Cell

Page 1


‘อิด’ ไม่ยินยอมรอคอยการหน่วงช้าของการบ�ำบัดสุขสมชื่นมื่น ความหื่นอยากที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง จะก่อความเครียดให้ได้เสมอ SIGMUND FREUD ความก้าวร้าวของมนุษย์เป็นสัญชาตญาณในกมลสันดาน มนุษย์มิได้วิวัฒน์กลไกสยบความก้าวร้าวเชิงพิธีกรรม เพื่อประกันความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ ด้วยเหตุนี้ มนุษย์จึงถือได้ว่าเป็นสัตว์เหี้ยมโหดอันตรายยิ่ง KONRAD LORENZ ได้ยินฉันไหม? VERIZON


1.

อารยธรรมไถลเลือ่ นเข้าไปในยุคมืดทีส่ อง บนเส้นทางโชกเลือดทีไ่ ม่นา่ ประหลาดใจนัก แต่ดว้ ยอัตราเร็วทีแ่ ม้แต่นกั อนาคตศาสตร์มองโลกในแง่รา้ ย ยังคาดไม่ถึง โลกาวินาศเกิดขึ้นประหนึ่งว่ารอท่าพร้อมประทุอยู่แล้ว ในวันที่ 1 ตุลาคม พระผู้เป็นสถิตอยู่ในสรวงสวรรค์ ดัชนี ตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ 10,140 เครื่องบินโดยสารขึ้นลงตรงเวลา (เว้นแต่ เครื่องที่บินขึ้นและลงจากท่าอากาศยานชิคาโก ซึ่งถือเป็นปกติวิสัย) สอง สัปดาห์ถัดมา ท้องฟ้าเป็นของนก และตลาดหลักทรัพย์กลายเป็นอดีต เมือ่ ลุถงึ ฮัลโลวีน มหานครใหญ่ของโลกจากนิวยอร์กถึงมอสโคว์สง่ กลิน่ ศพ เหม็นเน่าลอยขึ้นไปถึงสรวงสวรรค์ว่างเปล่า...และโลกที่เคยรู้จัก เหลือแต่ เพียงความทรงจ�ำ

เดอะ พัลส์ วิกฤติครั้งนั้นมีชื่อเรียกขานว่า ‘เดอะ พัลส์’ เริ่มขึ้นที่เวลา 15.03 เวลามาตรฐานตะวันออก ตอนบ่ายของวันที่ 1 ตุลาคม แน่อยูแ่ ล้ว ศัพท์ เทคนิคผิดพลาด แต่ทว่า ในอีกสิบชั่วโมงหลังจากนั้น นักวิทยาศาสตร์ ส่วนใหญ่ผทู้ รงภูมคิ วามรูพ้ อจะกล่าวแย้งได้ หากไม่ตายก็เสียสติไปถ้วนหน้า มองในแง่ไหน ชื่อเรียกขานหาใช่สาระ ความส�ำคัญอยู่ที่ผลกระทบ บ่ า ยสามโมงวั น นั้ น ชายหนุ ่ ม ผู ้ ไ ม่ มี ค วามสลั ก ส� ำ คั ญ ทาง ประวั ติ ศ าสตร์ เดิ น มุ ่ ง หน้ า ไปทางตะวั น ออกมาตามถนนบอยล์ ส ตั น ในบอสตัน ไม่สนิ ะ, เขย่งเก็งกอยเสียมากกว่า ใบหน้าระเรือ่ ฉายประกาย อิ่มสุข สอดรับกับท่าเดินมีชีวิตชีวา มือซ้ายกวัดแกว่งตัวอย่างผลงาน แฟ้มใหญ่ของนักเขียนรูปที่มีสายรัดสลักเกาะให้ถือเป็นกระเป๋าเอกสาร 3


แบนกว้าง นิ้วมือข้างขวาสอดเกี่ยวหูหิ้วของถุงพลาสติกสีน�้ำตาล พิมพ์ตัว อักษร ‘สมอลล์ เทรเชอร์ส’ ถ้าจะมีใครสนใจจะอ่าน ในถุงนั้น แกว่งโยนไปมา เป็นวัตถุกลมเกลี้ยงขนาดเล็ก ของขวัญ ส�ำหรับใครสักคน หากคุณจะเดา ก็คงไม่ผิด คุณก็คงเดาต่อว่าชายหนุ่ม ผู้มีชื่อว่าเคลย์ตัน ริดเดลล์ เสาะหาชัยชนะเล็กๆ (อาจไม่ถึงกับเล็กน้อย) จาก ‘สมอลล์ เทรเชอร์ส’ อีกครั้งการคาดเดาของคุณก็ไม่ผิด วัตถุ ในถุงนั้นเป็นแก้วทับกระดาษราคาแพงระยับ ปุยบางเบาสีเทาของดอก แดนดีไลออนฝังอยู่ในเนื้อแก้ว เขาซื้อในการเดินทางจากโรงแรมโคปลีย์ สแควร์ ย้อนกลับมายังแอตแลนติก แอฟวนู อินน์ สมถะถูกราคากว่าทีเ่ ขา พักอาศัยอยู่ หลังจากกดข่มความตื่นตระหนกจากป้ายราคาเก้าสิบเหรียญ ทีฐ่ านแก้วทับกระดาษได้แล้ว ความตืน่ กลัวอีกระลอกเกิดขึน้ เมือ่ เขาทราบ แล้วว่า ตอนนี้มีปัญญาซื้อได้แล้ว การยืน่ ส่งบัตรเครดิตข้ามเคาน์เตอร์ไปให้เสมียน จ�ำต้องอาศัยความ กล้ามากโข เขาอดสงสัยมิได้วา่ คงจะไม่ซอื้ ให้ตวั เองเป็นแน่ ถ้าซือ้ ให้ตวั เอง เขาคงงึมง�ำออกมาว่าเปลี่ยนใจแล้วนะ แล้วผละหนีออกจากร้านนั้นให้เร็ว ที่สุด แต่ของขวัญชิ้นนี้เพื่อชารอน ชารอนชอบของประเภทนี้ และเธอ ยังชอบเขาไม่จางจืด วันก่อนหน้าที่เขาจะเดินทางเข้าบอสตัน เธอบอกว่า ฉันเอาใจช่วยคุณเต็มที่, ที่รัก หากพิจารณาความง่าวที่ระดมยิงเข้าใส่กัน ในหลายปีทผี่ า่ นมา ค�ำพูดนัน้ ถือได้วา่ จับใจ เขาอยากจะจับใจของเธอบ้าง หากยังเป็นไปได้ แก้วทับกระดาษเป็นของขวัญชิน้ เล็ก (มหาสมบัตขิ นาดเล็ก ตามถ้อยค�ำบนถุง) แต่เขาก็แน่ใจได้ว่าเธอคงโปรดหมอกสีเทาริ้วบางใน ก้อนแก้ว เหมือนมีหมอกหย่อมเล็กส่วนตัว

4


2

เคลย์หันไปหาเสียงกรุ๋งกริ๋งของรถขายไอศกรีม รถจอดอยู่ตรงข้าม โรงแรมโฟร์ ซีซันส์ (หรูหราอลังการยิ่งกว่าโคปลีย์ สแควร์เสียอีก) จอด เยือ้ งบอสตัน คอมมอน สวนสาธารณะเก่าแก่ทสี่ ดุ ในประเทศนี้ ทอดยาว สองสามช่วงตึกตลอดแนวถนนบอยล์สตัน ตัวอักษรสีรงุ้ ‘มิสเตอร์ซอฟต์ท’ี พาดอยู่ระหว่างกลางไอศกรีมโคนไขว้ เด็กสามคนออกันอยู่ที่หน้าต่าง รอ รับไอศกรีม เป้หนังสือเรียนวางบนพื้น ถัดมาเป็นสาวใหญ่สวมแพนต์สูท จูงหมาพูเดิล และสาวรุ่นอีกสอง สวมกางเกงยีนเอวต�่ำ ไอพ็อดและหูฟัง พันรอบคอ ปลดการท�ำงานไปชัว่ ขณะ เพือ่ จะได้พดู คุยกันเอาเป็นเอาตาย ไม่มีเสียงหัวร่อคิกคัก เคลย์ยืนต่อท้าย กลายเป็นคิวสั้นไปเสียได้ เขาซื้อของขวัญไปฝาก ภรรยาผู ้ มี ป ากเสี ย งกั น เสมอ เขาจะแวะไปที่ ค อมิ ก ส์ ซู ป รี ม หยิ บ สไปเดอร์ แมน เล่มใหม่ลา่ สุดให้ลกู ชาย น่าจะให้ของขวัญตัวเองสักหน่อย ความดีใจจนอกแทบปริยังไม่อาจบอกข่าวให้ชารอนทราบได้ จนกว่าเธอ จะกลับถึงบ้าน คงสักบ่ายสามสี่สิบห้า เขาคิดว่าน่าจะแกร่วอยู่ที่โรงแรม ที่พัก รอจนกว่าจะแจ้งข่าวดีให้เธอทราบ ส่วนใหญ่ก็คงจะเป็นการเดิน กลับไปกลับมาในห้องพักแคบๆ มองกระเป๋าผลงานเป็นระยะ ไอศกรีมจาก มิสเตอร์ซอฟต์ที น่าจะช่วยให้เย็นใจลงได้บ้าง คนขายยืน่ ไอศกรีมให้เด็กสามคนรออยูท่ หี่ น้าต่างรถ ดิลลี บาร์ กับ ไอศกรีมโคนช็อกโกเลตวานิลลา ส�ำหรับเจ้าหนูมอื เติบคนกลาง ผูท้ ำ� หน้าที่ ควักเงินจ่ายทั้งสามอัน ในระหว่างที่ล้วงควักเงินจากกระเป๋ากางเกงยีน ตัวโคร่ง สาวใหญ่ผู้จูงหมาพูเดิล ล้วงเข้าไปในกระเป๋าถือ ดึงมือกลับออก มามีโทรศัพท์มือถือติดมือออกมาด้วย สาวมั่นสวมสูทลืมบัตรเครดิตไว้ที่ 5


