WRITE
E-Magazine
ปีที่ 1 ฉบับที่ 2 พฤศจิกายน 2551 www.thaiwriter.net
สัมภาษณ์
องอาจ ชัยชาญชีพ หัวแตงโม ปรากฎการณ์ธรรมดา และความน่าจะแมว
WaitingforGodot แซมวลเบคเกตต์
Book Review
ถั่วงอกกับหัวไฟ ทรงศีล ทิวสมบูรณ์
โลกเหงา เดียงพลาโตที่พำนักแห่งสวรรค์ WRITE e-Magazine
1
write.dmg
ประกวดเรื่องสั้นWRITE2552
ในที่สุดWRITEe-Magazineเล่มส องก็ออกไม่ตรงเวลา โทษใครไม่ได้นอกจากโทษตัวเองที่วางแผนผิดแรกเริ่มผ ม จะทำเล่มสองให้เสร็จท ันออกก่อนงานมหกรรมหนังสือแต่ ด้วยความขี้เกียจประกอบกับเป็นช่วงที่ต้องทำหนังสือพ อดี จึงท ำให้ต้องมาออกหลังงานอย่างที่ทุกท่านได้เห็นแต่ไม่ เป็นไรครับอย่างน้อยก็ยังม ีนักเขียนส่งงานเข้ามาให้พิจารณา มากมายเพียงเท่านี้ก็ปลื้มแ ล้ว หลังจากงานมหกรรมหนังสือผ มมานอนคิดด ูว่าน่าจ ะกลับ มาประกวดเรื่องสั้นอีกค รั้งหลังจากที่เคยแขวนโครงการนี้ไป หลายปีตอนที่เลิกทำเป็นเพราะไม่มเีวลาอ่านเรื่องประกวด เพราะทุกครั้งที่มกี ารประกวดเรื่องสั้นในแต่ละปีผมต้องอ่าน เรื่องสั้นจ ำนวนไม่ต่ำกว่าห นึ่งร้อยเรื่องการกลับมาคราวนี้ก็ เหมือนการโบยตีตัวเองแต่เป็นการโบยตที ี่ผมชอบยอมรับ ว่าเรื่องสั้นที่ส่งเข้ามาในอดีตม ีตั้งแต่เรื่องสั้นชั้นด ีนักเขียน ส่อแววโรจน์รวมถึงเรื่องสั้นฝ ึกหัดท ี่ต้องขัดเกลาอีกจำนวน มากแต่ไ ม่เป็นไรไม่ว ่าเรื่องสั้นจ ะออกมาในแบบไหนเรา มีหน้าที่อ่านและคัดเลือกตามรสนิยมก็จะทำไปตามหน้าที่ ผมคงไม่ปกป้องตัวเองว่าคัดเลือกเรื่องโดยยึดห ลักค วาม เป็นกลางไม่มหี รอกครับ555(ใครที่ชอบพูดว ่า“ผมเป็น กลาง”บอกได้เลยว่าปากกับใจไม่ต รงกัน)รสนิยมของผมคือ รสนิยมสาธารณ์ยังไงผมก็ชอบเรื่องสั้นใ นแบบที่ผมชอบผม ไม่ค ่อยสนใจเรื่องภาษาเท่าแนวความคิดผมสนใจเรื่องความ คิดส ร้างสรรค์ใ หม่ๆที่มีโครงสร้างไม่แล้วเสร็จแ ต่ส่อแววว่า มันจ ะดมี ากกว่าโ ครงสร้างที่สมบูรณ์แบบคงไม่ต ้องบอกนะ ครับว่าจะส่งเรื่องสั้นแบบไหนมาให้ผมพิจารณา ผมไม่อ ยากตั้งกติกาให้ม ากเรื่องมากราวขอเพียงอย่างสอง อย่างคือในหนึ่งเดือนท่านจะส่งเรื่องสั้นที่ดีที่สุดไ ด้เพียงเรื่อง เดียวทตี่ ้องทำแบบนี้ท่านจะได้ค ัดกรองเรื่องสั้นของท่านที่ คิดว่าดีแล้วม าเพียงเรื่องเดียวเป็นการแบ่งเบาภาระในการ อ่านของผมใครส่งมาเกินก ว่าหนึ่งเรื่องต่อห นึ่งเดือนถึงจะดี ทั้งหมดผมขอสงวนสิทธิไ์ ม่ผ ่านอย่างที่สองท่านที่มีเรื่องสั้น ผ่านบรรณาธิการและได้ตพี ิมพ์ใ นWRITEขอให้ท่านได้เปิด ทางให้น ักเขียนท่านอื่นให้ได้โอกาสบ้างแม้ท ่านจะมเีรื่องที่ เขียนขึ้นใหม่แ ละดกี ว่าเรื่องแรกผมคิดว ่ายังไ งเสียเรื่องสั้น เรื่องนั้นคงได้ไ ปก่อเกิดใ นหน้านิตยสารอื่น ๆ หนังสืออื่น ๆ 2 WRITE e-Magazine
หรืออาจจะเป็นเรื่องสั้นท ี่ได้รับรางวัลซึ่งใ หญ่กว่าWRITEก็ เป็นไ ด้ใครจะรู้ ผมจะเปิดรับเรื่องสั้นต ั้งแต่ว่าที่1ธันวาคม2551และปิด รับวันที่30พฤศจิกายน2552ใ นหนึ่งเดือนอาจจะมเีรื่อง สั้นผ่านเกิด2 -3 เรื่องแล้วแต่ปริมาณการส่งเข้าม าและ คุณภาพในแต่ละเดือนบางเดือนอาจจะมากกว่าสามเรื่อง ถ้าเนื้อที่ไม่พอผมจะเก็บเอาไปทบกับเล่มต่อไปอันนี้แล้ว แต่ส ถานการณ์ หากต้องการอ่านกติกาในแบบเต็มๆขอให้ท ่านเปิดไปที่ หน้าส ุดท้ายของหนังสือน ะครับจะได้รายละเอียดในการ ประกวดมากกว่านี้ ส่วนนิตยสารWRITEก็ยังต้อนรับต้นฉบับอื่นๆทั้งที่ เป็นว รรณกรรมบทความที่เกี่ยวกับหนังสือเพลงหนัง วัฒนธรรมท่องเที่ยวกินดื่มเทคโนโลยีการ์ตูนไม่ต้องรีรอ ครับผมคิดว่าคนวรรณกรรมไม่ได้สนใจเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เพียงเรื่องเดียวหรือต ้องสนใจเฉพาะวรรณกรรมเพียวๆยัง มีเรื่องอื่นๆในโลกนี้ที่น่าสนใจอีกมากมายทั้งหนักทั้งเบา เชิญเปิดอ่านครับ
นิวัต พุทธประสาท
WRITE e-Magazine
3
CONTENTS
BookonTheShell 04 INTERVIEW 08 Book Review 16 Short
โชว์ของ 33 ๑ รูป ๑ เรื่อง : ความทรงจำ ๓๔ Music Fountain 36 Book & Movie 40 CINEMANIA 46 นอนดูหนัง 52 Playground 56 โลกเหงา 60 ประกวดเรื่อง Story 22 INSPIRATION 26
สั้นWRITE2552 64
WRITE e-Magazine www.thaiwriter.net บรรณาธิการ: นิวัต พุทธประสาท ประสานงานและเทคนิค: ติณ นิติกวินกุล นักเขียน: ยรรยงตุลยนิษก์, “โ นลีโอ”, ชนินทร อุลิศ, หอมรำเพย, ทนัชพร แซ่ตั้ง, พลพะยาบ, ลุงยะ, มณฑิตา วงษ์ชีพ, ผู้หญิงตะวันตก, สมศักดิ์ แซ่เล้า, กฤษฯ จินตนาการ, อมรรัตน์ รุ่งเรืองฝั่งสาย, ปรีญา-ญา วีรพงษ์ส ุนทรฉัตราวัฒน์ ออกแบบรูปเล่ม: Porcupine Books Design ขอบคุณ: สมาชิกไทยไรเตอร์ดอตเน็ต , www.f0nt.com สำนักงาน: 9/8 หมู่ 9 บางช้าง สามพราน จังหวัดนครปฐม 73110 www.thaiwriter.net โทรศัพท์: 02-814-8887 E-Mail: porcupine@thaiwriter.net WRITE e-Magazine ยินดีเปิดรับต้นฉบับ บทความ ความเรียง เรื่องสั้น บทกวี บทวิจารณ์ สารคดี หากท่านสนใจสามารถส่งต้นฉบับ ด้วยการแนบไฟล์เวิร์ด พร้อมภาพประกอบ (หากมี) มาที่ niwat59@gmail.com ทั้งนี้ WRITEe-M agazineเป็น
นิตยสารออนไลน์แ จกฟรีไ ม่มีโฆษณา ไม่มีรายได้ จ ัดทำขึ้นเพื่อส ่งเสริมการอ่านการเขียนจึงยังไม่สามารถจ่ายค่าเรื่องได้ โปรดพิจารณากติกาข้อน ี้ก่อนส่งผลงานของท่าน
4 WRITE e-Magazine
แนะนำนักเขียน WRITE
“ผหู้ ญิงต ะวันอ อก”เภสัชกรทสี่ ำเร็จก ารศกึ ษาจากมหาวิทยาลัยส งขลานครินทร์ก า้ วสเู่ ส้นท างของคน รักการเดินท างเพื่อพ านพบมิตรภาพจากผู้คนหลากหลายส่วนของมุมโ ลกประสบการณ์บ อกกล่าวให้ รู้ว่าสิ่งงดงามที่ได้พ านพบอาจจะไม่ได้จ ากวัตถุความเงียบงามทซี่ ึมซับสู่ความรู้สึกอาจจะมาจากชาว บ้านที่ห่างไกลความเจริญจากประเทศที่นักวิชาการขนานนามว่าโลกด้อยพัฒนา หรือความสงบอ่อน หวานจากประเทศทถี่ กู จ ำกัดด ว้ ยสทิ ธิเสรีภาพในวถิ ปี ระชาธิปไตยน ำ้ ใจทไี่ ด้ร บั อ าจเกิดจ ากการเบียด ไปกบั ผ คู้ นในรถโดยสารทอ้ งถนิ่ ค วามงามเหล่าน นั้ ส มั ผัสแ ละแปรเปลีย่ นเป็นส ว่ นใดสว่ นหนึง่ แ ห่งช วี ติ และผหู้ ญิงคนนี้ก็เลือกที่จะเดินย้อนรอยของนักเดินทาง
เพิ่งเริ่มเขียนหนังสือได้ไม่นาน ทั้งเรื่องสั้นและความเรียง ก่อนหน้านี้ใช้นามปากกา ‘ตามตะวัน’ มี เรื่องลงตีพิมพ์ในนิตยสารสกุลไทย รายสัปดาห์ 2 เรื่อง “ลมหายใจที่ปลายจมูก” และ “เธอเคยมี ความรักบ้างไหม” เขียนความเรียงใช้นามปากกา ‘โนลีโอ’ ปัจจุบันใช้นามปากกา สุณิสา จ.น. ในการเขียนเรื่องสั้นและนิยาย
ชนินทร อุลิศ ทำงานเป็นก๊อปปีไ้ รเตอร์ ทำหนังโฆษณา ทำหนัง เขียนหนังสือ มีผลงานทั้งนิยายและ เรื่องสั้น
WRITE e-Magazine
5
BookonTheS hell Text:ส มศักดิ์แซ่เล้า
ไ ตรมาสสุดท้ายของปี2551แวดวง หนังสือแม้จะดูไม่คึกคักเท่าท ี่ควรด้วย ปัญหาหลากหลายปัญหารุมเร้าตั้งแต่ ปัญหาทางการเมืองที่ไม่นิ่งทำให้ อารมณ์ของคนอ่านพลอยไม่อยู่กับเนื้อ กับตัวปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังดิ่งหัว ตามวัฎจักรเศรษฐกิจรวมถึงผ ลกระทบ จากวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ซึ่งส ่งผลต่อ บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยของคน ชั้นกลางแต่กระนั้นงานมหกรรมหนังสือ แห่งชาติช ่วงเดือนตุลาคมก็ยังมีหนังสือ จากสำนักพิมพ์ต่างๆเปิดตัวใ หม่อย่าง คึกคักต ้องบอกว่าข ณะนี้ธุรกิจห นังสือ ในประเทศไทยเดินหน้ากลายเป็นธุรกิจ หนึ่งที่มีการเติบโตมีตัวเลขทางบัญชี ขยายตัวดีที่สุดธุรกิจหนึ่งและมเีงิน หมุนเวียนในระดับหลายร้อยล้านทำให้ เค้กก้อนนี้ไม่ใช่ธุรกิจ “ด้วยรักจึงส มัคร เข้ามาเล่น” เหมือนสมัยก่อนอีกแล้ว ดังนั้นสำนักพิมพ์ใหญ่ๆหลายสำนัก พิมพ์ไ ม่ไ ด้ทำหนังสือเพราะ“รัก”มัน อย่างเข้าไ ส้แต่ทำเพราะมันคือสินค้า ชนิดหนึ่ง กลับมาที่เรื่องของเรามีหนังสือออกใหม่ หลายเล่มที่ผมซื้อมาจากงานสัปดาห์ หนังสือบางเล่มก็ยืมบ.ก.ของเรามา อ่านและคิดในใจว่าเล่มนี้เสร็จตูข้าแ น่ 555
6 WRITE e-Magazine
โคจร – C OJORN ฉบับที่ 4: Play ราคา 100 บาท หนังสือร วมเรื่องสั้นความเรียงบ ทความ ฝ่าก ระแสขาลงของหนังสือท ำมือ ทีมงานหนุ่มสาวเข็นผลงานลำดับที่4 ออกมาภายใต้คอนเซ็ปต์PLAYร ูปเล่ม ขนาดพกใส่ก ระเป๋ากางเกงเข้าเล่มแบบ ไสกาวด้วยมือเป็นหนังสือท ำมือท ที่ ำได้ อย่างเรียบง่ายนักเขียนส่วนใหญ่อ ยูท่ าง เชียงใหม่เชียงรายหากท่านใดสนใจลอง ติดต่อข อซื้อท างอีเมลcojorn@gmail. com น ารีปราโมทย์และเรื่องรักใคร่ อื่นๆ ของเอื้ออ ัญชลีสำนักพิมพ์ เมฆปีกนกร าคา1 40บาท เอื้ออ ัญชลีกำลังต ิดลมบนกับงานเขียน “สามก๊ก” แต่กแ็ บ่งเวลามาทำเรื่องสั้นใ น แนวที่ตัวเองถนัดอ ีกค รั้งด ้วยการเล่าที่ เรียบง่ายแต่เร้นซ่อนด้วยอารมณ์ค วาม รู้สึกใ นแบบที่ผู้หญิงพิเศษจะสามารถ สัมผัสถ ึงได้ FightingP ublishersโดยวาดรวี สำนักพิมพ์OPENBOOKSร าคา 250บ าท ประวัติย่อน ักทำหนังสือกบฎ( ฉบับ ใต้ดิน)เล่มนี้รวบรวมข้อเขียนบทความ บทสัมภาษณ์ที่วาดรวีเคยทำเอาไว้ ตามหน้านิตยสารโปรยปกหนังสือเขียน เอาไว้ว่า“ จากหมอบรัดเลย์ถ ึงกุหลาบ สายประดิษฐ์สู่เศรษฐกิจทุนนิยม”แม้ จะขาดห้วงภาพเดือนตุลาคม2 515-16 ไปบ้างแ ต่หนังสือเน้นภาพรวมของ วงการวรรณกรรมตั้งแต่2 540จนถึง ปัจจุบันซ ึ่งมองว่าห ลังว ิกฤติเศรษฐกิจ 2541แ วดวงหนังสือมีรูปแบบที่ เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมและไม่มวี ัน เหมือนเดิมน อกจากมีทางเลือกไม่ม าก หรือจ ะจมหายไปกับกระแสของมัน
จ ุดต ัดบนเส้นเอ็กซ์วายของทินกร หุตางกูรสำนักพิมพ์เม่นว รรณกรรม ราคา170บาท ตอนที่ทินกรหุตางกูรเปรยว่านิยายเรื่อง ใหม่ของเขาจะเขียนถึงเรื่องสิ่งแ วดล้อม โลกร้อนและเป็นอะไรโรแมนติกม ากนั้น ผมก็เอะใจว่าพี่ท่านจะเขียนนิยายเรื่อง นั้นออกมาแล้วจะมีหน้าตาอย่างไรจน ในที่สุดแกก็ทำสำเร็จจนผมอึ้ง“จุดตัด บนเส้นเอ็กซ์วาย”ยังเป็นนิยายในแบบ ทินกรไม่เปลี่ยนแปลงนั่นคือต ัวละครยัง เป็นเด็กหนุ่มเด็กสาวพวกเขาสูบบุหรี่ มองโลกสวยงามแต่ต้องเผชิญห น้ากับ ปัญหาที่ยากเผชิญฝ ่าใครทอี่ ยากรู้ว่า นิยายเรื่องนมี้ ีมนุษย์ต่างดาวมาปรากฎ ตัวได้อย่างไรและทินกรจะเขียนนิยาย ว่าด้วยสิ่งแวดล้อมออกมาในแบบไหน และที่สำคัญความคลี่คลายของนิยาย เรื่องนี้เป็นก้าวย่างอีกก ้าวของทินกรที่ น่าค้นหาไม่น้อย ราตรีมหัศจรรย์ของฮารูกิมุราคามิ แปลโดยนพดลเวชสวัสดิ์สำนัก พิมพ์กำมะหยี่ราคา180บาท แม้จะมีเสียงต่อว่ามาว่านพดลเวชสวัสดิ์ แปลงานของมุราคามิไม่เท่เท่าที่ควร จะเท่แต่ผมมองว่าเมื่อน ักแปลตกลง ปลงใจแปลงานของมุราคามเิกือบจะ ครบชุดแบบนแี้ ล้วถือว่าก ารทำงานที่ ต่อเนื่องเช่นนี้น่ายินดีม ากกว่าน ่าตำหนิ อย่างน้อยนักแปลก็เล็งผลของตัวต น-น ัก เขียน-นักแปลมากกว่าผลกำไรและไม่ ทิ้งการแปลของนักเขียนคนเดียวกันล ง ไปกลางคันสำหรับผมแล้วง านที่นพดล แปลมุราคามิก็ไม่ได้เลวร้ายนักแม้ม ี บางตอนที่มุราคามจิ ะเขียนได้น่าเบื่อ บ้างแ ต่โดยรวมผมยังใ ห้คะแนนบวก “ราตรีมหัศจรรย์”ก็ยังน ่าอ่านครับได้ สำนักพิมพ์กำมะยี่มาดูแลหนังสือย ิ่ง แจ่มขึ้น
อ ่านฉ บับที่2ราคา200บาท อ่านฉบับท ี่สองเนื้อหาหนักแน่นขึ้นเป็น ลำดับเล่มนี้ผมเปิดอ่านบทวิจารณ์ของ คำผกา:ความเลอเลิศของกะทิเป็น คอลัมน์แ รกเรียกได้ว ่าอ่านไปซู๊ดไ ปยิ่ง กว่าอ ่านไปกินส้มตำไปอย่างไรอย่างนั้น ใครอยากรู้ว่าทำไม“ความสุขข องกะทิ” ของงามพรรณเวชชาชีวะได้รางวัลซี ไรต์นิยายได้อ ย่างไรบทวิจารณ์ช ิ้นนี้ ชำแหละได้อย่างถึงใจที่สุดคอลัมน์อ ื่น ก็ม ีให้อ่านจุใจนักเขียนรับเชิญก็ขนกัน มาเพียบตั้งแต่นิธิเอียวศรีว งส์,ไชยันต์ รัชช กูลนักเขียนประจำอย่างอิสระชูศรี และภัคว ดีวีระภาสพงษ์ อ่านเข้มข้นชู สองนิ้วเยี่ยม ปิดท ้ายหนังสือข ึ้นหิ้งท ี่น่าอ ่าน มายาคติ:โรล็องด์บาร์ตส์ส ำนัก พิมพ์คบไฟราคา140บาท มายาคติเล่มนี้ถือเป็นหนังสือเปิดโลก อีกด ้านหนึ่งของผู้อ่านไม่ว ่าเราจะ ยืนอ ยู่บนโลกใบนโี้ ดยนับถือศ าสนา ใดลัทธิการเมืองแบบไหนขาวดำ เหลืองแดงก็หาไม่หากได้อ่าน“มายา คติ” ผมเชื่อว ่าเราจะไม่มองโลกใน แบบมิตเิดียวอีกต ่อไ ปหรือแม้แต่ก าร มองโลกในแบบสองมิตกิ ็ไม่เพียงพอ สำหรับโลกยุคน ี้แล้วข่าวสารที่รวดเร็ว โดยไร้การคัดก รองโฆษณษชวนเชื่อ ทั้งข องรัฐและสื่อเลือกข้างล้วนทำให้ เราตกเป็นเหยื่อที่ไม่ส ามารถคิดได้เอง หรือบ งการความคิดเราให้“เป็น” อย่างที่พวกเขาต้องการ พ บกันใหม่ฉบับหน้า นะครับในวันที่มี พื้นที่เพิ่มมากขึ้น d
WRITE e-Magazine
7
INTERVIEW Text: w.e.d. WRITE E-Mag Editiorial Department
หัวแตงโม ปรากฎการณ์ธรรมดา และความน่าจะแมว หากกล่าวถงึ อ งอาจช ยั ช าญชพี น กั อ า่ นบางคนอาจจะไม่ค นุ้ ช อื่ ว า่ เขาคอื ใครท ำอะไรม าจากไหนแ ต่ถ า้ พ ดู ถ งึ “โตโต้”ผ เู้ ขียนการ์ตนู ห วั แ ตงโมภ าพของชายไทยส วมแว่นห นาผ มกระเซิงก จ็ ะปรากฎส คู่ ลองจกั ษุในทนั ทีเพราะ เขาคอื ผ ใู้ ห้ก ำเนิดต วั ล ะครทมี่ นี กั อ า่ นรออา่ นงานของเขาไม่น อ้ ยไปกว่าน กั เขียนหรือน กั เขียนการ์ตนู อ นื่ ๆ W RITE ฉบับที่สองยินดีนำเสนอบทสัมภาษณ์ของเขาด้วยอารมณ์สบายและกวนทีนนิด ๆ ตามแบบ1โตโต้เดอะฮีโร่
WRITE : ก อ่ นทคี่ ณ ุ จ ะเริม่ ต น้ ง านเขียนค ณ ุ ป ระกอบอาชีพ อะไรมาก่อน องอาจ : ทำงานออฟฟิศคิดง านโฆษณารับจ๊อบงานกราฟฟิค งูๆป ลาๆ WRITE :อะไรเป็นจุดหักเหให้มาเขียนการ์ตูน องอาจ : หนึ่งในความฝันเยอะแยะในสมัยเด็ก ก็คือการเป็น นักเขียนการ์ตูนแต่จุดหักเหจริงๆที่ทำให้ม าทำงานเขียนเป็น อาชีพ คือการลาออกจากงานเพราะขเี้กียจประชุม ประชุมม ัน ทั้งปีทั้งชาติแต่ไม่เคยได้เรื่องได้ราวเพราะต้องนอนดึกตื่นเช้า ยิง่ น อนนอ้ ยกย็ งิ่ ค ดิ อ ะไรไม่อ อกร สู้ กึ เสียพ ลังช วี ติ ไ ปเปล่าๆ ป ลี้ ๆเลยไปขอลาออกดว้ ยขอ้ อ า้ งมวั่ ๆ ท คี่ ดิ ข นึ้ ส ดๆ ต อนนนั้ ว า่ จ ะ ไปเขียนการ์ตูนแล้วสุดท้ายก็ได้มาทำงานเขียนจริงๆจนได้ WRITE : ตอนเด็ก ๆ ทางครอบครัวสนับสนุนใ ห้ทำงาน ทางด้านศิลปะหรือเปล่า องอาจ : ไม่สนับสนุน แต่ไม่ห้าม จริง ๆ คงอยากให้เป็นห มอ แต่สุดท้ายคงคิดว่าไม่เป็นหมาก็โอเคแล้ว (คนสัมภาษณ์ หัวเราะ) 8 WRITE e-Magazine
