Kafkaontheshore

Page 1


ส�ำนักพิมพ์ก�ำมะหยี่ 74/1 รังสิต-นครนายก 31 ธัญบุรี ปทุมธานี 12130 โทรศัพท์ : 084 146 1432 โทรสาร : 02 996 1514 Email : gammemagie@gammemagie.com Homepage : http://www.gammemagie.com Facebook : http://www.facebook.com/GammeMagieEditions

พิมพ์ที่ : ห้างหุ้นส่วนจ�ำกัด ภาพพิมพ์ 296 ซอยอรุณอมรินทร์ 30 ถนนอรุณอมรินทร์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700 โทรศัพท์ : 02 433 0026-7, 02 433 8586 โทรสาร : 02 433 8587 Homepage : http://www.parbpim.com จัดจ�ำหน่ายทั่วประเทศโดย บริษัทอมรินทร์บุ๊คเซ็นเตอร์ จ�ำกัด 108 หมู่ที่ 2 ถนนบางกรวย-จงถนอม ต�ำบลมหาสวัสดิ์ อ�ำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130 โทรศัพท์ : 02 423 9999 โทรสาร : 02 449 9222, 02 449 9500-6 Homepage : http://www.naiin.com


(ว่าด้วย)

ค�ำน�ำผู้แปล

หลายคนซื้อหนังสือเพราะอยากอ่านเนือ้ หา เก็บค�ำน�ำไว้ อ่านตอนท้าย บางคนไม่สนใจค�ำน�ำ ซึ่งควรจะได้รับค�ำ ขอบคุณจากผู้เขียน แต่ก็มีบางคนอยากเลือกอยากหยิบ หนังสือโดยอ่านจากค�ำน�ำเป็นปฐม ต้องเคี่ยวเนื้อหา ทั้งหมดไว้ในไม่กี่ประโยค...แถมด้วยข้อก�ำหนดว่า ห้าม ขโมยความตื่นเต้นในการอ่าน ทุกค�ำถามต้องเตรียม ค�ำตอบไว้ให้ หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องของเด็กอายุสิบห้าปี หนีออกจากบ้าน เรื่องธรรมดาสามัญที่จะเกิดขึ้นเมื่อ บรรยากาศในบ้านอึดอัดขัดข้องจนยากจะทานทน ความ ธรรมดาสามัญจบลงเพียงเท่านี้ นับแต่นี้ ไป ตัวละคร สองหญิง สามชาย จะร่ายความพิลึกพิสดารในชีวิต ของตนให้ปรากฏ แถมด้วยกึ่งหญิงกึ่งชายอีกคน และ ชายสวมหมวกท็อปแฮ็ต รองเท้าบู๊ตหนังสูงถึงเข่า กับ ชายชราอดีตนายทหารในสูทสีขาวทั้งชุด ที่ทุกผู้ทุกคน ทุกมุมโลกรูจ้ กั กันเป็นอย่างดี ค�ำน�ำท�ำหน้าทีต่ นเองจบสิน้ แล้ว รายละเอียดในเล่มเป็นหน้าทีแ่ ละความอภิรมย์ของ ผู้อ่านครับ


เจ้าหนูชื่ออีกา

“แกเตรียมเงินไว้พอแล้วสินะ” เจ้าหนูชื่ออีกาถามด้วยเสียงซึมเซาเงื่องหงอย น�้ำเสียงของคนเพิ่งตื่นนอน ปากยังเห่อหนา ยากจะขยับ แต่เขาแสร้งท�ำ เขา ตื่นเต็มตาแล้ว เหมือนเคย ผมผงกหัวรับ “เท่าไหร่?” ผมนับตัวเลขในใจ “เกือบสี่แสน เงินสดนะ แล้วก็ยังมีในบัตรเอทีเอ็มอีก ฉันรู้ว่าไม่มากนัก แต่ก็น่าจะพอ ส�ำหรับช่วงนี้” “ไม่เลว” เจ้าหนูชื่ออีกากล่าว “...ส�ำหรับช่วงนี้” ผมผงกหัวรับอีกครั้ง “ฉันเดาเอาว่าไม่ใช่เงินคริสต์มาสจากซานตาคลอส” “ช่าย กล่าวไม่ผิด” ผมตอบ เจ้าหนูชื่ออีกาเหลียวมองรอบตัว หัวเราะร่วน “ฉันเดาเอาว่าแกคงเริ่มต้น ด้วยการรื้อค้นลิ้นชัก” ผมไม่ตอบ เขารู้ว่าเราคุยกันถึงเงินของผู้ ใด ไม่จ�ำเป็นต้องสอบปากค�ำ อ้อมค้อมยืดยาด ถากเย้ยกันตรงๆ เลย “ช่างเหอะ” เจ้าหนูชื่ออีกากล่าวต่อ “แกต้องการเงินก้อนนี้ แกจะต้องคว้ามา ให้ได้ วิงวอน หยิบยืม หรือลักขโมย เงินของพ่อแก ใครไปสนใจด้วยเล่า จริงไหม? แกหอบเงินได้ก้อนโตขนาดนั้นก็คงพอจะรอดนะ ส�ำหรับช่วงนี้ แล้วแกวางแผน ไว้ยงั ไงหลังจากเงินหมดไปแล้ว? เงินไม่เหมือนเห็ดในป่า จะได้ผดุ งอกขึน้ มาเอง 8

