งานกะดึก หนึ่ีง เธอมาถึงที่จอดรถเร็วกว่าปกติ ความมืดเหนียวเหนอะของเดือน กรกฎาคมทะลักมาโอบเธอไว้ในตอนที่ก้าวออกจากรถ อาจเป็นความ อบอ้าวหรือความชื้นในอากาศ แต่เธอก็ยังรู้สึกว่าค�่ำคืนนี้หนาหนักและ ด�ำมืดกว่าปกติ ลมหายใจของเธอแทบขาดห้วง มาซาโกะ คาโทริเงย หน้ามองฟ้าไร้ดาวส่อง ผิวหนังแห้งเย็นในรถยนต์ปรับอากาศ บัดนี้ เริ่ม เหนียวชืน้ กลิน่ ไอเสียจากทางด่วนชิน-โออูเมะ เคล้าเจือกับกลิน่ น�ำ้ มันทอด อาหาร กลิ่นของโรงงานบรรจุอาหารกล่องที่เธอมุ่งหน้ามาท�ำงาน “ฉันอยากกลับบ้าน...” ทันทีที่กลิ่นเตะจมูก ค�ำพูดผุดขึ้นมาในหัว เธอไม่ทราบเหมือนกันว่าบ้านใดทีเ่ ธออยากจะกลับไปหา แน่ทสี่ ดุ จะต้อง ไม่ใช่บา้ นทีเ่ ธอเพิง่ จากมา ท�ำไมหรือเธอจึงไม่อยากกลับไปยังบ้านหลังนัน้ ? จะไปที่ไหนได้? เธอรู้สึกมืดมนจนปัญญา จากเทีย่ งคืนจนถึงตีหา้ สามสิบนาที ไม่มกี ารหยุดพัก เธอจะต้องยืน ข้างสายพานบรรจุอาหารลงกล่อง ส�ำหรับงานชัว่ คราว ค่าจ้างค่อนข้างแพง แต่งานสาหัสเหนือ่ ยสายตัวแทบขาด มากเกินกว่าหนึง่ ครัง้ ในตอนทีเ่ ธอไม่ ค่อยสบายนัก เท้าของเธอหยุดค้างกลางลานจอดรถเมือ่ วาดภาพมองเห็นว่า มีงานใดรอท่าอยู่จนถึงรุ่งเช้า แต่คราวนี้ต่างไป ความรู้สึกหงุดหงิดงุ่นง่าน 2
เธอท�ำเหมือนทุกคราวที่เกิดความรู้สึกนี้ เธอจุดบุหรี่สูบ แต่ทว่า ค�่ำคืนนี้ เธอเพิง่ ตระหนักว่า เธอต้องการกลิน่ บุหรีเ่ พือ่ กลบกลิน่ น�ำ้ มันทอดเหม็นหืน จากโรงงาน โรงงานบรรจุอาหารกล่อง ตั้งอยู่กลางย่านมาซาชิ-มูรายามะ หัน หน้าออกถนน ประจันหน้ากับก�ำแพงสีเทาของโรงงานประกอบรถยนต์ ขนาดใหญ่ หากไม่นับโรงงานมหึมา ที่เหลือเป็นแต่เพียงทุ่งโล่งดินฟุ้งและ อูซ่ อ่ มรถเล็ก ๆ เกาะรวมกันเป็นกระจุก นิคมโรงงานอยูใ่ นทุง่ ทีร่ าบ มอง เห็นขอบฟ้าทุกทิศทาง ลานจอดรถอยู่ห่างจากโรงงาน เดินสามนาทีผ่าน โรงงานร้างหลังหนึง่ ลานจอดเป็นแต่เพียงพืน้ ดินไถกวาดหยาบๆ ลาดยาง กาลครั้งหนึ่งเคยทาสีขาวก�ำหนดช่องจอด บัดนี้ ฝุ่นกลบจนแทบไม่เหลือ เค้าแล้ว รถยนต์ของคนงานเสียบหัวเข้าทุกทิศตามถนัด ลานร้างที่จะไม่มี ใครสังเกตเห็นว่าคนซ่อนตัวอยูใ่ นพงหญ้าหรือหลังรถยนต์ เพียงนึกถึงแง่นี้ ไหล่ของเธอสะท้านเยือกในขณะที่บิดกุญแจล็อกรถ เธอได้ยินเสียงล้อรถบดถนน กอหญ้ารกครึ้มริมลานจอดอาบแสง เหลืองจากไฟหน้า รถโฟล์กสวาเกนสีเขียว กอล์ฟ กาบริโอเลต์ เปิดประทุน แล่นเข้ามาในลานจอด สาวเจ้าเนื้อ เพื่อนร่วมงาน, คุนิโกะ โจโนะอุจิ ผงกหัวให้จากที่นั่งคนขับ “ขอโทษด้วย สายไปหน่อย” เธอกล่าวบอก พารถเข้ามาเทียบข้าง โตโยตาสีแดงซีดหม่น การขับควบคุมรถเฟอะฟะ ท�ำเสียงดังเกินจ�ำเป็น ในยามใส่เบรกมือและปิดประตูรถ ทุกอย่างที่เกี่ยวกับคุนิโกะ อวดโอ่ ไร้รสนิยมระคายประสาท มาซาโกะดับบุหรี่ด้วยปลายเท้ารองเท้าผ้าใบ “รถสวย...” เธอกล่าว รถของคุนิโกะเป็นหัวข้อสนทนาหลายครั้ง หลายคราในโรงงาน “คิดอย่างนัน้ จริงหรือ?” คุนโิ กะถาม แลบลิน้ ออกมาเมือ่ ได้รบั ค�ำชม “...แพงฉิบ หนี้ท่วมหัวท่วมหาง” มาซาโกะหัวเราะออกมาเบาๆ รถยนต์ ไม่ได้เป็นแต่เพียงหนี้ก้อนเดียวของคุนิโกะ เสื้อผ้าอาภรณ์ทุกชิ้น จะต้อง 3
เป็นของแบรนด์เนมทัง้ สิน้ เสือ้ ผ้าทีใ่ ส่มาท�ำงาน เห็นได้ชดั ว่าน่าจะมีราคา แพงระยับ “ไปกันเถอะ” มาซาโกะกล่าวชวน หลังปีใหม่ เธอได้ยนิ เสียงซุบซิบ พูดคุยกันว่า มีไอ้โรคจิตตระเวนล่าเหยื่ออยู่ระหว่างลานจอดรถกับโรงงาน คนงานชัว่ คราวหลายคนแจ้งความว่า ถูกดึงลากเข้าไปในโรงงานร้าง เกือบ จะเสียท่า ดีแต่ว่าดิ้นหลุดมาได้ บริษัทจึงออกประกาศเตือนให้ผู้หญิงเดิน กันเป็นกลุม่ ทัง้ สองเดินดุม่ ไปในความมืดกลางดึก โคมไฟส่องถนนน้อยต้น บนถนนขรุขระ ทางขวามือเป็นแนวหยักของกลุ่มอาคารอพาร์ตเมนต์และ บ้านไร่ สวนกว้างใหญ่ ไม่สวยงามหมดจด แต่ก็ยังเป็นที่พักพิงของผู้คน ทางซ้ายมือ ข้ามล�ำรางระบายน�ำ้ โสโครก หญ้ารกคลุมทีว่ า่ งของอาคารร้าง ทีท่ ำ� การเดิมของโรงงานบรรจุอาหารกล่อง โรงโบว์ลงิ หญิงทีต่ กเป็นเหยือ่ ของการจูโ่ จม บอกเล่าว่า ถูกลากตัวเข้าไปในโรงงานร้าง ดังนัน้ มาซาโกะ กวาดสายตามองฟากซ้ายมือเป็นพิเศษในตอนที่เธอกับคุนิโกะเดินไปยัง โรงงาน อพาร์ตเมนต์ทางขวามือ เสียงทะเลาะเอ็ดตะโรในภาษาโปรตุเกส เป็นไปได้มากทีเดียวว่าสามีภรรยาคู่นี้น่าจะเป็นคนงานในโรงงานบรรจุ อาหารกล่อง หากไม่นับแม่บ้านที่มาท�ำงานชั่วคราว คนงานส่วนใหญ่จะ เป็นคนบราซิล เชือ้ สายแท้หรือลูกครึง่ ญีป่ นุ่ จ�ำนวนไม่นอ้ ยทีท่ ำ� งานทัง้ ผัว ทั้งเมีย “เห็นเขาลือกันว่า ไอ้หมอนัน่ น่าจะเป็นคนบราซิล” คุนโิ กะขมวดคิว้ กวาดสายตาไปในความมืด มาซาโกะก้าวเท้า ไม่มีเสียงตอบ จะเป็นคน ชาติไหนไม่แปลก เธอคิดในใจ ไม่มีหนทางเยียวยาความเศร้าซึมจากการ ท�ำงานในโรงงานได้อยู่แล้ว ผู้หญิงท�ำได้เพียงป้องกันตัวเองให้สุดความ สามารถ “...มันร่างใหญ่สูงล�่ำก�ำย�ำ ลากผู้หญิงเข้าไปในตึกร้าง ไม่พูด ไม่จา” น�้ำเสียงของคุนิโกะโหยหาเว้าวอนอย่างไรพิกล มาซาโกะรู้สึกว่า คุนิโกะหลุดหล่นไปอยู่ในม่านหนา เหมือนซ่อนอยู่หลังเมฆทึบซ่อนบังจน 4