RITE :ไอเดีย“ห ัวแตงโม”ผุดขึ้นมาได้อย่างไร W องอาจ : ตอนทำงานการ์ตูนใ ห้กับน สพ.ฉบับหนึ่งอยากหาตัว การ์ตนู ท ใี่ ช้แ ทนตวั น กั เขียนมาทกั ทายพดู ค ยุ ก บั น กั อ า่ นในบาง ครั้ง ไอ้ครั้งจะใช้รูปตัวเองจริง ๆ ก็หล่อเกิน กลัวจะดึงความ สนใจจากเนื้อง านมากไป WRITE : ตอนเขียนเสร็จ เคยส่งไปให้หนังสือที่เขาทำ การ์ตูนขายได้อ่านหรือเปล่า องอาจ : ส ำหรับ“หัวแ ตงโม”ไม่เคย WRITE :ผลเป็นอ ย่างไร(ทำหน้าเหวอร์) องอาจ : เอ๊...กบ็ อกว่าไ ม่เคย...ผลออกมา2- 0 มั้ง.... WRITE : รู้สึกว่าหนังสือจะพิมพ์กับแพรวสำนักพิมพ์ใน ช่วงแรกๆ ? อ งอาจ : ใ ช่..เพือ่ นเขาเห็นแ ววเลยมาของาน....แ ต่ด นั ข ายไม่ด ี สงสารเขาเลยไปของานกลับมาพิมพ์เองเขารีบให้เลย
WRITE e-Magazine
9
เขียนรปู ยากกว่าเพราะบางทีมนั ไม่ได้อ ย่างใจคดิ ตอนคดิ มนั สนุกภาพ อย่างสวยแดดส่องเป็นลำผมปลิวไสวเพลงประกอบเพราะโคตร RITE :เคยได้รางวัลเซเว่น มาด้วย? W องอาจ : อืม....อย่างหล่อเลย ใส่สูทไปรับรางวัลด้วย คนอื่น ใส่เสื้อยืด WRITE : แ ล้วคิดอ ย่างไรถึงตกลงใจพิมพ์หนังสือตัวเอง องอาจ : ครั้งแรกสุดที่จัดการพิมพ์เองคือเรื่อง “หมูบินได้” ตอนนั้นเอาไปเสนองานที่สนพ.แห่งหนึ่ง เขาสนใจ แต่ต้อง แก้อ ีกหน่อย ต้องรออีกนาน ตอนนั้นเครื่องร้อนแล้ว อยากทำ ลองให้ใครอ่านดูเขาก็ชอบกันชมกัน เลยเหลิง รวบรวมเงินมา ทำเองมันเสียเลย กอรปกับเนื้อหาของงานเล่มนั้นด้วย มัน เข้าconceptกันพ อดี...สนุก W RITE : ตอนนั้ น มี ค นทั ก ไ หมว่ า อย่ า ทำหนั ง สื อ นักเขียนไส้แห้ง หนังสือขายไม่ออกหรือผีหนังสือเข้าสิง องอาจ : มีพี่คนหนึ่งทักว่าอ ย่าทำเลยใช้หนี้หัวโตแน่แต่ไม่ได้ สนใจส งสัยผีหนังสือเข้าสิงจริงๆ WRITE : ตอนที่วางขาย หวั่นใจไหมว่าการ์ตูนแบบหัว แตงโมจะขายได้ องอาจ : ตอนทำหัวแตงโมเคยมีประสบการณ์ทำหนังสือเอง มาสองเล่มแล้ว (หมูบินได้,พระเจ้าเป็นหมา) ค่อนข้างมั่นใจ ว่าทำได้แน่ แต่ส่วนจะขายได้ไม่ได้ตอนนั้นไม่ได้คิดถึงเลย ย้อนนึกก็ยังแปลกใจ ตอนนั้นไม่ได้คิดเรื่องขายเลย คิดแต่ว่า อยากได้ปกสีชมพู WRITE : เพราะราคาหนังสือแพงกว่าการ์ตูนทั่วไปที่ใช้ กระดาษปรู๊ฟพิมพ์ อ งอาจ : คิ ด เ หมื อ นกั น เ รื่ อ งจ ะถู ก ห าว่ า ห นั ง สื อ แ พง แ ต่ กระบวนการมันต่างกันหลายส่วน แค่ต้นทุนค่าพิมพ์ของเราก็ เกินราคาที่เขาขายกันแล้วไหนจะต้องหักค่าสายส่งอีก 10 WRITE e-Magazine
RITE : ถ้าผมจำไม่ผิด หัวแตงโมน่าจะเป็นกราฟฟิกโน W เวล(GraphicNovel)ที่ออกมาในรูปพ็อคเก็ตบุ๊คเล่มแ รก ๆของเมืองไทย อ งอาจ : (สีหน้าครุน่ คิด) ...ไ ม่รสู้ .ิ ....ผ มอาจจะแค่เล่าเรือ่ งดว้ ย วิธีการที่มันหลากหลายมากกว่าการนำเสนอด้วยการ์ตูนแบบ เดิม ๆ แล้ววิธกี ารบางอย่างที่ว่าคนกอ็ าจจะเห็นว่าม ันไ ปพ้อง กับอะไรที่เขาเรียกว่ากราฟฟิกโนเวล แต่อย่ามาพูดให้ผมโดน หมั่นไส้เลย...แล้วผมก็ไม่ค่อยได้สนพวกอะไรแบบนี้ด้วย มัน ทำให้นึกไปถึงพวกธูปยักษ์ย ังไงไม่รู้ WRITE :ในการทำงานครั้งห นึ่งการเขียนรูปหรือค ิดเนื้อ เรื่องอะไรยากกว่ากัน อ งอาจ : เขียนรปู ย ากกว่าเพราะบางทีม นั ไ ม่ไ ด้อ ย่างใจคดิ ต อน คิดม ันส นุกภาพอย่างสวยแดดส่องเป็นลำผมปลิวไสวเพลง ประกอบเพราะโคตร WRITE : ตอนนี้คุณดำรงชีพด้วยการเขียนหนังสืออย่าง เดียว องอาจ : ตอนนี้เพิ่งรับเป็นอาจารย์พิเศษที่มหาวิทยาลัยด้วย อาทิตย์ล ะครัง้ แ ต่ร ายได้ห ลักจ ากการดำรงชพี ย งั ค งมาจากการ เขียนหนังสือเพียงอย่างเดียว WRITE : รู้สึกกลัวว่าชีวิตจะไม่มั่นคงไหมเช่นวันหนึ่งคน ไม่ซื้อหนังสืออ ่านหรือซื้อแล้วเอาก๊อปปี้แจกกันในเน็ต องอาจ : ไม่เคยรู้สึกไม่กลัวเลย ผมเป็นพวกปอดแหกจิต วิญญาณต่ำต้อยผมรู้แต่วิธหี ุงข้าวผมปลูกไม่เป็นถ้าผ มไม่มี สตางค์ซ อื้ ข า้ วตอ้ งแย่แ น่แ ต่ถ งึ อ ย่างนนั้ ก ค็ ดิ อ ยูเ่ สมอวา่ ว นั ห นึง่ ที่ว่ามันต้องมาถึงแน่ๆไม่ช้าก เ็ร็วและถ้าม ันม าถึงจ ริงๆผมก็ คงไปทำมาหากินอย่างอื่น อาจจะขายบะหมี่ ไม่ก็ข้าวหน้าไก่ แล้วกห็ าเวลาทำงานเขียนต่อไ ป เลิกไม่ไ ด้หรอก ยกเว้นผมจะ ค้นพ บหนทางปลดปล่อยตัวเองได้ดีกว่าน.ี้..ซึ่งคงยาก
RITE : จัดการบริหารชีวิตอย่างไรกับก ารเขียนหนังสือ W อย่างเดียวโ ดยไม่มอี าชีพอ นื่ ร องรับเพราะนกั เขียนหลาย คนอยากทำงานเขียนอย่างเดียวแต่ติดปัญหาเศรษฐกิจ องอาจ : สำหรับผมโดยส่วนตัวนะ...บ้านผมเปิดร้านค้าขาย ตั้งแต่ผ มยังไ ม่เกิดถึงจ ะปฏิเสธหัวช นฝาเกลียดการค้าขายแค่ ไหนแ ต่ม นั ค งซมึ เข้าม าโดยผมไม่รตู้ วั ผ มรวู้ า่ ส นิ ค้าด กี ส็ ว่ นหนึง่ หีบห่อด กี ส็ ว่ นหนึง่ บ ริการดกี อ็ กี ส ว่ นหนึง่ น อกจากนนั้ ย งั ม เี รือ่ ง จังหวะเวลาโ ลเกชนั่ อ ะไรตอ่ อ ะไรอกี จ ปิ าถะ...ไ ม่ใช่ว า่ น กั เขียน ต้องมาแส่กับเรื่องพวกนี้นะ หน้าที่ของนักเขียนก็คือเขียนงาน คุณให้ดีที่สุดแค่นั้นก ็จริงแต่การจะยังชีพอยู่ได้ด้วยการเขียน เพียงอย่างเดียว ไม่ต้องสุขสบายถึงขั้นนักเขียนอภิมหาเบสต์ เซลเลอร์ เอาแค่ไม่ต้องลำบากลำบนเกินไปนักจนถึงข ั้นด ่าทอ สังคมม นั ก น็ า่ จ ะคำนึงถ งึ อ งค์ป ระกอบอย่างอนื่ ด ว้ ยน อกเหนือ ไปจากการมนี อ้ ยใช้น อ้ ยเพราะเอาเข้าจ ริงๆ บ างทแี ม่ง ไ ม่มเี ลย จะให้เอาน้อยที่ไหนมาใช้ ผมได้ยินว่าส่วนใหญ่ก็ใช้วิธีเขียน
ส่งให้กับนิตยสาร ขยันหน่อยก็น่าจะพออยู่ได้ แต่โดยส่วนตัว ผมไม่ได้ทำวิธีนั้น ไม่ได้หยิ่งนะ...แค่ไม่มีคนจ้าง...แล้วเวลาที่ มีงานรวมเล่มออกมา การที่คุณเสียเวลามามองดูปกหนังสือ ของตัวเองบ้างมาคุยกับสายส่งบ ้างฯลฯมันกค็ งไม่ทำให้ธาตุ กวีคุณแตกมากไปกว่าการนั่งปั่นต้นฉบับส่งนิตยสารเดือนละ สามสิบฉบับ หรือนั่งเมาก่นด่าพวกเด็กวัยรุ่นแห่งทุนนิยมผู้มี จิตว ญ ิ ญาณตอ้ ยตำ่ อ ย่างซำ้ ซากทไี่ ม่อ าจเข้าถ งึ ผ ลงานของคณ ุ หรอก.........แหม...กป็ ระตูมันห นามันหนักขนาดนั้นใครจะไป ผลักไหว ไม่ใช่ว่าต้องไปช่วยเปิด แค่คุณไม่แอบผลักอีกด้าน เพื่อให้เขาเข้ามายากขึ้นอ ีกก พ็ อแล้ว หรือไ ม่กป็ ระดับดอกไม้ ไว้ที่ประตูบ้างเพื่อเพิ่มกำลังใจ มันก็ไม่น่าจะเสียอุดมการณ์ หรอก...ก ด็ แี ต่พ ดู ไ ปอย่างนนั้ แ หละ...เพราะ...เอาเข้าจ ริงๆ ก าร ที่ผมสามารถอยูอ่ ย่างนี้ได้ผมคิดว ่าหลักๆเป็นเพียงเพราะว่า ผมแค่ “โชคดี” (เน้นเสียง) ทุกค รั้งท ี่กลับจากงานหนังสือ ผม มักจะบอกกับแฟนผมเสมอว่า ผมโชคดีจริง ๆ พอมีคนชอบ WRITE e-Magazine 11
เราบ้าง มีคนรอติดตามซื้องานเราไปอ่านบ้าง ทั้งที่เราไม่ได้ เก่งไปกว่าใครเลย คนเจ๋ง ๆ ที่ไม่มีผู้อ่านสนใจมีอีกเยอะ เรา โชคดีๆผมย้ำกับตัวเองและคนรอบข้างอย่างนี้เสมอ WRITE : นอกจากกราฟิกโนเวลอย่างหัวแตงโม คุณยัง เขียนนิยายและเรื่องสั้นด้วย เวลาทำงานเขียนสองแบบ นี้มีความแตกต่างกันมากไหม ในแง่วิธีคิด และขั้นตอน แล้วชอบเขียนแบบไหนมากกว่ากัน อ งอาจ : ต่างกนั บ างครัง้ ไ ม่ต า่ งกนั บ างทีง านการ์ตนู ส ำหรับผ ม ผมพยายามสื่อสารด้วยภาพให้เห็นค ำบรรยายส่วนงานนิยาย เราบรรยายเพือ่ ใ ห้เห็นภ าพผ มชอบทงั้ ส องอย่างแหละเหมือน ดูหนังกับฟ ังเพลงน่ะมันเทียบกันไม่ได้ WRITE : ตอนนี้คุณออกผลงานเล่มใหม่ “ปรากฎการณ์ ธรรมดา” และ “ความน่าจะแมว” ออกสองเล่มในเวลา พร้อมกันต้องใช้พลังค่อนข้างมาก อยากรู้ว่าคุณจัดการ เวลาทำงานเขียนทั้งส องเล่มน ี้อย่างไรบ้าง อ งอาจ : ผ มแปลงรา่ งเป็นซ เู ปอร์ไ ซยา่ ........ป ดิ ต น้ ฉบับท งั้ หมด เพียงลำพังในทุก ๆ กระบวนการ เขียนเรื่อง ถ่ายรูป เขียน การ์ตูน ออกแบบปก จัดอาร์ตเวิร์ค ติดต่อโรงพิมพ์ ติดต่อ สายส่ง....เหนื่อยมาก โคตรเหนื่อยเลย...แต่ดี ผมเคยเขียน ระบายเรื่องนี้ไปในบล็อกส่วนตัวเสียยาว ไม่ได้อยากโฆษณา นะ แต่เข้าไปอ่านหน่อยเถอะ http://myhead.exteen.com/ 20081009/entry-3 W RITE :ใน“ป รากฎก ารณ์ธ รรมดา”ผ มชอบตอนเริม่ เรือ่ ง ทีใ่ ช้ภ าพแล้วป ระกอบเรือ่ งม นั เป็นเทคนิคใ หม่ท อี่ า่ นแล้ว โดนมาก ขอยืมใช้บ้างนะนะ (ทำเสียงอ้อน) เหมือนคุณ พยายามมองหาทางใหม่ๆ ในงานตลอดเวลาจริงไหม อ งอาจ : เอาไปใช้ต ามสบายเลย...ผ มไม่ค อ่ ยรสู้ กึ ว า่ ต วั เองมอง หาทางใหม่ ๆ สักเท่าไรนะ แค่จู่ ๆ มันคิดขึ้นได้ ลองทำดู เห็น ว่าเข้าท่าชอบใจก็เท่านั้นอย่างเรื่อง“ชายหนุ่มผู้ขลาดเขลา” กับ “หญิงสาวผู้เศร้าโศก” ในหนังสือ “ปรากฏการณ์ธรรมดา ภาคฤดูร ้อน”นั้นผมเขียนเรื่องรวดเดียวเสร็จในค่ำวันหนึ่งพอ ตื่นมาตอนบ่าย ๆ ลงมาเดินเล่นแถวบ้านเพื่อน โอ...แดดมัน สวยเว้ย ใบไม้มันเต้นระบำกันใหญ่ ทำให้นึกถึงเรื่องที่เขียน เมือ่ ค นื ร บี เอากล้องมาถา่ ยๆ แ ล้วก ว็ งิ่ ก ลับเข้าห อ้ งไปทำตอ่ เลย ส่วนอีกเรื่องผมกำลังสนุกกับการใช้พ ู่กันจีนเขียนรูปเล่นเขียน 12 WRITE e-Magazine
มันเป็นร้อยรูป เขียนไปเขียนมาก็ลองเขียนโดยใช้แรงบันดาล ใจจากเรื่องทแี่ ต่งข ึ้น...เออชอบว่ะเอาเลยใช้เลย W RITE :ตอนเขียน“ป รากฎก ารณ์ธ รรมดา”ค ณ ุ ร สู้ กึ ก ดดัน ไหมเพราะหัวแตงโมเล่ม4บางคนบอกว่ามันเป็นจ ุดสุด ยอดของคุณแล้ว องอาจ : ก ่อนเขียนรู้สึกกดดันน ิดหน่อยต อนลงมือท ำ...ลืม W RITE :รูส้ กึ เครียดไหมเวลาทตี่ อ้ งทำงานทา่ มกลางความ คาดหวังของคนอ่าน องอาจ : มีเป็นระยะ ผมอาจจะไม่มจี ิตว ิญญาณแห่งนักเขียน
ที่แท้จริงก็ได้ แม้ผมจะทำงานตามใจตัวเอง ตัดสินการเลือก ใช้วิธีการต่าง ๆ รวมถึงเรื่องราวที่นำเสนอ ตามแต่ที่ตนเอง ปรารถนาแ ต่ผ มบอกได้เลยวา่ ผ มแคร์ค นอา่ นผ มกำลังส อื่ สาร กับพวกเขา อาจจะไม่ต้องเข้าใจในครั้งแรก แต่อ่านไป ๆ วันหนึ่ง ผมอยากให้เขาเข้าใจ เวลาเราพูดอะไรกับคนร้อยคน ถ้ามีคนเข้าใจสักหนึ่งมันก็ทำให้เราอยู่ได้ รู้สึกว่าชีวิตมันไม่ เดียวดายเกินไป W RITE : แ ล้วพ อมาอา่ น“ป รากฎก ารณ์ธ รรมดา”ค นอา่ น อยากเห็นห วั แ ตงโมเพราะเวลาหวั แ ตงโมออกมาฉากไหน มันจะกวนทีนดีคนชอบแต่เล่มนี้กลับเป็นเรื่องซึ้งๆคิด ว่าคนอ่านจะผ่อนคลายตามที่เราคิดหรือเปล่า องอาจ : ไม่รสู้ ิผมลองเสี่ยงดูบางทีเราชอบใครจริงๆเราอาจ จะไม่ต้องเห็นหน้ากันก็ได้มั้ง แค่เห็นดอกไม้ที่เขาชอบ ได้ยิน เพลงที่เคยฟังด้วยกันแม้จะเพิ่มความคิดถึงแต่มันก็ทำให้เรา ได้คิดถ ึงใช่มั้ย? WRITE : หนังสือ “ความน่าจะแมว” คุณฉีกรูปแบบของ คุณออกไปอีกทางหนึ่ง เหมือนเขียนบันทึกช่วงชีวิตหนึ่ง คุณคิดว่างานแบบนี้จะเปิดเผยตัวเองกับคนอ่านมาก น้อยแค่ไหน ไม่กลัวว่าคนอ่านจะเข้าถึงเราแบบที่กรุ๊ปปี้ ติดตามดารา WRITE e-Magazine 13
แฟนหนังสือผมน่ารัก และผมโชคดี ผมรักแฟนหนังสือผมนะ ที่ งานหนังสือพี่ก็เห็น ถ้ามีเวลาผมจะพยายามไปมันทุกวัน เพราะคน พวกนี้ต่างหากที่ทำให้ผมอยู่ได้โดยเฉพาะทางจิตใจ... อ งอาจ : อยากจะเข้าก็เข้ามาเลยผมมีโลกส่วนตัวส ูงก็จริงแต่ ผมไม่ก ลัวแ ฟนหนังสือผ มบางคนมเี บอร์โ ทรศัพท์ม อื ถ อื ผ มดว้ ย ซ้ำค นพวกนนี้ า่ ร กั เขาไม่เคยมารบกวนอะไรผมเลยถ า้ ร บกวน ผมก็บอกตรง ๆ ก็เห็นเข้าใจกันได้ บางคนส่งจดหมายมา ส่ง ไปรษณียบัตรมาไ ม่ใ ส่ช อื่ ท อี่ ยูต่ วั เองแ ค่ส ง่ ม าทกั ทายใ ห้ก ำลัง ใจ เล่านู่นเล่านี่ให้ฟัง แค่นั้น...แฟนหนังสือผมน่ารัก และผม โชคดีผมรักแฟนหนังสือผ มนะที่งานหนังสือพกี่ ็เห็นถ้ามเีวลา ผมจะพยายามไปมันทุกวัน เพราะคนพวกนี้ต่างหากที่ทำให้ ผมอยู่ได้โดยเฉพาะทางจิตใจ...แต่จะให้ถึงข ั้นกรุ๊ปปี้ติดตาม ดาราอะไรนั่น พี่ก็เวอร์ไป....แหม...จะหลอกให้คนหมั่นไส้ผม ใช้มั้ยเนี่ย? ...เออ...หมั่นไส้ไปเลย...สนุกดี W RITE : เคย มใี ครทกั ค ณ ุ ห น้าเหมือนดาราบา้ งหรือเปล่า เพราะนักอ่านบางคนมาให้คุณเซ็นชื่อในหนังสือ อยาก เห็นหัวแ ตงโมแต่เขาคิดว ่าทำไมได้เจอกับบอ๊ บบี้โบเต๋ องอาจ : ปีสองปีก่อนเขาบอกผมเหมือนน้าเน็ก แม่ยังทักเลย แต่เดี๋ยวนี้ผมอ้วนแล้วหัวมันก็เริ่มล้าน เลยเริ่มไม่เหมือน บาง คนบอกเหมือนพี่ยุทธนาบุญอ ้อมผมก็ว่าผมยังไม่อ้วนเท่าเขา นาแ ต่ม าลา่ สุดแ ฟนผมพาไปทำผมทรี่ า้ นอ อกมาเป็นบ อ๊ บบี้ โ ป เต๋เฉยแต่ผมว่าพี่เขาหล่อก ว่าน าแถมแก่กว่าด้วย WRITE : ถ้ามีคนติดต่อให้เข้าวงการบันเทิงจะตัดสินใจ อย่างไร องอาจ : อาจจะไปทำนม WRITE : ร ู้สึกอย่างไรเมื่อท ำงานเล่มใ หม่ออกมาได้ องอาจ : พี่รู้สึกอย่างไรล่ะ?คงไม่น่าต ่างกันมั้งอิ่มเอิบแช่มชื่น กังวลนิดห นึ่งเซ็งน ิดหน่อยกรณีพิสูจน์อักษรผิด WRITE : เล่มต่อไปเริ่มวางแผนในการเขียนเอาไว้แล้ว หรือยัง องอาจ : ไ ม่บอก 14 WRITE e-Magazine
WRITE : อยากพูดอะไรกับค นอ่านหลังจ ากเขียนหนังสือ เสร็จ องอาจ : อ ่านช้าๆไม่ต้องรีบ d
WRITE e-Magazine 15
Book Review Text: ทนัชพร แซ่ตั้ง
ถั่วงอกกับหัวไฟ:โลกใบใหม่บ นลายเส้น หากภายใน2-3 ปีที่ผ่านมาคุณเคยเปิดอินเตอร์เน็ต แล้วพิมพ์ชื่อทรงศีลทิวสมบุญลงช่องไฟในเวปไซด์Google แล้วล่ะก็เชื่อข นมกินได้เลยว่า21หน้าข องชื่อนี้และอีก26 หน้าข องคำว่า“ถั่วงอกกับหัวไ ฟ”หาใช่อะไรไม่เพราะนั่นคือ ที่มาของ“ การ์ตูนนัวร์แบบไทย”กับการสวมหมวกอีกใบที่ น่าจับตามองของทรงศีลทิวส มบุญ “ก าร์ตูนก็ไม่ใช่นิยายก็ไม่เชิง” อ้างอิงจากปลายปากกา ของบรรณาธิการรุ่นใหม่ทรงกลดบางยี่ขันที่ต้องบอกว่า เป็นอีกคนที่ช่างขยันสรรหาและผลักดันนักเขียนหน้าใหม่เข้า สู่วงการวรรณกรรมไทยพร้อมกับการฝากความหวังไว้ให้พวก เขายอมเปิดใจมอบความหมายในชีวิตที่“สด”และ“ใหม่” ด้วยอิสระแห่งว ัยในการสร้างสรรค์ในแบบที่ไม่มีใครกล้าเปิด ใจมาก่อน ถั่วงอกกับหัวไฟ(Beansprout&Firehead)คือผลพวง ต่อเนื่องมาจากImproviseผลงานนิยายภาพเล่มแรกที่ทรง ศีลเปิดต ลาดนักอ่านร่วมสมัยเอาไว้ได้อย่างสวยงามในนาม สำนักพิมพ์abookเมื่อความนัวร ์ของ“ถั่วงอก”ออกมา เรียกเสียงฮือฮากอปรกับส่วนผสมแห่งลูกบ้าของ“หัวไ ฟ” พอไปรวมกับความสดชื่นสดใสของ“บุบบิบ”จึงทำให้เกิดการ ไหลย้อนกลับมาของวงจร“น้อยแต่มาก”ให้ก ลับสู่สังคมของ คนอ่านรุ่นใหม่ได้อย่างท้าทายเหลือใจ ชีวิตของทั้งส ามตัวละครถูกเลือกให้เล่าผ่านมุมมองของ ถั่วงอกซึ่งไม่ประสีประสาต่อโลกภายนอกรั้วส ถานรับเลี้ยง 16 WRITE e-Magazine
ถั่วงอกกับหัวไฟสำนักพิมพ์abook
คาแรกเตอร์การ์ตูนอันหม่นเศร้า แต่น่าค้นหา
