E-Magazine
WRITE ปีที่ 1 ฉบับที่ 1 กันยายน 2551 www.thaiwriter.net
2
write.exe ส วัสดีค รับท า่ นผอู้ า่ นห นังสืออ เิ ลคโทรนคิ บุค๊ ใ นรปู แ บบวรรณกรรมที่ ท่านกำลังอ า่ นอยูน่ ไี้ ม่ใช่เรือ่ งใหม่ส ำหรับก ารทำหนังสือแ ต่ร ปู แ บบ ของมันเกิดขึ้นแ ละพัฒนามาได้พอสมควร ผมมคี วามสนใจในการ ทำหนังสือแ บบนมี้ านานแล้วแ ต่ย งั ข าดความพร้อมท งั้ ท มี ง านและ ทางดา้ นเทคนิคต อ้ งยอมรับว า่ ใ นโลกดจิ ติ อลเราสามารถสร้างสรรค์ สิ่งต่าง ๆ ขึ้นมาได้โดยมีค่าใช้จ่ายที่น้อยลง เมื่อกระดาษและการ พิมพ์ม รี าคาแพงขนึ้ น กั อ า่ นมองหาสอื่ ท สี่ นองความตอ้ งการได้ต รง จุดกว่าถูกกว่าทางเลือกจึงมาถึงหนังสือในรูปแบบนี้แม้ว่าม ันจ ะ ต่างจากการเป็นหนังสือกระดาษที่จับต้องได้ แต่ผมเชื่อว่ามันจะ พอทดแทนกันได้ในอนาคตเมื่อเทคนิคดขี ึ้นเน็ตเร็วขึ้นและผู้คนมี คอมพิวเตอร์ต ดิ ตัวก ารอา่ นหนังสือค งมกี ารปฏิวตั ไิ ปพอสมควรใ น ฐานะที่เราเป็นสื่อทางด้านวรรณกรรมโดยมองว่าเราไม่ค วรละเลย ต่อเรื่องเทคโนโลยีที่กำลังเจริญรุดหน้า อย่างน้อยผมก็อยากรักษา ฐานคนอ่านวรรณกรรมให้ยังค งมีพื้นทีแ่ ม้เวทีเปลี่ยนไปก็ตาม เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้ได้พี่ๆน้องๆจากสมาชิก www.thaiwriter.n etม าชว่ ยกนั เขียนโ ดยทีท่ กุ ท า่ นเต็มใจทจี่ ะเขียน อย่างทผี่ มไม่รจู้ ะตอบแทนอย่างไรถ า้ ห นังสือเล่มน ไี้ ม่มพี วกเขาและ เธอกค็ งจะจดื ส นิทช นิดท ผี่ มเองกท็ ำคนเดียวไม่ไ หวผ ลงานในเล่มน ี้ จึงม ีความหลากหลายมหี ลายแนวทางให้ท ่านผู้อ่านได้เลือกอ่าน สำหรับเล่มแรกซึ่งเป็นเล่มทดลองอ่านนี้เนื้อหายังไม่ สมบูรณ์นัก ยังขาดอีกห ลายคอลัมน์ท ี่คิดเอาไว้ แต่ไม่มเีวลาทำให้ ทันก อ่ นปดิ ต น้ ฉบับซ งึ่ ผ มเชือ่ ว า่ ใ นเล่มต อ่ ๆ ไ ปจะสามารถแก้ไขให้ ตรงจุดนี้ได้ ส่วนหนังสือเราได้ทำเป็นสองแบบ คือรูปแบบไฟล์ PDF ซึง่ ท า่ นสามารถโหลดไปเปิดอ า่ นในคอมพิวเตอร์ไ ด้โ ดยใช้โปรแกรม Adobe Acrobat ซึ่งเป็นโปรแกรมพื้นฐานที่ดาวน์โหลดมาได้ไม่ ต้องเสียลิขสิทธิ์ ซึง่ โปรแกรมนีส้ ามารถขยายขนาดความใหญ่ข องตวั
3
อักษรหรือจ ะพิมพ์ม าอ่านจากเครื่องพิมพ์ก ส็ ะดวก ไฟล์อ กี ร ปู แ บบหนึง่ ค อื เป็นไ ฟล์ใ นลกั ษณะ แฟลช สามารถเปิดอ่านคล้ายหนังสือ รูปแบบนี้ อาจจะต้องใช้เน็ตที่มคี วามเร็วสูงสักน ิด เพราะต้อง โหลดเนื้อหาซึ่งมากถึงห้าสิบหน้า ดังนั้นท่านผู้อ่าน สามารถเลือกได้ตามต้องการ นิตยสาร WRITE ตั้งใจจะออกเป็นราย เดือน แต่ช่วงเริ่มต้นเราขอออกตามรายสะดวกเสีย ก่อนหวังว ่าท่านผู้อ่านคงไม่ว ่าอะไรนะครับและถ้า ท่านผู้อ่านที่สนใจจะส่งบทความ ข้อเขียน มาร่วม กับทางนิตยสาร หรือต้องการแสดงความคิดเห็น สามารถส่งมาได้ที่niwat59@gmail.comขอย้ำนะ ครับว า่ เราไม่มคี า่ เรือ่ งตอบแทนทา่ นน อกจากคำวา่ ขอบคุณ “ขอ บคุ ณ ที่ ท่ า นเ ขี ย น ข อบคุ ณ ที่ ท่ า น อ่าน” เชิญเปิดอ่านโดยพลัน นิวัตพุทธประสาท
4
CONTENTS รายงานพิเศษ6BookDesign10Short Story14Nostalgia18S hortStory20 ๑รูป๑เรื่อง 22 MusicFountain 24 BookReview28 BookReview 32 Book&Movie 36 นอนดูหนัง 42Playground46 โลกเหงา50 BooksMania 56
WRITE Magazine บรรณาธิการ: นิวัต พุทธประสาท ประสานงานและเทคนิค: ติณ นิติกวินกุล นักเขียน: กฤติศ ิลป์ศักดิ์ศิริ, จิรัฏฐ์ เฉลิมแสนยากร, “ โนลีโอ”, แก้มหอม, ชนินทร อุลิศ, หอมรำเพย, ทนัชพร แซ่ตั้ง, พลพะยาบ, ลุงยะ, มณฑิตา วงษ์ชีพ, ผู้หญิงตะวันตก, มาลี ออกแบบรูปเล่ม: Porcupine Book Design ขอบคุณ: สมาชิกไทยไรเตอร์ดอตเน็ต , www.f0nt.com สำนักงาน: 29/76 หมู่บ้านวรารมย์ 81 ซอย 42 บางบอน 4 เขตบางบอน กทม. www.thaiwriter.net โทรศัพท์: 02-814-8887 E-Mail: porcupine@thaiwriter.net
5
6
รายงานพิเศษ
text&image: กฤติศิลป์ศักดิ์ศิริ
อบรมการเขียนนวนิยายขนาดสั้นกับสมาคมนักเขียนฯ เมื่อวันที่ 14-15 มิถุนายน, วันที่ 25-26 มิถุนายน และวันที่ 19-2 0กรกฎาคมที่ผ่านมาสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทยร่วม กับ กองทุนกฤษณา อโศกสิน ทำการจัดอบรม โครงการต่อยอด สืบทอดวรรณศิลป์ : การเขียนนวนิยายขนาดสั้น รุ่นที่ 1 , รุ่นที่ 2 และรุ่นที่3ตามลำดับณสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ในการอบรมรุ่นที่ 1 มีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิรวม 4 ท่าน ได้แก่ค ณ ุ ก ฤษณาอ โศกสนิ ศ ลิ ปินแ ห่งช าติส าขาวรรณศิลป์,ค ณ ุ ชมัยภรแสงกระจ่างนายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย,คุณ กนกวลี พจนปกรณ์ นักเขียนนวนิยายมืออาชีพ และคุณขจรฤทธิ์ รักษาบรรณาธิการและเจ้าของสำนักพิมพ์บ้านหนังสือ ผู้ที่เข้ารับการอบรมในรุ่นแรกนี้มีด้วยกันหลากรุ่นหลาย วัย ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน-นักศึกษา, ครู-อาจารย์, คนวัยทำงานผู้ สนใจใฝ่รู้ รวมถึงนักเขียนอาชีพอย่างคุณโดม วุฒิชัย เจ้าของผล งาน “ห่างไกล ไม่ห่างกัน” รางวัลชมเชยรักลูกอะวอร์ด ประจำปี 2550 และ “ควันไฟสายรุ้ง” รางวัลนายอินทร์อะวอร์ด ประเภท สารคดีป ระจำปี 2 551,น กั เขียนนอ้ งใหม่ว ยั ใ สอย่างK ennyH ass แห่ง 1168 พับลิชชิ่ง และคุณพจนารถ พจนปกรณ์ นักเขียนเรื่อง สั้นร างวัลชมเชยพานแว่นฟ้าประจำปี2546,รางวัลสุภาว์เทวกุล ประจำปี 2549 และรางวัลชนะเลิศนายอินทร์อะวอร์ด ประเภท นวนิยายประจำปี2551 วันแ รกของการอบรมเริม่ ต น้ ท เี่ วลา0 9.00น .ค ณ ุ ก ฤษณา อโศกสิน กล่าวเปิดงานพร้อมปาฐกถาพิเศษว่าด้วยการเขียน นวนิยายโดยมีเนื้อหาดังนี้ “จงอ่านความรู้สึกและเขียนความรู้สึก การอ่านความ รู้สึกเป็นความประณีตอีกอย่างหนึ่งที่มนุษย์ผู้เจริญปรารถนา นัก เขียนเขียนความรู้สึกข องตัวละครลงไปบนกระดาษของเขาทำให้ กระดาษเกิดร ูปรสสีและเสียงแม้กระทั่งก ลิ่นให้เราได้ประทับใ จ สิ่งที่เป็นตัวอักษรที่เราอ่านได้เหล่านี้มาจากอะไร? มาจากภาษา และฝีไม้ล ายมือใ นการสื่อภ าษาของชีวิตให้เกิดชีวิตข ึ้นมา รูป รส
กลิ่นสีเสียงเหล่านี้จะผุดข ึ้นมากระทบความรู้สึกข องเราได้อย่าง อ่อนห รืออ ย่างเข้มข น้ ก ด็ ว้ ยภาษาของนกั เขียนฉ ะนัน้ ภ าษาจงึ เป็น สิ่งท ี่นักอ ่านต้องการเป็นอันดับหนึ่ง ต่ อ ม าจึ ง ถึ ง เ นื้ อ หาที่ เ ราผู ก ขึ้ น ทั้ ง จ ากเ รื่ อ งจ ริ ง แ ละ จินตนาการ นักเขียนเป็นอิสระในทุกเรื่องที่อยากเขียน เนื้อหาจะ เป็นอ ย่างไรกไ็ ด้ส ดุ แต่ใ จของผเู้ ขียนก อ่ นเขียนงานนกั เขียนจะตอ้ ง เลือก“เนือ้ หา”ก อ่ นน กั เขียนมอื ใ หม่ห ดั ข บั อ าจนกึ ว า่ ต อ้ งพยายาม หาเนื้อหาที่โลดโผนเกี่ยวกับเรื่องเพศมาดึงดูดค วามสนใจแต่กไ็ ม่ เป็นความจริงเสมอไปว่าน ักอ่านทุกค นอยากเสพ ฉะนัน้ ก ารเขียนเรือ่ งแรกๆค วรเลือกเนือ้ หาทตี่ นเองถนัด คุน้ เคยแ ละเป็นส งิ่ ท กี่ ระทบตาจบั ใจเพราะจะชว่ ยให้การบรรยาย เรื่องนั้นๆ ง่ายขึ้น เนื่องจากสามารถลงรายละเอียดได้เป็นขั้นเป็น ตอน รายละเอียดเป็นอีกสิ่งที่สำคัญในการขับเคลื่อนการเขียน ทุกช นิดโ ดยเฉพาะรายละเอียดเกีย่ วกบั ส ติป ญ ั ญาอ ารมณ์ค วาม รูส้ กึ ข องตวั ล ะครเป็นส งิ่ ท ไี่ ม่ค วรทงิ้ ก ารบรรยายและการพรรณนา โวหารจงึ เป็นส งิ่ ท จี่ ำเป็นอ ย่างยงิ่ ใ นงานเขียนเราตอ้ งเขียนหนังสือ ให้ผอู้ ่านตามเราไม่ใช่เราโน้มลงไปตามผู้อ่านไม่เช่นน ั้นเราจะไม่ สามารถยืนได้แค่ลงไปคลานกับพื้น เมื่อตรงไปสู่เป้าหมายของเรื่องราวแล้ว เราก็ต้อง “ม้วน และมดั ” ใ ห้ท กุ บ รรทัดท เี่ ขียนมาลงเอยอย่างสมบูรณ์ส มบูรณ์ด ว้ ย ปัญญาที่เราพิจารณาแล้วว่าถูกต้องงดงาม ทางไปสู่ความสำเร็จ
7
8
นั้นแม้ยากลำบากก็จริงแต่ถ้าเป็นทางแห่งความรักเดินเท่าไหร่ ก็ไม่รจู้ ักเหนื่อย” หลังจบปาฐกถาพิเศษคุณชมัยภรแสงกระจ่างรับช่วง ต่อด้วยการพูดถึงเรื่องของความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับนวนิยาย “นวนิยายคืออะไร? หลายคนรู้จักเรื่องสั้น แต่อาจยัง ไม่เข้าใจความหมายของนวนิยาย นวนิยายไม่ใช่การนำเรื่องสั้น หลายๆเรื่องมาต่อกันถ้าไม่วางโครงเรื่องให้ม ันเป็นนวนิยายมัน ก็จะกลายเป็นเรื่องสั้นชุด แต่ละชุดจะเหมือนกับว่ามีโครงสร้าง ของการเป็นเรื่องสั้นอยู่ในแต่ละเรื่อง ส่วนนวนิยายเป็นเรื่องแต่ง อีกแบบหนึ่งซึ่งต้องมีโครงสร้างของมันเอง เราจะทำให้เป็นนวนิยายได้อย่างไร? สิ่งที่ต้องมีคือ คุณจะต้องคิด ต้องทำอย่างไร ต้องหาอะไรมาเขียน ก่อนเขียน นวนิยายเรารู้แล้วว ่าโ ครงสร้างของมันเป็นอย่างไร แต่เราจะต้อง คิดก่อนว่าเราจะเขียนอะไรนี่คือองค์ประกอบอันแรกของมันคือ เรือ่ งของแก่นเรือ่ งห รือธ มี ( T heme)ข องเรือ่ งเมือ่ ค รูค่ ณ ุ ก ฤษณา บอกวา่ จ ะตอ้ งมว้ นแล้วม ดั เมือ่ ม ดั แ ล้วจ ะพาไปสเู่ ป้าห มายน นั่ ค อื ต้องคดิ เอาไว้ก อ่ นต วั แ ก่นค วามคดิ แ ละเป้าห มายจะมาพร้อมกนั เราจะเขียนเรือ่ งอะไร?แ ละเขียนทำไม?น คี่ อื ส งิ่ ส ำคัญท สี่ ดุ ใ นการ เขียนนวนิยาย ขณะที่คิดแก่นเรื่อง แล้วคิดชื่อเรื่องไปพร้อมกันได้ด้วย จะเป็นเรื่องที่วิเศษมาก แต่ชื่อเรื่องไม่ควรบอกหมด เพราะนั่น จะทำให้ยาวเกินไป และไม่น่าสนใจ สร้างวลีอะไรก็ได้ที่แปลกๆ และสื่อความหมาย อย่างเช่น นวนิยายของคุณกฤษณา ที่ชื่อ “ ข้ามสีทันด ร”หากไม่ได้อ่านก็จะไม่ทราบเลยว่า‘สีทันดร’ซึ่งแปล ว่าทะเลที่กว้างใหญ่มาก ในที่นหี้ มายถึงยาเสพติด เพราะฉะนั้น ความหมายของ ‘ข้ามสีทันดร’ จึงหมายถึงความยากลำบากใน การข้ามให้พ้นยาเสพติด หลังจากที่เราคิดแก่นเรื่องเรียบร้อยแล้ว เราต้องคิด โครงเรื่องต่อ อย่างโครงเรื่องในเรื่องสั้นคือการนำเหตุการณ์ของ เรื่องมาต่อกันอย่างเป็นเหตุเป็นผลเพียงหนึ่งหรือสองเหตุการณ์ เท่านั้นเพราะมันเป็นเรื่องสั้น แต่นวนิยายจะต้องเป็นเหตุการณ์ ทัง้ ช ดุ ท ตี่ อ่ ก นั เป็นโ ครงเรือ่ งแ ละเหตุการณ์เหล่าน นั้ จ ะตอ้ งรบั ก นั อย่างเป็นเหตุเป็นผ ลโ ดยเหตุผลในทนี่ หี้ มายถงึ ก ารกระทำของตวั ละครทที่ ำให้เกิดเหตุการณ์ต า่ งๆเพราะฉะนัน้ เหตุการณ์ต อ้ งสอด รับกันตั้งแต่ต้นจนจบโดยไม่ให้คนอ่านตั้งคำถามหรือมีข้อสงสัย
คนที่เขียนชำนาญแล้ว แม้แ ต่คำๆ หนึ่ง หรือประโยคๆ หนึ่งก็จะ มีความหมายและรายละเอียดของมันเองโดยอัตโนมัต”ิ จากนั้น คุณชมัยภร ได้เสนอให้ผู้เข้าอบรมช่วยกันคิด แก่นเรือ่ งช อื่ ต วั ล ะครแ ละเหตุการณ์ต า่ งๆท สี่ อดรบั ก นั อ ย่างเป็น เหตุเป็นผลร่วมกันเพื่อให้เกิดค วามเข้าใจมากขึ้น หัวข้อของการอบรมช่วงเช้าเน้นหนักในเรื่องของแก่น เรื่อง และโครงเรื่อง ด้วยเหตุนี้คุณชมัยภรจึงขอความอนุเคราะห์ จากวิทยากรอีก 2 ท่าน คือ คุณขจรฤทธิ์ รักษา และคุณกนก วลี พจนปกรณ์ บอกเล่าถึงการคิดแก่นเรื่อง และโครงเรื่องของ นวนิยายซึ่งคุณชมัยภรชอบเป็นการส่วนตัว โดยเริ่มที่นวนิยาย เรื่อง‘หญิงข้างถนน’ของคุณขจรฤทธิ์รักษา คุณข จรฤทธิ์พูดถ ึงการวางโครงเรื่องของนวนิยายเรื่อง นี้ว่า “คุณรงษ์ วงษ์สวรรค์เคยสอนว่า “ข้อสำคัญที่สุดคือ สร้างตัวละครของเราให้มีชีวิต และตัวละครนั้นก็จะดำเนินต่อ ไป” ตอนที่ผมจะเขียนเรื่อง ‘หญิงข้างถนน’ ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยว กับโสเภณีที่อยู่ชายหาดพัทยา ผมไม่ได้คิดเรื่องนี้ก่อน ทีแรกผม คิดว่าจะเขียนเรื่องเกย์ เพราะอยากรู้ว่าเหตุใดผู้ชายถึงยอมให้ ผู้ชายด้วยกันล่วงล้ำ ผมจึงเริ่มต้นด้วยการไปนั่งบาร์เกย์ที่พัทยา พอเขารู้ว่าผมเป็นนักเขียนเขาก็ถอยหนีกันหมด ผมเลยเดิน กลับที่พัก เจอหญิงข้างถนนเดินเข้ามาบอก “Hello You want me?” ผมเลยเข้าไปคุยด้วย เขาไม่คุย เขาจะเอาตัง ผมก็ให้เขา ไปพันบาท แล้วชวนเขาไปกินก๋วยเตี๋ยว นั่งคุยกันไป น้ำตาเขา ก็ไหลพรากไป ชีวิตลำบาก ผมจึงอยากเขียนเรื่องนี้ หลังจากได้ ข้อมูลจริงแ ล้วผมต้องไปหาข้อมูลเพิ่มเติมแ ถวภาคอีสานซึ่งเป็น ถิน่ ฐานบา้ นเกิดข อง‘หญิงข า้ งถนน’เพือ่ น ำมาประกอบการเขียน พร้อมกับส ร้างตัวละคร 4-5 ตัว แล้วนำมาเกลี่ยใ ห้เข้าก ับเนื้อหา ของเรื่อง ไม่ว่าเราจะเขียนเรื่องอะไร เราต้องเข้าให้ถึงเรื่องนั้นๆ รวมทั้งกล้าหาญที่จะเขียน กล้าหาญที่จะคิด และรับฟังคนที่มี ประสบการณ์” ด้าน คุณกนกวลี พจนปกรณ์ ได้พูดถึงนวนิยายเรื่อง ‘จะเก็บร ักไว้ไม่ใ ห้หลุดลอย’ ของเธอว่า “เรื่อง ‘จะเก็บรักไ ว้ไม่ให้ หลุดลอย’ เริ่มจากดิฉันได้ไปปฏิบัติธรรมที่วัดปรินายกเป็นเวลา 21วันนั่นทำให้ได้เห็นแม่ช ที ั้งหลายที่อยูใ่ นวัดอยูใ่ นแวดวงของ ทัง้ ส งฆ์แ ละชี แ ล้วก เ็ ห็นแ ม่ช คี นหนึง่ ม ลี กู ท กุ เช้าป ระมาณตี 4 ค รึง่
9
