InvisibleSignof MyOwn

Page 1


ตัวเลขเป็นเพื่อนของฉัน ไม่มากไม่น้อยกว่านั้น ความหมายไม่เหมือนกับที่ท่านเห็นกระมัง...3,844? ส�ำหรับท่านอาจเป็นสามแปดสี่สี่ แต่ฉันจะร้องทักทาย “ดีจ้า, 62 ยกก�ำลังสอง!” -นักคณิตศาสตร์ วิม ไคลน์


บทน�ำ กาลครั้งหนึ่ง ในอาณาจักรแห่งนี้ ผูค้ นอายุยนื ยาวชัว่ กาลนาน ค้นพบความลับชีวติ ชั่วนิรันดร์ ดังนั้น ที่นี่ไม่มีสุสาน ไม่มีโรงพยาบาล ไม่มีโรงพิธีศพ ในร้าน หนังสือ ไม่มหี นังสือว่าด้วยความตายและความทุกข์เศร้าของการพลัดพราก ในร้านจะมีแต่แผ่นพับ แนะน�ำให้เป็นประชาราษฎร์มารยาทงาม ไม่ต้อง หวาดกลัวชีวิตใหม่หลังความตาย ปัญหาอยู่ที่การงอกใหม่ของชีวิต อาณาจักรนี้ประชากรล้นประเทศ สตรีคลอดลูกได้คลอดลูกดี ทารกน้อยไม่มีที่ซุกหัวนอนแล้ว เพราะย่ายาย ทวดเชียดสิบสีน่ างกับปูต่ าทวดเชียดสิบสีน่ าย จับจองห้องนอนไปแล้ว คนชรา นับวันยิ่งแก่ แล้วก็หง่อม ไม่มีก ารสอนสั่งให้นับถือผู้อ าวุโส เพราะ ผู้อาวุโสก็เหมือนคนหนุ่มสาว ไม่เหลือความแตกต่างอะไรอีกแล้ว พื้นที่ อาศัยกลายเป็นปัญหาไปแล้ว องค์ราชาออกมาพักอาศัยอยู่นอกปราสาท เพราะบรรพบุรุษนับรุ่นไม่ถ้วน จับจองที่พักในนั้นไปสิ้น องค์ราชาประกาศ ราชโองการ “ทุกผู้ทุกคนในแผ่นดินนี้ ได้โปรดเลือกคนในครอบครัวมา หนึ่งคนมาฆ่าทิ้ง ฉันเสียใจด้วย แต่นี่เป็นหนทางเดียวเท่าที่จะท�ำได้ หาก ครอบครัวใด ไม่อาจยอมรับเรื่องนี้ ได้ ได้โปรดอพยพออกจากดินแดนนี้ เราจะจัดงานประหารหมู่ในวันศุกร์ ผู้คนทั้งแผ่นดินจะมาร่วมเฉลิมฉลอง แซ่ซ้องคุณงามความดีของผู้เสียสละเพื่อประโยชน์สุขของผู้อื่น” ดังนั้น ในวันศุกร์ ผู้คนในเมืองมาชุมนุมกันในลานกลางเมือง บางครอบครัวเก็บข้าวของอพยพออกจากเมือง แต่คนส่วนใหญ่เลือกที่จะ ปักหลักอยูบ่ นบ้านเกิดอันเป็นทีร่ กั ครอบครัวจะใช้เวลาตลอดสัปดาห์ เลือก นพดล เวชสวัสดิ์

11


คนที่จะน�ำไปเซ่นสังเวย ไม่ได้ยากอย่างที่คาดไว้ ผู้เสียสละจะได้รับการ เชิดชูเกียรติไปชั่วกาลนาน และเรื่องเบื้องลึกที่ไม่ได้น�ำมาพูดคุยกัน...ความ อยากรู้อยากเห็น ความตายนั้นหรือคืออะไร? จะเป็นอย่างไรหนอที่จะ เดินทางไปยังต่างแดนแสนไกลที่ ไม่เคยมีผู้ใดย่างเหยียบไปเยือน ไปแล้ว ไปลับไม่กลับมา ปักหลักอยู่ที่นั่นชั่วกาลนาน ดังนัน้ ในตอนบ่ายวันศุกร์ ทุกครอบครัวไปชุมนุมกันในลานหมูบ่ า้ น เลือกผูเ้ สียสละหนึง่ คน สละชีวติ เพือ่ อุดมการณ์มอบพืน้ ทีว่ า่ งในชุมชน เสียง ร�่ำไห้เจือเข้ากับเสียงชื่นชมยอเกียรติ และในท้ายที่สุด แต่ละครอบครัว ดันหลังสมาชิกหนึ่งคนมาข้างหน้า ทุกครอบครัว ยกเว้นครอบครัวเดียว ที่ ไม่อาจลงความเห็นได้ แรกสุด แม่รับอาสาสละชีวิตในนามครอบครัว ทุกผูท้ กุ คนในบ้านประท้วงเสียงหลง จากนัน้ พ่อขอตายเสียเอง ทุกผูท้ กุ คน ประท้วงเซ็งแซ่ ลูกสาวขอเป็นตัวแทน ไม่, ไม่มีใครรับได้ จากนั้น ก็เป็น ลูกชาย ไม่ได้เช่นกัน และแล้ว ทารกน้อยร้องจ้า บ่งบอกว่าขอเป็นคนตาย ไม่มี ใครยอมรับ เด็กไร้เดียงสาจะไปรู้อะไร คนในครอบครัวหันหน้ามา เถียงกัน ยื้อยุดผลักและดันกัน ในท้ายที่สุด แม่เดินออกมาข้างหน้า “เรา เลือกไม่ได้ ดังนั้น เราขอตายทั้งครอบครัว” “พิลกึ ละ” เพชฌฆาตอุทาน “ครอบครัวนี้ไม่เหลือหน่อเหลือแนว ผิด วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้” ผู้คนในเมืองยอมรับไม่ได้เช่นกัน ไม่อยากให้ครอบครัวนี้ตายดับ ครอบครัวนีอ้ บขนมปัง และท�ำโรลไส้กรอกแสนอร่อย เนือ้ บดละเอียดผสม ลูกจันท์เทศ อาหารคาวที่อร่อยเหมือนขนมขวาน คนในครอบครัวเรียกประชุม น�้ำตานองหน้า โบกมือไขว่คว้ารั้งดึง คนที่รับอาสา โบกมือไขว่คว้าดึงรั้งผู้อื่นที่รับอาสา ในท้ายที่สุด ครอบครัว เจ้าปัญหาเดินมาหาเพชฌฆาต “เอางี้ ได้ไหม?” พ่อส่งเสียง “เราขอสละชิ้นส่วน ตัดแขนคนนี้ ตัดขาคนนั้น รวมกันแล้ว น่าจะเท่ากับคนหายไปจากหมู่บ้านหนึ่งคน” 12

สัญญาณสังหรณ์


เพชฌฆาตประจ�ำเมืองเอียงคอครุ่นคิด “ว่าไป” เขาชักสนใจแล้ว แม่เดินออกมาข้างหน้า “ขอตัดขา” พ่อยินดีให้ตัดแขน ลูกสาวยอมเสีย ใบหู ลูกชายขอกร้อนผม เออ, อาจเพิม่ เท้าอีกข้าง ไม่มีใครแตะทารกน้อย “เราจ�ำเป็นต้องมีหัว” เพชฌฆาตประจ�ำเมืองบอก “ได้เลย” พ่อตอบรับ “ฉันขอเฉือนจมูกด้วย” เพชฌฆาตพอใจแล้ว หลังจากตัดหัวคนอื่นๆ ในเมืองเรียบร้อยแล้ว เขาตัดหั่นรยางค์ของคนในครอบครัวนี้ น�ำมาเรียงต่อกันเป็นร่างคนบนพื้น ...คนที่เสียสละเพื่อการคุมจ�ำนวนประชากรในราชอาณาจักร ผู้คนในเมือง แยกย้ายกันกลับบ้าน งุนงงตาลอย ไม่แน่ใจว่าจะร�่ำไห้ทุกข์เศร้ากับการ สูญเสียอย่างไร ครอบครัวแหว่งวิ่น หลังจากพักฟื้นแล้ว ยังคงท�ำโรลไส้กรอกสืบไป แต่ผู้คนในเมืองไม่มาซื้ออีกแล้ว ทนไม่ได้ที่จะเดินเข้าร้าน มองเห็นพ่อ จมูกวิ่น ผ้าพันแผลคาดใบหน้า แม่ขาขาด กระโดดเขย่งเก็งกอยไปมาใน ร้าน กดเครื่องบันทึกเงินสดกรุ๋งกริ๋ง หรือต้องตะโกนสั่งซื้อเพราะลูกสาว หูขาดไปแล้ว ครอบครัวนั้นล้มละลาย จ�ำใจต้องอพยพออกจากเมือง พวกเขาไปอาศัยอยู่ในเมืองข้างเคียง เปิดร้านใหม่ ซึ่งก็ไม่เลวร้ายอะไร นัก เพราะผู้คนที่นั่นไม่เคยเห็นพวกเขาเป็นคนเต็มคนแต่แรกเริ่ม ยอมรับ ครอบครัวแหว่งวิ่นและโรลไส้กรอกเลิศรส ทุกคนในครอบครัวอายุยืนยาว นาน เด็กน้อยทีย่ งั มีชนิ้ ส่วนในร่างครบถ้วน เติบใหญ่เป็นสาวอายุยสี่ บิ เมือ่ เธอติดเชื้อ ทุกคนเอาใจใส่ดูแลรักษาอย่างดี ในท้ายที่สุด ขาของเธอหลุด ขาดหายไปเพราะแกรงกรีน นัน่ เองทีค่ รอบครัวจัดงานเฉลิมฉลอง ต้อนรับ เธอเข้าสู่ครอบครัวอย่างแท้จริง นีค่ อื นิทานก่อนนอนทีพ่ อ่ เล่าให้ฉนั ฟัง ในวาะทีฉ่ นั อายุครบสิบขวบ