ไม่เห็นดาวกลางฟ้า ทั้งสองได้ยินเสียงเอี๊ยดอ๊าดของจักรยานดังไล่หลัง หันกลับไปมองด้วยสายตาตระหนก แต่ก็เป็นเพียงหญิงสูงอายุนั่งบนอาน “เธอสองคนนีเ่ อง” นางนัน้ ทักทาย “...เป็นไง?” โยชิเอะ อะซูมะ นั่นเอง เธอเป็นหญิงหม้าย อายุปลายช่วงห้าสิบ ปลายนิ้วคล่องว่องไว ท�ำให้เธอเป็นมือหนึ่งในสายพานการบรรจุ หญิงคนอื่นๆ เรียกขานว่า ‘กัปตัน’ แม้ไม่เห็นพ้องก็ต้องยอมรับ “อา, กัปตัน อรุณสวัสดิค์ ะ่ ” มาซาโกะทักทาย เสียงโล่งอก คุนโิ กะ ไม่เอ่ยค�ำใด รั้งเท้าห่างไปข้างหลังก้าวใหญ่ “เธออย่าเรียกฉันอย่างนั้นอีกคนเชียวนะ” โยชิเอะตอบ แต่ดู เหมือนภูมิอกภูมิใจที่ได้รับค�ำยกย่อง เธอลงจากรถ เดินไปกับสองนาง โยชิเอะเป็นหญิงร่างเล็ก เนื้อแน่น ดูเหมือนจะเหมาะสมที่จะท�ำงาน ใช้แรงกาย แต่ใบหน้าคมเข้ม ซีดขาว วงหน้าชวนมองลอยผุดออกมา จากความมืด อาจเป็นความขัดแย้งสุดขั้วนี่เองที่ท�ำให้ดูคล้ายไร้ความสุข บางคราวถึงขั้นอับโชค “เธอสองคนเดินร่วมทางกันเพราะข่าวลือเรื่อง ไอ้โรคจิตคนนั้นสินะ” “ใช่ค่ะ” มาซาโกะตอบ “...คุนิโกะยังเยาว์วัยพอจะเป็นอันตราย” คุนิโกะหัวเราะคิกคัก สาวอายุยี่สิบเก้า อายุที่บอกกล่าวให้ทุกคนทราบ ทั่วกัน โยชิเอะเดินอ้อมแอ่งน�้ำสะท้อนแสงสลัวบนถนน เหลียวหน้ากลับ มาหามาซาโกะ “เธอเองก็ไม่เบานะ...อายุเท่าไหร่แล้ว? สี่สิบสาม?” “ล้อเล่นน่า” มาซาโกะกัดฟันไม่ให้หัวเราะออกมา ค�ำชมที่ท�ำให้ สะดุ้งเขินอาย รู้สึกที่แทบลืมเลือนไปสิ้นแล้ว “ถ้างั้นก็คงเย็นชืด แห้งผากไปแล้วสินะ” ส�ำเนียงของโยชิเอะ หยอกล้อ แต่ในใจของมาซาโกะ ดูเหมือนจะเป็นการตอกเข้าเต็มหัวตะปู เธอรู้สึกเย็นชา แห้งผาก เหมือนสัตว์เลื้อยคลาน ชีวิตทุกวันนี้ เธอเลื้อย เชื่องช้าตะกุกตะกักไปวันต่อวัน 5
“วันนี้มาสายกว่าปกติ?” มาซาโกะเปลี่ยนเรื่อง “โอ...คุณย่างอแง” โยชิเอะนิ่วหน้า นิ่งงันไปอีกระยะหนึ่ง เธอ ดูแลแม่ผวั ป่วย นอนแซ่วติดเตียง มาซาโกะเหม่อจ้องไปข้างหน้า ตัดสินใจ ไม่แลกเปลี่ยนค�ำถามกันต่อ เมื่อทั้งสามเดินผ่านอาคารร้างมาแล้ว ทาง ซ้ายมือเปิดเป็นลานกว้าง จอดรถบรรทุกสีขาวที่จะขนส่งอาหารกล่องไป วางตามร้านสะดวกซื้อทั่วมหานคร สูงทะมึนเหนือแถวรถบรรทุก จะ เป็นอาคารโรงงานอาหารกล่อง ไฟนีออนเจิดจ้าประหนึ่งเป็นนครที่ไม่รู้จัก ราตรีกาล ทั้งสองรอให้โยชิเอะน�ำจักรยานเข้าจอดข้างผนังอาคาร จากนั้น เดินขึ้นบันไดปูพรมสังเคราะห์สีเขียวเข้าประตูด้านข้าง ทางเข้าอยู่ชั้นสอง ของโรงงาน ทางขวามือเป็นออฟฟิศ ผ่านช่องเดินกลางไปยังบริเวณที่พัก ของคนงานและตูล้ อ็ กเกอร์ หลังจากคนงานเปลีย่ นชุดแล้ว จะเดินลงบันได ไปยังชั้นล่างเพื่อบรรจุอาหารลงกล่อง รองเท้าจะถอดไว้ที่ทางเข้าโรงงาน สีของพรมแดงซีดจางใต้แสงนีออน สะท้อนเรื่อแสงให้บรรยากาศหดหู่ใน ช่องทางเดิน แสงหม่นท�ำให้ใบหน้าผู้คนซีดเหมือนคนตาย มาซาโกะอด สงสัยมิได้ว่า ใบหน้าของเธอจะดูไม่ได้เหมือนอย่างนั้นหรือไม่ โคมาดะ ผูต้ รวจการอนามัยของบริษทั นัง่ ประจ�ำทีห่ น้าช่องวางรองเท้า เมือ่ คนงาน เดินผ่าน เธอจะใช้แปรงแถบกาวลูบไปทั่วแผ่นหลัง เพื่อเก็บฝุ่นและผงที่ คนงานพาติดตัวเข้ามาในโรงงาน ทั้งสามเดินเข้าไปในห้องปูเสื่อทาทามิ ห้องใหญ่กว้างขวาง ใช้เป็น ห้องพักคนงาน กลุ่มคนงานกระจัดกระจายอยู่ทั่ว บ้างก็เปลี่ยนเป็นชุด ท�ำงานสีขาวแล้ว นั่งพูดคุย จิบน�้ำชาหรือกินอาหารว่าง รอคอยสัญญาณ เรียกตัวเริ่มงาน บางคนจับจองมุมห้อง งีบหลับเอาแรง งานกะดึกที่มีคน งานเกือบร้อยคน หนึ่งในสามเป็นคนบราซิล ครึ่งหนึ่งเป็นชาย ห้วงเวลา นีเ้ ป็นกลางช่วงปิดภาคฤดูรอ้ น คนงานนักศึกษาเพิม่ จ�ำนวนหนาตา แต่คน งานชั่วคราวส่วนใหญ่ ก็ยังเป็นกลุ่มแม่บ้าน ช่วงวัยสี่สิบหรือห้าสิบปี 6
สามอนงค์ผงกหัวทักทายเพื่อนพ้อง เมื่อเดินตรงไปหาห้องเปลี่ยน เสื้อผ้า จึงสังเกตเห็นยาโยอิ ยามาโมโตะ นั่งอยู่ตามล�ำพังที่มุมห้อง สาว น้อยเงยหน้ามอง แต่ไม่มีรอยยิ้มทักทาย ยังนอนซมอยู่บนเสื่อทาทามิ “อรุณสวัสดิ์” มาซาโกะทักทาย ได้รับยิ้มตอบรับจากสาวน้อย แม้จะเพียงวูบเดียว “...ดูท่าเหนื่อยจัง” สาวน้อยผงกศีรษะรับ ตาเหม่อ ค้าง แต่ไม่มีเสียงตอบ ยาโยอิเป็นหญิงสาวหน้าตาดี จะว่าไปแล้ว หน้า สวยที่สุดในมวลหมู่คนงานกะดึก เค้าหน้าจิ้มลิ้มหมดจด หน้าผากกว้าง คิ้วเข้มได้ระยะรับกับดวงตา ปลายจมูกงอน ริมฝีปากอวบอิ่ม เรือนร่าง ของเธอ แม้จะเล็กกะทัดรัด เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบ หน้าหวานบาดตา จนเป็นเป้าให้พวกตาร้อนซ้อมมือคุกคามรังแกแม้วา่ คนส่วนใหญ่จะเป็นมิตร มาซาโกะรับหน้าที่ผู้พิทักษ์สาวน้อยไปโดยปริยาย อาจเป็นเพราะมีความ แตกต่างกันสุดขั้วก็เป็นได้ ในขณะที่มาซาโกะพยายามใช้ชีวิตด้วยเหตุผล และตรรกะ ยาโยอิดูเหมือนจะลอยละล่องไปในโลกฝัน ลากกระเป๋าเดิน ทางอารมณ์รงุ รังติดตัวไปด้วย แทบจะเป็นจิตไร้สำ� นึกทีจ่ ะกอดเหนีย่ วเรือ่ ง ทุกข์โศกทีส่ มควรจะทิง้ ไว้เบือ้ งหลัง เล่นบทบาทสาวพริม้ เพรา ระทมทุกข์ อมโศกไปกับความรู้สึกแปรปรวนยุ่งเหยิงเกินสะสาง “ไงบ้าง?” โยชิเอะทักทาย ฟาดมือตบหัวไหล่สาวน้อย “...เหี่ยว เชียวนะคืนนี้” ยาโยอิสะท้านเยือกไปทั้งร่าง โยชิเอะหันไปหามาซาโกะ ผู้บุ้ยใบ้ให้สองคนล่วงหน้าไปก่อน มาซาโกะนั่งลงตรงหน้าสาวน้อย “ไม่สบายหรือ?” เธอถาม “ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ” “เถียงกับแฟนมาอีกแล้วหรือ?” “หนูคงมีความสุขกว่านี้ถ้าเขายอมเถียงด้วย” ยาโยอิตอบเศร้าๆ ดวงตาเอ่อท่วมด้วยน�้ำตา เหม่อมองไปไกลเกินจุดที่มาซาโกะนั่งอยู่ เมื่อ ตระหนักได้ว่าจะต้องเริ่มงานในไม่ช้า มาซาโกะม้วนผมเป็นมวย “เกิดอะไรหรือ?” 7
ผนัง
“หนูจะเล่าให้ฟังภายหลัง” “ท�ำไมไม่เล่าตอนนี้?” มาซาโกะรุกเร้า สายตาเงยมองนาฬิกาบน
