Write Short Story Award 2552 ฉบับที่ 1 เดือนมกราคม 2552 เรื่องสั้นเข้ารอบประจำเดือนมกราคม 2552
1
Write Short Story Award 3
Write Short Story Award 2552 ฉบับที่ 1 เดือนมกราคม 2552 เรื่องสั้นเข้ารอบประจำเดือนมกราคม 2552 เหตุเกิดบนดอย ณัฐกมล ไชยสุวรรณ หน้า 9 ราวกับมหี ิมะตกบนเกาะตาฮิติ... กันต์ธรอักษรนำ หน้า 15 คืนห นึ่งก ับอีกเช้าในหัวท ี่สับสนวุ่นวาย แก้มหอม หน้า 23 ศิลปินค ืนชีพ รัชศักดิ์จิรวัฒน์ หน้า 29 WhokillUranus? ดวงตะวันนลิ ายน หน้า 39
Speacial Thank All Foto By Rithirong http://rithirong.multiply.com/
EditorN ote สวัสดีท า่ นผอู้ า่ นทกุ ท า่ นก ารประกวดเรือ่ งสนั้ W RITES HORTS TORYA WARD 2552เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นนะครับแม้การเริ่มต้นผมก็มองเห็นความเข้มข้นอย่างที่ ไม่เคยปรากฏมากอ่ นต อ้ งยอมรับว า่ น กั เขียนรนุ่ ใ หม่ห ลายคนในปจั จุบนั ไ ปไกล และเดินท างดว้ ยความเร็วน นั่ ย อ่ มเป็นน มิ ติ รหมายทดี่ ตี อ่ ว งการวรรณกรรมไทย กระนั้นสิ่งที่เหลือคือการยืนระยะ เพื่อพิสูจน์ความเป็นตัวจริงตัวปลอม เรื่อง สั้นเรื่องเดียวไม่ได้พิสูจน์อะไรไปมากกว่าหมุดหมายหนึ่งของนักเขียนหนึ่ง คนในช่วงเวลานั้น...เท่านั้น ผมเคยเฝ้าจับตานักเขียนที่ได้รับรางวัลต่าง ๆ รวม ถึงร างวัลที่ตัวเองเป็นปลุกปล้ำคือรางวัลไทยไรเตอร์เมื่อหลายปีก่อน นักเขียนหลายคนที่เคยได้รางวัลไทยไรเตอร์ ต่างก็เติบโตไปในที่ทาง ต่าง ๆ ซึ่งอาจจะไม่ได้เติบโตในฐานะนักเขียน ก็มิใช่เป็นเรื่องที่ผิดแผก หลาย คนผมยงั พ บปะตามงานวรรณกรรมง านสปั ดาห์ห นังสือห ลายคนผมอยากอา่ น งานเขียนอนื่ ๆ ข องเขาซ งึ่ ข อเอ่ยน ามเพือ่ เผือ่ ว า่ ส าสน์น จี้ ะสง่ ไ ปถงึ พ วกเขาแ ละ บอกพวกเขาวา่ ถ า้ ย งั ม แี รงอย่าไ ด้ท งิ้ ค วามสามารถพเิ ศษนไี้ ปเด็ดข าดไ ม่ว า่ ง าน ประจำหรือว ถิ ชี วี ติ จ ริงจ ะทำให้พ วกเขาเหนือ่ ยหนักเพียงใดน ามนกั เขียนเหล่าน นั้ คือโ อสธี,“ พ ระเจ้า” ,ว ชิ ติ ห อยงิ่ ส วัสดิ,์ “ ธ ามาดา”,ณ ข วัญศ รีอ รุโ นทัย,ป ริญญา พิพัฒน์พร,“ฤดูกาล”,อัฏฐพลส่งแสงแน่นอน...นักเขียนย่อมมีวิถีทางของตน เฉพาะดังนั้นวันเวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์เส้นทางนี้ได้แจ่มชัด
WRITESHORTSTORYAWARD2552เป็นเพียงหนึ่งทางผ่านยัง เหลือหนทางที่นักเขียนจะฟันฝ่าต่อไป ยงั เหลือเวลาทจี่ ะส่งเรื่องสั้นอีก11เดือนผมยงั ไม่นบั ถอยหลังจนกว่า จะถึงเวลานั้น(อ่านกติกา หน้า 47) นั ก เ ขี ย นห ลายค นส่ ง ง านม าประกวดผ่ า นเ กิ ด เ ป็ น ค รั้ ง แ รก นั ก เ ขี ย นห ลายค นมี ตั ว ต นอ ยู่ แ ล้ ว มี เ รื่ อ งสั้ น ผ่ า นเกิ ด ตามหน้ า นิ ต ยสาร มีรวมเรือ่ งสัน้ เป็นตัวตนท ว่าเมือ่ ล งสสู่ นามเรือ่ งสนั้ ท กุ เรือ่ งมสี ถานะเดียวกันห มด ไม่ว า่ ม อื ใ หม่ห รือม อื เก่าก ระนัน้ น กั เขียนทเี่ ป็นม อื เก่าอ าจจะตอ้ งผา่ นดา่ นทเี่ ข้ม ข้นก ว่าน กั เขียนมอื ใ หม่ส กั ห นึง่ ก า้ ว...ก ารต่อให้เช่นนีอ้ าจจะดูไม่ยตุ ธิ รรม แต่ผม เชื่อว่ามันจะทำให้นักเขียนแข็งแกร่งขึ้น ทั้งสภาพจิตใจและฝีมือ รางวัลเป็นเพียง “รางวัล” มันอาจจะไม่มีค่าอะไร ถ้านักเขียนมิได้ แผ้วถางทางของตน ด้วยตนเอง บรรณาธิการเป็นเพียงผู้ค้นพบ และจากไป เท่านั้น...
นิวัต พุทธประสาท 10 มกราคม 2552
8 Write Short Story Award
Write Short Story Award 9
เหตุเกิดบนดอย ณัฐกมล ไชยสุวรรณ ครั บ - ผ มอ ยู่ บ นด อย นี่ เ ป็ น ค รั้ ง แ รกที่ ผ มไ ด้ ม าอ อกค่ า ยอ าสา พั ฒ นาข องค ณะที่ ผ มเ รี ย น ต ามสั ง กั ด ข องม หาวิ ท ยาลั ย ที่ ผมอ ยู่ . . . ตื่ น เ ต้ น ค รั บ ผ มท ำอ ะไรไ ม่ ถู ก น อกจากจั ด เ สื้ อ ผ้ า ไ ม่ กี่ ชุ ด (เดี๋ยวไปซักที่ค่าย) ‘เกงยีนต์ของผมเลือกตัวสีน้ำเงินเข้มดูขลัง ๆ เก่า ๆ ที่ ผมเลือกเพราะผมจะไม่ซักไม่เปลี่ยนจะใส่ไปตลอดค่ายเลย ห น้าทีข่ องผมในคา่ ยนนั้ ไ ม่ย ากครับผ มเป็นล กู ค า่ ยทำตัวใ ห้ฮ าๆ บ า้ ง บางครัง้ ก ช็ นแก้วน ำ้ อ ำพันก บั ช าวคา่ ยบา้ ง( บ า้ งแต่ห ลายครัง้ ) ผ มได้เวียน ไปตามตำแหน่งต่าง ๆ บางครั้งไปเป็นช่างก่อสร้างตึกเรียนแก่น้อง ๆ บน ดอยบ างครัง้ ก เ็ ป็นเจเนอรอ่ ล เบ๊พ ดู ง า่ ยๆ ว า่ ผ มอยูห่ น่วยสวัสดิการนนั่ เอง แฮะ..ทำทุกอย่างในการล้าง..บางทีก็เป็นหน่วยหุงหาซึ่งก็เป็นได้วันเดียว ก็ไ ม่ไ ด้เป็นห ลังไ ปทำขา้ วไหม้ใ นมอื้ เช้าข า้ วแฉะในตอนเทีย่ งแ ละขา้ วแข็ง ในมื้อเย็น วันนี้ผมตื่นเจ็ดโมงเช้าตรู่ พระอาทิตย์ทำหน้าที่ได้ไม่บิดพลิ้ว สายลม โปรยปลิวมาอย่างสบายๆหมอกลงไม่หนาเด็กๆเริ่มมาโรงเรียนผมยัน กายขึ้นด้วยรอยยิ้มแป้นวันนี้ผมจะเป็นครูฝึกหัด ครูอย่างผมนั้น ได้รับมอบหมายให้สอนภาษาอังกฤษ เข้าทางผมพอดีจะแล่น อังกฤษให้เด็กๆทึ่งกันเลยล่ะ
10 Write Short Story Award
นับตั้งแต่เป็นนักศึกษามา ผมไม่ได้มีโอกาสเหมาะ ๆ จะเคารพเพลงชาติเลย สักครั้ง นี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่หลุดจากนักเรียน ผมยืนขับกล่อมเพลงชาติของเด็ก ๆ ที่ชัด บ้างไม่ชัดเยอะอย่างว่าล่ะครับเด็กดอย ตีนผมตระหง่านอยู่หน้าห้องเรียนซึ่งแท้จริงแล้วเป็นห้องโถงกว้างๆมากกว่ามี เพียงฉากบางๆกั้นชั้นไว้ผมยิ้มเด็กๆต่างโปรยยิ้มมาให้ผมเป็นการตอบกลับคงเพราะลีลา ฮาๆของผมที่เตะตาเตะหูเด็กๆมามากเขาจึงยิ้มแบบมีความสุขแด่ผม “เอาล่ะ คิง..สอนเด็ก ม.3 เหรอ ระวังอย่าโชว์ขี้เลื่อยให้เด็กเห็นล่ะ” จอย ส าวงามประจำคา่ ยเปล่งเสียงกระซิบส ำเนียงลา้ นนาใส่ผ มท หี่ ล่อนทำใส่ผ มกเ็ พราะแซวสว่ น หนึ่งแต่แท้จริงแล้วผมกำลังจะจีบหล่อนติดน่ะ ผมเดินไปหน้ากระดาน เขียนชื่อเล่น เด็กถูกผมสะกดด้วยมุกฮา ๆ แบบเต็มเหนี่ ยวไปสักพักผมก็เห็นเด็กคนหนึ่งฟังซาวน์อะเบ้าท์เครื่องเก่าๆสีเงินซีดมีหูฟังสีน้ำเงินครอบ หัวดูเก่าๆโทรมๆถ้าเทียบกับแฮนดี้ไดร์ฟของคนพื้นดอย “ฟังเพลงอะไรจ๊ะ”ผมพูดด้วยน้ำเสียงอาดูร เด็กผู้ชายคนนั้นยังฟังเพลงอยู่ “หนุ่ม!ฟังเพลงอะไรจ๊ะ”ผมตะเบ็งเร่งเสียงดังขึ้น เด็กผ หู้ ญิงม .3 ค นหนึง่ ซ งึ่ เดาวา่ เป็นห วั หน้าห อ้ งจงึ เอือ้ มมอื ไ ปตที แี่ ขนของหนุม่ น กั ฟังที่สะดุ้งโหยงก่อนจะปล่อยเสียงภาษาดอยตอบกลับผมเดาได้ว่าคงด่ากราดเด็กผู้หญิง “ฟังเพลงอะไรคร้าบบบ” “imagineของจอนเลนน่อนครับ” ผ มองึ้ – ส งสัยเด็กม นั เล่นต ลกแน่ๆ เลยผ มทำสหี น้าง งๆ ส งสัยค งมพี ใี่ นคา่ ยแกล้ง ให้น้องอำผมแน่นอนเด็กดอยที่ไหนจะฟังเพลงฝรั่งแถมดันเป็นเพลงสุดแสนจะกวี๋...กวี “เพลงอะไรน่ะ”ผมถามย้ำ “imagineของจอนเลนน่อนไงครับผมชอบมากครับเป็นเพลงโปรดผมเลยน่ะ” แ ววตาเด็กบ อกผมได้ด วี า่ เขาไม่ไ ด้โ กหกผ มเอือ้ มมอื เป็นเชิงข อฟงั ห น่อยเขาหยิบ หูฟังให้ผม เมื่อหูสัมผัสกับหูฟัง เพลงที่เดินเข้าไปในหูผมนั้นสร้างความตะลึงตุงแช่ เพลง imagine ร้อยละร้อยแน่นอน เนื้อเพลงขับลำเนาแห่งสันติภาพออกมาอย่างชัดเจน นี่จอน เลนน่อนมาสร้างความบันเทิงบนดอยแล้วหรอวะ “ ใ ครเอามาให้ฟ งั น ะ่ ” ผ มถามค าดเดาคำตอบวา่ เด็กๆ พ วกนจี้ ะตอ้ งตอบวา่ ม คี น พื้นดอยขึ้นมาเล่นให้ฟังแน่นอน “พวกผมฟังกันอยู่แล้วครับ” นี่ยังมาโกหกกูอยู่อีกไอ้เด็กเปรต
Write Short Story Award 11
“พี่ไม่เชื่อผมใช่ไหมล่ะ”เด็กหญิงหัวหน้าห้องถามผมกลับ ผมยิ้มแหยงๆ “เดี๋ยวหนูจะเล่นเพลง Let it be ของบีทเธิ้ลฟัง” ปากปิดก็หยิบกีต้าร์ตัว เก่า ๆ หลังห้อง แล้วหล่อนก็บรรเลงเพลงได้อย่างที่ผมตะลึง มันช่างเพราะพริ้งราวกับเป็น เจ้าของภาษาและเป็นฝรั่ง “แหม..พี่ขี้โกงฟังมันคนเดียว เอากีต้าร์มา ผมจะเล่นเพลง Cocaineให้ฟัง เด็ก ชายโก่งวัยคว้ากีต้าร์ทันที่หล่อนเล่นจบ พร้อมกับกระชากวิญญาณร็อกเกอร์ที่ซ่อนไว้ในร่าง เด็กดอย ผมอ้าปากหวอ.. นี่ตกลงสอนเด็กดอยหรือนักดนตรีฝรั่งกันแน่วะ - ผมไม่ค่อยทำอะไรเป็นชิ้นเป็น อันเลยกับการสอนเด็กม.3 หมดเวลาผมทำสีหน้าอึ้งๆงงๆไม่เชื่อหูและสายตาตัวเองว่าจะมีเด็กดอยที่ไหน สามารถบรรเลงเพลงฝรั่งได้เพราะเสนาะหูแถมยังเป็นเพลงเก่าๆตำนานของโลกอีกเออออ ออโลกาสังวาสจริงๆ ช นั้ ม .2 ซ งึ่ ม นี อ้ งม.1 ม าปนกนั ด ว้ ยตามวสิ ยั เด็กด อยผ มได้ช ที ก ารสอนเกีย่ วกบั เรือ่ ง ภาพยนตร์ ผมยังมีความมั่นใจอยู่ว่าเด็กดอยชั้นนี้คงเป็นเด็กดอยอยู่ ผมยืนยิ้มหน้ากระดาน ถามเด็กว่า“ภาพยนตร์เรื่องอะไรที่น้องๆชอบ”ผมยิ้มกริ่มคำตอบคงเป็นหนังไทยอาจมีฝรั่ง บ้างถ้าคำนึงจากชั้นม.3เมื่อครู่ “2001 : Space Odyssey ของสแตนลี่ย์ คูบริก ครับ” เด็กผู้ชายเสียงเพิ่งแตก บอก ใครวะไอ้บริก!ผมส่ายหน้างงเป็นไก่ตาแตก“อะไรบริกน่ะ”ผมถามซ้ำ “สแตนลี่ย์ครูบริกไงครับผมชอบเรื่องนี้มากเพราะเป็นปรัชญาดีโดยเฉพาะตอน เริ่มเรื่องที่มีเสียงดนตรีกล่อมพวกผมให้ลงสู่เรื่องแบบดำดิ่งช่างเจ๋งจริงๆ” ดูเด็กมันตอบสิครับผมถามมันว่ามันฟังจากใครรึเปล่ามันบอกว่าไม่แถมยังร่าย มาเป็นชุด “ที่จริงAClockworkOrangeก็เจ๋งน่ะครับอื้อฉาวดี” “Dr. Strange Love :or how I stop worrying and love the bomb ด้วยครับ” เด็กหัวเกรียนลุกขึ้นพูดแทรก “พี่ล่ะครับชอบเรื่องอะไร”เด็กอีกคนถามผม ภาษาอังกฤษที่ผมจะมาสอนนั้น บัดนี้ละลายหายไปกับเปลวแดดซะแล้ว ลิ้นผม มันด้วนลงทันทีไม่อยากจะตอบห่าเหวอะไรแล้ว “พี่ชอบเรื่องอะไรค่ะ”เด็กผู้หญิงเสียงจิ้มลิ้มกล่าว
12 Write Short Story Award