เราจะต้องตื่นขึ้นมาทำวัตร เด็กผู้ชายคนนี้ซึ่งอยู่ในวัยที่ยังไม่เข้า วิจารณ์, การทำต้นฉบับ รวมถึงช่องทางการนำเสนอผลงานไป อนุบาลก็จะมาอยู่ท้ายแถวตรงที่เราสวดมนต์กัน เสียงของแกจะ ยังนิตยสาร และสำนักพิมพ์ต่างๆ ส่วนช่วงบ่ายเป็นการวิจารณ์ แทรกขนึ้ ม าเจือ้ ยแจ้วพ อหกโมงเย็นก ม็ าอกี แ ล้วเรากเ็ ลยประทับ ผลงานของผเู้ ข้าอ บรมพ ร้อมมอบของทรี่ ะลึกใ ห้แ ก่ผ ทู้ เี่ ขียนโครง ใจ แล้วก็ได้คุยกับแม่ชีว่าเป็นมายังไง แม่ชีก็เล่าเรื่องราวให้ฟัง เรื่องได้ดีที่สุดจำนวน 5 เรื่อง และวิทยากรเปิดโอกาสให้ผู้เข้า ซึ่งแน่นอนว่าชีวิตของเธอต้องรันทดถึงต้องนำลูกมาปฏิบัติธรรม อบรมซักถามขอ้ สงสัยหลังจากนนั้ จึงเข้าสชู่ ่วงเวลาของการมอบ ด้วย ดิฉันเก็บข้อมูลของแม่ชีเอาไว้หลายเรื่องเลย แต่ตัวละคร ใบประกาศนียบัตรโดยคุณก ฤษณาอโศกสินก่อนปิดท ้ายด้วย 1 ตัวยังทำอะไรไม่ได้ การเขียนหนังสือไม่ใช่ว่าจะเขียนได้เลย การถ่ายภาพร่วมกันเป็นที่ระลึก เพราะฉะนั้นต้องเก็บไว้ก่อน คือเวลาเราไปเจอะเจออะไรเราจะ สำหรับรุ่นที่ 2 มีวิทยากรด้วยกัน 3 ท่าน ได้แก่ คุณ เก็บเอาไว้แ ล้วม นั จ ะเป็นป ระโยชน์ท กุ ค รัง้ ท กุ ค ราทเี่ ราจะดงึ ม นั ม า กฤษณา อ โศกสิ น, คุ ณช มั ย ภร แ สงก ระจ่ า ง, คุ ณก นกว ลี ใช้จ นกระทัง่ ม าอกี ร ะยะหนึง่ ค ณ ุ แ ม่ป ว่ ยเป็นม ะเร็งป อดด ฉิ นั พ า พจนปกรณ์ เนื่องจากคุณขจรฤทธิ์ รักษา เข้ารับการผ่าตัด คุณแ ม่ไ ปหาหมอโ ดยตอ้ งไปๆม าๆร ะหว่างสองโรงพยาบาลค อื กะทันหันส่วนรุ่นท ี่3มีวิทยากรด้วยกัน4ท่านได้แก่คุณชมัยภร พญาไทกบั ร าชวิถี เพราะคณ ุ ห มอทรี่ กั ษาคณ ุ แ ม่เป็นแ พทย์ป ระจำ แสงกระจ่าง,ค ณ ุ ก นกวลีพ จนปกรณ์,ค ณ ุ เพชรยพุ าบ รู ณ์ส ริ จิ รุง โรงพยาบาลพญาไทแ ต่เป็นอ าจารย์ส อนอยูท่ โี่ รงพยาบาลราชวิถี รัฐแห่งนิตยสารKOKORO(ณ เพชรสำนักพ ิมพ์) และผศ.ดร. นัน่ ท ำให้เห็นค วามแตกตา่ งทงั้ ก ารบริการแ ละการทำงานของคณ ุ สวุ รรณาเกรียงไกรเพ็ชร์ อดีตอ าจารย์ป ระจำภาควชิ าภาษาไทย หมอดิฉันกเ็ก็บข ้อมูลเอาไว้อีกแต่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างต่อมาได้ คณะอกั ษรศาสตร์จ ฬุ าลงกรณ์ม หาวิทยาลัย ผ ซู้ งึ่ เป็นท งั้ น กั อ า่ น อ่านหนังสือพิมพ์และดูข่าวทางโทรทัศน์ มีนักธุรกิจชายคนหนึ่ง นักว จิ ารณ์แ ละบรรณาธิการป จั จุบนั เป็นผ ชู้ ว่ ยผอู้ ำนวยการศนู ย์ ถูกจับในข้อหาฟอกเงินเขากลายเป็นคนล้มละลายนั่นเป็นภาพ มานุษยวิทยาสิรินธร ที่ชอ็ กความรู้สึกของดฉิ ันเหมือนกนั ตวั ละครของ‘จ ะเก็บรักไว้ไม่ ตลอดระยะเวลาการอบรมทั้ง 3 รุ่น วิทยากรทุกท่าน ให้ห ลุดล อย’แ ต่ละตวั ม นั เหมือนเป็นจ กิ๊ ซ อว์เมือ่ เราได้ภ าพมาแต่ ล้วนถ่ายทอดประสบการณ์ให้แก่ผู้เข้าอบรมอย่างเป็นกันเอง ละภาพๆเรามหี น้าท ที่ จี่ ะนำภาพเหล่าน นั้ ม าตอ่ ก นั ใ ห้เป็นร ปู ร า่ งที่ ปราศจากความตึงเครียดทำให้ช่วงเวลาของการอบรมทั้ง2วัน สวยงามแ ละชดั เจนขนึ้ แ ต่ท งั้ หมดทงั้ ม วลกย็ งั ไ ม่ไ ด้พ ล๊อต ออกมา เต็มเปีย่ มไปดว้ ยเนือ้ หาสาระพ ร้อมทงั้ ค วามสนุกสนานควบคูก่ นั แล้วใ นชว่ งนนั้ ม ขี า่ วคราวของนสิ ติ น กั ศึกษามหาวิทยาลัยท ฟี่ งุ้ เฟ้อ ไปจนผู้เข้ารับการอบรมต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า“ราคาเพียง เห่อเหิมห รือว า่ ไ หลตามกระแสวตั ถุนยิ มอย่างมากด ฉิ นั เลยได้ต วั เท่านี้นับว ่าคุ้มเกินค ุ้ม” ละครเพิม่ อ กี ต วั พ อจะลงมือเขียนกต็ อ้ งจบั ต วั ล ะครเหล่าน มี้ าผสม นอกจากนี้ ผ เู้ ข้าอ บรมยงั ไ ด้ร บั น ติ ยสารไรเตอร์(ห นังสือ กันโดยกำหนดคาแรคเตอร์ต ัวละครแต่ละตัวให้ช ัดเจน” ทรงคุณค่าสำหรับคอวรรณกรรม) ที่ทางสำนักพิมพ์บ้านหนังสือ ช่วงบ่ายเป็นการอบรมในหัวข้อ วิธีสร้างและประเภท โดยคุณข จรฤทธิ์รักษานำมาอภินันทนาการคนละ2เล่มพร้อม ของตัวละคร, มุมมองและการเล่าเรื่อง, การเขียนบทสนทนา กับร วมเรื่องสั้น ดาวส่องเมือง , เรืองแสงดาว และ พราวสายรุ้ง การบรรยายฉากและบรรยากาศ,ก ารใช้น ำ้ เสียงและการใช้ภ าษา ที่ทางสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทยได้จัดทำขึ้น โดยแต่ละ กลวิธที างวรรณศิลป์แ ละสตู รสำหรับก ารแต่งน วนิยาย,ว ธิ ตี งั้ ช อื่ เล่มเหมาะสำหรับนำไปศึกษากลวิธีการเขียน เนื่องเพราะบรรจุ เรื่องชื่อตัวละครและนามปากกาชั่วโมงสุดท้ายเป็นการwork- เรื่องสั้นของนักเขียนชั้นค รูทั่วฟ้าเมืองไทยรวมเข้าไว้ด้วยกัน shop ฝึกเขียนนวนิยาย พร้อมสั่งให้ผู้เข้าอบรมเขียนโครงเรื่อง สำหรับก ารอบรมการเขียนนวนิยายขนาดสนั้ ก บั ส มาคม นวนิยายจำนวน1เรื่องเพื่อนำมาส่งในวันร ุ่งขึ้น นักเขียนฯในครั้งต่อไ ปจะจัดขึ้นเมื่อไหร่นั้นติดต่อส อบถามได้ที่ ในวั น ที่ ส องข องก ารอ บรม ช่ ว งเ ช้ า เ ป็ น การอ บรม สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทยโทร.02-910-9565หรือที่08- ในหัวข้อ การขอยืมความคิดคนอื่นและการเลียนแบบอย่าง 4015-8534(ค ุณสราวุธเจ้าหน้าทีส่ มาคมนักเขียนฯ) d สร้างสรรค์, อุปสรรคและปัญหาในการเขียนนวนิยาย, การถูก
10
BookD esign text: นิวัต พุทธประสาท
TextBook
การจัดหน้าหนังสือสำหรับอ่าน การออกแบบหนังสือพ็อคเก็ตบุ๊คดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่าย ๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะหนังสือทั้งเล่มมีแต่ตัวหนังสือ กับตัว หนังสือเท่านั้น ไม่นับรวมภาพประกอบ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีแต่ หนังสือท่องเที่ยว หรือวิชาการที่ต้องอาศัยรูปประกอบ ยิ่งเป็น หนังสือเกีย่ วกบั น ยิ ายหรือเรือ่ งสนั้ ข องฝรัง่ ด ว้ ยแล้วก ารใช้ภ าพ ประกอบยิ่งน้อยลงไป อาจเป็นเพราะว่าการมีภาพประกอบ หนังสือเท่ากับก ารเพิม่ C ostข องตน้ ทุนเข้าไปดว้ ยท างทดี่ กี ค็ อื ตัดมันท ิ้งเสียแล้วทำแต่หนังสือที่มีแต่ตัวหนังสือ555 สำหรับการออกแบบทั้งหลาย “ยิ่งน้อยเท่าไหร่ ก็ยิ่ง สวยมากเท่านั้น” แต่ “ความน้อย” มักจะควบคู่กับความยาก เสมอบ างสำนักพ มิ พ์อ าจจะไม่ใ ห้ค วามสำคัญต อ่ ก ารออกแบบ ไม่เห็นคุณค่าของการจัดรูปเล่มและมองข้ามความสวยงามใน แบบเรียบง่ายแต่เน้นท คี่ วามหรูหราในเชิงปริมาณแน่นอนนัก ออกแบบตอ้ งทำบางอย่างให้ก บั เจ้าของผลงานได้เห็นว า่ ต วั เอง ทุ่มเททรัพยากรทางสมองเพื่อคิดค้นรูปแบบอันอลังการ เพื่อ สมกับราคาค่าจ้าง และทางเจ้าของหรือสำนักพิมพ์เองก็ยินดี กับรูปแบบที่เลิศหรู แม้มันจะไม่เข้ากันเลย หรือว่าตัวหนังสือ อ่านยากโคตร ๆ รวมถึงรกรุงรังด้วยตัวอักษรประดิษฐ์ที่ไม่เข้า กับเนื้อหา
ภาษาไทยเป็นภาษาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ใน แวดวงการพิมพ์นั้น การออกแบบตัวพิมพ์ภาษาไทยมีข้อถก เถียงทางเทคนิคมาโดยตลอด เริ่มจากยุคการจัดอาร์ตในแบบ เก่าที่ต้องตัดเรียงตัวอักษรเพื่อถ่ายเป็นฟิล์มนั้นทำให้ตัวอักษร ตัวใหญ่กินเนื้อที่หน้ากระดาษ เพราะถ้าหดเหลือตัวเล็กก็จะ ทำให้อ ่านยากจนมาถึงก ารจัดอ าร์ตย ุคใ หม่ซึ่งใ ช้คอมพิวเตอร์ ความกา้ วหน้าท างเทคโนโลยีท ำให้ว งการพมิ พ์ค กึ คักเป็นอ ย่าง มากแ ต่ก ระนัน้ ป ญ ั หาภาษาไทยสำหรับซ อห์ฟแวร์ต า่ งประเทศ ก็เกิดปัญหาซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยเฉพาะโปรแกรมอย่าง ILLUSTRATOR,PHOTOSHOPและINDESINGมักป ระสบปัญหา พยัญชนะกระเด้งบ ้าง ไม่อ่านฟ้อนต์ภาษาไทยบางตัวบ้าง จน
11
ผูใ้ ช้ห ลายคนตา่ งบน่ ก นั ว า่ ฟ อ้ นตไ์ ทยบนเวทีโ ลกมปี ญ ั หาตลอด กาล ปัญหาเหล่านี้บั่นทอนต่อผู้ออกแบบอยู่พอสมควร เพราะหาไม่แล้วเราก็ไม่สามารถจัดการกับหนังสือของเรา ให้ออกมาสมบูรณ์ได้ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าปัญหาการละเมิด ลิขสิทธิ์ในไทย ทำให้ไม่ค่อยมีใครอยากจะซัพพอร์ตโปรแกรม เพื่อรองรับภาษาไทยให้เรานั่นเอง สุดท้ายองค์กรเอกชนก็ต้อง เพิ่งตนเองกันต่อไป หรือถ้าต้องการขจัดปัญหาเรื่องเทคนิค ซอห์ฟแวร์ก็ต้องซื้อบริการเสริมสำหรับการแก้ไขของโปรแกรม นั้นๆ กลับม าทกี่ ารออกแบบหนังสือส งิ่ ท ตี่ อ้ งคำนึงป ระการ แรกก็คือ เราจะเลือกฟ้อนต์หรือตัวอักษรชนิดใดเป็นตัวเนื้อหา โจทย์น เี้ ป็นโ จทย์ท ไี่ ม่ย ากแ ต่ค นทำหนังสือม อื ใ หม่ม กั จ ะตกมา้ ตายมานับต่อนับ
เราจะรไู้ ด้อ ย่างไรวา่ ฟ อ้ นตท์ เี่ ราเลือกนนั้ 1 .อ า่ นงา่ ย2 .ประหยัดเนื้อที่3.ไ ม่เป็นปัญหาเมื่อต ้องส่งโรงพิมพ์ข้อแ รกนั้น เราต้องศึกษาหนังสือตัวอย่างที่ขายในท้องตลาดหลาย ๆ เล่ม ข้อดีของฟ้อนต์ไทยอย่างหนึ่งก็คือมีให้เลือกไม่มากนัก ฟ้อนต์ ไทยทอี่ ่านง่ายเมื่อต้องพิมพ์ข ้อความยาวๆจึงมีตัวเลือกจำกัด แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก็คือตัวอักษรบางตัวเหมาะกับ ขนาดบางขนาดเท่านั้น แม้มันจะเป็นฟ้อนต์ที่อ่านง่าย แต่ถ้า ใช้ผิดข นาดมันก จ็ ะดูไม่สวย อย่างเช่นฟ ้อนต์ฮิตอ ย่าง Cordia หรือ ทอมไลต์ นั้น จะมีเส้นทบี่ าง มันเหมาะกับขนาดตั้งแต่ 12-16 พ้อย ต์เท่านั้น ถ้าใหญ่กว่านี้มันจะดูบางเกินไปดูแล้วไม่มีน้ำหนัก สำหรับผม ฟ้อนต์Cordiaมักจ ะเลือกใช้อยู่ที่14-15พ้อย ต์เท่านั้นแม้แต่ 16พ ้อยต์ม ันกด็ ูหลวมๆเกินง าม ส่วนฟ้อนต์ Angsana หรือ ฝรั่งเศส จะเป็นฟ้อนต์ที่
12
มีเส้นหนาบางในตัว ดูแล้วมีน้ำหนักมั่นคง ฟ้อนต์นี้เหมาะแก่ การเป็นฟ้อนต์สำหรับอ่านข้อความยาว ๆ ที่สำคัญคือมันอ่าน ได้ง่ายทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่ ถ้าเราเลือกขนาดฟ้อนต์ที่เล็กลง มันจะกินเนื้อที่กระดาษน้อยกว่า เส้นที่หนาทำให้เราอ่านได้ อย่างชัดเจน ฟ้อนต์สำหรับอ่านตัวอื่นๆที่นิยมใช้ก็คือBrowallria ก็นิยมไม่แพ้กัน ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัว อีกอย่างก็คือ ฟ้อนต์เหล่านี้เรามักเห็นจนคุ้นเคยตามเอกสารต่าง ๆ อยู่แล้ว เมื่อนำมาจัดทำหนังสือจึงทำให้คนอ่านคุ้นเคยกับมันได้ง่าย กว่าฟ ้อนต์อักษรประดิษฐ์ นอกจากการเลือกฟ้อนต์แล้วสิ่งที่เป็นกฎที่ละเมิดไม่ ได้ก็คือ ความห่างระหว่างบรรทัด คือจุดสำคัญที่ทำให้ห นังสือ ออกมาดดู ีสวยและอ่านง่ายหนังสือบางเล่มเนื้อหาน้อยผู้จัด
มักแก้ปัญหาด้วยการใช้ฟ้อนต์ใหญ่ขึ้นและจัดบรรทัดห่างกัน มากจนมองเห็นพื้นที่ว่างโหวง หรือหนังสือบางเล่ม ตัวอักษร นอกจากเล็กแ ละเบียดกนั แ ล้วบ รรทัดย งั ต ดิ ก นั จ นอา่ นแทบไม่ ออกหรืออ่านได้ครู่เดียวก็ตาลายนอกจากบรรทัดแ ล้วช่องไฟ ระหว่างวรรคในแต่ละประโยคก็มีส่วนทำให้หนังสืออ่านยาก ด้วย ผมเคยเห็นสำนักพิมพ์หนึ่งเว้นวรรคประโยคห่าง กันประมาณห้าเคาะ ทำให้บรรทัดหนึ่งมีเพียง หนึ่งหรือสอง ประโยค และตัวอักษรห่างกันจนอ่านไม่รู้เรื่อง หนังสือสำนัก พิมพ์น ผี้ มมีอยูส่ องสามเล่ม และไม่เคยอ่านหนังสือข องเขาจบ เลยน ่าเสียดาย
13
การจัดหนังสือพ้อคเก็ตบุ๊คเหมือนเป็นงานที่ง่ายดาย แต่ค วามงา่ ยนนั้ แ ฝงเร้นไ ปดว้ ยกบั ด กั ส ำหรับก ารจดั อ าร์ตเพือ่ พ็อคเก็ต บุค๊ “ น อ้ ยแต่ม าก”ค อื ค าถาขอ้ แ รกแ ละขอ้ ส ดุ ท้ายทนี่ กั ออกแบบหนังสือพึงท ่องจนขึ้นใจนั่นเอง d
14 14
Short Story text: จิรัฏฐ์ เฉลิมแสนยากร
ความหนักหน่วงที่ยอมทนของชีวิต(วัยรุ่น) ว ิไลกำลังน ั่งเหม่อมองออกไปนอกห้องเรียน เธอกำลังคิดว่าเมื่อคืนนี้ที่วิชัยบอกรักนั้นมาจากใจหรือเพราะ เขาเหงากันแ น่วิไลสังเกตว่าเพื่อนหลายคนเคยโดนแฟนตัวเอง สารภาพรักมาแล้วแต่ก็ไม่ได้จริงจังยั่งยืนอะไรเลยสักคนเดียว ไปจบกันที่หอพักทุกค นไป วิไลบอกกับตัวเองอีกว่าแต่เรายังไม่ได้เสียกับวิชัยสักหน่อย ทำไมวิชัยถึงได้บอกรัก--หรือว่าเขาต้องการจะมีอะไรกับฉันกัน แน่—เขาหวังห รือ? อีกยี่สิบนาทีจะเที่ยงคืน วิชัยนั่งอยู่ที่โซฟาหนังเทียมในร้าน อาหารกึ่งผับกึ่งบาร์ ในมือถือแก้วเหล้าผสมโซดาซึ่งน้ำแข็ง หลายก้อนได้ละลายจนเหล้าเจือจางลงไปแล้วเนื่องจากเขานั่ง เหม่อมองออกไปนอกร้านที่มีผู้คนพลุกพล่าน เขากำลังคิดว่า คำสารภาพรักที่บอกรักวิไลไปเมื่อคืนเป็นเพราะสาเหตุใดกัน แน่—เราต้องการนอนกับเธอหรือว่าเรารักเธอจริงๆ
15 15
ภาพหยุดไว้แ ค่นั้น นี่ไม่ใช่มิวสิควิดิโอตัวใหม่ของนักร้องดังค่ายไหนหากเป็นภาพของหนุ่ม สาววัยร ุ่นคู่หนึ่งที่กำลังสับสนกับเรื่องความรัก จ ะเรียกวา่ ค วามรกั ไ ด้ห รือไ ม่น นั้ ไ ม่ส ำคัญส ำคัญแ ต่ค ำวา่ “ ค วามรกั ” ไ ด้ เป็นอ าการถึงขั้นห มกมุ่นของวัยนี้มากกว่าเรื่องอื่น บ างคนหมกมุน่ ถ งึ ข นั้ ไ ด้ป รัชญาประจำตวั อ อกมาเสมอและในสมัยน อี้ นิ เตอร์เน็ทเป็นส อื่ ท ใี่ ช้ง า่ ยเข้าถ งึ ง า่ ยแ ละรวดเร็วจ นหลายคนเข้าไปเขียน ระบายปรัชญาความรกั ข องตวั เองเอาไว้เผือ่ แ ผ่เพือ่ นๆเพือ่ เป็นอ ทุ าหรณ์ สอนใจไว้ม ากมายบ างเรือ่ งซำ้ ซากบางเรือ่ งซำ้ ส องบ างเรือ่ งมคี วามเป็น นามธรรมสูงกว่าปรัชญาของนิชเช่เสียอีก และบางเรื่องก็ตรงไปตรงมา และง่ายดาย บางเรื่องมีการเปรียบเปรยเพื่อให้เห็นภาพและความรู้สึก เช่น ต้นไม้แห่งความรัก--ต้นไม้ที่เรากำลังปลูกเหมือนไม่มีอะไรเติบโต ไม่งอกงาม ไม่ออกดอก ไม่ติดผลทั้งที่ค่อยพรวนดิน รดน้ำ พูดคุยและ เปิดเพลงให้ฟังตอนนี้เราเริ่มเหนื่อยที่จะทำ ทั้งที่เป็นสิ่งที่เราตั้งใจทำ เป็นส ิ่งที่เราอยากทำ เราดิ้นรนไปเอง เราทรมานตัวเราเอง เป็นต้น( เป็น ต้นจริงๆ) อะแฮ่ม...ผมก็เคยมีความรักในวัยเรียนมาเหมือนกัน จึงเห็นว่าเรื่องรักๆ ใคร่ๆในวัยรุ่นนั้นเป็นเรื่องที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตไม่น้อยไปกว่าเรื่องอื่น เลย จากนิตยสาร New Scientist ฉบับหนึ่งได้เขียนถึงเรื่องความรักเอา ไว้ในเชิงวิทยาศาสตร์ว่า ความรักเกิดขึ้นจากสารเคมีในร่างกาย ที่ถูก ผลิตออกมาจากสมองส่วนหน้า เมื่อหนุ่มสาวได้ถูกใจกันฮอร์โมนตัวนี้ (Oxytocin) เป็นฮอร์โมนชนิดเดียวกันกับฮอร์โมนที่เกิดขึ้นในมารดาที่เพิ่ง ให้กำเนิดบุตรใหม่ๆ โดยทำให้แม่หลงรักและหวงแหนลูก ในการทดลอง ใช้คำว่าลุ่มหลง( Addicted)
16 16
เหตุท ใี่ ช้ค ำนกี้ เ็ นือ่ งมาจากการสงั เกตกระบวนการทำงานของฮอร์โมน ภายในร่างกายและพฤติกรรมที่แสดงออกมานั้นไม่ต่างไปจากผู้ติด ยาเสพย์ติดประเภทโคเคนหรือเฮโรอีนเลย อย่างไรก็ตามการมองความรักในแง่วิทยาศาสตร์อย่างเดียวอาจ ทำให้ก้อนสำลีที่อ่อนนุ่มกลายเป็นก้อนหินที่แข็งกระด้างได้ เพราะ สายใยความผูกพันระหว่างแม่ลูกเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและลึกซึ้ง กว่าส ายตามากนัก ที่ผมอ้างถึงข้อมูลนี้กเ็พื่อแสดงให้เห็นว่าฮอร์โมนตัวเดียวกันนี้มีการ หลั่งออกมาอย่างไม่หยุดยั้งใ นวัยรุ่น ฟร็องซัวส์ โมริยัคบอกว่าความรักทำให้คนตาบอดนั้นก็เป็นความ จริงเพราะเมื่อใดทฮี่ อร์โมนตัวนหี้ ลั่งออกมาแล้วจะทำให้สมองส่วน ที่เรียกว่าเหตุผลนั้นถูกปิดตาย แต่จะสั่งการไปที่เรื่องรักโรแมนติก อย่างเดียว เมือ่ ฮ อร์โมนหลัง่ อ อกมามากในวยั ท เี่ หตุแ ละผลยงั ม นี อ้ ยจ งึ ท ำให้ว ไิ ล และวชิ ยั เกิดอ าการสบั สนเป็นธ รรมดา(แ ต่เรือ่ งรกั เป็นเรือ่ งของเหตุผล หรือ?— เอ๊ะน ี่เราโรแมนติกไปหรือเปล่า?)