คาฟกา วิฬาร์ นาคาตะ


แกต้องกิน ต้องหาที่ซุกหัวนอน สักวัน เงินที่มีอยู่ก็เกลี้ยงฉาด” “ฉันจะคิดเมื่อถึงเวลา” “เมื่อถึงเวลา” อีกาส�ำนองรับ ประหนึ่งว่ากระเดาะค�ำพูดชั่งน�้ำหนักบน อุ้งมือ ผมผงกหัวรับ “ใคร่จะหางานท�ำหรืออะไรสักอย่างกระมัง?” “อาจใช่” อีกาสัน่ หัว “รู้ไหม? แกต้องเรียนรูเ้ รื่องโลกกว้างอีกมาก ฟังนะ งานประเภท ไหนกันทีเ่ ด็กอายุสบิ ห้าจะหาได้ในเมืองไกลที่ไม่เคยรูจ้ กั มาก่อน? แกเรียนยังไม่จบ มัธยมด้วยซ�้ำไป ใครกันหว่าจะยอมจ้างแกท�ำงาน?” ผมหน้าแดง เรื่องเล็กเรื่องน้อยท�ำให้ผมหน้าแดงได้แล้ว “ช่างเหอะ” เขากล่าวต่อ “แกเพิ่งจะเริ่ม ฉันไม่อยากหาเรื่องหดหู่มาขู่ให้ แกหงอ แกตัดสินใจแล้วว่าจะท�ำอะไร ทีเ่ หลือก็เพียงแค่ปล่อยให้กงล้อหมุนเคลื่อน ออกจากที่ วะ ชีวิตของแกนี่หว่า แกเห็นดีเห็นงามยังไงก็เลือกเอาเอง” ถูกต้อง กล่าวจบเสร็จสิ้น ชีวิตของผม “ฉันบอกอะไรแกสักอย่างนะ แกจะต้องแกร่งกว่านี้ ถ้าแกจะรอดไปได้” “ฉันพยายามท�ำให้ดีที่สุด” “ฉันแน่ใจว่าแกท�ำแล้ว” เขาตอบ “ช่วงหลายปีทผี่ า่ นมา แกเคีย่ วตัวเองให้ แกร่งได้มากโข ต้องชมแกว่ะ” ผมผงกหัวรับอีกครั้ง “รับความจริงเหอะ...แกอายุแค่สบิ ห้า” เขากล่าวต่อ “ชีวติ ของแกเพิง่ เริม่ ต้น และเรื่องมากมายในโลกที่แกยังไม่เคยเห็น เรื่องที่แกไม่มีทางคาดเดาวาดภาพ ออกมาได้” เหมือนเคย เรานั่งเคียงข้างกันบนโซฟาเก่าในห้องท�ำงานของพ่อ อีกา โปรดปรานห้องท�ำงานและข้าวของทุกอย่างที่กระจายอยู่ใกล้มือ ตอนนี้เขาหยิบ นพดล เวชสวัสดิ์

9


แก้วทับกระดาษรูปผึ้ง ถ้าพ่ออยู่บ้าน พนันได้เลยว่าอีกาจะไม่ย่างกรายมาใกล้ “แต่ฉันต้องออกไปจากที่นี่” ผมบอก “...เดินหน้าลูกเดียว” “เออ แกอาจจะเป็นฝ่ายถูกก็เป็นได้” เขาวางแก้วทับกระดาษคืนกลับบนโต๊ะ มือประสานกันหลังท้ายทอย “แต่การหนีออกจากบ้านก็ไม่แก้ปัญหาอะไรได้ ฉัน ไม่อยากโปรยฝนใส่ขบวนพาเหรดของแก แต่ถา้ เป็นฉัน จะไม่มวี นั หนีออกจากทีน่ ี่ ไม่ว่าแกจะหนีไปได้ไกลแค่ไหน ระยะทางไม่เคยแก้ปัญหา” เจ้าหนูชื่ออีกาถอนหายใจยาว แตะปลายนิ้วบนเปลือกตา ส่งเสียงพูดคุย กับผมผ่านความมืดลึกภายใน “เล่นเกมกันไหม?” เขาถาม “ได้เลย” ผมตอบ หลับตาลง สูดลมหายใจยาวเข้าปอด “เอาละ วาดภาพ พายุทรายเกรี้ยวกราด” เขาบอก “...ไล่ความคิดอื่นออก จากสมองไปให้หมด” ผมปฏิบัติตาม ขับทุกความคิดให้พ้น ลืมแม้กระทั่งตัวเองเป็นใคร ผม ว่างเปล่า ไร้ตวั ตน จากนัน้ ภาพ ผุดมาให้เห็น ในระหว่างทีเ่ ราสองนัง่ บนโซฟาเก่า ในห้องท�ำงานของพ่อ ภาพที่มีเพียงเราสองคนมองเห็น “บางครัง้ ชะตาชีวติ เปรียบเหมือนพายุทรายเล็กๆ ทีเ่ ปลีย่ นทิศวูบวาบ” เขา บอก บางครั้ง ชะตาชีวิตเปรียบเหมือนพายุทรายเล็กๆ ที่เปลี่ยนทิศวูบวาบ แกหักเหเปลี่ยนทิศ แต่พายุทรายไล่กวดมาติดๆ หักเลี้ยวอีกครั้ง พายุทราย เลีย้ วตาม ซ�ำ้ แล้วซ�ำ้ เล่า ไม่วา่ จะหันเหไปทางใด เหมือนการเริงระบ�ำล้อความ ตายก่อนรุ่งสาง ท�ำไมหรือ? เพราะพายุทรายมิใช่สิ่งที่พัดมาจากแดนไกล มิใช่ สิ่งที่ ไม่เกี่ยวกับแก พายุทรายคือตัวแก สิ่งที่ซ่อนอยู่ในตัว เท่าที่ท�ำได้ ปล่อยตัวให้กลืนเข้าไป เดินเข้าไปในพายุทราย ปิดตาปิดหูไม่ให้เม็ดทรายเข้าตัว เดินฝ่าไปในพายุทราย ทีละก้าว ไม่มีดวงอาทิตย์ ไม่มีดวงจันทร์ ไม่มีทิศ 10

