Bloodties

Page 1


บทน�ำ

สิบสี่

ความตายไล่งับส้นเท้าของฉันเหมือนหมาตาขวาง ตั้งแต่ฉันอายุได้

คนขับขี้เมาปลิดชีวิตแม่ในฤดูใบไม้ร่วงของปีนั้น รถพุ่งชนเต็มแรง บาดแผลยับเยินเหวอะหวะรวมการบาดเจ็บที่ศีรษะ จนไม่อาจเปิดฝาโลง ให้แสดงความเคารพครั้งสุดท้ายในพิธีศพได้ ฉันรูส้ กึ เหมือนถูกโกง ฉันเชือ่ อย่างนัน้ จริงๆ ในตอนนัน้ หากฉันได้ แตะมือหรือลูบไล้แก้มแม่เป็นครัง้ สุดท้าย การยอมรับการตายจากกัน อาจ ท�ำให้ฉันสบายใจหรือได้ข้อยุติ ไม่เลย, ความเจ็บปวดของฉันไม่บรรเทา เบาบางลงไปแม้แต่น้อยที่ได้รู้ว่าแม่ไม่เจ็บปวดทรมาน ไม่ได้ท�ำให้ฉัน อิ่มอกอิ่มใจต่อ การประสาทความยุติธ รรมที่ว ่าคนขับตายดับไปพร้อม กัน และก็ไม่ได้ละลายความแค้นเคืองของพ่อให้จางลงที่คนขับผู้นั้นเป็น อินเดียนแดงเผ่าลาโกตา หลังการตายของแม่ ความเกลียดอินเดียนแดงของพ่อกราดเกรี้ยว ยิ่งนัก แผ่ขยายกว้างเหมือนน�้ำมิสซิสซิปปีที่แบ่งผ่ามลรัฐของเรา พ่อไม่ เคยปิดบังอคติชิงชัง ค�ำหยามหมิ่นชนเผ่า ไอ้มืดแห่งทุ่งแพร์รี ไอ้พวก กินเครือ่ งใน ไหลหลัง่ ออกจากปากเป็นสาย ในทีช่ มุ ชน ฉันหัวหดอับอาย 2


ถ้อยผรุสวาทบาดหู ในชีวติ ส่วนตัว ฉันรังเกียจความมัวเมาเสียสติเยีย่ งนัน้ นับเป็นเรือ่ งชวนพิศวงดีแท้ทชี่ ายผูเ้ กลียดชังชนทัง้ เผ่าเข้ากระดูกด�ำ จะเป็น ผู้ให้ก�ำเนิดบุตรชายสายเลือดอินเดียนแดงเผ่านั้น ในยามทีพ่ อ่ เชือ่ ว่าตนเองช�ำระล้างบาปจนผุดผ่องแล้ว ปฏิเสธความ รับผิดชอบของการเป็นพ่อ และแม่อินเดียนแดงผู้นั้นเชื่อว่าตนเองปิดบัง ความจริงที่ว่าพ่อของลูกเป็นคนผิวขาว ทั้งสองคาดผิดไปถนัดใจ น้องชายร่วมสายเลือดของฉัน...เบน สแตนดิง เอลก์ มายืนอยูห่ น้า ประตูบ้าน อายุอานามต้นสิบเก้าขวบปี สายตาโกรธเจิดจ้าชิงชังรังเกียจทีม่ องชายอินเดียนแดงผูน้ นั้ มาแผ่เต็ม กรอบประตูหน้า ท�ำให้ฉันหวาดกลัว ฉันขอค�ำอธิบายในเรื่องที่ฉันไม่อาจ ท�ำความเข้าใจได้ ความเงียบงัน ใบหน้าเรียบเฉยของพ่อลวงฉันให้เข้าใจ ผิด ฉันคาดว่าพ่อจะแผดเสียงตะคอกใส่หน้าฉัน ฉันคาดว่าพ่อคงลงโทษ จ�ำกัดบริเวณที่ฉันบังอาจแสดงความไม่เคารพ สิ่งสุดท้ายที่ไม่คาดว่าจะ ได้รับ เป็นฝ่ามือที่วาดมาตบหน้าฉัน เราไม่พูดเรื่องวันนั้น อาจเป็นปาฏิหาริย์ อาจเป็นแรงดลใจจากแม่ ฉันสานความสัมพันธ์กับน้องชายร่วมสายเลือด คุณพ่อเจ้าเก่ามักจะหายหน้าไปเสมอถ้าเบนอยูใ่ นละแวกนัน้ ฉันรัก เบนอย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่มีขอบเขตจ�ำกัด ไม่สนใจว่าจะเกิดผลใดตามมา ฉันพบสายใยพันธะที่ขาดหายไปจากตัวฉัน สายใยความผูกพันของฉันกับ พ่อที่สะบั้นไปในอีกหลายปีต่อมา สายเลือดผูกพันล�ำ้ ลึก แต่เส้นใยจะขาดหายไปได้ ไม่วา่ จะดูแลด้วย ความรัก หรือฉีกทึ้งด้วยความเกลียดชัง พ่อเลือกวิธีของตน ชะตากรรม เป็นผู้เลือกแทนฉัน ชะตากรรมและความตายดูเหมือนจะแทรกเข้ามากอดเกี่ยวในชีวิต ของฉัน จากเหตุการณ์ทเี่ กิดในชีวติ ในระยะหลัง ฉันตระหนักว่าความตาย 3


ไม่เคยยุตริ า้ งรา ไม่วา่ จะโดยบังเอิญหรือจงใจ ฉันยังรูส้ กึ เหมือนถูกโกง แต่ ฉันแก่ตวั ฉลาดขึน้ และตัง้ ใจมุง่ มัน่ เด็ดเดีย่ วว่าจะต้องมีการประสาทความ ยุติธรรม แม้จะเป็น ‘ยี่ห้อ’ ของตนก็ตามที ฉันไม่มีวันหลับหูหลับตา ยอมรับจนกว่าจะได้ทราบความจริง แม้ถึงตอนนั้น ฉันไม่แน่ใจนักว่าจะ ท�ำใจให้สุขสันติได้ เบนช่วยเหลือฉันให้สงบใจไปกับการตายของแม่ ฉันเศร้าระทมทีไ่ ม่มี ใครช่วยเหลือให้ฉันสงบใจลงได้ในการตายของเขา หมาตาขวางหลับใหลไปอีกครัง้ ซุม่ ซ่อนตัวในเงามืดไม่ไหวติง แต่ฉนั รู้ว่าความเงียบนั้นจะไม่ยืนยาว ไม่เคยเกิดขึ้นอยู่แล้ว ในอีกสามปีต่อมา...

4


บทที่ 1

“เกือบถึงแล้ว...เลื่อนลงต�่ำอีกหน่อย...พระเจ้า...โอ, เยส ใช่เลย” ฉันนอนกางขาแผ่อ้าหน้าไม่อายบนตู้เก็บเอกสาร แต่มือบุรุษ หยาบกร้านที่นวดแนวสันหลังของฉันค้างเติ่ง “ไม่เอาน่า, จูลี ถ้านายอ�ำเภอได้ยินเสียงครางของคุณแบบนั้น เขาก็คงเผลอคิดว่าเราฮึ่ยกันบนโต๊ะท�ำงานของคุณ” “นี่, อัล...” ฉันกล่าวตอบเกียจคร้านอย่างยิ่ง “ถ้าฉันคิดว่าคุณ จะค้ น หาจุ ด กระสั น ของฉั น ได้ เร็ ว เท่ า ที่ ค ้ น พบจุ ด กล้ า มเนื้ อ อั ก เสบบน แผ่นหลัง ป่านนี้เราฮึ่ยกันบนโต๊ะท�ำงานของฉันไปนานแล้ว” “ปากหมาน ไม่รู้ว่าท�ำไมเราถึงได้ยอมรับคุณมาร่วมงาน” ฉันบิดตัว ได้ยนิ เสียงกระดูกไขสันหลังลัน่ เกรียวกราวเข้าที่ หลาบแล้ว แต่นี้ต่อไปจะไม่เล่นเซ็กส์บนโต๊ะกินข้าวอีกแล้ว “คุณทนฉันได้เพราะฉันเก็บแฟ้ม แต่ฉนั ก็ไม่ทมุ่ เทพอจะคิดระบบของ ตัวเองมาใช้งาน” ผมบลอนด์ยาวถึงเอว ไหลเลื่อนมาคลุมหน้าตอนที่ฉันสวมรองเท้า ส้นสูงคืนกลับ “นอกจากการท�ำงานทรงประสิทธิภาพเทียม ฉันบึ้มตระการตา นั่ง รับวิทยุได้งามกว่าผูช้ ว่ ยจอห์น ยอมรับเหอะ, เสือโคร่ง” ฉันอ้อน ค�ำราม เสียงเสือสุดเซ็กซี่ 5