เด็กกำพร้าที่ตนเติบโตมาทำให้“ระหว่างทาง”ของถั่วงอก กลายเป็นค วามแปลกใหม่โดยเฉพาะการที่ได้เพื่อนร่วม ชะตากรรมที่เต็มไปด้วยลูกบ ้าแบบสุดโต่งแ ละแรงสมชื่อ“ หัวไฟ”ที่มาพร้อมสุนัขคู่ใจในแบบของ“บุบบิบ”จนทำให้“ การ์ตูนก ็ไม่ใช่นิยายก็ไม่เชิง”เล่มนี้มี“ทาง”เป็นของตัวเองที่ ผู้คนยังคงให้ความสนใจอย่างล้มหลามและออกตามถามหา กันอย่างไม่ขาดปากจนถึงต อนนี้ ด้วยความที่ลายเส้นดำทึบทึมนัวร์เป็นส่วนผสมหลัก ของคาแรคเตอร์ที่เรียกว่าแ ค่แปลกตายังไม่พอเพราะความ ต่างของคาแรคเตอร์แต่ละตัวก็ยังซับซ ้อนไม่แพ้กันอีกทั้ง เรื่องราวที่ชวนฉงนบวกด้วยความที่ตัวละครมที ี่มาเพียงน้อย นิดค วามสนุกของการค้นหาจึงเริ่มเดินทางประหนึ่งว ่าการ ร่วมหัวจมท้ายก็เปรียบได้กับการที่ทั้งสามชีวิตได้เวลาที่จะ ต้อง“ก ินข้าวหม้อเดียวกัน”แล้วนั่นเอง การดำเนินเรื่องเป็นไปเหนือการคาดเดาจากความที่ ทรงศีลวางหมากไว้ให้เราๆติดตามตอนต่อไปแบบไม่พลาด โอกาสที่จะทำให้เรางงงวยเลยพาลทำให้ผ ู้เขียนกลายเป็น เด็กช่างสงสัยไม่ต่างไปจาก“ถั่วงอก”ที่กำลังมีต่อโลกใบใหม่ ที่ตนเองกำลังต ้องเผชิญชะตากรรมกลายเป็นว่าจนถึงต อนนี้ ผู้เขียนเองก็กำลังลุ้นแ ละต้องการคำตอบจาก“หัวไฟ”ว่าจะ พาไปพบเจออะไรอีกใ นพื้นทีโ่ ลกข้างหน้าซึ่งก ็ไม่ต่างไปจาก ความสงสัยที่ถั่วงอกมีอยูใ่ นใจเช่นก ัน
เมื่อความหม่นเศร้ากลายเป็นสิ่งสวยงามการได้อ่าน “ถั่วงอกกับหัวไฟ”เล่มนี้กไ็ ม่ต่างไปจากการนั่งดูหนังชีวิตข อง ใครสักค นร อยยิ้มเล็กๆและเสียงหัวเราะเบาๆสายตาทหี่ ม่น เศร้าต่างเกิดขึ้นเองตามอัตภาพของบทตอนแ ละบางทีก้อน สะอื้นก เ็อ่อท้นมาจุกอ ยู่ในลำคอแต่ก ็ไม่ไ ด้มีผลถึงขั้นท ำให้ผ ู้ เขียนยอมละสายตากลับย ิ่งทำให้รับรวู้ ่าแม้ท ั้งสามตัวจะเป็น แค่ต ัวละครในฉากชีวิตเล็กๆท ี่ไม่ไ ด้จงใจบอกอะไรแ ต่สิ่งที่ผู้ เขียนได้จ ากทุกฉากในหน้าถัดไ ปจะกลายเป็นคำตอบตัวเองที่ กำลังค ้นหาแถมยังถ อนตัวอ อกมาไม่ได้ก ับคำถามที่ทั้งสาม แอบตั้งท ิ้งไว้ให้ในฉากต่อไ ปอีกด ้วย ในเชิงตื้น“ถั่วงอกกับห ัวไฟ”ให้ความบันเทิงและความ “สด”“ ใหม่”เป็นที่ตั้งการได้เห็นลายเส้นที่แตกต่าง แปลกตาช่วยปลุกชีวิตและเพิ่มชีวาให้แวดวงวรรณกรรมของ ไทยได้เป็นอย่างดีและเหมือนช่วยฟื้นฟูพ ลังใ ห้กับน ักเขียน ไทยเรียกสติน ักอ ่านไทยให้กลับมาอ่านงานเขียนที่เล่าเรื่อง อย่างไทยได้แล้วเวลาไปไหนมาไหนจึงเหมือนได้พกพาความ รู้สึกภ าคภูมิใจไปด้วยทุกครั้งท มี่ ีคนกล่าวขวัญหรือแ อบชื่นชม ให้ได้ยิน ในเชิงลึกการออกมาแสดงตัวข อง“ถ ั่วงอกกับห ัวไ ฟ” ในวันที่กระแสแห่งการ์ตูนญ ี่ปุ่นเกาหลีหรือบ รรดาเหล่า การ์ตูนแ อนนเิมชั่นของฝรั่งต าน้ำข้าวช าวผิวส ีทกี่ ำลังเข้า ครอบงำวัฒนธรรมการอ่านและความเชื่อของคนไทยให้ไหล ไปตามครรลองแห่งโลกตะวันต กทรงศีลจึงเปรียบได้ดั่ง WRITE e-Magazine 17
ทรงศีลส ร้าง“ถั่วงอกกับหัวไฟ”ข ึ้นเพื่อเป็น หนึ่งตัวแทนของเด็กเร่ร่อนเด็กที่ด้อยโอกาสใน สังคมไทยที่ผู้เขียนคงจะพูดได้เต็มปากว่า“มีอยู่” และจะไม่มวี ันห มดไป อาชาไทยสายพันธุ์ดีที่เต็มเปี่ยมไปด้วยลักษณะที่พรั่งพร้อม องอาจสง่าง ามมั่นใจและมั่นคงที่มีแฝงไว้ด้วยพลังที่มา พร้อมการสร้างสรรค์อ ย่างแท้จริง ในเชิงลึกลงไปอีกขั้นทรงศีลสร้าง“ถั่วงอกกับหัวไ ฟ” ขึ้นเพื่อเป็นหนึ่งตัวแทนของเด็กเร่ร่อนเด็กที่ด้อยโอกาสใน สังคมไทยที่ผู้เขียนคงจะพูดได้เต็มปากว่า“มีอยู่”และจะไม่มี วันหมดไปหากแต่รอวันจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นๆในอนาคต อันใกล้นี้ด้วยซ้ำหากเรายังไม่เปิดหูเปิดตาเปิดใจยอมรับ ช่วยเหลือร่วมมือกันแก้ไขฝึกการพัฒนาจิตใจของผู้ที่มี ความสามารถในการ“ใ ห้”ช่วยมองชีวิตเล็กๆเหล่านี้ว่ามี คุณค่าและสูงราคากว่าวัตถุบ้านนี้เมืองนี้ก็ต้องมีถั่วงอกกับ หัวไฟกลุ่มใหม่ๆเกิดขึ้นตามมาอีกเป็นหมื่นเป็นแสนล้านตัว ละครอย่างไม่มีวันสิ้นสุดในโลกความจริง การที่เด็กเร่ร่อนกำลังถูกห ลอมรวมไปในสังคมอัน ล้มเหลวบนพื้นฐานของโลกที่กำลังบ ้าคลั่งนี้ทำให้“แก่นแท้ ของขุมพ ลังแห่งว ัยสร้างสรรค์” ถูกห่อหุ้มไปด้วยเปลือกนอก ของวิธีการ“เอาตัวรอด”ที่ไม่อาจแปลความได้ว่าผิดหรือถูก รุนแรงหรืออ่อนโยนและผู้เขียนก็ไม่สามารถตัดสินแทนได้ว่า วิธีการเล่าเรื่องของ“ถ ั่วงอกกับหัวไฟ”กำลังบอกอะไรกับเรา ผู้อ่านทุกคนหากแต่ทุกอารมณ์ข องตัวละครที่เกิดขึ้นนั้นคง ไม่ต่างไปจากอารมณ์ของเด็กเร่ร่อนผู้ด้อยโอกาสที่กำลังถูก กดดันจากสังคมที่บ้าคลั่งนี้อย่างแน่นอน กับการเดินทางครั้งใหม่ที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้าใน เส้นทางที่ใครหลายคนต่างก็ตั้งตารอกันมานานนับปีส่วนตัว 18 WRITE e-Magazine
ทรงศีลทิวสมบูรณ์ นักเขียน-นักเขียนการ์ตูน
ของผู้เขียนเองกข็ อบอกว่าจะไม่ยอมพลาดเช่นกันส ุดท้ายนี้ ขอเป็นกำลังใ จให้การเดินทางครั้งใ หม่ท กี่ ำลังจะเริ่มต้นของ ทั้งสามได้มีแต่ความสุขส ดใสสมวัยข องถั่วงอกกับไฟและ บุบบิบไ ปตลอดทาง d
WRITE e-Magazine 19
สำนักพิมพ์เม่นวรรณกรรม ภูมิใจเสนอ นิยายเล่มใหม่ล่าสุดของ
ทินกร หุตางกูร จุดตัดบนเส้นเอ็กซ์วาย เรื่องราวของเด็กสาว ชายหนุ่ม และสิ่งที่ พวกเขาตอ้ งการเปลีย่ นแปลงน ยิ ายวา่ ด ว้ ย ปัญหาโลกร้อน ความเชื่อ การเมือง และ ความรัก สิ่งทเี่ขาและเธอเลือก ล้วนแล้ว แต่นำไปสู่เส้นทางของตน นิยายในแบบ ทินกร ยังคงทำให้ผู้อ่านตราตรึง ลึกซึ้ง และแพรวพราย จุดตัดบนเส้นเอ็กซ์วาย ขนาด16หน้ายกพิเศษ หนา184หน้า ราคาปก170บาท สั่งซ ื้อหนังสือจ ากสำนักพ ิมพ์ลด20% ฟรีค่าจัดส่ง ราคาปก170บาทลดเหลือ136บาท สั่งซื้อหนังสือโทรศัพท์ 081-902-8982 niwat@thaiwriter.net สำนักพิมพ์เม่นวรรณกรรม 9/8 หมู่ 9 บางช้าง สามพราน จังหวัดนครปฐม 73110 20 WRITE e-Magazine
ไ
ปกติฉันไม่ค่อยชอบอ่านเรื่องสั้น เพราะมักรู้สึกว่าไม่อิ่ม หลายเรื่องจบแบบค้างๆค าๆ หนังสือรวมเรื่องสั้นหลายเล่มท ี่บ้านเลยมีทคี่ ั่นหนังสือเสียบ อ่านค้างวางไว้ให้ฝุ่นจ ับอ ย่างนั้นแต่เล่มนี้ แสงแรกของจักรวาล กลับให้ความรู้สึกต่างไป และทำลายกำแพงทฉี่ ันมีกับเรื่องสั้นลงได้ ความน่าชื่นชมของคุณนิวัตอยู่ตรงการจับกระแสแห่งกาลสมัย อ่าน เรื่องสั้นในเล่มนี้แล้วนึกถึงเมื่อสิบปีก่อน สมัยค่าเงินบาทตก คนไทย เพิง่ ร จู้ กั ม รุ าคามิ น ติ ยสารa dayถ อื ก ำเนิดเรือ่ งเพศถกู เปิดเผยมากขนึ้ นักด หู นังก ระแสหลักไ ด้ร จู้ กั ห วังเจียเว่ยค า่ ยเบเกอรีก ำลังโ ด่งด งั ส ดุ ขีด หนุม่ ส าวชนชัน้ ก ลางหดั ฟ งั เพลงนอกแ ละอยากเป็นอ าร์ตสิ กันห มดทวั้ บ้านทั้วเมือง สำหรับคุณนิวัต เรายกย่องแกในรายละเอียด ว่าเข้าใจ ห้วงเวลาเหล่านอี้ ย่างถ่องแท้และถ่ายทอดมันออกมาได้ท ุกแง่มุม
แสงแรกของจักรวาล และเรื่องสั้นอื่นๆ ขนาด16หน้าย กพิเศษ หนา2 16หน้า ราคา155บาท สั่ ง ซื้ อ หนั ง สื อ จากสำนั ก พิ ม พ์ ลด 20% ฟรีค่าจัดส่ง จากราคาปก 155 บาท ลดเหลือ 124 บาท
www.thaiwriter.net WRITE e-Magazine 21
Short Story Text: ยรรยงต ุลยนิษก์
ผู้ชายโต๊ะสุดท้าย เขาเดินเข้ามาในร้าน ตอนที่พวกเราเริ่มวางมือจากการจัดโต๊ะ เก้าอี้ แยกย้ายกันเข้าประจำจุดต่างๆตามหน้าที่ เขาก้าวผ่าน เข้ามา เดินไปทางขวามือ ตรงไปที่โต๊ะต ัวสุดท้ายของแถว ซึ่ง เป็นตัวที่ชิดมุมผนังด้านหน้า วางย่ามไว้บนโต๊ะอย่างเบามือ แล้วจึงจับพนักพิงเก้าอี้เลื่อนออกมาเล็กน้อย แทรกตัวเข้าไป นั่งหันหน้าไปทางประตูทางเข้าพร้อมกับเอ่ยปากสั่งเบียร์หนึ่ง ขวดแ ล้วก ก็ บั แกล้มห นึง่ จ านล ว้ งมอื เข้าไปในยา่ มหยิบห นังสือ ออกมาเล่มหนึ่ง เขาค่อยๆบรรจงเปิดไปเรื่อยๆจนกระทั่งได้ หน้าที่ต้องการ ใช้นิ้วส อดขวางไว้ไม่ให้หน้านั้นปิด ลุกขึ้นข ยับ เก้าอี้ให้ได้มุมที่พอใจ นั่งลงอีกครั้ง พร้อมกับกวาดสายตาไป รอบๆร้าน ก่อนจะหยุดนิ่งมองหนังสือตรงหน้า ใช้นิ้วที่สอด ไว้แบะหน้านั้นให้กางออกมา ก้มหน้าก้มตาอ่าน...จมไปกับ หนังสือหน้านั้น... เกือบปีแล้ว ที่พวกเราได้เห็นจนเจนตากับภาพการปรากฏตัว แบบเดิมๆทุกวันไม่เคยขาด ของเขา ผู้ชายโต๊ะสุดท้าย ที่เข้า มาในร้านเป็นคนแรก แล้วก็เลือกนั่งตรงโต๊ะตัวเดียวของร้าน ที่ดัดแปลงมาจากจักรเย็บผ้าร ุ่นเก่าไม่เคยเปลี่ยน จักรเย็บผ า้ ต วั น นั้ เจ้าน ายของพวกเราเอามาจากไหน ไม่แน่ชัด พื้นข้างบนโต๊ะซึ่งเคยเป็นท ี่ตั้งตัวจ ักรมาก่อนนั้น เจ้า นายใช้ให้พี่ผู้ชายคนหนึ่งถอดเก็บไว้พร้อมกับเลาะเอาพื้นโต๊ะ ของเดิมออก แล้ววางกระดานอัดเข้าแทนที่ ก่อนจะเอาวงกบ หน้าต่างมาตั้งทับไว้อีกชั้น จนเกิดพื้นที่ว่างตรงกลางโต๊ะ นั่น แหละเจ้านายของพวกเราจึงเอ่ยปากบอกว่า ใครมีตั๋วหนัง ปกเทปตั๋วรถไฟเก่าๆหรืออะไรก็ได้ชิ้นเล็กๆที่เป็นค วามทรงจำ เก่าๆและไม่อยากเก็บไว้ให้เอามาใส่ได้ความทรงจำของพวก เราหลายๆคนทยอยลงไปอยู่ตรงนั้น แล้วเจ้านายก็สั่งให้เอา กระจกใสแผ่นหนาๆมาวางปิดไว้ข้างบนโดยใช้กาวสำหรับติด กระจกเป็นตัวยึดไม่ให้มันเคลื่อน พวกเราได้พบเขาครั้งแรก ในวันที่เจ้าน ายใช้ใ ห้พวก 22 WRITE e-Magazine
เราจดั เปลีย่ นตำแหน่งโ ต๊ะเก้าอีภ้ ายในรา้ นเสียใ หม่โ ดยให้เอา โต๊ะต วั น นั้ ม าวางเพิม่ ไ ว้ด ว้ ยโ ต๊ะท มี่ อี ยูเ่ ดิมภ ายในรา้ นเป็นโ ต๊ะ ไม้เนือ้ ด ี ล งนำ้ มันข ดั เงาวาววับร ปู ท รงทนั ส มัยแ ละเจ้าน ายของ เราก็เป็นคนอย่างนั้น ทันสมัยและเนี้ยบอยู่เสมอ พวกเราต่าง สงสัยว่าเจ้านายนึกอะไรขึ้นมาถึงได้ใช้ให้พวกเราทำแบบนั้น แต่ไ ม่มีใครกล้าถ าม เพราะเพียงแค่พผี่ ู้ชายที่เป็นคนดัดแปลง จักรเย็บผ้าจนสำเร็จเป็นโต๊ะตามที่เจ้านายต้องการ เอ่ยปาก ทำท่าจะถามพวกเราก็เห็นสายตาที่ลุกวาวด้วยความโกรธขึ้น มาทันที ในวันนั้นหลังจาก พวกเราช่วยกันหามุมที่ดีที่สุด สำหรับโต๊ะตัวนั้นได้แล้ว และกำลังแยกย้ายกันเข้าประจำจุด ต่างๆตามหน้าที่ เขาก็ก้าวข้ามประตูเข้ามาภายในร้าน เดิน ไปทางขวามือ ตรงไปยังโต๊ะที่ดัดแปลงมาจากจักรเย็บผ้าตัว นั้นเอาย่ามวางไว้บ นโต๊ะอย่างเบามือแล้วจึงจ ับพ นักพิงเก้าอี้ เลื่อนออกมาเล็กน้อย แทรกตัวเข้าไปนั่งหันหน้าไปทางประตู ทางเข้าพ ร้อมกบั เอ่ยป ากสงั่ เบียร์ห นึง่ ข วดแ ล้วก ก็ บั แกล้มห นึง่ จานล ว้ งมอื เข้าไปในยา่ มหยิบห นังสืออ อกมาเล่มห นึง่ ห น้าป ก มันเป็นสีดำ แต่ดูไม่น่ากลัว ไม่มีรูปภาพหรือสัญลักษณ์อะไร เลย แม้แต่ช ื่อของหนังสือที่จะบอกว่าเป็นเรื่องอะไรกไ็ ม่มี เขา ค่อยๆบรรจงเปิดหน้าแรก ใช้นิ้วสอดขวางไว้ไม่ให้หน้านั้นปิด ลุกขึ้นข ยับเก้าอี้ให้ไ ด้มุมท ี่พอใจ นั่งลงอีกค รั้ง พร้อมกับก วาด ส่ายตาไปรอบๆรา้ นก อ่ นจะหยุดน งิ่ ม องหนังสือต รงหน้าใ ช้น วิ้ ทีส่ อดไว้แ บะหน้าน นั้ ใ ห้ก างออกมาก ม้ ห น้าก ม้ ต าอา่ น...จ มไป กับหนังสือหน้านั้น ในระหว่างทคี่ อยบริการลกู ค้าโ ต๊ะอ นื่ ๆท คี่ อ่ ยๆทยอย เข้ามาจนแน่นร้าน พวกเราคอยชำเลืองมองเขาอยูต่ ลอด ใคร ว่างกพ็ ากันจับกลุ่มซุบซิบหยิบยกเรื่องของเขามาเป็นหัวข้อใน การพดู ค ยุ ไ ด้ค วามวา่ ไ ม่มใี ครเคยเห็นห น้าเขามากอ่ นไ ม่มใี คร รู้ว่าเขามาจากไหนพผี่ ู้หญิงท ี่อยูข่ ้างๆร้านบอกว่าเห็นเขาเดิน มาจากสแี่ ยกมงุ่ ต รงมาทรี่ า้ นแ ล้วก เ็ ดินเข้าใ นรา้ นทนั ทีเหมือน คุน้ เคยเป็นอ ย่างดี ซ งึ่ ต รงกบั ท พี่ วกเราเห็นเขาเดินต รงไปทโี่ ต๊ะ ตัวน นั้ ท นั ทีเหมือนรอู้ ยูก่ อ่ นแล้วแ ต่จ ะเป็นไ ปได้อ ย่างไรใ นเมือ่ พวกเราเพิ่งเอาออกมาวางไว้ ตำแหน่งของโต๊ะตัวอื่นๆภายใน ร้านเราก็เปลี่ยนใหม่หมด พวกเราพากันสงสัยแต่ไม่มีใครให้ คำตอบได้ในขณะที่เจ้าตัวยังค งนั่งจมอยูก่ ับหนังสือหน้านั้น เอาล่ะตอนที่เขาเข้ามาในร้านใหม่ๆ แสงสว่างจากข้างนอกยัง มีอ ยู่แต่ใ นยามที่นาฬิกาบอกเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้วภ ายใน ร้านกม็ ีเพียงไฟสลัวๆและโต๊ะทเี่ขานั่งก็อยูใ่ นมุมมืด แต่เขายัง คงกม้ ห น้าก ม้ ต าอา่ นน านๆครัง้ จ ะใช้น วิ้ ส อดขวางไว้ไ ม่ใ ห้ห น้า
นั้นปิด แล้วเงยหน้ามองเพดาน หลับตานิ่งสักหนึ่งนาที แล้ว ลืมตากวาดสายตาไปรอบๆร้าน ก่อนจะหยุดนิ่งมองหนังสือ ตรงหน้าใช้นิ้วที่สอดไว้แบะหน้าน ั้นให้ก างออกมาก้มหน้าก้ม ตาอ่าน...จ มไปกับหนังสือหน้านั้นต่อไป อีกวัน น้องผู้ชายที่เป็นเด็กส่งน้ำแข็งบอกว่า วันนั้น ตอนทกี่ ลับจ ากสง่ น ำ้ แ ข็งท รี่ า้ นแ กนงั่ อ ยูท่ า้ ยรถเห็นเขาเดินอ ยู่ บนถนนหน้าเมืองซ งึ่ ไ กลจากรา้ นเกือบสบิ ก โิ ลเมตรแ ต่พ วกเรา ต่างบอกว่าไม่เชื่อในสิ่งท ี่แกพูด เพราะวันนั้น พอรถส่งน้ำแข็ง คล้อยหลังเขาก็ก้าวข้ามประตูเข้าม าในร้านแต่แกว่าแกจำได้ ว่าเป็นเขาแน่ๆเพราะแกตะโกนด่าเขาออกไปว่า บ้าหรือเปล่า ว่ะ ก็จริงของแก ใครๆเห็นเขาก็คงจะอดคิดไม่ได้ ว่าสงสัยท่า จะบ้า ก็ดูการแต่งตัวของเขาสิ นุ่งโสร่งลายดอกสีน้ำตาลเข้ม ใส่เสือ้ ก ล้ามผา้ ม ดั ย อ้ มสสี นั แ สบตาส วมรองเท้าส ายคบี ม ดี อ ก ไม้ติดตรงสายเหมือนของผู้หญิง สะพายย่ามไหมพรมหลากสี แล้วบ นหวั ย งั ม หี มวกถกั อ กี ใ บวางอยูอ่ ย่างหมิน่ เหม่ส สี นั ก เ็ จ็บ ปวดไม่แ พ้ก นั แ ละทสี่ ำคัญท กุ ว นั ท มี่ าเขากม็ าพร้อมกบั ช ดุ เดิม พวกเราอยากจะคดิ ว า่ แ กโกหกแ ต่เถ้าแก่โ รงน้ำแข็งท วี่ นั น นั้ น งั่ มาด้วยกลับยืนยันเสียงหนักแน่นว่าตัวแกเองก็เห็นเหมือนกัน แล้วเขาทำอย่างไรจงึ ส ามารถมาถงึ ร า้ นได้เร็วอ ย่างเหลือเชือ่ ถ า้ มารถรบั จ้างแ ล้วท ำไมไม่ล งหน้าร า้ น ทัง้ ๆทรี่ ถตอ้ งผา่ นหน้าร า้ น ทุกคันทำไมต้องลงเดินซะไกล แรกๆพวกเราบางคนสงสัยและบางคนปักใจเชื่อว่า เขาเป็นคนน่ากลัว ไม่ควรที่จะให้เข้าร้าน ไม่เฉพาะเรื่องการ เดินทางมาที่ร้าน เรื่องขวดเบียร์และจานที่ว่างเปล่านั่นก็อีก เรื่องหนึ่ง เพราะทั้งๆที่พวกเราคอยชำเลืองมองอยู่ตลอด แต่ ไม่เคยมีสักครั้งที่พวกเราจะได้เห็นภาพเขากำลังยกแก้วเบียร์ ขึ้นดื่มหรือตักกับแกล้มเข้าปากเขาไม่ได้แตะต้องสิ่งเหล่านั้น เลยจนวินาทีสุดท้ายกระทั่งเขาเรียกพวกเราไปคิดเงินลุกขึ้น เดินจ ากไปพวกเราไม่รวู้ ่าเขาทำได้อ ย่างไรแต่พ อเขาก้าวข้าม ประตูร้านออกไป พวกเราต่างกรูกันไปดูที่โต๊ะ ภาพที่เห็นคือ ขวดเบียร์ที่ว่างเปล่าและจานกับแกล้มที่มีร่องรอยพอให้รู้ว่า จานใบนั้นเคยใส่อาหารมาก่อน พวกเราพากันเอ่ยปากปรึกษาเจ้านาย ปรากฏว่า โดนด่าเต็มๆสองหูจนชาไปเลย พวกเรายิ่งสงสัย ปกติเจ้านาย ของพวกเราไม่ค่อยชอบลูกค้าที่มาคนเดียวแล้วก็สั่งเบียร์ขวด กับแกล้มจ านนัก แกมักให้พวกเราพากันไปเดินเวียนอยู่ใกล้ๆ คอยถามวา่ จ ะสงั่ อ ะไรเพิม่ ไ หมถ ามเรือ่ ยๆเดีย๋ วถามเดีย๋ วถาม จนลูกค้าหลายคนรำคาญ รีบจ่ายเงิน แล้วออกจากร้านไปไม่ กลับมาอีกเลยมีอยู่หลายโต๊ะท ี่ไม่สนใจนั่งก้นงอกรากอาหาร
