Enigma

Page 1


หมายเหตุผู้เขียน

นิยายเรือ่ งนีอ้ ยู่ ในเค้าโครงและช่วงเวลาจริงของประวัตศิ าสตร์ ข่าวรหัสทุกชิน้ ของนาวีเยอรมันเป็นของจริง แต่ตัวละครในนิยายเป็นแต่เพียงบุคคลสมมติ


"ดูเหมือนว่าเบล็ตชลีย์ พาร์ก ถือได้ว่าเป็นความส�ำเร็จสุดยอดหนึ่งเดียวของ อังกฤษในช่วงปี 1939-1945 อาจเป็นความส�ำเร็จสุดยอดในศตวรรษนัน้ ก็เป็นได้" -จอร์จ สไตน์เนอร์

"บทพิสูจน์เชิงคณิตศาสตร์ ควรจะเป็นกลุ่มดาวคมชัด สดใส มิใช่หมอกดารา เลอะเลือนในทางช้างเผือก การแก้ปญ ั หาหมากรุก จักต้องสร้างความประหลาดใจ คาดไม่ถึง และประหยัดพลังงานใช้ให้น้อยที่สุด นับเป็นเรื่องส�ำคัญยิ่งที่การเดิน แต่ละคราวจะสร้างความประหลาดใจให้ศตั รู ทุกหมากบนกระดานจะต้องเล่นบท ของตน" -จี. เอช. ฮาร์ดี ค�ำขออภัยของนักคณิตศาสตร์


หนึ่ง กระซิบ: เสียงจากเครือ่ งส่งวิทยุของศัตรู ก่อนจะเริม่ กระจายข่าวเข้ารหัส -พจนานุกรมการรหัส (‘ลับที่สุด’ เบล็ตชลีย์ พาร์ก, 1943)

1. เคมบริดจ์ในฤดูหนาวปีที่สี่ของสงครามเป็นเมืองร้าง ลมหนาวไซบีเรียพัดกระโชกไม่ขาดสาย ไร้สิ่งกีดขวางตลอดระยะ ห่างเป็นพันไมล์ พัดข้ามทะเลเหนือ กวาดท้องทุ่งที่ราบต�่ำทางตะวันออก ของอังกฤษ เขย่าป้ายประกาศหลุมหลบภัยในทรินิตีนิวคอร์ตเกรียวกราว พัดปะทะแผ่นไม้ตีปิดหน้าต่างโบสถ์คิง’ ส คอลเลจ ลมหนาวเหน็บลอด เข้าไปในช่องบันไดและลานสี่เหลี่ยมผืนผ้าราบรอบด้วยอาคารทั้งสี่ด้าน กักคณาจารย์และนักศึกษาที่ยังสิงอยู่ในมหาวิทยาลัยให้อยู่ในห้องของตน เมื่อลุถึงกลางบ่าย ทางแคบปูหินว่างเปล่าไร้ผู้คน ย�่ำสนธยา ไม่มีแม้แสง สักจุดส่องให้เห็น มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์หวนคืนไปหาความมืดมิดทีไ่ ม่เคย รู้จักมานับแต่ยุคกลาง ขบวนบาทหลวงเดินเรียงแถวบนสะพานแม็กดาลีน มุ่งหน้าไปท�ำวัตรเย็น แทบจะเป็นภาพที่ไม่แปลกตาหลุดยุค การพรางไฟยามสงคราม ละลายกาลเวลาหลายสิบศตวรรษ 4


ในเมืองมหาวิทยาลัยเล็ก ๆ ในที่ราบต�่ำตะวันออกของอังกฤษนี่เอง กลางเดือนกุมภาพันธ์ 1943 ชายหนุ่มนักคณิตศาสตร์ชื่อ ทอมัส เจริโค เดินทางมาเยือน อธิการบดีของคิง’ส คอลเลจได้รับการบอกกล่าว ไม่ถงึ ข้ามวัน แทบไม่มเี วลาพอจะเปิดห้องพัก คลีผ่ า้ ปูเตียง และปัดกวาด ฝุ่นหนาสามปีออกจากชั้นวางหนังสือและพรมปูพื้น อาจไม่ใส่ใจเสียเวลา รับรอง ไหนจะช่วงสงคราม ไหนจะหาคนรับใช้ไม่ได้ แต่อธิการบดีรับ โทรศัพท์ในบ้านประจ�ำต�ำแหน่ง เสียงตามสายจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ กระทรวงต่างประเทศ ร้องขอ “ได้โปรดดูแลมิสเตอร์เจริโคจนกว่าเขาจะ หายป่วย พร้อมจะกลับมาปฏิบัติหน้าที่รับใช้ชาติได้” “แน่นอนครับท่าน” อธิการบดีตอบรับ ต่อให้คิดจนตายก็ไม่อาจ หาใบหน้ากลัดติดชื่อเจริโคได้ “แน่นอน ยินดีต้อนรับเขากลับมาอีกครั้ง” ในระหว่างที่พูดคุยกัน อธิการบดีเปิดทะเบียนนักศึกษาจนกระทั่ง พบชื่อ เจริโค, ที. อาร์. จี. เข้าเรียนปี 1935, เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง คณิตศาสตร์ ปี 1938, ภาคีสมาชิกวิจยั ค่าจ้างปีละสองร้อยปอนด์ ไม่มี ผู้พบเห็นในมหาวิทยาลัยนับตั้งแต่เกิดสงคราม) เจริโค? เจริโค? ในมุมมองของอธิการบดี เป็นแต่เพียงปื้นใบหน้า เลอะเลือนในรูปหมู่นักศึกษา อาจเป็นได้ สักคราวที่เขาจะนึกชื่อได้ แต่ สงครามท�ำลายท�ำนองเสนาะรืน่ รมย์ไปสิน้ แล้ว การเรียนการจบการศึกษา โกลาหลวายป่วง สโมสรพิตต์กลายเป็นภัตตาคารอังกฤษ สนามหญ้า เซนต์จอห์น กลายเป็นแปลงผักปลูกมันฝรั่งและหัวหอม... “ในขณะนี้ เขาท�ำงานที่มีความส�ำคัญต่อชาติอย่างยิ่งยวด” เสียง ตามสายลอยมาอีกครั้ง “จะเป็นพระคุณมาก หากเขาจะอยู่ที่นั่นได้โดย ไม่มีผู้รบกวน” “เข้าใจครับท่าน” อธิการบดีตอบ “เข้าใจครับ ผมจะดูแลไม่ให้ผใู้ ด รบกวนเขา” “ท่านอธิการช่วยเราได้มากทีเดียว” 5


เสียงจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงขาดหายไปแล้ว ‘งานที่มีความส�ำคัญ ต่อชาติอย่างยิ่งยวด’ โอ, พระเจ้า อธิการบดีชราทราบดีว่าวลีนั้นมี ความหมายอย่างไร เขาวางหู มองกระบอกพูด ครุ่นคิดอีกระยะ ก่อน จะเรียกตัวเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลที่พักมาสั่งการ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์เป็นหมูบ่ า้ นเล็กๆ ประจุเปีย่ มด้วยการสอดรูส้ อดเห็น ซุบซิบนินทาระดับหมู่บ้านอย่างเข้มข้น...จัดจ้านออกรสยิ่งขึ้นเมื่อสมาชิก หมูบ่ า้ นขาดหายไปเก้าในสิบคน การเดินทางย้อนกลับมาของทอมัส เจริโค ปลุกกระแสการวิเคราะห์ในมวลหมู่เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยได้นานหลาย ชั่วโมง เริ่มต้น จะเป็นรูปแบบการเดินทางมาถึง หลังเสียงโทรศัพท์ถึง อธิการบดีไม่กี่ชั่วโมง กลางดึกของคืนหิมะตกหนา ห่อเป็นกระเปาะด้วย ผ้าห่มหนา นัง่ เบาะหลังรถโรเวอร์ มีคนขับสตรีสวมชุดน�้ำเงิน เครือ่ งแบบ ของทหารเรือหญิง ไคต์, พนักงานขนกระเป๋าของเคมบริดจ์อาสาช่วยเหลือ ถือกระเป๋าหนังคร�่ำคร่าสองใบของผูม้ าเยือน รายงานให้เพือ่ นพ้องทราบว่า เจริโคกอดกระเป๋าทั้งสองใบไว้แน่นแม้หน้าตาจะซีดขาว และเหนื่อยล้า สุดขีด ไคต์ไม่แน่ใจนักว่าเขาจะเดินขึ้นบันไดไปยังห้องพักชั้นบนได้เองโดย ไม่มีผู้พยุง โดโรธี แซ็กส์มนั แดม แม่บา้ นปูเตียง เป็นรายถัดไปทีไ่ ด้พบหน้าเขา ใน ตอนทีเ่ ธอเดินเข้ามาในห้องวันถัดมา เพือ่ มาเก็บเตียง ท�ำความสะอาดห้อง เขานัง่ พิงหมอน เหม่อมองออกไปดูหมิ ะหล่นโปรยปรายเป็นม่านหนาเหนือ แม่น�้ำ เขาไม่เหลียวมาหา ไม่ได้มองเธอ ดูเหมือนจะไม่รู้สึกตัวด้วยซ�้ำว่า เธออยูใ่ นทีน่ นั้ แต่เมือ่ เธอจะขยับกระเป๋าเดินทาง เขาลุกพรวดพราดทันใด “ได้โปรดอย่าได้แตะกระเป๋า ขอบคุณอย่างสูง, มิสซิสแซ็กส์ ขอบคุณ” เธอเผ่นออกมายืนที่ชานพักหน้าประตูในเวลาไม่ถึงเสี้ยวนาที เขามีแขกมาเยี่ยมเพียงคนเดียว หมอประจ�ำมหาวิทยาลัยมาดูแลเขา 6


สองครั้งสองครา อยู่ในห้องราวสิบห้านาที ออกจากห้องโดยไม่พูดจา กับใคร เจริโครับอาหารในห้องในสัปดาห์แรก ก็ใช่ว่าจะเจริญอาหาร ตาม ค�ำกล่าวของโอลิเวอร์ บิกเคอร์ไดก์ ผู้ท�ำงานในห้องครัว ถืออาหารไปส่ง บนห้องสามวันต่อครั้ง เก็บถาดอาหารในชั่วโมงถัดมา อาหารในถาด แทบไม่พร่อง การค้นพบครั้งใหญ่ของบิกเคอร์ไดก์ที่น�ำมาอภิปรายออกรส ได้นานเป็นชั่วโมงในกระท่อมพักของผู้ขนกระเป๋า จะเป็นการพบเห็น ชายหนุ่มนั่งท�ำงานที่โต๊ะ สวมเสื้อโค้ตทับชุดนอน มีผ้าพันคอ และถุงมือ ไหมพรม โดยปกติแล้ว ‘การขย่มห่มเช็ด’ โต๊ะไม้โอ๊กของชายหนุ่ม จะ ปิดประตูบานไม้หนาหนัก และส่งเสียงลอดออกมาให้วางถาดอาหารไว้นอก ห้อง แต่เช้าวันนั้น หกวันหลังการเดินทางมาถึง เขาทิ้งบานประตูเปิดอ้า บิกเคอร์ไดก์เคาะข้อนิ้วคลึงเนื้อไม้ เงียบเชียบแผ่วเบา ยากที่สิ่งมีชีวิตจะ ได้ยิน เว้นแต่กวางกาเซลล์และเล็มหญ้า เดินข้ามธรณีเข้าไป เหลืออีก เพียงหนึ่งหลาจะถึงตัวเป้าหมาย เขาหันขวับมาทันใด บิกเคอร์ไดก์ทันได้ เห็นกระดาษปึกหนา (มีแต่ตวั เลข เส้นสายระโยงระยาง และตัวกรีก ของ เทือกนั้น) ก่อนมือของเขาจะเปะป่ายปิดบังงาน ขอร้องสุภาพให้ออกจาก ห้อง นับแต่นั้นเป็นต้นมา ประตูห้องจะปิดสนิทเสมอ โดโรธี แซ็กส์มันแดมตาโตรับฟังเรื่องเล่าของบิกเคอร์ไดก์บ่ายวัน ถัดมา ยอมน้อยหน้าไม่ได้ เธอเสนอรายละเอียดทีไ่ ด้พบเห็นบ้าง มิสเตอร์ เจริโคมีเตาผิงแก๊สเล็กๆ ในห้องนอน ในตะแกรงถ่านทีเ่ ธอท�ำความสะอาด เช้าที่ผ่านมา มีขี้เถ้ากองโตจากการเผากระดาษ ความเงียบอึดใจใหญ่ในยามที่ใช้ความคิดย่อยข่าวกรอง “อาจเป็น ไทม์ส” ไคต์ออกความเห็น “เอาหนังสือพิมพ์ไปสอดไว้ ใต้ประตูทุกเช้า” ไม่มีทาง มิสซิสแซ็กส์ประกาศชัด ไทม์ส ยังกองเป็นตั้งข้างเตียง “แทบจะไม่เปิดอ่านเลย เท่าทีส่ งั เกตดูนะ เขาท�ำเพียงแค่ปริศนาอักษรไขว้” 7


บิกเคอร์ไดก์เสนอแนะว่าน่าจะเป็นการเผาจดหมาย “อาจเป็น จดหมายรัก” ส�ำเนียงซ่อนเล่ห์ “จดหมายรัก? หมอนั่นน่ะนะ ไม่ไหวนา” ไคต์ถอดหมวกโบลเลอร์ ออกมา หมุนดูขอบยับเยิน ก่อนวางสวมปิดหัวล้านเลี่ยน “อีกอย่างหนึ่ง ไม่เคยได้รับจดหมาย ฉบับเดียวก็ไม่มี ตั้งแต่วันแรกที่มาถึง” มติที่ประชุมชมรมสอดรู้ จ�ำใจเห็นพ้องต้องกันว่าเจริโคเผางานที่ท�ำ ...งานลับสุดยอดที่ไม่ยอมให้ใครพบเห็น แม้แต่กระดาษทด ในเมื่อขาดไร้ ข้ อ มู ล ยื น ยั น จิ น ตนาการซ้ อ นทั บ ฝั น หวาน หมอนั่ น จะต้ อ งเป็ น นั ก วิทยาศาสตร์ของรัฐบาล ไม่ซี, จะต้องท�ำงานในหน่วยสืบราชการลับ ไม่นะ, ไม่ หมอนั่นปราดเปรื่องถึงขั้นอัจฉริยะ สมองเพี้ยนสติฟั่นเฟือน ส่งตัวมาซุกซ่อนบ�ำบัดรักษา ความลับสุดยอดของรัฐบาล หมอนี่ต้องมี เพื่อนระดับสูง เคยไปพบเชอร์ชิลมาแล้ว เคยพบในหลวงจอร์จที่หก... การคาดการณ์ ประมวลผลข้อมูล ชมรมคนสอดรู้ น่าจะอิม่ เอมเปรม ใจเป็นที่สุด เรื่องราวทั้งสิ้นถูกต้องแม่นย�ำเหมือนตาเห็น สามวันถัดมา ย�่ำรุ่งของเช้าวันศุกร์ที่ 26 เดือนกุมภาพันธ์ ปริศนาด�ำมืด เปลี่ยนโฉมหน้าใหม่ ไคต์แยกจดหมายระลอกแรก เลือกจดหมายจากถุงเล็ก สอดเข้าไป ในช่องชือ่ แต่ละคนทีย่ งั อยูใ่ นมหาวิทยาลัย ไม่ใช่หนึง่ หากเป็นถึงสามฉบับ จ่าหน้าซองถึง ที. อาร์. จี. เจริโค, เอสไควร์ ส่งผ่านไวต์ฮาร์ตอินน์, เช็นลีย์เชิร์ชเอ็นด์, บักกิงแฮมเชียร์ ส่งต่อมายังคิง’ส คอลเลจ ไคต์ชะงัก ไปชั่วขณะ ตาโตไปกับการอวยยศให้เกียรติชายแปลกหน้า ในความเป็น จริง ทีอ่ ยู่ ‘อินน์’ ทีว่ า่ นัน้ หมายความว่าหมอนีเ่ ป็นเจ้าของโรงเตีย๊ ม เปิด ผับขายสุราอย่างนัน้ หรือ? ไคต์ดนุ แว่นตาขึน้ ไปวางบนหน้าผาก เหยียดยืน่ จดหมายไปสุดแขน หยีตามองตราประทับ เบล็ตชลีย์ 8