คาฟกา วิฬาร์ นาคาตะ


ไร้กาลเวลา มีเพียงเม็ดทรายขาวคล้ายกระดูกป่นเป็นผงป่วนปั่นคละคลุ้ง นั่นเป็นพายุทรายที่แกจะวาดภาพให้กระจ่าง ผมท�ำเช่นนัน้ ผงทรายเม็ดขาวละเอียดพัดหมุนขึน้ สูงควัน่ เป็นเส้นเชือกหนา ผมหลับตาแน่น สองมือปิดหู ไม่ให้เม็ดทรายพัดเข้าตัว พายุทรายคืบเคลื่อนเข้า มาใกล้ ผมรู้สึกถึงแรงลมพัดต้องผิวหนัง พายุทรายใกล้จะกลืนกินผมแล้ว เจ้าหนูชื่ออีกาวางมือแผ่วแตะบนหัวไหล่ของผม พายุทรายหายวับไป “แต่นตี้ อ่ ไป ไม่วา่ จะเกิดอะไรขึน้ แกจะเป็นเด็กอายุสบิ ห้าแกร่งทีส่ ดุ ในโลก นัน่ เป็นหนทางเดียวทีแ่ กจะรอดชีวติ สืบต่อไปได้ หากต้องท�ำเช่นนัน้ แกจะต้องหา วิธีเพิ่มความแกร่งให้ตัวเอง แกตามฉันทันหรือเปล่า?” ผมหลับตานิ่ง ไม่ตอบ ผมอยากจมลึกลงไปในห้วงหลับใหลในภาวะนี้ มี มือของเขาแตะอยู่บนหัวไหล่ ผมได้ยินเสียงปีกกระพือแผ่ว “แกจะเป็นเด็กอายุสิบห้าแกร่งที่สุดในโลก” อีกากระซิบบอกในตอนที่ผม พยายามสะกดตัวเองให้หลับ ประหนึ่งเขาพยายามจะสลักค�ำให้เหมือนรอยสัก สีน�้ำเงินฝังลึกไว้ในหัวใจผม แกจะต้องรอดผ่านพายุทรายเชิงสัญลักษณ์อภิปรัชญา กราดเกรีย้ วจะเป็น อภิปรัชญาเชิงสัญลักษณ์อย่างไร อย่าได้เผลอไผลหลงผิด พายุทรายจะกรีดเนือ้ เหมือนใบมีดโกนนับพัน ผูค้ นจะหลัง่ เลือดทีน่ นั่ แกก็หลัง่ เลือด เลือดอุน่ แดงฉาน แกจะรองเลือดเต็มอุ้งมือ เลือดของแกและเลือดของผู้อื่น เมื่อพายุทรายหายลับไปแล้ว แกจะจ�ำไม่ ได้ว่าผ่านพ้นมาได้อย่างไร ใช้ วิธีไหนพาชีวติ รอดมาได้ แกไม่มแี ม้ความมัน่ ใจ แท้จริงแล้ว ไม่แน่ใจว่าพายุทราย หายขาดเม็ด สิ่งหนึ่งแน่ชัด เมื่อใดแกหลุดออกจากพายุทราย แกจะไม่เป็น คนเดิมที่เดินเข้าไป นั่นเป็นแก่นแท้ของพายุทราย