บ้านได้ แต่ไม่มีวันลืมมือถือ เธอพลิกฝาเปิด ทางด้านหลัง หมาเห่าเสียง ขรม เสียงตะโกนลั่น เสียงตะโกนที่ไม่คล้ายการหยอกเย้ามีความสุขนัก เคลย์เหลียวมองข้ามไหล่ หมาวิง่ ห้อเหยียด คาบฟริสบีในปาก (เอ, หมา ต้องมีสายจูงไม่ใช่หรือ?) สวนสาธารณะกว้างใหญ่ไพศาล มีรม่ เงาชวนเชิญ ดูคล้ายจะเป็นสถานทีส่ ขุ สงบยิง่ นักส�ำหรับชายผูเ้ พิง่ จะขายนิยายภาพทัง้ เล่ม ...และภาคสอง ได้ค่าเรื่องก้อนโต จะไปนั่งละเลียดเลียไอติมแสนสุขสมใจ เขาเหลียวกลับมาอีกครั้ง เด็กสามคนหายไปแล้ว สาวใหญ่สวมสูท สั่งซันเด สาววัยรุ่นหนึ่งในสองคนมีมือถือสีเปปเปอร์มินต์ติดซองที่เอว สาวใหญ่สวมสูทยกมือถือแปะหู เคลย์อดคิดไม่ได้ เหมือนทุกคราวที่เขา มองเห็นคนโทรศัพท์ หลากองศาพฤติกรรมเดียว การพูดคุยโทรศัพท์ใน ทีส่ าธารณะ แม้จะเป็นการติดต่อซือ้ ขายแสนสัน้ กับคนแปลกหน้า ก็นา่ จะ เรียกได้วา่ หยาบคายไร้มารยาท แต่กเ็ ถอะ เรือ่ งเช่นว่ากลายเป็นพฤติกรรม ที่ยอมรับได้ทั่วไปแล้ว เติมลงไปในเรื่อง ‘ดาร์ก วันเดอเรอร์’ เลย, ที่รัก ชารอนบอกไว้ เช่นนัน้ ความเห็นของเธอ เขารับฟังและเก็บมาคิดเสมอ เสียงชารอนในหัว กับชารอนในโลกความเป็นจริง ไม่แตกต่างกันนัก แยกกันอยูห่ รือไม่กต็ าม เธอจะแสดงความเห็นเผ็ดร้อนเสมอ แต่ก็ไม่ได้พูดคุยกันผ่านโทรศัพท์ มือถือ...เขาไม่มีมือถือเหมือนชาวบ้าน มือถือสีเปปเปอร์มินต์ส่งเสียงโพลีโฟนิก โน้ตท่อนแรกของเพลง เครซี ฟร็อก ที่จอห์นนี ลูกชายของเขาโปรดเป็นนักหนา ชื่อคล้ายๆ ‘แอ็กเซล เอฟ’ เขาไม่แน่ใจนัก อาจเป็นเพราะเขาไขหูไม่ยอมรับเสียง พวกนี้ก็เป็นได้ เจ้าของมือถือตวัดมือดึงออกจากซองข้างเอว “เบ็ธ?” เธอรับฟัง ใบหน้าแต้มยิ้มระเรื่อ “เบ็ธโทรฯ มา” เธอหันมาบอกเพื่อน สาวรุ่นอีกคนเอาหูไปแนบโทรศัพท์ ทั้งสองรับฟังเสียงจากปลายสาย ผม ซอยสั้นเป็นกระเซิง (ในสายตาของเคลย์ ดูยังไงก็เหมือนหัวการ์ตูนเช้า วันเสาร์ พาวเวอร์พัฟฟ์ เกิร์ล คล้ายอย่างนั้น) ปลิวว่อนเล่นลม 6


“แมดดี?” สาวใหญ่เสือ้ สูทกรอกเสียงลงไปแทบจะพร้อมกัน หมา พูเดิลทีป่ ลายสายจูง นัง่ เอียงคอมองรถราขวักไขว่บนถนนบอยล์สตัน (สาย จูงสีแดง มีกากเพชรโรยระยิบระยับ) ฝัง่ ตรงข้าม หน้าโรงแรมโฟร์ ซีซนั ส์ ยามเฝ้าประตูในชุดเครือ่ งแบบสีนำ�้ ตาล (ท�ำไมต้องจ�ำกัดอยูแ่ ค่สนี ำ�้ ตาลหรือ น�้ำเงิน?) น่าจะโบกแท็กซี่ให้แขกผู้มาพัก รถเป็ด*นักท่องเที่ยวเต็มคันรถ ดูสูงโย่ง และผิดที่ผิดทางเมื่ออยู่บนบก คนขับกรอกเสียงในโทรโข่ง บรรยายเรื่องราวสถานที่ประวัติศาสตร์ สาวรุ่นสองคนเงี่ยหูรับฟังมือถือ เปปเปอร์มนิ ต์ ยิม้ เรือ่ ให้กบั ข่าวสารจากปลายสาย แต่ยงั ไม่มเี สียงหัวเราะ คิกคัก “แมดดี? ได้ยินฉันไหม? ได้ยิน...” สาวใหญ่สวมสูทยกปลายนิ้วข้างที่ถือสายจูง แหย่ปลายนิ้วเล็บยาว เข้าไปในรูหู เคลย์คอย่อ เกรงว่าแก้วหูของเธอจะทะลุ เขามองเห็นภาพ ของเธอที่เขาจะวาดเป็นสายเส้นการ์ตูน...มือกรีดนิ้วถือสายจูง แพนต์สูท หมดจด ผมซอยสัน้ ทันสมัย เลือดไหลหยาดหยดออกจากรูหู รถเป็ดเคลือ่ น พ้นกรอบภาพ ยามหน้าประตูโรงแรมในฉากหลัง รายละเอียดเหล่านี้ ท�ำให้สเก็ตช์สมจริง เป็นเช่นนัน้ จริง เรือ่ งทีค่ นท�ำงานจนคุน้ มือจะทราบได้ “แมดดี, เสียงของเธอขาดหาย ฉันเพียงอยากบอกเธอว่าวันนี้ ฉัน ไปท�ำผมที่ร้านใหม่...ผมของฉัน?...ผม...” คนขายไอศกรีมมิสเตอร์ซอฟต์ทีชะโงกออกจากหน้าต่างรถ ยื่นส่ง ซั น เดในถ้ ว ย ภู เขาแอลป์ สี ข าวโพลนราดรดด้ ว ยซอสช็ อ กโกเลตกั บ สตรอว์เบอร์รีไหลอาบลงด้านข้าง ใบหน้าหนวดเครารกครึ้มไม่มีความ รู้สึกใดๆ หน้าเฉยเมยเหมือนเคยเห็นเรื่องนี้มาชินตา เคลย์แน่ใจว่าคงใช่ *ยานสะเทินบกสะเทินน�ำ้ DUKW สมัยสงครามโลกครัง้ ทีส่ อง ปฏิสงั ขรณ์ใหม่ น�ำมาเป็นรถ/เรือ ส�ำหรับนักท่องเที่ยว พาเที่ยวชมโบราณสถานทางประวัติศาสตร์ แล้วโผลงน�้ำพานักท่องเที่ยว บ้านเรือนสวยงามสองฝั่งแม่น�้ำ กองยานรถเป็ดกลายเป็นสัญลักษณ์ของบอสตันไปแล้ว 7


อย่างน้อยก็สองรายแล้ว ในสวนสาธารณะ เสียงคนร้องกรีด เคลย์เหลียว มองข้ามไหล่อีกครั้ง บอกตัวเองว่าน่าจะเป็นเสียงกรีดร้องด้วยความสุข ตอนบ่ายสามโมงในสวนสาธารณะแดดอุ่น บอสตันคอมมอน กว้างใหญ่ น่าจะเป็นเสียงกรีดร้องด้วยความสุขสนุกสนาน ไม่ใช่หรือ? สาวใหญ่พดู งึมง�ำกับแมดดี ข้อมือตวัดปิดฝาด้วยท่าคล่องแคล่ว เธอ หย่อนโทรศัพท์ลงในกระเป๋าถือ แต่กย็ นื เหม่อค้าง ประหนึง่ ว่าลืมเลือนไป แล้วว่ามาท�ำอะไรที่นี่ หรือว่าอยู่ที่ไหน “สี่เหรียญห้าสิบ” มิสเตอร์ซอฟต์ทีกล่าวบอก มือยังถือถ้วยซันเด ใบหน้าเรียบเฉยอดทนข่มกลัน้ เคลย์มเี วลาพอจะคิดวูบหนึง่ ท�ำไมข้าวของ ในมหานครแห่งนีถ้ งึ ได้แพงห่ะเช็ดขนาดนี?้ อาจเป็นไปได้วา่ สาวมัน่ ในชุดสูท คงคิดเหมือนกัน เธอยืนนิ่งค้าง อย่างน้อย เขาคิดไปว่าเธอคิดเรื่องนั้น เพราะเธอไม่มที ที า่ ว่าจะขยับตัว สายตาจ้องถ้วยซันเด ครีมขาวโพลนพูนสูง ราดรดด้วยซอสสองสี คล้ายกับว่าเธอไม่เคยเห็นวัตถุแปลกตานี้มาก่อน ในชีวิต และแล้วก็มีเสียงกรีดร้องจากบอสตันคอมมอน คราวนี้ไม่ใช่เสียง มนุษย์ เสียงระหว่างกลางระหว่างเสียงเอ๋งกับเสียงร้องครางโหยหวน เคลย์ หันไปมอง ทันได้เห็นหมาตัวที่คาบฟริสบีในปาก หมาตัวโต ขนเรียบเป็น มันเลื่อม น่าจะเป็นลาบราดอร์ เขาไม่รอบรู้เรื่องหมา หากจ�ำเป็นต้อง วาดภาพ เขาจะเปิดต�ำรา วาดเค้าโครงของหมาแต่ละพันธุ์ หนุ่มใหญ่ มาดนักธุรกิจ นัง่ อยูข่ า้ งหมา กอดล็อกคอหมาไว้แน่น เฮ้ย, ฉันคงไม่เห็น อย่างทีเ่ ห็น เคลย์ประท้วงอึงอลในใจ นักธุรกิจนายนัน้ กัดหูหมา หมาร้อง โหยหวน พยายามดิ้นให้หลุด นักธุรกิจกอดคอหมาไว้แน่น แน่อยู่แล้ว หูหมาอยู่ในปาก เคลย์เหม่อจ้อง หนุ่มนักธุรกิจกัดขย�้ำจนหูหมาหลุดขาด จากตัว คราวนี้ หมาดิน้ จนหลุด ส่งเสียงกรีดร้อง แทบจะฟังดูคล้ายเสียง มนุษย์ร้องโหยหวน นกเป็ดน�้ำลอยเป็นฝูงในสระ ร้องแควกแตกตื่น “ราสต์!...” เสียงตะโกนลัน่ ทางด้านหลังของเขา เสียงคล้าย ‘ราสต์’ 8