นพดล เวชสวัสดิ์

13


ภาคหนึ่ง

20


1

วันเกิดอายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์ ฉันซื้อขวานเป็นของขวัญวันเกิดให้

ตัวเอง ของขวัญงามที่สุดเท่าที่ฉันได้รับในทศวรรษที่ผ่านมา ก่อนฉันจะได้ เห็นขวานสุกปลั่งบนผนังร้านเครื่องก่อสร้าง งดงามแช่มช้อยเหมือนคู่รัก ท�ำจากเหล็กและไม้ ฉันสิ้นหวังไปกับงานวันเกิดแล้ว วันเกิดสิบเก้าปี แม่เตะโด่งฉันออกจากบ้าน วันเกิดปีที่สิบแปด ฉันจัดงานปาร์ตีส�ำหรับสองคน หลังจากนัวเนีย กับเพือ่ นชายหนึง่ ชัว่ โมง เราลงมติ เราต่างเป็นโรคภูมแิ พ้ แยกย้ายกันกลับ บ้าน จามฟุดฟิดไปตลอดทาง วันเกิดปีที่สิบเจ็ด ฉันท�ำช็อกโกเลตเค้กให้ตัวเอง ในเมื่อฉันไม่มี ความคิดจะกิน ฉันผสมสารฆ่าแมลงลงไปในแป้ง เค้กพองบวมอวบอ้วน เลิศที่สุดเท่าที่เคยท�ำ ฉันยกออกจากเตาอบ โดมสีน�้ำตาลสมบูรณ์แบบ สุดสวย ฉันจับจานเค้กหมุนวนอยู่นานหลายชั่วโมง สูดกลิ่นเนยหอมนวล มดเดินแถวมาบนเคาน์เตอร์ในครัว กินเศษขนม มดนอนตายหงายท้อง วันเกิดปีที่สิบหก ป้าส่งเดรสผ้าไหมสีแดงเพลิงมาให้ฉัน ทั้งกลิ่น ทั้งสัมผัส นุ่มนวลอบอวลเหมือนด้านในข้อมือ ฉันลูบไล้ชุดเดรสวางพาด บนตัก เปิดสมุดโทรศัพท์ เลือกชื่อสตรีนางหนึ่ง อาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ 16 ฉันห่อพัสดุส่งไปให้เธอ สีแดงไม่ใช่สีที่ฉันโปรด วันเกิดปีที่สิบห้า สิบสี่ สิบสาม สิบสอง และสิบเอ็ด แม่กับฉัน นพดล เวชสวัสดิ์

17


ไปช้อปปิ้ง เป็นประจ�ำทุกปี สิ้นสุดภารกิจช้อปปิ้ง ไม่แม่ก็ฉันร้องไห้ด้วย ความอัดอั้นตันใจ เพราะฉันไม่ชอบอะไรเลย ฉันบอกแม่ ฉันไม่อยากได้ อะไร เว้นแต่สมุดแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ สมุดที่ไม่มีวางขาย ต้องสั่งซื้อ จากโรงนาตัวเลขทางใต้ แม่สั่นหัว ไม่ซื้อสมุดแบบฝึกหัดคิดเลขให้เป็น ของขวัญวันเกิดอีกแล้ว ดังนั้น เราน�ำเงินเข้าฝากธนาคารแทน วันเกิดปีที่สิบ เป็นวันที่พ่อป่วย และฉันละเลิกเด็ดขาด ฉันหลงรักหลงใหลเสียงเปียโน ไปลงชือ่ สมัครเรียน เรียนเปียโนอยู่ หกสัปดาห์ สิน้ สุดห้วงเวลานัน้ เราจัดการแสดงดนตรีเดีย่ ว ฉันสวมเดรสสวย เล่นมินูเอ็ต มือสองข้างเล่นไม่เหมือนกัน พร้อมกันในเวลาเดียว เมื่อการ แสดงสิ้นสุด ฉันดื่มน�้ำส้มคั้นและได้รับการสวมกอดและท�ำนองเพลงยัง ลอยอ้อยอิ่งอยู่ ในหัว ฉันเดินไปส่งครูเปียโนที่รถของเธอ เธอยิ้มให้ฉัน ภาคภูมิใจยิ่ง ฟ้าถล่มลงมา ฉันลดเสียง ฟังนะ ฉันกล่าว เร่งร้อน อย่าได้ มา อย่าได้เฉียดมาใกล้บ้านนี้อีก ครูเลิกคิ้วสูง งวยงง โมนา? เธอถาม มีอะไรหรือ? ขอบคุณค่ะ, ครู ฉันบอก แต่นี่สุดสายปลายทางแล้วค่ะ ฉันบอกแม่ แย่จงั ครูสอนเปียโนจะเดินทางออกจากเมืองเล็ก เมือง ไร้โอกาส เดินทางเข้ามหานครไปเป็นร็อกสตาร์ แม่เบิกตาโพลง หยิบ โทรศัพท์ ฉันใจเต้นตูมตาม แต่ก็โล่งใจยิ่งที่เครื่องตอบรับของครูรับสาย แทน แม่ฝากข้อความคลุมเครือ โชคดีนะคะ แล้วก็ ว้าว! เราขออวยพร ให้ครูโชคดีค่ะ สามสัปดาห์ต่อมา แม่พบครูเปียโนที่ตลาด จะคุยเรื่องอะไรกัน ฉัน ไม่ทราบได้ ฉันเข้าเรียนเต้นร�ำสิบครั้ง และบ่ายวันแรกของการโผผินบินจากพื้น ฉันบริจาครองเท้าบัลเลต์ ฉันมีเพือ่ นชายหนึง่ คน คบหากันสองเดือน นอน ตัวแข็งเป็นก้อนหินบนเตียง ฉันลงลู่กรีฑา ไวว่องเร็วจัดจนหลุดออกไปใน วงทางโคจรรอบโลก 18

สัญญาณสังหรณ์


ฉันละเลิกของหวานหลังอาหาร อยากดูแค่ว่าท�ำได้หรือไม่ แหง อยู่แล้ว ฉันท�ำได้ ฉันละเลิกการหายใจตอนเย็นย�่ำ แต่แล้วปอดก็ไม่ยอม รับค�ำสั่ง ฉันละเลิกการแตะผิวหนังตัวเอง นอนโดยซุกมือสองข้างไว้ใต้ หมอน ในยามที่ไม่มีใครอยู่ในบ้าน ฉันเอาเชือกผูกรอบเปียโน เพื่อหน่วง เวลาไว้สามสิบนาที โดยได้รบั ความช่วยเหลือจากกรรไกร ตัดเส้นเชือกเพือ่ จะได้เล่นมินูเอ็ต จากนั้น ฉันเอากรรไกรทั้งหมดในบ้านไปซ่อน ฉันไม่เลิกเคาะไม้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันท�ำตลอดเวลา ตอกย�้ำสัตย์สาบาน ต่อการละเลิกทุกครัง้ ตอกย�ำ้ จากเปลือกถึงกระพีถ้ งึ แก่นถึงโคนถึงราก ฉัน บอกเนือ้ ไม้...ดูฉนั ซี, ดูวา่ ฉันท�ำอะไร บันทึกไว้ซะนะ ตืน่ ขึน้ มาสนใจกันบ้าง ไม่เปียโน ไม่ของหวาน ไม่กรีฑา ไม่ทุกอย่าง ฉันตกหลุมรัก การละเลิก ศิลปะชั้นสูงเชียวนะ หากลองพินิจพิจารณาให้ดี การละเลิกจ�ำต้อง มีสญ ั ชาตญาณความงามในตัว เราต้องสัมผัสรับรูเ้ สีย้ ววินาทีของจุดเปลีย่ น เมือ่ ความปรารถนาทะลักมาให้เห็น เสีย้ ววินาทีของการปลิดขาด เสีย้ ววินาที สุกงอมเหมือนผลท้อหอมหวาน ปลิดขาดจากขั้วหล่นกระทบพื้น แมลง รุมตอมสีด�ำสีเงินคลุมผิว ฉันมีเพื่อนชายคนเดียว ส่วนใหญ่แล้ว เขาจะสมาธิสั้น หันไปมอง ทางโน้นทางนี้ แต่คราวหนึ่ง เรายืนคาช่องประตูหน้าบ้านของเขาในคืน อบอุน่ ของฤดูรอ้ น ริมฝีปากของเขาลากไล้สำ� รวจผิวกายของฉันเหมือนสตริง ควอเท็ต ฉันรู้สึก ฉันรับสัมผัสเหมือนผลท้อพร้อมจะเขย่าให้หลุดจากขั้ว ฉันละเลิกการไปดูหนังในโรง ฉันละเลิกงานร้านอาหารในยามที่เชฟพร�่ำพรอดกรอกหูว่าฉันเป็น ยอดนักวิ่ง ฉันละเลิกสลัดไข่ ฉันละเลิกการพลิกผ่านหนังสือแผนที่