นพดล เวชสวัสดิ์

11


อายุสบิ ห้าขวบปีบริบรู ณ์ ผมหนีออกจากบ้าน เดินทางไปยังหัวเมืองห่างไกล ใช้ชวี ติ อยูใ่ นมุมสงบของห้องสมุดเล็กๆ คงต้องใช้เวลาทัง้ สัปดาห์เล่าเรื่องทัง้ หมด ในรายละเอียด ผมเพียงจะชี้ประเด็นหลัก อายุสิบห้าขวบปีบริบูรณ์ ผมหนีออกจากบ้าน เดินทางไปยังหัวเมือง ห่างไกล ใช้ชีวิตอยู่ในมุมสงบของห้องสมุดเล็กๆ ฟังผาดเผินคล้ายเทพนิยาย เชื่อผมเถอะ ไม่ใช่เทพนิยาย ไม่วา่ ท่านจะพลิก หมุนมองในแง่มุมไหน

12

คาฟกา วิฬาร์ นาคาตะ


บทที่

1

เงินสดมิได้เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ผมฉกไปจากห้องท�ำงานของพ่อตอนที่ผม หนีออกจากบ้าน ผมหยิบไลเตอร์ทองเก่าคร�ำ่ คร่า ชอบทีล่ วดลายและสัมผัสเนียน มีดพับใบคมกริบ ใบมีดออกแบบมาแล่หนังกวาง ใบมีดห้านิ้ว น�้ำหนักอุ่นมือ พ่ออาจซือ้ ติดมือมาจากการเดินทางไปต่างประเทศ ผมยังหยิบไฟฉายพกสีบาดตา ออกจากลิ้นชัก แถมด้วยแว่นกันแดดเรโวสีฟ้าครามใช้บดบังอายุแท้จริง ผมคิดว่าจะหยิบโรเล็กซ์ ซี-ดเวลเลอร์ ออยสเตอร์ไปด้วย นาฬิกาข้อมือ สุดหรู แต่ของล�ำ้ ค่าสะดุดตาเกินไป จะมีกแ็ ต่ทำ� ให้ผคู้ นหันมามอง นาฬิกาคาสิโอ พลาสติกราคาถูก ตั้งปลุกได้ จับเวลาได้ ท�ำงานได้ดีมีประโยชน์มากกว่า ผม ลังเล แต่ก็วางโรเล็กซ์คืนกลับในลิ้นชัก อีกลิ้นชัก ผมหยิบรูปถ่ายผมกับพี่สาวเมื่อครั้งเรายังเป็นเด็ก เราไปเที่ยว ชายทะเล รอยยิม้ แต้มหน้าสดใส พีส่ าวของผมเบือนหน้าไปทางอืน่ ท�ำให้ครึง่ ซีก อยู่ในเงามืด รอยยิ้มของเธอตัดแบ่งผ่าครึ่ง เหมือนหน้ากากโศกนาฏกรรมกรีก ในต�ำราทีซ่ กี หน้าหนึง่ แสดงความรูส้ กึ หนึง่ อีกซีกเป็นความรูส้ กึ ตรงข้าม แสงสว่าง กับเงามืด ความหวังกับความท้อแท้ เสียงหัวเราะกับความเศร้า ความวางใจกับ ความเปลี่ยวเหงา ใบหน้าของผมมองตรงเพ่งจ้องยิ้มให้กล้อง ไม่มี ใครอื่นบน ชายหาด พี่สาวกับผมสวมชุดว่ายน�้ำ ชุดวันพีซลายดอกไม้กระจุ๋มกระจิ๋มของเธอ ส่วนของผมเป็นกางเกงตัวโคร่งสีน�้ำเงิน ผมถือแท่งพลาสติกในมือ คลื่นแตก ฟองขาวเคลียข้อเท้า ใครเป็นผู้ถ่ายรูปนี้ ที่ไหน เมื่อไหร่ ผมไม่อาจคาดเดาได้ แล้วท�ำไมผม ถึงมีความสุขได้ขนาดนีน้ ะ? ท�ำไมพ่อจึงเก็บรูปถ่ายไว้เพียงรูปเดียว เรือ่ งทัง้ หมด เป็นปริศนาด�ำมืด ผมน่าจะอายุสักสามขวบ พี่สาวเก้า เราสองคนคุยกันด้วยดี นพดล เวชสวัสดิ์