มากกว่าจะเป็น ‘แร็ต’ หรือ ‘โรสต์’ ประสบการณ์ใหม่หมาดทีเ่ พิง่ ได้รบั ยืนยันกับเขาว่าน่าจะเป็น ‘ราสต์’ เสียงไร้ความหมาย เปล่งออกมาเพื่อ แสดงความก้าวร้าว ผมหันกลับมาหารถไอศกรีม ทันได้เห็นสาวมั่นกระโจนเข้าไปใน หน้าต่างรถ มือกางเป็นกรงเล็บคว้ามิสเตอร์ซอฟต์ที เธอคว้าจับอกเชิต้ ขาว ไว้ ไ ด้ แต่ อ าการผงะถอยหลั ง ไปก้ า วใหญ่ ท� ำ ให้ ก ารคว้ า จั บ ไม่ ถ นั ด รองเท้าส้นสูงของเธอพ้นไปจากทางเท้าชั่วขณะ เขาได้ยินเสียงเนื้อผ้า สวบสาบ และกระดุมเสื้อนอกขูดขอบหน้าต่าง ถ้วยซันเดหลุดหายไป จากสายตาแล้ว เคลย์มองเห็นรอยไอศกรีมสีขาวและซอสช็อกโกเลตติดที่ แขนเสื้อของสาวใหญ่ในขณะที่ส้นรองเท้าของเธอกระทบพื้นอีกครั้ง ร่าง ของเธอซวนเซ เข่างอ ใบหน้าเรียบเฉย ปลายคางเชิดสุดสง่า ปั้นหน้า เพื่อสาธารณชน ถูกแทนที่ด้วยรอยยับแสยะแยกเขี้ยวจนตาเหลือเพียง เส้นขีดเรียวเล็ก ปากอ้าอวดฟันเขี้ยว ริมฝีปากบนพลิกหงาย เผยให้เห็น เนื้อนุ่มด้านใน สีเรื่อชมพูคล้ายกลีบเนื้อสตรี หมาพูเดิลของเธอวิ่งลงไป ในถนน สายจูงสีแดงมีห่วงจับปลายสายลากไล่ตามไป รถลิมูซีนสีด�ำแล่น มาเร็ว ทับมาพูเดิลบีแ้ บนก่อนจะทันข้ามไปยังอีกฝัง่ นาทีทแี่ ล้วเป็นก้อนขน พองฟู อึดใจถัดมา กองเลือดเครื่องในหย�ำเหยอะ โถ, ไอ้หมาน่าสงสาร เอ็งคงเห่าบ็อกบ็อกบนสวรรค์ของหมา ก่อน จะรู้ตัวว่าตายดับไปแล้ว เคลย์คิดในใจ เขาเข้าใจในเชิงวิชาการได้ว่าเขา ช็อกจนนิ่งค้างไปแล้ว แต่นั่นก็ไม่เปลี่ยนระดับความลึกของความตระหนก แตกตื่น เขายืนนิ่งค้างกระเป๋าผลงานตัวอย่างในมือข้างหนึ่ง ถุงพลาสติก สีน�้ำตาลห้อยอยู่ในมืออีกค้าง ปากอ้าค้าง ที่ไหนสักแห่ง เสียงฟังดูคล้ายจะเกิดขึ้นที่หัวมุมถนนนิวบิวรีนี่เอง... เสียงระเบิดกึกก้อง สาวรุ่นสองนาง ผมตัดสั้นปัดเป็นกระเซิง เหนือหูฟังไอพ็อด คน ที่เป็นเจ้าของมือถือสีเปปเปอร์มินต์ผมบลอนด์ เพื่อนของเธอบรูเน็ตต์... 9


กระเซิงจางกับกระเซิงเข้ม กระเซิงจางทิ้งมือถือลงบนทางเท้า จอแตก ชิ้นส่วนกระเด็น กระเซิงจางจับข้อมือของสาวมั่น เคลย์อนุมานไปว่า (ตราบเท่าที่การอนุมานยังใช้ได้ในสถานการณ์เช่นนี้) สาวน้อยคงดึงรั้ง ข้อมือไม่ให้สาวมั่นพุ่งเข้าคว้าคอคนขายไอศกรีมอีกรอบ หรือไม่ก็ดึงมือไว้ ไม่ให้วงิ่ ไล่ตามหมาน้อยกลางท้องถนน ส่วนลึกในใจปรบมือให้การตัดสินใจ ฉับไวของเธอ ส่วนกระเซิงเข้ม ถอยหลังกรูด กระถดตัวหนีห่าง มือสอง ข้างกุมกันแน่นกลางเต้าถัน ตาเบิกกว้าง เคลย์ทิ้งของในมือ ปราดเข้าไปช่วยกระเซิงจางอีกแรง ทางปลาย ถนน เขามองเห็นจากทางหางตา รถยนต์หักเลี้ยวหัวมุม แล่นขึ้นทางเท้า ไล่บี้คนเดินเท้าหน้าโรงแรมโฟร์ ซีซันส์ ยามชุดสีน�้ำตาลเผ่นหนีตายพ้น ทาง เสียงกรีดร้องตกใจดังมาจากลานหน้าโรงแรม ก่อนที่เคลย์จะช่วย กระเซิงจางได้ สาวน้อยยืน่ หน้าเข้าไปหา รวดเร็วเหมือนงูฉก ปากอ้ากว้าง เผยให้เห็นฟันแข็งแรงของสาวรุน่ กัดงับเข้าทีล่ ำ� คอของสาวมัน่ เลือดพุง่ ฉีด ออกมาเป็นสาย กระเซิงจางกดเขี้ยวจุ่มใบหน้าลงไป อาจจะดื่มเลือดจาก การกัดขย�้ำก็เป็นได้ (เคลย์แทบจะยืนยันได้ว่าเธอดื่มเลือดจริง) เพียงฟัน กัดคาบล�ำคอ สาวน้อยสะบัดร่างสาวมัน่ ไปมาเหมือนตุก๊ ตาผ้าตัวโต สาวมัน่ ร่างสูงกว่า น�้ำหนักมากกว่าสาวน้อยเกือบสี่สิบปอนด์ แต่กระเซิงจาง สะบัดแรงพอจะท�ำให้หัวสาวมั่นคลอนไปคลอนมา ฉีกแผลเหวอะ เลือด เนืองนอง ในขณะเดียวกัน กระเซิงจางแหงนหงายใบหน้าขึน้ สูฟ่ า้ ใสเดือน ตุลาคม หอนโหยหวนประหนึ่งจะประกาศชัยชนะ มันบ้าไปแล้ว เคลย์คิดในใจ บ้าโดยสิ้นเชิง กระเซิงเข้มกรีดร้องออกมา “แกเป็นใคร? เกิดอะไรขึ้น?” เสียงร้องของเพื่อนท�ำให้กระเซิงจางหันขวับมาหา เลือดหยาดหยด จากปลายผมกระเซิงบริเวณหน้าผาก ตาเหมือนไฟหน้าขาวโพลนมองลอด เบ้าตาชุ่มโชกด้วยเลือด กระเซิงเข้มหันมาหาเคลย์ ตาเบิกโพลง “แกเป็นใคร?” เธอถาม 10


ซ�้ำ และแล้ว “...ฉันเป็นใคร?” กระเซิงจางทิ้งสาวมั่นนอนกองเป็นก้อนเนื้อบนทางเท้า กระโจน เข้าหาเพื่อนสาวที่อิงแอบแนบหูร่วมรับฟังบทสนทนาทางโทรศัพท์ด้วยกัน เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา เคลย์ไม่ได้คิด ถ้าเขาใช้เวลาคิด กระเซิงเข้มก็คงคอขาดเหวอะหวะ เหมือนสาวมั่นคนนั้น ไม่มีแม้การเบือนสายตาไปมอง มือของขวาหย่อน ลงไปคว้าถุงพลาสติกสีน�้ำตาล วาดแขนฟาดไล่หลังศีรษะของกระเซิงจาง ผู้กางแขนแยกเขี้ยวกระโจนเข้าใส่เพื่อน ถ้าเขาพลาด... เขาไม่พลาด และถุงหมุนเหวีย่ งไม่ได้แฉลบคลาดเป้า แก้วทับกระดาษ ในถุงฟาดเข้าท้ายทอยกระเซิงจางเต็มรัก เสียง ‘ตึก’ ดึงทึบๆ กระเซิงจาง มือตก ข้างหนึง่ โชกเลือด อีกข้างสะอาด ถลาร่อนไปนอนซบแทบเท้าเพือ่ น เหมือนถุงเมล์ “เกิดห่ะอะไรกัน?” มิสเตอร์ซอฟต์ทีอุทานออกมาเสียงแหลมสูง อาจเป็นเพราะความตระหนกสุดขีดก็เป็นได้ ดึงเสียงของเขาไต่สู่ระดับ เทเนอร์แหลมสูง “ไม่รซู้ ”ี เคลย์ตอบ หัวใจเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ “ช่วยหน่อยเร็ว อีกคนเลือดออกมากเจียนตาย” จากทางด้านหลัง บนถนนนิวบิวรี เสียงชนปะทะ เสียงโลหะฉีกขาด ที่ไม่อาจฟังได้เป็นอื่น ตามติดด้วยเสียงกรีดร้อง เสียงกรีดร้องที่ตามหลัง ด้วยการระเบิด คราวนี้ดังหนักแน่นกว่า เสียงสะเทือนเลื่อนลั่นอัดอากาศ จนรู้สึกได้ ด้านหลังรถมิสเตอร์ซอฟต์ที รถยนต์อีกคันตัดข้ามสามเลนใน ถนนบอยล์สตัน พุ่งเข้าไปในลานโรงแรมโฟร์ ซีซันส์ ไถกวาดคนเดินเท้า ไปจ�ำนวนหนึ่ง ไถลเข้าชนท้ายคันหน้า ซึ่งจมูกปักคาอยู่ในบานหมุน แรงกระแทกอัดรถคันนั้นเป็นกองโลหะบิดเบี้ยว เคลย์มองไม่เห็นว่ามีผู้ติด อยูใ่ นซากนัน้ หรือไม่ ไอน�ำ้ ขาวขุน่ ฉีดออกจากหม้อน�ำ้ แตก แต่เสียงร้องกรีด โหยหวนจากเงาเลอะเลือนนั้นบ่งบอกว่าเลวร้าย เลวร้ายสิ้นดี 11