เครือ่ งดมื่ บ นโต๊ะห มดเกลีย้ งแ ล้วก ไ็ ม่ย อมสงั่ เพิม่ พ วกเราไปวน เวียนอยู่กไ็ ม่ยอมลุกเจ้านายกจ็ ะออกไปจัดการด่าจนกระเจิง แต่ส ำหรับเขาเจ้าน ายกลบั ไ ม่ว า่ อ ะไรท งั้ ท เี่ ขาเข้าม านงั่ เป็นค น แรกตงั้ แต่ร า้ นเปิดแ ละสงั่ แ ค่เบียร์ห นึง่ ข วดพร้อมกบั แกล้มห นึง่ จานเท่านัน้ แ ต่ก ลับอ อกจากรา้ นไปเป็นค นสดุ ท้ายพ วกเราไม่รู้ ว่าเกิดอ ะไรขนึ้ ก บั เจ้าน ายของพวกเราบ างคนวา่ อ าจเป็นเพราะ เขาผ ชู้ ายโต๊ะส ดุ ท้ายนนั่ แ หละท ที่ ำอะไรบางอย่างกบั เจ้าน าย ของเราจนเปลีย่ นไปได้ถ งึ ข นาดนี้ แ ต่พ วกเรากไ็ ม่เคยเห็นเขาทำ อะไรนอกจากนั่งอ่านหนังสือแ ละจมไปกับมัน เขาไม่เคยลุกไ ปเข้าห้องน้ำไม่เคยลุกอ อกไปสูบบุหรี่ ข้างนอกเหมือนลกู ค้าโ ต๊ะอ นื่ ๆเขานงั่ ก ม้ ห น้าก ม้ ต าอา่ นหนังสือ ไม่เอะอะรบกวนใครพ วกเราควรจะจดั เขาเป็นล กู ค้าข าประจำ ชั้นดีด้วยซ้ำ เพราะเขาจ่ายเงินไม่เคยเบี้ยว ไม่มากเรื่อง เรื่อง ราคาอาหารเขามาทุกวันไ ม่ว่าฝนจะตกฟ้าจ ะผ่าแดดจะออก น้ำจ ะทว่ มเขามาทกุ ว นั เกือบปแี ล้วห ากเพียงแต่เขาไม่เป็นเขา ผู้ชายโต๊ะสุดท้ายทพี่ วกเราหวาดกลัวเพราะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับ ตัวเขาเลย แม้จะคุ้นชินกับพฤติกรรมแปลกๆของเขา แต่พวก WRITE e-Magazine 23
เขายังคงเป็นเขา ทำพฤติกรรมเดิมๆทุกวัน เข้ามาในร้าน นั่งโต๊ะตัวนั้น สั่ง เบียร์หนึ่งขวดกับแกล้มหนึ่งจาน หยิบหนังสือ เปิดหนังสือ ก้มหน้าก้มตาอ่าน นานๆครั้ง จะใช้นิ้วสอดขวางไว้ไม่ให้หน้านั้นปิด แล้วเงยหน้ามองเพดาน หลับตานิ่ง เราก็ไม่เคยวางใจ พวกเราอาจจะจับก ลุ่มซุบซิบพูดคุยถึงเรื่อง ของเขาน้อยลง จนระยะหลังบางวันพวกเราไม่ได้สนใจที่จะ จับตามองเขาด้วยซ้ำแต่ในวินาทีที่พวกเราบางคนต้องไปเก็บ เงินที่โต๊ะเขา พวกเราก็ตกใจและตื่นกลัวที่ไม่มีใครคอยจับตา มองเขาสักคน ถ้าเขาเกิดทำอะไรอย่างที่พวกเราคิดกลัว พวก เราในร้านก็คงไม่รอดสักคน แต่จริงๆแล้วเขาก็ไม่เคยแสดงอาการอะไร ให้พวก เราเห็นว่าเขาจะเป็นคนที่ทำอะไรที่น่ากลัวอย่างร้ายกาจ ได้ นอกจากความสงสัยที่พวกเรามีในตัวเขาแล้วพากันคิด จินตนาการไปเองเขายงั ค งอา่ นหนังสือแ ละจมไปกบั ห น้าทีเ่ ปิด อ่านในแต่ละวนั ใ ช่เขาอา่ นหนังสือว นั ล ะหน้าพ วกเราสงสัยว า่ เขาอ่านได้อย่างไร เขาใช้เวลาในการอ่านพยางค์ละกี่นาที คำ ละสิบนาทีได้หรือเปล่า ครึ่งชั่วโมงจะจบประโยคไหม ชั่วโมง หนึง่ เขาอา่ นได้ก ปี่ ระโยคย อ่ หน้าห นึง่ เขาใช้เวลาเท่าไ หร่ท ำไม เขาจงึ อ า่ นได้เพียงวนั ล ะหน้าค ำถามเหล่าน วี้ นเวียนซำ้ ซากอยู่ ในสมองแต่พวกเราก็ไม่เคยได้คำตอบ เขายังคงเป็นเขา ทำพฤติกรรมเดิมๆทุกวัน เข้ามา ในร้านนั่งโต๊ะตัวนั้นสั่งเบียร์ห นึ่งขวดกับแกล้มหนึ่งจ านหยิบ หนังสือเปิดห นังสือก ม้ ห น้าก ม้ ต าอา่ นน านๆครัง้ จ ะใช้น วิ้ ส อด ขวางไว้ไม่ให้หน้านั้นปิด แล้วเงยหน้ามองเพดาน หลับตานิ่ง สักหนึ่งนาทีแล้วล ืมตากวาดสายตาไปรอบๆร้านก่อนจะหยุด นิ่งมองหนังสือต รงหน้าใช้นิ้วที่สอดไว้แบะหน้านั้นให้ก างออก มาก้มหน้าก้มตาอ่าน...จมไปกับหนังสือหน้านั้นเป็นเช่นน ี้ทุก วัน จนพวกเราจดจำและสามารถทำเลียนแบบได้แทบหมด นอกจากพฤติกรรมบางอย่างที่ชวนสงสัยและพวกเราไม่เคย เห็นแต่ม ันเกิดขึ้นจริง ล ูกค้าโต๊ะอื่นๆเริ่มท ยอยออกไปเกือบหมดแล้วเขายังคงนงั่ ก ้ม หน้าก้มตาอ่าน พวกเราเพิ่งสังเกตเห็นว่า วันนี้หน้าที่เขาอ่าน เป็นหน้าสุดท้ายในทสี่ ุดเขากก็ ำลังจะอ่านหนังสือสดี ำของเขา จบพ วกเราเริม่ จ บั ก ลุม่ ซ บุ ซิบก นั อ กี ค รัง้ เรือ่ งของเขาถกู ห ยิบยก มาเป็นหัวข้อใ นการพูดคุยพวกเราบางคนเริ่มคิดสงสัยว่าเขา 24 WRITE e-Magazine
จะทำอะไรต่อห ลังจ ากอ่านหนังสือส ีดำจบแล้วบางคนกลัวว ่า เขาอาจจะเริ่มทำอะไรที่น่ากลัวเหมือนที่คิดกันไว้และมีบาง ข้อเสนอของบางคน ให้บอกเจ้านายของพวกเราปิดร้านในวัน พรุง่ น ี้ เพราะกลัวเขาจะมาทำอะไรทเี่ ลวรา้ ยกวา่ การมานงั่ อ า่ น หนังสือวันละหน้า เทีย่ งคนื พ วกเราเริม่ เก็บก วาดเศษอาหารข นจานชาม ต่างๆไปไว้หลังร้าน เขาเงยหน้าจากหนังสือ กวาดสายตาไป รอบๆร้าน ก่อนจะค่อยๆบรรจงปิดห นังสือ เผยอปากย่ามสอด หนังสือเข้าไปอย่างเบามือเอ่ยปากเรียกพวกเราไปคิดเงินดัน เก้าอีอ้ อกหา่ งจากโต๊ะล กุ ข นึ้ ย นื ค ว้าย า่ มขนึ้ ม าสะพายเดินต รง ไปที่ประตูและก้าวผ่านออกไป พอลับร่างเขา พวกเรากรูกันไ ปที่โต๊ะของเขา โต๊ะตัว สุดท้ายที่พวกเราจะต้องเก็บกวาดในคืนนี้ และเหมือนทุกครั้ง บนโต๊ะม ขี วดเบียร์ว า่ งเปล่าจ านเกลีย้ งเกลาไม่มกี บั แกล้มห ลง เหลืออยู่ ทั้งที่ตอนมาคิดเงิน พวกเราบางคนเห็นว่าเขายังไม่ ได้แตะต้องมันเลย พวกเราพากันมองตามร่างนั้นด้วยแววตา สงสัยแ ละบางคนถึงข ั้นร ู้สึกส ะพรึงก ลัวขนลุกเกรียวเสียงบาง คนเร่งเร้าเสนอให้ป ดิ ร า้ นในวนั พ รุง่ น ี้ แ ต่บ างคนตอ้ งการให้เปิด เพราะอยากรวู้ า่ พ รุง่ น เี้ ขาจะมาอกี ไ หมใ นเมือ่ เขาอา่ นหนังสือส ี ดำจบแล้วเขาจะมหี นังสือเล่มไ หนมาอา่ นตอ่ จ ะเป็นห นังสือท ี่ ไม่มีชื่ออ ีกไหมแล้วจะเป็นสอี ะไรถ้าเป็นหนังสือส ีชมพูเขาจะ อ่านมนั ว นั ล ะหน้าเหมือนเดิมห รือเปล่าพ วกเราเริม่ ข ยายความ คิดไ ปเรือ่ ยๆและในทสี่ ดุ ใ ครบางคนในหมูพ่ วกเรากเ็ อ่ยอ อกมา ว่าส งั เกตไหมคนื น เี้ จ้าน ายของพวกเราแปลกๆไปค ล้ายแกจะ เศร้าใจยังไงไม่รนู้ ะ... d
Short Story Text: กฤษฯ จินตนาการ
เครื่องมือสนองกิเลส คุณร ู้จักฉันดี... ในชวี ติ ค ณ ุ เคยผา่ นฉนั ม าแล้วท งั้ น นั้ โ ดยเฉพาะผชู้ าย ทุกค นจ ะตอ้ งมปี ระสบการณ์ร ว่ มกบั ฉ นั ม าแล้วท งั้ น นั้ ไ ม่ว า่ จ ะ เป็นผู้ชายในชาติใดภาษาไหนเด็กวัยรุ่นหรื่อผู้ใหญ่แม้กระ ทั้งคนแก่ก ็ล้วนมีประสบการณ์ร่วมกับฉันมาแล้วทั้งนั้น และแน่นอน ผู้ที่นำพาฉันมาพบเจอพวกผู้ชายเหล่า นั้น ก็เป็นผู้ชายที่มีผลประโยชน์ในตัวฉันอีกเช่นกัน พวกเขา ไม่ค อ่ ยใสใจในความรสู้ กึ ฉ นั ว า่ ฉ นั จ ะคดิ อ ะไรเป็นย งั ไ งน นั้ ย งั ไม่พอผทู้ ี่ได้ผลประโยชน์จากฉันยังร่วมใช้ฉ ันไม่ต่างกับผู้ชาย เหล่านั้นเขาใช้ฉ ันอย่างไม่ยั้งคิดหนำซ้ำย ังไม่ค่อยดูแลตัวฉ ัน อีกต่างหาก แต่ยังดีที่บางครั้งเมื่อประสิทธิภาพในตัวฉันเริ่ม หย่อนยานเขาถงึ คดิ จ ะดแู ลและเห็นใจฉันบ้างเพื่ออ ะไรหรือ? ก็เพือ่ ใ ห้ใ บหน้าข องฉนั ด สู ดชืน่ แ ละคมคายขนึ้ ม าแ ละสามารถ รับงานหนักๆจ ากผู้ชายเหล่านั้นอีกครั้งหนึ่ง ฉันเริม่ ป ลงกบั ช วี ติ ป ลงกบั อ าชีพน ี้ จ ากอาชีพบ ริการ อันข ม่ ข นื่ แ ละไม่มใี ครให้ค วามสำคัญโ ลกนยี้ งั ม คี วามยตุ ธิ รรม บ้างหรือไ ม่เป็นไ ปได้ใ หมทวี่ นั ห นึง่ ฉ นั จ ะกลายมาเป็นผ กู้ ระทำ ไม่ใช่ผ ู้ถูกกระทำอย่างเช่นท ุกวันนี้แต่แล้วชายผู้เป็นเจ้านายก็ ปลุกฉ ันจากภวังค์ความคิดที่ไม่อาจเป็นไปได้ไม่มีบทสนทนา ใดๆระหว่างฉันก ับเขามีเพียงผลประโยชน์ท ี่เขาจะได้รับจาก ฉันเท่านั้น เป็นเพียงสายใยบาง ๆ ที่ทำให้เขายังคงเก็บฉันไว้ ต่อไป แล้วเขาก็หยิบยื่นฉันให้กับชายคนอื่นอีกเช่นเคย เพียง แต่เช้าวันนี้เป็นเด็กผู้ชายอายุเพียง 5 ขวบเท่านั้น ฉันแปลก ใจว่าทำไมวันนี้เขาถึงกล้ารับแขกที่อายุน้อยเช่นนี้ แม้ฉันจะ ผ่านผชู้ ายมามากแ ต่ค ณ ุ ธรรมในใจมนั ย งั ค งฟอ้ งในใจวา่ น มี้ นั อันตรายเกินไปที่จะทำในสิ่งนี้ ฉันอาจทำลายอนาคตเด็กคน หนึ่งที่รู้เท่าไม่ถึงก ารณ์“พ่อแม่ของเด็กละ”ฉันเริ่มคิดความ คิดก ับส ิ่งท ตี่ ้องทำช่างขัดแ ย้งอย่างสิ้นเชิงฉันท ำไม่ไ ด้ฉันบ อก
กับตัวเอง แต่ไม่ได้!! ฉันไม่สามารถบังคับควบคุมชีวิตฉันได้ เพราะเขาคนนั้นกำลังม องมาทฉี่ ันสายตาของเขาราวกับบ อก ฉันว่า“เธอไม่อ าจปฏิเสธสิ่งนี้ได้”และแน่นอนแม้ไ ม่เต็มใจ ทำแต่ฉ ันก ็ต้องทำอย่างมิอาจขัดขืน- - - เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นเมื่อฉันเริ่มลงมือ เด็ก ชายคนนั้นดิ้นราวกับว่าไม่เคยผ่านประสบการณ์อย่างนี้มา ก่อน ฉันตกใจเช่นกัน เพราะฉันก็ไม่เคยเจอเด็กขนาดนี้ ฉัน ผงะห่างจากเด็กค นนั้น เขาเริ่มสงบลงทำให้ฉันลดความกังวล พอที่จะเริ่มลงมือต่อได้ ฉันเริ่มเคลื่อนตัวเข้าหาเขาอย่าง ช้า ๆ โดยพยายามไม่ให้เขาตกใจกลัว เขามองฉัน สายตา เราสองกระทบกันผ่านกระจกบานใหญ่ที่ติดอยู่ริมฝาผนังห้อง เป็นครั้งแรกที่เราสบตากัน แววตาของเขายังไม่คลายความ หวาดระแวงแม้แต่น้อย “ทำไมเราต้องเจอเหตุการณ์อย่างนี้ ด้วย”ฉ นั ร ำพึงใ นใจก อ่ นจะรวบรวมความกล้าท จี่ ะทำหน้าทีใ่ ห้ ลุลว่ งแ ต่ค วามพยายามของฉนั ก ถ็ กู ย บั ยัง้ ด ว้ ยรอยนำ้ ตาทไี่ หล อาบลงบนสองแก้มของเด็กชาย เป็นน้ำตาแห่งความสิ้นหวัง สองตาทมี่ องมายังฉ นั ร าวกับอ อ้ นวอนวา่ ใ ห้ฉ นั ห ยุดก ารกระทำ นี้ ฉ นั ช ะงักไ ม่มคี ำพดู ใ ดๆ เหมือนกบั ว า่ โ ลกทงั้ โ ลกหยุดห มุนไ ป ชั่วขณะ... ...แต่ทุกอย่างกจ็ บลงด้วยคำพูดข องเจ้านายฉัน “ไว้ค่อยมาตัดใหม่ละกันครับ สงสัยเด็กยังไม่เคย ตัดผมเลยกลัวด ูสิร้องให้ใ หญ่แล้ว” ฉั น ยิ้ ม ร อยยิ้ ม ข องฉั น ไ ม่ มี ค วามห มายใ ด แอบแฝง... d
WRITE e-Magazine 25
INSPIRATION Text: อมรรัตน์ รุ่งเรืองฝั่งสาย
ความ องกุหลาบ ความรัรักขของกุ เจ้าชายองค์หนึ่ง ปลูกกุหลาบเอาไว้จนเต็ม สวน ทุกๆเย็น เจ้าชายจะมาที่สวน ดูแลกุหลาบ เหล่าน ั้น รดน้ำ พรวนดิน ตัดแต่งกิ่ง และคอยริดใบที่มี แมลงทิ้ง เหล่ากุหลาบต่างส่งกลิ่นหอมฟุ้งอย่างเริงร่า พวกเธอพากันเบ่งบาน ทุกวัน ทุกวัน ให้นาน ที่สุดเท่าท ี่จะนานได้ เพื่อแ สดงความรักและความภักดีต่อเจ้าช าย วันหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ เจ้าชายลงไปรดน้ำ กุหลาบเช่นเคย ปรากฏกุหลาบตูมดอกหนึ่ง ขนาดใหญ่ที่สุด ใหญ่เท่าที่เคยปรากฏ ท่าทางจะเป็นกุหลาบดอกที่พิเศษที่สุด พิเศษ เท่าท ี่เคยมีมา เจ้าช ายเฝ้าทะนุถนอมกุหลาบนั้นอย่างดี และคอยวันท ี่เธอแย้มกลีบอย่างอดทน กระทั่งวันหนึ่ง กุหลาบดอกนั้นถามเจ้าช ายว่า ท่านเฝ้าด ูแลฉันเพราะเหตุใด “เพราะฉันรักเธอ”เจ้าชายตอบ
26 WRITE e-Magazine
ก ุหลาบถามซ้ำอ ีกค รั้ง ท่านรักฉ ันเพราะเหตุใด หากท่านรักฉ ันเพราะความสวย วันห นึ่งเมื่อฉันร ่วงโรยไปตามกาลเวลา ท่านจะหมดรักฉันหรือไม่ เจ้าชายไม่ต อบคำถามนั้นทุกวันทุกวันเขายัง เฝ้าดูแลเหล่ากุหลาบเฉกเช่นเดิม กาลเวลาล่วงผ่านไป ก หุ ลาบดอกแล้วด อกเล่าต า่ งแย้มบ านส ง่ ก ลิน่ หอมฟุ้งและเหี่ยวเฉา กุหลาบดอกสวย เฝ้ามองความร่วงโรยของ เพื่อนผองทั้งหลาย ฤดูใบไม้ผลิกล ับมาเยือนอีกค รั้งเย็นวันน ั้นเธอ บอกกับเจ้าชายว่า ท่านจงเฝ้ามองฉันให้ดี ช่วงเวลาของฉันนั้นสั้นน ักแต่... ฉันจะเป็นกุหลาบดอกที่สวยที่สุด เท่าที่ท่าน เคยเห็น ฉันจะให้กลิ่นที่หอมที่สุด ยิ่งกว่ากลิ่นหอมใดๆ ในโลกนี้ ฉันจะขอเป็นตัวแทนของผองเพื่อนทั้งปวง เพื่อเป็นการตอบแทนความรักของท่านที่มีให้ กับเหล่ามวลกุหลาบ กุหลาบดอกสวยค่อยๆเผยกลีบทีละใบ เธอใช้เวลาแต่งตัวในกลีบเลี้ยงอยู่นาน นาน เหลือเกิน เธอผลิดอก ช้า ช้า ทุกวินาที ทุกอากัปกิริยา ล้วนมีความหมาย แต่ละท่วงท่าล้วนงดงามราวกับการเริงระบำ ระบำกุหลาบ เจ้าชายยืนนิ่งเฝ้าดูกุหลาบดอกสวย
ก ลิ่นหอมโชยไปทั่วสวนแห่งน ั้น ไม่เพียงแต่สวนของเจ้าช าย เหล่าผ ู้คนนอกปราสาท ต่างโจษจันก ันถึงกลิ่น หอมลึกลับนั้น กลิ่นก ุหลาบ หญิงชราคนหนึ่ง ล้มป่วยเป็นเวลานาน ได้แต่ นอนรอคอยความตายอยู่บนเตียงหลังเก่า ถึงกับลุกขึ้นมาจากเตียง และชะโงกหน้าออก ไปยังหน้าต่าง “ ก ลิน่ ก หุ ลาบมาจากไหนกนั น ะ”เธอรำพึงแ ละ สูดก ลิ่นแสนหอมนั้น เจ้าชายยืนดูกุหลาบดอกสวยจนกระทั่งกลีบ สุดท้ายเผยออก “ขอบคุณมาก”เจ้าชายตอบ เขายืนอยูต่ รงนั้นเป็นเวลาสามวันส ามคืน ทั้งค ู่ไม่ได้พูดอะไรกันอีก “ลาก่อน” กุหลาบพึมพำเบาๆกับเจ้าชายใน คืนท ี่สาม “อยากให้ฉันอยู่กับเธอไหม”เจ้าชายถาม “ ฉั น อ ยากใ ห้ ท่ า น อยู่ กั บ ฉั น จ นถึ ง ว าระ สุดท้าย” “แต่ฉันไม่อยากให้ท่านเห็นวาระสุดท้ายของ ฉัน”กุหลาบตอบ “ฉันอยากให้ภาพกุหลาบแสนสวยนั้น ติดตา ตรึงใจท่านไปชั่วนริ ันดร์” “เธออยู่ในหัวใจของฉันแล้ว” เจ้าชายพูด เขา แตะกลีบกุหลาบเบาๆ “ขอบคุณ” ท นั ใดนนั้ ก หุ ลาบดอกทสี่ วยทสี่ ดุ แ ละหอมทสี่ ดุ ก็ท ิ้งกลีบทุกใบลงสู่พื้น
“ฉันอยากให้ท่านอยู่กับฉัน จนถึงวาระสุดท้าย” “แ ต่ฉ นั ไ ม่อ ยากให้ท า่ นเห็น วาระสุดท้ายของฉัน”
WRITE e-Magazine 27
เหลือเพียงเกสรสีเหลืองและก้านสีเขียวที่ยัง คงยืนนิ่ง กลีบกุหลาบใบหนึ่งคงอยู่บนมือเจ้าช าย เธออาจจะอยู่กับเขาได้นานกว่านี้ ถ้าหากจะค่อยๆโรยราไปช้าช้า แต่เธอไม่อยากให้เขาเห็นภาพที่ไม่น่าม อง เธอเลือกที่จะจากไปด้วยวิธีที่จะทำให้เจ้าช าย ประทับใจมากที่สุด เธอช่างเป็นกุหลาบที่เย่อหยิ่งเสียเหลือเกิน แม้ว่าจะรักเขาถึงปานนั้นก็ตาม ทุกๆวันเจ้าช ายยังค งดูแลเหล่าก ุหลาบในสวน ดังเดิม กระทั่งวันห นึ่งกุหลาบดอกหนึ่งข ึ้นมาแทนที่ที่ กุหลาบสวยดอกนั้นเคยอยู่ เธอชา่ งเป็นก หุ ลาบทแี่ สนจะธรรมดาไ ม่มอี ะไร โดดเด่น อีกทั้งยังเป็นกุหลาบที่กลีบขาดวิ่น เพราะโดนแมลงกัดแทะขณะยังเป็นดอกตูม วันนั้นเป็นฤดูใบไม้ผลิ เจ้าชายหนุ่มหยุดยืนอยู่ตรงหน้า แล้วถามว่า “เธอรักฉันไหม” กุหลาบยิ้มด้วยความขวยเขิน เธอไม่เคยคาด ฝันว่าจะได้มีโอกาสคุยกับเจ้าชายผู้สง่างามและ หล่อเหลา เธอพยายามซ่อนกลีบที่พิการกลีบนั้นเอาไว้ เจ้าชายแตะกลีบนั้นเบาๆ นัยน์ตาเขาช่างดู เศร้าเหลือเกิน “ฉันเสียใจ ที่ปล่อยให้หนอนแมลงนั้นกัดกิน เธอ” กุหลาบส่ายไหวไปมา“ไ ม่ใช่ค วามผิดข องท่าน ท่านทำดีที่สุดแล้ว” 28 WRITE e-Magazine
“ สำหรับคำถามของท่านไม่มีผใู้ ดในโลกนี้ที่ฉัน จะรักได้มากเท่ากับเจ้าชายอีกแล้ว” เธอรักฉ ันเพราะเหตุใดเจ้าชายถาม หากเธอรักฉันเพราะความงาม เมื่อวันหนึ่งที่ฉัน ร่วงโรยไปด้วยความชรา เธอจะยังรักฉ ันหรือไ ม่ หากเธอรักฉันเพราะความร่ำรวย เมื่อวันหนึ่งที่ ฉันก ลายเป็นคนยากไร้ หัวใจเธอจะยังอยูก่ ับฉันหรือไม่ ห ากเธอรกั ฉ นั เพราะสงิ่ ท ฉี่ นั เป็นเมือ่ ว นั ห นึง่ ท ฉี่ นั เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ส ายตาของเธอจะยงั เปีย่ มไปดว้ ยความรกั ท มี่ ใี ห้ กับฉ ันอีกห รือไ ม่ “ความรักข องฉันน ั้นไม่มเีหตุผล”กุหลาบตอบ เจ้าชายเอ่ยถามครั้งสุดท้าย เธออยากจะรู้หรือไม่ว่าฉันรักเธอหรือเปล่า กุหลาบส่ายกลีบช้าๆ “ฉันแค่อยากรัก ฉันไม่ อยากรู้” เจ้าชายจูบกุหลาบเบาๆ แล้วเดินกลับเข้าไปในปราสาท ทุกเย็นคงเป็นเช่นเคย เหล่าก ุหลาบเบ่งบานและจากไป เจ้าชายทำหน้าที่ด้วยดีเสมอมา ตราบจนถึงวัน สุดท้ายของชีวิต เหล่ากุหลาบที่เบ่งบานทั้งหลาย อาจจะรักเจ้าชายเพราะเขาดีกับพ วกเธอ หรืออ าจจะรักเจ้าชายอย่างไม่มีเงื่อนไข อย่างไรก็ตามพวกเธอต่างพยายามจนถึงท ี่สุด แย้มบ านและจากไปตามกาลเวลา เพราะนั่นเป็นเพียงสิ่งเดียวที่พวกเธอจะทำได้