อัลหน้าแดงก�่ำ นิสัยพิลึกส�ำหรับผู้ช่วยนายอ�ำเภออายุสี่สิบห้า เขา ขยับปรับเข็มขัดปืน ซึ่งก็ชวนให้ฉันคิดพิลึกในทุกคราว ประหนึ่งว่าเขา ขยับเลื่อนเครื่องเคราบุรุษเพศต่อหน้าต่อตาฉัน ในแวดวงผู้รักษากฎหมาย ขนาดล�ำกล้องปืนแปรตรงกับ...ก็...ขนาดของปืนนั่นแหละ อืม, ปืนที่อัล พกพาจะล�ำกล้องสั้นจู๋เหมือนอูซี่? หรือว่าเท่าปืนเด็กเล่นยิงเม็ดถั่วเขียว? “จะอย่างไรก็ตามที” อัลกล่าวต่อ ไม่ได้สังเกตเห็นสายตาของ ฉันจ้องจับใต้เข็มขัดปืนของเขา “ถ้าภรรยาของผมได้ยินผมต่อปากต่อค�ำ สองแง่สามง่ามกับคุณ ผมโดนไล่ไปนอนในห้องเล็กหนึ่งเดือนเต็มๆ” ฉันวางมือบนแก้มของเขา ตบเบาๆ ก่อนเดินอ้อม “ฉันเคยเห็นห้องเล็กของคุณ เคยเจอภรรยาของคุณแล้ว...ก็ไม่นา่ จะ ทุกข์ทรมาน” แสงสาดผ่านเป็นช่องบนพื้นพรมเปื้อนโคลนเมื่อบานเหล็กประตูหน้า เปิดอ้า หญิงห้าฟุตหนึ่ง มิสซี่ บรูสเตอร์ ผู้มาผลัดเวรสี่โมงเย็นของฉัน เดินเข้ามา ความข่มกลั้นของฉันต่อมิสซี่ต�่ำกว่าอ่างเก็บน�้ำในปีฝนแล้ง เธอ โอบรับเกณฑ์กำ� หนดข้ารัฐการระดับต�ำ่ สุดเอาง่ายเข้าว่า ตรงข้ามกับจรรยา การท�ำงานหนักที่พ่อแทบตบกะโหลกบรรจุไว้ในหัวของฉัน ไม่ว่าจะงาน จะต�ำ่ ศักดิส์ กั แค่ไหน ความขีเ้ กียจฟูมฟายเห็นแก่เล็กแก่นอ้ ยเป็นทรลักษณ์ ก่อความร�ำคาญน้อยที่สุดแล้ว ฉันเดาเอาว่าเจ้าหล่อนคงเขียนบัญชีหางว่าวรวบรวมเรื่องที่ก่อกวน ใจฉันมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการตรงต่อเวลา ความมีน�้ำใจ อาการหัวดื้อ แข็งขืนจากความกดดันสาหัส กระเป๋าโครเชต์ของเธอโยนโครมบนตูเ้ อกสาร เธอเปลือ้ งเสือ้ แจ๊กเก็ต NASCAR ให้พ้นตัว หยิบผ้าซาตินสีเงินโปรยคลุมที่นั่ง จีบนิ้วรีดรอบย่น ให้หมดจด ก่อนจะปรับรอยแยกร่องอกให้เข้าที่ด้วยการเหยียดมือสองข้าง ขึ้นสูงบิดขี้เกียจ ตามติดด้วยรอยยิ้มมุมปากภาคภูมิใจ 6


“เฮ้, จูลี หนุม่ พลังม้ารอท่าอยูข่ า้ งนอก บ่นเปรยให้ขยับตูดกลมกลึง ออกไปข้างนอกเดี๋ยวนี้” ฉันมองตามสายตาของอัลไปยังนมก้อนเท่าหัวของมิสซี่ เบียดอัดแน่น ในเสือ้ ยืดสีชมพู ฉันมองตามสายตาของเขา แต่ไม่คดิ จะก้มลงมองก้อนเนือ้ 36 คัป C ของตนเองเพื่อการเปรียบเทียบ ไม่เคยมีความคิดเปรียบเทียบ กับใคร “หนุม่ พลังม้า? คุณเรียกเขาอย่างนัน้ และส่ายเต้าใส่หน้าเขาอย่างนัน้ หรือ?” ริมฝีปากสีแอปเปิลเชื่อมน�้ำตาล บิดเบี้ยวไม่สบอารมณ์ “ไม่ได้ส่าย” “พนันได้เลยว่าเขาจ้องตาถลน” “ทีร่ กั ขา, ทุกคนจ้องกันตาถลนทัง้ นัน้ ” เสียงถอนหายใจแสร้งท�ำเป็น เบือ่ หน่าย บัน้ ท้ายมหึมาเบีย่ งแทรกลงบนเก้าอี้ ก่อนจะหมุนเก้าอีเ้ ข้าหน้า จอคอมพิวเตอร์ เพื่อลงบันทึกเวลาเข้างาน เธอเอื้อมมือไปหยิบดินสอ ถ่วงเวลาปล่อยให้โทรศัพท์ดังถึงกริ่งที่ห้า ก่อนรับสาย “ส�ำนักนายอ�ำเภอแบร์ บัตต์ เคาน์ตี คะ” เสียงอ้อนหวานเยิ้ม “เฮ้, จีน” แหวะ, ฉันเพิ่มยาฆาเชื้อกับวินเด็กซ์ในบัญชีสิ่งของที่จะถือติดมือมา มาท�ำงานพรุ่งนี้ “ใช่ค่า, เดี๊ยนเพิ่งเข้างาน” มิสซี่เหลือบแลส่งสายตาร�ำคาญมาทางฉัน “ไม่, เธอยังอยู่ที่นี่” เสียงนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง “เขาน่าจะใช้งาน คอมพิวเตอร์อยูน่ ะ อยากให้เดีย๊ นไปเรียกเขาไหม?” ความเงียบหนึง่ นาทีเต็ม ขนตาปลอมแผ่เป็นแพกะพริบวับวาบด้วยความตระหนก อัลรับรู้ภาวะแม่นางตกอยู่ในห้วงอันตราย สืบเท้าเข้าไปหา 7