“ครูบ้านนอกครับ”ผมฝืนใจตอบ “เชยจังค่ะ” ครับ กูกลายเป็นคนหลังเขาทันทีที่ยืนต่อหน้าเด็กอย่างพวกมึงนี่แหละครับ กูถึง ชอบครูบ้านนอกไง ผมคิดในใจท่ามกลางเสียงหัวเราะฮา ๆ ของเด็ก ๆ ที่คิดว่าเป็นมุก ครับ มึงคิดว่าเป็นมุกกูคิดว่ามุกพวกมึงเจ๋งกว่ากูอีก ชั้นป.5-6ผมทำตาปรือไม่อยากคิดว่าจะไปเจอฝรั่งที่ไหนอีกตาเหลือกไปในห้อง ก่อนกาย สายตาที่ไม่สั้นผมกวาดไปเจอเด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งกำลังอ่านหนังสือนิยายภาษา อังกฤษเรื่อง“TheGreatGASBY” ก อู ยากจะเป็นบ า้ เด็กน รกรึเปล่าว ะอา่ นเธอะเกรทแ กสบี้ ผ มองึ้ ไ ปอกี เป็นช ดุ เมือ่ เห็นเด็กผ หู้ ญิงห น้าตาแก่เรียนคนหนึง่ ก ำลังอ า่ น“ C rimea ndp unishment”ถ า้ ห งายหลังส ลบ ได้ผมทำแน่นอนครับ ผมอายม้วนเข้าไปข้างในก็เห็นเด็กอีกคนอ่าน“โฉมหน้าศักดินาไทย” ครับ... เอฟ สก็อต ฟิชเจอรัลด์, ฟีโอดอร์ เดสตอเยฟกี้, จิตร ภูมิศักดิ์ มึงจะให้กูมาสร้าง ห้องเรียนทำห่าอะไร ในเมื่อห้องแค่นี้มึงก็เก่งจนกูแทบจะส่องกระจกด่าตัวเองว่าไอ้โง่อยู่ แล้ว ผมอยู่ในร่างไร้วิณญาณทันที ปากทำหน้าที่สอน แต่หัวผมตอนนี้มีแต่ขี้เลื่อยสม ดั่งที่จอยแซว ชั้นป. 3- 4 ผมหลับตา กัดริมฝีปากมิด กัดจนอยากให้เลือดไหลออกร่างไปหมด เลยให้ตายห่าบนดอยนี่แหละ ผมเห็นเด็กกำลังร้องเพลงฮิปฮอป ผมหันหลังและวิ่งออกไป กลับไปที่ห้องนอน ตบหน้าตัวเองเต็มแรงสัก สองสามที “กูฝันอยู่รึเปล่าวะ” เสียงตะโกนดังก้องอยู่ในหมอนที่ อุดปากอยู่ ผมรวบรวมสติและไปสอนเด็ก ๆ ได้อย่างทุลักทุเล สอนไปเดี๋ยวเด็กก็บอกให้ผม ร้องไอ้เพลงที่ฟังแล้วหอบตลอดผมยิ้มเหี้ยมๆ“ให้พี่สอนก่อนนะถ้าเวลาเหลือค่อยร้อง”ไม่ ต้องถามว่าผมสอนเต็มเวลารึเปล่า “พี่ชอบเพลงอะไรครับ” เด็กหน้าตาบนดอยถามผม ก่อนที่จะสาวหน้าออกจาก ห้องไป “สาวบางโพธิ์ของตู้ดิเรก” ผมพูดจบก็รีบสาวเท้าออกไป แต่หูก็ยังไวพอที่จะได้ยินเสียงหัวเราะดังลั่นจาก เด็ก ๆ ผ มสา่ ยหน้าอ ย่างแรงๆ ไ ม่เข้าใจโลกแ ล้วก สู อนอะไรวะเนีย่ เด็กแ ม่ง ฉ ลาดทกุ ค น
Write Short Story Award 13
ฉลาดกว่าคนพื้นดอยอย่างผมอีก ความรู้ที่สะสมในมหา’ลัย กลายเป็นขี้เลื่อยมาสิงอยู่ในหัว ผมเต็มไปหมด “พี่วันนี้ครูเขาจะเปิดให้ดูหนังเรื่องredsquirrelของฆูลิโอเมนเด็มพี่ไปดูกับผม ด้วยน่ะ”น้องม.3ยื่นหน้ามาบอกผม ผมทรุดตัวลงบนสนามหญ้า(ที่ไม่ค่อยมีหญ้า)บรรยากาศที่ผมเห็นมันน่าพัฒนา ให้ทัดเทียมชาวเมืองจริงๆแต่ไฉนเอยเล่าทำไมเด็กพวกนี้ถึงเก่งกาจร้ายจริงวะ “ระวังอย่าโชว์ขี้เลื่อยให้เด็กเห็นล่ะ” เสียงของจอยดังก้องในหัวผมมือสองข้างปิดหัวหลับตาทิ้งตัวลงกระทบดินแดง ผมใช้นิ้วมือแทงทะลุเข้าไปในหัวทะลุไปเรื่อยๆหวังให้มันไปถึงสมอง “จะไชขี้เลื่อยออกมาโปรยบนดอยน่ะ”ผมคิดในใจมันเป็นไปได้ยังไงที่เด็กบนนี้มี ความสามรถสูงส่งกว่าผมกะลาที่ครอบหัวนี้มันช่างกว้างใหญ่ไพศาลเหลือเกินกว้างจนผม มองไม่เห็นขี้เลื่อยบนหัวตัวเอง “ระวังอย่าโชว์ขี้เลื่อยให้เด็กเห็นล่ะ” “ระวังอย่าโชว์ขี้เลื่อยให้เด็กเห็นล่ะ” “ระวังอย่าโชว์ขี้เลื่อยให้เด็กเห็นล่ะ” เสียงนดี้ งั ก อ้ งในหวั ผ มเป็นร อ้ ยครัง้ ใ นขณะทนี่ วิ้ ข องผมไต่ไ ปถงึ ข เี้ ลือ่ ยกอ้ นแรกของ สมองมนั ช อื่ ว า่ ย ะโส..ผ มไม่ส ามารถคว้านมนั อ อกมาได้ม นั ฝ งั แ น่นต ดิ อ ยูไ่ ม่ย อมออกท นั ใด !มันก็บังคับให้ผมตะโกนดังลั่นในใจ ทำไมกูถึงโง่กว่าเด็กบนดอยได้วะ กูไม่เข้าใจ....................................... นั่นน่ะสิ
เรื่องราวพลิกผันในแบบ“บ้านนอกเข้ากรุง”แต่กลายมาเป็นคู่ตรงข้าม“คนกรุงเข้าบ้าน นอก”ก ารตดั ก นั ร ะหว่างความคดิ ข องชนชัน้ ย งั ค งมอี ยูใ่ นสงั คมน บั ว นั ย งิ่ ท วีค วามชดั เจน ขึ้นเมื่ออุดมการณ์การศึกษาและวัฒนธรรมที่เปลี่ยนแปลงไปไหลลื่นยิ่งขึ้นการหาข้อ ยุติ แ ละความขดั แ ย้งน บั ว นั ซ บั ซ อ้ นจนไม่อ าจจะมองเพียงสามหรือส มี่ ติ ไิ ด้อ กี แ ล้วน าม ใหม่นามนี้ผ่านเกิดด้วยภาษาที่จับต้องได้โดยเฉพาะบทสนทนาที่ดูเป็นธรรมชาติ
14 Write Short Story Award
Write Short Story Award 15
ราวกับมีหิมะตกบนเกาะตาฮิติ... กันต์ธรอักษรนำ 1.เบื้องหน้า ฉันอ้วกออกมาเป็นน้ำแข็งหลังจากดูหนังสั้นเรื่องเรเน (Rene’) จบ น้ำตา ที่ไหลออกมามีรสขม มันท่วมทะลักบนใบหน้าจนฉันต้องกินมันเข้าไป ก่อนอ้วกออกมาเป็นน้ำแข็งอีกครั้ง ที่จริงมันดูคล้าย ๆ หิมะ หรืออาจ เป็นน้ำแข็งใสมากกว่า ฉันอ้วกออกมามากมายจนไอจากความเยือกเย็น ปกคลุมห้อง... ทำไมฉนั ถ งึ อ ยากเล่าเรือ่ งของเรเนน่ะห รือฉ นั จ ะเล่าใ ห้ฟ งั ใ นตอน สุดท้ายของเรื่องนี้ หนังเรื่องนี้เป็นหนังของผู้กำกับฝาแฝดชาวตาฮิเตียน ที่เคยสร้าง ผลงานสั่นสะเทือนดวงดาวเรื่อง บลูโนส (Blue Nose, 1994) และ ไนซ์ วิลเล (Nice Ville, 1997) ถ่ายทำบนเกาะเล็กๆ กลางมหาสมุทรแปซิฟิก ชื่อตาฮิติ ตาฮิติเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะวินวาร์ด (Windward) แห่งเฟรนซ์โพลิเนเซีย เกาะเดียวกับที่จิตรกรโกแกง ชาวฝรั่งเศสเคยไป พำนักอยู่และสร้างงานศิลปะอันลือเลื่องไว้จำนวนหนึ่ง ภาพที่สวยงามจำนวนหนึ่งในนั้นคือ ภาพของหญิงสาวแห่งตาฮิติ แสงแดดร้อนแรงตลอดเรื่อง ราวกับพระอาทิตย์ไม่เคยตกดิน ชะตากรรมของเรเน
16 Write Short Story Award
นักเดินทางสาวชาวสวิส ประกอบไปกับเสียงเพลงบรรเลงของฮันส์โกรเฮอันเยือกเย็นเข้าไส้ ตัดกันอย่างรุนแรงกับสภาพอากาศในเรื่อง ทว่ากลมกลืนอย่างยิ่งกับความเป็นไปของตัว ละครอย่างเรเน ทำไมฉันจึงรู้สึกว่ามันเยือกเย็นเข้าไส้ เพราะฉันรู้สึกหนาวจนสั่นสะท้านน่ะสิ ฉันไม่ ได้จินตนาการว่าฉันหนาวหรอกนะหากเธอจะเชื่อ สฟิงค์กรีดเสียงโหยหวน น่าจะเป็นเสียงร้องของมัน โดยมีฮันนาทำเสียงต่ำ ๆ คล้าย ๆเสียงเต่าคลอกันไปฉันเกิดความรู้สึกอยากใช้ความหม่นเศร้าสะเทือนใจให้เกิดภาพ เช่นเรเนบ้าง ชะตากรรมอันตระการตา ทว่า เบาหวิวของเรเนเกิดจากอารมณ์รุนแรงของเธอ แทบทั้งสิ้นเธอกินน้ำทะเลเธอหัวเราะเยาะใส่มันราวกับเอาชนะมันได้เธอดื่มน้ำจากแก้วไม่ ได้เพราะแค่เธอมองแก้วเท่านัน้ ม นั ก แ็ ตกกระจายจนแหลกละเอียดบ รรยากาศในเรือ่ งเข้าก บั อารมณ์คลุ้มคลั่งของเธอเป็นบ้า เราไม่อาจทำความเข้าใจพฤติกรรมไร้เหตุผลหรือที่มาที่ไปของเรเนได้ (อันที่จริงเรา ก็ไม่ได้อยากเข้าใจนัก)นอกจากนั่งดูภาพเธอไปเรื่อยๆราวกับกำลังเฝ้ามองงานศิลปะอยู่ใน แกลอรี่ที่ไหนสักแห่ง พ ระอาทิตย์แ ผดเผาจนผนื ท รายสดี ำกลายเป็นส นี ำ้ ตาลแดงช วี ติ ข องเรเนเองคงเป็น เช่นเดียวกับความเปราะบางของแก้วน้ำเรารู้ว่าเธอตั้งใจเดินทางจากที่อันหนาวเย็นของโลก เพื่อมายังเกาะเล็กๆกลางมหาสมุทรแปซิฟิกอันร้อนแรงแห่งนี้ เรเนพูดไม่เป็นภาษามนุษย์ทั้งที่เธอเป็นชาวสวิตเซอร์แลนด์ ซาวด์แทรกในเรื่อง ก็ไม่เป็นภาษามนุษย์แต่พูดได้ว่าคือเสียงดนตรี เสียงดนตรีเป็นสิ่งเดียวในเรื่องที่เยือกเย็น ที่สุด มันคือความเหน็บหนาวท่ามกลางแสงแดดร้อนแรง หรือที่จริงแล้วคือแสงแดดนั้นเย็น ยะเยือกกันแน่ เพลงของฮนั ส์โ กรเฮทำให้เรเนผเู้ ศร้าโ ศกแ ละเปลีย่ วเหงาดงู ดงามทา่ มกลางแมกไม้ และชายหาดเขตร้อนไม่มีใครรู้ว่าทำไมเรเนจึงเป็นเช่นนั้นไม่มีใครสนใจใบหน้าอันเศร้าโศก และซดี เซียวของเธอสกั ค นใครกนั จ ะอยากรวู้ า่ เรเนห รือน กั ท อ่ งเทีย่ วทงั้ หมดนนั่ ม ที มี่ าอย่างไร (นอกจากเรา) หากไม่มีเหตุการณ์ที่ทำให้ใครสักคนรู้จักกัน ซึ่งมันไม่มีเรื่องบังเอิญเช่นนั้นใน หนังเรือ่ งนี้ เพราะมนั เป็นค วามจงใจทถี่ กู ท ำให้ด เู หมือนเหตุบ งั เอิญแ ต่เรือ่ งบงั เอิญท ดี่ เู หมือน จงใจเรือ่ งเดียวทเี่ กิดข นึ้ ค อื ฉ นั ไ ด้เห็นเรเนผา่ นการนงั่ ม องเธออย่างตงั้ ใจแ ละทำเหมือนวา่ ฉ นั รูจ้ กั เธอดพี อแ ละดเู หมือนวา่ ฉ นั จ ะชอบเธออยูบ่ า้ งบ อ่ ยครัง้ ฉ นั ต ดิ น สิ ยั เฝ้าม องแบบนไี้ ปใช้ก บั ภาพจริงๆ ที่ฉันปฏิสัมพันธ์ด้วยในการดำเนินชีวิต ซึ่งนั่นเป็นเรื่องน่าเศร้ามากทั้งที่ฉันไม่รู้จัก ใครจริงๆพอที่จะตัดสินเขาได้แต่ฉันชอบอยู่ในตำแหน่งที่ดูเหมือนว่าจะตัดสินอะไรพวกนั้น ได้ผ า่ นการเฝ้าม องเท่านัน้ เราเรียกให้ม นั ห รูหราขนึ้ ม าอกี ส กั ห น่อยวา่ ก ารสงั เกตท งั้ ท จี่ ริงก าร สัมผัสอาจทำให้เกิดความรู้สึกรื่นรมย์หรืออาจลึกซึ้งกว่า
Write Short Story Award 17
และหากเรื่องนี้จะมีมิติเชิงลึกมากกว่าการเฝ้ามองคาดเดาและครุ่นคิดนั่นอาจเป็น เหตุผลที่ฉันอยากถ่ายทอดเรื่องนี้ออกมาสู่โลกบนผืนกระดาษ แทนที่โลกของผืนผ้าใบ หรือ โลกของแผ่นฟิล์ม แ ม้วา่ ฉ นั จ ะถกู ท ำให้ใ ส่ใจชวี ติ ใ ครสกั ค นผา่ นภาพยนตร์ส กั เรือ่ งหนึง่ ซ งึ่ ฉ นั อ าจพบมนั โดยบังเอิญจากแรงแสวงหางานเชิงศิลปะ ซึ่งที่จริงควรใช้ว่าแรงจูงใจมากกว่า อาจกล่าวได้ ผูค้ นในยคุ ข องฉนั เรียกมนั ว า่ “ ก ารแสวงหาความหมายของชวี ติ ต วั เองผา่ นตวั แ สดงแทน”ห รือ หากหยาบอกี น ดิ ค อื ช วี ติ ผ อู้ นื่ เรามองชวี ติ เหล่าน นั้ ค นแปลกหน้าเหล่าน นั้ จ ากนนั้ เราอาจมอง เห็นต วั เองห รือบ างทีม นั อ าจหล่นล งมาจากทอ้ งฟ้าจ ากพระผเู้ ป็นเจ้าเหมือนลกู แ อปเปิลข อง ไอแซคนิวตันและเรียกให้ดีขึ้นอีกสักนิดว่า“ความใส่ใจใฝ่รู้ต่อโลกที่เราอาศัยอยู่” ท จี่ ริงค วามชาชนิ ต อ่ โ ลกรอบกายอาจทำให้ฉ นั ไ ม่อ ยากรอู้ ะไรมากไปกว่าน นี้ อกจาก ภาพทถี่ กู น ำมาแสดงให้เห็นแ ละทำให้ค าดเดาฉ นั ร เู้ พียงวา่ เรเนมาจากสว ติ เซอร์แ ลนด์จ ากสงิ่ ทีป่ รากฎบ นเป้เดินท างใบนนั้ ฉ นั แ ค่ถ กู ก ระตุน้ ใ ห้ส นใจผหู้ ญิงท ดี่ เู หมือนบา้ ค ลัง่ อ ย่างเรเนส กั วันฉันอาจบ้าและเดินทางไปตาฮิติเหมือนเธอบ้างแต่ใครจะสนใจ...(Who’scare?) แต่หากความชาชินอันดูเหมือนเป็นปกติในชีวิตเหล่านั้นถูกนำมาเล่าขาน แปลง เปลี่ยนไปสู่ความมหัศจรรย์ของการนำเสนอ เกิดตัวละครประหลาดๆ พฤติกรรมที่หาสาเหตุ ไม่ได้ บทสนทนาที่คลุมเคลือระหว่างปรัชญาและธรรมชาติ ความยอกย้อนของวันเวลาและ สถานที่ อาจประสบผลสำเร็จสูงสุดถึงขั้นทำให้เราเบื่อโลกจืดชืดในตัวเองน้อยลง รู้สึกว่าตัว เองมีความหมายหรือมีตัวตนมากขึ้นจากการ”มองเห็น”ผ่านตัวแสดงแทนนั่น มันอาจมีพลังถึงขั้นทำให้เราพบความสุขสุดยอดชั่วคราวเพียงไม่กี่นาทีก่อนกลับสู่ สภาพปกติอันน่าเบื่อ หรืออาจเกิดไอเดียเพี้ยน ๆ หลุดโลก ค้นพบปรัชญาการดำรงชีวิตครั้ง ใหญ่ที่เคยมีคนนับล้านค้นพบมาแล้ว สิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้ในโลกนี้นั้นแท้จริงแล้วเป็น ไปได้ท งั้ หมดจ นในทสี่ ดุ เรือ่ งแปลกประหลาดนา่ เหลือเชือ่ ย งั ก ลายเป็นส งิ่ ธ รรมดาและนา่ เบือ่ ไปได้มันต้องมีวิธีการสรรค์สร้างให้เรื่องราวเกิดความพิศดารลึกลับเหงาโดดเดี่ยวเวิ้งว้าง น่าค้นหาหรืออะไรสักอย่าง เพื่อในที่สุดฉันจะอุทานออกมาได้ ทำตาโต ยิ้ม หัวเราะ และอาจคิด และอาจ เขียน... สฟิงค์ไล่วิ่งจับกระรอกบนหาดทรายท่ามกลางแสงพระอาทิตย์แผดจ้าราวกับไม่ เคยมีเวลากลางคืนเกิดขึ้นมาก่อนบนโลกของฟีอุสใบนี้ มโนภาพของเรเนปรากฎให้เราเห็น สฟิงค์ร้องเพลงโหยหวนกลางแสงอาทิตย์จัดจ้า คลอไปกับเสียงของครางต่ำ ๆ เหมือนเต่า ของฮันนา ฉันรู้สึกสะอิดสะเอียนภาพที่เรเนใช้ช้อนตักอะไรสักอย่างข้น ๆดูเหนียวเหนอะหนะ
