13 hours

Page 1



วีรบุรุษลับแห่งเบงกาซี

13 Hours Mitchell Zuckoff with Annex Security Team นพดล เวชสวัสดิ์ แปล

ส�ำนักพิมพ์ เอิร์นเนส พับลิชชิ่ง

เขียน


ค�ำอุทิศ For JCS, SPS, TSW, and GAD (เจ. คริสโตเฟอร์ สตีเวนส์, ฌอน สมิธ, ไทโรน วูดส์ และเกลน ‘บับ’ โดเฮอร์ตี) Veritas et Fortitudo


ค�ำน�ำผู้แปล

หลังเหตุการณ์ 9/11 รัฐบาลบุชประกาศท�ำสงครามต้านการก่อการร้าย ไล่ล่าผู้น�ำอัลกออิดะห์ไปทั่วโลก อนุมัติให้ซีไอเอท�ำสงครามลับได้ทุกมุม โลก หากเป็นเพนตากอน ไม่อาจใช้ค�ำว่า ‘สงคราม’ กับประเทศทีไ่ ม่มกี าร ประกาศสงคราม จะเลี่ยงไปใช้ค�ำว่า ‘การเตรียมพร้อมสนามรบ’ สายลับซีไอเอท�ำหน้าที่ทหาร สั่งการใช้โดรนสังหาร...ทหารพยายาม วางเครือข่ายสายลับ การส่งกองทหารเข้ายึดครองอัฟกานิสถานและอิรัก ดูดงบประมาณ มหาศาลและก�ำลังพล ดังนัน้ ‘สงครามทุกมุมโลก’ หนทางหนึง่ จะเป็นการท�ำสงครามตัวแทน ขนอาวุธและเงินเดือนไปให้กองก�ำลังติดอาวุธท้องถิ่น ท�ำการรบแทน และในอีกทาง ใช้กองก�ำลังอเมริกัน โดยมีการ ‘เอาต์ซอร์ส’ หรือว่าจ้าง เอกชนหรือมอบสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง (contract) ให้ผู้รับเหมาเอกชนไป ท�ำการรบแทนในดินแดนทีไ่ ม่มกี ารประกาศสงคราม หรือในพืน้ ทีท่ รี่ องเท้า บู๊ตทหารไม่อาจเหยียบพื้นดินได้ นักรบเอกชน (contractor) แตกต่างจากทหารรับจ้าง เพราะก�ำหนด สัญชาติว่าเป็นทหารอเมริกันเท่านั้น คัดสรรจากรบพิเศษนอกประจ�ำการ ระดับพระกาฬ ไม่วา่ จะเป็นกรีนเบเรต์ เรนเจอร์ เดลตาฟอร์ซ หรือเนวีซลี 5


ท�ำหน้าทีร่ กั ษาความปลอดภัยทีม่ นั่ ท�ำหน้าทีค่ มุ้ ครองสายลับและเจ้าหน้าที่ หรือท�ำหน้าทีแ่ ทนสายลับในการติดต่อสายข่าว ในกรณีทอี่ นั ตรายเกินไปถ้า สายลับจะออกไปท�ำงานเอง ชื่อเรียกขานในเล่มนี้ จะใช้ผู้ปฏิบัติการพิเศษ ในเล่มนี้ จะแบ่งเป็น W เจ้าหน้าที่ GRS - Global Response Staff (ชุดตอบโต้ทว ั่ โลก) ของซีไอเอในสถานีแอนเน็กซ์ W เจ้าหน้าที่ DS - Diplomatic Security (ชุดรักษาความปลอดภัย ทูต) ในที่ทำ� การทูตพิเศษ หลังการโจมตีทที่ ำ� การทูตพิเศษในเบงกาซี ในวันที่ 11-12 กันยายน 2012 พลเมืองอเมริกัน 4 รายเสียชีวิต การรายงานข่าวผ่านสื่อ และค�ำแถลงของรัฐบาลสับสน นี่คือ ค�ำให้การของผู้ปฏิบัติการพิเศษที่อยู่ในเหตุการณ์


บันทึกถึงผู้อา่ น

หนังสือเล่มนี้บันทึกเรื่องราวหลายชั่วโมงท้ายสุดในกองรักษาด่านการทูตใน มุมโลกหนึ่งที่ถือได้ว่าอันตรายที่สุด ได้จากความเห็นของผู้อยู่ในเหตุการณ์ บุกโจมตีโชกเลือด ความสูญเสียน่าเศร้า และการต้านสู้ห้าวหาญของ ผู้คุ้มครองที่ท�ำการทูตพิเศษของกระทรวงต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา และสถานีซีไอเอที่เรียกว่าแอนเน็กซ์ ในเบงกาซี, ลิเบีย จากค�ำ่ คืนวันที่ 11 กันยายน 2012 เรื่อยมาจนถึงเช้าวันถัดมา มิใช่เรือ่ งราวทีร่ ฐั บาลสหรัฐฯ ทราบหรือกระท�ำหลังเกิดเหตุโจมตี มิใช่ ประเด็นความเห็นแย้ง การแถลงข่าวทางการเมือง หรือการกล่าวหา การ สมคบคิดการกลบเกลื่อน มิใช่เรื่องราวในห้องไต่สวนของคณะกรรมาธิการ รัฐสภา หรือห้องสถานการณ์ในท�ำเนียบขาว ในห้องประชุมกระทรวงการ ต่างประเทศ หรือการเสวนาในห้องส่งสถานโทรทัศน์...เรื่องทั้งหมดเกิดบน พืน้ ดิน เกิดในท้องถนน เกิดบนดาดฟ้าในเบงกาซี ในยามทีก่ ระสุนปลิวว่อน อาคารลุกไหม้ กระสุนเครือ่ งยิงระเบิดโปรยปราย ชีวติ ดับสูญ ชีวติ ช่วยให้ รอดมาได้ และชีวิตเปลี่ยนไปไม่เหลือเค้าเดิม ประสบการณ์ของผูป้ ฏิบตั กิ ารพิเศษทีเ่ ป็นวิญญาณและกระดูกสันหลัง ของหนังสือเล่มนี้ ทุกคนตระหนักถึงพายุการเมืองที่โหมกระหน�่ำเบงกาซี ทุกคนตระหนักว่าชื่อเรียกนั้นเคลื่อนหลุดออกจากแกนแล้ว ไม่เหลือชื่อ 7


วีรบุรุษลับแห่งเบงกาซี

เมืองท่าเปื้อนฝุ่นทางตะวันออกเฉียงเหนือของลิเบียในเมดิเตอร์เรเนียน อีกต่อไป พวกเขารู้ว่าคนอเมริกันบางคนใช้เบงกาซีเป็นชวเลขแทนค่า ปฏิบัติการลับเลวร้ายของสหรัฐฯ ในดินแดนนี้ และพวกเขาทราบดีว่า ค�ำอธิบายหรือการเผยข้อมูลเรื่องราวที่เกิดขึ้น จะใช้เป็นหลักฐานในการ โต้เถียงหรือค�ำกล่าวหาที่พวกเขาไม่อยากมีส่วนร่วม ใช่ว่าผู้ปฏิบัติการพิเศษเหล่านี้จะไม่ใส่ใจปัญหา เพียงแต่นั่นมิใช่ วัตถุประสงค์ของภารกิจ พวกเขาประสงค์เพียงแค่บันทึกประวัติศาสตร์ไว้ แม่นย�ำเที่ยงตรงที่สุดเท่าที่จะท�ำได้ บันทึกสิ่งที่ท�ำ สิ่งที่พบเห็น และสิ่งที่ เกิดต่อตัวเขา เพือ่ นพ้อง เพือ่ นร่วมงาน เพือ่ นร่วมชาติ...ในมหายุทธ์เบงกาซี * * * แม้จะเขียนให้เป็นบทบรรยาย แต่หนังสือเล่มนี้เป็นสารคดี ไม่มีการ ดัดเปลี่ยนล�ำดับเหตุการณ์ ไม่มีการเจือดราม่า ไม่มีการปั้นแต่งตัวละคร หรือสร้างขึ้นมาใหม่ ค�ำบรรยายทั้งช่วงก่อนหน้า ขณะเกิดเหตุ และหลัง เหตุการณ์ มาจากนักรบที่อยู่ที่นั่น หรือการสอบทานยืนยันทุกอย่างที่เกิด ขึ้น บทสนทนาเป็นเรื่องราวที่โต้ตอบกันของผู้ให้ข้อมูล ความคิดได้จาก ผู้ร่วมเหตุการณ์แต่ละคนโดยตรง แหล่งข้อมูลส�ำคัญมาจากชุดรักษาความปลอดภัยอเมริกันเอกชน ห้านายผู้รอดชีวิต รู้จักกันในชื่อ 'ผู้ปฏิบัติการพิเศษ' หรือ 'ผู้คุ้มครอง' ผู้รับผิดชอบต้านการโจมตีที่ท�ำการทูตพิเศษในเบงกาซี เป็นหัวหอกในการ ตีโต้ และช่วยเหลือเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ และผู้คนในสถานี แอนเน็กซ์ของซีไอเอ หลายชื่อเปลี่ยนไปหรือปกปิด เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว หรือเพื่อ เหตุผลทางความมัน่ คง แต่คำ� บรรยายลักษณะและข้อมูลส่วนบุคคลจริงแท้ รายละเอียดความลับละเว้นไม่กล่าวถึง สอดคล้องไปกับมาตรฐานการรักษา 8


มิตเชลล์ ซุคคอฟฟ์

ความลับของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการลับและผู้ปฏิบัติการพิเศษ การเปลี่ยนชื่อ และการละเว้น ไม่กระทบต่อเรือ่ งราว ไม่บดิ เปลีย่ นข้อเท็จจริงทีท่ ราบแล้ว รายละเอียดจากผู้ปฏิบัติการพิเศษแต่ละคนสอดคล้องตรงกัน แม้ รายละเอียดจะคลาดเคลือ่ นไปบ้าง เช่น ส่งวิทยุในเวลาใด ซึง่ ก็เป็นธรรมดา ของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรวดเร็ว ธรรมชาติความโกลาหลของการสู้รบ และ ความกังวลของชุดปฏิบัติการ มุ่งเน้นการรักษาชีวิตรอด แทนการสนใจ รายละเอียดตามล�ำดับเวลา แหล่งข้อมูลชั้นสอง ได้จากการสัมภาษณ์ รูปถ่าย วิดีโอ และ บันทึกสาธารณะมหึมา รายงานรัฐสภา ค�ำให้การ และการรายงานทางสือ่ แหล่งข้อมูลเหล่านี้แยกบันทึกไว้แล้วในบรรณานุกรมท้ายเล่ม ใช้เพิ่มเสริม ช่องว่างในจุดที่แหล่งข้อมูลปฐมภูมิขาดหายไป และน�ำมาใช้ยืนยันค�ำกล่าว การทบทวนความจ�ำของผู้อยู่ในเหตุการณ์ การรายงานเหตุการณ์ในหนังสือ ในนิตยสาร และสื่อประเภทอื่นๆ ท�ำให้ผปู้ ฏิบตั กิ ารพิเศษผูเ้ ล่าเรือ่ งนีข้ นุ่ เคืองใจ ถึงขัน้ ขยะแขยง รายงานข่าว เวอร์ชั่นที่มีการเพิ่มเติมบทสนทนาที่ไม่มีอยู่จริง แทรกเหตุการณ์ปั้นแต่ง เพิม่ การกล่าวอ้างอันเป็นเท็จหรือขยายใหญ่เกินจริง รวมไปถึงการกล่าวหา หวือหวา ถือได้วา่ เหลวไหลไร้สาระ มีความประสงค์เพียงแค่ท�ำให้คลุมเครือ หรือเติมเชื้อเพลิงให้เดือดพล่าน วัตถุประสงค์แท้จริงของชุดผู้ปฏิบัติการพิเศษ จะเป็นการย้อนร�ำลึก ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในมหายุทธ์เบงกาซี มองผ่านเลนส์โปร่งใสที่สุด ผู้ปฏิบัติการพิเศษทั้งหกและครอบครัวมีส่วนได้เสียทางการเงินในหนังสือ เล่มนี้ แต่ข้อเรียกร้องต่อต้นฉบับ มีสถานเดียวคือ การบอกเล่าเรื่องตาม ความสัตย์จริง คงเป็นเรื่องโง่เขลาถ้าจะคิดว่าการรายงานข่าวครั้งนี้หรือครั้งอื่น จะ เป็นค�ำท้ายสุดต่อเหตุการณ์ที่มีผลกระทบในวงกว้าง แต่ในเมื่อมีเรื่องเล่า มากหลายไหลบ่าท่วมท้น และยังจะมีอีกหลายกระแส ขอให้ถือว่าหนังสือ 9


วีรบุรุษลับแห่งเบงกาซี

เล่มนี้เป็นค�ำแรกที่ส่งตรงออกมาจากสนามรบ จากวีรบุรุษลับแห่งเบงกาซี ผู้สัมผัสประสบการณ์เปื้อนเลือดความทรงจ�ำเพลิงเผาไหม้เกรียม จาก เรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในห้วง 13 ชั่วโมงบีบหัวใจ - มิตเชลล์ ซุคคอฟฟ์