17 17
ว ิไลกับวิชัยกำลังกระวนกระวายกับอาการ(ที่ทั้งสองสมมุตมิ ันขึ้นว่าค วาม)รัก อารมณ์ของวัยรุ่นนั้นมีความสุดโต่งอย่างสูง ถ้าหากว่าป ักใจกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้วจะ แน่วแ น่แ ละมงุ่ ม นั่ อ ย่างไม่บ นั ยะบันยังไ ม่ฟ งั เสียงแห่งค วามวติ กกงั วลจากคนรอบตวั ใ ดๆ ทั้งสิ้นเป็นอารมณ์ที่ถ้าหากใช้ไปในทางที่เป็นป ระโยชน์ก็จะส่งเสริมก ้าวหน้าแต่หากใช้ ไปในทางผิดแล้วก็วิ่งวนอยูใ่ นความมืดมัว แ ต่ก ย็ งั ม วี ยั ร นุ่ ห ลายคนทเี่ อือ่ ยเฉือ่ ยเพราะยงั พ ะว้าพะวังก บั ก ารหาสงิ่ ท เี่ หมาะสมกบั ต วั เองอยู่ น อกจากฮอร์โมนแล้วค วามรกั ใ นวยั ร นุ่ ย งั ถ กู ก ระตุน้ จ ากมิวส กิ ว ดิ โิ อจ ากเพลงจ ากเพือ่ น จากอินเตอร์เน็ทและอีกหลายช่องทาง บางคนสดใสซาบซึ้งกับความรัก บางคนระทมขมขื่น บางคนรักเขาข้างเดียว บางคนรัก เขาหลายคนบางคนมีเขากย็ ังรักฯ ลฯ ท กุ ร ปู แ บบทเี่ กิดข นึ้ น นั้ ก ด็ ว้ ยความยนิ ยอมพร้อมใจย งิ่ ส มัยน เี้ ทรนด์อ าการอกหักม าพร้อม กับค วามดำมดื ก ำลังม าแรงใ ครไม่เคยอกหักห รืออ กหักแ ล้วท ำใจได้เร็วถ อื ว่าไ ม่เข้าถ งึ ซ งึ่ จิตวิญญาณของความรัก
จ ะวา่ แ ต่เรือ่ งรกั ใ นวยั ร นุ่ อ ย่างเดียวกไ็ ม่ค รอบคลุมน กั เพราะความรกั นั้นไม่เข้าใ ครออกใครเข้าไปออกมาได้ทุกเพศทุกวัยเป็นเรื่องที่เขียน ได้ท กุ ย คุ ท กุ ส มัยไ ม่ว า่ เขียนซำ้ เขียนซากกนั อ ย่างไรค วามรกั ก ย็ งั ด สู ด ใหม่รอการเขียนถึงของคนรุ่นต่อไปและต่อไป แต่ที่สำคัญที่สุดใ นตอนนกี้ ็คือขอให้คนไทยรักกันมากๆนะครับd
18
Nostalgia text&image: “ โ นลีโอ”
วานนี้...ที่คิดถึง “เช้าน ี้ฟ้าเป็นสีฟ้า ท้องน้ำสีขาวขุ่น...เช่นเคย ลมโชยอ่อนเย็น อยากเห็นตัวปลา...อีกครั้ง”
นานแค่ไหนแล้วน ะที่ฉันไม่ได้ทำแบบนี้สูดลมหายใจเข้าล ึก ๆ แล้วค ่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออกยาว ๆ นั่งน ิ่ง ๆ แล้วหย่อนเท้า ทีย่ ำ่ เดินต รากตรำไปทวั่ ท กุ หนทกุ แ ห่งล งแช่ใ นผนื น ำ้ ผ นื เดิมท ี่ ฉันเองได้ทอดทิ้งผืนน้ำนี้ไปนานพอควร เสียงจอ๋ ม แ จ๋ม ย ามทแี่ กว่งเท้าไ ปมาเบา ๆท ำให้ไ ม่ล มื ที่จะแหงนหน้ามองดูท้องฟ้า...ใช่สิ...ฟ้ายังคงเป็นสีฟ้า ฟ้าจะ เปลี่ยนสีเป็นสอี ื่นไปได้อย่างไรปุยเมฆสีขาวขุ่นนอนลอยเรียง ตัวไปมาในท่วงท่าต่าง ๆ ตามแต่ใจปรารถนาอยากจะให้เป็น ฉันย มิ้ ใ ห้ท อ้ งฟ้าเบือ้ งบนฉ นั ย มิ้ ใ ห้ผ นื น ำ้ เบือ้ งหน้าฉ นั ม องเห็น ตัวป ลาแหวกวา่ ยเวียนวนรอบๆเท้าข องฉนั ท แี่ ช่น ำ้ จ นเปือ่ ยซดี อืม...ปลาตอดตุ้บๆที่ปลายหัวน ิ้วโป้งเท้าเปลี่ยนนิ้วเปลี่ยนไป เปลีย่ นมาอ า้ ว...น นั่ ง กู นิ ป ลาม นั ม งุ่ ห น้าม าทางเท้าข องฉนั ท แี่ ช่ น้ำอ ยู่ ฉ นั ร ทู้ นั ค วามคดิ เจ้าง ตู วั ส นั้ ส ดี ำมนั ว าวตวั น นั้ เพราะมนั เคยมาพัวพันรอบขาของฉันเมื่อวันว าน
“เฮ้ย เดี๋ยวกนู ับ หนึ่งถึงส ิบ แล้วพวกมึงหาทซี่ ่อนนะ เลือกเอาเลยมึงจะเอาเสาต้นไ หน หรือม ึงจะเกาะไปกับผ ักต บ กอไหนกไ็ ด้แ ต่ห า้ มออกไปไกลเกินใ ต้ถนุ บ า้ นยายเนียนนะโว้ย กูขเี้กียจว่ายน้ำตามหาพวกมึง” นัน่ ม นั เป็นก ฎกติกาตามประสาเด็ก ๆใ นหมูผ่ องเพือ่ น วัยเดียวกันแ ละวัยโตกว่าระหว่างฉัน เพื่อน ๆ พี่ ๆ และเพื่อน พชี่ ายที่มักจ ะรวมตัวก ันกระโดดน้ำเมื่อสบโอกาสหรือแอบหนี บรรดาแม่ ๆ ของพวกเรามาเล่นน้ำตามใต้ถุนบ้านหรือท่าน้ำ บ้านใดบ้านหนึ่ง หนึง่ ใ นกจิ กรรมยอดฮติ ข องพวกเราชาวทโมนซ งึ่ เป็น ฉายาที่บรรดาแม่ ๆ อีกนั่นแหละแต่งตั้งให้ก็คือ การเล่นซ่อน แอบในน้ำ แข่งกันว่ายน้ำข้ามคลอง หรือเล่นต่อสู้กันโดยแบ่ง เป็นฝ า่ ยธรรมะและฝา่ ยอธรรมทจี่ ะกระโดดเตะก ระโดดถบี ก นั จนนำ้ ก ระจายแ ละตามมาดว้ ยเสียงหวั เราะชอบใจของฝา่ ยตรง ข้ามกึกก้องลั่นคลองฉันจำได้ว่าฉันตัวเล็กสุดแ ละมักจะโดน พี่ ๆตัวโ ต ๆจับกดน้ำอยูร่ ่ำไปเพราะหนีไปเคยพ้นใ ครสักท ี และบ่อยครั้งทเี่ดียวที่หนึ่งหรือสองในบรรดาสมาชิก ทีมทโมน เล่นซ่อนแอบแล้วชอบไปเกาะหรือดำน้ำไปโผล่ใต้ กอผักตบชวา จะมีปลิงตัวเล็กเกาะติดหู ติดหลัง หรือมีอุนจิ
19
(อุจจาระ) ของใครก็ไม่รู้ติดแหมะอยู่บนหัวส่งกลิ่นและเรียก เสียงฮาให้ห วั เราะกนั ท อ้ งแข็งแ ละเก็บไ ปเป็นป ระเด็นใ ห้ล อ้ ก นั ทั่วค ุ้งน ้ำใ ห้ไ ด้ฮ าและได้อ ายกันเป็นเดือน ๆแม้ก ระนั้นก ไ็ ม่เคย มีใครในกลุ่มพวกเราเข็ดขยาดกับการเล่นซ่อนแอบในน้ำเลย “แม่งงง ดูมันดิ ซวยชิบเป๋ง เล่นซ่อนแอบในน้ำกันที ไร ไอ้โตกะไอ้หนุ่มมันต้องได้ขี้ติดหัวมาทุกที” ว่าแล้วเราก็ฮา กันค รืนส ว่ นเจ้าต วั ก ไ็ ด้แ ต่อ ายมว้ นและทำฮากลบเกลือ่ นความ ซวยของตัวเอง ถึงต วั ฉ นั จ ะเล็กถ งึ ฉ นั จ ะเป็นน อ้ งนชุ ส ดุ ท อ้ งถ งึ ฉ นั จ ะ เป็นผู้หญิง แต่ฉันก็ไม่เคยได้รับการทะนุถนอมเยี่ยงเด็กหญิง คนหนึ่งที่พึงจะได้รับจากหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ในละแวกบ้าน เลย ตรงกันข้าม ฉันคบเพื่อนตัวโต ฉันมีพี่ชายมากมายตั้งห้า หกคน ฉันมีเพื่อนพี่ชายอีกนับสิบ ฉันไปไหนมาไหนกับเพื่อน ผู้ชายอย่างไม่เคอะเขิน และก็ไม่รู้เป็นโชคดีหรือโชคร้ายที่ไอ้ เพื่อน ๆเหล่านั้นมันก็ไม่เคยคิดเลยว่าฉันเป็นเด็กผู้หญิง บางทีการที่อยู่ในแวดล้อมของเด็กชายและพี่ชาย มากๆเข้าก็ทำให้ฉ ันซ ึมซับพ ฤติกรรมและความห่ามบางอย่าง ติดตัวมาด้วยแต่คงมีอยู่อย่างเดียวที่ทำให้ฉ ันรู้สึกว่าฉันยังคง เป็นผ หู้ ญิงอ ยู่ น นั่ ค อื ฉ นั ไ ม่ส ามารถแก้ผ า้ โ ทง ๆโ ดดนำ้ ต มู ตาม อย่างที่สมาชิกในกลุ่มมันทำกันฉันยังต ้องนุ่งกางเกงขาสั้นยัง ต้องใส่เสื้อผ้าแ ล้วจึงโดดน้ำตามพวกมันทุกที “ขึ้นจากน้ำซะทีนึงเห๊อะแม่คุณเอ๊ยซีดห มดแล้ว” “เฮ้ย!ลงมาจากต้นมะม่วงได้แล้วโว้ยเย็นแล้ว” “ดูมันสิให้เรียกอยู่ได้ปากจะฉีกถึงหูมันเชื่อที่ไหน โน่นมันว่ายน้ำข้ามไปฝั่งโ น้นแ ล้ว” “ดูซิวัน ๆนึงเล่นแต่น้ำตัวดำเป็นเหนี่ยงเลยกูอยาก จะรู้นักว่าเมื่อไหร่พวกมึงจะเลิกเล่นน้ำกันเสียที” เสียงด่าของแม่รสไม้เรียวของยายและฝ่ามือพิฆาต ของพ่อ ยังประทับอยู่ที่ตูดที่ก้น และในหัวใจไม่ตกไม่หล่นเลย ทีเดียว นานแล้วที่ฉันห่างหายไปจากความรู้สึกแบบนั้น นาน จนเพื่อนบางคนล้มหายตายจาก บางคนมีลูกโตเข้าโรงเรียน บางคนแต่งงานแล้วสองสามรอบ บางคนจำได้ยังทักทายพูด คุยเรื่องในอดีตและถามถึงชีวิตปัจจุบันรวมถึงอนาคต แต่บาง คนแปลกจังเดินสวนกันหน้ายังไม่มอง เสียงโดดนำ้ ต มู ตามข โี้ คลนทขี่ น้ ค ลัก่ ห รือเสียงหวั เราะ
ทีเ่ ซ็งแ ซ่ล นั่ ค ลองม นั บ อกถงึ ช ว่ งชวี ติ ท มี่ แี ต่ค วามสขุ ส นุกสนาน ที่ไม่มวี ันหาได้อีกใ นปัจจุบัน ครั้งใ ดทเี่ห็นเด็ก ๆ สมัยน โี้ ดดน้ำ มันเหมือนมีภาพทับซ้อนเข้ามาในห้วงความคิดว ่าครั้งห นึ่งฉัน ก็เคยทำแบบนี้เหมือนกัน แต่ครั้งนั้น ไม่เหมือนครั้งนี้ที่ไม่มีเรือพายของแม่ค้า ขายขนมหวานห รือข ายกบั ข้าวไ ม่มแี ม่คา้ ข ายกว๋ ยเตีย๋ วเรือเจ้า ประจำที่พวกฉันมักแสร้งทำเป็นว่ายน้ำมุ่งหน้าเข้าหาเรือโดย มีข้อแลกเปลี่ยนกับแม่ค้าว่าจะได้กินฟรีเพื่อที่จะไม่โดนล่มเรือ ไม่มีเรือหางยาวแล่นผ่านให้ได้ว่ายน้ำออกไปโต้คลื่นก้อนโตๆ อย่างไม่เกรงกลัว ไม่มแี ม้เด็กต ัวด ำ ๆ เขียว ๆ ทลี่ อยคออยูใ่ น น้ำพร้อมกะละมังใ ส่เสื้อผ้าใ บโต ลอยไปท่าน้ำบ้านข้าง ๆ เพื่อ ไปซักผ ้าท ี่ท่าน้ำบ้านเขา ถึงแม้คลองและผืนน้ำผืนเดิมวันนี้จะดูเงียบสงบลง กว่าแต่ก่อน แต่ก็มีสะพานปูนที่ทางการมาสร้างไว้เลียบเลาะ ชายคลองไปตลอดความยาวจนถึงหน้าวัดประจำชุมชน เรือ พายค่อย ๆ หายไป กลุ่มลิงทโมนที่หนีพ่อหนีแม่มาโดดน้ำก็ หายไปมีแต่เด็ก ๆทขี่ ี่รถมอเตอร์ไซด์แล่นไปมาอยู่บนสะพาน ปูนหน้าบ้านอย่างชำนิชำนาญกับความแคบเล็กของสะพาน ปูน ความเ หมื อ นที่ แ ตกต่ า งร ะหว่ า งเ มื่ อว านกั บ วั นนี้ ค่อย ๆคลายตัวอ อกทลี ะน้อยบางอย่างขาดหายไปบางอย่าง เพิ่มเติมเข้ามาแทนที่และมีอีกไม่น ้อยที่ตกๆหล่น ๆฉันไ ม่รวู้ ่า เพื่อน ๆ พี่ ๆ ที่ยังเหลืออยู่จะมีรูปแบบชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป จะยุ่งวุ่นวายมากขนาดไหน จะยังพอมีเวลาให้คิดย้อนไปใน วานวันเช่นเดียวกับฉันบ้างหรือเปล่า ฉันรู้เพียงว่า ตอนนี้ เท้า ที่แช่น้ำอยู่เริ่มจะซีดขาว ปลาซิวปลาสร้อยรุมตอดนิ้วเท้ากัน ตุ้บตั้บ พร้อมกาลเวลาที่หมุนเวียน พร้อมประสบการณ์ที่เพิ่ม ขึ้น พร้อมช่วงชีวิตที่เลื่อนผ่านทั้งดีและไม่ดีให้ได้จดจำ คำนึง ถึงเก็บเกี่ยวและไขว่คว้า หากยังพอมีหนทางให้สามารถย้อนวันเวลาได้ ฉัน คงอยากกลับไปโดดน้ำให้ชุ่มปอดและเล่นซ่อนแอบจากใคร หลาย ๆค นอยูใ่ นนำ้ น นั้ อ กี ส กั ค รัง้ ห ากแต่ค รัง้ น ฉี้ นั ค งไม่ห นีแ ม่ ไปเล่นน ำ้ อ ย่างแต่ก อ่ นแ ต่ฉ นั จ ะขอแม่ไ ปเล่นน ำ้ ด ี ๆแ ละขออยู่ ในน้ำนั้นนานเท่านาน…d
20
Short Story text: แก้มห อม
ค่ำวันศุกร์นั้น...ที่ฉันใกล้เธอ ๑ มีแวบหนึ่งที่เราสองคนสบตากัน ผมเห็นความอบอุ่นอยู่ใน ดวงตานั้นความอบอุ่นที่โอบอุ้มจิตว ิญญาณของผมผมรัก เธอ รักอ ย่างบริสุทธิ์ใจ รักอย่างถวายชีวิต รักอย่างที่ไม่เคย รักใครมาก่อน อากาศเย็นลงทุกที ควันไฟลอยอ้อยอิ่งเป็นสายมา จากบ้านเรือนของชาวบ้าน เธอดูโทรทัศน์ข่าวภาคค่ำตาผมจับจ ้องตามเธอไป ด้วยแต่ใจของผมเตลิดไปไกลเกินจะกู่กลับ(ความจริงจะว่า ไปแล้วมันก็ไม่ได้ไปไกลที่ไหนหรอกใจของผมมันไปอยู่ใกล้ เธอมากกว่า) ที่นี่มีเพียงเราสองคน ทั้งโรงเรียนมีเราอยู่เพียงสอง คนว นั ศ กุ ร์ท ที่ กุ ค นตา่ งพากนั ก ลับบ า้ นกนั ห มดแล้วม แี ต่ค วาม เงียบผมเอ่ยถามเธอว่าห ิวข้าวหรือยังเธอตอบว่ายังตอนนี้ อยากทำงานให้มันเสร็จก่อนเธอว่าทุกทีเธอทานข้าวหลังสอง ทุ่มเป็นประจำจนชิน ผมไม่ว่าอะไร แค่ได้อยู่ใกล้ ๆ เธอผมก็มีความสุข มากมายนักหนาแล้ว สักพ กั เธอกล็ กุ ไ ปพมิ พ์ง านของเธอตอ่ ผ มนงั่ อ ยูโ่ ซฟา รับแขกมองตามแผ่นหลังข องเธอไป
๒ เธอขอร้องผมให้มานั่งเป็นเพื่อนที่ห้องธุรการ เธอกลัว แต่ ก็อยากทำงานให้มันเสร็จ ๆไป เธอไม่ชอบให้งานมันคั่งค้าง พรุ่งนี้วันเสาร์เธอจะได้ถือโอกาสพักผ่อน อยากจะนอนตื่น สายๆ อย่างที่เธอชอบ โรงเรียนของเราครูมียี่สิบกว่าคน กลับบ้านกันหมด มีเพียงเราสองคนเท่านั้น ผมไม่รู้จะกลับไปไหน บ้านไกล เหมือนกับเธอเธอยิ่งไกลกว่าผมจังหวัดท างภาคกลางห่าง จากจังหวัดช ายแดนภาคเหนือหลายร้อยกิโลเมตรวันห ยุดแ ค่ สามวันแบบนี้กลับไปก็เหนื่อยเปล่าเธอบอกว่ารอหยุดย าวๆ กว่าน คี้ ่อยกลับ ผมปดิ ป ระตูห น้าโ รงเรียนเรียบร้อยแล้วแ ม้แต่ภ ารโรง ยังกลับบ ้านผมอุ่นใ จทยี่ ังมีเธออยู่ยิ่งต อนนี้เธออยู่ใกล้ๆตรง นีเ้ องเราสดู ห ายใจอากาศเดียวกันอ ากาศทเี่ คยเข้าไปในปอด ของเธอแล้วมันกเ็ข้าไปในปอดของผมบ้างผมรู้สึกเหมือนว่า ชีวิตแ ละจิตว ิญญาณของสองเราผูกพันก ันม ากขึ้น
21
บอกกบั ต วั เองวา่ เธออยูต่ รงนนั้ เองพ มิ พ์ง านของเธอ อย่างตั้งใจผมอยากจะเข้าไปกอดสัมผัสเธอหอมที่แก้มของ เธอเบา ๆ แต่ผมก็ไม่กล้า บางครั้งแค่นิ้วของเราแตะกัน นิ้ว อุน่ ๆ ข องเธอมนั ส ง่ ค วามรสู้ กึ ร าวกับก ระแสไฟฟ้าท พี่ งุ่ เข้าไปใน หัวใจของผมก ระตุ้นให้หัวใจของผมเต้นเร็วข ึ้น อย่างนี้นี่เองที่เรียกว่าความรัก ผมเคยแตะเธอทแี่ ขนเธอยมิ้ แ ล้วก ถ็ ามวา่ ม อี ะไรผ ม ตอบเธอไปว่าอยากจะส่งผ ่านความรู้สึกว่ารักไปทางแขนของ เธอ เหมือนเราเติมน้ำเกลือคนไข้ ผมพยายามจะแตะที่แขน เธอบ่อยๆความรู้สึกว่าร ักของผมจะได้เต็มหัวใจของเธอเธอ หัวเราะคิกๆๆ ครูห นุม่ ค รูส าวอ ยูด่ ว้ ยกนั เพียงสองคนในหอ้ งทมี่ ดิ ชิด บรรยากาศขา้ งนอกมดื แ ละเงียบสนิทม เี พียงเสียงหวั ใจของผม เท่านั้นที่เต้นโครมคราม
เธอหันม ามองผม รอยยิ้มแ ต้มอ ยู่ใน ใบหน้าแ ก้มท ผี่ มหลงใหลอยากจมุ พิต สัมผัสเธอจอ้ งเข้าไปในดวงตาของผม ผมรู้สึกป ระหม่า
ยิ้ม เธอเดินน ำออกจากหอ้ งธรุ การผ มปดิ ป ระตูต ามหลัง ล็อกกุญแจ เดินต ามหลังเธอลงบันได เลี้ยวออกจากอาคาร เดินไปทางหลังโ รงเรียนสู่บ้านพักค รูเธอหยุดท ี่ประตูห น้าห้อง ของเธออาการลังเลรีรอบางอย่างรอยยิ้มฉ ายอยูบ่ นใบหน้า เป็นยิ้มท เี่ชิญชวนผมยิ้มต อบเธอ แล้วกห็ ันหลังเดินก ลับบ ้านพักข องตัวเอง... ๓ เธอปิดคอมพิวเตอร์แ ล้ว แสดงว่างานที่เธอต้องการมาสะสาง คืนน นั้ ผ มฝนั เห็นเธอเธอเอียงแก้มเข้าม าให้ผ มหอม เสร็จสิ้นลง ผมลุกจากโซฟา เดินเข้าไปหาเธอที่กำลังนั่งหัน ก่อนทผี่ มจะรวบเธอเข้ามากอดผมดันตื่นน อนเสียก่อน หลังให้กับผมหน้าจอคอมพิวเตอร์ยังไม่ปิดแสงผมยาวเคลีย ๔ บ่าของเธอปลิวไสวเมื่อถูกพัดลมที่อยู่ข้างๆ เธอหันมามองผมรอยยิ้มแต้มอยู่ในใบหน้าแก้มที่ ผมเจอเธอตอนเช้าวันอังคาร ผมหลงใหลอยากจมุ พิตส มั ผัสเธอจอ้ งเข้าไปในดวงตาของผม ขึ้นไ ปเซ็นชื่อท หี่ ้องธุรการเวลาเช้ามากมีครูมาเซ็น ผมรสู้ กึ ป ระหม่าเดินแ ทบจะไม่เป็นก อ่ นจะรวบรวมความกล้า ชื่อก ่อนหน้าผมไม่กคี่ นหนึ่งใ นนั้นมีเธออยูด่ ้วยผมเซ็นชื่อต่อ จากเธอน่าป ระหลาดเป็นที่สุดแม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆแ บบ ถามเธอไปว่า นีม้ ันก ็ทำให้ผมเป็นสุขได้ “เสร็จแล้วเหรอ” ก่อนทจี่ ะเข้าไปหอ้ งพกั ค รูท อี่ ยูข่ า้ งๆ ผ มได้ยนิ เธอคยุ “อืมม...” หน้าจอคอมพิวเตอร์ดับวูบลงไปแล้ว เธอลุกขึ้นยืน กับเพื่อนครูสาวทสี่ นิทกัน เสียงหัวเราะกันคิก ๆ คัก ๆ ได้ยิน แทบจะชนกับผม ผมเธอปลิวมาโดนใบหน้าของผม กลิ่น แว่วๆว่าเป็นยังไ งบ้างเมื่อวันศุกร์ได้ยินชื่อของผมอยูใ่ นเรื่อง แชมพูอ อ่ นๆ แ ละโคโลญจน์ท เี่ ธอชอบใช้เหมือนผรู้ า้ ยทวี่ งิ่ เข้า ราวทเี่ ธอพดู ค ยุ ก นั ผ มชะงักเท้าไ ม่ก ล้าเข้าไปในหอ้ งนนั้ เสียง เธอแว่วๆ มาเข้าหูทำเอาผมหน้าชา มาในจมูกของผมแล้วก ็บอกว่าหยุดย กมือขึ้น ใจของผมเต้นไม่เป็นส ่ำ มือผมสั่น ๆ ก่อนจะยกขึ้น “ซื่อบื้อ” ไปช้าๆไปแตะที่แขนของเธอคำพูดของผมที่เอ่ยออกมายาก เธอว่าอ ย่างนั้นแล้วกห็ ัวเราะ d ลำบากราวกับมีก้อนหินติดอยู่ในคอ “ไปส่งที่บ้านนะ” เธอพยักหน้า อาวุธที่ร้ายกาจที่สุดของเธอคือรอย