18 Write Short Story Award
และมีสีเหมือนชีสเข้าปาก จากนั้นเธอใช้มันละเลงบนใบหน้า ลูบไล้ไปตามลำคอและละเลง ไปทั่วตัวอย่างบ้าคลั่งทั้งที่ความจริงเรเนดูไม่เหมือนคนบ้าเลยเธองดงามกว่านั้นมาก เสียงร้องเพลงของสฟิงค์และเสียงทุ้มต่ำเหมือนเต่าของฮันนา ประสานกับบทเพลง บรรเลงของฮันส์โกรเฮทำให้เกาะตาฮิติราวกับมีหิมะตก เรเนตะโ กนเป็นภ าษาอะไรสกั อ ย่างทไี่ ม่ใช่ภ าษามนุษย์ใ นเกสเฮาสส์ เี หลืองนนั่ ว า่ ก นั ว่าคงมีเพียงหูเทพฟีอุสเท่านั้นที่ได้ยินแต่ฉันแปลความเอาเองว่า“ไอ้ชั่วไปตายซะ” ฉ นั ค าดเดาเอาเองอกี ว า่ เรเนคงอกหักอ าจมปี ญ ั หาสะเทือนใจอย่างรนุ แรงเพราะ คงมอี บุ ตั เิ หตุใ นชวี ติ ม นุษย์ไ ม่ก อี่ ย่างทสี่ ง่ ผ ลรนุ เรงตอ่ เราอย่างรา้ ยกาจเรเนอยบู่ นเกาะตาฮติ ิ โดยมเี ฮดโฟนของฟเี ลียส วมใส่อ ยูต่ ลอดเวลาเธอไม่เคยถอดมนั อ อกแม้เวลาหลับ( ค งมเี พียง หูเทพฟอี สุ เท่านัน้ ท ไี่ ด้ย นิ ว า่ เรเนฟงั เพลงอะไร)ต อนทีเ่ รเนหลับพ ระอาทิตย์ก ย็ งั แ ผดแสงอย่าง รุนแรงจนฉันแสบตาหนังทั้งเรื่องดูเหมือนถูกคลุมด้วยสีส้มสีแดงและสีเหลืองตลอดเวลา เรเนดูงดงามในชุดบิกินีสีขาวของอีเกียมีผ้าพันคอจาร์กัวส์สีท้องฟ้าคลุมบ่าที่ใบ หูข องเธอสกั ร ปู ม ดตวั เล็กๆส ามตวั ส ดี ำร อยสกั ใ หญ่ท สี่ ดุ อ ยูเ่ หนือส ะโพกดา้ นหลังเป็นร ปู ค ลืน่ ยักษ์แห่งคานางาวะของโฮกุไซ เรเนเดินเรื่อยเปื่อยบนชายหาดสีส้มมีเฮดโฟนฟีเลียอยู่บนหัว(เรารู้แค่ว่าเฮดโฟน ของฟีเลียเป็นสัญลักษณ์ของงานออกแบบที่สวยงามที่สุดในศตวรรษที่ 21) คล้ายกับว่าเธอ ถือหนังสือเล่มหนึ่งในมือ หนังไม่อนุญาตให้เรารู้ได้ว่าเรเนถือหนังสืออะไร แต่ฉันเดาเอา เองว่าอาจเป็นคัมภีร์ของมากุสติโน ว่าด้วยปรัชญาการใช้ชีวิตบนดาวพลูโตเนีย ภาคที่หนึ่ง (ทั้งหมดมีแปดภาค) และบทที่เธอชอบอ่านที่สุดคงเป็นบทที่ยี่สิบสาม “ว่าด้วยการแสวงหา ผลประโยชน์และอำนาจจากแรงกระเพื่อมของจิตสำนึก แรงบันดาลใจ และสิ่งที่เรียกได้ว่า ความรู้สึกอันสะเทือนใจ” เธอสูบอะไรสักอย่างดูคล้ายฝักวนิลาแห้ง ๆ สีน้ำตาลควันของมันเป็นสีเหลืองเธอ ชอบลูบไล้ตามตัวของสฟิงค์แล้วฮัมเพลงไปกับมันและฮันนา เวลาที่สิ่งที่ดูเหมือนมีชีวิตสอง ตัวนี้เข้ามาคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ ฮันนาเป็นกระรอกสีเขียวที่เกาะอยู่บนไหล่สฟิงค์ที่ดูเหมือน หินตลอดเวลา ดูราวกับมันเป็นเพื่อนสนิทกัน ถ้าตอนสุดท้ายสฟิงค์จะไม่ทำอย่างนั้นกับ ฮันนา... สิ่งที่เรเนกินอยู่เพียงอย่างเดียวตลอดเรื่องคือของเหลวน่าสะอิดสะเอียนนั่น กระทั่งเควลาโผล่มาฉันจึงเห็นว่าเควลาก็ชอบกินของเหลวนั่นด้วยเพราะว่าเรเนชวนให้กิน ตอนที่กินของเหลวสีชีสนั่นเรเนรำพึงอะไรสักอย่างที่น่าจะแปลว่า“โอสุดยอดฉันมีความสุข จัง...” ม นุษย์ส องคนเดินค ลอเคลียก นั ไ ปตามชายหาดรอ้ นระอุส บู ฝ กั พ ชื แ ห้ง ๆ ส นี ำ้ ตาลค วัน สีเหลืองมีเพียงเสียงเพลงของฮันส์โกรเฮที่ทำให้เกาะดูราวกับจะมีหิมะตกลงมา สองคนใช้ชีวิตท่ามกลางแสงแดดวิ่งเล่นไล่จับเต้นรำแก้ผ้าสลับไปกับภาพของ
Write Short Story Award 19
สฟิงค์ไล่จับกระรอกบนเกาะ คล้ายกับว่าเรเนจะแนะนำเควลาให้รู้จักสฟิงค์และฮันนา เรเน คงบอกเควลาว่า “นี่สฟิงค์แม่ฉัน และนั่นฮันนาลูกฉัน” และจบที่การกินของเหลวบัดซบนั่น ในเกสเฮาส์สีเหลือง เรเนใช้มันละเลงบนใบหน้า เควลาทำตามกระทั่งเรเนตะโกนอะไรออก มาสักอย่าง ที่ฉันคาดเดาเอาเองว่า “ไอ้ชั่ว ไปตายซะ” เสียงแก้วแตกกระจาย แล้วเควลาก็ หายไปมีเพียงสฟิงค์กับฮันนาที่โผล่มาในโลกของเรเนหลังจากนั้น บทเพลงบรรเลงของฮันส์โกรเฮทำให้หิมะตกจนได้ หลังจากเรเนทำแก้วแตกไป ยี่สิบแปดใบ และสฟิงค์ค่อย ๆ ใช้ลิ้นตวัดฮันน่าเข้าปากแล้วกลืนมันลงคอ จากนั้นฉันก็อ้วก ออกมาเป็นน้ำแข็ง... ตอนสุดท้ายเรเนเดินจมหายไปในท้องทะเลสีแดงพร้อมเฮดโฟนของฟีเลีย บิกินี ของอีเกีย ผ้าพันคอจาร์กัวส์ คลื่นยักษ์คานางาวะของโฮกุไซ และมดสามตัวที่หู (ทั้งสามตัว มีชื่ออยู่ในรายชื่อนักแสดงที่ขึ้นมาช่วงเพลงบรรเลงตอนจบด้วยคือมาโอรีลีชูนิโอคาโปและ เรดนิ อี า)โ ดยมีสฟิงค์แ ละฮนั น าอกี ต วั ห นึง่ ท อดสายตามมองจากชายหาดพ วกมนั ด รู าวกับร ปู ปั้นท่ามกลางหิมะที่โปรยปรายลงมากลางแสงแดดแผดจ้าจากนั้นสฟิงค์ก็ทำเสียงโหยหวน โดยมีฮันนาตัวใหม่ทำเสียงครางต่ำ ๆ เหมือนเต่าคลอตาม... ใ นทสี่ ดุ บ ทเพลงของฮนั ส์โ กรเฮทำให้ห มิ ะตกบนเกาะตาฮติ .ิ ..ห มิ ะสขี าวคอ่ ย ๆ ห ม่ คลุมส เี หลืองอมสม้ ข องเกาะร า่ งของสฟิงค์ท เี่ ป็นส เี หลืองเจิดจ า้ แ ละฮนั น าตวั ใ หม่ท มี่ รี า่ งเป็น สีเขียว( เช่นเดียว กับฮันน าตวั ก อ่ น)ฮ นั น าเป็นจ ดุ ส เี ขียวหนึง่ เดียวในหนังเรือ่ งนี้ ท งั้ ส องรา่ งถกู หิมะปกคลุม เรเนหายไปแล้วในทะเลสีแดง ฉันคิดไปเองว่าเธอกำลังล่องลอยกลับสวิตเซอร์ แลนด์หรืออาจกำลังไปหาฮันส์โกรเฮที่ดาวพลูโตเนีย ห มิ ะหม่ เกาะกระทัง่ ม นั ข าวโพลนกลมกลืนไ ปกบั เสียงเพลงสดุ ท้ายทไี่ พเราะและเยือก เย็นสุดขั้วของโกรเฮ...ตาฮิติกลายร่างเป็นสีขาวตัดกับมหาสมุทรแปซิฟิกสีแดง... 2.เบื้องหลัง ผู้กำกับฝาแฝดคูปานีและปาคูนีให้สัมภาษณ์ในแมกกาซีนโอลิมปัสว่า ความจริงก็คือสฟิงค์ และฮันนาเล่นทายปริศนากัน แต่สฟิงค์เป็นคนกำหนดกฎเกณฑ์มากกว่าเพราะฮันนาไม่มี สิทธิถามหากฮันนาตอบผิดมันจะถูกสฟิงค์กินเป็นอาหาร ตอนแรกนั้นเขาตัดสินใจไม่ถูกว่าจะใช้สฟิงค์ตัวไหนจากรูปปั้นและภาพวาดสฟิงค์ โบราณหลายรอ้ ยตวั จ ากทวั่ โ ลกเขารเู้ พียงวา่ เขาหลงใหลมนั แ ละอยากให้ม สี ฟิงค์อ ยูบ่ นเกาะ ตาฮติ บิ า้ งเขาหลงใหลความเย้าย วนใจเชิงเพศรสของนางสฟิงค์ท งั้ ห ลายเหล่าน นั้ พ วกหล่อน ทั้งแข็งแกร่งและน่าเกรงขามมีลักษณะของทั้งเพศหญิงและเพศชายแต่ในที่สุดหลังใช้เวลา ศึกษานาน 5 เดือน เขาก็พบว่าเขาตกหลุมรักนางสฟิงค์ต้นแบบอยู่สามตัวคือ กรีกสฟิงค์ที่
20 Write Short Story Award
เมืองแอทติกา อินเดียนสฟิงค์ หรือ ปุรุชามริกา ซึ่งมีตัวต้นแบบอันอวบอ้วนอยู่ที่วัดชรีวรา ดาราชา เพรุมาลในเมืองตรีภูวนาของอินเดีย และสุดท้ายสฟิงค์แสนสวยที่วังบาโรคลากรัน ชาในเมืองซานแอลเดฟอนโซประเทศสเปนส่วนอียิปต์สฟิงค์นั้นน่าเกรงขามและน่าเคารพ ที่สุดสำหรับเขาแต่มันดูไม่ค่อยเหมาะกับเกาะตาฮิติเท่าไรและแม้ว่ากรีกสฟิงค์ที่เขาชอบจะ มีอยู่สองตัวแต่ในที่สุดเขาก็เลือกนางสฟิงค์จากแอทติกา ทั้งที่จริงเรเนหน้าตาเหมือนสฟิงค์ แสนสวยที่ลากรันชามากกว่า... สฟิงค์จากแอทติกาตัวนี้เป็นกรีกสฟิงค์ที่งดงาม เธอมีปีกยาวงอกงามจากแผ่นหลัง เป็นสฟิงค์ตัวเดียวกับที่เฮราส่งไปเฝ้าทางเข้าเมืองธีบส์ ของอาณาจักรกรีกโบราณ และคอย ถามปริศนานกั เดินท างทจี่ ะเดินท างเข้าส เู่ มืองธบี ส์โ อดิป สุ ต อบปริศนาของมนั ไ ด้แ ละทำให้ม นั ฆ่าตัวตายคำถามนั้นก็คือสัตว์ชนิดไหนตอนเช้ามีสี่ขาเที่ยงมีสองขาและเย็นมีสามขา... ฉันอยากให้เรเนเป็นสฟิงค์ที่งามสง่าราวนักรบตัวที่อยู่บนโรงแรมโฮเทล เดอวิลล์ ที่ กรุงปารีสมากกว่าส่วนฉันพบตัวเองอยู่ในภาพวาดโอดิปุสและนางสฟิงค์ของกุสตาฟมอร์ โรว์ ไอเย็นของน้ำแข็งที่ฉันสำรอกมันออกมาทำให้ฉันลืมไปชั่วขณะว่าตัวเองคือใคร ทั้งที่ตัวเองก็คือคำตอบอันน่าสมเพชที่สฟิงค์ถามโอดิปุส ฉันเพียงเฝ้ามองชะตากรรมอันตระ การตาและน่าสะอิดสะเอียนนั้นหรือว่าที่จริงฉันเสพติดสิ่งเหล่านี้กันแน่ฉันเสพติดภาพและ เสียงที่ถูกสร้างขึ้นเหล่านั้นได้อย่างไรกัน หรือว่าที่จริงแล้วฉันสะอิดสะเอียนชะตากรรมของ ตัวเองต่างหาก ฉันเดาว่าเควลาอาจตอบคำถามของสฟิงค์เรเนถูกเรเนจึงเดินลงทะเลหายไป ทำไมฉันจึงอยากเล่าเรื่องเรเนน่ะหรือ อาจเป็นเพราะเรเนผุดออกมาจากดวงตา ฉันเธอมีรสขมแล้วฉันก็กลืนเธอลงคอไปอีกก่อนสำรอกออกมาเป็นน้ำแข็งอีกครั้ง... 3.เบื้องหน้า ฉันลุกเดินออกไปยังระเบียงห้อง ยืนมองภาพสิ่งที่เคลื่อนไหวข้างนอกนั่นจากข้างบน ภาพ ที่ฉันเห็นมันกว้างเกินไป มีรายละเอียด และมีซอกมุมเล็กๆที่ฉันมองไม่เห็นอีกมากมาย ฉัน อาจเพ่งมองไปที่คนคนหนึ่ง มองเครื่องบินบนฟ้ากว้าง ก้อนเมฆดูหนัก ๆ และแสบตา ฉัน อาจจินตนาการถึงผู้คนบนนั้น และกลับมามองภาพความเป็นไปข้างล่างอีกครั้ง ฉันใช้ สายตาเพ่งมองสิ่งนั้นสิ่งนี้มากเกินไปจนเบื่อ ทั้งที่เป็นการมองโดยหยาบ ๆ และที่จริงอยาก พักสายตามากกว่า ฉันเกิดอยากรู้ว่าลุงคนที่ดูเหมือนคนบ้าหัวยุ่ง ๆแผลเต็มตัวสวมเสื้อผ้าขา ดๆที่ขี่ รถซาเล้งเก็บขยะไปทั่วตามตรอกซอกซอยนั้นบ้านอยู่ที่ไหนเขามีครอบครัวหรือเปล่าหรือว่า
Write Short Story Award 21
เด็กหญิงตัวน้อย ๆหน้าตาเศร้า ๆเหมือนเพิ่งร้องไห้มาหยก ๆซึ่งกำลังนั่งซ้อนท้ายจักรยาน คันที่หญิงสาวคนหนึ่งซึ่งอาจเป็นแม่หรือพี่เลี้ยงของเธอกำลังปั่นอยู่นั้นกำลังจะไปไหน เธอ ร้องไห้ทำไมถูกแม่ตีหรือถูกขัดใจ ฉ นั ค ดิ ใ ห้น า่ ก ลัวย งิ่ ข นึ้ ไ ปอกี ว า่ ม ใี ครสกั ค นถกู ข งั ถ กู ท ารุณก รรมห รือท กุ ข์ท รมานอยู่ ในห้องไหนสักห้องของตึกรามบ้านช่องอันกว้างใหญ่ไพศาลเหล่านี้บ้าง ฉันคิดฟุ้งซ่านด้วย ความอยากรู้มากไปฉันอาจสำรอกออกมาอีก... ฉันเดินกลับเข้ามาในห้องหยิบแผ่นซีดีหนังDuckSeasonขึ้นมาใส่มันเข้าไปใน เครือ่ งเล่นแ ละนงั่ ด ภู าพเคลือ่ นไหวจากจอสเี่ หลีย่ มความกว้าง2 4น วิ้ ฉ นั ม องเห็นโ ลกกว้างๆ จนดูเหมือนกว้างเกินไปจากจอสี่เหลี่ยมไม่กี่นิ้วนี้ ผ่านซีดีกลม ๆ บาง ๆ อันนั้น และยังเห็น ซอกมุมหนึ่งของย่านพักอาศัย ของบ้าน ของห้อง ของชีวิตผู้คนที่ฉันมองไม่เห็นจากระเบียง อีกมากมายหลายคน ฉ นั น งั่ ด มู นั อ ยูอ่ ย่างนนั้ อ าจเคยมคี นนบั ล า้ นห รืออ าจสกั ร อ้ ยคนด ภู าพในหนังเรือ่ ง เดียวกันนี้ เรานั่งดูภาพ ๆ เดียวกัน กล่าวได้ว่าเราดูหนังเรื่องเดียวกัน ฟังเพลงเพลงเดียวกัน แม้เราจะอยู่คนละมุมโลกหรืออาจอยู่ใกล้กันแค่ห้องข้างๆ แต่ไม่มีใครรู้ว่าฉันคิดอะไร...