10


รายนามผู้ปฏิบัติการพิเศษ

เจ้าหน้าที่ GRS - ชุดรักษาความปลอดภัยแอนเน็กซ์ เดฟ ‘ดี.บี.’ เบนตัน - อดีตนายสิบนาวิกโยธิน และเจ้าหน้าที่หน่วยจู่โจมสวาท อายุ 38 ปี ดี.บี. เป็นแมวมองและพลซุ่มยิง เชี่ยวชาญการ ช่วยเหลือตัวประกัน การจู่โจมโดยตรง การ สอดแนม การลาดตระเวน และการสู้รบระยะ ประชิด ก่อนเบงกาซี เขาเป็นผูป้ ฏิบตั กิ ารพิเศษรักษาความปลอดภัยในอิรกั อัฟกานิสถาน และประเทศอืน่ ๆ ดี.บี.เงียบขรึม คนช่างคิด แต่งงานลูกสาม ในเบงกาซี ดี.บี. จับคู่กับเพื่อนสนิท คริส ‘ตันโต’ พารอนโต มาร์ก ‘ออซ’ ไกซต์ - อายุสสี่ บิ หก อายุมากทีส่ ดุ ในทีม คนผ่อนคลายสบายตัว ใช้เวลากว่าสิบสองปีในทัพ นาวิกโยธิน รวมทั้งงานในหน่วยข่าวกรอง จากนั้น มาเป็นหัวหน้าสถานีต�ำรวจในเมืองเล็กที่เขาถือก�ำเนิด ในโคโลราโด เปิดบริษัทนักสืบเอกชนในปี 2004 รับ งานผูป้ ฏิบตั กิ ารพิเศษของกระทรวงการต่างประเทศใน 11


วีรบุรุษลับแห่งเบงกาซี

อิรกั แต่งงานสองครัง้ มีลกู ชายจากภรรยาคนแรก และลูกเลีย้ งสาววัยรุน่ กับลูกสาวตัวเล็กกับภรรยาคนที่สอง คริส ‘ตันโต’ พารอนโต - อดีตเรนเจอร์ กรมเรนเจอร์ ที่ 75 คนพูดไม่ขาดปาก บุคลลิกภาพหวือหวาเหมือน รอยสักบนร่างแกร่ง อายุสสี่ บิ เอ็ด ใช้เวลาตลอดทศวรรษ เป็นผูป้ ฏิบตั กิ ารพิเศษรักษาความปลอดภัย งานทีเ่ ขามอง ว่าเป็นส่วนหนึง่ ของการท�ำศึกระหว่างความดีกบั ความชัว่ ตระเวนในหลายประเทศในตะวันออกกลาง ตันโตจบ ปริญญาโทสาขาการบริหารงานยุตธิ รรม เขาเป็นเจ้าของ บริษัทเจรจาตกลงประกันภัย ลูกชายกับลูกสาวอย่างละ หนึ่งจากภรรยาคนที่สอง แจ๊ก ซิลวา - อดีตเนวีซีล ใช้เวลากว่าทศวรรษ รับใช้ชาติ ปฏิบตั ภิ ารกิจในโคโซโวและตะวันออกกลาง คนฉลาดใคร่ ค รวญรอบคอบ แจ๊ ก ลาออกจากซีล เพื่อมาใช้เวลาร่วมกับลูกชายสองและภรรยา เขาเพิ่ง ทราบในตอนทีอ่ ยูใ่ นเบงกาซีวา่ ภรรยาตัง้ ท้อง แจ๊กอายุ สามสิบแปดแบ่งเวลาระหว่างงานผู้ปฏิบัติการพิเศษ กับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ซื้อ ตกแต่งและ ขายอสังหาริมทรัพย์ แจ๊กจับคู่กับอดีตซีล ไทโรน ‘โรน’ วูดส์

12


มิตเชลล์ ซุคคอฟฟ์

จอห์น ‘ทิก’ เทียเก็น - ทิกอายุสามสิบหก อดีต นายสิบนาวิกโยธินจากโคโลราโด ใช้เวลานานหลายปี ท�ำงานผูป้ ฏิบตั กิ ารพิเศษของ ‘แบล็กวอเตอร์’ ท�ำงาน ให้บริษัทนั้นในอัฟกานิสถาน ปากีสถาน และอิรัก ก่อนจะมาท�ำงานให้ชดุ ตอบโต้ทวั่ โลก GRS - Global Response Staff ของซีไอเอ คนเงียบขรึมเฉียบขาด พ่อของลูกแฝดวัยทารก ทิกมาท�ำงานให้ GRS ใน เบงกาซีผลัดที่สามแล้ว ถือเป็นคนที่มีประสบการณ์ มากที่สุดในเมืองนี้ มักจับคู่กับมาร์ก ‘ออซ’ ไกซต์ ไทโรน ‘โรน’ วูดส์ - โรนอายุสี่สิบเอ็ด อดีตเนวีซีล ร่างยักษ์ ใช้เวลาสองทศวรรษในหน่วยซีล ก่อนจะ ลาออกมาเป็นพลเรือนในปี 2010 เมื่อครั้งยังเป็นซีล ท�ำงานในโซมาเลีย อัฟกานิสถาน และอิรัก ได้รับ เหรียญบรอนซ์สตาร์ ชั้น V-valor ส�ำหรับความ ห้าวหาญ แต่งงานสองครัง้ มีลกู ชายสามคน โรนเป็น พยาบาลวิชาชีพและเจ้าหน้าที่การแพทย์ อยากใช้เวลาร่วมกับครอบครัว ให้มากกว่านี้ เขาลงความเห็นว่าการท�ำงานในเบงกาซีจะเป็นการท�ำงาน เที่ยวสุดท้ายร่วมกับ GRS

คนส�ำคัญ เจ. คริสโตเฟอร์ สตีเวนส์ - เอกอัครราชทูตอเมริกนั ในลิเบีย อายุหา้ สิบสอง ยังโสด เกิดในแคลิฟอร์เนีย เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศอุทิศตน 13


วีรบุรุษลับแห่งเบงกาซี

เพื่อสานสัมพันธ์อันดีระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศในดินแดนอาหรับ ฌอน สมิธ - เจ้าหน้าทีส่ อื่ สารกระทรวงการต่างประเทศตอนกลางวัน และ ยอดเกมเมอร์ออนไลน์ในยามราตรี อายุสามสิบสี่ แต่งงานแล้ว ลูกยังเล็ก สองคน ท�ำงานในกองทัพอากาศก่อนจะย้ายมากระทรวงการต่างประเทศ นานสิบปี เกลน ‘บับ’ โดเฮอร์ตี - อดีตเนวีซีล หนุ่มอารมณ์ดีจากหน่วย GRS ใน ตริโปลี บินมายังเบงกาซีเมือ่ การโจมตีเริม่ ขึน้ อายุสสี่ บิ สอง หย่าร้าง ไม่มี ลูก บับเป็นส่วนผสมของวินยั เคร่งกับอารมณ์ขนั เป็นมิตร เป็นเพือ่ นเก่าของ โรนกับแจ๊กจากการสังกัดหน่วยซีล และผูกมิตรเป็นเพือ่ นใหม่กบั ตันโตหลัง จากร่วมงานกันในตริโปลี ‘บ็อบ’ - หัวหน้าสถานีซีไอเอ เจ้าหน้าที่ระดับสูงในเบงกาซี ดูแลกิจกรรม ข่าวกรองและบุคลากรในแอนเน็กซ์ รวมทั้งผู้ปฏิบัติการพิเศษรักษาความ ปลอดภัย ‘เฮนรี’ - พลเรือน อายุชว่ งวัยหกสิบ ท�ำงานล่ามทีส่ ถานีแอนเน็กซ์ ร่วมทาง กับชุดรักษาความปลอดภัยทูตในภารกิจช่วยเหลือที่ท�ำการทูตพิเศษใน เบงกาซี อเล็ก เฮนเดอร์สัน - เจ้าหน้าที่ DS ระดับสูงในเบงกาซี เขาอยู่ในศูนย์ ยุทธการเมื่อการโจมตีเริ่มขึ้น เขาเป็นผู้ส่งสัญญาณเตือนภัยแรกสุด และ โทรขอความช่วยเหลือจากแอนเน็กซ์ และสถานทูตในตริโปลี เดวิด อับเบ็น - เจ้าหน้าที่ DS ประจ�ำเบงกาซี เคยท�ำงานในกองทัพบก 14


มิตเชลล์ ซุคคอฟฟ์

เมือ่ การโจมตีเริม่ ขึน้ เขากับเจ้าหน้าที่ DS ประจ�ำตริโปลีสองนายทีเ่ ดินทาง มาพร้อมกับทูตสตีเวนส์ วิ่งกลับห้องพักเพื่อหยิบไรเฟิลและเสื้อเกราะ สก็อตต์ วิคแลนด์ - เจ้าหน้าที่ DS ประจ�ำเบงกาซี รับหน้าที่คุ้มครอง ทูตสตีเวนส์ เคยเป็นนักว่ายน�้ำกู้ภัยในทัพเรือ เขาน�ำทางทูตสตีเวนส์และ ผู้เชี่ยวชาญคอมพิวเตอร์ฌอน สมิธเข้าไปหลบในที่ปลอดภัยเมื่อการโจมตี เริ่มขึ้น

15


บทน�ำ

ฝูงชนกระหายเลือดถาโถมเข้าหาที่ท�ำการทูตพิเศษที่แทบไม่มีการป้องกัน ในเบงกาซี, ลิเบีย ทูตพิเศษสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่ถอยร่นเข้าไปห้อง ล็อกประตูแน่นหนา เมื่อคนร้ายบุกเข้ามาใกล้ คนอเมริกันที่ถูกปิดล้อม สวดมนต์ภาวนา และร้องขอความช่วยเหลือ โทรถึงทางบ้านในวอชิงตัน และ โทรหาพันธมิตรทีอ่ ยูใ่ กล้ หากความช่วยเหลือเดินทางมาไม่ทนั ชะตากรรม สามทางรอท่า หนึง่ ถูกคนร้ายฆ่าตาย สองเสียชีวติ จากควันรม และสาม ถูกย่างสด ในระหว่างนั้น ทุกคนจับอาวุธต่อสู้ คืนนั้น คืนวันที่ 5 มิถุนายน 1967 สงครามระหว่างอิสราเอลกับอียปิ ต์เพิง่ เริม่ ต้น รายงานข่าวภาคเช้าทาง วิทยุมีแต่การกล่าวหาอันเป็นเท็จว่าเครื่องบินรบสหรัฐฯ คุ้มครองทาง อากาศให้อสิ ราเอล หรือทิง้ ระเบิดกรุงไคโรทีอ่ ยูห่ า่ งออกไปไม่ถงึ เจ็ดร้อยไมล์ คนเบงกาซีหลายพันหลายหมื่นคนออกมาเดินถนน ชุมนุมประท้วงที่สถาน กงสุลของสาธารณรัฐอาหรับ ซึง่ เป็นชือ่ ของอียปิ ต์ในขณะนัน้ คนเดินขบวน หนาตายิง่ ขึน้ มีคนงานอียปิ ต์ราวสองพันคนจากไซต์งานก่อสร้างสนามระดับ โอลิมปิกมาสมทบ ไม่นาน ผูช้ มุ นุมกลายเป็นฝูงชนบ้าคลัง่ งัดก้อนอิฐปูถนน มาขว้างปาอาคารทีเ่ คยเป็นธนาคารอิตาลี บัดนีเ้ ป็นทีต่ งั้ สถานกงสุลอเมริกนั ทหารรักษาการณ์ลเิ บียหยิบมือเดียว หนีกระเจิงจากป้อมยาม ฝูงชน 16