แผนที่รังวัดเก่าคร�่ำคร่าของกรมสรรพาวุธ แขวนประดับผนังด้านใน แสดงสามเหลีย่ มชุมนุมกันหนาแน่นทางตอนใต้ของอังกฤษ เคมบริดจ์ ออก ซฟอร์ดและลอนดอน เบล็ตชลียค์ ร่อมชุมทางรถไฟ อยูร่ ะหว่างกลางเมือง มหาวิทยาลัยสองแห่งพอดิบพอดี เช็นลียเ์ ชิรช์ เอ็นด์เป็นเพียงหมูบ่ า้ นเล็กๆ ห่างเบล็ตชลีย์ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือสี่ไมล์ ไคต์พลิกจดหมายฉบับที่น่าสนใจที่สุด ยกขึ้นมาแตะจมูกบานใหญ่มี เส้นเลือดด�ำแตกลาย สูดกลิ่นซองจดหมาย เขาท�ำหน้าที่แยกจดหมายมา นานสี่สิบปี มองปราดเดียวรู้ว่าเป็นลายมือผู้หญิง ชัดกว่า หมดจดกว่า ม้วนเล่นหาง ไม่เป็นเหลี่ยมเหมือนผู้ชาย กาต้มน�ำ้ อยู่บนเตาแก๊สในห้อง ด้านใน เวลายังไม่แปดโมงเช้า ข้างนอกยังแทบไม่มีแสง อีกไม่กี่วินาที ถัดมา ไคต์เดินเข้าห้องด้านใน ยกปีกปิดซองจดหมายอังไอน�้ำ กระดาษ ซองเนือ้ ยุย่ คุณภาพเลว กระดาษในช่วงสงคราม ปิดซองด้วยกาวราคาถูก ปีกซองจดหมายร้อนชื้น บิดม้วนอ้าเปิด ไคต์ดึงการ์ดในซองออกมา เขาเพิ่งอ่านไปถึงท่อนท้ายตอนที่ได้ยินเสียงประตูที่พักผลักเปิด ลม กระโชกสัน่ หน้าต่างเกรียว เขาสอดการ์ดคืนกลับเข้าซอง จุม่ ปลายนิว้ ลงใน กระปุกกาวทีเ่ ตรียมไว้ขา้ งเตา แปะปิดปีกซอง ยืน่ หน้าไร้เดียงสาชะโงกไป มองว่าผู้ใดมาเยือน ไคต์แทบหัวใจวาย “แม่หล่น...ยามเช้า มิสเตอร์เจริโค เช้าสวัสดีครับ...ท่าน” “มีจดหมายถึงผมหรือเปล่า, คุณไคต์?” เสียงของเจริโคทุ้มกังวาน แม้ทา่ ยืนจะโงนเงน เขาเกาะเคาน์เตอร์ไว้แน่น เหมือนกะลาสีทเี่ พิง่ ขึน้ บก หลังจากเดินเรือนานแสนนาน ชายหนุ่มหน้าซีดขาว ร่างไม่สูงนัก ผมด�ำ ตาด�ำ ความด�ำเข้มสองเท่าที่ขับผิวให้ซีดขาวยิ่งกว่าเดิม “ไม่สังเกตเห็นว่ามีนะ, ท่าน จะดูใหม่อีกครั้ง” ไคต์ยดื คางสูง ย้อนกลับเข้ามาห้องใน พยายามใช้แขนเสือ้ รีดปีกซอง กาวเปียกยังยับย่น เขาสอดจดหมายฉบับนัน้ เข้าไปในกองจดหมาย เดินกลับ ออกมาที่เคาน์เตอร์อีกครั้ง จัดการแสดงต่อผู้ชม เหมือนที่เขาประกาศไว้ 9


นิ่วหน้าพลิกค้นหาจดหมายในกองนั้น “ไม่ม,ี ไม่ ไม่มอี ะไร อา, เยส มีอยูฉ่ บับหนึง่ อุย๊ แม่, อีกสองแน่ะ” ไคต์เลื่อนจดหมายทั้งสามฉบับบนเคาน์เตอร์ ส่งให้ชายหนุ่ม “วันเกิด ของท่านหรือขอรับ?” “วันวาน” เจริโคสอดจดหมายเข้ากระเป๋าเสื้อโค้ต ไม่มีแม้การยก มาเหลือบแล “ขอให้มีความสุขครับ, ท่าน” ไคต์มองตามจดหมายหายลับเข้าไป ในกระเป๋าเสือ้ โค้ต ถอนหายใจยาวออกมาด้วยความโล่งอกเงียบงัน ยกมือ กอดอก โน้มตัวพิงเคาน์เตอร์ “กระผมขอเสี่ยงภัย ทายอายุของท่านได้ ไหม? ท่านน่าจะเข้าเรียนที่นี่ราวปีสามสิบห้า อายุก็ไม่น่าจะเกินยี่สิบหก กระมัง?” “เช่นนัน้ , หนังสือพิมพ์ของผมกระมัง, คุณไคต์? ผมขอรับไปเลยนะ จะได้ไม่ต้องล�ำบากถือไปส่ง” ไคต์ค�ำรามออกมา ดันตัวจากท่าพิง หยิบหนังสือพิมพ์ พยายาม ชวนคุยสอบถามล้วงลึกอีกครั้งในตอนยื่นหนังสือพิมพ์ให้ แสดงความเห็น พึงพอใจยิ่งต่อการสู้รบในรัสเซีย นับแต่เสร็จศึกสตาลินกราด เจ้าหมอ ฮิตเลอร์ไม่มีทางรอดแน่ๆ ถ้าท่านถามผม แต่ก็แน่นอนขอรับ ท่านก็คงมี ข่าวล่ามาเร็ว รอบรู้เรื่องนี้มากกว่ากระผม...ชายหนุ่มเพียงแค่ยิ้มรับ “ผมไม่แน่ใจนักว่าข่าวของผมจะล่ามาเร็วยิ่งไปกว่าคุณ, คุณไคต์ แม้แต่เรื่องของตัวเอง ผมยังไม่ทราบ หากจะวัดจากวิธีการของคุณ” อึดใจนั้น ไคต์ไม่แน่ใจนักว่าเขาได้ยินถูกต้อง เขาจ้องตาชายหนุ่ม เขม็ง เจริโคประสานสายตา ดูเหมือนว่าตาสีน�้ำตาลคู่นั่นจะวับวาวมีพลัง ชีวิตแล้ว จากนั้น เจริโคยิ้มให้ ค้อมศีรษะอ�ำลา “อรุณสวัสดิ์, คุณไคต์” เขาสอดหนังสือพิมพ์ใต้ซอกแขน เดินจากไป ไคต์จับตามองร่างที่เดินผ่าน กระจกหน้าต่างทีท่ ำ� การ แผ่นยาวกัน้ กลางด้วยแท่งแนวดิง่ ร่างผอมเพรียว ผ้าพันคอม่วงขาว สีของเคมบริดจ์ หัวค้อมต�่ำหลบแรงลม “วิธีการของ 10