ไ ม่ว่าใครล้วนอยากเป็นกุหลาบดอกพิเศษ อยากเป็นคนพิเศษ ที่อยู่ในหัวใจเจ้าชายตลอด กาล ไม่มีใครรู้ว่า เจ้าชายรักกุหลาบดอกไหนมากกว่าก ัน หรือเจ้าชายจะรักกุหลาบทั้งหมดเท่าๆกัน นั่นอาจเป็นเรื่องไม่สำคัญสำหรับกุหลาบที่กลีบ ขาดวิ่น หรืออาจจะเป็นเรื่องสำคัญ สำหรับกุหลาบดอก สวย แต่สิ่งห นึ่งที่กุหลาบทุกด อกมีเหมือนกันคือ พวกเธอล้วนมีความรัก d
แรงบันดาลใจ : เจ้าชายน้อย Antoine de Saint- Exupery WRITE e-Magazine 29
Nostalgia text&image: “ โนลีโอ”
กลับมายืนที่เดิม
เส้นทางเดิมที่รถโดยสารแล่นผ ่านบางช่วงบางตอนยังคงภาพเดิมๆเก่าๆอย่าง ที่ฉันเคยผ่านตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัยปีแรกแต่บางช่วงบางตอนแปรสภาพไป จนฉันเองก็ต้องย้อนถามตัวเองอย่างน่าตกใจว่ามันเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เชียวหรือ
30 WRITE e-Magazine
ห ้างสรรพสินค้าร ้านค้าส ะดวก ซื้อหมู่บ้านจัดสรรอ าคารพาณิชย์ทั้ง ฉันเลือกนั่งท ี่นั่งริมหน้าต่างฝั่งซ้าย หอพักและร้านอาหารผุดข ึ้นราวดอก มืออย่างที่เคยนั่งเมื่อหลายปีก่อนบน เห็ดตลอดสองฝากฝั่งถนนที่รถแล่น รถเมล์ส ายนี้สภาพรถในวันนี้เปลี่ยน ไปจนทำให้ฉันแทบลืมบ รรยากาศเก่าๆ ผ่านไป“เมื่อก่อนมีแต่ป่าท้องนาและ ก็ต้นไม้เยอะแยะไ ม่เห็นมีแบบนี้เลย” ที่ขึ้นล งรถเมล์สายหวานเย็นตลอด ฉันบ่นกับตัวเองอย่างนี้ไปตลอดเส้น เวลาสี่ปีที่เรียนมหาวิทยาลัย ทาง จากความเก่าค ร่ำคร่าและ ถนนปูนเบื้องหน้ายังค งทอดตัว อัดแน่นไ ปด้วยผู้โดยสารที่ไม่มีทาง ยาวเช่นเดิมตลอดเส้นทางหลังคาสีฟ้า เลือกหรือเลี่ยงไปใช้เส้นท างอื่นที่ยืน ใสทำหน้าที่ปกคลุมป้องกันร้อนและ เหงื่อโทรมกายหรือหน้าซีดเซียวจาก ฝนให้ผ ู้อยู่ภายใต้ร่มเงาได้เดินกันอย่าง ความร้อนอบอ้าวที่อวลอยูใ่ นตัวรถ สบายใจฝั่งซ้ายมือม ีป้ายประกาศ เปลี่ยนเป็นแอร์เย็นฉ่ำท ี่หนาวจับใจ จนไหล่ห ่อและผโู้ ดยสารบางตาที่มไี ม่ กิจกรรมต่างๆของน้องๆนักศึกษาแ ปะ ตามเสาไปจนสุดทางเดินฉันเดินยิ้ม มากเหมือนแต่ก่อนเสียงเซ็งแ ซ่ท ี่เคย ไปพลางอ่านภาพข่าวกิจกรรมต่างๆที่ มีกลับเงียบหายและถูกแทรกตัวด้วย น้องๆสร้างสรรค์ขึ้น เสียงครางของเครื่องปรับอากาศ “เฮ้ย!เสร็จรยึ ังพวกมึงอ ่ะช ัก เส้นทางเดิมที่รถโดยสารแล่น ผ่านบางช่วงบางตอนยังคงภาพเดิมๆ ช้าว ่ะเดี๋ยวก็ไม่ทันหรอกคนดูมากัน แล้วนะโว้ย” เสียงเอะอะโวยวายตาม เก่าๆอ ย่างที่ฉันเคยผ่านตั้งแต่เรียน ประสานักจัดการและนักก ิจกรรมตัวยง มหาวิทยาลัยปีแรกแต่บางช่วงบาง ตอนแปรสภาพไปจนฉันเองก็ต้องย้อน อย่างฉันแผดเสียงใส่เพื่อน ถามตัวเองอย่างน่าตกใจว่ามันเปลี่ยน พร้อมท้าวสะเอวชี้ไปยังจุดท ี่เห็นว่ายัง ไม่เรียบร้อย ไปได้ขนาดนี้เชียวหรือ... “โหย..แม่งเอ๊ย..ทำไมตัวห นังสือ มันหลุดแบบนี้วะใครติดเนี่ยไ ม่ได้ เรื่องดูดิ!กูต้องมาติดใ หม่อ ีกแล้วนะ” ฉันยังบ่นเพื่อนมิได้วางเว้นกับอ าการ ไม่ได้ดั่งใจที่ตัวห นังสือห น้าเวทีการ แสดงหล่นลงพื้น วันน ั้นณเวทีการแสดงกลางแจ้ง แห่งเดียวกันนี้ฉันและเพื่อนๆในภาค วิชาภาษาอังกฤษทั้งสิบห กคนช่วยกัน จัดงานวันคริสมาสต์ทมี่ ีการแสดงร้อง เพลงเล่นเกมและจับส ลากของขวัญ ตามธรรมเนียมฝรั่งทเี่ราลงโปรแกรม เรียนมาจนถึงปีที่สาม กล่องของขวัญใบเล็กใบน้อยและ ใบใหญ่ถูกลำเลียงมาจากพี่ๆน ้องๆ
เพื่อนๆและอาจารย์ท ั้งไทยและเทศ ในภาควิชาฯที่บนกล่องหรือบ นหีบห่อ ของของขวัญทุกชิ้นมีเบอร์ต ิดอ ยู่พร้อม จะถูกจ ับสลากและสร้างสีสันร อยยิ้ม และเสียงหัวเราะแห่งความสุขข องคนที่ ได้รับรวมถึงผู้ให้ เสียงดนตรีบ รรเลงเพลงวัน คริสมาสต์ดังก ระหึ่มทั่วลานกว้าง ลูกโป่งพ วงใหญ่หลากสีสวยงาม แซนตาคลอสตัวโ ตทพี่ วกเราอดนอน กันตลอดหลายคืนวาดและลงสีให้ เหมือนจริงต ้นสนสีเขียวริบบิ้นสีแดง ถูกจัดว างอย่างลงตัวบ นเวทีแห่งน ี้ด้วย เช่นกัน “โ อยเหนื่อยชิบ..กว่าจ ะเสร็จนี่ ไม่ไ ด้นอนกันมากคี่ ืนแล้ววะ”หนึ่งใน ทีมงานเริ่มบ่นส ายตาละห้อยและ อิดโรยฉายวาบให้เห็น “ไม่เท่าไหร่หรอกว่ะ..แ ค่สอง เดือนเองด ูสภาพสิ”ฉันบ อกเพื่อนแบบ ขำๆกับอาการเหนื่อยล้าแ ละการไม่ได้ พักอ ย่างยาวนานราวสองถึงสามเดือน ก่อนวันงานที่ดูเหมือนงานเล็กๆและ ไม่น่าม ีอะไรมากหากแต่เมื่อลงมือท ำ ไม่มีอะไรง่ายเลยสำหรับมือใ หม่อย่าง พวกฉันแ ต่ฉันก็คงต้องขอบคุณเพื่อนๆ ทั้งหมดรวมทั้งน้องๆและอาจารย์ใ น ภาควิชาฯที่คอยช่วยเหลือและทำให้ งานวันคริสมาสต์ในแต่ละปีผ่านไปได้ อย่างราบรื่นถึงแม้จ ะมีปัญหาอยู่บ้าง แต่พ วกเราก็ฝ่าม ันม าได้ทุกที วันนี้ฉันกลับมายืนอยู่หน้าเวที อีกค รั้งเพื่อมองหาร่องรอยความทรง จำเก่าๆบนเวทีแห่งนี้ท ว่า..ไม่มงี าน แสดงไ ม่มีต้นสนและไม่มีลูกโป่ง หลายสีอย่างเคยม ีเพียงความเก่า และผุพังใ นบางจุดร อบๆบริเวณลาน กว้างด้านหน้าม ีม้าห ินอ่อนรวมถึง ซุ้มน ั่งเล่นท ั้งทมี่ ีหลังคาสวยงามและ WRITE e-Magazine 31
ไม่มีหลังคาให้น ักศึกษาได้รวมตัวทำ กิจกรรมหรือนั่งพัก นักศึกษารุ่นน้องเหล่าน ี้บางคน อยูใ่ นชุดที่ฉันแทบไม่อยากเรียกว่าชุด นักศึกษากระโปรงสั้นกุดฟิดต ิดก้น เสื้อตัวเล็กจิ๋วที่ใส่กันจนหน้าอกหน้า ใจแทบจะทะลักรองเท้าส ีส้มสีชมพู หลากดีไซน์ร าวกับออกมาจากหนังสือ แฟชั่นชั้นนำถูกหยิบจับมาใส่บนเนื้อ บนตัวของน้องๆที่มาศึกษาหาความรู้ “รุ่นพวกเธอเนี่ยนะน่ารักที่สุด แล้วกิริยามารยาทก็เรียบร้อยแ ต่ง เนื้อแต่งตัวกันก็พอดีๆไม่สั้นไ ม่ยาว จนเกินงามก ารเรียนก็ถือว่าใช้ได้ไม่ เหมือนเด็กสมัยนี้ดูสิแต่ละคนแต่งต ัว กันอย่างกับไม่ได้มาเรียนหนังสือเห็น แล้วเศร้าใจ”อาจารย์ท ่านหนึ่งท ี่พวก ฉันยกให้เป็นแม่คนที่สองออกความ เห็นในวันท ี่พวกเราแวะไปเยี่ยมเยียน ถึงบ้านพักฉันไม่แปลกใจเลยกับความ คำพูดของอาจารย์ท ่านนี้เพราะใน รถตู้โดยสารคันที่ฉันนั่งออกมาเพื่อ กลับจ ากมหาวิทยาลัยคันนี้มีน้องๆ นักศึกษานั่งมาด้วยราวแปดเก้าคนซึ่ง แบ่งออกเป็นก ลุ่มๆและแต่ละกลุ่ม ที่มาด้วยกันก็จะคุยกันชนิดที่ลืมไปเลย ว่ามีคนหนึ่งที่ไม่ได้รวมอยู่ในกลุ่มใด กลุ่มห นึ่งนั่งมาด้วย “เฮ้ยไอ้แม็คเมื่อคืนมึงเป็นคนพา กูกลับห อปะก ูเมาอ่ะจำไม่ได้” “เออดิกูเอง..โอ้โห...สภาพทุเรศ สุดๆว่ะเมาทีไรเป็นแบบนี้ ทุกทีนะ มึง’” “เออๆช่างกูเถอะน่าแล้วคืนนี้จะ ไปไหนกันต่อล่ะห้องอิแนนหรือจะมา ห้องกูแ ต่บอกก่อนนะโว้ยงานนี้ไม่เมา ไม่เลิก” ฉันพยายามอย่างมากในการดึง สมาธิทั้งหมดทีมีให้อยูก่ ับหน้าหนังสือ 32 WRITE e-Magazine
ที่เปิดค้างไว้อ่านอ่านอ ่านและอ่าน แต่ก็ไม่เป็นผลตัวหนังสือเพียงผ่านตา ไปเฉยๆแต่ไม่ได้ซึมซับอ ะไรจากการ อ่านเลยเพราะในภวังค์ข องความคิด มีแต่เสียงแจ๋นๆใสๆทดี่ ังขรมของน้องๆ หญิงชายที่นั่งรายล้อมฉันอยู่ในรถตู้ “เออนี่!มึงรมู้ ั้ย!ไอ้โจมันมีแฟน ใหม่อีกแล้วนะมันทิ้งกไู ปแ ม่งเอ๊ย! กูล่ะเจ็บใจมันจริงๆ” บทสนทนาที่ดูเหมือนธรรมดาของ บรรดาสาวๆหนุ่มๆอีกก ลุ่มที่ รายล้อมทำให้ฉ ันต้องสะดุ้งแ ละหันไป ตามเสียงรูปร่างหน้าตาของนักศึกษา เหล่าน ั้นไม่ได้ขี้ริ้วแต่อย่างใดแต่ทำไม กิริยามารยาทจึงขัดกันอ ย่างสิ้นเชิง การกลับมาในทที่ เี่คยสุขเคยทุกข์ กับเพื่อนรักนักศึกษาด้วยกันอีกค รั้ง หลังจากห่างหายไปหลายปีคราวนี้ทุก อย่างเปลี่ยนแปลงไปตึกแ ละอาคาร เรียนต่างๆก็เปลี่ยนม ีเพิ่มเติมเสริม แต่งมีโยกย้ายที่ตั้งจนฉันเดินหลงมี ความแปลกตาไปกว่าท ี่เคยเห็นฉันค ง ต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงของที่นี่ ว่าหลายอย่างดีขึ้นมีการพัฒนาไปใน ทางที่ดีแต่หลายอย่างที่มันมากกว่า คำอธิบายข้อน ี้ฉันเองกต็ ้องยอมรับ เช่นกัน ประตูรถตู้คันเดิมถูกเปิดออก พร้อมๆกับน้องๆที่ทยอยลงหน้าห ้าง สรรพสินค้าแห่งเดียวกันก ับฉันยิ่งพวก เขาเดินห่างออกไปยิ่งทำให้ฉันเห็นการ หมุนไปของโลกอย่างไม่มวี ันสิ้นส ุด หากเป็นเมื่อก่อนตอนที่พวกฉันเรียน เราจะหอบและแบกหนังสือกันจน แขนโก่งกระโปรงจะยาวกรอมเท้ากับ รองเท้าหุ้มส้นที่แสนเชยเสื้อตัวใ หญ่ โคร่งและกระเป๋าสะพายที่บางคน เรียกว่าย่ามถูกใช้งานกันจนเปลี่ยนสี แต่น้องๆกลุ่มนี้เดินกันตัวป ลิวห นังสือ
สักเล่มไม่มตี ิดมือม ีเพียงความว่าง เปล่าที่ฉาบฉายออกมาให้เห็น ฉันยิ้มใ ห้กับสาวๆหนุ่มๆกลุ่ม นั้นนึกขอบคุณในใจที่ทำให้เห็นโลกอีก ด้านหนึ่งข องที่ที่เคยยืนฉันเองคงไม่ได้ วิเศษเลิศเลอไปกว่าห นุ่มสาวเหล่านั้น ภาพบางภาพที่มองเห็นยังคงมีฉันและ เพื่อนๆซุกซ่อนอยูใ่ นตัวต นของพวกเขา เพราะเราต่างก้าวล่วงวันวัยเหล่านั้น มาแล้วทั้งสิ้นหากแต่การก้าวล่วงของ พวกฉันม ิได้ว ่างเปล่าเฉกเช่นห นุ่มสาว เบื้องหน้า ฉันไม่รหู้ รอกว่าเมื่อวันใดวันหนึ่ง ข้างหน้าม าถึงน้องๆกลุ่มน ั้นพวกเขา จะยืนอยูต่ รงจุดใ ดของโลกใบนี้จ ะ ย้อนรำลึกและหันกลับมามองตัวเองใน อดีตเช่นเดียวกันก ับฉันแล้วย ิ้มให้ม ัน อย่างเปี่ยมสุขแบบนหี้ รือเปล่า หรือพ วกเขาอาจหลงลืมและไม่ คิดแ ม้แต่จะหันหลังก ลับม ามองก็เป็น ได้ฉันไ ม่สามารถบอกกล่าวบังคับห รือ อ้อนวอนให้ใครทำอะไรแบบเดียวกัน กับฉันไ ด้เพราะนั่นมันเกินก ำลังแ ละ ขีดค วามสามารถของคนเล็กๆอย่างฉัน คงมีเพียงสิ่งเดียวที่ฉันจ ะทำได้ใ นตอน นีค้ ือ...ยิ้มใ ห้พวกเขายอมรับใ นการ เปลี่ยนแปลงทั้งหมดเท่าทเี่ห็นและเป็น อยู่พร้อมกับก้าวเดินไ ปข้างหน้าอย่าง ทีเ่คยก้าวกค็ งเพียงพอสำหรับ ฉัน... d
โชว์ของ Text: ปรีญา-ญา
ไปงานสัปดาห์หนังสือแห่งช าติปนี ี้ได้หนังสือกลับม ามากมายจ ึงเอามาจัดใ ส่ตู้มองไปมองมาก ็เลยรื้อ หนังสือเก่า ๆ(ตามอายุนะคะ)มองเห็นอะไรบางอย่างที่น่ารักไม่ใช่น ้อยขออวดเลยละกันค่ะ หนังสือ“นารีปราโมทย์”พร้อมลายเซ็นนักเขียนสุดน่ารักชื่อ“ เอื้ออัญชลี”แต่คนในบู๊ทขายหนังสือเรียก “ท่านเซียน”ได้มาเมื่อวันท ี่23ตุลาคม51พร้อมรูปการ์ตูนที่เซียนบอกว่าเป็นตัวผูเ้ขียนเองแต่มองเผิน ๆ แล้วค ิดว่าเป็นตัวผีกระสือ^_^ รอบหน้าจ ะมาโชว์อ ีกนะคะมีอีกเพียบเลยค่ะ d
ท่านที่ต้องการโชว์ลายเซ็นต ์นักเขียนหรือหนังสือท ี่ประทับใจส ามารถส่งภาพและเรื่องมาได้ที่ niwat59@gmail.com WRITE e-Magazine 33
๑ รูป ๑ เรื่อง : ความทรงจำ text&Image: ชนินทร อุลิศ
จาพนมที่ผมรู้จัก
ผ มคดิ ว า่ ต วั เองคงเป็นค นกลุม่ แ รกๆ ข องประเทศไทยทรี่ วู้ า่ ช าย ร่างกำยำจากจงั หวัดส รุ นิ ทร์ผ นู้ จี้ ะตอ้ งโด่งด งั เป็นซ ปุ เปอร์ส ตาร์ สิ่งที่ผมทำให้ผมมั่นใจนั้นไม่ใช่ว่าเพราะผมเก่งหรือมีญาณ หยั่งรู้ใด ๆ เลย เพียงแต่หากคุณได้เห็นความสามารถของเขา คุณเองกต็ ้องมั่นใจเหมือนกับผ ม ภาพยนตร์เรื่ององค์บ ากฉบับหยาบ (Rough cut) ถูกส่ง มาให้ผมก่อนถึงวันที่หนังฉายหลายเดือน แม้ว่าการตัดต่อใน เรือ่ งยงั ไ ม่ส มบูรณ์แ ต่ส งิ่ ห นึง่ ท สี่ มบูรณ์ก ค็ อื ค วามสามารถของ เขาพ นมย ีรัมย์ ผมคงไม่ต้องบรรยายว่าเขามีความสามารถขนาดไหน เพราะผมเชื่อว่าคุณคงเคยเห็นความสามารถของเขามาบ้าง แล้วห ากคณ ุ ย งั ไ ม่เคยเห็นก ร็ บี ห าหนังเรือ่ งองค์บ ากหรือต ม้ ยำ กุ้งมาดูนะครับ(แต่ผมแนะนำว่าดูองค์บากดีกว่าครับ) หน้ า ที่ ข องผ มต อนนั้ น คื อ ก ารท ำโ ฆษณาใ ห้ กั บ ภาพยนตร์เรื่ององค์บาก งานในส่วนรับผิดชอบของผมคือ การเขียน “คำ” คำทุกอย่างที่ปรากฏในการทำโฆษณาทั้งใน โปสเตอร์ต วั อย่างหนังโ ฆษณาโทรทัศน์ส รุปก ค็ อื “ ค ำ”ท งั้ หมด นั่นแหละครับ ผมนั่งอ่านประวัติของเขาแล้วน่าสนใจ จา พนมเป็นคน ที่ชื่นชอบหนังของพันนา ฤทธิไกรมาก ครั้งหนึ่งพันนาได้มา 34 WRITE e-Magazine
พักที่เมืองสุรินทร์ จาขอร้องให้พ่อไปหาที่โรงแรม เมื่อพบกับ พันนา จากข็ อร้องให้พันน ารับเป็นศิษย์ ผมเคยคุยก ับพ พี่ ันนา พีเ่ ขาบอกวา่ ต อนนนั้ ห ากไม่ร บั จ าเป็นศ ษิ ย์จ าขวู่ า่ จ ะฆา่ ต วั ต าย แล้วใครจะใจดำไม่ร ับได้...จริงไ หมครับ ผมทำโฆษณาให้หนังเรื่ององค์บากอย่างมีความสุขที่สุด อาจจะมากที่สุดในชีวิตของการเป็นคนทำหน้าหนังก็ได้ ผม เขียนว่าหนังเรื่องนี้เป็นการประกาศศักดิ์ศรีภาพยนตร์ไทย ซึ่ง ผมคิดอ ย่างนั้นจริงๆแต่ค ำทดี่ ังที่สุดค งหนีไม่พ้น “ไม่ใช่ส ลิงไม่ใช่ตัวแ สดงแทน” ซึ่งคำๆนี้จะไม่มีหากจาไม่ไ ด้เป็นเช่นนั้นจริงๆ ครั้งแรกที่ผมได้เจอกับจาจริง ๆ นั้นเป็นวันที่ผมต้องไป สัมภาษณ์เขาเพือ่ ท ำรายการเบือ้ งหลังภ าพยนตร์อ งค์บ ากห ลัง จากทักทายกันแ ล้วประโยคแรกที่ผมพูดกับจ าก็คือ “จาตลี ังกาให้ดูหน่อย” จา พนมยิ้มอ าย ๆ แล้วก ่อนที่ผมจะทันตั้งตัว ตัวของเขา ก็ล อยขึ้นแ ละหมุนก ลับห ลังเป็นล ้อเกวียนหมุน360องศาและ กลับม าทรงตวั ใ นทา่ เดิมเหมือนไม่มอี ะไรเกิดข นึ้ ใ นเวลาชวั่ พ ริบ ตานั้นจาได้หมุนรอบตัวเอง 1 รอบ และมันกเ็ป็นเวลาชั่วพริบ ตาที่ผมไม่เคยลืมเลย วันนั้นผมกระซิบถามจาว่า “จริงห รือเปล่าถ้าพพี่ ันนา ไม่
รับเป็นล ูกศิษย์จะฆ่าต ัวตาย” จาหันซ้ายหันข วาแล้วตอบผมว่า“คงไม่ฆ่าต ัวตายหรอก พี่ผมคงจะหาวิธีอื่นต ่อไป” ผมหัวเราะก๊ากออกมาทันที จา พนมที่ผมเป็นรู้จักเป็นคนง่าย ๆ เขาเป็นคนที่เรียกได้ว่า “ยังไงก็ได้” ผมและทีมงานอยากจะถ่ายกี่เทคก็ได้ เรื่องมาก แค่ไหนก็ได้จาไม่เคยบ่น ครั้งที่สองที่ผมได้พบกับเขา เป็นการถ่ายโปสเตอร์เรื่อง องค์บาก จาก็ยังเหมือนเดิมเขายังทุ่มเทกับงานอย่างเต็มที่ และเมื่อเสร็จงานแล้ว ตามธรรมเนียมก็คือนักแสดงจะต้องได้ ค่าน้ำม ันรถโดยมากมักจะให้1,000บาททั้งนีก้ ็อยู่ที่ค่ายหนัง เขาตกลงกับนักแสดงไว้อย่างไร ผมถามจาว่า“มายังไงล่ะวันนี้” “นั่งแท็กซี่มาครับ” “เดี๋ยวพี่มีค่ารถให้จาด้วย” จาทำท่าครุ่นคิด เขาคงกำลังคำนวณค่ารถของเขาอยู่ ในใจ “ง ั้นผมขอ60บาทนะครับ” จาพนมเขาเป็นคนซื่อๆแ บบนี้เองครับ ถึงทุกวันนี้ (9 ตุลาคม 51) ภาพยนตร์องค์บาก 2 ยังไ ม่ ได้เข้าฉาย และแม้ว่าผมจะไม่ได้เป็นคนทำหน้าหนังให้กับ ภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างเต็มตัวเหมือนในคราวขององค์บาก ภาคแรก แต่เมื่อได้เห็นภาพบางส่วนก็ทำให้เห็นว่าความ สามารถของเขานั้นยังพัฒนาต่อเนื่องยิ่ง ๆ ขึ้นไป หากได้รับ การสนับสนุน แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีข่าวความขัดแย้งใด ๆ ระหว่างจา พนมและผสู้ ร้างหนังอ อกมากต็ ามแ ต่ผ มเชือ่ ว า่ ล กึ ๆ แ ล้วค วาม เป็นตัวตนของเขาจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง อย่างน้อยภาพของ จา พนมที่ผมรู้จักในคราวแรกนั้นจะยังคงอยู่ในความทรงจำ ของผมตลอดไป d
สังคมอุดมคติเป็นไปได้หรือไม่?