นพดล เวชสวัสดิ์

19


ฉันละเลิกแนวคิดการไปอาศัยที่อื่นห่างไกลจากบ้าน เลิกแล้วค่ะ เลิกนาน แล้วค่ะ จนกระทั่ง วันเกิดปีที่สิบเก้า แม่เตะโด่งฉันออกจากบ้าน แม่ปิด ส�ำนักงานท่องเที่ยวของเธอ กลับบ้านแต่หัววัน เธอกล่าว : โมนา แฮปปี้ เบิรธ์ เดย์, ลูกน้อย แม่มขี องขวัญจะมอบให้ แม่วางมือบนไหล่ของฉัน ผลักไส ผลักดันให้เดินผ่านประตูหน้า แม่จับฉันตั้งอยู่กลางสนามหญ้าหน้าบ้าน แม่รักหนูนะ แต่หนูแก่เกินกว่าจะอยู่ที่นี่แล้ว แต่หนูรักที่นี่ เส้นผมของแม่ปลิวไสวล้อแรงลม หนูโกหก แม่กล่าว และทีเ่ ลวร้าย กว่านั้น หนูไม่รู้ตัวด้วยซ�้ำ ฉันไม่แน่ใจนักว่าแม่ยื่นค�ำขาดห้ามต่อรองหรือว่าแค่พูดเล่นให้หาย คันปาก จนกระทั่งแม่ลากเตียงของฉันมาที่ช่องทางเดินสู่ประตูหน้า พ่อ งุนงง เอียงตัวหลบหมอนเน่ากับผ้าห่มของฉัน สองคืนเชียวนะทีฉ่ นั หลับฝัน ในพื้นที่แคบ ผนังแทบชนผนัง เช้าวันที่สอง ฉันตื่นขึ้นมา ไปเข้าห้องน�้ำ เดินกลับมา เตียงของฉันหายไปแล้ว ประตูหน้าเปิดอ้ากว้าง แม่ยืนคา ช่องประตู หันหลังให้ฉนั แผ่นหลังกระเพือ่ มขึน้ ลงจากการหัวเราะหนักมาก ต่อภาพที่เห็น เตียงผ้าปูยับย่นยู่ยี่ของฉันตั้งมั่นกลางสนามหญ้าเหมือน แม่งัว งั้นหนูก็ออกมานอนลางสนามหน้าบ้าน ฉันเดินตรงไปหาเตียง แม่รวบตัวฉันมากอด รัดฉันแน่น ฉันรับรู้แรงกระเพื่อมของการ หัวเราะ ความอุ่นของวงแขนและนมแม่ ฉันออกไปล่าอพาร์ตเมนต์ในวันเสาร์ แม่ออกไปท�ำงาน ก่อนฉัน จะออกจากบ้าน พ่อเรียกตัวฉันไปพบในห้องนั่งเล่น พ่อรู้สึกว่าไข้ขึ้น นอน บนโซฟา ผ้าขนหนูชุบน�้ำวางแปะหน้าผาก อ่อนปวกเปียกเหมือนธงชาติ ของประเทศแพ้สงคราม ต้องมีระบบท�ำความร้อนส่วนกลาง พ่อแนะน�ำ พ่อต้องการอะไรไหม? ฉันถาม พ่อสั่นศีรษะ โมนา พ่อกล่าว ต้องดูให้ดี ว่าชักโครกกดแล้วน�้ำไหลลง ฉันผงกหัว ฉันรินน�้ำใส่แก้วมาให้พ่อก่อนจะ 20

สัญญาณสังหรณ์


ออกจากบ้าน การย้ายออกจากบ้านไปอยู่คนเดียวท�ำให้ฉันหวาดหวั่น ดังนั้น ฉัน ลากเลข 19 มาเป็นเพือ่ นร่วมทาง 19 : เป็นเลขจ�ำนวนหกเหลีย่ มล�ำดับทีส่ าม เป็นเลขไพรม์-จ�ำนวนเฉพาะ ปริมาณของเวลาที่มีชีวิตอยู่ ในปลายคาง ปลายนิว้ เท้าและสมอง ฉันเดินผ่านถนนต้นไม้รกครึม้ สองฟากข้าง เดินไปจน ถึงชานเมือง มองออกไปเห็นเนินเขาห่างไกลแต้มด้วยริบบิ้นทางหลวง เหมือนของขวัญสีเหลืองตะปุม่ ตะป�ำ่ ผูกโบว์สเี ทา ฉันเดินผ่านป้าย ให้เช่า หลายแผ่น แต่ในที่สุด อพาร์ตเมนต์ที่ฉันเลือก อยู่ห่างจากบ้านพ่อแม่แค่ สามช่วงตึก ทาสีสดสวย ชักโครกทรงพลังพอจะขับดันถุงเท้าให้หายลงท่อ ไปได้ เลขบ้านที่ฉันโปรดเป็นที่สุด : 9119 วันที่ฉันย้ายเข้าพัก ฉันจัดเรียงเครื่องเรือนเหมือนห้องพักในบ้าน เตียงที่เคยเป็นสีเทาหม่นในบรรยากาศซึมเซาในบ้านพ่อแม่ หวนกลับมา ส่องแสงเรื่อสีชมพูแล้ว ฉันไม่ได้เห็นสีชมพูเฉดนี้มาตั้งแต่เก้าขวบ ดูคล้าย ภาพโฆษณาสีสวยในนิตยสารทีย่ งั คงคุณภาพสีเหล็กขาวด�ำ แม้จะมีรอยเปือ้ น แต้มสีแดงสีน�้ำเงินเข้าไปแล้ว ฉันโทรหาแม่ในทันทีที่ต่อสายโทรศัพท์ได้แล้ว หนูมาอยู่ที่นี่แล้ว แล้วไงต่อ? แม่กนิ อาหารบางอย่าง กรุบกรอบ แต่งบ้าน เธอบอก จัดงานปาร์ตี ผนังสีขาวขยายใหญ่ขาวโพลนและว่างเปล่า ฉันวิ่งเข้าทุกห้อง บอก ชื่อฉันในแต่ละห้อง โมนา ฉันบอกห้องครัว โมนา ฉันกระซิบบอกตู้เก็บเสื้อโค้ตในช่องทางเดิน เมื่อถึงเวลาห้าทุ่ม ฉันเข้านอนบนเตียงที่ฉันนอนมาแล้วตลอดชีวิต ในห้องที่ฉันยังไม่เคยนอนมาก่อน ปิดสวิตช์ไฟ เงาวูบวาบส่งปิศาจตัวด�ำ ย่องเคลือ่ นบนผนัง ฉันเอือ้ มมือไปแตะไม้กระถางทีแ่ ม่มอบให้เป็นของขวัญ ขึ้นบ้านใหม่ ฉันเคาะไม้ เคาะล�ำต้น เคาะแล้วก็เคาะ ไม่ใช่การเคาะ นพดล เวชสวัสดิ์

21


สองสามครัง้ แต่คงเคาะไปแล้วสักห้าสิบเห็นจะได้ เคาะล�ำต้นหนึง่ ร้อยครัง้ เคาะอีก หนึ่งร้อยห้าสิบ มากกว่านั้นอีก ฉันหยุด เมื่อรู้สึกว่าบางอย่าง ผิดปกติ ท้องไส้ของฉันป่วนปั่น ฉันเคาะล�ำต้นเพิ่มอีก ห้องใหม่รุกคืบมาห้อมล้อมรอบตัวฉัน พยายามเรียนรู้ นี่ฉันเอง ฉันอยากบอกเช่นนั้น ดีจ้า นี่ฉันเอง คนที่พร้อมจะปกป้องคุ้มครองโลก ฉันเคาะจนถึงเที่ยงคืน ฉันละเลิก แล้วย้อนกลับไปท�ำอีก นี่กระมัง ที่ฉันวาดภาพถึงยาเสพติด เลิกแล้วแต่อดใจไม่ไหว ฉันเคลื่อนเข้ าใกล้ เขม้นจ้องมองเนื้อไม้ กลั้นใจนิ่ง อยากเคาะให้พอเหมาะ กล้ามเนื้อเกร็ง ทัว่ ร่าง กลัน้ ลมหายใจนิง่ ก�ำหนดจิตให้มงุ่ มัน่ รอคอยและระบายลมหายใจ ออกมา...ซซซซซ ยาวนานราวห้าวินาที จบสิ้นแล้ว ยังไม่ได้ ลองใหม่ อีกครั้ง อีกครั้งเดียว เคาะได้หมดจดเหมาะเจาะในคราวนี้ จะได้ไม่ต้อง ท�ำอีกแล้วในชาตินี้ หลังจากจัดบ้านเข้าทีเ่ ข้าทางแล้ว ทุกลิน้ ชักมีหน้าทีก่ ำ� กับ ห้องน�ำ้ พร้อมมูล ด้วยกระดาษช�ำระและน�ำ้ ยาเช็ดกระจก ฉันเชิญแม่มาร่วมอาหารมือ้ กลางวัน พ่อส่งค�ำขออภัยมาแทนตัว รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวอีกแล้ว ฉันท�ำ แซนด์วิชไก่งวง ใช้มายองเนส มัสตาร์ด และขนมปังตราเดียวกับที่แม่ซื้อ หลังอาหาร แม่หยิบถุงเชอร์รีออกมาจากกระเป๋าถือ แม่ถามว่าอยากเจิม อพาร์ตเมนต์ใหม่ด้วยการถ่มเม็ดเชอร์รีออกนอกหน้าต่างไหม? ไม่ละค่ะ, ขอบฉัน ฉันบอก หลายปีก่อนหน้านี้ เราจะไปนั่งในสนามหญ้าหลังบ้าน ในฤดูร้อน นั่งบนผืนหญ้า ถ่มเม็ดเชอร์รีออกไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะท�ำได้ การถ่มเม็ดของแม่ไม่ใคร่เข้าเป้า มักจะกระเด็นกระดอนไปทางซ้าย พ่อ เป็นยอดนักถ่ม แต่ฉันหัวไวเรียนรู้ได้เร็ว ฉันจับตามองเม็ดเชอร์รีรูปไข่ สีแดงลอยเป็นวงโค้ง หลังจากที่พ่อป่วยแล้ว ฉันนั่งถ่มเม็ดเชอร์รีคนเดียว ไม่ค่อยสนุกนัก การนั่งถ่มเม็ดเชอร์รีกับแม่ไม่ใคร่ท้าทาย มีคราวหนึ่ง ฉัน อ้อนวอนให้พ่อร่วมแข่งด้วย ด้วยเหตุผลใดไม่ปรากฏ พ่อสูดลมหายใจเข้า 22

