนิตยสารโดยโหลด Alter Book App หรือ MEB App ส�ำหรับระบบ ปฏิการ ios ที่อ่านบน iPad iPhone และ iPod Touch และส�ำหรับผู้ใช้ Android สามารถ โหลด MEB Mobile E-book ได้ที่ Google Play และส�ำหรับผูท้ ตี่ อ้ งการอ่านบนคอมพิวเตอร์สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ เว็บไซต์ www. issue.com นั ก เขี ย นสามารถส่ ง เรื่ อ งสั้ น มาที่ Porcupinebook@gmail.com หรื อ ทาง Massage Facebook หมายเหตุ: กรุณาส่งต้นฉบับด้วยไฟล์ 'ไมโครซอร์ฟเวิร์ด' หรือ 'เพจ' ส�ำหรับแมค


หมดแก้ ว


Contents 105

023

008

บทบรรณาธิการ

081

019

Book Review

Beatrice and Virgil

014

ข่าวสารวรรณกรรม

The Samuel Johnson Prize One Direction กับ แผนเรียกลูกค้า ฉบับใหม่ของ J.K. Rowling

023

บทความเสวนา

อ่าน/ความคิด/บรรณาธิการ เสวนา ในหัวข้อความเป็นบรรณาธิการยุค ใหม่


035

121

การมาถึงของอีกาด�ำ

ก๋วยเตี๋ยวอาหารสัญชาติจีน กับชาตินิยมของไทย

เรื่องสั้น

057 เรื่องสั้น

หวังว่ากันต์คงจะรอไหวนะคะ

081 ท่องเที่ยว

จากเธอถึงฉัน ถึงนครพนม

103 การ์ตูน ไอ้ย้อย

105 สัมภาษณ์

ความเลือนลางบนเส้นทางนักเขียน ที่อยู่ได้ด้วยความใฝ่ฝัน

สารคดี

129 การ์ตูน

ท่านครับ

131

Book Review เนรเทศ


8 นิตยสารเรื่องสั้น

บทบรรณาธิการ ก่อนเปิดเล่ม

กลายเป็นธรรมเนียมที่บรรณาธิการจะต้องเขียนอะไรสักอย่างในหน้าเปิดหนังสือ ธรรมเนียมนี้เป็นเหมือนการสื่อความให้กับผู้อ่านได้รับรู้ข่าวสารจากส�ำนักพิมพ์ ซึ่งในระยะ ต่อมา มันได้กลายมาเป็นอาการบ่นกระปอดกระแปดเกี่ยวกับหนังสือ เรื่องการปิดต้นฉบับ ไม่ตรงวัน การท�ำงานทีล่ า่ ช้า เวลาทีล่ ว่ งเลยมาหลายสัปดาห์จนกลายมาเป็นเดือนล่วงเป็นปี แต่จะให้พูด “นิตยสารเรื่องสั้น” ของเราเลยจุดนั้นมาแล้ว และในบัดดลได้สถาปนาตัวเองให้ กลายเป็นหนังสือ “รายสะดวก” อย่างไม่ตอ้ งสงสัย เราอาจจะไม่ใช้วธิ นี บั จ�ำนวนเล่ม หรืออะไร ก็แล้วแต่ที่จะบอกวันเวลา เราเพียงแค่อยากจะให้มันมีอยู่ในทุกห้วงเวลาต่างหาก เนื่องจาก เรายังอยู่ในสถานะหนังสือแจกฟรี ไม่มีรายได้ มีแต่รายจ่าย การท�ำให้อ่านฟรีๆ ของเราเป็น ความต้องการลองของ ลองวิชา เป็นความรู้สึกอยากท�ำในสิ่งที่ชอบ มันเป็นความส�ำราญที่ เราเองคิดว่าไม่เหนือบ่ากว่าแรงมากนัก ฉบับนี้เราได้ผู้ร่วมงานสองสาวไฟแรงเป็นก�ำลังส�ำคัญ อยากให้ผู้อ่านจดจ�ำชื่อของ สองสาวนี้ให้ดีๆ ถ้าเธอทั้งสองไม่เลิกลา บอกศาลากับงานวรรณกรรมไปเสียก่อน แล้วยัง หลงใหลในสวนอักษร กับกลิ่นเอาเย้ายวนใจไม่หยุดหย่อน อนาคตของเธอทั้งสองคงไปถึง ฝันไม่ไกล คนแรกคือ แสงดารา ยางงาม คนที่สองคือกนกพร ทองไทย จากมหาวิทยาลัย บูรพา บรรณาธิการเชื่อว่าหากมีประสบการณ์มากขึ้น ขัดเกลาฝีไม้ลายมือเพิ่มเติม ลองให้ คิดถึงการเจียระไนเพชร ไม่มีอะไรจะงดงามไปกว่านี้ เนื้อหาในหนังสือยังคงเป็นเฉกเช่นเดิม เติมไฟให้ผู้อ่านด้วยบทสัมภาษณ์ล้วงลึก นักเขียนรุ่นใหม่ไฟแรง เติบโตมาจากเว็บเด็กดี ผ่านการประกวดนิยายเวทีส�ำคัญจนเป็นที่ น่าจับตามองจากนักอ่าน กลิ่นอายนิยายของเขาเป็นไปในลักษณะเอกนิยายอาชญากรรม ตีความหมายเชิงสัญลักษณ์ เรือ่ งโดดเด่นของเขาเป็นการจับอดีตมาตีคา่ หาอาชญากรจนคน อ่านติดกันงอมแงม ลองเข้าไปอ่านสัมภาษณ์ของเขาว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง คอลัมน์ทนี่ า่ สนใจอีกคอลัมน์คอื บันทึกงานเสวนา “ความเป็นบรรณาธิการยุคใหม่” มีผรู้ ว่ มเสวนาสามท่านอันได้แก่ อุทศิ เหมะมูล, ไอดา อรุณวงศ์ และ ดวงฤทัย เอสะนาชาตัง


นิตยสารเรื่องสั้น 9

โดยมี โช ฟุกโุ ตมิ เป็นผูด้ ำ� เนินรายการ การเสวนาครัง้ นีไ้ ด้รบั การร่วมมือจากเจแปนฟาวด์เดชัน เป็นโครงการต่อเนื่อง ญี่ปุ่น-ไทย มีจุดที่น่าสนใจมากส�ำหรับคนที่จะเริ่มต้นท�ำส�ำนักพิมพ์ เพราะจะได้รับรู้ถึงอุปสรรคต่างๆ ในธุรกิจสิ่งพิมพ์ยุคใหม่ ส่วนโครงหลักของหนังสือเราคงขาดเรื่องสั้นไปไม่ได้ ในฉบับนี้เรื่องสั้นแม้จะมีเพียง สองเรื่อง แต่เป็นเรื่องสั้นของสองสาวนักเขียนรุ่นใหม่ คนแรก จิดานันท์ เหลืองเพียรสมุทร นักเขียนรุน่ ใหม่ทกี่ ำ� ลังมาแรง เธอเกิดทีส่ มุทรปราการ แต่เปลีย่ นเมืองทีอ่ ยูไ่ ปมากมายตัง้ แต่ เชียงราย เชียงใหม่ อีสาน รังสิต กรุงเทพฯขยันเขียน ขยันอ่าน ขยันเขียน ขยันท�ำงาน เคยได้ รางวัล Yong Thai Artist Award 2013 เข้ารอบรางวัลเรื่องสั้นมากมาย หลงใหลภาษารัสเซีย เขียนหนังสือได้หลายแนวรวมถึงบทละครด้วย เรื่องสั้นในเล่มนี้ของเธอน�ำเสนอเรื่องราวรัก ในเพศทางเลือก อีกาทีก่ ลายเปลีย่ น และความสับสนต่อสิง่ ทีต่ วั เองเป็น ท่านผูอ้ า่ นลองอ่าน อย่างช้าๆ จะแลเห็นถึงความสะเทือนใจอันอ่อนหวานที่ผู้เขียนต้องการน�ำเสนอ อีกเรือ่ งหนึง่ เป็นผลงานของนักเขียนสาว นิอร สุขวัจน์ เธอท�ำงานในกองบรรณาธิการ แฟชั่นหนังสือส�ำคัญๆ อาทิเช่น ลิปส์ แฮมเบอร์เกอร์ ปัจจุบันประจ�ำกองบรรณาธิการ Dont เรื่องสั้นเรื่องนี้ของเธอบรรณาธิการขอสรุปแบบแซ่บที่สุดก็คือ อื้อฉาว ปวดร้าว เจ็บป่วย และเซ็กซี่ เป็นเรื่องสั้นอีโรติกที่จะท�ำให้ผู้อ่านเข้าถึงจิตใจหญิงสาว รวมถึงความสับสนจาก จิตเบื้องลึก สปอยส์ไปมากกว่านี้คงไม่ได้ ต้องสัมผัสด้วยตัวท่านเอง นิตยสารเรื่องสั้น รายสะดวก จะกลับมาพบท่านผู้อ่านอีกเมื่อไหร่ บรรณาธิการคง ตอบเป็นจ�ำนวนวันที่แน่นอนไม่ได้ แต่แน่นอนเราคิดถึงท่านผู้อ่านเสมอ ด้วยรัก นิวัต พุทธประสาม บรรณาธิการ


วางแผงแล้วที่ร้านหนัง


งสือชั้นน�ำ และ e-book




Report

ข่าวสารวรรณกรรม The Samuel Johnson Prize ประจ�ำปี2015

รางวัลด้านวรรณกรรมทัว่ โลกทัง้ ทีม่ ชี อื่ เสียงและไม่เป็น ที่รู้จักมีซึ่งอยู่เป็นร้อยรางวัลทั่วโลกมักเป็นการให้รางวัล แก่วรรณกรรมประเภทบันเทิง และว่าอันที่จริงเมื่อพูดว่า “วรรณกรรม” จะนึกถึงเรื่องแต่ง นิยาย เรื่องสั้น นิทาน หรืออื่นๆ แต่แท้จริงแล้วค�ำจ�ำกัดความของวรรณกรรม ไม่ได้จ�ำกัดเฉพาะเรื่องแต่งเท่านั้น งานเขียนเชิงสารคดี หรือวิชาการก็นับเป็นวรรณกรรมเช่นกัน และมีการมอบ รางวัลให้แก่งานเขียนสารคดี* ด้วยเช่นกัน The Samuel Johnson Prize for Non-Fiction เป็นรางวัลงานเขียน ประเภทสารคดีที่ใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักรอังกฤษ โดยปีล่าสุด(2015) รางวัลตกเป็นของ สตีฟซิลเบอร์แมน (Steve Silberman) จากงานเขียน เรือ่ ง Neurotribes ว่าด้วยเรือ่ งประวัตศิ าสตร์ทศั นคติของคนในสังคมต่อผูป้ ว่ ยออทิสติก และ ทฤษฎีต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ซิลเวอร์แมน เป็นนักวิทยาศาสตร์คนแรกที่คว้ารางวัลนี้ ซึ่งผู้ชนะในอดีตมักเป็นนักเขียนสารคดีท่องเที่ยว นักข่าว หรือนักเขียนประเภทสารคดีอื่นๆ หมายเหตุ : สารคดี = Non Fiction ตรงข้ามกับ บันเทิงคดี (นิยาย, เรือ่ งสัน้ , เรือ่ งแต่งอืน่ ๆ) = Fiction ที่มา : Tristram Fane Saunders. (2015). Steve Silberman's Neurotribes wins the 2015 Samuel Johnson Prize. http://www.telegraph.co.uk/books/authors/steve-silberman-neurotribes-samuel-johnson-prize-winner/.

วรรณกรรมฉบับพิมพ์ครั้งแรกที่แพงที่สุด

สแตนด์ลยี ก์ บิ บอนส์ (Stanley Gibbons) นายหน้าซือ้ ขายของ สะสม (แสตมป์,เหรียญ) ชือ่ ดังแห่งลอนดอน จัดดัชนีราคาซือ้ ขาย วรรณกรรมคลาสสิกช่วงศตวรรษที่ 21 ฉบับพิมพ์ครัง้ แรก จ�ำนวน 35 เล่ม มี The Great Gasbyของ F.Scott Fitzgerald ครองอันดับ ทีห่ นึง่ เล่มทีพ่ มิ พ์ครัง้ แรกและอยูใ่ นสภาพสมบรูณจ์ ะมีมลู ค่าซือ้ ขายในตลาดถึง 246,636 ปอนด์ ในอันดับรัง้ ท้ายลงมามีรายชือ่ งานเขียนชือ่ ก้องโลกอีกหลายเล่ม ในจ�ำนวนนัน้ มีทถี่ กู น�ำไปสร้าง


นิตยสารเรื่องสั้น 15

เป็นภาพยนตร์ เช่น Casino Royale(Ian Fleming), Animal Farm(George Orwell) และ The Hobbit(JRR Tolkien) นอกจากงานเขียนประเภทบันเทิงคดี มีงานเขียนสารคดีติดท็อป 30 อยู่หนึ่งเล่ม The General Theory of Employment, Interest and Money ผลงานเขียนของ JM Keynes สนนราคาฉบับพิมพ์ครั้งแรกในตลาดที่ 6,820 ปอนด์ ที่มา : Rachel Ward. (2015). The Great Gatsby remains most valuable First Edition. The Telegraph :http:// www.telegraph.co.uk/books/what-to-read/great-gatsby-most-valuable-first-edition/

One Direction กับ แผนเรียกลูกค้า ฉบับใหม่ของ J.K. Rowling

หลังจากแฮร์รี่ พอตเตอร์จบบริบรูณไ์ ปแล้ว นวนิยายเรื่องต่อมาของ J.K. Rowling ตีพิมพ์ ออกมาเมือ่ ปี 2012 The Casual Vacancy ซึง่ มี เนือ้ หาหนักกว่าเดิม ท�ำเอาแฟนนิยายทีต่ ดิ ใจกลิน่ อายนวนิยายเยาวชนแฟนตาซีอกหักไปตามๆ กัน เสียงตอบรับจึงไม่ดีนัก ล่าสุดกับนวนิยาย เรื่องใหม่ของเธอ Career of Evil นวนิยายแนว สืบสวนฆาตกรรม ก�ำลังเป็นทีพ่ ดู ถึงในโซเชียลมีเดียในกลุม่ เด็กสาววัยรุน่ ทว่ามิใช่พดู ถึงเรือ่ ง ความแปลกใหม่ของนวนิยายเล่มนี้จากผู้เขียนแฮร์รี่ พอตเตอร์ แต่เป็น ขวัญใจของพวกเธอ นีล (Niall Horan) แห่ง One Direction บอยแบนด์ขวัญใจสาวน้อยจากอังกฤษได้ปรากฏตัว เป็นตัวละครหนึ่ง (แฟนในจินตนาการของตัวละครเอกซึ่งถูกฆาตกรรม) ใน Career of Evil กระตุน้ ให้มติ รรักแฟนคลับพากันแห่ซอื้ Career of Evilเพือ่ ตามหาฉากทีน่ ลี ถูกกล่าวถึง กระแส ในโซเชีย่ ลมีเดียมีทงั้ ชืน่ ชมยินดี และตืน่ เต้นทีศ่ ลิ ปินทีต่ นรักถูกกล่าวถึงในสือ่ วรรณกรรม ท�ำให้ รู้สึกราวกับว่า “นีล” จับต้องได้และใกล้ชิดพวกเธอไปอีกขั้น และบางเสียงกล่าวว่าดีใจที่สอง สิ่งที่รักได้มาอยู่ในที่เดียวกัน ที่มา : Helena Horton. (2015). One Direction star features in JK Rowling's new book - here's why. http:// www.telegraph.co.uk/books/what-to-read/jk-rowling-niall-one-direction/.


Report 16 นิตยสารเรื่องสั้น

ข่าวสารวรรณกรรม แหล่งรวมพ็อคแคสต์ที่น่าสนใจ

พ็อดแคสต์ (Podcast) คือสื่อใหม่ เป็นเหมือน เทปบันทึกเสียง วิดโี อ และสือ่ อืน่ เช่นไฟล์เอกสาร PDF, รูปภาพ ที่เราสามารถดาวน์โหลดยังเครื่อง ของเราไว้อ่าน ดู หรือฟังได้ โดยเป็นลักษณะ คล้ายการจัดรายการทีวี วิทยุ บ้างคล้ายกับละคร วิทยุ หรืออีกลักษณะหนึง่ คือเป็นบันทึกสัมภาษณ์, การอภิปรายต่างๆ มีการใช้พ็อดแคสต์ในการเผย แพร่งานวรรณกรรม และเรื่องราวทางวิชาการอื่นๆ ในรูปแบบพ็อคแคสต์เสียงกันอย่างแพร่ หลายในต่างประเทศ และเริ่มมีบ้างแล้วในประเทศไทย สามารถเข้าไปดูรายละเอียดและค้นหาพ็อคแคสต์ที่สนใจจาก QR Code นี้ โดยใช้ แอพพลิเคชั่น QR Code Reader

ร้านหนังสือออนไลน์ของจริง

ขณะที่ เ มื อ งไทยเพิ่ ง จะตื่ น ตั ว กั บ การ อ่านอีบุ๊ค(E-Book) และการซื้อขายหนังสือ ออนไลน์ก�ำลังเฟื่องฟูได้ไม่กี่ปีอะมาซอน บุ๊คส์ แห่ง www.amazon.com กลับเพิ่ง ลงทุนเปิดร้าน “หนังสือ” ไปเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ร้านหนังสืออะมาซอน เป็นเหมือนกับอะมาซอนดอทคอมทีจ่ บั ต้องได้ ของหนังสือเล่มที่อยากได้โดยไม่ต้องเข้า มีรายละเอียดต่างๆ เหมือนกัน เช่น รีววิ หนังสือ, อินเตอร์เน็ต แนะน�ำหนังสือใหม่ ไปถึงการให้คะแนนหนังสือ โดยอ้างอิงข้อมูลจากเว็บอะมาซอนเอง นัยว่า ทีม่ า : The Huffington Post. (2015). Amazon Books Debuts In Seattle, The Company's First Actual Bookstore. รูปแบบร้านหนังสือนี้จะท�ำให้ผู้อ่านได้เลือก http://www.huffingtonpost.com/entry/amazon-bookหนังสือทีห่ ลากหลายมากขึน้ และมีประสิทธิภาพ store-seattle_56380dc4e4b079a43c0468ac. มากขึ้น ราวกับได้เช็คเรตติ้งและเสียงตอบรับ


นิตยสารเรื่องสั้น 17

It’s Kind Of Funny

Oliver Hardy: 'Didn't you once tell me that you had an uncle?' Stan Laurel: 'Sure, I've got an uncle. Why?' Oliver: 'Now we're getting somewhere. Is he living?' Stanley: 'No. He fell through a trap door and broke his neck.' Oliver: 'Was he building a house?' Stanley: 'No, they were hanging him.' The Laurel-Hardy Murder Case (1930). Stan Laurel (1890-1965), Oliver Hardy (1892-1957). ที่มา : The Telegraph เครดิตรูป : Rex Features



นิตยสารเรื่องสั้น 19

Review

Beatrice and Virgil ความทะเยอทะยานของยานน์มาร์เทล เรื่องโดย เพลงฤดี เอมพัน

จาก Life of Pi ถึง Beatrice and Virgil นิยายเล่มล่าสุดของ ยานน์มาร์เทลใช้เวลา เขียนห่างกันค่อนข้างนานเลยทีเดียว และมัน ก็เป็นนิยายทีม่ คี วามทะเยอทะยานเป็นอย่าง ยิ่ง เมื่อยานน์มาร์เทลพยายามเขียนถึงเรื่อง ราว Holocaust เหยื่อฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ตอนทีน่ ยิ ายเรือ่ งนีอ้ อกมาใหม่ๆ นักอ่าน ต่างวิพากษ์วจิ ารณ์วา่ มันเป็นงานเขียนถึงเรือ่ ง ราวอันไร้ประโยชน์ ไม่มีสาระ (absurd) หาก เทียบกับเรื่องราวชีวิตของพาย พาเทล และ เสือเบงกอล กลางทะเลใน Life of Pi ย่อม สนุกมากกว่าเรือ่ งของ เฮนรี-่ นักเขียนหมดไฟ ลา-เบียทริช กับ ลิงจ๋อ-เวอร์จิล มากนัก แม้ จะจริงอยู่บ้าง แต่บางช่วงของนิยายก็ท�ำให้ ผู้อ่านถึงกับนั่งไม่ติดเลยทีเดียว

นิยายเรื่อง Beatrice and Virgil เขียนถึง นักเขียนนามเฮนรี่ จุดมุง่ หมายของเขาต้องการ น�ำเสนอผลงานเล่มใหม่ของเขากับส�ำนักพิมพ์ โดยเขียนเรื่องราวของเหยื่อฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ชาวยิวในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง แต่งาน ถูกปฏิเสธทีจ่ ะตีพมิ พ์เขาจึงหมดไฟในการเขียน ย้ายไปอยู่ในต่างเมือง สมัครเป็นพนักงาน พาร์ทไทม์รา้ นช็อคโกแลต แล้วยังเป็นนักแสดง ละคร ระหว่างนัน้ เขาได้รบั จดหมายประหลาด ฉบับหนึ่งจากผู้อ่าน ซึ่งตัดบางส่วนจากเรื่อง สั้นของกุสตาฟโฟล์แบรต์ พร้อมบทละครที่ เขียนไม่จบให้เฮนรี่ช่วยท�ำมันให้ส�ำเร็จ เฮนรี่ ตามไปยังที่อยู่นั้นไปพบว่าเจ้าของบทละคร เป็นชายชราทีค่ อ่ นข้างแปลก ไม่เข้ากับใคร ดู ไม่น่าคบ เป็นเจ้าของร้านสัตว์สตัฟฟ์ นิยาย เรือ่ งนีซ้ อ้ นเข้าไปยังบทละครของเจ้าของร้าน


20 นิตยสารเรื่องสั้น

สัตว์สตัฟฟ์ เขาเขียนละครเกีย่ วกับลา-เบียทิช และลิง-เวอร์จลิ นิยายเล่าเรือ่ งคูข่ นานกันไป โดยมีกลิน่ อายนิยายแอบเสิรด์ ในแบบแซมมู เอลเบคเก็ต และยังผสมผสานแนวทางแบบ Meta Fiction เข้าไปในเรื่องด้วย กลิ่นอายของ Beatrice and Virgil นั้นได้ รับแรงบันดาลใจจากงานเขียนหลากหลาย และดูเหมือนว่า Waiting for Godot ของ ซามูเอลเบคเก็ต กลายมาเป็นต้นแบบละครลิง กับลา ซึง่ เป็นภาพคูข่ นานของเหยือ่ ในการฆ่า ล้างเผ่าพันธุ์ แต่จดุ ทีส่ ะเทือนใจของผูอ้ า่ นกลับ เป็นตอนที่เข้าใจได้ยาก ก็คือเมนเดลโชห์ล สุนัขเลี้ยงของเฮนรี่ป่วยเกินเยียวยาจนต้อง รมแก๊สเพื่อให้มันไม่ทนทุกข์ทรมานอีกต่อ ไป ผู้อ่านถึงกับเกือบหลั่งน�้ำตา แต่มันมีบาง อย่างทีท่ ำ� ให้คดิ ไม่ได้ถงึ การสังหารทีเ่ ราเรียก มันว่าการุณฆาต การสังหารเมนเดลโชห์ล เพราะมันไม่สามารถเป็นสัตว์เลี้ยงอย่างที่ มนุษย์ตอ้ งการ นัน่ คือเป็นเพือ่ นทีแ่ สนดี เป็น ผู้ที่คอยติดตามเฮนรี่ไปทุกที่ สัตย์ซื่อ เชื่อฟัง ไม่กอ่ อันตรายให้ผเู้ ลีย้ ง แต่เมือ่ มันถูกโรครุม ท�ำร้ายกลายเป็นสัตว์ เราตีความมันว่าทนทุกข์ สมควรตาย การวินิจฉัยของแพทย์ท�ำให้เรา ไม่สามารถปล่อยชีวิตของมันให้ด�ำรงอยู่อีก

ต่อไป มันไร้คุณค่าลงไปในทันที ความสะเทือนใจนี้เกิดขึ้นอีกครั้งในฉาก คู่ขนานบทละครเวที ลิงกับลาโดนฆ่าจาก เด็กในหมู่บ้าน รวมถึงฉากสุดท้ายที่เฮนรี่ถูก แทงเจียนตาย เพราะเขาไร้ค่าในสายตาของ นักสตัฟฟ์สัตว์เสียแล้ว เฮนรี่รอดพ้นจาก ความตายนัน้ อย่างเฉียดฉิวจนท�ำให้ตอ้ งกลับ มาทบทวนความทรงจ�ำทีเ่ ลือนหาย เขาเขียน นิยายเรื่องนี้ด้วยมุมมองที่เต็มไปด้วยความ เคลือบแคลง ผิดบาป อาจรวมถึงว่าท�ำไมเวลา นัน้ เขามองไม่เห็นอาชญากร ท�ำไมเขาเป็นคน เดียวที่ยังยืนอยู่ข้างอาชญากรรมโดยไม่รู้ตัว แม้ Beatrice and Virgil จะไม่โด่งดังเท่าเรือ่ ง ราวชีวติ อันโลดโผนของพาย แต่ในฐานะของ ความทะเยอทะยานของนักเขียน มาร์เทลได้ ท�ำให้ลิงและลา แอบเสิร์ดของเขา ก้าวเข้าสู่ ศตวรรษที่ 21 ในฐานะที่เราก�ำลังเผชิญหน้า กับการเป็นอาชญากรโดยไม่รู้ตัว ปัญหาใน โลกสมัยใหม่ การฆ่าทีม่ คี วามซับซ้อนมากขึน้ เหยือ่ ของสงครามมิใช่เหยือ่ ทีต่ ายในสนามรบ เท่านั้น แต่มันได้ขยายเขตแดนสังหารไป ทุกหนแห่งบนโลก และบางทีเราอาจจะไม่ เคยเข้าใจมันอีกเลย


นิตยสารเรื่องสั้น 21

Yann Martel

นักเขียนชาวแคนาดา



นิตยสารเรื่องสั้น 23

เสวนา

อ่าน/ความคิด/บรรณาธิการ เรื่องโดย กองบรรณาธิการ ภาพโดย นิวัต พุทธประสาท

พืน้ ทีเ่ ล็กๆ ของร้านหนังสือไรท์เตอร์ซเี คร็ท เบียดเสียดด้วยเก้าอี้รองรับผู้สนใจกอบโกย ความคิด ความรู้จากการฟังและแลกเปลี่ยน ความเห็น เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ.2558 เวลา 16:00 น. ตามเวลานัด เก้าอี้ทุกตัวถูก จับจอง พิธีกรและวิทยากรเตรียมสนทนาใน หัวข้อที่ได้ประกาศเอาไว้ “ความเป็นบรรณาธิการยุคใหม่ : The new editorship” โช ฟุกุโตมิ รับหน้าที่เป็นพิธีกรด�ำเนิน รายการ วิทยากรสามท่าน ได้แก่ ดวงฤทัย เอสะนาชาตัง แห่งส�ำนักพิมพ์ระหว่างบรรทัด และร้านหนังสือก็องดิด ไอดา อรุณวงศ์ แห่ง ส�ำนักพิมพ์อ่านและวารสารในชื่อเดียวกัน อุทิศ เหมะมูล นักเขียนรางวัลซีไรต์และ บรรณาธิการวารสารไรท์เตอร์ “งานที่บรรณาธิการ(ญี่ปุ่น)ท�ำก็คือการ

ตรวจต้นฉบับเพียงอย่างเดียว” จุดเริม่ ต้นของ งานเสวนาในครัง้ นี้ โช ฟุกโุ ตมิ ตัง้ ข้อสังเกตเห็น ความแตกต่างระหว่างงานบรรณาธิการสอง ประเทศ ซึ่งมีการท�ำงานและหน้าที่แตกต่าง กัน ในขณะทีบ่ รรณาธิการญีป่ นุ่ ท�ำหน้าทีเ่ พียง ตรวจต้นฉบับ แต่บรรณาธิการไทยมีหน้าที่ และบทบาทหลากหลายกว่านั้น


24 นิตยสารเรื่องสั้น

“เวลาไปไหนจะบอกว่าเป็นทัง้ นักเขียนและ บรรณาธิการด้วย ถ้าถามว่าเป็นบรรณาธิการ ต้องท�ำอะไรบ้าง หน้าที่บรรณาธิการต้องท�ำ อะไร ผมให้คำ� ตอบทีช่ ดั เจนไม่ได้ เพียงแต่วา่ สิ่งที่ท�ำอยู่นี้คล้ายๆ กับรู้ว่าต้องท�ำอย่างนี้ อย่างเช่นคิดคอนเซปท์ของเล่ม ดูแลนิตยสาร รายเดือนให้ออกตรงเวลาทุกเดือนเท่าที่จะ ท�ำได้ ดูแลเนือ้ หา เป็นเหมือนกับพ่อบ้าน ถ้า สมมติว่าหนังสืออันหนึ่งเป็นห้องอาหารเรา ก็เหมือนกับเป็นพ่อบ้าน ที่ต้องดูแลจัดโต๊ะ จัดจานให้เรียบร้อย รอแขกมารับประทาน อาหาร ทีมกองบรรณาธิการเป็นพ่อครัว

เป็นโน้นเป็นนี้” ---อุทิศ เหมะมูล “ระยะหลังนีค้ นรูจ้ กั พีใ่ นนามเจ้าของร้าน หนังสือมากกว่าเป็นบรรณาธิการ ได้รับเชิญ มาพูดในฐานะบรรณาธิการก็ดใี จมาก(หัวเราะ) เพราะงานบรรณาธิการเป็นงานเบื้องหลัง มากๆ วันก่อนเคยคุยกับโชเล่นๆ ว่า จะนิยาม ตัวเองยังไง ในฐานะบรรณาธิการ พีบ่ อกเป็น คนส่งสาส์นระหว่างบรรทัด เราจะเริ่มตั้งแต่ คัดสรรต้นฉบับ กว่าจะเป็นเล่มออกมา มันมี รอยต่อของขัน้ ตอนต่างๆ ภารกิจเราก็คอื เชือ่ ม ให้มันติดต่อกัน” ---ดวงฤทัย เอสะนาชาตัง “ เวลาต้องตอบใครว่าท�ำอาชีพอะไร เวลา


กรอกใบตม. จะใส่ editor/writer นักเขียนเป็น อาชีพ แต่บรรณาธิการมันเป็นต�ำแหน่ง พอบอก เป็นนักเขียนก็เข้าใจทันที แต่ตอนไปศาลทหาร ไปเป็นนายประกันก็เขียนว่าตัวเองเป็นเจ้าของ กิจการเหมือนกับว่าต�ำแหน่งบรรณาธิการมัน เป็นทีร่ จู้ กั หรือเข้าใจในเฉพาะพืน้ ทีห่ นึง่ ไม่รวู้ า่ ในสังคมไทยมองวิชาชีพสือ่ สิง่ พิมพ์เป็นอาชีพ หนึง่ เลยได้หรือยัง เวลาจะต้องตอบใครว่าท�ำ อาชีพอะไรมีความรู้สึกเหมือนจะต้องเลือก ว่าจะใช้สรรพนามอะไรแทนตัวเองว่าอย่างไร จะดิฉัน จะหนูหรือฉัน” ---ไอดา อรุณวงศ์ หน้าทีบ่ รรณาธิการในประเทศไทยไม่ได้จำ� กัด

อยู่เพียงการดูแลต้นฉบับเท่านั้น ในส�ำนัก พิมพ์ขนาดเล็กทีม่ อี ยูม่ ากมายในประเทศไทย บรรณาธิการรับหน้าที่เกือบทุกอย่างเพื่อให้ ผลงานออกมาเป็นเล่ม เริม่ จากการพิจารณา ต้นฉบับ ท�ำงานร่วมกับนักเขียนหรือนักแปล ดูแลระหว่างขั้นตอนต่างๆ เพื่อให้ทุกอย่าง เชือ่ มกันโดยสมบรูณ์ กล่าวได้วา่ สิง่ ทีส่ ะท้อน ออกมาจากผลงานของส�ำนักพิมพ์นั้นๆ ก็ สะท้อน “บุคลิก” ของบรรณาธิการแห่งนั้น ออกมาด้วย อาจจะเป็นโดยปริยาย เมือ่ ต้อง เป็นผู้พิจารณาและคัดเลือกงานเขียนเพื่อ มาพิมพ์ในนามส�ำนักพิมพ์ของตน เรียกว่า


26 นิตยสารเรื่องสั้น

“บังเอิญว่าเราอยู่ในสังคมไทยที่ หนึ่ง มีสถานการณ์เรียกร้องให้เราท�ำ อะไรบางอย่าง สอง เป็นสังคมที่ให้พื้นที่กับคนที่มีสถานะบางอย่าง มี อภิสิทธิ์บางอย่าง เมื่อเรารู้ว่าเราอยู่ในสถานะที่คนอาจจะพอฟังบ้าง เรา เลยต้องท�ำหน้าที่นั้น ทั้งที่จริงๆ มันไม่ควรจะเป็นอย่างนั้น" ---ไอดา อรุณวงศ์ ส�ำนักพิมพ์แต่ละส�ำนักพิมพ์มีแนวทางของ ตนเองซึง่ เป็นผลมาจากการพิจารณาต้นฉบับ จากบรรณาธิการ “ไม่ได้เป็นความจงใจถึงขนาดที่ว่าเข้ามา แล้วจะต้องท�ำให้นิตยสารเป็นบุคลิกภาพ แบบเดียวกับเรา แต่ผมคิดว่ามันคงเป็นไป โดยอัตโนมัติ” ---อุทิศ เหมะมูล อาชีพบรรณาธิการในเมืองไทยถูกจ�ำกัด ความไว้อย่างหลากหลาย มิใช่เพียงในแง่ การท�ำงานเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงหน้าที่ และบทบาทของบรรณาธิการในสังคมด้วย หลายครั้งเราพบว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ ปกติในสังคม แวดวงคนท�ำหนังสือจะตื่นตัว และตอบสนองต่อเหตุการณ์เหล่านั้นทันที ผ่านการแสดงความคิดเห็นและเป็นสือ่ กลาง กระจายข้อมูลเรือ่ งเหล่านีถ้ อื เป็นหน้าทีห่ นึง่ ของบรรณาธิการด้วยหรือไม่

“บังเอิญว่าเราอยู่ในสังคมไทยที่ หนึ่ง มี สถานการณ์เรียกร้องให้เราท�ำอะไรบางอย่าง สอง เป็นสังคมที่ให้พื้นที่กับคนที่มีสถานะ บางอย่าง มีอภิสิทธิ์บางอย่าง เมื่อเรารู้ว่า เราอยู่ในสถานะที่คนอาจจะพอฟังบ้าง เรา เลยต้องท�ำหน้าที่นั้น ทั้งที่จริงๆ มันไม่ควร จะเป็นอย่างนัน้ แม่คา้ นางเลิง้ อาจจะไม่ออก แถลงการณ์ได้ แต่บรรณาธิการและนักเขียน ออกแถลงการณ์ เพราะมันเป็นสถานะพิเศษ ของเขา ที่จะเป็นกระบอกเสียงให้ เหมือน เป็นขนบที่เป็นมาแต่เดิมแล้ว จะมองว่าเป็น ขนบอภิสทิ ธิใ์ นทางวิชาการวิชาชีพก็ได้ แต่ถา้ จะมองว่าในเมือ่ คุณสถาปนาตัวเองขึน้ มาใน ทางวิชาชีพที่จะท�ำงานเชิงปัญญาความคิด หรือว่าคุณท�ำงานเขียนงานวิจารณ์แล้วคุณ เห็นแล้วคุณไม่พูด ไม่ได้” ---ไอดา อรุณวงศ์ แล้วความเป็นบรรณาธิการยุคใหม่เป็น


นิตยสารเรื่องสั้น 27


28 นิตยสารเรื่องสั้น


นิตยสารเรื่องสั้น 29

อย่างไร ในยุคทีแ่ หล่งความบันเทิงมีมากกว่า หนังสือ ผู้คนสนใจสื่ออื่นมากขึ้น การอ่าน หนังสือก็เริ่มถูกให้ความสนใจน้อยลงโดย เฉพาะงานที่ต้องอาศัยเวลา การตีความ เช่นเรือ่ งสัน้ บทกวี ขณะเดียวกันทีผ่ อู้ า่ นน้อย ลงกลับมีนกั เขียนเกิดมากขึน้ ทุกวัน เมือ่ มีงาน เขียนแต่ไม่มพี นื้ ทีแ่ สดงออก บรรณาธิการจึง เป็นบุคคลที่ท�ำให้งานเขียนเหล่านี้เผยแพร่ ออกมาก สิ่งที่ตามมาคือความเสี่ยง เมื่อคิด จะพิมพ์งานเหล่านีก้ ต็ อ้ งยอมรับการขาดทุน ที่อาจจะเกิดขึ้นเพราะงานเขียนเหล่านี้ยังไม่ ถูกการันตีวา่ จะ “ขายได้” หรือไม่ใช่เรือ่ งทีอ่ ยู่ ในกระแสหลัก จึงเป็นเรื่องของทัศนคติหรือ อุดมการณ์ของบรรณาธิการว่าอยากจะให้งาน เขียนเหล่านี้เผยแพร่สู่สาธารณะชนหรือไม่ คุณอุทิศมีความเห็นว่าถึงแม้งานเขียน ประเภทเรือ่ งสัน้ หรือบทกวี จะไม่ได้กำ� ไรมาก นัก บางครัง้ อาจท�ำให้ขาดทุนด้วยซ�ำ้ แต่กค็ ดิ ว่าควรจะมีพื้นที่ให้งานเหล่านี้แสดงออก ใน แต่ละเดือนจะมีเรื่องสั้น บทกวีสง่ เข้ากว่าหก สิบเรื่องหกสิบส�ำนวน ยังมีนักเขียนที่ท�ำงาน ตรงนีอ้ ยู่ บรรณาธิการจึงต้องหาพืน้ ทีใ่ ห้งาน เขียนเหล่านี้ “ท�ำแล้วเจ๊งแน่นอน เพราะมีคนซื้อน้อย