พบกับวรรณกรรมโลกสมมติ ยูโธเปีย ของ เซอร์ โธมัส มอร์ แปลโดย สมบัติ จันทรวงศ์ สำนักพิมพ์สมมติ
ห มายเหตุ 1.Candidภาพระหว่างการถ่ายทำโปสเตอร์อ งค์บาก2 2 .ผ เู้ ขียนเขียนบทความนจี้ ากเรือ่ งราวในความทรงจำห ากมคี วามเคลือ่ น ไปจากความเป็นจ ริงในรายละเอียดปลีกย ่อยต้องขออภัยม าณที่นี้
สั่งซื้อหนังสือสำนักพิมพ์สมมติ โทรศัพท์ 02-883-3260 WRITE e-Magazine 35
Music Fountain
text: หอมรำเพย
Trijntje Oost The Look of Love Burt Bachrach Songbook
Trijntje Oosterhuis The Look of Love Burt Bachrach Songbook
พ๊อพแจ๊สโซลสวิงเป็นเหมือนสายธารดนตรีสาย เดียวกันท ี่แยกแตกจากสายน้ำส ายใหญ่ของสายน้ำแห่ง ดนตรีบางครั้งม ีคนตั้งคำถามว่าเพลงร้องที่เป็นด นตรี แจ๊สจะแยกได้อย่างไรกับด นตรีพ๊อพ(P opMusic) ตั้งแต่อ ดีตจนถึงปัจจุบันด นตรีแจ๊สเองก็นำเพลงพ๊อพ มาตีความใหม่อย่างสม่ำเสมอนอกจากนั้นดนตรีแจ๊สก็ นิยมนำเพลงดังจากภาพยนตร์กลับมาขับร้องใหม่จน กลายเป็นเพลงสแตนดาร์ดในเวลาต่อมาก็มากแต่ ระหว่างแจ๊สกับพ๊อพนั้นมีความต่างอยู่ที่การตีความทาง ด้านดนตรีรวมถึงว ิธีการร้องเส้นแบ่งบางๆนี้แหละครับ ที่ทำให้เราสามารถแยกแยะได้ว่าน ักร้องคนไหนวงดนตรี ใดกำลังบ รรเลงเพลงชนิดไหนให้เราฟังอย่างเช่นบิลลี่ ฮอลิเดย์ก็มีวิธีเอื้อนวลีและเสียงที่แตกต่างจากเอลลา ฟิชเชอรัลและเอลลาก็มีความต่างจากซาราห์วอห์น หรือนักร้องในปัจุบันอย่างนอราห์โจนส์ก็มีเสียงและมี เทคนิคการร้องเพลงคาบเกี่ยวระหว่างพ๊อพแจ๊สและ คันทรี 36 WRITE e-Magazine
WRITE e-Magazine 37
ปลายเสียงของเทรนฌาเซ็กซี่เป็นเสียงร้องที่เป็น ธรรมชาติเธอจะไม่ขืนเสียงเกินก ว่าขอบเขตของ ตัวเอง ในปัจจุบันนักร ้องเพลงพ๊อพหลายคนนำเพลง แจ๊สมาขับร้องใหม่กันม ากรวมถึงTrijntjeOosterhuis นักร้องสาวจากเนเธอร์แลนด์ที่ค่อยๆสร้างสมชื่อเสียง จากแวดวงดนตรีในบ้านเกิดมาถึงยุโรปจนกระทั่งสาม ชุดล ่าสุดของเธอมาออกกับสังกัดBluenoteRecordซึ่ง เป็นส่วนหนึ่งของสังกัดEMIแม้ก่อนหน้านั้นเธอก็ออก แผ่นก ับEMIอ ยู่แล้วแต่การใส่ชื่อเธอลงในสังกัดบลูโน้ต ลงไปชัดๆจึงไม่ใช่เรื่องแปลกหรือเหนือความคาดหมาย ใดๆเพราะว่าต้นสังกัดต้องการนำชื่อเทรนฌามาตีตลาด เพลงพ็อพแจ๊สอย่างเป็นระบบนั่นเองและมันก็สัมฤทธิ์ ผลไม่น้อยเพราะอัลบัมชุดที่สองของเธอที่ออกกับ บลูโน้ตก ็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากแถมยังยกระดับจาก นักร้องเพลงพ๊อพธรรมดาไปได้หลายขุม เพลงในอัลบัมTheLookofLoveเป็นการ รวบรวมผลงานการประพันธ์ด นตรีของBurtBachrach มาเกือบทั้งหมดBurtBachrachเป็นทั้งนักแต่งเพลงนัก เปียโนชาวอเมริกันเขียนเพลงมามากมายและส่วนใหญ่ เป็นเพลงที่ฮิตๆทั้งนั้นเพลงTheLookofLoveแต่งขึ้น เพื่อน ำไปประกอบเพลงหนังเจมส์บอนด์007ตอนกา สิโนโรแยลเวอร์ชันปี1967ในเวอร์ชั่นนี้ขับร้องโดยดัสตี สปริงฟิลด์ไม่รวู้ ่าเป็นเพราะความบังเอิญหรือไรเพราะ การอัดแผ่นเสียงเพลงTheLookofLoveที่ดัสตีร้อง บันทึกเสียงออกมาได้ดีมากเสียงร้องของดัสตีสดใสมี ชีวิตช ีวาและกังวานดนตรีได้ไดนามิกทำให้เพลงได้รับ ความนิยมอย่างรวดเร็วและเวอร์ชันนี้ก็ส่งให้TheLook 38 WRITE e-Magazine
ofLoveเป็นเพลงสแตนดาร์ดไปทันทีโดยไม่มีข้อสงสัย นักร้องรุ่นใหม่ๆหลายคนทนี่ ำมาร้องกไ็ ม่สามารถข้าม กำแพงในเวอร์ชันของดัสตีไปได้มากนักเทรนฌาเองก็ เช่นกันแ ต่เหมือนว่าเธอจะรู้ก ารตีความเพลงนี้ของเธอ จึงไ ม่แปลกพิศดารแต่เน้นที่การร้องในแบบของเธอเอง เสียงร้องของเทรนฌามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว การที่เธอเป็นชาวเนเธอแลนด์ทำให้การออกสำเนียง ในภาษาอังกฤษของเธอแตกต่างจากคนอังกฤษหรือ คนอเมริกันบวกกับเสียงที่มีเสน่ห์อย่างเหลือเชื่อทำให้ การร้องของเธอมีความโดดเด่นจากนักร้องเพลงพ๊อพ ทั่วไปป ลายเสียงของเทรนฌาเซ็กซี่เป็นเสียงร้องที่เป็น ธรรมชาติเธอจะไม่ขืนเสียงเกินกว่าขอบเขตของตัวเอง เหมือนอย่างที่นักร้องเพลงประกวดในบ้านเราชอบทำ คือพ ยายามโชว์พ ลังเสียงกันอย่างไม่สนใจว่ามันควรจะ ตีความดนตรีถึงขนาดไหนซ ึ่งเพลงบางเพลงไม่จำต้อง โหนเสียงให้ดูยิ่งใหญ่โดยเฉพาะเพลงรักน ักร้องที่ผ่าน การฝึกฝนในด้านการตีความดนตรีมาอย่างเข้มข้นน่าจะ เข้าใจลึกซึ้งว่าอารมณ์ของเพลงมีความสำคัญเท่าๆ ก ับ เสียงร้องถ้าหากเราไม่สามารถทำให้คนฟังเชื่อได้ว่า วลีที่เราร้องออกมาเป็นภาษามันจะสอดรับกับอารมณ์ ความรู้สึกหรือไม่น ักร้องทที่ ำได้อย่างกลมกลืนก ็จะทำ ให้อัลบัมน ั้นน่าสนใจน ่าฟังก ว่าเสียงร้องทไี่ ร้ซึ่งอารมณ์ ความรู้สึกของผู้ร้องหรือส ักแต่ว่าเปล่งเสียงออกไปให้ยิ่ง ใหญ่กว่าเนื้อเพลง สิบสี่เพลงในอัลบัมT heL ooko fL oveส่วน
ใหญ่เป็นเพลงที่นักฟังเพลงคุ้นเคยอยู่แล้วหรือถ้านักฟัง เพลงทเี่ริ่มฟังเพลงใหม่อ ัลบัมนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดียิ่งฟัง หลายเที่ยวยิ่งทำให้รักเทรนฌาเพิ่มขึ้นหลายเท่าต ัว นอกจากเพลงเด่นตามชื่ออัลบัมแล้วยังมีเพลง ที่น่าสนใจอย่างเช่นDoYouKnowTheWaySan Jose?ซึ่งเป็นเพลงเปิดอัลบัมการเลือกเพลงนี้มาเป็น เพลงแรกทำให้ผู้ฟังต้องขยับเท้าส ่ายสะโพกกันตั้งแต่ เพลงแรกเลยทีเดียวที่มันสุดๆก็คือการได้วงสนับสนุน ดนตรีอ ย่างMetropoleOrchestraบรรเลงในแบบบิ๊ก แบนด์แบบนี้แหละครับที่ทำให้โ หยหาไปในยุคสี่สิบที่ แสนน่าพิศมัย ยังไม่พ อครับI’llNeverFallinLoveAgain เทรนฌาก็ร้องได้อย่างดีต ่อด้วยเพลงจงหวะเร็วอีกเพลง คือWalkOnB yส ่วนเพลงจังหวะช้าๆซาบซึ้งใจ เทรนฌาดูจะทำได้ด ีเป็นพิเศษเช่นWaitingForCharlie (ToComeH ome)หรือT heWindowofTheWorld เธอกใ็ ช้เสียงที่ชวนเสน่หแ์ หวกไปสู่เพลงที่ทรงพลังอย่าง เหลือเชื่อเสียงของเทรนฌาไม่ได้หวานหรือเซ็กซี่อย่าง เดียวแต่เจือด้วยความอบอุ่นและชวนให้เคลิบเคลิ้ม
เพลงที่พลาดไม่ได้อีกเพลงคือ( TheyLong ToB e)C losetoY ouเพลงทวี่ งดูโอเดอะคาร์เพนเธอ ร์ร้องจนโด่งดังแ ละผมกไ็ ม่คิดว่าใครจะร้องได้ดีเท่าคา เรนอ ีกแล้วเพลงC losetoYouเป็นสแตนดาร์ดที่มีนัก ร้องนำไปCoverใ หม่กันทุกแนวตั้งแต่ร็อคอ าร์แอนด์ บีพ ๊อพแ จ๊สท ำกันทุกแนวการเอาเพลงฮิตมาร้องกต็ ้อง ถูกเปรียบเทียบเป็นธรรมดาร ้องได้ดีก็แค่เสมอตัวถ ้าทำ ออกมาทำนองและการร้องแย่กว่าเดิมนิดหน่อยก็ถือว่า ตกนรกแฟนเก่าก็โห่แ ฟนใหม่ไ ม่รับแต่อ ย่างที่บอก เทรนฌานั้นไม่เปลี่ยนแปลงอะไรกับดนตรีมากนักเธอ เน้นทเี่สียงร้องและความเป็นธรรมชาติของเธอเองจ ึงทำ ให้อ ัลบัมนเี้ป็นอัลบัมที่ลงตัวที่สุดอัลบัมห นึ่ง TrijntjeT heL ookofL oveคือส ะพานเชื่อม พ๊อพ กับแจ๊สทรงเสน่ห์อย่างที่สุด d
WRITE e-Magazine 39
Book & Movie text: พลพะยาบ
WaitingforGodot คอยโกโดต์ เมือ่ เร็วๆน ี้ ผ เู้ ขียนได้ไ ปชมละครเวทีเรือ่ งหนึง่ ท เี่ ครสเซนต์ มูนสเปซสถาบันปรีดีพนมยงค์หลังจากชมแล้วเกิดติดใจวัน รุ่งขึ้นจ ึงรีบโทร.จองบัตรเพื่อชมซ้ำในอีกไม่กวี่ ันต่อมา ในฐานะขาจรละครเวที...ยอมควักกระเป๋า 2 หน กับ ทนเดินทางฝา่ รถตดิ เข้าเมือง2รอบได้ขนาดนี้ ละครเวทีเรื่องที่ ว่าต้องไม่ธรรมดาแน่นอน ว่าแ ต่ละครเวทีเกี่ยวอะไรกับหนัง-วรรณกรรม เกี่ยวครับ เพราะละครเวทีเรื่องดังกล่าวมีชื่อแปลกๆ ว่า “คอย ก.ด.” ซึ่งหลายคนคงนึกโยงไปได้ถึง “คอยโกโดต์” บท ละครเรื่องดังนั่นเองความติดใจจากละครเวทีทำให้ลองค้นหา “คอยโกโดต์”ในฉบับภ าพยนตร์มาดูบ้างกระทั่งก ลายมาเป็น หนัง-วรรณกรรมคราวนี้ ค อยโกโดต์-W aitingforG odotเป็นบ ทละครเรือ่ งสำคัญ แห่งศ ตวรรษที่ 2 0ผ ลงานของแ ซมวลเบคเกตต์( 1 906-1 989) นักประพันธ์-กวี-นักเขียนบทละครชาวไอริช เจ้าของรางวัล โนเบลปี1969เบคเกตต์เขียนWaitingforGodotเป็นภาษา ฝรัง่ เศสในชอื่ E na ttendantG odotต พี มิ พ์เผยแพร่เมือ่ ป ี 1 952 ก่อนจะเปิดแสดงครั้งแรกในกรุงปารีสเดือนมกราคมปี 1953 ต่อม าเบคเกตต์แ ปลบทละครเป็นภ าษาองั กฤษแ ละเปิดแ สดง ครั้งแรกในกรุงลอนดอนปี1955 ส ำหรั บ ฉ บั บ ภ าษาไ ทยชื่ อ “ ค อยโ กโ ดต์ ” เ พ็ ญ ศ รี เผ่าเหลืองทองไ ด้แ ปลไว้ป ระมาณพ .ศ .2 515เพือ่ ท ำเป็นล ะคร เวทีโดย รัศมี เผ่าเหลืองทอง เป็นผู้กำกับการแสดง รอกระทั่ง คอยโกโดต์,สนพ.มติช นพ .ศ.2 539 พ.ศ.2539 บทละครคลาสสิคฉบับแปลเรื่องนี้จึงได้มีโอกาส ตีพิมพ์เป็นเล่มโดยสำนักพิมพ์มติชน เวลาเอ่ยถึงWaitingforGodotคำที่ถูกหยิบยกมากล่าว ถึงพร้อมกันเสมอคือค ำว่าแอ็บเสิร์ด(absurd)หรือแนวละคร Theatre of the Absurd ราวกับเป็นตัวแทนเรื่องที่โดดเด่น มากที่สุดละครแอ็บเสิร์ดเกิดขึ้นห ลังสงครามโลกครั้งท ี่2เป็น 40 WRITE e-Magazine
SamuelBeckettParisCafé ภาพโดยJohnM inihan
ปฏิกิริยาของศิลปินที่มีต่อหายนะและวิกฤตการณ์ต่างๆ ใน สังคมโลก พวกเขามองว่าชีวิตนี้ไร้สาระ ไร้เหตุผล ไร้แก่น- สาร ปราศจากจุดหมาย และยอมจำนน แนวละครแอ็บเสิร์ด จึงสอดคล้องหรือได้รับอิทธิพลจากปรัชญาอัตถิภาวนิยม (E xistentialism)แ ละความเคลือ่ นไหวทางทศั นศลิ ป์อ ย่างดาดา (Dadaism)และแนวเหนือจริง(S urrealism)ซึ่งปรากฏตั้งแต่ หลังส งครามโลกครั้งท ี่1 ลักษณะของบทละครแอ็บเสิร์ดจะหยิบยกสถานการณ์ หรือเหตุการณ์ม ากกว่าก ารเล่าเรือ่ งราวไ ม่ย ดึ ต ดิ ก บั โ ครงสร้าง ของละครแบบเก่า ให้ความสำคัญต่อการกระทำของตัวละคร มากกว่าคำพูด เนื่องจากคำพูดไม่สามารถสื่อความหมาย ได้จริงแท้ นำเสนอความคิดผ่านสัญลักษณ์หรือการอุปมา อุปไมย นอกจากเบคเกตต์แล้ว นักเขียนบทละครคนอื่นที่ถูกจัด เข้าก ลุม่ แ อ็บเสิรด์ เช่นฌ องเฌอเนต์,เอ็ดเวิรด์ อ ลั บ ,ี้ อ าร์เธอร์ อดามอฟ,ย จู นี อ โิ อเนสโกอ ย่างไรกต็ ามน กั เขียนเหล่าน มี้ กั จ ะ ไม่ยอมรับการจัดกลุ่มดังกล่าว รวมถึงเบคเกตต์ซึ่งปฏิเสธมา ตลอดด้วยเหตุผลเพื่อให้ค วามคิด- การแสดงออกของพวกเขา เป็นอิสระจากทฤษฎีใ ดๆ Waiting for Godot เป็นละคร 2 องก์ ไม่ระบุฉากและ วัน- เวลาชดั เจนน อกจากสถานทที่ มี่ ตี น้ ไม้ใ บโกร๋นต น้ ห นึง่ แ ละ เวลากลางวนั -ก ลางคนื ต วั ล ะครชาย2 ค นค อื เอสทรากอนและ วลาดมี ีร์กำลังร อคอยใครคนหนึ่งที่ชื่อว ่าโกโดต์ทั้งส องไม่รจู้ ัก WRITE e-Magazine 41
ว่างเปล่า หมดหวัง เป็นทุกข์ คือบรรยากาศและอารมณ์ที่ฉาบคลุม Waiting for Godot เหมือนว่ามนุษย์อย่างตัวละครในเรื่องกำลัง สร้างความหวังขึ้นมาปลอบใจตัวเอง หรือเพื่อยึดเหนี่ยวไว้ในการ ดำเนินชีวิตต่อไป โกโดต์ไม่รู้กระทั่งว่าโ กโดต์เป็นใครรู้เพียงว่าต้องคอยถ้าวันนี้ ไม่ม ากต็ อ้ งมาคอยตอ่ ใ นวนั ร งุ่ ข นึ้ ร ะหว่างการรอคอยอนั น า่ เบือ่ หน่ายไร้จุดหมายพวกเขาพูดค ุยกันทะเลาะกันกินนอนเดิน ไปเดินม าบ างเวลาตา่ งคนตา่ งหมกมุน่ ก บั ต วั เองแ ล้วก ช็ วนกนั แขวนคอตายกับต้นไม้ต้นนั้นแต่พวกเขาไม่มีเชือกจึงส ัญญา กับตัวเองว่าว ันพรุ่งนี้จะนำเชือกมาด้วย ทั้ง2องก์มีผู้มาเยือนชื่อปอซโซ่แ ละลัคกี้ปอซโซ่เป็นเจ้า นายส่วนลัคกี้เป็นข้ารับใช้หอบหิ้วสัมภาระพะรุงพะรังท่าทาง เซื่องซึม ไม่พูดไม่จา ยกเว้นเมื่อถูกสั่งให้ “คิด” ออกมาเป็น คำพูด ส่วนองก์สองปอซโซ่ยังคงเป็นเจ้านายของลัคกี้ แต่ คราวนี้เขากลายเป็นคนตาบอดขณะที่ลัคกี้เป็นใบ้ ใ นชว่ งทา้ ยของแต่ละองก์จ ะมเี ด็กช ายมาบอกเอสทรากอ นกับวลาดมี รี ว์ า่ ว นั น โี้ กโดต์ไ ม่ม าแ ต่จ ะมาในวนั พ รุง่ น ี้ พ วกเขา จึงชักชวนกันกลับแต่ก็ไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหน ว่างเปล่า หมดหวัง เป็นท ุกข์ คือบรรยากาศและอารมณ์ ที่ฉาบคลุมWaitingforGodotเหมือนว่ามนุษย์อย่างตัวล ะคร ในเรื่องกำลังสร้างความหวังขึ้นมาปลอบใจตัวเอง หรือเพื่อ ยึดเหนีย่ วไว้ใ นการดำเนินช วี ติ ต อ่ ไ ปห ลายคนตคี วามวา่ G odot หมายถึงGod(พระเจ้า) แต่เบคเกตต์ไ ม่เคยยอมรับซ้ำย ังแย้ง ว่าเขาเขียนบทละครเป็นภ าษาฝรัง่ เศสถ า้ จ ะมคี วามหมายเช่น นั้นจริงๆคงเกิดขึ้นโดยที่เขาไม่รู้ตัว แม้บทสนทนาจะเลื่อนลอยเรื่อยเปื่อย แต่หลายคำพูด หลายประโยคชวนให้ขบคิดตีความไปได้มากมาย ประกอบ กับเหตุการณ์ไร้จุดเริ่มและบทสรุป ทำให้ปริศนาแห่งคอย โกโดต์ขยายปริมณฑลทางความคิดไปได้กว้างไกล ไม่ว่าจะ เป็นเรื่องการเมืองจิตวิทยาปรัชญาคริสต์ศาสนาสังคมวิทยา แม้กระทั่งแง่มุมโฮโมอีโรติก ตามแต่ใครจะมองไปในทางไหน 42 WRITE e-Magazine
โดยเบคเกตต์ไม่เคยเออออเห็นด้วยหรือชูธงปฏิเสธความคิด ใดน อกจากบอกเพียงว่านคี่ ือเรื่องของมนุษย์ การเรียกร้องเปิดกว้างให้ใช้ความคิดอย่างไร้ข้อสรุปคือ เสน่ห์ที่ทำให้บทละคร Waiting for Godot ยืนอยูแ่ ถวหน้ามา จนถึงท ุกวันนี้ ส ำหรับล ะครเวทีเรือ่ ง“ ค อยก .ด .” (W aitingforG .D .:the missionimpossible?)กำกับการแสดงโดยดำเกิงฐิตะ ปิยะ- ศักดิ์ ที่เคยมผี ลงานกำกับล ะครเวที อาทิ กับดัก, เมตามอร์โฟ ซิส,เฟ้าสต์,ราโฌมอนคอนโดมิเนียมความพิเศษอันแ ตกต่าง จากบทละครต้นฉบับคือ ดำเกิงทำให้คอยโกโดต์เวอร์ชั่นนี้มี ความเบาสบายมากขึ้น ไม่หดหู่หม่นหมอง มีการมองโลกใน แง่ดีอยู่บ้าง ที่สำคัญคือเปลี่ยนตัวละครให้เป็นผู้หญิงทั้งหมด ปรับบ ทโดยยดึ เพียงเค้าโครงบ ทพดู บ างสว่ นแ ละรายละเอียด ของการกระทำส่วนใหญ่ รวมถึงเปลี่ยนสัญลักษณ์และนัยยะ ให้ส อดคล้องกบั ส งั คมไทยปจั จุบนั ( เช่นเอ่ยถ งึ พ จมานส ะพาน มัฆวานไ ฮไฟว์ฯ ลฯ) อ งค์ป ระกอบดงั ก ล่าวทำให้ล ะครดสู นุกสนานข บขันผ า่ น การกระทำและคำพดู ข องตวั ล ะครโ ดยเฉพาะจากการแสดงอนั จัดจ ้านปลดปล่อยอย่างเป็นอิสระของนักแสดงทั้งสี่ประกอบ ด้วยจารุนันท์พันธ์ช าติในบทต.ก.( เทียบได้กับเอสทรากอน) สินนี าฏเกษประไพใ นบทส .ล .(ว ล าดมี รี )์ ส มุ ณฑาส วนผลรตั น์ ในบทล.จ.(ป อซโซ่) และฟารดี าจิราพันธุ์ในบทช.ร .(ล ัคกี้)ซึ่ง การแสดงของฟารีดาในฉาก “ทะลักทลายความคิด” ถือเป็น ไฮไลต์อ ันน่าตื่นตะลึงข องละครเลยทีเดียว มาดูคอยโกโดต์ใ นรูปแบบภาพยนตร์ก ันบ ้าง... เนือ่ งจากลกั ษณะของบทละครไม่ม พี ล็อตไ ม่มพี ฒ ั นาการ ของเรื่องราวและตัวละคร ขาดจุดสนใจในทางใดทางหนึ่ง จึง
เป็นข้อจำกัดสำหรับนำมาแปรรูปบนแผ่นฟิล์ม นอกเสียจาก ว่าผู้สร้างตั้งใจนำเสนอความเป็น Waiting for Godot ผ่าน ภาพยนตร์ รูปแบบหนังที่ฉายทางโทรทัศน์ซึ่งลงทุนน้อยกว่า และเดินเข้าหากลุ่มเป้าหมายได้โดยตรงจึงเป็นทางออกที่ เหมาะสมที่สุดดังนั้นหนังWaitingforGodotส่วนใหญ่จาก จำนวนไม่ม ากนกั จ งึ เป็นห นังท สี่ ร้างขนึ้ เพือ่ ฉ ายทางโทรทัศน์ซ งึ่ แน่นอนว่าคงหาชมย้อนหลังได้ยากอย่างยิ่ง อ ย่างไรกต็ ามเมือ่ ไ ม่น านมานมี้ โี ปรเจคต์พ เิ ศษของสถานี วิทยุโ ทรทัศน์ส าธารณะของไอร์แลนด์ค ณะกรรมการภาพยนตร์ แห่งไ อริชร วมทงั้ แ ชนแนล4 ข องสหราชอาณาจักรจ ากไอเดีย ต่อเนื่องของ ไมเคิล โคลแกน ผู้อำนวยการเกต เธียเตอร์ ใน
ดับลิน นำบทละคร 19 เรื่อง ของเบคเกตต์ มาถ่ายทอดเป็น ภาพยนตร์ภ ายใต้ช อื่ ว า่ B ecketto nF ilmอ อกฉายตามเทศกาล ภาพยนตร์แ ละทางโทรทัศน์แ ชนแนล4 ช ว่ งปี 2 000-2 001ก อ่ น จะออกจำหน่ายในรูปแบบวิดีโอและดีวีดีบ็อกซ์เซ็ต แ ต่ ล ะเ รื่ อ งข องห นั ง เ บคเ กตต์ ชุ ด นี้ ถื อ ว่ า มี เ ครดิ ต ไ ม่ ธรรมดา เพราะได้ผู้กำกับภาพยนตร์และนักแสดงมีชื่อเสียง หลายคนมาร่วมงานเช่นเรื่องEndgameได้ไมเคิลแกมบอน และเดวิดธิวล ิสสองนักแสดงจากหนังชุดHarryPotterแสดง นำอะตอมอโี กยานกำกับจอห์นเฮิร์ตในเรื่องKrapp’sLast Tapeอล ันริคแมนจับคู่คริสติน สก็อตต์โธมัสในเรื่องPlay ภายใต้ง านกำกับข องแอนโธนี่มิงเกลล่าขณะที่นีลจอร์แดน กำกับจ ูลีแอนน์มัวร ์ในNotI สำหรับ Waiting for Godot กำกับโ ดย ไมเคิล ลินซีย์-ฮ็ อกก์ สวมบทบาทโดยนักแสดงมากประสบการณ์ชาวไอริช 4 คนใช้ก ารตัดต ่อเคลื่อนกล้องปรับร ะยะภาพโดยไม่ต ิดย ึดก ับ รูปแบบละครเวที ทำให้ผู้ที่คุ้นเคยกับ Waiting for Godot ใน แบบเดิมๆไ ด้สัมผัสเรื่องราวการรอคอยด้วยมุมม องใหม่ ก ระนัน้ ใ นความรสู้ กึ ข องผเู้ ขียน...ก ารปรุงแ ต่งแ ม้ด ว้ ยวธิ ี พื้นฐ านของภาพยนตร์ก ็ทำให้“ความแอ็บเสิร์ด”ของบทละคร เจือจางลงไปพอสมควร ยังมี Waiting for Godot อีกฉบับหนึ่งซึ่งน่าสนใจเป็น พิเศษเพราะเบคเกตต์ล งมือก ำกับด ว้ ยตนเองเริม่ ต น้ จ ากการที่ เบคเกตต์ก ำกับล ะครของเขา3เรื่องได้แก่WaitingforGodot ,Krapp’sLastTapeและEndgameตระเวนแสดงในยุโรป WRITE e-Magazine 43