ฉัน” ไคต์พึมพ�ำออกมา “วิธีการของฉัน?” บ่ายวันนัน้ สมาชิกทัง้ สามของชมรมร่วมรับน�ำ้ ชาตามปกติวสิ ยั หน้า เตาผิงถ่านหิน ไคต์แถลงภาคภูมิใจ ไขปริศนาว่าท�ำไมมิสเตอร์เจริโคจึง มาพักอยู่ที่นี่ โดยไม่ได้ขยายความว่าเขาได้ข้อมูลนั้นมาอย่างไร ขอให้เชื่อ ว่ามาจากแหล่งที่เชื่อถือได้ บอกเป็นนัย ๆ ว่ามาจากการพูดกันเปิดอก บุรษุ ต่อบุรษุ ลืมเลือนไปสิน้ ถึงการหยามหยันเรือ่ งจดหมายรัก บัดนี้ ไคต์ ยืนยันหนักแน่นว่าทอมัส เจริโคมาพักรักษาตัวในเคมบริดจ์ สมานบาดแผล อกหักหัวใจสลาย 2. เจริโคไม่ได้เปิดจดหมายอ่านในทันใด เขาค้อมไหล่ ก้มหัวสูแ้ รงลม หลังจาก ซุกตัวในห้องอับนานสัปดาห์เต็มๆ อากาศอิ่มอวลด้วยออกซิเจนท�ำให้ ตาลาย เขาเลี้ยวขวาผ่านห้องชุมนุมนักศึกษา เดินไปตามทางปูแผ่นหิน กาบที่ตัดผ่านมหาวิทยาลัย ขึ้นสะพานหินโค้งมุ่งไปยังทุ่งหญ้าชุ่มน�้ำไกล ออกไป ทางซ้ายมือของเขาเป็นคอลเลจฮอลล์ ทางขวา สนามหญ้ากว้าง และแผงหินด้านหน้าของโบสถ์ เด็กร้องประสานเสียง สวมเสื้อครุยสีเทา ลอยกระเจิง อาศัยแผงหินสีเทาต้านลมแรงจัด เขาหยุดเท้า แรงลมส่งร่างซวนเซจนเขาต้องถอยหลังไปก้าวใหญ่ ซุ้มหินแยกจากทางเดินเท้า ซุ้มโค้งปกคลุมด้วยเถาไม้เลื้อยที่ไม่มีการ ตัดแต่ง อาจเป็นนิสยั ประจ�ำตัว เขาเงยหน้ามองหน้าต่างชัน้ สอง หน้าต่าง ทุกบานปิดสนิท ด�ำมืด ที่นั่นเช่นกัน เถาไม้เลื้อยไต่คลุมกระจกหน้าต่าง รูปเพชรจนแทบมองไม่เห็น เขาลังเล แต่ก็เดินออกจากทางหิน ลอดซุ้มโค้ง เดินเข้าไปในเงามืด บันไดเหมือนเช่นที่เขาจ�ำได้ ต่างกันเพียงประการเดียว ปีกตึกด้าน นี้ปิดไปแล้ว ลมพัดใบไม้แห้งกองสุมบนขั้นบันได หนังสือพิมพ์เก่าเกาะ กอดข้อเท้าของเขาเหมือนแมวหิว เขาลองผลักสวิตช์ ไม่มีหลอดไฟ แต่ 11


ก็ยังพอจะอ่านชื่อได้ หนึ่งในสามชื่อ ชื่อบนแผ่นไม้ ตัวพิมพ์ใหญ่สีขาว บัดนี้เลอะเลือนแตกเป็นริ้ว ทูริง, เอ. เอ็ม สมัยโน้น เขาประสาทกระเจิงในตอนที่เดินเหยียบขั้นบันไดนี้เป็น ครั้งแรก...เมื่อไหร่กัน? ฤดูร้อนปี 1938? อดีตนานโพ้นโลกที่แล้ว เขา มาพบชายที่มีอายุแก่กว่าเขาเพียงห้าปี ขวยอายเหมือนเด็กปีหนึ่ง ผมด�ำ ตกปรกตา อลัน ทูริงผู้ยิ่งใหญ่ เจ้าของผลงาน ออน คอมพิวเตเบิล นัมเบอร์ส ต้นตอความคิดทีก่ ลายมาเป็นเครือ่ งจักรประมวลผลยูนเิ วอร์ซลั ทูริงสอบถามเขาว่าเลือกเรื่องใดเป็นงานวิจัยปีแรก “ทฤษฎีรีมันน์ว่าด้วยจ�ำนวนเฉพาะ” “แต่ฉันก็ท�ำงานวิจัยรีมันน์เหมือนกัน” “ผมทราบ” เจริโคละล�ำ่ ละลักออกมา “ผมเลือกก็เพราะเหตุนเี้ อง” อลัน ทูรงิ หัวเราะเมือ่ ได้ทราบถึงการบูชาวีรบุรษุ เข้มข้น เขารับปาก ว่าจะเป็นอาจารย์ทปี่ รึกษาในงานวิจยั ของเจริโค แม้เขาจะเกลียดงานสอน หนังสือ บัดนี้ เจริโคมาหยุดยืนทีช่ านพักหน้าประตู มือบิดหมุนลูกบิด ก็แน่ อยูแ่ ล้ว ประตูลอ็ ก ฝุน่ หนาเปือ้ นฝ่ามือของเขา เขาพยายามย้อนนึกทบทวน สภาพในห้องนั้น สภาพห้องถึงขั้นสกปรกโสโครก แต่น่าประทับใจยิ่ง หนังสือ กระดาษบันทึก จดหมาย เสื้อผ้าใช้แล้ว ขวดเปล่า กระป๋อง อาหาร กระจายเกลื่อนบนพื้นห้อง มีตุ๊กตาหมีชื่อพอร์กีอยู่บนหิ้งเหนือ เตาผิงแก๊ส และไวโอลินยับเยินพิงที่มุมห้อง ไวโอลินที่ทูริงซื้อมาจากร้าน ของเก่า ทูริงขี้อายเกินกว่าจะเปิดใจคบหาสนิทสนม จะว่าไปแล้ว นับจาก คริสต์มาสปี 1938 เขาแทบไม่ปรากฏตัวให้เห็น เขาจะบอกเลิกการนัด หมายตรวจงานในนาทีสุดท้าย บอกว่าเขาต้องรีบเดินทางเข้าลอนดอน หรือไม่ เจริโคเดินขึ้นบันไดมาเคาะประตูห้อง แต่ก็ไม่มีการตอบรับ แม้ 12