แต่ถามว่าจ�ำเป็นต้องท�ำไหมก็ตอ้ งท�ำ เพราะ ว่า ทุกวันทุกเวลามีนักเขียนน่าสนใจเกิด ขึ้น เวลาที่เราอ่านงานเขียนที่มันดี มัน สดชื่น คนอ่านต้องได้อ่านอันนี้ นี่คืองาน บรรณาธิการ”---อุทิศ เหมะมูล งานทีต่ อ้ งอาศัยการตีความเป็นสิง่ ทีท่ า้ ทาย บรรณาธิการในยุคนี้พอสมควร การใช้ชีวิตที่ เปลีย่ นไปผูค้ นจึงไม่ให้ความสนใจงานประเภท นีก้ นั นัก อ่านยาก เสียเวลา คิดว่าสิง่ ส�ำคัญที่ ท�ำให้การอ่านงานวรรณกรรมไม่คอ่ ยเป็นทีน่ ยิ ม มากนักก็เพราะขาดการวิพากษ์วจิ ารณ์ สมัย ทีก่ ารอ่านเป็นสิง่ บันเทิงหลักและการอ่านยัง เฟื่องฟู การวิจารณ์วรรณกรรมเกิดขึ้นอย่าง แพร่หลายในสือ่ สิง่ พิมพ์ตา่ งๆ เช่นหนังสือพิมพ์ หรือนิตยสาร ท�ำให้งานเขียนเหล่านี้ถูกพูด ถึง เป็นที่รู้จัก และเข้าถึงประชาชนได้มาก ต่างกับยุคนีท้ มี่ สี งิ่ บันเทิงอืน่ เกิดขึน้ มากมาย และยังเป็นช่วงทีเ่ สรีภาพทางความคิดถูกจ�ำกัด มีค�ำถามจากผู้ฟังถามว่า “หากรัฐบอกว่า หนังสือทีค่ ณ ุ ท�ำสร้างปัญหาให้กบั รัฐ ณ ขณะ นี้อยากให้หยุด ท่านซึ่งเป็นบรรณาธิการจะ ตอบรัฐว่าอย่างไร” คุณอุทิศตอบว่า หากเขาให้หยุดก็ต้อง หยุด เราท�ำอะไรไม่ได้ มันไม่ใช่ไม่รซู้ ะทีเดียว ว่าอะไรท�ำได้ท�ำไม่ได้ แต่เหมือนแค่จะหยั่ง



นิตยสารเรื่องสั้น 31

“ท�ำแล้วเจ๊งแน่นอน เพราะมีคนซื้อน้อย แต่ถามว่าจ�ำเป็นต้อง ท�ำไหมก็ต้องท�ำ เพราะว่า ทุกวันทุกเวลามีนักเขียนน่าสนใจ เกิดขึ้น เวลาที่เราอ่านงานเขียนที่มันดี มันสดชื่น คนอ่านต้อง ได้อ่านอันนี้ นี่คืองานบรรณาธิการ”---อุทิศ เหมะมูล


32 นิตยสารเรื่องสั้น


นิตยสารเรื่องสั้น 33

ดูว่าเสรีภาพของเรานั้นมีมากน้อยแค่ไหน ซึง่ แม้ในยุคทีเ่ สรีภาพการแสดงออกค่อนข้าง จ�ำกัด คุณอุทิศเองก็มองว่ามันยังมีขอบเขต ให้ท�ำได้อยู่ คุณไอดาบรรณาธิการส�ำนักพิมพ์อา่ น ใน ฐานะทีท่ ำ� หนังสือทีม่ เี นือ้ หาเกีย่ วกับการเมือง คิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “ไม่หยุด ที่ต้องการตัดสินใจหยุดหรือไม่ หยุด มันเป็นเงือ่ นไขของแต่ละคนจริงๆ ต้อง เคารพกัน เข้าใจได้มากหากใครจะหยุดใคร จะเซ็นเซอร์ตัวเอง แต่วารสารอ่านที่หยุดไม่ ได้ พอมันวางตัวเป็นวารสารวิจารณ์ แล้วมี คนบอกให้หุบปาก แล้วเราไม่วิจารณ์ มันไม่ เหลือเลยนะ คือไม่ควรอยู่ต่อ” ส่วนคุณดวงฤทัย บรรณาธิการส�ำนักพิมพ์ ระหว่างบรรทัด มองว่าแนวทางงานเขียนของส�ำนักพิมพ์ เป็นความเรียงธรรมดาไม่ได้มงี านทีร่ ฐั จะต้อง ออกมาบอกให้หยุด ยังไม่เคยเจอปัญหานี้ ถ้าไม่ได้เกีย่ วข้องกับความเป็นความตายของ นักเขียนก็คงไม่หยุด หน้าที่ส�ำคัญของการท�ำหนังสือคือการ เผยแพร่ความรู้ ความนึกคิดออกไปยังคน หมู่มาก เมื่อถูกจ�ำกัดสิทธิ์ในการคิด หน้าที่ หนังสือก็บกพร่องไป เกือบจะไร้ความหมาย

บรรณาธิการจึงเป็นผูร้ บั ภาระนีไ้ ปโดยปริยาย เป็นแรงส�ำคัญที่ท�ำให้หนังสือด�ำรงความรู้ ความนึกคิดไว้ให้ครบถ้วน ให้หนังสือได้ท�ำ หน้าที่ของมันอย่างเที่ยงตรง เป็นเช่นนี้มา แต่ไหนแต่ไร ไม่วา่ บรรณาธิการยุคก่อน หรือ บรรณาธิการยุคใหม่ หน้าที่ส�ำคัญก็คือด�ำรง สาส์นที่หนังสือ/ส�ำนักพิมพ์ของตนต้องการ สื่อสารไว้ให้ครบถ้วนและถูกต้อง ความเป็น บรรณาธิการยุคใหม่จึงไม่ต่างอะไรมากนัก จากบรรณาธิการยุคก่อน นอกจากเรื่ อ งรู ป แบบการท� ำ งาน และเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น การหาต้นฉบับจากที่แต่ก่อนนักเขียนต้อง ส่งต้นฉบับมา ในยุคนี้บรรณาธิการก็หางาน เขียนจากแหล่งโซเชียลเน็ตเวิร์คได้ และตรง ความสนใจมากขึ้น กับอีกสิ่งหนึ่งที่ท�ำให้บรรณาธิการในยุค นีต้ อ้ งปรับตัวคือสภาพสังคมการอ่านหนังสือ เล่ม ทีด่ ไู ด้รบั ความสนใจน้อยลงขึน้ ทุกที หรือ แท้จริงแล้ว ต้องปรับตัวกับสภาพสังคมไทยที่ วัฒนธรรมการอ่านยังเป็นลูกผีลกู คนในขณะที่ “เคย” เรียกเมืองหลวงว่าเป็นเมืองหนังสือโลก



นิตยสารเรื่องสั้น 35

เรื่องสั้น

การมาถึงของอีกาดำ� เรื่องโดย จิดานันท์ เหลืองเพียรสมุท ภาพโดย Tangco Pica

คุณอาจคิดว่าอีกาสีขาวเป็นสัตว์หายาก แต่ แท้จริงแล้วอีกาทีเ่ กิดมาเป็นสีขาวโดยธรรมชาติ นั้นมีอยู่มากกว่าที่คิด แต่โดยมากอีกาสีขาว มักถูกแม่ของมันปล่อยให้ตายตั้งแต่เด็ก มัน จึงไม่เหลือรอดมาให้พวกเราเห็นมากนัก และ ถ้าหากมันรอดจากวัยเด็กทีโ่ หดร้ายมาได้ มัน ก็จะต้องอยูอ่ ย่างโดดเดีย่ วตลอดชีวติ เพราะ ไม่มีอีกาสีด�ำตัวใดอยากจะเป็นคู่รักของมัน อาวาห์เป็นอีกาสีขาว และแม่ของเขาก็ เกลียดเขามากพอทีจ่ ะไล่จกิ เขาจนตกจากรัง ตั้งแต่ยังบินไม่ได้ เขาหล่นลงมาที่โคนต้นไม้ นอนกะปลก กะเปลีย้ อยูบ่ นรากไม้ รอเวลาทีต่ วั เองจะตาย เพราะถูกหมาสักตัวผ่านมาขย�้ำเอา

แต่คนที่มาพบเขากลับเป็นแมกซ์ แมกซ์ มาเดินเที่ยวสวนสาธารณะและเห็นลูกนก ตัวหนึ่งตกอยู่บนพื้น เธอนั่งยองๆ ลงดูมัน และพบว่ามันเป็นอีกา แต่เป็นอีกาสีขาว... แมกซ์พาอาวาห์กลับมาที่บ้าน และเลี้ยง เขาไว้ในห้องใต้หลังคา เธอตัง้ ชือ่ เขาว่าอาวาห์ เป็นภาษาของดินแดนห่างไกลที่แปลว่าการ แต่งงาน แมกซ์คิดว่ามันฟังดูหวานไพเราะ ดี แมกซ์สอนอาวาห์ไม่ให้ร้องเสียงดัง เพื่อ ไม่ให้เพื่อนบ้านโมโห และอีกาก็เชื่องเชื่อ ยอมท�ำตาม เธอฝึกเขาให้จกิ อาหารจากจาน อาวาห์ทำ� ได้โดยไม่เลอะเทอะ เธอให้เขาถ่าย บนกระดาษหนังสือพิมพ์เท่านัน้ กว่าอาวาห์จะ เข้าใจเรือ่ งนีไ้ ด้กใ็ ช้เวลานานพอดู แมกซ์สอน


36 นิตยสารเรื่องสั้น

อาวาห์ให้เกาะอยู่ใกล้ๆ โคมไฟในฤดูหนาว เจ้ากาเรียนรูเ้ รือ่ งนีโ้ ดยใช้เวลาแค่เพียงไม่นาน ใบไม้ผลัดใบและงอกใหม่ อาวาห์ค่อยๆ โตขึน้ จนกลายเป็นอีกาตัวเต็มวัย แต่เขาไม่ได้ ตัวโตนัก และที่ส�ำคัญ อาวาห์บินไม่ได้ ไม่เคยมีใครสอนวิธีบินให้เขา อาวาห์ใช้ ชีวิตอยู่ในห้องใต้หลังคานั้นโดยไม่เคยออก ไปไหน ไม่ได้รู้จักนกตัวอื่นๆ เขารู้จักเพียง แค่แมกซ์ ผูเ้ อาอาหารมาให้เขาและขึน้ มาคุย เล่นกับเขาทุกๆ เย็น คุณคงพอจะรู้อยู่แล้วว่าอีกาที่โตเต็มวัย นั้นกลายร่างเป็นคนได้ อาวาห์กลายร่าง เป็นคนเมื่อเขาโตมากพอ เขายังจ�ำวันแรกที่ แมกซ์เห็นเขาในร่างมนุษย์ได้ดี เธอถือชามใส่ อาหารเดินเข้ามา และก็เห็นอาวาห์นงั่ ชันเข่า อยู่ข้างหน้าต่าง มีร่างกายเป็นเด็กหนุ่ม สวม เสื้อกางเกงหลวมๆ สีขาว มีผมและขนตา สีขาว มีปกี สีขาวอยูต่ รงกลางหลัง มันเล็กและ ดูรุ่งริ่ง เด็กหนุ่มมองไปที่เธอ เขามีดวงตาโต แพขนตาหลุบบังตาครึ่งหนึ่ง จมูกและปาก เล็กน่าเอ็นดู อาวาห์กำ� ลังใช้ปลายนิว้ มือของ ตัวเองลูบนิ้วเท้าเล่นราวกับก�ำลังลองส�ำรวจ ร่างกายที่เพิ่งได้รับมาใหม่ แมกซ์ไม่คดิ มาก่อนว่ากาขาวจะกลายร่าง เป็นคนได้ เธอคิดว่ามีแค่อีกาสีด�ำเท่านั้นที่

สามารถกลายร่างได้ เธอนึกมาตลอดว่า อาวาห์จะไม่มีวันกลายเป็นคน นึกว่าเขาไม่ สมประกอบ... แต่เมื่อเห็นว่าเขากลายร่างเป็นคนได้ แมกซ์รู้สึกราวกับแม่ที่เห็นลูกเดินได้เป็นครั้ง แรก หญิงสาวทิง้ ชามเนือ้ เค็มลงกับพืน้ วิง่ เข้า มาหาอาวาห์ จับมือเขาราวกับไม่แน่ใจว่านี่ คืออีกาของเธอจริงๆ “อาวาห์?” เธอร้องถาม เด็กหนุม่ พยักหน้า น้อยๆ แมกซ์ส่งเสียงแสดงความดีใจ เธอดึง อาวาห์ให้ลุกขึ้นยืน หมุนตัวเขาไปมาหลาย ครั้ง ส�ำรวจเนื้อตัวและปีกของเขา แมกซ์พยายามพูดกับเขา แต่อาวาห์ยงั พูด ไม่ได้ เขาเดินอย่างโงนเงนผละจากแมกซ์ไป ยังชามใส่เนือ้ เค็มทีต่ กคว�ำ่ อยูบ่ นพืน้ ชิน้ เนือ้ กระเด็นตกอยูต่ ามพืน้ ปาร์เกต์ อาวาห์พยายาม ก้มลงใช้ปากงับมันแต่ไม่สำ� เร็จ แมกซ์เดินมา และใช้มอื หยิบเนือ้ เหล่านัน้ ขึน้ ใส่ในชามอย่าง เก่า อาวาห์มองการกระท�ำนัน้ และค่อยๆ ขยับ แขนตามแมกซ์ เขาใช้นิ้วโป้งกับอุ้งมือคีบชิ้น เนือ้ เค็มขึน้ อย่างทุลกั ทุเล นิว้ ทีเ่ หลืออีกสีน่ วิ้ เคลื่อนไปมาในอากาศอย่างไม่เข้าที่เข้าทาง เขาหยิบเนื้อมายัดลงในปาก และพยายาม จะกลืนลงไปในทันที “เดี๋ยวติดคอหรอก เธอไม่ใช่นกแล้วนะ”


นิตยสารเรื่องสั้น 37

แมกซ์ร้องเตือน “ต้องเคีย้ วก่อน” อาวาห์ไม่เข้าใจ เขาจ้อง มองแมกซ์ด้วยดวงตากลมโตที่มีขนตายาว แมกซ์หยิบเนือ้ เค็มทีต่ กพืน้ แล้วขึน้ มาใส่ปาก เธอวางเนื้อนั้นไว้บนฟันกรามทางด้านขวา แล้วอ้าปากให้นกกาดู จากนั้นเธอจึงเคี้ยว ช้าๆ พร้อมกับจ้องตาของอีกาไปด้วย อาวาห์ เลือ่ นเนือ้ ไปไว้บนฟัน ค่อยๆ เคีย้ วตามแมกซ์ ตั้งแต่วันนั้น อาวาห์ก็ค่อยๆ เรียนรู้วิธีการ ใช้ร่างกายของคนไปทีละเล็กทีละน้อย เมื่อ ผ่านไปหลายเดือน เขาก็สามารถใช้นิ้วปลด ตัวล็อคหน้าต่างได้ สามารถเดินเป็นเส้น ตรงตามเส้นของพื้นไม้กระดานได้ ไม่เฉไป มาอีก เขาเคี้ยวอาหารทุกค�ำก่อนกลืน แต่ ยังไม่สามารถใช้ช้อนส้อมได้ แต่ที่ดีที่สุด เขา สามารถพูดโต้ตอบกับแมกซ์ได้แล้วหลังจาก ได้แต่ฟังอย่างเดียวมานาน “แมกซ์ . ..” เขาเรี ย กเมื่ อ แมกซ์ ม าถึ ง แมกซ์ยิ้มเมื่อได้ยินเสียงนั้น เธอเรียกชื่อเขา กลับเช่นเดียวกัน “อาวาห์” แต่ละวันของอาวาห์ผา่ นไปอย่างน่าสบายใจ ทุกครั้งที่เขาเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แมกซ์จะภูมิใจ และเขาก็จะมีความสุข แต่แล้ววันหนึ่ง เงา สีด�ำก็พาดผ่านลงมาในชีวิตของเขา ในยาม

เช้าที่แสงอาทิตย์สีทองส่องผ่านเข้ามาใน ห้องใต้หลังคา อาวาห์ในร่างมนุษย์นงั่ คุกเข่า บนพืน้ ไม้รมิ หน้าต่าง สองแขนเท้าขอบหน้าต่าง มองออกไปข้างนอก และแล้วเขาก็เห็นสิง่ หนึง่ บินผ่านหน้าต่างไป มันคืออีกาสีด�ำตัวเต็มวัยที่ยาวถึงสอง ฟุต นกกาตัวโตอย่างที่แทบไม่มีใครเคยเห็น มาก่อน มันเพิ่งมาถึงถิ่นนี้ และต่อสู้เอาชนะ เจ้าถิน่ ได้เป็นทีเ่ รียบร้อยแล้ว ตอนนีม้ นั ก�ำลัง บินไปมาบนฟ้าเพือ่ จะได้หาอาหารทีด่ ที สี่ ดุ ใน บริเวณใหม่ของตน อาวาห์ ม องภาพการบิ น อั น สง่ า งาม นั้น โดยปกติอีกาอยู่กันเป็นคู่ แต่เจ้าตัวนี้ โดดเดี่ยว มันสีด�ำเมี่ยม ตัวโต น่าเกรงขาม มันบินวนเหนือต้นไม้หน้าบ้านเขารอบแล้ว รอบเล่า ปีกเล็กๆ บนหลังของอาวาห์ขยับ ไปมาอย่างไม่เป็นจังหวะ พยายามจะเลียน แบบการเคลื่อนไหวที่ดูประณีตนั้น แต่เขาก็ ไม่สามารถท�ำได้... เมือ่ แมกซ์ขนึ้ มาหาอาวาห์ในเย็นวันนัน้ เธอ ก็พบเด็กหนุม่ นัง่ ขดตัวร้องไห้อยูข่ า้ งหน้าต่าง “เกิดอะไรขึ้น” เธอถาม “มีอีกาสีด�ำบินผ่านมา” อาวาห์ตอบและ ร�ำ่ ไห้ แมกซ์ไม่เข้าใจว่าท�ำไมอาวาห์จงึ เป็นทุกข์ เธอพยายามปลอบโยนทุกวิถที าง แต่เด็กหนุม่


38 นิตยสารเรื่องสั้น

ก็ไม่ยอมสงบลง สุดท้ายเธอจึงได้แต่กลับลง มาจากห้องใต้หลังคา ทิง้ ให้อาวาห์รอ้ งไห้อยู่ คนเดียวตลอดทั้งคืน เช้าวันต่อมาแมกซ์คิดจะมาถามอาวาห์ ว่าท�ำไมเขาจึงร้องไห้ แต่เธอกลับขึ้นมาพบ อาวาห์ในร่างอีกา เขาเดินวนไปมาอยูใ่ นห้อง ตั้งท่าเหมือนพยายามจะบิน ร่างนั้นกระพือ ปีกแต่ไม่ลอยขึน้ จากพืน้ หรือลอยขึน้ ได้เพียง ไม่กวี่ นิ าทีกร็ ว่ งลงมาอกกระแทกพืน้ หลังการ กระแทกอย่างแรงครัง้ ทีแ่ ปด อาวาห์รอ้ ง กา... อย่างแสนเศร้า จากนัน้ ก็นอนนิง่ อยูบ่ นพืน้ ใน ท่าทีต่ กลงมานัน้ ไม่มากินอาหารเหมือนทุกที แมกซ์เข้าใจว่าอาวาห์เห็นอีกาตัวอืน่ บินได้จงึ อยากจะบิน เธอสอนให้อาวาห์ทำ� สิง่ ต่างๆ มา ตลอด แต่เธอไม่สามารถสอนสิง่ นีใ้ ห้อาวาห์ได้ ตลอดทัง้ วัน เธอมีใบหน้าวิตกกังวลจนเพือ่ น ร่วมงานที่ร้านขนมปังรู้สึกห่วงใย เย็นวันนั้น แมกซ์กลับมาที่ห้องใต้หลังคาอีกครั้งพร้อม กับขนมปังอบสดใหม่ๆ เธอเห็นอาวาห์อยู่ ในร่างมนุษย์ นอนตะแคงอยู่บนพื้นในท่า ชันเข่า มือจับนิ้วเท้าของตัวเอง น�้ำตาไหล จนพื้นไม้เปียกเป็นวง “ฉันบินไม่ได้” เขาบอก “ไม่เห็นเป็นไรเลย” แมกซ์บอก เธอเดิน ไปนั่งข้างๆ ร่างของอาวาห์ วางขนมปังลง

บนตักของตัวเอง “เธออยู่กับฉัน เธอไม่ต้อง บินก็ได้นี่” “ฉันอยากเหมือนอีกาตัวอื่น” อาวาห์พูด ช้าๆ “เธอรู้ไหม... แม่ของฉันเกลียดฉันมาก อีกาทุกตัวเกลียดอีกาสีขาว ใครเกิดมาเป็น สีขาวจะถูกทิ้งให้ตาย หรือถ้ารอด ก็จะไม่มี คู่ตลอดชีวิต” นั่นเป็นครั้งแรกที่แมกซ์ได้ยินอาวาห์เล่า เรื่องของตน เขาซบหน้าลงกับพื้นไม้แล้ว สะอื้น “ฉันไม่เหมือนอีกาตัวอื่นๆ ฉันสีขาว ฉันบินไม่ได้” นกพลิกตัวนอนคว�่ำ แต่ใบหน้ายังคง ตะแคงอยู่ เขามองไปที่ก�ำแพงด้วยดวงตา อันว่างเปล่า “แต่ฉนั จะอยากบินได้ไปเพือ่ อะไร... ปกติ อีกาจะบินกันเป็นคู่ แต่ถา้ ฉันบินได้ ฉันก็คงจะ ต้องโบยบินไปเพียงตัวเดียว นั่นคงจะแย่ มาก นกสีดำ� ตัวนัน้ ก็บนิ ตัวเดียว นัน่ เป็นนกที่ สวยงามมาก แต่นกตัวนัน้ จะไม่มวี นั เลือกฉัน” พอพูดจบ อาวาห์ก็ซุกหน้าลงสะอื้นกับพื้น เขาร้องไห้อย่างหนักหน่วงจนตัวสั่น ปีกก็สั่น จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมามองหน้าแมกซ์ “ฉันคงต้องอยู่โดดเดี่ยวตลอดชีวิต” “ไม่หรอกอาวาห์ เธอมีฉนั ” แมกซ์เอ่ยเบาๆ อาวาห์มองแมกซ์ เขากัดริมฝีปาก น�ำ้ ตาไหล


นิตยสารเรื่องสั้น 39

จนริมฝีปากทีก่ ดั อยูน่ นั้ สัน่ แววตาของเขาไหว เขาก�ำลังกลัว...กลัวที่จะต้องโดดเดี่ยว “ฉันจะต้องโดดเดี่ยว” อาวาห์ยืนยัน ค�ำเดิม เมื่อพูดจบ เขาก็สะอื้นหนักขึ้น “ฉันจะอยู่กับเธอนะอาวาห์” แมกซ์พยายามปลอบโยนอีกครั้ง เธอลูบผม สีขาวที่ยาวปรกคอของอาวาห์ แต่เด็กหนุ่ม ส่ายหน้า เขาไม่คิดว่าการมีแมกซ์คือการไม่ โดดเดี่ยว “เธอไม่เหมือนนก” เขาเอ่ยบรรยายสิ่งที่ ตัวเองรู้สึกออกมาได้แค่นั้น “นกทุกตัวมีนกตัวเมียของตัวเอง” อาวาห์ หลุดค�ำพูดทีอ่ ยูใ่ นใจออกมา เส้นผมเลือ่ นมา ปิดปากเขา อาวาห์ร�ำคาญมันแต่ก็ไม่ได้ปัด ออก มือของแมกซ์เอื้อมมาและช่วยปัดผม ออกไปให้ อีกาซบหน้าลงกับพื้นไม้ นอนนิ่ง และไม่พูดอะไรอีก นี่เป็นความคิดอย่างสัตว์ อาวาห์คิด อย่างไม่ซับซ้อนแค่ว่าตัวเองควรจะมีตัวเมีย เพราะการหากินและผสมพันธุเ์ ป็นเพียงสอง เป้าหมายในชีวิตของนกกา และเมื่อไม่มีตัว เมีย อาวาห์กร็ สู้ กึ สิน้ หวัง แมกซ์สงสารอาวาห์ แต่เธอก็ไม่รจู้ ะท�ำอย่างไร เธอลูบหัวเขา และ วันต่อมาก็เอาชอคโกแลตขึน้ มาให้เขากิน เธอ เอาแหวนกับสร้อยคอของเธอมาให้เขาเล่น

อาวาห์ชอบของที่ระยิบระยับ เขาเล่นเครื่อง ประดับเหล่านัน้ ด้วยความดีใจในช่วงแรก แต่ ไม่นานก็กลับไปเซื่องซึมเหมือนเดิม หลาย ครั้งที่แมกซ์ขึ้นมาบนห้องใต้หลังคาแล้วพบ ว่าอาวาห์ก�ำลังนั่งกอดเข่าร้องไห้ มองออก ไปนอกหน้าต่าง เธอได้แต่เอามือเช็ดน�้ำตา ให้เขา แต่ไม่รู้ว่าจะท�ำอย่างไรดี วันหนึ่ง แมกซ์ขึ้นมาที่ห้องใต้หลังคา ใบหน้าของเธอมีร่องรอยแห่งความเหนื่อย อ่อน เธอนั่งลงข้างๆ อาวาห์ที่อยู่ในร่างกา เจ้านกเงยหน้าขึน้ จากการจิกแหวนเล่น และ เอียงคอมองหน้าเธอ “ไง อาวาห์ วันนี้เป็นวันที่ดีมั้ย” วันนีไ้ ม่ใช่วนั ทีด่ ขี องแมกซ์เหรอ อาวาห์อยาก จะถาม เขากระโดดขึ้นไปเกาะหัวเข่าของ แมกซ์ทนี่ งั่ ขัดสมาธิอยูบ่ นพืน้ หญิงสาวลูบตัว เขาเบาๆ อีกาสังเกตเห็นว่าแขนของเจ้านาย มีรอยช�้ำสีม่วง “อาวาห์นี่ก็ดีนะ ไม่ต้องคิดอะไรซับซ้อน คิดแค่อยากจะมีตวั เมีย...ฉันน่ะไม่เห็นอยาก จะมีตัวผู้เลย...” แมกซ์ร�ำพึงเบาๆ “ฉันมักจะเลือกผูช้ ายใจร้ายทุกทีเลยอาวาห์ หรือไม่ผู้ชายทุกคนก็ใจร้าย...” แมกซ์มองออกไปนอกหน้าต่าง เธอเอ่ยช้าๆ


ปกติอีกาจะบินกันเป็นคู่ แต่ถ้าฉ ไปเพียงตัวเดียว นั่นคงจะแย่มา นั่นเป็นนกที่สวยงามมาก แต่น


ฉันบินได้ ฉันก็คงจะต้องโบยบิน าก นกสีด�ำตัวนั้นก็บินตัวเดียว นกตัวนั้นจะไม่มีวันเลือกฉัน”


42 นิตยสารเรื่องสั้น

ด้วยเสียงที่สั่นอย่างสิ้นหวัง “หรือไม่ผหู้ ญิงทุกคนก็เกิดมาเพือ่ ให้ผชู้ าย รังแก” น�ำ้ ตาลูบแก้มของเธอ อาวาห์กลับร่าง เป็นคนและจับแก้มแมกซ์ “อย่าร้องไห้” นกกาพูดเหมือนเวลาที่ แมกซ์ปลอบเขา แมกซ์กอดอาวาห์ ร้องไห้บนบ่าเขา มือขาวบอบบางของเด็กหนุม่ ลูบผมสีแดงของ เธอเบาๆ เขาหยิบสายสร้อยขึน้ มาจากบนพืน้ ใกล้ๆ แมกซ์ให้สร้อยนี้กับอาวาห์โดยหวังว่า เจ้านกจะได้รา่ เริงขึน้ วันนีอ้ าวาห์จงึ ยืน่ สร้อย นีใ้ ห้แมกซ์ หวังให้เธอร่าเริงขึน้ หญิงสาวน�ำ้ ตา พรัง่ พรูขณะทีอ่ าวาห์เอาสายสร้อยสวมหัวให้ เธอ เจ้านายเสียงสั่นขณะเอ่ย “คงมีแต่อาวาห์ที่เป็นผู้ชายใจดี...” แมกซ์เลิกกับแฟนเก่าแล้ว เธอตัดผมจน สัน้ ติดหัว ตัดเองในห้องน�ำ้ ทีบ่ า้ นโดยไม่สนใจ แม้วา่ มันจะแหว่งวิน่ เหมือนโดนหนูแทะ จาก นั้นเธอก็บอกอาวาห์ว่า “ฉันจะเริ่มต้นชีวิตใหม่แล้วล่ะนะ” วันนี้อาวาห์อยู่ในร่างนก เขามาเกาะมือ แมกซ์เมือ่ หญิงสาวขึน้ มาหา แมกซ์เอาบิสกิต เคลือบชอคโกแลตใส่ในมือให้เขาจิกกิน ลูบ ขนเขาพลางเอ่ยว่า

“ช่วงนี้ฉันรู้สึกสดใสขึ้นมากเลยล่ะ ถ้า อาวาห์รา่ เริงขึน้ ได้บา้ งเหมือนกันก็คงจะดีนะ... ฉันตัง้ ใจจะเริม่ ใช้ชวี ติ โดยไม่มผี ชู้ าย อาวาห์เอง ก็จะเอาแบบนั้นบ้างไหมล่ะ” เจ้านกไม่ตอบ เพียงแต่เอียงคอมองเธออยู่บนมือข้างนั้น... หลังอาวาห์กนิ เสร็จ แมกซ์กเ็ ริม่ ต้นท�ำความ สะอาดห้องใต้หลังคา เธอถกแขนเสื้อขึ้น เหนือไหล่ ตรงหัวไหล่ของแมกซ์มีรอยแผล เป็นจางๆ อาวาห์ที่กระโดดเล่นอยู่บนพื้น กลายร่างเป็นคนเพื่อยกมือแตะแผลนั้น มัน เป็นรอยโดนของมีคมฟัน “อ๋อ นีเ่ หรอ นานมากแล้วล่ะ” แมกซ์กล่าว แล้วยิ้มโรยๆ “ฉันชอบรักผู้ชายไม่ดี” “แมกซ์น่าจะได้เจอตัวผู้ดีๆ นะ” อาวาห์ กล่าว ใช้หลังมือแตะแก้มหญิงสาว เขาคิดว่า เจ้านายเป็นคนใจดี จึงอยากให้เธอมีความสุข แมกซ์กมุ มือของเขาทีอ่ ยูบ่ นแก้มของเธอ ไว้ เธอแนบแก้มกับหลังมือของอีกา ยิ้มและ เอ่ยว่า “ขอบคุณนะ...แต่ฉันคงไม่เจอใคร อีกแล้วล่ะ” ช่วงหลังมานี้ แมกซ์ขนึ้ มาหาอาวาห์บอ่ ย กว่าเดิม พอไม่มแี ฟน เธอก็ไม่รจู้ ะท�ำอะไรหลัง เลิกงาน หญิงสาวจึงมอบเวลาว่างของเธอให้ สัตว์เลี้ยงตัวน้อย เมื่อยามเย็นมาถึง เธอจะ รีบขึ้นมาหาเขา พวกเขามักจะนั่งบนพื้น พิง


นิตยสารเรื่องสั้น 43

ก�ำแพงอยูข่ า้ งๆ กัน แมกซ์จะสอนอาวาห์พดู ถ้อยค�ำใหม่ๆ บางเวลาพวกเขาก็จับมือกัน ไว้... ส่วนมากพวกเขาจะจับมือกัน เมือ่ ยามเย็นย�ำ่ มาถึง ฝูงนกก็จะบินกลับรัง อาวาห์มกั จะมองภาพนัน้ ผ่านหน้าต่าง นิง่ งัน อ้าปากค้าง และเมือ่ นกเหล่านัน้ บินลับตาไป เด็กหนุม่ ก็จะซบไหล่แมกซ์แล้วร้องไห้เงียบๆ มือหนึ่งกุมมือแมกซ์ อีกมือหมุนแหวนเล่น แมกซ์จะลูบผมสีขาวของอาวาห์ ปล่อยให้ อีการ้องไห้เพราะเธอไม่สามารถหยุดเขาได้ วันหนึ่ง ขณะที่อาวาห์ก�ำลังร้องไห้ แมกซ์ก็ ก้มลงจูบแก้มที่เปียกน�้ำตาของเขา อาวาห์ เงยหน้าขึ้นมองหญิงสาว เธอขยับมาใกล้ และจูบปากเขา “อย่าร้องไห้เลยนะ” แมกซ์ลูบหัวปลอบ อาวาห์เลื่อนตัวเข้าซุกอกเธอ น�้ำตาไหลลง บนเสื้อของแมกซ์เงียบๆ แมกซ์พยายามปลอบอาวาห์อยู่วันแล้ว วันเล่า เธอลูบหัวลูบหลังเขา บางครั้งเธอก็ จูบหน้าผากของอีกา อาวาห์มกั จะซุกกอดอยู่ กับเธอ ร้องไห้อยูบ่ นอกเธอ แมกซ์รวู้ า่ ตัวเอง จะไม่มวี นั เข้าใจความเจ็บปวดทีอ่ าวาห์กำ� ลัง เผชิญ วันหนึง่ ขณะทีแ่ ก้มของอาวาห์แนบอยู่ บนอกซ้ายของแมกซ์ เขายกมือขวาขึน้ มาจับ หน้าอกของเธอเล่น อาวาห์เพียงแค่คดิ ว่ามัน

นุ่มและน่าสัมผัสก็เท่านั้น เขาลูบคลึงมันไป มา แมกซ์สดู ลมหายใจ เธอตัวแข็ง ไม่กล้าพูด อะไร อาวาห์เคลือ่ นมือบนอกเธอเหมือนเด็ก ทารกส�ำรวจร่างกายของมารดา หญิงสาวพ่น ลมหายใจลงตรงรอยแสกผมกลางกระหม่อม ของอีกา เธอเอือ้ มมือไปด้านหลังของตัวเอง ปลดตะขอชุดชั้นในออก แมกซ์ดึงเสื้อชั้นใน ขึน้ ไปเหนืออก อาวาห์สมั ผัสหน้าอกของเธอ ผ่านเสือ้ ยืดบางๆ เขาพบบางอย่างทีเ่ ป็นเม็ด เล็กแข็งอยูใ่ นนัน้ จึงกดดูดว้ ยความสงสัย อีกา รู้สึกว่าแมกซ์หายใจแปลกๆ เธอจับมือเขา ให้ล้วงเข้าไปในเสื้อ สัมผัสเนื้อหนังโดยตรง อาวาห์ผละแก้มออกจากตัวแมกซ์ เปลีย่ น มานัง่ ตัวตรง เล่นกับของเล่นใหม่ เขาเล่นอยู่ นาน โดยที่ไม่เข้าใจว่าท�ำไมแมกซ์ถึงหน้า แดงก�่ำและหายใจเหมือนไม่สบาย ในที่สุด เธอก็จับมือของเขาให้วางลงไปตรงระหว่าง ขาสองข้างของเธอ และเอ่ยเสียงเบาหวิว “ตรงนั้นพอแล้ว จับตรงนี้สิ...” อาวาห์ วางมือลงตรงพืน้ ทีเ่ รียบๆ ระหว่างเนือ้ ต้นขานัน้ เขาไม่เห็นว่าตรงนี้จะมีอะไรน่าสนุก มือของ เขานิ่งงัน ใบหน้าเงยหน้ามองแมกซ์ราวกับ อยากถามหญิงสาวยกมือปิดหน้าที่แดงซ่าน ของเธอ ก่อนจะลดมือลงแล้วจ้องตาอาวาห์ พยักหน้าเหมือนจะบอกความหมายอะไรบาง


44 นิตยสารเรื่องสั้น

อย่างที่เขาไม่เข้าใจ อาวาห์ไม่เข้าใจว่าอะไรเกิดขึ้นหลังจาก นัน้ แมกซ์จบั เขาให้นอนหงาย มันทับปีกของ เขาเองและท�ำให้เขาเจ็บ เธอลุกขึ้นยืนและ ถอดกางเกงขาสั้นออกไปกองที่พื้น แมกซ์ ถอดกางเกงในออกไปพร้อมกันในคราวเดียว อาวาห์มองภาพเนือ้ ทีเ่ ปลือยเปล่าของแมกซ์ มันเป็นสิ่งที่เขาเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก เขา จึงจ้องมองมันอย่างสนใจ หญิงสาวหน้าแดง เธอขึน้ มานัง่ อยูบ่ นต้น ขาของเขา สองขาของเธอกางออกคร่อมร่าง เขาไว้ จากนั้นเธอก็ดึงกางเกงของเขาลงจาก ช่วงเอว อาวาห์รู้สึกว่าผิวหนังเปิดเปลือยสู่ อากาศ มันเย็นแปลกๆ แมกซ์จับร่างกาย ของเขาในส่วนที่เขาไม่เคยจับมาก่อน เขา ไม่รู้สึกอะไรในตอนแรก มือของแมกซ์ขยับ อยู่ตรงนั้นขึ้นและลง อาวาห์รู้สึกสบาย กึ่ง เกือบจะง่วงนอน เขาเหยียดหลังไปกับพื้น กระดาน หัวที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีขาวไถไป กับพื้น เขาร้องในคอเบาๆ จากนัน้ ...อาวาห์อธิบายไม่ได้ ดูเหมือนว่า จะมีแท่งอะไรบางอย่างวางอยู่บนท้องส่วน ล่างของเขา เป็นแท่งที่แข็ง แมกซ์นั่งอยู่บน ตัวเขา และแท่งนั้นก็เสียบเข้าไปในตัวแมกซ์ “เจ็บหรือเปล่า” อาวาห์ถาม แต่แมกซ์ไม่

ได้ตอบ เธอยกตัวขึ้น อีกพักเดียวก็นั่งลงบน ท้องของเขา แล้วก็ยกตัวขึน้ ใหม่อกี กลืนแท่ง นั้นเข้าไปในตัว แล้วก็โหย่งตัวขึ้นเพื่อให้มัน ออกไปจากตัว ท�ำแบบนั้นซ�้ำไปมา เหมือน ก�ำลังกดตัวเองลงเพือ่ ให้มนั แทงเธอครัง้ แล้ว ครั้งเล่า เธอร้องเหมือนเจ็บ อาวาห์ไม่เข้าใจ แมกซ์กำ� ลังท�ำร้ายตัวเอง เธอก�ำลังเอาอะไรบางอย่างแทงตัวเอง ตัว ของเธอสั่นและร้อนมาก อาวาห์จับใบหน้า ที่แดงซ่านของแมกซ์ “อย่าท�ำให้ตัวเองเจ็บ” เขาขอร้อง “ไม่เป็นไร” แมกซ์บอก เสียงของเธอสั่น เหมือนจะร้องไห้ เมือ่ เห็นแมกซ์ทำ� ร้ายตัวเอง อาวาห์กร็ สู้ กึ เศร้า เขาครุ่นคิดว่าแมกซ์มักจะเลือกตัวผู้ที่ ใจร้าย ทั้งที่ไม่ได้อยากโดนท�ำร้าย การที่เธอ เป็นคนเลือกพวกเขา มันเหมือนกับเธอท�ำร้าย ตัวเอง ทัง้ ทีไ่ ม่อยากท�ำร้ายตัวเอง เมือ่ คิดแบบ นั้น เขาก็ร้องไห้ออกมาเพราะสงสารแมกซ์ “อาวาห์” หญิงสาวเรียกเมื่อเขาร้องไห้ เธอหยุดขยับตัว และจับไหล่เขาราวกับจะ ถามว่าเกิดอะไรขึ้น “ฉันสงสารเธอ” อีกายกสองมือขึ้นปิด หน้า เขาสะอื้น “เธอเป็นคนดี เธอสมควรที่จะมีความสุข