22
๑ รูป ๑ เรื่อง : ความทรงจำ text&Image: ชนินทร อุลิศ
23
ความทรงจำเป็นสถานที่ซึ่งผมแวะไปเยี่ยมเยือนบ่อยเป็นอันดับต้น ๆ ในชีวิต ผมคิดว่าผมไม่ใช่คนเดียวที่เป็นแบบนั้น
ทำไมคนเราชอบเดินทางกลับไปในความทรงจำ บางคนกลับไปเพื่อสัมผัสความสุขในอดีตซึ่งปัจจุบันไม่มี บางคนกลับไปหาอดีตอันขมขื่นเพื่อตอกย้ำความสำเร็จในปัจจุบัน บางคนกลับไปหาใครอีกคนที่เราเคยอยู่ใกล้ ๆ บางคนกลับไปหาเรื่องบางเรื่องที่เราหมดโอกาสที่จะลืม ที่สุดแล้ว วันนี้เมื่อผ่านพ้นไปในปีหน้าและปีต่อ ๆ ไป เราอาจจะได้เินทางกลัยมาอีกครั้งหนึ่ง d
ส ถานที่: มิวเซียมสยามพิพิธภัณฑ์ก ารเรียนรู้แห่งชาติเปิดบริการ1 0.00-18.00น . ทุกวันอ ังคาร-อาทิตย์ไม่เว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์
24
Music Fountain
text: หอมรำเพย
HerbieHancock River:TheJoniL etters เป็นเวลานานมากแล้วที่รางวัลแกรมมี่อวอร์ดจะมอบ รางวัลอัลบัมยอดเยี่ยมแห่งปีให้กับดนตรีสาขาแจ๊ส แต่ กระนั้นผ ลงานของเฮอร์บี้ แฮนค็อค ชุด River: The Joni Letters ก็สามารถเดินไปสู่จุดนั้นได้อย่างสง่างาม เท่ากับ ว่าการประกาศรางวัลในปี 2007 ได้ทำลายกำแพงแห่ง ดนตรีลงทีละน้อย และแกรมมี่เองก็คงตระหนักว่าไม่มี เหตุผลอันใดยิ่งใหญ่ไปกว่านี้อีกแล้ว ขณะที่ตัวผลงาน ของชุดนี้อธิบายตัวมันเองอย่างสมบูรณ์พูดได้คำเดียวว่า ยอดเยี่ยมไม่มที ี่ติ เฮอร์บี้ แฮนค็อกเป็นนักเปียโนแนวแจ๊ส เขาเคย เล่นให้กับวงไมลส์ เดวิส นักทรัมเป็ต-คนแจ๊สผู้ยิ่งใหญ่ ตลอดกาล เฮอร์บี้สร้างสรรค์ผลงานเดี่ยวของตัวเองและ สร้างชื่อมากับสังกัดบลูโน้ตเรคคอร์ด เฮอร์บี้เป็นคนแจ๊ส ที่ไม่หยุดนิ่ง เมื่อเข้าสู่ยุค 70 ความอ่อนล้าของแจ๊สถูก ดนตรีร อ็ คเข้าก ระหน่ำโ จมตีด นตรีแ จ๊สเริม่ เล่นเบาลงข ณะ ที่ดนตรีร็อคถล่มในชาร์ตอันดับเพลงอย่างที่ไม่มีใครหยุด
25
26
อัลบัมชุดนี้เกิดขึ้นเมื่อต้นสังกัดถามเฮอร์บี้ว่าทำไมไม่นำเอา ผลงานของโจนี่มิตเชลมาทำเพราะโดยส่วนตัวแล้วเฮอร์บี้ ชื่นชมผลงานการแต่งเพลงของโจนี่มิตเชลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ยั้ง นักดนตรีแจ๊สหลายคนไม่สามารถฝ่ากระแสไปได้ก็ หายไปจากวงโคจรธุรกิจดนตรี บ้างก็ล้มตายจากปัญหา สุขภาพเรื้อรัง สิ่งเหล่านี้กัดกร่อนคนแจ๊สลงเรื่อย ๆ แต่ก็ มีศิลปินแจ๊สไม่มากนักที่กล้านำเสนอผลงานในรูปแบบ ใหม่ๆด้วยการผสมผสานแจ๊สกับร็อคเข้าด้วยกันแจ๊สกับ โซลเข้าด้วยกัน และแจ๊สซึ่งไม่ใช่แจ๊สแบบเดิมอีกต่อไป หนึ่งในขบวนผู้กล้าน ั้นก็คือเฮอร์บี้แฮนค็อกนี่เอง ถ้าหากติดตามผลงานของเฮอร์บี้ แฮนค็อกมา สักระยะ เราจะรู้เขาเป็นนักเปียโนแจ๊สที่จะสร้างสรรค์งาน ใหม่ ๆ ออกมาเสมอ เขาจะไม่ทำงานในแบบเดิม แต่จะ ทดลองทำงานในรูปแบบใหม่ ๆ บางอัลบัมเมื่อประสบ ความสำเร็จแ ทนทีเ่ ขาจะกลับไ ปทำในแนวเดิมเขากลับฉ กี ออกไปอีกแนว ผลงานของเขาจึงได้รับความนิยมในแบบ ขึน้ ๆ ล งๆ บ างอัลบัมล งตัวส ดุ ย อดแ ต่บ างอัลบัมแ ฟนเก่าๆ ก็รับมันไม่ได้ก็มีแต่นั่นไ ม่ใช่ปัญหาของเขาเพราะการเป็น ศิลปินก ารสร้างสรรค์ส งิ่ ใ หม่ๆ ค อื ห วั ใจสำคัญม ากกว่าก าร ตามใจแฟนเพลง อัลบัมชุดนี้ เกิดขึ้นเมื่อต้นสังกัดถามเฮอร์บี้ว่า ทำไมไม่นำเอาผลงานของโจนี่ มิตเชลมาทำ เพราะโดย ส่วนตัวแล้วเฮอร์บชี้ ื่นชมผลงานการแต่งเพลงของโจนี่มิต เชลเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เขาจึงตัดสินใจเริ่มโปรเจคนี้โดย
ไม่ลังเล การคัดเลือกเพลงของมิตเชลเพื่อนำมาเรียบเรียง ใหม่ เฮอร์บี้ แฮนค็อกได้อดีตสามีของโจนี่มาช่วย ทำให้ เขาสามารถเข้าถึงเพลงที่เธอเขียนในช่วงเวลานั้นได้อย่าง ดี และเข้าใจอารมณ์ของเพลง นอกจากนั้นยังได้เชิญนัก แซกโซโฟนอย่างเวน ช็อตเตอร์ ตำนานแจ๊สที่ยังมีชีวิตอยู่ อีกคนในปัจจุบันมาช่วยแบคอัพ สิ่งสำคัญช็อตเตอร์เคย ทำงานร่วมกับโจนี่ มิตเชลมาก่อน จึงไม่ยากที่เขาจะเข้า ถึงดนตรี และการเลือกช็อตเตอร์มาเป่าแซกเป็นสิ่งพิเศษ สำหรับแฟนเพลงแจ๊สจริงๆ ขณะทนี่ กั ร อ้ งรบั เชิญน นั้ ก ไ็ ม่ธ รรมดาไม่ว า่ จ ะเป็น นอร่า โจนส์ กับเพลงเปิดอัลบัมอย่าง Court and Spark หรือน กั ร อ้ งสาวใหญ่โ ซลรอ็ ค อยา่ งทนิ า่ เทอร์เนอรก์ ม็ าขยับ ลูกคอในแบบแจ๊สเรือ่ งพลังเสียงไม่ต อ้ งคยุ ก นั ใ ห้ม ากความ แต่เทคนิคในการเปล่งเสียงนี่แหละครับ ที่เป็นอัตลักษณ์ ชัดเจนแ ละทนี า่ ก ท็ ำให้เห็นว า่ เธอไม่จ ำเป็นต อ้ งเปล่งเสียง มากเท่ากับร้องเพลงร็อค แต่ร้องได้อย่างมีพลัง นอกจาก นักร้องมีชื่อเสียงแล้ว ยังมีสองนักร้องสาวรุ่นใหม่มาร่วม งานด้วย คนแรกคือหลุยเซียนา โซชา สาวคนนี้มีอัลบัม ในแบบบอสซาโนวามาแล้วหนึ่งชุด น้ำเสียงของเธอออก เศร้าๆหม่นๆแต่น ่าฟังส่วนเพลงเด่นของอัลบัมคือRiver นักร อ้ งสาวรนุ่ ใ หม่อ ย่างค อลรนิ ไ บลเล่ เร มาข บั ก ล่อ มด้วย
27
สำเนียงเสียงหวานแ ม้จ ะเป็นห น้าใ หม่ข องวงการเพลงแ ต่ มีอนาคตดีทีเดียวโดยเฉพาะการตีความเพลงนี้ได้ชวนฟัง ส่วนโจนี่ มิตเชล ก็มาขับร้องเพลงของตัวเองใน เพลงTeaLeafProphecyได้อย่างเยี่ยมยอด นอกจากนักร้องที่มาทำหน้าที่กันมากหน้าแล้ว Section ที่ขาดไม่ได้คือนักดนตรี เวนย์ ช็อตเตอร์รับหน้า ที่แซกฯ ส่วนดับเบิลเบส เป็นหน้าที่ของ เดฟ ฮอลแลนด์ มือเบสในตำนานอีกคนที่มาร่วมต่อเติมจิ๊กซอร์ให้เต็ม สมบูรณ์ สำหรับผมยิ่งได้ฟังอัลบัมนี้หลายต่อหลายรอบ ยิ่งเพิ่มความชอบไปทีละนิด และอัลบัมนี้ขึ้นชาร์ตของผม
ในปี 2008 นานติดต่อกันสองเดือนแล้ว คนที่กำลังเริ่มต้น ฟังแจ๊ส การเริ่มกับอัลบัมนี้ก็ไม่เลวนัก มีทั้งเพลงร้องและ เพลงบรรเลงท่วงทำนองเพลงที่ไพเราะดนตรีเล่นได้อย่าง เข้าขากัน บันทึกเสียงได้ไม่เลว จึงยากที่จะปฏิเสธ แม้ว่า อีเอ็มไอจะประกาศไม่ผลิตแผ่นซีดีแล้ว แต่ผมก็หาซื้อชุด นี้ได้จากร้าน บีทูเอส และคิดว่าน่าจะมีขายตามร้านซีดี ใหญ่ๆ ทั่วไป เมื่อเฮอร์บี้ แฮนค็อกทำอัลบัมนี้เสร็จ ตอนที่เขา จะส่งแผ่นให้โจนี่ มิตเชลฟัง เขากลัวและกังวลว่าโจนี่ จะ ชอบมันหรือไม่ แต่โจนี่กลับรู้สึกตื่นเต้น เมื่อได้ฟังเธอชอบ มันมากแ ละผมกเ็ห็นด้วยอย่างไม่สงสัย d
28
Book Review Text: ทนัชพร แซ่ตั้ง
วิชาสุดท้ายที่ยังไม่ท้ายสุด “วชิ าสดุ ท้าย( ท มี่ หาวิทยาลัยไ ม่ไ ด้ส อน)” เป็นชื่อที่ต้องยอมรับว่าเพียงแค่เห็นหรือ ได้ยินก็“โดน”แถมมันยังความสงสัยใคร่ รู้ให้กับฉันอย่างมากว่ายังมีอีกหนึ่งวิชา สุดท้ายทมี่ หาวิทยาลัยไ ม่ไ ด้น ำไปใส่ไ ว้ใ น หลักสูตรอกี ห รือน ี่ !ก อปรกบั ค ำถามในใจ ที่ยังไม่รู้ว่าจะได้อะไรจากสุนทรพจน์สอง ร้อยหน้าใ นมือต่อจากนี้ เพียงบางเบาที่ได้รู้จากคำนำ ของผู้แปลในครั้งแรกว่าหนังสือเล่มนี้ ล้วนเต็มไปด้วยคำกล่าวสุนทรพจน์ใ นวัน รับปริญญาเพื่อนักศึกษาปีสุดท้าย จาก หลากหลายมหาวิทยาลัยอ นั ม ชี อื่ เสียงใน อเมริกาทถี่ อื ป ฏิบตั กิ นั ม ายาวนานก ระทำ การโดย“ ค นใน”อ ย่างอธิการบดีท เี่ ปิดใ จ ให้“คนนอก”อันเป็นผู้มีชื่อเสียงในสาขา อาชีพต่างๆ มากล่าว สุนทรพจน์ใ นวันจบ ปริญญาให้นักศึกษาที่กำลังจะจบรุ่นปี การศึกษานั้นๆฟังโดยหมุนเวียนกันตาม โอกาสและวาระอันสมควร
เมื่ อ ไ ด้ เ ริ่ ม ล งมื อ อ่ า นก็ ต้ อ ง บอกว่าแทบจะวางไม่ลง และเริ่มจะต่อ ติดสัญญาณคุณภาพขึ้นในใจมานิดๆ แล้วจากการที่สำนักพิมพ์และผู้แปลได้ พยายามเป็นอย่างยิ่งในการถ่ายทอด ออกมาอย่างทุ่มเท ด้วยการตัดสินใจ พิมพ์เนือ้ หาชวี ติ ข องผมู้ ชี อื่ เสียงในแต่ละ วงการอันแตกต่างกันไ ปในสาขาอาชีพ แห่งป ระเทศเสรีภาพอย่างอเมริกาท ำให้ เนื้อหาในเล่มอัดแน่น ครอบคลุมและ ครบถ้วนอย่างลงตัว
29
30
หากตอนนค ี้ ณ ุ เองยงั ค งประสบปญ ั หาเพราะไม่รว ู้ า ่ จ ะหาแรงบน ั ดาล ใจให้ต ว ั เองไปในทศ ิ ทางไหนและอยากได้อ ะไรสก ั อ ย่างทจี่ ะเป็นผ ลดต ี อ ่ หัวใจ และไม่อยากให้ใบปริญญาเป็นกับดักที่จะทำให้ชีวิตคุณหมด คุณค่า
สตีฟ จ๊อบส์ (Steve Jobs) ไม่ได้จบปริญญา ตรีจากมหาวิทยาลัยใด แต่เป็นผู้สร้างคอมพิวเตอร์ส่วน บุคคลตัวแรกในโรงรถที่บ้าน จนกลายเป็นตำนานแห่ง คอมพิวเตอร์น าม “แ มคอินทอช” หรือ บิล เกตส์ (Bill Gates) ลาออกจากมหาวิทยาลัยกลางคัน และเป็นผกู้ ่อ ตั้งบริษัทยักษ์ใหญ่ “ไมโครซอฟท์” ผลิตซอฟท์แวร์ที่มีผู้ นิยมใช้ทั่วโลก แต่สุดท้ายเขาได้ลาออกจากงานประจำ เพื่ออุทิศตนให้แ ก่งานการกุศลอย่างเต็มต ัว เพียง2 ค นตวั อย่างจากผยู้ งิ่ ใ หญ่แ ห่งอ าชีพท นี่ า่ สนใจของคนทั้ง10แห่งย ุคที่มีผู้คนรู้จักมากที่สุดก็ทำให้ หนังสือเล่มนี้น่าส นใจขึ้นมาแล้ว ยิ่งแนวทางซึ่งแต่ละคน ต่างกม็ ชี วี ติ ท อี่ ดั แ น่นไ ปดว้ ยประสบการณ์อ ย่างแท้จริงก ็ ยิง่ เป็นต วั ช โู รงให้ก บั ฉ ากมา่ นทกี่ ำลังจ ะเปิดต วั ท า่ นผกู้ ล่าว คนต่อไป จนทำให้ผู้อ่านอย่างฉันชักสนุกที่จะติดตามว่า วิชาสุดท้ายที่มหาวิทยาลัยไม่ได้สอนสำหรับแต่ละท่าน จะออกมาในลักษณะใดกันแน่ แต่ละทา่ นทำการลองผดิ ล องถกู ด ว้ ยการเอาตวั เข้าแ ลกกบั ค วามไม่รเู้ กีย่ วกบั อ นาคตทไี่ ม่เคยเป็นป จั จุบนั และ การใช้ชีวิตทั้งชีวิตเล่าเรื่องเพื่อเป็นอุทาหรณ์และ วิทยาทานต่อคนรุ่นใหม่ ที่กำลังจะก้าวข้ามความเป็นวัย รุ่นสู่ผู้ใหญ่ที่อาจยังไม่รู้ทิศทางไป โดยน้อยคนนักที่จะ ยอมรับแ ละเปิดใจถึงเล่าช่วงชีวิตที่มีทั้งดีและร้าย แต่ใน
ท้ายทสี่ ดุ ผ กู้ ล่าวกเ็ ลือกให้ต นเองตกเป็นป ระโยชน์ต อ่ โ ลก และสังคมได้อ ย่างลงตัว สุนทรพจน์จ ากชวี ติ แ ละคราบนำ้ ตาของผกู้ ล่าว แต่ละท่าน แตกต่างและประกอบไปด้วยมุมมองอันดีที่ มีต่อตัวเองและสังคมโลก ไม่ว่าจะเป็นการหัวเราะด้วย ความสนุกใ ห้ก ับช ีวิตท ผี่ ิดพ ลาดส่งม อบความเจริญด ้วย น้ำจ ติ น ำ้ ใจทใี่ สสะอาดก ารให้ท เี่ ต็มเปีย่ มแม้ใ นวนั ท ชี่ วี ติ เกิดข้อพิพาท หรือมือที่เรียกร้องป่าวประกาศหาความ ยุติธรรมให้สังคมอื่นที่รอคอย เมื่อแต่ละท่านก็ได้ลงมือ ใช้ช วี ติ ช วี ติ ม นั ก ส็ ง่ ผ ลตามมาอย่างทไี่ ด้ก ล่าวสนุ ทรพจน์ ออกไปเลยรไู้ ด้ว า่ ท กุ ค นเต็มท แี่ ละสนุกก บั ช วี ติ ข องตวั เอง อย่างที่กล่าวออกมาอย่างจริงใจจริงๆ ผู้กล่าวสุนทรพจน์ไ ด้ทำการส่งซิก (signal) ให้ นักศึกษาว่าผ่านวิชาสุดท้ายของแต่ละท่านว่าจะทำยา่ ง ไรให้ตนเองประสบความเร็จ ทำให้อย่างไรเมื่อตนเอง ผิดพลาดแต่ก็สามารถอยู่กับมันได้อย่างไม่ขลาดเขลา และบอกแม้กระทั่งว่า ถ้าคุณทะเยอทะยานในด้านใด มันก็ล้วนแล้วแต่จะส่งผลให้คุณเป็นไปในด้านนั้นอย่าง แน่นอน
31
ฉันเล็งเห็นแล้วว ่าส ุนทรพจน์เล่มนมี้ ี“ทุกอย่าง” ที่ควรมีแล้วอย่างครบถ้วน เข้าถึงและง่ายต่อการเข้าใจ และหากในฐานะทคี่ ณ ุ เป็นม นุษย์ฉ นั ก เ็ ห็นว า่ ม นั ต อ้ งมสี กั เรือ่ งทเี่ ราสามารถหยิบจ บั ม าเป็นต้นแ บบใช้ง านได้ไ ม่ม าก ก็น้อยตามวัตถุประสงค์ของหนังสือที่ปูทางไว้ให้ ไม่ว่าจะ เป็นป รัชาในการมองโลก สังคม เพื่อนมนุษย์ โดยไม่ล ืมที่ จะให้ปรัชญาชีวิตแก่ตนเองเฉกเช่นกัน ต้องถอื ว่าก ารปรากฎต วั ข องหนังสือ“ ว ชิ าสดุ ท้าย (ที่มหาวิทยาลัยไม่ได้สอน)” เล่มนี้ ออกจะฮือฮามิใช่น้อย สำหรับนักอ่านตัวยง ด้วยความที่หนังสือไม่ได้ออกตัวมา แต่ต้นว่าตั้งใจจะมอบอะไรให้แก่ผู้อ่าน มันเลยสนุกที่จะ สานตอ่ แ รงบนั ดาลใจของผถู้ า่ ยทอดเพือ่ จ ะกอ่ ใ ห้เกิดก อง กำลังส ำคัญแ ห่งโ ลกคณ ุ ภาพอ นั เป็นการยนื ยันว า่ แ ม้โ ลก จะหมุนไปเกินกว่า 360 องศาขนาดไหน สุดท้ายโลกก็จะ กลับม าขอรับสิ่งท ี่คุณหยิบย ื่นให้อยู่ดี
หากตอนนี้คุณเองยังคงประสบ ปัญหาเพราะไม่รู้ว่าจะหาแรงบันดาลใจให้ ตัวเองไปในทิศทางไหน และอยากได้อะไร สักอ ย่างทจี่ ะเป็นผ ลดตี อ่ ห วั ใจแ ละไม่อ ยาก ให้ใ บปริญญาเป็นก บั ด กั ท จี่ ะทำให้ช วี ติ ค ณ ุ หมดคุณค่า สงสัยว่าได้เวลาที่คุณคงต้อง เปิดใจแล้วเดินหน้าไปหา “วิชาสุดท้าย (ที่ มหาวิทยาลัยไ ม่ได้สอน)” มาอ่านสักเล่มได้ แล้ว เพราะสำหรับฉันแค่ได้ “ เอ่ย “ ขอบคุณ” ทุกครั้งที่มีโอกาส ดึงกระดาษ ทิชชู่ให้พอดี ปิดไฟทันทีที่เลิกใช้ เลือกให้ ทานเป็นนิจ และลดจริตเรื่องโกรธเกรี้ยว ” ก็รู้สึกว่าชีวิตได้เลี้ยวเข้าสู่ “วิชาสุดท้าย(ที่ มหาวิทยาลัยไ ม่ได้สอน)” ไปนิดๆ แล้วเช่น กัน... d