เจริโคจะทราบว่าเขาซ่อนตัวอยู่ในห้อง ในท้ายที่สุด ในช่วงอีสเตอร์ ปี 1939 ไม่นานนัก หลังจากนาซีเคลือ่ นพลเข้าไปในกรุงปราก ทัง้ สองได้ พบหน้ากันอีกครั้ง เจริโครวบรวมความกล้า สอบถาม “ท่านครับ ถ้า ท่านไม่สะดวกใจที่จะเป็นที่ปรึกษา...” “ไม่ใช่เรื่องนั้น” “หรือถ้าท่านรุดหน้าไปในสมมติฐานของรีมันน์ ไม่ประสงค์จะแบ่ง ปัน...” ทูรงิ ยิม้ รับ “ทอม, ฉันให้คำ� ยืนยันว่าไม่ได้จบั เรือ่ งรีมนั น์ ไม่มคี วาม ก้าวหน้าใดๆ” “แล้วท�ำไม?” “ไม่ใช่เรื่องรีมันน์” จากนั้น เขากล่าวต่อเสียงเบา “มีหลายเรื่อง หลายราวเกิดขึน้ ในโลกภายนอก รูไ้ หม? โลกทีอ่ ยูน่ อกงานคณิตศาสตร์...” สองวันถัดมา เจริโคพบบันทึกสั้นๆ สอดไว้ในช่องรับจดหมายหน้า ห้อง ‘ได้โปรดมาร่วมดื่มเชอร์รีกับฉันสักแก้ว ห้องพักของฉัน เย็นนี้, เอฟ. เจ. แอ็ตวู้ด’ เจริโคหันหลังให้ประตูหอ้ งของทูรงิ เวียนหน้าตาลายคล้ายจะเป็นลม มือเกาะราวบันไดแน่น สืบเท้าก้าวลงบันไดเชื่องช้าเหมือนชายชรา แอ็ ต วู ้ ด ไม่ มี ใ ครปฏิ เ สธค� ำ เชิ ญ จากแอ็ ต วู ้ ด ศาสตราจารย์ ประวัติศาสตร์โบราณ คณบดีวิทยาลัยก่อนเจริโคจะเกิด ชายผู้มีเส้นสาย ระโยงระยางต่อเชื่อมเหมือนใยแมงมุมในไวต์ฮอลล์(วงการรัฐบาล) ค�ำเชิญ ของแอ็ตวู้ดไม่ต่างไปจากประกาศิตเรียกตัวจากองค์พระผู้เป็นเจ้า “พูดภาษาอื่นได้ไหม?” ค�ำถามเปิดตัวของแอ็ตวู้ดในระหว่างที่ริน เชอร์รลี งแก้ว ชายช่วงวัยห้าสิบ ชายโสด แต่งงานกับงานวิชาการ ผลงาน หนังสือเล่มของเขาจัดเรียงไว้โดดเด่นสะดุดตาบนหิ้งหนังสือด้านหลังของ เขา ศิลปะการท�ำสงครามของกรีกและมาซีโดเนียน, ซีซาร์ในฐานะ 13


นักอักษรศาสตร์, ธูซิดีดิสและประวัติศาสตร์ของเขา “แค่เยอรมันครับ” เจริโคเรียนรู้ภาษาเยอรมันในช่วงวัยเจริญพันธุ์ พอจะอ่านผลงานนักคณิตศาสตร์เยอรมันผู้ยิ่งใหญ่ในศตวรรษที่ 19 ได้... เกาส์, คุมเมอร์, ฮิลแบรต์ แอ็ตวู้ดผงกหัวรับ ยื่นดรายเชอร์รีน้อยนิดในแก้วเจียระไนส่งให้ มองตามสายตาของเจริโคไปยังหิ้งหนังสือ “รู้จักเฮโรโดตัสไหม? รู้จัก ประวัติศาสตร์ของฮิสเทียอัสหรือเปล่า?” ค�ำถามเชิงบรรยาย ค�ำถามส่วนใหญ่ของแอ็ตวู้ดเป็นเช่นนั้น “ฮิสเทียอัสประสงค์จะส่งข่าวจากต� ำหนักในเปอร์เชียไปยังจอม ทรราช, หลานชายและลูกเขย, อะริสตากอรัส ที่ไมลิตุส ให้รวบรวม ก�ำลังพลก่อการปฏิวตั ิ อย่างไรก็ตาม เขาเกรงว่าข่าวจะถูกดักรับ หนทาง แก้ปญ ั หาจะเป็นการโกนหัวทาสเกลีย้ งเกลา สักข่าวสารบนหนังหัว รอให้ ผมงอกยาว ส่งทาสผูน้ นั้ ไปหาอะริสตากอรัส ร้องขอให้ตดั ผมทาส วิธกี าร เฟอะฟะ แต่ใช้ได้ผลดียิ่ง...เพื่อสุขภาพของคุณ” แอ็ตวู้ดยกแก้วดื่ม เจริโคทราบในภายหลังว่าแอ็ตวู้ดเล่านิทานเรื่องนี้ให้สมาชิกใหม่ ทุกคนได้ฟัง ฮิสเทียอัสกับทาสหัวโล้น จากนั้น เป็นโพลีเบียสกับรหัส กระดานสี่เหลี่ยม แล้วก็ไปถึงจดหมายของซีซาร์เขียนไปถึงซิเซโร ใช้ a เข้ารหัสเป็น d, b เป็น e, c เป็น f...ยังอ้อมค้อม วนรอบเรือ่ งหลัก แต่ ก็ใกล้เข้ามามากแล้ว จนในท้ายที่สุด จะเป็นการสอนสั่งวิชานิรุกติศาสตร์ “ภาษาละติน crypta มาจากภาษากรีก หมายถึง “ซ่อนเร้น ปกปิด” ดังนัน้ ค�ำว่า crypt หมายถึงทีฝ่ งั คนตาย และ crypto ความลับ, คริปโต-คอมมิวนิสต์, คริปโต-ฟาสซิสต์...อ้อ, ฉันหวังว่าคุณคงไม่ใช่หนึ่ง ในไอ้พวกนั้น” “ผมไม่ใช่หลุมฝังคนตาย...ไม่เลยครับ” “คริปโตแกรม-วัสดุการรหัส...” แอ็ตวู้ดยกแก้วเชอร์รีขึ้นรับแสง