และเอเชียใ นชอื่ B eckettD irectsB eckettจ ากนนั้ จ งึ ไ ด้บ นั ทึก เทปสำหรับฉายทางโทรทัศน์โดย วอลเตอร์ แอสมัส และอลัน แมนเดลท ำหน้าทีก่ ำกับด แู ลผา่ นการตดั สินใ จของเบคเกตต์อ กี ทีห นึง่ ใ นไตเติล้ ข องหนังจ งึ ไ ม่ไ ด้ใ ช้ค ำวา่ d irectedb yS amuel Beckett แต่จะใช้ชื่อแอสมัสเป็นผู้กำกับ แล้วตามด้วยคำว่า basedonthemise-e n-s cenebySamuelBeckett Waiting for Godot ออกอากาศครั้งแรกในปี 1988 ทางช่องพีบีเอส สหรัฐอเมริกา ความยาวประมาณ 2 ชั่วโมง 17น าทีด ว้ ยรปู แ บบการนำเสนอใกล้เคียงกบั ล ะครเวทีใ ช้ภ าพ หลักเป็นภ าพระยะไกลจากดา้ นหน้าม องเห็นข อบเขตของฉาก และผู้แสดงมีการตัดต่อภาพระยะกลางและระยะใกล้บ้างแต่ ไม่บ อ่ ยนกั เพือ่ ล ดความจำเจใ ช้ต น้ ไม้ป ลอมและทาสีฉ ากร วม ทั้งกำกับแ สง-เงาด้วยวิธีการเดียวกับละคร เนื่องจากบทละคร Waiting for Godot แทบจะไม่มีราย ละเอียดของฉากและตัวละคร ผู้อ่านหรือผู้นำบทละครไปจัด แสดงจึงต้องแต่งเติมจินตนาการเอาเองหรืออิงตามผู้เคยทำ มากอ่ นแ ต่ใ นเมือ่ น เี่ ป็นการกำกับก ะเกณฑ์ข องเบคเกตต์เองจงึ เป็นไ ปได้ทเี่ ราจะได้ช มภาพอนั ใ กล้เคียงกบั จ นิ ตนาการของเขา ขณะเขียนเรื่องนี้ไม่ว่าจ ะเป็นบุคลิกสีหน้าท่าทางจังหวะการ 44 WRITE e-Magazine
เคลือ่ นไหวและการพดู ต ำแหน่งแ ห่งห นบนเวทีข องตวั ล ะครไ ป จนถึงอารมณ์โ ดยรวมว่าสว่างหรือมืดห ม่นเพียงใด หมายเหตุสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ Waiting for Godot ฉบับ Beckett Directs Beckett ถูกสร้างและออกฉายก่อน ที่ เบคเกตต์จ ะเสียชีวิตใ นเดือนธันวาคมปี1 989เพียง1 ป ี การรอคอยอันไร้แก่นสารครั้งนี้จึงยิ่งมีคุณค่าน่าจดจำ เป็นพิเศษ d
WRITE e-Magazine 45
CINEMANIA Text: วรี พงษ์สนุ ทรฉัตราวัฒน์
SpiderLilies
โลกใบร้อนของช่างสัก ‘เบื้องหลังรอยสักมีความลับซ ่อนอยู่’ ประโยคนี้สะกิดให้ต่อมคิดของคนที่ดูหนังเรื่องSpider Liliesทำงาน--ค วานหาคำตอบในฐานะคนดูหนังคนหนึ่งผม สนใจสิ่งที่ซ่อนอยู่ในเด็กสาวที่ชื่อเฉียวลี่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ หลังเกิดแผ่นดินไหว-เธอกลายเป็นเด็กพร่องรัก เพราะ แม่ของเธอเลือกที่จะทิ้งเธอไว้กับย่าตาบอดเพียงลำพังประสา ยาย-ห ลาน เฉียวลี่ดำรงชีวิตอย่างเด็กหิวรักแล้วอิ่มเอมอย่างขาด พร่องเมื่อพบเจอและจากลากับทาเคโกะหญิงสาวรุ่นพี่ซึ่ง เฉียวลบี่ อกว่านี่คือรักครั้งแรกเธอจดจำรอยสักรูปดอกSpiderLiliesบนท่อนแขนของทาเคโกะได้อย่างฝังใจ เติบโตเป็นเด็กสาว-เฉียวลี่ใช้ชีวิตอย่างเหงาๆยังชีพ ด้วยการเป็นส าวเว็บแ คมซึ่งต ้องเรียกความสนใจให้คนใน โลกออนไลน์เข้ามาแชตแบบส่วนตัวก ับเธอมากที่สุด(เพราะ หมายถึงเม็ดเงินที่ต้นสังกัดจะหักให้) ด้วยวิธหี ลอกล่อต่างๆ นานาโ ชว์เนื้อข าวเนินถัน และโฆษณาชวนเชื่อว ่าหากใคร เข้ามาแชตแบบส่วนตัวกับเธอเธอจะโชว์รอยสัก แต่เธอไม่มีรอยสักบนเรือนร่าง เฉียวลี่ได้พบเจอกับทาเคโกะ(สาวสวยซึ่งตอนนี้กลาย เป็นช่างสัก)อีกครั้งเฉียวลี่อ้อนวอนให้ทาเคโกะสักรูปSpiderL iliesให้แก่เธอเธอต้องการรอยสักนั้นมากพอๆกับโหย หาความรักจากทาเคโกะ บางทีร อยแผลจากการสัก(มันอาจรวมถึงความรักจาก ทาเคโกะและสิ่งที่หายไปในวัยเด็ก)อาจมาทับและบดบัง รอยแผลที่สลักในใจเธอมาแสนนาน ประโยคที่ว่า‘เบื้องหลังร อยสักมีความลับซ่อนอยู่’จริง ไม่น้อยในโลกภาพยนตร์ทว่ามันดูจริงจังเสียมากในโลก ความจริงเพราะผมเชื่อตรรกะที่ว่า‘ความลับเป็นส ิ่งเดียวกับ ความจริง’ 46 WRITE e-Magazine
ดังนั้นในโลกความจริง- เบื้องหลังรอยแผลจึงมี ความจริงปรากฏ 1 พายุนากีสที่โบยตคี นพม่าเมื่อต้นเดือนพฤษภาคม2551 ทำให้มผี ู้เสียชีวิตแ ละสูญหายประมาณกันอย่างหยาบๆ 133,000ร ายขณะทมี่ ิตรประเทศต่างยื่นมือเพื่อช่วยเหลือ รัฐบาลพม่าก ลับป ฏิเสธความช่วยเหลือนั้น ทางด้านองค์การสหประชาชาติหรือUNประมาณการ ว่าผปู้ ระสบภัยใ นบริเวณที่ราบปากแม่น้ำอิรวดีร าว1ล้าน คนยังคงไม่ไ ด้รับความช่วยเหลือจากที่นานาชาติส ่งเข้าไปให้ ขณะที่บางส่วนที่อาศัยอ ยูใ่ นรอบกรุงย ่างกุ้งก ็ได้รับความช่วย เหลือเพียงเล็กน ้อยเท่านั้น WRITE e-Magazine 47
จะด้วยเหตุผลใดก็ตามที่ทำให้รัฐบาลพม่าปฏิเสธ ความช่วยเหลือน ี้ก ็ปฏิเสธไม่ได้เช่นก ันว่ารัฐบาลพม่าใจดำ ยิ่งกว่าก า บางคอข่าวอุทานออกมาหน้าจอโทรทัศน์และหลัง กระดาษหนังสือพิมพ์ว่าชั่วร้ายพอๆกับพ่อ-แม่ทิ้งลูกในไส้ โหดเหี้ยมราวพ่อโฉดข่มขืนลูกสาว ล่าสุด-รัฐบาลพม่าย ินยอมให้ทีมผู้เชี่ยวชาญจาก อาเซียนเข้ามาประเมินความเสียหายเพื่อเป็นตัวเชื่อมให้UN เข้าไปช่วยเหลือพ ม่าอีกทอดหนึ่ง เมื่อพายุสงบกว่าอาเซียนจะประเมินค วามเสียหายก็อีก ประมาณหนึ่งเดือนแต่ก่อนหน้าน ี้ ข้าวของขึ้นราคาไปหลายเท่าตัว บ้านเรือนที่เคยอาศัยละลายไปกับพายุ โรคระบาด ผู้ประสบภัยไม่มีที่อาศัยอ ยู่(แม้เป็นการชั่วคราว) สามีหนุ่มตาย-ภรรยาสาวอยู่คนเดียว พ่อแม่ไม่กลับมายังผืนด ินที่เคยมีบ้านตั้งอยู่-ลูกน้อยยืน ร้องไห้ ทุกอย่างกระจัดกระจาย เมื่อถึงวันนั้น-สองเดือนหลังภัยพิบัติและก่อนที่อาเซียน ประเมินค วามเสียหายเสร็จระหว่างนี้ประชาชนก็คงอยู่กัน ได้-รัฐบาลพม่า(ค ง)คิด(เช่นน ี้) 2 ในอิรัก(2006)* -ประชาชนชาวอิรักเสียชีวิตจากความขัดแ ย้งด้านลัทธิ ศาสนาย อดสูงถึง2,186รายในเดือนธันวาคมหรือประมาณ 75รายต่อวัน -กองทัพสหรัฐได้แจ้งยอดทหารเสียชีวิตในสงคราม อิรักทั้งหมดสูงถ ึง3,000นายภายในระยะเวลา46เดือนนับ ตั้งแต่เกิดค วามขัดแย้ง -กระทรวงสาธารณสุขกลาโหมและมหาดไทยของอิรัก ได้รายงานยอดสถิติผู้เสียช ีวิตปี2006ในอิรักทั้งทหารและ พลเรือนจำนวน16,273รายแยกเป็นยอดพลเรือนสูงถึง 14,298รายตำรวจ1,348รายและทหารอีก627ราย -เมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา(2006)ชาวอิรักได้ลง ทะเบียนอพยพย้ายถิ่นมากกว่า108,000คนและนับตั้งแต่ เดือนก.พ .ชาวอิรักมากกว่า432,000คนได้อพยพออกไป ในอัฟกานิสถาน(2 006) 48 WRITE e-Magazine
น ับตั้งแต่สหรัฐเข้ามากวาดล้างกลุ่มต าลีบันในปี2001 นับว่าป ี2006เป็นปีที่มียอดประชาชนผู้เสียชีวิตส ูงสุดถ ึง ประมาณ40,000คนโ ดยมีสถิตกิ ารเกิดระเบิดพลีช ีพ117 ครั้ง( เพิ่มจากปี2005ถึง6เท่า)ส ังหารชาวอัฟก ันถึง206 รายเจ้าหน้าที่อัฟก ัน54นายและทหารก องกำลังน านาชาติ ของนาโต18นายส่วนยอดจำนวนทหารสหรัฐท ี่เสียชีวิต ในอัฟกานิสถานมีประมาณ87นายในปี2006ซึ่งต ่ำกว่าป ี 2005ทมี่ ียอดทหารสหรัฐเสียชีวิต93นาย ระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ จากสถิตทิ ชี่ าวปาเลสไตน์ถ ูกอิสราเอลสังหารมียอดสูง ถึง660ร ายในปี2006ซึ่งม ียอดสูงก ว่าปีที่ผ่านมา3 เท่า ข้อมูลจ าก ยังม ีสงครามซุกซ่อนอยูแ่ ทบทุกมุมโ ลกและยังมี สงครามทพี่ ร้อมจะเกิดอ ีกไ ม่น้อย จำนวนผู้เสียชีวิตมากน้อยต่างกันส าเหตุของสงคราม
ต่างกันบ ้างเป็นสงครามแย่งชิงทรัพยากรและอำนาจบ้าง เป็นสงครามระหว่างประเทศบ้างเป็นสงครามศาสนาบ้าง เป็นสงครามของคนกินข้าวหม้อเดียวกัน แต่ส ิ่งที่มีเหมือนกันในทุกสนามสงครามนั่นคือความ สูญเสียแ ละผู้รอดชีวิตค ือผู้ที่ถูกทิ้งอย่างโดดเดี่ยว 3 ท่ามกลางจำนวนตัวเลขของผู้เสียชีวิต ไม่ว่าจะในพม่าจีน อิรักอัฟกานิสถานหรือแ ม้แต่3 จังหวัดช ายแดนภาคใต้ผม ลอบมองจำนวนอย่างหยาบๆของผู้เสียชีวิตพลันนึกถึงผู้หลง เหลือ พลันนึกถึงเฉียวลี่ในSpiderLiliesแห่งโ ลกภาพยนตร์ ในสังคมจีนและอินเดียมีการเลือกเพศของทารกที่เกิด มาอย่างบ้าคลั่งทารกเพศชายมีค่าเหมือนทรัพย์สินขณะที่ เพศหญิงมีค่าเท่ากับศูนย์ด้วยเหตุนใี้ นสังคมจีนและอินเดีย จึงมีสถิตกิ ารทำแท้งฆ่าท ารกเพศหญิงก ันมาก
ใ นS piderL ilies-เฉียวลี่ถ ูกแม่ท ิ้งไปห ลังเกิดแ ผ่นดิน ไหวครั้งใ หญ่แ ม่ของเธอเลือกที่จะเอาน้องชายไปด้วยโ ดยทิ้ง เธอไว้กับย่าทตี่ าบอด มองในภาษาภาพยนตร์- น อี่ าจเป็นการเสียดสีส ังคมจีน ทีน่ ิยมทารกเพศชายจนสามารถวางทารกเพศหญิงทิ้งไว้กับ ซากปรักห ักพังของความโหดร้ายได้อย่างไม่แยแส เฉียวลี่จึงมีตัวต นอยู่ในโลกความฝันไร้ค่าใ นโลกความ เป็นจริงเป็นสาวเว๊บแคมที่อาจจะเหงาที่สุดณชั่วโมง ออนไลน์น ั้น ณนาทีห นึ่งในโลกออนไลน์เธอรู้ความจริงว่าล ูกค้า ที่เข้ามาแชตกับเธอด้วยท่าทีที่อบอุ่นค นนั้นไม่ใช่ท าเคโกะ หญิงสาวรุ่นพที่ ี่เธอภาวนาให้เป็นมาตลอด เฉียวลี่ร้องไห้ย่าเดินมาปลอบ“เล่นเกมจนร้องไห้เลย หรือ” หยุดแ ค่นี้ในโลกภาพยนตร์เพราะโลกความจริงก ำลัง สร้างเด็กสาวน่าสงสารอย่างเฉียวลี่มากขึ้นทุกข ณะ อาจต่าง WRITE e-Magazine 49
มนุษย์ทำร้ายผู้อ่อนแออย่างทารกได้ง่ายดาย ด้วยวัฒนธรรมที่เชื่อ และฝังรากอย่างงมงาย มนุษย์ทำลายมนุษย์ดินแดนอื่นด้วยต้องการ แย่งชิงผลประโยชน์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง สาเหตุบ้างแต่มนุษย์ยังคงเดินหน้าไปบนความรุนแรงอย่าง ไม่แยแสและมองข้ามความสูญเสียที่ไม่เกี่ยวกับตัวเองและ พวกพ้อง มนุษย์ทำร้ายผู้อ่อนแออย่างทารกได้ง่ายดายด้วย วัฒนธรรมที่เชื่อ และฝังร ากอย่างงมงาย มนุษย์ทำลายมนุษย์ดินแ ดนอื่นด้วยต้องการแย่งชิงผ ล ประโยชน์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง มนุษย์ทำลายกันเองแม้แต่ไอ้อีที่พูดจาภาษาและ นับถือพระเจ้าอ งค์เดียวกัน ยังไม่นับรวมภัยธรรมชาติท ี่มนุษย์ห ลีกเลี่ยงได้ยาก แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด สึนามิ นากีส โลกร้อน ฯลฯ เบื้องหลังความตาย—บนเนื้อตัวข องคนอยู่มีรอยแผลที่ มองไม่เห็นเป็นรอยสักที่เกิดจ ากช่างสักผู้ทำลาย ช่างสักที่สวมเสื้อค ลุมหลากหลาย บ้างใส่เสื้อมนุษย์ บ้างมาในนามธรรมชาติ ณบรรทัดนี้มนุษย์ควรทำอย่างไรต่อผู้คนผู้หลงเหลือ ทั้งจากสงครามและภัยพิบัติ จะลบรอยสักอันเจ็บปวดนั้นอย่างไรให้พวกเขาและเธอ เจ็บน้อยที่สุด หรืออย่างน้อยที่สุดให้ผู้คนที่หลงเหลือเหล่านั้นเหงา น้อยกว่าเฉียวลี่ก็พอ d
50 WRITE e-Magazine
*อ้างอิงข ้อมูลใ นเนื้อหาข้อมูลจ ากhttp://memp.trf.or.th/ documents/รายงานฉบับท ี่5
WRITE e-Magazine 51
นอนดูหนัง Text: ลุงยะ
AHOMEA TTHEENDOFTHEWORLD โลกของเธอโลกของฉันโลกของเราสามคน คุณเคยรู้สึกแปลกแยกแตกต่างจากสังคมที่คุณเป็นอยู่ นี้บ้างไหม? นี่คงเป็นคำถามสำหรับใครหลายๆคน ที่รู้สึก ว่าผ ู้คนรอบข้างไม่เข้าใจในความเป็นตัวตนของคุณ ไม่มีสัก คนคอยพูดคุยยามที่คุณว้าเหว่อยู่ตามลำพัง คุณหวังแค่ว่า จะมีแค่ใครสักคนคอยพูดคุยให้ความเข้าใจในตัวของคุณเอง ก็แค่นั้น A HOME AT THE END OF THE WORLD หรือในชื่อ เรื่องภาษาไทย ‘บ้านสุดท้ายที่ปลายฟ้า’ หนังว่าด้วยตัวละคร หลักสามคนบ็อบบี้แคลร์และจอห์นนี่ที่มีการดำเนินชีวิตที่ แปลกและแตกต่างจากคนทั่วไปบ็อบบี้(โคลินฟาร์เรลล์) หนุ่มฮ ิปปีย้ ุคซ ิกต ี้ส์ที่คนในครอบครัวล ้มห ายตายจากไปทีละ คนเริ่มตั้งแต่พ ี่ชายถูกกระจกบาดคอเสียชีวิตแม่ตายตอนที่ บ็อบบยี้ า่ งกา้ วจะเป็นว ยั ร นุ่ แ ละสดุ ท้ายพอ่ ก ต็ ายตามแม่ก บั พ ี่ ชายไปอกี ค นจากการสบู บ หุ รีจ่ ดั บ อ็ บบอี้ ยูค่ นเดียวตามลำพัง ไม่เหลือใคร จนได้ครอบครัวของจอห์นนี่ ( ดัลลัส โรเบิร์ต ) เพือ่ นรว่ มรนุ่ ส มัยเรียนชว่ ยเหลือใ นทอี่ ยูท่ กี่ นิ แ ก่บ อ็ บบี้ บ อ็ บบี้ เติบโตมากบั จ อห์นน ี่ ท งั้ ส องเป็นเพือ่ นรกั ก นั จ นบางทีเลยเถิด มากกว่าเพื่อนชายกับเพื่อนชายเพราะจอห์นนี่เริ่มส ับสนใน เพศของตัวเองแต่นั้นก ็เป็นย่างก้าวของวัยรุ่นที่มีความว้าเหว่ 52 WRITE e-Magazine
และสบั สนก ารลมิ้ ล องกลิน่ ก ญ ั ชาก ารแสวงหาทางออกของ ชีวิตซึ่งเป็นลักษณะที่โดดเด่นข องวัยรุ่นยุคบุปผาชน หนังเรื่องนี้จะเน้นแนวทางการก้าวข้ามผ่านช่วงวัย ( comingofage)ซึ่งมันจะทำให้ผ ู้ชมร่วมลุ้นไปกับการเจริญ เติบโตและความสมั พันธ์ร ะหว่างบอ็ บบกี้ บั จ อห์นน ี่ ส ว่ นแคลร์ จะเข้ามามีส่วนร่วมในตอนที่ทั้งสองคนนี้เติบโตขึ้นแ ล้วการ สื่อความหมายที่แท้จริงของครอบครัวเป็นแก่นเรื่องหลักของ หนัง ว่ากันตามจริงมันก็เป็นหนังครอบครัวแบบแปลกๆแต่ ไม่แ ตกตา่ งในเรือ่ งของความรกั ใ นครอบครัวม ารวมกนั ใ นหนัง เริ่มตั้งแต่ครอบครัวของบ็อบบี้ซึ่งพ่อแม่ปล่อยให้ลูกๆมีอิสระ เสรีในการใช้ชีวิตบ็อบบี้มีพี่ชายเปรียบเสมือนเพื่อนสนิทใน วัยเด็ก พี่ชายของบ็อบบี้ได้ชักนำบ็อบบี้สู่การใช้ชีวิตอิสระ โดยเริ่มจากการพาบ็อบบี้หาที่ผ่อนคลายอารมณ์ยามทุกข์ใจ และให้บ็อบบี้ทดลองใช้สิ่งเสพย์ติดเพื่อเป็นการปลดปล่อยตัว เองจากโลกที่น่าเบื่อ ซึ่งมันอาจจะไม่ดีงามต่อสายตาคนอื่น แต่การสร้างโลกของตัวเองขึ้นมามันก็ทำให้ชีวิตของคนเรามี ความสุขไ ด้เช่นกัน WRITE e-Magazine 53
มันทำให้เราได้มองเห็นว่าต่อให้บุคคล ใดเ ก่ ง กาจม ากค วามส ามารถแ ค่ ไ หน บุคคลคนนั้นย่อมมีความเปลี่ยวเหงาใน ตัวเอง จ นมาถึงครอบครัวของจอห์นนี่ซึ่งบ็อบบี้ได้เข้ามาร่วม อยูด่ ้วยหลังจากบ็อบบี้ได้สูญเสียครอบครัวของตัวเองไปพ่อ แม่ของจอห์นนี่เปรียบบ็อบบี้ดั่งลูกในไส้ ให้ความรักความ เข้าใจต่อบ็อบบี้เป็นล้นพ้น ที่โดดเด่นน่าจะเป็นแม่ของ จอห์นนซี่ ึ่งมีบทบาทในหนังมากกว่าพ่อแม่จอห์นนี่พยายาม ทำตัวให้เข้าใจต่อลูกท ั้งสอง ตั้งแต่การสูบกัญชา การฟัง ดนตรียุคซ ิกตี้ส์ เซเว่นตี้ส์ หรือแม้แต่การเบี่ยงเบนทางเพศ ของจอห์นนี่แม่จอห์นนี่พยายามทำตัวใ ห้เข้าใจมากที่สุดจน บางทีก ลายเป็นการทำใจมากกว่าเข้าใจ แต่ลูกชายของแม่ ทั้งสองก็ไม่เคยเถลไถลมากไปกว่านี้ และมอบความรักให้ แม่มากที่สุดเท่าที่จะให้ได้ ห ลังจ ากเติบโตในชว่ งของวยั ร นุ่ บ อ็ บบกี้ บั จ อห์นน กี่ ต็ อ้ ง แยกจากกันเพราะความเบี่ยงเบนทางเพศของจอห์นนี่จึง ทำให้ต ้องหลบเลี่ยงปัญหาไปศึกษาต่อยังเมืองอื่นเพื่อค วาม สบายใจของแม่ซ งึ่ ว า่ ก นั ต ามจริงใ นเรือ่ งทกี่ ล่าวไว้ก อ่ นหน้าน ี้ แม่ของจอห์นนี่พยายามจะเข้าใจจอห์นนี่แต่กลับเป็นจอห์น นีเ่ องทคี่ ดิ มากและไม่ก ล้าพ ดู ค ยุ จ งึ ท ำให้ต ดั สินใ จไปเรียนตอ่ ยังเมืองอื่นการที่จอห์นนี่กับแม่ไม่พูดคุยกันมันทำให้มอง เห็นถ งึ ภาพของครอบครัวไ ด้ท ุกม ุมโ ลกปัญหาของครอบครัว มักจะเกิดจากการไม่พูดคุยต่างคนต่างเก็บปัญหาไว้เงียบๆ ทำให้ต ่างฝ่ายต่างคิดไปเองจนทำให้เกิดปัญหาในที่สุด แม้ในหนังเรื่องนี้จะไม่เน้นภาพของครอบครัวที่ย่ำแย่ เนื้อเรื่องเน้นหนักไปในการมองโลกในแง่ดีเสียด้วยซ้ำ แต่ การมองโลกในแง่ดีของหนัง มันก็เกิดจากการมีปัญหาของ ครอบครัวหรือก ารใช้ชีวิต จึงท ำให้หนังเสนอแนะในรูปแบบ ของทางออกก ารแก้ป ญ ั หาตา่ งๆห รือก ารมองชวี ติ ท ไี่ ม่ใช่ส งิ่ 54 WRITE e-Magazine
เลวร้ายจนเกินไ ปเลยทำให้ครอบครัวซึ่งมีทั้งบ็อบบี้จอห์นนี่ และแคลร์ใช้ชีวิตร่วมกันในลักษณะมีปัญหาต่างๆของคำว่า ‘ ครอบครัว’จนถึงการหาทางแก้ไข ในทีแรกจอห์นนกี่ ับแคลร์ไ ด้อยูร่ ่วมกันแ บบเพื่อน จน กระทั่งมบี ็อบบี้เข้ามาอยู่ร่วมด้วยในชีวิตการใช้ชีวิตอ ยู่ของ คนทั้งสามเป็นการอยู่ด้วยกันอ ย่างราบรื่นเพราะคนหนึ่งเป็น ผู้ชายคนหนึ่งเป็นผู้หญิงและอีกค นหนึ่งเป็นเกย์มันจ ึง ทำให้ไม่มีปัญหาในเชิงชู้แต่แล้ววันห นึ่งบ็อบบี้กับแคลร์ต ่าง ตกหลุมร ักกันจอห์นนเี่ลยคิดว ่าตัวเองเป็นส่วนเกินจอห์น นี่จึงต ัดสินใจแยกตัวอ อกมา จอห์นน กี่ ลับม าอยู่บ้านกับแม่ ถึงตรงจุดน ี้หนังจ ึงเน้นย้ำให้เห็นชัดว ่าการพูดค ุยต่อก ันและ กันเป็นสิ่งสำคัญ เพราะบ็อบบี้และแคลร์ต ่างคิดว ่าจอห์นน ี่ ไม่ใช่ส่วนเกิน แต่กลับเป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้ชีวิตทั้งสาม มีความสุข ถ้าขาดใครไปคนหนึ่งมันก็อาจจะอยู่ไม่ได้เลย เสียด้วยซ้ำ การดำเนินชีวิตร่วมกันของคนทั้งสามเป็นไปได้ด้วยดี แคลร์ตั้งท้อง ทั้งสามคนมองหาบ้านหลังใหม่ในเมืองที่คิด ว่าไม่ลำบากเกินไปไม่เจริญเกินไป เป็นเมืองระดับกลางๆ บ้านในฝันของพวกเขาได้เกิดขึ้น พร้อมกับต้อนรับลูกน้อย บ็อบบี้เปิดร้านกาแฟเป็นกิจการเลี้ยงดูครอบครัวทั้งสามคน มีความสุขร่วมกันด ้วยดีแต่ความสุขนั้นมันย่อมผ่านมาและ ผ่านไปเมือ่ แ คลร์เริม่ ม คี วามรสู้ กึ ข องการมคี รอบครัวแ บบพอ่ แม่ล ูกแคลร์จึงเสนอทางเลือกให้บ็อบบี้ว่าจ ะอยูก่ ับจ อห์นนี่ หรือไ ปกับเธอ?แคลร์ไ ม่ถามบ็อบบี้แบบตรงๆแคลร์ถ าม บ็อบบี้แบบทางอ้อมในวันทเี่ธอพาลูกไ ปเยี่ยมแม่ท ี่บ้านและ จะไม่มวี ันกลับม าอีกบ็อบบเี้ลือกทจี่ ะอยูก่ ับจอห์นนี่โดยให้
แคลร์กับลูกจากไปเพราะความผูกพันระหว่างเขากับจอห์น นี่มีมากกว่าความผูกพันข องความเป็นเพื่อนและครอบครัว ซึ่งแม้ว่าจ ะไม่มีภรรยาและลูกคอยเคียงข้าง แต่บ็อบบี้ก็คิด ว่ามันคือสิ่งที่ดีที่สุด หนังจบลงเอยแบบนี้ จบลงตรงทาง เลือกของบ็อบบี้ ในฉากหนึ่งเกือบจะท้ายๆของหนังมีคำถามที่แคลร์ถาม กับบ็อบบี้ว่า‘มีอะไรอีกไ หมที่คุณทำไม่ได้?’บ็อบบตี้ อบ‘ผม อยู่คนเดียวไม่ได้’ มันทำให้เราได้มองเห็นว่าต่อให้บุคคลใด เก่งกาจมากความสามารถแค่ไหนบุคคลคนนั้นย่อมมีความ เปลีย่ วเหงาในตวั เองจ งึ ท ำให้ต อ้ งหาใครสกั ค นไว้ค อยพดู ค ยุ คลายเหงาแ ม้ค นๆนนั้ อ าจจะไม่ใช่ค รู่ กั ห รือเพือ่ นแ ต่เป็นแ ค่ คนๆหนึ่งที่เข้าใจก็พอ d WRITE e-Magazine 55
Playground Text: มณฑิตา วงษ์ชีพ
ความหวังรสอ้วก
“ความผิดหวังพ ัดพาอากาศแห่งความทุกข์มาสู่ใจเรา ถ้าการผิดหวังเกิดจากความหวังเราก็ควรหยุดคาดหวัง เพื่อป ้องกันตัวเองจากอากาศเศร้าเน่าเหม็นพวกนั้น”