หมายเหตุ:แรงดาลใจจากภาพDeuxThaitiennesของพอลโกแกงและจากเรื่องสั้นAlles ,wasfehltและDerAufenthaltของPeterStamm
กันต์ธรอักษรนำไม่ใช่นักเขียนหน้าใหม่อีกต่อไปแล้วแม้กระนั้นเรื่องสั้น ทีส่ ง่ ม ากห็ าใช่เรือ่ งสนั้ ธ รรมดาด ว้ ยบรรยากาศของเรือ่ งทแี่ ปลก ไม่คนุ้ เคย เต็มไปด้วยสัญลักษณ์อันหาเหตุผลไม่ได้ ทำให้คิดถึงหนังของเดวิด ลินซ์ บวกกับภาพมัวซัวของพายุในเกาะทะเลใต้ ตัดกับภาพหิมะอันระอุ และ การตัดซ้ำไปซ้ำมาของฉากเดิมอย่างได้ผล ทำให้เรื่องสั้นเรื่องนี้สร้างโลก ของตัวละครที่น่าหลงใหล เต็มไปด้วยจินตนการเหนือตัวอักษร ค่อย ๆ อ่านค่อย ๆ คิดตามถึงขั้นสยองเยียบ...
22 Write Short Story Award
Write Short Story Award 23
คืนหนึ่งกับอีกเช้าในหัวที่สับสนวุ่นวาย แก้มหอม วันนี้ฝนไม่ตกไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นหมอนปลิวมาตามลมในห้องนอนว่างเปล่าเธออยู่ ตรงนั้นเธอไม่อยู่ตรงนี้เธออยู่ตรงไหนความจริงความลวงเสียงสะท้อนดังมาจากที่ไกล แสนไกลแรงกระทบกระแทกหัวเพลงเก่าๆ ดังอยู่ในความทรงจำลมหนาวยังพัดมาใน ห้องค วามตอ้ งการทสี่ วนทางกนั ห ายใจอดึ อัดข ดั ข้องล มยงั เข้าม าทางหน้าต่างบนหวั นอน ฉันน อนกอ่ นเธอนะย าพษิ ท เี่ ธอดมื่ เข้าไปใ นความเงียบของกลางคนื แ สงดาวทสี่ อ่ งประกาย ลงมาจากฟากฟ้าเบื้องบนพ่อบอกว่าเมื่อวานเธอโทรมาอาจจะเป็นเพียงความฝันความรัก ทีเ่ ธอไม่เคยพบเจอค ำวา่ ร กั ท ลี่ วงหลอกย าพษิ ใ นคำคนค วามเงียบชวั่ ข ณะเธอยงั ห นั ห ลัง ให้เสยผมขึ้นไว้ที่กกหูนึกถึงลูกที่ยังอยู่ที่โรงพยาบาลความเจ็บปวดที่ไร้เรี่ยวแรงเธอยัง รับมันได้ไหมหากว่าหัวใจของเธอมันว่างเปล่าเธอยังอยู่หรือเปล่าฉันเจ็บปวดชั่วขณะที่ คิดอะไรไปมากมายหัวสมองของคนเรามีที่เก็บข้อมูลเหล่านี้ได้ตั้งมากมายที่ว่างยังเหลือ อยู่อีกหรือไม่ ฉันจะเจ็บจนตาย ถ้าหากเธอยังมีความรักหลงเหลืออยู่ ฉันยังอยู่ เธอยัง อยู่ขยับตัวเข้าไปใกล้โต๊ะคอมพิวเตอร์มากขึ้นชีวิตของเธอโดนทำร้ายหัวใจของเธอสลาย หรือว่าของเขาของฉันของใครทั้งหมดนี้มันคืออะไรกันพรุ่งนี้ฉันจะยังตื่นนอนท่ามกลาง หมูด่ าวฉ นั ป วดทอ้ งอหึ รือว า่ ฉ ี่ ท ำไมฉนั ต อ้ งมานงั่ อ ยูค่ นเดียวทา่ มกลางความเงียบของกลาง คืนนิ้วรัวเร็วลื่นไหลนึกถึงลูกชายอีกครั้งความชัดเจนที่ออกมาจากใจความหวังคืออะไร ฉันม คี วามรกั ใ ห้เธอมากมายม นั ก องอยูต่ รงหน้าบ า้ นของเธอน านมากแล้วท หี่ วั ใจไม่มเี สียง บอกเธอให้รับฟังฉันเป็นอะไรไปฉันบอกว่าขอให้เธอโชคดียกมือขึ้นเกาหัวเธอหนาวไหม ฉันยังนอนไม่หลับไม่อยากเล่นเกมอีกแล้วมันเบื่อนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ความคิด
24 Write Short Story Award
ของเธอนั้นคืออะไรไม่ชัดเจนเธอเรียกหาอะไรมากมายกลัวว่าฉันจะหายไปจากตรงนี้ไม่ ได้ยินเสียงของเธอ เธอไม่เข้าใจ ได้ยินเสียงของเธอลอยมาจากที่ ๆ ไกลแสนไกล เสียง แ ว่วๆ เข้าม าในหู ไ ม่ร บั ร ไู้ ม่เข้าใจในคำพดู จานนั้ น านแค่ไ หนแล้วท เี่ ราไม่ม เี ซ็กส ด์ ว้ ยกนั ฉ นั นอนช่วยเหลือตัวเองอยู่คนเดียวมีใครที่ช่วยเหลือตัวเองโดยมีคนอื่นบ้างความรู้สึกของใคร กันฉันรักเธอนั่นคือคำถามมันคือเรื่องราวที่ยากแก่การเข้าใจฉันกำลังเล่าเรื่องอะไรอยู่ เธอทำไมไม่พูดออกมา รักมันมากหรือน้อยกันแน่ คำว่าสายเกินที่จะแก้ไข เธอยังคงเงียบ อยู่ตรงนั้นหันหลังให้ฉันคำๆ เดียวเท่านั้นเองปวดหลังเมื่อนั่งนานๆจะมีใครเข้าใจบ้าง ไหมเธอรู้ว่าใจของเธอเป็นอย่างไรเสียงรถแล่นห่างออกไปรถอีกคันแล้วก็อีกคันที่แล่น ใกล้เข้ามามองออกไปนอกหน้าต่างท้องฟ้ายังมืดมัวหม่นเหมือนหัวใจของคนที่อ้างว้าง ฟ้าลิขิตให้ชีวิตของเราก้าวเดินต่อไปเธอท้อใจหรือไม่ทนได้ไหมอาจจะมีสักวันที่เราอาจ จะเข้าใจกัน ฉันเองยังไม่เข้าใจตัวเอง ความคิดมันแล่นไปเร็วมากขึ้น ๆ เสื้อผ้าของลูกยัง ไม่ได้เตรียม ความสุขของหัวใจ เธอเหลียวมาถามว่าอ้วนไหม ความกังวลเกาะกุมอยู่บน ใบหน้าถามคำถามเดิมซ้ำๆพรุ่งนี้จะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ลูกเธอยังหวังอะไรในใจเมื่อพายุ สงบจะพบคืนวันฟ้าใหม่ ถามอะไรอีกนะ ฉันเหลียวไปถามเธอสองครั้ง ดวงตะวันยังจะ ส่องแสงลงมาที่ฉัน มีใครมาเติมชีวิตให้กัน วันของเธอยังไม่มา หันกลับไปมองเธออีกครั้ง ทำไมยังไม่นอนอีก คิดอะไรอยู่ เธอยกขาขึ้นมา ไม่มีคำตอบมาจากปากบาง ๆ นั้น เสียง เพลงยังคงดังลอยอยู่ในบรรยากาศเพลงของใครไม่รู้ฉันยังคงตั้งหน้าตั้งตาพิมพ์ข้อความที่ เกิดขึ้นมาแอบรักอยู่ในใจมีใจให้คนมีเจ้าของว่ารักเธอทำไม่ไม่บอกเล่าเป็นชู้กับแฟน ของคนอื่น ไม่อาจจะห้ามใจได้เลย ขยับท่านั่งเปลี่ยนขาข้างขวามาทับขาข้างซ้าย เธอยัง ไม่หลับคิดถึงลูกหรือเปล่าเธอถามกลับมาทำไมใส่หมวกนอนด้วยเดี๋ยวเป็นหวัดเสียง ครางของลำโพงคอม ฯ หึ่ง ๆ ๆ ๆ เหมือนเครื่องทำไฟของรถฉายหนังขายยา เพลงดังขึ้น มาอีกเพลง เกาจมูก เธอยังรักเขาหรือเปล่า ปวดหลัง หาวอีกครั้ง ถ้าหาวอีกสองครั้งจะ กลายเป็นสามหาวจะมีใครตบปากหรือเปล่าเล่าไปถึงไหนชีวิตของลูกชายยังอยู่ในโรง พยาบาลฉันน่าจะนั่งเฝ้าลูกอยู่ที่โน่นมาทำไมที่นี่แม่ยังไม่โทรมากลับกรุงเทพมหานคร ยังไม่ได้เธอพูดอะไรอีกไม่รู้เสียงเบาเหลือเกินความโกรธของเธอยังอยู่สม่ำเสมอฉันหวง เธอมีใครมาจีบเธออีกหรือเปล่าถ้าฉันอกหักขึ้นมาล่ะบ้าอายุสามสิบกว่าเข้าไปแล้วกลัว ทำไม ลูกของเราน่ารัก เธอยืมโทรศัพท์ หันไปถาม เอาไปทำไม เงินในโทรศัพท์ไม่เหลือ บัตรเติมเงินท ซี่ อื้ ม าอยูไ่ หนถ ามฉนั ท ำไมเราไม่พ ดู อ ะไรเสียบ า้ งกด็ เี หมือนกนั ฉ นั ว า่ อ ะไรให้ เธอข้องใจหรือเปล่าความเงียบเข้ามาปกคลุมชั่วขณะไม่นานนักฉันโทรมาเพื่อจะบอกว่า รักเธอโทรหาใครหาวแล้วยังไม่นอนอีกเหรอฉันกำอะไรอยู่ความลับที่อยู่ในหัวใจเสียง ในหัวใจของเธอมันบอกว่าเธอยังมีความลับกับฉัน ฉันคิดถึงใครอยู่ ปวดท้องอยากไปเข้า ห้องน้ำ แต่การเขียนยังติดพัน น่าสนใจว่าฉันเขียนอะไรอยู่ ปวดท้องอีกแล้ว ทนไม่ไหว
Write Short Story Award 25
ต้องลุกขึ้นไปปล่อยอะไรออกมาเสียบ้าง หายปวดท้องแล้วเธอเรียกทำไมอีกเรียกไปหอมแก้มฉันได้ยินอะไรเพี้ยนไปหรือ เปล่าหรือว่าหูฝาดเท่านั้นเองหรือที่เธอต้องการเพียงมือที่ยื่นออกไปเมื่อเจอฝนพรำอ้อม แขนเหมือนกำแพงที่กั้นความมืดหนาวฉันพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกตัวหนังสือตกหล่นไประหว่าง บรรทัดความคิดเหมือนหยุดแล่นอีกชั่วขณะเธอคงหลับไปแล้วกลิ่นครีมยังติดอยู่ที่ปลาย จมูกไ ม่ม เี ซ็กส น์ านมาแล้วไ ม่รวู้ า่ เขียนลงไปทำไมเพลงยงั ค งบรรเลงร กั เท่านัน้ ท เี่ ป็นภ าษา ที่เราใช้ใจพูดลูกจะเป็นอย่างไรพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าๆวิ่งรถไปเยี่ยมลูกพ่อตาแม่ยายหลับไป แล้ว หรือว่ายังไม่หลับ ฉันสัญญาอะไรกับเธอไว้ เธออยากได้โน้ตบุ๊ค เครื่องปริ๊นยังดีอยู่ เปล่าเธอจะเอาเครื่องตั้งโต๊ะมาแลกโน้ตบุ๊คบิดหัวไปมาแก้เมื่อยขบเธอยังไม่นอนฉันไม่รู้ สึกอะไรในหัวว่างเปล่าอยากจะเขียนอะไรลงไปอีกก็ไม่รู้เหมือนกันเรื่องนี้จะจบลงที่ตรง ไหน เธอถามอะไรออกมาอีก ทำไมไม่ยอมนอน ที่โรงพยาบาลเล่นเน็ตได้หรือเปล่า เล่น ได้แต่ไม่ใช่สัญญาณไวล์เลสเธอเถียงพรุ่งนี้ลองเอาไปด้วยดีกว่าฉันจะมีเวลาเล่นเน็ตหรือ แล้วใครจะดูลูก ฉันเกิดมาเพื่อใคร ไม่รู้เหมือนกัน ฉันบังคับให้เธอนอน แล้วเธอทำไมไม่ นอนฉันชอบบังคับเธอหรือเปล่านะฉันไม่ได้บังคับก็แค่ต้องการให้เธอได้พักผ่อนเท่านั้น เองเธอพูดออกมาอีกครั้งได้ไหมเงียบ.... ขอพักสักงีบเถอะเมื่อกลางวันนี้ไม่ได้นอนเลยแม้แต่ชั่วโมงเดียวลูกชายกวนไม่ ได้เล่นเน็ตมาหลายวันขอพักก่อนนะ... ตื่นขึ้นมากลางดึกปวดท้องอยากไปถ่ายมันคงต้องการเหมือนเป็นเวลาที่นาฬิกา ตั้งไว้ รถแล่นผ่านหน้าบ้านไป ผู้คนรีบไปไหนกัน เกาหลัง ฝันประหลาด ปวดฉี่ เธอยัง ไม่ยอมตื่นนอน เสียงไก่ขัน หรือว่าตอนนี้มันเช้าแล้ว เหลือบมองนาฬิการิมขวาของหน้า จอคอมพิวเตอร์ หกโมงกว่า ทำไมห้องถึงมืด ฉันยังไม่ได้เปิดไฟ เกาหัวอีกครั้ง เมื่อคืน ไม่ยอมอาบน้ำ หนาว รถแล่นผ่านหน้าบ้านอีกสามสี่คัน เช้าแล้วจริง ๆ ปวดท้อง ไปเข้า ห้องน้ำก่อนดีกว่า กลับเข้ามาในห้องอีกครั้งเสียงน้ำในห้องน้ำหยดติ๋งๆๆดังอยู่ในความรู้สึกความ หนาวเย็นเข้ามากระทบร่างกาย ฉันทนไม่ได้ ฉันทนได้ ฉันยังนั่งอยู่ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ นิ้วมือแข็งกระด้างพิมพ์ได้ไม่เร็วเท่าที่ใจนึกเกาหัวเข่าข้างขวาเธอยังนอนอยู่ส้มผลหนึ่ง วางอยู่ข้างหน้า เธอแกะเปลือกออกแต่ไม่กินมัน หนังสือรวมเรื่องสั้นทำมือวางอยู่ข้างขวา ฉากสุดท้ายของแก้มหอมหรือว่าจะเป็นฉากสุดท้ายของชีวิตฉันเล่าเรื่องไปถึงไหนแล้วนี่ เวลาผ่านไปนานเท่าใดกนั มือเย็นเฉียบปีนี้เดือนอะไรฉันถามคำถามอะไรไร้สาระคำถาม ที่ไม่ได้เรื่องเกาคางเกาหูรู้สึกเป็นหวัดนกร้องจิ๊บๆ อยู่ข้างหน้าต่างฉันโกหกไอ้หนูจะ หายหรือเปล่าม ใี ครทนอา่ นมาถงึ บ รรทัดน บี้ า้ งบ รรณาธิการคงโยนทงิ้ ไ ปตงั้ แต่อ า่ นสองสาม บรรทัดแรกแล้วฉันยังมีความหวังหลงเหลืออยู่หวังทำไมอยากมีชื่อเสียงหรือว่าอยากมี
26 Write Short Story Award