นิตยสารเรื่องสั้น 45

เธอต้องท�ำตัวเองให้มีความสุข” แมกซ์จับ มือเขาลงจากใบหน้า มองลึกเข้าไปในตาเขา “ไม่ว่าจะด้วยวิธีการไหนน่ะหรือ” “ใช่” อาวาห์ตอบ “ท�ำยังไงก็ได้ให้เธอมี ความสุข”จากนั้นแมกซ์ก็จูบปากเขา “ขอบคุณนะ” ทั้งๆ ที่ตกลงกันแบบนั้นแล้ว แต่แมกซ์ก็ยัง ใช้แท่งนัน้ แทงตัวเองต่อไปเรือ่ ยๆ เธอท�ำเร็ว ขึ้นด้วยซ�้ำ อาวาห์ไม่เข้าใจว่าท�ำไมเธอจึงยัง ท�ำร้ายตัวเอง ท�ำไมเธอไม่ฟังเขา แต่เขาก็... ไม่มีสติพอที่จะห้ามปรามเธอ หัวของเขา หมุนคว้างลอย เต็มไปด้วยความรู้สึกที่เขา ไม่รจู้ กั ล�ำคอมีแต่ความกระหาย รูส้ กึ เหมือน หายใจล�ำบาก เขาจับไหล่สองข้างของเธอไว้ ราวกับมันคือสิง่ สุดท้ายในจักรวาลนีท้ เี่ ขาจะ ยึดเหนี่ยวได้... หลังจากนัน้ วันคืนในห้องใต้หลังคาก็เปลีย่ น ไป ใช้เวลานานทีเดียวกว่าอาวาห์จะเข้าใจว่า แท่งแข็งนัน้ เป็นส่วนหนึง่ ของตัวเขา คือความ เป็นชายของเขา และความเป็นชายมีหน้าที่ เดียวคือเข้าไปในตัวของตัวเมีย แม้วา่ การท�ำ แบบนั้นจะดูเหมือนจะเจ็บก็ตาม เขาค่อยๆ เข้าใจว่า ตอนนี้แมกซ์คือตัว เมียของเขา เธอเป็นตัวเมียที่เลือกเขาแม้ว่า

เขาจะบินไม่ได้ และแม้วา่ เขาจะเป็นสีขาวและ เขาเป็นตัวผู้ของแมกซ์ ตัวผู้ที่ใจดีอย่างที่เธอ ควรจะได้รบั มาตลอด เขาใจดีกบั แมกซ์เสมอ มา ยกเว้นเวลาแบบนีท้ เี่ ขาต้องท�ำร้ายแมกซ์ ต้องเอาความเป็นชายของเขายัดเยียดเข้าไป ในตัวแมกซ์ ซึ่งใช้เวลาพักใหญ่ทีเดียวกว่า อาวาห์จะเข้าใจว่ามันไม่ใช่การกระท�ำทีใ่ จร้าย แต่อาวาห์กย็ งั สงสัยอยูด่ วี า่ ท�ำไมการผสมพันธุ์ จึงต้องดูราวกับการท�ำร้ายกันเช่นนี้ ท�ำไม ต้องท�ำให้รู้สึกราวกับก�ำลังจะขาดใจ ท�ำไม ต้องท�ำให้เธอส่งเสียงเหมือนร้องไห้ แมกซ์ มักหัวเราะเมื่อเขาถาม เธอบอกว่าอาวาห์ ตีความมันผิดไป อีกาคิดว่าเขาคงยังไม่เข้าใจเรื่องนี้ดีพอ แต่ในขณะที่แมกซ์เข้าใจทุกอย่าง มันก็มีอยู่ อย่างหนึ่งที่แมกซ์ไม่เข้าใจ ทว่าอาวาห์เข้าใจ อย่างลึกซึ้ง แมกซ์ไม่เข้าใจว่าท�ำไมอาวาห์จึงร้องไห้ ทุกครั้งที่เธอยอมให้เขาเข้าไปในตัว “เพราะฉั น ไม่ อ ยากให้ ใ ครท� ำ ร้ า ย เธอ” อาวาห์บอก “ไม่มีใครท�ำร้ายฉัน” “ฉันเอง” อีกาเรียบเรียงค�ำพูดออกมา ได้แค่นั้น เขารู้สึกสงสารแมกซ์อย่างลึกซึ้ง แต่สื่อความออกมาไม่เป็นเพราะมีความคิด


46 นิตยสารเรื่องสั้น

เท่ากับเด็กๆ ทุกครัง้ ทีม่ เี ซ็กส์ พวกเขาจะท�ำเหมือนเดิม เสมอ อาวาห์นอนนิ่งบนพื้น และแมกซ์จะ เป็นคนจัดการเรื่องทั้งหมด และแทบทุกครั้ง อาวาห์จะหลั่งน�้ำตา... “บางครั้งฉันก็ดีใจที่เธอร้องไห้” แมกซ์ลูบ หน้าเขาและพูดเช่นนัน้ ในวันหนึง่ เธอเพิง่ ลุก จากร่างเขา ทัง้ สองนอนตะแคงหันหน้าเข้าหา กัน ต่างก็เปลือยเปล่า แสงสุดท้ายของยาม เย็นส่องผ่านหน้าต่างเข้ามา เงาปีกของอา วาห์ทอดลงบนใบหน้าของแมกซ์ “ท�ำไมล่ะ” อีกาถาม ใบหน้ายังคงแดงซ่าน วันนี้เขารู้สึกเหนื่อยกว่าปกติ “เพราะมันท�ำให้ฉนั รูส้ กึ เหมือนก�ำลังท�ำร้าย เธอ” แมกซ์ลูบไหล่ที่ขาวเนียนของอาวาห์ “ที่ผ่านมาฉันมักถูกท�ำร้ายเสมอ และ เมื่อได้ท�ำร้ายกลับบ้าง ลึกๆ แล้วฉันก็รู้สึก พอใจ... เธอโกรธฉันไหมที่ฉันคิดแบบนี้” อาวาห์ส่ายหน้า เขาไม่โกรธแมกซ์ ไม่มีวันที่ เขาจะโกรธแมกซ์ “เธอควรจะได้เอาคืนบ้าง” อีกาพูดช้าๆ “ท�ำร้ายฉันจนกว่าจะพอใจได้เลย” แมกซ์ลูบหน้าเขา “แต่เธอไม่ได้เป็นคนท�ำร้ายฉัน” “ฉันท�ำร้ายเธอ” อีกครัง้ ทีอ่ าวาห์บอกเช่นนัน้

“ท�ำไม” และอีกครั้งที่แมกซ์ยังไม่เข้าใจ อีกาส่ายหน้าพลางกัดริมฝีปากของตัวเอง เขา ไม่ได้ตอบอะไร เพราะเขาไม่รจู้ ะอธิบายยังไง... “ฉันเพิง่ รูว้ า่ ฉันชอบผูช้ ายทีร่ อ้ งไห้ระหว่าง มีเซ็กส์” แมกซ์เล่นปลายผมทีเ่ ริม่ ยาวของเขา และยิ้มแปลกๆ ให้กับอาวาห์ “ฟังดูวิปริตดีนะ” เธอพูดแล้วหัวเราะใน คอเบาๆ บางเวลาอาวาห์ก็ไม่เข้าใจแมกซ์เลย ครั้ง นี้ก็เช่นกัน เขาไม่รู้จะตอบอย่างไรดี เขาจึง จูบเธอเบาๆ ก่อนจะดึงเธอเข้ามากอดไว้ แมกซ์จูบกระดูกไหปลาร้าของอาวาห์ พวก เขาร่วมรักกันอีกครัง้ ในวินาทีสดุ ท้าย อาวาห์ ที่นอนหงายอยู่เหยียดตัวออก เขาเงยหน้า จนคอแหงนสุด เปลือกตากระตุกเบิกโพลง เขามองเห็นห้องใต้หลังคาในสภาพทีก่ ลับหัว เห็นหน้าต่างกลับหัวบานหนึ่ง นอกหน้าต่างบานนั้น อีกาตัวใหญ่ที่เพิ่ง ย้ายมาก�ำลังบินผ่านไป เงาของมันพาดผ่าน ใบหน้าของเขา ในวินาทีทเี่ งาด�ำของมันตกต้อง ตัวเขา อาวาห์ขา้ มผ่านเส้นขอบฟ้าไป เขาลืม การมีอยูข่ องแมกซ์ รับรูเ้ พียงแค่สองสิง่ - จุด สุดยอดของเขาและอีกาสีดำ� สนิทซึง่ เป็นภาพ เดียวทีเ่ ขามองเห็น การทะลุผา่ นเส้นขอบฟ้า ครัง้ นีต้ ราตรึงอยูใ่ นใจ อาวาห์รสู้ กึ เหมือนเขา


นิตยสารเรื่องสั้น 47

ไม่ได้ถงึ เพราะแมกซ์ แต่เขาถึงเพราะภาพอัน หน้าแดง ก้มลงจับนิว้ เท้าของตัวเองเล่นด้วย งามสง่าของสิง่ ทีเ่ ขาอยากเป็นแต่จะไม่มวี นั ได้ ความเขิน เป็น - ภาพอีกาด�ำตัวนั้น วันต่อมา ในตอนเย็นทีพ่ ระอาทิตย์สอ่ งแสง สีสม้ และท�ำให้ทอ้ งฟ้าอาบสีทนี่ า่ พิศวง กาตัว หลังจากนัน้ อาวาห์กย็ งั เห็นอีกาตัวนัน้ อยู่ นัน้ บินลงมาเกาะทีข่ อบหน้าต่าง อาวาห์เปิด บ่อยๆ อีกาตัวทีม่ าใหม่ กาตัวใหญ่ตวั นัน้ บาง หน้าต่างทิ้งไว้มาตั้งแต่เมื่อคืน อีกาตัวโตจึง วันมันก็บนิ ผ่านหน้าต่างไป อาวาห์รกั ทีจ่ ะได้ มาเกาะที่ขอบหน้าต่างได้ ในตอนแรกอา เห็นมัน ทุกครั้งที่มันผ่านมา เขาจะจ้องมอง วาห์คิดว่าตัวเองตาฝาดไป... แต่มองใหม่กี่ การขยับปีกอันสง่างามของมัน และพยายาม รอบๆ กาสีด�ำตัวโตก็ยังปรากฏให้เห็นเช่น ขยับตามช้าๆ... นัน้ เขาต้องการอะไรจากเรา อาวาห์ในร่างนก เช้าวันอาทิตย์ที่สดใสวันหนึ่ง อาวาห์ใน คิด จ้องมองผูม้ าเยือนอย่างขัดเขิน พยายาม ร่างมนุษย์นงั่ อยูข่ า้ งหน้าต่างทีเ่ ปิดอยู่ เขายก หุบปีกแน่นหวังจะซ่อนขนสีขาวของตนทั้งที่ มันเปิดออกด้วยตัวเองเพราะอยากให้มีลม มันไม่ชว่ ยอะไร กาตัวนัน้ จ้องมองเขาอยูเ่ ป็น พัดเข้ามา อีกาตัวนั้นบินผ่านเข้ามาใกล้มาก นาน อาวาห์รสู้ กึ อายสายตานัน้ อายทีต่ วั เอง แล้วทันใดนัน้ มันก็เหลือบมาเห็นอาวาห์เป็น มีสขี าวและแตกต่าง แต่อกี ใจหนึง่ เขาก็อยาก ครั้งแรก มันร้องออกมาในภาษาของกา ซึ่ง ได้รบั การยอมรับจากกาสีดำ� เขาจึงไม่หลบ ได้ อาวาห์ฟังเข้าใจดี แต่ยืนตัวสั่นอยู่ตรงนัน้ ปล่อยให้อกี ฝ่ายจ้อง “เทวดา...” อีกาด�ำเรียกเขาอย่างนัน้ ระหว่าง มอง อันทีจ่ ริงแล้ว อาวาห์รสู้ กึ ดีใจอยูล่ กึ ๆ ที่ ที่โฉบผ่านไป กาด�ำไม่ได้เบือนหน้าหนี ผู้มาเยือนจ้องมอง เทวดาหรือ? อาวาห์ได้ยินแล้วรู้สึกหน้าร้อน อย่างเงียบงันอยูค่ รูห่ นึง่ แล้วมันก็กระพือปีก ไม่เคยมีใครเรียกเขาอย่างนีม้ าก่อน อันทีจ่ ริง บินจากไป วินาทีทปี่ กี สีดำ� โบกสะบัด อาวาห์ เขาก็ไม่เคยพบใครนอกจากแมกซ์ รู้สึกว่าในหัวใจว่างโหวง รู้สึกคล้ายถูกตัดสิน ส�ำหรับอาวาห์ขนสีขาวพวกนี้เป็นของ ว่าไร้ค่าจึงถูกทอดทิ้ง หากเพียงเขาบินได้... น่ารังเกียจ แต่เมื่อกาตัวโตพูดแบบนั้น เขาก็ บางทีเขาอาจบินตามกาตัวนั้นไปได้ กลับรูส้ กึ ดีใจขึน้ มาอย่างประหลาด เด็กหนุม่ เจ้านกกลายร่างเป็นคนและร้องไห้เงียบๆ


48 นิตยสารเรื่องสั้น

ตลอดคืนนัน้ ราวกับเด็กสาวทีเ่ พิง่ อกหักเป็น ครั้งแรก อีกาไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัว เอง เขารู้สึกเหมือนก้อนหัวใจในอกหนักขึ้น แต่ก็ทิ่มแทงมากขึ้น เหมือนมันหนักลงและ แตกออก... วันต่อมา หัวใจของอาวาห์กลับได้รบั การ ซ่อมแซมอีกครั้ง เพราะหลังจากนั้น กาด�ำก็ มาเยือนทุกวัน มันมาเกาะที่ขอบหน้าต่าง แล้วก็บินจากไป ราวกับจะมาชวนให้อาวาห์ บินไปด้วยกัน ทุกครั้งที่มันมาหา เด็กหนุ่ม จะจ้องมองมันด้วยความหลงใหล มันช่างตัว โตและสง่างามเสียจริงๆ ช่างน่าแปลกที่นก งดงามแบบนีม้ าสนใจนกพิกลพิการอย่างเขา อาวาห์ทตี่ วั เล็กจ้อยพยายามจะกระพือปีกบิน ขึน้ ไปหาผูม้ าเยือนบนขอบหน้าต่าง แต่เขาก็ ร่วงตกลงมาทุกครั้ง ตกลงมานอนไม่เป็นท่า อยู่บนพื้น ขนยุ่งเหยิง น�้ำตาซึม อายอีกาตัว นั้น อายที่ถูกเห็นว่าบินไม่ได้ ทุกครัง้ ทีเ่ ปิดเผยความอ่อนด้อยของตัวเอง ให้อกี ฝ่ายเห็น ในอกของเขาเจ็บเหมือนหัวใจ ก�ำลังทิ่มออกมาข้างนอก แต่กาตัวนั้นไม่ได้ หัวเราะเยาะเขาแม้แต่ครั้งเดียว มันเพียงแต่ จ้องมาทีเ่ ขาอย่างนิง่ งัน และในวันต่อมา มัน ก็ยังคงบินมาเยี่ยมอย่างไม่เบื่อหน่าย แม้ว่า เขาจะบินไม่ได้เสียทีก็ตาม

อาวาห์คดิ ว่ากาด�ำอาจจะยอมรับเขา และ ยามทีเ่ ขาคิดเช่นนัน้ หัวใจของเขาก็เหมือนถูก เอาใจจนพองโต ทุกวันเขาจะเปิดหน้าต่าง คอยอีกาด�ำ มันมักจะมาหาเขาก่อนที่แมกซ์ จะเลิกงานนิดหน่อย ส�ำหรับอาวาห์ ช่วงเวลา นีอ้ าบย้อมด้วยรังสีแห่งความสุขมากกว่าการ ร่วมรักกับแมกซ์ในตอนค�่ำเสียอีก แล้ววันหนึ่ง กาตัวนั้นก็กลายร่างเป็นคน ให้อาวาห์เห็น มันกลายเป็นชายหนุม่ ร่างสูงที่ มีกระดูกแขนขาแข็งแรง นัง่ อยูท่ ขี่ อบหน้าต่าง ห้อยขาเข้ามาในห้อง ปีกสีดำ� สองข้างบนหลัง ของมันยาวรวมกันเกือบสองเมตร ใบหน้า คมและดุดัน ดวงตาสีด�ำที่ดูน่ากลัวจ้องมอง อาวาห์ ร่างนั้นเงียบสนิทเช่นเดียวกับทุกวัน แต่ในร่างมนุษย์ ดูเหมือนพลังทีแ่ ผ่ครอบคลุม ผูถ้ กู มองจะหนักหน่วงขึน้ เด็กหนุม่ ตัวสัน่ อยู่ ในสายตานั้น ขาของเขาสั่นระริกเมื่อถูกจ้อง กาขาวหน้าแดง อับอายในความตัวเล็กจ้อย และไร้พลังของตน “นายชือ่ อะไร...” อาวาห์ถามเสียงอูอ้ อี้ ยูใ่ น คอ ก้มมองพืน้ ไม้ไม่ยอมสบตาอีกฝ่ายขณะพูด “ไม่มีชื่อ” เสียงทุ้มตอบ จู่ๆ อาวาห์ก็ คอแห้งผากเมื่อได้ยินเสียงนั้น “แค่อีกาทั่วๆ ไป” กาตัวนั้นพูดต่อ “พวก


นิตยสารเรื่องสั้น 49

มนุษย์เรียกฉันว่าโครวส์ อันที่จริงพวกเขาก็ เรียกทุกตัวว่าโครวส์หมดแหละ” อาวาห์ก้ม หน้า เขาไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี แต่โครวส์กลับ เรียกเขา “นี”่ เด็กหนุม่ เงยหน้าขึน้ และเห็นว่าโครวส์ ก�ำลังขยับปีกอย่างช้าๆ ช้ากว่าในยามที่บิน ปกติมาก เมื่อโครวส์อยู่ในร่างคน ปีกของ เขาใหญ่กว่าในร่างกา ปีกทีม่ ขี นาดใหญ่ทำ� ให้ มองเห็นได้ชัดเจน ชายหนุ่มค่อยๆ ขยับปีก ให้อาวาห์ดูช้าๆ ปีกสีขาวเริม่ ขยับตามสิง่ ทีต่ นเห็นอยูต่ อ่ หน้า โควส์พยักหน้าแล้วกลับร่างเป็นกา จากนั้น ก็ผงกหัวให้อาวาห์ราวกับจะให้สัญญาณ... เขาก�ำลังเรียกอาวาห์ให้บินไปด้วยกัน ทันใด นัน้ เอง แมกซ์กเ็ ปิดประตูเข้ามาพอดี เธอเห็น กาตัวใหญ่เกาะอยู่ตรงหน้าต่าง ด้วยความ กลัวว่ามันจะมาแกล้งอาวาห์ แมกซ์จึงวิ่งมา โบกมือไล่มันไป โครวส์เหลือบตามองแมกซ์ ก่อนจะบินจากไปพร้อมร้อง “ก๊า...” อย่าง เหยียดหยาม อาวาห์มองตามภาพนั้นพลางขยับปีกไป มา เขารู้แล้วว่าการจะบินนั้นต้องท�ำอย่างไร

ติดขัดอยูบ่ า้ ง แต่พอใกล้ถงึ ตอนเย็น เขาก็จบั จุดได้ในที่สุด เจ้านกโผบินไปมาภายในห้อง อยูห่ ลายรอบ เขารอเวลาทีแ่ มกซ์จะขึน้ มาหา เพื่อที่จะได้อวดให้ดู แต่วันนั้นแมกซ์กลับไม่ ขึ้นมา อาวาห์รู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างแปลก ไป แต่เขาตื่นเต้นที่ตัวเองบินได้มากกว่า จึง เอาแต่บนิ ไปมา ไม่ได้สนใจเรือ่ งแมกซ์มากนัก เมื่อตกค�่ำ เจ้ากาอยากจะลองบินไปที่ต้นไม้ นอกหน้าต่าง เขาจึงกลายร่างเป็นมนุษย์เพือ่ เปิดหน้าต่างออก จากนั้นก็กลับร่างเป็นกา ก่อนจะโผขึ้นไปเกาะบนขอบหน้าต่าง เขาเซ นิดหน่อยตอนร่อนลงบนกรอบไม้ อาวาห์มอง ออกไปยังโลกภายนอกหน้าต่าง ฟ้ากลางคืน สีด�ำสนิท ไม่มีเมฆ แต่มีพระจันทร์ดวงกลม ส่องแสงสีทองจัดจนดูแปลกตา ต้นไม้ต้น นั้นอยู่ข้างหน้านี่เอง ห่างออกไปไม่กี่เมตร ยืนต้นสูงอยูใ่ นความเงียบงันของกลางคืน เขา อ้าและหุบจะงอยปากเข้าหากันสองสามครัง้ อย่างไม่มนั่ ใจนัก นีเ่ ป็นครัง้ แรกทีเ่ ขาจะออก จากบ้าน... อาวาห์ยอมรับว่าตัวเองรูส้ กึ กลัว อาวาห์สดู ลมหายใจเข้าแล้วกางปีกบินออกไป ในทีส่ ดุ ก็รอ่ นลงเกาะทีก่ งิ่ ไม้กงิ่ หนึง่ ตอนแรก เขาตั้งใจจะลงเกาะที่กิ่งใหญ่ทางขวา แต่เขา ตลอดเช้าและบ่ายของวันรุ่งขึ้น อาวาห์ ควบคุมทิศทางไม่ได้จึงถลาไปทางซ้ายอย่าง ลองขยับปีกตามทีโ่ ครวส์สอน ในตอนแรกยัง คุมไม่อยู่ เคราะห์ดที ที่ างซ้ายก็มกี งิ่ ไม้ยนื่ ออก


50 นิตยสารเรื่องสั้น

มารองรับเหมือนกัน เขาจึงลงจอดฉุกเฉินบน กิง่ ทีม่ ตี ะปุม่ ตะป�ำ่ และงอหงิกเหมือนนิว้ แม่มด กิ่งนั้น เท้าของอาวาห์เกาะกิ่งไม้แน่น เจ้ากา หายใจเข้าออกถี่ หัวใจเต้นระรัวอยู่ในอก ใช้ เวลาหลายนาทีกว่าอาวาห์จะหายตกใจ เขา ค่อยๆ หมุนตัวกลับบนกิง่ ไม้ และหันมามอง บ้านที่ตัวเองอยู่ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็น มันจากด้านนอก มันมีสองชั้นไม่รวมห้อง ใต้หลังคา ที่ชั้นล่างมองเห็นประตูหน้าบ้าน ทาสีแดง ส่วนชั้นสองมีระเบียงกว้างขวาง ส่วนที่อยู่ลึกเข้าไปจากระเบียงเป็นหน้าต่าง ห้องนอนของแมกซ์และประตูทเี่ ปิดเข้าสูห่ อ้ ง นั้น ซึ่งตอนนี้ปิดสนิท อาวาห์คิดว่าถ้าเขาบินไปหาแมกซ์ที่ห้อง นอน หญิงสาวจะต้องประหลาดใจแน่ๆ เขา โผจากกิ่งไม้ลงไปเกาะที่ราวระเบียง คราวนี้ เขาท�ำได้ดีขึ้น ลงได้อย่างนุ่มนวลราบเรียบ อาวาห์โดดลงมาบนพืน้ แล้วกลายร่างเป็นคน เท้าของเขารับสัมผัสของพืน้ กระเบือ้ ง มันหยาบ และอุ่นเพราะกักเก็บไอแดดเอาไว้ตลอดทั้ง วัน อีกาเดินไปทีห่ น้าต่างห้องนอนของแมกซ์ แล้วยกมือขึน้ แตะกระจก ผ้าม่านเปิดอยู่ เขา จึงมองเข้าไปข้างใน แสงจันทร์ทสี่ ว่างกว่าปกติ ของวันนี้ส่องให้เห็นภายในห้องอย่างชัดเจน แต่มันก็อาบห้องให้เป็นสีทองประหลาด จน

ดูเหมือนเป็นภาพในมิติอื่น ในห้องนั้น ร่างเปลือยเปล่าสองร่างนอนทับ กันอยู่บนเตียง ร่างที่อยู่ด้านบนมีปีกสีด�ำคู่ ใหญ่มากจนเกือบแตะเพดาน มันเป็นปีกที่ งดงามและสมบูรณ์แบบ อาวาห์จ�ำปีกคู่นั้น ได้ในทันที โครวส์อยู่บนตัวแมกซ์ และแท่ง นั้นของโครวส์ก็อยู่ในตัวแมกซ์ กาด�ำก�ำลัง ท�ำกับแมกซ์แบบเดียวกันกับที่อาวาห์ท�ำให้ เจ้านาย แต่... ไม่สิ กาขาวมองภาพนั้นแล้ว ฉุกคิดขึ้นมาได้ มีบางอย่างไม่เหมือน... โครวส์ไม่ได้ถูกกดตรึงให้อยู่ด้านล่าง เขาอยู่ ข้างบนและเคลือ่ นไหวโดยอิสระ เข้าและออก จากร่างของแมกซ์ หญิงสาวต่างหากทีถ่ กู กด และตรึงเอาไว้ มันไม่ใช่ “โครวส์ท�ำกับแมกซ์ เหมือนที่เขาท�ำกับ แมกซ์” แต่เป็น “โครวส์ท�ำกับแมกซ์ เหมือนที่แมกซ์ท�ำ กับเขา” อาวาห์ยกมือปิดปาก หุบขาเข้าหากัน โดยไม่รู้ตัว กาขาวเพิง่ เข้าใจว่า ทีผ่ า่ นมา เขาไม่ใช่ตวั ผู้ ของแมกซ์... แมกซ์ตา่ งหากทีเ่ ป็นตัวผูข้ องเขา และที่น่ากลัวที่สุด เขาไม่ได้รู้สึกไม่พอใจ... อาวาห์รู้สึกพอใจที่โดนกระท�ำแบบนั้นมา โดยตลอด อีกาหนุ่มรู้สึกตกใจจนขยับตัวไม่


นิตยสารเรื่องสั้น 51

ได้ เขาถูกล็อคเอาไว้ในท่านั้น ยกมือปิดปาก ตัวเองนิง่ ค้าง ถูกอะไรบางอย่างทีม่ องไม่เห็น บังคับให้เบิง่ ตาจ้องมองสองร่างบนเตียง ภาพ ความเป็นชายของโครวส์เคลือ่ นเข้าและออก จากร่างของแมกซ์ แมกซ์ร้องลั่นอย่างที่อา วาห์ไม่เคยได้ยิน เธอดูพอใจยิ่งกว่าทุกวัน แต่อาวาห์ไม่ได้จ้องมองดูแมกซ์... เขาก�ำลัง มองดูผมู้ าเยือน อยูๆ ่ โครวส์กร็ ตู้ วั ว่าถูกมอง กาด�ำหันมาทางหน้าต่าง เขาสบตาอาวาห์แล้ว ยิ้มเยาะ อาวาห์รู้สึกว่าร่างกายด้านล่างของ ตัวเองกระตุกอย่างแรง เขาก้มลงด้วยความ ประหลาดใจและเห็นว่าเขาเพิ่งปลดปล่อย ออกมา น�้ำสีขาวไหลลงตามท่อนขา เขาไม่รู้ ตัวเลยว่าแข็งตัวตั้งแต่เมื่อไหร่ อาวาห์ขาสั่น เมื่อนึกถึงแววตาของโครวส์ เขายืนไม่อยู่ ได้ แต่ทรุดลงไปคุกเข่ากับพื้น เมื่อเขานั่งลง สิ่ง ทีอ่ ยูต่ รงหน้าจึงไม่ใช่หน้าต่าง แต่เป็นก�ำแพง ใต้หน้าต่างแทน ภาพของแมกซ์กบั โครวส์หาย ไปจากสายตา ทว่าอาวาห์ยังคงจ้องค้างอยู่ ที่ก�ำแพงสีขาวใต้หน้าต่างอยู่อย่างนั้น เขา ยังคงได้ยินเสียงของแมกซ์ดังประกอบภาพ ก�ำแพงว่างเปล่า แต่ในหัวของเขาเห็นภาพ บางสิ่ง เขาเห็นแววตาของโครวส์ รอยยิ้ม และแท่งความเป็นชายที่เขาไม่อาจเทียบได้ ของโครวส์... ไม่นานเสียงนั้นก็เงียบไป และ

ประตูกร็ ะเบียงเปิดออก ขาในกางเกงขายาว สีด�ำเดินออกมา โครวส์ออกมายืนก้มตัวอยู่ เหนือร่างของอาวาห์ “ว่าไงเทวดาน้อย...” เสียงทุม้ นัน้ เอ่ยกับเขา อาวาห์หนั หน้าจากก�ำแพงมาประจันหน้ากับ โครวส์ กาขาวหันข้างให้ก�ำแพง ขยับเปลี่ยน จากท่าคุกเข่ามาเป็นนั่งชันขา แล้วถดถอย หนีจากผู้มาเยือนทั้งที่ยังอยู่ในท่านั่ง ขาที่ เลอะเทอะนัน้ สัน่ อยูต่ อ่ หน้าโครวส์ กาด�ำจ้อง เขาเหมือนจะยิ้มเยาะ “ขอโทษทีนะ แต่ถา้ เป็นเรือ่ งเซ็กส์ ผูห้ ญิง ทีไ่ หนเขาก็เลือกปีศาจกันทัง้ นัน้ แหละ” โครวส์ พูดพร้อมหัวเราะในล�ำคอเบาๆ “นายท�ำร้ายแมกซ์” อาวาห์เอ่ยเสียงพร่า “เปล่า แค่ท�ำให้รู้สึกดี” โครวส์ยิ้ม “แต่ไม่ ต้องห่วงหรอกนะเด็กน้อย ฉันไม่มาแย่งตัว เมียของเธอไปหรอก ฉันไม่บินเข้าห้องนอน ใครมากกว่าหนึง่ คืน” อาวาห์จอ้ งหน้าโครวส์ อีกาด�ำเอ่ยต่อไปว่า “หรือว่าเธอจะก�ำลังห่วงเรือ่ งอืน่ มากกว่า เธอเอาแต่จอ้ งดูฉนั ไม่มองผูห้ ญิงคนนัน้ เลย” อาวาห์รสู้ กึ หน้าร้อน ริมฝีปากของเขาสัน่ เขา รูส้ กึ อับอาย เมือ่ อยูใ่ นสายตาของโครวส์ เขา รูส้ กึ ด้อยค่าจนอยากจะหายไปซะให้พน้ ๆ ทุก อย่างที่โครวส์พูดเป็นความจริง อาวาห์มอง


52 นิตยสารเรื่องสั้น

แต่ร่างที่มีปีกนั้น เขาไม่ได้สนใจแมกซ์เลย เขายังจ�ำทุกการกระท�ำของโครวส์ได้ เมื่อ นึกถึงตอนที่โครวส์หันมาสบตาเขา อาวาห์ ก็รู้สึกวูบในท้อง ขาของเขาสั่น โครวส์ก้มลง มองเรียวขานั้น “เลอะหมดเลย...” อีกาด�ำยื่นมือมาใกล้ คล้ายจะแตะร่างอาวาห์ “ชอบหรือ... เธออยากให้ฉนั บินเข้าไปหา เธอบ้างมัย้ ล่ะ...” อาวาห์มองปลายนิว้ ทีอ่ ยูห่ า่ ง จากแก้มของเขาออกไปแค่ไม่กเี่ ซนติเมตรนัน้ เขารูว้ า่ ถ้าหากโครวส์แตะต้องเขา เขาจะแหลก สลาย และต่อหน้าผู้ชายคนนี้ เขาอยากถูก ขยี้ให้มันแหลกไปเลย ที่นี่ ตอนนี้ เขาอยาก ถูกท�ำเหมือนที่โครวส์ท�ำต่อแมกซ์ “อย่ามายุง่ กับฉัน” อาวาห์เอ่ยตะกุกตะกัก โควส์ยมิ้ เหมือนรูท้ นั เขา และก็กลับร่างเป็นอีกา กาตัวนั้นบินจากไปโดยไม่พูดอะไร เหมือน กับทุกครัง้ ทีโ่ ครวส์บนิ จากไปในตอนเย็นก่อน แมกซ์จะมา แต่ครัง้ นีก้ าด�ำบินจากไปโดยทิง้ ให้ อาวาห์ขดตัวร้องไห้อยู่บนพื้น กาขาวเกลียด ตัวเอง เกลียดขาที่เหนียวเหนอะของตัวเอง เขานอนน�้ำตาท่วมหน้า ขาสั่น ริมฝีปากสั่น ระริก ค�ำถามเดียวแล่นย้อนไปมาอยู่ในอก ท�ำไมเขาถึงอยากเป็นตัวเมีย อาวาห์รอ้ งไห้จนหลับไปทีร่ ะเบียง คืนนัน้

เขาฝันว่าตัวเองนอนหลับอยู่ในรัง บนต้นไม้ ในป่า ในฝันนั้นเขาไม่รู้จักแมกซ์ เพราะเขา ไม่ได้ตกลงจากต้นไม้ แต่ได้อยู่กับแม่จนโต และเมื่อเติบใหญ่ก็มีรังเป็นของตัวเอง เขา นอนขดตัวในร่างมนุษย์ หลับอย่างแสนสุข และโครวส์ก็บินมาจับที่คาคบไม้ กาตัวนั้นกลายร่างเป็นคน และคืบขึ้นมา บนหลังของเขา โอบกอดเขาไว้จากด้านหลัง ทัง้ ร่างสัมผัสกัน อาวาห์รสู้ กึ ถึงไออุน่ ทีม่ าจาก ร่างของโครวส์ มือทีแ่ ข็งแกร่งของโครวส์กอด ร่างเขาไว้ ก่อนจะค่อยๆ เลือ่ นลงไปสูร่ ะหว่าง ขาที่ลึกลับและหุบสนิท โควส์ขยับมืออยูใ่ นช่องแคบๆ นัน้ อาวาห์ ตัดสินใจจะให้ความร่วมมือ เขากางขาออกให้ ผูม้ าเยือนสัมผัสได้ถนัดขึน้ เขาไม่แน่ใจว่าตัว เองเป็นตัวผูห้ รือตัวเมีย เขารูส้ กึ คล้ายตนยังมี ส่วนทีแ่ สดงความเป็นชาย แต่นวิ้ ของโครวส์ก็ เลือ่ นไปจนพบช่องบางอย่างในตัวเขา อาวาห์ ครางอย่างพอใจเมือ่ โครวส์ใช้นวิ้ เรียวยาวนัน่ สอดเข้าไปส�ำรวจในช่องนัน้ จนลึกแสนลึก เขา อ้าขาออกกว้าง เรียกร้องร่างกายของโครวส์ และเขาก็ตกเป็นของกาตัวนั้น กลายเป็นตัว เมียของมัน การร่วมรักในความฝันวาบหวาม กว่าทุกครัง้ ทีเ่ คยสัมผัสมาในความเป็นจริง ใน ครั้งนี้อาวาห์ไม่ได้ร้องไห้ และเขาก็พอใจกับ


นิตยสารเรื่องสั้น 53

ร่างกายของโครวส์ พอใจทีถ่ กู ท�ำให้เป็นตัวเมีย เขาพร�ำ่ ร้องขอเพิ่มซ�ำ้ แล้วซ�ำ้ อีกอยูอ่ ย่างนัน้ และโครวส์กท็ ำ� ตามทีเ่ ขาขอ แม้วา่ จะหัวเราะ เยาะเขาอยู่เกือบตลอดก็ตาม แสงแดดยามเช้าส่องลงมาปลุกอาวาห์ ให้ลืมตาตื่น กาขาวมองแสงแรกของวันด้วย แววตาอันหวานเยิม้ เขายังหลงอยูใ่ นฝันของ ตน อาวาห์ใช้เวลาหลายนาทีกว่าจะเข้าใจว่า นัน่ เป็นเพียงความฝันทีแ่ สนดืม่ ด�ำ่ คราแรกที่ รับรู้ความจริง เขารู้สึกใจหายที่ทั้งหมดเป็น เพียงฝัน กาหนุม่ อยากหลับตาลงแล้วกลับไป หาร่างทีอ่ บอุน่ และพึง่ พาได้นนั่ อีกครัง้ อยาก เปลีย่ นทีน่ นั่ ให้กลายเป็นความจริงแล้วให้ชวี ติ จริงบนโลกนี้พลันเลือนหาย แล้วเขาก็รู้สึกถึงความเปียกชุ่มระหว่าง สองขา อาวาห์เอามือแตะขาของตนดูแล้ว ใจหายวาบ สองขาของเขาแฉะชุ่มไปด้วย น�ำ้ กามเหนียว มากจนไม่แน่ใจว่าหลัง่ ออกมา กีค่ รัง้ ราวกับถูกกกกอดมาทัง้ คืน อีกานอนนิง่ สติเริม่ กลับสูร่ า่ ง เขาเริม่ นึกขยะแขยงตัวเองที่ พึงใจในความฝันอันหวานหอมนัน้ อาวาห์ใช้ สองมือโอบกอดตัวเองไว้หวังจะปลอบประโลม แต่รา่ งกายของเขาก็เริม่ สัน่ ด้วยความกลัวและ โกรธที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน มือของเขาเกร็งจิก ต้นแขนของตัวเอง อาวาห์เลื่อนมือลงไปจับ

อวัยวะที่อยู่ระหว่างสองขา มันนิ่มและเล็ก กาขาวกุมมันแน่น “ฉันเป็นตัวผู้” เขากระซิบให้ตัวเองได้ยิน พยายามสอนตัวเองให้เข้าใจ “ฉันชอบตัวเมีย ฉันชอบร่างของแมกซ์” ทันใดนัน้ หัวใจของเขา ก็ตอบค�ำหนึ่งขึ้นมา มันเป็นถ้อยความทีร่ ้าย แรงจนอาวาห์ต้องกัดปากตัวเองเพื่อไม่ให้ เผลอเอ่ยค�ำนั้น ฉันชอบความเป็นชายของ โครวส์มากกว่า อีกความคิดพลันวาบขึ้นใน สมอง ความคิดหลังนีท้ ำ� ให้อาวาห์กดั ริมฝีปาก หนักขึ้น ริมฝีปากของเขาแตก เลือดไหลลง ไปตามคาง แต่อีกาไม่สนใจ เขายอมลิ้นขาด เสียยังดีกว่าเอ่ยค�ำพูดนี้ออกมา เขาคิดว่า... ฉันชอบถูกยัดเยียดเข้ามา ฉันชอบถูกกดข่ม อีกาพยายามหยุดตัวเองไม่ให้คิดอะไรต่อ ไปอีก จู่ๆ เขาก็ส�ำลัก เขาไม่แน่ใจว่าตัวเอง ส�ำลักอะไร อาจจะส�ำลักความตกใจ อาวาห์ ไออย่างรุนแรงอยู่บนพื้น เขาควบคุมตัวเอง ไม่ได้ สั่นไปทั้งร่างด้วยความกลัว เช้าวันนั้น แมกซ์ลืมตาตื่นมาเห็นประตู ระเบียงเปิดอยู่ เธอคิดว่าโครวส์คงเดินออก ไปทางประตูบานนั้น อีกาตัวนั้นมาหาเธอ เมื่อเย็นวาน ใช้รูปลักษณ์ตอนเป็นมนุษย์ที่ งดงามล่อลวงให้เธอเปิดประตูและยอมร่วม