มิตเชลล์ ซุคคอฟฟ์

ขว้างก้อนอิฐก้อนหินใส่อาคาร ท�ำลายหน้าต่างเหล็กดัดและประตูหนาหนัก เจ้าหน้าที่อเมริกันแปดชายสองหญิงในอาคาร เร่งรีบเผาเอกสารความลับ เจ้าหน้าทีก่ งสุลมีอาวุธครบมือ แต่จอห์น คอร์มานน์ หัวหน้าสถานกงสุลสัง่ ห้ามการใช้อาวุธ ไม่อยากให้ฝงู ชนเดือดจัดกว่านัน้ เจ้าหน้าทีโ่ ยนแก๊สน�ำ้ ตา ชะลอการบุกรุก ถอยร่นจนมุม ต้องรับมือฝูงชนด้วยพานท้ายปืนไรเฟิลและ ด้ามขวาน จากนั้น ถอยขึ้นบันไดหินอ่อนไปซ่อนตัวในห้องหลบภัยชั้นสอง ซึ่งใช้เป็นศูนย์การสื่อสารของสถานกงสุล ฝูงชนบุกเข้าไม่ถึงตัวคนอเมริกัน แต่ไม่อยากลาจาก ทุบท�ำลายข้าว ของในอาคาร จุดไฟเผา คอร์มานน์เกรงไปว่าฝูงชนจะสาดน�ำ้ มันใส่ประตู นิรภัย จุดไฟปล่อยให้ควันรมคนอเมริกันที่ซ่อนตัวในนั้น เขาไม่ปริปากพูด ถึงความกลัวในใจในขณะที่เพลิงโหมท่วมอาคารกงสุล หนึ่งเดียวที่พอจะ ปลอบประโลมใจคอร์มานน์กับเพื่อนร่วมงาน ไฟร้อนระอุและควันหนาทึบ ท�ำให้ฝูงชนบ้าคลั่งถอยร่น เจ้าหน้าที่อเมริกันผลัดกันใช้หน้ากากป้องกัน ไอพิษที่มีเพียงห้าอัน ในระหว่างการเผาเอกสารลับสุดยอด และปลดการ ท�ำงานของเครื่องเข้ารหัส หลายคนขึ้นไปยังดาดฟ้าเพื่อเผาเอกสาร แต่ก็รีบกลับมาซ่อนตัวใน ห้องหลบภัย เมื่อฝูงชนทิ้งบันไดลงมาจากดาดฟ้าของอาคารข้างเคียง บุก เข้ามาหา ในเมื่อบุกจับตัวคนอเมริกันไม่ได้ ฝูงชนตัดเชือกชักธง ปล่อย ให้ธงชาติสหรัฐฯ ห้อยปวกเปียกพาดหน้าอาคาร ร้อยเอกกองทัพบก ขออนุญาตคอร์มานน์ไปเชิญธงกลับขึ้นเสา คอร์มานน์ปฏิเสธ แต่ยอม ตามในท้ายที่สุด “ผมเคยเป็นพลร่มในสงครามโลกครั้งที่ 2” เขาเขียนไว้ “ผมทราบการประกาศศักดาบ้าบิ่น ส่งผลต่อขวัญก�ำลังใจของทหาร การ แสดงออกหาญกล้า จุดแรงบันดาลใจ แพร่ไปหาคนรอบข้าง ในขณะทีก่ าร หดหัวขลาดกลัว ท�ำลายขวัญให้หดหู่ท้อแท้” ผู้กองวิ่งหลบก้อนหินที่ขว้าง จากเบื้องล่าง วิ่งไปยังดาดฟ้า เชิญธงชาติสหรัฐฯ ขึ้นสู่ยอดเสา เจ้าหน้าทีก่ ระทรวงการต่างประเทศในวอชิงตัน อภิปรายทางเลือกใน 17


วีรบุรุษลับแห่งเบงกาซี

การช่วยเหลือ รวมไปถึงการส่งนาวิกโยธินกับการใช้พลร่ม แต่การปฏิบัติ ภารกิจใช้เวลาเตรียมการ คนอเมริกันในสถานกงสุลไม่มีเวลาเหลืออีกแล้ว ในระหว่างคนเจ้าหน้าที่อเมริกันโทรติดต่อกองทหารอังกฤษที่ตั้งมั่นอยู่นอก เมืองเบงกาซีตามข้อตกลงในสนธิสัญญา ทหารอังกฤษห้าสิบนายพยายาม เดินทางมาช่วยเหลือสี่ระลอก ไม่อาจฝ่าเข้ามาได้ ฝูงชนจุดไฟเผายานหุ้ม เกราะของทหารอังกฤษ ในเมื่อไม่มีหวังจะได้รับการช่วยเหลือ คอร์มานน์กระชากรูปของ ประธานาธิบดีลนิ ดอน จอห์นสัน และเลดีเ้ บิรด์ จอห์นสัน ออกจากกรอบ พลิกด้านหลังรูป เขียนค�ำสัง่ เสีย ไม่วา่ จะเกิดอะไรขึน้ ทุกคนท�ำหน้าทีข่ องตน เต็มก�ำลังแล้ว ทุกคนในห้องหลบภัยลงลายเซ็น และเขียนค�ำอ�ำลา เวลาผ่านไปในช่วงค�ำ่ คืน ข่าวขาดห้วง ชวนให้เจ้าหน้าทีก่ ระทรวงการ ต่างประเทศแปลความหมายว่าคนอเมริกันในสถานกงสุลร่อแร่ใกล้ตาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ดีน รัสก์ ร้องขอความช่วย เหลือจากทหารอังกฤษอีกครั้ง สองชั่วโมงถัดมา ขบวนยานยนต์หุ้มเกราะ ของอังกฤษเคลื่อนพลใหม่อีกครั้ง คราวนี้ เจาะเข้าไปถึงสถานกงสุล น�ำ คนอเมริกันทั้งสิบออกจากวงล้อมโดยปลอดภัย * * * สี่สิบห้าปีถัดมา วันที่ 12 กันยายน 2012 ที่ท�ำการทูตพิเศษอเมริกันใน เบงกาซีตกในวงล้อมของฝูงชนบ้าคลั่งอีกครั้ง เหมือนเช่นคราวก่อน ฝูงชน ติดอาวุธเข้าถึงตัวเจ้าหน้าที่อเมริกันไม่ได้ ท�ำลายข้าวของจุดไฟเผา แต่ คราวนี้ ไม่มีกองทหารอังกฤษในละแวกนั้น ไม่มีกองทัพพันธมิตรใกล้พอ จะให้ความช่วยเหลือ ไฟไหม้ลุกโหม ฝูงชนอาวุธครบมือบุกโจมตี เจ้าหน้าที่รักษาความ ปลอดภัยเข้าที่ก�ำบัง ทูตอเมริกันพลัดหลง เจ้าหน้าที่อเมริกันส่งวิทยุบอก 18


มิตเชลล์ ซุคคอฟฟ์

“ถ้ามาไม่ถึงที่นี่โดยเร็ว เราจะตายกันทั้งหมด!” ผู้ส่งข่าววิทยุเป็นกลุ่มยอดนักรบอเมริกันนอกประจ�ำการ มาท�ำงาน รับจ้างองค์กรลับ พวกเขาเดินทางมายังเบงกาซี ท�ำหน้าที่คุ้มครองสายลับ รวบรวมข่าวกรองในต่างแดน อีกสายหนึ่ง ท�ำหน้าที่เป็นชุดรักษาความ ปลอดภัยทูตและเจ้าหน้าทีซ่ ไี อเอ ไม่มคี วามช่วยเหลืออยูใ่ นละแวกใกล้เคียง มีเพียงการฝึกเคีย่ วกร�ำในอดีต เนวีซลี สองนาย เรนเจอร์กองทัพบกอีกหนึง่ กับนาวิกโยธินสามนาย นักรบทั้งหกทราบดีว่าผู้บุกโจตีมีจ�ำนวนเหลือ คณานับ และพวกเขาเป็นความหวังเดียวของคนอเมริกันเพื่อนร่วมชาติ นี่คือ เรื่องราวเรื่องเล่าของวีรบุรุษลับแห่งเบงกาซี

19


หนึ่ง

เบงกาซี แจ๊ก ซิลวาเอียงตัวไปหาหน้าต่างของเครือ่ งบินสายการบินตุรกี เมือ่ เครือ่ ง ร่อนลงท่าอากาศยานนานาชาติเบนินาของเบงกาซี เขามองออกไปข้างนอก มองเงาเครื่องบินแล่นลิ่วเหนือทะเลทรายสีเหลืองน�้ำตาลเบื้องล่าง แจ๊ก เชื่อฝังใจในเรื่องหยิน-หยาง แนวคิดจีนที่มองว่ามีการเชื่อมโยงกันระหว่าง พลังงานสองปลายขั้ว เช่น มืดกับสว่าง ชีวิตและความตาย ก็ไม่น่า ประหลาดใจนักที่ความคิดสองขั้วผุดเข้ามาในห้วงความคิด ความคิดแรก เป็นความตืน่ เต้น : ฉันสงสัยว่าการผจญภัยครัง้ นีจ้ ะน�ำอะไรมามอบให้ได้บา้ ง จากนั้น ความคิดอีกปลายขั้วเป็นความกังวล : ฉันจะได้กลับไปเห็นหน้า ลูกเมียอีกหรือไม่ วันนั้นอยู่ในเดือนสิงหาคม 2012 แจ๊กเดินทางมาร่วมชุดปฏิบัติการ เบงกาซี ในองค์กรลับที่มีชื่อเรียกว่า GRS - Global Response Staff ก่อตั้งหลังเหตุการณ์ 9/11 GRS จะมีชุดรักษาความปลอดภัยซีไอเอ เสริม ก�ำลังโดยรบพิเศษนอกประจ�ำการ เช่น แจ๊ก ว่าจ้างด้วยสัญญามูลค่าสูง เจ้าหน้าที่ GRS ท�ำหน้าที่เป็นองครักษ์สายลับ นักการทูต และเจ้าหน้าที่ ภาคสนามอืน่ ๆ หากเป็นทีต่ งั้ อันตราย เจ้าหน้าที่ GRS จะซ่อนตัวในเงามืด ท�ำหน้าทีค่ มุ้ ครองทูตพิเศษและสายลับรวบรวมข่าวกรอง อาจจะมี (ถ้ามี) ที่ มั่นไม่กี่แห่งที่เปี่ยมอันตรายเหมือนเบงกาซี, ลิเบีย 20


มิตเชลล์ ซุคคอฟฟ์

ด้วยสถานะอดีตเนวีซีล แจ๊กเหมาะกับทีมงาน GRS อย่างยิ่ง อายุ สามสิบแปด คนเงียบขรึมช่างคิด เค้าหน้าเข้มหล่อเหลา สูงหกฟุตสอง เติม กล้ามเนือ้ แกร่ง 210 ปอนด์ทวั่ ร่าง ปกติสวมเสือ้ ยืดสีด�ำกางเกงขาสัน้ สีกากี ให้ภาพคล้ายช่างรับเหมาก่อสร้าง แต่บนเครื่องบินวันนี้ เขาสวมกางเกง ขายาว รองเท้าหนังสีน�้ำตาล เสื้อเชิ้ตติดกระดุมครบทุกเม็ด เก็บชายเสื้อ เข้ากางเกง อาจดูผิดว่าเป็นนักธุรกิจอเมริกันมองหาโอกาสส่งออก-น�ำเข้า สิบเดือนหลังจอมเผด็จการกัดดาฟีเสียชีวิต นั่นเป็นสิ่งที่แจ๊กคิดไว้ในใจ ในตอนที่ล้อเครื่องบินแตะพื้น การเดินทางมายังลิเบียเป็นครัง้ แรกส�ำหรับแจ๊ก จากงานสัญญาว่าจ้าง ผลัดที่หกของ GRS การเดินทางไปต่างแดนคราวอื่น จะเป็นปฏิบัติการใน ตะวันออกกลางและประเทศอืน่ ๆ หากมีคำ� ถาม แจ๊กจะตอบเพียงว่า การ มาเยือนลิเบียของเขา มาในฐานะชุดรักษาความปลอดภัยทูตจากกระทรวง การต่างประเทศ คนเดินทางมาคุ้มครองสายลับไม่ประกาศวัตถุประสงค์ โจ่งแจ้ง ก่อนจะเดินลงจากเครื่อง แจ๊กรูดแหวนทองนิ้วนางข้างซ้ายเก็บลง กล่องโลหะ นิสยั เริม่ ปฏิบตั เิ มือ่ หลายปีกอ่ น หลังจากทีเ่ ขาคิดว่า เขาไม่อยาก ให้ศัตรูรู้ว่าเขามีครอบครัว มีภรรยากับลูกชายตัวเล็กสองคนรอท่าเขาอยู่ ที่บ้านในเขตตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ แจ๊กเดินลงมายังรันเวย์ รู้สึกถึงความร้อนยามบ่ายของลิเบียแทรก เข้าไปถึงกระดูก แว่นนักบินสีดำ� เป็นเพียงอุปกรณ์เดียวทีช่ ว่ ยป้องกันสายตา จากแสงจ้าขาวจากดวงอาทิตย์แอฟริกาเหนือ เขาเดินเข้าไปในอาคาร ผูโ้ ดยสารขาเข้า ผ่านประตูเข้าไปในห้องสายพานกระเป๋า คนนับร้อยชุมนุม รอกระเป๋าในห้องที่ถือได้ว่าเบียดเสียดแล้วหากมีคนแค่ครึ่งเดียว ผู้รอ กระเป๋าเดินทางส่วนใหญ่เป็นชาย ตะโกนภาษาอาหรับ โบกมือขวักไขว่ ทะเลาะแย่งชิงกระเป๋า อากาศหนาแน่นด้วยแมลงวันและกลิ่นเหงื่อแห้ง ติดผิว แจ๊กหายใจทางปากห้วงสัน้ ๆ ความพยายามต้านทัง้ สองเรือ่ งทีไ่ ม่ใคร่ 21