เงิน ฉันไม่รู้ แต่ฉันอยากจะเขียนอะไรที่มันแปลก ๆ แบบนี้ มันลื่นไหลอีกครั้ง แต่นิ้วก็ยัง พิมพ์ไม่คล่อง ฉันเรียกมันว่า จิ้มดีด ลืมไปแล้วว่าอยากจะเขียนอะไร ดีเหมือนกันนั่งนึก อะไรที่มันอยู่ในหัวแล้วก็พิมพ์ออกมา เรื่องนี้น่าจะเปลี่ยนชื่อเรื่อง อย่าไปยุ่งกับมันดีกว่า ฝันถึงผู้หญิงอีกแล้วคงอยากจะมีเซ็กส์จริงๆนึกถึงตอนที่ไปเข้าห้องน้ำของเหลวที่ออกมา มันเป็นสีดำ คงเป็นเพราะกินลาบเมื่อคืน เขียนถึงมันทำไมนะ เดี๋ยวก็กินข้าวเช้าไม่ลงอีก หรอกทำไมถึงนึกแต่เรื่องกินๆๆๆอย่างเดียวลูกจะหายหรือเปล่าพยาบาลเขียนลงไปใน ใบบันทึกข้อมูลของลูกฉันแอบอ่านมันความจริงมันก็แขวนไว้อยู่ข้างเตียงไม่มีใครเขียน ว่าห้ามอ่านมันเป็นข้อมูลลับหรือเปล่าแต่ฉันก็มีสิทธิที่จะรู้พ่อแม่มีความวิตกกังวลลูก เป็นอย่างไรบ้างถ่ายดีท้องไม่อืดลูกชอบให้พ่อร้องเพลงให้ฟังแม่บอกว่าปลูกกระเทียม ยังไม่เสร็จพ่อยังไปทำงานเป็นยามเหมือนเดิมฉันเขียนลงไปทำไมเดี๋ยวคนอ่านก็รู้เรื่อง เกี่ยวกับชีวิตจริงของฉันหมดหรอก แล้วเรื่องไหนคือเรื่องจริง เรื่องไหนคือเรื่องแต่ง ยังมี คนอ่านมาถึงบรรทัดนี้หรือเปล่า วันเวลาเคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็ว เหลือบมองนาฬิกาอีก ครั้งหกโมงห้าสิบเก้านาทีเพื่อนโทรมาสวัสดีปีใหม่ทำไมไม่โทรไปสวัสดีปีใหม่เพื่อนเงิน ไม่มีแล้วข้อความที่เพื่อนฝูงโทรมาสวัสดีล่ะฉันไม่ได้เขียนข้อความตอบไปเพื่อนจะโกรธ ไหมวันนี้วันที่สามมกราคมสองพันห้าร้อยห้าสิบเอ็ดปีใหม่อีกปีแล้วใกล้ถึงวันเกิดห้า มกราคม ทำไมไม่ซื้อเลขวันเกิดลูกเมื่องวดก่อน แปดหนึ่ง ลูกเกิดวันที่สิบแปด น่าจะได้ เงินสักแสนสองแสนทำไมเอาน้อยจังไม่เอาเป็นล้านไปเลยแค่คิดเฉยๆไหนๆ ก็คิดแล้ว ทำไมไม่เอาสักร้อยล้าน มึงโลภมากไปหรือเปล่า ก็แค่คิดเท่านั้น พี่ปานบอกว่าจะไปบ้าน พี่ชาติที่ปากช่อง ไปนอนบ้านไอ้เป้มัน พี่มี่จะมาไหม พี่นูญล่ะยังไม่ได้โทรไปหาเลย ฉัน จะไปทันหรือเปล่า เมียจะให้ไปหรือเปล่ากินเบียร์วันนั้นยังโดนด่าเลยเธอถอนหายใจยืด ยาวขยี้ตากลิ่นปิ้งปลาโชยมาในอากาศใครโทรศัพท์มาที่บ้านฉันไม่ลุกไปรับเมียสั่งให้ ลุกไปรับโทรศัพท์...เสร็จธุระกลับมานั่งทำไมฉันต้องลุกไปรับโทรศัพท์ด้วยเมียสั่งฉันกลัว เมียเมียกลัวฉันหรือเปล่าเปิดเพลงหน่อยเมียสั่งอีกถ้าเปิดก็กลัวเมียฉันหยุดพิมพ์...ปิด หน้าต่างโปรแกรมเปิดโปรแกรมวินแอมป์... กลับมาเปิดหน้าต่างพิมพ์งานเหมือนเดิมยังไม่ได้แปรงฟันเมียถามอีกหยุดพิมพ์ เกาหูรำคาญกำลังพิมพ์เรื่องได้ลื่นไหลอีกสักครึ่งหน้าก็คงจะจบช่างมันเถอะเสียงเพลง ยังค งดงั แ ว่วม าใ ครรอ้ งนะเพลงนี้ ไ ม่มอี ะไรเสียงเพลงยงั ค งดงั เข้าม าเมียก วนโทสะแต่เช้า หงุดหงิดหัวใจเมียยังไม่ตื่นนอนปรับปุ่มเสียงลงปรับปุ่มเสียงขึ้นดวงดาวในดวงจันทร์ยัง ส่องสกาววันนี้เช้าแล้วนะแสงที่ส่องลอดหน้าต่างเข้ามาในห้องเพลงยังคงบรรเลงแหงน มองจันทร์ในคืนสาดส่องพิมพ์ไม่ทันความคิดไม่ทันมันไม่เข้ากับเรื่องเขียนไปถึงไหนแล้ว เมียมองมาเสียงหมาข้างบ้านร้องเหมือนโดนเตะลูกตื่นหรือยังวันนี้เอาเสื้อแขนยาวไปให้ ลูกด ว้ ยท ำไมลกู ย งั ไ ม่อ อกจากโรงพยาบาลอกี เสียงขอ้ ความเข้าม อื ถ อื ก ระต่ายหมายจนั ทร์
Write Short Story Award 27
ใครเป็นดวงจันทร์ใครเป็นกระต่ายฉันหรือเธอจริงหรือที่ว่าเธอเป็นคนดีจริงหรือที่ฉันรัก เธอจริงหรือที่เป็นอยู่ขณะนี้ฉันอยู่ตรงไหนบนโลกใบนี้เพื่อนจะเป็นอย่างไรสบายดีหรือ เปล่ายังดื่มเหล้าเหมือนเดิมไหมไม่ได้ดื่มมาหลายวันแล้วถ้าไม่นับเมื่อวานซืนนี้นะเบียร์ วันนั้นยังเหลืออีกขวดเสียดายครูโป้งไม่กินเต็มที่ปวดท้องเมียยังไม่ตื่นเรื่องนี้จะจบลง ยังไงเป็นกังวลกับมันหรือเปล่าช่างหัวมันเถอะพิมพ์ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวมันก็จบเองนี่มึงเขียน ไปเรื่อยโดยไม่รับผิดชอบหรือนึกเขียนอะไรก็เขียนเขาไม่เรียกว่าวรรณกรรมหรอกเรื่องสั้น ที่ดีวรรณกรรมที่ดีต้องผ่านการคิดอย่างละเอียดลออมึงไปบอกคนอ่านซะหมดมันจะเรียก ว่าวรรณกรรมมันจะเรียกว่าเรื่องสั้นที่ดีได้ยังไงช่างหัวมันเถอะทำไมฉันถึงสบถตกลงมัน เป็นพรหมลิขิตใช่ไหมเพลงยังคงบรรเลงจะมีคนเข้าใจความคิดของฉันหรือเปล่ากังวลอีก แล้วช่างคนอื่นเถอะพิมพ์ๆไปเดี๋ยวเรื่องนี้ก็จบแล้วพักก่อนเถอะคิดอะไรไม่ออก... เดี๋ยวก็จบแล้วอีกไม่กี่บรรทัดห้ามเกินสี่หน้านะทำไมฉันต้องบังคับตัวเองอย่างนี้ ด้วยกลับมาเขียนอีกครั้งเพลงยังคงบรรเลงเปิดเพลงให้เมียฟังความจริงเวลาเขียนเรื่อง สั้นมันต้องการสมาธิที่สุด ฉันยังคงพิมพ์เรื่องสั้นเรื่องนี้ได้ มันจะจบยังไงนะ ใกล้จบแล้ว มองเวลาที่เกือบเที่ยงคืนในเพลงนะบอกว่าใกล้ถึงปีใหม่ทำไมแกรมมี่ไม่รับฉันเข้าไปเป็น คนเขียนเพลงนะมึงเคยเข้าไปสมัครหรือเปล่าเปล่าแล้วเขียนทำไมมองดูเวลาจริงเจ็ด นาฬิกายี่สิบสองนาทีพิมพ์ทันเกาคางหิวข้าวแล้วลูกจะหายหรือเปล่าพยาบาลสวยดี มองนานๆ เมียโกรธอีกมันหึงอะไรมากมายนะแค่มองเท่านั้นเองไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ทาง สายตาได้ซะหน่อยถ้ามีจริงๆ ได้มันจะเป็นยังไงไอ้บ้า...หรือว่าฉันบ้าจริงๆฉันเป็นอะไร ฉันบ้า.....จบตรงนี้แหละดีแล้วบรรทัดสุดท้ายพอดี
เรื่ อ งร าวค่ อ ย ๆ ถู ก เ ผยออ กม าที ล ะบ รรทั ด จ ากภ าพที่ ไ ม่ ป ะติ ด ป ะต่ อ กระจัดกระจาย ก่อนจะตบท้ายด้วยการนำเสนอเรื่องในแบบ Meta-Fiction ราวกับคลี่ปมปัญหาทางใจผ่านออกมาในรูปกระแสสำนึก ซึ่งเต็มไปด้วยการ ตัดพ้อ เสียดสีตัวเอง แม้จะเป็นหน้าใหม่ในเรื่องสั้น แต่ไม่ใช่หน้าใหม่สำหรับ ไทยไรเตอร์
28 Write Short Story Award
Write Short Story Award 29
ศิลปินคืนชีพ รัชศักดิ์จิรวัฒน์ เมื่อมีข่าวว่า อารยะ อายตนะ ศิลปินนามอุโฆษยังมีชีวิตอยู่ ผู้คนจำนวนมากก็แสดงการ ต้อนรับด ว้ ยเสียงโห่ฮ าและความเคลือบแคลงสงสัยโ พลสำรวจทกุ ส ำนักย นื ยันต รงกนั ว า่ ค น ส่วนใหญ่เชื่อว่าเรื่องนี้ต้องมีเบื้องหลังและผลประโยชน์แอบแฝงอย่างแน่นอน ส ปี่ กี อ่ นอ ารยะอ ายตนะ,จ ติ รกรวยั ส สี่ บิ ส ามป,ี ห ายตัวไ ปอย่างลกึ ลับโ ดยทงิ้ ภ าพ เขียนชิ้นสุดท้ายที่ชื่อว่าห้วงอนัตตาให้สุกัญญา,ภรรยาวัยสามสิบสองไว้ดูต่างหน้าคืนแล้ว คืนเล่าผันผ่านแต่ก็ยังไร้วแี่ ววว่าเขาจะกลับมาเสียงเล่าลือกระพือกระฉ่อนว่าเขาไปบำเพ็ญ เพียรในป่าลึก หวังบรรลุธรรมขั้นสูงเพื่อความหลุดพ้น เพราะภาพเขียนของเขาส่วนใหญ่มัก สะท้อนภาวะจิตใจคนที่มัวเมาในกิเลส ตัณหา กามคุณ ไร้ธรรมะคอยชี้นำทาง เขาจึงมุ่งมั่น เดินตามวิถีแห่งธรรม หวังยกระดับจิตวิญญาณเพื่อสร้างสรรค์งานที่เป็นโลกุตรศิลป์มากขึ้น ทว่าบางคนเชื่อว่าเขาผิดหวังกับภาพเขียนที่ขายไม่ค่อยได้ ซ้ำยังถูกสับเละจากนักวิจารณ์ ศิลปะทำให้เขาทดท้อถอดใจและหายตัวไปทำอัตวินิบาตกรรมณที่ใดที่หนึ่งซึ่งเขาไม่อยาก ให้ใครค้นพบบ้างลือว่าเขาถูกเก็บโดยผู้มีอิทธิพลบางกลุ่มเพราะไปติดหนี้เขาไว้พอตัว ไม่วา่ อารยะอายตนะจะหายตัวไปด้วยสาเหตุใดกต็ ามแต่หลังจากเขาหายไปไม่ นานช อื่ เสียงของเขากพ็ งุ่ ท ะยานขนึ้ ส ทู่ ำเนียบศลิ ปินช นั้ น ำของประเทศโดยทีเ่ จ้าต วั ไ ม่มโี อกาส ได้อยู่ชื่นชม
30 Write Short Story Award
ช ว่ งนนั้ ผ คู้ นเริม่ ป กั ใจเชือ่ ว า่ เขาอาจเสียช วี ติ แ ล้วจ ริง ๆเพราะผา่ นไปกว่าห กเดือน ตำรวจกย็ งั ไ ม่มคี วามคบื ห น้าใ นการตดิ ตามคน้ หาแ ม้แต่ภ รรยาของเขาเองกไ็ ม่รวู้ า่ เขาหายไป ไหนเธอเห็นเขาครั้งสุดท้ายในเช้าวันที่เขาหายตัวไปวันนั้นอารยะอายตนะนั่งสมาธิอยู่หน้า ภาพทเี่ ขียนคา้ งไว้ซ งึ่ เป็นว ตั รปฏิบตั ขิ องเขาทกุ เช้าก อ่ นลงมือท ำงานป ระหนึง่ เป็นการรวบรวม สมาธิเพือ่ ใ ห้จ ติ อ ยูใ่ นความวา่ งภ รรยาของเขาซงึ่ ต อ้ งออกไปทำงานขา้ งนอกจงึ ว างกาแฟรอ้ น ไว้ให้เช่นทุกวันแล้วจึงออกจากบ้านไปเมื่อกลับมาถึงบ้านในตอนค่ำเธอพบเพียงภาพเขียน ที่เสร็จสมบูรณ์ แต่ไร้เงาของผู้เป็นสามี ตอนแรกเธอไม่ได้เอะใจแต่อย่างใดเพราะนึกว่าเขา อาจเข้าห้องน้ำหรือพักผ่อนอยู่ในห้องนอนชั้นบน แต่เมื่อขึ้นไปดู เธอก็พบว่าเขาไม่ได้อยู่ทั้ง ในห้องน้ำและห้องนอน เมื่อถามเพื่อนบ้าน ทุกคนก็ตอบเหมือนกันหมดว่าไม่เห็น เธอกลับ ไปดทู หี่ อ้ งทำงานของเขาอกี ค รัง้ พ ยายามหาวา่ เขาทงิ้ ข อ้ ความอะไรให้เธอหรือไ ม่แ ต่ก ไ็ ม่พ บ อะไรนอกจากห้องที่เต็มไปด้วยภาพเขียนชิ้นต่าง ๆพู่กันดินสอและกลิ่นสีที่อบอวลกาแฟที่ เธอชงให้เขาเมือ่ เช้าย งั อ ยูเ่ ต็มถ ว้ ยเธอพนิ จิ ม องภาพเขียนชนิ้ ล า่ สุดข องเขาม นั เป็นภ าพทใี่ ช้ส ี ไปในโทนสว่างสดใส ทุกเส้นสายผสมผสานกลมกลืนด้วยความประณีตบรรจง และเธอก็ไม่ เข้าใจว่าภาพนี้สื่อถึงอะไรเหมือนกับที่เธอไม่เคยเข้าใจผลงานชิ้นอื่นๆ ของเขา ใต้ภาพนั้นมี ลายมือของเขาเขียนไว้ว่าห้วงอนัตตาไม่มีคำสั่งเสียใด ๆราวกับว่าอารยะอายตนะได้กลาย เป็นอากาศธาตุล่องลอยไปกับสายลม “ไอ้นั่นมันบ้า วัน ๆ ไม่ค่อยพูดค่อยจา เอาแต่นั่งวาดรูปอยู่ในบ้าน เมียมันน่ะ เหรอก็เห็นออกไปทำงานแต่เช้ากว่าจะกลับก็ค่ำมืดโน่นเห็นว่าเมียมันก็จะทิ้งมันอยู่แล้วรูป ก็ขายไม่ออกใครจะไปทนอยู่ไหวเป็นป้าป้าก็ไม่อยู่หรอก”ป้าแม้น,แม่ค้าขายส้มตำละแวก นั้นแสดงความเห็นเมื่อนักข่าวยื่นไมโครโฟนมาสัมภาษณ์ “หายไปหลายเดือนแล้วเรอะ โอ๊ย...ผมไม่รู้หรอก มันก็ไม่เห็นจะต่างกันตรงไหน วันๆไ ม่เห็นม นั ส งุ สิงก บั ใ ครห มกตวั อ ยูแ่ ต่ใ นบา้ นอ ยูก่ เ็ หมือนไม่อ ยูน่ ะ่ แ หละ”ล งุ เติม,เจ้าของ ร้านกาแฟแสดงทรรศนะ “ผมว่าน้าแกเค้าเท่มากเลยนะผมยาว ๆเสื้อเปื้อนสีโอ้โหติสต์จริง ๆเลยพี่อ๋อ... ไม่เคยคุยกันหรอกครับแต่เมียแกใช้บริการผมบ่อย”ยอด,มอเตอร์ไซค์รับจ้างหน้าปากซอย กล่าวอย่างตื่นเต้น บ้านเช่าที่อารยะ อายตนะอาศัยอยู่กับภรรยานั้นตั้งอยู่ในซอยลึกประมาณสี่ร้อย เมตรจากถนนใหญ่ มันเป็นทาวเฮ้าส์สองชั้นเก่า ๆ ที่สีซีดจางและทรุดโทรมเหมือนศิลปิน เจ้าของบ้าน สุกัญญาผู้เป็นภรรยาก็ไม่ได้ปัดกวาดเช็ดถูบ่อยนัก เนื่องจากเธอต้องออกไป ทำงานนอกบ้านทุกวันและตำแหน่งของเธอก็คือแม่บ้านของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งที่มีหน้า ที่ปัดกวาดเช็ดถูสำนักงานอยู่แล้ว เธอจึงเหนื่อยหน่ายที่จะต้องมาทำหน้าที่นี้ที่บ้านอีก ส่วน วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ถ้าไม่นอนหลับเป็นตายอยู่ในห้องนอน เธอก็มักออกไปข้างนอก และ
Write Short Story Award 31