13


หรือเปล่านะ? ผมจ�ำไม่ได้เลยว่าเคยไปเที่ยวชายทะเลกับครอบครัว ไม่มีความ ทรงจ�ำใดๆ ว่าเคยไปไหนด้วยกัน ช่างเถอะ...ไม่มีทางที่ผมจะทิ้งรูปถ่ายนี้ ไว้กับ พ่อ ผมสอดรูปลงในกระเป๋าเงิน ผมไม่มรี ปู ถ่ายของแม่ พ่อโยนทิง้ ไปหมดเกลีย้ ง คิดทบทวนเพียงครูเ่ ดียว ผมตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มอื ถือไปด้วย เมือ่ ใดทีพ่ อ่ พบว่าโทรศัพท์หายไป พ่อก็คงจะโทรไประงับการใช้งาน ผมไม่สน ผมโยนมือถือ ลงไปในเป้หลังพร้อมกับแท่นชาร์จ ไม่หนักเพิ่มสักเท่าไหร่ ถือติดมือไปด้วย จะเป็นไรไป เมื่อไหร่ใช้งานไม่ได้ ผมก็แค่ควักออกมาโยนทิ้ง ต้องเลือกเฉพาะสิ่งของจ�ำเป็น ผมเตือนตนเอง การเลือกเสื้อผ้าเป็นงาน ยากที่สุด ผมจ�ำเป็นต้องมีสเวตเตอร์สองสามตัว ชั้นในอีกสอง แล้วเสื้อเชิ้ตกับ กางเกงขายาวเล่า? ถุงมือ แผ่นปิดหู กางเกงขาสั้น แล้วก็เสื้อโค้ต? คิดไปเถิด รายการยาวเหยียดไม่รู้จบ เรื่องเดียวที่ผมมั่นใจได้ ผมจะไม่มีวันเดินท่อมๆ ใน เมืองประหลาด แบกเป้มหึมาบนหลัง เฮ้ ทุกคน มาดูนซี่ ี เด็กหนีออกจากบ้าน! หอบข้าวของพะรุงพะรัง ใครสักคนจะเบิกตามอง สังเกตเห็น หายใจได้อกี ไม่กคี่ รัง้ ต�ำรวจลากคอส่งตรงกลับบ้าน...ถ้าผมไม่พลัดเข้าไปในแก๊งวายร้ายเสียก่อน เมืองหนาวเย็นตัดทิ้งไปได้เลย ง่ายอยู่แล้ว ต้องเลือกเมืองอุ่น ผมตัด รายการเสือ้ โค้ตและถุงมือไปได้ เหลือเสือ้ ผ้าจ�ำเป็นเพียงครึง่ เดียว ผมหยิบเสือ้ ผ้า ซักแล้วใส่ ผ้าเนื้อเบาที่สุด พับเป็นระเบียบบรรจุลงเป้หลัง ผมพันม้วนถุงนอน สามฤดูลงไปด้วย ถุงนอนประเภทน�ำ้ หนักเบาม้วนแล้วเหลือนิดเดียว เครือ่ งอาบน�ำ้ ผ้าพลาสติกกันฝน สมุดบันทึก ปากกา วอล์กแมนกับแผ่นซีดอี กี สิบ ไปไหนขาด เสียงเพลงไม่ได้ พร้อมกับแบตเตอรีช่ าร์จไฟได้ ครบถ้วนแล้ว ไม่จำ� เป็นต้องหอบ เครื่องครัว หนักเกินไป กินเนื้อที่มากไป อาหารไม่มีปัญหา ผมหาได้จากร้าน สะดวกซื้อในท้องถิ่นได้อยู่แล้ว กินเวลาอีกชัว่ ระยะ ผมตัดหลายรายการทิง้ ไปได้ เพิม่ เติมอีกหน่อย ขีดฆ่า ทิ้ง เพิ่มเติมอีกหลายรายการ ขีดฆ่าทิ้งไปทั้งยวง