มิสเตอร์ซอฟต์ทีมองไม่เห็นด้านโน้น โผล่หน้าจากช่องหน้าต่าง เหลือกตามองเคลย์ “เกิดอะไรขึ้นที่โน่น?” “ไม่รู้ซี รถชนกัน คนเจ็บ ช่างเหอะ มาช่วยกันหน่อยได้ไหม?” เขาคุ ก เข่ า ลงข้ า งสาวมั่ น นอนจมกองเลื อ ด และเศษชิ้ น ส่ ว นมื อ ถื อ เปปเปอร์มินต์ สาวแพนต์สูทนอนบิดไปมา เชื่องช้าลงทุกขณะ “ควันลอยจากนิวบิวรี” มิสเตอร์ซอฟต์ทตี งั้ ข้อสังเกต ยังไม่ยอมผละ จากเกราะหนาของรถไอศกรีม “ดูเหมือนจะมีการระเบิด มหึมาทีเดียว น่าจะเป็นผู้ก่อการร้าย” ทันใดที่ค�ำพูดหลุดออกจากปาก เคลย์มั่นใจว่าเขาพูดถูก “ลงมา ช่วยกันหน่อย” “ฉันคือใคร?” กระเซิงจางกรีดร้องออกมา เคลย์ลืมเธอไปเสียสนิท เขาเงยหน้ามองสาวน้อยใช้ส้นมือกระแทก หน้าผากตัวเอง จากนั้น หมุนรอบตัวเร็วจี๋สามรอบ แทบจะหมุนวนบน ปลายเท้า ภาพนั้นชวนให้นึกถึงกวีนิพนธ์ที่อ่านเมื่อครั้งเรียนมหาวิทยาลัย วาดวงรอบตัวเขาสามรอบ โคลริดจ์ ไม่ใช่หรือ? ร่างของเธอซวนเซ เดิน เร่งเร็วด่วนไปบนทางเท้า เดินชนเสาไฟเต็มรัก เธอไม่มีท่าว่าจะเลี่ยงหลบ ไม่มแี ม้การยืน่ มือออกมาข้างหน้า เดินเอาหน้าชนเต็มแรง ร่างสะท้อนกลับ ซวนเซ และเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปชนใหม่ “เฮ้ย ไม่เอาน่า” เคลย์ตะโกน เขาผุดลุกขึน้ ยืน วิง่ ตรงไปหา ลืน่ เลือด ของสาวมั่นแทบล้มลง ก้าวเท้าออกวิ่งอีกครั้ง คราวนี้ สะดุดร่างของ กระเซิงจาง แทบล้มคว�่ำอีกครั้ง กระเซิงเข้มหันมามอง จมูกหัก เลือดอาบครึง่ ล่างของใบหน้า แนวเนือ้ ปูดโปนพาดดิ่งบนใบหน้า เบ่งพองขยายใหญ่เหมือนสายฟ้าในวันฤดูร้อน ตาข้างหนึง่ แทบหลุดออกจากเบ้า เธออ้าปาก เผยให้เห็นสิง่ ทีห่ ลงเหลือจาก ผลงานทันตกรรมแพงระยับ เธออ้าปากหัวเราะ เขาไม่มีวันลืมภาพนั้นได้ จากนั้น เธอร้องกรีด วิ่งจากไปบนทางเท้า ร้องกรีดสุดเสียง 12


ทางด้านหลัง เสียงเพลง เซซามี สตรีต และเสียงกรุง๋ กริง๋ ดังลัน่ เคลย์ หันมาเห็นรถมิสเตอร์ซอฟต์ทหี กั เลีย้ วออกจากโค้งในเวลาเดียวกับกระจกชัน้ บนสุดของโรงแรมอีกฟากหนึง่ ของถนนแตกกระจาย ส่งเศษแก้วโปรยปราย ลงมาเป็นสาย ร่างมนุษย์กระโดดออกมาจากช่องแตก ร่างร่วงหล่น ลงมากระทบพื้นทางเท้า แทบจะเรียกได้ว่าร่างระเบิดกระจายไปรอบข้าง เสียงกรีดร้องหวาดกลัวสุดขีด เสียงกรีดร้องแห่งความเจ็บปวด “ไม่!” เคลย์ตะโกน วิ่งไล่หลังรถไอศกรีม “ไม่, อย่าเพิ่งไป อยู่ ช่วยกันก่อน ฉันต้องการความช่วยเหลือ ไอ้...” ไม่มเี สียงตอบจากมิสเตอร์ซอฟต์ที เปิดเพลงดังอย่างนัน้ คงไม่ได้ยนิ เคลย์ยงั จ�ำได้ถอ้ ยค�ำจากยุคสมัยทีเ่ ขาไม่มเี หตุใดจะไม่เชือ่ ว่าชีวติ สมรสจะไม่ ยั่งยืนไปชั่วนิรันดร์ ในยุคโน้น จอห์นนีดู เซซามี สตรีต ทุกวัน มือก�ำ ถ้วยหัดดืม่ ...ค�ำกล่าวทีว่ า่ แสงอาทิตย์สอ่ งฉาย ขับไล่เมฆละลายหายไปสิน้ นักธุรกิจวิง่ ออกมาจากสวนสาธารณะ แผดเสียงร้องไม่เป็นภาษา ชาย เสื้อนอกปลิวไสว เคลย์จ�ำหน้าได้จากเคราแพะ ชายผู้นั้นวิ่งลงไปในถนน บอยล์สตัน รถยนต์หักหลบ หวิดจะแล่นทับ ชายผู้นั้นวิ่งข้ามไปอีกฝั่ง ปากตะโกนสุดเสียง สองมือโบกคว้าไขว่ท้องฟ้า ร่างหายไปในเงามืดของ ชายคาผ้าใบหน้าโรงแรมโฟร์ ซีซนั ส์ หายลับไปจากสายตา แต่กน็ า่ จะแยก เขี้ยวกัดในทันใด เพราะมีเสียงกรีดร้องระลอกใหม่ดังออกมาจากโรงแรม เคลย์ยุติการวิ่งไล่รถไอศกรีม เท้าข้างหนึ่งอยู่บนทางเท้า อีกข้างอยู่ ในทางระบายน�้ำ มองตามหลังรถมิสเตอร์ซอฟต์ทีแล่นเข้าเลนกลาง ยัง เปิดเพลงดังลั่น เขาตั้งท่าจะหันกลับมาช่วยเหลือสาวมั่นกับกระเซิงจาง ในตอนที่รถเป็ดโผล่มาให้เห็น ไม่ได้แล่นเอื่อยเชื่องช้าให้เวลานักท่องเที่ยว ชมภาพสองข้างทาง หากแต่เร่งเครือ่ งตะบึงโฉบไปทางซ้ายส่ายมาทางขวา นักท่องเทีย่ วส่วนหนึง่ กลิง้ หลุนมาข้างหน้า หมุนกลิง้ กลับไปข้างหลัง ร้อง โหยหวน วิงวอนคนขับให้หยุดรถ ทีเ่ หลือเกาะราวกัน้ ข้างรถสุดชีวติ เมือ่ รถ แล่นฝ่าการจราจรทางเดียวเข้ามาในถนนบอยล์สตัน 13


ชายร่างใหญ่สวมเสือ้ กีฬาคว้าจับคนขับจากทางด้านหลัง เคลย์ได้ยนิ เสียงค�ำรามป่าเถื่อนจากระบบขยายเสียงของรถเป็ดในขณะที่คนขับสลัด หลุดด้วยการปัดครัง้ เดียว เสียงค�ำรามไม่ใช่ ‘ราสต์’ หากแต่เป็น ‘กลูห!์ ’ ค�ำรามออกจากช่องท้อง จากนั้น คนขับรถเป็ดมองเห็นรถไอศกรีมของ มิสเตอร์ซอฟต์ที เคลย์มั่นใจในเรื่องนั้น เพราะคนขับหักรถวูบวาบ เล็ง ไว้กลางเป้า “โอ, พระเจ้าช่วย...อย่า!” เสียงสตรีนั่งแถวหน้ากรีดร้องออกมา สุดเสียง รถเป็ดพุง่ ดิง่ เข้าไปหารถมิสเตอร์ซอฟต์ที ขนาดเล็กกว่ารถเป็ดสัก หกเท่า เคลย์ยังจ�ำได้ ขบวนรถเป็ดแห่มาตามถนนสายกลาง เฉลิมฉลอง บอสตันเรดซอกส์ได้แชมป์โลกเบสบอล ผู้เล่นโบกมือให้ผู้ชมสองฟากข้าง ในขณะที่ขบวนรถเป็ดเคลื่อนเอื่อยไปม่านฝนฤดูใบไม้ร่วงโปรยปรอยฝอย ละออง “โอ, พระเจ้าช่วย...อย่า!” เสียงกรีดร้องซ�้ำ และจากข้างกายของ เคลย์ เสียงแทบจะเรียกได้ว่านุ่มหู “จีซัส ไครสต์” รถเป็ดชนเข้ากลางล�ำรถไอศกรีม ส่งรถพลิกหมุนเหมือนรถตุ๊กตา พลิกคว�ำ่ พลิกหงายหลายรอบ ระบบขยายเสียงยังส่งท�ำนองเซซามี สตรีต ต่อเนื่อง รถไอศกรีมครูดถนน ส่งประกายไฟแตกเปรียะ ไถลลื่นไปทาง บอสตันคอมมอน สตรีสองนางที่ยืนบนทางเท้า จับมือกันกระโดดหลบ ได้ทันท่วงที รถมิสเตอร์ซอฟต์ทีปะทะเข้ากับขอบทางเท้า รถลอยกลาง อากาศ ก่อนจะปะทะรั้วตาข่ายเหล็กของสวนสาธารณะ แน่นิ่งคาที่ ท�ำนองดนตรีสะอึกสองครั้งก่อนเสียงขาดหาย คนขับรถเป็ดเสียสติ ไม่อาจควบคุมรถได้อกี ต่อไปแล้ว รถหมุนคว้าง บนถนนบอยล์สตัน นักท่องเทีย่ วบนรถกรีดร้อง มือจับราวกัน้ ไว้แน่น รถเป็ด ไถลขึ้นทางเท้า ห่างจากจุดเดิมของรถไอศกรีมราวห้าสิบหลา หน้ารถ ปะทะก�ำแพงอิฐกัน้ หน้าต่างโชว์ของร้านเฟอร์นเิ จอร์หรูชอื่ ซิตไี ลต์ส เสียง รถปะทะกระจกไม่มที ำ� นองเพลงประกอบ เป็นแต่เพียงเสียงกระจกหน้าต่าง 14