“ทีหลังดีกว่า เรื่องยาว” ประกายตาแค้นเคืองวาววับบนใบหน้า ของยาโยอิผุดมาให้เห็นชั่ววูบ ก่อนจะหายลับ มาซาโกะยอมแพ้ ลุกขึ้น ยืน “ได้เลย” เธอบอก เดินเข้าไปในห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า ‘ห้อง’ ตามชื่อเรียกขานเท่านั้น เพราะมีเพียงม่านกั้นกับห้องพักคนงาน บนผนัง แขวนเรียงด้วยไม้แขวนเสือ้ หนาหนักเหมือนทีพ่ บได้ในห้างสรรพสินค้า ผนัง ของกะกลางวัน แขวนเรียงด้วยชุดสีขาว ส่วนผนังของคนงานกะดึก เป็น เสื้อผ้าหลากสีสัน “เจอกันข้างล่าง” โยชิเอะหันมาบอกตอนเดินออกจากห้องพัก ได้ เวลาตอกบัตร กฎของบริษัทตราไว้แจ้งชัด จะต้องตอกบัตรระหว่างเวลา 11.45 กับเที่ยงคืน เดินลงบันไดไปยังประตูทางเข้าโรงงาน มาซาโกะหยิบที่แขวนเสื้อจากผนัง เสื้อสีขาว รูดซิปด้านหน้า กางเกงสีขาวเอวยางยืด เธอสวมเสือ้ ขาว หันไปมองต�ำแหน่งทีค่ นงานชาย นอนเอกเขนกในห้อง ก่อนจะถอดกางเกงยีน สวมกางเกงสีขาว ไม่มหี ้อง เปลี่ยนเครื่องตัวของผู้ชายแยกเป็นสัดเป็นส่วน แม้จะท�ำงานที่นี่เกือบสอง ปีแล้ว เธอยังท�ำใจให้คุ้นชินไม่ได้ หลังจากใช้ตาข่ายสีด�ำคลุมมวยผม เธอสวมหมวกกระดาษสีขาวที่ คนงานต้องสวมใส่ คล้ายหมวกพลาสติกอาบน�้ำมากกว่าจะเป็นหมวกทัว่ ไป คนงานตัง้ ชือ่ ให้วา่ ‘ตัก๊ แตน’ ตามรูปทรงของหมวก เธอหยิบผ้ากันเปือ้ น พลาสติกใส เดินออกจากห้องเปลี่ยนเครื่องแต่งตัว ออกมาพบยาโยอิ นอนซมอยู่ในท่าเดิมตอนที่เธอจากไป เหมือนว่าไม่มีอะไรท�ำดีไปกว่านี้ “เฮ้ย, ขยับได้แล้ว” มาซาโกะจับตาดูสาวน้อย ดันตัวลุกขึน้ เชือ่ งช้า เธอเป็นกังวลมากกว่าจะหงุดหงิด คนงานเกือบทั้งหมดลงไปรอหน้าประตู 8
โรงงานกันแล้ว มีเพียงคนบราซิลไม่กี่คนบนเสื่อทาทามิ นั่งหลังพิงผนัง สูบบุหรี่ เหยียดขายาวบนเสื้อ “อรุณสวัสดิ”์ หนึง่ ในนัน้ ทักทาย มืองุม้ บีบก้นบุหรีย่ กขึน้ มาทักทาย มาซาโกะผงกศีรษะรับ มุมปากกระตุกเป็นรอยยิม้ ป้ายชือ่ บนอกเสือ้ เขียน ไว้ว่า ‘คาซูโอะ มิยาโมริ’ แปลกพิลึก ชื่อญี่ปุ่นแท้ แต่ผิวด�ำคล�้ำ หน้า เว้า หน้าผากโหนกนูน เธอคิดว่าน่าจะเป็นพวกกรรมกร เข็นรถบรรทุกข้าว มาส่งให้สายพาน “อรุณสวัสดิ”์ ชายผูน้ นั้ ส่งเสียงทักทายยาโยอิ แต่สาวน้อย เหม่อลอยจนไม่ได้หันมามอง ใบหน้าผิวเข้มฉายความผิดหวัง แต่ก็เป็น เรื่องปกติธรรมดาที่จะเกิดขึ้นได้ในโรงงานเย็นชาแล้งน�้ำใจ คนงานเข้ า ไปในห้ อ งน�้ ำ ก่ อ นจะสวมผ้ า คาดปิ ด ปากจมู ก และ ผ้ากันเปื้อน ทุกคนจะต้องขัดมือด้วยแปรงจนเรื่อแดง แช่ในน�้ำยาฆ่าเชื้อ ตอกบัตร และสวมรองเท้าท�ำงานสีขาว อีกครัง้ ทีจ่ ะต้องผ่านด่านผูต้ รวจการ อนามัย โคมาดะย้ายมานั่งข้างบันไดลงไปยังชั้นล่างของโรงงาน อีกครั้งที่ โคมาดะลูบแปรงเทปเหนียวเก็บฝุ่นและผง เพิ่มเติมด้วยการตรวจมือและ เล็บ “ไม่มีแผลนะ?” แม้แต่รอยขีดข่วนบนปลายนิ้ว หมายความว่า จะท�ำงานบรรจุอาหารไม่ได้ มาซาโกะกับยาโยอิกางนิ้วให้ตรวจ ยาโยอิดู เหมือนจะเป็นลมล้มพับไปก่อนการตรวจอนามัยจะสิ้นสุด “เป็นไงบ้าง?” มาซาโกะถาม “พอไหวค่ะ” ยาโยอิตอบ “ลูกๆ สบายดีหรือ?” “อือ...” เสียงครางในล�ำคอ มาซาโกะหันไปจ้องหน้า บอกอะไร ไม่ได้มากเมื่อมีผ้าปิดปากจมูกกับหมวก เหลือแต่เพียงตาไร้ประกายสอง ข้าง ยาโยอิแทบไม่รู้สึกตัวว่ามาซาโกะจ้องหน้าเขม็ง ลมเย็นเฉียบเคล้ากลิ่นอาหาร ท�ำให้การเดินลงมายังสายพานบรรจุ แทบไม่ต่างไปจากการเดินเข้ามาในตู้เย็นมหึมา ความหนาวเยือกคล้ายจะ 9
ทะลวงจากพื้นคอนกรีตผ่านพื้นรองเท้ายาง แม้แต่ในช่วงฤดูร้อน โรงงาน บรรจุอาหารเย็นเยือกเหมือนอยู่กลางก้อนน�้ำแข็ง ที่ตีนบันได ทั้งสองเดินมาสมทบคนงานที่รออยู่หน้าประตูเปิดเข้าไป ในที่ท�ำงาน โยชิเอะกับคุนิโกะอยู่หัวแถว หันมาให้สัญญาณ หญิงทั้งสี่ ท�ำงานร่วมกันเป็นทีม ช่วยเหลือกันและกัน ไม่เช่นนั้น งานที่ท�ำอยู่คง หนักหนาสาหัสยิ่งกว่านี้ ประตูเปิด คนงานเดินเรียงแถวเข้าไปในห้องท�ำงาน อีกครั้งที่คน งานล้างมือมาจนถึงข้อศอก ผ้ากันเปื้อนพลาสติกคลุมถึงข้อเท้าผ่านการ ฆ่าเชื้อ ถึงตอนที่ยาโยอิกับมาซาโกะล้างมือเสร็จ คนงานคนอื่นๆ มารอ อยู่ที่สายพาน เตรียมพร้อมเริ่มท�ำงาน “เร็วเข้าหน่อย!” โยชิเอะร้องเร่งมาซาโกะ “...ไอ้นากายามะจะมา แล้ว” นากายามะเป็นหัวหน้าคนงานกะดึก อายุนอ้ ย เพิง่ ต้นสามสิบ แต่ ปากสุนัขและหลงใหลได้ปลื้มกับโควตาที่เจ้านายก�ำหนดมาให้ นี่คือ ที่มา ของการลงความเห็นเกลียดชังโดยเอกฉันท์ของคนงานกะดึก “ขอโทษค่ะ” มาซาโกะตอบ หยิบถุงมือใช้แล้วทิง้ กับผ้าเช็ดมือฆ่าเชือ้ หยิบอีกชุดเผือ่ ยาโยอิ แม้แต่ตอนทีม่ าซาโกะวางใส่ในมือ ยาโยอิเหม่อจ้อง ประหนึ่งเพิ่งรู้สึกว่าเดินทางมาถึงที่ท�ำงาน “ตั้งสติให้ดี” มาซาโกะกระซิบบอก “ขอบคุณค่ะ” ยาโยอิครางตอบ เมื่อเข้าประจ�ำที่ทางต้นสายพาน โยชิเอะประกาศแผนการท�ำงานให้ทราบ “เราจะเริ่มต้นที่ข้าวกะหรี่ไก่ หมื่นสองพันกล่อง ฉันท�ำข้าว เธอท�ำ กล่อง” การท�ำข้าวหมายถึงการยืนอยู่ต้นทาง จักรกลส�ำคัญของการผลิต เพราะจะเป็นผู้ก�ำหนดอัตราเร็วในการท�ำงาน โยชิเอะรับหน้าที่นี้ได้เยี่ยม ที่สุด อาสารับหน้าที่ท�ำข้าวเสมอ มาซาโกะจะเป็นผู้ยื่นกล่องให้ ในตอน ทีเ่ ธอจัดเรียงกล่องพลาสติก เธอหันไปมองยาโยอิ สาวน้อยเชือ่ งช้าเกินกว่า จะได้งานเบาที่สุด ซึ่งจะเป็นการตักแกงกะหรี่ราดข้าว คุนิโกะหมายตาไว้ 10
ตัง้ แต่แรก เดินเข้าไปประจ�ำที่ หันกลับมามองสาวหน้าหวาน ยักไหล่ให้... ก็จริง, เราช่วยเหลือกันและกัน ดูเหมือนว่าสายตาของคุนิโกะจะบ่งบอก เช่นนั้น แต่ถ้าอีหนูนั่นไม่ดูแลตัวเอง ไม่อยากได้อยากดี ใครจะไปช่วย ได้วะ? “แม่นนั่ เป็นอะไรไป?” โยชิเอะหันมาถาม คิว้ ขมวดมุน่ “...ไม่สบาย หรือเปล่า?” มาซาโกะส่ายหน้า แต่ไม่ได้พดู อะไรออกมา ยาโยอิเหม่อลอย จนผิดปกติ มาซาโกะมองตามสาวน้อย เดินเอือ่ ยไปสายการผลิต ไม่ทวี่ า่ ง งานเบาเหลืออยู่อีกแล้ว ยาโยอิแทรกเข้าไปอยู่ในต�ำแหน่งกดข้าว...หน้าที่ สาหัส มาซาโกะสะกดความเดือดดาล กระซิบบอก “...นัน่ งานหนักทีส่ ดุ ” “หนูรู้” “เร็วเข้า เริ่มต้นได้แล้ว” หัวหน้าคนงานตะโกนก้อง เดินสาวเท้า มุ่งหน้ามาหาสายพาน “...ห่ะ, พวกเอ็งท�ำอะไรกันอยู่?” สีหน้าซ่อนอยู่ หลังผ้าปิดปากจมูกและหมวกแก๊ปดึงต�่ำ แต่ตาหยีเล็กหลังแว่นวาวโชน แสงกราดเกรี้ยวชัดเจน “ใครกันหนอมาถึงแล้ว?” โยชิเอะร�ำพึงออกมา “ไอ้รูทวาร” มาซาโกะค�ำรามออกมา ชิงชังรังเกียจเสียงวางอ�ำนาจ ของนากายามะ รังเกียจการวางท่าหยามหมิ่นผู้อื่นของหัวหน้าคนงาน “ฉันได้รับค�ำสั่งให้มากดข้าว” คนงานหญิงหน้าใหม่ อ้อมแอ้มถาม “...จะต้องท�ำยังไง?” “ยืนที่นี่ แล้วกดข้าวที่ฉันใส่ลงไปให้แบนราบ” เสียงของโยชิเอะถือ ได้ว่านุ่มนวล เปรียบเทียบกับเกณฑ์ปกติของเธอเอง “กดเสร็จ เลื่อนต่อ ไปให้คนราดแกง แม่หนูคนนัน้ จะท�ำแบบเดียวกัน ดูวธิ ที ำ� งานของเธอได้” โยชิเอะกล่าวเพิ่มเติม ชี้มือไปยังยาโยอิที่ยืนอีกฟากของสายพาน “เข้าใจละ” คนงานใหม่ตอบ แต่ไม่มที างเข้าใจเรือ่ งทัง้ หมดได้ สาย ตาเลิก่ ลัก่ ยังกวาดมองไปรอบกาย โยชิเอะไม่เสียเวลารอคอย ปลายนิว้ ผลัก เปิดสวิตช์สายพาน เสียงครางหึ่งดังขึ้น มาซาโกะสังเกตเห็นว่าโยชิเอะตั้ง 11