ฉันยืนนิ่ง “ก็, ดีนะที่ไม่เกิดเรื่องที่นี่” เธอกระซิบตอบรับด้วย ‘อะหาอะฮ้า’ หลายชุด ก่อนจะกล่าวต่อ “ไม่มีปัญหา เดี๊ยนจะบอกเขาให้, บ๊ายบาย” “มีอะไรหรือ?” อัล อัศวินหน้าแดงไต่ถาม มิสซี่มองกลับไปมาระหว่างอัลกับฉัน “ไม่มีอะไรในถิ่นฐานย่านนี้” เธอเดินอ้อมโต๊ะ เร่งฝีเท้าไปตามช่องทางเดิน อัลสาวเท้าก้าวตาม ส้นเท้าเฟอร์รากาโม ยักย้ายส่ายไหวกรุกกริกมุง่ หน้าไปหาประตูหอ้ งท�ำงาน ของนายอ�ำเภอ ฉั น ได้ ค วามรู ้ สึ ก แจ่ ม ชั ด ว่ า มิ ส ซี่ อ ยากให้ ฉั นออกไปให้พ้นจากที่นี่ ดังนั้น ฉันเดินตามขบวนแห่แสนสนุกไปยังถ�้ำศักดิ์สิทธิ์ด้านในของทอม ริชาร์ดส นายอ�ำเภอผู้ยิ่งใหญ่ เขาไม่เงยหน้าตอบสนองการขัดจังหวะของเราในทันใด แผ่นหลัง มหึมาเหมือนฝากระโปรงท้ายรถคาดิลแล็ก เสียงป๊อกแป๊กป๊อกแป๊กป๊อก แป๊กถีร่ ะรัวจากแป้นคียบ์ อร์ด ถาดพลาสติกเลือ่ นรองคียบ์ อร์ดสัน่ เทิม้ แม้ จะมองไม่เห็นปลายนิ้ว ฉันก็พอจะเดาได้ว่าคงพรมระรัวบนแป้น แม้แต่ วันสดใสที่สุดของฉัน ทักษะพิมพ์สัมผัสเรียกได้ว่าไม่เอาอ่าว เหลือเชื่อ เสียจริงที่นิ้วอวบใหญ่คล่องแคล่วว่องไวในงานส�ำนักงานน่าเบื่อหน่าย “นายอ�ำเภอ?” เสียงค�ำรามตอบรับ “จีน แบล็กวิทยุมา” “ต้องการอะไร?” ป๊อกแป๊กป๊อกแป๊ก “ลอยตุ๊บป่องอีกหนึ่ง” เสียงขาดหาย การเคลือ่ นไหวสะบัน้ ขาด แผ่นหลังเหยียดตรงเหมือน แกนเพลา เขาหันหน้ามาหา “เมื่อไหร่?” “เช้านี้ค่า พรานเบ็ดสายเพิ่งลากเข้ามาที่ธารน�้ำเรพิด” หัวไหล่อวบเนื้อของมิสซี่ยกห่อ ท่าประสาทกระวนกระวายมากกว่า 8


จะเป็นการยักไหล่ “ส่งข่าวให้ท่านทราบก่อนสื่อจะรุมตอม” “อยู่ในละแวกไหน?” เธอหยิบลวดเสียบกระดาษทีข่ อบโต๊ะ “บนเทือกเขา แถวริมร็อก” นิ้วอ้วนป้อมของเธอบิดดัดกางแผ่ลวดเสียบกระดาษให้เป็นศิลปกรรม สมัยใหม่ “เขตพื้นที่ของเพนนิงตันเคาน์ตี แต่ตำ� รวจเรพิดซิตีส่งก�ำลังมาช่วย อีกแรง เดินพล่านกันขวักไขว่ทีเดียว” นายอ�ำเภอคว้ามักกาแฟขึ้นดื่ม มืออวบมหึมาเหมือนกอริลลาท�ำให้ ถ้วยมักดูแคระไปเสียได้ การอยู ่ ร ่ ว มกั บ นายอ�ำ เภอทุ ก เมื่ อ เชื่ อ วั น ท�ำ ให้ ฉั น ลื ม ความมหึม า ผิดสัดผิดส่วนเปรียบเทียบกับโลกรอบข้าง ด้วยความสูงหกฟุตเก้านิ้ว เขา เป็นนายอ�ำเภอขนาดใหญ่ที่สุดในมลรัฐนี้ ท่อนแขน ท่อนขา และล�ำตัว ได้สมดุลสมบูรณ์แบบ แต่ศีรษะมหึมาเพี้ยนไปหน่อย เหมือนแตงฮันนีดิว ใหญ่เกินขนาด มีใบหูโผล่ออกมาสองข้าง จมูกเหมือนกระดุมติดแปะบนใบหน้าเผือดเทา ตาสีกาแฟไม่เจือร่อง รอยความนุม่ นวลให้เห็น ขนสีดำ� เป็นกระเซิงชีอ้ อกจากหนังหัวข้างแก้มและ ใต้คาง ให้ภาพเหมือนยักษ์ออร์กในเทพนิยาย รอยแผลเป็นกรีดผ่านจาก มุมปากด้านขวาไปถึงกราม ให้ภาพใบหน้าคล้ายแสยะยิ้ม สยบความเห็น ประดามีได้ทันควัน ไม่ว่าจะเป็นสภาพภาวะลมฟ้าอากาศบนสรวงสวรรค์ หรือค�ำถามที่ว่าเขาเคยเล่นบาสเกตบอลหรือไม่ “จีนบอกว่าเขาไม่ยอมให้เคลื่อนย้ายศพในทันที” มิสซี่รายงานต่อ “วิทยุเรียกสารวัตรใหญ่ฝ่ายสืบสวนจากเมืองปิแอร์ ซึ่งก็ท� ำให้ต�ำรวจ รัฐบาลกลางหันมาสนใจ” “รัฐบาลกลางกับสารวัตรใหญ่สืบสวน ท�ำไมไม่แถมด้วยกองก�ำลัง อุทยานแห่งชาติอีกล่ะ? ศพเชี่ยใครกันที่พบที่นั่น?” อย่าเจือก, อีหนู เสียงห้ามเลื่อนลั่นในหัว แต่ปากของฉันไม่ยอมรับ 9


ค�ำเตือน “ถ้ามีคนมากขนาดนี้” ฉันกล่าว “...รับรองได้ว่าไม่ได้ใช่ศพ อินเดียนแดงเป็นแน่แท้” ความเงียบงันอัปลักษณ์ตามมา เข้มข้นเหมือนซุปควายป่า ช่วงสองปีทผี่ า่ นมา ชายอินเดียนแดงเผ่าลาโกตาห้าคน อายุระหว่าง สามสิบถึงเจ็ดสิบ ลอยกระเพื่อมเป็นทุ่นมนุษย์ในธารน�้ำเรพิด ธารไหล ซิกแซ็กจากจากทะเลสาบพิกโตลา ผ่านเรพิดซิตีก่อนจะไหลออกสู่แม่น�้ำ ไชแอนน์ แม้จะมีรายงานพิษวิทยาว่าระดับแอลกอฮอล์ในเลือดผู้ตาย สูง ถึงขั้นโลหิตเป็นพิษ แต่ก็ไม่วายมีเสียงประท้วงเดือดดาลจากเผ่าซูส์ และ ผู้สนับสนุนอินเดียนแดงในท้องถิ่น เสียงประท้วงที่ไม่มีผู้ใดใส่ใจรับฟัง ดู เหมือนว่าองค์กรรักษากฎหมายท้องถิน่ และเอฟบีไอ ไม่ขยับตัว โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง เอฟบีไอที่พลาดท่าเสียหน้าจากคดีเยลโลว์ทันเดอร์แคมป์ใน ทศวรรษ 1980 และการล้อมปราบที่วูนเด็ดนี ปี 1972 แม้การชุมนุม การเดินขบวนของคนอเมริกันพื้นเมืองที่มีดาราฮอลลีวูด เรนี บริงส์ เพลนตี มาร่วมด้วย ผ่านถนนสายกลางหน้าทีท่ �ำการศาลเพนนิงตันเคาน์ตี ก็ไม่ท�ำให้ภาวะอึมครึมเปลี่ยนไป ทัศนคติ ‘อินเดียนแดง ตายแล้ว เป็นไง?’ ของคนท้องถิ่นยังไม่ เปลี่ยนไป ไอ้ขี้เมาอีกคน อินเดียนแดงสกปรกอีกคนหลุดหายจากบัญชี เงินสงเคราะห์ประกันสังคมของทางการ ใครสนใจด้วยเล่า? ฉันไง สามปีล่วงมาแล้ว นับจากร่างไร้วิญญาณของเบน, น้องชายของฉัน ถูกดึงลากขึ้นจากธารน�้ำแบร์ บัตต์ แตกต่างไปจากอินเดียนแดงคนอื่นๆ เขาไม่ได้จมน�ำ้ ตาย ไม่มแี อลกอฮอล์ ไม่มยี าเสพติดโผล่ในรายงานพิษวิทยา คอถูกเชือด ศพโยนทิ้งล�ำน�้ำเหมือนขยะ ร่างจมอยู่ในธารแบร์ บัตต์ ซึ่ง ถือเป็นเขตแดนศักดิ์สิทธิ์ของอินเดียนแดงลาโกตา เหมือนเช่นการตายของแม่ ฉันไม่อาจท�ำใจให้ลมื ไปได้ ฉันไม่เคลือ่ นที่ 10