แตกเกรียวกราว บัน้ ท้ายของรถเป็ดลอยสูงจากพืน้ สักห้าฟุต (อวดชือ่ ยาน เขียนด้วยอักษรสีชมพูวา่ ฮาร์เบอร์ มิสเทรสส์) โมเมนตัมอยากจะส่งรถให้ ตีลังกาพลิกคว�่ำ แต่มวลของยานหนักเกินกว่าจะม้วนตัวได้ รถเป็ดแน่นิ่ง บนทางเท้า จ่อปลายจมูกเข้าไปในร้าน แทรกระหว่างโซฟาและอาร์มแชร์ หรูหราราคาแพงระยับ หลังจากส่งนักท่องเที่ยวนับสิบคนลอยโด่งไปข้าง หน้า หลุดจากรถเป็ด หลุดจากคลองจักษุ ในร้านซิตีไลต์ส เสียงสัญญาณกันขโมยกรีดระรัว “จีซสั ไครสต์” เสียงทุม้ นุม่ หูดงั ซ�ำ้ อีกครัง้ ทางข้อศอกขวา เคลย์หนั มามองชายตัวเตี้ยผมบาง ผมด�ำหนวดด�ำ สวมแว่นตากรอบโลหะ “เกิด อะไรขึ้น?” “ไม่รู้เหมือนกัน” เคลย์ตอบ เสียงพูดเปล่งได้ล�ำบาก ยากยิ่ง เขา แทบจะต้องเค้นเสียงออกจากช่องท้อง น่าจะเป็นอาการช็อก อีกฟากหนึง่ ของถนน คนวิ่งกระเจิงออกมาจากโฟร์ ซีซันส์ บางส่วนหนีออกมาจาก รถเป็ด ในขณะที่เขาจับตามอง คนที่หนีออกจากรถเป็ดชนปะทะกับพวก หนีตายจากโฟร์ ซีซันส์ แขนขาก่ายกันเป็นกองบนทางเท้า เวลาระหว่าง ช่วงหอบหายใจนานพอทีเ่ ขาจะกังขาว่าเขาคงเสียสติไปแล้ว ภาพทีเ่ ห็นเป็น แต่เพียงประสาทหลอนในโรงพยาบาลบ้าที่ไหนสักแห่ง จูนิเปอร์ฮิลล์ใน แอตแลนตากระมัง ห้วงกลางระหว่างการบ�ำบัดด้วยยาฉีดธอราซีน “คน ขายไอติมบอกว่าอาจเป็นผู้ก่อการร้าย” “ไม่เห็นคนถือปืน” ชายร่างเตี้ยหนวดเฟิ้มสนองรับ “ไม่มีคนแบก แท่งระเบิดติดแผ่นหลังด้วย” เคลย์ไม่เห็นภาพนั้น แต่ก็มองเห็นถุงพลาสติกสมอลล์ เทรเชอร์ สีน�้ำตาล และกระเป๋าแฟ้มผลงานตัวอย่างบนทางเท้า มองเห็นเลือดไหล นองออกจากบาดแผลข้างล�ำคอของสาวมั่น โอ้, พระเจ้า เลือดจากไหน มากมายขนาดนั้น ไหลเกือบถึงกระเป๋า ภาพเขียนดาร์ก วันเดอเรอร์ เกือบทั้งหมดของเขาอยู่ในกระเป๋าใบนั้น สุดห่วงสุดหวงจะเป็นภาพเขียน 15


เขาเร่งฝีเท้าเดินกลับ ชายร่างเตีย้ ตามติด สัญญาณกันขโมยดังขึน้ ในโรงแรม ประสานเสียงกับเสียงแผดแหบห้าวของร้านซิตไี ลต์ส คนร่างเล็กสะดุง้ สุดตัว “จากโรงแรม” เคลย์บอก “ฉันรู้ แต่วา่ ...โอ, พระเจ้าช่วย” คนร่างเล็กเหลือบเห็นสาวมัน่ เจ้าของ แพนต์สูท นอนจมของเหลวที่เคยเป็นพลังขับเคลื่อนเรือนร่าง อะไรนะ? สี่นาทีที่ผ่านมา? หรือว่าสองนาที? “เธอตายแล้ว” เคลย์บอก “ผมแน่ใจว่าเธอตายไปแล้ว สาวคน นั้น...” เขาชี้มือไปยังกระเซิงจางนอนคว�่ำหน้าบนพื้น “เธอเป็นคนท�ำ... กัดคอ” “ล้อเล่นน่า” “อยากให้เป็นแค่นั้น” เสียงระเบิดดังจากปลายถนนบอยล์สตัน ทั้งสองหดหัว เคลย์ได้ กลิ่นควัน เขาหยิบถุงพลาสติกสีนำ�้ ตาลกับแฟ้มกระเป๋าผลงานให้พ้นจาก เลือดเนืองนอง “ของผมเอง” เขาอดสงสัยเหมือนกันว่าท�ำไมต้องอธิบาย ขยายความด้วย ชายร่างเล็กสวมเสื้อนอกขนสัตว์ มาดคมเฉียบ ยังคงเหม่อมอง เบิกตาโพลงมองร่างกองเป็นก้อนเนื้อของสตรีที่แวะหยุดซื้อซันเดสักถ้วย เธอสูญหมา ถัดมาเสียชีวิต ทางด้านหลัง หนุ่มสามคนวิ่งมาบนทางเท้า หัวเราะโห่รอ้ ง สองคนมีหมวกแก๊ปเรดซ็อกส์ ปัดปีกหมวกกลับหลัง หนึง่ นั้นมีกล่องกระดาษกอดไว้แนบอก ตัวอักษร Panasonic สีนำ�้ เงินข้าง กล่อง คนนี้เหยียบกองเลือดของสาวมั่นด้วยรองเท้าผ้าใบข้างขวา ทิ้ง รอยเลือดเท้าเดียวเป็นทางขณะที่เขากับเพื่อนวิ่งมุ่งหน้าไปยังปลายสวน คอมมอนและไชนาทาวน์

16


3

เคลย์คุกเข่าข้างเดียวลง มือข้างที่ไม่ถือแฟ้มผลงาน (กลัวหายยิ่งขึ้น เมื่อเห็นชายหนุ่มหอบกล่องพานาโซนิก) แตะที่ข้อมือของกระเซิงจาง ปลายนิ้วรับชีพจรเต้นตุบ เชื่องช้า แต่เข้มและสม�่ำเสมอ เขาถอนหายใจ โล่งอก ไม่ว่าเธอจะท�ำอะไรลงไปแล้ว เธอก็เป็นแค่สาวรุ่น เขาไม่อยาก คิดว่าเขาทุบกะโหลกเธอด้วยแก้วทับกระดาษของขวัญที่จะซื้อไปให้ภรรยา “ระวัง...ระวัง” เสียงชายร่างเตีย้ แทบจะเป็นท�ำนองเสนาะ เคลย์ไม่มี เวลาพอจะระวังตัว โชคดีที่เกิดเรื่องไม่ใกล้นัก ยานบก รถอเนกประสงค์ คั น มหึ ม า ลู ก ค้ า ชั้ น ดี ข องโอเปก หั ก เลี้ ย วออกจากถนน เข้ า ไปใน สวนสาธารณะ เสยรั้วโลหะหล่อ กวาดพังราบ ไปสิ้นฤทธิ์หักปักลงใน สระน�้ำ ประตูรถเปิด ชายหนุ่มคลานออกจากรถ โบกมือขวักไขว่ขึ้นฟ้า ปากอ้าร้องไม่เป็นภาษา สองมือกอบน�้ำในสระเข้าปาก (เคลย์คอย่น เมื่อนึกถึงนกเป็ดน�้ำฝูงใหญ่เบ่งขี้เปี่ยมสุขลงในน�้ำนานหลายปี) ดันตัวลุก ขึ้นยืน เดินลุยน�้ำไปอีกฝั่ง ร่างหายลับเข้าไปในแนวไม้ มือยังโบกขวักไขว่ ปากอ้าเทศน์ไร้สาระ “เราต้ อ งตามคนมาช่ ว ยเธอ” เคลย์ หั น ไปบอกชายปากหนวด “หมดสติ แต่ยังไม่ตายง่ายๆ” “ที่เราต้องท�ำ น่าจะหนีไปให้พ้นถนนก่อนรถจะแล่นมาทับ” ชาย ร่างเตี้ยตอบ ประหนึ่งจะยืนยันค�ำตอบ แท็กซี่พุ่งชนประสานงากับลิมูซีน ไม่หา่ งจากบัน้ ท้ายรถเป็ดเท่าใดนัก ลิมซู นี เดินรถผิดทาง แต่แท็กซีย่ บั เยิน เคลย์เงยหน้ามองจากท่าคุกเข่าบนทางเท้า คนขับแท็กซี่ลอยโด่งทะลุ กระจกหน้า ร่างหล่นฟาดลงบนพื้นถนน ลุกขึ้นได้ มือกอดท่อนแขน 17


โชกเลือด ร้องกรีด ชายปากหนวดพูดถูก แน่อยู่แล้ว พูดจาสมเหตุสมผล เขาเองก็คิด เช่นนั้น แต่ภาพพิลึกท�ำให้ตะลึงจนความคิดไม่แล่น เพียงแค่ค�ำเสนอแนะ เข้าท่า ปลุกเขาให้สะดุง้ ตืน่ ทางเลือกดีทสี่ ดุ คือ หนีออกจากถนนบอยล์สตัน หลบเข้าไปในที่ปลอดภัย ถ้าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการก่อการร้าย เขา ไม่เคยอ่านผ่านตาหรือได้ยินมาก่อน สิ่งที่ต้องท� ำ จะเป็นการหลบให้ พ้นภัยจนกว่าเรือ่ งราวจะยุติ แต่เขาก็ไม่อยากทิง้ สาวน้อยสิน้ สติบนท้องถนน ทีก่ ลายเป็นโรงพยาบาลบ้าไปแล้ว ทุกสัญชาตญาตในหัวใจเปีย่ มเมตตาและ อารยะ ประท้วงเซ็งแซ่ “ไปก่อนเหอะ” เคลย์บอกชายเตีย้ หนวดเฟิม้ ไม่เต็มเสียงนัก เขาไม่รู้ จักชายผู้นี้ แต่อย่างน้อยที่สุด ก็ไม่พล่ามส่งเสียงไร้สาระ โบกมือขวักไขว่ สูท่ อ้ งฟ้า หรืออ้าปากสยายฟันพร้อมกัดงับ “หาทีห่ ลบในอาคารทีไ่ หนสัก แห่ง ผมจะ...” เขาไม่รู้ว่าจะจบประโยคอย่างไร “จะท�ำอะไร?” ชายหนวดถาม ไหล่ห่อวูบ คิ้วกระตุกเมื่อมีเสียง ระเบิดเลื่อนลั่น ควันด�ำลอยม้วนเป็นสายจากด้านหลังโรงแรม บดบังฟ้า ใสก่อนจะลอยสูงขึ้นต้องลมพัดกระจาย “จะโทรฯ แจ้งต�ำรวจ” เคลย์เพิง่ นึกขึน้ มาได้ “...เธอมีมอื ถือ” เขา กระดกนิว้ หัวแม่มอื ไปทางสาวมัน่ นอนตายจมกองเลือดของตนเอง “เธอ ใช้ก่อน...ก็ก่อนจะเกิดเรื่องเชี่ย...” เสียงของเขาขาดหาย ล�ำดับทบทวนเรื่องแต่ละขั้นตอนโดยละเอียด ก่อนอุจจาระปะทะพัดลม สายตาของเขาเคลือ่ นจากสาวมัน่ ไปยังกระเซิงจาง ไม่ได้สติ เจ้าของมือถือสีเปปเปอร์มินต์ เสียงไซเรนสูงต�่ำสองเสียงดังแหวกอากาศ เคลย์คิดว่าไซเรนหนึ่งน่า จะเป็นต�ำรวจ อีกหนึ่งคงเป็นรถดับเพลิง ก็น่าจะบอกได้ถ้าเป็นคนเมือง มหานครใหญ่ แต่เขาแยกแยะไม่ได้ เขาอยูใ่ นเมืองเคนต์ พอนด์, มลรัฐเมน หัวใจแทบขาดอยากกลับไปอยู่ที่นั่นในเวลานี้ 18