อัตราเร็วไว้เร็วกว่าปกติ อาจเป็นเพราะทุกคนต้วมเตี้ยมเชื่องช้า โยชิเอะ อยากจะเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น มาซาโกะยื่นกล่องส่งให้โยชิเอะ ด้วยปลายนิ้วคล่องงาน ก้อนข้าว สี่เหลี่ยมหลุดออกจากเครื่อง ตกลงในกล่องที่โยชิเอะถือรองรับ กัปตัน ชั่ ง น�้ ำ หนั ก บนตาชั่ ง ข้ า งกาย ก่ อ นจะส่ ง ต่ อ ไปตามสายพานด้ ว ยมาด กระฉับกระเฉง ถัดจากโยชิเอะ จะเป็นแถวคนงานยาวเหยียด คนหนึง่ กดข้าวให้แบน ราบ อีกคนตักแกงกะหรีร่ าดข้าว อีกหนึง่ ตัดเฉือนไก่ทอด อีกคนหยิบโปะ ลงบนแกงกะหรี่ อีกคนชัง่ แตงกวาดอง ขณะทีอ่ กี คนปิดฝาพลาสติก และ อีกคนติดช้อนด้วยเทปใสผนึกติดกล่อง คนท้ายสุด วางแปะตราบริษัท บนกล่อง อาหารกล่องไหลเลื่อนไปตามสายพาน เติมองค์ประกอบหลาย อย่างเข้าไปในขนาดพอเหมาะ ท้ายที่สุด กล่องอาหารแกงกะหรี่ครบถ้วน เสร็จสมบูรณ์ นี่เป็นการท�ำงานประจ�ำทุกค�่ำคืนของคนงานกะดึก มาซาโกะหัน ไปมองนาฬิกาบนผนัง เพิ่งเลยเที่ยงคืนมาไม่ถึงห้านาที เหลือเวลาอีก ห้าชั่วโมงครึ่ง ยืนขาแข็งบนพื้นคอนกรีตเย็นเยือก คนงานจะผลัดกันเข้า ห้องน�ำ ้ ไปได้คราวละคน โดยมีคนงานส�ำรองเข้ามาแทนต�ำแหน่ง จะต้อง ประกาศให้ทุกคนทราบเสียก่อน ต้องรอคิว ในบางคราว ต้องรอนานถึง สองชัว่ โมง หญิงทัง้ สีค่ น้ พบความจริงทีว่ า่ การช่วยเหลือเกือ้ กูลกัน ท�ำให้ งานพอทานรับได้ ไม่เพียงแค่ดูแลตัวเอง หากแต่จะต้องร่วมมือกันท�ำงาน เป็นทีม นีค่ อื เคล็ดลับของการเอาชีวติ รอดปลอดภัยในการโรงงานเคีย่ วกร�ำ โดยไม่ต้องแลกกับการล้มป่วย ท�ำงานไปได้เพียงชั่วโมงเศษ มีเสียงครวญครางจากปากของคนงาน ใหม่ แทบจะในทันที ประสิทธิภาพของการท�ำงานลดฮวบ โยชิเอะจ�ำเป็น ต้องลดอัตราเร็วในการท�ำงาน มาซาโกะสังเกตเห็นว่า ยาโยอิพยายามจะ ช่วยเหลือผูม้ าใหม่ ยืน่ มือข้ามสายพานมารับกล่องคนงานใหม่ไปช่วยกดอัด 12
แม้วา่ ตัวเองแทบจะไม่เหลือเรีย่ วแรงพอจะทรงกายยืนอยูไ่ ด้ มือเก่าคุน้ งาน ในโรงงานนี้ ทราบดีวา่ งานกดข้าวหนักทีส่ ดุ เพราะก้อนข้าวแช่แข็ง ต้อง ใช้พละก�ำลังมากเอาการในการกดข้าวแช่แข็งให้ทันกับกล่องที่เลื่อนมาอยู่ ต่อหน้า ท่ายืนค้อมตัวต�ำ ่ ดึงเอ็นหลังให้ปวดสาหัส ท�ำงานได้สักชั่วโมง ความปวดแปลบขึ้นมาจากไขสันหลังมาถึงกล้ามเนื้อหัวไหล่ แขนชาจน แทบจะยกไม่ขึ้น เพราะเหตุนี้เอง ต�ำแหน่งนี้เปิดที่ว่างให้คนงานใหม่ไม่รู้ เรื่องรู้ราว เดินเข้ามาท�ำหน้าที่กดข้าว แม้ว่ายาโยอิจะคุ้นกับงานนี้จนไม่ อาจเรียกได้ว่าเป็นมือใหม่ งานสาหัส ณ ต�ำแหน่งนี้ ท�ำให้ประกายตา ของเธอแตกพร่าไปจนสังเกตเห็นได้ กล่องอาหารกะหรี่ไก่หนึ่งหมื่นสองพันเสร็จเรียบร้อย คนงานเช็ด สายพาน และเคลื่อนต่อแถวกันเพื่อเตรียมรับงานใหม่ งานชิ้นถัดมา อาหารกล่อง ‘แชมเปี้ยน’ สองพันกล่อง...อาหารกล่อง ‘แชมเปี้ยน’ มี ส่วนประกอบมากกว่ากะหรี่ไก่ ดังนั้น สายพานการผลิตยาวขึ้น เติมที่ ว่างโดยคนงานบราซิล โยชิเอะกับมาซาโกะประจ�ำการทีจ่ ดุ เติมข้าว คุนโิ กะอ่านสถานการณ์ ได้เร็ว เว้นทีว่ า่ งจุม่ ซอสให้ยาโยอิ...งานง่ายทีส่ ดุ ในสายการผลิต รับหมูทอด สองชิ้น ถือชิ้นละมือ น�ำลงจุ่มซอสและประกบเข้าหากัน วางลงในกล่อง ต�ำแหน่งงานเหมาะเป็นที่สุด แม้ยาโยอิจะเหนื่อยล้าสักแค่ไหน ก็พอจะ ท�ำงานนี้ไปได้ตลอดรอดฝั่ง มาซาโกะระบายลมหายใจโล่งอก หันมาทุ่ม สมาธิให้กับงานของตนเอง สองพันกล่องเสร็จสิ้น ก่อนจะทันท�ำความสะอาดสายพาน มีเสียง โฉ่งฉ่าง เสียงของหนักล้มกระทบพืน้ ทุกคนหันไปมองเป็นตาเดียว ยาโยอิ เซไปปะทะหม้อซอส นอนหงายหลังอยู่บนพื้นคอนกรีต ฝาหม้อโลหะ หนาหนัก กลิ้งจากไป ตรงไปหาสายพาน น�้ำซอสเหนียวหนืดสาดเป็น วงกว้าง พื้นคอนกรีตของโรงงานลื่นด้วยน�้ำมันและเศษอาหาร แต่คนงาน คุ้นกับการเดินบนพื้นลื่น อุบัติเหตุเช่นนี้แทบจะไม่เคยเกิดขึ้น 13
“ห่ะ, แกท�ำอะไรของแกวะ?” นากายามะตะคอก ถลาเข้ามาหา ใบหน้าซีดขาวกราดเกรีย้ วด้วยโทสะ “...เฟอะเป็นทีส่ ดุ ชนล้มได้ยงั ไงกัน?” “ขอโทษค่ะ” ยาโยอิตอบในขณะทีค่ นงานชายถือม็อบเดินตรงมาหา “...ฉันลื่น” ยาโยอิไม่มีทีท่าว่าจะกระดิกตัวลุกขึ้นจากพื้น ดูเหมือนว่าจะ ตะลึงจนนั่งตัวแข็งอยู่กลางวงซอส “ลุกขึ้น...” มาซาโกะประคองสาวน้อย “ไม่งั้นโชกไปทั้งตัว” ใน ตอนที่เธอช่วยพยุงให้ลุกขึ้น เธอสังเกตเห็นรอยแดงบวมช�้ำที่หน้าท้อง ของยาโยอิ เมื่อชายเสื้อหลุดออกจากขอบกางเกง นี่หรือคือ สาเหตุที่ สาวน้อยเหม่อค้าง? รอยบวมแดงเห็นชัดถนัดตาเหมือนตราบาป มาซาโกะ กระเดาะลิ้นด้วยความขุ่นเคืองใจ แต่ก็รีบดึงชายเสื้อของยาโยอิมาปิดรอย บวมแดง ไม่มีชุดให้เปลี่ยน เพียงทรงกายรวมรวมสติครู่ใหญ่ ยาโยอิ ท�ำงานต่อไปโดยแผ่นหลังและแขนเสือ้ มีคราบซอส เนือ้ ซอสเหนียวข้นส่วน ที่ไม่ซึมเข้าไปในเนื้อผ้า แข็งตัวเป็นเปลือกแข็ง ส่งกลิ่นคละคลุ้ง ตีหา้ ครึง่ คืนนีไ้ ม่ตอ้ งท�ำโอที คนงานเดินย้อนกลับขึน้ ชัน้ สอง หลัง จากเปลีย่ นชุดเดินถนนแล้ว ทัง้ สีน่ างมักจะซือ้ เครือ่ งดืม่ จากตูห้ ยอดเหรียญ นั่งคุยกันราวยี่สิบนาทีก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน “เหม่อพิกลนะวันนี”้ โยชิเอะหันไปหายาโยอิ “...เป็นอะไรไปหรือ เปล่า?” ความเหีย่ วย่นจากวัยและความล้า ฉายชัดปรากฏบนใบหน้าหลัง งานหนักตลอดครึ่งคืน ยาโยอิจิบกาแฟจากถ้วยกระดาษ นิ่งอยู่นานก่อน จะตอบ “มีเรื่องทะเลาะกับแฟนเมื่อวาน” “ไม่แปลกไม่ใช่หรือ?” โยชิเอะหัวเราะ หันไปหาคุนิโกะเพื่อ หาความเห็นพ้อง คุนิโกะหยีตาเมื่อเสียบบุหรี่เมนธอลไปคาบที่มุมปาก “หนูกบั เคนจิไปด้วยกันได้ดไี ม่ใช่หรือ?” โยชิเอะถาม เสียงราบเรียบ “...เขาพาลูกๆ ออกไปเที่ยวบ่อยครั้ง หนูบอกว่าอย่างนั้น” 14