ใช้ชีวิตสืบไป แท้จริงแล้ว ฉันเคลื่อนกลับ จากมินเนอาโพลิส เดินทาง กลับบ้านมายังเซาธ์ดาโกตา ด้วยวัตถุประสงค์เดียว...ค้นหาฆาตกรผู้ปลิด ชีวิตเบน และเหตุแห่งการสังหาร อาจเป็นความอมทุกข์เสาะหาความเจ็บปวดใส่ตัวก็เป็นได้ที่ท�ำให้ฉัน ทิ้งอนาคตการงานในวงการภัตตาคาร มาสมัครท�ำหน้าที่เลขานุการิณีใน ส�ำนักนายอ�ำเภอในเคาน์ตีเล็กจิ๋ว ท้องที่ที่เบนเสียชีวิต ในภาวะมึนงงเลอะเลือนหลังงานศพของเบน ความคิดสมเหตุสมผล ยิง่ สมัครเข้ามาท�ำงานในส�ำนักนายอ�ำเภอ ได้อา่ นส�ำนวนสืบสวน...เหมือน ในภาพยนตร์ชุดนักสืบในทีวี ค้นข้อมูลโดยละเอียดว่าใครท�ำอะไรที่ไหน ท�ำไม ปิดคดีให้สิ้นเรื่องสิ้นราว จะได้ใช้ชีวิตตัวเองเสียที ไม่มสี ำ� นวนสืบสวนเช่นว่านัน้ หลายปีถดั มา ฉันยังตกค้างอยูใ่ นหล่มนี้ เหมือนนิง่ ค้างอยูใ่ นหลุมด�ำ จมอยูใ่ นงานไร้อนาคต ความหืน่ อยากทางเพศ ที่อ้อมแอ้มอ้างว่าเป็นความสัมพันธ์มนุษย์ และความหวาดหวั่นหลบหน้า พ่อกับครอบครัวใหม่เหมือนหลีกห่างเชื้อวัวบ้า ไม่มผี ใู้ ดเข้าใจความคัง่ แค้น ความขัดข้องใจ และความเศร้าทีโ่ อบห่ม เกาะตัวเหมือนเชิต้ เปียก สักวันเถอะ ฉันเองไม่เข้าใจว่าท�ำไมเวลาไม่สมาน บาดแผลแห่งความทุกข์ระทม ปล่อยให้เป็นแผลเปิดอัปลักษณ์ อวดสายตา ผู้คนและเจ็บระบมให้ฉันแคะแกะเกา ในห้วงความเงียบงัน ก้อนเต้าของมิสซี่กลายเป็นส้มโอเรื่อแดง เธอ หลบตาฉัน แต่น�้ำเสียงมาดมั่นเต็มเปี่ยม “พวกเขาเลือกที่จะเรียกว่า คนอเมริกันพื้นเมือง” ฉันกระชากลวดเสียบกระดาษที่ถูกช�ำเราหมดรูป ชี้หน้าเธอ เกลียด เสียงเคลือบน�ำ้ ตาลกรวด อวดอ้าต่อหน้าฮอร์โมนเพศผู้ “ไม่เลย, ส่วนใหญ่ แล้วจะเรียกตามสันดานเผ่าของตน ค�ำว่า อเมริกันพื้นเมืองเป็นแต่เพียง ค�ำสวยอวดโอ่กันในสภา” “ช่างเหอะ” มิสซี่ปั้นท่าตลกขบขันที่ยังฝึกได้ไม่เนียนนัก 11


“ขอรายละเอียดด้วย” ฉันกล่าว “ศพที่พบผิวสีอะไร?” อัลขยับไปหาเครื่องแฟกซ์ เคลื่อนห่างจากฉัน มิสซี่อวดสายบ่า ยกทรงใต้เสื้อยืดบางจนเห็นสายสานกันบนแผ่นหลัง “ผิวขาว เด็กสาว ราวสิบหก เสื้อผ้าครบ ยังไม่เน่าเปื่อย จากค�ำบอกเล่าของจีนนะ” “ฆ่าตัวตาย?” ทอมถาม “ไม่ได้บอก เก็บรายละเอียดเงียบเลย” เสียงค�ำรามในล�ำคอของฉันก่อนที่ฉันจะสกัดห้ามได้ทัน มิสซี่หันขวับมาหา ลืมท่าออดอ้อนยั่วยวนไปชั่วขณะ “อย่าได้เริ่ม เชียว เรือ่ งนีไ้ ม่เกีย่ วกับคดีนอ้ งชายของคุณ” เธอหันไปอ้อนอัลเสียงกระเส่า “เห็นไหม?” มือของฉันซุกเข้าไปกระเป๋าเสื้อเบลเซอร์ ก�ำรอบซองบุหรี่ ก่นด่า พวกรณรงค์ห้ามสูบบุหรี่ นายอ�ำเภอถลึงตาเข้าใส่ฉัน แต่ปากถามมิสซี่ “ระบุตัวผู้ตายได้ หรือยัง?” “แจ้งให้ญาติทราบแล้วค่า” “มีเรือ่ งอืน่ อีกหรือเปล่าทีจ่ นี บอกให้คณ ุ ทราบ?” สายตาของเขากวาด มองผ่านแผ่นกระดานข่าว ติดข่าวทางการซ้อนกับกัน ผ่านมาถึงกระดาษ กองสูงบนโต๊ะท�ำงาน “จ�ำไม่ได้ว่าเคยเห็นรายงานเรื่องเด็กผู้หญิงท้องถิ่น หายตัวไป” ในชุมชนเล็กแบบนี้ หมาหายไปสักตัวเป็นข่าวใหญ่ เด็กหายตัวไป จากบ้านเป็นเรื่องโกลาหลถึงระดับที่ร้องขอกองก�ำลังรักษาดินแดนมาช่วย ค้นหา “เพราะเหตุนี้ถึงไม่มีการแถลงข่าว เด็กสาววัยรุ่นอาศัยในเรพิดซิตี ด้วยเหตุผลอะไรสักอย่าง พ่อแม่ไม่แจ้งความว่าหายไปจากบ้าน” อีกครั้งที่ปากของฉันเดินเครื่องก่อนสมองจะทันได้ขยับ “โชคดี เหลือเกินที่เรามีต�ำรวจท้องถิ่น ต�ำรวจรัฐบาลกลาง สารสัตรสืบสวนใหญ่ 12