วันเกิดครบรอบปีที่สิบห้าถือว่าเหมาะสมที่สุดส�ำหรับวันหนีออกจากบ้าน

14

คาฟกา วิฬาร์ นาคาตะ


เร็วกว่านี้ก็ด่วนได้ใจเร็ว เนิ่นช้ากว่านี้ ผมจะพลาดโอกาสไป กู่ไม่กลับ ในช่วงสองปีแรกในโรงเรียนมัธยมต้น ผมออกก�ำลังกายอย่างหนัก ฝึก กล้ามเนื้อเสริมความแกร่งเพื่อวันนี้ ผมเรียนยูโดในชั้นประถม ยังเล่นยูโดบ้าง ในโรงเรียนมัธยม แต่ก็ ไม่ได้เข้าร่วมทีมโรงเรียน เมือ่ ใดทีป่ ลีกเวลาได้ หากไม่วงิ่ ในสนาม ก็แวะเข้าไปในโรงยิมใกล้บา้ น เทรนเนอร์หนุม่ ประจ�ำโรงยิมให้คำ� แนะน�ำ ให้เปล่า แสดงท่ายืดดัดตนและการใช้อุปกรณ์ออกก�ำลังกายแต่ละชนิดเพื่อสร้าง กล้ามเนือ้ บางมัด เฝ้าดูแลแก้ไขวิธนี อนยกน�ำ้ หนักทีถ่ กู ต้อง ผมร่างสูงอยูแ่ ล้ว เมือ่ ออกก�ำลังกายถูกวิธี แผงไหล่กว้างมีกล้ามอกกล้ามแขน คนแปลกหน้าส่วนใหญ่ จะบอกว่าผมอายุสบิ เจ็ด ถ้าหากผมหนีออกจากบ้าน ร่างเล็กแกร็นตามอายุแท้จริง ก็คงพอจะเดาได้ว่าน่าจะมีปัญหาสารพัด นอกจากเทรนเนอร์ในโรงยิมกับแม่บ้านที่มาท�ำความสะอาดบ้านวันเว้น วัน และแน่นอน การพูดส่งเสียงเท่าทีจ่ ะเอาตัวรอดได้ในชัน้ เรียน ผมแทบจะไม่ พูดจากับใคร พ่อกับผมหลบหน้าหลบตากันมานานหลายปีแล้ว เราอยูใ่ ต้หลังคา เดียวกัน แต่ตารางเวลาแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง พ่อใช้เวลาส่วนใหญ่ในสตูดิโอ ไกลแสนไกล ผมพยายามทุกวิถีทางหลบหน้าพ่อ โรงเรียนมัธยมที่ผมไปเรียนเป็นโรงเรียนเอกชนของชนชั้นกลางระดับสูง หรือไม่กร็ วยเละ โรงเรียนประเภททีว่ า่ ถ้าไม่หา่ มจนถูกไล่ออก ก็จะได้เลือ่ นไปเรียน มัธยมปลายในแคมปัสเดียวกันโดยอัตโนมัติ นักเรียนทีน่ แี่ ต่งเนือ้ แต่งตัวหมดจด ฟันขาวเรียงเป็นระเบียบ และน่าเบื่อนรกสาป เป็นธรรมดาอยู่แล้วที่ผมจะไม่มี เพื่อน ผมก่อก�ำแพงล้อมตัวเอง ไม่เคยปล่อยให้ใครบุกผ่านเข้ามา และผมเองก็ ไม่เคยออกไปข้างนอก ใครจะนิยมคบหาคนประเภทนัน้ ? พวกทีเ่ รียนชัน้ เดียวกัน จับตามองผมจากระยะห่าง อาจจะเกลียดผม อาจถึงขั้นหวั่นหวาด แต่ผมก็ดี ใจ ที่ ไม่มี ใครมาวอแวกวนใจ เพราะผมมีเรื่องอีกมากมายหลายอย่างที่ต้องจัดการ ให้แล้วเสร็จก่อนวันเกิดครบรอบสิบห้าปี รวมทั้งการใช้เวลาช่วงว่างจมอยู่ใน กองหนังสือในหอสมุด ผมตัง้ ใจเรียน สดับทุกถ้อยทุกค�ำในห้องเรียนนะ เหมือนเช่นทีเ่ ด็กชือ่ อีกา แนะน�ำไว้ นพดล เวชสวัสดิ์

15


ข้อเท็จจริงและเทคนิค อะไรต่อมิอะไรที่สอนในห้องเรียน อาจไม่มี ประโยชน์นักในโลกกว้าง นั่นแน่ใจได้ พูดก็พูดเถอะ ครูอาจารย์เป็นแต่พวก งี่เง่าปัญญาอ่อน แต่แกต้องจ�ำเรื่องนี้ไว้ ให้ดี แกจะหนีออกจากบ้าน แกอาจ ไม่มีโอกาสได้กลับเข้าห้องเรียนอีกแล้วก็เป็นได้ ชอบหรือชัง แกจะต้องดูดซับ ทุกอย่างในห้องเรียนในยามทีแ่ กยังมีโอกาส ขอให้ท�ำตัวเหมือนฟองน�ำ้ ดูดซับ ทุกอย่างเก็บไว้ ให้สนิ้ ในภายหลัง แกจะได้ตดั สินใจว่าจะเก็บสิง่ ใดไว้ จะก�ำจัด เรื่องไหนทิ้งไป

ผมปฏิบัติตามค�ำแนะน�ำของเขา ท�ำได้เกือบตลอดเวลา สมองของผม เหมือนฟองน�้ำ ผมทุ่มสมาธิ ให้กับทุกค�ำที่สอนกันในชั้นเรียน โอบรับเข้ามา แยกแยะท�ำความเข้าใจ และผนึกเก็บไว้ในความจ�ำ ต้องขอบคุณวิธีการเช่นนี้ แม้ผมจะไม่ได้เรียนพิเศษ แต่ผลการสอบก็ติดอยู่ในกลุ่มปลายยอดเสมอ กล้ามเนื้อของผมแกร่งเหมือนเหล็กกล้า เงียบขรึมเก็บตัวมากขึ้น ผมฝึก อย่างหนัก ไม่ปล่อยให้ความรู้สึกใดๆ ปรากฏให้ครูและเพื่อนร่วมชั้นคาดเดาได้ ว่าผมคิดเรื่องใดในหัว อีกไม่นาน ผมจะออกมาอยู่ในโลกหยาบกร้านของผู้ใหญ่ ผมทราบดีว่าต้องแกร่งกว่าคนอื่นถ้าอยากรักษาชีวิตให้รอดสืบไป ดวงตาของผมในกระจกเงาเย็นเยียบเหมือนตาตุ๊กแก ใบหน้าเรียบเฉย ไร้ความรู้สึกใดๆ อ่านไม่ออก ผมจ�ำไม่ได้แล้วว่าเมื่อใดเป็นคราวท้ายสุดที่เคย หัวเราะหรือยิ้มให้ผู้อื่น...หรือแม้แต่ตัวเอง ผมไม่อวดอ้างนะว่าผมรักษาความโดดเดี่ยวเงียบงันไว้ได้ตลอดเวลา ใน บางคราว ก�ำแพงห้อมล้อมตัวพังพินาศไม่มีดี ไม่เกิดขึ้นบ่อย แต่เป็นบางคราว เกิดขึ้นก่อนผมจะทันได้ตั้งตัว ณ เวลานั้น ผมรู้สึกเปลือยเปล่าล่อนจ้อน สิ้นไร้ หนทางป้องกันตนเอง และสับสนหัวเสียขนาดหนัก เวลาเช่นนัน้ ผมรูส้ กึ เหมือน ลางร้ายกวักมือเรียกหา เหมือนแอ่งน�้ำด�ำมืดแผ่กระจายแทรกทุกแห่งหน