สัญญาณสังหรณ์


เร็วเกินไป เม็ดเชอร์รถี อยหลัง พลัดตกลงไปในล�ำคอ เม็ดเชอร์รขี นาดเล็ก ติดขลุกขลักในเขาวงกตของล�ำคอ นานสักสามหรือสีว่ นิ าที แต่กพ็ อจะท�ำให้ เรากลัวแทบขาดใจแล้ว หลังจากนัน้ ฉันไม่โยนเชอร์รที งั้ ลูกเข้าปากอีกแล้ว ได้แต่แทะเนื้อเล็มรอบเม็ด พ่อหั่นอาหารเป็นชิ้นเล็ก ก่อนแม่จะลาจาก 9119 แม่วางเชอร์รี แดงสดเหมือนเม็ดเลือดแดง บนเคาน์เตอร์ ควักกล้องออกมาถ่ายรูป เก็บมุมอื่นๆ ในอพาร์ตเมนต์ น�ำ กลับไปให้พ่อดู ฉันมีเซ็กส์กับเพื่อนชายคนเดียว ครั้งเดียว สองครั้ง ที่ห้องของเขา ผิวเนื้อของเขาเหมือนเรือลอยตุ๊บป่องบนร่างของฉัน เขาจูบสีเงินเข้าไปใน ท้ายทอยของฉัน และยินยอมพร้อมใจตามค�ำขอของฉันที่จะเปิดไฟสว่างโร่ ตลอดกระบวนการ ฉันอยากเห็นว่าเกิดอะไรบ้าง ฉันให้คำ� อธิบาย ก็ดี เขา ตอบรับ มือเกาข้อศอกแกรกๆ หลังจากครั้งที่สาม ในตอนที่เราเริ่มจะคุ้น กับท�ำนอง ฉันออกจากที่นั่นในตอนเช้า กลับมาหาอพาร์ตเมนต์ว่างเปล่า ฉันตรวจเครือ่ งตอบรับ เผือ่ จะมีใครตายตอนทีฉ่ นั ออกไปเยือนโลกภายนอก และมีเซ็กส์ แต่ก็ไม่มีใครตาย หรืออย่างน้อยที่สุด ไม่มีใครรายงานให้ฉัน ทราบ ฉันนั่งบนโซฟา เคาะไม้ต่อไป เคาะโต๊ะเตี้ยข้างโซฟา ย้อนนึกว่า ขนตาของเขาเป็นแพสีด�ำในตอนที่เขาหลุบตามอง นาฬิกาบอกเวลาเที่ยงวัน ฉันเดินเข้าห้องครัว เปิดตู้เย็น แต่อาหาร ในนัน้ ดูยงุ่ ยากซับซ้อน ฉันเปิดตูเ้ ก็บอาหารกระป๋อง แต่ไม่อยากกินซุปไก่งวง หรือถั่วการ์บานโซหรือทูนา ฉันเดินเตร่เข้าไปในห้องน�้ำ ก่อนจะทันได้คิด ฉันแกะกระดาษห่อสบู่ที่ฉันเก็บไว้ใต้อ่างล้างหน้า ฉันซือ้ สบูต่ ราเดียวกับทีแ่ ม่ซอื้ สบูก่ อ้ นขาว วางหงายโยกเยกไปมาได้ เป็นมิตรที่สุด ฉันถือติดมือเข้ามาในห้องนั่งเล่น นั่งมองอยู่ระยะหนึ่ง ยก มาดมกลิน่ มีมดี วางบนโต๊ะเตีย้ จากการหัน่ แอปเปิลวันวาน สะดวกดี หลาย นาทีหลังการถือในมือ ยกมาดม ฉันหยิบมีด วางก้อนสบู่คว�่ำบนเท้าแขน ของโซฟา มีดเฉือนสบู่ออกมาเสี้ยวหนึ่ง ส่งเข้าปาก ฟันกัดเคี้ยว นพดล เวชสวัสดิ์

23


อีกชิ้น! ส่งเข้าปาก! ชิ้นสบู่กลิ้งข้ามลิ้น เหมือนช็อกโกเลตติดตาม ซอกฟัน ฉันส่งอีกชิ้นเข้าปาก ฟองฟ่อดเต็มปากแล้ว อืม, ตัดอีกชิ้น มือ ชักจะลื่นไถล ฉันก�ำมีดแน่น หั่นเฉือนอีกชิ้น ฉันเคี้ยวสบู่ไปครึ่งก้อนก่อนจะรู้ตัวว่ารสชาติสุดพิลึก ความรู้สึก ในปากไม่ ใช่แล้ว และการกลืนลงคอผิดปกติเกิน ทานทน ถึงตอนนั้น ฟองสบูข่ น้ คลัก่ ท�ำให้ฉนั ขย้อน ฉันเดินเข้าห้องน�ำ้ กระจกเงารายงานฟองหนา รอบริมฝีปาก ฉันโยนครึ่งก้อนที่เหลือเข้าไปในห้องฝักบัว ดื่มน�้ำแก้วแล้ว แก้วเล่า บ้วนฟองลงในอ่างล้างหน้า ตลอดทัง้ วัน แทบไม่ได้คดิ ถึงเพือ่ นชาย เดิน พล่านเข้าห้องโน้นออกห้องนี้ เรอเอิ้ก เรอแล้วเรออีก ประเมิน สถานการณ์ทฉี่ นั รูส้ กึ อยู่ ฉันควรจะเอนหลังผ่อนคลาย หรือว่าจะไปล้างท้อง ที่โรงพยาบาล? ฉันตืน่ เช้าวันถัดมา เวียนหัวแต่ยงั ไม่ตาย ฉันเดินโซเซเข้าไปใต้ฝกั บัว ยืนกลางฝอยน�้ำ : ปวกเปียก เปลือยเปล่า เลื่อนลอย ใช้สบู่ที่มีรอยฟันกัด ปลายก้อน ท�ำความสะอาดตัวเอง แต่ก่อนจะวางคืนกลับ ฉันอดไม่ได้ที่จะ แทะเล็ม กลิ่นสบู่อวลในล�ำคอ ท้องไส้ของฉันบีบรัด ฉันคุกเข่าลง น�้ำไหล เข้าตา ขย้อนฟองขาวขุ่นลงท่อ กลิ่นสบู่ทะลักผ่านร่างเป็นระยะ จากนั้น ฉันน�ำเอาสบู่ครึ่งก้อนที่เหลือ สบู่ที่มีรอยฟัน ทิ้งลงถังขยะ ฉันทนใช้สบู่ก้อนไม่ได้อีกนานหลายเดือนหลังจากนั้น ต้องล้างมือ ด้วยแชมพู ราวหนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น พบปะเพื่อนชายคราวถัดไป มือ ของเขาไถลลื่นเข้าไปใต้เสื้อ ปลดตะขอบรา ปล่อยเต้าถันฉันหลุดออกมา ฉันถอยหลัง บอกว่าไม่ ผลท้อปลิดขั้วหล่นจากต้น ตายดับ เขากะพริบตา โอ, โอเค ถ้าฉันยังมีความแคลงใจ ถ้าฉันยังรู้สึกถึงไออุ่นอวลในอกเมื่อ ปลายนิ้วของเขาแตะมุมปากของฉัน เมื่อเขาจูบไล้ล�ำคอ เปลี่ยนแผ่นหลัง ของฉันให้เป็นรูปรุพรุน ฉันขอตัวเข้าไปล้างมือในห้องน�ำ้ เขาใช้สบูต่ ราเดียว กับฉัน กลิ่นสบู่นั้นออกฤทธิ์ทันควัน ฉันออกจากบ้านของเขาก่อนเที่ยงคืน กางเกงฉ�ำ่ ชืน้ ท้องไส้ปว่ นปัน่ เดินเคาะต้นไม้ขา้ งถนนไปตลอดทาง เราเลิก 24

สัญญาณสังหรณ์


คบกันในอีกสามสัปดาห์ให้หลัง เขาพร�่ำบอกว่าเสียใจ ฉันยกนิ้วมือสะอาด สูดกลิ่น ผงกศีรษะรับ หลังจากนั้น หนึ่งเดียวที่ฉันหลงรักและไม่มีวันละเลิก ดูคล้ายจะไม่มีทาง ถอดถอนใจให้พรากจากได้ จะเป็นตัวเลข ฉันพยายามไม่คิดแต่ห้ามใจ ตัวเองไม่ได้ ต้องบวกรวมก้าวเดิน น�ำผู้คนในสวนสาธารณะแบ่งเป็นฝ่าย มาคูณกัน เคาะเนื้อไม้เป็นจังหวะ นับจ�ำนวนไม่รู้จบสิ้น : แกะ นักเรียน พ่อแม่ อายุ อัตราการเต้นของหัวใจ ผสมตัวเลขเข้ากับสัญลักษณ์ นั่น ปะไร, ได้สมการการเคลือ่ นทีข่ องลม หรือสัจพจน์การเคลือ่ นทีข่ องน�ำ้ หรือ ความสูงของใครบางคน หรือความรูส้ กึ หากได้แตะผิวหนังของเขา ความนุม่ ค�ำนวณได้ ทุกอย่างมีค�ำอธิบายเสมอ แม้แต่อากาศ ก็เป็นแค่การจัดเรียง ของตัวเลข หากประสมให้พอเหมาะ...เฮือก! เราสูดอากาศเข้าปอด เราพอจะหาอักขระไร้ศาสนาในภาษาคณิตศาสตร์ได้ แต่ถ้าท่าน ถามฉัน ฉันยืนยันว่าเป็นไปในทางตรงกันข้าม ฉันใช้เวลาตลอดทั้งบ่าย คิดถึงเลขตัวเดียว โผผินบินร่อนมาตาม อุโมงค์ผลึกหินไล่สเี รียงชัน้ เปิดบานประตูลบั ทีค่ วรจะเป็น ลองเลือกเลข 5 ดูคล้ายเป็นเรื่องสามัญ ธนบัตรใบละห้าดอลลาร์ พักหายใจห้านาที...แต่ ห้าเป็นผลรวมของสองยกก�ำลังสองกับเลขจ�ำนวนเฉพาะ และรูปดาวห้าแฉก ครูสอนเลขปอหกบอกฉันว่า เลข 5 ในสายตาของสาวกปิทากอรัส เป็นการ แต่งงานกันระหว่าง 3 (เลขคี่ตัวแรก) กับ 2 (เลขคู่ตัวแรก) วันครบรอบ แต่งงานของพ่อแม่ปีนั้น ฉันอบเค้กเล็กให้หา้ อัน ทั้งสองงวยงง (อาจเป็น เพราะครบรอบวันแต่งงานปีที่ยี่สิบเอ็ด) แต่แม่กล่าวชื่นชมฟรอสติง ยอด ภูช็อกโกเลตติดปลายนิ้วของเธอ ฉันสังเกตเห็นบัตรคิว 31 ในร้านแซนด์วิช เพื่อยืนยันว่าจะต้อง รอแซนด์วชิ อีกกีอ่ นั ก่อนจะถึงแซนด์วชิ ทีฉ่ นั จะกินลงท้อง ฉันใช้ปมุ่ 60-90 ของเครื่องท�ำความร้อน เพื่อกล่อมขนแขนสแตนด์อัป ให้ราบลง หรือ นพดล เวชสวัสดิ์