กับเจ้าหน้าที่อุทยานแหงชาติพร้อมหมาทั้งโขยงเป็นทุกข์เป็นร้อนที่เด็ก ผู้หญิงผิวขาวเสียชีวิต” นายอ�ำเภอปากอ้าค้าง นิ้วหัวแม่มือขยับเข็มขัดปืน ถอนหายใจยาว ออกมาด้วยความขัดข้องใจ การไวความรู้สึกไม่ใช่ลักษณะเด่น แต่ฉันไม่ สนใจห่ะอะไรด้วย พระเจ้าทรงทราบว่าฉันทุ่มเทรับผิดชอบงานในหน้าที่ เกินตัวแล้ว “คุณเลิกงานแล้วไม่ใช่หรือ? กลับบ้านเหอะ ลืมไปเสียว่าได้ยิน เรื่องนี้” “ฉันคิดว่าเพราะเหตุนี้ที่จีนรอเวลาแจ้งข่าว” มิสซี่ส่งเสียงอ้อนต่อ “เขารู้ว่าเธอจะตอบสนองแบบนี้” อีกครั้งที่ความฉุนเฉียวเลื่องชื่อของฉัน ท�ำให้ประเด็นเบี่ยงเบน “คดีนี้ไม่มีเกี่ยวกับเรา” นายอ�ำเภอริชาร์ดส กล่าว “การตายของ เบนไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้” “ไม่เกี่ยวข้องกับใคร? ไม่ใช่ฉันเป็นแน่” นิ้วหัวแม่มือของฉันลูบไล้ รอยหยักของไลเตอร์ ในห้วงความคิดฉันได้ยินเสียงคลิก มองเห็นไฟเปลว สีส้มขุดปลายบุหรี่ สูดควันเข้าเต็มปอด...ในใจ “คล้ายคลึงแค่หัวเรื่อง เรายังไม่รู้รายละเอียด อีกอย่างหนึ่ง คดี ของน้องชายของคุณเย็นเฉียบแล้ว ฉันไม่เห็นว่าจะมีความเกี่ยวข้องกันที่ ตรงไหน” “ไม่เอาน่า” ฉันเปิดปากสอนจระเข้ให้ว่ายน�้ำ “จมน�้ำตายในธารน�้ำ นั่นเกี่ยวกันแล้ว บางทีถ้าสีผิวของคนตายโผล่มาได้เหมาะเจาะ คดีของ เบนอาจได้รับการรื้อฟื้นขึ้นมาสอบใหม่ ตามที่ควรจะเป็น” ยักษ์อัปลักษณ์ในตัวของเขาแผดเสียงก้อง “จูลี, เลิกเสียทีได้ไหม? จีซัส! เราสืบสวนกันทุกแง่ทุกมุมแล้ว ทุกผู้ทุกคนรวมทั้งหมาอีกทั้งโขยง อย่างที่คุณว่า ท�ำงานกันบั้นท้ายกระจุยไปแล้ว” ฝ่ามือมหึมาตบโต๊ะ ส่งรูปถ่ายครอบครัวใส่กรอบกระเด็นมาตกบน 13


พื้นพรม “คุณก็รู้ว่าองค์กรกิจกรรมอินเดียนแดงกับกลุ่มเพื่อนอินเดียนแดงยัง ตามกลิน่ กันไม่เลิก อย่าได้กล่าวหาว่าเราไม่ใส่ใจ ไม่ตอ้ งยกเรือ่ งผิวสีอนิ เดีย แดงเชี่ยนั่นมาพูดซ�้ำซาก” ไหมละ, ค�ำกล่าวหาเรื่องความทื่อด้านไม่ไวความรู้สึก ฉันคุมอาการ ไม่กระสับกระส่ายในห้องไร้อากาศหายใจ นายอ�ำเภอถอนหายใจอีกครั้ง “ใช้เวลาวันหยุดพักผ่อนให้พอ ท�ำให้ หัวโปร่ง ไปดื่มให้เมามาย อึ๊บให้สบายตัว อะไรก็ได้ที่จะไสหัวคุณให้พ้น จากที่นี่ก่อนถึงวันจันทร์” ปลายนิ้วของเขากระดิกใส่หน้า รูปแบบเดียวกันกับพ่อของฉัน ฉัน เกร็งร่างรอพร้อมการตวัดฝ่ามือตบ ซึ่งไม่มาถึง ฉันนิ่งรอคอย ‘แต่’ ที่ จะตามมาในไม่ช้า “...แต่ถ้าฉันได้ยินอีกค�ำเดียวจากปากของคุณ ถ้าฉันได้ข่าวว่าคุณ ไปเล่นบทนักสืบที่สถานที่เกิดเหตุ หรือไปเล่นเป็นนักข่าวสอบถามองค์กร ที่เกี่ยวข้อง ฉันจะพักงานคุณโดยไม่ลังเล พักงานโดยไม่มีค่าจ้าง เข้าใจ ไหม?” ในห้วงความคิดของฉัน ฉันกระถดเข้าไปหาดินแดนปลอดภัยในทีวี กลายเป็นนักสืบสตาร์สกี้โดนเจ้านายด่าไม่ยั้ง ในดินแดนนั้น ความเศร้า ระทมขังกักไว้ในเวลาชั่วโมงเดียว ฉันได้แต่ฝันว่าความเป็นจริงจะหมดจด ง่ายดายแบบนั้น ได้แต่ฝันหวานว่าไม่ต้องตื่นมาใช้ชีวิตอีกวันโดยมีความ เศร้าโศกวนเวียบรอบล�ำคอ พร้อมจะบีบก�ำจนลมหายใจขาดห้วง ขย�้ำอก กลวงว่างเปล่า ทิ้งไว้แต่รสขมปร่าติดลิ้น ผิดวิสัยที่เคยปฏิบัติ ฉันไม่ได้ทุ่มเถียงกับนายอ�ำเภอ ไม่ผลักดันมุม มองของตน ไม่พยายามเปลี่ยนความคิดของเขา ป่วยการ ในระยะหลัง นี้ ฉันเองก็รู้สึกถึงมาดท้ารบและกิตติศัพท์เลื่องลือของตน แต่ก็โชคร้าย ความนิ่งเงียบผิดวิสัยของฉัน ไม่ท�ำให้นายอ�ำเภอใจอ่อน มาดเข้มรังสี 14


อ�ำมหิตที่เคยท�ำให้พวกมอ’ไซค์กวนเมืองเลวร้าย หลั่งน�้ำตาร�่ำไห้ได้ บัดนี้ พุง่ เป้าตรงมายังตัวฉัน ช่องท้องปวดมวนมัดเป็นปม เขาน่าจะท�ำให้กะลาสี ภาคภูมิใจได้ “ไปหาหมอเหอะ” นายอ�ำเภอกล่าว “จิตแพทย์บ�ำบัดโรคเศร้าซึม ก�ำจัดความโกรธแค้น เรื่องพรรค์นั้น รับมือกับการสูบเสีย เลิกท�ำให้เป็น เรื่องก็อดแดม” มือโบกขวักไขว่เหมือนจะไปดึงค�ำออกมาจากอากาศ “... ไฮด์ปาร์กโวยวายเรื่องความไม่เป็นธรรมต่อผิวสี” ทั้งอัลและมิสซี่ไม่เหลือบมองมาทางฉัน ไม่ใช่คราวแรกที่นายอ�ำเภอ หยิบยกเรื่องนี้มากล่าว และไม่ใช่คราวสุดท้าย ณ จุดนี้ ไม่คุ้มค่ากับ การน�ำงานประจ�ำมาเสีย่ ง เล่นบทนักสืบเอกชนหรือ? ไม่ซ,ี ฉันเป็นนักสืบ เอกชน แม้จะเป็นการท�ำงานนอกเวลางาน นายอ�ำเภอไม่เห็นพ้อง แต่ใน แง่กฎหมายแล้ว ท�ำห่ะอะไรฉันได้หรือ? ฉันปั้นรอยยิ้มพลาสติก “ได้เลย, เลิกยุ่งก็ได้ ส�ำหรับการบ�ำบัด ความเศร้าโศก ฉันจะท�ำที่บ้าน ตามวิธีของฉัน อีกครั้ง ขอบคุณอย่างสูง ส�ำหรับความห่วงใย” ขับไล่การตามใจตนให้พ้นไป บานประตูส่งเสียงปึงปังในตอนที่ฉัน ฟาดปิดเดินออกจากห้อง