54 นิตยสารเรื่องสั้น

รักด้วย มันเป็นเซ็กส์ทหี่ นักหน่วงราวกับออก มาจากนิยายประโลมโลก แมกซ์สลบไปเมื่อ โครวส์ลุกจากตัวเธอ แต่เธอรู้ดีว่าโครวส์ท�ำ อะไรหลังจากนั้น เขาก็แค่จากไป ชายคนนั้น เป็นประเภททีก่ นิ เสร็จแล้วจากไปโดยไม่หวน คืนมาอีก ในท�ำนองเดียวกับปีศาจกินฝันใน ต�ำนานโบราณ โครวส์เป็นตัวผู้แบบจ่าฝูง เป็นคนที่ ผู้หญิงทุกคนต้องยอมศิโรราบต่อเขา ไม่ว่า เขาจะต้องการอะไร พวกเธอทั้งหลายก็จะ คืบคลานไปหามาให้เขา หมอบกราบยอม ให้เขาล่วงล�ำ้ เข้ามาในร่างตามแต่เขาจะพึงใจ ทีผ่ า่ นมา แมกซ์มกั จะถูกผูช้ ายโหดร้ายชักจูง เสมอ เธอเข้าใจดีวา่ มันเป็นอย่างไรยามทีต่ วั ผู้ แสดงอ�ำนาจของตนแล้วตัวเมียไม่อาจขัดขืน ได้ อาจเพราะกลัวหรือเพราะหลงรักระคน กัน แต่โครวส์ต่างจากเศษสวะทั้งหมดที่เธอ เคยคบมา บางทีเขาอาจเป็นจุดสูงสุดของ คนเหล่านั้น ตัวแทนความเป็นชายอันใหญ่ ยิ่งที่ยากจะหาพบในชีวิตจริงของผู้หญิงสัก คนหนึ่ง และถึงแม้แมกซ์จะมีปณิธานมุ่งมั่น เพียงใดที่จะไม่ยอมถูกกดข่มอีก แต่เมื่ออยู่ ต่อหน้าความเป็นชายขั้นสูงสุดเช่นโครวส์ เธอก็ต้องสยบยอม แมกซ์รู้สึกเสียใจกับตัวเองเล็กน้อยที่เธอ

ยินยอมต่อโครวส์ แต่เธอก็รอู้ กี เช่นกันว่าเธอ ไม่จำ� เป็นต้องรูส้ กึ ผิด เพราะนัน่ คือความเป็น ชายระดับสูงสุดทีไ่ ม่มมี นุษย์คนใดต้านทานได้ เธอจึงไม่ควรเสียใจที่ตัวเองไม่อาจก้าวข้าม ความเป็นมนุษย์ และอย่างไรเสียแมกซ์ก็รู้ ว่าคนแบบโครวส์จะมาเยือนเพียงครั้งเดียว เท่านั้น จึงแน่นอนว่าจะไม่มีปัญหาใดตาม มาหลังจบคืนนี้ หญิงสาวเดินไปปิดประตูระเบียงที่เปิด อ้าค้าง เธอตั้งใจจะให้การปิดประตูเป็นตอน จบของเรื่องนี้ แต่ก่อนแมกซ์จะได้ปิดประตู เธอก็ได้ยินเสียงส�ำลักดังมาจากเบื้องล่าง เมื่อเธอก้มลงมองก็เห็นอาวาห์อยู่บนพื้น เขาก�ำลังส�ำลักอย่างแรงมือปัดป่ายไปตาม พื้นกระเบื้องที่เย็นเฉียบเพราะอากาศเมื่อ คืน อาวาห์คายน�้ำลายออกมาเลอะเทอะ ไปหมด บิดตัวไปมาอย่างทรมานอยู่บนพื้น สองขาของเขาเลอะน�ำ้ สีขาวมากจนสังเกตได้ “อาวาห์” แมกซ์รอ้ ง ก้มลงไปประคองเจ้า กาน้อย “เกิดอะไรขึ้น ท�ำไมเธอมาอยู่ที่นี่” อาวาห์ซบหน้าเข้ากับอกแมกซ์ทันที เขาไอ และท�ำให้เสื้อของเธอเปื้อนน�้ำลาย “แมกซ์” เขาเรียกเสียงแหบโหย “ให้ฉนั ลง มานอนกับเธอได้ไหม” แมกซ์ยงั ไม่เข้าใจว่าเกิด อะไรขึน้ เธอเช็ดหน้าของอาวาห์ทเี่ ลอะเทอะ


ไปหมดด้วยมืออย่างไม่คิดขยะแขยง “ใครท�ำอะไรเธอ” “ไม่มีใครท�ำ” อาวาห์ตอบ “ต่อจากนี้ ขอ ฉันนอนในห้องของเธอได้ไหม ตลอดไป...” “ก็ได้หรอก...” แมกซ์งุนงง “เกิดอะไรขึ้น” “ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยังไม่มี” อาวาห์ตอบ เสียงสัน่ “แต่เขาจะไม่บนิ เข้าห้องนอนเดิมซ�ำ้ เขาจะไม่ได้ตัวฉันถ้าฉันอยู่กับเธอ” “ใคร” แมกซ์ถาม อาวาห์ไม่อยากตอบ ค�ำถามนั้น “ให้ฉนั ลงมาอยูก่ บั เธอ ปกป้องฉันด้วย...” “จากใคร อาวาห์” หญิงสาวถาม จับไหล่ เจ้ากา เธอตกใจมาก “จากฉันเอง” อีกาขาวไออีกครั้ง “ถ้าฉัน ยังอยู่บนนั้น เขาจะมาหาฉัน และฉันรู้ว่า ตัวเองจะยอมรับเขาด้วยความเต็มใจ ถ้าเขา ได้ตัวฉัน ฉันจะกลับมาเป็นแบบเดิมไม่ได้ อีกต่อไป ปกป้องฉันทีแมกซ์ อย่าให้โอกาสฉัน” มื อ ของอาวาห์ สั่ น ขณะที่ เขาก� ำ อกเสื้ อ ของแมกซ์ ไว้ แ น่ น และเอ่ ย ออกมาด้ ว ย พลังทั้งหมดที่เหลืออยู่ในชีวิตว่า “ฉันอยาก เป็นตัวผู้...”



นิตยสารเรื่องสั้น 57

เรื่องสั้น

"หวังว่ากันต์คงจะรอไหวนะคะ" เรื่องโดย นิอร สุขวัจน์ ภาพวาดโดย Tangco Pica

“หวังว่ากันต์คงจะรอไหวนะคะ” ฉันทิ้งท้าย ประโยคสนทนาอันแสนฉาบฉวยทีใ่ ครก็รวู้ า่ มี จุดประสงค์อะไรในแต่ละถ้อยค�ำประดักประเดิด ของผู้ชายคนนี้ แล้วฉันก็กลับเข้าไปภายใน งานปาร์ตขี้ นาดใหญ่ มันคืองานเลีย้ งขอบคุณ ประจ�ำปีของสายการบินหนึง่ แขกเหรือ่ มากัน ล้นงาน โดยมีบริษัทของฉันเป็นผู้รับหน้าที่ ในการเชื้อเชิญบรรดาแขกส�ำคัญเหล่านั้น จากหลากหลายแวดวงการท�ำงาน หนึ่งใน นัน้ มีชอื่ ของเจ้าของค่ายเพลงขนาดกลางค่าย หนึง่ แต่ตนเองไม่ได้มา จึงส่งลูกน้องมาแทน “เขาชื่อ กันต์ เห็นว่าเป็นผู้บริหารค่าย เพลงทีเ่ คยร่วมงานกับสายการบินนีม้ าหลาย ครัง้ แล้ว ก็คงมาเพือ่ สานสัมพันธ์นนั่ แหละแก

น่าจะเจ้าชูท้ งิ้ ๆ ขว้างๆ ตามความเคยชิน บอก ฉันว่าจะรอจนงานเลิกแล้วอาสาไปส่งฉันที่ บ้าน” พวกเพือ่ นทีโ่ ต๊ะลงทะเบียนเข้างานพา กันยิงค�ำถามราวห่ากระสุนใส่ฉนั เมือ่ เห็นฉัน คุยกับผู้ชายที่ชื่อกันต์อยู่หน้างาน “นี่แกไม่รู้จริงๆ หรอวะ ว่าผู้ชายคนนี้เขา ดังมาก บริษัทเราก็เคยร่วมงานกับค่ายเพลง ของเขาตัง้ หลายรอบ จันทร์เอ๊ย... ถ้าเป็นฉัน นะจะอ่อยให้เขาไปไม่เป็นเลยล่ะเธอ” อ้อย เพือ่ นสาวก๋ากัน่ คนสนิทของฉัน เธอเป็นพวก แจกอ้อยอ่อยเหยือ่ สมชื่อแบบไม่ขาดไม่เกิน ไปงานเลี้ยงไหนเป็นต้องได้มิตรสหายหนุ่ม กลับมาในลิสต์คนสองคนเสมอ “กูไม่รู้ค่ะคุณผู้หญิงทั้งหลาย กูรู้จักค่าย


58 นิตยสารเรื่องสั้น

เพลงเขา ฟังเพลงของศิลปินในสังกัดเขาบ้าง กูรจู้ กั และเคยเจอเจ้านายเขา แต่กไู ม่เคยเจอ เขามาก่อน และก็ไม่ได้รู้สึกว่าต้องรู้จักเขา เลย แต่…” “แต่ อะไร อย่ามัวพิรี้พิไรสิคะ เพื่อนๆ อยากรู้ใจจะขาด” จูนเซ้าซี้ถามฉัน “แต่เขาคนนั้นที่พวกแกปลาบปลื้มกัน นักหนาอยู่ตอนนี้ เขาอาสาพาฉันไปส่งบ้าน หลังงานเลี้ยงเลิกค่ะ” พวกสาวๆ พากัน กรี๊ดเกรียวกราว บางคนบอกว่าฉันร้ายกาจ ยิ่งนัก บางคนก็หาว่าฉันแสร้งไม่เดียงสาจน เขาตกหลุมพราง ก็ว่ากันไปต่างๆ นานา แต่ เสียงสรุปทั้งหมดนั้นลงความเห็นเป็นเสียง เดียวกันว่า “มึงต้องจับเขาให้อยูน่ ะ ผูช้ ายเพอร์เฟ็กต์ แบบนีไ้ ม่รจู้ ะผ่านมาอีกเมือ่ ไหร่ นีอ่ าจเป็นขบวน สุดท้ายทีด่ ที สี่ ดุ ของมึงนะจันทร์” พวกหล่อน เชียร์ฉันสุดใจขาดดิ้น ก็เพราะนานแล้วที่ฉัน ไม่ได้เดทใครจริงจังเสียที ทัง้ ทีค่ นอย่างฉันไม่ น่าจะขาดคนข้างกายได้ยาวนานข้ามปีขนาด นี้ พวกเพื่อนของฉันถึงได้ยุยงกันสนุกสนาน ขนาดนี้ สนุกเสียจนฉันคิดว่าตัวเองอยูใ่ นหนัง โรแมนติกคอมเมดีว้ ยั รุน่ สักเรือ่ ง แรงเชียร์ของ เพื่อนร่วมงานพวกนี้มีให้ฉันอยู่เสมอ ตราบ ใดทีส่ าวแสบอย่างฉันยังไม่มแี ฟนเป็นตัวเป็น

ตน แต่มนั ไม่เคยได้ผลเลยแม้แต่ครัง้ เดียว ฉัน ไม่ใช่คนประเภทที่ชีวิตขับเคลื่อนด้วยพลัง ยุยงจากใคร ความจริงคงต้องบอกว่าคนอื่น ไม่มอี ทิ ธิพลต่อฉันได้เลย ถ้าในเรือ่ งความรัก ของฉัน ทุกอย่างมีแค่ฉันเท่านั้นที่จะบอกว่า มันจะเป็นไปอย่างไร แต่สำ� หรับกรณีนอี้ าจดู เหมือนว่าค�ำพูดเพือ่ นดูจะมีนำ�้ หนักไม่ใช่นอ้ ย แต่ความจริงแล้ว ฉันสนใจกันต์ตั้งแต่วินาที แรกที่เขาเดินตรงมาที่โต๊ะ วินาทีที่เราสบตา กัน ฉันไม่แน่ใจหรอกว่าเขาทันสังเกตหรือไม่ ว่าฉันเหมือนคนลืมหายใจ รู้สึกว่าหน้าร้อน ผ่าวทั้งที่ไม่ได้กินเหล้า จนต้องแอบก้มหน้า เพือ่ หลบสายตา ถึงจะมีสติกลับมาท�ำงานได้ ราบเรียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งที่หัวใจ เต้นไม่เป็นจังหวะ มันคงเป็นสิง่ ทีเ่ รียกว่ารัก แรกพบ อะไรท�ำนองนัน้ ฉันมัน่ ใจว่าเขาก็รสู้ กึ ไม่ตา่ งจากฉัน แน่นอนว่าการท�ำทีวา่ เดินออก ไปสูบบุหรีข่ า้ งนอกงาน มันคือการจัดฉากเพือ่ การพนันกับตัวเองของฉัน ถ้าบุหรี่หมดมวน แล้วเขาไม่ออกมา คือฉันคิดผิด แต่ถา้ เขาออก มากค่อยว่ากันว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อจากนี้ และสุดท้ายแล้ว เขาก็เดินตามออกมา แม้ ผลลัพธ์ที่ออกมาจะเกินความคาดหมายไป ไกลอยู่ มันออกจะรวดเร็วจนน่าตกใจด้วย ซ�้ำไปกับการเริ่มต้นความสัมพันธ์ครั้งนี้ เขา


นิตยสารเรื่องสั้น 59

อาสารอฉันจนงานเลิก เพื่อพาฉันไปส่งบ้าน เพราะเครือ่ งแต่งกายในวันนีช้ า่ งวาบหวิวและ น่าเป็นห่วงความปลอดภัยของฉัน (ความจริง แล้วฉันมีชุดมาเปลี่ยนหรอกนะ แต่ในเมื่อ เขาอาสา เสื้อผ้าที่เอามาเผื่อ ก็ควรจะฝาก ไว้ที่เพื่อนมากกว่า เพื่อให้เรื่องมันง่ายขึ้น) อาจจะฉาบฉวยก็ได้ ฉันท�ำใจไว้เช่นนี้ตั้งแต่ เริม่ ต้น แน่นอนว่าเขาถูกใจฉันจากภาพลักษณ์ ภายนอก ตัง้ แต่ครัง้ แรกทีเ่ ห็น มันก็ไม่ตา่ งกับ ฉันนักหรอก ผู้ชายสูงราวร้อยแปดสิบกว่าๆ เสื้อเชิ้ตเข้ารูปลายกราฟฟิกสีขาว-ด�ำปล่อย ชายเสื้อออกมานอกกางเกงยีนส์สีเทาเข้ม ทรงเดฟ และรองเท้าผ้าใบคอนเวิร์สหุ้มส้น รุ่นแจ็คเพอร์เซล น่าจะมีคนในงานเพียงไม่กี่ คนทีใ่ ส่รองเท้าผ้าใบ เขาคือหนึง่ ในนัน้ แต่เขา เพียงคนเดียวเท่านัน้ ทีฉ่ นั ไม่อาจละสายตาไป จากเขาได้ ทุกครั้งที่มีโอกาสลอบมองเข้าไป ในงาน ฉันก็จะเห็นเขาในอาการของคนเบื่อ หน่ายอยากหายตัวไปจากตรงทีเ่ ขาอยูเ่ สียให้ ได้ แน่ละ่ …คนประเภทเขาคงไม่ปลืม้ ใจกับงาน หรูหราที่เต็มไปด้วยไฮโซเซเลบส์เช่นนี้ แต่ที่ ส�ำคัญฉันเห็นว่าเขาเองก็แอบมองมาที่ฉัน หลายครัง้ เช่นกัน มันเลยท�ำให้ฉนั มัน่ ใจว่า เขา ต้องเดินตามออกมาสูบบุหรีข่ า้ งๆ ฉันแน่นอน ระหว่างทางทีน่ งั่ รถไปด้วยกัน เราพูดคุยสลับ

กับความเงียบในจังหวะที่ไม่ได้แย่เท่าใดนัก แต่ทุกครั้งที่ช่องว่างของบทสนทนาเกิดขึ้น ฉันได้ยินเสียงลมหายใจของเราทั้งคู่ ได้กลิ่น แอลกอฮอล์จากลมหายใจของฉันที่พ่นออก มาเป็นไอร้อนเบาๆ และได้กลิน่ แอลกอฮอล์ ผสมกลิ่นกาแฟจากลมหายใจของเขาผสม ผสานกัน มันเป็นห้วงเวลาทีว่ าบหวิวจนอยาก จะโน้มตัวจากเบาะข้างคนขับไปสวมกอดเขา ลูกค้ารายส�ำคัญของบริษทั ชายแปลกหน้าที่ เพิ่งเจอกันครั้งแรก คือชุดค�ำที่คอยย�้ำเตือน ความต้องการทางร่างกายนั้น แล้วเปลี่ยน เป็นการพูดคุยในเรื่องราวอื่นๆ แทนระยะ ทางที่ยาวไกลจากงานสู่หมู่บ้านฉัน มันมาก พอทีจ่ ะท�ำให้เขารับรูถ้ งึ ความประหลาดหนึง่ ของฉัน เรื่องราวที่วิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้ ที่ฉันตัดสินใจเล่าบางเรื่องให้เขารับรู้ เผื่อว่า อย่างน้อยหากความสัมพันธ์มนั จะสานต่อไป ได้ เขาก็ต้องรู้ตัวตนด้านนี้ของฉัน สวัสดีไดอารี่ 20/2/55 เราคบกันราวครึง่ ปี แต่ดนั มีเรือ่ ง ไอ้หมอ (ฉันมักจะเรียกพีทอย่างนัน้ ต่อหน้ากันต์) หรือ พีทเข้ามาท�ำให้เขาไม่สบายใจ ขณะที่เราพูด คุยแลกเปลีย่ นเรือ่ งราวของตัวเองให้อกี ฝ่าย


60 นิตยสารเรื่องสั้น

ฟัง เพือ่ เรียนรูก้ นั และกัน ฉันเล่าให้เขาฟัง ว่า ฉันเคยมีคนรักทีเ่ รียกว่าแฟนมาแล้วทัง้ หมดกี่ คน (ก็แค่ 3 คนเอง ไม่นับรวมเขา) ความจริง เรือ่ งนีก้ นั ต์ไม่ตดิ ใจเอาความ ตอนแรกเขายัง พูดติดตลกอยู่เลยว่า “ก็จันทร์เป็นคนสวย ไม่เห็นแปลกจะมี แฟนมาก่อน ผมไม่ซเี รียสเลย” แต่เรือ่ งมันดัน รุนแรงมากขึน้ ก็เพราะว่าฉันยังคุยกับหมอพีท จนเหมือนว่าเขายังไม่ออกไปจากชีวติ ฉัน ฉัน พยายามอธิบายเหตุผลมากมายให้กนั ต์เข้าใจ ท�ำไมถึงยังพูดคุยกับหมอพีทบ่อยๆ ก็เพราะ ว่าฉันเป็นพวกนอนไม่หลับ หลายครั้งหลาย คราทีฉ่ นั นอนไม่หลับจนร่างกายแทบหมดสิน้ พลัง แล้วก็มีเพียงหมอพีทเท่านั้นที่จะจ่าย ยานอนหลับให้ฉันได้ หมอพีทเป็นหมอเด็ก ก็จริง แต่เขาก็สามารถหายานอนหลับ หรือ แม้แต่ยาคลายประสาทมาให้ฉนั ได้ รวมทัง้ เขา สามารถเป็นจิตแพทย์เวลาที่ฉันไม่สบายใจ เรื่องเกี่ยวกับลางสังหรณ์ และเรื่องความ รู้สึกภายในของฉันได้ แต่กันต์ไม่เข้าใจ เขาดู เหมือนจะเข้าใจ แต่มนั เป็นแค่ความพยายาม ทีจ่ ะเข้าใจ เขาบอกว่าไม่เห็นจ�ำเป็นจะต้องพึง่ หมอพีทเลย เพือ่ นเขาเป็นหมอก็ตงั้ หลายคน “แล้วจะให้เราบอกเพื่อนกันต์ว่ายังไง บอกว่าเรานอนไม่หลับเพราะเราฝันเห็นแต่

คนตายหรือยังไง หรือจะให้เราบอกว่าเรา เครียดมาก เพราะวันก่อนเราคิดถึงเพือ่ นสนิท สมัยมหาวิทยาลัยจับหัวใจ วันรุง่ ขึน้ เราจะได้ รับข่าวว่ามันโดนรถชนอาการสาหัส แล้วอีก 3 เดือนมันจะตายจะให้บอกกับเพือ่ นกันต์แบบ นี้หรือ” ฉันพยายามอธิบายกันต์ไปอย่างนั้น แต่ดเู หมือนว่ามันไม่มนี ำ�้ หนักมากพอ เขายัง พยายามบอกว่าสิ่งที่ฉันนัดพบกับหมอพีทก็ เพราะฉันยังรักหมออยู่ “กันต์ เรายังฟังเรือ่ งของเธอได้เลย ความ เจ้าชู้ต่างๆ นานา ตอนที่เธอไม่มีใคร หรือ แม้แต่ตอนที่เธอต้องเลิกกับแฟนสมัยเด็กๆ เพราะความเจ้าชู้ของเธอ เราไม่ติดใจอะไร เลย เพราะมันผ่านมานานแล้ว เราเชือ่ ใจเธอ ตอนนี้ เราไว้ใจเธอ ส่วนเรือ่ งของเรากับหมอ มันจบไปเกือบ 10 ปีแล้ว ถ้ามันจะกลับมารัก กันอีก ก็คงกลับมานานแล้วล่ะกันต์ เขากับ เราตอนนีม้ นั ต่างกันมากจนต่อไม่ตดิ แล้ว มัน เหลือไว้แค่มิตรภาพฉันท์เพื่อนเท่านั้นจริงๆ เหลือไว้แค่ความไว้ใจกันและกัน หมอก็มแี ฟน ของหมอ เราก็มีกันต์ ท�ำไมกันต์เชื่อใจเราไม่ ได้ ไว้ใจเราไม่ได้” ฉันจ�ำได้วา่ คืนนีเ้ ราเถียงกัน เสียงดังครัง้ แรก มันคือการทะเลาะกันทีห่ นัก มาก เขาโมโหฉันมาก “จันทร์รู้มั้ย ความจริงแล้วปัญหามันไม่


นิตยสารเรื่องสั้น 61

ได้อยู่ที่ไอ้หมออะไรนี่หรอก สิ่งที่จันทร์เป็น ต่างหาก จันทร์ต้องเลิกคิดว่าตัวเองมีเซ้นส์ บ้าบออะไรนั่น มันแค่เรื่องบังเอิญน่ะจันทร์ เราเคยคุยกันแล้วนี่ จันทร์ไม่ได้เกี่ยวกับการ ตายของใครเลย มันแค่บังเอิญ คนเราคิดถึง คนอื่นได้...” ยังไม่ทันขาดค�ำ ฉันก็ทนฟังจน จบไม่ไหว “ท�ำไมกันต์พูดอย่างนี้ ไหนเธอบอกว่า เธอเชือ่ เราไง ไหนเธอบอกว่าจะคอยดูแลเรา คอยอยู่เคียงข้างเราไง นอกจากจะไม่เชื่อใจ เราแล้ว ยังพูดจาดูถูกเราแบบนี้อีก” ฉันเริ่ม ร้องไห้สะอื้น ใช่แล้ว ฉันเสียใจมาก ตลอด เวลาค่อนปีที่ผ่านมา กันต์ดูเหมือนจะรับทุก สิง่ ทุกอย่างทีฉ่ นั เป็นได้ ความคิดทีแ่ ปลกแยก ตัวตนทีเ่ ร้นลับ และทัง้ ชีวติ ทีไ่ ม่นงิ่ ของฉัน แต่ ตอนนี้เขากลับปล่อยให้ความโกรธน�ำทุกสิ่ง อย่าง จนค�ำพูดเหล่านัน้ ออกมาท�ำร้ายจิตใจ ฉันไม่หยุด ฉันได้แต่รอ้ งไห้ในห้องของเขา ฉัน ไม่อยากเห็นหน้าเขา แต่เวลานั้นมันดึกมาก แล้ว ฉันไม่ได้เอารถมา เพราะเขาเป็นคนขับ รถไปรับฉันทีบ่ า้ น เพือ่ ไปดูหนังด้วยกัน ก่อน จะขากลับไปนัง่ ดืม่ กันต่อทีร่ า้ นเหล้าแถวบาง ล�ำพู แล้วกลับมานอนค้างทีบ่ า้ นเขา มันเกือบ จะเป็นกิจวัตรประจ�ำสุดสัปดาห์ของเราทั้งคู่ ไปแล้ว ด้วยเวลาเกือบตี 3 และฉันก็คอ่ นข้าง

เมาในชุดนอนบางเบาอย่างนั้น ฉันเลยออก ไปไหนไม่ได้ ยิ่งท�ำให้น�้ำตาไหลออกมาแบบ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ราวกับว่าเมื่อมันได้ไหล ออกมาแล้ว มันก็จะไม่หยุดง่ายๆ “จันทร์ ผมขอโทษ ผมจะพยายามเข้าใจ คุณให้มากกว่านี้ หยุดร้องไห้เถอะ ผมเห็น แล้วมันเจ็บปวดมาก ผมขอโทษ ผมเข้าใจสิ่ง ที่คุณเจอมาจริงๆ ผมเชื่อคุณ ส่วนเรื่องแฟน เก่าของคุณ ผมจะพยายามท�ำความเข้าใจกับ สิง่ ทีเ่ กิดขึน้ ” หลังพูดจบ เขาเดินมาใกล้ๆ ฉัน ที่นั่งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของเตียง ค่อยๆ ลูบหัวให้ ฉันอย่างแผ่วเบา เอาผ้าขนหนูมาเช็ดน�้ำตา ให้ เขาสวมกอดฉันจากด้านหลัง ฉันค่อยๆ หยุดร้องไห้ เขาใช้มือซ้ายปัดผมยาวที่ยุ่งไม่ เป็นทรงของฉันเบี่ยงไปทางบ่าข้างขวา แล้ว ค่อยๆ ใช้ปากพรมจูบจากหัวไหล่ซา้ ย ไล่เลียง ไปถึงซอกคอ มันท�ำให้ฉันเริ่มส่งเสียงคราง “ผมชอบเสี ย งร้ อ งของจั น ทร์ ต อนนี้ มากกว่าตอนร้องไห้มากเลยนะ” เขากระซิบ ที่ข้างหู ก่อนที่สอดลิ้นเข้าไปข้างใน ทั้งสอง ข้างคลายกอดออก ถลกชายประโปรงชุด นอนขึ้น ไปพร้อมๆ กับการลูบไล้ขาอ่อนทั้ง สองข้าง เขาถอดชุดนอนออกอย่างง่ายดาย พร้อมกับกางเกงชัน้ ในทีช่ นื้ แฉะของฉัน นิว้ ชี้ ข้างซ้ายสอดส�ำรวจทีม่ าของความชืน้ แฉะนัน้


62 นิตยสารเรื่องสั้น

มืออีกข้างบีบเค้นหน้าอกทั้งคู่ของฉัน ก่อน ที่จะดึงผ้าห่มมาคลุมร่างเราทั้งคู่ แล้วเขาก็ จับร่างฉันลงนอน ก่อนที่จะบรรเลงเพลงรัก ที่เต็มไปด้วยความหึงหวงด้วยท่วงท่าที่หนัก หน่วงรุนแรงจนเขาถึงจุดหมายอย่างรวดเร็ว ฉันเดินไปล้างเนื้อตัว โดยที่ประตูเปิดแง้ม เล็กน้อย แสงไฟในห้องนอนเล็ดลอดเข้ามา ในห้องน�้ำ ฉันล้างตัวยังไม่ทันเสร็จดี เขาเดิน เข้ามาแล้วเปิดม่านห้องน�้ำออก ฉันหันมา มองเขาด้วยความประหม่าเล็กน้อย โดยที่ ลืมความเศร้าไปหมดสิน้ แล้ว น�ำ้ จากฝักบัวยัง คงไหลไม่หยุด กันต์จบั มือฉันแล้วรัดเชือกรัด ของชุดคลุมอาบน�ำ้ จูบปากอย่างกระหาย ใช้ ลิน้ ลามเลียแทบทุกซอกส่วน พรมจูบไปตาม พืน้ ทีใ่ ต้รม่ ผ้าทัง้ ด้านหน้าและด้านหลัง ขบกัด เนินอก บีบเค้นจนฉันส่งเสียงร้อง เขาใช้มือ ข้างหนึ่งปิดปากฉัน “อย่าร้องเสียงดัง เดี๋ยวพ่อแม่ตื่น คืนนี้ คุณไม่มีสิทธิ์ห้ามผม ผมยอมรับว่าผมโกรธ และโมโหมาก ผมขอโทษ แต่ที่ผมเป็นอย่าง นี้ เพราะผมหวงคุณมากนะจันทร์ คืนนี้ผม จะเอาคุณจนกว่าความหวงนัน้ จะเบาบางลง ไป” เขากระซิบเบาๆ อีกครั้ง อารมณ์ฉันพุ่ง พล่านจนแทบจะไม่มีเรี่ยวแรงยืน เขาสัมผัส ได้ว่าฉันไร้เรี่ยวแรง เลยยิ่งท�ำให้เขาฮึกเหิม

“ร้องสิ ร้องออกมา แต่รอ้ งเบาๆ นะ” เขา จับฉันหันหน้าเข้าหาก�ำแพง น�้ำจากฝักบัว เบาลง มือของฉันยังถูกมัด เขาจับมันวาง เหนือก�ำแพง กอดรัดฉันแน่น อกเขาแนบชิด แผ่นหลัง เขาสอดใส่และกระแทกครัง้ แล้วครัง้ เล่า ฉันครางเบาๆ เรื่องของหมอพีทหายไป จากหัวเราทัง้ คู่ เหมือนกับว่าเราไม่เคยพูดถึง เรือ่ งนีม้ าก่อน และคืนนัน้ เราทัง้ คูก่ ไ็ ม่ได้นอน ฉันจ�ำเป็นต้องจดมันไว้ เผื่ออนาคตฉันจะได้ น�ำวิธกี ารนีม้ าใช้จดั การกับความโกรธของเขา เซ็กส์มักได้ผลกับเขาเสมอ ไดอารี่ที่รัก 19/12/55 ไม่ได้เขียนเสียนาน วันนีเ้ ขียนรวบเลยแล้ว กัน มีหลายเรื่องที่ยังเล่ากันต์ไม่ได้เหมือน เดิม ไม่รู้สิ…หลายเรื่องฉันว่ามันก็เป็นเรื่อง เล็กเรื่องน้อย ที่รู้สึกว่าไม่เล่า ก็ไม่เป็นไร คนเราควรมีพื้นที่ส่วนตัว ถึงเราทั้งคู่จะเล่า เรื่องราวแต่ละวันให้ฟังกันเสมอ แต่ฉันเชื่อ ว่าเขาเองก็มีเรื่องอื่นๆ ที่ไม่ได้เล่า มันเป็น เรื่องที่ไม่ส�ำคัญเท่าไหร่หรอก แต่บางเรื่อง มันก็เป็นความลับ ฉันไม่รู้ว่าเขามีความลับ กับฉันไหม ฉันไม่คาดหวังด้วยซ�้ำว่าชีวิตเขา จะปราศจากความลับ ฉันเคยบอกเขาแล้ว


นิตยสารเรื่องสั้น 63

ว่า ฉันเชือ่ ใจเขามากแค่ไหน เพราะฉันรักเขา เราคบกันมาปีกว่าแล้ว ผ่านอะไรมามากมาย เรือ่ งทะเลาะทัง้ หนักเบา ทุกครัง้ ทีง่ อ้ งอนกัน จบ มันคือความเข้าใจที่มากขึ้นบ้าง หรือไม่ ก็การปล่อยผ่านเพื่อประคองความสัมพันธ์ ให้อยู่ต่อไป ต้องยอมรับว่ากันต์เป็นผู้ชาย สมบูรณ์แบบคนหนึ่งทีเดียว เขาเพียบพร้อม ทั้งหน้าตา ฐานะ หน้าที่การงาน เพื่อนของ เขาชอบฉัน แน่นอนว่าเพือ่ นๆ ฉันก็ชอบเขา เรียกได้วา่ นิยามของเราคือคูร่ กั อุดมคติ ไม่ใช่ ก็ใกล้เคียงเลยทีเดียว เขาดูแลฉันดีมาก เข้าใจ ฉันมากกว่าใครๆ (ถึงจะมีบางเรื่องที่ดูคล้าย จะไม่เข้าใจเลยก็ตาม) เขาทะนุถนอมฉันอย่าง กับเจ้าหญิงในหลายๆ ครัง้ และหลายๆ ครัง้ ก็มเี ซ็กส์กบั ฉันราวกับสัตว์ปา่ หิวกระหาย เช่น เดียวกัน ฉันเองก็เป็นกระจกสะท้อนเขาแบบ ไม่ขาดไม่เกิน เราพูดคุยกันได้ทุกเรื่อง ตั้งแต่ เรื่องเล็กน้อยไร้สาระ กิจกรรมที่ท�ำร่วมกัน เหมือนย้อนไปสู่วัยรุ่นเพิ่งแตกเนื้อสาว “กันต์เดินแข่งกันมั้ย แต่มีกติกาว่าต้อง เดินไม่เหยียบเส้นบนทางเท้านีน้ ะ ใครแพ้คนื นี้ต้องท�ำตามค�ำสั่งอีกคนทุกอย่าง” คืนหนึ่ง เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ฉันเอ่ยปากท้าทาย เขาหลังจากเราเริม่ เมาได้ทแี่ ล้ว ก�ำลังจะเรียก แท็กซี่กลับบ้าน ค�ำท้าเช่นนี้คงท�ำให้เขาตื่น

เต้นไม่น้อย เขารับค�ำท้าด้วยความมั่นใจว่า ตัวเองจะชนะ โธ่…กันต์ เท้าใหญ่ขนาดนั้น จะชนะฉันได้ยงั ไงกัน สรุปว่าเขาพ่ายแพ้ตงั้ แต่ ยังไม่เริ่มด้วยซ�้ำ และเมื่อถึงบ้าน ก็เป็นฉันที่ ควบคุมเกมรักทุกอย่างในชุดนักเรียนทีเ่ ตรียม มาเซอร์ไพรส์เขาก่อนรุ่งเช้าที่จะเป็นวันเกิด บทรักไม่เดียงสากับกลิ่นสุราและลมหายใจ ร้อนๆ หนุ่มฮ็อตที่สาวๆ รอบตัวทั้งฉันและ เขาชอบส่งสายตาไม่เป็นมิตรใส่ฉนั กลายเป็น เด็กนักเรียนไม่ประสาในคืนนั้น “จันทร์ผมรักคุณ รักคุณมากที่สุดเท่าที่ ผมจะรักใครได้ ผมรักหน้าสวยๆ ของคุณ รัก ดวงตาดุๆ ของคุณ รักปากทีน่ า่ จูบตลอดเวลา ของคุณ ผมชอบรอยสักทีข่ อ้ มือและทีห่ ลังของ คุณ ชอบผมยาวสีด�ำของคุณ รักหน้าอกของ คุณ ผมแทบคลั่งตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน อยากเป็นเจ้าของคุณตัง้ แต่วนิ าทีแรกทีส่ บตา กับคุณ วันนัน้ ทีผ่ มไปส่งคุณทีบ่ า้ น ผมห้ามใจ แทบตายเพือ่ ไม่ให้เกินเลยคุณ ผมรูส้ กึ อยาก จะบ้าตายให้ได้ กลัวมากว่าจะไม่ได้เจอคุณ อีก จนวันที่คุณตอบตกลงจะคบกับผม ผม ดีใจที่สุด ผมรู้สึกว่าชีวิตมันมีความหมายแค่ ไหนก็ตอนนั้น ผมรู้สึกอยากท�ำตัวให้ดีที่สุด เพือ่ คุณ จันทร์อย่าไปไหนนะ” ความจริงแล้ว ฉันก็รู้สึกไม่ต่างจากเขาเลย ฉันก็ดีใจไม่น้อย



นิตยสารเรื่องสั้น 65

"เขาทะนุถนอมฉันอย่างกับเจ้าหญิง ในหลายๆ ครั้ง และหลายๆ ครั้งก็มี เซ็กส์กบ ั ฉันราวกับสัตว์ปา่ หิวกระหาย เช่นเดียวกัน ฉันเองก็เป็นกระจกสะท้อน เขาแบบไม่ขาดไม่เกิน..."