25


อุ่นเสื้อสเวตเตอร์ ฉันกดแป้นสี่เหลี่ยมเล็ก 1-9 ของโทรศัพท์ เพื่อติดต่อ สื่อสารกับโลกภายนอก ฉันเคาะไม้กระถาง 15 ครั้งก่อนนอนทุกคืน สัญลักษณ์ 2 ชั่วโมงของมิเตอร์จอดรถ บอกเตือนให้ฉันไม่ให้โดนใบสั่ง ฉัน ท่องจ�ำความจุของการบรรทุกในลิฟต์ : ห้ามเกิน 22 คน สุดสวย กระจ่างชัด การละเลิกตัวเลขจะเป็นการน�ำผู้คน 25 คนเข้าไปเบียดเสียด กันในลิฟต์ กระเหีย้ นกระหือรือจะเดินทางไปยังทีห่ มาย ปล่อยให้บานโลหะ เลื่อนปิด ตกดิ่งเร็วรี่ลงไปหาพื้นคอนกรีตเบื้องล่าง รวดเร็วแล่นฉิวเหมือน ดาวหาง

26

สัญญาณสังหรณ์


2

ฉันได้ยนิ เรือ่ งเล่าของสตรีนางหนึง่ ได้งานให้มาจัดระบบเมืองเสียใหม่ ตั ว เลขผิ ด เพี้ยนเพราะนายกเทศมนตรีมีปัญหาในการนับเลข เธอได้ สัญญาว่าจ้าง และเธอน�ำเลข 8 กลับมาใช้อีกครั้ง เลข 8 หายไปจาก นาฬิกา เธอต้องตรวจสอบหนังสือหลายเล่ม ดูว่าการบวกเลขถูกหรือไม่ (แน่นอน เลข 8 ขาดหายไป) และต้องตรวจสอบป้ายจราจรทั้งหมด คนขับรถลงจากทางหลวง ตามป้ายบ่งบอกว่า ปั๊มน�้ำมัน 2 กม. ลงไปพบ แต่ถนนดินแดง ป้ายนั้นควรจะบอกว่า 88 สร้างงานอาชีพใหม่ ชาวเมือง หิ้วน�้ำมันใส่ถังไปบริการรถจอดตายไร้น�้ำมัน เธอได้ชื่อว่า คุณหมอตัวเลข...งานในฝันของฉัน แต่ฉันก็ยังงุนงงและนอบน้อม เมื่อครูใหญ่โรงเรียนประถม โทร มาถามว่าฉันอยากเป็นครูสอนเลขหรือเปล่า? ครูสอนเลขคนเดิมบินไปยัง ปารากวัยในนาทีสดุ ท้าย ไม่มีใครรูเ้ รือ่ งจนจดหมายลาออกเดินทางมาถึง... สี่วันก่อนโรงเรียนเปิดเทอม จดหมายลาออกเขียนบนโปสการ์ดรูปป่าเขียว ขอโทษค่ะ, เธอเขียน ดิฉันตัดสินใจจะเป็นนักปฏิวัติ ได้โปรดส่งเงินเดือน เดือนสุดท้ายมาที่ที่อยู่นี้ เรือ่ งร้ายกาจสุดรุนแรง, ครูใหญ่บอกกับฉันทางโทรศัพท์ คงยากจะ เข้าใจว่าการหาครูสอนเลขนั้นยากเย็นแค่ไหน ครูใหญ่บอกว่าเป็นกังวลจนนอนไม่หลับ แต่แล้ว ภาพแจ่มชัดวาบ ขึ้นมาในใจเหมือนความฝัน เธอจ�ำได้ว่าเมื่อฤดูร้อนหลายปีก่อนหน้านี้ เธอ นพดล เวชสวัสดิ์

27


พบฉันที่สวนสาธารณะ นอนเอกเขนกอยู่ข้างบึงเป็ด ดูดน�้ำมะนาว และท�ำ โจทย์หารยาว ต้องเป็นเธอ ครูใหญ่บอก หนูไม่เคยสอนเลขมาก่อน ฉันบอก หนูเพิ่งอายุสิบเก้า แล้วไง? บวกเลขเป็นเปล่า? ฉันหัวเราะ หรืออ็อกตากอน? รู้จักไหม อ็อกตากอนน่ะ? แล้วไง? อ็อกตากอนคืออะไร? ครูใหญ่ถาม หนูไม่โง่นะคะ, ครู หนูหลวมตัวไปแต่งงานกับป้ายจราจรแล้ว เริ่มงานวันจันทร์ ครูใหญ่บอก เธอได้รับการบรรจุเป็นครู, โมนา เกรย์ ครูใหญ่วางหูก่อนฉันจะทันได้ตอบ โรงเรียนประถมห่างไปแค่เดินเร็วไม่ทันได้เหงื่อจากอพาร์ตเมนต์ของฉัน ฉันเดินไปดูทที่ ำ� งานใหม่ในวันเสาร์ ผ่านปากสีแดงอ้ากว้างของสถานีดบั เพลิง ผ่านบ้านทีม่ หี า่ นสีเขียวหน้าโง่ปกั บนสนามหญ้า ผ่านแปลงทีด่ นิ ว่างหญ้าขึน้ สูง ผ่านโรงพยาบาลกระจกสีฟา้ หลังคาโปร่งให้แสงส่องลงมาเป็นรูปเพชร บนพื้นซีเมนต์เบื้องล่าง นี่ไง, สุดเขตเมืองแล้ว ฟากหนึ่งเป็นโรงเรียนเด็ก อีกฟากเป็นคนไอโขลก อ่อนแอ และล้มตาย โรงเรียนกล่องเล็กสีขาวน่ารักจับจองมุมเมือง ข้างในมีห้องครัว ส�ำหรับคณาจารย์ โถงใหญ่ส�ำหรับกล่องอาหารและเสื้อแจ๊กเก็ต ห้อง กิจกรรมขนาดใหญ่ และช่องทางเดิน มีประตูเรียงราย แต่ละห้องติด ป้ายกระดาษ อ่าน ตัวหนังสือสีแดง วิทย์ สีเหลือง และ คณิต ของฉัน ตัวหนังสือสีด�ำ ฉันยืนมองนานเป็นนาที ภูมิใจนะ ฉันสูดลมหายใจยาว เปิดประตูเข้าไปข้างใน 28

สัญญาณสังหรณ์


ฉันผิดหวัง ห้องคณิตไม่มีหน้าต่าง กว้างเท่าช่องทางเดิน โชย กลิ่นคอนกรีต ห้อง ศิลปะ กับ สะกดค�ำ ได้ห้องสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีหน้าต่าง ปรุงกลิ่นด้วยแสงอาทิตย์ ฉันเดาเอาว่าคณิตเป็นเป้าแห่งอคติ เพราะครู สอนเลขเป็นหมอฟันประจ�ำหลักสูตรการศึกษา ถ้านักเรียนไม่เกลียดเข้าไส้ ก็ถือเป็นปาฏิหาริย์แล้ว ยกเว้นฉัน ฉันรักครูคณิตศาสตร์ทุกคน ครูสอนเลขหน้ายาวเหมือน ยีราฟ ผู้ปั้นปัญหาด้วยค�ำที่คล้องจองกัน ฉันรักครูสอนเลขผู้หลั่งน�้ำตา นองหน้า ในยามทีเ่ ธออธิบายสมการก�ำลังสอง งามจริงแท้ งามจนนิตยสาร น่าจะมาถ่ายรูปท�ำสกู๊ป ฉันรักครูสอนแทน ผู้สวมเน็กไทลายสีเปรอะ เขา จัดการแข่งขันให้คน้ หาวงกลมสมบูรณ์แบบในธรรมชาติ ฉันเป็นผูช้ นะ เมือ่ ชี้รูม่านตาตัวเองโดยพลัน ฉันรักครูพีชคณิตมัธยมปลายมากกว่าครูคนไหนๆ ตอนนี้ เขาไป เป็นเจ้าของร้านเครื่องมือก่อสร้างประจ�ำเมืองไปแล้ว มิสเตอร์โจนส์เป็น เสาหลักประจ�ำใจของฉัน เติบใหญ่เป็นสาวรุ่นหลงรักตัวเลข เขาอาศัยอยู่ ข้างบ้านพ่อแม่ พบเจอทุกคราวจะมีเทียนตัวเลขห้อยเป็นสร้อยคอ ตัวเลข แปรเปลี่ยนตามสภาพอารมณ์ ขึ้นสูงถ้าผ่องใสและลดต�่ำหากหดหู่ โดย ปกติแล้ว สร้อยคอของเขาจะแขวนเลข 15 มีครัง้ เดียวทีห่ อ้ ยคอด้วยเลข 37 วันนั้น หญิงสาวเดินออกประตูหน้าของเขาในตอนรุ่งเช้า จูบกันดูดดื่มคา ช่องประตู เขาแปลงโฉมคล้ายเป็นคนแปลกหน้า เป็นเงาสดสาบซ่าของ ตัวเอง มีไม่กี่ครั้งที่เขาตกต�่ำลงถึงเลข 2 ในช่วงนั้น เขาจะออกนอกบ้าน แค่เอาขยะมาทิ้งไม่กี่ครั้งที่ฉันพบเห็น ในช่วงเลข 2 นานหลายสัปดาห์ของ เขา ต้องหาครูมาสอนแทน การสอบย่อยต้องเลือ่ นออกไปอย่างไม่มกี ำ� หนด จนกว่าครูโจนส์จะหายดี ครูโจนส์เป็นทั้งสิ่งดีที่สุดและเลวร้ายที่สุดส�ำหรับนักเรียน ดังนั้น ในช่วงวันหยุดก่อนเปิดเทอม เพื่อเชิดชูเกียรติครูสอนเลข ฉันแปลงโฉมห้องเรียนอัปลักษณ์ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ตัวเลขแสนสวย แต่ นพดล เวชสวัสดิ์