32
Book Review
text: จ ิรัฏฐ์เฉลิมแสนยากร
ที่อื่น: เล่ห์เพทุบายใหม่ (ให้เริงใจไปอีกทางหนึ่ง) รวมเรื่องสั้นที่อื่นของกิตติพลสรัคคานนท์ตพี ิมพ์ครั้ง แรก มกราคม 2550 ได้เกิดแรงสะท้อนกลับจากคน อ่านรวมทั้งบทวิจารณ์ตามออกมาบ้างพอสมควร ส่วน ใหญ่กล่าวไปในทำนอง“นอกจากจะสะท้อนความว่าง เปล่า สมยอม ดูดาย เคลื่อนไหลไปตามแต่ขนบสังคม จะพาไปได้อย่างชัดเจน (ชัดจนเกินกว่าจะเป็นเรื่อง จริง) ยังได้ใช้คุณสมบัติและคุณประโยชน์ของเรื่องเล่า เรื่องแต่ง (ม หรสพที่จงใจจัดแ สดงขึ้น) สะท้อนถึงค วาม หวังของชีวิต ชีวิตที่ทุกผู้สุดท้ายจบลงที่ความตาย (ไม่ ว่าจะเป็นตัวละคร ผู้แต่ง ผู้อาน)” อุทิศ เหมะมูล” หรือ คุณรักชวนหัวเขียนไว้ในเว็บบล็อกของเขาว่า“ประเด็น ที่คุณกิตติพลชอบพูดถึง(อย่างน้อยในเล่มน)ี้ คือความ ตายซึ่งแทรกอยู่แทบทุกบททุกบรรทัด”
จริงหรือที่ตัวละครทั้งหมดในรวมเรื่อง สั้นเล่มนี้ได้สะท้อนความว่างเปล่า สมยอม ดูดาย เคลือ่ นไปตามขนบจะพาไป?แ ละจ ริงห รือท คี่ วาม ตายที่แทรกไว้ตลอดทั้งเรื่องคือจุดมุ่งหมายปลาย ทาง? ถ้าหากคำตอบคือ จริง รวมเรื่องสั้นเล่มนี้ก็ ไม่มีอะไรที่ข้าพเจ้าจะต้องขุดคุ้ยหาคำตอบอีกต่อไป เนื่องจากรวมเรื่องสั้นในยุคสมัยนี้หรือจะเรียกอย่าง เป็นทางการว่าร่วมสมัย มักจะกล่าวถึงประเด็นนี้อย่าง มากมายอยู่แล้ว แต่โ ชคดีคำตอบที่ข้าพเจ้าพบคือไม่จริง ถึงแม้ว่าทุกคนล้วนต้องตายเป็นสัจธรรมของ ชีวติ แ ต่ร วมเรือ่ งสนั้ เล่มน กี้ ลับย อ้ นถามสจั ธรรมดงั ก ล่าว
33
ว่าจริงห รือท คี่ วามตายเป็นจ ดุ ห มายปลายทางหรือ คือจ ุดสิ้นสุด? (ท ั้งต่อตัวช ีวิตผู้ตายเองและต่อคนรอบ ข้าง) ก่อนอื่นขอกล่าวถึงลักษณะร่วมของตัวละคร ในรวมเรื่องสั้นเล่มนี้เสียก่อน ตัวละครในรวมเรื่องสั้น เล่มน มี้ ไิ ด้ม ลี กั ษณะตดั ขาดจากสงั คมหรือค วามสมั พันธ์ ระหว่ า งค นกั บ ค นด้ ว ยกั น (ร ะหว่ า งตั ว ล ะครกั บ ตั ว ละคร) อ ย่างขาดสะบัน้ ไ ม่เหลือใ ยไ ม่อ าจพดู ไ ด้เต็มค ำวา่ “ว ่างเปล่า”หรือ“ดูดาย”นั่นก็เพราะ“คนทเี่ปล่าเปลี่ยว แปลกแยกที่สุดจึงจะกลัวความอาทรจากคนอื่น เพราะ ความอาทรจากคนอื่นนำไปสู่ความเป็นหนี้และการผูก สัมพันธ์” *(มุกหอม วงษ์เทศ จากบทกล่าวตามในรวม เรื่องสั้นร ักแรกข องซามูเอลเบกเก็ทท์) ตัวละครในเรื่องนี้มิได้กลัวการผูกสัมพันธ์กับ ตัวละครอื่นเลย ตรงกันข้าม ตัวละครกลับผูกสัมพันธ์ กับผ อู้ นื่ ห รือแ ม้แต่ส ถานทอี่ นื่ เสมอๆใ นรปู แ บบและการ แสดงออกที่แตกต่างกันออกไปตามลักษณะนิสัยของ ตัวละครนั้นๆ เช่น “เขาจะโทรศัพท์ไปหาเธอ พูดคุยใน เรื่องซึ่งทำให้เธอและเขาสบายใจ ส่วนเธอก็จะเล่าเรื่อง เพื่อนร่วมแผนก พฤติกรรมแปลกๆของหัวหน้า” (เรื่อง ที่ขโมยมา หน้า 9) หรือ “เขาฝากลังกระดาษใบหนึ่งที่ ภายในบรรจุเสื้อผ้าและหนังสือสองสามเล่มไว้กับร้าน ปะซ่อมยางของช่างแก่ๆ…ช่างชราแสดงท่าทางบ่าย เบี่ยงเหมือนจะไม่รับฝาก แต่ที่สุดก็ยินยอม” (เข้าเมือง หน้า21)ที่เห็นได้ชัดคือตัวล ะครในเรื่องทอี่ ื่น“เขา”เจอ กับ“เธอ”หญิงสาวแปลกหน้าที่เขาพูดคุยอย่างสนิทใ จ กระทั้งตามเธอไปที่น้ำตกทั้งๆที่เขาใช้ชีวิตอยู่อย่างโดด เดี่ยวมาเป็นเวลานาน (เพียงเพราะเขาไม่ใช่คนช่างพูด ช่างเจรจา—ห น้า5 3)ดังน นั้ จ งึ แ สดงให้เห็นว า่ ต วั ล ะคร ต่างมี(หรือพ ยายามจะมี)ปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นหรือ สิ่งแวดล้อมรอบตัว นอกจากนี้ผอู้ ่านยงั พอจะทราบอีกวา่ ตัวละคร ประกอบอาชีพอ ะไร มีความสัมพันธ์กันแบบไหน (สามี ภรรยาชู้หรือหย่าขาดจากกัน)บางเรื่องผอู้ ่านยังทราบ ถึงร ปู พ รรณสณ ั ฐานของตวั ล ะครวา่ ม ลี กั ษณะเช่นไ รเช่น
“เขาหย่าร า้ งกบั ภ รรยาไปเมือ่ ป ลายปที แี่ ล้วเขาเป็นช าย หนุ่มอายุสามสิบส องปีผิวคล้ำรูปร่างเล็กมสี ีหน้าและ แววตาเหมือนจะมีความวิตกกังวลอยู่ตลอดเวลา จมูก ที่แบนราบราวกับที่ราบลุ่มบนแผนที่ทางภูมิศาสตร์จม หายไปในโหนกแก้มท งั้ ส องขา้ งม องดา้ นขา้ งใบหน้าข อง เขาจะแลดูคล้ายกับเนิ่นเตี้ยๆสองสามเนินเหลื่อมซ้อน กันอ ยู”่ (ค นื ห นึง่ ห น้า3 1)อ กี ท งั้ ต วั ล ะครตา่ งๆยงั ม คี วาม ทรงจำเป็นของตัวเอง และมักจ ะนึกย้อนกลับไ ปทุกครั้ง นีจ่ ึงเป็นสิ่งย ืนยันว่าตัวล ะครไม่ไ ด้ว่างเปล่า สิ่งที่ทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าตัวล ะครดูดายนั่นเป็น เพราะผอู้ า่ นตามไม่ทนั ก ารใช้น ำ้ เสียงหรือเสียงเล่าข องผู้ เขียนเหตุท ผี่ เู้ ขียนเลือกใช้น ำ้ เสียงในการเล่าใ นลกั ษณะ เรียบเฉยสงวนท่าทีหรือละไว้น ั้นกเ็พื่อที่จะกระตุ้นใ ห้ผู้ อ่านเกิดก ารโต้ตอบสะท้อนกลับต่อยอดรุกเร้าอารมณ์ และความรู้สึกใ นผู้อ่านแต่ละคนนั่นเอง (และได้ผลเสีย ด้วย) ในสว่ นของการลำดับค วามหมายของรวมเรือ่ ง สัน้ เล่มน มี้ ไิ ด้เป็นไ ปในทางเดียว (ล กู ศ รทางเดียว)ก ล่าว คือไม่ได้เริ่มต้นท ี่0ไปหา10หรือ10ไปหา0รวมทั้ง ไม่ได้เริ่มจาก มีชีวิต ไปหา ความตาย หรือ จากความ ตาย ไปหา ชีวิต แต่เป็นไปในลักษณะลูกศรสองทาง (de )ห รือการกลับไ ปกลับมา และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรวมเรื่องสั้นเล่มนี้ อยูบ่ ริเวณลูกศ รสองทางนั่นเอง บริ เ วณลู ก ศ รส องท างนี้ เ องที่ ผู้ เ ขี ย นใ ห้ สัญลักษณ์ คือ ถนน(รวมทั้งรางรถไฟ) อันหมายถึง ลักษณะของการไป-ก ลับ ความนา่ ส นใจทผี่ เู้ ขียนหยิบถ นนมาใช้น นั้ ม ใิ ช่ เพียงแค่แสดงถึงทางผ่านหรือแสดงว่าตัวละครไร้จุด หมายปลายทางเท่านั้นแต่ยังแสดงให้เห็นถึงการเจือ จางความหมายของจุดเริ่มต้นรวมทั้งปลายทางได้อีก ด้วยกล่าวคือถ้าเราเริ่มต้นจ ากปลายทางเพื่อที่จะไปสู่ อีกป ลายทางหนึง่ แ ละจากปลายทางนนั้ ถ า้ เรายอ้ นกลับ มาทจี่ ดุ เริม่ ต น้ จ ดุ เริม่ ต น้ น นั้ ก ค็ อื ป ลายทางก ารสลับไ ป มาของความหมายจดุ ห มายและปลายทางนเี่ อง(หรือข วั้
34
ในมิติของเวลาก็ยังปรากฏลักษณะคู่ขนานระหว่าง ปัจจุบันกับอดีตด้วยการให้ตัวละครระลึกถึงความทรง จำเป็นการนำความมีชีวิตเข้าไปใกล้ชิดกับความตาย
ของคู่ในสิ่งอื่นๆ ดังจะกล่าวต่อไป) คือสาเหตุที่แท้จริง ของปัญหาในรวมเรื่องสั้นที่อื่น “ชวี ติ คอื การนบั ถอยหลังเพียงแต่ไม่รแู้ น่ชดั ว่าควรเริ่มจากจำนวนใด สำหรับเขา ชีวิตเป็นเรื่องน่า ประหลาดใจอีกเรื่องหนึ่งเสมอ” ภาพปรากฏ หน้า 72 (เน้นโดยผู้เขียนบทความ) คำว่า อีกเรื่องหนึ่ง นั่นหมายความว่า มีอีก และอีกเรื่องนั้นก็คือความตาย “เขารู้สึกว่าเรื่องเล่าในลักษณะนี้มีจุดจบ เหมอื น ๆกนั ค อื ล งเอยทคี่ วามตายพ ร้อมกบั ค วามรสู้ กึ ท ี่ เศร้าส ร้อยและหดหู่ แ ต่ใ นทางกลับก นั เรือ่ งเล่าท ำนองนี้ ทำให้ค นตายกลับม ามชี วี ติ อ กี ค รัง้ อ ย่างนอ้ ยกใ็ นความ ทรงจำของคนทยี่ ังต้องอยู่ต่อไป”(อ นาลัยหน้า100) นอกจากนผี้ เู้ ขียนยงั ไ ด้โ ปรยปรายสญ ั ลักษณ์ ทีแ่ สดงถงึ ล กั ษณะของเลขคู่ ห รือส งิ่ ส องสงิ่ ท อี่ ยูร่ ะหว่าง ปลายลกู ศ รสองขา้ งเอาไว้ใ นทกุ เรือ่ งเช่นใ ช้บ รรยากาศ ที่หมอกลงจัด อันเป็นช่วงระหว่างความคลุมเครือและ ความชดั เจนเช่น “เช้าว นั น นั้ ห มอกลงหนาจดั ถดั จ ากสอง สามก้าวออกไปหมอกสามารถบดบังการมองเห็นได้ เกือบสมบูรณ์ท อ้ งถนนตน้ ไม้ไ หล่ท างแ ละบา้ นเรือนซงึ่ ตั้งอยูห่ ่างๆจึงดูไม่มีความแตกต่างแต่อย่างใด สำหรับ
ผูข้ ี่ยวดยานผ่านเส้นทางดังก ล่าว” (เข้าเมือง หน้า 19) (เน้นโดยผู้เขียนบทความ) ใช้ฉากเวลาโพล้เพล้อันเป็นเวลาเปลี่ยนผ่าน ระหว่างกลางวันก ับกลางคืน เช่น ”ด วงอาทิตย์ท อแสง รำไรตรงขอบฟา้ เหมือนหยดนำ้ ผ งึ้ ก ำลังท งิ้ ต วั ล งมาตาม แรงโน้มถ ว่ งเพียงครูเ่ ดียวดวงอาทิตย์ก พ็ ลันเปลีย่ นเป็น สีชมพู” (ชั่วกาล หน้า 44) หรือ “ดวงอาทิตย์เพิ่งจะลับ หายไปหลังทิวไม้ ประกายสีทองที่ปรากฏบนเส้นของ หมู่เมฆที่จรดกับชายป่าดูเหมือนจะมีไฟลุกโชติช่วงอยู่ ทีใ่ ดสักแ ห่งหนึ่ง”(ภ าพปรากฏหน้า68) ใช้ฉากเวลาเช้ามืด อันเป็นช่วงเวลาเปลี่ยน ผ่านจากกลางคืนไปสู่กลางวัน เช่น “เขาได้ยินเสียง นกดุเหว่าร้องเป็นจังหวะซ้ำๆอยู่ไกลๆ นาฬิกาข้อมือ บอกเวลาตีสี่ห้าสิบห ้าน าที”(คืนห นึ่งห น้า3 9) นอกจากบรรยากาศแล้วผู้เขียนยังแ ทรกเลข 2เอาไว้เป็นระยะๆอีกท ั้งยังระดมการใช้สัญลักษณ์ใ น เชิงคู่ขนานและคู่ตรงข้ามอยู่บ่อยครั้ง แต่ที่เห็นชัดเจน ที่สุด จากเรื่อง คืนหนึ่ง เช่น ถนนขาดสองช่อง, เครื่อง สายสองชิ้น, บ้านหลังนี้มีสองห้องนอน, ทรุดโทรม/ งดงาม,งุนงง/กระจ่างชัด,บิดเบือน/ขยับขยาย,เหตุผล /เมามาย,ความฝัน/ค วามจริงเป็นต้น
35
ในมิติของเวลาก็ยังปรากฏลักษณะคู่ขนาน ระหว่างปัจจุบันกับอดีต ด้วยการให้ตัวละครระลึกถึง ความทรงจำ เป็นการนำความมีชีวิตเข้าไปใกล้ชิดกับ ความตาย เช่น ความทรงจำของเขาเกี่ยวกับงานศพ ครั้งนั้นรางเลือนเต็มที เขาไม่อาจบอกได้ว่า เขารักแม่ และเสียใจ เพียงแต่เขารู้แน่ชัดอย่างหนึ่งว่าถ้าแม่ของ เขาตายลง ณ ตอนนี้ ความตายของแม่ย่อมมีความ หมายแตกต่างจากตอนนั้นอย่างมากมายแน่นอน” (ภาพปรากฏหน้า70) หรือแม้แต่คำว่า “ที่อื่น” ที่แปลว่า ไม่ใช่ที่ นี่ ไม่ใช่ตรงนี้ ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน เพียงแต่ไม่ใช่ตรงนี้” (คำนำ) ก็แสดงให้เห็นถ ึงแรงตีกลับไปกลับมา เหมือน กับค ำวา่ ท อี่ นื่ ค อื ล กู เทนนิสท ถี่ กู ต โี ต้ก ลับไ ปมาระหว่าง สองฝั่ง ถ้ายืนอยู่ฝั่ง “มีชีวิต” ที่อื่นจะถูกกระทบชิ่งไ ปที่ ฝั่ง“ความตาย”แต่ถ า้ ยืนอ ยูใ่ นฝั่ง“ความตาย”ทอี่ ื่นจ ะ ถูกกระทบชิ่งไปที่ฝั่ง“มีชีวิต” อย่างไรก็ตาม รวมเรื่องสั้นเล่มนี้บอกแก่เรา (ในระดับผิวเผิน) ว่า เส้นแบ่งระหว่าง “มีชีวิต” กับ “ความตาย” มิได้ชัดเจนเหมือนดังตาข่ายคั่นฝั่งใน สนามเทนนิส หากมันคลุมเครือ เลือนราง คาบเกี่ยว บางครั้งอาจทำให้เข้าใจผิดไปได้ว่า ทั้งสองฝั่งล้วนทับ ซ้อนกันอยู่ในที(ส ังเกตได้ชัดเจนจากเรื่องเข้าเมือง)นี่ จึงอ าจเป็นเหตุผลวา่ ท ำไมผเู้ ขียนถงึ ไ ม่ใ ช้ค ำวา่ อ นาลัย นั่นก็เพราะ ทั้งสองฝั่งต่างยังพัวพันหรือสัมพันธ์กันอยู่ อย่างแยกไม่ออกนั่นเอง ถึงแม้ว่าเรื่องสั้นทั้งหมดในรวมเรื่องสั้นเล่มนี้ จะแสดงให้เห็นถึงความคาบเกี่ยวพร่าเลือนคลุมเครือ ของเส้นแบ่งระหว่างการมีชีวิตกับความตาย รวมทั้ง สรรพสิ่งอื่นๆไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคำ บรรยากาศ สถานที่ และตัวละครที่เป็นลักษณะคู่ ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว แต่ อีกด า้ นหนึง่ ก ลับท ำให้ผ อู้ า่ นเห็นว า่ เส้นค นั่ ฝ งั่ น นั้ ช ดั เจน และคมกริบ ผู้เขียน (รวมทั้งผู้อ่าน) มีชุดความเข้าใจใน ฝั่งและเส้นแบ่งฝั่ง (ความมีชีวิตและความตาย )เป็น อย่างดีอยูแ่ ล้วโดยประสบการณ์ใ นชีวิตจ ริง แต่ผเู้ขียน
จงใจเจือจางมันให้เลือนรางด้วยการสร้างมหรสพแห่ง ชีวติ ข นึ้ (เรือ่ งแต่งท งั้ 1 2เรือ่ งน)ี้ พ ร้อมมลู ด ว้ ยการแทรก สัญลักษณ์ข องความคาบเกีย่ วและการกลบั ไ ปกลับม า เอาไว้ตลอดทั้งเล่ม(ดังท ี่วิเคราะห์ม าข้างต้น) การกระทำดงั ก ล่าวมใิ ช่อ ะไรอนื่ น อกเสียจ าก สะท้อนให้เห็นถึงความกลัวในจิตใจของมนุษย์ เมื่อรับ รู้ถึงสัจธรรมของชีวิต(ไม่ว่ากลัวที่จะอยู่ หรือกลัวที่จะ ตายส ดุ ท้ายทกุ ค นกต็ อ้ งตาย)แ ต่ก บ็ า่ ยเบีย่ งห ลีกเลีย่ ง ทำให้ก ลับไ ปกลับม าห รือแ ม้แต่ใ ห้ค วามหมายใหม่จ น สัจธรรมนั้นเลือนรางทั้งนีก้ เ็พื่อปลอบประโลมใจและ ทำให้ผู้อ่าน(หรือตัวผู้เขียนเอง) เริงใจไปอีกทางหนึ่งที่ ตรงกันข ้ามกับทางที่ตนไม่ปรารถนา และการที่หนังสือเล่มนี้นำประโยคของ ลูเคร ทุสม าโปรยไว้ก อ่ นเข้าเรือ่ งวา่ “ ...ค วามตายซงึ่ ท ำให้เจ้า ท้อแท้แ ละบา่ ยหน้าไ ปจากความเริงใ จในอกี ห นหนึง่ น ะ่ หรือก ใ็ นเมือ่ ช วี ติ ท เี่ จ้าใ ช้ม าจนกระทัง่ บ ดั นีเ้ ป็นส งิ่ ล ำ้ ค่า ...แล้วใยเจ้าจะไม่หาตอนจบให้แก่มัน หรือเจ้าหวังจะ ให้ข้าคิดเล่ห์เพทุบายใหม่ขึ้นมาขึ้นมาเพื่อลวงเจ้า” เป็นประโยคที่เตือนผู้อ่านอยู่กรายๆแล้วว่า รวมเรื่องสั้นที่จะได้อ่านต่อไปนี้เป็นเพียง เล่ห์เพทุบาย ใหม่ท สี่ ร้างขนึ้ ม าเพือ่ ล วงให้ผ อู้ า่ นไปอยูใ่ นอกี ท ที่ างหนึง่ ทางที่เรียกว่าท ี่อื่นน ั่นเอง d
36
Book & Movie text: พลพะยาบ
Partiedecampagne(1936)
ชนบทพิศวาส ฤดูร้อนปี 1860 เมอซิเออร์ดืว์ฟูร์ พ่อค้าเครื่องเหล็กแห่งกรุง ปารีส ขับรถม้าสองล้อคันงามพามาดามดืว์ฟูร์ ภรรยา หญิง ชราผู้เป็นแม่ อังเรียตต์ บุตรสาววัย 18 ปี และชายหนุ่มว่าที่ ลูกเขย เดินทางจากเมืองอันวุ่นวายสู่ชนบทสงบเงียบเพื่อพัก ผ่อนหย่อนใจ เมื่อผ่านมาถึงภัตตาคารปูแล็งริมฝั่งแม่น้ำแซน มา ดามดืวฟ์ รู เ์ ห็นว า่ เข้าท า่ เข้าท างทงั้ เมนูอ าหารบ รรยากาศรม่ รืน่ ทิวทัศน์ง ดงามซึ่งอาจรวมถึงชายรูปร ่างกำยำ2คนที่กำลังนั่ง กินอ าหารอยู่ น างจงึ ต ดั สินใ จเลือกเป็นส ถานทสี่ ำหรับม อื้ ก ลาง วันและใช้เวลาตลอดบ่ายผ่อนคลายอารมณ์ หลังมื้ออาหารอิ่มอร่อย ขณะที่เมอซิเออร์ดืว์ฟูร์และ ว่าที่ลูกเขยมัวแต่เมาแปล้ ชายร่างกำยำทั้งสองสบโอกาสชวน มาดามดืวฟ์ รู ก์ บั อ งั เรียตต์ล งเรือล อ่ งแม่นำ้ ม าดามดืวฟ์ รู ไ์ ปกบั ชายคนหนึ่งส ่วนอังเรียตต์ไปกับชายรูปงามนามอังรี