“ไม่ใช่ระยะหลัง” ยาโยอิพึมพ�ำออกมา มาซาโกะไม่พูดอะไร สายตาจ้องจับใบหน้าของยาโยอิ เมื่อใดที่นั่งพักสักครู่ ความล้าจากการ ท�ำงานจะคืบเข้ามาเกาะกุมทั่วร่าง “ชีวิตยังอีกยาวนาน จะมีช่วงขึ้นบ้างลงบ้าง” โยชิเอะเปรยออกมา เธอเป็นแม่หม้าย พยายามเบนเรื่องให้กลายเป็นเรื่องปกติสามัญ แต่เสียง ตอบของยาโยอิเครียดกร้าว “มันผลาญเงินออมทั้งหมด” ประโยคสั้นๆ หลุดจากปาก ทั้งสาม นิ่งเงียบ สะดุ้งตกใจไปกับการยอมรับเปิดเผย มาซาโกะจุดบุหรี่ ดูดอัด ระบายควันพรูออกมา พร้อมกับเสียง ท�ำลายความเงียบ “...เอาไปใช้อะไร?” “การพนัน” ยาโยอิตอบ “...เล่นบาคาราต์หรืออะไรสักอย่าง” “ฉันคิดว่าสามีของหนูเป็นคนรักครอบครัว ท�ำไมถึงไปเล่นการพนัน ได้ล่ะ?” โยชิเอะไม่บดบังความประหลาดใจ “ไม่รู้หมือนกัน” ยาโยอิส่ายหน้าไปมา “...คิดว่าไปเล่นที่ไหนสัก แห่ง หนูไม่รู้เรื่องของเขาเลย” “เงินออมเท่าไหร่?” คุนิโกะสอบถาม ไม่อาจบดบังความอยากรู้ อยากเห็น “ราวห้าล้านเยน” ยาโยอิแทบจะตอบเป็นเสียงกระซิบ คุนโิ กะกลืน น�้ำลายลงคอ สีหน้าเสี้ยววินาทีนั้นแทบจะเป็นความอิจฉา “แย่ว่ะ” คุนิโกะสนองรับ “คืนที่ผ่านมา มันชกหนู” ประกายตาวาววับที่มาซาโกะเคยเห็น ปรากฏอีกครั้ง ยาโยอิยกชายเสื้อยืด เปิดให้ดูรอยบวมแดง โยชิเอะกับ มาซาโกะหันไปมองตากัน “ฉันคิดว่า ป่านนี้เขาคงส�ำนึกผิดแล้วละ” โยชิเอะพยายามไกล่ เกลีย่ “ฉันกับสามีเถียงกันบ่อยออก แต่หมอนัน่ ก็เป็นคนหยาบกร้าน แฟน ของหนูไม่ใช่คนแบบนั้น จริงไหม?” 15
“หนูไม่ทราบอะไรอีกแล้ว” ยาโยอิครางออกมา ปลายนิ้วไล้คลึง หน้าท้อง ภายนอกฟ้าสว่างแล้ว วันใหม่แทบไม่ต่างไปจากวันที่ผ่าน วันร้อน อบอ้าวอีกวัน โยชิเอะกับยาโยอิเดินทางด้วยจักรยาน กล่าวลาที่หน้า โรงงาน มาซาโกะกับคุนิโกะเดินต่อไปยังลานจอดรถ “ปีนี้ฝนไม่ชุกเลยนะ” มาซาโกะกล่าว “อาจต้องเจอการปันน�้ำ” คุนิโกะตอบ เงยหน้ามองฟ้าสีตะกั่ว ใบหน้าของสาวเจ้าเนื้อเปื้อนคราบไขมันจากงานที่ผ่านมาทั้งคืน “ถ้ายังเป็นอย่างนี้” มาซาโกะสานต่อ “คุณคิดว่ายาโยอิจะท�ำยังไงต่อ?” คุนโิ กะถาม อ้าปากหาว มาซาโกะ ยักไหล่ “...ถ้าเป็นฉัน ฉันก็คงหย่าไอ้หมอนั่น ไม่มีใครข้องใจอยู่แล้ว ไอ้ หมอนั่นผลาญเงินออมไปหมดเกลี้ยง” “คงเป็นงัน้ ” มาซาโกะพึมพ�ำตอบรับ แต่กน็ กึ ถึงลูกของยาโยอิทยี่ งั เล็ก คงไม่ง่ายเหมือนที่คุนิโกะบอก ทั้งสองเดินทางมุ่งหน้ากลับบ้าน แต่ ก็ดเู หมือนว่าจะไม่ใช่มาซาโกะเพียงคนเดียวทีไ่ ม่แน่ใจว่า บ้านนัน้ อยูท่ ี่ไหน ทั้งสองเดินไปยังลานจอดรถกันเงียบๆ “กู๊ดไนต์” คุนิโกะกล่าวบอกในตอนที่เปิดประตูรถยนต์ “’ไนต์” มาซาโกะตอบรับ ฟังดูแปลกแปร่งหูในตอนฟ้าสาง ความ เหนื่อยล้าท่วมทั่วร่างในตอนที่เธอทรุดตัวลงนั่งบนเบาะคนขับ มือยกขึ้น ป้องแสงจ้าบาดตาของอาทิตย์ยามเช้า คุนิโกะบิดกุญแจสตาร์ตโฟล์กกอล์ฟ เสียงเครื่องยนต์ครางกระหึ่ม เสนาะหูในลานจอดรถ ดีเหลือเกินที่มีรถไว้ใจได้ในที่เปลี่ยวแบบนี้ แม้ว่า เธอจะจ่ายเงินไปปีที่แล้วกว่าสองแสนเยนเป็นค่าซ่อมรถ “แล้วเจอกัน” มาซาโกะโบกมือ ถอยรถออกจากลานจอดรถ หัก 16
เลีย้ วออกสูถ่ นนใหญ่ แม้มาซาโกะจะมีประสบการณ์มากกว่าคนอืน่ ๆ และ ดูเหมือนคนอื่นจะวางใจเชื่อมั่นในตัวสาวใหญ่ผู้นี้ ในสายตาของคุนิโกะ มาซาโกะค่อนข้างเย็นชา คุนโิ กะค้อมหัวค�ำนับ มองตามหลังโตโยตาสีแดง ซีดคันนั้น สองคนมีความต่างกัน คุนิโกะรู้สึกโล่งอกอย่างน่าประหลาดที่ มาซาโกะหลุดพ้นสายตาไปแล้ว จะว่าไปแล้ว ในยามที่กล่าวค�ำอ�ำลากับ เพื่อนพ้องในโรงงาน ดูคล้ายกับว่าม่านหนาหนักปลิดปลิวหาย...ปล่อยให้ ตัวตนแท้จริงของคุนิโกะส่องประกายได้เต็มที่ มาซาโกะหยุดที่ไฟสัญญาณนอกลานจอดรถ คุนิโกะเพ่งจ้องมอง บัน้ ท้ายยับเยินสีถลอกของโตโยตาเก่าคร�ำ่ คร่า มาซาโกะคิดอย่างไรของเธอ นะทีท่ นใช้รถเก่าขนาดนัน้ ได้? สีลอกล่อนบ่งบอกว่ารถใช้งานหนักผ่านหลัก แสนกิโลเมตรแล้ว สติกเกอร์รณรงค์ให้ขบั รถอย่างปลอดภัย ลอกเลอะเลือน ไปแล้ว เธอเองก็เคยใช้รถมือสองมาแล้ว หากจ�ำเป็นต้องเลือกรถมือสอง ก็ ต้องหรู...ถ้าไม่ได้ ท�ำไมไม่กเู้ งินมาสักก้อน ซือ้ รถใหม่เอีย่ มสักคัน? มาซาโกะ หน้าตาไม่เลว เมื่อเทียบกับอายุ มาดสง่าชวนมอง คุณป้ามาซาโกะ น่าจะค�ำนึงถึงการสร้างภาพให้คนอื่นทึ่งเสียบ้าง คุนโิ กะเสียบเทปคาสเซ็ตต์ของสามีเข้าไปในเครือ่ งเล่นสเตริโอ เสียง แหลมสูงของสตรีครางกระเส่าวิงวอน ท่วงท�ำนองปลุกเร้าจนร้อนไปทั้งตัว เธอกดดีดเทปออก แม้จะสุขสบายผ่อนคลาย เธอไม่เคยสนใจดนตรี เธอ เสียบเทปเข้าเครื่องเพียงเพื่อประกาศความเป็นไท หลุดพ้นจากงานหนัก ตลอดคืน และทดลองของเล่นสุดหรูในรถ คุนิโกะปรับช่องอากาศให้เป่า ลมเย็นเฉียบโดนตัว กดปุ่มลดหลังคา เงยหน้ามองหลังคาเลื่อนลงเก็บ เชื่องช้า เหมือนงูลอกคราบ เธอโปรดห้วงวินาทีพิเศษเช่นนี้เป็นที่สุดเมื่อ ข้าวของสุดสามัญ ขยับเคลือ่ นให้ภาพน่าตืน่ ตาตืน่ ใจ...ได้เพียงฝัน ฝันหวาน อยากให้ชีวิตทั้งชีวิตของเธอด�ำเนินไปในท�ำนองนี้ วะ, ความคิดของเธอย้อนคิดไปถึงมาซาโกะ ท�ำไมคุณป้าถึงสวม กางเกงยีน และเสื้อเชิ้ตเก่าของลูกชาย? ถึงฤดูหนาว จะเพิ่มเสื้อกีฬา 17