วีรบุรุษลับแห่งเบงกาซี

ได้ผลนัก เขาระวังระไวตั้งแต่วินาทีที่เดินลงจากเครื่อง การตอบสนองอัตโนมัติ ในทุกคราวทีย่ า่ งเหยียบเข้าไปในดินแดนไม่เป็นมิตร สดับทุกการเคลือ่ นไหว กรามขบกัน ส่งภาษากายออกไปรอบข้างว่า เขาไม่เสาะหาปัญหา แต่กไ็ ม่ คิดจะถอยหนีเช่นกัน แจ๊กรู้สึกถึงการเบิ่งตาจ้องจากคนแปลกหน้า รู้ว่า อย่างน้อยมีหลายคนมีอาวุธติดตัว และรู้เช่นกันว่าทุกคนที่มองจ้องเขา ได้ข้อสรุปเดียวกัน : คนอเมริกัน เขาเดาเอาว่า อย่างน้อย จะต้องมีใคร สักคนอยากเด็ดหัวเขา ในระหว่างที่รอกระเป๋า แจ๊กมองเห็นชายร่างยักษ์ เคราครึ้ม ยืนพิง ผนังในละแวกนัน้ สายตามองส่องกวาดฝูงชนในขณะทีร่ า่ งยืนนิง่ ไม่ไหวติง เหมือนกิ้งก่าเกาะค่าคบ ชายเคราสวมกางเกงช่างกระเป๋าติดข้างขาสีกากี เสื้อโปโลสีน�้ำเงินปล่อยชาย หมายความว่าคลุมซ่อนปืนที่เอว สายตา ประสานกันชัว่ ขณะ แจ๊กเบือนหน้ากลับมามองสายพานกระเป๋า ชายเครา ใบหน้าเรียบเฉย ยืนนิ่งหลังพิงผนัง แจ๊กคว้ากระเป๋า ชายเคราดันหลังพ้นผนัง เดินมุ่งหน้าตรงไปยังด่าน ศุลกากร แจ๊กเดินตามหลังห่างๆ เมื่อแจ๊กเดินออกจากอาคาร ชายเครา หยุดเท้ารอบนฟุตบาท แจ๊กเดินไปสมทบ ออกเดินไปพร้อมกัน ไม่มีการ พูดคุย ชายเคราครึ้มเดินน�ำไปยังรถกระบะโตโยต้าสีขาว ฝุ่นเกาะหนา แจ๊กโยนกระเป๋าไว้ทา้ ยรถ เลือ่ นตัวเข้าไปนัง่ เบาะผูโ้ ดยสาร ชายเครา นั่งที่คนขับ ก้มลงมือคว้าปืนพก “ขึ้นล�ำแล้ว” เขาบอก ชายเครายื่นส่งปืน ส่งด้ามปืนพกให้แจ๊ก แจ๊กผ่อนคลายเมือ่ มีปนื ในมือ มือขวายืน่ ออกไปสัมผัสมือทรงพลังของ เพื่อนหน่วยซีลในอดีต และเพื่อนร่วมงานหน่วย GRS ไทโรน วูดส์ นาม เรียกขานวิทยุ ‘โรน’ “เป็นไงบ้าง, เกลอ?” โรนถาม ฉีกยิ้มกว้างใต้เคราขนหงอกเจือ 22


มิตเชลล์ ซุคคอฟฟ์

โรนสตาร์ตรถกระบะ แลกเปลี่ยนเรื่องราวความเป็นไปของชีวิตและ ครอบครัว วางเรือ่ งนัน้ ไว้ เหมือนแหวนแต่งงานเก็บเข้ากล่องโลหะ โรนขับ รถไปหาประตูทางออกท่าอากาศยาน มุ่งหน้าไปยังย่านผู้มีอันจะกินเรียก ว่า ฟาเวย์ฮัตตะวันตก จุดหมายจะเป็นกลุ่มอาคารที่ซีไอเอเช่าไว้ เรียกว่า สถานีแอนเน็กซ์ ศูนย์บญ ั ชาการลับของซีไอเอในเบงกาซี ห่างจากแอนเน็กซ์ ไม่ถึงครึ่งไมล์ จะเป็นที่ท�ำการทูตพิเศษสหรัฐฯ ซึ่งเป็นฐานปฏิบัติการของ เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ เมือ่ การพูดคุยเปลีย่ นเป็นเรือ่ งงาน โรนบรรยายสรุปเมืองแปลกพิลกึ ที่ พวกเขามาท�ำงานคุม้ ครองคนอเมริกนั ให้อยูร่ อดปลอดภัย โรนออกค�ำเตือน ว่า ต้องตืน่ ตัวและท�ำงานให้ยงุ่ เข้าไว้ แต่ทงั้ สองทราบดีวา่ ไม่มอี ะไรเหลือบ่า กว่าแรง ไม่มีอะไรเกินรับมือได้ในเบงกาซี โรนบอกว่า เขาแทบจะชอบ เมืองนี้ด้วยซ�้ำไป แต่มีบางอย่างในการบรรยายสรุป ส�ำเนียงบอกเล่าของเพื่อนเก่า บรรยายเบงกาซีว่าเป็นเมืองเถื่อนไม่มีขื่อมีแป ไม่มีใครมีอ�ำนาจเบ็ดเสร็จ เด็ดขาดควบคุมไว้ เส้นขีดกัน้ ระหว่างมิตรกับศัตรูของคนอเมริกนั เลอะเลือน และปรวนแปร ดินแดนนีห้ วังพึง่ พาได้แต่เฉพาะเพือ่ นร่วมงานเท่านัน้ แจ๊ก ได้ความรูส้ กึ ว่า โรนถือว่าปฏิบตั กิ ารในเบงกาซีผลัดนี้ เป็นงานเสีย่ งภัยทีส่ ดุ อีกครั้ง * * * แจ๊กร่อนลงในประเทศที่คนอเมริกันส่วนใหญ่รู้จักจากพาดหัวข่าวสะเทือน ขวัญ ประเทศในแอฟริกาเหนือ ขนาดเกือบเท่ารัฐอะแลสกา ลิเบียเป็น ทะเลทรายกว้างใหญ่ มีพื้นที่พอจะเพาะปลูกได้ทางชายฝั่งทะเลตอนเหนือ ทางตะวันตกติดกับตูนิเซียและแอลจีเรีย ตะวันออกติดกับอียิปต์ ทางใต้ ติดกับไนเจอร์ ชาด และซูดาน ลิเบียแบ่งออกเป็นสามภาค ตริโปลิตาเนีย 23


วีรบุรุษลับแห่งเบงกาซี

ทางตะวันตก มีตริโปลีเป็นเมืองหลวง ไซเรนไนกาทางตะวันออก มีเบงกาซี เป็นเมืองหลวง และเฟซซาน ดินแดนแห้งแล้งทางใต้ ประชาการส่วนใหญ่ ของคนหกล้านคน ชุมนุมกันทีต่ ริโปลีและเบงกาซีตดิ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ประชากรราว 97 เปอร์เซ็นต์เป็นมุสลิมนิกายสุหนี่ ประวัติศาสตร์ย่อของลิเบียแทบเป็นบัญชีรายการการยึดครองจาก กองก�ำลังต่างชาติ หากมหาอาณาจักรใดในแถบเมดิเตอร์เรเนียนมีกองเรือ และกองทัพบก จะต้องบุกยึดครองท่าเรือใหญ่สองแห่งของลิเบีย ตริโปลี ทางตะวันตก และเบงกาซีทางตะวันออก แยกคั่นกันด้วยอ่าวซิดรา ใน ห้วงหลายพันปีทผี่ า่ นมา ทัพยึดครองประกอบด้วยพวกโพลีนเี ชีย เปอร์เซีย โรมัน บิซแซนไทน์ และออตโตมาน บางคราวมีการแยกดินแดน กองทัพ กรีกครอบครองดินแดนเบงกาซี 630 ปีก่อนคริสตกาล ในระหว่างที่โรมัน ปักหลักใกล้ตริโปลี นักประวัตศิ าสตร์กล่าวกันว่า คนกรีกเป็นผูต้ งั้ ชือ่ ลิเบีย บ่งบอกถึงดินแดนทางเหนือทั้งหมดของแอฟริกา ทางตะวันตกของอียิปต์ เมือ่ ถึง 74 ปีกอ่ นคริสตกาล โรมันยึดครองดินแดนทางตะวันออกของ ลิเบีย รวบรวมดินแดนตะวันออกและตะวันตกเป็นแคว้นเดียวกันเป็นการ ชั่วคราว จากนั้น เป็นพวกวานดาล เผ่าเยอรมันที่ไล่ขับทหารโรมัน สร้าง ชื่อฉาวโหดเหี้ยม โดยการบุกปล้นฆ่าทางตะวันออก กองทัพออตโตมาน รุกรานลิเบียในปี 1551 ปกครองลิเบียนานกว่าสามศตวรรษ แผ่อ�ำนาจ ปกครองเผ่าตะวันออกได้น้อยนิด ในขณะที่ผู้รุกรานสองรายหลังปล้นเผาขูดรีดลิเบีย อาหรับสองเผ่า ไหลข้ามผืนทรายเข้ามาในลิเบียในศตวรรษที่ 11 เผ่าบานีไฮลาลปักหลักใน ตริโปลี ส่วนเผ่าบานีซาลิมยึดครองตะวันออก บานีซาลิมคบหาสานความ สัมพันธ์แต่งงานกับคนพืน้ เมืองเผ่าเบอร์เบอร์ในเบงกาซี หลายรุน่ ถัดมา ไม่ เหลือความแตกต่างเชื้อชาติและศาสนาอีกแล้ว นักประวัติศาสตร์เรียกว่า ‘การผสมกลมกลืนอาหรับ’ ของลิเบียตะวันออก ในศตวรรษที่ 18 พวกเติร์กออตโตมานถอดใจไม่ขอยึดครองเบงกาซี 24


มิตเชลล์ ซุคคอฟฟ์

อีกต่อไปแล้ว พวกเติร์กยินยอมให้เบงกาซีด�ำรงอยู่ในฐานะรัฐกึ่งเอกราช ปกครองโดยมุสลิมนิกายเซนุซซี สอนสั่งอิสลามบริสุทธิ์แก่สาวกในทุกแง่ มุมของชีวติ ยึดค�ำสอนศาสดามูฮมั หมัดอย่างเคร่งครัด ในระหว่างทีต่ ริโปลี และแคว้นทางตะวันตกหมุนเปลี่ยนไปหาโลกใหม่ เบงกาซีทางตะวันออก ยังอยู่ในวิถีชีวิตโบราณ ปกครองด้วยพันธะของเผ่าและกฎหมายศาสนา การแบ่งแยกเด็ดขาดแทบท�ำความเข้าใจไม่ได้ระหว่างเบงกาซีโบราณกับ ตริโปลีคู่แฝด กว้างใหญ่ ทันสมัย สวย และร�่ำรวยกว่า ในปี 1912 มหาอาณาจักรออตโตมานเหนื่อยล้า แอบเซ็นสัญญาลับ กับอิตาลี มอบอ�ำนาจปกครองชายฝั่งทั้งทางตะวันตกและตะวันออกให้ ตริโปลีโอบรับการปกครองของอิตาลี แต่เบงกาซีลุกฮือต่อต้านอาณานิคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาตินั้นเป็นคริสเตียน ถึงปี 1920 อิตาลียากจนจาก สงครามโลกครั้งที่ 1 มอบอ�ำนาจการปกครองลิเบียตะวันออกให้ไอดริส อัล-เซนุซซี อิหม่ามเคร่งหลักศาสนานิกายเซนุซซี เมื่อเบนิโต มุสโสลินีเถลิงอ�ำนาจขึ้นปกครองอิตาลีในอีกสองปีถัดมา จอมเผด็จการฟาสซิสต์อยากผนวกเบงกาซีมาอยู่ในอาณาจักรของตน การ สู้รบดุเดือดด�ำเนินนานหลายปี ในเดือนกันยายน 1931 กองทัพอิตาลี ยึดเมือง จับผูน้ ำ� กองโจร โอมาร์ อัล-มุคห์ตาร์, ชีคเซนุซซีแขวนคอ โอมาร์ อัล-มุคห์ตาร์กลายเป็นผู้พลีชีพเพื่อลิเบีย แม้มุคห์ตาร์จะลาลับไปแล้ว มุสโสลินยี งั อยากท�ำลายล้างการต่อต้านในเบงกาซีให้สนิ้ ซาก จอมเผด็จการ สร้างรั้วยาวสองร้อยไมล์ตลอดแนวพรมแดนติดอียิปต์ มีการประมาณการ ไว้ว่า มีการเนรเทศคนลิเบียตะวันออกเข้าค่ายกักกันถึงหนึ่งในสาม และ ฆ่าทิ้งอีกหนึ่งหมื่นสองพันคน ในระหว่างที่เบงกาซีตกอยู่ใต้การปกครองของอิตาลี คนงานหลั่งไหล ข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียน คนอาหรับพื้นเมืองถูกบังคับให้ท�ำงานข้ารับใช้ ไม่มีโรงเรียนไร้การศึกษา กีดกันไม่ให้ข้องเกี่ยวทางการเมือง สงครามโลก ครัง้ ที่ 2 ท�ำให้ทกุ อย่างเลวร้ายกว่าเดิม เบงกาซีถกู ทิง้ ระเบิดหลายร้อยครัง้ 25