นั่นก็ทำให้อารยะ อายตนะต้องวางมือจากภาพเขียนมาจับไม้กวาดทำความสะอาดบ้านอยู่ เสมอ ๆ เมื่อครั้งตกลงปลงใจมาอยู่กินกับศิลปินไฟแรงอย่างเขา สุกัญญาไม่เคยคิดเลย ว่าเธอจะกลายเป็นห วั เรือใ หญ่ใ นการหารายได้เข้าบ า้ นภ าพฝนั ส วยหรูเมือ่ ส บิ ก ว่าป กี อ่ นเป็น เพียงมายาทเี่ ธอสร้างขนึ้ ม าเองทงั้ น นั้ เธอหลงใหลในความเป็นศ ลิ ปินข องเขาและคาดหวังไ ว้ สูงส่งว า่ เขาจะตอ้ งเป็นศ ลิ ปินช อื่ ด งั ใ นอนาคตเพราะฝมี อื ก ารวาดภาพของเขานนั้ ส วยงามและ โดดเด่นไ ม่เหมือนใครห ลายคนชนื่ ชมและพดู เป็นเสียงเดียวกันว า่ ต อ่ ไ ปเขาจะตอ้ งเป็นศ ลิ ปิน ที่ยิ่งใหญ่ถึงขั้นสร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการศิลปะเลยทีเดียว สุกัญญาพบเขาครั้งแรกเมื่อสิบกว่าปีก่อน ตอนนั้นเธอยังเป็นสาวแรกรุ่น อายุอา นามเพิ่งเข้ายี่สิบ ยังสดใสเหมือนดอกไม้แรกแย้ม วันนั้นเธอกลับไปเยี่ยมบ้านที่ต่างจังหวัด หลังจ ากไปใช้ช วี ติ ท กี่ รุงเทพฯใ นฐานะสาวโรงงานอยูห่ ลายปี เธอกบั เพือ่ นผหู้ ญิงอ กี ส องสาม คนไปเทีย่ วงานฤดูห นาวทที่ างจงั หวัดจ ดั ข นึ้ ม นั เป็นง านประเพณีป ระจำปขี องจงั หวัดท มี่ กั เป็น แหล่งชุมนุมของคนหนุ่มสาว ในงานมีกิจกรรมการละเล่นต่าง ๆ มากมาย ทั้งยิงเป้า ปาเป้า ม้าหมุน ชิงช้าสวรรค์ ร้านขายเสื้อผ้าและร้านอาหารกระจายเกลื่อนทั่วงาน แสงสีของไฟใน ยามค่ำคืนและเสียงหัวเราะสนุกสนานของผู้คนยิ่งทำให้สุกัญญารู้สึกคึกคักมีชีวิตชีวา “ ค ณ ุ ค รับอ ยากได้ภ าพเหมือนซกั ภ าพมยั้ ค รับ” ช ายหนุม่ ค นหนึง่ เข้าม าทกั เธอผ ม ยาวของเขาถกู ร วบไว้ข า้ งหลังห น้าตาคมคายเกลีย้ งเกลาดขู ดั แ ย้งก บั เสือ้ ย ดื แ ละกางเกงยนี ส ์ มอซอ มือขวาถือพู่กันไว้หลวมๆ เมื่อมองไปที่ซุ้มด้านหลังของเขา จะเห็นภาพวาดที่หนีบกับ กระดานรองเขียนตงั้ เรียงรายหลายสบิ ภ าพม ที งั้ ภ าพเหมือนและภาพลอ้ เลียนม ที งั้ ภ าพลาย เส้นด นิ สอและภาพสนี ำ้ ท ดี่ มู ชี วี ติ ช วี าป า้ ยทตี่ ดิ ไ ว้ห น้าซ มุ้ เขียนวา่ ร บั ว าดภาพเหมือน-ภ าพลอ้ ทีแรกสุกัญญาว่าจะเดินเลี่ยงไปเพราะเธอไม่อยากนั่งนิ่ง ๆ ให้ผู้ชายจ้องมองนาน ๆ แต่รอย ยิ้มจริงใจที่เขามอบให้ก็ทำให้เธอก้าวเท้าไม่ออก “ค...คือ...พอเห็นคุณแล้ว ผมก็รู้สึกอยากวาดรูปคุณขึ้นมาน่ะครับ” ชายหนุ่มรีบ อธิบาย “ให้เกียรติเป็นนางแบบให้ผมหน่อยจะได้มั้ยครับ ผมไม่คิดเงินก็ได้ครับ” สุกัญญา ลังเลอยู่สักพักแต่ก็ต้องยอมเพราะเพื่อนๆของเธอต่างคะยั้นคะยอให้เธอนั่งเป็นแบบให้เขา ข ณะทวี่ าดเขาชวนเธอคยุ เป็นร ะยะ ๆแ ต่แ ววตาของเขากม็ งุ่ ม นั่ จ ดจ่ออ ยูก่ บั ภ าพ เขียน มือตวัดพู่กันด้วยความมั่นใจ จากการพูดคุยกันทำให้เธอรู้ว่าเขากับเธอเป็นคนบ้าน เดียวกัน เขามีรายได้หลักจากการเขียนรูป อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเขาก็จะไปอยู่กรุงเทพฯ กับ เพื่อน และกำลังจะมีงานแสดงศิลปะร่วมกับเพื่อน ๆ ศิลปินเป็นครั้งแรก เขาชวนเธอไปร่วม ในวันเปิดงานและทั้งคู่ก็แลกเบอร์ติดต่อกันไว้ คืนนั้นสุกัญญานั่งมองภาพที่เขาวาดให้ด้วยความปลาบปลื้ม ตัวเธอในภาพ ช่างงดงามและเปล่งปลั่งราวมีชีวิต เส้นสีที่แต่งแต้มลงไปก็ประณีตบรรจง เธอสัมผัสได้ถึง
32 Write Short Story Award
ความอ่อนโยนที่เขาส่งมาผ่านปลายพู่กัน นาทีนั้นสุกัญญาได้จารึกชื่อของเขาเอาไว้ในหัวใจ เรียบร้อยแล้ว–อารยะอายตนะ “ดีใจจังครับที่คุณมาได้” อารยะ อายตนะเข้ามาทักเธอด้วยรอยยิ้มจริงใจ วันนี้เขาแต่งกาย ภูมิฐาน เสื้อสูทและเนคไททำให้เขาดูหล่อเหลาราวกับพระเอกในละครโทรทัศน์ สุกัญญา ยิ้มให้และกล่าวแสดงความยินดีกับเขาที่มีงานแสดงภาพเขียนเป็นของตัวเองเขาบอกอย่าง ถ่อมตัวว่าเป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้นและนี่ก็ไม่ใช่งานของเขาคนเดียวยังมีผลงานสวย ๆจาก เพื่อนศิลปินอีกหลายคน เขาพาเธอเดินช มภาพวาดทแี่ ขวนเรียงรายอยูบ่ นผนังเมือ่ ถ งึ ส ว่ นทเี่ ป็นผ ลงานของ เขาเขาบรรยายให้เธอฟงั ถ งึ แ รงบนั ดาลใจในการสร้างผลงานชนิ้ ต า่ งๆส กุ ญ ั ญามองภาพเหล่า นัน้ ด ว้ ยความตนื่ ต ะลึงเธอไม่เคยเห็นอ ะไรทงี่ ดงามเช่นน มี้ ากอ่ นผ ลงานของเขาทแี่ สดงในวนั นีต้ า่ งจากภาพเหมือนทวี่ าดให้เธอมากบ างภาพมสี สี นั ฉ ดู ฉาดแปลกตาบ างภาพเหมือนเป็น นามธรรมให้ต้องตีความ “ ภ าพนเี้ ป็นผ ลงานชนิ้ ล า่ สุดข องผม”เขาผายมอื ไ ปทภี่ าพ ๆห นึง่ “ ผ มเขียนขนึ้ ห ลัง จากที่ได้พบคุณในงานฤดูหนาววันนั้น” มันเป็นภาพของหญิงสาวคนหนึ่งสุกัญญามองแวบแรกก็รู้ทันทีว่าผู้หญิงในภาพ คือเธอ ไม่ว่าจะเป็นใบหน้า แววตา หรือรอยยิ้ม ทุกรายละเอียดถูกนำมาถ่ายทอดลงบนผืน ผ้าใบอย่างมีชีวิตชีวาสีสันที่แต่งแต้มลงไปก็ดูสว่างใสเหมือนแสงของตะวันยามเช้าเธอเห็น ประกายวาววับใ นดวงตาของหญิงส าวในภาพราวกับว า่ ม นั บ รรจุม วลหมูด่ าวบนฟา้ เอาไว้ร อบ กายของหญิงสาวก็รายล้อมไปด้วยดอกไม้หลายสีหลากพันธุ์ เหมือนกับว่าดอกไม้เหล่านั้น พร้อมใจกันเบ่งบานเพราะความสดใสของเธอ ส กุ ญ ั ญามองภาพนนั้ ด ว้ ยรอยยมิ้ แ ช่มช นื่ ช อื่ ข องศลิ ปินห นุม่ ผ นู้ ฝี้ งั ล กึ อ ยูใ่ นใจเธอ มากขึ้นทุกที ห ลังง านวนั น นั้ เขาและเธอกต็ ดิ ต่อค บหากนั เรือ่ ยมาค วามรกั ข องทงั้ ค เู่ ริม่ ผ ลิบ าน และเติบโตแผ่กิ่งก้านออกไป ในที่สุดเขาและเธอก็ตัดสินใจมาใช้ชีวิตร่วมกัน ช่วงนั้นอารยะ อายตนะสร้างงานศลิ ปะออกมาอย่างตอ่ เนือ่ งโดยมสี กุ ญ ั ญาเป็นแ รงบนั ดาลใจสำคัญแ ม้วา่ หลายภาพจะขายไม่ได้แต่เขาก็ไม่เคยท้อและพยายามสร้างสรรค์งานด้วยใจมุ่งมั่นต่อไป ส่วนสุกัญญาก็เปลี่ยนงานอยู่หลายครั้งหลายครา สุดท้ายเธอมาเป็นแม่บ้านอยู่ ในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เธอพอใจกับงานที่นี่เพราะนอกจากจะไม่เหนื่อยมากเหมือนงาน โรงงานที่เธอเคยทำแล้วรายได้ยังมากกว่าอีกด้วย ในที่สุดสายลมแห่งกาลเวลาก็พัดมาถึงปีที่สิบสองของการครองคู่ และมันได้พัด พาเอาความรักความห่วงหาอาทรของพวกเขาไปด้วยทีละน้อย ๆยิ่งไม่มีลูกด้วยกันก็เหมือน
Write Short Story Award 33
ไร้ซึ่งสายใยที่คอยเชื่อมโยงคนทั้งคู่ พวกเขาเริ่มทะเลาะกันมากขึ้นและสุดท้ายก็เฉยเมยต่อ กัน สุกัญญามักต่อว่าต่อขานที่เขาปล่อยให้เธอหาเลี้ยงครอบครัวอยู่ฝ่ายเดียว ส่วนอารยะ อายตนะก็เริ่มเข้าสู่โลกส่วนตัวมากขึ้นวัน ๆเอาแต่หมกตัวอยู่กับภาพเขียนที่นาน ๆจะขาย ได้สักครั้งบางทีก็ไม่พูดไม่จาทั้งวันนอกจากจะมีเรื่องสำคัญจริง ๆ ตอนนี้เหมือนมีกำแพงของความแตกต่างมากางกั้นคนทั้งสองไว้ขณะที่ฝ่ายหนึ่ง อยากมั่งมีเงินทองและไม่อยากอยู่อย่างปากกัดตีนถีบ แต่อีกฝ่ายกลับมุ่งหน้าสู่โลกทางจิต วิญญาณและสร้างงานศิลปะโดยไม่อินังขังขอบกับโลกทางวัตถุเมื่อคนจากสองโลกมาเจอ กันแรงปะทะของความต่างจึงมีอานุภาพทำลายล้างอย่างมหาศาล เมื่อความรักระเหิดหายและความเฉยชาเข้ามาแทนที่ สุกัญญาก็เหมือนอยู่ไป วัน ๆอย่างคนไร้วิญญาณแม้เธอยังคงหาข้าวปลาอาหารชงกาแฟให้เขาเป็นประจำแต่เธอ ก็ท ำดว้ ยความรสู้ กึ ท ไี่ ม่เหมือนเดิมต อนนเี้ ธอไม่รสู้ กึ ต นื่ ต ะลึงก บั ภ าพเขียนทเี่ ขาสรรค์ส ร้างอกี แล้วสำหรับเธอมันเป็นเพียงภาพวาดธรรมดา ๆที่ไร้ความงดงามใด ๆบางครั้งเธอคิดจะไป ให้พ้น ๆ จากเขา แต่เธอก็ไม่รู้จะไปไหน เธอไม่สะสวยเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว แม้อายุยังไม่ มากแต่ด้วยหน้าที่การงานก็ทำให้เธอดูทรุดโทรมและแก่กว่าวัย ความรู้สึกของอารยะ อายตนะก็เช่นกัน สุกัญญาไม่ได้เป็นแรงบันดาลใจในการ สร้างงานของเขาอีกต่อไป ตอนนี้เขาหันหน้าเข้าหาวิถีแห่งความหลุดพ้น เริ่มทำสมาธิและ เขียนรูปที่สะท้อนถึงภาวะจิตใจ และใส่แง่คิดทางธรรมไว้ในงานเกือบทุกชิ้น ความคิดและ จิตใจของเขาตอนนี้จึงอยู่ที่งานศิลปะของเขาเท่านั้น ค วามสมั พันธ์อ นั เย็นช าและหา่ งเหินย งั ด ำรงอยูเ่ รือ่ ยมาจนคนทงั้ ค เู่ ริม่ ช าชนิ ก ระทัง่ ถึงวันที่อารยะอายตนะหายตัวไปอย่างลึกลับชีวิตของสุกัญญาก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง “ผลงานของเขาช่างงดงามและแฝงไว้ด้วยความคิดที่ลึกซึ้งมากมาย ดิฉันไม่ได้พูดในฐานะ ภรรยาของเขานะคะแต่พูดในฐานะผู้เสพงานศิลปะคนหนึ่งงานหลายชิ้นของเขาทำให้ดิฉัน แทบละสายตาไปไม่ได้เลยรู้สึกอิ่มเอิบไปกับความงามที่เขาสร้างขึ้นมันเป็นความสุขทางใจ อย่างหนึ่งและมันทำให้ดิฉันมีแรงบันดาลใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป แม้ตอนนี้เขาจะไปจากชีวิต ของดฉิ นั แ ล้วแ ต่ผ ลงานลำ้ ค่าท เี่ ขาทงิ้ ไ ว้ท ำให้ด ฉิ นั ร สู้ กึ ว า่ เขายงั อ ยูข่ า้ ง ๆเสมอแ ละดฉิ นั ห วัง ว่าคนที่ชื่นชอบผลงานของเขาจะรู้สึกเช่นเดียวกัน” สุกัญญากล่าวกับพิธีกรโทรทัศน์รายการหนึ่งเมื่อเธอได้รับเชิญไปร่วมรายการใน ฐานะคู่ชีวิตของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ หลังจากอารยะ อายตนะหายตัวไปกว่าหกเดือนและทุกคน ปักใจเชื่อว่าเขาเสียชีวิตแล้วชื่อเสียงและผลงานของเขาก็โด่งดังราวพลุแตก ช ว่ งนนั้ ศ ลิ ปินแ ละนกั ว จิ ารณ์ศ ลิ ปะหลายทา่ นตา่ งยกย่องเชิดชูผ ลงานของอารยะ อายตนะกันเป็นเสียงเดียว ชีวิตที่ทุ่มเทให้กับงานศิลปะมาอย่างยาวนานของเขาได้รับการ
34 Write Short Story Award
แห่แหนชื่นชมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ภาพเขียนแทบทุกภาพล้วนถูกพร่างพรมด้วยคำ สรรเสริญเยินยอ โดยเฉพาะภาพสุดท้ายที่เขาเขียนไว้ก่อนหายตัวไปก็ได้รับการยกย่องว่า เป็นงานที่เข้าถึงแก่นธรรมขั้นสูง แสดงให้เห็นถึงความสูงส่งทางจิตวิญญาณของศิลปิน ผู้ที่ ชอบสะสมภาพเขียนและเศรษฐีที่มีรสนิยมต่างทุ่มเงินเพื่อซื้อผลงานของอารยะอายตนะมา ครอบครองแ ม้ร าคาของงานบางชนิ้ จ ะสงู ถ งึ ห ลักล า้ นแ ต่ก ม็ คี นยอมจา่ ยเพือ่ ท จี่ ะได้ภ าพเขียน ของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่มาประดับบ้านและประกาศรสนิยม “ โ อ๊ย...อ ารยะน ะ่ ห รือเคยคยุ ก นั บ อ่ ยเขานสิ ยั ด มี นี ำ้ ใจแ ต่ส ว่ นใหญ่ม กั น งั่ ว าดรปู อยู่ที่บ้าน ไม่ค่อยออกไปไหนหรอก เพราะเป็นคนทุ่มเทให้กับงานอย่างนี้ไงเล่า เขาถึงโด่งดัง ขนาดนี้ป้าดูก็รู้แล้วว่าคน ๆนี้ไม่ธรรมดา”ป้าแม้น,แม่ค้าขายส้มตำละแวกบ้านของอารยะ อายตนะแสดงความเห็นเมื่อนักข่าวยื่นไมโครโฟนมาสัมภาษณ์ช่วงนั้นอารยะอายตนะเริ่ม มีชื่อเสียงจนสื่อมวลชนแทบทุกแขนงต่างนำเสนอแต่เรื่องราวของเขา “น่าเสียดายนะที่เขาหายตัวไป ไม่งั้นเขาคงสร้างผลงานดี ๆ อีกมาก ลุงก็ใจหาย เหมือนกันคนเคยคุยกันอยู่บ่อย ๆไม่น่าเลย”ลุงเติม,เจ้าของร้านกาแฟแสดงทรรศนะ “น้าแกเป็นศิลปินในดวงใจผมเลยนะ แกเท่จริง ๆ โอ๊ย...รู้จักดีเลยครับ แกมาใช้ บริการผมบ่อย ๆ”ยอด,มอเตอร์ไซค์รับจ้างหน้าปากซอยกล่าวอย่างตื่นเต้น เวลาสปี่ ที อี่ ารยะอ ายตนะหายตัวไ ปท ำให้ฐ านะทางการเงินข องสกุ ญ ั ญาดขี นึ้ ม าก ในฐานะภรรยาและผดู้ แู ลผลงานร ายได้จ ากภาพเขียนของเขากเ็ ข้าก ระเป๋าเธออย่างเป็นกอบ เป็นก ำเธอนำเงินท ไี่ ด้ไ ปใช้ห นีใ้ ช้ส นิ ซ อื้ เสือ้ ผ้าเครือ่ งประดับท ที่ ำให้เธอดดู สี มฐานะต กแต่งต อ่ เติมบ้านจนสวยงามทันสมัยเธอลาออกจากงานแม่บ้านและใช้เวลาส่วนใหญ่ท่องเที่ยวหรือ ไม่ก็ไปร่วมงานแสดงศิลปะต่าง ๆเมื่อมีหนังสือพิมพ์หรือรายการโทรทัศน์มาสัมภาษณ์เกี่ยว กับชีวิตของอารยะ อายตนะ เธอจะพูดชื่นชมเขาเสมอว่าเขาเป็นสามีที่ดีและเป็นศิลปินที่น่า ยกย่อง เธอไม่รู้เหมือนกันว่าเธอพูดคำสวย ๆ เหล่านั้นออกไปได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่เธอไม่รู้สึก เช่นนั้นมานานแล้วแต่เมื่อชื่อเสียงของเขาระบือไกลเธอก็รู้สึกปลาบปลื้มในตัวเขาอีกครั้ง จ นกระทัง่ อ ารยะอ ายตนะปรากฏตวั ข นึ้ ห ลังจ ากหายไปสปี่ ี ช วี ติ ข องสกุ ญ ั ญากถ็ งึ คราวเปลี่ยนแปลงอีกครั้งหนึ่ง เช้าวันนั้นสุกัญญาหัวใจแทบวาย เมื่อเห็นอารยะ อายตนะนั่งอยู่ที่ห้องทำงานของเขา ตอน นี้ห้องของเขาถูกจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ อุปกรณ์ต่าง ๆ ถูกเก็บเข้าตู้ มีภาพเขียนไม่กี่ชิ้น ที่ยังวางไว้ตรงมุมห้อง เพราะภาพส่วนใหญ่ของเขาถูกซื้อไปหมดหรือไม่ก็จัดแสดงไว้ในงาน แสดงศิลปะ เมื่อรวบรวมสติได้ สุกัญญาจึงเดินไปดูใกล้ ๆ และพบว่าชายที่อยู่ต่อหน้าเธอคือ อารยะอ ายตนะตวั จ ริงแ น่นอนท งั้ ท รงผมห นวดเคราแ ละเสือ้ ผ้าช า่ งเหมือนกบั ว นั ท เี่ ขาหายตัว