เรื่องที่เกิดขึ้นตอนอุจจาระปะทะพัดลม สาวมั่นโทรฯ หาเพื่อน ชื่อแมดดี บอกไปว่าเธอท�ำผมใหม่ กระเซิงจางรับโทรศัพท์ จากเพื่อน กระเซิงเข้มเอียงหูมาร่วมรับฟัง...หลังจากนั้น สามสาวเป็นบ้าเสียสติ! อย่าบอกนะว่า... ทางด้านหลังทิศตะวันออก เสียงระเบิดสะเทือนเลือ่ นลัน่ กว่าทุกคราว เสียงปืนลูกซองแผดกระหน�่ำ เคลย์กระโดดลุกขึ้นยืน เขากับชายร่าเตี้ย หันมามองตากัน จากนั้น เบือนหน้าไปทางเหนือ ทิศที่ตั้งไชนาทาวน์ ทั้งสองมองไม่เห็นการระเบิด มีแต่เพียงพวยควันหนาทึบทะลักขึ้นที่ ขอบฟ้าเหนืออาคาร ระหว่างที่สองคนมองไปตามต้นเสียง รถต�ำรวจและรถดับเพลิงแล่น มาจอดหน้าโรงแรมโฟร์ ซีซนั ส์ เคลย์มองไปทางนัน้ เห็นคนร่อนรายทีส่ อง และอีกสองคนกระโดดตามมาจากดาดฟ้าโรงแรม เท่าทีม่ องเห็น ดูเหมือน ว่าสองคนหลังจะวุ่นอยู่กับการต่อสู้กัน ตลอดทางตกลงสู่พื้น “จีซสั แมรีกบั โจเซฟ ไม่นะ!” สตรีกรีดร้องสุดเสียงจนเสียงแตกพร่า “ไม่...ไม่เอาแล้ว ไม่เอาแล้ว” คนแรกของสามเกลอฆ่าตัวตายตกกระทบกระโปรงท้ายรถต�ำรวจ อาบฝากระโปรงด้วยเส้นผมและเลือดเนือ้ เครือ่ งใน กระจกหลังแตกเปรียะ สองคนหลังตกใส่ตะขอและบันไดในขณะทีน่ กั ดับเพลิงสวมเสือ้ โค้ตเรืองแสง สีเหลืองหนีกระเจิงไปคนยละทิศละทาง “ไม่...” สตรีกรีดร้อง “ไม่เอาแล้ว ไม่เอาแล้ว พระเจ้า ไม่เอาแล้ว” แต่รา่ งสตรีกร็ ว่ งหล่นจากชัน้ ห้าหรือหก หมุนควงเหมือนนักกายกรรม ตกลงทับต�ำรวจที่แหงนหน้ามอง ฆ่าต�ำรวจตายดับพร้อมกับฆ่าตัวเอง จากทิศเหนือเสียงปึงปังดังต่อเนื่อง เหมือนเสียงปิศาจกระหน�่ำยิง ปืนลูกซองในนรก อีกครั้งที่เคลย์หันไปหาชายร่างเตี้ย ผู้เงยหน้ามองตา เขา พวยควันด�ำทะลักขึ้นท้องฟ้า แม้จะมีลมพัดจัด ดูเหมือนว่าท้องฟ้า ในละแวกนั้นจะถูกควันด�ำบดบังไปสิ้น 19


“พวกมันใช้เครือ่ งบินอีกแล้ว” ชายร่างเล็กหันมาบอก “ไอ้เลวพวกนัน้ ใช้เครื่องบินอีกแล้ว” ประหนึ่งว่าจะสนองรับ เสียงระเบิดตูมตามครั้งที่สามสะเทือนมาถึง ต้นเสียงทางตะวันออกเฉียงเหนือ “แต่ทางโน้นเป็นโลแกนนี่นา” อีกครั้งที่เคลย์แทบจะพูดไม่ออก แม้แต่จะใช้ความคิดก็แสนยากเย็น ความคิดเดียวทีห่ ลงเหลืออยูใ่ นหัว จะ เป็นแต่เพียงตลกร้าย นี่ เคยได้ยนิ เรือ่ งผูก้ อ่ การร้าย (เติมเผ่าพันธุเ์ ชือ้ ชาติ เข้าไปในช่องนี้) ตัดสินใจสั่งสอนอเมริกาให้คุกเข่าจ�ำนนด้วยการระเบิด สนามบินไหม? “แล้วไง?” ชายร่างเล็กย้อนถาม น�้ำเสียงแทบจะท้ารบ “ท�ำไมไม่เลือกพุ่งชนตึกแฮนค็อกหรือพรูเดนเชียล?” หัวไหล่ของชายร่างเล็กห่อเหี่ยว “ไม่รู้ซี รู้เพียงอย่างเดียวว่าเราน่า จะหลบไปให้พ้นจากถนน” ประหนึ่งว่าจะยืนยันค�ำพูดอีกครั้ง คนหนุ่มสาวเกือบครึ่งโหลวิ่งผ่าน หน้า บอสตันเป็นเมืองคนหนุม่ สาว เคลย์ตงั้ ข้อสังเกต เมืองมหาวิทยาลัย นีน่ า สามหนุม่ สามสาววิง่ กระเจิง ไม่มขี า้ วของติดมือ แต่กไ็ ม่มเี สียงหัวร่อ ต่อกระซิก ในระหว่างก้าววิง่ หนุม่ คนหนึง่ ดึงมือถือออกจากกระเป๋า เสียบ แปะติดหู รถสายตรวจขาวด�ำอีกคันวิ่งมาซ้อนหลัง ไม่จ�ำเป็นต้องใช้มือถือของ สาวมั่น (ซึ่งก็เป็นเรื่องดี เพราะเขาไม่แน่ใจว่าอยากท�ำเช่นนั้น) เพียงแค่ เดินข้ามถนน ไปบอกเล่าเรื่องราวให้ต�ำรวจได้ทราบ...แต่ว่า เขาไม่อยาก เดินข้ามถนนบอยล์สตันในตอนนี้ ถึงจะเดินข้ามไปบอก ต�ำรวจจะเดิน ข้ามถนนกลับมาที่นี่เพื่อดูอาการสาวน้อยหมดสติเชียวหรือ? ในเมื่อมีผู้ ได้รบั บาดเจ็บจ�ำนวนนับไม่ถว้ น ในระหว่างทีเ่ ขามองอยู่ พนักงานดับเพลิง เก็บตะขอบันได ดูเหมือนว่าเตรียมจะเคลือ่ นย้ายไปทีอ่ นื่ อาจเป็นสนามบิน โลแกน หรือว่า... 20


“โอ, พระเจ้าช่วย ระวังตัวนั้น” ชายร่างเตี้ยครางออกมา สายตา มองไปทางตะวันตก ทางทิศกลางเมือง ทิศทางทีเ่ คลย์เพิง่ เดินจากมา ใน ห้วงเวลานั้น เรื่องส�ำคัญที่สุดในชีวิต มีเพียงการบอกเล่าเรื่องงดงามให้ชา รอนฟังทางโทรศัพท์ เขารู้ดีว่าเขาคงเริ่มเปิดฉากอย่างไร ข่าวดีจ้ะ, ที่รัก ไม่ว่าเราสองคนจะออกหัวหรือก้อย อย่างน้อย ลูกของเราก็จะมีรองเท้า สวมใส่ แม้แต่ภาพในหัวก็เป็นเรื่องตลกเบาสมอง เหมือนวันวารนานแสน นานมาแล้ว แต่ภาพที่เห็นไม่เฉียดใกล้ความตลก เดินตรงมาหา ไม่วิ่ง แต่เดิน สืบเท้าเต็มก้าว ชายอายุราวห้าสิบ สวมสูท เสื้อเชิ้ตและเน็กไทรุ่งริ่ง กางเกงสีเทา แต่เสื้อเชิ้ตและเน็กไทระบุสีไม่ได้แล้ว ขาดเป็นริ้ว อาบด้วย คราบเลือด ในมือขวา ชายผู้นั้นถือมีดแล่เนื้อสิบแปดนิ้ว เคลย์คิดว่าเขา เคยเห็นมีดเล่มนีม้ าแล้ว มีดในหน้าต่างหน้าร้านโซล คิตเช่น กลางเส้นทาง มุง่ หน้ามายังโรงแรมโคปลีย์ สแควร์ มีดจัดเรียงเป็นแถว (เหล็กกล้าสวีเดน! ใบบอกประกาศชัด) ใบมีดสะท้อนแสงส่องวาววาม แต่ทว่า มีดเล่มนีผ้ า่ น การใช้งานอย่างหนัก เลือดเกรอะจนไม่เห็นเนื้อโลหะ ชายผู้นั้นกวัดแกว่งมีดหั่นสับ เท้าเดินเชื่องช้า วาดมีดกรีดเป็นวง รอบตัว ท�ำนองเพลงมีดเปลี่ยนรูปแบบเพียงครั้งเดียวเมื่อใบมีดหันคมกรีด หน้าอกตนเอง เลือดพุ่งกระฉูดเป็นเส้นเรียวเล็กอาบอกเสื้อเชิ้ต ริ้วเน็ก ไทที่เหลืออยู่พลิ้วไหว เมื่อเดินเข้ามาใกล้ ชายผู้นั้นส่งเสียงงึมง�ำเหมือน นักเทศน์หลังเขา ร่ายพระเวทย์ สอนสั่งค�ำตรัสของพระผู้เป็นเจ้า “อายลาห์!” เสียงกรีดร้องในล�ำคอ “ดีลาห์-อายลาห์ อะ บาบบา ลาห์ นาซ! อะ บาบบาลาห์ วาย? อะ บานนาลู คอย? คาซซาลาห์! คาซซาลาห์ แคน ฟี ชาย ฟี!” ใบมีดจ้วงปักที่หน้าท้องทางขวา ใบ มีดจมหาย และเคลย์ ผูท้ สี่ ำ� นึกแห่งการวาดภาพ พัฒนาเกินขีดพิกดั พอ จะมองเห็นการกรีดเคลื่อนล�ำดับถัดไป การกรีดเปิดหน้าท้อง ส่งล�ำไส้ เครื่องในให้ไหลทะลักแม้สองเท้าจะก้าวเดินราบเรียบ มุ่งหน้าต่อไปไร้ 21