66 นิตยสารเรื่องสั้น

ที่มีเขาเคียงข้าง ชีวิตฉันมีความหมายอย่าง บอกไม่ถกู ทีม่ ากกว่านัน้ ฉันรูส้ กึ ว่าเขาอยูใ่ น ก�ำมือฉันเรียบร้อยแล้ว หลายวันหลังวันเกิด เขา คืนนัน้ เรากลับจากงานแต่งงานเพือ่ นคน หนึง่ ของฉัน เราอาฟเตอร์ปาร์ตกี้ นั จนดึก เรา ดืม่ กันไม่มากไม่นอ้ ย และพูดคุยมาตลอดทาง เรือ่ งนัน้ เรือ่ งนี้ ดูเหมือนกันต์จะมีเรือ่ งเครียด เล็กน้อย เขาทะเลาะกับเพื่อนเรื่องความคิด เห็นไม่ตรงกันบางอย่าง หลังจากไปแฮงก์เอา ต์กบั กลุม่ เพือ่ นสมัยม.ปลาย ทัศนคติเกีย่ วกับ ความสัมพันธ์เอย การบ้านการเมืองเอย ยิ่ง เมาก็ยงิ่ คุยกันออกรสชาติ และเถียงกันตัวโก่ง “จันทร์เข้าใจผมใช่มั้ย ผมไม่ชอบพูดเรื่อง การเมือง แต่คนพวกนี้ก็จะให้ผมเลือกให้ได้ ว่าเข้าข้างใคร ก็ผมไม่มี ผมไม่ยุ่ง จะว่าผม ไร้สาระก็ยอม แต่ผมเอาเวลาไปท�ำอย่างอื่น ดีกว่า งานก็ยงุ่ จะตายห่าแล้ว” ฉันเข้าใจเขาดี เราคุยกันเรือ่ งนีอ้ ยูบ่ า้ ง เราทัง้ คูไ่ ม่เคยศรัทธา นักการเมืองอยู่แล้ว แต่ผู้คนสมัยนี้ก็ชอบที่ จะแสดงความเห็นมันออกมาแบบฟุ่มเฟือย ราวกับว่าคนที่พูดคุยเรื่องนี้คือคนฉลาดเสีย เต็มประดา ดัดจริตที่สุด “เราเข้าใจกันต์สิ อย่าไปใส่ใจเลย ใครนะ เคยบอกเราว่า อย่าไปใส่ใจคนที่หายไปจาก ชีวิตเรา แล้วโลกของเราไม่สะเทือน ใครน้า”

กันต์หันมายิ้มให้หลังจอดรถเสร็จ “เดีย๋ วนีย้ อกย้อนนะเราเนีย่ ” เขาพูดพลาง กดลดกระจกรถที่ประตูฝั่งคนขับ และประตู ฝั่งของฉันเล็กน้อย ก่อนดับเครื่องยนต์และ บอกฉันว่าอย่าเพิ่งลงจากรถ ก่อนจะปีนไป ที่เบาะหลัง แล้วโน้มตัวมากระซิบเบาๆ กับ ฉันที่ยังนั่งอยู่เบาะหน้า “จันทร์…” “กันต์กระเถิบไปหน่อยสิ ให้ เรานั่งตรงไหนล่ะ” กันต์ยังพูดไม่จบ ฉันก็ปีน ตามเขาไปเบาะหลัง ผลักเขานอนลงก่อนจะ นั่งคร่อมที่ท่อนล่างของเขา เซ็กส์ที่เหมือน เขาเป็นฝ่ายรุกในตอนแรก แต่กลายเป็นฉัน ที่รุกเขาจนจบอย่างเงียบๆ ในรถของเขา ที่ จอดอยู่ในโรงรถของบ้านเขา เป็นอีกคืนอัน แสนเร่าร้อน ที่ท�ำให้กันต์ดูจะร่าเริงไปเป็น หลายสัปดาห์ หลายวันหลังจากงานแต่ง เพื่อนสาวคนนั้น ฉันมีนัดกลุ่มเพื่อนสมัย เรียนมหาวิทยาลัย เพื่อไปรับแจกการ์ดงาน แต่งงานของหมอพีท มันเป็นปาร์ตี้เล็กๆ ที่ บ้านของแพรว เพื่อนสาวสมัยมหาวิทยาลัย นั่นแหละ ตอนแรกฉันก็กลัวเหมือนกันว่า เขาจะไม่ยอมให้ไปปาร์ตสี้ ละโสดของพีท แต่ กลายเป็นว่ากันต์ยนิ ยอมอย่างง่ายดาย ฉันว่า เขาสบายใจแล้วเรือ่ งฉันกับหมอ เพราะหมอ ก�ำลังจะแต่งงาน เขาสบายใจถึงขัน้ ว่า ยอมให้


นิตยสารเรื่องสั้น 67

ฉันนอนค้างคอนโดของแพรวได้ เมือ่ ฉันบอก ว่าวันนัน้ พวกสาวๆ คนอืน่ มีแผนจะปาร์ตกี้ นั จนเช้า เพือ่ ร�ำลึกความคิดถึง แต่กว่าจะยอมก็ ต้องพูดย�ำ้ แล้วย�ำ้ อีกว่าไม่มเี พือ่ นผูช้ ายคนอืน่ อยู่ต่อแน่ๆ ความรักของกันต์ที่มีให้ฉันมาก ขึน้ เท่าไร ก็ยงิ่ ตามมาด้วยความหึงหวงราวกับ เด็กๆ ที่หวงของเล่นชิ้นโปรดมากขึ้นเท่านั้น ฉันเดาว่ามันคงเป็นความหวาดระแวงของ ผู้ชายเจ้าชู้อย่างกันต์ ที่กลัวว่ากรรมจะตาม สนอง อะไรท�ำนองนี้ แต่ช่างเถอะ สุดท้าย กันต์ก็ยอมให้ฉันนอนค้าง “มึงนี่ไม่แก่เลยนะจันทร์ ใครบอกว่ามีผัว แล้วจะโทรมวะ” แพรวพูดขึน้ มาท�ำเอาเพือ่ น ทุกคนกรี๊ดกร๊าด ความจริงมันเป็นประโยค สามัญมาก แต่ดว้ ยลีลาและน�ำ้ เสียงของแพรว ผู้หญิงที่มีแฟนเป็นผู้หญิงอย่างเธอ ไม่ว่า จะพูดอะไรก็ดูจะติดเรตติ้งไปเสียหมด วันนี้ แพรวดูจะร่าเริงเป็นพิเศษ ไม่ใช่แค่นานๆ ที ได้เจอเพื่อนเก่าที่บางคนไม่เจอกันมาเกือบ สิบปีตงั้ แต่เรียนจบ ยังได้เจอเพือ่ นสาวในกลุม่ ครบทุกคน และได้อยู่กันจนเช้าเหมือนสมัย เรียนอีกต่างหาก ทีส่ ำ� คัญไปมากกว่านัน้ แก้ว แฟนสาวรุน่ น้องของแพรวก็มเี ทีย่ วบินไปเมือง นอกพอดี อ้อ…แพรวมีแฟนเป็นแอร์โฮสเตส น่ะ “พอแฟนไม่อยู่ อีแพรวเลยแรดหนักเลย

นะ” แก้ม คุณแม่ยังสาวพูดติดตลก วันนี้ คุณแม่ก็ร่าเริงเป็นพิเศษ เพราะหนีลูกหนีผัว มาได้ ก็เลยเมาเต็มที่ “มึงๆ กูเอาโดมิโน่มา ใครแพ้แดกหมด แก้วดีมั้ย” จอยสาวฮ็อตอีกคนของรุ่น หยิบ โดมิโน่ มาเล่น คิดเอาเถอะว่าคืนนี้จะจบ ยังไง เมื่อเพื่อนผู้ชายบางคน (ขอโทษนะ กันต์ ที่ยังมีเพื่อนผู้ชายเหลืออีก 3 คน แต่ 2 คนเป็นกระเทย ไม่นับแล้วกันนะ หมอพี ทก็กลับไปแล้วด้วย) ก็กลับไปหมดแล้ว คืน นี้มีแต่เละกับเละ พวกเราเล่นโดมิโน่ สลับ กับคุยกันอย่างออกรสชาติ เรื่องส่วนใหญ่ ก็ไม่พ้นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน ชีวิตการ งาน ครอบครัว ความรัก สารพัดที่จะขุดขึ้น มาคุยพลางกินเหล้าพลาง หันไปมองอีก ครั้ง เหล้าหมดไปหลายขวด ฉันนึกดีใจที่ บอกกันต์ไปตั้งแต่แรกว่าจะค้างบ้านแพรว เพราะมันสนุกจริงๆ จนไม่อยากกลับกลาง ครัน นานแล้วที่ไม่ได้เมาดิ่งอย่างนี้ บางคน ยอมแพ้หนีไปนอนตามมุมต่างๆ ของห้อง น�ำโดย 2 กระเทยสาวสวยของกลุ่ม บางคน ยังคุยออกรสชาติ ส่วนฉันขอตัวไปเข้าห้องน�ำ้ และขอออกไปคุยโทรศัพท์กบั กันต์เงียบๆ ที่ ระเบียงสักหน่อย เขาจะได้ไม่ห่วงมาก “กันต์ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้บ่ายๆ


68 นิตยสารเรื่องสั้น

เราไปหาทีบ่ า้ น แล้วค่อยไปหาอะไรกินกัน… อ้อ เราออกมาคุยที่ระเบียงคอนโดแพรวน่ะ ข้างในหนวกหูมาก อยากมารับลมด้วย ห้อง แพรวมันอยู่ตั้งชั้น 23 เงียบดี ลมก็ดี…จะบ้า หรอกันให้เซ็กส์โฟนทีร่ ะเบียงห้องเพือ่ นตอน นี้เนี่ยนะ ทะลึ่งใหญ่แล้วนะ ไปๆ ไปนอนได้ แล้ว” ฉันวางหูจากแฟนผู้หื่นกระหายตลอด เวลาลง พร้อมหัวเราะเบาๆ เมือ่ นึกถึงประโยค เพีย้ นๆ ของเขาเมือ่ ครู่ ขณะทีก่ ำ� ลังจะเข้าไป แล้วตัง้ ใจว่าจะนอนเลย ฉันก็หนั มาเห็นแอม เพื่อนผู้ชายอีกคนเดินออกมาแล้วจุดบุหรี่ “อยู่เป็นเพื่อนสักเดี๋ยวได้มั้ยมึง ดูดบุหรี่ เป็นเพื่อนกูก็ได้” แอมชวนฉันดูดบุหรี่ จะว่า ไปไม่ได้คยุ กับแอมนานมากแล้วเหมือนกัน น่า จะเมื่อ 2-3 ปีก่อน งานเลี้ยงปลอบใจที่แอม มันโดนแฟนสาวบอกเลิกระหว่างที่เธอเรียน ต่ออยู่ต่างประเทศ มันเสียใจแทบจะบ้าตาย “มึงน่าจะเอาแก้วเหล้ามาด้วยนะไอ้หา่ นี่ มึง เป็นไงมัง่ แอม” ฉันถามมันพลางพ่นควันบุหรี่ “ก็ดี เรื่อยๆ ว่ะ โสดสนิทเหมือนเดิม มึง มีใครแนะน�ำมั้ย กูเหงาฉิบหาย” สงสัยแอม มันจะฝังใจเอามากเรื่องแฟนคนนั้นของมัน ถึงขนาดไม่ยอมมีแฟนใหม่เสียที หรืออาจ จะมีแล้วก็ไปกันไม่รอด ฉันไม่คิดจะถามราย ละเอียดส่วนตัวนี้ของมันหรอก ฉันได้แต่

หัวเราะและส่ายหัวให้มัน ในท�ำนองว่า กูจะ หาใครมาให้มึงได้เล่า “มึงไม่ลองจีบแก้วล่ะ เมือ่ กีม๊ นั เพิง่ บอกว่า มันเหงา เหมือนมึงเลย เพือ่ นกันอยูแ่ ล้วอาจ จะดีลกันง่ายนะ” ฉันหยอกแอมมันเล่นแบบ หวังผล ถ้าเพื่อนได้กันก็คงจะดี ฉันหัวเราะ “ถ้าเพื่อนกันอยู่แล้วมันจะคุยกันง่ายขึ้น จริงๆ งั้นกูลองคุยกับมึงได้มั้ยล่ะจันทร์ กู แอบชอบมึงผ่านเฟซบุ๊คมาหลายเดือนแล้ว มึงไม่รู้สึกบ้างหรือไง ทุกตัวหนังสือที่กูพิมพ์ ไปให้กำ� ลังใจมึงผ่านคอมเมนต์ เพราะกูชอบ มึง กูเฝ้าดูมงึ อยูต่ ลอด” ค�ำพูดของแอมท�ำให้ ฉันรูส้ กึ ชาไปทัง้ ตัว แอมขยับตัวเข้ามาใกล้ฉนั มันดับบุหรีข่ องตัวเอง แล้วถือวิสาสะหยิบบุหรี่ ของฉันไปดับ ก่อนจะโน้มตัวมาจูบปากฉัน “ถ้าเป็นกู กูจะยอมมึงทุกอย่างเลยจันทร์” ฉันตกใจมาก รีบผลักแอมออก แล้วเดินกลับ เข้าไปในวงเหล้าแบบเป็นธรรมชาติทสี่ ดุ ง่วง มากเลยไดอารี่ ไว้มาเขียนต่อวันหลังนะ ไดอารี่ที่รัก 17/4/56 หายไปเป็นเดือนเลยนะไดอารี่ งานมัน หนักนี่นะ…ว่าจะไม่เขียนแล้ว แต่ก็อึดอัด มากๆ ขอระบายหน่อยแล้วกัน หลังจากที่


นิตยสารเรื่องสั้น 69

แอมมาสารภาพรัก และฉวยโอกาสจูบฉันใน คืนนัน้ ฉันรีบเดินกลับมาทีว่ งเหล้าให้เหมือน ไม่มีอะไรเกิดขึ้น “อ้าว ไอเหี้ยแอมล่ะจันทร์ มันบอกจะ ออกไปตามมึง แล้วท�ำไมมึงกลับมาคนเดียว วะ” แพรวถามหาแอมจากฉัน “มันดูดบุหรี่ต่อน่ะมึง ไปตามมันสิ อยาก ให้มนั มานัง่ ด้วยน่ะ อีนเี่ รือ่ งมาก” ฉันท�ำทีเป็น ด่ากลบเกลื่อน แล้วชนแก้วต่อ ส่วนแพรวไม่ ได้สนใจว่าแอมมันจะกลับมาหรือยังดูดบุหรี่ ต่อหรือเปล่า พวกเรากลับมาฟังเรื่องคุณแม่ แก้มบ่นเรือ่ งลูกทีก่ ำ� ลังโตของเธอ และนินทา ผัวที่แอบไปติดอ่างระหว่างที่นางท้องอย่าง สนุกปาก เฮ้อ…ชีวติ ครอบครัวนีน่ า่ กลัวชะมัด ฉันเริ่มกลัวขึ้นมาตะหงิดๆ “อีแพรวกูไปนอนก่อนนะ ห้องมึงนะคะ น้องแก้วจะด่ากูมั้ยนะ ฮ่าๆๆๆ” ฉันหัวเราะ ทุกคนหัวเราะ เพราะทุกคนรู้ว่าแก้วหวงพี่ แพรวมาก และทุกคนก็รู้ว่าฉันสนิทกับแพรว มากแค่ไหน และสนิทมานานตัง้ แต่ตอนเรียน กวดวิชาช่วงก่อนสอบเอ็นทรานซ์ เราเจอกัน ครั้งแรกที่โรงเรียนกวดวิชาสังคม คงเพราะ ถูกชะตากันละมั้ง เลยท�ำให้สนิทกันไปโดย ปริยายตั้งแต่ตอนนั้น เมื่อก่อนเรา 2 คนตัว ติดกันมาก ขนาดว่ามีแฟนกันยังออกเดท

พร้อมกันก็บ่อย ไปเที่ยวต่างจังหวัดพร้อมๆ กัน สลับกันอกหักซ�้ำไปมา กระทั่ง วันหนึ่ง เมื่อประมาณ สามปีที่แล้ว แพรวโทรหาฉัน บอกว่าเลิกกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี มันท�ำให้ฉนั ตกใจไม่นอ้ ย เพราะตอนแรกนึก ว่าแพรวจะแต่งงานกับพีค่ นนี้ แต่ทที่ ำ� ให้ตกใจ ที่สุดคงเป็นเพราะสาเหตุที่มันเลิกกับแฟน “กูชอบผู้หญิงว่ะจันทร์ กูคบซ้อนมาเกือบปี แล้ว น้องเขาเป็นแอร์ฯ ชื่อแก้ว น่ารักมากๆ มึง เข้าใจกูทุกอย่าง กูเพิ่งเข้าใจค�ำว่าผู้หญิง ด้วยกันย่อมเข้าใจกันก็ตอนนี้ หลายครั้งที่กู ทะเลาะกับพี่โจ้ น้องแก้วก็ปลอบกูเสมอ เรา พูดคุยกันด้วยความสนิทอย่างง่ายดาย เหมือน รูจ้ กั กันมานาน น้องเอาใจกูสารพัด แม่งเหมือน เติมเต็มส่วนทีข่ าดหายไป แก้ทกุ ความรูส้ กึ เจ็บ ปวดให้กบั กู โคตรดีเลยมึง” เหีย้ คนสวยอย่าง แพรว ผูห้ ญิงทีผ่ ชู้ ายหลายคนอยากเป็นแฟน ด้วย กลับมาสยบให้กับผู้หญิงด้วยกัน ถึงฉัน จะไม่เข้าใจความสัมพันธ์แบบนีเ้ ท่าไร แต่ฉนั ก็เข้าใจและเคารพเพือ่ นรักคนนีม้ าก ฉันเดิน ออกจากวงเหล้า เข้าห้องนอนแพรวแบบเมา เกือบระดับสุดท้าย ผ่านระเบียงทีเ่ พิง่ จากมา มองผ่านผ้าม่าน เห็นเงาของแอมยังคงยืน สูบบุหรี่อยู่ข้างนอก ฉันไม่ทักทายอะไร การ ปล่อยให้มันอยู่คนเดียว


70 นิตยสารเรื่องสั้น

ในตอนนั้นคงเป็นเรื่องที่ดีที่สุด ฉันล้มตัวลง นอน และหลับอย่างรวดเร็วเพราะฤทธิเ์ หล้า และแอ็บซินธ์ 2 แก้ว ที่ตีกันมั่วไปหมด ผ่าน ไปนานแค่ไหนฉันไม่แน่ใจ ก่อนจะสลึมสะลือ แล้วรูต้ วั แบบกึง่ หลับกึง่ ตืน่ มีคนมานอนเบียด ฉันใต้ผ้าห่ม ตอนแรกฉันไม่มั่นใจว่าเป็นใคร สักพักใครคนนั้นก็เอื้อมมือมากอดฉันจาก ด้านหลัง “มึงเป็นยังไงบ้าง ยังทะเลาะกับกันต์หนักๆ อีกรึเปล่า ช่วงหลังๆ เห็นมึงเงียบหายไป ใจนึง ก็ดใี จว่ามึงคงแฮปปีด้ ี อีกใจกูกค็ ดิ ถึงมึงอย่าง บอกไม่ถูก” ใครคนนั้นพูดเบาๆ ขึ้น “ก็ดีนะมึง กันต์น่าจจะหายระแวงเรื่องกู กับพีทแล้ว นี่ใครวะ แพรวหรอ” ฉันตอบใคร คนนัน้ ด้วยเสียงแผ่วเบาของคนกึง่ หลับกึง่ ตืน่ ปนสงสัยว่าคนทีค่ ยุ ด้วยใช่แพรวหรือไม่ เพราะ มีแพรวคนเดียวทีร่ เู้ รือ่ งทีฉ่ นั ทะเลาะกับกันต์ เพราะพีท “ก็ดีแล้วมึง แต่กูเพิ่งรู้ว่าพอมึงหายไป หลายเดือนแบบนี้ กูโคตรคิดถึงมึงเลย ภาวนา ให้มงึ เจอผีอกี เผือ่ มึงจะมาเล่ากูบา้ ง กูอยาก ได้ยินเสียง” ใครคนนั้นน่าจะเป็นแพรว ฉันไม่มีสติและเรี่ยวแรงพอจะตอบโต้อะไร อันทีจ่ ริงความจ�ำบางส่วนก็จางหายไปด้วยซ�ำ้ แพรวกอดฉันแน่นขึน้ มือของแพรวค่อยๆ ล้วง

เข้าไปในเสือ้ ยืดของฉัน ปลดตะขอเสือ้ ใน บีบ หน้าอก ไซ้ซอกคอด้วยจมูกและจูบแล้วจูบอีก อย่างเบา ฉันหมดเรี่ยวแรงแบบสมบูรณ์ จ�ำ ได้ว่าฉันครางออกมาด้วยความเสียว ในหัว งงสับสนไปหมด รู้สึกผิด งง และรู้สึกดี จาก นัน้ แพรวถอดเสือ้ ฉัน ขึน้ มานัง่ คร่อม โน้มตัว ลงมาจูบปากฉันเบาๆ ก่อนจะสอดลิ้นลงมา แล้วจูบอย่างดูดดืม่ ฉันตกใจมากแต่ขดั ขืนเล็ก น้อย ก่อนที่แพรวจะจูบแรงขึ้น นวดและบีบ หน้าอกแรงขึน้ ไปอีก ฉันไม่เหลือเรีย่ วแรงใดๆ อีกแล้ว ส่งเสียงครางเบาๆ แพรวใช้จมูก ปาก และลิน้ ไซ้และเลียฉันไปทัว่ เธอล้วงมือเข้าไป ในกางเกงวอร์ม สอดนิ้วลงไปในพื้นที่สงวน แพรวช�ำนาญกับการท�ำสิ่งเหล่านี้ไม่น้อย “จันทร์ ชอบมั้ย กูโคตรดีเลย กูขอแค่คืน นี้เท่านั้นแหละ กูสัญญาว่าจะท�ำให้ดีที่สุด แล้วหลังจากนี้เราจะเป็นเพื่อนกันเหมือน เดิม มึงตกลงมั้ย” ฉันได้แต่พยักหน้า ให้ฉัน ตอบอย่างไรล่ะ มันสับสนมากนะ แพรวคือ เพื่อนรัก ฉันไม่อยากเสียเพื่อนคนนี้ไป และ ร่างกายฉันก็ไม่ปฏิเสธแพรวเสียด้วย ตอน นั้นฉันรู้สึกแค่ว่าร่างกายมันยอมแพรวไป ทัง้ หมด กางเกงของฉันถูกถอดออกพร้อมกับ กางเกงชั้นใน เธอกางขาฉันแล้วก้มลงใช้ลิ้น สลับกับนิ้ว ฉันเสียวไปทั้งตัว จิกผ้าปูที่นอน


นิตยสารเรื่องสั้น 71

จนยับย่น พยายามส่งเสียงครางให้เบาที่สุด แพรวกลับมาขึ้นคร่อม หยิบอะไรบางอย่าง จากลิน้ ชักข้างเตียง สอดมันลงในพืน้ ทีส่ งวน ของฉันที่กลายเป็นของแพรวไปแล้วในคืน นัน้ เธอขย่มด้วยจังหวะทีท่ ำ� ให้ฉนั แทบจะบ้า ฉันจ�ำได้ว่ามันดีมากจนฉันสั่นเล็กน้อย ด้วย ความกลัว ฉันกอดแพรวแบบไม่รู้ตัว บีบเค้น หน้าอกเธอแบบควบคุมตัวเองไม่ได้อีกแล้ว ปล่อยให้แพรวกระท�ำทุกอย่าง เหมือนผูช้ าย คนหนึง่ มีเซ็กส์กบั ฉันอย่างไรอย่างนัน้ เราถึง จุดหมายเกือบจะพร้อมกัน แบบที่ฉันไม่เคย เจอมาก่อน เธอสวมใส่เสือ้ ผ้าให้ฉนั อย่างเดิม แล้วเราก็นอนหลับไปพร้อมๆ กัน และตืน่ มา พร้อมๆ กันเหมือนไม่มอี ะไรเกิดขึน้ เพือ่ นๆ แยกย้ายกันกลับบ้าน ฉันก็แยกย้าย เราพูดคุย กันตามปกติ ฉันขับรถไปหากันต์แบบมึนๆ ด้วยความไม่แน่ใจว่าเรื่องคืนนั้นเกิดขึ้นจริง หรือฉันฝันไป สวัสดีไดอารี่ 29/8/56 กว่าจะชวนกันต์ไปงานแต่งพีทได้ แทบ ตาย ต้องคะยั้นคะยอสารพัด ฉันบอกไปว่า กันต์ควรไป ด้วยกันนะ จะได้เจอกันสักที พีท เองก็ฝากชวน แล้วกันต์ก็รู้จักเพื่อนของฉัน

เกือบทุกคน เข้ากันได้ค่อนข้างดีเสียด้วยซ�้ำ แม้แต่แพรว กันต์ก็คุยได้สนุก เหมือนเป็น เพื่อนของกันต์คนหนึ่งไปแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ เท่านั้นว่าแพรวเป็นพวกสาวรักสาว “ก็เขาไม่ใช่เพือ่ นผมนีจ่ นั ทร์ ผมไม่ไปก็ไม่ เห็นผิดเลย” “ไม่เอาน่ากันต์ ไหนบอกว่าเลิกคิดมาก เรื่องเรากับไอ้หมอแล้วไงล่ะ ไปเถอะนะ ที งานแต่งคนอื่นกันต์ยังไปกับจันทร์ได้เลย ไป เถอะนะกันต์ เค้าอยากควงแขนแฟนออกงาน นี่นา ไปเถอะนะ คนดี นะๆๆๆ” ฉันออด อ้อนกันต์สารพัด ด้วยความสัตย์จริง ฉันไม่ ได้คิดอะไรกับหมอแล้ว และด้วยความสัตย์ จริงอีกอย่าง คือฉันชอบเวลาออกงานกับ กันต์ทสี่ ดุ มันรูส้ กึ เหมือนกับว่าเราเป็นอันหนึง่ อันเดียวกันไปอีกขั้น ลึกๆ ฉันเองก็อยากให้ เขาเห็นเพือ่ นฉันหรือเพือ่ นเขาแต่งงานโดยมี ฉันอยู่ข้างๆ เผื่อบางทีเขาจะขอฉันแต่งงาน บ้าง แล้วสุดท้ายกันต์ก็ทนลูกอ้อนของฉัน ไม่ไหว เขาไปซื้อชุดกับฉัน ช่วยฉันเลือกชุด และให้ฉันช่วยเลือก เห็นไหมล่ะ ดีจะตาย ไป ได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้นไปอีก ในงาน วันนี้กันต์ดูหล่อกว่าทุกวัน ไม่ใช่แค่เรื่องของ เสื้อผ้าหน้าผมที่เขาดูจะใส่ใจเป็นพิเศษ แต่ เขาก็ใส่ใจฉันเป็นพิเศษเช่นกัน เรากลับมา


72 นิตยสารเรื่องสั้น

ถึงบ้าน แล้วกันต์ก็ไม่รอช้า เขาเมคเลิฟกับ ฉันแบบอ่อนโยนทีส่ ดุ ตัง้ แต่เราคบกันมาร่วม 2 ปี คืนนี้มีความสุขมากเลยไดอารี่ สวัสดีไดอารี่ 12/12/56 ช่วงนี้เป็นอะไรอีกแล้วก็ไม่รู้ หลับไม่ สนิทมาหลายคืนแล้ว ทั้งที่มานอนกับกันต์ ก็ยังฝันไม่ดี ฝันเหมือนจริงจนบางทีตื่นมาก็ เหนื่อยทั้งที่หลับ แต่รู้สึกเหมือนไม่ได้นอน ไม่ได้พักผ่อน มันเหนื่อยมากๆ เล่าให้กันต์ ฟังเหมือนทุกๆ ครั้ง กันต์ดูเป็นห่วงนะ แต่ ก็เหมือนเดิม ความรู้สึกเดิมๆ กันต์เหมือน เข้าใจ แต่ก็ไม่ได้เข้าใจทั้งหมด เอาเถอะ.. ก็ ยังดีกว่าเขาไม่ฟังเราเลย เราอยากนอนมาก ขนาดกินเหล้าจนเมา ยังนอนไม่หลับเลย บางทีกต็ นื่ กลางดึกเพราะฝันร้าย ยานอนหลับ ก็หมดเสียอีก เราบอกกันต์วา่ เราจะไปเอายา ทีพ่ ที ได้มยั้ ก็ตอ้ งอธิบายกันซ�ำ้ ๆ พูดจนกันต์ สบายใจแล้วก็ยอมให้โทรหาพีทแล้วนัดรับยา กัน วันที่นัดเจอพีท กันต์ก็ไปรับ ภรรยาของ พีทก็มาด้วย นั่งพูดคุยที่ร้านกาแฟกันเล็ก น้อยก่อนจะร�่ำลากัน เพราะภรรยาของพีท ต้องรีบไปท�ำธุระต่อ ดีใจที่ทุกอย่างผ่านไป ด้วยดีนะไดอารี่

วัสดีไดอารี่ 5/2/57 วันนี้ตื่นเต้น และก็ดีใจมากๆ จนอยาก จะบอกทุกคนบนโลก เป็นเย็นวันอาทิตย์ที่ ดีที่สุดในชีวิตของฉัน หลังจากกินข้าวเย็น ที่บ้านของพีทเสร็จ พ่อกับแม่กันต์ก็ไปนั่ง ดูทีวีกันแบบหลายครั้งที่ผ่านมา แม่ของ พีทก็ชวนฉันไปนั่งดูด้วยอย่างทุกครั้ง ขณะ ที่กันต์บอกว่าจะออกไปซื้อของแถวบ้านกับ แก๊กน้องชายของกันต์ ฉันอุ้มเฉาก๊วยแมว อ้วนลูกชายสุดที่รักของแก๊กมาลูบเล่นด้วย ความเคยชินบนเก้าอีโ้ ยก แล้วจูๆ ่ กันต์กเ็ ดิน มาแบบไม่ทนั ตัง้ ตัว นัง่ คุกเข่าต่อหน้าฉัน ต่อ หน้าพ่อแม่และน้องชายของเขา เขาก้มหน้า พูดด้วยน�้ำเสียงสั่น หน้าแดงแจ๋ “จันทร์ แต่งงานกับผมนะ” เขาเอื้อมมือ มาจับมือฉัน สวมแหวนเพชรวงเล็กๆ ที่นิ้ว นางข้างซ้ายของฉัน ฉันน�ำ้ ตาไหลไม่รตู้ วั เขา ก็เช่นกัน ฉันร้องไห้ไม่หยุดจนพูดไม่ออก ได้ แต่พยักหน้า ทุกคนในบ้านส่งเสียงเฮ พ่อของ กันต์แซวลัน่ บ้าน แก๊กเดินเข้ามาเรียกฉันว่าพี่ สะใภ้ ฉันตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก “แม่ลนุ้ ซะแทบแย่ เพราะถ้าจันทร์ไม่ตอบ ตกลง แม่กไ็ ปคุยเรือ่ งฤกษ์ทชี่ ดั เจนเห็นว่าฤกษ์ ดีๆ ทีเ่ หมาะกับลูกทัง้ สองน่าจะช่วงประมาณ


นิตยสารเรื่องสั้น 73

กลางปีหน้าโน่น หลวงปู่ท่านไม่ค่อยว่างเสีย ด้วย” แม่ของกันต์บ่นอุบอิบ ก่อนจะบอก ต่อว่าไม่ต้องห่วงเรื่องเรือนหอ พ่อกับแม่ซื้อ คอนโดฯ ไว้ให้กันต์ตั้งหลายปีแล้ว คอนโดฯ นั้นเป็นของฉันและกันต์หลังจากนี้ก็ตกแต่ง พร้อมเข้าอยู่ได้ตลอด ฉันตื่นเต้นมาก รีบ โทรบอกพ่อกับแม่ ฝัง่ บ้านฉันก็ตนื่ เต้นไม่เบา แม่รีบโทรหาแม่กันต์ คุยเรื่องฤกษ์งานแต่ง กันสนุกสนาน พวกเราเองยิง่ ตืน่ เต้นและดีใจ จนได้แต่ยิ้ม คืนนี้เราช่วยกันเลือกโรงแรมใน อินเตอร์เน็ต สลับกับเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่จะ ซื้อ วางแผนเรื่องค่าใช้จ่าย เรากอดกันเป็น สิบๆ ครั้ง แต่ยังรู้สึกไม่มากพอ เราจูบกัน เป็นสิบๆ ครั้งแต่ก็ยังรู้สึกว่ามันยังน้อยกว่า ความรักทีล่ น้ เอ่ออยูต่ อนนี้ กันต์อาบน�ำ้ เสร็จ และเผลอหลับไประหว่างทีฉ่ นั อาบน�ำ้ เขาคง เหนื่อยมากและหมดพลังทั้งหมดไปกับตอน ที่ขอฉันแต่งงาน ไดอารี่ที่รัก ฉันมีความสุขมาก 20/6/57 บอกตามตรงว่ามันเป็นช่วงเวลาทีเ่ หนือ่ ย ทีส่ ดุ จริงๆ เราทัง้ คูท่ ำ� งานกันสายตัวแทบขาด เวลาว่างก็หมดไปกับการแต่งบ้านไม่น้อย แม้วา่ เรือ่ งงานแต่งจะไม่ตอ้ งท�ำอะไรมากมาย

เพราะทั้งเพื่อนของกันต์และเพื่อนของฉัน ต่างก็อาสาดูแลเรือ่ งนัน้ เรือ่ งนีใ้ ห้เต็มไปหมด ฝ่ายกันต์เขาพร้อมเรื่องความบันเทิงทั้งหมด อยู่แล้ว ฝ่ายฉันก็เช่นกัน โปรดักชั่นงานแต่ง ของเราค่อนข้างราบรื่น ไม่ต้องลงทุนอะไร มากมาย ทัง้ สถานที่ วงดนตรี ค่าชุด ภาพถ่าย สารพัดที่คู่แต่งงานต้องหาเงินมากมายมา จ่ายเพือ่ ให้งานดีทสี่ ดุ แต่เราแทบไม่ตอ้ งจ่าย อะไรมากมาย เพราะทุกคนลดแลกแจกแถม สุดตัว เพือ่ เราทัง้ คู่ แต่เราก็ใช้จา่ ยเวลาให้กบั โปรดักชั่นไปไม่น้อย ทั้งลองชุด ตัดชุด ไหน จะในส่วนของการเริม่ หาของมาแต่งคอนโดฯ ห้องขนาดมโหฬาร ค่าใช้จ่ายหมดไปไม่น้อย งานของฉันก็หนักมากเช่นกัน ฉันยังต้องไป ต่างจังหวัดอยู่เรื่อยๆ กลับมาก็วุ่นกับเรื่อง งานแต่ง เรื่องห้องของเรา กลายเป็นว่าฉัน กับกันต์เจอกันบ่อยมากขึ้นก็จริง แต่เหมือน ว่าเราคุยกันน้อยลง แต่กไ็ ม่ได้เก็บมาคิดอะไร ขนาดนัน้ หรอกเพราะเราไม่วา่ งพอจะมาน้อยใจ เรือ่ งแบบนัน้ ยกเว้นแต่วา่ ฉันกลับมานอนไม่ หลับอีกแล้ว หลายวันก่อนฉันตามแพรวไป ดูดวง หมอดูทักว่าฉันมีดวงจะต้องแต่งงาน 2 ครั้ง ที่ผ่านมาฉันไม่เชื่อเรื่องหมอดูหรอก แต่ครั้งนี้ต้องยอมรับว่าฉันกลัวไม่น้อยเลย ไหนจะนอนไม่หลับเพราะโดนรบกวนด้วย


74 นิตยสารเรื่องสั้น

สัมผัสพิเศษ ไหนจะเหนื่อยเพราะต้องสร้าง ผลงานในช่วงประเมินผล ไหนจะเรือ่ งแต่งงาน ประเดประดังเข้ามา มันก็ต้องมีบ้างที่ท�ำให้ หวั่นไหวไปกับค�ำพูดหมอดู คืนนั้นแพรวไปกินเหล้าเป็นเพื่อน แพรว รับรูไ้ ด้วา่ ฉันเครียดมาก และฉันก็เล่าให้แพรว ฟังเรือ่ งความไม่สบายใจหลายอย่างก่อนหน้า นี้ เรื่องที่ไม่สามารถเล่าให้กันต์ฟังได้ ฉันเริ่ม เมาไม่ได้สติ แพรวโทร.บอกกันต์เรียบร้อย ให้ กันต์มารับเช้าวันรุ่งขึ้นดีกว่า ส่วนวันนี้แพรว จะดูแลให้ แพรวพาฉันกลับห้อง คืนนัน้ แก้วไม่ อยู่ แพรวประครองฉันไปที่เตียง จับฉันนอน แล้วค่อยๆ จูบฉัน ปลดกระดุมเดรสของฉัน ทีละเม็ดๆ จนหมดแล้วถอดมันออก ถอดเสือ้ และกางเกงชั้นในของฉันออก และถอดของ ตัวเองออกเช่นกัน เธอซุกไซ้ทวั่ ทัง้ ตัวของฉัน หยิบของในลิน้ ชักข้างเตียง สอดใส่มนั ฉันตก เป็นของแพรวอีกครั้ง ไดอารี่ฉันควรท�ำอย่างไร 2/9/57 ฉันยังคงนอนไม่หลับ ตัดสินใจเล่าให้กนั ต์ ฟังว่าโดนรบกวนอีกแล้ว กันต์เหมือนจะเข้าใจ เพราะเขาทักว่าฉันดูผอมลงมาก นึกว่าเหนือ่ ย เฉพาะเรื่องงานและงานแต่งของเรา เขาเพิ่ง

รู้ว่ามีเรื่องฝันไม่ดีของฉันมาอีก แถมตัดพ้อ ด้วยว่าให้บอกกันตรงๆ เขาเป็นห่วงว่าที่เจ้า สาวของเขามาก ฉันยิ่งรู้สึกผิดเข้าไปอีก ทั้ง เรือ่ งนี้ เรือ่ งทีไ่ ปดูดวงแล้วไม่บอกเขาอีก รวม ทัง้ เรือ่ งของแพรว ฉันตัดสินใจลืมทุกอย่างให้ หมด ไปท�ำบุญกับกันต์ หวังว่าทุกอย่างจะดี ขึ้น เพราะไม่ใช่ทุกเรื่องจะเล่ากันต์ได้หรอก ไดอารี่ที่รัก 12/9/57 สุดท้ายฉันก็ยังนอนไม่หลับอยู่ดี ฉัน พยายามท�ำให้ดูเหมือนว่าดีขึ้นต่อหน้ากันต์ กินอิ่มนอนหลับ ร่าเริงยิ้มแย้ม แต่ยิ่งแสดง เท่าไร ฉันก็เหนื่อยอ่อนจนแทบไม่มีแรงมาก เท่านัน้ ถึงจะดูเหมือนปกติ แต่รา่ งกายโกหก ใครไม่ได้ ฉันซูบผอมลงอย่างเห็นชัด หลาย ครัง้ ทีก่ นั ต์หลับไปแล้ว ฉันแอบร้องไห้เงียบๆ ในห้องน�้ำ ฉันไม่กล้าเล่าให้เขาฟัง ฉันรู้ว่า กันต์เองก็ดูออกว่าฉันก�ำลังแย่ การแก้ตัวว่า เหนือ่ ยเพราะโหมงานหนักก�ำลังจะไร้เหตุผล ลงทุกที ฉันรูส้ กึ ว่าต้องท�ำอะไรสักอย่าง ก่อน ที่ร่างกายจะแย่ไปมากกว่านี้ ร่างกายที่ขาด การพักผ่อนจนแทบไม่มีเรี่ยวแรง ฉันตัดสิน ใจโทรหาพีทอีกครัง้ เพราะยานอนหลับหมด ไปหลายสัปดาห์กอ่ นหน้า ตอนแรกพีทจะไม่


นิตยสารเรื่องสั้น 75

ยอมสัง่ ให้ แต่พอฉันเล่าหลายเรือ่ งให้ฟงั ด้วย เสียงเหนื่อยอ่อนพีทก็ใจอ่อนในที่สุด วันนั้นพีทไม่ได้มากับภรรยา เพราะเธอ ไปสัมมนาต่างจังหวัดกับบริษัท มันบังเอิญ ตรงกับวันที่กันต์เองก็ต้องไปงานคอนเสิร์ต ต่างจังหวัดกับค่ายเพลงของเขาพอดี ฉันบอก ไปว่าจะไปนอนที่บ้านตัวเอง ฉันก็ไม่รู้หรอก ว่าท�ำไมไม่บอกกันต์ไปตรงๆ ฉันอาจจะแค่ไม่ อยากให้เขาคิดมากไปกันใหญ่ หรือเหตุผลอะไร ก็ตาม สุดท้ายฉันไม่ได้บอกกันต์ เขาโทร.มา ถามไถ่ตามปกติตงั้ แต่หวั ค�ำ่ เพราะคืนนัน้ เขา คงปาร์ตี้ต่อจนดึก ไม่อยากให้ฉันอดนอนรอ โทรศัพท์จากเขา ฉันและพีทนัดกันร้านเหล้า แถวลาดพร้าว ระยะทางตรงกลางระหว่างบ้าน ฉันกับบ้านของพีท เรากินข้าว และพูดคุยกัน ถึงเรื่องราวของแต่ละคน ฉันเล่าเรื่องปัญหา เดิมของการนอนไม่หลับ และตื่นกลางครัน “ท�ำการบ้านกันมั่งหรือเปล่าเนี่ย” พีท พยายามจะแซวด้วยอารมณ์ของเพื่อนเก่า ทะลึ่งทะเล้นคนเดิม แต่เมื่อเห็นว่าครั้งนี้ฉัน ได้แต่นิ่งเงียบ ไม่ตอบโต้อย่างที่แล้วมา พีท เลยเงียบไปสักพัก “จันทร์คิดมากนั่นแหละ พีทว่าจันทร์ คงเครียดมาจนท�ำให้ร่างกายและจิตใจมัน ท�ำงานไม่ปกติ พีทเข้าใจแหละว่าช่วงงาน