Write Short Story Award 35
ไปอย่างไม่ผิดเพี้ยน อารยะ อายตนะหันมามองและยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน สุกัญญาตะลึง งันจ นพดู อ ะไรไม่อ อกเธอตดั สินใ จเอือ้ มมอื ไ ปสมั ผัสต วั เขาใ ช่เขายงั เป็นอ ารยะอ ายตนะคน เดิมท มี่ เี ลือดเนือ้ แ ละตวั ต นทจี่ บั ต อ้ งได้เธอถามเขาวา่ เขาหายไปไหนมาเขายมิ้ แ ละตอบกลับ มาว่า “ ผ มไม่ไ ด้ห ายไปไหนน”ี่ จ ากนนั้ เขาเดินไ ปหยิบอ ปุ กรณ์ว าดรปู แ ละลงมือส ร้างงาน อีกครั้ง เมื่อมีข่าวว่า อารยะ อายตนะ ศิลปินนามอุโฆษยังมีชีวิตอยู่ ผู้คนจำนวนมากก็แสดงการ ต้อนรับด ว้ ยเสียงโห่ฮ าและความเคลือบแคลงสงสัยโ พลสำรวจทกุ ส ำนักย นื ยันต รงกนั ว า่ ค น ส่วนใหญ่เชื่อว่าเรื่องนี้ต้องมีเบื้องหลังและผลประโยชน์แอบแฝงอย่างแน่นอน และนี่เป็นความเห็นบางส่วนของประชาชน “ ผ มวา่ เรือ่ งนเี้ ป็นแ ผนโปรโมทผลงานของเขาเขาอาจจะรว่ มมอื ก บั อ งค์กรไหนซกั แห่ง สร้างเรื่องให้ตัวเองหายสาบสูญไป คนจะได้สนใจงานของเขาและผลงานของเขาก็จะ ขายได้มากขึ้นผมเชื่อว่าต้องเป็นเรื่องผลประโยชน์อยู่เบื้องหลัง” “ดิฉันว่าเขากับภรรยาคบคิดกันหลอกหลวงชาวบ้านค่ะ แต่เขาก็ทนซ่อนตัวอยู่ นาน ๆ ไม่ไหว เลยปรากฏตัวขึ้นมาอีก คงนึกว่าคนจะออกมาต้อนรับเขาอย่างยิ่งใหญ่มั้งคะ แต่ฉันคนหนึ่งล่ะที่ไม่เอาด้วย” “ ส งสัยเขาคงอยากเป็นแ บบแวนโก๊ะห์มงั้ ค รับด งั ต อนตายไปแล้วเลยกเุ รือ่ งขนึ้ ม า ตัวเองจะได้ดังบ้าง เฮอะ...ตอนนี้คนรู้ธาตุแท้หมดแล้ว คงไม่มีใครสนใจแล้วล่ะครับ ศิลปิน จอมปลอมแบบนี้” “บางทีเขาอาจถูกมนุษย์ต่างดาวจับตัวไปก็ได้นะครับ แล้วเพิ่งถูกปล่อยตัวมา ฮะฮะ” ก ารกลบั ม าของอารยะอ ายตนะกอ่ ใ ห้เกิดก ระแสวพิ ากษ์ว จิ ารณ์ท างลบเป็นอ ย่าง มากป ระชาชนเรียกรอ้ งให้ร ฐั บาลเร่งต รวจสอบวา่ เรือ่ งนเี้ ข้าข า่ ยหลอกหลวงประชาชนหรือไ ม่ ราคาภาพเขียนของเขาตกลงอย่างฮวบฮาบ นักวิจารณ์หลายท่านออกมาพูดถึงผลงานของ เขาในเชิงลบ แต่อารยะ อายตนะ ยังคงเก็บตัวเงียบอยู่ในบ้าน สร้างสรรค์ผลงานของเขาต่อ ไปโดยไม่สนใจกระแสโลก แต่คนที่ร้อนรนทนไม่ได้กับความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มากที่สุดก็คือสุกัญญา ตอนนี้สุกัญญาแทบไม่กล้าออกจากบ้าน เพราะเมื่อออกไปก็จะเจอแต่นักข่าว ที่คอยตามสัมภาษณ์ ผู้คนที่ผ่านไปมาก็ว่าเธอเสีย ๆ หาย ๆ กล่าวหาว่าเธอต้มตุ๋นหลอก ลวง รายได้ที่เคยได้เป็นกอบเป็นกำจากภาพเขียนของสามีก็ลดลง จนเธอไม่สามารถใช้จ่าย ฟุ่มเฟือยตามใจชอบได้อีก สุกัญญารู้สึกเครียดจนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ เพราะทำใจไม่ได้ที่
36 Write Short Story Award
ตัวเธออาจจะตอ้ งกลับค นื ส สู่ ถานะเดิมเธอมกั ก ราดเกรีย้ วใส่ผ เู้ ป็นส ามีด า่ ว า่ เขาตา่ งๆน านา บอกว่าเขาไม่ควรกลับมาเลยไม่อย่างนั้นก็คงไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นแต่อารยะอายตนะ ก็ยังนิ่งเฉยและเขียนภาพของเขาต่อไป เมื่อภรรยาไม่กล้าออกไปไหน จึงเป็นหน้าที่ของอารยะ อายตนะไปโดยปริยายที่ ต้องออกไปซื้อของกินของใช้ข้างนอก และเขามักเจอนักข่าวหรือคนละแวกนั้นคอยติดตาม ถามไถ่อยู่เสมอว่าเขาหายไปไหนมาถึงสี่ปีและทุกครั้งเขาก็จะตอบเช่นเดิมด้วยน้ำเสียงอ่อน โยนว่า “ผมไม่ได้หายไปไหนนี่” เช้าว นั น ี้ อ ารยะอ ายตนะออกจากบา้ นเพือ่ ไ ปซอื้ ก บั ข้าวเช่นเคยเขาเดินท อดนอ่ งไปตามถนน ในซอย ดวงอาทิตย์เพิ่งโผล่พ้นเหลี่ยมตึกออกมาให้ไออุ่น ลมอ่อน ๆ โชยมากระทบผิวกาย อารยะอ ายตนะยมิ้ ใ ห้ก บั ค วามงามของวนั ใ หม่เขารสู้ กึ ส ดชืน่ แ ละมพี ลังเมือ่ ไ ด้ส ดู อ ากาศยาม เช้าและสัมผัสความอบอุ่นของแสงตะวันวันนี้คงวาดภาพดี ๆได้สักภาพเขาคิด อารยะ อายตนะรู้สึกว่าช่วงนี้จิตใจของเขาปลอดโปร่งจนสามารถสร้างสรรค์ผล งานได้ดังใจแต่สิ่งหนึ่งที่รบกวนสมาธิของเขาอยู่เสมอก็คือคำถามที่ว่าเขาหายไปไหนมาสี่ปี เขาเจอคำถามนี้ทั้งจากเพื่อนบ้าน สื่อมวลชน และแม้แต่ภรรยาของเขาเอง ทุกครั้งเขาก็จะ ตอบกลับไปว่าเขาไม่ได้หายไปไหนซึ่งก็เป็นความจริงแต่กลับไม่มีใครเชื่อเขาเลย ร้านอาหารที่อารยะ อายตนะซื้อกับข้าวเป็นประจำอยู่หน้าปากซอย ซึ่งห่างจาก บ้านของเขาประมาณสรี่ อ้ ยเมตรต อนนเี้ ขาเดินไ ปได้เพียงครึง่ ท างเท่านัน้ แ ต่เขากไ็ ม่ไ ด้ร บี ร อ้ น แต่อย่างใดเพราะเขากำลังซึมซับบรรยากาศยามเช้าอย่างสุขใจดวงตาชื่นชมความงามของ ต้นไม้เขียวรมิ ท างห ฟู งั น กประสานเสียงเป็นบ ทเพลงไพเราะด งั น นั้ เขาจงึ ไ ม่รวู้ า่ ม รี ถกระบะสี ดำคนั ห นึง่ แ ล่นม าดว้ ยความเร็วส งู จ ากทางดา้ นหลังข องเขาและไม่มที ที า่ ว า่ จ ะชะลอความเร็ว ลงเลยและแล้วรถคันนั้นก็พุ่งชนอารยะอายตนะเข้าอย่างจังร่างของเขากระเด็นไปข้างหน้า และกระแทกกับพื้นดินอย่างแรง ค นขบั ย งั ค งอยูใ่ นรถไ ม่ย อมลงมาดเู ลยวา่ อ ารยะอ ายตนะเป็นเช่นไ รบา้ งเขากลับ รถและแล่นอ อกไปจากจดุ น นั้ อ ย่างรวดเร็วท งิ้ ร า่ งทไี่ ร้ล มหายใจของศลิ ปินน ามอโุ ฆษให้น อน จมกองเลือดอยู่บนถนนเล็ก ๆสายนั้น การจากไปของอารยะอายตนะทำให้วงการศิลปะสะท้านสะเทือนอีกครางานศพของเขาถูก จัดข นึ้ อ ย่างยงิ่ ใ หญ่ส มเกียรติแ ละแน่นอนห ลังเขาจากไปได้ไ ม่น านผ คู้ นกห็ นั ก ลับม ายกย่อง ชื่นชมผลงานของเขาและราคาภาพเขียนก็พุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง “ผลงานของเขาช่างงดงามและแฝงไว้ด้วยความคิดที่ลึกซึ้งมากมาย ดิฉันไม่ได้
Write Short Story Award 37
พูดใ นฐานะภรรยาของเขานะคะแ ต่พ ดู ใ นฐานะผเู้ สพงานศลิ ปะคนหนึง่ ง านหลายชนิ้ ข องเขา ทำให้ด ฉิ นั แ ทบละสายตาไปไม่ไ ด้เลยร สู้ กึ อ มิ่ เอิบไ ปกบั ค วามงามทเี่ ขาสร้างขนึ้ ม นั เป็นค วาม สุขท างใจอย่างหนึง่ แ ละมนั ท ำให้ด ฉิ นั ม แี รงบนั ดาลใจทจี่ ะมชี วี ติ อ ยูต่ อ่ ไ ปแ ม้ต อนนเี้ ขาจะไป จากชวี ติ ข องดฉิ นั แ ล้วแ ต่ผ ลงานลำ้ ค่าท เี่ ขาทงิ้ ไ ว้ท ำให้ด ฉิ นั ร สู้ กึ ว า่ เขายงั อ ยูข่ า้ ง ๆเสมอแ ละ ดิฉันหวังว่าคนที่ชื่นชอบผลงานของเขาจะรู้สึกเช่นเดียวกัน” สุกัญญากล่าวด้วยน้ำตานองหน้าในงานศพของอารยะอายตนะตอนนี้สามีของ เธอจากไปอย่างไม่มีวันกลับและเธอก็หวังว่าเขาจะไม่ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีก ตอนนี้สุกัญญากลับมาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอีกครั้งด้วยเงินทองที่ได้จากภาพ เขียนของสามี เมื่อหักลบกับค่าจ้างที่ต้องให้คนขับรถกระบะคันนั้นแล้ว เธอยังมีเงินอีก เหลือเฟือที่จะเอาไว้ใช้จับจ่ายอย่างเปรมปรีดิ์
เรื่องราวของศิลปิน งานศิลปะ ความสำเร็จ และความตาย คุณค่าของงานกับเงินที่ได้ รับม กั ส วนทางกนั เสมอม คี นตงั้ ค ำถามเกีย่ วกบั ศ ลิ ปินท ที่ ำงานศลิ ปะอยูเ่ สมอวา่ ง านจะ ดังได้ต้องตายก่อนหรือไม่ แต่ศิลปินในยุคใหม่หลายคนก็ดัง มีชื่อเสียง พร้อมเงินทอง มากมาย ก่อนวายชีพหลายคน ไม่ว่าจะเป็นพิคาสโซ, ดาลี, แอนดี้ วอลล์ฮอลล์ ทว่า ศิลปินอ าภัพอ ย่างแวนโ ก๊ะห์ม กั จ ะกลายเป็นภ าพตดิ ตาของผคู้ นมากกว่าเรือ่ งสนั้ เรือ่ งนี้ ตัง้ ค ำถามได้อ ย่างเฉียบคมถงึ ค ณ ุ ค่าข องศลิ ปะร วมถงึ ผ คู้ นทอี่ ยูร่ อบขา้ งตา่ งกม็ ที ที า่ แ ปร เปลี่ยนไปตามขบวนการทางสื่อมวลชนเหตุการณ์แบบนี้น่าคิดและน่าสนใจ
38 Write Short Story Award
Write Short Story Award 39
WhokillUranus? ดวงตะวันนิลายน 1 ผมพบเธอตรงที่โต๊ะตัวในสุดของร้านในคืนวันเสาร์ เธอนั่งอยู่ตรงนั้นเพียงลำพังราวกับว่ากำลังสูดอากาศจากอีกห้วง เวลาที่ต่างไปโดยสิ้นเชิงกับจุดที่ผมและใคร ๆ มีตัวตนอยู่ ผมมองเห็นเธอ จากหางตาในระหว่างที่กำลังจดจ่ออยู่กับการเสิร์ฟเตกีลาร์หกช็อตให้กับ ลูกค้าที่โต๊ะสามด้านข้างบาร์หรือถ้าจะพูดให้ชัดเจนผมเห็นเธอในจังหวะ ที่ชายหนุ่มที่มากับหญิงสาวหน้าตาสวยหมดจดตรงโต๊ะหก ยกมือขึ้นเป็นเชิงให้ผมเข้าไปรับออเดอร์ ผมสบสายตากับเจ้าของ โต๊ะเบอร์หกเพื่อจะส่งสัญญาณว่าผมรับรู้แล้ว และจะเข้าไปจดรายการ อาหารและเครื่องดื่มที่เขาต้องการในไม่ช้า ผมล้วงมือเข้าไปในกระเป๋า เสื้อกั๊ก เพื่อหยิบปากกาและสมุดจดแล้วในตอนนั้นเองผมเห็นเธอเต็มใบหน้า และวินาทีเดียวกันนั้น…ทุกสิ่งหยุดนิ่ง แสงสีฟ้าทอประกายเรืองรองค่อยๆ เคลื่อนตัวออกมาจากมุมเล็กๆ มุมนั้นของร้าน หากมองเพียงผาดเผิน แสงนั้นก็ดูเหมือนแสงไฟฟลูออเรสเซนต์ทั่วไป แต่ถ้าคุณได้มีโอกาส
40 Write Short Story Award
เพ่งลึกลงไปในแสงนั้น จะเห็นได้ว่าแท้จริงแล้ว สิ่งที่ดูเหมือนแสงไฟนั้นคือกลุ่มควันเบาบาง ที่รวมตัวกันและค่อย ๆลอยอ้อยอิ่งอยู่ในอากาศบัดนี้ร้านทั้งร้าน ตกอยู่ภายใต้การปกคลุมของควันสีฟ้าจาง ซึ่งห่อหุ้มร่างของเธอไว้ ณ ใจกลาง น า่ แ ปลกผ คู้ นในรา้ นมองไม่เห็นเธอส งิ่ ท พี่ วกเขารบั ร เู้ พียงอย่างเดียวคอื ค วามมดื ม ดิ อ นั ไ ม่มี ที่สิ้นสุดพวกเขารู้สึกราวกับหลับตาลงแล้วมองเห็นแสงสีฟ้า จัดจ้าอยู่ที่หลังตา ด้วยสาเหตุที่ผมเองก็ยังไม่อาจเข้าใจ จู่ ๆ ทุกคนรอบกายก็พากันหยุดนิ่งอยู่กับที่ ผู้หญิงร่างบางคนหนึ่งเคลื่อนกาย เข้ามาหาผม เธอมีผิวขาวซีดเหมือนนางไม้ ใบหน้าสวยเศร้า ดวงตาสีฟ้าน้ำทะเล ของเธอกลมโต ร า่ งของเธอถกู ห อ่ ห มุ้ ด ว้ ยฟองอากาศบางใสฟ องอากาศสะท้อนแสงไฟสอ่ งประกาย โปร่งใสหลากสีดูเพลินตาเธอขยับมาอยู่ข้างกายผมเอ่ยปากทักทาย “ ค นื น พี้ ระจันทร์ส วยนะ”ผ มไม่แ น่ใจวา่ ค วรจะตอบเธอไปวา่ อ ย่างไรจงึ พ ยักห น้าส อง สามทีเป็นเชิงเห็นด้วย “รู้ไหมว่าพระจันทร์ฆ่าคนได้” “หา”ผมอุทานออกมาในทันใด “หมายถึงทำให้ตายไปจริง ๆน่ะเหรอ”ถามออกไปแล้วก็รู้สึกงี่เง่า “ใช่”เธอตอบรับพลางทอดสายตาออกไปไกลไกลเท่าห้วงจินตนาการไกลเกินกว่า ที่ผมจะล่วงรู้ว่าสายตาของเธอทอดไปถึงที่ใด “ ฉ นั ม เี รือ่ งจะเล่าใ ห้ฟ งั ” เธอกล่าวแ ล้วฟ องอากาศกลม ๆข นาดเท่าล กู บอลชายหาด ก็ลอยจากหมอกควัน ออกมาอยู่ตรงหน้าผม “มองเข้าไปในนั้นสิแล้วเธอจะเห็น”ผมมองเข้าไปในฟองอากาศเป็นอย่างที่เธอว่า ผมเห็นชายคนหนึ่ง… 2 ชายร่างกำยำ ผิวคล้ำกำลังเล็งธนูไปยังดวงจันทร์อย่างมุ่งมั่น เขาย้ำกับตัวเองอย่างเชื่อมั่น เป็นครั้งที่หลายสิบของวัน“เพื่อสเตลล่า” ใช่, เพื่อสเตลล่า เขาต้องทำให้ได้ เขาต้องยิงธนูเพื่อยิงเอาสะเก็ดจันทร์ลงมาให้กับ สเตลลา่ ค นรกั ข องเขาเธอเฝ้าร อ้ งขอเขาอยูท่ กุ ว นั แ ละคนื น เี้ ป็นค นื ท เี่ หมาะสมทสี่ ดุ ท จี่ ะลงมือ จันทร์กลมโตลอยเด่นอยู่บนฟ้า อากาศนิ่งสงบ ยอดไม้ไม่ไหวติง ทะเลราบเรียบส่องสะท้อน แสงจันทร์นวล สเตลล่า…ถ้าไม่ใช่เพื่อเธอ เขาคงไม่ยอมทุกสิ่งเช่นนี้ สเตลล่าเป็นผู้หญิงที่มี