29


วันเปิดเรียนวันแรก เด็กอนุบาลและปอหนึ่งไม่สนใจอะไรเลย ก็น่ารักดีทั้ง ชุดหมีและโบว์ผูกผม เด็กหลายคนหลุดปากเรียกฉันว่าแม่ แต่พวกหนูน้อย ไม่ได้เหลือบมองผนังห้อง ไม่ได้สงั เกตเห็นตัวเลขทีฉ่ นั ทุม่ เทแรงกายแรงใจ ท�ำตลอดวันหยุด : สงบเสงี่ยม 2 น�้ำเงิน! สนุกสนาน 5 แดง! สุดสง่า 10 ด�ำ! กฎแห่งเอกภพวางกางต่อหน้าแล้ว แต่ยงั ไม่มีใครใส่ใจหันไปดู สองคน ฉี่ราดกางเกง อีกคนปวดนิ้ว ฉันดูแล้วก็ปกติดี แต่เขาอยากไปนอน ห้องพยาบาล ในเมื่อป้าของเขาเป็นพยาบาลประจ�ำโรงเรียน ฉันอนุญาต ให้เขาไปได้ ความกระตือรือร้นของฉันสลดลง เมื่อกริ่งดังขึ้น คาบที่สามไม่มี ใครเข้ามาในห้อง ไม่เลวนัก ฉันคิด ได้พักสักคาบก็ยังดี ฉันดูตารางสอน ไม่เลย, คาบนี้ของปอสอง ฉันอ่านรายชื่อนักเรียน ลายมือเล่นหางของครูใหญ่ ประถมศึกษาปีที่สอง จอห์น บีซ แอนน์ ดิลันโน เอลเมอร์ กราฟลากี มิมี ลูเนลล์ แดนนี โอ”มาซซี ลิซา วีนัส เอลเลน (นามสกุล?)

ชื่อท้ายสุด ลายเส้นขวยเขิน ฉันท่องชื่อ กริ่งสองดังขึ้น ฉันลบ กระดาน ห้านาทีถดั มา ประตูเปิด ฉันชะโงกหน้าออกไปทีช่ อ่ งทางเดิน บิงโก! เด็กเจ็ดขวบเจ็ดคนนอนระเนระนาดบนพื้น 30

สัญญาณสังหรณ์


ปอสองเปล่า? ฉันถาม เข้ามาเลย ชั่วโมงนี้ต้องเรียนเลขกับครู เด็กหญิงหัวกระเซิงยกหัวขึ้นจากพื้น มองหน้าฉัน ที่เหลือนอนกลิ้ง ไปมา มีแค่สามคนที่ติดป้ายชื่อบนอกตามกฎการเรียนวันแรก ฉันกระแอม ใกล้จะจุดระเบิดเทอมใหม่ ด้วยการส่งสักสองสามคน ไปหาเจ้านายใหญ่ เด็กลุกพรวดพราดขึ้นมา เดินตรงไปหาตัวเลขบนผนัง เด็กหัวกระเซิงชี้ไปยังเลข 3 สีม่วง หนูชื่อ ลิซา วีนัส เลขตัวนี้ดีที่สุด เพื่อนของเธอ คนที่ติดป้ายชื่อ จอห์น บีซ แตะตีนเลข 5 เรายิ้ม ให้กัน สวัสดีค่ะ ฉันคือ มิสเกรย์ ครูสอนเลขคนใหม่ ฉันอยากบอกว่า วิชาเลขเป็นวิชาน่าสนใจเป็นที่สุด... เด็กชายเจ้าของป้ายชือ่ เอลเมอร์ กราฟลากี มุดลงใต้โต๊ะ เด็กชาย อีกคน ผมด�ำไม่มีป้ายชื่อ ท�ำมือเป็นรูปปืน ไล่ยิงทุกคน ลิซา วีนัสเดินไปตามแถวกรอบรูปตัวเลข ผู้บรรยายตัวน้อยกล่าว หนูไม่ชอบ 2 หนูชอบเหลือง 9 มากกกกก ไม่ชอบ 7 หนูชอบ 4 ไม่ชอบ 1 นั่งลง ฉันบอก มือปืนพบลิ้นชักโต๊ะ ในนั้นมีอุปกรณ์ช่วยนับ กระดุม ลวดเสียบ กระดาษ และยางรัดของ ครูสอนเลขคนล่าสุดของเราเสียสติค่า มิมี ลูเนลล์บอก นั่งบน โต๊ะนักเรียน สาวน้อยผมหยิกหย็องม้วนเหมือนเกลียวน�้ำวนสมบูรณ์แบบ ราวกับถูกจับหมุนปั่นลงท่อระบายน�้ำครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ค่ะ, เธอไปปารากวัย ไปเป็นนักปฏิวัติ ฉันคือ มิสเกรย์ ปารากวัย? มิมีงุนงง ครูบอกชื่อตัวเองไปแล้ว เด็กหญิงหน้าบูดนั่งข้างมิมีงึมง�ำออกมา ปารากวัยเป็นประเทศ ฉันบอก เอาละ, เริ่มเล่นเกมกันได้แล้ว แรกสุด บอกชื่อตัวเอง แนะน�ำตัว พร้อมกับตัวเลขสุดโปรด! นพดล เวชสวัสดิ์

31


ไม่มีการตอบรับ มือปืนเอากระดุมวางไว้ในยางรัดของที่ดึงขึงตึงแล้ว ลิซา วีนัส ยกมือ นั่งลง, ได้โปรด ฉันบอก เธอโน้มตัวมาบนเก้าอี้ หนูชื่อ ลิซา วีนัส เธอบอกอีกครั้ง หนูชอบเลขพันล้าน หนึ่งถึงสิบ ฉันบอก ดีค่ะ, ลิซา สาม เธอบอก เก้า แล้วก็เจ็ด มอบเลขสามให้ ฉันบอก มีใครอยากอาสาอีกบ้าง? มือปืนยกยางรัดของเล็งตรงมาที่ฉัน เอลเมอร์ครางหงิงๆ ใต้โต๊ะ เด็กหญิงหน้าบูดบิดริมฝีปากด้วยนิ้วมือ ฉันเกลียดการสอน ในทันใด เลขโปรดของผมคือ 5 จอห์น บีซส่งเสียงบอกจากโต๊ะ ฉันบอกให้จอห์นกับลิซามาหน้าห้อง แสดงท่าตัวเลข ลิซาโก่งก้นเป็น เส้นโค้งเลข 3 จอห์นดีดส้นเป็นเลข 5 นั่นไง! ฉันบอก จอห์นรวมกับลิซาได้เท่าไหร่? นักเรียนในห้องส่งเสียงคราง 8 ลิซาบอก หน้ายังก้มต�่ำมองพื้น ใครอยากเป็น 8 ? ฉันถาม ฉันประหลาดใจที่มือปืนยกมืออาสา เขาหันไปยิงยางรัดของใส่ผนัง กระดุมหล่นกระทบพื้น เลขโปรดของผมคือ 8 เขาบอกเสียงราบเรียบ ชื่ออะไร? แดนนี โอ’มาซซี เขาบอก แขนเสือ้ ยืดพันม้วนไปบนหัวไหล่ ท่อนแขนอวดไบเซ็ปส์ปดู โปน อายุ เจ็ดขวบนี่นะ หลังจากเก็บยางรัดของและกระดุมกลับเข้าที่อย่างหมดจด เขาเดินมาหน้าห้อง ไม่ต้องรอสัญญาณจากฉัน แยกขาออก ย่อเข่า มือ 32

สัญญาณสังหรณ์


ประสานกันเหนือหัว เฮ้! ฉันอุทานออกมา ยอดเยี่ยม! แล้วใครอยากเป็นเครื่องหมาย บวก? มือชูสูงสลอน โบกขวักไขว่ ฉันชี้มิมี ลูเนลล์มาหน้าห้อง เธอยืน เท้าชิด กางแขนออก ดีค่ะ ฉันบอก บัดนี้ ฉันหลงรักการสอน ฉันได้แต่ ภาวนา ขอให้เจ้านายเดินเข้ามาในตอนนี้ เราได้สมการมนุษย์ชิ้นแรกแล้ว ฉันอิม่ อกอิม่ ใจ และคงหัวใจพองฟู หากเด็กหญิงหน้าบูด คนทีช่ อื่ ว่า แอนน์ ดิลันโน ไม่กระทืบเท้าบนพื้น บ่นพึมพ�ำ เพราะเธออยากเป็นเครื่องหมาย บวก ฉันให้คำ� อธิบายว่ามิมี ลูเน็ตต์ (ลู-เนลล์ ค่า เครือ่ งหมายบวกส่งเสียง) เป็นเครื่องหมายบวกไปแล้วนี่ แต่แอนน์ ดิลันโนไม่ยอม แม้ว่าฉันจะเสนอ ให้เธอเป็นเครื่องหมายเท่ากับ เธอเตะขาโต๊ะ เอลเมอร์ กราฟลากีร้องไห้ แดนนี โอ’มาซซีจีบมือเป็นปืนไรเฟิล จากค�ำเสนอแนะของลิซา พวกเรา นั่งลง หนูคิดว่า... ลิซาบอก ยิงได้เลย ฉันบอก ยิงเลย! แดนนีทานซ�้ำ ลิซาตั้งค�ำถาม : จะเกิดอะไรถ้าเรา?...แล้วถ้าพวกเราท�ำตัวเลขใน ธรรมชาติ? ฉันขอให้เธอขยายความ เธอพูดพล่ามตะกุกตะกัก ผมรู้แล้ว! จอห์น บีซบอก เราพอจะหาตัวเลขได้ ฉันยังไม่รู้ว่าเด็กสองคนพูดถึงเรื่อง อะไร แต่ดาลใจไปกับความกระเหี้ยนกระหือรือของเด็กๆ และฉันอยากให้ เด็กเงียบเสียง ฉันคิดเรื่องตัวเลขกับวัสดุสดๆร้อนๆ ฟังนะ ฉันบอก เอางี้ดีไหม? ทุกวันศุกร์ นักเรียนคนหนึ่งจะน�ำเสนอตัวเลขท�ำจากวัสดุ แล้วท�ำ เป็นเลขลบ เพราะปีนี้ เราจะเรียนเรื่องเลขลบ ใบหน้าเด็กๆ หมองลง เลขลบมหาหิน ยากกว่าเลขบวก ซับซ้อนเจ้าเล่ห์ เพราะต้องไปยืมตัว ข้างหน้าน่ะแหละ นพดล เวชสวัสดิ์