จุดหมายใต้ท้องฟ้ายามบ่ายเดือนตุลาคม “ระวัง!” ชายร่างเล็กหนวดเฟิ้มกรีดร้อง แต่ตัวเองไม่ได้ระวังตัว ชายร่างเล็กสวมแว่นกรอบโลหะ คนปกติ คนเดียวที่เคลย์ ริดเดิลพูดคุย ด้วยหลังจากเกิดเรื่องบ้าคลั่งเสียสติ การส่งเสียงเตือน น่าจะต้องใช้ความ กล้าหาญมากโข เสียงร้องเตือนที่ท�ำให้ไอ้บ้าถือมีดหันมาหา และเลือก เป้าใหม่ เลือกชายร่างเล็กเพราะเป็นเหยื่ออ่อนแอกว่า? หากเป็นเช่นนั้น ไอ้หมอนั้นอาจไม่ถึงกับเสียสติจนเลอะเลือน เคลย์ทั้งกลัวทั้งโกรธ โกรธ เหมือนในยามที่มองผ่านรั้วตาข่ายเข้าไปในลานโรงเรียน มองเห็นไอ้ยักษ์ ตั้งท่ารังแกข่มเหงเด็กที่ตัวเล็กกว่า “ระวัง!” ชายร่างเล็กกรีดร้องออกมาสุดเสียง แต่ร่างแข็งค้างเมื่อ ความตายเคลือ่ นเข้ามาใกล้ ความตายทีห่ ยิบมาจากชัน้ วางของในหน้าต่าง ร้านโซล คิตเช่น ทีซ่ งึ่ ยินดีรบั บัตรไดเนอร์’สกับวีซา และเช็คส่วนตัว หาก มีหลักฐานธนาคารยื่นประกอบ เคลย์ไม่คดิ มือก�ำรอบทีจ่ บั ของกระเป๋าผลงาน ตวัดกระเป๋าเข้าขวาง ระหว่างใบมีดเสือกทิม่ กับเพือ่ นใหม่ทเี่ พิง่ รูจ้ กั มีดเสียบกระเป๋าดังฉึก ทะลุ ผ่าน แต่ก็ยังห่างจากหน้าท้องของชายหนวดเฟิ้มสักสี่นิ้ว ชายเจ้าของเสื้อเชิ้ตและเน็กไทรุ่งริ่ง คอแข็งกรามค้าง ประหนึ่งว่า หลักโภชนาการชั้นดีและการออกก�ำลังกายเสียสมดุลไปก่อนหน้านี้สองปี สะบัน้ อาการพล่ามงึมง�ำไร้สาระอย่างกะทันหัน ใบหน้าคล้ายแตกตืน่ งุนงง ประหลาดใจ เกือบถึงขั้นพิศวง สิ่งที่เคลย์รู้สึก น่าจะเป็นสปีชีส์แห่งความเดือดดาลมหึมา ใบมีด เสียบผ่านรูปภาพดาร์ก วันเดอเรอร์ (ในความคิดของเขา ไม่ถือเป็นลาย เส้นหรือภาพร่าง หากแต่เป็นรูปภาพสถานเดียว) เสียง ‘ฉึก’ ที่ว่า ไม่ ต่างไปจากใบมีดเสียบปักเข้าห้องหัวใจสุดพิเศษในตัว ความคิดโง่เง่าโดยแท้ เพราะเขาถ่ายส�ำเนาทุกแผ่นทุกรูปภาพไว้แล้ว รวมทั้งแผ่นหน้าสี แต่นั่น ก็ไม่ได้เปลี่ยนความรู้สึกในอกไปได้ มีดของชายเสียสติเสียบทะลุร่างของ 22


พ่อมดจอห์น (แน่อยู่แล้ว ตั้งชื่อตามลูกชาย) ผู้วิเศษแฟล็ก, แฟรงก์กับ พอสซี บอยส์, สลีปปี จีน, พอยซัน แซลลี, ลิลี แอสโทเล็ต, แม่มดบลู และแน่นอน เรย์ เดมอน ‘เดอะ ดาร์ก วันเดอเรอร์’ ผู้นั้น ตัวละคร มหัศจรรย์ ถือก�ำเนิดขึ้นในถ�้ำแห่งจินตนาการในอกของเขา พร้อมจะ กรีธาทัพออกมาเพื่อปลดปล่อยให้เขาเป็นไท หลุดพ้นจากงานสอนศิลปะ น่าเบื่อในโรงเรียนชนบทหลายแห่งในมลรัฐเมน ขับรถหลายพันไมล์ต่อ เดือน แทบถึงขั้นกินอยู่หลับนอนในรถยนต์ เขาแทบจะสาบานได้ว่าได้ยินเสียงครวญครางของเหล่าตัวละครที่ถูก มีดสวีเดนเสียบอก ปลุกให้ตื่นจากห้วงหลับใหลไร้เดียงสา เดือดจัด ไม่สนใจใบมีดอีกต่อไปแล้ว (อย่างน้อยอยูใ่ นเสีย้ ววินาทีนนั้ ) เขารุกคืบออกแรงดันชายสวมเสื้อรุ่งริ่งให้เดินถอยหลัง ใช้แฟ้มตัวอย่าง ผลงานแทนโล่ โกรธแค้นยิ่งขึ้นเมื่อโล่หักงอเป็นตัว V สองฟากข้างของ ใบมีด “เบล็ต!...”ชายสวมเสื้อรุ่งริ่งแผดร้อง พยายามดึงมีดออกจากโล่ ใบ มีดตรึงแน่นเกินว่าจะดึงหลุดออกได้ “เบล็ต คาย ยัม โดรัม คาซซา ลาห์ อะ บาบบาลาห์!” “ฉันจะบาบบาลาห์ ตุม้ คาซซาลาห์ของแก ไอ้เชีย่ ” เคลย์ตะโกนลัน่ เท้าซ้ายเตะกวาดขาพับไอ้บา้ ความคิดผุดวาบในใจในภายหลังว่า ร่างกาย ของคนเรารู้ได้เมื่อถึงคราวต้องสู้ นั่นเป็นความลับที่ซ่อนอยู่ในร่างกาย เหมือนความลับแฝงซ่อนรูว้ ธิ วี งิ่ กระโดดข้ามล�ำธาร หรือว่าแอ่นเอวแทงทิม่ หรือไม่ เป็นไปได้มากทีเดียว...สิน้ ลมหายใจ หากไม่มที างเลือกสายอืน่ ใน ภาวการณ์คับขันสุดขั้ว พลังลับในตัวถลันเข้ามาบัญชาการ ลงมือในสิ่งที่ จ�ำเป็นต้องกระท�ำ ปล่อยให้สมองไปยืนรับชมอยูด่ า้ นข้าง เหม่อมองท้องฟ้า ผิวปาก เคาะปลายเท้าไปตามเรื่อง หากจะท�ำงานเสียบ้าง ก็คงทุ่มความ คิดพินิจตรึกตรอง แปลความหมายใบมีดแทงผ่านแฟ้มกระเป๋าตัวอย่าง ผลงานที่ภรรยามอบให้เป็นของขวัญวันเกิดปีที่ยี่สิบแปด 23


ไอ้บ้าล้มคว�่ำลงตามค�ำสั่งของร่างกายสุดแสนจะชาญฉลาดยื่นค�ำขาด ให้ ร่างล้มลงนอนบนทางเท้า เคลย์ยืนคร่อมร่าง หอบหายใจ แฟ้ม กระเป๋าในสองมือ บิดงอเหมือนโล่ยบั เยินผ่านสงครามโชกโชน มีดแล่เนื้อ ยังปักคาค้าง ด้ามอยู่ฟากหนึ่ง ปลายมีดโผล่อีกด้าน ชายเสียสติพยายามลุกขึ้น เพื่อนใหม่ของเคลย์ปรี่เข้ามา เตะเข้า ก้านคอเต็มรัก ชายร่างเล็กร�่ำไห้สะอึกสะอื้น น�้ำตาไหลอาบสองข้างแก้ม จนเลนส์แว่นตาฝ้ามัว ไอ้บ้าล้มหงายนอนบนทางเท้า ลิ้นห้อยที่มุมปาก ปล่อยเสียงงึมง�ำพล่ามไร้สาระไหลผ่านลิ้นออกมา “มันพยายามจะฆ่าเรา” ชายร่างเล็กร้องไห้กระซิก “มันพยายาม ฆ่าเรา” “เยส เยส” เคลย์ตอบรับ เขาเพิง่ นึกได้วา่ เขาตอบรับจอห์นนีดว้ ย ค�ำเดียวกัน เมือ่ ครัง้ ทีย่ งั เรียกหนูนอ้ ยว่าจอห์นนี จี ลูกชายวิง่ เข้ามาในบ้าน จากลานหน้าบ้าน หัวเข่าและข้อศอกเลือดซิบ...เลือดออก เลือดออกน่ะ, พ่อ ชายบนทางเท้า (ผู้มีเลือดอาบท่วมร่าง) ใช้ข้อศอกยันตัวลุกขึ้นนั่ง คราวนี้เคลย์เป็นผู้รับเกียรติ เตะกวาดข้อศอก ส่งร่างนั้นนอนราบลงไป อีกครัง้ การเตะคราวนีด้ คู ล้ายหนทางแก้ปญ ั หาส�ำรอง ค่อนข้างหย�ำเหยอะ เสียด้วย เคลย์กำ� ด้ามมีด หน้านิว่ เพราะมือจับเมือกเลือดเต็มด้าม เหมือน ถูฝ่ามือด้วยเมือกไขสัตว์ ออกแรงดึง มีดเลื่อนออกมาเล็กน้อย หากไม่ ยอมขยับต่อ ก็คงเป็นเพราะมือลืน่ เกินกว่าจะจับได้มนั่ เขารูส้ กึ คล้ายได้ยนิ เสียงบ่นงึมง�ำจากตัวละครในแฟ้ม ตัวเขาเองก็ส่งเสียงในล�ำคอเช่นกัน จะ ห้ามส่งเสียงก็ท�ำไม่ได้ เขาสงสัยอยู่เหมือนกันว่าถ้าดึงมีดออกมาได้ จะท�ำ อะไรต่อดี จะเสียบไอ้บา้ ให้ตาย? ถ้าเป็นเมือ่ เสีย้ ววินาทีกอ่ นจนเลือดเข้าตา โกรธจัด อาจท�ำได้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ “เป็นอะไรไปหรอ?” เสียงทุ้มดังข้างหู แม้ตกอยู่ในห้วงทุกข์เศร้า เขายังสะเทือนใจไปกับความห่วงใยในน�้ำเสียง “มันท�ำอะไรคุณหรือเปล่า? 24