แต่งมันวุน่ วายแบบนีแ้ หละ มีเรือ่ งให้คดิ มาก มาย แต่ทกุ อย่างมันจะผ่านไปด้วยดี จันทร์กบั กันต์รกั กัน ทุกอย่างมันคือสิง่ ดีนะ จ�ำไว้” พีท พูดปลอบใจ ฉันได้แต่ยมิ้ แล้วเอาแต่จบิ เบียร์ เราคุยกันไปสักพัก พีทคงเห็นว่าฉันเริ่มเมา มากแล้ว ฉันเองก็รู้ตัวว่าก�ำลังมึนจวนจะไม่ ได้สติ เพราะเบียร์หมดไปไม่รู้กี่ขวดแล้ว เขา อาสาไปส่งบ้าน เพราะฉันไม่ได้เอารถมา ฉัน ตอบตกลง เราเดินกันไปถึงรถของพีทโดยมี เขาคอยประคองอยู่ห่างๆ แบบทุลักทุเล ฉัน เข้าไปนั่งแบบทรงตัวไม่ค่อยอยู่ จนเขาต้อง โน้มมาคาดเข็มขัดให้ “เราไม่ได้มานั่งร้านนี้ด้วยกันมานานมาก แล้วเนอะ ตั้งแต่เราเลิกกัน” ฉันพลั้งปาก ออกไประหว่างทีเ่ ขาคาดเข็มขัดนิรภัยให้ ฉัน จับแก้มทั้ง 2 ข้างของเขา เรามองตากัน “หมอ ถ้าวันนั้นหมอไม่บอกเลิกจันทร์ วันนี้เราจะยังรักกันมั้ย” ฉันถามพีท ก่อนจะ จูบเขา เขาไม่ตอบอะไรเลย แล้วขับรถออก ไปเงียบๆ ฉันร้องไห้ออกมาเพราะรู้สึกผิด ก่อนจะพูดออกมาแบบคนบ้า “หมอเราไปที่อื่นต่อได้มั้ยคืนนี้” พีทไม่ ตอบอะไรสักค�ำ ฉันเอนตัวลงมานอนเงียบๆ น�ำ้ ตายังไหลออกมารูส้ กึ รังเกียจ ขยะแขยงตัว เองมากยิ่งขึ้น นั่งเหม่อลอยไม่ได้สติ รู้ตัวอีก


76 นิตยสารเรื่องสั้น

ทีถึงได้รู้ว่าพีทขับรถมาที่โรงแรม เขาจอดรถ แล้วเดินมาเปิดประตูให้ ปลดเข็มขัดก่อนจะ ประครองฉันทีเ่ ดินเซไปเซมา ลมหายใจเหม็น คลุ้งไปด้วยกลิ่นเบียร์ เขาให้ฉันนั่งเก้าอี้ด้าน หลังโรงแรม ก่อนจะเดินไปเช็คอินแล้วกลับ มาประคองฉันตรงไปที่ลิฟต์ ประคองออก มาแล้วเดินตรงไปเปิดห้อง ตรงไปทีเ่ ตียง เขา ค่อยๆ จัดท่าทางให้ฉันนอนอย่างแผ่วเบา “นอนซะจันทร์ พรุ่งนี้เช้าพีทไปส่งที่คอน โดฯ ของจันทร์เอง” เขาพูดจบก็เดินไปปิดห้อง เตรียมจะนอนทีโ่ ซฟาทีต่ งั้ อยูข่ า้ งๆ เตียง ฉัน ถอดเสือ้ แจ็กเก็ตทีส่ วมทับเดรสสายเดีย่ วออก เดินเซไปหาเขา น�้ำตาหยุดไหลแล้ว ฉันขึ้น ไปนั่งคร่อมพีท เขามองมาที่ฉัน “จันทร์ไปนอนเถอะ” “ถ้าพีทไม่คดิ อะไรกับจันทร์ แล้วพาจันทร์ มาโรงแรมท�ำไม โทรตามแพรวให้มารับก็ได้ นี่” พีทไม่ตอบ ฉันถอดเดรสออกเหลือแค่ ชุดชั้นใน ฉันเอนตัวลงไปหาพีทถอดเสื้อ ยืดของเขาออก ปลดกระดุมกางเกง รูดซิป ลงและถอดกางเกงออก มือของฉันจับไปที่ เป้าของเขา “พีทตอบสิ” ฉันจูบปากเขาสอดลิ้นลงไป จูบดูดดื่ม ก่อนจะไซ้ซอกคอ และเลียอย่าง ระวังไม่ให้เกิดรอย

“วันนั้นพีทไม่ตั้งใจจะบอกเลิกจันทร์ พีท แค่โมโห” เขาปลดตะขอเสื้อในของฉัน ถอด กางเกงชัน้ ในออก สัมผัสทุกส่วนของร่างกาย ฉัน เราสัมผัสกันรุนแรงมากขึ้น ราวกับว่า เราโหยหาสิ่งนี้มานาน ช่วงเวลาที่หายไป ร่วม 10 ปี กลับมาอีกครั้ง ทุกสัมผัสเหมือน ชดเชยเวลาที่หายไป เราส่งเสียงร้องเรียกชื่อ ของกันและกัน ทุกจังหวะที่สอดประสานกัน มันเข้ากันดีอย่างที่ไม่เกิดขึ้นมาเนิ่นนาน เรา กอดรัดแนบชิดกันตลอดเวลา ภาพวันเก่าๆ ผุดขึ้นมาในหัวไม่หยุด ยิ่งคิดถึงยิ่งเข้าหาเขา ไม่หยุด ยิง่ คิดถึงก็ยงิ่ สัมผัส เป็นจูบทีฉ่ นั ตาม หามานานเหลือเกิน เรามีอะไรกันทั้งคืน แต่ ก็ยังรู้สึกไม่มากพอ ยังต้องการไม่สิ้นสุด ต่าง ฝ่ายต่างมองหน้ากัน ละทิ้งความถูกต้องไว้ ข้างนอกประตู เนื้อตัวเต็มไปด้วยกลิ่นกาย ของอีกฝ่าย เหงือ่ ทีเ่ ปียกชืน้ สัมผัสของนิว้ อยู่ ทัว่ ทัง้ ร่างกาย ความผิดบาปโอบกอดเราทัง้ คู่ 1/10/57 เสียงกระซิบนอกสมุดบันทึก หลังจากวันที่นัดเจอกันกับพีทครั้งล่าสุด ฤทธิข์ องยานอนหลับท�ำให้แต่ละค�ำ่ คืนผ่านไป ง่ายขึน้ ทัง้ เรือ่ งทีส่ ะสมก่อนหน้านัน้ และเรือ่ ง ราวผิดบาปซ�้ำแล้วซ�้ำเล่า ฉันดูจะมีเรี่ยวแรง


นิตยสารเรื่องสั้น 77

ขึ้นบ้างจากการที่ได้พักผ่อนเต็มที่ในช่วงสุด สัปดาห์ติดๆ กันหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ ในใจยังคงสับสน ความคิดแตกกระจายไป คนละทิศคนละทาง นึกถึงค�ำพูดของหมอดูขนึ้ มาครั้งใด ฉันได้แต่พยายามปล่อยวาง หาก ฉันจะต้องแต่งงานถึง 2 ครั้ง นั่นหมายความ ว่าฉันอาจจะต้องเลิกกับกันต์จริงๆ และเรือ่ ง ราวช่วงไม่นานมานีก้ ย็ งิ่ ท�ำให้ฉนั รูส้ กึ กลัวมาก ขึ้นทุกที กลัวจนท�ำได้แค่ปล่อยมันไปถ้าจะ เกิดอะไรไม่ดีจริงๆ “จั น ทร์ มี เรื่ อ งไม่ ส บายใจอะไรท� ำ ไม ไม่บอกผม จันทร์เห็นสภาพตัวเองบ้างมั้ย ซูบและดูเหมือนคนไม่มีแรง” กันต์เริ่มบทสนทนาหลังกินข้าวเย็นใน คืนนี้ ขณะทีฉ่ นั จิบเบียร์ไม่รกู้ ขี่ วดต่อกีข่ วด แต่ ข้าวในจานแทบไม่พร่องลงเลย ฉันพยายาม อธิบายว่าฉันเหนื่อยเรื่องงานมาก อ้างเรื่อง การประเมินผลงานปลายปีที่ก�ำลังจะมา ถึง การเลื่อนต�ำแหน่งในที่ท�ำงาน ขอโทษที่ ท�ำให้เขาเป็นห่วง ฉันเดินเข้าไปกอดเขา ขอ ให้เขาลูบหัวให้ ฉันได้แต่ซุกหน้าตัวเองไปที่ อกของเขา น�้ำตาซึมออกมาเล็กน้อย กันต์ พยายามจะเล้าโลมฉัน แต่ร่างกายฉันแทบ ไม่ตอบสนองความรู้สึกนั้น ก่อนที่จะขอตัว ไปอาบน�ำ้ แล้วเข้านอน เพราะรูส้ กึ เหนือ่ ยล้า

จนแทบสิ้นพลัง กันต์รู้ดีว่าฉันไม่เหมือนเดิม หลังอาบน�ำ้ เสร็จ เขาเข้ามานัง่ ข้างๆ เตียงฝัง่ ที่ฉันนอน ลูบผมฉันอย่างแผ่วเบา ถามเรื่อง ยานอนหลับบนหัวเตียง “จันทร์ไม่ได้กินใช่มั้ย ผมจ�ำได้ว่าจันทร์ บอกว่าหมอห้ามกินยานอนหลับเวลาเมา” ฉันบอกไปว่าไม่ได้กิน เขาปลอบประโลมฉัน ต่อ ชืน่ ชมและให้กำ� ลังใจฉันเรือ่ งงาน สลับกับ ชวนคุยเรือ่ งเฟอร์นเิ จอร์แต่งห้องทีย่ งั ขาดอยู่ ในใจฉันยิง่ จมดิง่ ลงไปในหลุมความเศร้า เห็น ตัวเองเป็นผูห้ ญิงแพศยาทีไ่ ม่สมควรได้รบั การ ให้อภัยแม้แต่นอ้ ย เห็นตัวเองทีห่ มดค่าลงไป ทุกที ฉันไม่มีค่าพอที่จะแต่งงานกับเขา ฉันเผลอหลับไปเกือบชัว่ โมง มองไปข้างๆ เตียงไม่มีใครนอนอยู่ ประตูห้องนอนแง้มไว้ เล็กน้อย แสงสว่างจากห้องรับแขกลอดผ่าน มาพอให้มองเห็นทั้งห้องนอนอย่างสลัว ฉัน ค่อยๆ เดินไป แอบมองกันต์จากตรงนี้ ได้ กลิ่นควันที่ไม่ใช่บุหรี่ ซึ่งถ้าเป็นทุกครั้งฉันคง ออกไปห้ามเขา เพราะฉันไม่ชอบให้มาสูบ มันในห้องอย่างนี้ แต่ครั้งนี้ฉันปล่อยให้เขา สูบมัน เหมือนกับว่ามันจะเป็นการชดเชยกับ ความชัว่ ของฉันได้บา้ ง เป็นการหลอกตัวเอง ที่เลวร้ายที่สุดที่ใครคนหนึ่งจะท�ำได้ ฉันเห็น



นิตยสารเรื่องสั้น 79

กันต์กินเบียร์ แล้วก้มหน้าก้มตาอ่านหนังสือ

อะไรบางอย่าง หากเป็นทุกครั้งฉันคงเดินไป กระเซ้าเย้าแหย่ว่าที่สามีคนนี้จนเขาไม่เป็น อันได้อ่านหนังสือ และอาจจบลงบนเตียง นอนแทน แต่สำ� หรับคืนนีฉ้ นั ไม่มกี ะจิตกะใจ จะท�ำอะไรแบบนัน้ ได้แล้ว ไม่ใช่ฉนั รังเกียจเขา ฉันรังเกียจตัวเองต่างหาก ฉันเดินย่องกลับ มานอนที่เดิม ฉันนอนต่ออีกนานแค่ไหน ไม่รู้ได้ แต่รู้สึกเหมือนกับว่ากันต์เดินเข้ามา ในห้องแล้ว เขาคงง่วงมากแล้ว กันต์เดินมา หยิบหมอนทีห่ ล่นข้างเตียงขึน้ วางไว้บนเตียง อย่างเดิม เขากระซิบข้างหูฉัน “จันทร์ผมรักคุณมาก ไม่เคยคิดมาก่อน เลยว่าคนอย่างผมจะรักใครได้มากมายขนาด นี้ ผมยอมอุทิศทุกอย่างให้คุณ รักคุณเหลือ เกินจันทร์ของผม” ฉันอยากกอดเขาให้แน่น ทีส่ ดุ เท่าทีจ่ ะแน่นได้ ฉันเกลียดตัวเองในตอน นี้จนไม่อยากจะหายใจ ฉันไม่กล้ากอดเขา ท�ำได้แค่แกล้งหลับอย่างนี้ “กันต์เอาหมอนกดหน้าจันทร์ทำ� ไม จันทร์ หายใจไม่ออก!”



บทความ

จากเธอถึงฉัน ถึงนครพนม เรื่อง และภาพโดย ดา อุดรวงศ์


82 นิตยสารเรื่องสั้น

รอรถไปที่สถานีรถไฟหัวโพง


นิตยสารเรื่องสั้น 83

วันนั้นท้องฟ้าสวยกว่าปกติ ก้อนเมฆหนานุ่มสีขาว ท้องฟ้าสีฟ้านวล ตัดกับต้นไม้และทุง่ นาสีเขียวสดใสหลังน�ำ้ ฝน ชะฝุ่นออกไป ใครคนหนึ่งพูดถึง นครพนม ออกพรรษา และเมืองท่าแขก ท�ำให้ฉนั นึกถึง บทสนทนาเมื่อไม่นานนี้กับเธอ เขาว่าต่อไปนครพนมจะเป็นเมืองท่องเทีย่ ว เหมือนเชียงคาน’ ฉันฟังเธอพูดหมายมั่นว่า จะไปเยือนนครพนมสักครั้ง เราทั้งคู่ใช้ชีวิต วัยเด็กในจังหวัดหนึ่งของภาคอีสาน แต่ชื่อ นครพนม ดูจะไม่คนุ้ ใจเรานักราวกับว่าไม่เคย ได้ยนิ มาก่อน สงสัยว่าทีน่ นั่ มีอะไรดี วันนีเ้ ธอ ไม่อยู่ ฉันจึงต้องออกเดินทางคนเดียว ขาดคน ทีร่ ดู้ ที ำ� ให้การเดินทางของฉันครัง้ นีเ้ คว้งคว้าง เกือบหลงทาง และไม่รู้ว่ามาท�ำอะไรที่นี่กัน แน่ แต่ด้วยตัวคนเดียวฉันพยายามค้นหาว่า สิ่งที่เธอพูดถึงและอยากมาเห็นนั้นคืออะไร


84 นิตยสารเรื่องสั้น

หัวล�ำโพง – อุดรธานี เดินทางโดยรถไฟ เป็นทางเลือกแรกที่ โผล่เข้ามาในความคิด ฉันเคยเดินทางด้วย รถไฟมาหลายครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ไป คนเดียว ฉันเลือกรถไฟตู้นอน รถไฟควรมา ตามนัดเมื่อเวลาสองทุ่ม ฉันไม่ได้หงุดหงิด หรือประหลาดใจอันใดเมือ่ รถเลือ่ นเวลาออก ล่าช้าไปเป็นสามทุ่ม เวลากว่าสองชั่วโมงที่ เหลือฉันเดินแกร่วไปทั่วหัวล�ำโพง สะพาย กระเป๋าที่อัดของมาจนอ้วน มือถือส้มหนึ่ง ลูก นั่งแอบมองคนโน้นคนนี้ แกะส้มกินเป็น ข้าวเย็น ก็ได้เวลารถไฟมาพอดี รถไฟนอนไม่ได้นา่ กลัวอย่างทีค่ ดิ แม้จะเป็น ผูห้ ญิงเดินทางคนเดียว เพราะมีตแู้ ยกส�ำหรับ ผูห้ ญิงและเด็ก แต่เผอิญเหลือแต่ตรู้ วมฉันจึง ได้มานอนท่ามกลางแก๊งคุณพี่ช่างภาพหนุ่ม ได้ทกั ทายกันบ้าง ก็ได้ความว่าก�ำลังเดินทาง ไปเชียงคาน เตียงของฉันเป็นเตียงบน ตอน ซื้อตั๋วคิดเอาเองว่าเตียงบนคงปลอดภัยกว่า ทักษะปีนป่ายฉันพอใช้ได้อยูแ่ ล้ว นอนบนทีส่ งู ย่อมไม่มปี ญ ั หา คืนนัน้ ฉันหลับอย่างง่ายดาย เตียงนอนโยกคลอนไปมาเหมือนอยู่บนเปล

มีเบาะนุม่ ๆ รองหลัง ไม่ครนากับเสียงรถจักร และไฟนีออน เพราะมีเอียร์ปลั๊กกับที่ปิดตา นึกกระหยิ่มในใจว่าเรานี่ช่างเตรียมพร้อม จริงๆ ก่อนนอนก็ล้วงเอาแอปเปิ้ลที่แม่ให้ มา กัดกินแก้หวิ แล้วดืม่ น�ำ้ ล้างปากก่อนนอน หลับไปแผล็บเดียวเท่านัน้ (เก้าชัว่ โมง) พอตืน่ อีกทีเวลาหกโมงเช้า ฉันก็มาถึงอุดรธานีแล้ว รถไฟสายตะวันออกเฉียงเหนือ มีสถานี ปลายทางสองสายคือ ปลายทางตอนล่าง และ ปลายทางตอนบน โดยวิ่งตามเส้นทางรถไฟ สายเหนือ ก่อนทีส่ ายปลายทางตอนล่าง จะมา แยกทีส่ ถานีรถไฟชุมทางบ้านภาชี ผ่าน จังหวัด สระบุรี นครราชสีมา บุรรี มั ย์ สุรนิ ทร์ ศรีสะเกษ สุดปลายทางทีส่ ถานีรถไฟอุบลราชธานี และสาย ปลายทางตอนบน จะมาแยกที่สถานีรถไฟ ชุมทางถนนจิระ จังหวัดนครราชสีมา ผ่าน จังหวัดขอนแก่น อุดรธานี และสุดปลาย ทางที่หนองคาย จากหนองคายมีรถไฟต่อ ไปยังลาวได้


นิตยสารเรื่องสั้น 85

ข้อควรระวัง

เมือ่ โดยสารรถไฟตูน้ อนคือ อย่านอนเพลิน ดีหน่อยถ้าโดยสารไปสุด สาย อย่างอุบลราชธานีหรือหนองคาย หลับอย่างไรก็ไม่เลยสถานีที่ จะลง แต่หากลงสถานีระหว่างทางก็ต้องกะเวลาเอา จากเวลาบนตั๋ว บวกเข้าไปอีกสักชัว่ โมงจึงจะได้เวลาจริง ฉันตืน่ สายกว่าเวลาถึงทีร่ ะบุ บนตัว๋ นึกว่ารถไฟเลยสถานีอดุ รธานีมาแล้ว แต่นงั่ ไปอีกพักใหญ่จงึ ถึง

ลงจากรถไฟด้วยอาการของคนเพิง่ ตืน่ นอน ยังไม่ทนั คิดว่าจะเอาอย่างไรต่อ เข้าห้องน�ำ้ ก่อน หรือกินข้าวก่อนดี ระหว่างเดินไปเมียงมองนอก สถานี คุณลุงสามล้อก็สะกิดถามว่าจะไปไหน ตอบไปว่าจะต่อรถไปนครพนม เดินจากนีไ่ ป ไกลไหม แน่ละ่ ลุงตอบว่าไกล ไปสามล้อดีกว่า ฉันปีนขึ้นสามล้อ ลุงขับตรงจากสถานีรถไฟ ไปประมาณห้าร้อยเมตร เลีย้ วซ้าย เลีย้ วขวา ก็มาถึงสถานีขนส่งแล้ว จ่ายลุงไปสี่สิบบาท ทั้งเซ็งทั้งข�ำ แต่เอาเถอะ ถึงเดินมาเองฉันก็ ไม่รู้ทางอยู่ดี แถมลุงยังมาส่งให้ถึง ‘รถ’ ที่ไป นครพนม แตะมือกับนายท่ารถทัวร์ให้รบั ฉัน ขึ้นรถต่อ จ่ายค่ารถไป 150 บาท นึกในใจว่า ราคาเท่านีค้ งการเดินทางคงไม่ไกลหรือนาน นัก ฉันเก็บตั๋วใส่กระเป๋าแล้วถามนายท่าว่า “ไปนครพนมใช้เวลาประมาณกีช่ วั่ โมงคะ” นายท่าท�ำท่านึกแล้วตอบอย่างไม่แน่ใจว่า

“ห้าชั่วโมง” “โอ้!” ฉันอุทานเสียงดังอย่างลืมตัว “นานเนาะพี่!” เสียงยังคงดังอยู่ และเชื่อ เถอะ ฉันนับจากหน้าปัดนาฬิกาแล้ว ไม่ใช่หา้ ชั่วโมงแน่นอน ตลอดการเดินทางฉันหลับๆ ตื่นๆ ไม่รับรู้ทั้งความหิว ความเมื่อยล้า "จังหวัดแถบนี้ อุดรธานี, สกลนคร, นครพนม, หนองคาย มีระบบขนส่งยอดนิยม เป็น ‘รถสามล้อ’ บ้างก็เหมา (มักเป็นนักท่อง เทีย่ วหรือคนทีห่ ลงมาอย่างฉัน) บ้างก็โดยสาร ไปด้วยกัน ราคาพอๆ กับตุ๊กตุ๊กในกรุงเทพฯ ขึ้นอยู่กันการต่อรองราคาของเรา เมื่อมาใน ฐานะนักท่องเที่ยวฉันก็ระแวงว่าอาจจะโดน โก่งราคาอย่างช่วยไม่ได้จึงต้องมีทักษะการ ต่อรองที่ต้องใช้ทั้งไหวพริบ ความเร็วและ ความหน้ามึนไปพร้อมๆ กัน


86 นิตยสารเรื่องสั้น

รถสามล้อที่นิยมใช้ในแถบภาคอีสาน


นิตยสารเรื่องสั้น 87

อุดรธานี – นครพนม

ถึงสถานีขนส่งอ�ำเภอเมืองนครพนม ฉัน เดินเลีย่ งเหล่าคนขับสามล้อทีเ่ ดินดักหน้าดัก หลังออกไปข้างนอก แล้วนึกขึน้ ได้วา่ กูไม่รทู้ าง นี่หว่า จึงเดินย้อนกลับไป เลือกเดินไป หาคนขับทีด่ เู ป็นมิตรทีส่ ดุ เป็นผูช้ ายวัยไล่เลีย่ กัน เมื่อต่อรองราคาไปริมฝั่งโขงได้ 50 บาท จึงปีนขึ้นรถสามล้อ คุยกับพี่คนขับว่าก�ำลัง หาที่พัก ช่วยแนะน�ำที “เอาราคาถูกหรือแพงล่ะ” เขาถามด้วย ส�ำเนียงไทยกระท่อนกระแท่น ฉันหัวเราะ ร่วน บอกเขาว่า ราคาถูกสิพี่ ไม่มีตังค์เยอะ หรอก จากนัน้ เขาจึงแนะน�ำมาเป็นฉากๆ พา แวะสอบถามราคาทีพ่ กั จนได้ทที่ ถี่ กู ใจทัง้ ราคา และคุณ(ส)ภาพ ลงจากรถจ่ายให้ 50 บาท ไม่รู้ ว่าโดนโก่งราคาหรือไม่ แต่พคี่ นขับใจดีพาหา ที่พัก ก็คิดเสียว่าตอบแทนน�้ำใจเขาแล้วกัน ถึง อ.เมืองนครพนม เวลาบ่ายคล้อย เมื่อได้ ที่พักแล้ว ฉันจัดการเก็บสัมภาระแล้วออก เดินส�ำรวจเมือง เดินจากที่พักไปไม่ไกลก็ถึง ริมฝัง่ โขง ยามเย็นอากาศร้อนอบอ้าวก�ำลังถูก ความเย็นไล่หนี ฉันเดินบนทางเดินริมฝั่งโขง

ที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างดี ความกว้างกะจาก สายตาประมาณ 4 เมตร ถัดไปเป็นขั้นบันได ลดหลัน่ ลงไป ใช้เป็นทัง้ ลานกิจกรรมหรือเดิน รับลมชมวิว มีเลนถนนสีเขียวส�ำหรับปั่น จักรยาน เวลาหมดแดดบ่าย มีชาวบ้านใน ละแวก คนหนุม่ สาว เด็กชายหญิง มาเดินเล่น กันคึกคัก มีรา้ นรถเข็นขายอาหารและเครือ่ ง ดื่มคอยดักคนหิวอยู่ริมฟุตปาธ ฉันเดินตรง ไปที่ร้านขายน�้ำจ�ำพวกกาแฟเย็น, ชาเย็น, น�้ำผลไม้ปั่น แล้วสั่งเครื่องดื่มประจ�ำตัว “เอาชาเย็นค่ะพี่” ขณะรอ ฉันรื้อถุงผ้า (ที่เอามาเป็นเดย์แพ็ค) แก้เขินตามความ เคยชิน และเห็นว่าของส�ำคัญที่ควรอยู่ใน กระเป๋า ไม่อยู่ในกระเป๋า เหมือนได้ยินเสียง วี้ดตู้มในหู ฉันพยายามเขย่งเท้าให้ใบหน้า เลยบาร์รา้ นน�ำ้ พยายามบอกพีค่ นขายน�ำ้ ว่า เดี๋ยวหนูมา แล้ววิ่งกลับที่พัก ค้นหากระเป๋า เงินอย่างรีบร้อน วิง่ กลับมาทีร่ า้ นน�ำ้ พยายาม สะกดอาการกระหืดหระหอบค่อยจ่ายเงิน แล้วรับชาเย็นมา เดินไปอีกหน่อย เป็นลานกิจกรรม มี


สองพี่น้องนั่งระบายสีตุ๊ตาปูนปล


ลาสเตอร์ที่ถนนคนเดินริมฝั่งโขง อ.เมืองนครพนม

นิตยสารเรื่องสั้น 89

ป้ายบอกชื่อว่า ‘ลานกันเกรา’ วันนี้เป็น วันศุกร์ มีถนนคนเดินพอดี ที่ลานกันเกรามี บ้านลมสีสดหนึ่งหลังตั้งอยู่ ด้านหน้ามีร้าน ระบายสีตกุ๊ ตาปูนปลาสเตอร์ โต๊ะเก้าอีเ้ ตีย้ ๆ ตั้งเป็นแถวแต่คนยังบางตา ฉันนั่งดื่มชาเย็น แอบมองพีช่ ายวัยรุน่ กับน้องสาววัยประถมนัง่ ระบายสีดว้ ยกัน เป็นบรรยากาศทีอ่ อ่ นละมุน อย่างเหลือเชือ่ ส�ำหรับฉันความสัมพันธ์ทเี่ ข้ม แข็งและอ่อนโยนยิ่งกว่าคู่รักคงเป็นสายใย ระหว่างพี่น้อง ต่อไปพี่น้องคู่นั้นจะไม่เพียง แบ่งปันกันระบายสีตุ๊กตาปูนปลาสเตอร์ แต่ เป็นความทรงจ�ำ เรื่องเลวร้าย ความคิดและ ความฝัน ฉันหวังว่าทั้งคู่จะเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน ชาเย็นเริม่ ละลายและรสจืดชืด ฉันเดินหา ถังขยะ ได้ยินเสียงจากเครื่องกระจายเสียง ประชาสัมพันธ์ล่องเรือชมสองฝั่งโขง เสียง โฆษกกล่าวว่า “เที่ยวล่ะ 50 บาทเท่านั้น” เรียกความ สนใจฉันได้อย่างดี ยืนฟังโฆษกหว่านล้อม อยู่ริมฝั่งไม่นานก็เดินลงเรือไปกับเขา เป็น เรือครุยส์สองชั้นขนาดเล็ก ชั้นสองเปิดโล่ง ให้นักท่องเที่ยวรับลม ฉันเห็นว่าชั้นสองคน คงเต็มแล้วจึงเอ่ยขอรวมโต๊ะกับผู้หญิงคน


90 นิตยสารเรื่องสั้น

หนึ่งที่อาจจะมาคนเดียว “ไม่ขนึ้ ไปฉันสองล่ะคะ จะได้ถา่ ยรูป” เธอ เอ่ยเมื่อเห็นกล้องที่คล้องคอฉันอยู่ ฉันจึง ขึ้นไปชั้นสองตามค�ำแนะน�ำ มีนักท่องเที่ยว จับจองที่นั่งไว้เกือบหมดแล้ว เดินไปจนถึง หัวเรือจึงได้เก้าอี้นั่งจากแก๊งคุณพี่สาวสาม คนตรงนั้น เรือล่องเลียบแม่น�้ำโขงฝั่งไทย ไปเรื่อยเอื่อย โฆษกคนเดิมบรรยายไม่หยุด แนะน�ำเกี่ยวกับนครพนมพร้อมกับพูดแซว ทั้งคนบนเรือและบนฝั่ง “…พระธาตุพนมนัน้ อยูห่ า่ งจากนครพนม ไปทางทิศใต้ 12 กิโลเมตร ท่านทีเ่ กิดวันจันทร์ พระธาตุเรณูนคร อยู่อ�ำเภอเรณูนคร หรือ เมืองเว ของชาวผู้ไทย อยู่ห่างจากนครพนม ไป 52 กิโลเมตร ท่านทีเ่ กิดวันอังคาร พระธาตุ ครีคณ ุ อ�ำเภอนาแก อยูห่ า่ งจากนครพนมไป 67 กิโล…หวัดดีครับเฮียต๋อย เฮียต๋อย เพือ่ น เฮียต๋อยไปไหนครับ เพื่อนเลิฟไปไหนล่ะ ที่ เดินด้วยกันบ่อยๆ (หัวเราะ) …ท่านทีเ่ กิดวัน จันทร์ พระธาตุเรณูนคร…” ฉันเกิดวันพฤหัส รอฟังพระธาตุประจ�ำ วันเกิดตัวเองอยู่นานกว่าจะถึงคิว เพราะลุง โฆษกแวะข้างทางบ่อยเหลือเกิน เรือแล่น เลียบฝั่งไทยไปประมาณ 5 กิโลเมตร แล้ว เลี้ยวข้ามไปแล่นเลียบริมฝั่งลาว ยิ่งฟ้ามืดก็

ยิง่ เห็นความแตกต่างระหว่างฝัง่ ไทยและลาว ข้ามจากอ�ำเภอเมืองนครพนม ที่ฝั่งลาวคือ ‘เมืองท่าแขก’ ดูเงียบสงบ มีต้นไม้ใหญ่เยอะ มีชมุ ชน โรงแรม ทีพ่ กั แต่บรรยากาศเงียบเหงา กว่ามาก หากเป็นในวันออกพรรษา ทั้งสอง ฝั่งไทย - ลาวจะคึกคักเป็นพิเศษ คนลาวจะ ข้ามมาฝัง่ ไทย คนไทยจะข้ามไปเทีย่ วฝัง่ ลาว เข้าออกกันอย่างเสรี คนไทย คนลาว เรือเข้าเทียบฝั่ง ใช้เวลาไปทั้งหมดชั่วโมง ครึง่ ก่อนไปฟ้าสลัว พอกลับมาฟ้ามืดเสียแล้ว ฉันเดินตรงไปที่ถนนคนเดินเพื่อหาข้าวเย็น กินผ่านร้านระบายสีปูนปาสเตอร์ยังเปิดอยู่ ก็ปักหมุดไว้ในใจว่าจะแวะมา แต่พอกินข้าว เสร็จ กลับมาอีกทีร้านเก็บเสียแล้ว ถนนคน เดินทีน่ บี่ รรยากาศไม่คกึ คักมาก ร้านรวงขาย ของเลียบถนนไปเป็นระยะสัน้ ๆ ไม่มนี กั ท่อง เทีย่ ว ทีเ่ ดินไปมาเห็นจะเป็นคนในละแวกนัน้ ประมาณสองทุม่ ตลาดก็วายแล้ว ฉันซือ้ แตงโม หนึง่ ถุงไว้กนิ กันหิวยามดึก แล้วเดินกลับทีพ่ กั


นิตยสารเรื่องสั้น 91

งานแข่งเรือยาวประจ�ำปี ที่อ.ธาตุพนม


92 นิตยสารเรื่องสั้น

นครพนม – อ�ำเภอธาตุพนม ดูทา่ เตียงนอนจะอุดมไปด้วยฝุน่ คันยุบยิบ จนนอนแทบไม่หลับ นอนดมฝุน่ ทัง้ คืน เช้านี้ จึงตื่นมาพร้อมอาการเจ็บคอ จากที่คิดว่าจะ อยูต่ อ่ อีกสักคืนและส�ำรวจทีน่ ใี่ ห้ละเอียดอีก สักวันก็เปลี่ยนแผนไปอ�ำเภอธาตุพนมแทน อ�ำเภอธาตุพนม เป็นเหมือนทองค�ำ ของจังหวัดนครพนม มี ‘พระธาตุพนม’ คู่ บ้านคู่เมืองประดิษฐานอยู่ เป็นพุทธเจดีย์ พระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนพระอุระ) ของ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีสณ ั ฐานรูปทรง สีเ่ หลีย่ ม สูงจากพืน้ ดิน 43 เมตร ฉัตรทองค�ำ

สูง 4 เมตร ตามต�ำนานพระธาตุพนมกล่าวว่า องค์พระธาตุพนมเริ่มสร้างใน พ.ศ. 8 ในยุค สมัยที่อาณาจักรโคตรบูรเจริญรุ่งเรือง ออกจากที่พัก ฉันเดินริมฝั่งโขงไปให้ไกล กว่าเมื่อวาน เทียบกับฝั่งโขงที่เคยไปอย่าง ตลาดอินโดจีน จังหวัดมุกดาหาร ทีน่ รี่ นื่ รมณ์ กว่าหลายเท่า นอกจากฟุตปาธกว้าง มีที่กั้น ปลอดภัย ยังมีตน้ ไม้ใหญ่ให้รม่ เงาตลอดทาง ไม่ใช่แค่ริมฝั่งโขงนี้เท่านั้น แต่ถนนเส้นอื่น เท่าที่เดินไปถึงก็มีต้นไม้ใหญ่เช่นกัน แสดง ถึงความใส่ใจและเห็นคุณค่าของธรรมชาติ


นิตยสารเรื่องสั้น 93

หากต้องการที่ร่มเราจะสร้างหลังคา หรือสิ่ง ก่อสร้างอื่นๆ ก็ย่อมได้ แต่หากอยากได้ร่ม เงาและอากาศบริสุทธิ์จากต้นไม้ เราต้องรอ รอให้ต้นไม้เติบโตเพื่อแผ่ร่มเงา ริมถนนมีแผนที่แสดงสถานที่ส�ำคัญบน อ�ำเภอเมืองนครพนม เพียงถนนริมฝัง่ โขงก็มี วัดอยู่ 6 แห่งแล้ว และยังมีสถานที่ส�ำคัญอีก หลายแห่งทีน่ า่ ไปแวะชมและศึกษา สถานทีเ่ หล่า นีส้ ร้างด้วยสถาปัตยกรรมทีม่ องแล้วเจริญตา ทั้งหมดล้วนถูกบรูณะรักษาอย่างดี ทุกอย่าง ดูใหม่หมด ขณะฉันเดินผ่านยังเห็นคนก�ำลัง

ทาสีก�ำแพงอยู่ด้วยซ�้ำ ราวกับก�ำลังเบ่งบาน รอต้อนรับนักท่องเที่ยว อ�ำเภอเมืองนครพนมเป็นเมืองเล็กๆ สถาน ที่ราชการ วัด หอสมุด เรือนจ�ำ อยู่ใกล้กัน ขนาดเดินเลาะไปได้ อีกทั้งมีต้นไม้ให้ร่มเงา ตลอดทาง จึงท�ำให้เมืองน่าเดินชมมากยิง่ ขึน้ นอกจากสถานทีส่ ำ� คัญรอบเมืองนครพนมแล้ว ร้านค้า อาหาร เครื่องดื่มในเมืองนครพนมก็ ก�ำลังเติบโตตามแบบปายหรือเชียงคาน ไม่ น่าเชือ่ ว่าจะด�ำเนินธุรกิจอยูไ่ ด้หากไม่ขายนัก ท่องเทีย่ ว และสังเกตเห็นว่า นอกจากฉันแล้ว


94 นิตยสารเรื่องสั้น

ไม่มใี ครท่าทางเหมือนนักท่องเทีย่ วเลย ออก จะเงียบเสียด้วยซ�้ำ เดินรอบเมืองจนเหนื่อยและหน�ำใจก็ใช้ บริการสามล้ออีกครั้ง ก่อนหน้านี้แวะเข้า หอสมุดแห่งชาติ ถามพี่บรรณารักษ์ถึงเส้น ทางไปอ�ำเภอธาตุพนมที่เพิ่งตัดสินใจไปเมื่อ ครู่ พี่บรรณารักษ์แนะน�ำให้ขึ้นสองแถวที่อยู่ หน้าตลาด “เดินไปนีไ่ กลมัย้ คะพี”่ ฉันถาม พีบ่ รรณารักษ์ หัวเราะแห้งๆ ตอบว่า “ก็ไกลอยู่ครับ นั่งสามล้อไปดีกว่า” ฉันถามต่อว่าจะไปเรียกสามล้อได้จากทีไ่ หน พีบ่ รรณารักษ์แสดงท่าทีกระอักกระอ่วนทีฉ่ นั ไม่เข้าออกมา จนฉันรู้สึกเกรงใจ “เดีย๋ วก็คงมีวงิ่ ไปมาแถวนีเ้ นาะพี”่ ฉันพูด พีบ่ รรณารักษ์รบั ค�ำซ�ำ้ ๆ ยืนรออยูห่ น้าประตู ระหว่างฉันใส่รองเท้า ท�ำท่าเหมือนจะรอส่ง ฉันยิม้ ให้เขาก่อนจากมา คิดในใจว่า หรือเขา จะไม่ใช่คนแถวนี้นะ ตั้งใจว่าจะลองเดินไปดู แต่กน็ กึ ขึน้ ได้อกี แล้วว่าตัวเองไม่รทู้ าง จึงเดิน ดูสถานที่ที่น่าสนใจไปเรื่อยๆ แทน พอเริม่ เหนือ่ ยก็โบกสามล้อ บอกทีท่ จี่ ะไป แก่ลงุ คนขับ ฉันถามราคา ลุงตอบทันควัน “ซาว บาท” ฉันพยักหน้ารับแล้วกระโดดขึน้ รถทันที ถ้าตาไม่ฝาดฉันเห็นลุงท�ำหน้าเสีย แกคงหลุด