15


บทที่ 2

มือของฉันยกมาบังแดดจ้าโดยอัตโนมัติในตอนที่เดินมาตามทางเท้า คอนกรีต ลมอ่อนพัดความร้อนเรื่อข้างแก้ม แต่กลิ่นสดใสของฤดูใบไม้ผลิ ไม่ ไ ด้ ช ่ ว ยให้ ใจสงบลงได้ อารมณ์ ข องฉั น เหมือนลมฟ้าอากาศของ เซาธ์ดาโกตา แปรเปลี่ยนรวดเร็ว อารมณ์ยังไม่ผ่องขึ้นนักเมื่อมองเห็นรถกระบะดอดจ์ของเรย์จอดอยู่ ข้างถังขยะ อีกแล้ว ฉันกลั้นลมหายใจ คิดว่าน่าจะเก็บลิ้นไปพร้อมกัน ผมบลอนด์ของเขาโผล่ทางกระจกหลัง นิ้วอวบหยาบกร้านเคาะ พวงมาลัยตามท�ำนองเพลงในวิทยุ เรย์หน้าตาดีในมาดบุบบูบ้ ขี้ องเขา ร่าง สูงใหญ่บึกบึนและท่าเดินกวัดไกวของกรรมกรก่อสร้าง พอจะท�ำให้สาวๆ เหลียวมองซ�้ำสอง เขาไม่ใคร่ฉลาด แต่ก็เป็นบุรุษประเภทที่ฉันต้องการ น�ำไปอุน่ เตียงในช่วงวัยชีวติ ของฉัน...ห้าวและสาวเต็มตัว ชายผูม้ เี ป้าหมาย อย่างง่ายในชีวิต ต้องการเพียงค่าจ่างรายสัปดาห์กับฝันหวานที่จะเป็น เจ้าของคอร์เว็ตต์รุ่นปีทองสักคัน ในระยะแรก ชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดี ได้อยู่ใกล้กับชายที่ต้องการ ฉันด้วยเหตุผลไม่มากไปกว่าการมีฉันอยู่เคียงกาย แต่ ใ นระยะหลั ง เรย์ ก ลายเป็ น รู ท วารแสดงอาการเป็ น เจ้ า ของ 16


ออกหน้าออกตา ก็น่าจะฉลาดพอจะรับรู้ความงุ่นง่านกระวนกระวายของ ฉัน และความไม่ยั่งยืนของความสัมพันธ์ ภาวะขัดแย้งสุดคลาสสิก ยิ่ง เขาเรียกร้องจากฉันมากเท่าใด ฉัน็ยิ่งไม่ให้เท่านั้น เรย์ค�ำรามออกมา ส่งรถกระบะพุ่งปราดออกไปทันทีที่ฉันปิดประตู “แกใช้เวลาห่ะอะไรของแกเป็นนานสองนาน ฉันมานัง่ รอตัง้ ยีส่ บิ นาทีแล้ว” มือของฉันสั่นระริกจากอะดรีนาลินตกค้าง ไลเตอร์จุดวาบเผาปลาย บุหรี่ หลังอัดควันอึกแล้ว ฉันให้ค�ำตอบ “งานด่วน” “วะ, ก็ฉันไม่ชอบรอ” ฉันเป่าควันใส่หน้า “อย่ารอ” “คราวหน้าฉันไม่รอแก” มืออวบใหญ่ปัดควัน เปลี่ยนเกียร์รถ “ไปไหน?” ซีซี ท็อป แผดเสียงผ่านล�ำโพงจนกระทั่งฉันบิดปุ่มปิด “บ้าน...ฉัน อยากได้เบียร์สักกระป๋อง” สายตาหวาดระแวงกวาดมองชุดที่ฉันสวมใส่ “ไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ไปบาร์ดัสตีเหรอ?” “ไอ้ที่ใส่อยู่ไม่ดีตรงไหน?” “สวมสูทอย่างนีเ้ หมือนทนายว่ะ” เขาเหลือบมองข้ามไหล่กอ่ นเปลีย่ น เลน “ท�ำไมไม่สวมชุดด�ำลูกปัดเหมือนคราวที่แล้ว? เด็ดดวง ชวนน�้ำลาย หก” ความเห็นของเรย์ท�ำให้ความคิดของฉันกระเจิง มุมมองแฟชั่น ของฉันไร้ค่าไม่มีสาระเทียบเท่าแนวคิดทางการเมืองของฉัน “อย่าหวัง” ฉันหยิบเศษหินออกจากเบลเซอร์แอนน์ไคลน์ เคาะเศษ ไม้ออกจากรองเท้าบนพื้นรถที่มีเครื่องมือกองเกลื่อน นั่งในรถกระบะของ เขาท�ำให้เสือ้ ผ้าของฉันปีป้ น่ “หลังจากท�ำงานสิบชัว่ โมงเต็มๆ ฉันไม่เปลีย่ น ไปสวมชุดกะหรี่เพื่อให้คุณพึงพอใจ อีกอย่างหนึ่ง ฉันไม่ไปบาร์ดัสตี” เพียงแค่คิดว่าจะไปคุยเลื่อนเปื้อนกับเมียหรือแฟนของผู้ชายที่จับกลุ่มดวล 17


ไม้คิวเล่นพูล ก็พอจะส่งกระแสขยะแขยงวาบไปทั่วไขสันหลัง “จีซัส, วันนี้แม่อารมณ์บูด” เขากระทืบคลัตช์ เปลี่ยนเกียร์ “แก เป็นอะไรของแก?” ท่าทางขัดใจเหมือนเด็กทารก ไม่เหลือเสน่ห์ชวนมองในคืนนี้ “คุณ บอกมิสซี่ให้ฉัน ‘ขยับตูดกลมกลึงออกไปข้างนอกเดี๋ยวนี้’ หรือเปล่า?” “แค่ล้อเล่นน่า, จูลี อย่าท�ำให้เป็นเรื่องใหญ่โต” ฉันโน้มตัวไปข้างหน้า เตะกระติกกาแฟทีม่ คี ราบเหนอะเกาะปากขวด ให้พน้ ไปจากรองเท้าหนัง “อย่าได้อวดเบ่งท�ำท่าตัวผูแ้ บบนัน้ , เรย์ แม้แต่ ล้อเล่นก็เหอะ” “แกเดือดดาลเกลียดคนทั้งโลกอีกแล้วหรือวันนี้?” “ช่างเหอะ ขับรถไป” หลังงานเหนือ่ ยใจตลอดทัง้ วัน ฉันอยากนัง่ จม ในโซฟา ดืม่ เบียร์เงียบๆ คนเดียว ค�ำด่าการขอนอนค้างคืนของเรย์ และ ค�ำออดอ้อนของเขาทีว่ า่ เราต้องใช้รถร่วมกันเช้าวันนี้ ทะลักขึน้ มาทีโ่ คนลิน้ ฉันกลืนค�ำลงคอ หันหน้าออกนอกหน้าต่าง มองทิวทัศน์ข้างทางไหลผ่าน ปรูดปราด เหมือนในการ์ตูนฟลินต์สโตน ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูแห่งการเกิดใหม่ ท้องทุ่งไถหว่าน วูบวาบผ่านเป็น ปื้นด�ำ แปลงยกร่องจะผลิใบเขียวชูต้นใหม่ในสัปดาห์ถัดไป ขณะนี้เป็นแต่ เพียงดินร่วนพูนสูง เหมือนหลุมศพเพิ่งพลิกดินขึ้นมา ท�ำไมสมองของฉัน ก�ำกับเรื่องหดหู่ให้กับทุกเรื่องทุกราวในวันนี้? ฉันกดดับบุหรีใ่ นเวลาเดียวกับทีเ่ รย์บดิ เปิดวิทยุ หลังมือของเราสัมผัส กัน เขาคล้องนิ้วเกาะเกี่ยวไว้ เรานั่งกุมมือกันบนเบาะยาว “วันอุบาทว์?” ปลายนิ้วลูบไล้บนหลังมือท�ำให้ฉันสงบลงบ้าง “คล้ายงั้น” คาร์ลอส ซานทานาไล่จังหวะ ‘แบล็ก แมจิก วูเมน’ คึกคัก “คืนนี้ไปเล่นพูล?” เรย์พยักหน้ารับ ปลดมือไปจากฉันเพือ่ เปลีย่ นเกียร์ หักรถลงไปตาม 18