14


เขม้นมองของเหลวสีจางในแก้ว “คริปโตอะนาไลซิส-การวิเคราะห์การรหัส (ถอดรหัส)*...ทูริงบอกฉัน เขาคิดว่าคุณมีฝีมือเข้าขั้นทีเดียว...” เจริโคมีไข้ตัวรุมเมื่อมาถึงห้อง เขาล็อกประตู ทิ้งตัวนอนคว�่ำหน้าบนเตียง ที่ยังไม่ได้เก็บ ทั้งผ้าพันคอและเสื้อโค้ต เขาได้ยินเสียงฝีเท้า และเสียง เคาะประตู “อาหารเช้าครับท่าน” “วางไว้หน้าประตู ขอบคุณ” “ท่านสบายดีนะขอรับ?” “ดี” เขาได้ยินเสียงถาดโลหะกระทบพื้นกรุกกริก เสียงฝีเท้าเดินจากไป ห้องนอนดูเหมือนจะบวมเป่งขยายใหญ่ เพดานมุมห้องห้อยย้อย ใกล้แทบ จะแตะสัมผัสได้ เขาหลับตา ภาพผุดปรากฏจากความมืด -ทูริงยิ้มอายๆ “ทอม, ฉันให้ค�ำยืนยันว่าไม่ได้จับเรื่องรีมันน์ ไม่มี ความก้าวหน้าใดๆ” -โลกีเขย่ามือเขาเต็มแรง ร้องตะโกนแข่งกับเสียงเครื่องจักร “ท่าน นายกรัฐมนตรีเพิ่งโทรศัพท์มาแสดงความยินดี...” -แคลร์ แตะแก้มเขาแผ่วเบา กระซิบบอก ‘หนูนอ้ ยน่าสงสาร, ฉัน เจาะเข้าไปใต้ผิวหนังคุณแล้วสินะ จริงไหม? หนูน้อยน่าสงสาร...” -“ถอยไปหน่อย” เสียงบุรษุ เสียงของโลกี “ถอยไปหน่อย ให้เขา หายใจได้โล่งหน่อย...” และแล้วทุกอย่างก็มืดวูบไป เมือ่ เขาตืน่ มาอีกครัง้ สิง่ แรกสุดคือ พลิกฝานาฬิกาพกเปิดดูเวลา เขาวูบไป * Cryptoanalysis จากภาษากรีก crypto ซ่อนเร้น และ analyein คลาย หรือแก้ปม 15


ราวหนึ่งชั่วโมง เขาลุกขึ้นนั่ง ควานมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อโค้ต ที่ไหน สักแห่งมีสมุดบันทึกดินสอ เขาจะจดช่วงเวลาของการวูบหมดสติ และ อาการ รายการยาวเหยียด มือควานพบซองจดหมายสามซอง เขาวางเรียงจดหมายบนเตียง นั่งเพ่งดูอยู่เป็นนาน จากนั้น เปิด สองซอง การ์ดอวยพรวันเกิดจากแม่ อีกซองเป็นของป้า สตรีทั้งสองไม่รู้ ว่าเขาอยูท่ ไี่ หน ท�ำอะไร เขารูว้ า่ แม่กบั ป้า ผิดหวังในตัวเขาอย่างใหญ่หลวง ทีเ่ ขาไม่ได้สวมเครือ่ งแบบ เป็นเป้าให้ทหารเยอรมันไล่ยงิ เหมือนลูกชายคน อื่นๆ ของเพื่อน “จะให้แม่บอกคนอื่นว่ายังไง?” แม่ถามเขาด้วยเสียงหดหู่ในช่วง สัน้ ๆ ทีเ่ ขาได้ลากลับบ้าน หลังจากเขาปฏิเสธอีกครัง้ ไม่บอกว่าเขาท�ำงาน ใด “บอกคนอื่นๆ ว่าผมท�ำงานในหน่วยสื่อสารของรัฐบาล” เขาตอบ ใช้ค�ำตอบส�ำเร็จรูปที่ได้รับค�ำแนะน�ำจากหน่วยเหนือ ในกรณีที่มีผู้เซ้าซี้ สอบถาม “แต่พวกเขาคงอยากจะรู้ให้ละเอียดยิ่งกว่านั้น” “ถ้าซักไซ้ไล่เลียงหารายละเอียดน่าสงสัย แม่แจ้งต�ำรวจได้เลยครับ” แม่ครุ่นคิดถึงผลเลวร้ายเชิงสังคมที่จะเกิดตามมา ขาไพ่บริดจ์ทั้งสี่ ถูกสอบปากค�ำในสถานีต�ำรวจ เธอนิ่งเงียบไม่ถามต่อ แล้วซองทีส่ าม? เหมือนเช่นไคต์ทำ� ก่อนหน้านี้ เขาหยิบขึน้ มา พลิก ซอง และยกมาดม เขาคิดไปเองหรือว่ามีกลิน่ น�ำ้ หอม? ‘เถ้ากุหลาบ’ ของ บูร์ฌัวส์ น�้ำหอมขวดเล็กที่ท�ำให้เขาสิ้นเนื้อประดาตัวในเดือนที่ผ่านมา เขาใช้สไลด์รูลแทนมีด กรีดเปิดซอง ในนั้น มีการ์ดราคาถูก ไม่ใส่ใจ คัดเลือก รูปโถบรรจุผลไม้-ในประดารูปที่มีอยู่ และค�ำมาตรฐานที่น่าจะ ใช้ส�ำหรับสถานการณ์เช่นนั้น เขาไม่รู้ได้ ไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต “ท. ที่รัก...ฉันมองว่าคุณเป็นเพื่อน...บางทีในอนาคต...เสียใจที่ได้ทราบ เรื่อง...รักที่สุด...” เขาหลับตาลง 16


อีกนาน หลังจากเล่นปริศนาอักษรไขว้ หลังจากที่มิสซิสแซ็กส์ ท�ำความสะอาดห้อง หลังจากบิกเคอร์ไดก์วางถาดอาหาร และยกกลับไป โดยไม่ได้แตะ เจริโคคุกเข่าลงบนพืน้ ลากกระเป๋าเดินทางออกจากใต้เตียง เปิดกระเป๋า ในนั้น พับกลางสอดไว้ในหนังสือ เชอร์ล็อกโฮล์มส์ ฉบับ สมบูรณ์ พิมพ์ครั้งแรกโดยดับเบิลเดย์ จะเป็นกระดาษฟุลสแก๊ปหกแผ่น ลายมือตัวเล็กของเขาเขียนเต็มหน้ากระดาษ เขาหยิบกระดาษมานั่งที่โต๊ะ ท�ำงานโยกเยกข้างหน้าต่าง รีดกระดาษให้แผ่กาง “เครื่องเข้ารหัสจะเปลี่ยนอินพุต (เนื้อความธรรมดา) P ให้เป็น รหัส Z โดยฟังก์ชัน f ดังนั้น Z=f(P,K) เมื่อ K เป็นค่าก�ำหนดของ แป้นกด” เขาเหลาดินสอ เป่าเศษไม้ให้พ้น ก้มหน้าค้อมต�่ ำเหนือแผ่น กระดาษ “สมมติว่า K มี N เป็นค่าที่เป็นไปได้ ส�ำหรับข้อสมมติของ N แต่ละตัว เราจะต้องหาค่าว่า f--1(Z,K) จะให้เนื้อความธรรมดา ในเมื่อ f--1 เป็นฟังก์ชันถอดรหัส ซึ่งจะให้ P ถ้า K เป็นค่าก�ำหนดที่ถูกต้อง...” ลมกระโชกผ่านแม่น�้ำเคม ฝูงเป็ดลอยกระเพื่อมเกาะยอดคลื่น เหมือนเรือทิง้ สมอ เขาวางดินสอ หยิบการ์ดของเธอมาอ่านอีกครัง้ พยายาม หยั่งวัดอารมณ์ ความหมายซ่อนเบื้องหลังวลีทื่อด้าน จะเป็นไปได้เชียว หรือ เขาพิศวงสงสัย ที่จะดัดปั้นสูตรส�ำเร็จท�ำนองนี้ ส�ำหรับจดหมายรัก หรือจดหมายบอกเลิก? “อินพุต (อารมณ์ดาลใจ) S เปลีย่ นเป็นเนือ้ ข่าว M โดยสตรี ด้วย ฟังก์ชัน w ดังนั้น M=w(S,V) ในเมื่อ V เป็นค่าก�ำหนดของถ้อยค�ำ สมมติว่า V มี N เป็นค่าที่เป็นไปได้...” สัญลักษณ์คณิตศาสตร์เลอะเลือนบิดเบี้ยว เขาถือการ์ดเข้าไปใน ห้องนอน ไปยังเตาผิงแก๊ส คุกเข่าลง จุดไม้ขีดไฟ แผ่นกระดาษไหม้วาบ 17