หรือสเวตเตอร์หย่อนย้วยอีกตัว...ที่เลวร้ายกว่านั้น ถ้าเป็นเสื้อยัดขนห่าน จะแปะเทปติดรอยขาดไม่ให้ขนปลิวออกมา เหลือเชือ่ มากเกินไปแล้ว ดู ไม่ได้ เหมือนต้นคริสต์มาสเหี่ยวโกร๋น ร่างผอมเพรียว ผิวสีเข้ม สายตา แหลมคมเจาะลึกถึงไหนต่อไหน ริมฝีปากบาง และจมูกเรียวโด่งเป็นสัน... ไม่มีไขมันส่วนเกินแม้สักที่ เพียงแค่คุณป้าใช้เครื่องส�ำอาง แล้วก็เลือก เสือ้ ผ้าแพงๆ เหมือนเสือ้ ผ้าทีเ่ ธอใช้ ก็คงจะดูออ่ นกว่าวัยสักห้าปี สะดุดตา น่ามอง น่าเสียดาย ความรูส้ กึ ของคุนโิ กะต่อสตรีอนื่ ค่อนไปในทางเชิงซ้อน ส่วนหนึ่งอิจฉา และอีกส่วนเป็นชิงชังรังเกียจ ประเด็นของเรื่อง เธอยอมรับในใจ ฉันอัปลักษณ์ อ้วนและ อัปลักษณ์ เหลือบมองตนเองในกระจกมองหลัง เธอรู้สึกถึงความท้อแท้ สิ้นหวังที่ทะลักมาท่วมตัว หน้าแป้นกรามย้อย ดวงตาที่ถลึงกลับมาเรียว เป็นเส้น จมูกบานดัง้ ยุบ แต่ปากเล็กตกห้อย ทุกอย่างผิดทีผ่ ดิ ทาง เธอคิด ในใจ เลวร้ายหนักกว่าเดิมหลังงานหนักทัง้ คืน คุนโิ กะดึงกระดาษซับมัน จากกระเป๋าปราดา แตะซับผิวมัน เธอทราบดีว่าโลกหมุนไปทางไหน หญิงหน้าตาขี้เหร่ ไม่มีทางได้ งานเงินเดือนสูง ก็เพราะเหตุนี้ไม่ใช่หรือที่ท�ำให้เธอมาท�ำงานในโรงงาน บรรจุอาหารกล่องกะดึก? งานยิ่งหนัก ก็ยิ่งกินเยอะ ยิ่งกิน ก็ยิ่งอ้วน ทันใดนั้น คุนิโกะเกลียดโกรธทุกคนและทุกสิ่ง เธอผลักคันเกียร์เข้าเกียร์ ถอยหลัง ปลดเบรกมือ และกระทืบลงคันเร่ง สายตาเหลือบมองกระจก ส่องหลัง ดูโฟล์กกอล์ฟแล่นปรูดปราดออกจากลานจอดรถ สะใจที่ได้เห็น ฝุ่นคลุ้งทิ้งไว้เบื้องหลัง คุนิโกะพารถหักขึ้นทางด่วนชิน-โออูเมะ มุ่งหน้าเข้าหามหานคร ก่อนจะเลีย้ วขวาไปหาคุนทิ าจิ แล่นผ่านสวนแพร์ทางซ้ายมือ จะเห็นอาคาร ชุดอพาร์ตเมนต์ ตึกเก่าซอมซ่อที่คุนิโกะเรียกว่าบ้าน เธอเกลียดที่นี่ เกลียดเข้ากระดูกด�ำ แต่เมื่อสิ้นวัน เงินทองที่ หามาได้ของเธอกับเท็ตซึยะ หนุ่มร่วมเตียง พอจะหาที่พักได้เพียงเท่านี้ 18
คุนโิ กะสวดมนต์ขอพร ขอระดับชีวติ ทีต่ า่ งไปจากนี้ ฝันอยากเป็นหญิงอืน่ มี วิถชี วี ติ อืน่ อาศัยอยูท่ อี่ นื่ ...ร่วมกับหนุม่ คนอืน่ แน่นอนทีส่ ดุ ‘ต่างไปจากนี’้ หมายถึงการไต่บันไดขึ้นสูงอีกหลายขั้น ขั้นบันไดทางสังคมเป็นทุกสิ่งทุก อย่างในความคิดของคุนิโกะ บ่อยครั้ง เธออดพิศวงสงสัยมิได้ว่าท�ำไม ตนเองต้องย�้ำคิดย�้ำนึกกับวิถีชีวิตที่ต่างกัน? เธอน�ำรถเข้าช่องจอดของตน รถยนต์คนั อืน่ เป็นแค่เพียงรถกระป๋อง รถพืน้ เมือง เธออิม่ ใจวาบขึน้ มาเมือ่ นึกถึงรถนอกทีต่ นใช้งาน มือฟาดประตู รถปิดดังปัง ห่ะ, ถ้าจะปลุกใครสักคนให้สะดุ้งตื่น ก็ช่วยไม่ได้ เธอทราบ ดีว่าถ้าเพื่อนบ้านตะโกนมาต่อว่า เธอก็คงค้อมค�ำนับ พร�่ำขอโทษขอโพย เถอะ, ดิ้นไปไหนไม่ได้ ก็อยู่ในบ้านรังหนูไปพลางๆ ก่อน เธอขึ้นลิฟต์ อุดมด้วยสีสเปรย์ฉีดพ่นไปชั้นห้า เดินลัดเลาะผ่านช่องทางเดินที่มีสามล้อ เด็กและกล่องโฟมไปยังอพาร์ตเมนต์ของเธอ ไขกุญแจประตูอพาร์ตเมนต์ เดินเข้าไปในห้องมืดทึม เธอได้ยินเสียงกรนเหมือนเสียงสัตว์ละเมอใน ห้องนอน แต่ก็ชินคุ้นหูจนแทบไม่รู้สึก เธอดึงหนังสือพิมพ์กรอบเช้าออก จากกล่อง น�ำไปวางบนโต๊ะกินข้าวทีย่ งั ผ่อนไม่หมด หากไม่อา่ นรายการทีวี เธอแทบไม่อ่านหนังสือพิมพ์เลย ดูจะเป็นการเสียเงินเปล่า เธอเคยคิดจะ เลิกรับหนังสือพิมพ์ แต่ก็ยังต้องการประกาศรับสมัครงาน เธอดึงแยกปึก ‘ประกาศรับสมัครงาน-สตรี’ ออกจากปึกแผ่นพับโฆษณาอสังหาริมทรัพย์ เก็บพับไว้เพื่ออ่านตรวจในภายหลัง ห้องอบอ้าวเหนียวเหนอะ เธอเปิดเครื่องปรับอากาศ เปิดตู้เย็น ไม่มีทางข่มตาให้หลับถ้าหิวท้องกิ่วแบบนี้ แต่ในตู้เย็นไม่มีอะไรเหลือ เธอ ซื้อข้าวปั้นกับสลัดมันฝรั่งจากซูเปอร์มาร์เก็ตมาใส่ไว้ในตู้เย็นเมื่อคืนนี้ ไม่ เหลือแล้ว ไม่ตอ้ งสงสัย เท็ตซึยะต้องแ-กไปหมด คุนโิ กะเดือดจัด ดึงห่วง เปิดกระป๋องเบียร์ เปิดถุงขนมกรอบกรุบ เปิดโทรทัศน์ เปลี่ยนช่องไม่ยั้ง จนไปหยุดทีด่ รู ายการทอล์กโชว์ เอนหลังพิงเบาะโซฟา ฟังข่าวซุบซิบในวง สังคมชั้นสูง รอคอยให้เบียร์ออกฤทธิ์ 19
“โว้ย, หรี่เสียงลงหน่อย” เท็ตซึยะตะโกนออกมาจากห้องนอน “ท�ำไมวะ?” คุนิโกะตอบ “...ถึงเวลาที่แกต้องตื่นอยู่แล้ว” “เหลืออีกตัง้ สิบนาที” เสียงตะโกนกลับมา คุนโิ กะรูส้ กึ ว่าท่อนแขน โดนอะไรสักอย่าง ไลต์เตอร์พลาสติกราคาถูก น่าจะเป็นของที่เท็ตซึยะ ขว้างมา ผิวเนื้อขาวแดงเรื่อ เธอหยิบไลเตอร์ เดินไปเตียงนอนที่เท็ตซึยะ นอดขดอยู่ “สาด...แกไม่รู้เลยหรือว่าฉันเหนื่อยแค่ไหน?” “อาไรวะ” ชายหนุ่มนิ่วหน้า คิ้วขมวด “ฉันซีเป็นฝ่ายเหนื่อย” “แกก็เลยมีสิทธิขว้างไอ้นี่มาใส่ฉัน อย่างนั้นหรือ?” คุนิโกะขีดจุด ไลต์เตอร์ น�ำเปลวไฟไปจ่อไว้ใกล้ใบหน้า “เล่นบ้าๆ” เท็ตซึยะร้องด่าเสียงหลง มือปัดมือของเธอ ไลต์เตอร์ กระเด็นไปตกทีม่ มุ ห้อง กลิง้ บนเสือ่ ทาทามิ คุนโิ กะตบหลังมือของเท็ตซึยะ เต็มแรง “เวลาฉันพูด แกต้องฟังฉัน เชี่ย...ฉันทนไม่ไหวแล้วว่ะ” “ไสหัวไป ยังเช้าอยู่เลย” “หุบปาก...แกเป็นคนกินสลัดมันฝรั่งของฉันจนหมด” “พูดกันดีๆ ก็ได้” เสียงของเท็ตซึยะเปลี่ยนเป็นเว้าวอน ชายร่าง บอบบาง ร่างผอมเล็กจนคุนโิ กะบังได้มดิ ปีกอ่ น เขาได้งานในโรงพยาบาล งานประจ�ำที่ต้องตัดผมยาวประบ่าทิ้งไป หง่อมซอมซ่อ ไม่เหลือเค้า น่ามองอีกต่อไป คุนิโกะขัดหูขัดตา ไม่เหมือนเท็ตซึยะ ไอ้หนุ่มผมยาวที่ เดินตระเวนถนนย่านชิบุยะเมื่อครั้งก่อน หน้าตาไม่คมคายเท่าไหร่ แต่ก็ น่ารัก ในตอนนั้น คุนิโกะท�ำงานในร้านเกมในชิบุยะ ร่างยังผอมระหง... ผอมพอจะดึงดูดสายตาของหนุ่มแบบเท็ตซึยะได้ แม้ว่าหนี้เกินตัว ซื้อ เสือ้ ผ้าแบรนด์แนมและเฟอร์นเิ จอร์หรูมาประดับตัว จะท่วมมิดหัว เป็นหนี้ รุงรังมาจนถึงปัจจุบัน “แกกิน...” คุนิโกะตะคอก “...ยอมรับแล้วขอโทษออกมา” มิพัก 20