วีรบุรุษลับแห่งเบงกาซี

ในยามทีฝ่ า่ ยอักษะและสัมพันธมิตรช่วงชิงการครอบครองกองซากปรักหักพัง นักบินอังกฤษแปลงเนือ้ เพลงป๊อบด้วยวลีทวี่ า่ “เราบินไปทิง้ ระเบิดเบงกาซี” เหมือนเช่นสัตว์ที่ถูกกระท�ำทารุณ เบงกาซีระแวงภัยและโกรธกราดเกรี้ยว หลังสงครามโลกครัง้ ที่ 2 ลิเบียถูกตัดแบ่งกันระหว่างอังกฤษ ฝรัง่ เศส และสหรัฐฯ ยังไม่มกี ารค้นพบน�ำ้ มัน ดังนัน้ ไม่มปี ระเทศใดอยากรับผิดชอบ อาณานิคมใหม่ ปล่อยให้ลเิ บียเป็นเพียงกระบะทรายอาหรับทีถ่ ูกทิง้ ระเบิด จนปี้ป่นยากจนข้นแค้น ในปี 1951 ฝ่ายสัมพันธมิตรสถาปนาสหราช อาณาจักรลิเบีย ประเทศเอกราช ระบอบกษัตริยใ์ ต้รฐั ธรรมนูญ มีกษัตริย์ มุสลิมไอดริส อัล-เซนุซซีเป็นองค์พระประมุข ต�ำแหน่งสวยหรูของประเทศ ยากจนที่สุด และไม่รู้หนังสือมากที่สุดในโลก ภาวการณ์เปลี่ยนไปพลิกฟ้าพลิกดิน เมื่อมีการค้นพบบ่อน�้ำมันใน ปี 1959 บ่อขนาดใหญ่ระดับ 2 เปอร์เซ็นต์ของน�ำ้ มันทัง้ โลก หรือการส่งออก วันละล้านบาร์เรลในปี 2012 ในทันใด กษัตริย์ไอดริสมีเงินทองล้นเหลือ บ�ำรุงบ�ำเรอเพือ่ นพ้องและโครงการไร้สาระสวยหรูในดินแดนตะวันออกของ ตน ปล่อยให้ตริโปลีและลิเบียตะวันตกเสื่อมโทรม ชนชั้นปกครองร�่ำรวย มหาศาล คนจนทุกหัวระแหงทั้งตะวันออกตะวันตกยังยากไร้ดุจเดิม ในปี 1969 ในระหว่างทีก่ ษัตริยไ์ อดริสวัย 80 ปี เสด็จประพาสต่างแดน เวลาเหมาะสมส�ำหรับการท�ำรัฐประหารไม่สญ ู เสียเลือดเนือ้ นายทหารหนุม่ กระหายอ�ำนาจอายุยี่สิบเจ็ดชื่อ มูอัมมาร์ อัล-กัดดาฟีเป็นหัวหน้าคณะ ปฏิวัติ ตลอดสี่สิบสองปีถัดมา กัดดาฟีบ้าอ�ำนาจแปรปรวนและเหี้ยมโหด ได้ชื่อเล่นจากโรนัลด์ เรแกนว่า ‘หมาบ้าแห่งตะวันออกกลาง’ นับตัง้ แต่จดุ เริม่ ต้น กัดดาฟีเป็นกังวลต่อการประท้วงขัดขืนในเบงกาซี และความผูกพันต่อกษัตริย์ไอดริส ดังนั้น เขารีดเลือดเนื้อจากดินแดน ตะวันออกจนแห้งผาก ก่อนหน้านี้ เมืองหลวงสลับกันไปมาระหว่างตริโปลี กับเบงกาซี กัดดาฟีประกาศให้ตริโปลีเป็นเมืองหลวงถาวร เขาย้ายบรรษัท น�้ำมันแห่งชาติจากเบงกาซีไปยังตริโปลี แม้ว่าน�้ำมันส่วนใหญ่จะอยู่ใน 26


มิตเชลล์ ซุคคอฟฟ์

ดินแดนตะวันออก เขาย้ายอนุสาวรีย์ของโอมาร์ อัล-มุคห์ตาร์จากเบงกาซี เนื่องเพราะเกรงไปว่าคนเบงกาซีจะลุกฮือทวงถามมรดกของประเทศของ ผู้สละชีพผู้นี้ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจริงในท้ายที่สุด ในขณะทีโ่ รงพยาบาล โรงเรียน และมาตรฐานการครองชีพ คุณภาพ ชีวิตในตริโปลียกระดับขึ้น เบงกาซีตกอยู่ใต้อ�ำนาจการกดขี่ข่มเหง และ การทอดทิ้ง ในขณะที่น�้ำมันของเบงกาซีน�ำไปบ�ำเรอตริโปลี คนเบงกาซี คั่งแค้นในอก จับตามองกัดดาฟีสร้างอนุสาวรีย์และการแซ่ซ้องให้ตนเอง นับไม่ถ้วน ความแตกแยกขมขื่นใจระหว่างเบงกาซีกับตริโปลี ไม่ได้จ�ำกัด เพียงแค่ทางการเมือง หากแต่รวมทางกายภาพไว้ด้วย ไม่มีทางรถไฟ เชื่อมระหว่างสองมหานคร มีเพียงถนนสายเล็กหยักคดเคี้ยวลัดเลาะผ่าน ทะเลทราย ระยะทางหกร้อยไมล์ แม้จะมีความแค้นเคืองสุมใจ แต่คนเบงกาซียังมีสิ่งหนึ่งพอจะปลอบ ประโลมใจ นั่นก็คือ สโมรสรฟุตบอลท้องถิ่น อัล-อาห์ลี เบงกาซี แปล ความหมายได้ว่า ‘สโมสรของประชาชน’ กัดดาฟีโปรดสโมสรฟุตบอล ตริโปลี และเกลียดสโมสรอัล-อาห์ลี เบงกาซีเข้าไส้ ความเกลียดย�้ำหนัก เมื่อสโมสรอัล-อาห์ลี เบงกาซีครองถ้วยลีกปี 1974 ชัยชนะที่พ้องกับวัน ครบรอบการปฏิวัติของกัดดาฟี ชาวเบงกาซีออกมาเฉลิมฉลองเต็มถนน ไม่สนใจค�ำขู่หรือค�ำสั่งของกัดดาฟี กัดดาฟีไม่มีวันลืมและไม่ยอมให้อภัย หลายปีต่อมา ซาดี ลูกชายนักฟุตบอลของกัดดาฟีครองต�ำแหน่ง เจ้าของ-ผูจ้ ดั การ-กัปตันทีมอัล-อาห์ลี ตริโปลี ซาดีลากตัวผูเ้ ล่นชัน้ ยอดของ สโมสรอัล-อาห์ลี เบงกาซีมาร่วมทีมสโมสรอัล-อาห์ลี ตริโปลี ติดสินบนหรือ ข่มขู่กรรมการเพื่อปล้นชัยชนะ เมื่อถึงฤดูร้อนปี 2000 สโมสรอัล-อาห์ลี เบงกาซีรอ่ แร่ ขอเพียงพ่ายแพ้อกี นัดเดียว จะตกชัน้ ซาดี กัดดาฟีเดินทาง มาชมการแข่งขัน เสพซับความเจ็บปวดขมขื่นของคู่ปรับ เมือ่ กรรมการตัดสินน่าแคลงใจ ฝูงชนเริม่ หงุดหงิดแล้ว และเมือ่ ความ พ่ายแพ้ไม่อาจเลี่ยงหลบได้ ชาวเบงกาซีเหลืออดแล้ว ความอับอายของ 27


วีรบุรุษลับแห่งเบงกาซี

สโมรสรสุดที่รักกลายเป็นสัญลักษณ์การค้อมยอมรับอ�ำนาจของกัดดาฟี กดข่มชาวเบงกาซีทั้งมวล นับแต่การประหารชีวิตกลางตลาดถึงการยอม จ�ำนนจมอยู่ในความยากจนข้นแค้นในขณะที่น�้ ำมันท�ำรายได้มหาศาล โค้ชอัล-อาห์ลี เบงกาซีผลักอกกรรมการ แฟนฟุตบอลกรูลงไปในสนาม ทะลักออกมายังท้องถนน ชาวเมืองไฟเผาอาคารสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งชาติ ขว้างก้อนอิฐก้อนหินใส่อนุสาวรีย์กัดดาฟี เป็นที่คาดได้ การลงทัณฑ์รุนแรงสาหัส คนถูกจับตัวแปดสิบคน ส่งตัวสามสิบคนไปศาลในตริโปลี สามคนต้องโทษประหารชีวิต วันที่ 1 กันยายน 2000 ครบรอบปีที่สามสิบเอ็ดของการปฏิวัติของกัดดาฟี ต�ำรวจลับของกัดดาฟีบุกเข้าไปในสโมสรอัล-อาห์ลี เบงกาซี ท�ำลาย เครื่องเรือน ของที่ระลึก ถ้วยรางวัล และใช้รถไถพังอาคารให้ทลายราบ สโมรสรอัล-อาห์ลี เบงกาซีไม่มีตัวตนอีกต่อไปแล้ว ชาวเมืองเบงกาซีได้ลา้ งแค้นสมใจในอีกสิบปีถดั มา ในปี 2011 หลังการ หยามเหยียดศักดิ์ศรีมนุษย์นับครั้งไม่ถ้วน ชาวเมืองได้เห็น ‘อาหรับสปริง’ ในตูนเิ ซียและอียปิ ต์ เบงกาซีกลายเป็นสนามรบของสงครามกลางเมืองลิเบีย ปิดฉากระบอบการปกครอง และปลิดชีวิตของกัดดาฟี * * * การเดินทางมาถึงเบงกาซีของแจ๊กเป็นบทล่าสุดของวิถีชีวิตมือปืนยุคใหม่ เขาเกิดและเติบโตในแคลิฟอร์เนียตอนเหนือ ลูกชายคนเดียวของผู้ลี้ภัย อพยพมายังอเมริกา คนท�ำงานหนัก เพือ่ ส่งลูกชายเข้าโรงเรียนเอกชน เมือ่ ครั้งยังเป็นเด็ก แจ๊กชื่นชอบวิถีชีวิตกลางแจ้ง สร้างป้อมปราการรอบบ้าน วาดภาพว่า หากมีผรู้ กุ รานบ้านเกิด เขาและครอบครัวจะรอดชีวติ ได้อย่างไร แจ๊กท�ำคะแนนยอดเยีย่ มวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ แต่เข้าวิทยาลัย ได้วนั เดียว เขาลงความเห็นแล้วว่า การศึกษาในโลกวิชาการควรจบลงเพียง 28


มิตเชลล์ ซุคคอฟฟ์

เท่านี้ เขาสมัครเข้ากองทัพเรือ เป้าหมายเดียวคือ การเป็นซีล แจ๊กอายุสิบเก้า ผ่านการฝึกพื้นฐาน ถูกส่งต่อไปยังโรงเรียนฝึกอาชีพ กองทัพเรือสิบสัปดาห์ เขาเซ้าซี้ครูฝึก ขออนุญาตไปสอบคัดเลือกเข้า โรงเรียนนักท�ำลายใต้นำ�้ ก้าวแรกสุดทีจ่ ะเลือ่ นขึน้ ไปเป็นซีล แต่เมือ่ โอกาส มาถึงอย่างไม่คาดฝัน แจ๊กเล่นสนุกในโรงเรียนฝึกอาชีพตลอดทัง้ วัน และไป ปาร์ตีตลอดทั้งคืน ทอดทิ้งการฝึกร่างกายให้แกร่ง การคัดเลือกเป็นเศษเสี้ยวของมาตรฐานที่จะได้เลื่อนผ่านไปเป็นซีล แต่ก็เข้มข้นพอจะคัดทิ้งคนที่ไม่ควรค่า เพื่อนร่วมงานมองว่าแจ๊ก คนแกร่ง เหมือนสิ่วแหลมคม ผ่านได้สบายอยู่แล้ว เขาผ่านการว่ายน�ำ้ ห้าร้อยหลา ตามเกณฑ์เวลา ปีนขึ้นจากสระ ดันพื้นได้ตามเกณฑ์คัดเลือก ท� ำได้ มากกว่าแปดสิบครัง้ ในสองนาที ถัดไปเป็นซิตอัป ผ่านเกณฑ์คดั เลือกเช่นกัน จากนั้น เป็นการดึงข้อ ต้องดึงข้อจากการแขวนนิ่งจ�ำนวนแปดครั้งอย่าง ต่อเนื่อง หลังปล่อยตัวเที่ยวเตร่หลายสัปดาห์ แจ๊กดึงได้หกครั้ง เขาเพ่ง พลังจิตดึงตัวเป็นครั้งที่เจ็ด กล้ามเนื้อส่งเสียงประท้วง ปอดแทบระเบิด ฉีกขาด แขนไฟลุกท่วม แจ๊กดึงครั้งที่แปดได้ครึ่งทาง ไม่อาจยกปลายคาง ผ่านบาร์เดี่ยวได้ แจ๊กแขวนห้อยอยู่ในท่านั้น ไม่ยอมปล่อยมือ แต่ไม่เหลือก�ำลังพอจะ ดึงร่างให้สูงกว่านั้นได้ มาสเตอร์ชีฟซีลเดินมากระตุ้น “ถ้าฉันจุดไฟลนก้น เอ็ง เอ็งจะยกตัวขึ้นพ้นบาร์ไหม?” แจ๊กพยายามอีกครั้ง แต่ร่างไม่ยอม เคลื่อน เขาปล่อยมือ เมื่อเท้ากระทบพื้น น�ำ้ ตาเอ่อกบตา แจ๊กกลับไป ยังห้องพัก บอกเพื่อนตกตะลึงอ้าปากค้างว่า เขาไม่ผ่าน แจ๊กจดจ�ำห้วงเวลาชอกช�้ำใจที่สุด ห้วงกระตุ้นก�ำลังใจสูงสุดในชีวิต ไว้ แทนที่จะได้เข้าเรียนในหลักสูตรการฝึกซีลอันเลื่องชื่อ และกลายเป็นผู้ ปฏิบัติการชั้นยอด เขาใช้เวลาอีกสองปีเป็นลูกเรือบนเรือบรรทุกเครื่องบิน เมือ่ โอกาสมาถึง แจ๊กท�ำลายเกณฑ์คดั เลือกทุกประเภทของซีล และเมือ่ จบ หลักสูตรซีล เขาเชื่อว่าเป็นหยินหยางในชีวิตของเขาเมื่อสองปีก่อน ความ 29