บิดม้วนลามเลียมาหาปลายนิ้ว แปลงสถานะเป็นเถ้าไปแล้ว วันคืนของเขาก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างทีละน้อย เขาจะตื่นแต่ย�่ำรุ่ง ท�ำงานวันละสองถึงสามชั่วโมง ไม่ได้ท�ำงาน วิเคราะห์รหัสทีเ่ ขาเผาแผ่นงานเป็นเถ้าไปพร้อมจดหมายในวันนัน้ แล้ว หาก แต่เป็นงานแก้ปัญหาคณิตศาสตร์บริสุทธิ์ ผ่านช่วงงาน จะงีบไปชั่วระยะ เติมช่องว่างเต็มช่องในปริศนาอักษรไขว้ของ ไทม์ส ก่อนเทีย่ งวัน จับเวลา ด้วยนาฬิกาพกโบราณของพ่อ แต่ละชิ้น ไม่เคยเกินห้านาที มีคราวหนึ่ง ที่ท�ำแล้วเสร็จ ด้วยเวลาเพียงสามนาทีสี่สิบวินาที เขาแก้ปัญหาหมากรุก ซับซ้อน ‘ท่วงท�ำนองเพลงสวดแห่งคณิตศาสตร์’ ตามค�ำเรียกขานของ จี. เอช. ฮาร์ดี โดยไม่ต้องใช้กระดานหรือตัวหมากรุก งานเหล่านี้ยืนยัน ให้อนุ่ ใจว่าสมองของเขาไม่ได้รบั ผลกระทบกระเทือน เสียหายเป็นการถาวร หลังปริศนาอักษรไขว้และหมากรุก เขาพลิกอ่านข่าวสงครามคร่าว ๆ ในระหว่างที่พยายามเติมอาหารลงท้อง เขาเลี่ยงหลบข่าวสงครามใน มหาสมุทรแอตแลนติก (ตายคาพาย: เหยื่อเรือ-อูแข็งตายคาเรือชูชีพ) เขาทุม่ ความสนใจไปยังแนวรบรัสเซีย : พาฟโลกราด, เดเมียนสก์, ราเชฟ ...ดูเหมือนว่ากองทหารรัสเซียจะยึดเมืองคืนมาได้ ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อ เมือง เขาอดอมยิ้มมิได้ เมื่อไทม์ส รายงานด้วยหัวไม้ว่า ‘วันแดงเดือด’ ชื่นชมยินดีประหนึ่งว่าเป็นการเฉลิมฉลองวันพระราชสมภพของคิงจอร์จ ที่หก ในช่วงบ่าย เขาจะออกไปเดินเล่น แต่ละคราว เดินไกลยิง่ กว่าเดิม ในระยะแรก จ�ำกัดอยู่แต่เพียงเขตมหาวิทยาลัย ถัดไปเป็นเมืองว่างเปล่า และท้ายทีส่ ดุ เดินไกลไปจนถึงชนบททุง่ น�ำ้ แข็ง ก่อนสิน้ แสง จะย้อนกลับ ที่พัก นั่งหน้าเตาผิงแก๊ส อ่านเชอร์ล็อกโฮล์มส เขาออกจากห้อง ลงมา รั บ ประทานอาหารเย็ น ในห้ อ งอาหาร ปฏิ เ สธค� ำ เชิ ญ ร่ ว มโต๊ ะ อาหาร บนยกพื้นสูงของท่านอธิการ อาหารเลวร้ายเทียบเท่าที่เบล็ตชลีย์ แต่ 18


สภาพแวดล้อมสุขสบายกว่า แสงเทียนสาดแสงวูบวาบต้องกรอบรูป และ สะท้อนแสงมันวาววามจากผิวโต๊ะไม้โอ๊ก เขาปรับตัวรับการเพ่งจ้องตาค้าง จากเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัย เรียนรู้ที่จะสะบั้นการซักไซ้ถามไถ่ด้วยการ ผงกหัวรับ เขาไม่รงั เกียจทีจ่ ะอยูโ่ ดดเดีย่ ว ความเปลีย่ วเหงาเป็นวิถชี วี ติ มา ตั้งแต่เกิด ลูกคนเดียว ลูกเลี้ยง และเด็กอัจฉริยะ ตราประทับที่จะแยก ตัวเขาออกจากเด็กอื่น เขาไม่อาจบอกเล่างานที่ท�ำ เนื่องเพราะแทบจะ หาคนเข้าใจไม่ได้ บัดนี้ เขาไม่อาจบอกเล่างานที่ท�ำ เพราะเป็นความลับ ทางการทหาร ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเดิม ลุถึงสัปดาห์ที่สอง เขาเข้านอนในตอนกลางคืน ภารกิจยากสาหัส ที่ไม่เคยท�ำได้ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ฉลาม อีนิกมา จุมพิต บอมบ์ ถอดรหัส ฉก ผลลัพธ์ คริบ... ศัพท์พิลึกในชีวิตลับสุดยอดที่เขาเริ่มจะลบให้หายไปจากจิตส�ำนึกได้ทีละ น้อย เขาอดประหลาดใจมิได้ที่ภาพของแคลร์ในใจ เริ่มเลอะเลือนจาง หาย บางคราว อาจมีภาพวูบวาบปรากฏสดใสในใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยามค�่ำคืน กลิ่นมะนาวกรุ่นจากเส้นผมสระใหม่ ดวงตากลมโตสีเทา ซีดจางเหมือนสายน�้ำ เสียงใส กึ่งหยอกเย้า กึ่งเบื่อหน่าย...ชิ้นส่วนต่างๆ ไม่อาจเกาะติดก่อตัว ภาพรวมเลือนหาย เขาเขียนจดหมายไปถึงมารดา ขอร้องไม่ให้เธอเดินทางมาเยี่ยม “พยาบาลกาลเวลา” หมอบอกกล่าว ปิดล่วมยาเสียงดังกริก “เธอ นั่นแหละที่จะช่วยรักษาคุณ, มิสเตอร์เจริโค...พยาบาลกาลเวลา” เจริโคมีอันต้องประหลาดใจอีกคราเมื่อค�ำกล่าวของหมอไม่ผิดไปได้ เขาฟืน้ ตัวแข็งแรงได้อกี ครัง้ แล้ว ‘ความเหนือ่ ยล้าของสมอง’ หรือจะเรียก ชื่อว่าอย่างไรก็ตามที ไม่ใช่สิ่งเดียวกับการบ้าคลั่งเสียสติ และแล้ว โดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า วันศุกร์ที่ 12 เดือนมีนาคม พวกนั้นเดินทางมารับตัวเขา