คุณเข้าขวางมัน ฉันมองไม่เห็น มันท�ำอะไรคุณหรือเปล่า? มีแผลไหม?” “ไม่” เคลย์คอบ “ไม่เป็นไ...” เสียงระเบิดกึกก้องอีกครั้งจากทางเหนือ น่าจะเป็นสนามบินโลแกน อีกฟากหนึ่งของอ่าวบอสตัน ทั้งสองห่อตัว นิ่วหน้า ไอ้บา้ ถือโอกาสลุกขึน้ นัง่ พยายามยันตัวลุกขึน้ ยืน ชายร่างเล็กในเสือ้ สูทขนสัตว์ถีบงุ่มง่ามแต่ทรงประสิทธิภาพยิ่งเข้าเน็กไทรุ่งริ่ง ร่างหงายผลึ่ง ลงไปนอนบนทางเท้าอีกครั้ง ไอ้บ้าค�ำรามลั่น มือคว้าข้อเท้า จะลากดึง เข้ากอดรัดจนกระดูกหัก เคลย์ดึงหัวไหล่ได้ทัน ดึงร่างเล็กออกมา “มันดึงรองเท้าไปแล้ว” ชายร่างเล็กกรีดร้อง เยือ้ งไปข้างหลังรถยนต์ อีกสองคันชนกันสนั่น เสียงสัญญาณดังลั่น สัญญาณกันขโมยรถยนต์ ไซเรนรถดับเพลิง สัญญาณกันขโมยจากร้านค้า ไซเรนหวีดหวิวดังมาแต่ ไกล “ไอ้ชั่ว มันเอารองเท้าไปแล้...” ต�ำรวจโผล่หน้ามาให้เห็น น่าจะเป็นสายตรวจรับแจ้งเหตุจากถนน ฝั่งตรงข้าม ต�ำรวจคุกเข่าลงข้างไอ้บ้า เคลย์แทบจะรักต�ำรวจขึ้นมา กะทันหัน ต�ำรวจใช้เวลานานโขกว่าจะมาถึง แต่ก็มาใส่ใจดูแล “ระวังไอ้นั่นหน่อย” ชายร่างเล็กกล่าวบอกเสียงหวาดผวา “มัน...” “รูแ้ ล้วว่าเป็นอะไร” ต�ำรวจตอบ เคลย์มองเห็นปืนออโตเมติกในมือ ต�ำรวจ เขาไม่ทราบว่าต�ำรวจจะชักปืนออกจากซองได้ในท่านั่ง เอ, หรือ ว่าดึงปืนออกมาถือไว้ก่อน? เคลย์มัวแต่เป็นปลื้มจนลืมสังเกต ต�ำรวจเพ่งจ้องหน้าไอ้บา้ โน้มตัวเข้าไปหา แทบจะยืน่ ตัวใส่พานถวาย ให้มัน “ไง, เพื่อน เป็นไงบ้าง?” เขากระซิบถาม “หมายความว่า เกิดอะไรล่ะ?” ไอ้บ้าโผเข้าหาต�ำรวจ มือคว้าก�ำล�ำคอ วินาทีเดียวกัน ต�ำรวจจ่อ ปากกระบอกปืนเข้าที่ขมับ บีบไก ฝอยเลือดหว่านโปรยจากผมสีดอกเลา ทางฟากตรงข้าม ร่างหงายผลึ่งบนทางเท้า แขนสองข้างชูสูงคล้ายปั้นท่า แสดง...แม่จ๋า ดูนี่ หนูตายแล้ว 25


เคลย์หันไปมองตาชายร่างเล็กหนวดเฟิ้ม ชายร่างเล็กหนวดเฟิ้มมอง ตาเขา จากนั้นทั้งสองหันไปมองต�ำรวจผู้เพิ่งสอดปืนลงซองข้างเอว และ ล้วงกระเป๋าเสื้อหยิบซองหนังออกมา เคลย์ดีใจที่เห็นมือข้างนั้นสั่นระริก เขากลัวต�ำรวจนายนี้ แต่จะยิ่งกลัวหงิกถ้ามือของต�ำรวจไม่สั่น เรื่องที่เกิด ขึ้นต่อหน้าต่อตามิใช่เหตุการณ์หนึ่งเดียว เสียงปืนดูเหมือนจะช่วยให้การ ได้ยินของเคลย์ดีขึ้น คล้ายจะจัดเรียงวงจรเสียใหม่ บัดนี้ เขาได้ยินเสียง ปืนเปรี้ยงปร้าง ที่โน่นบ้างที่นี่บ้าง ดังประสานเสียงกันเซ็งแซ่ ต�ำรวจหยิบนามบัตรออกจากซองหนัง เก็บซองคืนกลับเข้ากระเป๋า สองนิ้วมือซ้ายคีบนามบัตรในขณะที่มือขวาเลื่อนไปกุมด้ามปืนพกที่ซอง ข้างเอว ใกล้รองเท้าหนังขัดขึ้นมันวาววับ เลือดจากกะโหลกเปิดอ้าของ ชายเสียสติไหลนองเป็นกอง ห่างไปไม่ไกลนัก เป็นหย่อมเลือดอีกกองของ สาวแพนต์สูท ขณะนี้จับแข็งตัว กลายเป็นสีแดงคล�้ำ “ชื่อของท่านครับผม?” ต�ำรวจสอบถาม “เคลย์ตัน ริดเดลล์” “บอกชื่อประธานาธิบดี” เคลย์แจ้งชื่อให้ทราบ “ท่านครับ วันนี้วันอะไร?” “วันแรกของเดือนตุลาคม คุณรู้ไหมว่าเกิด...” ต�ำรวจหันไปหาชายร่างเล็ก “ชื่อของท่าน?” “ฉันชื่อทอมัส แม็กคอร์ต ที่อยู่ 140 ถนนเซเล็ม เมืองมัลเด็น ฉัน...” “บอกได้ว่าใครลงชิงต�ำแหน่งประธานาธิบดีคราวที่ผ่านมา?” ทอม แม็กคอร์ตแจ้งให้ทราบ “แบรด พิตต์แต่งงานกับใคร?” แม็กคอร์ตโบกสองมือขึ้นสูง “จะไปรู้มันเรอะ ดาราสักคนกระมัง” “ได้เลย” ต�ำรวจยืน่ นามบัตรทีค่ บี อยูใ่ นซอกนิว้ ให้เคลย์ “อัลทริช 26


แอชแลนด์ นี่นามบัตรของผม ท่านอาจได้รับหมายศาลเรียกตัวไปให้การ บอกเล่าเรือ่ งราวทีเ่ กิดขึน้ ในวันนี,้ ท่านสุภาพบุรษุ เรือ่ งทีเ่ กิดขึน้ คือ ท่าน ต้องการความช่วยเหลือ ผมเข้ามาช่วย ผมถูกจูโ่ จมท�ำร้าย ผมตอบสนอง” “คุณอยากฆ่ามันอยู่แล้ว” เคลย์กล่าว “ใช่, ครับผม เราช่วยให้พวกมันพ้นทุกข์ทรมานเร็วที่สุดเท่าที่จะ ท�ำได้” ต�ำรวจแอชแลนด์เห็นพ้อง “หากท่านให้การต่อศาลหรือคณะ กรรมการไต่สวน ผมจะปฏิเสธว่าไม่ได้พูด แต่จำ� เป็นต้องท�ำ คนพวกนี้ ผุดขึ้นทุกหัวระแหง ส่วนหนึ่งฆ่าตัวตาย บางกลุ่มท�ำร้ายผู้อื่น” นิ่งไป ชั่วครู่ก่อนจะกล่าวต่อ “เท่าที่เราเห็น ไอ้ส่วนที่เหลือนี่เองที่ท�ำร้ายผู้อื่น” ประหนึ่งจะยืนยันค�ำกล่าว เสียงปืนดังจากฟากถนน ตามติดด้วยสามนัด ยิงระรัวจากเงามืดในลานหน้าโรงแรมโฟร์ ซีซนั ส์ ซึง่ ตอนนีก้ ระจายเกลือ่ น ด้วยเศษกระจก เศษซากร่างมนุษย์ รถยนต์พังยับเยิน และเลือดสาด กระจาย “ห่ะ เหมือนไนต์ ออฟ เดอะ ลิฟวิ่ง เดด” ต�ำรวจแอชแลนด์ กวาดสายตามองไปตามถนนบอยล์สตัน มือขวายังวางทับด้ามปืนพกในซอง “เว้นแต่ว่าคนพวกนี้ยังไม่ตาย...จนกว่าเราจะออกแรงชวยสักหน่อย” “ริก!” เสียงต�ำรวจอีกฟากถนนร้องเรียก “ริก เราต้องไปที่โลแกน ทุกหน่วย มาเร็ว” ต�ำรวจแอชแลนด์มองซ้ายมองขวาก่อนข้ามถนน แต่ไม่มรี ถยนต์แล่น ไปมาอีกแล้ว มีเพียงซากรถ ถนนบอยล์ศตันร้างไปแล้ว เลยไกลออกไป เสียงระเบิดดังเป็นระยะ เสียงรถยนต์ชนกัน กลิน่ ควันเข้มขึน้ เขาเดินข้าม ถนนไปได้ครึง่ ทาง หันหน้ากลับมา “หาทีห่ ลบซ่อนทีไ่ หนสักแห่ง ซ่อนตัว ให้ดี พวกคุณโชคดีมาหนหนึ่ง อาจไม่โชคดีซ�้ำสอง” “คุณต�ำรวจ” เคลย์รอ้ งไล่หลัง “พวกคุณไม่ได้ใช้มอื ถือกระมัง?” แอชแลนด์จ้องหน้าเขาจากกลางถนน สถานที่ตามความเห็นของ เคลย์ ไม่น่าจะปลอดภัยนัก เขาคิดถึงรถเป็ดห้อตะบึง “ไม่ครับผม เรา มีวิทยุในรถสายตรวจ แล้วก็มีนี่” เขาแตะวิทยุเสียบอยู่ที่เข็มขัด ฝั่ง 27


ตรงกันข้ามกับซองปืน เคลย์ จอมอ่านการ์ตูนตั้งแต่จำ� ความได้ คิดถึง เข็มขัดอเนกประสงค์ของมนุษย์ค้างคาว “อย่าใช้มือถือ...” เคลย์บอกกล่าว “...บอกคนอื่นๆ ด้วย อย่าใช้ มือถือ” “ท�ำไมหรือ?” “เพราะคนพวกนั้นใช้...” เคลย์ชี้มือไปยังสาวมั่นตายดับ สาวรุ่น หมดสติ “...ก่อนที่พวกเธอจะเป็นบ้าเสียสติ พนันได้เลยว่าไอ้บ้าที่ถือมีด ยาวเฟื้อย...” “ริก...มัวรอห่ะอะไรอยู่” ต�ำรวจอีกฟากถนนร้องเร่ง “หาทีซ่ อ่ นตัว” ต�ำรวจแอชแลบนด์สงั่ ก�ำชัย วิง่ เหยาะๆ ข้ามถนน บอยล์สตัน เคลย์เสียดายทีไ่ ม่ได้กล่าวย�้ำเรือ่ งมือถือ แต่กด็ ใี จทีต่ ำ� รวจหลบ ไปพ้นจุดอันตรายเสียได้ แต่ก็ไม่ได้เชื่อนักว่าคนอื่นๆ ในบอสตันจะโชคดี แบบนั้น...ไม่ใช่ตอนบ่ายวันนี้

28


29


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.