วีรบุรุษลับแห่งเบงกาซี

ล้มเหลวน่าอับอายและผลที่เกิดตามมา มอบพละก�ำลังและจิตแกร่งให้เขา ในการผลักดันตัวเองให้ผ่านหลักสูตรมหาโหดจนได้สามง่ามทองของซีลติด ประดับหน้าอก ในขณะที่นักรบนับไม่ถ้วนลาออกและถูกคัดทิ้งกลางทาง แจ๊กไม่พูดถึงการท�ำงานของตนเอง แต่ในห้วงทศวรรษที่เป็นซีล เขา ท�ำงานในดินแดนประเทศอืน่ กว่ายีส่ บิ ประเทศ และปฏิบตั ภิ ารกิจในโคโซโว และตะวันออกกลาง แจ๊กลาออกจากซีลเพือ่ ใช้เวลาร่วมกับครอบครัวทีเ่ พิม่ จ�ำนวนสมาชิกมากขึ้น และลองท�ำธุรกิจ เขาซื้อและขายอสังหาริมทรัพย์ ตกแต่งบ้านเรือนก่อนจะขายไป พยายามน�ำหน้าตลาดแปรปรวน ในตอนที่แจ๊กกับโรนมาท�ำหน้าที่ผู้ปฏิบัติการพิเศษในหน่วย GRS อดีตซีลทั้งสองนายเป็นเพื่อนกันมาเกือบทศวรรษแล้ว ทั้งสองพบกันใน ช่วงที่เป็นครูฝึกในศูนย์สงครามพิเศษกองทัพเรือในนิแลนด์, แคลิฟอร์เนีย คืนหนึ่ง ทั้งสองเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน แจ๊กดื่มเหล้าในบาร์ท้องถิ่น เมา เกินกว่าจะขับรถกลับบ้าน เขาเดินไปยังคอนโดของโรนในละแวกนั้น ขอที่ ซุกหัวนอนจนถึงรุง่ เช้า โรนไม่รวู้ า่ ใครอยูท่ ปี่ ระตูหน้า เขาสวมเพียงกางเกง บ็อกเซอร์ ปีนหน้าต่างออกจากห้อง ปืนพกกระชับมัน่ ในมือ ลัดเลาะมุมตึก จนมาถึงประตูหน้า ขนาบปีกของผู้รุกราน เมื่อมองเห็นผู้มาเยือนเมา เละเทะไม่มีดี โรนลดปืนลง ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ในยามทีโ่ รนไม่ได้เล็งปืนมายังตัวเขา แจ๊กถือว่าโรนเป็นคนฉลาด ทรง ประสิทธิภาพ มีความผูน้ �ำในตัว และน่าจะเป็นคนท�ำงานอุทศิ ทุม่ มากทีส่ ดุ มีแรงกระตุ้นจูงใจสูงสุดเท่าที่เขาเคยพบมา ค�ำชมที่ไม่ได้พบเห็นง่ายนักใน หมู่ผู้ปฏิบัติการรบพิเศษ โรนอายุสสี่ บิ เอ็ด แต่งงานแล้วสองครัง้ ลูกชายสามคน อดีตนักมวยปล�ำ้ มัธยมปลาย ชืน่ ชอบมอเตอร์ไซค์เร็ว รถแต่งแรง นิยมฟอร์ดมัสแตงคอบรา เป็นพิเศษ โรนแผงไหล่กว้างเหมือนนักยกน�้ำหนัก ผมสีน�้ำตาลอ่อน คาง อวบเนื้อ ท่อนแขนเหมือนปั้นจั่นตอกเสาเข็ม ได้สามง่ามสีทองของซีลใน ปี 1991 หลังจากการลองซ�้ำผ่านสัปดาห์นรกสองครัง้ สองหน การลงทัณฑ์ 30


มิตเชลล์ ซุคคอฟฟ์

ทรมานห้าวันครึ่ง วัดความแกร่งของเรือนกายและประสาท ความเจ็บ ปวดและความหนาวเยือก ความมุ่งมั่นและการท�ำงานเป็นทีม เวลานอน หลับตาตลอดสัปดาห์ไม่เกินสีช่ วั่ โมง ในหน่วยซีล โรนปฏิบตั งิ านห้าวหาญใน โซมาเบีย อัฟกานิสถาน และอิรัก ได้เหรียญกล้าหาญบรอนซ์สตาร์ ที่มี V-Valor ส�ำหรับความห้าวหาญ ค�ำประกาศเกียรติคุณจารึกไว้ว่า “ความ ส�ำเร็จเยีย่ งวีรบุรษุ การชีแ้ นะสุดพิเศษ ความคิดริเริม่ เดือดคลัง่ และการอุทศิ ทุ่มเททั้งมวลให้ภารกิจ” จากวีรกรรมในจังหวัดอัล-อันบาร์ ทางตะวันตก ของอิรัก มือของนักรบเป็นมือสมานชีวิต โรนเป็นพยาบาลวิชาชีพและ เสนารักษ์ ลาออกจากซีลในปี 2010 ประสบการณ์การท�ำงานในหน่วยรบ พิเศษนานยีส่ บิ ปี เขาซือ้ บาร์เหล้าชือ่ ว่า เดอะ ซอลตี ฟร็อกในอิมพีเรียลบีช, แคลิฟอร์เนีย และท�ำช่วยเหลืองานของภรรยาทันตแพทย์ * * * ในระหว่างที่โรนกับแจ๊กปรับตัวให้เข้ากับชีวิตพลเรือน รัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่ม การพึ่งพารบพิเศษนอกประจ�ำการมากขึ้นทุกขณะ ว่าจ้างให้เป็นชุดรักษา ความปลอดภัยเจ้าหน้าทีอ่ เมริกนั ในดินแดนแผ่นดินเดือดทัว่ โลก โรนกับแจ๊ก ได้ยินเสียงเล่าลือในแวดวงซีล เปิดรับอดีตรบพิเศษ ท�ำหน้าที่เป็นชุด GRS ทัง้ สองมองเห็นโอกาสทีจ่ ะได้ทำ� งานสมดังวัตถุประสงค์ของซีล ได้ทำ� งานร่วม กับเพือ่ นตายอีกครัง้ ...และเงินค่าจ้าง การปฏิบตั งิ านแต่ละผลัดของเจ้าหน้าที่ GRS กินเวลานานหลายเดือน แม้จะมีช่วงหยุดพักบ้าง ผู้ปฏิบัติการพิเศษ จะได้ค่าจ้างไม่ต�่ำกว่าปีละ 150,000 ดอลลาร์ หากความท้าทายและเงินค่าจ้างเป็นหยิน ภัยอันตรายก็เป็นหยาง ชุด ปฏิบตั กิ ารลับขนาดเล็ก ท�ำงานในพืน้ ทีท่ คี่ นพืน้ เมืองมองเห็นคนอเมริกนั ถือ อาวุธเป็นการยั่วยุ ในเดือนธันวาคม 2009 เจ้าหน้าที่ GRS สามนายอยู่ใน กลุม่ คนอเมริกนั ผูเ้ สียชีวติ เจ็ดคนในเมืองคอสต์, อัฟกานิสถาน เมือ่ สายลับ 31


วีรบุรุษลับแห่งเบงกาซี

สามหน้าชาวจอร์แดนท�ำงานให้อลั กออิดะห์ จุดระเบิดพลีชพี ในสถานีซไี อเอ แจ๊ก โรน และอดีตรบพิเศษอีกหยิบมือหนึง่ ชัง่ น�ำ้ หนักระหว่างค่าจ้าง กับความเสี่ยง ตกลงใจรับงาน GRS ในกลุ่มนี้ มีเพื่อนสนิทของแจ๊กอีกคน จากซีล ผูป้ ฏิบตั กิ ารพิเศษอารมณ์ดชี อื่ เกลน ‘บับ’ โดเฮอร์ตี แจ๊กกับเกลน เป็นซีลในปีเดียวกัน ขณะนี้ เกลนเป็นเจ้าหน้าที่ GRS ในลิเบีย ประจ�ำการ อยู่ที่ตริโปลี ไม่น่าประหลาดใจนักในกลุ่มรบพิเศษที่ยอมตายแทนกันได้ ในซีล โรนกับเกลนเป็นเพื่อนสนิทกันอีกครั้ง หลังจากติดเข็มกลัดซีลนานสิบห้าปี เขายังไม่ลืมค�ำบอกกล่าวของ ครูฝกึ “เหลียวมองไปรอบห้อง ในอีกยีส่ บิ ปีขา้ งหน้า ไอ้คนทีน่ งั่ ข้างแกจะ ตายดับไป ไม่วา่ ในการฝึก ในสนามรบ หรือทีไ่ หนๆ” ถ้ายังเป็นผูป้ ฏิบตั กิ าร พิเศษรับจ้างรัฐบาลไปนานวัน แจ๊กรู้ว่าค�ำพยากรณ์ของครูฝึกจะเป็นจริง อาจเกิดต่อตัวเขา เกลน หรือโรน หรืออาจเป็นทั้งสามคน * * * ในระยะแรกของการปฏิวตั ลิ เิ บีย คนเบงกาซีซาบซึง้ ใจในความช่วยเหลือของ สหรัฐฯ ช่วยเหลือพวกเขาต่อสู้กับกัดดาฟี เดือนพฤษภาคม 2011 เดอะ นิวยอร์กไทมส์ ลงบทความบรรยายน�้ำใจเป็นมิตรของคนขับแท็กซี่ ล่าม และร้านกาแฟ พวกเขาปฏิเสธเด็ดขาด ไม่คิดเงินจากคนอเมริกัน ยุวชน เบงกาซีโบกธงชาติสหรัฐฯ ไปพร้อมกับธงปฏิวัติ พ่อแม่ยุคนั้นตั้งชื่อลูกสาว ว่า ซูซาน เป็นเกียรติแด่ซูซาน ไรซ์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจ�ำ สหประชาชาติของประธานาธิบดีบารัก โอบามา เนือ่ งเพราะเธอสนับสนุน เขตห้ามบินเหนือลิเบีย จนเครื่องบินรบของกัดดาฟีออกปฏิบัติการไม่ได้ “คนอเมริกันและคนตะวันตกได้การอ้าแขนต้อนรับ อบอุ่นซาบซึ้งใจ ภาพทีแ่ ทบไม่เคยเกิดขึน้ ในโลกมุสลิม...อาจจะนานกว่าครึง่ ศตวรรษมาแล้ว” เดอะนิวยอร์กไทมส์ บรรยายไว้ “ผูค้ นแย้มยิม้ เป็นมิตร วางมือจากงานทีท่ �ำ 32