ถนนโลนทอดยาวสู่บ้านของฉัน รถสปอร์ตยูทิลิตีสีดำ� คุ้นตาจอดในทางรถเข้าบ้าน และร่างที่ยืนเอน พิงรถ แทบจะเป็นแบนเอดสมานวิญญาณฉันได้ทันควัน อารมณ์ของฉัน ผ่องขึ้นมาทันใด ผมอมยิ้ม กระโดดลงจากรถกระบะของเรย์ “ไง, สาวสวย” เควินกระดกไดเอ็ตเป็บซี่ในมือทักทาย ท�ำไมฉันถึงไม่วาบหวามไปกับน�้ำเสียงของเรย์อีกแล้ว? ค�ำถามของ อีกวัน หรือไม่ก็อีกชั่วชีวิตหนึ่งกระมัง “กลับมาเมื่อไหร่?” ฉันถาม มือ ยื่นไปสัมผัสมือของเขาที่ยื่นมาทักทาย “อังคารเย็น” เควินตอบ ไม่สนใจเงาทะมึนของเรย์ที่เคลื่อนตาม หลังฉัน ฉันเหลียวมามอง ตาของเรย์ถลึงจ้องมองเควิน เขารวบมือของฉันไว้ แน่นตอนที่ฉันจะดึงมือออก ฉันกับเควินแทบไม่แยกพรากจากกันตั้งแต่ชั้นมัธยมสอง แต่อาการ คบฉาบฉวยของเควินไม่ได้เพิ่มคะแนนผูกพันมากนัก เควินรังเกียจเรย์ อีกครั้งที่ไม่น่าประหลาดใจนัก คล้ายการเบ่งเยี่ยวประชันในทุกคราวที่ ชาร์ลส ลาช็องส์กับเรย์เจอหน้ากัน ฉันคิดว่าน่าจะเป็นประชันขันแข่ง ของฮอร์โมนพล่านเพศผู้ ฉันสนองกลับโดยเกลียดลิลลี ตัวเมียของเควิน ในปัจจุบัน ประหนึง่ เป็นการท้าทายเปิดเผย ฉันลูบไล้โอบท่อนแขนอวบอ้วนของ เรย์ “ดวลคิวกันในอีกสิบห้านาทีขา้ งหน้า จะไปก็รบี ไปได้แล้ว ถ้าเล่นเสร็จ จะแวะมาที่บ้านก็ได้นะ” เรย์จบู หลังมือของฉัน มือพลุกพล่านคว้าไขว่ นีถ่ า้ เขามีเหล็กร้อนแดง ตีตราวัว ก็คงไม่ต้องสงสัยว่าเขาจะประทับชื่อย่อของเขาบนก้อนก้นของ ฉันไปแล้ว พระผู้เป็นเจ้าช่วยฉันให้พ้นไปจากผู้ชายที่ชอบวางท่าเป็น เจ้าข้าวเจ้าของด้วยเถิด “อาจจะมา” เรย์ตอบท่าทางโอ่อ่า หันไปหาเควิน “แล้วเจอกัน” 19


ริมฝีฝากของเควินดัดหยัก ไม่คล้ายรอยยิ้ม “ได้เจอกันแน่” เราสองคนไม่ได้พูดอะไรกันจนรถกระบะของเรย์แล่นจากไปแล้ว “เอาละ, เควิน มีอะไรหรือ? วางท่าหวงก้างพิกล” “ไอ้ที่แปลกจะเป็นคุณที่ยังขย่มให้หมอนั่นอยู่” ฉันไขหูท�ำเป็นไม่ได้ยินความเห็น “เบียร์สักกระป๋องไหม?” “ได้เลย” ในบ้าน ฉันคว้าแพ็กหกที่เรย์เหลือทิ้งไว้ ที่เขี่ยบุหรี่ ดีด รองเท้าส้นสูง และถอดถุงน่องทิ้งไป ที่ระเบียงบ้าน เควินไม่ได้ขยับตัว ฉันยื่นแพ็บสต์ ริบบิ้นน�้ำเงินให้ “ผมไปแค่สัปดาห์เดียว คุณลดชั้นมาดื่มเบียร์ง่าวนี่แล้วหรือ? อะไรกัน ไอ้หนุ่มหน้าอ่อนของคุณประหยัดขนาดนั้นเชียว?” “ไอ้หนุ่มหน้าอ่อน อ่อนแต่หน้า แต่ส่วนอื่นแข็ง...แรงดีเชียวนะ จะบอกให้” เควินค�ำรามออกมา ฉันหัวเราะเสียงใส อิม่ ใจทีก่ วนประสาท เขาให้ขุ่นใจได้โดยง่าย ไม่ได้เจอกัน ฉันคิดถึงเขา รอยริ้วเหนื่อยล้ารอบวงตาของเขา ฉันทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ แกะฟอยล์ หุ้มปากขวด “ฉันดีใจที่คุณกลับมา” เขายกเบียร์ดื่ม “ความรู้สึกพ้องกัน” เรานั่งเงียบ อุ่นไอความผูกพันน�้ำมิตร “ว่าไง, นักสืบใหญ่?” ฉันถามหลังจากนิ่งไปนาน “ปิดคดีได้แล้ว หรือ?” “ใช่และไม่ใช่ นั่นเป็นเหตุผลหนึ่งที่ผมมาที่นี่” เขาจ้องมองฉันด้วย รอยยิ้มเต้นระริกในดวงตา “ติดต่อไปที่ส�ำนักนายอ�ำเภอ เขาบอกว่าคุณ เลิกงานแล้ว” ฉันเอื้อมมือหาบุหรี่ “เดาได้เลยว่ามิสซี่จะต้องบรรยายโดยละเอียด ว่าฉันไปที่ไหนต่อ” เขาพยักหน้ารับ ฉันเลื่อนที่เขี่ยบุหรี่มาใกล้เอว “เธอ บอกอะไรเพิ่มเติมอีก?” เขาไม่ได้ตอบในทันใด ยักไหล่วบู แต่ตาไม่เคลือ่ นไปจากใบหน้าของ 20


ฉัน “คุณเดือดนายอ�ำเภอ ระเบิดปึงปังผลุนผลันกลับบ้าน” ฉันหัวเราะ แทบส�ำลักควัน “ช่าย, นั่นดูเหมือนจะสรุปความได้ เกือบทั้งหมด” “เธอเล่าให้ฟังด้วยว่ามีศพลอยน�้ำ” เควินจิบเบียร์ กล่าวเพิ่มเติมไร้ อารมณ์ “...แต่ก็แน่นอน ผมทราบเรื่องนั้นแล้ว” เสียงโอ่อา่ ภาคภูมใิ จของเขากวนประสาทฉันเป็นทีส่ ดุ “คุณรูไ้ ด้ยงั ไง? เราเพิ่งพบศพเมื่อไม่ถึงครึ่งชั่วโมงมานี้เอง” เขาหยิบไลเตอร์ของฉัน เปิดกรุกกริกสองสามครั้ง ก่อนวางบนซอง บุหรี่ ขอบขนานกันหมดจด “จ�ำได้ไหมเรื่องคดีคนหายที่ผมท�ำอยู่?” ฉันผงกหัวรับ “ก็พอจะบอกได้ว่าศพที่พบในวันนี้ปิดคดีผมไปได้เลย” “เสียงแสนรู้ของคุณบอกฉันว่าศพที่พบในธารน�้ำวันนี้ เป็นคนเดียว กับคนที่คุณตามหาตัวอยู่ อย่างนั้นหรือ?” “หนึ่งเดียวคนนั้น” เควินเอนหลัง เอียงหัวไปด้านข้าง “คุณหัวไวดี นี่ คุณแน่ใจแล้วหรือว่าไม่อยากลาอออกจากงานสั่วๆ นั่น แล้วมาท�ำงาน กับผมเต็มเวลา?” รอยิ้มมุมปากฉายเรื่อทีละน้อย รอยยิ้มที่พอจะท�ำให้สตรีเข่าอ่อน ทรุดตัวลงต่อหน้าเขา ฉันเล่นบทดีดดิ้น “มีสวัสดิการท�ำฟันหรือเปล่า?” “อย่าหวัง ไม่มีแม้ค่าประกันสุขภาพ” “งั้น, ไม่ตกลง” ฉันเคาะเถ้าบุหรี่ “ถามจริง ท�ำไมคุณมาที่นี่?” “มาดื่มกับเพื่อนเก่าไม่ได้หรือ?” “จริงน่ะ” ฉันเหลือกตา “คุณมาที่นี่คืนวันศุกร์หลังจากออกจาก เมืองไปสัปดาห์เต็มๆ ไม่คิดเลยหรือว่าแม่ลิลลีจะบิดกางเกงถุงน่องลิซ เคลย์บอร์นม้วนเป็นเกลียวไปแล้ว” “ลิลลีไม่สบาย เป็นหวัดหรืออะไรสักอย่าง เรานัดพบกันในภายหลัง” เควินขมวดคิ้ว กระดกดื่มจนหมดขวด เสียงขวดกระแทกราววระเบียงไม้ 21