ต้องเตือนล่วงหน้า เธอกระโจนขึน้ ทีน่ อน ทิง้ น�ำ้ หนักตัวกดร่างผอมบางจน กระดิกไม่ได้ “บอกแล้ว เลิกเล่นบ้าๆ” “ยอมรับ แล้วฉันจะปล่อยตัว” “เออ, กินไปหมดแล้ว ขอโทษด้วย ไม่มีอะไรในตู้เย็นตอนที่ฉัน กลับบ้าน” “แล้วท�ำไมแกไม่ซื้อมากินเอง?” “ฉันรู้ ฉันรู”้ เท็ตซึยะเว้าวอน เบือนหน้าหนีไปทางอืน่ เมือ่ คุนโิ กะ ล้วงมือไปกุมหว่างขา ท่อนเนื้อปวกเปียกหลับระทวย “...ไม่มีแม้แต่การชักธงรับอรุณ” คุนิโกะเยาะเย้ย “ลงไป วะ, ลงไปเสียที หนักอิบ...ไม่รู้เลยหรือว่าน�้ ำหนักตัว ปาเข้าไปเท่าไหร่แล้ว?” “แกกล้าดียังไง?” คุนิโกะกรีดร้องเสียงแหลมสูง ท่อนขาอวบอ้วน ไขว้ขอ้ เท้ารัดคอผอมบาง เท็ตซึยะร้องกรีดขอโทษขอโพย แต่ไม่มเี สียงลอด ออกมา เธอค�ำรามในล�ำคอ พลิกตัวลง ระยะหลังนี้ กลกามทางเซ็กส์ มีแต่ความผิดหวัง แม้เท็ตซึยะอายุอ่อนกว่าเธอ แต่ก็เป็นมะเขือเผาก่อน วัยอันควร ในตอนที่เธอเดินออกจากห้อง หางตามองเห็นเขาลุกขึ้นนั่ง “แกจะไปท�ำงานสาย” เธอตะโกนบอก จุดบุหรีส่ บู ในตอนทีเ่ ขาโผล่ ออกจากห้องนอนในชุดเสื้อยืดกับกางเกงชั้นในหลวมโพรก มือคลึงล�ำคอ หันมาหยิบบุหรี่เมนธอลบนโต๊ะอาหารไปจุดสูบ “ของฉัน...” คุนิโกะแผดเสียงด่า “...ห้ามแตะ” “ขอมวนเดียว” “ได้เลย, จ่ายมายีส่ บิ เยน” เธอยืน่ มือแบออกมาข้างหน้า เท็ตซึยะ ถอนหายใจยาว ทราบดีวา่ น�ำ้ เสียงนัน้ ไม่ได้ลอ้ เล่น คุนโิ กะจับตามองหนุม่ ร่วมห้อง ก่อนจะหันกลับไปหาจอทีวี อีกสิบห้านาทีถัดมา เท็ตซึยะออก ไปท�ำงานโดยไม่มคี ำ� บอกกล่าว คุนโิ กะทิง้ ตัวลงบนทีน่ อน เบียดแทรกร่าง 21
อวบอ้วนลงในร่องรอยร่างเล็กที่เขาทิ้งไว้ เกือบบ่ายสองโมงตอนที่เธอตื่นลืมตา มือคว้ารีโมตเปิดโทรทัศน์ จุดบุหรี่สูบ ดูรายการทอล์กโชว์ รอคอยให้ร่างกายฟื้นตื่นตัว รายการ ทอล์กโชว์ช่วงบ่ายแทบจะไม่มีข้อแตกต่างไปจากรายการภาคเช้า ไม่ต่าง ไม่เห็นจะเป็นอะไร เธอหิว เดินลงจากห้องไปหาซือ้ อาหารก่อนจะล้างหน้า ล้างตา ใกล้ประตูทางออกของอาคารชุดเป็นร้านสะดวกซือ้ เครือข่ายร้าน ค้าที่รับอาหารกล่องจากโรงงานมาวางขาย เธอเลือก ‘อาหารแชมเปี้ยน’ พลิกดูฉลาก ‘มิโยชิ ฟู้ดส์, โรงงานฮิงาชิ ยามาโตะ, ส่งเวลา 7.00 น.’ ไม่ผิด ออกจากสายการบรรจุที่เธอท�ำเมื่อเช้าที่ผ่านมา เธอได้งานง่าย ทีส่ ดุ ตักไข่คนโปะลงบนข้าว แต่ไอ้บา้ นากายามะก็มาตะโกนกรอกข้างหูวา่ มือหนัก ตักมากเกินไป ไอ้บ้า ไอ้รูทวาร สักวันเธอจะปลิดไข่มันมาท�ำ ไข่คน งานทีผ่ า่ นมาเมือ่ คืน สุขสบายได้อย่างไม่นา่ เชือ่ ตราบเท่าทีเ่ ธอเกาะ ติดโยชิเอะกับมาซาโกะ เลือกงานเบาได้เสมอ คุนิโกะหัวเราะหึหึในล�ำคอ ย้อนกลับมาในอพาร์ตเมนต์ เธอนั่งดูทีวีในช่วงกินอาหาร สลับกับ การจิบชาอูล่ง ในตอนที่กัดก้อนเนื้อจุ่มซอส เธอนึกถึงภาพที่ยาโยอินอน หงายขาชีฟ้ า้ จมอยูใ่ นน�ำ้ ซอส นังนัน่ งีเ่ ง่าเป็นทีส่ ดุ ใจลอยไม่อยูก่ บั เนือ้ กับ ตัวจนท�ำงานไม่ได้เรือ่ ง เออ, ว่าไปแล้ว มันเป็นตัวถ่วงของทีมงาน แล้วไง? ถ้าผัวทุบตี นี่ถ้าเป็นเธอนะ มันทุบเธอก็จะอัดมันกลับไป ก้อนเนื้อกลืน ลงคอไปแล้ว เธอราดซอสถั่วเหลืองลงบนก้อนขนมปังราดเกรวี ป้าย ทับด้วยมัสตาร์ด ขณะที่ปลายตะเกียบหยิบคีบ ความคิดหวนกลับไปหา ยาโยอิอีกครั้ง นี่นะ, นี่ถ้าเธอหน้าหวานขนาดนังนั่น เธอจะไปหางาน ท�ำในผับหรือบาร์ เหอะ, แม้จะเป็นส�ำนักชื่อคาวก็ไม่หวั่น...ตราบเท่าที่ จ่ายเงินงาม ปัญหาเดียวคือ เธอไม่สวยเท่ายาโยอิ ไม่มีความเชื่อมั่นใน เค้าหน้าหรือสไตล์การแต่งตัว รายการพิเศษสัมภาษณ์เด็กสาวมัธยมปลาย คุนิโกะไม่รู้ตัวว่าวาง 22
ตะเกียบลงชั่วขณะ เบิกตาจ้องมองจอทีวี สาวน้อยผมตรงยาวสลวย กัดสีน�้ำตาลทอง ลอยหน้าลอยตาให้ความเห็น แม้ใบหน้าจะมีโมเสก เลอะเลือน และเสียงผ่านเครื่องเปลี่ยนระดับเสียง แต่คุนิโกะก็บอกได้ว่า สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม แต่งตัวน�ำสมัย “ผู้ชายน่ะหรือเป็นแค่กระเป๋าเงิน...” สาวน้อยบอกเต็มปากเต็มค�ำ “...หนูนะ่ หรือ? หนูได้อะไร? หนูยนื่ มือล้วงเข้าไป ก็ได้สทู ตัวนึง...สูทราคา 450,000 เยน” “นังดอ...” คุนโิ กะแผดเสียงด่าทีวี “อีบา้ ...อีบา้ ...” สูทราคาระดับ นั้นไม่ชาเนลก็อาร์มานี ฉันอยากได้สูทชาร์เนล แต่นังนั่นได้สูทมาง่ายๆ ไม่ต้องลงทุนลงแรง โลกนี้ไม่ยุติธรรมเลย “อีบ้า...อีบ้า...” คุนิโกะพึมพ�ำ ไม่ขาดปาก สิ่งดีที่สุดที่ได้จากการไปท�ำงานในโรงงานคือ การได้พบมาซาโกะ คุนิโกะคิดในใจในขณะเคี้ยวก้อนข้าวเย็นชืด เธอเคยได้ยินมาว่ามาซาโกะ เคยท�ำงานในบริษัทใหญ่ ถูกเขี่ยออกจากงานในตอนปรับโครงสร้างใหม่ เธอรูส้ กึ ได้เลยว่ามาซาโกะไม่ใช่คนทีจ่ ะยอมจมอยูใ่ นโรงงาน ท�ำงานกะดึกไป ชัว่ ชีวติ อาจได้เลือ่ นขึน้ เป็นลูกจ้างประจ�ำหรือไปท�ำงานในฝ่ายบริหาร เมือ่ ใดที่ได้เลื่อนชั้น สิ่งดีๆ จะเผื่อแผ่ถึงทุกผู้ทุกคนที่อยู่ใกล้ ปัญหานิดหน่อย เรื่องเดียว ดูเหมือนว่า มาซาโกะไม่ใคร่จะวางใจในตัวเธอนัก คุนโิ กะขูดกล่อง แทบจะเลียกล่องสะอาดเกลีย้ งเกลา เธอโยนกล่อง ลงถังขยะข้างอ่างล้างจาน จากนั้น หันมาหยิบปึกหนังสือพิมพ์ประกาศ รับสมัครงานที่เก็บไว้ เงินค่าจ้างจากการท�ำงานกะดึก อย่าได้หวังว่าจะ ทลายภูเขาหนีส้ นิ ทีเ่ ธอสร้างขึน้ มา เท่าทีท่ ำ� ได้ มีแต่เพียงผ่อนดอกเบีย้ แต่ ค่าจ้างจากกะกลางวัน เลวร้ายกว่าทีไ่ ด้รบั อยู่ ถ้าท�ำงานกะกลางวัน ก็ตอ้ ง ท�ำงานเต็มแปดชั่วโมงจึงจะได้เท่าเทียมกับห้าชั่วโมงครึ่งของกะดึก รายได้ งามแลกกับการนอนทัง้ วัน...วงจรอุบาทว์ เรือ่ งของเรือ่ งคือ คุนโิ กะไม่อาจ เผชิญหน้าตนเอง ยอมรับได้ว่าเธอเป็นคนขี้เกียจ และยังไม่ยอมลืมตารับ 23