วิมานมนุษย์ฉ บับพิมพ์ครั้งที่5พ .ศ .2 526
37
ด้วยความงามของธรรมชาติ และความปรารถนา รัญจวนใจในกันและกันของชายหนุ่ม- หญิงส าว ก่อให้เกิดห้วง พิศวาสเกินทัดทาน ณ เกาะเล็กๆ กลางแม่น้ำลับตาผู้คน ยิน เสียงนกไนติงเกลขับขานบรรเลงคลอ คือห้วงพิศวาสไม่คลาย จางแ ม้ต้องจากพรากกันไปนานเท่าน าน... เรื่องราวดังกล่าวอยู่ในเรื่องสั้นUnepartiedecampagneข องก ยี ์ เดอโ มปาส์ซ งั ต ์ พ มิ พ์เผยแพร่เมือ่ ป ี 1 881ฉ บับ แปลภาษาองั กฤษชอื่ A C ountryE xcursionส ว่ นภาษาไทยโดย อาษาขอจิตต์เมตต์ใช้ช ื่อว่า“ชนบทพิศวาส”พิมพ์ครั้งแรกใน รวมเรื่องสั้น “ส วัสดียอดรัก” โดยสำนักพิมพ์โอเดียนสโตร์ พ.ศ .2508 ซึ่งได้พิมพ์ชุดเรื่องสั้นของโมปาส์ซังต์ออกมาพร้อมกัน ท งั้ ส นิ้ 1 2เล่มต อ่ ม ามผี จู้ ดั พ มิ พ์เรือ่ งสนั้ ท งั้ หมดโดยจดั ก ลุม่ แ บ่ง เล่มก ันใหม่ซึ่ง“ช นบทพิศวาส”ได้มารวมอยู่กับเรื่องสั้นอีก34 เรื่องในชื่อป กว่า“วิมานมนุษย์” กีย์ เดอ โมปาส์ซังต์ (Guy de Maupassant, 1850 -1893) เป็นนักเขียนฝรั่งเศสที่โด่งดังมากช่วงปลายศตวรรษ ที่ 19 เขาเกิดที่แคว้นนอร์มังดี ได้รับการอุปถัมภ์ส่งเสริมวิชา วรรณกรรมจากก สุ ต าฟโ ฟลแบรต์ป รมาจารย์น กั เขียนเจ้าของ ผลงานเรื่อง Madame Bovary และได้รู้จักกับเพื่อนนักเขียน ของโฟลแบรต์อ ย่างเอมลิ โ ซลาน กั เขียนแนวธรรมชาติน ยิ มคน สำคัญแ ละอวิ านต รูเกเนฟน กั เขียนสจั นิยมชาวรสั เซียนโ มปาส์ ซังต จ์ งึ ไ ด้ร บั อ ทิ ธิพลแนวทางธรรมชาติน ยิ มและสจั นิยมโดยตรง เกิดเป็นเรื่องสั้นที่เล่าเรื่องราวจริงแ ท้ข องผู้คนในสังคม งานเขียนของราชาเรื่องสั้นฝรั่งเศสยังมีรายละเอียด อีกหลากหลาย ทั้งพล็อตอันชาญฉลาดและการจบแบบหัก มุมกระทั่งเป็นแ บบอย่างให้แก่นักเขียนรุ่นถัดมาอย่างซอมเม อร์เซท มอห์ม และโอ.เฮ็นรี่ มีเรื่องที่บรรยายภาพสมจริงอย่าง ละเอียดลออตามแบบอ อนอเร่เดอบ ลั ซ คั แ ม้แต่เรือ่ งสนั้ ส ยอง ขวัญเหนือธรรมชาติก็ยังมี ความยอดเยี่ยมล้ำหน้าของโมปาส์ซังต์ทำให้เขาถูก ยกย่องให้เป็นหนึ่งในบิดาแห่งเรื่องสั้นสมัยใหม่ รวมเรื่องสั้น16เล่มนิยาย6เรื่องบันทึกการเดินทาง 3เล่มแ ละบทกวีอ กี เล่มห นึง่ ค อื ผ ลงานทงั้ หมดของโมปาส์ซ งั ต ์ ก่อนทเี่ ขาจะกลายเป็นค นวกิ ลจริตจ ากโรคซฟิ ลิ สิ ข นึ้ ส มองแ ละ เสียช ีวิตในปี1893รวมอายุเพียง43ปี
1 ป หี ลังจ ากโมปาส์ซ งั ต เ์ สียช วี ติ ม เี ด็กช ายคนหนึง่ ถ อื ก ำเนิดข นึ้ ในกรุงปารีส เขาเป็นลูกชายคนที่สองของปิแอร์ ออกุสต์ เรอนัวร์ ศิลปินผู้บุกเบิกแนวทางอิมเพรสชั่นนิสต์ เด็กชายเติบโต ขึ้นท่ามกลางภาพเขียนของพ่อ ได้เป็นแบบให้พ่อว าด และน่า จะทำให้เขามีสายเลือดศิลปินอยู่เต็มเปี่ยม เมือ่ เกิดส งครามโลกครัง้ ท ี่ 1 เขาเข้าร ว่ มเป็นท หารและ ได้ร บั บ าดเจ็บห นักท ขี่ าถงึ 2 ค รัง้ แ ต่เพราะการบาดเจ็บแ ละตอ้ ง พักฟื้นยาวนานนี่เองทำให้ได้ใช้เวลาไปกับการชมภาพยนตร์ มากมายก ระทั่งป ี1 924เขากเ็ริ่มลงมือท ำหนังด้วยตนเอง นีค่ อื บ ทเริม่ ต น้ ข องหนึง่ ใ นผกู้ ำกับภ าพยนตร์ผ ยู้ งิ่ ใ หญ่ ตลอดกาลนามว่าฌ องเรอนัวร ์( JeanRenoir,1 894-1 979) เรอนัวร์ประสบความสำเร็จในฐานะคนทำหนังอย่าง รวดเร็ว จากหนังเงียบสู่หนังเสียง จากคนทำหนังชาวฝรั่งเศส กระทั่งอพยพหนีภัยนาซีไปเป็นพลเมืองอเมริกัน มีหนังขึ้น หิ้งให้โลกยกย่อง-ศึกษามากมาย เช่น The Grand Illusion (1937) The Rules of the Game (1939) The River (1951) หนังของเขามักจะสำรวจลงลึกพฤติกรรมมนุษย์อย่าง หลักแหลมและแสบสันต์ บ้างมีนัยยะทางสังคม-การเมือง ชัดเจนโ ดดเด่นด ว้ ยการเคลือ่ นกล้องและเรียงรอ้ ยภาพจากมมุ กล้องหลากหลาย การบรรจบพบกนั ข องเรอนวั ร ก์ บั โ มปาส์ซ งั ต เ์ กิดข นึ้ ใ น ปี1 936เมือ่ เรอนวั ร น์ ำเรือ่ งU nep artied ec ampagneข องโม ปาส์ซังต ์มาสร้างเป็นหนัง เป็นทรี่ ู้จักก ันต่อมาในชื่อ Partie de campagneหรือADayintheCountryและได้ร ับการยกย่อง ว่าเป็นหนังรักท ี่ดีที่สุดของเรอนัวร์ เหตุ ที่ เ รอนั ว ร์ ห ยิ บ ง านเ ขี ย นข องโ มป าส์ ซั ง ต์ ม า ถ่ายทอดบนแผ่นฟิล์ม ใช่เพียงเพราะเป็นวัตถุดิบชั้นดีโดยนัก เขียนชื่อดังเท่านั้น แต่เพราะโมปาส์ซังต์เป็นเพื่อนของออกุสต์ เรอนัวร์และว่ากันว่าเรอนัวรผ์ ู้ลูกทำหนังเรื่องนเี้พื่ออุทิศแด่พ่อ ผูจ้ ากไปร วมทงั้ ร ำลึกถ งึ ย คุ ส มัยจ กั รวรรดิฝ รัง่ เศสครัง้ ท ี่ 2 ซ งึ่ พ อ่ ของเขาได้ใช้ชีวิตว ัยเยาว์และเติบโตสู่เส้นทางศิลปะ กระนั้น การเดินทางสู่ชนบทพิศวาสครั้งนี้ไม่ราบรื่น นักเนือ่ งจากสภาพอากาศไม่เอือ้ อ ำนวยก ารถา่ ยทำยดื เยือ้ อ อก ไปจนถึงกำหนดทเี่รอนัวรต์ ้องขยับไ ปทำหนังเรื่องอื่นฟลิ ์มห นัง Partiedecampagneซึ่งถ่ายค้างไว้จึงถูกท ิ้งข ว้างอยูน่ านกว่า
38
เนื่องจากเรอนัวร์ตั้งใจทำให้เป็นหนังสนุกสนานมีบท ตอนโรแมนติกก่อนจะจบด้วยความ เศร้าสร้อยโหยหาจึงปรุงแ ต่งด้วยการแสดงการ ถ่ายภาพและดนตรีประกอบเพื่อโอบอุ้มบรรยากาศ และชักจูงอารมณ์ความรู้สึกอย่างเต็มที่
จะถกู น ำมาบรู ณะตดั ต อ่ แ ละนำออกฉายในปี 1 946ห รืออ กี 1 0 ปีต่อมา Partie de campagne เป็นหนังขาว-ดำ ความยาว 40นาทีพอเหมาะกับเรื่องสั้นขนาดไม่ยาวนักเรอนัวร์เขียนถึง เรื่องนี้ในหนังสืออัตชีวประวัติ My Life and My Films ว่าเขา เคยถกู ร อ้ งขอให้ข ยายฟตุ เตจหนังเป็นห นังข นาดยาวแ ต่ป ฏิเสธ เด็ดขาดเพราะไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงเรื่องราวของโมปาส์ซัง ต์ ความเคารพในต้นฉบับทำให้หนังเดินตามโครงสร้างเนื้อหา ในเรื่องสั้นแทบจะครบถ้วน ขาดเพียงฉากก่อนสุดท้ายซึ่งอังรี เข้าไปในเมืองแล้วได้พบกับมาดามดืว์ฟูร์ เข้าใจว่าเป็นส่วนที่ ยังไม่ได้ถ่ายทำ ส่ ว นที่ เ พิ่ ม ขึ้ น ม าเ พี ย งเ ล็ ก น้ อ ยเ ป็ น ฉ ากแ ละบ ท สนทนาในลักษณะเติมเต็มจินตนาการให้งานเขียน ไม่ได้เสีย เรื่องราว-รสชาติแต่อย่างใด เช่นฉากพูดคุยและวางแผนเกี้ยว สาวของสองหนุ่มซึ่งในเรื่องสั้นไม่ได้กล่าวถึง จุดที่แตกต่างชัดเจนคือธีมอารมณ์ เนื่องจากเรอนัว ร์ตั้งใจทำให้เป็นหนังสนุกสนาน มีบทตอนโรแมนติก ก่อนจะ จบด้วยความเศร้าสร้อยโหยหา จึงปรุงแต่งด้วยการแสดง การ ถ่ายภาพ และดนตรีประกอบเพื่อโ อบอุ้มบรรยากาศและชักจูง อารมณ์ค วามรสู้ กึ อ ย่างเต็มท ี่ เปรียบเทียบกบั เรือ่ งสนั้ ต น้ ฉบับซ งึ่ อยูใ่ นโทนเรียบนงิ่ ผ า่ นบทบรรยายโวหารม ากกว่าก ารพรรณนา
เพื่อสร้างอารมณ์ร ่วม อย่างไรก็ตาม แม้จ ะมีดีกรีค วามซาบซึ้ง- ละมุนล ะไม ตราตรึงใ จผู้ชม แต่หนังกไ็ ม่อาจนำเสนอ “บทอัศจรรย์” อันน ่า อัศจรรย์ไ ด้อ ย่างทโี่ มปาส์ซังต ์รังสรรค์ไว้ในเรื่องสั้น ฉากนี้เกิดขึ้นเมื่ออังรีพาอังเรียตต์เข้าไปในป่ารกบน เกาะเล็กๆก ลางแม่นำ้ เพือ่ แ อบชมและเฝ้าฟ งั เสียงนกไนตงิ เกล เขาและเธอแนบชดิ ก นั ม ากขนึ้ เรือ่ ยๆก ระทัง่ ต า่ งสวมกอดและ จุมพิตก นั อ ย่างดดู ด มื่ ห นังพ าผชู้ มมาสง่ เพียงแค่น กี้ อ่ นจะละไว้ ในฐานทเี่ ข้าใจแ ต่ใ นเรือ่ งสนั้ โ มปาส์ซ งั ต ใ์ ช้น กไนตงิ เกลนำทาง ผู้อ่านต่อไ ป ขอคดั ส ำนวนแปลของอ าษาข อจติ ต์เมตต์ม าทงั้ หมด ดังนี้ “ต่อมานกไนติงเกลเริ่มร้องอีกครั้งหนึ่ง, ทีแรกปล่อย เสียงเป็นเพลงสามโน้ตแผ่กระจายไปทั่วบริเวณ, ฟังดูไม่ผิด กับเป็นการเรียกร้องแห่งความรัก ครั้งแล้ว, หลังจากเงียบอยู่ ประเดี๋ยวหนึ่ง, มันร้องใหม่ด้วยกังวานเบากว่าเก่าและทำนอง สูงต่ำพ ะเยิบพะยาบ “ลมอ่อนโชย,เป็นเหตุให้ใบไม้เสียดสีดังแ ผ่วๆ,ขณะ เดียวกันบนหญ้ากลางพุ่มไม้ทึบปรากฏเสียงถอนหายใจอย่าง รุม่ ร อ้ นของชายหญิงส องคนคละเคล้าก บั เพลงของนกไนตงิ เกล และอาการหายใจรวยรินข องป่า
39
“ความมนึ เมาได้ม าสงิ สูน่ ก,ท ว่ งทำนองจงึ เร็วข นึ้ ท ลี ะ น้อยๆ,แบบเดียวกับเพลิงพิศว าสค่อยๆทวีการเผาไหม้รุนแรง ยิง่ ข นึ้ เป็นล ำดับ,ท งั้ นีด้ ปู ระหนึง่ ก งั วานแจ้วเจือ้ ยนนั้ เข้าจ งั หวะ กับเสียงจูบใต้ต้นไม้ ครั้งแล้วเพลงของมันอยู่ในลักษณะลุ่มๆ ดอนๆ, คล้ายกับแสดงว่ายามเปล่งเสียงสูงต่ำมันกำลังจะเป็น ลม. ฉะนั้นลีลาจึงเกิดมาจากอารมณ์ที่อยู่ในภาวะชักกระตุก บางครั้งมันจะหยุดขณะหนึ่ง, ครางค่อยๆ สองหรือสามหน, แต่แล้วโดยปุบปับกะทันหันแผดเสียงแหลม หรือมิฉะนั้นมัน จะตะเบ็งในอาการวิกลจริต, สั่นสะท้านและกระแทกกระทั้น, ไม่ผิดกับเพลงรักบ้าคลั่ง,ติดตามด้วยการร้องแห่งช ัยชนะครั้ง แล้วม ันหยุด, เนื่องจากได้ยินเสียงถอนหายใจลึกแสนลึกเบื้อง
ล่างประหนึ่งวิญญาณกำลังจะออกจากกาย. เสียงนี้ดังอยู่เช่น นั้นอีกครูห่ นึ่ง,ต ่อมายุตลิ งพร้อมกับเปลี่ยนเป็นสะอื้น” เป็นฉากอัศจรรย์แห่งไนตงิ เกลทสี่ ามารถสมั ผัสได้ใน งานเขียนเท่านั้น d
ห มายเหตุ : ชื่ อ ตั ว ล ะครอ้ า งอิ ง จ ากส ำนวนแ ปลข อง อ าษา ขอจิตต์เมตต์
สำนักพิมพ์เม่นวรรณกรรม ภูมิใจเสนอ
รวมเรื่องสั้นเล่มล่าสุดของ นิวัต พุทธประสาท
ถ้าคุณชอบเรื่องสั้นที่ท้าทาย ถ้าคุณชอบความโรแมนติก ถ้าคุณชอบอ่านเรื่องสั้น
แสงแรกของจักรวาล และเรื่องสั้นอื่น ๆ พิมพ์จำนวนจำกัด หาซื้อได้ตามร้านหนังสือชั้นนำ ขนาด 16 หน้ายกพิเศษ หนา 216 หน้า ราคา 155 บาท
ปกติฉันไม่ค่อยชอบอ่านเรื่องสั้น เพราะมักรู้สึกว่าไม่อิ่ม หลายเรื่องจบแบบค้างๆคาๆ หนังสือร วมเรื่องสั้นหลายเล่มที่บ้านเลยมที ี่คั่นหนังสือเสียบ อ่านค้างวางไว้ให้ฝุ่นจับอย่างนั้นแต่เล่มนี้ แสงแรกของจักรวาล กลับให้ค วามรู้สึกต่างไป และทำลายกำแพงทฉี่ ันมีกับเรื่องสั้นลงได้ ความนา่ ช นื่ ชมของคณ ุ น วิ ตั อ ยูต่ รงการจบั ก ระแสแห่งก าลสมัยอ า่ นเรือ่ งสนั้ ใ นเล่มน แี้ ล้วน กึ ถึง เมื่อส ิบปีก่อนสมัยค่าเงินบ าทตกคนไทยเพิ่งรู้จักม ุราคามินิตยสารadayถือก ำเนิดเรื่องเพศ ถูกเปิดเผยมากขึ้น นักดูหนังกระแสหลักได้รู้จักหวังเจียเว่ย ค่ายเบเกอรีกำลังโด่งดังสุดขีด หนุ่มสาวชนชั้นกลางหัดฟังเพลงนอก และอยากเป็นอาร์ติสกันหมดทั้วบ้านทั้วเมือง สำหรับ คุณนิวัต เรายกย่องแกในรายละเอียด ว่าเข้าใจห้วงเวลาเหล่านี้อย่างถ่องแท้ และถ่ายทอด มันออกมาได้ทุกแง่มุม
ตุลาคม 2551 งานมหกรรมหนังสือ
เตรียมพบกับ นิยายเรื่องใหม่ของ ทินกร หุตางกูร และ รวมเรื่องสั้นหลากหลายนักเขียน “เรื่องรักธรรมดา 2”
สำนักพิมพ์เม่นวรรณกรรม www.thaiwriter.net
42
นอนดูหนัง Text: ลุงยะ
THEFORGOTTEN
ค วามรักของแม่ที่ไม่อาจล่วงรู้ ‘กล่าวกันว่าความรักของแม่ที่มีต่อลูกนั้นยิ่งใหญ่ ยากจะ หาความรักที่ใดมาเสมอเหมือน’ ข้อความข้างต้นที่กล่าวมานั้น อาจจะพูดได้เป็น นามธรรมหรือรูปธรรมได้หลายร้อยรูปแบบ เพราะความรัก ที่แม่ม ีต่อลูกก่อเกิดขึ้นกับสัตว์โลกแทบจะทุกชนิด ไม่เว้นแ ม้ กระทั่งงูที่ห่วงไข่ตัวเอง นกที่ต้องปกป้องหาอาหารมาให้ลูก สิงโตที่คอยดูแลเอาใจใส่จนลูกสิงโตกำเนิดเกิดขึ้นเป็นนักล่า หรือไม่เว้นแ ม้แต่มนุษย์เอง ที่ดำรงความรัก ความเอาใจใส่ ต่อลูกน้อยจนกว่าชีวิตจะหาไม่ เพราะความเป็นแม่นั้นมีอยู่ ในทุกสรรพสัตว์กล่าวคือสัตว์โลกที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็น‘เพศแม่’ นั้นยิ่งใหญ่มากมายมหาศาล แต่ความรักที่น่าจะจับต้องได้มากที่สุด นั้นก็คือ ความรักข องมนุษย์เพราะมนุษย์มีความจำที่ดีเลิศมีภาษา ที่สื่อถึงกันได้เยี่ยมและสุดท้ายจิตว ิญญาณของความเป็นแม่ ภายใต้ดวงจิตที่สังเคราะห์ค วามรู้สึกต่างๆนานา ที่ก่อให้เกิด ความทรงจำที่ดี
43
44
ความทรงจำระหว่างแม่กับลูก ที่บางทีวิทยาศาสตร์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ ค วามทรงจำของแม่ที่มีต่อลูกมันจะเก็บภาพตั้งแต่ตัวเองตั้ง ท้องจนคลอดลูกออกมา ไม่ว่าจะเก็บความทรงจำไว้ในส่วน ใดของสมองภาพความทรงจำเหล่านั้นก็จะผุดขึ้นเมื่อยาม คิดถึงภาพในอดีต มันจะเป็นเรื่องราวเล็กๆที่ทีภาพต่อกันมา เรื่อยๆจนถึงปัจจุบันขณะพาเร็ตต้า(จเูลี่ยนมัวร์Hannibal, Psycho)เองก็เช่นก ันเธอมีความทรงจำที่ดีต่อล ูกชายตัวน ้อย ตัง้ แต่ต งั้ ท อ้ งค ลอดลกู เติบโตเป็นเด็กช ายเข้าโ รงเรียนห รือ ไม่เว้นแม้ก ระทั่งยามส่งล ูกเข้าน อนแต่จู่ๆว ันหนึ่งลูกชายของ เธอดันหายตัวไป ไม่มีร่องรอยหรือเบาะแสใดๆทั้งสิ้น เธอ พยายามตามหาลกู แ ต่ส ามีข องเธอกลับบ อกวา่ เธอไม่เคยมลี กู หรือแม้แต่จะตั้งท้องด้วยกันเลยแต่พาเร็ตต้าไม่เชื่อเธอเชื่อ ว่าตัวเองมีลูกจริงๆลูกชายของเธอชื่อ‘แซมพาเร็ตต้า’เป็น เด็กน้อยน่ารักอยู่ในความทรงจำของเธอตลอดมา สามีของ เธอจึงหาว่าเธอบ้าเลยนำเธอไปพบจิตแพทย์(แกรี่ซีนิส, C.S .INY)เพื่อบ ำบัดภาพเหล่าน ั้นออกไปจากหัวจิตแพทย์ พยายามบำบัดโ น้มน า้ วให้เธอคดิ ว า่ เธอไม่เคยมลี กู จ ริงๆแ ต่ พาเร็ตต้ากลับบอกจิตแพทย์ได้แม่นยำว่าลูกของเธอหายตัว ไป14เดือน6วันเธอจำได้แม่นยำจนภาพสุดท้ายที่เธอเห็น ลูก นั้นก็คือภาพของลูกชายของเธอนั่งเครื่องบินไปกับสาย การบินหนึ่ง จิตแพทย์กล่าวหาว่าเธอตั้งภาพจินตนาการขึ้น มาเอง หรือเธออาจจะเป็น ‘โรคจิตเสื่อม’ (หาดูภาพยนตร์จิต เสื่อมได้หลายเรื่องเช่นABeautifulmind) ความนา่ ส นใจของT heF orgottenน นั้ อ ยูท่ กี่ ารเล่นแ ง่ ความทรงจำระหว่างแม่ก บั ล กู ท บี่ างทีว ทิ ยาศาสตร์ไ ม่ส ามารถ พิสจู น์ไ ด้เพราะมนั อ าจจะมใี นเรือ่ งจติ ว ญ ิ ญาณของความเป็น แม่เข้าม าเจือปนในตัวหนังนั้นทางด้านผู้กำกับโจเซฟรูเบน พยายามจะเล่าเรือ่ งในสองแง่ร ะหว่างวทิ ยาศาสตร์ก บั ก บั ค วาม ลึกลับของจิตใจและการแก้ปมปริศนาของพาเร็ตต้าเองใน