33


ใครอยากเริ่มก่อน? ฉันถาม ลิซายกมือสูง ฉันบอกให้เธอหาของสนุกมาฝากเพือ่ นในวันศุกร์ เรา จะปิดคาบเรียนด้วยเรื่องสนุกต้อนรับวันหยุด ฉันตกตะลึง นักเรียนทั้งห้องเงียบกริบ เราใช้เวลาที่เหลือ ทบทวน เลขบวกทีเ่ รียนผ่านมาในปีทแี่ ล้วจากปารากวัย นักเรียนบวกเลขกันได้คล่อง เสียงกริ่งหมดเวลา นักเรียนวิ่งกรูออกไปช่วงพักกลางวัน ฉัน ทรุดฮวบลงบนเก้าอี้ เหยียดขาสลัดรองเท้าทิ้ง เหนื่อยเอาการ แต่อด หัวเราะไม่ได้เมื่อนึกถึงภาพแดนนี โอ’มาซซีย่อเข่า มือพันม้วนเป็นเลข 8 ฉันชอบเด็กกลุม่ นี้ ฉันนัง่ นิง่ อยูก่ บั ทีน่ านสิบห้านาที เงียบและสงบ ฟังเสียง พื้นรองเท้ายางเอี๊ยดอ๊าดในช่องทางเดินพักเที่ยง

34

สัญญาณสังหรณ์


3

เมื่อครั้งที่ฉันซื้อขวานจากร้านขายเครื่องก่อสร้าง ฉันสุขใจยิ่ง เดิน ท่องเมือง หมุนควงด้ามไม้ ครุ่นคิดว่าจะเก็บขวานไว้ที่ไหน ฉันเดินมาตาม ทางเท้าเงาไม้ครึ้ม นึกภาพแต่ละห้องในห้วงความคิด ควรเก็บซ่อนไว้ ใต้เตียง? หรือห้อยต่องแต่งจากราวพาดผ้าเช็ดตัว? เก็บไว้ในลิ้นชัก ช้อนส้อม? ฉันกลับถึงบ้าน เปิดตูเ้ สือ้ ผ้า แวะทักทายขวาน ดีจา้ , เครือ่ งมือ สุดสวย เหมือนกันเลย เหมือนตอนฉันซื้อรองเท้าคู่ใหม่ อยากโผล่หน้า ทักทายในตู้เก็บ รอคอยด้วยความอดทนข่มกลั้น พร้อมเดินออกไปใน วาระพิเศษ แต่เมือ่ ฉันกลับถึงบ้านคืนนัน้ ภาวการณ์เปลีย่ นไปแล้ว ฉันตัวสัน่ เทิม้ ด้วยความกังวล ไม่อยากเสียเวลาคิดเรือ่ งการเก็บของอีกต่อไปแล้ว ฉันแค่ ยัดขวานไว้ใต้อ่างล้างจานในครัว เคียงข้างขวดน�้ำยาล้างจาน ไม่ว่าจะอย่างไร อนงค์นางสาวรุ่นควรจะมีอาวุธติดบ้าน วันศุกร์ของการสอนสัปดาห์แรก ฉันใช้ช่วงพักในห้องครัวของโรงเรียน เคาะผนังไม้ เมือ่ ชายหนุม่ เดินเข้ามา รอยสารเคมีกดั ผิวเป็นจุดทัว่ ท่อนแขน เขายืนหลังตรง ล้างมือที่อ่างล้างจาน คุณคือมิสเกรย์? ใช่ไหม? เขาถามข้ามไหล่ ฉันผงกหัวรับ ทุ่มสมาธิไม่พูดไม่จา เคาะ เคาะ เคาะ หายใจเข้า หายใจออก ท�ำซ�้ำ นพดล เวชสวัสดิ์

35


เขาล้างมือเสร็จ ผิวเป็นจุดหลากสีเหมือนภาพเขียน ยืน่ มือชืน้ ออกมา สัมผัสทักทาย เบนจามิน สมิธ เขาแนะน�ำตัว ครูวิทย์ เขายกท่อนแขนสองข้างเป็นหลักฐานยืนยัน คณิต ฉันตอบระหว่างเคาะ โมนา ฉันบอก เขายิ้มให้ฉัน ระรวยรินกลิ่นสบู่ หนึ่งชั่งโมงถัดมา กึ่งกลางทางการนับด้วยเมล็ดฟักทองประถมสอง ลิซา ขออนุญาตไปห้องน�้ำ ฉันมอบเมล็ดฟักทองให้คนละสิบเม็ด เมล็ดที่ฉันคั่ว คืนก่อน บอกเด็กให้หยิบออกจากกองทีละเม็ด นับด้วยว่าเหลืออยู่เท่าใด มิมสี าวน้อยผมหยิกหย็อง จัดเรียงเมล็ดฟักทองเป็นรูปหัวใจ ฉันได้ยนิ เสียง เคี้ยวใต้โต๊ะ ย่อตัวลงดู เอลเมอร์ กราฟลากี นอนบนพื้นพรมเคี้ยวเมล็ด ฟักทอง เฮ้ ฉันร้องบอก เลิกกินตัวเลขได้แล้ว ฉันแทบไม่สังเกตเห็นว่ าลิซาออกจากห้อง วุ่นอยู่กับการปราม แดนนี โอ’มาซซี ไม่ให้ ดีดเมล็ดฟักทองใส่ผนัง ลิซากลับเข้าห้อง มีสาย น�้ำเกลือปลายต่อเชื่อมกันเป็นวง มงกุฎโปร่งใสวางอยู่บนหัว นั่นอะไร? ฉันถาม เมื่อเธอเดินกลับเข้ามาในห้อง เด็กในชั้นหมุน บั้นท้ายหันไปมองเป็นตาเดียว เคี้ยวเมล็ดฟักทองอิ่มท้องกันแล้ว ไอ.วี., เธอบอก ชื่อย่อของหนูไง เกือบใช่ ฉันเพ่งจ้อง จริงด้วย สายโปร่งใสขนาดเล็ก คิดจะน�ำมาใช้ช่วยชีวิตใครหรือไง? ฉันถาม เธอพ่นลมพรืดออกมา ของใช้แล้วค่ะ เธอบอก เดินไปหน้าห้อง ขออภัย, เธอบอก ฉันคือเจ้าหญิงมะเร็ง ฉันเหลือบมองสาวน้อย เธอท�ำอะไรของเธอ? ฉันไม่ใคร่อยากเห็น สายน�ำ้ เกลือในห้องเรียน สาย ไอ.วี. ทีด่ งึ ออกจากหลอดเลือดของใครบางคน 36

สัญญาณสังหรณ์


เบนจามิน สมิธ ครูวิทย์ เดินผ่านหน้าห้อง เขาอาจชะโงกหน้าเข้ามาดู แล้วโทรไปฟ้องโรงพยาบาลว่าลิซาขโมยสายน�้ำเกลือมา ฉันเดินไปปิด ประตูห้อง เคาะบานไม้เบามือ ลิซาก้มหัวทักทายชั้นเรียน เลี้ยงมงกุฎสายน�้ำเกลือให้ได้สมดุล พร้อมแล้วส�ำหรับตัวเลขและวัสดุ ลิซาบอก ฉันกะพริบตาถี่ ตัวเลขและวัสดุ? จ�ำไม่ได้หรือไงคะ? เธอถาม เราจะน�ำตัวเลขมาจากธรรมชาติรอบข้าง จอห์นเพิ่มเติมให้ หรือข้าวของที่ดูคล้ายตัวเลข ฉันผงกศีรษะ ได้เลย! คลับคล้ายคลับคลาว่ามีเรื่องเช่นว่านั้น ลิซายกมือ ชี้ไปยังมงกุฎสายน�้ำเกลือบนหัว นี่คือ เลขศูนย์ เธอบอก จากธรรมชาติค่ะ ฉันจ�ำได้แล้ว การบ้านที่มอบให้เด็กไปช่วยกันคิด นั่นไม่ใช่ธรรมชาติ แอนน์ ดิลันโน หน้าบูด แย้งจากที่นั่ง นั่นเป็น พลาสติก ลิซาถลึงตาใส่แอนน์ แอนน์ค�ำรามใส่ลิซา ความชังระหว่างกัน งอกงามแผ่ขยายตลอดทั้งสัปดาห์ เหมือนเฟินกินคนโตเร็ว พลาสติกได้จากธรรมชาติ ลิซาบอกด้วยน�้ำเสียงเจ้าหญิง สิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์ จอห์น บีซ พยายามโต้แย้งอีกครั้ง มนุษย์มาจากธรรมชาติ ลิซาให้ค�ำอธิบาย แอนน์เหลือกตามองเพดาน ลิซาเชิดคางสุดสง่า ฉันเดินไปหลังห้อง รับฟังการน�ำเสนอ นี่คือ เลขศูนย์จากธรรมชาติ ลิซากล่าวซ�้ำ ศูนย์คูณอะไรก็ได้ศูนย์ เธอบอกเพื่อนร่วมชั้น ศูนย์รบครั้งไหน ชนะครั้งนั้น ศูนย์ท�ำลายล้างโลก โลกกลมเหมือนเลขศูนย์ แดนนี โอ’มาซซี รับรอง ชัดเลย ลิซาแย้มยิ้ม แดนนีส่งเสียงตูม-ตูม จากที่นั่ง เลขลบค่ะ, ได้โปรด ฉันบอก นพดล เวชสวัสดิ์