ความเป็นจริงได้ว่า เธอสร้างหนี้ไว้มากแค่ไหน ดอกเบี้ยก้อนโตจนไม่เห็น หนทางที่จะช�ำระเงินต้น...ไม่รู้ด้วยซ�้ำไปว่าเงินต้นก้อนโตแค่ไหน ตอนย�ำ่ เย็น คุนโิ กะแต่งหน้าทาปาก สวมสูทชาเนลเทียม เดินออก จากบ้าน เธอจ�ำเป็นต้องหางานชั่วคราวอีกสักแห่ง ท�ำงานหาเงินอีกก้อน ก่อนจะไปท�ำงานกะดึกเวลาห้าทุม่ ครึง่ แม่บา้ นห้องติดกัน พาจักรยานมายัง ราวจอดในตอนที่คุนิโกะดึงรถจักรยานออกมา แม่บ้านสวมเสื้อลายดอก ราคาถูกซือ้ หาได้จากห้างสรรพสินค้า ของช�ำบรรจุถงุ ใหญ่ ใบหน้าเหนือ่ ยล้า คนท�ำงานออฟฟิศน่าจะหนักหนาสาหัส คุนิโกะคิดในใจ ค�ำนับให้แม่บ้าน ผู้ยิ้มรับค�ำนับตอบ และท�ำจมูกพะเยิบพะยาบ หล่อนคงได้กลิ่นน�้ำสินะ คุนโิ กะคิดในใจ วันนี้ ‘โคโค่’ ฉันรับรองได้วา่ หล่อนไม่มที างเดาได้วา่ ราคา แพงแค่ไหน การท�ำงานกะดึก ห้ามพรมน�้ำหอม ไม่เห็นแปลก เธอจะ อาบน�้ำก่อนไปท�ำงานคืนนี้ คุนิโกะป่ายขาคร่อมอาน ถีบรถเก้กังลัดเลาะไปตามซอยสายแคบ รถพลุกพล่าน ผับอยู่ใกล้สถานีรถไฟถัดไป, ฮิงาชิ ยามาโตะ อาจหาที่ จอดรถได้ยาก เธอจึงตัดสินใจใช้จักรยาน ปัญหากวนใจ นี่ถ้าเธอได้งาน จะท�ำอย่างไรในวันฝนตก? ใช้จักรยานก็ยังดีกว่าเดินไกลโข ถ้าทุกอย่าง เป็นไปอย่างราบรืน่ ได้งานดัง่ คาด ก็นา่ จะทบทวนเรือ่ งการย้ายทีอ่ ยูไ่ ด้แล้ว ยีส่ บิ นาทีถดั มา เธอมายืนอยูห่ น้าผับ ‘เบล ฟิออเร่’ เธอเคยคิดว่า โอกาสจะได้งานคงริบหรี่ แต่เมือ่ เห็นสภาพร้านซอมซ่อ แม้แต่คนอย่างเธอ ก็นา่ จะดีเกินพอส�ำหรับทีน่ ี่ คุนโิ กะรูส้ กึ คึกคักฮึกเหิม หัวใจเต้นระรัว นาน แล้วที่ไม่ได้รู้สึกอย่างนี้ “โฮสเตสส์, อายุ 18-30 ปี ชั่วโมงละ 3,600 เยน มีชุดให้เช่า เวลา 17.00-01.00 น. ทุกคืน ไม่ต้องดื่มกับแขก” คุนิโกะทบทวนประกาศรับสมัครงาน นี่ถ้าได้งาน เธออาจจะเลิก ท�ำงานในโรงงานบรรจุอาหารกล่องเสียก็ได้ ท�ำงานหนักสาหัสในโรงงาน ทัง้ คืนเท่ากับท�ำงานทีน่ สี่ องชัว่ โมง แม้จะสาบานเป็นมัน่ เหมาะว่า จะเกาะ 24
มาซาโกะไว้ให้มนั่ ไม่วา่ จะเกิดอะไรขึน้ ก็ตามที ดูเหมือนว่าขณะนี้ เธอจะ ลอยกระเพื่อมไปในทิศทางอื่นเสียแล้ว หนุ่มหน้ามนในสูทโฉบเฉี่ยวยืนพูดคุยกับสาวหน้าใสมินิสเกิร์ต ดู เหมือนจะมายืนโฆษณาหน้าร้าน “ฉันโทรฯ มาก่อนหน้านี้ จะมาสมัคร งาน” เธอบอกกับหนุ่มคนหนึ่ง “คุณคงอยากจะเดินอ้อมไปเข้าประตูหลัง” หนุ่มเบิ่งตาค้าง จ้อง มองใบหน้าเธอด้วยความประหลาดใจ “ขอบคุณ” คุนิโกะกล่าวตอบ ในตอนที่เธอเดินจากมา เธอรู้สึก ได้วา่ สายตาทุกคูจ่ อ้ งมองตาม เธอคิดว่าได้ยนิ เสียงหัวเราะไล่หลัง เมือ่ เดิน อ้อมมาถึงจุดที่หนุ่มคนนั้นชี้ให้ดู เธอหักเลี้ยวเข้าซอยเล็ก พบบานประตู โลหะ มีป้ายทองเหลืองติดไว้ ‘เบล ฟิออเร่’ เธอผลักเปิด ชะโงกหน้า เข้าไปภายใน “ขออภัย...ฉันโทรฯ มาก่อนหน้านี้ มาสมัครงานค่ะ” ชาย วัยกลางคนสีด�ำทั้งชุด เพิ่งวางหูโทรศัพท์ลงบนแคร่ ปลายนิ้วคลึงรอยย่น บนหน้าผาก เบิ่งตาจ้องคุนิโกะอยู่ครู่ใหญ่ “อา...เชิญข้างในก่อน” เขาตอบออกมาในท้ายที่สุด แม้ตาจะ เหลือกลาน แต่เสียงก็ยงั ทุม้ ต�ำ่ อ่อนโยน “เชิญนัง่ ” เขาผายมือไปทางโซฟา วางอยู่หน้าโต๊ะท�ำงาน คุนิโกะนั่งหลังตรง พยายามฉายประกายความ เชือ่ มัน่ ออกไปเต็มที่ ชายผูน้ นั้ ยืน่ นามบัตรให้ ระบุบอกว่าเป็นผูจ้ ดั การร้าน เขาค้อมค�ำนับแต่พองาม แต่ก็เห็นได้ชัดว่า เขากวาดตามองประเมินราคา ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า คุนิโกะหายใจขัด แต่ก็เดินหน้าเต็มตัว “ฉันมาสมัครงานที่คุณประกาศไว้” “เข้าใจละ เราน่าจะคุยกันก่อน” ผูจ้ ดั การตอบรับ ยิม้ เรือ่ ทรุดตัว ลงนั่งเก้าอี้ตรงข้ามกับโซฟา “บอกผมที คุณอายุเท่าไหร่?” “ยี่สิบเก้าค่ะ” “เข้าใจละ...” ผูจ้ ดั การอึง้ ไปชัว่ ขณะ “...มีบตั รประจ�ำตัวแสดงอายุ ไหมครับ?” 25
“ขอโทษค่ะ วันนีไ้ ม่ได้ถอื ติดมือมาด้วย” พูดยังไม่จบประโยค เสียง ของผู้จัดการเปลี่ยนไป “โอเค...คุณเคยท�ำงานแบบนีม้ าก่อนหรือเปล่า?” เขาถามโพล่งออก มา “ไม่ค่ะ ไม่เคย” เธอไม่แน่ใจนักว่าจะสานต่ออย่างไรหากเขาบอก ออกมาว่า ไม่จ้างแม่บ้าน แต่ผู้จัดการก็ไม่มีค�ำถาม “จะว่าไปแล้ว...” ผู้จัดการกล่าวบอก “...นับแต่เราลงประกาศรับ สมัครงาน มีคนสนใจมาสมัครงานแล้วหกราย อายุสิบเก้า ทุกราย เรา อยากได้เด็กเอ๊าะ ดูเหมือนว่านั่นเป็นสิ่งที่แขกต้องการ” “เข้าใจค่ะ” ไม่ใช่เรื่องอายุสินะ คุนิโกะคิดในใจ หัวใจห่อเหี่ยว ท้อแท้ นี่ถ้าเธอหน้าสวยทันสมัย อายุเท่าไหร่ก็คงไม่ใช่สาระส�ำคัญ อายุ ไม่ใช่ปัญหาเลย ความขาดไร้ความเชื่อมั่นทะลักล้น “เสียใจด้วยที่ท�ำให้คุณต้องล�ำบาก” ผู้จัดการบอก “...ผมเกรงว่า ในช่วงเวลานี้...” “เข้าใจค่ะ” คุนิโกะตัดบท ผงกหัวถี่ “หากไม่รังเกียจ บอกได้ไหมว่าตอนนี้คุณท�ำงานอะไร?” “งานชั่วคราวในละแวกบ้านค่ะ” “นั่นอาจเป็นงานดีที่สุดแล้วครับ” ผู้จัดการตอบ “...งานที่นี่เป็น งานหนัก แขกจะจ่ายเงินชั่วโมงละหมื่นหรือสองหมื่นเยน ไม่มีใครอยาก กลับบ้านมือเปล่า คุณเป็นสาวใหญ่ น่าจะเข้าใจเรื่องนี้ได้ แขกต้องการ ‘การปลดปล่อย’ คุณคงไม่ได้มองหางานประเภทนี้กระมัง?” ผู้จัดการ หัวเราะเสียงแหบห้าว “...เสียใจด้วยที่ท�ำให้คุณล�ำบาก นี่ครับ ค่ารถ แท็กซี่” ผู้จัดการยื่นซองใส่มือให้คุนิโกะ เธอเดาว่าน่าจะสักพันเยน “อยากทราบจริงๆ...” เขากล่าวต่อ “...คุณอายุเกินสามสิบแล้ว ใช่ไหม?” “ไม่เกิน...ไม่ถึงสามสิบ” “เถอะครับ บอกเท่าไหร่กไ็ ด้” ผูจ้ ัดการไม่บดบังอาการหยามหมิน่ 26
คุนโิ กะเศร้าซึมขนาดหนัก ออกประตูหลังของผับ ไม่อาจทนรับฟัง เสียงหัวร่อฮาครืนทีป่ ระตูหน้าได้ ซอยเล็กต่อเชือ่ มมายังด้านหลังภัตตาคาร ที่เธอจอดรถจักรยานไว้ ท้องร้อง อารมณ์บูด เธอตัดสินใจใช้เงินใน ซองนั้นเป็นค่าอาหาร “ข้าวหน้าเนือ้ ” เธอสัง่ อาหาร กวาดสายตามองรอบตัว กระจกเงา บานใหญ่มภี าพของเธอสะท้อนจ้องกลับมา หน้าแป้น ตาไร้ประกายกลาง หน้าวงกลม วางตั้งบนหนอกคอหนา เธอหันหน้าหนี อาจเป็นไปได้ว่า กระจกเงาสะท้อนอายุแท้จริงของเธอ...สามสิบสาม เธอโกหกอายุแท้จริง ต่อเพื่อนที่โรงงานเช่นกัน คุนโิ กะถอนหายใจยาว เปิดซองจดหมาย สองพันเยน ไม่เลวทีเดียว วะ, ใครอยากได้งานของเอ็งด้วยเล่า? เธอจุดบุหรี่เมนธอล ปักเข้าที่ มุมปาก ยังมีเวลาเหลือเฟือก่อนที่เธอจ�ำเป็นต้องออกเดินทางมุ่งหน้าไป ยังโรงงาน
27