การรับรู้ว่าเธอมีลูกชายจริงหรือไ ม่มจี ริงเธอพยายามต่อสูก้ ับ วิทยาศาสตร์ก ารพิสูจน์ เพราะเธอเชื่อว่าเธอมีลูก ไม่อย่าง นัน้ เธอจะมภี าพความทรงจำแบบนไี้ ด้อ ย่างไรถ า้ ห ากเธอไม่มี มันจ ริง พาเร็ตต้าพ ยายามหาขอ้ พ สิ จู น์ไ ปเรือ่ ยๆจ นได้พ บกบั แอชคาร์เรลล์(DominicWest)นักก ีฬาฮ็อกกนี้ ้ำแข็งที่สูญ เสียลูกไ ปกับค วามทรงจำเหมือนกันแต่ที่แรกแอชกลับยืนยัน กับเธอวา่ ต วั เขาเองไม่เคยมลี กู พ าเร็ตต้าพ ยายามฟนื้ ค วามจำ ของแอช จากนักกีฬาที่เคยโด่งดังทำไมถึงกลายเป็นไอ้ขี้เมา ก็เพราะเขาสูญเสียลูกไป พาเร็ตต้าพยายามค้นหาหลักฐาน ต่างๆในห้องของแอชจนเธอเห็นรอยฉีกข าดของวอลเปเปอร์ เธอฉีกม ันออกจากผนังห ้องจนเธอพบภาพวาดของเด็กๆบน ฝาผนังตอนแรกแอชหาว่าเธอบ้าแต่การได้เห็นภาพเหล่า นี้มันทำให้ฟื้นฟูค วามทรงจำของแอชขึ้นมาภาพลูกข องแอช เริ่มป รากฏขึ้นเป็นร ูปเป็นร ่างจนแอชจำได้ว ่าต ัวเขาเองกเ็คย มีล กู และพาเร็ตต้ากบั แอชก็ตกอยูใ่ นสภาวะเดียวกันนนั้ คอื การมีอยูจ่ ริงข องความทรงจำ การตามสบื ค้นห าความจริงข องพาเร็ตต้าแ ละแอชนัน้ จึงท ำให้ห นังเรือ่ งนใี้ นตอนแรกทมี่ สี ภาพคอ่ นขา้ งอดื ก ลับก ลาย เป็นหนังทสี่ นุกตื่นเต้น เพราะการตามสืบข องเธอและเขาเริ่ม พบปริศนาบางอย่างที่มันอาจไม่ใช่มนุษย์กระทำ แต่เป็นสิ่ง อื่นที่ไม่อาจคาดเดาถึง แต่การสืบครั้งนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด เพราะทั้งพาเร็ตต้าและแอชถูกตามล่าตัวโดย NSA องค์กร ความมั่นคงแห่งช าติ ทั้งทพี่ วกเธอเองไม่รสู้ าเหตุว ่าพวกเธอ ถูกตามล่าเพราะอะไรทั้งเธอและเขาต่างต้องสืบแ ละต้องหนี หนังจะเป็นแบบนี้อยูใ่ นระยะหนึ่งจนสุดท้ายเธอและเขาต่าง ได้ล่วงรู้ว่าคนทกี่ ระทำทั้งหมดคือม นุษย์ต่างดาวการตาม ล่าข ององค์กรNSAนั้นกเ็พื่อความอยูร่ อดของสังคมเพราะ
45
ทัง้ พ าเร็ตต้าแ ละแอชเป็นเหยือ่ ข องการทดลองลบความทรงจำ เกี่ยวกับลูกจากมนุษย์ต่างดาว สิ่งท ที่ ำให้ห นังเรื่องนนี้ ่าส นใจยิ่งข ึ้นไ ปอีกน ั้นค ือการ เล่นก บั ค วามกลัวใ นอนาคตก ลัวก บั ศ กั ยภาพทมี่ องไม่เห็นข อง มนุษย์ต่างดาวความกลัวการสูญสิ้นสลายของมนุษย์ทั้ง ในแง่ของความเป็นจริงที่เรายังไม่เคยเห็นศักยภาพที่แท้จริง เลยด้วยซ้ำ (บางทีมนุษย์ต่างดาวอาจทดลองเป็น แต่สร้าง นิวเคลียร์ไ ม่เป็นใ ครจะรู้)คงไม่ผิดนักหากมนุษย์จะสร้างภาพ ขึ้นมาเองกับสิ่งที่มองไม่เห็น และภาพเหล่านั้นจะเน้นไปใน ความกลัว การสบื หาความจริงย งั เป็นไ ปอยูเ่ รือ่ ยๆจ นพาเร็ตต้า และแอชได้เจอกับมนุษย์ต่างดาวในร่างมนุษย์ ความทรงจำ ของพาเร็ตต้าเองเริม่ ผ ดุ ข นึ้ อ กี ค รัง้ ภ าพของมนุษย์แ ปลกหน้าที่ อยูด่ ว้ ยทกุ เหตุการณ์ต อนทลี่ กู ข องเธอหายไปก ารเผชิญค วาม จริงกับความทรงจำกำลังป ระกอบขึ้นเป็นรูปเป็นร่าง ปริศนา ทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย แง่มุมความรักที่แม่มีต่อลูกนั้นสอดแทรกอยู่ตลอด เวลาเห็นไ ด้จ ากภาพความทรงจำของพาเร็ตต้าท มี่ ตี อ่ ล กู ชาย ตัวน้อยมันเข้าม าปรากฏทั้งใ นยามหลับและยามตื่นมันจึง ทำให้เธอเชือ่ ว า่ ล กู ชายเธอมอี ยูจ่ ริงแ ต่จ ะเป็นห รือต ายยงั ไ ม่รู้ แน่แต่ค นที่จะเฉลยได้มากที่สุดนั้นก็คือมนุษย์ต่างดาวผู้นั้น
จุดเฉลยของหนังอยู่ในตอนท้ายของเรื่องการเผชิญ หน้าก นั ร ะหว่างพาเร็ตต้าก บั ม นุษย์ต า่ งดาวถ า้ ม องอกี น ยั ห นึง่ ก็คือ การเผชิญหน้ากันระหว่างการทดลองวิทยาศาสตร์กับ ความลึกลับข องจิตใจมนุษย์ที่ไม่อาจล่วงรู้ถึง การจะลบล้าง ความทรงจำนั้นมันไม่ง่าย โดยเฉพาะการลบภาพความทรง จำของลูกออกไปจากสมองของแม่นั้นยิ่งเป็นเรื่องยากเข้าไป อีก จะเห็นได้ว่าตอนจบของหนังที่มนุษย์ต่างดาวพยายาม จะลบความทรงจำเกี่ยวกับลูกในตัวพาเร็ตต้า โดยให้พาเร็ต ต้านึกถึงภาพการแรกคลอดของลูกชาย เพื่อจะได้ลบความ ทรงจำทั้งหมดมนุษย์ต ่างดาวนั้นนึกว่าต ัวเองทำสำเร็จเพราะ สามารถลบความทรงจำตังแต่แรกเกิด แต่เหตุการณ์ไม่เป็น เช่นนั้น เพราะความเป็นแม่มันมีความทรงจำตั้งแต่ตั้งท้อง ภาพความทรงจำทมี่ นุษย์ต า่ งดาวลบไปจงึ ไ ม่ห มดสนิ้ จ งึ ท ำให้ การทดลองไม่ประสบความสำเร็จ และมนุษย์ต่างดาวเป็นอัน พ่ายแพ้ไป ดั่งจะเห็นได้ว่าความเป็นแม่นั้นมันม ีอะไรมากกว่า วิทยาศาสตร์จ ะเข้าถึงเพราะมันไ ม่ใช่แค่ก ารผสมพันธุ์แพร่ พันธุ์ ห รือก ารตงั้ ท อ้ งแล้วค ลอดลกู เพราะความเป็นเพศแม่ม นั มีมากว่าน ั้นมันม ีมากกว่าท ี่วิทยาศาสตร์จ ะพิสูจน์ไ ด้ d
46
Playground Text: มณฑิตา วงษ์ชีพ
La Cigale et la Fourmi Jean de La Fontaine - Fables de La Fontaine La Cigale, ayant chanté Tout l’été, Se trouva fort dépourvue Quand la bise fut venue : Pas un seul petit morceau De mouche ou de vermisseau. Elle alla crier famine Chez la Fourmi sa voisine, La priant de lui prêter Quelque grain pour subsister Jusqu’à la saison nouvelle. « Je vous paierai, lui dit-elle, Avant l’AOût, foi d’animal, Intérêt et principal. » La Fourmi n’est pas prêteuse : C’est là son moindre défaut. « Que faisiez-vous au temps chaud ? » Dit-elle à cette emprunteuse. ─ Nuit et jour à tout venant Je chantais, ne vous déplaise. ─ Vous chantiez ? j’en suis fort aise. Eh bien ! dansez maintenant.
ร้องเอ๋ยร้องเพลง ช่างครื้นเครงเสียจริงจิ้งหรีดจ๋า ในหน้าร้อนเจ้าไม่เพียรหาข้าวปลา ลมหนาวมาจึงพบว่าอดอยากพลัน ไม่มีแม้เศษแมลงหรือตัวหนอน ต้องวิงวอนเจ้ามดโปรดช่วยฉัน อยากจะขอยืมอาหารโปรดแบ่งปัน ให้ข้านั้นรอดชีวีมิอดตาย เดือนสิงหามาเยือนจะคืนให้ พร้อมกำไรตอบแทนแก่สหาย จิ้งหรีดจ้อยเปล่งถ้อยคำพร่ำบรรยาย น่าเสียดาย”ข้ามิให้”มดยืนยัน “แล้วตัวเจ้าทำสิ่งใดในหน้าร้อน?” มดถามย้อนจิ้งหรีดผู้เคยสุขสันต์ “ข้าขับขานเสียงเพลงทั้งคืนวัน” “ถ้าเช่นนั้นจงเต้นรำเสียด้วยเอย”
47
รูปแบบฉันทลักษณ์ กวีนิพนธ์เรื่องจิ้งหรีดกับมดแบ่งอ อกเป็น5บท
บทที่1มี4วรรค บทที่2มี4วรรค บทที่3มี6วรรค บทที่4มี4วรรค บทที่5มี4วรรค
ในแต่ละวรรคประกอบด้วยคำคล้องสัมผัสคล้องจอง (rimer) ที่คำสุดท้ายของวรรค เช่น chanté กับ l’été หรือ famine กับ voisineเป็นต้นอย่างไรก็ตามไม่พบลักษณะของคำคล้องจอง ภายในวรรคเดียวกันหรือที่เรียกกันว่า “สัมผัสใน” ตามแบบ ฉันทลักษณ์ของกวีนิพนธ์ในภาษาไทย เมื่อเปรียบเทียบกับนิทานสอนใจเรื่องหมาป่ากับ ลูกแกะของผู้แต่งคนเดียวกัน (หน้า 56 วรรคดีภาษาฝรั่งเศส ศตวรรษที่ 17 และ18 ของ อ.เหรียญหล่อวิมงคล)ในแง่ของ รูปแ บบและกลวิธใี นการเปิดเรือ่ งน ำเสนอเรือ่ งจ ะพบวา่ น ทิ าน สอนใจเรือ่ งจงิ้ หรีดก บั ม ดมไิ ด้เปิดเรือ่ งดว้ ยการให้ข อ้ คิดค ติส อน ใจห ากแต่ไ ด้แ ฝงเอาไว้โ ดยผอู้ า่ นจะได้ซ มึ ซับแ นวความคดิ ห รือ สิ่งที่กวีต้องการสื่อด้วยตนเอง การด ำเนิ น เ รื่ อ งเ ป็ น การเ ล่ า นิ ท านต ามล ำดั บ เหตุการณ์ก ่อนหลังมีจุดเริ่มต ้นของเหตุการณ์แ ละดำเนินเรื่อย มาถึงตอนจบ โดยเล่าถึงจิ้งหรีดตัวหนึ่งซึ่งมัวหลงระเริงอยู่กับ การร้องเพลงตลอดช่วงฤดูร้อน เมื่อฤดูหนาวมาเยือนก็พบว่า ไม่มีอาหารเหลืออ ยู่เลย จึงต้องไปขอยืมอาหารจากมดซึ่งข ยัน ทำมาหากิน โดยสัญญาว่าเมื่อถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยวจะนำมา คืนให้ในปริมาณที่มากกว่าเดิม แต่ถึงกระนั้นเจ้ามดจอมขยัน ก็ย งั ย นื ก รานปฏิเสธอ กี ท งั้ ไ ด้ถ ามยำ้ ถ งึ ว นั เวลาในหน้าร อ้ นของ จิ้งหรีดว่าได้ทำอะไรในตอนนั้นจิ้งหรีดตอบว่าตนเองร้องเพลง อันไพเราะตลอดอยู่เวลา มดจึงประชดประชันกลับไปว่า หาก เป็นเช่นนั้นแล้วจิ้งหรีดก็น่าจ ะเต้นระบำเสียด้วย นิทานสอนใจของฌอง เดอ ลา ฟองแตนมีจุดเด่น ตรงที่การนำสัตว์ต่างๆ มาเป็นตัวละครในการดำเนินเรื่องราว
ประหนึ่งว่าสัตว์เหล่านั้นมีความรู้สึกนึกคิดและสามารถพูดคุย สื่อสารกันได้เช่นเดียวกับมนุษย์ กลวิธีเช่นนี้เรียกว่า Personnification หรือบ ุคคลาธิษฐาน ซึ่งก วีในศตวรรษที่ 17 นิยมนำ มาใช้ จากการศึกษาชีวประวัติของฌองเดอลาฟองแตน ในเบือ้ งตน้ พ บวา่ เขามคี วามใกล้ช ดิ ผ กู พันก บั ธ รรมชาติแ ละสงิ่ แวดล้อมมาตงั้ แต่ส มัยเยาว์ว ยั เนือ่ งจากบดิ าทำงานในกรมปา่ ไม้เมื่อเติบใหญ่เขาก็ยังเขากร็ ับตำแหน่งเจ้าหน้าทีข่ องกรมป่า ไม้เช่นกัน การใช้ชีวิตเช่นนี้ ย่อมส่งผ ลให้เกิดแ รงบันดาลใจใน การรังสรรค์งานวรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติที่โอบล้อม ตัวเขามาเป็นระยะเวลาตลอดชีวิตเลยก็ว่าไ ด้ นอกจากนั้นการที่ผู้เขียนให้สัตว์เป็นตัวละครของ นิทานสอนใจนับเป็นกลวิธอี ย่างหนึ่งทสี่ ามารถเข้าถึงเด็กๆได้ อย่างไม่ยากนัก สามารถเล่าเป็นนิทานที่สนุกสนานให้เด็กฟัง เนื่องจากโดยธรรมชาติของเด็กทุกคนชื่นชอบและสนใจนิทาน ในลักษณะดังก ล่าวเป็นพิเศษ ผูป้ กครองสามารถให้ข อ้ คิดส อนใจแก่บ ตุ รหลานหลัง จากที่เล่านิทานจบลง ด้วยการสอนให้มีความขยันหมั่นเพียร
48
เหมือนมดห ากเกียจคร้านและเล่นส นุกไ ปวนั ๆก จ็ ะตอ้ งพบกบั ความยากลำบากเช่นเดียวกับจ ิ้งหรีดในนิทานเรื่องนี้ ระดับลึก(niveauapprofondi) ในการวิจารณ์ระดับลึกนั้น ผู้อ่านอาจจะตีความหมายในสิ่งที่ กวีต้องการถ่ายทอดผ่านนิทานสอนใจเรื่องนี้ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นใน แง่มุมของสภาพเศรษฐกิจและสังคมของประเทศฝรั่งเศสใน ยุคสมัยนั้น ด้วยกลวิธที แี่ ยบยลในการนำเสนอผ เู้ ขียนนำสตั ว์ม า เป็นสัญลักษณ์แทนผู้คนในแต่ละชนชั้นในสังคมฝรั่งเศสสมัย ศตวรรษที่ 17 จิ้งหรีดเปรียบได้กับบรรดาขุนนางและชนชั้น สูง ซึ่งเอาเปรียบชาวนาชาวไร่และอาณาประชาราชในชนชั้น สามัญ (les tiers état) ซึ่งต้องทำงานอย่างหนักและมีชีวิตอยู่ อย่างแร้นแค้น เนื่องจากการเก็บภาษีในอัตราที่สูงลิ่ว ในขณะ ที่ชนชั้นขุนนางกินอยู่อย่างหรูหราฟุ่มเฟือยมีการจัดง านเลี้ยง สังสรรค์อยู่เสมอ การที่ ม ดป ฏิ เ สธคำวิงวอนขอยืม อาหารที่จิ้งหรีด ต้องการนำไปประทังชีวิต อาจจะเป็นสัญญาณที่นักเขียน ต้องการสื่อหรือเรียกร้องให้ประชาชนเลิกอดทนต่อการเอารัด เอาเปรียบจากทางราชการกเ็ป็นได้ ความรู้สึกที่มีต่อบทกวี เมื่ออ่านนิทานสอนใจเรื่องจิ้งหรีดกับมด ของ ฌอง เดอ ลา ฟองแตน และมีโอกาสได้แปลถอดความออกมาเป็นบทกวี ภาษาไทย ยิ่งทำให้ข้าพเจ้าเกิดความรู้สึกชื่นชอบบทกวีและ ชื่นชมในตัวผู้ประพันธ์ท่านนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากประทับ ใจในความสามารถของกวี ที่ไม่เพียงแต่เขียนนิทานสอนใจได้ อย่างสนุกสนาน กระชับ ได้ใจความและข้อคิดที่ดีเท่านั้น บท กวีของฌอง เดอ ลาฟองแตน เปรียบเสมือนกระจกบานใหญ่ แห่งร ชั ส มัยข องพระเจ้าห ลุยส์ท ี่ 1 4ท สี่ ะท้อนภาพสงั คมประเทศ ฝรั่งเศสในยุคนั้น ให้ผู้อ่านในสมัยต่อๆมาได้มองเห็นอย่าง ชัดเจน สำหรับข้าเจ้าน ั้น ราวกับว่ามีภาพยนตร์ประวัติศาสตร์ ฉายอยู่ในหัวช ั่วขณะ เนื้อหาวิชาประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสของอาจารย์เซบาส
ความอ ยุ ติ ธ รรมอั น ร้ า ยแ ร ชนชั้ น สู ง ต่ า งเสวยสุ ข อ ยู่ บ น ที่ น่ า ส งสาร ด้ ว ยก ารเก็ บ ภ ใยดีถึงชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ค ว่าท ำนาบนหลังคนก็ดูเหมือนจ
g
รงคื อ บ รรดาขุ น นางแ ละ นค วามทุ ก ข์ ข องป ระชาชน ภ าษี ร าคาแ พง โดยไม่ ส นใจ คนจะเรียกตามสำนวนไทยเรา จะน้อยไปเสียด้วยซ้ำ
49