นิตยสารเรื่องสั้น 95


96 นิตยสารเรื่องสั้น


นิตยสารเรื่องสั้น 97

ปากพูดด้วยความเคยชิน แต่ฉันนึกกระหยิ่ม ในใจว่าได้โดยสารรถราคาถูก(ถึงจะท�ำให้รวู้ า่ ที่ แล้วมาโดนโก่งราคาก็ตาม) มาถึงอ�ำเภอธาตุพนมด้วยรถสองแถว คุณยายตรงข้ามคุยกันตลอดทาง ตอนแรกทัง้ คู่ ไม่รจู้ กั กัน ถามไถ่กนั ไปมาก็รวู้ า่ เป็นคนรูจ้ กั ของ คนรูจ้ กั กันจึงได้รจู้ กั กันวันนัน้ คุณยายคนแรก ได้ลงก่อนยังชีช้ วนว่า “เฮือนเฮาอยูห่ นี”่ และ ชวนคุณยายอีกคนมาเทีย่ วบ้านอีกด้วย ส�ำเนียง คนนครพนมไม่เหมือนส�ำเนียงอีสานทีฉ่ นั คุน้ เคย ทีน่ ปี่ ลายเสียงขึน้ เสียงสูง พูดออกเหน่อ แถวอุบล-อ�ำนาจฯ บ้านฉันจะลงปลายเสียง ต�่ำ นั่งฟังคุณยายสองคนคุยกันฉันฟังออก บ้างไม่ออกบ้าง อีกทัง้ คนนครพนมคุน้ เคยกับ ภาษากลาง เมื่อฉันคุยกับพ่อค้าแม่ค้า น้อย คนทีจ่ ะตอบมาเป็นภาษาอีสาน ส่วนใหญ่จะ ตอบกลับเป็นภาษากลางอย่างไม่ลังเล แอบ ได้ยนิ คนทัว่ ไปเขาคุยกันก็พดู เป็นภาษากลาง ปนภาษาอีสาน คือคงค�ำลงท้ายเช่น เด้อ, ได๋, เดะ หรือค�ำอืน่ ๆ ไว้ เด็กนักเรียนมัธยมพูดเป็น ภาษากลางชัดเจน ท�ำให้ฉนั นึกถึงเรือ่ งทีว่ า่ มีน โยบายห้ามพูดภาษาถิ่นในโรงเรียนทางภาค อีสาน นักเรียนโรงเรียนในเมืองส่วนใหญ่จึง พูดภาษากลาง น่าเสียดายอัตลักษณ์เหล่านี้ ภาษาถิ่นมีสเน่ห์ของมันเอง ฉันเองเป็นลูก

อีสานแต่กร็ เู้ รือ่ งอีสานน้อยเหลือเกินจนน่าอาย พระธาตุพนม สถานที่ส�ำคัญและเป็น แม่เหล็กดึงดูดคนให้หลั่งไหลมา น�ำความ เจริญและคึกคักมายังอ�ำเภอนี้ คล้ายกับ อ�ำเภอเมืองนครพนม ทีน่ มี่ รี า้ นรวงมากมาย ทั้งร้านอาหารริมฝั่งโขง ร้านนั่ง โรงแรม โฮมสเตย์ วันนั้นมีงานแข่งเรือยาวพอดี ฉัน จึงได้สัมผัสบรรยากาศงานวัด งานบุญ ที่ มีแต่คนเมา หนุ่มสาวซ�่ำน้อย ร้านขายปืน แก๊บ ปาโป่ง และหมอล�ำจ้างยามดึก พระ ธาตุพนมไม่ได้สร้างความตืน่ ตาให้ฉนั มากนัก แต่พนื้ ทีโ่ ดยรอบสร้างบรรยากาศทีน่ า่ ประทับ ใจ พระธาตุพนมน�ำทั้งผู้คนและเงินเข้ามาสู่ อ�ำเภอ จึงมีการสร้างสิ่งก่อสร้างอื่นๆ เพื่อ เสริมความน่าเกรงขามให้แก่พระธาตุ เช่น สถูปเก่า, ประตูเมือง, สวนสาธารณะ, ทาง เข้าที่กว้างขวางโอ่อ่า มองเห็นพระธาตุได้ ชัดเจนขณะเข้ามา น่าประทับใจความพยายามส่งเสริมให้เกิด แหล่งท่องเที่ยวภายในชุมชน


98 นิตยสารเรื่องสั้น

ธาตุพนม ที่อ. ธาตุพนม จ.นครพนม


นิตยสารเรื่องสั้น 99

นครพนม – กรุงเทพฯ

มาด้วยรถไฟก็กลับด้วยรถไฟ คราวนี้ฉัน เลือกขึน้ ทีส่ ถานีหนองคาย จากทีข่ ามามาลง ทีอ่ ดุ รธานี ความตัง้ ใจแรกคือไปถึงหนองคาย แล้วข้ามไปฝั่งลาวสักคืน แต่การเดินทางใช้ เวลานานกว่าที่คิด ไปถึงหนองคายฟ้าก็มืด แล้ว นัง่ รถทัวร์จากอ�ำเภอเมืองนครพนมตัง้ แต่ 11 โมง รถแล่นเรือ่ ยๆ รับคนรายทาง กว่าจะ ถึงใช้เวลากว่า 7 ชั่วโมง วิวสองข้างทางสวย ดูเพลิน ช่วงนี้เป็นหน้าด�ำนา สองข้างทางจึง เป็นทุ่งนาสีเขียวไกลสุดลูกหูลูกตา สลับกับ เขตชุมชม ต้นไม้ใหญ่ และทิวเขา ประกอบ กับเป็นหน้าฝน ต้นไม้ใบหญ้าดูจะเป็นสีเขียว สดใสกว่าเคย ถ้าเพียงแต่ฉันไม่ได้ก�ำลังปวด เบาและอดข้าว การชืน่ ชมทัศนียภาพคงบันเทิง ใจยิ่งกว่านี้ ผ่านไป 5 ชั่วโมง รถทัวร์จึงมา หยุดที่สถานีขนส่งอ�ำเภอโพนพิสัย จังหวัด หนองคาย ขากลับจากห้องน�้ำ เห็นคุณยาย ที่หิ้วของกินขึ้นไปขายบนรถก�ำลังเดินลงมา “ซอยแมซื้อแหนอีหล่า” ฉันตอบกลับไปเป็นภาษาอีสานเป็นครั้ง แรก “มีอิหยังกินแหนจ่ะ หนูหิวเข้า” คุณยาย

หมุนพวงถุงของกินในมือ บอกว่ามีลูกชิ้นนึ่ง “จ้ะ เอา…” ยังพูดไม่ทนั จบ คุณยายปลด ถุงลูกชิ้นนึ่งจากนิ้วออกสองถุง ยัดใส่ถุงหิ้ว ตามด้วยมันทอดอีกสองถุง “ซีสิบบาทอีหล่า ยายแถมมันให้” แม้จะ ไม่ต้องการมันทอดและยังคิดไม่เสร็จว่าจะ เอาลูกชิ้นกี่ถุงดี แต่ก็จ่ายเงินและรับมา โชค ดีที่ตอนนั้นหิวมาก พอได้ของกินมาจึงไม่รู้ สึกขุ่นมัวใจ รถไฟจากสถานีรถไฟหนองคายออก เวลา 19:10 ตรงเวลา ลงจากสามล้อแล้วก ระโจนขึ้นรถไฟ ด้วยเวลากระชั้นและรู้สึกหิว ฉันเดินหาซื้อข้าวเหนียวหมูทอดไปแอบกิน บนรถไฟ แอบได้สองค�ำ (ใหญ่ๆ) ก็ล้มเลิก ความพยายาม ยิ่งกินยิ่งหิว จะกินจริงจังก็ กลัวโดนจับได้ เขาคงไม่ไล่ลงจากรถจริงหรอก แต่ความอายนี่ของจริง กลับถึงกรุงเทพประมาณ 6 โมงเช้า โบกแท็กซีท่ มี่ มี ติ เตอร์บอกราคาไม่ตอ้ งต่อรอง ราคากลับบ้าน ฉันพยายามใคร่ครวญถึง


100 นิตยสารเรื่องสั้น

เรื่องต่างๆ สถานที่ที่ได้ไปเยือน ผู้คน และ ความรู้สึกของตนเอง พบว่าเมื่อเดินทางคน เดียวฉันแทบไม่คิดเรื่องความนึกคิด จิตใจ หรือเรื่องเศร้าสีเทาในหัวใจ คิดแต่เพียงว่า พรุ่งนี้จะเดินทางไปที่นั่นอย่างไร ไปเพราะ อะไร เงินตอนนี้เหลือเท่าไหร่แล้ว ฉันใคร่ครวญถึงจุดมุง่ หมายของการเดินทาง ครัง้ นี้ ฉันมาทีน่ ี่ นครพนม ท�ำไม เพียงแค่เธอ บอกว่าอยากมา เพียงแค่เธอชวนให้มาด้วย กัน เมื่อวันนี้ฉันต้องเดินทางคนเดียวจึงหวัง จะได้บทเรียนบางอย่างจากค�ำพูดทีเ่ ธอทิง้ ไว้ ให้ ‘เขาว่าต่อไปนครพนมจะเป็นเมืองท่อง เที่ยวเหมือนเชียงคาน’ ฉันได้ค�ำตอบแล้ว ว่านครพนมเป็นเมืองที่น่ามาเยือนอย่างไร และอาจจะได้คำ� ตอบแล้วว่าการเดินทางครัง้ นี้สร้างอะไรขึ้นในจิตใจฉันบ้าง.

ธาตุพนมเวลาพลบค�่ำ



102 นิตยสารเรื่องสั้น


นิตยสารเรื่องสั้น 103

เรื่อง : แม่ครับ

โดย : ศรันย์ ศรีมาจันทร์



นิตยสารเรื่องสั้น 105

เรื่องจากปก

ความเลือนลางบนเส้นทางนักเขียน ที่ อยู่ได้ด้วยความใฝ่ฝัน ปราปต์ ชัยรัตน์ พิพิธพัฒนาปราปต์ เรื่องโดย กองบรรณาธิการ ภาพโดย ทัศนา พุทธประสาท


106 นิตยสารเรื่องสั้น

ปราปต์เป็นใคร? ชือ่ ของเขาปรากฏขึน้ ในการประกาศ Short List รางวัลวรรณกรรมส�ำคัญ

ของประเทศอย่างซีไรต์ สิ่งที่น่าจับตามองมากกว่าว่าเขาคือใคร คือผลงานของเขา อย่าง กาหลมหรทึกและนิราศมหรรณพ ทีไ่ ด้รบั การโจษจันท์ ว่าเป็นแดน บราวส์ แห่งสยามประเทศ นอกจากแนวงานเขียนสืบสวนสอบสวนที่ไม่ค่อยปรากฏในงานซีไรท์ที่ผ่านๆมา สิ่งที่ ท�ำให้ผู้อ่านสะดุดตากับนักเขียนคนนี้ในเรื่องกาหลมหรทึกคือ ภาษา อันน�ำการสะกดค�ำ แปลกหรือที่เรียกว่าอักขระวิบัติในยุคจอมพลป.พิบูลสงครามมาด�ำเนินเรื่องและใช้กลอนใน การแก้ไขปริศนาแต่ละปม มีฉากหลังเป็นประเทศไทยในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ท�ำให้ผู้ อ่านให้ความสนใจไม่น้อยกับกลิ่นอายความเป็นไทยในยุคก่อน เมื่อลองค้นชื่อของปราปต์ในอินเตอร์เน็ต จะพบว่าในปี 2557 ที่ผ่านมาปราปต์ได้รับ รางวัลนวนิยายยอดเยี่ยมรางวัลนายอินทร์อวอร์ดแนวสืบสวนสอบสวน แต่เมื่อลองค้นหา ปีที่เก่ากว่านั้นเราไม่ได้พบผลงานปราปต์เลยเป็นเวลาหลายปี นั่นพอจะท�ำให้เราอยากพูด คุยและศึกษาทัศนคติผู้ชายที่ชื่อปราปต์ชายผู้สร้างงานเขียนด้วยความสุข


นิตยสารเรื่องสั้น 107

ทราบมาว่าปราปต์แจ้งเกิดมาจากเขียนในเด็กดี เมือ่ ก่อนจะเขียนเป็นเรือ่ งตลก แต่จริงๆนิยาย เรื่องแรกเป็นเรื่องสยองขวัญ เมื่อก่อนเขียน หลายเรื่อง แต่เรื่องที่โอเคแล้วก็ได้พิมพ์ จะ เป็นเรื่องตลก ชื่อเรื่องรักต้องปล�้ำ ไม่รู้เคย ได้ยินรึเปล่าตอนที่เขียนเรื่องเข้ามหา’ลัย พอดี ยังเขียนไม่จบตอนนั้นเรียน‘ถาปัตย์ สักพักเริ่มไม่อยากเรียนแล้วก็เลยไปบอกแม่ ขอเล่าก่อน คือ ’ถาปัตย์ ตอนเช้าจะเรียน ทฤษฎี แล้วตอนบ่ายเข้าสตูดิโอ ให้งานแล้ว ก็วาดๆ โอเคกับการนั่งเรียนในห้องแต่ไม่ ชอบนั่งท�ำสตูดิโอ สลับกับคนอื่นนะ เขาจะ ชอบวาดแต่ไม่ชอบนั่งฟัง แต่เราแค่จะไปนั่ง ฟังตอนเช้า ตอนบ่ายออกมานัง่ เขียนหนังสือ ตอนออกจาก‘ถาปัตย์กไ็ ด้หนังสือมาหนึง่ เล่ม เรียนแล้วไม่สนุก? เรียนแค่เจ็ดวันเอง(หัวเราะ) คือไม่ได้ชอบแบบ นั้นเลย อาทิตย์แรกงานก็เยอะมาก ตอนที่ เลือก แค่รู้สึกอยากท�ำอะไรก็ได้ที่ให้มีเวลา เขียนหนังสือเท่านั้นเอง แต่ก็ได้ตีพิมพ์หนังสือตั้งแต่อยู่มหาลัยเลย เรื่องรักต้องปล�้ำนี่แหละเรื่องแรก เริ่มเขียน ตั้งแต่ช่วงสอบเอนทรานส์ คนอื่นนั่งอ่าน

หนังสือกัน เรานั่งเขียนหนังสือ คือตอนนั้น มันสอบสองครั้ง ไม่รู้ตอนนี้ยังเป็นอยู่รึเปล่า นะ ก็จัดตารางว่า สอบครั้งแรกอยากจะได้ คะแนนพวกภาษาสังคม ให้มนั ดีไปก่อน ครัง้ แรกก็จะทุ่มแค่ตรงนั้น แล้วก็คะแนนดี พอ สอบครัง้ ทีส่ องเราก็จะไม่ตอ้ งอ่านอะไรเยอะ ก็อ่านที่ต้องใช้จริงๆ คือแค่ ฟิสิกส์ เลข ไม่ ต้องอ่านเยอะแล้ว ก่อนที่กาหลมหรทึกจะออกมามีช่วงที่หยุด เขียนไป จริงๆ ไม่ได้หยุดแต่ว่าไม่ได้พิมพ์เท่านั้นเอง เขียนมาเรือ่ ยๆ เขียนลงเด็กดี เขียนแล้วไม่มคี น อ่านด้วย ตอนทีเ่ ขียนเรือ่ งวัยรุน่ ตลกๆ เขียนไป สักสามสีเ่ ล่ม เหมือนเรารูส้ กึ ว่าเราโตขึน้ แล้วเรา ไม่อยากจะเขียนแค่นนั้ แล้ว พอขยับปุป๊ ก็ไม่ได้ พิมพ์อกี เลย เขียนเป็นแนวเรือ่ งไพรรัชย์นยิ าย คือตอนนั้นไปเวิร์คแอนด์ทราเวลก็เลยเอา เรื่องที่เราไปมาเขียนเป็นนิยายจากนั้นก็ไป เขียนสืบสวนสอบสวน แต่วา่ มันจะไม่ใช่แบบ นี้ (กาหลมหรทึก) จะเป็นเรื่องเด็กๆ เรื่องใน มหา’ลัยสืบคดีกัน จากนั้นไปเรื่องลิเกฝรั่ง ลิเกฝรั่งจะอิงการเมืองไปเลย คือจะเปลี่ยน ไปเรื่อยๆ ซึ่งคนอ่านเขาจะไม่ชอบ สมมติว่า คนอ่านชอบเรือ่ งก่อน พอมาเรือ่ งใหม่เปลีย่ น


108 นิตยสารเรื่องสั้น

แนวแล้ว เขาก็ไม่อา่ น เหมือนเปลีย่ นคนอ่าน ยังเป็นกาหลฯ อยู่ คนอ่านบางคนก็ยังรับไม่ มาเรื่อยๆ คนอ่านก็จะหายไปเรื่อยๆ แล้วก็ ค่อยได้กับสิ่งใหม่ อยากจะอ่านเรื่องกาหลฯ จะไม่ได้พิมพ์ อีกรอบนึง ซึ่งเราก็ไม่อยากจะท�ำแบบนั้น แสดงว่าเขียนได้หลายแนวทัง้ ทีน่ กั เขียนส่วน ใหญ่มักจะมีแนวทางชัดเจน แต่เราไม่นะ คือเมื่อก่อนนี้ อย่างที่บอก ตอนแรกเขียนเรื่องพวกตลก พอเขียนได้ สองสามเรื่องเราก็รู้สึกเบื่อ จริงๆมันใช่ตัว เองไหมมันก็ใช่นะมันเป็นส่วนหนึง่ ของตัวเอง แต่วา่ พอไปเขียน มันเหมือนท�ำอะไรซ�ำ้ ๆ ไม่ ชอบท�ำอะไรซ�้ำๆ เบื่อ ในช่วงที่เขียนได้เรื่อง ตลกมาสองสามเรือ่ ง เราเขียนได้เพราะมันมี บางช่วงแวบไปเขียนเรือ่ งสัน้ เรือ่ งลึกลับบ้าง สลับไปสลับมา ต่อไปอยากจะเปลี่ยนแนวเขียนอีกไหม ทุกวันนี้คนอ่านจะค่อนข้างคาดหวังว่า เห็น ชือ่ ปราปต์ปบุ๊ ก็จะเป็นเรือ่ งแบบสืบสวนหรือ เรื่องเก่าๆ หน่อย วัฒนธรรม อะไรท�ำนองนี้ ที่จริงไม่ได้ตั้งสเปคว่าจะต้องเขียนแต่เรื่อง แนวนี้ อย่างสมมติเรือ่ งแรกกาหลมหรทึกเป็น พีเรียด พอเรือ่ งทีส่ อง นิราศมหรรณพ ก็จะมี กลิน่ ของพวกวิทยาศาสตร์เข้ามาปนด้วย คือ ขนาดว่าเรื่องที่สองนี้มันมีกลิ่นหลายอย่างที่

เขียนงานเขียนประเภทอื่นบ้างไหมนอกจาก นิยาย เคยพยายามเขียนเรือ่ งสัน้ แต่ไม่ใช่แนว เรือ่ ง สัน้ มันต้องใช้พลังมากกว่านิยาย ต้องมีประเด็น ชัดเจนในหนึง่ เรือ่ ง เขียนกระชับ แต่นยิ ายยัง มีเนื้อที่ให้เราเรื่อยเปื่อยได้บ้าง คิดว่าการเขียนของตัวเองต้องเติบโตไปเรือ่ ยๆ ? จริงๆ นิยายรักก็ยงั อยากเขียน เรือ่ งตลกก็ยงั อยากเขียน แต่ว่าทุกวันนี้มันจะมีปัญหานิด หนึ่งคือพอจบเรื่องหนึ่งปุ๊บ เราต้องตัดสินใจ มากขึน้ ว่า กว่าทีเ่ ราจะเขียนอีกเรือ่ งนึงจริงๆ มีหลายโปรเจคที่อยากท�ำมาก มันไม่ใช่แบบ ที่เราเขียนในเด็กดีที่มันไม่มีใครอ่านเหมือน เดิมแล้วไง มันมีคนเยอะแยะ ส�ำนักพิมพ์ก็มี การลงทุนของเขา และคือเราเองก็ยากกว่าที่ เราจะ เดินจากไอ้จดุ ทีม่ นั ไม่มคี นอ่านเลย มา จนถึงทุกวันนี้ ก็ไม่อยากจะรู้สึกว่าแบบ เฮ้ย อยู่ดีๆ กูก้าวตกบันไดลงไป


นิตยสารเรื่องสั้น 109

แล้วคิดว่างานเขียนของตัวเองจะบอกอะไร กับคนอ่าน สื่อถึงอะไร และท�ำหน้าที่อะไร ที่จริงไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้นเลยนะ พื้นฐาน จะเลือกทีต่ วั เองชอบไว้กอ่ น ตอนแรกทีเ่ ขียน กาหลก็เพราะว่ามีประกวดพอดี แล้วเขาก็เอา เรือ่ งสืบสวนมา แล้วพอมีไอเดีย ก็รสู้ กึ ว่า เฮ้ย ไอเดียนี้มันโอเคแล้วเราเขียนมันน่าจะสนุก คือเขียนแค่นั้นเองไม่ได้คิดอะไรเลย แต่ว่า พอมาเรื่องที่สอง เรื่องแรกมันได้รางวัล พอ เรื่องที่สองก็เริ่มรู้สึกเหมือนเราต้องท�ำให้ได้ มากกว่านี้ เรื่องแรกกาหลฯ ได้รับเสียงตอบ

รับที่ดีมากเกินไป ในความรู้สึกนะ เหมือน ว่าเดี๋ยวแม่งก็ได้รางวัลคนมาก็ชม พอเรื่อง ที่สอง เราเลยรู้สึกกลัวด้วยว่าคนบางคนเขา จะคิดว่า แม่งฟลุ๊คป่าววะ อยู่ดีๆ มาบูมแค่ เล่มเดียว เรือ่ งต่อไปแม่งแป้กเลย แต่บางคน ก็อย่างทีบ่ อก เขาไม่ชอบ เขาอยากจะได้แบบ เก่า แต่ตัวเองรู้สึกว่า ถ้าเราไปมองงานของ ตัวเองมันควรจะมีการพัฒนาการบางอย่างที่ เรามองเห็น สมมติวา่ ตอนนีย้ อ้ นกลับไปมอง งานอย่างรักต้องปล�้ำ ตอนเก่าๆ มันก็มีบาง อย่างที่ดีที่ตอนนี้เองเขียนไม่ได้แบบนั้นแล้ว


110 นิตยสารเรื่องสั้น

ตอนนั้นก็จะมีความดีของมันอยู่ แต่เรามอง มาถึงตอนนี้ มันมีอะไรที่มันโตขึ้นไหม มันก็ มีอะไรทีโ่ ตขึน้ อยากเขียนแบบนีม้ ากกว่า ถ้า ถามว่าอยากจะสื่ออะไรถึงคนอ่าน คงไม่มี อะไรขนาดนั้น สื่อเป็นเล่มๆ ไปเรื่องกาหลฯ ถามว่ามันมีแก่นเรือ่ งไหม มันก็จะมีแก่นเรือ่ ง บางอย่างมัน แต่อาจจะไม่ได้เข้มข้นขนาดนัน้ เน้นความสนุกมากกว่า พอไปนิราศมหรรณพ จะมีแก่นเรื่อง ของมันที่ชัดขึ้นละ แต่ถามว่าคนอ่านรับได้ ไหม คนอ่านบางคนก็ไม่ชอบเลย อยากรู้

แค่ว่าคนร้ายเป็นใคร เรื่องนิราศฯ จุดสูงสุด ของเรื่องมันไม่ใช่แค่ใครเป็นคนร้ายมันจะมี สาส์นที่มากกว่านั้น ทั้งเรื่องเดินขึ้นมาเพื่อ จะบอกสาส์นอันนี้ ทีนี้พอเราสื่อสารถึงคน อ่าน คนอ่านไม่ชอบ อยากจะอ่านแบบเก่า พอมาเรื่องที่สามเราก็ต้อง ก็ต้องคิดมากขึ้น ว่าจะท�ำอย่างไรให้คนอ่านยังชอบด้วยและ เราก็สามารถจะบอกบางอย่างที่เราจะบอก ด้วยได้ เป็นโจทย์เหมือนแต่ละเรื่องไปที่เน้น ว่าคนอ่านต้องชอบแล้วก็สนุกกับงานของเรา ก่อน เชื่อโดยส่วนตัวว่า ถ้าคนอ่าน อ่านแล้ว


นิตยสารเรื่องสั้น 111

ไม่รู้สึกสนุกถึงเราจะบอกอะไรที่มันดีแค่ไหน สุดท้ายคนเขาก็ไม่ฟังอยู่ดี เหมือนอาจารย์ มาสอน ถ้าสอนไม่สนุกนักเรียนมันก็ไม่ฟัง ก็ไม่จับอะไรอยู่ดี ซึ่ง โอเคมันอาจจะไม่ต้อง มีอะไรมากแต่คนอ่านรับได้

มุมนึงตรงนี้ ตรงนี้ คือมันค่อนข้างก�ำหนดมา ตายตัวแล้วว่าตรงนี้มันน่าสนใจ เราเอาฉาก เอาเรื่องราวตรงนี้มาเขียนได้ พอไปเจอฉาก นายลุแม่งเป็นคลอง ก็นกึ ว่าจะเขียนยังไงดีวะ (หัวเราะ) แต่วา่ พอลองไปแต่งพล็อต วางฉาก โครงเรือ่ งต่างๆ มันก็เอามาเขียนเป็นเรือ่ งได้ พอดี แล้วพอได้ฉากครบแล้วค่อยลงไปดูสถาน ทีจ่ ริง ศึกษาว่าตรงนี้ ตรงนี้ เมือ่ ก่อนเคยเป็น อะไรมาก่อน จริงๆ ลงไปเดินดูก็ไม่ค่อยเห็น อะไรหรอกนะ เพราะมันก็เปลีย่ นแปลงไปจาก เมือ่ ก่อนหมดแล้ว ตรงฉากนายลุ เป็นโรงเรียน สตรี เราก็ต้องใช้จินตนาการเอาว่า อารมณ์ ตรงนี้ ฉากนี้มันจะเป็นยังไงเมื่อสมัยก่อน

ในกาหลมีการใช้กลอนด�ำเนินเรือ่ ง สนใจการ เขียนบทกวีมาก่อนรึเปล่า ไม่นะ(หัวเราะ) จริงๆ พอแต่งได้ แต่ไม่ได้ชอบ ขนาดนัน้ อ่านก็อา่ นได้ แต่ถา้ เป็นติดตามหรือ หามาอ่านก็ไม่ขนาดนัน้ ตอนเขียนกาหลฯ ก็ เขียนแล้วแก้ เขียนจนจะจบแล้วเพิง่ มาเห็นว่า เขียนผิดฉันทลักษณ์ จริงๆ เป็นคนกลวงๆ นะ เหมือนทุกคนจะเข้าใจว่า เฮ้ย ต้องรัก วัฒนธรรมไทย ไปวัด คือไปวัดก็เพราะไป ไปเดินดูสถานที่แล้วเห็นตัวละครขึ้นมาเลย ใช่ๆ เรามีตัวละครไว้แล้วคร่าวๆ แล้วพอไป เขียนหนังสือนี่แหละ สถานที่จริงเราก็คิดไปด้วยว่าที่ตรงนี้จะมีคน การสร้างฉากในกาหลก็คือไปสถานที่จริง แบบไหนบ้าง หาเหตุผลมาเสริมตัวละครและ ใช่ ลงไปเดินดูสถานที่จริง ในกาหลฯ นี่ เรื่องราวจากบรรยากาศของฉาก แล้วเชื่อม สถานที่จะตายตัวมาก ตอนหาก็ปริ้นท์มา ต่อไปสูเ่ รือ่ งราวอืน่ ได้ อย่างฉากนายพงษี จะ จากกูเกิลแม็พก่อนแล้วมาวาดเอง ตรงกลาง อยูแ่ ถววัดมหรรนพาราม แล้วก็จะมีโรงเรียน คือวัดโพธิ์ แล้วหาว่าสถานที่หา้ แห่ง ห้ามุมนี้ พาณิชย์ เลยให้นายพงษีไปเป็นครูทโี่ รงเรียนนี้ จะอยูต่ รงไหนดี ตอนหาก็มปี ญ ั หาเหมือนกัน แล้วพอไปหาข้อมูลทีว่ ดั มหรรณนพารามก็ได้ อย่างตอนนายลุ ที่เยาวราช มันไปตรงกับ เรือ่ งว่า ในตอนนัน้ มีเรือ่ งอาจารย์มปี ญ ั หากัน คลองพอดี คืออยากให้มุมนึงอยู่ที่วัดระฆัง เลยลองเอาเรือ่ งนีม้ าใส่ในเรือ่ งด้วย เขียนเป็น


"ถ้าคนอ่าน อ่านแล้วไม่รู้สึกสนุก ถึงเรา บอกอะไรที่มันดีแค่ไหนสุดท้ายคนเขาก ฟังอยู่ดี"


าจะ ก็ไม่


114 นิตยสารเรื่องสั้น

พล็อตขึ้นมา จะท�ำงานแบบนี้ คือเราคิดเอา งานเขียนในกลุ่มที่เป็นงานรางวัลที่อ่านยาก ไว้กอ่ นครึง่ หนึง่ พอไปหาข้อมูล ไปดูฉากจริง ไปเลย ฉันเขียนเพื่อจะประกวดคือประมาณ ว่ากูไม่แคร์คนอ่านหรืออีกอันเป็นเขียนแบบกู ก็จะเจออีกครึ่งหนึ่ง แคร์คนอ่าน กูจะขาย (หัวเราะ) อย่างกาหลฯ งานเขียนประเภทแนวสืบสวนในวงการ มันยังเป็นงานที่ประหลาด ตรงที่แบบ เฮ้ย วรรณกรรมไทยได้รบั ความนิยมมากน้อยแค่ไหน ขายก็ขายได้ และก็กลายงาน(ชิง)รางวัลด้วย งานสืบสวนจริงๆ ยังไม่คอ่ ยเยอะนะ ถ้าเป็น ซึ่งปกติมันจะไม่เป็นแบบนี้ ก็งงเหมือนกัน สืบสวนแบบสืบสวนไปเลยส่วนใหญ่ หลังๆนี้ ปกติถา้ หนังสือได้รางวัลคนจะไม่อา่ นรูส้ กึ มัย้ ยังมากขึน้ เมือ่ ก่อนนีจ้ ะเป็นแบบสืบสวนนิยาย อย่างตัวเองก็ไม่อ่านหนังสือ เราจะเห็นพัฒนาการของวงการหนังสือ รักแล้วสืบสวน มันจะเป็นแค่กลิ่นบางอย่าง อย่างของฝรั่งมันก็จะเป็นสืบสวนแบบอย่าง ในส่วนของตลาด ตอนที่พี่ยังเด็กก็จะเป็น แดน บราวส์ คือสืบสวนแน่นอน แต่ของไทย เรือ่ งแบบตลกแจ่มใสพอมาช่วงนึงก็เป็นเรือ่ ง มันยังไม่คอ่ ยมี หลังๆมาจะเริม่ มีมากขึน้ เพราะ แฟนตาซี แฟนตาซีก็แฟนตาซี๊แฟนตาซี พอ ว่ามีตลาดพวก อย่างของคุณภาคินยั พอแนว มาอีกสักพักเป็น18+ ทุกวันนีก้ ย็ งั เป็น18+ อยู่ นัน้ มันบูมขึน้ เขาก็จะจับเรือ่ งพวกสยองขวัญ จะเป็นอย่างนี้คือคนอ่านอยากได้แบบไหน มันก็จะตีกบั สืบสวนน�ำมารวมกันได้ เลยมาก มันก็จะเทไปตรงนั้นอีกด้านหนึ่งพวกที่เป็น ขึ้น หรือแม้แต่ของพิมพ์ค�ำ ซึ่งเขาพิมพ์เรื่อง รางวัล งานเขียนทีไ่ ด้รางวัลมันก็จะมาเป็นเท รักมาตลอดหลังๆเขาก็แตกไลน์มาเป็นเพื่อ รนด์ อย่างปีนเี้ ขาบอกเรือ่ งสะท้อนการเมือง เรื่องที่เป็นแนวประวัติศาสตร์จะมา พอมีคน พิมพ์นิยายสืบสวนโดยเฉพาะ เขียนแบบนี้ สักพักหนึง่ เรือ่ งก็จะเป็นประมาณ มี ค วามคิ ด เห็ น อย่ า งไรเกี่ ย วกั บ วงการ เดียวกันหมด เพียงแต่วา่ อาจจะมีเทคนิคหรือ วรรรกรรมของไทย คนเขานิยมเขียนอะไรกัน อื่นๆ แตกต่างกันออกไป คล้ายต่อยอด หรือว่าคนเขาอ่านอะไรกัน เมิอ่ ก่อนยังรูส้ กึ ว่าในร้านหนังสือมันมีแนว มันแบ่งออกเป็นสองอย่างชัดๆ ของคนไทย หนังสือให้เลือกมากกว่านี้ แต่เดี๋ยวนี้มันจะ นะ ไม่รปู้ ระเทศอืน่ มีรเึ ปล่า เรารูส้ กึ คนไทยมี กลายเป็นว่แผงข้างหน้า 18+ ก็มแี ต่ 18+ เรา


นิตยสารเรื่องสั้น 115

ไม่มที างเลือกเลย เฮ้ยเรือ่ งทีเ่ ราอยากอ่านไป ซ่อนอยูต่ รงไหนวะ อย่างสมัยก่อนเข้าร้านไป ก็มแี จ่มใสเยอะ เยอะก็จริงนะ แต่มนั มีหลาย แนวให้เราเลือกกว่านี้ ทุกวันนีข้ นาดว่าบนชัน้ มีชื่อให้ ชั้นนี้สืบสวน ชั้นนี้รักโรแมนติกแต่ ว่าพอเราเข้าไปดูในชั้นจริงๆ เรื่องทุกเรื่องก็ เหมือนกันหมด

งานพวกนั้นแทน ถึงได้รู้ว่ามีงานแบบนี้ด้วย แล้วก็จะได้มมุ มองบางอย่างกลับมาด้วย แต่ ถามว่าเป็นคอนิยายรางวัลเลยรึเปล่า ก็คง ไม่ถึงขั้นนั้น อย่างทุกวันนี้ที่กลับมาอ่านงาน ซีไรต์ก็เพราะว่าตัวเองได้เข้ารอบเท่านั้นเอง อยากรู้ว่าเขาเขียนอะไรกัน งานรางวัลไม่ได้หมายความว่าจะเป็นงานทีด่ ี หรือเราจะชอบ ถ้าเช่นนัน้ เมือ่ พูดถึงเรือ่ งการ อ่านแล้ว ปราปต์คดิ ว่าการอ่านของแต่ละคน จ�ำเป็นต้องอ่านงานที่คนอื่นว่าดีไหม คิดว่าไม่จ�ำเป็นนะ อย่างตัวเองจะเลือกอ่าน ทีต่ วั เองอยากอ่าน ตอนเด็กๆ ก็อา่ นเรือ่ งทัว่ ไปๆ เบาสมอง เชื่อว่าความส�ำคัญคือควร ปลูกฝังให้เขาชอบมากกว่า ตอนเด็กๆ อาจ จะอ่านเรื่องที่ไม่ได้มีสาระมาก พอเขาชอบ อ่านจริงๆ ก็จะเป็นแบบเรา คือเรื่องที่ชอบ เมื่อวันวานจะเริ่มไม่ตอบโจทย์เราวันนี้ล่ะ เราโตขึ้น เราต้องไปหาอะไรที่หนักขึ้นอ่าน สิ่งเหล่านี้จะเป็นไปโดยอัตโนมัติ อย่างการ ศึกษาไทยมักปลูกฝังให้เด็กอ่านงานรางวัล ซีไรต์ ไปอ่านมานะ ท�ำการบ้านมามาส่ง ซึ่ง มันจะท�ำให้เด็กเกลียดงานรางวัลไปด้วยนะ

คิดยังไงกับงานเขียนที่ได้รางวัล เมื่อก่อนไม่อ่านงานเขียนรางวัลเลย ส่วน ใหญ่จะอ่านงานตลาดๆ จนเริ่มโตถึงรู้สึกว่า อ่านแต่เรือ่ งตลาดเราก็ไม่คอ่ ยเชือ่ ไม่คอ่ ยอิน แล้ว เลยไปหาเรื่องที่มันโตขึ้น ค่อยๆ ขยับ เมือ่ ก่อนอ่านงานของ ทมยันตี เป็นเรือ่ งรักๆ ของทมยันตีนี่ดีหน่อยที่เรื่องรักจะไม่ได้มีแต่ เรือ่ งรักอย่างเดียว เรือ่ งทีร่ กั จนเลีย่ นก็ไม่อา่ น ชอบอ่านทีส่ ะท้อนปัญหาสังคมบ้าง การเมือง บ้าง ต่อมาก็ขยับมาอ่านกฤษณา อโศกสิน ที่เป็นเรื่องชีวิตมากขึ้น แล้วไปอ่านงานของ ชาติ กอบจิตติ ของคนอื่นๆ อีก ค่อยๆ โต ขึน้ ไม่ยดึ ติดกับงานรางวัล จะมีชว่ งทีโ่ ลกมืด (หัวเราะ) จะอ่านงานรางวัล ตอนนัน้ อ่านงาน สดใสแล้วมันไม่ตอบโจทย์แล้ว ชีวติ เราไม่เห็น เป็นอย่างนีเ้ ลย ถ้าเป็นงานรางวัลจะเป็นแนว โลกมืดไง เรื่องหนักๆ เครียดๆ ก็จะไปอ่าน ในวงการนักอ่านนักเขียนจะตื่นเต้นมากกับ