Write Short Story Award 41
จิตใจงดงามยิ่งกว่าใคร ๆเธอไม่เคยตีแม้แมลงวันยุงมด หรือแม้กระทั่งงูร้ายที่หมายจะเอาชีวิตเธอ เธอไม่เคยโกรธแม้ใครจะต่อว่าอย่างไร แต่โชคร้ายนักทั้งที่หน้าตางดงามราวกับนางฟ้าผิวหนังของเธอกลับเป็นริ้วรอยตะปุ่มตะป่ำ กลบความงามที่ซ่อนอยู่ ให้เลือนหายไปจนหมดไม่มีชายใดมองเธอซ้ำสองเว้นไว้ก็แต่เพียงเขา,ยูเรนัส และบัดนี้ยูเรนัสผู้ที่รู้ดีกว่าใครว่าคนรักของเขาต้องทนทุกข์กับการถูกหยามเหยียด จากคนรอบข้างมาตลอดชั่วชีวิต ได้ฟังความจากผู้เฒ่าแห่งหมู่บ้านว่าสะเก็ดหินจากดวง จันทร์เยียวยาอาการของเธอได้ จึงไม่รีรอที่จะคว้าธนูประจำกาย แล้วเดินออกไปที่หน้าผา ครีเชียสริมทะเลโคโรนัสในคืนเดือนหงาย มุ่งจะคว้าเอาสิ่งเดียวที่คนรักของเขาปรารถนาจะ ครอบครองมาให้จงได้ เขาไม่รีบร้อนค่อย ๆเลือกมุมที่เหมาะเจาะที่สุดเมื่อได้จังหวะจึงสอดลูกธนูเข้ากับ คันธนูง้างศรจนสุดมือ แล้วยิงออกไป ล กู ธ นูป กั ล งตรงขอบของพระจันทร์พ อดบิ พ อดีห นิ น บั ส บิ ก อ้ นรว่ งพรูล งมาจากทอ้ งฟ้า ทีม่ ดื ม ดิ บ า้ งตกลงในมหาสมุทรบ า้ งกระจายเกลือ่ นกลาดอยูบ่ นยอดเขาแ ละบางกอ้ นตกลง ในทะเลทรายทรี่ า้ งไร้ผ คู้ นห นึง่ ใ นหนิ เหล่าน นั้ ต กลงกระทบผนื น ำ้ ร าบเรียบแห่งโ คโรนสั ย เู รนัส กระโจนจากหน้าผาดำดิ่งลงไปในทะเลลึกเบื้องหน้าแม้เทพผู้ยิ่งใหญ่แห่งท้องน้ำโพไซดอน จะไม่ช อบใจนกั ท ลี่ ำน้ำอ นั เป็นท รี่ กั ข องตนต อ้ งถกู ร บกวนจากกอ้ นหนิ ท ตี่ กลงมาแ ต่เหล่าท วย เทพอืน่ ๆท สี่ ถิตใ นลำน้ำต า่ งสรรเสริญค วามกล้าข องเขาแ ละเปิดท างให่เ้ ขาหยิบห นิ ศ กั ดิส์ ทิ ธิ์ จากดวงจันทร์ไปอย่างง่ายดาย เขานำหนิ ไ ปผกู ต ดิ ก บั ส ร้อยเงินเส้นเล็กแ ละมอบให้แ ก่ค นรกั เป็นข องกำนัลฉ บั พ ลัน ทีส่ เตลลา่ ไ ด้ส วมสร้อยคอจากคนรกั เธอกก็ ลายเป็นผ หู้ ญิงท งี่ ามยงิ่ น กั ผ วิ พ รรณของเธอนวล ผ่องป ระกายตาสกุ ส กาวยงิ่ ก ว่าด าวดวงใดบนนภาค วามงามทถี่ กู ล มื เลือนมาแสนนานปรากฏ ให้ค นทงั้ ห มูบ่ า้ นได้เห็นพ วกเขาเป็นค รู่ กั ท มี่ คี วามสขุ ท สี่ ดุ ใ นโลกแ ละคงไม่มสี งิ่ ใ ดมาพรากทงั้ สองไปจากกันได้เว้นแต่คำสาปแห่งดวงจันทร์ ในคืนที่เจ็ดหลังจากที่ยูเรนัสมอบสร้อยหินให้แก่สเตลล่า ดวงตาของเขาก็มืดสนิท สเตลล่าร้อนใจเธอจึงไปถามผู้เฒ่าว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนรักของเธอสิ่งที่ผู้เฒ่าบอกทำให้เธอ ตกใจแทบสิ้นสติ“หินจากดวงจันทร์เผยความงามในความอัปลักษณ์แต่อำนาจของมันแลก มาด้วยการสละซึ่งการมองเห็น ในสิ่งงดงามใด ๆข้าเตือนเจ้าหนุ่มนั่นแล้วแต่มันดื้อยิ่งกว่าลาเสียอีก” เธอเร่งรุดกลับบ้าน และบอกให้ยูเรนัสไปขอขมากับเซเรเน่ เทพีแห่งดวงจันทร์ “ขา้ ไ ม่ต อ้ งการความงามทที่ า่ นไม่มโี อกาสชนื่ ชม”ย เู รนัสจ งึ ก ลับไ ปทผี่ าคร เี ชียส อีกค รัง้ ห นึง่ ใ น
42 Write Short Story Award
คืนจันทร์เพ็ญเขาคุกเข่าอ้อนวอนกับดวงจันทร์อยู่หนึ่งเดือนเต็มจากจันทร์เต็มดวงแปรเป็น จันทร์เสีย้ วและลบั ห ายไปในหมูเ่ มฆไ ม่มอี ะไรเกิดข นึ้ ด วงจนั ทร์เพียงสง่ ส ายตาเยาะเย้ยค วาม เขลาของเขาจากที่ไกล แต่ทวยเทพที่ปกปักรักษาท้องน้ำโคโรนัสเห็นใจชายผู้นี้ยิ่งนัก คืนนั้น เหล่าเทพที่สถิตอยู่ใต้น้ำต่างพร้อมใจกัน บันดาลให้คลื่นสูงซัดโขดหิน พัดพาให้ยูเรนัสลงไปใต้น้ำ และสร้างฟองอากาศโอบ อุ้มตัวเขาไว้“ท่านไม่ต้องห่วงเราจะดูแลท่านอย่างดี” แล้วพวกเขาก็รักษาคำพูดนั้น อาหารการกินถูกเตรียมไว้ให้เขาอย่างพร้อมพรั่งใน ทุกมื้อแม้มองไม่เห็นแต่เขาก็มีความสุขจากเสียงดนตรีมากมายในโลกใหม่ที่เขาเพิ่งค้นพบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากเพลงพิณ ของอควาเรียสธิดาองค์เดียวของโพไซดอนเทพแห่งท้องน้ำเมื่ออยู่ใต้น้ำเขาพบว่า ดวงตาไม่ใช่สิ่งจำเป็นเลยเพียงเงี่ยหูฟังเล็กน้อยเขาก็รับรู้ได้ถึงสรรพสิ่งที่รายรอบบ่อยครั้ง เขาได้ยินเสียงประสานเป็นทำนองเสนาะหู ของฝูงโลมา หรือไม่ก็เสียงเคลื่อนตัวเนิบช้าของปลาดาวบนผืนทราย และคราหนึ่ง เขาได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นระรัว ของตนเอง เมื่อเขาได้สดับฟังถ้อยคำของอควาเรียส “ข้ารู้ว่าท่านมีที่ที่ต้องกลับไป แต่ข้าหวังเหลือเกินว่า วันนั้นจะไม่มาถึง” เขาไม่เคยเห็นก ระทัง่ ห น้าตาของเธอแ ต่เขาหลงเสน่หแ์ ห่งก ระแสเสียงของอคว าเรียส เธอมไิ ด้ร า่ ยมนตร์ใ ด ๆใ ห้เขาหลงรกั แ ต่ส ง่ิ เดียวทเี่ ธอทำคอื ม อบใจให้เขาไปจนหมดย ามเขา เหงา เธอคอยเล่าตำนานเก่าแก่ให้เขาฟัง ยามเขาคิดถึงสเตลล่า เธอสร้างฟองอากาศสีสวย เก็บละอองทรายมาสร้างเป็นดวงดาวนับล้านระยิบพราว อยู่ในนั้นให้แก่เขาวันคืนผ่านไปยูเรนัสยิ่งคิดถึงสเตลล่าน้อยลงวันนี้เขามีธิดาแห่ง ห้วงน้ำที่รักเขาหมดหัวใจและเขาไม่เหลือเหตุผลใดให้ลาจากโคโรนัสอีกต่อไป แต่สเตลล่าไม่เคยลืมคนรักของเธอแม้สักวัน ทุกคืนที่พระจันทร์เต็มดวงเธอไปคุกเข่าอ้อนวอนกับดวงจันทร์แทนคนรักเช่นเดียว กับยูเรนัส แน่นอนว่าเธอได้รับเพียงสายตาดูแคลนเป็นสิ่งตอบแทนจากเซเรเน่ แต่เธอไม่ ท้อ จากเดือนเป็นปี ในที่สุดคืนหนึ่ง เทพีแห่งจันทร์ก็ส่งสารมาให้เธอผ่านทางความฝัน “จง มาหาข้าในคืนเดือนแรม แล้วเจ้าจะได้พบเขา” สเตลล่าจึงรอให้ถึงคืนเดือนแรมครั้งถัดไป เธอแต่งตัวด้วยชุดกระโปรงสีขาวที่ยูเรนัสชอบให้เธอใส่ คุกเข่าที่ริมผา แล้วสิ่งมหัศจรรย์ก็ บังเกิด เทพีแห่งจันทร์บันดาลให้ระดับน้ำลดลงจนเธอเดินลงไปในทะเลได้อย่างสะดวก เธอ เดินลงไปในทะเล ไกลออกไปเรื่อย ๆ โดยมิได้รับรู้ว่า เทพแห่งน้ำ บิดาของอควาเรียสกำลัง
Write Short Story Award 43
จ้องมองเธออยู่ เทพีแห่งจันทร์ส่องแสงนวลลงมาเป็นทางเดินให้แก่สเตลล่า เธอพยายาม มองหายูเรนัสแต่เขาหลบให้พ้นไปจากสายตาของเธอด้วยระลึกได้ว่าเขาทรยศเธอมาแล้ว ครัง้ ห นึง่ ด ว้ ยการตกหลุมร กั อ ควาเรียสแ ละไม่อ าจทรยศเธอดว้ ยการกลบั ไ ปหาทงั้ ท ไี่ ม่มหี วั ใจ เหลือให้เธออีกแล้วได้ สเตลล่ามองหายูเรนัสอยู่ถึงหนึ่งวันเต็ม ๆจนกระทั่งถึงเวลาที่ดวงจันทร์ไม่อาจช่วย เธอได้อ กี ต อ่ ไ ปเป็นท ขี องโพไซดอนเทพแห่งท อ้ งนำ้ เสกให้ร ะดับน ำ้ ค อ่ ย ๆเพิม่ ข นึ้ อ ย่างรวดเร็ว เธอจมหายไปกับสายน้ำในที่สุด ยูเรนัสไม่อาจทนอยู่กับความรู้สึกผิดที่ก่อตัวขึ้นได้ ความตายเป็นทางเลือกเดียวที่ เหลืออยู่ของเขายูเรนัสบอกลาอควาเรียสและพาตัวเองออกมาจากฟองอากาศที่ปกป้องเขา จากความแปรปรวนของทะเลแม้จะเสียใจแต่อควาเรียสเป็นเทพีและไม่อาจเลือกที่จะตาย เพื่อให้หลุดพ้นไปจากความตรอมตรมได้ สิ่งเดียวและสิ่งสุดท้ายที่เธอทำให้เขาจึงเป็นการเล่นพิณขับกล่อมให้เขานอนหลับ อย่างสุขสบายชั่วกาล ในห้วงน้ำของเธอ 3 ฟองอากาศใบเล็กสลายตัวไปอย่างรวดเร็วต่อหน้าต่อตา หญิงสาวในฟองอากาศส่งยิ้มให้ ผม “และเรื่องนี้ถือเป็นของขวัญที่ฉันมอบให้เธอ”เธอพูดด้วยเสียงเบาราวกระซิบ “คุณคืออควาเรียส?”เธอหัวเราะ “อควาเรียสงามสง่าและยิ่งใหญ่ เธอเป็นดุจหัวใจของทุกชีวิตในท้องทะเล ไม่…ฉัน ไม่ใช่เธอหรอก ฟองอากาศอย่างฉันทำได้เพียงเฝ้ามอง และรอวันที่จะนำมาเรื่องราวมาถ่ายทอด ให้แก่ผู้ที่คู่ควร” “ ถ า้ อ ย่างนนั้ ค ณ ุ เป็นใ ครและมาเล่าเรือ่ งนใี้ ห้ผ มฟงั ท ำไม?” ก ลุม่ ค วันท กี่ อ่ ต วั ข นึ้ เมือ่ ไม่กี่นาทีก่อนแปรเปลี่ยน เป็นสีขาวเหมือนหมอกยามเช้าและค่อย ๆจางลงใบหน้าสีซีดของเธอค่อย ๆหาย ไปกับสายหมอก ผมรู้สึกถึงน้ำหนักของบางสิ่งในอุ้งมือ “อควาเรียสอยากให้หลานชายคนเดียวของเธอรับมันไว้สุขสันต์วันเกิดกานีมีด” แล้วทุกอย่างก็กลับสู่ภาวะปกติเสียงสรวลเสเฮฮาของลูกค้าดังกลบความเงียบเมื่อ
44 Write Short Story Award
ครู่ ผู้ชายที่โต๊ะหกก้มลงมองเมนูในมือและหันซ้ายขวามองหาบริกรที่อยู่ใกล้ ๆ กลุ่มวัยรุ่นที่ โต๊ะด้านนอกร้านส่งเสียงเรียกแมวตัวอ้วนที่ชอบมาป้วนเปี้ยนละแวกนี้อยู่บ่อย ๆ เหตุการณ์ประหลาดผ่านไปเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น ผมก้มลงมองหินสีเทาก้อนเล็กที่ เปล่งประกายอยู่ในอุ้งมือ เสียงหนึ่งดังก้องในหัวผม “ไม่ใช่พระจันทร์หรอกที่ฆ่าเขาความรักต่างหาก”
Write Short Story Award 45
บรรยากาศแปลกๆ ต วั ล ะครไม่มที มี่ าทไี่ ปแ ต่ก น็ ำเสนอภาพมวั ๆ ท นี่ า่ พ ศิ วงเกีย่ ว กับความรัก ความปรารถนา รวมถึงความตายในแง่มุมที่แปลกแยกต่อสภาพที่ เป็นจริง เรื่องสั้นผ่านเกิดของนักเขียนหน้าใหม่ แต่ก็สร้างความแตกต่างด้วยเรื่อง เล่าอันประหลาดล้ำ
46 Write Short Story Award
Write Short Story Award 47
กติกาการส่งเรื่อง
1.เป็นเรื่องสั้นที่ผู้เขียนสร้างสรรค์ขึ้นเองยังไม่เคยตีพิมพ์ที่ไหนมาก่อนโดยมิได้ แปลลอกหรือดัดแปลงจากเรื่องของผู้อื่น 2.เรื่องสั้นไม่จำกัดเนื้อหาความยาวในแบบเรื่องสั้นทั่วไป 3.ท ่านสามารถส่งเรื่องสั้นได้เพียงเดือนละ1เรื่อง 4 .เมือ่ เรือ่ งสนั้ ข องทา่ นได้ร บั ก ารตพี มิ พ์แ ล้วท า่ นหมดสทิ ธิส์ ง่ เรือ่ งสนั้ เรือ่ งอนื่ เพือ่ เปิดโอกาสให้นักเขียนท่านอื่นได้รับพิจารณาบ้าง 5 .ใ นแต่ละเดือนเรือ่ งสนั้ ท ผี่ า่ นเกิดเรือ่ งสนั้ ท ไี่ ด้ผ า่ นรอบแรกจ ะได้ร บั ก ารตพี มิ พ์ ในWRITEเมื่อครบหนึ่งปีบรรณาธิการจะประกาศเรื่องสั้นยอดเยี่ยมจำนวน5 เรื่องจากเรื่องสั้นรอบแรก 6.ท่านสามารถส่งเรื่องสั้นของท่านมาที่ niwat59@gmail.com โดยแนบไฟล์ ต้นฉบับเป็นไฟล์เวิร์ด และเขียนจ่าหน้าว่า “ประกวดเรื่องสั้น” กรุณาอย่า Pate >Copyงานของท่านลงในอีเมล์(ทำให้ยุ่งยากต่อการอ่าน) 7.เรื่องสั้นยอดเยี่ยมของปีจะได้รับใบประกาศเกียรติจากบรรณาธิการ 8.หากท่านต้องการถอนเรื่องของท่านจากการพิจารณากรุณาเขียนอีเมล์มา ยืนยัน 9.การตัดสินของบรรณาธิการถือเป็นที่สุด 1 0.W RITEe - M agazineเป็นน ติ ยสารออนไลน์แ จกฟรีไ ม่มโี ฆษณา ไม่มรี ายได้ จัดทำขึน้ เพือ่ ส ง่ เสริมก ารอ่านการเขียนจ งึ ย งั ไ ม่ส ามารถจา่ ยคา่ เรือ่ งได้โ ปรด พิจารณากติกาข้อนกี้ ่อนส่งเรื่องสั้นของท่าน
เรื่องรักธรรมดา 1 ปี 2544
8 ปีต่อมา
เรื่องรักธรรมดา 2 ปี 2552
ความรักคือความเปลี่ยนแปลง หรือ ความรักคือความคงทนถาวร รวมเรื่องสั้นหลากหลายนักเขียน...โปรดติดตาม... สำนักพิมพ์เม่นวรรณกรรม
sd