37


ลิซาพยักหน้ารับ สายน�้ำเกลือรับแสงจากเพดาน แวววาววูบวาบ 20 - 0 = 20 เธอบอก 4 - 0 = 4 สิบพันล้านล้าน - 0 = สิบพัน ล้านล้าน ดีมาก ฉันบอก ยังนึกถึงถุงน�ำ้ เกลือข้างกายผูป้ ว่ ยตัวแห้งกรัง ไม่อาจ ต่อสายรับของเหลวเข้าร่าง น�้ำเกลือหยดติ๋งๆ นองพื้นห้อง โรงพยาบาล เรียกภารโรงมาเช็ดพื้น สาย ไอ.วี. หายไปไหนแล้ว? เสียงไถ่ถาม ภารโรง ยักไหล่ ไม่เคยเสียบสายน�ำ้ เกลืออยูแ่ ล้ว แต่มอื สองข้างของภารโรงบิดหมุน ในยามตื่นกลัว คนป่วยหิวโหยและแค้นเคือง 250 × 0 = 0! ลิซาประกาศชัยชนะ อย่าเพิ่งไปถึงเลขคูณ ฉันบอก ข้อนิ้วเคาะชั้นหนังสือ ล�้ำหน้า ไปหน่อยแล้ว ลิซางึมง�ำ แต่ก็เล่นเลขลบต่ออีกหลายข้อ เมื่อน�ำเสนอจบสิ้น เธอ ถามว่ามีใครสนใคร่ถามบ้างไหม? ไอ.วี. หมายถึงอะไร? ใครสักคนถาม อินทราวีเนียส* ลิซาบอก ลิซา วีนัส, จอห์นสนับสนุน ลิซาอมยิ้ม ยังงั้น เราจะเรียกเธอว่า อินทรา, แอนน์ ดิลันโน ส่งเสียง ดีค่ะ ลิซาตอบรับ ฉันคิดว่าชื่อสวยทีเดียว แอนน์ยกมือ มีค�ำถามส�ำหรับอินทรา, อินทรา? คราวหน้าใคร? เสียงถามจากที่นั่ง แอนน์พูดต่อ ฉันขอ intraduce Intra – แนะน�ำให้รู้จักอินทรา ทุกคนกล่าวทักทายอินทรา เด็กทั้งชั้นงึมง�ำ หวัดดี, อินทรา ดีมากค่ะ, ลิซา ขอบคุณค่ะ ฉันบอก นีเ่ ป็นตัวเลขและวัสดุครัง้ แรก * Intravenous - การให้ยาเข้าสู่กระแสโลหิตโดยตรง นิยมให้ทางสายน�้ำเกลือ 38

สัญญาณสังหรณ์


ของเรา ใครจะเป็นคนต่อไปสัปดาห์หน้า? เอลเมอร์ กราฟลากี ยกมืออยู่ ใต้โต๊ะ กระทบโต๊ะเสียงกึงกัง ฉัน บอกว่า เขาจะได้แสดงหน้าชั้น...ถ้าเธอยอมนั่งบนเก้าอี้นับแต่นี้ ไป เอลเมอร์งมึ ง�ำตอบรับ บอกว่า รูแ้ ล้วว่าจะน�ำอะไรมาน�ำเสนอ จอห์นยกมือ เช่นกัน ฉันอนุญาต ให้แสดงเสริมได้ หลังช่วงพัก ต้องเรียงตามล�ำดับหรือเปล่า? เอลเลนส่งเสียงถาม เด็กพูดน้อยจน ฉันลืมไปแล้วว่าอยู่ในชั้นเรียนนี้ คนไม่มีนามสกุล ไม่จ�ำเป็นค่ะ ฉันตอบ ฉันหันมาหาหน้าชั้น ลิซายืนอยู่ รอคอย นั่งลงไปได้แล้ว, อินทรา แอนน์บอก ฉันบอกแอนน์ไปว่า เยอะเกินไปแล้ว ลิซายังยืนอยู่ที่นั่น จมูกบานพะเยิบพะยาบ เราไม่มีเวลาเหลือพอ ส�ำหรับเรือ่ งอืน่ ดังนัน้ ในขณะทีเ่ ราช่วยกันเก็บกวาดเมล็ดฟักทอง ฉันปล่อย ให้เธอน�ำเสนอเลขศูนย์ต่อ ถ้าน�ำศูนย์มาต่อกัน เราก็จะได้สายสร้อยนะ เสียงออดดังขึน้ เด็กวิง่ กรูออกจากห้อง แอนน์ตะโกนเสียงดัง ลาก่อย, อินทรา! เสียงเหี้ยมโหดน่าชังที่สุด ลิซาเก็บข้าวของลงกระเป๋า ฉันเรียก เธอมาหลังห้อง เธอเขย่งเก็งกอยตรงมาหา สวมมงกุฎร่าเริง ฉันถามว่า เธอไปได้สายน�้ำเกลือจากที่ไหน? นั่นเองที่เธอเล่าเรื่องแม่ให้ฟัง แม่ป่วย เป็นมะเร็งค่ะ ต้องสวมวิกผมสีแดง เธอบอก เท้าดีดเตะ พุ่มผมของลิซา เป็นกระเซิง แทบไม่กระดิกในตอนที่เธอขยับตัว แม่จะตายในปีนี้ ลิซากล่าว จริงไหมคะ? ปีนี้? ฉันงุนงง เธอผงกหัวระรัว แม่หัวโล้นแล้ว เธอบอก หนูไม่เป็นไรนะ? ลิซาเป่ากระพุ้งแก้ม เดี๋ยวโป่งเดี๋ยวยุบ มะเร็งประเภทไหน? ฉันถาม นพดล เวชสวัสดิ์

39


เธอยิ้ม เดาซีคะ ปอด? เธอสัน่ หัว ผิวหนัง? ไม่ สมอง? ไม่คะ่ กระดูก? ไม่ ปาก? ก็ไม่ เต้านม? ไม่ ล�ำไส้ใหญ่ ไม่ใช่คะ่ ล�ำคอ? ไม่ เลือด? ไม่ ตับ? ไม่คะ่ ตับอ่อน? ก็ยังไม่ แล้วเหลืออะไรอีก? เธอโน้มตัวมาหา คล้ายสมรู้ร่วมคิด รู้กันสองคนนะ มะเร็งตา เธอ บอก ขยิบตาให้ฉัน ครูไม่เคยได้ยินมาก่อน ลิซาผงกหัว ใหม่เอี่ยมล่าสุดค่ะ แม่เป็นคนแรก คุณหมอทดสอบ หลายต่อหลายครั้ง แพร่กระจายเร็วมาก มีอะไรที่ครูพอจะช่วยได้ไหม? เธอเป่าลมออกจากกระพุ้มแก้ม โน้มตัวมาหา จ้องมองผิวหนังรอบ ดวงตาของฉัน ตาของครูเหมือนเลขศูนย์สีฟ้าสองตัว เธอบอก 2 - 0 = 2 เธอเพิ่มเติม ตาของครูไม่ใช่สีฟ้า น่าจะเทามากกว่าฟ้า ฟ้าแหงๆ เธอบอก ฉันเคาะข้อนิ้วบนเก้าอี้ไม้ที่นั่งอยู่ หนูชอบชื่ออินทรา เธอพูด หนูเกลียดแอนน์ ดิลันโน ครูป่วย หรือเปล่า? เธอถาม ใบหน้าสดใส ฉันใช้เวลาหลายวินาทีก่อนจะตามประโยคของเธอได้ทัน ฉันเคาะ เก้าอี้อีกครั้ง หมายความว่าไง? ฉันถาม ครูสบายดี เธอบอกฉันว่า วิชาเลขเป็นวิชาทีห่ นูโปรดทีส่ ดุ แล้ว และถ้าครูอยาก จะช่วยหนู ห้ามป่วยเด็ดขาด แต่บางคราวครูก็เป็นหวัด ฉันบอก ใครๆ ก็เป็นหวัด เธอปรับสายน�้ำเกลือบนหัว ตาเขม้นจ้องมองฉัน หนู ไม่เคย เป็นหวัด เธอบอก 40

สัญญาณสังหรณ์


แม้วา่ สายน�ำ้ เกลือบนหัวของเธอจะขุน่ และสกปรก พุม่ ผมเป็นกระเซิง ความสูงของเธอไม่ถงึ สีฟ่ ตุ ดี เธอยืนจังก้ามุง่ มัน่ เด็ดเดีย่ ว ฉันรูส้ กึ เหมือนว่า ร่างของฉันหดเล็ก จมลงไปในเก้าอี้ โอ, เอาเถอะ อินทราเพราะดี ฉัน งึมง�ำบอก ฉันไม่รู้ว่าควรพูดอะไรต่อ อยากให้เธอออกจากห้อง ดังนั้น ฉัน ขอบคุณเธอที่เป็นผู้เปิดการน�ำเสนอตัวเลขและวัสดุ บอกให้เธอออกไป พักเที่ยงได้แล้ว เธอบอกว่าเธอโปรดตัวเลขและวัสดุมากกว่าทุกอย่างใน วิชาอื่น มากกว่าการทดลองปฏิบัติจริงหัวข้อสุขศึกษาในห้องวิทยาศาสตร์ เสียอีก เธอวิ่งออกจากห้อง ฉันสัง่ น�ำ้ มูก เคาะไม้ เคาะแล้วเคาะอีก อดคิดไม่ได้ว่า สาวน้อยลิซา น�ำเอาข่าวสารมาประดับบนศีรษะ ยินดีต้อนรับกลับสู่โรงเรียน การพักผ่อนภาคฤดูร้อนของฉันล่มสลายปี้ป่นไปแล้ว

นพดล เวชสวัสดิ์

41


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.