เตียนท นี่ กั ศึกษาชนั้ ป ที ี่ 3 ไ ด้เรียนอยูน่ ี้ ช ว่ ยเสริมใ ห้การอา่ นและ การศึกษาวรรณคดีมีอรรถมากยิ่งขึ้น ในช่วงที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14ป กครองประเทศนนั้ บ า้ นเมืองตกอยูใ่ นสภาวะขา้ วยากหมาก แพงและมสี งครามอยูม่ ไิ ด้ข าดท ำให้เต็มไ ปดว้ ยความอดอยาก หิวโหยและเกิดโรคระบาดประชากรฝรั่งเศสมีอายุเฉลี่ย25ปี เด็กทารก1ใน4คนต้องตายจากโลกนี้ไปก่อนถึงว ันครบรอบ วันเกิดในปีที่ 1 นับเป็นภาพในอดีตที่ชวนให้สะเทือนใจเป็น อย่างมาก ความอยุติธรรมอันร้ายแรงคือ บรรดาขุนนางและ ชนชัน้ ส งู ต า่ งเสวยสขุ อ ยูบ่ นความทกุ ข์ข องประชาชนทนี่ า่ ส งสาร ด้วยการเก็บภาษีราคาแพง โดยไม่สนใจใยดีถึงชีวิตความเป็น อยู่ของผู้คน จะเรียกตามสำนวนไทยเราว่าทำนาบนหลังคนก็ ดูเหมือนจะน้อยไปเสียด ้วยซ้ำ เหล่าปัญญาชน นักคิด นักเขียนในยุคนั้น เริ่มท นไม่ ได้ก บั ค วามอย ตุ ธิ รรมดงั ก ล่าวต า่ งพากนั ผ ลิตผลงานทสี่ ะท้อน และกระตุ้นเตือนผ่านงานเขียนต่างๆ มากมาย ให้ประชาชน รู้และเข้าใจถึงความเป็นไปที่แท้จริงในสังคมซึ่งตนเองกำลัง ตกเป็นเหยื่อ โดยจำเป็นที่จะต้องใช้วิธีการอันแยบคายและ ระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งเพื่อป้องกันโทษอันร้ายแรงและเพื่อนำ มาซึ่งค วามยุติธรรมรวมไปถึงความสงบสุขของบ้านเมือง หนึ่งในผลงานดังกล่าว คือบทกวีที่ข้าพเจ้าได้ศึกษา ข้าพเจ้าร ู้สึกช ื่นชมผลงานนิทานสอนใจที่ไม่ใช่เป็นเพียงนิทาน เรื่องนี้ของฌองเดอลาฟองแตนด้วยใจคาราวะยิ่งd
50
โลกเหงา
text&image: ผู้หญิงตะวันตก
มนต์ขลังอลังการแห่งบุโรพุทโธ การเริ่มต้นเดินทางสู่บุโรพุทโธของฉันเริ่มจากยอคยา การ์ต้า โดยใช้รถเมล์จากย่านโซโซรวิจายาน ซึ่งเป็น ย่านที่พักสำหรับคนเดินทางแบบแบกเป้เหมือนย่าน ถนนข้าวสารบ้านเราไปยังสถานีขนส่งซึ่งอยู่นอกเมือง สำหรับบรรดานักแบกเป้ทั้งหลายการใช้รถแท็กซี่ก็ดูจะ เป็นการสิ้นเปลืองเกินไป หลังจากฉันลงจากรถบัสเพื่อ จะไปต่อรถโดยสารประจำทางสู่บุโรพุทโธ ทันใดที่ก้าว เท้าลงจากรถที่บริเวณสถานีขนส่งบรรดาพวกหาเหยื่อ ให้กับแท็กซี่รุมล้อมหน้าล้อมหลังเพื่อกระชากฉันขึ้น แท็กซีค่ นั ใดคนั ห นึง่ ให้ได้ข นาดพยายามหนีบ รรดานาย หน้าเหล่านั้นก็พยายามเดินตาม ท้ายสุดฉันต้องหันไป พึ่งที่เคาเตอร์ประชาสัมพันธ์ให้ช่วยไล่บรรดานายหน้า ทั้งหลายแล้วช่วยเดินไปส่งตรงรถประจำทางที่มุ่งหน้า สูบ่ โุ รพทุ โธห ลังจ ากขนึ้ น งั่ บ นรถโดยสารประจำทางเพือ่ เดินทางสู่บุโรพุทโธบรรยากาศและสีสันแห่งอินโดนีเซีย
ได้เริ่มขึ้นบรรดาคนขายของราวกับร้านสะดวกซื้อ เคลื่อนที่มีทั้งขนมขบเคี้ยวต่างๆยาหอมยาดมหมาก ฝรัง่ ต ลอดทงั้ ป ากกาแ ว่นก นั แดดก ลวิธใี นการขายคอื เขาจะเอาของมาวางทุกที่นั่งถ้าไม่ยากเสียเงินก็วางไว้ เฉยอย่างนั้นเดี๋ยวคนขายก็จะเดินกลับมาเก็บของหรือ เก็บเงินถ้าผู้โดยสารคนใดสนใจสินค้าเหล่านั้น สำหรับ คนเดินทางเร่ร่อนอย่างฉันก็เพลิดเพลินกับกลยุทธการ ขายเหล่าน นั้ ไม่น อ้ ยห ลังจ ากหมดความสนใจบรรดานกั ขายทั้งหลายหันมาอีกทางก็เจอ วณิพกพร้อมกีต้าร์ขึ้น มาบรรเลงเพลงขบั ก ล่อมอยูห่ น้าร ถจนจบเพลงแล้วเดิน ทักทายบรรดาผโู้ ดยสารชวนให้ค วักเหรียญสง่ ให้น กึ ถึง บรรดาวณิพกเหล่าน นี้ อกจากความมงุ่ ห มายเหรียญจาก ผู้โดยสารทั้งหลายบางคนคงพกเอาความฝันในการเริ่ม ต้นเล็กๆสำหรับโลกของศลิ ปินค ดิ ได้ด งั น นั้ แ ล้วก ม็ อิ าจ ใจแข็งล้วงเศษเหรียญจากกระเป๋าส่งให้เหมือนจ่ายเป็น
51
ค่ารื่นรมย์ของการเดินทาง นั่งดูวิวทิวทัศน์และผู้คน ประมาณหนึ่งชั่วโมงก็ถึงท่ารถบัสบุโรพุทโธเนื่องจาก ห่างจากยอคยาการ์ตาประมาณ 42 กิโลเมตรแค่นั้นเอง แต่น ั่งร ถไปแบบหวานเย็นจอดได้ตลอดทาง ฉันถึงบุโรพุทโธในบ่ายวันฝนพรำแล้วเรียกรถ สามล้อถีบให้ไปส่งที่โรงแรมในบริเวณเขตโบราณสถาน แบกเป้มอมแมมเข้าพักในโรงแรมนั้นดูจะขัดแย้งกัน แต่ด้วยความอยากดื่มด่ำกับบรรยากาศของความเป็น โบโรพุทโธและหลบลี้หนีหน้าบรรดาคนขายของด้าน หน้าเพื่อหาความสงบกับการเดินทางของตัวเอง หลังจากฝนหยุดในตอนเย็นฉันไต่ได้ไปนั่ง ดูพระอาทิตย์ตกอยู่บนจุดสูงสุดของที่นี่ ตะวันกำลัง ลับข อบฟ้า ทุ่งหญ้า ภูเขาไฟเมกาปี วิวงามจนสิ้นแสง สุดท้ายแห่งวันเหมือนเราอยู่ในบางที่ที่มีพลังฉันนึกถึง
ใครต่ อ ใ ครอั น เป็ น ที่ รั ก ที่ จ ะม าช่ ว ยซึ ม ซั บ พ ลั ง บ าง อย่าง ณ ตอนนี้ ฉันนึกถึงความศรัทธาอันยิ่งใหญ่แห่ง พุทธศาสนาความศรัทธาจากการวางหินก้อนแรกจวบ จนเป็นศาสนสถานอันยิ่งใหญ่ ผ่านความเปลี่ยนแปลง มากมายจากดนิ แ ดนแห่งน ี้ จ วบจนยงั ค งเป็นพ ทุ ธสถาน ที่ ย งค งยิ่ ง ใ หญ่ ท่ ว มก ลางดิ น แ ดนแ ห่ ง อิ ท ธิ พ ลข อง ศาสนาอิสลาม โบโรพุทโธมีอายุเก่าแก่ถึง 1200 กว่าปี ถูก สร้างขึ้นในสมัยครั้งราชวงศ์ไศเลนทร์เมื่อครั้งปกครอง อาณาจักรชวาโบราณถูกสร้างราว พ.ศ.1318 ใช้หิน ในการก่อสร้างนับล้านก้อน แรงงานมหาศาล และใช้ เวลาหลายสิบปี จนได้พุทธสถานที่ยิ่งใหญ่ แต่ความ เปลี่ยนแปลงในดินแดนแถบนี้ อำนาจที่รุ่งโรจน์แห่งรา ชวงศ์โศเลนทร์ การอพยพผู้คนออกจากดินแดนแถบ
52
นี้ แ ปรเปลี่ยนความยิ่งใหญ่แห่งโบโรพุทโธ ให้ถูกทิ้ง ร้างปกคลุมด้วยเถาวัลย์และพันธุ์พืช บางส่วนของ ศาสนสถานทรุดถล่มด้วยแรงสั่นสะเทือน และถูก กลบฝังด้วยด้วยเถ้าถ่านจากการระเบิดของภูเขาไฟ ครั้งแล้วครั้งเล่าในช่วงที่ถูกทิ้งล้างนับพันปี ทุกอย่าง กลืนกินความอลังการและเรืองโรจน์ที่สรรค์สร้างจาก ความศรัทธาแห่งอดีตเสียหมดสิ้นจนกระทั่งปี พ.ศ. 2357ช่วงที่อังกฤษครอบครองชวาโบโรพุทโธได้ถูก ค้นพ บอกี ค รัง้ ผ สู้ ำเร็จร าชการขององั กฤษได้ท ำการรอื้ พรรณพืชและถ่านเถ้าภูเขาไฟออกเพื่อเตรียมบูรณะ อีกค รัง้ จ นในปี พ.ศ .2 450นักโบราณคดีช าวฮอลันดา ได้ว างโครงการณ์ฟ นื้ ค นื ชีพให้ก บั โบราณสถานทหี่ ลับ ใหลแห่งนี้ โดยได้รื้อหินทุกก้อนที่ตกหล่นลงมาแล้ว
ทำเครื่องเพื่อประกอบกลับเข้าไปซึ่งการบูรณะได้ทำ หลายครั้งจนในพ.ศ.2516 การบูรณะโบโรพุทโธได้ รับท นุ จ ากUnescoใช้เวลาในการบรู ณะครัง้ น ปี้ ระมาณ สิบปีจนศาสนสถานแห่งนี้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งในปี พ.ศ. 2526 การฟื้นคืนความยิ่งใหญ่แห่งพุทธศาสน สถาน จากการระดมเงินทุน ความสนใจและความ ช่วยเหลือ ท่ามกลางดินแดนของเหล่ามุสลิมความ คับแค้นและไม่พอใจจากมุสลิมหัวรุนแรง โบโรพุทโธ ได้ถูกก่อวินาศกรรมโดนลอบวางระเบิดในเดือนมก ราคม พ.ศ.2528 แต่โชคดีที่ได้รับความเสียหายไม่ มาก หินแต่ละก้อนถูกเรียงเป็นรูปปิระมิดทังหมด 9 ชั้นโดยชั้น 1-6 เป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ชั้น 7-9 เป็น ทรงกลมเรียงรายด้วยสถูปทรงโปร่ง โดยมียอดเป็น
53
54
โบโรพุทโธถูกสร้างขึ้นภายใต้ความเชื่อของพุทธศาสนานิกาย วัชรยานเพื่อเป็นศูนย์แห่งการพัฒนาจิตโดยการเพ่งรูปสลักอ่าน ความหมายพร้อมกับปฏิบัติสมาธิ สถูปทืบใหญ่เป็นชั้นที่ 10 โบโรพุทโธถูกสร้างขึ้นภายใต้ความเชื่อของ พุ ท ธศ าสนานิ ก ายวั ช รย านเพื่ อ เป็ น ศู น ย์ แ ห่ ง ก าร พัฒนาจติ โดยการเพ่งร ปู ส ลักอ า่ นความหมายพ ร้อม กับป ฏิบัติสมาธิขณะทำประทักษิณเดินเวียนขวา ชั้น 1-6 จะแทนอายตนะภายนอกคอื ต าห ู จ มูกป ากก าย สัมผัส และจิต ชั้น 7-9 แทนจิตวิญญาณสามระดับ ส่วนสถูปใหญ่ที่เป็นจุดสูงสุดคือความว่างเปล่าซึ่ง หมายถึงนิพพาน ช นั้ 7-8 จะเป็นส ถูปโปร่งร ปู ข า้ วหลามตดั โดย ชั้น7หมายถึงระดับสันชาติตญาณซึ่งอยู่ภายใต้แรง กระตุ้น จากความรัก ความเกลียด ประสบการณ์ที่ ผ่านมาส่วนชั้น 8 เป็นระดับจิตมนุษย์ที่ใช้เหตุผลอยู่ เหนืออ ารมณ์ที่สามารถพัฒนาไปสู่การหลุดพ้น ชั้นที่ 9 เป็นสถูปโปร่งช่องเป็นสี่เหลี่ยมจตุ รัสค อื ร ะดับป ญ ั ญาญาณสเี่ หลีย่ มจตุร สั แ สดงถงึ ค วาม มั่นคงไม่เปลี่ยนแปลงจิตที่บริสุทธิ์เข้าถึงสัจธรรมได้ หลุดพ้นแล้ว ห มู่ ส ถู ป ไ ล่ ต ามเนินชั้นแต่ละชั้นเรียงราย ความง ดงามด้ ว ยส ถาปั ต ยกรรมแ ละม นต์ ข ลั ง แห่งความศรัทธาเชื่อมโยงจากหินก้อนแรกที่ถูกวาง ผ่านความเสือ่ มความเรืองโรจน์เปลีย่ นแปลงความเชือ่
แห่งค วามแตกตา่ งทรี่ ายลอ้ มเวลาทผี่ นั เปลีย่ นแต่ฉ นั เชื่อว่าศาสนาสถานแห่งนี้ยังเป็นภาพงามเพื่อพัฒนา จิตสำหรับผู้ที่ยังยึดร่มพุทธศาสนาเป็นที่พึ่ง ชัน้ ท ี่ 1-5 กำแพงระเบียงจะมภี าพสลักง ดงาม มากมายเกี่ยวกับวิถีชีวิตผู้คนการกลับชาติมาเกิด หรือสัตว์ต่างๆซึ่งดิฉันก็ดูแล้วไม่ค่อยเข้าใจความ หมายเท่าไหร่แต่คล้ายๆว่าเป็นคติธรรมแฝงอยู่ใน ภาพที่พอจะเข้าใจก็จะเป็นกำแพงระเบียงชั้นที่สามที่ เป็นพุทธประวัติที่เคยจำได้สมัยเรียน การพักในเขตโบราณสถานทำให้ดื่มด่ำกับ ความอลังการแห่งโบโรพทุ โธได้เต็มน งั่ จ บิ ช าสบายๆ ยามบ่ายที่ฝนพรำโดยมีวิวศาสนสถานประกอบ และ ยามค่ำคืนได้ไปเกาะรั้วเตี้ยๆชมความงามยามค่ำคืน ทีแ่ สงไฟสาดสอ่ งเคล้าด ว้ ยกลิน่ ห อมของดอกไม้ท สี่ ง่ กลิน่ ห อมยามคำ่ คืนม อี ย่างเดียวทที่ ำลายความสนุ ทรี คือยุงชุมชะมัดเลย ณ ค่ำคืนในบุโรพุทโธฉันยืนเกาะรั้วเตี้ยๆที่ กั้นบริเวณโรงแรมและโบราณสถานแห่งนั้นภาพตระ ง่านที่อยู่ตรงหน้า หมู่สถูปอันยิ่งใหญ่บนภูเขางดงาม ด้วยแสงไฟที่เปิดสาดส่องเพิ่มมนต์ขลังจับเยือกลึก ในความรู้สึก ลมพักอ่อนผสมผสานกลิ่นหอมของ มวลดอกไม้ในละแวกนั้น บุโรพุทโธยามค่ำคืนที่ฉัน
55
ได้ประจักษ์งดงามยิ่งนักเหมือนเป็นสิ่งตอบแทน ยิ่งใหญ่สู่ความรู้สึกที่ฉันได้ดั้นด้นแบกเป้มา ความ งดงามอลังการเกิดจ ากการผสมผสานอย่างลงตัวข อง สถาปัตยกรรมที่มุ่งสู่นิพพานบนความเชื่อแห่งวัชร ยานและภูมิประเทศเป็นภูเขาอันเป็นที่ตั้งแฉกเช่นจะ ตอกย้ำเป้าส ดุ ท้ายแห่งค วามเชือ่ น นั้ แ ละคำ่ คืนน นั้ ฉ นั เข้าสนู่ ิทราอันสงบและเป็นสุข เช้าตรู่ของวันเช้าวันรุ่งขึ้นฉันตื่นขึ้นตั้งแต่ตี ห้าเพื่อไต่ขึ้นไปดูแสงแรกแห่งวันบนจุดสูงสุดของโบ โรพุทโธทุ่งหญ้าทะเลหมอกภูเขาไฟที่รายล้อมอยู่ รอบทำให้ฉ นั ร สู้ กึ ว า่ ต วั เองลอยลอ่ งอยูท่ า่ มกลางความ งดงามของธรรมชาติเหล่าส ถูปท รี่ ายรอบเบือ้ งหลังค อื องค์ส ถูปใหญ่ความรู้สึกที่เปลี่ยมล้นด้วยมนต์ขลัง
ความสงบงามยามเช้าที่เปี่ยมล้นด้วยความ สุขท่ามกลางมนต์ อลังการแห่งศาสนสถานแห่งนี้ ผ่านไปจนแสงแห่งตะวันเริ่มแผดกล้าบรรยากาศคง ไม่เหมาะที่จะอยู่บนลานสูงสุดแล้วจึงกลับลงมาทาน อาหารเช้าที่โรงแรมแล้ว จึงกลับไปชมภาพสลักหิน กำแพงระเบียงที่มีร่มเงาจากกำแพง ฉันค่อยๆไต่กลับขึ้นชมภาพสลักผนังตาม คติ ธ รรมค วามเชื่ อ แ ห่ ง ชี วิ ต วิ ธี ด ำเนิ น ท างแ ห่ ง ธรรมชาติร วมทงั้ พ ทุ ธประวัตนิ บั ต งั้ แต่พ ระพุทธองค์ ประสูติตรัสรู้และปรินิพานและค่อยๆพัฒนาจิตของ ตัวเองไต่สู่ชั้นสูงเหมือนความเชื่อแห่งของโบราณ สถานแห่งน เี้ พือ่ ม งุ่ ส สู่ มาธิแ ละความสงบแห่งจ ติ ใจเพือ่ เดินสู่จุดมุ่งหมายแห่งการหลุดพ้นและปรินิพาน d
56 56
Books Mania Text: มาลี
อ่าน:ฉบับปฐมฤกษ์เมษายน-มิถุนายน2551 “อ่าน” เป็นวารสารรายสามเดือน ว่าด้วยเรื่องหนังสือ วรรณกรรม ประวัติศาสตร์การเมืองเนื้อหาเข้มข ้นหนักและสามารถเก็บเอาไว้อ่าน ยามเกิดสงครามโลกครั้งท ี่สามได้โดยไม่เบื่อ ส ำหรับค นคอไม่แ ข็งผ สู้ นั ทัดก รณีแ นะนำให้“ อ า่ น”ว นั ล ะไม่เกินส องหน้า พร้อมยาแก้ป วดหัวแต่ส ำหรับคนคอแข็งเล่มนี้ทุบหัวไ ด้ดีชะมัด ห าอา่ นได้ต ามรา้ นแ ต่ถ า้ ห าไม่เจอรา้ นหนังสือศ กึ ษ ติ ส ยามหลังว ดั เบญฯ มีอ่านแน่ สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน ราคา 200 บาท
กรณีศึกษาเรื่องลูกแกะฟันผ ุ:ชาติว ุฒิบุญย รักษ์ :รวมเรื่องสั้น มีคนสอนผมว่าถ้าอยากจะเดาว่าเล่มไหนจะได้รางวัลซีไรต์ ให้ดูง่าย ๆ ว่า หนังสือเล่มนั้น 1.อ่านไม่ส นุก 2.น่าเบื่อ 3.ชวนหลับ ถ้าค รบสามข้อน ี้ชไี้ ปได้ เลย“งานเข้า” กรณีลูกแกะหลงทางเฮ้ยไม่ใช่ลูกแกะฟันผุฯอ่านสนุกในบางเรื่องไม่น ่าเบื่อ ลองอ่านอาจจะมีเชิงอรรถเยอะไปบ้างตามประสานักเขียนรุ่นใหม่ ก็ข้าม ๆ ไปส่วนรางวัลที่หนังสือเล่มนี้ได้ก็อย่าไปใส่ใจ หนังสือมันดีอยู่แล้วได้รางวัล อะไรจะสนทำไม สำนักพิมพ์หมูเพนกวิน ราคา 140 บาท
57 57
พระจันทร์:สปุกนิกกับไลก้า:รวมเรื่องสั้น ห นังสือเล่มน สี้ นุกต งั้ แต่ห น้าป กเพราะแค่ท ายวา่ ช อื่ ไ หนเป็นช อื่ เล่มช อื่ ไ หน ใครเป็นน ามปากกาคนเขียนกส็ นุกแล้วเปิดอ า่ นยงิ่ ส นุกเพราะตอ้ งคอยเดา ว่าเรื่องนี้สปุกนิกเขียน หรือเรื่องนี้ ไลก้าเขียน “พระจันทร์” คอนเซ็ปต์ด ีนะ นำเสนอแบบสมัยใหม่ ไม่ตามขนบเรื่องสั้นทั่วไป แต่ย ังสงสัยว ่าเล่มต่อไป คนเขียนจะยังสวมนามปากกาดังกล่าวอยู่หรือเปล่า สำนักพิมพ์เครือข่ายนักเขียนฯ ราคา 155 บาท
ไปหาใครบางคน:นราวุฒิไชยชมภู:รวมเรื่องสั้น เรือ่ งสนั้ ใ นเรือ่ งนโี้ คตรสนั้ ม ากเหมาะกบั ย คุ น ี้ ย คุ ท คี่ นสมาธิส นั้ บ างเรือ่ งเสีย ดายพล็อต ทำท่าจะดีดนั มาจบเสียก่อนแ ต่ค นเขียนพลังงานคงเหลือเฟือ3 5 เรื่องสั้นแม้ไม่แ ปลกใหม่แ ต่ใจกล้าคนเขียนหนังสือต ้องอย่างนี้แต่ห วังว่า เล่มหน้าคงคัดเรื่องให้น้อยกว่านี้จะได้อ่านรื่นๆ สำนักพิมพ์ไต้ฝุ่น ราคา 120 บาท
เรียนเจ้าสำนักพ ิมพ์หากท่านคิดว่าท่านตั้งใจทำหนังสือดีมีคุณค่าเรายินดีนำหนังสือของท่านมาโพนทนาให้ สาธารณะได้รับทราบ ส่งหนังสือของท่านมาได้ที่ นิตยสารนักเขียนไทย 59/2 ถนนเพชรเกษม แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่กรุงเทพฯ10600เราไม่รับประกันว่าหนังสือข องท่านจะได้รับการเขียนถึงเมื่อไหร่แต่โปรดมั่นใจ ว่าเราอ่านหนังสือของท่านทุกเล่ม(ถ้าดีจริง) อีดี้อาเมน