116 นิตยสารเรื่องสั้น


นิตยสารเรื่องสั้น 117

“เราต้องซื่อสัตย์กับสิ่งที่เราชอบ ก่อน เหมือนเป็นพันธกิจกับตัว เอง เรารักสิ่งนี้ก็ท�ำสิ่งนี้ก่อน” รางวัลซีไรท์แต่ละปี ติดตามลองลิสต์ ติดตาม ช็อตลิสต์ และมองว่ารางวัลซีไรต์เป็นจุดสูงสุด ของวงการ แต่ในสายตาคนทั่วไปล่ะปราปต์ คิดว่าเขาจะมองรางวัลซีไรต์เป็นอย่างไร โดยส่วนตัวนะ คิดว่าประเทศไทยเป็นประเทศ ที่กลวงๆ คนส่วนใหญ่มักจะตามกระแสกัน ไป ถามว่าคนทั่วไปรู้จักซีไรต์มั้ย รู้จัก แต่ถ้า ถามว่ารางวัลซีไรต์เป็นยังไงเหรอ มาจากใคร เหรอ คนจัดเป็นใคร คิดว่าคนกว่าแปดสิบ เปอร์เซ็นต์อาจจะไม่รู้ รู้ว่ารางวัลซีไรต์เป็น เหมือนนางงามของงานเขียน แต่ถามว่ามัน มีคุณค่ายังไงเหรอ คนก็ไม่รู้ ด้วยความที่ รางวัลที่ผ่านมามักเป็นงานเฉพาะกลุ่มด้วย คนเข้าถึงยาก

ก็เลยท�ำรางวัลซีไรต์ให้ไม่เป็นทีส่ นใจ ถ้าไม่ใช่ กลุ่มคนที่ติดตามงานวรรณกรรม ใช่ ก่อนหน้าจะเสนอชื่อเข้ารับรางวัลแล้ว มาตามอ่าน เคยอ่านตลิ่งสูงซุกหนัก เพราะ อาจารย์บงั คับ ความสุขของกะทิ กับ เจ้าหงิญ เลือกมาอ่านเอง ตอนนัน้ ไปต่างประเทศเลย รู้สึกว่าอยากอ่านอะไรที่มันสะท้อนถึงความ เป็นไทย คือกระแดะไปเองว่าไปเมืองนอก ต้องคิดถึงบ้านแน่เลย (หัวเราะ) ก็เลยเอา สองเรื่องนี้ไปเป็นตัวแทนและเป็นเรื่องที่ไม่ หนักมาก อ่านแล้วก็ชอบ เขียนเพราะว่าสนุกกับการเขียน มีความสุข กับสิ่งที่ท�ำ เพื่อสร้างความบันเทิงให้คนอ่าน มากกว่าเขียนเพือ่ ต้องการส่งสาส์นหรือโจมตี ประเด็นบางอย่าง


118 นิตยสารเรื่องสั้น

ใช่ อันนั้นคือประเด็นหลักเลย ถ้าต่อมาเรา มีเหตุผลอื่นที่อยากจะบอกผ่านงานเขียนก็ ค่อยใส่เข้าไป อย่างนิราศมหรรณพเป็นตัว เอย่างที่ดี อย่างแรกเลยต้องอ่านแล้วสนุก ก่อน สาส์นบางอย่างที่เราอยากจะพูดก็ ค่อยๆ แทรกเข้าไป เหมือนกับการได้สานความฝันให้ตวั เองส�ำเร็จ ใช่ จริงๆ แล้ว แม้แต่คนใกล้ตัวก็บอกนะว่า อยากจะเขียนหนังสือ แต่จะพูดว่าตัวเองเขียน ไม่ได้หรอก จริงๆ พีค่ ดิ ว่าทุกคนเขียนหนังสือ ได้ ถ้าคิดได้กต็ อ้ งเขียนได้อยูแ่ ล้ว เพราะเราก็ เขียนตามที่เราคิด เพียงแต่ว่าเราจะส่งสาส์น ถึงใคร หรือว่าไม่มีช่องทางที่จะเผยแพร่ แต่ ทุกวันนี้มีอินเตอร์เน็ต มีเฟซบุ๊ค นักเขียน ดังๆ โพสสเตตัส วันหนึ่งก็เอาไปรวมเล่ม ขาย(หัวเราะ) ทุกคนสามารถท�ำได้ เพียงแต่ ว่าจะท�ำรึเปล่า ต้องพยายามกับมันก่อน ตอนที่บอกว่าเขียนมาตั้งสิบปีแล้ว ก็เขียน ด้วยความเชื่อนี้แหละ ไม่ได้พิมพ์ก็ไม่เป็นไร ตัวเองชอบเขียนซะอย่าง เหมือนหลอกตัว เองนิดนึง(หัวเราะ) แต่พอมาถึงจุดนึงเราก็ รู้สึกว่า เฮ้ย อายุจะสามสิบแล้ว คนอื่นเขา

ไปถึงไหนแล้ว คือเป็นคนเขียนที่เขียนจริงๆ เสาร์อาทิตย์ก็ไม่ไปไหน คนอื่นเขาเอาเวลา ไปท�ำอย่างอื่น ทุกคนดูมีสาระ ก็เลยเป็น เหตุผลหนึ่งที่เราต้องหาอะไรสักอย่างมา เป็นตัวตันสินใจให้เรา ว่าที่เราท�ำอยู่นี่เป็น สิ่งที่ดีแล้วจริงเหรอ ก็เลยส่งเข้าประกวด (นายอินทร์อวอร์ด) แล้วคิดว่าถ้าปีนั้นไม่ได้ พิมพ์ ก็จะเลิกเขียน วันก่อนไปเจอบก. เขา จ�ำได้ว่าเคยพูดแบบนี้ เขาก็พูดว่า อยู่ดีๆ กา หลฯ ก็ติดลองลิสต์เฉยเลย (หัวเราะ) ตัวเอง ก็ไม่เคยคิดนะ เหมือนชีวิตพลิกจริงๆ เรา ต้องซือ่ สัตย์กบั สิง่ ทีเ่ ราชอบก่อน เหมือนเป็น พันธกิจกับตัวเอง เรารักสิ่งนี้ก็ท�ำสิ่งนี้ก่อน เช่นนั้น การได้หรือไม่ได้รางวัลก็ไม่ใช่ความ ส�ำเร็จสูงสุด รู้สึกส�ำเร็จตั้งแต่ตอนเขียนกาหลฯ จบแล้ว เพราะเราไม่เคยเขียนเรื่องแบบนี้เลย เคย มองย้อนกลับไปว่า ถ้าตอนเด็กๆ มีคนยื่น โจทย์นี้ให้ ให้เขียนให้เสร็จภายในสามเดือน คงบอกว่าเขาบ้าไปแล้ว แต่วันนี้ท�ำได้ แล้ว เราเขียนจบก็รู้สึกชอบงานที่ออกมา ก็รู้สึก ภูมิใจในตัวเองแล้วล่ะ ตอนนั้นถ้าไม่ต้องส่ง เข้าประกวดก็ได้ค�ำตอบแล้ว ว่าควรจะเขียน ต่อไปหรือเปล่า




นิตยสารเรื่องสั้น 121

บทความ

ก๋วยเตี๋ยว : ชาตินิยมในชาม เรื่องและภาพโดย แสงดารา ยางงาม

ภายใต้รูปร่างอาหารหน้าตาธรรมดา แต่ มีประวัติศาสตร์ที่ไม่ธรรมดาซ่อนอยู่ ก๋วยเตีย๋ วทีบ่ ริโภคกันอยูท่ กุ วันนีเ้ คยเป็น อาหารสร้างชาติตามนโยบายชาตินยิ มของ จอมพล ป.พิบลู สงคราม มาก่อน ในยุคที่ ความเป็นไทยถูกสร้างขึน้ มาอย่างมากมาย ทั้งการแต่งกายให้ทันสมัยตามตะวันตก การใส่หมวก การกล่าวค�ำทักทายสวัสดี หรือแม้กระทั่งการกินก๋วยเตี๋ยวก็เป็นอีก หนึ่งวัฒนธรรมที่ถูกท�ำให้เป็นไทย ท�ำไมจึงใช้อาหารให้เป็นหนึง่ ในนโยบาย ชาตินยิ ม เพราะอาหารคือสิง่ ทีเ่ ข้าถึงผูค้ น ได้โดยไม่ต้องพยายามมากนัก มนุษย์ทุก คนต้องกิน เป็นปัจจัยพืน้ ฐานในการด�ำรง ชีวิต อาหารสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรม สภาพภูมศิ าสตร์ วิถชี วี ติ ของชนชาตินนั้ ได้ เป็นอย่างดี ในช่วงเวลาที่พยายามแสดง ให้ตะวันตกเห็นว่าไม่ใช่บา้ นป่าเมืองเถือ่ น เป็นประเทศทีม่ อี ารยะ อาหารก็เป็นสิง่ ที่ แสดงให้เห็นได้ เพราะอาหารมีกรรมวิธกี าร

ผลิต การหุง นึ่ง ต้ม และทอด เป็นการ สร้างอัตลักษณ์ให้กับประเทศด้วย นโยบายชาตินยิ มกับก๋วยเตีย๋ วสัมพันธ์ กันอย่างไร ต้องเกริ่นถึงความสัมพันธ์ ชาวจีนกับชาวไทยที่ติดต่อกันมาช้านาน ตัง้ แต่ชว่ งต้นรัตนโกสินทร์ ทีเ่ ริม่ มีชาวจีน อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานในไทย ชาวจีนที่ อพยพเข้ามาเหล่านี้จะท�ำอาชีพค้าขาย ตระเวนขายของไปตามที่ต่างๆ ในยุค นั้นชายไทยต้องเข้ารับราชการ พ่อค้า แม่ค้าส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงและชาวจีน เพราะชาวจีนได้รับสิทธิให้เดินทางได้ทั่ว ราชอาณาจักรเมื่อเริ่มมีผู้อพยพเข้ามา แหล่งชุมชนก็ขยายใหญ่ขึ้น บ้านเมืองมี การพัฒนาติดต่อกับต่างประเทศ จากสังคม ยังชีพกลายเป็นสังคมการค้า แรงงานจึง เกิดขึน้ แรงงานรับจ้างเหล่านีก้ จ็ ะอาศัยกิน ข้าวนอกบ้าน ชาวจีนก็อาศัยหาบเร่ พาย เรือขายก๋วยเตีย๋ วกัน อาหารจีนจึงเริม่ เข้า มามีบทบาทในชีวติ ประจ�ำวันของคนไทย


พอในช่วงยุคจอมพล ป. พิบูลสงครามมี ชาวจีนอพยพเข้ามาเป็นจ�ำนวนมาก มีโรงเรียน จีน หนังสือพิมพ์จีนเกิดขึ้น การค้าขายตก เป็นของชาวจีนซะส่วนใหญ่ ไม่ตอ้ งมีอปุ กรณ์ มาก อาศัยหาบเร่เดินเท้าก็ขายของได้แล้ว ท�ำให้วฒ ั นธรรมต่าง ๆ ของชาวจีนรวมไปถึง อาหารการกินเข้ามามีบทบาทในสังคม ขณะ นั้นประเทศไทยอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ภาวะเศรษฐกิจตกต�่ำ ข้าวมีราคาแพง จึง มีนโยบายให้คนไทยหันมาบริโภคก๋วยเตี๋ยว กับส่งเสริมให้ขายก๋วยเตี๋ยวกัน เพราะเส้น

ก๋วยเตี๋ยวท�ำจากข้าวหัก ก๋วยเตี๋ยวจึงมีราคา ถูก และให้กรมประชาสงเคราะห์จัดท�ำคู่มือ การท�ำก๋วยเตี๋ยวแจกจ่าย น�ำถั่วงอกกับเนื้อ หมูที่รัฐส่งเสริมให้คนไทยปลูกและเลี้ยงมา เป็นส่วนประกอบ เรียกได้วา่ ยุคนีเ้ ป็นยุคทอง ของก๋วยเตีย๋ วเลยก็วา่ ได้ จากค�ำปราศรัยนายก รัฐมนตรี (จอมพลป.) ปี 2486 “อยากให้พี่น้องกินก๋วยเตี๋ยวให้ทั่วถึง เพราะก๋วยเตี๋ยวมีประโยชน์กับร่างกาย มี รสเปรี้ยว เค็ม หวานพร้อม ท�ำได้เองใน ประเทศไทย หาได้สะดวก และอร่อยด้วย


หากพี่น้องชาวไทยกินก๋วยเตี๋ยวคนละหนึ่ง ชามทุกวัน วันหนึ่งจะมีคนกินก๋วยเตี๋ยวสิบ แปดล้านชาม ตกลงวันหนึง่ ค่าก๋วยเตีย๋ วของ ชาติไทย หนึ่งวันเท่ากับเก้าสิบล้านสตางค์ เท่ากับเก้าแสนบาท เป็นจ�ำนวนเงินหมุนเวียน มากพอใช้ เงินเก้าแสนบาทนั้น ก็จะไหลไปสู่ ชาวไร่ ชาวนา ชาวทะเลทั่วกัน ไม่ตกไปอยู่ ในมือใครคนหนึง่ เพียงคนเดียว และเงินหนึง่ บาทก็มีราคาหนึ่งบาท ซื้อก๋วยเตี๋ยวได้เสมอ ไม่ใช่ซอื้ อะไรก็ไม่ได้ เหมือนอย่างทุกวันนี้ ซึง่ เท่ากับไม่มีประโยชน์เต็มที่ในค่าของเงิน…”

การส่งเสริมให้คนบริโภคก๋วยเตี๋ยวนอกจาก มีการผลิตคูม่ อื ออกมายังมีการแต่งเพลงเชิญ ชวนอีกทางหนึ่ง มีเนื้อร้องว่า “ก๋วยเตี๋ยวเอ๊ย ก๋วยเตี๋ยวมาแล้วจ้า ก๋วยเตีย๋ วจ้า ก๋วยเตีย๋ วเอ๊ย ของไทยใช้พชื ผล เกิดในไทยรัฐทั้งสิ้น ทรัพย์ในดินหาได้ทั่วไป ช่วยซื้อขายกันให้มั่งมี เพราะไทยเรานี้ช่วย กันตลอดไป… ” ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัยการแต่งเพลง ชักชวนเชื่อให้ประชาชนเข้าร่วมกับนโยบาย


ของรัฐบาลยังเป็นทีน่ ยิ มเสมอ อาจเพราะมัน


นิตยสารเรื่องสั้น 125

มีช่องทางเข้าถึงประชาชนได้หลายช่องทาง หลายเวลา หากเป็นปัจจุบัน คงเป็นเพลง “คืนความสุขให้ประเทศไทย” ที่ถึงแม้ทุกคน จะไม่ได้เปิด ก็เหมือนจะร้องตามกันได้หมด สิง่ ทีแ่ สดงให้เห็นถึงยุคทองของก๋วยเตีย๋ ว นัน้ คือ ช่วงสงครามโลกครัง้ ที่ 2 (2484-2488) เป็นช่วงที่คลองบางชักพระมีคนจีนอพยพ จากฝัง่ พระนครเข้ามาอาศัยชัว่ คราวเป็นจ�ำนวน มาก โดยเช่าพืน้ ทีจ่ ากเจ้าของสวนย่านฝัง่ ธน พอสงครามจบก็ถือโอกาสตั้งถิ่นฐานท�ำมา หากินกันที่นี่ บางคนตั้งโรงสี บางคนรับจ้าง บ้างค้าขายอาหาร โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวที่ พายเรือขายกันจนแน่นขนัดคลองบางชักพระ ประจวบกับการประกาศนโยบายรัฐนิยมของ จอมพล ป. พิบูลสงครามพอดี ที่ส่งเสริมให้ คนไทยบริโภคก๋วยเตี๋ยว ยุคนี้ก๋วยเตี๋ยวจึง เฟื่องฟูเป็นอย่างมาก และเริ่มขยับขยายขึ้น มาขายกันบนบกเมื่อการคมนาคมเจริญขึ้น เกิดถนนเส้นก๋วยเตี๋ยว คือ ถนนบางขุนนนท์ หรือชื่อเดิม ถนนบางกอกน้อย ตลิ่งชัน เต็ม ไปด้วยร้านก๋วยเตี๋ยวจ�ำนวนมาก ขนาดที่ว่า ทุก 100 เมตร จะเจอร้านก๋วยเตี๋ยวอย่าง น้อย 1 ร้าน ก๋วยเตีย๋ วทีข่ ายกันขณะนัน้ ก็มหี ลายอย่าง

ซึ่งปัจจุบันยังคงมีอยู่อาจจะต่างสูตรไปบ้าง เช่น ก๋วยเตี๋ยวหมู จะต้มหมูจนสุกแล้วหั่น เป็นชิ้นโรยหน้า ไม่มีเครื่องมากเน้นที่น�้ำซุป ทีจ่ ะมีสตู รการต้มแตกต่างกันไปไว้มดั ใจลูกค้า ก๋วยเตี๋ยวต้มย�ำ สมัยก่อนก๋วยเตี๋ยวต้มย�ำ ไม่ได้ใส่มะนาวเหมือนสมัยนี้ จะใช้น�้ำพริก ส้มแทน ตามด้วยพริกป่นและถั่วป่น จุดเด่น ของก๋วยเตี๋ยวต้มย�ำจะอยู่ที่การคั่วถั่วเพราะ จะเพิ่มความหอมชวนรับประทาน และใส่ หมูตม้ พอสุกเมือ่ น�ำไปผสมกับน�ำ้ ซุปจะท�ำให้ หวานมากขึ้น ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ จะมีแค่เนื้อสด และเนือ้ เปือ่ ยเท่านัน้ ไม่มลี กู ชิน้ น�ำ้ ซุปใส ตุน๋ ด้วยเครื่องยาจีน ใส่ซีอิ๊วด�ำในน�้ำซุป ปรุงรส ด้วยผงชูรส น�้ำปลา กระเทียมเจียว โรยหน้า ด้วยใบขึน้ ฉ่ายและผักกาดหอม ก๋วยเตีย๋ วเป็ด ก๋วยเตีย๋ วชนิดนีจ้ ะพิเศษกว่าก๋วยเตีย๋ วชนิดอืน่ สมัยก่อน คือไม่มใี ครขายก๋วยเตีย๋ วเป็ดอย่าง จริงจังจะสลับขายกับก๋วยเตีย๋ วชนิดอืน่ จะได้ กินก๋วยเตีย๋ วเป็ดก็ชว่ งหลังเทศกาลของคนจีน เช่นตรุษจีน สารทจีน ไม่ใช่วา่ คนขายน�ำเป็ด พะโล้ไหว้เจ้ามาท�ำ แต่เป็นเพราะเวลาไหว้ เจ้า จะต้องซือ้ ลูกเป็ดมาเลีย้ งให้โต เวลาซือ้ ก็ จะต้องซือ้ ให้เกินจ�ำนวนทีจ่ ะไหว้กนั งูเหลือม มากิน หรือลูกเป็ดไม่แข็งแรงตายก่อน และ การขายเป็ดในช่วงนั้นพ่อค้าแม่ค้าจะไม่ขาย


126 นิตยสารเรื่องสั้น


นิตยสารเรื่องสั้น 127

แยก จะต้องซื้อเหมาโหล ท�ำให้มีลูกเป็ดเกิน จ�ำนวนอยูม่ าก เป็ดทีเ่ กินมานีแ้ หละ จะน�ำไป ต้มเป็ดพะโล้นำ� มาขายก๋วยเตีย๋ วเป็ด สลับกับ ก๋วยเตีย๋ วทีข่ ายอยูเ่ ป็นประจ�ำ เป็นก๋วยเตีย๋ ว ที่นึกอยากจะกินก็กินไม่ได้ง่าย ๆ ก๋วยจั๊บ เครือ่ งปรุงต่างๆก็ไม่ตา่ งจากปัจจุบนั มากนัก ใส่ปอด ใส่ไส้ หนังหมู เต้าหู้ เลือดหมูและ ไข่พะโล้ ส่วนหมูสามชั้นจะใช้หมูสามชั้นต้ม ไม่ใช่ทอดอย่างปัจจุบนั ก๋วยเตีย๋ วผัดแดง เป็น ก๋วยเตีย๋ วทีค่ นไทยในช่วงนัน้ ใช้เรียกก๋วยเตีย๋ ว ที่คนจีนผัดขายในลักษณะนี้ว่าก๋วยเตี๋ยวผัด คล้ายผัดซีอี๊วแต่ไม่ได้ใส่หมูใส่ไข่ เส้นที่ใช้ผัด เป็นเส้นเล็กกับเส้นใหญ่ ผัดใส่ถั่วงอกและ ผักคะน้า ที่เรียกก๋วยเตี๋ยวผัดแดงเพราะคน จีนนิยมใส่ซีอิ้วด�ำลงไป การส่งเสริมให้ประชาชนกินก๋วยเตีย๋ วถือว่า ประสบผลส�ำเร็จ ช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เงินเฟ้อได้ การกินและการค้าขายก๋วยเตีย๋ วก็ กระจายออกไปในวงกว้าง มีก๋วยเตี๋ยวหลาย ชนิดให้เลือกกิน แต่ตดิ ตรงทีว่ า่ ก๋วยเตีย๋ วเป็น สูตรของชาวจีน ขัดกับนโยบายรัฐนิยมของ จอมพล ป. พิบลู สงคราม ถึงแม้จะส่งเสริมให้ กินก๋วยเตีย๋ วซึง่ เป็นอาหารของคนจีน แต่ขณะ เดียวกันยุคนัน้ ก็มกี ารต่อต้านอิทธิพลของจีน

เช่นกัน มีการสัง่ ปิดโรงเรียนจีน หนังสือพิมพ์ จีนเป็นจ�ำนวนมาก จ�ำกัดสิทธิการค้า เพื่อ ไม่อิทธิของจีนแพร่หลาย ผัดไทย ก๋วยเตี๋ยว สัญชาติไทยจึงเกิดขึน้ ถอดความเป็นจีนออก โดยการน�ำเส้นจันทร์มาผัด หั่นเต้าหู้เหลือง เป็นชิ้นเล็กๆ ใส่กุ้งแห้ง ใบกระเทียม แล้ว ตอกไข่คนให้ทั่ว ปรุงรสด้วยมะขามเปียก ไม่ ใส่หมู เพราะหมูเป็นสูตรอาหารของชาวจีน จากนั้นผัดไทก็กลายเป็นอาหารทีร่ ฐั ส่งเสริม ให้กินแทนก๋วยเตี๋ยว และกลายเป็นอาหาร ประจ�ำชาติของไทย จากอาหารทีช่ ว่ ยแก้ปญ ั หาเศรษฐกิจของ ประเทศ ก๋วยเตี๋ยวมีความหมายที่ลึกซึ้งเพิ่ม ขึน้ คือการเป็นอาหารประจ�ำชาติของไทย เป็น สิง่ ทีแ่ สดงให้เห็นว่านีแ่ หละคือเป็นไทย ความ เป็นไทยที่ปลดแอกจากอาหารจีนพัฒนาจน มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ซึง่ ถือว่า อาหาร ไทยชนิดนี้ประสบความส�ำเร็จตามเงื่อนไข ที่ถูกให้มา คือ เมื่อพูดถึงก๋วยเตี๋ยวผัดไทย ชาวต่างชาติก็จะนึกถึงประเทศไทย


128 นิตยสารเรื่องสั้น

บรรณานุกรม พูนผล โควิบูลย์ชัย. (2556). การต่อรองเชิง อ�ำนาจและการเปลีย่ นแปลงความหมายของ ผัดไทย: จากเมนูชาตินิยมสู่อาหารไทยยอด นิยม .วารสารภาษาและวัฒนธรรม. 83-91 รศ. ยุวดี ศิริ. (2556). ถนนเส้นก๋วยเตี๋ยว ๑ ถนนบางขุนนนท์. ศิลปวัฒนธรรม. 76-81 รศ. ยุวดี ศิริ. (2556). ถนนเส้นก๋วยเตี๋ยว ๒ ถนนบางขุนนนท์. ศิลปวัฒนธรรม. 88-91 รศ. ยุวดี ศิริ. (2556). ถนนเส้นก๋วยเตี๋ยว ๒ ถนนบางขุนนนท์. ศิลปวัฒนธรรม. 72-75 รศ. ยุวดี ศิริ. (2556). ถนนเส้นก๋วยเตี๋ยว ๒ ถนนบางขุนนนท์. ศิลปวัฒนธรรม. 64-67


เรื่อง : ท่านครับ

นิตยสารเรื่องสั้น 129

โดย : ศรันย์ ศรีมาจันทร์



นิตยสารเรื่องสั้น 131

Review

เนรเทศ ภู กระดาษ เรื่องโดย วิกรานต์ ปอแก้ว ข้ า พเจ้ า อ่ า นหนั ง สื อ ชื่ อ เนรเทศของ ภู กระดาษ จบลงขณะเนรเทศตัวเองจาก บ้านเกิดกลับสูค่ วามวุน่ วายในกรุงในมหานคร เฉกเดียวกับสายชน ตัวละครเอกของเรื่อง เพียงแต่สวนทิศสลับภูมิภาคกัน และออก จะสะดวกดายกว่าสายชนอยู่หลายขุมด้วย รถโดยสารปรับอากาศเอนนัง่ เอนนอนชัน้ หนึง่ หากก็เป็นรถโดยสารร่วมบริการเดียวกันกับ บริษัทขนส่งไทยนั่นแล แต่ไหนแต่ไรมาแต่เล็กจนเติบใหญ่ได้เรีย่ วได้ แรงออกท�ำมาหากินในกรุงเทพเมืองฟ้าอามร ข้าพเจ้าประสบเหตุประสบเคราะห์เฉียดใกล้ สายชนยิ่งนัก เพียงกลับสลับกันว่านั่นเป็น บิดาของข้าพเจ้า บิดาผู้มีการศึกษาน้อยพอ เพียงแก่การอ่านออกเขียนเป็น ได้รับความ ช่วยเหลือจากญาติผสู้ นุ ทานบานบุญแนะน�ำ

ฝากงานต่อสูญ ่ าติอกี ฝัง่ ให้ได้เข้ามาท�ำงานที่ โรงงานขนาดกลางในจังหวัดสมุทรปราการ อ�ำเภอพระประแดง ดินแดนแห่งโรงงาน อุตสาหกรรม ด้วยต�ำแหน่งคนขับรถเจ้าของ โรงงานซึง่ ก็เป็นญาติอกี ฝัง่ จากญาติของบิดา ข้าพเจ้าผู้สุนทานบานบุญยิ่ง นับแต่ตอนนั้น ชีวิตช่วงหนึ่งของบิดาที่กินเวลานับสิบปีจึง เฉียดใกล้ชีวิตสายชนเป็นอย่างยิ่ง ข้าพเจ้าในฐานะที่ได้ใกล้ชิดได้วนเวียน เข้าออกกรุงเทพพระนครแต่เด็กด้วยบิดาก็ได้ บันทึกได้จดจ�ำเรือ่ งราวช่วงนัน้ ไว้ซอกหลืบลึก แห่งความทรงจ�ำ โดยมีมารดาข้าพเจ้าผู้ร่วม ติดตามเข้ากรุงเข้านครด้วยสม�่ำเสมอเป็น เสมือนผูร้ ว่ มบันทึกและให้ถามไถ่หากหลงลืม ส่วนใด เหตุนั้นเองด้วยหนังสือชื่อเนรเทศ


132 นิตยสารเรื่องสั้น

ของภู กระดาษ ได้กระท�ำการประหนึ่งตะขอ เหล็กอันใหญ่เกี่ยวเวลาชีวิตช่วงนั้นที่เชื่อม ประสานทั้งข้าพเจ้า บิดา มารดา และน้อง ชาย ให้โผล่ผุดขึ้นมาเพื่อระลึกถึงความยาก ล�ำบากอัตคัดของชีวติ และการเดินทางเข้าออก กรุงนครกับบ้านเกิดทีเ่ ป็นไปอย่างลุม่ ๆ ดอนๆ วุน่ ๆ วายๆ จริงอยูท่ ขี่ ณะนัน้ การเดินรถสาย กรุงเทพ-หล่มสักไม่ได้ยากล�ำบากและน้อยใน จ�ำนวนเทีย่ วรถเฉกเดียวกับการเดินทางของ สายชนและครอบครัว ทว่าการเดินทางที่จะ สะดวกดายระดับนั้นแลกด้วยค่าโดยสารสูง ระดับด้วยเฉกกัน ซึ่งบิดาข้าพเจ้าในขณะนั้น ยังไม่อาจพาข้าพเจ้าและมารดาและน้องชาย ไปถึงระดับดังกล่าว ความเข้าอกเข้าใจลึกซึ้ง กินใจในการเดินทางกลับสูบ่ า้ นเกิดของสายชน กับครอบครัวผ่านสถานีขนส่งหมอชิตใหม่จงึ เกิดกับข้าพเจ้าไม่ยากเย็น เมือ่ พิจารณาใคร่ครวญสิง่ ทีเ่ กิดกับข้าพเจ้า ทัง้ ขณะอ่านและหลังอ่านหนังสือชือ่ เนรเทศ ของภู กระดาษ ตามกล่าวไปข้างต้น ข้าพเจ้า ยังค้นพบบางส่วนหลงเหลืออีกว่า สิ่งที่เกิด อยู่และเป็นไปต่อสายชน ไซยปัญญา ยัง คงพบเห็นได้เสมอกับชาวบ้านต่างจังหวัด เฉกเดียวกับสายชน ข้าพเจ้าในขวบอายุ สามสิบสองและบิดาห้าสิบเจ็ดประสบเหตุ

คล้ายกันนีใ้ นโรงพยาบาลประจ�ำจังหวัดของรัฐ สถานทีม่ ากความหวังแห่งการมีชวี ติ สืบต่อที่ คลาคล�ำ่ ด้วยผูค้ นในแบบสายชน ไซยปัญญา รอคอยรับบริการทางการแพทย์อย่างอิดโรย และเหนือ่ ยอ่อน บางคนเดินทางหลายชัว่ โมง จากหลายกิโลเมตรเพียงเพือ่ มาจับจองคิวรับ การรักษาแต่ดึกดื่นเช้ามืด บางคนเดินทาง อย่างยากล�ำบากมาเพือ่ ใช้สทิ ธิพ์ งึ มีทรี่ ฐั ออก ให้ ข้าพเจ้าและบิดาซึง่ เป็นหนึง่ ในผูค้ นเหล่า นั้นผู้คนที่เข้ารับบริการจากรัฐจึงโอบรับเอา ความรู้สึกของสายชน ไซยปัญญา เข้ามาไว้ กับตัวอย่างโหยไห้ ด้วยเหตุนั้น การอ่านหนังสือชื่อเนรเทศ ของภู กระดาษ ขณะเนรเทศตัวเองจากบ้าน เกิดกลับสูค่ วามวุน่ วายในกรุงในมหานครเฉก เดียวกับสายชน ก็ทำ� ให้ขา้ พเจ้าได้ตระหนักกับ ตัวเองอีกคราครัง้ หนึง่ ในบรรดาการตระหนัก หลายพันหลายหมื่นครั้งว่า 'ทุกอย่างไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ สงบนิ่งร�ำงับ ซ�้ำๆ วนๆ เสมอมาอยู่เช่นนั้น'


นิตยสารเรื่องสั้น 133

ภู กระดาษ เครดิตภาพ : http://www.aftershake.net


แลไปข้างหน้า 2559 สถานการณ์แวดวงวรรณกรรมไทยแม้ดูคึกคัก ส�ำนักพิมพ์เล็กๆ พิมพ์หนังสือปีละ สามสี่เล่มเติบโตขึ้นเป็นจ�ำนวนที่น่าพอใจ ร้านหนังสืออิสระ ร้านหนังสือออนไลน์สามารถ ฝ่าภัยเศรษฐกิจไปได้ดว้ ยการบริหารองค์กรทีเ่ ล็ก แต่คล่องตัว แต่สงิ่ ทีเ่ ห็นได้ชดั เจนทีส่ ดุ ก็คอื หลังรัฐประหารปี 2557 เศรษฐกิจโดยรวมตกต�่ำลงอย่างเห็นได้ชัด เงินในกระเป๋าของเราลด น้อยลง แต่ค่าใช้จ่ายกลับเพิ่มขึ้นเท่าตัว การส่งออกติดลบอย่างมีนัยยะส�ำคัญ ข้อนี้ไม่ต้อง ให้นักวิเคราะห์มานั่งหาตัวเลขประเมินให้เสียเวลา ไปเดินตลาดสดถามแม่ค้าดูก็จะรู้ความ จริง ร้านอาหารยอดขายตก คนหายเร็ว ผลกระทบเหล่านี้เกิดจากนโยบายหลักยิบย่อย รวม ไปถึงบรรยากาศการใช้จ่ายนั้นไม่เหลือให้คืนความสุขใดๆ เลย ทั้งที่ภาพรวมของประเทศ มีความสงบไม่มีการประท้วง แต่บรรยากาศการซื้อขาย บรรยากาศความหดหู่ มองไม่เห็น ประชาธิปไตยนั้นน่ากลัวกว่าม็อบหลายเท่า เพราะไม่มีใครกล้าใช้จ่ายเงิน ไม่รู้ว่าเศรษฐกิจ จะออกมาทางไหน


นิตยสารเรื่องสั้น 135

งานมหกรรมหนังสือเดือนตุลาคม มีแนวโน้มดิ่งลงมาต่อเนื่องแล้วเป็นปีที่สอง คนที่ขายได้ก็ไม่ใช่ว่ายอดจะพุ่งทะลุเพดาน เรียกได้ว่าปี 59 ถ้าไม่เกิดความเปลี่ยนแปลงต่อ นโยบายเศรษฐกิจ ความซบเซาที่ก่อตัวในปี 58 อาจจะเห็นผลหนักขึ้น ไม่ใช่แค่ค�ำขู่ แต่เรา มองไม่เห็นแสงปลายอุโมงค์เลย ข้อนี้ต่างหากที่น่ากลัว เหลือบไปที่แวดวงวรรณกรรม โดยเฉพาะร้านหนังสือใหญ่มีนโยบายเอาตัวรอด ด้วยการเพิ่มสินค้าที่ไม่ใช่หนังสือมากขึ้น รวมถึงมีการใช้ระบบผ่อนช�ำระสินค้าเข้ามาเสริม ผลประกอบการร้านใหญ่มแี นวโน้มลดลง ต้องปรับกลยุทธ์ด้วยการปิดร้านที่ไม่ทำ� ก�ำไรลงไป ยิง่ แย่ไปกว่านัน้ แมกกาซีนรายเดือนหลายหัวร่วมใจกันปรับเปลีย่ นกลยุทธ์มาท�ำหนังสือแจก ฟรีแทนหนังสือขาย บางหัวประกาศหยุดพิมพ์ รวมไปถึงหนังสือวรรณกรรมอย่างไรท์เตอร์ก็ หยุดการผลิตลงเช่นกัน การที่หนังสือหลายหัวเปลี่ยนมาแจกฟรี ยิ่งแลเห็นว่าแนวโน้มร้านหนังสือในห้างฯ อาจจะต้องพบทางตันมากขึ้น เพราะรายได้จากแมกกาซีนนั้นเป็นจุดเด่นของร้านมากกว่า พ็อคเก็ตบุ๊ค แล้วการปิดตัวหนังสือยังส่งผลให้หัวหนังสือลดลง นั่นยิ่งท�ำให้สถานการณ์ร้าน หนังสือในห้างฯ ต้องพบกับปัญหามากขึ้นไปอีก มีแต่ขา่ วร้ายเช่นนี้ จะหาทางออกอย่างไร แน่นอนว่าทุกสมัยปัญหาเศรษฐกิจตกต�ำ่ จะต้องมาเยือนเสมอ การแก้ไขนั้นเกิดขึ้นจากการเรียนรู้ และแก้ปัญหาให้ถูกจุดที่สุด นั่น หมายถึงว่าบางครัง้ อาจจะถึงเวลาทีส่ ำ� นักพิมพ์จะต้องพิจารณาแล้วว่าช่องว่างทางการตลาด ของสื่อสิ่งพิมพ์อาจจะเป็นเพียงภาพลวงตา หนังสือไม่ใช่สินค้าปกติทั่วไป การผลิตหนังสือ อาจจะต้องคิดใหม่ท�ำใหม่ทั้งขบวนการ ในช่วงที่เศรษฐกิจตกต�่ำเราควรปฏิบัติตัวอย่างไรบ้าง นอกจากหายใจเบาๆ ข้อแรก ก็คือ เฟ้นหาต้นฉบับที่ดีจริงๆ ไม่ใช่เพียงคิดว่าต้นฉบับนั้น “น่าจะขายได้” เพื่อลดความเสี่ยง ต่อการท�ำหนังสือ ถ้าเรายังเชื่อว่าต้นฉบับที่ดี ยังไงก็คือหนังสือที่ดี ข้อที่สองผลิตอย่างพิถีพิถันทุกขั้นตอน ตั้งแต่หน้าปกจนถึงเนื้อใน ตั้งแต่การเขียน จนถึงบรรณาธิการ การออกแบบปก รูปเล่ม ถ้าเรายังเชื่อว่าหนังสือคือสิ่งพิเศษ ไม่ใช่สินค้า


136 นิตยสารเรื่องสั้น

ธรรมดา ข้อที่สาม การตลาดแม้ส�ำคัญ แต่การตลาดไม่สามารถชี้น�ำหนังสือดีเสมอไป ดังนั้น แม้การตลาดจะจ�ำเป็น แต่การทุ่มกับการตลาดมากกว่าข้อที่สอง ดูเหมือนจะไม่เป็นผลดีต่อ แวดวงหนังสือเท่านั้น เพราะมันจะท�ำให้หนังสือที่มีเนื้อหาแย่ๆ เข้าสู่ระบบมากเกินไป คน อ่านเมื่ออ่านแล้วก็จะรู้สึกเข็ดขยาดจนไม่อยากซื้อหนังสืออีกถ้าพบว่ามันเป็นหนังสือหลอก ขาย เมื่อเปิดอ่านพบว่าสิ่งที่โฆษณาเกินจริงกว่าตัวเนื้อหา ดังนั้นอย่าให้การตลาดน�ำหน้า คุณภาพหนังสือ ข้อที่สี่บริหารจัดการส�ำนักพิมพ์ ให้ท�ำงานคล่องตัวมากขึ้น วิเคราะห์เป้าหมายของ กลุ่มคนอ่าน เพื่อให้หนังสือเดินทางไปถึงมือผู้อ่านที่ต้องการ โดยไม่ต้องหลงทาง ข้อสุดท้าย หยุดเสี่ยงโชควรรณกรรม และหันมาใส่ใจกับคนอ่านมากขึ้น หนังสือ ขายได้หรือไม่ยังไม่มีใครรู้ จนกว่าจะออกสู่ตลาด หากใครรู้ว่าหนังสือเล่มไหนจะขายได้ถล่ม ทลายช่วยบอกทีจักเป็นพระคุณ ทั้งหมดอาจจะไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เพราะปัจจัยของการผลิตหนังสือมิได้มีเพียง ปัจจัยเดียว แต่มีหลากหลายปัจจัย แต่เพื่อให้ส�ำนักพิมพ์เอาตัวรอดจากสภาวะเศรษฐกิจ ตกต�่ำ ในวันไร้แสงจากปลายอุโมงค์ นอกจากจะต้องเอาใจช่วย ภาวนาให้เศรษฐกิจกลับสู่ การฟื้นตัวโดยเร็วอีกครั้ง บางทีเราอาจจะต้องเริ่มต้นท�ำอะไรสักอย่าง เพื่อให้วงการหนังสือ มั่นคงด้วยการท�ำหนังสือ มิใช่เพื่อแย่งส่วนแบ่งทางตลาดที่มีช่องว่างให้เติบโต



Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.