มิตเชลล์ ซุคคอฟฟ์

มาส่งเสียงทักทาย เป็นมิตรจนน่าตกใจ” แต่บทความจบลงด้วยความย้อนแย้ง ย่อหน้าท้ายสุดกล่าวถึงกระสุน พุ่งเฉียดศีรษะของนักวิ่งต่างชาติ อาจเป็นนักข่าววิ่งออกก�ำลังกาย “เสียง ปืนไรเฟิลเดินทางมาถึงหลังจากนั้นราวหนึ่งวินาที คนปล่อยกระสุนมา ทักทาย คงไม่คิดจะเผยตัวให้เห็น” เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นลางบอกเหตุ ของเรื่องร้ายที่จะตามมา ไม่ถึงปีให้หลัง เบงกาซีที่โรนกับแจ๊กขับรถผ่าน ไม่โบกธงชาติสหรัฐฯ อีกต่อไป ไม่มีร้านค้าเสนออาหารให้เปล่าต่อคนอเมริกันอีกแล้ว หลังจากกัดดาฟีถูกลากขึ้นมาจากล�ำรางระบายน�ำ้ โสโครก มีร่องรอย การข่มขืนยับเยิน เสียชีวิตจากน�้ำมือของกลุ่มกบฏในเดือนตุลาคม 2011 กองก�ำลังติดอาวุธที่ล้มล้างระบอบเผด็จการของกัดดาฟียกระดับตัวเอง เพิ่มบทบาทในลิเบียหลังการปฏิวัติ ในเมื่อได้รับความเห็นชอบจากรัฐบาล เปลีย่ นผ่านอ่อนแอ ไม่มกี องก�ำลังต�ำรวจทหารทีเ่ ข้มแข็ง กองก�ำลังติดอาวุธ ท้องถิน่ แปลงตัวจากนักสูเ้ พือ่ เสรีภาพมาเป็นกองก�ำลังพิทกั ษ์ชาติ ปกป้อง ไม่ให้เบงกาซีตกอยู่ในความวุ่นวายโกลาหล กองก�ำลังติดอาวุธบางกลุม่ ยังชืน่ ชมสหรัฐฯ กองพลน้อย17กุมภาพันธ์ รับค่าจ้างจากสหรัฐฯ ท�ำหน้าทีร่ กั ษาความปลอดภัย และเป็น ‘ชุดโต้ตอบ เร็ว’ ปกป้องทีท่ ำ� การทูตพิเศษสหรัฐฯ ในเบงกาซี กองพลน้อย17กุมภาพันธ์ ได้งบประมาณจากรัฐมนตรีกลาโหมลิเบีย ตั้งฐานที่มั่นและเปิดค่ายฝึก สะสมทั้งอาวุธเบาอาวุธหนัก เพิ่มก�ำลังพลถึงสามหมื่นห้าพันคน จัดแบ่ง เป็นกองพัน ความสัมพันธ์และการพึง่ พาของสหรัฐฯ ต่อกองพลน้อย17กุมภาพันธ์ เป็นตัวอย่างอันดีของความแปรปรวนในเบงกาซี กองก�ำลังติดอาวุธได้ชอื่ มา จากเหตุการณ์วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2006 ชุดรักษาความปลอดภัยลิเบียยิง ผู้ประท้วงใช้ความรุนแรงกว่าสิบคน ผู้ประท้วงจุดไฟเผาสถานกงสุลอิตาลี ในเบงกาซี เผารถยนต์หลายคัน เดือดจัดที่เจ้าหน้าที่อิตาลีสวมเสื้อยืด 33


วีรบุรุษลับแห่งเบงกาซี

ล้อเลียนศาสดามูฮัมหมัด ทั้งยังได้ชื่อจากวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2011 วัน เริ่มต้นการปฏิวัติล้มล้างระบบเผด็จการของกัดดาฟี ค�ำถามก็คือ สหรัฐฯ เชื่อใจกองพลน้อย17กุมภาพันธ์ได้มากแค่ไหน? มีบางคนในกองก�ำลังติดอาวุธนีต้ อ่ ต้านอเมริกนั หากเป็นกองก�ำลังติดอาวุธ กลุ่มอื่นในเบงกาซี ไม่ต้องถาม ประกาศตัวเป็นศัตรูสหรัฐฯ อย่างโจ่งแจ้ง เบงกาซีเป็นที่ตั้งของกลุ่มอิสลามิสต์หัวรุนแรงอย่างน้อยสองกลุ่ม ประกาศตัวยึดอุดมการณ์ของอัลกออิดะห์ ต่อต้านสหรัฐฯ และโลกตะวันตก กองก�ำลังติดอาวุธต่อต้านอเมริกนั กลุม่ หนึง่ เรียกชือ่ ว่า กองพลน้อยอันซาร์ อัล-ชะรีอะห์ (แปลว่า ผูป้ กป้องกฎหมายอิสลาม) สาวกเชือ่ ว่าการปกครอง ระบอบประชาธิปไตยไม่ใช่วถิ อี สิ ลาม อ�ำนาจทัง้ ปวงได้จากศาสดามูฮมั หมัด เท่านั้น สมาชิกส่วนหนึ่งของกองก�ำลังติดอาวุธอิสลามิสต์ เคยสู้รบกับกอง ทหารอเมริกันในอิรัก หลังจากสหรัฐฯ ส่งทหารรุกรานอิรักในปี 2003 นักรบญิฮาดทีเ่ ปลีย่ นมาเป็นกองก�ำลังติดอาวุธ ไม่เพียงมีมลู เหตุจงู ใจพิเศษ เท่านัน้ แต่ยงั มีอาวุธเหลือเฟือ หลังจากกัดดาฟีเสียชีวติ ไปแล้ว การปฏิวตั ิ น�ำพาอาวุธนานาชนิดไหลท่วมเบงกาซี หลังจากลิเบียได้รับเอกราช มีกฎหมายสั่งห้ามการครอบครองอาวุธ แต่เมือ่ ทหารของกัดดาฟีถกู ขับไล่ออกจากมหานคร นักรบกบฏบุกคลังแสง ได้ปืนอาก้าหลายหมื่นกระบอก และอาวุธหนักนับไม่ถ้วน หลังการปฏิวัติ ใครทีย่ งั ไม่มอี าวุธสงครามประจ�ำกาย พอจะซือ้ ได้จากตลาดกลางแจ้งทีเ่ รียก ว่า อัล-ฟุนดุค เลยไกลจากตลาดนัดที่ขายไข่ไก่ เครื่องเทศ และสัตว์ปีก พ่อค้าอาวุธเปิดท้ายขายของ มีปนื พก ปืนไรเฟิลจูโ่ จม ระเบิดมือ เครือ่ งยิง ลูกระเบิด อาร์พจี ี และปืนกลหนักพร้อมน�ำไปติดตัง้ ท้ายรถกระบะ ผลลัพธ์ พบได้บนเตียงเข็นโชกเลือดของโรงพยาบาลแห่งเดียวในเบงกาซีที่ผ่าตัดได้ บาดแผลจากอาวุธปืน 1,761 รายในปี 2011 เพิ่มจากค่าเฉลี่ย 41 ราย จากสองปีที่แล้ว 34


มิตเชลล์ ซุคคอฟฟ์

อาวุธล้นเหลือ การขาดไร้องค์กรรักษากฎหมาย และความเดือดพล่าน ต้านโลกตะวันตกในกลุ่มกองก�ำลังติดอาวุธ น�ำไปสู่เหตุการณ์นองเลือดใน ช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูรอ้ นปี 2002 เมือ่ วันที่ 2 เมษายน รถหุม้ เกราะของ ทูตอังกฤษถูกโจมตีในตอนทีข่ บั ผ่านการเดินขบวนประท้วง วันที่ 6 เมษายน ระเบิดท�ำเองขว้างข้ามก�ำแพงเข้ามาในที่ท�ำการทูตพิเศษของสหรัฐฯ สี่วัน ถัดมา ระเบิดท�ำเองขว้างเข้าใส่ขบวนรถของเอียน มาร์ติน ทูตพิเศษของ สหประชาชาติประจ�ำลิเบีย ในเดือนพฤษภาคม มีการยิงอาร์พีจีเข้าใส่ ส�ำนักงานกาชาดสากลในเบงกาซี กองก�ำลังติดอาวุธที่ไม่มีใครรู้จักมาก่อน กลุม่ ของโอมาร์ อับดุล ราห์มาน อ้างความรับผิดชอบ และส่งค�ำขูอ่ าฆาต ไปยังสหรัฐอเมริกา ผ่านโซเชียลมีเดีย การโจมตีทวีความรุนแรงขึ้น ในวันที่ 6 มิถุนายน ระเบิดแสวงเครื่อง เจาะรั้วก�ำแพงที่ท�ำการทูตพิเศษสหรัฐฯ ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ แต่ได้เห็น จุดอ่อนที่ก�ำแพงของที่ท�ำการทูตพิเศษ กลุ่มฝักใฝ่อัลกออิดะห์อ้างความ รับผิดชอบ ประกาศว่าเป็นการล้างแค้นให้อาบู ยาห์ยา อัล-ลีบี ผูบ้ ญ ั ชาการ อัลกออิดะห์เชือ้ ชาติลเิ บียตะวันออก เสียชีวติ จากโดรนสังหารในปากีสถาน ห้าวันต่อมา วันที่ 11 มิถุนายน 2012 โจรร้ายยิงอาร์พีจีใส่รถของของ เซอร์โดมินกิ แอสควิธ เอกอักราชทูตอังกฤษประจ�ำลิเบีย ในขณะทีข่ บั ผ่าน เบงกาซี แอสควิธไม่มรี อยขีดข่วน แต่เจ้าหน้าทีร่ กั ษาความปลอดภัยสองคน ได้รับบาดเจ็บ การโจมตีเกิดห่างที่ท�ำการทูตพิเศษสหรัฐฯ ไม่ถึงครึ่งไมล์ เจ้าหน้าที่อเมริกันรับผู้บาดเจ็บไปส่งโรงพยาบาล วันถัดมา อังกฤษปิด สถานกงสุล ย้ายเจ้าหน้าที่กลับประเทศ รัฐบาลสหรัฐฯ วิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดในเบงกาซีทั้งฤดูใบไม้ผลิ และฤดูร้อนของปี 2012 พบว่า “ฉากหลังของความรุนแรงทางการเมือง การลอบสังหารพุ่งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลชุดเก่า บ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป การขาดไร้ของอ�ำนาจรัฐบาลกลางในลิเบียตะวันออก” วันที่ 25 มิถุนายน เจ. คริสโตเฟอร์ สตีเวนส์ ทูตอเมริกันประจ�ำ 35


วีรบุรุษลับแห่งเบงกาซี

ลิเบีย ส่งโทรเลขมายังวอชิงตัน อ้างถึงข่าวท้องถิ่นว่า “กลุ่มอิสลามิสต์ หัวรุนแรงมาชุมนุมกันในลิเบียตะวันออก ธงขาวด�ำของอัลกออิดะห์ชักขึ้น เสาเหนืออาคารรัฐบาล และค่ายฝึกทหารหลายแห่ง” วันที่ 2 สิงหาคม ในตอนที่แจ๊กเดินทางมาร่วมกับหน่วย GRS ใน เบงกาซี ทูตสตีเวนส์ส่งโทรเลขอีกฉบับมายังวอชิงตัน ร้องขอองครักษ์เพิ่ม ขึ้น ท่านทูตเตือนว่า “สภาพการรักษาความปลอดภัยในลิเบีย...พยากรณ์ ไม่ได้ แปรแปรวน และรุนแรง” * * * สองปีก่อนที่แจ๊กกับโรนจะพบกันที่สนามบินเบงกาซี ทั้งสองบังเอิญเจอกัน ในล็อบบี้ของโรงแรมอีสต์โคสต์ เพิ่งลงชื่อสมัครเพื่อรับการคัดเลือกเป็น ผู้ปฏิบัติการพิเศษของ GRS บังเอิญเช่นกัน เกลน ‘บับ’ โดเฮอร์ตี เพื่อน อดีตซีลมาสมัครงานด้วย หลังจากเข้าร่วมหน่วย GRS แล้ว โรนกับแจ๊กได้รบั มอบหมายให้ไปยัง จุดล่อแหลมเสี่ยงภัยด้วยกันหลายครั้ง โรนลงพื้นที่ก่อน จากนั้น ส่งอีเมล เข้ารหัสบอกแจ๊กว่า ต้องน�ำสิง่ ใดติดตัวมา และจะได้พบอะไรบ้าง เช่นเดียว กับเบงกาซี โรนลงพื้นที่ล่วงหน้าหนึ่งเดือนในการท�ำงานผลัดที่สอง แจ๊ก รู้สึกเหมือนเด็กใหม่ที่มีพี่ชายฝีมือจัดจ้านคอยดูแล แต่เรื่องนี้จะเปลี่ยนไป แล้ว โรนบอกแจ๊กว่าฤดูร้อนในเบงกาซีจะเป็นการท�ำงานผลัดสุดท้ายของ เขาใน GRS สัญญาของเขาจะหมดอายุในเดือนกันยายน เขาอยากใช้เวลา ร่วมกับภรรยา ช่วยเธอเลี้ยงดูเจ้าตัวน้อยให้เติบใหญ่ ในระหว่างที่โรนขับออกจากสนามบิน แจ๊กกวาดสายตาเก็บข้อมูล ทั้งสองท�ำใจให้แกร่งพร้อมรับเรื่องที่รอท่าอยู่ข้างหน้า สนามบินอยู่นอก มหานคร สิบสามไมล์ทางตะวันออกของย่านใจกลางเมือง โรนเลือกเส้นทาง วกวน สอบทานให้แน่ใจว่าไม่มีใครสะกดรอย 36