เรดวู้ดดังก้อง การลดเลีย้ วเลีย่ งหลบ เป็นฝีมอื โดดเด่นประจ�ำตัวเควิน การสารภาพ ออกมาตามตรงท�ำให้ฉันเป็นกังวล “เควิน, มีอะไรหรือ?” “ไอ้คดีนี้ไม่ชอบมาพากลที่ไหนสักแห่ง” มือของเขาเสยพุ่มผม สาง ผมเรียบเป็นกระเซิง “...ผมพลาดที่ไหนสักแห่ง” “หมายถึงฉันหรือ?” ฉันกะพริบแพขนตา “พระเจ้าช่วย, แปลงตัวเป็นมิสซี่ด่วยทันใจเลยหรือ?” เขาแสร้งท�ำ เป็นยักไหล่ “ผมอยากให้คุณมาช่วยผมในคดีนี้” ไม่ใช่คำ� ร้องขอผิดปกติ กิจการนักสิบของเควินเป็นปฏิบตั กิ ารคนเดียว ในเมื่อเซาธ์ดาโกตาเป็นหนึ่งในจ�ำนวนไม่กี่มลรัฐที่นักสืบไม่ต้องขึ้นทะเบียน ฉันเป็นนักสืบท�ำคดีได้ในทันทีที่ฉันท�ำงานให้เขา ในคราวที่ขาต้องการความช่วยเหลือ ฉันยินดีร่วมงานด้วย เขาเชื่อ สังหรณ์ของฉัน และยกเป็นข้ออ้างที่จะอยู่ร่วมกันได้ ฉันมีความสุขเป็น สองเท่า หนึ่งนั้นเพราะลิลลีไม่ชอบ อีกหนึ่ง รายได้งาม ฉันคิดว่าเขา แกล้งจ่ายให้ฉันมากเป็นสองเท่า เพื่อล่อฉันให้ลาออกจากงาน ออกมา ท�ำงานเต็มเวลาร่วมกับเขา วันท�ำงานที่เพิ่งสิ้นสุดใหม่หมาด ไม่ต้องชวน ฉันก็กระโจนเข้าใส่อยู่แล้ว “คุณต้องการอะไร?” “ตาอีกคู่ หูเพิ่มอีกสอง ลูกค้าจะเข้าส�ำนักงานพรุ่งนี้เช้า ถ้าเขาเห็น พ้อง ผมอยากให้คุณนั่งฟังเรื่องราวด้วย” “แต่คุณบอกว่าคดีปิดไปแล้ว?” “ไม่อาจเล่าในรายละเอียดตอนนี้ได้” “ไม่อาจหรือไม่อยาก?” เขาสั่นหัว เมื่อคิดถ้วนถี่แล้ว การล้อเลียนของเควินเป็นแต่เพียง หน้าฉากกลบเกลือ่ น เควินไม่เพียงแค่หงุดหงิดสับสน เขาถึงขัน้ ไม่สบายใจ เลยทีเดียว เขาเปิดกระเป๋าเอกสาร หยิบรูปถ่ายสาวรุ่นออกมา “คุ้นตาหรือ 22


เปล่า?” ยิ้มหวาน หันเรียบสวย ตาโตสีฟ้าใส ผมสีน�้ำตาลอ่อน เธออาจจะ เป็นสาวน้อยคนไหนๆ ก็ได้ นั่งหัวร่อต่อกระซิกสนุกสนานกับเพื่อนในฟู้ด คอร์ตที่รัชมอร์ฮอลล์ “ไม่เคยเห็น คนที่ลอยขึ้นมาวันนี้หรือ?” “ใช่” เควินลากนิว้ มือบนรูปถ่าย “คุณจ�ำเชลลีย์ แม็กอินทอชได้ไหม? จบก่อนเราสองปี?” “ได้อยู่แล้ว” ความทรงจ�ำวาบเข้ามาในหัว ฉันกับเชลลีย์ยืนอยู่ข้าง กองไฟเปลวแลบเลียลุกโชน อากาศฤดูใบไม้ร่วงเย็นเยือก เราดื่มเบียร์อุ่น ในถ้วยพลาสติก หัวเราะคิกคักตามวิสัยสาวรุ่น เธออายุมากกว่ามาดเท่ห์ ฉันคิดว่าฉันโชคดีที่เธอเลือกที่จะมาเที่ยวกับฉันในคืนนั้น “เธอแต่งงานกับดิ๊ก ฟรีล นี่คือ ลูกสาวของเธอ...ซาแมนธา” ความสยดสยองบนใบหน้าของเขาเท่าเทียมฉัน อาการปากพล่อยใน ส�ำนักนายอ�ำเภอน�ำความอับอายมาสู่วิญญาณของฉัน “...จีซัส” “ผมถึงบอกไงว่าคดีนี้อัปลักษณ์” ฉันเหลือบมองรูปถ่ายอีกครัง้ เงยหน้าจ้องเขา “แต่...เกิดได้ยงั ไง?...” เควินคล้ายจะมองทะลุผา่ นตัวฉันไป ปลายนิว้ ปัดเส้นผมยุง่ เหยิงข้าม หัวไหล่ของฉัน “ไม่ใช่คืนนี้” “เฮ้ย, เลิกคุยดื้อๆ อย่างนี้ไม่ได้นา” “ได้อยู่แล้ว เพราะเหตุนี้ผมถึงเป็นเจ้านายไงละ” ริมฝีปากเย็นกลิ่น เบียร์แตะหน้าผากของฉัน “แปดโมงเช้า พรุ่งนี้นะ” เมื่อเขาผละจาก ฉันจ้องตาเขานิ่ง อยากได้ค�ำยืนยันให้อุ่นใจ ไม่มี สิ่งสุดท้ายที่ฉันไม่อยากได้ จะเป็นภาพของศพสาวน้อยหน้าหวาน ลอย กระเพื่อมในน�้ำ ปะปนกับศพอื่นลอยกระเพื่อมเป็นแพสิงสู่อยู่ในฝันร้าย ฉันเดินตามหลัง ชะโงกหน้าเข้าไปในหน้าต่างคนขับ “ขอบคุณเช็ดแม่ม เลยว่ะ ฉันจะหลับลงได้อย่างไรในคืนนี้?” “ผมคิดว่าค�ำถามที่ดีกว่า, จูลส์...ก็คือ ‘เชลลีย์จะหลับลงได้อย่างไร 23


ในคืนนี้?’” เมื่อเขาพารถจากไป ท้องไส้ของฉันปวดมวนบิดเป็นเกลียว ไม่ได้ เกี่ยวกับเบียร์ราคาถูกนั่นด้วย

24


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.