19


คืนก่อนหน้านี้ ก่อนการสิ้นสุดของการพักรักษาตัว เขาได้ยินอาจารย์ชรา บ่นฟูมฟายเรือ่ งสนามบินใหม่ทพี่ วกอเมริกนั มาสร้างทางตะวันออกของเมือง “ฉันบอกพวกมันเลยนะ พวกแกรู้ไหมว่าแกยืนอยู่บนลานซาก ดึ ก ด� ำ บรรพ์ ข องมหายุ ค เพลอิ ส โตซี น ฉั น ขุ ด ค้ น ซากเขาของ บอส พริมิจีเนียส ได้จากที่นี่ รู้อะไรไหม? ไอ้หมอนั่นหัวเราะ...” ดีส�ำหรับพวกแยงกี้ เจริโคคิดในใจ เขาตัดสินใจได้ในตอนนั้นว่าได้ ที่หมายในการเดินเล่นอีกแห่งแล้ว เพราะจะพาเขาไปไกลอย่างน้อย สามไมล์ จ ากที่ เ คยเดิ น เขาออกจากเคมบริ ด จ์ เร็ ว กว่ า ปกติ ทั น ที ที่ อาหารกลางวันเสร็จสิ้น เจริ โ คเดิ น เลี ย บเดอะแบ็ ก ส์ ผ่ า นหอสมุ ด เร็ น และหอคอย น�้ำตาลไอซิงเซนต์จอห์น ผ่านสนามกีฬาที่มีเด็กเล็กสองโหล สวมเสื้อ สีม่วงเล่นฟุตบอล หักเลี้ยวซ้าย เดินไปตามถนนมาดิงลีย์ อีกสิบนาที ถัดมา เขาอยู่ในท้องทุ่งชนบท ไคต์พยากรณ์หน้าเศร้าว่าหิมะน่าจะตกหนัก แม้อากาศเย็นเยือก แต่ แสงส่องเจิดจ้า ฟ้าใสงดงาม โค้งฟ้าสีครามเหนือทุง่ ราบของอีสต์แองเกลีย แต้มด้วยจุดสีเงินของเครื่องบิน และพวยขาวขุ่นของไอน�้ำเป็นทางยาว ก่อนสงคราม เขาเคยขี่จักรยานมากลางทุ่ง แทบจะทุกสัปดาห์ เกือบจะ ไม่เคยพบเห็นรถยนต์ แต่บดั นี้ รถบรรทุกทหารคันมหึมาของพวกอเมริกนั แล่นตะบึงมาไม่ขาดสาย เขาต้องเดินหลบลงไหล่ทาง ขับดุดัน เร็วรี่ รถใหม่ทันสมัยกว่ารถบรรทุกทหารบกอังกฤษ ผ้าใบลายพรางคลุมท้ายรถ หน้าขาวของทหารอเมริกันโผล่ออกมาจากเงามืด บางคราวทหารแยงกี้ ตะโกนและโบกมือทักทาย เขาโบกมือตอบ รูส้ กึ เหมือนคนอังกฤษ เขินอาย เขาเดินมาถึงสนามบินใหม่ ยืนที่ถนน จับตามองป้อมบินสามล�ำ ทะยานขึ้นจากพื้น เครื่องบินล�ำใหญ่ ท่าทางเหมือนจะบรรทุกหนักเกิน กว่าจะลอยจากพืน้ ได้ เครือ่ งบินเร่งเครือ่ งเต็มก�ำลังบนทางวิง่ คอนกรีตใหม่ แผดเสียงคล้ายอึดอัดขัดข้องใจเต็มที่ ตะกุยอากาศเพือ่ ไต่หาความหลุดพ้น 20


จนกระทัง่ แสงทิวาส่องลอดใต้เครือ่ ง ช่องว่างถ่างกว้าง เครือ่ งบินลอยฟ่อง กลางท้องฟ้า เขายืนอยู่ที่นั่นนานเกือบครึ่งชั่วโมง รับรู้คลื่นกระแทกของอากาศ จากเครื่องยนต์ ได้กลิ่นน�้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินลอยกรุ่นกลางอากาศ ซากดึกด�ำบรรพ์ของมหายุคเพลอิสโตซีน เขาครุ่นคิดค�ำนึงด้วยความ อิ่มเอมใจ น่าจะกลายเป็นฝุ่นผงไปสิ้นแล้ว วาทะคมคายท้ายวรรคของ คิเคโรว่ากระไรหรือที่แอ็ตวู้ดปลื้มจัดจนน�ำมากล่าวติดปาก? ‘เนอวอส เบลลี, เพคูเนียม อินฟินิตัม’ พลังอ�ำนาจของสงคราม, เงินทองไม่จ�ำกัด เขาดูเวลา ตระหนักว่าต้องกลับในตอนนี้ ถ้าอยากกลับถึงทีพ่ กั ก่อน มืดค�่ำ เขาเดินมาได้ราวหนึง่ ไมล์ ได้ยนิ เสียงเครือ่ งยนต์ไล่หลัง รถจีป๊ แล่น แซงมา หักตัดหน้า หยุดรถ คนขับสวมเสื้อโค้ตหนา ลุกขึ้นยืน กวักมือ เรียก “ว่าไง, พวก ติดรถไปด้วยกันไหม?” “ช่างกรุณาเหลือเกิน, ขอบคุณ” “โดดขึ้นมาเลย” ทหารอเมริกันคนนั้นไม่ช่างพูด เจริโคพอใจเป็นที่สุด เขาเกาะกุม เบาะที่นั่งไว้แน่น มองตรงไปข้างหน้าในขณะที่ทั้งสองหัวสั่นหัวคลอนไป กับการแล่นเร็วผ่านเลนมืดเข้าเมือง คนขับจอดส่งเจริโคทีท่ า้ ยมหาวิทยาลัย โบกมือให้ เร่งเครือ่ งหายลับไป เจริโคมองตาม จากนัน้ หันหลังกลับ เดิน ผ่านประตูเข้ามหาวิทยาลัย ก่อนสงคราม การเดินเล่นสามร้อยหลา ในช่วงฤดูนี้ เวลานีข้ องวัน เป็นการพักผ่อนทีเ่ จริโคโปรดทีส่ ดุ ทางเท้าเดินผ่านแปลงโครคัสม่วงสดและ เหลืองอร่าม ทางหินสึกกร่อนอาบด้วยแสงจากโคมไฟวิกตอเรียลวดลาย งดงาม ปลายแหลมของโบสถ์ทางซ้าย แสงไฟจากมหาวิทยาลัยทาง ขวา แต่ปีนี้ โครคัสบานล่าช้า โคมถนนไม่ได้เปิดมาตั้งแต่ปี 1939 แล้ว 21


ถังเก็บน�้ำบดบังโบสถ์วิจิตรให้หมอง แสงจุดเดียวในมหาวิทยาลัยที่เขาเดิน ตรงไปหา เดินเข้าไปใกล้...แสงนั้นส่องออกจากหน้าต่างห้องของเขา เจริโคหยุดเท้า นิ่วหน้า เขาเปิดไฟโคมที่โต๊ะท�ำงานทิ้งไว้หรือ? เขา แน่ใจว่าไม่เลินเล่อขนาดนั้น ยืนมองชั่วครู่ เขามองเห็นเงาวูบวาบในช่อง แสงสี่เหลี่ยม สองวินาทีถัดมา แสงไฟในห้องดับวูบ ไม่น่าจะเป็นไปได้ จริงไหม? เขาออกวิ่ง วิ่งข้ามลานไปถึงบันไดในสามสิบวินาที วิ่งทีละขั้นสอง ขั้นเหมือนนักกีฬา รองเท้าบู๊ตกระทบแผ่นหินกร่อน “แคลร์?” เขาร้อง ตะโกน “แคลร์?” ถึงชานพัก ประตูห้องเปิดอ้า “เย็นไว้, พ่อเฒ่า” เสียงบุรษุ ตอบรับจากในห้อง “เร็วรีพ่ รวดพราด เป็นภัยต่อตัวเอง”

22


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.