มิตเชลล์ ซุคคอฟฟ์

ก่อนจะบินมายังเบงกาซี แจ๊กใช้กเู กิลเอิรธ์ ดูแผนทีท่ ตี่ งั้ คร่าวๆ แผนที่ ของเขาแสดงมหานคร ขนาดแอตแลนตา ออกแบบคล้ายเป้ายิงปืนครึ่งวง ใช้ท่าเรือเป็นจุดศูนย์กลาง ถนนครึ่งวงแหวนกระจายออกจากท่าเรือห้าชั้น ตัง้ ชือ่ ถนนวงแหวนทีห่ นึง่ จนถึงวงแหวนทีห่ า้ สร้างถนนสายตรงพุง่ ออกจาก ท่าเรือตัดผ่านวงแหวนทั้งห้า มองจากท้องฟ้า เบงกาซีดูคล้ายใยแมงมุม ขับรถมาได้ระยะหนึง่ รถกระบะของโรนมาถึงจุดตรวจสอบ ลักษณะ ไม่ตา่ งไปจากการน�ำอาคารคอนกรีตโดนยิงพรุนมาตัง้ กลางถนน โรนชะลอช้า หยุดรถเมื่อชายถืออาก้าสองคนเดินตรงมาหา สวมเครื่องแบบทหารรุ่งริ่ง ผสมกับชุดพลเรือน ทางด้านหนึ่ง มีชายลิเบียอีกคนยืนบนท้ายรถกระบะ ที่เรียกว่า ‘เทคนิคัล’ รถกระบะติดตั้งปืนกลหนัก โรนมีเหตุผลที่จะต้องระวังตัว หลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้ เขากับ เจ้าหน้าที่ GRS อีกคน ขับมาจากสนามบิน มีโภคภัณฑ์เต็มท้ายรถกระบะ ต้องหยุดรถเมื่อนักรบอิสลามิสต์หัวรุนแรงเล็งปืนเข้าใส่ โรนเชื่อว่ามือปืน กลุม่ นีส้ งั กัดกองพลน้อยอันซาร์ อัล-ชะรีอะห์ มือปืนกลุม่ นีแ้ จ้งให้โรนทราบ ว่า สินค้าท้ายรถกระบะเป็นของพวกตน โรนกั บ ผู ้ ป ฏิ บั ติ ก ารพิ เ ศษอี ก คนหั น ปากกระบอกปื น ไรเฟิ ล จู ่ โจม เข้าใส่ ปฏิเสธไม่ยอมให้ปล้น โรนวิทยุขอก�ำลังหนุนจากเจ้าหน้าที่ GRS ใน สถานีแอนเน็กซ์ แต่หัวหน้าสถานีชื่อว่า ‘บ็อบ’ ตอบกลับมาว่า จะแจ้งให้ กองพลน้อย17กุมภาพันธ์ทราบ กองก�ำลังติดอาวุธเป็นมิตรกลุม่ นีท้ �ำหน้าที่ ชุดตอบโต้เร็ว เจ้าหน้าที่ GRS ได้ยินวิทยุขอความช่วยเหลือจากโรน คว้าปืนและ อุปกรณ์ วิ่งเข้าไปในรถหุ้มเกราะ แต่บ็อบหัวหน้าสถานี ห้ามเคลื่อนก�ำลัง สิบห้านาทีของการเจรจาดุเดือดระหว่างบ็อบกับเจ้าหน้าที่ GRS โรนวิทยุมา อีกครั้งว่า พูดคุยโน้มน้าวจนแหวกวงล้อมออกมาได้ หากสถานการณ์เลว ร้ายขึ้นกว่านี้ คนอเมริกันจ�ำนวนคนน้อยกว่า อาวุธน้อยกว่า ไม่น่าจะมี โอกาสรอด และกองก�ำลังติดอาวุธ ‘เป็นมิตร’ ไม่โผล่มาช่วยเหลือ 37


วีรบุรุษลับแห่งเบงกาซี

หลายสัปดาห์ เจ้าหน้าที่ GRS ยังฉุนโกรธ ความไม่พอใจหลบใน เป็นแผลกลัดหนอง ไม่เหลือความนับถือต่อหัวหน้าสถานีอีกต่อไปแล้ว จ�ำกัดความบ็อบแค่ว่า ‘ไอ้คนบ้าอ�ำนาจไร้กระดูกสันหลัง’ ตั้งตารอเกษียณ และเงินบ�ำนาญอูฟ้ ู่ ความเป็นไปได้สายหนึง่ บ็อบไม่อยากเผยตัวจนท�ำงาน สายลับไม่ได้ แม้จะต้องแลกกับการปล่อยเจ้าหน้าที่ GRS ให้ดูแลกันเอง เมื่อโรนกับแจ๊กหยุดรถระหว่างทางจากสนามบิน โรนทราบดีว่าพบ จุดตรวจสอบไม่เป็นพิษเป็นภัยนัก เขายื่นเอกสารให้ตรวจ เอกสารระบุ ว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ มือปืนอาก้าตรวจเอกสาร โบกมือให้ผ่าน โรนเล่าเรือ่ งการเผชิญหน้าด้วยอาวุธปืนเมือ่ เดือนทีผ่ า่ นมาให้แจ๊กฟัง ด่านที่ ผุดมากัน้ ถนนโดยไม่คาดหมาย เจ้าหน้าที่ GRS เรียกพวกนีว้ า่ ‘แก๊งมือปืน’ กลุ่มคนหนุ่มอาวุธครบมือ เคี้ยวใบคาห์ตมาเต็มพิกัด หากพบด่านเช่นนั้น อาจต้องสู้หรือหลบหนีหรือท�ำทั้งสองอย่าง * * * ขับรถมุ่งไปทางตะวันตก ผ่านถนนว่างเปล่าที่โรนเรียกว่า ‘ถนนสนามบิน’ แจ๊กมองเห็นม้าผอมโซคุ้ยเขี่ยหาอาหารในกองขยะ แกะหนังหุ้มกระดูก และผนังอาคารพ่นอักขระอาหรับ เมือ่ เข้าเขตชุมชนหนาแน่น ทีว่ า่ งเวิง้ ว้าง เปลี่ยนเป็นร้านซอมซ่อ ร้านอินเทอร์เน็ต ร้านมอระกู่ ร้านขายผ้า ขนาบ ข้างด้วยเพิงขายมะเขือเทศกับแตงโม ไม่มฝี นตกในเบงกาซีในเดือนมิถนุ ายน ถึงสิงหาคม ดังนัน้ ฝุน่ ทะเลทรายโรยเคลือบทุกอย่าง จากรถยนต์ ร้านค้า ไปจนถึงคนเดินถนน ผูค้ นทีพ่ บเห็นส่วนใหญ่สวมเสือ้ ผ้าตะวันตก บางคนสวมชุดฝ้ายตัวโคร่ง ที่เจ้าหน้าที่ GRS เรียกว่า ‘ชุดนอนชาย’ ผู้หญิงแทบไม่ออกมาเดินถนน หญิงไม่กี่คนที่แจ๊กมองเห็นสวมอาบายะห์และฮิญาบสีด�ำ เสื้อคลุมยาวและ ผ้าคลุมศีรษะสีด�ำตามขนบมุสลิม เด็กและแมวจรจัดวิ่งพล่านในซอย แจ๊ก 38


มิตเชลล์ ซุคคอฟฟ์

มองเห็นเด็กอายุห้าหรือเจ็ดขวบ เล่นยางรถยนต์เก่า เขาหันไปคุยกับโรน น่าจะพาลูกๆ มายังโลกที่สาม จะได้เห็นว่าตัวเองโชคดีสุขสบายแค่ไหน โรนเลือกเส้นทางอ้อมโค้งเป็นวง แจ๊กสังเกตเห็นสถาปัตยกรรมชินตา ในเบงกาซี อาคารคอนกรีตก่อสร้างทิง้ ร้าง ล้อมรอบด้วยนัง่ ร้าน เขาได้กลิน่ น�ำ้ มันดีเซล เนือ้ ย่าง ผลไม้เน่า และกลิน่ บาดจมูกทีส่ ดุ จะเป็นกลิน่ ปัสสาวะ อุจจาระ มหานครประชากรกว่าเจ็ดแสนคน แทบไม่มีระบบบ�ำบัดน�ำ้ เสีย สิ่งปฏิกูลไหลออกมาตามล�ำรางข้างถนน อาบบนพื้นดิน และไหลลงสู่ ทะเลสาบ 23 กรกฎาคม อยูร่ ะหว่างกลางของใจกลางเมืองกับท่าเรือ สถานที่ ที่ครอบครัวไปปิกนิก เมือ่ การตระเวนเมืองของแจ๊กด�ำเนินต่อไป เขาได้ทราบว่า โครงสร้าง พื้นฐานของมหานครเสียหายไปสิ้น หรือแทบไม่มีอยู่เลย ไฟฟ้าติดๆ ดับๆ แปลงเพาะปลูกแห้งผากมีเพียงถุงพลาสติกกระจายเกลื่อน หากมีกฎหมาย ควบคุมการเดินรถ ชาวเมืองไม่รู้และไม่สนใจ รถยนต์ทุกคันไม่มีไฟท้าย รถติดแม้จะเป็นทางแยกเล็กๆ เท็กนิคอลแล่นมาให้เห็นบ่อยครั้งกว่า รถต�ำรวจ แจ๊กมองเห็นรถยนต์ไฟไหม้ข้างถนน ไม่มีแม้เงาผู้คน มีเพียง หมาผอมโซคุ้ยเขี่ยหาอาหาร หากมองข้ามหล่มขยะและความวุ่นวายโกลาหล เบงกาซีแต้มแต่ง ความงามให้เห็นในทุกทิศ ทิวเขาเขียวนอกเขตเมือง เรื่อยมาจนถึงแนว ต้นปาล์มริมหาดทรายขาว น�้ำทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสีฟ้าใสส่งแสงระยิบ ระยับ หากลมอ่อนโชยมา ลมทะเลบริสทุ ธิก์ ระไอเกลือตัดผ่านกลิน่ เหม็นเน่า ของมหานคร เถาองุ่นและต้นฝรั่งประดับอาคารโบราณงามสง่า ซาก ปรักหักพังของอารยธรรมโบราณผุดให้เห็นเป็นหย่อม คนช่างฝันหยีตาสูแ้ สง และบีบจมูกไม่ให้รบั กลิน่ เหม็นของกากอาหาร วาดภาพว่าเบงกาซีพร้อมจะ แปลงโฉมเป็นเมืองรีสอร์ตชายทะเล โรนขับรถไปตามถนนวงแหวนสายที่ห้า ใช้เส้นทางรอบนอกของ มหานคร เพื่อเลี่ยงหลบจุดตรวจสอบและด่านกั้นถนนชั่วคราว เขาตัด 39


วีรบุรุษลับแห่งเบงกาซี

วงแหวนที่สี่ และพารถเคลื่อนวกไปวนมาในย่านฟาเวย์ฮัตตะวันตก ย่าน หรูที่สุดของเบงกาซี มีภัตตาคารชั้นดีและร้านระดับแนวหน้าที่ทูตพิเศษ ทีย่ งั หลงเหลืออยูแ่ วะมาเยีย่ มเยือน ทูตพิเศษและเจ้าหน้าทีเ่ กาะกลุม่ อาศัย อยูห่ ลังก�ำแพงก่อด้วยอิฐบล็อกดินเหนียวและก้อนหิน ขึงลวดหนามคมกริบ ปักเศษแก้วบนสันก�ำแพง แม้ย่านนี้จะดีกว่าย่านอื่นๆ แต่ก็ยังเป็นเบงกาซี เมื่อรถเคลื่อนเข้าใกล้สถานีแอนเน็กซ์ โรนสอนชื่อเรียกถนนท้องถิ่นที่ เจ้าหน้าที่ GRS ตั้งก�ำกับไว้ให้ เช่น ถนนสนามม้า ถนนนักเลงปืน ถนน อาดิดาส ฯลฯ เมือ่ เข้าใกล้จดุ หมายปลายทาง โรนวิทยุบอกป้อมยาม เพือ่ ไม่ตอ้ งจอดรอตกเป็นเป้านิง่ ในระหว่างทีม่ คี นมาเปิดประตูรบั แจ๊กจะได้พบ เจ้าหน้าที่ GRS คนอื่นๆ ในแอนเน็กซ์ เช่น ตันโต, ทิก, ดี.บี. กับออซ และเจ้าหน้าที่ซีไอเอที่เป็นหัวหน้าหน่วย GRS ในการส่งวิทยุ โรนแจ้งเพิม่ เติมด้วยว่า ไม่อาจทราบสถานะรถกระบะ หมายความว่า เขาทิง้ รถกระบะไว้นานโขในสนามบิน เจ้าหน้าทีซ่ ไี อเอทีด่ แู ล งานรักษาความปลอดภัยจะตรวจสอบช่วงล่าง ใต้ฝากระโปรง และจุดอืน่ ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีคนเกลียดชังอเมริกันน�ำระเบิดมาติดไว้ โรนกับแจ๊กเลี้ยวผ่านประตูเหล็ก ก�ำแพงคอนกรีตสูงสิบฟุตของ แอนเน็กซ์ กล้องวงจรปิดก้มลงบันทึกภาพ แม้ว่าที่นี่จะเป็นฐานลับและ พยายามซ่อนตัวให้แนบเนียนที่สุด แจ๊กมองเห็นในทันทีว่า คงหลอกใคร ไม่ได้ แม้แต่คนเดินผ่าน ก็มองเห็นการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด นี่ยังไม่ได้นับคนอเมริกันขับรถเข้าออกทั้งกลางวันกลางคืน ประตูเหล็กเปิดอ้ากว้าง ยามยกคานกัน้ เหล็กกล้า โบกมือให้โรนผ่าน เข้าไปข้างใน

40


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.