แอ่งน�้ำด�ำมืดแผ่กระจายแทรกทุกแห่งหน อาจรอท่าอยูท่ นี่ นั่ เสมอ ซ่อนในหลืบลับตาที่ ไหนสักแห่ง เมื่อถึงเวลาจะ

16

คาฟกา วิฬาร์ นาคาตะ


ทะลักคืบเคลื่อนเงียบงัน แช่ทุกเซลล์ในร่างกายให้เหน็บหนาว ร่างของแก จมลงสายน�้ำเหี้ยมโหด ตะเกียกตะกายสูดลมหายใจเข้าปอด แกจะเกาะช่อง ระบายอากาศบนเพดาน แต่อากาศที่หายใจเข้าไปแห้งผากแผดเผา น�ำ้ กับ ความกระหาย ความหนาวเย็นกับไอร้อน ธาตุตรงข้ามผนึกก�ำลังกันโจมตีแก โลกเป็นห้วงอวกาศกว้างใหญ่ไพศาล แต่ห้วงอวกาศดูดกลืนแก อาจไม่ ต้องใหญ่มาก แต่หาไม่พบ แกเสาะหาเสียง แล้วแกได้อะไร? ความเงียบงัน แกเสาะหาความเงียบงัน รู้อะไรไหม? เท่าที่แกจะได้ยินเป็นเสียงลางร้าย พร�ำ่ เพรียกเรียกหาแก และในบางคราวเสียงแห่งการพยากรณ์นจี้ ะกดสวิตช์ลบั ซ่อนลึกในสมองของแก หัวใจของแกไม่ต่างไปจากแม่น�้ำหลังฝนชุก น�้ำเอ่อล้นตลิ่ง ป้ายปักบน ตลิง่ สูงหายลับไปกับแรงพัดซัดของสายน�ำ้ แต่กระนัน้ ฝนก็ยงั กระหน�ำ่ กระทบ ผิวน�้ำ ทุกคราวที่แกเห็นภาพน�้ำท่วมน�้ำหลากในข่าวทีวี แกจะบอกตัวเอง ใช่เลย นี่คือหัวใจของฉัน

ก่อนจะหนีออกจากบ้าน ผมล้างหน้าล้างมือให้สะอาด ตัดเล็บ ไม้พันส�ำลี เช็ดหู แปรงฟัน ผมใช้เวลานานเท่านาน ตรวจให้แน่ใจว่าสะอาดผ่องไปทั้งตัว ในบางครั้ง ความสะอาดแท้จริงถือได้ว่ามีความส�ำคัญสูงสุด ผมจ้องหน้าตนเอง ในกระจกเงา ยีนที่ผมได้จากพ่อจากแม่ ใช่ว่าผมจะจ�ำหน้าแม่ได้ หล่อหลอม ใบหน้านี้ ผมฝึกอย่างหนักไม่ปล่อยให้ตาฉายเรือ่ งราวความคิดในใจ ไม่ปล่อยให้ ความรูส้ กึ ผุดมาปรากฏบนใบหน้า ออกก�ำลังกายจนได้มดั กล้ามแกร่ง แต่ผมไม่มี ทางใดดัดเปลี่ยนเค้าหน้าตนเองได้ ผมได้คิ้วหนาเรียวยาว มีร่องหยักกึ่งกลาง ระหว่างหัวคิ้วจากพ่อ ผมจะฆ่าพ่อเสียก็ ได้ถา้ ต้องการ ผมแข็งแรงพอ ผมล้าง ความทรงจ�ำเรือ่ งแม่จากสมองได้ แต่ผมไม่มวี นั ลบดีเอ็นเอทีพ่ อ่ กับแม่สง่ ผ่านมา ให้ผม หากผมต้องการล้างให้สิ้น มีหนทางเดียวคือ ก�ำจัดสิ่งที่เป็นตัวผม ดูเหมือนจะมีลางร้ายซ่อนอยู่ในนั้น กลไกซ่อนลึกอยู่ในตัวผม