“ หนังสือบ้าไรวะ กูอยากเห็นหน้าคนเขียนชะมัด จะมอง โลกในแง่ร้ายไปไหนเนี่ย” ส้มพูดกับตัวเองแล้ววางหนังสือ เล่มนั้นไว้ท ี่เก่า วันนี้เป็นวันเสาร์ไม่ต้องตื่นไปเรียนหนังสือแต่เช้าเหมือน อีกห า้ ว นั ท ผี่ า่ นมาก ารได้ต นื่ ส ายเท่าท อี่ ยากจะสายและแต่งต วั สวยๆมาเดินซื้อของคนเดียวแบบนี้เป็นความสุขแสนธรรมดา แต่มันก็คือความสุข ห ลังจ ากเดินด เู ดินซ อื้ เสือ้ ผ้าร องเท้าเครือ่ งสำอางส ม้ ก พ็ า ตัวเองมาทรี่ า้ นหนังสืออ ย่างไม่ไ ด้ต งั้ ใจจ ากชอ่ งนนั้ ไ ปชอ่ งนสี้ ม้ คิดว า่ การเดินด หู นังสือก ส็ นุกด ไี ม่ใช่เล่นเล่มไ หนหน้าป กสวยก็ จะหยิบข ึ้นมาดูแต่เอาเข้าจ ริงไม่เคยซื้อของเค้าซักเล่ม หน้าปกสีหวานสะดุดตาของหนังลือเล่มหนึ่ง ทำให้ส้ม หยิบมันมาดูอย่างสนใจ ภาพกราฟฟิกลายการ์ตูนสุดน่ารัก โดนใจสาวน้อยคนนี้เป็นพิเศษ ชื่อหนังสือ “ความหวังรสอ้วก” น่าสะอิดสะเอียนแต่ส้มก็ดันอ่านคำโปรยต่อ สิ่งนั้นทำให้วาง 56 WRITE e-Magazine
หนังสือล งในที่สุด ส้มไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่คนเราจะมีชีวิตอยู่อย่างไร้ซึ่ง ความหวัง มันเหมือนเชื้อไฟจุดให้คนมีพลัง ทำให้คนอยากมี ชีวิตที่ดีขึ้น หากไม่มีความหวังส้มคงไม่สอบเข้ามหาวิทยาลัย คงจะอยู่ใกล้ชิดธรรมชาติกับพ่อแม่ที่บ้านนอกอย่างไม่ต้อง ดิ้นรนจนเหนื่อยแบบนี้ ชีวิตในเมืองใหญ่ การเรียนต่อ ไม่ใช่ เรื่องที่ง่ายและสุขส บาย อุปสรรคเยอะ เรียนหนักเครียด เหงา คิดถึงบ ้าน ค่าใช้จ่าย งานพิเศษ มลพิษ อุบัติเหตุ ฉกชิง ปล้น ฆ่าข่มขืนนินทาด่าว่าไม่จ ริงใจมากมาย แ ล้วส ม้ ก อ็ อกจากรา้ นหนังสือไ ปซปุ เปอร์มาร์เก็ตม องหา นมเปรีย้ วรสผลไม้ร วมทแี่ สนโปรดปรานก นิ ท ไี รนกึ ถึงค วามหลัง สมัยเป็นเด็กน้อยชั้นประถมที่โรงเรียนบ้านนอกทุกที รางวัลที่ได้รับจากการประกวดร้องเพลงคือใบประกาศ และกล่องของขวัญผ กู โ บว์ส วยเมือ่ ก ลับถ งึ บ า้ นสม้ น อ้ ยรบี แ กะ ห่ออย่างตื่นเต้นสิ่งท ี่อยูข่ ้างในคือน มเปรี้ยวแพ็ค หกกล่อง
นมเปรี้ยวที่ไม่เคยกินมาก่อน ข้างกล่องบอกว่าเป็นรส ผลไม้รวมและยังบอกอีกว่าใ ห้แช่เย็นก่อนดื่ม จะให้ช ื่นใจและ เก็บไว้กินในวันอ ื่นได้ด้วย เช้าว นั จ นั ทร์ส ม้ แ วะไปทบี่ า้ นลงุ ผ ใู้ หญ่ก อ่ นจะไปโรงเรียน เพือ่ เอานมเปรีย้ วไปกนิ ป า้ แ ดงเมียข องลงุ ผ ใู้ หญ่ไ ด้ยนิ เสียงคน มาเรียกเลยรีบวิ่งออกมา “สวัสดีค่ะป้าแดง” ส้มยกมือไหว้หญิงที่มาเปิดประตูรั้ว ให้เธอ “อื้อ...หวัดดีมาแต่เช้ามาเอานมเปรี้ยวที่ฝากไว้ใช่มั้ย” “ค่ะ” รอยยิ้มและดวงตาส้มเปล่งประกายวิบวับทำป้า แดงลำบากใจ “คือว่าเมื่อวาน ไอ่โจ๊กกับจอยมันไม่รู้เรื่อง กลับมาจาก สวนก็หวดไปคนละสองกล่องป้าไม่ทันบอกตอนนี้ก็เลยเหลือ แค่สองกล่อง” ระหว่างที่ฟังข่าวร้ายนั้นหน้าส้มก็ซีดลงเรื่อยๆ ประกาย
ปิ๊งๆ ที่เคยมีเมื่อหนึ่งนาทีที่แล้วไหลออกไปทางไหนไม่รู้ ส้ม ผิดหวังม ากเธอคิดว่าน ่าจะกินซ ะตั้งแต่เมื่อวาน ส้มแ ทบร้องไห้ปากกพ็ ูดไ ด้แต่คำว่า “ไ ม่เป็นไรค่ะไ ม่เป็นไร” “ เอาเงินไ ปซอื้ ใ หม่น ะสม้ ” ป า้ แ ดงยนื่ เงินใ ห้ส ม้ แ ล้วข อโทษ เด็กน้อยไม่ข าดปาก ว นั น นั้ ท งั้ ว นั ส ม้ ไ ม่เป็นอ นั เรียนหนังสือน มเปรีย้ วสองกล่อง บู้บี้อยู่ในกระเป๋าไม่เหลือค วามเย็นอ ยู่ที่ได้จ ากตู้เย็นแล้ว เมื่อกลับมาถึงบ้าน แม่บอกว่าไม่ต้องไปซื้อนมเปรี้ยวมา เพิม่ อ กี เพราะกว่าจ ะนงั่ ร ถไปในเมืองกใ็ ช้เวลาคอ่ นวนั เสียดาย เวลาและไม่คุ้มค่ารถ ส้มได้แต่รู้สึกแย่ในที่สุดก็กินนมเปรี้ยว นั้นทั้งๆที่ไม่เย็น แ ม้จ ะเป็นค รัง้ แ รกกบั น มเปรีย้ วทไี่ ม่น า่ ป ระทับใ จหรือค วร ค่าแก่ก ารเป็นความทรงจำ แต่นั่นก็คือค วามทรงจำ ความหลังฝังใจเกี่ยวกับนมเปรี้ยวรสผลไม้รวมในวันนั้น ทำให้ส้มคิดเสมอว่าจะต้องมีนมแบบนี้แช่เย็นแล้วเอาไว้กิน ทุกๆวนั ใ ห้ไ ด้เมือ่ โ ตขนึ้ ส ม้ ก ส็ มหวังไ ด้ก นิ น มเปรีย้ วทกุ ว นั ห ลาก หลายรสแต่ท ี่ประทับใ จและขาดหายไปไม่ได้คือร สผลไม้ร วม อากาศด้านนอกที่ร้อนอบอ้าวผิดกับความเย็นฉ่ำในห้าง ส้มหยิบนมเปรี้ยวมากินระหว่างที่รอรถกลับบ้าน เธอหวังว่า รสชาติที่คุ้นเคยจะทำให้อากาศแย่ๆนั้นดีขึ้นบ ้าง เมือ่ น มเปรีย้ วโดนลนิ้ ค รัง้ แ รกสม้ ร สู้ กึ แ ปลกแ ต่ก ด็ ดู ต อ่ ไ ป อีกหนึ่งอึกสองอึกส ามอึก “ทำไมมันเปลี่ยนไปวะ”ส้มค ิดต อนอึกท สี่ ี่ “หรือมันเป็นสูตรใหม่” อึกที่ห้า สงสัยแล้วก็รีบยกกล่อง ขึ้นมาอ่าน เดาไปต่างๆนานา ว่าจะเป็นสูตรผสมคอลลาเจน ไม่งั้นก็บุกอะไรซักอย่างที่ชอบเอามาโฆษณากัน อ่านดูแล้ว ทุกอ ย่างกเ็หมือนเดิม “หรือกูคิดไปเอง” เมื่ออีกอึกผ่านไปคราวนี้เริ่มแน่ใจว่า ต้องมีส่วนผสมใหม่ๆในนมเปรี้ยวนี้ล้านเปอร์เซนต์ เหมือนวุ้น ดุ๊กดิ๊กใ นปากเสียอย่างเดียวที่มันไม่ช่วยให้นมอร่อยขึ้นทจี่ ริง รสชาติแ ย่มากด้วยซ้ำไ ป WRITE e-Magazine 57
สาเหตุที่ป่าไม้ของประเทศลดลงเพราะชาวเขาทำไร่เลื่อนลอยที่จริงใคร กันแน่ทโี่ค่นต้นไม้ใหญ่ซุกซ่อนไว้แล้วลักลอบเอาออกมา ประเทศไทย ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยประชาชนคอื ผู้มีอำนาจสูงสุดในการ ปกครองประเทศ... “ แหวะไม่ไหวๆทิ้งแม่งดีกว่า” นาทีที่จะโยนกล่องนมลงถังขยะหน้าห้างสรรพสินค้าส้ม ก็เกิดอยากรู้ขึ้นมากะทันหันว่าอะไรกันที่เด้งดึ๋งๆ อยู่ในปาก เมื่อตะกี๊ ส้มเดินกลับเข้าไปในห้างอีกครั้ง ตรงรี่ไปที่ห้องน้ำและ ฉีกกล่องนมอย่างรวดเร็ว เทพรวดลงในอ่างล้างหน้า เมื่อนม เปรี้ยวไหลลงท่อไ ปแล้วค วามจริงท ี่ส้มอยากรู้ตอนแรกก็กลาย เป็นความจริงที่ส้มไม่อยากรู้ซะแล้ว แม้จะไม่สมประกอบแต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่รวมกันเป็นวัตถุ ขาวซีดเละๆ นอนเอ้งเม้งอยู่ตรงนั้นบอกกับคนที่กำลังมองมัน ว่ามันเคยเป็นจิ้งจกน้อย จิ้งจกในนมเปรี้ยว!!! ! ส้มอ้วกแตกอย่างไม่ทันได้ลังเลพอจัดการกับตัวเองแล้ว ก็น กึ ถึงห นังสือเล่มน นั้ ข นึ้ ม าก ารอว้ กทำให้ค นนกึ ถึงห นังสือไ ด้ ด้วย หน้าปกสีพาสเทลสวยงามแต่ชื่อหนังสือขัดกันน่าดู คำ โปรยของมันไหลมาในหัวเหมือนตัววิ่งหน้าโรงพยาบาล “อ ากาศเศร้าเน่าเหม็นมาอยู่ในปากกูแล้ว!!!!” ส้มสาบานกับตัวเองว่าจ ะไม่เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังเด็ดขาด นึกทีไรก็พาลด่าชีวิตว่าบัดซบสิ้นดี เธอทำได้แค่เขียนระบาย ลงไปในไดอารีส่ ่วนตัว 58 WRITE e-Magazine
“วันนี้กูกินนมเปรี้ยวของชอบแต่แม่งกูเจอจิ้งจกในนั้น แสดดดดดดก ูอยากร้องไห้มากกผู ิดห วัง...” ส้มสะดุดกับคำว่าผิดหวัง ความรู้สึกแบบนี้คือความผิด หวัง ส้มหยุดเขียนแล้วหยิบหนังสือที่ลงทุนซื้อมาแต่ก็ยังไม่มี อารมณ์จะอ่านตอนนี้ คำว่าผิดหวังและเหตุการณ์ในวันนี้ทำให้ส้มซื้อหนังสือ เป็นครั้งแรก ค ำโปรยของหนังสือเล่มน แี้ ละจงิ้ จกในนมเปรีย้ วทำให้ส ม้ นึกถึงค วามผิดห วังที่ผ่านมาในชีวิต นมเปรี้ยวที่ฝากไว้ในตู้เย็น หวังว่าจะกินให้ชื่นใจแต่ลูก ของลุงผู้ใหญ่ก ซ็ ัดไ ปเกือบหมด หวังว่าจะครองที่หนึ่งของห้องจนเรียนจบแต่นักเรียนคน ใหม่ก ม็ าคว้าไปในปสี ุดท้าย การสอบชิงทุนไปเมืองนอกตั้งแต่มอปลายไม่เคยทำให้ เธอสมหวัง คณะที่ใฝ่ฝันจ ะเข้าไปเรียนกค็ ะแนนสูงลิบ สอบไม่ต ิดจ ึง ต้องเลี่ยงมาคณะนี้ รุ่นพี่ที่หลงรักมานานเพิ่งมีแฟนเป็นรุ่นน้องเมื่อเดือนที่ แล้ว เกรดเฉลี่ยท ี่หวังว่าค งเพิ่มดันล ดฮวบ อาชีพที่ตอนเด็กเคยหวังว่าโตขึ้นจะต้องเป็นให้ได้ก็ไม่ใช่ แบบนั้นอีกต่อไ ป
ส .ส.อาชีพท ี่ใฝ่ฝันไ ว้ในสมัยเด็กอาชีพท ี่นำความหวังว่า จะลืมตาอ้าปากได้มาสู่ชาวบ้านหากทุกคนช่วยกันเลือกเขา เข้าไปทำงาน อาชีพที่ชาวบ้านรักและบูชาเพราะมีเงินมาแจก แลกกับการกากบาทง่ายๆอาชีพทีมีคนติดตามมากมายคอย กางร่มให้ มีคนมามะรุมมะตุ้มรุมล้อมอย่างชื่นชม มีคนคล้อง มาลัยด้วย “เท่ชิบหาย” ส้มเคยคิด แต่พอโตขึ้นสิ่งที่รู้มากขึ้น ทำให้เธอผิดหวังก ับความหวังข องตัวเอง หนังสือแบบเรียนที่ชอบอ่านนักหนาก็ทำเธอผิดหวังด้วย บางอย่างที่ท่องจำแทบตายไม่ได้เป็นความจริงเลย “ตกลงกู โดนหลอกโ ดนลา้ งสมองตงั้ แต่เด็ก” ส าเหตุท ปี่ า่ ไ ม้ข องประเทศ ลดลงเพราะชาวเขาทำไร่เลือ่ นลอยท จี่ ริงใ ครกนั แ น่ท โี่ ค่นต น้ ไม้ ใหญ่ซุกซ่อนไว้แล้วลักลอบเอาออกมา ประเทศไทยปกครอง
ด้วยระบอบประชาธิปไตย ประชาชนคือผู้มีอำนาจสูงสุดใน การปกครองประเทศ... คิดถึงแค่ตรงนั้นส้มก็แทบสำลักอากาศเศร้าเน่าเหม็น เหล่านั้นให้หอพักของตัวเอง มันไม่ได้เศร้าแบบที่ทำให้คน ร้องไห้ฟ ูมฟายแต่มันเศร้าแบบสุดอนาถใจ “แม้แต่นมเปรี้ยวยังทำกูผิดหวังแล้วชีวิตนี้กูควรจะหวัง อะไรอีกเนี่ย” ส้มเริ่มลงมืออ่านหนังสือเล่มนั้นอย่างไม่หวังอะไรจาก มัน d WRITE e-Magazine 59
โลกเหงา
text&image: ผู้หญิงตะวันตก
เดียงพลาโต ที่พำนักแห่งสวรรค์
เป้ใบโตบนหลัง..ฉันรีบก ้าวขึ้นรถ โดยสารท้องถิ่นเพื่อมุ่งหน้าส ู่ เดียงพลาโตห มู่บ้านบนปากปล่อง ภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้วใจกลางเกาะ ชวานานมาแล้วนับพันปียุคการ เผยแผ่อ ารยธรรมจากโพ้นทะเล สู่อีกโพ้นท ะเลอ ิทธิพลและความ รุ่งโรจน์แห่งศาสนาอินดูจากอินเดีย ในยุคคริสต์ศตวรรษที่๗เดินทางมา สู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เดียงพลา โตบนเกาะชวาป ราสาทสมโบร์ไพร กุกในเขมรและปราสาทมิเซินแห่ง 60 WRITE e-Magazine
อาณาจักรจามในเวียดนามความ ศรัทธาที่ยิ่งใหญ่รุ่งโรจน์แ ละโชติ ช่วงด้วยพลังแห่งศรัทธาจากมวล มนุษยชาติที่มตี ่อสวรรค์ผ่านกาล เวลาวิถีธรรมชาติจนกาลเสื่อมสลาย แลดับกับปริศนาแห่งร ่อยนั้นที่ยัง หลงเหลือในปัจจุบันรถค่อยๆไต่ ความสูงขึ้นอากาศอันหนาวเย็นพัด กรรโชกเข้ามาทางหน้าต่างฉันกระชับ เสื้อยีนตัวเก่งเพื่อเพิ่มความอบอุ่น ขณะที่รถแล่นผ่านสายหมอกและ ถนนที่แคบและคดเคี้ยวสองข้างทาง
เป็นป่าไม้ไ ร่ชาแปลง ผักกาดและนาขั้นบันไดบ ้านปูนหลัง เล็กหลังคาสีสดตามแบบวิลันดาซึ่ง เป็นเจ้าอาณานิคมทเี่หลืออยู่ประดับ ด้วยกระถางกุหลาบหินอวบฉ่ำและ ดอกไม้เมืองหนาวสีสดหรือบ างครา ก็ไล่สายตาตามชาวบ้านที่เดินตาม ถนนสายเล็กๆทอดลับหายไปตาม ไหล่เขา ดินแดนแห่งภ ูเขาไฟในอดีต จนกระทั่งภูเขาไฟแห่งน ี้ได้ดับแล้ว
เยือนที่นี่ยิ่งความมืดมาเยือนอากาศ ก็เพิ่มทวีความหนาวเย็นและคืนนั้น ฉันสลบไสลไปด้วยความอ่อนเพลีย และอากาศที่เปลี่ยนกะทันหันจาก ความร้อนที่อบอ้าวบนพื้นราบ
บริเวณปากปล่องภูเขาไฟมีสภาพชื้น แฉะกลายเป็นทะเลสาบขนาดย่อมๆ กระจายอยู่มากมายจวบจนมนุษย์ เริ่มมาตั้งถ ิ่นฐานในที่ราบสูงบริเวณนี้ และกระทั่งเป็นที่มาก่อความศรัทธา จากหินก ้อนแรงที่สร้างความศรัทธา แห่งฮ ินดูจากอินเดียช ่วงเวลาแห่ง ความรุ่งโรจน์และเสื่อมสูญของ เทพเจ้าแห่งอินดูเดียงพลาโตผ่าน การเดินทางแห่งเรื่องราวมากมาย ในห้วงยามความศรัทธาอันแรงกล้า สรรค์สร้างเป็นแห่งแหล่งพำนักแ ด่
พระผู้เป็นเจ้าแห่งฮินดูหรือแ ม้ใน ยามที่ถูกยึดครองโดยเจ้าอาณานิคม จากตะวันตกที่นี่กลายเป็นที่ตาก อากาศของชาวดัตช์จวบจนถึงวิถี ชุมชนมุสลิมที่สงบในปัจจุบันแ ละ เป็นแหล่งปลูกมันฝรั่งที่ส่งไปทั่วเกาะ ชวา รถโดยสารส่งฉันลงหน้าเกสเฮ้าส์ เล็กๆริมถนนใหญ่ในเวลาใกล้ค ่ำฉัน เดินฝ่าความหนาวเย็นเข้าไปติดต่อ เพื่อค ้างคืนสำหรับคืนแรกของการมา
ต ามหลักฐานที่ค้นคว้ากันมาเชื่อ กันว่าเดียงพลาโตเป็นจุดกำเนิดของ อารยธรรมฮินดูในเกาะชวาเทวสถาน จำนวนมากถูกสร้างขึ้นตามความเชื่อ ในศาสนาพราหมณ์ล ัทธิไศวนิกาย( นิกายไศวะเป็นนิกายหนึ่งในศาสนา ที่นับถือพ ระศิวะเป็นเทพสูงสุด) และ มีอายุเก่าแก่ระหว่างคริสต์ศตวรรษ ที่ 7-12 มีผ ู้สันนิษฐานว่าเทวาลัย เหล่านี้อาจสร้างขึ้นโดยราชวงศ์มะตะ รัมของพระเจ้าสัญช ัยซ ึ่งแผ่อิทธิพล ครอบคลุมอยูต่ ลอดอาณาเขตชวา ภาคกลางค รั้งหนึ่งเดียงพลาโตเคย เป็นอาณาจักรที่ เฟื่องฟูและเสื่อมสลายจนศาสนา อิสลามเข้ามาแทนที่ศาสนสถานที่ ถูกทิ้งร้างไว้เนิ่นนานจวบจนมีผู้คน เข้ามาตั้งถิ่นฐานใหม่ผู้คนที่เข้ามา ใหม่ไม่มีใครทราบถึงที่มาของศาสน สถานทกี่ ระจายอยูม่ ากมายเหล่านั้น ไม่มีพลังศรัทธาอันยิ่งใหญ่ในอดีต ผู้คนต่างทุบทำลายเทวาลัยเหล่านั้น เพื่อนำหินมาสร้างบ้านจนเหลือเพียง เทวาลัยเพียง๘หลังชื่อต ามตัวละคร เอกในมหาภารตยุทธค ือหมู่เทวาลัย อรชุนห้าหลังกลางแอ่งที่ราบสูงซึ่ง ประกอบด้วยจ ันทิอรชุนจ ันทิเสมาร์ จันทิศรีกัณฑิจ ันทิปุนตเทพและ จันทเิสมภัทรรวมถึงเทวาลัยอีก สามหลังที่ซ่อนตัวอยูต่ ามซอกเขา รอบๆแอ่งใ หญ่คือจันท ิภีมะ WRITE e-Magazine 61
ช่วงเวลาคืนวันที่เดียงพลาโตเหมือน บ างอย่างที่เร้นลับเกินเหตุผลสถานที่นี้ถูก เลือกโดยสวรรค์เพื่อเป็นที่พำนัก แห่งพระเจ้าด้วยเหตุผลอันยากจะหยั่งสัมผัส แหล่งพำนักยังค งอยู่ดูเหมือนสถาน ที่แห่งนี้จะยังมีความอบอุ่นของคำว่า บ้านอยู่ตลอดกาล ถึงแม้ภูเขาไฟจะดับแล้วแต่ความ ร้อนจากผืนพิภพยังคงพวยพุ่งส่งกลิ่น กำมะถันและกลุ่มควันเป็นหย่อมๆ บางจุดมีมากถึงขนาดสร้างโรงไฟฟ้า ขนาดย่อมมาใช้กันภายในหมู่บ้าน บางความรู้สึกที่ฉันบอกตัวเองอยู่ ในใจชาวอินโดนีเซียช่างมีชีวิตที่ขึ้น อยู่กับธรรมชาติที่ไม่รู้ว่าวันไหนที่จะ พิโรธบันดาลให้ภูเขาไฟพุ่งเถ้าถ่าน มาทำร้ายหรือทำให้เกิดแผ่นดินไหว ทำลายสรรพสิ่งบนผืนโลก ขณะที่ฉันเดินเพลิดเพลินกับ ความงดงามของธรรมชาติอากาศที่ ช่วงเวลาคืนวันที่เดียงพลาโต เย็นสบายของหมู่บ้านบนปากปล่อง เหมือนบางอย่างที่เร้นลับเกินเหตุผล ภูเขาไฟแห่งนี้ทะเลสาบเปลี่ยนสี สถานทนี่ ี้ถูกเลือกโดยสวรรค์เพื่อเป็น ที่สดใสตรงหน้าเสียงทักทายเป็น ที่พำนักแห่งพ ระเจ้าด ้วยเหตุผลอัน ภาษาถิ่นทำให้ฉ ันต้องหันหลังกลับ ยากจะหยั่งสัมผัสจวบจนผ่านกาล ชายหนุ่มชาวชวาส่งเสียงทักซ้ำจ น แห่งย ุคสมัยค วามอบอุ่นในการเป็น ฉันต้องบอกว่าฉ ันไม่ใช่ส าวชาวชวา
จันททิ วารวติแ ละจันทิคโตตกัตชะ (คำว่า“จันทิ” น ี้เชื่อกันว ่ากลายมา จากคำว่า “จัณฑิ” อันเป็นนามหนึ่ง ของเทพีแห่งความตายเจ้าแ ม่ทุรคา หรือนางอุมาในภาคที่ดุร้าย) การเดินชมร่องรอยแห่ง อารยธรรมฮินดูที่นี่เป็นไปอย่าง รื่นรมย์ย ิ่งอากาศที่เย็นส บายทิวทัศน์ ที่สวยงามจากความเขียวขจีของไร่ มันฝรั่งแ ละแปลงผักท อดงามตาม ไหล่เขาผู้คนที่เป็นมิตรจนรู้สึกได้ถึง ความหรรษาแห่งการเดินทางครั้งนี้ ความอบอุ่นที่โอบกระชับแผ่ซ่านคลุม ความรู้สึกจ นไม่เหลือที่สำหรับความ อ้างว้าง
62 WRITE e-Magazine
อย่างที่เขาเข้าใจฉ ันหญิงสาวจาก เมืองไทยและเราเป็นเพื่อนบ้านใกล้ เรือนเคียงกันม ิตรภาพง่ายๆของ เจ้าของถิ่นกับหญิงสาวคนแบกเป้ ในถิ่นงามและห้วงนิยามการเดิน ทางรายล้อมไปด้วยความแปลกใหม่ และน่าสนใจก ารดูแลเอาใจใส่จ าก เจ้าของถิ่นสวยงามแต่ทว่าไม่เต็มปรี่ ลึกในความรู้สึกปีนเขาเดินตัดแปลง ผักและไร่มันฝรั่งไปด้วยกันห รือเสียง หัวเราะในวงหมากรุกพร้อมชาร้อน ขับไร่ความหนาวเย็นในยามค่ำคืน หรือห้วงวันเวลาทเี่ราตระเวนไปด้วย กัน มิตรภาพสั้นๆง่ายที่เกิดจากเส้น ทางความฝันแห่งฉ ันฉันดั้นด้นมาที่ เดียงพลาโตเพื่อเดินตามหาบ้านแห่ง พระเจ้าถ ิ่นทซี่ ึ่งความศรัทธาแห่ง ฮินดูก่อกำหนดเป็นทแี่ รกบนใจกลาง เกาะชวาณหมู่บ้านบนปากปล่อง ภูเขาไฟทดี่ ับสนิทแล้วบนรอยฝัน บ่อยครั้งทมี่ ีบางมิตรภาพเข้ามาเติม
และบ่อยครั้งเช่นกันที่ฉันเลือกที่จะ ปล่อยให้บางความรู้สึกผ่านพ้นไป เฉกเช่นสายลมประโลมความอบอุ่น แล้วพัดผ่านฉันหลับตานึกถึงหมู่บ้าน ในฝันแห่งน ั้นอีกครั้งแปลงผักไร่มัน เขียวขจีตามไหล่เขามิตรภาพและ รอยยิ้มของผู้คนเทวสถานที่บ่งบอก ถึงบ้านแห่งศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า และหนุ่มชวาเจ้าของมิตรภาพในรอย ร่องความรู้สึกที่ฉันจากมา d
WRITE e-Magazine 63
o ประกวดเรื่องสั้นWRITE2552
กติกาการส่งเรื่อง 1 .เป็นเรือ่ งสนั้ ท ผี่ เู้ ขียนสร้างสรรค์ข นึ้ เองย งั ไ ม่เคยตพี มิ พ์ท ไี่ หนมากอ่ นโ ดยมไิ ด้ แปลลอกหรือดัดแปลงจากเรื่องของผู้อื่น 2.เรื่องสั้นไม่จำกัดเนื้อหาความยาวในแบบเรื่องสั้นท ั่วไป 3.ท ่านสามารถส่งเรื่องสั้นได้เพียงเดือนละ1เรื่อง 4.เมื่อเรื่องสั้นของท่านได้รับการตีพิมพ์แล้ว ท่านหมดสิทธิ์ส่งเรื่องสั้นเรื่องอื่น เพื่อเปิดโอกาสให้นักเขียนท่านอื่นได้รับพิจารณาบ้าง 5.ในแต่ละเดือน เรื่องสั้นที่ผ่านเกิด เรื่องสั้นที่ได้ผ่านรอบแรก จะได้รับการตี พิมพ์ใน WRITE เมื่อครบหนึ่งปี บรรณาธิการจะประกาศเรื่องสั้นยอดเยี่ยม จำนวน5เรื่องจากเรื่องสั้นรอบแรก 6.ท่านสามารถส่งเรื่องสั้นของท่านมาที่ niwat59@gmail.com โดยแนบไฟล์ ต้นฉบับเป็นไฟล์เวิร์ดและเขียนจ่าหน้าว่า“ประกวดเรื่องสั้น” กรุณาอย่าPate >Copyงานของท่านลงในอีเมล์(ทำให้ยุ่งย ากต่อก ารอ่าน) 7.เรื่องสั้นยอดเยี่ยมของปีจะได้รับใบประกาศเกียรติจ ากบรรณาธิการ 8.หากท่านต้องการถอนเรื่องของท่านจากการพิจารณากรุณาเขียนอีเมล์มา ยืนยัน 9.การตัดสินของบรรณาธิการถือเป็นที่สุด 1 0.W RITEe -M agazineเป็นน ติ ยสารออนไลน์แ จกฟรีไ ม่มโี ฆษณา ไม่มรี ายได้ จัดทำขึน้ เพือ่ ส ง่ เสริมก ารอา่ นการเขียนจ งึ ย งั ไ ม่ส ามารถจา่ ยคา่ เรือ่ งได้โ ปรด พิจารณากติกาข้อนี้ก่อนส่งเรื่องสั้นของท่าน
o g
g