กลไกซ่อนลึกอยู่ในตัวแก

ผมปิดสวิตช์ไฟ ออกจากห้องน�้ำ ความนิ่งงันเปียกชื้นหนาหนักยังโรยตัว นพดล เวชสวัสดิ์

17


อยู่ในบ้าน เสียงกระซิบของผู้คนที่ไม่ด�ำรงอยู่ ลมหายใจของคนตาย ผมยืนนิ่ง กวาดสายตามองไปรอบตัว สูดลมหายใจยาว นาฬิกาบอกเวลาบ่ายสามโมง เข็มแยกห่างเย็นเยียบเย็นเฉียบเย็นชา แสร้งท�ำเป็นว่าไม่ข้องเกี่ยว แต่ผมรู้ว่า มันไม่ได้อยูฝ่ า่ ยผม ใกล้เวลาทีผ่ มจะกล่าวค�ำอ�ำลาแล้ว ผมหยิบเป้แบกขึน้ บนหลัง ผมแบกเป้มานับครั้งไม่ถ้วน แต่คราวนี้ดูเหมือนจะหนักมากเป็นพิเศษ ชิโกกุ ผมตัดสินใจแล้ว ผมจะเดินทางไปที่นั่น ไม่มีเหตุผลพิเศษว่าจะต้อง เป็นชิโกกุ ผมตรวจหาในแผนที่ เกิดความรูส้ กึ ว่าต้องมุง่ หน้าไปทีน่ นั่ ยิง่ ดูแผนที่ บ่อยแค่ไหน จะว่าไปแล้ว ทุกคราวที่ดูแผนที่ ผมยิ่งรู้สึกว่าชิโกกุยื่นมือออกมา ลากผมให้เดินทางตรงไปหา ชิโกกุอยู่ทางใต้ของโตเกียว ห่างไกลแยกห่างจาก เกาะใหญ่ด้วยผืนน�้ำ อากาศอุ่นสบาย ผมไม่เคยไปที่นั่น ไม่มีเพื่อน ไม่มี ญาติมิตร หากจะมี ใครตามหาตัว ซึ่งผมไม่แน่ใจนักว่าจะมี ชิโกกุคงเป็นแหล่ง สุดท้ายที่จะนึกถึง ผมไปรับตั๋วที่จองไว้ที่เคาน์เตอร์ ขึ้นรถเที่ยวกลางคืน นี่เป็นวิธีเดินทาง ประหยัดที่สุดไปยังทากามัตซึ ค่าโดยสารหนึ่งหมื่นเยนเศษๆ ไม่มี ใครสนใจผม ไม่ถามว่าผมอายุเท่าใด ไม่มีแม้การหันมามองซ�้ำสอง คนขับรถตรวจบัตรผม เหมือนหุ่นยนต์ มีผู้โดยสารเพียงหนึ่งในสาม ส่วนใหญ่เดินทางคนเดียว เหมือนผม รถโดยสารเงียบอย่างประหลาด การเดินทางแสนไกลไปยังทากามัตซึ ตามตาราง เดินรถบอกไว้ว่าสิบชั่วโมง จะไปถึงที่หมายตอนย�่ำรุ่ง ผมไม่รังเกียจ ผมมีเวลา เหลือเฟือ รถออกจากท่าตอนสองทุ่ม ผมปรับเก้าอี้เอนนอน ขยับตัวไม่กี่ครั้ง ยังไม่ได้ตั้งสติรู้สึกตัว เหมือนแบตเตอรี่หมดประจุ ผมผล็อยหลับไป กลางดึก ฝนตกหนัก ผมตื่นเป็นครั้งคราว เขี่ยม่านหน้าต่างมองออกไป นอกรถ ฝนสาดเม็ดหนากระทบกระจก สยายม่านขาวขุ่นคลุมโคมไฟข้างถนน เหลือเพียงวงแสงวาบมาเป็นระยะ ประหนึ่งว่าปักโคมไฟไว้เพื่อเป็นหลักวัด ระยะทางบนผิวโลก ดวงแสงเรื่อนวลวาบเข้ามาหา ก่อนจะลาลับไปเบื้องหลัง ผมดูเวลาบนข้อมือ เที่ยงคืนเศษแล้ว เลื่อนออกมาอยู่หน้าเวทีโดยอัตโนมัติ... 18

คาฟกา วิฬาร์ นาคาตะ


วันเกิดปีที่สิบห้าของผมออกมาปรากฏให้เห็นแล้ว “เฮ้ สุขสันต์วันเกิดว่ะ” อีกากระซิบบอก “ขอบคุณ” ลางร้ายยังเกาะตัวผม เหมือนเงาตามตัว ผมตรวจดูว่าก�ำแพงยังก่อตั้ง มั่นคงรอบตัว ผมรูดม่านปิด ปิดตาหลับใหลไปอีกครั้ง

นพดล เวชสวัสดิ์

19


Turn static files into dynamic content formats.

Create a flipbook
Issuu converts static files into: digital portfolios, online yearbooks, online catalogs, digital photo albums and more. Sign up and create your flipbook.